You are on page 1of 3185

ตอนที่ 901 ขึ้นเรือ

หวั ง ทวนเหล็ ก ได ยิ น ประโยคนี้ ก็ ต กตะลึ ง ไปเล็ ก น อ ย ฟ ง จากน้ ำ เสี ย งแล ว ดู


เหมือนวาจะเปนสาวใชคนหนึ่งที่อยูบนเรือนามวาหวงอิง แตในชวงเวลาอื่นแมน้ำชุน
อาจจะมีน้ำที่แข็งตัวเปนกอนน้ำแข็ง แตในชวงน้ำขึ้นนั้นกลับไมมีทางมีกอนน้ำแข็งได
ยิ่งในอากาศอยางวันนี้…
หวังทวนเหล็กทนไมไหวเงยหนาขึ้นมองทองฟา เห็นเพียงแสงอาทิตยแผดเผาของ
ตอนกลางวัน ถึงแมวารางกายจะสวมเสื้อกันหนาวที่ทำดวยหนังบางๆ ตัวหนึ่ง ก็ยัง
รูสึกวารอนอยูเล็กๆ รูสึกเหมือนจะเหงื่อออกอยูเล็กๆ และยิ่งไปกวานั้นในกอนน้ำแข็ง
มีคนดวยหรือ?
ถึงแมวาจะเดินทางดวยแมน้ำสายนี้มาหลายป เขาก็ยังไดยินเรื่องที่นาอัศจรรย
เชนนี้เปนครั้งแรก พลันยื่นมือออกไปจับทวนเหล็กหลอมสั้นๆ สองดามที่แผนหลัง
สาวเทาไปทางตนเสียงที่ดังขึ้นราวกับเห็นผีอยางไรอยางนั้น
เมื่อเดินมาที่อีกดานของเรือ เขาก็มองเห็นกลุมคนเจ็ดแปดคนรวมตัวกันอยู มีทั้ง
ชายและหญิง มีทั้งสาวใช เด็กรับใชผูชาย และคนเรือ ลวนกำลังรวมตัวกันอยู พลางชี้
ไปยังบางอยางในแมน้ำ ปากก็รองวาประหลาดออกมาไมหยุด
เมื่ อ ทอดสายตาไปในระยะที่ ห างออกไปสี่ห าจั้งดานขางเรือ ก็เห็ น ก อ นขาวๆ
ที่สะดุดตาลอยอยูบนแมน้ำดังคาด
เมื่อเพงพินิจมอง ก็เปนกอนน้ำแข็งโปรงใสกอนหนึ่งดังคาด ดานในมีเงารางคน
ติดอยูในนั้นจริงๆ
“แปลกจริงๆ หรือวากอนหนานี้มีคนตกลงไปในน้ำ เวลานี้กอนน้ำแข็งที่ละลาย
อยูใตกนทะเลก็นาจะลอยขึ้นมาบนผิวน้ำแลว” หวังทวนเหล็กอดที่จะเผยสีหนาตก
ตะลึงพลางเอยพึมพำขึ้นมาไมได
“พี่หวัง เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ดานหลังมีเสียงฝเทาดังขึ้น เสียงแหบแหงดังขึ้น
“น อ งเกา เจ า ก็ ม าแล ว หรื อ ” ไม ได หั น กลั บ ไป หวั งทวนเหล็ ก รู ว า ผู ที่ ม าจาก
ดานหลังคือคูหูที่ทำงานกับเขามาหลายป เปนผูคุมกันที่ฝกฝนตนเองอยางหนักมา
หลายป และยิ่งไปกวานั้นเคล็ดวิชามัดมวยก็มีชื่อเสียงไมนอย
“เอ ในน้ำแข็งมีคนอยูจริงๆ ดวย ชางเปนเรื่องที่หายากจริงๆ” ชายรางใหญไว
เคราคนหนึ่งเดินมาหยุดอยูดานขางอยางชะลาใจ พลางเอยวาสุดยอดไมหยุด
“คนตายผูห นึ่ ง ตอ ให ป ระหลาดปานใด ก็ไม มีอ ะไรน าสนใจ” หวังทวนเหล็ ก
หัวเราะอยางเย็นชาออกมา พลางเอยอยางราบเรียบ
“มันก็ใช! อยางนอยคนที่ตายก็ไมอาจปลนเรือได” ชายรางใหญลูบเคราหนาๆ
ของตนเอง หัวเราะคิกคักออกมา
“พวกเจาเอะอะโวยวายอะไรกัน ? ไม รูหรือวาฮูห ยินเพิ่ งจะพั กผอน?” ชายวัย
กลางคนที่แตงชุดเปนนักปราชญคนหนึ่งเดินออกมาจากหองบนเรือ เห็นสถานการณ
เชนนี้ก็มีสีหนาเครงขรึมเล็กนอย พลางเอยตักเตือนสาวใชและเด็กรับใชเหลานั้น
คนผูนี้คือที่ปรึกษาโจว ไดยินวาเปนคนสนิทของขุนนางผูนั้น นั่นก็คือผูที่วาจาง
หวังทวนเหล็กและพวกทั้งสอง ใหมารวมเดินเรือกับตระกูลขุนนางเหลานี้
“ทานที่ปรึกษา ในแมน้ำ…” สาวใชที่มีนามวาหวงอิงยื่นนิ้วมือที่เรียวขาวละมุน
ออกมา ชี้ไปในแมน้ำอยางขลาดกลัว
ที่ปรึกษาโจวเห็นหวังทวนเหล็กและพวกทั้งสองคนก็ยืนอยูตรงนั้น แตเดิมที่รูสึก
ประหลาดใจเล็กนอย เห็นสาวใชกลาวเชนนี้ ก็อดที่จะเหลือบมองไปแวบหนึ่งไมได
ผลลัพธคือพอเห็นเงารางของคนอยูในน้ำแข็งกอนนั้น แนนอนวาจึงมีสีหนาที่เต็มไป
ดวยความตกตะลึง แตทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วพรอมกับเอยวา
“ก็แคคนตายผูหนึ่ง สนใจไปก็เทานั้น รีบกลับไปทำงานของตัวเองเสีย หรือวา
อยากให ข า เรี ย กพ อ บ า นหวั ง ออกมา?” ตอนที่ เอ ย ประโยคสุ ด ท า ย น้ ำ เสี ย งของ
นักปราชญก็เขมงวดขึ้นหลายสวน
เมื่อไดยินคำวา ‘พอบานหวัง’ สาวใชและเด็กหนุมเหลานั้นก็หนาเปลี่ยนสี พลัน
สลายตัวกันในทันที เหลือเพียงลูกเรือสองสามคนที่แอบอยูแถวนั้น
หวังทวนเหล็กและชายรางใหญมองสบตากันแวบหนึ่ง รูวาอยูที่น่ีไปก็ไมไดมีอะไร
ดีขึ้น จึงจะเดินออกไป แตกอนที่ชายรางใหญนามวาเกาตาเฟงจะสาวเทาออกไปนั้น ก็
อดที่จะเหลือบมองไปในแมน้ำอีกครั้งไมได ชั่วขณะนั้นรางกายกลับแข็งคาง ปากก็เอย
รองอุทานออกมา
“เปนไปไดอยางไร คนผูนั้นยังมีชีวิตอยู”
เมื่อไดฟงประโยคนี้ หวังทวนเหล็กและที่ปรึกษาโจวตางก็ตกใจ หันมองไปพรอมกัน
แตกลับไมพบอะไรที่ผิดปกติ เงารางของคนผูนั้นยังคงอยูในกอนน้ำแข็งไมขยับเขยื้อน
นักปราชญใชสายตาสงสัยมองไปยังชายรางใหญแวบหนึ่ง
“ไมผิดแน คนที่อยูในน้ำแข็งเพิ่งจะขยับเปลือกตา ขาเห็นจริงๆ” ชายรางใหญ
เอยอยางมั่นใจ
“นองเกาไมหลอกพวกเราหรอก ดูแลวคนผูนั้นคงจะยังไมตายจริงๆ” หวังทวน
เหล็กเลือกที่จะเชื่อคำพูดของคูหูอยางไมลังเล
ที่ปรึกษาโจวเห็นเชนนั้น ก็รูสึกเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่ง
แตหลังจากที่เขาขบคิดเล็กนอย ก็ยังสายศีรษะแลวกลาววา
“ตอใหคนผูนั้นยังไมตาย ก็ไมใชเรื่องของพวกเรา อยาหาเรื่องเดือดรอนมาใหฮูหยิน
กับเรือลำอื่นยังไมเคยมีปญหามากมาย พวกเราไมจำเปนตองไปกาวกาย”
หวังทวนเหล็กไดยินประโยคนี้ ในใจก็ไมไดรูสึกโกรธเกรี้ยวหรือไมพอใจใดๆ คนที่อยู
ในน้ำแข็งดูแลวแปลกประหลาดจริงๆ ในใจของเขาจึงไมคิดจะใหคนผูนั้นขึ้นมาบนเรือ
ถึงอยางไรเสียก็เคยเดินทางในแมน้ำสายนี้มาเนิ่นนาน เขาจึงมีภูมิคุมกันเกี่ยวกับ
เรื่องแปลกประหลาดเชนนี้มากกวาคนทั่วๆ ไป
สวนเกาตาเฟงก็เผยสีหนาขบคิดออกมา
“ทานที่ปรึกษาโจวชากอน! ชวยคนหนึ่งชีวิตสรางสรางเจดียไดเจ็ดชั้น และทาน
แมก็เปนคนที่มีเมตตามาโดยตลอด ในเมื่อคนผูนี้ยังไมตาย เชนนั้นก็ชวยคนกอนแลว
คอยวากันเถิด” น้ำเสียงหวานหยดยอย ดังขึ้นจากหองเรือ จากนั้น สตรีผูงดงามสวม
ชุดผาไหมคนหนึ่งก็เดินออกมา ดานหลังของนางมีสาวใชนามหวงอิงที่เพิ่งจากไปเดิน
ตามหลัง เวลานี้นางเอาแตหลุบตาลงขมวดคิ้วนอยๆ เดินตามอยูดานหลัง
ดูแลวนางคงไปบอกเรื่องนี้กับสาวนอยเปนแน
“คุ ณ หนู ร อง! มั น ไม ค อ ยดี ก ระมั ง ให ค นแปลกหน าขึ้ น มาบนเรื อ เช น นี้ … ” ที่
ปรึกษาโจวเห็นสตรีผูนี้ ก็คารวะดวยความนอบนอม แตใบหนาก็เผยสีหนาลังเลใจ
ออกมา
“ไมมีอะไรไมดีสักหนอย ในเมื่อคนผูนี้อยูในน้ำแข็งและยังไมตาย แถมยังมาพบ
กับพวกเรา ก็ถือวาเปนวาสนาของตระกูลเรา ถึงอยางไรเสียบนเรือก็มีหองวางตั้ง
มากมาย จัดการสักหนอยก็ไดแลว หรือวาพวกเรามีคนตั้งมากมายเพียงนี้ ยังจะกลัว
คนที่ใกลจะตายคนหนึ่ง” สตรีผูนี้เอยอยางแผวเบา หวางคิ้วเผยสีหนาซักถามออกมา
“เอาล ะ ในเมื่ อ คุ ณ หนู อ อกคำสั่ งเช น นี้ เช น นั้ น ข าก็ จ ะเรีย กคนให ล งไปช ว ย”
นักปราชญขบคิดเล็กนอย แลวทำไดเพียงคารวะพลางตอบรับ
สตรีที่สวมชุดผาไหมยิ้มนอยๆ ออกมา ไมเอยอะไรอีก พลางเดินกลับไปยังหอง
โดยสารของเรือพรอมกับสาวใช
สวนที่ปรึกษาโจวกลับมองไปยังหองโดยสาร แลวขมวดคิ้วแนน
“ทานทั้งสองก็ไดยินแลว คงตองชวยคนผูนี้แลวละ ทวาน้ำแข็งกอนใหญขนาดนี้ เกรง
วาคงตองรบกวนสหายทั้งสองแลว” ที่ปรึกษาโจวหัวเราะอยางขมขื่นออกมาขณะเอย
“ไมเปนไร ขานอยไมมีสิ่งอื่น จะมีก็เพียงแตแรงเทานั้น” เกาตาเฟงเอยอยางไมใสใจ
หวังทวนเหล็กกลับพิจารณากอนน้ำแข็งยักษอีกครั้ง จากนั้นถึงไดพยักหนาอยาง
เชื่องชา แสดงออกวาไมมีปญหา
ไมรูวาอยูทามกลางความมืดมิดนานเทาไหร หลังจากรูสึกปวดหัวอยาบาคลั่งแลว
ในที่สุดก็ทำใหหานลี่ไดสติฟนคืนจากหวงแหงนิทรา แตเขายังไมทันไดลืมตา ขางหูก็มี
เสียงออนวัยของสตรีผูหนึ่งดังขึ้น
“ผูอาวุโส เมื่อไหรคนผูนี้จะฟนสักทีละเจาคะ นี่มันผานมาสองวันสองคืนแลว ไม
เปนไรจริงๆ หรือ? คุณหนูรอคำตอบของขาอยูนะ!”
“เหอะ! เด็กอยางเจาจะรูอะไร ตาเฒาแครูวิชาการแพทยมานิดหนอยเทานั้น จะ
ไปรูไดอยางไรวาเขาจะฟนตอนไหน? แตอาการปวยของคนผูนี้มันแปลกจริงๆ เห็นๆ
อยูวาใบหนาซีดขาว มีรองรอยการสูญเสียเลือดไปจำนวนมาก แตหลังจากจับชีพจร
แลว กลับแข็งแกรงเปนพิเศษยิ่งกวาคนธรรมดาที่มีรางกายแข็งแรงเปนอยางมาก ชาง
ทำใหตาเฒารูสึกงุนงนจริงๆ!” น้ำเสียงของชายชรากลัดกลุมเล็กนอยขณะเอย
“คิกๆ! ขาวาผูอาวุโสคงจะจับชีพจรผิดกระมัง!” ผูหญิงคนนั้นดูเหมือนวาคุนเคย
กับตาเฒาผูนี้เปนอยางมาก คาดไมถึงวาจะเอยปากหยอกลอเชนนี้
“เหลวไหล กอนหนานี้พวกเจาใครที่ปวดหัวตัวรอน ก็มาใหตาเฒ ารักษามิใชรึ
เคยรักษาผิดหรือ? บางทีคนผูนี้อาจจะเปนโรคประหลาดที่ไมเคยมีใครเปนมากอน ตา
เฒ าเองก็ไมใชหมอ ดูไมออกก็ไมใชเรื่องแปลก” ตาเฒ าผูนั้นดูเหมือนวาจะขัดเขิน
เล็กนอย แตก็ยังคงเอยอยางใจดีสูเสือ
เมื่อฟงมาตรงนี้ หานลี่ถึงไดสัมผัสไดวาตนเองนอนอยูบนเตียงที่สบายอยางสุดๆ
เตียงหนึ่ง ฟูกที่นอนอยูใตรางหนานุม บนเรือนรางมีผาไหมเรียบลื่นคลุมอยู รางกาย
อบอุนเปนพิเศษ
เมื่อไดฟงบทสนทนาภาษาตาจิ้นของชายชราคนหนึ่งและหญิงสาวคนหนึ่งแลว
หานลี่ก็รูสึกผอนคลายลง ดูแลวเขาไมเพียงจะถูกคนธรรมดาชวยเอาไว ยิ่งไปกวานั้น
ในที่สุดก็อยูในอาณาเขตของตาจิ้นแลว ทวา สถานการณของเขาในตอนนี้ไมดีจริงๆ!
ชั่วพริบตาที่เขาไดสติฟนคืนมานั้น ก็ใชจิตสัมผัสตรวจสอบสถานการณในรางของ
ตนเองหนึ่งรอบ ผลลัพธคือทำใหเขาสูดหายใจอันเย็นเยียบเขาไปเฮือกหนึ่ง ในใจเต็ม
ไปดวยความเจ็บปวด
หลังจากหนีจากการไลลาของธิดาเทพเทียนหลานออกมาไดหมื่นลี้
เวลาในการปลดผนึกพลังของเขาก็หมดลง ทันใดนั้นก็ตกลงสูแมน้ำ ใชเคล็ดวิชา
แกลงตายที่เทพขับเคลื่อนสอน ผนึกตนเองไวในกอนน้ำแข็ง จากนั้นก็ไหลมาตาม
แมน้ำ นี่ถึงไดหนีพนการไลสังหารของชาวทูอูได
แตสภาพรางกายของเขาในตอนนี้ มันแยอยางสุดๆ จริงๆ แมกระทั่งแยกวาที่เขา
คาดการณเอาไวสามสวน
ไมเพียงเปนเพราะใชเงาโลหิตหลีกหนี จึงทำใหสูญเสียโลหิตบริสุทธิ์ทั่วเรือนราง
จำนวนมากไป รางกายยังออนแออยางสุดๆ ยิ่งไปกวานั้นปราณแทก็เสียหายอยาง
หนัก ทำใหพลังยุทธของเขาลดลงอีกหลายขั้น คาดไมถึงวาจะตกลงมาอยูในระดับฝก
ปราณ เชนนั้น หากไมใชเวลาฟนฟูพลังหาหกป ก็อยาคิดวาจะฟนฟูพลังยุทธกลับมา
เฉกเชนเดิมไดเลย
หานลี่ถอนหายใจออกมาเงียบๆ จูๆ ก็เหมือนคิดอะไรได รีบรอนตรวจสอบกระบี่
บินทั้งหมดภายในรางของตนเอง ผลลัพธคือพบอิ๋นเยวที่สูญเสียปราณแทไปเชนกัน
กำลังหลับใหลไมไดสติเพราะออนแรงอยางสุดๆ ในกระบี่บินเลมหนึ่ง
เขาถึงไดผอนคลายลง
แตทารกวิญญาณที่สองไมไดกลับมา ก็ทำใหเขารูสึกปวดหัวเปนอยางมาก
ถึงแมวาจะอยูหางกันคอนขางมาก แตก็ไมมีทางสัมผัสตำแหนงที่แนชัดได เห็นชัด
วาทารกที่สองไมไดถูกปรมาจารยเซียนชาวทูอูสังหารเหมือนกับที่เขาคาดการณเอาไว
ยังมีการเชื่อมโยงตอกันเล็กนอย ทำใหเขารูวาทารกคนนี้ยังดำรงอยู แตถาไมอาจเรียก
ทารกคนนี้กลับมาไดในระยะเวลาที่กำหนดไว หลังจากที่อีกฝายเปนอิสระแลว การ
แวงกัดของตนเองไมตองคิดก็รูแลว
สิ่งเดียวที่ทำใหเขาไมไดรอนรนก็คือ หากฟนฟูพลังยุทธกลับมาเปนดังเดิมแลว
ทารกที่สองที่พลังยุทธอยูในระดับกอกำเนิดขั้นตนไมมีทางเปนคูตอสูของเขาไดแน
การตามหาอีกฝายและควบคุมมันอีกครั้ง ก็ไมใชเรื่องที่ยากเย็นอะไรสำหรับเขา
เมื่อขบคิดเชนนี้ จูๆ เขาก็ถายทอดเสียงออกไปวา
‘ผูอาวุโส ขาหลับอยูในน้ำแข็งมานานเทาไหรหรือ ถึงไดมาถึงตาจิ้นเชนนี้ แถวนี้มี
ผูบำเพ็ญเพียรตาจิ้นปรากฏตัวหรือไม?’
‘อืม! ในที่สุดเจาก็ฟนแลว เจาหลับอยูใตน้ำหนึ่งปกวา สุดทายกอนน้ำแข็งก็ลอย
ขึ้นมาบนผิวน้ำหลังจากลมปราณของเจาหมดลง ทวา เจาเด็กนอยหาน สถานการณ
ของเจาในตอนนี้ไมดีเทาไหรเลย’ เทพขับเคลื่อนตอบรับ พลางตอบกลับอยางเฉยเมย
เล็กนอย
‘รางของขาเอง ขาจะไมรูไดอยางไร แตในที่สุดเวลานี้ก็รอดมาไดแลว นับวาโชคดี
ในโชครายจริงๆ ไมมีอะไรใหกลาวโทษ ถึงอยางไรเสียภายใตสถานการณเชนนี้ ก็ไมใช
ทุกคนที่จะหนีรอดออกจากเงื้อมมือของผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายได’
หานลี่หัวเราะ กลับเอยขึ้นอยางภาคภูมิใจ
‘เหอะ เจาก็คิดไดนะ! ทวาตาเฒายังไมไดถามเจาเรื่องที่เจามีสมบัติสะทานฟา
เหตุใดถึงไมเคยบอกตาเฒา มินาละ ตอนกักตนฝกฝนสองสามครั้ง ก็เอาตาเฒาไปวาง
ไวนอกหองลับตลอด ตาเฒาอยากศึกษาสมบัติสะทานฟามานานแลว ไมตองกลาว
อะไรไรสาระแลว อีกเดี๋ยวตอนวางๆ เอาเตาใบเล็กนั่นมาใหตาเฒาดูหนอยก็แลวกัน’
เทพขับเคลื่อนเปลี่ยนน้ำเสียง เอยอยางกลัดกลุม
ตอนที่ 902 เฉาเมิ่งหรง
‘เอาใหทานอาวุโสศึกษานั้น ไมมีปญหา ทวาตองรอใหขาฟนฟูพลังยุทธกอน ถึง
จะเอาเตาใบนั้นออกมาจากรางได’ หานลี่เอยอยางราบเรียบ
‘ได! ในเมื่อตกลงแลว เรื่องนี้ก็ชางเถิด ทวาบนเรือลำนี้มีผูบำเพ็ญเพียรอยูคนหนึ่ง
แตเปนเพียงสาวนอยที่พลังยุทธอยูในระดับฝกปราณขั้นที่สองหรือสามเทานั้น ไมมีคา
พอให พู ด ถึ ง เจ า จั บ ตาดู สั ก หน อ ยก็ พ อแล ว ’ เทพขั บ เคลื่ อ นเอ ย อย า งผ อ นคลาย
หลังจากนั้นก็ไมเอยอะไรอีก
‘ระดับฝกปราณขั้นที่สองหรือสามหรือ?’ หานลี่พลันตกตะลึง แตก็ยังคงลืมตาทั้ง
สองขางขึ้น
“เอ ผูอาวุโส เขาฟนแลว!” หานลี่มองปราดเดียวก็เห็นวาหนาเตียงของตนเอง มีสตรี
คนหนึ่งที่ดูแลวมีอายุประมาณสิบสี่สิบหาเทานั้นยืนอยู ผิวพรรณของนางขาวเนียน
ใบหนากลมมนสอดรับกับดวงตากลมโต ทำใหดูนารักนาเอ็นดูเปนอยางมาก
“อืม ตาเฒาเห็นแลว”
และบนเกาอี้ตัวหนึ่งที่อยูดานขางสตรีผูนั้น ก็มีชายชราสวมชุดสีเทาคนหนึ่งนั่งอยู
อายุประมาณหกสิบป สีหนาออนโยนมีเมตตา กำลังพิจารณาเขาดวยสีหนาราบเรียบ
“ผูอาวุโส ทานอยูเปนเพื่อนเขากอน ขาจะไปรายงานคุณหนู!” ไมรอใหหานลี่ได
เอยปากซักถามอะไร สตรีหนากลมมนก็เอยกับชายชราอยางแผวเบาและรวดเร็ว สวน
คนก็วิ่งออกไปราวกับสายลม
หานลี่อดที่จะตกตะลึงขึ้นมาไมได
“เหอะๆ! เจาเด็กคนนั่นก็มีนิสัยเชนนี้ คุณชายอยาไดถือสาเลย!” ชายชราสาย
ศีรษะนอยๆ พลางสงยิ้มอยางเปนมิตรใหหานลี่
“มิกลา สหายทั้งสองขานอยเอาไวหรือ ที่นี่คือที่ไหน? ผูอาวุโสคือ…” หานลี่สงยิ้ม
ตอบ จากนั้นพลังหยัดกายลุกขึ้นนั่ง แลวเอยถามอยางเชื่องชา
“ที่นี่คือแมน้ำซุน ทานอยูในแมน้ำและยังไมตาย จึงถูกคุณหนูรองจากตระกูลขา
สั่งใหคนลงไปชวย สวนตาเฒานั้น มีนามวาเหอเหวิน เปนผูชี้แนะที่นายหญิงจางมา”
ชายชราลูบเคราสั้นๆ ของตน พลางเอยพรอมกับพยักหนา
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ขานอยแซหาน ตองขอบคุณคุณหนูของทานที่มีเมตตา
จริงๆ” หานลี่พนลมหายใจออกมาเบาๆ พลางประสานมือคารวะขณะเอย
“คุณหนูของตระกูลขา เปนผูที่มีจิตใจเมตตา แตจะมาพบเจาหรือไมนั้นก็พูดยาก
ทวา คุณชายหานบอกไดหรือไมวา เหตุใดถึงมาปรากฏตัวในน้ำแข็ง ยิ่งไปกวานั้นคาด
ไมถึงวาจะยังไมตาย ตาเฒาอยากรูจริงๆ” ชายชราเผยรอยยิ้มออกมา แตแววตากลับ
เต็มไปดวยรูสึกสนอกสนใจ
“เรื่อ งนี้ห รือ ? ผูแซห านก็ไมอยากป ดบั งนายท าน แตไม สะดวกจริงๆ” หานลี่
ครุนคิดเล็กนอย ก็เอยอยางตรงไปตรงมา
“เชนนั้นก็ไมเปนไร ทุกคนก็มีสิ่งที่ไมสะดวกจะพูดกันทั้งนั้น” ชายชรากลับใจ
กวางเปนอยางมาก หลังจากโบกมือไปมาแลว ก็มีทาทีไมสนใจเลยแมแตนอย
ในตอนนั้นเอง สตรีใบหนากลมมนผูนั้นก็กระโดดโลดเตนเขามา
“ผูอาวุโส คุณหนูใหคุณชายผูนี้พักผอน เรื่องอื่นคอยวากันทีหลัง” เด็กสาวเอยไป
พลาง พิจารณาหานลี่อยางอยากรูอยากเห็นไปพลาง
หลังจากที่หานลี่สังเกตเห็นแลวก็สงยิ้มให ผลลัพธคือใบหนาของสตรีผูนั้นแดงระ
เรื่อพลางกมหนางุดในทันที ยิ่งไปกวานั้นความคิดยังเคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว “ดูแลว
คนผูนี้ไมสะดุดตาเลยสักนิด เทียบกับสหายของคุณหนูกอนหนานี้แลว แตกตางกัน
เปนอยางมาก แตไมรูทำไมคุณหนูถึงไดสนใจคนผูนี้นักนะ?”
“ในเมื่อคุณหนูออกคำสั่งแลว คุณชายเพิ่งฟน ก็พักผอนกอนเถิด ตาเฒาขอตัวกอน”
ชายชราหยัดกายขึ้นพลางกลาวลา
แนนอนวาหานลี่เอยปากขอบคุณ ชายชราจึงพาสตรีผูนั้นเดินออกจากหองไป
เมื่อหานลี่อยูตามลำพัง ก็มองดูเพดานไมของหองอยางเงียบๆ ผานไปชั่วครู ถึงได
ถอนหายใจออกมา
สองวันตอมา นอกจากมีสาวใชที่มือหยาบกรานนำอาหารมาสงใหวันละสามเวลา
แลว ก็ไมมีคนอื่นเขามารบกวนเขา นี่จึงทำใหหานลี่คอนขางพอใจ แนนอนวาจึงใช
เวลานี้กินยาลูกกลอนเขาไปและนั่งสมาธิ
สวนสาวนอยที่มีพลังยุทธระดับฝกปราณขั้นสองหรือสามที่เทพขับเคลื่อนพูดถึง
นั้น เมื่อหานลี่แผจิตสัมผัสออกไปเล็กนอยก็พบสตรีผูนี้แลว
นางคือสตรีวัยเยาวหนาตางดงามที่เหมือนวาจะมาจากตระกูลผูต่ำตอยอยางไร
อยางนั้น
ดูจากคำเรียกนางของผูคนที่อยูรอบขางแลว นั่นก็คือ ‘คุณหนูรอง’ ที่ชวยตนเอง
เอาไว จุดนี้หานลี่มิไดแปลกใจนัก ดูแลวสตรีผูนี้คงจะรูฐานะของเขา และจากการแอบ
ฟงคนที่อยูบนเรือคุยกัน หานลี่ก็รูสถานการณของเรือลำนี้อยางคราวๆ
ผูที่อยูบนเรือดูเหมือนวาจะมาจากตระกูลขุนนางแซเฉาในเขตเหลียว เพราะตอง
ย ายไปทำงานที่ อ่ื น อย างเรงด วน ดั งนั้ น ตนเองจึ งล วงหน ามาก อ น และให ต ระกู ล
ตามมาทีหลัง
แตครอบครัวที่แทจริงของขุนนางก็มีแคไมกี่คนเทานั้น มีฮูหยินคนหนึ่ง อนุสอง
คน และคุณ หนู คุณ ชายอีกสามคน คุ ณ หนู รองผู นี้ ถือ กำเนิ ดจากฮู ห ยิน ได ยิน วามี
รางกายออนแอตั้งแตเด็ก ในวัยเด็กจึงเคยถูกสงตัวไปใหสตรีผูหนึ่งดูแล เพิ่งจะกลับมา
เมื่อไมกี่ปนี้
สวนอีกสองคนที่ถือกำเนิดจากอนุนั้น คนหนึ่งคือคุณหนูใหญที่มีอายุอานามถึง
คราวตองออกเรือน กำลังจะออกเรือนไปกับผูอื่นที่ถูกหมั้นหมายเอาไวตั้งนานแลว
สวนคุณชายสามนั้น เพิ่งจะมีอายุเพียงสิบสองป
คนอื่นๆ ที่มีฐานะ ก็คือผูอาวุโสเหอ ที่ปรึกษาโจวเปนตน ผูดูแลหวังผูมีใบหนา
เย็นชา รับหนาที่ดูแลสาวใชและเด็กรับใชทุกคน
สวนผูคุมกันบนเรือ ก็คือหวังทวนเหล็กและพวกทั้งสองคน
ทวา หานลี่จับตาดูเล็กนอยก็พบวา ไมตองพู ดถึงคุณ หนูรองผูซึ่งเปนผูบำเพ็ ญ
เพียรระดับต่ำคนหนึ่ง แตในตัวของผูดูแลหวังนั้นก็มีกลิ่นอายพละกำลังที่ไมไดออนแอ
ไหลเวี ย นอยู ไม ใ ช สิ่ ง ที่ ผู คุ ม กั น ทั้ ง สองซึ่ ง ชำนาญในเรื่ อ งสายน้ ำ อั น ตื้ น เขิ น จะ
เทียบเทียมได และในบรรดาคนรับใชนั้น ก็มีผูที่เคลื่อนไหวอยางคลองแคลววองไวอยู
หลายคน บนเรือรางแฝงจิตสังหารเอาไว ดูเหมือนวาจะไมใชคนธรรมดาเชนกัน
ถึงแมวาจะประหลาดใจเล็กนอย แตหลังจากที่เขาใจสถานการณ บนเรืออยาง
ละเอียดแลว หานลี่ก็ดึงจิตสัมผัสกลับมา ฝกบำเพ็ญเพียรอยางไมสนใจสิ่งใดอีก
ผานไปสองวัน คุณหนูรองผูนั้นก็สงสาวใชมาเชิญหานลี่ใหไปพบดังคาด แนนอน
วาหานลี่ไมไดปฏิเสธ ในที่สุดก็ไปพบคุณหนูรองผูนั้นในหองที่คอนขางใหญหองหนึ่ง
บนเรือ
เมื่อสตรีผูนี้เห็นหานลี่ก็โบกมือใหคนอื่นๆ ถอยออกไป จากนั้นถึงไดสงยิ้มใหหานลี่
“พี่หานคือคนของสำนักเตาเหมือนกันสินะ! นองหญิงนามวาเฉาเมิ่งหรง ลูกศิษยของ
สำนักหยกทมิฬ ไมทราบวาพี่หานคือศิษยของสำนักใด” สตรีผูนี้เอยอยางมีมารยาท
เปนพิเศษ ในสายตาของนาง บนรางของหานลี่ทั้งไมมีทั้งไอมารหรือลำแสงแหงธรรม
แถมยังไมมีทาทีของนักปราชญ แนนอนวาจึงเปนไดเพียงคนของสำนักเตาแลว
“สำนักหยกทมิฬหรือ?” หานลี่ขมวดคิ้วเล็กๆ ไมเคยไดยินชื่อนี้มากอน ทวานั่นก็
เปนเรื่องปกติ นอกจากสิบสำนักธรรมะ และสิบสำนักมารแลว สำนักอื่นๆ ในตาจิ้น
เขาก็รูจักนอยมาก
“สำนักของขาเปนเพียงสำนักเล็กๆ นิรนามในเขตเหลียว สหายหานไมรูจัก ก็
ไมใชเรื่องแปลก” เฉาเมิ่งหรงเห็นหานลี่มีทาทีลังเลใจ ก็เอยอธิบายดวยรอยยิ้มบางๆ
“สหายเฉาถอมตนเกินไปแลว ผูแซหานเปนเพียงผูเปนบำเพ็ญเพียรสันโดษ เพิ่ง
จะเขามาในโลกของผูบำเพ็ญ เพียรตาจิ้นไดไมนานนัก แตเดิมก็ไมคุนเคยกับสำนัก
ตางๆ อยูแลว ทำใหสหายพบกับเรื่องนาขันแลว” หานลี่ประสานกำปนคารวะ แสรง
ทำเปนไมใสใจ
“ที่แทพี่หานก็เพิ่งออกจากภูเขา นองหญิงเองก็เพิ่งจะจากทานอาจารยมาไมนาน
ทวาสำนักของขาเปนเพียงสำนักเล็กๆ เทานั้น แตวาพี่หานอายุยังนอย พลังยุทธก็ลึก
ล้ำถึงเพียงนี้ ชางเปนเรื่องที่นายินดีจริงๆ!” เฉาเมิ่งหรงแววตาเปลงประกาย พลางเอย
ดวยรอยยิ้มเบิกบาน
“ไมมีอะไรหรอก ขานอยแคโชคดีพบกับเรื่องบังเอิญเรื่องหนึ่งเทานั้น มิเชนนั้นคง
ไมอาจอยูในขั้นนี้ได” หานลี่ทำไดเพียงตอบกลับอยางคลุมเครือ
สตรี ผู นั้ น เห็ น หานลี่ ไม อ ยากอธิ บ ายอย า งละเอี ย ดก็ ค ลี่ ยิ้ ม บางๆ อย างเข า ใจ
ออกมา ไมไดซักถามอะไร และเปลี่ยนหัวขอสนทนาพลางเอยวา
“เหตุใดพี่ ห านถึงถูกแชแข็งเป น น้ ำแข็งอยูในแม น้ ำหรือ? หรือวาพบกับศัตรูที่
แข็งแกรง?”
“ประมาณนั้นแล ผูแซหานตองขอบคุณสหายมากๆ ที่ชวยชีวิตขาเอาไว!” หานลี่
หัวเราะอยางขมขื่นออกมา ทาทางไมอยากเอยถึงเรื่องนี้
“เรื่องเล็กแคนี้ไมเปนไรหรอก ความจริงแลวนองหญิงก็มองออกวา ถึงแมจะไมลง
มือชวยพี่หาน อีกไมนาน น้ำแข็งก็คงจะละลาย แตแคลอยไปตามแมน้ำเชนนี้ มันจะ
ทำใหคนธรรมดาๆ ตื่นตระหนก ดังนั้นนองหญิงจึงไดสอดมือเขาไปยุง และยิ่งไปกวา
นั้นแตเดิมสำนักเล็กๆ ของพวกเราและผูบำเพ็ญเพียรสันโดษ ก็ดูแลซึ่งกันและกันมา
โดยตลอด” สตรีผูนั้นเอยขึ้นดวยสีหนาราบเรียบ
เมื่อไดฟง หานลี่ก็รูสึกประหลาดใจเล็กนอย หลังจากพิจารณาสตรีผูน้ีอีกครั้งก็
พยักหนาดวยสีหนาราบเรียบ ไมไดกลาวอะไร
“ใชแลว ไมทราบวาพี่หานฟนฟูเปนอยางไรบาง ถาหากไมรังเกียจละก็ พักอยูบน
เรืออีกสักสองสามวันก็ได นองหญิงอยากขอใหสหายชี้แนะเรื่องการฝกบำเพ็ญเพียร
อยูพอดี!” หานลี่เงียบกริบไปเล็กนอย ไมรูวากำลังขบคิดอะไรอยู คาดไมถึงวาจะไมได
ปฏิเสธและตอบตกลง
เฉาเมิ่ ง หรงได ยิ น แล ว พลั น รู สึ ก ดี อ กดี ใ จเป น อย า งมาก ตอนนั้ น เป น เพราะ
คุณ สมบัติของสตรีผูนี้มีอยูอยางจำกัด และจากทานอาจารยมาไวเกินไปหนอย จึง
ไมไดรับการถายทอดเคล็ดวิชาชั้นสูงมา เวลานี้ไดรับการชี้แนะจากหานลี่ที่มีพลังยุทธ
เหนือกวานาง แนนอนวาเปนเรื่องดีที่ตอใหรองขอก็ไมไดรับเชียวละ
ดังนั้นหลังจากนัดแนะเวลากันแลว หานลี่ก็พูดคุยกับสตรีผูนี้อีกชั่วครู และกลาวลา
อยางมีมารยาท
‘เจาเด็กนอยหาน เหตุใดเจาถึงตอบรับวาจะอยูตอ ไมรีบไปตามหาแหลงชีพจร
วิญญาณฟนฟูลมปราณเลา’
หลังจากที่เทพขับเคลื่อนรอใหหานลี่กลับมาถึงหองแลว ก็อดไมไหวเอยถามขึ้น
‘ชีพจรวิญญาณนั้น ตองไปตามหาอยูแลว แตสถานที่แหงวิญญาณพวกนี้จะตองมี
พรรคนอยใหญของตาจิ้นยึดครองอยูแลว ยิ่งไปกวานั้นผูบำเพ็ญเพียรพรรคตาจิ้นก็ดู
เหมือนวาจะมีเยอะกวาที่ขาคาดการณเอาไวมากนัก จากพลังยุทธของขาในตอนนี้
ออกไปซี้ซั้วก็เสี่ยงอันตรายเกินไป ขาไมอยากเอาชีวิตของตัวเองไปสูหนทางที่ราง
เลือน โดยที่ยังไมมีกำลังจะปกปองตนเองได’
‘ออ! เชนนั้นเจาวางแผนวา…’
‘ในตัวขามียาลูกกลอนอยูจำนวนมาก และยิ่งไปกวานั้นยังมีเนตรวิญญาณอยูสอง
สามประเภท นาจะเพี ยงพอให ขาฟ น ฟู พ ลั งยุท ธจนถึ งระดั บสรางปราณได ภ ายใน
ระยะเวลาหนึ่ งป ถึ งเวลานั้ น ค อ ยไปหาวิ ธี ก ำจั ด ไอมารก็ ยั งไม ส าย ส ว นสตรี ผู นั้ น
ถึงแมวาจะดูมีแผนการ แตพลังยุทธก็ตื้นเขิน ไมมีเจตนารายอะไร จะไดอาศัยนางเพื่อ
เรียนรูสถานการณของโลกผูบำเพ็ญเพียรตาจิ้นในยามนี้พอดี
แลวคอยเคลื่อนไหวอีกครั้ง ไหนๆ ก็มาถึงตาจิ้นแลว มันก็ไมใชเรื่องที่เลวรายนัก
หากตองรอสักปสองป’ หานลี่เอยอยางแชมชา
‘แลวแตเจา แตเวลาของขานั้นเหลือไมมากแลว หากเสียเวลาไปอีกปสองป ขา
กลัววาจะรอใหตัวเองมีเลือดเนื้อไมไหว ถึงอยางไรเสียการรวบรวมวัตถุดิบพวกนี้ ก็
จำเปนตองใชเวลาไมนอย’ เทพขับเคลื่อนดูเหมือนวาจะกังวลเล็กๆ
‘ทานอาวุโสโปรดวางใจเถิด ในเวลาเดียวกันกับที่ตามหาวิธีการกำจัดไอมารนั้น
ขาจะเริ่มตามหาวัตถุดิบเหลานั้น ทวา ทางที่ดีที่สุดคือตองอาศัยกำลังของสำนักใดสัก
แหงชวยพวกเรารวบรวม เชนนั้น ถึงจะประหยัดเวลาไปไดไมนอย’ หานลี่ดูเหมือนวา
จะตรึกตรองเอาไวแลว พลางเอยอธิบายอยางชาๆ
‘อาศัยอยางไร? นี่ไมใชเทียนหนาน ชื่อเสียงของอาวุโสหานอยางเจา เกรงวาจะ
ใชการที่นี่ไมได สำนักใหญๆ เหลานี้ไมมีทางไยดีเจา
สวนสำนักเล็กๆ นั้นยิ่งไมมีกำลังมากพอจะจัดการเรื่องนี้ ถึงอยางไรเสียวัตถุดิบที่
พวกเราตองการ ลวนเปนสิ่งที่หายากอยางสุดๆ’ เทพขับเคลื่อนดูเหมือนวาจะไมคอย
เห็นดีเห็นงามกับวิธีนี้นัก
‘วิธีการที่เปนรูปธรรมนั้น ยังคิดไมออก คอยๆ เปนคอยๆ ไปก็แลวกัน บางทีไม
ตองใหพวกเราตามหา โอกาสก็อาจจะมาสงถึงหนาประตูเองก็เปนได’ หานลี่ตอบกลับ
อยางเยาะเยยตนเอง
จากนั้ น เขาก็ไมคุยกับ เทพขับ เคลื่ อนต อ หยิ บ ธงอาคมชุ ดหนึ่ งในย ามเก็ บ ของ
ออกมาอย า งสบายๆ วางเขตอาคมง า ยๆ ลงทั้ ง สี่ ทิ ศ คนก็ นั่ ง ลงบนเตี ย ง กิ น ยา
ลูกกลอนเขาไปเม็ดหนึ่ง แลวนั่งสมาธิฝกบำเพ็ญเพียร
ตอนที่ 903 แขกผูชั่วราย
ในรัฐอูหยวนของเขตเหลียว ณ เมืองเล็กๆ ซึ่งตั้งอยูทางทิศตะวันออกแหงหนึ่งที่
ชื่อวาซิ่นอัน มีสตรีสวมชุดกระโปรงสีเขียวรางกายอรชนออนแอนสองนาง กำลังเดิน
เคียงไหลกันขึ้นไปบนภูเขาเล็กๆ ที่รกรางลูกหนึ่ง
เทาของพวกนางเปลงแสงสีขาวออกมา ปลายเทาแตะไปบนพื้นดินเล็กนอย คนก็
ลอยไปดานหนาสองสามจั้งโดยไมตอ งเปลืองแรงเลยแม แตน อย เพราะวาชุดของ
นักพรตเตานั้นยาวกรอมเทา เคลื่อนไหวแมเพียงเล็กนอย มองจากไกลๆ สตรีทั้งสองก็
ดูเหมือนกำลังบินอยูกลางอากาศต่ำๆ อยางไรอยางนั้น ทาทางงดงามอยางสุดๆ
“ศิษยพี่หญิงหลู ครั้งนี้ทานอาจารยจะไมลงมือชวยจริงๆ หรือ? หากมีแคพวกเรา
ถึ ง แม ว า จะรวมศิ ษ ย น อ งหญิ ง เฉาเข า ไป เกรงว า ก็ ยั ง ต อ กรกั บ คนของพรรคแรด
วิญญาณผูนั้นไมได นั่นมันผูบำเพ็ญเพียรระดับฝกปราณขั้นที่เจ็ดเชียวนะ ไดยินวาเขา
นั้นไดรับความสำคัญจากผูนำพรรคแรดวิญญาณ และพวกเรานั้นคนหนึ่งขั้นที่หก อีก
คนขั้นที่เจ็ด รวมมือกันก็อาจจะสูได แตถาหากอีกฝายเอาผูชวยมาดวย พวกเราก็ไมใช
คูตอสูของเขาแลว และถาหากแพ ศิษยนองหญิงเฉาก็ไมตองยื่นมือเขาไปยุงกับเรื่อง
ของคนที่ชวยเอาไวแลว และคนที่นางอยากชวยก็คือนักโทษของตระกูลขุนนาง เกรง
วาจะเปนการนำหายนะมาสูทานพอของศิษยนองหญิงเฉาแลว” สตรีผูงดงามหนึ่งใน
สองคนที่มีอายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดป กำลังเอยกับสตรีอีกคนที่มีอายุมากกวาดวย
ความกลัดกลุมเล็กนอย
“เรื่องนี้ก็ไมรูจะทำอยางไร แตเดิมสำนักบำเพ็ญเพียรของพวกเราก็ไมควรไปยุง
กับตระกูลขุนนางงายๆ อยูแลว ศิษยนองหญิงเฉาเปนแคลูกศิษยในนามของสำนัก
หยกทมิฬของพวกเรา ทานอาจารยถายทอดเพียงเคล็ดวิชาที่ตื้นเขินใหนางเทานั้น
ดังนั้นวากันในจุดนี้นั้นก็ไมมีอะไรตองพูดมาก ถึงอยางไรเสียตระกูลขุนนางเองก็
เซนไหวบูชาผูบำเพ็ญเพียรสันดาษระดับต่ำไวไมนอย จึงจัดการเรื่องราวของผูบำเพ็ญ
เพียรไดอยางงายดาย
แตคนที่พรรคแรดวิญญาณตองการชวยในคราวนี้มีที่มาไปกับพวกเขา ยิ่งไปกวา
นั้นพอรูความสัมพันธของศิษยนองหญิงเฉาและสำนักของเรา ก็มาหาเรื่องถึงที่ คน
ของสำนักหยกทมิฬอยางพวกเราจะทำเปนเอาหูไปตาเอาตาไปไรตอไดอยางไร
แตทานอาจารยก็อาศัยคำวาลูกศิษยในนาม ปฏิเสธการลงโทษศิษยนองหญิงเฉา
ใหคนผูน้ันจัดการเองแลว หลังจากที่คนผูนั้นจากไป ทานอาจารยก็เรียกพวกเราสอง
คนไปในทันที
กลาวไดวาแปดเกาสวนคนผูนั้นตองการใชวิธีประลองเพื่อบีบใหศิษยนองหญิงเฉา
ถอนตัวออกไป ทานอาจารยรูวาพวกเราสนิทสนมกับศิษยนองหญิง จึงใหพวกเรานำ
ขาวไปบอก ก็เพราะอยากใหพวกเราชวยศิษยนองหญิง มิเชนนั้น คงใชวิหควิญญาณ
สงขาวนี้ใหศิษยนองหญิงแลว
ศิษยพี่หญิงอวี๋และพวกนั้นถึงแมวาจะมีพลังยุทธล้ำลึก แตก็ไมไดมีอาจารยคน
เดียวกันกับพวกเรา ความสัมพันธกับศิษยนองหญิงเฉาก็ธรรมดาๆ จึงไมมีทางลงมือ
ชวยเหลือเพื่อลวงเกินผูใด
ทานอาจารยเองก็ถือวาทำดีที่สุดแลว ถึงอยางไรเสียพรรคแรดวิญญาณและสำนัก
หยกทมิฬของพวกเราก็มีความสัมพันธเกี่ยวของกันเล็กๆ เทานั้น ในฐานะผูอาวุโส
นางจึงไมอาจลงมือชวยเหลือตรงๆ ได”
สตรีที่มีใบหนาออนโยนอีกคนหนึ่งถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งขณะเอย
“ขาจำไดวาตอนแรกตระกูลขุน นางเฉาที่ รับหน าที่ ดูแลพวกเราในบริเวณนี้ ดู
เหมือนวาจะเปนคนปาเถื่อนที่ไมเลวนัก เคารพนอบนอมทานอาจารยของพวกนาง
เป น อย างมาก ถ าหากถู ก ลากเข าไปพั ว พั น ด ว ยเหตุ นี้ จ ริ งๆ ก็ เป น หายนะที่ ไม มี ที่
สิ้นสุด!” สตรีที่ออนเยาว มีทาทีทนไมไหว
“ถาหากเปนเชนนั้นจริงๆ นั่นก็เปนเรื่องที่หลีกเลี่ยงมิได โชคดีที่เสียนักโทษไป
เขาในฐานะขุนนางก็ตองรับตำแหนงหนาที่นี้ มากสุดก็เสียตำแหนง โทษไมถึงตาย
ทวาศิษยนองหญิ งเฉาก็จริงๆ เลย รูเรื่องนี้แลว ยังนัดพวกเรามาพบในที่แบบนี้อีก
หรือวามีแผนการอะไร” สตรีที่อายุมากกวาขบคิดเล็กนอย แลวเอยอยางลังเล
“ศิษยพี่หญิ งจะคิดมากทำไม อีกเดี๋ยวพอถึงยอดเขา ก็ซักถามใหรูดำรูแดงไปเลย”
สตรีที่ออนวัยกวาหัวเราะนอยๆ ออกมา
“ศิษยนองพูดถูก!” สตรีที่สูงวัยกวาพยักหนาหงึกหงัก
ดังนั้นสตรีทั้งสองจึงเรงฝเทา หลังจากผานไปหนึ่งมื้ออาหาร ในที่สุดทั้งสองก็
มาถึงยอดเขา ผลลัพธคือทำใหนางตองรองอุทานออกมาพรอมกันอยางมิไดนัดหมาย
ที่นี่มีพื้นที่ไมใหญนัก มีขนาดแครอยกวาจั้งเทานั้น แตยอดเขากลับมีบานที่ทำ
จากหญาคาอยูหลังหนึ่ง และหนาบาน ก็มีศาลาหินหยาบๆ อยูแหงหนึ่ง ดานในมีสตรี
และบุรุษนั่งอยูบนเกาอี้หินลอมโตะที่ทำจากศิลาสีเขียวตัวหนึ่งเอาไว พลางพู ดคุย
อะไรกันสักอยางอยู
บุ รุษ มี ใบหน าธรรมดาๆ และยิ่งไปกวานั้ น ยั งซีดขาวไรสีโลหิ ตเล็กน อย สตรีมี
ใบหนางดงาม แตกลับฟงอะไรสักอยางอยูดวยความตั้งอกตั้งใจและนอบนอม
สตรีทั้งสองเพิ่งจะปรากฏตัวบนยอดเขา บุรุษผูนั้นก็สัมผัสอะไรไดในทันที เขา
หยุดพูด แลวหันหนามามอง
“สหายเฉา ดูแลวคนที่เจานัดไวจะมาถึงแลว” บุรุษเอยพรอมกับหัวเราะนอยๆ
ยิ่งไปกวานั้นยังหยัดกายลุกขึ้นยืน
“ศิษยพี่หญิงทั้งสองมาถึงแลว เยี่ยมจริงๆ!” สตรีผูนั้นมองมา ก็เผยสีหนาดีอกดีใจ
พลางหยัดกายลุกขึ้นโผเขามาในทันที
“ศิษยนองหญิงมีสีหนาไมเลวเลย เอ! พลังยุทธของเจาดูเหมือนวาจะเพิ่มขึ้นขั้นหนึ่ง
ชางเปนเรื่องที่นายินดีจริงๆ!” สตรีที่สูงวัยกวามีสีหนายิ้มแยม แตก็พิจารณาผูที่อยู
ดานหลังศิษยนองหญิงอยางละเอียด แตกลับอดรูสึกประหลาดใจไมได
“ขาเองก็เพิ่งจะบรรลุเมื่อสองสามวันกอน เทียบกับศิษยพี่หญิงทั้งสองแลว ยัง
หางชั้นอีกเยอะ!” ศิษยนองหญิงเฉาเบะปากพรอมอมยิ้ม เอยขึ้นดวยทาทีเบิกบานใจ
เปนอยางมาก
“ศิ ษ ย น อ งหญิ ง เฉา สหายท า นนี้ อ ยู ส ำนั ก ใดหรื อ พลั ง ยุ ท ธ สู ง ส ง ขนาดนี้ ดู
เหมือนวาจะอยูในขั้นที่สิบแลว” หลังจากที่สตรีที่ออนเยาวกวาอีกคนพิจารณาบุรุษผู
สวมชุดนักปราชญดวยความอยากรูอยากเห็น จูๆ กลับเอยถามขึ้นดวยความตื่นตะลึง
เมื่อไดฟง สตรีที่สูงวัยกวาพลันตื่นตระหนก หลังจากแผจิตสัมผัสออกไปแลว ก็
เผยสีหนาตะลึงคางออกมา
“ขานอยหานลี่ เปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษ มาเปนแขกของแมนางเฉาเทานั้น”
หานลี่เอยอยางราบเรียบ
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ถึงวาทำไมศิษยนองหญิงถึงไดเยือกเย็นขนาดนี้ ที่แทก็มี
ยอดฝมือพี่หานอยูดวย เจาอูเสียวอวี่มา ก็ไมสนใจ” สตรีที่สูงวัยกวาเผยสีหนายินดี
ออกมาขณะเอย
“ศิษยพี่หญิงทั้งสองเชิญนั่งกอน พวกเราคอยๆ คุยกันเถิด ถึงแมวาพี่หานจะเปน
ผูบำเพ็ญเพียรสันโดษ แตมีประสบการณในการฝกบำเพ็ญเพียรมากมายนัก นองหญิง
บรรลุระดับขั้นไดภายในระยะเวลาสั้นๆ เทานี้ ก็เพราะไดรับการชี้แนะจากพี่หาน”
เฉาเมิ่งหรงเชิญสตรีทั้งสองเขาไปในศาลาแลวถึงไดเอยออกมาพรอมกับหัวเราะคิกคัก
“ออ เชนนั้นเราสองคนก็อยาก…” เพิ่งจะนั่งลง ตอนที่สตรีที่สูงวัยกวากำลังคิดจะ
เอยคำพูดที่เกรงอกเกรงใจออกมานั้น จูๆ ที่ตีนเขาก็มีเสียงรองกูคำรามยาวๆ ดังขึ้น
เสียงนั้นทรงพลังและกองกังวาน
“คนผูนั้นมาแลว!”
“เขารูจักที่นี่ไดอยางไร? มาไวถึงเพียงนี้!” สตรีทั้งสองคนตกตะลึงพลางยืนขึ้น
พรอมกัน แลวหันหนาไปมอง
“ศิษยพี่หญิงทั้งสอง ไมตองกังวล ขานัดคนผูนั้นใหมาเอง สหายอูผูนี้หาศิษยนอง
พบตั้งแตหลายวันกอนแลว หลังจากที่ขาไดรับความเห็นจากของพี่หาน ก็เลยจงใจนัด
เขามาพบที่นี่” ใบหนาของเฉาเมิ่งหรงกลับไมตกตะลึง พลางเอยอยางมีแผนการ
“เชนนี้นี่เอง ถึงแมวาพวกเราทั้งสองคนจะรีบมาแลว ก็ยังชาไปกาวหนึ่ง” สตรีที่
สูงวัยกวารูสึกประหลาดใจเล็กนอย แตในใจกลับรูสึกปลอดภัย
ถึ ง อย า งไรเสี ย ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ ฝ ก ปราณขั้ น ที่ สิ บ คนหนึ่ ง ก็ เพี ย งพอจะ
ประลองกับผูบำเพ็ญเพียรขั้นที่แปดคนหนึ่งแลว
ในตอนนั้นเอง ลำแสงสีขาวกลุมหนึ่งก็พุงขึ้นมาจากตีนเขา เงารางคนสองคนที่ยืน
เคียงบากันปรากฏขึ้น
“ยุทธภัณฑเหาะเหิน! เขามียุทธภัณฑชนิดนี้ดวย อีกคนคือใครกัน?” สตรีผูออนเยาว
เห็นภาพฉากนั้น ก็รองอุทานออกมาอยางแหบแหง
เฉาเมิ่งหรงและสตรีอีกคนมองสบตากันแวบหนึ่ง และมองเห็นความกังวลใจใน
แววตาของอีกฝายพรอมกัน
เทียบกับยุทธภัณฑประเภทอื่นแลว ยุทธภัณฑเหาะเหินพบเห็นไดยากมากจริงๆ
ถึ ง แม ว า จะเป น ยุ ท ธภั ณ ฑ เหาะเหิ น ระดั บ ต่ ำ ราคาของมั น ก็ ยั ง สู ง กว า ยุ ท ธภั ณ ฑ
ระดับกลางธรรมดาๆ เปนอยางมาก ผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำๆ อยางพวกนางนั้น ไหน
เลยจะมีศิลาวิญญาณพอไปซื้อยุทธภัณฑระดับกลางได มียุทธภัณฑระดับต่ำสักชิ้น ก็
ลวนเปนเพราะทานอาจารยมอบให ถาหากไมมีทางเพิ่มระดับขั้นได เดาวาทั้งชีวิตก็คง
มียุทธภัณฑเพียงชิ้นเดียว
และผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำที่จะไดรับการประทานยุทธภัณฑเหาะเหินนั้น จะตอง
เปนผูที่มีที่มาไมธรรมดา สำหรับสำนักเล็กๆ อยางพวกนางแลว ลวนเปนเชนนี้
ทั้งสองคนที่ปรากฏบนยอดเขาดวยทาทีดุดันนั้น หานลี่กลับมองไปอยางราบเรียบ
แวบหนึ่ง สีหนาไมเปลี่ยนแปลงเลยแมแตนอย
ตอนนี้หางจากเวลาที่เฉาเมิ่งหรงชวยเขาเอาไวไดแปดเกาเดือนแลว
ไมรูวาอาการบาดเจ็บไมไดรุนแรงขนาดนั้น หรือวาประสิทธิภาพของยาลูกกลอน
ที่ กิน เขาไปดี กวาที่ เขาคาดการณ เอาไวกัน แน ใช เวลาเพี ย งค อ นป หานลี่ ก็ช ดเชย
ปราณแทสวนหนึ่งกลับมาได ทำใหพลังยุทธกลับมาอยูในระดับสรางปราณอยางเงียบ
เชียบ ถึงแมวาปราณแทของเขาจะยังคงไดรับบาดเจ็บหนัก โลหิตบริสุทธิ์กวาครึ่งก็ยัง
ไมฟนฟูกลับมา แตก็นับไดวาปกปองตนเองไดในโลกของผูบำเพ็ญเพียรแลว
แนนอนวาจากพลังยุทธของเฉาเมิ่งหรงผูนี้ แนนอนวาไมมีทางมองความเปลี่ยนแปลง
อันนาตื่นตกใจที่เขาปดบังเอาไวออก
และสตรีผูนี้ก็มักจะมาถามขอสงสัยในการฝกบำเพ็ญเพียร ตอนที่เขาอาศัยอยู
ใกลๆ ชั่วคราวบอยๆ
จากประสบการณการฝกบำเพ็ญเพียรจนถึงระดับกอกำเนิดขั้นกลางของหานลี่
แนนอนวาจึงเหมือนกับการเอาบุคคลที่มีความสามารถยิ่งใหญมาชวยในเรื่องเล็กๆ
อยางการชี้แนะการฝกบำเพ็ญเพียรระดับฝกปราณ เอยไปไมกี่ประโยค ก็ทำใหสตรีผูนี้
เบิกเมฆ ถึงบางออในทันที ทำใหเฉาเมิ่งหรงดีอกดีใจอยางสุดๆ รูสึกเคารพนบนอบ
หานลี่มากยิ่ง โดยเฉพาะรอจนสตรีผูนี้บรรลุระดับขั้นจากขั้นที่สามมาอยูขั้นที่สี่อยาง
คาดไมถึงภายใตการชี้แนะของหานลี่แลว คิดไมถึงวาจะเริ่มยึดถือหลักมารยาทของ
การเปนศิษยขึ้นมาอยางเงียบๆ
หานลี่เห็นสถานการณ เชนนั้น ก็มีสีห น าไรความรูสึก แตในใจกลับเตรียมการ
เอาไวแลว รอจนผานไปอีกเดือนกวาก็จะจากที่นี่ไป
ถึงอยางไรเสียไมกี่เดือนที่ผานมานี้ เขาก็รูเรื่องราวโลกของผูบำเพ็ญเพียรตาจิ้น
จากปากของสตรีผูนี้ นับไดวาไมไดตาบอดแลว
สวนยาลูกกลอนระดับฝกปราณนั้น ถึงแมวาเขาจะมี แตกลับไมไดมอบใหใครใน
ตอนที่ตนเองกำลังออนแองายๆ
ถึงอยางไรเสียการฆาคนเพื่อใหมีสมบัติมากขึ้น ในโลกของผูบำเพ็ญเพียรตาจิ้นก็มี
มากมายจนนับไมถวนเชนกัน แมกระทั่งอาจจะวุนวายกวาเทียนหลานหลายสวน
แตกอนหนานี้สองสามวัน เฉาเมิ่งหรงกลับไดรับคำเตือนจากทานอาจารย สตรีผู
นี้พลันตื่นตระหนก และมาหาหานลี่ทันที
เมื่อไดฟงวาคูตอสูคือผูที่อยูในระดับฝกปราณขั้นที่แปดหรือเกา ยิ่งไปกวานั้นยัง
ไมใชศัตรูคูอาฆาตอะไร หานลี่จึงตอบรับวาจะลงมือแทนนางอยางไมใสใจ
หลังจากจัดการเรื่องราวนี้เสร็จ ก็จะถือโอกาสนี้จากไปทันที
บุรุษทั้งสองที่พุงขึ้นมายังยอดเขานั้น ถึงแมจะมีลำแสงจากยุทธภัณฑที่เจิดจาจน
แสบตา ในสายตาของหานลี่ก็ยังมองเห็นอยางชัดเจน เปนแคผูบำเพ็ญเพียรระดับฝก
ปราณขั้นที่แปดคนหนึ่งและขั้นที่สิบเอ็ดคนหนึ่งเทานั้น แนนอนวาจึงไมไดสนใจอะไร
ดังนั้นสตรีที่เหลือทั้งสามคนตางก็เผยสีหนาตื่นตะลึงระคนสงสัยออกมา เขากลับ
สาวเทาออกมาอยางชาๆ แลวหยุดลง เงยหนาขึ้นมองไปยังกลางอากาศ แลวเอยอยาง
ราบเรียบวา
“ขานอยจะชวยสหายเฉาลงมือ ทั้งสองทานคิดจะใหใครลงมือแลกเปลี่ยนความรู
หรือ คงไมไดจะรุมกันหรอกกระมัง?”
“เหอะ! โชคดีที่ขานอยมา มิเชนนั้นศิษยนองอูคงเสียเปรียบ นายทานหนาตาไม
คุนเลย พลังยุทธก็ไมเลว แตผูแซหวงรับมือเพียงคนเดียวก็เพียงพอแลว เขามาพรอม
กันเถิด ถึงคราแพจะไดไมหาขออางอื่นอีก”
ลำแสงที่อยูกลางอากาศรอนลงมาบนพื้นดิน ลำแสงสวางวาบ ปรากฏรางของทั้ง
สองออกมา ชายวัยกลางคนตาตี่หนึ่งในนั้น ถือยุทธภัณฑแผนไมชิ้นหนึ่ง เอยขึ้นอยาง
ไมเกรงใจ
และอีกคนก็คือชายรางใหญ อายุสามสิบกวาป กำลังจองเขม็งมายังหานลี่และ
พวกอยางเย็นชา ดูแลวคงจะเปนอูเสียวอวี่ผูนั้น!
“หมาอวี้หลิน! เปนเจาไดอยางไร เจาเปนลูกศิษยผูคุมกฎของพรรคแรดวิญญาณ จะ
ตอสูกับคนคนหนึ่งงายๆ ไดอยางไร?” สตรีที่สูงวัยกวาหนาเปลี่ยนสี สงเสียงเอยถาม
“ดูแลวทานเซียนหลูคงยังไมรูวา ขานอยไมใชคนนอกอะไร ศิษยพี่อูและขานอย
เกี่ ยวดองกั น เพราะการแต งงาน ลงมื อ แทนเขา ก็ ไม ใชป ญ หาเลยสัก นิ ด” ชายวัย
กลางคนเอยอยางแข็งกระดางดวยใบหนาไรความรูสึก
เมื่อไดยิน คำพูดของศิษยพี่หญิงหลูผูนี้ก็หยุดชะงัก สตรีที่ออนวัยกวากลับมีสีหนา
รอนรน ใบหนาของเฉาเมิ่งหรงเขียวคล้ำสลับกับสดใสไมแนนอน ไมรูวาจะกลาวอะไร
ดีเชนกัน
“เชนนั้นพวกเราเริ่มกันเลยเถิด รอแลกเปลี่ยนความรูกันเสร็จแลว ขานองยังมี
ธุระอื่นใหตองไปทำ!” เงยหนาขึ้นมองทองฟา แลวมองชายวัยกลางคนที่อยูตรงขาม
หานลี่เผยทาทีอมยิ้มออกมาขณะเอย จากนั้นก็สาวเทามาขางหนากาวหนึ่ง
ชายวัยกลางคนเห็นเชนนั้น ก็หัวเราะอยางเย็นชาออกมา ชูมือขึ้นเก็บยุทธภัณฑ
แผนไมเขาไป อีกมือหนึ่งกลับควักสามงามเล็กๆ สีเหลืองออนดามหนึ่งออกมาจาก
ยามเก็บของ
ตอนที่ 904 การชุมนุมโสมราชัน
เมื่อเห็นวาทั้งสองเขากำลังจะลงมือ คนอื่นๆ ก็ถอยรนไปอยูดานหลังอยางรูงาน
พลางกลั้นลมหายใจ การตอสูของผูบำเพ็ญเพียรระดับฝกปราณขั้นสูงเชนนี้ สำหรับ
พวกเขาแลวเปนเรื่องที่หาดูไดยากเรื่องหนึ่ง
แตสำหรับหานลี่แลว การตอสูกับผูบำเพ็ญเพียรระดับฝกปราณคนหนึ่ง เปนสิ่งไม
นาสนใจเลยสักนิด แคยืนเอาสองมือไพลหลังอยูตรงนั้น ขณะรออีกฝายลงมืออยาง
เงียบๆ
ชายวัยกลางคนที่มีนามวาหมาอวี้หลินผูนั้น เห็นหานลี่มีทาทีเฉยเมย ก็รูสึกโกรธ
เกรี้ยวขึ้นมา
ชูสามงามเล็กๆ ในมือขึ้นโดยไมไดเปลงคำพู ดใดๆ ออกมา ปากพลันบริกรรม
คาถา อีกมือหนึ่งก็รายอาคม
ผานไปชั่วครู สามงามเล็กๆ ก็ สั่น คลอนเล็กหน อย สองแสงจางๆ ออกมา จูๆ
พลันกลายเปนลำแสงสีเหลืองสายหนึ่งพุงตรงเขามาหาหานลี่
สีหนาของหานลี่ไมเปลี่ยนแปลง และไมคิดจะใชยุทธภัณฑ ชูมือขึ้นดวยใบหนา
เรียบเฉย ยันตวิเศษสิบกวาสายพุงออกไปจากหวางนิ้วของเขาพรอมกัน ชั่วขณะนั้น
พลันกลายเปนลูกบอลเพลิงสีแดงสดขนาดเทากำปนสิบกวาลูก พุงเขาไปหาลำแสงสี
เหลืองอยางตอเนื่อง
หมาอวี้หลินเห็นเชนนั้น พลันหัวเราะออกมาอยางเย็นชา
สามงามวายุเหลืองของเขาคือยุทธภัณฑระดับกลางที่ทานอาจารยมอบใหเขากับ
มื อ ตั ว เอง ลู ก บอลเพลิ งเล็ ก ๆ เหล านี้ จ ะต านทานไหวได อ ย างไร ทว าถึ งแม จ ะคิ ด
เช น นั้ น เขาก็ ยั งคงไม ย อมปะทะตรงๆ เพื่ อ หลี ก เลี่ ย งไม ให ยุ ท ธภั ณ ฑ ได รั บ ความ
เสียหาย
ทันใดนั้นสองมือพลันรายอาคมกระตุน ลำแสงสีเหลืองหักเลี้ยวเปลี่ยนทิศทาง
กลายเปนประกายไฟสายหนึ่งคิดจะออมหลบลูกบอลเพลิง โจมตีอีกฝายจากดานขาง
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา ชี้นิ้วขึ้นไปกลางอากาศอยางตามอำเภอใจ
ลู ก บอลเพลิ ง เหล า นี้ ห ยุ ด ชะงั ก พร อ มกั น มั น รวมตั ว กั น อี ก ครั้ ง กลางอากาศ
กลายเปนเมฆเพลิงขนาดใหญ เทาลอรถ เปลี่ยนรูปรางในทั นที กลายเป น งูเหลือม
ความยาวสองสามจั้ง ลำแสงสีแดงสวางวาบ งูเหลือมตัวนั้นพุงออกมาอยางรวดเร็ว
เลื้อยวนรอบหนึ่ง แลวพันรอบสามงามบินสีเหลืองนั้นเอาไว
หมาอวี้หลินพลันตกตะลึง โคจรลมปราณทั้งหมดในรางใสเขาไปในยุทธภัณ ฑ
อยางรอนรน คิดจะทำใหสามงามบินหลุดพนจากพันธนาการ
แตลำแสงสีเหลืองสวางจานั้นกะพริบแสงสูอยูไดเพียงชั่วครู ในขณะที่ลำแสงทั้ง
สองกำลังสอดประสานกันนั้นก็ถูกงูเหลือมเพลิงรัดแนนขึ้นเรื่อยๆ ชั่วพริบตาลำแสง
วิญญาณก็หมนแสงลง แมกระทั่งสงเสียงคำรามต่ำๆ ออกมา นั่นคือลางบอกเหตุวา
ยุทธภัณฑกำลังจะถูกทำลาย
“หยุ ด ! ลมปราณของสหายแข็ งแกรงเกิ น ไป ผูแ ซ ห ม ายอมแพ แ ล ว!” ชายวั ย
กลางคนผูนี้เห็นสถานการณไมดี ก็รูสึกเสียดายยุทธภัณฑของตัวเอง จึงรองตะโกน
ออกมาเสียงดังดวยความรอนรน
หานลี่ไดยินแลว ก็ฉีกยิ้มบางๆ ออกมา ชี้นิ้วไปยังทองฟา งูเหลือมหมุนโคจรรอบ
หนึ่งแลวปลอยสามงามบินออก จากนั้นเสียงระเบิ ดก็ดังขึ้น กลายเปน ประกายไฟ
เล็กๆ สลายหายไปอยางไรรองรอย
หานลี่โจมตีคูตอสูที่มีพลังยุทธสูงสงไดอยางไมเปลืองแรงแมแตนอย ทำใหสตรีทั้ง
สามที่อยูในศาลาทั้งตกใจและดีใจ
สวนชายรางใหญอูเสียวอวี่ที่อยูตรงขามก็มีสีหนาดูไมได เอยพึมพำกับศิษยพี่ของ
ตนเองดวยความลังเลใจ
“ศิษยพี่หมา นี่มัน…”
“ชางเถิด ศิษยนองอู! เจาก็เห็นแลววา อีกฝายมียอดฝมืออยูดวย แมแตสามงาม
วายุเหลืองของขาก็เอาออกมาใชแลว ไมใชคูตอสูของเขาจริงๆ คงกลาวไดวา ตอง
ปลอยใหชีวิตของหลานชายเจาผูนั้นเปนเชนนี้แลว” หมาอวี้หลินตัดบทชายรางใหญ
อยางไมอนุญาตใหพูด
เขาเก็ บ ยุ ท ธภั ณ ฑ ข องตนเองกลั บ ไป หลั งจากตรวจสอบแล ววาไม มี ต รงไหน
เสียหาย ถึงไดรูสึกวางใจลง แตกลับรูสึกเลื่อมใสในความสามารถของหานลี่เปนอยาง
มาก ทันใดนั้นก็ไมคิดจะอยูที่นี่เพื่อเลนสกปรกอะไรอีก
อูเสียวอวี่ไดฟงศิษยพี่ของตนเองกลาวเชนนั้น แนนอนวาในใจก็เต็มไปดวยความรูสึก
ไมยินยอม ทวาแมแตศิษยพี่ที่พลังยุทธอยูในระดับฝกปราณขั้นที่สิบยังไมใชคูตอสูของ
อีกฝาย เขานั้นยิ่งไมใชเขาไปใหญ จากนั้น ก็ไมไดกลาวอะไรอีก
ลูกศิษยพรรคแรดวิญญาณทั้งสองจึงขับเคลื่อนยุทธภัณฑออกจากยอดเขา ลงเขา
ไปดวยความโกรธเกรี้ยว
สวนพวกเฉาเมิ่งหรงสตรีทั้งสามคน กลับลอมรอบหานลี่เอาไว แลวถามถึงเคล็ด
วิชาที่เพิ่งสำแดงเมื่อครู
หานลี่จึงหาขออางมาอธิบายตามความเคยชินวา ตอนที่สำแดงเคล็ดวิชาระดับต่ำ
นั้นไดใชทักษะลับไปเล็กนอย ถึงไดพอรับมือกับมันไปอยางคลุมเครือได
แตตอมา สตรีที่สวมชุดนักปราชญทั้งสองคนก็เริ่มขอคำแนะนำในจุดที่เปนปญหา
ของการฝกบำเพ็ญเพียรกับหานลี่ดวยความจริงใจ หานลี่เอยก็ตอบคำถามไปอยาง
งายดาย
เวลาคอยๆ ไหลผานไป รอจนทองฟาเริ่มเปลี่ยนสี สตรีทั้งสามก็ไมอาจอยูตอได
อีก จึงทำไดเพียงจากไปอยางไมคอยยินยอมนัก
ผานไปหนึ่งคืน รอจนสตรีทั้งสามนัดพบกันอีกครั้ง กลับพบวาในบานหญาคาหลัง
นั้นไรเงาผูคน เหลือเอาไวเพียงจดหมายกลาวลาฉบับหนึ่ง
เฉาเมิ่งหรงอานจดหมายเสร็จแลวก็อดที่จะตกตะลึงคางอยูที่เดิมไมได ไมรูเพราะ
เหตุใด หานลี่ถึงไดจากไปอยางกะทันหัน ทำใหสตรีผูนี้รูสึกใจหาย เปนความรูสึกที่
อยากจะอธิบาย
ศิษยพี่หญิงทั้งสองของนางในครานี้ ก็ดูเหมือนวาจะดูออก จึงอดที่จะเหลือบมอง
สบตากันแวบหนึ่งไมได
……
ณ สถานที่ที่หางออกไปพันจั้ง
หานลี่ขับเคลื่อนยุทธภัณฑไปพลาง พูดคุยกับเทพขับเคลื่อนในหัวไปพลาง
‘เจาเด็กนอยหาน เจาจะไปที่จวนเจียงหลิงกอน เพื่อเปดอุโมงคลับของตระกูงเฝง
จริงๆ หรือ?’ เทพขับเคลื่อนเอยถาม
‘แนนอน ประสิทธิภาพของมหายุท ธเบญจภู ตกักเทพนั้ น ก็ไมรูวาจะเสื่อมลง
เมื่อไหร แนนอนวาจะตองหาเคล็ดวิชาสำนักพุทธ และกำจัดไอมารกอน มิเชนนั้น
เรื่ อ งนี้ ก็ เป น ดั่ ง ตั ว อ อ นแมลงที่ ฝ ง อยู ในกระดู ก จะฟ น ฟู ล มปราณอย า งวางใจได
อยางไร’ หานลี่เอยอยางราบเรียบ
‘ขาวาเจาอยาหวังกับมันมากเลย ขาไมคอยเชื่อนักวา ผูบำเพ็ญเพียรจากตระกูล
เล็กๆ ตระกูลหนึ่ง จะมีวิธีเคล็ดวิชากำจัดไอมารระดับสูง’ เทพขับเคลื่อนเอยอยาง
ราบเรียบ ราวกับวาจงใจสาดน้ำเย็นใสหานลี่
‘ขารูเรื่องนี้อยูแลว แตอุโมงคลับของตระกูลเฝงเป นเรื่องที่ จัดการไดงายที่ สุด
หากหาเจอก็ดี หากไมพบ ก็คงตองไปหาตามสำนักพุทธที่มีชื่อเสียงหนอยแลว แตจาก
พลังยุทธของขาในตอนนี้ คงยุงยาก’ หานลี่ขมวดคิ้ว พลางเอยอยางแชมชา
‘เหอะ! หลังจากที่พลังยุทธของเจาลดลง ก็มีเรื่องงายๆ มากมายที่เปลี่ยนเปนยาก
ทั้งนั้น ถาหากเจายังอยูในระดับกอกำเนิดขั้นกลาง ก็ตามหาสำนักพุทธเองเสียเลย ไม
แนวาเจาหัวโลนพวกนั้นอาจจะเห็นแกหนาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดคนหนึ่งก็ได’
เทพขับเคลื่อนหัวเราะหึๆ ออกมาสองสามครั้งขณะเอย
หานลี่ไดยิน ก็ทำไดเพียงสายศีรษะแลวหัวเราะอยางขมขื่นเทานั้น
ไดยินวาสำนักพุทธเปนสำนักที่ตอตานบุคคลภายนอกมาก ตอใหพลังยุทธของเขา
ยังอยูในระดับกอกำเนิดขั้นกลาง สำนักพุทธก็ไมยอมแพรงพรายเคล็ดวิชาระดับสูง
ของสำนักตนเองงายๆ อยูดี หากไมไดจริงๆ ละก็ เขาก็คงทำไดเพียงหาวิธีเขาไปใน
สำนัก แลวดูวาจะขโมยคัมภีรสักมวนออกมาไดหรือไมแลว
แตเมื่อคิดวาจะเขาไปในสำนักพุทธไดนั้นตองโกนศีรษะ ก็ทำใหหานลี่รูสึกหมดคำพูด
บางที ก ารเข าไปหาวิธีก ำจัด มารในสำนั ก นั ก ปราชญ อาจจะงายกวาก็ เป น ได
ภายใตความกลัดกลุมนั้น หานลี่ก็อดที่จะขบคิดเชนนี้ไมได
……
ทางปลายสุดของทิศตะวันออกเขตเหลียวในรัฐกวนหนิง ระยะทางหางจากรัฐอูหยวน
ไมใชใกลๆ หลังจากที่หานลี่ขับเคลื่อนยุทธภัณ ฑมาเปนเวลาเดินเทาสิบกวาวัน ใน
ที่สุดก็เขาสูเขตแดนของรัฐกวนหนิง
ระหวางทาง หานลี่ไมไดพบกับผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงใดๆ มีเพียงระดับฝกปราณ
และสรางปราณที่ขับเคลื่อนยุทธภัณฑผานจากไกลๆ เทานั้น หานลี่เองก็ไมไดสนใจที่
จะบินหลบหลีกไปใหไกล แคเพียงตั้งใจหอตะบึงสุดกำลังเทานั้น
หลั งจากบิ น ไปอี ก สองสามวั น คนธรรมดาที่ อ ยู บ นพื้ น ดิ น ก็ ค อ ยๆ บางตาลง
ทิวทัศนเริ่มเปลาเปลี่ยวรกราง ราวกับวามาถึงเขตทุรกันดารอยางไรอยางนั้น
แตหลังจากผานไปอีกสองวัน ในที่สุดหานลี่ก็มาถึงสถานที่ที่มีนามวาเมืองซุนอวิ๋น
เขารอนยุทธภัณฑลง แลวลัดเลาะไปตามถนนสายหนึ่ง คอยๆ เดินเขาไปในเมือง
เมืองนี้หยาบโลนกวาเมืองอื่นๆ ที่เคยพบเห็นเปนอยางมาก ขนาดไมเพียงเล็ก
แคบ ถนนที่ตัดกันไปมาก็มีเพียงสามสี่สายเทานั้น สวนใหญบานเรือนตางๆ ลวนสราง
จากดินเหลืองและไม เห็นไดชัดวายุงเหยิงเล็กนอย
หานลี่ขมวดคิ้วเล็กๆ เดินไปบนถนนสายหนึ่งบางครั้งก็กวาดตามองไปทางซายทีขวาที
อากาศในตอนนี้หนาวเย็นเปนพิเศษ แตหานลี่กลับสวมเพียงชุดนักปราชญแนบ
กายตัวเดียวเทานั้น ไมวาผูใดมองเห็นก็รูสึกประหลาดใจ แตคนธรรมดาที่สวมชุดหนัง
หนาๆ ที่เดินผานไปมานั้น กลับแสรงทำเปนมองไมเห็น ไมมีผูใดเผยสีหนาประหลาด
ใจออกมา
หานลี่มีสีหนาขบคิด ตอนที่กำลังคิดวาแปลกๆ นั้น จูๆ ก็หนาเปลี่ยนสี ตรงขามมี
ชายสวมชุดสีขาวสูงคนหนึ่งเตี้ยคนหนึ่งเดินเขามา
ทั้งสองคนมีอายุอานามไมมากนัก ประมาณยี่สิบกวาป แตไอวิญญาณที่โคจรอยู
บนเรือนราง กลับเหมือนผูบำเพ็ญเพียรระดับฝกปราณขั้นที่เจ็ดและแปดแลว
เมื่อทั้งสองคนมองมาทางหานลี่แวบหนึ่ง ก็เผยสีหนาตื่นตะลึงเล็กนอยออกมา
เดินมาหยุดชะงักฝเทาอยูเบื้องหนาของหานลี่หางออกไปสามสี่จั้ง
ชายหนุมที่มีรางกายสูงผอม พลันประสานมือกันทำความเคารพ แลวเอยถามวา
“ไมทราบวาทานอาวุโสแซอะไรหรือขอรับ มาเขารวมการชุมนุมโสมราชันหรือ”
“การชุมนุมโสมราชัน? ไมเคยไดยินมากอน ผูแซหานแคไดยินวาที่นี่มีสมุนไพร
วิญญาณจำนวนมาก จึงมาหาตามหาสมุนไพรวิญญาณที่นี่”
หานลี่พลันตกตะลึง ใบหนาเผยความประหลาดใจออกมาอยางปดไมมิด
“ขาก็วา การชุมนุมเริ่มไปแลวหนึ่งวัน หากทานอาวุโสอยากเขารวม นาจะไปที่
ภูเขาเนินหิมะตั้งนานแลว ดูแลวทานอาวุโสคงแคผานมาทางเมืองนี้สินะ”
ชายหนุมที่สวมชุดสีขาวเผยสีหนาถึงบางออออกมา
“แตไมเปนไร หากทานอาวุโสไปเขารวมตอนนี้ก็ยังทัน การชุมนุมครั้งนี้ เปนการ
ชุมนุมที่สามตระกูลผูยิ่งใหญแหงเจียงหนิงของพวกเราจัดขึ้น ในการชุมนุมไมเพียงแต
จะมีการนำเอาสมุนไพรวิญญาณจำนวนมากออกมาขาย ยังมีการประมูลสมุนไพรอายุ
สองสามรอยปสิบกวาตนและโสมปาราชันพันปอีกหนึ่งตน ตอนนี้การชุมนุมนาจะเพิ่ง
เริ่มไปเพียงนิดหนอย การประมูลครั้งสุดทาย นาจะยังไมเริ่ม มันสะดวกกวาการหา
สมุนไพรบนภูเขาของทานอาวุโสมาก
ในการชุมนุมยังมีผูบำเพ็ญเพียรสันโดษจำนวนมากที่ทำการแลกเปลี่ยนสมุนไพร
กับสำนักเล็กๆ สามตระกูลของพวกเราไมเก็บคาใชจายใดๆ”
ชายหนุมรูปรางเตี้ยอีกคนหนึ่ง เอยอยางเอาใจ
ไมใชเพียงเพราะพลังยุทธที่แสดงออกมาของหานลี่อยูในระดับสรางปราณ แต
ยามเก็บของและยามเก็บอสูรวิญญาณบนรางของเขาไมไดมีเพียงใบเดียว นี่จึงทำให
ทั้งสองคนมิกลาดูแคลน
“สามตระกูล หรือวาจะเปนตระกูลขง จาว และตง” หานลี่มีแววตาเปลงประกาย
พลางเอยถามอยางประหลาดใจเล็กๆ
“ใชแลว พวกเราสองคนคือศิษยจากตระกูลขง มีหนาที่ตอนรับแขกที่ไดยินขาว
และรีบรุดมาอยางทานอาวุโสโดยเฉพาะ แตเดิมคิดวาตอนนี้นาจะไมมีแขกทานอื่น
แลว กำลังคิดจะไปเขารวมการชุมนุมพอดี คาดไมถึงวาจะบังเอิญพบกับทานอาวุโส”
ชายหนุมรางกายผายผอมหัวเราะออกมาขณะเอย
“ตระกูลขงของพวกเจาดูแลเมืองนี้หรือ? ขารูสึกวาคนธรรมดาพวกนี้ไมคอยแปลกใจ
ที่เห็นผูบำเพ็ญเพียรอยางเราเลย คงจะพบเห็นจนคุนชินแลวสินะ” หานลี่ไมไดตอบ
รับคำเชิญของอีกฝายตรงๆ แตหลังจากที่มองซายทีขวาทีแลว ก็เอยปากถามขึ้น
“ทานอาวุโสมีสายตาหลักแหลมจริงๆ เมื อ งนี้ อยูในเขตการปกครองของสาม
ตระกูลตั้งหาหกปกอนแลว ประชาชนที่เดินไปมาบนทองถนนก็คือคนธรรมดาสาย
นอกของสามตระกูล ดังนั้นจึงไมไดหวาดกลัวผูบำเพ็ญเพียรอยางพวกเรา” ชายหนุมที่
มีรางกายสูงผอมเอยปากอธิบาย
“เชนนี้นี่เอง อยางนั้นก็ยุงยากหนอยแลว” หานลี่ขบคิดเล็กนอย ใบหนากลับเผย
สีหนาลำบากใจออกมา
“ทำไมหรือ ทานอาวุโสมีธุระอื่นหรือ? บอกชนรุนหลังทั้งสองไดหรือไม บางที
พวกเราทั้ งสองอาจจะชวยท านอาวุโสได ก็เป น ได !” ชายหนุ มตั วเตี้ย หน าเปลี่ย นสี
พลางเอยอยางกระตือรือรน
ตอนที่ 905 คนในโลงศพ
“ไมมีอะไร เรื่องนี้คอยวากันก็ยังไมสาย ในเมื่อมีการชุมนุมนี้ ขานอยก็อยากไปดู
สักหนอย” หานลี่ขบคิดเล็กนอย แลวเอยอยางออนโยน
“เยี่ยมเลย ชนรุนหลังจะนำทางทานอาวุโสเอง” หลังจากมองสบตากันแลว ชาย
หนุมรางเตี้ยก็คลี่ยิ้มออกมาทันทีขณะเอย
จากนั้นทั้งสองคนก็หยิบยุทธภัณฑทรงกลมออกมาคนละชิ้น โยนขึ้นไปกลางอากาศ
สวนคนก็กระโดดขึ้นไป เมื่อหานลี่เห็ น เชน นั้ น ก็ โยนกระบี่ บิ น ที่ เปล งแสงแวววาว
ออกมาเลมหนึ่ง หลังจากนั้นรางกายพลันแวบหายไป ปรากฏตัวขึ้นดานบน
“คาดไมถึงวายุทธภัณฑของทานอาวุโสจะเปนกระบี่บินระดับสูง ทานอาวุโสคง
เป น ลูกศิ ษ ยสายในที่ อ อกมามาหาประสบการณ ของสำนั ก ใหญ ๆ สิน ะ? มิ เช น นั้ น
ยุทธภัณฑระดับนี้ ลูกศิษยธรรมดาๆ ไมมีทางไดมาจากมือของทานอาจารยแนนอน”
ชายหนุมรางกายสูงผอมเหลือบตามองกระบี่บินของหานลี่แวบหนึ่ง มีสีหนาตกตะลึง
ขณะเอย
ชายหนุมรางเตี้ยที่อยูดานขางเองก็มีสีหนาชื่นชม
“หึๆ! ทานอาจารยของขามีกฎวา ตอนที่หาประสบการณนั้นหามเปดเผยชื่อของ
อาจารย สหายทั้งสองอยาคุยเรื่องนี้เลย” หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา แลวเอยอยาง
ตรงไปตรงมา
หานลี่พูดจี้จุดทั้งสองคน ใบหนาจึงเผยสีหนาเกอเขินออกมา แตก็ยิ่งมั่นใจวาหานลี่คือ
ลูกศิษยจากพรรคใหญ ๆ ใดพรรคหนึ่ ง เวลานั้น สีห น าจึงยิ่งเคารพนบนอบมากขึ้น
จากนั้นทั้งสามคนก็ขับเคลื่อนยุทธภัณฑขึ้นไปบนทองฟา กระตุนยุทธภัณฑบินตรงไป
ยังทิศใตของเมืองเล็กๆ
สิ่งที่เรียกวา ‘ภูเขาเนินหิมะ’ อยูหางจากเมืองเล็กๆ แหงนี้ไมไกลนัก จากเมืองนี้
สามารถมองเห็นยอดเขาสีดำสนิทที่ทอดยาวติดกันอยูไกลๆ
ความจริงแลวภูเขาเนินหิมะนี้ตองเรียกวาเทือกเขาเนินหิมะถึงจะถูก เทือกเขานี้
ทอดยาวติดกันไปหมื่นลี้ และถือวาเปนเทือกเขาใหญสองสามเทือกเขาในเขตเหลียว
ยิ่งไปกวานั้นวากันวาในสวนลึกของเทือกเขานี้มีภูตประหลาดมารปศาจเคลื่อนไหวอยู
ไมตองพูดถึงคนธรรมดา แมแตผูบำเพ็ญเพียรระดับสูง บางครั้งก็หายตัวไปอยางแปลก
ประหลาด
แตเมื่อสหายสนิทและทานอาจารยของผูบำเพ็ญเพียรที่หายตัวไปเหลานี้ รวมกลุมกัน
ออกคนหา กลับคนหาไปกวาครึ่งของเทือกเขาก็ไมพบสิ่งผิดปกติ แตตอมา ก็ยังคงมีผู
บำเพ็ญเพียรหายตัวไปที่เทือกเขานั้นอยางตอเนื่อง
แตโชคดีที่คนที่เดินทางผานมาไมไดหายตัวไปทุกคน และยิ่งไปกวานั้นคนสวน
ใหญที่หายตัวไปก็คือผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำของเขตเหลียวเอง บริเวณรอบนอกของ
เทือกเขานั้นปลอดภัยไรกังวล ดังนั้นหลังจากไดรับการตักเตือนแลว ผูบำเพ็ญเพียรใน
ทองถิ่นก็ไมเขาไปในสวนลึกของภูเขาลูกนี้อีก การหายตัวไปจึงลดนอยลง และไมมี
ผูใดซักถามถึงความผิดปกติของเทือกเขานี้อีก
การชุมนุมโสมราชันที่ทั้งสามตระกูลเจียงหนิงจัดขึ้น แนนอนวาจึงไมอาจจัดขึ้นใน
สวนลึกของเทือกเขาได ดังนั้นจึงจัดขึ้นบนยอดเขาสูงใหญแหงหนึ่งที่อยูรอบนอกสุด
ของเมือง
ตอนที่หานลี่มองลงไปยังยอดเขานั้นจากกลางอากาศ ก็เห็นเพียงตำหนักที่วิจิตร
งดงามโออาแหงหนึ่งตั้งอยูบนยอดเขา แววตาจึงเปลงประกาย เขามองปราดเดียวก็
มองออกวา สิ่งปลูกสรางนี้ยังดูใหมเอี่ยมออง เห็นไดชัดวาเพิ่งสรางขึ้น จึงเผยสีหนามี
แผนการขึ้นอยางอดไมได
“ถึงแลวขอรับทานอาวุโส ผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณทั้งหมดที่มาถึงที่นี่จะ
ถู ก แยกให ไปอยู ห อ งส ว นตั ว ส ว นท านอาวุ โสระดั บ หลอมรวมขึ้ น ไปนั้ น จะอยู ใน
บ า นพั ก ส ว นตั ว เพื่ อ เป น การรั บ รองว า เหล า อาวุ โ สทุ ก ท า นจะได พั ก ผ อ นอย า ง
สะดวกสบาย” ชายหนุมตัวสูงชี้ไปที่ดานลาง พลางอธิบายอยางเอาใจ
หานลี่พยักหนา ไมไดกลาวอะไรมากนัก แตจิตสัมผัสกลับคอย แผออกมาไปอยาง
เงียบเชียบ กวาดไปยังที่แหงนี้อยางลับๆ และบางเบา คิ้วขมวดมุนเขาหากันเล็กๆ
ดานในคาดไมถึงวาจะมีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดคนหนึ่ง ไมรูวาเปนผูบำเพ็ญ
เพียรที่มาเขารวมการชุมนุมนี้ หรือวาเปนตัวประหลาดเฒาขงที่เฝงเจิ่นกลาวถึงกอน
ตาย
พละกำลังของตาจิ้นไมอ าจดูถูกได งายๆ ต องเขาใจวา พลังยุท ธของตระกูลผู
บำเพ็ ญ เพี ย รเที ย นหนานก็ อ ยู แ ค ร ะดั บ หลอมรวมขั้ น กลาง ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดนั้น ตระกูลผูบำเพ็ญเพียรเทียนหนานไมมีทางฝกอบรมเลี้ยงดูได
ทวาสิ่งที่ทำใหเขาประหลาดใจเล็กๆ ก็คือ กลิ่นอายบนรางของผูบำเพ็ญ เพียร
ระดับกอกำเนิดผูนี้ แฝงไวดวยกลิ่นอายของซากศพ ถึงแมวาจะเบาบางจนปกปดได
งายๆ แตจิตสัมผัสของหานลี่แข็งแกรงกวาอีกฝายมาก ถึงแมวาอีกฝายจะพยายาม
ปกปดแลว เขาก็ยังสัมผัสได
หรือวาคนผูนี้ฝกฝนเคล็ดวิชาสายมาร?
หากเขาจำไมผิดละก็ ตระกูลขงมีตนกำเนิดมาจากสำนักนักปราชญที่อยูใตอาณัติ
ของพรรคนภาศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ จนถึงเวลานี้ ก็ ยั งได รับ การสนั บ สนุ น จากพรรคนี้ ไม วาผู
บำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดผูนี้จะใชบรรพชนของตระกูลขงหรือไม แคการคบคา
สมาคมกับคนผูนี้ ก็เกรงวาจะเปนสิ่งที่ตระกูลขงไมสมควรกระทำ
ขณะหานลี่ขบคิดเชนนั้น รางก็ตามทั้งสองคนลงไปยังทางประตูทางเขาลานกวาง
ผลลัพธคือมีผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดสีฟาสี่คนเดินออกมาจากประตูทันที
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ในหองลับหองหนึ่งที่ลึกลงไปใตดินสิบกวาจั้ง จูๆ ฝา
โลงสีดำสนิทราวกับหมึกก็ขยับ จากนั้นมือเรียวสีขาวบริสุทธิ์ขางหนึ่งก็ยื่นออกมาจาก
รอยแยก ผลักฝาโลงออกเบาๆ บุรุษผูสวมรัดเกลาและสวมชุดสีเหลืองลุกขึ้นมานั่ง
อยางไมทันคาดคิดมากอน
บุ รุ ษ ผู นี้ มี อ ายุ ป ระมาณสามสิ บ กว า ป หน า ตาหมดจด ใบหน า เผยสี ห น า ตื่ น
ตระหนกระคงสงสัยออกมา
“นี่มันเรื่องอะไรกัน จูๆ เมื่อครูก็รูสึกตื่นกลัวจนไมเปนสุข หรือวามีคนแอบมองขา”
บุรุษผูน้ันเอยพึมพำกับตนเอง หลังจากลังเลเล็กนอยก็แผจิตสัมผัสของตนเองออกไป
อยางระมัดระวัง คนหาทั้งยอดเขารอบหนึ่ง และพิจารณาผูบำเพ็ญเพียรที่อยูในลาน
นั้นเปนพิเศษ
แตผานไปชั่วครู คนผูนี้ก็ไมไดอะไรเลย และพบผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดคน
อื่นอีกคนหนึ่ง จึงขมวดคิ้วเขาหากันแนนขณะขบคิด
“บางทีอาจจะเปนเพียงตัวประหลาดเฒาฆาไมตายที่ผานทางมาแลวตรวจสอบมา
เทานั้น มีกลิ่นไอคนตายปกปดโลงหยกดำของขาเอาไว นาจะไมทำใหอีกฝายสงสัย”
บุรุษที่สวมรัดเกลาหยกเอยพึมพำกับตนเอง แลวนอนลงในโลงศพอีกครั้ง ฝาโลงเลื่อน
ประกบกันดวยตัวของมันเอง ภายในหองลับจึงกลับคืนสูความเงียบสงบอีกครั้ง
หานลี่ที่อยูบนพื้นดินถูกผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดสีฟาคนหนึ่ง พาเขาไปยังจัตุรัสยักษ
ที่อยูกลางลานกวาง ดานในมีผูบำเพ็ญเพียรที่สวมเสื้อผาอาภรณหลากหลายอยูเต็มไป
หมด นาจะมีมากกวาหารอยคน
ทวาผูบำเพ็ญ เพียรเหลานี้กลับถูกแบงยอยออกไปเปนกลุมๆ เห็นไดชัดวาแยก
ออกเปนสองสามสวน บางก็กำลังสนทนาเรื่องธุรกิจ บางก็กำลังแลกเปลี่ยนสินคา
และรอบดานของจัตุรัสก็มีแผงลอยนอยใหญตั้งเรียงรายอยูบนโตะ บางก็วางอยูบนพื้น
เปนฉากที่มีชีวิตชีวาจริงๆ
หานลี่ฉีกยิ้มออกมาจากใจ นี่ทำใหเขานึกถึงตอนที่เขารวมโลกของผูบำเพ็ญเพียร
ในปนั้น การประชุมยอดทักษิณ เมื่อนึกถึงในเวลานี้ ก็ทำใหเขารูสึกซาบซึ้งใจ ทวาสิ่ง
ที่ทำใหหานลี่แปลกใจเล็กนอยก็คือ ตรงใจกลางของจัตุรัสกลับมีกระโจมยักษที่สราง
ขึ้ น ชั่ ว คราวตั้ ง อยู ห ลั ง หนึ่ ง ด า นบนเปล ง แสงสี ข าวแวววาว คาดไม ถึ ง ว า จะเป น
ยุทธภัณฑชิ้นหนึ่ง และกระโจมหลังนี้ก็มีความกวางประมาณรอยกวาจั้ง ทางเขามีคน
เดินเขาออกไปมา
เมื่อเลื่อนสายตาไป ทางซายทีขวาที ก็มีตำหนักศิลาสีเขียวที่เปลงประกายเชนกัน
อยูฝงละหลัง ถึงแมวาจะมีผูบำเพ็ญเพียรเคลื่อนไหวอยูในนั้น แตเทียบกับกระโจมที่
ตั้งอยูใจกลางของจัตุรัสแลว จำนวนคนก็นอยกวาเปนอยางมาก และผูบำเพ็ญเพียร
เหลานี้บางก็เดินเขาออกไปมากที่ประตู บางก็กำลังสุมหัวปรึกษาอะไรกันสักอยาง
จากการที่หานลี่แผจิตสัมผัสออกไปแลว ผูที่มีคุณสมบัติจะอยูที่นี่ นอกจากลูก
ศิษยระดับต่ำจากสามตระกูลแลว แนนอนวาลวนเปนผูที่มีพลังยุทธอยูในระดับสราง
ปราณขึ้นไป แมกระทั่งระดับหลอมรวมก็มีอยูมากกวาสิบคน ขนาดเชนนี้นอกจากผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดแลว จำนวนผูบำเพ็ญเพียรก็เทากับสำนักใหญๆ สำนัก
หนึ่งของเทียนหนานแลว
และนี่เปนเพียงการชุมนุมแลกเปลี่ยนที่ตระกูลบางแหงจัดขึ้นเทานั้น
เมื่อขบคิดเชนนั้น หานลี่ก็รูสึกซาบซึ้งใจเล็กนอย
กอนจะเขามา ลูกศิษยที่มาตอนรับไดแจงเอาไวแลววา ชวงเชาคือการแลกเปลี่ยน
อิสระ ตอนบายถึงจะเปดประมูล ถาหากมีวัตถุดิบ ยุทธภัณฑ หรือสมบัติที่ล้ำคาอะไร
ก็สามารถนำมามอบใหองคกรประมูลกอนได และการแลกเปลี่ยนนี้ไดกำหนดเวลา
เอาไวสามวัน ตอนนี้คือวันที่สองพอดี วันที่สามถึงจะเปนการประมูลโสมราชันพันป
ตนนั้น เกรงวาผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมที่มาที่นี่ คงจะมาเพื่อสิ่งนี้กระมัง
หลังจากที่หานลี่มองไปสองสามครั้ง ก็เดินเขาไปในจัตุรัส
ผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณที่เพิ่งเขามาใหมอยางเขา ถึงแมจะคอนขางแปลกหนา
แตก็ไมมีผูใดสนใจ เมื่อเขามาขางใน หานลี่ก็กลายเปนผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ คน
หนึ่งทันที
แผงลอยที่อยูรอบๆ ดาน เหมือนกับที่คิดไวอยางไรอยางนั้น ไมมีอะไรนาดู บางที
ดานในอาจจะมีอะไรที่ผูบำเพ็ญเพียรระดับฝกปราณและหลอมรวมสนใจก็เปนได แต
วัตถุดิบหายากตางๆ ที่เคยผานมือหานลี่มานับไมถวนนั้น ก็ไมไดทำใหเขาสนใจมาก
นัก
แผงลอยแห งเดี ยวที่ ท ำให เขาหยุ ด ชะงัก ฝ เท าก็ คื อ ยุ ท ธภั ณ ฑ แ ละวัตถุ ดิบ ที่ ดู
ประหลาดๆ เหลานี้ ทวาของเชน นี้ ไมไดมีมากนั ก หลังจากที่ ห านลี่ แยกแยะอยาง
ละเอียดแลว ก็รูที่มาที่ไปสวนใหญของมัน ถึงแมวาที่เหลือจะไมเคยพบเห็นมากอน
แตก็ไมมีอะไรคุมคาพอใหศึกษา
หลังจากใชเวลาไปไมนอยจากการเดินทอดนองหนึ่งรอบแลว หานลี่ก็ไมไดอะไร
เลย ตอนที่กำลังคิดจะเดินไปที่กระโจมตรงกลาง เพื่อดูของประมูลของสำนักนั้น จูๆ
ก็หนาเปลี่ยนสี สวนคนก็หันกายกลับไปดวยความตื่นตัว เห็นเพียงดานหลังมีชายชรา
หูแหลมแกมแดงเหมือนลิงคนหนึ่งยืนอยูหางออกไปสองจั้ง กำลังมองมาทางหานลี่
ดวยความตื่นตระหนก เขามีพลังยุทธอยูในระดับสรางปราณขั้นตน
“สหายผูนี้ ทานดูเหมือนวาจะตามขานอยมาสักพักแลว หรือวานายทานรูจักผูแซ
หาน?” แววตาของหานลี่เปลงประกายเย็นเยียบ พลางเอยอยางเย็นชา
“สหายโปรดอยาเขาใจผิด ผูเฒานามวาจินหยวน ไมไดมีเจตนาไมดีตอสหาย แต
แคสนใจเทานั้น ขาเองเพิ่งเคยพบสหายเปนครั้งแรก แตเห็นวาสหายดูเหมือนวาจะ
รูจักสิ่งของตางๆ เปนอยางดี ผูเฒาจึงรูสึกเลื่อมใสจริงๆ!” ชายชราฉีกยิ้มอยางเกอเขิน
เล็กๆ แตทันใดนั้นก็อธิบายราวกับทองไมรูรอน
“ออ! คิดไมถึงวาสหายจะมุงมั่นขนาดนั้น ตามรอยขามาตั้งนาน คงไมไดคิดจะ
กลาวกับผูแซหานเพียงเทานี้หรอกกระมัง” หานลี่เอยอยางราบเรียบ
“แหะๆ! ดูแลวสหายเองก็เปนคนที่เขาใจผูคน ความจริงนอกจากสนใจแลว ผูเฒา
ก็มีเรื่องหนึ่งอยากขอรอง”
“เรื่องอะไร ไหนวามาสิ!” หานลี่เอาสองมือแตะไปที่บาดวยใบหนาไรความรูสึก
“ผูแ ซ จิน มี ส มบั ติ วิเศษอยูชิ้ น หนึ่ ง แต ไม อ าจวินิ จ ฉั ย วามี ป ระโยชน ห รือ ความ
เปนมาอยางไร อยากใหวินิจฉัยสักหนอย แนนอนวาถาหากสหายรูจัก จะขายมันให
สหายก็ได ดูแลวตระกูลของสหาย คงจะยอมซื้อสมบัติชิ้นนี้เปนแน!”
ชายชราพิจารณายามเก็บอสูรวิญญาณและยามเก็บของที่ขางเอวของหานลี่ หรี่
ตาทั้งสองขางลงพลางหัวเราะคิกคักขณะเอย
“สมบัติวิเศษ!” หานลี่ขมวดคิ้ว สายตาวนเวียนไปบนเรือนรางของชายชราแวบหนึ่ง
“เอาละ ในเมื่อสหายตามขามาขนาดนี้ ดูแลวคงบริสุทธิ์ใจ ขานอยดูสักหนอยก็ได
ขาน อ ยเองก็ มี เรื่อ งอยากรูอ ยู พ อดี ” หานลี่ พ ยั ก หน า จู ๆ ก็ ชี้ ไปยั งห อ งห อ งหนึ่ งที่
ดานขางตำหนัก
“หองลับหรือ? นั่นตองเสียศิลาวิญญาณกอนหหนึ่ง มันสุรุยสุรายเกินไปกระมัง”
ชายชราไดยินแลวพลันตกตะลึง และรูสึกลังเลเล็กนอย
“ไมเปนไร ขานอยจายเอง ผูแซหานหวังวาสมบัติวิเศษของสหายจะไมทำใหขานอย
ผิดหวังเกินไปนักก็แลวกัน” หานลี่จองชายชราพรอมกับอมยิ้ม และเอยอยางเรียบๆ
ตอนที่ 906 หองความลับสวรรค
“แหะๆ สหายโปรดวางใจ ของของขาตองเสี่ยงอันตรายถึงจะไดมา ไมใชของ
ธรรมดาอยางแนนอน” จินหยวนหัวเราะแหงๆ สองสามครั้งขณะเอย
หานลี่พยักหนา ไมไดเอยอะไรอีก ทันใดนั้นก็พาชายชราเดินไปที่ดานขางของ
ตำหนัก
เมื่อเขาไปในประตูตำหนัก ก็เห็นวาดานในมีหองโถงใหญกวางยี่สิบสามสิบจั้งอยู
ทามกลางความวางเปลามีเพียงสตรีวัยกลางคนระดับสรางปราณสวมชุดคลุมยาวสี
เขียวคนหนึ่งกำลังนั่งหลับตาทำสมาธิอยูบนเตียงเตียงหนึ่ง
เมื่อเห็นหานลี่และชายชราเดินเขามา นางก็เบิกตาคูนั้นขึ้นทันที แลวหยัดกายลุกขึ้น
“สหายทั้งสองมาถึงที่นี่ อยากดูเคล็ดวิชาลับที่ตำหนักของขาเก็บสะสมไว หรือวา
อยากแลกเปลี่ยนประสบการณ ก ารฝ กบำเพ็ ญ เพี ย รภายในห อ งความลั บ สวรรค ”
หลังจากที่สตรีผูนั้นกวาดสายตามาที่หานลี่และพวกทั้งสอง ก็เอยพรอมกับรอยยิ้ม
“ขอหองความลับสวรรคใหเราสองคนหองหนึ่งก็พอแลว” หานลี่เอยอยางเรียบๆ
ในใจไม มี ค วามอยากไปดูคั ม ภี รแ ม แ ต น อ ย ถึ งอย างไรเสี ย เคล็ ด วิช าลั บ ที่ ย อมให ผู
บำเพ็ญเพียรธรรมดาดูเชนนี้ แคคิดก็ไมธรรมดาแลว
“หนึ่ ง ศิ ล าวิ ญ ญาณ ยิ่ ง ไปกว า นั้ น หากออกจากตำหนั ก ข า ก็ เท า กั บ คื น ห อ ง
ความลับสวรรค” สตรีวัยกลางคนหัวเราะนอยออกมาขณะเอย
จากนั้นพลันคลำหาแถวเอว หองศิลาขนาดสองสามชุนหองหนึ่ง ก็ปรากฏขึ้นในมือ
หานลี่เห็นสิ่งนี้พลันตกตะลึง แตจากนั้นก็หยิบศิลาวิญญาณกอนหนึ่งออกมาสงให
อีกฝายดวยสีหนาราบเรียบ จากนั้นก็รับของสิ่งนั้นมาพิจารณาอยางสนอกสนใจ
“ทำไม? สหายเพิ่งเคยเห็นหองความลับสวรรคครั้งแรกหรือ?” สตรีวัยกลางคน
เห็นทาทางของหานลี่ ก็เอยถามอยางรูสึกสนใจ
“ใชแลว ขานอยไมเคยเห็นของสิ่งนี้มากอนจริงๆ นี่คือยุทธภัณฑหรือ?” หานลี่
หนีบของสิ่งนั้นไวในมือ น้ำหนักเบา ราวกับวาไมมีน้ำหนักเลยสักนิด
“หองความลับสวรรคถือวาเปนยุทธภัณฑ และไมถือวาเปนก็ได แตสะดวกมาก
ขอแคใสลมปราณเขาไปก็ใชไดแลว แนนอนวาหองความลับสวรรคระดับต่ำนั้นทำได
เพียงขยายใหญและหดเล็กลง ไมมีประสิทธิภาพอื่น หากกลาววาเปนยุทธภัณฑก็พอ
ฝนทนเกินไป แตหองความลับสวรรคระดับสูงนั้นจะมีเขตอาคมที่สามารถเพิ่มความ
ปลอดภัยติดอยูแมกระทั่งอาจเหนือกวาสมบัติอาคม แนนอนวาสิ่งที่พวกเราใหสหาย
ในครานี้ เปนเพียงของธรรมดาๆ ชนิดหนึ่ง นอกจากกั้นเสียงกั้นสายตาไดแลว ก็ไมมี
ประสิทธิภาพอื่น” สตรีผูนั้นอธิบายใหหานลี่ฟงอยางละเอียด
หานลี่ฟงมาถึงตรงนี้ พลันรูสึกตื่นตะลึง ถึงแมวาตอนที่เขาเขามาจะถูกแจงให
ทราบวาที่นี่มีหองความลับสวรรคใหเชา แตก็คิดไมถึงวาจะเปนของที่แปลกประหลาด
เชนนี้ เจาสิ่งนี้ไมมีในเทียนหนาน
“ขอบพระคุณสหายที่ชวยชี้แนะ” หานลี่เอยขอบคุณ จากนั้นก็เดินไปที่อีกดาน
ของตำหนัก ภายใตการชี้แนะของอีกฝาย
จินหยวนเดินตามหลังหานลี่มา แตชั่วครูก็อดไมไหวเอยถามขึ้นวา
“คาดไมถึงวาสหายจะใชหองความลับสวรรคนี้เปนครั้งแรก ชางทำใหผูเฒาประหลาด
ใจจริงๆ ทวานั่นก็ไมแปลก ปกติแลวหอความลับสวรรคจะขายเจาสิ่งนี้ใหกับผูบำเพ็ญ
เพียรสันโดษและผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงที่ตองเดินทางไกลโดยเฉพาะ สหายอายุยัง
นอยก็มีพลังยุทธระดับนี้ แคมองก็รูแลววาจะตองเปนศิษยที่ถูกเลี้ยงโดยพรรคใดพรรค
หนึ่ง แนนอนวาจึงไมซื้อของที่ขางนอกสุกใสขางในเปนโพรงเชนนี้
และยิ่งไปกวานั้นเจาสิ่งนี้ก็มีราคาไมธรรมดาจริงๆ มีศิลาวิญญาณก็นำไปซื้อยุทธภัณฑ
และสมุนไพรวิญญาณจะคุมกวา”
“อ อ ห อ งความลั บ สวรรค ธรรมดาๆ เช น นี้ ราคาประมาณเท าไหรห รือ มั น มี
รูปรางภายนอกเหมือนกันหมดเลยหรือ?” หานลี่เอยถามไปตามอำเภอใจ
“ระดับต่ำ ราคาแครอยกวากอน ระดับสูงนั้นตองดูเขตอาคมที่ติดมาดวย แตทั่วๆ
ไปแลวก็มีราคาสูงกวายุทธภัณฑในระดับเดียวกันเปนอยางมาก สวนรูปรางของมันนั้น
ก็มีหลากหลาย มีรูปเจดีย รูปหอคอย คฤหาสนเปนตน กระทั่งไดยินวา รูปรางของ
หองความลับสวรรคระดับสุดยอดที่สุดนั้น เปนเพียงจวนเล็กๆ สะดวกเปนอยางมาก”
ชายชรามองหานลี่มีทาทีสนใจ ก็เอยสิ่งที่ตนเองรูออกมา
“จวนเล็กหรือ?” หานลี่ไดฟงแลวรางกายพลันหยุดชะงัก รูสึกตื่นตะลึงเล็กนอย
“แหะๆ! พี่หานอยาคิดเรื่องนี้เลย หองความลับสวรรครูปทรงจวนนั้น ราคาที่ถูกที่สุดก็
สองสามหมื่นศิลาวิญญาณ ไหนเลยที่ผูบำเพ็ญเพียรอยางพวกเราจะใฝฝนถึงได”
ชายชราเอยอยางเยาะเยยตัวเองเล็กนอย
หานลี่ฟนฟูสีหนากลับมาเปนปกติ พลางพยักหนา
เวลานี้ พวกเขามาถึงปกของตำหนักแลว เห็นเพียงที่นี่มีหองศิลาอยูเพียงหาหก
หอง ทุกหองลวนมีรูปรางเหมือนกับสิ่งที่อยูในมือของหานลี่อยางไรอยางนั้น และยิ่ง
ไปกวานั้นยังเปลงแสงสีขาวจางๆ ระยิบระยับออกมา
หานลี่ใจเตน แผจิตสัมผัสไปที่หองหองหนึ่งตามอำเภอใจ เมื่อจิตสัมผัสเขาไป
กระทบ ก็ถูกเขตอาคมตานทานเอาไวดังคาด เขตอาคมงายๆ เชนนี้ จิตสัมผัสสามารถ
แทรกผานจิตสัมผัสเขาไปไดอยางงายดาย แตเมื่อจิตสัมผัสถูกทลาย เจาของหองก็จะ
รูวามีคนแอบฟงอยูทันทีเชนกัน
นี่เปนวิธีการกันคนแอบฟงที่คอนขางปลอดภัยชนิดหนึ่งจริงๆ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หานลี่ก็ชูหองความลับสวรรคเล็กๆ ขึ้น ลำแสงสีเขียงกะพริบ
ระยิบระยับ ถายเทลมปราณเขาไปเล็กนอย ชั่วขณะนั้นหองพลันรอนขึ้นมาเล็กนอย
และสั่นคลอนไมห ยุดในเวลาเดียวกัน หานลี่โยนห องนั้ น ไปตรงที่ วางอยางไมลังเล
แมแตนอย
ลำแสงสวางวาบ หลังจากนั้ น เสีย ง ‘พรึ่บ ’ พลัน ดั งขึ้น ห อ งขนาดสองสามจั้ ง
ปรากฏขึ้นเบื้องหนา
“พี่จิน เชิญเขามาขอรับ!” หลังจากที่หานลี่เหลือบมองหองศิลา ก็หันหนาไปเอย
กับชายชราอยางมีมารยาท
“เชนนั้นผูเฒาตองรบกวนแลว อยาพูดอยางนั้นอยางนี้เลย ถึงแมขานอยจะเคย
เห็นหองความลับสวรรค แตก็ยังไมเคยเขาไปเลยสักครั้ง” จินหยวนลูบเคราสั้นๆ ที่มี
อยูหร็อมแหร็มไปมา หัวเราะคิกคัก แลวกาวมาขางหนาผลักประตูหินเปดออก พลาง
เดินเขาไป
หานลี่หัวเราะ สาวเทาเขาไปในหองอยางชาๆ เชนกัน และปดประตูลง
ในหองมีพื้นที่ไมใหญนัก แตก็วิจิตรตระการตา ตรงกลางไมเพียงมีโตะหินและ
เกาอี้หิน ยังมีเตียงศิลาสีเขียวยาวๆ เตียงหนึ่ง ชายชรานั่งลงบนเกาอี้หินตัวหนึ่งดวย
ทาทีทะนงองอาจ
หานลี่เองก็ยื่นฝามือออกไปกดลงบนกำแพง ชั่วพริบตาเขตอาคมในหองก็เริ่ม
ทำงาน แลวถึงไดเดินไป นั่งลงตรงขามกับชายชรา
“กอนหนานี้ไดยินสหายกลาววา มีเรื่องที่ไมเขาใจ ไมทราบวาคือเรื่องใดหรือ?”
จูๆ ชายชราพลันเอยถามดวยสีหนาราบเรียบ
“ไมมีอะไร ขานอยแคอยากอยูที่รัฐกวนหนิงสักระยะ แตไมคอยเขาใจขอหาม
ตางๆ ของสำนักตางๆของที่นี่ ขาฟงสำเนียงของสหาย ดูเหมือนจะเปนทองถิ่นพอดี
จึงอยากไถถามสหายนิดหนอยเทานั้น” หานลี่เอยดวยสีหนาราบเรียบ
“ที่แทก็เรื่องนี้ ไมมีปญหา! ไมใชวาผูเฒาโออวดหรอกนะ ไมใชแครัฐกวนหนิง ทั้ง
เขตเหลียวก็ไมมีเรื่องไหนที่ผูเฒาไมรู พี่หานอยากไดเรื่องอะไรกอนละ?” ชายชรามีสี
หนาผอนคลายลง พลางหัวเราะออกมาขณะเอย
“ในเมื่อ เจาของที่ นี่ คือ สามตระกู ลของเขตกวนหนิ ง เช น นั้ น ก็ กลาวถึ งตระกู ล
เหล านี้ ก อ นแล ว กั น ถ าให ดี ก ล าวถึ งเรื่อ งราวที่ เกิ ด ขึ้ น ช ว งนี้ จ ะดี ที่ สุ ด จะได ท ำให
ขานอยไดเปดหูเปดตามากขึ้น” หานลี่เอยดวยสีหนาสบายๆ
“ตระกูลผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรในรัฐกวนหนิ ง จะวาไปแล ว พื้ น ฐานแล วที่ นี่ น าจะอยู
ภายใตการปกครองของสำนักนักปราชญ ดวยเหตุนี้ตระกูลนอยใหญลวนเกิดมาจาก
สำนั ก ต า งๆ ของสำนั ก นั ก ปราชญ แต สี่ ต ระกู ล ใหญ ก วนหนิ ง กลั บ ไม เป น เช น นั้ น
นอกจากตระกูลขงแลว สามตระกูลที่เหลือกลับสืบทอดกันตอๆ มา”
“สี่ตระกูลใหญ? กวนหนิงไมไดมีเพียงสามตระกูลใหญหรือ?” หานลี่หยักมุมปาก
ขึ้น เอยถามอยางไมใสใจ
“หึๆ! สามตระกูลใหญกวนหนิงเปนเรื่องที่เกิดขึ้นสองสามปนี้เทานั้น สิบปกอน
ควรจะเรียกวาสี่ตระกูลใหญถึงจะถูก แตตระกูลเฝงหนึ่งในนั้น ไมรูเพราะเหตุใดถึงได
ไปลวงเกินสามตระกูลที่เหลือ ผลลัพธคือถูกสามตระกูลขุดรากถอนโคนภายในหนึ่ง
คืน ลูกศิษยที่สืบเชื้อสายมาตางถูกกำจัดจนเกลี้ยง ไดยินวาตอนนั้นตระกูลเฝงกำลัง
ปรึกษาหารือเรื่องใหญ อะไรสักอยาง และรวบรวมลูกศิษยที่สืบเชื้อสายทั้งหมดมา
รวมกัน…” ชายชราเอยอธิบายอยางตอเนื่องไมหยุด
หานลี่นั่งไปฟงอีกฝายอธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตระกูลเฝงอยางเงียบๆ และ
เทียบกับสิ่งที่เฝงเจิ่นผูนั้นอธิบาย ดูวามีจุดใดที่แปลกประหลาดหรือไม
เมื่อเอยเรื่องตระกูลตางๆ จบ ชายชราก็เริ่มอธิบายถึงสำนักนอยใหญตางๆ เห็นไดชัด
วาชายชรานามวาจินหยวนผูนี้มีความรูและประสบการณไมนอย ไมใชแครัฐกวนหนิง
รัฐที่เหลือก็ดูเหมือนวาจะรูจักเปนอยางดี
หานลี่ฟงอยางพึงพอใจ และรูจักโลกผูบำเพ็ญเพียรเขตเหลียวทั้งหมดอยางทะลุ
ปรุโปรง เมื่อเทียบกับขาวที่ไดรับจากเฉาเมิ่งหรงแลว ก็ละเอียดกวาเปนอยางมาก
แตคนผูนี้ดูเหมือนวาจะเปนคนที่พูดเปนตอยหอย พอเลาแลวก็รายยาวเหยียด
ลื่น ไหลดุจสายน้ำ ไมหยุดพักแมแตนอย แมกระทั่งบางครั้งยังใสความคิดเห็นของ
ตนเองลงไป และการเลานี้ ก็ผานไปหนึ่งเคอเต็มๆ ในที่สุดชายชราก็ปดปากที่ยังพูดไม
จบลง หานลี่จึงฉีกยิ้ม
“ตองรบกวนสหายแลวที่เลาเรื่องราวใหขานอยฟงตั้งมากมาย ทวา จากนี้พูดถึง
สมบัติวิเศษของพี่จินไดแลว เอาออกมาใหขานอยไดเปดหูเปดตากอนไดหรือไม”
“สมบัติวิเศษ? ไดแนนอนอยูแลว ผูเฒายังอยากใหพี่หานชวยขานอยวิเคราะหสัก
หนอย!” ชายชราตอบรับดวยความพึงพอใจ
จากนั้นภายใตการจับจองของหานลี่ เขาก็ควักกลองหยกออกมายามเก็บของที่
เอวดวยทาทีลึกลับ พลางวางลงบนโตะ หานลี่กวาดสายตาไปบนกลองใบนั้น แผจิต
สัมผัสออกไปควบคุมเอาไว แตทันใดนั้นพลันตกตะลึง
เมื่อแผจิตสัมผัสออกไป ของที่อยูในกลองพลันสรางพลังขับไลประหลาดๆ ออกมา
คาดไมถึงวาจะไมมีทางแทรกเขาไปในกลองได
เวลานี้ หานลี่รูสึกสนใจจริงๆ แลว
สวนจินหยวนนั้นก็เปดฝากลองออกอยางระมัดระวัง เผยใหเห็นของที่สองแสงสี
ทองเรืองรองออกมา ขนาดเทากำปน รูปรางสลัวๆ
“สหายลองพิจารณาสิ่งนี้อยางละเอียดสิวารูจักมันหรือไม” จินหยวนผลักกลองหยก
มาตรงหนาของหานลี่ พลางเอยอยางกระตือรือรน
หานลี่ ข มวดคิ้ ว เล็ ก น อ ย หยิ บ กล อ งหยกขึ้ น โดยไม พู ด อะไร ถื อ ไว เบื้ อ งหน า
พิจารณาอยางละเอียด
เวลานี้เขามองเห็นอยางชัดเจนวา มันคือสิ่งที่เหมือนกับฟองอากาศอยางไรอยาง
นั้ น เปล ง แสงสี ท องที่ พิ เศษออกมา ตรงกลางโปร ง ใส แต ผิ ว ของมั น กลั บ ไม มี ไ อ
วิญญาณเลยแมแตนอย ราวกับวาเปนของธรรมดาๆ อยางไรอยางนั้น
หลังจากพิ จารณาอยางละเอียดอยูน าน หานลี่ก็ยื่น นิ้ วนิ้ วหนึ่ งออกไป ลำแสง
วิญญาณสวางจา ถูกลำแสงสีเขียวชั้นหนึ่งหอหุมเอาไว จิ้มไปยังดานบน เปลวเพลิง
จากนิ้วพลันแทรกเขาไปขางใน!
นุมนิ่มอยางมาก ราวกับวาเปนฟองอากาศจริงๆ อยางไรอยางนั้น
หานลี่เผยสีหนาตกตะลึงออกมา หลังจากขบคิดแลว ก็แผจิตสัมผัสออกไปอีกครั้ง
หอหุมมันเอาไว ผลลัพธคือฟองอากาศเปลงแสงสวางจา แลวผลักจิตสัมผัสไปดานขาง
ทวา ในครานี้หานลี่พลันเพิ่มความแข็งแกรงของจิตสัมผัสขึ้นอยางไมตองคิด แผ
จิตสัมผัสเขาไปหอหุมของสิ่งนี้เอาไว
ชั่วขณะนั้นภาพฉากที่แปลกประหลาดพลันปรากฏขึ้น
เห็นเพียงฟองอากาศในกลองเปลงแสงสีทองสวางจาไมหยุด กลับขยายใหญขึ้น
จากตอนแรก ชั่วครูก็หดเล็กลง ความกวางไมมากนัก ราวกับเปนหัวใจที่กำลังเตนแรง
อยูก็มิปาน
ตอนที่ 907 สุสานยักษโบราณ
‘นี่คืออะไร ทานอาวุโสขับเคลื่อน เคยพบเห็นมากอนหรือไม?’ หลังจากที่หานลี่
ขมวดคิ้วแนนอยูนานแลว ก็ใชจิตสัมผัสถายทอดเสียงไปหาเทพขับเคลื่อน
‘เจาคิดวาตาเฒาเปนเทพรอบรู ไมมีอะไรที่ไมรูหรือ? ของสิ่งนี้ตาเฒาไมเคยเห็น
มากอน ทวาในเมื่อสามารถตานทานจิตสัมผัสของเจาได ก็คงเรียกไดวาคือสมบัติวิเศษ
ชิ้นหนึ่ง ลองถามอีกฝายอยางละเอียดดูสิวาไดของสิ่งนี้มาไดอยางไร จากนั้นจะเก็บ
ของสิ่งนี้เอาไวหรือไม ก็แลวแตเจา’ เทพขับเคลื่อนเอยอยางไมสบอารมณนัก
เมื่อไดฟง หานลี่พลันฉีกยิ้มออกมา ไมไดโกรธเกรี้ยวอะไร แตแววตาพลันเปลง
ประกาย ดึงจิตสัมผัสกลับมา ทำใหฟองอากาศฟนฟูกลับมาเปนปกติ และวางกลับลง
ไปในกลองหยกที่อยูบนโตะ
“เปนอยางไรบาง เจาสิ่งนี้ สหายรูจักหรือไม?” จินหยวนเอยถาม
“ขออภัยดวย ประสบการณของผูแซหานมีจำกัด ไมรูจักของสิ่งนี้จริงๆ” หานลี่
เอยพรอมกับเผยสีหนารูสึกเสียใจออกมา
“พี่หานเองก็ไมรูจักสินะ แตเมื่อครูขาเห็นวาเจาสิ่งนี้มีการเปลี่ยนแปลง ยังคิดวา
สหายรูวิธีใชมันเสียอีก!” ใบหนาของชายชราเต็มไปดวยความโศกเศรา และแฝงไว
ดวยความสงสัย
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา เอยอยางไมใสใจเลยแมแตนอยวา
“การเปลี่ยนแปลงเมื่อครู เปน แคการใชจิตสัมผัสจำนวนมากห อหุ มมันเอาไว
เทานั้น ถึงแมจะไมรูวาคือสิ่งใด แตมันก็พอจะเรียกวาสมบัติวิเศษได”
“ออ! มีเรื่องเชนนี้ดวย” ชายชราดูเหมือนวาจะเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่ง สายตาตกไปที่
ฟองอากาศสีทองที่ผนึกรวมตัวกันในกลอง และแผจิตสัมผัสออกไปเชนกัน
หานลี่เห็นเชนนั้นสีหนาก็ไมเปลี่ยนแปลง มองการกระทำของชายชราอยูเงียบๆ
หลังจากผานไปชั่วครู ฟองอากาศนั้นก็เปลงแสงสีทองสวางวาบออกมาเชนกัน
และยิ่งไปกวานั้นยังคอยๆ ขยายตัวขึ้น
ชายชราพนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง เผยสีหนาเหนื่อยลาออกมา หลังจากที่
หลับตาลงโคจรพลังลมปราณแลว ถึงไดลืมตาคูนั้นขึ้นอีกครั้ง
“ผูแซจินไรประโยชน ทำใหสหายเห็นเรื่องขบขันแลว แตจิตสัมผัสของพี่หาน
แข็งแกรงกวาปกติจริงๆ” ปากของจินหยวนเอยเชนนั้น แตใบหนากลับเผยสีหน า
อิจฉาออกมา
ในความคิดของเขา พลังยุทธของอีกฝายและเขาไมไดแตกตางกันมากนัก แตก็
กระทำการเมื่อครูไดอยางงายดาย สวนตนเองนั้นกลับกินแรงขนาดนี้ แนนอนวาตอง
เปนเพราะจิตสัมผัสของอีกฝายแข็งแกรงโดยธรรมชาติ เชนนี้ไมวาจะอยูที่สำนักใดก็
ตองเปนลูกศิษยคนสำคัญแน อนาคตขางหนาจะตองไรขีดจำกัดเปนแน
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา ไมไดโตแยงอะไร
“พี่จิน ไดของสิ่งนี้มาจากไหน ดูแลวแปลกประหลาดมาก ไมรูวามีความเปนมา
อะไรพิเศษหรือไม แนนอนวาถาหากพี่จินไมสะดวกที่จะบอก ก็ไมเปนไร”
หานลี่เอยดวยสีหนาราบเรียบ เผยทาทางอยางไรก็ไดออกมา
“ประวัติความเปนมาของเจาสิ่งนี้ไมมีอะไรตองปดบัง แตกลัววาหากกลาวออกไป
แลว สหายจะไมเชื่อคำพูดของผูแซจิน เพราะวาเรื่องนี้เปนเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ”
ตอนแรกจินหยวนมีสีหนาลังเล ทันใดนั้นก็หัวเราะอยางขมขื่นออกมา
“สหายไมเลา จะรูไดอยางไรวาขานอยจะเชื่อหรือไม ยิ่งไปกวานั้น หากรูที่มาที่ไป
ของมันแลว ไมแนวาขานอยอาจจะนึกอะไรออกก็ได ถึงอยางไรเสียอาศัยแคของชิ้น
เดียว ก็นึกประวัติความเปนมาของมันไมออกจริงๆ” หานลี่ฉีกยิ้มเบิกบานออกมา
ขณะเอย
ฟงจากน้ำเสียงของอีกฝาย ของสิ่งนี้คงมีที่มาที่ไปจริงๆ
“ความจริงแลวประวัติความเปนมาของเจาสิ่งนี้ก็ไมมีอะไรที่ตองปดบัง แตเพื่อให
ไดของสิ่งนี้มา สหายสนิทของตาเฒาสองสามคนตองจบชีวิตลง ดังนั้นจึงไมคอยอยาก
กลาวถึงเรื่องนี้ก็เทานั้น” จินหยวนถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แลวเอยขึ้น
หานลี่ไดฟงคำพูดนี้แลวพลันนิ่งงัน แตเมื่อเห็นอีกฝายเผยทาทีครุนคิดออกมา ก็รู
วาอีกฝายกำลังจะเลา จึงปดปากเงียบไมเอยอะไรออกมาในทันที
“สหายนาจะเดาออก ตาเฒาเปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษคนหนึ่ง และยิ่งไปกวานั้น
ยังเปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษที่ฝกฝนเคล็ดวิชาธาตุดิน ความสามารถดานอื่นๆ ของ
ขานอยนั้นลวนธรรมดา แตดวยความที่มีรางกายวิญญาณพสุธามาแตกำเนิดนั้น ทำให
มีฝมือ ในเคล็ดวิชาลี้ธรณี เล็กนอ ย ถาหากไม ใช เพราะข าน อ ยมี รากวิญ ญาณย่ำแย
เกินไป เกรงวาสำนักและพรรคตางๆ จำนวนไมนอยคงแยงกันรับตาเฒาเปนลูกศิษย
แลว” เอยมาถึงตรงนี้ สีหนาของชายชราก็เต็มไปดวยความเสียดาย
“ดังนั้นหลังจากที่ผูแซจินมีพลังยุทธอยูในระดับหนึ่งแลว ก็มักจะชอบไปคนหาถ้ำ
พำนักของผูบำเพ็ญเพียรโบราณในที่รกรางหางไกล พยายามจะตามหาซากปรักหักพัง
อะไรพวกนี้ เพื่อใหร่ำรวยขึ้นมาในชั่วขามคืน แตถ้ำพำนักของผูบำเพ็ญเพียรโบราณ
และสมุนไพรอะไรพวกนั้น ลวนไมใชสิ่งที่หางาย ถึงแมขานอยจะพูดไมไดวาไมไดรับ
อะไรเลยแมแตนอย แตการสูญเสียเวลาไปในที่เหลานั้น ก็ไมถือวานักหนาอะไร จน
เมื่อสามปกอน…”
น้ำเสียงของจินหยวนหยุดชะงักลงอยางไมเปนธรรมชาติ แลวถึงไดเอยขึ้นอีกครั้ง
อยางเครงขรึมวา
“สามปกอน ตาเฒาก็ไดรับคำเชิญจากสหายสนิทคนหนึ่ง บอกวาพบสุสานยักษของผู
บำเพ็ญเพียรโบราณในอดีตกาล และคิดจะอาศัยเคล็ดวิชาลี้ธรณี ของตาเฒาเขาไป
คนหาดวยกัน ถาหากไดสมบัติมาจริงๆ แนนอนวาจะแบงใหขานอยสวนหนึ่ง ผูแซจิน
ฟงมาถึงตรงนี้ก็รูสึกดีอกดีใจเปนอยางมาก ทันใดนั้นก็นัดแนะวันเวลากัน ผลลัพธคือผู
ที่ไปดวยกันยังมีสหายสนิทอีกสองสามคน
เวลานั้นขาจึงรูวา เกรงวาสุสานโบราณนี้จะไมธรรมดาแลว ดังคาด ตาเฒาและ
พวกเขาไปในสุสานโบราณแลวถึงไดพบวา…” น้ำเสียงของชายชราเปลี่ยนเปนสั่นเทา
“ถึงไดพบวาดานในของสุสานโบราณนั้น คาดไมถึงวาจะเปนสุสานของจักรพรรดิ
ที่มีชื่อเสียงในสมัยโบราณคนหนึ่ง ในอดีตคนผูนั้นถูกเรียกวาราชันยเปลวระยับที่มี
ความโหดเหี้ยมและถือวาเปนผูยิ่งใหญในตำนานคนหนึ่ง พวกเราเห็นเชนนั้น กลับ
รูสึกผิดหวัง เพราะคิดวาเสียเวลาเปลา ถึงอยางไรเสียที่ นี่ตอใหเปนที่ นาสรรเสริญ
ขนาดไหนของคนธรรมดา แตสำหรับผูบำเพ็ญเพียรอยางพวกเราแลว จะมีอะไรที่เปน
ประโยชนไดบาง แตผูใดจะรูวาหลังจากบุ กเขาไปในห องสุสานหลักแลว ถึงไดพ บ
สิ่งของตางๆ ที่ฝงอยูในหลุมศพคนตาย คาดไมถึงวาจะมีวัตถุดิบและยุทธที่หายาก
จำนวนมากของผูบำเพ็ญเพียร พวกเราตางดีอกดีใจ เตรียมกำลังจะหยิบของพวกนั้น
ออกมา แตผูใดจะรูวาซากศพจำนวนมากที่ถูกฝงอยูทามกลางสิ่งของเหลานั้นในหอง
สุสานกลับฟนขึ้นมา และกลายเปนซากศพเดินไดที่มีดและทวนลวนแทงไมเขา ไมวา
จะใชยุทธภัณฑหรือเคล็ดวิชาทำอะไรพวกมันลวนไรประโยชน ทันใดนั้นสหายสวน
ใหญก็ถูกฉีกทึ้งออกเปนชิ้นๆ อยางไรซึ่งการปองกันตัว และในโลงศพหลักก็ดูเหมือน
จะมีเสียงแปลกๆ ดังขึ้น เหมือนวาราชันยเปลวระยับจะฟนคืนชีพอยางไรอยางนั้น
โชคดีที่ขาเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาลี้ธรณี มีประสบการณมาไมนอย จึงหนีออกมาในทันที
มิเชนนั้นก็คงเพลี้ยงพล้ำอยูในสุสานอัปมงคลนั่นแลว แตคนอื่นๆ ไมไดโชคดีเชนขา”
จินหยวนเอยมาถึงตรงนี้ สีหนาก็ซีดขาวเล็กนอย ดูแลวภาพฉากในตอนนั้น คงจะ
เขยาขวัญเขาไมนอย
“เจาสิ่งนั้นคือ…” หานลี่รูสึกตื่นตะลึงในใจ แตก็ยังคงชี้ไปยังกลองหยกและถามขึ้น
“สิ่งนี้คือของที่ใชบูชาโลงศพหลัก ตอนที่ขาหนีออกมาก็หยิบมันมาดวย แตเดิม
คิดวาเจาสิ่งนี้มีความอัศจรรยเชนนี้ จะตองเปนสมบัติวิเศษแน แตผูใดจะรูวา หลังจาก
ไปสอบถามตามย านรานค าต างๆ ทุ ก คนต างก็ ไม รูจั ก เจ าสิ่ งนี้ ถึ งแม จ ะรูว ามั น ไม
ธรรมดา แตก็ไมมีผูใดยอมเสนอราคาสูงๆ เพื่ อซื้อมัน ไป มั น จึงอยูในมือของขามา
จนถึงทุกวันนี้” จินหยวนกลับไมไดปดบัง เอยออกมาอยางตรงไปตรงมา แตแคสีหนา
กลัดกลุมที่เผยออกมาบนใบหนานั้นสังเกตเห็นไดอยางงายดาย
“ในเมื่อเปนของที่ฝงอยูในหลุมศพของจักรพรรดิโบราณ เชนนั้นการที่ไมมีผูใด
รูจักก็ไมใชเรื่องแปลก ถึงอยางไรเสียในสมัยโบราณ ก็มีของมากมายที่หายสาบสูญไป
จากโลกผูบำเพ็ญเพียรปจจุบันตั้งนานแลว ทวาจักรพรรดิผูซึ่งเปนคนธรรมดาผูหนึ่ง
คาดไมถึงวาจะมีสิ่งของของผูบำเพ็ญเพียร และคาดไมถึงวาจะกลายเปนซากศพเดิน
ได ดูเหมือนวาจะเปนปญ หาที่ห นักหนาแลว ท านไมไดหาคนไปสำรวจที่ สุสานนั้ น
หรือ?” หานลี่เผยสีหนาประหลาดใจออกมาขณะเอยถาม
“แนนอนวาตาเฒ าเคยไปที่สุสานโบราณนั้ นอีกครั้ง และยิ่งไปกวานั้น ยังเอาผู
บำเพ็ญ เพียรระดับสูงจำนวนมากไปดวย ผูใดจะรูวา หลังจากที่ตาเฒ าไปที่เดิมนั้น
สุสานโบราณนั้นจะสลายหายไปอยางแปลกประหลาด ตรงสถานที่เดิมเหลือเอาไว
เพียงที่รกรางแหงหนึ่งเทานั้น ตาเฒาไมอยากจะเชื่อสิ่งที่ตัวเองเห็นจริงๆ แตตาเฒาจำ
ตำแหนงของสุสานโบราณนั้นไดไมผิดแน กระทั่งตาเฒายังตั้งใจทิ้งรองรอยที่ชัดเจน
เอาไวตรงทางเขาของสุสานโบราณดวย” ขณะที่จินหยวนเอยออกมา ใบหนาก็เครง
ขรึมขึ้น
หานลี่ขมวดคิ้ว ถาหากทุกอยางเปนเรื่องจริง คนกลุมหนึ่งที่มีเพียงชายชราที่โชค
ดีรอดมาได บวกกับที่ชายชราหาสุสานโบราณไมพบ เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ก็ไมตอง
พูดถึงแลว ชีวิตของคนผูนี้ไมมีทางมีความสุขแน
“สหายพบสุสานโบราณที่ไหน บอกขานอยไดหรือไม!” หลังจากขบคิดเล็กนอย
หานลี่ก็เอยปากขึ้นอีกครั้งอยางเยือกเย็น
“จะเปนที่ไหนไดเลา แนนอนวาตองเปนสวนลึกของเทือกเขาเนินหิมะอยูแลว”
ชายชราขบเขี้ยวเคี้ยวฟนขณะเอย
“เทือกเขาเนินหิมะ หากขาจำไมผิดละก็ เหมือนทานเคยพูดวา กอนหนามักจะมี
ผูบำเพ็ญเพียรหายตัวไปในเทือกเขาแหงนี้ หรือวาเกี่ยวของกันกับเรื่องนี้?” หานลี่ฉาย
แววประหลาดใจในดวงตา พลางเอยอยางเชื่องชา
“อาจจะใชก ระมั ง ตาเฒ าไม แ น ใจนั ก ทวาหากสหายสนใจเรื่อ งนี้ จ ริงๆ ละก็
ขานอยเอาตำแหนงสุสานโบราณใหสหายดูได บางทีพี่หานอาจจะมีโอกาสไดไปดูที่น่ัน
และพบอะไรเขาก็ได” หลังจากที่ชายชราลังเลเล็กนอย ก็เอยประโยคที่คาดไมถึงขึ้น
จากนั้นเขาก็ควักคัมภีรมวนหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ หลังจากจารึกตัวอักษรลงไป
ในคัมภีรแลว ก็สงใหหานลี่อยางสบายๆ
“เอาละ ถาหากมีเวลา ผูแซหานจะลองไปดูแลวกัน!” หลังจากเงียบกริบไปชั่วครู
หานลี่ก็ยื่นมือมารับคัมภีร แลวเอยดวยสีหนาราบเรียบ
“แหะๆ! ดูแลวตาเฒ าและสหายเหมือนจะรูจักกันมานานแมเพี ยงเพิ่ งรูจักกัน
จริงๆ ความกลัดกลุมในใจนี้ขาไมไดระบายกับผูใดมาเนิ่นนานแลว เอาเชนนี้ก็แลวกัน
ขาวาพี่หานดูจะสนใจเจาสิ่งนี้เปนอยางมาก เชนนั้นเจาสิ่งนี้ ตาเฒาจะขายถูกๆ ให
สหายก็แลวกัน สหายหานจายใหขาแครอยกอนก็พอ เปนอยางไร?” ชายชราฉีกยิ้ม
ออกมาขณะเอย
“รอยกอนหรือ? ถูกจริงๆ แตขานอยไมอาจยอมใหพี่จินเสียเปรียบได เอาเชนนี้ก็
แลวกัน ขาจะใหพี่จินสองรอยกอน แลกกับของสิ่งนี้” หานลี่หัวเราะออกมา ราวกับวา
รูสึกขัดเขิน เมื่อ เอยเชน นี้ แลว จากนั้ น ก็ ควานหายามเก็ บ ของที่ เอว ศิ ลาวิญ ญาณ
ระดับกลางสองกอนปรากฏขึ้นในมือ สงใหชายชราที่อยูตรงขาม
จินหยวนเห็นศิลาวิญญาณระดับกลาง ใบหนาจึงอดที่จะเผยรอยยิ้มออกมาไมได
ทันใดนั้นก็เอยอยางมีมารยาทสองประโยค และรับมา จากนั้นพลันผลักฟองอากาศสี
ทองที่อยูในกลองมาใหหานลี่โดยอัตโนมัติ
สวนหานลี่นั้นก็ยัดกลองหยกเขาไปในยามเก็บของอยางสบายๆ ตอหนาชายชรา
เมื่อชายชราเห็นเชนนั้น ใบหนาก็เต็มไปดวยความโมทนา และดูเหมือนวาจะรูสึก
เสียดายอยูบาง แตในตอนนั้นเอง ยามเก็บอสูรวิญญาณใบหนึ่งที่อยูตรงเอวของหานลี่
พลันเคลื่อนไหว และสงเสียงรองประหลาดๆ ออกมา
“นั่นคือ…” ชายชรานิ่งงัน จองเขม็งไปยังยามเก็บอสูรวิญญาณที่ขางเอวของหานลี่
พลางเอยถามอยางรูสึกสงสัย
“ไมมีอะไร แคอสูรวิญญาณระดับต่ำตัวหนึ่งที่ขานอยเลี้ยงไวเทานั้น นาจะเห็น
ของสิ่งนี้ แลวรูสึกสนใจกระมัง” กมหนาลงเหลือบมองยามเก็บอสูรวิญญาณใบนั้น
หานลี่เอยขึ้นดวยสีหนาไมใสใจ
ตอนที่ 908 สามศพ
จินหยวนไดยินแลวก็รูสึกสงสัยเล็กนอย แตกลับไมกลาซักถามอะไร จากนั้นหานลี่ก็
พูดคุยเรื่องทั่วๆ ไปกับหานลี่อีกชั่วครู แลวหยัดกายลุกขึ้นยืนพลางกลาวลา
เมื่อมองเห็นเงารางของอีกฝายผลักประตูหิ นบานใหญ เดินออกไป รอยยิ้มบน
ใบหนาของหานลี่คอยๆ หุบลง เผยสีหนาเครงขรึมออกมา
หลังจากผานไปชั่วครู จูๆ เขาก็หยิบกลองหยกใบนั้นออกมาอีกครั้ง และเปดฝา
ออก จองเขม็งไปยังสิ่งของที่อยูในกลอง ไมเปลงคำพูดใดๆ ออกมา
‘ทำไม เจาคิดจะไปคนหาสุสานโบราณนั่นหรือ!’ ในจิตสัมผัสมีเสียงราบเรียบของ
เทพขับเคลื่อนดังขึ้น
“แนนอนวาไมไป ถึงแมจะไมรูวาคำพูดของคนผูนั้นเชื่อไดกี่สวน แตขาก็ไมใชคน
ที่ขาดประสบการณ จะไปเสี่ยงอันตรายทำไม ทวาสุสานของจักรพรรดินั่น ขานอย
รูสึกสนใจจริงๆ ถาหากหลังจากที่ขาฟนฟูพลังยุทธทั้งหมดไดแลว ก็อาจจะลองไป
คนหาดูกระมัง แตคำพูดที่คนผูนั้นพูดกับขานั้น เห็นไดชัดวาไมไดจริงใจอะไร เหมือน
รูจักกันมานานแมเพียงเพิ่งรูจักกัน บอกอยางสบายใจอะไรกัน? คิดวาขาเปนเด็กสาม
ขวบหรือ? ตาเฒาที่อยูมานานขนาดนั้น ไหนเลยจะบอกความลับกับคนอื่นงายๆ ยิ่งไม
ตองพูดกับคนแปลกหนาที่เพิ่งรูจักเลย กระตือรือรนถึงเพียงนี้ จะตองเปนคนกลับ
กลอกหรือไมก็โจรแนๆ!” หานลี่หยักรอยยิ้มเย็นชาออกมา พนคำพูดไมแยแสออกมา
‘นั่นมันก็ใช ทวาถาหากเจาคือพวกที่เพิ่งแยกตัวออกมาจากอาจารย ก็อาจจะถูก
คนเช น นี้ ห ลอกได โดยงา ย คิ ด ว า อี ก ฝ า ยจริ งใจกั บ ตนเอง และไม ทั น ระวั งตั ว วั น
ขางหนาอาจจะถูกขายไปตอนไหนก็ไมรู! นึกถึงตอนนั้น ตาเฒาก็…’
เทพขับเคลื่อนถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ตอนที่พูดถึงตนเองนั้นก็มีสีหนาเครง
ขรึม หยุดชะงักคำพูด
“เอ ตอนนั้นทานอาวุโสก็เคยพูดคนประเภทนี้หลอกหรือ?” หานลี่พลันตกตะลึง
หัวเราะออกมาเบาๆ
‘เหอะ! ตอนนั้นตาเฒายังออนเยาวนัก ถูกคนหลอกก็ไมใชเรื่องแปลกอะไร
เทพขับเคลื่อนสงเสียงเหอะออกมาสองสามครั้ง ดวยทาทีเกอเขิน
“เอาละ ชนรุนหลังไมซักไซเรื่องนาอายของอาวุโสในปนั้นแลว ทวาของสิ่งนี้คาด
ไมถึงวาจะทำใหอสูรวิญญาณครวญสนใจได ดูแลวก็แปลกประหลาดจริงๆ!” หานลี่มีสี
หนาราบเรียบ จากนั้นก็ใชมือหนึ่งตบไปที่ยามเก็บอสูรวิญญาณที่เอว ลำแสงสีดำสาย
หนึ่งพุงออกมาจากถุง รอนลงบนโตะ กลายเปนวานรตัวเล็กๆ สูงหลายชุน รางกายปก
คลุมไปดวยขนสีดำสนิท
หลังจากวานรน อ ยปรากฏตั วแล ว ทั น ใดนั้ น ก็ ใช จ มู ก ดมกลิ่น ฟุ ต ฟ ต เบาๆ ชั่ ว
ขณะนั้นแววตาพลันตกไปที่ฟองอากาศสีเหลืองทองฟองนั้น ใบหนาเผยความลังเล
เล็กๆ ออกมา
หานลี่รูสึกประหลาดใจ จองเขม็งไปยังอสูรวิญญาณครวญไมไดเอยปากใดๆ ใช
จิตใจสื่อสารกับอสูรวิญญาณครวญตัวนั้น
ความรูสึกที่สงมาผานจิตสัมผัสคือ อสูรวิญญาณครวญดูเหมือนวาจะหวาดกลัว
ฟองอากาศสีทองนี้อยูหลายสวน แตในเวลาเดียวกันก็รูสึกกระตือรือรนเชนกัน นี่มัน
เรื่องอะไรกัน?
หานลี่ยังไมทันเขาใจวาคืออะไร
จูๆ รางของอสูรวิญญาณครวญก็เปลงแสงสีดำออกมา กระโดดออกไปขางหนา
คาดไมถึงวาจะกระโจนเขาไปในฟองอากาศสีทอง ผิวของฟองอากาศสีทองเปลงแสง
สว า งจ า เปลวเพลิ ง สี ท องปรากฏขึ้ น ในฟองนั่ น กลางอากาศ ห อ หุ ม ร า งของอสู ร
วิญญาณครวญเอาไวขางใน
อสูรวิญญาณครวญมีสีหนาเจ็บปวด บนตัวของมันกลับเปลงรัศมีสีดำสนิทและ
เปลวเพลิงสีเทาที่พัวพันกันออกมาไมหยุด รางกายอยูในฟองอากาศไมขยับเขยื้อน
หานลี่ขมวดคิ้วแนน!
ถึงแมจะไมรูวาเกิดเรื่องอะไรขึ้น แตเห็นไดชัดวาอสูรวิญญาณครวญเหมือนจะไม
สามารถออกมาจากในนั้นไดในทันที เหมือนวากำลังอาศัยเปลวเพลิงสีเทาฝกบำเพ็ญ
เพี ย ร และสิ่ ง ที่ ท ำให เขาประหลาดใจก็ คื อ ชั่ ว พริ บ ตาที่ เปลวเพลิ ง ปรากฏขึ้ น
ฟองอากาศสีทองก็กลายเปนขุมพลังวิญญาณที่เปยมลน แผไอวิญญาณที่ไมธรรมดา
ออกมา
‘ชากอน! สถานการณเชนนี้ ดูเหมือนวาจะเคยพบเห็นที่ไหนมากอน ขานาจะเคย
มีความทรงจำของสิ่งนี้’ จูๆ เทพขับเคลื่อนพลันรองเอออกมา เขาดูเหมือนวาจะนึก
อะไรขึ้นมาได
“ทานอาวุโสนึกอะไรออกหรือ?” ภายใตความตกตะลึงของหานลี่ ก็อดที่จะเอย
ถามไมได
‘ขอขานึกกอน! ดูเหมือนวาจะเปนเรื่องที่เกิดขึ้นเนิ่นนานมาแลว’ น้ำเสียงของ
เทพขับเคลื่อนเครงขรึมขึ้นสองสามสวน
เมื่อไดฟงอีกฝายเอยเชนนี้ หานลี่ก็ไมไดเอยปากเรงเราอะไร มองอสูรวิญญาณ
ครวญที่อยูในฟองอากาศสีทองเงียบๆ แลวกมหนาลงขบคิด
หลังจากผานไปชั่วครู เสียงของเทพขับเคลื่อนถึงไดสงมาอีกครั้ง
‘ขานึกออกแลว ตอนที่ขาออกไปหาประสบการณ ในอดีต เคยเห็นสิ่งนี้บนราง
ซากราชั น ย ห มื่ น ป ตั ว หนึ่ ง ดู เหมื อ นว า ซากราชั น ย ตั ว นั้ น ก อ นหน า นี้ จ ะเคยเป น
พระภิกษุระดับสูงของสำนักพุทธรูปหนึ่ง หลังจากกลายเปนซากราชันยแลวก็ทำให
ตนเองกลายเปนพระธาตุ
หลอมเกราะปองกันที่เหมือนกับสมบัติอาคมซึ่งรายกาจอยางสุดๆ ขึ้นมาบนราง
ภายในระยะเวลาสั้นๆ แทบจะไมมีทางทำอะไรได ขาเองก็เคยเสียเปรียบใหมันเปน
อยางมาก ทวามันก็เปนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแลว และยิ่งไปกวานั้นเกราะปองกัน
ที่อีกฝายสำแดงออกมาก็เปนสีเงิน ขาในเวลานั้นจึงนึกไมออก ทวาของแบบนี้นาจะถูก
กักเก็บอยูในรางซากราชันยถึงจะถูก ทำไมถึงมาตกอยูในมือของผูบำเพ็ญเพียรระดับ
สรางปราณคนหนึ่งได’ คำพูดของเทพขับเคลื่อนเต็มไปดวยความประหลาดใจ
“แมแตทานก็เคยเสียเปรียบใหมัน! ของสิ่งนี้รายกาจอยางสุดๆ จริงๆ คงเรียกได
วาเปนสมบัติแลว ไมวาคนผูนั้นจะไดมาอยางไร ตอนนี้สิ่งที่สำคัญ คืออสูรวิญ ญาณ
ครวญตกอยูในอันตรายหรือไม” ตอนแรกหานลี่พลันชักสีหนา แตก็ยังเอยถามดวย
ความกังวลใจ
‘เจายังมองไมออกหรือ? อสูรวิญญาณของเจากำลังดูดซับเปลวเพลิงซากศพใน
พระธาตุอยู จะวาไปแลวเด็กนอยอยางเจาไมเพี ยงจะแปลกประหลาด แมแตอสูร
วิญญาณของเจาแตละตัวก็แปลกประหลาดอยางหาที่เปรียบมิได คาดไมถึงวาจะมี
อสูรวิญญาณที่ควบคุมภูตปศาจไดโดยเฉพาะอีก ตาเฒามีชีวิตมาเนิ่นนานขนาดนี้ ยัง
ไมเคยไดยินชื่ออสูรวิญญาณครวญมากอนเลย’ เทพขับเคลื่อนเอยพึมพำ
“ดูดซับเปลวเพลิงซากศพหรือ?”
ภายใตการขบคิดอยางละเอียดของหานลี่นั้น ไอทมิฬที่อสูรวิญญาณครวญปลอย
ออกมาก็คอยๆ กลืนกินเปลวเพลิงสีเทาไปทีละนิดๆ ดังคาด จึงรูสึกสบายใจขึ้น แต
เมื่อไดยินประโยคตอมาของเทพขับเคลื่อน ก็อดที่จะหัวเราะอยางขมขื่นออกมาไมได
“ความจริงแล ว เจ าสิ่ งนี้ ไม เหมื อ นกั บ การเลี้ ย งดู แ บบก อ นหน านั้ น เลยสั ก นิ ด
หลังจากพัฒนาระดับขึ้นสองสามครั้ง จะยังเปนอสูรวิญญาณครวญอยูห รือไมนั้น ก็พูด
ยากแลว” หานลี่มีทาทีจนปญญา
‘ออ เจาสิ่งนี้คืออสูรวิญญาณครวญกลายพันธุชนิดหนึ่งสินะ ขาถึงวาทำไมที่หลัง
ของมันถึงไดมีลวดลายภูตปศาจ เปลวเพลิงซากศพพวกนี้กลายเปนสีเทาขาว จะตอง
เปนเปลวเพลิงซากศพที่บริสุทธิ์มากกวาหมื่นปแน คงจะเปนผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ
ที่ถูกอสูรวิญญาณฆาตาย คาดไมถึงวาอสูรวิญญาณตัวนี้จะกลากลืนกิน จุๆ ไมธรรมดา
จริงๆ ทวาสมบัติชิ้นนี้ดูเหมือนวาจะยังไมเคยถูกหลอมใหสมบูรณมากอน จึงยังไมมี
เจานาย มิเชนนั้นภายใตการเชื่อมโยงความคิดกับซากราชันยนั้น ตอใหอยูหางกันเปน
หมื่นลี้ ก็ยังบินกลับไปไดในทันที ชางแปลกประหลาดจริงๆ’ เทพขับเคลื่อนสงเสียงจุๆ
ชมวาสุดยอดไมหยุด
“ยังไม ถูกรับ เป น นาย! เช น นั้ น หากเปลวเพลิ งซากศพถู กอสู รวิญ ญาณครวญ
ดูดกลืนไปจนเกลี้ยง ขาก็ถือวาไดสมบัติมาฟรีๆ ชิ้นหนึ่งสินะ จุๆ คิดไมถึงวาแมไมได
เคล็ดวิชาของสำนักพุ ทธ แตกลับ ได สมบั ติวิเศษของสำนั กพุ ท ธมากอ น อยากเห็ น
เกราะปองกันวัชระที่สรางขึ้นจากพระธาตุแลวสิ วาจะยอดเยี่ยมขนาดไหน” เงียบ
กริบไปชั่วครู จูๆ หานลี่ก็คลี่ยิ้มออกมา
‘ไมใชพระธาตุธรรมดา แตเปนพระธาตุวัชระ พระธาตุสวนใหญแลวลวนมีสีขาว
สีอื่นๆ นั้นมีนอยมาก มีเพียงพระธาตุสีทองถึงจะเรียกไดวาพระธาตุวัชระ นับวาเปน
พระธาตุที่หายากมากๆ ชนิดหนึ่ง โดยปกติแลวผูบำเพ็ญเพียรที่หลอมพระธาตุชนิดนี้
ไดนั้น สวนใหญแลวจะตองเปนผูที่รับหนาที่ดูแลเกราะปองกันวัชระของสำนักพุทธ มี
ตำแหนงที่พิเศษมาก ตำแหนงแตกตางกับอาวุโสผูคุมกฎของสำนักอื่นๆ เปนอยาง
มาก’ เทพขับเคลื่อนถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แลวอธิบายใหหานลี่ฟง
“เชนนั้น เกราะปองกันพระธาตุวัชระ ก็นาจะรายกาจกวาเกราะปองกันที่ทาน
เคยพบเห็นมากอน” หานลี่แววตาเปลงประกายขณะเอยถาม
‘นาจะใชกระมัง ถึงอยางไรเสี ยชื่ อ เสี ยงของพระธาตุ วัช ระก็ เกรียงไกรมากใน
สำนักพุทธ ทวา ขาเองก็ไมเคยเปรียบเทียบ จึงพูดไมได’ น้ำเสียงของเทพขับเคลื่อน
ลังเลเล็กนอย ไมคอยมั่นใจนัก
หานลี่หัวเราะออกมา ตอนที่กำลังคิดจะเอยอะไรอีกนั้น จูๆ ฟองอากาศสีทองบน
โตะหิ น ก็สั่น คลอน ลำแสงสีเขียวขนาดเท าเมล็ดขาวสารกลุม หนึ่ งพลัน พุ งออกมา
ทะยานไปยังเพดานหองหินอยางรวดเร็ว
หานลี่พลันตื่นตระหนก สายตาจองเขม็งไปยังลำแสงกลุมนั้น เพงสมาธิไปอยางไม
ตองคิด
ชั่วขณะนั้ น ลำแสงสีเขี ยวราวกั บ วาชนกั บ อะไรสัก อยาง หลั งจากกระดอนไป
มาแลวก็ถูกดีดลงมาจากกลางอากาศ นั่นก็คือเคล็ดวิชาแปลงจิตสัมผัสใหกลายเปน
กำแพงของหานลี่ และในตอนนั้นเอง อสูรวิญญาณครวญก็สงเสียงคำรามออกมาทาง
จมูก ลำแสงผืนใหญพุงขึ้นมาจากดานลาง ชั่วครูก็มวนเอาลำแสงสีเขียวกลับเขาไปใน
ฟองอากาศ และกลืนกินเขาไปในทอง
หานลี่ขมวดคิ้วแนน จองเขม็งไปยังฟองอากาศสีทอง พลางคาดเดาอะไรสักอยางในใจ
……
ในเวลาเดียวกันนั้น ในหองสุสานหองหนึ่งที่อยูหางออกไปสองสามพันลี้ มีโลงศพ
หินสามโลงวางเรียงกันอยู หองสุสานใหญโตโออาเปนอยางมาก กวางประมาณรอย
กวาจั้ง รอบดานไมเพียงสลักภาพวาดในสมัยโบราณไวบนกำแพงจำนวนมาก มุมทั้งสี่
ของหองสุสานก็มีกระถางทองแดงยักษวางอยูมุมละหนึ่งใบ ดานในมีเปลวเพลิงสีเขียว
มรกตเผาไหมอยู สองแสงอยูในหองสุสานสลัวๆ
จูๆ โลงศพหินดานซายก็มีเสียงรองดวยความเจ็บปวดดังขึ้น จากนั้นเสียง ‘ปง’ ก็
ดังสนั่นขึ้น ฝาโลงหนาๆ คาดไมถึงวาจะลอยขึ้นไปสองสามจั้ง จากนั้นตกลงมา
ไอสีดำหมุนวนเปนเกลียว จูๆ เงารางสูงใหญก็ยืนขึ้นจากโลงศพหิน
“หวั ง เอ อ ร เกิ ด เรื่ อ งอะไร เหตุ ใดถึ ง ได โกรธาถึ ง เพี ย งนี้ !” เสี ย งของบุ รุ ษ วั ย
กลางคนกลับ ดังขึ้น มาจากโลงศพหิ น ที่ อ ยู ตรงกลาง เป น เสี ย งที่ ทุ มต่ ำแต ท รงพลั ง
ทาทางไมไดโกรธเกรี้ยว
“จิต…จิตแยก…ของขา...หายไปแลว!” เงารางสูงใหญในไอสีดำเปลงเสียงคำราม
ทุมต่ำออกมา ใชน้ำเสียงที่เหมือนกับนกแกวหัดพูดเอยขึ้นอยางติดๆ ขัดๆ
“จิตแยกหายไปแลว รางแยกที่สงออกไปคงถูกผูใดมองออกแลวเก็บไปกระมัง ไม
เปนไร นั่นไมใชเรื่องใหญ อะไร จิตแยกเพี ยงเท านี้ แคฝก ‘คาถาซากสวรรคแมน้ ำ
อเวจี’ ที่บิดาเจาถายทอดใหตอ ไมนานก็ฟนฟูกลับมาดังเดิมแลว ไมจำเปนตองโกรธ
เกรี้ยวขนาดนี้ จิตใจของเจายังไมอาจควบคุมมันดวยตัวเองได!” โลงศพหินที่คอนขาง
เล็กอีกโลง กลับมีเสียงของสตรีที่หวานหยดยอยดังขึ้น ขณะเอยอยางราบเรียบ
“แต… แตวา…เกราะ…วัชระ…ของขา!” เงารางสู งใหญ สีดำผูนั้ น ใชมื อทุ บ ไปที่
หนาอกของตนเองสองครึ่ง ยังคงสงเสียงคำรามพลางมองไปซายทีขวาที
“เกราะปองกันวัชระ! ใชเกราะปองกันวัชระที่หลอมขึ้นจากพระธาตุของภิกษุเฒา
ซึ่งถูกสังหารไปในตอนที่ขายังไมตื่นชิ้นนั้นหรือไม! ขาไมไดชวยเจาหลอมมันไปกวา
ครึ่งแลวมอบใหเจาตั้งนานแลวหรือ เหตุใดตอนนี้ยังไมถูกรับเปนนายอีก!” เสียงของ
บุรุษวัยกลางคนเครงขรึม และเย็นเยียบเล็กนอย
“ขา…” เงารางคนในไอสีดำไดยินก็ลนลานขึ้นมาเล็กนอย เวลานั้นคาดไมถึงวาจะ
ไมรูวา จะพูดอะไรดี
“ฮองเตเพคะ เรื่องนี้อยาโทษหวังเออรเลย หวังเออรเคยบอกขาเรื่องนี้แลว”
โลงศพหินเล็กๆ มีเสียงแผวเบาของสตรีดังลอยออกมา ฝาโลงถูกเคลื่อนออก เงา
รางอรชนออนแอนลุกขึ้นนั่ง แตแคในหองสุสานนั้นมืดสลัวเกินไป จึงไมอาจมองเห็น
ใบหนาของสตรีผูนี้ไดชัดเจน
“มันเรื่องอะไรกันแน ชายารัก เจามาอธิบายใหขาฟงเสีย เกราะปองกันวัชระชิ้น
นี้เปนสมบัติวิเศษที่หายากชิ้นหนึ่ง ขาเห็นวาลมปราณของหวังเออรยังตื้นเขินนัก ถึง
ไดมอบเอาไวใหเขาปองกันตัว มิเชนนั้น ขาเองก็คงนำมาหลอมใชเองตั้งนานแลว”
น้ำเสียงของบุรุษวัยกลางคนผอนคลายลงเล็กนอย ขณะเอยปากซักถาม
ตอนที่ 909 แผนการของซากศพ
หลังจากที่น้ำเสียงของหญิงงามผูนั้นลังเลเล็กนอย ก็ยังถอนหายใจออกมาเฮือก
หนึ่งแลวเอยวา
“สองสามปกอนตอนที่พระองคยังหลับใหลอยูนั้น หวังเออรยายหลุมฝงศพของ
ตนเองขึ้นไปบนพื้นดิน เตรียมจะอาศัยพลังของแสงจันทราหลอมสมบัติชิ้นนี้ใหสำเร็จ
เพื่อจะไดทำพิธีรับเปนนาย แตผูใดจะรูเลาวามีผูบำเพ็ญเพียรจากโลกภายนอกกลุม
หนึ่งบุกเขามาจากที่ไหนก็ไมรู เพราะในตอนนั้นหวังเออรกำลังโคจรลมปราณอยูและ
ตองการดูดซับพลังแหงจันทรา ดังนั้นจึงไมไดเปดใชงานเขตอาคมสวนใหญ ผลลัพธ
คือคาดไมถึงวาจะทำใหคนกลุมหนึ่งบุกเขามาในหองหลักของหวังเออรได ภายใต
ความจนปญ ญาของหวังเออรนั้น ก็ทำไดเพียงหยุดการฝกบำเพ็ญ เพียรลงชั่วคราว
และใหสิ่งที่ไมมีสติปญญาพวกนั้นลงมือ จัดการคนกลุมนี้ แตมีอยูคนหนึ่ง ที่ชาญฉลาด
มาก คาดไมถึงวาจะมองฐานะซากศพราชันยของหวังเออรออก จึงรีบคุกเขาขอความ
เมตตา และยอมรับ การลงอาคม เพื่ อ รอ งขอให ไวชี วิต หวังเอ อ รเห็ น วาคนผู นั้ น มี
สติปญญาเฉียบแหลม จึงลงอาคมไวบนตัวเขา แลวรับคนผูนั้นไว”
“เรื่องพวกนี้มันเกี่ยวอะไรกันกับพระธาตุวัชระ” บุรุษวัยกลางคนฟงจนมาถึงเวลา
นี้ ก็ยังไมไดยินเนื้อหาที่ตนอยากรู จึงรูสึกหมดความอดทนเล็กๆ
“ฮองเตโปรดระงับโทสะ! จุดสำคัญคือคนผูนั้นเสนอวิธีใหหวังเออรวิธีหนึ่ง บอก
วาสามารถดึงจิตวิญญาณดั้งเดิมของผูบำเพ็ญเพียรภายนอกมาไดโดยไมตองเปลือง
แรง ไมตองใหพวกเราสงคนออกไปตามหาอยางยากลำบากแลว” สตรีผูนั้นเอยอยาง
ราบเรียบ
“ออ มีวิธีเชนนี้ดวย ไหนเลามาซิ!” บุรุษผูนั้นดูเหมือนวาจะรูสึกสงสัยใครรูขึ้นมา
“ความจริ ง แล ว ก็ งา ยมาก คนผู นั้ น เสนอให ห วั ง เอ อ ร ม อบสมบั ติ วิ เศษแปลก
ประหลาดชิ้นหนึ่งใหเขาเปนการแลกเปลี่ยน จากนั้นก็ซอนเรนดวงจิตสวนหนึ่งเอาไว
ขางใน แลวก็ขายมันใหกับผูบำเพ็ญเพียรสันโดษคนอื่น และวางแผนดึงดูดใหพวกเขา
มาที่สุสานโบราณของหวังเออร
ถาหากพวกเขามา แนนอนวาก็ตองมีเพียงแตตองตายเทานั้น แตถาหากไมมาก
จิตแยกของหวังเออรก็จะกระตุนอาคมที่ซอนเรนอยูในสมบัติชิ้นนั้นเพื่อสังหารคนผู
นั้นในชวงเวลาที่เหมาะสมได และก็จะสามารถสั่งใหจิตวิญญาณดั้งเดิมของคนผูนั้นบิน
กลับมายังที่สุสานโบราณเชนกัน ทวาสมบัติชิ้นนี้ ประการแรกนั้นจะตองเปนสิ่งที่พบ
เห็ น ได น อ ยอย างมากมาก ยิ่ งไปกวานั้ น ยังต อ งซ อ นจิ ต แยกและเพลิ งซากศพของ
หวังเออรใหดี ไมอาจปลอยใหมันแผกลิ่นอายออกมาไดเลยแมแตนอย มิเชนนั้นจะทำ
ใหเรื่องราวแยลงได” สตรีผูนั้นเอยอยางเรียบๆ
“ตอจากนี้ไมตองเลาแลว หวังเออรเลยนำเกราะปองกันวัชระที่ยังไมถูกรับเปนนายไป
มอบใหคนผูนั้น มีเพียงพระธาตุศักดิ์สิทธิ์จากสมบัตินั่นเทานั้นถึงสามารถปกปดกลิ่น
อายซากศพของหวังเออรได” บุรุษตัดบทสนทนาของสตรีผูนั้นดวยความเย็นชา
“ใชแลวเพคะ เปนดังที่พระองคคิด เพราะหลังจากรับเปนนายแลว ถึงแมเกราะ
ปองกันวัชระจะไมมีทางปดบังไอซากศพได แตการฝกบำเพ็ญเพียรของหวังเออรใน
ตอนนั้นก็จำเปนตองใชจิตวิญญาณของผูบำเพ็ญเพียรจำนวนมาก จึงจำเปนตองเสี่ยง
มอบสิ่งนี้ใหคนผูนั้น ทวา ขาไดกำชับกับคนผูนั้นเปนพิเศษวา อยาทำใหเขาตองไป
ลวงเกินผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมขึ้นไป เพื่อไมใหถูกใครจับพิรุธได สองสามป
กอนหนานี้ก็มีคนจำนวนไมนอยเขามาเคาะถึงหนาประตูอยางตอเนื่อง และไมมีความ
ผิดพลาดอะไร แตครั้งนี้ดูแลวคนผูนั้นคงจะไมเชื่อฟง จนทำใหสมบัติชิ้นนั้นถูกแยงชิง
ไป จิตแยกของหวังเออรจึงไดรับบาดเจ็บ อีกเดี๋ยวหมอมฉันจะใชอาคมจับจิตวิญญาณ
ดั้งเดิมของเขากลับมาสอบปากคำสักตั้ง” น้ำเสียงของสตรีผูนั้นก็เย็นเยียบขึ้นเชนกัน
“เหอะ! อาศัยเพียงลูกเลนเล็กๆ แคนี้ จะไดจิตวิญญาณดั้งเดิมของผูบำเพ็ญเพียร
มาเทาไหรกันเชียว ขาใหแมทัพจัดการเรื่องนี้แลว ขอแคสำเร็จ วันขางหนาก็จะมีจิต
วิญญาณดั้งเดิมของผูบำเพ็ญเพียรมาใหเราใชอยางไมขาดสายแลว และยิ่งไปกวานั้นก็
ไมจำเปนตองไปดึงดูดความสนใจผูบำเพ็ญเพียรสายพุทธพวกนั้นดวย” หลังจากบุรุษผู
นั้นสงเสียงเหอะออกมา ก็เอยอยางเย็นชา
“หรือวานี้คือสาเหตุที่สองสามปกอน พระองคกับแมทัพเกอออกไปจากสุสาน
โบราณแลวกลับมาเพียงลำพัง” สตรีผูนั้นมีน้ำเสียงตกตะลึงเล็กนอย
“ใชแลว ตอนนี้แมทัพไดแปลงกายเปนมนุษยคนหนึ่ง และควบคุมผูบำเพ็ญเพียร
ในตระกูลขุนนางตระกูลหนึ่งแลว ใหผูที่มีพลังยุทธเหลานั้นทำงานแทน แมกระทั่ง
ปดบังฐานะของเขา แมทัพยังควบคุมตระกูลผูบำเพ็ญเพียรอื่นๆ ที่มีปฏิสัมพันธกัน
เอาไวอีกดวย แตเขาชิงสังหารคนของตระกูลที่จะมาสืบทอดสำนักพุทธไปเสียกอน
ผูใดใชใหตระกูลของพวกเขามองเห็นความผิดปกติกันเลา ทั้งยังคิดจะรายงานขาวให
สำนักพรรคพุทธอื่นๆ ในยานนั้นทราบอีกดวย ขาจึงเปนฝายลงมือดวยตัวเอง สังหารผู
บำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมขึ้นไปในสำนักพวกเขากอน จากนั้นคอยใหแมทัพนำผู
บำเพ็ ญ เพี ย รเหล านั้ น มา แล วล างบางตระกู ล นี้ อ ย างงายดาย” บุ รุษ ผู นั้ น ส งเสี ย ง
หัวเราะหึๆ ออกมา น้ำเสียงเต็มไปดวยความพึงพอใจ
“เชนนั้นแผนการของพระองคคืออะไรหรือเพคะ…” เมื่อสตรีผูนั้นไดยิน ก็เอย
ถามดวยความตกตะลึง
“หึๆ! เรื่องนี้ไมมีอะไรซับซอน อีกเดี๋ยวพวกเจาก็รูเอง วิธีนี้เปนวิธีที่จักรพรรดิ
เทียนเฟงแหงภูเขาฟางเจียนเสนอขึ้นตอนที่มาเยี่ยมขาครั้งที่แลว เขาเองก็ทำเชนนี้
เชนกัน และยิ่งไปกวานั้นยังปลอดภัยจนถึงทุกวันนี้ ขอแคระมัดระวังหนอย อยางนอย
ที่สุดภายในระยะเวลาสองสามรอยป พวกเราก็ไมตองกลัดกลุมใจเรื่องจิตวิญญาณ
ของผูบำเพ็ญเพียรอีกตอไปแลว ตอใหเกิดอะไรขึ้นจริงๆ มากสุดพวกเราก็แคสะบัดกน
หนีไปเทานั้น ยายหองสุสานไปที่อื่นก็จบแลว ในตาจิ้นนี้นอกจากตัวประหลาดเฒาที่มี
อยูไมกี่คน ผูใดจะขวางขาได” บุรุษเอยอยางทระนงตน
“จักรพรรดิเทียนเฟง! คนผูนี้ไมใชคนธรรมดา เขาจะบอกความลับของตนเองให
พระองครูทำไม จะตองมีแผนชั่วเปนแน!” น้ำเสียงของสตรีกลับเปลี่ยนไปเล็กนอย
รูสึกกังวลใจขึ้นมา
“แผนชั่วหรือ? ใชแลวเขามีแผนชั่ว! เพียงแคขยับปาก เขาก็เอาลูกกลอนใจโลหิต
ไปสามเม็ดแลว” น้ำเสียงของบุรุษโกรธเกรี้ยวขึ้นมาเล็กนอย
“ถึงอยางนั้น หมอมฉันก็ยังไมคอยวางใจนัก ชื่อเสียงของมารคูแ หงภูเขาฟางเจียนไมดี
เทาไหรนัก เขาแคอยากจะลอใหพระองคออกจากหองสุสานก็เปนได ตองเขาใจวาจิต
วิญญาณดั้งเดิมและชีวิตของพวกเราสามคนรวมตัวกันอยูที่นี่ ขอแคไมออกจากสุสาน
ในใตหลานี้มีคนที่สามารถทำรายพวกเราไดเพียงไมกี่คนเทานั้น” สตรีผูนั้นยังมีทาที
กังวลใจ
“ชายารักพูดมีเหตุผล ไมปองกันเอาไวไมได ตอนที่ขาออกไปจัดการเรื่องราว จะ
เปดเขตอาคมตองหามในสุสานเอาไวทั้งหมด และจะระมัดระวังเปนอยางมากตอนที่
อยูขางนอก ไมมีทางปลอยใหมารคูรูวาขาออกจากสุสานตอนไหน” บุรุษวัยกลางคน
ขบคิดอยูชั่วครู พลันเครงขรึมขึ้นหลายสวน
“ขอแคพระองคระวังตัวก็พอแลว ความจริงแลวเหตุใดพระองคถึงตองลงมือเอง
มี เรื่ อ งอะไรก็ ม อบให ห ม อ มฉั น และร า งแยกไปทำก็ ได แ ล ว ถึ ง อย า งไรเสี ย ขอแค
พระองคปลอดภัย หมอมฉันคิดวาไมวาจะพบกับศัตรูที่แข็งแกรงขนาดไหน ก็ลวนตอง
เห็ น แก พ ระพั ก ตรข องพระองค อ ยู ห ลายส ว น” น้ ำเสี ย งของสตรี ผู นั้ น เปลี่ ย นเป น
นุมนวลเปนพิเศษในชั่วพริบตา
“หึๆ! ชายารักคงยังไมรูวา แผนการนี้จำเปนตองควบคุมรัฐเจียงหนิงทั้งหมดเอาไวใน
มือ ครั้งที่แลว ที่ตอกรกับตัวประหลาดเฒาขงนั่น เปนเพราะไมอาจปลอยใหซากศพ
ของเขาเสียหาย ขาถึงไดรับบาดเจ็บไปไมนอย ถึงไดไมลงมือตอเนื่อง แตผูสืบทอดของ
สองตระกูลนี้ไมธรรมดา มีสมบัติวิเศษสองสามชิ้นที่สามารถควบคุมพวกเราได
เดาวาคงเปนเพราะพรรคที่หนุนหลังสองตระกูลนี้อยูรูวาขาอยูที่นี่ ถึงไดจงใจสง
ลูกศิษยมาสถาปนาตัวเองที่ตระกูลขุนนางเหลานั้นเพื่อจับตาดูขา ตอนนี้ขาไมเคย
ออกมาเคลื่อนไหวพันกวาปแลว เกรงวาพวกเขาคงลืมเรื่องนี้ไปแลว ขาก็จะลงมือพอดี
ทำใหมันพวกเขาติดกับทั้งหมด รอจนสำนักตางๆ รูสึกตัว ก็ไมรวู าผานไปกี่ปแลว ขาก็
นาจะอาศัยจิตวิญญาณของผูบำเพ็ญเพียรมนุษยบรรลุขั้นสุดทาย หลอมรางเปนซาก
สวรรคตั้งนานแลว”
บุรุษผูนั้นดูเหมือนวาจะรักใครสตรีผูนั้นเปนพิเศษ จึงเอยอยางใจเย็น
“เชนนั้นหมอมฉันก็ขอแสดงความยินดีกับพระองคลวงหนาดวยเพคะ เมื่อหลอม
รางซากสวรรคสำเร็จ พระองคก็ออกจากหองสุสานไดโดยไมตองถูกกักเอาไวอีกแลว”
สตรีผูนั้นไดยินก็ดูเหมือนวาจะดีอกดีใจเปนพิเศษ
“ฮาๆ ถึงเวลานั้นคงไมใชแคขาเทานั้น ขามีวิธีใหเจาสองคนสำแดงเคล็ดวิชาลี้วิญญาณ
ปลดปลอยจิตวิญญาณดั้งเดิมของเจาและหวังเออรใหหลุดพนจากหองสุสานได” บุรุษ
ผูนั้นหัวเราะออกมาขณะเอย
“ทวา ฮองเต! เกราะปองกันวัชระนั้นตองเอากลับมาใหไดนะเพคะ ถึงอยางไรเสีย
สิ่งนี้ไมใชของธรรมดาจริงๆ หลังจากหลอมเสร็จแลวก็กลายเปนวัชระที่ไรเทียมทานได
ในระยะเวลาสั้นๆ พระองคลืมไปแลวหรือวาหลังจากที่ภิกษุนั่นใชพระธาตุเม็ดนั้น
ถึงแมวาจะยังไมไดเปนเกราะปองกันวัชระ แตแคเกราะปองกันลำแสงสีทองก็ยังทำให
พระองคตองใชเพลิงซากศพ สามวันสามคืนถึงจะกำจัดลำแสงสีทองบนพระธาตุ และ
สังหารภิกษุรูปนั้นได ถาหากพระธาตุเม็ดนี้ถูกหลอมจนกลายเปนเกราะปองกันวัชระ
เกรงวาอานุภาพคงเพิ่มขึ้นอีกระดับ” สตรีผูนั้นกลาวเตือน
“ชายารักเหลวไหลแลว เกราะปองกันวัชระ มีเพียงซากราชันยหมื่นปอยางพวก
เราที่อาศัยลำแสงของจันทราเทานั้น ถึงจะหลอมเกราะปองกันนี้ได ผูบำเพ็ญเพียร
อยางมนุษยนั้นไมตองคิดถึงเรื่องนี้
และซากราชันยหมื่นปในใตหลานี้ นอกจากขาแลว ก็มีเพียงรองเจาหุบเขาแหงหุบเขา
หมื่นปศาจ ซากหมีหมื่นปตนนั้น ผูบำเพ็ญเพียรอยางมนุษยมีใครกันกลาเขาไปในหุบ
เขาหมื่นปศาจ? มีธงหมื่นปศาจปกอยูกลางหุบเขา เกรงวาในบรรดาสิบสำนักธรรมะ
และสิบพรรคสายมารก็ไมมีผูใดกลาเขาใหหุบเขานี้” บุรุษเอยดวยน้ำเสียงเยาะเยย
“นั่นมันก็ใช! แตสมบัติชิ้นนี้มีประโยชนตอพวกเราเปนอยางมาก หลังจากที่รูวา
ตกอยูในมือของผูใดแลว คอยสงคนไปแยงชิงกลับมาก็แลวกัน” สตรีผูนั้นเอยอยาง
อาลัยอาวรณ
“อืม ชายารักไมบอกขาก็จะสงคนไปอยูแลว ทวาในเมื่อเอาจิตแยกของหวังเออร
ในเกราะปองกันวัชระไปได คนผูนี้ก็คงจะไมธรรมดา หลังจากพบรองรอยของสมบัติ
ชิ้ น นี้ ข าจะให รางแยกสองรางลงมื อ พรอ มกั น ขอแค เขาไม ใช ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รรดั บ
กอกำเนิดขึ้นไปก็พอแลว” บุรุษเอยดวยความมั่นอกมั่นใจเปนพิเศษ
“ขา…ขาก็…จะไป!” เงารางสูงใหญในไอสีดำผูนั้นเงียบกริบมาโดยตลอดระหวาง
ที่บุรุษวัยกลางคนสนทนากับสตรีผูนั้น แตหลังจากที่ไดฟงประโยคนี้ กลับเอยปากพูด
ขึ้น
“เจาจะไปไดอยางไร ไอซากศพบนตัวเจาไมมีทางเก็บซอนไวในกายได เหลาผู
บำเพ็ ญ เพี ย รนั้ น ล ว นมองใบหน า ที่ แ ท จ ริ ง ของเจ า ออกอยู แ ล ว เจ า จะออกไปได
อยางไร? พูดไรสาระใหมันนอยๆ หนอย รีบเขาไปฝกบำเพ็ญเพียรในโลงเสีย” น้ำเสียง
ของบุรุษเครงขรึม กลาวสั่งสอนอยางไมเกรงใจ
เงารางสูงใหญไดฟง ชั่วขณะนั้นก็รูสึกทอแทขึ้นมา ทำไดเพียงยื่นแขนที่ปกคลุมไปดวย
ขนสีเขียวขางหนึ่งออกมา หลังจากโบกมือคราหนึ่งก็นอนลงอีกครั้ง ทวาดวงตาสีโลหิต
แดงก่ำคูนั้นกลับนึกอะไรขึ้นมาได แววตากระหายเลือดเปลงประกายแวบผานไป
ฝาโลงหินสงเสียง ‘ครืน’ ลอยขึ้นจากพื้นดินโดยอัตโนมัติ และปดลงบนโลงหินอีกครั้ง
……
แนนอนวาหานลี่ที่อยูหางออกไปสองสามพันลี้ ไมรูวาหลังจากที่ตนเองกำจัดดวง
จิตเล็กๆ นั่นไปแลว คาดไมถึงวาจะกอใหเกิดปญหามากมายขนาดนี้ขึ้นมา
ตอนนี้เขากำลังเพงสมาธิมองอสูรวิญญาณครวญที่อยูในฟองอากาศสีทองเบื้อง
หนา ใบหนาเครงขรึมสลับกับสดใสไมแนนอน ไมรูวากำลังคิดอะไรอยู
และในเวลาเดียวกันนั้น จินหยวนผูที่เพิ่งเดินออกมาจากจัตุรัส และกลับมาถึง
หองตัวเอง จูๆ ก็มีเสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น รางทั้งรางถูกเปลวเพลิงสีเทากลุมหนึ่งหอหุม
เอาไว ชั่วพริบตารางกายก็กลายเปนเปลวเพลิงสีเขียวสลายไปอยางไรรองรอย
และใบหนาของจิตวิญญาณดั้งเดิมที่เต็มไปดวยความตกตะลึงระคนรอนรนของ
เขาก็ปรากฏขึ้นทามกลางเปลวเพลิง คาดไมถึงวาจะไมไดรับบาดเจ็บ แตราวกับวาถูก
บางสิ่งบางอยางกักขังเอาไวอยางไรอยางนั้น จิตวิญ ญาณดั้งเดิมถูกเปลวเพลิงที่ไม
สะดุดตาขนาดเทากำปนกลุมหนึ่งหอหุมเอาไว ชั่วครูก็กระโจนออกไปจากหนาตาง
หลังจากนั้นก็พุงไปบนทองฟา ชั่วพริบตาก็สลายหายไปอยางไรรองรอย
ตั้งแตตนจนจบ คาดไมถึงวาจะไมมีผูใดพบรองรอยของชายชราเลย
ตอนที่ 910 ผลึกหลอมอัคคี
หานลี่ ที่ อ ยู ในห อ งความลั บ สวรรค เห็ น อสู ร วิญ ญาณครวญดู เหมื อ นว าจะไม
สามารถกลืนกินเพลิงซากศพไดหมดภายในชั่วครู หลังจากขบคิดแลว ในที่สุดก็เก็บ
เกราะปองกันวัชระรวมทั้งอสูรวิญ ญาณครวญเขามาในยามเก็บอสูรวิญ ญาณ เดิน
ออกมา และทำใหหองหินกลับมามีขนาดเล็กเชนเดิม
หลังจากกลับมาที่ตำหนัก แลวคืนหองความลับสวรรคใหกับผูบำเพ็ญเพียรหญิง
วัยกลางคนแลว หานลี่ก็กลับไปยังจัตุรัส
เวลานี้เปนเวลายามบาย ผูบำเพ็ญเพียรที่อยูในจัตุรัสจึงนอยลงกวาครึ่ง ทุกคน
ตางตรงไปยังตำหนักหินอีกตำหนัก เพื่อเขารวมการประมูล
หานลี่สาวเทามุงไปทิศตรงขามอยางไมลังเลนัก
หนาประตูตำหนักมีผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีขาวยืนอยูสองคน เมื่อเห็นหานลี่เขา
มา ก็ประสานมือทำความเคารพทันทีแลวเอยวา
“สหายผูน้ี เพื่อปองกันความวุนวาย ตามกฎแลวผูที่เขารวมการประมูลจะตอง
ชำระศิลาวิญญาณสามกอนขอรับ”
หานลี่ไดยินก็หัวเราะออกมา ยื่นมือออกไปควานหาในยามเก็บของใบหนึ่งโดย
ไมไดเอยคำพูดใดๆ ศิลาวิญญาณระดับต่ำสามกอนปรากฏขึ้นในมือ แลวสงให
ชั่วขณะนั้นใบหนาของผูบำเพ็ญเพียรทั้งสองพลันประดับไปดวยรอยยิ้ม หลังจาก
รับศิลาวิญญาณมาแลว ก็สงจานหยกขนาดเทาฝามือใหหานลี่ใบหนึ่ง และเปดทางให
เขาไปดานใน
หานลี่มองไปที่จานหยกแวบหนึ่ง ใจกลางของจานหยก มีตัวเลข ‘สองรอยสี่สิบสาม’
สีเงินปรากฏขึ้น
เขาไมไดเผยสีหนาประหลาดใจออกมา พลางเดินเขาไปขางในอยางไมรีบรอน
หลังจากเดินผานทางเดินที่ทอดตัวยาวยี่สิบกวาจั้งแลว ตรงขามก็มีผูบำเพ็ญเพียรสี่คน
ปรากฏขึ้น ดานหลังของพวกเขามีประตูสีขาวโพลนบานใหญทเี่ ปลงประกายไปดวยไอ
วิญญาณอยูบานหนึ่ง เมื่อเห็นหานลี่เดินเขามา คนเหลานี้ก็พิจารณาหานลี่สองสาม
แวบ ดวยใบหนาที่ไรความรูสึกและไมเปลงคำพูดใดๆ
หานลี่เองก็ไมไดสนใจคนเหลานี้เชนกัน หลังจากเดินเขาไปแลวก็ผลักประตูบาน
ใหญออก เดินเขาไปในหองโถงของตำหนัก
เมื่อเดินเขามาในหองโถง ก็ไดยินเสียงของอันดังของบุรุษผูหนึ่ง
“ดอกหางหงสหารอยป เจ็ดรอยเกาสิบศิลาวิญญาณ เยี่ยม หากไมมีสหายทานใด
เสนอราคาแลว สมุนไพรวิญญาณตนนี้ ก็ตกเปนของสหายผูนี้แลว อีกเดี๋ยวขอเชิญ
สหายหมายเลขหนึ่งรอ ยสามสิบไปชำระศิ ลาวิญ ญาณที่ ดานหลัง เพื่ อรับสมุ นไพร
วิญญาณ”
เวลานี้หานลี่ถึงไดมองเห็นอยางชัดเจนวา ในตำหนักมีกลุมคนดำๆ สองสามรอย
คนนั่งอยูเต็มไปหมด เบื้องหนาของทุกคนจะมีโตะอยูตัวหนึ่ง และตางวางจานหยกใบ
หนึ่งเอาไวบนนั้นเชนกัน ตัวเลขสีเงินเปลงแสงเรืองๆ ไมวาผูใดมองไปปราดเดียวก็
มองเห็นไดอยางชัดเจน
และตรงดานหนาของตำหนักหิ น ก็มีชายวัยกลางคนสวมชุดสีฟ า ใบหน าเต็ม
เปยมไปดวยความฉลาดเฉียบแหลม ถือกลองหยกที่เปดฝาออกใบหนึ่ง พลางตะโกน
ดวยเสียงอันดัง
ในกลองมีดอกไมวิญญาณสีมวงที่สีสันสวยสดงดงามวางอยู
ผูที่ซื้อสมุนไพรวิญญาณกลองนี้ ก็คือชายชรารางกายอวนพลีที่นั่งอยูทามกลางฝูง
ชน เมื่อเห็นชายวัยกลางคนยืนยันผลการประมูลแลว ทันใดนั้นก็ยืนขึ้นดวยใบหนาดี
อกดีใจพลางเดินตรงไปยังประตูดานขาง ทาทางอดรนทนรอไมไหว
หลังจากที่หานลี่มองไปรอบๆ ดวยสีหนาราบเรียบแลว ก็เดินไปยังเกาอี้ใกลๆ
ที่วางอยู
โตะเกาอี้สีขาวบริสุทธิ์ราวกับหยกแตก็ไมใชหยก นี่จึงทำใหหานลี่รูสึกสนอกสนใจ
เล็กนอย หลังจากนั่งลงแลวพลันลูบไปยังโตะสีขาวที่อยูเบื้องหนา คาดไมถึงวาจะรูสึก
อบอุนเล็กๆ
“นี่คือ…” หานลี่ครุนคิดถึงวัตถุดิบประเภทหยกศิลาตางๆ ในหัวเล็กนอย คาดไม
ถึงวาจะไมเคยเห็นวัตถุดิบชนิดนี้มากอน หยักมุมปากขึ้น อดไมไดที่จะเผยสีหนาตก
ตะลึงออกมา
“สหายผู นี้ เพิ่ งเคยเห็ น ศิ ลาอุ น หรือ ?” จูๆ ด านข างก็มี เสี ย งของสตรีดั งขึ้ น ดู
เหมือนวาจะแฝงไวความสงสัยเอาไวเล็กนอย
“ศิ ล าอุ น ?” หานลี่ หั น หน าไปมองแวบหนึ่ ง ถึ งได เห็ น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รที่ นั่ ง อยู
ดานขาง คาดไมถึงวาจะสตรีผูบำเพ็ญเพียรวัยเยาวท่ีหนาตาคลายคลึงกัน ดูเหมือนวา
จะเปนพี่นองฝาแฝดกัน
สตรีทั้งสองสวมชุดสีเหลืองและสีเขียว ไมถึงกับงดงามดุจเทพีแหงแควน แตก็ทำ
ใหแววตาของผูคนเปลงประกายคำวางดงามออกมา ผูที่พูดนั้น ก็คือสตรีชุดสีเขียวที่
นั่งอยูใกลกับหานลี่มากกวา เมื่อเห็นหานลี่ยื่นมือออกไปลูบโตะดวยความเซอซา ก็เอย
หยอกลอขึ้นหนึ่งประโยค
“นองหญิ ง อยาพูดอะไรไรสาระ สหาย อยาถือสาเลย ลูกพี่ลูกนองของขาเพิ่ง
ออกมาหาประสบการณครั้งแรก จึงพูดอะไรที่ไมเหมาะสม หวังวาสหายจะไมถือสา”
สตรีอีกคนที่มีคิ้วเรียวยาว เอยปากขอโทษอยางรีบรอน
ลูกพี่ลูกนอง! คาดไมถึงวาจะไมใชพี่นองทองเดียวกัน นี่มันอยูนอกเหนือความ
คาดหมายของหานลี่ไปหนอยแลว แตบรรลุระดับสรางปราณไดทั้งที่ยังเยาววัยขนาดนี้
คุณสมบัติของสตรีสองคนนี้จะตองไมธรรมดาอยางแนนอน
เมื่อคิดเชนนั้น หานลี่พลันหัวเราะ เอยอยางไมใสใจวา
“ไมเปนไร กอนหนานี้ขานอยแคเคยไดยินคำวา ‘หยกอุน’ มาเทานั้น เพิ่งจะเคย
เห็นศิลาอุนเชนนี้เปนครั้งแรก สหายรูประวัติความเปนมาของเจาสิ่งนี้อยางละเอียด
หรือ ไม? น าจะไมใชวัตถุดิบ ที่ พ บเห็ น ได บ อ ยๆ สิน ะ! มิ เช น นั้ น แม แ ต ขาน อยที่ ฝก
บำเพ็ญเพียรอยางสันโดษมาโดยตลอดเชนนี้ ก็ยังไมเคยทราบชื่อมันมากอนเลย”
“ศิลาอุนนั้นไมอาจเปรียบเทียบกับหยกอุนไดจริงๆ กอนหนานี้สหายไมรูจักของ
สิ่งนี้ ก็ไมใชเรื่องแปลกอะไร เพราะวาวัตถุดิบศิลาที่พิเศษชนิดนี้ มีเฉพาะที่เทือกเขา
เนิน หิมะเทานั้น ที่อื่นนั้ นไมอ าจพบเห็ น ได แต วัตถุดิบชนิ ดนี้ น อกจากบริสุท ธิ์และ
อบอุนเปนพิเศษแลว เมื่อเทียบกับวัตถุดิบศิลาธรรมดาๆ ก็ไมไดมีอะไรที่พิเศษนัก แต
แนนอนวาราคาของมันก็สูงกวาศิลาหยกทั่วไปอยูหลายสวน” สตรีอีกคนหนึ่งที่สวม
ชุดสีเหลืองอธิบายใหหานลี่ฟงพรอมกับอมยิ้ม
“เชนนี้นี่เอง ขอบพระคุณสหายมากที่ชวยคลายขอสงสัย”
หานลี่เผยแววตาถึงบางออออกมาพลางพยักหนา ทันใดนั้นก็นั่งลงตรงนั้นดวยสี
หนาราบเรียบ มองดูชายวัยกลางคนนำของชิ้นตอไปอยางยุทธภัณ ฑระดับสุดยอด
ออกมาประมูล
การกระทำของหานลี่ ทำใหแววตางดงามของสตรีที่สวมชุดสีเขียวหรี่ลง มุมปาก
ขยับเล็กนอยราวกับวาเหยียดหยามเล็กๆ ขณะกำลังคิดที่จะเอยอะไรบางอยาง กลับ
ถูกลูกพี่ลูกนองใชสายตาเขมงวดชนิดหนึ่งเหลือบมองปราดหนึ่ง จึงทำไดเพียงปดปาก
ฉับไมเอยอะไรออกมา
หานลี่ทำเปนมองไมเห็นการกระทำนี้ มองยุทธภัณฑสมุนไพรวิญญาณถูกประมูล
ไปชิ้ น แล ว ชิ้ น เล า เป น เพราะการประมู ล ของที่ นี่ จ ะถู ก จั ด ขึ้ น โดยตระกู ล ขุ น นาง
แนนอนวาจึงไมใชการประมูลระดับสูงอะไร แมกระทั่งอาจพูดไดวาคอนขางต่ำชั้น แต
จากการประมูลครั้งนี้ ทำใหหานลี่เขาใจวาราคาของยุทธภัณฑสมุนไพรวิญ ญาณที่
ต าจิ้ น นั้ น แตกต างกั บ เที ย นหนานเป น อย างมาก และดี ต อ การเตรีย มการตามหา
วัตถุดิบที่ล้ำคาในอนาคต
หลังจากมองอยางเยือกเย็นอยูดานขางชั่วครู หานลี่ก็รูแลววาในตาจิ้นไมวาจะ
เปนสมุนไพรวิญญาณหรือวายุทธภัณฑก็แพงกวาเทียนหนานมาก แมกระทั่งราคาของ
สิ่งของที่หายากก็แพงโขกวาเปนอยางมาก
ทันทีที่หานลี่ขบคิดแลวก็เขาใจขึ้นมา
ถึงแมวาพื้นที่ของตาจิ้นจะใหญกวาเทียนหนานสิบเทา แตเพราะระบบการฝก
บำเพ็ญเพียรที่สมบูรณแบบนั้น เกรงวาจำนวนของผูบำเพ็ญเพียรคงจะมีมากกวาถึง
สิบเทา นี่จึงทำใหยุทธภัณฑและสมุนไพรขาดแคลนมากกวาที่เทียนหนาน
ทวาเทียบกันแลว ตาจิ้นก็ยังเปนดินแดนผืนใหญ ที่มีสิ่งของมากมาย และยังมี
วัตถุดิบล้ำคาจำนวนมากที่ไมเคยพบเห็นในเทียนหนานหรือแมกระทั่งในมหาสมุทร
ดาวคลั่ง โดยเฉพาะวัตถุดิบ ในการปรุงยาหรือ หลอมยุท ธภั ณ ฑ เพี ย งชั่วครูนั้ น ก็ มี
สิ่งของสามสี่ชนิดที่เขาไมรูสรรพคุณมันปรากฏขึ้น
นี่จึงทำใหหานลี่รูสึกดีอกดีใจ
ดูทาทางแลวหากไดวิ่งไปตามยานรานคาระดับสุดยอดของตาจิ้นสักสองสามแหง
การจะรวบรวมวัตถุดิบหายากที่ตนเองตองการใหครบ ก็ดูเหมือนวาจะไมใชเรื่องที่
เปนไปไมได
ขณะที่หานลี่กำลังขบคิด จูๆ ชายวัยกลางคนที่อยูบนเวทีก็รองใหหยิบถาดออกมาหนึ่ง
ใบ บนถาดมี ผ ลึ ก ศิ ล าสี แ ดงเข ม สามเม็ ด วางอยู ผลึ ก ศิ ล าพวกนี้ เปล ง แสงสี แ ดง
ระยิบระยับราวกับเปลวเพลิงที่กำลังเผาไหมอยางไรอยางนั้น ดูสะดุดตาเปนอยางมาก
“ผลึกหลอมอัคคีสามเม็ด วัตถุดิบระดับยอดเยี่ยมในการหลอมยุทธภัณฑธาตุอัคคี
ระดับสุดยอด เปดประมูลที่ราคาหารอยศิลาวิญญาณ สหายที่เริ่มสนใจเสนอราคาได”
ชายวัย กลางคนที่ ส วมชุ ด สี ฟ าหั วเราะออกมาน อ ยๆ พลางประกาศชื่ อ สรรพคุ ณ
รวมทั้งราคาของสิ่งที่อยูในถาดออกมา
หานลี่มองไปแวบหนึ่งอยางไมใสใจ คิดจะดึงสายตากลับคืนมา แตจูๆ แววตาก็
แข็งคาง ปากพลันรองอุทานออกมาเบาๆ
‘ทำไม เจาเด็กนอยหาน! จากภูมิหลังของเจา หรือวาสนใจผลึกศิลาพวกนั้น?’
เทพขับเคลื่อนสงเสียงเฉยเมยออกมา
‘ผลึกศิลา? หายากนักที่ทานอาวุโสจะมองอะไรผิดพลาดไปเชนนี้’ หานลี่ใชจิต
สัมผัสถายทอดเสียงหัวเราะกลับไป ในเวลาเดียวกันปากกลับประกาศราคาออกมาวา
“หกรอยศิลาวิญญาณ” คาดไมถึงวาจะเขารวมการประมูลผลึกศิลาสามกอนนี้
‘ทำไม ผลึกศิลาสามกอนมีอะไรพิเศษกัน? ถึงแมวาตาเฒาจะสูญเสียพลังยุทธไป
จนหมด แตในดานจิตสัมผัสนั้น ไมเชื่อวาจะมองอะไรผิดไปได’ เทพขับเคลื่อนเอย
อยางไมเชื่อเล็กๆ
‘ถาหากวากันตามประสบการณแลว แนนอนวาชนรุนหลังไมคอยชอบการโออวด
ตนนัก แตถาจะกลาวถึงการรูจักแกนอสูรนั้น ชนรุนหลังไมกลากลาววาเปนที่หนึ่ง แต
ในใตหลานี้คนที่รูมากกวาชนรุนหลังเดาวาคงมีเพียงไมกี่คนเทานั้น’ จูๆ หานลี่ก็เอย
ขึ้นดวยน้ำเสียงแปลกประหลาด
‘แลวมันเกี่ยวกับอะไรกับแกนอสูรกันเลา?’ เทพขับเคลื่อนไดยินหานลี่เอยอยาง
มั่นอกมั่นใจเชนนี้ พลันตกตะลึง อดที่จะเอยถามดวยความประหลาดใจไมได
ถาหากเขาไมรูวาหานลี่ไมใชคนที่พูดจาโออวดอะไร ไดฟงคำพูดนี้ เกรงวาคงจะ
คิดวาสมองของหานลี่เลอะเลือนหรือไมไปแลว
‘ทวา ในเมื่อเจากลาวเชนนี้ก็คงจะมีเหตุผลของตัวเองสินะ แตถาไมมีเหตุผลอะไร
ใหเชื่อถือ ตาเฒ าก็ไมอยากจะเชื่อวาผลึกหลอมอัคคีสามเม็ดนั้นจะมีอะไรที่แปลก
ประหลาด ตองเขาใจวาไมใชแคตาเฒาที่มองไมออกวาผลึกศิลานั้นมีอะไรพิเศษ แตผู
บำเพ็ ญ เพี ย รที่ รั บ หน า ที่ วิ นิ จ ฉั ย วั ต ถุ ดิ บ ในการประมู ล เหล า นั้ น ก็ เ ป น ผู ที่ มี
ประสบการณ เปยมลน จะแยกแยะวัตถุดิบที่หายากขนาดนี้ไดอยางไร’ เมื่อขบคิด
เล็กนอย เทพขับเคลื่อนก็มีทาทีไมเชื่อเล็กนอย
เมื่อไดฟงขอสงสัยของเทพขับเคลื่อน หานลี่ก็เผยรอยยิ้มออกมาที่มุมปาก ปากก็
เสนอราคาที่สูงขึ้นออกไป ในที่สุดก็ทำใหคนอื่นๆ หยุดการประมูล และเปดทางให
ตนเองโดยอัตโนมัติ
“เยี่ยม แปดรอยศิลาวิญญาณ ผลึกหลอมอัคคีสามเม็ดนี้เปนของสหายหมายเลข
สองรอยสี่สิบสาม ขอเชิญสหายไปชำระศิลาวิญญาณที่ดานหลังหองโถง เพื่อรับผลึก
ศิ ล า” บุ รุ ษ ผู นั้ น เห็ น ผลึ ก หลอมอั ค คี ข ายได ร าคาสู ง ก็ เบิ ก บานใจเป น อย า งมาก
หลังจากกวาดตามองตัวเลขบนจานหยกที่อยูบนโตะเบื้องหนาของหานลี่แลว ก็ตะโกน
ออกมาเสียงดัง
หานลี่ไดยิน ทันใดนั้นก็หยิบจานหยกขึ้นมา หยัดกายลุกขึ้นตรงไปยังประตูดานขาง
ที่นั่นมีผูบำเพ็ญเพียรระดับฝกปราณที่สวมชุดสีขาวคนหนึ่งยืนรออยูตั้งนานแลว
เมื่อเห็นหานลี่เดินเขามา ก็นำทางหานลี่พาเดินเลี้ยวไปสองสามครั้ง แลวมานั่งลงตรง
ใจกลางหองโถงเล็กๆ ที่ตำหนักดานหลัง หลังจากผานไปชั่วครู ก็มีสตรีผูบำเพ็ญเพียร
ที่มีทาทางเหมือนหญิงรับใช ยกน้ำชาเขามาหนึ่งแกว แลวถอยออกไป
หานลี่มองน้ำชา แตไมไดลิ้มลองแมแตนอย กลับพิจารณาการตกแตงในหองโถง
อยางเงียบเชียบ
ไมนาน ก็มีชายชราระดับสรางปราณศีรษะลานดวงตาลึกโบเดินเขามา
“ปลอยใหสหายรอนานขนาดนี้ ชางนาละอายใจจริงๆ สหายโปรดดูหนอย วานี่
ใชสิ่งที่สหายประมูลหรือไม!” เมื่อชายชราเดินเขามาก็ยิ้มจนตาหยีขณะเอย จากนั้นก็
สงกลองหยกที่เคยปรากฏตัวที่ตำหนักดานหนามาให
หานลี่ไมไดเกรงใจ รับกลองมาเปดออก ดานในมีผลึกศิลาหลอมอัคคีสามเม็ดที่
เปลงแสงสีแดงวางอยูดังคาด เขากลับใชนิ้วคีบขึ้นมาทีละเม็ดๆ ดวยสีหนาราบเรียบ
พิจารณาอยางละเอียดอยูนานโดยไมไดเปลงคำพูดใดๆ ออกมา
ตอนที่ 911 ผลึกที่กลายเปนแกนอสูรและเข็มบิน
“ทำไม ผลึกหลอมอัคคีพวกนี้มีปญ หาหรือ?” ชายชราหัวเราะเหอะๆ ออกมา
ขณะเอย ทาทางสุภาพออนโยน
“เปล า เหล า นี้ คื อ ผลึ ก ศิ ล าจริ ง ๆ” หานลี่ พ ยั ก หน า พลางเอ ย ด ว ยสี ห น า ไม
เปลี่ยนแปลง จากนั้นก็เก็บผลึกศิลาลงไป ประสานกำปนคารวะพลางกลาวลา
ชายชราผูนั้นมองเงาแผนหลังของหานลี่ที่หายลับไป แลวมองกลองหยกที่วาง
เปลา ก็ขมวดคิ้วเล็กนอย แววตาเปลงประกายความสงสัย
เวลานี้ หานลี่กลับมายังที่นั่งของการประมูลใหมอีกครั้ง ลำแสงวิญญาณในมือ
สวางวาบ ผลึกหลอมอัคคีเม็ดหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ
หานลี่มองผลึกศิลาเม็ดนั้นยิ้มๆ แววตาเปลงประกายความพึงพอใจออกมา
“ผลึกหลอมอัคคีสามเม็ดแปดรอยศิลาวิญญาณ สหายชางใจกวางเสียจริง!” สตรี
ที่สวมชุดสีเขียวซึ่งอยูดานขาง เห็นหานลี่มีสีหนาเชนนี้ ก็เอยขึ้นอยางอดไมไหว
“ใชแลว ผลึกศิลานี้ขานอยอยากซื้อมาตั้งนานแลว ซื้อไดในราคาแปดรอยศิลา
วิญญาณ ก็นับวาไมเสียเปลาแลว” หลังจากที่หานลี่มองสตรีผูนั้นแวบหนึ่งแลว ก็เอย
ขึ้นอยางไมรีบรอน พลิกฝามือ ผลึกศิลาสลายหายไปอยางไรรองรอย
สตรีที่สวมชุดสีเขียวรูสึกเพียงวาดวงตาของหานลี่เปลงประกายสวางวาบ จึงสะดุง
โหยง หยุดชะงักคำพูดที่แตเดิมติดอยูปลายลิ้น ไมรูทำไมถึงไมอาจพูดออกมาได
สตรีที่สวมชุดสีเหลืองซึ่งอยูดานขางเห็นเหตุการณนี้เขาพลันหนาเปลี่ยนสีเล็กนอย ดู
เหมือนวาจะสัมผัสอะไรได แตเมื่อสอดสายสายตาไป กลับไมไดกลาวอะไรออกมา
หลังจากไดรับประโยชนอยางคาดไมถึงมาแลว หานลี่ก็เริ่มรอคอยการประมูลชิ้น
ตอไปที่กำลังจะเริ่มขึ้น แตเวลานี้ในที่สุดเทพขับเคลื่อนก็เอยปากถามวา
‘เจาเด็กนอยหาน ผลึกหลอมอัคคีนั่นเกี่ยวของอะไรกับแกนอสูรกันแน เจาควร
จะอธิบายใหตาเฒาฟงสักหนอยแลว’
‘ความจริงแลวทานอาวุโสนาจะเดาออกอยูสองสามสวน หนึ่งในผลึกหลอมอัคคีนี้
เม็ ด หนึ่ ง ความจริง แล ว คื อ แก น อสู ร ระดั บ เจ็ ด แต แ ค ไม รู ว าถู ก ดองไว กี่ ป แ ล ว จึ ง
แปรเปลี่ยนสภาพภายนอกไป ดูแลวไมตางอะไรกับผลึกหลอมอัคคีธรรมดาอยางไร
อยางนั้น ถึงแมวาตอใหเปนผูที่มีจิตสัมผัสแข็งแกรงขนาดไหนก็ไมมีทางมองความ
แตกตางของมันออกได’ หานลี่ถายทอดเสียงกลับมาดวยความเยือกเย็น
‘แกนอสูรระดับเจ็ดหรือ? ในเมื่อจิตสัมผัสไมอาจตัดสินรูปลักษณภายนอกของมัน
ได แลวเจาดูออกไดอยางไร’ เทพขับเคลื่อนไมไดตกตะลึงขนาดนั้นดังคาด แตยังมี
ทาทีเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่ง
‘หึๆ! จะวาไปแลวมันก็เกี่ยวของกับกลิ่นอายชั่วรายที่อยูในรางชนรุนหลัง ตอน
นั้นชนรุนหลังเคยสังหารอสูรระดับสูงกับมือมานับครั้งไมถวน ถึงไดมีกลิ่นอายชั่วรายที่
หนาแนนขนาดนี้ ดังนั้นถึงไดมีความรูสึกไวตอแกนอสูรมากที่สุด แคหยิบแกนอสูร
ระดับเจ็ดออกมา กลิ่นอายชั่วรายบนรางของขาก็สัมผัสไดโดยอัตโนมัติ อีกอยางตอน
นั้นขานอยก็มีแกนอสูรอยูในมือจำนวนมาก แนนอนวาจึงมีวิธีแยกแยะเปนพิเศษ’
หานลี่เอยอยางราบเรียบ
‘เปนอยางนี้นี่เอง ถาหากเคยสังหารอสูรมามากมายขนาดนี้ จนทำใหกลิ่นอายชั่ว
รายบนรางของเจาหนาแนน เตาเฒาก็เขาใจได แตเจาสามารถสังหารอสูรจำนวนมาก
ขนาดนั้นได กลับทำใหตาเฒาสนใจเล็กนอย ดูแลวเจาคงมีเรื่องราวอีกมากมายนัก ที่
ไมไดเปดเผยตอตาเฒา!’ เทพขับเคลื่อนหัวเราะหึๆ ออกมา เอยอยางไมรูวาดีใจหรือ
วาโกรธเกรี้ยวกันแน
‘ไมมีอะไรหรอก แคเปนความบังเอิญในตอนนั้นเทานั้น แตวาทานอาวุโส เกรงวา
จะยังไมรูความสุดยอดของผลึกที่กลายเปนแกนอสูรสินะ’
เรื่องราวในมหาสมุทรดาวคลั่งในปนั้น หานลี่ไมคิดจะเอยกับตัวประหลาดเฒาผูนี้
เขาจึงเปลี่ยนหัวขอบทสนทนา ไปเอยถึงเรื่องที่อีกฝายสนใจ
‘เอ! ผลึกหลอมที่กลายเปนแกนอสูรตาเฒาเพิ่งเคยไดยินครั้งแรก มันมีประโยชน
อะไรหรือ?’ การเปลี่ยนหัวขอบทสนทนาของหานลี่ ทำใหเทพขับเคลื่อนถูกดึงความ
สนใจไปในทันที เขาไมสนใจจะถามเรื่องอสูรปศาจอีก
‘ความจริงแลวผลึกที่กลายเปนแกนอสูร ไมนับวาเปนแกนอสูรที่แทจริง และยิ่ง
ไปกวานั้นถาหากใสเขาไปในการปรุงยาจะกลายเปนยาพิษ พิษชนิดนี้ถึงแมวาจะไม
รายแรงเทาทศพิษ แตหากผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ กินเขาไปก็จะจบชีวิตลงในทันที
ความจริงแลววัตถุดิบชนิดนี้กลับเปนวัตถุดิบที่ใชหลอมสมบัติอาคมประเภทเข็มบินได
ดีที่สุด วากันวาหากใชวัตถุดิบชนิดนี้ขัดเงาเข็มบิน ไมเพียงจะทำใหความเร็วเพิ่มขึ้น
อยางนาอัศจรรย ยังสามารถปลอยออกไปทำรายศัตรูได และยิ่งไปกวานั้นสิ่งที่นากลัว
ที่สุดก็คือ เข็มบินประเภทนี้มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว เวลาบินหนีก็หายลับไปราวกับ
ไมมีอยู ลำแสงหลีกหนีก็เหมือนจะอำพรางตัวไดอยางไรอยางนั้น เปนยุทธภัณฑที่ใช
ลอบสังหารไดอยางยอดเยี่ยม แตแคผลึกกลายเปนแกนอสูรชนิดนี้นั้นกอตัวขึ้นอยาง
ยากลำบากสุดๆ ยิ่งไปกวานั้นหลังจากกอตัวขึ้นแลวก็มีผูบำเพ็ญเพียรที่แยกออกได
นอยมากๆ หากขานอยไมไดกลิ่นอายชั่วรายอยูในตัวจำนวนมาก เกรงวาก็คงไมมีทาง
แยกแยะสมบัติชิ้นนี้ได’ หานลี่ลูบคางไปมา เอยขึ้นดวยสีหนาที่ดูเหมือนราบเรียบ แต
ในใจกลับนึกถึงคัมภีรหลอมเข็มบินจากผลึกหลอมที่กลายเปนแกนอสูรมวนนั้น
คัมภีรนี้เปนคัมภีรที่เขาไดมาจากปศาจตัวไหนสักตัวที่โชครายถูกตนเองสังหารใน
มหาสมุทรดาวคลั่ง ตอนนั้นเขาแคอานเลนๆ ดวยความสนใจเทานั้น คิดไมถึงวาจะทำ
ใหตนเองไดพบกับของสิ่งนี้จริงๆ แนนอนวาเขาไมอาจปลอยวัตถุดิบหลอมยุทธภัณฑ
ที่หายากขนาดนี้ไปงายๆ
‘สิ่ ง นี้ ตาเฒ า ไม เคยได ยิ น มาก อ น ดู แ ล ว ในใต ห ล า นี้ คงมี เรื่ อ งมหั ศ จรรย อ ยู
มากมาย เกรงวาคงไมมีผูบำเพ็ญเพียรสักคน ที่รอบรูไปหมดทุกเรื่องสินะ แคสิ่งที่ขารู
ในโลกผูบำเพ็ญเพียรเทียนหนานอยางพวกเรา อยางนอยที่สุดก็ยังมีสถานที่อีกหาหก
แหง บางแหงก็ไปถึงได บางแหงก็จำเปนตองเสี่ยงอันตรายถึงจะเขาไปได
ตาเฒาในตอนนั้นนอกจากตาจิ้นแลวก็เคยไปแคสองที่เทานั้น ตอมาก็เปนเพราะ
อายุขัยมีจำกัด จึงจำใจตองกลับไปศึกษาเคล็ดวิชาสงเทพอยางหนักที่เทียนหนาน’
น้ำเสียงของเทพขับเคลื่อนหมนหมอง รูสึกโศกเศราเสียใจเปนอยางมาก
‘ทานอาวุโสไมจำเปนตองมองโลกในแงรายถึงเพียงนั้น การเกิดแกเจ็บตายก็เปน
เรื่องที่ตองเกิดขึ้นกับทุกคน ตอใหบรรลุขึ้นไปแดนวิญญาณ ก็ไมเห็นวาจะหลีกหนีจาก
การผูกมัดนี้ได หากคิดจะมีอายุขัยเทาฟาดิน ก็คงมีเพียงเทพเซียนในแดนเซียนกระมัง
แตคนธรรมดาอยางพวกเรานั้น การบรรลุขึ้นไปแดนวิญญาณก็ยากแสนยาก ตั้งแต
อดีตจนถึงปจจุบันก็ยังมีเพียงไมก่ีคนเทานั้น!’ หานลี่ดูเหมือนวาจะถูกอะไรกระทบ
จิตใจสักอยาง หลังจากเงียบกริบไปชั่วครู ถึงไดเอยเชนนี้ออกมา
‘หึๆ! ตาเฒายังไมยอม ตาเฒามั่นใจวาไมวาจะเปนคุณสมบัติของเทพเซียนหรือ
วาสติปญญาอันชาญฉลาด ก็เปนสิ่งที่เทาเทียมกันในใตหลา แตสุดทายคาดไมถึงวาจะ
ตกมาอยูในรางของหุนเชิดสงวิญญาณ ถึงไดยืดอายุขัยมาถึงขนาดนี้ ถาหากใหโอกาส
ตาเฒาอีกครั้ง การบรรลุระดับเทพแปลง สำหรับตาเฒานั้นเปนเรื่องที่ไมไดยากเย็น
นัก’ เทพขับเคลื่อนเอยพึมพำกับตนเอง เต็มไปดวยความรูสึกเสียใจในภายหลัง คำพูด
ยิ่งแผวเบาลงเรื่อยๆ สุดทายคาดไมถึงวาจะแหบแหงไรสุมเสียง
เมื่อไดยินคำพูดนี้ ในใจของหานลี่ พลันมีความรูสึกเศรารันทดผุดขึ้นมานอยๆ
เปนถึงปรมาจารยแหงปลายสุดของทิศตะวันตกในตอนนั้น เคยทระนงตัวบอกวา
ตัวเองนั้นไรเทียมทานในเทียนหนาน ตอนนั้นเขามั่นใจในตนเองมากวาเปนที่หนึ่ง แต
เมื่อไมสามารถบรรลุระดับเทพแปลงได คาดไมถึงวาจะตกอยูในสถานการณที่วังเวง
อางวางเชนนี้ ทำใหเขารูสึกจิตใจหนักอึ้งจริงๆ
สถานการณในตอนนี้ของเทพขับเคลื่อน อาจจะทำใหเขาจินตนาการถึงภาพที่
โหดรายของตนเองในอนาคตได!
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา ใบหนาของหานลี่ก็คอยๆ เครงขรึมขึ้น ไมอยากพูดอะไร
มากมายเชนกัน
การประมูลยังคงดำเนินตอไป สิ่งของที่นำออกมาประมูลชิ้นตอไปเทียบกับชิ้นกอน
หนาแลวก็ล้ำคากวาเปนอยางมาก แตกลับไมสามารถดึงดูดความสนใจของหานลี่ได
รอจนประมูลสมบัติอาคมสองสามชิ้นและสมุนไพรวิญญาณสองสามชิ้นในชวง
สุดทายเสร็จ หานลี่ก็ไมอยากอยูที่นี่ตออีก ทันใดนั้นก็หยัดกายลุกขึ้นเดินออกจากงาน
ประมูล จากไปราวกับสายลม ท ามกลางสายตาประหลาดใจของสตรีทั้ งสองที่ อยู
ดานขาง
เมื่อเดินออกจากตำหนัก เขาก็ไมไดสนใจสิ่งของตามแผงลอยอื่นๆ อีก เดินออก
จากจัตุรัส คอยๆ เดินไปตามหอคอยและสวนตางๆ อยางเชื่องชา ทาทางใจลอย
ไดพบผูบำเพ็ญเพียรจากภายนอกคนอื่นกำลังทำการซื้อขายเปลี่ยนแลกกับลูก
ศิษยของทั้งสามตระกูลเปนบางครั้ง แตก็ไมมีใครสนใจอะไรเขา
ทวา รางของหานลี่กลับคอยๆ มุงไปยังสถานที่ที่รกรางไรผูนั้นอยางชาๆ หลังจาก
เดินทอดนองไปเปนเวลาหนึ่งกาน้ำชา รางกายพลันหยุดชะงัก หยุดฝเทาลง
เมื่อเลื่อนสายตาไป จูๆ ก็พบหอคอยแหงหนึ่งตั้งอยูเบื้องหนา มีผูบำเพ็ญเพียรที่
สวมชุ ด สี ข าวระดั บ สรางปราณคนหนึ่ ง กำลั งยื น มองซ ายมองขวาอยู ในมุ ม มื ด ดู
เหมือนวากำลังรอใครสักคนอยู
หานลี่มีสีหนาไมเปลี่ยนแปลง แตจิตสัมผัสกลับกวาดไปทั้งสี่ทิศอยางรวดเร็ว ใน
ระยะยี่สิบสามสิบจั้งไมมีรองรอยของผูบำเพ็ญเพียรคนอื่น
และไมมีเขตอาคมที่รายกาจอะไรซอนอยู ผูบำเพ็ญเพียรในบริเวณนี้ อยูหางจาก
ที่นี่ไปรอยกวาจั้ง และไมมีใครสนใจที่แหงนี้
หานลี่เปลี่ยนทิศทางอยางไมลังเลแมแตนอย เดินตรงไปหาผูบำเพ็ญเพียรคนนั้น
“สหายมีธุระอะไรหรือ?” ชายรางใหญที่ใบหนาเต็มไปดวยรอยยนตรงแกม เห็น
หานลี่เดินเขามา ก็ตกตะลึง เอยถามดวยน้ำเสียงของคนอวนตุยนุย
“สหายคือผูบำเพ็ญเพียรตระกูลขงใชหรือไม?” เมื่อเดินมาถึงเบื้องหนา หานลี่ก็
คลี่ยิ้มนอยๆ แลวเอยขึ้น
“ใชแลว ขานอยคือผูคุมกฎรอบนอกของตระกูลขง! สหายตองการอะไรหรือ…”
ชายรางใหญพิจารณาหานลี่อยางละเอียดสองสามแวบ เมื่อเห็นวาหานลี่มีทั้งยามเก็บ
ของและยามเก็บอสูรวิญญาณอยูครบถวน ไมเหมือนกับผูบำเพ็ญเพียรสันโดษทั่วๆ ไป
ก็ตอบกลับอยางมีมารยาท
“ขานอยมีธุระ อยากพบผูนำตระกูลของทาน ไมทราบวาสหายจะรายงานใหได
หรือไม?” หานลี่เอยถามดวยสีหนาเบิกบาน
“พบผูนำตระกูล? เกรงวาจะไมไดกระมัง ตอนนี้ผูนำตระกูลของพวกเราติดธุระ
อยู คงไมสะดวกที่จะพบคนภายนอก หากสหายมีเรื่องสำคัญ ก็ลองบอกขานอยดูกอน
ก็ได!” ชายรางใหญขมวดคิ้ว เอยอยางลำบากใจ
“คื อ ข า น อ ยเพิ่ ง ออกมาจากงานประมู ล และพบว า ของประมู ล ชิ้ น หนึ่ ง ดู
เหมือนวาจะมีปญหา จึงอยากคุยกับผูนำตระกูลทานสักหนอย” หานลี่จงใจเผยสีหนา
สงสัยออกมาสองสามสวน พลางเอยออกไปเชนนั้น
“งานประมูล? หรือวามอบของผิด? หากเป น เชนนั้ น สหายควรจะไปหาเหลา
สหายที่รับผิดชอบงานประมูลโดยตรง” เมื่อไดยินคำพูดของหานลี่ ชั่วขณะนั้นชายราง
ใหญก็มีสีหนาเครงขรึมขึ้นขณะเอย
“นั่นไมใชสิ่งที่งานประมูลจะแกไขได หากไมเชื่อสหายลองดูของที่ขาซื้อมาก็รูแลว”
หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง มือหนึ่งลวงไปที่ขางเอวอยางสบายๆ
ชายชราใหญเห็นการกระทำของของหานลี่ ดวยความที่มีประสบการณมากมาย
ชั่วขณะนั้นก็ตระหนักได พลางใชมือหนึ่งวางไวบนเอวทันที สีหนาระวังภัยปรากฏขึ้น
แตหลังจากที่หานลี่พลิกฝามือแลว กลับมีผลึกศิลาเปลงแสงสีแดงวิบวับเม็ดหนึ่ง
ปรากฏขึ้น และสงมาให
ชายรางใหญถึงไดเก็บความสงสัยลงไป กลามเนื้อรอบกายผอนคลายลง ปากก็
เอยดวยความประหลาดใจออกมาวา
“นี่คือผลึกหลอมอัคคีไมใชหรือ ของเชนนี้จะตองการพบผูนำตระกูลทำไม”
เขากลาวไปพลาง ยื่นมือออกไปรับผลึกศิลาเม็ดนั้นมาอยางไมเขาใจ
แตในชั่วพริบตาที่นิ้วของเขาสัมผัสกับผลึกศิลานั้น จูๆ เสนไหมสีฟาก็สวางวาบ
แลวพุงออกมาจากผลึกศิลา ในระยะสั้นๆ แคนี้ ชายรางใหญจึงไมอาจหลบหลีกได ชั่ว
ขณะนั้นเขาพลันตกตะลึงคิดจะรองตะโกนออกมา แตตรงหนาผากกลับรูสึกเย็นวาบ
จากนั้นรางกายพลันเย็นเยียบ รางทั้งรางถูกน้ำแข็งสีฟาชั้นหนึ่งแชแข็ง ชั่วพริบตา
พลันสูญสิ้นแรงเคลื่อนไหว
หานลี่สะบัดแขนเสื้อ ลำแสงสีเขียวผืนหนึ่งพุงออกมา ชั่วครูก็มวนเอาชายราง
ใหญเขามาไวขางใน แลวลอยเขาไปในหอคอยที่อยูเบื้องหนา จากนั้นรางกายพลัน
แวบหายไป หานลี่เดินตามเขาไปดานในอยางเงียบเชียบ
ตอนที่ 912 โรงเตี๊ยมในเมืองเล็กๆ
ขณะเดินเขามาในหองหองหนึ่งที่ไมสะดุดตาภายในหอคอย ชายรางใหญผูนั้น
นอนแข็งทื่ออยูกับพื้นตั้งนานแลว น้ำแข็งสีฟาปกคลุมไปทั่วเรือนราง ดวงตากลมโตคู
นั้น เต็มไปดวยความตกตะลึงระคนหวาดกลัว
หานลี่พลิกฝามือ เข็มบางๆ สีเงินเลมหนึ่งปรากฏขึ้นระหวางนิ้วทั้งสอง เข็มสอง
สามเลมปกเขาไปที่ศีรษะของชายรางใหญอยางรวดเร็วทั้งสองขาง
ชายร า งใหญ ร า งกายสั่ น สะท า น จากนั้ น ดวงตาทั้ ง สองก็ ค อ ยๆ หม น แสงลง
กลายเปนแข็งทื่อดูโงเขลา
สองมือของหานลี่พลันรายอาคม ปากก็บริกรรมคาถาดวยน้ำเสียงทุมต่ำออกมา
แลวปลอยอาคมสองสามสายออกมาโจมตีรางของชายรางใหญอยางตอเนื่อง
ไอเย็นเยียบบนรางของชายรางใหญสลายหายไปในทันที ดวงตาคูนั้นไรซึ่งความรูสึก
พลิกรางลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ จากนั้นก็นั่งสมาธิลงไมขยับเขยื้อนราวกับหุนเชิด
ใบหนาของหานลี่มีเกราะปองกันสีเขียวปรากฏขึ้น สะบัดแขนเสื้อ ธงอาคมหลาก
สีสันหลายดามพุงออกมาจากแขนเสื้อ แยกออกไปปกลงรอบสี่ดานของทั้งสองคน เขต
อาคมตัดกลิ่นอายปรากฏขึ้น จากนั้นพลันกระตุนเขตอาคม เงารางคนแวบหายไป ยืน
อยูดานหลังของชายรางใหญ
หานลี่ชูมือหนึ่งขึ้น นิ้วทั้งหากางออกพลางกดไปที่ศีรษะของชายรางใหญ ในเวลา
เดียวกันมานลำแสงก็ปรากฏขึ้นรอบกาย รางคนทั้งสองมวนหายเขาไปในลำแสง
“เจาชื่ออะไร มีตำแหนงอะไรในตระกูลขง?” เสียงตั้งคำถามของหานลี่ดังออกมา
จากมานลำแสง เย็นชาอยางสุดๆ ไมมีความรูสึกแมแตนอย
“ขงโตว ผูคุมกฎรอบนอก!” ชายรางใหญตอบกลับอยางแข็งทื่อ
“ตระกูลขงควบคุมเมืองซุนอวิ๋นตั้งแตเมื่อไหร ประชากรในเมืองไปอยูที่ไหนแลว?”
“ตั้งแตเมื่อเจ็ดปกอน ประชากรในเมืองลวนเปนคนธรรมดา ถูกจัดใหอาศัยอยูใน
เมืองเล็กๆ ที่มีชื่อวา ‘เสวี่ยเจียง’ ซึ่งอยูหางออกไปรอยลี้”
“ตระกูลขงจัดการชุมนุมโสมราชันขึ้นเพราะมีจุดประสงคอะไรใชหรือไม?”
“…”
ทามกลางการถามตอบที่แปลกประหลาดนี้ หานลี่ไดขอมูลสวนใหญที่อยากรูมา
จากปากของอีกฝาย สุดทายก็ดึงมือที่กางออกกลับมา ชั่วขณะนั้นชายรางใหญพลัน
ลมลงกับพื้นในทันที หานลี่หยิบยาลูกกลอนออกมาเม็ดหนึ่ง ยัดเขาไปในปากของชาย
รางใหญ แลวหยิบเข็มสีเงินออกมาปกลงไปบนจุดตางๆ ทั่วรางกาย
หลั งจากผ านไปชั่ วครู เขาถึ งได ห ยั ด กายลุ ก ขึ้ น เอ ย พึ ม พำกั บ ตนเองอย างใช
ความคิดวา
“ใชเข็มไรกังวล นาจะผนึกความทรงจำของคนผูนี้ได คงไมทำใหเกิดเรื่องวุนวาย
อะไรขึ้น นาเสียดายเปนเพราะพลังยุทธ จึงไมอาจสำแดงเคล็ดวิชาดึงดูดฝนได ดูแลว
คงตองไปที่เมืองเล็กๆ นั่นสักตั้งแลว”
หลังจากหานลี่สายศีรษะ เก็บธงอาคมทั้งสี่ดาน เดินออกจากหองอยางสบายๆ
แลวออกจากหอคอย จากนั้นเขาก็ไมสนใจการชุมนุมโสมราชันอะไรนั่นอีก คนก็มุง
หนาไปที่ประตูใหญ
ผูบำเพ็ญเพียรที่ออกจากการชุมนุมกลางคัน ไมนับวานอยนัก ดังนั้นเมื่อหานลี่
ออกจากประตูใหญ แลวขับเคลื่อนยุทธภัณฑบินขึ้นไป ผูบำเพ็ญเพียรที่รักษาการณอยู
กลุมหนึ่งจึงไมไดรูสึกสงสัยใดๆ
ลำแสงสีเขียวสายหนึ่ง พุงตรงไปยังเมืองเล็กๆ ที่ชายรางใหญพูดถึง
เมืองเล็กๆ นั้นหางจากเทือกเขาเนินหิมะไมไกลนัก ลำแสงสีเขียวบินผานเมืองซุนอวิ๋น
ไดไมนาน ก็มองเห็นเมืองเล็กๆ ที่มีนามวาเสวี่ยเจียงอยูลิบๆ ทันใดนั้นรางกายพลัน
รอนลงที่ประตูเมือง หานลี่เดินเขาไปอยางแชมชา
เมืองเสวี่ยเจียงนี้ใหญกวาเมืองซุนอวิ๋นสามสี่สวน แตก็พอฝนเรียกไดวาเมืองเล็กๆ
เทานั้น
ตอนที่หานลี่เขามาในเมือง ทองฟาก็เปลี่ยนเปนสีดำสนิทแลว ดวยเหตุนี้กลุมคน
ที่สัญจรไปมาบนถนนจึงมีอยูเพียงหร็อมแหร็ม แนนอนวาจึงไมมีใครสนใจแขกที่ไมได
รับเชิญอยางหานลี่
หานลี่เดินไปตามถนน จิตสัมผัสคอยๆ แผออกไปอยางระมัดระวัง เพื่อไมใหผู
บำเพ็ญเพียรระดับสูงอยางระดับกอกำเนิดที่หลบซอนอยูในเมืองพบเขา
ในเมืองเล็กๆ นี้มีผูบำเพ็ญเพียรอยูดังคาด ทวาสวนใหญกลับเปนเพียงผูบำเพ็ญ
เพียรระดับต่ำ พลังยุทธที่สูงที่สุดก็คือผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมคนหนึ่งที่ซอนตัว
อยูในหองหองหนึ่งทางทิศตะวันตกเฉียงใตของเรือนใหญ หลังหนึ่ง จากจิตสัมผัสที่
ปกปดไวของหานลี่ เมื่อกวาดผานไป คนผูนี้ก็สัมผัสไมไดเลยสักนิด
ทวาที่หานลี่มายังเมืองเล็กๆ นี้ไมไดมาตามหาผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงอะไร เมื่อ
เห็นวาในเมืองไมมีสิ่งที่คุกคามตนเองไดดำรงอยู ทันใดนั้นก็เก็บจิตสัมผัสกลับคืนมา
ปกปดกลิ่นอาย เดินลัดเลาะไปตามถนน สายตาก็กวาดไปตามสองขางทางไมหยุด ดู
เหมือนวาจะกำลังตามหาอะไรสักอยางอยู
เขาพลันเดินมาถึงสี่แยกที่กวางขวางอยางรวดเร็ว ดูเหมือนวาจะเปนใจกลางเมือง
เล็กๆ แหงนี้ หลังจากที่สายตาของหานลี่เหลือบไปมองแผนปายโรงเตี๊ยมแหงหนึ่งแลว
รูมานตาก็หดเล็กลง จูๆ พลันหยุดชะงักฝเทา
แผนปายขนาดสองสามฉื่อ ดานบนเขียนตัวอักษรคำวา ‘มาเยือนมีสุข’ สีเงิน
เอาไว ดูแลวคงไมตางอะไรกับปายรานคาธรรมดาๆ และโรงเตี๊ยมที่มีชื่อธรรมดาๆ
อยาง ‘มาเยือนมีสุข’ ในตาจิ้น เกรงวาหากไมมีหลายพัน ก็คงหลายรอยกระมัง
หานลี่กลับจองเขม็งไปยังมุมดานลางซายของแผนปายที่ดูเหมือนสัญลักษณของ
กาน้ำชา สายตาไมขยับเขยื้อน
หลังจากผานไปชั่วครู เขาพลันพนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง เงยหนาขึ้นมอง
โรงเตี๊ยมเล็กๆ เบื้องหนา แลวมองไปรอบๆ ดานอีกครั้ง พบวาบริเวณนี้ไมมีคน ราง
ของเขาก็หายแวบไป หลังจากนั้นลำแสงสีเหลืองพลันสวางวาบ คนก็ทะลุผานประตู
ใหญที่ปดสนิทอยูราวกับลองหน
ภายในโรงเตี๊ยมเปนสีดำสนิท เงียบสงัด ไมรูวาไมมีแขก หรือวาทุกคนไปพักผอน
กัน หมดแลวกัน แน หลังจากขบคิดเล็กน อ ย หานลี่กลับ ป ดตาทั้ งสองขางลงแผ จิ ต
สัมผัสออกไป สถานการณของโรงเตี๊ยมทั้งโรงปรากฏขึ้นในหัวของเขา
จูๆ เขาพลันกลายเปนสายลมจางๆ อยางเงียบเชียบ หายเขาไปทามกลางความ
มืดมิดอยางไรรองรอย
เถาแกเจาของโรงเตี๊ยมมาเยือนมีสุข คือชายชรารางกายผายผอมอายุหาสิบกวาป
คนหนึ่ง เปนผูร่ำรวยในเมืองเล็กๆ แหงนี้ หลังจากยุงอยูทั้งวัน เขาก็รูสึกเหนื่อยลา จึง
โอบกอดอนุภรรยาที่เพิ่งรับเขามาไมถึงป พรอมกับหลับใหลอยางสบายอกสบายใจ
แตจูๆ เขาก็สัมผัสไดถึงลมอันเย็นยะเยือกที่พัดผานรางไป มันหนาวเหน็บอยาง
สุดๆ จึงรูสึกตัวตื่นขึ้นดวยความตกใจ ผลลัพธคือหลังจากเบิกตาทั้งสองขางแลว ชั่ว
ขณะนั้นเถาแกของโรงเตี๊ยมก็มีเหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นมา
เงารางคนสีดำเลือนรางคนหนึ่ง ยืนอยูที่หัวเตียง ดวงตาเปลงประกายเย็นชาคู
หนึ่งเหลือบมามองเขา
“เจา…” เขาเพิ่งจะรองอุทานออกมาเสียงดัง เสนไหมสีเงินเบื้องหนาพลันสวางวาบ
รูสึกชาที่คอหอย คาดไมถึงวาจะไมสามารถเปลงเสียงใดๆ ออกมาได
“อยาเสียงดัง ถึงแมวาแขกในโรงเตี๊ยมจะไมมีผูบำเพ็ญเพียร ขาก็ไมอยากรบกวน
ใคร เจาดูของสิ่งนี้กอนแลวคอยวากัน” เงารางคนชูมือขึ้น กุญแจสีเงินเปลงประกาย
ดอกหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหนาเถาแกเจาของโรงเตี๊ยม
เถาแกเจาของโรงเตี๊ยมเห็นกุญแจสีเงิน รางกายพลันสั่นสะทาน ชั่วขณะนั้นราง
ทั้งรางพลันผอนคลายลง สายตาเผยความตกตะลึงระคนดีใจออกมา
และเงารางของคนที่แอบเขามาผูนั้น แนนอนวาเปนหานลี่
เถาแกเจาของโรงเตี๊ยมลงจากเตียงอยางรีบรอน ใชมือหนึ่งวาดออกไป กำลังคิด
จะเอยอะไร แตปากก็ยังคงไรสุมเสียง
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา ชูมือขึ้น เสนไหมสีเงินสายหนึ่งพุงออกมาจากคอ
หอยขอเขา ตกลงสูฝามือ นั่นก็คือเข็มสีเงินที่บางดุจเสนไหม
“ใหขาน อยขอตรวจสอบกุญ แจดอกนั้ น กอ นได ห รือไม ขอรับ” เถ าแกเจาของ
โรงเตี๊ยมกระแอมไอสองสามครั้ง ในที่สุดก็ฟนฟูแรงในการเปลงคำพูดกลับมาได
หานลี่ไมเปลงคำพูดใดๆ โยนกุญแจดอกนั้นไปใหอีกฝาย
เถาแกรับกุญ แจดอกนั้นไป พิจารณากุญ แจอยูชั่วครู ถึงไดมีสีหนาเคารพนอบ
นอมปรากฏขึ้น สงกุญแจดอกนั้นคืนหานลี่ดวยมือทั้งสอง ในเวลาเดียวกันก็เอยดวย
ความเคารพวา
“ทานคือคุณชายใหญสินะขอรับ?”
“เจาตรวจสอบกุญแจนี้แลว มีอะไรอยากถามหรือไม?” หานลี่ไมไดตอบคำถาม
ตรงๆ กลับเอยขึ้นอยางราบเรียบ
“ไมเปนไรขอรับ ในเมื่อคุณชายตามหาขานอยได และมีกุญแจดอกนี้แนนอนวา
ฐานะไมมีทางหลอกลวงแน เพียงแต…” เถาแกสัมผัสไดพลางหันหนาไปดูอนุภรรยา
ดานหลัง
“วางใจ กอนที่จะทำใหเจาตื่น ขาไดสำแดงเคล็ดวิชาทำใหนางหลับใหลไปแลว
ตอใหเจาตะโกนขางหูนาง นางก็ไมไดยินหรอก” หานลี่แววตาเปลงประกาย เอยดวย
สีหนาไมเปลี่ยนแปลง
“เชนนั้นก็ดีขอรับ ทานผูนำตระกูลไมไดติดตอขามาหลายปแลว ขานอยเปนเพียง
คนธรรมดา จึงไมรูวาเกิดเรื่องอะไรขึ้น และยิ่งไมกลาไปสอบถามซี้ซั้ว เพราะกลัววา
จะดึ ง ดู ด ความสนใจของผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รคนอื่ น ๆ เวลานี้ คุ ณ ชายนำกุ ญ แจมาด ว ย
ขานอยก็นับไดวาผอนคลายลงแลว หากไมไดยินทานผูนำตระกูลพูดวา ครั้งตอไปที่
คุณ ชายมาจะเปลี่ยนแปลงหน าตา ขาน อ ยก็ ไม กล ายอมรับ งายๆ” เถาแก เจาของ
โรงเตี๊ยมเอยอยางซื่อสัตย
“ตระกู ล เฝ งเกิ ด เรื่อ งจริงๆ ดั งนั้ น ข าจึ งต อ งการเป ด อุ โมงค ลั บ เอาของในนั้ น
ออกมา สถานที่ของอุโมงคลับนอกจากทานผูนำตระกูลที่รูแลว ก็นาจะมีแผนที่สำรอง
อยูกับเจาถึงจะถูก เอามาใหขาเถิด!” หานลี่ไมเกรงใจ ใชน้ำเสียงออกคำสั่งเอยทันที
“ขอรับ! ในเมื่อมีกุญแจอุโมงคลับ แนนอนวาคุณชายก็มีคุณสมบัติที่จะเปดอุโมงค
นี้ คุณชายกรุณารอสักครู!” เถาแกเจาของโรงเตี๊ยมเอยอยางไมสงสัยเลยแมแตนอย
จากนั้ น ก็ ส วมชุ ด อย า งร อ นรน แล ว พาหานลี่ เดิ น ออกไปจากห อ ง ตรงไปยั ง สวน
ดานหลังของโรงเตี๊ยม
ผลลัพ ธคือที่มุมดานลางของกำแพงในสวนดานหลัง หลังจากที่เถาแกเจาของ
โรงเตี๊ยมหาจอบเหล็กมาดามหนึ่งแลวก็ขุดลงไป แลวใชสองมือคลำหาอยางละเอียด
หยิบกอนอิฐสีเขียวที่ดูธรรมดาๆ กอนหนึ่งออกมา เช็ดหยาดเหงื่อแลวหันกายกลับมา
“ที่ อ ยู ข องอุ โมงค ลั บ ถู ก ผนึ ก เอาไว ในของสิ่ ง นี้ ด า นบนมี เขตอาคมหวงห า ม
ขานอยไมมีทางเปดได และไมเคยเห็นมากอน คุณชายนาจะมีวิธีสินะขอรับ!” ชายชรา
สงอิฐสีเขียวใหกับหานลี่ แลวเอยอยางลังเล
“นั่นมันแนนอนอยูแลว ขามีวิธี นอกจากนี้หากขาเอาของไปแลว เจาก็ไมตองอยู
ที่เมืองนี้อีก ไปใหไกลจากเมืองนี้ทันที แลวเปลี่ยนซื่อแซเสีย!” หานลี่รับอิฐสีเขียวมา
เหลือบตามองสองสามครั้ง ดูเหมือนจะมั่นใจแลววาของสิ่งนี้คือของจริง พลันพยัก
หนาดวยความพึงพอใจ จากนั้นก็ออกคำสั่งดวยสีหนาราบเรียบ
“เชนนั้น ตระกูลเฝงก็เกิดเรื่องจริงๆ สินะขอรับ! คุณชายโปรดวางใจ ภายในสอง
สามวันขาจะออกจากที่นี่ในทันที ไมมีทางแพรงพรายเรื่องของคุณชายออกไปเปน
แน” เถาแกเจาของโรงเตี๊ยมมีสีหนาเศราสลด เอยปากตอบรับทันที
“เจารูประโยชนและความเสียหายในนั้นก็ดี ในฐานะที่เจาซื่อสัตยและทุมเทตอ
ตระกูลเฝงถึงเพียงนี้ ก็เอายาลูกกลอนนี่ไปเถิด! ถึงแมวาเจาจะเปนคนธรรมดา แต
หากกิน ยาลูกกลอนนี้เขาไป ก็จะทำให รางกายของเจาแข็งแรงมีอายุยืน ยาวไปอีก
หลายป!”
หานลี่รับอิฐสีเขียวกอนนั้นมา เมื่อเหลือบมองชายชราที่มีสีหนาเศราสลดสองครั้ง
ก็ชักสีหนา จูๆ พลันพลิกฝามือ ขวดยาสีเขียวหนึ่งขวดปรากฏขึ้นในมือ แลวยื่นสงให
ชายชรา
“ขอบพระคุณ สำหรับของขวัญ จากคุณ ชาย!” เถาแกเจาของโรงเตี๊ยมพลันตก
ตะลึง ทันใดนั้นก็เอยขึ้นดวยสีหนาดีอกดีใจ
“เอาละ ขายังมีธุระอื่น ตองไปแลว เจาเองก็ดูแลตัวเองเถิด!” หานลี่โบกมือ เอย
ดวยใบหนาไรความรูสึก จากนั้นลำแสงสีเขียวก็สวางวาบขึ้น เบื้ องหน าของเถาแก
เจาของโรงเตี๊ยม สวนคนก็สลายหายไปอยางไรรองรอย
ชายชราตกใจจนสะดุงโหยง มองไปรอบๆ ดานชั่วครู ในที่สุดก็ม่ันใจวาหานลี่จาก
ไปแลว ถึงไดกมหนาลง มองขวดยาที่อยูในมืออยางตกตะลึง ผานไปชั่วครู เขาก็ถอน
หายใจยาวๆ ออกมาเฮือกหนึ่ง
เมื่อหานลี่ออกจากโรงเตี๊ยม ก็บินออกจากเมืองเล็กๆ นั่นทันที หลังจากหาภูเขา
รกรางนิรนามแถวๆ นั้นไดแหงหนึ่ง คนก็รอนยุทธภัณฑลงไป จากนั้นพลันพลิกฝามือ
อิฐสีเขียวกอนนั้นปรากฏขึ้นในมือ
ตอนที่ 913 เครื่องจักรสังหาร
มือหนึ่งถืออิฐกอนนั้นไว พิจารณาอยางละเอียดอีกครั้ง อีกมือหนึ่งยื่นนิ้วชี้ออกมา
ปลายนิ้วมีลำแสงสีเขียวสวางวาบ คอยๆ ลุกไหมไปบนอิฐกอนนั้น ชั่วขณะนั้นลำแสง
วิญญาณสีขาวโพลนชั้นหนึ่ง พลันไหลเวียนไปมาราวกับระลอกคลื่นอยางไรอยางนั้น
หานลี่คลี่ยิ้มออกมา พลันพยักหนา
จากที่ เฝ ง เจิ่ น เคยบอกมานั้ น อิ ฐ สี เขี ย วก อ นนี้ ไ ม ใ ช ข องธรรมดาๆ แต เป น
ยุทธภัณฑที่เหมือนกับยามเก็บของ ทวาของสิ่งนี้ จำเปนตองใชอาคมจำเพาะเปดผนึก
มิเชนนั้นหากใชแรงมหาศาลเปด สิ่งที่อยูดานใน ก็จะสลายหายไปกลายเปนเถาถาน
ทันที
แน น อนวาหานลี่รูค าถามาจากปากของเฝ งเจิ่ น ที่ ใกล ต าย ทั น ใดนั้ น ก็ อ าปาก
บริกรรมคาถาออกมาเบาๆ ทันทีที่อาปากออก ก็พนลำแสงสีเขียวที่มีอักขระกะพริบ
วิบวับแฝงอยูออกมา โจมตีไปยังกอนอิฐอยางพอดิบพอดี ปกคลุมอิฐกอนนั้นเอาไว
มือขางหนึ่งพลันรายอาคม ใชนิ้วชี้ไปยังมุมทั้งสี่ของอิฐกอนนั้นอยางรวดเร็ว เสียง
‘พรึ่บ’ พลันดังขึ้น ผิวของอิฐสีเขียวปรากฏรูกลมๆ เล็กๆ รูหนึ่งขึ้น เปนสีดำสนิท
หานลี่ไมไดเสี่ยงยื่นมือเขาไป และใชมือตบไปที่ฐานของอิฐ ชั่วขณะนั้นลำแสง
พลันแวบหายไป มีสิ่งของสองอยางบินออกมาจากรูนั้นโดยอัตโนมัติ
อันหนึ่งคือคัมภีรขนาดสองสามชุน อีกอันคือเอกสารปกหนึ่งที่ถูกจดไวตาราง
อยางเปนระเบียบเรียบรอย มือหนึ่งหยิบขึ้นมา จับของทั้งสองสิ่งในมือไวไดอยาง
งายดาย
หลังจากเก็บอิฐสีเขียวไปแลว หานลี่ก็ไมไดอานเอกสารปกนั้น พลางควาคัมภีร
เอาไว แ ล ว แผ จิ ต สั ม ผั ส เข า ไป ไม น านนั ก ใบหน า ของหานลี่ ก็ เปลี่ ย นเป น แปลก
ประหลาด ใบหนาเครงขรึมขึ้น
‘ทำไม ดานในไมมีที่อยูของอุโมงคลับตระกูลเฝงหรือ?’ เทพขับเคลื่อนเห็นหานลี่
มีทาทางเชนนี้ ก็อดไมไหวเอยถามขึ้น
“ไมใช ดานในมีที่อยูของอุโมงคลับแนนอน ยิ่งไปกวานั้นยังทำสัญลักษณไวอยาง
ชัดเจน” หลังจากดึงจิตสัมผัสออกจากคัมภีรแลว หานลี่ก็พนลมหายใจออกมายาวๆ
พลางเอยขึ้นอยางเชื่องชา แตคิ้วพลันขมวดมุนเขาหากัน
‘เชนนั้นทำไมตองมีทาทางเชนนี้ หรือวาสถานที่ของอุโมงคลับมีอันตรายอะไร’
คนผู นี้ คู ค วรกั บ การเป น ตั วประหลาดเฒ าที่ มี ชี วิ ต มาเกื อ บหมื่ น ป หลั งจากขบคิ ด
เล็กนอย ก็เดาสิ่งที่คลายกับความเปนจริงอยูสองสามออกทันที
“อาจจะนับวาพบกับปญหาอะไรสักอยางไดกระมัง? อุโมงคลับของตระกูลเฝง
ตั้งอยูในสวนลึกที่สุดของเทือกเขาเนินหิมะ” หลังจากที่หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือก
หนึ่ง ก็เผยสีหนาจนปญญาออกมาขณะเอย
‘เหตุ ใ ดตระกู ล เฝ ง ถึ ง ไปสร า งอุ โ มงค ลั บ ที่ นั่ น หรื อ ไม รู ว า ในเทื อ กเขานั้ น มี
เหตุการณแปลกประหลาดอยางการที่ผูบำเพ็ญเพียรมักจะหายตัวไปหรือ?’
เทพขับเคลื่อน รูสึกประหลาดใจเล็กนอย
“ใครจะรูเลา? บางทีคนที่เลือกสถานที่อยางบรรพชนของตระกูลเฝง อาจจะรูสึกวายิ่ง
เปนสถานที่ที่อันตราย ก็ยิ่งปลอดภัยกระมัง” หานลี่เบะปาก ทำไดเพียงคาดเดาเชนนี้
‘ในเมื่อตระกูลเฝงใชอุโมงคลับนี้มาโดยตลอด นั่นก็หมายความวาสถานที่แหงนั้น
นาจะไมไดอันตราย แลวเหตุใดตองกังวลใจขนาดนั้น’
เทพขับเคลื่อนเอยอยางราบเรียบ
“หวังวาจะเปนเชนนั้นกระมัง! อยางไรก็ไดแผนที่มาแลว ไมอาจละทิ้งไป เพียง
เพราะอาจจะมีอันตรายที่ไมยังไมรูเชนนี้ ถาหากทุกอยางราบรื่นละก็ หลังจากนี้หนึ่ง
วัน พวกเราก็คงหาอุโมงคลับเจอแลว” หานลี่หัวเราะอยางขมขื่นราวกับหัวเราะเยาะ
ตัวเองออกมา พลางเอยเชนนั้น จากนั้นเขาก็เก็บคัมภีรลงไป แลวหยิบเอกสารกองนั้น
ขึ้นมา พลิกไปมาเล็กนอย ปากก็รองอุทานออกมาเบาๆ
“เอ! นี่คือหนังสือรับรองทรัพยสมบัติและโฉนดที่ดินของตระกูลเฝง! แถมยังมี
จำนวนไมนอย เพียงพอที่จะทำใหร่ำรวยไดแลว” หานลี่มีสีหนาประหลาดใจ
‘นั่ น มั น แปลกอะไร ตระกู ล ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รของต า จิ้ น และเที ย นหนานนั้ น ไม
เหมือนกัน ที่นี่นั้นมองวาคนที่เขาสูเสนทางการบำเพ็ญเพียรนั้นเปนเรื่องปกติ และไม
ถือวาการคบคาสมาคมกับตระกูลขุนนางที่ร่ำรวยเปนเรื่องที่นาละอาย แมกระทั่งยัง
พึ่งพาอาศัยผูบำเพ็ญเพียรสันโดษอยูบอยๆ ถึงแมวาตาจิ้นจะมีพื้นที่กวางใหญ โลก
ของคนธรรมดากลับมีจำนวนประชากรมากกวาเทียนหนานเปนอยางมาก อาศัยอยู
กวาครึ่งของตาจิ้น ดังนั้นแหลงทรัพยากรสมุนไพรวิญญาณและศิลาวิญญาณจำนวนไม
น อ ยก็ ไ ม ไ ด อ ยู ใ นที่ ร กร า งไร ผู ค น และถู ก ควบคุ ม โดยราชสำนั ก โดยตรง มั น ไม
เหมือนกับเทียนหนาน สถานที่ที่คนธรรมดาอาศัยอยูนั้นมีไมมากนัก และมีสถานที่รก
รางจำนวนมาก ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รเที ย นหนานจึ งไม จ ำเป น ต อ งคบค า สมาคมกั บ คน
ธรรมดา’ เทพขับเคลื่อนดูเหมือนวาจะเขาใจเรื่องพวกนี้เล็กนอย พลางเอยชี้แนะให
หานลี่ฟง
“เชนนั้น ตระกูลขุนนางในโลกของตาจิ้นมีทรัพยากรของเทพเซียนเยอะขนาดนี้
สำนักที่เหลือยอมหรือ?” หานลี่เอยอยางไมเชื่อเล็กนอย
‘เหอะๆ ไมยอมแลวอยางไร ตาจิ้นไมไดมีแควนมากมายเหมือนเทียนหนาน และ
ตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบันโลกของคนธรรมดาก็ใชการปกครองโดยราชสำนักที่แข็งแกรง
มาโดยตลอด ถึ ง แม ว า ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รจะแข็ ง แกร งขนาดไหน ก็ ไม อ าจทำร า ยคน
ธรรมดาอยางเปดเผยได มิเชนนั้น ไมวาทั่วโลกจะมีปฏิกิริยาอยางไร แตขุมอำนาจของ
สำนักอื่นๆ จะตองถือโอกาสหาผลประโยชนจากโอกาสนี้แน
ตอนนี้ความจริงแลวราชสำนักตาจิ้นนั้นเปนผลมาจากกระประนีประนอมของขุม
อำนาจใหญๆ หากขาจำไมผิดละก็ ขุมอำนาจใหญพวกนี้ดูเหมือนวาจะมีสนธิสัญญา
กั น ไม วาสำนั ก ใดก็ ไม อ าจกดขี่ หรื อ ว าบี บ บั งคั บ ราชสำนั ก ของคนธรรมดาอย าง
เปดเผยได
แมกระทั่งเพื่อเปนการรับประกันอำนาจของราชสำนักคนธรรมดา พวกเขายังจง
ใจอนุ ญ าตให ต ระกุ ล ขุ น นางพวกนี้ ดึ ง ดู ด ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รสั น โดษเข า มาได โดยตรง
ราชวงศกษัตริยของตาจิ้นยังสามารถเลี้ยงดูผูบำเพ็ญเพียรในพระราชวังภายในจำนวน
ที่กำหนดไดดวย แนนอนวาระดับของผูบำเพ็ญเพียรและจำนวนนั้น จะตองอยูภายใต
การควบคุ ม ของสำนั ก ใหญ ๆ เหล านี้ คื อ ไม ป ล อ ยให พ วกเขาแผ ข ยายอำนาจมาก
เกินไป’
‘ตามภู มิ ศ าสตรแ ล ว เพื่ อ ที่ จ ะยึ ด ครองแหล งทรัพ ยากรและกำลั งคนของโลก
สามัญชนใหไดจำนวนมาก ขุมอำนาจใหญๆ ตางก็สำแดงความสามารถลับๆ เพื่อดึง
เหล า ราชนิ กู ล และบุ ค คลของราชสำนั ก โดยเฉพาะพวกขุ น นางชั้ น ผู ใหญ ที่ ดู แ ล
บานเมืองเหลานั้น แทบจะมีเงาของสำนักนอยใหญคอยเคลื่อนไหวอยูเบื้องหลัง และ
เพื่อไมใหถูกขุมอำนาจอื่นๆ จับผิดได เรื่องราวตางๆ ก็จะปลอยใหตระกูลขุนนางที่อยู
ใตบังคับบัญชาออกหนา เชนนั้น ตระกูลผูบำเพ็ญเพียรก็จะคอยๆ มีแหลงทรัพยากร
ในโลกของคนธรรมดามากขึ้น และกลายเปนเรื่องปกติของตาจิ้นไปตั้งนานแลว ทวา
สิ่งของเหลานี้หากถูกวางไวที่นี่อยางระมัดระวังเชนนี้ ก็นาจะเปนเอกสารโฉนดที่ดินที่
เกี่ยวของกับแหลงทรัพยากรของการฝกบำเพ็ญเพียร นี่เปนสิ่งสำคัญวาตระกูลขุนนาง
ตระกูลหนึ่งจะสืบทอดตอไปไดหรือไม’ เทพขับเคลื่อนเอยสิ่งที่ตนเองทราบออกมา
หานลี่ไดยินแลว ก็รูสึกตกใจ พลางลูบคางไปมา
“ในเมื่อเอกสารพวกนี้สำคัญขนาดนี้ เหตุใดถึงเอามาไวที่นี่ หรือวาผูนำตระกูลเฝง
ผูนั้นมีลางสังหรณอะไรตั้งแตกอนเกิดเรื่อง จึงจงใจเก็บไวเผื่อเปนทางหนีทีไล!”
หานลี่ทำไดเพียงคาดเดาเชนนี้
‘อาจจะเปนเชนนั้นกระมัง ทวาของพวกนี้ไมเกี่ยวกับพวกเรา ไมจำเปนตองไปขบ
คิดถึงความแปลกประหลาดในนั้น รีบไปตามหาอุโมงคลับของตระกูลเฝง แลวดูวา
ดานในมีเคล็ดวิชาสำนักพุทธที่สามารถกำจัดไอมารในรางของเจาหรือไมจะดีกวา!’
เทพขับเคลื่อนเอยอยางไมคิดเชนนั้น
“ทานอาวุโสพูดถูก!” หานลี่หัวเราะออกมา วางเอกสารในมือปกนั้น เขาไปใน
กลองหยก แลวเก็บเขาไป
หลังจากแยกแยะทิศทางแลว เขาก็ขับเคลื่อนยุทธภัณฑขึ้นไปบนทองฟา แลวมุง
ตรงไปยังเทือกเขาเนินหิมะ
เวลานั้น ภายในหองสุสานใตดินสักแหงที่เทือกเขาเนินหิมะ ปรากฏเงารางคนที่มีไอสี
เขียวหอหุมรางกายสองคน กำลังคุกเขาอยูเบื้องหนาโลงศพสามโลง ไมขยับเขยื้อน
จูๆ ก็มีลำแสงสีเขียวสองสายพุงออกมาจากโลงศพตรงกลาง สวางวาบแลวหาย
เขาไปในศีรษะของเงารางคนทั้งสอง
“ไปเถิด! สังหารคนผูนั้นเสีย แลวชิงสมบัติกลับคืนมา” เสียงอันแข็งทื่อของบุรุษ
ดังออกมาจากโลงศพ
เงารางคนสองสายไมเอยอะไรออกมาสักคำ ชั่วพริบตารางกายพลันกลายเปน
ลำแสงสีเขียวสองสาย หมุนวนในหองสุสานรอบหนึ่งแลวพุงออกไป อยางไรรองรอย
“เอาละ ขาสงรูปรางหนาตาของคนที่ชิงเกราะปองกันวัชระไปใหรางแยกแลว
บวกกั บ เกราะป อ งกั น วั ช ระชิ้ น นั่ น น าจะมี ก ลิ่ น อายของหวั งเอ อ ร ห ลงเหลื อ อยู ใน
ระยะเวลาสั้นๆ ขอแคคนผูนั้นไมไดหลีกหนีออกไปจากรัฐกวนหนิงในทันที ตอใหเขา
ติดปกก็ยากที่จะหลบหนีแลว”
“ขอบพระทัย…พะยะคะ…เสด็จพอ!” เสียงติดขัดที่ดูดีอกดีใจสงออกมาจากโลง
ศพหินอีกโลงที่อยูดานขาง
“เหอะ! ครั้งนี้ก็ชางเถิด ครั้งหนา หามตัดสินใจอะไรเองอีก!” หลังจากที่บุรุษใน
โลงศพตรงกลางสงเสียงเหอะออกมา ก็เอยขึ้น
“พะยะคะ!...ครั้งหนา…จะไมทำแลว!” น้ำเสียงติดอาง ดูเหมือวาจะหวาดกลัว
เล็กนอย
โลงศพที่อยูตรงกลางไมไดสงเสียงอะไรออกมา แตหลังจากเงียบกริบไปเปนเวลา
หนึ่งมื้ออาหาร จูๆ เสียงปงก็ดังขึ้น ฝาโลงศพตรงกลางบินลอยออกไปสองสามจั้ง เงา
รางผายผอมที่สวมมงกุฎลุกขึ้นนั่งจากในโลง
“ฮองเต พระองคจะ...” เสียงของสตรีผูออนหวานที่ดูประหลาดใจดังขึ้นจากโลง
ศพอีกโลง
“ถึงเวลาอันสมควรแลว ยามนี้เปนเวลาที่ไอมารแผออกมาพอดี เมื่อขาออกจาก
หองสุสาน พลังยุทธคงไมไดลดลงมากนัก จะไดไปชวยแมทัพเกออีกแรงพอดี เพื่อ
กำจัดตัวปญหาของอีกสองตระกูลทิ้ง หลังจากที่ขาไปแลว พวกเจาก็เปดอาคมเขต
ตองหามเสีย อยาใหคนนอกเขามาในนี้ไดเด็ดขาด” บุรุษผูนี้มีดวงตาแดงก่ำ เอยดวยสี
หนาแข็งทื่อ
“เพคะ ฮองเต! พระองคโปรดระวังตัวดวย” สตรีผูนั้นลังเลเล็กนอย พลางออกคำสั่ง
“ชายารักโปรดวางใจ มากสุดแคสองคืน ขาก็กลับมายังหองสุสานแลว ถึงเวลา
นั้น คงไมออกไปขางนอกงายๆ อีก” บุรุษพยักหนา ทันใดนั้นพลันยกขาขึ้น หลังจาก
รางกายสวางวาบ ก็ปรากฏตัวขึ้นดานนอกโลงศพ
เงาร า งหายแวบไป ชั่ ว ครู ร า งของบุ รุ ษ ก็ เลื อ นราง จากนั้ น ร า งทั้ ง ร า งพลั น
กลายเปนไอสีเทากลุมหนึ่ง กะพริบวาบหายไปจากที่เดิม โดยไมรูวาออกไปจากหอง
สุสานไดอยางไร หลังจากนั้นไมนาน ในหองสุสานพลันเงียบสงัด กลับมีเสียงถอน
หายใจของสตรีผูนั้นดังขึ้น
หานลี่มองเห็นเทือกเขาเนินหิมะอีกครั้ง ทองฟาคอยๆ ทอแสงสวางไสว เขาบิน
เขาไปในเทือกเขาโดยไมไดขบคิดอะไรมากนัก พลางขับเคลื่อนยุทธภัณฑบินอยูต่ำๆ
เพราะกลั ว ว าจะก อ ป ญ หาอะไรอี ก หานลี่ จึ ง เก็ บ ไอวิ ญ ญาณบนเรื อ นร างทั้ ง
รางกายไปจนหมด แผแคจิตสัมผัสออกมาในระยะสองสามลี้ เพื่อเปนการระมัดระวัง
ทุกอยางรอบๆ กาย
ตำแหนงที่อุโมงคลับตระกูลเฝงตั้งอยู ไมไดอยูตรงใจกลางเทือกเขา แตก็ใกลกับ
รอบนอกของสถานที่ลับแหงหนึ่ง
หนึ่งวันผานไป เมื่อหานลี่คนหาไปรอบๆ เทือกเขา ในที่สุดก็พบน้ำตกขนาดใหญ
สูงสองสามรอยจั้งตรงเนินยอดเขาที่ไมสะดุดตาแหงหนึ่ง
เมื่อมองน้ำตกและทัศนียภาพรอบๆ เบื้องหนาแลว ลวนเหมือนกับที่ในคัมภีร
บันทึกเอาไวอยางไรอยางนั้น จิตใจที่หนักอึ้งของหานลี่จึงถือไดวาผอนคลายลง
มองไปยังสายน้ำสีเงินที่ไหลลงมาจากทองฟา หานลี่ขับเคลื่อนยุทธภัณฑลอยตัว
อยูกลางอากาศ เพื่อหลบหลีกน้ำ เขาพลันชูมือทั้งสองขึ้นอีกครั้ง ลำแสงสีเขียวสอง
สายสวางวาบแลวจมหายเขาไปในน้ำตก เสียงอึกทึกพลันดังขึ้น บนผิวน้ำสีเงินปรากฏ
ถ้ำขนาดเสนผาศูนยกลางสองสามจั้ง
หานลี่กระตุนยุทธภัณฑอยางไมลังเลแมแตนอย คนก็บินเขาไปทันที ฉับพลันถ้ำก็
สลายหายไป กลับมาอยูในลักษณะเดิม
แนนอน หานลี่ไมรูวา ในชั่วพริบตาที่เขาไปในถ้ำนั้น ในจุดที่อยูหางจากน้ำตก
หลายลี้ มีเงารางคนสีเขียวเขมสองสายกำลังหาเปาหมายไมเจอ ทำไดแคหมุนวนโคจร
อยูที่เดิม ยิ่งไปกวานั้นเปนเพราะความโกรธเกรี้ยว เงารางของคนทั้งสองจึงแยกเขี้ยว
แหลมคมสีดำออกมา พลางเปลงเสียงคำรามทุมต่ำบางเปนครั้งคราว ราวกับศีรษะทั้ง
สองคือหัวอสูรที่โหดรายอยางไรอยางนั้น
แตสิ่งที่เงารางทั้งสองคิดไมถึงก็คือ ดานหลังของเขาทั้งสองหางออกไปสองสามลี้
มีแขกไมไดรับเชิญที่อำพรางกายอยูอีกสองคน กำลังจองเขม็งไปยังเงาแผนหลังของ
พวกเขาอยางเย็นชา แลวกมหนากระซิบกระซาบอะไรกันสักอยางอยู
ตอนที่ 914 เขาไปในอุโมงคลับ
“เปนอยางไรบาง? มั่นใจวาจะกำจัดพวกมันทั้งสองกอนที่มารเฒาเปลวระยับจะ
รูตัวไดหรือไม มิเชนนั้นหากพวกมันหนีไปได จะตองเปนการแหวกหญาใหงูตื่นแน”
เงารางคนหนึ่งในสอง ใชน้ำเสียงแหลมสูงเปนพิเศษ ถายทอดเสียงไปหาอีกคนหนึ่ง
“เหอะ! สิ่งที่เรียกวารางแยกของราชันยเปลวระยับก็เปนแคเคล็ดวิชาลับกระชาก
วิญญาณแยกราง ใสในรางของผูใตบังคับบัญชาแลวทำใหหลายเปนหุนเชิดของตัวเอง
เทานั้น สติปญญาก็ลดลงเปนอยางมาก ถึงแมวาจะอยูในระดับกอกำเนิดขั้นตน แต
เทียบกับผูบำเพ็ญเพียรในระดับเดียวกันแลว ก็จัดการไดอยางงายดาย หากเรารวมมือ
กัน การกำจัดพวกมันจะเปนเรื่องที่ยากอะไร แตในชวงเวลานี้ คาดไมถึงวาเจามาร
เฒาจะปลอยใหรางแยกของตัวเองออกมาเคลื่อนไหวตามลำพัง แตสวรรคนั้นชวยเรา
จริงๆ หลังจากกำจัดพวกมันแลว ก็เทียบกับวาตัดแขนขางหนึ่งของเขาทิ้ง ถึงเวลานั้น
ก็จะมั่นใจมากขึ้นแลว” อีกเสียงหนึ่งที่คอนขางทุมต่ำ เอยขึ้นอยางโหดเหี้ยม
“พี่เทียนเฟงพูดมีเหตุผล เพียงแตขานอยรูสึกประหลาดใจเล็กนอย รางแยกสอง
รางนี้ ก ำลั งไล ต ามใครสัก คนอยู คาดไม ถึ งวาจะถู ก ส งออกมาจากสุ ส านโบราณใน
ชวงเวลาสำคัญเชนนี้ ยิ่งไปกวานั้นตอนนี้ยังหาเปาหมายไมพบอีก” เสียงที่หนึ่งเอย
อยางไมเขาใจนัก
“ใครจะรูเลา? ไมวาจะเปนใคร ก็ไมมีผลกระทบอะไรกับแผนของพวกเรา เมื่อราชันย
เปลวระยับออกจากหองสุสาน พลังยุทธจะตองลดลงเปนอยางมาก นี่เปนโอกาสดีที่
หาไดยากสุดๆ โดยปกติแลวเจามารเฒานั่นจะเจาเลหเพทุบายยิ่งนัก ไมยอมออกจาก
หองสุสานแมแตนอย เวลานี้หากไมใชเพราะขาทำใหเขาติดกับ เกรงวาพวกเราคงไมมี
โอกาสเลยแมแตนอย ถึงอยางไรเสียหากมารเฒาอยูในสุสานโบราณ ความสามารถก็
ไมไดดอยไปกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายเลยแมแตนอย”
“เหอะๆ! หากมารเฒาเปลวระยับรูวาสหายบอกแผนลับใหอีกสองตระกูลรูกอน
ไมรูวาสีหนาจะเปนเชนไร คิดดูแลวสองตระกูลนี้ คงเชิญสำนักที่อยูเบื้องหนามา เพื่อ
รอใหมารเฒามาไปติดกับอยูนานแลว ยิ่งไปกวานั้นตอใหมารเฒามีความสามารถอื่น
อีก จนโชคดีหนีจากการลอมสังหารได ก็ยังมีพวกเราที่รอโจมตีที่หองสุสานอีก ตอให
เขามีปกก็บินหนีไดยากแลว” เสียงแหลมสูงหัวเราะอยางเยาะเยยออกมาขณะเอย
“ใชแลว ครั้งนี้พี่นองอยางพวกเราวางแผนมาเกือบสิบปกวาจะสำเร็จ ยิ่งไปกวา
นั้นวันที่วางกับดัก ตั้งแตตนจนจบก็ไดสงผูใตบังคับบัญชาไปเฝาติดตามการเคลื่อนไหว
ของมารเฒาตลอด ถึงควาโอกาสที่เหมาะสมได เมื่อกำจัดมารตัวนี้แลว ‘ฮูหยินอวี้หัว’
ชายารักของเขาและโอรสที่เพิ่งบรรลุระดับราชันยซากศพ ก็ไมใชคูตอสูหากพวกเรา
สามคนรวมมือกันแลว ถึงเวลานั้น ไมวาจะเปนสมบัติที่มารเฒาสะสมมาหลายป หรือ
วาจะเปนทหารซากศพหลายพันตัวที่หลับใหลอยูในสุสาน ก็เพียงพอใหพวกเราสาม
คนแบงกันอยางยุติธรรมแลว ยิ่งไปกวานั้นไดยินวารางซากสวรรคของมารเฒาใกลจะ
เสร็จสมบูรณ แลว จากความรอบคอบของเขา คิดดูแลวคงใกลจะหลอมไขมุกซาก
สวรรคเสร็จแลวและซอนเอาไวในหองสุสานเปนแน ขอแคไดไขมุกเม็ดนี้มา กำจัดจิต
วิญญาณดั้งเดิมของเขาทิ้ง พวกเราก็นับไดวาไมใชรางราชันยซากศพแลว และสามารถ
อาศัยสิ่งนี้ทำใหรางกายฝกฝนจนกลายเปนหัวทองแดงแขนเหล็กกลา ไมกลัวน้ำไม
กลัวไฟ นี่เปนสมบัติที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการฝกฝนรางกาย” น้ำเสียงของผูที่มีนามวา
‘พี่เทียนเฟง’ แฝงความละโมบเอาไว
“หึๆ! เคล็ดวิชาที่ตาเฒาฝกฝนนั้นไมไดเนนหนักไปที่รางกาย จึงไมไดสนใจไขมุก
ซากสวรรคนั่นเลยแมแตนอย ขานอยขอแคทหารซากศพสองสามพันคนในสุสานก็
พอแลว มีทหารซากศพเหลานี้เปนลูกมือ ขานอยก็จะมีกองกำลังจองตนเองในภูเขาไร
ถ้ำแลว” เสียงแหลมสูงหัวเราะเบาๆ ออกมาขณะเอย
“ขานอยรูอยูแลววาสหายอินจะกลาวเชนนี้ และมีเพียงมหายุทธวิญญาณซากศพ
ของสหายเทานั้น ที่สามารถควบคุมทหารซากศพพวกนี้ไดดั่งใจ มิเชนนั้นมีสหายรวม
วิถีตั้งมากมาย พี่นองอยางพวกเราจะมาหาแคสหายทำไม พวกเราสองคนและสหาย
สุดทายแลวจะไดสิ่งที่ตนเองตองการ!” อีกคนหนึ่งไดยินคำพูดนี้ ก็ดูเหมือนวาจะดีอก
ดีใจเปนอยางมาก
“นั่นมันแนนอนอยูแลว ทวาเวลาก็ผานมาพอสมควรแลว พี่ขวงซาที่ตามมารเฒา
ไปนาจะไมมีปญหาอะไร เพื่อไมใหเวลาลวงเลยไป พวกเรารีบกำจัดรางแยกทั้งสอง
ของมารเฒากันเถิด จากนั้นก็กลับไปรอลอบโจมตีที่สุสาน มิเชนนั้นถาหากปลอยให
มารเฒากลับมายังสุสานได นั่นจะแยไปกันใหญ” เจาของเสียงแหลมสูงพิจารณาเงา
รางสีเขียวสองสายที่เดินไปเดินมาเบื้องหนาซึ่งอยูไกลออกไป แลวเอยปากแนะนำ
“อืม ถึงเวลาอันสมควรแลวแลว มารเฒานั่นนาจะออกไปจากเทือกเขาเนินหิมะ
แลว พวกเราลงมือเถิด”
‘พี่เทียนเฟง’ ลังเลเล็กนอย แลวพยักหนาเห็นดวย
เวลานี้เงารางสีเขียวสองสายที่อยูไกลออกไป ยังคงคำรามดวยเสียงต่ำๆ อยางหัว
เสียอยู
หลังจากผานไปชั่วครู จูๆ ก็สัมผัสไดวาดานหลังมีระลอกไอวิญญาณที่นาตกตะลึง
ระเบิดออก พวกมันพลันหันกายกลับไปมองพรอมกัน
สิ่งที่เขามาในครรลองสายตาคือเมฆมารสีดำสนิ ท ผืนใหญ และพายุห มุนสีขาว
โพลนมืดฟามัวดิน พุงทะยานมาจากทองฟาพุงเขามากดทับพวกมันเอาไว ชั่วครูก็กลืน
กินทั้งสองเขาไปขางใน…
......
เวลานี้ หานลี่ยืนอยูหนาประตูหินที่ซอนอยูหลังมานน้ำตก และไมรูวาปญหาที่
กำลั ง จะมาถึ ง ตั ว แต เดิ ม นั้ น คาดไม ถึ ง ว า จะถู ก คนอื่ น ๆ กำจั ด ทิ้ ง ไปอย า งแปลก
ประหลาด มิ เช น นั้ น หากร า งแยกทั้ ง สองเข า มา ถึ ง แม ว า หานลี่ จ ะสั ง หารศั ต รู ที่
แข็งแกรงไดอยางงายดาย แตโอกาสสุดทายในการปลดผนึกลมปราณ ก็จะถูกทำลาย
ลงอยางแนนอน
เวลานี้แววตาของเขา ตกกระทบลงที่มุมซายลางของประตูหิน ตรงนั้นมีรอยนูน
เล็กๆ อยู ดานบนมีรูเล็กๆ ขนาดสองสามชุนรูหนึ่ง
หานลี่ใชมือหนึ่งปดไปที่ยามเก็บของ กุญแจดอกนั้นเปลงแสงสีเงินสวางวาบและ
ปรากฏขึ้นในมือ
เมื่อดีดนิ้ว ลำแสงสีเงินพุงเขาไปในรูนั้นอยางพอดิบพอดี
ลูกกุญแจครึ่งแรกมีความยาวพอดี และเสียบเขาไปในรูนั้นไดอยางพอดิบพอดี
เผยลูกกุญแจอีกครึ่งหนึ่งออกมาดานนอก
หานลี่เห็นเชนนั้นพลันหัวเราะนอยๆ ออกมา ยื่นนิ้วมือออกไปชี้ไปยังกุญแจดอก
นั้นเบาๆ
เสนไหมวิญญาณสีเขียวสายหนึ่ง พุงไปยังลูกกุญแจอยางพอดิบพอดี ชั่วขณะนั้น
ลูกกุญแจพลันบิดเปนครึ่งวงกลมโดยอัตโนมัติ ประตูหินที่แตเดิมเปนสีเทาขาวเยียบ
เย็น เปลงแสงระยิบระยับออกมาทันที มานสีขาวราวกับน้ำนมปรากฏขึ้น จากนั้น
พลันสั่นคลอนเล็กนอย ประตูหินคอยๆ เลื่อนขึ้นไปดานบน รูขนาดไมใหญนักปรากฏ
เบื้องหนา
หานลี่กวาดตาไปทางรูนั้นแวบหนึ่ง แลวเดินเขาไปอยางไมรีบรอน
หลังจากเดินเขาไปไดสิบกวาจั้ง เขตอาคมสงตัวขนาดสองสามจั้งก็ปรากฏขึ้นเบื้อง
หนา รอบๆ ของเขตอาคมมีหลุมเวาลงไปเจ็ดแปดหลุม และทั้งหมดลวนวางเปลา
เมื่อเห็นฉากนี้ หานลี่พลันหัวเราะนอยๆ ออกมา
ถาหากเปนคนที่ไมรูจักความลี้ลับนี้ แลววางศิลาวิญญาณลงไปในรอยเวาพวกนี้
เกรงวาคงถูกสงตัวไปแลวถูกฉีกออกเปนชิ้นๆ กลางอากาศ
ผูที่ออกแบบอุโมงคลับของตระกูลเฝงในปนั้น ชางซับซอนจริงๆ!
หานลี่สาวเทาไปอยูเบื้องหนาเขตอาคม แววตาเปลงประกายสองสามครั้งแลว
สะบัดแขนเสื้อ ศิลาวิญญาณระดับต่ำหากอนบินเขาไปหลุมทั้งหาอยางพอดิบพอดี
จากนั้นพลันชูมือขึ้น อาคมสายหนึ่งโจมตีไปบนเขตอาคม
ชั่วขณะนั้นเขตอาคมสงตัวทั้งหมดพลันเปลงเสียงหึ่งๆ ทุมต่ำออกมา!
จากทักษะดานเขตอาคมของหานลี่ เขตอาคมสงตัวนี้มีความผิดปกติหรือไม มอง
ปราดเดียวก็มองออกแลว รางของเขาแวบหายไปดวยความวางใจ คนก็ยืนอยูตรงใจ
กลางของเขตอาคม
ลำแสงสีขาวมวนเอาตัวเขาเขาไป เงารางของหานลี่สลายหายไปทามกลางลำแสง
วิญญาณ เห็นไดชัดวาถูกสงตรงไปยังสถานที่ที่อยูไมไกลนัก จากจิตสัมผัสที่แข็งแกรง
ของหานลี่ ทำใหไมไดรูมึนหัวนัก ลำแสงสีขาวสวางวาบปรากฏตัวขึ้นในหองโถงใหญ
นิรนามแหงหนึ่ง
เขากวาดสายตาไป จดจำสถานการณในหองโถงทั้งหมดเอาไว
ที่นี่ไมนับวาใหญนัก มีขนาดแคยี่สิบกวาจั้งเทานั้น บนพื้นและกำแพงทั้งสี่ดาน
สะอาดเรียบรอยเปนพิเศษ ลวนใชศิลาอุนที่แปลกประหลาดกอขึ้น ของในหองโถงเอง
ก็มีไมมากนัก มีเพียงชั้นวางไมสีเขียวมรกตสองชั้นและหีบสีเงินขนาดหลายฉื่อสามใบ
เทานั้น
นี่ก็คืออุโมงคลับของตระกูลเฝง ขนาดของมันเล็กๆ ตามที่หานลี่คาดการณเอาไว
ชั้นไมพวกนี้ไมรูวาใชวัตถุดิบพิเศษอะไรสรางขึ้น วางเอาไวนานขนาดนี้ สีสันของ
มันยังไมเปลี่ยนแปลง และยังแฝงไวดวยกลิ่นหอมจางๆ
บนชั้ น วางของ มี ยุ ท ธภั ณ ฑ ร ะดั บ ต า งๆ วางเรี ย งรายอยู โดยมี ยุ ท ธภั ณ ฑ
ระดับกลางเปนหลัก มีอยูประมาณสามสิบกวาชิ้น นอกจากนี้ก็มีสมบัติอาคมนิรนาม
อยูสองสามชิ้น ดูสะดุดตาเปนพิเศษ ชั้นวางของอีกชั้น มีคัมภีรหลากสีสันวางอยู มีอยู
เกือบรอยมวน วางซอนๆ กันอยางแนนหนาอยูบนชั้นไม
หานลี่เองก็ไมไดสนใจยุทธภัณฑและสมบัติอาคมมากนัก และไมไดเหลือบมองหีบ
สองสามใบนั้น เดินตรงไปยังชั้นไมที่วางคัมภีรอยูโดยไมเปลงคำพูดใดๆ ออกมา
หลังจากกวาดสายตาไปแลว เขาก็หยิบคัมภีรมวนหนึ่งออกมา แผจิตสัมผัสเขาไป
ในนั้นอยางรวดเร็ว จากจิตสัมผัสของหานลี่ หลังจากผานไปหนึ่งมื้ออาหาร คัมภีรพวก
นี้ก็ถูกพลิกผานรอบหนึ่ง
ผลลัพธคือลวนไมเกี่ยวของกับเคล็ดวิชาของสำนักพุทธ จึงอดที่จะรูสึกประหลาด
ใจไมได
หรือวาคำพูดของเฝงเจิ่นผูนั้น ไมเปนความจริง?
หานลี่สายศีรษะ หลังจากโยนความคิดนี้ทิ้งไป เขาไดใชเคล็ดวิชาดึงดูดฝนออกมา
ตรวจสอบว า เรื่ อ งนี้ เป น ความจริ ง หรื อ ไม จากจิ ต สั ม ผั ส ของอี ก ฝ า ยนั้ น ไม มี ท าง
หลอกลวงตนเองได หลังจากขบคิดแลว ในที่สุดสายตาของหานลี่ก็ตกไปที่หีบสีเงิน
สามใบนั้น
หลังจากขบคิดเล็กนอย หานลี่ก็สาวเทาเดินเขาไป สะบัดแขนเสื้อ เปดพวกมัน
ออกทีละใบๆ
ในหีบใบแรกมีศิลาวิญญาณระดับกลางอยูเต็มไปหมด มีประมาณสองสามรอย
กอน อีกใบหนึ่งมีกลองหยกขนาดนอยใหญอยูเต็มไปหมด
หลังจากหานลี่ใชจิตสัมผัสกวาดผานไป ก็พบวาดานในลวนเปนวัตถุดิบการหลอม
ยุทธภัณฑและปรุงยาที่หายาก แคมองไปปราดเดียวก็รูวามูลคาของมันพอๆ กับกลอง
ที่มีศิลาวิญญาณอยูเต็มไปหมดนั่น
หลังจากเปดหีบสองใบนี้ออก และยังหาของที่ตนเองตองการไมพบ สีหนาของ
หานลี่ก็อดที่จะเครงขรึมขึ้นสองสามสวนไมได
หลังจากที่หีบใบสุดทายถูกเปดออก สิ่งที่ปรากฏในครรลองสายตาของหานลี่กลับ
เปนยันตวิเศษขนาดนอยใหญท่ีเปลงแสงหลากสีสัน ชั่วขณะนั้นหานลี่พลันเผยสีหนา
สิ้นหวังออกมา ทวารอจนเขาแผจิตสัมผัสออกไปตรวจสอบหีบใบนั้นอยางละเอียด
แลวกลับหนาเปลี่ยนสี ยื่นมือหนึ่งออกไปควาอากาศเหนือหีบใบนั้นเอาไว
เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้นคราหนึ่ง ของสิ่งหนึ่งบินพุงออกมาจากดานลางของเหลายันต
วิเศษ ตกอยูในมือของหานลี่
เมื่อพิจารณาอยางละเอียด ก็เห็นเปนกลองไมสีแดงสดขนาดความยาวครึ่งฉื่อ
ดานบนแปะยันตวิเศษสีเหลืองออนใบหนึ่งเอาไว ผิวของกลองไมสลักตัวอักษรและ
สัญลักษณของสำนักพุทธเอาไว
หานลี่มองยันตวิเศษปราดเดียวก็มองออกวาของสิ่งนี้ใชเพียงยันตวิเศษธรรมดาๆ
กักไอวิญญาณเอาไวเทานั้น ทันใดนั้นก็ฉีกยันตวิเศษแผนนั้นออกอยางไมลังเล แลว
เปดกลองไมออก
ผลลัพธคือเมื่อฝากลองเปดออก ลำแสงวิญญาณเจ็ดสีกลุมหนึ่งก็พุงออกมาจาก
กลอง เปลงแสงแหงพุทธออกมา ไขมุกสีขาวบริสุทธิ์ราวกับน้ำนมขนาดเทาหัวแมมือ
ปรากฏขึ้นอยางกะทันหัน
“พระธาตุ!” หานลี่รอ งอุท านออกมาเบาๆ ใบหน าอดที่ จะเผยสีห น าดีอ กดีใจ
ออกมาไมได
เพราะวาสิ่งที่อยูในกลองขางๆ พระธาตุนั้นก็คือยุทธภัณฑสำนักพุทธสองชิ้นและ
คัมภีรสีเหลือง
ยุทธภัณฑคือธรรมจักรและลูกประคำสีทองออน เปลงแสงวิญญาณออกมานอยๆ
สวนคัมภีรนั้นถึงแมวาจะดูไมสะดุดตา แตหานลี่ในเวลานี้กลับสนใจแคสิ่งนี้เทานั้น
เขายื่นมือออกไปหยิบคัมภีรมวนนั้นขึ้นมา แลวแผจิตสัมผัสเขาไปอยางอดรนทน
รอไมไหว
ตอนที่ 915 คาถาราชันยกระจาง
“วิชาพยัคฆ ห มอบ คัมภี รวัฏ จักร…คาถาราชั น ย กระจาง…” หลั งจากที่ ห านลี่
กวาดสายตาผานอยางเร็วๆ แลว ก็อานชื่อของเคล็ดวิชาเหลานี้ออกมา แคอานชื่อก็รู
แลววาบันทึกในคัมภีรมวนนี้ลวนเปนเคล็ดวิชาของสำนักพุทธ
‘คาถาราชันยกระจาง! เคล็ดวิชานี้ขาเคยไดยินมากอน เปนเคล็ดวิชาที่หายาก
ชนิดหนึ่งซึ่งเปนการฝกฝนเกราะปองกันวัชระของสำนักพุทธโดยเฉพาะ ดูเหมือนวา
จะเปนสิ่งฝกฝนยากมากๆ บรรพชนของตระกูลเฝงผูนี้มีคาถานี้ไดอยางไร? เอาคัมภีร
มาใหขาดูซิวาจะใชเคล็ดวิชานี้กำจัดไอมารไดหรือไม’ แตเมื่อเอยคำวา ‘คาถาราชันย
กระจาง’ ออกมา เทพขับเคลื่อนกลับเอยปากขึ้นอยางตกตะลึง
หานลี่ไดยินคำนี้ ก็รูสึกดีอกดีใจ
เขาไมสนวาบรรพชนของตระกูลเฝงผูนี้ไดเคล็ดวิชานี้มาไดอยางไร ขอแคชวยเขา
กำจัดไอมารไดก็พอแลว ดังนั้น เขาจึงโยนคัมภีรไปที่กระบอกไมไผดานหลังอยางไม
ตองคิด
ในเวลาตอมา ขณะที่เทพขับเคลื่อนกำลังตั้งใจเรียนรูเคล็ดวิชาในคัมภีรนั้น หานลี่
ก็เริ่มคนหาสิ่งที่มีมูลคาสูงในอุโมงคลับของตระกูลเฝงแลวยัดใสในยามเก็บของเอาไว
อยางไมเกรงใจทันที
ตามความตั้งใจเดิมของหานลี่ แนนอนวาอยากเอาของทั้งหมดนี้ออกไป แตนา
เสียดายที่ยามเก็บของของเขามีจำกัด นอกจากศิลาวิญญาณพวกนี้แลว ก็ทำไดเพียง
คัดเลือกของที่เหลือแลว
แนนอนวาตองเอาสมบัติอาคมสองสามชิ้นนั้นไป วัตถุดิบและยันตวิเศษ ก็หาที่มี
ประโยชนตอเขาและนำไปเพียงสวนหนึ่ง
สวนยุทธภัณฑพวกนั้น หานลี่เอาไปเพียงสองสามชิ้นที่มีประสิทธิภาพมหัศจรรย
สวนที่เหลือนั้นไดทิ้งไวบนชั้น มิไดไปแตะตองเลยแมแตนอย
หลั ง จากคั ด เลื อ กของเสร็ จ แล ว หานลี่ ก็ หั น มาเผชิ ญ หน า กั บ กองม ว นคั ม ภี ร
ตรงหนา พลิกหาเคล็ดวิชาที่ตนเองสนใจจากการแผจิตสัมผัสออกไปเมื่อครู จากนั้นก็
นั่งสมาธิลงภายในหองโถงเงียบๆ โดยไมไดเอยคำใด
เวลาคอยๆ เคลื่อนคลอยผานไป ไมรูวาผานไปนานเทาไหร ในที่สุดเสียงของเทพ
ขับเคลื่อนก็ดังขึ้นกลางหองโถงที่วางเปลา ดึงความสนใจของหานลี่ออกจากเคล็ดวิชา
ในมือทันที
‘คาถาราชันยกระจางนี้มันชั่วรายไปหนอย! บอกวาเปนเคล็ดวิชาของสำนักพุทธ
แตวิธีการฝกฝนมันเผด็จการเกินไป คาดไมถึงวาจะมีแนวโนมไปทางเคล็ดวิชาสาย
มาร’ เทพขับเคลื่อนเอยขึ้นอยางเชื่องชา
“เคล็ดวิชาสายมาร! หมายความวาอยางไร? เคล็ดวิชานี้มันจะกำจัดไอมารบนราง
ของขาไดหรือไมกันแน?” หานลี่รูสึกจิตใจหนักอึ้ง เอยถามอยางเยือกเย็น
‘อยาเพิ่งรีบรอน ในเรื่องของไอมารนั้น ขาตองขอแสดงความยินดีกับเจา เคล็ด
วิชานี้สามารถแกไขปญหาของเจาได ทวา คาถานี้ไมใชการกำจัดไอมารออกไป แต
เปนวิธีที่ใกลเคียงกับเคล็ดวิชาสายมาร คือนำไอมารมาหลอมเปนพลังยุทธเอาไวใช
แต จ ากวิธีการฝก ฝนนั้ น สามารถมองออกได วา หากฝ กฝนเคล็ ด วิช านี้ ไปอาจจะมี
อันตรายกับตนเอง ถึงอยางไรเสียเจาไอมารก็ไมใชสิ่งที่จะจำกัดออกไปไดงายๆ หรือ
ถาเจาจะไปตามหาเคล็ดวิชาสำนักพุทธวิชาอื่น ก็ขบคิดถึงขอดีขอเสียของมันเองก็แลว
กัน!’
เทพขับเคลื่อนครุนคิดเล็กนอย เอยความคิดของตัวเองออกไป แลวโยนคัมภีร
มวนนั้นออกมาจากกระบอกไมไผ
“เอาไอมารมาใช ห รื อ ? หากฝ ก ฝนจนถึ ง ระดั บ สู ง คงไม ใช ว าต อ งเข าไปอยู ใน
เสนทางแหงมารโบราณหรอกนะ!” หานลี่รับคัมภีรมวนนั้นมา พลันใจหายวาบ เอย
ถามขึ้นอยางตื่นตัว
‘เรื่องนี้เจาไมตองกังวล ในเมื่อคาถาราชัน ยกระจางเป นเคล็ดวิชาที่ใชฝกฝน
เกราะปองกันของสำนักพุทธ แนนอนวาไมเกี่ยวของอะไรกับทางสายมาร ถึงแมวา
ขั้นตอนการฝกฝนของมันจะรุนแรงไปหนอย แตก็ไมเหมือนกับการฝกฝนไอมารของ
เคล็ดวิชาสายมาร มันแคเอาไอมารมาเปนตัวชวยเสริม ไมไดเอาไอมารมาใชโจมตีศัตรู
โดยตรง เชนนั้นก็จะเก็บรักษาความชั่วรายของไอมารไวได แตผลเสียในนั้นคือ จะ
กำจัดไปไดเพียงเจ็ดแปดสวน จิ๊ๆ คนของสำนักพุทธชางเกงกาจจริงๆ คาดไมถึงวาจะ
คิดคนเคล็ดวิชาสายพระพุทธที่สามารถใชไอมารได เดาวาสติปญญาของเขาจะตอง
เหนื อ กว าตาเฒ า ไม มี ท างด อ ยกว า ตาเฒ า แน น อน เพราะเคล็ ด วิ ช านี้ มี อิ ท ธิ ฤ ทธิ์
มากกวาเคล็ดวิชาขับเคลื่อน’ เทพขับเคลื่อนเอยอยางนับถืออยูสองสามสวน
หานลี่ ไ ด ฟ ง คำพู ด ของเทพขั บ เคลื่ อ นที่ บ อกว า คาถานี้ เหนื อ กว า เคล็ ด วิ ช า
ขับเคลื่อน ก็อดไมไดที่จะเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่ง ทันใดนั้นพลันแผจิตสัมผัสเขาไปในคัมภีร
อีกครั้งทันที พลางพิจารณาคาถาราชันยกระจางอีกรอบอยางละเอียด แตอานไปได
เพียงชั่วครู เขาก็รองอุทานออกมาดวยความประหลาดใจ
“เอ! คาถานี้ดูคุนตามาก เหมือนขาเคยเห็นมาจากที่ไหนมากอน!”
‘เจาเคยเห็นหรือ?’ เทพขับเคลื่อนรูสึกตกตะลึงเล็กนอย
“ใช แ ล ว... ข านึ ก ออกแล ว! เคล็ ด วิช านี้ เหมื อ นกั น กั บ เคล็ ด วิช าของเผ าป ศ าจ
มาก!” ขบคิดชั่วครู หานลี่ก็นึกอะไรออก ยื่นมือออกไปควานหาของในยามเก็บของ
แผนทองแดงขนาดเทาฝามือ ปรากฏขึ้นในมือ
นั่นก็คือแผนพราหมณศักดิ์สิทธิ์เที่ยงแทที่เขาลืมไปตั้งนานแลวแผนนั้น!
หานลี่ไมเอยอะไร วินิจฉัยตัวอักษรปศาจบนแผนทองแดงนั้นอีกครั้งอยางละเอียด
หลังจากผานไปชั่วครู เขาก็พบวา สิ่งที่เรียกวาคาถาราชันยกระจางและตัวอักษร
ป ศ าจในเคล็ ด วิ ช านั้ น ถึ ง แม ว า เนื้ อ หาจะไม เหมื อ นกั น แต เห็ น ได ชั ด ว า มาจาก
แหลงที่มาเดียวกัน และเคล็ดวิชาทั้งสองชนิดนี้
เห็นไดชัดวาคาถาราชันยกระจางมีความตื้นเขินมากกวาคาถาบนแผนทองแดง
เปนอยางมาก แตทั้งสองก็ยังใหความรูสึกที่คลายคลึงกัน ทำใหหานลี่รูสึกงุนงง และ
สับสน
‘แผนทองแดงนี้มันคืออะไรกันแน?’ เทพขับเคลื่อนเห็นหานลี่อานคัมภีรแวบหนึ่ง
อานแผนทองแดงแวบหนึ่ง ก็มีสีหนาประหลาดใจอยางสุดๆ จนอดไมไหวเอยถามขึ้น
“ทานอาวุโสก็ดูเอาแลวกัน ชนรุนหลังมีประสบการณจำกัด ดูไมออกจริงๆ วามัน
เกี่ยวของกันหรือไม บางทีทานอาวุโสอาจจะอธิบายใหชนรุนหลังฟงได” หานลี่ลังเล
เล็กนอย แลวถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง โยนแผนทองแดงเขาไปในกระบอกไมไผที่
อยูดานหลัง ในเวลาเดียวกันก็กอดอกพลางครุนคิด
‘นี่คืออักษรปศาจ ในเมื่อเปนเชนนี้ เคล็ดวิชานี้ก็นาจะเปนเคล็ดวิชาที่ไมธรรมดา
ในเผาปศาจ ขาขอดูหนอย…’ หลังจากที่เทพขับเคลื่อนเอยพึมพำแลว ก็เงียบเสียงลง
เห็นไดชัดวากำลังอานคาถาบนแผนทองแดงแผนนั้น
เวลานี้ เทพขับเคลื่อนเสียเวลาไปไมนานนัก หลังจากผานไปเพียงหนึ่งเคอก็ให
คำตอบที่ชัดเจนกับหานลี่ได
‘ในที่สุดก็มองเคาเรื่องออกนิดหนอยแลว เห็นไดชัดวา ‘คาถาราชันยกระจาง’
ของสำนักพุทธนั้นปรับแกมาจากเคล็ดวิชาของเผาปศาจ และยิ่งไปกวานั้นขอบกพรอง
พื้นฐานสวนหนึ่งในแผนทองแดงก็ถูกแกไขแลว’ เทพขับเคลื่อนคอยๆ เอยอยางมั่นใจ
“เชนนี้นี่เอง แตสวนสุดทายของคาถาราชันยกระจางนั้น ดูเหมือนวาจะยังคง
สัมพันธกับแผนทองแดง ในนั้นนาจะยังมีจุดบกพรองอยูอีกหนึ่งสวน” หานลี่ในเวลานี้
ถึงไดขบคิดเสร็จสิ้น แลวเงยหนาขึ้นเอยความคิดของตัวเองออกมา
‘คิดไมถึงวาเจาเด็กนอยหานอยางเจาจะมองจุดนี้ออกดวย ใชแลว เคล็ดวิชาเผา
ปศาจทั้งชุดนาจะแบงออกเปนสามสวนถึงจะถูก คาถาราชันยกระจางสรางขึ้นมาจาก
สวนที่เปนพื้นฐานที่สุด บันทึกบนแผนทองแดงนี้คือคาถาที่ใชสำแดงความสามารถ
สวนสุดทาย และตรงกลางก็ขาดสวนของภาพลวงตาไป
เคล็ดวิชาชุดนี้จึงไมธรรมดา นาสนใจจริงๆ! สามหัวหกแขน! นั่นก็ไมตางอะไรกับ
ความสามารถที่มารโบราณสำแดงนักสินะ?
ขาเคยไดยินคนพูดถึงมาตั้งนานแลว เผาปศาจนั้นเปนเผาแรกที่ไดสัมผัสกับแดน
มารโบราณ ดูแลวคำพูดนี้คงเปนเรื่องจริงมิไดหลอกลวง’ เทพขับเคลื่อนคาดไมถึงวา
จะหัวเราะเสียงต่ำๆ ออกมา ดูเหมือนวาจะรูสึกสนใจเปนอยางมาก
“เชนนั้น เคล็ดวิชาชุดนี้ก็นาจะเปนสิ่งที่เผามารถายทอดใหเผาปศาจสินะ จากนั้น
สำนักพุทธก็ไดรับมาสวนหนึ่ง จึงเปลี่ยนเปนคาถาราชันยกระจางจนถึงทุกวันนี้ เคล็ด
วิชาชุดหนึ่งคาดไมถึงวาจะถูกมารปศาจพุทธสนใจในเวลาเดียวกัน ดูแลวคงมีที่มาที่ไป
และมีจุดที่พิเศษเปนของตัวเองแน แตไมวาเคล็ดวิชานี้จะมีอานุภาพมากนอยเพียงใด
เบญจภูตบนรางของขาก็อาจจะผนึกไอมารไมไหวไดตลอดเวลา ขาจะไมสนใจอะไร
มากแลว มีเพียงตองฝกฝนคาถาราชันยกระจาง เพื่อกำจัดอันตรายที่อยูตรงหนาแลว
คอยวากันแลวละ” หานลี่ขบคิดอยูนาน ก็ทำไดเพียงถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
ขณะเอย
‘อืมจะวาไปแลวก็ใช หากเสียเวลาไปตามหาเคล็ดวิชาอื่นอีก เกรงวาคงมีเวลาไม
พอ และยิ่งไปกวานั้นคาถาราชันยกระจางก็ยุงยากสำหรับคนอื่นดวย แตเจานั้นแต
เดิมก็มีกลิ่นอายชั่วรายที่หนาแนนอยูแลว คิดดูแลวนาจะฝกฝนไดอยางราบรื่น’
เทพขับเคลื่อนครุนคิด แลวเอยขึ้นอยางเห็นดวย
“หวังวาจะเปนเชนนั้นกระมัง ทวาเคล็ดวิชานี้ดูเหมือนวาจะตองใชพระธาตุวัชระ
ถึงจะฝกฝนได ขาจะฝกฝนไดโดยไมมีปญหาหรือ” หานลี่คิดถึงอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได
แลวเอยถามอยางลังเลใจ
‘พระธาตุวัชระ เจาไมใชวาเพิ่งไดมาเม็ดหนึ่งหรือ! นั่นก็นับวาเจามีบุญวาสนา มิ
เชนนั้นตาเฒาคงไมแนะนำใหเจาฝกฝนคาถานี้หรอก ถึงแมวาพระธาตุอื่นจะพอฝน
ใชได แตเทียบกับพระธาตุวัชระแลวก็มีผลที่แตกตางกันมาก
รอจนอสูรวิญ ญาณของเจาดูดซับเพลิงซากศพในเกราะปองกันวัชระเสร็จแลว
เจาก็หลอมเกราะปองกันวัชระใหเสร็จ ตาเฒาจะถายทอดคาถาชุดหนึ่งใหเจา ทำให
ของสิ่งนี้กลายเปนสมบัติอาคมประจำกาย เชนนั้น ก็ไมมีปญหาแลว ตอนนั้นที่ตาเฒา
ออกไปหาประสบการณขางนอก เคยรูสึกสนใจพระธาตุพวกนี้ แมกระทั่งเคยปลอมตัว
เขาไปในสำนักพุทธอยูสิบกวาป เพื่อศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ ไมจำเปนตอง
กังวลใจเรื่องนี้ ความจริงแลวก็ไมใชแคฝกฝนคาถาราชันยกระจาง ตอใหฝกฝนเคล็ด
วิชาสำนักพุทธอื่นๆ เพื่อกำจัดไอมาร ก็ตองใชพระธาตุเชนกัน ทวาสำนักพุทธรุงเรือง
ในตาจิ้นขนาดนี้ จะหาพระธาตุสักเม็ด ก็ไมใชเรื่องที่ยากเย็นอะไร’ เทพขับเคลื่อนเอย
อยางขบคิดไวกอนแลว ดูเหมือนวาจะคิดคำนวณเรื่องมานานแลว
“หากเปนเชนนั้นขาก็วางใจ! ในเมื่อคาถานี้มีประโยชนจริงๆ ก็รีบออกจากที่นี่กัน
เถิด หลังจากที่เขามาในเทือกเขา ขาก็รูสึกไมคอยสบายใจนัก มันไมใชสัญญาณที่ดี
อะไร ตองหาแหลงชีพจรวิญญาณอื่นๆ เพื่อฝกบำเพ็ญเพียร” หลังจากที่หานลี่ขบคิด
อยางละเอียดในใจแลว ก็รูสึกวาฝกฝนคาถาราชันยกระจางไดอยางไมมีปญหา ทันใด
นั้นก็รูสึกผอนคลายลงขณะเอย
จากนั้นสายตาของเขาก็กวาดไปที่หองโถงใหญเปนครั้งสุดทาย เมื่อรูสึกวาไมมี
อะไรตกหลน คนก็สาวเทาตรงไปยังเขตอาคมสงตัวที่อยูตรงมุมหอง รางพลันหายลับ
ไปทามกลางลำแสงสีขาว
หลังจากผานไปหนึ่งมื้ออาหาร หานลี่ก็กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่ง พุงตรง
ออกไปจากเทือกเขาเนินหิมะ เขาบินไปพลาง ปรึกษาวาจะไปฝกบำเพ็ญเพียรที่ไหน
กับเทพขับเคลื่อนไปพลาง
แตหลังจากบินไปไดสองสามรอยลี้ จูๆ ก็มีเสียงกัมปนาทดังมาจากทิศทางหนึ่ง
ทั้งเทือกเขาถูกเขยาจนสั่นคลอน ราวกับแผนดินไหวอยางไรอยางนั้น
หานลี่ ที่ ไม ทั น ได ร ะวังตั ว รูสึ ก เพี ย งว าหู อื้ อ ร างกายเสี ย หลั ก ใบหน าอดที่ จ ะ
เปลี่ยนสีไมได
สายตากวาดไปยังจุดที่ไกลออกไปซึ่งเปนที่มาของเสียงอยางรวดเร็ว หานลี่มีสี
หนาเครงขรึม และเพิ่มความเร็วขึ้นโดยไมไดกลาวอะไร สายรุงสีเขียวเปลี่ยนทิศทาง
พุงไปยังแหลงที่มาของเสียงที่อยูไกลออกไป
แต ถึ ง หานลี่ จ ะบิ น ไปได ยี่ สิ บ กว า ลี้ จิ ต สั ม ผั ส ก็ ยั ง สั ม ผั ส ได ว า ที่ ด า นหลั ง มี ไ อ
วิญญาณหมุนวนระลอกใหญ จากนั้นไอสีเทากลุมหนึ่ง เมฆสีดำผืนหนึ่ง รวมทั้งพายุ
หมุนสีขาวโพลนกลุมหนึ่ง ก็พุงขึ้นไปกลางอากาศจากทางดานหลัง ความเร็วมากกวา
หานลี่ที่พลังยุทธอยูในระดับสรางปราณในตอนนี้ แนนอนวาจึงไมอาจเปรียบเทียบกัน
ได แทบจะในชั่วพริบตานั้น ก็อยูหางจากหานลี่ไปเพียงสองสามลี้!
ตอนที่ 916 เพียงสัมผัสพลันปะทุ
“แยแลว!” หานลี่รองอุทานออกมาในใจ พลันรูสึกกลัดกลุมเปนอยางมาก แตเดิม
ที่คิดจะหลบหนีไปใหไกล เวลานี้กลับมีปญหามาหาถึงที่แลว
ผูที่อยูดานหลังทั้งสามคนลวนไมธรรมดา เห็นไดชัดวาเปนผูบำเพ็ญเพียรที่อยูใน
ระดั บ ก อ กำเนิ ด ขึ้ น ไป ทว า ไอสี เทาที่ อ ยู ห น า สุ ด กลุ ม นั้ น กลั บ เดี๋ ย วอ อ นแอเดี๋ ย ว
แข็งแกรง ทาทางเหมือนไดรับบาดเจ็บหนัก ดูแลวคงเปนคนที่โชครายถูกไลสังหาร
เทานั้น
เมื่อเห็นวาไมมีทางหลบหลีกทั้งสามคนที่อยูดานหลังได หานลี่ก็ตัดสินใจ กะพริบ
รางหายไปเสียเลย ขับเคลื่อนยุทธภัณ ฑหลบไปทางดานขาง คอยดูวาทั้งสามคนที่
กำลังตั้งหนาตั้งตาไลลากันนั้น จะสนใจเขาซึ่งเปนผูบำเพ็ญ เพียรระดับสรางปราณ
เล็กๆ คนหนึ่งที่บินแฉลบผานไปหรือไม
แตรางของหานลี่เพิ่งจะแฉลบบินออกไปสิบกวาจั้ง จูๆ ลำแสงหลีกหนีก็หยุดลง สี
หนาตกตะลึงระคนสงสัยพลางมองไปทางซายทีขวาที
เวลานี้ไอสีเทาที่อยูดานหลังกลุมนั้นกลับคำรามออกมาแลวแฉลบผานรางของ
หานลี่นำไปกอน ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมมงกุฎ ใบหนาไรสีโลหิตที่ซอนอยูไอสีเทาเหลือบ
มองหานลี่แวบหนึ่ง แววตาประหลาดใจฉายแวบผานไป ชั่วพริบตากลุมไอนั้นก็พุง
ออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง
แตในตอนนั้นเอง จูๆ รอบดานที่อยูไกลออกไปก็มีเสียงสั่นสะเทือนดังขึ้น จากนั้น
น้ำเตาสีเหลืองขนาดสองสามจั้ง ก็ปรากฏขึ้นในระยะที่หางออกไปรอยจั้ง ปากของ
น้ำเตาสั่นคลอน พัดไปทางไอสีเทาฝงตรงขามที่กำลังจะหนีไปอยางพอดิบพอดี
“ทรายหยุดวิญญาณ!” คนที่อยูในไอสีเทาเห็นพายุทรายนี้ก็ตกตะลึงยกใหญ และ
หักเลี้ยวหลบดวยความหวาดกลัว คิดจะหลบหลีกพายุทรายนั้น
“ฮาๆ! พี่เปลวระยับ ตอนนี้จะหนีก็สายไปแลว” ตามมาดวยเสียงหัวเราะอยางบา
คลั่ง ชายรางใหญสวมชุดสีเหลืองที่ไวเคราแพะดกดำปรากฏตัวขึ้นเหนือน้ำเตาในชั่ว
พริบตา จากนั้นสองมือพลันรายอาคม เสียงดังลั่นไปทั่วทุกสารทิศ ในเวลาเดียวกันก็
เกิดเปนหมอกทรายสีเหลืองเขมที่หมุนเปนเกลียวลอยขึ้นไป เมื่อทรายพวกนั้นปกคลุม
ไปทั่วทองฟา บางครั้งดานในก็มีธงดามหนึ่งสวางวาบขึ้น
ผูบำเพ็ญ เพียรที่อยูในไอสีดำตางรูสึกตกตะลึง มองลงไปดานลางดวยความรีบ
รอนแวบหนึ่ง เห็นเพียงอากาศที่อยูต่ำกวาตางก็เปนสีเหลืองเชนกัน หมอกทรายนี้
คาดไมถึงวาจะปกคลุมไปในอาณาบริเวณสองสามลี้
ราชันยเปลวระยับที่แอบอยูในไอซากศพ หยุดลำแสงหลีกหนีลงดวยสีหนาขาวซีด
ใชแววตาอำมหิตจับจองไปยังชายรางใหญสวมชุดสีเหลืองที่อยูเหนือน้ำเตายักษ พายุ
หมุนสีขาวและเมฆมารสีดำดานหลังเองก็มาอยูดานหลังราชันยเปลวระยับทั้งซายและ
ขวาดวยความรวดเร็วราวกับดาวตก ลอมเขาเอาไวตรงกลางทันที
“พี่เปลวระยับ กอนหนานี้ทานก็ถูกไมตะวัน ของท านซงแห งสำนักตะวันสันติ
โจมตี ทำใหซากสวรรคที่ยังสำเร็จไมถึงครึ่งไดรับบาดเจ็บหนัก ตอนนี้ยังถูกพวกเรา
สามคนลอมเอาไวที่นี่ ทานยังจะตอตานอีกหรือ ขอแคคายไขมุกซากสวรรคออกมาดีๆ
ใหพวกเราลงอาคม ก็อาจจะไวชีวิตของทานก็เปนได ถึงอยางไรเสียพี่เปลวระยับและ
พวกเราก็คบคาสมาคมกันมานาน ถาหากจิตวิญญาณแตกสลายไป ผูแซหวงคงทนไม
ไหวจริงๆ” ชายรางใหญสวมชุดสีเหลือง เอยอยางไมรูรอนรูหนาว
“อรหันตขวงซา ขารูอยูแลววาตองเปนทาน ตั้งแตออกจากสุสานโบราณ ขาก็
รูสึกไมสบายใจอยูลึกๆ ดูแลวคงถูกทานจับตามองอยูต้ังแตเวลานั้นสินะ วางกับดักให
ขามาติดกับ พวกทานคงใชเวลานานสินะ ชางใจเย็นเสียจริง คาดไมถึงวาจะจับตามอง
ขามานานเปนสิบป ทำขนาดนี้ ขามาติดกับก็ไมใชเรื่องที่ไมคุมคาอะไร ทวา พวกทาน
คิดจริงๆ หรือวาอาศัยเพียงเขตอาคมทรายเหลืองเล็กๆ แคนี้ จะกักขาได?” จนถึง
เวลานี้ราชันยเปลวระยับก็ยังเยือกเย็น ใบหนาไมเผยความลนลานออกมาแมแตนอย
พลางเอยอยางสงบนิ่ง
“ดูแลวคำพูดกอนหนาของผูแซหวงคงไรประโยชน สหายเปลวระยับอยามาโทษ
วาผูแซหวงไรความปรานีก็แลวกัน! แตครั้งนี้พวกเราคิดไมถึงจริงๆ วานายทานจะนำ
ของที่สำคัญมากอยางไขมุกซากสวรรคติดตัวมาดวย มิเชนนั้น พวกเราคงไมมีทางให
ท านวิ่งหนี ม าถึงที่ นี่ แ น นอกจากนี้ ข าลืม บอกสหายไป เพื่ อ เป น การรับ ประกั น วา
แผนการนี้จะสำเร็จ ขานอยจึงเจาะจงยืมทรายเทวะผลึกฟาที่ทานยายศิลาสวรรค
สะสมมารอยกวาปไดครึ่งกา และผสมเขาไปในทรายหยุดวิญญาณที่อยูรอบๆ แลว ถา
หากสหายคิดจะใชเคล็ดวิชาลี้ธรณีหนีไปละก็ คงเปนเรื่องที่โงเขลามากพอดู” ผูที่สวม
ชุดสีเหลืองไมรูวามีเจตนาอะไร คาดไมถึงวาจะเอยดวยสีหนาราบเรียบ
“ทรายเทวะผลึกฟา! ทานยายศิลาสววรรคหวงทรายเทวะจะตาย ยอมใหเจาครึ่งกา!
เจ ามั น ขี้ โม ม ากเกิ น ไปแล ว” ราชั น ย เปลวระยับ พลั น หน าเปลี่ ย นสี แต ทั น ใดนั้ น ก็
เหมือนคิดอะไรขึ้นได จึงเอยขึ้นอยางเย็นเยยดวยสีหนาไมเชื่อ
“หึๆ…” อรหันตขวงซาไดยิน ก็หัวเราะอยางเย็นชาออกมาเทานั้น ไมไดเอยปาก
วิเคราะหอะไร นี่จึงทำใหราชันยเปลวระยับใจหายวาบ ใบหนายิ่งเครงขรึมมากขึ้น
จะวาไปก็แปลก ไมรูวาสามคนนี้กลัววาราชันยเปลวระยับจะสูสุดชีวิตกอนตาย
หรือวามีแผนการอื่นอะไร เห็นกันอยูชัดๆ วาเหนือกวาและยังสกัดกั้นมารเฒาเอาไวได
ทวาตั้งแตตนจนจบทั้งสามคนกลับลอมเอาไวไมเคลื่อนไหว และไมไดลงมือในทันที
ราชันยเปลวระยับเห็นเชนนั้น ก็ยิ่งรูสึกยินดี กอนหนาที่เขาจะหนีนั้น ไดสงยันต
ถายทอดเสียงขอความชวยเหลือออกไปแลว คิดดูแลวกองทัพสนับสนุนคงมาถึงในอีก
ไมชา แนนอนวายื้อเวลาไปไดสักหนอยก็ตองยื้อ
ระหวางทั้งสี่คนในเวลานี้ยังคงเงียบกริบไรสุมเสียง
ทวา นอกจากทั้งสี่คนแลว ยังมีคนที่หาที่ถูกกักเอาไวในทรายสีเหลือง แนนอนวา
คือหานลี่ผูที่ไมทันไดระวังตัวถูกดึงเขามาในเขตอาคมนี้เชนกัน
หานลี่รูสึกกลัดกลุมอยูในใจ ยืนอยูดานขางโดยไมเปลงคำพูดใดๆ หวังวาจะไม
ดึงดูดความสนใจของทั้งสามคน รออีกเดี๋ยวใหการตอสูเริ่มขึ้น ก็จะแอบแหวกมาน
อาคมออกไป ทวา ความคิดนี้ไมมีทางสมหวังได เพราะวาเมฆสีดำที่อยูดานขางมีเสียง
แหลมๆ ดังขึ้น
“ชนรุนหลังอยูที่นี่ไปก็เกะกะ กอนจะจัดการ กำจัดเขากอนแลวคอยวากัน”
มารเฒานิรนามที่ซอนตัวอยูในเมฆมาร คาดไมถึงวาจะมุงจิตสังหารมาหาหานลี่
“ก็ดี จะไดไมมีอุปสรรค!” ชายรางใหญสวมชุดสีเหลืองที่อยูเหนือน้ำเตา แคกวาด
สายตามามองหานลี่แวบหนึ่งดวยความเย็นชา แลวเอยเสียงราบเรียบอยางไรซึ่งความ
สนใจ
หานลี่ไดฟงก็รูสึกโกรธเกรี้ยวอยางสุดๆ ดูแลวจำเปนตองใชการปลดผนึกครั้งสุดทาย
แลว มิเชนนั้นคงไมอาจปกปองชีวิตนอยๆ ได เวลานี้เขาพบเขากับหายนะแลวจริงๆ
ไดเพียงยินเสียงหัวเราะแหลมๆ อยางตื่นเตนดังออกมาจากเมฆมาร จากนั้นเมฆ
มารพลันหมุนวน ทาทางเหมือนจะลงมือกับเขา
หานลี่ก็ไมลังเลอีกตอไป สองมือพลันรายอาคมในทันที ปากก็บริกรรมคาถาดวย
น้ำเสียงทุมต่ำออกมา บนใบหนาพลันมีหนาปศาจสีเขียวปรากฏขึ้น จากนั้นใบหนา
ป ศ าจก็ เปลี่ ย นรูป ไปหลายครั้งอย างรวดเร็ว พุ งออกจากรางของหานลี่ ก ลายเป น
ลำแสงสีเขียวขนาดเทาไขไกหากลุม สวางวาบแลวสลายหายไปกลางอากาศ
และในตอนนั้นเอง มารเฒาที่อยูในเมฆดานตรงขามก็ลงมือ เห็นเพียงเมฆมาร
สวนเล็กๆ ผนึกรวมกันแลวเปลี่ยนรูป จูๆ ก็กลายเปนงูเหลือมยักษลวงตาสีดำตัวหนึ่ง
อาปากกวางๆ ออก พุงกระโจนตัวออกไป ตรงไปยังหานลี่อยางโหดเหี้ยม
ไมวาชายรางใหญที่สวมชุดสีเหลืองเหนือน้ำเตา หรือวาอรหันตเทียนเฟงที่ซอน
ตัวอยูในพายุหมุน ก็ลวนไมสนใจวาสหายจะสังหารผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณ
อยางไร แตเมื่อราชันยเปลวระยับเห็นภาพฉากนี้ กลับขมวดคิ้วเขาหากันนอยๆ เผยสี
หนาประหลาดใจออกมา
เห็นเพียงงูเหลือมยักษพุงมาอยูเหนือศีรษะของหานลี่ในชั่วพริบตา มันอาปาก
ออกแลวกัดลงไป หานลี่กลับชูมือขึ้นโดยไมไดเอยอะไร ประจุไฟฟาสีทองสายหนึ่งพุง
ออกจากมือ โจมตีไปยังปากยักษของงูเหลือมยักษตัวนั้นอยางพอดิบพอดี ผลลัพธคือ
รางของงูเหลือมตัวนั้นพลันสั่นสะทาน หลังจากที่รางอันใหญโตของมันหมุนโคจรไป
รอบหนึ่ง ก็สลายหายไปในทันที
จากนั้นลมปราณบนรางของหานลี่ก็หมุนโคจรเล็กนอย พลังที่นาตกตะลึงเปลง
ออกมารอบกาย ลำแสงสีเขียวสวางวาบ เต็มไปดวยไอวิญญาณ
“การตอสูของสหายทั้งสี่นั้น ก็ทำไปตามหนาที่ของตนเองก็พอแลว เหตุใดตอง
ลากผูแซหานเขาไปดวย ขานอยแคผานทางมาเทานั้น”
หลังจากที่หานลี่สลายงูเหลือมยักษไปแลว ก็มองไปยังมารเฒาเหลานั้น แลวเอย
ดวยสีหนาราบเรียบ
มารเฒ าอยางชายรางใหญ ที่ สวมชุ ดสี เหลื อ งและพวกพากั น ตกตะลึ ง ใบหน า
เปลี่ยนสีไปยกใหญขณะจับจองหานลี่เขม็ง
เวลานี้พวกเขาดูไมออกวา ผูบำเพ็ญเพียรที่บังเอิญมาติดกับในเขตอาคมผูนี้ จะ
อยูในระดับเดียวกันกับพวกเขา แตแคกอนหนานี้ไมรูวาใชเคล็ดวิชาลับอะไรถึงปดบัง
หูตาของพวกเขาได
อีกฝายมีเจตนาใดกันแน? บังเอิญหรือวามีเจตนาอื่นจึงจงใจสะกดรอยตามมากันแน
มารเฒาทั้งสามตางมีความคิดเชนนี้ เวลานั้นจึงพากันตื่นตะลึงอยูตรงนั้น
ราชันยเปลวระยับก็ใจเตนระรัวเชนกัน ถึงแมวาเขามองปราดเดียวก็รูวา หานลี่
คือผูบำเพ็ญเพียรที่เอาเกราะปองกันวัชระไป และนาจะมีฝมือ แตก็คิดไมถึงเชนกันวา
พลังยุทธที่แทจริงของอีกฝายจะสูงสงขนาดนี้ สีหนาจึงอดที่จะดำคล้ำสลับกับสดใส
ไมได
หานลี่กลับใชจิตสัมผัสตรวจสอบรอบๆ ของเขตอาคมทรายสีเหลืองรอบหนึ่ ง
ขมวดคิ้วนอยๆ เขตอาคมทรายสีเหลืองพวกนี้มีความมหัศจรรยอยูจริงๆ ดวย ถาหาก
ฝนทลายเขตอาคมออกไปคงตองเสียเวลามากแน
ในใจขบคิดเชนนั้น หานลี่เอยกับชายรางใหญที่อยูเหนือน้ำเตาอยางราบเรียบวา
“เหลาสหายนาจะไดยินคำพูดเมื่อครูของขานอยอยางชัดเจนแลว ผูแซหานจะไม
สอดมือไปยุงเรื่องราวความแคนของพวกทาน แตเปดผนึกใหผูแซหานออกไปเถิด”
“ไมทราบวาสหายแซอะไร เหตุใดถึงมาอยูในเทือกเขาเนินหิมะ” ชายรางใหญ
สวมชุดสีเหลืองลังเลเล็กนอย แลวเอยถามขึ้นอยางแชมชา
“ขานอยแซหาน แคผานทางมาที่เทือกเขานี้เทานั้น สหายคงพอใจกับคำตอบนี้สินะ!”
น้ำเสียงของหานลี่เย็นชา และออกแนวเหลืออดเล็กๆ
เวลาในการปลดผนึกของเขาเหลืออีกเพียงนอยนิด จึงไมมีเวลามาออมคอมกับอีกฝาย
“เปดเขตอาคม ปลอยสหายออกไป เกรงวาจะไมได เขตอาคมทรายเหลืองของ
พวกเราไมไดสรางขึ้นมางายๆ หากเปดออก เกรงวาคงทำใหอีกฝายถือโอกาสนี้หนีไป
เชนนั้นสหายรออยูที่นี่สักครู ใหพวกเราสังหารมารเฒานี้ แลวคอยปลอยสหายออกไป
เป น อยางไร” ชายรางใหญ ที่สวมชุดสีเหลือ งเผยสี ห น าลำบากใจออกมา หลังจาก
กลอกตาไปมาเล็กนอย ก็เอยออกมาเชนนี้
“เหอะ! ถาหากสหายหานเชื่อคำพูดของพวกเขาสามคน หนทางขางหนาก็คง
นำไปสูความตายเทานั้น เจาสามคนนี้ตองการจะสังหารขา และเพื่อปกปดเรื่องโฉดชั่ว
ของพวกเขา จากนี้ก็จะลงมือกับสหายอยางแนนอน ถาหากสหายชาญฉลาด มารวม
มือกับขาทลายเขตอาคมนี้ออกไปเถิด ที่นี่อยูไมไกลจากถ้ำพำนักของขา ขอแคชวยขา
ทลายเขตอาคมแล ว หนี ไปที่ นั่ น ก็ ไม จ ำเป น ต อ งหวาดกลั ว คนเหล า นี้ แ ล ว ! ข าขอ
สาบานดวยใจมารวาจะตอบแทนสหายอยางใหญหลวง” ราชันยเปลวระยับกับเอยขึ้น
อยางเครงขรึม
หานลี่มีสีหนาไมเปลี่ยนแปลง คิ้วทั้งสองขมวดเขาหากันเล็กๆ ไดยินคำพูดของ
ชายรางใหญที่สวมชุดสีเหลือง กลับมีสีหนาเครงขรึมขึ้นในทันที
“สหายขบคิดถึงขอไดเปรียบเสียเปรียบใหดี แลวคอยตัดสินใจ ถาหากเจาชวย
มารเฒาลงมือ ก็จะเปนศัตรูกับพวกเราทั้งสาม แลวอยามาโทษวาพวกเราลงมืออยาง
โหดเหี้ยมไรความปรานี จัดการแมแตกับเจาละ เจาดูกำลังของทั้งสองฝายใหดี อยูใน
เขตอาคมทรายเหลืองของพวกเรา ตอใหเจาสองคนรวมมือกันสุดทายก็ยากที่หลบหนี
จากความตายไดอยูดี สหายคงไมคิดจะเพลี้ยงพล้ำไปกับปศาจเฒาผูนี้หรอกกระมัง?
เงื่อนไขของขานั้นงายมาก แคใหสหายหานรออยูที่นี่สักครู ไมตองทำอะไรเลย ถึงเวลา
นั้นก็จะปลอยสหายออกไปอยางปลอดภัย อรหันตอยางขาก็จะสาบานดวยใจมาร
เชนกัน!” ชายรางใหญสวมชุดสีเหลืองเอยอยางใชอำนาจคุกคามครึ่งหนึ่งดึงมาเปน
พวกครึ่งหนึ่ง
ตอนที่ 917 เขารวมการตอสู
“สหายไมตองไปถูกพวกเขาขูบังคับ กองกำลังสนับสนุนของขาจะมาถึงอีกไมนาน
ขอแคสหายคุมครองขาไดเพียงชั่วครูก็พอ ถึงเวลานั้นก็ไมตองกังวลแลว” ซากราชันย
หมื่นปอยางราชันยเปลวระยับผูนี้ ถึงกับเอยเชนนี้ออกมา
หานลี่ผูซึ่งปรากฏตัวขึ้นอยางเกินความคาดหมายนั้น เห็นไดชัดวาถูกมารเฒาเห็น
เปนฟางชวยชีวิตเสนสุดทายแลว เวลานี้เอง หานลี่กลับเอามือสองขางไพลกันไววางไว
ที่ไหล เผยสีหนาขบคิดออกมา
ชายรางใหญที่สวมชุดสีเหลืองเห็นเชนนั้น แววตาโหดเหี้ยมก็ฉายแววสวางวาบ
แต ก็ พ ยายามข ม อารมณ เอาไว ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รที่ ดู เหมื อ นชายหนุ ม ซึ่ งอยู ต รงข าม
ถึงแมวาจะไมเคยเผยความสามารถอื่นๆ ออกมา แตประจุไฟฟาเมื่อครูที่โจมตีจนงู
เหลือมยักษสลายหายไปได ก็ทำใหเขาไมกลาดูแคลนอีกฝายจริงๆ
คนผู นี้ เปลี่ ย นความคิ ด ไม ส นใจจะป ด บั ง แผนการเดิ ม อี ก พลางเอ ย อย า ง
ตรงไปตรงมาวา
“พี่เปลวระยับ หรือวาพี่ไมเห็นวามารพายุชีจื่อและฝุนเหลืองซานซาที่อยูขางกาย
ของขาและสหายเทียนเฟงไมไดอยูขางกายหรือ? ชั่วพริบตาที่ทานออกจากสุสาน ขาก็
สั่งใหพวกเขาไปวางเขตอาคมอีกแหง กักสุสานของทานเอาไวตั้งนานแลว ถึงแมวา
อาศัยเพียงกำลังของพวกเขานั้น จะไมอาจโจมตีหองสุสานได แตหากยื้อเวลาไวสัก
ครึ่งวัน ก็ทำไดอยางไมมีปญหา และยิ่งไปกวานั้น…หึๆ” พูดไปพลาง ชายรางใหญที่
สวมชุดสีเหลืองก็หัวเราะอยางเย็นชาออกมา
“ยิ่งไปกวานั้นอะไร?” ราชันยเปลวระยับรูสึกจิตใจหนักอึ้ง ดวงตาทั้งสองจอง
เขม็งไปหาชายรางใหญ สองมือกำเขาหากันแนน
“ยิ่งไปกวานั้นตอนนี้ใกลจะสายแลว เปนชวงเวลาที่ไอทมิฬซึ่งระเบิดออกมาจาก
ชีพจรดินออนแอที่สุดของวัน รางซากสวรรคของพี่เปลวระยับในตอนนี้เกรงวาพลังคง
ลดลงเปนอยางมากสินะ” อรหันตขวงซาเงยหนาขึ้นมองทองฟา มุมปากหยักรอยยิ้ม
ยิ้มเยาะขึ้น
ราชันยเปลวระยับไดฟงคำพูดนี้ ก็มีสีหนาเขียวคล้ำ ทั้งยังแฝงไวดวยไอสีดำชั้นหนึ่ง
“เยี่ยม เยี่ยมมาก! คิดไมถึงวาเจาจะศึกษาเรื่องรางซากสวรรคของขามาถึงขั้นนี้
แมแตเรื่องของไอทมิฬในชีพจรดินก็ยังรู ทวาตอใหพวกเจารูจักมากขนาดไหน ก็เปน
เพียงเรื่องผิวเผินเทานั้น ความพิเศษของรางซากสวรรค ขาจะสำแดงใหพวกเจาเห็น
วันนี้แหละ” จูๆ ราชันยเปลวระยับก็แหงนหนาขึ้นหัวเราะอยางบาคลั่งกับทองฟา
พลางเอยอยางโหดเหี้ยม
เขาหมดหวังในกองทัพสนับสนุนแลว ภายใตความตื่นตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวของ
เขา เขาก็ ไม มี ท างอยู เฉยๆ รอคอยความตายแน ในเวลาเดี ย วกั น ก็ รูสึ ก วาหากไม
สำแดงกำลังที่แทจริงออกมา จะยิ่งดึงหานลี่มาเปนพวกไมได
ราชันยเปลวระยับพลันอาปากออกในทันที
พนโลหิตสีดำกลุมหนึ่งออกมานอกราง มันขยายใหญกลางอากาศจนกลายเปน
ตัวอักษรสีดำขนาดเทากำปน กะพริบวาบแลวพุงหายเขาไปในหนาผากของราชันย
เปลวระยับ และแสดงผลออกมาใหเห็นไดอยางชัดเจน
จากนั้นตัวอักษรก็เปลงลำแสงสีดำที่แปลกประหลาดออกมา รางของมารเฒ า
ห อ หุ ม ไปด วยไอซากศพสี เทาขาวลอยหมุ น ติ้ วๆ ในเวลาเดี ย วกั น ปากก็ เปล งเสี ย ง
คำรามของสัตวปาออกมา
ชายรางใหญ ที่สวมชุดสีเหลืองเห็ นสถานการณ เชนนั้น ถึงแมจะไมรูวาราชันย
เปลวระยับตองการจะสำแดงความสามารถอะไรออกมา แตแนนอนวาไมมีทางปลอย
ใหอีกฝายทำสำเร็จแน เขาจึงตะโกนออกไปอยางไมตองคิด
“ลงมือ ไมตองเสียเวลาแลว” จากนั้นอรหันตขวงซา ก็ยกขาขึ้นแตะไปบนน้ำเตา
ยักษที่อยูใตราง
ปากของน้ำเตาสั่นคลอนเล็กน อ ย ทรายสีเหลืองกลุมใหญ พุ งออกมาจากดาน
ในทันที ชั่วพริบตาก็ผนึกรวมตัวกัน กลายเปนงูเหลือมทรายยักษความยาวสองสามจั้ง
ตัวหนึ่ง กระโจนเขาไปหาราชันยเปลวระยับอยางรุนแรง
ที่เหลืออีกสองคนไดยินก็ลงมือพรอมกัน ในพายุหมุนสีขาวโพลนมีเสียงพุงแหวก
ผานอากาศดังขึ้น คมพายุขนาดยักษรอยกวาสายพลันพุงออกมา ทุกเลมลวนมีขนาด
ประมาณสองสามฉื่อ เปลงลำแสงสีขาวสวางจา สงเสียงรองแหลมๆ ที่นาตื่นตกใจ
ออกมา แคมองปราดเดียวก็รูวาแตกตางกับเคล็ดวิชาคมมีดวายุธรรมดาๆ เปนอยาง
มาก
และในเมฆมารนั่น ก็มีมีดบินสิบกวาเลมพุงออกมา
มีดบินพวกนี้เปลงแสงสีดำสนิทออกมา ตอนที่พุงออกมามีขนาดเพียงสองสามชุน
แตชั่วพริบตาก็กลายเปนสายรุงสีดำความยาวสองสามจั้ง ภายใตการคุมครองของคม
พายุนั้น ก็ฟนลงมาอยางไรสุมเสียง
เมื่อเห็นอันตรายเขามาใกลตัว ราชันยเปลวระยับก็สำแดงความสามารถออกมา
ไดทันเวลา
หลั ง จากร อ งคำรามด ว ยความโกรธเกรี้ ย วแล ว มงกุ ฎ บนศี ร ษะก็ บิ น ออกมา
หลั ง จากเริ ง ระบำอยู ก ลางอากาศก็ ข ยายใหญ ขึ้ น หลายเท า ในเวลาเดี ย วกั น ก็
เปลี่ยนเปนสีดำมวง และยิ่งไปกวานั้นสองมือของมารเฒาก็ไขวกันวางไวบนบาพรอม
กั น รางกายสู งขึ้ น สองอสามฉื่ อ ทั่ วเรือ นกายมี ข นสี เขี ย วเข ม ยาวสองสามชุ น งอก
ออกมา นิ้วทั้งสิบเองก็มีกรงเล็บสีมวงดำงอกออกมา ใบหนาซูบตอบ เขี้ยวแหลมๆ สี
ขาวยาวสองสามชุนที่สะดุดตาอยางสุดๆ งอกออกมาจากปาก เปลี่ยนเป นสิ่งที่น า
หวาดผวา
ราชันยเปลวระยับผูนี้เผยรูปรางเดิมของราชันยซากศพหมื่นปออกมา
ในตอนนั้ น เอง งูเหลือ มทราย คมพายุ รวมทั้ งสายรุงสีดำก็ม าอยู ตรงหน าเขา
ใบหนาของราชันยเปลวระยับฉายแววโหดเหี้ยม พลางอาปากออก พนไขมุกสีทอง
ขนาดเทากำปนออกมา ไขมุกเม็กนั้ น หมุ นติ้วๆ ชั่วครูก็กลายเป น ฝามื อยักษ สีท อง
ตะปบงูเหลือมทรายเอาไว สวนตัวของราชันยเปลวระยับเองนั้น สองแขนก็รายรำราว
กับภาพลวงตาอยางไรอยางนั้น กรงเล็บลำแสงสีเขียวจำนวนนับไมถวนกลายเปนตา
ขายยักษ ชั่วครูก็ปกปองรางของตนเองเอาไว
มารเฒาผูนี้คิดจะอาศัยกรงเล็บคูนี้ รับการโจมตีอื่นๆ ตรงๆ
คมพายุและสายรุงสีดำลวนสับลงมาบนกรงเล็บเงาอยางแรง ลำแสงสีขาวและดำ
พั วพั นเกี่ยวกระหวัดกันพรอมกับ เปล งแสงสวางวาบ ชั่วพริบ ตาก็ ป กคลุ มรางของ
ราชันยเปลวระยับเอาไวภายใน
เสียง ‘ตูม’ ดังขึ้น ลำแสงสีเขียวหมุนติ้วๆ ตรงจุดที่ราชันยเปลวระยับยืนอยู คม
พายุสายรุงสีดำถูกแรงมหาศาลโจมตีจนกระเด็นออกมาพรอมกัน
ราชัน ยเปลวระยับผูที่ บ ำเพ็ ญ เพี ยรในเสน ทางแห งซากศพนั้ น เผยรางเดิม ของ
ราชันยซากศพออกมา กรงเล็บที่แหลมคมคูนั้นแข็งแกรงราวกับเหล็กกลา แข็งกวา
สมบัติอาคมทั่วๆ ไปสามสวน แคโจมตีก็ทลายคมพายุและมีดบินที่รวมมือกันเขามา
โจมตีไปได
และในเวลานี้เอง ไขมุกสีทองที่กลายเปนมือยักษสีทองเม็ดนั้นก็หมุนวนไปพรอม
กันกับงูเหลือมทราย คาดไมถึงวาจะตะปบคอของงูเหลือมทรายเอาไว ควบคุมมัน
เอาไวไดชั่วคราว
หานลี่มองมาถึงตรงนี้อยางเย็นชา หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย ไอซากศพบนรางของ
คนผูนี้พุงขึ้นสูงจริงๆ หลังจากที่ไดรับบาดเจ็บหนักแลว คาดไมถึงวาจะยังโหดเหี้ยม
ขนาดนี้ ชางอยูนอกเหนือความคาดหมายของเขาจริงๆ
ทวาชายรางใหญที่สวมชุดสีเหลืองเห็นงูเหลือมทรายถูกมือสีทองกักเอาไว กลับไม
โกรธขึงแตกลับยินดี ชี้ไปยังงูเหลือมที่กำลังดิ้นรนเล็กนอย
รางของงูเหลือมยักษเปลงแสงสีเหลืองสวางวาบ รางกายหยุดชะงัก จูๆ พลัน
กลายเปนผืนทรายหนีออกจากการควบคุมของมือสีทอง แลวผนึกรวมตัวกันอีกครั้ง
จากนั้นก็ปกคลุมมือยักษสีทองเอาไว
ชายรางใหญไมไดยอมแพเพียงเพราะสิ่งนี้ หลังจากมองไปทางราชันยเปลวระยับ
และหานลี่ดวยความเย็นชาแวบหนึ่ง สองมือก็รายอาคมโดยไมเปลงคำพูดใดๆ หมอก
ทรายสีเหลืองทั้งสี่ดานเกิดจลาจลขึ้นทันที จูๆ พายุทรายยักษสูงสิบกวาจั้งก็หมุนวน
พุงเขามาตรงกลาง ในเวลาเดียวกันบางครั้งก็มีเสียงกรีดรองประหลาดๆ ดังออกมา
จากฝุนทราย เดี๋ยวดังเดี๋ยวเบา ทำใหผูคนไดยินแลวอกสั่นขวัญแขวน
เขากระตุนเขตอาคมทั้งสี่ดานอยางคาดไมถึง คิดจะอาศัยเขตอาคมมาสังหาร
ราชันยเปลวระยับที่อยูตรงกลาง
แตแคชั่วพริบตาที่หานลี่มองเห็ นวาชายรางใหญ ที่สวมชุดสีเหลืองมองมาทาง
ตนเองนั้น พลันตัดสินใจ เกรงวาอรหันตขวงซาผูนี้คงมีเจตนาแอบแฝงกับเขาเชนกัน
เพียงเขาลังเลไมตัดสินใจเล็กนอย หากปลอยใหเขตอาคมนี้บีบเขามาใกลตัวละก็ คนผู
นี้คงสังหารเขาไปดวยแน
หานลี่ วิ จ ารณ ด ว ยความโกรธเกรี้ ย วอยู ใ นใจ แต เดิ ม ที่ ไ ม คิ ด จะเสี ย เวลาอี ก
เปลี่ยนเปนในที่สุดก็ลงมือ
เขาสะบัดแขนเสื้อ กระบี่บินสีทองยี่สิบสามสิบสามสายพลันพุงออกมา หลังจาก
หมุนวนรอบหนึ่ง ก็กลายเปนกระบี่เงาเลมใหญฟนลงมาหาคลื่นพายุทรายที่อยูใกล
ตนเองที่สุด
ในเวลาเดียวกันอีกมือหนึ่งที่กำกระจกโบราณสีทองเปลงประกายเอาไวตั้งนาน
แลวก็ใสลมปราณเขาไป ชั่วขณะนั้ น เสาลำแสงสี ม วงเข ม สายหนึ่ งพลั น พุ งออกมา
โจมตีไปยังหมอกทราย
ภาพฉากที่นาประหลาดใจปรากฏขึ้นทันที เปลวเพลิงสีมวงที่ใชกำจัดไอหมอก
โดยเฉพาะจมหายเข าไปในผื น ทราย คาดไม ถึ งว าจะเหมื อ นโคลนที่ จ มหายไปใน
มหาสมุทร ไมเผยปฏิกิริยาตอบสนองออกมาเลยแมแตนอย
หานลี่ขมวดคิ้ว เผยสีหนาระวังภัยออก กระบี่บินทั้งหมดกลายเปนผืนลำแสง ฟน
ลงมาบนหมอกทรายที่รวมตัวกันเปนคลื่นยักษ
ชองโหวขนาดใหญจูๆ ก็ปรากฏขึ้น
“ระวัง ทรายหยุดวิญญาณใชทำลายกระบี่บินโดยเฉพาะ อยาใหมันสัมผัสทราย
พวกนั้น” เวลานี้ราชันยเปลวระยับที่ถูกสมบัติอาคมสองสามชิ้นลอมโจมตีไมหยุด เมื่อ
เห็นวาในที่สุดหานลี่ก็ลงมือชวยทลายเขตอาคมก็อดที่จะรูสึกดีอกดีใจไมได ปากก็รีบ
รองตะโกนขึ้นอยางเตือนสติทันที
“ทำลายกระบี่ บิ น โดยเฉพาะหรือ ?” หานลี่ ได ยิ น พลั น ตกตะลึ ง ยั งไม ทั น ได มี
ปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา
จูๆ พลันหนาเปลี่ยนสี ชองโหวที่ถูกฟนออกเมื่อครู มีพายุทมิฬพาดผานเขามา
กอนกรวดทรายสีดำจำนวนนับไมถวนปรากฏขึ้นลอมรอบกระบี่บินทั้งหมดราวกับดวง
วิญญาณอยางไรอยางนั้น และในเวลาเดียวกันก็พนไอสีดำเปนสายๆ ออกมา ตรงไป
พัวพันรัดกระบี่บินทุกเลมเอาไว
เมื่อสัมผัสกับเสนไหมสีดำเหลานี้ ชั่วขณะนั้นหานลี่พลันสัมผัสไดวาจิตสัมผัสที่
เชื่อมโยงกับกระบี่บินนั้นหยุดชะงัก ในเวลาเดียวกันความคิดที่ควบคุมกระบี่บินก็ราว
กับถูกกำลังภายนอกกำจัดออกไป คาดไมถึงวาจะคอยๆ สูญเสียพลังในการควบคุม
กระบี่บินไป
หานลี่มีสีหนาเย็นชา ชี้ไปทางกระบี่บิน ปากก็พนคำวา “ระเบิด” ออกมา
เสียง ‘เปรี้ยงๆๆ’ ของฟาผาดังขึ้นอยางตอเนื่อง ประจุไฟฟาสีทองบางๆ จำนวน
นับไมถวนระเบิดออกแลวดีดตัวออกมาจากกระบี่บินเปนวงกวาง
ทุ ก แห ง ที่ ป ระจุ ไฟฟ า กระเด็ น ออกไปจะกวาดเส น ไหมสี ด ำออกไปจนเกลี้ ย ง
กระทั่งกลายเปนที่วางขนาดใหญทามกลางหมอกทราย
ดวงตาของหานลี่หรี่ลง หลังจากจองเขม็งไปที่สวนลึกของหมอกทรายแวบหนึ่ง สี
หนาก็ดูไมไดเล็กนอย
เห็นเพียงตรงใจกลางของหมอกทราย มีกอนกรวดเม็ดทรายที่หนาแนนปรากฏ
ขึ้น กอนกรวดดูแลวเปนเพียงทรายสีเหลืองธรรมดาๆ แตดวยจำนวนมากขนาดนี้ คิด
จะฝาพวกมันไป ก็คงไมอาจทำไดในเวลาเพียงชั่วครูแน
ในตอนที่เขากำลังลังเลอยางสุดๆ นั้น จูๆ พลันมีสีหนาเครงขรึม ปกสีเงินที่แผน
หลังก็กระพือ จากนั้นคนก็สลายหายไปจากที่เดิม ทามกลางเสียงฟาผา เขาปรากฏตัว
ขึ้นยังอีกแหงที่หางออกไปสิบกวาจั้ง และขวานยาวสีแดงสดสายหนึ่งที่ดูเหมือนสมบัติ
อาคมก็พุงผานไปในจุดที่เขาเพิ่งยื่นอยูเมื่อครูอยางพอดิบพอดี
ถึงแมวาจะอยูหางกันถึงเพียงนี้ หานลี่ก็ยังคงสัมผัสไดกลิ่นอายแผดเผาที่รอนแรง
ในใจจึงเกิดโทสะขึ้น หลังจากที่ขวานยาวดามนั้นหมุนโคจรหนึ่งรอบก็บินกลับมา
เขาเงยหน าขึ้น มองไปทางขวานยาวที่ พุ งไปหาเมฆมารอย างเย็ น ชา รูม านตา
เปลงแสงสีฟาสวางวาบ
ถึงแมวาเมฆมารจะหนาแนนเปนพิเศษ แตภายใตความสามารถของเนตรวารี
วิญญาณกระจางนั้น ราวกับไมมีของสิ่งนั้นขวางกั้นอยูอยางไรอยางนั้น การเคลื่อนไหว
ของชายชราชุดสีเขียวที่อยูดานในถูกสงเขามาในครรลองสายตาของเขาอยางชัดเจน
และชายชราผูนั้นก็กำลังมองมาทางหานลี่ดวยสีหนาตื่นตระหนกเชนกัน เห็นได
ชัดวาถูกเคล็ดวิชาอัสนีหลีกหนีของหานลี่ทำใหตกใจจนขวัญกระเจิงแลว
หานลี่เองก็ไมเปลงคำพูด ปกที่อยูตรงแผนหลังกระพือเบาๆ เสียงฟาผาดังขึ้น คน
พลันสลายหายไปอยางไรรองรอย
ชายชราที่สวมชุดสีเขียวเห็นเชนนั้นพลันตื่นตะลึง แตเขาเองก็มีประสบการณ
ตอสูมาไมนอย จึงนึกอะไรขึ้นไดพลางตบที่ไปยามเก็บของขางเอว ชั่วขณะนั้นลำแสงสี
เขียวสายหนึ่งพลันพุงออกมาจากยามเก็บของ กลายเปนโลโบราณสีเขียว ตานทาน
เอาไวเบื้องหนา
และในชั่ ว พริ บ ตานั้ น ลำแสงสี เงิ น ก็ ส ว า งวาบขึ้ น ที่ บ ริ เวณขอบของเมฆมาร
รางกายของหานลี่ปรากฏขึ้น สองมือกำหมัด รางกายเปลงแสงสีทองระยิบระยับ เสียง
โครมครามดังขึ้น ประจุไฟฟาสีทองชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นบนเสื้อผา หลังจากที่รางของ
หานลี่แวบหายไปดวยใบหนาไรความรูสึก คนก็สลายหายไปแลว
เวลานี้ ชายชราในเมฆมารรูสึกใจเย็นวาบ อาปากออกอยางไมตองคิด พนกระบี่
เล็กๆ ที่เปลงแสงสีเขียวมรกตเรืองรองออกมาเลมหนึ่ง กลายเปนสายรุงสีเขียวสาย
หนึ่งเริงระบำไปรอบกายไมหยุด
ชายชรายังไมวางใจ ตอนที่คิดจปลอยสมบัติอาคมออกมาสองสามชิ้น ดานขางก็มี
เสียงฟาผาดังสนั่นขึ้น
ตอนที่ 918 การตอสูที่นาตกตะลึงของมาร
ประจุไฟฟาที่เปลงแสงเปรี๊ยะๆ รอบกายของหานลี่ในตอนนี้ปรากฏขึ้นในจุดที่
ไกลออกไปสองสามจั้ง ประจุไฟฟาสีทองบนเรือนรางสวางจานัก ราวกับเทพอัสนีลง
มาจุติอยางไรอยางนั้น เมื่อสาดแสงลงมากระทบกับเมฆมารในบริเวณนั้น ก็ถูกชะลาง
ไปจนเกลี้ยง เผยใหเห็นพื้นที่วางขนาดสิบกวาจั้ง คาดไมถึงวาจะทำใหชายชราที่อยูใน
เกราะปองกันเปลี่ยนจากฝายรุกเปนฝายรับแทน รางจึงเผยออกมาอยางไมตองสงสัย
“ฮึ่ม!” ชายชราชุดสีเขียวอดที่จะรองอุทานดวยเสียงต่ำๆ ออกมาไมได จากนั้นก็
รูสึกตัววาแยแลว ลำแสงวิญญาณบนเรือนรางจึงสวางวาบ แลวหนีออกไปจากตรงนั้น
อยางรีบรอน
แตในเมื่อหานลี่ยอมเสี่ยงอันตรายใชอัสนีหลีกหนีเขามาถึงที่นี่แลว เหตุใดจะยอม
ปลอยใหอีกฝายออกไปไดงายๆ รางของเขาพลันแวบหายไป คนก็พาเงารางลวงตาไป
ปรากฏตัวเบื้องหนาของชายชรา สองมือชูขึ้นพรอมกัน เปลวเพลิงสีมวงสายหนึ่งและ
ลำแสงสีทองพุงออกไปพรอมกัน
ชายชราที่สวมชุดสีเขียวเห็นรางของหานลี่เคลื่อนไหวอยางรวดเร็วถึงเพียงนี้พลัน
ตื่นตกใจ ไมสนใจไยดีเรื่องอื่นๆ อีก อาปากออกอยางรอนรน พนไอสีขาวกลุมหนึ่ง
ออกมาใสโลโบราณที่อยูเบื้องหนา กำแพงลำแสงสีเขียวเขมปรากฏขึ้นบนโล ขวางกั้น
หานลี่และชายชราเอาไว
หลังจากนั้นเปลวเพลิงสีมวงพลันสวางวาบ โจมตีไปยังกำแพงลำแสงอยางไมเกรงใจ
เสียง ‘แกรก’ ดังขึ้นเบาๆ ทำใหชายชราตกตะลึงกับเหตุการณที่ปรากฏขึ้นจนอา
ปากคาง
ไอเย็น เยียบสีมวงแพรกระจายออกไปบนกำแพงลำแสงอย างรวดเร็ว น้ ำแข็ ง
หนาๆ ชั้นหนึ่งหอหุมกำแพงลำแสงเอาไว แชแข็งโลโบราณสีเขียวเอาไวขางใน
“นี่มันเคล็ดวิชาอะไรกัน เหตุใดถึงไดรุนแรงขนาดนี้?” ชายชราอดที่จะรองอุทาน
ออกมาดวยความตกตะลึงกับตัวเองไมได
ลำแสงสีทองอีกสายก็พุงตามมาติดๆ
เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น ลำแสงสีทองสวางวาบแลวหายวับไปในกำแพงน้ำแข็ง แต
ทันใดนั้นลำแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งเบื้องหนาของชายชรา
ชายชราที่สวมชุดสีเขียวพลันเบี่ยงตัวหลบไปอีกดานดวยไหวพริบอันเฉียบแหลม
ทันใดนั้น เขาก็รูสึกหัวไหลเย็นเยียบ ความเจ็บปวดที่ยากเกินจะรับไหวพลันสงมา
เขาเหลือบตาไปมองดานขางดวยความตื่นตกใจระคนหวาดกลัว เห็นเพียงแขน
ขางหนึ่ งของตัวเองถูกลำแสงสีท องตั ดขาดอยางคาดไม ถึง และหากไม ใช เพราะมี
ปฏิกิริยาตอบสนองที่วองไว เกรงวาศีรษะก็คงกระเด็นออกไปจากบาแลว
หลังจากที่ลำแสงสีทองสายหนึ่งหมุนวนหนึ่งรอบก็ทะยานขึ้นไปบนทองฟา กระบี่
เล็กๆ สีทองความยาวสองสามชุนเลมหนึ่งปรากฏขึ้น
หลังจากที่เขาหันกลับไปอีกครั้ง ถึงไดพ บวากำแพงลำแสงเบื้ องหน าปรากฏรู
เล็กๆ รูหนึ่งขึ้น ลำแสงสีทองนั่นแหลมคมอยางหาที่เปรียบมิไดจริงๆ คาดไมถึงวาจะ
เจาะทะลุกำแพงน้ำแข็งและโลโบราณที่กลายเปนมานลำแสงสองชั้นของเขาเขามาได
ราวกับไมมีอะไรขวางกั้นเลย ชางทำใหผูคนไมอยากจะเชื่อจริงๆ
ชายชรากลับไมสนใจจะรองอุทานออกมา เวลานี้เขากำลังตกตะลึงระคนโกรธ
เกรี้ยวอยางสุดๆ
เขาตบยันตวิเศษแผนหนึ่งไปบนรางของตนอยางรวดเร็ว หลังจากหามเลือดแลว
ก็เหลือบไปมองเบื้องหนาพรอมกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟน คิดจะหั่นหานลี่ใหเปนชิ้นๆ เพื่อ
เปนการระบายความเจ็บปวดจากแขนที่ขาดไป
แตเมื่อเขากวาดแววตาไปตรงนั้น เบื้องหนากลับวางเปลา หานลี่หายไปอยางไร
รองรอยแลว
“แยแลว!” ชายชราเห็นฉากนั้น หัวใจกลับหนักอึ้ง ความเย็นเยียบแผออกมาจาก
กนบึ้งของหัวใจ ไมสนใจจะตามหาหานลี่อีก มือหนึ่งควักยามเก็บของออกมาอยาง
รวดเร็ว คิดจะหยิบสมบัติอาคมชิ้นหนึ่งออกมาปกปองเรือนรางของตัวเองกอนแลว
คอยวากัน
แตกลับสายไปเสียแลว
ดานหลังของชายชราที่สวมชุดสีเขียวมีเสียงอูอี้ในลำคอที่แผวเบาจนแทบไมไดยิน
ดังขึ้น จากนั้นลำแสงวิญญาณที่หอหุมรางของเขาเอาไวก็ถูกอะไรสักอยางโจมตีจน
ทะลุ ฝามือที่มีเปลวเพลิงสีมวงหอหุมอยูทะลวงผานแผนหลังทะลุออกมาทางทรวงอก
ดวยความรวดเร็วดั่งสายฟาฟาด ชั่วพริบตาน้ำแข็งที่เย็นเยียบสีมวงก็ปกคลุมไปทั่วทั้ง
เรือนราง ผนึกเขาเอาไวทั้งเปน
ชายชรารูสึกเพียงวาเจ็บปวดราวกับถูกฝงเข็มไปทั่วเรือนราง รางกายไมมีทาง
ขยับไดแมแตนอย ในใจรูสึกหวาดกลัวเปนอยางมาก และในเวลานั้นเอง หานลี่ที่มา
อยูดานหลังเขาอยางแปลกประหลาดก็ไมมีความปรานีเลยแมแตนอย
หานลี่สะบัดแขนเสื้อเบาๆ อยางไมลังเล ตาขายสีทองผืนหนึ่งทอดตัวลงมาจาก
เบื้องบน ประจุไฟฟาสวางวาบแลวระเบิดออก กอนน้ำแข็งสีมวงแตกออกเปนชุนๆ
ทารกที่ถูกลำแสงสีดำปกคลุมเอาไว ชั่วขณะนั้นพลันพุงออกมาจากกอนน้ำแข็งที่
ปริแตก เปลงประกายสวางวาบ คิดจะเคลื่อนยายตัวหนีไปดวยความรอนรน แตหานลี่
คาดการณเอาไวหมดแลว ปากเปลงเสียงตะโกนดวยความเย็นชาออกมา ตาขายไฟฟา
สวางวาบ หลังจากทารกของชายชราเคลื่อนยายไปแลว คาดไมถึงวาจะพุงเขาไปในตา
ขายสีทอง ไมมีทางเคลื่อนยายหนีออกมาจากตาขายไดอีก
หานลี่หยักยิ้มมุมปากอยางเย็นชา สองมือพลันรายอาคม ชั่วขณะนั้นตาขายสี
ทองพลันหดเล็กลง จากนั้นก็ระเบิดออก ทารกของชายชราที่อยูในตาขายสีทองสวาง
วาบ หายไปอยางไรรองรอย
จากที่ชายชราลงมือลอบโจมตีหานลี่ จนถึงตอนที่หานลี่สังหารชายชราที่สวมชุดสี
เขียวอยางไมปรานีนั้น มันแคชั่วพริบตาเทานั้น ปศาจทั้งสองอยางชายรางใหญที่สวม
ชุดสีเหลืองและฟางเจียนซาน จึงไมอาจมาชวยไดทันเลยแมแตนอย
เมื่อเห็นหานลี่สังหารชายชราที่อยูในระดับเดียวกันอยางระดับกอกำเนิดขั้นกลาง
ไดอยางงายดาย ทั้งสองคนก็รูสึกตื่นตกใจอยางสุดๆ ขึ้นในเวลาเดียวกัน ใบหนาซีด
ขาวขึ้นพรอมกัน
ชายชราที่สวมชุดสีเหลืองขยับริมฝปากอยางไมตองคิด ถายทอดเสียงออกไปสอง
สามประโยค จากนั้นเขาและทานเทียนเฟงที่อยูในพายุหมุน ก็ไมสนใจจะลอมโจมตี
ราชันยเปลวระยับอีก เก็บสมบัติอาคมกลับมา แลวถอยหลังเขาไปในหมอกทราย
ดานหลังพรอมกัน รางกายหายไปอยางไรรองรอย
ภายใตสถานการณที่ราชันยเปลวระยับไดรับบาดเจ็บหนักจนทำใหตกเปนรอง
เมื่อครู ดวยความแข็งแกรงของรางราชันยซากศพ หลังจากถูกโจมตีดวยสมบัติอาคม
สองสามครั้ง ก็นับวาตานทานไดอยางปลอดภัย ทวา สายตาของมารเฒาที่เหลือบมา
มองหานลี่ในเวลานี้กลับแฝงความประหลาดใจเอาไว เขารูสึกตกตะลึงอยางสุดๆ และ
รูสึกไมปลอดภัยนัก
ถาหากเขาไมไดรับบาดเจ็บหนัก และยิ่งไปกวานั้นหากอยูในสุสาน ก็คงไมมีทาง
สั ง หารผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ เดี ย วกั น ได อ ย า งง า ยดายดั่ ง เช น ผู ที่ อ ยู เบื้ อ งหน า ผู นี้
แมกระทั่งทารกวิญญาณก็ยังสังหารจนเกลี้ยง
ไมวาความสามารถหรือวิธีการของหานลี่ ลวนทำใหมารเฒารูสึกหนาวสะทาน
‘หรือวาคนผูนี้คือผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย?’ ราชันยเปลวระยับขบ
คิดเชนนั้น แลวพิจารณาหานลี่อีกครั้ง แตเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลาง
นั้นไมผิดแน นั่นหมายความวาผูบำเพ็ญเพียรที่หนาตาดูเยาววัยผูนี้ มีความสามารถที่
นาตกตะลึงจริงๆ คาดไมถึงวาความสามารถจะพอๆ กับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด
ขั้นปลาย
มารเฒาขบคิดมาถึงตรงนี้ แลวสูดลมหายใจเย็นเยียบเขาไปเฮือกหนึ่ง โชคดีที่
ตอนแรกสงแครางแยกออกไปตามหาคนผูนี้ ถาหากเขาออกไปไลสังหาคนผูนี้ดวย
ตนเองเพียงเพราะเกราะปองกังวัชระ เกรงวาคงโชครายอยูแปดเกาสวน และหลังจาก
ที่เขากลับไปถึงเทือกเขา ก็ไมมีทางสัมผัสไดถึงรางแยกทั้งสองอีก ดูแลวคงถูกอีกฝาย
สังหารไปแลว
ราชันยเปลวระยับรูสึกไมปลอดภัย จิตสำนึกบอกวาการที่รางแยกทั้งสองหายไป
นั้นเปนเพราะหานลี่
เขาลังเลเล็กนอย แตในตอนที่คิดจะเอยอะไรกับหานลี่นั้น เขตอาคมรอบๆ ดาน
กลับเกิดความเปลี่ยนแปลงที่นาตกตะลึงขึ้น ชั่วครูก็ดึงดูดความสนใจของเขาไป
เห็นเพียงหมอกทรายสีเหลืองแตเดิมเปลี่ยนสีไปอยางกะทันหัน คลื่นทรายหายไป
ทามกลางความมืดมิด กลับเผยใหเห็นเม็ดทรายสีดำที่กักกระบี่บินของหานลี่เอาไวเมื่อ
ครู กอนกรวดเม็ดทรายเหลานี้ไมหนาแนนเหมือนกับทรายสีเหลือง แตทุกเม็ดกลับ
เปลงแสงสีดำที่ เย็นยะเยือกออกมา ทอตัวเรียงกัน อยูในหมอกทราย เห็ น ไดชัดวา
แปลกประหลาดอยางสุดๆ และเมื่อเม็ดทรายสีดำปรากฏขึ้น เสียงรองคร่ำครวญก็ดัง
ขึ้น กลายเปนหมอกทรายสีดำ กรูกันเขาไปที่ใจกลางอยางโหดเหี้ยม
“แย แ ล ว คาดไม ถึ งว า ป ศ าจเฒ า ขวงซาจะปล อ ยทรายหยุ ด วิ ญ ญาณทั้ งหมด
ออกมา ผสมเขาไปในเขตอาคม สหาย ทรายหยุดวิญญาณพวกนี้ไมใชสิ่งที่สมบัติอาคม
ธรรมดาๆ จะตานทานได ทำไดเพียงอาศัยพลังยุทธของตนเองตานทานเทานั้น
ทวาเขาควบคุมทรายหยุดวิญญาณมากมายขนาดนี้ จะตองใชลมปราณจำนวน
มากแน และคงอยูไดไมนานนัก ขอแคตานทานการโจมตีสักสองสามระลอก ก็ไม
เปนไรแลว” ราชันยเปลวระยับมีสีหนาเครงเครียด รีบรองเรียกหานลี่เสียงดัง
ตอนนี้เขาและหานลี่ถือวาลงเรือลำเดียวกันแลว แนนอนวาจึงไมอยากใหผูชวยที่
มีความสามารถมากมายขนาดนี้เกิดเรื่องที่คาดไมถึงขึ้น ตอนแรกที่เห็นหานลี่ใชประจุ
ไฟฟาสีทองทลายทรายเหลานี้ได แตครั้งนี้มีทรายหยุดวิญญาณมากมายเขามาโจมตี
พรอมกันขนาดนี้ เขาไมเชื่อวาหานลี่จะอาศัยประจุไฟฟา ตานทานไหว
“ทรายหยุดวิญญาณหรือ? ไอทมิฬของทรายนี้หนาแนนจริงๆ ดูแลวคงใชสมบัติ
อาคมวิญญาณบริสุทธิ์สังเวยสินะ มินาละถึงไดมีอานุภาพยิ่งใหญขนาดนี้”
หานลี่ลอยอยูกลางอากาศ เอยพึมพำกับตัวเอง ใบหนากลับไรซึ่งความรูสึก ไมมี
ทาทีเตรียมการปองกันเลยแมแตนอย
ราชันยเปลวระยับเห็นเชนนั้น กลับรูสึกประหลาดใจเล็กนอย แตเมื่อเห็นหมอก
ทรายสีดำกำลังกลืนกินที่วางที่เหลือ ก็ไมสนใจอะไรแลว เขาอาปากออก พนเพลิง
ซากศพสีเทาขาวขนาดเทากำปนกลุมแลวกลุมเลาออกมาจากปาก ชั่วพริบตาก็ผนึก
รวมตัวกันกลายเปนลูกบอลเพลิงยักษ หอหุมเขาเอาไว
มีเพียงเพลิงซากศพหมื่นปที่เขาฝกฝนอยางหนักมาเนิ่นนานเทานั้น ที่สามารถ
ตานทานการโจมตีของทรายหยุดวิญญาณเหลานี้ได และในชั่วพริบตาที่เสียเวลาไปนั้น
หมอกทรายสีดำสนิทเหลานี้ก็กลืนกินมารเฒาเขาไปขางในภายในชั่วครู
เพลิงซากศพและลำแสงสีดำพั วพั น เขาดวยกัน ในชั่วพริบตา บางครั้งก็ มีเสีย ง
ระเบิดตูมตามดังขึ้น ดุเดือดอยางสุดๆ
เวลานี้ รางของหานลี่กลับคอยๆ ถอยออกไปยังใจกลางอยางชาๆ หลังจากผาน
ไปชั่วครู ก็ถอยไปจนไมมีที่ใหถอยแลว สองคิ้วของหานลี่ขมวดมุน ชั่วพริบตาก็ตบไปที่
ยามเก็บอสูรวิญญาณ ลำแสงสีดำสายหนึ่งพุงออกมาจากปากถุง หลังจากหมุนวนรอบ
หนึ่งก็รอนลงเบื้องหนา รางวานรนอยสีดำตัวหนึ่งปรากฏขึ้น
วานรตัวนี้มีขนาดสองสามชุน ใบหน าเต็มไปดวยความไม พ อใจ อสูรวิญ ญาณ
ครวญที่แตเดิมกำลังหลอมเพลิงซากศพในเกราะปองกันวัชระ ถูกหานลี่ใชจิตสัมผัส
บังคับใหออกมา หยุดการฝกบำเพ็ญเพียรกลางคัน แนนอนวาจึงทำใหอารมณเสียเปน
อยางมาก
แตหลังจากผานไปชั่วครู อสูรวิญญาณครวญก็สงเสียงคำรามขึ้นจมูกออกมาสอง
สามครั้ง แววตากวาดไปที่หมอกทรายสีดำที่เรียงตัวอยูเต็มทองฟา ชั่วขณะนั้นใบหนา
พลันเผยสีหนาดีอกดีใจออกมา
ทันใดนั้นไมตองใหหานลี่กระตุนใดๆ สองมือของมันก็ตบไปที่หนาอก ปากก็เปลง
เสียงรองคำรามทุมต่ำยาวๆ ออกมา ลำแสงสีดำบนรางสวางวาบไมหยุด รางกายขยาย
ใหญขึ้น กลายเปนวานรยักษสูงสิบกวาจั้ง ลวดลายหนาปศาจที่แผนหลังชัดเจนขึ้น
ทันที รางกายบิดไปมาราวกับมีชีวิตขึ้นอยางไรอยางนั้น
ไมวาชายรางใหญที่สวมชุดสีเหลืองและพวกทั้งสองจะซอนอยูในหมอกทรายคอย
หาจังหวะ หรือวาราชันยเปลวระยับที่กำลังตานทานทรายหยุดวิญญาณอยางสุดชีวิต
เมื่อเห็นวานรตัวนี้ปรากฏตัวขึ้น ก็อดที่จะตกตะลึงไมได
พวกเขากำลังขบคิด วา อสูรวิญ ญาณลึกลั บ ที่ ห านลี่ ป ล อ ยออกมาในเวลานี้ มี
เจตนาอะไรกันแน
วานรยักษก็สงเสียงฮึขึ้นจมูกออกมา พนลำแสงสีเหลืองผืนใหญออกมาจากจมูก
หลังจากโอบลอมตัวเองรอบหนึ่งแลว ลำแสงหมื่นสายก็ปกปองหานลี่และตนเองเอาไว
ตรงกลาง
ในที่สุดหมอกทรายสีดำก็กดทับลงมาหนักขึ้น แตเมื่อหมอกทรายที่ปกคลุมอยูท่ัว
ทองฟาสัมผัสกับลำแสงสีเหลือง ก็พนไอสีดำที่หนาแนนผืนใหญออกมาทันที แลวถูก
ลำแสงมวนเอาไวขางใน
เมื่อไอสีดำออกไป กอนกรวดเม็ดทรายพลันเปลงแสงสีดำสวางวาบ ชั่วขณะนั้น
สิ่งที่อยูภายในหมอกทรายจึงเผยตัวออกมาอยางไมตองสงสัย
วานรยักษเห็นเชนนั้นก็เบะปากอยางไมเกรงใจ คาดไมถึงวาจะพนเสาลำแสงสี
ทองแวววาวสายหนึ่งออกมา
จุดที่เสาลำแสงสองไป หมอกและฝุนละอองพลันปลิววอน ทรายสีดำทั้งหมดถูก
ดูดเขาไปอยางไรซึ่งแรงตานทานแมแตนอย แลวตรงเขาไปในปากของวานรยักษ
ชั่วพริบตา หลังจากที่ลำแสงสีเหลืองและเสาลำแสงกวาดลางไปสองสามครั้ง
หมอกทรายสีดำพลันถูกโจมตีจนกระจัดกระจาย ไอทมิฬสลายไป ไมมีทางเขาใกล
หานลี่ไดเลยแมแตนอย และหลังจากที่ไอทมิฬและทรายสีดำถูกอสูรวิญญาณครวญดูด
เขาไปจำนวนมาก คาดไมถึงวาหมอกทรายรอบๆ จะคอยๆ เปลี่ยนจากสีดำกลายเปน
สีเหลือง
อรหันตขวงซาและทานเทียนเฟงที่แอบอยูในหมอกทราย เห็นการโจมตีเขามา
ใกลตัว ก็อดที่จะตกตะลึงจนอาปากคางไมได
ตอนที่ 919 ถอยดวยความตกตะลึง
ทรายหยุดวิญญาณนี้ไมใชสมบัติอาคมธรรมดาๆ จริงๆ เพื่อบวงสรวงสมบัติอาคม
ที่ทำลายผูอื่นไดเชนนี้ ไมรูวาชายรางใหญที่สวมชุดสีเหลืองสังหารผูบำเพ็ญเพียรระดับ
ต่ำไปกี่คน เพื่อใชจิตวิญญาณดั้งเดิมที่บริสุทธิ์และวัตถุดิบล้ำคาจำนวนมาก พรอมกับ
สูญเสียการฝกบำเพ็ญเพียรอยางหนักไปรอยกวาป ถึงจะบวงสรวงสำเร็จได
ในอดีตตอนที่พบกับศัตรูที่แข็งแกรงนั้น ชายรางใหญและพวกทั้งสองคนแคปลอย
ทรายพวกนี้ออกมาก็แทบจะไรเทียมทาน ตอให ตอกรกับศัตรูที่ แข็งแกรงในระดับ
เดียวกัน สมบัติชิ้นนี้ก็สำแดงอานุภาพที่ยิ่งใหญออกมา และประสบความสำเร็จได
เชนกัน แมกระทั่งสรางชื่อเสียงที่ยิ่งใหญใหกับ ‘อรหันตขวงซา (ทรายคลั่ง’ ในสำนัก
นอกรีต นับวาเปนอาวุโสที่มีชื่อเสียงเกรียงไกร
เวลานี้ เขากลาไปยุงกับราชันยเปลวระยับผูมีชื่อเสียงยิ่งใหญในผูบำเพ็ญเพียร
สายชั่วราย ก็เพราะมีสมบัติอาคมสองชิ้นนี้
แตเวลานี้ ในตอนที่ปลอยทรายเขาไปในเขตอาคมเพื่อตอกรกับผูบำเพ็ญเพียรนิร
นามเบื้องหนา ไมเพียงจะไมอาจทำรายศัตรูได กลับถูกอีกฝายปลอยวานรยักษออกมา
ดูดไปไมนอยอยางรวดเร็ว
แนนอนวานี่จึงทำใหชายรางใหญที่สวมชุดสีเหลืองรูสึกเจ็บปวดอยางสุดๆ ไหน
เลยจะกลาควบคุมหมอกทรายใหลอมโจมตีอีกฝายอีกครั้ง เขาจึงรายอาคมดวยความ
รอนรน เก็บทรายสีดำที่อยูรอบกายของหานลี่กลับมาจนหมด ในเวลาเดียวกันเรื่องนี้ก็
ทำใหเขาลังเล รูสึกอยากจะหนีไปอยางอดไมได!
“พี่ขวงซา ทานไมไดยืมทรายเทวะผลึกฟามาหรือ? ใชมันตอกรกับคนผูนี้ไปเลยสิ
ถึงแม วาวานรยักษ ของคนผูนี้ จะไม รูวาเป น อสูรวิญ ญาณอะไร แต เห็ น ได ชัดวามั น
ควบคุมไดแคไอมาร ทรายเทวะผลึกฟานั้นเปนสมบัติตระกูลเตาที่บริสุทธิ์ อีกฝายไมมี
ทางรับมือไดแนนอน ขอแคสังหารคนผูนี้ได ทุกอยางก็ยังคงเปนไปตามแผนเดิมแลว”
ประโยคนี้ก็คือคำพูดของทานเทียนเฟงชายชราผูที่มีหนาตาอัปลักษณ ใบหนาดำคล้ำ
ตาตี่หนาตาเหมือนอาชา
เพื่อการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ คนผูนี้ไดเสียโลหิตสดๆ ไปจำนวนมาก เหมือนเห็นวา
จะสำเร็จแลว จึงไมยอมใหมันลมเหลวงายๆ
“ขาจะเอาทรายเทวะผลึกฟาไวใชในเหตุการณที่คาดไมถึงเทานั้น ถึงไดขอสมบัติ
รักษาชีวิตมาไดอยางยากลำบาก ทานยายศิลาสวรรคและขามีตนกำหนดมาจากที่
เดียวกัน ถึงไดยอมใหยืม ขาเองก็รับคำเอาไวแลววา จะใชสมบัติชิ้นนี้เพื่อรักษาชีวิต
เทานั้น ถาหากพลาดพลั้งเสียหายไป ขาก็รับผิดชอบไมไหว” อรหันตขวงซาไดยิน
คำพูดนี้ ก็สั่นศีรษะราวกับกลองสะบัดชัยทันที พลางเอยปากปฏิเสธความคิดนี้
“แตผูบำเพ็ญเพียรที่อยูเบื้องหนา สมบัติอาคมและอสูรวิญญาณตางรายกาจเปน
พิ เศษ หากพวกเราไม ใช ท รายนี้ ก็ ไม มี ท างต า นทานเขาได หรื อ ว า ก อ นหน านี้ ยั ง
เสียเวลาไปไมนอย อยางอื่นก็ชางเถิด แตไขมุกซากสวรรคของมารเฒานั้น เปนสมบัติ
ในการฝกรางกายที่หายาก มีความสำคัญตอการบรรลุระดับขั้นของพวกเราเปนอยาง
มาก!” ทานเทียนเฟงไดยินคำพูดนี้ ก็อดที่จะโมโหไมได
“เหอะ! ไขมุกซากสวรรคสำคัญ แลวทรายเทวะผลึกฟ าไมสำคัญ หรือ ทรายนี้
ไมใชสิ่งที่จะนำกลับมาใชใหมได มันใชไดเพียงครั้งเดียว และเมื่อใชไปแลว ขาก็จะไมมี
ทรายเทวะผลึกฟาอีก ทานยายศิลาสวรรคและขามีแหลงกำเนิดที่มาเดียวกัน แตการ
จะใหขาเปนครั้งที่สอง กลับเปนเรื่องที่เลิกคิดไปไดเลย
และยิ่งไปกวานั้นความสามารถของคนที่ อยูเบื้ องหนา ก็ลึกล้ำยากจะคาดเดา
ทรายผลึกฟาก็อาจจะโจมตีอีกฝายใหเพลี่ยงพล้ำไมได หากถูกอีกฝายทำลายไป นั่นจะ
ยิ่งรายแรงเขาไปใหญ”
อรหันตขวงซาสงเสียงเหอะออกมา ยังคงเอยอยางไมเห็นดวย
“แต...” ถึงแมวาทานเทียนเฟงจะรูสึกวาอีกฝายพูดจามีเหตุผล แตก็ยังรูสึกไม
ยินยอม และคิดจะเอยชักจูงอีกสองสามประโยค แตในตอนนั้นเอง จูๆ เพลิงลำแสง
สายหนึ่งก็พุงออกมาจากจุดที่ไกลออกไป หลังจากหมุนวนเหนือหมอกทรายรอบหนึ่ง
แลว ก็จมหายเขาไปในหมอกทราย ตกไปอยูในมือของชายรางใหญสวมชุดสีเหลือง
“นี่คือ…” หลังจากที่ชายรางใหญถือยันตถายทอดเสียงที่กลายเปนเพลิงลำแสง
เอาไว ก็รูสึกตกตะลึง จากนั้นก็แผจิตสัมผัสเขาไปในนั้นอยางไมลังเลแมแตนอย
หลังจากผานไปชั่วครู ใบหนาของชายรางใหญก็เครงขรึมขึ้น มือหนึ่งโบกสะบัด
เปลวเพลิงสลายหายไปอยางไรรองรอย
“ไปกั น เถิ ด ! ตอนนี้ ต อ ให ใ ช ท รายเทวะผลึ ก ฟ า ก็ ส ายไปเสี ย แล ว เจ า ตั ว ไร
ประโยชนอยางชีจื่อและซานซา ถูกฮูหยินอวี้หัวใชทหารซากศพทลายผนึกของพวก
เราแลว และกำลังนำซากวิญญาณระดับสูงจำนวนมาก มุงมาทางนี้ หากยังไมไป คง
อันตรายมาก” อรหันตขวงซาเอยอยางเย็นชา
เมื่อไดยิน ทานเทียนเฟงพลันตื่นตะลึง แลวถึงไดกำจัดความเพอฝนขั้นสุดทาย
ออกไป ทำไดเพียงตอบรับอยางจนปญญา
จากนั้นทั้งสองคนก็ไมกลาดูแคลน รีบรอนรายอาคม หมอกทรายสีดำหมุนวน
อยางรุนแรง จูๆ ก็พุงขึ้นไปกลางอากาศพรอมกัน ผนึกรวมตัวกัน ตอจากนั้นก็หนีไป
ยังจุดที่ไกลออกไปอยางมืดฟามัวดิน ตั้งแตตนจนจบชายรางใหญและพวกทั้งสองคน
ก็ไมไดโผลหนาออกมาอีกเลย
หานลี่ยืนอยูบนไหลของวานรยักษ สายตาทอดมองไปยังอีกฝายที่อยูไกลออกไป
ดวยความเย็นชา
เวลาของเขามีจำกัด ถาหากอีกฝายยังตามติดไมลดละ ไมแนวาอาจจะตองใชเตา
นภาสูญอีกครั้ง ตอนที่ใชเตานภาสูญครั้งที่แลว ก็สามารถเก็บทรายวิญญาณของธิดา
เทพเที ยนหลานมาไดโดยอัต โนมั ติ หากตอ กรกับ หมอกทรายพวกนี้ ก็น าจะไม ใช
ปญหาอะไร
เพียงแต ถึงอยางไรเตานภาสูญ ก็คือสมบัติวิญ ญาณสะทานฟา แมจะบอกวาผู
บำเพ็ญเพียรที่อยูนอกมหาสมุทรดาวคลั่งนาจะรูจักเพียงไมกี่คน
เขาก็ไมอยากเอาออกมาใชงายๆ มิเชนนั้น หากบังเอิญมีใครรูจักเขา มันจะยิ่ง
ยุงยากเขาไปใหญ ถึงแมวาเขาจะมีลมปราณมากมายขนาดไหน เกรงวาถึงเวลานั้นคง
หาความสงบสุขไดยาก
“สหายมีอภินิหารเกรียงไกรจริงๆ คาดไมถึงวาจะทลายทรายหยุดวิญญาณได!
ชางทำใหขาไดเปดประสบการณจริงๆ ขาจะมอบของรางวัลใหสหายที่ชวยชีวิตขา
เอาไวอยางงามแนนอน” ราชันยเปลวระยับเห็นชายรางใหญที่สวมชุดสีเหลืองและ
พวกพาหมอกทรายจากไปจนลับขอบฟาแลว ในใจก็รูสึกผอนคลายลง ทวากลับไมได
สลายเพลิงซากศพรอบกายออก แตอยูในเพลิงลำแสง และคารวะหานลี่พลางเอย
อยางตรงไปตรงมา
หานลี่ไดฟง สายตาถึงไดตกไปที่รางของราชันยซากศพหมื่นปผูนี้
หมอกทรายจากไปอยางรวดเร็ว แตสถานการณของราชันยซากศพผูนี้ไมคอยดี
เทาไหรจริงๆ ไอวิญญาณบนรางลดลงกวาตอนกอนจะแปลงรางกวาครึ่ง ดูแลวภายใต
สถานกาณท่ีไดรับบาดเจ็บหนักนี้ การพนเพลิงซากศพประจำกายออกมาตานทาน
ทรายหยุดวิญญาณ จะเปนเรื่องที่ทำใหจิตวิญญาณดั้งเดิมเสียหายจริงๆ
แววตาของหานลี่ราบเรียบ ขณะจองไปยังมารเฒ าอยางไรความรูสึก ถึงแมวา
ราชันยเปลวระยับจะไมใชผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ
แตหลังจากที่เห็นความสามารถเมื่อครูของหานลี่ ก็อดที่จะรูสึกหนาวสะทานไมได
ความระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้นสิบสองสวน เพราะกลัววาขางหนามีเสือ ขางหลังก็จะมี
จระเขอีกตัวหนึ่ง
สวนวานรยักษที่อยูใตรางหานลี่ ตั้งแตที่หมอกทรายจากไป ก็ยืนอยูที่เดิมไมขยับ
เขยื้อน ดวงตากลมโตหรี่ลงครึ่งหนึ่ง ราวกับวากำลังลิ้มรสชาติทรายสีดำจำนวนมากที่
เพิ่งดูดเขาไปในทอง
เวลานี้ราชันยเปลวระยับมองหานลี่ดวยสายตาเปนปฏิปกษเล็กนอย และมันที่
เชื่อ มโยงจิตใจกับ หานลี่ก็สัม ผัสได ทั น ที จึงเลื่ อนสายตาทั้ งสองมา จ องเขม็ งไปยั ง
ราชันยซากศพหมื่นปผูนี้ทันที
จากนั้นใบหนาของอสูรตัวนี้ก็เผยสีหนาเหมือนมนุษยออกมา ปากใหญๆ อาออก
สงเสียงเจี๊ยกๆ ไมหยุด ดูเหมือนวาพบอาหารอันโอชะอยางไรอยางนั้น และแสดงสี
หนานารังเกียจออกมา
สายตาเชนนี้ทำใหราชันยเปลวระยับซึ่งเปนจักรพรรดิโบราณที่อยูเบื้องหนา รูสึก
ขนลุกซู
เมื่อครูเขาเห็นวานรตัวนี้ดูดทรายหยุดวิญญาณเขาไปไดอยางงายดาย แนนอนวา
จึงรูถึงความนากลัวของวานรยักษตัวนี้ แมกระทั่งตอนที่เผชิญหนากับอสูรตัวนี้ ในใจก็
ยังผุดความหวาดกลัวโดยธรรมชาติขึ้นมา ถึงแมวาจะไมมากมายนัก
ราชันยเปลวระยับก็ยังเดาไดหลายสวนวาอสูรตัวนี้นาจะกักเขาไดโดยธรรมชาติ
จึงอดทีจ่ ะรองโอดครวญออกมาวาซวยแลวในใจไมได รางทั้งรางรูสึกสั่นสะทาน
“ถึงแมการลงมือครั้งนี้ จะเปนเพราะคนพวกนั้นหาเรื่องใสตัว แตไมวาจะอยางไร
ก็ตาม ขานอยก็ชวยชีวิตของทานเอาไวจริงๆ ที่ทานบอกวาจะมอบรางวัลอยางงามให
นั้นคืออะไรหรือ ขาอยากรูจริงๆ” ภายใตสถานการณที่ตึงเครียดนั้น ในที่สุดหานลี่
กลับมีสีหนาผอนคลายลง แลวเอยขึ้นอยางเชื่องชา
เขาไมใชคนที่มีความเปนสุภาพบุรุษอะไร บวกกับที่ไอมารในรางหนาแนนขึ้น
ตอนนี้เห็นที่นี่เหลือเพียงราชันยซากศพที่ไดรับบาดเจ็บหนักคนเดียว แนนอนวาจึงไม
คิดจะลงมือสังหาร
เมื่อครูหานลี่พิจารณาอีกฝายอยางละเอียด จากรางของอีกฝายทำใหสัมผัสไอซากศพ
ที่อยูในเกราะปองกันวัชระได บวกกับเมื่อครูไดยินชายรางใหญที่สวมชุดสีเหลืองเรียก
อีกฝายวา ‘พี่เปลวระยับ’ ก็พอจะคาดเดาฐานะของอีกฝายไดเจ็ดแปดสวน
บุรุษผูนี้คาดไมถึงวาจะเปนซากหลอมของจักรพรรดิสมญานามวา ‘เปลวระยับ’
ที่จินหยวนเอยถึง ไดพบอีกฝายรวดเร็วขนาดนี้ ชางเปนเรื่องที่นาประหลาดใจจริงๆ
ทวาหลังจากเขาฝน ใชเคล็ดวิชาขั บ เคลื่ อนดึ งสติ ตนเองกลั บ มาแลว ก็ คำนวน
ชวงเวลาปลดผนึกที่เหลือของตัวเอง อีกฝายนาจะมีเคล็ดวิชาลับใหใชเอาตัวรอดอีก
สองสามชนิด บวกกับที่ตนเองเผยความสามารถปกวายุอัสนี เปลวเพลิงน้ำแข็งออกมา
กอนแลว จึงไมมีทางสำแดงอะไรที่อยูนอกเหนือความคาดหมายเขาไดอีก ดวยเหตุนี้
ถึ ง แม ว า จะมี อ สู ร วิ ญ ญาณครวญคอยช ว ยเหลื อ แต ซ ากหมื่ น ป ก็ ไม ใช ซ ากหลอม
ธรรมดาๆ จริงๆ การจะจัดการอีกฝายไดในระยะเวลาสั้นๆ นั้นมีโอกาสไมมากนัก
ดังนั้นหลังจากที่หานลี่ขบคิดแลว ก็กดความคิดสังหารลงไป ทวาหลังจากชวยอีกฝาย
แลว ก็ควรจะหาอะไรตอบแทนสักหนอย ดังนั้นจึงไดเอยประโยคไมเกรงใจเมื่อครูขึ้น
“หึๆ ขานั้นไมมีอะไรหรอก จะมีก็แตศิลาวิญ ญาณวัตถุดิบอะไรพวกนี้ ถาหาก
สหายไมรังเกียจ ก็กลับไปพรอมขาเถิด ขาจะทำใหสหายพึงพอใจอยางแนนอน” เมื่อ
ราชันยเปลวระยับไดยิน ก็รูสึกผอนคลายลง ใบหนาเผยรอยยิ้มออกมาขณะเอย
“ไมตองยุงยากขนาดนั้นหรอก ขานอยเห็นวาไขมุกสีทองนั่นไมเลว สหายมอบให
ขาไดหรือไม!” สายตาของหานลี่หยุดชะงักอยูบนรางของอีกฝายชั่วครู แลวเอยขึ้น
ดวยสีหนาราบเรียบ
“สหายหมายถึงสิ่งนี้!” ราชันยเปลวระยับไดยินคำพูดของหานลี่ ก็มีสีหนาเครง
ขรึมขึ้น แตเมื่อเห็นวาวานรยักษยังคงจับจองมาดวยแววตาราวกับพยัคฆ ก็ไดแตฝน
ทนตอบรับ อาปากออก พนไขมุกสีทองเม็ดนั้นออกมาจากปาก
หานลี่พยักหนาอยางไมใสใจ แสดงใหเห็นวาคือเจาสิ่งนี้
“สิ่งนี้เรียกวาไขมุกซากสวรรค เปนสิ่งที่ซากราชันยอยางพวกเราตองฝกฝนคาถา
ซากสวรรค ถึงจะมีสมบัติประจำกายชิ้นนี้ได ปกติแลวไมอาจเอาออกมาใหใครเห็น
งายๆ ถาหากขาเดาไมผิดละก็ ปศาจทั้งสองแหงภูเขาฟางเจียน ก็มาเพื่อของสิ่งนี้ ทวา
ไขมุกเม็ดนี้กลับไมมีประโยชนอะไรตอขา สหายรับไปเถิด!” ราชันยเปลวระยับแววตา
เปลงประกายสองสามครั้ง จากนั้นก็หัวเราะออกมา ชี้ไปยังไขมุกสีทองเบื้องหนา ชั่ว
ขณะนั้นไขมุกพลันพุงไปหาหานลี่
หานลี่รูสึกตกตะลึง แตมือกลับไมไดหยุดอยูเฉยๆ ตะปบออกไปกลางอากาศ ชั่ว
ขณะนั้นบนทองฟาต่ำๆ มีมือยักษสีเขียวมือหนึ่งปรากฏขึ้น ควาไขมุกสีทองเอาไวใน
มือ
คาดไมถึงวามารเฒาจะไมไดทำอะไรกับไขมุกเม็ดนี้!
หานลี่ใชลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งหอหุมไขมุกเม็ดนี้เอาไว ดวงตาทั้งสองหรี่ลงพลาง
พิจารณาไขมุกอยางละเอียดรอบหนึ่ง เห็นวาไมใชของปลอม เปนไขมุกสีทองที่มาร
เฒาอัญเชิญออกมาเม็ดนั้นจริงๆ
สาเหตุที่เขาเอยปากของสิ่งนี้ แตเดิมคิดจะตอราคากับเขา แตอีกฝายกลับมอบให
อยางวองไวถึงเพียงนี้ ชางทำใหรูสึกตกตะลึงและฉงนสงสัยจริงๆ!
ตอนที่ 920 ไขมกุ คู
ความคิดของหานลี่เคลื่อนแวบผานไปราวกับสายฟ า ใบหน าเผยสีห น าขบคิ ด
ออกมา
“สหายไมจำเปนตองรูสึกประหลาดใจหรอก! วากันอยางไมปดบัง ถึงแมวาไขมุก
เม็ดนี้จะเปนไขมุกซากสวรรค แตกลับไมใชเม็ดที่ขานอยหลอมขึ้น และตอนนั้นที่ขา
ไดรับมหายุทธซากสวรรคมานั้น ก็ไดไขมุกมาอีกเม็ดหนึ่ง จึงไมมีความสัมพันธอะไรกับ
ขานอย ไขมุกซากสวรรคเปนสิ่งสำคัญกับขามาก แลวขานอยจะพกติดตัวทำไม มันถูก
เก็บซอนเอาไวในหองสุสานของขา” ราชันยเปลวระยับเห็นสถานการณเชนนั้น ก็ลังเล
เล็กนอย คาดไมถึงวาจะเผยสีหนาประหลาดใจออกมาพลางเอยอธิบาย
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง! ในเมื่อเปนเชนนี้ ขานอยก็จะขอเก็บไวอยางไมเกรงใจ…ดู
เหมือนวาคนของทานจะมาแลว เชนนั้นผูแซหานขอตัวกอนนะขอรับ” หานลี่เผยสี
หนาเขาใจแลวออกมา หลังจากพยักหนาแลว ก็ดูเหมือนคิดอะไรออกและกำลังจะ
ถามอีกครั้งนั้น กลับชักสีหนา เงยหนาขึ้นมองไปยังขอบฟาในจุดที่อยูไกลออกไป คาด
ไมถึงวาจะเอยลา
มารเฒาตกตะลึง ยังไมทันไดเอยอะไร รอบกายของหานลี่ก็เปลงแสงสีเขียวสวาง
วาบ กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่ง พุงแหวกอากาศออกไป
มารเฒ ามองเงาแผนหลังของหานลี่ที่จากไป ใบหนาเครงขรึมสลับกับสดใสไม
แนนอน รูสึกเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่งกับคำพูดของหานลี่
แตหลังจากผานไปชั่วครู ก็มีเสียงกรีดรองดังมาจากทิศทางที่สุสานโบราณตั้งอยู
จากนั้นขอบฟาก็มีเมฆสีเขียวหมุนวน ดานในมีไอซากศพอยูหนาแนน
ราชันยเปลวระยับเห็นเชนนั้น ชั่วขณะนั้นพลันรูสึกดีอกดีใจ ตอนนี้ตอใหอรหันต
ขวงซาและพวกกลับมา เขาก็ไมหวาดกลัวอีกฝายแลว
เขากลายเปนลำแสงสีเทาสายหนึ่ง แลวพุงทะยานออกไป
ขณะนี้ หานลี่กลับไมกลาชักชาแมเพียงเคอหนึ่ง เพราะเวลาในการปลดผนึกพลัง
นั้นเหลืออยูไมมากนัก เขาจากไปอยางรีบรอนราวกับกระแสไฟฟา เขาจำตองสลัด
ราชันยเปลวระยับและชายรางใหญที่สวมชุดสีเหลืองพรอมพวกที่จากไปกอนแลวให
ไกล มิเชนนั้นหากลมปราณถูกผนึก แลวเผชิญหนากับคนเหลานี้ เขาคงพบกับความ
ยุงยากครั้งใหญ
จากการเดินทางเต็มอัตราดวยลมปราณของหานลี่ในตอนนี้ แนนอนวาจึงบินได
รวดเร็วกวาปกติ กอนที่ลมปราณจะถูกผนึกอีกครั้ง
เขาก็เปลี่ยนทิศทางไปสองสามครั้ง คาดไมถึงวาจะบินหนีออกมารวดเดียวหมื่นลี้
ออกจากบริเวณของเทือกเขาแหงนั้น
หานลี่เพิ่งจะผอนคลายลง หลังจากแยกแยะทิศทางแลว ก็ขับเคลื่อนยุทธภัณฑ
ออกจากเทือกเขาอยางไมรีบรอน
ผานไปสองวัน หานลี่ก็รอนลงบนภูเขาเล็กๆ ที่รกรางไรผูคน จากนั้นพลันปลอย
ยุทธภัณฑออกมาสองสามชิ้น สรางถ้ำพำนักงายๆ ขึ้นแหงหนึ่งตรงตีนเขา จากนั้นก็
วางเขตอาคมชุดหนึ่งทันที เพื่อปดบังทางเขาเอาไว
สวนตัวหานลี่เองนั้น เดินเขาไปในหองลับของถ้ำพำนัก พลางนั่งสมาธิลง
‘เจาคิดจะเรียนรูคาถาราชันยกระจางที่นี่หรือ?’ เทพขับเคลื่อนที่ไมเคยปริปากมา
ตลอดทางที่หานลี่เลือกทิศทาง ในที่สุดก็ทนไมไหวเอยถามขึ้น
“ทำไม ที่นี่ไมไดหรือ?” หานลี่เอยถามขึ้นอยางราบเรียบ
‘เหอะ! ที่นี่ไมมีแมกระทั่งชีพจรวิญญาณ หากเจาฝกบำเพ็ญเพียรดวยความเร็วระดับนี้
วิญญาณของตาเฒาคงแตกสลายไปนานแลว’ เทพขับเคลื่อนเอยอยางไมสบอารมณ
“หึๆ เหตุใดทานอาวุโสตองโกรธเกรี้ยวดวย เมื่อครูขาแคลอเลนเทานั้น ระหวาง
ทางขาไดเรียนรูคาถาราชันยกระจางมานิดหนอยแลว คาถาขั้นที่หนึ่งก็พอไหว ไมได
ตองการไอวิญญาณมากนัก เดาวาใชเวลาแคสองสามปก็ฝกฝนสำเร็จแลว แตขั้นที่สอง
เปนตนไปนั้น เพิ่มความยากในการฝกบำเพ็ญเพียรเปนเทาตัว ยิ่งไปกวานั้นวิธีการ
ฝกฝนก็จำเปนตองใชลมปราณจำนวนมาก จำตองหาแหลงชีพจรวิญญาณถึงจะได มิ
เชนนั้น คงเสียเวลาไปมากกวาที่จินตนาการเอาไว และการกำจัดการแวงกัดของไอ
มารนั้น ก็จำตองฝกฝนคาถาราชันยกระจางสองขั้นแรก ถึงจะพอฝนเอาไอมารมาใช
ใหเปนประโยชนได” หานลี่หัวเราะออกมาเบาๆ ดูเหมือนวาอารมณจะไมเลวนัก
“แตถึงแมวาชีพจรวิญญาณในตาจิ้นนั้นจะมีอยูมากมาย แตกลับมีเจาของอยูแลว
ทั้งนั้น ตอใหเปนชีพจรวิญญาณที่ย่ำแยขนาดไหน ก็มีคนยึดครองอยูแลวแนนอน และ
ในเมื่อขาคิดจะฟนฟูลมปราณใหเร็วที่สุด ก็ไมอาจไปฝกฝนในที่ที่ มีชีพ จรวิญ ญาณ
ย่ำแยเกิน ไปได ทางที่ ดีที่ สุดคือตองปลอมตัวเขาไปในพรรคใหญ ๆ สักพรรค แล ว
ฝกฝนคาถานี้อยางเงียบๆ”
‘ฟ งดูแลว ดูเหมือนวาเจาจะมี แ ผนการในใจแลว’ เทพขั บ เคลื่ อนรูสึกอยากรู
ขึ้นมาเล็กนอย
“ถูกตอง ขามีเปาหมายอยูจริงๆ และยิ่งไปกวานั้นยังไมจำเปนตองสรางฐานะ
หลอกๆ ขึ้นมาดวย” หานลี่เอยอยางมีแผนการ
‘เอ! มีเรื่องดีๆ เชนนี้ดว ย ไหนลองเลาใหฟงซิ’ เทพขับเคลื่อนยิ่งรูสึกประหลาดใจ
มากขึ้น
“งายมาก ทานยังจำโฉนดที่ดินที่ไดมาจากอุโมงคลับของตระกูลเฝงไดหรือไม ใน
นั้นมีคัมภีรอยูมวนหนึ่ง บันทึกความลับของตระกูลเฝงเอาไวสองสามเรื่อง และเปน
ของตระกูลเฝงอยางพอดิบพอดี บางทีหลายปกอนอาจจะเตรียมไวเพื่อเปนทางหนีที
ไลใหกับลูกศิษยตระกูลเฝง มันคือฐานะที่ไมเกี่ยวของกับตระกูลเฝงเลย เพราะมันคือ
ตระกูลพอคาที่ร่ำรวยในเขตใต
พอคาที่ร่ำรวยผูนี้มีธุรกิจรานคาที่มีชื่อเสียงอยูสิบกวาแหง ทวาคนผูนี้นั้นเปนลูก
ลับ ๆ ที่ ตระกูลเฝงแอบเลี้ยงเอาไว และจงใจผลั กดั น ให เป น ผู น ำแต เพี ยงภายนอก
เทานั้น อำนาจที่แทจริงและโฉนดที่ดินของรานคานั้น ยังถูกควบคุมโดยตระกูลเฝง
ตอนนี้ตระกูลเฝงถูกกำจัดไปหมดแลว แตพอคาผูนี้ยังคงแข็งแรง หากมีคนผูนี้คอย
ชวยปกปดละก็ การคารวะเขาไปในพรรคใหญๆ สักพรรคทางเขตใตก็ไมใชปญหาแลว
จากนั้นสองสามป เมื่อกำจัดไอมารฟนฟูลมปราณมาไดกวาครึ่งแลว ขาก็จะออกไป
ตามหาวัตถุดิบไดอยางสบายใจแลว” หานลี่ไมไดมีเจตนาจะปดบัง จึงเอยออกมา
อยางละเอียด
‘มีเรื่องเชนนี้ดวย! นั่นเปนความคิดที่ไมเลว ทวา ตอนนี้ที่เจาหยุดอยูที่นี่ มีเจตนา
ใดหรือ คิดจะฝกฝนคาถาขั้นที่หนึ่งกอนหรือ?’ เทพขับเคลื่อนครุนคิด รูสึกวาไมมี
ปญหาอะไร แตก็ยังเอยถามขึ้นอีกประโยค
“ขาจะฝกฝนคาถาราชันยกระจางขั้นที่หนึ่งกอนจริงๆ ถึงอยางไรเสียเคล็ดวิชานี้มี
เพียงตองฝกฝนสักนิด ถึงจะมั่นใจวาความยากในการฝกฝนอื่นๆ จะมีปญ หาอะไร
หรือไม อีกอยาง จะถือโอกาสที่ไมมีผูใดรบกวน ทำใหเกราะปองกันวัชระยอมรับเปน
นายสักหนอย และผลึกที่กลายเปนแกนอสูรซึ่งไดมาจากการซื้อขายกอนนั้น ตอง
นำมาหลอมเป น เข็มบิ น ชุดหนึ่ ง เผื่ อ จะมี ป ระโยชน ในวัน ข างหน า แน น อนวาสิ่ งที่
สำคัญที่สุดนั้น คือสองอยางนี้ ขาตองจัดการกอน” หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือก
หนึ่ง พลิกฝามือ ไขมุกกลมๆ สีขาวและทองสองเม็ดปรากฏขึ้นในมือ นั่นก็คือไขมุก
ซากสวรรคที่เพิ่งไดมาและไขมุกผลึกหิมะที่ไดมาจากลูกศิษยของพระราชวังนพเซียน
“ไมตองพูดถึงไขมุกผลึกหิมะเลย นี่คือสมบัติธาตุน้ำแข็งที่หายากชิ้นหนึ่ง และยิ่ง
ไปกวานั้นยังไมเคยรับผูใดเปนนาย ถาหากหลอมมันไดในชวงนี้ จะตองมีประโยชนตอ
เพลิงตาขายสีมวงมากแน และในเมื่อไขมุกซากสวรรคเปนสิ่งที่คนมากมายอยากได
แมแตผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางก็ยังยอมสังหารผูคนเพื่อแยงชิงสมบัติ
อยางไมเสียดาย ดูแลวคงไมธรรมดาเชนกัน ทานอาวุโสรูประโยชนของมันหรือไม?”
หานลี่เอยถามอยางเครงขรึม
‘ของที่เกี่ยวของกับการฝกพลังสายภูตผีปศาจนั้น ตาเฒ ารูจักไมมากนักจริงๆ
ทวาไขมุกซากสวรรคนี้มีชื่อเสียงอยูไมนอย ตาเฒาพอรูมาบาง โดยปกติแลวเจาสิ่งนี้
จะมีเพียงซากราชันยที่ตั้งใจหลอมมันขึ้นมาเทานั้นถึงจะสรางมันขึ้นมาได ความจริง
แลวก็ถือวาเปนยาลูกกลอนในการชำระไขกระดูกของผูบำเพ็ญเพียรที่ฝกฝนรางกาย
เปนพิเศษได หลังจากกินเขาไปแลว มันจะคอยๆ ปรับปรุงรางกายของผูบำเพ็ญเพียร
ทำให รางกายแข็งแกรงขึ้นอยางรวดเร็ว หลังจากกินไปแลวก็อาจจะทำให รางกาย
แข็งแกรงดุจเหล็กกลาเหมือนกับราชันยปศาจหรืออสูรปศาจอะไรพวกนั้น และที่
ไขมุกซากศพนี้มีชื่อเรียกวาไขมุกซากสวรรค เดาวานาจะเปนเพราะผลลัพธของมันไม
ธรรมดากระมัง’ เทพขับเคลื่อนขบคิด พลางเอยเชนนี้ออกมา
“กินเขาไปหรือ? เหมือนกับการหลอมสมบัติอาคม ที่ดูดกลืนเขาไปแลวหลอมเอา
จากในรางโดยตรงหรือ?” หานลี่กมหนาลงมองไขมุกสีทอง พลางลังเลเล็กนอย
‘แนนอนวาไมอาจหลอมตรงๆ เชนนั้นได เดิมไขมุกซากศพนั้นก็มีพิษที่รายกาจ
อยางสุดๆ อยูในตัวของมันเอง จำเปนตองเอาไปผสมใหเปนของเหลวกอนเพื่อกำจัด
พิษของมันทิ้งไป วัตถุดิบที่ของเหลววิญญาณชนิดนี้ตองการ ถึงแมจะคอนขางหายาก
แตขาจำไดวาในตัวของเจามีครบ จึงไมจำเปนตองออกไปหาซื้ออีก สวนวิธีการฝกฝน
คาถาราชันยกระจางนั้นกวาครึ่งก็คงเกี่ยวของกับการหลอม ไมแนวาไขมุกนี้ อาจจะมี
ประโยชนตอการฝกฝนคาถาราชันยเปนอยางมากก็เปนได ขาจะคัดลอกสวนผสมลง
ในคัมภีรใหเจาดูกอนก็แลวกัน!’
เทพขับเคลื่อนกลับเปนฝายยื่นความชวยเหลือใหหานลี่กอน ถึงอยางไรเสียหาก
ไมกำจัดไอมารในรางออกไป หานลี่ก็ไมมีวันที่จะกลาออกไปตามหาวัตถุดิบแลว
“เชนนี้นี่เอง เชนนั้นก็รบกวนทานอาวุโสแลว!” หานลี่พนลมหายใจออกมาเฮือก
หนึ่ง เผยรอยยิ้มออกมาขณะเอย
หลังจากผานไปชั่วครู คัมภีรมวนหนึ่งก็ลอยออกมาจากกระบอกไมไผ หานลี่ใช
มือหนึ่งควาเอาไว และอานมันอยางละเอียด
แตหลังจากผานไปชั่วครู จูๆ เทพขับเคลื่อนก็เอยถามดวยน้ำเสียงแปลกๆ วา
‘เจาเด็กนอยหาน ตั้งแตที่เจาหนีออกมาจากทุงหญามูหลานจนถึงตอนนี้ ลืมเรื่อง
ที่สำคัญมากเรื่องหนึ่งไปแลวหรือ?’
“เรื่อ งสำคั ญ หรือ ? ท านอาวุโสหมายถึงสิ่งใดหรือ ขอรับ ?” หานลี่ ดึ งจิ ตสั ม ผั ส
ออกมา เอยถามอยางไมคอยเขาใจเล็กนอย
‘หรือวาเจาลืมไปแลววา เตาใบเล็กของสมบัติสะทานฟาใบนั้นใสอะไรเอาไว!’
เทพขับเคลื่อนไดยิน ก็ถอนหายใจออกมาขณะเอย
“ทานอาวุโสหมายถึง รางแปลงของอสูรศักดิ์สิทธิ์เทียนหลานตัวนั้นหรือ?” หานลี่
หัวเราะออกมา
‘ใช แ ล ว อสู รตั วนั้ น แหละ ตั้ งแต ที่ เจ าเก็ บ อสู รตั ว นั้ น มา ข าก็ เห็ น ว าเจ ายั งไม
จัดการเรื่องนี้เลยนี่? หรือวาประมาทจนลืมไปแลว’ เทพขับเคลื่อนหัวเราะหึหึออกมา
“ประมาทรึ แนนอนวาไมมีทาง ความจริงแลวขาอยากจะจัดการตั้งนานแลว แต
การที่ ขาจะควบคุ ม เตาใบนี้ ได นั้ น ก็ ต อ เมื่ อ ฟ น ฟู ล มปราณแล วเท านั้ น ดั งนั้ น ท าน
อาวุโสจึงไมรูเรื่องนี้”
‘เจาจัดการอยางไร?’ เทพขับเคลื่อนเอยถามอยางรูสึกสนใจเปนอยางมาก
“จะจัดการอยางไรไดละ! เตาใบนั้นไมใชสิ่งที่ขาจะเปดออกไดงายๆ ครั้งที่แลวที่
เปดมันได แลวดูดอสูรตัวนั้นเขาไป ก็เกินความคาดหมายของขาแลว ทำไดแคใชจิต
สัมผัสเชื่อมโยงกับอสูรตัวนั้นเล็กนอยเทานั้น” หานลี่หัวเราะขมขื่นออกมาขณะเอย
‘ผลเปนอยางไร?’ เทพขับเคลื่อนซักไซตอ
“เหอะ! อสูรตัวนั้นเพิ่งจะลงมาจุติไดไมนาน คาดไมถึงวาจะมีสติปญญาอยูไมเทาไหร
จึงไมมีทางพูดคุยกันได” หานลี่สงเสียงเหอะออกมาสองสามครั้งอยางกลัดกลุม
‘นั่นก็ปกติ ไมมีอะไรตองแปลกใจ ทวา ในเมื่ออสูรตนนี้เปนรางแปลงของอสูร
วิญญาณแหงแดนเบื้องบน เดาวาสติปญญาคงเปดออกหมดในอีกไมกี่ป ถึงเวลานั้น
คอยจัดการอสูรตัวนี้ใหมก็ไมสาย’ เทพขับเคลื่อนเอยอยางราบเรียบ
“มีเพียงตองทำเชนนี้แหละ! นาเสียดายที่ไมมีทางเอาเตาใบเล็กที่คลายกับเตานภาสูญ
ของธิด าเทพเที ยนหลานมาได มิ เช น นั้ น จากอานุ ภ าพของทรายวิญ ญาณที่ มั น พ น
ออกมา ก็เปนสมบัติอาคมที่มีความสามารถยอดเยี่ยมเปนอยางมากชิ้นหนึ่ง ดูแลวเตา
ใบนั้นคงจะเปนของลอกเลียนแบบเตานภาสูญกระมัง”
หานลี่เผยสีหนาเสียดายออกมา
‘เตาใบเล็กใบนั้น แคมองแวบเดียวก็รูแลววาไมใชสมบัติวิญญาณที่ใชสังหารศัตรู
โดยเฉพาะ กวาครึ่งคงเปนเพียงของสนับสนุน สวนพัดสัตตเปลวเพลิงนั้นเปนสมบัติ
วิญ ญาณประเภทโจมตี โดยเฉพาะ ถ าหากเจ ารวบรวมวัต ถุ ดิ บ ครบ หลอมสมบั ติ
ลอกเลียนแบบชิ้นนี้ตามวิธีของตาเฒ า จะทำให อานุภาพในการตอกรศัตรูของเจา
เหนือกวาเตาใบเล็กของธิดาเทพเทียนหลานอยางแนนอน มีอะไรใหนาอิจฉากัน!’
เทพขับเคลื่อนกลับหัวเราะออกมาอยางเย็นชาขณะเอย
ตอนที่ 921 เก็บสมบัติ
“ก็อาจจะกระมัง!” หานลี่กลับไมไดรูสึกประหลาดใจอะไร สมบัติอาคมธาตุเพลิง
ไมวาจะชนิดไหน เกาในสิบสวนก็จัดอยูในประเภทโจมตีทั้งนั้น ถึงอยางไรเสียพลัง
วิญญาณธาตุเพลิงก็คือพลังในการทำลายลางธาตุอื่นๆ อยูแลว
เมื่อพูดคุยกับเทพขับเคลื่อนมาจนถึงตรงนี้ หานลี่ก็ไมไดเอยอะไรอีก เพียงสะบัด
แขนเสื้อเบาๆ ไขมุกกลมๆ สองเม็ดในมือก็บินออกมา จากนั้นอาคมสองสายพลัน
โจมตีไปยังไขมุกสองเม็ดนั้น ลำแสงสีทองและขาวสองสีสวางวาบ ไขมุกกลมๆ สอง
เม็ดลอยอยูกลางอากาศไมขยับเขยื้อน
หานลี่แววตาเปลงประกาย ยื่นมือออกไปตบลงบนยามเก็บของ ชั่วขณะนั้นขวด
และกลองหยกเจ็ดแปดอัน เตาหลอมเล็กๆ สีเงินใบหนึ่งพลันลอยออกมาจากยามเก็บ
ของตามลำดับ พลางรอนลงบนพื้นเบื้องหนาอยางมั่นคง สวนเตาใบเล็กใบนั้นพลัน
หยุดอยูกลางอากาศต่ำๆ เบื้องหนา
สองมือพลันรายอาคม ชี้ไปยังเตาเล็กใบนั้น เตาใบนั้นพลันสั่นสะเทือน ฝาเตา
เปดออกโดยอัตโนมัติ หลังจากหมุนโคจรรอบหนึ่งก็ลอยอยูกลางอากาศ และในเวลา
เดียวกันนั้น กลองหยกบางกลองบนพื้ นก็เปดฝาออกโดยอัตโนมัติ เผยให เห็ นผงสี
เขียวๆ ขางใน
หานลี่อาปากออก พนไอวิญญาณสีเขียวเขมกลุมหนึ่งออกมา โจมตีไปยังกลอง
หยกใบนั้น
ลำแสงวิญ ญาณสวางวาบ ผงวิญ ญาณกวาครึ่งในกล อ งหยกถู ก ลำแสงสี เขี ย ว
หอหุมเอาไวแลวหมุนเปนเกลียวลอยขึ้นมากลางอากาศ หลังจากหมุนวนหนึ่งรอบก็
พุงเขาไปในเตาใบเล็ก
หานลี่คำรามดวยเสียงต่ำๆ พนเปลวเพลิงสีเขียวสายหนึ่งออกมาจากปาก เปน
ลูกไฟเล็กๆ แตเมื่อโจมตีไปยังเตาเล็กๆ เปลวไฟก็พลันลุกโชติชวงขึ้นในทันที คาดไม
ถึงวาจะหอหุมกวาครึ่งของเตาใบนั้นเอาไว และหลังจากที่พนเปลวเพลิงออกมา สีหนา
ของหานลี่ก็ซีดขาวลง เห็นไดชัดวาออนเพลียเปนอยางมาก
หานลี่อดที่จะหัวเราะอยางขมขื่นในใจไมได
หลังจากที่ลมปราณถูกผนึกเอาไว คาดไมถึงวาการฝนเอาเพลิงทารกออกมาจาก
รางทารก จะยากเย็นแสนเข็ญขนาดนี้ แนนอนวานี่เกี่ยวของกับจิตวิญญาณดั้งเดิม
ของเขาที่ไดรับความเสียหาย และยังไมฟนฟูกลับมาเปนดังเดิม
เวลานี้เอง เขาชูมือขึ้นชี้ขวดหยกที่มีลักษณะเรียวยาวขวดหนึ่งซึ่งลอยอยูกลางอากาศ
ขวดพลันลอยขึ้น คอยๆ บินไปอยูเหนือเตาใบเล็ก เมื่อฝาขวดเปดออก ตัวขวดก็
พลิกคว่ำ หยดของเหลวสีเขียวมรกตหนาเทาหัวแมมือลงไปในเตา ชั่วพริบตานั้นพลัน
ผสมเขากับผงสีเขียว จากนั้นเสียงบริกรรมคาถาที่ทุมต่ำพลันดังขึ้น เขากระตุนเปลว
เพลิงสีเขียวบนเตาใบเล็ก ทำใหความรอนแรงพุงสูงขึ้นในทันที หอหุมเตาทั้งใบเอาไว
หลังจากผานไปเพียงชั่วครู กลิ่นหอมของยาก็ลอยออกมาจากเตาใบนั้น
หานลี่ขมวดคิ้วเล็กๆ มือหนึ่งโบกสะบัด กลองหยกอีกใบหนึ่งลอยขึ้นกลางอากาศ
สมุนไพรวิญญาณสีแดงเพลิงตนหนึ่งในกลองถูกเทลงไปในเตา
ก็เปนเชนนั้น ภายใตการควบคุมอยางตั้งใจของหานลี่ ในทุกๆ ชวงเวลาหนึ่ง เขา
ก็คอยๆ เพิ่มสมุนไพรวิญญาณและของเหลววิญญาณลงไป…
หลังจากผานไปหนึ่งวันหนึ่งคืน ในที่สุดของที่อยูในเตาก็ปรุงเสร็จสิ้น
หานลี่สะบัดแขนเสื้อ ชั่วขณะนั้นเพลิงทารกบนเตาพลันสลายหายไป เตาใบเล็กสี
เงินรอนลงมาบนมือของหานลี่อยางเชื่องชา มือหนึ่งถือเตาใบเล็กใบนั้นเอาไว กมหนา
ลงเพงสมาธิมองเขาไป เห็นเพียงของเหลวสีเขมปริมาณไมมากนักอยูภายในเตา มัน
เปนสีเขียวมรกตแวววาว กลิ่นหอมเตะจมูก!
“เปนของเหลวชนิดนี้ไมผิดสินะ!” หลังจากมองไปแวบหนึ่งแลว หานลี่ก็รูสึกวาไม
มีปญหาอะไร เหมือนกับที่ในคัมภีรกลาวไวอยางไรอยางนั้น แตก็ยังถามสักหนอยดวย
ความรอบคอบ
‘ของเหลวนี้แหละ คิดไมถึงวาทักษะการปรุงยาของเจาจะล้ำลึกถึงขนาดนี้ ขายัง
นึกวาหากตองการปรุงของเหลวชนิดนี้ อยางนอยที่สุดตองเสียไปซักสองเตาเสียอีก!
หากพูดถึงแคการปรุงยา ฝมือของเจาสูงสงกวาตาเฒาในตอนนั้นอยูหลายสวน ตอนนี้
เจาก็เอาไขมุกซากสวรรคแชไปในของเหลวนั้นเจ็ดวันเจ็ดคืน มันก็จะขจัดพิษบนไขมุก
ไปไดโดยอัตโนมัติ จากนั้นก็กลืนเขาไปไดอยางวางใจแลว’ เทพขับเคลื่อนเอยอยาง
เฉยเมย
หานลี่ไดยินแลวพลันหัวเราะออกมา กลับไมไดตอบรับอะไร และชี้ไปยังไขมุกสี
ทองที่ยังคงลอยอยูกลางอากาศ ดวยเคล็ดวิชาลอยตัวที่เขาสำแดงออกมา ชั่วพริบตา
ไขมุกเม็ดนั้นพลันกลายเปนลำแสงสีทองสายหนึ่ง ตรงเขาไปในเตาใบเล็ก จากนั้นฝา
เตาก็ประกบลงกับตัวเตา ปดผนึกลงอีกครั้ง
จากนั้นหานลี่พลันวางเตาใบนั้นไวที่มุมหอง และไมถามถึงอีก ดึงความสนใจมา
อยูที่ไขมุกผลึกหิมะ
การหลอมไขมุกเม็ดนี้ไมมีความยุงยากมากนัก
เขาพลิกฝามือ เสียงบริกรรมคาถาที่แผวเบาจนแทบไมยินดังขึ้น เปลวเพลิงสีมวง
เล็กๆ กลุมหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝามือ เมื่อพลิกฝามืออีกครั้ง เปลวเพลิงสีมวงกลุมนั้นก็
พุงออกไป โจมตีไปยังไขมุกผลึกหิมะ
ชั่วขณะนั้นผิวของไขมุกผลึกพลันเปลงแสงสีขาวสลับกับสีมวงไมหยุด ภายใต
ลำแสงสวางจา ก็คอยๆ ผสานเปนหนึ่งเดียวกับเพลิงตาขายสีมวง
หานลี่เห็นเชนนั้นพลันมีสีหนาดีอกดีใจฉายแวบผาน จากนั้นก็พนลำแสงสีเขียว
กลุมหนึ่งออกมาจากปาก ชั่วครูก็หอหุมไขมุกผลึกเอาไวขางใน
ไขมุกผลึกที่อยูทามกลางลำแสงหดเล็กลงอยางรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็มีขนาดเทายา
ลูกกลอน จากนั้นก็ถูกมวนกลับมาและกลืนกินเขาไปในทอง
หานลี่ ห ลั บ ตาทั้ ง สองข า งลงด ว ยสี ห น า เคร ง ขรึ ม มื อ ทั้ ง สอประสานกั น เป น
สัญลักษณของการทำสมาธิ คนก็เขาสูสภาวะเขาฌาน รางกายไมขยับเขยื้อน
เห็ น เพี ย งไข มุ ก ผลึ ก หิ ม ะในเวลานี้ อ ยู ใ นจุ ด ตั น เถี ย น ถู ก เปลวเพลิ ง สี ม ว งที่
กลายเปนฐานดอกบัวขนาดสองสามชุนรองเอาไวดานลาง หมุนโคจรเปนวงกลมไม
หยุด และดานลางของไขมุก ทารกประจำกายก็กำลังนั่งสมาธิอยู สองมือประสานกัน
ไวเชนกัน เปลวเพลิงสีมวงและไขมุกผลึกชวยสงเสริมกันและกัน จนทำใหดูลึกลับเปน
พิเศษ
หานลี่เห็นเชนนั้น พลันรูสึกผอนคลายลง
อาศัยจากพลังยุทธระดับสรางของเขาในตอนนี้ แนนอนวาไมอาจหลอมสมบัติ
ไขมุกโดยตรงได แตโชคดีที่เพลิงตาขายสีมวงของเขาทรงพลังและแปลกประหลาด
เปนอยางมาก จึงสามารถกลืนไขมุกเม็ดนี้เขาไปในรางกอนแลวใชเพลิงชนิดนี้หลอมได
เลย รอถึงตอนที่สามารถหลอมเพลิงชนิดนี้ไดในอนาคต ก็สามารถหลอมเพลิงชนิดนี้
และไขมุกผลึกหิมะทั้งสองอยางไดพรอมกัน และยิ่งไปกวานั้นภายใตการควบคุมของ
เพลิงตาขายสีมวง ในชวงเวลาที่สำคัญก็ยังสามารถควบคุมสมบัติไขมุกชิ้นนี้ใหออกมา
ตอกรกับศัตรูได
เมื่ อ จั ด การเรื่อ งของไข มุ ก ทั้ งสองเสร็ จ สิ้ น หานลี่ ก ลั บ ไม ได จั ด การเรื่อ งต อ ไป
ในทันที แตนั่งสมาธิอยูภายในหองลับอยูครึ่งวัน ทำใหลมปราณและจิตสัมผัสฟนฟู
กลับมาเล็กนอย แลวถึงไดดึงยามเก็บอสูรวิญญาณออกมาจากเอว โยนขึ้นไปกลาง
อากาศ ลำแสงสีขาวพุงออกไป วัตถุสีทองเรืองรองปรากฏขึ้นกลางอากาศ นั่นก็คือ
เกราะป อ งกั น วั ช ระที่ ยั ง หลอมไม เสร็ จ และในฟองอากาศกึ่ ง สำเร็ จ รู ป นั้ น อสู ร
วิญญาณครวญก็กำลังนอนหมอบอยูในนั้น พลางหลับอุตุพรอมกรนสนั่นหวั่นไหวไม
หยุด
หานลี่เห็นเชนนั้น ก็หยักมุมปากเล็กนอย ทาทางเหมือนหัวเราะก็ไมไดรองไหก็ไมออก
อสูรวิญญาณครวญตัวนี้ขี้เซาเกินไปหนอยจริงๆ ตอนที่เรียกมันออกมานั้น แปด
ในสิบครั้งลวนกำลังหลับอุตุอยู
หลังจากหัวเราะอยางขมขื่นแลว หานลี่ก็ยื่นมือออกไปดีดนิ้วใสเกราะปองกัน
วัชระอยางจนปญญา ดวงแสงสีเขียวขนาดไมใหญนักพลันบินออกมา โจมตีไปยังผิว
ของฟองอากาศสีทองอยางพอดิบพอดี ลำแสงสีทองจางๆ กระเพื่อมเล็กนอย และดีด
ลำแสงดวงนั้ น กลั บ มาอยางเงียบเชีย บ แต เมื่ อ อสูรวิญ ญาณครวญที่ อ ยูด านในถู ก
รบกวนก็ลืมตาทั้งสองขางขึ้นอยาสะลืมสะลือ ไมนานก็ตื่นขึ้นมา
เมื่อเห็นวาตนเองอยูนอกยามเก็บอสูรวิญญาณ ปากมันก็เปลงเสียงรองเจี๊ยกๆ
ออกมา กลายเปนลำแสงสีดำสายหนึ่งพุงออกมาจากฟองอากาศ หลังจากหมุนวนรอบ
หนึ่ง ก็รอนลงบนไหลของหานลี่อยางเชื่อฟง จากนั้นพลันใชศีรษะที่มีขนปุกปุยไถตน
คอของหานลี่ไปมาไมหยุด
จากการรูจักกันมาหลายป อสูรตัวนี้ไดมองวาหานลี่เปนเสมือนญาติพี่นองตั้งนาน
แลว มันรูสึกสนิทสนทกับหานลี่เปนอยางมาก
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา เอียงศีรษะยื่นมือออกไปลูบหัวของอสูรตัวนี้เบาๆ
แลวหันหนาไปมองเกราะปองกันวัชระที่หยุดอยูกลางอากาศ
เพี ย งแขนเสื้ อ โบกสะบั ด ลำแสงสี เขี ย วเข ม กลุ ม หนึ่ ง ก็ พุ ง ออกมา ม ว นเอา
ฟองอากาศสีทองไวขางในทันที ลำแสงหมื่นสาย ลอมรอบสมบัติชนิ้ นี้เอาไวพลางหมุน
โคจรไปมาไมหยุด แตฟองอากาศสีทองกลับไมมีปฏิกิริยาตอบสนองแมแตนอย ราว
กับเปนสิ่งที่ตายไปแลวอยางไรอยางนั้น
หานลี่ตกตะลึงไปเล็กนอย หลังจากขบคิดอยูชั่วครู สองมือพลันรายอาคมอยาง
รวดเร็ว ปากก็รายคาถาเก็บสมบัติอีกชนิดออกมาพรอมกัน
อาคมสีเขียวสายแลวสายเลา โจมตีไปยังผิวของเกราะปองกันวัชระ ผลลัพธคือ
นอกจากทำใหลำแสงวิญญาณของสมบัติชิ้นนี้กระเพื่อมสองสามครั้งแลวก็ไมสามารถ
ทำอะไรได
เวลานี้ หานลี่พลันหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
ทวา จากประสบการณและความสามารถของเขา คาถาอาคมและขั้นตอนในการ
เก็บสมบัตินั้น แนนอนวาไมอาจใชไดแคเพียงสองชนิด
หลังจากสูดลมหายใจลึกๆ เขาไปเฮือกหนึ่ง หานลี่ก็ไมยอมแพประสานมือเปน
สัญลักษณรูปแบบตางๆ หลายอยางอยางตอเนื่อง ปากก็บริกรรมคาถาเสียงสูงบางต่ำ
บางไมหยุด อาคมหลากสีสันพลันดีดออกมาจากหวางนิ้วทั้งสิบของเขาอยางตอเนื่อง
จากนั้นเวลาก็คอยๆ ไหลผานไป เกราะปองกันวัชระยังคงไมมีผลใดๆ เกิดขึ้น ใน
ที่สุดสีหนาของหานลี่ก็ดูไมไดขึ้นมา หลังจากพนคาถาเก็บสมบัติที่ตนเองรูจักชนิด
สุดทายออกมาแลว เสียงบริกรรมคาถาก็หยุดลงอยางกะทันหัน
“ทานอาวุโสขับเคลื่อน นี่มันเรื่องอะไรกันแน? ถึงแมวาตอนนี้พลังยุทธของขาจะ
อยูแคระดับสรางปราณ แตก็ไมถึงกับเก็บสมบัติชิ้นนี้ไมไดกระมัง! พระธาตุวัชระที่
กลายเปนสมบัติชิ้นนี้ มีอะไรแปลกไปหรือไม?”
หานลี่ขมวดคิ้วแนนขณะเอยถาม
‘เกราะป อ งกั น วั ช ระเป น การนำพระธาตุ ข องสำนั ก พุ ท ธมาหลอมเป น สมบั ติ
ปองกันตัวโดยใชเพลิงซากศพหลอมขึ้น แตเดิมเปนวิธีการหลอมของสมบัติอาคมที่หา
ยากชนิดหนึ่ง ถึงอยางไรเสียแตเดิมพระธาตุและเพลิงซากศพก็เปนสิ่งที่หลอมเขา
ดวยกันยากอยูแลว วิธีการเก็บธรรมดาๆ ไมอาจใชได ก็เปนเรื่องที่ไมไดอยูนอกเหนือ
ความคาดหมายอะไร แตเดี๋ยวขาจะถายทอดคาถาเก็บพระธาตุชุดหนึ่งใหเจา เจาก็ดู
เอาแลวกันวาใชไดหรือไม’ เทพขับเคลื่อนกลับเอยอยางสบายๆ
“ตกลง! ขาจะลองดู” หานลี่เอยตอบรับอยางไมตองคิด
หลังจากผานไปครึ่งคอนวัน ในที่สุดหานลี่ที่ใชคาถาใหม ก็พอจะฝนทำใหสมบัติ
ชิ้นนี้หดเล็กลง แลวเก็บเขามาในมือได ทำใหหานลี่ผอนคลายลงเฮือกหนึ่ง ทวา เมื่อ
หานลี่รายคาถาตามที่เทพขับเคลื่อนถายทอดให คิดจะหลอมเกราะปองกันวัชระขั้น
สุดทายใหเสร็จสิ้น กลับพบกับความยุงยากยิ่งกวาเดิม
เมื่อเขาใชเพลิงทารกหลอมเกราะปองกันวัชระ มันกลับไมมีผลเลยแมแตนอย
และเวลานี้ แมแตเทพขับเคลื่อนก็ไมอาจทำอะไรได
จากที่เทพขับเคลื่อนคาดเดา การจะหลอมเกราะปองวัชระขั้นสุดทายใหเสร็จสิ้น
นั้น คงจำเปนตองใชเปลวเพลิงซากศพหมื่นปหลอมถึงจะได
หานลี่ไดฟงแลว ก็อดที่จะคอนปะหลักปะเหลือกไมได พลางเอยอยางกลัดกลุมวา
“เหอะ! เพลิงซากศพหมื่นป จะใหขาไปหาจากไหนเลา หรือคิดจะใหขาไปภูเขา
เนินหิมะ วิ่งไปมัดราชันยเปลวระยับไวอีกครั้ง”
เทพขับเคลื่อนไดยินคำพูดนี้ ก็ทำไดเพียงสงเสียงหึๆ ออกมาอยางจนปญญา เวลา
นั้นทุกอยางพลันตกอยูในความเงียบสงัด
ในตอนที่หานลี่กำลังรูสึกอับจนทนหนทางแมกระทั่งมีวิธีการใชเกราะปองกัน
วัชระอยูนั้น วานรนอยที่นั่งอยูบนไหลของหานลี่มาตลอดโดยไมพูดอะไรนั้น กลับอา
ปากออก พนเปลวเพลิงสีเทาขาวสายหนึ่งออกมา ชั่วครูก็หอหุมเกราะปองกันวัชระ
เอาไวกลางอากาศ
แตเดิมเกราะปองกันวัชระที่เงียบกริบไรสุมเสียง ชั่วขณะนั้นพลันเปลงเสียงรอง
ต่ำๆ ออกมา ฟองอากาศสีทองที่อยูในเปลวเพลิงสีเทา เดี๋ยวหดเล็กลงเดี๋ยวขยายใหญ
ขึ้นอยางฉับพลัน
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ หานลี่พลันตกตะลึง
“เพลิงซากศพหมื่นป!” เทพขับเคลื่อนตกตะลึงอยางสุดๆ พลางเอยพึมพำออกมา
ตอนที่ 922 ตระกูลกาน
เขตหนานคือเขตหนึ่งทางภาคเหนือที่มีเขตแดนติดตอกับภาคกลาง หากวากัน
ตามขนาดของพื้นที่แลว เขตนี้จัดอยูในอันดับหนึ่งในสามจากเขตทั้งหมดสามสิบหก
เขต แตความร่ำรวยกลับจัดอยูในหาอันดับแรกเทานั้น พื้นที่สวนใหญของเขตปกครอง
นี้ เป น หมู บ า นริ ม แม น้ ำ มี ผ ลิ ต ผลมากมาย มี ภู เขาวิ ญ ญาณและที่ ร าบลุ ม ไม น อ ย
แมกระทั่งคนธรรมดาที่อาศัยอยูในภูเขาวิญญาณ ยังเห็นเทพเซียนที่แตงกายเปนภิกษุ
และนักพรตบินไปบินมาบนทองฟาอยูบอยๆ
ดั งนั้ น เขตนี้ จึ งนิ ย มบู ช าพระพุ ท ธองค แ ละลั ท ธิ เต า สำนั ก พุ ท ธ ลั ท ธิ เต า ต าง
กระจัดกระจายอยูทั่วทุกหนแหง ไมวาจะเปนผูที่มีอำนาจหรืออิทธิพล ไปจนถึงชาวไร
ชาวนา ตางก็เคารพนบนอบสองสำนักลัทธินี้
ทวา นอกจากสำนักพุทธและลัทธิเตาแลว เขตนี้ก็ยังมีสถานที่ศึกษาเลาเรียนอยู
จำนวนมาก ทั้งในเมืองใหญเมืองเล็กทุกแหงหนตำบลลวนเห็นเงาของสำนักศึกษา
เหลานี้
เห็ น ได ชั ด วาสำนั ก ศึ ก ษาเหล านี้ มี ค วามแตกต างกั น สำนั ก ศึ ก ษาชั้ น หนึ่ งจะมี
นักปราชญที่มีชื่อเสียงมาสอนสี่ตำราหาคัมภีรโดยเฉพาะ ผูที่ไดรับการสั่งสอนลวนเปน
ผู มี ฐ านะเป น ลู ก หลานของขุ น นาง สำนั ก ศึ ก ษาเล็ ก ๆ ระดั บ ที่ ต่ ำ ที่ สุ ด นั้ น มี เพี ย ง
นักปราชญธรรมดาๆ คอยสอนเทานั้น สิ่งที่สอนคือพวกแนวคิดพื้นฐานของนักปราชญ
และคัมภีรพื้นฐานอีกเล็กนอย หากรูวาหนึ่งในนั้นมีอัจฉริยะอยู ก็จะถูกผลักดันไปยัง
สำนักศึกษาระดับสูง นี่เปนโอกาสดีที่ลูกศิษยผูยากไรจะกระโดดขามระดับไปได
ถึงอยางไรเสียนักปราชญที่จบจากสำนักศึกษาระดับสูง ก็จะไดรับการตอนรับจาก
ชนชั้นสูงของตาจิ้นเปนอยางดี นักปราชญที่จบจากสำนักศึกษาระดับสูงที่สุดสองสาม
แหง จะถูกแมกระทั่งขุนนางชั้นผูใหญพากันพยายามชักจูงกันสุดฤทธิ์
เมืองไทชังซึ่งเปนหัวเมืองของรัฐไทชังมีสำนักศึกษาแหงหนึ่งตั้งอยู
ถึงแมวาชื่อเสียงของเมืองนี้จะไมไดจัดอยูอันดับหนึ่งอยางเมืองอูกวง แตสำหรับ
เขตหนานแลว กลับเปนเมืองที่มีขุนนางชนชั้นสูง พอคาผูมั่งคั่งอาศัยอยูมากที่สุด แค
ตระกูลขุนนาง ก็มีอยูมากกวาสามสี่ตระกูลแลว และคนธรรมดาที่ทำธุรกิจตางๆ ก็มี
อยูมากมายจนนับไมถวน
ตระกูลกานที่ตั้งอยูทางทิศตะวันออกของเมืองไทชัง คือหนึ่งในตระกูลพอคาที่มั่ง
คั่งในเมืองไทชัง ตระกูลที่มีธุรกิจโรงเตี๊ยมเกือบยี่สิบแหงในเมืองตางๆ ของรัฐไทชัง
เชนนี้ ในเมืองเล็กๆ เมืองอื่น จะเรียกไดวามหาเศรษฐีก็ไมไดเกินไปอะไร แตในเมืองนี้
กลับเปนเพียงเศรษฐีในระดับกลางๆ เทานั้น
ทวาถึงแมจะเปนเชนนี้ ตระกูลกานก็ยังอยูในพื้นที่ที่เศรษฐีมารวมตัวกันอยูของ
เมืองไทชัง มีคฤหาสนที่ใหญโตไมนอย แคสาวใชเด็กรับใชในบาน ก็มีมากกวาสามสี่
สิบคนแลว จึงถือไดวาเปนจวนที่มีขนาดใหญไมนอย
วันนี้ ในเวลาเที่ยงวันที่มีแสงแดดเจิดจา ชายหนุ มที่ แตงกายดวยอาภรณ ของ
นักปราชญคนหนึ่งเดินทอดนองอยูบนถนนอยางแชมชา ชายหนุมผูนี้มีอายุประมาณ
ยี่สิบ กวาป ยังดูเยาววัย แตที่แผนหลังกลับแบกสิ่งของตุงๆ ที่ ใชผาสีเทาห อ เอาไว
ทาทางเหมือนเด็กรับใช
ชายหนุมเดินเขามาในตรอก สายตากวาดไปซายทีขวาทีราวกับกำลังตามหาอะไร
สักอยางอยู หลังจากนั้นไมนาน ในที่สุดเขาก็มองเห็นประตูพับบานใหญสีดำสนิทที่
แขวนแผนปายวา ‘จวนกาน’ เอาไว ใบหนาจึงอดที่จะเผยรอยยิ้มออกมาไมได
เขาสาวเทาตรงไปที่ประตูบานใหญ หลังจากพิจารณาประตูบานใหญของตระกูล
กานอีกครั้ง ก็ตรงเขาไปเคาะหวงเหล็กที่ประตูสองครั้งเบาๆ อยางไมลังเล
หลังจากเสียง ‘กอกๆ’ ดังขึ้น ดานในก็มีเสียงฝเทาที่วิ่งมาอยางรีบรอนดังขึ้น
ชายหนุมไดยินเสียงนี้พลันตกตะลึง ราวกับวาประหลาดใจเล็กๆ แตชั่วครู ประตู
บานใหญ ก็ถูกเป ดครึ่งหนึ่ งอยางรวดเร็ว เผยให เห็ น ใบหน าของบุ รุษ วัยกลางคนที่
ใบหนาประดับไปดวยความนอบนอมจากดานใน สวมอาภรณของคนรับใช
บุรุษผูน้ีมองชายหนุมที่อยูเบื้องหนาแวบหนึ่ง ชั่วขณะนั้นสีหนาเคารพนอบนอมก็
แข็งคาง จากนั้นก็เก็บอาการอยางรวดเร็ว
“นายทานมาหาใครหรือ?” บุรุษที่เดิมทีเตรียมจะโคงตัวลงคอมคำนับพลันชะงัก
กึก เอยถามอยางสงสัยเล็กๆ สายตายังกวาดขึ้นลงบนเรือนรางของชายหนุมไมหยุด
อยากจะพิจารณาอะไรบางอยางในตัวของอีกฝาย
“ที่นี่คือจวนของทานอากานฉือใชหรือไม” ชายหนุมประสานมือคำนับ พลางเอย
พรอมรอยยิ้ม
“ทานอากานฉือ? กานฉือคือชื่อของเจานายตระกูลขา คุณชายคือ…” บุรุษที่อยู
ในประตูมองเสื้อผาอาภรณบนรางของชายหนุมเสร็จแลว ใบหนาที่แตเดิมเผยแวว
เหยียดหยามออกมา เมื่อไดยินคำพูดนี้ก็ตกตะลึง น้ำเสียงนอบนอมขึ้นสามสวนทันที
“ข า น อ ยหานลี่ คื อ ญาติ ห า งๆ ของท า นอากานฉื อ ตั้ งใจจะมาคำนั บ ท านอา
โดยเฉพาะ” ชายหนุมที่อยูเบื้องหนา ก็คือหานลี่ที่กำลังยิ้มนอยๆ ขณะเอย
ตอนนี้หางจากเวลาที่กักตนบำเพ็ญเพียรในวันนั้นมาหนึ่งปแลว หลังจากผานการ
ฝกฝนอยางหนัก อาศัยพลังของไขมุกซากสวรรคและพระธาตุวัชระ ในที่สุดก็ฝกฝน
คาถาราชันยขั้นแรกสำเร็จ จึงกดไอมารที่แตเดิมพรอมจะกำเริบไดจำนวนมากในทันที
นี่จึงทำใหหานลี่รูสึกดีอกดีใจเปนอยางมาก แตก็ไมกลาถวงเวลาโดยออกเดินทางทันที
ตรงมายังตระกูลกานตามแผนที่วางเอาไวตั้งนานแลว
“ที่แทก็คุณชายหานนี่เอง บังเอิญจริงๆ คุณทานออกไปพบสหายตั้งแตเชาแลว
ขอรับ ตอนนี้ในคฤหาสนมีคุณชายใหญคอยสั่งการ เชนนั้นขานอยขอไปรายงานใหนะ
ขอรับ” บุรุษวัยกลางคนไดยินคำพูดนี้ ก็ลังเลเล็กนอย แลวเอยเชนนี้ออกมา
“เชนนั้นก็ตองลำบากพี่ชายแลว" หานลี่หยักมุมปากขึ้น เอยดวยสีหนาราบเรียบ
“คุณชายโปรดรอสักครู ขาจะรีบไปรีบมา” บุรุษวัยกลางคนพยักหนาแลวโกงโคง
เล็กนอย ทันใดนั้นก็ปดประตูใหญลงอีกครั้ง จากนั้นก็วิ่งเขาไปรายงานดานหลัง
หานลี่ยืนอยูหนาประตูอยางเงียบๆ หันหนาไปมองเรือนขนาดใหญ อื่นๆ ที่อยู
โดยรอบ รวมถึงรถมาและฝูงชนที่สัญจรไปมา
ถึงแมวาเขาจะไมเคยแผจิตสัมผัสออกไปตรวจสอบเมืองนี้ แตเห็นไดชัดวาจำนวน
ของผูบำเพ็ญเพียรที่อาศัยอยูในเมืองนี้ มีไมนอยเลยจริงๆ และยิ่งไปกวานั้นยังอาศัย
อยูตามที่ตางๆ ทั่วเมือง ในนั้นก็มีผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงอยูไมนอย นี่จึงทำใหเขารูสึก
สงสัยใครรูเล็กนอย อยากรูจริงๆ วาผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้เขามาอยูในสังคมไดอยางไร
หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่งกาน้ำชา ประตูใหญก็มีเสียงแอดเปดขึ้นอีกครั้ง
ในครานี้ มีชายหนุมผูออนเยาวคนหนึ่งเดินออกมาจากดานใน
ชายหนุมผูนี้มีหนาตาหมดจด สวมชุดผาไหม ผูที่ยืนอยูดานหลังก็คือบุรุษสวมชุด
คนรับใชที่เพิ่งวิ่งไปรายงานเมื่อครู
“นี่คือคุณชายหานสินะ ขานอยกานอวี้ ไดยินวาพี่หานคือญาติหางๆ ของตระกูลกาน
ถึงแมวาขานอยจะไมเคยไดยินมากอน แตก็ไมอาจเสียมารยาทได ถาหากไมรังเกียจ
ละก็ คุณชายหานตามขานอยมาที่หองรับแขกกอนเถิด” กานอวี้ผูนี้พิจารณาหานลี่
รอบหนึ่ง แลวเอยอยางออนโยนมีมารยาท
“ที่แทก็คุณชายใหญของทานอากานนี่เอง ในเมื่อพี่กานกลาวเชนนี้ เชนนั้นผูแซ
หานก็ไมปฏิเสธแลว” หานลี่ไมไดเกรงใจ ขบคิดเล็กนอย แลวเอยปากตอบรับ
กานอวี้หัวเราะนอยๆ ออกมา เบี่ยงกายหลบ เชิญหานลี่เขาไปในจวนกาน ประตู
สีดำสนิทปดลงอยางเงียบเชียบ
หลังจากผานไปหนึ่งชั่วยาม ผูนำตระกูลกานที่ออกไปตั้งแตเชาตรูก็กลับมาถึง
ดานนอกประตูของจวนกาน เปนชายชรารางกายอวนทวนสมบูรณอายุหาสิบกวาปคน
หนึ่ง สวมเสื้อคลุมสีฟา นั่งอยูบนรถมา
“ในจวนเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?” ชายชราที่มีนามวากานฉือลงจากรถลงมา ก็มอง
ปราดไปที่สายตาเปลงประกายของคนรับใชที่รักษาการณอยูหนาประตู ดูเหมือนวามี
อะไรอยากพูด
“รายงานนายทาน มีคุณชายแซหานคนหนึ่ง บอกวาเปนญาติกับทาน ตอนนี้ถูก
คุ ณ ชายใหญ เชิ ญ ไปอยู ที่ ห อ งรั บ แขกขอรับ เวลานี้ ดู เหมื อ นว าจะกำลั งพู ด คุ ย กั บ
คุณชายอยู” บุรุษที่เฝาประตู รายงานอยางซื่อสัตยทันที
“ญาติ แซหานหรือ?” แตเดิมที่ชายชราคิดจะสาวเทาตรงไปที่ประตูจวนพลัน
หยุดชะงัก เอยถามพรอมกับน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปเล็กนอย แฝงเอาไวดวยความตกตะลึง
ระคนสงสัย
“ทำไม คนผูนั้นไมใชญาติของคุณทาน เปนนักตมตุนหรือ? เชนนั้นใหขานอยไปเรียก
ขุนนางทองถิ่นมาเลยหรือไมขอรับ?” ชายวัยกลางคนตกใจ รีบรอนเอยอยางเอาใจ
“ใชนักตมตุนหรือไมก็พูดยาก ขาเหมือนวาจะมีญาติหางๆ อยูคนหนึ่ง แตแควันเวลา
มันผานมาเนิ่นนานแลว จึงจำไมคอยไดนัก เจาเฝาประตูไวใหดีก็พอแลว ไมตองยุง!”
กานฉือหนาบึ้ง เอยปากตักเตือนคนรับใชเบื้องหนา คนก็เดินเขาไปในประตูจวน
อยางรีบรอน ตรงไปยังหองโถงใหญทันที แมกระทั่งเสื้อผาก็ยังไมไดเปลี่ยน ยังไมทัน
ไดเขาไปในหองโถงใหญ ชายชราที่เพิ่งจะเดินมาถึงดานนอกทางเขาประตู ก็ไดยิน
เสียงที่คุนหูเปนพิเศษกำลังหัวเราะเบาๆ
“พี่หานคาดไมถึงวาจะศึกษาสี่ตำราหาคัมภีรอยางทะลุปรุโปรงขนาดนี้ นองนับ
ถือจริงๆ ทวา คำพูดของคนที่มีคุณธรรมในคัมภีรนั้น ขาเขาใจวาอยางนี้…” นี่คือเสียง
หัวเราะของลูกชายคนโตของเขา ดูเหมือนวาจะกำลังพูดคุยกับแขกอยางสนุกสนาน
ชายชราฟงจนมาถึงตรงนี้ สีหนากลับคอยๆ เครงขรึมขึ้น และยิ่งไปกวานั้นแววตา
พลันเปลงประกาย ทาทางไมคอยสบายใจ แตหลังจากผานไปชั่วครู เขาก็กัดฟน เดิน
เขาไปในหองโถงอยางไมลังเลอีก
“ทานพอ คุณชายหานผูนี้คือ…” กานอวี้เห็นบิดาของตนเองเดินเขามา ก็ลุกขึ้น
ทำความเคารพทันที
“อืม! ขาไดยินคนรับใชพูดแลว นายทานก็คือคุณชายหานที่บอกวาเปนญาติหางๆ
กับขา ไมท ราบวาพกจดหมายหรือของยืน ยัน ตัวตนอะไรมาหรือไม?” ความสนใจ
ทั้งหมดของกานฉืออยูที่ตัวหานลี่ โบกมือใหลูกชายเล็กนอย สายตากวาดไปบนราง
ของหานลี่ แลวเอยถามขึ้นอยางเชื่องชา
หานลี่ในเวลานี้พ ลันยืนขึ้นจากที่ นั่ ง เมื่ อไดยิน คำถามเชน นี้ ก็อดที่ จะหั วเราะ
ออกมาไมได
ทั น ใดนั้ น ก็ ใช มื อ หนึ่ งควานหาสิ่ งของในแขนเสื้ อ เงีย บๆ ควั ก หยกครึ่ งก อ นที่
เปลงแสงสีขาวแวววาวออกมาสงให
ชั่วพริบตาที่กานฉือเห็นหยกกอนนั้น ในที่สุดก็หนาเปลี่ยนสี
เขารับหยกกอนนั้นมาพิจารณารอบหนึ่งดวยสีหนาเครงขรึม ถึงไดเผยสีหนานึก
ออกแลวขึ้นมาพลางเอยวา
“ที่แทก็เปนชนรุนหลังของพี่หานจริงๆ เจาตามขามาที่หองหนังสือ ขาอยากจะ
ถามเรื่องทานอาที่ลวงลับไปแลวของเจาสักหนอย!” ชายชราดึงขอมือของหานลี่ดวย
ความตื่นเตน จากนั้นก็พาหานลี่เดินออกจากหองโถง ตรงไปยังหองหนังสือของตนเอง
“ทานอา! ตระกูลกานมีญาติหางๆ ดวยหรือ?” กานอวี้กลับตกตะลึงพลางยืนขบ
คิดอยูในหองโถง รูสึกสับสนในใจ
“คารวะคุณชายหาน!” เมื่อเขามาในหองหนังสือ และปดประตูหองหนังสือดีแลว
กานฉือก็หนาเปลี่ยนสี พลางทำความเคารพหานลี่อยางนอบนอมเปนพิเศษ
“ลุกขึ้นเถิด! เจาไมจำเปนตองซักถามประวัติความเปนมาของขา แครูวาตั้งแต
วันนี้ ขาจะดูแลรับผิดชอบผูท่ีติดตอกับเจาโดยเฉพาะก็พอ” หานลี่เอยอยางราบเรียบ
คาดไมถึงวาจะสะบัดแขนเสื้อ ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งทะลักออกมา ประคองรางของ
ชายชราใหลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ
“ขอรับ ! ทั้ งสองท านที่ เคยดู แ ลคนที่ ติ ด ต อ กั บ ตระกู ล กาน หายตั ว ไปอย างไร
รองรอยเมื่อสิบปกอน ขานอยยังกังวลวาจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณชายปรากฏตัวขึ้น
ในตอนนี้ ชางเปนเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ” กานฉือเห็นหานลี่สำแดงวรยุทธออกมา
ความสงสัยในใจเปลาะสุดทายก็มลายลง และเอยอยางนอบนอมมากขึ้น
“ที่มาตระกูลกานของพวกเจาครั้งนี้ ขาแคถือโอกาสมาเทานั้น ความจริงแลวมีอีก
เรื่องหนึ่งตองทำ และจำเปนตองใชฐานะของเจาชวย” หานลี่พยักหนาดวยความพึง
พอใจ ใชน้ำเสียงที่ไมอาจปฏิเสธไดงายๆ ออกคำสั่ง
ตอนที่ 923 สำนักศึกษาไปลู
สำนักศึกษาไปลูตั้งอยูนอกเมืองไทชัง คือสำนักศึกษาแหงหนึ่งที่ไมสะดุดตาใน
เขตหนาน ในสายตาของคนภายนอกนั้น จัดอยูแคในระดับกลางเทานั้น ถาหากจะ
กลาววาสำนักนี้มีลักษณะพิเศษอะไร ก็คือสำนักนี้ไมไดสรางขึ้นในเมืองใหญ แตสราง
ขึ้นบน ‘ภูเขาอวี้เถียน’ ที่มีชื่อเสียงเขตหนาน
ภูเขาอวี้เถียนลูกนี้เปนภูเขาวิญญาณที่มีชื่อเสียงในเมืองไทชัง มียอดเขานอยใหญ
อีกสิบกวาลูก ถึงแมจะพูดไมไดวายิ่งใหญและไมเปนอันตราย แตกลับมีฤดูใบไมผลิทั้ง
สี่ฤดู มีดอกไมผลิบานอยูเต็มไปหมด
มีต น ไมแ ละผลวิญ ญาณที่ ห ายากซึ่ งขึ้ น ได เพี ย งบนภู เขาลู ก นี้ อ ยู สองสามชนิ ด
ดังนั้นจึงถูกจัดอันดับอยูในหนึ่งในสิบสามภูเขาวิญญาณของเขตหนาน
สำนักศึกษาไปลูสรางขึ้นบนยอดเขาฮวนอวิ๋นของภูเขาลูกนี้ ตั้งแตกึ่งกลางภูเขา
ไปจนถึงยอดเขา ตางเต็มไปดวยหอสูงขนาดใหญ พื้นที่ใหญโตไมนอย เพียงพอจะจุคน
ไดมากกวาพันคน
แตตามหลักการแลว จากชื่อเสียงที่ยิ่งใหญของภูเขาลูกนี้ สำนักศึกษาไปลูที่ไร
ชื่อเสียงนั้นไมมีคุณสมบัติพอจะอยูบนภูเขาลูกนี้ ถึงอยางไรเสียยอดเขาใกลๆ กันสอง
สามยอดเขานั้ น ล ว นถู ก สร า งเป น วั ด ใหญ แ ละอารามที่ มี ชื่ อ เสี ย ง ล ว นอยู ค นละ
ระดับชั้นกับสำนักศึกษาไปลู
แตสิ่งที่นาประหลาดใจก็คือ หลังจากที่สำนักศึกษาไปลูกอตั้งขึ้นมาพันกวาปกอน
วัดและอารามตางๆ เหลานี้ตางก็ไมมีผูใดมาหาเรื่องสำนักศึกษาแหงนี้
ตรงกันขาม ภิกษุและนักพรตในวัดในอารามเหลานี้ตางก็ปฏิบัติตอคนของสำนัก
ศึกษาที่เดินเขาออกเปนบางครั้งคราวนั้นอยางมีมารยาท ไมวาจะเปนผูท่ีมีอายุมาก
หรือนอย นี่ทำใหผูคนไมนอยรูสึกประหลาดใจเปนอยางมาก
จุดที่แปลกประหลาดอีกจุดหนึ่งของสำนักศึกษาไปลูก็คือ ลูกศิษยที่สำนักศึกษา
รับมานั้น มีอายุและฐานะแตกตางกันเปนอยางมาก มีทั้งคุณชายคนเดียวของตระกูล
ของที่ ร่ ำ รวย และชาวนาจนๆ อายุ ก็ มี ตั้ ง แต ห กเจ็ ด ขวบไปจนถึ ง ยี่ สิ บ กว า ป
หลากหลายชวงอายุ และยิ่งไปกวานั้นทุกๆ ชวงเวลาที่เปดรับลูกศิษย ก็ไมแนนอนนัก
บางครั้งก็สามสี่ปรับที บางครั้งเจ็ดแปดปแลวก็ยังเงียบฉี่ แตโดยปกติแลวผูที่จะเขาไป
ศึกษาเลาเรียนในสำนักแหงนี้ กลับเห็นคนเดินออกมาจากที่นี่นอยมาก ทุกหนทุกแหง
ในนั้นลวนแฝงความลึกลับชนิดหนึ่งเอาไว
แนนอนวาความลึกลับเชนนี้ มีเพียงชาวบานที่อาศัยอยูตรงตีนเขาอวี้เถียนเทานั้น
ที่รู ในโลกคนธรรมดานอกภูเขานั้น ลวนไมมีผูใดรูความแปลกประหลาดพวกนี้ สำนัก
ศึกษาไปลูจึงเปนสำนักที่ไรชื่อเสียงในเขตหนาน และไมคอยมีคนสนใจ
วันนี้ ตรงตีนยอดเขาฮวนอวิ๋น กลับมีคนสองคนคอยๆ ปนขึ้นไปบนภูเขา
คนหนึ่งคือนักปราชญวัยกลางคนหนาตาเครงขรึม อีกคนหนึ่งคือชายหนุมอายุยี่สิบ
กวาป ผิวดำคล้ำเล็กนอย หนาตาธรรมดาๆ นั่นก็คือหานลี่ที่ปรากฏตัวขึ้นในจวนกาน
อยางกะทันหันเมื่อหนึ่งเดือนกอน
“หลานหาน สำนักศึกษาไปลูปดรับลูกศิษยไปเมื่อสองเดือนกอนแลว ทวาขาได
ยิน สหายกานกลาววา กอ นหน านี้ เจาเรียนรูเคล็ดวิชาลัท ธิเต ามาเล็กน อ ย และยั ง
ทราบถึงการมีอยูของผูบำเพ็ญเพียร ดังนั้นตาเฒาถึงไดพาเจามาทดสอบที่สำนักศึกษา
สวนสำนักศึกษาจะรับเจาหรือไมนั้น ก็ตองพึ่งวาสนาของเจาแลว ทานหลูแหงสำนัก
ศึกษาไปลูและขามีตนกำเนิดมาจากที่เดียวกัน ขาจะลองพาเจาไปพบกอน ถาหากเขา
คิดวาเจาไมมีปญหาอะไร เจาก็คงอยูที่สำนักศึกษานั้นไดอยางไมมีปญหา” นักปราชญ
วัยกลางคนเดินสะบัดแขนเสื้อไปพลาง เอยอยางราบเรียบไปพลาง
“ขอรับ ตามที่ทานเหยียนกลาวขอรับ กอนมาทานอากานเคยพูดวา ครั้งนี้ไมวา
สำนักศึกษาจะรับหลานเขาไปหรือไม ก็ตองจดจำความมีไมตรีของทานอาเอาไวใหขึ้น
ใจ” หานลีเ่ ผยทาทางซื่อๆ ออกมา ตอบกลับอยางตรงไปตรงมา
ตอนนี้กลิ่นอายบนรางของหานลี่อยูในระดับฝกปราณขั้นที่สามที่สี่ ผูบำเพ็ญเพียร
ธรรมดาๆ ไมมีทางมองความลึกล้ำของเขาออกแน
วันนั้นตอนที่เขาเอยถึงตระกูลเฝงกับกานฉือ ก็บอกใหเขาชวยใหตนเขาไปฝกบำเพ็ญ
เพียรในสำนักใดสักสำนักหนึ่ง ไมวาจะเปนสายพุทธ เตา หรือนักปราชญ ก็ไดทั้งนั้น
สาเหตุที่ตองพูดอยางตรงไปตรงมาเชนนี้ ก็เพราะอยามองวากานฉือเปนแคคน
ธรรมดา แตคำสั่งตางๆ ที่ตระกูลเฝงไดมอบใหในอดีตนั้น ก็คือการสรางความสัมพันธ
กั บ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ยรที่ ค บค ากั บ พวกคนธรรมดาโดยเฉพาะ เพื่ อ จะไดมี ป ระโยชน ใน
ภายหลัง ดังนั้นเมื่อไดยินเงื่อนไขนี้ ถึงแมวากานฉือจะรูสึกตกใจ แตก็ไมไดรูสึกลำบาก
ใจอะไร
สิ่งเดียวที่ทำใหเขารูสึกกังวลใจก็คือ กลัววาแผนการมิดีไมรายในการเขาไปใน
สำนักของหานลี่นั้น จะสรางความยุงยากใหตระกูลกาน
ทวาธุรกิจทั้งหมดของจวนกาน ลวนมีตระกูลเฝงเปนผูควบคุมอยางลับๆ ขอแค
หานลี่เอาโฉนดที่ดินออกมา ภายในคืนเดียวก็ทำใหทุกสิ่งทุกอยางของตระกูลกาน
มลายหายไปได
บวกกับที่ ถึงแมวากานฉือจะรูเรื่อ งของผูบำเพ็ ญ เพี ยร แต ก็ยังคาดเดาประวัติ
ความเปนมาของตระกูลเฝงไมออก จึงรูสึกเคารพนบนอบเปนอยางมาก ดังนั้นเมื่อ
หานลี่รับประกันวา การเขาไปในสำนักบำเพ็ญเพียรครั้งนี้ จะไมเปนการหาเรื่องมาให
จวนกาน เขาก็ทำไดเพียงทำตามคำสั่งอยางใจดีสูเสือเทานั้น หลังจากวางแผนอยูสอง
สามวัน ในที่สุดกานฉือก็เลือกนักปราชญวัยกลางคนแซเหยียนเปนสะพานเชื่อม เพื่อ
สงหานลี่เขาไปในสำนักศึกษาไปลู
สาเหตุที่เลือกคนผูนี้ ประการแรกคือเมื่อเทียบกับสำนักเตาและสำนักพุทธแลว
สำนักปราชญนั้นรับลูกศิษยงายกวาเปนอยางมาก
ขอแคไมใชลูกศิษยของพรรคปศาจหรือบำเพ็ญเพียรในเสนทางชั่วราย ตอใหเปน
คนมีประวัติ แตขอแคเปนผูบริสุทธิ์ ก็ยังรับ และยิ่งไปกวานั้นอีกประการหนึ่งก็คือ ใน
อดี ต กานฉื อ เคยมี บุ ญ คุ ณ ต อ ท า นเหยี ย นผู นี้ อี ก ฝ า ยอยู ใ นสำนั ก ปราชญ จึ ง ให
ความสำคัญตอการตอบแทนบุญคุณเปนอยางมาก และจะตองพยายามชวยเหลือเรื่อง
นี้อยางสุดความสามารถแน มิเชนนั้นถึงแมวาจะยังมีหนทางอื่น แตอัตราการประสบ
ความสำเร็จก็ยังไมสูงนักจริงๆ
ถึงอยางไรเสียสำนักผูบำเพ็ญเพียรของตาจิ้น ถึงแมวาจะเขาไมยากเหมือนเทียนหนาน
แตก็ไมใชสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรสันโดษระดับต่ำคนหนึ่งจะเขาไปไดตามอำเภอใจ
หานลี่ไดยินชื่อสำนักศึกษาไปลู ก็สอบถามตำแหนงที่ตั้งของภูเขาอวี้เถียนอยาง
ละเอียด และแอบขับเคลื่อนยุทธภัณฑไปตรวจสอบแหลงชีพวิญญาณของภูเขาลูกนี้
อยูไกลๆ ในคืนหนึ่ง ผลลัพธคือเขาคอนขางพอใจ
ถึงแมวาชีพจรวิญญาณนี้ จะเทียบกับถ้ำพำนักที่เขาวางบอวิญญาณเอาไวมากมายใน
เทียนหนานไมได แตก็ถือวาเปนชีพจรวิญญาณที่ไมเลว ดีกวารอบๆ เมืองไทชังมากนัก
จะวาไปแลว หากไมใชเพราะการเคลื่อนยายตนไมวิญญาณพวกนี้บอยๆ จะทำให
ไอวิญ ญาณที่ บ ริสุ ท ธิ์เสียหาย หากไม วางไวในชี พ จรวิญ ญาณนานๆ จะทำให พ ลั ง
วิญญาณคอยๆ หายไป เขาคงพกเนตรวิญญาณติดตัวไปสักสองชิ้น หาแหลงชีพจร
วิญญาณต่ำๆ มาฝกบำเพ็ญเพียรก็ไดแลว เหตุใดจะตองใชสมองขบคิดหาวิธีปะปนเขา
ไปฝกบำเพ็ญเพียรในพรรคใหญๆ ดวย
ดังนั้น หานลี่จึงปลอมตัวเปนญาติหางๆ คนหนึ่งของกานฉือทันที บอกวาตนมี
รากวิญญาณ เรียนรูเคล็ดวิชาขั้นพื้นฐานของผูบำเพ็ญเพียรสันโดษระดับต่ำมา
ใฝห าหนทางในการเปนเซียน ถึงไดมาขอรองให กานฉือผูซึ่งเปน ทานอาหางๆ
ชวยเหลือ ดูวาจะสามารถเขาไปในพรรคใหญ ๆ พรรคใดพรรคหนึ่งเพื่อฝกบำเพ็ ญ
เพียรตอไดหรือไม
กานฉือจึงไปหานักปราชญแซเหยียนผูเปนอาจารยสอนหนังสือในสำนักศึกษา
ขนาดใหญ ที่มีชื่อเสียงแหงหนึ่งในเมืองพรอมไหววาน และคนผูนี้ก็ยอมตอบตกลง
เพราะตองการตอบแทนบุญคุณ
ทั้งสองคนถึงไดออกเดินทางในครั้งนี้
“อืม! ดูแลวพี่กานคงใชความคิดกับหลานชายอยางเจาไปมาก ทวานั่นก็ไมแปลก
ในโลกของคนธรรมดาผูที่จะมีรากวิญญาณนั้นพบเห็นไดยากนัก แนนอนวาตองดูแล
เจาเปนอยางดี แมแตขานอยก็ยังเปนผูที่ไรรากวิญญาณ มิเชนนั้นก็เขาสำนักศึกษาไป
ลูฝกฝนในเสนทางสายเซียนอยางหนักไปตั้งนานแลว” นักปราชญเอยอยางเรียบๆ
หานลี่คลี่ยิ้ม ไมไดเอยปากตอบรับอยางรูจักวางตัว
จากนั้นนักปราชญวัยกลางคนก็ไมไดพูดอะไรอีก พาหานลี่เดินตรงขึ้นไป ตอนที่
ใกลจะเดินมาถึงกึ่งกลางเขา จูๆ ตาเปลาก็มองเห็นยอดเขาอีกลูกหนึ่ง มีเสียงระฆังดัง
แววมา เสียงไพเราะนาฟง ทำใหผูคนอดที่จะรูสึกมีชีวิตชีวาไมได
“ระฆังจั๊กจั่นเขียวของวัดสมบัติวิญญาณ เปนสมบัติที่หายากชนิดหนึ่ง ในทุกๆ สามวัน
นั้นจะทำการตีระฆังหนึ่งครั้ง ภิกษุ ระดับสูงเหลานั้ น ของวัดสมบั ติวิญ ญาณโออวด
เกินไปหนอยจริงๆ” รางของนักปราชญหยุดชะงัก หันหนาเหลือบมองไปยังยอดเขาที่
สูงกวายอดเขาฮวนอวิ๋นสามสวนแวบหนึ่ง พลางสายศีรษะขณะเอยพึมพำกับตนเอง
หานลี่ไดยินวายอดเขานั้นมีสำนักพุทธตั้งอยู ก็แววตาเปลงประกาย เผยสีหนามี
แผนการออกมา จากความเขาใจของเขา สิ่งที่เรียกวาสมบัติความจริงแลวก็เปนเพียง
ยุทธภัณฑระดับสูงเทานั้น ไมไดมีความมหัศจรรยใดๆ
เขายื่นมือออกไปจับที่หอยาวๆ ดานหลัง แลวเดินตามนักปราชญขึ้นไปตอ
ไมนานนัก ในที่สุดทั้งสองคนก็มาถึงที่ราบตรงกึ่งกลางภูเขา เบื้องหนาสวางจา
สิ่งที่เขามาในครรลองสายตาคือ ความเขียวชอุม ปาไผสีเขียวผืนใหญปรากฏขึ้น
และท ามกลางต น ไผ เหล านี้ มี ห อสู งสี ข าวและกำแพงสี แ ดงตั้ งตระหงานอยู ร างๆ
ทัศนียภาพงดงาม ทางเดินประดับไปดวยศิลาสีขาวหลายกอนทอดยาวเขาไปในสวน
ลึกของปาไผ ตรงสุดทางเดินมองเห็นประตูสีแดงสดความสูงสองสามจั้งอยูบานหนึ่ง
“ไปกัน เถิด ปกติแ ลวประตูห ลักจะไม เป ด ตามข ามาที่ ป ระตู เล็ กด านข างก็ ได
แลว” นักปราชญวัยกลางคนกวาดตามองปาไผแวบหนึ่ง ปากก็เอยเชนนี้ออกมา พา
หานลี่เดินไปทางดานขาง ตรงเขาไปยังทางเดินเล็กๆ อีกสายหนึ่ง เขาไปในปาไผ
หลังจากหักเลี้ยวไปเจ็ดแปดครั้ง หานลี่และนักปราชญก็ปรากฏตัวอยูเบื้องหนา
ประตูไมสีดำสนิทสูงสองสามจั้งบานหนึ่ง นักปราชญพนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
เคาะประตูอยางแผวเบาเสียงดัง ‘กอกๆ’
ประตูเปดออกอยางเงียบเชียบ ชั่วขณะนั้นพลันมีชายหนุมสวมชุดนักปราชญสี
ขาวคนหนึ่งเดินออกมา
“โอ ที่ แท ก็ท านเหยียนนี่ เอง ท านคงมาหาท านหลูสิน ะ?” ชายหนุ ม ผู นี้ มี พ ลั ง
วิญญาณโคจรอยูบนราง พลังยุทธอยูในระดับฝกปราณขั้นที่สาม แตคาดไมถึงวาจะ
เกรงใจนักปราชญแซเหยียนที่ไมมีลมปราณเลยแมแตนอยเปนพิเศษ นี่จึงทำใหหานลี่
ที่อยูดานขาง อดที่จะสงเสียงจุๆ ชมวาสุดยอดไมได
หากเปนที่เทียนหนาน เรื่องแบบนี้จะไมมีทางเกิดขึ้น ดูแลวสำนักปราชญคงมีกฎ
เขมงวดจริงๆ คาดไมถึงวาจะยอมใหผูบำเพ็ญเพียรกมหัวใหคนธรรมดาคนหนึ่ง ทวา
สถานการณเชนนี้เดาวาคงเกิดขึ้นกับผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำเทานั้น ผูบำเพ็ญเพียร
ระดับสูงไมมีทางเกิดเรื่องเชนนี้แน หานลี่ขบคิดพลางหัวเราะอยางเย็นชาในใจ
“อืม ขามาพบพี่ฟาง ตอนนี้ทานฟางวางหรือไม?” นักปราชญวัยกลางคนเอยถาม
ดวยสีหนาราบเรียบ
“ตอนนี้สำนักศึกษากำลังมีแขกผูสูงศักดิ์ทานหนึ่งมาเยือน ทานกำลังตอนรับอยู
ในหองหนังสือ ขาจะไปรายงานนายทานเหยียนใหก็แลวกัน” ชายหนุมที่สวมชุดสีขาว
ขบคิดเล็กนอย ก็เอยเชนนี้ออกมา
“ก็ดี เชนนั้นตองรบกวนนายทานแลว!” นักปราชญแซเหยียนไดยิน ก็เผยรอยยิ้ม
ออกมาขณะเอย
ถึงแมชายหนุมที่สวมชุดสีขาวจะรูวาคนที่อยูเบื้องหนาเปนเพียงคนธรรมดา แตก็
มีความสัมพันธกับทานฟางที่ไมธรรมดา แนนอนวาจึงไมกลาดูแคลน หลังจากเอยปาก
ดวยความเกรงใจแลว ก็รีบยื่นมือไปควักยันตถายทอดเสียงออกมาแผนหนึ่ง หลังจาก
เอยอะไรแผวเบาไปสองสามประโยคแลว ก็ชูมือขึ้น ยันตถายทอดเสียงกลายเปนเพลิง
ลำแสงสายหนึ่งพุงไปทางดานหลัง ชั่วพริบตาก็หายไปอยางไรรองรอย
ไมนานนัก จูๆ หานลี่ก็สัมผัสไดถึงผูที่มีจิตสัมผัสไมออนแอสายหนึ่งกวาดมาจากจุดที่
อยูไกลออกไป หลังจากที่แฉลบผานรางของทั้งสองสามคนไปแลว ก็เก็บกลับไปทันที
หานลี่ใจเตน รูวากวาครึ่งนาจะเปนทานหลู ดูจากจิตสัมผัสที่แข็งแกรงของเขา
แลว พลังยุทธของอีกฝายนั้นคงจะอยูในระดับหลอมรวมขั้นตน สูงกวาระดับสราง
ปราณขั้นปลายตามที่คาดเดาเอาไวมาก นี่จึงทำใหเขาประหลาดใจเล็กนอย
สำหรับเขาแลว พลังยุทธของคนผูนี้ยิ่งต่ำเทาไหรก็ยิ่งดี นั่นถึงจะไมอาจมองเห็น
วิธีการปกปดของเขาได
หลั ง จากผ า นไปชั่ ว ครู กลางอากาศในจุ ด ที่ ห านลี่ แ ละพวกที่ ยื น อยู ก็ มี ค ลื่ น
วิญญาณสั่นสะเทือน จูๆ พลันมีเสียงราบเรียบของบุรุษดังขึ้น
“พี่เหยียนใชไหม? มาไดเวลาพอดี ขากำลังมีแขกผูสูงศักดิ์ พี่เหยียนมาพบสัก
หนอยก็ไมเสียหาย ออ สหายนอยดานขางเจา ก็เขามาพรอมกันเถิด”
ตอนที่ 924 นักพรตหญิงกับอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์
เมื่อไดยินประโยคนี้ แนนอนวาชายหนุมที่สวมชุดสีขาวก็ไมกลาขวางพวกหานลี่
ทั้งสองอีก กลับพาทั้งสองเดินไปตามระเบียงทางเดินเพื่อเขาไปดานใน
เดินไปไดเพียงชั่วครู หลังจากผานประตูมาสองสามบาน หานลี่ก็ไดยินเสียงอาน
หนังสือแววมา ฟงดูแลวเปนการเรียนแบบธรรมดาๆ อยางไรอยางนั้น แตเขากลับตก
ตะลึงเล็กๆ แววตาสวางวาบอยางไมทั น ระวังสองสามครั้ง ถึงแม จะบอกวาที่ นี่ คือ
สำนักศึกษา แตผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำเหลานี้ หรือวาจะไมนั่งสมาธิฝกบำเพ็ญเพียร
กัน แตกลับมาเสียเวลาสวนใหญอยูกับการอานหนังสือเชนนี้อหรือ?
“นี่คือลูกศิษยระดับลางในสำนักศึกษาไปลูของพวกเรา กิจวัตรประจำวันคือการ
อานหนังในยามเที่ยง หากอยากเขามาฝกบำเพ็ญเพียรชั้นสูง อาศัยแคลมปราณและ
รากวิญญาณนั้นไมพอ จำเปนตองบมเพาะจิตวิญญาณขั้นสูงของสำนักปราชญอยาง
พวกเราเขาชวย ถึงอยางไรเสียวรยุทธกวาครึ่งของสำนักปราชญอยางพวกเรา ก็ใชจิต
วิญญาณขั้นสูงชวยเสริม ยิ่งมีจิตวิญญาณขั้นสูงมากเทาไหร การฝกบำเพ็ญเพียรในวัน
ขางหนาก็ยิ่งยาวไกลเทานั้น อนาคตไรขีดจำกัด” ชายหนุมที่สวมชุดสีขาวดูเหมือนวา
จะมองความประหลาดใจของหานลี่ออก จึงอธิบายพรอมรอยยิ้ม
สำหรับชายหนุมที่มีพลังยุทธไมเลวนักซึ่งนักปราชญแซเหยียนพามาดวยตัวเองผู
นี้ เขาคอนขางสนใจอยากจะคบคาสมาคมดวยอยูบาง
“เชนนี้นี่เอง!” หานลี่สัมผัสไดถึงความเปนมิตรของคนผูนี้ จึงพยักหนาแลวสงยิ้ม
ใหเขา
เวลานี้ ทั้งสามคนเดินผานหอสูงขนาดใหญ ไปหอหนึ่ง หลังจากเดินลัดเลี้ยวไป
สองสามครั้ง ก็มาถึงลานเล็กๆ ที่วิจิตรงดงามแหงหนึ่ง เมื่อยางกาวเขาไปในลาน เสียง
อานหนังสือที่แตเดิมดังเขามาในโสตประสาทอยางชัดเจน ก็หายวับไปในทันที คาดไม
ถึงวาลานนี้จะถูกวางเขตอาคมกั้นเสียงเอาไว
นักปราชญแซเหยียนเห็นสถานการณเชนนี้ก็มีสีหนาราบเรียบ ราวกับวาเคยมา
ที่นี่แลวไมต่ำกวาครั้งหนึ่ง และหลังจากที่ชายหนุมสวมชุดสีขาวมาถึงที่นี่ก็ไมกลาเขา
ไป กลับหยุดอยูนอกลานแลวกลาวลากับทั้งสองคน
มองเห็นเงาแผนหลังของชายหนุม หายลับไปตรงมุมของหอสูง นักปราชญแซเหยียน
ถึงไดจัดระเบียบเสื้อผาอาภรณเล็กนอย แลวสาวเทาตรงไปยังหองที่ใหญที่สุด ทาทาง
เหมือนจะเคาะประตู
แตเมื่อเขาสาวเทาออกไป แตเดิมประตูที่ปดสนิทอยูกลับสงเสียงแอดขึ้นมา และ
เปดออกอัตโนมัติ ในเวลาเดียวกันเหนือศีรษะก็มีเสียงของทานหลูลอยมาอีกครั้ง
“พี่เหยียนเชิญเขามา! ทานเซียนหญิงหัวเหลียนของอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์มา
เปนแขกที่นี่พอดี ผูแซหลูจะแนะนำใหพี่เหยียนรูจักสักหนอย”
น้ำเสียงของทานหลูหนักแนนสุขุม ฟงไมออกวากำลังรูสึกอยางไรอยูเลยแมแตนอย
“อารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์หรือ?” นักปราชญเผยสีหนาตกตะลึงออกมา แตกลับ
สาวเทาเขาไปอยางไมลังเลเลยแมแตนอย แนนอนวาหานลี่จึงเดินตามเขาไปติดๆ
เมื่อเขามาในประตู ก็พบกับหองรับแขกหองหนึ่ง มีบุรุษหนึ่งคนและสตรีหนึ่งคน
นั่งอยูตรงตำแหนงเจาของบานและแขก
บุรุษผูนั้นมีอายุสี่สิบกวาป ใบหนาซูบผอม ไวเคราสามจุด มองปราดเดียวก็รูวา
เป น คนหน า ตายไม เคยแสดงสี ห น า ดี อ กดี ใจหรื อ โกรธเกรี้ ย วออกมา แต ก ลั บ ให
ความรูสึกเขมงวดที่อธิบายไมถูกออกมา
สตรีมีอายุยี่สิบกวาป ผมดำขลับผิวขาวเนียน สวมชุดคลุมยาวสีเหลือง มือหนึ่งถือ
แสหางมาที่เปลงแสงสีเงินแวววาว แตกลับใหความรูสึกเรียบหรูมีระดับ คาดไมถึงวา
จะเปนนักพรตหญิงคนหนึ่ง
นักปราชญแซเหยียนและหานลี่เดินเขามาในหองโถง แนนอนวาทั้งสองคนตางก็
กวาดสายตามา
“ทานผูนี้คือทานเหยียนเหยาผูมีชื่อเสียงสินะ ถึงแมวาขาจะอยูแตในอารามไม
ของแวะกับทางโลก แตก็เคยไดยินชื่อเสียงของทานเหยียนแหงสำนักศึกษายงหัวมา
บาง” สิ่งที่อยูนอกเหนือความคาดหมายก็คือ ทานหลูยังไมทันไดเอยปาก นักพรต
หญิงผูงดงามและเยาววัยกลับเอยปากทักทายพรอมรอยยิ้ม จากนั้นสายตาก็กวาดมา
บนเรือนรางของหานลี่อยางสบายๆ และเลื่อนสายตาไปอยางไมสนใจอีก
สตรีผูนี้เปนเพียงผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณขั้นปลายคนหนึ่ง แตกลับนั่งอยู
เบื้องหนาของทานหลูในตำแหนงของแขกอยางสบายใจ พูดจาเปนธรรมชาติ เห็นได
ชัดวาเปนคนที่มีประวัติความเปนมายิ่งใหญ
“มิกลา! ชื่อของทานเซียนหญิงอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์ ผูแซเหยียนก็ไดยินมา
เนิ่นนานแลว คารวะทานเซียนหญิงหัวเหลียน” นักปราชญแซเหยียนมิกลาดูแคลน
เลยแมแตนอย รีบรอนคารวะขณะเอย
“ชนรุนหลัง คารวะทานอาวุโสทั้งสอง!” หานลี่เองก็สาวเทามาขางหนา พลางทำ
ความเคารพอยางนอบนอม
“สหายนอยผูนี้คือ…” ทานหลูผูนี้หรี่ตาลง พลางเอยถามอยางเรียบๆ
“ผูนี้คือหลานหานลี่ เปนญาติหางๆ ของสหายทานหนึ่ง เปนเพราะไดยินชื่อเสียง
ของสำนักศึกษาไปลู ตาเฒ าเองก็ไมอาจหักหาญน้ำใจของสหาย จึงตั้งใจพาเขามา
ทดสอบที่สำนัก ดูวาจะมีคุณสมบัติพอใหเขารวมสำนักไดหรือไม”
นักปราชญแซเหยียนเอยอยางไมรีบรอน
“ออ! หลานชายของสหายเหยียน รากวิญญาณดูเหมือนจะธรรมดาๆ ทวาตอง
แยกแยะธาตุอยางละเอียดสักหนอย สหายนอยหาน เจามานี่สิ” ทานหลูพิจารณา
หานลี่สองสามครั้ง หลังจากขบคิดเล็กนอย ก็เอยอยางราบเรียบ
“ขอรับ ทานอาวุโส!” หานลี่ไดยินแลวก็เดินเขามาอยางไมลังเลเลยแมแตนอย
ถูกอีกฝายใชมือที่เย็นเยียนขางหนึ่ง ควาขอมือเอาไว
จากจิตสัมผัสที่แข็งแกรงของหานลี่ จึงไมกลัววาอีกฝายจะมองอะไรออก ไมวา
รากวิญญาณ ธาตุ หรือกระดูก ก็ปกปดสถานการณที่แทจริงไดอยางงายดาย ใหอีก
ฝายเห็นเพียงสิ่งจอมปลอมที่ตัวเองตองการเทานั้น
ทวา หานลี่ไมอยากใหตนเองเปนจุดสนใจมากนัก จนไปรบกวนการฝกบำเพ็ญ
เพียรในสำนักในอนาคต ดังนั้นจึงเผยรากวิญญาณและธาตุของตนเองออกมา ไมได
ปรับเปลี่ยนใดๆ มีสี่รากวิญญาณ โดยพื้นฐานแลวสามารถเขารวมเปนศิษยของสำนัก
ในระดับที่ต่ำที่สุดได
มีแคตรงกระดูกเทานั้นที่เขาปกปดอายุขัยที่แทจริงเอาไว ทำใหอีกฝายมองไมเห็น
ถึงความแปลกประหลาดอะไร
“อืม สี่รากวิญญาณขาดแคทอง ก็พอถูไถเขาสำนักได แตลมปราณในรางของเจา
ไดฝกฝนเคล็ดวิชาระดับต่ำมาแลว โชคดีที่ฝกฝนเคล็ดวิชาธาตุไมที่บริสุทธิ์มา ไมใช
เคล็ ด วิ ช าสายมารอะไร ในจุ ด นี้ ไ ม ใช ป ญ หา ทว า อายุ ข องเจ า มากเกิ น ไปหน อ ย
คุณสมบัติเชนนี้อาจจะอยูไดแคระดับสรางปราณ รากฐานนอยมาก เต็มที่แลวสุดทาย
คงไดแคระดับฝกปราณขั้นที่เจ็ดหรือแปดกระมัง ถาหากเปนเชนนี้ ความจริงแลวสู
เปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษจะมีอิสระมากกวา!” ทานหลูตรวจสอบอยางละเอียดเสร็จ
แลวก็คลายมือออกจากขอมือของหานลี่ พลางเอยอยางราบเรียบ
“การประเมินทำนองนี้ ชนรุนหลังเคยไดยินผูอาวุโสทานอื่นกลาวแลวขอรับ แต
ชนรุนหลังเชื่อวาหากขยันหมั่นเพียรก็จะสามารถชดเชยได และอยากจะลองทดสอบ
หนทางแหงการบำเพ็ญเพียรดูสักตั้ง” หานลี่ยืนประสานมือเขาดวยอยูเบื้องหนาของ
ทานหลู ใชน้ำเสียงที่จริงใจเปนพิเศษตอบกลับ
ทานหลูเปลี่ยนสีหนา มองนักปราชญแซเหยียนดานขางแวบหนึ่ง แลวพยักหนา
พลางเอยวา
“จิตใจในการฝกฝนของสหายนอยชางหนักแน นยิ่งนัก ขาเองก็ไมอยากกลาว
อะไรมาก ทวาสหายนอยเคยเปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษมากอน แตเคล็ดวิชาในการ
ฝกฝนชางยุงเหยิง เชี่ยวชาญอะไรเปนพิเศษหรือไม”
เมื่อไดฟง หานลี่พลันตกตะลึง รูสึกประหลาดใจเล็กนอย คิดไมถึงวาอีกฝายจะ
ถามปญหาเชนนี้กับผูบำเพ็ญเพียรระดับฝกปราณอยางเขา หรือวาเห็นแกหนาของ
นักปราชญแซเหยียนจริงๆ จึงตองการดูแลเขาใหดี
ความคิดเชนนี้หมุนวนไปมาราวกับสายฟาไมหยุด แตปากของหานลี่กลับเอยตอบ
กลับไปอยางไมลังเลเลยแมแตนอยวา
“ชนรุนหลังมีทักษะในการหลอมยุทธภัณฑอยูเล็กนอย แตแคจากพลังยุทธและ
ประสบการณของชนรุนหลัง แนนอนวาจึงหลอมไดเพียงอาวุธพื้นฐานเทานั้น ไมอาจ
เรียกวายุทธภัณฑอะไรได” เอยจบ หานลี่ก็ดูเหมือนวาจะเกอเขินเล็กๆ ใบหนาเผยสี
หนาเหนียมอายออกมา
“โอ รูวิธีหลอมยุทธภัณฑดวยหรือ? ผูบำเพ็ญเพียรสันโดษในตอนนี้ มีคนเลาเรียน
ทักษะการหลอมอาวุธนอยนัก ถึงอยางไรเสียความสิ้นเปลืองของมัน ก็ไมธรรมดา”
ทานหลูเอยอยางแปลกใจ
เมื่อนักพรตหญิงที่อยูดานขางไดยินก็มีสีหนาประหลาดใจแวบผานไป จากนั้น
พลันเผยสีหนาดีใจออกมา
“ชนรุนหลังไดรับคัมภีรการหลอมยุท ธภั ณ ฑ มามวนหนึ่ ง จึงทดลองหลอมขึ้น
อยางมั่วๆ” แนนอนวาหานลี่ตองประเมินคาทักษะการหลอมยุทธภัณฑของตนเองให
ต่ำที่สุด หากไมไดกังวลวาถาบอกวาตัวเองทำอะไรไมเปนสักอยาง อาจจะกระทบตอ
การเขาสำนักศึกษา หานลี่คงไมยอมเอยถึงทักษะการหลอมยุทธภัณฑอะไรนี้ใหยุงยาก
ทวาเมื่อเทียบกับการหลอมยุทธภัณฑแลว ผูที่รูทักษะการปรุงยาหรือเขตอาคม
นั้นมีนอยยิ่งกวา เกรงวาหากบอกไปจะดึงดูดความสนใจเกินไป
“สหายหาน เจารูวิธีการหลอมยุทธภัณฑหรือ? เยี่ยมจริงๆ ทานอาวุโสหลู ขาจะ
ไดไมตองยืมลูกศิษยหลอมยุทธภัณฑจากสำนักทานอีก ในเมื่อสหายหานผูนี้ยังไมได
เขารวมสำนัก เชนนั้นก็มอบใหขา เขาอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์ของขาเปนอยางไร?”
นักพรตหญิงผูนั้นเอยปากขึ้นอยางฉับพลัน
เวลานี้ นักปราชญแซเหยียนและหานลี่พลันตกใจจนสะดุงโหยง รูสึกตกตะลึงขึ้นมา
“ทานเซียนหญิงหัวเหลียน นั่นมันไมคอยดีกระมัง! อารามของทานเปนอาราม
ของอิสตรี จะใหหลานชายหานซึ่งเปนบุรุษเขาไปไดอยางไร?” นักปราชญแซเหยียน
หนากระตุก เอยอยางทนไมไหว
“ถึงแมวาอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์จะเปนของอิสตรี แตดานในก็ไมใชวาจะไมมี
นักพรตธาตุเพลิงและลูกศิษยเพศชายอยู คนเหลานี้เขามาอยูในอารามจักรพรรดินี
พิสุทธิ์ของขา แตความจริงแลวกลับอาศัยอยูรอบนอก ทานเหยียนเขาใจผิดแลว”
นักพรตหญิงยกมุมปาก เอยพรอมกับหัวเราะอยางแผวเบาออกมา
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ผูแซเหยียนมีความรูเรื่องอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์ไมมาก
นัก เพียงแตหลานหานนั้นอยากเขารวมสำนักศึกษาไปลู เขาอารามของทานไปคงไม
เหมาะสมกระมัง” ทานเหยียนผูนี้ยังตองการใหหานลี่เขารวมสำนักศึกษาไปลูทั้งๆ ที่รู
วาอีกฝายไมธรรมดา แตก็ยังเอยอยางถกเถียงออกมา
“จากคุณ สมบัติของสหายหาน ถึงแมจะเขารวมสำนักศึกษา ก็เปนไดเพี ยงลูก
ศิษยธรรมดาๆ คนหนึ่งเทานั้น ไมมีอนาคตอะไร แตอารามของขากำลังเตรียมการ
หลอมสมบัติสองสามชิ้น ตอนนี้กำลังขาดลูกศิษยระดับต่ำที่รูวิธีการหลอมยุทธภัณฑ
มาเปนผูชวยอยูคนหนึ่ง ขอแคสหายหานยอมเขารวมอารามขา ไมเพียงจะไดพัฒนา
ทักษะการหลอมยุทธภัณ ฑอีกขั้นหนึ่ง แมกระทั่ งอาจจะไดรับการชี้แนะในการฝก
บำเพ็ญเพียรเพิ่มขึ้นจากขาเอง กลาวอยางไมปดบังทานเหยียน ที่ขามาสำนักศึกษาใน
ครั้งนี้ ความจริงแลวก็อยากยืมลูกศิษยที่รูวิธีการหลอมยุทธภัณฑสักคนจากสำนักแหง
นี้ ตอนนี้มีอยูคนหนึ่ง แนนอนวาจึงไมจำเปนตองรบกวนสหายหลูแลว” ทานเซียน
หญิงหัวเหลียนไมใสใจแมแตนอย พลางอธิบายออกมาพรอมรอยยิ้ม
“เรื่องนี้ พี่หลูคิดวาอยางไร?” นักปราชญ แซเหยียนฟ งอีกฝายเอยเชนนี้ กลับ
ลังเลเล็กนอย อดที่จะเงยหนาไปมองทานหลูไมได
“สหายหานยั ง ไม ไ ด เข า ร ว มสำนั ก ข า ถื อ ว า เป น อิ ส ระ จะยอมเข า อาราม
จักรพรรดินีพิสุทธิ์หรือไม ก็แลวแตตัวเขา ทวาทานเซียนหญิงหัวเหลียนกลาวเชนนี้
ถึงแมวาสหายหานจะเขารวมสำนักศึกษาของขาเพื่อฝกบำเพ็ญเพียร ผูแซหลูก็ไมอาจ
ชวยอะไรไดกับคำวาไมมีอนาคต แตท่ีทานเซียนหญิงหัวเหลียนมาที่สำนักของขา ก็
เพื่ อ หาลู ก ศิ ษ ย ร ะดั บ ต่ ำ ที่ รู วิ ธี ห ลอมยุ ท ธภั ณ ฑ ค นหนึ่ ง จริ ง ๆ การเข า ร ว มอาราม
จักรพรรดินีพิสุทธิ์ ก็เปนตัวเลือกที่ไมเลว” ทานหลูมีสีหนาไมเปลี่ยนแปลงขณะเอย
ดวยน้ำเสียงทุมต่ำ
กลาวมาถึงตรงนี้ สายตาของทั้งสามคนที่อยูในหองโถง ก็มาตกอยูบนรางของ
หานลี่ มีทั้งกังวล มีทั้งประหลาดใจ และมีทั้งตื่นเตนดีใจ
“อารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์หรือ?” เหมือนวาจะเคยไดยินชื่อนี้มากอน ดูเหมือนวา
จะเปนอารามเตาที่อยูบนยอดเขาอีกลูกหนึ่งของภูเขาอวี้เถียน แตกอนหนานี้หานลี่ไม
รูวาอารามนี้เปนอารามของอิสตรี จึงรูจักอารามนี้นอยมาก
จึงทำไดเพียงเผยสีหนาวางเปลาออกมา ในหัวมีแตความงุนงง
ตอนที่ 925 คาถากลืนผสานจิตวิญญาณ
สำหรับหานลี่นั้น การเปลี่ยนแผนการอยางกะทัน หัน ไปสำนั กพรรคที่ไมรูจัก
อะไรเลยแมแตนอยนั้นสูอยูที่สำนักศึกษาไปลูไมได
แตเงื่อนไขที่สตรีผูบำเพ็ญเพียรเบื้องหนามอบให ก็เปนสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรสันโดษ
คนหนึ่ ง อย างเขาไม อ าจปฏิ เสธได หากยั งไปเข าร ว มสำนั ก ศึ ก ษาไป ลู อี ก เกรงว า
ทางดานทานหลูคงสงสัยในตัวเขาเปนแน เชนนั้น หานลี่จึงแอบตำหนิและกลอกตาใส
ทานเซียนหญิงหัวเหลียนที่เขามาวุนวายอยางกะทันหันอยูในใจ
“ไมปดทานอาวุโสหัวเหลียน ชนรุนหลังรูจักอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์ไมมากนัก
จริงๆ แตในเมื่ออารามของทานเปนอารามของอิสตรี คิดดูแลววรยุทธหรือวิธีการฝก
บำเพ็ญเพียร คงไมเหมาะสมกับผูบำเพ็ญเพียรชายอยางพวกเรากระมัง” หานลี่ขบคิด
อยางรวดเร็ว ในที่สุดก็เหตุผลตบตาที่พอถูไถออกมาได
“ที่แทสหายหานก็กังวลใจเรื่องนี้นี่เอง! จุดนี้ไมจำเปนตองกังวล ความจริงแลว
อารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์ของพวกเราเปนแคหนึ่งในสาขาของอารามสามกษัตริย สวน
อารามจักรพรรดิตะวันและอารามจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือลวนเปนอารามเตาของ
บุรุษ เคล็ดวิชาการฝกบำเพ็ญเพียรของบุรุษจึงไมไดขาดแคลน และยิ่งไปกวานั้นขาวา
ในตัวของสหายนั้นไมมีจิตวิญญาณบริสุทธิ์โดยธรรมชาติอยู สิ่งสำคัญในการการเขาไป
อยูในสำนักศึกษาไปลูก็คือการฝกฝนจิตวิญญาณนี้ เทียบกับวรยุทธของพวกเราแลว
เกรงวาจะยากกวาถึ งสามส วน แน น อนวาหากประสบความสำเร็จ ในวรยุ ท ธ ส าย
นักปราชญ ภายใตการชวยเสริมจากจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ ความสามารถก็จะสูงสง
กวาเคล็ดวิชาสายเตาธรรมดาๆ ทวาสำหรับสหายหานแลว เอยถึงเรื่องนี้คงเร็วไป
หนอย หรือวาสหายหานดูถูกอารามของขากัน?” ทานเซียนหญิงหัวเหลียนฉีกยิ้ม เอย
อยางไมรีบรอน ในประโยคกลับมิกลาดูแคลนสำนักปราชญเลยแมแตนอย!
“สหายหัวเหลียนพูดมีเหตุผล เคล็ดวิชาสายนักปราชญของพวกเรา ในขั้นแรก
ตองใชเวลาฝกฝนนานกวาสำนักเตาและพุทธจริงๆ สหายหาน จากเงื่อนไขของเจา
เขารวมอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์จะเหมาะสมกวา ในเมื่อสหายหัวเหลียนรับปากวาจะ
ดูแลเจา หากเจาอยูภายใตอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์ ความหวังที่จะบรรลุระดับสราง
ปราณก็ไมใชวาจะไมมีสักนิดแลว” ทานหลูเอยปากดวยสีหนาราบเรียบ
เมื่อไดฟงประโยคนี้ หานลี่ก็หมดคำพูด
ดูแลวคงไมมีทางหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนเปาหมายที่วางไวไดแลวจริงๆ มิเชนนั้นหากยืน
หยัดตอไป อาจารยเซียนหลูผูนี้ไมสงสัยก็คงแปลก โชคดีที่อารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์
เองก็อยูในแหลงชีพจรบนภูเขาอวี้เถียน หากตัวเองระมัดระวังสักหนอย ก็นาจะไมเกิด
ปญหาอะไร
เมื่อขบคิดเชนนั้น หานลี่ก็ทำไดเพี ยงบีบจมูกยอมรับความโชครายของตัวเอง
ทาทีที่แสดงออกมายังคงเปนทาทีตื่นเตนดีใจเล็กนอย
“ในเมื่อทานอาวุโสทั้งสองแนะนำเชนนี้ก็คงไมผิดแน เชนนั้นชนรุนหลังนอมรับ
คำแนะนำของทานอาวุโสทั้งสองก็แลวกันขอรับ!”
เมื่อไดยินคำพูดที่รูจักวางตัวของหานลี่ ในที่สุดนักพรตหญิงผูออนเยาวก็พยักหนา
ดวยความพึงพอใจ ทานหลูทำเพียงฉีกยิ้มไมไดเอยอะไรออกมา
ถึงแมวานักปราชญแซเหยียนจะอยากใหหานลี่เขารวมสำนักปราชญมากกวา แต
เมื่อเห็นหานลี่เองก็ไมไดปฏิเสธ ก็ยิ่งพูดอะไรไมได
เมื่อตัดสินเรื่องราวของหานลี่แลว จากนั้นพวกทานหลูและนักพรตหญิงทั้งสาม
คนก็พูดคุยเลนกัน ทวาเนื้อหาที่พวกเขาพูดคุยกันคาดไมถึงวาจะไมใชเรื่องมหัศจรรย
ในโลกของผูบำเพ็ญเพียร แตเปนความไดเปรียบเสียเปรียบของตาจิ้นในปจจุบัน นี่จึง
ทำใหหานลี่ฟงแลวรูสึกกลัดกลุม
สำนักปราชญนั้นก็ชางเถิด ถึงอยางไรเสียสำนักของพวกเขาก็สั่งสอนใหของแวะ
กับทางโลก ถกปญหาเรื่องนี้ก็ไมแปลก แตอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์มีตนกำเนิดมาจาก
ลัท ธิเต า คาดไม ถึงวาจะถกป ญ หาเรื่อ งนี้ อ ย างวางตั วเช น กั น ช างทำให ห านลี่ รูสึ ก
ประหลาดใจจริงๆ
หรือวาอารามจักรพรรดินีพิ สุท ธิ์ก็เหมื อนกับสำนั กปราชญ เป น สำนั กบำเพ็ ญ
เพียรที่ของแวะกับทางโลกเชนกัน หานลี่อดที่จะขบคิดเชนนี้ไมได
ทั้งสามคนพูดคุยกันอยางสนุกสนานในหองโถง แตหลังจากผานไปชั่วครู ดาน
นอกก็มีเสียงฝเทาดังขึ้น จากนั้นเสียงนุมนวลออนโยนก็ลอยมา
“รายงานทานบรรพจารย ลูกศิษยนอมรับคำสั่ง นำแกนทองแดงสีมวงมาจากคลัง
แลวขอรับ”
“ออ เชนนี้นี่เอง เอาของเขามาเถิด” ทานหลูไดยินคำนี้ ก็เอยออกมาอยางไมตองคิด
‘แกนทองแดงสีมวง’ หานลี่ใจเตน ของสิ่งนี้เอาไวใชหลอมยุทธภัณ ฑระดับสุด
ยอดหรือแมกระทั่งเปนวัตถุดิบหลอมสมบัติอาคมระดับสูง บางทีสำหรับเขาแลวก็ไม
ถือวาเปนของดีอะไร แตสำหรับทั้งสองคนที่อยูเบื้องหนานั้นกลับเปนสิ่งที่หายากอยาง
แนนอน
ขณะที่กำลังขบคิดนั้น ประตูหองก็ถูกเปดออก เด็กนอยผิวขาวเนียน อายุสิบเอ็ด
สิ บ สองป ก็ ถื อ ถาดสี แ ดงขนาดใหญ เดิ น เข า มา บนถาดมี ผ า ไหมสี เงิ น คลุ ม อยู ดู
เหมือนวาจะวางอะไรไวดานใน
เมื่อวางถาดใบนั้นไวตรงกลางระหวางทานเซียนหญิงหัวเหลียนและทานหลูดวย
ความนอบนอม เด็กชายก็ถอยหลังออกไป แลวประสานมือเขาดวยกัน
“ออกไปก อ น เจาไม จ ำเป น ต อ งคอยรับ ใช อ ยู ที่ นี่ ในตอนนี้ แ ล ว” ท านหลู ม อง
เด็กชายแวบหนึ่ง แลวออกคำสั่งดวยสีหนาราบเรียบ
เด็กคนนั้นตอบรับ คารวะอยางนอบนอม แลวถอยหลังออกไปจากหอง
จากนั้นทานหลูก็ผลักถาดใบนั้นไปใหทานเซียนหญิงหัวเหลียนอยางไมแมแตจะมอง
“สหายหัวเหลียน นี่คือแกนทองแดงสีมวงที่เจาขอยืม เก็บเอาไวเถิด ครั้งนี้อาราม
ของทานตามหาของสิ่งนี้ไปทั่ว ดูแลวคงคิดจะหลอมสมบัติที่สำคัญจริงๆ ไมทราบวา
เปนยุทธภัณฑระดับสุดยอดหรือวาสมบัติอาคม” ทานหลูฉีกยิ้ม ราวกับวาเอยอยาง
สบายๆ
“เรื่องหลอมยุทธภัณฑ ชนรุนหลังก็ไมแนใจนัก ชนรุนหลังเองก็ไดรับคำสั่งมาจาก
ทานอาจารยอาสี่ ถาหากทานอาวุโสอยากรูรายละเอียด ก็ไปถามทานอาจารยหญิงสี่
โดยตรงเถิด คิดวาคงบอกตามความจริงแน” หลังจากที่นักพรตหญิ งลังเลเล็กนอย
กลับเผยสีหนารูสึกผิดออกมาขณะเอย
“ไมตองมากพิธีขนาดนั้นหรอก ตาเฒาแคถามไปอยางนั้น” ทานหลูไดยินคำวา
‘อาจารยหญิงสี่’ หนาก็เปลี่ยนสีไปเล็กนอย ทันใดนั้นก็ตอบรับพรอมกับหัวเราะฮาๆ
ทานเซียนหญิงหัวเหลียนฉีกยิ้มเบิกบาน ยื่นมือเรียวขาวเนียนออกไป ดึงผาไหม
บนถาดออก เผยใหเห็นศิลาสีทองกองหนึ่งที่เปลงแสงสีมวงระยิบระยับดานใน
เมื่อ มองเห็ นแกน ทองแดงสีมวงที่ อ ยูเบื้ องหน า ใบหน าของนั กพรตหญิ งก็เผย
รอยยิ้ ม ออกมา หลั งจากที่ เอ ย ขอบคุ ณ แล วก็ ดึ งย ามเก็ บ ของใบหนึ่ งที่ เอวออกมา
ลำแสงพุงออกมาพลางมวนวนดึงเอาวัตถุดิบทั้งหมดเขาไปในยาม แลวเก็บเขาไปอยาง
ระมัดระวัง
เมื่ อ เห็ น วาตนเองบรรลุ วัต ถุป ระสงค แ ล ว นั ก พรตหญิ งวัย เยาวแ ละท านหลู ก็
พูดคุยกันอีกชั่วครู ในที่สุดก็ขอตัวลา
ทานหลูเองก็ไมไดรั้งไว ทันใดนั้นก็เรียกเด็กชายคนหนึ่งออกมานำทางนักพรตหญิง
ออกจากสำนักศึกษา แนนอนวาหานลี่ก็กลาวลาทั้งสองคนอยางเคารพนบนอบเชนกัน
ทันใดนั้นก็ตามสตรีผูนั้นออกไป
เมื่อหานลี่และพวกทั้งสองออกไป ชั่วพริบตานั้นภายในหองโถงก็เงียบสงัด
ตอนนั้นนักปราชญแซเหยียนและทานหลูไมไดพูดคุยอะไรกัน เพียงแคนั่งอยูบน
เกาอี้เงียบๆ มองสบตากับไปมาโดยไมไดกลาวอะไร โดยเฉพาะนักปราชญแซเหยียน
ยิ่งมีสีหนาไมมั่นคง ดูเหมือนวากำลังขบคิดอะไรสักอยางอยู
“เจาเตรียมตัวไปถึงไหนแลว หากตองตอกรกับเจามารเฒาหนิวเทียนเตอผูนั้น มี
เพียงตองชวยขาฝกฝน ‘คาถากลืนผสานจิตวิญญาณ’ ใหสำเร็จ ขาถึงจะมั่นใจวาจะ
กำจัดมารผูนั้นไดเจ็ดแปดสวน ตอนนี้ทุกอยางพรอมแลว เจาคงไมไดเสียดายชีวิตของ
ตนเองในชวงสุดทายหรอกนะ?”
ในที่สุดทานหลูก็เอยปาก แตน้ำเสียงกลับเครงขรึม ไรซึ่งความรูสึก
“ฮึ! ขอเพียงชำระแคนลางตระกูลได รางกายที่ไมสมบูรณของผูแซเหยียนก็ไมได
นาเสียดายอะไร สิ่งเดียวที่ขากังวลก็คือ หากวันที่ พี่ หลูมีอิท ธิฤทธิ์ยิ่งใหญ แตกลับ
หวาดกลัวเปลวเพลิงอำมหิตของมารเฒา จนกระทั่งไมยอมไปหาเรื่องมัน เชนนั้นไมใช
วาขานอยเอาชีวิตไปทิ้งเปลาๆ หรือ”
นักปราชญแซเหยียนมีสีหนาเครงขรึม เอยอยางแข็งทื่อ
“หึๆ เหตุใดพี่เหยียนถึงไมมั่นใจในตัวผูแซหลูถึงเพียงนี้ ขาเคยพูดเอาไวไมใชหรือ?
หากเจาใชรางกายชวยขาฝกฝน จิตวิญญาณที่บริสุทธิ์บนรางของเจา แนนอนวา
จะตองถูกขาสืบทอดไป และเพราะความแคนที่มีอยูเต็มอกของเจา
หากขาไมกำจัดหนิวเทียนเตอผูนั้น ก็ไมมีทางเอาจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ของเจามา
ใชได เพื่อจิตวิญญาณบริสุทธิ์บนรางของพี่เหยียน ขานอยจะตองสังหารเจามารผูนั้น
อยางแนนอน และยิ่งไปกวานั้น พี่เหยียนคิดวานอกจากขาแลว ยังจะมีผูบำเพ็ญเพียร
คนไหนสามารถชวยทานไดอีก กระทั่งไมกลัวการแกแคนของพรรคตะวันทมิฬเชนนี้”
ทานหลูกลับไมไดโกรธเกรี้ยว แตกลับเอยอยางไมรีบรอน
“เจาพูดถูก ตั้งแตที่ขาคบคาสมาคมกับผูบำเพ็ญเพียรมาจำนวนหนึ่ง ถึงแมพี่หลู
จะไมใชคนที่มีความสามารถและพลังยุทธที่มากที่สุด แตก็มีเพียงทานที่ตองการความ
ชวยเหลือจากขา ยินยอมแกแคนใหตระกูลแทนผูแซเหยียน การไปหาเรื่องผูบำเพ็ญ
เพียรสายมารอยางพรรคตะวันทมิฬนั้นไมใชวาคนอื่นๆ จะทำไมได แตมันคือการยอม
ไปหาเรื่ อ งผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รของสิ บ พรรคมารเพื่ อ คนธรรมดาคนหนึ่ ง ” เมื่ อ เอ ย ถึ ง
ความแคน ของตระกูล นักปราชญ แซเหยียนพลัน กำมื อทั้ งสองแน น เล็ บจิกเขาใน
ผิวหนังอยางไมรูตัว
“นั่นมันแนนอนอยูแลว หนิวเทียนเตอผูนั้นเปนผูคุมกฎภายนอกของพรรคตะวันทมิฬ
ความจริงแลวสำนักเล็กๆ ก็กลาไปหาเรื่อง แตเดิมสำนักปราชญของพวกเราและสาย
มารก็เหมือนน้ำกับไฟที่ไมถูกกันอยูแลว จึงไมจำเปนกังวลอะไร และยิ่งไปกวานั้นเพื่อ
เปนการแสดงถึงความจริงใจของผูแซหลู หาปนี้ ขาจึงตอบรับคำขอของพี่เหยียนแทบ
ทั้งหมด นี่นาจะเพียงพอกับความจริงใจของขานอยแลวกระมัง” อาวุโสหลูถอนหายใจ
ออกมาเฮือกหนึ่ง แลวเอยขึ้นอีกสองสามประโยค
เมื่อไดยินคำนี้ นักปราชญแซเหยียนก็มีสีหนาเครงขรึม มองทานหลูดวยความเย็นชา
ตั้งแตตนจนจบก็ไมไดเอยอะไรอีก
“เอาละ เพื่อทำใหพี่เหยียนวางใจ ขานอยจะรายคาถาสะกดใจ ตอหนารูปปน
จอมปราชญ วันขางหนาหากไมมีทางทำได ก็จะไมมีทางเพิ่มจิตวิญญาณบริสุทธิ์ไดเลย
แมแตนอย” หลังจากผานไปชั่วครู เห็นวานักปราชญยังมีทาทางไมผอนคลายลง ทาน
หลูก็ทำไดเพียงหัวเราะอยางขมขื่นออกมา แลวเอยขึ้นอยางจนปญญา
“เยี่ยม มีคำพูดนี้รับประกันก็ดี ผูแซเหยียนไมเสียดายรางกายนี้ เพื่อชวยใหพี่หลู
ฝกฝนวิชาสำเร็จแลว ไมใชวาผูแซเหยียนไมอยากบอกพี่หลู แตตระกูลเหยียนเหลือ
เพี ย งผูแ ซ เหยี ยนที่ มี ชี วิต อยู เพี ย งคนเดี ย วแล ว ข าน อ ยจึงจำเป น ต อ งรอบคอบสั ก
หนอย” นักปราชญแซเหยียนถึงไดถอนใจออกมาเฮือกหนึ่ง หลังจากใบหนากระตุก
สองสามครั้ง ก็เอยขึ้นดวยน้ำเสียงที่เยียบเย็น
“ความลำบากใจของพี่เหยียน ขานอยนั้นทราบดี การฝกฝนจะเริ่มขึ้นอีกหนึ่ง
เดือนตามที่วางไว ภายในหนึ่งเดือนนี้ พี่เหยียนก็จัดการงานศพใหดีเถิด จากนั้นคอย
มาหาขาที่สำนักศึกษา” ทานหลูโบกมือ พลางเอยอยางราบเรียบ
นักปราชญพลันพยักหนา ในหองจึงเขาสูความเงียบสงัดอีกครั้ง
“ใชแลว คนของอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์ในครั้งนี้ เหตุใดถึงตองเอาเด็กนอยแซ
หานไปด ว ย ลู ก ศิ ษ ย ที่ ห ลอมยุ ท ธภั ณ ฑ หรื อ ว า หาในสำนั ก ศึ ก ษาไม ไ ด เลย?”
นักปราชญแซเหยียนเอยถึงหานลี่ขึ้นอยางกะทันหัน
“ขาก็แคไหลไปตามน้ำเทานั้น สมบัติที่อารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์ตองการหลอมใน
ครั้งนี้นาจะไมธรรมดา นอกจากปรมาจารยหลอมยุทธภัณฑของอารามพวกนางแลว
แมกระทั่งคนหลอมวัตถุดิบก็ยังไมพอ ถึงแมวาอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์จะยืมลูกศิษย
หลอมยุทธภัณฑระดับต่ำของสำนักศึกษาอยางขาได แตก็ไมวางใจ และไมรูวาตอง
เตรียมการปองกันอะไรบาง ตอนนี้มีสหายนอยหานที่รูวิธีการหลอมยุทธภัณฑปรากฏ
ตัวขึ้น ยิ่งไปกวานั้นยังไมไดเขารวมกับสำนักศึกษาใดๆ แนนอนวาจึงรับเขาอารามและ
นำไปใชงาน” ทานหลูดูเหมือนวาจะรูอะไรสักอยาง จึงเอยขึ้นพรอมกับยิ้มบางๆ อยาง
ไมใสใจ
ฟงมาถึงตรงนี้ ในที่สุดนักปราชญแซเหยียนก็ผอนคลายลง มิเชนนั้นหากมีอะไร
ไมเหมาะสม กลับไปเจอกับสหายเกาคงไมรูวาจะอธิบายอยางไร
และในเวลาเดียวกันนั้น ทานเซียนหญิงหัวเหลียนผูนั้นก็ใชยุทธภัณฑผาไหมพาหานลี่
บินออกไป ตรงไปยังยอดเขาเตี้ยๆ อีกยอดเขาหนึ่งที่อยูหางจากยอดเขาฮวนอวิ๋น
ตอนที่ 926 ตำหนักหลอมยุทธภัณฑ
“นี่คืออาวุโสเหวย หนึ่งในสองปรมาจารยดานการหลอมยุทธภัณฑที่ยิ่งใหญของ
อารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์เรา วันขางหนาเจาตองเปนลูกมือของอาวุโสเหวยชั่วคราว
จะไดสะดวกตอการเรียนรูวิชาการหลอมยุทธภัณฑ วางใจ ขาไมไดใหเจาเปนอาจารย
ดานการหลอมยุทธภัณฑจริงๆ หรอก อารามของเราไมมีเงินมากพอที่จะเลี้ยงดูสั่ง
สอนปรมาจารยดานการหลอมยุท ธภัณ ฑ โดยเฉพาะเพิ่ มอีกคนหรอก แคชวงนี้เรา
กำลังสมบัติสำคัญชิ้นหนึ่ง จึงจำเปนตองหาคนชวยชั่วคราวก็เทานั้น ทวาขอแคเจาทำ
ไดดีในชวงนี้ หลังจากจบเรื่องราวนี้อีกสองสามป ขาจะมอบยาลูกกลอนใหเจา และ
ชี้แนะเรื่องการฝกบำเพ็ญเพียรใหเจาดวยตนเอง ไมมีทางคืนคำที่เคยรับปากกับเจาไว
แน!”
ทานเซียนหญิงหัวเหลียนเอยกับหานลี่ เวลานี้พวกเขากำลังยืนอยูกลางหองลับที่
มี วั ต ถุ ดิ บ วางกองอยู อ ย า งระเกะระกะ ด า นข า งยั ง มี ช ายชราใบหน า แดงก่ ำ อายุ
ประมาณหาสิบกวาปยืนอยู ทาทางอยูในระดับสรางปราณขั้นตน กำลังมองพิจารณา
หานลี่ขึ้นๆ ลงๆ แลวขมวดคิ้วมุน
สวนหานลี่นั้นมาถึงเวลานี้แลวจะพูดอะไรได จึงทำไดเพียงพยักหนาตอบรับอยาง
ตอเนื่องเทานั้น
“สหายหัวเหลียน ศิษยหลานผูนี้รูวิธีการหลอมยุทธภัณฑจริงๆ หรือ? อายุและ
พลังยุทธนั้นต่ำเกินไปหนอยกระมัง? ไมใชบอกวา จะไปสำนักเลาศึกษาไปลูเพื่อหา
ผูชวยที่เหมาะสมใหขานอยสักคนหรือ?” ชายชราเอยออกมาอยางไมพอใจ
“การหลอมสมบัติครั้งนี้สำคัญมาก ทางที่ดีที่สุดอยาใหสำนักอื่นๆ เขารวมเรื่องนี้
จะดี ก ว า บางที พ ลั งยุ ท ธ แ ละประสบการณ ข องศิ ษ ย ห ลานหานอาจจะยั งตื้ น เขิ น
รบกวนอาวุโสเหวยชี้แนะเรื่องการหลอมวัตถุดิบใหเพียงเล็กนอย ก็นาจะไมใชปญหา
อะไร” นักพรตหญิงหัวเหลียนกลับหัวเราะอยางแผวเบาออกมาขณะเอย
“แมจะเปนการหลอมวัตถุดิบเหลานี้ ก็จำเปนตองมีพรสวรรค มิเชนนั้นก็เสียวัตถุดิบ
ไปเปลาๆ ทวาในเมื่อสหายหัวเหลียนกลาวเชนนี้ อยางนั้นก็ใหเจาเด็กนอยนี้ทดลอง
อยูที่นี่ชั่วคราวแลวกัน” ชายชรารูสึกจนปญญา ทำไดเพียงเอยอยางไมพอใจนัก
“วางใจ สายตาของขาไมไดเลวรายขนาดนั้น ถึงแมศิษยหลานหานผูนี้จะมีพลัง
ยุทธไมไดสูงสง แตลมปราณในรางกลับบริสุทธิ์เปนพิเศษ จะตองควบคุมลมปราณใน
การหลอมยุทธภัณฑไดไมเลวรายนักแนนอน” นักพรตหญิงเมมปากเล็กนอย พลางฉีก
ยิ้มเบิกบานออกมา
“เอ! ในเมื่อเปนเชนนี้ ก็คงมีศักยภาพอยูนิดหนอยจริงๆ ดูแลวสหายหัวเหลียนคง
ไมไดควาใครมามั่วซั่ว” ชายชราแซเหวยไดยิน ก็พิ จารณาหานลี่อีกครั้งดวยความ
ประหลาดใจ ใบหนาฉายแววแปลกใจวาบผานไป
“คนที่อาวุโสเหวยตองการ ขาก็นำมาสงแลว ขั้นตอนการหลอมยุทธภัณฑตอจาก
นี้ตองเรงมือแลว เทียบกับอีกสองอาราม ขั้นตอนของอารามเราลาชาไปหนอยแลว
ขั้นตอนสุดทายนั้นหามลาชาเด็ดขาด มิเชนนั้น เราสองคนคงรับผิดชอบไมไหว ตอนนี้
ขาขอตัวลากอนก็แลวกัน” ในที่สุดทานเซียนหญิงหัวเหลียนก็หยัดกายลุกขึ้นเดินจาก
ไป กอนจากก็ยังหันมากำชับอีกหนึ่งประโยค
“วางใจ ขอแคเจาเด็กนอยนี่มีประโยชน ไมมีทางเสียเวลาแน” ชายชราหนาแดง
หยัดกายลุกขึ้นสงสตรีผูนั้น ปากก็เอยรับคำ
เมื่อไดยิน ทานเซียนหญิงถึงไดจากไปจริงๆ อยางพอใจ
ดังนั้นตอนนี้ภายในหองลับ จึงเหลือเพียงหานลี่และชายชราสองคน
“คำพูดเมื่อครู เจาก็ไดยินแลว ไมวาเจาจะสนใจการหลอมยุทธภัณฑหรือไม หรือ
วามีพรสวรรคหรือไม ขาจะสั่งสอนการหลอมยุทธภัณฑใหเจาหนึ่งเดือน จากนั้นก็จะ
มอบหมายงานใหเจา ขอแคเจาทำงานที่ ขามอบหมายใหเสร็จสิ้น ทุ กเดือน เวลาที่
เหลือเจาก็บริหารจัดการเอาเองไดเลย ถาหากทำงานไมเสร็จ ก็รีบไสหัวไปเสีย ตาเฒา
จะหาคนที่เหมาะสมคนใหมเขามาในตำหนักหลอมยุทธภัณฑ” ชายชราแซเหวยกลับ
ไมมีไมตรีจิตเลยแมแตนอยขณะเอยอยางไมเกรงใจ
“ขอรับ ศิษ ยจะพยายามอยางสุ ดความสามารถ!” หานลี่ตอบกลับ ดวยสีห น า
ราบเรียบ
“แนนอน การเปนลูกศิษยของตำหนักหลอมยุทธภัณฑก็ไมใชวาจะไมมีประโยชน
อะไรเลย ในตำหนักไมเพียงจะมียุทธภัณฑและบอเพลิงปฐพีใหใชไดตามใจ ยิ่งไปกวา
นั้นศิลาวิญญาณที่จายใหทุกเดือนก็มากกวาลูกศิษยตำหนักอื่นมาก ตอนนี้เจาตามขา
มา ไปพบลูกศิษยของตำหนักหลอมยุทธภัณฑคนอื่นสักหนอย วันขางหนาอาจจะมี
วัตถุดิบบางอยางที่จำเปนตองใหพวกเจารวมมือกัน ถึงทำสำเร็จได” ชายชราเห็ น
ทาทางของหานลี่ก็ดูเหมือนวาจะพึงพอใจ จึงเอยขึ้นอีกดวยสีหนาผอนคลายลง
จากนั้นก็เดินนำหานลี่ออกมาจากหองลับ
ดังนั้นหลังจากที่พบลูกศิษยระดับต่ำพลังยุทธระดับฝกปราณที่เหลือสามคนแลว
ก็จัดหาที่อยูใหหานลี่ การฝกบำเพ็ญเพียรในอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์ของหานลี่จึง
เริ่มตนขึ้น
สิ่งที่ เรียกวาตำหนั กหลอมยุท ธภั ณ ฑ ความจริงแล วก็ คือ ใจกลางยอดเขาของ
อารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์ สิ่งปลูกสรางอื่นๆ ตั้งอยูอีกลานหนึ่ง
สิ่งปลูกสรางถือวามีไมมากนัก นอกจากตำหนักเพลิงปฐพีแหงหนึ่ง หอคอยหลอม
ยุทธอีกสองสามแหงแลว ก็ไมมีสิ่งปลูกสรางอื่นๆ ใหตองพูดถึง แมกระทั่งลูกศิษยใน
ตำหนักยังตองไปอาศัยอยูในถ้ำที่สรางขึ้นบนภูเขา
สวนคนในตำหนักนั้น นอกจากชายชราผมแดงผูซึ่งเปนปรมาจารยดานการหลอม
ยุทธภัณฑแลว ก็มีผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนระดับฝกปราณขั้นที่แปดและเกาอีกสอง
คนที่รับหนาที่เปนผูชวยชายชราในการหลอมยุทธภัณฑ สวนที่เหลือ ก็คือหานลี่และ
พวกลูกศิษยตำหนักหลอมยุทธภัณฑสี่คน ดังนั้นแมสถานที่จะไมไดใหญ โต แตเมื่อ
เทียบกับจำนวนคนแลว ก็ถือวาเหลือเฟอ
ทว าทุ ก วั น กลั บ มี ลู ก ศิ ษ ย ช ายหญิ งมากหน าหลายตามาขอยื ม หอคอยหลอม
ยุ ท ธภั ณ ฑ เพื่ อ หลอมยุ ท ธภั ณ ฑ หรื อ มาขอวิ ธี ห ลอมยุ ท ธภั ณ ฑ ต า งๆ ของอาราม
จักรพรรดินีพิสุทธิ์อยูไมนอย
ในเมื่อเปนอารามสตรี แนนอนวาแปดเกาสวนจึงเปนลูกศิษยผูบำเพ็ญเพียรหญิง
แตผูบำเพ็ญเพียรหญิงเหลานี้ไมไดเปนนักพรตทั้งหมด มีสตรีที่ยังออนเยาวจำนวนไม
น อ ยที่ ห น าตาเลอโฉมงดงามไม ธรรมดา ราวกั บ ทุ ก คนเป น ลู ก หลานของขุ น นางที่
ร่ำรวยอยางไรอยางนั้น
หานลี่ ที่ เฝ าดู ส ถานการณ ด วยความเยื อ กเย็ น พบวาลู ก ศิ ษ ย ช ายสามคนของ
ตำหนักหลอมยุทธภัณฑ ถึงแมวาจะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยลาจนเหลือจะทน แตกลับถูกผู
บำเพ็ ญ เพี ยรหญิ งที่ เขาๆ ออกทั้ งวัน ทำให ห ลงใหลเคลิบ เคลิ้มจนสับสนหมดแล ว
นอกจากรูจักเพียงแตประจบลูกศิษยหญิงที่พยายามหลอมยุทธภัณฑแลว พลังยุทธ
ของตัวเองก็หยุดชะงักไมพัฒนามาหลายปแลว
ลูกศิษยชายสวนนอยที่เขามาที่นี่ สวนใหญจะเปนลูกศิษยสายนอกที่ทำงานทั่วๆ
ไปที่ตำหนักหลอมยุทธภัณฑ บางก็มีหนาที่ศึกษาเขตอาคม บางก็มีหนาที่ปรุงยาเปน
ตน แตลูกศิษยหญิงเหลานั้น แคตั้งใจฝกบำเพ็ญเพียรอยางเดียวก็พอแลว
เรื่องเชนนี้ทำใหหานลี่แอบสายศีรษะในใจ แตก็ไมไดยุงวุนวายอะไร
และยิ่งไปกวานั้นหนาที่การตอนรับแขกนั้นถูกมอบใหลูกศิษยชายหญิงอีกสามคน
หานลี่กลับถูกกำหนดใหศึกษาวัตถุดิบที่บริสุทธิ์และวิธีกลั่นวัตถุดิบโดยเฉพาะ ทุกวัน
ชายชราหนาแดงจะตองหาเวลาหนึ่งชั่วยาม มาอธิบายความรูพื้นฐานในการหลอม
ยุทธภัณ ฑ ใหห านลี่ฟงโดยเฉพาะ บางครั้งก็ลงมือดวยตนเอง สาธิตให ห านลี่ดูเป น
ตัวอยาง
จากพลังยุท ธและประสบการณ เดิ มของหานลี่ จึงไม คิดวาจะเรียนรูอ ะไรจาก
ปรมาจารยการหลอมยุทธภัณฑระดับสรางปราณคนหนึ่งได จึงทำทาทีตอบรับเปนพิธี
เทานั้น
ผลลัพธคือหลังจากผานไปแคไมกี่วัน ก็ทำใหหานลี่ตกตะลึงเปนอยางมาก
ถึงแมวาชายชราผูนี้จะมีพลังยุทธไมสูงสง แตทักษะการหลอมยุทธภัณฑนั้นสูง
อย างมากจนหาตั วจับ ยากจริงๆ แค ดู จ ากการสกั ดวั ต ถุ ดิ บ ให บ ริสุ ท ธิ์นั้ น คนผู นี้ ก็
เชี่ยวชาญอยูหลายวิธี ดูเหมือนวาจะศึกษาเคล็ดวิชาลับการหลอมยุทธภัณฑจากสำนัก
ตางๆ มามากมาย ทักษะและความรูในการหลอมยุทธภัณฑบางอยาง เขาก็ไมแมแต
จะเคยไดยินมากอน
หลังจากผานไปสั้นๆ เพียงสิบกวาวัน หานลี่ก็ไดรับประโยชนมามากมาย จนทำ
ใหอดที่จะรูสึกตกตะลึงระคนดีใจไมได ดูแลวดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของผูบำเพ็ญเพียรที่
ชาวตาจิ้นใชเรียกขานตนเองนั้น ก็ไมใชคำพูดคุยโวอะไรจริงๆ
แคปรมาจารยหลอมยุทธภัณฑในอารามเตาที่ไมไดโดดเดนคนหนึ่ง ก็รูทักษะการ
หลอมยุทธภัณฑมากมายขนาดนี้ หนึ่งในนั้นยังมีวิธีการเก็บรักษายุทธภัณฑโบราณ ที่
สั่งสมและตกตะกอนมาเปนเวลานาน เปนเคล็ดวิชาหลอมยุทธภัณฑชนิดใหมที่สรุป
มาจากการศึกษาของปรมาจารยหลอมยุทธภัณฑในอดีต เมื่อรวมมันเขาดวยกันก็ไมใช
สิ่งที่วิธีการหลอมยุทธภัณฑงายๆ สองสามชิ้นของเทียนหนานและมหาสมุทรดาวคลั่ง
จะเทียบเทียมได นี่ชางทำใหเขาไดเปดโลกทัศนจริงๆ
จะวาไปแลว เคล็ดวิชาหลอมยุทธภัณฑของหานลี่ในเวลานี้ก็ธรรมดาอยางมาก
หากเทียบกับพลังยุทธและประสบการณในตอนนี้กับเคล็ดวิชาหลอมยุทธภัณฑที่ไดมา
จากฉีอวิ๋นเซียว ก็เปนสิ่งที่ผิวเผินไปตั้งนานแลว หลังจากที่เขาไปมหาสมุทรดาวคลั่ง
และเขารวมพรรคเมฆคลอยแลว ก็ไดอานตำราที่เกี่ยวกับเคล็ดวิชาหลอมยุทธภัณฑมา
ไมนอย แตสิ่งที่มีประโยชนตอเขาจริงๆ ก็ไมมีมากนัก
ตอนนี้ในเมื่อไดรับโอกาสที่หาไดยากแลว หานลี่จึงไมอาจปลอยไปงายๆ
เขานอกจากจะใชเวลาที่เหลือในการฝกฝนคาถาราชันยกระจางแลว ก็สนใจการ
ถายทอดของชายชราแซเหวยเปนอยางมาก พรสวรรคในการหลอมยุทธภัณฑที่แสดง
ออกมาและทาทีขยันขันแข็งก็ทำใหชายชรารูสึกพึงพอใจเปนอยางมาก แมกระทั่ง
บางครั้งที่หานลี่มีขอสงสัย จนไปสะกิดจุดของชายชรา จึงทำใหเขาอธิบายเพิ่มมากขึ้น
ไปอยางไมรูตัว เชนนั้น ทาทีที่ชายชรามีตอหานลี่จึงคอยๆ เปลี่ยนไปในระยะเวลา
เพียงสั้นๆ จากสีหนาเย็นชาและเขมงวดในตอนแรก คอยๆ เปลี่ยนเปนทาทีออนโยน
ยิ้มแยม ทำใหลูกศิษยหลอมยุทธภัณ ฑอีกสามคนที่รูนิสัยของชายชราดีอดที่จะตก
ตะลึงจนตาคางไมได
สวนความคิดริษยานั้น ทั้งสามคนก็ไมไดมีตอหานลี่มากนัก ทวาการที่หานลี่ไดรับ
ความเอ็นดูในตอนนี้ ทั้งสามคนก็ไมไดหัวรอนจนตองมาหาเรื่องหานลี่ แตโดยปกติที่
พบกันก็มักจะมีทาทีเย็นชาเปนพิเศษอยางหลีกเลี่ยงมิได
แตหานลี่กลับมีความสุขกับการเปนที่เชนนี้ เขากำลังอยากอยูเพียงลำพัง เพื่อฝก
บำเพ็ญเพียรอยางเงียบๆ การไมมีใครมารบกวนนั้นเปนสิ่งที่ดีที่สุดแลว
หนึ่งเดือนผานไป ชายชราแซเหวยไมเพียงอธิบายวิธีการหลอมวัตถุดิบตางๆ ใน
หานลี่ฟงเปนจำนวนมาก แมกระทั่งวิธีการหลอมยุทธภัณฑที่โดดเดนเปนเอกลักษณก็
ยังอธิบายใหหานลี่ฟงไมนอย ทำใหหานลี่จดจำจนขึ้นใจ
หลังจากที่เขาเตรียมตัวฟนฟูลมปราณแลว ก็จะไปรวบรวมเคล็ดวิชาหลอมยุทธ
ใหทั่วทุกหนแหงในตาจิ้นทันที จะไดทำใหการหลอมพัดสัตตเปลวเพลิงและการหลอม
หุนเชิดของเทพขับเคลื่อนดียิ่งๆ ขึ้นไป อานุภาพก็จะไดเพิ่มขึ้นมาอีกระดับ
แต ก็ เหมื อ นกั บ ที่ ช ายได ก ล า วไว หลั ง จากพ น กำหนดหนึ่ ง เดื อ น หานลี่ ก็ ถู ก
มอบหมายภารกิจหลอมวัตถุดิบเปนชุดๆ ใหทันที แตจากพลังยุทธที่เขาแสดงออกมา
แนนอนวาจึงไมมีอะไรที่ยากเกินไปใหเขาทำ
ผลลัพธคือหานลี่จึงทำเสร็จสิ้นไดอยางสบายๆ ไมจำเปนตองใสใจอะไร สวนเวลา
ที่เหลือก็เอาไปฝกฝนคาถาราชันยกระจาง
หลังจากทำเชนนี้มาสามสี่เดือน ทุกอยางก็ราบรื่นไปดวยดี หานลี่รูสึกวาการเลือก
เขามาในอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์ ก็ดูเหมือนวาจะไมใชเรื่องที่เลวรายนัก
และในชวงเวลานั้น จูๆ ชายชราแซเหวยก็ดูยุงเปนพิเศษ ปกติแลวนอกจากจะ
มอบภารกิจหลอมยุทธภัณ ฑใหทั้งสี่คนสองสามครั้งตอเดือนแลว คนก็จะไปหลอม
อะไรสักอยางในหองลับของตำหนักเพลิงปฐพี แลวหายไปอยางไรรองรอย
และทานเซียนหัวเหลียนในเวลานี้ ก็มาหาเพียงสองสามครั้ง ทุกครั้งที่มาก็จะแอบ
ปรึกษาอะไรกันกับชายชราอยูภายในหองลับ
เพราะสองคนนี้ระมัดระวังตัวเปนอยางมาก ทุกครั้งที่พูดคุยกันจะวางเขตอาคม
ตองหามเอาไว ถึงแมวาหานลี่จะรูสึกประหลาดใจเล็กนอย แตตอนนี้คิดเพียงแตวา
อยากฝกฝนคาถาราชันยกระจางใหสำเร็จเทานั้น จึงไมไดเสี่ยงอันตรายแผจิตสัมผัส
ออกไปแอบฟงอะไร
วันนี้ ภายในหองลับของถ้ำ หานลี่กำลังนั่งสมาธิแบบเอียงๆ รางกายทอนบนบิด
เบี้ยวจนกลายเปนอิริยาบถประหลาดๆ สองมือรายอาคมอยูบนฟูกเตียงนอนไมขยับ
เขยื้อน รางกายถูกลำแสงสีทองจางๆ ชั้นหนึ่งหอหุมเอาไว และสั่นคลอนไมหยุด
แตหากพิจารณาอยางละเอียดจะพบวา ผิวของหานลี่ในเวลานี้มีเสนเลือดและ
เสนเอ็นหนาๆ ปรากฏขึ้นมาเต็มไปหมด มีกอนปูดโปนเหมือนกับสิ่งมีชีวิตขนาดเทาไข
ไกปูดออกมา มันเคลื่อนไหวไปมาอยูบนรางไมหยุด ดูแปลกประหลาดเปนอยางมาก
และทุกครั้งที่รางกายสั่นสะทาน ใบหนาของหานลี่ก็อดที่จะกระตุกเล็กนอยไมได
เผยใหเห็นความเจ็บปวดออกมา เหงื่อกาฬเม็ดเทาเมล็ดถั่วเหลืองผุดขึ้นมาตรงไรผม
ไมหยุด ราวกับวากำลังออกกำลังกายอยางหนัก แมแตเสื้อผาก็เปยกโชกไปกวาครึ่ง
ไมรูวาผานไปนานเทาไหร ลำแสงสีทองบนรางของหานลี่ถึงคอยๆ หมนแสงลง
หลังจากพนลมหายใจยาวๆ ออกมาเฮือกหนึ่ง เขาก็ชักมือที่รายอาคมกลับ ใน
ที่สุดก็กลับมานั่งสมาธิดวยอิริยาบถปกติ แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ปรากฏการณ
พิเศษทั้งหมดภายนอกก็หายไปอยางรวดเร็ว ชั่วพริบตารางกายก็ฟนฟูกลับมาเปน
ปกติ
ตอนที่ 927 หลี่วซ ิ่วจวินจู
สัมผัสไดถึงอุณหภูมิที่ปะทุข้ึนสูงจนหาที่เปรียบมิได คอยๆ แผออกมาจากนอก
ราง ดวงตาที่ปดสนิทของหานลี่ทั้งสองขางเบิกโพลง แววตาเต็มไปดวยความครุนคิด
‘คาถาราชันยกระจาง’ ชางรุนแรงจริงๆ ถึงแมวาเขาจะเคยผนึกทารกวิญญาณมาแลว
และเคยลางไขกระดูกมาแลวก็ตาม ก็แทบจะรับความเจ็บปวดตามรางกายในครั้งนี้ไม
ไหว นี่ทำใหหานลี่รูสึกกลัดกลุมอยางสุดๆ และรูสึกประหลาดใจระคนสงสัยเล็กๆ
“ทานอาวุโส! หากฝกคาถาราชันยกระจางนี้ตอไปจะไมมีปญหาจริงๆ หรือ? แค
คาถาขั้นที่สองก็เจ็บปวดขนาดนี้ ขาไมเชื่อวาเจาพวกหัวโลนสำนักพุทธเหลานั้นจะเริ่ม
ฝ ก คาถานี้ ต อนอยู ในระดั บ ก อ กำเนิ ด ขั้ น ปลายกั น ทุ ก คน มิ เช น นั้ น รอจนพวกเขา
ประสบความสำเร็จในคาถานี้ เกรงวาคงหมดอายุขัยไปแล ว แตห ากฝกคาถานี้ ใน
ระดับหลอมรวมก็เปนการยากที่จะทนรับความเจ็บปวดได นี่มันไมใชแคกับรางกาย
แมแตจิตวิญญาณก็ยังสัมผัสไดถึงความเจ็บปวดอยางชัดเจน”
หานลี่พลันเอยถามเทพขับเคลื่อนขึ้นอยางกะทันหัน
‘มันแปลกอะไร ในเมื่อสำนักพุทธมีวิธี เปลี่ยนเคล็ดวิชาเผาปศาจจนเปนเชนนี้
แน น อนว าจะต อ งมี วิ ธี ห รื อ ว ายุ ท ธภั ณ ฑ ที่ ใช ล ดทอนความเจ็ บ ปวดได อ ยู แ ล ว ถึ ง
อยางไรเสียแตเดิมเคล็ดวิชาของสำนักพุทธก็ชำนาญในการอดทนตอความเจ็บปวด
บวกกับถาหากคนที่ฝกฝนมีรางกายที่แข็งแกรงอยูแลว ฝกคาถาราชันยกระจางตอนที่
อยูในระดับหลอมรวม ก็ไมใชวาจะเปนไปไมได และที่เคล็ดวิชานี้มีฤทธิ์รายแรงขนาด
นี้ ก็เพราะเทียบกับมนุษยอยางพวกเรา แตเดิมมันเปนการฝกฝนสำหรับเผาปศาจและ
มารโบราณ ปศาจและมารสองเผานี้มีรางกายที่แข็งแกรงเปนทุนเดิม จึงไมสนใจความ
เจ็บปวดพวกนี้’
“เชนนี้นี่เอง อยางนั้นก็อธิบายไดแลว แตนาเสียดายที่พวกเราไมมีเวลาไปฝกฝน
เคล็ดวิชาของสำนักพุทธอื่นๆ อีก คงตองฝนฝกฝนตอไปแลวละ ระดับความเจ็บปวด
ในตอนนี้ ขายังพอทนได” หลังจากที่หานลี่ขมวดคิ้ว ก็เอยขึ้นดวยรอยยิ้มขมขื่น
จากนั้ น เขาพลั น ชูมื อ ถลกแขนเสื้อ ขึ้ น ยื่ น แขนเปลือ ยเปล าท อ นหนึ่ งออกมา
ดวงตาคูนั้นของหานลี่หรี่ลงเล็กนอยพลางมองไปยังทอนแขน รูมานตาเปลงแสงสีฟา
สวางวาบ หลังจากผานไปหนึ่งกาน้ำชา หานลี่ถึงไดยื่นนิ้วชี้ออกมาชี้ไปที่ผิวบนแขน
จากนั้นถึงไดชักมือลง
“ถึงแมวาจะเจ็บปวดไมนอย แตคาถาราชันยกระจางก็มีจุดที่โดดเดนกับรางกาย
จริ ง ๆ แข็ ง แกร ง กว า คาถาฝ ก ฝนร า งกายอื่ น ๆ ที่ ข า รู จั ก เป น อย า งมาก ฝ ก ฝนแค
ประเดี๋ยวเดียว ขาเองก็สัมผัสไดถึงความเปลี่ยนแปลงที่นาตื่นตะลึงแลว” หานลี่เอย
พึมพำ ทาทางมั่นอกมั่นใจ
จากนั้นหานลี่พลันนั่งสมาธิลงอีกครั้ง หยัดกายลุกขึ้นเดินออกจากหองลับ ตรงไป
ยังตำหนักเพลิงปฐพีอยางชาๆ
สองสามวันกอน ตอนที่เขากำลังหลอมวัตถุดิบอยูนั้น ในที่สุดเขาก็เขาใจวิธีการ
หลอมยุทธภัณฑแบบใหม ที่ชายชราแซเหวยอธิบายใหเขาฟง ดังนั้นเขาจึงหลอมเข็ม
บิน จากผลึกที่ กลายเป นแกนอสูรได สำเร็จ จากเดิ มที่ ห ลอมไปแล วเกื อบครึ่ง และ
ในชวงนี้ เขาก็จะยืมพลังของเพลิงปฐพีมาหลอมมันอีกครั้ง จะไดทำใหอานุภาพของ
มันเพิ่มขึ้นอีกขั้น
ตอนที่หานลี่เขาใกลตำหนัก จูๆ ที่ประตูใหญก็มีเสียงเอะอะดังขึ้น
หานลี่ไดยินเสียงนี้ก็อดที่จะมองไปดวยความตกตะลึงไมได
เห็นเพียงตรงประตูใหญมีฝูงชนเดินไปมาประมาณแปดเกาคน ตรงประตูใหญมี
ลูกศิษยอีกสามคนที่เหลือของตำหนักหลอมยุทธภัณฑอยูตรงนั้น และดานหลังของ
พวกเขาก็มีผูบำเพ็ญเพียรชายหญิงวัยเยาวอยูอีกลหายคน
ผู น ำคื อ สตรีอ ายุ สิ บ หกสิ บ เจ็ ด ป สวมชุ ด ชาววั งสี เขี ย วมรกต หน าตาเลอโฉม
สัดสวนไมธรรมดา แตแววตาพลันเปลงประกาย เต็มไปดวยสีหนาอยากรูอยากเห็น
พลังยุทธของคนพวกนี้เทียบกับอายุแลว ลวนไมออนแอ สวนใหญอยูในระดับฝก
ปราณขั้นที่แปดและเกา สวนสตรีที่สวมชุดชาววังผูนั้นมีพลังยุทธอยูในระดับฝกปราณ
ขั้นสิบ เปนคนที่มีพลังยุทธสูงสุดในบรรดาฝูงชนเหลานั้น
หลังจากที่หานลี่กวาดสายตาไปแลวก็ดูออกไดทันทีวา บุรุษและสตรีที่กำลังจะ
เขาไปในตำหนักหลอมยุทธภัณฑเหลานี้จะตองมีฐานะไมธรรมดา ตรงเอวของทุกคน
ตางมียามเก็บของตุงๆ หอยอยู มีอยูสองสามคนที่มีแมกระทั่งยามเก็บอสูรวิญญาณ
ห อ ยอยู ส ว นทั้ งสามคนของตำหนั ก หลอมยุ ท ธภั ณ ฑ ที่ อ ยู ด านข าง ต างมี สี ห น าที่
ประดับไปดวยรอยยิ้ม ทาทางประจบเอาใจ เกรงวาจะไปลวงเกินใครสักในนั้น
แววตาของหานลี่เปลงประกาย ทันใดนั้นพลันแสรงทำเปนไมรูแลวหันกายกาวเขาไป
ในตำหนักเพลิงปฐพี เขาไมอยากมีปญหาอะไรมากนัก แตในตอนนั้นเอง ลูกศิษยของ
ตำหนักยุทธภัณฑทั้งสามคนที่มีพลังยุทธล้ำลึกที่สุด ลูกศิษยแซเกาที่เห็นวาเขาเปน
ศัตรูมากที่สุด มองเห็นเงาแผนหลังของหานลี่ก็ตะโกนใสเขาเสียงดังอยางคาดไมถึงวา
“ศิษยนองหาน เจามานี่หนอยสิ หลี่วซิ่วจวินจู* ตองการหลอมยุทธภัณฑชิ้นหนึ่ง
และมีวัตถุดิบบางอยางที่จำตองผานการหลอมที่ บริสุท ธิ์ ศิษ ยน องชวยทำให เสร็จ
หนอย นี่เปนภารกิจที่ทานสี่เจาอารามออกคำสั่งมาดวยตนเอง หามลาชาเด็ดขาด”
“จวินจูหรือ?” หานลี่ไดยินคำนี้พลันตกตะลึง เมื่อไดยินวาเปนคำสั่งของสี่เจาอาราม ก็
ยิ่งรูสึกตกตะลึงยิ่งกวาเดิม ฝเทาหยุดชะงัก เขาทำไดเพียงหันกายกลับมาอีกครั้ง
อยูที่น่ีมาระยะหนึ่ง หานลี่ก็รูจักผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงของอารามจักรพรรดินี
พิสุทธิ์อยางคราวๆ
อารามนี้มีเจาอารามอยูทั้งหมดสี่ทาน พลังยุทธลวนอยูในระดับหลอมรวม ใน
อารามกลับยังมีเรือนนภาพิสุทธิ์อีกแห งหนึ่ง วากันวาเป นที่อยูอาศัยของผูบำเพ็ ญ
เพียรระดับกอกำเนิดเพียงหนึ่งเดียวของอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์
และถึงแมเจาอารามทั้งสี่ทานนี้จะบรรลุระดับหลอมรวมชาที่สุด แตไดยินวาเคล็ด
วิชาการฝกเพ็ญเพียรของพวกนางนั้นมีเอกลักษณ คนที่มีความสามารถมากที่สุดนั้นมี
ชื่อเสียงเกรียงไกรในเขตหนาน เมื่อทานหลูผูนั้นของสำนักศึกษาไปลูไดยินชื่อก็ยังอดที่
จะหนาเปลี่ยนสีไมได
แตแคทานเจาอารามเหลานี้ มีฐานะไมธรรมดา หานลี่ในตอนนี้ยังไมเคยมีโอกาส
ไดพบเลยสักคน
“ในเมื่อเปนคำสั่งของทานเจาอารามทั้งสี่ ศิษยก็จะพยายามชวยเหลืออยางเต็มที่”
หลังจากที่หานลี่เดินเขาไปแลว ก็พิจารณาบุรุษและสตรีผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้นสอง
สามครั้ง แลวเอยขึ้นดวยสีหนาราบเรียบ
“เจ าหลอมวัต ถุ ดิ บ บริสุ ท ธิ์ได ห รือ ? พลั งยุ ท ธต่ ำไปหน อ ยกระมั ง ครั้งนี้ จ วิน จู
ตองการหลอม ‘แทงเงินไหมโลหิต’ ที่หายากเปนพิเศษ หากหลอมผิดพลาด เจาจะ
รับผิดชอบไหวหรือ?” บุรุษและสตรีวัยเยาวเหลานี้พิจารณาหานลี่พรอมกัน เมื่อเห็น
วาพลังยุทธของหานลี่อยูแคในระดับฝกปราณขั้นที่สามขั้นที่สี่ ทันใดนั้นก็เผยสีหนาดู
แคลนออกมา บุรุษสวมชุดผาไหมสีฟาหนึ่งในนั้นพลันเอยขึ้นอยางไมเกรงใจ
สวนสตรีที่สวมชุดชาววังที่นาจะเปนจวินจูนามวาหลี่วซิ่วผูนั้น นางแคเมมปาก
และอมยิ้มเล็กๆ แตแววตาพลันเปลงประกาย เห็นไดชัดวารูสึกสงสัยเล็กนอยเชนกัน
“แทงเงินไหมโลหิต เปนวัตถุดิบที่พบเห็นไดยากจริงๆ ขานอยไมมั่นใจนักวาจะ
หลอมสำเร็จ เชนนั้นเชิญพวกทานที่มีความสามารถเหนือกวามาเปนอยางไร?” หานลี่
ไมไดมีสีหนาโกรธเกรี้ยวเลยแมแตนอย กลับหัวเราะออกมาเบาๆ ขณะเอย
เมื่อไดยินคำพูดของหานลี่ สองสามคนนั้นพลันตกตะลึง เวลานั้นไมรูวาจะรับมือ
อยางไร
“เหอะ! ไมไดบอกวาที่นี่มีปรมาจารยหลอมยุทธภัณฑที่รายกาจมากคนหนึ่งหรือ
เหตุใดถึงไมใหเขาลงมือหลอมยุทธภัณฑให” ในที่สุดบุรุษรูปงามก็ไดสติฟนคืนมา แลว
เอยขึ้นอยางไมพอใจทันที
“ตอนนี้ทานอาจารยอาเหวยกำลังยุงอยูกับการหลอมสมบัติที่สำคัญชิ้นหนึ่ง และกัก
ตนอยูหลายวันแลว เกรงวาจะไมมีทางออกมาชวยจวินจูหลอมวัตถุดิบได” คนที่พูด
กลับเปนลูกศิษยคนหนึ่งของตำหนักหลอมยุทธภัณฑ ทาทางอยากอธิบายใหชัดเจน
“ชวยขาหลอมวัตถุดิบใชเวลาเพียงชั่วครูเทานั้น พวกศิษยพี่ไมอาจเชิญอาวุโสเหวย
ออกมาได เลยหรื อ ? อี ก อย า งถึ ง แม ข า จะอยู ใ นจวนอ อ ง แต ก็ ได ยิ น ชื่ อ เสี ย งของ
ปรมาจารยเหวยมาเนิ่นนานแลว จึงอยากพบหนาสักครั้ง” สตรีที่สวมชุดสีเขียวเอย
ดวยเสียงเล็กๆ และนุมนวล กิริยางดงาม ทำใหลูกศิษยของตำหนักหลอมยุทธภัณฑ
สองสามคนไดฟงแลวรูสึกปลื้มอกปลื้มใจ
หานลี่กลับขมวดคิ้วนอยๆ อยางไมใสใจ
สตรีผูนี้ดูเหมือนวาจะมีมารยาทเปนพิเศษ ในแววตากลับมีความเจาเลหแวบผาน
ไป แตจะหลบหลีกสายตาของเขาไดอยางไร ทันใดนั้นหานลี่พลันหัวเราะอยางเย็นชา
ในใจ ทำไดเพียงเงียบกริบไมเปลงคำพูดใดๆ
สวนสามคนนั้นกลับถูกคำพูดของสตรีผูนั้นทำใหใจออน รูสึกหลงใหลจนไมรูวา
อะไรควรไมควร หนึ่งในนั้นที่ตกอยูในภวังค คาดไมถึงวาจะตอบรับคำ ไปเรียกทาน
อาวุโสแซเหวยออกมาแลว
หานลี่จึงอดที่จะลอบถอนหายใจออกมาไมได
หากเขาจำไมผิดละก็ ดูเหมือนวากอนหนาที่ทานอาวุโสแซเหวยจะกักตน ไดบอก
กับพวกเขาอยางชัดเจนแลววา นอกจากมีเรื่องสำคัญจริงๆ มิเชนนั้นก็อยาไปรบกวน
เขากับผูชวยทั้งสองคนที่กำลังทำงานอยูในหองลับใตดินเด็ดขาด ตอนนี้แคเรื่องหลอม
วัตถุดิบก็จะไปเรียกชายชรา คนที่ไปรายงานไมเรียกวาโชครายก็แปลกแลว
ดังคาดลูกศิษยผูนั้นเดินเขาไปในตำหนักเพลิงปฐพีอยางใจดีสูเสือ แตผานไปเพียง
ชั่วครู ก็วิ่งออกมาดวยสีหนาดำคล้ำ
“จวินจู ทานอาจารยอาเหวยไมอาจแยกตัวออกมาไดจริงๆ ใหศิษยนองหานลองเถิด”
เมื่อลูกศิษยหนุมผูนั้นกลับมาถึงเบื้องหนาของทุกคนก็ฝนยิ้มพลางเอยขึ้น
“ตำหนักหลอมยุทธภัณฑของอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์มีชื่อเสียงขนาดนี้ ทั้งสาม
คนไมสามารถชวยจวินจูหลอมวัตถุดิบไดเลยหรือ?” ผูเอยคำนี้ กลับเปนสตรีออนเยาว
อีกคนหนึ่งที่ไมใชหลี่วซิ่วจวินจูในฝูงชน สตรีผูนี้มีอายุมากกวาผูอื่นนิดหนอย หนาตา
กลางๆ แตมุมปากกลับมีไฝของหญิงงามอยูเม็ดหนึ่ง กลับยิ่งเพิ่มเสนหใหนาง กำลัง
เอยถามพรอมกับหัวเราะนอยๆ
“ไมปดบังศิษยพี่หญิงหมิงจู ถาหากหลอมวัตถุดิบธรรมดาๆ พวกเราสามคนก็ลง
มือหลอมได แตวัตถุดิบที่หายากอยางแทงเงินไหมโลหิตนั้น มีเพียงศิษยนองหานที่เคย
ไดรับการถายทอดวิธีการหลอมวัตถุดิบจากทานอาจารยอาเหวยโดยตรงเทานั้นที่รู
วิธีการหลอม เรื่องหลักที่พวกเราสามคนศึกษา คือการหลอมยุทธภัณฑทั่วๆ ไป”
ทั้งสามคนสบตากันอยางเกอเขิน ลูกศิษยแซเกาผูนั้นจึงทำไดเพียงเอยเชนนี้อยาง
จนปญญา
“นั่นมันยุงยากไปหนอยแลว พวกเราตามฮูหยินอวี้มาอยูที่นี่ ไมมีทางอยูที่นี่นาน
ได แตหากพลาดโอกาสนี้ไป ก็ไมรูวาจะหาปรมาจารยหลอมยุทธภัณฑที่หลอมแทง
เงินไหมโลหิตไดจากไหนแลว ดูแลวคงตองรบกวนศิษยพี่ผูนี้แลว”
หลังจากที่เจาหลี่วซิ่วกลอกตาไปมา ก็สงยิ้มบางๆ ใหหานลี่ขณะเอย
“ขอรับ ขอแคจวินจูยอมเสี่ยง ผูแซหานก็จะพยายามอยางสุดความสามารถ”
หานลี่เอยอยางราบเรียบ
“ไมเปนไร ศิษยพี่ตั้งใจหลอมก็พอแลว ถาหากหลอมไมสำเร็จก็ไมใชเรื่องใหญ
อะไร คงถือไดวาหลี่วซิ่วไมมีวาสนาก็เทานั้น จากนี้คอยหาใหมก็ไดแลว” เมื่อไดยินคำ
นี้ สตรีที่สวมชุดชาววังพลันหัวเราะนอยๆ ออกมาขณะเอย
เมื่อเห็นเพียงสตรีผูนั้นกลาวมาถึงตรงนี้ หานลี่ก็พยักหนา ทวาหลังจากมองกลุม
คนที่อยูเบื้องหนา เขาก็ขมวดคิ้วแลวเอยขึ้นอีกวา
“การหลอมวัตถุดิบของขานอย ไมอาจใหคนเยอะขนาดนี้เขาไปดูได มิเชนนั้นจะ
ไมมีสมาธิ เกรงวาอัตราการประสบความสำเร็จจะมีไมมาก”
“ไมเปนไร ถึงเวลานั้นขอแคใหขาดูอยูขางๆ คนเดียวก็พอแลว คนอื่นๆ จะรออยู
ขางนอก หรือวาจะใหศิษยพี่ทั้งสามพาไปชมตำหนักหลอมยุทธภัณฑก็ได” สตรีที่สวม
ชุดชาววังไดยินก็เอยอยางไมใสใจ
ถึงแมวาคนที่มาพรอมกับสตรีผูนั้นจะมีทาทางไมพอใจ แตกลับไมมีผูใดกลาคัดคาน
ดั งนั้ น หานลี่ จึ งไม ได พู ด พร่ ำอะไรไรส าระอี ก ทั น ใดนั้ น พลั น นำทางตรงไปยั ง
ตำหนักเพลิงปฐพี สวนคนที่เหลือก็จำใจตองรออยูที่เดิม จากแววตาที่สงสัญญาณบอก
ใบของสตรีผูนั้น
*จวินจู ตำแหนงเชื้อพระวงศหญิ งหรือทานหญิ งขั้นที่หนึ่งชั้นรอง ผูที่จะไดรับ
ตำแหนงนี้ จะตองเปนพระธิดาในหวงไทจื่อหรือองครัชทายาทเทานั้น
ตอนที่ 928 ราชวงศตาจิ้น
ตำหนักเพลิงปฐพีเปนสิ่งปลูกสรางที่สำคัญที่สุด ถึงแมวาพื้นที่จะไมถือวาใหญนัก
กวางเพียงรอยกวาจั้งเทานั้น
แตกลับแบงออกเปนสามชั้น ชั้นบน ชั้นกลาง และชั้นลาง
ชั้นบนคือสถานที่ที่มีวัสดุอุปกรณกองอยู ชั้นกลางเชื่อมกับเพลิงปฐพี ใชหลอม
วัตถุดิบ หลอมยุทธภัณฑระดับต่ำ สวนชั้นลางกลับอยูใตดินลึกลงไปยี่สิบสามสิบจั้ง ใช
สำหรับยืมเพลิงปฐพีที่บริสุทธิ์ในบอเพลิงปฐพีมาหลอมยุทธภัณฑระดับสูง
หองลับที่หานลี่ใชหลอมวัตถุดิบทั่วๆ ไปนั้น จะอยูในหองลับหองหนึ่งตรงชั้นกลาง
เดินนำหลี่วซิ่วจวินจูผูนี้ไป หานลี่เดินเขาไปในหองลับหองนั้นอยางไมรีบรอน ใน
หองลับดูเหมือนวาจะเละเทะเล็กนอย เขาจึงลงมือเก็บขาวของดวยตัวเอง
“ที่นี่คือสถานที่หลอมวัตถุดิบของศิษยพี่หรือ?” สตรีผูนั้นพิจารณาทุกอยางใน
หองลับที่ไมใหญนักดวยความสนอกสนใจ โดยเฉพาะเตาหลอมใบใหญใบหนึ่งที่อยูตรง
ใจกลางของหองลับไปจนถึงยุทธภัณฑที่มีรูปรางเหมือนน้ำเตาแปดอันตั้งอยูบนพื้นทั้ง
สี่มุมของหอง นางดูสนอกสนใจเปนอยางมาก ดูเหมือนวาจะเพิ่งเคยเห็นสถานที่ที่ใช
หลอมยุทธภัณฑเชนนี้เปนครั้งแรก
“ทำไม กอนหนานี้จวินจูไมเคยหลอมยุทธภัณฑหรือ?” หานลี่ขมวดคิ้วมุน พลาง
เอยถามอยางราบเรียบ
“ตั้งแตเด็กขาก็ฝกฝนเคล็ดวิชาตางๆ กับทานปาอวี้ ไหนเลยจะมีเวลาไปฝกฝน
การหลอมยุทธภัณฑ โดยปกติแลวก็ฝกบำเพ็ญเพียรอยูแตในจวน” สตรีที่สวมชุดชาว
วังยื่นมือออกมาไปแตะที่หูเตาเบาๆ พลางเอยพรอมกับหัวเราะนอยๆ
“ฝกบำเพ็ญเพียรอยูในจวน หรือวาจวนอองสรางอยูบนชีพจรวิญญาณ?” หานลี่
จัดการกับวัตถุดิบชำรุดในเตาไปพลาง เอยถามไปตามอำเภอใจไปพลาง
“เอ! ที่แทศิษยพี่ก็ไมรูฐานะที่แทจริงของขาสินะ? คงไมไดคิดวาขาเปนจวินจูของ
ตระกูลไหนในราชวงศตาจิ้นจริงๆ หรอกนะ” สตรีผูนั้นพลันตื่นตระหนก เมมริมฝปาก
แดงระเรื่อขณะหัวเราะออกมา
“ขาน อ ยมี ความรูเท าหางอึ่ง จึ งไม แ น ใจฐานะที่ แ ท จริงของจวิน จู นั ก” หานลี่
ใจเตน หัวเราะฮาๆ ออกมาขณะเอย
“มีความรูเทาหางอึ่งหรือ? ฮิๆ นั่นยิ่งดีใหญ เลย ขาจะไดไมตองวางมาดเปนจวินจู
อะไรนั่นอีก ความจริงแลวเหลาคนในราชวงศตาจิ้นพวกนั้น ขาไมเคยพบหนาเลยสัก
ครั้ง แคมีตนกำเนิดเดียวกันกับราชวงศเพียงเล็กนอยเทานั้น กอนหนานี้ก็เอาแตฝก
บำเพ็ญเพียรอยูในถ้ำพำนักบนภูเขากับทานอาจารย จึงไมเคยไปที่จวนอองมากอน”
แววตาของสตรีผูนี้ฉายแววดีใจออกมา ทาทางเปลี่ยนไปจากสตรีผูสงางาม เปนดรุณีที่
ฉลาดมีไหวพริบจนนาแปลกใจคนหนึ่ง
“ไมใชคนในราชวงศหรือ?” หานลี่มีสีหนาตื่นตกใจ ไมรูวาควรตกใจกับทาทางที่
เปลี่ยนไปของสตรีผูนี้ หรือวาถูกคำพูดของนางทำใหตกใจดี
“ทำไม ตกใจละสิ ความจริงแลวฐานันดรจวินจูนั่นก็เปนเรื่องจริง แตยามนี้ฮองเต
ปดผนึกมันเอาไวก็เทานั้น หากไมใชวากอนออกมา ทานปาอวี้บอกวาขาหามทำให
ราชวงศเสียหนา ขาก็ขี้เกียจจะแสรงทำเปนสำรวมตอไปแลว ผลลัพธคือ ระหวางทาง
จึงถูกเจาพวกนั้นพัวพัน จึงจำใจตองพูดยานคางทุกวัน นาเบื่อมาก ตอนนี้มีศิษยพี่
หานแคคนเดียว ในที่สุดก็ผอนคลายไดเสียที พอออกไปแลวศิษยพี่คงไมออกไปพูดซี้
ซั้วหรอกใชไหม?” สตรีผูนั้นหยอนกนลงบนเกาอี้เพียงตัวเดียวในหองลับ หลังจาก
เอียงศีรษะเล็กๆ ก็หัวเราะคิกคักออกมาขณะเอย
“แคกๆ…เอาตามที่จวินจูสะดวกเถิด ขาจะทำเปนไมเห็นก็แลวกัน ทวา บรรพชน
ทานนาจะไมใชคนธรรมดาสินะ” หานลี่กระแอมไอแหงๆ สองสามครั้ง นับวาหมด
คำพูดแลว
“สี่ผูบำเพ็ญเพียรสันโดษในตาจิ้น ทานเคยไดยินหรือไม? ทานปูของขาคือหนึ่งในนั้น”
สตรีผูนั้นไมมีเจตนาจะปดบังเลยแมแตนอย นางเอยพรอมกับพยักศีรษะ ดูเหมือนวา
จะภาคภูมิใจเปนอยางมาก
“สี่ผูบำเพ็ญเพียรสันโดษ ตอใหขานอยมีความรูเทาหางอึ่ง ก็จะไมเคยไดยินได
อยางไร ที่แทจวินจูก็เปนชนรุนหลังของชนชั้นสูง ขานอยเสียมารยาทแลวจริงๆ ฐานะ
นี้ ค งไม ด อ ยไปกวาฐานะจวิน จู ข องท านแน คิ ด ดู แ ล ว วั น ข างหน าคงมี อ นาคตที่ ไร
ขีดจำกัดสินะ” หานลี่ไดยินคำนี้ก็หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย รูสึกตกตะลึง
สี่ผูบำเพ็ญเพียรสันโดษ ตอนเคยไดยินมาจากปากของเฉาเหมิ่งหรง ในนั้นมีทั้ง
ระดับกอกำเนิดขั้นปลาย และระดับกอกำเนิดขั้นกลาง แตทุกคนลวนมีฝมือยอดเยี่ยม
ไมใชสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดธรรมดาๆ จะเทียบเทียมได
“อืม! ใชไหมละ แทบทุกคนที่รูวาทานปูของขาคือใคร ตางก็มีทาทางเชนนี้กับขา
คิดดูแลวคงไมใชเรื่องหลอกลวงสินะ!” สตรีผูนั้นกลับรับการประจบของหานลี่อยางไม
เกรงใจ
หานลี่ลูบจมูกไปมา รูสึกปวดหัวเล็กๆ ทันใดนั้นก็ไมสนใจสตรีผูนั้นอีก สองมือ
พลันรายอาคม ปลอยอาคมสองสามสายออกไป โจมตีไปยังเตาใบใหญ ชั่วขณะนั้น
เตาใบนั้นพลันเปลงเสียงหึ่งๆ ออกมา ลำแสงสีแดงคอยๆ ปรากฏขึ้นทันที
สตรีผูนั้นไมปดบังความอยากรูอยากเห็นของตัวเองแมแตนอย ดวงตาคูงามจองเขม็ง
ไปยังสมบัติศิลาสีดำสนิทคูนั้น มองการเคลื่อนไหวของหานลี่ดวยดวงตาที่ไมกะพริบ
“เอาวัตถุดิบออกมาเถิด!” หานลี่รอจนเตายักษถูกกระตุนทั้งหมด ก็หันหนาไป
เอยกับสตรีผูนั้น
“รับไป! บอกกอนนะวา สิ่งที่คุยกันขางนอกถือวาไมไดพูดนะ ก็แคพูดตามพิธีตอ
หนาคนอื่นเทานั้น ถาหากศิษยพี่กลั่นแทงเงินไหมโลหิตที่ขาหามาอยางยากลำบาก
ลมเหลวจริงๆ ทานตองชดใชใหขา” สตรีผูน้ันกะพริบดวงตาคูงาม คาดไมถึงวาจะเอย
พรอ มกับ หั วเราะเบาๆ ออกมา จากนั้ น พลั น พลิ กฝ ามื อ ควักวัต ถุ ขนาดเท ากำป น
ออกมาจากยามเก็บของ โยนใหหานลี่
แสงสีเงินแวววาว ราวกับวาเปนแรเงินธรรมดาๆ แตภายในยังแฝงดวยรอยโลหิต
ที่เหมือนกับเสนไหมจำนวนนับไมถวนเอาไว มองแรศิลาในมือ ไดยินสตรีผูนั้นเอย
พรอมกับหัวเราะเชนนี้ หานลี่ก็ทำไดเพียงคอนปะหลักปะเหลือกเทานั้น
วัต ถุ ดิ บ ที่ ห ายากเช น นี้ ไม ต อ งพู ด ถึ งลู ก ศิ ษ ย ระดั บ ฝ ก ปราณเลย ต อ ให เป น ผู
บำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณก็ไมเห็นวาผูใดจะหามาได หากเขาเปนผูบำเพ็ญเพียร
ระดับฝกปราณคนหนึ่งจริงๆ ชดใชไหวก็แปลกแลว
ทันใดนั้นหานลี่ก็ไมไดเอยอะไรใหมากความ ชูมือขึ้น โยนของในมือเขาไปในเตา
แลวโยนวัตถุดิบเสริมอื่นๆ เขาไป จากนั้นพลันนั่งสมาธิลงกับพื้น ตบยันตวิเศษแผน
หนึ่งไปบนราง เกราะปองกันลำแสงสีฟาจางๆ ชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นบนเรือนราง ปากก็
บริกรรมคาถาออกมา
ผลลัพธคือยุทธภัณ ฑรูปน้ำเตาแปดอันที่อยูบนพื้น พลันเปลงแสงออกมาพรอมกัน
จากนั้นปากน้ำเตาพลันมีลำแสงสีแดงสวางวาบ จูๆ พลันพนเสาลำแสงสีแดงเพลิง
แปดสายออกมา โจมตีไปยังสวนลางของเตายักษ
ชั่วขณะนั้นอุณหภูมิที่รอนแผดเผาจนแทบหายใจไมออกก็ตลบอบอวลไปทั่วหองลับ
ในตอนที่หานลี่กำลังยุงอยูกับการกลั่นแทงเงินไหมโลหิตอยูนั้น ในหอสูงที่โดด
เดี่ยวบนยอดเขาแหงหนึ่ง กลับมีนักพรตหญิงชราที่มีสีหนาเย็นชาคนหนึ่งและหญิง
งามวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังพูดคุยอะไรกันอยูดวยสีหนาเครงขรึม
“ถึงเวลาอันสมควรแลว เพื่อแผนการครั้งนี้ ราชวงศของพวกเราวางแผนมาตั้งสี่รอย
กวาป ผานการวางแผนอยางหนักมาตั้งเจ็ดแปดรัชสมัย ถึงจะปราศจากชองโหว แต
ถาหากลมเหลว ไมไดสมบัติสองชิ้นนั้นมาละก็ เกรงวาทั้งราชวงศคงประสบกับหายนะ
ครั้งยิ่งใหญ อยามองวาในชวงเวลาที่ผานมาตระกูลเยี่ยอยางพวกเราปดบังกำลังที่
แทจริงเอาไวไมนอย แตหากปะทะกับกำลังที่แทจริงของสำนักพุทธ เกรงวาคงแสน
สาหัส สวนนักปราชญไรความสามารถของสำนักนักปราชญที่วันๆ เอาแตพูดวาจะ
ปกปองราชวงศนั้น หากเกี่ยวของกับผลประโยชนของพวกเขา ผูที่จะลงมือจัดการกับ
ราชวงศอยางพวกเรา เกรงวาจะเปนพวกเขา ขาคิดวา ครั้งนี้ตระกูลเยี่ยของพวกเรา
เขาไปเลนกับไฟจนไฟเผาตัวเองแลว” นักพรตหญิงเอยดวยสีหนาเครงขรึม
“คำพูดของทานปา ขาจะไมรูไดอยางไร แตน้ีเปนโอกาสที่ดีท่สี ุดที่ตระกูลเยี่ยของ
พวกเราจะสลัดการบีบบังคับจากขุมอำนาจอื่นๆ อยาลืมละ บรรพชนปูเจ็ดของพวก
เขาเพลี้ยงพล้ำอยางไร แคเห็นราชวงศอยางพวกเรามีกำลังเพิ่มขึ้นหนอย มีผูบำเพ็ญ
เพี ยรระดับกอกำเนิดเพิ่ มอีกสองสามคน ขุมอำนาจเหลานั้ น ก็รวมมือกัน ลงมื อกับ
บรรพชนปูของพวกเขาอยางลับๆ ทันที จากนั้นก็แคหาขออางลวกๆ มาปดเรื่องนี้ทิ้ง
ไป ถ าหากไม ก ำจั ด ภาวะนี้ ราชวงศ ต ระกู ล เยี่ ย อย างพวกเราที่ เรีย กตั ว เองว าเป น
ตระกูลอันดับหนึ่งในโลกของผูบำเพ็ญเพียร แตความจริงแลวก็เปนเพียงของพลีชีพ
เอาไวประนีประนอมของขุมอำนาจตางๆ เทานั้น ขอแคขาวลือนั้นเปนเรื่องจริง ได
สมบัติวิญญาณสองชิ้นนั้นมาจริงๆ บวกกับที่ชวงนี้ตระกูลเยี่ยของพวกเราอบรมสั่งสม
กองกำลังอยางหนัก ก็ทำใหขุมอำนาจอื่นๆ วิตกกังวล ไมกลาลงมือกับตระกูลเยี่ยของ
พวกเรางายๆ แลว ความเสี่ยงครั้งนี้ชางคุมคานัก” สตรีผูงดงามถอนหายใจออกมา
เฮือกหนึ่งเบาๆ แลวเอยอยางเชื่องชา
“เหอะ! ถึงแมวาในโลกผูบำเพ็ญเพียรจะมีขาวลือถึงอานุภาพที่นาเหลือเชื่อของ
สมบัติสะทานฟามาตั้งนานแลว แตขาก็ไมจะเชื่อวาสมบัติสองชิ้นนั้นจะสามารถพลิก
ฟาพลิกแผนดิน เทียบกับกำลังของขุมอำนาจตางๆ ได ขากลัววามันจะกลายเปนเรื่อง
โงเขลา และกระตุนสายสืบของขุมอำนาจอื่นๆ ดึงดูดหายนะมาแทน
อยาลืมละ ถึงแมวาจะมีสมบัติวิญญาณสะทานฟา เบื้องหลังของขุมอำนาจพวกนี้
ยังมีคนระดับไหนอยู ถึงแมจะไมรูวามีเทาไหร แตขอแคปรากฏตัวขึ้นมาสักคน ก็มี
กำลังพอจะกำจัดตระกูลเยี่ยอยางพวกเราได” แววตาเย็นเยียบของนักพรตหญิงสวาง
วาบ เอยอยางหวาดกลัวอยางสุดๆ
“ระดับเทพแปลง ในแดนของพวกเราเปนสิ่งที่ไรเทียมทาน ถึงแมวาทานลุงสาม
จะมีสมบัติวิญญาณสะทานฟาอยูในมือ เมื่อเผชิญหนากับตัวประหลาดเฒาระดับนั้น
เดาวาคงทำไดเพียงรักษาชีวิตตัวเองเอาไวไดเทานั้น ทวาเรื่องนี้ ทานปาไมตองสนใจ
มากนัก ตระกูลเยี่ยของพวกเราเริ่มสืบหาการดำรงอยูรวมทั้งจุดออนของตัวประหลาด
เฒาพวกนี้ตั้งแตรอยปกอนแลว หลังจากผานการวิเคราะหหลายๆ ดาน พวกเราเดาวา
ตอใหอายุขัยของตัวประหลาดเฒาพวกนี้สูงกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด มีชีวิต
อยูไดเปนพันป สองพันปที่ผานมาในตาจิ้น ผูที่บรรลุระดับเทพแปลงรวมทั้งผูบำเพ็ญ
เพียรที่อาจจะบรรลุระดับเทพแปลงไดก็มีไมกี่คน บวกกับที่มีอยูสวนนอยซึ่งบรรลุไปสู
แดนวิญญาณอยางสงบสุขนั้น ที่เหลืออยูในแดนมนุษยมากสุดก็คงมีเพียงสองสามคน
เทานั้น ยิ่งไปกวานั้นคนเหลานี้ก็ไมไดหยุดอยูบนโลก และทุมเทของมีคาไปจำนวน
มาก ไมเพียงจะไมลงมือตอสูกับใครงาย ตอใหลงมือก็พยายามกดพลังยุทธใหอยูใน
ระดับกอกำเนิดขั้นกลาง ถึงแมจะไมรูเหตุผลที่เปนรูปธรรม แตเชนนั้น ตัวประหลาด
เฒาเหลานี้ก็ไมใชสิ่งที่ไมอาจสูไดเหมือนในตำนาน ยิ่งไปกวานั้น กวาครึ่งตัวประหลาด
เฒาเหลานี้คงไมลงมือชวยขุมอำนาจใดๆ” หลังจากที่สตรีวัยกลางคนขมวดคิ้วเล็กๆ ก็
เอยขึ้นอยางเครงขรึม
“เรื่องพวกนี้พวกเจารูไดอยางไร อยาบอกนะวา ทั้งหมดนี้เปนสิ่งที่พวกเจาคาด
เดาหรือวาไปไดยินมา ในอดีตกาล ไมรูวามีผูบำเพ็ญเพียรตั้งมากมายเทาไหรที่อยากรู
ขาวคราวและความลับของผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงเดินดิน แตก็ไมไดรูผล เจารู
อยางทะลุปรุโปรงในเวลาแครอยกวาป แลวยังมีทาทีมั่นใจขนาดนี้ คิดวาขาเลอะเลือน
หลอกงายนักรึ? ตกลงปดบังอะไรอยูกันแน?” นักพรตหญิงชราไมเพียงไมดีใจ กลับมีสี
หนาเย็นเยียบขึ้นกวาเดิม
“แตพวกเราไมมีเจตนาจะปดบังทานปาอยางแนนอน ถึงแมวาขาวพวกนี้จะไมใช
สิ่งที่ตระกูลเยี่ยของพวกเราสืบหามา แตก็รูมาจากปากของอาวุโสคนหนึ่งที่ตระกูลเพิ่ง
รับเขามาเมื่อสองสามปกอน พวกเราคิดคำนวณเล็กนอย ก็เหมือนกับเบาะแสอื่นๆ ที่
ได รับ มาทั้ งหมด ดั งนั้ น กล าววาตระกู ลเยี่ย ของพวกเราหาพบ ก็ไมผิ ดนั ก ” สตรีผู
งดงามเห็นทานปาของตนเองโกรธเกรี้ยว ก็รีบเอยปากอธิบายทันที
ตอนที่ 929 ขนหงสดำ
“ผูอาวุโส? ตระกูลเยี่ยมีผูอาวุโสเพิ่มมาตอนไหนกัน? เปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษ
หรือวาผูบำเพ็ญเพียรจากพรรคไหน? คงไมมีปญหาหรอกกระมัง” นักพรตหญิงพลัน
ตกตะลึง ซักถามอยางตอเนื่อง
“ทานปาวางใจเถิด คนผูนี้ไมใชผูบำเพ็ญเพียรตาจิ้นของพวกเรา เปนผูบำเพ็ญ
เพียรสันโดษที่มาจากเขตแดนทุงหญาเทียนหลาน มีความสามารถไมเลว และยิ่งไป
กวานั้นยังสงคนไปตรวจสอบภูมิหลังอยางละเอียดแลว ไมมีปญหาอยางแนนอน ทุง
หญ าเทียนหลานมีผูบำเพ็ญ เพียรเชนนี้คนหนึ่งจริงๆ เปนเพราะไปลวงเกินตำหนัก
เทียนหลานศักดิ์สิทธิ์ จึงจำใจตองหลบหนีออกจากหายนะมา และยิ่งไปกวานั้นเรื่อง
สำคัญของตระกูลนั้นก็ไมไดเปดเผยใหคนผูนี้รู” สตรีผูงดงามกลับเอยอยางรูดีอยูแลว
“ออ ก็พอได ถึงแมวาขาจะไมสนับสนุนแผนสำรองของพวกเจา แตในเมื่ออาวุโส
คนอื่นลวนสนับสนุนแผนการนี้ ยิ่งไปกวานั้นยังเริ่มเปนจริงแลว จะตองเอาสมบัติ
วิญญาณสะทานฟาสองชิ้นนั้นมาอยูในมือใหได เรื่องตอจากนี้ คอยวากันทีหลังก็แลว
กัน จากนี้ เจาก็ตองระวังตัวใหมาก หูตาของขุมอำนาจเหลานั้นไมธรรมดา หากการ
เคลื่อนไหวของพวกเราใหญโตไปหนอย ก็จะดึงดูดความสนใจของพวกเขา อยาใหขาว
รั่วไหลไปก็แลวกัน” นักพรตหญิงชรากำชับอีกครั้ง
“ทานปา เกรงวาพวกเราจะไปทำใหใครบางคนสงสัยแลว สองสามวันกอน ขุม
อำนาจใหญๆ สองสามแหงก็สงผูบำเพ็ญเพียรออกมารักษาการณในเมืองหลวงเพิ่มขึ้น
จำนวนมากในพริบตา” สตรีผูงดงามหัวเราะอยางขมขื่นออกมา พลางเอยอยางจน
ปญญาเล็กๆ
“ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดก็เพิ่มขึ้นหรือ?” นักพรตหญิงรูสึกจิตใจหนักอึ้ง
ใบหนาเปลี่ยนสีเล็กนอยขณะเอยถาม
“เปลา เพิ่มเพียงผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวม ระดับกอกำเนิดยังเหมือนเดิม
รักษาการณอยูในเมืองสองสามคน” สตรีผูงดงามสายศีรษะ
“เยี่ ย ม! ดู แ ล ว พวกเขาคงแค ส งสั ย ไม ได ไหวตั ว ทั น อะไร ตั้ ง แต ที่ อ ารามสาม
กษัตริยปลอยขาวเรื่องการหลอมสมบัติล้ำคาออกมา ก็ดูดดึงความสนใจของผูคนไปไม
นอย มิเชนนั้น ความกดดันในฝงพวกเจาคงมากกวานี้มาก” นักพรตหญิงชรามีสีหนา
ผอนคลายลง
“ทานปาพูดถูก ทวา ถึงแมอารามสามกษัตริยจะใชเหยื่อลอ แตถาหากสามารถ
หลอมสมบั ติ วิญ ญาณลอกเลี ย นแบบชิ้ น นั้ น ได จ ริงๆ ก็ จ ะทำให ก ำลั งของพวกเรา
เพิ่มขึ้นไมนอย ถาเปนไปได พยายามหลอมสมบัติชิ้นนั้นใหไดเถิด” สตรีผูงดงามขบ
คิดเล็กนอย แลวเอยเชนนี้ออกมา
“เรื่องนั้นขารูดี สมบัติเชน ‘ตราประทับภูเขาผิง’ ที่สามารถแบงภูเขาแยกผืนดิน
ไดนั้น การลอกเลียนแบบของมันตองไมธรรมดาแนนอน ถาหากหลอมออกมาไดก็
แทบจะเทียบเทากับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายคนหนึ่ง ขาจะพยายาม
อยางเต็มที่ แตลุงทั้งสองของเจา บอกวาจะดึงผูบำเพ็ญเพียรสันโดษระดับสูงมาไมใช
หรือ เปนอยางไรบางละ เลาใหขาฟงซิ…” นักพรตหญิงชราเปลี่ยนหัวขอบทสนทนา
พลางเอยถามถึงอีกเรื่องที่กวนใจนางอยู
“เรื่องดึงผูบำเพ็ญเพียรสันโดษมาเปนพวก เริ่มลงมือมานานแลวเจาคะ สองในสี่ผู
บำเพ็ญเพียรสันโดษยอมรับของเซนไหวจากราชวงศอยางพวกเราแลว อีกสองคนนั้น
หายเขากลีบเมฆ ไมอาจตามรอยได จึงไมอาจเรียกวาดึงมาเปนพวกได ทวา ราชันย
ภูตของภูเขาซีปงและปรมาจารยหมีผูนำยอดเขารองของหุบเขาหมื่นปศาจ ยิ่งยินดีที่
ราชวงศของพวกเราจะเปนอิสระ ไมถูกขุมอำนาจตางๆ ควบคุมอีก จึงตกลงวาจะชวย
พวกเราอีกแรงหากถึงเวลานั้น สวนสำนักเล็กๆ ที่แสดงทาทีเปนมิตรตอพวกเราก็มี…”
จากนั้น นักพรตหญิงชราของอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์และหญิงงามวัยกลางคนก็
พูดคุยลงรายละเอียดที่ลึกลงไปยิ่งกวาเดิมภายในหอคอย จนเวลาคอยๆ ไหลผานไป…
ภายในตำหนักเพลิงปฐพี หลี่วซิ่วจวินจูผูนั้นเบิกตาโพลงทั้งสองขาง มองโลหะสี
เงินขนาดเทาไขไกที่ถูกลำแสงสีเงินและแดงพัวพันหอหุมอยูในเวลาเดียวกัน ใบหนา
เต็มไปดวยความดีอกดีใจ
“ศิษยพี่หาน คิดไมถึงวาทานจะกลั่นแทงเงินไหมโลหิตไดจริงๆ สวนประกอบยังสูงสง
อีกดวย ดูแลวอาวุโสเหวยผูนี้คงเกงกาจจริงๆ แมแตลูกศิษยก็ยังมีทักษะการหลอม
ยุทธภัณ ฑระดับนี้ ขาเคยวิ่งไปที่โรงหลอมยุทธภัณ ฑ ในยานรานคามาสองสามครั้ง
ปรมาจารยหลอมยุทธภัณฑที่นั่นยังไมมีใครมั่นใจเลยวาจะหลอมมันออกมาได” สตรีที่
สวมชุดชาววังเลนวัตถุดิบที่อยูในมือ พลางเอยพรอมกับหัวเราะไปพลางกับหานลี่
“เคล็ดวิชากลั่น วัตถุดิบ ของท านอาจารย ลุงเหวย ไม ใช สิ่งที่ ป รมาจารยห ลอม
ยุทธภัณฑตามทองตลาดธรรมดาๆ จะเปรียบเทียบได และยิ่งไปกวานั้นขานอยก็ไมใช
ศิ ษ ย ข องท า นอาจารย ลุ ง เหวย เป น แค ค นที่ ม าช ว ยตำหนั ก หลอมยุ ท ธภั ณ ฑ
เพียงชั่วคราวเทานั้น หากถึงเวลาก็ตองตั้งใจฝกบำเพ็ญเพียร เคล็ดวิชากลั่นวัตถุดิบ
เปนเพียงสิ่งไดศึกษาเพราะโชคดีเทานั้น” หานลี่คลี่ยิ้มบางๆ พลางเอยอยางราบเรียบ
“เชนนี้นี่เอง อยางนั้นก็นาเสียดายมาก ทานกลั่นแทงเงินไหมโลหิตได นาจะมี
พรสวรรคทางดานยุทธภัณฑนะ” สตรีผูนั้นไดยินคำพูดของหานลี่ ก็เผยสีหนาเสียดาย
ออกมา
“ในเมื่อชวยจวินจูกลั่นแทงเงินไหมโลหิตเสร็จแลว ขานอยก็ตองขอตัวไปจัดการธุระ
อื่นกอน คงอยูเปนเพื่อนจวินจูไมไดแลว” หานลี่เริ่มเก็บยุทธภัณฑ เตรียมจะกลาวลา
“อยาเพิ่งรีบรอน หรือวาขาหนาตาหนาเกลียดเกินไป จนทำใหศิษยอยากจากไป
เร็วๆ อีกอยาง ผูใดบอกกันวาขาจะหลอมแคอยางเดียว ขายังมีวัตถุดิบที่ตองจัดการ
อยูอีก แตเดิมไมรูวาศิษยพี่มีฝมือในการกลั่นวัตถุดิบอยางไร จึงไมกลาบุมบามเอา
ออกมา เวลานี้ขาเชื่อมั่นในตัวศิษยพี่อยางเต็มเปยมแลว” หลังจากที่สตรีผูนั้นเก็บแทง
เงินไหมโลหิตลงไป ก็ยิ้มจนตาหยีขณะเอย จากนั้นก็หยิบกลองหยกขนาดสองสามฉื่
อออกมาจากยามเก็บของที่เอว แลวโยนใหหานลี่
หานลี่รูสึกปวดเศียรเวียนเกลาขึ้นมาเล็กนอยแลว
“ยังมีวัตถุดิบที่ตองกลั่นอีกหรือ? จวินจูประเมินขานอยสูงไปกระมัง จากพลังยุทธ
ของขา การหลอมแทงเงินไหมโลหิต ก็ทำใหเหนื่อยลาสุดๆ แลว หากหลอมวัตถุดิบอื่น
อีก ขานอยคงทำไมไหวจริงๆ” หานลี่พิจารณากลองหยก แมแตฝากลองก็ไมไดเปด
ออก พลางเอยดวยสีหนาขมขื่น
“เชนนั้นเองหรือ นั่นมันก็จริงนะ ลมปราณของทานเบาบางไปหนอย ทวา ของ
ชิ้นนี้ไมจำเปนตองกลั่น ขาแคอยากใหศิษยพี่ชวยขาจัดการมันเล็กนอยเทานั้น ถึง
อยางไรเสียวัตถุดิบนี้ก็สูญเสียกลิ่นอายชีวิตไปมากแลว บอกกับศิษยพี่กอนนะวา หาก
เห็นของสิ่งนี้แลว หามบอกใครเด็ดขาด นี่เปนสิ่งที่ขาไดมาอยางยากลำบาก ในใตหลา
นี้ เดาวาคงมีไมกี่ชิ้น” สตรีที่สวมชุดชาววังเอียงศีรษะ เผยสีหนาพึงพอใจออกมา
“วัตถุดิบอะไร ล้ำคาถึงเพียงนั้นเลยหรือ?” หานลี่รูสึกประหลาดใจเล็กนอย มอง
กลองหยกที่อยูในมือ เปดฝาออกอยางอยากรูอยากเห็น
ผลลัพ ธคือยังไมเห็น สิ่งที่ อยูในกลองชัดเจน ลำแสงสีแดงที่ แสบตากลุมหนึ่ งก็
ระเบิดออกมาจากกลอง ในขณะที่ไมทันไดระวังตัว ดวงตาคูนั้นของหานลี่ก็พราเลือน
หานลี่ตกตะลึงเปนอยางมาก แววตาเผยลำแสงสีฟาสวางวาบอยางอดไมได ชั่ว
ขณะนั้นพลันสำแดงเนตรวิญญาณวารีกระจางออกมาตามสัญชาตญาณ
“เอ! ดวงตาของ…”
“นี่คือ…”
หญิงสาวและหานลี่รองอุทานออกมาพรอมกัน สีหนาเต็มไปดวยความประหลาดใจ
ในกลองหยกคือขนนกยาวครึ่งฉื่อ โปรงแสงแวววาว เปลงแสงสีแดงเรืองรอง ราว
กับเปลวเพลิงที่สรางขึ้นจากภาพลวงตาอยางไรอยางนั้น
“ขนวิหคตะวันฉายหางยาว ไมใชสิ? ดูเหมือนวาจะไมคอยเหมือนเทาไหร” หานลี่มอง
ของที่อยูในกลองอยางอึ้งๆ ปากก็อดที่จะเอยพึมพำออกมาไมได
“วิหคตะวันฉายอันใดหรือ? นี่คือขนหางของหงสดำ เปนสิ่งที่ขาไดมาตอนที่ทานพอ
พาไปคารวะผูอาวุโสที่มีความสามารถยิ่งใหญคนหนึ่งนอกทะเล ขาถือโอกาสที่วิหค
วิญญาณตัวนั้นกำลังหลับอยู แอบดึงออกมา ฮิๆ วิหคตัวนั้นหลับลึกมาก ตั้งแตตนจน
จบยังไมรูสึกตัวเลย ใชแลว ดวงตาของทานเปนอะไรหรือ เมื่อครูมันเปลงแสงสีฟา
ออกมา? นาสนใจจริงๆ นี่คือเคล็ดวิชาชนิดหนึ่งหรือ…” สตรีผูนั้นกระซิบกระซาบไม
หยุด ดวงตากลอกไปมา เหลือบมองดวงตาคูนั้นของหานลี่ไมหยุด ราวกับวาเหมือนจะ
มองอะไรออกอยางไรอยางนั้น
แตหานลี่ที่รูสึกผิดปกติ จึงเก็บความสามารถเนตรวิญญาณวารีกระจางไปตั้งนาน
แลว แนนอนวาจึงมองความพิเศษอะไรไมออกอีก สวนหานลี่นั้นกำลังจองเขม็งไปยัง
ขนนกในกลอง กำลังพูดคุยกับเทพขับเคลื่อนในหัว
‘ขนของหงสดำหรือ? หากขาจำไมผิดละก็ นี่ดูเหมือนวาจะเปนวิหควิญญาณธาตุ
อั ค คี เหมื อ นกั บ วิ ห คตะวั น ฉาย ขนหางของมั น ใช แ ทนขนของวิ ห คตะวั น ฉายได
หรือไม?’ หานลี่เอยถามอยางเครงขรึม
‘ในตำนานของหงสดำบอกวาเปนหนึ่งในสายพันธุแยกยอยของหงสเพลิง คาดไม
ถึงวาวิหควิญญาณชนิดนี้จะมีชีวิตจากอดีตกาลจนมาถึงปจจุบันได ชางนาตกใจจริงๆ
นาเสียดาย ของสองสิ่งนี้ไมอาจนำมาใชแทนกันได ทวาถาหากแกไขเล็กนอย ผสมขน
นกวิญญาณเขาไป ก็จะทำใหพัดตรีเปลวเพลิงของเจามีอานุภาพเพิ่มขึ้นอีกขั้น แตขน
เสนนี้นั้น สูญเสียกลิ่นอายชีวิตไปกวาครึ่ง ไมเหมาะจะนำมาเปนวัตถุดิบแลว แปลก
จริง ตอนนั้นที่ขามาเที่ยวเลนในตาจิ้น ยังไมเคยไดยินวาตัวประหลาดเฒาตนไหนเลี้ยง
วิ ห ควิ ญ ญาณชนิ ด นี้ ไว เลย’ เทพขั บ เคลื่ อ นร อ งอุ ท านออกมาด ว ยความตกตะลึ ง
จากนั้นก็เอยอยางรูสึกเสียดาย
‘เชนนี้นี่เอง’ หานลี่ไดฟงวาเอามาแทนกันไมได ก็รูสึกผิดหวังเปนอยางมาก
ตอนนั้น สตรีที่ชุดชาวหวังพลันเหลือบมองหานลี่ดวยความกระหาย ดูแลวคงรูสึก
สนใจวาดวงตาคูนั้นเปลงแสงสีฟาออกมาไดอยางไรเปนอยางมาก
เมื่อเห็นสีหนาของสตรีผูนี้ หานลี่พลันลูบคางไปมา หัวเราะอยางขมขื่นในใจ
“ลำแสงประหลาดที่เปลงออกมาจากดวงตาเมื่อครู ความจริงแลวเพราะใชวารี
วิญญาณชนิดหนึ่งลางตา วิธีการเชนนี้ แคทำใหดวงตาทั้งสองมองเห็นไดชัดเจนขึ้น
เทานั้น เปนเพียงทางลัดของผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำอยางขาเทานั้น ไมมีคาพอใหตอง
พูดถึง” หานลี่ชักสีหนา พลางตอบกลับอยางเชื่องชา
“ใชวารีวิญญาณลางตา วารีวิญญาณอะไรกัน? ทานมีไหม? ใหขาขวดหนึ่งไดไหม?”
สตรีผูนั้นไดยินพลันรูสึกตื่นเตนดีใจ เอยซักถามอยางคึกคักเสียดายออกมา
“วารีวิญญาณชนิดนี้มีผลทันทีเทานั้น ตอนนั้นที่ขาไดมาก็ใชลางไปตั้งนานแลว
เกรงวาจะตองทำใหจวินจูผิดหวังแลว” หานลี่เอยพรอมกับเผยสีหนา
“ศิษยพี่หาน ที่ทานพูดเปนความจริงหรือไม? คงไมไดเห็นวาขาอายุยังนอย แลว
จงใจหลอกลวงขาหรอกนะ?” สตรีผูนั้นกะพริบดวงตาคูงามปริบๆ เบะปาก สีหนาไม
เชื่อถือ
“ผูแซหานพูดจริง จะกลาหลอกลวงจวินจูไดอยางไร ทวาขาก็มีของอีกอยางเชนกัน
บางที่จวินจูอาจจะสนใจ” หานลี่หัวเราะแหงๆ ออกมา แลวถึงไดเอยอยางเชื่องชา
“แลกเปลี่ยนอะไร ทานคงไมไดสนใจขนหงสดำของขาหรอกนะ!” สตรีผูน้ันไดยิน
คำพูดของหานลี่ก็ตกตะลึง จากนั้นเหมือนจะคิดอะไรออก จึงหัวเราะนอยๆ ออกมา
แววตาฉายแววเจาเลหสวางวาบ
“หลี่ ว ซิ่ ว จวิ น จู ล อ เล น แล ว สมบั ติ ฟ า ดิ น ค เ ช น นี้ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ ฝ ก
ปราณจิ๊บจอยคนหนึ่งจะกลาอยากไดไดอยางไร ขานอยแคอยากขอรองจวินจูเรื่อง
หนึ่ง อยากใหจวินจูชวยขานอยยืนยันสักหนอย” หลังจากที่หานลี่ปดฝากลองลงอีก
ครั้ง ก็เอยพรอมกับหัวเราะอยางขมขื่นออกมา
“เรื่องขอรอง งายมาก ไมตองแลกเปลี่ยนอะไร ทานชวยขาจัดการขนหงสดำนี้ก็
พอ มีปญหาอะไรก็ถามมาเลย ขอแคขารู ขาจะตอบทานอยางแนนอน” สตรีผูนั้นยิ้ม
นอยๆ ออกมา โบกมือ พลางเอยอยางใจกวาง
“เยี่ยม ตกลงตามนั้นนะขอรับ” หานลี่ครุนคิดเล็กนอย แลวพยักหนา
ตอนที่ 930 พาดผานดุจลมพัด
ผานไปหนึ่งชั่วยาม สตรีที่สวมชุดชาววังก็เดินออกมาจากตำหนักเพลิงปฐพีดวย
ทาทางสงางาม สวนบุรุษและสตรีที่ตามนางมานั้น ก็รอฟงขาวอยูนอกตำหนักดวย
ความรอนใจตั้งนานแลว
ลูกศิษยของตำหนักหลอมยุทธภัณฑทั้งสามคน ตางก็รออยูขางๆ มาโดยตลอด
อยางซื่อๆ ผูบำเพ็ญเพียรชายหญิงเหลานี้ลวนเปนผูที่มีประวัติความเปนมาไมธรรมดา
ไมใชสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำๆ อยางพวกเขา จะกลาดูแคลนไดเลยแมแตนอย
เมื่อเห็นสตรีรางกายอรชรออนแอนผูนั้นเดินออกมา ชั่วขณะนั้นบุรุษผูเยาววัย
เหลานั้นก็กรูกันเขามาลอมนางเอาไว
“จวินจู เปนอยางไรบาง?”
“แทงเงินไหมโลหิตไมไดถูกเจานั่นทำพังใชหรือไม?”
คนเหลานี้ลวนเอยถามดวยความกระตือรือรนอยางสุดๆ
“ไมเปนไร ขอบคุณศิษยพี่ทุกทานที่เปนหวง ศิษยพี่หานชวยขากลั่นวัตถุดิบเสร็จ
แลว และไมไดเกิดขอผิดพลาดอะไร” สตรีผูนั้นปดเสนผมสีดำเงาที่ปรกหนาผากออก
คลี่ยิ้มออกมาอยางงดงามขณะหัวเราะนอยๆ ไหนเลยจะมีทาทางเหมือนเด็กนอย
ดังเชนตอนที่อยูกับหานลี่
หานลี่ที่เดินออกมาจากตำหนักเพลิงปฐพี เห็นภาพฉากนี้เขา ก็อดที่จะหยักมุม
ปากขึ้นไมได
‘หึๆ! เจาเด็กนอยหาน เจามันชางเจาเลหเสียจริง คาดไมถึงวาจะชักแมน้ำทั้งหา
ออกมาถามที่อยูของหงสดำตัวนั้นจากปากแมนางผูนั้นได ทำไม เจาสนใจหงสดำของ
ผูนำเกาะผูนั้นหรือ’
‘แน น อน ในเมื่ อ รู แ ล ว ว า มี วิ ธี เพิ่ ม พลั ง ของพั ด ตรี เปลวเพลิ ง แน น อนว า ต อ ง
พยายามดูสักตั้ง เสียวัตถุดิบล้ำคาและเลือดเนื้อไปจำนวนมาก หากอานุภาพไมทำให
ขาพึงพอใจไดละก็ คงเสียเวลาเปลา ถึงอยางไรเสียสมบัติโบราณธรรมดาๆ สำหรับผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายนั้น ก็ไมไดมีอานุภาพมากนักจริงๆ ไปกันเถิด
พวกเขาจะพักอยูที่อารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์อีกสองสามวัน ขาอยูแตในหองลับก็ได
แลว จะไดไมถูกพวกเขารบกวนเวลาฝกบำเพ็ ญ เพี ยรของตนเอง’ หานลี่เอยอยาง
ราบเรียบ จากนั้นคงก็หายเขาไปในตำหนักเพลิงปฐพีอยางเงียบเชียบ ตรงไปยังที่พัก
ของตนเอง
สองวันตอมา สตรีที่สวมชุดชาววังผูนั้นก็แอบมาหาหานลี่อีกครั้ง และคิดจะใหเขา
กลั่นอะไรสักอยางให แตหานลี่ไดปดประตูแขวนปายวาจะฝกบำเพ็ญเพียรเอาไวต้ัง
นานแลว ทั้งยังวางเขตอาคมงายๆ ไวที่ประตู ทำใหสตรีผูนี้เบะปากวนไปวนมาอยู
ตรงที่พักของเขารอบหนึ่ง แลวจำใจตองจากไปอยางไมพอใจนัก
สองวันผานไป ในที่สุดบุรุษและสตรีวัยเยาวเหลานี้ก็ตามสตรีผูงดงามผูนั้นออกไป
จากอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์ ตำหนักหลอมยุทธภัณฑจึงกลับมาสงบสุขอีกครั้ง
บางครั้งหานลี่ก็ออกมากลั่นวัตถุดิบ ซึ่งเปนงานประจำของแตละเดือนแลว เวลา
ที่เหลือก็เอาแตฝกคาถาราชันยกระจาง
เวลาคอยๆ ผานไปเดือนแลวเดือนเลา ทุกครั้งที่หานลี่ทำงานกลั่นวัตถุดิบเสร็จ
ตรงเวลา ก็ทำใหชายชราแซเหวยใหความสำคัญกับเขามากยิ่งขึ้น ระหวางนั้นยังหา
เวลามาอธิบายวิธีการกลั่นวัตถุดิบที่พิเศษใหหานลี่ฟง จากนั้นก็จะคอยๆ เอาวัตถุดิบ
ล้ำคาเหลานี้มามอบใหหานลี่หลอม
หานลี่เห็นเชนนั้นก็ยังคงทำงานใหเสร็จตามเวลาอยางเชื่อฟง ไมมีลาชาเลยแมแต
ครั้งเดี ยว นี่ จึงทำให อ าวุโสเหวยรูสึก ประหลาดใจเล็ ก ๆ ในที่ สุ ดก็ มั่ น ใจวาหานลี่ มี
พรสวรรคในการหลอมยุทธภัณฑมาก แนนอนวาบางครั้งก็ยังถายทอดอะไรที่ล้ำลึก
มากขึ้นใหกับหานลี่
ในเวลาเดี ย วกั น ก็ เริ่ม เอาของที่ ต นเองต อ งหลอม ในส ว นของวั ต ถุ ดิ บ จำเป น
ทั้งหมดที่ไมคอยสำคัญนักมามอบใหหานลี่จัดการ
ผลลัพธคือหลังจากผานไปไมนาน หานลี่ก็พบดวยความตกตะลึงวา สิ่งที่เอามาให
เขาหลอมทั้งหมดนั้นลวนเปนวัตถุดิบธาตุปฐพีที่หายาก นี่จึงทำใหเขาอดที่จะรูสึก
ประหลาดใจไมได!
ถึงอยางไรเสียนอกจากสมบัติหายากสองสามชนิดที่ตองใชกำลังเพื่อการเอาชนะ
แลว ก็ลวนเปนยุทธภัณฑหรือสมบัติหายากที่ใชวัตถุดิบธาตุปฐพีหลอมขึ้นทั้งนั้น
ทวา ทั้งหมดนี้ไมเกี่ยวอะไรกับเขา เขายังทำตามแผนที่วางไวอยางไมมีอะไรมา
ขั ด ขวาง ค อ ยๆ ฝ ก ฝนคาถาราชั น ย ก ระจ า งขั้ น ที่ ส อง และสั ม ผั ส ได ถึ ง ความ
เปลี่ยนแปลงของรางกายที่นาตกตะลึงของตัวเอง ในตอนนั้นเอง ตระกูลกานที่อยูนอก
ภูเขาก็สงคนมาสงขาวใหเขาวา นักปราชญ แซเหยียนที่สงเขาสำนักปวยหนักอยาง
กะทันหัน คาดไมถึงวาจะเปนสิ้นลมเพราะอาการปวยแลว
“ปวยหนักหรือ? วันนั้นตอนที่ดูรางกายของเขา ก็ไมไดมีโรคอะไรแอบแฝงอยูนี่?”
ตอนที่หานลี่ไดยินขาวนี้ ก็รูสึกประหลาดใจมากขณะบ น พึ มพำกับตนเอง ในเวลา
เดียวกันก็เชื่อมโยงไดวา ชวงนี้อารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์มีผูบำเพ็ญเพียรแปลกหนา
ปรากฏตัวหลายครั้ง เมื่อใชจิตสัมผัสกวาดดูสถานการณภายในที่เกิดขึ้น ก็สัมผัสไดวา
พายุลูกใหญใกลจะพัดเขามาแลว
“อยูที่นี่ตอไปไมไดแลวจริงๆ มิเชนนั้นก็ไมรูวาจะถูกดึงเขาไปในเรื่องยุงยากตอนไหน”
หานลี่อาศัยประสบการณที่เฟองฟูของตัวเอง ตัดสินทันที
ชั่วขณะนั้นในเวลาที่เหลือ หานลี่จึงยิ่งฝกฝนคาถาราชันยกระจางอยางหนักขึ้นทันที
......
หนึ่งปผานไป อารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์ก็มีเรื่องที่ไมใหญนักแตก็ไมเล็กนักเกิดขึ้น
ลูกศิษยสายนอกระดับฝกปราณคนหนึ่งหายตัวอยางกะทันหัน ชั่วขณะนั้นทำใหชน
ชั้นสูงสองสามทานในอารามตกใจมาก แมกระทั่งนักพรตหญิงชราระดับกอกำเนิดผู
นั้นไดยินขาวนี้ ก็ยังตองมาถามขาวคราวดวยตนเอง
ลูกศิษยระดับต่ำคนหนึ่งหายตัวไป ในสายตาของลูกศิษยหลายพันคนในอาราม
เป น เพี ย งเรื่ อ งจิ๊ บ จ อ ยเท า นั้ น แต ศิ ษ ย ผู นี้ เป น ศิ ษ ย ที่ ต ำหนั ก หลอมยุ ท ธภั ณ ฑ ให
ความสำคัญเพราะหลอมวัตถุดิบได และเปนศิษยที่ชวยงานไดไมนอย
มินาละถึงทำใหชนชั้นสูงของอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์ตกใจ
วัน นี้ ภายในหอคอยที่ นั ก พรตหญิ งชราและสตรีผู งดงามแซ อ วี้ เคยพู ด คุ ย กั น
นักพรตหญิงชรากำลังนั่งอยูบนเกาอี้กลางหอง ดานขางมีนักพรตหญิงสวมชุดสีเหลือง
สองคนยืนอยู คนหนึ่งอายุสี่สิบกวาป อีกคนหนึ่งอายุยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดป
“นี่มันเรื่องอะไรกัน อารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์ของพวกเรามีเขตอาคมแนนหนา
คาดไมถึงวาจะปลอยใหลูกศิษยคนหนึ่ง หายตัวไปเฉยๆ ได พวกเจาสองคนไมมีอะไร
จะพูดหรือ?” นักพรตหญิงชรามีสีหนาเครงขรึม พลางเอยซักถามดวยน้ำเสียงเย็นชา
“รายงานทานอาจารยปา ขาตรวจสอบเขตอาคมตองหามในอารามทั้งหมดแลว
ผลลัพธคือทั้งหมดสมบูรณดีไมมีขอบกพรอง ไมมีรองรอยเหมือนถูกศัตรูภายนอกบุก
รุกเขามาเลยเจาคะ ดูแลวหากผูที่มาไมใชปรมาจารยดานเขตอาคม ก็ตองเปนเพราะ
ลูกศิษยผูนั้นหนีออกไปเอง” นักพรตหญิงวัยกลางคนลังเลเล็กนอย แลวตอบกลับดวย
ทาทีนอบนอม
“ปรมาจารยดานเขตอาคม อารามจักรพรรดินี พิ สุท ธิ์ของพวกเรามีผูดูแลเขต
อาคมอยู ตอใหปรมาจารยดานเขตอาคมตางๆ ของตาจิ้นมาที่นี่ ก็ไมมีทางบุกเขามา
จากภายนอกภายในคืนเดียวได ทวาถาหากหนีออกไป ก็ไมใชเรื่องที่ยากเย็นอะไรนัก
ลูกศิษยผูนั้นมีนามอะไร มีประวัติความเปนมาอยางไร?” นักพรตหญิงชราขมวดคิ้ว
แลวนึกอะไรขึ้นมาไดพลางเอยถาม
“ลูกศิษยผูนั้นนามวาหานลี่ เปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษที่ศิษยหลานหัวเหลียนรับ
กลับมาในอารามจากสำนักศึกษาไปลูเมื่อสองปกอนเจาคะ” นักพรตหญิงผูเยาววัยดู
เหมือนวาจะเคยหาขาวเรื่องนี้มาแลว จึงตอบกลับอยางรีบรอน
“หานลี่? ชื่อนี้เหมือนอาวุโสที่ตระกูลเยี่ยเพิ่งรับเขามาอยางไรอยางนั้น” นักพรต
หญิงชรานิ่งอึ้ง เอยอยางประหลาดใจ
“ใชแลวเจาคะ ตอนที่ศิษยหลานไดยินชื่อของลูกศิษยผูนั้นก็ตกใจ ทวาทั้งสอง
เปน เพี ยงเรื่องบังเอิญ กระมัง! ถึงอยางไรเสียระดั บก อกำเนิ ดคนหนึ่ ง กับ ระดั บฝ ก
ปราณคนหนึ่ง ไมวาอยางไรก็ไมอาจเกี่ยวของกันได” นักพรตหญิงวัยเยาวเอยอยาง
วิเคราะห
“บังเอิญ? ถึงแมวาในโลกนี้จะมีเรื่องบังเอิญอยูมากมายนัก แตในเวลาสำคัญที่
พวกเราตองหลอมวัตถุดิบนั้น มีคนหายตัวไป ยิ่งไปกวานั้นคนที่หายตัวไปยังบังเอิญ
ชื่อเดียวกับอาวุโสที่ราชวงศรับเขามา ไมวาจะเปนเรื่องบังเอิญหรือไม เรื่องนี้ก็ตอง
สื บ เสาะให ชั ดเจน สงคนไปบอกขาวในเมื อ ง ถามถึ ง ‘อาวุโสหาน’ ที่ ราชวงศ เพิ่ ง
รับเขามาวาเกี่ยวของอะไรกับหานลี่ที่มีอะไรปดบังหรือไม? นอกจากนั้น ไปเรียกแม
นางหัวเหลียนมากอน ขาจะถามเรื่องที่รับลูกศิษยนี้เขามาในอารามขาดวยตัวเอง ดูวา
สำนักศึกษาไปลูวางกับดักอะไรกับพวกเราหรือไม แลวอีกอยาง ขั้นตอนของตำหนัก
หลอมยุทธภัณฑหามหยุดพักเด็ดขาด ของที่พวกเรารับหนาที่มา จะตองหลอมใหเสร็จ
สิ้นภายในสามป นี่ถึงจะเปนเรื่องใหญที่หามใหผิดพลาดโดยเด็ดขาด” นักพรตหญิง
ชรามีใบหนาไรความรูสึก ปากก็ออกคำสั่งออกมารัวๆ
“เจาคะ ทานอาจารยปา!”
“นอมรับคำบัญชาเจาคะ!”
สตรีที่เหลือทั้งสองเอยปากตอบรับ พรอมกัน จากนั้ น พลัน กลาวลา ไปจัดการ
เรื่องราว
เมื่อนักพรตหญิ งเห็นทั้งสองคนเดินออกจากศาลาไป ถึงไดถอนหายใจออกมา
เฮือกหนึ่ง เอนกายไปดนหลัง คอยๆ ปดตาคูนั้นลง
สามเดือนตอมา ณ ยานรานคาไทซิ่งที่ใหญที่สุดในเขตอี้ มีชายหนุมคนหนึ่ง ใช
ศิลาวิญญาณสามหมื่นกอนซื้อรานคารานหนึ่งในยานรานคาซึ่งเปดมาเกือบรอยปแลว
ดวยราคาที่สูง และไมมีใครสอบถามถึงเหมืองศิลาที่ไมรูจักชื่อผูนี้
หาเดือ นตอมา ในงานซื้อขายแลกเปลี่ยนฝานชวนที่ มีชื่อเสี ยงของเขตชวน ผู
บำเพ็ญเพียรที่สวมหนากากคนหนึ่ง ใชศิลาวิญญาณหนึ่งแสนหาหมื่นกอน ประมูลแร
ดีบุกเพลิงสามกอนไปดวยราคาที่สูง
ครึ่งปตอมา ณ เมืองไคหลงในเขตเฟง พรรคทองถิ่นระดับกลางอยางพรรคเสียง
เพรียกกระบี่แหงหนึ่งก็ถูกขโมยของ เขาวิญญาณแรดเขาเหล็กอันหนึ่งที่สะสมไวใน
พรรค จูๆ ก็หายวับไปแมไรปก
แปดเดือนตอมา ในตระกูลจงผิงตระกูลอันดับหนึ่งของเขตชวี ก็มีผูบำเพ็ญเพียร
ระดับกอกำเนิดขั้นกลางรางใหญหนาตาอัปลักษณมาหาเรื่อง ใชหญาวิญญาณพันป
ตนหนึ่งและยาลูกกลอนอสูรปศาจระดับเจ็ดเม็ดหนึ่งแลกกับไมหาแสงที่ในตระกูลเก็บ
สะสมเอาไว ผลลัพธคือผูนำตระกูลจงผิงไมยอม จึงไดเชิญอาวุโสระดับกอกำเนิดสอง
คนในตระกูลออกมา รวมมือกันตอกรกับคนผูนี้ ผลลัพธคือถูกผูบำเพ็ญเพียรระดับ
กอกำเนิดขั้นกลางผูนั้นใชความสามารถที่ยิ่งใหญ ทำใหอาวุโสสองคนนั้นกลายเปน
กอนน้ำแข็งยักษสองกอน
ผูนำตระกูลพลันตกตะลึง ภายใตความจนปญญานั้น จึงทำไดเพียงยอมแลกไมหา
แสงดวยความเจ็บปวด ผลลัพธคือชายรางใหญอัปลักษณผูนั้น พลันรับไมชิ้นนั้นมา
หัวเราะอยางบาคลั่งสองสามครั้ง แลวโยนสมุนไพรวิญ ญาณตนหนึ่งและลูกกลอน
ปศาจเม็ดหนึ่งมาให สวนอาวุโสทั้งสองของตระกูลนั้นตองใชเวลาอยูนานมากกวาจะ
ชวยละลายน้ำแข็งออกมาได ถึงแมวาจะไมถึงชีวิต แตปราณแทก็เสียหายไปไมนอย
ผานไปเกาเดือน…
ในระยะเวลาสั้นๆ เพียงปกวา ทางทิศใตของตาจิ้นก็มีชายหนุม ผูบำเพ็ญเพียร
สวมหนากาก ชายรางใหญหนาตาอัปลักษณปรากฏตัวขึ้น พวกเขาตางคนหาและรีด
ไถวัตถุดิบล้ำคาไปทั่วทุกสารทิศ ชายหนุมหนึ่งในนั้นซื้อวัตถุดิบประหลาดที่ไมมีคน
รูจักเอาไว สวนผูบำเพ็ญเพียรที่สวมหนากากถึงกับลงมือในการประมูลอยางมือเติบ
ราวกับวามีศิลาวิญญาณเหลือเฟออยางไรอยางนั้น ชายรางใหญอัปลักษณ นั้นกลับ
ตามหาตระกูลและสำนักเล็กๆ ตางๆ อยางไมเกรงใจ บังคับใหนำสมบัติฟาดินที่พวก
เขาสะสมมาแลกกับยาลูกกลอนและแกนอสูร
แนนอนวาหนึ่งในนั้นยังแทรกซึมเขาไปในพรรคใหญ ๆ ดวย ของสะสมในคลัง
บางอยางหายไปชั่วขามคืนอยางไรรองรอย
สองคนแรกก็ชางเถิด ชายหนุมและผูบำเพ็ญเพียรที่สวมหนากาก นอกจากบาง
คนที่สนใจแลว ก็ไมมีใครสนใจอะไรพวกเขา ชายหนาตาอัปลักษณคนหลังที่บังคับให
สำนักผูบำเพ็ญเพียรตางๆ แลกเปลี่ยนซื้อขายของในคลัง กลับทำใหทั้งโลกผูบำเพ็ญ
เพียรทางทิศใตของตาจิ้นสั่นคลอน
ไมเพียงผูบำเพ็ญเพียรที่ถูกขโมยของไปจะโกรธเกรี้ยว และทยอยกันสงลูกศิษย
ออกไป คนหาเจาหัวขโมยที่มีความสามารถเกรียงไกรไปทั่วแลว และตระกูลเล็กๆ ที่
ถูกชายหนาตาอัปลักษณบังคับใหขายของ ผูสนับสนุนเบื้องหลังของพวกเขาก็สงคน
ออกมาด ว ยความโกรธเกรี้ ย วอย า งสุ ด ๆ เช น กั น ต า งค น หาชายร า งใหญ ห น า ตา
อัปลักษณที่อาจหาญไปทั่วทุกหนแหง
ตอนที่ 931 วังเยวหยาง
เขตหลงเปนเขตขนาดใหญแหงหนึ่งที่ตั้งอยูตรงชายแดนทางทิศตะวันออกของ
ตาจิ้น ภายในเขตมีภูเขาสูงใหญ อากาศเปนพิษและมังกรวารีจำนวนมาก
ดังนั้นจึงมีชื่อในเรื่องแมลงพิษและอสูรวิญญาณตางๆ ที่มีอยูจำนวนมาก และไม
เหมือนกับ เขตใหญ อื่นๆ เลย เขตนี้ มีขนาดใหญ ม าก แตกลับมีแควังเยวห ยางซึ่งมี
ชื่อเสียงในฝายธรรมะและพรรคพฤกษามารหนึ่งในสิบพรรคมารเทานั้นที่ยึดครองอยู
ขุมอำนาจนอกเขตไมมีทางสอดมือเขามาในเขตหลงได และขุมอำนาจจากสำนักและ
พรรคเล็กๆ ของผูบำเพ็ญเพียรอื่นๆ ในเขตก็เล็กจนไมมีคาใหตองพูดถึง ยิ่งไมมีทางทำ
อะไรสองขุมอำนาจนี้ได และยิ่งไปกวานั้นจึงจำใจตองขอความคุมครองจากทั้งสองขุม
อำนาจนี้
ทั้ งเขตหลงลวนถูก สองขุม อำนาจนี้ เข าควบคุ ม จึ งกลายเป น สองขุ ม อำนาจที่
แข็งแกรงทางทิศตะวันออกและตะวันตกปกครองรวมกัน
สวนวังเยวหยางนั้นตั้งอยูตรงเขตแดนของรัฐซีชวนในเทือกเขาเทียนเยว บริเวณ
รอบนอกในระยะแสนลี้ของเทือกเขานี้ลวนติดตอกับภูเขาที่แหงแลงกันดาร
วังเยวหยางตั้งอยูตรงใจกลางเทือกเขา บนยอดเขาที่มีชื่อวายอดเขาหนานเทียน
และลูกศิษยของวังเยวหยางที่มีชื่อจำนวนหมื่นคน ก็อาศัยอยูบนยอดเขานอยใหญ
รอบๆ ทำใหเทือกเขาเทียนเยวที่อยูตรงใจกลางเปนศูนยบัญ ชาการราวกับกำแพง
เหล็กอยางไรอยางนั้น ไมตองพูดถึงวาไมมีผูบำเพ็ญเพียรอะไร ที่กลาโจมตีวังเยวหยาง
ตอใหบางครั้งมีผูอาจหาญ ก็ไมมีทางผานออกจากเทือกเขาหนานเทียนที่มีเขตอาคม
อันนากลัวสิบสามชั้นวางอยู
แตวันนี้ ลูกศิษยของวังเยวหยางกลุมหนึ่ง ที่กำลังขับเคลื่อนยุทธภัณฑแฉลบผาน
ยอดเขาซึ่งไรผูคนตรงชายแดนเทือกเขาลูกหนึ่งอยูนั้น กลับมีลำแสงสีเขียวสวางวาบ
บนยอดเขาที่แตเดิมนั้นไรซึ่งผูคน
จากนั้นชายหนุมสวมชุดสีคลุมยาวสีเขียวคนหนึ่งก็ยืนเอามือไพลหลังอยูบนศิลา
ยักษกอนหนึ่ง มองไปทางเงาแผนหลังของลูกศิษยวังเยวหยางที่อยูไกลออกไป ดวย
ใบหนาไรความรูสึก
นั่นก็คือหานลี่นั่นเอง!
‘เจ า เด็ ก น อ ยหาน เจ า คิ ด จะลงมื อ กั บ วั ง เย ว ห ยางจริ ง ๆ หรื อ ข า ว า มั น ไม ใช
ความคิดที่ดีเลย ถึงแมวาวังเยวหยางจะอยูในสิบพรรคฝายธรรมะ แตก็จัดอยูในอันดับ
หนึ่งในหา ไมอาจไปลวงเกินไดงายๆ’ เทพขับเคลื่อนถายทอดเสียงผานจิตสัมผัสมา
“แนนอนวาขารูเรื่องนี้อยูแลว แตวัตถุดิบทั้งหมดของพัดตรีเปลวเพลิง พวกเราก็
รวบรวมมาไดเกือบครบแลว ตอนนี้ขาดแคเพียงขนวิหคตะวันฉายหางยาวและเกล็ด
มังกรวารีเพลิงสีชาด มังกรวารีเพลิงสีชาดยังพอวา พวกเราไดขาวมาจากยานรานคา
แลววาที่ริมมหาสมุทรทางทิศตะวันออก มีมังกรวารีที่รายกาจสองสามตัวปรากฏขึ้น
และคอยกลืนกินผูบำเพ็ญเพียรอยู หนึ่งในนั้นดูเหมือนจะมีมังกรวารีสีแดงหนึ่งตัว ตอ
ใหไมใชมังกรวารีเพลิงสีชาดก็คงเปนมังกรวารีธาตุอัคคีชนิดอื่น ไปลองวัดดวงดูสัก
หนอยดีกวา
สวนวิหคตะวันฉายนั้น พวกเราไดสอบถามจากยานรานคาทางทิศใตมาแลว มี
เพียงวังเยวหยางเทานั้นที่เลี้ยงวิหคเพลิงชนิดนี้ไว ไมไปที่นั่นแลวจะใหไปที่ไหนละ?
ถึงแมวาจะไมควรไปยุงกับวังเยวหยาง แตก็ทำไดเพียงตองทำใจดีสูเสือเทานั้น” หานลี่
เอยอยางราบเรียบออกมา
‘ข า ไม ไ ด ใ ห เจ า แอบลอบเข า ไปในวั ง เย ว ห ยางนี่ เหตุ ใ ดเจ า ไม ไ ปขอตรงๆ
จำเปนตองลงมืออยางลับๆ ดวยหรือ? จากพลังยุทธระดับกอกำเนิดขั้นกลางของเจา
ในตอนนี้ เอาสมบัติหายากออกมาอีกสักสองสามชิ้น อีกฝายอาจจะเห็นแกหนาของ
เจาก็ไดนะ’ เทพขับเคลื่อนหัวเราะคิกคักออกมาขณะเอย
“ทานอาวุโสอยาลอเลนสิ แลกเปลี่ยนก็ตองเกิดขึ้นในขณะที่ทั้งสองฝายมีกำลัง
พอๆ กัน ถึงจะเกิดขึ้นได ขานอยเปนเพี ยงผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลาง
วังเยวหยางมีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายนั่งบัญชาการอยู จะสนใจพลัง
ยุทธของขาไดอยางไร และยิ่งไปกวานั้นเห็นไดชัดวาวังเยวหยางมองวาวิหคเพลิงนั่น
เปนมรดกของพรรค จะยอมใหพวกเราถอนขนมัน แลวทำใหพลังยุทธของมันไดรับ
ความเสียหายไดอยางไร และหากสมบัติที่ขาเอาออกมาแลกเปลี่ยนมีมูลคาต่ำเกินไป
วังเยวหยางก็ไมเห็นมันอยูในสายตาแน หากเอาสมบัติที่ล้ำคาเกินไปออกมา เกรงวา
จะทำใหวังเยวหยางเกิดความคิดอยากฆาคนแยงชิงสมบัติมากกวา ผูบำเพ็ญ เพียร
สันโดษจากภายนอกอยางขาคนหนึ่ง แถมยังอยูในอาณาเขตของอีกฝาย วังเยวหยาง
ไมจำเปนตองคำนึงถึงอะไรแน ขาเองก็ไมอยากเอาความปลอดภัยของตัวเองไปฝากไว
กับความคิดของอีกฝาย ถาหากมีผูพลังยุทธอยูระดับกอกำเนิดขั้นปลาย ขาก็อาจจะ
ลองทำตามที่ทานอาวุโสกลาวดู” หานลี่หัวเราะอยางเย็นชาพลางเอยออกมาเชนนี้
‘เจาก็พูดมีเหตุผล ทวา เจาหยุดพักอยูรอบๆ ชายขอบของเทือกเขามาสิบกวาวัน
แลว หรือวาจะรอใหวิหคตะวันฉายบินมาหาเอง? และยิ่งไปกวานั้นขาวาการกระทำ
ของเจา ดูเหมือนวาจะตามหาที่ไหนสักแหงอยู ตกลงคิดจะทำอะไรกันแน?’
หลังจากที่เทพขับเคลื่อนเงียบขรึมไปชั่วครู ก็จำใจตองยอมรับวาคำพูดของหานลี่
มีเหตุผลอยูเล็กนอย แตก็รูสึกสงสัยการกระทำของหานลี่ชวงนี้อยูเล็กนอย
“ไมมีอะไรหรอก แคกำลังหาที่ที่เหมาะสมในการวางกับดักเทานั้น” แววตาของ
หานลี่เปลงประกาย หัวเราะนอยๆ ขณะเอย
‘วางกับดัก? ขาวาแลววาในเมื่อเจากลายุงกับวังเยวหยาง จะตองมีแผนการชั่ว
รายอะไรแน ไหนลองเลาใหฟงซิ’ เทพขับเคลื่อนหัวเราะอยางแผวเบาออกมา
“หึๆ รอจนชนรุนหลังหาที่ที่เหมาะสมไดแลว ทานอาวุโสก็จะรูรายละเอียดเอง
แตวังเยวหยางก็มีวิหคตะวันฉายอยูสองตัว แลวควรจะลงมือกับตัวไหนละ” หานลี่
เหลือบมองไปทางใจกลางของเทือกเขาแวบหนึ่ง แลวเอยพึมพำขึ้น
‘เรื่องนี้ยังตองใหพูดอีกหรือ? วิหคตะวันฉายตัวใหญตัวนั้นไดยินวาเปนอสูรปศาจ
ที่มีพลังยุทธอยูขั้นที่แปด เจาคิดวาจะจัดการมันไดในระยะเวลาสั้นๆ รึ?’
เทพขับเคลื่อนเอยอยางไมคิดเชนนั้น
“นั่นมันก็ใช หากไมใชวาวิหควิญญาณโบราณอยางพวกมันเบิกสติปญญาไดยากอยาง
สุดๆ ไมมีทางแปลงรางเปนคนในแดนมนุษยได ไมเชนนั้นมันจะยอมใหวังเยวหยาง
ควบคุมมันทำไม ขาไมมั่นใจนักวาจะตอกรกับวิหควิญญาณที่มีความสามารถยิ่งใหญ
เชนนี้ได สวนเจาตัวเล็กนั่นไดยินวาออนแอหนอย อยูในระดับเจ็ด ตอกรกับมันนาจะ
ไมใชปญหาอะไร” หานลี่ครุนคิดเล็กนอย แลวพยักหนาเห็นดวย
‘ทวาถาหากใชขนวิหคตะวันฉายระดับแปดมาหลอมพัดตรีเปลวเพลิง อานุภาพ
จะตองเพิ่มขึ้นแน’ เทพขับเคลื่อนรูสึกเสียดายเล็กนอย
“ชางเถิด ในโลกนี้ไหนเลยจะมีเรื่องที่สมบูรณแบบเชนนั้น ตอกรกับวิหคตะวันฉาย
ระดับแปดก็ไมใชวาจะไมมีโอกาส แตแคมันเสี่ยงเกินไปหนอยเทานั้น หากเสียเวลาไป
เล็กนอย เกรงวาคงทำใหผูบำเพ็ญเพียรทั้งวังเยวหยางรูตัว ขาไมอยากถูกคนไลสังหาร
จนไดรับบาดเจ็บหนักเหมือนที่ทุงหญาเทียนหลานอีกแลว ตอกรกับวิหคตะวันฉายตัว
เล็กดีกวา จะไดปลอดภัยหนอย!” หานลี่สั่นศีรษะขณะเอย
‘อืม เจาคิดถูกแลว ทวาวิหคตะวันฉายสองตัวนี้ จะใชเวลาสวนใหญอยูในวังเยวหยาง
บางครั้งถึงจะออกมาเคลื่อนไหวนอกวังเยวหยางในระยะรอยลี้ มันไมยอมออกจากใจ
กลางของเทือกเขางายๆ หากคิดจะจับ คงตองดูวาวิธีการของเจาเปนอยางไร’
เทพขับเคลื่อนหัวเราะอยางแผวเบาออกมา พลางเอยอยางรอคอย
“เรื่องนี้โปรดวางใจ อันดับแรกขาไดใชเคล็ดวิชาดึงดูดฝน ซักถามกฎเกณฑ ที่วิห ค
ตะวันฉายจะออกจากวังจากปากของลูกศิษยวังเยวหยางกอนแลว
คนของวังเยวหยางกลัววาวิหควิญญาณทั้งสองตัวอยูดวยกันแลวจะควบคุมยาก จึงจง
ใจปลอยวิหควิญญาณทั้งสองตัวออกมาเที่ยวเลนทุกๆ เดือน นี้ก็คือโอกาสของเรา”
หานลี่หัวเราะอยางเย็นชาออกมา พลางเอยอยางมีแผนการ
‘ในเมื่อเจารูหนักเบาแลว ก็ไมตองใหตาเฒาชี้แนะอะไรอีก ทวาหามพลาดการ
ชุมนุ มซื้อขายที่ เมือ งจิ้นเด็ดขาด หุ น เชิดของขายังขาดวัตถุดิบอยูอี กสองสามชนิ ด
นาจะหาไดจากที่นั่น’ เทพขับเคลื่อนเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได พลางออกคำสั่ง
“การประมูลที่เมืองจิ้นคือหนึ่งในสามงานประมูลใหญของตาจิ้น สิบปถึงจะจัดขึ้น
ครั้งหนึ่ง ขาไมมีทางพลาดแน พอใกลจะถึงชวงเวลานั้นแลว พวกเรารีบไปเมืองจิ้นกัน
เถิ ด จากนั้ น ค อ ยไปหามั ง กรวารี ร า ยกาจทางทิ ศ ตะวั น ออกของต า จิ้ น ” หานลี่ ที่
วางแผนเชนนี้ไวในใจตั้งนานแลว จึงเอยขึ้นดวยสีหนาราบเรียบ
‘เชนนั้นก็ได แตจะวาไปแลว การเคลื่อนไหวของเจาในชวงนี้ ทำใหตาเฒารูสึกผิด
หูผิดตาจริงๆ แตเดิมตาเฒาคิดวาเจาตองรวบรวมวัตถุดิบจำนวนมากขนาดนี้ อยาง
นอยที่สุดก็ตองใชเวลาสามสี่ป คิดไมถึงวาเจาจะทำทั้งสองอยางไปพรอมๆ กัน แมแต
วิธีการขโมยหรือแยงชิง ก็ยังลงมือทำอยางไมลังเลแมแตนอย ภายในระยะเวลาสั้นๆ
เพียงหนึ่งป ก็รวบรวมวัตถุดิบไดเกือบครบ จุๆ การตัดสินใจสังหารอยางไมลังเลเปน
สิ่งที่ตาเฒาคิดไมถึงจริงๆ’ เทพขับเคลื่อนเอยชมอยางอดไมไหว แตน้ำเสียงกลับแฝง
ไวดวยเสียงหัวเราะ เห็นไดชัดวารูสึกพึงพอใจกับการกระทำของหานลี่เปนอยางมาก
“ชนรุนหลังเอยอยากรวบรวมวัตถุดิบใหครบอยางชาๆ และปลอดภัย แตเวลาไม
คอยใคร ถึงแมวาจิตวิญญาณดั้งเดิมของทานอาวุโสจะมีไมวิญญาณคอยบำรุงอยู แต
เห็ น ได ชั ด ว าอ อ นแอกวาก อ นหน ามาก ถ าหากชนรุน หลั งอยากเห็ น หุ น เชิ ด ระดั บ
กอกำเนิดของทานอาวุโสดวยตาของตัวเอง ก็ทำไดเพียงตองรีบแลว” หานลี่ชักสีหนา
น้ำเสียงหยุดชะงักเล็กนอย แลวถึงไดเอยขึ้นอยางราบเรียบๆ
‘เจาก็นับวามีความตั้งใจ ขาเองก็รูวาปดบังจิตสัมผัสของเจาไมได มากสุดคงยืน
หยัดอีกไดแคสามสี่ปกระมัง จิตวิญญาณดั้งเดิมของขาก็คงแหลกสลายไปจริงๆ แลว
ทวาดูจากความเร็วในการรวบรวมวัตถุดิบของเจาแลว กอนที่ขาจะเขาสูวัฏสงสาร
การหลอมหุนเชิดใหไดกอน ก็คงมีความหวังมากโขอยู’ เทพขับเคลื่อนหัวเราะอยาง
ขมขื่นออกมาแลวเอยขึ้นอยางจนปญญา
“ตั้งแตที่ทานอาวุโสไดพบกับชนรุนหลัง ก็ชวยเหลือชนรุนหลังมาหลายครั้งแลว
ผูแซหานไมใชคนที่ไรน้ำใจ เรื่องนี้จะจารึกอยูในหัวใจ ความปรารถนาของทานอาวุโส
ขานอยจะพยายามชวยทานอาวุโสอยางเต็มที่” หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
พลางเอยอยางเครงขรึม
‘แคกๆ ความจริงแลวขาชวยเจาก็เพื่อปกปองตัวเองเทานั้น ถึงอยางไรเสียถาหาก
ขาตกไปอยูในมือของคนอื่น เกรงวาจุดจบคงไมไดดีไปเทาไหรนัก’ เทพขับเคลื่อนเอง
ก็เอยความจริงออกมา
หานลี่คลี่ยิ้ม ทันใดนั้นรางกายพลันแวบหายไป ลำแสงสีเขียวสวางวาบ รางทั้ง
รางหายวับไปกลางสายลม อำพรางกายไปอีกครั้ง…
สองวันตอมา หานลี่พลันปรากฏตัวที่หุบเขาเล็กๆ ที่ไมใหญนักอีกแหงหนึ่ง
หุบเขานี้ถูกปกคลุมไปดวยตนทอ จนกลายเปนสีชมพู ดอกทอเบงบาน คาดไมถึง
วาจะเปนทัศนียภาพที่งดงามแหงหนึ่ง
รางของหานลี่ปรากฏขึ้นกลางอากาศเหนือหุบเขา ตรวจสอบทุกอยางในหุบเขา
แลวแผจิตสัมผัสออกไปรอบๆ ในระยะรอยลี้ ในที่สุดก็เผยสีหนาพึงพอใจออกมา
“ไมเลว ที่นี่หางไกลความเจริญมาก แถวๆ นี้ก็ไมมีผูบำเพ็ญเพียรวังเยวหยางอยู
สักคน ในหุบเขาเองก็เหมาะสมในการวางเขตอาคมเปนอยางมาก ที่นี่แหละ” หานลี่
เอยพึมพำกับตัวเอง คนก็กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งรอนลงในปาตนทอ
หานลี่ยุงอยูในหุบเขาทันที โดยไมไดเอยคำพูดใดๆ
แควางเขตอาคมก็วางไปรวดเดียวเจ็ดแปดชุด และยิ่งไปกวานั้นสวนใหญลวนเปน
เขตอาคมกักกลิ่นอาย เปนเขตอาคมหวงหามกักไอวิญญาณอะไรประเภทนี้ เขตอาคม
ที่มีประสิทธิภาพในการกักศัตรูจริงๆ นั้น มีเพียงสองสามชุดเทานั้น นอกจากนี้ยังวาง
เขตอาคมลวงตาชุดหนึ่ง ลงทามกลางเขตอาคมเหลานี้ ปกคลุมทัศนียภาพที่แทจริง
ของปาตนทอเอาไวกวาครึ่ง
เทพขับเคลื่อนมองเห็นก็รูสึกประหลาดใจ แตก็ระงับความสงสัยเอาไวไมเอยถาม
มองดูอยูขางๆ ดวยความเย็นชา
หลังจากวางเขตอาคมเสร็จแลว หานลี่กลับไมไดลงมือทำอะไรในทันที แตนั่งลง
ตรงใจกลางปาตนทอ พลางทำสมาธิ
ตอนที่ 932 วิหคตะวันฉาย
ชวงพลบค่ำของวันที่สาม ในที่สุดหานลี่ที่นั่งสมาธิอยูตลอด ก็ลืมตาขึ้น
เขาเงยหนาขึ้นมองทองฟาสีดำสีสนิท พลิกฝามือ ศิลาแสงจันทรกอนหนึ่งปรากฏ
ขึ้นในมือ โยนศิลากอนนั้นขึ้นไปกลางอากาศ ลำแสงสีขาวนวลสาดสองลงมา แผรัศมี
ไปรอบๆ ปาตนทอในบริเวณนั้น
หานลี่หยัดกายลุกขึ้นอยางเงียบๆ ควานหาปะการังสีแดงขนาดสองสามฉื่อออก
มาอีกครั้ง วางลงตรงโคนตนไมตนหนึ่ง จากนั้นพลันควักกลองหยกออกมา เปดฝา
กล อ งออก เผยให กิ่ ง ไม วิ ญ ญาณขนาดสองสามชุ น ที่ มี ใบอยู สิ บ สามใบ สมุ น ไพร
วิญ ญาณนี้มีสีขาวโพลน เปลงแสงเรืองๆ ออกมา นั่นก็คือหญ าสายรุงที่เขาเรงการ
เจริญเติบโตมันมาไมรูกี่ครั้งตอกี่ครั้งแลว!
‘นี่คือขั้นตอนที่ เจาเตรียมไวห รือ ?’ รอจนหานลี่เคลื่ อนยายหญ าสายรุงไปบน
ปะการังแลว เทพขับเคลื่อนที่กำลังงงงันก็อดไมไหวเอยปากขึ้น
ถึ ง แม ว า เขาจะเคยเห็ น หานลี่ ใ ช ส มุ น ไพรวิ ญ ญาณนี้ เลี้ ย งดู แ มลงกลื น ทอง
ประสิทธิภาพของมันก็นาเหลือเชื่อจริงๆ แตการเอาสมุนไพรชนิดนี้ออกมาในตอนนี้
ทำใหเขารูสึกสงสัยเล็กนอย
หานลี่ไดฟงคำนี้ ก็หัวเราะนอยๆ ออกมา
“ความจริงแลวสมุนไพรชนิดนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่ง เรียกวา ‘หญาลอปศาจ’ ไมตองให
พูดอะไรอีก ทานอาวุโสก็นาจะเขาใจเจตนาของชนรุนหลังแลวกระมัง”
‘หญาลอปศาจ! หรือวาเจาคิด…’ น้ำเสียงของเทพขับเคลื่อนดูถึงบางออเล็กนอย
“ใชแลว หลังจากนี้อีกหกวันก็จะเปนเวลาที่วิหคตะวันฉายตัวเล็กนั่น ถูกปลอย
ออกมาสูดอากาศ ถึงเวลานั้น หึๆ…” หานลี่หัวเราะอยางเย็นชาออกมา
ฟางฉูคือผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณขั้นกลางคนหนึ่งของวังเยวหยาง
ผูบำเพ็ญเพียรระดับนี้ มีอยูแปดในสิบคนของทั้งวังเยวหยาง ตามหลักการแลว
นาจะเปนคนที่ไมไดสลักสำคัญอะไรในวัง แตความจริงแลวกลับตรงกันขาม ไมตองพูด
ถึงผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณคนอื่น ตอใหเปนทานอาจารยลุงหรืออาจารยอา
ระดับหลอมรวม เมื่อพบฟางฉูเขาตางก็ตองมีมารยาทกับเขา ไมมีทาทีมองวาเขาเปน
เพียงชนรุนหลังเลยแมแตนอย หากภายในวังมีผลประโยชนอะไรสงมา ฟางฉูก็จะเปน
ลูกศิษยระดับสรางปราณเพียงคนเดียวที่ไดรับสิ่งนั้น
เรื่องพวกนี้ทำใหฟางฉูอยูในวังเยวหยางไดไมเลวนัก ทวาเขาเองก็รูสึกพึงพอใจอยาง
สุดๆ และรูวาทุกอยางที่เขาไดมานั้น เปนเพราะตำแหนงหนาที่การงานของเขาเทานั้น
เขาคือผูบำเพ็ญเพียรที่รับหนาที่ดูแลวิหคตะวันฉายนอยโดยเพาะ
สาเหตุ ที่ เขาถู ก เลื อ ก ก็ เพราะว าเขามี ค วามสามารถพิ เศษที่ เข าใจภาษาวิ ห ค
วิญญาณไดโดยกำเนิด คนอื่นไมมีทางแทนที่ได มิเชนนั้นจากระดับความล้ำคาของ
วิหคตะวันฉายแลว ตำแหนงนี้จะตกมาถึงเขาไดอยางไร
ถึงอยางไรเสียสิ่งที่เรียกวาดูแล เมื่อไปถึงระดับหนึ่งก็จะสามารถควบคุมวิหคตัวนี้
ได นี่นับวาไมธรรมดาแลว
แมวาวิหควิญญาณที่เขาดูแลจะมีพลังยุทธตื้นเขิน แตก็สามารถเอาชนะผูบำเพ็ญ
เพียรระดับหลอมรวมขั้นกลางได เทียบไดกับระดับกอกำเนิด นี้จึงไมนาแปลกใจเลย
วา เหตุใดผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ถึงไดรูสึกอิจฉาฟางฉู
ฟางฉูดูแลวิหควิญ ญาณโดยเฉพาะ มาเปนเวลาสามสิบกวาปแลว เขาจึงทำได
อยางคลองแคลวและชำนาญ
ปญหาเดียวก็คือ ไมวาจะนั่งสมาธิฝกบำเพ็ญเพียร เขาก็จำใจตองอยูกับวิหควิญญาณ
ทั้งวัน แมกระทั่งตอนที่ปลอยใหวิหควิญญาณตัวนี้ออกกมาสูดอากาศ บินอยางอิสระ
ครึ่งวัน เขาก็ตองจำใจออกจากการฝกบำเพ็ญเพียร คอยไลตามอยูไกลๆ เพื่อไมใหเกิด
เรื่องที่คาดไมถึงอะไรขึ้น
ทวา จุดนี้ไมทำใหฟางฉูกังวลเลยแมแตนอย
ในระยะแสนลี้ของเทือกเขาเทียนเยวลวนอยูใตการควบคุมของวังเยวหยาง จะไป
เกิดเรือ่ งอะไรไดอยางไร
เมื่อขบคิดในใจเชนนั้น วันนี้ ฟางฉูจึงติดตามวิหคตะวันฉายที่บินออกมาตั้งแตเชา
ครู อยูไกลๆ จากทางดานหลัง
วิหคตะวันฉายตัวนี้มีขนาดไมใหญนัก ประมาณสองสามจั้ง แตหางของมันก็กิน
พื้นที่กวาครึ่งไปแลว หากมองไกลๆ วิหคตัวนี้ก็ดูเหมือนนกยูงเพลิงยักษตัวหนึ่ง แตใน
ใตหลานี้ มีนกยูงที่มีขนสีแดงเพลิงที่สวยสดงดงามเชนนี้ที่ไหนกันละ
วิหควิญญาณเผยความตื่นเตนดีใจออกมาอยางเห็นไดชัด หลังออกจากเขตหวง
หามวังเยวหยางแลว ก็กระพือปกสีแดงเพลิงบินฉวัดเฉวียนอยูบนทองฟาไมหยุด ไมรู
วามีคนคนหนึ่งตามมาดานหลังเลยแมแตนอย
ถาหากใชวิธีการธรรมดาๆ ฟางฉูเองก็ไมมีทางปดบังจิตสัมผัสของวิหคตะวันฉาย
ได แตกอนออกมา เขาไดแปะยันตเก็บกลิ่นอายที่ทางวังเขียนใหเขาโดยเฉพาะลงบน
ตัวตั้งนานแลว ดังนั้นถึงแมวาพลังยุทธของเขาจะตื้นเขิน ก็ยังคงวางใจไดวาจะไมถูก
วิหคตะวันฉายพบเขา เวลานี้เห็นวิหคตัวนี้เปลงเสียงรองดวยความตื่นเตนดีใจขึ้นมา
ฟางฉูก็คลี่ยิ้มออกมา
คลุกคลีกับวิหควิญญาณมานาน แนนอนวาเขารูดีวาตอนนี้วิหคตะวันฉายกำลังดี
อกดีใจขนาดไหน ดูแลวการไดออกมาในวันนี้ คงทำใหวิหคตัวนี้อยูอยางปลอดภัยไป
อีกครึ่งเดือน
เชนนั้น วิหคตะวันฉายก็บินวนเวียนไปมาอยางไมรีบรอนเหนือวังเยวหยางอยูพักใหญ
จากนั้นพลันเปลี่ยนทิศทาง เริ่มออกไปนอกบริเวณ
ฟางฉูไมไดใสใจเลยแมแตนอย ตามนิสัยของของวิหคตัวนี้ จะบินอยูรอบๆ วังเยว
หยางในระยะรอยลี้หนึ่งรอบใหญๆ แลวถึงบินกลับมาในวังดวยความพึงพอใจ ดังนั้น
เขาจึงตามไปอยางชาๆ ดวยใบหนาราบเรียบ
แตครั้งนี้ เขาบินตามวิหคตัวนี้มาไดสามสิบกวาลี้ เรื่องแปลกประหลาดก็เกิดขึ้น
แตเดิมวิหคตะวันฉายที่กำลังตื่นเตนดีใจอยางสุดๆ หยุดชะงัก จากนั้นปากเปลง
เสียงรองแปลกๆ ออกมา มันแหลมสูงอยางสุดๆ
ฟางฉูที่อยูดานหลังไดยินเสียงรองของวิหคตัวนั้น พลันตกตะลึง ยังไมทันไดเขาใจ
วาเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นวิหคตะวันฉายตัวนั้นกระพือปกทั้งสองอยางรวดเร็ว รางกาย
กลายเปนเปลวเพลิงสีแดงสดขนาดสองสามฉื่อ เปลี่ยนทิศทางพุงแหวกอากาศออกไป
หลังจากสวางวาบสองสามครั้ง ก็กลายเปนลูกไฟยักษลูกหนึ่งพุงทะยานออกไปสอง
สามรอยจั้ง
ภาพฉากนี้ ทำใหฟางฉูนิ่งงัน ทันใดนั้นก็ตกใจจนขวัญกระเจิง
หลังจากที่เขาไดสติกลับคืนมาแลว ก็รีบรอนควักแผนปายหยกบนรางออกมา ใส
ลมปราณเขาไปอยางสุดชีวิต ปากก็เปลงเสียงรองประหลาดๆ ที่ฟงดูเหมือนเสียงรอง
ของวิหคออกมาในเวลาเดียวกัน คิดจะเรียกวิหคตะวันฉายใหกลับมา
แตวิหคตะวันฉายที่อยูทามกลางเปลวเพลิงไกลๆ นั้น ดูเหมือนวาจะไดยินเสียง
เรียก แตหลังจากที่รางกายหยุดชะงักเล็กนอย ปากก็เปลงเสียงรองที่เสียดแทงแกวหู
ยิ่งกวาเดิมออกมา พุงไปยังขอบฟาแลวหายลับไปโดยไมแมแตจะหันหัวกลับมา
ฟางฉูเห็นเชนนั้น ชั่วพริบตาใบหนาพลันซีดขาวอยางหาที่เปรียบมิได ลอยตัวอยู
กลางอากาศ คาดไมถึงวาจะในเวลานั้นจะไมรูตัววาควรทำอยางไรดี
แตหลังจากผานไปชั่วครู เขาก็นึกอะไรขึ้นได ควักยันตถายทอดเสียงแผนหนึ่ง
ออกมาจากยามเก็บของ เอยอะไรกับยันตถายทอดเสียงแผนนั้นอยางรอนรน และโยน
ยันตแผนนั้นขึ้นไปกลางอากาศอยางไมตองคิด ชั่วขณะนั้นยันตพลันกลายเปนเพลิง
ลำแสงสายหนึ่งพุงไปทางวังเยวหยาง
สวนตัวเขาเองนั้นกลับกัดฟน กำแผนปายหยกในมือแนน ขับเคลื่อนยุทธภัณฑพุง
ไปยังทิศทางที่วิหคตะวันฉายหายไป ไมวาจะไลตามทันหรือไม เขาก็ไมอาจรออยูเฉยๆ
ตรงนี้ได มิเชนนั้นหากเหลาบรรพชนมาพบเขา คงโดนโทษหนักแน
ในตอนที่ฟางฉูตั้งใจวาจะไลตามไปนั้น อสูรวิญญาณตัวอื่นๆ ในเทือกเขาเทียนเยว ก็
เปลงเสียงรองคำรามออกมาพรอมกัน
ทางทิศเหนือของเทือกเขา ลูกศิษยระดับต่ำของวังเยวหยางกำลังใชเชือกไหมเงิน
ดึงบังเหียนวิหคยักษประหลาดที่มีหัวเหมือนอีแรงเอาไว เพื่อฝนควบคุมวิหควิญญาณ
ระดับต่ำที่สูญเสียการควบคุมเปลี่ยนทิศทางไปอยางกะทันหันเหลานี้ ไมนาน ทุกคนก็
เหนื่อยจนเหงื่อแตกพลั่ก แตวิหควิญญาณใตรางก็ยังคงพยายามหันหัวกลับอยางสุดๆ
คิดจะตรงไปอีกทาง
ภายในถ้ำลึกลับแหงหนึ่งตรงขอบนอกของเทือกเขา ผูบำเพ็ญเพียรสวมหนากาก
ใสชุดสีเหลืองเขียวราวกับไมแหง กำลังใชมือใหญๆ ที่เปลงแสงสีเขียวแวววาวกดไป
บนแมงมุมสีดำสนิทความยาวสองสามฉื่อตัวหนึ่ ง ดูจากท าทางของอสูรป ศาจตรง
หนาที่กำลังแยกเขี้ยวยิงฟนแลว แววตาของคนผูนี้ก็ฉายแววตกตะลึงระคนสงสัยไม
แนนอนออกมา
ยอดเขาหนานเทียน วังเยวหยาง ภายในตำหนักลับที่ถูกเขตอาคมปกปดเอาไว
หญิงชราผมขาวสวมชุดสีมวงคนหนึ่ง กำลังใชมือลูบไปบนตัวของวิหคตะวันฉายอีกตัว
หนึ่งที่หมอบอยูเบื้องหนา วิหคตัวนี้ดูแลวเหมือนกับของฟางฉูอยางไรอยางนั้น แตแค
รางกายใหญกวาเล็กนอยเทานั้น
และหญิงชราผูนี้ก็สัมผัสไดอยางชัดเจนวา วิหควิญญาณที่อยูใตฝามือ ตั้งแตตน
จนมาถึงเวลานี้จะไมมีทาทีรอนรนเลยแมแตนอย หากไมใชเพราะนางสำแดงเคล็ดวิชา
ปลอบขวัญวิหควิญญาณตัวนี้เอาไวอยางตอเนื่อง วิหคตัวนี้ก็คงบินออกจากตำหนักลับ
ไปเชนกัน ใบหนาของนางแฝงไวดวยความประหลาดใจ อดที่จะขบคิดขึ้นมาไมได
ฟางฉูไลตามไปอยางไมเสียดายลมปราณ แตก็ถูกวิหคตะวันฉายสลัดทิ้งไปจนไม
เห็นเงาตั้งนานแลว แตเขายังมีปายหยกที่ใชสัมผัสตำแหนงของวิหควิญญาณตัวนั้นได
ดังนั้นหากอยูในอาณาบริเวณของเทือกเขาเทียนเยว จึงไมกลัววาวิหคตะวันฉายจะ
หายไป
แตเมื่อเขาบินออกมาอยางรวดเร็ว กลับพบเรื่องที่นาตกตะลึงอยางสุดๆ ขึ้น เห็น
เพียงบนพื้นดินของยอดเขา มีอสูรปศาจระดับต่ำทยอยกันบินออกมาจากรังที่ซอน
ตรงไปยังทิศทางเดียวกับวิหคตะวันฉาย บางก็วิ่งบางก็กระโดดไปทางนั้นอยางสุดชีวิต
ภายในระยะเวลาสั้นๆ ก็กลายเปนคลื่นอสูรขนาดใหญไมนอย หนึ่งในนั้นยังมีอสูร
ป ศ าจอยู จ ำนวนหนึ่ งที่ ป กติ คิ ด จะตามหาแต ก ลั บ ไม พ บรอ งรอยอยู ด วย ส วนอสู ร
ระดับสูงและวิหคที่บินไดตางก็ถูกผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงของวังเยวหยางกวาดไปจน
หมดเกลี้ยงแลว จึงไมจำเปนตองหวาดกลัวอะไร
แตถึงแมวาจะเปนเชนนี้ ฝูงอสูรและวิหคตะวันฉายที่สูญ เสียการควบคุมอยาง
กะทันหัน ก็ยังทำใหฟางฉูรูสึกประหลาดใจ และรูสึกไมสบายใจเปนอยางมาก
ภายในหองลับบนหุบเขาที่อยูหางออกไปสองสามหมื่นลี้ หานลี่กำลังนั่งสมาธิอยู
บนพื้ น เบื้ อ งหน ามี ห ญ าสายรุงที่ มี ลำแสงสี แ ดงปกคลุ ม อยู ถูกปลู กอยู บ นปะการัง
สมุนไพรวิญญาณตนนี้ผลิใบออกมาหกใบแลว ภายใตลำแสงวิญญาณที่หลอเลี้ยงอยู
จึงทำใหมันดูลึกลับอยางสุดๆ
หานลี่ในเวลานี้กลับไมไดจองเขม็งไปยังหญ าสายรุง แตดวงตาคูนั้นกลับหรี่ลง
พลางจองเขม็งไปยังสถานการณภายนอกปาตนทอ ใบหนาไรซึ่งความรูสึก
ดานนอกเขตอาคม มีอสูรวิญญาณระดับต่ำหลายสิบตัววิ่งมาใกลจะถึงแลว พวก
มันพยายามทะลวงเขตหวงหามชั้นนอกเขามา คิดจะบุกเขามากลืนกินหญาสายรุงหก
ใบในปาตนทอ ในเทือกเขาเทียนเยวคาดไมถึงวาจะมีอสูรปศาจรดับต่ำจำนวนมาก
ขนาดนี้ ชางทำใหหานลี่รูสึกประหลาดใจจริงๆ
ทวาแมจะมีอสูรปศาจระดับต่ำจำนวนมาก หานลี่กลับไมสนใจเลยสักนิด กลับ
หลับตาคูนั้นลง แผจิตสัมผัสไปทางวังเยวหยาง พลางตรวจสอบดูอยางละเอียด
จากการคาดเดาของเขา อาศัยแคอานุภาพของหญาสายรุง นาจะมีประสิทธิภาพ
ในการดึงดูดอสูรระดับเจ็ดมากที่สุด และวิหคตะวันฉายก็เปนอสูรวิญญาณ ความเร็ว
ในการบินนาจะเร็วกวาสมบัติอาคมธรรมดาๆ เปนอยางมาก ดังนั้นไมนาน ก็นาจะ
มาถึงที่แหงนี้แลว
ไมนานนัก หานลี่ที่มีใบหนาเย็นชา ก็หนาเปลี่ยนสี จูๆ พลันเบิกตาทั้งสองขางขึ้น
สองมือรายอาคม ปากก็สงเสียงหึออกมาเบาๆ ชั่วขณะนั้นพลันปลอยอาคมหลาย
สายออกไป กระตุนเขตอาคมลวงตาชั้นนอกสุด ไอหมอกสีขาวโพลนชั้นหนึ่งปรากฏ
ขึ้นบนพื้นดิน ชั่วพริบตา ก็บดบังปาตนทอไปกวาครึ่ง
และในเวลานั้น ก็มีเสียงรองคำรามของสัตวปาและเสียงเพรียกของวิหคดังขึ้น
พรอมกันจากทั้งสองฝง
ลำแสงสีเหลืองยักษสายหนึ่งและลูกไฟสีแดงสดขนาดใหญลูกหนึ่ง พุงออกมาจาก
ทั้งสองฝงพรอมกัน ดูแลวเปาหมายคงจะเปนหุบเขาที่หานลี่พำนักอยู
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ หานลี่ก็รองอุทานออกมาเบาๆ เผยสีหนาประหลาดใจ
นอยๆ ออกมา
ตอนที่ 933 ไดรับขนนก
วิหควิญญาณที่เหมือนกับวิหคเพลิงซึ่งอยูทามกลางลูกไฟ ก็ปรากฏตัวขึ้นอยาง
เลือนรางในแสงเปลวเพลิง
สวนในลำแสงสีเหลืองนั้น ก็คืออสูรปศาจหนาตาอัปลักษณ ราวกับกอนเนื้อตัว
หนึ่ง ทั่วรางกายเต็มไปดวยหนังหนาๆ หยาบๆ สีเหลือง ผิวเปนตะปุมตะป� ราวกับวา
สวมเกราะหนาๆ ชั้นหนึ่งเอาไว บนรางกายที่อวนฉุนั่นมีหัวหนูแหลมๆ และหางยาวๆ
งอกออกมา ราวกับวาเปนปศาจหนูยักษแปลงกาย
“นี่คืออสูรปศาจอะไรกัน? แปลกประหลาดขนาดนี้ แตพลังยุทธก็อยูประมาณ
ระดับเจ็ด ไมใชสิ อสูรปศาจตัวนี้ดูเหมือนวาจะบินมาจากนอกภูเขา” หานลี่รูสึกประ
หลาดใจอยางสุดๆ
‘นี่คือมังกรเกราะธรณี เปนอสูรปศาจที่หายากชนิดหนึ่ง มีชื่อเสียงในการปองกัน
และเชี่ยวชาญในการตามหาสมบัติพิภพวัตถุดิบสวรรค เรื่องดีๆ มาหาถึงหนาประตู
จริงๆ!’ เทพขับเคลื่อนกลับเอยขึ้นดวยความตกใจระคนดีใจ
“อสูรวิญญาณตัวนี้หรือ? ทำไมขารูสึกวาคุนๆ นะ” หานลี่เอยอยางนึกขึ้นได
และชั่วพริบตาที่หานลี่พูดนั้น อสูรปศาจทั้งสองตัวก็กระโจนเขาไปในหมอกสีขาว
กลางหุบเขาตามลำดับ เปาหมายก็คือหญาสายรุงดานลาง
หลังจากผานประสบการณที่ขมขื่นมา หานลี่พลันพลิกฝามือ จานอาคมสีเขียว
เข ม ใบหนึ่ งก็ ป รากฏขึ้ น บนมื อ จานอาคมเปล งแสงสว างวาบ เขตอาคมสองสาม
ชั้นนอกสุดสวางวาบขึ้นพรอมกัน คาดไมถึงวาจะปะทะเขากับวิหคตะวันฉายซึ่งพุงเขา
ในมาเขตอาคมเปนตัวตัวแรก แตเมื่อรอจนหนูมังกรเกราะธรณีในลำแสงสีเหลืองนั้น
ตามหลังมาติดๆ อยางรอนใจ เขตอาคมสองสามสายพลันปรากฏขึ้นอีกครั้ง ขวางกั้น
อสูรตัวนี้เอาไวนอกเขตอาคมในชั่วพริบตา
มังกรเกราะธรณีทั้งตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว รางทั้งรางมีแสงสีเหลืองกะพริบ
วาบขยายใหญขึ้นเปนเจ็ดแปดจั้ง เก็บมือเทาหัวและหางเขาไปในราง บนเรือนรางมี
เกราะศิลาสีเทาขาวชั้นหนึ่งปรากฏขึ้น กลายเปนกอนเนื้อกลมๆ กอนหนึ่ง ชนเขากับ
เขตอาคมอยางแรง
เสียง ‘ปง’ ดังสนั่นขึ้น แคการโจมตีเพียงครั้งเดียว ก็ทลายเขตอาคมสองสายที่อยู
ชั้นนอกสุดไดแลว จากนั้นลำแสงสีเหลืองพลันหยุดชะงัก แลวชนเขากับเขตอาคมที่
เหลืออีกครั้ง
ชั่วพริบตาที่เสียเวลาไป กลับทำใหหานลี่จับวิหคตะวันฉายตัวนั้นไวได
หลังจากที่เห็นวาวิหคตัวนั้นกระโจนเขามาในเขตอาคมแลวกระพือปกทั้งสอง
ขางขึ้นลง เปลวเพลิงสีแดงสดกลุมแลวกลุมเลาก็รวงลงมาจากทั่วทุกสารทิศ ทำใหไอ
หมอกที่อยูดานลางสลายหายไปกวาครึ่ง เผยใหเห็นปาตนทอที่งดงามสีชมพูสดใส
ภายใตมานหมอก แววตาของวิหคตัวนั้นฉายแววสวางวาบ มองปราดเดียวก็เห็นหานลี่
ที่ยืนอยูใตตนทอ รวมทั้งหญาสายรุงที่สงกลิ่นหอมที่แปลกประหลาดบนปะการังดวย
สติปญญาของวิหคตัวนั้นยังไมไดเปดออก แตหานลี่ก็ไมไดปดบังพลังยุทธระดับ
กอกำเนิดขั้นกลางเลยแมแตนอย จึงทำใหวิหควิญญาณตัวนั้นรูสึกหวาดกลัว หลังจาก
บิน โคจรอยูกลางอากาศต่ำๆ รอบหนึ่ ง ก็ ไม กล ารอนลงมา แตแ รงดึ งดู ดของหญ า
สายรุงมันมากเกินไปหนอย วิหคตัวนี้จึงยิ่งทำใจบินจากไปไมได
แตเมื่อวิหคตัวนี้ลังเล หานลี่กลับชูมือขึ้นดวยใบหนาไรความรูสึก ยันตสีดำสาย
หนึ่งพุงออกมาจากมือ ลำแสงสีดำสวางวาบ ยันตวิเศษกลายเปนกรงเล็บปศาจสีดำ
แดง ตะปบไปที่วิหคตะวันฉายตัวนั้น
วิหคตะวันฉายพลันตกตะลึง กระพือปกทั้งสองขางอยางไมตองคิด ลูกไฟขนาด
เทากำปนสามสิบกวาลูก ยิงออกมาจากปก โจมตีไปยังกรงเล็บปศาจนั่น
เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น ลำแสงสีดำพัวพันเขากับเปลวเพลิงจนสองแสงระยิบระยับ
คาดไมถึงวาในเวลานั้นจะทำใหกรงเล็บปศาจไมอาจเขามาโจมตีได
เมื่อเห็นฉากนี้ หานลี่พลันเปลงเสียงรองวาเอออกมาเบาๆ แตสองมือพลันราย
อาคม ปกสีเงินที่แผนหลังสวางจาขึ้น
หลังจากเสียงฟารองดังขึ้น หานลี่ก็สลายหายไปจากที่เดิม
ผานไปอีกเพียงชั่วครู ลำแสงสีเงินก็สวางวาบอีกครั้ง เงารางของหานลี่ปรากฏขึ้น
เหนือศีรษะของวิหคตัวนั้นสูงขึ้นไปสองสามจั้ง สองมือถูไปมาดวยสีหนาเย็นเยียบ
และชูนิ้วทั้งหาขึ้นพรอมกันอีกครั้ง
ประจุไฟฟาสีทองหนาๆ สองสามสายพุงออกมาจากใจกลางฝามือ แลวระเบิด
ออกกลายเปนตาขายสายฟาขนาดยักษผืนหนึ่งครอบลงมาจากศีรษะ
วิหคตะวันฉายกำลังมุงความสนใจไปกับการตอกรกับกรงเล็บปศาจสีดำ ภายใต
ความไมสนใจใดๆ นั้น ชั่วครูก็ถูกตาขายสายฟาสีทองหอหุมเอาไว
ชั่วขณะนั้นวิหคตัวนั้นพลันรอนรน รางกายสั่นสะทาน ขนเพลิงสวนหนึ่งรวงลงมา
โดยอัตโนมัติ กลายเปนลำแสงสีแดงหนาๆ พุงเขาไปใสตาขายสายฟา
ชั่วขณะนั้นเสียงระเบิดพลันดังขึ้นในตาขาย เสียงปงๆๆ ดังขึ้นอยางตอเนื่องไมหยุด
แววตาของหานลี่ฉายแววเย็นชาสวางวาบ สะบัดขอมือ พนคำวา “เก็บ” ออกมา
ประจุไฟฟาที่รวมตัวกันจนกลายเปนตาขาย ก็เปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง
และหดเล็กลงอยางไมกลัวเกรงการโจมตีจากแสงเปลวเพลิงเลยสักนิด เมื่อแสงสีทอง
สวางจาออกมา วิหคตะวันฉายที่กำลังดิ้นรนอยางสุดชีวิตก็ถูกประจุไฟฟาสีทองขนาด
เทาหัวแมมือรัดเอาไวอยางแนนหนาในชั่วพริบตา ไมมีทางขยับตัวไดเลยแมแตนอย
ทำไดเพียงเปลงเสียงรองแหลมๆ ออกมาจากปากเทานั้น
หานลี่มีสีหนายินดีฉายแวบผานใบหนาไป ในตอนนั้นเอง จูๆ เหนือศีรษะก็มีเสียง
‘ปง’ ดังสนั่นขึ้น
หานลี่หนาเปลี่ยนสี เงยหนาขึ้นทันที เห็นเพียงเหนือศีรษะตรงเขตอาคมชั้นนอก
สุดถูกมังกรเกราะธรณีตัวนั้นทำลายจนแหลกเปนผุยผงแลว เขตอาคมที่ใชจานอาคม
และธงอาคมวางอยางลวกๆ นั้น เปนสิ่งที่ออนแอไปหนอยเมื่อเผชิญหนากับอสูรปศาจ
ระดับเจ็ด
ทวาเมื่อมังกรเกราะธรณีตัวนั้นคืนรางจากกอนเนื้อยักษกลับมาเปนเหมือเดิมแลว
ก็กระโจนเขามาในหมอกสีขาว เมื่อเห็นวิหคตะวันฉายที่ถูกประจุไฟฟาสีทองหนาๆ
รัดเอาไวบนทองฟาและหานลี่ ดวงตาเล็กๆ สีเขียวมรกตคูนั้นก็กลอกไปมาไมหยุด
เผยทาทีตกตะลึงเหมือนมนุษยออกมา
หานลี่เห็นเชนนั้นพลันใจเตน สติปญญาของมังกรเกราะธรณีตัวนี้ดูเหมือนวาจะ
สูงสงอยางสุดๆ
เวลานี้ ดวงตาของมังกรเกราะธรณีพลันกวาดไปที่หญาสายรุงซึ่งอยูบนพื้น แวว
ตาเผยความเจาเลหออกมา จูๆ รางกายพลันเปลงแสงสีเหลืองสวางวาบ พุงลงไปยัง
พื้นดิน
‘ขวางมันเอาไว มันใชเคล็ดวิชาลี้ธรณีเปน หากสัมผัสกับพื้นดินก็จมหายไปอยาง
ไรรองรอยแลว’ เทพขับเคลื่อนเอยเตือน
“วางใจ ขาเตรียมการไวกอนแลว” เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ หานลี่กลับหัวเราะ
นอยๆ ออกมา ตอบกลับอยางไมรีบรอน
ชั่วพริบตาที่มังกรเกราะธรณีมาถึงพื้นดิน เห็นวารอบดานของหญาสายรุงไมมีใคร
อื่นอีก ก็กระโจนเขาไปดวยความดีอกดีใจ คิดจะกลืนกินมันเขาไปในคำเดียว แตชั่ว
พริบตานั้น พื้นดินรอบๆ ดานของหญาสายรุงก็มีเสียงพรึ่บๆ ดังขึ้นอยางตอเนื่อง เสน
ไหมเย็นเยียบโปรงใสแวววาวสิบสองสายก็พุงออกมาอยางไมมีเคาลางมากอน
มังกรเกราะธรณีที่อยูกลางอากาศขยับเขามาใกลอีกนิด ไมทันไดระวังตัวจึงไมมีทาง
หลบหลีกได ถูกน้ำแข็งหนาๆ ผนึกเอาไวทันที กลายเปนรูปปนน้ำแข็งสีขาวตัวหนึ่ง
ทันใดนั้นบนพื้นดินพลันมีลำแสงสีขาวสวางวาบ ชั่วครูก็มีตะขาบสีขาวหิมะขนาด
ครึ่งฉื่อสิบสองตัวกระโดดออกมา มันเงยหนาขึ้นโบกสะบัดหางไปมา ปากก็พนเสน
ไหมเย็นเยียบออกมาไมหยุด
‘ที่แทเจาก็ปลอยตะขาบเกล็ดน้ำคางหกปกไวใตดินนี้เอง ขากังวลใจเกอเสียแลว’
เทพขับเคลื่อนเห็นมังกรเกราะธรณีถูกจับเอาไว ก็หัวเราะนอยๆ ออกมา
แมวามังกรเกราะธรณี จะหนังหนา แตเมื่อเผชิญ หนากับไอเย็นเยียบที่ตะขาบ
เกล็ ด น้ ำค างหกป ก สิ บ สองตั วพ น ออกมาแล ว กลั บ ไม มี ท างใช รางกายที่ แ ข็ งแกรง
ตานทานไดเลยสักนิด สามารถการลอบโจมตีและจับกุมเอาไวไดนั้น ก็ไมใชเรื่องที่
แปลกประหลาดอะไร
“แตเดิมขาเอาไวเพื่อปองกันเรื่องที่คาดไมถึง ถึงไดวางขั้นตอนนี้เอาไวดวย คิดไม
ถึงวาจะไดใชกับมังกรเกราะธรณี” หานลี่เอยอยางราบเรียบ
จากนั้นรางกายพลันแวบหายไป หานลี่มาถึงดานหลังของวิหคตะวันฉาย สายตา
กวาดไปยังขนยาวๆ ที่หางของมัน คาดไมถึงวาจะเปลงเสียงหัวเราะออกมาเบื้องหนา
วิหควิญญาณ
“ขารู ถึงแมวาสติปญญาของเจาจะไมสูงนัก แตก็ยังฟงคำพูดของมนุษยออก ขา
ไมไดมีเจตนาจะทำรายเจา แตขนเพลิงตรงหางของเจาจะใหมันรวงลงมาเอง หรือวา
จะใหขาถอนมันออกมา” คาดไมถึงวาหานลี่จะเอยเชนนี้ออกมา
วิหคตะวันฉายที่อยูในตาขายฟงคำพูดของมนุษยออกดังคาด หานลี่เอยเชนนี้
ออกมา ชั่วขณะนั้นรางของวิหคตัวนั้นพลันสั่นสะทาน แววตาเผยความตกใจระคน
โกรธเกรี้ยวไมยินยอมออกมา ปากก็เปลงเสียงรองแหลมสูงยิ่งกวาเดิมออกมา
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม สงเสียงเหอะอยางเย็นชาออกมา ชูมือหนึ่งขึ้นโดยไมเอย
คำพูดใดๆ อีก ฝามือที่มีลำแสงสีเขียวหอหุมอยู ยื่นไปตรงหางของวิหคตัวนั้น
ในที่สุดแววตาของวิหคตะวันฉายก็ปรากฏความหวาดกลัวออกมา ขนยางๆ สอง
สามเสนตรงหางสั่นไหวดวยความจนปญญา หลังจากลำแสงสีแดงสวางวาบ ก็รวงลง
มาทั้งหมด ถึงอยางไรเสียขนยาวๆ พวกนี้ก็เชื่อมโยงกับชีพจรโลหิตและปราณแท ถา
หากฝนดึงออก รางกายจะไดรับบาดเจ็บไมนอย
หากรวงมาเอง ถึงแมวาปราณแท จะไดเสียความเสียหายไมน อยเชน กัน แต ก็
หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่กายเนื้อได
ลำแสงสีเขียวสวางวาบ หานลี่รูสึกดีอกดีใจเปนอยางมาก มือหนึ่งควาขนยาวๆ สี
แดงเพลิงสองสามเสนนั้นเอาไว อีกมือหนึ่งพลันพลิกฝามือ กลองหยกที่เตรียมเอาไว
ตั้งนานแลวปรากฏขึ้น
นำขนนกยาวๆ ใสลงไปในกลองอยางรวดเร็ว และแปะยันตวิเศษสองสามแผนลง
บนฝากลอง หานลี่ถึงจะวางใจเก็บกลองหยกลงไปในยามเก็บของ
หลังจากทำทุกอยางเรียบรอยแลว หานลี่ก็พลิกฝามือตบไปที่หัวของวิหคตะวัน
ฉายเบาๆ ลมปราณกลุมหนึ่งพุงเขาไป ทันใดนั้นวิหคตะวันฉายพลันหมดสติ
หานลี่หัวเราะออกมา กลอกตาไปมา มองไปยังมังกรเกราะธรณีที่ถูกแชแข็ง
ถึงแมวาอสูรปศาจตัวนี้จะถูกน้ำแข็งหนาๆ กักเอาไว แตก็ดูเหมือนวาจะประคอง
สติในน้ำแข็งเอาไวได เมื่อหานลี่มองปราดไปนั้น ดวงตาเล็กๆ ของอสูรปศาจคูนั้นก็
ประสานสายตาเขากับเขาพอดี และเผยสีหนาหวาดผวาอยางสุดๆ ออกมา
หานลี่กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งรอนลงมา…
ผานไปหนึ่งเคอ สายรุงสีทองอันเจิดจรัสสายหนึ่งก็สวางวาบขึ้นกลางอากาศเหนือ
หุบเขาอยางรวดเร็วราวกับสายฟา หลังจากหมุนโคจรรอบหนึ่ง สายรุงสีทองก็หมน
แสงลง หญิงชราสวมชุดสีมวงของตำหนักลับวังเยวหยาวก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ
ขางกายของนางมีอีกคนหนึ่งยืนกลั้นลมหายใจตัวเองอยู นั่นก็คือฟางฉู
และในเวลานี้ในปาตนทอไมมีเขตหวงหามตั้งนานแลว สวนคนก็วางเปลา มีเพียง
วิหคตะวันฉายที่กลายเปนเหมือนกับไกหางโลน ถูกโยนไวที่โคนตนทอเทานั้น ทาทาง
ยังคงหลับใหลไมไดสติ
เมื่อเห็นวิหคตะวันฉายตกอยูในสถานการณเชนนี้ หญิงชราพลันตะลึงงัน แผจิต
สัมผัสออกไปทันที จึงพบวาถึงแมวิหควิญญาณตัวนี้จะไมมีขนที่หาง ปราณแทไดรับ
บาดเจ็บ แตจุดอื่นๆ นั้นไมไดรับบาดเจ็บ เชนนี้นางถึงไดผอนคลายลง แตหลังจาก
เหลือบไปมองสวนหางของวิหคตะวันฉายที่ดูไมไดแลว กลับยิ่งเกิดโทสะขึ้นอีกครั้ง
“เจาดูสิวาวิหควิญญาณเปนอยางไรบาง ปลุกใหมันตื่นกอนแลวคอยวากัน”
หญิงชราออกคำสั่งดวยสีหนาเครงขรึม
ฟางฉู ที่ อ ยู ดานขางได ยิน ก็ต อบรับ อย างต อ เนื่ อ งอย างมิ ก ล าดู แ คลน รีบ รอ น
ขับเคลื่อนยุทธภัณฑลงไป
ถาหากไมใชเพราะระหวางทางเขาถูกบรรพชนของวังเยวหยางผูนี้ตามทัน และ
พามาดวยกัน อาศัยความเร็วของยุทธภัณฑของเขา ตอนนี้คงยังไมมีทางมาถึงที่นี่ได
เวลานี้ หญิ งชรามองไปทางซ ายที ข วา หลั งจากขบคิ ด แล ว ก็ ห ลั บ ตาคู นั้ น ลง
คอยๆ แผจิตสัมผัสออกไป เริ่มคนหาผูที่บังอาจหาญกลาถึงเพียงนั้น
หลังจากผานไปชั่วครู จูๆ นางพลันหนาเปลี่ยนสี ดูเหมือนวาจะพบเบาะแสอะไร
ปากก็ออกคำสั่งกับผูที่อยูดานลางสองสามประโยคอยางรวดเร็ว คนก็กลายเปนสายรุง
สีทองสายหนึ่งจากไปอยางรีบรอน
หลังจากผานไปชั่วครู นางก็มาถึงกลางอากาศหางออกไปสองสามรอยลี้ ขวางผู
บำเพ็ญเพียรที่มีทาทางประหลาดๆ ซึ่งกำลังจะออกจากเทือกเขานี้ไปเอาไว
“ขาก็วาใคร ที่แทก็สหายหมาแหงพรรคพฤกษามารนี้เอง สหายไมไดฝกบำเพ็ญ
เพียรอยูในสำนักหรือ มาทำลับๆ ลอๆ อยูที่เทือกเขาเทียนเยวทำไม? ความวุนวาย
ของอสูรปศาจเมื่อครู นายทานเปนคนทำใชหรือไม?” หญิงชราใชสายตาสงสัยจอง
เขม็งไปยังอีกฝาย พลางซักถามอยางเย็นชา
แตผูที่อยูตรงขามกลับเปนผูบำเพ็ญเพียรที่สวมหนากากสวมชุดสีเหลืองเขียวคน
หนึ่ง ดวงตาที่ปูดโปนคูหนึ่งเผยลำแสงสีทองที่ไมเหมือนมนุษยออกมา เห็นไดชัดวา
แปลกประหลาดเปนอยางมาก
ตอนที่ 934 คลื่นใตน้ำ
“หึๆ! สหายซุนมาไวเสียจริง นาเสียดายที่มาตามผิดคนแลว ขานอยแคไลตาม
อสูรป ศาจตัวหนึ่ งมาก็เท านั้น ถึงได เขามาในเทื อ กเขาของท าน เมื่ อ ครูตอนที่ อ สู ร
ปศาจระดับต่ำเกิดความวุนวายนั้น ขานอยเองก็ตกใจ คิดจะหาคนผูนั้นเหมือนกัน”
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมหนากากหัวเราะแหงๆ ออกมา เอยอยางรูสึกหวาดกลัวเปน
อยางมาก
“เหอะ! ตามอสูรปศาจมาหรือ? สหายหมาคิดวายายเฒาเลอะเลือนหรือ ทานคือ
ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลาง และยังมีชื่อเสียงในเรื่องเคล็ดวิชาหลีกหนี จะ
ปลอยให อสูรปศาจวิ่งมายังเทือกเขาเที ยนเยวของขาไดอยางไร ยิ่งไปกวานั้ น ขาก็
คนหาในระยะสองสามรอยลี้หมดแลว นอกจากสหายแลว ก็ไมพบผูบำเพ็ญเพียรที่มี
ความสามารถกระทำการเชนนี้คนอื่นอีก” หญิงชราที่มีลำแสงสีมวงปกคลุมใบหนาอยู
ชั้นหนึ่ง เอยอยางทะมึนทึบ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น หรือวาการที่อสูรปศาจเกิดความวุนวายเมื่อครูทำใหวังเยวหยาง
เสีย หาย? ขาเห็ น แกท านผู ซึ่งเป น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ ก อ กำเนิ ดขั้ น ปลาย ถึ งได มี
มารยาทเชนนี้ แตสหายคิดจะปรักปรำผูแซหมาหรือ ถึงแมวาขาจะไมใชคูมือของทาน
แตลูกศิษยในพรรคที่รูวาขาเขามาในเทือกเขาเทียนเยวนั้น ไมไดมีเพียงคนสองคน ยิ่ง
ไปกวานั้น หากผูแซหมาจนตรอกละก็ ก็ไมใชวาจะไมมีแรงสู นอกเสียจากสหายคิดจะ
เป ด ฉากต อ สู ระหวางสำนั ก มารธรรมะอี ก ครั้ง!” แววตาของผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รที่ ส วม
หนากากเปลงแสงสีทองสวางจาออกมา ทาทางหวาดกลัวเมื่อครู กลายเปนแข็งกราว
ขึ้นเล็กนอย
เมื่อเห็นการกระทำของผูบำเพ็ญเพียรที่สวมหนากาก ดวงตาคูนั้นของหญิงชราก็หรี่ลง
“เจ าไม ได ท ำจริงๆ ใชห รือ ไม ?” หลั งจากผานไปชั่ วครู นางก็ เอ ย ถามขึ้ น ด ว ย
น้ำเสียงเย็นชา
“ถาหากสหายซุนคิดวาจำเปน ผูแซหมาก็จะขอสาบานตอใจมาร! ตั้งแตเมื่อครู
จนถึ งตอนนี้ ข าน อ ยยั งไม รูเลยวาวังของท านเกิ ด อะไรขึ้ น ” ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รที่ ส วม
หนากากไดฟงคำพูดของอีกฝาย ก็รูสึกผอนคลายลง ทาทางออนลงเชนกัน ทาทีรูจัก
แข็งกราวและผอนปรนไดตามสถานการณ
“สหายไมจำเป น ตอ งสาบานอัน ใด สหายไม นาจะเป น คนทำ จากตำแหน งใน
พรรคของสหาย คิดดูแลวคงไมจำเปนตองทำเรื่องที่ตองสูญเสียตำแหนงไปเชนนี้ อีก
อยาง ยายเฒาก็ไมเคยไดยินวาสหายหมามีความสามารถในการเรียกอสูรปศาจอะไร
ทวาเพื่ออสูรปศาจตัวหนึ่ง สหายจำตองวิ่งมาถึงเทือกเขาเทียนเยวของพวกเราเลย
หรือ อสูรปศาจตัวนั้นคงไมธรรมดาสินะ ชี้แนะใหขาฟงสักหนอยไดหรือไม” หญิงชรา
มีสีหนาผอนคลายลง น้ำเสียงเองก็มีมารยาทขึ้นสองสามสวน
“จะวาไปแลวอสูรปศาจตัวนี้ก็หายากจริงๆ สำหรับผูแซห มาแลวเกรงวามันก็
สำคัญไมนอยไปกวาวิหคตะวันฉายของวังทานเลย มังกรเกราะธรณีตัวนั้นเพิ่งจะบรรลุ
ระดับเจ็ด ขาพบมันแถวๆ หัวเมืองของภูเขาหวงหลี แตอสูรตัวนี้ก็ชาญฉลาดมาก
แถมยังเชี่ยวชาญในเคล็ดวิชาลี้ธรณี ขาไลตามมันอยูหกวันหกคืน ถึงไดตามมาถึงที่นี่
จึงไมทันไดทักทายวังของทาน ก็บุกเขามาแลว” ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมหนากากเองก็รู
ว า หากไม พู ด เรื่ อ งนี้ คงไม มี ท างกำจั ด ข อ สงสั ย ของอี ก ฝ า ยได จ ริ ง ๆ จึ ง เอ ย ถึ ง
สถานการณที่ไลตามอสูรตัวนี้ทั้งหมดออกมาตรงๆ
“มังกรเกราะธรณีระดับเจ็ด? นั่นเปนอสูรปศาจที่หายากชนิดหนึ่งจริงๆ ระดับสูง
ขนาดนี้ยิ่งไมเคยไดยินมากอน มินาเลาสหายหมาถึงไดดวนตัดสินใจ ตอนนี้สหายมี
ทาทีจะจากไปแลว หรือวาจับมันไดแลว ขาแคเคยไดยินชื่อเสียงของอสูรตัวนี้ แตไม
เคยพบมังกรเกราะธรณีตัวเปนๆ มากอน สหายใหยายเฒาไดเปดประสบการณสัก
หนอยไดหรือไม” หญิงชราตกตะลึงอยางสุดๆ พลางมีทาทีสนใจขึ้นมา
“เรื่องนี้เกรงวาผูแซหมาจะตองทำให ผิดหวังแลว เมื่อครูตอนที่ อสูรป ศาจเกิด
ความวุนวายขึ้นนั้น จูๆ เคล็ดวิชาลับของขานอยก็เสื่อมประสิทธิภาพ จึงหารองรอย
ของอสูรตัวนี้ไมพบ ทวา…”
“ทวาอะไร?” หญิงชราแววตาเปลงประกาย
“ทวา ตอนที่ขานอยตามหาอสูรตัวนี้นั้น จูๆ ก็เห็นสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงแหวก
อากาศไป” รวดเร็วมาก แตกลับไมเหมือนผูบำเพ็ญเพียรจากวังทาน เดาวาคนผูนั้นคง
เกี่ยวของกับความเปลี่ยนแปลงในเทือกเขาเมื่อครู ลำแสงหลีกหนีของคนผูนี้รวดเร็ว
เกินไป ขานอยตามไปไดเพียงชั่วครู ก็ถูกคนผูนี้สลัดทิ้งอยางไรรองรอย และในตอนนี้
ยังถูกสหายซุ น ขวางเอาไวอีก” ผูบ ำเพ็ ญ เพี ย รที่ สวมหน ากากหั วเราะอย างขมขื่ น
ออกมา เอยอยางจนปญญาเล็กๆ
“สายรุงสีเขียว? หมายความวาคนผูนั้ น เพิ่ งจากไปไมน านสิน ะ! ไปทางไหน?”
หญิงชราหนาเปลี่ยนสี อดที่จะเอยถามไมได
“ตรงไปดานนอกเทือกเขา จากความสามารถของสหาย ไมแนวาอาจจะไลตาม
คนผูนั้นทัน!” ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมหนากากกลอกตาไปมา พลางเอยอยางราบเรียบ
“ขอบพระคุณสำหรับคำชี้แนะของสหายหมา ยายเฒาจะไปดูสักหนอย ในเมื่อ
มั งกรเกราะธรณี ตั วนั้ น หายไปแล ว สหายก็ อ อกไปจากเทื อ กเขานี้ เถิ ด สำนั ก มาร
ธรรมะของพวกเราแตกตางกัน ที่นี่ไมใชหนาผาพฤกษาศักดิ์สิทธิ์ของพรรคทาน รอจน
ยายเฒากลับมาแลว คงไมเห็นสหายอยูที่นี่อีก” หญิงชราไดรับขอมูลที่ตองการ ก็เอย
คำพูดขับไลในทันที จากนั้นคนก็ไมสนทนาอะไรกับผูบำเพ็ญเพียรที่สวมหนากากอีก
กลายเปนสายรุงสีทองสายหนึ่ง พุงตรงออกไปนอกเทือกเขา
“เหอะ! ยายปศาจเฒานี้รับมือยากเหมือนในขาวลือดังคาด พอไดขาวแลว คาดไม
ถึงวาจะเปลี่ยนไปในทันที สำนักมารธรรมะแตกตางกันอะไรกัน ไมใชวาสนใจมังกร
เกราะธรณี จนอยากไดมาเปนของตัวเองหรือ หึๆ หากสัมผัสของขาไมผิดไปละก็ ที่
มังกรเกราะธรณีตัวนั้นหายไปนาจะเกี่ยวของกับสายรุงสีเขียว ความเร็วของลำแสง
หลีกหนีสายนั้นไมดอยไปกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย คิดจะไลตามคน
ผูนี้ไป ไหนเลยจะเปนเรื่องงาย
ดูจากตอนที่นางมามีทาทีลนลานและเศราใจขนาดนั้น ดูเหมือนวาคนผูนั้นจะทำ
ให วังเยวห ยางเสียเปรียบครั้งใหญ อ ะไรสักอย าง นี้ เป น สิ่งที่ น ารื่น รมยจริงๆ” เมื่ อ
ลำแสงสีทองจากไปจนมองไมเห็ นเงาแลว ผูบำเพ็ ญ เพี ยรที่ สวมหน ากากถึงได เอ ย
พึมพำกับตัวเองพรอมหัวเราะเยาะเยยออกมา
จากนั้นเขาพลันกมหนาลง หลังจากเลื่อนสายตาไปที่ยามเก็บอสูรวิญญาณรอบๆ
เอวแลว แววตาก็เผยสีหนาดีอกดีใจเล็กๆ ออก
“ถึงแมวารอบนี้จะไมไดมังกรเกราะธรณี แตกลับจับแมงมุมโลหิตดำตัวหนึ่งได
นับวาไมเสียเปลา มังกรเกราะธรณีตัวนั้นถูกเจาคนนั้นเอาเปรียบ ไมรูวาคนผูนั้นใช
วิ ธี ก ารใด คาดไม ถึ ง ว า จะทำให อ สู ร ป ศ าจบ า คลั่ ง ขนาดนี้ ” ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รที่ ส วม
หนากากเผยสีหนาเคียดแคนออกมา ทันใดนั้นก็เครงขรึมขึ้น
“ไมได คนผูนั้นมีวิธีดึงดูดอสูรปศาจ เรื่องนี้ไมธรรมดา ตองรีบกลับไปรายงานให
ศิษยพี่มูฟง” ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมหนากากเงยหนาขึ้น เอยพึมพำกับตนเอง มองไป
รอบๆ ทั นใดนั้ นลำแสงสีเขียวก็สวางวาบ คนกลายเป น สายรุงสีเขียวสายหนึ่ ง พุ ง
แหวกอากาศออกไป
สวนหญิงชราแซซุนเพียวอึดใจเดียวก็พุงทะยานออกมาแลวเปนเวลาเกือบครึ่งวัน
แผจิตสัมผัสออกไปยังบริเวณรอบๆ ในรัศมีสองสามหมื่นลี้ แตก็ไมพบผูตองสงสัย จึง
ทำไดเพียงกลับมายังวังเยวหยางดวยความจนปญญาเทานั้น ทันใดนั้นก็ออกคำสั่งหาม
ไมใหลูกศิษยที่รูเรื่องแพรงพรายขาวคราวออกไป มิเชนนั้นหากพรรคอื่นๆ รูเขา จะ
กลายเปนเรื่องนาขันสำหรับโลกของผูบำเพ็ญเพียรตาจิ้น
โชคดีที่คนที่ลงมือกับวิหคตะวันฉาย แคเอาขนเพลิงของมันไป ไมไดเอาแกนอสูร
ของวิหคไป ขอแคใหวิหคตัวนี้กินยาลูกกลอนมากหนอย ภายในยี่สิบสามสิบปก็จะ
ฟนฟูปราณแทกลับมาเหมือนเดิมไดแลว
ดังนั้น การเสียเปรียบครั้งนี้ หญิ งชราจึงทำไดเพี ยงเก็บมันเอาไวภ ายในใจดวย
ความกลัดกลุม แตในเรื่องสวนตัวนั้น นางกลับสงลูกศิษยแนวหนาสวนเล็กๆ ในสำนัก
ออกไปสอบถามข าวคราวว าแถวนี้ มี ขุ ม อำนาจใดหรือ ว าตั ว ประหลาดเฒ าระดั บ
กอกำเนิดขึ้นไปตองการจะหลอมอาวุธหรือไม เพื่อจะตามหาเบาะแสของผูที่ลงมือ
สาเหตุที่นางจำตองตามหาคนผูนี้นั้น นอกจากโกรธเกรี้ยวเรื่องของวิหควิญญาณ
อยางสุดๆ แลว แนนอนวายังอยากรูวิธีการหลอกลออสูรปศาจของคนผูนั้น ถาหากรู
วิธีนี้ละก็ วันขางหนาไมวาจะสังหารอสูรเพื่อเอาแกนอสูรหรือวาฝกสอนอสูรก็งายขึ้น
มากแลว
แนนอนวาความคิดนี้ไมไดมีเพียงหญิงชราเพียงคนเดียว แทบจะในเวลาเดียวกัน
พรรคพฤกษามารที่ มี ชื่อ เสียงเที ยบเท ากั บ วังเย วห ยางก็ สงลู ก ศิ ษ ย จ ำนวนไม น อ ย
ออกไปตามหาขาวคราวอยางลับ ๆ เช น กั น วา ช วงนี้ มีผูบ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ สู งจาก
ภายนอกมาปรากฏตัวที่เขตหลงหรือไม หนาตาคุนเคยหรือไม
การเคลื่อนไหวอยางลับๆ ของสองขุมอำนาจใหญ ในเขตหลง ทำใหสำนักและ
ตระกูลตางๆ ที่หูตาวองไว รูสึกไมปลอดภัย ตางก็พากันคาดเดาสาเหตุไปตางๆ นานา
หรือวาในที่สุดแลวความสมดุลของเขตหลงจะถูกทำลายลงแลว วังเยวหยางและพรรค
พฤกษามารจะเปดสงครามกันแลวหรือ?
ขุมอำนาจเล็กๆ ตางพากันลนลาน สมาคมตางๆ พากันหดตัวลง บรรยากาศทั้ง
เขตหลง ในเวลานี้จึงเปลี่ยนเปนตึงเครียดขึ้นมา
แน น อนวาหานลี่ ไม รูวาการกระทำของตนเอง คาดไม ถึ งวาจะก อ ให เกิ ด เรื่อ ง
ใหญโตขนาดนี้
เขาในตอนนี้ อยูตรงสันเขาของภูเขารกรางนิรนามแหงหนึ่ง
ภายในหองหองที่สรางขึ้นชั่วคราว เขากำลังพิจารณาสินสงครามในมือไปพลาง
ขนนกเปลวเพลิงยาวหาเสนนี้ราวกับภาพฝนมายาอยางไรอยางนั้น พลางพูดคุยกับ
เทพขับเคลื่อนไปพลาง
‘หญิงชราที่ตามมาคนสุดทายนั่น นาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย
ของวังเยวห ยาง พลังยุท ธไมธรรมดาดั งคาด ทวาจิตสัมผัสของนางกลับธรรมดาๆ
เทานั้น จึงไมพบเจาที่เก็บซอนกลิ่นอายอยู มิเชนนั้น เจาคงมีปญหาใหญ’
เทพขับเคลื่อนดูเหมือนวาจะอารมณ ดีไมเลว คาดไมถึงวาจะใชน้ำเสียงที่ผอน
คลายเยาะเยยหานลี่
“หึๆ! อยางไรเสีย หากถึงเวลานั้นก็ใชเงาโลหิตหลีกหนีอีกครั้งก็ไดแลว ขาไมเชื่อ
วา ในใตหลานี้จะมีอสูรศักดิ์สิทธิ์จากเบื้องบนที่แยกรางมาบังเอิญพบกับขาไดอีกตัว
แลว ขาเองก็ไมมีทางเลือก หญิงชราผูนั้นไมรูวาฝกฝนลำแสงหลีกหนีอยางไร ถึงแมวา
ความเร็วของขาจะไมเชื่องชา แตก็ยังดอยกวาอีกฝายขั้นหนึ่ง จึงทำไดเพียงหาที่แอบ
กอนเทานั้น” หานลี่หัวเราะเหอะๆ ออกมาขณะเอย
‘นั่ น มั น ก็ ใ ช ทว า ถึ ง แม ว า การกระทำนี้ จ ะเสี่ ย งอั น ตรายไปหน อ ย แต ก็ ไ ด
ผลประโยชนมาไมเลวจริงๆ ไมเพียงไดขนนกเพลิงมามากขนาดนี้ ยิ่งไปกวานั้นยังได
มังกรเกราะธรณีที่หายากมาอีกตัว ถาหากฝกสอนมันไดละก็ วันขางหนาก็มีความหวัง
ในการคนหาสมบัติฟาดินมากแลว’ เทพขับเคลื่อนเอยอยางพึงพอใจ
“กลาวเชนนี้ก็ใช แตอสูรปศาจที่โตเต็มวัยไมมีทางยอมรับเจานายได ไหนเลยจะ
ฝกฝนมันไดงายๆ จะสำเร็จหรือไม ก็แลวแตวาสนาเทานั้น” หานลี่รูสึกดีอกดีใจขึ้นมา
เชนกัน แตกลับรูวามันไมงายเลย
‘ไมเปนไร ความจริงแลวการฝกสอนอสูรปศาจโตเต็มวัยนั้นไมไดยากเย็นอะไร
ขนาดนั้น โดยเฉพาะยิ่งอสูรป ศาจสติ ป ญ ญาสูงส งมากเท าไหร ก็ยิ่งฝ กสอนได งาย
เทานั้น’ เทพขับเคลื่อนกลับดูเหมือนวาจะมีประสบการณทางดานนี้ จึงเอยอยางขึ้น
อยางไมใสใจ
“โอ มีเรื่องเชนนี้ดวย!” หานลี่ขมวดคิ้วทั้งสอง เผยสีหนาประหลาดใจออกมา
‘มีหรือไม เดี๋ยวเจาก็รูเอง ขาวาสติปญญาของมังกรเกราะธรณีตัวนี้คอนขางสูง
นาจะฝกสอนไดไมยาก’
“หวังวาจะเปนเชนนั้น ทวาดัดนิสัยของอสูรตัวนี้กอนเถิด วันขางหนาคอยหา
เวลาคุยเรื่องนี้ ตอนนี้ตองจัดการขนนกเพลิงสองสามนี้อยางงายๆ กอน จากนั้นก็ไป
เขารวมการประมูลที่เมืองจิ้น ดูวาเมืองอันดับหนึ่งของตาจิ้น มีหนาตาอยางไร” หานลี่
เอยอยางมีแผนการ
‘ในตอนนั้นขาเคยไปเมืองจิ้นครั้งหนึ่ง ถึงแมวาจะเปนเพียงเมืองของคนธรรมดา
แตกลับไมธรรมดา มีพลังอำนาจไมธรรมดา’ เทพขับเคลื่อนเอยชื่นชมอยางหาไดยาก
ออกมา
“ฟงจากคำพูดของทานอาวุโส ชนรุนหลังยิ่งอยากรูแลว โชคดีที่ที่นี่หางจากเมืองจิ้นไม
ไกลนัก ใหเวลาขาจัดการวัตถุดิบเหลานี้หนึ่งวัน ก็จะออกเดินทางทันที เวลาที่เหลือ
อีกสามเดือนนั้นเหลือเฟอ” หานลี่เอยออกมาอยางเยือกเย็น
จากนั้นลำแสงสีเขียวในมือพลันสวางวาบ เหลือเพียงขนนกเพลิงเสนหนึ่ง สวนที่
เหลือนั้นหายไปอยางไรรองรอย
หานลี่โยนขนนกเพลิงนั้นขึ้นกลางอากาศ อาปากออก เพลิงทารกสีเขียวกลุมหนึ่ง
พลันหอหุมขนนกเพลิงเอาไว ดึงเพลิงบริสุท ธิ์สีแดงสดของขนนกเพลิงออกมา ชั่ว
ขณะนั้นลักษณะภายนอกของขนนกยาวพลันกลายเปนสีเขียว สวนภายในกลับเปนสี
แดง กะพริบแสงสวางวาบ ดูงดงามเปนอยางมาก และหานลี่เองก็ปดตาลงนั่งขัดสมาธิ
สองมือรายอาคม เขาสูภวังคของการทำสมาธิ
ตอนที่ 935 พบสหายเกาดวยความบังเอิญ
หลังจากผานไปหนึ่งวันหนึ่งคืน หานลี่ก็เดินออกมาจากหองหิน ออกจากสันเขา
ตรงไปยังพื้นที่ภาคกลางของตาจิ้น เมืองจิ้น เมืองใหญ อันดับหนึ่ งของคนธรรมดา
ตั้งอยูที่นั่น
เพราะวายังรุงสาง เพื่อไมใหดึงดูดความสนใจของผูอื่นๆ หานลี่จึงใชความเร็วของ
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมธรรมดาๆ เดินทางไปอยางไมรีบรอน
หลังจากนั้นไมนาน หานลี่ก็ออกจากเขตหลงอยางราบรื่น เขาสูเขตที่อยูติดกัน
แลวถึงไดเอารถวายุเคลื่อนออกมา กลายเปนลำแสงสีขาวกลุมหนึ่ง พุงแหวกอากาศ
ออกไปดวยความเร็วเต็มเหยียด
จากกลิ่นอายระดับกอกำเนิดที่หานลี่แผออกมาจางๆ บางครั้งที่พบกับผูบำเพ็ญ
เพียรระดับต่ำระหวางทาง พวกเขาก็จะหลบหลีกไปไกลๆ อยางนอบนอม ผูบำเพ็ญ
เพียรระดับกอกำเนิดในตาจิ้น คือสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ ตองแหงนหนามอง
เทานั้น แนนอนวาจึงไมกลาไมนอบนอมเลยแมแตนอย
ผานไปเดือนกวา ตอนที่เขามาในเขตจินเจียงซึ่งอยูใกลกับเมืองจิ้นนั้น หานลี่ถึงได
เก็บรถวายุเคลื่อน ลดความเร็วลง ในเวลาเดียวกันก็เก็บกลิ่นอายบนรางของตัวเองให
อยูในระดับหลอมรวม คอยๆ เดินทางอยางเชื่องชา
ถึงอยางไรเสียหากอยูในพื้นที่ของตาจิ้น จะตองมีผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงไมนอย
แนนอน เขาจึงไมอยากดึงดูดความสนใจของใคร
หลังจากผานไปอีกสิบกวาวัน หางจากเมืองจิ้นไปรอยลี้ รถมาสองลอผุพังที่ลากโดย
อาชาแกขนออกสีเหลืองกรอบคันหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวอยางชาๆ อยูบนถนนสายหลัก
ดานหนามีนักปราชญสวมชุดสีเขียวคนหนึ่งนั่งอยู หนาตาธรรมดาๆ นั่นก็คือหานลี่
เวลานี้ เขานั่ งอยู ห น ารถ รางกายโยกเยกไปมา สองตาหรี่ล งครึ่งหนึ่ ง ท าทาง
เหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น ความจริงแลวกลับกำลังแอบหลอมยาลูกกลอนวิญญาณหิมะ
ที่กินเขาไปเมื่อคราวกอน
จะวาไปแลว หลังจากที่เขาออกมาจากรอยแยกของมิติเวลา เขาก็กินยาลูกกลอน
ที่สามารถเพิ่มพลังความเย็นเยียบของน้ำแข็งไปสิบกวาเม็ดแลว
ยาลูกกลอนชนิดนี้คูควรกับการเปนยาลูกกลอนโบราณจริงๆ หานลี่เห็นไดอยาง
ชัดเจนวาเปลวเพลิงน้ำแข็งสวรรคและไอเย็นเยียบของตะขาบเกล็ดน้ำคางหกปกนั้น
บริสุทธิ์ขึ้นเรื่อยๆ สารผสมของเสนไหมที่ไมมีทางหลอมไดในเพลิงตาขายสีมวงก็คอยๆ
สลายหายไป ทำใหอานุภาพของไอเย็นเยียบเพิ่มขึ้นไมนอย
ปญหาเดียวก็คือ การหลอมยาลูกกลอนชนิดนี้ไมงายนัก ชวงระยะหางของเวลาที่
ตองกินก็แทบจะตองสามสี่เดือนกินที นี่จึงทำใหหานลี่รูจนปญญาเล็กนอย มิเชนนั้น
หากตองกินยาเดือนละเม็ด เดาวาเพลิงตาขายสีมวงคงตองใชเวลารอยกวาปถึงจะนา
กลัวอยางสุดๆ ได ไมแนวาอาจจะทำใหการฝกฝนของเขาไปถึงขั้นผนึกน้ำแข็งพันลี้ใน
ตำนาน
ทวาหากเปนเชนนี้ตอไป เพลิงตาขายสีมวงจะตองไมดอยไปกวาอิทธิฤทธิ์ระดับ
สุดยอดของสำนักมารธรรมะแนนอน เกือบจะเหนือกวาเคล็ดวิชาอื่นๆ ที่เคยควบคุม
เอาไวแทบทั้งหมด
สวนสาเหตุที่หานลี่มาปรากฏตัว ณ ที่แหงนี้ดวยรถมานั้น ก็เพราะเมืองจิ้นเปน
เมืองหลวงของคนธรรมดา ในโลกของผูบำเพ็ญเพียรตาจิ้นมีกฎที่ไมเปนลายลักษณ
อักษรอยูขอหนึ่งวา ในอาณาเขตพันลี้ของเมืองจิ้น หามตอสูและเหาะเหินเด็ดขาด
เพื่อเปนการใหเกียรติจวนขุนนางตาจิ้นของผูบำเพ็ญเพียร
ในบางมุมของตาจิ้น ผูบำเพ็ญเพียรและคนธรรมดาตางก็พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและ
กั น ทว าข อ กำหนดนี้ มี ผ ลเฉพาะกั บ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ ระดั บ ต่ ำเท านั้ น ระดั บ
กอกำเนิดหรือแมกระทั่งผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมที่เชียวชาญเคล็ดวิชาหลีกหนี
ตางก็ทำเปนไมรูไมเห็น คนประเภทนี้มีอยูเยอะนัก
ถึงอยางไรเสียผูที่ รับ หนาที่ ตรวจตราอยูทั่ วเมื อ งจิ้น ก็ ลวนเป น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
สันโดษที่จวนขุนนางจางวานมา โดยปกติแลวพลังยุทธจึงไมสูงนัก ขอแคไมถูกพบเขา
หรือวาตอนที่เขามาในเมือง ไมไดบินเขามาอยางเปดเผยก็พอแลว
หานลี่เองก็ไมแยแสเรื่องนี้เชนกัน
แตเพราะมีเวลาเหลือเฟอ บวกกับคิดจะหลอมยาลูกกลอนวิญญาณหิมะระหวาง
ทางเสี ย ก อ น ดั งนั้ น เขาจึ งรอ นลงมาในขณะที่ ยั งอยู ห างออกไปอี ก สองสามรอ ยลี้
จากนั้นก็ซื้อมาแกๆ ตัวหนึ่งมาจากตรอกเล็กๆ แลวออกเดินทางอยางเอื่อยเฉื่อย
ระหวางทาง หานลี่ยังไดพบผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำที่บางก็ขี่มาบางก็นั่งอยูบนรถ
มามาอยางซื่อๆ แตหานลี่ไมคิดจะเพิ่มความยุงยาก จึงเก็บลมปราณในรางเอาไว จน
กลายเปนเหมือนกับคนธรรมดาอยางไรอยางนั้น ผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำเหลานี้จึงไมมี
ทางดูออกไดเลยแมแตนอย และไมมีใครเขามารบกวนหานลี่
เพราะวารถมาของหานลี่ไมไดรวดเร็วนัก เมื่ออยูบนถนนสายหลักจึงมีกลุมพอคา
นักเดินทางแซงไปแลวเจ็ดแปดกลุม
หานลี่เองก็จัดการเรื่องราวของตัวเองดวยสีหนาราบเรียบ ตอนนี้กำลังสัมผัสไดถึง
ฤทธิ์ยาจางๆ ตรงจุดตันเถียน และความรูสึกเย็น สบายที่แผออกมาจากชีพ จรของ
รางกาย ตอนที่รูสึกสงบนิ่งดุจสายน้ำ จูๆ ก็ขมวดคิ้วแนน จากนั้นดานหลังรถมาพลันมี
เสียงฝเทาของอาชาที่ควบกระชั้นดังกึกกอง
สีหนาของหานลี่ไมเปลี่ยนแปลง แตดวงคาคูนั้นกลับเปดขึ้น ดึงบังเหียนในมือ
อาชาแกหลบไปอยูดานขางอยางเชื่อฟงทันที ทำใหรถมาหลบไปอยูดานขาง จากนั้น
หานลี่ถึงไดหันกลับไปมองแวบหนึ่งดวยความเฉยเมย
เห็นเพียงบนถนนดานหลังมีฝุนสีเหลืองตลบอบอวล ดานในมีธงโบกสะบัด ราว
กับวากองทัพอาชากำลังมุงมาทางนี้
หานลี่เผยสีหนาประหลาดใจออกมา
ชั่วพริบ ตาฝุน สีเหลื อ งก็ เข ามาใกล ห านลี่ เงารางของทหารม าสวมเกราะและ
หมวกเหล็กสีเงิน สะพายดาบและธนูเอาไวบนแผนหลังก็คอยๆ ปรากฏขึ้นทามกลาง
ฝุนละออง
ทหารมาเหลานี้มีรางกายกำยำแข็งแรง ผูที่เปนผูนำคือชายวัยกลางคนสวมชุดผา
ไหมที่กำลังขี่มาสีขาวที่มีขนสีเทาแซมอยูตัวหนึ่ง ตรงเอวเหน็บกระบี่ยาวเอาไว ตรง
แผนหลังมีธงปกอยู เขียนคำวา ‘หวัง (王)’ ตัวใหญๆ เอาไว และตรงกลางของเหลา
ทหารม า ก็ มี ร ถม าสี เขี ย วมรกตที่ ใช ม า พั น ธุ ดี ล ากอยู ส องสามคั น กำลั ง มุ ง เข า มา
พรอมๆ กัน รถคันนี้มีไอวิญญาณจางๆ แผออกมา พุงเขามาดวยความเร็วขนาดนี้แต
รถกลับไมสั่นคลอนแมแตนอย ราวกับวาไมมีอะไรอยูอยางไรอยางนั้น
“ยุทธภัณฑหรือ?” เมื่อหานลี่เห็นรถมา แววตาประหลาดใจก็ฉายแววสวางวาบ
แผจิตสัมผัสออกไป รถคันอื่นๆ ยังพอวา ดานในดูเหมือนวาจะมีชิ้นสวนจากสัตวที่
ตายไปแล ว กองอยู แต ร ถคั น เดี ย วที่ มี ก ลิ่ น อายของผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รแผ อ อกมานั้ น
ถึ งแม วากลิ่ น อายที่ แ ผ อ อกมาจะเบาบางมาก แต เมื่ อ ปะปนอยู กั บ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
ธรรมดาๆ ก็ชางนาแปลกประหลาดจริงๆ
หานลี่ดึงบังเหียนเอาไว ทำใหรถมาหยุดอยูขางทางเสียงเลย จะไดหลบใหกองทัพ
เหลานี้ผานไปกอน
กองทัพนี้นาจะมีอยูประมาณสามสี่รอยคน แตจากการที่ดูกองทัพเคลื่อนผานไป
ดานขางนั้น กลับเหมือนกับพายุหมุนพัดผานอยางไรอยางนั้น ทรงพลังอยางสุดๆ
แววตาของหานลี่เปลงประกายสองสามครั้ง ทหารมาเหลานี้มีกลิ่นอายชั่วราย
แฝงอยูบนราง ราวกับวาเปนทหารที่ดีและกลาหาญทั้งหมด นี่ไมใชกองทัพรักษาความ
ปลอดภัยของเมืองธรรมดาๆ เหมือนกับทหารตามชายแดนที่เขารวมการตอสูที่นอง
เลือดเปนประจำ
เขากลับเคยไดยินมาวา ถึงแมวาตาจิ้นจะมีขนาดกวางขวางจนหาที่เปรียบมิได
แตท างทิ ศตะวันออกเฉียงใต ทิ ศเหนื อและเขตแดนติ ดต อกัน นั้ น มั กจะมี สงคราม
ระหวางชาวพื้นเมืองคนธรรมดาเกิดขึ้นบอยครั้ง
และมีเพียงสถานที่ที่เกิดความวุนวายเชนนี้เทานั้น ถึงจะหลอหลอมทหารหาญที่
แทจริงขึ้นมาได
ขณะที่หานลี่กำลังครุนคิด รถสีเขียวมรกตคันหนึ่งก็วิ่งผานดานขางไป แววตาคู
หนึ่งเปลงประกายตรงหนาตางของรถ มองไปเห็นหานลี่ที่อยูดานขางอยางพอดิบพอดี
ทันใดนั้นเสียงรองอุทานอยางประหลาดใจก็ดังขึ้นในรถ
หานลี่ดูเหมือนวาจะสัมผัสอะไรได จึงอดที่ จะเงยหน าขึ้น มองไปไมได สายตา
ประสานกับแววตาที่เคยรูจักตรงหนาตางของรถมา
หานลี่ตกตะลึงเล็กๆ ยังไมทันคิดออกวาคือผูใด กองทัพนั้นก็เคลื่อนผานออกไป
ไกลแลว
จองเขม็งไปยังกองทัพที่ไกลออกไป หานลี่ขบคิดอยูชั่วครู ในที่สุดก็สายศีรษะ
ยอมแพแลวละทิ้งความคิดที่จะแผจิตสัมผัสเขาไปตรวจสอบในรถมานั้นอยางละเอียด
นั่นไมใชเพราะวาหานลี่ข้ีเกียจ แตเพราะรถสีเขียวมรกตสองสามคันนั้นมีเขตอาคมกั้น
เสียงแบบงายๆ อยู หากคิดจะแทรกเขาไป ก็ไมมีทางหลบเลี่ยงจิตสัมผัสของคนที่อยู
ในรถมาได
และคนที่ อ ยูในรถก็มีพ ลังยุท ธอยูแ ค ระดั บ ฝกปราณ หานลี่ จึงไม อยากยุงยาก
เพียงเพราะผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำเหลานั้น
หลังจากมองทหารมาเบื้องหนาจากไปอยางราบเรียบ หานลี่ถึงไดรีบเรงรถมาให
เคลื่อนไปเบื้องหนา
ครั้งนี้ เดินทางมาอีกสิบกวาลี้ เบื้องหนาก็มีทางสามแยกปรากฏขึ้น ขางทางมี
ตนไมขึ้นอยูหนาแนน โรงน้ำชาที่สรางขึ้นอยางหยาบๆ ตั้งเรียงรายอยูดานขางตนไม
มีรถมาจำนวนไมนอยที่หยุดอยูดานนอกโรงน้ำชา สวนเจาของก็เดินเขาไปใน
สถานที่ที่สรางขึ้นอยางงายๆ นี้เพื่อกินดื่ม ถึงอยางไรเสียที่นี่ก็แทบจะเปนที่พักผอน
เพียงหนึ่งเดียวของเมืองจิ้นแลว คนที่ผานทางมาสวนใหญจึงหยุดพักกันที่นี่
หานลี่กวาดสายตาไปอยางสบายๆ ก็มองเห็นทหารมาสวมเกราะสีเงินเหลานั้น
กำลังลงจากมามาพักผอนอยูขางตนไมเชนกัน รถมาสีมรกตสองสามคันนั้นก็หยุดอยู
ตรงนั้นเชนกัน แตแครถมาคันหนึ่งกำลังเปดอาอยูในตอนนี้ ดานในวางเปลา และชาย
วัยกลางคนสวมชุดผาไหมผูนั้นก็ไมไดอยูทามกลางทหารมาเชนกัน
หานลี่ขมวดคิ้วเล็กนอย แผจิตสัมผัสไปยังโรงน้ำชาสองสามแหงนั้นตามจิตสำนึก
ทันใดนั้นกระตุนรถมาดวยใบหนาราบเรียบ คิดจะผานถนนเสนนี้ไป เพื่อเดินทางตอ
แตในตอนนั้นเอง ทหารมาที่สวมเกราะคนหนึ่ง เห็นรถของหานลี่ ก็สาวเทายาวๆ
กาวเขามา ขวางทางเอาไว
หานลี่จึงรูสึกตกตะลึงอยางอดไมได
“คุณชายผูนี้แซหานใชหรือไม” ทหารมาผูนั้นทำความคารวะหานลี่ พลางเอย
อยางไมเปนมิตรและไมเปนศัตรู
“ใชแลว ขานอยแซนี้! นายทานมีธุระอันใดหรือ?” หานลี่หนาเปลี่ยนสี เอยอยาง
ผอนคลายลง
“ในเมื่อใชคุณชายหานจริงๆ เชนนั้นขานอยก็มาตามหาถูกคนแลว คุณหนูของ
ตระกูลขาเชิญคุณชายไปพักผอนในโรงน้ำชาสักหนอยขอรับ”
“คุณหนูของตระกูลเจาหรือ? อืม… เอาละ ขาจะไป” หานลี่หนาเปลี่ยนสี นึกถึง
สายตาที่เห็นในรถมาเมื่อครู หลังจากลังเลเล็กนอย ในที่สุดก็พยักหนาพลางเอยขึ้น
เขากระโดดลงจากรถมาในทันที
“เชิ ญ ขอรั บ คุ ณ หนู ข องตระกู ล ข า น อ ยเหมาโรงน้ ำ ชาเล็ ก ๆ แห ง นั้ น เอาไว
คุณชายตามขานอยมาเถิดขอรับ” ทหารผูนั้นเอยดวยน้ำเสียงทุมต่ำ และกวักมือเรียก
ไปทางดานขางตนไม ชั่วขณะนั้นทหารอีกสองคนก็เขามาชวยหานลี่จูงรถมา
หานลี่จึงตามคนผูนี้ ตรงเขาไปในโรงน้ำชาแหงหนึ่ง
ผานไปชั่วครู หานลี่ก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหนาสตรีสองคนและบุรุษหนึ่งคนในโรง
น้ำชา บุรุษผูนั้นแนนอนวาคือชายวัยกลางคนสวมชุดผาไหมอายุสี่สิบกวาปผูนั้น เขาไว
เครายาวๆ บางๆ ทาทางเยือกเย็น สตรีที่เหลือทั้งสองคนนั้นเปนหญิ งสาววัยดรุณี
และยิ่งไปกวานั้นยังเปนผูบำเพ็ญเพียร แตคนหนึ่งมีพลังยุทธอยูในระดับฝกปราณขั้น
ที่เจ็ด อีกคนหนึ่งอยูในระดับฝกปราณขั้นที่หา
“พี่หาน ไมไดพบกันหลายป คิดไมถึงวาจะไดพบกันที่นี่ บุญคุณที่ชี้แนะใหนอง
หญิงในครานั้น ยากที่จะลืมเลือนแมยามหลับฝนจริงๆ”
บุรุษผูนั้นนั่งนิ่งไมไหวติง สตรีอีกสองคนเห็นหานลี่เดินเขามา ก็ลุกขึ้นตอนรับ
ทันที สตรีที่มีพลังยุทธต่ำกวาหนึ่งในนั้น กัดริมฝปากแดงระเรื่อเล็กนอยขณะเอยขึ้น
ใบหนางดงามแฝงเอาไวดวยความปติยินดี
“ที่แทก็แมนางเฉานี้เอง ชางบังเอิญจริงๆ ตอนนั้นไมไดกลาวลา หวังวาสหายเฉา
จะไมถือ” หลังจากที่หานลี่ตกตะลึงแลว ก็ตอบกลับพรอมรอยยิ้มบางๆ
สตรีผูนี้คาดไมถึงวาจะเปนเฉาเมิ่งหรงที่เขาเคยพบในเขตเวย ตอนที่เพิ่งมาถึง
ตาจิ้นเมื่อหลายปกอน
“ตอนนั้นพี่หานคงมีธุระดวน เมิ่งหรงจะถือสาไดอยางไร ใชแลว ขาจะแนะนำให
ทานไดรูจัก ทานผูนี้คือศิษยพี่หญิงหวัง เปนผูดูแลขาในสำนักและสนิทกันดุจพี่นอง
ทานผูนี้คือทานลุงของศิษยพี่หญิงหวัง ตั้งมั่นกองทัพอยูที่หนานเจียงของตาจิ้น คือแม
ทัพจูหนานที่มีชื่อเสียง ครั้งนี้ไดรับคำสั่งใหเขาเฝาฮองเต” เฉาเมิ่งหรงในเวลานี้เริ่ม
แนะนำบุรุษวัยกลางคนและสตรีวัยดุรณีหนาตางดงามอีกคนใหหานลี่ฟง
ตอนที่ 936 เสียงเพรียกกระบี่
“แมทัพจูหนาน! ที่แทนายทานก็คือหนึ่งในแปดแมทัพที่มีชื่อเสียงของตาจิ้นนี่เอง
ผูแซหานเสียมารยาทแลว”
เมื่อไดยินวาสตรีผูงดงามผูนั้นคือศิษยพี่หญิงของเฉาเมิ่งหรง หานลี่ก็แคพยักหนา
อย างมี ม ารยาท แต เมื่ อ ได ยิ น วาบุ รุ ษ ที่ อ ยู ด านข างมี ฐ านะและอำนาจไม ธ รรมดา
ใบหนากลับเปลี่ยนสีอยางอดไมได
ถึงแมวาเขาจะรูเรื่องราชสำนักของตาจิ้นนอยมาก แตขุนนางชั้นสูงที่มีชื่อเสียง
ที่สุดในตอนนี้ของตาจิ้น เขาก็พอรูจักอยูบางเล็กนอย
แปดแมทัพ แทบจะเปนตัวแทนของการควบคุมกองกำลังทหารกวาครึ่งของราชสำนัก
ตาจิ้น แตละคนตางควบคุมกองกำลังทหารกวาลานคน คอยเฝาระวังอยูตามชายแดน
ของเมืองสำคัญ
ทวาหานลี่รูจักแคชื่อเสียงของ ‘แปดแมทัพ’ แตไมไดสนใจสิ่งที่เกี่ยวกับโลกของ
คนธรรมดานัก ไดยินวาในบรรดาแปดแมทัพ มีอยูแคสองสามคนที่เปนคนสนิทของ
ราชสำนัก สวนที่เหลือลวนเกี่ยวของกับขุมอำนาจในโลกผูบำเพ็ญเพียร แมกระทั่งมี
คนที่ขุมอำนาจตางๆ คอยชวยเหลืออยู ถึงแมวาจะเปนราชวงศตาจิ้นก็ไมมีทางลงมือ
กับพวกเขางายๆ แตในเมื่อแมทัพ จูห นานผูนี้ ไมไดมาจากราชวงศ คิดดูแลวน าจะ
เกี่ยวของกับขุมอำนาจใดสักแหง
“ฟงจากที่เมิ่งหรงกลาว ทานคือผูบำเพ็ญเพียร ขานอยเปนแคคนธรรมดา ไหน
เลยจะกลาอวดเบงตอหนาทาน” ชายวัยกลางคนเปลงเสียงหัวเราะออกมา หลังจาก
คารวะหานลี่แลว ก็เอยขึ้นอยางราบเรียบ
แนนอน หานลี่รูวาคำพูดนี้เปนเพียงคำพูดตามมารยาทเทานั้น
จากฐานะของอีกฝาย บางทีอาจจะไมมีท างสนิท สนมกับผูบำเพ็ ญ เพี ยรระดับ
กอกำเนิดได แตผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมนั้นกลับหาไดไมยาก และพลังยุทธที่
เขาแสดงให เฉาเมิ่ งหรงเห็ น เมื่ อ ก อ นหน านี้ ก็ อ ยู แ ค ระดั บ ฝ ก ปราณเท านั้ น การมี
มารยาทกับ ‘ผูบำเพ็ญเพียรผูนอย’ อยางเขาเชนนี้ คนผูนี้นาจะไมใชคนธรรมดาจริงๆ
ทวาคนผูนี้นำทัพเขามาในเมือง เหตุใดขางกายถึงไมมีผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงรวมทาง
มาดวยกัน? ชางอาจหาญไมนอยจริงๆ
เมื่อขบคิดเชนนั้น หานลี่ก็เอยคำพูดถอมตนออกมาเชนกัน
“มิกลา ทานแมทัพหวังมีมารยาทเกินไปแลว ชื่อเสียงของทานแมทัพ ถึงแมวาจะ
เปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษระดับขา ก็ยังไดยินชื่อเสียงมาเนิ่นนานแลว”
“สหายหาน ขาไดยินวาทานเคยชี้แนะการฝกบำเพ็ ญ เพียรใหศิษยนองเฉาอยู
ชวงหนึ่ง ผลลัพธคือทำใหศิษยนองหญิงบรรลุระดับขั้นไปสองขั้น ภายในระยะเวลา
สั้นๆ เพียงไมกี่ป หลังจากที่ทานอาจารยของขารูเขา แถมยังคุยโววาโอกาสของศิษย
น อ งหญิ งมาถึงแล ว ทั้ งยังกล าววาพี่ ห านอาจจะปกป ด พลั งยุ ท ธที่ แ ท จ ริงเอาไว ผู
บำเพ็ญเพียรในระดับเดียวกันไมมีทางทำเรื่องที่นาเหลือเชื่อเชนนี้ไดแน เวลานี้ บนตัว
ของสหายหานไมมีไอวิญญาณอยูเลย เห็นไดชัดวาเชี่ยวชาญในการใชเคล็ดวิชาเก็บ
กลิ่นอาย ดูแลวคำพูดของทานอาจารยคงจะไมผิดสินะ” แมนางหวังเมมปากอมยิ้ม
และเอยอยางมีเลศนัย
“เปนเชนนี้นี่เอง! พี่หาน พลังยุทธของทาน…” เฉาเมิ่งหรงเองก็ไดสติฟนคืนจากการดี
ใจที่ไดพบหานลี่ หลังจากพิจารณาหานลี่อยางงละเอียดแวบหนึ่งแลว ก็ไมมีทางสัมผัส
ถึงลมปราณที่โคจรอยูไดเลย ใบหนาจึงเผยสีหนาตื่นตระหนกออกมาอยางอดไมได
“ในตอนนั้นผูแซหานประสบอุบัติตุ รางกายไดรับบาดเจ็บหนัก พลังยุทธจึงลดลง
มาอยางรุนแรง ตอนนี้ถึงจะฟนฟูกลับมาไดเล็กนอย ไมไดมีเจตนาจะปดยังสหายเฉา”
หานลี่คลี่ยิ้มนอยๆ ออกมา ตอบกลับอยางราบเรียบ แตกลับไมคิดจะเอยถึงระดับ
พลังยุทธที่แทจริงเลยแมแตนอย
‘ศิษยพี่หญิงหวัง’ กะพริบดวงตาคูงามปริบๆ พิจารณาหานลี่อยางละเอียดอีก
รอบ ผลลัพธคือยังไมมีทางสัมผัสอะไรบนตัวของหานลี่ไดเลย จึงรูสึกตระหนกตกใจ
แตใบหนากลับฉีกยิ้มเบิกบานออกมา
“เชนนั้น สหายหานก็คือทานอาวุโสจริงๆ ศิษยนองหญิงในตอนนั้นคบหากับทาน
อาวุโสราวกับรุนเดียวกัน ทานอาวุโสคงไมถือสากระมัง”
“ทานอาวุโสอันใดกันเลา ขาน อยเป นเพี ยงผูบำเพ็ ญ เพี ยรสัน โดษคนหนึ่ งของ
ตาจิ้นเทานั้น มิไดใหความสำคัญกับเรื่องนี้ ตอนนั้นขาไดรับความชวยเหลือจากสหาย
เฉาเมิ่ง เปนสหายกันตอก็ได” หานลี่สายศีรษะ เอยอยางไมใสใจ
เฉาเมิ่งหรงไดยินคำพูดนี้ แตเดิมที่มีสีหนาเครงขรึมสลับกับสดใสไมแนนอน ใน
ที่สุดก็ฟนฟูกลับมาเปนปกติ ทันใดนั้นสองแกมก็แดงระเรื่ออยางยอมรับคำพูดของ
หานลี่โดยดุษณี
“ที่แทพี่หานก็คืออาวุโสที่มีลมปราณสูงสงจริงๆ ถึงแมวาผูแซหวังจะเปนเพียงคน
ธรรมดา แตก็ชอบคบหากับเหลาเทพเซียน ขาเห็นวาทานดูเหมือนจะอยากเขาเมือง
จิ้น เชนนั้นไปดวยกันเปนอยางไร?” ชายวัยกลางคนที่อยูดานขาง รอจนสตรีที่รักเอย
กับหานลี่จบแลว คาดไมถึงวาจะเอยชักชวนอยางสบายๆ ออกมา
“ไปดวยกัน! เอาละ เชนนั้นขานอยก็ตองรบกวนแลว” หานลี่ขบคิดเล็กนอย แลว
ตอบรับอยางสบายๆ เขากำลังอยากหาคนที่คุนเคยกับเมืองจิ้น มาอธิบายสถานการณ
ของงานประมูลใหฟงอยูพอดี
จากฐานะที่ มี ชื่อ เสียงของคนผู นี้ ถึ งแม วาจะไม ใช ผูบ ำเพ็ ญ เพี ย ร แต ก็น าจะรู
รายละเอียดอยูไมนอย
หลังจากนั้น หานลี่และสตรีทั้งสองก็พูดคุยกันอีกสองสามประโยค และทราบวา
หนาที่การงานตำแหนงขุนนางของบิดาเฉาเมิ่งหรงเปนไปอยางราบรื่น ถูกยายจาก
ตำแหนงเล็กๆ ใหมารับหนาที่เปนทูตทางการทหารในเมือง ถึงแมวาความจริงแลว
ตำแหนงจะไมไดใหญโตนัก แตกระโดดเขามาในเมืองจิ้นได ระดับก็เพิ่มสูงขึ้นมากแลว
ตอนที่บิดาเฉาเขามาในเมือง เฉาเมิ่งหรงกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยูในชวงสำคัญ
จึงไมไดเขาเมืองมาพรอมกับบิดา ครั้งนี้ศิษยพี่หญิงหวังและบิดาของนางผานมาตรงที่
พักของนางพอดี และเฉาเมิ่งหรงก็ออกจากการกักตนมาพอดี แนนอนวาจึงตามศิษยพี่
หญิงของตัวเองเขาเมืองมาดวยกัน
หานลี่พู ดคุยถึงประสบการณ ที่ ผานมาของตัวเองสองสามประโยค บอกแควา
ตนเองพักรักษาอาการบาดเจ็บอยางสันโดษอยู ณ ที่แหงนี้ ชวงนี้เพิ่งจะออกมา
นี่จึงไมมีรายละเอียดอะไรใหตองพูดถึงมากนัก
เฉาเมิ่งหรงและพวกก็ไมมีทาทีสงสัยและซักถามอะไร ถึงอยางไรเสียสภาพของ
หานลี่ตอนที่ออกมาจากกอนน้ำแข็งนั้น ไมวาผูใดเห็นแลวก็รูไดทันทีวาปราณแทของ
เขาไดรับบาดเจ็บหนัก ไมมีทางฟนฟูกลับมาเปนดังเดิมไดภายในเวลาสั้นๆ เพียงไมกี่ป
อยางแนนอน
เวลานี้ คนของโรงน้ำชาก็ยกน้ำชาจากชาพันธุดีมาบริการกาหนึ่ง หานลี่และสตรี
สองคนนั้นพูดคุยกันอีกนิดหนอย ก็ลิ้มรสน้ำชาอยางสบายอกสบายใจ
หลังจากชิมรสน้ำชาแลว ในที่สุดชายวัยกลางคนก็เอยปากถึงคัมภีรชำรุดโบราณที่
เก็บสะสมไวในจวนอยางคาดไมถึง ดูไมออกจริงๆ วาฐานะที่แทจริงของคนที่มาที่น่ีคือ
ทหารหาญ หากถูกผูคนมองวาเปนปญญาชนไสแหง ก็มีโอกาสเปนไปไดเปนมากกวา
ทวาทานแมทัพจูหนานผูนี้ ตั้งแตตนจนจบลวนพูดอยางสุภาพออนโยน พรอมกับ
อมยิ้มนอยๆ ทาทางไมธรรมดา หานลี่ก็อดประทับใจในตัวคนผูนี้ไมได เกิดความรูสึก
ดีๆ ขึ้นหลายสวน
ถึงแมวาเขาจะไมสนใจบทกวีอะไร แตเพื่อตามหาสูตรปรุงยาโบราณและเคล็ด
วิชาลับในตอนนั้น ก็อานคัมภีรโบราณมาจำนวนนับไมถวน จึงรูความลับเรื่องนี้อยูไม
นอย เมื่อเอยปากออกไปสองสามเรื่อง ก็ทำใหทานแมทัพจูหนานอดที่จะชื่นชมวายอด
เยี่ยมไมได และซักถามดวยความสนใจไมหยุด
หลังจากเอยสั้นๆ เพียงไมกี่ประโยค หานลี่และชายวัยกลางคนก็พูดคุยกันอยาง
สำราญ ปลอยใหสตรีทั้งสองนั่งเงียบๆ อยูดานขาง
ศิษยพี่หญิงหวังเห็นเชนนั้น ก็หันหนาไปสงยิ้มขมขื่นใหเฉาเมิ่งหรง ตางรูสึกกลัด
กลุมใจเล็กๆ
ทานพอของนางดีไปหมดทุกเรื่อง เวนแตปกติแลวชอบเก็บสะสมคัมภีรโบราณ
และสนใจเรื่องลับๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตกาลเปนอยางมาก ตอนนี้ ‘ทานอาวุโสหาน’ ดู
เหมือนวาจะรูเรื่องนี้ไมนอย พอเอยถึงเรื่องนี้ คาดไมถึงวาจะรูสึกสนิทสนมกันเปน
อยางมาก
เฉาเมิ่งหรงกลับไมไดคิดอะไรมากนัก แคนั่งฟงทั้งสองสนทนากันอยูดานขางอยาง
เงียบๆ บางครั้งสายตาก็กวาดไปที่ใบหนาของหานลี่ แลวชักสายตากลับอยางรวดเร็ว
คาดไมถึงวาจะเจตนาหลบตาเล็กๆ
ดวงตาสดใสของศิษยพี่หญิงหวังกลอกไปมา เห็นสถานการณเชนนี้ก็รูสึกขบขันขึ้นมา
ระหวางทางที่เปดใจกับศิษยนองหญิงเฉา นางก็รูสึกไดอยูลึกๆ วาในใจของศิษย
นองหญิงผูนี้ ดูเหมือนวาจะติดอยูกับผูที่อยูเบื้องหนาผูนี้ ในเวลาปกติที่เอยถึงเขาก็จะ
หนาแดงก่ำ ไมยอมลืมเลือน
นี่จึงทำใหศิษยพี่หญิงหวัง คิดมาตลอดวา ‘สหายหาน’ มีหนาตาหลอเหลาและ
สงาผาเผยขนาดไหน จนทำใหในยามปกติศิษยนองหญิ งมีทาทีไมสะทกสะทานตอ
ศิษยพี่รวมสำนัก คาดไมถึงวาจะฝงใจขนาดนี้
แตวันนี้ไดเห็นหานลี่ตัวจริง ก็ทำใหศิษยพี่หญิงผูนี้ตองสายศีรษะไปมาไมหยุดจริงๆ
ผูบำเพ็ญเพียรสันโดษนามวาหานลี่ที่อยูเบื้องหนาผูนี้ ไมเกี่ยวของกับคำวาหลอ
เหลาเลยแมแตนอย พูดไดแควาหนาตาธรรมดาๆ เทานั้น และยิ่งไปกวานั้นอีกฝาย
นาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณคนหนึ่ง อายุขัยก็แตกตางกับศิษยนองหญิง
ซึ่งเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำที่แทบจะไมมีหวังในการบรรลุระดับสรางปราณ ชางไม
เหมาะกับศิษยนองหญิงเลยจริงๆ!
ศิษยพี่หญิงหวังผูนี้ขบคิดในใจไปพลาง ใครครวญวาตองกำจัดดวงความโชคราย
ของสามีภรรยานี้หรือไมไปพลาง
ในสายตาของนาง ถึงแมวาหานลี่จะมีพลังยุทธสูงสงกวานาง แตในฐานะที่เปนลูก
สาวของแมทัพจูหนาน คิดจะทำใหอีกฝายรูวาเปนไปไดยากและยอมถอยออกไปเอง
ก็ไมใชเรื่องที่ยากเย็นนัก หากไมไดจริงๆ ก็ไปขอใหระดับหลอมรวมในจวนออกหนา
อีกฝายก็นาจะจากไปแตโดยดี
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ตอนนั้นที่เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญกับฟาดิน คาด
ไมถึงวาจะเปนเพราะรอยแยกมิติเวลาไมมั่นคง จึงทำใหมารปศาจจากตางแดนลวงล้ำ
เขามาในแดนมนุษย ผูแซหวังก็เพิ่งเคยไดยินเรื่องนี้จริงๆ ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอม
รวมสองทานที่อยูในจวนของขานอยก็ไมเคยกลาวถึงเรื่องนี้กับผูแซหวัง พี่หานชาง
รอบรูจริงๆ! ทำใหขานอยไดเปดประสบการณครั้งใหญแลว ทวา ขายังมีอีกเรื่องหนึ่งที่
ยังไมเขาใจ อยากจะขอคำชี้แนะสักหนอย ภูเขาเซียนที่มีนามวา ‘คุนอู’ ในตำนาน วา
กั น วาเป น ที่ พ ำนั ก ของเทพเซี ย นบนสรวงสวรรค ตอนนั้ น …” แม ทั พ จู ห นานผู นี้ ดู
เหมือนวาจะพูดคุยอยางไมจบไมสิ้น พอถามถึงเรื่องนี้เสร็จแลวก็ยังถามเรื่องอื่นตออีก
จูๆ หานลี่ที่นั่งอยูตรงขาม ก็มีเสียงเพรียกดุจเสียงครวญของมังกรดังขึ้นจากในราง
ถึงแมวาเสียงจะไมดังนัก แตผูที่นั่งอยู กลับไดยินกันอยางชัดเจน จึงอดที่จะมองมา
ทางหานลี่ดวยความตกตะลึงไมได
หานลี่หนาเปลี่ยนสี ลำแสงสีเขียวบนรางสวางวาบ รางทั้งรางสลายหายไปจากเกาอี้
สตรีทั้งสองพากันตื่นตระหนก รีบเงยหนาขึ้นมองไปรอบๆ ดาน ถึงไดพบวาหานลี่
ปรากฏตัวอยูดานนอกโรงน้ำชาอยางแปลกประหลาด กำลังเงยหนาขึ้นมองทองฟาอยู
ตรงทางเขา ใบหนาเผยสีหนาเครงขรึมออกมาเชนกัน
“สหายหานเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ? หรือวาในรางของเจามีสมบัติอาคม เจาคือผู
บำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมหรือ?” ศิษยพี่หญิงหวังเอยพึมพำกับตัวเอง เผยสีหนา
ตระหนกตกใจออกมา เฉาเมิ่งหรงที่อยูดานขาง กลับใชมือทั้งสองขางกำผาเช็ดหนาใน
มื อ เอาไวแ น น สีห น าซี ด ขาวเล็ก น อ ยขณะมองไปยั งหานลี่ โดยไม เปล งคำพู ด ใดๆ
ออกมา
“ไมมีอะไร เมื่อครูสัมผัสไดวามีสหายเกาบินแฉลบผานไป แตนาเสียดายที่รวดเร็ว
เกินไป จึงไมมีทางไลตามทันได สวนเสียงเมื่อครู มาจากกระบี่บินประจำกายในรางขา
จริงๆ ทำให ท านแม ทั พ และสหายทั้ งสองเห็ น เรื่อ งขบขั น แล ว ทว าเช น นี้ เกรงว า
ขานอยจะไมอ าจรวมทางกับ เหลาสหายได แลว ขาน อยมีธุระสำคัญ ต องขอตัวลา
กอน” หานลี่มีสีหนาสงบเยือกเย็นลงอยางรวดเร็ว ทันใดนั้นก็หันกายไปคารวะชายวัย
กลางคนและสตรีทั้งสอง พลางเอยดวยสีหนารูสึกผิด
ทันใดนั้นไมรอใหคนอื่นๆ กลาวอะไร คนก็ตบเทา กลายเปนสายรุงสีเขียวยาว
สองสามจั้งสายหนึ่ง พุงแหวกอากาศออกไป ภาพฉากนี้ ถูกเหลาพอคาสองสามคนที่
เพิ่งออกมาจากโรงน้ำชาอีกแหงเห็นเขาพอดี ทันใดนั้นคนเหลานั้นก็คุกเขาลงทำความ
เคารพทันที ในเวลาเดียวกันปากก็ตะโกนออกมาดวยเสียงอันดังวา
“เทพเซียน เทพเซียนผูยิ่งใหญผูหนึ่งเพิ่งบินขึ้นฟาไป…”
“บินไปจากทางไหน…”
โรงน้ำชารอบขางเกิดเสียงอื้ออึงขึ้น ทุกคนตางกรูกันออกมาจากโรงน้ำชา
ตอนที่ 937 ตัวตลกกระโดดโลดเตน
ผานไปเปนเวลาหนึ่งมื้ออาหาร เงารางของหานลี่ก็ปรากฏตัวขึ้นบนภูเขาที่ไมได
สูงชันนัก
เขามองไปยังประตูเมืองบานใหญยักษที่เลือนรางแตก็มองเห็นได รวมไปถึงขบวน
รถมาที่เคลื่อนไปมาอยางขวักไขวหนาหนาประตูเมือง ใบหนาเครงขรึมดุจสายธาร
‘ชางเถิด ในเมื่อรูแลววามารตนนี้อยูในตาจิ้นจริงๆ ก็นับวาเปนประโยชนที่คาดไม
ถึงแลว เจาจะไดมีโอกาสแยงชิงกระบี่บินคืนมา แตตอนนี้ไมใชโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ตอนนี้พลังยุทธของเจายังฟนฟูกลับมาไมทั้งหมด พัดตรีเปลวเพลิงก็ยังไมไดหลอม ตอ
ใหมารตนนี้เคยไดรับบาดเจ็บหนักมากอนหนาจริงๆ แตอาศัยเคล็ดวิชามารการกลืน
กินวิญญาณเขาไป ตอนนี้เดาวาคงฟนฟูกลับมาไดเจ็ดแปดสวนแลว หากปะทะกับเขา
ในตอนนี้ เจาก็มีโอกาสชนะไมมากนัก’ ในจิตสัมผัสของหานลี่ กลับมีเสียงที่ราบเรียบ
ของเทพขับเคลื่อนดังขึ้น
“ทานอาวุโสพูดไมผิด ตอใหตอนนี้ขาไลตามไปทันจริงๆ แตจะแยงกลับคืนมาได
หรือไมนั้นก็มั่นใจไดเพี ยงหนึ่ งถึงสองสวนเท านั้ น มารโบราณตนนี้ ท รงพลังเกินไป
หนอย กอนหนานี้ขาแคอยากไดกระบี่บินคืนมาเพื่อจะไดสำแดงเขตอาคมมหากระบี่
ทองคำ ถึงไดรอนใจไปหนอย ดูแลวคงตองรอใหหลอมหุนเชิดของทานและพัดเลมนั้น
เสร็จกอน คอยไปลองตามหามารตนนั้นอีกครั้ง ทวา มารตนนี้ดูเหมือนวาจะมีเรื่อง
เรงดวน ถึงไดบินไปอยางรวดเร็วขนาดนี้ แมแตการดำรงอยูของพวกเรายังไมรูสึก
เห็นไดชัดวาเขาเอากระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆาสองเลมไปก็ทำอะไรไมได ทั้งไมอาจใช
กำลังขูบังคับเพื่อใหใชงานได และก็ไมอาจตัดใจทิ้งมันไปได จากวัตถุดิบหลักของไผ
อัสนีสีทองหมื่นป บวกกับวัตถุดิบที่หายากอยางผลึกหลอมและแกนทองคำ กระบี่บิน
สองเลมนี้จึงไมใชสิ่งที่สมบัติอาคมธรรมดาๆ จะเทียบเทียมได
ยิ่งไปกวานั้ น ต อ ให อ ยากทำลายกระบี่ เล ม นี้ มี เพี ย งต อ งสู ญ เสี ย งปราณแท ไป
จำนวนมาก โดยการใชเพลิงมารคอยๆ หลอมมันทีละนิดๆ เทานั้น มารตนนี้จึงไมอาจ
ทำเรื่องที่เปลืองแรงขนาดนั้นได” หานลี่เอยพรอมกับหัวเราะอยางเย็นชาออกมา
‘นั่นมันก็ใช แตจะวาไปแลว ถาหากเจาหลอมกระบี่บินหลายสิบเลมนี้อยางตั้งใจ
โดยใชเพลิงทารกหลอมสักสี่รอยหารอยป บวกกับอานุภาพที่นากลัวของเขตอาคม
กระบี่ ไมแ นวาอาจจะไมดอยไปกวาสมบั ติวิญ ญาณก็ เป น ได’ เทพขับ เคลื่อ นถอน
หายใจออกมาเฮือกหนึ่ง พลางเอยอยางตื่นเตนอยูบาง
ตอนนั้นทานผูนี้มีห นามีตาอยางถึงที่ สุด ไมเคยเพ อฝน วาจะใชวัตถุดิบที่ ล้ำคา
เหลานี้หลอมสมบัติประจำกายของตนเองมากอน
“อืม อาจจะกระมัง ทวา ขาไมอาจเสียเวลากวาครึ่งอายุขัย เพื่ อหลอมสมบัติ
อาคมโดยเฉพาะได” หานลี่หัวเราะอยางขมขื่นออกมาขณะเอย
‘ฮาๆ เจาฉลาดปราดเปรื่องกวาตาเฒามากนัก ตอนนั้นถาหากตาเฒารอบคอบได
สั ก ครึ่งหนึ่ งของเจ า คงบรรลุ ระดั บ เทพแปลงไปตั้ งนานแลว เวลานี้ ม ารตนนั้ น มา
ปรากฏตัวในเมืองจิ้น แปดเกาสวนคงคิดจะเขารวมงานประมูล เจาเด็กนอยหาน เจา
ตองระวังตัวใหมาก อยาถูกมารตนนั้นจำไดเขาละ’
“ขอบพระคุณ ทานอาวุโสที่เปน หวง ชนรุนหลังจะระมัดระวัง ตอนแรกคิดจะ
อาศัยความสามารถของทานแมทัพจูหนาน สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการประมูล
สักหนอย ดูแลวคงตองไปหาขอมูลเอาเองแลวละ หากขาจำไมผิดละก็ ดูเหมือนวาใน
เมืองจิ้นจะมีโรงเตี๊ยมของตระกูลเฝงอยู ไปดูกันสักหนอยเถิด จะไดไมถูกบรรดาแขก
สนใจ” หานลี่เอยพึมพำดวยน้ำเสียงแผวเบา จัดระเบียบเสื้อผาบนเรือนราง แลวเดิน
ลงภูเขาไปอยางทะนงองอาจ ตรงไปยังประตูเมืองบานยักษที่อยูไกลออกไป
ถึงแมวาเมืองจิ้นจะถูกคนธรรมดาและผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำคุยโววางดงามและ
ยิ่งใหญอลังการไรคูแขงขนาดไหน แตในสายตาของหานลี่ เมื่อเทียบเมืองนี้กับเมือง
ของมหาสมุทรดาวคลั่งแลว ก็ยังหางกันอยูหลายขุม นั่นถึงจะเปนเมืองใหญ อันดับ
หนึ่งที่หานลี่เคยพบเห็นมากอน
แตเมืองจิ้นก็มีจุดพิเศษในตัวของมันเอง ไมตองพูดถึงเรื่องอื่น ในเมืองนี้นอกจาก
กำแพงชั้นนอกสุดแลว มองจากดานนอกเขามาขางใน ทุกๆ หนึ่งลี้ คาดไมถึงวาจะ
สรางกำแพงยักษขึ้นอีกหกชั้น ทุกชั้นก็สูงกวาชั้นกอนหาหกจั้ง กำแพงหินที่สูงที่สุดชั้น
สุดทาย สูงถึงสี่สิบกวาจั้ง อาศัยเพียงกำลังของคนธรรมดาสรางสิ่งเหลานี้ ก็เปนสิ่ง
มหัศจรรยที่สุดยอดจริงๆ
ทวาเมืองจิ้นนี้นอกจากจะมีกำแพงเมืองมากมายแลว ในเมืองยังแบงออกเปนสิบ
สามเขตใหญๆ เมืองหลวงทางทิศเหนือสุดกวางถึงยี่สิบสามสิบลี้ สวนเมืองที่เหลือก็
ไมไดเล็กไปกวากันเทาไหรนัก ตางมีพื้นที่กวางใหญเชนกัน ทวาเทียบกับเมืองดาวไถ
แลว ถนนหนทางและบานเรือนของเมืองจิ้น ก็เรียงกันแนนขนัดราวกับขนวัวอยางไร
อยางนั้น ตอนที่หานลี่เดินผานประตูเมืองขามผานเขตสองเขต จนไปถึงดานในของ
เมืองนั้น ก็เสียเวลาไปกวาครึ่งวันแลว
นี่จึงทำใหเขาที่ไมคุนชินกับความเร็วเชนนี้มานานแลว ไดแตมุนหัวคิ้วในใจ
ตอนนี้ หานลี่มองโรงเตี๊ยมสองชั้นที่อยูเบื้องหนา หลังจากเอาสองมือไพลหลัง
ดวยสีหนาราบเรียบแลว ก็ยังเดินเขาไป
เวลานี้ธุรกิจของโรงเตี๊ยม ถือวาไมเลว ที่นั่งกวาครึ่งถูกแขกจับจองเอาไวหมดแลว
หลั ง จากที่ ห านลี่ ก วาดตาไปอย า งสบายๆ นั้ น คนก็ ต รงไปยั ง โต ะ สำหรั บ รั บ
จายเงิน ชายวัยกลางคนทาทางเหมือนเถาแก ยืนอยูตรงนั้น
หานลี่ ม าถึ งเบื้ อ งหน าก็ ไม พู ด พล ามอะไรไรส าระ รางกายแวบหายไป บดบั ง
สายตากวาครึ่งของคนอื่นๆ เอาไว สะบัดแขนเสื้อ ปายหยกแผนหนึ่งปรากฏขึ้นบน
โตะสำหรับรับจายเงินอยางเงียบเชียบ หยกแผนนี้หงายขึ้นอยางพอดิบพอดี บนปาย
สลักตัวอักษรคำวา ‘เฝงกลางหนิง’ เอาไว
เมื่อเถาแกผูนี้เห็นปายหยกแผนนี้เขาพลันหนาเปลี่ยนสี พิจารณาหานลี่แวบหนึ่ง
แลวหยิบปายหยกแผนนั้นขึ้นพิจารณาอยางละเอียดอยูชั่วครูดวยสีหนาราบเรียบ
ชั่วครู คนผูนี้ก็เก็บแผนปายหยกไป ปากก็เอยดวยเสียงที่กดใหต่ำลงวา
“ตามขามา!”
เถาแกถือโอกาสที่แขกเหรื่อไมสนใจหันกายเดินไป เขาไปยังหองที่อยูดานขางตรง
ชั้นหนึ่งของโรงเตี๊ยม
หานลี่เองก็ตามเขาไปในนั้น
“ที่แทก็คุณชายนี้เอง ขานอยเฝงเฉวียนขอคารวะคุณชาย” เถาแกพาหานลี่เขามาใน
หองสวนตัวแลวก็สงหยกคือหานลี่ดวยสองมือทันที จากนั้นก็เอยอยางเคารพนบนอบ
ดูแลวคนผูนี้คงคิดวาเขาคือเฟงเยวที่ถูกพิษจนตายเปนแน
“หาหองที่ไมมีใครรบกวนใหขาหองหนึ่ง หามอยูในโรงเตี๊ยม ถาใหดีที่สุดคือตรงที่
ไมมีใครอยูแถวๆ นั้น เรื่องที่ขามาที่นี่มีเพียงเจารูคนเดียวก็พอแลว อยาใหคนที่สองใน
โรงเตี๊ยมรูเปนอันขาด” หานลี่ออกคำสั่งอยางไมเกรงใจ
“ขอรับ ขานอยจะจัดการที่พักใหคุณชาย คุณชายเชิญพักผอนที่นี่กอนเถิด ขอ
เวลาแคครึ่งวันก็พอแลว” เถาแกเฝงผูนี้เอยอยางไมลังเลเลยแมแตนอย ดูเหมือนวาจะ
มีความสามารถในการปฏิบัติหนาที่มากพอ
“เยี่ยม รีบไปรีบกลับละ” หานลี่พยักหนา ออกคำสั่งอยางพึงพอใจ
จากนั้นเถาแกเฝงผูนี้ก็ออกไปจากหอง ปดประตูลงอยางระมัดระวัง แลวถึงได
จากไปอยางรีบรอน
หานลี่ดึงเกาอี้ออกมาตัวหนึ่งพลางนั่งลง หลับตาทำสมาธิอยูภายในหอง
ไมรูวาผานไปนานเทาไหร หานลี่ถึงไดลืมตาทั้งสองขึ้นพรอมกับหนาเปลี่ยนสี
ดานนอกมีเสียงฝเทาดังขึ้นอีกครั้ง
หลังจากผานไปชั่วครู เถาแกเฝงผูนี้ก็เดินเขามาอยางกระตือรือรน
“คุณชาย หาที่พักไดแลว เจาของคฤหาสนถือไดวาเปนสหายเกาของขา พวกเขา
ยายออกไปนอกเมืองทั้งครอบครัวแลว ดังนั้นบานจึงวางอยู คงไมกลับมาภายในปสอง
ปนี้ ขาจัดการตกแตงใหใหมเล็กนอยแลว ยายเขาไปไดทันทีขอรับ”
“อืม ไมเลว นำทางไปเถิด” หานลี่เอยปากชมออกมาหนึ่งประโยค
“ขอบพระคุณสำหรับคำชมขอรับคุณชาย เชิญทางนี้ขอรับ” เถาแกเฝงสาวทาว
เกาไปขางหนาสองสามกาว หานลี่ก็เดินตามเขาออกจากหองไป
เมื่อเดินออกทางประตูหลังของโรงเตี๊ยม รถมากลางเกากลางใหมคันหนึ่งก็รออยู
ที่ประตู ชายชราหลังคอมคนหนึ่งนั่งอยูตรงตำแหนงของคนขับ
“นับวาเจาตั้งใจดี แมแตรถก็ยังจัดเตรียมเสร็จแลว ทวาขาไมไดบอกหรือวาอยา
ให ค นอื่ น ๆ ในโรงเตี๊ ย มรูเรื่อ งนี้ ? คนผู นี้ คื อ ใคร?” มองไปที่ ร ถม าแวบหนึ่ ง หานลี่
พิจารณาคนขับชราไวเคราสีขาวอยางละเอียดอีกครั้ง ดวงตาคูนั้นหรี่ลง
“รายงานคุณชาย ชายชราผูนี้เปนใบและหูหนวก ฟงอะไรไมออกหรอกขอรับ ยิ่ง
ไมตองพูดถึงวาจะไปพูดซี้ซั้วอะไรเลย และที่พักก็อยูหางจากที่นี่พอสมควร จึงจำตอง
นั่งรถมาขอรับ” เถาแกเฝงตอบกลับอยางนอบนอม
“เชนนี้นี่เอง ก็ได” หานลี่ขมวดคิ้ว หลังจากขบคิดเล็กนอยก็กาวขึ้นรถมาไป เถา
แกเฝงก็ตามขึ้นมาเชนกัน
ชั่วขณะนั้น ชายชราไมรอให ทั้ งสองออกคำสั่ ง ก็สะบั ดเชือกบั งเหี ยน รถมาจึง
คอยๆ เคลื่อนตัวออกไป
หานลี่ที่นั่งสมาธิอยูในรถมา หลับตาลงอีกครั้งดวยใบหนาไรความรูสึก เถาแกเฝง
นั่งกมหนาอยูที่มุมหนึ่งของรถโดยไมเอยอะไร
ความเร็วของรถที่เคลื่อนไปไมถือวาไวนัก หลังจากผานถนนสายนอยใหญมาสิบ
กวาสายแลวก็เปลี่ยนทิศทาง ตรงไปยังอีกเขตหนึ่ง
หลังจากผานไปหนึ่งชั่วยาม รถก็มาหยุดอยูเบื้องหนาลานบานที่รกรางแหงหนึ่ง รอบๆ
ไมมีที่พักอื่นอยูเลย มันตั้งตระหงานอยูอยางโดดเดี่ยว เห็นไดชัดวารกรางวางเปลา
หานลี่และเถาแกเฝงลงจากรถไปตามลำดับ
“ที่ นี่ แ หละ คุ ณ ชาย! ข า จะเข า ไปดู ก อ นว า เหล า คนรั บ ใช เก็ บ กวาดห อ งของ
คุณชายเสร็จหรือยัง” เถาแกเฝงมีใบหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม สาวเทากาวยาวๆ
ตรงไปเบื้องหนา เตรียมจะผลักประตูเขาไป
แตในตอนนั้นเอง ดานหลังพลันมีเสียงที่ราบเรียบของหานลี่ดังขึ้น
“เจาคิดจะกระโดดเขาไปในเขตอาคมเบื้องหนา แลวใหสามคนที่อยูในนั้นจัดการ
ขาหรือ!”
เถาแกเฝงไดยินคำพูดนั้นแลวพลันตกตะลึง รางกายพุงไปขางหนาอยางไมตองคิด
สองมือผลักประตูดานหนาของลานบานเขาไป คิดจะเขาไปใกลลานบานใหมากกวานี้
แตในตอนนั้นเอง เสนสีแดงสายหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นอยางแปลกประหลาดที่ทาย
ทอยของเถ าแก เฝ ง สวางวาบแล ว ทะลุ เข าไป ชั่ ว ขณะนั้ น ร างของเถ าแก เฝ งพลั น
เปลงแสงสีเพลิงออกมา ชั่วพริบตาก็สลายหายไป
ชายชราหลังคอมที่นั่งอยูบนรถมาดานขางผูนั้นเห็นการกระทำของหานลี่ก็ตะโกน
วา “ลงมือ” ดวยเสียงอันดังกอง
ทันใดนั้นพลันชูมือขึ้น มีดบินสีเขียวเขมเลมหนึ่ง กลายเปนลำแสงสีเขียวมรกต
สายหนึ่งฟนลงมา ในเวลาเดียวกันนั้น ลานบานที่แตเดิมดูเงียบเชียบไรผูคนก็มีหมอก
สีเหลืองกลุมแลวกลุมเลาปรากฏขึ้น กระจายตัวไปทั่วทั้งลานบาน จากนั้นก็มีสามงาม
บินสีดำสนิทและขวานยาวสีแดงเพลิงสองดามพุงออกมาจากหมอกสีเหลือง ตรงเขา
ไปโจมตีหานลี่พรอมกัน
หานลี่หัวเราะอยางเย็นชาออกมา สะบัดแขนเสื้อขางหนึ่งเบาๆ สายรุงสีเขียว
มรกตพุงออกมา
ลำแสงสีเขียวผืนหนึ่งมวนตัวเปนเกลียวออกมาจากแขนเสื้อ ชั่วครูก็มวนเอามีด
บินที่กลายเปนมีดลำแสงเขาไปในมานลำแสง จากนั้นก็หมุนโคจรรอบหนึ่งแลวบิน
กลับเขาไปในแขนเสื้อ
มืออีกขางหนึ่งควาไปทางยุทธภัณฑวิญญาณสามชิ้นที่บินอยูกลางอากาศอยางไม
ใสใจ ฝามือลำแสงสีเขียวเขมขางหนึ่งปรากฏขึ้นอยางแปลกประหลาด ตะปบลงมา
ดวยความรวดเร็วดุจสายฟา ชั่วครูก็ควายุทธภัณฑพวกสามงามและขวานยาวตางๆ
เอาไวในมือ ไมมีทางดีดตัวออกไดเลยแมแตนอย
ชั่วขณะนั้นในหมอกสีเหลืองพลันมีเสียงรองอุทานดังขึ้น ชายชราหลังคอมเห็น
เชนนั้นกลับสีหนาซีดขาวไรสีเลือด
คูตอสูที่อยูเบื้องหนา คาดไมถึงวาจะจัดการยุทธภัณฑของพวกเขาทั้งหมดไดโดย
ไมเปลืองแรง นั่นหมายความวาอะไร เขาจะไมรูไดอยางไร
ชายชราพลิกฝามืออยางไมตองคิด แผนยันตที่มีลำแสงโลหิตจางๆ เคลือบอยูก็
ปรากฏขึ้นในมือ เขากัดฟนพนโลหิตบริสุทธิ์ไปบนแผนยันต ยันตแผนนี้หลุดออกจาก
มือไปกลายเปนเมฆโลหิตกลุมหนึ่งหอหุมชายชราเอาไว บินพุงแหวกอากาศขึ้นไป ชั่ว
พริบตาก็หอหุมชายชราและอากาศต่ำๆ ในระยะสิบกวาจั้งเอาไว
ผูบำเพ็ญเพียรที่อยูในหมอกสีเหลืองตางก็มีปฏิกิริยาตอบสนองไมเชื่องชาเชนกัน
กลุมลำแสงหลากสีสันสามสายพุงออกมาจากในนั้น จากนั้นก็แตกกระจายออก พุงไป
คนละทิศละทาง
ตอนที่ 938 พลังของสามซากศพ
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม ดีดนิ้วไปทางสามคนที่ถอนทัพไป ไอกระบี่สามสายฟนลง
มา สามคนนั้นบินออกมาไดสองสามจั้ง ก็ถูกไอกระบี่สีเขียวเขมหอหุมเอาไว
เสียงรองอันนาเวทนาสามเสียงดังออกมาจากไอกระบี่ จากนั้นฝนโลหิตก็โปรย
ปรายลงมา กลิ่นคาวเลือดพลันคละคลุง
ชายชราหลังคอมที่อยูในมานหมอกโลหิตอีกดานหันหนาไปเห็นฉากนั้นเขา ก็
ตกใจจนขวัญกระเจิง ใสลมปราณทั้งรางไปในหมอกโลหิตอยางไมสนใจผลที่จะตามมา
ชั่วพริบตาความเร็วก็เพิ่มขึ้นอีกสามสวน มองเห็นถนนสายหนึ่งที่อยูหางออกไปยี่สิบ
สามสิบจั้ง
เขาไมคิดวาตัวเองจะสลัดการไลสังหารของหานลี่ได แตขอแคตนเองหนีไปปะปน
กับฝูงชนคนธรรมดาได อีกฝายก็นาจะหวาดกลัวและไมสะดวกที่จะลงมือนัก กวาครึ่ง
คงรักษาชีวิตนอยๆ เอาไวไดชั่วคราว
แตห านลี่ที่ยืนอยูที่เดิมไมขยับเขยื้อนกลับหัวเราะอยางเย็นชาออกมา ชี้ไปยัง
หมอกโลหิตที่อยูไกลออกไปชาๆ เสนสีแดงที่สังหารเถาแกเฝงสายนั้นพลันปรากฏขึ้น
เบื้องหลังหมอกโลหิตหางออกไปสองสามจั้ง จากนั้นลำแสงพลันสวางวาบ ทะลุผาน
หมอกโลหิตไป
หลังจากที่เสียงรองคร่ำครวญดังขึ้น หมอกโลหิตพลันสลายตัวออก ชายชราหลัง
คอมรวงลงสูพื้นพสุธา จากนั้นมือลำแสงสีเขียวกลับบินเขามาอยางรวดเร็วราวกับภูตผี
อยางไรอยางนั้น โยนยุทธภัณฑสามชิ้นทิ้งไป แตกลับควาชายชราเอาไว หลังจากหมุน
วนโคจรรอบหนึ่ง ก็บินมาหาหานลี่
เสนสีแดงสายนั้นพลิ้วไหวกลางอากาศ จากนั้นก็สลายหายไป เหลือรองรอยจางๆ
เอาไว แตตอมา มันก็ปรากฏขึ้นเบื้องหนาของหานลี่อีกครั้ง
หานลี่ชูมือขึ้น มันคอยๆ รอนลงสูฝามือของหานลี่ คาดไมถึงวาจะเปนเข็มบิน
ยาวสองสามชุนเลมหนึ่ง
เข็มนี้โปรงแสงแวววาว ไมใชทองและไมใชไม ผิวของมันเปลงแสงสีแดงที่ชัดเจน
บางเลือนรางบางออกมา ชางแปลกประหลาดจริงๆ
หานลี่กวาดตามองเข็มบินในมือแวบหนึ่ง ใบหนาเผยสีหนาพึงพอใจออกมา เขา
ใชผลึกที่กลายเปนแกนอสูรหลอมเข็มบินเลมนี้ขึ้นมาดวยความพยายามและทุมเทไป
ไมน อ ย ดูแลวอานุ ภ าพของมั น ก็ไม น อยจริงๆ อย างน อ ยที่ สุดความเร็วของมั น กั บ
ประสิทธิภาพในการลองหน ก็เปนไปตามที่เขาคาดหวังไว และยิ่งไปกวานั้นมันคือ
สมบัติอาคม ถาหากหลอมเพิ่มละก็ อานุภาพของมันยังเพิ่มขึ้นไดอีกระดับ
เขาพลิกฝามือ เข็มบินสลายหายไป ถูกเก็บเขาไปในราง จากนั้นถึงไดเงยหนาขึ้น
มองไปทางชายชราหลังคอมที่ถูกมือลำแสงจับกลับมา ดวยใบหนาไรความรูสึก
ชายชราในเวลานี้ ทรวงอกมีรูเล็กๆ ขนาดเทาหัวแมมือปรากฏขึ้น รางกายกวาครึ่งถูก
มือลำแสงจับเอาไวแนน ไมมีทางกระดิกตัวไดเลยแมแตนอย ใบหนาไรซึ่งสีโลหิต
เวลานี้ เห็ น หานลี่ ม องมา ชายชราพลั น ฝ น ยิ้ ม ด วยความหวาดกลั ว ปากก็ เอ ย
ประโยคประจบสอพลอเปนพัลวัน
“เขาใจผิด เปนเรื่องเขาใจผิดทั้งหมดขอรับ ทานอาวุโสมีความสามารถขนาดนี้
จะตองไมใชคนที่พวกเราตามหาอยางแนนอน ชนรุนหลังตามคนผิดขอรับ ทานอาวุโส
ผูยิ่งใหญมีกำลังมากขนาดนี้ โปรดอยาถือสาชนรุนหลังที่มีความรูตื้นเขินเลย ชนรุน
หลังคือคนของตระกูลขงแหงกวนหนิง ทานอาวุโสอยากถามอะไร ชนรุนหลังจะบอก
ทานทั้งหมด…”
ชายชราดูเหมือนจะรูวาจุดจบของตัวเองคงไมดีเทาไหรนัก จึงรีบพูดออกมาอยาง
ไมคิดยกใหญ หวังวาจะมีสักประโยคที่ถูกใจอีกฝาย และไวชีวิตของตนเอง
แตหานลี่ในตอนนี้กลับชูมือขึ้น ยันตสายหนึ่งพุงไปยังรางของชายชรา เสียงออนวอน
จากปากของชายชราพลันหายไป ชั่วพริบตาสองตาพลันเปลี่ยนเปนเลื่อนลอยไรสติ
“ไมจำเปนตองวุนวายขนาดนั้น เรื่องที่ผูแซหานอยากรู ไปหาเองจะวางใจกวา”
หานลี่เอยพึมพำดวยน้ำเสียงแผวเบา กวักมือเรียกยุทธภัณฑวิญญาณสองสามชิ้นที่อยู
บนพื้น ดูดมันเขามาในมือ แลวหันกายเดินเขาไปในลานบาน
มือใหญสีเขียวที่กำชายชราเอาไว ลอยตามหานลี่เขามาในลานบาน
ในลานบานมีเขตอาคมปดกั้นการมองเห็นงายๆ วางเอาไว จึงไมอาจเขาตาหานลี่
ได หลังจากปลอยอาคมสองสามสายออกมาจากมือ เขตอาคมนี้ก็ถูกทลาย
จากนั้นจึงพาชายชราเขาไปในหองหองหนึ่งในบาน
หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่งมื้ออาหาร หานลี่พลันโบกมืออยางสบายๆ ใชลูก
บอลเพลิงลูกหนึ่งเผาชายชราที่อยูบนพื้นจนกลายเปนเถาถาน
ทำใหเขาหายตัวไปอยางไมมีผูใดลวงรู จากนั้นก็นั่งลงบนเกาอี้ไมตัวหนึ่งที่อยูใน
หอง มือหนึ่งเทาคางพลางขบคิด
‘เคล็ดวิชาดึงดูดฝน’ ที่ เขาใชไปอยางไมกังวลวาสติปญ ญาของอีกฝายจะเป น
อยางไรเมื่อครู ก็แทบจะควักสิ่งที่ชายชรารูทั้งหมดออกมาจนเกลี้ยง
ชายชราหลังคอมผูนี้เปนเหมือนกับที่เขากลาวไวเมื่อครู
เปนผูคุมกฎในเมืองจิ้นของตระกูลขง คนผูนี้มีความสามารถมากมาย สองปกอน
เถาแกเฝงผูนั้นถูกคนผูนี้พบเขา แลวใชอำนาจควบคุมเพียงเพราะเรื่องเล็กๆ จึงจำใจ
ตองยอมศิโรราบใหตระกูลขง ถึงอยางไรเสียคนธรรมดาคนหนึ่ง ไหนเลยจะกลาคิด
ตอกรกับผูบำเพ็ญเพียร
และที่ ห านลี่ ม าในครั้งนี้ ก็ เพราะใช ป ายหยกของเฟ งเย วม าตามหาเถ าแก เฝ ง
แนนอนวาจึงถูกคนผูนี้ขายใหกับชายชรา คิดจะหาความดีความชอบจากสิ่งนี้
ผลลัพธคือเมื่อชายชราไดยินวาคุณ ชายจากตระกูลเฝงที่ตระกูลตามหามาเนิ่น
นาน จึงดีใจจนแทบบา ไมมีทางพลาดโอกาสนี้ไป ทันใดนั้นจึงวางกับดึก แลวเตรียม
ออกโรงโจมตี ‘เฟงเยว’ ผูนี้ดวยตนเอง
แตเมื่อหานลี่ออกมาจากโรงเตี๊ยม ก็มองออกวาชายชราผูนี้ใชเคล็ดวิชาเก็บกลิ่นอาย
ระดับต่ำอยู ทั้งที่รูวาเถาแกเฝงมีปญหา แตก็ไมไดหวาดกลัวผูบำเพ็ญเพียรระดับสราง
ปราณคนหนึ่ งอะไร ในโรงเตี๊ ยมนั้ น มี คนธรรมดามากเกิ น ไป ไม สะดวกที่ จะลงมื อ
โดยตรง จึงเลนไปตามน้ำ นั่งอยูบนรถมาจนมาถึงที่แหงนี้
ผลลัพธคือชายชราและผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณสองสามคนที่ดักซุมอยู
ถูกเขาสังหารจนเกลี้ยงอยางสบายๆ ราวกับมดที่รนหาที่ตาย
สำหรับเรื่องพวกนี้ หานลี่ไมไดสนใจเลยสักนิด แตเดิมเขาก็พอจะเดาออกอยูแลว
มิเชนนั้นตอใหคนที่ดักซุมอยูที่นี่ จะเปนผูบำเพ็ญ เพียรระดับหลอมรวม ก็เปน
เพียงเรื่องนาขันเรื่องหนึ่งเทานั้น แตหานลี่กลับไดขอมูลอีกเรื่องหนึ่งมาจากจิตสัมผัส
ของชายชราหลังคอม และรูสึกประหลาดใจเปนอยางมาก
ที่แทตอนที่สามตระกูลของกวนหนิงรวมมือกันจัดงานชุมนุมโสมราชันยเพิ่งเสร็จ
สิ้น ก็มีขาวแพรงพรายออกมาวาบรรพชนตระกูลขงถูกกลืนกินจิตวิญญาณดั้งเดิม ถูก
มารปศาจยึดครองราง ตอนนั้นผูนำตระกูลอีกสองตระกูลก็รวมมือกับผูบำเพ็ญเพียร
ระดับสูงที่อยูเบื้องหลังตระกูลของพวกเขา สังหารชายชราของตระกูลขงที่ถูกสิงรางผู
นี้จนตายคาที่ แมแตจิตวิญญาณดั้งเดิมก็หนีออกมาไมได
เช น นั้ น ชั่ วขณะนั้ น ตระกู ล ข งจึ งสู ญ เสี ย กำลั งไปเป น จำนวนมาก เพี ย งชั่ ว ครู
ตำแหนงผูนำของสามตระกูลก็เปลี่ยนไปอยูในอันดับสุดทาย
แตในตอนนั้ น เอง เมื่อ รูวาผูใต บั งคั บ บั ญ ชาถูก สังหาร ราชัน ยเปลวระยับ ของ
เทือกเขาเนินหิมะที่ซอนตัวอยูใตดิน ก็โกรธเกรี้ยวเปนอยางมาก คาดไมถึงวาจะนำ
สุสานโบราณขึ้นมาอยูบนพื้นดิน ปลอยซากศพรับใชระดับสรางปราณหลายพันตัว
ออกมา วางเขตอาคมภูตผียมโลกอยางไมเกรงกลัวสิ่งใด ทำลายเทือกเขานี้
ผลลัพธคือทั้งสามตระกูลรวมทั้งผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงที่คอยชวยเหลือ ตางก็ทำ
สงครามกับสามซากศพของสุสานโบราณ สังหารซากหลอมทิ้งไปไมนอย แตผูบำเพ็ญ
เพียรระดับต่ำของทั้งสามตระกูลก็ถูกเขตอาคมภูตผีกลืนกินไปไมนอยเชนกัน
สวนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดสองสามคนนั้น ก็ไมเคยปรึกษากันเรื่องสุสาน
โบราณและเขตอาคมภูตผีของสามซากศพมากอน แมกระทั่งหลังจากรวมมือกันแลว
ก็ยังมีคนหนึ่งที่สะเพราจนไดรับบาดเจ็บหนัก ผลลัพธคือสามตระกูลและผูบำเพ็ญ
เพียรจากสำนักเหลานั้น ถูกเขตอาคมภูตผีที่ทอดตัวยาวไปรอยลี้กักอยูบนเนินเขาที่
เปนที่จัดงานชุมนุมโสมราชันย พวกเขาจึงทำไดแควางเขตอาคมสองสามชุดบนเนิน
เขาแหงนี้เพื่อปกปองชีวิตเอาไวเทานั้น ความจริงแลวตอนที่ผูบำเพ็ญเพียรของสำนัก
เหลานี้ ดักซุมจะทำรายราชันยเปลวระยับใหไดรับบาดเจ็บหนักนั้น ก็เกิดเรื่องที่คาด
ไมถึงขึ้น สาเหตุมาจากการประเมินมารเฒาต่ำเกินไป แตเดิมคิดวามารตนนี้เพิ่งไดรับ
บาดเจ็บหนัก นาจะตอกรไดงายๆ แตคิดไมถึงเลยวาที่แทราชันยเปลวระยับที่มีพลัง
ยุทธอยูแคระดับกอกำเนิดขั้นกลาง เมื่อออกมาจากสุสานโบราณ จะสำแดงพลังยุทธท่ี
แทบจะเทียบเทากับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายออกมา ราวกับคนละคน
อยางไรอยางนั้น ซากศพที่เหลือก็อยูในระดับกอกำเนิดขั้นตน ดังนั้นเมื่อปะทะกัน จึง
มีคนเสียเปรียบเปนอยางมาก และสูญเสียกำลังรบไป
เรื่องราวตอจากนี้ก็ไมมีอะไรใหนากลาวถึงแลว ราชันยเปลวระยับผูนั้นมีพลังยุทธ
ที่แข็งแกรงดังคาด แตการกระทำของเขาใหญโตเชนนี้ หลังจากติดพันอยูกับผูบำเพ็ญ
เพียรเหลานี้สองสามเดือน
ในที่สุดก็ทำใหผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายคนหนึ่งของสำนักใกลเคียงรูเขา
แลวสำแดงความสามารถสะเทือนฟาสะเทือนดินออกมา ชั่วครูก็ทำใหสามซากศพลา
ถอยไป ทำใหพวกมันจำใจตองกลับไปอยูที่ใตดินของเทือกเขาเนินหิมะอีกครั้ง
ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายผูนี้ ก็ไมไดมีเจตนาจะไลตาม คาดไมถึงวา
จะจากไปจนตัวปลิว
หลังจากที่ผูบำเพ็ญเพียรจากสามตระกูลไดรับความชวยเหลือ แนนอนวาก็ไมกลา
รั้งรออยูแถวๆ นั้นอีก จึงถอนกำลังทั้งหมดออกในทันที เพื่อไมใหราชันยเปลวระยับ
ผงาดขึ้นมาอีกครั้ง
สวนสามซากศพก็กลัววาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายผูน้ันจะเขามา
เกี่ยวของกับเรื่องนี้ แนนอนวาจึงไมกลาออกจากภูเขางายๆ อีก สงครามจึงหยุดลง
เพียงเทานี้
แน น อนว า หานลี่ รู เรื่ อ งนี้ แค ส ว นหนึ่ ง ที่ ช ายชรารู เท า นั้ น แต ห านลี่ ก็ น ำมา
เชื่ อ มโยงกั บ เหตุก ารณ ต อนที่ พ บกั บ ราชั น ย เปลวระยั บ ซึ่ งได รับ บาดเจ็ บ หนั ก ที่ ถ้ ำ
ตระกูลเฝงในวันนั้น ก็พอจะเดาเรื่องราวความจริงไดกวาครึ่ง จึงอดไมไดที่จะสงเสียง
จุๆ ดวยความชื่นชมและประหลาดใจอยูชั่วครู
ราชันยเปลวระยับผูนี้โหดเหี้ยมเกินไปหนอยจริงๆ
วัน นั้ น ตอนที่ สู ร บกั บ อรหั น ต ข วงซาบนเทื อ กเขาเนิ น หิ ม ะในตอนนั้ น ก็ ได รั บ
บาดเจ็บหนักอยูแลว กลับไปยังสุสานเพียงระยะเวลาสั้นๆ คาดไมถึงวาจะกอเรื่องใหญ
เชนนี้อีก ทาทางมีพลังลนเหลือจริงๆ
แตเขาตองกินยาลูกกลอนไปเทาไหรนั้นหานลี่รูดี ในใตหลานี้ไมมียาลูกกลอน
อะไร ที่สามารถทำใหจิตวิญญาณดั้งเดิมฟนฟูกลับมาไดรวดเร็วขนาดนั้นแนนอน ตอ
ให เป น เขาที่ มี ยาลู กกลอนอยูจ ำนวนมาก ในวัน นี้ ก็ ยั งฟ น ฟู พ ลั งยุ ท ธก ลั บ มาอยู ใน
จุดสูงสุดไมได
คงมีความเปนไปไดเพียงอยางเดียวแลว หากไมใชเพราะซากราชันยหมื่นปของ
มารเฒ าน าจะมีกายเนื้ อ ที่ แ ข็งแกรงมาก ก็ คงเป น เพราะเคล็ ดวิช าที่ ฝกฝนน าจะมี
เอกลักษณตรงที่สามารถฟนฟูปราณแทไดอะไรเทือกนี้ ถึงจะมีความสามารถในการ
ฟนฟูที่รวดเร็วจนนาตกตะลึงเชนนี้ได
ทวาพูดถึงความสามารถของซากศพราชันย หานลี่ก็อดที่จะนึกถึงไขมุกซากสวรรคที่
อยูในรางของตนเองไมได ระหวางที่ฝกฝนคาถาราชันยกระจางนั้น เขาก็สัมผัสไดวา
ไขมุกเม็ดนี้มีประสิทธิมหัศจรรยอยางมาก มิเชนนั้นอาศัยเพียงพระธาตุวัชระชิ้นนั้น
จะฝกคาถาราชันยกระจางขั้นที่สองไดหรือไมนั้น ก็เปนเรื่องที่พูดยากแลว
ไขมุกเม็ดนี้มีประสิทธิภาพมหัศจรรยขนาดนี้ ไมแนวาที่ราชันยเปลวระยับฟนฟู
ปราณแทไดรวดเร็วขนาดนี้อาจจะเกี่ยวของอะไรกับไขมุกเม็ดนี้
หลังจากที่หานลี่ขบคิดอยางเงียบๆ แลว ก็โยนเรื่องนี้ทิ้งไป เริ่มขบคิดถึงแผนการ
ในเมืองจิ้น
ที่ อ ยูอ าศั ยไม ตอ งพู ดถึง ในเมื่อ คฤหาสน แ ห งนี้ เกี่ ย วข อ งกั บ เถ าแก ตระกู ลเฝ ง
เชนนั้นก็อยาอยูนานจะดีกวา มิเชนนั้นหลังจากที่คนผูนี้หายตัวไปสองสามวัน จะตอง
มีคนมาคนหาที่นี่แน
นั่นจะยุงยากเกินไป เชนหาอารามเตาหรือไมก็วัดอะไรสักอยางอยูชั่วคราวก็แลว
กัน สถานที่เหลานี้ยังถือวาสงบเงียบกวาโรงเตี๊ยมมากนัก
นอกจากนี้ เรื่องของงานประมู ลก็ยังจำเป น ต องไปสอบถามรายละเอี ยดกั บผู
บำเพ็ญเพียรทองถิ่นของเมืองจิ้นที่อยูในยานรานคาอีก
หานลี่ขบคิดเสร็จแลว ทันใดนั้ น ก็ออกจากคฤหาสนห ลังนั้ น ทั นที และหายไป
อยางไรรองรอย
ตอนที่ 939 หอคอยความลับสวรรค
หานลี่เสียเวลาไปเล็กนอย ในที่สุดก็หาอารามเตาเล็กๆ ที่ไมมีชื่อเสียงแหงหนึ่งใน
เมืองพบ นักพรตในอารามนี้ลวนเปนเพียงคนธรรมดา ไมมีพลังยุทธเลยแมแตนอย
หานลี่ รู สึ ก พึ งพอใจกั บ สิ่ งนี้ ม าก ทั น ใดนั้ น ก็ บ ริจ าคเงิน ไปเล็ ก น อ ยเพื่ อ ให เจ า
อารามซาบซึ้งใจ และอาศัยอยูที่นี่เปนการชั่วคราว
หลั งจากพั ก อยู ในอารามมาหนึ่ งคื น แล ว เช าตรูวัน ที่ สอง หานลี่ ก็ อ อกมาจาก
อารามเตา ตรงไปตามดวงอาทิตยก็พบสำนักศึกษาที่มีกลิ่นอายของผูบำเพ็ญเพียรอยู
แหงหนึง่
ในเมื่อสำนักศึกษาแหงนี้กอตั้งในสถานที่อยางเมืองจิ้นได ยิ่งไปกวานั้นดูแลวยังดู
ไมเล็กเลยทีเดียว จะตองมีที่มาที่ไป เกี่ยวกับสำนักนักปราชญเปนแน
ทวา หานลี่ก็ไมสนใจเรื่องนี้เลยสักนิด เมื่อเขาแอบเขามาในสำนักศึกษาอยาง
เงียบๆ รางกายก็มาปรากฏอยูเบื้องหนานักปราชญชราเคราขาวโพลนคนหนึ่งนั้น ทั้ง
ยังไมปดบังกลิ่นอายระดับกอกำเนิดที่แผออกมาบนเรือนรางเลยแมแตนอย คราแรกที่
นักปราชญชราเห็นหานลี่ พลันตกตะลึงยกใหญ รวบรวมลมปราณอยางรอนรน แต
ทันทีที่เห็นพลังยุทธที่แทจริงของหานลี่นั้น กลับผอนคลายอาการระวังตัวและมีสีหนา
ผอนคลายลง กาวมาขางหนาครึ่งกาว แลวคารวะหานลี่อยางนอบนอม
“ทานอาวุโสใหเกียรติมาที่สำนักศึกษา มีเรื่องอะไรใหชนรุนหลังรับใชหรือขอรับ?”
“เจาชางรูวาควรทำตัวอยางไรจริงๆ ขามาหาเจานั้นมีเรื่องนิดหนอยจริงๆ ชวย
บอกตำแหนงของยานรานคาสองสามแหงรวมทั้งเรื่องที่เจารูเกี่ยวกับการประมูลใหขา
ฟงทั้งหมดที ผูบำเพ็ญเพียรทองถิ่นอยางพวกเจา นาจะรูเรื่องนี้เปนอยางดี” หานลี่ได
ยินแลวพลันหัวเราะออกมา พลางเอยอยางราบเรียบ
“ตำแหนของยานรานคานั้นไมมีปญหา! ชนรุนหลังคัดลอกแผนที่ลงในคัมภีรใหได
ในทันที สวนเรื่องงานประมูลนั้น ชนรุนหลังรูมาไมมากนัก ไมทราบวาทานอาวุโส
อยากรูเรื่องอะไรหรือ?” นักปราชญชราไดยินก็ตอบรับอยางไมลังเลแมแตนอย ควัก
คัมภีรสีขาวออกมาจากยามเก็บของ แลวเริ่มจดตำแหนงที่ตั้งของยานรานคาลงไปใน
แผนที่
“เวลาและสถานที่ของการจัดงานประมูล รวมทั้งมีวัตถุดิบพิเศษอะไรที่ จะนำ
ออกมาประมูล” หานลี่หุบยิ้ม เอยถามดวยสีหนาราบเรียบ
“เวลาและสถานที่นั้นไมมีปญหา หลังจากนี้เกาวันงานประมูลจะจัดขึ้นที่ตำหนัก
แสงสมบัติของยานรานคาซีจิ้น แบงออกเปนงานประมูลของระดับหลอมรวม และ
ระดับกอกำเนิดสองระดับ ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดสามารถเขารวมงานประมูล
ของระดั บ หลอมรวมได แต ร ะดั บ หลอมรวมไม ส ามารถเข ารวมงานประมู ล ของผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดได สวนมีวัตถุดิบอะไรบางนั้น ชนรุนหลังตอบยากจริงๆ
ถึงอยางไรเสียงานประมูลที่ยิ่งใหญเชนนี้ ก็เปนสิ่งที่ยานรานคาตางๆ ที่ใหญที่สุดใน
ตาจิ้นรวมมือกันจัดขึ้น คนนอกไมอาจรูไดวาจะมีอะไรขายบาง ทวาจากประสบการณ
ที่ผานมา วัตถุดิบล้ำคาที่จะปรากฏตัวในงานประมูล อยางนอยที่สุดก็นาจะมีมากกวา
รอยชิ้น บวกกับที่เหลาอาวุโสจะนำสมบั ติล้ำคาที่ พ กตัวติด ออกมาสงมอบให งาน
ประมู ล โดยปกติ แ ล ว งานประมู ล นี้ จ ะมี อ ย า งต อ เนื่ อ งไปห า ถึ ง หกวั น รอขอรั บ ”
นักปราชญชราตอบกลับอยางซื่อตรง
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ตำหนักแสงสมบัติ!” หานลี่พยักหนาเล็กนอย พลางเอย
พึมพำกับตัวเอง
“ทานอาวุโส ขาคัดลอกคัมภีรเสร็จแลว ทานอาวุโสโปรดเก็บไวเถิดขอรับ” ใน
ที่สุดนักปราชญชราก็คัดลอกคัมภีรเสร็จ พลางสงมาใหหานลี่ดวยมือทั้งสองมือ
หานลี่เองก็ยื่นมือออกไปควาคัมภีรเอาไวโดยไมพูดอะไร หลังจากแผจิตสัมผัสเขา
ไปขางในแลว ก็พยักหนาเผยสีหนาพึงพอใจออกมา
“เยี่ยมมาก เรื่องที่ไดพบขาวันนี้ หามเอยกับใครเด็ดขาด มิเชนนั้น หึๆ…”
หานลี่หั วเราะอยางชั่วรายออกมา ลำแสงสี เขี ยวบนรางสวางวาบ คนก็ สลาย
หายไปจากที่เดิม
นักปราชญชราหางตากระตุก นั่งลงบนเกาอี้ ขมวดคิ้วนอยๆ พลางขบคิด
หลังจากผานไปชั่วครู เขาถึงไดใชจิตสัมผัสกวาดไปในหอง ผลลัพธคือวางเปลา ดู
เหมือนวาจะไมมีผูใดอยูอีกแลว
นักปราชญชราถึงไดถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แลวเผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา
……
หลังจากที่หานลี่ออกจากสำนักศึกษาก็อานคัมภีรนี้อยางละเอียดรอบหนึ่ง แลว
ตรงไปยังยานรานคาซีจิ้น
สิ่งที่เรียกวายานรานคาซีจิ้น ความจริงแลวคือถนนรกรางสายหนึ่งของเขตพื้นที่
เล็กๆ ทางทิศตะวันตกของเมืองจิ้นที่ถูกเขตอาคมอำพรางเอาไวอยูกอนแลว
หานลี่มาปรากฏตัวที่ทางเขายานรานคา ขามเขตอาคมอำพรางเขามาโดยที่คน
ธรรมดาไมอาจสัมผัสได สวนคนก็มาปรากฏตัวที่ถนนที่เงียบสงัดสายหนึ่ง
แน นอนวาคำวาเงียบสงัดนี้ ตรงกั น ข ามกั บ คนธรรมดาที่ เดิน อยูขางนอกอยาง
ขวักไขว เมื่อมองปราดไปบนถนนนั้น อยางนอยที่สุดก็มีผูบำเพ็ญเพียรอยูสองสามรอย
คน กำลังเดินเขาออกมาจากรานคาตางๆ จากทั้งสองฟากฝง
หานลี่ไมไดใชจิตสัมผัสกวาดดูถนนทั้งสาย ก็รูวางานประมูลใกลจะเริ่มขึ้นแลว
จะต อ งมี ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ ก อ กำเนิ ด นั่ งบั ญ ชาการอยู ในย านร านค าซี จิ้ น อย าง
แนนอน มิเชนนั้นงานประมูลที่ยิ่งใหญขนาดนี้ จะจัดตั้งขึ้นงายๆ ไดอยางไร
เมื่อขบคิดเชนนั้น หานลี่ก็เดินทอดนองกวาดสายตาไปที่รานรวงทั้งสองฝงไมหยุด
ยานรานคาซีจิ้นนี้เห็นไดชัดวาไมเหมือนกับยานรานคาตางๆ ทางใตของตาจิ้นที่
หานลี่เคยเห็น ทั้งสองฝงแทบจะเปนศาลาสูงใหญสองสามชั้นทั้งหมด ราวกับทุกแหงมี
ทุนทรัพยหนา ลวนไมใชรานคาเล็กๆ ทวาชื่อของหอคอยบางแหง หานลี่ก็เคยเห็นมา
จากยานรานคายานอื่นจริงๆ
ดูแลวรานคาที่ใหญโตตางๆ ของโลกผูบำเพ็ญเพียรตาจิ้นจะเปดสาขาอยูที่นี่
ในเมื่อเปนเชนนั้น ก็ไมมีอะไรให ตองวินิ จฉัยอยางละเอียด หานลี่พ กใบแสดง
รายการวัตถุดิบที่ตองการไวกับตัว ทันใดนั้นก็เขาไปสอบถามตามรานคาทีละรานๆ
แตจนถึงตอนนี้หานลี่ก็ยังไมไดอะไรเลย แนนอนวาวัตถุดิบทุกชิ้นลวนเปนของหา
ยากอยางสุดๆ ไหนเลยจะหาเจอไดงายๆ
หานลี่ก็ไมไดรีบรอน แตเดิมก็ไมไดหวังวาจะตามหาวัตถุดิบที่ตองการไดจากยาน
รานคางายๆ อยูแลว ก็แคลองถามไปอยางนั้ น เท านั้ น ความจริงแล วที่ เขามายาน
รานคาก็เพราะมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องตองทำ
การเขารวมงานประมูลจำเปนตองใชศิลาวิญญาณกอนใหญ แตเดิมในตัวของหานลี่มี
ศิลาวิญญาณอยูไมนอยก็จริง แตจากการปลอมตัวเปนผูบำเพ็ญเพียรสวมหนากาก
คอยรวบรวมวัตถุดิบอื่นๆ นั้น กลับใชเงินไปกวาครึ่งแลว เวลานี้เผชิญ หนากับงาน
ประมูลที่ยิ่งใหญ แนนอนวาศิลาวิญญาณที่เหลืออยูในตัวจึงมีไมพอ
หานลี่คิดจะหารานคาใหญๆ สักรานเพื่อขายวัตถุดิบล้ำคา เพื่อจะไดแลกเปนศิลา
วิญญาณแลวเอามาใช เพราะตองการศิลาวิญญาณจำนวนมาก เปาหมายที่จะขายให
จะตองมีทุนทรัพยเพียบพรอมถึงจะถูก
เมื่อหานลี่เดินมาถึงหอคอยที่สูงสามชั้นแหงหนึ่ง ดวงตาทั้งสองก็อดที่จะหรี่ลงไมได
หอคอยแหงนี้เห็นไดชัดวาใหญกวาหอคอยกอนขางเปนอยางมาก และยิ่งไปกวานั้นผู
บำเพ็ญเพียรที่เดินเขาออกก็มีอยูจำนวนไมนอย ดูเหมือนวาจะเปนเปาหมายที่ไมเลว
แตเมื่อหานลี่มองเห็นปายคำวา ‘หอคอยความลับสวรรค’ ที่แขวนอยูตรงประตู
ใหญของหอคอยแลว ก็อดที่จะตกตะลึงไมได
หรือวา ‘หอคอยความลับสวรรค’ เป น สถานที่ ที่ ขายห องความลับ สวรรค โดย
โดยเฉพาะ
หานลี่ลังเลเล็กนอย แตก็สาวเทากาวเขาไป
ชั้นหนึ่งขอหอคอยมีขนาดไมเล็กนั ก กวางประมาณสามสิบ สี่สิบจั้ง เด็ กรับใช
ระดับ ฝกปราณหน าตาสะอาดสะอ านห าหกคนกำลั งชี้ไปยั งสิ่งของบนชั้น วางของ
รอบๆ พลางอธิบายอะไรใหแขกสองสามคนฟงอยู
เมื่อหานลี่เดินเขาไป เด็กรับใชคนหนึ่งก็พุงเขามาพรอมกับใบหนาที่ประดับไป
ดวยรอยยิ้ม ทาทางเหมือนจะมาตอนรับ
“ถอยไป อาวุโสผูนี้ใหขาตอนรับเอง”
ชายวัยกลางคนสวมชุดสีขาวคนหนึ่งที่กำลังนั่งจิบชาอยางเงียบๆ บนเกาอี้ตรงมุม
หองโถง เมื่อแผจิตสัมผัสมากวาดดูพลังยุทธของหานลี่ ก็วางถวยน้ำชาลงดวยสีหนา
ตื่นตะลึง รีบรอนเอยปากถามเด็กรับใชเอาไว จากนั้นเขาก็จัดแจงเสื้อผาของตนเอง
สาวเทาเขามาทำความเคารพหานลี่ และเอยอยางมีเคารพนบนอม
“ท า นอาวุ โสมาที่ ห อคอยความลั บ สวรรค ข องพวกเราได ช า งเป น โชคดี ข อง
หอคอยเราจริงๆ แนนอนวาชั้นหนึ่งไมมีสิ่งที่ทานอาวุโสตองการ ทานอาวุโสตามชนรุน
หลังมาที่ชั้นสามเปนอยางไร?”
“ดี แต เดิ ม ข าก็ อ ยากคุ ย กั บ เจ าของของที่ นี่ อ ยู แ ล ว ” แววตาของหานลี่ เปล ง
ประกาย พลางเอยอยางราบเรียบ
จากนั้นก็เดินขึ้นไปอยางไมรีบรอน โดยมีชายวัยกลางคนเปนผูนำทาง
ชั้นตอมามีผูบำเพ็ญเพียรขายของอยูเจ็ดแปดคน เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ จึงรู
วาหานลี่คือผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด ชั่วขณะนั้นจึงเกิดเสียงเซ็งแซขึ้น
“คาดไมถึงวาจะเปนอาวุโสระดับกอกำเนิด ขาเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกจริงๆ เหตุใด
จึงดูยังหนุมยังแนนขนาดนี้?”
“ดูแลวหอคอยความลับสวรรคคงไดทำธุรกิจใหญแลว จุๆ…”
เสียงรองอุทานและเสียงชื่นชมดังขึ้นอยางตอเนื่อง
ชั้นสามของหอคอยความลับสวรรคกลับไมใหญโตนัก แตก็ตกแตงไวอยางประณีต
ยิ่งไปกวานั้นยังมีสตรีผูบำเพ็ญเพียรหนาตางดงามและออนเยาวสองคนอยูดวย เมื่อ
เห็นชายวัยกลางคนพาแขกเขามา ก็ตรงเขามาชงชาใหทันที
“ทานอาวุโสโปรดชิมสักหนอยนะขอรับ นี่คือชาวิญญาณหมอกพิรุณที่หอคอยของ
พวกใชทองคำจำนวนมากซื้อมา มีรสชาติที่พิเศษมาก” ชายวัยกลางคนรอจนหานลี่นั่ง
ลง ก็เอยแนะนำดวยรอยยิ้มทันที
“ชายังไมตองรีบรอนลิ้มรสหรอก ดูวัตถุดิบที่ขาอยากซื้อกอนเถิด หอคอยของ
ทานมีขายหรือไม พูดกันตามตรง กอนหนานี้ขาวิ่งเขาออกรานไปไมนอย แตก็ไมได
อะไรเลย จึงไมไดคาดหวังอะไรกับหอคอยความลับสวรรคของพวกทานนัก” หานลี่
ไมไดสนใจชาหมอกพิรุณ กลับเอยขึ้นอยางราบเรียบ จากนั้นพลันสะบัดแขนเสื้อไป
บนโตะ คัมภีรสีเขียวมวนหนึ่งปรากฏขึ้นบนโตะ
“ในเมื่อทานอาวุโสรอนใจเชนนี้ อยางนั้นชนรุนหลังคงตองดูกอนแลวละ ทวาใน
เมื่อสองสามรานกอนหนาไมมีสิ่งที่ทานอาวุโสตองการ ดูแลววัตถุดิบเหลานั้นคงจะไม
ธรรมดาสินะ” ชายวัยกลางคนไดฟ งพลันหัวเราะออกมา ทันใดนั้นก็สะบัดมือ ดูด
คัมภีรเขามาอยูในมือ จากนั้นจึงแผจิตสัมผัสเขาไปตรวจสอบดานใน
ผานไปชั่วครู ชายวัยกลางคนพลันหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
หานลี่ไมไดมีสีหนาตื่นตกใจ สีหนาของเถาแกรานคาเหลานี้ หานลี่เห็นมาจาก
รานคากอนหนาหลายรอบแลว ผูใดใหเขาอยากไดวัตถุดิบเหลานี้กันเลา ทุกชิ้นลวน
เปนสิ่งของที่หายาก แมกระทั่งมีอยูสองสามชิ้นที่แมแตผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ ก็ยัง
ไมเคยแมแตจะไดยินมากอน
“มิน าเลา ท านอาวุโสจึงไม ได อ ะไรเลยจากรานค าก อ นหน านี้ วัต ถุ ดิบ เหล านี้
ไมใชสิ่งที่รานคาธรรมดาๆ จะเอาเขามาไดจริงๆ นอกจาก ‘ศิลาวิญ ญาณอัสนี’ ที่
หอคอยของเรามีอยูกอนหนึ่งแลว ที่เหลือหอคอยของเราก็ไมมีอำนาจขนาดนั้น” คาด
ไมถึงวาหลังจากคลี่มวนคัมภีรออก ชายวัยกลางคนที่สวมชุดสีขาวจะเอยพรอมกับสง
ยิ้มขมขื่นใหหานลี่
“พวกเจามีผลึกวิญญาณอัสนีหรือ?” หานลี่ที่แตเดิมเตรียมใจผิดหวังเอาไวอีกครั้งกอน
แลว พอไดยินประโยคนี้เขา ก็อดที่จะเผยสีหนาประหลาดใจระคนดีใจออกมาไมได
“ใชแลว ทานอาวุโสมาถูกเวลาพอดี ศิลาวิญญาณอัสนีกอนนี้เปนสิ่งที่หอคอยของ
พวกเราเพิ่งไดมา ทวามันมีปญหาอยูนิดหนอย วัตถุดิบล้ำคากอนนี้ไมไดอยูที่หอคอย
ของเรา แต อ ยู ที่ ห อคอยของอาวุโสระดั บ ก อ กำเนิ ด อี ก ท า นหนึ่ ง ในหอคอยที่ เป น
พันธมิตรกับเรา เตรียมจะใชมันแลกเปลี่ยนกับสิ่งของอยางอื่น ถาหากไมมีทางแลกได
ก็เตรียมจะนำออกไปประมูลในชวงทายๆ ของงาน” ชายวัยกลางคนลังเลเล็กนอย
คาดไมถึงวาจะเอยประโยคที่ทำใหหานลี่ตื่นตะลึงออกมา
ตอนที่ 940 จวนความลับสวรรค
“แลกเปลี่ยนของ ไมทราบวาอยากแลกกับอะไร ขาพอจะมีของอยูบาง เอามา
แลกได” หลังจากที่หานลี่ลูบคางไปมาแลว ก็เอยขึ้น
“วัตถุดิบและยาลูกกลอนที่ทานอาวุโสผูนี้อยากแลกเปลี่ยนอยูในนี้ ถึงแมวาหากดู
จากระดับความล้ำคาแลวจะหายากจะนอยกวาสิ่งที่อาวุโสอยากรวบรวมเมื่อครู แตก็
นับเปนสิ่งที่หาไดยาก มิเชนนั้นผลึกวิญญาณอัสนีกอนนี้คงถูกแลกไปตั้งนานแลว นี่คือ
วัตถุดิบในการหลอมสมบัติอาคมชั้นยอดธาตุอัสนี” ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนผูนี้ไมได
ตกใจกั บ คำพู ด ของหานลี่ หลั ง จากเอ ย ปากเตื อ นแล ว ก็ ส ง คั ม ภี ร ที่ เตรี ย มเอาไว
เรียบรอยอยูกอนแลวมาให
หานลี่รับคัมภีรมวนนั้นมาไวในมือ ใชจิตสัมผัสตรวจสอบอยางเรียบๆ
ชายวัยกลางคนที่สวมชุดสีขาวสังเกตสีหนาของหานลี่อยางระมัดระวัง เพราะ
อยากเห็นอะไรบางอยาง แตสิ่งที่นาเสียดายก็คือ ตั้งแตตนจนจบสีหนาของหานลี่นั้น
ไมเปลี่ยนแปลง ดูไมออกถึงความผิดปกติใดๆ
นี่จึงทำใหชายวัยกลางคนอดที่จะรูสึกผิดหวังเล็กๆ และบนพึมพำกับตัวเองไมได
“อาวุโสระดับกอกำเนิดแซหานที่อยูเบื้องหนาผูนี้มีที่มาที่ไปอยางไรกันแน รูปลักษณ
ภายนอกไมเพียงจะออนเยาวขนาดนี้ วัตถุดิบที่ตองการรวบรวมก็หายากมากขนาดนี้
ตามหลักการแลวผูบำเพ็ญเพียรที่บรรลุระดับกอกำเนิดไดแลวยังคงฝกฝนที่เคล็ดวิชา
คงความเยาววัยก็มีอยูไมนอย แตสวนใหญก็เปนผูบำเพ็ญเพียรหญิงเทานั้น
ถึงแมวาผูบำเพ็ญเพียรเพศชายก็สามารถคงรูปลักษณเอาไวได แตหนาตาและ
การแตงตัวของเขาก็ดูไมเหมือนตัวประหลาดเฒานะ! หรือวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรที่
เพิ่งบรรลุระดับกอกำเนิดจริงๆ”
ถึงแมวาชายวัยกลางคนที่สวมชุดสีขาวจะสัมผัสไดวาหานลี่อยูในระดับกอกำเนิด
แตการตัดสินพลังยุทธที่เปนรูปธรรมนั้น ก็เหมือนกับมีน้ำอยูเต็มหัว ไมมีทางมองพลัง
ยุทธบนเรือนรางของหานลี่ออกอยางชัดเจนได รูเพียงวา ดูเหมือนเขาจะแข็งแกรง
กวาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นตนที่เคยพบมากอนหนานี้สองสามคนเปนอยาง
มาก
นี่คือเหตุผลหลักที่เขาตอนรับหานลี่อยางเต็มความสามารถ มิเชนนั้นผูบำเพ็ญ
เพียรระดับกอกำเนิดทั่วๆ ไป อาศัยขุมอำนาจผูที่อยูเบื้องหลังหอคอยความลับสวรรค
แลวก็ไมจำเปนตองประจบสอพลอเขาขนาดนี้
“ของที่สหายผูนี้ตองการ ขามีอยูสองชนิด ทวาจะแลกอยางไรนั้น ตองไดเห็น
ผลึกวิญญาณอัสนีกอนนั้นกอน หากผลึกวิญญาณมีคุณภาพแยเกินไป ขาเอาไปก็ไมมี
ประโยชน” หลังจากผานไปชั่วครู ในที่สุดหานลี่ก็อานของที่อยูในคัมภีรรอบหนึ่ง แลว
โยนคัมภีรคืนใหชายวัยกลางคน พลางเอยอยางราบเรียบ
“นั่นมันแนนอนอยูแลว เอาอยางนี้ก็แลวกัน ทานอาวุโส การแลกเปลี่ยนครั้งนี้
ยิ่งใหญนัก ทานอาวุโสฟูเองก็พักอยูแถวๆ นี้ ขาจะสงยันตถายทอดเสียงไป ใหทาน
อาวุโสทั้งสองมาพบหนาและเจรจาธุรกิจกันเอง เป น อยางไร?” หลังจากที่ ชายวัย
กลางขบคิดเล็กนอยแลว ก็เอยดวยใบหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม
“ทานอาวุโสฟู? เยี่ยม ขาเองก็อยากพบสหายฟูผูนี้ ขาตองการผลึกวิญญาณยิ่ง
มากเทาไหรก็ยิ่งดี จะไดดูวาสหายผูนี้มีผลึกวิญญาณอัสนีมากกวานี้หรือไม” หลังจาก
หานลี่ขบคิดเล็กนอย ก็เอยปากตอบรับ
ในความคิดของเขา เมื่อเผชิญ หน ากับ ผูที่ มี วัตถุดิบล้ ำค าเชน นี้ ไม แน วาในมื อ
อาจจะมีวัตถุดิบอื่นๆ อีก ไดพบแลว ซักถามดวยตัวเองสักหนอยจะดีกวา
“ในเมื่อเปนเชนนั้น ทานอาวุโสโปรดรอสักครู ขาจะถายทอดเสียงไป ทานอาวุโส
นาจะมาถึงในอีกชั่วครู” ชายวัยกลางคนประสานกำปนคารวะอยางไมลังเล พลางเดิน
ออกจากหองโถงชั้นสามไป
หานลี่ถึงไดหยิบชาวิญ ญาณบนโตะขึ้นมาจิบ รสชาติกลมกลอมหอมหวาน ไม
ธรรมดาดังคาด
ผานไปชั่วครู ชายวัยกลางคนผู นั้ น ก็ เดิ น ออกมาอี กครั้ง แน น อนวาได สงยั น ต
ถายทอดเสียงออกไปแลว
หานลี่ที่ลิ้มรสชาติวิญญาณไปสองอึกในเวลานี้ ก็พิจารณาชายวัยกลางคนที่อยู
เบื้องหนาแวบหนึ่ง จูๆ พลันเอยปากถามขึ้นวา
“หอคอยความลับสวรรคของพวกเจา ผลิตหองความลับสวรรคใชหรือไม? ขาไดยินวา
หอคอยของทานหลอมหองความลับสวรรคระดับสูง ที่สามารถทำใหจวนแหงหนึ่งมี
ขนาดเทาฝามือและพกไปไหนมาไหนได และยิ่งไปกวานั้นยังสามารถฝงเขตอาคมที่
รายกาจลงไปได มีเรื่องเชนนี้จริงๆ หรือ?”
“หึๆ หอความลับสวรรคเปนยุทธภัณฑที่หอคอยของขาผลิตขึ้นมาจริงๆ ทวาหอง
ความลับ สวรรคที่ท านอาวุโสพู ดถึง น าจะคื อห องความลับสวรรคระดั บสู งสุดของ
หอคอยเรา มันเรียกวาจวนความลับสวรรค ทั้งยังใชวัตถุดิบที่ล้ำคาสรางขึ้น แตเดิมก็
หลอมออกมาไมมากนัก ตอนนี้เหลืออยูเพียงสองสามชิ้นที่ไมไดขาย ที่เหลือนั้นขายไป
หมดเกลี้ยงแลว” ชายวัยกลางคนไดยินคำพูดนี้พลันอ้ำอึ้ง แตทันใดนั้นก็คลี่ยิ้มออกมา
พลางเอยอธิบาย
“ไมขาย ทำไมหรือ? หอคอยความลับสวรรคของพวกเจาหลอมออกมา ไมใชเพื่อ
นำมาขายหรือ?” หานลี่รูสึกแปลกใจอยูสองสามสวน
“ไมปดบังทานอาวุโส ที่เหลืออยูสองสามชิ้นลวนเปนผลิตภัณฑที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ของจวนความลับสวรรค ไมวาขนาดรวมไปถึงเขตอาคมที่ฝงอยูก็ลวนเหนือกวาชิ้นที่
ขายไปก อ นหน า ดั งนั้ น จวนความลับ สวรรค เหล านี้ จึงถูก เก็ บ ไวเป น พิ เศษ ต อ งใช
สิ่งของล้ำคามาแลกไปเชนกันเทานั้น” ชายวัยกลางคนอธิบายอยางเกอเขินเล็กนอย
“ใชของมาแลกเหมือนกันหรือ! นาสนใจจริงๆ ทวาลองดูก็ไมเสียหาย ขอแคจวน
ความลับสวรรคมีความอัศจรรยขนาดนั้นจริงๆ ขาก็อยากแลกมาสักชิ้น สหายเอา
ออกมาใหผูแซหานเปดประสบการณสักสองสามชิ้นเถิด” มุมปากของหานลี่หยักขึ้น
เอยขึ้นอยางสนอกสนใจ
“สองสามชิ้น? ทานอาวุโสลอเลนแลว ถึงแมวาหอคอยในเมืองจิ้นของเราจะเปน
สาขาหลัก แตก็มีเพียงชิ้นเดียวเทานั้น และยิ่งไปกวานั้นยังเปนสมบัติประจำหอคอย
ของหอคอยขา ชิ้นที่เหลือเก็บเอาไวที่สาขาอื่น ทวาชิ้นที่อยูในหอคอยของพวกเราเปน
ชิ้นที่ปรมาจารยการหลอมยุทธภัณฑของหอคอยขา ‘หัวอวิ้นจื่อ’ หลอมขึ้นเองกับมือ
มีประสิทธิภาพติดอันดับตนๆ จากจวนความลับสวรรคทั้งหมด แคฝงเขตอาคมเอาไว
ก็เพียงพอจะเปนสมบัติโบราณระดับสูงชิ้นหนึ่งแลว และยิ่งไปกวานั้น ขานอยเปน
เพียงผูดูแลจิ๊บจอยคนหนึ่งเทานั้น ไมมีอำนาจจัดการกับของสิ่งนี้ ผูที่มีหนาที่ดูแล
สมบัติชิ้นนี้คืออาวุโสหวังของหอคอย ถาหากทานอาวุโสอยากไดจริงๆ ขานอยจะไป
เชิญทานอาวุโสหวังจากหองลับมาเจรจาเรื่องนี้กับทานอาวุโส สวนตองใชอะไรแลกมา
นั้น ก็มีเพียงทานอาวุโสหวังเทานั้นที่รู” ชายวัยกลางคนรูสึกมีชีวิตชีวาขึ้น พลางเอย
อยางตอเนื่อง หานลี่ที่อยูเบื้องหนาดูกระเปาหนักไมเบา ถาหากธรุกิจใหญครั้งนี้สำเร็จ
ตำแหนงในหอคอยความลับสวรรคของเขา ก็จะเพิ่มขึ้นอยางกาวกระโดดแนนอน
“เชนนี้นี่เอง เรื่องนี้รอ …” หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา คิดจะเอยอะไรตอนั้น
จูๆ สีหนาก็เปลี่ยนสีพลันปดปากฉับ
ชายวัยกลางคนพลันตกตะลึง ไมรูวาเกิดอะไรขึ้น แตในตอนนั้น ก็มีเสียงของชาย
ชราคนหนึ่งที่ดังมาจากดานลางอยางชัดเจนดังขึ้น
“เจาเด็กนอยจาว มีคนเอาของที่ขาอยากแลกออกมาจริงๆ หรือ ตาเฒากำลังกัก
ตนบำเพ็ญเพียรอยูในชวงเวลาสำคัญ และรีบออกมาจากการกักตนเพราะเหตุนี้ทันที”
ถึงแมวาน้ำเสียงจะแกชรา แตก็มีลมหายใจที่เต็มเปยม กองกังวานเปนพิเศษ
จากนั้นเสียงฝเทาดัง ‘ตึกๆ’ ที่หนักแนนก็ดังขึ้น ดูเหมือนวาผูที่มาจะมีน้ำหนักตัว
ที่ไมนอย
“ในเมื่อชนรุนหลังเชิญทานอาวุโสมา แนนอนวาจะตองมีธุระอยูแลว ขานอยจะ
กลาหลอกหลวงทานอาวุโสฟูไดอยางไร” ชายวัยกลางคนที่สวมชุดสีขาวเพิ่งจะทราบ
วาคนที่ตนเองเชิญมานั้นมาถึงแลว ก็รีบรอนตอบกลับดวยความนอบนอมทันที
เงารางคนวูบไหวที่ประตูหองโถง เงารางสูงใหญอยางสุดๆ เงาหนึ่งปรากฏขึ้นตรงนั้น
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง พิจารณาผูที่มาใหมอยางละเอียด
นี่คือชายชราสวมชุดสีดำรางกายสูงใหญคนหนึ่ง ใบหนาแดงก่ำ ไอวิญญาณบนรางนา
ตกตะลึง คาดไมถึงวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดชั้นสูงสุดของขั้นกลาง
หานลี่ขมวดคิ้วอยางไมใสใจ รูสึกประหลาดใจเล็กนอย
และเมื่อชายชราหนาแดงผูนั้นไดยินคำพูดของเถาแกวัยกลางคน สายตาก็กวาด
มาทางหานลี่ พบวารูปลักษณภายนอกของหานลี่เยาววัยขนาดนี้แตพลังยุทธอยูใน
ระดับกอกำเนิดขั้นกลาง ใบหนาก็เผยสีหนาตื่นตระหนกออกมา ทันใดนั้นพลันฉีกยิ้ม
สาวเทายาวๆ เขามาภายในหองโถง
“ทานผูนี้คือสหายหานที่เถาแกจาวพูดถึงสินะ มีวัตถุดิบที่ตาเฒาตองการ ตองไมใชผู
บำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดธรรมดาๆ ดังคาด” ชายชราหนาแดงเองก็ไมไดถือสา
เมื่อเดินมาอยูหนาหานลี่ก็หัวเราะฮาๆ พลางเอยอยางตรงไปตรงมา
“ที่ไหนกันละ พลังยุทธของสหายฟูนี่สิถึงจะทำใหผูแซหานเลื่อมใส” หานลี่คลี่ยิ้ม
ยืนขึ้นพลางประสานมือทำความเคารพขณะเอย
“ผูแซฟูอายุขนาดนี้แลวพลังยุทธเพิ่งจะถึงขั้นนี้ ไหนเลยจะมีอะไรใหนาเลื่อมใส ผู
แซฟูเปนคนที่มีนิสัยตรงไปตรงมา จึงขอถามตรงๆ สหายหานตองการผลึกวิญญาณ
อัสนี ไมทราบวาจะเอาอะไรออกมาแลกหรือ บอกใหผูแซฟูฟงไดหรือไม” รอจนทั้ง
สองนั่งลงอีกครั้ง ชายชราหนาแดงก็เอยถามอยางอดรนทนรอไมไหว ทาทางใจรอน
“ของอยางอื่นนั้นไมมี แตขานอยมีเห็ดแกนชาดธาตุเพลิงตนหนึ่งอยูพอดี อายุ
ประมาณพันป” หานลี่หัวเราะออกมาอยางแผวเบา พลางเอยอยางนิ่งๆ
แนนอนวาเห็ดแกนชาดนี้ไมใชสิ่งที่เขาไดมาจากการซื้อขายอันดับหนึ่งของเทียน
หนาน ที่ใชแกนอสูรระดับเจ็ดแลกมา ซึ่งมีอายุสามพันปตนนั้น แตเปนตนที่เขาอาศัย
เมล็ดของมัน พยายามกระตุนมันใหมีอายุพันป
“เห็ ด แก น ชาด? ถ า หากมี อ ายุ พั น ป จ ริ ง ๆ ก็ เพี ย งพอจะแลกเปลี่ ย นกั บ ผลึ ก
วิญญาณอัสนีของขานอย สหายเอาออกมาใหขานอยดูสักหนอยเถิด” ชายชราแซฟูได
ยินแลวพลันเอยออกมาอยางดีอกดีใจ
“แนนอนวาได สมุนไพรวิญญาณนั้นขาพกมาดวย ขอแคสหายนำผลึกวิญญาณมา
ใหผูแซหานดูสักหนอยก็พอ” หานลี่ตอบกลับอยางราบเรียบ
“ออ ตาเฒ าเลอะเลือ นจริงๆ นั่ น เป น สิ่งที่ ควรทำอยู แลว เถาแก จาว เอาผลึ ก
วิญญาณที่ขาเก็บไวออกมาใหสหายหานดู” ชายชราพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็ออก
คำสั่งกับชายวัยกลางคนที่อยูดานขางอยางไมตองคิด
“ขอรับทานอาวุโส ชนรุนหลังจะไปนำมาใหขอรับ” ชายวัยกลางคนที่สวมชุดสี
ขาวตอบรับเปนพัลวันจากนั้นก็เดินออกจากหองโถงไป
“สหายหานหนาตาไมคุนเลย แตพลังยุทธกลับอยูในระดับกอกำเนิดขั้นกลางแลว
ไมทราบวากอนหนานี้พี่หานฝกบำเพ็ญเพียรอยูที่ใด สหายจะตองเปนผูบำเพ็ญเพียรที่
ฝกฝนอยางหนักแน ปกติแลวคงจะคบคากับคนอื่นๆ นอยมากสินะ มิเชนนั้น จากพลัง
ยุทธของสหาย ผูแซฟูจะไมมีความทรงจำเกี่ยวกับทานเลยไดอยางไร” ชายชราหนา
แดงถือโอกาสนี้ พิจารณาหานลี่สองสามครั้ง แตก็กลับเอยถามขึ้นดวยความแปลกใจ
หานลี่ไดยินคำพูดเชนนี้ ก็หัวเราะออกมา
“สหายไมรูอะไรผูแซหานไมไดแปลกประหลาดอะไรหรอก แตไหนแตไรมาก็เอา
แตฝกบำเพ็ญเพียรอยูบนเกาะเล็กๆ นอกมหาสมุทร กาวขึ้นมาบนแผนดินตาจิ้นนอย
มาก” เขาที่เตรียมการมานานแลว เอยขึ้นอยางไมรีบรอน
“ที่แทสหายหานก็เปนผูบำเพ็ญเพียรนอกมหาสมุทร ผูแซฟูเสียมารยาทแลวจริงๆ
ขานอยไดยินวานอกมหาสมุทรมีสหายรวมวิถีที่มีความสามารถเกรียงไกรมาตั้งนาน
แลว เคล็ดวิชาที่ฝกฝนก็เปนเอกลักษณ ไมเหมือนกับผูบำเพ็ญเพียรบนแผนดินอยาง
พวกเรา หากมีเวลาวางผูแซฟูก็อยากแลกเปลี่ยนประสบการณการฝกบำเพ็ญเพียรกับ
สหายสักหนอยจริงๆ ทวา สหายเดินมาทางมาไกลแสนไกลกวาจะถึงเมืองจิ้นขนาดนี้
ดูแลวคงจะมางานประมูลโดยเฉพาะ”
ชายชราหนาแดงพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็เอยขึ้นอยางถึงบางออ
คงมีแตเพียงผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดที่มาจากนอกมหาสมุทรที่ไรขอบเขต
เทานั้น ที่จะไรชื่อเสียงในตาจิ้นได ชายชราเชื่อไปแลวกวาครึ่งอยางไมรูตัว
จากนั้นชายชราและหานลี่ก็พูดคุยกันอีกสองสามประโยค จูๆ ดานนอกก็มีเสียง
ฝเทาดังขึ้น จากนั้นก็มีคนใชน้ำเสียงสดใสพรอมกับกลั้วหัวเราะเอยขึ้น
“พี่ฟูมาที่หอคอยความลับสวรรคของพวกเรา เหตุใดถึงไมรายงานผูแซหวังสัก
หนอยเลา สหายหานเองก็เปนแขกชั้นสูง ผูแซหวังยิ่งตองมาตอนรับดวยตัวเอง”
เมื่อเสียงนั้นดังขึ้น ผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดสีเงินใบหนาซีดขาวเล็กๆ ก็เดินเขามาใน
หองโถง
ตอนที่ 941 การซื้อขายใตดิน
“หึๆ พี่หวังที่หาตัวจับยากก็ยอมออกมาแลว ขานึกวาสหายจะยังกักตนฝกฝน
‘คาถาวิญญาณเตา’ ตอไมยอมออกมาเสียอีก ไหนเลยจะกลารบกวนการฝกบำเพ็ญ
เพียรของพี่หวัง” ชายชราแซฟูดูเหมือนวาจะรูจักมักจี่กับผูบำเพ็ญเพียรชุดสีเงินมา
นานแลว จึงเอยทักทายอยางสนิทสนม
“คาถาวิญ ญาณเฒานั้นตาเฒาฝกไดแคขั้นที่เจ็ด เดาวาในชีวิตนี้คงไมมีหวังจะ
บรรลุ ร ะดั บ ก อ กำเนิ ด ขั้ น กลางแล ว แต ข า ได ยิ น ผู คุ ม กฎจ า วบอกว า มี ส หายที่ ดู
เหมือนวาจะอยูในระดับกอกำเนิดขั้นกลางมา ยิ่งไปกวานั้นยังคิดจะซื้อจวนความลับ
สวรรคที่ตั้งขายมาแลวสองสามรอยปของหอคอยขา บวกกับที่พี่ฟูก็ใหเกียรติมาที่
หอคอยขา ผูแซหวังจะไมออกมาพบไดอยางไร” ผูบำเพ็ญเพียรชุดสีเงินมีอายุหาสิบ
กวาป หลังจากกวาดสายตามายังรางของหานลี่แลว ก็ประสานมือคารวะพลางหัวเราะ
นอยๆ ออกมา
ฟงอีกฝายกลาวเชนนี้ ไหนเลยหานลี่จะยังไมรูวาอีกฝายคืออาวุโสหวังที่ชายวัย
กลางคนชุดสีขาวผูนั้นพูดถึง และยิ่งไปกวานั้นเมื่อแผจิตสัมผัสไป ก็มองออกวาอีกฝาย
คือผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดคนหนึ่ง แตใบหนาขาวนวลของอีกฝายก็ดูแปลก
ประหลาดอยูเล็กนอย เห็นไดชัดวาเปนเพราะคาถาที่ฝกฝนนั้นคอนขางพิเศษ
“พี่หวังมีมารยาทเกินไปแลว ผูแซหานเองก็ไดยินชื่อเสียงของหอคอยความลับสวรรค
มาเนิ่นนานแลว ถึงไดมาเยี่ยมเยียน” หานลี่เผยรอยยิ้มออกมา พลางคารวะตอบกลับ
“สหายหานคิดจะซื้อจวนความลับสวรรค จุๆ สหายคูควรกับที่เปนผูบำเพ็ญเพียร
จากนอกมหาสมุทรจริงๆ กระเปาหนักไมเบาสินะ ดูแลวที่บอกวานอกมหาสมุทรมี
สมบัติมากมายนั้น คงจะเปนความจริง” ชายชราแซฟูไดยินคำพูดนี้ กลับเอยขึ้นดวย
ความประหลาดใจ
“นอกมหาสมุทรมีวัตถุดิบที่คอนขางล้ำคา แตจะไปเทียบกับแผนดินใหญไดยางไร
สหายทั้งสองลอเลนแลว” หานลี่กลับเอยอยางราบเรียบ
แตแนนอนวาคำพูดนี้ของหานลี่ไมมีทางทำใหผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดสอง
คนนี้เชื่อได แตก็ไมอาจซักถามเรื่องนอกมหาสมุทรอะไรไดอีก มิเชนนั้นหากทำใหผู
บำเพ็ญเพียรระดับสูงอยางหานลี่เขาใจพวกเขาผิดและเคลือบแคลงใจขึ้นมา มันจะ
ไมใชเรื่องเล็กๆ
เวลานี้ ชายวัยกลางคนแซจาวที่เดินตามผูบำเพ็ญเพียรชุดสีเงินมาก็สาวเทามา
ขางหนาสองสามกาว วางกลองหยกสองกลองในมือลงบนโตะเบื้องหนาของหานลี่
สวนตัวเองนั้นก็ถอยกลับไปดานขางอยางรูจักวางตัว เขารูดีวา ตอนนี้อาวุโสหวังของ
หอคอยออกโรงแลว ที่นี่จึงไมจำเปนตองใหเขาพูดพลามอะไรอีก
“ในเมื่อสหายสนใจจวนความลับสวรรคของหอคอยขา ตาเฒาจึงนำของสิ่งนี้และ
ศิลาวิญญาณของสหายฟูมาใหสหายดูกอนพรอมกัน” อาวุโสหวังใชมือแตะไปที่กลอง
หยกที่ใหญกวาเบาๆ พลางเอยอยางมีมารยาท
“พี่หวัง จวนความลับสวรรคของทานอีกเดี๋ยวคอยใหพี่หานดูเถิด ใหผูแซฟูและ
สหายหานซื้อขายกันกอน” ชายชราแซฟูแบะปากชิงเอยขึ้นกอน
“คิดไมถึงวาพี่ฟูจะใจรอนถึงเพียงนี้ เชนนั้นก็ได พี่ฟูเชิญกอนเถิด ขานอยเองก็
รูสึ ก สนใจมากเหมื อ นกั น ว าสมบั ติ อ ะไรที่ ส หายหานจะนำมาแลกเปลี่ ย นกั บ ผลึ ก
วิญญาณอัสนีของสหาย” อาวุโสหวังหัวเราะอยางแหบแหงขณะเอย
ไดยินทั้งสองกลาวเชนนี้ หานลี่ก็คลี่ยิ้มเบิกบานออกมา จากนั้นก็ตบไปที่ยามเก็บ
ของอยางสบายๆ จากนั้นพลันพลิกฝามือ กลองไมสีเขียวมรกตขนาดเทาฝามือปรากฏ
ขึ้นในมือ บนผิวของกลองไมยังแปะยันตวิเศษสีทองและเงินสองแผนเอาไว
ชายชราแซฟูเห็นกลองไมกลองนี้ก็มีทาทางเครงขรึม ดวงตาอดที่จะทอประกายไมได
เห็นเพียงหานลี่วางกลองไมลงบนโตะ ผลักออกไป กลองไมไถลมาอยูเบื้องหนา
ชายชราอยางเงียบๆ
ชายชราแซฟูจับกลองไมกลองนั้นไวดวยความกระตือรือรน จากนั้นพลันสะบัดแขน
เสื้อไปบนโตะ กลองหยกที่มีขนาดคอนขางเล็กกลองนั้นถูกเขาสงมาทางหานลี่เชนกัน
หานลี่เผยสีหนาพึงพอใจออกมา พลิกฝามือฉวยกลองหยกขึ้นมาในมือ จากนั้นก็
กมหนาลงเปดฝากลองหยกออก
ลำแสงสีเงินขาวกลุมหนึ่งสวางจาออกมาจากกลอง
รูมานตาของหานลี่มีแสงสีฟาสวางวาบทันที ชั่วขณะพลันมองเห็นสิ่งของที่อยูใน
ลำแสงสีเงินอยางชัดเจน คือศิลาสีขาวขนาดเทากำปนกอนหนึ่ง
หานลี่พิจารณาของสิ่งนี้อยางละเอียดอยูครูใหญ จูๆ พลันยื่นนิ้วชี้ออกมา ลำแสง
วิญญาณสวางวาบขึ้นที่ปลายนิ้ว เปนลำแสงสีเขียวที่เปลงประกายระยิบระยับ
เมื่อสะบัดขอมือ ลำแสงสีเขียวก็สวางวาบ พุงตรงไปยังศิลาสีเงินในกลอง
ผลลัพธคือเมื่อลำแสงสีเขียวสัมผัสกับของในกลอง ก็เกิดเสียงฟาผาดังสนั่นขึ้น
ทันใดนั้นประจุไฟฟาสีเงินบางๆ หลายสายก็ทะลักออกมาจากกอนหิน คาดไมถึงวาจะ
ตานทานลำแสงสีเขียวเอาไว
“อืม เปนผลึกวิญ ญาณอัสนีดังคาด แตแคผลึกวิญ ญาณนี้มีคุณ สมบัติคอนขาง
ธรรมดา นาเสียดายจริงๆ แตขานอยก็พอเอาไปใชได” หานลี่ถอนหายใจออกมาเบาๆ
เฮือกหนึ่ง เงยหนาขึ้นเอยกับชายชราหนาแดงดวยใบหนาเครงขรึม
“ผลึกวิญญาณอัสนีระดับสุดยอดหางายเสียที่ไหนเลา ผลึกวิญญาณกอนนี้เปนสิ่ง
ที่ตาเฒาพยายามอยางหนักถึงจะโชคดีพบมันจากทองของอสูรธาตุอัสนีที่หายากตัว
หนึ่งนะ” ชายชราแซฟูที่วินิจฉัยเห็ดแกนชาดในกลองไมของหานลี่แลวเชนกัน ใบหนา
กลับเต็มไปดวยความดีใจ ดูเหมือนวาจะพึงพอใจเห็ดแกนชาดของหานลี่อยางสุดๆ
“แตเห็ดแกนชาดตนนี้ของขานอยนั้น กลับไมมีไอวิญญาณที่ยุงเหยิงเลยแมแต
นอย เปนสมุนไพรระดับสุดยอดอยางแนนอน” หานลี่เอยอยางราบเรียบ
ถึงแมวาเขาจะไมมีทางปลอยผลึกวิญญาณอัสนีไป แตแนนอนวาไมมีทางยอมรับ
การซื้อขายที่เสียเปรียบขนาดนี้แน
“นั่นมันก็ใช หากพูดถึงราคา มูลคาของผลึกวิญญาณอัสนีกอนนี้ของตาเฒาก็นอย
กวาเห็ดแกนชาดระดับสุดยอดของพี่หานอยูขั้นหนึ่งจริงๆ เอาอยางนี้ก็แลวกัน ตาเฒา
จะจายศิลาวิญญาณใหอีกสามหมื่นกอน เพื่อเปนการชดเชยเปนอยางไร” ชายชรา
หนาแดงกลับเอยอยางสบายๆ ไมไดจงใจปกปดความหางชั้นของทั้งสอง และเสนอ
เงื่อนไขของตัวเองทันที
“สหายอยาไดรีบรอนไปเลย ดูรายการของของขานอยกอนเถิด ดูวามีวัตถุดิบ
อื่นๆ หรือวารูขาวคราวของวัตถุดิบพวกนี้หรือไม ถาหากทำใหขานอยไดประโยชนละ
ก็ ศิลาวิญญาณเหลานี้ผูแซหานไมเอาก็ได” หานลี่หัวเราะออกมา วางกลองหยกในมือ
ลงบนโตะดวยสีหนาราบบเรียบ และหยิบมวนคัมภีรที่จดบันทึกวัตถุดิบที่ตองการมวน
นั้นออกมา โยนใหชายชรา
“พี่หานยังตองการวัตถุดิบอื่นหรือ?” ชายชราแซฟูเผยสีหนาประหลาดใจออกมา
แตก็รับคัมภีรนั้นมาอยางไมคิดมาก และเปดอานรอบหนึ่งอยางรวดเร็ว
เวลานี้ อาวุโสหวังที่อยูดานขางพลันมองเห็ดแกนชาดในมือของชายชราแซฟู แวว
ตาเปลงประกายสองสามครั้ง แลวมีแววขบคิด
ผานไปชั่วครู ชายชราแซฟูอานคัมภีรจบก็เผยสีหนาแปลกประหลาดออกมาขณะ
มองมายังหานลี่แวบหนึ่ง คาดไมถึงวาจะเผยสีหนาลังเลใจออกมา
“เกรงวาผูแซฟูจะตองทำใหสหายผิดหวังแลว วัตถุดิบเหลานี้หายากเกินไป ตาเฒาไม
มีเลยสักชิ้น ทวาตาเฒาอาจจะชี้แนะสถานที่ที่มีวัตถุดิบเหลานี้อยางงายๆ ใหสหาย
ได” หลังจากที่ชายชราขบคิดเล็กนอยแลว ในที่สุดก็ตัดสินใจเอยขึ้น
“ชี้แนะชองทาง สหายคงไมไดหมายถึงการประมูลอีกสองสามวันใหหลังนี้หรอก
กระมัง?” หานลี่กลอกตาไปมา พรอมกับอมยิ้ม
“ฮาๆ ที่งานประมูลหาซื้อวัตถุดิบธรรมดาๆ ไดแน แตของระดับนี้ที่สหายตองการ
นั้น มีอัตราการปรากฏตัวนอยแสนนอย ถึงอยางไรเสียสหายรวมวิถีที่มีวัตถุดิบล้ำคา
ก็เหมือนกันกับทานและขา ลวนอยากเอาของมาแลกของ” หลังจากที่ชายชราหนา
แดงหัวเราะฮาๆ ออกมา ก็เอยอยางเหยียดหยาม
“ออ ฟงจากคำพูดของสหาย หรือวามีการซื้อขายสวนตัวอะไรพวกนี้ดวย?” หานลี่
พลันตะลึงงัน ทันใดนั้นก็รูสึกดีอกดีใจ อดที่จะเอยซักถามขึ้นไมได
ชายชราแซฟูเผยสีหนาประหลาดใจเล็กๆ ออกมา ทันใดนั้นก็เผยอปากออกแต
กลับไมมีเสียงเปลงออกมา และขางหูของหานลี่ก็มีเสียงของชายชราดังขึ้น
“พี่หานชางเปนคนที่ชาญฉลาดจริงๆ ทวานี่ไมนับวาเปนการซื้อขายสวนตัวอะไร
การประมูลของเมืองจิ้นที่สิบปจะจัดขึ้นครั้งหนึ่งแบงออกเปนสวนที่เปดเผยและปด
เปนความลับมาเนิ่นนานแลว สวนที่เปดเผยแนนอนวาคืองานซื้อขายที่รานคาฝาย
ธรรมะเหลานั้นจัดขึ้น ผูบำเพ็ญเพียรทั่วๆ ไปลวนรูจัก สวนที่ปดเปนความลับนั้นก็คือ
งานซื้อขายใตดินที่รานคาฝายมารจัดขึ้น ในการซื้อขายใตดินสินคาทั่วๆ ไปก็ใชศิลา
วิญ ญาณประมู ล มา แต วัต ถุ ดิ บ อย างที่ ส หายต อ งการนั้ น ส ว นใหญ ล ว นใช สิ่ งของ
แลกเปลี่ยน ทวาเปนเพราะการซื้อขายใตดินไมคอยโปรงใสนัก ดังนั้นผูที่จะเขารวม
การซื้อขายนี้จะตองเปนผูบำเพ็ญเพียรที่มีที่มาที่ไป สหายเปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษ
จากนอกมหาสมุทร เกรงวาจะไมคอยสะดวกนั้น แตถาหากสหายยอมแลกเปลี่ยนกับ
ขา ตาเฒาก็ยินดีจะเปนผูรับรองใหสหาย คิดดูแลวสหายคงไดประโยชนจากการซื้อ
ขายใตดินอยางแนนอน” ชายชราเอยออกมารวดเดียว จากนั้นก็จองเขม็งไปยังหานลี่
ดวยสีหนาเครงขรึม พลางรอคำตอบอยางเงียบๆ
“เชนนี้นี่เอง แตขอถามพี่ฟูหนอย การซื้อขายที่เปดเผยและเปนความลับนี้จัด
พรอมกันหรือไม ถึงแมวาขานอยจะอยากเขารวมการซื้อขายใตดินมาก แตก็ไมอยาก
พลาดงานประมู ลใหญ เช น กั น ” หลั งจากที่ ห านลี่ ข มวดคิ้ วอยู ชั่ วครู ถึ งได เอ ย ถาม
รายละเอียดขึ้น
“เรื่องนี้งายมาก ถึงแมวาทั้งสองจะจัดขึ้นในชวงเวลาเดียวกัน แตวัตถุดิบที่ล้ำคา
ที่สุดจะถูกจัดประมูลอยูทายสุด ทั้งยังจงใจจัดขึ้นคนละวันกัน คิดดูแลวสหายคงไม
สนใจวัตถุดิบธรรมดาๆ ในวันแรก จึงไมจำเปนตองกังวลอะไร” ชายชราตอบกลับ
อยางเตรียมการไวอยูแลว
“ในเมื่อเปนเชนนั้น เชนนั้นก็วากันตามที่สหายกลาว ขานอยรูสึกสนใจการซื้อขายใต
ดินนี้จริงๆ” หานลี่เองก็เปนคนที่เด็ดขาดเชนกัน จึงตอบรับอยางไมตองขบคิดมากนัก
“เยี่ยม ขารูอยูแลววาพี่หานเปนคนสบายๆ ในงานประมูลวันสุดทาย สหายก็มา
รอขาที่หอคอยความลับสวรรคเถิด” ชายชราแซฟูเห็นวาประหยัดศิลาวิญญาณหลาย
หมื่นไปไดในชั่วพริบตา ก็เอยอยางเบิกบานใจเชนกัน
คำพูดที่ไมมีเสียงครั้งนี้ ทำใหผูบำเพ็ญเพียรชุดสีเงินที่นั่งดูทั้งสองถายทอดเสียง
กันอยูเงียบๆ ดานขางใจเตน แตใบหนากลับยิ้มจนตาหยีไมไดเผยสีหนาประหลาดใจ
ออกมาแมแตนอย
รอจนหานลี่และชายชราพากันเก็บผลึกวิญญาณอัสนีและเห็ดแกนชาดแลว เขา
ถึงไดฉีกยิ้มพลางเอยวา
“ยินดีกับสหายทั้งสองทานดวย จากนี้พี่หานยังอยากดูจวนความลับสวรรคของ
หอคอยขาอยูหรือไม ทวาสมบัติของหอคอยขาชิ้นนี้ตองเอาของมาแลก เห็ดแกนชาด
พั น ป ห นึ่ งต น ยั งไม พ อเลย” ถึ งแม วาเขาจะเอ ย อย างมี ม ารยาทเป น พิ เศษ แต ไม กี่
ประโยคก็ชี้มูลคาของจวนความลับสวรรคออกมาแลว
“ไมเปนไร ขอแคสิ่งนี้ทำใหผูแซหานพึงพอใจได ขานอยเองก็ไมตระหนี่” หานลี่
ฉีกยิ้มบางๆ พลางเอยอยางไมใสใจ
“ในเมื่อพี่หานกลาวเชนนี้ ขานอยก็เชื่อวาในฐานะที่พี่หานเปนผูบำเพ็ญเพียรจากนอก
มหาสมุทร การจะเอาสมบัติชิ้นนี้ของหอคอยความลับสวรรคไปไมนาจะเปนปญหา
อะไร สหายตามขามายังมิติเวลาเมล็ดเจี้ย (เมล็ดมัสตารด ที่หอคอยของเราสรางขึ้น
เปนพิเศษกอนเถิด พอเปดประสบการณแลวคอยกลับมายังหอคอยความลับสวรรค”
อาวุโสหวังไดฟงคำพูดที่ไมถอมตนของหานลี่ ก็เผยรอยยิ้มกวางออกมามากกวาเดิม
“มิติเวลาเมล็ดเจี้ย?” หานลี่พลันตกตะลึง เผยสีหนาประหลาดใจออกมาสองสวน
“ทำไม สหายไมเคยไดยินชื่อชองวางมิติเวลาพระสุเมรุหรือ? ออ ขาเกือบลืมไปวา
นี่เปนเคล็ดวิชาลับที่สามารถนำรอยแยกมิติเวลามาเปนที่วางสวนบุคคล เพิ่งจะคิดคน
ขึ้นมาในตาจิ้นไดแคพันป สหายคือผูบำเพ็ญเพียรจากนอกมหาสมุทร ไมรูจักก็ไมใช
เรื่องแปลกอะไร” อาวุโสหวังตบทายทอยตัวเอง แลวเอยอยางถึงบางออ
ตอนที่ 942 มิติเวลาเมล็ดเจี้ย
“ทำใหรอยแยกมิติเวลากลายเปนมิติเวลาเมล็ดเจี้ย? มีเคล็ดวิชาที่เหนือชั้นเชนนี้
ในยุ ท ธภพแล ว หรือ ” หานลี่ เผยสี ห น าตะลึ งงัน ออกมาอย างเห็ น ได ชั ด เอ ย อย า ง
เหลือเชื่อเล็กๆ
ปกติแลวของที่เกี่ยวเนื่องกับเคล็ดวิชาลับมิติเวลา มีอันไหนบางที่ไมนาตื่นตะลึง
และยิ่งใหญบาง จะวาไปแลว ยามเก็บของซึ่งเปนยุทธภัณฑที่หางายที่สุดในโลกของผู
บำเพ็ ญ เพี ย ร ความจริ ง แล ว ก็ ใ ช เคล็ ด วิ ช าลั บ มิ ติ เวลาเช น กั น เป น ชนิ ด ที่ น ำมา
ประยุกตใชไดและมีเห็นไดบอยที่สุด แตตอใหยามเก็บของนี้จะมีระดับที่สูงสงขนาด
ไหน ก็ยังมีจำนวนจำกัด ไมอาจเรียกไดวาเปนมิติเวลาเมล็ดเจี้ยอยางแทจริงได
แมกระทั่งผูบำเพ็ญเพียรจำนวนไมนอยยังคิดวาเคล็ดวิชามิติเวลาที่มีระดับสูงกวา
นี้จะไมอาจมาปรากฏบนแดนมนุษยได นาจะเปนแดนสวรรคที่มีความสามารถในการ
สำแดงสิ่งนี้เทานั้น ความคิดนี้ แทบจะเปนที่ยอมรับกันโดยดุษณีในเทียนหนาน
แตตอนนี้ ได ยิน อาวุโสหวังกลาวเช น นี้ คาดไม ถึงวาในต าจิ้ น จะมี เคล็ ด วิช าลั บ
หลอมรอยแยกมิติเวลาปรากฏขึ้นตั้งแตพันกวาปกอนแลว นั่นจะไมทำใหหานลี่ตก
ตะลึงไดอยางไร
“พี่หานไมตองตกใจขนาดนั้น สิ่งที่เรียกวา ‘มิติเวลาเมล็ดเจี้ย’ นั้นไมไดล้ำลึกอยางที่
ทานคิด ที่มันปรากฏขึ้นก็เปนเพียงความบังเอิญชนิดหนึ่งเทานั้น” ชายชราแซฟูกลับ
เอยขึ้นพรอมกับฉีกยิ้ม
“พี่ฟูพูดถูก ความจริงแลวมิติเวลาเมล็ดเจี้ยเปนสิ่งที่คนสวนใหญเรียกกันเทานั้น
มันเปนแคของจิ๊บจอยเทานั้น ไมเพียงจะหลอมขึ้นมาอยางยากลำบากสุดๆ ยิ่งไปกวา
นั้นวิธีใชก็มีขอจำกัดมาก จึงไมอาจใชอยางแพรหลายได จะวาไปแลว ชองวางมิติเวลา
เมล็ดเจี้ยทั้งตาจิ้นก็มีอยูเพียงสิบกวาแหงเทานั้น และที่อยูในคอหอยของขา กลับเปน
มิติเวลาเมล็ดเจี้ยที่เกาแกที่สุด” อาวุโสหวังหัวเราะอยางขมขื่นออกมาขณะเอย
“เกาแกที่สุด หรือวา…” หานลี่ขมวดคิ้ว รูสึกฉงนสงสัย
“ใช แ ล ว ความจริ ง แล ว เคล็ ด วิ ช าลั บ นี้ เป น สิ่ ง ที่ ป รมาจารย ด า นการหลอม
ยุท ธภั ณ ฑ สองสามท านของหอคอยข าสรางขึ้ น โดยไม ได ตั้งใจ ในใต ห ลานี้ มี เพี ย ง
ปรมาจารยดานการหลอมยุทธภัณฑสองสามทานจากหอคอยขาเทานั้น ความจริงแลว
หองความลับสวรรคและจวนความลับสวรรคนั้น ก็เปนเคล็ดวิชาลับที่ศึกษามาจาก
วิธีการหลอมมิติเวลาเมล็ดเจี้ยอีกทีหนึ่ง” อาวุโสหวังกลับไมไดมีเจตนาจะปดบัง คาด
ไมถึงวาจะเผยออกมาอยางหมดเปลือก
“หึๆ เชน นี้นี่เอง ขานอยอยากเป ดประสบการณ ดูความอัศจรรยของมิ ติเวลา
เมล็ดเจี้ยเสียแลว” หานลี่ตอบกลับอยางเยือกเย็น พลางหัวเราะออกมา
“พี่ ห วั ง พาสหายไปเถิ ด ตาเฒ า เคยไปที่ มิ ติ เวลาเมล็ ด เจี้ ย แล ว ไม ไปแล ว ล ะ
ขานอยตองไปจัดการกับเห็ดแกนชาดสักหนอย คงตองขอตัวลากับสหายทั้งสองกอน
แลว” ชายชราแซฟูในตอนนี้กลับประสานกำปน พลางกลาวลากับทั้งสองคนดวยสี
หนาราบเรียบ
“ในเมื่อพี่ฟูมีธุระ ผูแซหวังก็ไมรั้งแลว แลวพบกันขอรับพี่ฟู” อาวุโสหวังประสาน
มือคารวะ
แตหูของหานลี่กลับไดยินเสียงกำชับของชายชราดังขึ้นวา อยาพลาดการซื้อขาย
ใตดินวันสุดทายเด็ดขาด แนนอนวาหานลี่จึงพยักหนาใหอีกฝายอยางไมใสใจ จากนั้น
ชายชราก็เดินออกจากหองโถงไปอยางไมลังเลอีก เดินตึกๆ ลงจากหอคอยไป
“พี่หาน พวกเราไปกันเถิด มิติเวลาเมล็ดเจี้ยอยูดานหลังสุดของหอคอย เดี๋ยวเดียวก็
ถึงแลว” อาวุโสหวังถึงไดหันกายมาเอยกับหานลี่พรอมรอยยิ้ม จากนั้นก็สะบัดมือไป
บนโตะอยางไมใสใจ กลองหยกที่คอนขางใหญสลายหายไปจากบนโตะทันที
แนนอนวาหานลี่ก็ไมไดปฏิเสธ ทันทีที่เดินตามอาวุโสหวังผานเขตอาคมตองหาม
จนมาถึงที่ วางเล็กๆ ดานหลังของหอคอย ตรงใจกลางของที่วาง มีเขตอาคมสงตัว
แปลกประหลาดที่หานลี่ไมเคยพบเห็นมากอน
เห็นไดชัดวาเปนเขตอาคมสงตัวที่ซับซอนกวาเขตอาคมธรรมดาเปนอยางมาก
และใหญกวาเปนเทาตัว
หานลี่ขมวดคิ้วนอยๆ รูสึกประหลาดใจขึ้นมา
“การจะไปที่ มิ ติ เวลาเมล็ ด เจี้ ย มี เพี ย งต อ งใช เขตอาคมส ง ตั ว นี้ ส ง ตั ว ไป” ดู
เหมือนวาจะมองความงุนงงของหานลี่ออก อาวุโสหวังเอยอธิบายขึ้น
“ใชเขตอาคมสงตัว? หรือวามิติเวลาที่ถูกหลอมถูกกำหนดตำแหนงเอาไวที่ใดที่หนึ่ง”
หานลี่หยักมุมปาก รูสึกตกตะลึงอยูในใจ แตเห็นไดชัดวามันเกี่ยวเนื่องไปกับการ
หลอมเคล็ดวิชาลับ เขาจึงไมอาจถามตรงๆ ได เมื่อมองเห็นวาอีกฝายเดินเขาไปในเขต
อาคมกอน ก็เดินตามเขาไปอยางลังเลเล็กนอย
เวลานี้เขาถึงไดพบวา รอบๆ ดานของเขตอาคมสงตัวมีศิลาวิญญาณระดับกลาง
อยูเจ็ ด แปดก อ น ไม ต อ งพู ด ถึ งสิ่ งอื่ น แค เข ามาในมิ ติ เวลาเมล็ ด เจี้ย ก็ ต อ งเสี ย ศิ ล า
วิญญาณระดับต่ำเจ็ดแปดรอยกอนแลว ถาหากตอนที่กลับมาจำเปนตองสงตัวออกมา
เชน กั น เช น นั้ น การไปและกลับ มาครั้งหนึ่ งก็ ต อ งเสี ย ศิ ลาวิญ ญาณไปพั น กวาก อ น
ความฟุมเฟอยนี้ไมใชสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ จะสิ้นเปลืองไดเลย
ในตอนที่หานลี่กำลังขบคิดอยูน้ัน ศิลาวิญญาณรอบๆ เขตอาคมก็เปลงแสงสีขาว
สวางจาออกมา รางของทั้งสองที่อยูในเขตอาคมสงตัวสวางวาบแลวหายไป
หลังจากที่รูสึกวิงเวียนตาลายชั่วครู พวกหานลี่ทั้งสองคนก็มาปรากฏตัวบนกอง
ศิลาแหงหนึ่ง ใตฝาเทามีเขตอาคมสงตัวที่ไมตางอะไรไปจากเขตอาคมสงตัวที่สงมานัก
หานลี่ตั้งสติ เงยหนาขึ้นมองไปรอบๆ
มองไปปราดเดียวก็เห็น ที่วางกวางพันกวาจั้งปรากฏขึ้นเบื้องหนา บนพื้นลวน
เต็มไปดวยศิลาสีขาวโพลน มีหลุมศิลาจำนวนมากที่มีขนาดเล็กใหญไมเทากัน ใหญ
หนอยมีขนาดสิบกวาจั้ง เล็กหนอยกลับมีขนาดเพียงสองสามจั้งเทานั้น เรียงรายไม
เปนระเบียบจนไรที่เปรียบ
หานลี่สูดลมหายใจเขาเฮือกหนึ่ง พึมพำกับตัวเองในใจ มิติเวลานี้ไมเพียงจะไมมีสี
เขี ย ว ยิ่ ง ไม รู สึ ก ถึ งไอวิ ญ ญาณเลย ท อ งฟ าก็ เป น สี เทาขมุ ก ขมั ว เห็ น ได ชั ด ว า เป น
สถานที่ที่ไมสามารถดำรงชีวิตได
“พี่หานนาจะดูออก ความจริงมิติเวลานี้เปนสถานที่ที่ไมสามารถเอาชีวิตรอดได
แนนอน ถึงอยางไรเสียรอยแยกมิติเวลาที่มีชีพจรวิญญาณดำรงอยูโดยธรรมชาติ ก็
เปนสิ่งที่หาไดยากแสนยาก สวนสวนวิญญาณเลือนในตำนานที่บอกวามีไอวิญญาณ
มากกวาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของแดนมนุษยนั้น ยิ่งไมตองคิดถึงเลย ตั้งแตที่ผูบำเพ็ ญ
เพียรตาจิ้นอยางพวกเราพบรอยแยกมิติเวลานั้น ก็พบที่ที่มีชีพจรวิญญาณอยูอีกเพียง
สามสี่แหงเทานั้น แมกระทั่งความหนาแนนของไอวิญญาณยังสูในแดนมนุษยไมได แต
รอยแยกมิติเวลาเหลานี้ สำนักบำเพ็ญเพียรที่พบเขาตางก็ขอใหหอคอยของเราชวย
พวกเขาหลอมเปนมิติเวลาเมล็ดเจี้ยแลว” หลังจากที่อาวุโสหวังสงตัวออกมาจากเขต
อาคมสงตัว ก็เอยกับหานลี่พรอมรอยยิ้ม
“เชนนั้น มิติเวลาเมล็ดเจี้ยนี้นอกจากจะประหยัดพื้นที่ไปได และเขาออกไดอยาง
อิสระแลว ก็ดูเหมือนวาจะไมมีจุดพิเศษจุดอื่น มินาละ ขามาอยูที่นี่ตั้งนานแลว ยังไม
เคยไดยินคนพูดถึงมิติเวลาเมล็ดเจี้ยเลย” หานลี่ลูบคางไปมา พลางเอยดวยสีหนา
แปลกประหลาด
“ก็ไมใชอยางนั้นเสียทีเดียว ถาหากสำนักเหลานี้อยากเก็บสมบัติลับชิ้นใหญ เก็บ
กักตุนวัตถุดิบจำนวนมาก หรือวาสรางเปนหองลับในการหลบซอนศัตรูเสียเลย มิติ
เวลาเมล็ดเจี้ยเหลานี้ก็เปนตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุด แมแตหอคอยความลับสวรรค
อยางพวกเรา ก็ยังเอามาใชเปนหองทดสอบสมบัติอาคม ก็ไมผิดนัก สาเหตุที่มิติเวลา
เมล็ดเจี้ยนั้นหายากนั้น ก็เพราะรอยแยกมิติเวลาที่เหมาะสมนั้นหาไดยากจริงๆ
แตเดิมในใตหลานี้มีคนรูตำแหนงรอยแยกมิติเวลาที่แมนยำไมมากนัก ตำแหนงที่
เหมาะสมยิ่งมีเพียงสำนักตางๆ เทานั้นที่รู และยังนอยมาก บวกกับการหลอมมิติเวลา
เมล็ดเจี้ยนั้น คาใชจายของวัตถุดิบ ที่ เสียไปจึงน าตกตะลึ งอยาสุดๆ เมื่ อนำสาเหตุ
เหลานี้มารวมๆ กัน ถึงไดทำใหมิติเวลาเมล็ดเจี้ยมีนอยขนาดนี้” อาวุโสหวังรูสึกขัด
เขินเล็กนอย ปากก็เอยอธิบายอยางตอเนื่อง
“ถึงแมจะเปนเชนนั้น เดิมทีสิ่งที่ขาคาดการณไวคือมิติเวลาเมล็ดเจี้ยของหอคอยทาน
คือสามารถควบคุมไดดั่งใจ หรือแมกระทั่งอาจจะพกติดตัวได ชางแตกตางกับที่คิดไว
มากจริงๆ คาดไมถึงวาการเขาออกยังตองวางเขตอาคมสงตัว มันจึงไมอาจเรียกไดวา
เมล็ดเจี้ยพระสุเมรุ*อะไร” หานลี่ถอนหายใจออกมา พลางเอยอยางเสียดายเล็กๆ
“หึๆ พกพามิติเวลาที่มีขนาดใหญปานนี้ คงมีเพียงผูที่มีความสามารถเกรียงไกร
บรรลุแดนวิญญาณหรือเทพเซียนจริงๆ ในแดนเซียนกระมังที่มีกำลังขนาดนั้นได ใน
แดนมนุษยของพวกเรา ไมอาจมีความสามารถเหนือชั้นขนาดนั้นได หากใชวัตถุดิบล้ำ
คาจำนวนมาก รักษารอยแยกมิติเวลาใหมั่นคงเอาไวได ก็เปนการทะลุทะลวงที่สุด
ยอดแลว” อาวุโสหวังกลับไมคิดเชนนั้น
“ทำใหมิติเวลามั่นคงได? หรือวาทำใหรอยแยกมิติเวลาที่กำลังจะพังทลายกลับมา
มั่นคงไดอีกครั้ง?” หานลี่รูสึกตื่นตะลึง แววตาเปลงประกายรอนรน
“เรื่องนั้นทำไดอยูแลว ขอแครอยแยกมิติเวลานั้นไมเกิดการพังทลายจริงๆ พวก
เราสามารถใชวัตถุดิบทำใหรอยแยกมิติเวลากลับมามั่นคงไดอีกครั้ง ทำไม สหายหานรู
จัดรอยแยกเชนนี้หรือ?” ผูบำเพ็ญ เพยีรชุดสีเงินหนาเปลี่ยนสี พลางเอยถามอยาง
ประหลาดใจ
“หึๆ ผูแซหานเคยพบรอยแยกมิติเวลาที่นอกมหาสมุทร สวนจะพังทลายหรือไม
ขานอยไมมีกำลังเพียงพอจะเขาไป จึงยังไมรู แตแครูสึกวาทางเขามันไมคอยมั่นคงนัก
เทานั้น” หานลี่หัวเราะออกมาในทันที พลางเอยอยางคลุมเครือ
ผูบำเพ็ญเพียรชุดสีเงินมองออกวาหานลี่ไมอยากเอยถึงเรื่องนี้ แนนอนวาจึงไมได
ซักถามอะไรมากนักอยางรูจักวางตัว และพลิกฝามือ กลองหยกที่บรรจุจวนความลับ
สวรรคเอาไวปรากฏขึ้นในมือ
“ผูแซหวังจะปลอยจวนความลับสวรรคออกมา สหายก็เขาไปดูในจวนเถิด ดูวา
จะพึงพอใจกับดานในหรือไม ถาหากพอได พวกเราคอยมาคุยเรื่องการซื้อขายกัน”
อาวุโสหวังเอยพรอมกับหัวเราะออกมา
“เยี่ยม สหายหวังสำแดงพลังเถิด” หานลี่พยักหนาตอบรับ
เมื่อเห็นหานลี่เอยเชนนี้ ผูบำเพ็ญเพียรชุดสีเงินก็ไมลังเลอีก ยื่นมือออกมาเปด
กลองหยกออก เผยใหเห็นลำแสงสีขาวนวลดานใน มีอะไรรางๆ อยูในนั้น
ไมรอใหหานลี่มองเห็นของสิ่งนั้นอยางชัดเจน อาวุโสหวังก็บริกรรมคาถา สะบัด
กลองหยกเบาๆ ชั่วขณะนั้นลำแสงสีขาวกลุมหนึ่งพลันพุงออกมาจากกลองหยก ชั่ว
พริบตาก็ขยายใหญขึ้นบนทองฟา หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง ก็กลายเปนลำแสงสีขาว
ผืนใหญขนาดสองสามหมู ดานในมีตึกรามบานชองตางๆ ที่แกะสลักดวยหยกสีขาวอยู
เลือนราง
สองมือของอาวุโสหวังพลันรายอาคม ปากก็ตวาดดวยเสียงต่ำๆ ออกมา ชี้ไปบน
ทองฟา ลำแสงสีขาวพลันสงเสียงครวญครางต่ำๆ และรอนลงสูพื้น
หลังจากเสียง ‘ตึงๆ’ ดังขึ้น ทามกลางลำแสงวิญ ญาณนับหมื่นสาย ก็มีจวนที่
สรางขึ้นจากหยกน้ำงามสมบูรณแบบแหงหนึ่งปรากฏขึ้นลอยตัวอยูกลางอากาศต่ำๆ
ตรงตีนเขา
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลงเล็กนอย สองมือไพลหลังพลางพิจารณาอยางละเอียด
จวนแหงนี้ดูวิจิตรงดงามเปนพิเศษ เทียบกับจวนธรรมดาๆ แลว เห็นไดชัดวาเล็ก
กวาเล็กนอย แตก็มีหอสูง ลานบาน และสิ่งตางๆ อยูอยางครบครัน ผิวของมันยังถูก
มานลำแสงสีขาวหอหุมเอาไวชั้นหนึ่ง ยิ่งทำใหรูสึกราวกับวาเปนที่พำนักของเซียนใน
ฝนอยางไรอยางนั้น
หลังจากจองเขม็งไปชั่วครู รางของหานลี่ก็พลิ้วไหว กลายเปนสายรุงสีเขียวสาย
หนึ่งพุง แหวกอากาศออกไป
อาวุโสหวังเห็นเชนนั้น ก็พลิกฝามืออยางรีบรอน แผนปายหยกสีขาวแผนหนึ่ง
ปรากฏขึ้นในมือ ใชแผนปายนี้โบกไปมาเบาๆ ตรงใตจวนจวนนั้นสองสามครั้ง ลำแสง
นอกจวนสลายหายไป หานลี่ที่กลายเปนสายรุงสีเขียวเขาไปในจวนไดอยางไรสิ่งกีด
ขวาง รางกายหายวับไป

*เมล็ดเจี้ยพระสุเมรุ พระสุเมรุ หรือ เขาสิเนรุ คือชื่อภูเขาซึ่งถือวาเปนที่ตั้งแหง


เมืองสวรรคชั้นดาวดึงส เมล็ดเจี้ย หรือ เมล็ดมัสตารด เปนเมล็ดของพืชลมลุกชนิด
หนึ่ ง ที่ มี ข นาดเล็ ก มี สี เหลื อ ง ตามคำกล า วที่ ว า หากนำเมล็ ด มั ส ตาร ด เม็ ด เล็ ก ๆ
เหลานั้นใสลงไปในเขาพระสุเมรุจะสามารถจุทั้งภูเขาไดพอดี แฝงความหมายวา พุทธ
ศาสนาไรขอบเขต ทรงอิทธิฤทธิ์ยิ่งใหญ ผูเขียนจึงนำคำกลาวนี้มาเปนแรงบัลดาลใจ
ในการสรางพื้นที่ชองวางมิติเวลาขนาดเล็กๆ นั่นเอง
ตอนที่ 943 บังเอิญพบกัน
หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่งมื้ออาหาร เงารางของหานลี่ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหนา
จวนอีกครั้ง รางกายคอยๆ รอนลงมาบนเนินเขา สีหนาบนใบหนาไมไดดูตกตะลึง ดูไม
ออกถึงความพิเศษอะไร
อาวุโสหวังขมวดคิ้ว ทันใดนั้นพลันคลายปมออก รอจนหานลี่บินกลับมาถึงเนินศิลา ก็
เอยถามพรอมรอยยิ้มวา
“สหายหานรูสึกวาสมบัติชิ้นนี้เปนอยางไร พอใจหรือไม?”
“จวนไม ใ หญ ห อ งปรุ ง ยา ห อ งอสู ร ล ว นมี อ ย า งครบครั น ไม มี อ ะไรขาดตก
บกพรอง แตขานอยยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ไมเขาใจ จำตองใหพี่หวังไขขอสงสัยสักหนอย”
“ขอแคเกี่ยวของกับจวนความลับสวรรค สหายถามมาไดเลย ขานอยไมมีทาง
ปดบังแน” อาวุโสหวังตอบกลับอยางยินดีปรีดา
“ในเมื่อเปนเชนนั้น ขานอยก็จะไมเกรงใจแลว ผูแซหานรูขอดีของจวนความลับ
สวรรค วาสามารถทำใหเล็กหรือใหญไดตามประสงค สะดวกตอการพกติดตัว แตไมรู
วาสมบั ติชิ้น นี้ เหมือ นกับ ยามเก็บ ของหรือไม ที่ สามารถใส ของลงไปหรือ หยิ บ ของ
ออกมาตอนที่มันมีขนาดเล็กอยูได มีผลกับอสูรวิญญาณดวยหรือไม อสูรวิญญาณที่อยู
ในหองอสูรจะหดเล็กลงโดยไมเปนอันตรายพรอมกับจวนหรือไม?”
หานลี่จองเขม็งไปยังผูบำเพ็ญเพียรชุดน้ำเงิน พลางเอยถามอยางเชื่องชา
“สมบัติชิ้นนี้สามารถทำใหหอคอยและโตะเกาอี้ตางๆ ในหองที่ไมมีชีวิตหดเล็กลง
ไปพรอมกันได แตสำหรับอสูรวิญญาณที่มีชีวิตนั้นไมอาจทำได ถึงแมวารางเดิมของ
อสูรวิญญาณของสหายจะมีความสามารถในการแปลงกายดวยเคล็ดวิชาทมิฬ ก็ไมมี
ทางรับแรงกดจากการเปลี่ยนแปลงมิติเวลาของจวนความลับสวรรค มันจะถูกกำจัดใน
ชั่วพริบ ตา และยิ่งไปกวานั้น ตอ ให มี อสู รวิญ ญาณที่ สามารถทนต อ แรงกดไดจ ริงๆ
หลังจากที่จวนความลับสวรรคหดเล็กลงแลว จวนก็จะปดตายทันที ไมมีทางดูดซับไอ
วิญญาณใดๆ จากภายนอกได นานวันเขา อสูรวิญญาณที่อยูดานในก็มีเพียงตองตาย
เทานั้น”
อาวุโสหวังไมไดคิดจะปดบัง เอยออกมาอยางหมดเปลือก ถึงอยางไรเสียของพวก
นี้หากทดสอบเล็กนอย ก็รูคำตอบไดทันทีอยูแลว
“เชนนั้น ทุกครั้งที่จะเก็บจวน ก็ตองเคลื่อนยายสมุนไพรวิญญาณในสวนสมุนไพร
ออกมากอ นถึงจะได มิ เชน นั้ น ก็ไม มี ท างรอดได” หานลี่ ขบคิ ดเล็ ก น อย พลางเอ ย
ซักถาม
“พี่หานพูดถูก เรื่องพวกนี้ลวนเปนปญหาของจวนความลับสวรรคที่ไมอาจแกไข
ได ถึงแมจะเปนเชนนั้น แตเพราะอำนาจของเขตอาคมที่ติดมากับจวนตั้งแตตอนแรก
จึงทำใหเรียกออกมาใชไดตลอดเวลา มูลคาของมันก็ยังไมใชสิ่งที่สมบัติธรรมดาๆ จะ
เทียบเทียมได” อาวุโสหวังขมวดคิ้วทั้งสองแนน พลางเอยดวยสีหนาราบเรียบ
“ใช นี่คือสาเหตุที่ผูแซหานสนใจจวนความลับสวรรค ถาหากจวนความลับสวรรค
มีประสิทธิภาพเปนปญหาเชนนั้นจริงๆ เกรงวาคงไมใชสิ่งที่ขานอยใฝฝนอยากจะมี
แลวละ” หานลี่กลับหัวเราะออกมาเบาๆ
“เชนนั้น พี่หานคิดจะแลกเปลี่ยนของสิ่งนี้ไปหรือ!” ดวงตาคูนั้นของอาวุโสหวัง
เปลงประกาย เอยอยางยินดีปรีดาเล็กๆ
“ขายังมีวัตถุดิบล้ำคาที่ใชไมไดอยูในมือ สหายลองเอารายการของที่อยากแลกให
ขาดูกอนเถิด ขาจะดูวาสามารถสนองอะไรใหได! จากนั้นคอยปรึกษากันวาตองใช
วัตถุดิบเทาไหรถึงจะแลกกับสมบัติชิ้นนี้ไดก็แลวกัน” หานลี่เอยพรอมกับยิ้มนอยๆ
ดวยอารมณที่ผอนคลาย
“นั่นมันแนนอนอยูแลว วัตถุดิบที่หอคอยของขาตองการลวนอยูในคัมภีร สหาย
โปรดดูกอนเถิด” ผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดสีเงินมีใบหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม สะบัด
แขนเสื้อ ลำแสงสีขาวสายหนึ่งพุงไปหาหานลี่
หานลี่ควาของสิ่งนั้นเอาไว นั่นก็คือคัมภีรสีขาวที่เปนทางการมวนหนึ่ง
ทั น ใดนั้ น เขาที่ อ ยู บ นเนิ น ศิ ล า ก็ ถื อ คั ม ภี ร ม ว นนั้ น ด ว ยมื อ ทั้ ง สองมื อ พลาง
พิเคราะหดู
……
หนึ่งชั่วยามผานไป หานลี่ปรากฏตัวที่ประตูใหญของหอคอยความลับสวรรค โดย
มีอาวุโสหวังเปนคนมาสงเขาดวยสีหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม
หานลี่หันกายไปทำความเคารพเขา หลังจากกลาวลาสองสามประโยค ก็บินจากไป
และหลังจากที่อาวุโสหวังใชสายตาสงหานลี่จนเงารางหางไกลออกไป ก็เดินกลับ
เขาไปในหอคอยความลับสวรรคดวยใบหนาพึงพอใจ
ในเวลาเดียวกันนั้น หานลี่พลันลูบยามเก็บของตุงๆ ที่เอว แววตาสวางวาบสอง
ครั้ง มุมปากหยักรอยยิ้มขึ้น
หลังจากเสียวัตถุดิบล้ำคาจำนวนมากที่เขาใชไมไดแลกกับจวนความลับสวรรค
มาแลว เขาก็แบงแกนอสูรและสมุนไพรวิญญาณสวนหนึ่งขายใหกับหอคอยความลับ
สวรรค เพื่อแลกกับศิลาวิญญาณดวยจำนวนที่นาตกตะลึง
เมื่อขบคิดถึงใบหนาตะลึงงันของอาวุโสหวังผูนั้น ในตอนที่เขาเอาวัตถุดิบตางๆ
ออกมาจำนวนมาก หานลี่ก็รูสึกวานาขันขึ้นมาในเวลาเดียวกัน ในใจกลับเพิ่มความ
ระมัดระวังตัวมากขึ้น
ทฤษฎีที่วาคนตายเพราะทรัพยสิน นกตายเพราะอาหาร ไมวาจะเวลาไหนก็ใชได
ทั้งนั้น ขอแคคุมคาใหลงมือ เขาก็ไมคิดวาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางคน
หนึ่งอยางตัวเอง จะไมมีใครกลาลวงเกิน
ถึงแมวาหอคอยความลับสวรรคจะมีชื่อเสียงยิ่งใหญเพียงนี้ ตามหลักการแลวก็มี
ความนาเชื่อถือไมเลว แตเผยไปแลววาร่ำรวย แถมยังหลอกวาเปน ผูบำเพ็ญ เพี ยร
สันโดษจากนอกมหาสมุทรอีก เขาจึงตองระมัดระวังตัวขึ้น เพื่อไมใหอาวุโสหวังเกิด
ความคิดชั่วรายอะไรขึ้นมา
ดังนั้นเมื่อเดินออกจากหอคอยความลับสวรรค หานลี่ก็แผจิตสัมผัสสวนหนึ่งไป
รอบๆ ดูวามีใครดักซุมรอตนเองอยูไหม
ผ า นไปชั่ ว ครู เมื่ อ แน ใ จว า ไม มี ใ ครตามรอยตนเองมาแล ว ก็ เดิ น ไปที่ มุ ม อั บ
ดานหลังหอคอยอีกแหง รางกายสั่นเทา สรีระสูงขึ้นสองสามชุน ใบหนาและอาภรณ
เปลี่ยนไปพรอมกับลำแสงสีเขียวที่สวางจาออกมา
เมื่อเขาเดินออกมาจากดานหลังหอคอยอีกครั้ง ก็กลายเปนนักปราชญวัยกลางคน
สวมชุดนักปราชญสีฟาคนหนึ่ง มีเครายาวสามจุด หนาตาแปลกประหลาด
จากพลังยุทธของเขาในตอนนี้ นอกเสียจากจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด
ขั้นปลาย คนอื่นก็ไมมีทางมองเห็นใบหนาที่แทจริงของเขาได
หานลี่ถึงไดวางใจเดินไปที่หอคอยรานคาอื่นๆ
หลังจากเขาไปสองสามรานแลว หานลี่ก็รูสึกผิดหวังเพราะไมไดอะไรเลย
แตไมใชเพราะรานคาใหญๆ เหลานี้ไมมีสมบัติอะไร เถาแกของหอคอยเหลานี้
ลวนเปนฝายแนะนำวัตถุดิบสมบัติโบราณให หานลี่เห็นแลวก็รูสึกถูกใจอยางสุดๆ แต
สิ่งที่นาเสียดายก็คือ วัตถุดิบเหลานี้ลวนไมใชสิ่งที่หุนเชิดและพัดตรีเปลวเพลิงตองการ
เขานั้นไมไดขาดแคลนสมบัติโบราณทั่วๆ ไป ดังนั้นหลังจากขบคิดอยางละเอียดแลวก็
ไมไดซื้อมาสักชิ้น
“ดูแลวคงมีเพียงตองรอใหงานประมูลเปดตัวเทานั้น” หลังจากนั้นไมนาน หานลี่
ที่ยืนอยูสุดถนน มองไปยังตำหนักศิลาที่ตั้งตระหงานอยูเบื้องหนา พลางขบคิดในใจ
ตำหนั ก ที่ ดู แ ล วเก าแก ค ร่ำครึอ ย างสุ ด ๆ นั่ น ก็ คื อ ‘ตำหนั ก แสงสมบั ติ ’ ดู แ ล ว
แตกตางกับตำหนักธรรมดาๆ เล็กนอย คาดไมถึงวาจะแบงออกเปนสามชั้น ทุกชั้นมี
ความสูงสิบกวาจั้ง ราวกับหอคอยยักษ
คงมีเพียงสิ่งปลูกสรางขนาดมหึมาระดับนี้เทานั้นที่สามารถบรรจุผูบำเพ็ญเพียร
นับพันคนได ถึงจัดงานประมูลขึ้นที่นี่
ที่ประตูใหญของตำหนัก ผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณสองสามคนรักษาการณ
อยูตรงนั้น คอยหามไมใหผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ เขาไปขางใน ดูทาคงเตรียมการ
สำหรับงานประมูลที่ยังไมไดเริ่มขึ้น
นอกจากหานลี่แลว ก็ยังมีเหลาผูบำเพ็ญเพียรที่ชี้ไปทางตำหนักศิลาแหงนี้เชนกัน
ดูทาคงรูแลววาตำหนักแหงนี้ใกลจะเปนสถานที่ในการจัดงานประมูล
หานลี่มองลึกเขาไปในตำหนักแสงสมบัติสองสามครั้ง เตรียมจะหันกายจากไป
แตในตอนนั้นเอง จูๆ ก็มีเสียงผูบำเพ็ญเพียรชายหญิงสี่คนเดินออกมาจากตำหนัก
หานลี่กวาดตามองไปแวบหนึ่งอยางไมใสใจ ผลลัพธคือทำใหหนาเปลี่ยนสี หัน
กายหลบอยางแสรงทำเปนจิตใจสงบ สาวทาวไปยังเสนทางที่มาตอนแรก
“ชากอน สหายผูนั้นโปรดชากอน” เขาเพิ่งออกเดินไดสองกาว ดานหลังก็มีเสียง
ไพเราะเสนาะหูดังขึ้น
หานลี่ รู สึ ก จิ ต ใจหนั ก อึ้ ง กล า มเนื้ อ บนใบหน า กระตุ ก เล็ ก น อ ย ร า งกายก็ ยั ง
หยุดชะงัก
“สหายมีธุระอันใดหรือ?” หานลี่หันกายกลับมา พลางเอยอยางราบเรียบ
หางออกไปหาหกจั้งดานหลังของเขา สตรีที่สวมผาคลุมหนาสีขาว ผิวขาวเนียน
ละเอียด กำลังใชดวงตาคูงามที่เปลงประกายพิจารณาเขา
และสตรีที่อยูดานขางผูนี้ ก็ยืนอยูขางๆ สตรีคนหนึ่งและบุรุษอีกสองคน ตางมอง
มาทางหานลี่ดวยความตะลึงงันเชนกัน
ภายใตจิตสัมผัสที่กวาดออกไปนั้น คนเหลานี้คาดไมถึงวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับ
กอกำเนิด โดยเฉพาะสตรีชุดขาวและผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดสีดำอายุประมาณสี่สิบกวา
ปที่เคียงบากับนางอยู ยิ่งอยูในระดับกอกำเนิดขั้นกลางเหมือนกันกับเขา
หานลี่รูสึกจิตใจหนักอึ้ง
“ไมมีอะไร ขานอยเห็นวาพลังยุทธของสหายไมธรรมดา จึงอยากรูจักสักหนอย
สหายคงไมถือสากระมัง?” สตรีชุดขาวพิจารณาหานลี่ขึ้นๆ ลงๆ พลางเอยพรอมกับ
รอยยิ้มพริ้มพราย
ถึงแมวาจะมองเห็นใบหนาของสตรีผูนี้ไมชัด แตรางกายก็ผอมสูง อากัปกิริยาเยายวน
นี่เปนการเชื้อเชิญของสาวงามคนหนึ่ง ทวาในใจของหานลี่กลับไมมีความรูสึกหลงใหล
แตเปนตกตะลึง และคิดจะหันกายจากไปในทันที
เพราะวาสตรีผูนี้ก็คือ ธิดาเทพเทียนหลานที่เคยประมือกับเขาครั้งหนึ่งในทุงหญา
“รูจักหรือ สหายลอเลนแลว จากบุคลิกและพลังยุทธของสหาย นั่นเปนเรื่องที่
ขานอยใฝฝนถึงก็ทำไมได แตแคตอนนี้ขานอยมีธุระดวน จึงไมสะดวกจะอยูที่นี่”
หานลี่แอบกนดาในใจ แตสิ่งที่แสดงออกมาก็ยังเปนการคำนับดวยความเย็นชา
และหันกายเดินจากไปอีกครั้ง
“เหตุ ใดสหายถึ งได รีบ รอ นเช น นี้ ข ายั งมี อี ก หลายคำถามอยากซั ก ถามสหาย
สหายจะตอบขานอยไดหรือไม” เงารางของสตรีชุดขาวพลิ้วไหว พุงออกไปขวางทาง
หานลี่เอาไว พลางเอยขึ้นพรอมกับคิ้วดำขลับที่ขมวดมุน
“ทำไม สหายกำลังจะซักถามคนรับใชหรือ?” หานลี่มีสีหนาเครงขรึม ปากก็เอย
ขึ้นน้ำเสียงแข็งกระดาง
“แมนางหลิน เจาและสหายผูนี้มีความแคนตอกันหรือ?” ในที่สุดผูบำเพ็ญเพียร
ชุดดำก็ทนไมไหวเอยถามขึ้น ใบหนาของคนผูนี้มีไอสีดำจางๆ ปกคลุมอยู มองปราด
เดียวก็รูแลววาฝกฝนเคล็ดวิชาสายมารจนอยูในระดับขั้นที่ล้ำลึกแลว
“เปลา ถึงแมวาจะเคยพบหนาสหายผูนี้เปนครั้งแรก แตไมรูเพราะเหตุใด ถึงได
รูสึกวาเขาเหมือนกับคนที่ขาตามหาในตาจิ้น พี่เกอเองก็รูนี่นา เพื่อตามหาคนผูนั้นขา
อยูที่ตาจิ้นมาหลายปแลว ดังนั้นนองหญิงจึงอยากมั่นใจวา เขาใจผิดหรือไม”
ธิดาเทพเทียนหลานลูบเสนไหมสีเขียวบนบา มองมาทางหานลี่ดวยความเยือกเย็น
“อะไรนะ เจาจะบอกวาคนผูนี้คือคนที่มีธงตาขายภูตผีของพรรคขาหรือ!”
ผูบำเพ็ญ เพียรชุดดำที่นับวามีหนาตาละเอียดออนและงดงาม ทันใดนั้นก็เครง
ขรึมลง ใชสายตาเปนศัตรูจองเขม็งมายังหานลี่
“ใชหรือไมขาก็ไมแนใจ ถึงแมวาใบหนาและรูปรางจะไมเหมือน แตขารูสึกวา
ใกลเคียง และยิ่งไปกวานั้นดานหลังของคนผูนี้ก็แบกกระบอกไมไผที่รูปรางไมแตกตาง
กันนักเอาไวดวย” ธิดาเทพเทียนหลานหรี่ตาที่สดใสลง พลางเอยอยางราบเรียบ
“กระบอกไมไผ!” ผูบำเพ็ญ เพี ยรสายมารสวมชุดสีดำไดยิน แลวพลัน ตกตะลึง
สายตาตกไปอยู ต รงสิ่ ง ที่ ถู ก ห อ หุ ม เอาไว ด า นหลั ง ของหานลี่ ดู แ ล ว ก็ เหมื อ นกั บ
กระบอกไมไผหนาๆ กระบอกหนึ่งจริงๆ
ทวาเมื่อเขาคิดจะใชจิตสัมผัสตรวจสอบสิ่งที่อยูดานในนั้น กลับถูกจิตสัมผัสที่
แข็งแกรงกวาอีกกลุมดีดกลับมา
เขาพลันตะลึงงัน ดึงจิตสัมผัสกลับมาอยางรอนรน สีหนาเย็นเยียบขึ้นมากกวาเดิม
“สหายผูนี้ ขานอยเกอเทียนเหาจากพรรคตาขายทมิฬ นายทานเปดสิ่งที่หอหุม
อยูที่หลังออก ใหพวกเราชมหนอยไดหรือไม ขอแคไมใชสิ่งที่พวกเราคิดไว แนนอนวา
จะไมรบกวนสหายอีก” เกอเทียนเหาเอยอยางเชื่องชา ใบหนาเผยการระวังตัวเพิ่มขึ้น
หลายสวน
ไม ใช แ ค เขา บุ รุษ หนึ่ งคนและสตรีอี ก สองคนที่ เหลื อ ซึ่ งแต งกายไม ต างกั น นั ก
หลังจากมองสบตากันแวบหนึ่ง รางกายก็พลิ้วไหวมาขนาบขางหานลี่เอาไว กลายเปน
ทาทีคุกคาม
หานลี่เอามือไพลหลังดวยใบหนาไรความรูสึก ไมไดกลาวอะไรออกมา
ถึงแมวาคนเหลานี้จะไมไดสำแดงวิชาหรือใชสมบั ติอาคมอะไร แตไอมารที่ สูง
ขนาดนี้ ก็ทำใหบรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาในทันที
ตอนที่ 944 คุกคาม
ตอนนี้ ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมที่จับจองสถานการณอยูรอบๆ เห็นพลัง
ยุทธของหานลี่และคนเหลานี้แลว ชั่วขณะนั้นก็หนาเปลี่ยนสีแลวสลายกันตัวไป ไมมี
ใครกลาแอบดูอยูแถวๆ นี้ หากผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงขนาดนี้ลงมือ ปลาเล็กปลานอย
อยางพวกเขาก็จำตองไดรับผลกระทบ
หานลี่มองรอบๆ ตำหนักศิลาดวยความเย็นชา ชั่วพริบตาก็เหลือเพียงพวกเขา
ไมกี่คน หอคอยตางๆ ก็ทยอยกันเปดเขตอาคมปองกันราวกับขาศึกมาประชิดประตู
เมืองแลว ใบหนาของเขาพลันกระตุก ลำแสงสีเขียวแวววาวชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นบน
ใบหนาอยางแปลกประหลาด ดวงตาที่เครงขรึมคูนั้นเปลงลำแสงเย็นเยียบออกมา
เกอเทียนเหา ธิดาเทพเทียนหลาน กับพรรคพวกทั้งสี่คนเห็นสถานการณเชนนี้ ก็
โคจรลมปราณดวยความตื่นตัวทันที สมบัติอาคมในรางก็เตรียมพรอมบุก
แตในตอนนั้นเอง หานลี่ดูเหมือนวาจะนึกอะไรออก เขาหัวเราะอยางเย็นชาออก
มาแลว สลายลำแสงสีเขียวบนใบหนาลง แลวเอยอยางราบเรียบวา
“หากขาจำไมผิดละก็ ในยานรานคาซีจิ้นหามไมใหผูบำเพ็ญเพียรสำแดงฝมือใน
ยานรานคา ถาหากฝาฝนจะถูกสามสำนักเตาและสี่สำนักพุทธที่เปนผูสนับสนุนยาน
รานคานี้ไลสังหาร หรือวาทุกทานอยากลองลิ้มรสการถูกไลสังหารดู หรือคิดจะใช
พรรคตาขายทมิฬเปนโล จึงไมเห็นสามสี่สำนักใหญอยูในสายตา”
“ฮึ! ผูใดกลาไมเห็นสองชีพจรสำนักเตาและพุทธของพวกเราอยูในสายตา อาตมา
อูพี่ อยากพบหนาสักหนอย”
ในตอนที่หานลี่เพิ่งจะเอยปากออกไปนั้น น้ำเสียงทรงพลังก็ดังมาจากที่ไกลแสนไกล
จากนั้นก็มีลำแสงสีทองและเงินสองกลุมบินออกมาจากหอคอยใดสักหอคอยหนึ่ง
มุงตรงมาทางนี้ ชั่วพริบตาก็มาถึงเบื้องหนาของทุกคน หลังจากหมุนโคจรหนึ่งรอบก็
รอนลงมา เผยใหนักพรตและภิกษุสองคน
“ขาก็วาผูสูงศักดิ์ที่ไหน ที่แทก็สหายจากพรรคตาขายทมิฬ ทำไม พรรคของทาน
คิดจะฝาฝนกฎ ตอสูกันในยานรานคาซีจิ้นหรือ?” ผูที่พูดก็คือนักพรตที่น้ำเสียงดูไม
ค อ ยเป น มิ ต ร นั ก พรตชราผมสี ด อกเลาคนนี้ มี ใบหน า แดงก่ ำ แต ด วงตาทั้ ง สอง
กลับถลึงออกมา ทาทางฉุนเฉียว
อีกคนหนึ่งคือภิกษุวัยกลางคนที่ใบหนาอัปลักษณ จมูกเชิดรั้น ถึงแมวาภิกษุผูนี้
จะไมไดเอยปาก แตก็มีสีหนาไมพอใจเชนกัน เขามองพิจารณาคนของพรรคตาขาย
ทมิฬอยางเย็นชา แตแคตอนที่สายตากวาดมายังหานลี่และธิดาเทพเทียนหลานนั้น
กลับเผยสีหนาประหลาดใจนอยๆ ออกมา
มีผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดนิรนามมาปรากฏตัวขึ้นที่ตาจิ้น ถึงแมวาจะมี
ความเปนไปได แตกลับไมมากนัก สวนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดที่พลังยุทธสูงสง
จนอยูในขั้นกลางแถมยังนิรนามนั้น ยิ่งหายากเขาไปใหญ แตตอนนี้ไมเพี ยงจะมีผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางชายหนึ่งหญิงหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหนา ยิ่งไปกวา
นั้นยังไมคุนหนาเลย จะไมทำใหภิกษุผูนี้ประหลาดใจไดอยางไร
“อูพี่! ผูแซเกอแคอยากตรวจสอบบางอยางกับสหายที่อยูตรงหนาเทานั้น ทำไม
เรื่องนี้เจาตองเขามายุงดวยหรือ” เห็นไดชัดวาเกอเทียนเหาเองก็รูจักนักพรตชรา จึง
เอยอยางเยือกเย็น
“ไมวาเจาจะคิดอะไรอยู แตในยานรานคาไมอนุญาตใหผูใดฝาฝนกฎ หากพวก
ทานคิดจะลงมือก็เชิญยายไปที่อื่น มิเชนนั้น อยามาโทษวาอาตมาไมเกรงใจ” นักพรต
ชราเอยอยางเขมงวด
“อู พี่ เจ ารอให พ วกข าลงมื อ ก อ น แล ว ค อ ยลงมื อ ผู แ ซ เก อ อยากแลกเปลี่ ย น
ประสบการณ กับสำนักเที่ยงแทมาตั้งนานแลว” เกอเทียนเหาไดยินแลวพลันโกรธ
เกรี้ยว น้ำเสียงก็แข็งกระดางขึ้น
“สหายเกอไมจำเปนตองโกรธเคือง ขอแคพวกทานไมใชลมปราณ อาตมาทั้งสอง
ก็จะไมสอดมือเขามายุงเรื่องของเหลาสหาย แตสองทานนี้ดูไมคุนหนาเลย ชวยบอก
ชื่อ แซให ฟ งหนอ ยไดห รือ ไม ” ภิ กษุ อั ป ลั กษณ ที่ อยู ดานขางเบ ป าก กลอกตาไปมา
นอยๆ ขณะเอย
“หลินอิ๋นผิงจากเทียนหลาน คารวะสหายทั้งสอง ความจริงแลวเรื่องนี้มันงายมาก
ขาแคสงสัยวาสหายยผูนี้คือศัตรูตัวฉกาจที่ตำหนักเทียนหลานศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา
กำลังตามหาอยู ดังนั้นจึงอยากขอใหสหายชวยปลดหอผาที่หลังออก เพื่อยืนยันฐานะ
กับขา ถาหากสหายไมใชคนที่ขาตามหา อิ๋นผิงก็ยินดีท่ีจะเลี้ยงสุราเปนการขอโทษ ไม
กวนใจตออยางแนนอน” ลำคอระหงของธิดาเทพเทียนหลานหันมองมาทางหานลี่
แวบหนึ่ง เอยพรอมกับแววตาที่สุกสกาว
“นาขัน เจาคิดวาผูแซลี่เปนใคร อาศัยอะไรถึงตองไปยืนยันฐานะกับเจา?” หานลี่
เอยอยางราบเรียบดวยสีหนาไมตื่นตกใจ
“สหายไมยอม เชนนั้นนายทานก็อาจจะเปนศัตรูตัวฉกาจของตำหนักขา ขาใน
ฐานะธิดาเทพของตำหนักศักดิ์สิทธิ์ ไมอาจปลอยใหทานจากไปแนนอน” หลินอิ๋นผิง
เมมริมฝปากบางเขาหากันแนน ไอสังหารทะลักเขามาในดวงตา พลางเอยอยางเย็นชา
“ธิดาเทพเทียนหลาน หรือวาคือธิดาเทพของชาวทูอูแถบทุงหญา” นักพรตชรา
ได ยิ น พลั น ใจเต น ขมวดคิ้ ว เข าหากั น เล็ ก น อ ยขณะเอ ย ถาม ภิ ก ษุ อั ป ลั ก ษณ ที่ อ ยู
ดานขางไดยินคำพูดนี้ สายตาก็ฉายแววประหลาดใจแวบผานไป
“ทำใหสหายทั้งสองเห็นเรื่องขบขันแลว ขารับตำแหนงธิดาเทพของชนเผาจริงๆ”
หลินอิ๋นผิงยอมรับดวยสีหนาราบเรียบ
“อาจารยเซียนซุนของชนเผาทานมีคุณสมบัติกาวกระโดด อายุยังไมถึงสี่รอยปก็
บรรลุระดับกอกำเนิดขั้นกลาง เคยพบหนากับอาตมาหลายครั้งแลว ไมทราบวาตอนนี้
สบายดีหรือไม?” สีหนาโกรธเกรี้ยวของนักพรตชราอูพี่หายวับไป เอยถามดวยน้ำเสียง
ที่ออนลง
“อาจารยเซียนซุนสบายดี บรรลุระดับกอกำเนิดขั้นปลายเมื่อยี่สิบสามสิบปกอน
ตอนนี้เปนหนึ่งในสี่อาวุโสของชนเผาขา” หลินอิ๋นผิงไดยินวานักพรตชรามีทาทีเหมือน
รูจักกับเทพเซียนของชนเผาตน ก็รูสึกดีอกดีใจขึ้นมา
“สหายซุนบรรลุขั้นปลายแลว ไมตางจากที่อาตมาคาดการณไวมากนัก เดินมาถึง
ขั้น นี้ ไดโดยมี อ ายุเพี ยงเท านี้ ไมแ น วาสหายซุ น อาจจะบรรลุ ไปอี กระดั บ ก็ เป น ได ”
นักพรตชรามีสีหนาประหลาดใจ คาดไมถึงวาจะเอยอยางซาบซึ้งออกมา
หานลี่สัมผัสไดวาทาไมดีแลว ในหัวจึงมีความคิดเคลื่อนไหวไปมาอยางรวดเร็ว
หรือวาตองลงมือตอกรกับคูตอสูระดับกอกำเนิดมากมายขนาดนี้ที่นี่จริงๆ แลว
ตองสำแดงเงาโลหิตหลีกหนีอีกครั้ง
ในตอนที่เขากำลังลังเลอยางสุดๆ นั้น จูๆ ในหัวก็มีเสียงเบาๆ ราวกับกระซิบของ
เทพขับเคลื่อนดังขึ้น หลังจากที่เขาฟงประโยคสั้นๆ นั้นดวยสีหนาราบเรียบ คนก็เยือก
เย็นลงในทันที
และในตอนนั้นเอง หลังจากที่นักพรตผูนั้นถามถึงอาจารยเซียนซุนแลว สายตาก็
กวาดมาบนเรือนรางของหานลี่ หลังจากลังเลเล็กนอย ในที่สุดก็เอยถามหานลี่วา
“สหายพลังยุทธไมธรรมดา ไมทราบวาบอกประวัติความเปนมากับขานอยได
หรือไม บางทีอาตมาอาจจะตัดสินแทนสหายทั้งสองได” ถึงแมวานักพรตชราจะไมรู
ฐานะที่แทจริงของหานลี่ แตผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางคนหนึ่ง ถึงแมวา
จะเปนเพียงผูบำเพ็ญเพียรสันโดษ ก็ไมอาจตั้งตนเปนศัตรูไดงายๆ ดังนั้นจึงเอยอยางมี
มารยาทเปนพิเศษ
“ผูแซลี่ดูเหมือนจะไมเคยไดยินวาการเขามาในยานรานคาซีจิ้น จำเปนตองบอก
ฐานะความเปนมาเลย ถาหากยานรานคาของทานมีเงื่อนไขนี้จริงๆ ขานอยก็จะถือวา
ไมใชขอยกเวน แตถาหากไมมีละก็ ก็ประทานโทษดวยที่ขานอยไมอยากจะพูดใหมาก
ความนัก” หานลี่ชักสีหนา ใชน้ำเสียงถากถางเอยขึ้น
เมื่อไดฟง นักพรตชราก็มีสีหนาเครงขรึม ในใจรูสึกโกรธเกรี้ยวขึ้นมา แตไมรอให
เขาไดเอยอะไรอีก ภิกษุดานขางกลับหัวเราะคิกคักออกมาพลางชิงพูดตัดบทวา
“ยานรานคาของขาไมมีกฎขอนี้จริงๆ ที่สหายอูพี่ถามเมื่อครูนั้นเปนการถามโดย
สวนตัว เพราะหวังดีจะชวยสหายทั้งสองแกไขความเขาใจผิด ถาสหายไมยอมบอกก็
ไมเปนไร แตเราสองคนก็ไมอาจปลอยใหทุกทานปะทะกันในยานรานคาได หากสหาย
ไปหลินไปรอเขาที่ทางเขา ไมยอมปลอยใหสหายจากไป ก็ไมอยูในอาณาเขตที่พวกเรา
ทั้งสองจะจัดการแลว ถึงตอนนั้นสหายคนเดียวถูกผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดสี่คน
ลอมไว เกรงวา…”
ภิ ก ษุ ห น า ตาอั ป ลั ก ษณ หั ว เราะคิ ก คั ก ออกมา แต ในคำพู ด ที่ มี เจตนาคุ ก คาม
เล็กนอย กลับเผยออกมาอยางชัดเจน
หานลี่ไดฟงแลวพลันหัวเราะอยางเย็นชาไมหยุด แตเมื่อกวาดสายตาไปที่เกอ
เทียนเหาและธิดาเทพเทียนหลาน เห็นพวกเขาแววตาเปลงประกายไมแนนอน ดูแลว
เพื่อธงตาขายภูตผีและรางแยกอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกเขาเก็บไปนั้น แปดเกาสวนคนกลุมนี้
คงจะทำเชนนี้จริงๆ
ดังนั้นขณะที่ความคิดเคลื่อนไหว หานลี่ก็จองเขม็งไปยังหลินอิ๋นผิง จูๆ พลันเอย
อยางเครงขรึมวา
“ขอแคดูของที่ขาหอเอาไว ก็พอหรือ? ถาหากขานอยไมใชศัตรูคูแคนที่ทุกทาน
กลาวถึง ถาหากพวกเจาจำคนผิด ของที่หอไวไมใชสิ่งที่พวกเจาคิด แลวจะทำอยางไร?
ทุกทานคงไมคิดวาแคพูดขอโทษคำหนึ่ง ก็ทำใหโทสะของผูแซลี่มลายหายไปหรอก
กระมัง?”
“หมายความวาอย างไร เจ ากำลั งใช อ ำนาจคุ ก คามพวกเรารึ” เก อ เที ย นเหา
น้ำเสียงเย็นเยียบ ทาทางโหดเหี้ยมขึ้นมา
“นาขัน ในเมื่อจำคนผิด แลวยังบังคับใหผูแซลี่เปดหอออก การรังแกคนอื่นเชนนี้
เจาคิดวาวัน ขางหน าขาน อ ยจะทำอยางไร? ข าน อยไม มี ความสามารถอื่ น ใด แต ก็
เชี่ยวชาญเคล็ดวิชาหลีกหนีอยูหลายชนิด ถึงแมวาพวกเจาสี่คนจะรวมมือกัน ขานอย
ก็มั่นใจไดหกเจ็ดสวนวาจะหนีออกไปได แตหลังจากนั้น ก็อยามาโทษวาผูแซลี่ลงมือ
กับพรรคและพวกทานอยางไมปรานีเลา ขานอยตัวคนเดียว จึงไมจำเปนตองกลัววา
พวกทานจะแกแคนอยูแลว” หลังจากที่หานลี่หัวเราะอยางบาคลั่งออกมา ก็เอยอยาง
ทะมึนทึง
เมื่อไดฟง ไมใชแคเกอเทียนเหาหลินอิ๋นผิงและพวกที่หนาเปลี่ยนสี แมแตภิกษุ
และนักพรตชราอูพี่กย็ ังมองสบตากันแวบหนึ่ง ซุบซิบในใจขึ้นพรอมกัน
ฟ งจากคำพู ด ของอี ก ฝ าย คนผู นี้ ไม เพี ย งจะเป น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย นสั น โดษระดั บ
กอกำเนิดขั้นกลาง และยิ่งไปกวานั้นยังเปนผูที่เจาคิดเจาแคน คนที่รับมือยากเชนนี้
สำนักและพรรคตางๆ ไมควรจะไปลวงเกินจริงๆ
ถึงอยางไรเสียพลังยุทธของอีกฝายอยูในขั้นนี้ ถาหากลงมือโดยไมสนใจฐานะ
กฎเกณฑของสำนักตางๆ ทำรายผูคน มันจะยิ่งกลายเปนเรื่องใหญ ตอใหผูบำเพ็ญ
เพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายลงมือ ก็ไมแนวาจะจัดการอีกฝายไดทันเวลา
และกอนจะไปถึงจุดนั้น ขอแคอีกฝายโกรธแคนเพียงเล็กนอย ความเสียหายที่กอ
ก็เพียงพอจะทำใหสิบพรรคมารเสียหายครั้งใหญแลว
ดังนั้นสำหรับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางขึ้นไป ถึงแมวาปกติแลวสาม
ผูบำเพ็ญเพียรจากสำนักตางๆ จะพยายามดึงพวกเขาเขาเปนพวก พวกที่ดึงเขามาไม
สำเร็จก็พยายามอยาไปลวงเกินพวกเขา และถาไมอาจหลบเลี่ยงการเปนศัตรูตอกันได
จริงๆ แนนอนวาก็มีเพียงผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงที่ตองพยายามกำจัดอีกฝายใหเร็ว
ที่สุดเทานั้น
เกอเทียนเหาและพวกเองก็เปนเพราะธงตาขายภูติและสมบัติตางๆ ถึงไดบีบให
หานลี่เผยฐานะออกมาอยางไมเกรงใจเชนนี้ แตก็มีปญหาอยูขอหนึ่ง ถาหากหานลี่คือ
คนของเทียนหนานที่แยงชิงธงตาขายภูตผีไป แนนอนวาก็คุมคาที่จะทำ แตถาหาก
ไมใช เชนนั้นก็ยิ่งยุงยากใหญแลว จะเปนการสรางศัตรูที่ฝมือสูงสงใหสำนักอยางเปลา
ประโยชน
เมื่อขบคิดมาถึงตรงนี้ เกอเทียนเหาก็มองไปทางธิดาเทพเทียนหลานแวบหนึ่ง
อยางอดไมไหว
หลินอิ๋นผิงผูนี้ขมวดคิ้วนอยๆ เห็นไดชัดวารูสึกวายุงยากเชนกัน ถาหากอีกฝาย
เปนคนที่เจาคิดเจาแคนจริงๆ แลวมาแกแคนทุงหญาเทียนหลานในอนาคต นางก็รูสึก
ปวดหัวมาก
“แคเรื่องเล็กๆ เหตุใดสหายจะตองรุนแรงขนาดนี้ดวย พวกเราก็แคอยากดูวาสิ่ง
ที่หอหุมอยูดานหลังสหายคืออะไรเทานั้น เอาอยางนี้ก็แลว ถาหากอิ๋นผิงเขาใจสหาย
ผิดจริงๆ พี่ลี่ก็เสนอเงื่อนไขที่เหมาะสมใหกับขาผูนี้ เพื่อชดเชยความผิดหวังของพวก
เราเปนอยางไร?” หลินอิ๋นผิงกะพริบดวงตาคูงามสองสามครั้ง พลางหัวเราะออกมา
อยางมีเสนห
ตอนที่ 945 หยกพก
เห็นไดชัดวาธิดาเทพเทียนหลานไมอยากจำคนผิด จนสรางศัตรูที่แข็งแกรงไม
ธรรมดาขึ้น ถึงไดยอมเอยแบบถอยใหกาวหนึ่ง
“เงื่อนไข?” หลังจากที่สายตาของหานลี่เลื่อนไปที่เรือนรางของสตรีผูนี้อยางเย็น
ชาแลว ใบหนาก็ไรซึ่งความรูสึก ดูไมออกวากำลังคิดอะไรอยู
“ใช หากสหายยอมละก็ ขาจะจายศิ ล าวิญ ญาณจำนวนหนึ่ งเป น การขอโทษ
สำหรับความผิดพลาด” หลินอิ๋นผิงลูบคางเบาๆ พลางเอยอยางเยือกเย็นเปนพิเศษ
“หึๆ ศิลาวิญญาณนั้นชางเถิด” หานลี่หัวเราะอยางเย็นชาออกมา พลิกฝามือโดย
ไมพูดอะไร มือหนึ่งหยิบสิ่งที่อยูดานหลังออกมา
การกระทำของหานลี่ทำใหคนที่อยูรอบๆ พากันตกใจ สายตาตกไปที่สิ่งของใน
มือของหานลี่
หานลี่คุกเขาลงเสียเลย แขนขางหนึ่งความุมหอเอาไวพลางสะบัด
ชั่ ว ขณะนั้ น เสี ย งคำรามพลั น ดั ง ขึ้ น ฝ ก ดาบสี ท องเรื อ งรองปรากฏขึ้ น บนพื้ น
ถึงแมวาดาบเลมนี้ จะยังไมถูกดึงออกมาจากฝ ก แต ดานบนของมั น ก็มีไอวิญ ญาณ
เปลงแสงเรืองรองจนแสบตารวมทั้งเสียงรองคำรามอยางไมมีเหตุผลอยู ไมวาผูใดที่
เห็น ก็รูวานี้เปนสมบัติวิเศษที่หายากชิ้นหนึ่ง
มินาเลา คนเบื้องหนาจึงโกรธเกรี้ยวที่คนนอกมาบังคับขอดูสิ่งที่เขาหอหุมเอาไว
ถึงเพียงนี้ หากเปลี่ยนเปนพวกเขาถูกบีบใหแสดงสมบัติรักของตนเองตอหนาคนนอก
เกรงวาคงรูสึกหัวเสียเชนกัน
หลินอิ๋นผิงเห็นดาบยาว ดวงตางดงามพลันฉายแววตกตะลึงระคนสงสัย แผจิต
สัมผัสทั้งหมดออกไปตรวจสอบฝกดาบนั้นอีกครั้งอยางไมอยากจะเชื่อ ในที่สุดก็จำใจ
ตองยอมรับวาทุกอยางในดาบเลมนี้ดูปกติมาก ไมเหมือนกับสำแดงเคล็ดวิชาปดกั้น
สายตาอะไรเอาไว
เกอเทียนเหาและผูบำเพ็ญเพียรพรรคตาขายทมิฬคนอื่นเห็นสิ่งที่หอหุมอยูไมใช
สิ่งที่คิด ก็มองสบตากันแวบหนึ่ง แลวเผยสีหนาเกอเขินออกมา
เรื่องนี้ดูแลว คงเปนเพราะพวกเขากอความวุนวายจริงๆ โชคดีที่เมื่อครูไมไดระเบิด
โทสะจนกระโจนใสคนผูนี้จริงๆ มิเชนนั้นคงผูกความแคนกับคนผูนี้อยางนาอายแลว
ภายใตความเครงขรึมเปนระเบียบของนักพรตชราอูพี่และภิกษุอัปลักษณนั้น ก็มี
ทาทีวางตัวออกหางไมเขาไปยุง
“ดูแลวคงเขาใจสหายผิดจริงๆ ขาผิดเอง สหายมีเงื่อนไขอะไร อิ๋นผิงจะพยายาม
ทำใหสหายพึงพอใจอยางแนนอน” ธิดาเทพเทียนหลานถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
หลังจากนั้นแววตาผิดหวังก็สวางวาบแลวหายลับไป เอยกับหานลี่อยางรูสึกผิด
“ศิลาวิญญาณอะไรพวกนั้น ขานอยมิไดขาดแคลน เอาอยางนี้ก็แลวกัน หยกพก
ที่เอวของสหายหลินดูวิจิตรงดงามมาก มอบให ขานอยเป นอยางไร?” หานลี่เลื่อน
สายตาไปที่เรือนรางของธิดาเทพเทียนหลานรอบหนึ่ง สุดทายก็ตกลงบนหยกพกที่เอว
พลางเอยสิ่งที่อยูนอกเหนือความคาดหมายออกมา
“หยกพก?” เห็นไดชัดวาหลินอิ๋นผิงรูสึกประหลาดใจ ดึงหยกพกสลักรูปผีเสื้อสี
เขียวมรกตขางเอวออกมาดวยความงงงัน จองเขม็งไปดวยความสงสัยเล็กนอย สายตา
เต็มไปดวยความตกตะลึงระคนสงสัย
ในเมื่อนางพกไปไหนมาไหนดวยได แนนอนวาตองไมใชของธรรมดา หยกพก
เล็ ก ๆ รู ป ผี เสื้ อ นี้ จ ะต อ งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพที่ ท ำให ร า งกายสดชื่ น เป น แน น า จะเป น
ยุท ธภั ณ ฑ สนั บ สนุ น ที่ คอ นขางหายากชนิ ด หนึ่ ง แต ของสิ่ งนี้ ถื อ วาล้ ำค าสำหรับ ผู
บำเพ็ญ เพียรระดับสรางปราณและหลอมรวม แตสำหรับระดับกอกำเนิ ดขั้นกลาง
อยางสตรีผูนี้แลว ประสิทธิภาพของมันก็แทบจะมองขามและลืมมันไปได
สาเหตุที่สตรีผูนี้พกหยกชิ้นนี้ไวก็เพราะมันงดงาม จึงพกติดตัวมาเนิ่นนานแลว ไม
เคยถอดออก ตอนนี้หานลี่เอยปากถึงหยกพกชิ้นนี้ นั่นมันหมายความวาอะไร?
หลินอิ๋นผิงใชนิ้วสองนิ้วคีบหยกขนาดสองสามชุนชิ้นนั้นขึ้นมา พลางเผยสีหนาขบคิด
“ทำไม สหายหลิน เสียดายของชิ้น นี้ ห รือ เชน นั้ น เปลี่ยนก็แล วกัน ขาชอบป น
ไขมุกบนศีรษะของสหาย…” แววตาของหานลี่เปลงประกาย เตรียมจะเปลี่ยนคำพูด
“แคยุทธภัณฑเล็กๆ ชิ้นหนึ่งเทานั้น มีอะไรใหนาเสียดายกัน แตแคของชิ้นนี้อยู
กับขามานานแลว จึงมีความผูกพันนิดหนอยเทานั้น สหายรับไปเถิด” คิ้วดำขลับของ
หลินอิ๋นผิงเลิกขึ้น ชั่วพริบตาก็ตัดสินใจ โยนหยกพกในมือใหหานลี่
หานลี่ชูมือขึ้นรับ หยกพกที่พุ งเขามา สัม ผัสได ถึงความอบอุ น ของสิ่ งของชิ้น นี้
พลันพยักหนาดวยความพึงพอใจ พลิกฝามือ หยกชิ้นนั้นสลายหายไปอยางไรรองรอย
จากนั้น เขาก็กวักมือเรียกดาบยาวสีทองบนพื้น ดาบยาวสงเสียงรองคำรามแลว
บินเขามาอยูในมือ ทันใดนั้นก็มีผาสีเทาพุงออกมาจากแขนเสื้อ ชั่วพริบตาดาบยาว
เลมนั้นก็ถูกหอหุมเปนรูปทรงยาวอีกครั้ง
หลังจากแบกหอนั้นไวที่แผนหลัง หานลี่ก็หันกายเดินไปโดยไมพูดอะไรอีก ตรงไป
ยังทางออกของยานรานคา
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นเห็นหานลี่มีทาทีเย็นชา ก็อดที่จะเหลือบมองสบตากันไมได
สวนหลินอิ๋นผิงเห็นอีกฝายจะจากไปจริงๆ จูๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได ริมฝปากบาง
เผยอออกพลางเอยถามขึ้นวา
“ตอนนี้พวกเราก็ยังไมรูชื่อของสหาย สหายบอกชื่อแซใหพวกเราทราบไดหรือไม”
“ผูบำเพ็ญ เพียรสันโดษจากนอกมหาสมุทรลี่เฟยอวี่!” หานลี่ไมชะงักฝเทาเลย
แมแตนอย แตก็เอยคำพูดไรความรูสึกออกมา คนก็คอยๆ จากไป
“ลี่เฟยอวี่? พี่เกอ พวกทานเคยไดยินวานอกมหาสมุทรมีผูบำเพ็ญเพียรที่รายกาจ
ขนาดนี้หรือไม คนผูนี้เผชิญหนากับพวกเราตั้งมากมาย คาดไมถึงวาหนาจะไมเปลี่ยน
สีเลยสักนิด ความสามารถนาจะไมธรรมดา” หลินอิ๋นผิงมองเงาแผนหลังของหานลี่
สายตาทอแววเย็น ชาเล็กๆ ขณะเอ ย ไม รูวาเพราะเหตุ ใด ถึ งแม วาจะเห็ น สิ่ งที่ ถูก
หอหุมของอีกฝายแลว ทวาตั้งแตตนจนจบสตรีผูนี้ก็ยังรูสึกสงสัยไมเสื่อมคลาย ทั้งยัง
รูสึกไมสบายใจ
“สหายหลินถามเชนนี้ทำใหขานอยลำบากใจแลว ตองเขาใจวาถึงแมผูบำเพ็ญ
เพียรนอกมหาสมุทรจะอยูในสังกัดของโลกผูบำเพ็ญเพียรตาจิ้น แตเทียบกับผูบำเพ็ญ
เพียรแผนดินใหญ อยางพวกเราแลว ความจริงแลวเปนอิสระ และมีผูบำเพ็ญ เพียร
จำนวนมากที่เขามาเหยียบในแผนดิน ยิ่งไปกวานั้นผูบำเพ็ญเพียรนอกมหาสมุทรก็มี
พลังยุทธแตกตางกันไป ผูบำเพ็ญเพียรสันโดษและและขุมอำนาจนอยใหญมีจำนวน
มาก หากไม ใชผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรที่ มี ตน กำเนิ ดจากนอกมหาสมุ ท ร ก็ ย ากที่ จะรูวามี ผู
บำเพ็ญเพียรที่มีความสามารถเกรียงไกรแตหลบซอนตัวอยูจำนวนเทาไหร แนนอนวา
สามเซียนนอกมหาสมุ ท รที่ มีชื่ อ เสี ย งนั้ น เป น ที่ เลื่ อ งลื อ กั น มาเนิ่ น นานแล วนั บ เป น
ขอ ยกเวน” ถึงแมวาเกอเที ยนเหาจะเผยสี ห น าลำบากใจออกมา แต ก็ยั งพยายาม
อธิบายรายละเอียดใหสตรีผูนี้ฟง
เมื่อไดยินคำพูดนี้ ธิดาเทพเทียนหลานผูนี้พลันขมวดคิ้วดำขลับเล็กนอย รูวาไมอาจ
ซักถามตอไปไดแลว จึงทำไดเพียงโยนเรื่องผูบำเพ็ญเพียรนามวา ‘ลี่เฟยอวี่’ ออกไป
อี ก ด า น หานลี่ เดิ น ออกไปจากย า นร า นค า อย า งไม รั้ ง รอแม แ ต น อ ย จากนั้ น
รางกายพลันพลิ้วไหว คนก็ปรากฏขึ้นบนถนนสายหนึ่งที่อยูไมไกลนัก ปะปนอยูกับฝูง
ชนคนธรรมดา เดินทอดนองไปเรื่อยๆ
‘ท านอาวุโส! คิ ด ไม ถึ งวาท านไม มี ล มปราณแล ว แต แ ค จิต สั ม ผัส ก็ ยังลวงตาผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดตั้งมากมายได แมแตขาตอนที่ทานสรางภาพลวงตาก็มอง
ไมเห็นความผิดปกติแมแตนอย ชนรุนหลังเลื่อมใสอยางสุดๆ’ หานลี่เดินไปพลาง มุม
ปากก็หยักยิ้มถายทอดเสียงไปพลาง
‘นั่นไมนับเปนอะไร ตอนที่เจาเรียนรูคาถาเทพขับเคลื่อนขั้นที่สามแลว ก็ตบตา
กับอีกฝายไดในชั่วพริบตาเหมือนกัน ถาหากเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาลวงตาอีกละก็ การ
สังหารคูตอสูระดับต่ำไดในพริบตาก็ไมใชเรื่องที่ยากแลว’ เทพขับเคลื่อนกลับเอย
ขึ้นมาอยางไมใสใจ
‘นั่นมันก็ใช คาถาขับเคลื่อนสี่ขั้นแรกยังรายกาจขนาดนี้ ถาหากเรียนรูไดหมด ขา
ก็ไมอาจจินตนาการวาจิตสัมผัสจะแข็งแกรงถึงขั้นไหนแลว นาเสียดายถึงแมวาทาน
อาวุโสจะมอบคาถาขั้นที่สี่ใหขาแลว ขานอยกลับไมมีเวลาฝกฝนอยางจริงจังสักที’
หานลี่ถอนหายใจออกมา รูสึกจนปญญาเล็กนอยขณะเอย
‘หึๆ ถึงแมวาคุณสมบัติรากวิญญาณของเจาจะย่ำแย แตดูเหมือนวาคุณสมบัติใน
การฝกฝนคาถาเทพขับเคลื่อนจะไมเลวนัก บวกกับที่มีไมหลอเลี้ยงวิญญาณมหัศจรรย
ชวยบำรุงจิตสัมผัส จึงทำใหการฝกฝนคาถาเทพขับเคลื่อนทั้งหมดคงไมไดชาไปกวาขา
ในตอนนั้นเทาไหรนัก’ เทพขับเคลื่อนกลับชื่นชมการฝกฝนคาถาเทพขับเคลื่อนของ
หานลี่
‘หวังวาจะเปนเชนนั้นกระมัง ทวา ขาไมคอยเขาใจนัก เหตุใดทานอาวุโสถึงมี
ความคิดอยากใหขาเอาของติดตัวของนางมา หรือวาทานอาวุโสมีแผนการอะไร?’
หานลี่รูสึกไมคอยเขาใจเล็กนอย
‘เหอะ! เจาวาเหตุใดธิดาเทพเทียนหลานถึงมาปรากฏตัวที่เมืองจิ้นกันละ วันขางหนา
จะปลอยเจาไปงายๆ หรือ?’ เทพขับเคลื่อนกลับเอยถามอยางไมมีปมีขลุยออกมา
‘สตรีผูนี้จะมาเพราะอะไรไดอีก กวาครึ่งคงเขามาในตาจิ้นเพราะขากระมัง ขาเอา
รางแยกอสูรศักดิ์สิทธิ์ของชาวทูอูและเตาประหลาดใบเล็กนั้นใสเขาไปในเตานภาสูญ
แลว ธิดาเทพเทียนหลานผูนี้จะปลอยไปงายๆ ไดอยางไร วันขางหนากวาครึ่งคงตอง
ตามหาขาไปทั่วตาจิ้น ทวา สตรีผูนี้คาดไมถึงวาจะรวมมือกับคนของพรรคตาขายทมิฬ
ดูแลววันขางหนาคงมีเรื่องยุงยากไมนอย’ หลังจากที่หานลี่ถอนหายใจออกมา ก็เอย
อยางจนปญญา
‘ใชแลว ในอดีตขาเคยฝกวิธีสัมผัสไขมุกมา สามารถอาศัยกลิ่นอายของอีกฝาย
สัมผัสการดำรงอยูของอีกฝายไดในระยะรอยลี้ วันขางหนาขอแคสตรีผูนี้เขามาอยูใกล
เจาในระยะรอยลี้ ก็จะรองเตือนเจาในทันที ทั้งยังกำหนดตำแหนงของอีกฝายอยาง
คราวๆ ไดอีกดวย
เชนนั้น วันขางหนาสตรีผูนี้คิดจะทำอะไรกับเจา เจาก็สามารถเตรียมการปองกัน
ไวลวงหนาไดแลว แตประสิทธิภาพของวิธีนี้ไมอาจใชไดนานนัก ประมาณสองสามปก็
จะคอยๆ เสื่อมประสิทธิภาพ ทวาแคชวงเวลานี้ ก็เพียงพอใหเจาอยูในเมืองจิ้นไดแลว
ใชระวังสตรีผูนี้ไดชั่วคราว’ เทพขับเคลื่อนเอยอยางเชื่องชา
‘เชนนั้นก็แลวกัน ขอบพระคุณทานอาวุโสมากที่ขบคิดแทนชนรุนหลังขนาดนี้’
หานลี่ขอบคุณดวยความดีอกดีใจ
‘ตาเฒาไมไดคิดแทนเจา แตแคไมอยากใหเกิดอะไรกับเจา กอนที่เจาจะหลอมหุนเชิด
ใหขาได’ เทพขับเคลื่อนเอยอยางราบเรียบออกมา
หานลี่ ได ยิ น แล ว พลั น หั ว เราะน อ ยๆ ออกมา ไม ได เอ ย อะไรอี ก ส ว นคนกลั บ
เปลี่ยนทิศทางทันที เดินเขาในซอยหนึ่งที่อยูใกลๆ จากนั้นก็หันเลี้ยวไปทางซายทีขวา
ที คาดไมถึงวาจะรอนกายลงเบื้องหนาสวนที่รกรางวางเปลาแหงหนึ่ง รอบๆ เงียบ
สงัดไรผูคน
หานลี่ในเวลานี้พลันหยุดฝเทา ใบหนาเครงขรึมขึ้น
“สหายตามขามานานขนาดนี้ มีเจตนาใดกันแน?” เอยจบ หานลี่ก็หั นกายมา
อยางเชื่องชา จองเขม็งไปยังจุดหนึ่งที่ไรผูคนดานหลัง สายตาเย็นชาสวางวาบ
“สหายลี่คูควรกับที่เปนผูบำเพ็ญเพียรจากนอกมหาสมุทรจริงๆ แมแตตาเฒาที่
ฝกฝนเงาภูตผีหลีกหนีมาอยางหนัก ก็ยังมองออก สหายไมตองกังวล ขานอยไมไดมี
เจตนารายอะไร” บุรุษคนหนึ่งสงเสียงหัวเราะออกมา ทันใดนั้นลำแสงสีเขียวพลัน
สวางวาบขึ้นตรงนั้น เงารางคนสีเขียวจึงคอยๆ ปรากฏออกมา
หานลี่หรี่ตาลงพลางพิจารณาคนผูนี้อยางละเอียด
นี่คือชายชรารางกายผายผอมสีหนาเจาเลห ไวเคราะสั้นๆ หร็อมแหร็มที่คาง พลังยุทธ
อยูในระดับกอกำเนิดขั้นตน กำลังมองมาทางหานลี่อยางมีแผนการ
“สหายสะกดรอยตามขานอยมาตั้งแตยานรานคา มีเจตนาใดกันแน หรือไมรูวา
การสะกดรอยตามผูอื่นเชนนี้เปนเรื่องตองหาม? ตอนนี้ขาจะลงมือสังหารเจา ก็คงไมมี
ใครพูดอะไร” หานลี่มีไอสังหารสวางวาบขึ้นบนใบหนา เอยอยางทะมึนทึบ
“เหตุใดสหายลี่ตองโหดรายถึงเพียงนั้น ผูเฒานอยมาหาสหายก็เพราะอยากซื้อ
ขายอยางบริสุทธิ์ใจกับสหายเทานั้น การซื้อขายนี้จะตองนำประโยชนใหสหายและ
ขานอยอยางแนนอน” หลังจากที่ผูเฒานอยหัวเราะหึๆ ออกมาแลว ก็เอยขึ้นอยางไม
รอนรนเลยสักนิด
ตอนที่ 946 รีดไถ
“ไมสนใจ! ขานอยไมทำการคาอะไรกับผูที่ทำตัวลับๆ ลอๆ เลิกคิดเถิด” หานลี่ไม
แมแตจะฟงก็ปฏิเสธทันที นี่อยูนอกเหนือความคาดหมายของทานผูเฒานอยเปนอยาง
มาก ใบหนาของเขาจึงอดที่จะเผยสีหนาตกตะลึงออกมาไมได แตทันใดนั้นก็นึกอะไร
ขึ้นมาได ใบหนาที่มีริ้วรอยจึงผอนคลายลง แลวฉีกยิ้มนอยๆ ออกมา
“สหายกลาวเชนนี้มันเร็วไปนัก ฟงขานอยสักหนอยดีกวา หลังจากฟงจบแลว พี่ลี่
คอยตัดสินใจก็ยังไมสาย มิเชนนั้น ผูที่เสียเปรียบก็คือพี่ลี่” คาดไมถึงวาคำพูดของชาย
ชราจะแฝงนัยคุกคามเอาไวเล็กๆ
“ไมเอื้อผลตอขานอย! ผูแซลี่ชักจะสนใจแลวสิ ไหนลองพูดมาซิ” หานลี่เอามือทั้ง
สองไพลหลัง หลังจากดวงตาฉายแววขบคิดสวางวาบก็เอยขึ้น
“สหายทำเชนนี้ถึงจะเปนการกระทำที่ชาญฉลาด ผูเฒานอยจะใหสหายดูสิ่งของ
กอน จากนั้นคอยคุยเรื่องธุรกิจกัน” ชายชราหัวเราะหึๆ ออกมา ตบไปที่ยามเก็บอสรู
วิญญาณขางเอว ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งพลันพุงออกมาจากยาม หลังจาก
หมุนโคจรรอบหนึ่ง ก็รอนลงเหนือศีรษะของชายชรา เผยใหเห็นอสูรวิญญาณขนาด
เทากำปนตัวหนึ่ง
อสู ร วิ ญ ญาณตั ว นี้ ดู เหมื อ นว า จะมี ข นาดใหญ ก ว า หอยทากหลายเท า แต ทั่ ว
สรรพางคกายกลับเปนสีเขียวมรกต คอยๆ สั่นหนวดบางๆ ที่มีสีสันแวววาวบนศีรษะ
อากัปกิริยาเชื่องชา
“อสูรไสเดือน สหายเอาอสูรชนิดนี้ออกมาทำไม? หรือวาอยากใหอสูรตัวนี้พน
ของเหลวพิษใสขานอย?” เมื่อเห็นรูปรางของอสูรตัวนี้ หานลี่จึงเอยขึ้นดวยใบหนา
เครงขรึม
“ขานอยจะใชอสูรวิญญาณระดับต่ำเชนนี้ตอกรกับสหายไปทำไม ไมปดบังพี่ลี่
อสูรวิญญาณตัวนี้ของตาเฒามันกลายพันธุไปเล็กนอย และการกลายพันธุของมันก็คือ
สามารถมองทะลุผานเคล็ดวิชาลวงตาอำพรางสายตาพอดี ตอนที่พี่ลี่เผชิญหนากับ
เหลาสหายจากพรรคตาขายทมิฬเมื่อครู ตาเฒาเชื่อมโยงจิตใจกับอสูรตัวนี้พอดี สหาย
นาจะรูวาตาเฒาหมายความวาอยางไร ตอนที่สหายลวงตากระบอกไมไผใหเปนดาบ
ยาวนั้น หลอกลวงคนอื่นไดแตไมอาจหลอกจิตสัมผัสของอสูรวิญญาณตัวนี้ได”
ชายชราจับอสูรไสเดือนเอาไวเหนือศีรษะ แลวคอยๆ เอยอยางภาคภูมิใจ
“ตอ ให เป น เชน นั้ น แลวอยางไร สหายคิ ด จะทำอะไรหรือ ?” เมื่ อ ได ยิ น วาอสู ร
ไสเดือนตัวนี้เปนอสูรกลายพันธุ และมีความสามารถในการมองทะลุผานเคล็ดวิชาลวง
ตา หานลี่ก็ใจหายวาบ แตกลับไมเผยสีหนาใดๆ ออกมาจากใบหนา
“ฮาๆ เหตุใดสหายจักตองเยอหยิ่งดวย ตาเฒาไมไดมีเจตนาอะไร ขอแคสหาย
ยอมมอบสมบัติสักสามสี่ชิ้นหรือศิลาวิญญาณกอนใหญให ขานอยก็จะลืมเรื่องที่เมื่อ
ครูใหหมด ไมกลาลวงเกินพี่ลี่อยางแนนอน” ในทีสุดผูเฒ านอยก็เผยสีหนาละโมบ
ออกมา พลางเอยปากเรียกราคาที่สูงมากออกมา
“เจาขูบังคับขาหรือ?” หานลี่ไมโกรธแตกลับฉีกยิ้มออกมา
“ทำไม สหายอยากสังหารหรือ ขาวาเลิกคิดจะดีกวา ขานอยเองก็เปนผูบำเพ็ญ
สันโดษ ไมกลัวคำขูของสหายหรอก ที่มาปรากฏตัวตอหนาสหายเพียงลำพัง แนนอน
วาจะตองมีความมั่นใจอยางเต็มเปยม ขาใหลูกศิษยคนหนึ่งตามพรรคตาขายทมิฬและ
ธิดาเทพเทียนหลานไปแลว ขอแคทางนี้เกิดเรื่อง ลูกศิษยของขาผูนั้นจะบอกความจริง
เรื่องที่เจาสรางภาพลวงตากับของที่หลังทันที ถึงเวลานั้นสหายคงยุงยากใหญแลว ยิ่ง
ไปกวานั้นที่นี่อยูในเมืองจิ้น ผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงที่มาเขารวมงานประมูลจะตอง
ไมไดมีแคสองสามคนแน สหายคิดวาจะฆาปดปากตาเฒาที่นี่ไดหรือ? ขอแคตาเฒาผิว
ปากยาวๆ สหายก็จนปญญาแลว
ถึงตอนนั้น ลูกศิษยก็จะนำทางคนของพรรคตาขายทมิฬมา ที่นี่ก็มีขานอยคอย
พัวพันอยู สหายไมมีทางหลบหนีไดแน มีเพี ยงตองตายสถานเดียวเทานั้น บางทีผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอเนิดสามสี่คนรวมมือกันก็อาจจะสังหารสหายไมได แตถาเจ็ด
แปดคนจะเปนอยางไร? จากที่ขารู อาวุโสระดับกอกำเนิดของพรรคตาขายทมิฬที่อยู
ในเมืองจิ้นไมไดมีแคสองสามคน คนเยอะขนาดนี้ สหายยังมีความมั่นใจวาจะหนีไดอีก
หรือ? ยอมเสียเงินทองเพื่อกำจัดหายนะ ถึงจะเปนการกระทำที่ปราดเปรื่อง”
หลังจากที่ชายชราถอยหลังไปสองกาวแลว ใบหนาก็เผยรอยยิ้มเจาเลหออกมา
ขณะเอย ชูมือขึ้นในเวลาเดียวกัน โลไมอันหนึ่งบินออกมาจากแขนเสื้อ กลายเปนมาน
ลำแสงสีเหลืองเรืองรองหอหุมรางกายเอาไวขางใน ทาทางระมัดระวังเปนพิเศษ
หานลี่ขมวดคิ้วเล็กนอย สายตากวาดไปที่มานลำแสงของอีกฝายแวบหนึ่ง ขบคิด
ขณะที่มีสีหนาเครงขรึมสลับกับสดใสไมแนนอน
“ดูแ ลวหากไม มอบผลประโยชน ให แ กสหาย คงจะมี ป ญ หาจริงๆ ไม ท ราบวา
สหายอยากไดสมบัติอะไรหรือ?” ผานไปชั่วครู หานลี่ก็ฟนฟูสีหนากลับมาเปนปกติ
เอยอยางเยือกเย็นเปนพิเศษ
“ถูกตอง ขานอยแคอยากไดสมบัติเทานั้น ไมมีความคิดวาจะตองตายกันไปขาง
เลยสักนิด ขานอยไมจูจี้อะไรหรอก สหายเลือกมาใหสักสองสามชิ้น ตาเฒาก็พึงพอใจ
แลว” ชายชราไดยินคำพูดนี้ก็รูสึกยินดี จึงรีบเอยทันทีอยางมิรอชา
อีกฝายละโมบขนาดนี้ ทำใหหานลี่เลิกคิ้วขึ้นอยางไมใสใจ ยื่นมือออกไปควานหา
ในยามเก็บของดวยสีหนาถมึงทึง พลิกฝามือ ชั่วขณะนั้นลำแสงสีทองเงินพลันปรากฏ
ขึ้นในมือ ดานในมีลูกบอลกลมๆ ขนาดเทาไขไกใบหนึ่งปรากฏขึ้น
“สมบัติโบราณสองสามชิ้น สหายโลภมากเกินไปแลว สมบัติโบราณอื่นๆ นั้นไมมี
หรอก แตไขมุกเมฆรัตติกาลเม็ดนี้ขาบั งเอิญ ไดมา เป น เพราะมั นไม คอยเหมาะสม
กั บ วรยุ ท ธ ข องข า ดั ง นั้ น นายท านเอาไปเถิ ด อย า ละโมบนั ก เลย ระวั ง จะทำลาย
ตนเอง” หานลี่เอยอยางไมสบอารมณ ในเวลาเดียวกันก็สะบัดขอมือ ลูกบอลกลมๆ
ตรงไปหาทานผูเฒานอย
ชายชรามีสีหนาดีอกดีใจ แตหลังจากแววตาสวางวาบ ก็ไมไดยื่นมือออกไปรับ
สมบัติชิ้นนี้ แตโยนอสูรไสเดือ นไปขางกาย สะบั ดแขนเสื้อ ลำแสงสีดำผืน หนึ่ งพุ ง
ออกมาจากแขนเสื้อ ชั่วครูก็หอหุมลูกบอลสีทองเงินเอาไว
ผานไปชั่วครู เห็นลูกบอลนี้ไมมีอะไรเปลี่ยนแปลง ถึงไดดึงมันมานลำแสงมาอยู
เบื้องหนาดวยความระมัดระวัง
“ลวดลายของสิ่งนี้คอนขางพิ เศษ ไมเหมื อนกับสมบั ติธรรมดาทั่ วไปจริงๆ ไม
ทราบวามีประสิทธิภาพอยางไร” ทานผูเฒานอยใชจิตสัมผัสเชื่อมโยงกับอสูรไสเดือน
ดานขาง สัมผัสไดวาลูกบอลกลมๆ ดานหนาไมใชภาพลวงตา และไมมีกลิ่นอายการรับ
เปนนาย ทันใดนั้นความสงสัยก็มลายลงไปกวาครึ่ง ยื่นมือออกไปกวักเรียก ดูดลูก
บอลกลมๆ เขามาในมือ พิจารณาอยางละเอียดพลางเอยพึมพำ
“สมบัติชิ้นนี้มีประสิทธิภาพอยางไร สหายทดสอบดูเองเถิด ขานอยรับประกันได
วา จะตองทำใหนายทานตกตะลึงอยางแนนอน” หานลี่ยกสองมือขึ้นกอดอก พลาง
เอยอยางราบเรียบ
“นั่นมันก็ใช แตคิดจะไลขานอยไปดวยสมบัติโบราณชิ้นหนึ่ง สหายไมรูสึกวามัน
นาขันไปหนอยหรือ?” ชายชราทดลองใสลมปราณเขาไปในลูกบอลกลมๆ ดวยความ
ตื่นเตนดีใจไปพลาง ยังคงขูเข็ญดวยความละโมบไปพลาง
หานลี่มองเห็นภาพฉากนี้ ก็หยักมุมปากขึ้น เผยรอยยิ้มเยาะออกมา
“อืม นาขันไปหนอยจริงๆ เอาอยางนี้ก็แลวกัน ขานอยสงสหายออกเดินทางเปน
อยางไร?” จูๆ เขาก็เอยอยางเยือกเย็นไรที่เปรียบ
ชายชราไดยินแลวพลันตกตะลึง ยังไมทันไดมีปฏิกิริยาตอบสนอง ลมปราณในราง
ก็ทะลักเขาไปในลูกบอลกลมๆ ที่อยูในมือ
จากนั้นเสียง ‘ตูม’ พลันดังขึ้น ลูกบอลกลมๆ ระเบิดออก ลำแสงวิญญาณสวาง
วาบแมลงเกราะหลายสิบตัวปรากฏขึ้น นั่นก็คือแมลงกลืนทองสามสีที่มีอยูไมมากนัก
ของหานลี่ เมื่อแมลงวิญญาณเหลานี้ปรากฏตัวก็สยายปกออก และในเวลาเดียวกันก็
โผเขาไปหาชายชราดวยความดุราย
ในระยะใกลแคนี้ ชายชราจึงไมทันไดหลบหลีก หลังจากในหัวมีคำวาซวยแลว
สวางวาบ แมลงกลืนทองก็เจาะเขาไปในใบหนาของชายชรา กรูกันเขาไปกัดกินคำ
ใหญ ๆ หากไมใชเพราะชายชราคือผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิด ลำแสงวิญ ญาณ
หนาแนน ชั่วพริบตานี้ใบหนาก็คงหายไปแลว
แมลงวิญ ญาณที่โหดเหี้ยมขนาดนี้กัดกินอยูบนใบหนาไมหยุด ในเวลาเดียวกัน
ดวงตาทั้งสองก็มองไมเห็น ชายชราจึงตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวอยางสุดๆ แนนอนวา
สองมือจึงเปลงแสงสีดำสวางวาบคิดจะตะปบใบหนาเอาไวอยางสุดชีวิต อยากจะจับ
แมลงประหลาดเหลานี้เอาไว ในเวลาเดียวกันก็สูดลมหายใจเขา ผิวปากยาวๆ ออกมา
คิดจะเรียกผูบำเพ็ญเพียรอื่นๆ มา
แตในตอนนั้ น เอง ขางหู ข องเขาพลั น มี เสี ย งหึ ที่ เย็ น ชาจนเข ากระดู ก ดำดั งขึ้ น
ถึงแมวาน้ำเสียงจะไมดังนัก แตเมื่อเขามาในโสตประสาท จิตสัมผัสก็สงความเจ็บปวด
จากการฉีกขาดมา รางของชายชรากระตุก สงเสียงรองอยางนาเวทนาออกมาอยาง
ควบคุมตัวเองเอาไวไมอยู เสียงผิวปากเพิ่งจะมาอยูที่ริมฝปากก็ตองหยุดชะงักลง
ชายชราพลันตกตะลึง ตอนที่พุงขึ้นไปกลางอากาศอยางไมสนใจสิ่งใดนั้น ชั่วครู
ความเจ็บปวดที่จิตสัมผัสก็สลายหายไป แมลงเกราะที่ติดหนึบอยูบนใบหนาก็สยายปก
บิ น ออกไป ดวงตาทั้ ง สองสว า งจ า ขึ้ น อย า งกะทั น หั น คาดไม ถึ ง ว าเขาจะกลั บ มา
มองเห็นอีกครั้ง
แตในเวลาเดียวกันนั้น กระบี่สีทองยาวสองสามฉื่อที่ถูกเปลวเพลิงสีมวงหอหุมอยู
ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหนาของชายชรา และสับลงมาจากบนศีรษะ
“อาก!” ชายชราคำรามดวยเสียงทุมต่ำออกมา ไมทันไดปลอยสมบัติอาคมหรือวา
เคล็ดวิชาหลีกหนีใดๆ ทำไดเพียงใสลมปราณทั้งหมดเขาไปในมานลำแสงเบื้องหนา
หวังเพียงวาตานทานการโจมตีนี้ใหไดแลวคอยวากัน
เขาที่กำลังตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวในเวลานี้เขาใจมาตั้งนานแลววา เจาผูที่
เรียกตัวเองวาผูบำเพ็ญเพียรสันโดษนอกมหาสมุทรเบื้องหนาผูนี้มีจิตสังหารตั้งแตเริ่ม
แลว ไหนเลยจะมีความคิดที่จะยอมเสียเงินเพื่อกำจัดหายนะ ในใจจึงรูสึกโกรธแคน
อยางสุดๆ และอดที่จะรูสึกเสียใจที่ไปลวงเกินคนผูนี้ไมได โชคดีที่โลสีเหลืองของเขา
เปนสมบัติโบราณที่หาไดยากชิ้นหนึ่ง มีพลังการปองกันที่นาตกตะลึง ถึงแมวาอีกฝาย
จะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลาง ก็ตานทานการโจมตีนี้ไวไดอยางไมมี
ปญหา
ชั่วพริบตาที่ชายชราขบคิดนั้น เสียง ‘แควก’ ก็ดังขึ้น เมื่อมานลำแสงสีเหลืองและ
กระบี่สีทองสัมผัสกัน ก็ถูกผาออกเปนสองสวนราวกับเตาหูอยางไรอยางนั้น
จากนั้นกระบี่สีทองก็ถลาลงมาอยางไมหยุดหยอน ลำแสงสีทองสวางจาจนแสบ
ตา รางกายของชายชราถูกผาออกกลายเปนสองสวนในทันที ในเวลาเดียวกันทารกสี
ดำขนาดสองสามชุน ก็หยุดอยูตรงนั้นดวยความตกตะลึง ถูกน้ำแข็งเย็นเยียบสีมวง
กลุมหนึ่งแชแข็งเอาไวดานใน ไมสามารถกระดิกตัวไดแมแตนอย
หลังจากกระบี่สีทองโคจรรอบหนึ่ง ก็โจมตีอสูรไสเดือนที่สูญ เสียเจาของไปได
อยางสบายๆ กระบี่ตัดคอกลายเปนฝนโลหิต จากนั้นบินขึ้นไปหาน้ำแข็งสีมวงอีกครั้ง
หลังจากเสียงฟาผาดังขึ้น ประจุไฟฟาหนาๆ สองสามสายพลันดีดตัวออกมาจาก
กระบี่ กลายเปนตาขายบางๆ ผืนหนึ่งหอหุมรางทารกวิญญาณเอาไว
เสียงเปรี้ยงๆ ดังขึ้นอยางตอเนื่อง ในเวลาเดียวทารกวิญญาณที่อยูน้ำแข็งสีมวง
ตางหายไปทามกลางลำแสงสีทอง
เวลานี้หานลี่ถึงไดมีสีห นาผอนคลายลง แตการเคลื่อนไหวกลับไมหยุดพักเลย
แมแตนอย พลิกฝามือควาไปที่ซากศพของชายชรา ยามเก็บของที่เอวเขาบินเขามาใน
มือ ในเวลาเดียวกันลูกไฟสีแดงสดขนาดเทากำปนสองลูกก็พุงออกมาจากแขนเสื้ออีก
ขางหนึ่ง ทำใหซากศพของชายชราและอสูรไสเดือนหายไป
จากนั้นหานลี่พลันลอยตัวขึ้นกลางอากาศอยางไมลังเลแมแตนอย ลำแสงสีเขียว
สวางวาบขึ้นสองสามครั้ง รางทั้งรางสลายหายไปกลางอากาศราวกับภูตผีก็มิปาน
หลังจากนั้นเพียงหนึ่งเคอ สายรุงหลากสีสันหาสายก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ
ตรงนั้น หลังจากหมุนวนหนึ่งรอบ ลำแสงหลีกหนีก็ทยอยกันรอนลงบนพื้นดิน เผยให
เห็นบุรุษและสตรีหาคน
นั่นก็คือหลินอิ๋นผิง เกอเทียนเหาและพวกสี่คน นอกจากนี้ยังมีชายหนุมแปลก
หนาอีกคนหนึ่ง แตกลับเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมคนหนึ่ง
“ที่นี่ไมผิดแน กลิ่นอายของทานอาจารยสลายหายไปจากตรงนี้”
ชายหนุมผูนั้นใชสองถือจานอาคมเอาไว เอยดวยสีหนาไมสบายใจ
“ที่นี่มีกลิ่นอายวิญญาณหลงเหลืออยูจริงๆ หนึ่งในนั้นยังเปนกลิ่นอายของเจาผู
แซลี่ผูนั้น ที่นี่มีรองรอยโลหิตอยู ดูแลวทานอาจารยของเจาคงถูกปดปากไปเสียแลว”
เกอเทียนเหากวาดสายตาไปรอบๆ แลวหยุดสายตาลงบนโลหิตสีแดงฉานบนพื้น
พลางเอยอยางเครงขรึม
ตอนที่ 947 ไขกระดูกเหมันต
“เปนไปไมได ถึงแมวาทานอาจารยจะพลังยุทธต่ำกวาเจาโจรนั่นอยูขั้นหนึ่ง แต
จะไมมีแมแตโอกาสขอความชวยเหลือไดอยางไร” ชายหนุมมีสีหนาซีดขาว เอยดวยสี
หนาที่ไมอยากจะเชื่อ
“หึ เจาจะรูอะไร ไมตองพูดถึงผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นตนคนหนึ่ง เจา
คนโฉดผูน้ันเคยสังหารผูบำเพ็ญเพียรระดับเดียวกันมาแลว หากทานอาจารยของเจา
ถูกคนผูน้ีสังหารโดยไมทันระวังตัว ก็ไมแปลกเลยสักนิด ทวาตาเฒาเสี้ยวพูดอะไรกับ
เจากันแน บอกความจริงกับพวกเรามาใหละเอียดอีกครั้งซิ” เกอเทียนเหาสงเสียงหึ
อยางเย็นชาออกมา พลางตอบกลับอยางไมสบอารมณ
และในตอนนั้น หลินอิ๋นผิงพลันแผจิตสัมผัสออกไปตรวจสอบที่นี่อยางรวดเร็ว
รอบหนึ่ง จูๆ เอวบางก็พลิ้วไหว ชั่วครูคนก็พุงออกไปเจ็ดแปดจั้ง ยื่นมือออกไปดูดของ
สิ่งหนึ่งขึ้นมาจากบนดิน เมื่อพิจารณาอยางละเอียด สีหนาก็ดูไมไดขึ้นมา
“ทานอาจารยไมไดกลาวอะไรมาก แคเอาจานอาคมประจำกายมอบใหชนรุนหลัง
และสัญญาวาหากจานอาคมนี้เกิดความเปลี่ยนแปลง หรือวาหากถึงกำหนดเวลาแลว
ไมเห็นวาเขากลับมาก็ใหบอกความจริงกับเหลาอาวุโส จะไดชวยเขาจากภยันตรายได
ทัน” ชายหนุมเอยพึมพำ
“ไมตองพูดแลว ทานอาจารยของเจาเกิดเรื่องแลว ของสิ่งนี้ ใชสมบัติโบราณที่
ทานอาจารยของเจาใชหรือไม” หลินอิ๋นผิงชูมือขึ้น ของที่เหมือนกันพุงมาหาชายหนุม
ชายหนุมยื่นมือออกไปรับ หลังจากมองดูแลว ชั่วขณะนั้นจิตใจก็หนักอึ้ง
นี่คือแผนไมเหลืองเล็กๆ แผนหนึ่ง ดานบนมีลำแสงวิญญาณที่คุนเคยกะพริบวาบ
อยางออนแรงอยู นั่นก็คือโลไมของทานผูเฒานอย
“นี่คือโลไมดาวไถ โลนี้แข็งแกรงเปนพิเศษ พลังปองกันนาตกตะลึง เหตุใดถึงถูก
ทำลาย” ชายหนุมมีสีหนาซีดขาวยิ่งกวาเดิม
“สหายหลิน ดูแลวทานผูเฒาเสี้ยวคงจะไมมีชีวิตอยูอีกแลว ขาฟงจากคำพูดของ
เจากอนหนานี้ ยังไมคอยอยากจะเชื่อวาคนผูนั้นจะมีความสามารถสังหารผูบำเพ็ญ
เพี ย รในระดั บ เดี ย วกั น ได แต ต อนนี้ ดู แ ล ว คนผู นี้ ดู เหมื อ นว า จะทรงพลั ง กว า ที่
คาดการณ ไว ส ามส ว น ถึ ง แม ว า ท านผู เฒ าเสี้ ย วจะเป น เพี ย งผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดขั้นตน แตก็เชี่ยวชาญเคล็ดวิชาหลีกหนีที่ไมธรรมดาหลายชนิด คาดไมถึงวา
จะถูกสังหารโดยไมทันแมแตจะขอความชวยเหลือ เห็นไดชัดวาความสามารถของคน
ผูนี้ไมไดดอยไปกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย ลำพังแคพวกเราไมกี่คน
เกรงวาคงไมมีทางทำอะไรคนผูนี้ได” เกอเทียนเหาครานจะไปสนใจชายหนุม เอยกับ
ธิดาเทพเทียนหลานดวยความเครงขรึม
“ทำไม พี่เกอไมคิดจะเอาสมบัติของพรรคทานกลับไปหรือ ในเมื่อธงตาขายภูตผี
ตกอยูในมือของคนผูนั้น เปนไปไดแปดเกาสวนวาชีวิตของอาวุโสสี่ของพรรคทานตก
อยูในเงื้อมมือของคนผูนี้” หลินอิ๋นผิงขมวดคิ้ว แลวเอยขึ้นอยางแชมชา
“หึ! สังหารอาวุโสพรรคตาขายทมิฬของพวกเรา แลวยังชิงสมบัติประจำพรรคไป
ไมตองพูดถึงวาเขายังไมใชผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย ตอใหเปนจริงๆ
พรรคของขาก็ไมมีทางปลอยคนผูนี้ไปแน แตคนผูนี้ดูเหมือนวาจะมีความแคนกับทุง
หญาเทียนหลานของพวกเจาไมนอย มิเชนนั้นในฐานะธิดาเทพของชนเผาอยางสหาย
หลิน คงไมรั้งรออยูกับพวกเราที่ตาจิ้น อยูห ลายป เพื่ อคนผูนี้ ห รอก” เกอเที ยนเหา
หัวเราะแหงๆ ออกมา คาดไมถึงวาจะเอยอยางมีนัยแฝง
“ขอแคสังหารคนผูนี้ได แตเดิมที่ตำหนักศักดิ์สิท ธิ์ตกลงเงื่อนไขกับพรรคทาน
เอาไวแลว ขาเพิ่มใหไดอีกสองสวน แตคนผูนี้มีสมบัติอยูกับตัว ตำหนักศักดิ์สิทธิ์ของ
พวกเราจำเป น ต อ งเลื อ กสมบั ติ ก อ นชิ้ น หนึ่ ง” หลิ น อิ๋ น ผิ งเม ม ริม ฝ ป ากแดงระเรื่ อ
เล็กนอย แลวฉีกยิ้มเบิกบานขณะเอยขึ้น
“สามสวน สังหารผูบำเพ็ญเพียรที่ทรงพลังขนาดนี้ พรรคของขายังไมรูเลยวาตอง
สู ญ เสี ย กำลั งพลไปเท าไหร ส ว นสมบั ติ นั้ น พรรคข าเคยตอบรับ ตำหนั ก ท านแล ว
แนนอนวาไมจะตุกติก” เกอเทียนเหาเอยอยางไมตองคิด
“ตำหนักของขายอมรับเงื่อนไขนี้” หลินอิ๋นผิงใครครวญเพียงเล็กนอย ก็เอยปาก
ตอบรับ
“เยี่ ยมมาก คิ ด ดูแ ลวในฐานะธิด าเทพชาวทู อู ค งไม ก ลับ คำหรอก ศิ ษ ย น อ งหู
ถ ายทอดเสี ย งออกไป พรรคข าเรีย กระดมพลอาวุโสและลู ก ศิ ษ ย ที่ อ ยู ในเมื อ งจิ้ น
ทั้งหมด ออกคนหาคนผูนี้อยางเต็มกำลัง ในเมื่อคนผูนี้ไปที่ยานรานคา จะตองเขา
รวมงานประมูลแน นี่คือโอกาสงามๆ ในการจับคนผูนี้ ทวาทุกอยางตองดำเนินการ
อยางลับๆ ถาหากเหลาอาวุโสไมอยูดวยกันก็หามลงมือ การจับคนผูนี้ ความจริงแลว
ตองลอเขาเขามาในเขตอาคมแลวลงมือพรอมกันถึงจะเหมาะสมที่สุด” เกอเทียนเหา
หันกายไปเอยกับบุรุษผูบำเพ็ญเพียรพรรคตาขายทมิฬอีกคนหนึ่ง
“ตองรายงานทานผูนำพรรคหรือไม ถึงอยางไรเสียที่อาวุโสสี่ออกมาในตอนแรกก็
เพราะเขาสงออกมาถึงไดเพลี้ยงพล้ำ” บุรุษผูบำเพ็ญเพียรคนนั้นพลันเอยปากถาม
“ตั้งแตที่แผนการซอมแซธงตาขายภูตผีสำเร็จไปแคครึ่งเดียวครั้งนั้น และยิ่งไป
กวานั้นอาวุโสสี่ยังเกิดเรื่อง ทานผูนำพรรคก็ไมพอใจเหลาอาวุโสมากแลว ไดยินวา
ตอนนี้เขากำลังกักตนเพื่อหลอมสมบัติที่ทรงพลังชิ้นหนึ่ง ตอใหรีบรุดมาในทันที ก็ไมมี
ทางทันงานประมูล ทวา ถายทอดเสียงไปบอกเขากอนก็ได ถาหากวิธีของพวกเรา
จั ด การคนผู นั้ น ไม ได ก็ ยั ง อาศั ย กำลั ง จากคนที่ รู จั ก พวกเขาต อ กรกั บ คนผู นี้ ได ”
หลังจากลังเลเล็กนอย เกอเทียนเหาก็พยักหนา
ดังนั้นหลังจากปรึกษากันอยางละเอียดแลว คนเหลานี้ก็ขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนี
ออกไปจากที่นี่ในทันที แนนอนวาเปนเพราะกลัวคนธรรมดาจะแตกตื่น หลังจากที่
พวกเขาขึ้นไปกลางอากาศ ก็ใชการอำพรางกายทันที
ถึงแมจะบอกวาเมืองจิ้นมีกฎหามผูบำเพ็ญเพียรบินไปมา แตผูบำเพ็ญเพียรจาก
พรรคที่ยิ่งใหญอยางพรรคตาขายทมิฬนั้น ไมมีทางเห็นกฎอยูในสายตา
……
ในเวลาเดียวกันนั้น หานลี่ที่กำลังอยูบนถนนคนเดินซึ่งคอนขางเล็กสายหนึ่งหาง
ออกไปยี่สิบกวาลี้ ก็ใชจิตสัมผัสตรวจสอบยามเก็บของของทานผูเฒานอยในแขนเสื้อ
ดานในมีขาวของระเกะระกะไมนอยจริงๆ และจำตองใชความคิดแยกแยะถึงจะได
จูๆ ฝเทาพลันหยุดชะงัก ใบหนาของหานลี่เผยความตื่นตกใจออกมา
‘ทำไม พบอะไรหรือ’ เทพขับเคลื่อนถายทอดเสียงมาอยางเกียจคราน
“นี่คืออะไร เหมือนจะไมเคยพบมากอน” หานลี่พ ลิ กฝ ามื อ ในมื อมีขวดหยก
ยาวๆ สีเขียวมรกตสูงหกเจ็ดชุน ดูงดงามเปนพิเศษปรากฏขึ้น
เมื่ อ ยื่ น นิ้ ว ออกไปลู บ ที่ ค อขวดเบาๆ สองครั้ ง ไอเย็ น เยี ย บที่ ทิ่ ม แทงจนถึ ง ไข
กระดูกก็สงผานมาที่ปลายนิ้ว หานลี่อดที่จะเผยสีหนาตกตะลึงปนสงสัยออกมาไมได
จากนั้น เขาก็ใชมือหนึ่งถือขวดเล็กๆ เอาไว เขยาขวดเบาๆ ดานในมีเสียงของเหลว
เคลื่อนไหวอยู
หานลี่ขมวดคิ้วนอยๆ
“หรือวาดานในมีของเหลวอะไรอยู ทวาของเหลวในขวดนี้ประหลาดนัก คาดไม
ถึงวาแมแตจิตสัมผัสยังแทรกเขาไปขางในไมได” หานลี่มองขวดเล็กๆ นี้พ ลางเอย
พึมพำแผวเบา
‘อยากรูอะไร กลับไปคอยวิเคราะหอยางละเอียดก็รูแลว ที่นี่มีคนธรรมดาสัญจร
อยู อยาคิดเปดดูซี้ซั้ว จะไดไมเกิดความวุนวายอะไรขึ้น’ เทพขับเคลื่อนเอยปากเตือน
“นั่นมันแนนอนอยูแลว” หานลี่สะบัดขอมือดวยสีหนาราบเรียบ ชั่วขณะนั้นขวด
เล็กๆ พลันสลายหายไปอยางไรรองรอย
‘เจาเด็กนอยหานในเมื่อเผยฐานะออกมาแลว คงตองระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้นแลว
พรรคตาขายทมิฬและธิดาเทพเทียนหลานไมมีทางปลอยเจาไปงายๆ แน เดาวาพวก
เขาคงรูแลววาเจาจะเขารวมงานประมูล’
“ไมเปนไร ขาไมเชื่อวาในเมืองจิ้นจะมีอสูรวิญญาณที่มองเคล็ดวิชาลวงตาออกตัว
ที่สอง ขอแคพยายามหลบหลีกผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายในเมืองจิ้น ก็
คงไมมีปญหาอะไรแลว งานประมูลครั้งนี้เปนหนทางเดียวในการรวบรวมวัตถุดิบที่
จำเป น ทั้ งหมด ถึ งแม วาจะอั น ตรายไปหน อ ย พวกเราก็ ต อ งลองเสี่ ย งดู ” หานลี่ ดู
เหมือนวาจะขบคิดเรื่องนี้มานานแลว
‘นั่ น มั น ก็ ใช ทวา ในเมื่ อ ครั้งนี้ ม าเพื่ อ รวบรวมวั ต ถุ ดิ บ หลอมหุ น เชิ ด หากเกิ ด
อันตรายขึ้นจริงๆ ตาเฒาจะแหกกฎใชคาถาขับเคลื่อน ‘จิตทิ่มแทง’ ชวยเจาอีกแรง
เหมือนกับการตอสูเมื่อครู’ เทพขับเคลื่อนเอยอยางราบเรียบ
“ขอบพระคุณทานอาวุโส มีคำพูดของทานอาวุโส ชนรุนหลังก็วางใจขึ้นมาแลว”
หานลี่ตอบกลับดวยความดีใจ
หลังจากผานไปหนึ่งชั่วยาม หานลี่ก็กลับไปยังอารามเตาอยางเชื่องชาราวกับคน
ธรรมดา หลังจากพูดคุยเลนกับเจาอารามชั่วครู ถึงไดกลับหองไปอยางไมรีบรอน
หลังจากวางเขตอาคมชั่วคราวสองสามชุดลงรอบๆ หอง หานลี่ก็หยิบขวดเล็กๆ สี
เขียวมรกตนั้นขึ้นมาอีกครั้ง วางลงเบื้องหนาพลางพิจารณาอยางละเอียดอีกครั้ง ผาน
ไปชั่วครู เขาก็ยกมือหนึ่งขึ้นควาฝาขวดหยกเอาไว ลำแสงวิญญาณสวางวาบ ฝาขวด
ถูกบิดออกเบาๆ
ชั่วขณะนั้นลำแสงเย็นเยียบกลุมหนึ่งพลันพุงออกมาจากขวด ในเวลาเดียวกัน
อุณหภูมิของทั้งหองก็ลดลงอยางฉับพลัน หานลี่ที่เคยฝกฝนเคล็ดวิชาเยือกแข็งอยาง
เพลิงตาขายสีมวง ถูกลำแสงเย็นเยียบนี้หอหุมเอาไวก็อดที่จะหนาวสั่นไมได
หานลี่รูสึกตื่นตระหนก รอบกายมีเปลวเพลิงสีมวงปรากฏขึ้นชั้นหนึ่ง เมื่อสัมผัส
กับลำแสงเย็นเยียบ ก็ถูกเปลวเพลิงสีมวงขับไลออกไปดานนอกทันที จากนั้นลำแสง
เย็นเยียบก็อาบไลไปทั่วหอง แชแข็งทุกสิ่งจนเปนชั้นน้ำแข็งหนาๆ ถาหากในหองไมได
ถูกวางเขตอาคมเอาไวหลายชั้น เกรงวาไอเย็นเยียบคงแผออกไปนอกหองแลว
ดูแลวถึงแมวาลำแสงเย็นเยียบนี้จะไมไดทรงพลังเทาเพลิงตาขายสีมวง แตระดับ
ความเย็นก็ดูเหมือนวาจะไมไดหางชั้นจากเพลิงน้ำแข็งสวรรคเทาใดนัก
“นี่มันของบาอะไรกัน?”
หานลี่ใชมือที่ถูกปกคลุมไปดวยเปลวเพลิงสีมวง จับขวดเล็กนั่นเขยาเบาๆ อีกครั้งดวย
ความรูสึกสนอกสนใจ ชั่วขณะนั้นลำแสงเย็นเยียบก็พนออกมาจากปากขวดอีกครั้ง
เขาเห็นกับตาวาลำแสงเย็นเยียบนี้กระจายตัวอยูกลางอากาศ หลังจากแชแข็ง
หองนี้ขึ้นอีกสามสวนแลว ในที่สุดก็เลื่อนขวดเล็กๆ นี้มาอยูระดับสายตา ทันทีที่กวาด
สายตาไป รูมานตาก็เปลงแสงสีฟาสวางวาบ ทะลุผานไอเย็นเยียบสีขาวโพลนเหลานี้
ในขวดมีลำแสงสีเงินที่แสบตาสวางจาอยู
‘นี่ดูเหมือน…เจาเทขวดนั้นลงซิ ใชจานหยกรับเอาไวดีๆ ใหขาดูอยางละเอียด
หนอย’ จูๆ น้ำเสียงของเทพขับเคลื่อนก็ตื่นเตนขึ้นหลายสวน
หานลี่ใจเตน ควักจานหยกขนาดเทาฝามือออกมาจากยามเก็บของโดยไมไดกลาว
อะไร อีกมือหนึ่งที่จับขวดเล็กๆ อยูก็สะบัดขอมือนอยๆ ของเหลวสีเงินหยดหนึ่งหยด
ลงมาจากปากขวด หลังจากเปลงเสียงไพเราะเสนาะหูดังขึ้น ของเหลวหยดลงบนจาน
หยก กลายเปนไขมุกสีเงินขนาดเทาเมล็ดขาวสาร กลิ้งไปมาบนจานไมหยุด
สิ่งที่อยูนอกเหนือความคาดหมายของหานลี่ก็คือ ไขมุกสีเงิน เม็ดนี้ไมมีไอเย็น
เยียบแผออกมาแมแตนอย ดูแลวธรรมดาสามัญยิ่งนัก
‘ไมผิดดังคาด เปนไขกระดูกเหมันตที่ถือกำเนิดมาจากหยกทมิฬหมื่นป’
เทพขับเคลื่อนถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง พลางเอยอยางเชื่องชา
“หยกทมิฬหมื่นปขาเคยไดยิน แตไขกระดูกเหมันตนั้นคือสิ่งใดกัน ดูเหมือนวาจะ
เปนของล้ำคา” หานลี่เอยถามดวยความประหลาดใจ
‘ไขกระดูกเหมันต คือวัตถุดิบปรุงยาไขกระดูกหยกที่พวกเราใชบอยที่สุดชนิด
หนึ่ง แตแคไขกระดูกเหมันตนี้กำเนิดมาจากหยกทมิฬหมื่นปเทานั้น คนธรรมดาไมมี
วาสนาไดเห็น ถาหากขาจำไมผิดละก็ ของสิ่งนี้ดูเหมือนวาจะมีแตวังราตรีอุดรที่อยู
ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของตาจิ้นเทานั้นถึงมีขวดเล็กๆ ใบนี้ไวในครอบครอง เปน
สมบัติประจำภูเขาที่สืบทอดกันมา นอกจากนั้นก็ไมไดยินวาที่ไหนมีของสิ่งนี้อีก ใช
แลว ความจริงแลวไขมุกผลึกหิมะที่เจาหลอมไปมันก็มีตนกำเนิดมาจากหยกทมิฬหมื่น
ป’ เทพขับเคลื่อนกลับมาเยือกเย็นอีกครั้งพลางเอยขึ้น
ตอนที่ 948 วารียอนตะวันและเพลิงแกนอาทิตย
“หายากถึงเพียงนี้ แสดงวาของสิ่งนี้นาจะมีจุดที่พิเศษสินะ?” หานลี่จองเขม็งไป
ยังไขมุกสีเงินบนจานหยก แววตาเปลงประกายขณะเอยถาม
‘มันมากกวาพิเศษ! ของสิ่งนี้สำหรับผูบำเพ็ญเพียรอยางพวกเราคงพอวา กวาครึ่ง
ก็เปนแควัตถุดิบเสริมในการปรุงยาและหลอมยุทธภัณฑระดับสุดยอดเทานั้น แตถา
หากตกไปอยูในมือของเผาปศาจ กลับเปนสิ่งที่พวกมันพรอมจะไขวควาใหไดมาอยาง
ไมเสียดายชีวิต นี่เปนสิ่งที่ใชรักษาชีวิตในการถูกทัณฑอัสนีเปลี่ยนรางของอสูรปศาจ’
“ทัณฑอัสนีเปลี่ยนรางของชนเผาปศาจ?” ถึงแมวาหานลี่จะเตรียมใจเอาไวแลว
แตเมื่อไดยินก็ยังอดที่จะอึ้งตะลึงคางไมได
‘ใชแลว ในใตหลานี้มีอสูรปศาจระดับสูงอยูจำนวนนับไมถวน แตตัวที่ผานทัณฑ
เปลี่ยนรางไดอยางปลอดภัยจนบรรลุระดับเจ็ดไดนั้น กลับมีอยูไมกี่ตัว อยางไรเสียเดิม
ทีพลังของอัสนีสวรรคก็ควบคุมอสูรปศาจสวนใหญไดอยูแลว ทัณฑอัสนีสำหรับพวก
มันไมตางอะไรจากทัณฑประหาร แตหากกินไขกระดูกเหมันตที่กลายเปนไขมุกสีเงิน
เขาไปหยดหนึ่ง หลังจากหลอมรวมในรางกายเสร็จแลวก็จะลดทอนความเจ็บปวดจาก
พลังอัสนีไดเปนอยางมากในชวงระยะเวลาหนึ่ง เจาวาไขกระดูกเหมันตนี้ใชของล้ำคา
สำหรับอสูรเหลานี้หรือไมละ ทวาในโลกของผูบำเพ็ญเพียรมีมนุษยที่รูเรื่องนี้ไมมาก
นัก และเปนเพราะวังราตรีอุดรฝกฝนเคล็ดวิชาธาตุน้ำแข็งเปนพิเศษ ตอนนั้นขาที่เคย
ออกมาหาประสบการณที่ตาจิ้น ก็เคยตอสูกับผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงของวังนั้น ดังนั้น
จึงรูเรื่องนี้ และยิ่งไปกวานั้นทุกๆ พันป อสูรระดับสูงในเขตแดนตาจิ้นจะมารวมตัวกัน
อยูที่เกาะน้ำแข็งยมโลกของวังราตรีอุดร และพยายามตอสูกับวังราตรีอุดร เพื่อบีบให
ผูบำเพ็ญเพียรในวังมอบไขกระดูกเหมันตให’
“มีเรื่องเชนนี้ดวยหรือ?” หานลี่รูสึกไมอยากจะเชื่ออยูบาง
‘แปลกอะไรกัน ไมมีไขกระดูกเหมันตในตอนที่โดนทัณฑเปลี่ยนราง แปดเกาสวน
พวกมันก็มีแตตองตายเทานั้น ถาหากโชคดีไดไขกระดูกเหมันตมาหยดหนึ่ง อัตราการ
ประสบความสำเร็จจากการโดนทัณ ฑอัสนีก็เพิ่มขึ้นทันที จะไมพยายามไดอยางไร
และยิ่งไปกวานั้นทุกชวงเวลานั้น เหลาตัวประหลาดเฒาของหุบเขาหมื่นปศาจก็จะเขา
มายุงกับเรื่องนี้ ถึงแมวาจะโจมตีลมเหลว อสูรปศาจเหลานี้ก็ไมไดเสียหายอะไรนัก แต
ผูบำเพ็ญเพียรที่ไดรับการถายทอดความสามารถโบราณมาจากวังราตรีอุดร ก็จะวาง
เขตอาคมที่ไมธรรมดาซึ่งถายทอดมาตั้งแตโบราณสองสามอยาง โดยเฉพาะที่เกาะนั้น
มี บ อ เหมั น ต ที่ เป น ชี พ จรปราณแท ส วรรค ทำให ต รงนั้ น ในรั ศ มี ห มื่ น ลี้ เย็ น เยี ย บ
สามารถสังหารคนไดอยางไรรูปราง อสูรปศาจที่ไมเคยฝกฝนเคล็ดวิชาธาตุน้ำแข็ง เขา
ไปในเกาะนั้นก็แทบจะตองใชลมปราณกวาครึ่งตานทานการโจมตีจากความเย็นเยียบ
เอาไว ไมมีทางตอสูกับผูบำเพ็ญเพียรของวังราตรีอุดรอยางเต็มกำลังได ดังนั้นถึงแมวา
ทุกครั้งปศาจบำเพ็ญ เพียรจะกรูกันเขามา แตกลับไมเคยโจมตีเกาะยมโลกได ทวา
ของเหลววิญญาณล้ำคาขนาดนี้ เจาคนที่ตายดวยน้ำมือของเจาไดมาไดอยางไรกันนะ?
เจาดูสิวาบนขวดเล็กๆ ขวดนั้นมีสัญ ลักษณ อะไรเปนพิเศษหรือไม’ หลังจากที่เทพ
ขับเคลื่อนอธิบายใหหานลี่ฟง ก็เอยขึ้นอยางไมเขาใจ
“สัญลักษณ กนขวดเล็กมีลายเกล็ดหิมะอยู ไมรูวานับเปนสัญลักษณหรือไม?”
หานลี่หนาเปลี่ยนสี ยื่นนิ้วไปลูบที่กนขวด ขณะเอย
‘นั่นแหละ นั่นคือสัญลักษณเกาะยมโลก ดูแลวขวดนี่คงจะเปนขวดที่บรรจุไขกระดูก
เหมันตของวังราตรีอุดร แตคาดไมถึงวามันจะมาตกอยูในมือของผูบำเพ็ญเพียรระดับ
กอกำเนิดขั้นตนคนหนึ่ง แลวยังเก็บเอาไวในยามเก็บของดวย แปลกจริงๆ’
เทพขับเคลื่อนดูเหมือนวาจะกำลังขบคิดถึงจุดที่ยากจะเขาใจในเรื่องนี้
“ในใตหลานี้มีเรื่องแปลกพิสดารอะไรบางที่ไมอาจเกิดขึ้นได ไมแนวาเจาสิ่งนี้
อาจจะถูกใครสักคนขโมยออกมาจากเกาะยมโลกหรือผูบำเพ็ญเพียรของเกาะยมโลก
อาจจะเปนคนหักหลังชิงสมบัติแลวหลบหนีมาเองก็ได ตอมาก็บังเอิญมาตกอยูในมือ
ของคนผูนี้ เรื่องเหลานี้ลวนเปนไปได แตเมื่อครูทานบอกวา สำหรับผูบำเพ็ญเพียร
อยางพวกเรา ไขกระดูกเหมันตนี้เอามาทำเปนวัตถุดิบในการหลอมยุทธภัณ ฑและ
โอสถเพียงเทานั้น ถาหากเปนเชนนั้นละก็ แลวเหตุใดผูบำเพ็ญเพียรของวังราตรีอุดร
ถึงตอสูกับอสูรปศาจทั้งหมดเพื่อของสิ่งนี้มาตั้งแตอดีต มอบใหไปเลยก็จบแลวมิใช
หรือ?” หลังจากที่หานลี่ขบคิดเล็กนอย ก็ขมวดคิ้วพลางเอยถาม
‘ผูบำเพ็ญเพียรตาจิ้นที่รูเรื่องนี้ก็รูสึกสงสัยมานานแลว แตวังราตรีอุดรกลาววา
เพื่อสกัดกั้นไมใหมีอสูรปศาจระดับแปดเกิดขึ้นในโลกของผูบำเพ็ญเพียร จะไดรักษา
เสถียรภาพของโลกผูบำเพ็ญเพียรตาจิ้นเอาไว มิเชนนั้นแคขวดไขกระดูกเหมันตใบ
เล็กๆ ก็เพียงพอจะกระตุนอสูรปศาจระดับแปดหลายสิบตนแลว พลังอำนาจกลุมนี้
เพียงพอจะทำลายความสมดุลของขุมอำนาจตางๆ ในตาจิ้นได ดังนั้นจะเปนการกอ
ความวุนวายขึ้น ทวาการกลาวเชนนี้มันหลอกลวงไดแคคนธรรมดาๆ เทานั้น ตอนนั้น
ผูบำเพ็ญเพียรของวันราตรีอุดรที่ตอสูกับตาเฒาก็มีตำแหนงมิไดต่ำตอย ดูเหมือนวาจะ
เปนรองเจาวังคนหนึ่ง เพราะวาเขาพูดจาไมสุภาพไมเกรงใจ หลังจากที่พายแพในการ
ตอสูและถูกขาสังหาร ขาก็ใชเคล็ดวิชาคนวิญญาณรับรองเขาสักที ผลลัพธคือดันไปรู
ความลั บ ของไขกระดู ก เหมั น ต เข าด ว ยบั งเอิ ญ ’ เทพขั บ เคลื่ อ นเอ ย มาถึ งตรงนี้ ก็
หยุดชะงัก ดูเหมือนวาจะกำลังยอนนึกถึงอะไรสักอยาง
“ความลับ?” หานลี่เลิกคิ้ว รูสึกสนอกสนใจเปนอยางมาก
‘ใชแลว หากไมไดเห็นไขกระดูกเหมันต ตาเฒ าก็ลืมเรื่องนี้ไปหมดแลว เรื่องนี้
นาจะมีเพียงชนชั้นสูงของวังราตรีอุดรเทานั้นที่ทราบ คนอื่นๆ ไมมีทางรูได ความจริง
แลวไขกระดูกเหมันตนี้นอกจากจะนำไปหลอมยุทธภัณฑและโอสถไดแลว สรรพคุณ
หลักของมันกลับเปนวัตถุดิบหลักในการหลอมโอสถลับโบราณ ‘วารียอนตะวัน’ ’
น้ำเสียงของเทพขับเคลื่อนเครงขรึมขึ้นมา
“วารียอนตะวัน? คือโอสถลับที่สามารถซอมแซมสวนที่เสียหายของกระดูกและ
กลามเนื้อไดอยางไมจำกัดหรือ?” หานลี่สูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาเฮือกหนึ่ง พลาง
ตกใจจนขวัญหาย
‘ใชแลว ไดยินวาไมวารางกายจะไดรับบาดเจ็บหนักขนาดไหน ตอใหศีรษะหรือ
รางกายแตกกระจายออกเปนเสี่ยงๆ ขอแคใชโอสถวิญญาณนี้ราดลงไปบนปากแผล ก็
สามารถฟนฟูกลับมาดังเดิมไดภายในพริบตา แมกระทั่งในคัมภีรยังกลาววา โอสถนี้มี
ประสิทธิภาพมหัศจรรยในการฟนคืนชีพได แนนอนวาเรื่องพวกนี้เปนแคขาวลือ ผูใดก็
ไมอาจะรูวาจริงหรือเท็จ แตมีอยูจุดหนึ่งที่เปนที่ยอมรับของตำราทุกเลม นั่นก็คือวารี
ยอนตะวันมีประสิทธิภาพในการยืดอายุขัยของผูบำเพ็ญเพียร และยิ่งไปกวานั้นยัง
สามารถยื ด อายุ ขั ย ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รธรรมดาๆ ได ห นึ่ ง ในสี่ ส ว น เจ า รู ใช ไหม ว า มั น
หมายถึงอะไร?’ เทพขับเคลื่อนเอยอยางราบเรียบ
“นั่นหมายความวาทำใหผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมขั้นปลายมีโอกาสบรรลุ
ระดับกอกำเนิด หรือทำใหผูบำเพ็ญระดับกอกำเนิดขั้นปลายก็มีโอกาสอยางมากใน
การบรรลุระดับเทพแปลง” หานลี่พนลมหายใจยาวๆ ออกมา พลางเอยพึมพำ
‘แนนอน ไขกระดูกเหมันตเปนแควัตถุดิบหลักในการหลอมวารียอนตะวัน ถา
หากคิดจะหลอมวารีชนิดนี้จริงๆ วัตถุดิบอื่นๆ ก็ชางเถิด แตเพลิงแกนอาทิตยที่อยูใต
ลาวาลึกลงไปหมื่นจั้งนั่น กลับขาดไมได มีเพียงตองใชเพลิงนี้หลอมไขกระดูกเหมันต
ถึงจะเรียกไดวาเอาสวนที่เหลือไปเสริมสวนที่ขาดเหมือนหยินกับหยาง และปรุงวารี
ยอนตะวันขึ้นมาได มิเชนนั้น ก็มีแตตองเสียสิ่งนี้ไปเปลาๆ เทานั้น’ เทพขับเคลื่อนเอย
แฝงความนัย
“เพลิงแกนอาทิตย เจาสิ่งนี้จะไปหาจากที่ ไหนเล า ไม ตองพู ดเลยวาผู บำเพ็ ญ
เพียรธรรมดาๆ จะยืนหยัดอยูในลาวาหมื่นลี้ไดนานเทาไหร? อัตราการเกิดเพลิงชนิดนี้
ในลาวาหมื่นลี้มีเทาไหรกัน? เพลิงแกนอาทิตยกอตัวขึ้นเหมือนกับวิญญาณ มันเปนสิ่ง
ที่ไรซึ่งรูปรางในลาวาอยูแลว จะไปจับมาอยางไร และยิ่งไปกวานั้นตอใหมีเพลิงชนิดนี้
แตไมมีวธิ ีปรุงวารียอนตะวัน ก็เทากับวาเปนเรื่องที่เพอฝนแตเพียงเทานั้น” หานลี่เอย
อยายิ้มเยาะตัวเองเล็กนอย
เทพขับเคลื่อนไดฟงแลวพลันเงียบขรึมลง หลังจากผานไปชั่วครู ถึงไดเอยขึ้นวา
‘เพลิงแกนอาทิตยนั้นขาไมมี แตขามีวิธีปรุงยา หรือวาสหายหานลืมไปแลววา
ตอนนั้นขาสังหารรองเจาวังราตรีอุดรผูนั้นไป ในจิตสัมผัสของเขามีวิธีการปรุงยานี้
พอดี ตาเฒารูสึกวามันหายาก จึงจำเอาไว ถาหากเจาอยากหลอมโอสถนี้จริงๆ ขาก็
บอกเจาได’
“ทานอาวุโสมีวิธีปรุงยานี้ เยี่ยมจริงๆ เชนนั้นชนรุนหลังเก็บเอาไวกอนก็แลวกัน
บางทีวันขางหนาอาจจะไดใชจริงๆ” หานลี่ไดยินคำพูดของเทพขับเคลื่อนพลันตกใจ
จากนั้นก็รูสึกตกใจระคนดีใจ มีวารียอนตะวัน โอกาสในการบรรลุระดับเทพแปลงของ
เขาก็เพิ่มขึ้นแลว
‘เพลิงแกนอาทิตยไมใชสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรอยางพวกเราจะไปไลจับได ขาแนะนำ
วาเจาอยาใหความหวังมากนักเลย มิเชนนั้น ผูบำเพ็ญเพียรที่มีความสามารถในอดีต
ของวังราตรีอุดร ถือครองวิธีปรุงยาและไขกระดูกเหมันตไวเนิ่นนานขนาดนี้ เหตุใดถึง
ไมเคยหลอมวารีวิญญาณนี้เสร็จสักทีเลา’ เทพขับเคลื่อนเอยอยางราบเรียบ จากนั้น
ไมรอใหหานลี่เอยอะไร ในกระบอกไมไผก็มีคัมภีรสีเหลืองออนมวนหนึ่งบินออกมา
คาดไมถึงวาเขาจะจดวิธีปรุงวารียอนตะวันเสร็จไดในระยะเวลาสั้นๆ เพียงเทานี้
“ขอบพระคุณทานอาวุโส ชนรุนหลังแคกันไวดีกวาแกก็เทานั้น” หานลี่ควาคัมภีร
มวนนั้นไวในมือ แลวตอบกลับพรอมหัวเราะเบาๆ
‘ในเมื่อไขมุกผลึกหิมะของเจาสรางมาจากหยกทมิฬหมื่นป ถาหากผสมไขกระดูก
เหมันตเขาไปสักสองสามหยด กลับจะทำใหอานุภาพของสมบัติชิ้นนี้เพิ่มขึ้นไมนอย
อยาลืมละ’ สุดทายเทพขับเคลื่อนก็กำชับขึ้นมาอีกประโยค จากนั้นก็รูสึกวาวันนี้พูด
มากเกินไปแลว จึงเงียบกริบไปไมเอยอะไรอีก
หานลี่ขมวดคิ้วนอยๆ คำพูดนี้ถึงเทพขับเคลื่อนไมเอยถึง เขาก็จะทำอยูดี
ทวามีจุดหนึ่งที่เขาอยากรูมากๆ นั่นคือไอเย็นเยียบของไขกระดูกเหมันตทรงพลัง
ขนาดนี้ หากถูกหลอมรวมกับเพลิงตาขายสีมวง จะทำใหอานุภาพของเพลิงตาขายสี
มวงเพิ่มขึ้นอีกขั้นหรือไม?
เมื่อคิดเชนนั้น หานลี่ก็เทไขมุกสีเงินบนจานหยกกลับลงไปในขวดเล็กๆ สวนตัว
เองก็กางนิ้วทั้งหาออกอยางไมเกรงใจ ชั่วขณะนั้นเปลวเพลิงสีมวงกลุมหนึ่งก็ปรากฏ
ขึ้นบนมือ เมื่อพลิกฝามือ ชั่วขณะนั้นลูกไฟสีมวงก็กลายเปนมานลำแสงเล็กๆ ชั้นหนึ่ง
ผนึ ก ปากขวดเอาไว จากนั้ น อี กมื อ หนึ่ งพลั น รายอาคม ปากก็ บ ริกรรมคาถาอย าง
ตอเนื่อง
เห็นเพียงเปลวเพลิงสีมวงสวางวาบ เสียงรายคาถาดังออกมาจากปาก เสนไหม
เปลวเพลิงบนมานลำแสงเริ่มหมุนวน และยิ่งไปกวานั้นยังรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ชั่วครู ไอเย็น เยียบสีเงิน ก็ท ะลักออกมาจากปากขวดอยางชาๆ งดงามราวกับ
ความฝน
หานลี่สบถเบาๆ ออกมา ชูมือขึ้นปลอยอาคมสีเขียวสายหนึ่งออกไป
มานลำแสงดูดซับอาคมนั้นเขาไป ทันใดนั้นพลันสั่นคลอน กลายเปนลูกไฟขนาด
เทากำปนอีกครั้ง ไอเย็นเยียบนั้นถูกหอหุมเอาไวขางในอยางแนนหนา ถูกปดผนึก
อยางไรชองโหว จากนั้นหานลี่พลันชูฝาขวดที่อยูระหวางนิ้วขึ้นอีกครั้ง อีกมือหนึ่งกวัก
เรียกลูกไฟสีมวง ลูกไฟพลันกะพริบวาบ พุงมาหาหานลี่ในทันที
เขาอาปากออก คาดไมถึงวาหานลี่จะกลืนลูกไฟสีมวงที่มีไอเย็นเยียบสีเงินอยูขาง
ในลงไปในทอง จากนั้นก็นั่งสมาธิลงบนพื้น คอยๆ หลับตาลงพลางเขาสูสมาธิ
ทารกวิญญาณขนาดสองชุนในจุดตันเถียนของหานลี่เวลานี้กลับลืมตาทั้งสองขาง
เบิกโพลง ทาทางสดชื่นเปนพิเศษ และเบื้องหนาของมัน ก็มีลูกไฟสีมวงลูกนั้นหมุน
ติ้วๆ อยู ดานในมีกลุมลำแสงสีเงินเล็กๆ สวางวาบอยู
ทารกวิญญาณกะพริบตา ทันใดนั้นสองมือเล็กๆ พลันรายอาคม ลำแสงวิญญาณ
สีเขียวบนรางสวางวาบ อาคมสายหนึ่งพุงออกมาจากมือ ลูกไฟงสีมวงสั่นคลอน ถูก
เผาไหม ลำแสงสีเงินดานในก็กลายเปนเพลิงสีเงินและเริ่มผสมเขากับเปลวเพลิงสีมวง
สวนรางกายภายนอกของหานลี่นั้น กลับมีสีหนาไรความรูสึก รางทั้งรางตกอยูใน
ภวังค ไมขยับเขยื้อน
ตอนที่ 949 อาวุโสหาน
หานลี่อยูในหองมาหนึ่งวันหนึ่งคืน ถึงแมวาเจาอารามผูนั้นจะเปนคนธรรมดา
ถึงแมตัวจะอยูในอารามเตาแตกลับรูเรื่องของผูบำเพ็ญเพียรมาเล็กนอย และพอจะ
เดาฐานะของหานลี่ออก ดังนั้นในชวงนี้จึงไมไดใหใครมารบกวนหานลี่
ในที่สุดเมื่อหานลี่ลืมตาทั้งสองขางขึ้น ใบหนาก็เผยสีหนาผิดหวังออกมา
“ไอเย็นเยียบในไขกระดูกเหมันตคาดไมถึงวาจะไมมีทางผสมกับเพลิงตาขายสีมวงได
ดูแลวตอนนี้ของสิ่งนี้คงเปนไดแควัตถุดิบแลว เอามาหลอมกับไขมุกผลึกหิมะใหม
ดีกวา” หานลี่เอยพึ มพำเสียงแผวเบาดวยความจนป ญ ญา ทั น ที ที่ อาปากออก ชั่ว
ขณะนั้นเสียง ‘พรึ่บ’ ก็ดังขึ้น พนไขมุกกลมๆ สีสันแวววาวออกมาจากปาก ลอยอยู
เบื้องหนาสูงขึ้นไปสองสามฉื่อ
หานลี่ ม องสิ่งของที่ อ ยู เบื้ อ งหน า พลั น ยกมื อ ขึ้ น ขวดเล็ ก ๆ ที่ บ รรจุ ไขกระดู ก
เหมันตเอาไวปรากฏขึ้นตรงใจกลางฝามือ
เพียงนิ้วปดผานไป ฝาขวดพลันเปดออก อีกมือหนึ่งก็ตบไปที่กนขวดทันที ชั่ว
ขณะนั้นไขมุกกลมๆ สีเงินพลันพุงออกมาจากปากขวด ชั่วครูก็สลายหายไปทามกลาง
ไขมุกผลึกหิมะ
หานลี่ไมกลาวอะไรใหมาความ สองมือพลันรายอาคมแลวอาปากออกอีกครั้ง พน
เพลิงทารกสีเขียวออกมาจากปาก ชั่วพริบตาก็หอหุมกอนกลมๆ นั่นเอาไว แลวทำการ
เผาไหมอยางรวดเร็ว
มองไขมุกกลมๆ ที่อยูทามกลางเปลวเพลิงอยางเงียบๆ หานลี่หลับตาทั้งสองขาง
ลงอีกครั้ง การหลอมไขมุกเม็ดนี้อีกครั้งกลับไมตองใชเวลามากนัก ชวงเวลาที่เหลือ
กอนจะถึงงานประมูลก็เพียงพอใหหลอมไขมุกผลึกหิมะเสร็จสมบูรณแลว
เมื่อขบคิดเชนนั้น เขาก็ใชจิตสัมผัสควบคุมเพลิงทารกนั้นเอาไวแลวเริ่มหลอม
สมบัติที่อยูเบื้องหนา
……
ในตอนที่หานลี่กำลังจดจออยูกับการหลอมสมบัตินั้น มุมหนึ่งของพระราชวังทาง
ทิศเหนือของเมืองจิ้น ในจวนที่ยิ่งใหญโออาแหงหนึ่ง ชายหนุมสวมชุดคลุมบางๆ คน
หนึ่งกำลังยืนอยูภายในศาลาหินแหงหนึ่ง มือทั้งสองไพลหลังพลางชื่นชมทัศนียภาพ
ของหมูมวลบุปผาดานนอกดวยสีหนาสบายใจ
จูๆ คนผูนี้ก็หนาเปลี่ยนสี พลางหันหนามา เผยใหเห็นใบหนาที่แทจริงของคนผูนี้
คาดไมถึงวาจะคลายคลึงกับหานลี่อยูเจ็ดสวน สิ่งเดียวที่ไมเหมือนก็คือ คนผูนี้มีดวงตา
ที่เย็นชาไรความรูสึกคูหนึ่ง
และในตอนนั้นเอง ตรงทางเขาสวนบุปผาก็มีเสียงฝเทาดังขึ้น จากนั้นชายชราสวมชุด
ผาไหมและรัดเกลาสีดำคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นตรงนั้น เขาเงยหนาขึ้นสบตาก็แววตา
เปลงประกายของชายหนุมพอดี จึงอดที่จะรูสึกสั่นสะทานไมได ในใจรูสึกตื่นตระหนก
โชคดีที่ชายหนุมผูนี้ชักแววตาเย็น ชากลับไป ทั น ใดนั้น ก็เปลี่ยนเป น ธรรมดาๆ
และเอยอยางราบเรียบวา
“ขาก็นึกวาใคร ที่แทก็สหายอวิ๋นอี้นี่เอง สหายมาที่นี่ มาตามหาผูแซหานหรือ?”
“อาวุโสหาน ชวงนี้พวกเราที่สอดแนมอยูตามยานรานคาตางๆ ไดขาวคราวที่
ทานอาวุโสหานอาจจะสนใจมาขาวหนึ่ง” ชายชราสวมรัดเกลาหัวเราะแหงๆ ออกมา
คนก็เดินเขามา
“ขาวคราว? เจาก็รูวาขาไมสนใจขาวภายนอก และไมไดมีหนาที่รับผิดชอบใดๆ
ถาหากสหายมีเรื่องอยากใหขาลงมือจริงๆ ก็แคใหอาวุโสเยี่ยมาบอกขาก็ไดแลว”
ชายหนุ ม หั น หน ากลับ ไป จองเขม็ งไปยังตน ไม และดอกไมเบื้ อ งหน าศาลาหิ น
พลางเอยอยางเย็นชา
“หึๆ ถาหากเปนเรื่องอื่น ผูแซอวิ๋นคงไมมีทางมารบกวนการฝกบำเพ็ญเพียรของ
พี่หาน แตขาวนี้กลับเกี่ยวของกับสหาย” ชายชราไมสนใจทาทีเยอหยิ่งของอีกฝาย
กลับเอยอยางมีเลศนัยออกมา
“เกี่ยวกับขา? หรือวาพวกเจาหาคนผูนั้นพบแลว?” หลังจากที่ชายหนุมตกตะลึง
แลว สองตาก็หรี่ลง สีหนาเย็นชาขณะเอย
“ใชแลว พวกเรามีขาวคราวของคนผูนี้จริงๆ ไดยินวาผูบำเพ็ญเพียรของพรรคตา
ข า ยทมิ ฬ กำลั ง ตามหาคนผู นี้ อ ย า งลั บ ๆ ในย า นร า นค า ต า งๆ ของเมื อ งจิ้ น นี่ คื อ
ภาพวาดที่พวกเขาสงมา นาจะเปนคนเดียวกับที่อาวุโสหานกลาวถึง ทวา ตองใหทาน
อาวุโสหานดูดวยตาของตนเอง” ชายชราสวมรัดเกลาสีดำยกมือขึ้น คัมภีรสีขาวมวน
หนึ่งบินออกมาจากแขนเสื้อ
ชายหนุมสวมชุดสีเขียวยื่นมือออกมากวักเรียกดวยความเครงขรึม ดูดคัมภีรมวน
นั้นเขามาในมือ แผจิตสัมผัสเขาไปตรวจสอบสิ่งที่อยูขางในอยางละเอียดรอบหนึ่ง
“ใชแลว คือเขาไมผิดแน มีขาวหรือไมวาเหตุใดคนของพรรคตาขายทมิฬถึงอยาก
ตามหาเขา?” ชายหนุมหนากระตุก หลังจากดึงจิตสัมผัสกลับมาอยางรวดเร็วแลว ก็
เอยถามขึ้นอยางเยือกเย็น
“เรื่องนี้ยังไมมีขาวคราว ทวาอาวุโสระดับกอกำเนิดทั้งหมดของพรรคตาขายทมิฬ
ในเมืองจิ้นกลับมาชุมนุมกันอยางรวดเร็ว ไมรูวาเกี่ยวกับคนผูนี้หรือไม อาวุโสหาน
ทานเคยบอกวาผูบำเพ็ญ เพียรที่มีชื่อเดียวกับทาน เปนศัตรูคูอาฆาตของทาน และ
ยังใหคนในตระกูลชวยทานตามหาคนผูนี้ ดังนั้นอาวุโสรองจึงตัดสินใจวา คนผูนี้จะ
มอบใหทานพี่หานจัดการ ไมวาอาวุโสหานจะใชวิธีอะไรตอกรกับคนผูนี้ ขอแคคนผูนี้
ไม ม ารบกวนงานประมู ล ที่ ก ำลั ง จะจั ด ขึ้ น ก็ พ อ ถึ ง อย า งไรเสี ย งานประมู ล ครั้ ง นี้
ตระกูลเยี่ยก็มีสิ่งที่ตองเอามาใหไดอยูสองสามชิ้น อาวุโสเยี่ยจึงไมอยากใหเกิดเรื่อง
อะไรที่คาดไมถึงขึ้น” ชายชราเอยดวยสีหนาราบเรียบ
“หึ ขอแคมีขาวที่แนนอนของคนผูนี้ ขาก็จะทำใหเขาหายไปจากโลกใบนี้ ทวาที่
ขาใหคนในตระกูลชวยรวบรวมยุทธภัณฑมารนั้นไมรูวาไดมากี่ชิ้นแลว ขาจะเขารวม
ตามที่ตระกูลเยี่ยของพวกเจาสั่งใหทำ แตตองแลกกับเงื่อนไขนี้กอน” อาวุโสหานสง
เสียงหึออกมาอยางเย็นชา
“พี่หานวางใจ เรื่องยุทธภัณฑมารพวกเราคอยจับจองของเหลานี้อยูทั่วทุกแหง
หนแลว กอนหนานี้ก็ชวยสหายหาเจอชิ้นหนึ่งไมใชหรือ? สวนยุทธภัณฑมารที่เหลือ
นั้นยุงยากเล็กนอย จำเปนตองใชเวลาสักหนอย” อาวุโสที่สวมรัดเกลาสีดำอธิบายดวย
สีหนาไมเปลี่ยนแปลง
“ขาไมสนวาพวกเจาจะชวยขาตามหายุทธภัณฑมารมาอยางไร ขาทำคุณงามความดี
ใหตระกูลเยี่ยยี่สิบป ยี่สิบปหลังจากนี้ยุทธภัณฑมารสองสามชิ้นนั่นจะตองมาปรากฏ
อยูในมือของผูแซหาน” อาวุโสหานเมมริมฝปาก แววตาเย็นชาสวางวาบขณะเอย
“นั่นมันแนนอนอยูแลว ในเมื่อตระกูลเยี่ยของพวกเรารับปากกับทานอาวุโสหาน
แลว ก็ไมมีทางกลืนคำพูดตัวเองแนนอน อาวุโสหานพักผอนกอนเถิด หากมีขาวของ
คนผูนั้น ขาจะรายงานสหายทันที” อาวุโสที่สวมรัดเกลาสีดำประสานมือคารวะพรอม
กับรอยยิ้มฝนๆ ในที่สุดก็ขอตัวออกไป
ชายหนุมมองเงารางของอาวุโสผูนั้นเดินออกจากประตูสวนบุปผาไป ใบหนาก็เผย
รอยยิ้มเย็นชาออกมา จากนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได สะบัดแขนเสื้อเบาๆ กระบี่เล็กๆ สี
ทองเปลงประกายเลมหนึ่งพลันปรากฏขึ้นในมือ
ตัวกระบี่เล็กๆ ที่ถูกเสนไหมสีดำหลายเสนพันเอาไว แตกลับยังมีไอวิญญาณที่เต็ม
เปยมวิ่งแปลบปลาบไมหยุด ทาทางเหมือนอยากดิ้นใหหลุดพน แตเสนไหมสีดำเหลานี้
กลับไมรูวาใชสิ่งใดสรางขึ้นมา ถึงแมกระบี่สีทองจะขัดขืนแตก็ยังแนบติดอยูกับกระบี่
อยางไมลดละ
ชายหนุมขมวดคิ้ว จูๆ พลันเผยอปากออก พนโลหิตสีดำออกมา อาบไลไปทั่ว
กระบี่สีทอง
ชั่วขณะนั้นกระบี่สีทองพลันสงเสียงคำรามออกมา ทันใดนั้นลำแสงวิญ ญาณก็
หมนแสงลง แตยังคงคำรามดวยเสียงทุมต่ำอยางไมยินยอมไมหยุด
“ยุงยากจริงๆ กระบี่บินในแดนมนุษยเลมนี้กำจัดไอวิญญาณออกยากจริงๆ หาก
ไมใชเพราะเห็นวากระบี่เลมนี้สรางมาจากไผอัสนีสีทอง ก็คงไมตองทุมเทขนาดนี้”
ชายหนุมเอยพึมพำดวยเสียงแผวเบาสองสามประโยค ใบหนาเผยสีหนาหมดความ
อดทนออกมา
“ทวา ในเมื่อเจานายของเจามาอยูที่เมืองจิ้นแลว นั่นก็เปนโอกาสที่หาไดยาก ขอ
แคสังหารเขาได ไมเพียงจะสามารถแกแคนที่เขาสังหารจิตวิญญาณหลักทำใหขาไมมี
ทางฟนฟูพลังยุทธทั้งหมดไดแลว กระบี่บินที่ไรเจาของ ยังควบคุมไดอยางงายดายยิ่ง
กวา” ชายหนุมเอยไปพลาง ใบหนาโหดเหี้ยมสวางวาบ นัยนตามีลำแสงสีดำและมวง
สองสีสวางวาบ รางทั้งรางเปลี่ยนเปนเหมือนภูตผีปศาจที่ชั่วรายในชั่วพริบตา
ในเวลาเดียวกันนั้น ในหอคอยอีกมุมหนึ่งที่เปลาเปลี่ยวของจวน ก็มีบุรุษสองคน
และสตรีหนึ่งคนนั่งสนทนาอะไรกันสักอยางอยูที่โตะกลม
หนึ่งในนั้นก็คืออาวุโสที่สวมรัดเกลาสีดำที่เพิ่งกลับมาจากการไปหาชายหนุมผูนั้น
บุรุษอีกคนหนึ่งคือชายวัยกลางคนที่มีใบหนาเขมงวดที่เอวคาดเข็มขัดหยกเอาไว สตรี
ผูนั้นคาดไมถึงวาจะเปนสตรีผูงดงามที่เคยปรากฏตัวที่อารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์มา
กอนหนานี้ แตแคนางในเวลานี้มีสีหนาเครงขรึม กำลังฟงอาวุโสที่สวมรัดเกลาสีดำ
และชายหนุมพูดคุยขั้นตอนตางๆ อยู
“เชนนั้น อาวุโสหานก็ตกลงแลว” ชายวัยกลางคนหนาเหลี่ยมไดฟงคำพูดของ
ชายชรา ก็เอยอยางมีแผนการเล็กนอย
“ใช แ ล ว และยิ่ ง ไปกว า นั้ น เมื่ อ อาวุ โสหานได ฟ ง ว า มี ข า วคราวของผู ที่ มี น าม
เหมือนกัน ถึงแมวาจะไมไดแสดงทาทีตื่นเตนออกมา แตจิตสังหารในแววตานั่นคือ
ความจริง ดูแลวที่เขาบอกวาเปนศัตรูคูแคนกันนั้น นาจะเปนความจริง” อาวุโสที่สวม
รัดเกลาสีดำเอยเชนนี้ออกมา
“แตสองคนนี้ไมเพียงจะมีนามเหมือนกัน แมแตใบหนาก็ยังคลายคลึงกัน และเมื่อ
ไมนานมากนี้ ‘หานลี่’ ก็เขามาในอารามจักรพรรดินีพิสุทธิ์ของราชวงศผูบำเพ็ญเพียร
ของพวกเรา โดยไมรูวามีจุดประสงคใดกันแน หากเขาจัดการตระกูลเยี่ยของพวกเรา
จะทำอยางไร? ตอนนี้เขายังถูกผูบำเพ็ญเพียรของพรรคตาขายทมิฬไลสังหารอยาง
ลับๆ อีก ขารูสึกไมคอยสบายใจเลย?” สตรีผูงดงามกลับขมวดคิ้วดำขลับพลางเอยขึ้น
“จะตองมีเรื่องที่พวกเราไมรูอยูแลว แตเหตุใดพวกเราตองไปยุงกับเรื่องนี้ ขอแค
อาวุโสหานไมใชสายลับของพวกสำนักพุทธ ทั้งยังชวยตระกูลเยี่ยจัดการเรื่องราวอยาง
สุดความสามารถ พวกเราก็ไมจำเปนตองไปซักไซเรื่องราว อาวุโสหานผูนี้ไมเพียงจะมี
พลังยุทธแข็งแกรง ยังรูความลับตางๆ ในยุคโบราณจำนวนมาก นี่เปนสิ่งที่พวกเรา
จำเปนตองมีตอจากนี้อีกสองสามป กอนจะถึงเวลานั้น ก็ตองผูกมัดคนผูนี้ไวอยางสุด
ความสามารถ นอกจากนี้ คนผูที่ มีชื่อเดีย วกั น กับ อาวุโสหาน ก็ ระมั ดระวังให ม าก
หน อ ย ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รที่ ท ำให พ รรคตาข ายทมิ ฬ เครงเครีย ดได ข นาดนี้ จะต อ งไม
ธรรมดาแน
ในเมื่อไมมีทางมั่นใจไดวาคนผูนี้คิดจะทำอะไรตระกูลเยีย่ ของพวกเราหรือไม หาก
มีโอกาส ก็สงคนไปชวยอาวุโสหานกำจัดคนผูนี้จะดีกวา” อาวุโสหนาเหลี่ยมตบไปที่ที่
วางแขนเบาๆ ปากก็เอยอยางเครงขรึมออกมา
“อาวุโสรองพูดมีเหตุผล ทวา อาวุโสหานผูนี้ดูชั่วรายเล็กนอย ขารูสึกวาเขาดู
เหมือนจะกำลังปดบังกำลังที่แทจริงกับพวกเราเอาไว และยังใหพวกเราชวยรวบรวม
ยุทธภัณฑมารที่สังหารผูคนไดอีก ชางทำใหผูคนยากจะเขาใจความคิดของเขาจริงๆ
ขาคิดวาก็ตองระมัดระวังคนผูนี้ใหมากเชนกัน” อาวุโสที่สวมรัดเกลากลับเอยปาก
เชนนี้ออกมา
“เรื่องนี้พี่รูอยูแลว นอกจากอาวุโสประจำตระกูลเยี่ยของพวกเรา ขาก็ไมเชื่อคน
นอกคนไหนสักคน และไมเหมือนพวกเขาที่แพรงพรายแผนการที่แทจริงของพวกเรา
ออกมา ศิษยนองอวิ๋นอี้วางใจเถิด ตอนนี้อยูในชวงเวลาสำคัญ งานประมูลครั้งนี้พวก
เราตองไดของมาสักสองสามชิ้น และไมอาจปลอยใหขุมอำนาจอื่นๆ รูวาพวกเราจะ
ประมูล มิเชนนั้น หากพวกเขาไมลงมือทำลาย ก็อาจจะขอแบงวัตถุดิบเหลานี้กับพวก
เราออกเปนสองสวน ไมอาจปลอยใหเรื่องเชนนี้เกิดขึ้นได ดังนั้น ครั้งนี้พวกเราจะตอง
จั ด การให ดี ห า มเกิ ด ข อ ผิ ด พลาดขึ้ น หากพลาดงานประมู ล ครั้ งนี้ ไป คงไม มี ท าง
รวบรวมวัตถุดิบในการหลอมยุทธภัณ ฑได การรับสมบัติของพวกเราในอีกหลายป
หลังจากนี้ก็ไมมีทางราบรื่นแลว” อาวุโสหนาเหลี่ยมออกคำสั่งอยางเครงขรึม
ตอนที่ 950 งานประมูลใหญ
“ท านอารองโปรดวางใจ งานประมู ล ครั้งนี้ ถู ก จัด เตรีย มไวเป น อย างดี แ ล ว ผู
บำเพ็ญเพียรที่จะรองเรียกราคาทั้งหมด ลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษไมสะดุดตาที่
พวกเราซื้ อ ตั ว เอาไว ก อ นแล ว ภายนอกของผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รไม เกี่ ย วข อ งอะไรกั บ
ตระกูลเยี่ยของพวกเรา และยิ่งไปกวานั้นรอจนงานประมูลจบลง คนเหลานี้ก็จะถูก
สังหารในทันที ไมมีทางแพรงพรายขาวลือออกไปแน แตท างราชวงศนั้น จะรับมือ
อยางไร เหตุใดสำนักมหาเอกและพรรคมารสวรรคถึงไดสงตัวประหลาดเฒาเสวียนชิง
และชีเมี่ยวทั้งสองเขาไปในวัง? คงไมไดยินขาวลืออะไรมาหรอกนะ?” สตรีผูงดงาม
เอยอยาลังเลใจ
อาวุโสสวมรัดเกลาไดยิน ก็เผยสีหนากังวลใจออกมาเชนกัน
“พวกเจาโปรดวางใจ พี่ใหญเคยสืบหาเจตนาของพวกเขาแลว พวกเขามาเพื่อ
ตราประทับภูเขาของอารามสามกษัตริย สองสามวันกอน สามอารามไดหลอมสวน
ตางๆ ในสวนสุดทายเสร็จแลว ตราประทับนี้ก็หลอมเสร็จแลว สองตระกูลนี้มีหูตาอยู
มากมาย แคขาวที่เราจงใจแพรออกไปเพียงนอยนิด ก็ทำใหพอจะคาดเดาสมบัติที่
พวกเราหลอมไดแลว ดังนั้นครั้งนี้ ก็มาเพื่อกดดันตระกูลเยี่ยของพวกเรา โดยขอใหนำ
สมบัติชิ้นนี้มาขายใหพวกเขา เชนนั้นก็ดี มีเหยื่อลอที่ชัดเจน แผนการที่แทจริงของขา
พวกเขาไม มี ท างสนใจแน ทวาป อ งกั น เอาไวก อ น อาวุโสที่ รูแ ผนการทั้ งหมดหาก
ออกไปขางนอกตองไปเปนคู เพราะหากไมทันระวัง เจอตัวประหลาดเฒาสองคนนั้น
ลอบกัด ถูกบังคับคนหาความทรงจำก็จะซวยไปกันใหญ โดยเฉพาะอรหันตชีเมี่ยวที่มา
จากพรรคมารสวรรค ยิ่งเชี่ยวชาญในเคล็ดวิชาหลงใหลเคลิบเคลิ้มมากมายหลายชนิด
ถึงแมวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด หากไมระวังโดนลอบกัด ก็จำตองเผย
ทุกอยางออกมา” ชายวัยกลางคนหนาเหลี่ยมหนากระตุก พลางเตือนอยางเครงขรึม
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง เชนนั้นก็วางใจแลว แตตราประทับภูเขาเปนสิ่งที่พวกเรา
หลอมขึ้นมาอยางยากลำบาก จะเอาเปรียบพวกเขาทั้งสองหรือ?” อาวุโสสวมรัดเกลา
เอยอยางรูสึกเสียดายออกมา
“เอาเปรียบพวกเขา? จะเปนไปไดอยางไร! ถาหากมีเพียงสำนักเดียวที่มาหาเรื่อง
บางทีพวกเราก็อาจจะสะกดกั้นได แคบีบจมูกยอมรับไป แตในเมื่อตอนนี้สองสำนักมา
พรอมกัน แนนอนวาก็ตองจับปลาในน้ำขุน*แลว พี่ใหญมีแผนแลว ตอใหไมอาจเก็บ
ตราประทับภูเขาเอาไวในมือได ก็ไมมีทางปลอยใหตกไปอยูในมือของสองสำนักได
งายๆ” ชายวัยกลางคนหนาเหลี่ยมเผยรอยยิ้มเยาะออกมาขณะเอย
อาวุโสสวมรัดเกลาและสตรีผูงดงามมองสบตากันแวบหนึ่ง อดที่จะรูสึกงุนงงไมได
แตกลับไมไดซักถามอะไรตออยางรูจักวางตัว
ดังนั้นหลังจากทั้งสามคนพูดคุยกันอีกชั่วครู ก็แยกกันจากไป ทำธุระของตัวเอง
……
เวลาคอยๆ ไหลผานไป ชั่วพริบตาวันเปดงานประมูลก็มาถึง
ชวงเวลานี้พรรคตาขายทมิฬพยายามตามหาขาวคราวของหานลี่ไปทั่วทุกสารทิศ
แตพวกเขาสืบหาแคยานรานคา โรงเตี๊ยม และแหลงรวมตัวผูบำเพ็ญเพียรอื่นๆ ใน
เมืองจิ้นเทานั้น หานลี่ที่กำลังฝกฝนไขมุกผลึกหิมะในอารามเตาจึงไมไดออกไปขาง
นอกเลยแมแตครั้งเดียว แนนอนวาจึงไมพบอะไร
เชาตรูของวันนี้ หานลี่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ กลายเปนชายรางใหญหนาดำคน
หนึ่ง กระบอกไมไผดานหลังกลายเปนกระบี่ยาวเลมหนึ่ง ออกจากอารามเตาไป ตรง
ไปยังยานรานคาซีจิ้น ระหวางทาง เขาเก็บกลิ่นอายลมปราณจนเหลืออยูแคระดับ
หลอมรวม เพื่อไมใหดึงดูดสายตาของคนอื่น
ผลลัพธเหมือนที่เขาคิดไวอยางไรอยางนั้น ยิ่งเขาใกลยานรานคาซีจิ้น เขาก็สัมผัส
ไดถึงกลิ่นอายของผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงที่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีผูบำเพ็ญเพียรระดับ
หลอมรวมเปนหลัก ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดก็มีอยูไมนอย สวนผูบำเพ็ญเพียร
ระดับต่ำนั้นกลับมีอยูนอยมาก
ดูแลวผูบำเพ็ญเพียรของสำนักตางๆ คงไมอยากพลาดงานประมูลครั้งนี้
รอจนหานลี่ขามผานเขตอาคม เขาไปในยานรานคา ชั่วขณะนั้นก็พบวาถนนทั้ง
สายมี แ ต ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รที่ แ ต ง กายหลากหลาย ในบรรดานั้ น มี ผู ที่ แ ต ง กายแปลก
ประหลาดจำนวนมาก ทวาเมื่ อ เขากวาดสายตาไป กลั บ พบผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รชุ ด ดำ
หนาตาเครงขรึมสองสามคนที่ทางเขา กำลังกวาดสายตามองผูคนในยานรานคาที่เขา
ออกยานรานคาไปมาไมหยุด หนึ่งในนั้ นคือบุ รุษนามวาเกอเที ยนเหาผูนั้น แตไม รู
เพราะเหตุใดธิดาเทพเทียนหลานจึงไมไดมาปรากฏตัวที่นี่
หานลี่ขมวดคิ้ว แตภายนอกก็แสรงทำเปนไมรูไมชี้พลางเดินตรงไปยังตำหนักใหญ
ไมไดสนใจผูบำเพ็ญเพียรของพรรคตาขายทมิฬเหลานี้เลยแมแตนอย
แตเมื่อเขาสาวเทากาวออกไปสองกาว ก็มีจิตสัมผัสจางๆ กวาดมาทันที หลังจาก
หมุนวนรอบหนึ่งก็ดึงกลับไปอยางไมไดอะไร ตรงไปยังผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวม
อีกคนหนึ่งที่เพิ่งปรากฏตัว
การกระทำของพรรคตาขายทมิฬที่ใชจิตสัมผัสกวาดไปยังผูบำเพ็ญเพียรที่เขามา
ในยานรานคานั้นไมใชสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรทุกคนที่เขามาจะถูกกระทำ แคเฉพาะคน
แปลกหนา มองปราดเดียวก็รูวาเปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษหรือวาเปนผูบำเพ็ญเพียรที่
มีฐานะนาสงสัยถึงจะถูกกระทำเชนนี้ ผูบำเพ็ญเพียรที่สังกัดอยูตามสำนักและพรรค
ตางๆ คนเหลานั้นก็ไมสนใจเลยสักนิด
การแผจิตสัมผัสมาอยางลับๆ ของพวกเขา ใชกับผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวม
ยังพอวา อีกฝายไมมีทางสัมผัสได แนนอนวาไมมีทางรับรูอะไร แตผูบำเพ็ญ เพี ยร
สันโดษระดับกอกำเนิดสองสามคน พอเขาเมืองมาก็ประสบกับเรื่องเชนนี้ แนนอนวา
จึงรูสึกโกรธเกรี้ยว ถลึงตามองผูบำเพ็ญเพียรพรรคตาขายทมิฬเหลานั้นอยางเย็นชา
คนของพรรคตาขายทมิฬเหลานี้ลวนไมไดสนใจวาจะเกิดเรื่อง หลังจากแผจิต
สัมผัสออกมาแลว ก็ไมไดทำอะไรอีก นี่จึงทำใหผูบำเพ็ญเพียรสันโดษระดับสูงเหลานี้ที่
ถึงแมวาจะไมพอใจ แตก็ไมไดเขามาลวงเกินพรรคมารอยางพรรคตาขายทมิฬจริงๆ
จึงทำไดเพียงจากไปอยางไมสบอารมณเหมือนกับหานลี่
“ทานอาวุโสเกอ ไดยินวาคนผูนั้นเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาลวงตา พวกเรารักษาการณ
อยูตรงนี้ เกรงวาจะไมมีประโยชน” อาวุโสหนาตาโหดเหี้ยมที่มีดวงตาทรงสามเหลี่ยม
ซึ่งปรากฏตัวขึ้นใหมคนหนึ่ง เห็นวาไมไดอะไรเลย ก็อดไมไดที่จะรูสึกไมพอใจ
“ที่ขาใหศิษยพี่มาทำเชนนี้ ก็เพราะอยากแหวกหญาใหงูตื่น ไมไดคิดจะใชวิธีนี้หา
คนผูนี้ใหเจอในทันที คนผูนี้มีความสามารถไมนอย พวกเราไมมีวิธีดีๆ อะไรที่สามารถ
มองเห็นรางที่แทจริงของคนผูนี้ได แตการตามหาเขาอยางดุเดือดเชนนี้ ไมแนวาเขา
อาจจะรอนรน และเผยพิรุธอะไรออกมาก็เปนได ตอใหคนผูนี้อดทนไดจริงๆ ไมไดเผย
พิ รุ ธ ออกมา พวกเจ า ก็ ไ ม ต อ งกั ง วลอะไร ชาวทู อู แ ละพรรคตาข า ยทมิ ฬ นั้ น มี
ความสัมพันธตอกันเล็กนอย สหายหลินไปยืมกระจกเสียงกังวานจากสหายชีเมี่ยวของ
พรรคมารสวรรคแลว ตอนนี้กำลังพยายามฝกฝนอยูที่ที่พัก สองสามวันหลังจากนี้ก็จะ
ใชไดอยางใจประสงคแลว ตอนนี้หากขาตามหาคนผูนี้พบไดก็ดีที่สุด หากไมพบ ก็ทำ
ใหเขาสูญเสียการระมัดระวังตัว เมื่อวันสุดทายของงานประมูลมาถึง อานุภาพมอง
ทะลุภาพลวงตาตางๆ ของกระจกบานนี้ คนผูนั้นก็ไมมีที่ใหหลบซอนแลว และจับคนผู
นั้นไดอยางรวดเร็วปานสายฟา” เกอเทียนเหามองไปยังชายชราดวยแววตาโหดเ**ยม
แลวเอยอยางราบเรียบ
“ที่ แ ท ก็ เป น เช น นี้ นี่ เอง ข า ก็ ว า ในพรรคอาวุ โ สเก อ ดู เป น ผู ที่ มี แ ผนการและ
ความสามารถ เหตุใดถึงทำเรื่องไรประโยชนเชนนี้ ถาหากเปนเชนนั้น ก็ไมตองใหเหลา
เจาสำนักรีบมา พวกเราก็คงจัดการคนผูนี้ได และไดรับคุณูปการครั้งใหญ” ชายชรา
ตาเปนสามเหลี่ยมแววตาเปลงประกาย พลางเอยอยางตื่นเตนเล็กนอย
“หวังวาจะเปนเชนนั้นกระมัง” เกอเทียนเหาหัวเราะแหงๆ ออกมา มองไปทาง
ตำหนักแสงสมบัติ
ครั้งนี้ตองตอกรกับเจาผูนั้น มองอยางไรก็เปนตัวละครที่โหดเหี้ยม แมแตอาวุโสสี่
ระดับกอกำเนิดขั้นปลายของสำนักก็อาจจะพลาดทาแกคนผูนี้ ไหนเลยจะจัดการได
งายดายขนาดนั้น? หากมีอะไรเกิดขึ้น ก็ไมใชเรื่องแปลก ระวังไวหนอยจะดีกวา
เกอเทียนเหาครุนคิดอยางเงียบๆ สีหนาเครงขรึมขึ้นอยางไมรูสึกตัว
เวลานี้ หานลี่ยืนอยูหนาตำหนักหินยักษที่เคยเห็นในวันนั้น
ตอนนี้ทั้งตำหนักแสงสมบัติถูกมานลำแสงหาสีชั้นหนึ่งหอหุมเอาไว เผยใหเห็น
ความลึกลับเปนพิเศษ
สิ่งที่ทำใหหานลี่ตกตะลึงก็คือ กลางอากาศเหนือตำหนักแสงสมบัติ คาดไมถึงวา
จะมีตำหนักชั้นเดียวที่สรางจากศิลาสีขาวอยูอีกตำหนักหนึ่ง ถึงแมวาพื้นที่จะคอนขาง
เล็ก แคหนึ่งในสามของตำหนักศิลาดานลาง แตก็กวางประมาณสองสามรอยจั้ง แต
เมื่อตั้งอยูกลางอากาศจึงเปนสิ่งที่ใหญโตมโหฬาร
และเบื้องหนาของหานลี่ คนรับใชสวมชุดสีเหลืองระดับสรางปราณคนหนึ่ง กำลัง
อธิบายอะไรสักอยางใหหานลี่ฟงอยางนอบนอม เวลานี้หานลี่ไมไดปดบังกลิ่นอาย
ลมปราณระดับกอกำเนิดอีกแลว ถึงแมวาผูบำเพ็ญเพียรที่รับหนาที่ตอนรับแขกในงาน
ประมูลครั้งนี้เห็นวาหานลี่มีทาทีใจลอย แตกลับไมกลาเผยสีหนาหมดความอดทน
ออกมาแมแตนอย
หนาประตูตำหนัก ยังมีผูบำเพ็ญเพียรที่แตงกายเหมือนกัน คอยตอนรับผูบำเพ็ญ
เพียรระดับกอกำเนิดอยูเชนกัน สวนผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวม ก็ทำไดเพียงเดิน
ไปที่แผนปายศิลาหนาประตูตำหนัก มองตัวหนังสือที่เขียนอยูดานบน
“งานประมูลระดับกอกำเนิด เปลี่ยนไปที่ตำหนักเกาเมฆา ระดับหลอมรวมยังอยู
ที่ตำหนักแสงสมบัติ นอกจากนี้งานประมูลรระดับกอกำเนิดยังตองจายศิลาวิญญาณ
หนึ่งพันกอนตอคน ระดับหลอมรวมตองจายหนึ่งรอยกอนตอคน ถึงจะเขารวมงานได
ขาไมไดพูดผิดไปหรอกนะ” หลังจากผานไปชั่วครู หานลี่ก็ชักสายตากลับมา กวาด
สายตามองคนรับใชแวบหนึ่ง แลวเอยอยางราบเรียบวา
“ท านอาวุโสช างเฉี ย บแหลมยิ่ งนั ก เป น เช น นั้ น จริงๆ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รที่ จ ะเข า
รวมงานประมูลครั้งนี้ มีมากกวาคราวกอนๆ สามสวน ดังนั้นจึงจำใจตองยืมตำหนัก
เก า เมฆาจากหอคอยเที ย นจี ม าใช ชั่ ว คราว นอกจากนี้ ศิ ล าวิ ญ ญาณที่ ต อ งจ า ยก็
เหมือนกับกฎเกณฑในปกอนๆ หลักๆ แลวเพื่อไมใหงานประมูลแออัดเกินไป จึงจำใจ
ตองใชขั้นตอนเชนนี้มาควบคุมจำนวนคน ทวาจากฐานะของทานอาวุโสผูสูงสง ศิลา
วิญญาณเหลานี้คงไมอยูในสายตาอยูแลว มิเชนนั้นถาหากยอมใหใครเขามาในตำหนัก
อยางงายๆ ตอใหสนามใหญกวาเดิมสิบเทา ก็ไมมีทางจุคนไหว” ผูบำเพ็ญเพียรที่สวม
ชุดสีเหลืองผูนี้เอยพรอมกับฉีกยิ้มออกมา
“หนึ่งพันศิลาวิญญาณ? พวกเจาคงไดเงินจำนวนมาก ทวาอยางที่เจาพูด ขอแคสิ่งของ
ในงานประมูลทำใหขาพอใจ ศิลาวิญญาณแคนี้ขาก็ไมไดใสใจอะไร งานประมูลระดับ
หลอมรวมนั้นขาไมเขาอยูแลว ขาจะเขารวมงานประมูลรระดับกอกำเนิด” หานลี่ชูมือ
ขึ้น โยนศิลาวิญญาณระดับกลางสิบกอนไปที่อกของผูบำเพ็ญเพียรชุดเหลือง
“เชิญทานอาวุโสดานในขอรับ งานประมูลระดับกอกำเนิดจะเริ่มชวงเชา นี้คือ
แผนปายเขางานประมูล จากนี้อีกสองสามวันจะเปนงานประมูลระดับกอกำเนิด ทาน
อาวุโสโปรดนำปายนี้มาก็เขารวมงานนี้ไดแลวขอรับ” ผูบำเพ็ญเพียรชุดเหลืองหยิบ
ศิลาวิญญาณขึ้นมาพรอมกับรอยยิ้ม และควักแผนปายที่มีตัวเลขออกมาจากแขนเสื้อ
สงใหหานลี่
หานลี่ยื่นมือออกไปรับปายหยก ลำแสงสีเขียวรอบกายสวางวาบโดยไมไดกลาว
อะไร คนก็กลายเปนสายรุงสีเขียวพุงขึ้นไปยังตำหนักที่อยูกลางอากาศ
เวลานี้ มีผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดคนอื่นๆ ควบคุมลำแสงหลีกหนีบินอยู
กลางอากาศกอนหนาตั้งนานแลว
รอจนหานลี่ บิ น เข า ไปในประตู ต ำหนั ก เก า เมฆานั้ น ก็ เห็ น เพี ย งตรงทางเข า
นอกจากจะมีมานลำแสงสีขาวจางๆ ชั้นหนึ่งแลว คาดไมถึงวาจะไมมีผูใดสักคน
เขาขมวดคิ้วเล็กนอย ใสลมปราณเขาไปในแผนปายหยกและโบกไปมาตรงมาน
ลำแสง ชั่วขณะนั้นแผนปายหยกพลันมีลำแสงสีแดงสายหนึ่งพุงออกมา มานลำแสง
เปดออกโดยอัตโนมัติ
รางของหานลี่พลิ้วไหวไปอยางไมตองคิด คนก็กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุง
เขาไปอีกครั้ง จากนั้นมานลำแสงก็ผนึกเขาหากันดังเดิม
หลังจากผานไปสองชั่วยาม ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดหลายรอยคนก็บินเขา
มาในตำหนักเกาเมฆาที่อยูกลางอากาศอยางตอเนื่อง
และหลังจากที่เสียงสัญญาณดังขึ้น งานประมูลก็เริ่มขึ้น

*จับปลาในน้ำขุน หมายถึง ฉวยโอกาสในยามที่โกลาหล


ตอนที่ 951 หมึกทอง
หานลี่นั่งอยูตรงมุมหนึ่งที่เปลาเปลี่ยวในตำหนัก มองไปยังดานหนาของตำหนักที่
หางออกไปรอยกวาจั้งดวยความเยือกเย็น
ชายวัยกลางคนสวมชุดสีดำคนหนึ่ง กำลังกอบผลึกศิลาสีเหลืองกอนหนึ่งเอาไวใน
มือ พลางอธิบายของสิ่งนี้อยางงายๆ
“ผลึกขมิ้น มีตนกำเนิดมาจากทะเลทรายที่อยูทางตะวันตกของหนานเจียง พบได
ในใตผืนทะเลทรายที่ลึกลงไปมากกวาพันฉื่อ คุณสมบัติของมันแข็งแกรงอยางหาที่
เปรียบ และยิ่งไปกวานั้ น ยังมี ไอวิญ ญาณจำนวนมากบรรจุอ ยู เป น วัตถุ ดิบ ในการ
หลอมสมบัติอาคมธาตุดินระดับสุดยอด ราคาเปดประมูลของของสิ่งนี้คือแปดพันศิลา
วิญญาณ ทุกครั้งที่เรียกราคาตองไมต่ำไปกวาหนึ่งพันศิลาวิญญาณ” ผูบำเพ็ญเพียรที่
รับหนาที่ดูแลการประมูล คือผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางคนหนึ่ง น้ำเสียง
ไมไดรีบรอนและไมไดเชื่องชา และไมไดมีทาทีคุยโวโออวดใดๆ
ทวานั่นก็เปนเรื่องปกติ ถาหากเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำคนหนึ่งถูกผูบำเพ็ญ
เพี ย รระดั บ ก อ กำเนิ ด จำนวนมากจั บ จ อ งพร อ มกั น แรงกดดั น ที่ ไร รู ป ร า งจำนวน
มหาศาลนี้ ก็เพียงพอจะทำใหสติของคนผูนี้กระเจิง ไมมีทางเอยปากพูดได
แตเมื่อหานลี่สัมผัสอยางละเอียดนั้น คนผูนี้อยูในระดับยอดสุดของกอกำเนิดขั้น
กลาง ทั้งยังไมมีผูบำเพ็ญเพียรที่ระดับสูงกวาระดับกอกำเนิดขั้นปลายปรากฏตัวใน
งานประมู ล จึงกล าวได วาคนผู นี้ คื อ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รที่ มี พ ลั งยุ ท ธ สู งที่ สุ ด ในตำหนั ก
ดังนั้นในการจัดการการประมูลนี้ จึงไมมีผูใดกลาลวงเกินไปกอความวุนวาย
และผลึกขมิ้นกอนนี้ ถึงแมวาจะเปนวัตถุดิบที่ใชหลอมสมบัติอาคมธาตุดินที่ไม
เลวนัก แตกลับไมมีสถานการณอยางการเสนอราคาที่กาวกระโดดเกิดขึ้น มีเพียงสาม
สี่คนที่เสนอราคาออกมา และถูกผูบำเพ็ญเพียรนิรนามคนหนึ่งไดไปดวยราคาหนึ่ง
หมื่นสองพันศิลาวิญญาณ
การประมูลหลังจากนี้ ก็ดำเนินตอไปอยางไมไดคึกคักและไมไดเงียบเหงา
หานลี่นั่งมองสถานการณ ทุกอยางอยูบนเกาอี้ สีหนาเยือกเย็นเปนพิเศษ ไมมี
ความประหลาดใจเลยแมแตนอย
งานประมูลนี้จะจัดขึ้นอยางตอเนื่องอีกสองสามวัน สิ่งของที่เอาออกมาประมูลวัน
แรกๆ จึงไมคอยมีของดีอะไรนัก ถึงแมวาวัตถุดิบเหลานี้จะนับวาคอนขางหายากใน
เหลาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด แตขอแคยอมเสียเวลา รวบรวมนอกงานประมูลก็
ไดเชนกัน ดังนั้นคนสวนใหญในตำหนักนอกจากคนที่จำเปนจริงๆ แลว ก็ไมมีผูใดมา
แยงชิงของสิ่งนี้ ทวาสุดทาย วันนี้คงมีของดีๆ สักสองสามชิ้นกระมัง เพื่อดึงดูดใหทุก
คนสนใจมาเขารวมงานประมูลในวันที่สอง
ขณะที่กำลังขบคิดเชนนั้น แนนอนวาหานลี่ก็ไมไดสนใจงานประมูล แคจับตาดูผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดจำนวนมากในตำหนักอยางเกียจครานเทานั้น ถึงแมวา
คนเหล า นี้ จ ะเป น แค ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ สุ ด ยอดส ว นเล็ ก ๆ ในต า จิ้ น แต ก ลั บ
หมายความวาในตาจิ้นมีขุมอำนาจนอยใหญตางๆ ที่ไมเหมือนกัน ไมวาจะเปนพรรค
มารหรือธรรมะตางก็มีหมด
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขามากที่สุดก็คือ หลวงจีนที่ศีรษะเปนมันวาวสามคน
ซึ่งนั่งอยูตรงใจกลางตำหนัก
หลวงจีนสามคนนี้ คนหนึ่งมีรางกายผายผอม อีกคนหนึ่งมีใบหนาตุยนุยหูใหญ
คนสุดทายมีหนาตาที่เต็มไปดวยความเมตตา ไวเครายาวสีขาว ทั้งสามคนลวนสวมชุด
หลวงจีนสีเทา กมหนาลงพลางหลุบตาลง ทาทางเหมือนหลวงจีนชั้นสูง
นี่เปนครั้งแรกที่หานลี่ไดเห็นผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงของสำนักพุทธ แนนอนวาจึง
เหลือบมองอยูหลายครั้ง ผลลัพธคือหลวงจีนชราที่ดูอายุมากที่สุดตรงกลาง สัมผัสได
และมองมาทางหานลี่ทันที ถึงแมวาสายตาจะนุมนวลและออนโยน หานลี่ก็ยังอดที่จะ
รูสึกใจหายวาบไมได
หลวงจี น ชราผู นี้ สั ม ผั ส ได อ ย า งรวดเร็ ว เช น นี้ สำนั ก พุ ท ธในต า จิ้ น จึ ง สามารถ
ทัดเทียมกับอารามเตาและนักปราชญได ก็เพราะมีทางลัดดังคาด
หานลี่ไมอยากตั้งตนเปนกับศัตรูกับผูใดอยางไมมีสาเหตุ ทันใดนั้นจึงดึงจิตสัมผัส
กลับมา ใบหนาเผยสีหนาไมรูเรื่องออกมา และหลังจากที่สายตาของหลวงจีนชรา
กวาดมาบนเรือนรางของหานลี่แลว สีหนาก็ไมเปลี่ยนแปลงพลางฟนฟูทาทางกลับมา
เปนดังเดิม
ในตำหนัก นอกจากหลวงจีนเหลานี้แลว ผูบำเพ็ญเพียรคนที่มีทาทางประหลาดก็มีอยู
จำนวนมาก หานลี่แอบคัดกรองขาวคราวของขุมอำนาจตางๆ ในตาจิ้นเอาไว พลาง
ยืนยันทีละคนๆ พยายามจดจำคนเหลานี้เอาไว ไมแนวาอาจจะมีประโยชนอะไรก็ได
จากนั้นสิ่งของตางๆ ก็ถูกประมูลไปทีละชิ้นๆ เวลาคอยๆ ไหลผานไป เหมือนกับ
ที่หานลี่คาดการณเอาไวอยางไรอยางนั้น ในชวงที่ใกลจะถึงตอนทายสุด ในที่สุดสมบัติ
ล้ำคาก็ปรากฏขึ้น บรรดาผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดที่แตเดิมเงียบกริบ ก็เกิดเสียงอื้ออึงขึ้น
ทันที
สมบัติสองสามชิ้นถูกแยงชิงอยางดุเดือดอยางตอเนื่อง หลังจากที่ขายออกไปดวย
ราคาสูงลิบแลว บรรยากาศก็เปลี่ยนเปนคึกคักขึ้น คาดไมถึงวาผูบำเพ็ญเพียรระดับ
กอกำเนิดสวนใหญจะไมสนใจวาจะตองเสียศิลาวิญญาณเทาไหร เพื่อใหไดส่ิงที่ตัวเอง
ตองการ มิเชนนั้นหากพลาดโอกาสนี้ไป อาศัยการคนหาและรวบรวมดวยตัวของพวก
เขาเอง ก็เปนเรื่องที่ไมรูวาจะไดมาเมื่อไหร
“หมึกทอง หนักสามจิน*สี่เหลี่ยง* เปนวัตถุดิบหลอมยุทธภัณ ฑที่หายาก เปด
ประมูลที่สามหมื่นศิลาวิญญาณ เรียกราคาแตละครั้งตองไมนอยกวาสองพัน” ยิ่งเปน
สมบัติที่ล้ำคา ผูบำเพ็ญ เพียรวัยกลางคนที่ดูแลงานประมูล ก็ยิ่งอธิบายอยางงายๆ
มากขึ้นเทานั้น เวลานี้เขากอบจานหยกใบหนึ่งเอาไว ดานบนมีของเหลวสีดำสนิทราว
กับน้ำหมึก แตเปลงแสงสีทองจางๆ ของธาตุทองออกมาอยางแปลกประหลาด
หานลี่ที่ ยิ้ม มาตลอด ไดยิน คำนี้ รางกายพลั น กระตุ ก แววตาฉายแววตกตะลึง
ระคนดีใจสวางวาบ
วัตถุดิบที่ตองการปรากฏตัวรวดเร็วขนาดนี้ ชางอยูนอกเหนือความคาดหมายของ
เขาจริงๆ วัตถุดิบหมึกทองนี้ เขาตามหามาเนิ่นนานแลว แตก็ไมเคยหาเจอ
“สามหมื่นหก”
“สี่หมื่น”
“สี่หมื่นหาพันศิลาวิญญาณ”
……
หมึกทองมีช่ือเสียงอยูไมนอย มีคนรูจักอยูจำนวนมาก หานลี่ยังไมทันไดเสนอราคา
คนที่จัดประมูลซึ่งอยูบนเวทีกวาดสายตามา ก็มีคนเสนอราคาสูงขึ้นอยางตอเนื่อง
หานลี่ไดยินแลวพลันขมวดคิ้ว แตก็ไมไดรีบรอนเสนอราคา ในเมื่อตองเอาสิ่งนี้มา
ใหได ก็รอใหราคาของของสิ่งนี้มาถึงจุดสูงสุดแลวคอยชิงมาก็แลวกัน
เมื่อหมึกทองจานนี้ถูกผูบำเพ็ญ เพี ยรนิรนามคนหนึ่งตะโกนราคาหกหมื่นศิลา
วิญญาณออกมา แตเดิมคนที่แยงประมูลกับเขาสองสามคนอยางไมลดละก็หยุดลง
“หกหมื่นหา”
หานลี่ชี้ไปที่แผนปายหยกเบื้องหนา หลังจากนั้นลำแสงวิญ ญาณดานบนพลัน
สวางวาบ ปากก็เอยราคาออกมา
“หกหมื่นเจ็ดพันศิลาวิญญาณ” คนผูนั้นดูเหมือนวาจะตองการของสิ่งนี้เชนกัน
หลังจากลังเลเล็กนอยก็ตะโกนราคาทับหานลี่ออกมา
“เจ็ดหมื่น” น้ำเสียงของหานลี่ไมมีความรูสึกเลยแมแตนอย
เวลานี้ ผูบำเพ็ญเพียรที่เสนอราคาผูนั้นเงียบกริบลง ถึงแมวาหมึกทองจะล้ำคา
เสนอราคาจนถึงเจ็ดหมื่นศิลาก็ถือวาสูงแลวจริงๆ ชั่วขณะนั้นเขาจึงตัดสินใจยอมแพ
หานลี่เห็นเชนนั้น ก็หัวเราะนอยๆ ออกมา
ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนที่ดูแลงานประมูลดานหนา เห็นของสิ่งนี้ขายออกใน
ราคาที่สูงลิบขนาดนี้ ก็รูสึกพึงพอใจเปนอยางมาก แตก็ยังคงเอยราคาซ้ำอีกสองครั้ง
ตามกฎเกณฑ ตอนที่กำลังจะยืนยันราคาในการขายครั้งที่สาม จูๆ ก็มีเสียงที่เย็นชา
อีกเสียงดังขึ้น
“เจ็ดหมื่นหา”
หานลี่และผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนที่ดูแลงานประมูลพลันตกตะลึง ผูบำเพ็ญ
เพียรคนอื่นๆ ที่อยูในงานประมูลตางก็รูสึกประหลาดใจ
“แปดหมื่น”
หานลี่ฟนฟูสีหนากลับมาเปนปกติทันที อาปากเอยอยางไมตองขบคิด
“แปดหมื่นสอง” คนผูนี้เรียกราคาอีกครั้งดวยสีหนาราบเรียบ คาดไมถึงวาคนผูนี้
จะเหมือนกับหานลี่ คือมีทาทีวาตองไดของชิ้นนี้มาอยูในครอบครองใหได
เวลานี้ไมใชแคหานลี่ที่หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ก็ทนไม
ไหวกวาดสายตาไป
เห็นเพียงตรงจุดที่สายตาของทุกคนจับจองไป ตรงตำแหนงของตำหนักใหญ ผู
บำเพ็ญเพียรที่เรือนรางถูกไอหมอกสีดำจางๆ หอหุมเอาไวนั่งสมาธิอยูตรงนั้น ไมอาจ
มองเห็นใบหนาที่แทจริงไดเลยแมเพียงครึ่ง แตดูจากเสื้อผาที่มองเห็นได ก็ดูเหมือนวา
จะเปนชายชราคนหนึ่ง
หานลี่รูสึกกลัดกลุม กลับไมมีความคิดจะเสียเวลากับอีกฝายตอไป ใบหนาเครง
ขรึมขึ้น จูๆ ก็เรียกราคาที่ทำใหผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดตกตะลึงออกมา
“หนึ่งแสนสองหมื่นศิลาวิญญาณ”
เมื่อเรียกราคานี้ออกไป ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ในตำหนักตางก็เผยสีหนาแปลก
ประหลาดออกมา ศิลาวิญญาณจำนวนนี้ ใชซื้อสมบัติโบราณที่ไมเลวนักชิ้นหนึ่งไดเลย
มันสูงกกวาราคาหมึกทองในเวลาปกติเปนอยางมาก
หลังจากเสียงอื้ออึงดังขึ้น ก็มีผูบำเพ็ญ เพียรจำนวนไมนอยที่มองมาทางหานลี่
แวบหนึ่ง แตหานลี่ที่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ ก็เปนเพียงผูบำเพ็ญเพียรใบหนาสีเหลือง
ที่ดูเหมือนกำลังปวยหนักอยางไรอยางนั้น แนนอนวาจะไมมีใครผูใดรูจัก
หานลี่แสรงทำเปนมองไมเห็นคนอื่น ตั้งแตตนจนจบก็จับจองการกระทำของชาย
ชราที่มีไอมารหอหุมอยู
ชายชราผู นั้ น ได ยิ น ราคาที่ สู งลิ บ ขนาดนี้ ก็ เผยความตกตะลึ งออกมา ถ าหาก
เปนไปไดละก็ เขาจะตองเรียกราคาที่สูงกวาเพื่อแยงชิงหมึกทองกับหานลี่แน แตจาก
ขาวคราวที่เขารูมา ตอจากนี้จะมีวัตถุดิบที่สำคัญยิ่งกวาออกมาประมูล ถาหากเสีย
ศิลาวิญญาณมากมายขนาดนี้ เขาก็ไมมั่นใจวาจะซื้อวัตถุดิบอีกอยางนั้นไดหรือไม ถึง
ตอนนั้นความเสียหายก็จะยิ่งมากขึ้น และยิ่งไปกวานั้นดูจากอีกฝายที่เรียกราคาสูง
พรวดพราดขึ้นมาในทีเดียวแลว ก็หมายความวาจะไมยอมปลอยมือไปงายๆ
หลังจากคิดคำนวณแลว ในที่สุดชายชราก็ไมไดเรียกราคาอีก
ดังนั้นวัตถุดิบชิ้นนี้ ก็ตกอยูในมือของหานลี่ในที่สุด
แตเชนนั้น หานลี่และชายชราก็ดูดดึงความสนใจของผูคนไปแลว
แตหานลี่ยังพอวา จากนั้นก็แคนั่งสมาธิอยูบนเกาอี้เงียบๆ ดูเหมือนวาหลังจากได
หมึกทองมาแลว ก็มีทาทีไมสนใจของอื่นอีก
จากนั้นชายชราผูนี้กลับเรียกราคาวัตถุดิบที่ ล้ำคายิ่งกวาอยาง ‘ทรายลี้เพลิง’
ออกมา หลังจากแยงชิงกับผูบำเพ็ญเพียรที่สนใจวัตถุดิบชิ้นนี้ทั้งหมดแลว คาดไมถึงวา
จะซื้อมาไดดวยราคาที่สูงลิบลิ่วสองแสนกวาศิลาวิญญาณ
ชายชราลงมืออยางใจกวางเชนนี้ แนนอนวาจึงยิ่งดึงดูดความสนใจของผูคนมาก
ขึ้น แตในงานประมูลครั้งนี้ ชายชราไมใชผูบำเพ็ญเพียรที่เสียศิลาวิญญาณไปมากที่สุด
ในงานประมูลสมบัติโบราณระดับสูงชวงสุดทาย มีสมบัติและยาลูกกลอนตางๆ
เพิ่มเขามา แทบทุกชิ้นลวนมีราคาประมาณสองสามแสนศิลาวิญญาณ แตแคเสียเงิน
ไปสองแสนกวาศิลาวิญญาณเพื่อซื้อวัตถุดิบหลอมยุทธภัณฑมาชิ้นหนึ่งเทานั้น ทำให
ผูคนโยงไปวา ไมใชสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ จะทำได
หลังจากงานประมูลวันแรกจบลง หานลี่ก็ออกจากงานประมูลไปพรอมกับเหลาผู
บำเพ็ญเพียร แตตรงทางเขาออกของยานรานคา ผูบำเพ็ญเพียรพรรคตาขายทมิฬสอง
สามคนนั้นกลับหายไปอยางไรรองรอยตั้งนานแลว ดูเหมือนวาจะตายใจแลว
หานลี่ฉีกยิ้มออกมา ออกจากยานรานคาไปอยางไมรีบรอน ตรงไปยังที่พัก
สิ่ ง ที่ ห านลี่ ไม รู ก็ คื อ ชายชราที่ มี ไ อสี ด ำห อ หุ ม ร า งของไว กลั บ ปรากฏตั ว ใน
โรงเตี๊ยมชาวบานๆ ที่ไมสะดุดตาแหงหนึ่งในเมืองจิ้นอยางเงียบเชียบ ชายชราสวมรัด
เกลาสีดำของตระกูลเยี่ยผูนี้คาดไมถึงวาจะรอคนผูนี้อยูในหองหองหนึ่ง
เมื่อเห็นชายชราสวมรัดเกลาสีดำ ผูที่เขารวมงานประมูลผูนี้ก็สงถุง ‘ทรายลี้เพลิง’ ที่
ประมูลมาไดไปใหโดยไมเอยอะไร
“เรื่อง ‘หมึกทอง’ ขารูแลว ตองรบกวนสหายหานแลว ขาเองก็คิดไมถึงวาจะมี
คนยอมเสียเงินมากมายเพื่อประมูลของชิ้นนี้ มิเชนนั้นคงใหสหายพกศิลาวิญญาณเพิ่ม
ไปอีกหนอย โชคดีที่หมึกทองชนิดนี้ จะมีคนแลกเปลี่ยนกันในงานประมูลใตดินอีกสอง
สามวันใหหลัง ไมอยางนั้นคงยุงยากจริงๆ
วัตถุดิบที่จะนำมาซื้อขายกันนั้นขาไดสอบถามมาแลว สหายเตรียมเอาไวใหดี ถึง
ตอนนั้นคงตองรบกวนสหายสักครั้ง” ชายชราที่สวมรัดเกลาสีดำรับวัตถุดิบนั้นมา แลว
เอยพรอมรอยยิ้ม
“หึๆ ครั้งนี้หากพี่อวิ๋นอี้มอบศิลาวิญญาณใหขานอยจำนวนมากจริงๆ เกรงวาผูแซเกา
คงควบคุมไมไหว ครั้งนี้เปนเพียงเหตุสุดวิสัยเทานั้น ตามเหตุผลแลวควรเตรียมศิลา
วิญญาณไวมากๆ เสียกอน การซื้อขายใตดินอีกสองสามวันใหหลัง ขาจะลองไปดู”
ชายชราแซเกาหัวเราะแหงๆ ออกมาขณะเอย
“ข าน อ ยวางใจให ส หายเกาจั ด การเรื่อ งราวต างๆ นี้ คื อ ยาลู ก กลอนที่ ข าน อ ย
เตรียมเอาไวให สหาย หลังจากเรื่อ งนี้ จบลง จำนวนของยาลู กกลอนจะเพิ่ ม ขึ้ นอี ก
หลายเทา” ชายชราที่สวมรัดเกลาสีดำพยักหนาดวยความพึงพอใจ ควักกลองหยก
ออกมาจากยามเก็บของ สงใหอีกฝาย
“เยี่ ย ม สหายมั่ น ใจเช น นี้ ข า น อ ยก็ จ ะพยายามอย า งเต็ ม ที่ ” ชายชราแซ เกา
ตรวจสอบยาลูกกลอนในกลองดวยความดีอกดีใจยกใหญ พยักหนาอยางตอเนื่องดวย
ความพึงพอใจ หลังจากนั้นก็รับยามเก็บของที่บรรจุศิลาวิญญาณและคัมภีรรายการ
วัตถุดิบที่ตองซื้อมาจากมือของชายชราที่สวมรัดเกลา แลวขอตัวลา

*1 จิน เทากับ 500 กรัม


*10 เหลี่ยง เทากับ 1 จิน
ตอนที่ 952 กระจกเสียงกังวาน
อาวุโสที่สวมรัดเกลารอจนอีกฝายหายไปจากหองแลว ใบหนาที่ประดับไปดวย
รอยยิ้มพริ้มพรายก็หายวับไป กลายเปนเครงขรึมขึ้น
จนถึงตอนเย็น ชายชราก็ยังพบกับผูบำเพ็ญเพียรสันโดษระดับหลอมรวมอีกสอง
คนอยูภายในหอง หลังจากที่ทั้งสองคนนำวัตถุดิบมาแลกเปลี่ยนกับประโยชนที่ตนเอง
จะไดรับเฉกเชนเดียวกันแลว ก็จากไปอยางดีอกดีใจ
สวนวันตอๆ มาของหานลี่นั้น ชวงเชาของทุกวันจะเขารวมงานประมูลที่ตำหนัก
เกาเมฆา เพราะไดรับผลประโยชนมาตั้งแตวันแรก ดังนั้นหานลี่จึงไมคอยไดคาดหวัง
ในงานประมูลวันตอๆ ไปนัก
แตสิ่งที่นาเสียดายก็คือ สองสามวันตอมากลับไมไดอะไรเลย
ก็ เหมื อ นกั บ ที่ ช ายชราแซ ฟู ผู ซึ่ ง แลกเห็ ด แก น ชาดไปเคยพู ด เไว ในทุ ก ๆ วั น
นอกจากสิ่งของสิบอันดับสุดแลว วัตถุดิบล้ำคาระดับที่หานลี่ตองการนั้น ก็หาไดยาก
นักในงานประมูล ของที่ใชประมูลในรอบสุดทาย สวนใหญก็เปนสมบัติอาคมสำเร็จรูป
ดูแลวที่ซื้อหมึกทองไดในวันแรกนั้น คงจะเปนเรื่องบังเอิญก็เทานั้น
ทวาชวงนี้ นอกจากงานประมูลแลวหานลี่ก็ไมไดห ยุดพั กผอน เขาใชวิธีการที่
หลากหลาย จนเขาใจเรื่องการซื้อขายใตดินมานิดหนอย
จากที่ ได ข าวมา สองสามวัน แรกของงานซื้ อ ขายใต ดิ น จะไม ต างอะไรกั บ งาน
ประมูลนัก สิ่งที่ปรากฏตัวออกมาสวนใหญจะเปนของที่พรรคสายมารตองการ โดย
ปกติแลวจะไมมีของที่พิเศษอะไรปรากฏขึ้น แตในวันสุดทาย จะมีงานแลกเปลี่ยนซื้อ
ขายของผู บ ำเพ็ ญ เพี ยรระดั บ ก อ กำเนิ ด จัด ขึ้น โดยเฉพาะ ในรอบของป ก อ นๆ ก็ มี
วัตถุดิบที่หายากจำนวนมากปรากฏขึ้นเชนกัน ตอนนี้เขายังขาดแคลนวัตถุดิบอยูอีก
สองสามชนิด และอาจจะรวบรวมไดจนครบในงานซื้อขายนี้
ทวาการซื้อขายนี้ไมใชงานที่ใครๆ ก็เขารวมได ดูเหมือนวาจะมีเพียงผูบำเพ็ญ
เพียรที่เกี่ยวของกับสายมารหรือวาผูบำเพ็ญเพียรที่คนเหลานี้แนะนำถึงจะเขารวมได
เชนนั้น หานลี่จึงรูสึกผอนคลายลง หลังจากโยนเรื่องนี้ทิ้งไปชั่วคราวแลว ก็เขา
รวมงานประมูลที่ตำหนักเกาเมฆาอยางตรงเวลาในทุกๆ วัน
หลังจากนั้นสองสามวัน หานลี่ก็พบวัตถุดิบที่ตองการอีกชนิดหนึ่ง ในวันสุดทาย
ของงานประมูล ภายใตความรูสึกสดชื่นมีชีวิตชีวานั้น ก็เสียศิลาวิญญาณไปแสนกวา
กอนเพื่อแลกกับของสิ่งนี้
ไมนาน ในที่สุดงานประมูลที่เปนฉากหนาก็สิ้นสุดลง
ผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดที่อยูในงานประมูลตางกรูกันออกมา หานลี่ปะปนอยูใน
เหลานั้นพลางรอนลงมาบนพื้น แตไมไดออกจากยานรานคาในทันที กลับตรงไปยัง
หอคอยความลับสวรรค
สิ่งที่หานลี่ไมรูก็คือ การเคลื่อนไหวของเขาคาดไมถึงวาจะทำใหเขาหลบเลี่ยง
หายนะไดชั่วคราว
เพราะวาอาวุโสพรรคตาขายทมิฬที่หายตัวไปจากทางเขาออกยานรานคาเมื่อสอง
สามวันกอนหนานี้ จูๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นที่ทางเขาออก และยิ่งไปกวานั้นหนึ่งในนั้นยังมี
ธิดาเทพเทียนหลานที่สวมผาคลุมหนาดังเดิมเพิ่มขึ้นมา
ตอนนี้สตรีผูนี้กำลังใชมือเรียวเลนกระจกบานเล็กที่เปลงแสงสีเงินสวางวาบบานหนึ่ง
ไปมา มองดูผูบำเพ็ญเพียรที่เขาออกยานรานคา บางครั้งก็มองไปในกระจกบานเล็กๆ
นั้นสองสามครั้ง ดวงตาสดใสกลอกไปมาพรอมกับคิ้วดำขลับที่ขมวดเขาหากันแนน
เวลาคอยๆ ไหลผานไป กระจกบานเล็กก็เปลงแสงสีเงินสวางจาขึ้นเรื่อยๆ แต
ตั้งแตตนจนจบสตรีผูนี้ก็ยังไมเปลงคำพูดใดๆ ออกมา
ใบหนาของเกอเทียนเหาและพวกที่อยูดานขางเองคอยๆ เครงขรึมขึ้น สีหนาและ
ทาทางไมคอยดีนัก
“ไมพบคนผูน้ัน ผูบำเพ็ญเพียรที่เขาออกเบื้องหนา ถึงแมวาจะมีอยูสองสามคนที่
ใชเคล็ดวิชาลวงตาปกปดใบหนาที่แทจริงเอาไว แตก็ไมใชคนผูนั้น หรือวาจะไมไดมา
เขารวมงานประมูลจริง? ถาหากเปนเชนนั้นละก็ สองสามวันนี้คงเปลาประโยชน”
หลังจากผานไปชั่วครูหลินอิ๋นผิงก็พนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง พลางเอยอยาง
ลังเลใจ
“เป น ไปไม ได ผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรระดั บ สู งที่ ม าเมื อ งจิ้ น ในช วงนี้ จะมี สักกี่ คนที่ จ ะ
พลาดงานประมูลครั้งนี้ และยิ่งไปกวานั้นตอนนั้นแมนางหลินเจาก็เห็นกับตา วาคนผู
นั้นรั้งรออยูที่หนาตำหนักแสงสมบัติอยูนานถึงจะจากไป เห็นไดชัดวาใหความสำคัญ
กับงานประมูลครั้งนี้มาก” เกอเทียนเหาคอยๆ เอยขึ้นอยางชาๆ
หลินอิ๋นผิงฟงมาจนถึงตอนนี้ ถึงแมวาจะพยักหนาอยางไมใสใจ แตใบหนาเรียวก็
ยังเผยสีหนาขบคิดออกมา
“หรือวากระจกเสียงกังวานจะไมไดมีความสามารถมหัศจรรยเหมือนในตำนาน
หรือเพราะใชเวลาฝกฝนสั้นเกินไป สหายหลินจึงไมไดกระตุนอานุภาพที่แทจริงของ
กระจกบานนี้ออกมา ก็เลยไมพบรองรอยของคนผูนั้น” จูๆ อาวุโสพรรคตาขายทมิฬที่
มีดวงตาเปนสามเหลี่ยมผูนั้น ก็เอยเชนนี้ออกมา
“นั่นมันไมนาจะเปนไปได กระจกเสียงกังวานเปนหนึ่งในเจ็ดสมบัติล้ำเลิศของ
อรหันตชีเมี่ยว กลายเปนสมบัติที่มีชื่อเสียงมานเนิ่นนานแลวในโลกของผูบำเพ็ญเพียร
สวนปญหาดานการฝกฝนนั้น เดิมทีสมบัติโบราณก็ไมจำเปนตองฝกอะไร แคกระจก
บานนี้ มี ค วามพิ เ ศษอยู เ ล็ ก น อ ย ถ า หากไม ฝ ก ฝนเล็ ก น อ ยก็ ไ ม มี ท างกระตุ น
ความสามารถการมองทะลุผานภาพลวงตาได ดังนั้นฝกแคสองสามวันก็เพียงพอแลว
มิเชนนั้น ผูบำเพ็ญเพียรสองสามคนที่สำแดงเคล็ดวิชาลับออกมาเชนกัน คงไมถูก
ขาใชกระจกบานนี้เปดเผยใบหนาที่แทจริงหรอก” หลินอิ๋นผิงสายศีรษะ ริมฝปากบาง
เผยอออกเล็กนอยขณะเอยอธิบาย
“เชนนั้น หากไมใชเพราะเคล็ดวิชาลวงตาของคนผูนั้นเหนือกวากระจกเสียงกังวาน
จึงไรหนทางมองออก คนผูนั้นก็อาจจะยังอยูในยานรานคา หรืออาจจะหนีไปโดยวิธี
อื่นแลว” แววตาของเกอเทียนเหาเปลงแสงสวางวาบ ขบคิดไปพลางเอยไปพลาง
“กระจกเสียงกังวานมีชื่อเสียงเกรียงไกรขนาดนี้ ถึงแมวาในใตหลาจะมีเคล็ดวิชาลวง
ตาอื่นๆ ที่ไมอาจมองทะลุผานไป แตก็มีอยูเพียงไมกี่ชนิด ไหนเลยคนผูนั้นจะบังเอิญมี
ความสามารถไมกี่ชนิดนั้นได และอีกเรื่องหนึ่งก็คือ รอบดานของยานรานคาวางเขต
อาคมลำแสงแปดทิศที่มีชื่อเสียงของสำนักเตาเอาไว คนผูนั้นไมอาจทลายเขตอาคม
ออกไปอยางเงียบเชียบได แปดเกาสวนคงยังอยูในยานรานคาไมไดออกไปถึงจะถูก”
หลินอิ๋นผิงเอยอยางมั่นใจครั้งสุดทายออกมา
“ความหมายของสหายหลินคือ?” อาวุโสตาเปนสามเหลี่ยมกลับลังเลใจขึ้นมา
“รักษาการณ อยูที่นี่ตอ ขอแคคนผูนั้น ยังอยูในยานรานคาจะตองมาทางนี้แน
นอกจากนี้ก็สงลูกศิษยที่มีปฏิภาณไหวพริบสองสามคนไปลาดตระเวนในยานรานคา ดู
วาหารองรอยของคนผูนั้นเจอหรือไม” หลินอิ๋นผิงแนะนำเชนนี้ออกมา
“อืม! สหายหลินพูดมีเหตุผล เปนไปตามที่สหายกลาว รักษาการณอยูที่นี่จนถึง
เย็นเถิด ถาหากคนผูนั้นอยูในยานรานคาจริงๆ ก็นาจะปรากฏตัวขึ้นในชวงนั้น”
เกอเทียนเหาขบคิดเล็กนอย รูสึกวาไมมีปญหาอะไร ก็เอยปากรับคำ
จากนั้นเขาก็ชูมือขึ้นปลอยยันตถายทอดเสียงออกไป ไมนานก็เรียกผูบำเพ็ญเพียร
ระดับต่ำของพรรคตาขายทมิฬมาสองสามคน หลังจากออกคำสั่งแลว คนเหลานั้นก็
รับคำสั่งและจากไปอยางนอบนอม เดินตรงไปยังสวนลึกของยานรานคา
ขณะที่คนพวกนี้ยังตามหาหานลี่ไมเจอ และกำลังรูสึกประหลาดใจระคนสับสน
นั้น หานลี่กลับไปพบอาวุโสหวังผูนั้นอีกครั้งที่หอคอยความลับสวรรค ตอนนี้ แนนอน
วาเขาฟนฟูใบหนากลับมาเปนดังเดิมแลว
อาวุโสหวังรูเรื่องที่หานลี่และชายชราแซฟู นัดกันที่หอคอยความลับสวรรคอยู
เล็กนอย ดังนั้นจึงพาหานลี่มาที่หองรับแขกชนชั้นสูงดวยตัวเองอยางมีไมตรีจิต ไมมี
เรื่องที่คาดไมถึงเกิดขึ้นเลยแมแตนอย
หลังจากที่หานลี่และอาวุโสหวังพูดคุยกันเล็กนอย ทั้งสองก็พูดคุยแลกเปลี่ยน
ประสบการณการฝกบำเพ็ญเพียรกัน ไมนานก็ไดผลประโยชนมาเล็กนอย
ในตอนที่ทั้งสองคนกำลังสนทนากันอยางสนุกสนานนั้น ในที่สุดชายชราแซฟูก็
มาถึงหอคอยความลับสวรรคตามที่นัดกันไว เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ ก็เขารวมบท
สนทนาอยางไมเกรงใจทันที
ทั้งสามคนพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอยูครึ่งคอนวัน จนทองฟาเปลี่ยนเปนสีดำสนิท
ทั้งสามคนถึงไดสงยิ้มใหกันพรอมกับจบบทสนทนาการแลกเปลี่ยนที่เปนประโยชน
เหลานี้
ชายชราแซฟูและหานลี่ไมไดรั้งรออยูที่หอคอยความลับสวรรคอีก จึงกลาวลา
ทันที และออกไปจากหอคอยความลับสวรรค
เมื่ อ เดิ น ออกมาจากหอคอย ใบหน า ของหานลี่ ก็ เริ่ ม พร า เลื อ น ชั่ ว พริ บ ตาก็
เปลี่ยนเปนผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลืองที่ไมคุนหนาอีกคนหนึ่ง ชายชราแซฟูเห็นเชนนั้น
พลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็เขาใจและไมไดถือสาอะไร
ทวาจากนั้นหานลี่กลับรูสึกประหลาดใจขึ้นมา คาดไมถึงวาชายชราแซฟูจะไมได
ตรงไปตามทางออกของยานรานคา แตพาเขาไปในหอคอยเล็กอีกแหงหนึ่งที่แขวน
ปายคำวา ‘เรือนชำระวิญญาณ’ เอาไวซึ่งอยูใกลๆ กับหอคอยความลับสวรรค
“พี่ฟู นี่คือ?” เมื่อเห็นวาจะเดินเขาไปในหอคอยนี้ หานลี่ก็ทนไมไหวเอยถามขน
“เรือนชำระวิญญาณนี้เปนที่ทำธุรกิจสวนตัว เจาของของมันคือสหายสนิทที่คบ
กับขามาหลายปแลว ชวงนี้ในหอคอยวางเขตอาคมสงตัวชั่วคราวเอาไว สถานที่ที่
สงไปจะอยูหางจากงานซื้อขายใตดินไมไกลนักพอดี ขาไดแจงเอาไวกอนแลว สามารถ
สงตัวไดทันที” ชายชราแซฟูเอยอยางเตรียมแผนการเอาไวกอนหนาแลว
“เขตอาคมสงตัว หากขาจำไมผิดละก็ ในยานรานคาถูกวางเขตอาคมเอาไวอยาง
แนนหนามิใชหรือ?” หานลี่ไดยิน ไมเพียงจะไมไดคลายขอสงสัย กลับรูสึกตกตะลึงยิ่ง
กวาเดิม
“หึๆ สหายโปรดวางใจ สหายของขาผูนี้ มีห น ามี ตาไม น อย เป น เพราะเหตุ ผล
พิเศษจึงไดยื่นคำขอตอขุมอำนาจที่คอยสนับสนุนยานรานคาไวตั้งแตแรกแลว และ
ไดรับอนุญาตชั่วคราวมาแลว เขตอาคมสงตัวนี้วางเอาไวเพียงสองสามเดือนเทานั้น
คนที่รูก็มีอยูเพียงไมกี่คน” ชายชราแซฟูอธิบายอยางไมใสใจ
“เชนนี้นี่เอง!” หานลี่ถึงบางออขึ้นมา
เจาของของเรือนชำระวิญญาณคือชายชราผิวขาวที่มีหนาตาธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต
อากัปกิริยากลับไมธรรมดา ทำใหผูคนที่พบเห็นสวนใหญรูสึกอบอุน สิ่งที่ทำใหหานลี่
ตกตะลึงยิ่งกวาก็คือ คนผูนี้คาดไมถึงวาจะเปนปรมาจารยดานเขตอาคมที่มีชื่อเสียงไม
นอย นี่จึงทำใหหานลี่อยากคบคาสมาคมดวยขึ้นมา
สิ่งที่นาเสียดายก็คือ เปนเพราะตองรีบไปเขารวมงานซื้อขายใตดิน ดังนั้นหานลี่
จึงไมมีเวลาจะพูดคุยอะไรมากนัก ก็ถูกสงตัวออกจากยานรานคาดวยเขตอาคมเล็กๆ
ในหองลับของหอคอย
ตอมา ทั้งสองคนก็มาปรากฏตัวขึ้นในถ้ำซึ่งทำการซอนเรนเอาไวขนาดไมใหญนัก
แหงหนึ่ง รอจนทั้งสองคนเดินออกมาจากถ้ำและบินขึ้นไปกลางอากาศนั้น หานลี่ถึงได
พบวาพวกเขามาอยูบนภูเขาเล็กนิรนามแหงหนึ่งที่อยูใกลๆ กับทิศใตของเมืองจิ้น
และไมไกลจากภูเขาเล็กๆ ลูกนี้ ก็ยังมองเห็นกำแพงเมืองขนาดใหญ ยักษ ของ
เมืองจิ้นอยูลิบๆ
ในตอนที่หานลี่ออกมาจากยานรานคาแลว เกอเทียนเหาที่อยูตรงทางเขาออก
ยานรานคาก็มองเห็นสีทองฟาเชนกัน หลังจากขบคิดเล็กนอย จูๆ ก็เอยกับหลินอิ๋นผิง
ที่อยูดานขางวา
“สหายหลิน งานซื้อขายใตดินกำลังจะเริ่มแลว งานซื้อขายวันนี้จะมีของที่เปน
ประโยชนตอการฝกบำเพ็ญเพียรของผูแซเกอปรากฏตัวขึ้นสองสามชิ้น ขานอยไมอาจ
พลาดไปได และตอนนี้ทองฟาก็เปลี่ยนสีแลว คนผูนั้นยังไมปรากฏตัว ลูกศิษยคนอื่นๆ
ก็ไมไดพบรองรอยของคนผูนี้ในยานรานคา ดูแลวที่เราประเมินกันกอนหนานี้คงมีจุด
ไหนสักแหงที่ผิดพลาด คนผูนี้เจาเลหเพทุบายจริงๆ อาจจะไมไดอยูในยานรานคาตั้ง
นานแลว เชนนั้นสหายไปเขารวมงานซื้อขายกับผูแซเกอเถิด คนผูนั้นอาจจะปรากฏ
ตัวที่นั่นก็ได ตอใหไมปรากฏตัว ก็จะไดประโยชนจากงานซื้อขายใตดินแน”
“ดูแลวการนั่งเฝาอยูโคนตนไมเพื่อรอใหกระตายวิ่งมาชน คงไมไดอะไรจริงๆ เอา
เถอะ ขาจะไปกับสหายดู ไมแนวาอาจจะไดอะไรมาจากที่นั่นบาง” หลินอิ๋นผิงกัดริม
ฝปากแดงระเรื่อ มองไปยังสวนลึกของยานรานคา และทำไดเพียงตกปากรับคำอยาง
ไมเต็มใจ
จากนั้นหลังจากที่เกอเทียนเหาและคนอื่นๆ ปรึกษากันแลว ผูบำเพ็ญเพียรชาย
หนึ่งหญิงหนึ่งที่ตามเขามาตั้งแตแรกก็รักษาการณอยูที่ยานรานคานั้นชั่วคราว สวน
อาวุโสที่เหลือก็มีคนตามเขาและหลินอิ๋นผิงไปเขารวมงานซื้อขายใตดิน ชายชราตา
สามเหลี่ยมและอีกคนหนึ่งก็บอกวาตนเองมีธุระ และขอตัวลาไปกอน
ตอนนั้น อาวุโสระดับกอกำเนิดจำนวนมากของพรรคตาขายทมิฬที่มารวมตัวกัน
ยังไมทันไดประมือกับหานลี่ ก็ขอปลีกตัวไปจัดการธุระของตัวเองกันกอนแลว
ตอนที่ 953 พรรคเกายมโลก
ผูบำเพ็ญเพียรของพรรคตาขายทมิฬเหลานี้เพิ่งจะจากไปไดไมนาน จูๆ หอคอย
แหงหนึ่งในบริเวณนั้นก็มีเงารางของคนเคลื่อนไหว มีผูบำเพ็ญเพียรสองคนเดินออกมา
สองคนนี้เหลือบมองสถานการณตรงทางเขาที่ไรผูคน ก็ถายทอดเสียงออกไปดวย
ใบหนาเครงขรึม ทันใดนั้นก็เดินตามกันออกไป
เมื่อออกมาจากยานรานคา ทั้งสองคนก็แยกกันไปจัดการธุระของตัวเอง หนึ่งใน
นั้นถือธงเล็กๆ ดามหนึ่งเอาไว รางกายที่มีไอสีมวงกลุมหนึ่งกอหุมอยูสลายหายไป
กลางอากาศในทันที จากนั้นก็ตรงไปทางที่พวกของเกอเทียนเหาจากไป พลางไลตาม
ไปอยางเงียบเชียบ
อี ก คนหนึ่ ง ที่ มี อี ก เป า หมาย ก็ ก ลายเป น ลำแสงหลี ก หนี ส ายหนึ่ ง ตรงไปยั ง
พระราชวัง
……
เวลานี้ บนภูเขารกรางนิรนามใกลๆ เมืองจิ้น ชายชราแซฟูกำลังเอยกับหานลี่ดวย
แววตาที่ติดตราตรึงใจ
“สงตัวมาถึงที่นี่ สหายไมอยากถามอะไรหนอยหรือ?”
“เหตุใดตองมากความดวย ขานอยไมคอยเขาใจจริงๆ วาเหตุใดพี่ฟูถึงตองใชเขต
อาคมสงตัวออกมานอกยานรานคา แตคิดดูแลวสหายคงมีเหตุผลของตัวเองกระมัง”
ชั่วพริบตาที่สงตัวออกมา หานลี่ก็กวาดตามองสถานการณรอบๆ ดานอยางระมัดระวัง
รอบดานไมมีอะไรที่พิเศษ ดังนั้นตอนนี้จึงตอบกลับอยางเยือกเย็น
การกระทำเล็กๆ ของหานลี่ ไมไดเล็ดรอดสายตาของชายชราแซฟูไปได แตเขาไม
เพียงจะไมโกรธเกรี้ยว กลับรูสึกพึงพอใจเปนอยางมาก
“ความจริ ง แล ว ก็ ไ ม มี อ ะไรหรอก ก อ นหน า นี้ ต าเฒ า แค ไ ด ข า วมาว า ตรง
ทางเขาออกของยานรานคา มีผูบำเพ็ญเพียรของพรรคตาขายทมิฬตามหาใครสักคน
อยู ตาเฒาเดาวา สหายหานคงไมอยากพบคนเหลานั้น ดังนั้นถึงไดใชอาคมสงตัวเพื่อ
หลบเลี่ยงเจาพวกนั้น สหายคงไมคิดวาผูแซฟูทำเกินเหตุกระมัง!” ชายชราแซฟูแววตา
เปลงประกาย เอยพรอมกับอมยิ้ม
“พรรคตาขายทมิฬ สหายหมายความวาอยางไร?” หานลี่ใจหายวาบ แตกลับ
ถามกลับดวยสีหนาไมเปลี่ยนแปลง
“หึๆ สหายไมจำเปนตองกังวลอะไร ถาหากขานอยคิดไมดีกับสหายจริงๆ คงวาง
กับดักอะไรไวแถวๆ นี้แลว พี่หานนาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรที่มีเรื่องกับเกอเทียนเหาที่
หนาตำหนักแสงสมบัติในวันนั้นสินะ?” ชายชราแซฟูฉีกยิ้มอยางลึกลับออกมา พลาง
เอยอยางเชื่องชา
“คิดไมถึงวา พี่ฟูจะรูแมกระทั่งเรื่องนี้ แตเหตุใดถึงลงมือชวยขานอยละ หรือวา
แค ค ำสั ญ ญาในวัน นั้ น ก็ ไม ก ลั ววาจะล วงเกิ น พรรคตาข ายทมิ ฬ แล ว ผู แ ซ ห านไม
อยากจะเชื่อนัก” หานลี่เงียบกริบไปชั่วครู ก็เอยยอมรับออกมาอยางราบเรียบ
“พรรคตาขายทมิฬจะมีคาอะไร ดูแลวพี่หานคงจะยังไมรูตนกำเนิดของผูแซฟูสินะ
ขานอยคืออาวุโสผูคุมกฎของพรรคเกายมโลก เดิมทีพรรคของขาก็เปนปฏิปกษกับ
พรรคตาขายทมิฬอยูแลว หากทำใหเจาเกอเทียนเหาเสียเปรียบได ก็เปนสิ่งที่ผูแซฟู
ปรารถนาแตก็ไมอาจไดมาแลว แนนอนวา สาเหตุหลักที่ขานอยชวยสหายก็เพราะมี
เรื่องหนึ่งจะขอรอง” ชายชราแซฟูเอยออกมาตรงๆ อยางไมปดบังแมแตนอย
“พรรคเกายมโลก? เสียมารยาทแลวจริงๆ ขานอยไดยินชื่อเสียงของพรรคทานมา
นานแลว ทวา จากกำลังของพรรคทานยังตองการใหขานอยชวยเหลืออะไรหรือ?”
หานลี่ไดยินวาอีกฝายคาดไมถึงวาจะเปนอาวุโสของหนึ่งในสิบพรรคมาร ชั่วขณะนั้น
พลันรูสึกตกตะลึง และเริ่มระแวดระวังมากขึ้น
“เรื่องนี้เปนเรื่องสวนตัว ผูแซฟูไมอาจอาศัยกำลังคนในพรรคชวยเหลือได ทวา
เรื่องนี้ไมรีบรอน รอใหเราสองคนเขารวมงานซื้อขายเสร็จแลว ขานอยคอยอธิบายให
สหายฟงอยางละเอียดก็แลวกัน พี่หานโปรดวางใจ เรื่องนี้ไมประโยชนกับพี่หานอยู
เล็กนอย ถาหากรูสึกวาไมเหมาะสม ผูแซฟูก็จะไมบีบบังคับ” ชายชราแซฟูหัวเราะ
นอยๆ ออกมาขณะเอย
“ในเมื่อเปนเชนนั้น ไมตรีจิตนี้ ขานอยขอรับไวก็แลวกัน” หานลี่ขบคิดเล็กนอย
แลวฉีกยิ้มออกมา
เขาลวงเกินพรรคตาขายทมิฬไปแลว แนนอนวาจึงไมอยากลวงเกินพรรคสายมาร
ใดๆ อีก จึงตกปากรับคำวาจะชวยอีกฝายอยางไมตองคำนึงถึงวันขางหนาไปกอนแลว
คอยวากัน
“ขานอยรูอยูแลววาพี่หานเปนคนตรงไปตรงมา พวกเราไปกันเถิด งานซื้อขายอยู
หางจากที่นี่ไมไกลนัก” ชายชราแซฟูมีสีหนายินดีสวางวาบ ดูเหมือนวาจะพึงพอใจกับ
ปฏิกิริยาตอบรับของหานลี่เปนอยางมาก จากนั้นทั้งสองคนก็กลายเปนสายรุงสองสาย
พุงออกไปยังจุดที่ไกลออกไป
หอตะบึงไปไดไมนาน ในปารกรางมืดสนิทที่หางจากเมืองจิ้นไปสามพันลี้ ชายชรา
ก็พาหานลี่รอนลงมา หลังจากหมุนโคจรหนึ่งรอบก็หยุดลงบนกำแพงหินที่ดูธรรมดาๆ
กำแพงหินเปลงแสงสีเขียวจางๆ ตะไครน้ำทอดเรียงตัวไปกวาครึง่ ไมมีจุดไหนที่ดู
พิเศษเลย
หานลี่ไมแมแตจะมองกำแพงหิน สายตากลับหรี่ลงพลางมองไปรอบๆ ถึงไดพบวา
ที่นี่คือซอกเขาลึกที่อยูระหวางยอดเขาสองลูก ทุกแหงลวนเต็มไปดวยตนไหมใบหญา
สูงเทียมหัว ถาหากไมใชเพราะชายชราแซฟูพาเขามาดวยตนเอง ก็ไมมีทางพบวาที่นี่
จะมีผูบำเพ็ญเพียรเขาออกอยู
เห็นไดชัดวาชายชราแซฟูเคยมาที่นี่ไมต่ำกวาครั้งหนึ่งแลว
เขาสะบั ด แขนเสื้ อ ด วยความเคยชิ้ น จานกลมๆ ขนาดเท าฝ ามื อ ก็ บิ น ออกมา
ลำแสงสีขาวดานบนพลันสวางวาบ พลางหายวับเขาไปในกำแพงหินอยางไรรองรอย
หลังจากผานไปชั่วครู จูๆ บนกำแพงหินก็มีลำแสงสีเหลืองสวางวาบ หานลี่ตา
พราเลือน คาดไมถึงวากำแพงหินจะสลายหายไปกับตา เผยใหเห็นปากถ้ำขนาดใหญที่
มีเสนผาศูนยกลางประมาณสิบกวาจั้ง
และตรงปากถ้ำ ก็มีผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนสวมชุดสีเขียวมรกตสองคน กำลัง
ยืนอยูตรงนั้น
ทั้งสองคนมีพลังยุทธอยูในระดับหลอมรวมขั้นปลาย หนึ่งในนั้นถือจานอาคมของ
ชายชราแซฟูเอาไว
“ที่แทก็อาวุโสฟูนี่เอง อาวุโสผูนี้หนาตาไมคุนเลย ไมทราบวาโปรดรายงานชื่อแซของ
นายทานไดหรือไม” ผูบำเพ็ญเพียรที่ถือจานอาคมเอาไว คารวะทั้งสองคน จากนั้น
สายตาก็กวาดมาบนรางของหานลี่ แลวซักถามอยางไมไดนอบนอมและมิไดเยอหยิ่ง
“ผูนี้คือสหายหานจากนอกมหาสมุทร ตาเฒาเปนคนแนะนำมา มีอะไรใหตอง
ตรวจสอบกัน เอาจานฐานะใหสหายใบหนึ่ง เราสองคนอยากเขารวมงานซื้อขายแลว”
ชายชราแซฟูถลึงตาทั้งสองขาง พลางเอยอยางไมเกรงใจ
“หึๆ ในเมื่ออาวุโสฟูเปนผูนำแนะนำมา แนนอนวาตองไมมีปญหาอะไรอยูแลว นี้
คื อ จานฐานระดั บ ก อ กำเนิ ด ท า นอาวุ โ สไม เพี ย งจะใช สิ่ ง นี้ เข า ร ว มงานซื้ อ ขาย
แลกเปลี่ยนในครั้งนี้ งานซื้อขายใตดินอีกสามรอบตอจากนี้ก็เขาไดเลย แนนอนวาหาก
ทานอาวุโสฝาฝนกฎการซื้อขาย จานอาคมนี้ก็จะถูกริบกลับมาทำลายในทันที และยิ่ง
ไปกวานั้นตามกฎแลว จะมีจานอาคมนี้ไดตองใชเงินหนึ่งหมื่นศิลาวิญญาณ” ผูบำเพ็ญ
เพียรที่สวมชุดสีเขียวมรกตผูนั้นสงจานกลมๆ ใหชายชราแซฟูอยางมีมารยาท แลว
หยิบจานอาคมอีกใบที่ไมแตกตางกันมากนักออกมาพลางเอยใหหานลี่ฟง
“เอา นี่ศิลาวิญญาณ” เมื่อไดฟงวาตองจายศิลาวิญญาณจำนวนมากขนาดนี้ หานลี่ก็
รูสึกเจ็บปวดเล็กนอย แตสิ่งที่แสดงออกมากลับเปนทาทีสบายใจเปนพิเศษ โยนถุงที่
บรรจุศิลาวิญญาณหมื่นกอนไปให
“นี่คือจานอาคม ทานอาวุโสโปรดเก็บไวใหดีนะขอรับ”
ผูบำเพ็ ญ เพี ยรที่สวมชุดสีเขียวมรกตซึ่งอยูตรงขามตรวจสอบจำนวนของศิลา
วิญญาณในถุงแลว ก็สลักตัวเลขสามรอยสี่สิบเจ็ดลงบนจานอาคมดวยใบหนาเปอนยิ้ม
แลวสงใหหานลี่ดวยมือทั้งสองมือ
หลังจากที่หานลี่กวาดตามองแวบหนึ่ง ก็ขมวดคิ้วนอยๆ พลางเอยถามดวยความ
สงสัยวา
“สามรอยสี่สิบเจ็ด? งานซื้อขายครั้งนี้มีคนเขารวมมากขนาดนี้เลยหรือ?”
“แนนอนวาไม ทานอาวุโสไมรูอะไร มีทานอาวุโสกลุมหนึ่งที่มีธุระของตัวเอง จึง
ไมไดมาเขารวมงานซื้อขายครั้งนี้ ตามประสบการณในปกอนๆ นาจะมีคนมาเขารวม
ประมาณสองรอยกวาคน” ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีเขียวมรกตอีกคนหนึ่งเอยปาก
อธิบาย
“ออ จำนวนคนนอยลงไมนอย” หานลี่พยักหนา อยางถึงบางออ
“เอาละ ไดเวลาอันสมควรแลว เราสองคนไปเขารวมงานซื้อขายกอนละ หากมีโอกาส
ก็ฝากทั กทายท านอาจารยของพวกเจาดวย” ชายชราแซฟู เห็ น หานลี่มีจานอาคม
ทันใดนั้นก็เอยออกมา แลวพาหานลี่สาวเทายาว กาวเขาไปยังสวนลึกของอุโมงค
“สองคนนั้ น มี พ ลั ง ยุ ท ธ ไม อ อ นแอ ฟ ง จากวาจาของสหาย หรื อ ว า พวกเขามี
อาจารยคนเดียวกัน ไมทราบวาคือสหายทานใดหรือ?” หานลี่ตามเขามาดานหลัง
พลางเอยถามอยางเรื่อยเฉื่อย
“อาจารยของพวกเขาเกงกาจมาก สี่ ผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรสัน โดษของต าจิ้น เจารูจัก
หรือไม?” ชายชราแซฟูหัวเราะหึๆ ออกมา พลางถามกลับ
“อ อ เคยได ยิ น อยู แ ล ว หรื อ ว า คื อ หนึ่ ง ในนั้ น ?” หานลี่ รู สึ ก ประหลาดใจขึ้ น
เล็กนอย
“ใชแลว อาจารยของพวกเขาสองคนคือสหายอี้สี่เทียนหนึ่งในสี่ผูบำเพ็ญเพียรสันโดษ
บรรลุระดับกอกำเนิดขั้นปลายเมื่อหลายปกอน ขาก็มีโอกาสไดพบกับเขาครั้งหนึ่ง
ตอนนั้ น ได เห็ น เขาสำแดงความสามารถ สั งหารอสู ร มารระดั บ แปดตั ว หนึ่ ง อย าง
งายดายกับตา พลังยุทธลึกล้ำยากจะคาดเดาจริงๆ วากันวาคนผูนี้ คือหนึ่งในสองคนที่
อาจจะบรรลุระดับเทพแปลงของตาจิ้นในรอบพันป ผูจัดงานงานซื้อขายครั้งนี้ใหทั้ง
สองคนนี้เปนผูดูแลความเรียบรอย เดาวาคงมีเจตนาอาศัยชื่อเสียงของปรมาจารย
เหลานี้” ชายชราแซฟูอธิบายใหหานลี่ฟงไปพลาง ปากก็วิพากษวิจารณไปพลาง รูสึก
อิจฉาอี้เทียนสี่ผูนี้เปนอยางมาก
“ขาวาพลังยุทธของพี่ฟูก็ลึกล้ำเปนพิเศษ หากวันหนึ่งบรรลุจุดคอขวดได ระดับ
กอกำเนิดขั้นปลายก็เปนเรื่องที่นับวันรอไดเลย จะอิจฉาไปทำไม ทวาสหายอีกทานที่
อาจจะบรรลุระดับเทพแปลงนั้น คือใครหรือ?” หานลี่ใจเตน เอยปากสอบถาม
“อีกคนหนึ่ง คือปรมาจารยปเยวฉานของพรรคเพลิงบริสุทธิ์จากสำนักพุทธ คนผู
นี้บรรลุระดับกอกำเนิดขั้นปลายดวยอายุเพียงสี่รอยกวาป และเปนที่ยอมรับกันวา
เปนอัจฉริยะที่หมื่นปจะมีสักครั้งในโลกของผูบำเพ็ญเพียร
สวนขาน อ ยนั้ น ผูแ ซฟู เองนั บ วาเป น คนที่ มี คุณ สมบั ติเหนื อ ชั้ น แต เที ยบกั บ ผู
บำเพ็ญเพียรทั่วๆ ไปแลว ก็ไมอาจเทียบเทียมกับทั้งสองทานนี้ได และขาก็ติดอยูใน
ระดับนี้มาสองสามรอยปแลว ลมเลิกความคิดที่จะบรรลุระดับไปตั้งนานแลว แตสหาย
นั้นดูเหมือนวาจะเพิ่งบรรลุระดับกอกำเนิดขั้น กลางไดไมนาน ไมแนวาถึงตอนนั้ น
อาจจะบรรลุจุดคอขวดไดอยางงายดายก็เปนได” ชายชราแซฟูหัวเราะอยางขมขื่น
ออกมาขณะเอย
“พี่ ฟู ล อ เล น แล ว ในใต ห ล านี้ ไหนเลยจะมี เรื่ อ งดี ๆ เช น นั้ น ” หานลี่ ยิ้ ม แห ง ๆ
ออกมา พลางหัวเราะ แนนอนวาไมไดเก็บคำพูดของอีกฝายมาขบคิด
ขณะที่ภายใตการนำทางของชายชราแซฟู หานลี่ก็มองเห็นวาเบื้องหนามีลำแสงสี
ขาวสวางวาบ ทางเขาเบื้องหนาปรากฏขึ้นรางๆ เสียงจอกแจกจอแจดังมา เขาจึงอดที่
จะรูสึกมีชีวิตชีวาไมได
……
อีกจุดหนึ่ง หางจากงานซื้อขายใตดินไปรอยกวาลี้กลางอากาศ เกอเทียนเหาที่มี
หนาตาโหดเหี้ยม รอบกายมีลำแสงสีดำหมุนวนอยู ใชมือหนึ่งจับหัวผูบำเพ็ญ เพียร
แปลกหนาคนหนึ่งเอาไวแนน และใชเคล็ดวิชาคนวิญญาณตรวจสอบความทรงจำใน
จิตสัมผัสของอีกฝาย
ผูบำเพ็ญเพียรผูนี้มีหนาตาบิดเบี้ยว ดวงตาทั้งสองแข็งคาง รางกายสั่นสะทานไม
หยุด ราวกับวากำลังเจ็บปวดอยางสุดๆ
หลินอิ๋นผิงที่อยูดานขางและผูบำเพ็ญเพียรชุดดำอายุหาสิบกวาปอีกคนหนึ่ง มอง
ทุกอยางอยูดวยใบหนาไรความรูสึก
หลังจากผานไปชั่วครู รางของผูบำเพ็ญเพียรที่ถูกคนวิญญาณก็กระตุกอยางแรง
หูและจมูกมีโลหิตสีดำสายหนึ่งไหลออกมา สิ้นสติและหมดลมหายใจ
เกอเทียนเหาขมวดคิ้ว จูๆ หวางนิ้วทั้งหาก็มีเปลวเพลิงสีดำสนิทปรากฏขึ้น ชั่ว
พริบตาก็เผาไหมผูที่อยูในมือจนเปนจุณ จากนั้นเขาก็หลับตาทั้งสองขางลง คอยๆ
รับรูสิ่งที่คนวิญญาณมาทีละนิดๆ
“เปนอยางไรบาง ตรวจสอบฐานะของคนผูนี้เจอหรือไม? เหตุใดคนผูนี้ถึงตาม
พวกเรามาอยางลับๆ ลอๆ” หลินอิ๋นผิงรอจนเกอเทียนเหาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ปากบางๆ
ก็เอยปากถามทันที
ตอนที่ 954 ยันตวิเศษกับเขตอาคม
“ผูบำเพ็ญเพียรจากตระกูลเยี่ย” เกอเทียนเหาเอยอยางแชมชา
“ตระกูลเยี่ย ตระกูลเยี่ยแหงราชสำนักหรือ?” หลินอิ๋นผิงเผยสีหนาประหลาดใจ
ออกมา
“สหายหลินรูไหมวาใครสงเขามา? คาดไมถึงวาจะเปนอาวุโสแซหานของตระกูลเยี่ย
และอาวุโสหานผูนี้ก็มีหนาตาคลายคลึงกับคนที่พวกเรากำลังตามหาอยูเจ็ดสวน”
เกอเทียนเหาเผยสีหนาแปลกประหลาดออกมา
“มีเรื่องเชนนี้ดวยหรือ ทั้งสองเปนคนคนเดียวกันหรือไม? คนผูนั้นเกี่ยวของอะไร
กับตระกูลเยี่ย” หลินอิ๋นผิงเอยถามดวยความตกตะลึง
“เรื่องนี้ไมคอยแนใจนัก คนที่ขาคนวิญ ญาณเปนเพียงผูบำเพ็ญ เพียรสันโดษที่
ตระกูลเยี่ยจางวานมา แตทั้ งสองใชค นเดี ย วกั น หรือไม จะต องเกี่ ย วข องกั น แน มิ
เชนนั้น จะสงคนมาสะกดรอยตามเราอยางไมมีเหตุมีผลทำไม คนผูนั้นคืออาวุโสของ
ตระกูลเยี่ย เชนนั้นก็ยุงยากหนอยแลว” เกอเทียนเหามีสีหนาเครงขรึมขึ้นเล็กนอย
“ทำไม ขุมอำนาจของราชวงศยิ่งใหญขนาดนั้น! ขาจำไดวาตระกูลเยี่ยไมใชตระกูลที่
พรรคของพวกท านเคารพหรือ เหตุ ใดพี่ เก อ ต อ งหวาดกลั วขนาดนี้ ?” หลิ น อิ๋ น ผิ ง
หัวเราะนอยๆ ออกมา
“ตระกูลเยี่ยไมใชตระกูลผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ ไมตองพูดถึงฐานะราชวงศของ
ตาจิ้น และมีชื่อเสียงวาเปนตระกูลอันดับหนึ่ง แมแตอาวุโสระดับกอกำเนิดในราชวงศ
ก็มีมากกวาหกเจ็ดคนแลว ยิ่งไมตองพูดถึงผูบำเพ็ญเพียรสันโดษกลุมใหญที่พวกเขาดึง
มาเปนพวกและขุมอำนาจที่แอบสนับสนุนโดยไมมีผูใดรูอีก กำลังที่แทจริงของเขา
นาจะไมดอยไปกวาพรรคเทพเซียนใดๆ เลย
พูดถึงผูบำเพ็ญเพียรที่สะกดรอยตามพวกเราเถิด ถึงแมวาพลังยุทธของเขาจะไม
สูงนั ก แต ธงอาคมที่ ใชก็ ม หั ศ จรรยม าก หากไม ใช เพราะสหายหลิ น มี กระจกเสี ย ง
กังวาน พวกเราก็คงไมมีทางพบไดวาคนผูนี้กำลังทำตัวลับๆ ลอๆ อยูดานหลัง”
เกอเทียนเหาถอนหายใจออกมาขณะเอย
“ไมมีอะไร เคล็ดวิชาที่ขาฝกฝนมุงเนนไปที่จิตสัมผัส ขารูสึกแปลกๆ ตั้งแตที่ยาน
รานคาแลว แนนอนวาจึงใชกระจกบานนี้สักหนอย นับวาคนผูนั้นดวงตก เพราะมา
ปะทะกับขาที่มีกระจกเสียงกังวานอยูในมือพอดี พี่เกอจะจัดการเรื่องนี้อยางไร พรรค
ของทานยังคิดจะทำตามแผนของตำหนักขาหรือไม” ธิดาเทพเทียนหลานผูนี้จองเขม็ง
ไปยังเกอเทียนเหา แลวตอบกลับอยางราบเรียบ
“หึ! ตระกูลเยี่ยมีขุมอำนาจที่แข็งแกรงไมนอย แตพรรคของขาไมไดหวาดกลัว
ผูใด และยิ่งไปกวานั้นยังเกี่ยวของกับสมบัติประจำพรรคของขาและชีวิตของเหลา
อาวุโสผูคุมกฎ ตอใหคนผูนั้นเปนอาวุโสจากตระกูลเยี่ยจริงๆ พรรคของขาก็จะให
ตระกูลเยี่ยมอบคนผูนี้ให สหายหลินโปรดวางใจ ตอนนี้ถึงเวลาอันสมควรแลว พวก
เราไปเขารวมงานซื้อขายกันกอนเถิด” เกอเทียนเหาเงยหนาขึ้นมองไปยังจุดที่ไกล
ออกไป แลวเอยอยางราบเรียบ
“พี่เกอกลาวเชนนี้ขาก็วางใจ” หลินอิ๋นผิงพยักหนาดวยความพึงพอใจ
ทันใดนั้นทั้งสามก็กลายเปนลำแสงหลีกหนีสามสาย พุงจากไปจากตรงนั้น
ทั้งสามคนกลับไมรูวา ตรงที่เดิมหลังจากที่พวกเขาเพิ่งจากไปไมนานนัก จูๆ ก็มี
ลำแสงสีดำสวางวาบขึ้นแถวๆ นั้น จากนั้นเงารางคนพลิ้วไหว ชายหนุมสวมชุดสีเขียว
คนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอยางแปลกประหลาดตรงนั้น มองไปยังจุดที่ทั้งสามคนหายลับ
ไปแลว หัวเราะอยางเย็นชาออกมาไมหยุด
“ที่แทพรรคตาจายทมิฬและตำหนักเทียนหลานศักดิ์สิทธิ์ก็รวมมือกัน ก็ดี ไวชีวิต
ของพวกเจาเอาไวกอนชั่วคราว ใหพวกเจาชวยขาหาเจาเด็กนอยแซหานผูนั้นออก
มาแลวคอยวากัน ความแคนที่ถูกไลสังหารในปนั้น ขายังจำไมเคยลืม” เอยพึมพำ
เสร็จแลว รางของชายหนุมพลันพลิ้วไหว แลวสลายหายไปอีกครั้ง
……
หานลี่กำลังอยูทามกลางลำแสงสีเขียว พลางมองสถานการณรอบๆ ดาน และ
หัวเราะอยางขมขื่นในใจ
เวลานี้เขาอยูในหองโถงใหญที่มืดสลัว ดานในมีที่นั่งอยูสี่ถึงหารอยที่ ลอมรอบ
ที่วางกลมๆ ตรงกลางเอาไว
สิ่งที่ทำใหตกตะลึงก็คือ ตอนที่เขามาในที่แหงนี้ถูกผูบำเพ็ญเพียรที่สวมหนากาก
คนหนึ่ งซึ่ งเป น ผู ที่ เข าเวรอยูที่ ป ระตู แ ปะยั น ต วิเศษที่ ส รางขึ้ น โดยเฉพาะลงบนตั ว
รางกายถูกลำแสงสีเขียวหอหุมเอาไวทันที รางทั้งรางพลันเลือนหาย ผลลัพธคือทั้ง
สองถูกสงผานเขตอาคมสงตัวงายๆ จนมาถึงที่นี่
แนนอนวาหานลี่รูสึกตะลึงงัน พิจารณาไปรอบๆ ดาน พบวาดานในมีผูบำเพ็ญ
เพียรนั่งอยูรอบๆ ดานยี่สิบสามสิบคน บางก็ยืน บางก็นั่ง คนเหลานี้ลวนถูกลำแสง
สีสันตางๆ หอหุมเอาไว ไมมีทางมองเห็นใบหนาที่แทจริงได
หานลี่รูสึกสนอกสนใจเปนอยางมาก หลังจากที่น่ังลงตรงมุมหนึ่งแลว ก็แผจิต
สัมผัสไปหาคนคนหนึ่งที่อยูใกลๆ ดูวาสามารถมองทะลุผานลำแสงของผูอื่นไดหรือไม
ผลลัพธคือทำใหเขาตกตะลึง ลำแสงเหลานี้ราวกับมีรูปรางอยางไรอยางนั้น ไมวา
จิตสัมผัสจะแข็งแกรงเพียงใด ก็ถูกตานทานเอาไวเบื้องนอกอยางงายดาย ถึงแมวาเขา
จะไมไดแผจิตสัมผัสที่แข็งแกรงที่สุดออกไป แตเดาออกวาหากฝนตอไปก็ไมไดอะไร
กลับมา
หานลี่เปลี่ยนความคิด แผจิตสัมผัสไปรอบๆ หองโถงตามจิตสำนึก ผลลัพธที่ได
คือ ทั้งหองโถงดูเหมือนวาจะไดรับผลกระทบจากเขตอาคมประหลาดอันหนึ่ง เขต
อาคมนี้ไมไดเผยความรายกาจออกมา แตเขตอาคมทั้งเขตพลันแผกลิ่นอายวิญญาณ
ออกมาและตอบสนองกับลำแสงตางๆ ที่อยูบนรางของทุกคน
หานลี่เองก็เชี่ยวชาญในเรื่องยันตวิเศษและเขตอาคมอยูแลว เมื่อขบคิดเล็กนอยก็
เขาใจในที่สุด และอดที่จะเอยชมวาสุดยอดในใจไมได
เห็ น ได ชัด วายัน ต วิเศษนี้ ส รางขึ้น ให เหมาะสมกับ เขตอาคมประหลาดๆ อั น นี้
โดยเฉพาะ เมื่อแปะยันตเหลานี้ไว ขอแคเขามาในบริเวณของเขตอาคม ประสิทธิภาพ
ในการอำพรางกายของยันตก็จะถูกกระตุนใหใชงานโดยอัตโนมัติ เชนนั้นแลว จิต
สัมผัสของผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นตอใหแข็งแกรงขนาดไหน ก็ไมอาจตอกรกับเขตอาคม
ทั้งเขตได
นี่ จึ ง ทำให ตั ว ประหลาดเฒ า ที่ ม าเข า ร ว มงานซื้ อ ขายเหล า นี้ ด ว ยความสงสั ย
สามารถทำใจกลาแลกเปลี่ยนสิ่งของกันอยางไมกลัววาจะเจอกับศัตรู หรือถูกคนเพ็ง
เล็งเพราะสิ่งของที่นำมาแลกเปลี่ยน
หานลี่พลันถอนหายใจออกมาดวยความผอนคลายเชนกัน แตเดิมยังรูสึกกังวลใจ
วาผูบำเพ็ญเพียรพรรคตาขายทมิฬจะมาเขารวมงานซื้อขายดวยเชนกัน หลังจากวาง
จานอาคมในมือลงบนโตะเบื้องหนาแลว ก็นั่งลงบนเกาอี้พลางหลับตาทำสมาธิ
เวลาคอยๆ ไหลผานไป ผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดที่ถูกสงตัวเขามาในหองโถงก็คอยๆ
เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อหานลี่ลืมตาทั้งสองขางขึ้นอีกครั้ง ผูบำเพ็ญเพียรทั้งหองโถงไมเพียงมีเกือบ
สองรอยกวาคน ตรงที่วางทรงกลมตรงกลาง ก็มีโตะหยกสีขาวกวางสองสามจั้งตัวหนึ่ง
เพิ่มขึ้นมาตอนไหนก็ไมรู
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง มองไปยังเบื้องหนาโดยไมไดเปลงคำพูดใดๆ ออกมา
ไมนานนัก รอบๆ โตะหยกสีขาวก็มี ลำแสงวิญ ญาณสวางวาบ เงารางคนที่ ถูก
หอหุมดวยลำแสงสีขาวคนหนึ่งปรากฏขึ้นดานหลังโตะ
“ถึงเวลาอันสมควรแลว สหายที่ควรมาก็มาถึงแลว หลังจากนี้งานซื้อขายเริ่มขึ้น
แลว” เงารางวัยกลางคนที่อยูทามกลางลำแสงสีขาวกวาดสายตาไปรอบๆ แลวเอย
อยางราบเรียบ
จากนั้นเขาพลันสะบัดแขนเสื้อ ยามเก็บของตุงๆ สามสี่ใบก็ปรากฏขึ้นบนโตะ
ชั่วพริบตาสายตาของผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดที่อยูในหองโถงพลันถูกดึงดูดความ
สนใจไป แววตาเผยความกระตือรือรนออกมา
“งานซื้อขายครั้งนี้ยังคงเหมือนกับครั้งกอนหนา หลักๆ แลวจะมีวัตถุดิบที่ล้ำคา
เปนหลัก สมบัติโบราณและสมบัติอาคมนั้น ถาหากหายากจริงๆ ก็นำมาซื้อขายในงาน
ครั้งนี้ได ตามหลักเกณฑแลว วัตถุดิบที่พวกเราเสนอขึ้นมาจะใชศิลาวิญญาณประมูล
ไปไดเลย ราคาสูงเทาไหรก็ได จากนั้นก็จะใหสหายแตละทานเอาของมาแลกเปลี่ยน
ของกัน ทวามีอยูเล็กนอยที่ไมเหมือนกับปกอน ในการซื้อขายของพวกเราครั้งนี้ไดรับ
มอบหมายมาจากลูกคารายใหญ ท านหนึ่ ง ตองการนำสมบั ติสำคัญ มาแลก สมบั ติ
สำคั ญ ชิ้ น นี้ จ ะแลกกั บ ของหายากไม กี่ ช นิ ด บนโลกใบนี้ ถ า หากไม มี ค นมี วั ต ถุ ดิ บ
เหลานั้นจริงๆ ถึงจะประมูลดวยศิลาวิญญาณ สหายทุกทานจะมีวาสนาไดสมบัติชิ้นนี้
ไปหรือไม ก็ตองดูวาสนาของตนเองแลว” เงารางคนทามกลางลำแสงสีขาวเอยอยาง
เชื่องชา
“สมบัติสำคัญ? มันคืออะไรกันแน วัตถุดิบหรือวายาลูกกลอนหรือวาสมบัติอาคม
สหายบอกไดหรือไม? มิเชนนั้น จะไดไมเอาของที่เจาสิ่งนี้ตองการไปแลกกอน เพื่อจะ
ไดไมเสียใจในภายหลัง” ไมรูวาใครที่เอยปากซักถามขึ้นอยางกะทันหัน
“หึ ๆ ของสิ่ ง นี้ ข าใช ค ำว าหายากมาอธิ บ ายได เพี ย งเท า นั้ น ส ว นจะเป น อะไร
สุดทายเหลาสหายก็จะรูเอง สวนสหายที่กังวลผูนั้น ยิ่งไมจำเปนเลย ของที่สมบัติชิ้นนี้
ตองการแลกเปลี่ยน ถาหากเปนผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ ไดของชิ้นนี้มาก็จะเก็บไวกับ
ตัว ไมมีทางเอาออกมาแลกเปลี่ยน” เงารางคนหัวเราะเบาๆ ออกมาขณะเอย
ประโยคเหลานี้ดูยิ่งใหญเปนอยางมาก แนนอนวาจึงทำใหผูบำเพ็ญเพียรทั้งหอง
โถงเกิดความวุนวายขึ้น อดที่จะรูสึกอยากรูอยากเห็นไมได แตกลับไมมีผูใดซักถาม
อะไรใหมากความ
เวลานี้เงารางคนที่อยูหลังโตะหยก พลันควายามเก็บของเบื้องหนาขึ้นมาใบหนึ่ง
จากนั้นลำแสงสีดำพลันสวางวาบ สิ่งที่ภายนอกเหมือนลูกพุทรา แตกลับเปลงแสงสีดำ
ออกมาจากใจกลางปรากฏขึ้น
“พุทราทมิฬ บังเอิญเกิดบนหลุมศพของคนที่เกิดวันเดือนปทมิฬ สามรอยปถึงจะ
ออกผล จากนั้นก็ใชเคล็ดวิชาลับใชจิตวิญญาณที่โกรธแคนหลอมขึ้นมาอีกสี่สิบเกาวัน
พุทราผลนี้สามารถกินเขาไปไดโดยตรง และก็สามารถใชเปนวัตถุดิบในการปรุงยาได
เป ดประมู ลที่ ห นึ่ งแสนศิล าวิญ ญาณ ทุ กครั้งที่ ป ระมู ลจะต อ งไม ต่ ำกวาห าพั น ศิ ล า
วิญญาณ” เงารางคนเพิ่งจะเอยปาก ก็ทำใหหานลี่ตะลึงงัน
“แสนสองหมื่น”
“แสนสี่หมื่น"
“แสนสี่หมื่นหาพันศิลาวิญญาณ”
……
ชั่วพริบตาพุทราทมิฬที่แมแตหานลี่ก็ยังไมเคยไดยินมากอน ก็ถูกประมูลไปดวย
ราคาที่ สู งจนน าตกใจ คนที่ เรียกราคานั้ น แทบจะเป น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รที่ รอบกายมี
ลำแสงสีดำและเทาสองสีนี้ ดูแลวคงจะเปนของสำคัญสำหรับคนที่อยูพรรคสายมาร
สุ ด ท า ยพุ ท ราทมิ ฬ ผลนี้ ก็ ถู ก คนประมู ล ไปด ว ยราคาหนึ่ ง แสนเก า หมื่ น ศิ ล า
วิญญาณ
“เหล็กโลหิตตะวัน ใชจิตวิญญาณดั้งเดิมของผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมขึ้นไป
สามคนที่ฝกฝนเคล็ดวิชาธาตุเพลิงหลอมขึ้น เปนวัตถุดิบหลอมสมบัติอาคมเพลิงทมิฬ
ที่หายาก เปดประมูลดวยราคาหนึ่งแสนหาหมื่นศิลาวิญ ญาณ ทุกครั้งที่เรียกราคา
จะตองไมต่ำกวาหนึ่งหมื่น” เงาคนในลำแสงสีขาวรอจนไดเงินจากคนที่ประมูลพุทรา
ทมิ ฬ มาแล ว และนำของประมู ล จากไป ชั่ ว พริ บ ตาในมื อ ก็ มี วั ต ถุ ลั ก ษณะเป น
สี่เหลี่ยมผืนผาความยาวครึ่งฉื่อปรากฏขึ้นกอนหนึ่ง มันมีสีแดงโลหิตตลอดทั้งชิ้น แผ
ไอรอนฉาออกมาจนทั่ว
“หนึ่งแสนแปดหมื่นศิลาวิญญาณ”
“สองแสน”
……
สิ่งนี้เปนวัตถุดิบล้ำคาที่หานลี่เคยไดยินมาบาง ถึงแมวาคนที่เรียกราคาจะมีไม
มากนัก แตคาดไมถึงวาแตละคนจะร่ำรวยและไมยอมแพงายๆ คาดไมถึงวาจะถูกคน
ประมูลไปดวยราคาสองแสนหาหมื่นศิลาวิญญาณ
“หญาผีอาฆาต…”
สมบัติที่ชื่อของมันฟงดูแลวเต็มไปดวยไอมารปรากฏออกมาทีละชิ้นๆ
และถูกคนที่ตองการมันประมูลไปดวยราคาที่สูงลิบ เทียบกับงานประมูลแลว คน
ละเรื่องเลยจริงๆ
หานลี่ควานหายามเก็บของที่ขางเอว อดที่จะหัวเราะอยางขมขื่นในใจไมได
นี่เปน ครั้งแรกที่ เขากังวลวาศิลาวิญ ญาณในยามของเขาน อยไปหน อยหรือ ไม
ถึงแมวาเขาจะรูวากอนที่จะทำการแลกเปลี่ยนสิ่งของกัน จะสามารถใชศิลาวิญญาณ
ประมูลวัตถุดิบไดกอน แตก็คิดไมถึงวาจะมีของที่ล้ำคาขนาดนี้ปรากฏตัว แตราคาของ
ศิลาวิญญาณก็สูงขึ้นเรื่อยๆ แคยกตัวอยางของที่จะประมูลออกมาสักชิ้น ก็เหนือกวา
ของในงานประมูลใหญแลว
“ยางหยก ตนไมวิญญาณฟาดินจะใหยางหยกพันปครั้งหนึ่ง เอาไวหลอมสมบัติ
อาคมที่มหัศจรรย และเปนวัตถุดิบในการหลอมหุนเชิดที่ยอดเยี่ยมที่สุด เปดประมูลที่
หนึ่งแสนสองหมื่นศิลาวิญญาณ ทุกครั้งที่ประมูลจะตองไมต่ำกวาหาพัน…”
“หนึ่งแสนหาหมื่น”
เมื่อเงารางคนที่อยูทามกลางลำแสงสีขาวหยิบของที่มีรูปทรงเหมือนยางพาราสีขาว
ออกมา หานลี่ที่แตเดิมไมไดใสใจอะไร ก็รูสึกกระปรี้กระเปราขึ้ น และเสนอราคา
ออกไปอยางไมลังเลแมแตนอย
ตอนที่ 955 ความวุนวาย
เห็นไดชัดวาหลังจากพลังยุทธถึงระดับกอกำเนิด ผูบำเพ็ญเพียรที่ยังสนใจการ
หลอมหุนเชิดและสมบัติอาคมมหัศจรรยก็มีไมมากนัก หลังจากที่หานลี่ชวงชิงกับคน
อี ก สามสี่ ค นแล ว หานลี่ ก็ ซื้ อ มั น ไว อ ย างงายดายด ว ยราคาหนึ่ งแสนเจ็ ด หมื่ น ศิ ล า
วิญญาณ นี่จึงทำใหเขารูสึกดีอกดีใจเปนอยางมาก
การประมูลใหหลังของเงารางคนที่อยูในลำแสงสีขาว ก็มีอีกสองชิ้นที่หานลี่สนใจ
โดยแบ งเป น หนึ่ งแสนเก าหมื่ น ศิ ล าวิ ญ ญาณและสามแสนหนึ่ งหมื่ น ศิ ล าวิ ญ ญาณ
วัตถุดิบชนิดสุดทายคือวัตถุดิบหลักในการหลอมสมบัติอาคมที่มีชื่อเสียงเปนอยางมาก
หานลี่จึงจำใจตองแยงชิงกับผูบำเพ็ญเพียรจำนวนมาก และทำเปนใจดีสูเสือใชศิลา
จำนวนนี้ถึงจะประมูลของสิ่งนี้มาได
ของเหลานี้ ทำใหศิลาวิญ ญาณในยามของหานลี่ห ายไปเจ็ดแปดสวน โชคดีที่
ตอมาไมมีวัตถุดิบในการหลอมหุนเชิดที่จำเปนปรากฏขึ้น นี่จึงทำใหหานลี่อดที่จะรูสึก
ผอนคลายลงอยางไมรูตัว
เมื่อสมบัติชิ้นสุดทายถูกประมูลออกไป ยามเก็บของหลายใบบนโตะหยกหมด
เกลี้ยง เงารางคนในลำแสงสีขาวก็ดูเหมือนวาจะพึงพอใจกับงานประมูลกอนหนานี้
เปนอยางมาก หลังจากลังเลเล็กนอย ก็ยิ้มนอยๆ ออกมาพลางเอยวา
“สิ่งของของพวกเราถูกประมูลไปหมดแล ว สหายทุ กท านมีสมบั ติอะไรอยาก
แลกเปลี่ยน จากนี้ก็นำออกมาแสดงไดแลว ขอบอกไวกอนนะวา เปนเพราะนี่คืองาน
แลกเปลี่ยนสวนตัว ดังนั้นถาหากของที่แลกเปลี่ยนไปเปนของปลอมหรือวาตนเองมอง
ผิดไปนั้น ไมเกี่ยวอะไรกับพวกเรา พวกเราแคจัดการสถานที่ให ผลที่ตามมาทั้งหมด
จำตองรับผิดชอบดวยตัวเอง นอกจากนี้ตามกฎที่ผานมา ไมวาจะแลกเปลี่ยนของสิ่ง
ใด ครั้งหนึ่งจะแลกเปลี่ยนกี่ชิ้น ขอแคแลกเปลี่ยนสำเร็จ หลังจากนั้นพวกเราก็จะขอ
เก็บคาใชจายคนละหนึ่งหมื่นศิลาวิญญาณ จากนี้ก็ตามแตอัธยาศัยเถิด ขอแคไมเกิด
เรื่องที่ไมเคารพกฎเกณฑขึ้น ตาเฒาก็จะมองอยูแคดานขางเทานั้น”
คนผูนี้เปนคนที่ตรงไปตรงมาเป น อยางมาก หลังจากเอยอยางงายๆ สองสาม
ประโยคแลว รางกายก็พลิ้วไหว คนพลันปรากฏตัวขึ้นที่ขอบของลานวาง จากนั้นก็นั่ง
สมาธิลง ทาทางเหมือนกำลังเขาสูสมาธิ
ภาพฉากนี้ไมไดทำใหผูบำเพ็ญเพียรสวนใหญที่อยูรอบดานตกตะลึง กลับกันใน
เวลาเดียวกันที่เงารางของคนผูนี้พลิ้วไหว สายรุงหลายสายพุงออกไป ผลลัพธคือเห็น
ไดชัดวาลำแสงสายหนึ่งรวดเร็วกวาคนอื่นกาวหนึ่ง เมื่อลำแสงหมนลง เงารางคนที่
รอบกายถูกลำแสงสีแดงหอหุมเอาไวปรากฏขึ้นดานหลังโตะหยก จากนั้นสองมือก็
ประสานเขาหากันทำความเคารพทันที ปากก็เอยปนกับเสียงหัวเราะวา
“เปนพระกรุณาธิคุณ ตาเฒามาถึงกอน เหลาสหายโปรดรอสักครูเถิด”
ลำแสงสองสามสายเห็นเชนนั้น ก็ทำไดเพียงหมุนโคจรรอบหนึ่งอยางจนปญญา
และบินกลับไปยังที่นั่งเดิม
หานลี่เห็นเชนนั้นก็หัวเราะนอยๆ ออกมา
หากอยากแลกเปลี่ยนวัตถุดิบ โดยปกติแลวลงมือกอนก็มักจะไดเปรียบ เชนนี้ก็
สามารถปองกันไมใหของที่ตนเองตองการถูกคนอื่นชิงไปกอน ทวาเรื่องแบบนี้มีไม
มากนัก และยิ่งไปกวานั้นยิ่งของที่อยากแลกเปลี่ยนหายากมากเทาไหร ก็ยิ่งมีโอกาส
นอยที่จะมีคาสำหรับคนอื่น ดังนั้นผูบำเพ็ญเพียรสวนใหญจึงอดทนได และไมไดแยง
ชิงอะไรกับคนผูนั้น
หานลี่ยังขาดแคลนวัตถุดิบอยูอีกสองสามอยาง ลวนเปนวัตถุดิบที่คอนขางหายาก จึง
ไมไดกังวลใจนัก
ผูที่แยงชิงอยากแลกเปลี่ยนกอนเหลานี้ นาจะอยากแลกเปลี่ยนของที่มีประโยชน
หลากหลาย ดังนั้นถึงไดแยงชิงเชนนี้
หลังจากที่ผูบำเพ็ญเพียรในลำแสงสีแดงหยิบวัตถุดิบล้ำคาสองสามชนิดออกมา
เอยนามของที่อยากแลกเปลี่ยนซึ่งลวนเปนวัตถุดิบปรุงยาที่สามารถนำไปปรุงยาได
หลายชนิดดังคาด
ผานไปชั่วครู ก็มีคนสองสามคนเดินขึ้นมาแลกเปลี่ยนวัตถุดิบหนึ่งในนั้นจริงๆ นี่
จึงทำใหคนที่อยูในลำแสงสีแดงเดินลงมาดวยความพึงพอใจ
จากนั้นคนก็เดินขึ้นไปอยางตอเนื่อง และแลกเปลี่ยนไดคอนขางราบรื่นเชนกัน
บางก็ไดประโยชนมากบางก็ไดประโยชนนอยปะปนกันไป
ทวา เมื่อเงารางคนทามกลางลำแสงสีเหลืองคนหนึ่งหยิบทองที่เปลงแสงสีฟ า
สดใสออกมา เอยรายนามของที่อยากแลกออกมาชนิดหนึ่งซึ่งหานลี่ไมแมแตจะเคยได
ยินมากอน เมื่อซักถามอยางตอเนื่องสามครั้ง ก็ไมมีผูใดขึ้นไปแลกเปลี่ยน คนผูนี้ก็ทำ
ไดเพียงเดินลงไปดวยความเศราซึม
ต อ จากคนผู นี้ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รที่ ก ลั บ ไปโดยไม ได ป ระโยชน อ ะไรเลยก็ ค อ ยๆ
เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจากขึ้นไปอยางตอเนื่องสามสี่สิบคนแลว แมกระทั่งคนที่ไมไดอะไร
เลยกลับมีจำนวนมากกวาคนที่แลกเปลี่ยนสำเร็จ
แนนอนวานั่นหมายความวาของที่พวกผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้อยากแลก ไมไดอยู
ในมือของผูอื่น แตอาจจะเปนเพราะรูสึกวาของที่อีกฝายเอามาแลกนั้นไมคุมคากับ
ของที่อยากแลก บางของที่อีกฝายเอาออกมาก็ไมใชสิ่งที่ตัวเองตองการ ดังนั้นจึงไมได
ขึ้นไปแลกเปลี่ยนอยางทองไมรูรอน
ดังนั้ น การแลกเปลี่ ยนสิ่งของด วยสิ่งของนั้ น ไม ได ห มายความวาสิ่ งของที่ เอา
ออกมายิ่งล้ำคามากเทาไหรก็ยิ่งแลกเปลี่ยนสำเร็จไดงายมากขึ้นเทานั้น
แนนอนวาก็มีผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ที่สนใจวัตถุดิบ แตกลับไมมีของที่อีกฝาย
ตองการ และเขาไปพูดคุยสวนตัววาตองการแลกเป นสมบั ติอื่น ๆ หรือไม แตก็มี ที่
สำเร็จเพียงไมกี่ครั้งเทานั้น สวนใหญแลวมักจะถูกปฏิเสธอยางเย็นชา แตคนที่สำเร็จ
กลับรวมหานลี่ที่เขาไปแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ดวย
การกระทำของหานลี่นั้นงายมาก ใชสมุนไพรวิญญาณพันปที่หายากสองสามตน
และแกนอสูรระดับสูงอีกนิดหนอย ไปแลกกับวัตถุดิบที่ตัวเองตองการ ของสองสิ่งลวน
มีประโยชนตอผูบำเพ็ญเพียรทั้งนั้น ถึงแมวาสองสิ่งนี้จะมีขายในยานรานคาบางเปน
บางครั้งคราว แตการรวบรวมไดทีเดียวดวยจำนวนมากขนาดนี้ แนนอนวานั่นเปนสิ่งที่
ยากลำบากมาก
ดังนั้นผูบำเพ็ญเพียรผูนั้นจึงลังเลเพียงเล็กนอย ก็ไมยืนหยัดตามความตั้งใจเดิม
อีก พลันพยักหนาตอบรับ
นอกจากนี้แลว ยังมีวัตถุดิบหุนเชิดอีกสองชนิดที่ถูกหานลี่ใชของในยามเก็บของ
ตัวเองแลกมาอยูในมือ เวลานี้จึงขาดเพียงของที่หายากที่สุดอีกสองชนิด ก็สามารถ
รวบรวมวัตถุดิบในการหลอมหุนเชิดไดครบจำนวนแลว
ทว า ของสองสิ่ ง นี้ หายากเกิ น ไปจริ ง ๆ เดาว า หากไม จ ำเป น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
ธรรมดาๆ คงไมเอาออกมาแลกแน
‘เจาเด็กนอยหาน เจาคิดจะเอาอะไรออกมาแลก ถาหากเปนสมบัติเล็กๆ นอยๆ
เกรงวาถึงแมคนอื่นจะมีวัตถุดิบก็คงไมเอาออกมางายๆ’ จูๆ เทพขับเคลื่อนพลันเอย
ขึ้นในหัว
“ของนั้นเตรียมไวตั้งนานแลว ผูบำเพ็ญเพียรสวนใหญในนี้เปนพวกสายมาร ใน
มือขามีสิ่งที่พรรคสายมารมองวาเปนสมบัติอยูชนิดหนึ่งพอดีมิใชหรือ?” หานลี่เอย
อยางราบเรียบ
‘หรือวาเจาหมายถึงวัตถุดิบนั่น เจาไมเสียดายหรือ?’ เทพขับเคลื่อนพลันรูสึกตกตะลึง
“เสียดายก็ทำอะไรไมได แตรวบรวมวัตถุดิบหลอมหุนเชิดมาถึงขั้นนี้แลว ของ
สองอยางสุดทายจะตองเอามาใหได มิเชนนั้นที่ทำมากอนหนานี้คงไรประโยชน ขอแค
หุนเชิดนั้นทรงพลังอยางที่ทานอาวุโสกลาวเอาไว ก็คุมคาที่จะลองทำจริงๆ” หานลี่
ถายทอดเสียงไปพรอมกับหัวเราะนอยๆ
จากนั้นเขาก็มองไปรอบๆ รูสึกวาถึงเวลาอันสมควรแลว
ในตอนที่ผูบำเพ็ญเพียรคนหนึ่งกำลังกลับไปอยางไมไดอะไรดวยทาทีโศกเศรานั้น
ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นยืน เดินขึ้นไปอยางไมรีบรอน มาถึงดานหลังโตะหยก
ผูบำเพ็ญเพียรที่นั่งอยูทั้งหมดตางมองมาทางหานลี่ตามจิตสำนึก อยากรูวาเขาจะ
เอาของที่ล้ำคาอะไรออกมา
หานลี่ถูฝามือเขาดวยกัน กลองหยกเล็กๆ สองกลองปรากฏขึ้น ทวาไมไดรีบรอน
เปดออก แตใชสายตากวาดไปรอบๆ ดาน ใชน้ำเสียงที่ดัดใหแหบแหงเล็กนอยกลาววา
“วัตถุดิบหลอมสมบัติพรรคสายมาร เพชรกระดูกมารสองเม็ด แลกกับหยกเบญจธาตุ
และผลึกแสงพราสองชนิดนี้ ถาหากเหลาสหายมี ก็นำออกมาแลกกับขาไดเลย”
หานลี่เอยอยางกระชับเสร็จ สองมือก็สะบัดทันที ชั่วขณะนั้นฝากลองพลันเปดออก
พรอมกัน อัญมณีสีดำแวววาวขนาดสองสามชุนสองเม็ดที่เปลงแสงสีดำจางๆ ออกมา
ลอยขึ้นอยางชาๆ นั่นก็คือเพชรกระดูกมารสองเม็ดที่หานลี่ไดมาจากวังวนมารหมื่นจั้ง
“เพชรกระดูกมาร! วัตถุดิบหลอมมีดมังกรมาร ขาไมไดฟงผิดไปกระมัง!”
“เปนไปไมได ในโลกนี้จะมีของสิ่งนี้ไดอยางไร”
“ของจริง หรือของปลอม?”
……
หานลี่เพิ่งเอยจบ ชั่วขณะนั้นทั้งหองโถงก็เกิดความวุนวายขึ้น คนจำนวนไมนอย
พากันรองอุทานออกมาดวยความตื่นตกใจ
ชายขอบลานวางที่แตเดิมมีเงารางคนลอมรอบลำแสงสีขาวซึ่งนั่งสมาธิอยูก็ลืมตา
ขึ้นมาดวยความตื่นตระหนก จองเขม็งไปยังเพชรกระดูกมารสองเม็ดที่อยูเบื้องหนา
ของหานลี่ดวยดวงตาไมกะพริบ
“ความจริงแลว ถาหากขานอยฝกฝนเคล็ดวิชาสายมาร ไมวาอยางไรขานอยก็คง
ไมมีทางนำของชิ้นนี้ออกมาแลกเปลี่ยน สวนจะจริงหรือเท็จ? ขอแคมีคนหยิบของที่
ขานอยตองการออกมา ขาก็จะใหอีกฝายไดตรวจสอบอยางละเอียด” หานลี่เอยดวยสี
หนาราบเรียบ
เมื่อไดยินหานลี่เอยอยางมั่นใจเชนนี้ แตเดิมที่ผูบำเพ็ญเพียรกำลังสงเสียงอื้ออึ้ง
ชั่ ว ขณะนั้ น พลั น เงี ย บสงั ด ลง ทุ ก คนต า งมองไปทางเพชรกระดู ก มารด ว ยสี ห น า
หลากหลายไมเปลงคำพูดใดๆ ออกมา
ถึงหยกเบญจธาตุและผลึกแสงพราจะเปนสิ่งที่หายากก็ตาม แตเทียบกับวัตถุดิบ
ในการหลอมสมบัติสายมารที่ปรากฏตัวไดเพียงแตในตำนานแลว แนนอนวายังหางกัน
อยูอีกขั้นหนึ่ง นี่จึงทำใหทุกคนรูสึกสนใจ
“ขาจำไดวาในคลังสมบัติมีผลึกแสงพราอยูกอนหนึ่ง เพียงแตของสิ่งนั้นมันล้ำคา
เกินไป ดังนั้นจึงไมไดเอามางานงานประมูล ขาสามารถสั่งใหคนไปเอามาไดในทันที
ใหขานอยตรวจสอบเพชรกระดูกมารเปนอยางไร?” นอกเหนือความคาดหมายของ
ทุกคน เงารางคนทามกลางลำแสงสีขาวซึ่งเปนผูจัดงานซื้อขายแลกเปลี่ยน มองเพชร
กระดูกมารอยูไกลๆ ชั่วครู ก็เอยขึ้น
“ในเมื่อนายทานเอยปาก แนนอนวาก็คงมิไดลวงหลอก สหายตรวจสอบกอนไดเลย”
หานลี่มีสีหนาประหลาดใจฉายวาบ แตก็เอยออกไปอยางไมลังเลแมแตนอย
คนที่อยูทามกลางลำแสงสีขาวดูเหมือนวาจะพยักหนา ชูมือขึ้น ลำแสงเพลิงสาย
หนึ่งพุงออกไปตรงเพดานของหองโถง สวางวาบแลวหายลับไป จากนั้นเขาถึงไดคอยๆ
หยัดกายลุกขึ้น เดินตรงมาหาหานลี่
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ไดยินบทสนทนาของเขาและหานลี่ ก็เกิดเสียงอื้ออึงขึ้น
แตครั้งนี้ผูใดก็ไมไดเอยอะไรอีก ในเมื่อผูบำเพ็ญเพียรที่อยูทามกลางลำแสงสีขาวผูนี้
ถูกสงมาเปนผูดูแลการซื้อขายแลกเปลี่ยน แนนอนวาจะตองมีประสบการณมากมาย
มีความรูเหนือคนธรรมดา ดังนั้นทุกคนจึงเบิกตาโต มองคนผูนี้ตรวจสอบอยางเงียบๆ
เงารางคนที่อยูทามกลางลำแสงสีขาวดูเหมือนวาจะรูจักเพชรกระดูกมารไมนอย
จริงๆ ยื่นมือเล็กๆ ไปหยิบขึ้นมาเม็ดหนึ่ง พลันอาปากออก พนเพลิงทารกสีขาวสาย
หนึ่งออกมา ผลลัพธคือเมื่อเปลวเพลิงสีขาวสัมผัสกับผิวของเพรชที่เปนสีดำ คาดไมถึง
วาจะเหมือนกับพบกับคูปรับอยางไรอยางนั้น มันถูกแยกออกเปนสองฝงในทันที ไมมี
ทางเขาไปแผดเผาเขาไปใกลเพชรกระดูกมารได เงารางคนทามกลางลำแสงเผยทาที
ตื่นเตนดีใจออกมา จากนั้นสองมือพลันรายอาคม ปากก็เก็บเพลิงทารกกลับไป คาดไม
ถึงวาจะพนไอเย็นเยียบสีฟาออกมาอีกกลุม ไอมารนี้หอหุมกรวยผลึกเอาไว แตกลับไม
มีทางแชแข็งมันไดเลยแมแตนอย แววตาเปลงประกายสองสามครั้ง เขาชูมือหนึ่งขึ้น
อีกครั้ง ยื่นนิ้วออกมาชี้ไปที่เพรชเม็ดนั้นเบาๆ ชั่วขณะนั้นไอมารสีดำสนิทกลุมหนึ่ง
พลันสอดเขาไปนั้น ผลลัพธเหมือนกับโคลนที่จมลงไปในมหาสมุทรอยางไรอยางนั้น
เพชรกระดูกมารไมมีปฏิกิริยาตอบสนองเลยแมแตนอย
“ไมผิด คือเพชรกระดูกมารจริงๆ ขาจะเอาของชิ้นนี้” ไมรูวาเปนความบังเอิญ
หรือไม ผูนี้เพิ่งจะเอยปาก ไกลออกไปสามสี่จั้งดานขาง ก็มีลำแสงวิญญาณสวางวาบ
ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รสวมหน า กากที่ ส วมอาภรณ สี เทาก็ ป รากฏขึ้ น ตรงนั้ น อย า งแปลก
ประหลาด
เขาคารวะเงารางคนที่อยูทามกลางลำแสงสีขาว หลังจากเงยหนาขึ้นก็ยื่นกลองหยกให
คนพลันหายวับไปอีกครั้ง
ตอนที่ 956 ไดผลประโยชนอยางคาดไมถึง
“ผลึกแสงพรากอนนี้ สหายดูสิวาใชไดหรือไม?” ผูบำเพ็ญเพียรที่อยูทามกลาง
ลำแสงสีขาวไมไดเปดกลองหยกออก แตสงกลองหยกกลองนั้นใหหานลี่
หานลี่เองก็ยื่นมือออกมารับไวอยางไมเกรงใจ แลวเปดฝากลองออกทันที
สิ่งที่เขามาในครรลองสายตาคือผลึกศิลาสีเหลืองนวล แตผิวของมันกลับมีลำแสง
สีมวงจางๆ แผออกมา หลังจากจับจองอยางละเอียดแลว ก็รูสึกหนามืดตาลาย
หานลี่เห็นเชนนั้นกลับรูสึกดีอกดีใจ รูมานตาเปลงแสงสีฟาสวางวาบ ชั่วขณะนั้น
ความรูสึกหนามืดตาลายพลันหายไป จากนั้นก็ใชนิ้วทั้งสองคีบผลึกศิลาสีเหลืองกอน
นั้นขึ้นมา วางลงระดับสายตาพลางตรวจสอบอยางละเอียด
เงารางคนทามกลางลำแสงสีขาวดานขาง เห็นหานลี่จับจองผลึกแสงพรา รางกาย
พลันสั่นเทาเล็กๆ จากนั้นก็ราวกับไมมีอะไรเกิดขึ้นอีก ในใจพลันรูสึกตกตะลึง
ผลึกแสงพรานี้เขามองอยูแคแวบเดียว ในระยะเวลาสั้นๆ ก็ไมกลาเหลือบมอง
เปนครั้งที่สองแลว ผูบำเพ็ญเพียรนิรนามที่อยูเบื้องหนา คาดไมถึงวาจะจับจองอยาง
ยาวนาวโดยไมเปนอะไรเชนนี้ ชางทำใหเขารูสึกประหลาดใจจริงๆ!
“ไมผิด นี่คือผลึกแสงพราระดับสุดยอดจริงๆ สหายเอาเพชรกระดูกมารแทงนี้ไป
ไดเลย” หานลี่เผยสีหนาพึงพอใจออกมา คาดไมถึงวาจะวางกลับลงไปในกลองหยก
จากนั้นก็เก็บเขาไปในยามเก็บของ
“หึๆ เชนนั้นตาเฒาก็ไมเกรงใจแลว ตอนนี้ยังมีคนอื่นอยากแลกอีกเม็ดหรือไม ดู
แลวคงไมมีใครมีของที่สหายอยากไดจริงๆ สหายยอมขายอีกแทงที่เหลือใหตาเฒ า
ดวยราคาที่สูงลิบ หรือวาใชวัตถุดิบล้ำคาอื่นแลกกันหรือไม ไมวาจะดวยวิธีใด ขานอย
จะตองทำใหสหายพึงพอใจแน”
ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รที่ อ ยู ท า มกลางลำแสงสี ข าวเก็ บ เพชรเม็ ด นั้ น ลงไปด ว ยความ
ระมั ด ระวัง กลอกสายตาไปมา จอ งเขม็ งไปยั งเพชรกระดู ก มารอี ก เม็ ด ด ว ยความ
ละโมบเล็กนอย
“ใครบอกวาไมมี ขามีหยกเบญจธาตุอยูกอนหนึ่ง”
“ชากอน ของสิ่งนี้ผูใดก็หามแยงกับตาเฒา ของสิ่งนี้ตาเฒาจองแลว”
คำพูดหยั่งเชิงของผูบำเพ็ญเพียรที่อยูทามกลางลำแสงสีขาวเพิ่งจะหลุดออกจากปาก
ทามกลางผูบำเพ็ญเพียรที่อยูรอบๆ ก็มีคนทนไมไหวนานแลว คาดไมถึงวาจะมีเสียง
ของบุรุษหนึ่งคนและสตรีหนึ่งคนดังขึ้นพรอมกัน
น้ำเสียงของบุรุษกึกกองดังราวกับฟาผา น้ำเสียงของสตรีไพเราะชวนฟง จากนั้น
ลำแสงสีดำสนิทและลำแสงสีเงินที่เจิดจาจนแสบตาก็บินออกมาจากที่นั่งทั้งสองดาน
รอนลงเบื้องหนาของหานลี่ตามลำดับ
ภาพฉากนี้ ทำใหผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ พากันแอบซุบซิบกันยกใหญ
ไมเหมือนกับผลึกแสงพราที่มีคนรูจักเพียงนอยนิด หยกเบญจธาตุนั้นเปนสิ่งที่มี
ชื่อเสียงเกรียงไกรในโลกของผูบำเพ็ญเพียร ผูใดตางก็รูวามันคือวัตถุดิบระดับสุดยอด
ที่ใชหลอมสมบัติอาคมประเภทหยก เพียงแตหยกนี้มันหายากมาก ครั้งที่แลวที่ปรากฏ
ตัวในโลกของผูบำเพ็ญเพียรนาจะเกิดขึ้นเมื่อหาหกรอยปกอน
ตอนนี้มีคนเอาออกมา แนนอนวาจึงทำใหคนจำนวนไมนอยรูสึกตกตะลึงและ
อิจฉา ดูแลวในมือของผูบำเพ็ญเพียรที่นั่งอยูคงไมใชวาไมมีสมบัติที่มหัศจรรยล้ำคา
จริงๆ แตสวนใหญลวนเก็บเอาไวไมยอมเอาออกมาแสดงงายๆ
เงารางคนท ามกลางลำแสงสีขาวได ยิน เสี ยงของบุ รุษ ผู นั้ น พลั น หน าเปลี่ ยนสี
ใบหนาที่ถูกลำแสงปกคลุมเอาไว เปลี่ยนเปนสีเขียวคล้ำสลับกับสดใสไมแนนอน
“ทำไม นองรองเยี่ย เจากลาฝาฝนกฎการแลกเปลี่ยน คิดจะยึดเพชรกระดูกมาร
ไปคนเดียวหรือ?” ผูบำเพ็ญเพียรที่อยูทามกลางลำแสงสีดำบินมาอยูขางเงารางบางๆ
ลำแสงสีเงินอยางไมใสใจ แตกลับจองเขม็งไปยังลำแสงสีขาวพลางเอยอยางไมเกรงใจ
ถึงแมวาคนผูนี้จะอยูในลำแสงสีดำจนมองเห็นใบหนาที่แทจริงไมชัดเจน แตก็มี
รางกายที่สูงใหญ น้ำเสียงก็เย็นชาเปนพิเศษ
“พี่คุนกังวลเกินไปแลว ผูแซเยี่ยจะทำเรื่องเชนนี้ไดอยางไร ขานอยแคแนะนำ
สหายผูนี้เทานั้น จะตอบรับหรือไมก็แลวแตสหายผูนี้ ในเมื่อตอนนี้มีสหายสองทานอยู
ขานอยก็ไมรบกวนเรื่องนี้แลว” เห็นไดชัดวาเงารางคนที่จัดงานซื้อขายแลกเปลี่ยน
รูจักผูบำเพ็ญเพียรสายมารในลำแสงสีดำ คาดไมถึงวาจะประสานมือคารวะพรอมกับ
หัวเราะอยางขมขื่นออกมา จากนั้นรางกายก็พลิ้วไหว คนถอยกลับไปอยูดานขาง เปน
การแสดงออกวายอมถอยให
“นับวาเจารูวาควรทำอะไร!” ผูบำเพ็ญเพียรสายมารผูนั้นสงเสียงหึดวยความเย็นชา
สองมือไพลหลัง แลวเอยอยางพึงพอใจ
ผูบำเพ็ญเพียรที่อยูดานขางผูนั้น ยืนอยูทามกลางลำแสงสีเงินดวยรางกายที่ดูอร
ชนออนแอน ดูเหมือนวาตื่นตระหนกเล็กนอย
รอบดานเกิดเสียงรองอุทานดวยความตกใจดังขึ้นอยางตอเนื่อง
“แซคุน หรือวาอาวุโสคุนอูจี๋ของสำนักโลหิตวิปโยค ฟงจากน้ำเสียงแลว เหมือน
จริงๆ”
“นอกจากผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย คนอื่นๆ จะกลาคุยโวขนาดนั้น
หรือ?”
……
หานลี่ไดฟงคำพูดเหลานี้ พลันหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย คาดไมถึงวาผูบำเพ็ ญ
เพียรสายมารผูนี้จะอยูในระดับกอกำเนิดขั้นปลาย หนึ่งในสิบพรรคมารที่มีชื่อเสียง
อยางสำนักโลหิตวิปโยค
“ที่แทก็อาวุโสของสำนักโลหิตวิปโยคนี้เอง ขาเสียมารยาทแลวจริงๆ ไมทราบวา
สหายก็มีวัตถุดิบที่สหายผูนั้นตองการเชนกัน ถาหากมีเหมือนกันละก็ ขาก็จะถอย
ทันที และยอมมอบของสิ่งนี้ใหสหาย” ผูบำเพ็ญเพียรหญิงเงียบกริบไปชั่วครู ก็พนลม
หายใจออกมาเบาๆ พลางเอยขึ้น
ดูแลวสตรีผูนี้คงจะไมยอมปลอยเพชรกระดูกมารไป เพียงเพราะพลังยุทธที่นาตก
ตะลึงและฐานะของอีกฝาย
“หึๆ! ถึงแมวาผูแซคุนจะไมมีหยกเบญจธาตุและผลึกแสงพรา แตก็มีวัตถุดิบที่ไม
ตางกันนัก ถาหากเจารูวาตองทำอยางไร ก็กลับไปดีๆ เถิด” คุนอูจี๋มีสีหนาเครงขรึม
เอยอยางเครงขรึม ในประโยคแสดงเจตนาขมขูออกมาอยางเห็นไดชัด
“เชนนั้นก็จัดการยากแลว เพชรกระดูกมารเม็ดนี้เปนสิ่งที่ขาอยากได ถาเชนนั้น
หากสหายผูนี้ยอมเลือกวัตถุดิบของสหายไม เอาหยกเบญจธาตุ ชนรุน หลังก็ จะไม
กวนใจ ยอมมอบของสิ่งนี้ใหพี่คุน” ผูบำเพ็ญเพียรหญิงหัวเราะนอยๆ ออกมาขณะเอย
“เยี่ ย ม ตาเฒ า เองก็ ไม ใช ค นป า เถื่ อ นไม ว า กั น ตามเหตุ ผ ล ตกลงตามนี้ ” อยู
นอกเหนือความคาดหมายของทุกคน ผูบำเพ็ญ เพี ยรสายมารคุนอูจี๋ดูเหมือนวาจะ
มั่นใจในสิ่งของตัวเองเต็มเปยม ตอบรับอยางไมตองคิด
หานลี่มองทั้งสองคนที่ไมสนใจเจาของเชนเขาเบื้องหนา ปรึกษาเรื่องเพชรกระดูกมาร
กันเอง ก็รูสึกดีใจขึ้นมา แตเบื้องหนามีหยกเบญจธาตุปรากฏขึ้นแลว ก็จะรวบรวม
วัตถุดิบชิ้นสุดทายครบแลว ในใจจึงรูสึกผอนคลายลงในเวลาเดียว
ภายใตสีหนาราบเรียบ เขามองไปยังบุรุษหนึ่งคนและสตรีหนึ่งคนดวยความเย็นชา
ไมไดเปลงคำพูดใดๆ ออกมา
เวลานี้ผูบำเพ็ญเพียรหญิงพลันชูมือขึ้น กลองไมสีเขียวมรกตใบหนึ่งพุงออกมา
จากลำแสงสีเงิน รอนลงบนโตะ ดานบนแปะยันตวิเศษสีเงินจางๆ แผนหนึ่งเอาไว
“สหายตรวจดูกอนเถิดวาหยกเบญจธาตุของขาเปนของจริงหรือไม” สตรีผูนี้เอย
กับหานลี่ดวยรอยยิ้มเบิกบาน
“ของที่ผูแซคุนเอาออกมา เจาก็ดูใหดีเถิด วัตถุดิบหนึ่งในนั้นมีคามากกวาหยก
เบญจธาตุ” คุนอูจี๋หัวเราะอยางเย็นชาออกมา สะบัดแขนเสื้อ กลองหยกเจ็ดสีขนาด
เล็กใหญไมเทากันบินออกมา และรอนลงบนโตะเชนกัน
หานลี่เองก็ไมไดเอยอะไรออกมา ควาไปยังกลองไมกลางอากาศ เสียง ‘พรึ่บ’
ของกลองไมดังขึ้น ถูกดูดเขาไปในมือ
มื อ หนึ่ ง ป ด ออกไป ลำแสงสี เขี ย วสว า งวาบ ยั น ต บ นกล อ งไม ร อ นลงมาโดย
อัตโนมัติ ฝากลองถูกเปดออกอยางงายดาย
หยกทรงกลมห า สี ก อ นหนึ่ ง นอนนิ่ ง อยู ใ นกล อ งไม ถึ ง แม ว า จะไม มี สี สั น ที่
มหัศจรรยอะไร แตไอวิญญาณที่เปยมลนกลุมหนึ่งก็ทะลักออกมา
หานลี่ห ยิบขึ้นมาในมือ ตรวจสอบเพี ยงชั่วครู ก็ฝน กดความตื่น เตน ดีใจเอาไว
คอยๆ พยักหนาใหสตรีผูบำเพ็ญเพียร
“ไมผิด คือหยกเบญจธาตุจริงๆ”
เอยจบ เขาก็เก็บหยกกลับคืนลงไปในกลองไม เลื่อนสายตา ตกลงบนกลองหยก
สองสามกลองที่อยูดานขาง
ตามความตั้งใจเดิมของเขา แน น อนวาอยากแลกกับ หยกเบญจธาตุ แต ถาไม
จำเปนเขาก็ไมอยากลวงเกินผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายงายๆ และยิ่งไป
กวานั้นคุนอูจี๋ผูนี้ก็มีเอยอยางมั่นใจถึงเพียงนี้ เขาจึงรูสึกสนใจของที่อยูในกลองหยก
เหลานี้อยูเล็กนอย
คุนอูจี๋ยื่นนิ้วออกไปนิ้วหนึ่ง ชี้ไปยังกลองหยกที่ อยูกลางอากาศดวยใบหน าไร
ความรูสึก ฝากลองหยกทั้งหมดรอนลงมาดานขางโดยอัตโนมัติ เผยใหเห็นของที่อยู
ดานใน
“ไมหงสรอน ศิลาผนึกวิญญาณ ดอกหมื่นวง…”
หานลี่ยังไมทันจำแนกของที่อยูในกลอง ผูบำเพ็ญเพียรที่มีสายตาเฉียบแหลมซึ่ง
นั่งอยูรอบดานก็รองอุทานชื่อของของเหลานี้ออกมาดวยความตกตะลึง คนสวนใหญ
ตางอดที่จะสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่งไมได
หลังจากที่ผูบำเพ็ญ เพียรหญิงที่อยูดานขางเหลือบมองสองครั้ง ในใจก็รูสึกตก
ตะลึงเชนกัน
สิ่งของเหลานี้เหมือนกับที่คุนอูจี๋กลาวเอาไว ความล้ำคาของมัน ทุกชิ้นแทบจะ
ไมไดดอยไปกวาหยกเบญจธาตุ โดยเฉพาะดอกหมื่นวงดูเหมือนวาจะมีมูลคาที่ไมได
ดอยไปกวาเพชรกระดูกมารสำหรับบางคน สิ่งของล้ำคาขนาดนี้ มินาเลาคุนอูจี๋จึง
มั่นใจถึงเพียงนี้
ภายใตความรูสึกไมสบายใจของผูบำเพ็ญเพียรหญิง จึงอดไมไหวหันหนาไปมอง
หานลี่ที่อยูทามกลางลำแสงสีเขียว ผลลัพธทำใหตกตะลึง
สายตาของหานลี่ไมไดตกลงบนดอกหมื่นวงที่มีมูลคามากที่สุด แตกลับจองเขม็ง
ไปยังแรศิลาสีทองจางๆ กอนหนึ่งในกลองหยก ทาทางขบคิดไมไดเอยอะไรออกมา
สตรีผูนี้จึงอดที่จะรูสึกจิตใจหนักอึ้งไมได
หานลี่ชูมือขึ้นดังคาด แรศิลาสีทองกอนนั้นถูกเขาดูดเขามาในมือ พลางกมหนาลง
พิจารณา
คุนอูจี๋เห็นเชนนั้นพลันตกตะลึงเชนกัน แตทันใดนั้นก็หัวเราะฮาๆ ออกมา แลว
เอยอยางเยอหยิ่งวา
“ทำไม สหายสนใจแกนทองคำกอนนี้ของผูแซคุนหรือ สหายตาดีจริงๆ ถาหาก
สหายฝกบำเพ็ญเพียรกระบี่ แกนทองคำกอนนี้ก็จะทำใหความสามารถของนายทาน
เพิ่มขึ้นเปนเทาตัว และกอนใหญขนาดนี้ เดาวาทั้งโลกของผูบำเพ็ญเพียรตาจิ้นคงมี
เพียงผูแซคุนที่เอาออกมาไดแลว”
“ขาอยากแลกกับแกนทองคำกอนนี้” หานลี่เอยอยางราบเรียบ
“ชากอน หยกเบญจธาตุนี้สหายไม…”
“หุบปาก เจาคิดจะทำใหตาเฒาโกรธหรือ?” คุนอูจี๋ไดยินพลันดีอกดีใจ จากนั้นใบหนา
ก็เปลี่ยนเปนโกรธเกรี้ยวทันที รอบกายแผพลังที่นาตกตะลึงออกมา แรงกดไรรูปราง
กลุมนี้ตกไปที่รางของผูบำเพ็ญเพียรหญิงโดยตรง หานลี่ที่อยูดานขางกลับไมเปนอะไร
แตสตรีผูนั้นกลับถอยรนออกไปหลายกาว ถึงไดหยุดฝเทาอยางมั่นคงอีกครั้งได
สวนคุนอูจี๋ก็ควาเพชรกระดูกมารเบื้องหนาของหานลี่ขึ้นมาในมือ ตรวจสอบดู
ดวยความดีอกดีใจ
“เปนเพชรกระดูกมารของจริงดังคาด ตาเฒ ามาถูกที่แลวจริงๆ หากพวกมาร
เฒาจยารูวาในงานซื้อขายนี้มีของสิ่งนี้ปรากฏขึ้น ไมรูวาจะเสียใจขนาดไหน” มารเฒา
เก็บเพชรนั่นลงไป ทันใดนั้นก็เงยหนาขึ้นหัวเราะอยางบาคลั่งจากนั้นพลันสะบัดแขน
เสื้อ เก็บกลองหยกที่เหลือบนโตะ รางกายพลิ้วไหว คาดไมถึงวาจะตรงไปยังทางออก
ของหองโถงอยางไมรั้งรอทันที
“พี่คุน ชวงสุดทายยังมีสมบัติสำคัญอีกชิ้น สหายไมอยากอยูดูกอนหรือ?” เงาราง
คนทามกลางลำแสงสีขาวที่เปนผูดูแลงานซื้อขาวกลับเอยรั้งเอาไว
“สมบัติสำคัญอะไร ตาเฒาไมสนใจ ตอนนี้ไดเพชรกระดูกมารมาแลว ขาจะรีบ
กลับไปหลอมไอมารที่บริสุทธิ์ของมัน ไหนเลยจะอยากดูสมบัติสำคัญอะไร” หลังจาก
หั ว เราะอย างแปลกประหลาดออกมา เงาร างของคุ น อู จี๋ ก็ ส ว างวาบขึ้ น ที่ ท างเข า
หลังจากสัมผัสกับเขตอาคมแลว รางทั้งรางก็สลายหายไปอยางไรรองรอยทันที
“หลอมไอมาร?” หานลี่ไดฟงคำนี้แลวพลันรูสึกประหลาดใจ ทันใดนั้นก็คิดอะไร
ขึ้นมาไดและถึงบางออ เพชรกระดูกมารนี้ผนึกตัวกันขึ้นมาเองใตวังวนมารหมื่นจั้ง
แนนอนวาจึงมีไอมารที่บริสุทธิ์แฝงอยูในนั้นไมนอย ถาหากผูบำเพ็ญ เพียรสายมาร
หลอมได ก็จะมีประโยชนไมนอย มินาเลา คุนอูจี๋ไดสมบัติชิ้นนี้ไป แมแตสมบัติสำคัญ
สุดทายอะไร ก็ไมสนใจจะดูแมแตนอย
ตอนนี้ผูบำเพ็ญเพียรหญิงที่อยูทามกลางลำแสงสีเงินเห็นคุนอูจี๋เอาเพชรกระดูก
มารไป ในใจก็รูสึกโกรธเกรี้ยวอยางสุดๆ กวักมือเรียกกลองไมหยกเบญจธาตุโดยไม
เปลงคำพูดๆ ตองการจะดึงมันกลับมา
แตในตอนนั้นกลับมีเสียงราบเรียบดังขึ้น
“ชากอน! ของสิ่งนี้ ขาก็ตองการ” มือหนึ่งของหานลี่มีกลองไมกลองหนึ่งปรากฏขึ้น
คาดไมถึงวาจะหามไมใหสตรีผูบำเพ็ญเพียรหญิงเก็บกลับไป
ตอนที่ 957 ตราประทับภูเขา
“สหายหมายความวาอยางไร?” ชั่วขณะนั้นน้ำเสียงของผูบำเพ็ญเพียรหญิงที่อยู
ทามกลางลำแสงสีเงินพลันเยียบเย็นขึ้น
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ เห็นภาพฉากนี้เขา ก็พากันตกตะลึง
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา มือหนึ่งกดลงบนกลองไมแนน อีกมือหนึ่งกลับตบไป
ที่ยามเก็บของ กลองหยกอีกกลองบินตรงไปหาอีกฝาย
“ขาอยากแลกแคเพชรกระดูกมาร อยางอื่นไมสนใจ” ผูบำเพ็ญเพียรหญิงยื่นมือ
ออกไปรับกลองหยกเอาไวตามสัญชาตญาณ แตกลับเอยขึ้นอยางไมสบอารมณ
“สหายดูของในกลองกอน แลวคอยวากันก็ยังไมสาย” หานลี่เอยอยางมีแผนการ
ผูบำเพ็ญ เพียรหญิงเปดฝากลองออกดวยความสงสัย มองไปแวบหนึ่งอยางไมใสใจ
ผลลัพธคือปากก็รองทานออกมา น้ำเสียงเต็มไปดวยความตกตะลึงระคนดีใจ
“เยี่ยม! หยกเบญจธาตุนี้เปนของสหาย” ผูบำเพ็ญหญิงฉีกยิ้มอยางสบายอารมณ
เปดฝากลองออกเพี ยงครึ่งเดียวก็เก็บกลองหยกเขาไปอยางรวดเร็ว สวนคนก็เดิ น
กลับไปอยางไมมีอะไรเกิดขึ้น
ผูบำเพ็ญเพียรที่อยูรอบๆ กลับรูสึกงุนงงไปหมด
พวกเขามองไมเห็นสิ่งของที่อยูในกลองหยกใบที่สามที่หานลี่หยิบออกมา แนนอน
วาจึงรูสึกกลัดกลุมที่สตรีผูนี้ยอมแลกเปลี่ยนกับหยกเบญจธาตุอยางคาดไมถึง
ในบรรดาคนเหลานั้น ตางคาดเดาวาหานลี่เอาเพชรกระดูกมารเม็ดที่สามออกมา
ใชหรือไม แตคนหนึ่งมีอยูสองเม็ด ก็ทำใหผูคนรูสึกตกตะลึงแลว หากยังมีเม็ดที่สาม
อีก ก็คงจะเปนเรื่องที่อกสั่นขวัญ หายเกินไปหนอย สวนใหญ จึงรูสึกวาเปนไปไมได
และคิดวาหานลี่หยิบของชนิดอื่นที่ทำใหสตรีผูบำเพ็ญเพียรสนใจออกมาแทน
ทวาเชนนั้น สายตาหลากหลายจำนวนมากก็โคจรไปมาบนเรือนรางของหานลี่ไม
หยุด ทั้งอิจฉา ริษยา ประสงคราย ตางๆ มากมาย
หานลี่กลับทำเปนมองไมเห็น แตก็เหลือบมองรางกายอรชรออนแอนที่ซอนอยู
ทามกลางลำแสงสีเงิน ขมวดคิ้วเขาหากันอยางไมใสใจ เมื่อครูไมไดสนใจ ตอนนี้แค
มองแผนหลังที่รางเลือนของสตรีผูนี้ คาดไมถึงวาจะใหความรูสึกที่คุนเคยออกมา
หรือวาจะเปนสตรีผูนั้น? จูๆ หานลี่พลันรูสึกประหลาดใจขึ้นมา ตัวเองก็ตกใจจน
ขวัญกระเจิง
ถึงแมวาฟงจากน้ำเสียงแลวจะไมเหมือน แตสำหรับผูบำเพ็ญเพียรอยางพวกเขา
แลว การดัดเสียงนั้นก็เปนเรื่องที่งายดายยิ่งกวากินขาวเสียอีก
เมื่อความคิดเคลื่อนไหว หานลี่ก็ทนไมไหวลำแสงสีฟาในรูมานตาพลันสวางวาบ
อาศัยความสามารถของเนตรวารีวิญญาณกระจาง ถึงแมวาจะไมมีทางมองทะลุผาน
ลำแสงนั้นได แตก็นับไดวามองเห็นเงารางของอีกฝายชัดเจนกวาเดิมเปนอยางมาก
ผลลัพธคือ หานลี่พลันเผยสีหนาประหลาดใจออกมา
ถึงแมวาจะมองเห็นไมชัดขนาดนั้น แตคาดไมถึงวาผูบำเพ็ญเพียรหญิงผูนี้คือธิดา
เทพเทียนหลานจริงๆ
แตสตรีผูนี้กลับไมมีความสามารถเนตรวิญญาณเหมือนหานลี่ บวกกับที่หานลี่ดัด
เสียงก็ทำไมมองฐานะของหานลี่ไมออกแมแตนอย เวลานี้จึงกำลังนำเพชรกระดูกมาร
เม็ดที่สามของหานลี่กลับไปยังที่นั่งเดิม
ชั่วขณะนั้นหานลี่พลันรูสึกหัวเราะก็ไมออกรองไหก็ไมไดขึ้นมา
ตัวเองตามหาวัตถุดิบชิ้นนี้มาอยางยากลำบาก คาดไมถึงวาสุดทายแลวจะไดมา
จากมือของศัตรู ชางเปนเรื่องที่นาเยาะเยยเรื่องหนึ่งจริงๆ
หานลี่กลับรูสึกแปลกประหลาดอยางอธิบายไมได แตการเคลื่อนไหวของมือกลับ
ไมไดเชื่องชาเลยแมแตนอย เก็บหยกเบญจธาตุและแกนทองคำเขาไป และเดินกลับไป
ยังที่นั่งเชนเดียวกัน
เขาไมสนวาวาวัตถุดิบเหลานี้มาจากไหน ในที่สุดเขาก็บรรลุวัตถุประสงคแลว ทั้ง
ยังไดแกนทองคำกอนใหญมากอนหนึ่งอยางคาดไมถึง มันลดความวุนวายในอนาคต
ของเขาไปไมนอยจริงๆ แกนทองคำเหลานี้เพียงพอจะหลอมเขตอาคมกระบี่อีกครึ่งชุด
ขอแควันขางหนารวบรวมแกนทองคำไดอีก ก็จะสามารถหลอมกระบี่ไผเขียวตัวตอ
เมฆาสามสิบหกเลมไดอีกครั้ง นี่จึงทำใหหานลี่รูสึกพึงพอใจเปนอยางมาก
การแลกเปลี่ยนสุดทาย มีผูบำเพ็ญเพียรสามสิบสี่สิบคนขึ้นไปแลกเปลี่ยนสิ่งของ
กั น แต เห็ น ได ชั ด วาเป น เพราะวัต ถุ ดิ บ อย างเพชรกระดู ก มารและหยกเบญจธาตุ
ปรากฏตัวขึ้นแลว จึงทำใหผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดพากันใจลอย สวนใหญแลวจึงกระทำ
การแลกเปลี่ยนอยางเรงรีบ ผูที่แลกเปลี่ยนสำเร็จก็ยิ่งมีนอยเขาไปใหญ
ถึงแมวาสุดทายจะมีสิ่งของที่ไมเลวปรากฏตัวออกมาสองสามชิ้น แตก็ไมมีทาง
ดึงดูดความสนใจของผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ได
สุดทายเมื่อผูบำเพ็ญเพียรคนหนึ่งกลับมายังที่นั่งแลว ก็ไมมีผูใดกาวขึ้นไปอีก
เงาร า งคนท า มกลางลำแสงสี ข าวที่ เป น ผู ดู แ ลงานซื้ อ ขายแลกเปลี่ ย น เห็ น
สถานการณเชนนี้ ก็เดินขึ้นไปยืนอยูดานหลังโตะหยกอีกครั้งดวยทาทีไมรีบรอน
“ในเมื่อเหลาสหายแลกเปลี่ยนกันเสร็จแลว เชนนั้นตอนนี้ ก็เริ่มประมูลของชิ้น
สุดทายของงานซื้อขายแลกเปลี่ยนครั้งนี้ได” คนผูนี้เอยดวยสีหนาราบเรียบ จูๆ พลัน
ปรบมือทั้งสองเบาๆ ดัง ‘แปะๆ’ จากนั้นทางเขาหองโถงก็มีลำแสงวิญญาณสวางวาบ
บุรุษผูบำเพ็ญเพียรสองคนเดินเขามา
สิ่งที่อยูนอกเหนือความคาดหมายก็คือ บนรางของผูบำเพ็ญเพียรสองคนนี้ไมมี
ยันตวิเศษอะไรแปะอยู กำลังเดินมาตรงใจกลางดวยใบหนาที่แทจริง
เกิดเสียงอื้ออึงกับผูบำเพ็ญเพียรที่อยูในนั้นขึ้น ผูบำเพ็ญเพียรสวนใหญที่อยูในนั้น
ตางรองเรียกชื่อของสองผูนี้ออกมา คืออาวุโสสวมรัดเกลาสีดำและชายวัยกลางคน
หนาเหลี่ยมผูเคยปรากฏตัวที่ตระกูลไหนสักแหงของราชสำนัก
ทั้งสองคนคนหนึ่งอยูในระดับกอกำเนิดขั้นตน อีกคนอยูในระดับกอกำเนิดขั้นกลาง
ลวนเป น อาวุโสระดับ กอ กำเนิ ดของราชสำนั กที่ มั กจะออกมาคบค าสมาคมกั บ คน
ภายนอก
ในเวลาเดียวกันกับที่ผูบำเพ็ญเพียรสวนใหญกำลังรูสึกกลัดกลุมนั้น กลับมีคนสอง
สามคนที่รูอยูแลว และไมไดรูสึกประหลาดใจเลยแมแตนอย พวกเขาลวนไดขาวมา
กอนหนาแลว แตเดิมที่มาเขารวมงานซื้อขายเพราะตามหาสมบัติ ตอนนี้ก็ยิ่งรูสึกสด
ชื่นกระปรี้กระเปรามากขึ้น
ตอนนี้ชายชราสวมรัดเกลาสีดำสาวเทาสองสามกาวมาอยูหนาโตะ พยักหนาให
เงารางคนที่อยูทามกลางลำแสงสีเงิน และหันกายไปเอยกับผูบำเพ็ญเพียรทุกคนอยาง
เชื่องชาวา
“ไมตองแนะนำตัวใหมากความ คิดดูแลวแปดเกาสวนคงรูจักพวกเราสองคนดี
ขานอยจะพูดสั้นๆ สมบัติสำคัญในครั้งนี้ ความจริงแลวเปนสิ่งที่ตระกูลเยี่ยของพวก
เราทุมเทแรงกายแรงใจและกำลังคนไปจำนวนนับไมถวน เตรียมการมารอยกวาป ถึง
ไดหลอมสมบัติชิ้นนี้ออกมา ทวา ชวงนี้กลับมีสำนักที่เปนพันธมิตรกับตระกูลเยี่ยสอง
สามสำนักขอซื้อสิ่งนี้กับตระกูลเยี่ยพรอมๆ กัน สำนักเหลานี้ไมวาจะเปนสำนักไหน
ตระกูลเยี่ยของพวกเราก็ไมกลาลวงเกินและปฏิเสธ ภายใตความจนปญญานั้นอาวุโส
ของพวกเราจึงปรึกษากันวาจะนำสมบัติชิ้นนี้มาประมูลในชวงสุดทายของงานซื้อขาย
แลกเปลี่ยน ดูวาสหายทานไหนจะมีวาสนา ไดครอบครองสมบัติชิ้นนี้”
ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนหนาเหลี่ยมเอยจบ ทันใดนั้นก็หันหนาไปสงสัญญาณให
ชายชราสวมรัดเกลาสีดำ ชายชราที่สวมรัดเกลาสีดำจึงคอยๆ ควานหากลองสี่เหลี่ยม
จัตุรัสขนาดหลายฉื่อออกมาจากแขนเสื้ออยางแชมช า มองไปแวบหนึ่ งด วยความ
เสียดาย แลวถึงไดกัดฟนสงใหเงารางคนที่อยูทามกลางลำแสงสีเงิน
“หึๆ ในเมื่อกลาวมาพอสมควรแลว ตาเฒาก็จะไมพูดพร่ำไรสาระอีก จะใหทุก
ทานไดเปดประสบการณเห็นโฉมหนาที่แทจริงของสมบัติช้ินนี้สักหนอย” เงารางคนที่
อยูทามกลางลำแสงสีขาวหัวเราะนอยๆ ออกมา ทันใดนั้นก็เขยากลองหยกที่อยูในมือ
ชั่วขณะนั้นฝากลองพลันบินขึ้นไปบนฟ า จากนั้นลำแสงสีเหลืองขนาดเทากำป นก็
ค อ ยๆ ลอยขึ้น มาจากกล อ ง แต เมื่ อ ออกมาจากกล อ ง ลำแสงสี เหลื อ งกลุ ม นั้ น ก็ ดู
เหมือนวาจะเปลงแสงระยิบระยับเดี๋ยวขยายใหญเดี๋ยวหดเล็กลงอยางไมแนนอน และ
เปลงเสียงคำรามหึ่งๆ ที่ทุมต่ำออกมา
เมื่อ เห็ น สถานการณ เชน นี้ สองมื อ ของเงารางคนท ามกลางลำแสงสี เงิน ก็ ราย
อาคมอีกครั้ง อาคมหลายสายโจมตีออกไปอยางตอเนื่อง จากนั้นพลันชี้ไปที่ลำแสงสี
เหลืองปากก็คำรามออกมาเบาๆ
กลุมลำแสงกะพริบวาบสองสามครั้ง หลังจากหมุนติ้วๆ ก็หมนแสงลง เผยใหเห็น
รูปรางที่แทจริง คาดไมถึงวาจะเปนตราประทับเล็กสีเหลืองดินขนาดสองสามชุน
ตราประทับนี้เปนทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตัวของมันเกลี้ยงใสราวกับหยก แตผิวของ
มันกลับเปลงแสงวิบวับ มีเขตอาคมเล็กๆ สีทองเงินเปนชั้นๆ ปรากฏขึ้นรางๆ สิ่งที่
แปลกประหลาดก็คือทุกครั้งที่ลำแสงวิญญาณสวางวาบ ตัวอักษรบนเขตอาคมเหลานี้
จะเปลี่ยนแปลงไปไมเหมือนกัน และยิ่งไปกวานั้นหากพิ จารณาอยางละเอียดแลว
กลับยิ่งทำใหผูคนรูสึกลึกลับหาใดเปรียบ
นอกจากนี้ ตราประทับเล็กๆ ยังแผไอวิญญาณออกมา ถึงแมวาจะสงบนิ่งและ
มั่นคง แตไอวิญญาณที่ปะปนอยูจำนวนมาก ก็ทำใหทุกคนสัมผัสได และอดที่จะหนา
เปลี่ยนสีไมได
“สมบัติชิ้นนี้เรียกวาตราประทับภูเขา ลอกเลียนแบบมาจาก ‘ตราประทับฝามือ
สวรรค’ สมบัติสะทานฟาในตำนาน ไดยินวาผูบำเพ็ญเพียรของตระกูลเยี่ยไดทำการ
ทดสอบมันดวยตัวเองแลว ถึงแมวาสมบัติชิ้นนี้จะมีอานุภาพแคหนึ่งถึงสองสวนจาก
สิบสวนของตราประทับฝามือสวรรคในตำนาน แตตราประทับภูเขานี้สามารถเบิกฟา
ดินไดอยางไมมีปญหา แมกระทั่งหากผูบำเพ็ญเพียรฝกฝนมันอยางเพียงพอ ก็อาจจะ
สามารถกระตุนอานุภาพของสมบัติชิ้นนี้จนถึงขีดสุด ไปอยูในระดับสามในสิบสวนของ
ตราประทับฝามือสวรรคได แตแคการกระทำเชนนี้ อาจจะเปนการทำลายสมบัติชิ้นนี้
แนะนำวาอยาทำมันงายๆ จะดีกวา”
เงารางคนทามกลางลำแสงสีขาวเอยอยางเชื่องชา ควบคุมตราประทับภูเขาเบื้อง
หนาไปพลาง เปลี่ยนรูปลักษณเดี๋ยวเล็กเดี๋ยวใหญของมันไปมาไมหยุด อานุภาพที่รอ
จะสำแดงออกมาทามกลางลำแสงสีเหลือง ทำใหผูบำเพ็ญเพียรที่อยูในหองโถงทั้งหมด
อดที่จะใจเตนระรัวไมได
และยิ่งไปกวานั้นตอใหไมสำแดงออกมา แคบอกวาเปนของลอกเลียนแบบสมบัติ
สะทานฟา ก็เพียงพอจะทำใหรูแลววาสมบัติชิ้นนี้เปนสิ่งที่ไมธรรมดา ไมวาจะเปนผู
บำเพ็ญเพียรที่รูจักของสิ่งนี้มากอนหรือไม ตางก็จองเขม็งไปยังตราประทับภูเขาเล็กๆ
นี้อยางไมวางตา
หานลี่ไดยินวาของลอกเลียนแบบสมบัติสะทานฟา คนก็อดที่จะตื่นตระหนกไมได
เขาเสียแรงรวบรวมวัตถุดิบไปทั่วทุกหนแหงขนาดนี้ ยังไมทันรวบรวมวัตถุดิบไปหลอม
เป น พั ด ตรี เ ปลวเพลิ ง กลั บ คิ ด ไม ถึ ง ว า ในงานซื้ อ ขายแลกเปลี่ ย นจะมี ข อง
ลอกเลียนแบบสมบัติวิญญาณสะทานปรากฏตัวขึ้น นี่ทำใหหานลี่รูสึกกลัดกลุมเปน
อยางมาก นาเสียดายที่เขาไมรูสถานการณของสมบัติสะทานฟามากนัก ‘ตราประทับ
ภู เขา’ คำนี้ ยิ่งไมรูจักเลยแม แต น อ ย ไม รูจ ริงๆ วาหากเขาหลอมพั ดตรีเปลวเพลิ ง
สำเร็จแลว เทียบกับสมบัติชิ้นนี้แลวผูใดจะแข็งแกรงหรือออนแอกวากัน
ดูเหมือนวาจะคาดเดาความคิดในตอนนี้ของหานลี่ออก เทพขับเคลื่อนขึ้นเอยปากขึ้น
‘ไมตองกังวลใจขนาดนั้น ตราประทับภูเขาชิ้นนี้มีอานุภาพแคหนึ่งถึงสองในสิบ
สวนของสมบัติอาคมเดิมเทานั้น พัดตรีเปลวเพลิงที่ขาศึกษา อานุภาพมากสุดกลับ
เพียงพอที่จะเทียบไดกับสี่ในสิบสวนของพัดสัตตเปลวเพลิง ถาหากกระตุนพลังจนถึง
ขีดสูงสุดไดเหมือนที่คนผูนั้นกลาว การกระตุนอานุภาพของมัน ก็พอจะทำได ถึงแมวา
พัดของเจาและตราประทับภูเขาจะเปนสมบัติประเภทโจมตีเหมือนกัน แตหากวากัน
แคอานุภาพนั้น ตราประทับนี้ก็นาจะไมไดดอยไปกวาพัดตรีเปลวเพลิงของเจาเทาไหร
นัก’
“อืม ไมตางอะไรกับที่ขาคาดการณ ไวนัก หวังวาจะหลอมพั ดตรีเปลวเพลิงได
เร็วๆ ถาหากมีสมบัติชิ้นนี้อยูในมือ คิดดูแลวหากบังเอิญพบกับผูบำเพ็ญเพียรระดับ
กอกำเนิดขั้นปลายก็ไมจำเปนตองหวาดกลัวแลว” หานลี่พยักหนาอยางเงียบๆ พลาง
พึมพำตอบกลับไป
‘เหอะ! เจ า คงไม คิ ด ว า ที่ ต า จิ้ น เหมื อ นกั บ เที ย นหนานหรอกนะ สิ่ ง ของ
ลอกเลียนแบบจะมีแคชิ้นเดียวหรือ?’ เทพขับเคลื่อนเอยพรอมกับหัวเราะอยางเย็นชา
ออกมา
“ทานอาวุโสหมายความวา…” หานลี่พลันรูสึกตื่นตะลึง อดที่จะเอยซักถามไมได
‘จากประสบการณที่ขารูมาจากตาจิ้น สำนักอื่นๆ ขาเองก็ไมแนใจ แตสำนักมหาเอก
และพรรคมารสวรรคซึ่งเปนผูนำของสำนักมารธรรมะ รวมทั้งหุบเขาหมื่นปศาจที่ซึ่ง
เปนที่รวมตัวของปศาจนับหมื่นตนนั้น ตางก็มีสมบัติลอกเลียนแบบสมบัติสะทานฟา
กั น คนละไม ต่ ำกวาหนึ่ งชิ้ น ชิ้น ที่ มี ชื่ อ เสี ย งที่ สุ ด คื อ สมบั ติ ที่ ลอกเลี ย นแบบสมบั ติ
สะทานฟาธงปศาจสวรรคของหุบเขาหมื่นปศาจ ไดยินวาเปนเพราะธงผืนนั้นดูดกลืน
จิตวิญญาณของผูบำเพ็ญเพียรไปมากเกินไป อานุภาพของมันจึงอาจจะไมไดดอยไป
กวาสมบัติสะทานฟาธงปศาจสวรรคที่มันลอกเลียนแบบมา ขาเองก็ไมแปลกใจเลย
แมแตนอย มิเชนนั้น พรรคตางๆ เหลานี้จะมั่นคงดุจขุนเขาไมสั่นคลอนจนถึงปจจุบัน
ไดอยางไร’
ตอนที่ 958 พบมารโบราณอีกครั้ง
“นั่นมันก็ใช ตระกูลผูบำเพ็ญเพียรอยางตระกูลเยี่ยยังหลอมของลอกเลียนแบบ
สมบัติสะทานฟาชิ้นหนึ่งได สำนักที่เหลือซึ่งถือกำเนิดมาเนิ่นนานแลว ก็อาจจะมีของ
ลอกเลียนแบบสักชิ้นก็เปนได” หลังจากที่หานลี่ขบคิดแลว ก็ทำไดเพียงยอมรับใน
จุดๆ นี้อยางจนปญญา
‘ไมตองทอใจเกินไปนัก ถึงแมวานี่จะเปนของลอกเลียนแบบ แตวัตถุดิบที่หลอม
พวกมันขึ้นมาก็ไมใชวัตถุดิบธรรมดา เดาวาสวนใหญคงเปนของที่สาบสูญจากโลกนี้ไป
แลว ที่มีอยูตอนนี้ก็คงเปนสิ่งที่สะสมมาไมรูกี่ปตอกี่ปแลว ถึงไดบังเอิญรวบรวมครบ
และยิ่งไปกวานั้นในมือของเจาก็มีเตานภาสูญของแทอยูมิใชหรือ ถาหากควบคุมได
ทั้งหมดจริงๆ เดาวาในแดนนี้คงไมมีผูใดทำอะไรเจาไดแลว’
คาดไมถึงวาเทพขับเคลื่อนจะใชน้ำเสียงอิจฉาเล็กๆ เอยขึ้น
“ควบคุ ม เตานภาสู ญ ได ทั้ งหมด! ไหนเลยจะงายดายปานนั้ น หากไม ได อ ยู ใน
ระดับเทพแปลง ก็คงเปนไดแคเพียงเรื่องเพอฝน ทวาหากขามีความสามารถอยูใน
ระดับเทพแปลงจริงๆ ตอใหไมมีเตานภาสูญก็อาจจะครองโลกได” หานลี่ไดยิน พลัน
หัวเราะขมขื่นออกมา
เทพขับเคลื่อนไดยินประโยคนี้ กลับหัวเราะหึๆ ออกมา และไมไดกลาวอะไรอีก
ตอนนี้ ทั้งหองโถงนอกจากเงารางคนทามกลางลำแสงสีขาวที่กำลังแนะนำตรา
ประทับภูเขานั้น จุดอื่นๆ ก็เงียบกริบไรสุมเสียง ทุกคนตางปดปากเงียบไมพูดอะไร
ออกมา บรรยากาศกดดันขึ้นเพียงชั่วครู
เงารางคนทามกลางลำแสงสีขาวที่เปนผูดูแลงานซื้อขายแลกเปลี่ยนก็รูวาถึงเวลา
อันสมควรแลว ทันใดนั้นจึงไมยื้อเวลาอีก หลังจากกระแอมเบาๆ ครั้งหนึ่ง ในที่สุดก็
เริ่มเอยถึงวิธีการประมูลของสิ่งนี้
“ดูแลวไมตองใหตาเฒาพูดมาก ทุกทานก็นาจะรูมูลคาของสมบัติชิ้นนี้แลว การ
ประมูลสมบัติชิ้นนี้ ตระกูลเยี่ยเตรียมรายงานเอาไวแลว ปกติแลวมีวัตถุดิบในรายการ
มากเทาไหรก็จะแลกสมบัติชิ้นนี้ไดเทานั้น แนนอนวาถาหากมูลคาของวัตถุดิบที่สูง
ที่ สุ ด แสดงให เห็ น ได ชั ด วาต่ ำเกิ น ไป แน น อนว าก็ ไม มี ผ ล สุ ด ท ายคงต อ งเอาศิ ล า
วิญญาณออกมาอีกครั้ง ทุกครั้งที่ประมูลขั้นต่ำคือสามลาน”
เมื่ อ ได ยิ น ราคาสามล าน ถึ งแม วาผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รส วนใหญ จ ะเคยพบเห็ น ของ
ประมู ลที่ มีมู ลค าสูงขนาดนี้ แตก็ เกิ ด เสี ย งซุ บ ซิ บ ดั งระงม แต กลั บ ไม มี ผูใดคั ด ค าน
ถึงแมวาจำนวนนี้ จะหมายถึงศิลาวิญญาณกวาครึ่งของสำนักและตระกูลระดับกลางก็
ตาม แตเทียบกับมูลคาของสมบัติชิ้นนี้แลวก็ไมนับวาสูงนักจริงๆ ความจริงแลวหาก
เริ่มประมูล ราคาก็อาจจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเทาตัว
หานลี่ไดยินราคา ก็รูสึกใจเย็นเยียบ ในเวลาเดียวกันก็เกิดความคิดแปลกๆ ขึ้น
ถาหากเขาเอาเพชรกระดูกมารออกมาประมูลละก็ ไมรูวาจะขายไดกี่ศิลาวิญญาณ
เกรงวาจะไมนอยสินะ
ทวาทั้งสองก็ไมอาจเปรียบเทียบกันจริงๆ ได สิ่งที่เรียกวาสมบัติมีดมังกรมาร เขา
เคยค น หาขอ มู ลมานิ ด หน อ ย ดูเหมื อ นวาจะมี เพี ย งคนในยุ คดึ กดำบรรพ เท านั้ น ที่
สามารถหลอมขึ้นมาได ทั้งยังเคยไดยินวาผูบำเพ็ญเพียรสายมารที่เคยถือครองมีดเลม
นี้เคยใชสมบัติชิ้นนี้สังหารผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงมากอน จากอานุภาพของมัน
นั้นดูเหมือนวาจะไมไดดอยไปกวา ‘สมบัติสะทานฟา’ เลย เพียงแตมีดมังกรมารเปน
สมบัติอาคมดั้งเดิม จึงยังมีศักยภาพอีกมากใหคนหา
แตเพชรกระดูกมารสองเม็ด แนนอนวาก็ไมมีทางหลอมมีดเลมนี้ได ทำไดเพียงนำ
เพชรกระดู ก มารไปเป น วัต ถุ ดิ บ วิญ ญาณในการเพิ่ ม พลั งยุ ท ธ นำมาดู ด ซั บ ไอมาร
บริสุทธิ์ในนั้นเทานั้น มูลคาของมันกลับลดลงไปไมนอย
ในตอนที่หานลี่กำลังขบคิดถึงเรื่องอื่นๆ จนออกไปนอกทะเลนั้น ชายชราที่สวมรัด
เกลาสีดำก็หยิบคัมภีรมวนหนึ่งออกมา และเริ่มอานรายการวัตถุดิบที่บันทึกอยูในนั้น
น้ำเสียงของชายชราไมดังนัก แตผูบำเพ็ญเพียรทั้งหองโถง ตางไดยินอยางชัดเจน
ผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดตางตั้งใจฟง หานลี่กลับไมแยแส ไมคิดจะเขารวมการชวง
ชิงสมบัติชิ้นนี้เลยสักนิด
นั่นไมไดหมายความวาเขาไมสนใจสมบัติชิ้นนี้ แตแครูตัวดีเทานั้น
การเปนผูบำเพ็ญเพียรจากภายนอกคนหนึ่ง ตอใหเขาจะร่ำรวยขนาดไหน ก็ไม
อาจเกินหนาเกินตาสำนักตางๆ ในทองถิ่นของตาจิ้นได เหมือนกับสมบัติสำคัญที่มี
อานุภาพเพียงพอที่จะสงผลกระทบตอสำนักนอยใหญได ไมใชสิ่งที่คนคนหนึ่งและขุม
อำนาจเล็กๆ จะมีไดตั้งนานแลว
มิเชนนั้น จากตำแหนงตระกูลอันดันหนึ่งในใตหลาอยางตระกูลเยี่ยไหนเลยจะ
ยอมเอาตราประทับภูเขาออกมาประมูลงายๆ
เดาวาก็ไดรับแรงกดดันจากคนอื่นๆ เชนกัน ถึงไดทำลายความมั่งคั่งเพื่อหลบ
หลีกภัยพิบัติกระมัง
หลังจากไดยินชื่อของวัตถุดิบสองสามชิ้นแลว หานลี่ก็มั่นใจในความคิดนี้มากขึ้น
ความคิดของชายชราไมไดเหมือนกับหยกเบญจธาตุหรือแกนทองคำวัตถุดิบตางๆ
ที่ ห ายากเหล านี้ ถึ งแม ว าของเหล านี้ จ ะหายากแต ก ลั บ เป น วั ต ถุ ดิ บ ที่ ส ำนั ก ต างๆ
ตองการและเก็บสะสม ดูแลวภายใตความจำใจของตระกูลเยี่ย คงคิดจะทำใหสำนัก
ตางๆ เลือดออกมากหนอยสินะ
ขณะที่กำลังขบคิดเชนนั้น หานลี่ก็ไตรตรองเล็กนอย พลางลุกขึ้นยืน แลวตรง
ออกไปจากหองโถง
การกระทำเชนนี้ในตอนนี้ แนนอนวาดึงดูดความสนใจของคนจำนวนไมนอยมา
ผูบำเพ็ญเพียรจำนวนไมนอยซึ่งสนใจเรื่องที่หานลี่เอาเพชรกระดูกมารสองเม็ดออกมา
ตางก็เหลือบมองมาแวบหนึ่งอยางไมรูตัว สวนใหญลวนเผยสีหนาฉงนสงสัยออกมา
หานลี่แสรงทำเปนมองไมเห็น เดินไปยังทางเขาดวยใบหนาราบเรียบ เมื่อกำลัง
จะกาวขาเขาไปในเขตอาคมที่เปลงแสงสีขาวจางๆ นั้น ขางหูกลับมีเสียงถายทอดเสียง
จากคนคนหนึ่งดังขึ้น
“สหายหาน เหตุใดจะจากไปตอนนี้เลา”
น้ำเสียงที่คุนเคยดังขึ้น นั่นก็คือเสียงของชายชราแซฟู
รางของหานลี่หยุดชะงักเล็กนอย มุมปากขยับเล็กๆ ถายทอดเสียงออกไปเชนกัน
“ขานอยเปนเปานิ่งแลว หากไมรีบไป เกรงวาคงจะกอใหเกิดความวุนวายขึ้น เรื่อง
ของพี่ฟูผูแซหานจะไมลืม ถาหากมีเรื่องเรงดวนละก็ อีกสองสามปหลังจากผูแซหาน
หลอมสมบัติชิ้นหนึ่งเสร็จแลว จะมาสนทนาเรื่องนี้กับพี่ฟูเปนอยางไร?”
“เรื่องของขานอยนั้นไมจำเปนตองรีบรอนนัก ทวาพี่หานไมบอกอะไรผูแซฟูเลย
คาดไมถึงวามีสมบัติอยางเพชรกระดูกมารอยู ไมยอมเปดเผยกับขานอยเลยสักนิด
มินาเลาคนของพรรคตาขายทมิฬถึงไดอยากไลตามสหายอยางไมลดละ เอาอยางนี้ก็
แลวกัน หลังจากนี้สี่ปสหายมาพบตาเฒาที่จวนวังวนเมฆาในเขตหนานเจียงไดหรือไม
ในเวลานั้นผูแซฟูก็จะนัดหมายสหายทานอื่นๆ มาพบที่ภูเขาอสรพิษคูเชนกัน ขานอย
รับประกันไดวา ถึงแมเรื่องนี้จะตองยืมพลังของสหาย แตจะตองมีประโยชนกับพี่หาน
เปนอยางมากแนนอน” ชายชราแซฟูเอยอยางไมตองขบคิด
“สี่ป? ก็ยังทัน ถึงตอนนั้นผูแซหานจะไปตามนัด ตอนนี้ขอตัวลากอน” หานลี่
ถายทอดเสียงออกไปสองสามประโยค ไมไดรั้งรออยูที่หองโถงใหญนานนัก ก็เดินเขา
ไปในเขตอาคมตองหามเบื้องหนาอยางไมหันศีรษะกลับมาอีก
ลำแสงสีขาวสวางวาบ ชั่วขณะนั้นรางของหานลี่พลันสลายหายไปอยางไรรองรอย
หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่งกาน้ำชา หานลี่ก็กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งบิน
ออกไปจากทางเขาของงานซื้อขายแลกเปลี่ยน หลังจากหมุนวนกลางอากาศรอบหนึ่ง
ก็ตรงไปทางทิศตะวันออกอยางไมหยุดพักแมแตนอย
ในตอนที่หานลี่เพิ่งจะจากไปนั้น ในงานซื้อขายแลกเปลี่ยนก็มีผูบำเพ็ญเพียรสอง
สามคนออกไปจากที่นั่งอยางเงียบเชียบ และรีบรอนออกไปจากหองโถง
ผูบำเพ็ญเพียรที่มีความคิดอื่นๆ กำลังเสียดายตราประทับภูเขาที่กำลังถูกประมูล
อยูจริงๆ หลังจากประเมินกำไรและขาดทุนแลว สวนใหญก็ยังอยากอยูตอ
ถึงอยางไรเสียในตัวของหานลี่ก็มีสมบัติที่ล้ำคาอยางหยกเบญจธาตุอยู อีกทั้ ง
ตอนนี้ ก็ยังมีคนจอ งเขม็งอยู หากเขาไปผสมโรงอี กมั น จะไม คุม กั บ การปะทะกั บ ผู
บำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ
บินออกมารวดเดียวพันลี้ เมื่อลำแสงหลีกหนีแฉลบผานยอดเขาใกลๆ จูๆ ในราง
ของหานลี่ก็มีเสียงเพรียกของกระบี่ที่ดังราวกับมังกรคำรามดังขึ้น
หานลี่หนาเปลี่ยนสี ลำแสงหลีกหนีหยุดชะงักลงในทันใด
เขาสูดลมหายใจลึกๆ เขาไปเฮือกหนึ่ง สายตากวาดมองไปรอบๆ ราวกับใบมีด
พลันสะบัดแขนเสื้อในเวลาเดียวกัน กระบี่บินสีทองหลายสิบเลมกรูกันออกมา บิน
โคจรหมุนเวียนอยูเหนือศีรษะของเขาอยางไมแนนอน อานุภาพนาเกรงขาม
“นายท า นเผยร อ งรอยออกมาแล ว จะหลบๆ ซ อ นๆ ไปทำไม ออกมาเถิ ด ”
ดวงตาทั้งสองขางของหานลี่เปลงแสงสีฟาสวางวาบ จองเขม็งไปยังดานขางที่ไรผูคน
พลางเอยอยางเยือกเย็น
“หึ! คูควรจะเปนผูบำเพ็ญเพียรที่สังหารจิตวิญญาณหลักของขาจริงๆ ปฏิภาณ
ไหวพริบเฉียบแหลมดังคาด”
จุดที่หานลี่มองไป จูๆ พลันมีลำแสงสีดำสวางวาบ ชายหนุมที่หนาตาคลายคลึง
กับหานลี่ปรากฏตัวขึ้นตรงนั้น สวมชุดสีเขียวเชนกัน หนาตาธรรมดาๆ แคดวงตาทั้ง
สองขางของเขาเปลงแสงสีดำและมวงที่ดูแปลกประหลาดออกมา
เมื่อหานลี่เห็นคนผูนี้ ถึงแมวาจะคาดเดาเอาไวนานแลว ก็รูสึกจิตใจหนักอึ้งขึ้นมา
“เจาจริงๆ ดวย! ตามหาขาเจอไดอยางไร?” หานลี่เอยอยางเครงขรึม
“ดูแลวเจาคงจะรูวาขาคือใคร กระบี่บินของเจามีไอวิญญาณอยูเต็มเปยม คาดไม
ถึงวาจะแสดงตัวกับเจาดวยตนเอง สวนตามหาเจาไดอยางรวดเร็วขนาดนี้ไดอยางไร
ขาเองก็คาดไมถึง ดูแลวดวงของขาคงไมเลวจริงๆ”
หลังจากที่ชายหนุมพิจารณาหานลี่อยูชั่วครู ก็เอยอยางราบเรียบ
“กระบี่บินสองเลมของขาอยูกับเจา ถาหากไมรูวานายทานคือใคร เชนนั้นขานอย
ก็โงเขลาเกินไปแลว” หานลี่เอยดวยใบหนาไรความรูสึก
“ไมผิด กระบี่บินของเจาอยูที่ขา” จิตวิญญาณแยกของมารโบราณเอยอยางไมคิด
เชนกัน จากนั้นพลันเงยหนาขึ้นพรอมกับยกมือขึ้น เห็นเพียงตรงใจกลางฝามือของเขา
มีกระบี่เล็กๆ ที่เปลงแสงสีทองเรืองรองสองเลมสั่นคลอนไปมาไมหยุด พยายามจะบิน
เขามาหาหานลี่ แตก็ถูกเสนไหมสีดำหลายชั้นรัดเอาไว ไมมีทางออกจากฝามือของมาร
โบราณไดเลยแมแตนอย
หานลี่มีสีหนาเครงขรึมขึ้น
“กระบี่บินของเจาคาดไมถึงวาจะใชไผอัสนีสีทองที่มีคุณสมบัติทำลายสิ่งชั่วราย
หลอมขึ้น กระบี่บินอื่นๆ ดูแลวก็ไมตางกันนัก มีไผอัสนีจำนวนมากขนาดนี้ ชางทำให
ผูคนไมอยากจะเชื่อจริงๆ ดูแลวตอนแรกที่ อยูในหุ บ เขามารโรย จิตวิญ ญาณหลั ก
จัดการเจาไมไดและกลับตองเปนฝายเพลี้ยงพล้ำ ก็ไมใชวาจะไมมีเหตุผล
จิตวิญญาณหลักตายเพราะเจา และอาจจะทำใหขาหลีกเลี่ยงการถูกกลืนกินอีก
ครั้ง แตก็เพราะมันถูกสังหารเชนกัน ทำใหขาไมมีทางฟนฟูพลังยุทธทั้งหมดในแดน
มารไดต ลอดกาล เจาบอกมาสิวาขาควรจะขอบคุ ณ เจา หรือ วาสั งหารเจาดี ” จิ ต
วิญญาณแยกของมารโบราณเผยสีหนาอมยิ้มออกมา คาดไมถึงวาจะเอยเชนนี้ออกมา
“เจาหลบซอนตัวแลวมาปรากฏตัวที่นี่ อยาบอกนะวาแคอยากคุยเลนกับขา”
หานลี่เงียบกริบไปชั่วครู จูๆ ก็หัวเราะอยางเย็นชาออกมา
“มาคุยเลนกับเจาหรือไม ก็ตองดูทาทีของเจา ขอแคเจายอมบอกวิธีหาไผอัสนีสีทอง
จำนวนมากกับขา ก็อาจจะปลอยเจาไปได มิเชนนั้น ก็มีเพียงตองรอใหขากระชาก
ทารกวิญญาณของเจาออกมาเอง และคนวิญ ญาณแลวละ” มารโบราณกมหนาลง
เล็กนอย มองกระบี่สีทองสองเลมในมือ แลวเอยอยางราบเรียบ
หานลี่ไดฟง สีหนากลับไมเปลี่ยนแปลง แตมุมปากกับหยักขึ้นเล็กนอย จากนั้นก็
พนลมหายใจออกมาเบาๆ
“อยากฆาขา กับฆาขาไดนั้นมันคนละเรื่องกัน ขาไมอยากพูดพลามไรสาระอะไร
กับเจา และไมอยากเผยความลับอะไรดวย ขาเองก็กำลังอยากแลกเปลี่ยนกับเจาสัก
หนอยอยูพอดี ความสามารถของเจาและจิตวิญญาณหลักของเจามันเปนอยางไรกัน
แน? หากจำไมผิดละก็ ครั้งที่แลวในเทียนหนานเจาถูกทำรายจนไดรับบาดเจ็บไปไม
นอย ขาไมเชื่อวาภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงนี้ เจาจะฟนฟูพลังกลับมาไดทั้งหมด”
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง พลางเอยอยางเย็นเยียบ
ความลับของขวดเล็กๆ นั้น เขาไมมีทางจะไปขบคิดถึงขอเสนอของอีกฝาย
“ตอนแรกคิดวาจะใหเจาไดพูดอะไรสักหนอยกอนตาย ในเมื่อเจาไมยอมรวมมือ
ก็ไมจำแลว” จิตสังหารของมารโบราณพุงสูงขึ้น เอยขึ้นพรอมกับสีหนาโหดเหี้ยม ใน
เวลาเดียวกันสายตาก็เปลงแสงสีดำมวงออกมา
หานลี่ใจหายวาบ ความคิดเคลื่อนไหว ชั่วพริบตากระบี่ บินทั้ งหมดที่ อยูเหนื อ
ศีรษะพลันกลายเปนมานสีทองตานทานอยูเบื้องหนาเขา อีกมือหนึ่งพลันพลิกฝามือ
ยามเก็บอสูรวิญญาณที่บรรจุแมลงกลืนทองเอาไวปรากฏขึ้นบนมือ
ตอนที่ 959 เพลิงมารโหมกระหน่ำ
ในตอนที่หานลี่กำลังเตรียมจะประมือกับจิตวิญญาณแยกของมารโบราณ ลอง
เสี่ยงทดสอบดูวาบาดแผลของมารตนนี้ฟนฟูกลับมาไดหมดหรือยังนั้น มารโบราณ
กลับหนาเปลี่ยนสี จูๆ ก็เหลือบมองไปทางดานหลังแวบหนึ่ง

หานลี่พลันตกใจ ทันใดนั้นก็สัมผัสอะไรได ขมวดคิ้วเขาหากันเล็กนอยขณะมอง


ไปทางเดียวกัน

หลังจากผานไปชั่วครู ลำแสงวิญญาณพลันสวางวาบ ณ ขอบฟาในจุดที่อยูไกล


ออกไปนั้น สายรุงสายหนึ่งพลันปรากฏขึ้นที่เสนขอบฟา พุงตรงมาทางนี้อยางรวดเร็ว
ราวกับอัสนีบาต ความเร็วของมันทำใหหานลี่เห็นแลวรูสึกตกตะลึง และยิ่งไปกวานั้น
คาดไมถึงวาในลำแสงหลีกนี้จะมีเสียงฟารองดังออกมา

มารโบราณเปนวามีผูบำเพ็ญเพียรกำลังจะเขามา แววตาโหดเ**ยมพลันสวางวาบ
แต ก ลั บ เก็ บ สี ห น าเ**ย มเกรีย มกลั บ ไป มองไปยั งลำแสงหลี ก หนี ที่ บิ น เข ามาด ว ย
ใบหนาไรความรูสึก

ภายในระยะทางสั้นๆ ยี่สิบสามสิบลี้ สายรุงที่นาตกตะลึงก็มาถึงบริเวณใกลๆ ได


ภายในชั่วพริบตา ลำแสงวิญญาณสวางวาบ ในระยะยี่สิบสามสิบจั้งมีภิกษุที่ผมเผา
กระเซอะกระเซิงปรากฏตัวขึ้น
ภิกษุผูน้ีมีใบหนาที่เต็มไปดวยรอยยน มือขางหนึ่งถือบาตรกลมๆ สีแดงสดใบหนึ่ง
เอาไว อีกขางหนึ่งถือไมเทาสีเขียวมรกตความยาวสองสามฉื่อเอาไว เวลานี้เขามองไป
ยังหานลี่และมารโบราณที่อยูเบื้องหนาแวบหนึ่ง เมื่อเห็นทั้งสองคนมีใบหนาคลายคลึง
กัน แววตาก็อดที่จะเผยแววตกใจระคนสงสัยไมได

“ไมทราบวาทานไหนคือสหายที่เพิ่งออกมาจากการซื้อขายแลกเปลี่ยน ขานอยมี
เรื่องอยากจะปรึกษาสหายผูนั้นสักหนอย” ภิกษุกลอกตาไปมา จูๆ พลันเอยถามดวย
ใบหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม

มุมปากของหานลี่พลันกระตุก เหลือบไปมองคนผูนั้นแวบหนึ่ง ไมไดกลาวอะไร


ออกมา

ภิกษุผูนี้คือผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลาง ไมวาพลังยุทธหรือวาสมบัติที่
อยูในมือ ก็ดูเหมือนวาจะไมธรรมดา มินาเลาถึงไดกลาไลตามมาเพียงลำพัง ทวาอีก
ฝายมีเจตนาอะไรนั้น เหตุใดหานลี่จะไมรู แนนอนวาจึงครานจะไปสนใจคนผูนี้

ชั่วขณะที่ภิกษุผูนี้ก็ปรากฏตัวขึ้น ตั้งแตตนจนจบมารโบราณที่อยูดานขางกลับเอา
สองมือไพลหลังพลางแหงนหนาขึ้นมองทองฟา ไมเหลือบตามองคนผูนี้แมแตนิดเดียว
ทาทางเหมือนไมแยแส

ภิกษุเห็นพวกหานลี่ทั้งสองคนมีทาทีเชนนี้ ก็รูสึกโกรธเกรี้ยวขึ้นมา
ตองเขาใจวา ตั้งแตที่เขาบรรลุระดับกอกำเนิดแลว ก็อาศัยบาตรเพลิงโลหิตและ
ไมเทามังกรขด ทำใหผูบำเพ็ญเพียรในระดับเดียวกันที่พบเขารูสึกเกรงใจมากขึ้นเปน
พิเศษ เคยถูกคนดูถูกที่ไหนกันเลา

ทวาหานลี่และมารโบราณที่อยูเบื้องหนานั้นแยกไดอยางชัดเจนวาเปนผูบำเพ็ญ
เพี ย รระดั บ ก อ กำเนิ ด ขั้ น กลางและขั้ น ต น บวกกั บ ที่ มี ใบหน าคล า ยคลึ ง กั น เช น นี้
แนนอนวาเขาจึงคิดวาทั้งสองคนเปนพวกเดียวกัน หากปะทะกันหนึ่งตอสอง ถึงแม
เขาจะไมคิดวาตัวเองจะตองแพ แตหากสูรบกันโอกาสชนะก็มีไมมาก ดังนั้นถึงแมวาสี
หนาจะดูไมไดอยางสุดๆ แตตอนนั้นก็ทำไดเพียงฝนระงับความโกรธเกรี้ยวเอาไว ขบ
คิดแผนรายวาจะจัดการทั้งสองคนอยางไรอยางเงียบๆ

แตยังไมรอให เขาคิดแผนดีๆ ออก ลำแสงวิญ ญาณก็ สวางวาบขึ้น จากอีกดาน


จากนั้นลำแสงหลีกหนีหลากสีสันสามสายก็ปรากฏขึ้นพรอมกันจากทั้งสองทิศทาง
ตรงเขามาทางนี้พรอมกัน

ภิกษุเห็นภาพฉากนั้น ก็อดที่จะตะลึงงันไมได

เขามั่ น ใจในเคล็ ด วิ ช าหลี ก หนี ข องตั ว เองมาก ถึ ง ได ไล ต ามหานลี่ ม าได อ ย า ง
รวดเร็วขนาดนี้
สามคนที่อยูดานหลังไมรูวามีความสามารถอะไร คนมากก็ตองใชพลังมาก กลับ
ยังมาชากวาเขาเพียงเล็กนอย

ดูแลวคิดจะหุบสมบัติไปคนเดียว คงเปนไปไมไดแลว แตเมื่อคนเหลานี้มาถึง ก็ไม


ต อ งเสี่ ย งเผชิ ญ หน ากั บ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รสองคนเพี ย งลำพั ง แล ว ว ากั น ตามจุ ด นี้ ก็ ดู
เหมือนวาจะไมใชเรื่องที่เลวรายไปทั้งหมด

เมื่อขบคิดมาถึงตรงนี้ ภิกษุก็เผยสีหนาเ**ยมโหดออกมา เริ่มใชสายตาเครงขรึม


กวาดมาทางหานลี่และมารโบราณแวบหนึ่ง

ดูเหมือนวาจะสัมผัสไดถึงสายตาที่ไมเปนมิตรของภิกษุ มารโบราณที่แตเดิมแหงน
หนาขึ้นหัวเราะกับทองฟาก็กมหนาลง สายตากวาดไปยังลำแสงหลีกหนีที่กำลังเขามา
ใกลทางนี้ ใบหนาเผยสีหนาหมดความอดทนออกมา

“ยุ งยากจริ งๆ แต เดิ ม คิ ด ว าจะมี พ วกก อ กวนแค ค นเดี ย ว คิ ด ไม ถึ งว าจะมี ค น
รนหาที่ ต ายมากมายถึ งเพี ย งนี้ ในเมื่ อ เป น เช น นั้ น ก็ ส งเจาไปตายก อ นก็ แ ล ว กั น ”
หลังจากเอยอยางเย็นชาเสร็จ รางของมารโบราณก็เปลงสีดำสวางวาบ ทันใดนั้นราง
ทั้งรางพลันกลายเปนลำแสงสีดำสายหนึ่ง พุงไปยังภิกษุ

ภิกษุสะบดคำวารนหาที่ตายในใจ บาตรกลมๆ ในมือหมุนติ้วๆ อยางไมตองคิด


ชั่วขณะนั้นเปลวเพลิงสีแดงโลหิตกลุมหนึ่งก็พนออกมาจากบาตร กลายเปนมานเปลว
เพลิงขนาดใหญหอหุมภิกษุตั้งแตหัวจรดเทาเอาไว สวนอีกมือหนึ่งพลันชูขึ้น หลังจาก
ปลอ ยไมเทาสีเขียวมรกตออกจากมือ ก็ กลายเป น อสรพิ ษ สีเขียวหยกพุ งเขาไปหา
ลำแสงสีดำ

มองเห็นเพียงมังกรอสรพิษพนลมหายใจสีเขียวออกมา แลวตะปบลำแสงสีดำของ
มารโบราณอยางรุนแรง ทวาลำแสงสีดำกลับสั่นคลอนเล็กนอย และสลายหายไปในชั่ว
พริบตา

ภิกษุเองก็เปนผูที่มีประสบการณในการตอสูมากมายคนหนึ่ง เมื่อเห็นภาพฉากนี้
พลันตกตะลึง สองมือพลันรายอาคมอยางรวดเร็วอยางไมตองขบคิด อาคมสีเขียว
หลายสายโจมตีเขาไปในมานเปลวเพลิงทั้งสี่ดานอยางตอเนื่อง ชั่วขณะนั้นเปลวเพลิง
พลันขยายใหญขึ้นกลางอากาศหลายเทา ชั่วครูก็กลายเปนเปลวเพลิงสีเขียวแดง สูง
ประมาณยี่สิบสามสิบจั้ง อานุภาพดุดันจนนาหวาดกลัว

มือหนึ่งของภิกษุยังตบไปที่ยามเก็บของอยางไมยอมแพ หยิบสมบัติคุมครองกาย
อีกชิ้นหนึ่งออกมา

แตในชั่วพริบตานั้น เรื่องแปลกประหลาดก็เกิดขึ้น!
รางของภิกษุที่อยูหางออกไปดานขางสองสามจั้ง มีลำแสงสีดำสวางวาบ แขนสีดำ
มวงสองแขนยื่นออกมาอยางรวดเร็วปานสายฟา ชั่วครูก็ทะลุผานมานเปลวเพลิงไป
คาดไมถึงวาจะไมหวาดกลัวเลยแมแตนอย

“เหวอ!”

ภิกษุเห็นสถานการณเชนนั้น จิตใจพลันเย็นเยียบ ทันใดนั้นก็ตะโกนออกมาเสียง


ดังอยางไมตองคิด ริมฝปากอาออก พนลำแสงสีทองออกมา ชั่วพริบตาก็ผนึกเปนโล
ลำแสงตานทานอยูเบื้องหนา ในเวลาเดียวกันรางกายของเขาก็สั่นคลอน คิดจะหลีก
หนีไปดานขางใหไกลแสนไกล

เสียง ‘ปง’ ดังขึ้น โลลำแสงสีทองเรืองรองถูกกรงเล็บมารสองขางโจมตีจนทะลุ


ราวกับ กระดาษ ชั่ววิน าที นั้ น รางของภิ กษุ ถู กควักจุ ดตั น เถีย นจนทะลุเป น รูสองรู
พรอมกัน จากนั้นแขนมารทั้งสองก็แยกออกไปทางซายและขวาอยางโหดเ**ยม ชั่ว
ขณะนั้นรางทั้งรางถูกฉีกออกเปนสองสวน ตับไตไสพุงและหาฝนโลหิตรวงลงมาจาก
กลางอากาศ

หลังจากเสียงรองคร่ำครวญของทารกวิญญาณดังขึ้น พลันขี่อยูบนกระบี่บินสีทอง
ที่เปลงแสงสวางวาบ เคลื่อนยายจากซากศพที่แหลกละเอียดออกไปไกลยี่สิบกวาจั้ง
แตในตอนที่ลำแสงสีทองบนรางของทารกวิญญาณสวางวาบ คิดจะหนีออกไปให
ไกลกวาเดิมนั้น กลับไมมีโอกาสนั้นแลว

เสนไหมสีมวงสายหนึ่งสวางวาบจากดานหลังของทารกวิญญาณ ทารกวิญญาณ
รูสึกเพียงวาศีรษะรอนฉา อะไรสักอยางทะลุผานทายทอยมา เสียงกรีดรองแหลมสูง
ดังขึ้น ทารกวิญญาณราวกับสูญเสียกำลังทั้งหมดในทันทีอยางไรอยางนั้น ถูกเสนไหม
สีมวงกระชากกลับมาอยางไรซึ่งแรงตานทาน ชั่วครูก็จมหายเขาไปในเปลวเพลิงอยาง
ไรรองรอย

ตอนนั้นลำแสงหลีกหนีสามสายที่เพิ่งจะบินมาถึงระยะที่หางออกไปสองสามรอย
จั้ง ผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรในลำแสงหลีกหนี จึงเห็ น เหตุ การณ นี้ อ ยางชั ดเจน ชั่ วขณะนั้ น ผู
บำเพ็ ญ เพี ย รทั้ งสามคนพลั น ตกใจจนขวั ญ กระเจิ ง ไหนเลยจะกล าเข า มาใกล อี ก
หลังจากหมุนวนรอบหนึ่งแลว คาดไมถึงวาจะบินหนีกลับไปทางเดิมอยางรวดเร็วยิ่ง
กวาตอนมาเสียอีก

ทั้งสามคนลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นตน เดิมทีคิดวาทั้งสามคน
รวมมือกันจะวางแผนดีๆ ได ผลลัพธคือเมื่อเห็นผูบำเพ็ญเพียรขั้นกลางที่มีชื่อเสียง
อยางภิกษุเออรหั่ว ถูกทำลายกายเนื้ออยางโหดเ**ยมไปตอหนาตอตา ทั้งยังถูกจับ
ทารกวิญญาณ จะไมทำใหรูสึกหวาดกลัวไดอยางไร

พวกเขาจะกล า รนหาที่ ต ายเพื่ อ สมบั ติ ล้ ำ ค า อะไรได อี ก แน น อนว า จึ ง พากั น


หลบหนีไป
ชั่วพริบตา ลำแสงหลีกหนีสามสายก็สลายหายไปอยางไรรองรอย!

ขณะที่หานลี่เผชิญหนากับการสังหารที่โหดเ**ยมของมารโบราณ ก็สูดลมหายใจ
เย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง จองเขม็งไปยังเปลวเพลิงที่อยูไกลออกไป ใบหนาเครง
ขรึมสลับกับสดใสไมแนนอน

เสียงหัวเราะแปลกประหลาดอันแหลมสูงดังออกมาจากเปลวเพลิง จากนั้นชั่ว
พริบตาเปลวเพลิงทั้งหมดก็สลายหายไป รางของมารโบราณปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

หลังจากที่หานลี่มองเห็นอยางชัดเจนแลว มุมปากก็อดที่จะกระตุกไมได ใบหนา


พลันเครงขรึมขึ้น

เห็นเพียงมารโบราณในตอนนี้ กลายเปนครึ่งคนครึ่งมาร ถึงแมวาใบหนาและ


รางกายจะยังรักษารูปรางของมนุษยเอาไว แตแขนขาที่เปลือยเปลาซึ่งโผลพนออกมา
จากอาภรณสีเขียว กลับเปลี่ยนเปนสีดำมวง ขยายใหญมากกวาเดิมเกือบครึ่ง

สิ่งที่ทำใหผูคนรูสึกจิตใจหนักอึ้งมากกวาเดิมก็คือ เมื่อปากของคนผูนี้เผยอขึ้น
นอยๆ ก็แลบลิ้นยาวๆ สีมวงความยาวสองสามฉื่อออกมา โคนลิ้นกระดกขึ้น ปลายลิ้น
ทะลุผานทารกวิญญาณภิกษุที่ไมรูวาเปนหรือตายไป ดวงตาคูนั้นไรซึ่งความรูสึก กำลัง
จองเขม็งมาทางหานลี่อยางเย็นเยียบ

หานลี่ห รี่ตาทั้งสองขางลง ไมไดห ลบหลีก กลับประสานสายตากับมารตนนั้ น


อยางเงียบ

‘เจาเด็กนอยหาน เจาไมอาจพัวพันกับมารตนนี้ไดนานนัก ที่นี่อยูหางจากงานซื้อ


ขายแลกเปลี่ยนไมมาก เกรงวาอีกเดี๋ยว คงมีผูบำเพ็ญเพียรมากกวานี้มาที่นี่ ถึงตอน
นั้นเจาคิดจะหนีก็เกรงวาจะหนีไมรอดแลว’ เทพขับเคลื่อนเอยเตือนดวยความกังวลใจ

“ขารู แตเดิมคิดจะชั่งน้ำหนักความสามารถของมารตนนี้และจิตวิญญาณหลัก
แตตอนนี้ดูแลวยังไมใชเวลาที่จะประมือกับเขา มันเสี่ยงเกินไป พวกเราไปกันเถิด”
หานลี่เอยขึ้นอยางราบเรียบ จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อ กระบี่บินสีทองที่หมุนโคจรอยู
เบื้องหนาสงเสียงหึ่งๆ ออกมา แลวถูกดูดเขาไปในแขนเสื้อทั้งหมด จากนั้นก็อาปาก
ออก พนโลหิตบริสุทธิ์ออกมาสองสามครั้ง หมอกโลหิตผืนใหญหอหุมเรือนรางของ
หานลี่เอาไวในชั่วพริบตา

“คิดจะหนี ไมคิดวาสายไปหรือ” แววตาของมารโบราณเปลงแสงประหลาดที่ไม


เหมือนคนออกมา หดลิ้นกลับไป กลืนทารกวิญ ญาณเขาไปในท องภายในคำเดียว
จากนั้นรางกายพลันพลิ้วไหว หายไปจากที่เดิมอีกครั้ง
หานลี่กลับไมสนใจการเคลื่อนไหวของอีกฝาย สองมือพลันรายอาคม ทามกลาง
เสียงฟารอง จูๆ ตรงแผนหลังก็มีปกสีเงินขาวคูหนึ่งสวางวาบ รางกายเริ่มเลือนหายไป
ทามกลางหมอกโลหิต

แตแทบจะในเวลาเดียวกันนั้น เบื้องหนาของหานลี่พลันมีลำแสงสีดำสวางวาบ
เงารางที่นากลัวของมารโบราณที่แปลงกายแลวปรากฏขึ้นเบื้องหนาในพริบตา การ
เคลื่อนไหวของเขารวดเร็วกวาตอนที่ตอกรกับภิกษุผูนั้นเกือบครึ่ง เมื่อครูนั้นไมไดใช
กำลังเต็มอัตราเลย

หานลี่ที่แตเดิมเยือกเย็นเปนพิเศษ หนาเปลี่ยนสี รองวาซวยแลวในใจออกมา

มารโบราณเผยสี ห น า ยิ้ ม เยาะออกมา อ า ปากออก คิ ด จะแลบบลิ้ น สี ม ว ง


ประหลาดๆ นั้นออกมาจากปาก สังหารหานลี่ทิ้งทามกลางหมอกโลหิต

แต ในตอนนั้ น เอง ในหั วของมารโบราณกลั บ มี เสี ย งหึ อ ย างเย็น ชาอย างหาใด
เปรียบดังขึ้น เสียงนี้ ราวกับ กรวยที่ ไรรูป ราง ถึ งแม วาจิตสัม ผัสของมารโบราณจะ
แข็งแกรงเปนอยางมาก ก็ยังรูสึกเจ็บปวดรวดราวในศีรษะ จนคำรามออกมาเบาๆ
การเคลื่อนไหวหยุดชะงักลง

และในตอนนั้นเอง หานลี่ที่อยูในหมอกโลหิตก็เปลงแสงสวางวาบ กลายเปนเงา


โลหิตสายหนึ่งพุงออกไป และสลายหายไปตรงขอบฟาภายในชั่วอึดใจ
มารโบราณพลันตกตะลึง รีบแผจิตสัมผัสออกไปอยางรวดเร็ว แตในระยะรอยลี้ที่
เพิ่งสัมผัสหานลี่ไดนั้น หลังจากที่หานลี่ใชโลหิตหลีกหนีอีกครั้ง ก็รอดพนจากขอจำกัด
ของจิตสัมผัสเขาไปได

ชั่วขณะนั้นมารโบราณพลันตะลึงงันอยูที่เดิม

“เงาลวงตาหลีก หนี นั่ น ไม ใช เคล็ ด วิช าลั บ ของเจามารป ก เหล็ ก หรือ เหตุ ใดผู
บำเพ็ญเพียรในแดนมนุษยถึงสำแดงเคล็ดวิชานี้ออกมาได ยุงยากไปหนอยแลว ไมสิ
เหมือนจะไมคอยเหมือนกันนัก!” เขาเอยพึมพำ เผยสีหนาขบคิดออกมา!

แตในตอนนั้นเอง ก็มีลำแสงวิญญาณสวางวาบขึ้นกลางอากาศ ทันใดนั้นลำแสง


หลีกหนีหลากสีสันหกเจ็ดสีก็ปรากฏขึ้นพรอมกัน และตรงมาทางนี้

มารโบราณชักสีหนา ไดสติจากภวังคแหงการครุนคิด สายตาเย็นชากวาดไปยัง


กลุมผูบำเพ็ญเพียรที่อยูใกลๆ ใบหนาโหดเ**ยมฉายแวบผานไป

“มาพอดี ทารกวิญ ญาณที่กลืนกินเขาไปสองสามปกอนหลอมหมดเกลี้ยงแลว


พอดี ตอนนี้ไดกลืนกินไปอีกกลุม คิดดูแลวอีกสองสามปใหหลังบาดแผลคงหายเปน
ปกติ” มารโบราณเอยพึมพำกับตัวเองอยางเครงขรึม ทันใดนั้นก็สูดลมหายใจเขาไป
ลึกๆ เฮือ กหนึ่ ง ชั่วขณะนั้ น ไอมารสีดำม วงผืน ใหญ ก็ไหลทะลักออกมาจากในราง
หลังจากผานไปชั่วครูก็หอหุมรางของเขาเอาไวจนมิดชิด

จากนั้นก็คำรามดวยเสียงแหลมสูงออกมา ไอมารหมุนวนอยางบาคลั่ง รางมาร


ยักษสองหัวสี่แขนปรากฏขึ้นกลางไอมาร ดวงตาปศาจสีดำมวงทั้งสี่ขางจองเขม็งไปยัง
ลำแสงหลีกหนีที่กำลังบินเขามาเหลานั้นอยางไรซึ่งความรูสึก
ตอนที่ 960 สำนักยันตสวรรค
เขตหัวอวิ๋นคือเขตที่ติดกับมหาสมุท ร ตั้งอยูท างทิศตะวันออกของตาจิ้น เป น
เมืองที่ถูกสรางขึ้นติดทะเล และผูบำเพ็ญเพียรจากนอกมหาสมุทรจำนวนมาก มักจะ
เขาออกที่ยานรานคาริมทะเลของเขตนี้ นำวัตถุดิบอสูรปศาจตางๆ มาแลกเปลี่ยนกับ
ทรัพยากรบนแผนดินใหญ ดังนั้นธุระกิจของยานรานคาในเขตนี้จึงรุงเรืองมาเนิ่นนาน
แลว สำนักผูดูแลยานรานคาตางๆ ก็ร่ำรวยอูฟู มีศิลาวิญญาณจำนวนมากเขามาใน
สำนักไมขาดสาย

แมแตยานรานคาเล็กๆ ที่อยูคอนขางไกล ขอแคตั้งอยูบนพื้นดิน ก็มีรายไดไม


ธรรมดาเชนกัน

เมืองไคเจียงคือเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยูหางจากมหาสมุทรไมถึงสองรอยลี้ และหาง


จากเมืองแหงนี้ไปสองสามลี้ก็มีภูเขาเล็กๆ ลูกหนึ่งตั้งอยู ภูเขาลูกนี้มีความสูงเพียงสอง
สามรอยจั้ง กินอาณาเขตพื้นที่แคสิบกวาลี้ ชีพจรวิญญาณก็เล็กสั้นและย่ำแย แมแต
ตระกูลผูบำเพ็ญเพียรตระกูลใหญๆ หนอยก็ยังไมเห็นภูเขาลูกนี้อยูในสายตา

แตภูเขาเล็กๆ ลูกนี้ที่พอจะเรียกไดวาเปนภูเขาวิญญาณนั้น กลับมีสำนักผูบำเพ็ญ


เพียรเล็กๆ แหงหนึ่งอยาง ‘สำนักยันตสวรรค’ ตั้งอยู สำนักแหงนี้แทบจะเปนสำนักที่
อยูในระดับที่ต่ำที่สุด แมแตอาวุโสเจาสำนักกับลูกศิษยภายในสำนักก็ยังมีไมถึงรอยคน
ดังนั้นถึงแมวาชีพจรวิญญาณจะเล็ก ก็ยังพอรองรับลูกศิษยในสำนักนี้ไหว
ทวาอยามองวาสำนักยันตสวรรคตกต่ำถึงเพียงนั้น แตก็นับวามีตนกำเนิดมาอยาง
ยาวนาน

ถึงแมวาจะไมเหมือนสำนักมหาเอกหรือพรรคตาขายทมิฬที่มีการสืบทอดพรรค
ตอๆ กันมาตั้งแตสมัยโบราณ แตสองสามหมื่นปกอน อรหันตที่กอตั้งสำนักนี้ขึ้นมาก็
เคยสรางสามยอดยันตลับที่มีอานุภาพสั่นสะเทือนทั้งตาจิ้นขึ้นมา แมกระทั่งเกือบจะ
ทำใหสำนักในตอนนั้นติดอันดับหนึ่งในสิบสำนักที่ยิ่งใหญ สำนักนี้เองก็มีลูกศิษยอยู
หลายหมื่นคน เคยมีอำนาจในเขตนี้

แตประสบความสำเร็จก็เพราะยันตวิเศษ และลมจมก็เพราะยันตวิเศษ! ถึงแมวา


สำนั ก ยัน ตส วรรค จ ะมี ทั กษะในเรื่อ งยั น ต วิเศษ แต เคล็ ด วิช าหลั ก ที่ ฝก ฝนนั้ น กลั บ
ธรรมดาทั่วไป ดังนั้นหลังจากผานมาอีกสองสามรุน สำนักนี้ก็ลมจมลงอยางรวดเร็ว
หลังจากผานมาสองสามหมื่นปจนถึงทุกวันนี้ สำนักยันตวิเศษก็ทำไดเพียงอาศัยเคล็ด
วิชาลับเฉพาะดานยันตวิเศษสืบทอดตอๆ กันมาอยางถูๆ ไถๆ เทานั้น

สำนั ก ที่ ต กต่ ำ ลงขนาดนี้ นอกจากผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รของสำนั ก อื่ น ที่ ต กอยู ใ น
สถานการณเดียวกันแลว ก็ไมคอยมีผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงมาที่นี่ ลูกศิษยที่รับหนาที่
เขาเวรของสำนักยันตสวรรคในทุกวันนั้นจึงวางอยางสุดๆ ปกติแลวถาไมนั่งบำเพ็ญ
เพียร ก็จะพูดคุยเลนกัน

แตวันนี้ ลูกศิษยระดับฝกปราณที่เขาเวรอยูหนาประตูสองคนกลับทอดถอนใจ
ออกมาพรอมกัน ทาทางดูหดหู
“ศิษยพี่หลี่ขอรับ ยานรานคากำลังจะปดตัวลงแลวจริงๆ หรือ? ถึงแมวาขาจะเขา
มาในสำนักไดไมนาน แตก็รูวารายไดจากยานรานคาซานหยวนแทบจะกินจำนวน
ครึ่งหนึ่งของสำนักเรา ไมมีศิลาวิญญาณกองนี้ วันขางหนาเราจะยิ่งประคับประคอง
สำนักตอไปไดยากแลว” ลูกศิษยชายคนหนึ่งที่มีหนาตาหมดจดอายุประมาณสิบหก
สิบเจ็ดป พึมพำเอยถามอีกคน

“ปดตัวหรือไม ไหนเลยจะใหสำนักเราเปนคนตัดสิน? สองสามวันกอน สำนักหงส


วิญญาณไดยื่นคำขาดกับเจาสำนักแลว หากยานรานคานี้ไมรวมเขาดวยกันกับพวกเขา
ก็ตองปดตัวลงภายในสามเดือน รังแกคนที่ออนแอกวาชัดๆ!” ชายหนุมอายุยี่สิบสี่
ยี่สิบหาปอีกคนหนึ่ง รางกายอวบอวนเล็กๆ เอยอยางจนปญญาออกมา

“รวมยานรานคาเขาดวยกัน ดูเหมือนวาจะฟงดูไมเลวนี่ขอรับ?” ลูกศิษยที่ออน


วัยกวาพลันตกตะลึงขึ้นมา

“ไมเลวอะไรกัน? ขาไดยินทานอาจารยลุงทานหนึ่งกลาววา หลังจากรวมยาน


รานคาแลวพวกเราก็ไมอาจสอดมือเขาไปยุงธุรกิจใดๆ ในยานรานคาได สำนักหงส
วิญญาณจะมอบศิลาวิญญาณใหพวกเราปละพันกอนเทานั้น ศิลาวิญญาณแคนี้จะไป
ทำอะไรได แมแตหนึ่งในสามของรายไดเดิมของพวกเรายังไมถึงเลย” หลังจากที่ชาย
หนุมสงเสียงเหอะๆ สองสามครั้งออกมา ก็เอยอยางโกรธแคน
“ใหนอยขนาดนั้น สำนักของเราจะตอบรับพวกเขาไดอยางไร ตอใหสำนักหงส
วิญญาณจะยิ่งใหญขนาดไหน ภูเขาแสงทองและหุบเขาตะวันกระจางจะเห็นดวยได
อยางไร ยานรานคาซานหยวนเปนสิ่งที่สองสำนักนั้นและสำนักยันตสวรรคของพวก
เราจัดการดูแลรวมกัน หากพวกเราสามสำนักรวมมือกันละก็ ไมจำเปนตองหวาดกลัว
สำนักหงสวิญญาณขนาดนั้นกระมัง” ลูกศิษยผูออนวัยกลอกตาไปมา แลวเอยอยาง
รูสึกไมแนใจ

“เหอะ แคสำนักหงสวิญญาณ สำนักของเราไมจำเปนตองหวาดกลัวขนาดนั้น แต


ขาไดยินวามาผูที่จัดการเรื่องนี้ ดูเหมือนวาจะมีเงาของพรรคเก็บตะวันอยูเบื้องหลัง
นั่นคือสำนักระดับกลางของแท ไมใชสิ่งที่สำนักเล็กๆ อยางพวกเราจะตานทานไหว
วัน นี้ ท านเจ าสำนั ก ได เชิ ญ เจ าสำนั ก ที่ เหลื อ ทั้ งสองขึ้ น ไปบนภู เขา จะต อ งปรึ ก ษา
แผนการกันเปนแน สถานการณของสำนักนี้ก็ไมไดแข็งแกรงไปกวาสำนักยันตสวรรค
ของพวกเราเทาใดนัก ไมอาจยอมปลอยรายไดจากยานรานคาไปงายๆ” ชายหนุมเอย
ปากอธิบาย

“พรรคเก็บตะวัน? นี่…นี่ไมใชพรรคที่สำนักยันตสวรรคของพวกเราจะไปลวงเกิน
ได ดูแลวครั้งนี้สำนักของเราจะตองผานไปอยางยากลำบากแน” ลูกศิษยผูออนเยาว
ไดยินชื่อของพรรคเก็บตะวัน ก็รูสึกทอใจขึ้นมา

ถาหากรายไดในสำนักลดลง ศิลาวิญญาณที่ลูกศิษยอยางพวกเขาจะไดรับในทุกๆ
ป ก็จะลดลงเปนอยางมากเชนกัน
“ชางเถิด เรื่องนี้ไมใชสิ่งที่ลูกศิษยระดับต่ำอยางพวกเราสอดมือเขาไปยุงได ทุก
อยางตองใหเจาสำนักและเหลาอาวุโสจัดการเถิด ถึงอยางไรเสียตอใหสำนักของเราไม
ดีขนาดไหน ก็ดีกวาเปนผูบำเพ็ญ เพียรสันโดษมากนัก พวกเรารักษาการณ ที่ประตู
เมืองดีๆ เถิด อยาคุยเรื่องนี้เลย มิเชนนั้นหากถูกทานอาจารยลุงพบเขา แลวหักศิลา
วิญญาณเรา…เอ นั่นคืออะไร?” ชายหนุมถอนหายใจออกมา ราวกับเขาใจเรื่องนี้ แต
หลังจากที่เสมองไปบนทองฟานั้น จูๆ ก็พลันตกตะลึง

ลูกศิษยผูเยาววัยไดยิน ก็มองไปทางนั้นอยางอึ้งๆ เห็นเพียงไกลออกไปมีลำแสง


วิญญาณสวางวาบที่ขอบฟา จากนั้นสายรุงสีเขียวยาวสองสามจั้งสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
กลางอากาศ พุงตรงมาหาพวกเขา

“นั่นมันทานอาวุโสทานไหน ดูเหมือนวาจะกำลังตรงมาหาพวกเรา!” สายรุงสี


เขียวเบื้องหนารวดเร็วอยางนาอัศจรรย ชั่วพริบตาก็อยูไมไกลจากที่นี่ ลูกศิษยวัยเยาว
รองอุทานออกมาดวยความตกตะลึง ถึงแมวาเขาจะเขาสำนักมาไมนาน แตลำแสง
หลีกหนีที่นาตกตะลึงขนาดนี้ไมใชสิ่งที่ทานอาจารยลุงระดับสรางปราณสองสามทาน
ในสำนักสามารถทำไดแน แนนอนวาจึงรูสึกไมสบายใจขึ้นมา

“ไมรู บางทีอาจจะมาหาทานอาจารยลุงกระมัง” ชายหนุ มเองก็ตกใจเชนกัน


และทำไดเพียงเอยอยางปลอบใจตัวเองเทานั้น

หลังจากที่สายรุงสีเขียวบินมาใกลๆ ภูเขาไผขาว ก็ดูเหมือนวาจะมองเห็นลูกศิษย


สองคนของสำนักยันตวิเศษอยูลิบๆ ลำแสงหลีกหนีสวางวาบ สายรุงสีเขียวรอนลงมา
เมื่อลำแสงเจิดจาหมนแสงลง เบื้องหนาของทั้งสองหางออกไปสองสามจั้งก็มีชายหนุม
สวมชุดคลุมสีเขียวอายุยี่สิบกวาปปรากฏขึ้น เขายืนเอามือไพลหลังพลางเสมองมาทาง
นี้

“ที่นี่คือสำนักยันตสวรรคแหงภูเขาไผขาวใชหรือไม?” ชายหนุมหนาตาธรรมดา
แตทาทางไมธรรมดา เหลือบมองประตูเขตหวงหามรางๆ ดานหลังทั้งสองคนแวบหนึ่ง
แลวเอยถามอยางราบเรียบ นั่นก็คือหานลี่ที่หายไปจากงานซื้อขายแลกเปลี่ยน ตอนนี้
ผานมาสี่เดือนแลว หลังจากที่หนีรอดพนเงื้อมมือของมารโบราณมา

“ที่นี่คือภูเขาไผขาว ทานอาวุโสมีธุระอันใดใหชนรุนหลังรับใชหรือไมขอรับ?”
ถึงแมวาลูกศิษยสองคนนี้จะมีพลังยุทธตื้นเขิน ดูไมออกวาพลังยุทธที่แทจริงของหานลี่
อยูขั้นไหน แตก็ตัดสินไดในชั่วพริบตาวา ผูบำเพ็ ญ เพียรที่อยูเบื้องหนาจะตองเปน
อาวุโสชนชั้นสูงระดับหลอมรวมขึ้นไปแน หลังจากมองสบตากันแวบหนึ่งแลว ชาย
หนุมก็รีบรอนกันทำความเคารพแลวเอยขึ้น

“ไมไดมาผิดที่ก็พอ ขาเอาของสิ่งหนึ่งที่มีตนกำเนิดจากสำนักของเจามา ตองการ


พบเจาสำนักของเจา พวกเจาไปรายงานเถิด” หานลี่พยักหนา เอยอยางราบเรียบ

“ขอรับ ทานอาวุโสโปรดรอสักครู” ชายหนุมควักยันตถายทอดเสียงออกมาแผน


หนึ่งอยางมือไมพันกัน หลังจากเอยอะไรออกไปสองสามประโยค ก็โยนยันตถายทอด
เสียงไปทางดานหลังทันที
ชั่วขณะนั้นยันตวิเศษพลันกลายเปนเพลิงลำแสงสายหนึ่ง สวางวาบแลวจมหาย
เขาไปในเขตอาคมอยางไรรองรอย

สวนหานลี่ที่ดูเหมือนอยูที่เดิมไมขยับเขยื้อน แตภายใตสีหนาราบเรียบนั้น ก็ใชจิต


สัมผัสกวาดเขาไปในภูเขาเล็กๆ ลูกนี้ ถึงแมวาจะมีเขตอาคมหวงหามกั้นอยูชั้นหนึ่ง
แตหานลี่ก็ยังคงสัมผัสทุกอยางๆ อยางคราวๆ ได

ผลลัพธคือเขาขมวดคิ้วเขาหากันเล็กนอย

ถึงแมวากอนหนาที่ จะมา ก็รูอยูแลววาสำนั กยัน ต สวรรคจะต องไม ใหญ โตนั ก


อยางแนนอน แตสำนักผูบำเพ็ญเพียรสำนักหนึ่งมีคนอยูรอยกวาคน สัมผัสไดเพียง
กลิ่นอายของผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมขั้นตนคนหนึ่งที่อยูบนภูเขาเทานั้น ดูแลว
สำนักนี้คงเหมือนกับที่ชายชราแซอวิ๋นในอเวจีทมิฬกลาวเอาไว เปนแคสำนักเล็กๆ ที่
ไมโดงดังอะไรจริงๆ

ครั้งนี้ ถาหากไมใชเพราะอสรพิษรายสองสามตัวปรากฏตัวที่เขตหัวอวิ๋น และเขา


ก็เรียนรูวิธีเขียนยันตลดวิญญาณมา ก็คงไมมีทางมาที่แหงนี้

หลังจากผานไปชั่วครู ดานหลังของลูกศิษยที่รักษาการณอยูก็มีลำแสงสีเหลือง
สวางวาบขึ้น จากนั้นประตูภูเขาสูงสิบกวาจั้งก็ปรากฏขึ้น
และดานในประตูก็มีผูบำเพ็ญเพียรอยูสองสามคน เดินเคียงไหลกันออกมา

ยิ่งผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้นเขามาใกลลูกศิษยทั้งสองมากเทาไหร สายตาที่มองมา
ทางหานลี่ ก็แทบจะเปลี่ยนสีไปพรอมๆ กัน ชายชราสวมชุดผาไหมสีเหลืองคนหนึ่ง
รีบรอนชิงทำความเคารพหานลี่กอนคนแรก แลวเอยอยางนอบนอมวา

“ชนรุนหลังของเจาสำนักยันตสวรรคเยวเจิน ไมทราบวาทานอาวุโสใหเกียรติมา
ที่สำนักของพวกเรา จึงไมไดออกไปตอนรับ หวังวาทานอาวุโสจะไมถือสา!”

คนผู นี้ มี พ ลั งยุ ท ธอ ยู ในระดั บ สรางปราณ ถึ งแม วาจะไม มี ท างมองพลั งยุ ท ธที่
แทจริงของหานลี่ออกเชนกัน แตในฐานะที่เปนเจาสำนัก แนนอนวาประสบการณที่
ประสบพบพานมาจึงมี ม ากกวาที่ ลู ก ศิ ษ ย ทั้ งสองจะเที ย บเที ย มได ทั้ งยั งเคยพบผู
บำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ ก อ กำเนิ ด มาสองสามครั้ ง ดั ง นั้ น จึ ง สั ม ผั ส ได ถึ ง กลิ่ น อายอั น
แข็งแกรงบนตัวของหานลี่ และอดที่จะรูสึกหวาดกลัวไมได

ผูบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกรงทั่วๆ ไป เกรงวาแคชี้นิ้วก็สามารถสังหารสำนักเล็กๆ
อยางพวกเขาไดแลว ถึงตอนนั้นสำนักยันตสวรรคของพวกเขาจะประสบความสำเร็จ
หรือหายนะก็ยากจะคาดเดาแลว!
แตเดิมที่ไดรับยันตถายทอดเสียง เขาก็นึกวาเปนแคผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอม
รวมคนหนึ่งเทานั้น เพื่อปองกันสิ่งที่คาดไมถึง จึงสั่งคนใหไปเรียกอาวุโสคนเดียวใน
สำนักออกมาตอนรับ ทานอาจารยลุงระดับหลอมรวมผูนั้น แตตอนนี้ดูแลว คงเปน
การสอนจระเขวายน้ำแลว

“หึ! พวกเจาไมตองลนลาน ขามาที่นี่เพราะไดรับฝากฝงเอาไวก็เทานั้น ไมไดมี


เจตนาราย” หานลี่ เห็ น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รเหล านี้ มี ท าที ร อ นรนไม ส บายใจ ก็ อ ดที่ จ ะ
หัวเราะออกมาไมได

“ไดรับ ฝากฝง? ชนรุน หลังเลอะเลื อนแล ว ทวาที่ นี่ ไม ใชที่ ที่ จะพู ดคุ ยกั น ท าน
อาวุโสเขาไปนั่งในภูเขา แลวคอยคุยรายละเอียดกันก็ยังไมสายนะขอรับ” เยวเจินได
ยินแลวจิตใจพลันผอนคลายลง จากนั้นก็เชิญหานลี่ขึ้นไปบนภูเขาดวยใจที่เตนระรัว

“ขึ้นภูเขา อืม เอาเถิด เรื่องนี้ไมใชสิ่งที่อธิบายเพียงไมกี่ประโยคแลวจะเขาใจ


จริงๆ” หานลี่ขบคิดเล็กนอย แลวพยักหนาเห็นดวย

“เชิ ญ อาวุ โสเข า ไปข า งในขอรั บ ” เย ว เจิ น รู สึ ก ดี อ กดี ใจ รี บ ร อ นเบี่ ย งกายไป
ดานขาง เชิญหานลี่เขาไปกอน เปนการแสดงความเคารพนับถือ

หานลี่เองก็ไมเกรงใจ สาวเทาเดินเขาไปในประตูภูเขา
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ตางก็มีสีหนาเคารพนอบนอม เดินตามมาขางหลังอยาง
เชื่อฟง

ภู เขาไผขาวไม ใหญ นั ก ดั งนั้ น สิ่ งปลูกสรางบนยอดเขาจึงไม ม ากนั ก นอกจาก


ตำหนักหลังหนึ่งและหอคอยตางๆ แลว ก็มีเพียงสถานที่ฝกบำเพ็ญเพียรของลูกศิษย
ทั้งหมด จากนั้นหานลี่ก็ถูกผูดูแลสำนักยันตสวรรคเชิญเขาไปในตำหนัก

สิ่งที่ทำใหหานลี่ตกตะลึงก็คือ ในตำหนักยังมีผูบำเพ็ญเพียรสองคนที่ไมไดสวม
อาภรณของสำนักยันตสวรรคนั่งอยู

เมื่อทั้งสองคนเห็นหานลี่ ชั่วขณะนั้ น ก็กระโจนขึ้น มาจากเกาอี้ ดวยควาวมตื่ น


ตระหนก รีบรอนเขามาคารวะหานลี่

หานลี่โบกมือไปมา สวนคนก็นั่งลงบนเกาอี้ตัวหนึ่งอยางไมเกรงใจ

แตผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ตางก็ไมกลานั่งลง ทำไดเพียงยืนรออยูดานขาง เยวเจิน


ผูนั้นจึงเอยกับผูบำเพ็ญเพียรสองคนจากสำนักอื่นดวยความรูสึกเสียใจวา
“สหายทั้งสอง เวลานี้มีแขกผูสูงศักดิ์มาหา ดูแลวเรื่องนั้นคงตองคุยกันอีกครั้งใน
วันหลังแลว”

“แหะๆ ยินดีตอนรับทานอาวุโส แนนอนวาสหายควรจะอยูเปนเพื่อนกอน”

“ใชแลว เชนนั้นขากับพี่หลูตองขอตัวกอน”

ผูบำเพ็ญเพียรสองคนนี้รีบรอนแสดงทาทีวาเขาอกเขาใจ และเผยสีหนาอิจฉาเปน
พิเศษออกมา จากนั้นทั้งสองคนก็คารวะหานลี่อีกครั้ง แลวถอยออกไปจากตำหนัก

แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ลำแสงวิญญาณภายนอกพลันสวางวาบ ลำแสงสีขาว


สายหนึ่งพุงหายเขาไปในตำหนัก ชายชราสวมชุดสีขาวคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นทามกลาง
ลำแสงนั้น

เยวเจินและผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ เห็นเชนนั้น ก็เผยสีหนาดีอกดีใจออกมาพลาง


ทยอยกันประสานมือคารวะเอยทักทาย ‘ทานอาจารยอาเวิน’ ‘ทานอาจารยลุงเวิน’
ตอนที่ 961 ศิษยหลานหลี่
สายตาของชายชราพลันตกกระทบลงบนรางของหานลี่ ชั่วขณะนั้นใบหนาที่เต็ม
ไปดวยกลามเนื้อพลันกระตุก รีบรอนประสานมือคารวะพลางเอยวา

“ชนรุนหลังไดยินจากศิษยหลานวามีชนชั้นสูงมาเยือนสำนักเรา คิดไมถึงวาจะ
เปนทานอาวุโสผูอยูในระดับกอกำเนิด ไมไดออกมาตอนรับ ชางเปนการเสียมารยาท
จริงๆ”

อาวุโสเพียงผูเดียวของสำนักยันตสวรรคผูนี้ มีใบหนาเคารพนอบนอม

เยวเจินและผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณคนอื่นๆ ไดยินอาวุโสแซเวินเอยเชนนี้
ก็พากันตกใจจนขวัญกระเจิง ความสงสัยสุดทายมลายหายไป ใชสายตาที่เคารพนบ
นอบมากยิ่งขึ้นมองมาทางหานลี่

ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด สำหรับสำนักยันตสวรรคในเวลานี้ ชางเปนสิ่งที่


สูงสงจนไมอาจปนขึ้นไปถึงไดจริงๆ

“ขาก็แคไดรับฝากฝง ใหนำของสิ่งนี้มาสงเทานั้น ไมจำเปนตองกังวลขนาดนั้น”


หานลี่หยุดชะงักคำพูดดวยสีหนาไมเปลี่ยนแปลง แลวเอยขึ้นอยางราบเรียบ
“สิ่ งนี้ อ ยู กั บ ข ามาหลายป แ ล ว ตอนนี้ บั งเอิ ญ มี ธุร ะต อ งมาจั ด การที่ เขตหั วอวิ๋
นพอดี แนนอนวาจึงเอาของสิ่งนี้กลับมาคืน ของสิ่งนี้ เปนสิ่งที่เจาสำนักของเจามอบ
ให”

พูดไปพลาง หานลี่ก็ใชมือหนึ่งตบไปที่เอว กลองกระดูกสี่เหลี่ยมใบหนึ่งปรากฏ


ขึ้นในมือ วางลงบนโตะเบื้องหนาอยางสบายๆ

ชายชราแซเวินไดยินแลวพลันตกตะลึง แตทันใดนั้นก็หันหนาไปเอยอยางรูจัก
วางตัววา

“ศิษยหลานเยวเจาก็ไดยินที่ทานอาวุโสกลาวแลว เขามาดูเร็วเขาวาทานอาวุโส
เอาอะไรมาดวย ถาหากเปนของที่สูญ หายไปจากสำนั กเราจริงๆ พวกเราก็จำตอง
ขอขอบคุณทานอาวุโสอีกครั้ง”

“ขอรับ ทานอาจารยลุง” เยวเจินตอบรับดวยความนอบนอม จากนั้นก็สาวเทา


กาวมาขางหนาสองสามกาว สองมือหยิบกลองกระดูกใบนั้นขึ้นมา และเปดออกดวย
ความอยากรูอยากเห็น ภายในกลองมีตัวอักษรเล็กๆ ที่สลักลงบนแผนกระดูกปรากฏ
ขึ้นในครรลองสายตา

“นี่คือ?” เยวเจินหยิบกลองนั้นขึ้นมาดวยฉงนสงสัย พลางพิจารณาอยางละเอียด


หานลี่ก็ไดแตยิ้มไมไดกลาวอะไรออกมา

“ยันตลดวิญญาณ นี่คือวิธีเขียนยันตลดวิญญาณ เปนลายมือของทานอาจารยลุ


งอวิ๋น!” มองเพียงชั่วครู เยวเจินก็รองอุทานดวยความตกตะลึงระคนดีใจออกมา

“ศิษยพี่อวิ๋น? เจาไมไดมองผิดไปนะ” หลังจากที่ชายชราแซเวินตกตะลึง ก็มีสี


หนาเครงขรึมขึ้น

“ไม ผิ ด แน น อน ตอนนี้ ในห อ งหนั ง สื อ ของเจ า สำนั ก ยั ง แขวนคั ม ภี ร ข องท า น


อาจารยลุงอวิ๋นเอาไว ขาพบเห็นทุกวัน จะจำผิดไดอยางไร” เยวเจินเอยอยางไมตอง
ขบคิด

ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือเองก็มีสีหนาตกตะลึง

“ใชแลว ของชิ้นนี้คือสิ่งที่สหายอวิ๋นใหขานำมาสงใหจริงๆ ยันตลดวิญญาณหนึ่ง


ในสามสุดยอดยันตลับของสำนักเจา ไมผิดหรอก” หานลี่เอยอยางไมคิดเชนนั้น
“แนนอนวาไมผิด เพียงแตทานอาวุโสไดพบศิษยพี่อวิ๋นตอนไหนหรือ ตอนนั้นขา
ยังไมไดผนึกจิตวิญญาณสีทอง ศิษยพี่ก็ออกไปทำธุระที่นอกมหาสมุทร จูๆ ก็หายตัว
ไปอยางไรรองรอย ชั่วพริบตาก็ไมมีขาวคราวมายี่สิบสามสิบปแลว คงไมไดเกิดเรื่อง
อะไรกับศิษยพี่อวิ๋นหรอกนะ” ชายชราแซเวินเอยถามอยางเปนกังวล

“นาจะไมเปนไร ความจริงแลวเรื่องที่ขาและเจาสำนักของเจาไดพบกันนั้นเปน
เรื่ อ งบั ง เอิ ญ เรื่ อ งหนึ่ ง ยี่ สิ บ สามสิ บ ป ก อ น ข า บั ง เอิ ญ ประสบเคราะห ร า ยเฉก
เชนเดียวกับเจาสำนักของเจา ตอนนั้นขา…” หานลี่เลาเรื่องหมอกปศาจและอเวจี
ทมิฬอยางคราวๆ ใหฟงรอบหนึ่ง แนนอนวาสิ่งที่เกี่ยวกับตัวเองและอสูรอเวจีทมิฬนั้น
ไมไดแพรงพรายออกไปงายๆ จึงเอยอยางคราวๆ ไป ไมไดเอยถึงอะไรมากนัก

“คาดไมถึงวาในใตหลานี้จะมีสถานที่ที่อันตรายเชนนั้น ชางยากที่จะจินตนาการ
ไดจริงๆ มินาเลาตั้งแตหลายปกอนเปนตนมา บางครั้งจึงมีผูบำเพ็ญเพียรหายตัวไป
จากชายทะเลอยางแปลกประหลาด ที่แทก็เปนเพราะหมอกปศาจนี่เอง” ชายชราแซ
เวินไดฟงเรื่องที่วาในอเวจีทมิฬไมอาจใชลมปราณได ก็สูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไป
เฮือกหนึ่ง

“ใชแลว ผูแซหานเองก็เสียแรงมหาศาลไปถึงสามารถหนีออกมาได ของที่อยูใน


กลอ งนี้ คือ ของที่ เจาสำนั กของเจาฝากให ขาเอามาคื น สำนั กเจาหากมี โอกาส ทวา
ขานอยรูสึกสนใจการเขียนยันตมาก จึงศึกษาวิธีการเขียนยันตลดวิญญาณไปเล็กนอย
เหลาสหายคงไมถือสากระมัง” แววตาของหานลี่เปลงประกาย พลางเอยพรอมกับ
หัวเราะนอยๆ
“ทานอาวุโสเอาวิธีเขียนยันตลดวิญญาณมาคืนสำนักเรา ก็เปนบุญคุณอันใหญ
หลวงแลว พวกเราจะมีความคิดโงเขลาไดอยางไร ถึงแมจะบอกวาวิธีการเขียนยันตลด
วิญญาณจะมีเพียงทานเจาสำนักที่เรียนรูได แตถาหากทานอาวุโสไมเอาของมาคืน
แมแตเคล็ดวิชาลับก็คงหายสาบสูญ ไป แนนอนวาจึงไมจำเปนตองพูดถึงกฎเกณฑ
อะไร” ชายชราแซเวินเอยดวยสีหนานอบนอม

เยวเจินเองก็เอยวาเห็นดวยอยูขางๆ อยางตอเนื่องเชนกัน

“เหลาสหายใจกวางถึงเพียงนี้ ผูแซหานชักจะสนใจแลวสิ ทวาของก็นำมาสงแลว


ขานอยก็นับวาไดทำตามประสงคแลว เชนนั้นขอตัวลากอน” หานลี่พยักหนาอยางพึง
พอใจ ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นยืน

“บุญคุณที่ทานอาวุโสนำของมาสงพวกเรายังมิไดตอบแทนเลย เชนนั้นมิสูพักอยู
ที่ ส ำนั กเราสั กสองวัน เพื่ อ ให ส ำนั กของเขาได ต อ นรับ ในฐานะเจาบ านสั กหน อ ย”
ถึงแมวาชายชราแซเวินจะรูสึกดีใจที่ไดยันตลดวิญญาณกลับมา แตสิ่งที่สำคัญที่สุด
กลั บ เป น ชนชั้ น สู งที่ มี ค วามสั ม พั น ธ กั น ในเรื่ อ งยั น ต ล ดวิ ญ ญาณ จึ งเอ ย ปากอย าง
ลุกลี้ลุกลน

ไมตองพูดถึงเรื่องอื่น ขอแคมีคนรูวาสำนักของพวกเขาคบคากับผูบำเพ็ญเพียร
ระดับกอกำเนิดคนหนึ่ง เกรงวาตำแหนงของสำนักยันตสวรรคคงเพิ่มขึ้นจากสำนัก
เล็กๆ กลายเปนสำนักระดับกลางอยางรวดเร็ว แมกระทั่งปญหาที่กำลังประสบอยู ก็
อาจจะแกไขไดอยางไมตองหวง
“อยูอีกเดี๋ยว!” หานลี่หยักมุมปากขึ้น เผยทาทีอมยิ้มออกมา

“ทานอาวุโสหานไมไดสนใจยันตวิเศษหรือ สำนักของขาไมตองพูดถึงสิ่งอื่น แต


ศึกษาดานการเขียนยันตอยูเปนแนแท ลูกศิษยในสำนักก็รวบรวมคัมภีรเกี่ยวกับการ
เขียนยันตตางๆ เอาไวจำนวนมาก ถาหากทานอาวุโสไมรังเกียจละก็ ไปดูไดนะขอรับ
จะไดชี้แนะชนรุนหลังอยางพวกเราดวย” เยวเจินกลอกตาไปมา จูๆ ก็เอยปากเชนนี้
ออกมา

“คั ม ภี รก ารเขี ย นยั น ต !” หานลี่ ได ยิ น แล วพลั น ตกตะลึ ง ขบคิ ด เล็ ก น อ ย แล ว
ใจเตนระรัว

หลังจากที่ชายชราแซเวินนิ่งอึ้ง ก็พยักหนาเห็นดวยอยางตอเนื่อง

“เอาเถิด ขานอยสนในการเขียนยันตจริงๆอยูที่สำนักทานอีกสองสามวันก็แลว
กัน” ตั้งแตที่หานลี่เรียนยันตลดวิญญาณแลว ก็รูสึกสนใจเคล็ดวิชาลับดานการเขียน
ยันตเปนอยางมาก หลังจากขบคิดแลว ในที่สุดก็พยักหนา
“เยี่ยมจริงๆ เลย! ชางเปนเกียรติจริงๆ ที่ทานอาวุโสยอมพักอยูในสำนักของเรา
ทานอาวุโสจะพักผอนกอนหรือไมขอรับ พรุงนี้คอย…” ชายชราแซเวิงมีใบหนายินดี
พลางเอยอยางระมัดระวัง

“ไมตองหรอก ตอนนี้พาขาไปที่หอคัมภีรเถิด” หานลี่สั่นศีรษะ จากพลังยุทธของ


เขาในตอนนี้ ขอแค นั่ ง พั ก สั ก นิ ด ตอนที่ อ า นหนั ง สื อ ก็ ฟ น ฟู พ ลั ง ยุ ท ธ ที่ สู ญ เสี ย ไป
ระหวางทางไดแลว

“ขอรับ ศิษยหลานหยางพาทานอาวุโสหานไปที่หอคัมภีรสิ หากทานอาวุโสออก


คำสั่งอะไร ตองทำใหทานพึงพอใจทั้งหมด” ชายชราแซเวินมีสีหนายินดี พลางออก
คำสั่งกับผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนคนหนึ่ง

“ขอรับ ทานอาจารยลุงเวิน ทานอาวุโสหาน เชิญตามขานอยมาขอรับ” ผูบำเพ็ญ


เพียรวัยกลางคน เอยตอบรับอยางนอบนอมเปนพิเศษ

หานลี่พลันพยักหนา จากนั้นก็เดินตามคนผูนั้นออกไปจากตำหนัก

“คิดไมถึงจริงๆ วาศิษยพี่อวิ๋นจะถูกขังอยูในสถานที่บาๆ นั่น มินาเลาะ ตอนนั้น


จึงหายสาบสูญไปอยางแปลกประหลาด ไดเคล็ดวิชาลับยันตลดวิญญาณของสำนักเรา
กลับคืนมา ก็นับวาเปนโชคดีอีกเรื่องหนึ่งของสำนักเรา” ชายชราแซเวินรอจนหานลี่
ออกไปจากตำหนักอยูชั่วครู แลวถึงไดถอนหายใจออกมาพลางเอยขึ้น
“ทวาถาหากพวกเราถือโอกาสนี้คบคาสมาคมกับทานอาวุโสหานผูนี้ไดจริงๆ และ
ปลอยขาวลือออกไป จะตองมีประโยชนตอสำนักเราอยางแนนอน ไมตองพูดถึงเรื่อง
อื่น อยางนอยที่สุดก็นาจะแกไขปญหาเรื่องยานรานคาได” ผูบำเพ็ญเพียรอีกคนหนึ่งที่
ตั้งแตตนจนจบไมเคยเอยปาก ก็เอยขึ้นอยางเชื่องชา

“มีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดคนหนึ่งเปนที่พึ่ง สำนักหงสวิญญาณจะตองถอย
รนไปแน ตอใหเปนพรรคเก็บตะวันก็ไมมีทางทำใหผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดไม
พอใจเพียงเพราะยานรานคาเล็กๆ แน แตเมื่อครูที่ฟงจากน้ำเสียงของทานอาวุโสหาน
แลว ดูเหมือนวาความสัมพันธของเขากับศิษยพี่อวิ๋นที่อเวจีทมิฬจะธรรมดาๆ จาก
ฐานะของอีกฝาย เขาจะชวยพวกเราโดยเปลาประโยชน ได อยางไร ตอให พ วกเรา
อยากมอบสมบัติเพื่อดึงเขาเอาไว ในสำนักของเราก็ไมมีสิ่งของใดๆ ที่เขาตาอาวุโส
หาน แตถาหากพลาดโอกาสนี้ไป ก็นาเสียดายเกินไปแลว” เยวเจินกลับเอยพึมพำ
พรอมกับหัวเราะอยางขมขื่นออกมา

“เรื่องนี้ยุงยากหนอยจริงๆ” อาวุโสแซเวินเองก็ขมวดคิ้วขณะเอย

ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นในตำหนักตางก็มองสบตากันแวบหนึ่ง แลวเผยสีหนากลุมใจ
ออกมาเชนกัน

และในตอนนั้น หานลี่ก็เดินตามผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนมาถึงหอคอยที่ไมสะดุด
ตาแหงหนึ่ง
หอคอยนี้แบงออกเปนสามชั้น ถูกปกคลุมไปดวยเขตอาคมตองหามสีเขียวออน
ชั้นหนึ่ง เมื่อหานลี่ตามผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนเขาไปในชั้นหนึ่งแลว ดานในก็มีชาย
ชราคนหนึ่งกำลังกมหนานั่งสมาธิอยูบนเตียง ในมือกุมคัมภีรมวนหนึ่งเอาไว ราวกับวา
กำลังสำรวจเนื้อหาในคัมภีร

“ศิษยหลานหลี่ มาพบทานอาวุโสหานหนอยซิ” ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนเลือก


ตามองชายชราแวบหนึ่ง แลวออกคำสั่งอยางไมเกรงใจทันที ในเวลาเดียวกันก็หันกาย
ไปอธิบายกับหานลี่ดวยทาทีนอบนอมวา

“ศิษยหลานหลี่มีหนาที่ดูแลหอคอยคัมภีรโดยเฉพาะ รูจักคัมภีรในหอคอยนี้เปน
อยางดี” ครานี้ชายชราผูนั้นดูเหมือนวาจะถูกเสียงของผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนทำให
ตื่นจากภวังค จึงรีบรอนเก็บคัมภีร แลวกระโดดขึ้นมาในทันที พลางวิ่งเขามา

“ที่แทก็ทานอาจารยลุงหยางนี่เอง ศิษยหลานไมไดออกไปตอนรับ หวังวาทาน


อาจารยลุงจะไมถือสา ทานนี้คือทาน... ทานอาวุโสหาน!” ชายชรามีใบหนาที่เต็มไป
ดวยริ้วรอย ดวงตาทั้งสองเล็กบาง แววตาฉายแววปลิ้น ปลอน พลางสงยิ้มมาให ผู
บำเพ็ญเพียรวัยกลางคนอยางขอโทษขอโพย แตเมื่อเขาเหลือบมามองหานลี่แวบหนึ่ง
ชั่วพริบตานั้นน้ำเสียงก็สั่นคลอน ชั่วขณะนั้นใบหนาพลันแข็งคาง

“ศิษยหลานหลี่?”
หลังจากที่หานลี่เห็นใบหนาของชายชราอยางชัดเจนแลว ดวงตาทั้งสองขางก็เต็ม
ไปดวยความตกตะลึง สีหนาแปลกประหลาด

“ทานอาวุโสรูจักศิษยผูนี้หรือ?” ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนรูสึกประหลาดใจ จึง


อดที่จะเอยถามขึ้นมาไมได

“ไมมีอะไรหรอก สหายผูนี้หนาตาเหมือนกับคนรูจักในอดีตของผูแซหาน แตเมื่อ


พิจารณาอยางละเอียดแลว กลับไมใช ดูแลวผูแซหานคงจำคนผิดไป” สีหนาแปลก
ประหลาดของหานลี่หายวับไปอยางรวดเร็ว พลางเอยขึ้นพรอมกับหัวเราะเบาๆ

“แหะๆ ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง เชนนั้นทานอาวุโสหานก็ฝกบำเพ็ญเพียรอยูที่นี่ก็


แล วกั น ศิ ษ ย ห ลานหลี่ เจ าไม ต อ งดู แ ลที่ นี่ แ ล ว ตามข าออกมาเถิ ด ” แน น อนวาผู
บำเพ็ญ เพียรวัยกลางคนไมเชื่อคำพูดนี้ แตก็ไมกลาซักถามอะไรมาก จึงหันหนาไป
ออกคำสั่งกับ ‘ศิษยหลานหลี่’

“ขอรับ ศิษยหลานจะ...”
“ไมตอง ในเมื่อสหายผูนี้รูจักคัมภีรในหอคอยนี้เปนอยางดี ขาก็จะขอยืมแรงเขา
สักหนอย ใหเขาอยูที่นี่กับขาซักสองสามวันวันเถิด” จูๆ หานลี่พลันเอยเกิดขึ้นพรอม
กับหัวเราะเบาๆ ในเวลาเดียวกันก็เหลือบมองชายชราแวบหนึ่งดวยสายตามีเลศนัย

“เอ อ … ในเมื่ อ ท านอาวุโสสั่งเช น นี้ ชนรุน หลั งก็ น อ มรับ คำบั ญ ชาขอรับ ศิ ษ ย
หลานหลี่ โอกาสของเจาแลว ตองเชื่อฟงคำสั่งของทานอาวุโสหานนะ” ถึงแมวาผู
บำเพ็ญเพียรวัยกลางคนจะรูสึกสงสัยกับทาทีที่ทั้งสองแสดงออกมาเมื่อครู แต ‘ศิษย
หลานหลี่’ ผูนี้มีโอกาสไดอยูกับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดคนหนึ่งสองสามวันตาม
ลำพัง ก็ทำใหเขารูสึกอิจฉาจริงๆ ไมตองพูดถึงเรื่องอื่น แคชี้แนะเล็กๆ นอยๆ ก็อาจจะ
ทำใหผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำอยางพวกเขาไดรับประโยชนอยางไมมีที่สิ้นสุดแลว

ทวาเห็นไดชัดวาคำพูดของหานลี่มีเจตนาสงแขก เขาจึงไมกลารั้งรออยูที่นี่อีก
หลังจากออกคำสั่งกับชายชราอีกเล็กนอย ก็ถอยออกไปดวยความคลางแคลงใจ

เมื่อหานลี่เห็นเงารางของผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนหายลับไปจากหอคอยแลว ก็
หันหนาไปเหลือบตามองชายชรา เผยรอยยิ้มมีเลศนัยจางๆ ออกมา
ตอนที่ 962 ขาวลือระดับเทพแปลง
“ไมทราบวาขาควรจะเรียกทานวาศิษยพี่เซี่ยง หรือวาควรจะเรียกทานวาศิษยพี่หลี่
ดี?” หลังจากที่พิจารณาชายชราอยางละเอียดรอบหนึ่ ง จูๆ หานลี่ก็เอยขึ้นพรอม
รอยยิ้มเบิกบาน
“ท านอาวุโสหานพู ด อะไรกั น ชนรุ น หลั งไม ค อ ยเข าใจนั ก หรื อ ว าชนรุ น หลั ง
หนาตาเหมือนใครบางคนที่ทานอาวุโสรูจัก” หลังจากที่ชายชรากลอกตาไปมาสอง
สามครั้ง สีหนาแปลกประหลาดแตเดิมก็หายไป คาดไมถึงวาจะเอยพรอมกับหัวเราะ
อยางขอโทษออกมา
“เรื่องมาถึงขนาดนี้แลว ศิษยพี่เซี่ยงยังจะปกปดอีก ทานอยาลืมนะวาผูบำเพ็ญ
เพียรอยางพวกเราแคเคยพบกันครั้งหนึ่งก็จดจำไดอยางไมลืมเลือน ตอนนั้นในเขต
แดนทดสอบโลหิตตองหาม ลูกศิษยที่ประสบความสำเร็จของหุบเขาใบเฟงเหลืองมีแค
พวกเราไมกี่คน ถึงแมวาเรื่องจะผานมาหลายปแลว ขานอยจะจำคนผิดไดอยางไร”
หานลี่ขมวดคิ้ว ดวงตาทั้งสองขางหรี่ลงขณะเอย
ชายชราผูนี้คาดไมถึงวาจะเปนผูที่เคยอยูกลุมเดียวกันกับหานลี่ในการทดสอบ
โลหิตตอ งห าม นามวาอาวุโสเซี่ยงจือหลี่ ตอนนั้ น คนผูนี้ มี พ ลังยุท ธอ ยูในระดั บฝ ก
ปราณขั้นที่สิบ สุดทายก็ออกมาจากการทดสอบโลหิ ตได เคยทำให ผูบำเพ็ ญ เพี ยร
จำนวนไมนอยในที่นั้นตกตะลึง แตแคตอมาหานลี่นั้นแสดงออกไดอยางนาตกตะลึงยิ่ง
กวา จึงทำใหทุกคนมองขามคนผูนี้ไป
ตอนนั้นถึงแมวาหานลี่จะไมไดรูจักมักจี่อะไรกับศิษยพี่เซี่ยงผูนี้ แตตอนนั้นที่เห็น
คนผูนี้ออกมาจากเขตแดนตองหามได ก็รูสึกระมัดระวังตัวเปนอยางมาก และสัมผัสได
รางๆ วาในตัวของคนผูนี้มีความลับอะไรซอนอยู
ตอมาเมื่อหานลี่บรรลุระดับสรางปราณ และถูกรับเขาเปนลูกศิษยของหลี่หัวหยวน ก็
ไมเคยพบหนากับชายชราผูนี้อีก จึงคอยๆ ลืมคนผูนี้ไป หลังจากที่หกพรรคมารเขามา
รุกรานแควนเยวนั้น ก็ยังไมรูวาคนผูนี้เปนหรือตาย
แตสิ่งที่ เขาคิ ด ไมถึงก็คื อ เรื่อ งราวผ านมานานขนาดนี้ จะมาพบกัน อี กครั้งใน
สำนักเล็กๆ ของตาจิ้น หานลี่จะไมรูสึกตกตะลึงอยางมากไดอยางไร
ตองเขาใจวา ตอนนั้นที่ชายชราปรากฏตัวที่หุบเขาใบเฟงเหลืองก็มีอายุอานาม
ขนาดนั้นแลว ผานมาหลายปขนาดนี้ ไมตองพูดถึงวาอีกฝายเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับ
ฝกปราณ ตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณก็คงหมดอายุขัยกลายเปนเถาธุลี
ไปนานแลว แตตอนนี้ดูแลว คนผูนี้มีหนาตาเหมือนศิษยพี่เซี่ยง ที่เหมือนกับสองรอย
กวาปกอนอยางไรอยางนั้น นี่จึงทำใหหานลี่รูสึกใจหายวาบ อยางนอยที่สุด ในการ
ทดสอบโลหิตตอนนั้น คนผูนี้ก็คงเปนพยัคฆที่สวมบทเปนหมู แตไมรูวาแอบปะปนเขา
ไปในนั้นเพราะมีเจตนาอะไร
หานลี่ ม องชายชราตาไม ก ะพริ บ ในหั ว มี ค วามคิ ด ต างๆ และผ านไปมาอย าง
รวดเร็วไมหยุด
“ในใตห ลานี้ มีเรื่อ งแปลกพิ สดารมากมาย ดู แ ล วในใต ห ล านี้ ค งมี ค นที่ ห น าตา
เหมือนชนรุนหลังทุกกระเบียดนิ้ว ทวาทานอาวุโสจำคนผิดแลว ชนรุนหลังแซหลี่ไมได
แซเซี่ยง มิเชนนั้น ถาหากมีความสัมพันธกับคนที่มีฐานะเหมือนทานอาวุโสจริงๆ ชน
รุนหลังจะไมยอมรับทำไม” ชายชรายังคงปฏิเสธวาไมใชตัวเอง ไมมีทาทีจะปริปาก
เลยสักนิด
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม แววตาประหลาดใจแวบผานไป
“ในเมื่อสหายกลาวเชนนี้ ผูแซหานก็อาจจะจำคนผิดไปจริงๆ ชางเถิด! สหาย
แนะนำคัมภีรเขียนยันตใหขาสักหนอยเถิด” หานลี่เงียบกริบไปชั่วครู คาดไมถึงวาสี
หนาจะผอนคลายลงพลางเปลี่ยนหัวขอบทสนทนา
“แหะๆ เชิญทานโปรดตามชนรุนหลังมาขอรับ ในเมื่อสำนักของขามีชื่อวาสำนัก
ยั น ต ส วรรค แน น อนว าต อ งมี คั ม ภี ร ก ารเขี ย นยั น ต ส ะสมอยู ไม น อ ย และคั ม ภี ร ที่
คอนขางลึกซึ้งจะอยูบนชั้นสอง ชนรุนหลังจะแนะนำใหทานอาวุโสเอง” ใบหนาของ
ชายชรายังมีรอยยิ้มประดับอยูไมเปลี่ยนแปลง จากนั้นก็นำหานลี่ขึ้นไปที่ช้ันสองอยาง
นอบนอมราวกับเปนเพียงลูกศิษยระดับต่ำธรรมดาๆ คนหนึ่ง
ชั้น สองและชั้น หนึ่ งตกแต งคอ นข างคล ายกั น เป น สถานที่ ที่ ใหญ นั กและมี ชั้ น
หนังสือเรียงรายกันอยูมากมาย
ตอนที่หานลี่รีบกวาดตามองไปรอบๆ รางของชายชราก็แวบหายไปอยางตอเนื่อง
อยามองวาเขามีทาทางอายุที่ไมนอย แตการเคลื่อนไหวคลองแคลวและปราด
เปรียว กะพริบวาบไปทางซายทีทางขวาที ยกมือหยิบคัมภีรเลมเล็กๆ ที่คุนเคยออกมา
จากนั้นก็หอบมาตรงหนาของหานลี่รวดเดียวอยางเหนื่อยหอบ เอยดวยทาทีเอาใจสี
หนาประจบสอพลอวา
“ทานอาวุโส นี่คือคัมภีรการเขียนยันตที่ถูกเก็บสะสมเอาไวในชั้นนี้ ชั้นสามก็ยังมี
อีก นิ ด หน อ ย ชนรุน หลังจะไปเอามาให ท านอาวุโสขอรับ ท านอาวุโสจะได ไม ต อ ง
เสียเวลาไปหา”
“ไมตองยุงยากขนาดนั้น คัมภีรพวกนี้ก็เพียงพอจะใหอานวันสองวันแลว คัมภีร
ของชั้นสาม เก็บไวใหผูแซหานไปดูเองเถอะ สหายไมจำเปนตองอยูที่นี่แลว เจาไปทำ
อะไรก็ทำเถิด” หานลี่ลูบคางไปมา พลางเอยดวยรอยยิ้มเบิกบาน
“เชนนั้นชนรุนหลังไมรบกวนการฝกบำเพ็ญเพียรของทานอาวุโสแลวขอรับ ถา
หากทานอาวุโสอยากสั่งการอะไร ก็เรียกชนรุนหลังไดทันทีนะขอรับ ชนรุนหลังจะรอ
อยูที่ชั้นลาง” ชราชราเอยพรอมกับรอยยิ้ม จากนั้นก็วางคัมภีรในมือลงบนชั้นวาง
ใกลๆ แลวคอยถอยออกไปจากชั้นสองอยางระมัดระวัง
มองเงารางของชายชราที่หายลับไป รอยยิ้มบนใบหนาของหานลี่คอยๆ หุบลง
กลับเผยทาทีเครงขรึมออกมา
“เปนอยางไรบาง ทานอาวุโสเทพขับเคลื่อนมองพลังยุทธของคนผูนั้นออกหรือไม?
เมื่อครูขาใชจิตสัมผัสฝนกวาดไปที่รางของคนผูนั้น ถึงแมวาจะมองออกวาพลังยุทธ
เปลือกนอกระดับฝกปราณของคนผูนี้ คือเคล็ดวิชาลวงตา แตกลับมองพลังยุท ธที่
แทจริงไมออก พลังยุทธจอมปลอมชั้นนั้น ทำใหรางกายวางเปลา นาประหลาดจริงๆ”
‘ขาก็เหมือนกัน ถึงแมวาจิตสัมผัสจะแข็งแกรงกวาเจาเปนอยางมาก แตกลับพบ
สถานการณเดียวกับเจาเลย’ เทพขับเคลื่อนสงเสียงที่เครงขรึมกลับมา
“เหตุใดถึงเกิดสถานการณเชนนี้ได หรือวาจิตสัมผัสของคนผูนั้นจะแข็งแกรงกวา
ทานอาวุโสเปนอยางมาก” หานลี่รูสึกตื่นตระหนก
‘แลวจะมีเรื่องเชนนี้เกิดขึ้นไมไดหรืออยางไรกันละ ในใตหลานี้ตอใหมีผูบำเพ็ญเพียรที่
มีจิตสัมผัสแข็งแกรงกวาขาอยูจริงๆ ก็ไมมีทางแข็งแกรงถึงขั้นนั้น อาศัยแคความคิดก็
สามารถปดบังการคนหาของขาไดแลว สถานการณเชนนี้ที่เคยเกิดขึ้น ไมนาแปลกใจ
เลยหากคนผูนั้นไมฝกฝนเคล็ดวิชาลับอะไรสักอยาง ก็คงมีสมบัติวิเศษที่สามารถลวง
ตาได และอาจจะเปนไปไดอีกอยางหนึ่ง ก็คือ...’ เทพขับเคลื่อนเอยไปพลางก็รูสึก
ลังเลขึ้นมา
“ก็คืออะไรหรือ?” หานลี่อดที่จะซักถามไมได
‘มีโอกาสเปนไปไดอีกอยางหนึ่ง ก็คือคนผูนี้บรรลุระดับเทพแปลงแลว ลมปราณ
ทั้งรางจึงแผออกมาที่กลามเนื้อ แมแตทารกวิญญาณก็ยังทำใหไรรูปรางไปไดภายใน
ระยะเวลาสั้นๆ แนนอนวาเจาไมมีทางพบความผิดปกติอะไรไดแน’ เทพขับเคลื่อน
คอยๆ เอยขึ้น
“ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง ทานอาวุโสไมไดลอเลนหรอกกระมัง” ถึงแมวา
หานลี่จะเยือกเย็นขนาดไหน เมื่อไดยินคำนี้ก็ยังตกใจจนหนาถอดสี
‘ถึงแมวาขาจะไมเคยบรรลุระดับเทพแปลง แตก็เคยศึกษาสิ่งที่เกี่ยวของกับระดับ
นี้มา ความสามารถเชนนี้เปนเพียงความสามารถขั้นพื้นฐานที่สุดของผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลง’ เทพขับเคลื่อนเอยอยางราบเรียบ
“ขาไมไดหมายความวาผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงไมมีความสามารถเชนนี้
แตผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงจะลงมาอยูบนโลกทำไม ไมไดบอกวาหลังจากบรรลุ
ระดับเทพแปลงแลวจะขึ้นไปอยูแดนวิญ ญาณไดหรอกหรือ?” หลังจากที่หานลี่สูด
หายใจลึกๆ เขาไปเฮือกหนึ่ง ในที่สุดก็เยือกเย็นลง
‘ถึงแมวาตอนนั้ น ขาจะท อ งเที่ ยวไปทั่ วยุท ธภพ แต ก็ไม เคยพบผูบ ำเพ็ ญ เพี ย ร
ระดับเทพแปลงสักคน แตสามารถรับรองไดวาในใตหลานี้มีผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพ
แปลงอยูจริงๆ และไมใชแคคนสองคน การมีพลังขึ้นไปแดนวิญญาณไดกับการขึ้นไป
ไดจริงๆ นั้นมันคนละเรื่องกัน สถานการณที่เปนรูปธรรมขาก็ไมแนใจนัก แตหลังจาก
ที่บรรลุระดับเทพแปลงแลว คนเหลานี้ไมเหมือนกับผูบำเพ็ญเพียรทั่วๆ ไป ที่มักจะ
เปดเผยนี้ตัวตอสาธารณชน มิเชนนั้นจะประสบกับหายนะ’ เทพขับเคลื่อนเอยอยาง
ฉงนสนเทห
“มีเรื่องเชนนี้ดวย! ทานอาวุโส ทานไมเคยเอยเรื่องนี้กับขามากอนเลย”หานลี่
พลันตกตะลึง
‘หึ เจายังไมบรรลุระดับกอกำเนิดขั้นปลายเลยดวยซ้ำ เรื่องเหลานี้บอกเจาไปจะ
มีประโยชนอะไร เหตุผลหลักๆ นั้นก็เพราะวาหลังจากเจาบรรลุระดับเทพแปลงแลว
ก็จะเขาใจเอง มิเชนนั้นคงไมไดอยูตั้งแตอดีตจนมาถึงปจจุบันหรอก ผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลงทั้งหมดตาง ก็เหมือนกับทำสัญญากันเอาไว ทั้งหมดจึงหายตัวไปใน
โลกของผูบำเพ็ญเพียร’ เทพขับเคลื่อนเอยอยางไมสบอารมณนัก
“นั่นมันก็ใช เชนนั้นผูที่อยูชนชั้นลางก็มีโอกาสจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพ
แปลงหรือ?” หานลี่หัวเราะอยางขมขื่นออกมา
‘ก็ อ าจจะเป น ไปได ต อ ให ไม ใช ร ะดั บ เทพแปลง คนผู นี้ ก็ ม อบความรู สึ ก น า
หวาดกลัวใหแกขา ขาวาเจาอยาไปลวงเกินเขาจะดีกวา’
“ทานอาวุโสเองก็รูสึกวาคนพวกนี้อันตรายสินะ ขานึกวาตัวเองคิดไปเองเสียอีก
ดังนั้นเมื่อครูตอนที่อยูชั้นหนึ่ง ถึงไดเปลี่ยนเรื่อง ในเมื่อคนผูนี้วิ่งไปถึงเทียนหนาน
แลวมาปรากฏตัวในตาจิ้น แถมยังใชฐานะลูกศิษยระดับต่ำ ดูแลวจะตองมีจุดประสงค
แน พวกเราทำเปนไมรูเรื่องจะดีกวา” หลังจากที่หานลี่ขบคิดแลวก็เอยขึ้น
‘ก็คงทำไดเพียงเทานี้ ทวาหากเปนไปได รีบออกจากสำนักยันตสวรรคใหไวที่สุด
จะดีกวา หากคนผูนั้นคือผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงจริงๆ แลวคิดจะสังหารคนปด
ปาก ชีวิตนอยๆ ของเจาก็ตกอยูในอันตรายแลว’ เทพขับเคลื่อนเอยเตือน
“ขารูผลไดผลเสียของมันอยูแลว ทวาหากรีบจากไปตอนนี้ เกรงวาจะเปนการยั่ว
ใหอีกฝายรูสึกเปนปฏิปกษ และทำใหเรื่องแยลง ขาวาอยูที่สำนักยันตสวรรคตามแผน
เดิมสักสองสามวันจะดีกวา ในเมื่อเขายอมฝงชื่อแซตัวเองหลบซอนตัวอยูที่นี่ ตอให
เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงจริงๆ ก็คงมีขอจำกัดอะไรสักอยางเหมือนที่ทาน
อาวุโสกลาว มิเชนนั้นจะหลบๆ ซอนๆ อยูที่นี่ทำไม จากพลังยุทธระดับเทพแปลง ใน
ใตหลานี้มีสถานที่ใดบางที่ไมอาจกาวเดินไดอยางองอาจ” หานลี่สั่นศีรษะอยางสงบ
‘เจาก็พูดมีเหตุผล ตาเฒาเองที่ขบคิดไมรอบคอบ’ เทพขับเคลื่อนหัวเราะแหงๆ
ออกมา เอยชื่นชมอยางหาไดยากออกมาประโยคหนึ่ง
‘ทวา สองสามวันที่ผานมานี้ เจาก็ฟนฟูโลหิตบริสุทธิ์ที่เสียหายไปจากการใชโลหิต
หลีกหนีไดพอสมควรแลว เริ่มหลอมหุนเชิดของตาเฒาไดแลวกระมัง’
เทพขับเคลื่อนเปลี่ยนหัวขอบทสนทนา พลางเอยอยางเฝารอ
“อืม ทานอาวุโสไมพูด ขาก็เตรียมวาหลังจากสังหารมังกรวารีชั่วรายสองสามตัว
นั่นแลวจะเริ่มหลอมหุนเชิดทันที ถึงอยางไรเสียเกล็ดของมังกรวารีเพลิงสีชาดนั่น ก็
จำตองไดมากอนแลวคอยวากัน สวนขนหงสดำนั่น กลับไมตองรีบรอน หลังจากหลอม
หุนเชิดเสร็จคอยจัดการเรื่องนี้” หานลี่ดูเหมือนวาจะมีแผนการอยูในใจตั้งนานแลว
จึงเอยออกมาอยางไมตองคิด
‘ฮาๆ! เชนนั้นก็ได กอนถึงชวงเวลาที่จำกัดของตาเฒา ไดเห็นหุนเชิด ก็นับวาไมมี
อะไรใหเสียใจแลว’ เทพขับเคลื่อนไดยินคำพูดนี้ ก็หัวเราะออกมาเสียงดังดวยความ
พึงพอใจ
หานลี่ไดยินแลวพลันหัวเราะนอยๆ ออกมา ไมไดกลาวอะไรอีก แตกลับสะบัด
แขนเสื้อ
ธงอาคมสองสามดามพุงออกมาจากแขนเสื้อ หลังจากหมุนวนรอบหนึ่งก็กระจาย
ออกไปทั้งสี่ทิศ ลำแสงสวางวาบ ธงอาคมทั้งหมดก็สลายหายไป เขตอาคมสีเขียวออน
ปรากฏขึ้นกลางอากาศ หอหุมทั้งหอคอยหลังหนึ่งเอาไวภายใน
ถึงแมวาในใจจะรูสึกวาอีกฝายไมอาจลงมือกับเขาในทันที แตเพื่อความรอบคอบ
เขาวางเขตอาคมปกปองเอาไวกอนดีกวาแลวคอยวากัน
หลังจากทำทุกอยางเสร็จแลว หานลี่ถึงไดเดินออกไปสองกาวอยางวางใจ หยิบ
คัมภีรที่เซี่ยงจือหลี่วางไวบนชั้นวางของออกมามวนหนึ่ง แผจิตสัมผัสเขาไปอานดู
เนื้อหาดานใน
ตอนที่ 963 ยันตลับกับมังกรวารีชั่วรายระดับแปด
หานลี่อยูในหอคัมภีรของสำนักยันตสวรรคสามวันสามคืน อานคัมภีรที่เกี่ยวของ
กับการเขียนยันตทั้งหมดไปหนึ่งรอบ ในนั้นมีเคล็ดวิชาลับของการเขียนยันตที่เปน
เอกลักษณอยูไมนอยจริงๆ เขาจึงคัดลอกสิ่งเหลานี้ไวชุดหนึ่งอยางไมเกรงใจ เพื่อจะได
ศึกษาอยางละเอียดอีกครั้งในยามวาง
และยิ่งไปกวานั้นหานลี่ยังเขาใจยันตลับอีกสองชนิดของสำนักยันตสวรรคจากใน
คัมภีรเหลานี้ ผลลัพธคือทำใหเขารูสึกตื่นตกใจ
ยันตแปลงวิญญาณ คือการนำยันตวิเศษใสเขาไปในรางกายโดยเฉพาะชนิดหนึ่ง
และฝกฝนมันในจุดตันเถียนทั้งวันทั้งคืน หลังจากนั้นก็จะใชยันตไดอยางไมมีที่สิ้นสุด
ยันตวิเศษชนิดนี้มีลักษณะคลายๆ กับสมบัติอาคม ถาหากฝกฝนถึงระดับหนึ่ง ก็ไม
จำเปนตองใชมือเทาทั้งสี่มาแบกรับการแวงกัดของเคล็ดวิชา
‘ยันตเกราะสวรรคหกชั้น’ เปนสิ่งที่ยืมพลังของยันตวิเศษมาผนึกไอวิญญาณฟาดินที่
อยูใกลๆ จนกลายเปนเคล็ดวิชาลับเกราะปองกันหกชั้น ขอแคมีไอวิญญาณฟาดินอยู
ตลอด เกราะปองกันหกชั้นก็จะสรางขึ้นใหมอยางตอเนื่องไมหยุด เปนหนึ่งในเขตวิชา
ลับที่ใชวิญ ญาณฟาดินเพียงไมกี่ชนิดโดยที่ไมตองมีพ ลังยุทธอยูในระดับเทพแปลง
นับเปนสิ่งที่นาตื่นตะลึง
ยันตแปลงวิญญาณหนึ่งในสามสุดยอดยันตลับ ขอแคบรรลุระดับหลอมรวมขึ้นไป
ก็สามารถใชเพลิงจิต วิญ ญาณหลอมรวมฝ กฝนได แ ล ว ดั งนั้ น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
หลอมรวมในอดีตของสำนักยันตสวรรคจึงจำเปนตองมีความสามารถนี้ ทวาอานุภาพ
ของยันตแปลงวิญญาณจะมากหรือนอย นอกจากตองดูพลังยุทธของผูบำเพ็ญเพียรที่
ฝกฝนยันตวิเศษชนิดนี้และระยะเวลาในการฝกฝนแลว ยังตองดูวัตถุดิบที่ใชเขียนยันต
และระดับของเจาของดวย
แตยันตเกราะสวรรคหกชั้นนั้นไมเหมือนกัน ขอแคเขียนออกมาได ไมวาผูใดก็
สามารถใชได และประสิทธิภาพของมันจะมากหรือนอย ก็ถูกกำหนดดวยไอวิญญาณ
ฟาดิน ไอวิญญาณยิ่งหนาแนนเทาไหร อานุภาพของยันตก็ยิ่งนาตื่นตะลึงขึ้นเทานั้น
แตตามบันทึกของอาวุโสสำนักยันตสวรรคในอดีตนั้น เคล็ดวิชายันตเกราะสวรรค
หกชั้นไดหายไปอยางลึกลับ ตั้งแตที่อรหันตยันตสวรรคละสังขารแลว นี้จึงทำใหผู
บำเพ็ญเพียรของสำนักยันตสวรรคในตอนนั้นตื่นตระหนก ตอมาชนชั้นสูงของสำนัก
ยันตสวรรคในรุนตอๆ มา ก็มองวาการตามหาเคล็ดวิชาลับนั้นกลับมาเปนสิ่งที่สำคัญ
ที่สุดของสำนัก แตกลับไมพบรองรอยเลยแมแตนอย ไมเคยไดอะไรกลับมา หลังจากที่
สำนักยันตสวรรคตกต่ำลง แนนอนวาจึงไมมีกำลังจะคนหาตอไปอีก เรื่องนี้จึงคอยๆ
ถูกลืมเลือนไป
สวนยันตลดวิญ ญาณนั้น เปนเพราะปญ หาดานวัตถุดิบ ตั้งแตคิดคนขึ้นก็มีคน
เขียนไดแคไมกี่คนเทานั้น
ดังนั้นถึงแมสำนักยันตสวรรคจะเรียกมันวาสามสุดยอดยันตลับ แตความจริงแลว
สิ่งที่มีประโยชนที่สุดก็มีเพียง ‘ยันตแปลงวิญญาณ’ เทานั้น
หานลี่อานคัมภีรเกี่ยวกับพวกนี้เสร็จ ก็รูสึกสนใจยันตวิเศษที่เหลืออีกสองชนิด
เป น อย า งมาก ไม ว า จะชนิ ด ไหนก็ ดู เหมื อ นว า จะมี ค วามสามารถไม น อ ยจริ ง ๆ
โดยเฉพาะยันตแปลงวิญญาณ คาดไมถึงวาจะสรางหายนะอันยิ่งใหญได นี่เปนวิธีที่ดี
ที่สุดในการรักษาชีวิตในบางชวงเวลา
สามวันผานไป หานลี่อานคัมภีรมวนสุดทายจบก็ลุกขึ้นจากเตียง บิดขี้เกียจไปมา
แผจิตสัมผัสลงไปที่ชั้นลาง สัมผัสไดวาเซี่ยงจือหลี่รออยูที่ชั้นหนึ่ง
หานลี่พลันขมวดคิ้ว
ศิษยพี่เซี่ยงผูนี้ทำใหเขากังวลใจอยูนาน สองสามวันนี้เขาประพฤติตัวดีเปนพิเศษ
นอกจากนั่งสมาธิฝกบำเพ็ญเพียรแลว ก็ไมไดทำอะไรอีก และไมไดออกจากหอคอย
แมแตกาวเดียว
ทวาสิ่งที่ทำใหเขารูสึกขบขันก็คือ ตั้งแตที่เขาอานคัมภีรวันแรก ดานนอกหอคอย
ก็ มี ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ สรางปราณสองสามคนของสำนั ก ยั น ต ส วรรค หมุ น เวี ย น
สับเปลี่ยนกันมารอเขาอยูที่ดานนอก ทาทางเหมือนกลัววาเขาจะจากไปอยางไมร่ำลา
อยางไรอยางนั้น
หลังจากขบคิดแลว
หานลี่ก็เดินลงไปดานลาง
“ทานอาวุโส ทานอานทั้งหมดจบแลวหรือ?” ชายชราเห็นหานลี่ปรากฏตัว ก็เก็บ
คัมภีรในมือทันที เอยขึ้นพรอมใบหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม
“อืม! อานหมดแลว สหายตามสบายเถิด!” หานลี่หั วเราะน อยๆ ออกมา เอย
อยางมีเลศนัย จากนั้นคนก็เดินออกไปจากหอคอยอยางสบายๆ
ชายชรามามองเงาแผ น หลั ง ของหานลี่ อ ยู ที่ เดิ ม ไม ข ยั บ เขยื้ อ น แววตาเปล ง
ประกายสวางวาบ แตทันใดนั้นก็ฟนฟูกลับมาเปนปกติ
จะวาไปแลวก็เปนเรื่องบังเอิญ ผูที่รอหานลี่อยูดานนอกในตอนนี้ คือผูบำเพ็ญ
เพียรแซหยางที่มาสงเขาผูนั้น
เมื่อเขาเห็นหานลี่ออกมา ก็คารวะพรอมเอยทักทายทันที และเชิญ หานลี่ไปที่
ตำหนักใหญอีกครั้งดวยทาทีเคารพนบนอบ
ในเมื่ออานคัมภีรล้ำคาของอีกฝาย ก็ตองเห็นแกหนาอีกฝายสักหนอย หานลี่จึง
พยักหนาและตอบตกลง
ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนจึงสงยันตถายทอดเสียงสายหนึ่งออกไปดวยความปติ
ยินดี และหานลี่ก็ตรงไปยังตำหนักใหญ
ผูที่รอหานลี่อยูที่ตำหนักใหญ นอกจากชนชั้นสูงของสำนักยันตสวรรคสองสามคน
ที่เคยพบหนากันครั้งที่แลวแลว ก็มีผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมที่แปลกหนาอีกสอง
คน เปนชายหนึ่งหญิงหนึ่ง อายุประมาณสี่สิบป
หลังจากชายชราแซเวินและพวกคารวะหานลี่แลว อาวุโสสำนักยันตสวรรคผูนี้ก็
แนะนำทันทีวา
“สองทานนี้คือสหายฉางจากภูเขาแสงทองและสหายเซี่ยจากหุบเขาตะวันกระจาง
สหายทั้งสองไดยินวาทานอาวุโสใหเกียรติมาเยี่ยมเยียนสำนักขา จึงตั้งใจมาคารวะ
ทานอาวุโส และไดรอทานอาวุโสอยูที่สำนักของขามาหนึ่งวันเต็มๆ แลว”
“ออ! ลำบากสหายทั้งสองแลว สองสามวันที่ผานมาผูแซหานศึกษาเคล็ดวิชาวิชา
ยันตอยู ทำใหสหายทั้งสองรอนานแลว” หานลีม่ ีสีหนาราบเรียบ ดูไมออกวากำลังดีใจ
หรือกำลังโกรธเกรี้ยวขณะเอย
“ที่ไหนกันเลาขอรับ! วันนี้ไดพบทานอาวุโส ถือวาเปนวาสนาของพวกเรา”
หลังจากที่บุรุษและสตรีสองคนนั้นกวาดตามองพลังยุทธของหานลี่ ชั่วขณะนั้น
พลันประสานมือคารวะดวยความตื่นตระหนกพรอมกัน ความจริงแลว ตอนแรกที่เจา
สำนักทั้งสองไดยินวา สำนักยันตสวรรคมีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดคนหนึ่งมา
เยือนนั้น ทั้งสองก็เชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่ง
ถึงอยางไรเสียสถานการณ ของสำนั กยัน ตสวรรค ทั้ งสองคนจะไม รูไดอ ยางไร
ถึงแมวาทั้ งสามสำนักจะเปน สำนักเล็กๆ เชน กัน และชวยเหลือกัน และกั น มาโดย
ตลอด สำนักยันตสวรรคก็ยังเปนสำนักที่ออนแอที่สุดในทั้งสามสำนัก ผูบำเพ็ญเพียร
ระดับกอกำเนิ ดจะมาที่สำนักเล็กๆ เชน นี้ ไดอยางไร ทวาหากมีความสัมพั นธกับผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดคนหนึ่ง ประโยชนที่จะไดรับไมตองพูดถึงก็รูดีกันอยูแลว
ทั้งสองคนไมมีทางนั่งอยูที่ สำนั กได จึงตรงมายังภู เขาไผขาวในคื น นั้ น เพื่ อมา
ยืนยันเรื่องนี้ดวยตัวเอง
ตอนนี้ไดพบกับหานลี่ที่มีพลังยุทธลึกล้ำจนไมอาจคาดเดาไดแลว แนนอนวาจึงไม
อาจรูสึกสงสัยหรือคลางแคลงใจไดอีก
หลังจากที่หานลี่นั่งลง และแสดงทาทีเชื้อเชิญเล็กนอยแลว ผูบำเพ็ญเพียรระดับ
หลอมรวมทั้งสามคนและเยวเจินถึงไดกลานั่งลงเชนกัน แนนอนวาผูบำเพ็ญ ระดับ
สรางปราณที่เหลือตางก็ทำไดเพียงยืนกมหนาลงต่ำอยูขางๆ
“ทานอาวุโสไดประโยชนอะไรจากในหอคัมภีรหรือไม ถึงแมวาหุบเขาของเราจะ
ไมเชี่ยวชาญในการเขียนยันต แตก็มีคัมภีรการเขียนยันตอยูเล็กนอย หากทานอาวุโส
หานสนใจละก็ ไปเยี่ยมชมดูสักครั้งไดนะเจาคะ” ถึงแมวาผูบำเพ็ญหญิงแซเซี่ยผูนั้น
จะมีหนาตาธรรมดาๆ แตน้ำเสียงกลับไพเราะเสนาะหู
“ไมจำเปนตองยุงยากขนาดนั้น ขามีธุระจริงๆ จำตองออกจากที่นี่ไปจวนหลินเจียง
แลว” หานลี่เหลือบมองสตรีผูนั้นแวบหนึ่งแลวหัวเราะอยางแผวเบาออกมา
“จวนหลินเจียง? หรือวาทานอาวุโสมาตามหามังกรวารีชั่วรายเหลานั้น”
บุรุษแซฉางอีกคน รองอุทานดวยความตกใจออกมา
“พวกเจารูไดอยางไร?” หานลี่หนาเปลี่ยนสี พลางเอยถาม
“ชวงนี้ผูบำเพ็ญเพียรที่จะไปจวนหลินเจียงตางก็มาเพราะมังกรวารีเหลานั้น ขาว
ของทานอาวุโส เกรงวาจะไมใชขาวลาสุดสินะ”
ผูบำเพ็ญเพียรแซฉางเอยอยางลังเลออกมา
“ขาไดขาวนี้มาจากยานรานคาเมื่อครึ่งปกอน ถึงไดรีบมาจากที่ที่อยูหางออกไป
หมื่นลี้ ไดยินวามังกรวารีชั่วรายเหลานั้นนาจะอยูในระดับเจ็ด คงจะไมถูกผูบำเพ็ญ
เพียรคนอื่นสังหารไปงายๆ หรอกกระมัง” หานลี่ที่มีสีห นาเครงขรึมขึ้น พลางเอย
อยางเชื่องชา
“เปลาขอรับ แตในการดักซุมเมื่อไมนานมานี้ ถึงแมวาจะสังหารมังกรวารีชั่วราย
ไดตัวหนึ่ง แตก็มีผูบำเพ็ญเพียรที่มาสังหารมังกรวารีถูกกลืนกินไปไมนอย แมกระทั่งผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดคนหนึ่งยังไดรับบาดเจ็บหนัก” อาวุโสเวินรีบรอนอธิบาย
“ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดก็ไดรับบาดเจ็บ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หานลี่รูสึก
ประหลาดใจเล็กนอย
“เพราะวาจูๆ ก็มีมังกรวารีสีฟาที่แปลงกายแลวระดับแปดตัวหนึ่งเพิ่มขึ้นมาใน
กลุมมังกรวารีชั่วรายเหลานั้น ผูบำเพ็ญเพียรแตเดิมที่คิดจะลอบโจมตีไมทันไดระวังตัว
จึงเสียเปรียบ ตอมาไดยินวาอาวุโสของสำนักมหาสมุทรทักษิณสองสามคนไดรวมมือ
กันโจมตี ถึงไดโจมตีจนฝูงมังกรวารีลาถอยไป แตก็ไมมีทางสังหารพวกมันไดอยาง
งายดาย มังกรวารีเหลานี้จึงตรงไปที่เกาะสองสามแหงตรงชายหาดเพื่อซอนตัว และ
ลอบโจมตีผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรที่ อยูตัวคนเดียวและเรือของคนธรรมดาไมห ยุด ตอนที่ ผู
บำเพ็ ญ เพี ยรระดั บ ก อ กำเนิ ด รวมมื อ กั น ไลต ามไป ก็ กระโจนเข าไปในสวนลึ กของ
มหาสมุทรและหลบหนีไป ชวงนี้ดูเหมือนวาความวุนวายจะยิ่งมากขึ้นเรื่อย จัดการได
ยากจริงๆ ได ยิ น วา เพราะเหตุ นี้ ส ำนั ก มหาสมุ ท รทั ก ษิ ณ จึ งได เชิ ญ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
ระดับสูงหลายคนมารวมตัวกันที่เกาะฉยงอิง เตรียมเปดประชุมเกี่ยวกับการสังหาร
มังกรวารีเหลานี้ ถึงอยางไรเสียมังกรวารีระดับแปด ก็หาไดยากอยางสุดๆ” ครั้งนี้ชาย
ชราแซเวินเอยนำ
“มังกรวารีระดับแปด?” หานลี่เอยพึมพำกับตัวเอง ในหัวกลับมีมังกรวารีระดับ
แปดที่ถูกเขาสังหารครั้งแรกสวางวาบขึ้น
ถึงแมจะบอกวาเปนอสูรปศาจระดับแปด แตสำหรับอสูรวิญญาณฟาดินนั้น เกรง
วาพละกำลังที่แทจริงของมังกรวารีระดับแปดนาจะเหนือกวาผูบำเพ็ญ เพียรระดับ
กอกำเนิดขั้นกลางขั้นหนึ่ง บวกกับที่อยูในมหาสมุทร ก็ยิ่งหลบหนีไดราวกับมัจฉาใน
สายธาร มินาเลาผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงจำนวนมากขนาดนี้ถึงไมอาจทำอะไรได
แตเขาไมไดมาเพื่อมังกรวารีสีฟา หลังจากพิจารณาเล็กนอยก็เอยถามขึ้นวา
“ขาจำไดวาหนึ่งในมังกรวารีชั่วรายเหลานั้นจะมีมังกรวารีเพลิงที่มีสีแดงอยูตัว
หนึ่ง ดูเหมือนวาจะเปนมังกรวารีเพลิงสีชาดในตำนาน อสูรปศาจตัวนี้อยูที่เกาะใน
มหาสมุทรหรือไม?”
“มังกรวารีเพลิงสีชาด...อืม มีมังกรวารีสีแดงตัวหนึ่งที่ อยูริมทะเลจริงๆ จะใช
มังกรวารีเพลิงสีชาดจริงหรือไมนั้นก็ไมคอยแนใจนัก” บุรุษแซฉางดูเหมือนวาจะรู
เรื่องนี้อยูไมนอย จึงตอบกลับอยางไมตองขบคิด
“นั่นก็เพียงพอแลว!” หานลี่พยักหนาดวยความพึงพอใจ
ผูบำเพ็ญเพียรในตำหนักใหญเห็นหานลี่มีสีหนาผอนคลายลง ก็รูสึกเบาใจลง
ตอนนั้น ชายชราแซเวินและอีกสองคนที่เหลือก็สบตา จูๆ ก็เอยถามอยางมีชั้นเชิงวา
“ทานอาวุโสหานมีพลังยุทธที่นาตกตะลึงเชนนี้ ไมทราบวากอนหนานี้ฝกบำเพ็ญ
เพียรอยูที่ใด คงเปนอาวุโสของพรรคใหญๆ พรรคไหนสักพรรคสินะ”
“หึๆ ผูแซหานมีตนกำเนิดที่คอนขางหางไกล และไมใชอาวุโสของพรรคในตาจิ้น
ไหนสักพรรค” แววตาของหานลี่สวางวาบ หลังจากเหลือบมองทั้งสามแวบหนึ่ง ก็อม
ยิ้มออกมา
ถูกสายตาที่เดาทางออกของหานลี่กวาดมองมา ชั่วขณะนั้นชายชราแซเวินและ
พวกก็ใจเตน แตหลังจากไดยินคำตอบก็อดที่จะตกตะลึงระคนดีใจไมได
“ทานอาวุโสศึกษายันตลดวิญญาณของสำนักขาแลว ไมทราบวาคิดวาวิชาเขียนยันตนี้
เปนอยางไร เขาตาทานอาวุโสหรือไม” หลังจากลังเลเล็กนอย ชายชราเวินก็เลยถาม
ขึ้นอีกครั้งดวยความระมัดระวัง
“สหายเวินมีอะไรก็พูดมาตรงๆ เถิด ไมตองออมคอมหรอก หรือวาเจาอยากใหผู
แซหานเขารวมสำนักของเจา” หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง พลางเอยอยางไม
เกรงใจ
“ทานอาวุโสโปรดอยาเขาใจผิดขอรับ ชนรุนหลังจะกลาคาดหวังถึงเพียงนั้นได
อยางไร ชนรุนหลังแคอยากถามวา ทานอาวุโสจะยอมเปนอาวุโสแขกผูมีเกียรติของ
สามสำนักเราหรือไม!”
เมื่อไดยินน้ำเสียงของหานลี่ดูไมคอยสบอารมณ นัก ชายชราแซเวินพลันตกใจ
เอยออกมาอยางไมสนใจอะไรอีก
“อาวุโสแขกผูมีเกียรติ!” แรกเริ่มหานลี่พลันตะลึงงัน ทันใดนั้นก็หรี่ตาทั้งสองขางลง
เรื่องของอาวุโสแขกผูมีเกียรตินั้น หานลี่รูมาบางเล็กนอย นี่เปนสิ่งที่สำนักเล็กๆ
ในต าจิ้ น เท านั้ น ถึ งจะมี เป น ตำแหน งพิ เศษที่ ส ำนั ก จัด ไวให ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รสั น โดษ
ระดับสูงโดยเฉพาะ ถึงแมวาฟงดูแลวจะไมตางอะไรกับอาวุโสนัก แตความจริงแลวทั้ง
สองตำแหนงกลับแตกตางกันเปนอยางมาก
อาวุโสแขกผูมีเกียรติสำหรับสำนักเล็กๆ นั้น เปนเพียงอาวุโสในนามเทานั้น ทั้งไม
ตองทำตามกฎของสำนัก และไมจำเปนตองฟงคำสั่งจากผูใดในสำนัก สิ่งที่ตองทำ
เพียงอยางเดียวก็คือ เมื่อสำนักเล็กๆ เหลานี้พ บปญ หาอะไร อาวุโสแขกผูมีเกียรติ
เหลานี้ก็จะลงมือชวยไดอยางเปดเผย แตการชวยเหลือเชนนี้ก็ไมไดมีการบังคับใดๆ
มันขึ้นอยูกับวาอาวุโสแขกผูมีเกียรติเหลานี้เปนคนดีหรือไม
แนนอนวาเพื่อเปนการตอบแทน อาวุโสแขกผูมีเกียรติเหลานี้จะไดรับเงินเดือน
และการดูแล แตกลับไมจำเปนตองเปนอาวุโสอยางเปนทางการเลยสักนิด แมกระทั่ง
บางคนยังอยูเหนือกวาอาวุโสธรรมดาๆ
สาเหตุที่มีสถานการณเชนนี้เกิดขึ้น แนนอนวาเปนเพราะสำนักเล็กๆ ในตาจิ้นมี
จำนวนมากเกินไป เทียบกับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดแลว ก็ปรากฏตัวอยูนอย
มาก ไมตองพูดถึงสำนักเล็กๆ เหลานี้ ตอใหเปนสำนักระดับกลางบางครั้งก็อาจจะไมมี
ผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดปรากฏตัว ภายใตสถานการณ เชนนี้ แนนอนวาจึงมี
เพี ย งต อ งพยายามดึ ง ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รสั น โดษระดั บ ก อ กำเนิ ด มาเป น ที่ พ่ึ ง พิ ง เพื่ อ
รับประกันความมั่นคงของสำนัก
ทวาผูบำเพ็ญเพียรสันโดษระดับสูงทั่วๆ ไป ไมชอบทำตามกฎของสำนักใดๆ แต
ประโยชนที่สำนักเหลานี้เสนอให กลับทำใหพวกเขาสนใจบางในบางครั้ง นี่ถึงไดมี
อาวุโสแขกผูมีเกียรติเกิดขึ้น ตำแหนงฐานะเชนนี้จึงไมมีในเทียนหนาน
ตอนที่ 964 มังกรวารีชั่วราย
หานลี่ไดยินเงื่อนไขที่สำนักสักยันตสวรรคเสนอขึ้นอยางระมัดระวัง มุมปากก็หยัก
ขึ้นเล็กนอย เผยรอยยิ้มจางๆ ออกมา
“ใหขาเปนอาวุโสแขกผูมีเกียรติของสามสำนักของพวกเจา พวกเจาคิดวาขาจะ
ยอมตกลงหรือ?”
“ชนรุนหลังรูวา สำนักเล็กๆ อยางพวกเราไมมีคุณสมบัติพอจะเซนไหวบูชาเหลา
ยอดฝมือชั้นสูง แตพวกเราแคอยากใหทานอาวุโสลงมือชวยแกไขปญหา ณ ตอนนี้
เทานั้น วันขางหนาจะเปนเพียงในนามก็ได มิกลารบกวนทานอาวุโสอีก” แตเดิมชาย
ชรามีทาทีไมสบายใจ แตเมื่อเห็นหานลี่ไมไดมีท าที โกรธเกรี้ยวก็รูสึกผอนคลายลง
พลางรีบรอนอธิบาย
“ความหมายของเจาคือ ขอแคลงมือชวยครั้งหนึ่ง วันขางหนาผูแซหานก็ไมตอง
ทำอะไรแลว?” แววตาของหานลี่เปลงประกายขณะเอย
“ใชแลวขอรับ พวกเราหมายความเชนนั้น แนนอนวาสามสำนักของพวกเราไมมี
ทางปลอยใหทานอาวุโสลงมืออยางเปลาประโยชนแน ในเมื่อทานอาวุโสสนใจเคล็ด
วิชาการเขียนยันต สำนักยันตสวรรคของพวกเราก็ยินดีจะมอบเคล็ดวิชายันตแปลง
วิญญาณใหกับทานอาวุโส ภูเขาแสงทองและหุบเขาตะวันกระจางก็จะมอบเคล็ดวิชา
ลับใหเชนกัน ยินดีใหทานอาวุโสไดเรียนรู นอกจากนี้พวกเรายังเตรียมศิลาวิญญาณไว
ประมาณสองสามหมื่นกอน หวังวาทานอาวุโสจะยอมรับมันไว”
เรื่องมาถึงขั้นนี้แลว ชายชราแซเวินจึงเอยเงื่อนไขออกมาเสียเลย เขารูดีวาตอให
ใชลูกไมอะไรกลับจะเปนการทำใหอีกฝายยิ่งโกรธเกรี้ยว ไมสูบอกไปตรงๆ จะดีกวา
“ศิลาวิญญาณสองสามหมื่นกอน?” หานลี่เผยรอยยิ้มจางๆ ออกมา
“ศิลาวิญญาณจำนวนนี้มันนอยไปหนอยจริงๆ ทวา วันขางหนาสามสำนักของ
พวกเราจะมอบศิลาวิญญาณเปนบรรณาการใหทานทุกปแน นอกจากนี้ สำนักของขา
ยังยินดีจะมอบยันตแปลงวิญญาณที่บรรพชนผูกอตั้งสำนักในตอนแรกสรางขึ้นดวย
ตัวเองใหดวย คิดดูแลวทานอาวุโสนาจะมีความสามารถมากพอในการหลอมฝกฝน
ยันตชนิดนี้ได” ชายชราแซเวินกัดริมฝปาก เสนอไมตายสุดทายออกมา
“บรรพชนผูกอตั้งสำนัก หรือวาหมายถึงอรหันตยันตสวรรค?” ในที่สุดหานลี่ก็
หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
“ใชแลวขอรับ สมบัติชิ้นนั้นแหละ ไมปดบังทานอาวุโส ถึงแมวายันตวิเศษแผน
นั้นจะเคยสำแดงอานุภาพในมือของทานบรรพชนสำนักขา แตนาเสียดายที่ศิษยชนรุน
หลังอยางพวกเราไรประโยชน กลับไมมีผูใดเคยหลอมฝกฝนสมบัติชิ้นนี้ได ฉะนั้นยันต
วิเศษแผนนี้จึงถูกสืบทอดกันมาในสำนักมาตั้งไมรูกี่ปตอกี่ปแลว พวกเราก็ไดแตมอง
อานุภาพของสมบัติชิ้นนี้ที่คอยๆ หายไปดวยความจนปญญา ถาหากทานอาวุโสเก็บไว
ใชไดก็เปนเรื่องที่ดีตอทั้งสองฝาย” คาดไมถึงวาครานี้เยวเจินจะเปนคนเอยขึ้น
“สำนักของเจามีสมบัติเชนนี้ ผูแซหานก็อยากจะเรียนรูสักหนอย!” หานลี่รูสึก
สนใจขึ้นมา
“ศิษยหลานเยวไปหยิบยันตวิเศษออกมาใหทานอาวุโสดูหนอย” ชายชราแซเวิน
เห็นหานลี่สนใจ ก็ออกคำสั่งอยางรอนรนทันที ถึงแมวาเขาจะเปนผูที่มีพลังยุทธสูง
ที่สุดในสำนักยันตสวรรค แตยันตวิเศษที่อรหันตยันตสวรรคเคยใชในปนั้น กลับทำได
แคครอบครองอยูในมือของเจาสำนักมาตั้งแตอดีต ดังนั้นถึงไดเอยเชนนี้ออกมา
“ขอรับ ทานอาจารยลุง!”
เยวเจินรูตัวดีเปนอยางมาก ฝามือตบไปที่ยามเก็บของทันที ลำแสงสีเขียวสวาง
วาบ กลองไมสีเหลืองออนปรากฏขึ้นในมือ แลวสงใหหานลี่ดวยทั้งสองมือ
หานลี่พลันขมวดคิ้ว และสะบัดมืออยางไมเกรงใจ ดูดกลองไมนั้นเขามาในมือ
พลางกมหนาลงพิจารณา
ผิวของกลองไมนั้นดูไมสะดุดตาเลยสักนิด ดูธรรมดาเปนอยางมาก ฝากลองยัง
แปะยันตวิเศษสีทองเรืองรองแผนหนึ่งเอาไว
หานลี่ขมวดคิ้ว มือหนึ่งปดไปบนฝากลอง ลำแสงวิญญาณสวางวาบ ยันตวิเศษ
รอนลงมาอยางเงียบเชียบ
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นที่มองดูฉากนี้อยูดานขางก็ไมไดรูสึกอะไร ชายชราแซอวิน
และอาวุโสระดับหลอมรวมทั้งสามคนกลับตกตะลึงขึ้นพรอมกัน
ฝมือการใชลมปราณดึงยันตวิเศษออกอยางงายดายเชนนี้ ไมใชสิ่งที่ผูบำเพ็ ญ
เพียรธรรมดาๆ จะทำได ไมเพียงพลังยุทธในรางจะตองแข็งแกรงในระดับหนึ่ง การ
ควบคุมลมปราณจะตองอยูในระดับที่สุดยอดจนนาเหลือเชื่ออีกดวย ขั้นตอนเชนนี้
พวกเขาเคยแต ได ยิ น มาเพี ย งเท านั้ น เวลานี้ เห็ น หานลี่ ใช มั น ด ว ยสี ห น าราบเรี ย บ
แนนอนวาจึงรูสึกเคารพยำเกรงหานลี่ขึ้นมาอีกหลายสวน
เมื่อฝากลองเปดออก ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในกลอง จากนั้นกลุมไอ
วิญญาณไมที่บริสุทธิ์ก็ทะลักออกมา
หานลี่พลันรูสึกตื่นตระหนก
จากที่ชายชราแซเวินกลาวเอาไว ยันตวิเศษมีอายุมากขนาดนี้อานุภาพของมัน
นาจะลดลงไปไมนอย แตตอนนี้ยังมีอานุภาพถึงเพียงนี้ ไมใชสมบัติธรรมดาๆ ดังคาด
ทวาสิ่งที่ทำใหหานลี่รูสึกยินดีก็คือ คิดไมถึงวายันตแปลงวิญญาณนี้จะเปนยันต
วิเศษธาตุไม มันชวยสงเสริมกับวิทยายุทธของเขาไดพอดี การหลอมฝกฝนมันก็งายขึ้น
มากแลว
ยันตวิเศษขนาดเทาฝามือแผนหนึ่ง มีสีเขียวมรกต แตรอบๆ ยังมีตัวอักษรสีทองเงิน
จางๆ อยู ดูลึกลับเปนพิเศษ แตสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของหานลี่ กลับเปนตรงใจกลาง
ของยันตวิเศษที่มีดวงไฟสีมวงออนกลุมเล็กๆ หมุนวนอยู พลางกะพริบวาบไมหยุด
หานลี่ชูมือหนึ่งขึ้น ทั้งฝามือถูกลำแสงสีเขียวชั้นหนึ่งหอหุมเอาไว นิ้วทั้งหาควา
ยันตวิเศษในกลองเอาไว
ลำแสงสวางวาบ ยันตวิเศษสั่นคลอน จูๆ ก็กลายเปนลำแสงสีเขียวสายหนึ่ง พุง
ออกมาจากกลอง
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม พลิกฝามือควาเอาไว
เงาฝามือลวงตาขางหนึ่งปรากฏขึ้น ควายันตวิเศษเอาไวในมือ ผูบำเพ็ญเพียรที่
เหลือยังไมทันไดรองอุทานดวยความตกใจ มือลำแสงก็หายวับไป ยันตวิเศษกลับถูก
หานลี่ดูดเขามาในมือแทน
“นี่คือยันตแปลงวิญ ญาณ มีความพิ เศษดังคาด ไดยิน วาตอนนั้ น อรหั นตยันต
สวรรคเองก็เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายคนหนึ่ง คิดดูแลวยันตแปลง
วิญญาณแผนนี้คงมีจิตวิญญาณดั้งเดิมที่แข็งแกรงมากของอรหันตยันตสวรรค ฉะนั้นผู
บำเพ็ญเพียรทั่วๆ ไปที่จะหลอมฝกฝนมันจึงไมใชเรื่องงาย และยิ่งไปกวานั้นถึงแมวา
จะหลอมฝกฝนสำเร็จ อานุภาพของยันตวิเศษก็คงลดลงเปนอยางมาก จำตองใชจิต
วิญ ญาณดั้งเดิมของตัวเองหลอมขึ้นใหมถึงจะได นี่ไมใชสิ่งที่จะทำสำเร็จไดภายใน
ระยะเวลาสั้นๆ เพียงไมกี่สิบป หากทำไมดี ก็อาจจะเสียเวลาไปเปนรอยป” จองเขม็ง
ไปยังยันตวิเศษที่บิดพลิ้วไปมาราวกับมัจฉาที่หวางนิ้ว หานลี่ก็คลี่ยิ้มออกมา
“เชนนั้นทานอาวุโสคิดวายันตแผนนี้…” ไดฟงหานลี่กลาวเชนนี้ ชายชราแซเวิน
มองสบตาคนอื่นๆ แวบหนึ่งแลว ก็เอยถามขึ้นดวยจิตใจที่หนักอึ้ง
“ทวา นั่นใชกับผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดขั้นตน แตขาอยูในขั้นกลางแลว
เคล็ดวิชาหลักที่ฝกฝนก็ธาตุไม การหลอมฝกฝนยันตแผนนี้จึงงายหนอย ของชิ้นนี้จึง
ถือ วามี ป ระโยชน สำหรับ ขา” หานลี่ ก ลับ เปลี่ ยนหั วข อ บทสนทนา เอ ยด วยสี ห น า
ราบเรียบ ความจริงแลวหานลี่ยังมีอีกประโยคที่ยังไมไดพูดออกไป ถึงแมวาการหลอม
ยันตวิเศษสองครั้งเชนนี้จะตองเสียเวลานาน แตหลังจากที่หลอมสำเร็จแลว อานุภาพ
จะตองเพิ่มขึ้นจากตอนแรกอยางแนนอน
“เชนนั้นทานอาวุโสก็ตกลงแลวใชไหมขอรับ” ชายชราแซเวินตอบกลับดวยความ
ตกตะลึงระคนดีใจ
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นที่เหลือในตำหนักไดยินตางก็มีสีหนาเต็มไปดวยความรอคอย
เชนกัน
“ตกลงหรือไมตกลงนั้นไมตองรีบรอน บอกมากอนสิวาเจาอยากใหขาชวยแกไข
ปญ หาอะไรแลวคอยวากัน ถาหากไมไดยุงยากนัก ขาจะลงมือสักครั้ง ก็ไมใชวาจะ
เปนไปไมได” หานลี่เอยอยางไมคิดเชนนั้น ในเวลาเดียวกันก็สะบัดขอมือเล็กนอย ไอ
วิญญาณกลุมหนึ่งหอหุมยันตวิเศษเอาไวขณะพุงกลับไปในกลองไม จากนั้นพลันกวัก
มือ ฝากลองปดลงอีกครั้ง
“นั่นมันแนนอนอยูแลว ความจริงแลวเรื่องนี้เปนเพียงเรื่องเล็กๆ นอยๆ สำหรับ
ทานอาวุโสเทานั้น เรื่องนี้มันเกี่ยวของกับยานรานคาของสามสำนักเรา สองสามวัน
กอน…” ชายชราแซเวินเห็นหานลี่มีทาทีตรึกตรองวาจะตกลงหรือไม ก็รูสึกดีอกดีใจ
เปนอยางมาก เริ่มเลาเรื่องยานรานคา และพรรคเก็บตะวันดวยความรอนรนออกมา
จนหมดเปลือก
หานลี่ตั้งใจฟงอยางนิ่งเงียบ!
หลังจากผานไปหนึ่งเคอ หานลี่ก็กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกไปจาก
ภูเขาไผเขียว ตรงไปยังทิศเหนือ
สองสามวันตอมา โลกผูบำเพ็ญเพียรของเขตหัวอวิ๋นก็มีเรื่องที่ไมเล็กและไมใหญ
นักแพรงพรายออกไป
จูๆ ก็มีผูบำเพ็ญเพียรแซหานที่เรียกตัวเองวาอาวุโสแขกผูมีเกียรติของสำนักยันต
สวรรค ผู ห นึ่ ง ปรากฏตั ว ที่ ป ระตู ข องพรรคเก็ บ ตะวั น ของพรรคสายมาร จาก
ความสามารถที่นาตกตะลึงของผูบำเพ็ ญ เพี ยรระดับกอกำเนิ ดขั้น กลางนั้ น ก็ตอสู
แลกเปลี่ยนประสบการณกับอาวุโสระดับกอกำเนิดเพียงหนึ่งเดียวของพรรคเก็บตะวัน
จนทำใหอีกฝายพายแพไปอยางงายดาย จากนั้นก็จากไปอยางสบายใจ
และวันที่สอง สำนักหงสวิญญาณที่ไดรับการสนับสนุนจากพรรคเก็บตะวันมาโดย
ตลอด ก็ยายยานรานคาจากแตเดิมที่อยูใกลกลับเขตไคเจียงออกไปไกลถึงหมื่นลี้ ไมใช
แค นั้ น พรรคเล็ก ๆ พรรคอื่ น ๆ ได ยิน ขาวนี้ ก็พ ากั น ตื่ น ตระหนก หลั งจากสอบถาม
รายละเอียดอยางชัดเจนแลว ก็ทยอยกันถอนกำลังออกจากใจกลางของเขตไคเจียงไป
หมื่นลี้ ทำใหพื้นที่ขนาดใหญ ตกเปนของสำนักยันตสวรรคและสำนักเล็กๆ ทั้งสาม
สำนัก
ตอนนี้ สำนักยันตสวรรค ภูเขาแสงทอง และสำนักตางๆ ตางก็ลืมตาอาปากได ผู
บำเพ็ญเพียรในสำนักตางก็รูสึกยินดีเปนอยางมาก อาวุโสเจาสำนักเหลานี้ก็ยิ่งรูสึกวา
บรรณาการครั้งนี้ไมเปลาประโยชน มีอาวุโสแขกผูมีเกียรติระดับกอกำเนิดขั้นกลางใน
นาม คิดดูแลวภายในระยะเวลารอยปอำนาจของทั้งสามสำนักคงเปลี่ยนไปจนแทบ
พลิกฝามือ
ในตอนนั้นเอง ในที่สุด ‘สำนักมหาสมุทรทักษิณ’ ผูซึ่งเปนสำนักอันดับหนึ่งของ
เขตหัวอวิ๋น ก็เปดฉากการตอสูกับมังกรวารี รวบรวมผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวม
ขึ้นไปสองรอยกวาคนไดภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงไมกี่วัน ผูบำเพ็ญเพียรระดับตอ
กำเนิดเองก็มีเกือบสิบกวาคน จากนั้นภายใตการรวมกลุมกับสำนักมหาสมุทรทักษิณ
ก็เริ่มแบงกลุมกันกวาดลางมหาสมุทรรอบๆ คนหาที่ซอนตัวของมังกรวารีเหลานั้นไป
ทั่วทุกสารทิศ
บางครั้งที่พบอสูรปศาจระดับต่ำก็สังหารทิ้ง ผูบำเพ็ญเพียรมนุษยในตอนนั้นจึงมี
พลังอำนาจเพิ่มขึ้นเปนอยางมาก มันหมายความวาทำทุกอยางเทาที่จะทำได
แตมังกรวารีเหลานั้นก็เจาเลหเพทุบายเปนอยางมาก เมื่อเห็นสถานการณไมคอย
ดี ก็เอาแตซอนตัวไมยอมออกมา ทำใหผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้ยุงวุนวายอยูหลายเดือน
แตกลับไมพบรองรอยของมังกรวารีรายกาจเหลานี้ ในที่สุดผูบำเพ็ญเพียรจำนวนหนึ่ง
ก็ทนไมไหวสลายตัวกลับไป
หลังจากผานมาอีกเดือนกวา ผูบำเพ็ญเพียรที่ยังคนหามังกรวารีชั่วรายก็เหลือ
เพียงรอยกวาคน ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดก็จากไปแลวหลายคน จึงเหลือเพียง
เจ็ดคนที่รับคำสั่งจากสำนักมหาสมุทรทักษิณเทานั้น
และในสถานการณเชนนี้ จำนวนคนของแตละกลุมจึงเริ่มไมเพียงพอ มังกรวารี
เห็นเชนนั้นจึงฉกฉวยลงมือบุกในทันใด ไมเพียงจะเริ่มโจมตีผูบำเพ็ญเพียรที่อยูตาม
ลำพัง แมกระทั่งมังกรวารีสีฟาระดับแปดตัวนั้นยังโจมตีกลุมผูบำเพ็ญเพียรที่สมาชิก
เหลือนอยไปสองสามกลุมดวย
ถึงแลววากลุมคนเหลานี้จะมีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดเปนผูนำ แตมังกรวารี
สีฟาระดับแปดนั้นมีความสามารถไมนอยจริงๆ มันสำแดงเคล็ดวิชาวารีหลีกหนีได
อยางยอดเยี่ยม หลังจากที่โจมตีในทุกๆ ครั้ง ก็จะหนีเขาไปแอบซอนอยูใตทองทะเล
ไมยอมพัวพันอยูนานนัก ผลลัพธคือไมเพียงจะทำใหอสูรเหลานั้นไมไดรับบาดเจ็บ แต
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมสองสามคนกลับถูกพวกมันกลืนกิน
เวลานี้ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือจึงรูสึกหวาดกลัว สำนักมหาสมุทรทักษิณยิ่งอยูใน
สถานการณขึ้นหลังเสือแลวลงไมได ภายใตความจนปญญานั้นก็ทำไดเพียงพยายาม
รวบรวมกำลังคน ถึงไดกลาสงคนออกทะเลตอไปได
และวันนี้ ก็มีกลุมผูบำเพ็ญเพียรสิบกวาคนที่มีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดเปน
ผู น ำ ค อ ยๆ บิ น ออกไปยั ง ท อ งทะเลและแผ จิ ต สั ม ผั ส ออกไปอย า งระมั ด ระวั ง
ตรวจสอบไปทั่วทุกหนแหง โดยเฉพาะในมหาสมุทร นั่นเปนสถานที่หลักที่ผูบำเพ็ญ
เพียรเหลานี้แผจิตผัสลงไป
ในกลุ ม ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รกลุ ม นี้ หานลี่ แ ปลงกายเป น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รวั ย กลางคน
หนาตาซีดขาวคนหนึ่ง บินอยูรั้งทายสุดของกลุมดวยทาทีไมรีบรอน อยามองวาเขามี
ใบหนาเครงขรึม แตในใจกลับรูสึกกลัดกลุมเปนอยางมาก
ตั้งแตที่การตอสูกับมังกรวารีเริ่มขึ้น หานลี่ก็ใชฐานะผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอม
รวมปะปนเขาไปในนั้น เพื่อเตรียมฉกฉวยประโยชนหากมีโอกาส แตคดิ ไมถึงเลยวาจะ
ไมไดอะไรเลยจนถึงตอนนี้
สองสามเดือนกอนนั้นก็ชางเถอะ ไมไดอะไรก็เปนเรื่องปกติ แตตั้งแตที่มังกรวารี
ชั่วรายปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง กลุมอื่นๆ ตางก็ถูกมังกรวารีชั่วรายลอบโจมตีครั้งสองครั้ง
แตกลุมผูบำเพ็ญเพียรที่เขาเขารวมนั้นกลับเปนกลุมเดียวที่ไมเคยประสบเหตุการณ
เชนนี้เลยสักครั้ง นี่จึงทำใหหานลี่รูสึกหมดคำพูดจริงๆ และไมรูวาดวงเขาดีเกินไปหรือ
แยเกินไปกันแน
ตอนที่ 965 ปะทะมังกรวารี
ในตอนนี้พวกเขากำลังคนหาอยูที่ทางทิศตะวันตกของเกาะฉยงอิง อยูหางจาก
เกาะฉยงอิงประมาณสองสามหมื่นลี้
สองสามวันกอนก็มีกลุมผูบำเพ็ญเพียรถูกมังกรวารีสีฟาระดับแปดลอบโจมตีที่นี่
ถึงแมจะรูสึกวามังกรวารีตัวนี้เจาเลหถึงเพียงนี้ แตก็ไมนาจะรั้งรออยูที่นี่เพื่อใหพวก
เขาสังหารหรอก สำนักมหาสมุทรทักษิณก็ยังสงกลุมของพวกเขาออกมา เพื่อตามหา
ที่นี่อีกครั้ง ดูวาจะไดรับประโยชนอะไรที่คาดไมถึงหรือไม
เมื่ออยูตอหนาคนมากมายเชนนี้ แนนอนวาหานลี่ไมมีทางแผจิตสัมผัสออกไปเต็ม
อัตรา เพื่อหลีกเลี่ยงไมใหผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดสงสัย จึงแผจิตสัมผัสออกไป
ครอบคลุมบนผิวทะเลในอาณาบริเวณสิบลี้เทานั้น อาณาเขตแคนี้ก็เพียงพอจะทำให
เขาสัมผัสรองรอยของมังกรวารีชั่วรายลวงหนาไดแลว และไมตองกลัววาจะถูกมัน
ลอบโจมตี
ผูบำเพ็ ญ เพี ยรสิบกวาคนจะบิน อยูเบื้ องหน า ถึงแมวาทะเลผืน นี้ จะกวางใหญ
ไพศาล ผ านไปครึ่งวัน พวกเขาก็ ค น หาตามพื้ น ที่ ที่ ว างเอาไว ได ก ว าครึ่ งแล ว แต ก็
เหมือนกับที่คาดการณเอาไวคนกลุมนี้ไมไดรับประโยชนอะไรเลย
“นั่นอะไรนะ?” จูๆ ผูบำเพ็ญเพียรคนหนึ่งที่บินอยูเบื้องหนาก็รองอุทานออกมา
หานลี่ที่กำลังคนหาในมหาสมุทรอยางละเอียดไดยินแลวก็เงยหนาขึ้นไปตามเสียง
รองอุทาน
เห็นเพียง ณ ขอบฟาเบื้องหนา มีหมอกปศาจสีเทาผืนใหญหมุนวนเปนเกลียวอยู
ขนาดประมาณสองสามหมู กำลังพัดมาทางนี้
“เยี่ยมจริงๆ ในนั้นจะตองมีอสูรปศาจระดับสูงอยูเปนแน หามปลอยมันไป”
ชั่วขณะนั้นทามกลางฝูงชนพลันมีเสียงอื้ออึงดังขึ้น ผูบำเพ็ญ เพียรคนหนึ่งรอง
อุทานออกมาดวยความตกตะลึงระคนดีใจ
“ไมปกติ วันกอนมังกรวารีชั่วรายเหลานั้นไมไดเห็นเราก็หนีเตลิดเปดเปงหรือ
เหตุใดวันนี้กลับเปนฝายเขาหาพวกเรา ตองมีแผนอะไรแน” ผูบำเพ็ญเพียรอีกคนหนึ่ง
เผยทาทีสุขุมออกมา พลางเอยอยางลังเล
ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดที่เปนผูนำนั้นคือชายรางใหญวัยกลางคนสวมอาภรณสี
เหลืองทอง เมื่อไดยินคำพูดของคนทั้งสองก็ขมวดคิ้วแนน มองไปทางนั้นแวบหนึ่งตาม
สัญชาตญาณ ผลลัพธคือหนาเปลี่ยนสีไปในทันที พลางตะโกนอยางรอนรนวา
“ระวัง ทางอื่นก็มีอสูรปศาจกำลังพุงเขามาหาพวกเราเชนกัน”
เมื่ อ ไดฟ ง ผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรทั้ งหมดต างก็แ ตกตื่น ทยอยกัน พ น สมบั ติ อ าคมของ
ตัวเองออกมา เตรียมการป องกัน ตั ว ในเวลาเดี ย วกั น ก็ม องไปรอบๆ ด าน แต ไกล
ออกไปหมื่นลี้กลับไมมีเมฆหมอก ไหนเลยจะมีเงารางของอสูรปศาจสักกระผีก
ผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้มองสบตากันแวบหนึ่ง ตอนที่คิดจะซักถามชายรางใหญนั้น
ท อ งฟ ารอบด านก็ มี เสี ยงกรีด รอ งที่ แ หลมสูงของมั งกรวารีดั งขึ้น จากนั้ น จุ ดที่ ไกล
ออกไปก็มีเมฆปศาจหลากสีสันกลุมแลวกลุมเลาปรากฏตัวขึ้น หมุนวนติ้วๆ ไมหยุด
เผยใหเห็นรางของมังกรมังกรวารีรางๆ เกล็ดที่ดูดุดันเรียงรายอยูทั่วเรือนกาย พุงเขา
มาลอมรอบพวกเขาอยางรวดเร็ว
แตสิ่งเหลานี้ยังไมใชสิ่งสำคัญที่สุด สิ่งสำคัญก็คือหมอกปศาจที่ปรากฏตัวจากทาง
ตะวันตกและตะวันออกทั้งสองดานเห็ นไดชัดวาใหญ กวาหมอกปศาจทิ ศทางอื่น ๆ
หลายเทา แยกออกเปนสีฟาและสีแดง ดูสวยสดงดงามอยางที่สุด
“เปนไปไดอยางไร มีอสูรปศาจระดับแปดสองตัว?” ในระยะที่ประชิดเชนนี้ จาก
จิตสัมผัสของผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้ ก็สัมผัสไดถึงความนากลัวของปศาจอสูรที่อยูใน
หมอกปศาจทั้งสองกลุมทันที และมีคนรองอุทานออกมาพรอมกับหนาถอดสี
ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือเองก็หนาซีดขาว เผยแววตาตื่นตระหนกออกมา
เห็ น ได ชั ด วามั งกรวารีชั่ วรายเหล านี้ ไม รู ว าใช วิ ธี อ ะไรถึ งเรีย กอสู ร ระดั บ แปด
เชนเดียวกันออกมาอีกตัวได ตอนนี้กำลังลอบโจมตีพวกเขาทีละตัวๆ อยางไมพอใจ
ตั้งใจจะโจมตีโอบลอมกลุมผูบำเพ็ญเพียร
คาดไมถึงวาอาหารจานหลักจะมาถึงแลว!
“แตกตื่นอะไรกัน รีบสงยันตขอความชวยเหลือไปใหกลุมผูบำเพ็ญเพียรกลุมอื่น
และแยกกันตานทานศัตรูเดี๋ยวนี้ ถาหากมังกรวารีเหลานี้รวมตัวกัน ก็จะทำใหมีพลัง
คุกคามมากยิ่งขึ้น หามคิดหนีเอาตัวรอดเด็ดขาด จากเคล็ดวิชาวารีหลีกหนีของมังกร
วารีชั่วรายเหลานี้ พวกเรามีแตจะโดนสังหารที ละคนเท านั้ น ” ชายรางใหญ ระดั บ
กอกำเนิดผูนั้นยังคงรักษาความสุขุมเยือกเย็นเอาไวได หลังจากตะโกนดวยเสียงอันดัง
ออกมาก็ออกคำสั่งทันที
เมื่อไดฟง ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวม ณ ที่นั่นตางก็ใจชื้นขึ้น ชั่วขณะนั้นก็มี
อยูสองสามคนที่ปลอยยันตถายทอดเสียงสองสามสายขึ้นไปบนทองฟา
“ขาจะไปตอกรกับมังกรวารีชั่วรายระดับแปดหนึ่งในนั้น สวนอีกตัว ใหสองคนที่
มีความคลองตัวไปรั้งเอาไวกอน หามปะทะกับอสูรตัวนั้นโดยตรง แคถวงเวลาไวก็พอ
ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือก็ไปตอกรกับมังกรวารีชั่วรายระดับเจ็ด” จากนั้นชายรางใหญก็
เอยดวยน้ำเสียงเครงขรึม
แตครั้งนี้ผูบำเพ็ญเพียรทุกคนกลับมองสบตากันไปมา
ตอกรกับมังกรวารีระดับเจ็ดยังพอวา ถึงแมวาผูบำเพ็ญเพียรสวนใหญจะไมใชคู
ตอสูถาตอกรเพียงลำพัง แตก็มั่นใจไดวาจะรักษาชีวิตตัวเองเอาไวได ทวาจะใหพวก
เขาสองคนรวมมือกันตอกรกับมังกรวารีระดับแปดอีกตัวนั้น ไมใชเรื่องลอเลนหรอก
หรือ! ถึงแมจะใหไปถวงเวลา ผูบำเพ็ญ เพียรทั่วๆ ไปจะประมือกับอสูรปศาจระดับ
แปดไดนานเทาไหรกันเชียว
“สองคนไม ไหว เช น นั้ น สามคนก็ แ ลวกั น !” ชายรางใหญ ระดั บ ก อ กำเนิ ด เห็ น
สถานการณเชนนี้ ก็เพิ่มคนเขาไปคนหนึ่งอยางรอนใจ
ครั้งนี้เมื่อ เอยปาก จูๆ ก็มีเสียงแหวกอากาศพุ งมา ภาพฉากที่ ท ำให ทุ กคนตก
ตะลึงปรากฏขึ้น
เห็นเพียงจูๆ ดานขางก็มีผูบำเพ็ญเพียรที่มีหนาตาไมสะดุดตาคนหนึ่งพุงขึ้นไปบน
ทองฟา จากนั้นพลันกลายเปนสายรุงสีเขียวที่เจิดจาสาย ตรงไปยังหมอกสีเพลิงที่อยู
อีกดาน
“ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด แถมยังเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลาง!”
เกิดความวุนวายขึ้นทามกลางเหลาผูบำเพ็ญเพียร ทุกคนตางตกตะลึงระคนดีใจ
หลังจากที่ชายรางใหญระดับกอกำเนิดผูนั้นตะลึงงันแลวก็รูสึกดีอกดีใจเชนกัน
หรือวาสำนักมหาสมุทรทักษิณ สัมผัสไดถึงความผิดปกติ จึงจงใจจัดผูบำเพ็ญ เพียร
ระดับกอกำเนิดมาในกลุมของตนเพิ่มอีกคน
ในใจกำลังขบคิดเชนนั้น แตเมื่อเห็นหมอกปศาจเบื้องหนาจะรวมตัวเขาดวยกัน
ชายรางใหญก็ไมมีเวลาใหขบคิดอีก
หลังจากที่รางกายหมุนติ้วๆ แลวก็กลายเปนลำแสงสีฟากลุมหนึ่ง พุงไปหาหมอก
ปศาจสีฟาที่อยูอีกดาน
ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือเห็นผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดแยกกันไปตานทานกับ
อสูรปศาจระดับแปด ก็รูสึกมั่นใจขึ้นพลางแยกกันกลายเปนลำแสงหลีกหนีหลากสีสัน
พุงออกไปยังทิศทางที่เหลือ เพื่อขัดขวางหมอกปศาจเหลานั้นเอาไว
ไมนานทั่วทุกสารทิศก็มีลำแสงวิญญาณสวางวาบขึ้นพรอมกัน เสียงอึกทึกดังขึ้น
อยางตอเนื่องไมหยุด
ที่ไมเหมือนกับทิศทางอื่นก็คือ รางของหานลี่ที่ อยูในหมอกป ศาจกลับไมขยับ
เขยื้อน บนเรือนรางถูกเปลวเพลิงสีมวงออนชั้นหนึ่งหอหุมเอาไว รอบๆ ดานตางมี
ทะเลเพลิงลอมรอบราวกับกำลังจะถูกหลอมเหลวอยางไรอยางนั้น บางครั้งก็มีเสียง
เปรี๊ ย ะๆ ดั ง ออกมา เสี ย งเหล า นี้ เที ย บกั บ เสี ย งอั น น า ตกตะลึ ง ของทิ ศ อื่ น ๆ แล ว
แนนอนวาไมนับวามีคาอะไร
และดานตรงขามที่หางออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง อสูรปศาจครึ่งมังกรวารีครึ่งมนุษย
ที่อยูทามกลางเสาเพลิงก็กำลังมองมาทางเขาดวยความเย็นชา ถึงแมวารางของปศาจ
ตนนี้จะดูเหมือนบุรุษธรรมดาสามัญ แตทั่วเรือนกายกลับมีเกล็ดขนาดเทากำปนสีแดง
สดแวววาวเต็มไปหมด พลางพนเปลวเพลิงสีแดงเล็กๆ ออกมาภายนอก
“มังกรวารีเพลิงสีชาดดังคาด ดูแลวครั้งนี้ขาคงมาถูกที่แลวจริงๆ มังกรวารีเพลิงสีชาด
ระดับแปด แข็งแกรงกวาระดับเจ็ดเปนอยางมาก คิดดูแลวเกล็ดบนรางของเจา คงมี
ประสิทธิภาพยอดเยี่ยมสินะ” จูๆ หานลี่พลันฉีกยิ้มเบิกบานออกมา
“เจามาเพราะขาหรือ” แรกสุดมังกรวารีเพลิงสีชาดรางมนุษยผูนั้นพลันตกตะลึง
ทันใดนั้นแววตาก็ฉายแววสีเขียวสวางวาบ ปากใหญ ๆ เผยอออกพลางเอยขึ้น เผย
เขี้ยวแหลมคมสีขาวราวกับหิมะออกมา ทำใหผูคนอดที่จะสั่นสะทานไมได ในเวลา
เดียวกันเสาเพลิงรอบดานก็ขยายใหญขึ้นอีกสามสวน ดูคุกคามมากยิ่งขึ้น
แตอยามองวามังกรวารีตนมีรูปรางที่ดูนาโหดเหี้ยม ทวาในใจกลับรูสึกไมสบายใจ
ขึ้นมา
ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รมนุ ษ ย ที่ พุ ง เข า มาคนนี้ ไม เพี ย งจะเป น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดขั้นกลาง เปลวเพลิงสีมวงธาตุน้ำแข็งบนรางก็ยังลึกลับยากจะคาดเดา ไม
หวาดกลัวเพลิงปศาจที่มันฝกฝนอยางหนักมาหลายปเลยแมแตนอย ครั้งนี้จึงทำให
ความสามารถของมันไรประโยชนไปกวาครึ่ง
และยิ่งไปกวานั้นไมรูเพราะเหตุใด เมื่อเห็นทาทางสุขุมเยือกเย็นของหานลี่ มันก็
ยิ่งรูสึกใจกระตุกวาบ สัมผัสไดถึงหายนะที่ใกลเขามารางๆ ทำใหอสูรตนนี้ยิ่งรูสึกไม
สบายใจมากยิ่งขึ้น
“ในตอนที่ขามา ก็ไดยินมาวาที่นี่มีแคมังกรวารีเพลิงสีชาดระดับเจ็ดเทานั้น ยาม
นี้มีเจาแลว เชนนั้นก็ไมสนใจเจาตัวนั้นแลว ทวาเจาฝกฝนจนแปลงกายไดแลว ขาก็ไม
อยากจะสังหารเจานัก เอาอยางนี้ก็แลวกัน ถาหากเจายอมมอบเกล็ดชีวิตตรงแผงคอ
ให ข า สั ก สองสามเกล็ ด จากนั้ น ก็ พ าฝู ง มั ง กรวารี จ ากไป ข า ก็ จ ะไว ชี วิ ต เจ า เป น
อยางไร?” หลังจากที่หานลี่หัวเราะหึๆ ออกมาก็เอยดวยสีหนาราบเรียบ
“มอบเกล็ดชีวิตใหเจา โอหัง เปนแคผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางแคคน
เดียว ยังกลาบังอาจขนาดนี้ ใหขาเผาจนเปนจุณ ลงไปฝนหวานในยมโลกเถิด” มังกร
วารีเพลิงสีชาดตนนั้นไดยินคำพูดของหานลี่ ก็ระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา ราวกับ
จี้ใจดำอยางไรอยางนั้น
เกล็ดชีวิตคือสิ่งที่ติดตัวเหลามังกรวารีมาตั้งแตกำเนิด มีมากหรือนอยไมเทากัน
แต เมื่ อ โตขึ้ น เกล็ ด ชี วิต เหลานี้ จ ะมี จิ ต วิญ ญาณบริสุ ท ธิ์แ ละลมปราณของพวกมั น
จำนวนไมนอยบรรจุอยู แทบจะเปนรองจากแกนอสูร หากสูญเสียไป พลังยุทธของ
พวกมันก็จะลดลงกวาครึ่งในทันที แนนอนวานี่จึงเปนการยั่วโทสะของอสูรตนนี้ทันที
ภายใตความโกรธเกรี้ยวนั้น รางของอสูรตนนั้นพลันหมุนติ้วๆ กลางเสาลำแสง เสียง
‘ตูม’ ก็ดังขึ้นแผวเบา เสาเพลิงสลายออก มังกรวารีสีแดงลำตัวหนาหลายฉื่อยาวเจ็ด
แปดจั้งปรากฏขึ้นทามกลางเปลวเพลิง หลังจากที่มันโยนความกังวลทิ้งไปแลว ก็คิด
เพียงวาจะตองฉีกหานลี่ใหเปนชิ้นๆ แลวคอยใชเพลิงปศาจเผาใหเปนจุณเทานั้น
เมื่ออสูรตนนี้คืนรางอสูรปศาจออกมาแลวก็อาปากออกอยางดุดัน พนของเหลวสี
แดงสดราวกับหินหลอมเหลวสายหนึ่งออกมาพุงเขาใสหานลี่
หานลี่เห็นสถานการณเชนนั้นพลันขมวดคิ้วเล็กนอย
“แปรอัคคีหลอมเหลว ฝกฝนเพลิงปศาจมาไดถึงขั้นนี้ ถึงวาไมงายดายจริงๆ แตดู
แลว ขาคงตองลงมือเองแลว”
ปากเอยเชนนั้นแตหานลี่กลับไมกลาดูแคลน ชูมือขึ้นตบไปที่ทายทอย พนไขมุกสี
ขาวราวกับ หิ มะเม็ดหนึ่งออกมาจากปาก นั่ น ก็ คือสมบั ติอาคมไขมุกผลึกหิ ม ะธาตุ
น้ำแข็งที่หลอมเสร็จแลว
หลังจากที่ไขมุกเม็ดนี้ถูกพนออกมาจากปากก็ขยายขนาดขึ้น กลายเปนมีขนาด
เทากำปน พุงไปยังทิศตรงขาม ในเวลาเดียวกันหานลี่ก็คำรามดวยเสียงทุมต่ำออกมา
ยื่นมือออกไปชี้ไปยังไขมุกที่อยูไกลออกไป จูๆ เสียงไพเราะก็ดังขึ้น ไขมุกพนเปลว
เพลิงสีมวงกลุมใหญออกมา ชั่วครูก็กลายเปนมังกรวารีเพลิงสีมวงความยาวสองสาม
จั้ง ปากอมไขมุกผลึกหิมะขนาดใหญเอาไว
มังกรวารีที่กอตัวขึ้นกระโจนออกไปอยางไมเกรงใจทันที สะบัดหัวสะบัดหางไป
มาชนเขากับของเหลวเพลิงสีแดง
เสียง ‘โครม’ ดังขึ้น จากนั้นไอสีขาวพลันขยายใหญขึ้นอยางรวดเร็ว ชั่วครูก็กลืน
กินทั้งสองฝายเขาไป เห็นเพียงมังกรวารีสีมวงดูเหมือนวาจะกำลังใชไขมุกกลมๆ พน
เปลวเพลิงสีมวงกลุมแลวกลุมเลาออกมาอยางเลือนราง พลางบีบใหของเหลวเพลิง
สายนั้นลาถอยไป
มังกรวารีเพลิงสีชาดเห็นเชนนั้นก็เผยความหวาดกลัวออกมาในแววตา แตทันใด
นั้ น แววตาพลัน ฉายแววโหดเหี้ ยม แสงสี แ ดงสวางวาบขึ้น บนเรือ นราง ปากก็ รอ ง
คำรามเสียงดังแหลมๆ ออกมา
หานลี่ที่อยูทามกลางเสียงกรีดรองในทะเลเพลิงใกลๆ ชั่วครูเปลวเพลิงพลันหมุน
ติ้วๆ ไมหยุด จากนั้นก็พัดออกไป กลายเปนคลื่นพลิงขนาดยักษสูงสิบกวาจั้ง พุงเขา
มาจากทั้งสองฝงดวยทาทีดุดัน เขามากดหานลี่เอาไว
หานลี่เห็นเชนนั้นก็หัวเราะอยางเย็นชาออกมา ถูมือทั้งสองไปมาและแยกออกอีกครั้ง
ลำแสงสีมวงสวางวาบตรงตำแหนงใจกลาง เสียงที่ไพเราะเสนาะหูพ ลันดังขึ้น
ยอดเขาผลึกน้ำแข็งสูงยี่สิบสามสิบจั้งผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ดานบนมีลำแสงที่เย็นเยียบ
สีมวงจางๆ สวางวาบไมหยุด ชั่วครูก็ตานทานเปลวเพลิงจากทั้งสองฝงเอาไว
แตในตอนนั้นเอง รางของมังกรวารีเพลิงที่อยูไกลออกไปก็สั่นเทา รางกายหดเล็ก
ลงหลายเทา กลายเปนมีขนาดแคสองสามจั้ง
จากนั้นของเหลวเพลิงที่ปากของมันก็หยุดลง เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น คาดไมถึงวาจะ
กลายเปนลำแสงสีแดงสายหนึ่งพุงเขาไปหาหานลี่อยางรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็อยูหางอยู
เพียงยี่สิบกวาจั้ง พลางหยุดอยูเบื้องหนาของหานลี่ไมไกลนัก ในเวลาเดียวกันก็ชูกรง
เล็บทั้งสองขึ้น ทำทาจะโจมตี
แตเดิมมังกรวารีตัวนี้เห็นเพลิงปศาจไมไดผล ก็คิดจะอาศัยความแข็งแกรงของ
รางกายเขาใกลหานลี่ และตะปบหานลี่ใหถึงแกความตายอยางไมทันตั้งตัว
ตอนที่ 966 สังหารมังกรวารี
ชั่วพริบตาที่มองเห็นมังกรวารีเพลิงเขามาประชิดตัว หานลี่กลับเผยรอยยิ้มจางๆ
ออกมา นิ้วมือนิ้วหนึ่งในแขนเสื้อสั่นเทาเบาๆ ลำแสงสีแดงสายหนึ่งพุงออกมาจาก
ปลายนิ้ว สวางวาบและหายไปอยางไรรองรอย ในเวลาเดียวกันที่แผนหลังก็มีเสียงฟา
รองดังขึ้น ปกสีเงินขาวคูหนึ่งปรากฏขึ้นทันทีพรอมกับกระพือเบาๆ
ลำแสงสีเงินสวางจา กรงเล็บที่แหลมคมมีลำแสงสีแดงสดหอหุมเอาไวกำลังจะ
โจมตีเขามา ชั่วครูรางของหานลี่ก็สลายหายไปทามกลางลำแสง รางของมังกรวารี
เพลิงสีชาดแวบหายไป ชั่วขณะนั้นการโจมตีจึงผิดพลาด
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ขางหูของเขามีเสียงแหวกผานอากาศที่แหลมสูงดัง
แตไมดังนักดังขึ้น แตเข็มสีแดงแวววาวเลมหนึ่ง ก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศดานขาง
มังกรวารีตนนั้น แทงลงไปตรงหวางคิ้วของมังกรวารีเพลิงสีชาดอยางแมนยำ
ลำแสงสีแดงที่อยูรอบกายของมังกรวารีเพลิงสีชาดหมุนวนไมหยุด ทำไดเพียง
ตานทานสิ่งนี้เอาไวเพียงเล็กนอยเทานั้น แลวก็ถูกทะลวงเขามา เปนเข็มบินที่แหลม
คมเปนพิเศษเลมนั้นนั่นเอง
เข็มบินนั้นเงียบเชียบและรวดเร็วเปนพิเศษ ขณะที่มังกรวารีเพลิงสีชาดไมทันได
ตรวจสอบก็ถูกเข็มบินพุงเขามาขางกาย แนนอนวาจึงตกใจจนขวัญกระเจิง เขาทำได
เพียงพยายามเอียงศีรษะหลบการโจมตีอยางไมตองขบคิด แตกลับสายไปเสียแลว
เสียงทิ่มแทงดังขึ้นแผวเบาคราหนึ่ง ปากของอสูรตอนนี้รองคำรามอยางนาเวทนา
ออกมา กรงเล็บขางหนึ่งปดใบหนาที่ใหญโตกวาครึ่งเอาไว โลหิตไหลลงมาตามงามนิ้ว
คาดไมถึงวาเข็มบินจะเจาะทะลุผานใบหนาของมังกรวารีชั่วรายจนบินออกไปจากอีก
ดาน
ถึงแมวาเข็มบินเลมนี้จะแหลมคมเปนพิเศษ แตเปนเพราะตัวมันเองคือสิ่งที่ใช
แกนอสูรธาตุไฟหลอมขึ้นมา ฉะนั้นความสามารถที่ ติดตัวมาจึงไมอาจทำอันตราย
มังกรวารีตัวนี้ไดมากนัก แตเมื่อทะลุผานใบหน าไป เข็มบิ นเลมนี้ ก็ขยายขนาดขึ้น
หลายเทาในชั่วพริบตาภายใตการควบคุมดวยความคิดของหานลี่ ดังนั้นบนใบหนาจึง
มีรูขนาดใหญเทาหัวแมมืออยู และทำใหอสูรตนนี้เจ็บปวดอยางเกินทนเชนกัน
แตมังกรวารีเพลิงสีชาดยังไมทันไดเดือดดาล เสียงฟาผาก็ดังขึ้นจากดานหลัง ราง
ของหานลี่ปรากฏขึ้น สะบัดแขนทั้งสองในเวลาเดียวกัน ลำแสงสีทองความยาวสอง
สามจั้งสายหนึ่งพลันฟาดลงมาอยางรุนแรง
มังกรวารีเพลิงสีชาดรูสึกจิตใจหนักอึ้ง และไมสนใจความเจ็บปวดบนใบหนา หาง
มังกรวารีพลันมีลำแสงสีแดงสวางวาบ รางกายขยายใหญขึ้นสองสามเทา กวาดมาทาง
หานลี่อยางรุนแรงราวกับพัดขนาดยักษ คิดจะทุบหานลี่ใหกลายเปนเนื้อบดกอนโดย
ไมสนใจอะไรทั้งนั้น
หานลี่เห็นเชนนั้นพลางตะลึงคาง อสูรตนนี้คูควรกับที่เปนอสูรวิญ ญาณฟาดิน
จริงๆ ปฏิกิริยาตอบสนองวองไวอยางหาที่เปรียบมิได ภายใตการลอบโจมตีจากอัสนี
หลีกหนีของเขา ผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ คงรับมือไดทันเพียงไมกี่คน
เมื่อขบคิดเชนนั้น ความคิดก็เคลื่อนไหว กระบี่ลำแสงสีทองโนมเอียง สับลงมา
ตรงหางของมังกรวารี
ผลลัพธคือเมื่อทั้งสองสัมผัสกัน ลำแสงสีทองพลันแหวกผานลำแสงสีแดงไป และ
ฟนลงบนหางของมังกรวารีโดยตรง
มังกรวารีเพลิงสีชาดใจสั่นสะทาน รีบรอนรวบรวมพลังปศาจไวที่หาง ชั่วครูหาง
และเกล็ดก็เปลี่ยนเปนสีแดงสดแวววาว
หลั งจากเสี ย งอึ ก ทึ ก ดั งขึ้ น ลำแสงสี ท องและลำแสงสี โลหิ ต พลั น ประสานเข า
ดวยกัน รัศมีเจิดจาจนแสบตา หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง ลำแสงสีฟาสวางวาบในมาน
ตา ชั่วขณะนั้นพลันมองเห็นสถานการณอยางชัดเจน
เขารวมกระบี่บินหลายเลมเขาดวยกันเปนกระบี่สีทอง คาดไมถึงวาจะไมฟนหาง
มังกรวารีใหขาดในคราวเดียว แตหลังจากที่เฉือนเกล็ดออกแลว ก็ฟนลึกเขาไปในหาง
ของมังกรวารีแคหนึ่งในสามสวน ถูกกระดูกมังกรวารีที่แข็งแกรงของมันตานทาน
เอาไวชั่วคราว
แววตาของหานลี่พลันเปลงประกาย สองมือรายอาคม คิดจะดึงกระบี่บินกลับ
มาแลวสับลงมาอีกครั้ง แตตอนนั้นกลับมีแรงดูมหาศาลสงมาจากหางของมังกรวารี
กักกระบี่บินเอาไวที่เดิม ไมมีทางดีดตัวออกมาไดเลยแมแตนอย
“ไมมีสมบัติอาคม ดูสิวาเจาจะรับมืออยางไร!”
แววตาของมังกรวารีเพลิงสีชาดเผยรอยยิ้มเยาะอยางบาคลั่งออกมา หั นหน า
กลับไปและอาปาก ลำแสงสีแดงสวางจา ไขมุกกลมๆ ขนาดเทากำปนปรากฏขึ้นใน
ปากของมังกรวารีตนนั้น
“แกนอสูร” รูมานตาของหานลี่หดเล็กลง ชั่วขณะนั้นพลันจำของสิ่งนี้ไดทันที
ดูเหมือนวาอสูรตนนี้จะรูวาไมใชคูตอสูของเขาหากปะทะกันตรงๆ คาดไมถึงวาจะ
อาศัยโอกาสที่สมบัติอาคมถูกกักตัวอยู เตรียมพนแกนอสูรออกมาโจมตี
หลังจากที่หานลี่หนาเปลี่ยนสีแลว ปากก็รองตะโกนออกมา จูๆ รางกายพลันพรา
เลือน จากนั้นก็พลิ้วไหว หานลี่สามคนที่หนาตาเหมือนกันทุกระเบียบนิ้วปรากฏตัวขึ้น
อยางแปลกประหลาด ขณะยืนเรียงแถวหนากระดานกันอยู
แน น อนว า ภาพฉากนี้ ท ำให มั ง กรวารี เพลิ ง สี ช าดตกตะลึ ง ขณะยั ง ไม ทั น ได
แยกแยะวาคนไหนคือตัวจริงนั้น หานลี่ทั้งสามคนก็สะบัดแขนเสื้อพลางหัวเราะอยาง
เย็นชาขึ้นมาพรอมกัน ลำแสงสีทองความยาวสองสามฉื่อสามสายพุงออกมาจากแขน
เสื้อพรอมกัน และฟนลงไปที่มังกรวารีชั่วรายอยางโหดเหี้ยม
มังกรวารีชั่วรายพลันตกตะลึง เห็นเพียงลำแสงสีทองสามสายพุงเขามาจากทั้ง
สามทิศทางพรอมกัน มันรูสึกสับสนอลหมาน จนทำไดเพียงพนแกนอสูรออกไป ตรง
ไปหาลำแสงสีทองที่อยูตรงกลาง กรงเล็บที่แหลมคมและเปลงแสงสีแดงทั้งสองแยก
ออกเปนซายขวา ตะปบลำแสงสีทองที่เหลือทั้งสองสายเอาไว
ถึงแมวาจะเคยมีประสบการณกับอานุภาพกระบี่บินของหานลี่แลว แตมันก็ไมคิด
วาลำแสงสีทองสามสายของหานลี่จะเปนของจริงทั้งหมด จะตองเหมือนกับการตอกร
กับศัตรูสามคน ที่เปนของจริงหนึ่งและของปลอมอีกสองแน ถาหากแกนอสูรตานทาน
ของจริงเอาไวได แนนอนวามันก็ไมตองกังวลวาจะถึงแกชีวิต ถาหากเปนของปลอม
กรงเล็บของมันทั้งสองก็แข็งแกรงกวาหางมาก มันจะพยายามทำใหกรงเล็บขางหนึ่ง
ตานทานกระบี่บินที่แทจริงเอาไวชั่วคราว และใชแกนอสูรพนใสรางของหานลี่โดยตรง
สิ่งที่นาเสียดายก็คือความคิดของอสูรตนนี้ผุดขึ้นมาแคในใจเทานั้น เสียงอึกทึก
ครึกโครมดังขึ้น แกนอสูรที่กลายเปนลำแสงสีแดงโจมตีจนลำแสงสีทองลาถอยออกไป
สองสามจั้ง เผยใหเห็นรางที่แทจริงของกระบี่บิน
‘คาดไมถึงวากระบี่บินตรงกลางจะเปนของจริง’ มังกรวารีเพลิงสีชาดเห็นเชนนั้น
ก็ขบคิดอยางดีอกดีใจ แตเมื่อความคิดนี้เพิ่งจะผุดขึ้นมา ลำแสงสีทองอีกสองสายก็
สวางจาขึ้นมาพรอมกัน แลวกะพริบวาบ กรงเล็บทั้งสองพลันเย็นเยียบขึ้นพรอมกัน
จากนั้นความเจ็บปวดที่ยากจะบรรยายก็ถูกสงมา ชั่วพริบตากรงเล็บที่แหลมคมทั้ง
สองก็ถูกลำแสงสีทองฟนทิ้งไปกวาครึ่ง จากนั้นก็บินมาอยูเบื้องหนาของมังกรวารีชั่ว
รายอยางรวดเร็วปานสายฟา
“อาก” เสียงแหลมสูงของมังกรวารีดังขึ้น ลำแสงวิญญาณบนรางสวางวาบ และ
พุงหลบหลีกไป
แตในตอนนั้นเอง ใตฝาเทาของมันพลันมีดอกบัวสีมวงดอกหนึ่งผลิบานออกมา
เงาดอกบัวสวางวาบ ไอเย็นเยียบที่ผนึกทุกอยางพลันระเบิดออกมาทันที ชั่วขณะนั้น
มังกรวารีตัวนั้นกลันตกใจจนสะดุงโหยงดวยความหนาวสั่น รางกายอดที่จะหยุดชะงัก
ไมได
เพียงแคเสียเวลาไปเทานั้น ลำแสงสีทองสองสายก็ระเบิดลำแสงที่เจิดจาจนแสบ
ตาออกมา ลอมรอบหัวของมังกรวารีตัวนี้เอาไวและสับลงมาเปนรูปกากบาทไขว เสียง
ฉับดังขึ้น ศีรษะขนาดใหญกลิ้งหลุดจากตนคอ เกล็ดหนาๆ บนคอของมัน คาดไมถึงวา
จะไมสามารถตานทานการสับครั้งนี้ไดเลยแมแตนอย
ที่แท เมื่อครู นิ้วของหานลี่ที่ ซอ นอยูในแขนเสื้อ พลัน รายอาคมพรอ มกัน ผนึ ก
ลมปราณกวาครึ่งของรางเอาไวที่กระบี่บินทั้งสองเลม ทำใหอานุภาพที่นาหวาดกลัว
ของแกนทองคำสำแดงออกมา ชั่วพริบตากระบี่บินพลันกลายเปนอมตะ แทบจะไมมี
สิ่งไดตานทานได
ตอนนั้น หลังจากที่ ‘หานลี่’ อีกสองคนเปลงแสงสีเขียวสวางวาบ ชั่วครูก็สลาย
หายไปจากที่เดิมอยางไรรองรอย
ชั่วพริบตาที่หัวของมังกรวารีตกลงมานั้น การเคลื่อนไหวในมือของหานลี่ก็ไมหยุด
พักแมแตนอย ชี้ไปที่กระบี่บินทั้งสองเลมอีกครั้ง เสียงฟาฟาดดังสนั่น ประจุไฟฟาสี
ทองหนาๆ สองสายดีดออกมาจากกระบี่บินทั้งสองเลม กลายเปนตาขายสีทองผืนหนึ่ง
คลุมลงมา
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ซากของมังกรวารีที่ ถูกตัดหัวออกก็เป นแสงสีแดง
สวางวาบ มังกรวารีนอยสีแดงตัวหนึ่งพุงแหวกอากาศมาอยางลนลาน แตกลับพุงเขา
ไปในตาขายสีทองอยางพอดิบพอดี
รอจนมันสัมผัสไดวาไมถูกตองและคิดจะหนีนั้น ตาขายไฟฟาก็ประสานกัน ทำให
มันกลายเปนวิหคที่ติดอยูในกรงขัง
ตอนนั้นความกลาหาญของจิตวิญญาณมังกรวารีตนนั้นพลันหายวับไป พยายาม
พนเปลวเพลิงสีแดงกลุมแลวกลุมเลาออกมาจากปาก โจมตีไปยังตาขายสีทอง คิดจะ
ทะลวงหนีออกจากตาขาย
แตหานลี่ที่เตรียมการเอาไวอยูแลว กลับสงเสียงหึอยางเย็นชาออกมา ไมทำอะไร
อีก ตาขายไฟฟากับหดเล็กลงอยางรวดเร็ว หลังจากผานไปชั่วคูก็กักจิตวิญญาณมังกร
วารีนั้นเอาไวในที่แคบขนาดสองสามจั้ง หานลี่ไมเหมือนกับผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ ที่
จะระเบิดตาขายไฟฟาสังหารมันในทันที แตกลับพลิกฝามือ ขวดเล็กๆ สีเขียวปรากฏ
ขึ้นในมือ
ชูมือขึ้นกวักเรียกตาขายไฟฟา เสนไหมสีทองบางๆ จำนวนนับไมถวนพนออกมา
จากตาขาย ตรงเขาไปพัวพันตรงใจกลาง จิตวิญญาณมังกรวารีตัวนั้นพยายามดีดดิ้น
อยางสุดชีวิต แตที่เล็กๆ เชนนั้นไมมีทางที่ใหหลบหนี ชั่วครู ก็ถูกเสนไหมสีทองขนาด
เทากำปนรัดเอาไว และไมมีทางดีดดิ้นไดอีก
ตอนนั้นหานลี่พลันสะบัดขวดในมือไปทางกอนไหมสีทอง ลำแสงสีขาวผืนนึ่งพน
ออกมาจากขวด ชั่วพริบตาก็มวนเอากอนเสนไหมสีทองไวขางใน และดูดเขาไปในขวด
หานลี่ถึงไดมีสีหนาผอนคลายลง!
“ถึงแมวาเคล็ดวิชาเงาวิญญาณจะเปนเพียงเคล็ดวิชาเล็กๆ แตตอนที่ตอกรกับศัตรู
จริงๆ ก็มีประโยชนไมนอย มินาเลาภูเขาแสงทองถึงไดสืบทอดวิชาลับนี้ตอๆ กันมา”
หานลี่เอยพึ ม พำ ชูมือ ขึ้น ควาซากมั งกรวารีที่ ถูกเปลวเพลิ งห อ หุ ม เอาไวกลาง
อากาศ ชั่วขณะนั้นกระบี่บินอีกเลมหนึ่งก็บินออกมาจากหางของมังกรวารี จากนั้น
ศีรษะและรางก็ถูกหานลี่ใชยามเก็บของที่เตรียมเอาไวแลวดูดเขามา
สวนแกนอสูรระดับแปดที่ไรซึ่งเจานายนั้น แนนอนวาจึงไมถูกหานลี่ลืมเลือน ใช
กลองหยกใบหนึ่งเก็บเอาไวอยางระมัดระวัง
เมฆปศาจและทะเลเพลิงรอบๆ ดานในตอนนี้ที่ไมมีลมปราณของมังกรวารีเพลิงสี
ชาดคอยประคับประคองอีก แนนอนวาจึงคอยๆ สลายหายไป
หานลี่ถือโอกาสนี้กลอกตาไปมา มองไปยังการตอสูที่เหลือ ผลลัพธคือทำใหขมวด
คิ้วอยางไมคอยใสใจ
ผูบำเพ็ญเพียรหลอมรวมเหลานี้ยังพอวา อาศัยจำนวนคนที่มากกวามังกรวารีชั่ว
รายระดับเจ็ดเล็กนอย โจมตีจนพอสูสี และยังไมเผยทาทีตกเปนรองออกมา สวนชาย
รางใหญระดับกำเนิดอีกดาน กลับมีสถานการณที่ไมคอยดีนัก ถูกมังกรวารีสีฟาระดับ
แปดตัวนั้นไลบี้จนเสียเปรียบ และมีทาทีตานทานเอาไวไมไหว
“อสูรปศาจระดับแปด ไมใชสิ่งที่พบเห็นไดงายนัก กำจัดเจาตัวนั้นพรอมกันไป
เลยดีกวา” แววตาของหานลี่เปลงประกายเย็นเยียบ เอยพึมพำกับตัวเอง จากนั้น
ลำแสงสีเขียวก็สวางวาบขึ้นบนราง คิดจะบินหนีออกมา
‘เจาเด็กนอยหาน อยาละโมบเกิน ไปนั ก ขาสัมผั สได วา ผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรคนอื่ น
กำลั ง มุ ง มาที่ นี่ ถ า หากเจ า ยั ง เสี ย เวลาอยู ล ะก็ จะไปไม ได แ ล ว นะ คนของสำนั ก
มหาสมุทรทักษิณยอมเสียเวลามากมายขนาดนี้ลอมจับมังกรวารีช่ัวราย ก็เพื่ออสูร
ปศาจระดับแปด หากเจาฆามันทิ้งทั้งหมด พวกเขาก็คงไมยอมปลอยไปงายๆ’ จูๆ
เทพขับเคลื่อนพลันถายทอดเสียงมา
“คนของสำนักมหาสมุทรทักษิณ มาแลว ทำงานไดรวดเร็วจริงๆ เชนนั้นก็ชาง
เถอะ! ถึงแมวาจะนาเสียดายอยูเล็กนอย แตก็ไปกันเถอะ” หานลี่ไดยินแลวพลันตก
ตะลึง ใชจิตสัมผัสยืนยันเรื่องนี้แลวเอยดวยสีหนาเครงขรึม จากนั้นกอนที่หมอกปศาจ
จุดสุดทายจะหายไป เขาก็หายลับไปจากที่เดิม ใชการอำพรางกายออกไปจากที่นี่
อยางเงียบๆ
และในตอนนั้นมังกรวารีสีฟาระดับแปดตัวนั้นก็สัมผัสไดวามังกรวารีเพลิงสีชาดได
เพลี้ยงพล้ำแลว ภายใตความโกรธแคนอยางสุดๆ นั้น มันก็โจมตีออกมาอยางบาคลั่ง
โดยไมสนใจอะไรอีก ทำใหชายรางใหญที่แตเดิมถูกตอนอยู ตกอยูในอันตรายในทันที
ครั้งนี้ชายรางใหญจึงรองวาแยแลวออกมาในใจ ความคิดยอมถอยผุดขึ้นมาทันที
และในตอนนั้นเอง ตรงขอบฟาในจุดที่ไกลออกไปก็มีลำแสงวิญญาณสวางวาบขึ้น
สองจุดพรอมกัน จากนั้นกลุม ผูบำเพ็ญเพียรสองกลุมที่มีสมาชิกกลุมละสิบกวาคนก็พุง
เขามาจากทั้งสองฝง
ชั่วขณะที่มังกรวารีสีฟาระดับแปดเห็นสถานการณเชนนั้นก็รูวาซวยแลว รีบระงับ
ความโกรธเกรี้ยวในใจเอาไว ปากก็รองคำรามเสียงแหลมๆ ออกมา จากนั้นก็กระโจน
หายเขาไปในผิวน้ำโดยไมไดกลาวอะไรแมแตคำเดียว
มังกรวารีชั่วรายระดับเจ็ดที่เหลือไดยินเสียงนี้ก็พากันตกตะลึงเชนกัน แตตอนนั้น
ไมวาชายรางใหญหรือวาผูบำเพ็ญ เพียรที่เหลือ ก็ไมยอมใหมันพวกหนีไปงายๆ ชั่ว
ขณะนั้นก็พัวพันกับมันไมหยุด ไมยอมใหพวกมันหนีเขาไปในผิวน้ำโดยงาย
ตอนนั้นเอง การตอสูกลับยิ่งดุเดือดขึ้น…
แตหานลี่ไมสนใจการตอสูที่เหลือแมแตนอย หลังจากบินออกมาไดรอยลี้ก็เผย
ลำแสงหลีกหนีออกมา และบินหายเขาไปยังสวนลึกของมหาสมุทรโดยไมแมแตจะหัน
ศีรษะกลับมาอีก
เขาจำตองตามหาเกาะวิญญาณที่ไรผูคนเกาะหนึ่ง และเริ่มหลอมหุนเชิดของเทพ
ขับเคลื่อน
ตอนที่ 967 แยกวิญญาณ
แผนที่ของนานน้ำผืนนี้ หานลี่ซื้อมาตั้งนานแลว
เขามุงไปตามทิศทางที่มีผูบำเพ็ญเพียรอยูจำนวนนอย หลังจากบินมาไดครึ่งเดือน
ในที่สุดเขาก็รอนลงบนภูเขาเล็กๆ นิรนามแหงหนึ่ง
เกาะแห งนี้ ไม ใหญ นั ก มี ข นาดแค สี่ สิ บ ตารางกิ โลเมตร บนเกาะกลั บ มี ชี พ จร
วิญญาณคุณภาพย่ำแยที่ไมสะดุดตายาวเจ็ดแปดลี้อยูสายหนึ่ง
ถาหากอยูบนแผนดินจะตองถูกตระกูลเล็กๆ นิรนามสักแหงยึดครองแน แตมัน
อยูในมหาสมุทรที่มีอสูรปศาจกระจัดกระจายอยู ตระกูลที่ไมมีพลังอำนาจอะไรไหน
เลยจะกลายายมาอยูที่นี่
สวนผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงในตระกูลเล็กๆ นั้นก็ย่ิงไมสนใจชีพจรวิญญาณที่ไม
สะดุดตาเชนนี้ และยิ่งไปกวานั้นเกาะแหงนี้ยังไมไดตั้งอยูในนานน้ำ มันตั้งอยูในที่รก
รางและหางไกลเปนอยางมาก ดังนั้นจึงรกรางจนมาถึงทุกวันนี้
หานลี่กลับรูสึกพึงพอใจกับเกาะแหงนี้เปนอยางมาก ทันทีที่มาอยูบนเนินเขาก็
ปลอยกระบี่บินทั้งหมดออกมา เปดทางเปนที่กวางโลงขนาดใหญ จากนั้นก็ปลอยจวน
ความลับสวรรคออกมา
ชั่วขณะนั้นจวนขนาดเล็กที่วิจิตรงดงามหลังหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในครรลองสายตา
เพื่อความปลอดภัยหานลี่ไมเพียงกระตุนเขตอาคมที่ติดมากับจวนใหทำงาน ยัง
วางเขตอาคมอำพรางวงหนึ่งบริเวณรอบนอกของภูเขาเล็กๆ เรียกหมอกสีขาวผืนใหญ
ออกมา ปกคลุมยอดเขาในระยะสิบกวาลี้เอาไว ทำใหไมอาจมองเห็นจวนแหงนี้ได
โดยงาย
หลั ง จากจั ด การเรื่ อ งราวทุ ก อย า งเสร็ จ หานลี่ ถึ ง ได ย า ยแมลงวิ ญ ญาณและ
สมุนไพรวิญญาณที่พกติดตัวมาไปไวในหองแมลงและสวนสมุนไพร มังกรเกราะธรณี
ตัวนั้นก็ถูกลงอาคม แลวโยนเขาไปในหองอสูรหองหนึ่ง จากนั้นก็หอบวัตถุดิบจำนวน
มากเขาไปในหองลับหองหนึ่ง
“วัตถุดิบเหลานี้เพียงพอตอการหลอมหนึ่งครั้งเทานั้น ถาหากหลอมผิดพลาดใน
ชวงเวลาสำคัญก็ไมมีเวลาจะไปหาวัตถุดิบอื่นมาแทน อัตราการประสบความสำเร็จมี
เทาไหรนั้นก็ไมมั่นใจเลยจริงๆ ถึงอยางไรเสียก็เปนขาที่ลงมือหลอมแทนทานอาวุโส
จึงอาจจะมีจุดที่เขาใจผิดพลาด และอาจจะทำใหการหลอมลมเหลวได” เมื่อเดินเขา
มาในหองลับ หลังจากที่หานลี่พลิกฝามือดึงกระบอกไมไผที่ดานหลังมาอยูเบื้องหนา
แลว ก็เอยอยางราบเรียบ
“แนนอนวาเรื่องนี้ขารูดี กอนการหลอมขาจะอธิบายวิธีการหลอมอยางละเอียด
ใหเจาฟงรอบหนึ่ง แลวจะถามความรูที่เจาไดเรียนรูไปซ้ำอีกครั้ง หลังจากมั่นใจวาเจา
เขาใจทั้งหมดแลว ถึงจะใหเจาลงมือ กอนที่ขาจะอธิบาย ขาจะใหเจาอานคัมภีรมวนนี้
กอน ดานในเปนบันทึกคุณสมบัติรวมๆ ของหุนเชิดที่ขาจะหลอม เจาอานดูคราวๆ
กอ นแล วค อ ยวากั น ” เสี ยงของเทพขั บ เคลื่ อ นดั งออกมาจากกระบอกไม ไผ เขาดู
เหมือนวาจะขบคิดเรื่องนี้มานานแลว ทาทางดูเหมือนเตรียมการมาเรียบรอยแลว
จากนั้นฝากระบอกไมไผก็มีเสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น คัมภีรสีขาวมวนหนึ่งบินออกมาจาก
ดานใน และถูกหานลี่ควาเอาไวดวยมือขางหนึ่ง
“ในเมื่อทานอาวุโสมั่นใจ ชนรุนหลังก็วางใจแลว” หานลี่พยักหนาและไมไดเอย
อะไรใหมากความอีก ทันใดนั้นพลันนั่งขัดสมาธิแผจิตสัมผัสเขาไปในมวนคัมภีร
เวลาคอยๆ ไหลผานไป สีหนาของหานลี่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปมาไมหยุด มีทั้งตกใจ
ดีใจสุดทายก็เปลี่ยนเปนเครงขรึม
ไมรูวาผานไปนานเทาไหร หลังจากที่เขาพนลมหายใจยาวๆ มาเฮือกหนึ่ง ในที่สุด
ก็ดึงจิตสัมผัสกลับมาจากมวนคัมภีร แตก็ไมไดเอยอะไรออกมาในทันที กลับปดเปลือก
ตาทั้งสองขางลงนั่งสมาธิอยูที่เดิมพลางตรึกตรองอะไรสักอยาง
หลังจากผานไปหนึ่งเคอ หานลี่พลันลืมตาทั้งสองขางขึ้น สีหนาฟนฟูกลับมาเปน
ราบเรียบเชนเดิม
“ไมผิด ถาหากหลอมหุนเชิดตัวนี้ สำเร็จ อานุ ภ าพของมัน จะตองไรเที ยมทาน
อย า งแน น อน ขอแค มี ศิ ล าวิ ญ ญาณเพี ย งพอ หากต อ กรกั บ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดขั้นปลายก็นาจะไมตกเปนรอง แตมีจุดหนึ่งที่ขายังไมคอยเขาใจนัก หวังวา
ทานอาวุโสจะอธิบายใหฟงสักหนอย” ขบคิดเล็กนอย ในที่สุดหานลี่ก็เอยปากพูดขึ้น
“ในเมื่อคิดจะถายทอดวิชาหุนเชิดนี้ใหกับเจา แนนอนวาขาไมมีทางเก็บความลับ
อะไรไวไดอีก มีอะไรก็ถามมาเถิด” เทพขับเคลื่อนกลับเอยยังไมตองคิด
“ในเมื่อทานอาวุโสจะกลาวเชนนี้ชนรุนหลังก็จะไมเกรงใจแลวนะ จากความรู
เรื่องเคล็ดวิชาหุนเชิดที่ขาเรียนรูมากอนหนานี้ ยิ่งหลอหุนเชิดระดับสูงมากเทาไหรก็
ตองใชจิตวิญญาณบริสุทธิ์ที่ระดับสูงมากขึ้นเทานั้น หุนเชิดตัวนี้ของทานอาวุโสขาคิด
ไมออกจริงๆ วาควรจะใชจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของอสูรชนิดใด ถึงจะกระตุนอานุภาพ
ของหุนเชิดตัวนี้ได ตอใหเปนวิญญาณของอสรพิษเพลิงแดงระดับแปดที่ขาเพิ่งจับมา
ได เกรงวาก็ยังไมเหมาะสมกระมัง และกอนหนานี้ ทานอาวุโสก็ไมเคยเอยถึงเรื่องจิต
วิญญาณบริสุทธิ์มากอน นี่จึงทำใหชนรุนหลังไมคอยเขาใจนัก หรือวาทานอาวุโสมี
วิธีการอื่น?” หานลี่ขมวดคิ้วแลวเอยถามอยางเครงขรึม
“ขาก็นึกวาปญหาอะไร ที่แทก็เรื่องนี้นี่เอง เรื่องของจิตวิญญาณบริสุทธิ์นั้นตอนที่
ขาคิดคนวิธีการหลอมนี้ขึ้นมา ก็มีวิธีการแกไขแลว หากเจาไมถาม ขาก็คิดจะบอกเจา
อยูแลว มิเชนนั้น เกรงวาเจาจะไมมีทางหลอมไดอยางวางใจสินะ” เทพขับเคลื่อน
หัวเราะหึๆ ออกมาขณะเอย
“ทานอาวุโสลอเลนแลว ทวาหากคิดจะกระตุนอานุภาพของหุนเชิดอยางเต็ม
อัตราจริงๆ อยางนอยก็ตองใชจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของอสูรปศาจระดับเกา ชนรุนหลัง
สงสัยจริงๆ วาทานอาวุโสจะแกปญหาเรื่องนี้อยางไร” หานลี่หัวเราะแหงๆ ออกมา
พลางเอยอยางไมใสใจ
ในตอนที่ยังไมอธิบายเหตุผลที่สมเหตุสมผลกับเขา ตามนิสัยที่ละเอียดรอบคอบ
แลว ในใจของเขากลับรูสึกระแวดระวังขึ้นมา ถึงแมวาความสัมพันธที่ผานมากับเทพ
ขับเคลื่อนจะดูเหมือนเปนทั้งสหายและศิษยอาจารยกัน แตความระมัดระวังตัวนั้น
หานลี่ไมมีทางหละหลวมแน
“ไมจำเปนตองใชจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของอสูรปศาจ ถึงตอนนั้นแคเอาจิตวิญญาณ
บริสุทธิ์ของขาและหุนเชิดหลอมรวมกันก็พอแลว” น้ำเสียงของเทพขับเคลื่อนเครง
ขรึม ขณะเอยอยางราบเรียบ ราวกับวากำลังพูดเรื่องเล็กๆ เรื่องหนึ่งเพียงเทานั้น
“ใช จิ ต วิ ญ ญาณบริ สุ ท ธิ์ ข องท านอาวุ โส?” ชั่ ว ขณะนั้ น สี ห น า ของหานลี่ พ ลั น
เปลี่ยนสี เต็มไปดวยความตกตะลึง
“ทำไม เจารูสึกวาความแข็งแกรงของจิตวิญญาณขายังสูอสูรปศาจระดับเกาไมได
หรือ?” เทพขับเคลื่อนเอยอยางราบเรียบ
“นั่นไมใชอยูแลว แตเดิมทานอาวุโสก็เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย
ฝกฝนคาถาขับเคลื่อนจนทำใหจิตวิญญาณแข็งแกรง ตอใหเทียบกับผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลงก็เกรงวาจะไมตางกันเลยสักนิด แตทานอาวุโสไมอยากไปจุติใหมหรือ
หากจิตวิญญาณผสมเขากับหุนเชิดจะสูญเสียความเปนตัวเองทันที” หานลี่เอยอยาง
ลังเลใจ
“แนนอนวาตาเฒาตองจุติใหม หลังจากจุติแลวก็ไมรูวาจะไดอยูในเสนทางการ
บำเพ็ญเพียรอีกไหม!” หลังจากหัวเราะหึๆ ออกมาแลว เทพขับเคลื่อนก็เอยอยางไม
ลังเลแมแตนอย
“หมายความวาอยางไร ถาหากขาฟงไมผิดละก็ ทานอาวุโสคิดจะหลอมรวมกับ
หุนเชิดและยังไมคิดจะละทิ้งโอกาสในการจุติอีก หรือวาทานอาวุโสมีเคล็ดวิชาลับ
อะไรที่สามารถทำถึงขั้นนั้นได?” หานลี่ไดยินแลวพลันตะลึงงัน แตถึงอยางไรเสียก็
ไมใชผูบำเพ็ญเพียรทั่วๆ ไป จึงขบคิดคาดเดาออกมาอยางรวดเร็ว
“เจาเด็กนอยหาน เจานี้ชางชาญฉลาดเสียจริงๆ ขาหมายความเชนนี้ ตอนนั้น
เปนเพราะเคล็ดวิชาสงเทพจึงถูกกักเอาไวในหุนเชิด แนนอนวาก็ไมใชวาจะไมทำอะไร
เลย ขาเสียเวลาไปหลายพันปศึกษาวิธีเคลื่อนยายจิตวิญญาณบริสุทธิ์ออกจากหุนเชิด
โดยไมตองใชพลังลมปราณใดๆ ผลลัพธคือวิธีนี้มันยุงยากเกินไปและไมมีทางสำเร็จได
แตขากลับพบเคล็ดวิชาลับในการแยกจิตวิญญาณแทน เคล็ดวิชาแยกจิตวิญญาณนี้ไม
เหมือนกับการแยกความคิดจิตสัมผัสธรรมดาๆ เลยสักนิด เปนวิธีการแยกจิตวิญญาณ
ที่แทจริงของผูบำเพ็ญเพียรอยางเรา ถึงตอนนั้นขาจะแยกจิตวิญญาณบริสุทธิ์ออกเปน
สองสวน สวนหนึ่งหลอมรวมอยูในหุนเชิด อีกสวนหนึ่งนำความรูสึกและความทรงจำ
ไปใสไวในสิ่งของ เพื่อกลับไปยังเสนทางของวัฏสงสารอีกครั้ง” เทพขับเคลื่อนเองก็ไม
มีเจตนาจะปดบัง จึงอธิบายอยางไรกังวล
“วิธีเชน นี้ จ ะทำไดจ ริงๆ หรือ ? เกรงวาการแยกจิ ต วิญ ญาณคงจะไม ใช เรื่อ งที่
งายดายขนาดนั้นกระมัง” เมื่อหานลี่ไดยินวามีเคล็ดวิชาลับชนิดนี้ ก็เอยขึ้นดวยความ
ตื่นตระหนกอยางสุดๆ
“วางใจ ตาเฒาแคแยกพลังของจิตวิญญาณออกมาเทานั้น คงไมไดไปขัดขวางการ
จุติใหมอะไรของตาเฒามากนัก หลังจากละสังขารแลวพลังของจิตวิญญาณเหลานี้ก็จะ
สลายหายไป” เทพขับเคลื่อนเอยอยางราบเรียบ
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง อยางนั้นชนรุนหลังก็วางใจแลว” หานลี่ขบคิด เมื่อไมพบ
จุดที่มีปญหาอะไร ก็พยักหนาขณะเอยอยางใจกวาง
“เยี่ยม ในเมื่อไมมีปญหาแลว ตาเฒาก็จะเริ่มอธิบายขั้นตอนการหลอมสวนตางๆ
และจุดที่จำเปนตองพึงระวัง มาพูดถึงรางของหุนเชิดกันกอนเถอะ รางทั้งรางนั้นมี
แกนกลางอยูสิบกวาแหง วัตถุดิบที่จำเปนตองใชแบงออกเปน…” เทพขับเคลื่อนเองก็
ไมเกรงใจพลางอธิบายทันที
หานลี่รูสึกมีชีวิตชีวามากขึ้น แนนอนวาจึงตั้งใจฟงอยางละเอียด
เวลาคอยๆ ไหลผานไปวันแลววันเลา หานลี่อยูเพียงแตในหองลับโดยออกมาขาง
นอกนอยมาก เวลาสวนใหญหมดไปกับการใชจิตสัมผัสควบคุมการเคลื่อนไหวของหุน
เชิดวานรยักษสองสามตัวในจวน เพื่อเรงการเจริญเติบโตของสมุนไพรวิญญาณและ
เลี้ยงดูเหลาแมลงวิญญาณ
แตตะขาบเกล็ดน้ำคางหกปกสิบสองตัวนั้น นอกจากจะใหอาหารดวยหญาสีรุง
แลว ก็ปอนลูกกลอนวิญญาณหิมะใหมันคนละเม็ดดวยความฉลาดเฉียบแหลม เพื่อดู
วาหลังจากที่ พ วกมั น หลอมเสร็จ แล วจะมี ป ระสิ ท ธิภ าพอยางไร ถึงอยางไรเสี ย ยา
ลู ก กลอนชนิ ด นี้ ก็ มี ป ระโยชน กั บ เพลิ งตาข ายสี ม วงของเขาเป น อยางมาก คงจะมี
ประโยชนกับไอเย็นเยียบของตะขาบเกล็ดน้ำคางหกปกเชนเดียวกันถึงจะถูก
ผลลัพธคือหานลี่พบวา ยาลูกกลอนวิญญาณหิมะที่เขาตองใชเวลานานกวาสามสี่
เดือนถึงจะหลอมไดเม็ดหนึ่ง ถูกตะขาบเหลานี้หลอมจนเกลี้ยงภายในระยะเวลาหนึ่ง
เดือน และยิ่งไปกวานั้นไอวิญญาณที่พนออกมาก็มีอานุภาพเพิ่มขึ้นเปนอยางมาก
เชนนั้นแลว ภายใตความตกตะลึงและคนดีใจของหานลี่ เขาจึงเก็บยาลูกกลอน
วิญญาณหิมะที่จำเปนเอาไวกับตัว สวนที่เหลือก็มอบใหวานรยักษเอาไปปอนใหกับ
แมลงเหลานั้นทั้งหมด
สวนแมลงกลืนทองเหลานั้น ก็ปอนหญาสีรุงใหมันกินอยางตอเนื่อง ถึงแมวาจะไม
อาจกลาวไดวาไมเปลี่ยนแปลงเลยแมแตนอย แตระยะหางจากการโตเต็มวัยก็ยังอีก
ยาวไกล หานลี่เองก็ทำไดเพียงอดทนอดกลั้นเทานั้น
ครึ่งปผานไปอยางรวดเร็ว วันนี้หานลี่เพิ่งจะหลอมชิ้นสวนของหุนเชิดเสร็จภายใน
หองลับ ฟงคำพูดของเทพขับเคลื่อน เอาวัตถุดิบตางๆ มากองไวตรงหนา ใบหนาเต็ม
ไปดวยสีหนาแปลกประหลาด
“ทานวาของพวกนี้จะใสเขาไปในหุนเชิดไดหรือ?” หานลี่เอยถามพรอมกับขมวด
คิ้วเล็กนอย
“ใชแลว ประโยชนของสิ่งของพวกนี้ ขาเพิ่งจะนึกออก จะตองทำใหพลังของหุน
เชิดตัวนี้เพิ่มขึ้นอีกขั้นแนนอน” เทพขับเคลื่อนเอยอยางเยือกเย็น
“เพชรกระดูกมารเม็ดสุดทายนั้นก็ชางเถอะ บางทีทานอาวุโสอาจจะมีวิธีการหลอมทำ
ใหกลายเปนอาวุธที่สุดยอดสักอยางของหุนเชิดก็เปนได แตของที่เหลือนั้นเอาไวทำ
อะไรกันแน ขาไมเขาใจเลยสักนิด และมองไมออกดวยวาพวกมันมีประโยชนอยางไร”
หานลี่ชูมือขึ้นเล็กนอย ชี้ไปยังวัตถุดิบสองชิ้นที่กองอยูบนพื้นดวยความไมเขาใจ
สิ่งที่เขาชี้นั้น คือโซเงินบางๆ ที่เคยพันธนาการซากมารตนนั้นเอาไวและวัตถุดิบ
ชำรุดสองสามชิ้นที่คนพบในแหลงกำเนิดไอมาร สีเทาหมนๆ ไมสะดุดตาเลยสักนิด
“เพชรกระดูกมารก็เหมือนกับที่เจากลาวไว ตอนที่เจาไดมา ขาก็ลองขบคิดวาจะ
เอามันมาหลอมเปนสิ่งใด ถึงจะบอกวาเปนวัตถุดิบในการหลอมมีดมังกรมารเพียง
อยางเดียว แตถาหากนำมันไปหลอมเปนสมบัติสายมารชนิดอื่น ก็มีอานุภาพไมนอย
เหมือนกัน ขาจึงคิดจะนำไปมันไปหลอมเปนสมบัติชิ้นหนึ่ง เปนเครื่องมือสังหารของ
หุนเชิด สวนโซนั้นขาไดยินเจาบอกวามันสามารถตานทานการโจมตีของกระบี่บินแกน
ทองคำได ก็มีความคิดนี้ขึ้นมาในทันที ถึงแมวาขาจะไมรูวามันสรางมาจากอะไร แต
มันมีทรายรชตะผสมอยู สามารถเอามาหลอมเปนโลปองกันของใหหุนเชิดได สวนของ
ชำรุดเหลานี้ ขาเพิ่งคิดไดเมื่อสองสามวันกอน” เทพขับเคลื่อนเอยมาถึงตรงนี้ น้ำเสียง
ก็หยุดชะงักเผยสีหนาเครงขรึมออกมา
ตอนที่ 968 หลอมหุนเชิดสำเร็จ
“โคลนแปลงเทพ เคยไดยินหรือไม?” เทพขับเคลื่อนเอยถามดวยน้ำเสียงทุมต่ำ
“แนนอนวาเคยไดยิน โคลนแปลงเทพเลื่องชื่อวาเปนขี้ผึ้งลวงตา ไดยินวาสามารถ
เปลี่ยนแปลงรูปรางของยุทธภัณฑได หากไดรับความเสียหายแลวจะฟนฟูพลังกลับมา
ดังเดิมได ใชหลอมวัตถุดิบหายากที่สลับซับซอน หรือวาคือสิ่งนี้? แตไดยินวาโคลน
แปลงเทพเปนสีขาวราวกับหยกอยางไรอยางนั้น จะดูธรรมดาๆ ขนาดนี้ไดอยางไร”
หานลี่ตกตะลึงเล็กนอยจองเขม็งไปยังของชำรุดสองสามชิ้นนั้น พลางเอยถามดวย
ความตกตะลึง
“เจาเด็กนอย เจาไมตองสงสัยไป พวกนี้คือโคลนแปลงเทพจริงๆ แตผานการผสม
กับของสิ่งอื่นโดยผูบำเพ็ญเพียรโบราณมาแลว โคลนเทพที่หลอมขึ้นมาเปนพิเศษนั้น
ในสมัยโบราณถูกเรียกวาหยกญาณละมุน ในใตหลานี้มีผูบำเพ็ญเพียรที่รูจักพวกมัน
แคไมถึงสิบคนอยางแนนอน ขาเองก็อานขอมู ลของมัน มาจากจวนผูบ ำเพ็ ญ เพี ยร
โบราณเมื่อนานมาแลว และลืมไปตั้งนานแลว หากไมใชเพราะวาชวงนี้นึกถึงเรื่องหนึ่ง
ที่เกี่ยวกับเจาสิ่งนี้ ตอนนี้ก็คงยังไมอาจแยกแยะได” เทพขับเคลื่อนกลาว
“หยกญาณละมุน? มันแตกตางกับโคลนเทพธรรมดาๆ อยางไร?” หานลี่ครุนคิด
“เจาก็รูตั้งแตแรกแลวมิใชหรือ? หลังจากที่โคลนเทพชนิดนี้ถูกหลอมแลวไมเพียง
จะสามารถกระตุนประสิทธิภาพในการซอมแซมไดเปนอยางดี ยังสามารถดูดซับพลัง
การโจมตีของผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรไดอีกด วย เมื่ อ สัมผัสกับ การโจมตีที่ เป ยมไปดวยพลั ง
วิญญาณก็เพียงพอจะทำใหมันออนแอลงมากกวาครึ่ง จุดออนเพียงอยางเดียวก็คือมัน
หวาดกลัวการโจมตีโดยตรงของยุทธภัณฑ อยางไรเสียตัวมันเองก็ไมมีพลังปองกันใดๆ
อยูแลว แตเพียงเทานี้ ก็ทำใหมูลคาของโคลนชนิดนี้ไมไดดอยไปกวาแกนทองคำแลว”
เทพขับเคลื่อนอธิบาย
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง อยางนั้นทานอาวุโสคิดจะใชโคลนแปลงเทพนี้หลอมสวน
ใดของหุนเชิดหรือ?” หานลี่ไดยินวาหยกญาณละมุนมีประสิทธิภาพที่นาอัศจรรย ก็
เผยสีหนายินดีออกมา อดที่จะเอยซักถามไมได
“ยั ง ต อ งถามอี ก หรือ ! โคลนเทพนี้ เหมาะกั บ ทรายรชตะ แน น อนว า ต อ งเป น
วัตถุดิบอันยอดเยี่ยมที่ใชหลอมเปลือกของหุนเชิด ใชวัตถุดิบสองชนิดนี้หลอมเปลือก
นอก ก็ไม ตอ งใชสมบั ติ อ าคมป อ งกั น ตัวใดๆ แลว แดนมนุ ษ ยมีแ ค ไมกี่ คนหรอกที่
สามารถทำลายมันไดอยางงายดาย” เทพขับเคลื่อนเอยอยางทะนงตน
“ทำตามทานอาวุโสกลาวเถิดขอรับ” แนนอนวาหานลี่เห็นดวยอยางไมสงสัยเลย
แมแตนอย
“อืม ของเหลานี้อยาเพิ่งไปแตะตองมันกอนชั่วคราว หลอมสวนอื่นใหเสร็จกอน
แลวคอยวากัน เดาวาใชเวลาอีกหนึ่งปก็คงหลอมสวนตางๆ ไดเกือบหมดแลว จากนั้น
คอยผสานรวมกัน ตอนนี้หลอมสวนอื่นๆ ตอเถิด”
“ขอรับ” หานลี่ตอบรับพลางสะบัดแขนเสื้อ ลำแสงสีเขียวผืนหนึ่งพลันมวนพุง
ออกมา วัตถุดิบที่อยูบนพื้นลอยขึ้นในทันที
จากนั้นหานลี่ก็ตบไปบนยามเก็บของ กลองหยกที่บรรจุวัตถุดิบอื่นๆ พลันเรียง
รายอยูเบื้องหนา
เขาเริ่มหลอมวัตถุดิบสวนตอไปของหุนเชิด
วสันตฤดูพาดผานสารทฤดูย่ำเยือน วันเวลาคอยๆ เคลื่อนคลอยไป
ระยะเวลาปกวาสำหรับผูบำเพ็ญเพียรนั้นแทบจะผานไปในชั่วพริบตา
ชวงเวลานี้หานลี่นอกจากจะหลอมหุนเชิดแลว ตะขาบเกล็ดน้ำคางหกปกทั้งสิบ
สองตัวที่กินยาลูกกลอนวิญญาณหิมะไปเดือนละเม็ดก็บรรลุระดับขั้นอยางนาตกตะลึง
หลังจากลอกคราบแลว รางกายของตะขาบเหลานี้ไมเพียงจะใหญขึ้นกวาเดิมหลาย
เท า ในที่ สุ ด แผ น หลั งก็ มี ป ก น้ ำค างสี ข าวหิ ม ะคู ห นึ่ งงอกออกมา ความเร็ ว ในการ
กระพือปกไมเพียงจะเพิ่มขึ้น ยังเปลี่ยนเปนคลองแคลวเปนพิเศษ นี่นับวาเปนเรื่องที่
นายินดีอีกเรื่องหนึ่ง
ทวาหลังจากที่บรรลุระดับขั้นนี้แลว ประสิทธิภาพของยาลูกกลอนวิญญาณหิมะที่
มีตอตะขาบเกล็ดน้ำคางหกปกก็ลดลงเปนอยางมาก หางไกลจากคำวาพัฒ นาโดย
สิ้นเชิง นี่เปนผลกระทบที่เห็นไดอยางชัดเจน
วันนี้ หานลี่ยืนหลับตาอยูตรงใจกลางของหองลับ เบื้องหนามีวัตถุรูปรางมนุษย
เปลงแสงสีเงินแวววาวลอยอยูกลางอากาศ
นิ้วทั้งสิบของเขารายอาคมไปมาไมหยุด เสนไหมสีทองสิบสายพลันพุงออกไป ปก
ลงบนสวนตางๆ ของรางหุนเชิด สีหนาเครงขรึม
เหนื อ ศี ร ษะของหุ น เชิ ด สี เงิ น ขึ้ น ไปสองสามฉื่ อ กระบอกไม ไ ผ ก ระบอกนั้ น
เปลงแสงสีเขียวจางๆ ออกมาพลางหมุนโคจรอยางชาๆ
ไมรูวาผานไปนานเทาไหร หานลี่หนาเปลี่ยนสี นิ้วทั้งสิบหยุดลง ในที่สุดก็ลืมตา
ทั้งสองขางขึ้น
“ดู แ ล ว คงไม มี ป ญ หา ส ว นต า งๆ ของหุ น เชิ ด ผสานกั น ได อ ย า งสมบู ร ณ แ บบ
ประกอบสวนตางๆ ไดราบรื่นขนาดนี้ ชางอยูนอกเหนือความคาดหมายของขาจริงๆ”
หานลี่จองเขม็งไปยังเบื้องหนา เผยสีหนาดีอกดีใจออกมาขณะเอย
“หุ น เชิ ด นี้ เป น สิ่ งที่ ข าคิ ด ค น ขึ้ น มา เจ าหลอมมั น ขึ้ น ภายใต ก ารชี้ แ นะของข า
แนนอนวาจึงไมเกิดความผิดพลาดอะไร ในเมื่อทุกอยางเรียบรอยแลว คงจะเริ่มหลอม
รวมจิ ต วิ ญ ญาณบริ สุ ท ธิ์ ได แ ล ว ล ะ ” น้ ำ เสี ย งของเทพขั บ เคลื่ อ นลอยออกมาจาก
กระบอกไมไผ
“ทานอาวุโสจะทำเชนนี้จริงๆ หรือ ไมไตรตรองอีกสักหนอยหรือ? เคล็ดวิชาแยก
วิญญาณก็เปนสิ่งที่ทานอาวุโสใชเปนครั้งแรก ไมแนวามันอาจจะเกิดขอผิดพลาดอะไร
ขึ้น แลวสงผลกระทบตอวัฏสงสารของทานอาวุโสก็ได ยิ่งไปกวานั้นหากแยกวิญญาณ
แลว วิญญาณที่ไมสมบูรณของทานอาวุโสก็จะตองสลายหายไป ไมมีทางยืนหยัดตอไป
ไดอีกแน” เมื่อหานลี่ไดฟง สีหนาดีใจก็หายวับไป พลางเอยถามดวยความเครงขรึม
“หึๆ กวาครึ่งของชีวิตนี้ตาเฒาหมดไปกับเคล็ดวิชาหุนเชิด การทำใหจิตวิญญาณ
บริสุทธิ์ของตัวเองและหุนเชิดนี้หลอมรวมกันเปนหนึ่งเดียว นั่นคือความปรารถนาเดิม
ของตาเฒา อีกอยางตอใหตาเฒาไมสำแดงเคล็ดวิชาแยกวิญญาณ ก็มาถึงขีดจำกัด
แล ว มี อ ะไรให ต อ งลั งเลกั น เจ าไม ต อ งเกลี้ ย กล อ มตาเฒ าอี ก ถึ งอย างไรตาเฒ าก็
ถายทอดคาถาขับเคลื่อนที่เหลือใหเจาแลว หวังวาเจาจะสืบทอดตอไปได อยาทำให
มันหายสาบสูญไปละ” เทพขับเคลื่อนหัวเราะอยางแผวเบาออกมา เอยอยางไมใสใจ
แมแตนอย
หานลี่ไดยินคำนี้ ก็ขมวดคิ้วเขาหากัน หลังจากผานไปชั่วคูก็ถอนหายใจออกมา
เฮือกใหญ
“ในเมื่อทานอาวุโสใจแข็งเชนนี้ ชนรุนหลังก็จะไมพูดอะไรอีก หวังวาทานอาวุโส
จะกาวขามผานทุกอยางไปไดดวยดี”
เทพขับเคลื่อนหัวเราะออกมาดวยเสียงอันดังกอง จูๆ กระบอกไมไผก็เปนแสงสี
เขียวสวางวาบ แยกออกเปนสองสวนกลางอากาศ คนตัวเล็กๆ สีทองเรืองรองคนหนึ่ง
พลันปรากฏขึ้นตรงนั้น
คนตัวเล็กๆ ผูนี้คือหุนเชิดที่มีขนาดสองสามชุน วัตถุดิบจะเปนทองก็ไมใชไมก็ไมเชิง ดู
วิจิตรงดงามเปนพิเศษ เหมือนบุรุษวัยกลางคนที่ตัวหดเล็กลงรอยเทา หนาตาสงางาม
ตอนนี้ดวงตาของคนตัวเล็กเปลงแสงสีเขียวสวางวาบ พลางนั่งสมาธิลง
เสียงบริกรรมคาถาทุมต่ำดังขึ้นทันที ลำแสงสีเขียวเล็กๆ บินออกมาจากปากของ
คนตัวเล็ก กลายเปนมีขนาดเทากำปน หอหุมทั้งรางของเขาเอาไว
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ มุมปากของหานลี่พลันหยักขึ้น แตกลับไมไดเอยอะไร
ออกมา
จากนั้นเสียงบริกรรมคาถาพลันเรงเราขึ้นเรื่อยๆ ลำแสงสีเขียวคอยๆ เจิดจาขึ้น
ทำใหผูคนแทบจะไมอาจสบสายตาไปตรงๆ ได
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง หลังจากรูมานตาหดเล็กลงแลว ลำแสงสีฟาพลันสวาง
วาบไมหยุด
จากนั้นเทพขับเคลื่อนพลันตะโกนออกมาเสียงดังดวยความเจ็บปวด สั่นสะเทือน
ไปทั่วทั้งหองลับ
ภายใตหานลี่ที่หนาเปลี่ยนสีนั้น ลำแสงสีเขียวพลันแยกออกเปนสองสวน สวนที่
ใหญกวาลอยตรงไปหาหุนเชิดสีเงิน สวนที่เล็กกวาเปลงแสงสวางวาบ บินกลับเขาไป
ในปากของคนตัวเล็กเชนเดิม เผยใหเห็นรางหุนเชิดตัวเล็กอีกครั้ง
แตแคในตอนนี้คนตัวเล็กนั้นกมหนางุด ดวงตาทั้งสองหมนหมอง
หานลี่เห็นเชนนั้นก็ไมกลาดูแคลน ชี้นิ้วรายอาคมไปที่หุนเชิดสีเงินไมหยุด ชั่วขณะนั้น
รางมนุษยของหุนเชิดพลันอาปาก เสนไหมสีเงินบางๆ สิบกวาสายพุงออกมาจากปาก
ชั่วครูก็พุงเขาไปในกลุมลำแสงที่แยกออกกลุมหนึ่ ง แลวดึงคนตัวเล็กเขาไปในราง
จากนั้นหุนเชิดทั้งตัวก็เปลงลำแสงสีเงินสวางจาออกมา รางกายเริ่มสั่นคลอนไมหยุด
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม อาปากออกโดยไมพูดอะไร พนเปลวเพลิงสีมวงสายหนึ่ง
ออกมาจากปาก ชั่วครูก็โจมตีไปยังรางของหุนเชิด
เสียง ‘เปรี๊ยะ’ ดังขึ้น น้ำแข็งหนาชั้น หนึ่ งขยายตัวไปบนเรือนรางของหุ นเชิด
อยางรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็ผนึกหุนเชิดเอาไวในน้ำแข็ง กลายเปนกอนน้ำแข็งยักษ
ในตอนนั้นหานลี่ถึงไดผอนคลายลง เงยหนาขึ้นมองไปยังคนตัวเล็กที่อยูกลาง
อากาศแวบหนึ่ง ใบหนาเผยความกังวลเล็กๆ ออกมา
“ที่แทความรูสึกตอนแยกวิญญาณก็เปนเชนนี้นี่เอง ชางมหัศจรรยสุดๆ ผูบำเพ็ญ
เพียรที่มีประสบการณเชนนี้ในใตหลา เกรงวาคงมีแคขาเพียงคนเดียวกระมัง” จูๆ
เสียงหัวเราะอยางบาคลั่งของเทพขับเคลื่อนก็ดังออกมาจากรางคนตัวเล็ก แตเห็นได
ชัดวาน้ำเสียงออนระโหยโรยแรง ราวกับวากำลังปวยหนักอยางไรอยางนั้น
“ทานอาวุโส เปนอะไรหรือเปลาขอรับ?” หานลี่ไดฟงคำนี้ ก็อดไมไหวเอยถามขึ้น
“วางใจ ถึงแมวาหลังจากแยกวิญ ญาณแลว ขาจะยืนหยัดไดไมนานก็ตาม แต
ภายในสิบวันหรือครึ่งเดือนก็คงปลอดภัย เจารีบหลอมจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของหุนเชิด
นี้ใหเสร็จสมบูรณเถิด เชนนั้นขาถึงจะไดเห็นอานุภาพที่แทจริงของหุนเชิดตัวนี้กอนที่
จิตวิญญาณจะแหลกสลายไปได” เทพขับเคลื่อนกลับใชน้ำเสียงตื่นเตนดีใจเรงเรา
“นั่นมันแนนอนอยูแลว ทวากอนหนานั้นชนรุนหลังจะใชยันตคงวิญญาณชวยทำใหจิต
วิญญาณที่ชำรุดของทานอาวุโสมั่นคงกอน จะไดไมเกิดอะไรที่คาดไมถึงขึ้น” หานลี่
ขมวดคิ้วทั้งสอง สะบัดแขนเสื้อ ยันตวิเศษสีแดงโลหิตแผนหนึ่งพลันบินออกมาจากมือ
“ยันตคงวิญญาณนั้นเปนยันตท่ีหาไดยากมาก ใชกับคนที่ใกลจะตายอยางขานั้น
สิ้นเปลืองไปสักหนอยกระมัง” น้ำเสียงของเทพขับเคลื่อนประหลาดใจเล็กนอย
“ยันตแผนนี้ เปนยันตที่ขาพบในยานเก็บของของผูบำเพ็ญเพียรที่สังหารไปครั้งที่
แลวคนหนึ่ง ตอใหล้ำคาขนาดไหนก็ไดมาโดยไมเสียอะไร จึงไมมีอะไรตองเสียดาย”
หานลี่เอยอยางราบเรียบ จากนั้นก็สะบัดขอมือ ยันตสีโลหิตกลายเปนลำแสงสีโลหิต
สายหนึ่งพุงออกไปทันที โจมตีไปยังรางของหุนเชิดตัวเล็ก หมอกโลหิตกลุมหนึ่งระเบิด
ออก ถูกรางของคนตัวเล็กดูดซับเขาไปจนเกลี้ยงอยางรวดเร็ว
“ไมเลว รูสึกดีขึ้นมากแลว ทวา เจาเปนคนคิดใชยันตวิเศษแผนนี้เอง อยาหวังวา
ตาเฒาจะซาบซึ้งใจอะไรละ” น้ำเสียงของเทพขับเคลื่อนสดใสขึ้นหลายสวนทันที ตอบ
กลับดวยทาทางแปลกประหลาดเล็กนอย
“ไมหรอก นี่เปนแคการชวยเหลือกอนที่ทานอาวุโสจะสิ้นลมเทานั้น” หลังจากที่
หานลี่เงียบกริบไปชั่วครู ก็ตอบกลับอยางราบเรียบ
ขับเคลื่อนสงเสียงหึๆ ออกมาสองสามครั้ง จูๆ สองมือก็สะบัดไปทางกระบอกไม
ไผสองสวนที่อยูบนพื้น ชั่วขณะนั้นเสียง ‘พรึ่บ’ ก็ดังขึ้น กระบอกไมไผทั้งสองสวนบิน
เขามา ชั่วพริบตาก็ประกบรางของคนตัวเล็กเอาไวตรงกลาง กลับมาเปนกระบอกไม
ไผเชนเดิม จากนั้นกระบอกไมไผพลันลอยขึ้นกลางอากาศ ตั้งตระหงานอยูเบื้องหนา
ของหานลี่อีกครั้ง
ตอนนั้น หานลี่ไมรอใหเทพขับเคลื่อนไดพูดอะไรอีก มือหนึ่งก็สะบัดไปทางกอน
น้ำแข็งยักษ
ลำแสงสีมวงในกอนน้ำแข็งสวางวาบ น้ ำแข็งที่ เย็น เยียบบนหุ น เชิดรางมนุ ษ ย
คอยๆ ละลาย
หานลี่นั่งสมาธิลงอีกครั้ง มือหนึ่งสะบัดขึ้นเหนือศีรษะ จากนั้นนำแสงสีเขียวพลัน
สวางวาบ ทารกสีเขียวเขมคนหนึ่งปรากฏขึ้น บินตรงไปหาหุนเชิดรูปรางคน
……
สามเดือนผานไป บนเกาะนิรนามแหงหนึ่งที่หานลี่พำนักอยู พลันมีสายรุงสีเขียว
สายหนึ่งพุงแหวกอากาศขึ้นไป
เกาะไผขม เปนเกาะเล็กๆ แหงหนึ่งที่ไมไดมีชื่อเสียงอะไรในนานน้ำตาจิ้น ตลอด
ทั้งปถูกปกคลุมไปดวยหมอกสีฟาที่ลึกลับ
เจาของเกาะคือชายชรานามวาขูจู ถึงแมวาในโลกของผูบำเพ็ญเพียรแผนดินใหญ
จะไม มี ชื่ อ เสี ย งอะไร แต ส ำหรั บ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ ก อ กำเนิ ด ขั้ น ปลายภายใน
แผนดินใหญแลว สวนใหญจะรูจักคนผูนี้ และยิ่งไปกวานั้นยังรูสึกหวาดกลัวเจาของ
เกาะขูจูผูนี้เปนพิเศษ
ในบรรดาผูบำเพ็ญเพียรนอกมหาสมุทร
ชายชรานามว าขู จู มี ชื่ อ เสี ย งเป น อย างมาก ถึ ง แม ว า พลั งยุ ท ธ จ ะอยู ในระดั บ
กอกำเนิดขั้นกลาง แตเพราะอาศัยกระบี่บินไผยะเยือกสามรอยหกสิบสี่เลมและตน
หมอนสวรรคบนเกาะไผขม กลับถูกผูบำเพ็ญเพียรนอกมหาสมุทรมองวาเปนหนึ่งใน
สามเทพเซียนนอกมหาสมุทรที่ยังมีชีวิตอยู
สวนบนเกาะไผขมนั้น ก็มีเขตอาคมหมื่นพฤกษาคอยปกปองตนหมอนสวรรคอยู
ทั้งมหัศจรรยและแปลกประหลาด มันมีชื่อเสียงเขยาปฐพีในเหลาผูบำเพ็ญเพียรนอก
มหาสมุทรมาหลายหมื่นปแลว ตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายบุก
เขามาไปเขตอาคม ก็ตองสูญเสียพลังไปสามสวน
แตวันนี้บนเกาะที่วางเปลาแหงนี้ กลับมีแขกที่ไมไดรับเชิญผูหนึ่งมาเยือน
ตอนที่ 969 เกาะไผขม
หลังจากที่ลำแสงวิญญาณสวางวาบขึ้นที่ขอบฟาไกลๆ สายรุงสีเขียวยาวสองจั้ง
สายหนึ่ง ก็มาถึงกลางอากาศเหนือกลุมหมอกที่ทอดตัวยาวไปรอยลี้ดวยความรวดเร็ว
ปานสายฟา
หลังจากที่แสงหมนลงก็เผยรางของผูบำเพ็ญเพียรชายหนุมที่สวมชุดนักปราชญ
คนหนึ่งออกมา นั่นก็คือหานลี่
ด า นหลั ง เขามี ก ระบอกไม ไผ ส ะพายอยู กำลั ง มองพิ จ ารณาไปที่ ท ะเลหมอก
ดานลางไมหยุด ทุกแหงที่ดวงตาทั้งสองกวาดออกไป ลวนเปนสีขาวโพลน มองไมเห็น
อะไรเลยสักอยาง
หานลี่ขมวดคิ้ว ลำแสงสีฟาสวางวาบขึ้นในนัยนตา ผานไปชั่วครู สีหนาก็เครงขรึมขึ้น
“เกาะไผขมนี้สุดยอดดังคาด ถึงแมวาจะใชเนตรวิญญาณวารีวิญญาณกระจาง ก็
ไมอาจมองทะลุผานเขตอาคมลงไปได เขตอาคมหมื่นพฤกษานี้สมคำร่ำลือจริงๆ”
หานลี่เอยพึมพำกับตนเอง
“นั่นมันแนนอนอยูแลว ทวาขนหงสดำของเกาะไผขม จะทำใหอานุภาพของพัดสัตต
เปลวเพลิงที่เจาหลอมขึ้นเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง จึงไมมาไมได และยิ่งไปกวานั้นผูเฒาขูจูผู
นี้ ก็ดูเหมือนวาจะเปนคูตอสูที่ดีที่สุดในการทดสอบพลังของหุนเชิด ยิงปนนัดเดียวได
นกสองตัว” น้ ำเสียงที่ ออ นแรงของเทพขับ เคลื่ อนดั งออกมาจากกระบอกไม ไผ ดู
เหมือนวาจะออนแอมากกวาตอนที่เพิ่งแยกจิตวิญญาณเสียอีก
“ขารูแลว ดวยเหตุนี้เมื่อหลอมหุนเชิดเสร็จ จึงมาที่นี่ในทันที ทวา ทานจะทน
ตอไปไดอีกนานแคไหนหรือ?” หานลี่เอยถามอยางรูสึกกังวลใจ
“วางใจ มียันตคงวิญ ญาณของเจาคอยชวยประคองอยู หากไมเห็นอานุภาพที่
แทจริงของหุนเชิด ขาก็จะไมลองไปจุติใหมงายๆ แน” เทพขับเคลื่อนหัวเราะดวย
เสียงแผวเบาออกมา
หานลี่พยักหนา กมหนาลงมองทะเลหมอกใตฝาเทา จูๆ ก็หรี่ตาทั้งสองลง มือ
หนึ่งตบไปที่ยามเก็บของขางเอว
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพลันพุงออกมา เงารางคนพลิ้วไหว ผูบำเพ็ญ
เพียรวัยกลางคนใบหนาซีดขาว ที่ดูคลายคลึงกับหานลี่ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหนา
ผูบำเพ็ญ เพียรผูนี้สวมชุดสีเหลือง ผิวพรรณดุจหยก เมื่อพิ เคราะห เครื่องหน า
อยางละเอียดแลว ก็เห็นไดชัดวาเหมือนกับหุนเชิดตัวเล็กของเทพขับเคลื่อนอยางไร
อยางนั้น ดวงตาทั้งสองกลับฉายแววเย็นเยียบ สีหนาเย็นชา ไมมีรอยยิ้มเลยสักนิด
ถึงแมวาจะเคยเห็นมาไมรูกี่ครั้งตอกี่ครั้งแลว ชั่วพริบตาที่หุนเชิดปรากฏตัว หานลี่ก็ยัง
อดที่จะเหลือบมองแวบหนึ่งไมได
หยกญาณละมุนนั้นมหัศจรรยจริงๆ เดิมเปนสีเทาหมนๆ แตเมื่อผานการหลอมที่
เทพขับเคลื่อนสอนใหไปเล็กนอย ก็เปลี่ยนสีไปเหมือนกับผิวหนัง ทำใหหยกญาณ
ละมุนผสมเขากับทรายรชตะที่เปนวัตถุดิบหลักในการหลอมเปลือกหุนเชิด จากนั้น
มนุษยที่ดูเปนธรรมชาติก็ปรากฏขึ้นเบื้องหนา
และเพราะวาหยกญาณละมุนจะเปลี่ยนรูปลักษณไดตามอำเภอใจ บวกกับที่ผสม
จิ ต วิ ญ ญาณของตั ว เองเข าไปในหุ น เชิ ด นั้ น ภายใต ก ารควบคุ ม ของเขา หุ น เชิ ด ก็
สามารถพูดคุย และแสดงสีหนา ไดราวกับคนจริงๆ
ทวาปญหาเดียวของการใชหุนเชิดนี้ก็คือศิลาวิญญาณ หุนเชิดระดับสูงขนาดนี้
โดยปกติแลวใชศิลาวิญญาณระดับกลางมันก็ไมคอยจะเหมาะสมสักเทาไหร ภายใต
การขับเคลื่อนเต็มกำลังนั้น จะใชการโจมตีจากหุนเชิดนี้ไดเพียงไมกี่ครั้ง มีเพียงศิลา
วิญญาณระดับสูงเทานั้นถึงจะใชการโจมตีเต็มกำลังของหุนเชิดได
แตความหายากของศิลาวิญญาณระดับสูงนั้นก็ไมตองพูด ตอใหเปนหลังจากที่
หานลี่มาถึงตาจิ้นแลวก็ตาม ถึงแมยานรานคาทุกๆ แหงจะคอยจับตาดูของสิ่งนี้ แตก็
รวบรวมศิลาวิญญาณระดับสูงไดเพียงไมกี่กอนเทานั้น ถาหากจะใหหุนเชิดโจมตีเต็ม
อัตรา เดาวาศิลาวิญญาณระดับสูงหนึ่งกอนก็จะใชไดเพียงหนึ่งเคอเทานั้น
“ลงมือเถิด” หานลี่เอยปากอยางราบเรียบ
ไม ว า จะอย า งไรก็ ต าม ในเมื่ อ หลอมหุ น เชิ ด ขึ้ น มาได ก็ จ ะต อ งลองทดสอบ
ประสิทธิภาพดู
หุนเชิดชูมือทั้งสองขึ้นโดยไมไดเอยคำพูดใดๆ กางนิ้วทั้งหาออกเล็กนอย
ชั่วขณะนั้นลำแสงวิญญาณสีเขียวพลันรวมตัวอยูที่ใจกลางฝามืออยางรวดเร็ว ชั่ว
พริบตาก็รวมตัวกันจนมีขนาดเทาศีรษะสองกลุม เปลงแสงเจิดจา ดูดุดัน
เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น หุนเชิดสะบัดขอมือเล็กนอย กลุมลำแสงกลายเปนเสาลำแสง
สองสายพุงลงไป สวางวาบและหายวับไปทามกลางทะเลหมอก ราวกับดินโคลนที่จม
ลงสูมหาสมุทร
หานลี่มองทะเลหมอกดวยสีหนาราบเรียบ ไมไดเปลงคำพูดใดๆ ออกมา
หลังจากผานไปชั่วครู เสียงระเบิดกัมปนาทก็ดังขึ้น ทะเลหมอกที่เงียบสงบแตเดิม
พลันหมุนวนอยางบาคลั่ง จากนั้นพายุขนาดสองสามจั้งสองสายก็พุงออกมาจากทะเล
หมอก หมุนวนอยางรุนแรง ชั่วครูพ ลันกวาดทะเลหมอกในบริเวณนั้ น ออกไปเป น
ระยะรอยกวาจั้ง ราวกับอสรพิษรายที่พุงออกมาจากทะเลอยางไรอยางนั้น
แทบจะในชั่วพริบตาที่พายุปรากฏขึ้น ดานลางก็มีเสียงกรีดรองยาวๆ ปะปนกับสั้นๆ
ไมเทากันดังออกมา เสียงกรีดรองนั้นเต็มไปดวยความตื่นตระหนกระคนโกรธเกรี้ยว
หานลี่ ก วาดสายตาไปยั งทะเลหมอกที่ อ ยู เบื้ อ งล าง เกาะขนาดใหญ แ ห งหนึ่ ง
ปรากฏขึ้นรางๆ ทามกลางทะเลหมอกที่จางลงกวาเดิมเปนอยางมาก และเหนือเกาะ
เกาะนั้นก็มีมานลำแสงสีเขียวชั้นหนึ่งปกคลุมอยู แทบจะหอหุมกวาครึ่งเกาะเอาไว
ในตอนนั้ น เอง ท ามกลางม านลำแสงพลั น มี ล ำแสงหลากสี สั น สิ บ กว าสายพุ ง
ออกมา ตรงมายังตำแหนงของหานลี่ดวยความดุดัน
เห็นไดชัดวาการโจมตีเมื่อครูนี้ ทำใหผูบำเพ็ญเพียรบนเกาะตื่นตระหนกตกใจ
หานลี่มองไปปราดเดียว ก็มองออกวาพลังยุทธของผูบำเพ็ญเพียรกลุมนี้ผสมปะปนกัน
ไป มีทั้งผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณ และมีผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมดวย แต
ชายชราผูนำเพียงหนึ่งเดียวกลับมีพลังยุทธอยูในระดับหลอมรวมขั้นปลาย
“ทั้งสองทานเปนใคร เหตุใด...เอ ที่แทก็อาวุโสทั้งสอง ไมทราบวาผูอาวุโสทั้งสอง
มาที่เกาะขาดวยเรื่องอันใดหรือ?”
เมื่อคนเหลานี้บินมาอยูเบื้องหนาของหานลี่ เดิมคิดจะเขามาเอาเรื่องดวยสีหนา
โกรธขึง
แตหลังจากผูบำเพ็ญเพียรที่เปนผูนำแผจิตสัมผัสออกไปแลว กลับพบวาหานลี่
คาดไมถึงวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางเหมือนกับผูเฒาขูจู แตดูไม
ออกวาหุนเชิดนั้นมีพลังยุทธอยูในระดับใด ใจพลันเตนระรัว น้ำเสียงจึงออนลง
“ขานอยไดยินชื่อเสียงของสหายขูจูมาเนิ่นนานแลว ครั้งนี้จึงมาเยี่ยมเยียนสัก
หนอย สหายไปรายงานใหขานอยหนอยไดหรือไม” หานลี่เอยพรอมกับหัวเราะนอยๆ
ดวยดวงตาไมกะพริบ
“ชางโชครายจริงๆ ทานอาจารยเพิ่งจะกักตนบำเพ็ญเพียรไปเมื่อสองสามปกอน
และไมยอมพบแขก หากสหายทั้งสองมีธุระจริงๆ ละก็ สามารถคุยกับชนรุนหลังได
เรื่องราวตางๆ ในเกาะไผขมนั้นขานอยเปนคนตัดสินใจ” หลังจากผูบำเพ็ญเพียรที่เปน
ผูนำตกตะลึงแลว ก็รีบรอนเกิดขึ้นดวยรอยยิ้มเสียใจ
“สหายขูจูกักตนบำเพ็ ญ เพี ยร ช างน าเสี ยดายจริงๆ แต ในเมื่ อ เจาตั ดสิ น ใจได
เชนนั้นก็ดี ขาไดยินวาเกาะของทานเลี้ยงหงสดำโบราณตัวหนึ่งเอาไว เปนเรื่องจริง
หรือไม” หานลี่กะพริบตาพลางเอยถามดวยสีหนาราบเรียบ
“หงสดำ? ผูอาวุโสมีเจตนาอันใด” ผูบำเพ็ญเพียรที่เปนผูนำใจหายวาบ
“ไมมีอะไรหรอก ขานอยแคกำลังหลอมสมบัติอยูชิ้นหนึ่ง และจำเปนตองใชขน
หางของหงสดำสามเสน ขานอยยอมใชแกนอสูรระดับเจ็ดดวงหนึ่งและแกนอสูรระดับ
หกสามดวงแลกกับมัน ไมทราบวาสหายจะยอมตกลงหรือไม” หานลี่เพิ่งจะเอยจบ
ดวยสีหนาราบเรียบก็สะบัดแขนเสื้อ กลองหยกสี่กลองบินออกมาจากแขนเสื้อ พลาง
ลอยอยูเบื้องหนาของเขา
นิ้วชี้ไปที่กลองหยกกลางอากาศสองสามครั้ง ฝากลองเปดออก เผยใหเห็นแกน
อสูรสี่ดวงที่มีสีสันหลากหลายขางใน ดวงหนึ่ งมี ขนาดค อนขางใหญ อีกสามดวงมี
ขนาดเล็กกวาเล็กนอย
“แลกกับขนหงส?”
ความตองการของหานลี่อยูนอกเหนือความคาดหมายของผูบำเพ็ญเพียรที่เปน
ผูนำ เขาจึงอดที่จะตะลึงงันเล็กนอยไมได
“ใชแลว หงสดำของเกาะทานนาจะเปนวิหควิญญาณระดับเจ็ด ขานอยยอมเอา
แกนอสูรออกมาจำนวนมากขนาดนี้ ก็เพื่อแสดงออกถึงความจริงใจ” หานลี่หุบยิ้ม
เผยสีหนาเครงขรึมออกมา
“ถึงแมวาหงสดำจะเปนวิหควิญญาณโบราณ การใชแกนอสูรเหลานี้มาแลกกับวิหค
วิญญาณ แนนอนวาเหลือเฟอ ทวาเรื่องนี้ ชนรุนหลังเกรงวาจะไมอาจยอมตกลงได”
ชายชราที่เปนผูนำมีสีหนาเครงขรึมสลับสดใสอยูนาน แลวจึงสายศีรษะดวยความลังเล
หานลี่ไดยินคำตอบ แววตาก็เย็นเยียบ มองไปยังคนผูนั้นดวยความเย็นชา ไม
เปลงคำพูดใดๆ ออกมา
ชายชราที่เปนผูนำเห็นหานลี่มีสีหนาไมเปนมิตร ก็รูสึกจิตใจหนักอึ้ง รีบรอนเอย
ปากอธิบาย
“ผูอาวุโสโปรดอยาเขาใจผิด ไมใชวาชนรุนหลังไมเห็นแกหนาผูอาวุโส แตหงสดำ
ของเกาะเรากำลังกักตนเพื่อบรรลุระดับอยู ไมอาจสูญเสียพลังยุทธใดๆ ไดจริงๆ”
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง แตขาจำเปนตองใชขนของหงสดำจริงๆ เอาอยางนี้ก็แลว
กัน ขาจะเพิ่มแกนอสูรระดับเจ็ดใหอีกดวง นี่พอจะชดเชยความเสียหายของเกาะเจา
ไดหรือไม” หลังจากที่หานลี่ตะลึงงัน ก็ขมวดคิ้ว แลวพลิกฝามือ หยิบกลองหยกอีกใบ
ออกมา
ตอนนั้นผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดของเกาะไผขม ก็อดที่จะมองสบตากันไมได!
“ทำไม เช น นี้ เกาะของเจ าก็ ยั งไม ย อมตกลงอี ก หรือ ” หานลี่ เครงขรึม ขึ้ น ใช
สายตาเย็นเยียบจองเขม็งไปยังกลุมผูบำเพ็ญเพียรเบื้องหนา
“เรื่องนี้เปนเรื่องใหญนัก ชนรุนหลังไมมีทางตัดสินใจไดจริงๆ เอาอยางนี้ก็แลวกัน
ผูอาวุโสรอประเดี๋ยว ขาจะลองเสี่ยงโดนทานอาจารยตำหนิ สงยันตถายทอดเสียงเขา
ไปในหองลับ ดูวาทานอาจารยจะตอบวาอยางไร” ผูบำเพ็ญเพียรที่เปนผูนำถูกสายตา
ของหานลี่ ก วาดมองมาก็ สั่ น สะท าน หลั งจากกวาดสายตาไปที่ หุ น เชิ ด ร างมนุ ษ ย
ดานขางอีกครั้ง ในที่สุดก็กัดฟนเอยขึ้น
ถาหากเปนเพราะเขาจัดการเรื่องราวอยางไมเหมาะสม สรางศัตรูใหกับเกาะไผขม
อยางเปลาประโยชน กลับไปเกรงวาคงโดนลงโทษไมนอยเชนกัน
“เยี่ยม ขาจะรอเจาสักหนอยก็ได” หานลี่ถึงไดพยักหนาสีหนาผอนคลายลง
ผลลัพธคือชายชราปลอยยันตถายทอดเสียงสายหนึ่งออกไปดังคาด บอกกลาว
เรื่ อ งราวการแลกเปลี่ ย นของหานลี่ เอาไว อ ย า งละเอี ย ด จากนั้ น ก็ ป ล อ ยกลั บ ไป
แนนอนวาหนึ่งในนั้นจะตองบอกถึงความนากลัวของพลังยุทธหานลี่และหุนเชิดรูปราง
มนุษยเอาไวดวย และทำใหเขาจำใจตองทำเชนนี้
หานลี่รออยูไมนานนัก ตอนที่เขากำลังเอามือไพลหลังพิจารณาเขตอาคมกลาง
อากาศของเกาะไผขมอยางละเอียดนั้น จูๆ ก็มีเสียงที่แหบแหงและวังเวงดังขึ้น
“ที่แทก็มีสหายระดับกอกำเนิดมาเยี่ยมเยียนนี่เอง ตาเฒาไมไดออกไปตอนรับ
ตั้งแตไกลๆ หวังวาจะหายทั้งสองจะไมถือสา เชิญสหายทั้งสองเขามาที่หอหงสสวรรค
ในเกาะเถิด ตาเฒาจะออกจากการบำเพ็ญตบะไปพบแขก” จากน้ำเสียงนี้ดูออกไดวา
อีกฝายก็คือผูเฒาขูจู ประโยคแรกนั้นพูดกับหานลี่ สวนประโยคหลังนั้นออกคำสั่งกับ
ลูกศิษย
“ขอรับ ทานอาจารย! ผูอาวุโสทั้งสอง เชิญตามชนรุนหลังมาขอรับ ทานอาจารยอยาก
พบผูอาวุโสทั้งสองดวยตัวเอง” ชายชรารีบรอนประสานมือเขาหากันทำความเคารพ
นอมรับคำสั่งกลางอากาศ จากนั้นก็หันหนามา เอยกับหานลี่ดวยใบหนาเปอนยิ้ม
“เยี่ยม ผู แ ซห านเองก็ได ยิน ชื่ อ เสี ย งของเกาะนี้ ม าเนิ่ น นานแล ว อยากจะเป ด
ประสบการณดูสักครั้ง” หลังจากที่หานลี่กวาดสายตาไปบนรางของหุนเชิดดานขาง
แวบหนึ่ง ก็ตอบรับดวยสีหนาไมเปลี่ยนแปลง จากนั้นก็รอนลงมาบนเกาะและตามผู
บำเพ็ญเพียรเหลานั้นเขาไปพรอมกับหุนเชิด
มีหุนเชิดระดับกอกำเนิดขั้นปลายคอยชวยเหลือ หานลี่ก็มั่นใจวาถึงแมอีกฝายจะ
เปดใชเขตอาคมหมื่นพฤกษา ก็ไมมีทางกักเขาเอาไวได ดังนั้นจึงเขามาในพื้นที่ของอีก
ฝายอยางไมหวาดกลัว
ชั่วพริบตา คนกลุมนั้นก็บินเขามาในเกาะจากชองโหวที่เปดออกโดยอัตโนมัติของ
มานลำแสง
เมื่อหานลี่บินเขามาดานใน ชั่วขณะนั้นพลันสัมผัสไดถึงกลิ่นไอวิญญาณที่โชยมา
จากนั้นสิ่งที่เขามาอยูในครรลองสายตาดานลางก็เปน ตนไมขนาดยักษ สีเขียวชอุม
ต น ไม เหล านี้ สู งใหญ จ ริงๆ แต ล ะต น สู งประมาณสามสี่ รอ ยจั้ง และเห็ น ได ชั ด วามี
มากมายหลายชนิด ทุกชนิดลวนเปนตนไมล้ำคาที่พบเห็นไดยากในภายนอก
ทามกลางปาผืนนี้ มีตนไมที่สูงกวาตนอื่นๆ อยูสิบกวาตน เปนตนหมอนสีมวงที่ดู
มหัศจรรย เรียงรายอยูทามกลางผืนปาดูเปนธรรมชาติที่นาพิศวง
“นี่ คื อ ต น หม อ นสวรรค ข องเกาะท านหรื อ ? ไม ได มี เพี ย งต น เดี ย วหรือ แค นั บ
คราวๆ ก็มีสิบกวาตนแลว!” หานลี่ขมวดคิ้ว จูๆ ก็เอยถามชายชราที่อยูขางกาย
แตชายชราที่กำลังแอบมองหุนเชิดรูปรางมนุษยสองสามครั้งนั้น ก็กำลังขบคิดวา
เหตุใด ‘ผูอาวุโส’ ผูนี้ถึงไมยอมพูดจา ใบหนาเรียบเฉย หรือวาจะเปนคนที่ชอบเก็บตัว
คนหนึ่ง?
ตอนที่ 970 ผูเฒาขูจู
“ทานอาวุโสคงไมทราบวาตนหมอนสวรรคเหลานี้มีรากเดียวกัน อันที่จริงก็นับวา
เปนตนเดียวกัน” เรื่องนี้ก็ไมใชความลับอะไร ชายชราจึงอธิบายใหฟงอยางไมปดบัง
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ไดยินมานานแลววาตนหมอนสวรรคจัดอยูในสามมหาไมเทวา
ที่แทก็มีรูปรางเชนนี้นี่เอง ทำใหผูแซหานไดเปดประสบการณจริงๆ” หานลี่เอยพรอม
กับสงเสียงจุๆ พลางชื่นชมวาอัศจรรย
ภูเขาเล็กๆ ขนาดความสูงสองสามรอยจั้งลูกหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหนา และจากใจ
กลางของภู เขาลู ก นี้ ก็ มี ห อคอยน อ ยใหญ จ ำนวนมากสรางขึ้ น อยู รอบๆ ทั้ งยั งมี ผู
บำเพ็ญเพียรสัญจรไปมาไมหยุด
“พวกเจาไปไดแลว ไปทำธุระของตัวเองเถิด ทานอาวุโสทั้งสองนั้น ขาจะนำทาง
ไปเอง” ตอนนั้นเอง ชายชราก็มองไปทางผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือแลวโบกมือออกคำสั่ง
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นไดยินตางก็ขานรับ และทยอยกันแยกตัวไปทันที
หานลี่และหุนเชิดตามชายชราขึ้นไปยังยอดเขา ที่นั่นมีตำหนักขนาดใหญที่สราง
ขึ้นจากไมตั้งอยู ขนาดพื้นที่ไมเล็กเลยทีเดียว สวนดานนอกประตูตำหนัก มีผูบำเพ็ญ
เพียรสวมเกราะสีเขียวสี่คนยืนอยูตรงนั้น ทุกคนลวนถือขวานยาวที่มีรูปรางหนาตา
เหมือนกันเอาไว
ชายชรานำหานลี่และพวกทั้งสองรอนลงบนประตูทางเขาตำหนักไม ผูบำเพ็ญ
เพียรทั้งสี่คนนั้นมีสีหนาเรียบเฉยไมสะทกสะทาน ราวกับหุนเชิดอยางไรอยางนั้น
หานลี่หยักมุมปากขึ้น รูสึกตกใจเล็กนอย
ถึงแมวาทั้งสี่คนนี้จะมีพลังยุทธอยูแคระดับสรางปราณ แตไอวิญญาณไมบริสุทธิ์ที่
อยูบนเรือนรางก็เหนือกวาผูบำเพ็ญเพียรในระดับเดียวกัน และยิ่งไปกวานั้นหานลี่
มองปราดเดียวก็รูวา ไมวาจะเปนเกราะสงครามหรือวาขวานยาว ก็เปนยุทธภัณฑธาตุ
ไมระดับสุดยอด แปลกจริงๆ
ดูเหมือนวาจะมองความตกใจของหานลี่ออก ชายชราจึงเอยอธิบายพรอมกับรอยยิ้ม
“คนเหลานี้ลวนเปนองครักษวิญญาณไมที่ทานอาจารยฝกฝนเองกับมือ อาศัย
พลังของตนหมอนสวรรคฝกฝนเคล็ดวิชาการตอสูโดยเฉพาะ ถึงแมวาพลังยุทธจะไม
สูงนัก แตก็เชี่ยวชาญการตอสูแบบกลุม หากทานอาวุโสมีโอกาสละก็ ลองชี้แนะสัก
หนอยก็ไดนะขอรับ”
“อืม แตกตางจากผูบำเพ็ญเพียรทั่วไปจริงๆ” หานลี่พยักหนา
ชายชราเห็นหานลี่มีทาทีเงียบขรึม แนนอนวาก็ไมไดพูดอะไรใหมากความอยาง
รูจักวางตัว
โครงสรางของตำหนักไมไมไดซับซอนนักนอกจากหองโถงใหญแลวก็มีเพียงปก
ขางหองหนึ่งเทานั้น ดังนั้นเมื่อหานลี่และพวกเดินเขาไปในหองโถง ก็พบเงารางสูง
ใหญที่หันหลังใหพวกเขายืนอยูกลางหองโถงทันที สวมชุดคลุมยาวสีเขียว ผมขาวราว
กับหิมะ
ชายชราเห็นเงารางของคนผูนี้ก็โนมตัวลงทำความเคารพดวยสีหนาเปลี่ยนสียก
ใหญ จากนั้นจึงขยับไปยืนตัวตรงอยูดานขางสองมือทั้งสองประสานกันไวเบื้องหนา
“สหายคื อ ผู เฒ า ขู จู ห รือ ?” หานลี่ จ อ งเขม็ ง ไปยั งเงาแผ น หลั งของคนผู นี้ ด ว ย
ดวงตาไมกะพริบ
“ใชแลวตาเฒาก็คือขูจู ทานทั้งสองหนาตาไมคุนเลย หรือวาจะเปนสหายที่มา
จากแผน ดิ น ใหญ ขอบั งอาจถามแซ ท านได ห รือ ไม ?” หลั งจากที่ ผูที่ สวมชุ ดสี เขี ย ว
หัวเราะออกมาแลว ก็หันกายกลับมา
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง เห็นเพียงไรฟนขาวสะอาดกับริมฝปากแดงระเรื่อของ
คนผมขาว หนาตาออนโยน คาดไมถึงวาจะเปนเด็กหนุมอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดป
แตแคบนใบหนามีไอสีเขียวออนๆ ปกคลุมอยูชั้นหนึ่ง
เมื่อเห็นรูปรางของอีกฝาย หานลี่พลันตกตะลึง
ผูเฒาขูจูผูนี้คาดไมถึงวาจะเปนเหมือนกับเขาอยางไรอยางนั้น คือใชเคล็ดวิชาคง
ความเยาววัย ชางอยูนอกเหนือความคาดหมายของเขาจริงๆ แตเดิมเขาอีกวาจะเห็น
ชายชราที่ใบหนาเต็มไปดวยริ้วรอยเสียอีก
ถึงแม วาผูเฒ าขูจูจ ะฉีกยิ้ม เล็ก ๆ แต เมื่ อ เห็ น หน าตาของหานลี่ ชั ด เจน แววตา
ประหลาดใจก็ฉายวาบขึ้นมา
“เราสองคนไมใชผูบำเพ็ญเพียรนอกมหาสมุทร ขานอยแซหาน ผูนี้คือศิษยพี่ของ
ขานอย แซลี่ ครั้งนี้ที่บุมบามมาเยี่ยมเยือน หวังวาสหายจะไมถือสา” หานลี่เอยอยาง
มีมารยาท
“ไมหรอก! สหายทั้งสองไมใชคนธรรมดา มาถึงเกาะของขาได เกาะของขาก็ไม
ทันไดตอนรับ สหายลี่ผูนี้มีพลังยุทธที่ลึกล้ำยากจะคาดเดา คาดไมถึงวาตาเฒาจะไม
อาจคาดเดาระดับพลังยุทธของเขาได ชางทำใหตาเฒาไดเปดประสบการณครั้งใหญ
จริงๆ” ผูเฒาขูจูพิจารณาหานลี่และหุนเชิดสองสามครั้ง แลวเอยขึ้นพรอมรอยยิ้ม
เห็นไดชัดวาเจาของเกาะผูนี้มองวาหุนเชิดของหานลี่คือผูบำเพ็ญเพียรที่ฝกฝน
เคล็ดวิชาลับอะไรสักอยาง และรูสึกตื่นตกใจเปนอยางมาก
“สหายถอมตนเกินไปแลว ชื่อเสียงของสหายขูจู พวกเราทั้งสองไดยินมาหนาหู”
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา
“หึๆ สหายทั้งสองเชิญนั่งลงชิมชาผลหมอนที่มีเพียงบนเกาะของขากอนเถิด”
ผูเฒาขูจูหัวเราะนอยๆ ออกมา เชิญหานลี่และพวกทั้งสองนั่งลง
หลังจากเสียงปรบมือ ‘แปะๆ’ ดังขึ้น ทันใดนั้นผูบำเพ็ญเพียรหญิงวัยเยาวสอง
สามคนที่ถือถาดน้ำชาเอาไวก็เดินเขามาในตำหนักทันที ชงชาวิญญาณสีเขียวออนกา
หนึ่งใหทั้งสามคน และถอยออกไปจากตำหนักไมอยางนอบนอม
“ชาผลหมอน หรือวาเกี่ยวของกับตนหมอนสวรรค?” หานลี่กมหนาลงมองชา
วิญญาณบนโตะ สัมผัสไดถึงไอวิญญาณธาตุไมที่เต็มเปยมในชา ก็เอยถามพรอมกับ
หนาเปลี่ยนสี
“ดวงตาของสหายชางมีแววจริงๆ มันทำมาจากใบของตนหมอนสวรรคจริงๆ มี
ประสิทธิภาพในการเบิกเนตร นอกจากเกาะของขาแลว ไมมีที่ไหนที่มีชาชนิดนี้แน”
ผูเฒาขูจูเอยอยางภาคภูมิใจ
“เชนนั้น ขานอยคงตองชิมสักหนอยแลว” แววตาของหานลี่สวางวาบ เขาใชจิต
สัมผัสตรวจสอบชาวิญญาณในถวยอยางละเอียด หลังจากมั่นใจวาไมมีปญหาอะไร
แลว ก็หยิบถวยชาขึ้นมาอยางไมเกรงใจและจิบเขาไปอึกหนึ่ง
“สหายลี่ ไมชอบชานี้หรือ?”
หุนเชิดรางมนุษยนั่งอยูบนเกาอี้ดวยสีหนาราบเรียบ ไมไดแตะตองถวยชาบนโตะ
ผูเฒาขูจูจึงเอยถามขึ้นอยางรูสึกประหลาดใจ
“หลังจากที่ขาเริ่มจำศีล นอกจากในจวนของตนเองแลว ก็ไมดื่มกินอะไรทั้งนั้น”
หุนเชิดรางมนุษยเอยอยางเย็นชา วาจาไรซึ่งความเกรงใจ
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ขานอยเสียมารยาทแลว” แววตาของผูเฒาขูจูฉายแววไม
สบอารมณเล็กนอย แตก็สลายหายไป ปกปดเอาไวไดเปนอยางดี
ผูบำเพ็ญเพียรที่กลาพูดเชนนี้ตอหนาเจาของแนนอนวาจะตองมั่นใจอยูหลายสวน
หรือวาคนที่อยูเบื้องหนาคือผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายจริงๆ
ผูเฒาขูจูมีความคิดเชนนี้แวบผานไปในหัว ในใจกลับรูสึกหวาดกลัวหุนเชิดมากขึ้น
“ที่ พ วกเราทั้ งสองมาที่ นี่ สหายขู จู น าจะทราบแล ว กระมั ง ไม ท ราบว าสหาย
คิดเห็นอยางไรกับการแลกเปลี่ยนที่ผูแซหานเสนอให?” หานลี่เองก็ชิมชาไปอีกสอง
สามจิบ แลววางถวยชาลงขณะเอยขึ้นอยางเชื่องชา
“ไมปดบังสหายทั้งสอง การแลกเปลี่ยนนี้ทำใหตาเฒาลำบากใจจริงๆ หงสดำตัว
นั้นกำลังอยูในชวงเวลาสำคัญของการบรรลุระดับขั้น ตอใหสหายทั้งสองเอาแกนอสูร
ออกมามากกวานี้ ขานอยก็ไมยอมแลกกับขนหงสดำอยูดี มิเชนนั้นการบรรลุจุดคอ
ขวดครั้งหนาของวิหควิญญาณก็ไมรูวาจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร” ผูเฒาขูจูขมวดคิ้วเผยสี
หนาลำบากใจออกมา
“เอยเชนนั้น แสดงวาสหายขูจูไมเห็นดวยกับเรื่องนี้สินะ” หานลี่เมมริมฝปาก
ใบหนากลับไมไดเผยสีหนาประหลาดใจอะไรออกมา
“หึๆ หากขาจะปฏิเสธจริงๆ ละก็ เกรงวาจะหายทั้ งสองคงไม ยอมกลับไปมื อ
เปลาสินะ เชนนี้ก็แลวกัน ผูบำเพ็ญเพียรอยางพวกเรามีความสามารถยิ่งใหญ ขานอย
สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณความสามารถกับสหายทั้งสองได ถาหากสหายคน
ใดคนหนึ่ ง ทำให ข า น อ ยเพลี้ ย งพล้ ำ ได ในการต อ สู ตาเฒ า ก็ จ ะตอบตกลงกั บ การ
แลกเปลี่ยนนี้ ถาสหายทั้งสองทำไมได…”
“หากทำไมได ขาและพี่ลี่จะจากไปในทันที ไมมีทางเอยถึงเรื่องนี้แนนอน” หานลี่
เอยอยางไมลังเลแมแตนอย
“เยี่ยม คำไหนคำนั้น ตาเฒาไมไดแลกเปลี่ยนประสบการณกับใครมาเกือบรอยป
แลว สหายทั้งสองใครจะลงมือกอนละ?” ผูเฒาขูจูกวาดตามองพวกทั้งสองไปมาสอง
ครั้งแลวเอยพรอมกับอมยิ้ม
“หากจะหายไมรังเกียจละก็ แลกเปลี่ยนกับผูแซลี่สักหนอยเปนอยางไร?” หานลี่
มีสีหนาไมเปลี่ยนแปลง ควบคุมหุนเชิดดานขางที่เขาแยกจิตสัมผัสออกไปควบคุมให
เอยปากขึ้นอยางเชื่องชา
“เยี่ยม ขานอยรูสึกสนใจเคล็ดวิชาของพี่ลี่จริงๆ พวกเราไปประลองกันบนยอด
เขากันเถิด เชิญสหาย!” ผูเฒาขูจูเห็นวาตนเองไมสามารถมองทะลุพลังยุทธที่แทจริง
ของผูที่จะลงมือได ใบหนาก็อดที่จะเผยความเครงขรึมเล็กนอยออกมาขณะยืนขึ้นจาก
เกาอี้ไมได
หานลี่และหุนเชิดรูปรางมนุษยเองก็ลุกขึ้นยืนเชนกัน
ชายชราที่ยืนประสานมือเอาไวเบื้องหนาดานขางในตอนนี้ ก็ทนไมไหวเผยสีหนา
ตื่นเตนออกมา การตอสูของผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด ไมใชสิ่งที่ผูใดจะมีโอกาส
ชมไดงายๆ จริงๆ
ผานไปชั่วครู หานลี่ก็อยูลอยกลางอากาศเหนือยอดเขาขึ้นไปรอยกวาจั้งดวยสี
หนาเยือกเย็น และเบื้องหนาของเขาหางออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง ก็มีหุนเชิดรางมนุษย
และผูเฒาขูจูยืนอยู
สวนที่เหลือรอบๆ นั้น ก็มีผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมเจ็ดแปดคนที่ไดขาวก็
รีบแจนมารายลอมอยู ดวงตากลมโตคูนั้นจองเขม็งไปยังสถานการณที่เกิดขึ้นกลาง
อากาศ
“ไป”
ปากของผูเฒาขูจูคำรามดวยเสียงทุมต่ำออกมา สองมือพลันรายอาคม จูๆ ก็มีไอ
เย็นเยียบที่แสบตาสวางจาขึ้นทั่วเรือนราง ในเวลาเดียวกันลำแสงสีเขียวรอยกวาสายก็
พุงออกมา เมื่อลำแสงเหลานี้ปรากฏตัวก็ขยายใหญ ขึ้น กลางสายลม ชั่วพริบตา ก็
กลายเปนเขตอาคมกระบี่บินสีเขียวออนรอยกวาเลมดูดุดัน
หลั ง จากกระบี่ เปล ง แสงสว า งวาบ กระบี่ บิ น ทั้ ง หมดก็ เรี ย งแถวเป น รู ป ร า ง
ประหลาดๆ บินวนอยูเหนือศีรษะของผูเฒาขูจูไมหยุด แฝงเอาไวดวยจิตสังหาร
หานลี่ที่เห็นเชนนั้น สีหนาราบเรียบแตเดิมก็แข็งคาง
“เขตอาคมกระบี่ ผูเฒาขูจูฝกฝนกระบี่บินไดจำนวนมากขนาดนี้ มีความสามารถ
ดานเขตอาคมกระบี่ดังคาด” ถึงแมวาหานลี่จะคาดเดาเอาไวตั้งนานแลว แตเมื่อเห็น
ดวยตาของตัวเองก็ยังรูสึกตกตะลึงอยูเล็กนอย
‘จุๆ เจาเด็กนอยหาน ดูแลวคนผูนี้คงมีความสามารถจริงๆ เชนนั้นก็นาจะทำให
หุนเชิดแสดงความสามารถออกมามากกวาเดิมไดอีกสักหนอยกระมัง เริ่มแรก ลองใช
พลังปองกันของหุนเชิดกอนแลวคอยวากัน’ น้ำเสียงที่ตื่นเตนของเทพขับเคลื่อนดังขึ้น
ดูแลวเขาคงรูสึกมั่นใจในความสามารถของหุนเชิดตัวนี้อยางเต็มเปยม
“อืม! เขาใจแลว”
ใช วัต ถุ ดิ บ ที่ ล้ ำค าไปตั้ งมากมายขนาดนี้ บ นหุ น เชิ ด หานลี่ ก็ รู สึ ก ตั้ งตารอคอย
เชนกัน ภายใตความคิดนั้น หุนเชิดรูปรางมนุษยก็เริ่มเคลื่อนไหว
มองจากที่ไกลๆ ออกไป เห็นเพียงหุนเชิดอาปากออก พนโลยักษขนาดเทาฝามือ
ออกมา ลำแสงวิ ญ ญาณสว า งวาบ กลายเป น โล ยั ก ษ สี เงิ น ต า นทานอยู เบื้ อ งหน า
จากนั้นมือทั้งสองของหุนเชิดก็รายอาคม บนใบหนามีอักษรหลากสีสัน ปรากฏขึ้น
อยางฉับพลัน จากนั้นเกราะปองกันหาสีสันชั้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้นจากอักขระเหลานั้น
ชั่วครูก็หอหุมทั้งเรือนรางเอาไว
“เอ! หรือวาสหายมาจากสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ของหนานเจียง เคล็ดวิชาชนิดนี้ดู
เหมือนวาจะเปนเคล็ดวิชาอักขระวิญญาณที่มีชื่อเสียงของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์”
ผูเฒาขูจูเห็นความแปลกประหลาดบนใบหนาของหุนเชิด ก็เอยถามขึ้นดวยความ
ตะลึงงัน
“ไมใช” ถึงแมหานลี่จะไดยินคำนี้แลวใจกระตุกวาบ แตกลับควบคุมหุนเชิดให
ตอบกลับดวยอยางไรความรูสึก
“ออ ที่แทขานอยก็มองผิดไป แตดูจากความสามารถของสหายแลว คลายกับ
เคล็ดวิชาอักขระวิญญาณเปนอยางมาก” แววตาของผูเฒาขูจู ฉายแววประหลาดใจ
ตอบกลับดวยเสียงราบเรียบ เห็นไดชัดวาไมคอยเชื่อคำพูดของหุนเชิดรางมนุษย
แตก็ไมไดซักถามอะไรตอ เมื่อเห็นหุนเชิดเตรียมการปองกันและไมไดเคลื่อนไหว
ไมมีทาทีจะโจมตี ก็อดที่จะรูสึกโกรธแค นไม ได รูสึกถูกดูแคลนอยูเล็กๆ ทั น ใดนั้ น
ใบหนาพลันเครงขรึม ปากก็บริกรรมคาถาดวยเสียงทุมต่ำออกมา
กระบี่ บิ น ทั้ ง หมดเหนื อ ศี ร ษะขานรั บ พร อ มกั น จากนั้ น กระบี่ บิ น ทั้ ง หมดก็
สั่ น คลอน ไอกระบี่ ย าวสองสามจั้ ง ร อ ยกว า สายพ น ออกมาจากเขตอาคมกระบี่
กลายเป น เงากระบี่ ที่ ห นาแน น พุ ง ไปด า นตรงข า ม ระหว า งทางก็ ผ นึ ก รวมตั ว กั น
กลายเปนลำแสงเย็นเยียบ ที่เจิดจาจนแสบตา
ตอนที่ 971 ธนูเพลิงอัสนี
หุนเชิดรางมนุษยเห็นกระบี่แสงเขามาโจมตี ก็ไมไดเคลื่อนไหวอะไรมากนัก แคชี้
ไปยังโลสีเงินที่อยูเบื้องหนา ชั่วขณะนั้นโลพลันเปลงแสงวิญญาณสวางวาบออกมาก
ทันใดนั้นก็ผนึกรวมตัวกันกลายเปนโลแสงที่มีขนาดใหญมากกวาของจริงสองสามเทา
ประกายแสงสีขาวโพลนพุงออกมารับการโจมตีเอาไว
ผลลัพธคือภายใตการจับจองของหานลี่ กระบี่แสงโจมตีไปยังโลแสงอยางไมปราณี
หลังจากเสียงระเบิดดังกัมปนาทขึ้น แสงสีขาวอันเย็นเยียบก็กะพริบวาบไมหยุด
คาดไมถึงวาโลแสงที่ดูเหมือนกอนหินยักษธรรมดาๆ จะตานทานกระบี่แสงเหลานี้
เอาไวไดโดยไมสั่นคลอนเลยแมแตนอย ดูเหมือนวาจะตานทานไดอยางสบายๆ
ผูเฒาขูจูหนาเปลี่ยนสี ใบหนาของหานลี่ฉายแววตกตะลึงเล็กนอย
‘ดูแลวพลังของโลรชตะ จะเปนไปตามที่คาดไว ถึงแมวาจะเปนสมบัติที่หลอมขึ้น
ใหม และใชเวลาในการหลอมไมน านนั ก แตก็ตานทานการโจมตีของสมบั ติอาคม
ธรรมดาๆ ได ดูแลวคงไมมีปญหาอะไรเลย ทวาสามารถกระตุนพลังปองกันไดถึงขั้นนี้
ก็มีเพี ยงหุนเชิดตัวนี้เทานั้นที่ทำได ถาหากเจาควบคุ มโลนี้ เอง สำแดงอานุ ภ าพได
ครึ่งหนึ่งก็ถือวาไมเลวแลว’ เทพขับเคลื่อนเอยขึ้น
“นั่นมันแนนอนอยูแลว ผูบำเพ็ญเพียรอยางพวกเราจะกระตุนความสามารถของ
สมบัติอาคมถึงขั้นนี้ไดอยางไร หลักๆ แลวตองดูวาอานุภาพของสมบัติอาคมนั้นมี
เทาไหร ลมปราณที่ใสเขาไปในสมบัติอาคมนั้นมีมากหรือนอย รวมทั้งการควบคุมที่
แมนยำดวย สามารถกักเก็บลมปราณไดเทาไหร สำแดงครั้งหนึ่งใชลมปราณเทาไหร
ถึงจะฝกฝนทั้งหมดได การบรรลุระดับขั้น ก็เปนแคการผานขั้นตอนเหลานี้ไปทีละขั้น
เทานั้น หุนเชิดนี้ใชวัตถุดิบที่ล้ำคาตางๆ หลอมขึ้น ในครั้งหนึ่งสามารถบรรจุลมปราณ
เขาไปไดเทาไหร ก็มากเกินกวาขาสามเทาแลว แนนอนวาขาจึงไมอาจเทียบได”
หานลี่ตอบกลับอยางไมแปลกใจเลยแมแตนอย
หลังจากที่ผานการชี้แนะเรื่องเคล็ดวิชาหุนเชิดจากเทพขับเคลื่อนดวยตัวเองแลว
ความรู เรื่ อ งเคล็ ด วิ ช าหุ น เชิ ด ของเขาก็ อ ยู ในระดั บ ที่ สู งอย างสุ ด ๆ แม ว าจะสู เทพ
ขับเคลื่อนไมได แตไมไดดอยไปกวาปรมาจารยดานการหลอมหุนเชิดทานอื่นๆ ในใต
หลาแนนอน
‘หึๆ ถึงแมวาโลรชตะจะถูกเจาหลอมขึ้นและมอบใหหุนเชิดใชอีกที แตตอนที่เจา
หลอมนั้ น ก็ได ยึด ตามลัก ษณะพิ เศษของหุ น เชิ ด รางมนุ ษ ย แต เดิม คุ ณ ประโยชน ก็
แตกตางจากสมบัติอาคมทั่วไปอยูแลว ลมปราณที่เจาบรรจุเขาไปในโลก็เหมือนกับหุน
เชิด ยังคงไมมีทางกระตุนพลังทั้งหมดของสมบัติอาคมชิ้นนี้ได’ เทพขับเคลื่อนเอย
อยางราบเรียบ
ครั้งนี้ หานลี่พลันพยักหนา และไมไดเอยปากอะไรอีก
เพราะวาผูเฒาขูจูที่อยูไกลออกไปกำลังกระตุนกระบี่แสงอีกครั้ง หลังจากที่เห็นวา
ไมมีทางทำอะไรโลแสงได ในที่สุดก็เรงปฏิกิริยาของเขตอาคมกระบี่เหนือหัว สำแดง
ความสามารถดานการโจมตีอีกชนิดออกมา
เห็นเพียงเขาชี้ไปยังกระบี่บินทั้งหมดที่อยูกลางอากาศ กระบี่บินเปลงเสียงรอง
คำรามออกมา ทั้งหมดราวกับถูกชักนำอยางไรอยางนั้น พุงไปยังทิศทางหนึ่งพรอมกัน
ลำแสงกระบี่สวางวาบ วงลอกระบี่เสนผาศูนยกลางสองสามจั้งปรากฏขึ้นกลางอากาศ
หลังจากที่ผูเฒาขูจูรายอาคมโจมตีออกมาสองสามสายอยางตอเนื่องกันแลว จูๆ
วงลอกระบี่ก็หมุนวนรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ ชั่วพริบตาตรงใจกลางก็เปลงแสงเจิดจาออกมา
เสาลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกมาจากใจกลาง โจมตีไปยังโลแสงอยางรุนแรง
เสียงทุมต่ำดังขึ้น ลูกบอลลำแสงสีเขียวลูกหนึ่งพลันพุงปะทะลงบนผิวของโลแสง
ลูกบอลลำแสงนี้มีขนาดใหญอยางหาที่เปรียบไมได ชั่วครูก็กดจนใจกลางของโล
แสงเวาบุมลงไป และยิ่งไปกวานั้นก็เปลี่ยนรูปไปอยางรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็ทำให
โลแสงตานทานเอาไวไมไหว
ตอนนั้นหุนเชิดรางมนุษยกลับชูมือขึ้น ชี้ไปยังโลสีเงิน โลแสงสลายหายไปโดย
อัตโนมัติ กลายเปนจุดลำแสงสีขาวเล็กๆ
แตเดิมลูกบอลลำแสงที่ถูกตานทานเอาไวก็กดลงมาดานลางอยางรุนแรง ปะทะ
กับผิวของโลยักษสีเงินโดยตรง โลสีเงินพลันสั่นคลอน ไมไดถูกลูกบอลลำแสงโจมตี
จนแตกละเอี ย ด แต ชั่ ว พริ บ ตากลั บ มี ล ำแสงราวกั บ วารี สี เงิ น พุ ง ออกมา ผิ ว โล
เปลี่ยนเปนโปรงใสราวกับกระจก ภายใตลำแสงสีเงินที่สาดสองลงมา ลูกบอลลำแสง
พลันสั่นคลอน ลำแสงสีเขียวจำนวนนับไมถวนถูกดีดออกไปทั้งสี่ทิศ ชั่วพริบตาลูก
บอลลำแสงก็เล็กลงกวาเดิมเกือบครึ่ง
จากนั้นโลสีเงินก็บิดเบี้ยว ผิวโลเปลงแสงสีเงินสวางจา กลุมแสงที่เหลือถูกดีด
ออกไป หลังจากสวางวาบกลางอากาศก็ระเบิดออก หายวับไป
ผูเฒาขูจูสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง ไมมีทางปกปดแววตาตกตะลึง
ไดอีกครั้ง จองเขม็งไปยังหุนเชิดดานตรงขาม สีหนาเครงขรึมขึ้น
ถึงแมวาการโจมตีเมื่อครูจะไมใชอานุภาพทั้งหมดของเขตอาคมกระบี่ แตอีกฝาย
อาศัยแคโลอันเดียว ก็ตานทานการโจมตีทั้งหมดไดงายๆ ความสามารถลึกล้ำยากจะ
คาดเดาแนนอน จากนี้จะกระตุนแรงกดของเขตอาคมกระบี่หรือไม เขาก็อดที่จะลังเล
ขึ้นมาไมได
‘เอาละ โลรชตะมีอานุภาพเชนนี้ เกราะปองกันเบญจธาตุก็ไมตองทดสอบแลว
ใชหยกเบญจธาตุกระตุนเกราะปองกันนี้เลย อานุภาพไมมีทางดอยกวาโลอันนี้แน
ตอนนี้ลองทดสอบพลังการโจมตีของหุนเชิดเถิด’ เทพขับเคลื่อนดูเหมือนวาจะพึ ง
พอใจในอานุภาพของโลสีเงินเปนอยางมาก
“เขาใจแลว” หานลี่ตอบกลับอยางราบเรียบ
หุนเชิดรางมนุษยตอบสนองดวยการเปลงแสงสีมวงสวางวาบที่ ดวงตาทั้ งสอง
ทันใดนั้นพลันใชมือทั้งสองถูเขาดวยกันโดยไมไดเอยอะไรออกมา ลำแสงสีแดงกลุม
หนึ่งปรากฏขึ้นในมือ จากนั้นลำแสงที่เจิดจาก็สวางวาบขึ้น คันธนูสีแดงปรากฏขึ้นตรง
กลางระหวางฝามือ
มีขนาดเล็กหลายชุน วิจิตรตระการตาเปนพิเศษ!
คันธนูคาดไมถึงวาจะเปลี่ยนรูปเปนมังกร แมแตเกล็ดของมันก็ยังมองเห็นไดอยาง
ชัดเจน
“ธนูทะลวงมังกร!” ผูเฒาขูจูเห็นธนูดามนั้น ก็รองอุทานออกมาอยางไรสุมเสียงทันที
“นี่ไมใชธนูทะลวงมังกร แตเป น ธนู เพลิงอัสนี ที่ ขาน อยลอกเลียนแบบขึ้น ! ขอ
เตื อ นสหายก อ นนะ ธนู นี้ ใช เอ็ น มั งกรวารี ห ลอมขึ้ น เช น เดี ย วกั น แต อ านุ ภ าพนั้ น
เหนือกวาธนูทะลวงมังกร” หุนเชิดรางมนุษยมีสีหนาราบเรียบ ปากกลับเอยสิ่งที่ทำให
ผูเฒาขูจูหนักใจขึ้นมา
จากนั้นมือหนึ่งของหุนเชิดพลันเคลื่อนไหว ควาคันธนูเล็กๆ สีแดงนั้นไวในมือ
หลังจากทีเ่ สียงฟารองดังขึ้น อีกมือหนึ่งกลับมีลูกธนูสีเขียวมรกตดอกหนึ่งปรากฏขึ้นที่
หวางนิ้ว
เสียงบริกรรมคาถาที่กระชั้นดังออกมาจากปาก
ชั่วขณะนั้นธนูสีแดงและลูกธนูพลันเปลงแสงเจิดจาออก จากนั้นขนาดก็ขยาย
ใหญขึ้นพรอมกัน ชั่วพริบตาก็กลายเปนธนูขนาดปกติ อักขระบนตัวมันเปลงแสงเจิด
จา ตัวคันธนูมีเปลวเพลิงสีแดงสดกลุมหนึ่งหอหุมธนูสีแดงเอาไว สวนลูกธนูสีเขียวก็
เปลงแสงสีทองเจิดจา ประจุไฟฟาหลายสายดีดออกมาจากลูกธนู เสียงฟารองคำราม
ดังขึ้นอยางตอเนื่อง
หุนเชิดขึ้นลูกธนูกับคันธนูอยางคุนเคย คอยๆ ดึงสายธนูเล็งไปดานตรงขาม ยังไมทัน
ไดปลอยมือประจุไฟฟาสีทองและเปลวเพลิงสีแดงก็หลอมรวมกัน เสียงอึกทึกดังขึ้น
จากนั้นแรงกดดันวิญญาณที่ไมไดปกปดก็ระเบิดออกมาจากทั่วราง แผกระจายไป
รอบดานราวกับคลื่นยักษ
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมที่คอยเฝาดูการตอสูเหลานั้น ถูกคลื่นพลังวิญญาณ
พุงเขามา รูสึกเพียงวาสูดลมหายใจเขาดวยความตึงเครียด เกราะปองกันของแตละ
คนสั่นคลอนไมแนนอน บางคนที่มีพลังยุทธต่ำตอยก็พากันถอยหางออกไปพรอมกับ
หนาเปลี่ยนสี
“หยุดมือ! ไมตองประลองแลว ตาเฒายอมแพ!” หลังจากที่ผูเฒาขูจูสัมผัสไดถึง
ไอวิญญาณที่หุนเชิดปลอยออกมา ในที่สุดก็รองตะโกนออกมาดวยสีหนาขาวซีด คาด
ไมถึงวาจะเปนฝายยอมแพกอน
แตขณะที่เอยเชนนั้น เขากลับสำแดงการปองกันออกมาอยางไมประมาท มือหนึ่ง
พลิ ก ฝ า มื อ แผ น ป า ยสามเหลี่ ย มแผ น หนึ่ ง พุ ง ออกมา หลั ง จากขยายใหญ แ ล ว ก็
เปลงแสงสีเขียวแดงเหลืองสามสีสวางวาบตานทานอยูเบื้องหนาเขา ในเวลาเดียวกันก็
กวักมือเรียกกรงลอกระบี่ที่อยูกลางอากาศ กรงลอกระบี่เปลงเสียงคำรามออกมาแลว
กลายเปนกระบี่บินรอยเลม หมุนโคจรรอบตัวเขาไปมาไมหยุด
ผูเฒาขูจูมีทาทีเครงขรึม จนทำใหหานลี่รูสึกประหลาดใจเล็กนอย คิ้วขมวดเขาหา
กันถายทอดเสียงไปหาเทพขับเคลื่อน
“ธนูเพลิงอัสนีนี้มีอานุภาพยิ่งใหญขนาดนั้นเลยหรือ ดูเหมือนวาจะทำใหทานผู
นั้นตึงเครียดได”
‘สามารถใชลมปราณเทากับระดับกอกำเนิดขั้นปลายไดหนึ่งครั้ง สมบัติอาคมใดๆ
ก็ไม อ าจดู แ คลนได และยิ่ งไปกวานั้ น คั น ธนู แ ละลูก ธนู ของเจาก็ ไม ใชของธรรมดา
อันหนึ่งใชกระดูกและเอ็นของมังกรวารีเพลิงแดงหลอมขึ้น อีกอันหนึ่งคือไผอัสนีสีทอง
อานุภาพของสมบัติอาคมชุดนี้ ไมธรรมดาอยางแนนอน ทำใหอีกฝายรูสึกหวาดกลัว ก็
ไมใชเรื่องแปลกอะไร ถึงอยางไรเสียเขาก็ไมใชผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย
หากเจาอยากใหหุนเชิดสำแดงกำลังเต็มอัตรา หากปลอยธนูนี้ออกไป สี่ในสิบสวนก็
เดาวาสามารถสังหารเจาของเกาะไผขมผูนี้ได อยากสังหารอีกฝายหรือไม?’
เทพขับเคลื่อนเอยพรอมกับหัวเราะอยางเย็นชาออกมา
“สี่สวน ชางเถิด ขนหงสดำนั่นสำคัญที่สุด ถาหากไมสำเร็จละก็ อีกฝายอาจจะ
เปดใชงานอาคมบนเกาะ นั่นจะยิ่งยุงยากเขาไปใหญ อีกฝายมีชื่อเสียงขนาดนี้ก็นาจะ
มีความสามารถในการปองชีวิตตัวเองที่พวกเราไมรู อยากอเรื่องจะดีกวา ขาเองก็ไมใช
ผูที่ชอบสังหารคนอื่น ยิ่งไมสนใจการสังหารคนอื่นอยางไมมีเหตุผล แตแคไมมีทาง
ทดสอบพลังโจมตีของหุนเชิดที่แทจริงไดแลว” หานลี่สั่นศีรษะขณะเอยในใจ
‘นั่นก็ชวยอะไรไมได ขาไดเห็นมันกดผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดชั้นปลายสุด
ของขั้นกลางคนหนึ่งไดอยางงายดายเชนนี้ นั่นก็หมายความพลังของหุนเชิดไมไดดอย
ไปกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายจริงๆ ไมเสียดายอะไรแลว นับวาไมทำ
ใหเวลากวาครึ่งชีวิตของขาเสียเปลาไป’ เทพขับเคลื่อนถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
เอยพึมพำกับตัวเอง
หานลี่ไดฟงแลวแววตาก็หมนหมองลง
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ไอวิญญาณที่นาตกตะลึงบนรางของหุนเชิดก็คอยๆ
หายไป คันธนูลดระดับลง กลับมามีขนาดเทาเดิมทามกลางลำแสงวิญ ญาณ เปลว
เพลิงและประจุไฟฟาสีทองหายลับไปพรอมกัน
ผูเฒาขูจูเห็นภาพนี้ก็ผอนคลายลง สัมผัสไดถึงเหงื่อเย็นๆ ที่แผนหลัง
ชวงเวลาที่ธนูเล็งมาทางเขา เขาก็สัมผัสไดถึงอันตรายจากการเพลี้ยงพล้ำและถูก
สังหารในทันที ดังนั้นจึงยอมออนขอยอมแพโดยพลัน ตอนนี้ ไมวาอีกฝายจะสำแดง
ความสามารถหรือวาพลังวิญญาณที่นากลัว เขาก็มั่นใจไดวาอีกฝายคือผูบำเพ็ญเพียร
ระดับกอกำเนิดขั้นปลาย
ดุูแลวที่เขาออกมาจากการกักตนเพราะสองคนนี้มาหา ก็เปนเรื่องที่ชาญฉลาด
แลวจริงๆ เขาไมคิดวาเขตอาคมหมื่นพฤกษาบนเกาะจะตานทานผูบำเพ็ญ เพียรที่
โกรธเกรี้ยวคนหนึ่งได และยิ่งไปกวานั้น ยังมีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดในระดับ
เดียวกับตนอยูดวยอีกคนหนึ่ง
หลังจากขบคิดเชนนั้น เมื่อผูเฒาขูจูเห็นอีกฝายเก็บสมบัติอาคมเขาไป ก็เก็บกระบี่บิน
และปายกลับมา เรียกหานลี่และพวกทั้งสองใหบินกลับเขาไปในตำหนักไมอีกครั้ง
ครั้งนี้ เจาของเกาะไผเขียวผูนี้มีทาทีเกรงใจมากขึ้นเปนพิเศษ ออกคำสั่งใหชาย
ชราระดับหลอมรวมขั้นปลายผูนั้น ไปนำสมบัติติดตัวเขาชิ้นหนึ่งมา และไปดึงขนของ
หงสดำมาดวย สวนตนเองนั้นก็พยายามตีสนิทกับหานลี่และพวก พลางซักถามประวัติ
ความเปนมาของพวกเขาอยางออมๆ ถึงอยางไรเสียผูบำเพ็ญเพียงระดับกอกำเนิดขั้น
ปลายในตาจิ้นก็มีอยูตั้งมากมาย แตกลับไมมีใครที่มีขอมูลตรงกับหุนเชิดรางมนุษยผูนี้
แนนอนวาจึงทำใหรูสึกตกตะลึงระคนสงสัย
ฃหุนเชิดรางมนุษยนั่งอยูบนเกาอี้ดวยสีหนาราบเรียบไมเปลงคำพูดใดๆ ออกมา
สักคำ หานลี่ก็หัวเราะคิกคักกับเจาของเกาะผูนี้ พูดคุยเลนไปเรื่อยๆ อยูชั่วครู และไม
เผยประวัติความเปนออกมาเลยสักนิด
ทำใหผูเฒาขูจูผูนี้หัวเราะอยางขมขื่น และทำไดเพียงจนปญญาอยางสุดๆ
หลังจากที่ผานไปหนึ่งเคอ ชายชราก็ถือกลองหยกเดินเขามา วางลงเบื้องหนา
ทานอาจารยของเขาดวยสีหนานอบนอม
หลังจากที่ผูเฒาขูจูกวาดสายตามาทางหานลี่และพวกทั้งสองแลวก็สะบัดแขนเสื้อ
กลองหยกบินมาหาหานลี่โดยอัตโนมัติ
ตอนนั้นเขาก็ดูออกวาถึงแมผูบำเพ็ญเพียรแซลี่จะมีพลังยุทธที่นาตกตะลึง แตก็ดู
เหมือนวาจะไมยอมคบคาสมาคมกับใคร ดังนั้นจึงยอมแลกเปลี่ยนกับหานลี่โดยตรง
อยางรูจักวางตัว
หานลี่รับกลองมาอยางไมเกรงใจ เปดฝากลองออก ชั่วขณะนั้นลำแสงสีแดงพลัน
สวางจาขึ้นจนแสบตา
เขาหรี่ตาทั้งสองขางลง ใบหนาอดที่จะเผยความยินดีออกมาไมได
ผานไปชั่วครูหานลี่ก็พาหุนเชิดรางคนบินออกมาจากเกาะไผขม กลายเปนสายรุง
สองสายพุงแหวกอากาศออกไป
ชั่วพริบตา ลำแสงหลีกหนีก็หายลับไปจากขอบฟาอยางไรรองรอย
ตอนที่ 972 สยบอสูร
ผานไปสามวัน หานลี่ก็มาปรากฏตัวบนเกาะรกรางนิรนามอีกแหงหนึ่ง
เขายืนอยูบนกอนหินยักษริมเกาะกอนหนึ่ง มองไปยังหุนเชิดรางคนเล็กๆ ของ
เทพขับเคลื่อน สีหนาเครงขรึม
“ทานอาวุโสจะละสังขารจริงๆ หรือ จากสภาพการณของทานอาวุโสถายังมีวิธียืด
จิตวิญญาณของทานไปไดอีกสักเดือนสองเดือน” หานลี่เอยอยางเชื่องชา
“อยูอีกไมก่ีวันสำหรับขาจะมีความแตกตางอะไรกันละ? เจาอยาลำบากเลย หาก
กลับคืนสูวัฏสงสารได ก็เปนเรื่องที่ดีสำหรับขาอีกเรื่องหนึ่ง” หุนเชิดตัวเล็กสั่นศีรษะ
พลางเอยอยางราบเรียบ
“ในเมื่อเปนเชนนั้น ชนรุนหลังก็ไมอยากพูดมากแลว หวังวาเสนทางการกลับคืน
สู วั ฏ สงสารของท านอาวุ โสจะมี โอกาสได เข าสู โลกของการบำเพ็ ญ เพี ย รอี ก ครั้ ง ”
น้ำเสียงของหานลี่ทุมต่ำ
“หนทางการกลับคืนวัฏสงสารมันงายดายเสียที่ไหนกันเลา ตอใหมีโอกาสจริงๆ
ชาติตอไปจะไดอยูในรางมนุษยหรือเปลาก็พูดยาก เออใช เจาเด็กนอยหาน! ตอนแรก
ที่ขาชวยเจาศึกษาวิธีการหลอมพัดสัตตเปลวเพลิง เจาเคยรับปากขาเอาไวเรื่องหนึ่ง
นาจะยังจำไดสินะ” จูๆ เทพขับเคลื่อนก็เอยถึงเรื่องนี้
“จำไดแนนอนอยูแลว แตแคทานอาวุโสไมเคยกลาวถึง ชนรุนหลังก็นึกวาทาน
อาวุโสลืมเรื่องนี้ไปเสียแลว”
หานลี่เอยพรอมกับหัวเราะยังขมขื่นออกมา
“ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แลว คำขอนี้ก็อยาใหเสียเปลาไปเลย คำขอของขานั้นงายมาก ถา
หากเปนไปไดละก็ ขาหวังวาเจาจะไปยังปลายสุดของทิศตะวันตกเพื่อแยงนิกายพันไผ
กลับมา สงลูกศิษยผูดูแลคนหนึ่งไปดูแลนิกายนี้ และสืบทอดตอไปแทนขา อยาปลอย
ใหคำสอนของขาหายสาบสูญไป ตอนนี้ผูที่ดูแลนิกายพันไผ ไมใชลูกศิษยของตาเฒา
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ตาเฒาก็ไมสบายใจจริงๆ”
เทพขับเคลื่อนหัวเราะหึๆ ออกมาขณะเอย
“ไมมีปญหา ถึงตอนนั้น ขาจะรับลูกศิษยที่มีคุณสมบัติโดดเดนมาสักคนหนึ่ง ถายทอด
เคล็ ด วิช าหุ น เชิ ด ของท านอาวุโสให และให เขาสื บ ทอดตำแหน งผู น ำนิ ก ายพั น ไผ
ตอไป” หานลี่ตอบรับอยางไมตองคิด
“หึ ๆ เจ า กล า วเช น นี้ ตาเฒ า ก็ ส บายใจแล ว ตาเฒ า สลั ก เคล็ ด วิ ช าลั บ และ
ประสบการณตางๆ ที่เรียนรูมาทั้งหมดไวในคัมภีรที่มีชื่อวา ‘คัมภีรสมบัติขับเคลื่อน’
คัม ภี รนี้ อ ยูในถ้ำโชคนภา เนื้ อ หาในคั ม ภี รนั้ น เจ าเรีย นรูได เท าไหรก็เท านั้ น ก็ แ ล ว
จากนั้นก็นำคัมภีรนี้ไปมอบใหลูกศิษยผูสืบทอดนิกายพันไผ นี่ถึงจะเปนมรดกที่แทจริง
ของขา” เทพขับเคลื่อนหัวเราะดวยเสียงอันดังกึกกอง
ทันใดนั้นคนตัวเล็กก็อาปากออก ลำแสงสีเขียวขนาดเทากำปนกลุมหนึ่งลอยขึ้น
ไปบนฟา จากนั้นเสียงบริกรรมคาถาที่ทุมต่ำก็ดังขึ้นอยางตอเนื่องทามกลางทองฟา
ลำแสงสีเขียวขยายใหญขึ้นอยางรวดเร็ว ชั่วพริบตา ก็มีขนาดเสนผาศูนยกลาง
สองสามจั้งลอยอยูสูงขึ้นไปยี่สิบสามสิบจั้ง ลำแสงเจิดจาสวางวาบ หานลี่ที่กำลังจับตา
มองทุกอยางอยูดวยความเครงขรึม ก็อดที่จะหรี่ตาลงไมได
เสียงบริกรรมคาถาหยุดลง รอบดานเงียบสงัด แตช่ัวครูลำแสงก็หดเล็กลงและ
ระเบิดออกดัง ‘ตูม’ ทองฟาผืนเล็กๆ ถูกจุดลำแสงสีเขียวเล็กๆ ปกคลุม ดูแลวงดงาม
ตระการตา
เมื่อมองเห็นทุกอยาง ในที่สุดใบหนาของหานลี่ก็เผยความหมนหมองเศราโศกออกมา
เทพขับเคลื่อนปรมาจารยกอตั้งสำนักผูยิ่งใหญ ไมมีอยูแลว
เขาแหงนหนามองขึ้นไปบนทองฟา เงียบกริบไมรูนานเทาไไหร หลังจากที่ถอน
หายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ก็กมศีรษะลง กลอกตาไปมา ตกลงบนหุนเชิดตัวเล็กที่ยังคง
ลอยอยูเบื้องหนา
มันที่สูญเสียจิตวิญญาณในครานี้ ไรซึ่งพลังชีวิตในทันที
เขาสะบัดแขนเสื้อเบาๆ ลำแสงสีเขียวพุงพาดผานคนตัวเล็กพลันสลายหายไป
จากนั้นก็ชูมือขึ้นอีกครั้งตบไปที่กระบอกไมไผตรงแผนหลัง ชั่วขณะนั้นคัมภีรสองสาม
มวนก็บินออกมาจากกระบอกไมไผ รอนลงกลางฝามือ หานลี่แผจิตสัมผัสเขาไปใน
คัมภีรเหลานี้ ดานในมีบันทึกประสบการณของเทพขับเคลื่อนดังคาด ไมเพียงเคล็ด
วิชาลับตางๆ ที่มีมากมาย ยังมีเรื่องลึกลับในโลกของผูบำเพ็ญเพียรอีกจำนวนมาก
อานไปไดเพียงชั่วครู เขาก็เก็บคัมภีรเหลานี้เขาไปในยามเก็บของ จากนั้นใบหนา
ก็เผยสีหนาขบคิดออกมา จมเขาสูภวังคแหงความคิด
ตอนนี้หลอมหุนเชิดสำเร็จแลว ขั้นตอไปก็คือเริ่มหลอมพัดตรีเปลวเพลิง ถาหาก
หลอมพัดนี้ได เขาก็นาจะมีกำลังตอกรกับมารโบราณไดแลว
แตแคการหลอมพัดตรีเปลวเพลิงคอนขางยุงยากนิดหนอย วัตถุดิบทั้งหมดลวน
ตองอาศัยเพลิงแทสามชนิดจากคน ฟา และดิน ถึงจะหลอมพัดตรีเปลวเพลิงได
ตอนแรกในพิธีของสำนักรอยฝมือนั้น หานลี่ก็รูสึกสนใจชีพจรเพลิงของสำนักรอย
ฝมือ ความจริงแลวเขาสนใจเพลิงธรณี ของพวกเขา และเคยคิดจะยืมเพลิงธรณี มา
หลอมวัตถุดิบสวนหนึ่ง ตอนนี้ในเมื่อคนอยูที่ตาจิ้นแลว เรื่องนี้จึงไมอาจเปนไปได
ถาหากตองการหลอมวัตถุดิบสวนของเพลิงธรณี ก็มีเพียงตองหาบอเพลิงธรณีบริสุทธิ์
ตาจิ้นนั้นมีชีพจรเพลิงธรณีอยูไมนอย แมกระทั่งจุดที่มีชื่อเสียงบางแหงก็ไมได
ตั้งอยูในสำนักตางๆ แตตั้งอยูในที่รกรางหางไกลที่มีไอวิญญาณเบาบาง ดังนั้นการจะ
ตามหาแหลงเพลิงธรณีจึงไมใชเรื่องที่ยากเย็นอะไรนัก
สวนเพลิงมนุษยนั้นก็คือเพลิงแทที่ผูบำเพ็ญเพียรฝกฝนได เพลิงจิตวิญญาณของผู
บำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวม เพลิงทารกของผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด ลวนเปน
เพลิงประเภทนี้ นี่ไมใชปญหา
ปญหาเดียวก็คือ วัตถุดิบที่เหลือที่จำตองใชเพลิงสวรรค
ตามในบันทึกในคัมภีร สิ่งที่เรียกวาเพลิงสวรรคความจริงแลวคือเพลิงของอัสนีสวรรค
จำตองอยูในอากาศที่มีฝนฟาคะนอง เพลิงอัสนีก็จะกอตัวขึ้นโดยอัตโนมัติ และใช
เพลิงนี้หลอมวัตถุดิบวิญญาณออกมาอีกที
จำตองการโอกาสที่เหมาะสม ตอนแรกหานลี่เคยใชเมล็ดอัสนีสวรรค จะวาไป
แลวก็เปนการยืมเพลิงอัสนีฟาดินมาหลอมสมบัติ แตแคเมล็ดอัสนีสวรรคจำตองใช
พลังอัสนี และวัตถุดิบวิญญาณที่เขาหลอมก็ตองอาศัยพลังอัสนีเปลี่ยนเปนเพลิงอัสนี
ขอแค มี เงื่ อ นไขครบ เดาว า ใช เวลาแค ส องสามเดื อ น ก็ น า จะหลอมวั ต ถุ ดิ บ
วิญญาณทั้งหมดได สำหรับเขาแลว พัดตรีเปลวเพลิงลอกเลียนแบบนั้น ประสบปญหา
ก็เพียงแคเวลาเทานั้น
และเวลานั ด พบกับ ชายชราแซ ฟู ของพรรคเก ายมโลกที่ ห นานเจี ย ง ก็ ใกล เข า
มาแลว
ถึ ง แม ว า หานลี่ จ ะกลุ ม ใจกั บ การนั ด พบกั น ของทั้ ง สองฝ า ย และไม ไ ด ใ ห
ความสำคัญอะไรนัก แตที่หนานเจียงนั้นมีภูเขาอสรพิษเงินอยูลูกหนึ่ง ภูเขาลูกนี้มี
เพลิงภูเขาพนออกมา เปนชีพจรเพลิงที่มีชื่อเสียงในตาจิ้น ผูบำเพ็ญเพียรจำนวนไม
นอยตางวิ่งไปที่ภูเขาลูกนั้นเพื่อหลอมสมบัติอาคมโดยเฉพาะ ที่นั่นจึงมีประโยชนใน
การหลอมวัตถุดิบวิญญาณของเขา และไดพบกับชายชราแซฟูพอดี
เขาจึงรูสึกสนใจผูที่ตองการพบตนเองอยูเล็กนอย
จะว า ไปแล ว จุ ด ประสงค ห ลั ก ที่ เขามาก็ ส ำเร็ จ ไปแล ว ครึ่ ง หนึ่ ง ที่ เ หลื อ ก็
จำเปนตองไปตามหาคาถาคลายผนึกวิญญาณของพรรคตาขายทมิฬ และชิงกระบี่บิน
ที่อยูในมือของมารโบราณทั้งสองเลมกลับมา จะไดถือโอกาสมองหาและรวบรวมแกน
ทองคำ ดูวาจะรวบรวมกระบี่บินอีกชุดหนึ่งไดครบหรือไม
ขบคิดอยูนาน ในที่สุดหานลี่ก็ตัดสินใจ ทวากอนหนานั้น ก็ยังมีอีกสองเรื่องที่ตอง
จัดการ
ทันใดนั้นเขาพลันกลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงไปยังชีพจรวิญญาณเล็กๆ
บนเกาะ จากนั้นก็ปลอยจวนความลับสวรรคออกมาบนภูเขาเล็กๆ ลูกนั้น วางเขต
อาคมอำพรางจวนเล็กนอย สวนคนก็เดินเขาไปในหองลับหองหนึ่ง
เขาเสียเวลาไปหาหกวันกับการหลอมยันตแปลงวิญญาณที่ไดมาจากสำนักยันต
สวรรคใหเขาไปในราง จากนั้นก็นั่งสมาธิอยูบนฟูก ดึงยามเก็บอสูรวิญญาณใบหนึ่ง
ออกมาจากเอว จากนั้นก็โยนขึ้นไปกลางอากาศ ผลลัพธคือปากถุงเปดออก ลำแสงสี
ขาวหมุนวนเปนเกลียวพุงออกมา อสูรปศาจสีเหลืองขนาดสองสามฉื่อตัวนึ่งปรากฏขึ้น
บนพื้น
นั่นก็คือมังกรเกราะธรณีที่ถูกจับเปนมาเมื่อหลายปกอน
อสูรตัวนี้ มีรูปรางคลายกับตัวนิ่มเปนอยางมาก รางกายเต็มไปดวยยันตอาคม
หลากสีสัน แขนขาทั้งสี่ยังมีเข็มสีทองเปลงประกายสองสามเลมปกอยู นอนหมอบอยู
กับพื้นไมขยับเขยื้อน
เมื่อหานลี่ปลอยมันออกมา หลังจากที่ดวงตาเล็กๆ ทั้งสองหมุนติ้วๆ ไปมาอยาง
รวดเร็วแลว ก็มองไปทางหานลี่และเผยทาทางนาสงสารออกมา
ดูแลวการถูกกักอยูในยามเก็บอสูรวิญญาณสองสามป ในที่สุดความดุรายของอสูร
ตนนี้ก็ลดลงไปไมนอย
“ไมตองแสรงทำเปนบา เจาเปนอสูรระดับเจ็ดแลว สติปญญาตองสูงสง นาจะฟง
ภาษามนุษยออกถึงจะถูก ขามีเวลาจำกัด ไมอาจเสียเวลาได จะพูดตรงๆ ก็แลวกัน ถา
หากเจายอมศิโรราบใหขา ก็ปลอยจิตสัมผัสออกมา ใหขาสำแดงเคล็ดวิชาลับลงบนตัว
เจา ถาหากเจาไมยินยอม ขาก็จะสังหารเจาทิ้งทันที รางกายของเจามีเกราะเกล็ดและ
แกนอสูรระดับเจ็ด คงมีมูลคาไมนอย” หานลี่เอยอยางเครงขรึม
มังกรเกราะธรณีรางกายสั่นสะทาน แววตาฉายแววหวาดกลัวสวางวาบ แตทันใด
นั้นก็ใชสีหนาโกรธเกรี้ยวจองเขม็งมาที่หานลี่ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“เปนอสูรวิญญาณของขาดีกวาเปนทาสของผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ยิ่งนัก อายุขัย
ของอสูรอยางพวกเจามากกวามนุษยอยางพวกเรา ขาไมไดมีเจตนาจะใหเจาเปนอสูร
วิญ ญาณสืบทอด เพี ยงแครับใชขาในตอนที่ ยังมี ชีวิตอยูเท านั้ น ถึงตอนนั้ น หากขา
บรรลุแดนวิญญาณหรือวาเพลี้ยงพล้ำตายไป เจาก็จะเปนอิสระในทันที” หานลี่มองไป
ยังในแววตาของอสูรตอนนี้แลวเอยอยางไมเกรงใจ
มังกรเกราะธรณีไดยินคำพูดนี้ก็ดูเหมือนวาจะตะลึงงัน ทันใดนั้นแววตาพลันเปลง
ประกายสวางวาบไมหยุด ใบหนาอสูรเคยแววลังเลเหมือนกับมนุษยออกมา
หานลี่เห็นเชนนั้นก็หยักมุมปากขึ้นพรอมกับอมยิ้ม จูๆ มือหนึ่งก็ตบไปที่ยามเก็บ
ของ ขวดเล็กๆ สีเขียวมรกตขวดหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ
ลำแสงสีมวงสวางวาบ ชวงวินาทีนั้นเปลวเพลิงสีมวงชั้นหนึ่งก็หอหุมฝามือที่รอง
ขวดเล็กๆ ใบนั้นเอาไว ในเวลาเดียวกันนั้นฝาขวดก็ลอยพุงขึ้นไป ลำแสงที่เย็นเยียบ
กลุมหนึ่งพุงออกมาจากขวด อุณหภูมิของหองลดลงอยางรวดเร็ว
มังกรเกราะธรณีถูกไอเย็นเยียบกระตุน ถึงแมวาจะมีเกล็ดคอยปกปองรางกายอยู
ก็ยังอดที่จะสั่นสะทานไมได ในเวลาเดียวกันแววตาก็ฉายแววตกตะลึงระคนสงสัย
หานลี่สะบัดฝามือ ของเหลวสีเงินหยดหนึ่ งลอยขึ้นมาจากปากขวดท ามกลาง
ความเย็นเยียบ หลังจากปรากฏตัวที่ปากขวดแลวก็ผนึกรวมกันเปนไขมุกทันที พลาง
หมุนติ้วๆ อยูตรงนั้นไมหยุด
เมื่อเห็นไขมุกสีเงินเม็ดนั้น ชั่วขณะนั้นแววตาของมังกรเกราะธรณีก็แข็งคาง ทำ
จมูกฟุตฟต จูๆ ปากก็เปลงเสียงคำรามของอสูรที่ยากจะเขาใจออกมา ดูเหมือนวาจะ
กำลังตื่นเตนเปนพิเศษ
“ดูแลวเจาคงรูจักสิ่งนี้สินะ เชนนั้นก็ดี ขอแคเจายอมเปนอสูรวิญญาณของขา ถึง
ตอนนั้นไขกระดูกเย็นเยียบในขวดนี้ก็จะแบงใหเจาสองหยด ใหเจาไดมีโอกาสขามผาน
ทัณฑอัสนีเปลี่ยนราง ตอนนี้ก็เสนอเงื่อนไขแลว คงตองดูแลวละวาเจาจะเลือกอะไร”
หานลี่เอยอยางเย็นชา
มังกรเกราะธรณี ยังคงจองเขม็งไปที่ไขกระดูกเย็นเยียบที่กลายเปนไขมุกสีเงิน
อยางไมวางตา ใบหนาหดเล็กลง สีหนาลังเล ดูเหมือนวากำลังตัดสินใจอะไรสักอยางที่
ยากมากอยู
ชั่วครูเห็นอสูรปศาจยังคงไมแสดงทาทีใดๆ ออกมา หานลี่ก็สงเสียงเหอะออกมา
ดวยความเย็นชาและไมไดพูดอะไรอีก เก็บขวดเล็กๆ เขาไป มือหนึ่งโบกสะบัด ชั่ว
ขณะนั้นลำแสงเปลวเพลิงสีมวงพลันสวางวาบขึ้นบนมือ เปลวเพลิงผนึกรวมตัวเขา
ดวยกัน กระบี่เปลวเพลิงสีมวงเลมหนึ่งคอยๆ ปรากฏขึ้นบนฝามือของเขา
นิ้วทั้งหาเคลื่อนไหวเล็กนอย กระบี่เพลิงสั่นสะเทือนขณะพุงออกมาจากฝามือ
ตรงไปหามังกรเกราะธรณี
มังกรเกราะธรณีเห็นภาพฉากนี้พลันหนาเปลี่ยนสี ชั่วพริบตากระบี่เพลิงก็มาอยู
เหนือศีรษะของมัน หลังจากก็สับลงมาอยางไมรีบรอน ในที่สุดพลังวิญญาณที่นากลัว
ซึ่งผสมอยูในกระบี่ก็ทำให มันอาปากออกดวยความหวาดกลัว และเปลงเสียงรอ ง
ครวญครางออกมา
ตอนที่ 973 ภูเขาแมงปองคู
ผานไปชั่วครู หานลี่ก็เก็บหอคอยความลับสวรรคกลับมา ขับเคลื่อนลำแสงหลีก
หนีตรงไปยังแผนดินใหญ เพราะวาไมจำเปนตองคนหาอะไรแลว หลังจากผานไปครึ่ง
เดือน เขาก็กลับมาถึงบนแผนดิน
หานลี่ไมไดไปที่สำนักยันตสวรรคอีก แตตรงไปที่หนานเจียง
ระหว า งทางเขาบิ น ๆ หยุ ด ๆ ใช เพลิ ง ทารกหลอมวั ต ถุ ดิ บ วิ ญ ญาณที่ เ ป น
สวนประกอบของพัดตรีเปลวเพลิงไปดวย
แตสิ่งที่นาเสียดายก็คือระหวางทางไมไดพบกับบรรยากาศฝนฟาคะนองใดๆ จึง
ไมอาจรวบรวมพลังของเพลิงอัสนีได นี่จึงทำใหหานลี่รูสึกกลัดกลุมเล็กนอย
ทวา เขาก็ไมไดรีบรอน ที่หนานเจียงนั้นเต็มไปดวยปาไม อากาศรอนชื้น ขอแค
ฝนตกก็มีฟาฝาอยูแลว ดังนั้นปญหาเรื่องการรวบรวมเพลิงอัสนีหากไปถึงหนานเจียงก็
นาจะรวบรวมไดในไมชา
ผานไปสี่เดือน ในที่สุดหานลี่ก็ขามผานเขตตางๆ ไปสองสามเขตแลว ลำแสงหลีก
หนีจึงมาปรากฏตัวที่เขตหนานเจียง
หนานเจี ย งเป น สถานที่ เพี ย งไม กี่ แ ห งในใต ห ล าที่ ไม ได ถู ก สำนั ก ใหญ ๆ ยึ ด กุ ม
ทรัพยากรในเขตนี้จึงถูกสำนักระดับกลางสิบกวาแหงแบงกันครอบครองอยู
ถึงแม วาปกติ แ ล วสำนั กเหลานี้ จ ะขั ดแย งกั น อยู ภ ายใน แต ห ากวัน หนึ่ งมี กลุ ม
อำนาจอื่นๆ ลุกลามเขามาในหนานเจียง ก็จะรวมมือกันตานทานศัตรูทันที ถึงแมวา
จะเปนสำนักใหญๆ อยางมารธรรมะสิบกวาสำนักเหลานั้น ก็ยังไมมีทางรุกรานเขามา
ได จึงเหมือนกับกอตั้งตนเปนแควนแหงหนึ่งในตาจิ้น
หากจะเกิดสถานการณตอตานสำนักตางๆ ในหนานเจียงเชนนี้ ก็จะเกี่ยวของกับ
เคล็ดวิชาที่ฝกฝน
เคล็ดวิชาที่สำนักเหลานี้ฝกฝน ลวนเปนเคล็ดวิชาสายพิษที่พบเห็นไดนอยมากในโลก
ของผูบำเพ็ญเพียร ไมเพียงจะเชี่ยวชาญในการใชพิษ ควบคุมแมลงแลว เคล็ดวิชาดาน
การสาปแชงก็เยี่ยมยอดอีกดวย หากผูบำเพ็ญเพียรในระดับเดียวกันตอสูกับพวกเขา
และไมทันระวังตัวก็อาจจะโดนพิษประหลาดๆ ได นับเปนเรื่องที่ยากจะปองกันจริงๆ
นี่ก็เปนสาเหตุห ลักๆ ที่ สำนักใหญ ๆ เหลานั้ น ไม ยอมปะทะกับ สำนั กต างๆ ใน
หนานเจียงงายๆ มิเชนนั้นหากสำนักใหญๆ รวมมือกันตอสูทำใหอีกฝายไดรับบาดเจ็บ
หนัก ก็ไมใชวาจะไมอาจแยงชิงเขตนี้ได
เมืองวังวนเมฆาตั้งอยูทางทิศตะวันตกของหนานเจียง ภูเขาแมงปองคูคือชีพจร
วิญญาณที่หายากแหงหนึ่งในจวนวังวนเมฆา อาณาบริเวณกวางกวาสองสามรอยลี้ มี
หมอกพิษปกคลุมอยูตลอดทั้งป หากไมใชผูมีพลังยุทธล้ำลึกหรือกินยาวิเศษกันหมอก
พิษมากอน ก็ไมมีทางเขาไปในภูเขาลูกนี้ได
และภูเขาลูกนี้ก็มีชื่อเสียงในหนานเจียงเปนอยางมาก เพราะวาเปนสถานที่ที่มี
หมอกพิษ ในภูเขาไมเพียงจะมีสมุนไพรพิษที่มีมูลคาไมธรรมดาอยูหลายชนิด ยิ่งไป
กวานั้นยังเปนแหลงกำเนิดของปองพิษอยางหางเหล็กและเสนแดงสองชนิด นับเปน
แมลงวิญญาณชั้นยอดที่ผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำในทองที่ตางก็สำแดงเคล็ดวิชาควบคุม
แมลงกับมัน
เมื่อหานลี่มาถึงบริเวณของภูเขาลูกนี้ นั่นก็คือชวงเวลาที่ภูเขาแมงปองคูมีหมอก
พิษปกคลุมอยูหนาแนนที่สุดในรอบป รอบๆ ภูเขาจึงมีผูบำเพ็ญเพียรรวมตัวกันอยู
จำนวนมาก เพราะวามีเพียงชวงเวลานี้ที่แมลงปองพิษสองชนิดจะออกมาหาอาหาร
นอกถ้ำ ชางเปนโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการไลจับแมลงพิษเหลานี้จริงๆ
ทวาผูบำเพ็ญ เพียรเหลานี้ตางอยูในระดับฝกปราณ บางครั้งก็มีผูบำเพ็ญ เพียร
ระดับสรางปราณสองสามคนปะปนอยูดวย ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมขึ้นไปนั้น
ตางก็ไมสนใจภูเขาชีพจรวิญญาณลูกนี้เลยแมแตนอย ปกติแลวผูบำเพ็ญเพียรระดับสูง
จะไมมาที่ภูเขาแหงนี้
การที่อาวุโสระดับกอกำเนิดขั้นกลางเชนหานลี่มาปรากฏตัวที่นี่ หากถูกผูบำเพ็ญ
เพียรคนอื่นๆ พบเขา แนนอนวาจะเปนการดึงดูดความวุนวายเขามาไมนอย ดังนั้น
หานลี่จึงไมไดหยุดอยูใกลๆ กับภูเขาในทันที แตกลับบินตรงเขาไปในหมอกพิษ
ตอนนี้รางเขาถูกลำแสงวิญญาณสีเขียวกลุมหนึ่งหอหุมเอาไว หมอกพิษสีชมพูจึง
ถูกตานทานอยูภายนอกอยางงายดาย
หมอกพิ ษ เหลานี้ ห นาแน น เป น พิ เศษ บางครั้งยังมี แ มลงพิ ษ บิ น เขาออกไปมา
สำหรับผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำแลวเรียกไดวาแทบจะเปนอันตรายถึงชีวิต แตสำหรับ
หานลี่แลวนั่นไมมีคาพอใหสนใจ หลังจากแยกแยะทิศทางแลวก็ตรงไปยังใจกลางของ
ภูเขาทันที
แม ว า ตอนแรกชายชราแซ ฟู จ ะเอ ย ถึ ง ชื่ อ ภู เขาแมงป อ งคู กลั บ ไม ไ ด อ ธิ บ าย
ตำแหนงที่ละเอียด แตไปที่ยอดเขาหลักของภูเขาแมงปองคูกอนก็คงไมผิดแน
จากที่บินอยูกลางอากาศบางครั้งหากพบกับผูบำเพ็ญเพียรสองสามคนละก็ หานลี่ก็จะ
บินแฉลบผานพวกเขาไปยังไมสนใจ จากความเร็วของเขา ผูบำเพ็ญ เพียรระดับต่ำ
เหลานี้จึงไมอาจสัมผัสอะไรได
แตตอนที่หานลี่บินไปพลางนั้น ก็ขบคิดถึงคำเชิญของชายชราแซฟูไปพลาง วา
เขามีจุดประสงคอะไรกันแน
จูๆ ดานขางก็มีเสียงกรีดรองอันนาเวทนาดังขึ้น
“ราชันยแมงปอง แมงปองหางเหล็กกลายพันธุ ทุกคนรีบหนีเร็ว” เสียงแหบแหง
ของบุรุษที่เต็มไปดวยความตกตะลึงระคนหวาดกลัวดังขึ้น จากนั้นเสียงระเบิดและ
เสียงกรีดรองของแมลงประหลาดๆ ก็ดังขึ้นพรอมกัน ดูเหมือนวาจะอยูหางจากเขาไม
มากนัก
หานลี่หนาเปลี่ยนสีหันหนาไปมองทางทิศทางนั้นแวบหนึ่ง ลำแสงสีฟาสวางวาบ
ในแววตา
เสียง ‘พรึ่บๆ’ ดังแหวกอากาศมาอยางตอเนื่อง จากนั้นเงารางของบุรุษและสตรีสอง
สามคนก็ปรากฏขึ้นทามกลางหมอกพิษ ดูเหมือนวาจะกำลังบินตรงเขามาหาหานลี่
ปลายเทาของคนเหลานี้ชี้ลงพื้น กระโดดทีหนึ่งไปไกลไดประมาณสองสามจั้ง ทาทาง
กำลังสำแดงเคล็ดวิชาตัวเบาอยู
“เอ!” แตเดิมหานลี่มีสีหนาเย็นชา หลังจากที่สายตาเลื่อนไปบนรางของสตรีผู
หนึ่งแลวก็อดที่จะรองอุทานออกมาเบาๆ ไมได ลำแสงหลีกหนีจึงหยุดชะงักลง
จากนั้นเขาพลันสะบัดแขนเสื้อ ลำแสงสีเขียวผืนใหญพุงออกมาจากแขนเสื้อ ทุก
แหงที่พุงผานตางกวาดหมอกพิษออกไปจนเกลี้ยง ชั่วพริบตาบรรยากาศรอบๆ ดานก็
สดใสในระยะยี่สิบสามสิบจั้ง
และในชวงวินาทีนั้นเงารางคนสองสามคนก็กระโจนเขามา เมื่อเห็นสถานการณที่
แปลกประหลาดเชนนี้ก็หยุดชะงักฝเทาลงดวยความตกใจ
ยังไมทันรอใหพวกเขามีปฏิกิริยาตอบสนองอะไร หานลี่ก็ใชมือหนึ่งควาไปกลาง
อากาศทางทิ ศที่ พ วกเขาอยู เมื่อ มือ ลำแสงสีเขีย วขางหนึ่ งปรากฏขึ้น กลางอากาศ
ทามกลางหมอกพิษและตะปบลงไปอยางรุนแรง สิ่งของสีดำสนิทถูกมือใหญยักษควา
ไว จากนั้นก็หมุนวนโคจรรอบหนึ่งแลวบินกลับมา หยุดลงเบื้องหนาของหานลี่
คาดไมถึงวาจะเปนแมงปองยักษขนาดสองสามฉื่อตัวหนึ่ง เปลือกแมลงเปลงแสง
สี ด ำออกมา ด า นหลั ง ของมั น มี ห างยาวครึ่ ง ฉื่ อ งอกออกมา ตะขอตรงปลายหาง
เปลงแสงสีมวงออกมา ดูเหมือนวาจะมีพิษที่รายแรงอยางหาที่เปรียบมิได
นั่นก็คือแมงปองหางเหล็กกลายพันธุที่ไลลาเหลาผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำเหลานี้อยู
แมงปองตัวนี้นาจะเปนอสูรปศาจระดับสอง แตภายใตการจับกุมดวยมือลำแสง
นั้น ก็ไมมีทางดีดตัวออกไดเลยแมแตนอย ทำไดเพียงเปลงเสียงรองประหลาดๆ ที่ไร
เรี่ยวแรงออกมาจากปากเทานั้น
ผูบำเพ็ญเพียรสองสามคนเหลานี้ถูกทุกอยางที่เกิดขึ้นทำใหตกตะลึงจนอาปาก
คาง มองไปทางหานลี่ที่อยูทามกลางหมอกสีเขียวกลางอากาศ ทาทางไมรูวาควรทำ
ตัวอยางไรดี
“หลังจากจากกั น ที่ เมื อ งจิ้น เหตุ ใดสหายหวังถึ งมาปรากฏตั วที่ นี่ แม น างเฉา
สบายดีสินะ?” ลำแสงบนตัวของหานลี่สลายหายไป เอยกับผูบำเพ็ญเพียรหญิงคน
หนึ่งดวยใบหนาราบเรียบ
“เจาคือสหายหาน ไมสิ ทานอาวุโสหาน! ตอนนี้ศิษยนองหญิงเฉายังอยูที่เมืองจิ้น
ไมไดออกมาพรอมกับชนรุนหลัง ชนรุนหลังมาตามหาสมุนไพรบนภูเขากับเหลาสหาย
รวมวิถี” ตอนแรกผูบำเพ็ญหญิงที่สวมชุดสีเหลืองคนหนึ่งพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็
เผยสีหนาดีอกดีใจออกมา คาดไมถึงวาจะไดพบกับศิษยพี่หญิงหวังของเฉาเมิ่งหรง
นอกเมืองจิ้นเชนนี้
หลังจากที่หานลี่จากไปเพราะเสียงเพรียกของกระบี่ในวันนั้น แนนอนวาสตรีผูนี้
ก็รูฐานะผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงของหานลี่ ดังนั้นหลังจากที่จำหานลี่ไดแลว แนนอนวา
ก็ไมกลาทำทาทีตามอำเภอใจเหมือนกอนหนาอีกแลว ทันใดนั้นก็ประสานมือคารวะ
อยางชนรุนหลังทันที สีหนานอบนอมเปนพิเศษ
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ เห็นสตรีแซหวังรูจักกับผูบำเพ็ญเพียรที่มีความสามารถ
เกรี ย งไกรที่ อ ยู ก ลางอากาศ ก็ รูสึ ก ผ อ นคลายลงและทยอยกั น คารวะแสดงความ
ขอบคุณ
ทวา คนเหลานั้นรวมทั้งสตรีแซหวัง ตางก็คิดวาหานลี่คือผูบำเพ็ญ เพียรระดับ
หลอมรวม ผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดสำหรับพวกเขาแลว เปนสิ่งที่อยูหางไกล
เกินไปนัก จึงคิดวาไมอาจรูจักมักจี่ดวยได
“ทานลุงของเจาคือแมทัพใหญแหงจูหนาน เหตุใดสหายตองเสี่ยงอันตรายมาหา
ตามหาสมุนไพรเหลานี้” หานลี่ไดฟงวาเฉาเมิ่งหรงสบายดี ก็พยักหนาเหลือบตามอง
แมงปองยักษแวบหนึ่ง แลวขมวดคิ้วขณะเอย
“ถึงแมวาตระกูลของชนรุนหลังจะนับวาร่ำรวย มีศิลาวิญญาณสะสมอยูนิดหนอย
แตคุณสมบัติของขานั้นธรรมดา ภายในตระกูลจึงไมอยากเสียศิลาวิญญาณใหชนรุน
หลังเทาใดนัก” สตรีแซหวังหนาซีดขาว พลางหัวเราะอยางขมขื่นขณะเอย
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ความจริงแลวคุณสมบัติของเจาก็ไมไดถือวาย่ำแยอะไร
นัก ระดับสรางปราณก็ไมใชวาจะไมมีหวัง และการบังเอิญมาพบกับขาอีกครั้ง ก็นับวา
เจามีวาสนากับขา แมลงพิษตัวนี้มอบใหเจาก็แลวกัน ขายังมีธุระตองรีบไป พวกเจา
ดูแลตัวเองเถิด” หานลี่เอยเชนนี้ออกมา พลางชี้ไปที่มือลำแสง
ชั่วขณะนั้นเสียง ‘ตูม’ พลันดังขึ้น มือลำแสงก็กลายเปนประกายแสงสีเขียวเล็กๆ
และสลายหายไป หลังจากที่รางของแมงปองยักษคลอนเล็กนอย ก็แข็งคางขณะรวง
ตกลงมาอยูเบื้องหนาของเหลาผูบำเพ็ญเพียร ไมขยับเขยื้อนเรากับตายแลวอยางไร
อยางนั้น
“ทานอาวุโส ขา...”
สตรีผู นี้ ดี อ กดี ใจ ตอนที่ ก ำลั งคิ ด จะเอ ย ขอบคุ ณ นั้ น รอบกายของหานลี่ พ ลั น
เปลงแสงสีเขียวสวางจา แลวสลายหายไปทามกลางหมอกพิษ คำพูดขอบคุณของสตรี
แซหวัง จึงทำไดเพียงติดอยูที่ปากเทานั้น
สวนเหลาผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นที่อยูดานขาง ก็มองไปยังแมงปองยักษกลายพันธุที่
อยูบนพื้นพรอมกับเผยสีหนาอิจฉาออกมา
ทวาแมงปองตัวนี้ก็เปนสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงมอบใหถึงแมวาพวกเขาจะมี
ความคิดชั่วรายแตกลับไมกลาแยงชิงแมงปองยักษตัวนี้จริงๆ จึงทำไดเพียงเบิกตามอง
สตรีแซหวังแปะยันตวิเศษสองสามแผนลงบนตัวของแมลงพิษ แลวถึงไดเก็บมันเขาไป
ในยามเก็บอสูรวิญญาณดวยความดีอกดีใจ
และในตอนนั้นเองเสียงฟารองก็ดังขึ้นจากบนทองฟา จากนั้นหมอกพิษที่แตเดิม
ปกคลุมไปทั่วทองฟาก็หมุนวน จากนั้นก็มีพายุที่บาคลั่งซึ่งไมรูวามาจากไหนพัดเขามา
ระลอกหนึ่ง คาดไมถึงวาจะเปาพัดหมอกพิษสีแดงเขมกลางอากาศจนสลายหายไป
ทำใหมองเห็นเมฆสีดำที่รออยูกลางอากาศรางๆ ทาทางเหมือนจะมีฝนฟาคะนอง
“ฝนตกพอดีเลย” ตอนนี้หานลี่มองเห็นยอดเขาสีดำสนิทอยูลิบๆ เงยหนาขึ้นมอง
ไปแวบหนึ่งแลวเอยพึมพำขึ้น
จากนั้นก็กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกไปยังยอดเขา
เสียงฟารองคำรามดังขึ้นสองสามครั้ง ชั่วขณะนั้นฝนหาใหญก็โปรยปรายลงมา
จากทองฟา หมอกพิษรอบๆ ดานถูกพายุฝนกระหน่ำลงมา จนทำใหเคลื่อนตัวลงต่ำ
อยางรวดเร็ว ทั้งหมดลดระดับลงไปอยูเหนือพื้นดินแคไมกี่จั้ง ยอดเขาอื่นๆ ที่อยูไกล
ออกไป ก็เผยออกมาจากทามกลางฟาฝน
ลำแสงบนรางของหานลี่หมนแสงลง รอนลงบนกอนหินยักษกอนหนึ่งบนยอดเขา
ภายใตการปกคลุมของลำแสงวิญญาณ บนเรือนรางจึงไมเปยกปอน ทวาหางจากกอน
หินยักษไมไกล กลับมีผูบำเพ็ญเพียรเจ็ดแปดคนรวมตัวกันอยูตรงนั้น มีระดับสราง
ปราณสองคน สวนที่เหลือลวนอยูในระดับฝกปราณ
คนเหลานี้ตางสวมผาโพกศีรษะ ลวนแตงกายเหมือนผูบำเพ็ญเพียรในทองที่ พวก
เขามองไปทางหานลี่ที่จูๆ ก็มาปรากฏตัวอยูบนยอดเขาดวยความตื่นตกใจ พลันหัน
กลับมองสบตากันอยางอดไมได
หานลี่กวาดสายตาไปบนเรือนรางของคนเหลานั้น ทันใดนั้นก็ระเบิด ไอวิญญาณ
ที่ น าตกตะลึ งออกมาจากเรือ นราง สะบั ด แขนเสื้ อ ผ า ปากก็ เอ ย ด วยความเย็ น ชา
ออกมา
“ไสหัวไป!”
ลมพายุรุนแรงพลันพัดเขามา ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งหมุนวน
ผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้นตื่นตระหนก บางก็ปลอยเกราะปองกันออกมาตานทาน
บางก็รีบรอนขับเคลื่อนยุทธภัณฑข้ึนไปบนอากาศ แตหลังจากที่ลำแสงสวางวาบ ทุก
คนก็ถูกลำแสงสีเขียวนั้นมวนเขาไปอยางไมมีขอยกเวน จากนั้นก็ถูกสลัดออกไปไกล
ยี่สิบสามสิบจั้งราวกับน้ำเตาที่หมุน ควาง แตละคนตกอยูในที่ นั่งลำบากอยางสุดๆ
ใบหนาหวาดผวา
ตอนนี้ ค นเหล า นั้ น ไหนเลยจะไม รู ว า พบกั บ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ สู ง ที่ มี
ความสามารถเกรียงไกร ทันใดนั้นก็วิ่งลงมาจากภูเขาทันทีโดยไมพูดอะไร ผูบำเพ็ญ
เพียรระดับสรางปราณสองคนแอบตรวจสอบพลังยุทธของหานลี่เล็กนอย สีหนาก็ยิ่ง
ซีดขาวไรสีโลหิตกวาเดิมขณะขับเคลื่อนยุทธภัณฑจากไปอยางมิกลารั้งรอใดๆ
หานลี่จับจองคนเหลานี้ที่กลายเปนจุดสีดำๆ ในที่สุดก็หายลับไปจากยอดเขา ถึง
ไดชักสายตากลับมาดวยสีหนาราบเรียบขณะเงยหนามองบนทองฟา
เวลานี้เมฆสีดำกำลังปกคลุมอยูทั่วทองฟา อสรพิษสีเงินกำลังเริงระบำ เสียงฟา
รองดังขึ้นอยางตอเนื่องไมหยุด!
ตอนที่ 974 แขกผูมาเยือน
หลังจากเสียงคำรามดังขึ้น ความกลัดกลุมใจของหานลี่ตั้งแตที่เทพขับเคลื่อนจาก
ไปก็ดูเหมือนวาจะคลายลง จากนี้เขาตองเก็บอัสนีสวรรค แนนอนวาจึงไมอยากใหผู
บำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ เขามาขัดขวาง
หลังจากถอนหายใจออกมายาวๆ เฮือกหนึ่ง เขาก็ตบไปที่ยามเก็บของ ธงอาคม
หลากสี สั น สองสามด ามปรากฏขึ้ น ในมื อ ใช มื อ หนึ่ งโบกสะบั ด ธงเหล านั้ น บิ น พุ ง
ออกไปทั้งสี่ทิศสวางวาบแลวมุดหายเขาไปใตดินอยางไรลองลอย
หานลี่เงยหนาขึ้นมองบนทองฟ าที่ แลบไปมาไม หยุด มุมปากหยักขึ้น เล็กน อย
ทันใดนั้นลำแสงวิญญาณบนรางพลันสวางวาบ รางกายลอยขึ้นไปกลางอากาศ หาง
จากพื้นสามสิบกวาจั้ง
สองมือพลันรายอาคม ผนึกเปนสัญลักษณประหลาดๆ เสียงบริกรรมคาถาลึกลับ
ดังออกจากปากของหานลี่
ชั่วขณะนั้นดานลางพลันมีลำแสงหลากสีสันกะพริบวาบ
หลังจากเสียงอึกทึก ‘ครืนๆ’ ดังขึ้น เสาลำแสงสองสามสายก็ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน
กลายเปนธงใหญยักษขนาดหนาเทาปากชามสองสามดาม ตั้งตระหงานอยูบนพื้นดิน
ไมขยับเขยื้อน
เสียงบริกรรมคาถาของหานลี่ไมหยุดลงเลยแมแตนอย ธงอาคมที่อยูดานลางก็
ปลอยเสนไหมจากไอวิญญาณออกมาทามกลางเสียงบริกรรมคาถา และคอยๆ ผนึก
รวมตัวกันจนมีเสนผาศูนยกลางสิบกวาจั้ง
ทามกลางลำแสงเหลานี้ มีอักขระตางๆ วนไปมาในเขตอาคมไมหยุด ทั้งเขตอาคม
ตกอยูในสภาวะถูกกระตุน
และชั่วพริบตาที่เขตอาคมปรากฏขึ้น กลางอากาศในบริเวณนั้นที่ดูเหมือนวาจะ
ไมมีฟาผาได ก็เหมือนจะไดรับผลกระทบอะไรสักอยาง เสียงฟารองดังถี่กระชั้นขึ้น
เรื่อยๆ ฟาแลบคอยๆ เขามาใกลตำแหนงของหานลี่มากขึ้นเรื่อยๆ
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง ปากที่บริกรรมคาถาอยูหยุดชะงักชั่วคราว พลิกฝามือ
ในมือมีขวดหยกสูงสองสามชุนปรากฏขึ้น
ขวดใบนี้เขาเอาไวเก็บอัสนีสวรรค เพื่อหลอมยุทธภัณฑโดยเฉพาะ
โยนขวดนี้ขึ้นไปเบาๆ เมื่อขวดใบเล็กถูกปลอยออกไปกลางอากาศ ก็ใชอาคมสี
เขียวสายหนึ่งโจมตีไปที่ขวดใบนั้น
หลังจากที่ขวดหยกหมุนควางสองสามครั้ง ปากขวดก็ชี้ขึ้นไปบนฟาไมขยับเขยื้อน
ตอนนั้นหานลี่ถูมือทั้งสองเขาดวยกัน แลวชูมือขึ้นพรอมกัน ประจุไฟฟาสีทอง
หนาๆ สองสายพุงออกมาและโจมตีไปยังกนขวดพรอมกัน
หลังจากเสียงฟาผาดังกอง ภาพฉากที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้น
ขวดหยกสั่นคลอนเล็กนอย ประจุไฟฟาสีทองสองสายจมหายเขาไปในขวดอยาง
ไรรองรอย จากนั้นหานลี่ก็ตะโกนดวยเสียงทุมต่ำออกมา พลางชี้ไปกลางอากาศ
เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น ประจุไฟฟาสีทองสายหนึ่งพุงออกมาจากปากขวด กลายเปน
หอกสายฟายาวสองสามจั้งเลมหนึ่งที่กะพริบวาบอยูบนขวดหยก ชี้ไปทางทองฟาสีดำ
ทะมึน และในชั่วพริบตานั้น ประจุไฟฟาสีเงินสายหนึ่งก็ฟาดลงมาจากทองฟา โจมตี
ไปยังหอกสีทองอยางพอดิบพอดี
หอกสีทองพลันสั่นคลอน ชั่วขณะนั้นประจุไฟฟาสีเงินจึงถือโอกาสลดระดับลง ชั่ว
พริบตาก็จมหายเขาไปในปากขวดอยางไรรองรอย
เชนนั้น ประจุไฟฟาสายแลวสายเลาก็ถูกเขตอาคมดูดเขามาอยางตอเนื่อง และ
ถูกอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายดูดเขาไปในขวดหยกอยางงายดาย
ผานไปหนึ่งชั่วยาม หลังจากที่ขวดหยกเก็บประจุไฟฟาสายหนึ่งเขาไปแลว ก็เริ่ม
เปลงเสียงรองคำรามราวกับพายุคลั่งออกมา
หานลี่ไดยินเสียงนี้ ก็อดที่จะเผยสีหนาดีอกดีใจออกมาไมได ชูมือขึ้นควาไปกลาง
อากาศที่วางเปลา
หอกสายฟาสีทองรอนลงมาโดยอัตโนมัติ ขวดหยกบินลงมาจากกลางอากาศ ถูก
ดูดเขามาในมือ
หานลี่สะบัดแขนเสื้อในไปทางทองฟาอยางรวดเร็ว ขวดที่มีลักษณะไมแตกตาง
จากใบแรกปรากฏขึ้นกลางอากาศเชนกัน หอกสีทองเสียบเขาไปอีกครั้ง และเก็บอัสนี
สวรรคเขาไปในขวดตอ
เวลานี้ เขาถึงไดพิจารณาขวดในมืออยางละเอียด
เห็นเพียงของสิ่งนี้สั่นคลอนไปมาทามกลางเสียงคำรามต่ำๆ ไมหยุด ปากขวดมี
ลำแสงสี เงิน เจิด จ าแสบตาสวางวาบ ท าทางเหมื อ นจะพุ งออกมาจากปากขวดได
ตลอดเวลา
เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น ยันตสีทองแผนหนึ่งพลันแปะลงบนตัวมัน เสียงที่ดังมาจาก
ปากขวดหยุดลง ชั่วพริบตาลำแสงสีเงินก็หมนหมองลง
หานลี่ปดฝาขวดใหดี แลวเก็บเขาไปในยามเก็บของอยางระมัดระวัง
จากนั้นก็เงยหนาไปมองสถานการณทุกอยางบนทองฟาตอ
หลังจากผานไปเกือบครึ่งวัน แมจะเก็บอัสนีสวรรคไปอยางตอเนื่องถึงสี่ขวด แต
เมฆฝนบนทองฟาก็ยังคงไมมีทาทีจะลดลง รอบๆ ดานกลับยิ่งเปนสีเหลืองเรืองรอง
มากขึ้นเรื่อยๆ
หานลี่ขบคิดในใจ หลังจากเก็บขวดที่ลอยอยูกลางอากาศอีกครั้ง ก็คงจะหยุดไดแลว
อัสนีเหลานี้เพียงพอตอการเปลี่ยนเปนเพลิงอัสนีเพื่อใชหลอมวัตถุดิบวิญญาณแลว
ในตอนนั้นเอง เขาพลันหนาเปลี่ยนสี เงยหนาขึ้นมองไปที่ขอบฟาอีกดานอยาง
กะทันหัน
เห็นเพียงบนทองฟามืดครึ้มในจุดที่ไกลออกไปมีลำแสงวิญญาณสวางวาบ สายรุง
สีขาวสายหนึ่งปรากฏขึ้น พลางบินเขามา
แววตาของเขาเปลงประกายสองครั้ง สีหนาก็เครงขรึมขึ้น
ลำแสงเขตอาคมที่อยูดานลางทั้งสี่พ ลันรวมตัวกัน หานลี่ที่รอบกายมีลำแสงสี
เขียวพลันลอยขึ้นกลางอากาศ เหนือศีรษะมีประจุไฟฟาสีเงินกะพริบวาบไปมาอยาง
บาคลั่ง และรวมตัวเขาดวยกันสายแลวสายเลา
สถานการณเชนนี้ ชางสะดุดตานัก
แนนอนวาเจาของสายรุงสีขาวเห็นภาพนั้นทั้งหมด หลังจากลำแสงหลีกหนีสวาง
วาบสองสามครั้งแลว ก็ตรงมาทางหานลี่ ชั่วครู เมื่อหางจากหานลี่ไปสามสิบกวาจั้ง
สายรุงก็หมนแสงลง เผยรางของสตรีที่สวมชุดชาววังคนหนึ่งขึ้น
สตรีผูนี้มีรางกายอรชรออนแอน หนาตาสะอาดหมดจด ดวงตาสดใสคูนั้นฉาย
แววออนโยน ราวกับวาเพิ่งจะเปนสาวแรกรุนอยางไรอยางนั้น
แตสิ่งที่ทำใหผูคนประหลาดใจก็คือ ชุดชาววังที่อยูบนรางของสตรีผูนี้ไมรูวาใช
วัตถุดิบที่ล้ำคาอะไรทอขึ้น ไมเพียงจะเปลงแสงสีเงินวูบวาบสุกสกาวออกมา ยังมีไอ
เย็นเยียบสีขาวหลายสายโคจรไปมารอบๆ ไมหยุด ทำใหสตรีผูนี้ดูราวกับเปนเทพธิดา
อยางไรอยางนั้น ไมมีทาทีไมเปนมิตรแมแตนอย
หานลี่แผจิตสัมผัสออกไป ในใจพลันรูสึกตกตะลึง คาดไมถึงวาอีกฝายจะเปนผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางเหมือนกับเขา
หลังจากที่สตรีผูสวมชุดชาววังกวาดสายตามาบนเรือนรางของหานลี่ ก็ฉีกยิ้มเบิก
บานออกมา
“ขาคือไปเหยาอี๋จากเกาะอเวจีเหนือ สหายก็ไดรับคำเชิญจากสหายฟูสินะ?”
น้ำเสียงของสตรีผูนี้นุมนวลมีเสนหชวนฟง
“เกาะอเวจีเหนือ หรือวาสหายไปคือผูบำเพ็ญเพียรของวังราตรีเหนือ?” หานลี่
รูสึกประหลาดใจ พลางเอยดวยความตกตะลึง
“ขาคืออาวุโสสายนอกของวัง วังของขาตั้งอยูในดินแดนที่หางไกล คิดไมถึงวา
สหายจะรูสึกสำนักของขา ขอถามแซของสหายไดหรือไม?” สตรีผูสวมชุดชาววังเผย
รอยยิ้มจางๆ ออกมา
“ข าน อ ยแซ ห าน เป น เพี ย งผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รสั น โดษจากนอกมหาสมุ ท รเท านั้ น
ชื่อเสียงของวัง ผูแซหานไดยินมาหนาหูแลว” หานลี่ฟนฟูสีหนากลับมาเปนราบเรียบ
“ผูบำเพ็ญเพียรนอกมหาสมุทร! สหายหานรูจักสามเซียนนอกมหาสมุทรหรือไม?
มีตนกำเนิดมาจากสหายทั้งสามทานนี้หรือ?” ไปเหยาอี๋กลอกดวงตาสดใสไปมา พลาง
เอยถามพรอมยิ้มนอยๆ
“ไมรูจัก ขานอยไมคอยคบคาสมาคมกับผูใดนัก ฝกฝนอยูเพียงในเกาะมาแตไหน
แตไร” หานลี่ตอบกลับอยางไมลังเลแมแตนอย
“ที่ แ ท ก็ เป น เชน นี้ นี่ เอง ข าบุ ม บ ามไป สหายเก็ บ อั สนี สวรรค อยากให เหยาอี๋
ชวยเหลือไม”
“ขอบคุณความหวังดีของสหาย ขานอยเก็บใกลจะเสร็จแลว นี่เปนขวดสุดทาย
แลวละ”
“เชนนั้น ขาก็ขอนั่งสมาธิบนยอดเขาสักหนอย”
ไปเหยาอี๋ไดยินหานลี่เอยเชนนี้ก็ไมไดฝนใจ ทันใดนั้นลำแสงหลีกหนีก็หมุนวน
ตรงไปยังกอนหินยักษอีกกอนหนึ่งแลวรอนลงมาทันที
เมื่อนางปรากฏตัวบนพื้น หวางนิ้วก็ปลอยยุทธภัณฑรมคันหนึ่งออกมาอยูเหนือศีรษะ
หลังจากของสิ่งนี้หมุนโคจรอยูกลางอากาศ ก็ปลอยลำแสงสีขาวผืนใหญออกมา
ทันที ตานทานพายุฝนในระยะสิบจั้งเอาไวภายนอก สตรีผูนี้ถึงไดนั่งสมาธิลงดวยสี
หนาราบเรียบ
ลำแสงเย็นเยียบสวางวาบขึ้นในมือ สิ่งของขนาดเทาฝามือปรากฏขึ้นในมือของนาง
หานลี่มองไปแวบหนึ่ง ก็เห็นของสิ่งนั้นอยางชัดเจน คาดไมถึงจะเปนหยกสีขาว
โพลนราวกับหิมะ ดานบนมีลำแสงเย็นเยียบกะพริบวาบ โปรงใสและแวววาว สวยงาม
มากกวาหยกงามธรรมดาๆ
‘หยกน้ำแข็ง’
ความคิดของหานลี่เคลื่อนไหวไปมา จำของล้ำคาชนิดนี้ได ขวดไขกระดูกเหมันต
ที่ไดมาใบนั้นบังเอิญมีตนกำเนิดมาจากหยกน้ำแข็งหมื่นปเขาพอดี
เวลานี้สตรีผูสวมชุดชาววังถือหยกน้ำแข็งนั้นเอาไวดวยมือทั้งสองมือ ดวงตาคูงาม
ปดลงพลางเขาสูภวังคแหงสมาธิ
ดูแลววรยุทธของสตรีผูนี้ ถาไมใชธาตุน้ำแข็งที่บริสุทธิ์ ก็คงเปนเคล็ดวิชาเหมันตทมิฬ
อะไรประเภทนี้ มิเชนนั้น คงไมอาศัยพลังเย็นเยียบของหยกกอนนี้มาฝกพลังยุทธ
หรอก มันมีประสิทธิภาพคลายกับยาลูกกลอนวิญญาณหิมะ แตแคหยกน้ำแข็งชนิดนี้
ตอใหมีคุณสมบัติที่ดีขนาดไหน ก็ไมมีทางเทียบกับยาลูกกลอนวิญญาณหิมะได
หานลี่มีสีหนาราบเรียบ แตกลับระมัดระวังตัวจากสตรีผูนี้ขึ้นอีกสองสามสวนตาม
จิตสำนึก
คิดดูแลวที่วังราตรีเหนือยอมตอสูกับอสูรปศาจระดับสูงมาหลายชั่วอายุคน และ
ไมยอมปลอยไขกระดูกเหมันตออกไป ก็เห็นไดชัดวาวังนี้เห็นความสำคัญของของสิ่งนี้
ขนาดไหน ถาหากทำใหสตรีผูนี้รูวาสมบัติประจำวังอยูที่ตัวเอง จะตองเกิดปญหาใหญ
แน
เมื่อขบคิดเชนนี้ หานลี่ก็ชักสายตากลับมา จองเขม็งขวดเล็กๆ ที่อยูกลางอากาศ
ใบหนาไรความรูสึก
หลังจากนั้นไมนาน หลังจากเก็บอัสนีสวรรคมาเต็มขวดที่หาแลว ทันใดนั้นหานลี่
พลันเก็บยุทธภัณฑในทันที บินลงมาจากทองฟาอยางเชื่องชา และรอนลงตรงใจกลาง
ของเขตอาคม
จากนั้นก็รายอาคมออกไปสองสามสาย โจมตีไปยังธงอาคมรอบๆ ชั่วขนาดนั้น
เขตอาคมตองหามก็เกิดความเปลี่ยนแปลง กางมานลำแสงสีเขียวเขมสายหนึ่งออกมา
หอหุมรางของเขาเอาไว
หานลี่นั่งสมาธิลงในเขตอาคมเชนกัน หลับตาลงเขาสูสมาธิอยูตรงขามกับสตรีที่
สวมชุดชาววัง อยูตอหนานางเชนนี้ เขาไมยอมหลอมวัตถุดิบอะไรแน
เชนนั้น บนยอดเขานอกจากเสียงฟารองคำรามแลว ก็กลายเปนเงียบสงัด
พายุ ฝ นกระหน่ ำ ลงมาหนึ่ ง วั น หนึ่ ง คื น เต็ ม ๆ ถึ ง ได ค อ ยๆ สลายหายไป เมื่ อ
แสงอาทิตยสาดสองลงมาจากทองฟาอีกครั้ง อากาศก็เปลี่ยนเปนรอนชื้นทันที หมอก
พิษคอยๆ ปรากฏขึ้นจากบนผิวดิน ปกคลุมภูเขาทั้งลูกเอาไวอีกครั้ง
มดแมลงตางๆ ที่แตเดิมพากันกลับรัง ก็ทยอยกันผุดขึ้นมาจากพื้นดินอีกครั้ง
หานลี่แผจิตสัมผัสออกไปอยางชาๆ สัมผัสสิ่งตางๆ ในระยะยี่สิบสามสิบจั้ง ทุก
แหงที่จิตสัมผัสกวาดออกไป ไมวาจะเปนการเขนฆาโรมรันของเหลามดแมลงตาม
ธรรมชาติ หรือวาดอกไมและผลไมที่กำลังหลนลงสูพื้นดิน ก็สัมผัสไดอยางชัดเจน
เขาเหมือนกับพระภิกษุที่กำลังเขาสูสมาธิอยางไรอยางนั้น ไมขยับเขยื้อน
บางครั้งที่มีผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำถลันเขามา เมื่อเห็นพลังยุทธที่นาตกตะลึงของ
หานลี่และไปเหยาอี๋ก็ไมตองเอยอะไรอีก ผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้ตางทยอยกันวิ่งหนีหัว
ซุกหัวซุนพรอมกับใบหนาที่เปลี่ยนสีไปยกใหญ ไมกลารั้งรออยูแมเพียงชั่วครู
ดังนั้นการนั่งสมาธิของหานลี่และสตรีที่สวมชุดชาววัง จึงผานไปสามวันสามคืน
เชาตรูวันที่สี่ ในที่สุดก็มีผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงมาถึงยอดเขาหลัก
ครั้งนี้ผูที่มาคือชายรางใหญ ราวกับหอคอยเหล็กกลา หนาตาอัปลักษณ แปลก
ประหลาด รอบกายเปลงแสงสีดำสนิทออกมา
ไมรูวาคนผูนี้ฝกฝนวรยุทธใด ตอนที่มานั้นคาดไมถึงวาจะเหยียบอยูบนตะพาบ
ยักษสีเขียวตัวหนึ่ง ลอยตามลมจนมาถึงที่นี่
ชายรางใหญเห็นหานลี่และไปเหยาอี๋ก็หัวเราะออกมาทันที หาที่นั่งบนยอดเขา
และนั่งลงโดยไมไดพูดอะไร ทวาเขาไมไดมีเจตนาจะหลับตาลงทำสมาธิ แตกลับควัก
ตำราสีทองเรืองรองมวนหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ คาดไมถึงวาจะอานตำราพรอมกับ
สายหัวไปมา
ทาทางเหมือนหนอนหนังสือเชนนี้ ชางแตกตางจากรูปรางและหนาตาดีจริงๆ มัน
ดูนาขันเล็กนอย หานลี่และไปเหยาอี๋มองไปแลวกลับแสรงทำเปนไมเห็น และเอาแต
นั่งสมาธิอยูเงียบๆ ตรงที่เดิม
แตความจริงแลวหานลี่กลับขมวดคิ้วในใจ
ชายร า งใหญ ก็ เหมื อ นจะอยู ใ นระดั บ ก อ กำเนิ ด ขั้ น กลางเหมื อ นกั น ดู แ ล ว
จุดประสงคที่ชายชราแซฟูนัดพวกเขามา คงจะพิเศษมากจริงๆ คาดไมถึงวาผูบำเพ็ญ
เพียรระดับกอกำเนิดขั้นตนจะไมมีคุณสมบัติเพียงพอใหเขารวม
ตอนที่ 975 ลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกกับมาทมิฬ
หลังจากที่ชายรางใหญมาถึง ภายในระยะเวลาสั้นๆ ก็ยังไมมีผูบำเพ็ญเพียรคนอื่น
มาถึง ทั้งสามคนตางก็ทำธุระของตัวเอง ไมวาผูใดก็ไมมีทาทีจะเอยสนทนากับผูอื่น
ผานไปเกือบครึ่งเดือน ตอนที่หมอกพิษจางหายไปเกือบครึ่ง ตรงขอบฟาถึงไดมี
ลำแสงหลีกหนีที่นาตกตะลึงปรากฏขึ้น สายรุงสองสายมาพรอมๆ กัน ตรงมายังยอด
เขาราวกับฝกซอมมาแลว
หลังจากที่ลำแสงหลีกหนีหมุนโคจรอยูเหนือศีรษะของทั้งสามคนรอบหนึ่ง ก็รอน
ลงตรงใจกลางของทั้ งสามคนอยางพอดิบ พอดี บุ รุษคนหนึ่ งและสตรีคนหนึ่งพลัน
ปรากฏตัวขึ้น
บุรุษนั่นก็คือชายชราแซฟูของพรรคเกายมโลก สวนสตรีนั้นคือสตรีผูงดงามสวม
อาภรณสีดำ คิ้วดกดำ แตใบหนากลับเย็นชา
“สหายทั้งสามตางมาตามนัด ชางเปนเกียรติของผูแซฟูจริงๆ แตเดิมขานอยยัง
เตรียมใจไววาจะมีสหายที่ไมมา เวลานี้คงไมตองแลว” ชายชราแซฟูกวาดสายตามา
ทางหานลี่และพวกทั้งสามคน ใบหนาเต็มไปดวยความดีอกดีใจขณะเอย
สตรีสวมชุดดำที่อยูขางกายเขา กลับนิ่งเฉยไมพูดอะไรออกมาแมแตคำเดียว
“ถึงแมวาครั้งนี้ขานอยจะมา แตหากขานอยไมสนใจสิ่งที่พี่ฟูพูด ผูแซหยวนก็จะ
สะบัดกนจากไปทันที ขานอยกำลังอยูในชวงเวลาสำคัญของการบรรลุจุดคอขวด ไมมี
เวลามาเสียเวลากับเรื่องเล็กๆ เชนนี้”
หลังจากที่ชายรางใหญหัวเราะอยางเย็นชาออกมา ก็เอยอยางไมเกรงใจ
“พี่หยวนโปรดวางใจ! สหายพบสหายหานและสหายไปทั้งสองแลว หรือยังคง
กลัววาผูแซฟูจะหลอกลวงอะไรอีก? กอนหนานั้น ขาแนะนำพวกทานใหรูจักกันกอน
ดีกวา ทานผูนี้คือศิษยนองหญิงของขานอยฉางจื่อฟาง อาวุโสสายในของพรรคเกา
ยมโลก ในฐานะที่พี่หยวนเปนเจาถิ่น มีตนกำเนิดจากสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์แหงหนาน
เจียง ครั้งนี้มีเพียงตองอาศัยสถานที่นี้แลว สหายหานคือผูบำเพ็ญเพียรสันโดษจาก
นอกมหาสมุทร มีความสามารถที่นาตกตะลึง สวนสหายไป…” ชายชราแซฟูชี้ไปที่
หานลี่และพวก และแนะนำใหแตละคนรูจักกัน
เมื่อไดยนิ ชายชราแซฟูบอกวาหานลี่มีความสามารถที่นาตกตะลึง แววตาของชาย
รางใหญและไปเหยาอี๋ก็วาบประกายประหลาดใจพลางมองมาที่เขาแวบหนึ่ง
หลังจากที่หานลี่ไดยินแลวก็พลันตกตะลึงและขมวดคิ้วมุน
“สหายชมเกิ น ไปแล ว ข าน อ ยมี พ ลั งยุ ท ธ ธ รรมดาๆ เท านั้ น ไม รู จ ะเรี ย กว ามี
ความสามารถที่นาตกตะลึงไดอยางไร” หานลี่เอยดวยสีหนาราบเรียบ
“สหายจะปดบังทำไมอีก ผูแซฟูไดยินมาวา สหายไมเพียงจะสังหารผูเฒาเสี้ยวผู
บำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดขั้นตน ที่ เมืองจิ้น หลังจากงานซื้อขายใตดิน จบลง ยัง
แสดงตัวออกมาสังหารภิกษุเออรหั่วผูมีชื่อเสียงเลื่องลืออีก พลังยุทธของสหายสูงสง
ขนาดนี้ ยังไมมีคาพอใหพูดถึงอีกรึ?” ชายชราแซฟูเอยอยางมีเลศนัยออกมา
“สหายหานสังหารภิกษุเออรห่ัวรึ?” ชายรางใหญแซหยวนหนาเปลี่ยนสี ขณะหัน
หนาไปจองหานลี่
ไปเหยาอี๋กลอกตาไปมา เผยสีหนาตื่นตระหนกออกมาเชนเดียวกัน
มีเพียงสตรีผูงดงามที่สวมชุดสีดำผูนั้นที่ดูเหมือนวาจะรูเรื่องนี้อยูแลว จึงมีทาที
ราวกับทองไมรูรอน
“พี่ฟูคงเขาใจผิดแลว ขาเคยสังหารผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นตนที่ไมรูจัก
ผิดชอบชั่วดีคนหนึ่งในเมืองจิ้น แตขาไมไดลงมือกับภิกษุผูนั้น เปนฝมือของผูบำเพ็ญ
เพี ย รอี ก คนหนึ่ ง สหายคิ ด ว า ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รสั น โดษคนหนึ่ ง อย า งข า น อ ย จะมี
ความสามารถที่เกรียงไกรเชนนั้นหรือ?” หานลี่หัวเราะอยางขมขื่นออกมา เอออยาง
จนปญญา
“ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รอี ก คนหนึ่ ง ? ข า ได ยิ น มาจริ ง ๆ ว า ตอนนั้ น มี ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รที่
หนาตาคลายคลึงกันสองคนตอกรกับภิกษุเออรหั่วพรอมกัน หรือวาตอนนั้นคนที่ลงมือ
ไมใชสหายจริงๆ?” สีหนาไมใสใจของชายชราแซฟูคลายลง แตปากกลับดูเหมือนวา
จะไมคอยเชื่อถือนัก
“พี่ฟูอาจจะมองขานอยสูงสงเกินไป ถาหากผูแซหานมีกำลังสังหารผูบำเพ็ญเพียร
ระดับกอกำเนิดขั้นกลางไดในชั่วพริบตา ตอนแรกจะหลบหนีเจาพวกคนของพรรคตา
ขายทมิฬทำไม หากจากไปอยางทะนงเลย ผูใดจะกลาลงมือหามปราม” หานลี่ลูบคาง
ไปมา พลางเอยอยางราบเรียบ
“สหายพูดมีเหตุผล ทวาถึงแมวาผูเฒาเสี้ยวจะมีพลังยุทธไมสูงนัก แตก็เจาเลห
เพทุบายและเชี่ยวชาญการหลบหนี สหายสังหารเขาได ก็ไมธรรมดาเชนกัน ใชแลว
ไมทราบวาผูบำเพ็ญ เพียรที่สังหารภิกษุเออรหั่วในวันนั้นรูจักกับสหายหานหรือไม
หรือวาเปนผูบำเพ็ญเพียรจากนอกมหาสมุทรที่ไมคอยออกมาทองโลก จุๆ พลังยุทธ
อยูในขั้นปลายเชน นี้กลับ ไมมีชื่อเสียง คงมีเพี ยงตองมาจากนอกมหาสมุท ร ถึงจะ
เปนได” ชายชราแซฟูสงเสียงจุๆ ออกมาสองสามครั้ง ดูเหมือนวาจะสนใจมารโบราณ
ในวันนั้น
“ขาก็เคยไดยินมา วันนั้นหลังจากที่งานประมูลจบลง หางจากการซื้อขายใตดิน
ไมไกลนัก ก็มีมารประหลาดสองหัวสี่แขนที่ดูเหมือนปศาจตนหนึ่งปรากฏขึ้น คาดไม
ถึงวาจะกลืนกินผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดไปหลายคน
ไดยินวาหากไมใชเพราะผูบำเพ็ญเพียรผูยิ่งใหญที่คอยดูแลงานซื้อขายอยูลงมือ
ขับไลมารประหลาดตนนั้นไป ผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้นคงจะเพลี้ยงพล้ำทั้งหมด พี่หาน
มีประสบการณเรื่องนี้หรือไม?” จูๆ ชายรางใหญแซหยวนก็เอยปากถามขึ้น
“ผูบำเพ็ญ เพียรที่สังหารภิกษุเออรหั่วนั้นเคยพบหนากับขานอยเพี ยงไมกี่ครั้ง
เรียกไมไดวาตนกำเนิดเดียวกัน สวนเรื่องมารประหลาดนั่น นาจะเกิดขึ้นหลังจากที่ขา
จากไปแล ว ข า น อ ยไม รู เรื่ อ งนี้ เลย” หานลี่ ส า ยศี ร ษะ ตอบกลั บ ด ว ยสี ห น า ไม
เปลี่ยนแปลง
“เชนนี้นี่เอง ชางนาเสียดายจริงๆ มิเชนนั้น ถาหากตามหาสหายผูนี้ได พวกเราก็
อาจจะมั่นใจไดมากขึ้น” ชายชราแซฟูหัวเราะแหงๆ ออกมาสองสาม ดูเหมือนวาจะ
กลาวถึงเรื่องนี้อีกอยางไมไดใสใจนัก
ชายรางใหญแซหยวนกลับเหลือบตามองดวยสีหนาสงสัย
ในตอนนั้นเอง ไปเหยาอี๋ก็อยาเผยอริมฝปากบางๆ ออกและเอยวา
“สหายฟู สองสามปกอนที่นัดขามาที่นี่ ก็ควรจะบอกรายละเอียดไดแลวไมใช
หรือ หากไมใชเพราะติดหนี้บุญคุณสหายในอดีตอยูไมนอย ก็คงไมถอมาไกลถึงขนาด
นี้หรอก”
“นั่ น มั น แน น อนอยูแ ล ว ทวาเรื่อ งนี้ ไม ธรรมดา วางเขตอาคมก อ นดี กวา แล ว
ขานอยจะคอยๆ อธิบายกับเหลาสหายอยางละเอียด” ชายชราแซฟูเอยปากตอบรับ
จากนั้ น พลั น ดี ด นิ้ วทั้ งสิ บ ไปทั้ งสี่ ด าน เพลิ งลำแสงสี เขี ย วเข ม สิ บ กว าสายพลั น พุ ง
ออกไป
เสียง ‘ตูมๆ’ ดังขึ้น เพลิงสีเขมระเบิ ดออก กลายเป น หมอกสีเขียวหลายกลุม
สวางวาบแลวหายวับไป
หานลี่พลันแผจิตสัมผัสออกไป บรรยากาศรอบๆ มีเขตอาคมเคลื่อนไหวอยูอยาง
บางเบาดั งคาด ถึ งแม จ ะไม รูวาเขตอาคมนี้ มี คุ ณ สมบั ติ อ ย างไร แต อี ก ฝ ายสำแดง
ออกมาไดอ ยางงายดายเชนนี้ เขาก็ยังใจหายวาบ อดที่ จะประเมิน ชายชราแซฟู นี้
สูงขึ้นไมได
ไมใชแคหานลี่ ไปและหยวนทั้งสองคนก็ใชจิตสัมผัสกวาดไปที่เขตอาคมเชนกัน
ชายชรารอบคอบขนาดนี้ ในใจจึงอดที่จะรูสึกสนใจขึ้นมาเล็กนอยไมได
“เรื่องนี้ความจริงแลวตาเฒาเริ่มแผนการมาตั้งแตสามสิบกวาปกอนแลว ตอนนี้เพิ่งจะ
มีโอกาสไดทำอยางเต็มที่ ดังนั้นจึงไดเชิญ เหลาสหายมาเพื่อขอความชวยเหลือ ไม
ทราบวาเราจะหายเคยไดยินยาลูกกลอนมหัศจรรยโบราณอยางยาลูกกลอนหลอเลี้ยง
ทารกบางหรือไม?” ชายชราแซฟูถอนหายใจยาวๆ ออกมา พลางเอยอยางเครงขรึม
“ยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารก?” ไปเหยาอี๋และชายรางใหญรูสึกงุนงง ไมมีความรู
เกี่ยวกับยาลูกกลอนชนิดนี้เลยแมแตนอย
แตเมื่อหานลี่ไดยินก็หนาเปลี่ยนสี เผยสีหนาขบคิดออกมา ดูเหมือนวาจะกำลัง
ครุนคิดอะไรอยู
“ทำไม สหายหานรูจักยาลูกกลอนชนิดนี้หรือ?” ชายรางใหญเห็นสีหนาของหาน
ลี่ ก็อดไมไหวเอยถามขึ้น
“อืม รูจักอยูนิดหนอยแตไมมากนัก ยาลูกลอนหลอเลี้ยงทารกดูเหมือนวาจะเปน
ยาลูกกลอนประจำสำนักโบราณในอดีตกาล ไดยินวายาลูกกลอนชนิดนี้มีประโยชนตอ
ทารกของผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดเปนอยางมาก มันทำใหบรรลุจุดคอขวดได
อยางงายดาย สำหรับเหลาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดอยางพวกเราแลว ถือวาเปน
ยาวิเศษ แตแคสำนักนี้ไรการสืบทอดมาตั้งแตในยุคโบราณแลว วิธีการปรุงยาจึงหาย
สาบสูญไป โลกของผูบำเพ็ญเพียรในตอนนี้จึงมีผูที่รูจักยาลูกกลอนชนิดนี้อยูไมมาก
นัก” หลังจากที่หานลี่ขบคิดอยูชั่วครู ก็เอยขึ้นอยางเชื่องชา
หากเขาไม ใช ป รมาจารย ด านการปรุ งยา และยิ่ งไปกว านั้ น ยั งเคยอ านคั ม ภี ร
โบราณมามากมายก็คงไมอาจรูจักยาชนิดนี้ได
ชายรางใหญและไปเหยาอี๋ไดยินคำพูดของหานลี่ ก็เผลอสีหนาตกตะลึงระคนดีใจ
ออกมา ชายรางใหญเอยซักถามชายชราทันทีอยางอดรนทนรอไมไหว
“ที่พี่ฟูเอยถึงเรื่องนี้ หรือวามีขาวคราวของยาลูกกลอนชนิดนี้
ต อ งเข า ใจว า หลั ง จากที่ บ รรลุ ร ะดั บ ก อ กำเนิ ด แล ว โดยปกติ วิ ธี ก ารหรื อ ยา
ลูกกลอนที่จะทำใหบรรลุระดับกอกำเนิดนั้นหายากจนนาเศราใจ
ไมมีใครยอมปริปาก แมกระทั่งกับญาติที่สนิทที่สุดก็ไมอาจเปดเผยมันงายๆ
ผานมาเนิ่นนานขนาดนี้ สิ่งของเหลานั้นคงจะหายสาบสูญไปแลวกวาครึ่ง ความ
เปนไปไดเพียงเล็กนอยก็คือสภาพแวดลอมของโลกผูบำเพ็ญเพียรเปลี่ยนแปลงไปมาก
จนไมอาจใชได
โลกของผูบำเพ็ญเพียรในตอนนี้ นอกจากของเหนือชั้นในตำนานสองสามอยาง
แล ว ผู บ ำเพ็ ญ เพี ยรระดั บ ก อ กำเนิ ด ที่ จ ะบรรลุ จุด คอขวดได ก็ มี เพี ย งต อ งอาศั ย ยา
ลูกกลอนเพิ่มพลังยุทธเทานั้น ดังนั้นเมื่อชายรางใหญไดฟงประสิทธิภาพของยาหลอ
เลี้ยงทารกก็อดที่จะตื่นเตนขึ้นมาไมได
“หึๆ คิดไมถึงวาพี่หานจะรูจักยาลูกกลอนชนิดนี้ ชางทำใหตาเฒาประหลาดใจ
จริงๆ ไมเลว นั่นเกี่ยวของกับยาลูกกลอนชนิดนี้จริงๆ เพราะวาตาเฒาไดวิธีปรุงยามา
หลอเลี้ยงทารกมาเมื่อรอยกวาปกอน” ชายชราแซฟูเผยสีหนาภาคภูมิใจออกมา
“สหายฟูมีวิธีการปรุงยานี้จริงๆ หรือ?” ชายรางใหญกำมือทั้งสอง แกมดำคล้ำอด
ที่จะมีแสงสีแดงจางๆ ขึ้นมาไมได แววตาเต็มไปดวยความดีอกดีใจอยางบาคลั่ง
ไปเหยาอี๋และหานลี่ไดฟงก็มองสบตากันแวบหนึ่ง ตางก็ปกปดสีหนาดีใจเอาไวไม
มิดเชนกัน
“ใชแลว ตาเฒามีวิธีการปรุงยา และยิ่งไปกวานั้นตาเฒายังเชี่ยวชาญในการปรุงยา ขอ
แคมีวัตถุดิบครบ การปรุงยาหลอเลี้ยงทารกก็ไมใชปญหา” ชายชราแซฟูพยักหนา
อยางไมลังเล
“ทำไม ฟงจากที่พี่ฟูพูด ดูเหมือนวาวัตถุดิบจะหายากนะ หรือวาที่เรียกพวกเรามา ก็
เพราะเรื่องนี้” หานลี่ขมวดคิ้ว เอยถามดวยความเครงขรึม
“พี่หานชาญฉลาดดังคาด หากไมใชเพราะยังขาดวัตถุดิบหลัก ตาเฒาคงปรุงยา
หลอเลี้ยงทารกไปตั้งหลายปแลว ครั้งนี้ ก็เพราะวัตถุดิบเหลานี้ ถึงไดจะยืมพลังของ
เหลาสหาย”
“ผานมาหลายปแลว พี่ฟูใชฐานะอาวุโสของพรรคเกายมโลกก็ยังไมไดวัตถุดิบ
ชนิดนี้มา ดูแลววัตถุดิบชิ้นนี้คงจะหายากจริงๆ” ไปเหยาอี๋ขมวดคิ้วขณะเอย
“มันก็เรียกวาหายากไมไดนักหรอก แตเดิมตาเฒาคิดวาของสิ่งนี้ถูกทำลายจน
หมดสิ้นไปจากแดนมนุษยแลว และคิดวาสูตรปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงวิญญาณนี้ไมมี
ประโยชนแลว แตคิดไมถึงวา จะไปพบรองรอยของสิ่งนี้พอดี ถึงไดคิดจะปรุงยาชนิดนี้
ขึ้นมา” ชายชราหัวเราะขมขื่นออกมาขณะเอย
“เอาละ พี่ฟูไมตองออมคอมแลว วัตถุดิบที่ตองการคือสิ่งใด ก็พูดมาเถิด” ชาย
รางใหญแซหยวนทนไมไหวเอยซักถามขึ้น
“ตองการเลือดของมาทมิฬ!” ชายชราเอยออกมาตรงๆ
“มาทมิฬ? แดนมนุษยของพวกเรามีอสูรวิญญาณเชนนี้ที่ไหนกันเลา สหายไปพบ
ที่ไหนหรือ?” หานลี่พลันตกใจ สองตาหรี่ลงขณะซักถาม
ไปเหยาอี๋และชายรางใหญไดยิน ก็มองสบตากันเชนกัน
“หึๆ แตเดิมตาเฒาก็คิดวาในแดนนี้ไมมีอสูรวิญญาณชนิดนี้ตั้งนานแลว แตเมื่อ
สามสิบปกอน ตาเฒาบังเอิญไปพบกับรองรอยของมาทมิฬอยางไมไดตั้งใจ และยิ่งไป
กวานั้นยังอยูในหนานเจียง” ชายชราหัวเราะหึๆ ออกมา เผยสีหนาลึกล้ำยากจะคาด
เดาออกมา
ตอนที่ 976 หนากระดาษของแมน้ำยมโลก
“ในเมื่อสหายหารังของมาทมิฬพบแลวยังนัดหมายพวกเรามาที่นี่ หรือวาสหาย
พบความยุงยากอะไร?” หลังจากที่ทุกคนเงียบขรึมไปชั่วครู ชายรางใหญแซหยวนก็
เปนผูเอยปากถามขึ้น
“ถึงแมวามาทมิฬจะมาเยือนอยางไรเงาจากไปไรรองรอย และเชี่ยวชาญในการใช
เคล็ดวิชาอำพราง แตขอแคมีเวลาเพียงพอ การจับมันไวสำหรับตาเฒาก็ไมใชเรื่องยาก
นัก แตสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคาดไมถึงวารังของมันจะอยูในถ้ำจันทราตะวันของหุบเขา
หมื่นพิษ” ในที่สุดชายชราแซฟูก็เอยเรื่องที่ทำใหตนเองไมรูจะทำอยางไรอยูหลายสิบ
ปออกมา
“ถ้ำจันทราตะวัน?” ครั้งนี้ชายรางใหญอดที่จะสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไป
เฮือกหนึ่งไมได ไปเหยาอี๋เองก็หนาซีดขาวลงในชั่วพริบตา
มีเพียงหานลี่ที่ไมเคยไดยินมากอน จึงเอยถามดวยความประหลาดใจวา
“ถ้ำจันทราตะวันอะไรหรือ นากลัวขนาดนั้นเลยหรือ?”
“สหายหานไมรูจักถ้ำจันทราตะวันหรือ? ขาเกือบจะลืมไปแหนะ พี่หานเปนผู
บำเพ็ญเพียรจากนอกมหาสมุทร ไมรูจักก็ไมแปลก ถ้ำจันทราตะวันเปนหนึ่งในเจ็ด
สถานที่อันตรายซึ่งเปนยอมรับกันโดยดุษณี ของตาจิ้นอยางพวกเรา หากผูบำเพ็ ญ
เพียรธรรมดาๆ เขาไปในนั้น ก็ไมอาจออกมาได” ไปเหยาอี๋รองอุทานออกมา แลว
อธิบายใหหานลี่ฟงอยางงายๆ
“อันตรายขนาดนี้ ที่นั่นมีอะไรพิเศษหรือ?” หานลี่รูสึกสนอกสนใจขึ้นมา พลาง
เอยซักถาม
“ถ้ำจันทราตะวันนั้น แนนอนวาเขาไปแลวจะมีพลังอำนาจของดวงตะวันและ
จันทราขวางกั้นเอาไวอยู ไมตองพูดถึงสิ่งอื่น แตในถ้ำจะมีพายุทมิฬอันรายกาจพัดเขา
มาไมหยุดตลอดทั้งป ตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด หากถูกพัดเขาก็จะทำ
ใหจิตวิญญาณของทารกวิญญาณสลายหายไป และกลับไปเกิดใหม จึงยิ่งไมตองถูกถึง
สถานที่มืดทมิฬที่สุดของถ้ำแหงนี้ จะมีไอวิญญาณที่ชั่วรายมารวมตัวกันอยูตลอดทั้งป
และมีภูตผีที่รายกาจตางๆ ถือกำเนิดขึ้นมากมาย หากเขาไป ตอใหตานทานพายุทมิฬ
ได ก็อาจจะถูกภูตผีจำนวนมากฉีกทึ้งจนรางแหลกละเอียด” ชายชราแซฟูเปนฝายเอย
อธิบายใหหานลี่ฟง
“หึ ยิ่งไปกวานั้น ถ้ำจันทราตะวันยังตั้งอยูในใตดินที่ลึกลงไปหลายพันจั้ง ในนั้นมี
ทางเดินนอยใหญที่ทะลุถึงกันตัดสลับไปมา โถงถ้ำตางๆ จึงมีอยูมากมาย กอนหนานี้มี
ผูบำเพ็ญเพียรโชคดีเขาไปถึงสวนที่ลึกที่สุด แตกลับไมมีทางสำรวจไดวามันกวางใหญ
แคไหน หากแผจิตสัมผัสออกไป ก็จะถูกพายุทมิฬตานทานเอาไว จึงไมตางอะไรจาก
คนธรรมดาคนหนึ่ง แมกระทั่งยังมีคนเลาลือกัน มาตลอดวา สวนลึกที่ สุดของถ้ำมี
ราชันภูตผีที่ทรงพลังอยางสุดๆ ซอนตัวอยู แตแคไมมีใครเคยไปตรวจสอบเทานั้น ถึง
อยางไรเสียตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรที่ยิ่งใหญก็ไมยอมเสี่ยงอันตรายเขาไปในสวนที่ลึก
ที่สุดหรอก” ชายรางใหญสงเสียงหึออกมาขณะเอย
“กอนหนานี้นอกจากเหมืองแรระดับต่ำแลว ในถ้ำก็ไมมีของมีคาอะไร ทุกคนจึง
มองวาที่นั่นเปนถ้ำเหมืองแรที่ถูกทอดทิ้งในอดีตเทานั้น และไมมีผูใดเคยเขาไปในนั้น
แตตอนนี้พี่ฟูไปพบมาทมิฬในนั้น ดูแลวถ้ำจันทราตะวันคงจะไมไดเปนอยางที่กลาว
ไมแนวาดานในอาจจะมีของล้ำคาใหคนหาจริงๆ ก็ได” คิ้วดำขลับของไปเหยาอี๋คลาย
ลงขณะเอยเสริม
“ผานมาหลายปขนาดนี้ จากความสามารถของพี่ฟูก็ยังไมมีทางจับมาทมิฬได
เห็นไดชัดวาถ้ำแหงนี้ไมใชสถานที่ที่สวยงามจริงๆ ถึงแมวาดานในจะมีสมบัติล้ำคา
อะไรอยูจ ริงๆ ก็คงตองเอาชีวิตมาเสี่ยง”
หลังจากที่หานลี่มีประสบการณจากสถานที่อันตรายอยางพระราชวังนภาสูญ หุบ
เขามารโบราณตางๆ มา แนนอนวาจึงรูความอันตรายในนั้นดี จึงสาดน้ำเย็น*เขาใส
อยางไมเกรงใจเลยสักนิด
“จุดนี้ตาเฒาเองก็รู ดังนั้นขานอยจึงไดเตรียมการมาหลายสิบป และตั้งใจหลอม
สมบัติอาคมที่ใชควบคุมภูตผีขึ้นมาโดยเฉพาะสองสามชิ้น และยิ่งไปกวานั้นเพื่อให
ตานทานพายุวิญญาณจันทราได ผูแซฟูจึงเอาไขมุกยมโลกมวงของพรรคขามาดวย มี
ไขมุกนี้อยูกับตัว ถึงแมวาจะไมกลากลาววาจะตานทานพายุทมิฬได แตก็เพียงพอจะ
ทำใหอานุภาพของพายุนี้ลดลงไปครึ่งหนึ่ง เหลาสหายก็นาจะปลอดภัยไรอันตราย”
ชายชราแซฟูเอยอยางมั่นใจเปนพิเศษ
“ไขมุกยมโลกมวง?”
ชายรางใหญและไปเหยาอี๋ไดยินชื่อของสมบัติชิ้นนี้ ก็พากันหนาเปลี่ยนสี
นี่เปนหนึ่งในสามสมบัติประจำพรรคของพรรคเกายมโลก!
“เปนอยางไร? ขานอยเตรียมการรอบคอบขนาดนี้ หากทั้งสามสหายชวยอยาง
เต็มแรงละก็ ตอใหขานอยพบกับราชันภูตผีที่รายกาจ พวกเราหาคนก็นาจะตอกรไหว
ขอแค จั บ ม า ทมิ ฬ ได ตาเฒ า จะใช อ สู ร วิ ญ ญาณนี้ ป รุ ง ยาหล อ เลี้ ย งทารกทั น ที
รับ ประกั น วาเหล าสหายจะได รับ คนละหนึ่ งเม็ ด ยาลู ก กลอนชนิ ด นี้ เป น ยาล างไข
กระดูกเพี ยงครั้งเดี ยว ต อให ป รุงออกมาได ม ากกวานี้ ทุ ก คนก็ กิน ได แค คนละเม็ ด
เทานั้น จึงไมจำเปนตองกังวลวาตาเฒาจะทำอะไรที่ไมดี สวนจะไดประโยชนอะไรมา
จากขางลางนั่น ก็แลวแตวาสนาของทุกทานแลว” ชายชราแซฟูเอยอยางเชื่องชา
หานลี่และพวกทั้งสามคนตางเงียบกริบไมพูดอะไร ถึงแมวาเมื่อครูชายรางใหญ
จะแสดงทาทีตื่นเตน แตตอนนี้ก็ยังมีสีหนาขบคิด
“ในเมื่อพี่ฟูเตรียมการมาแลว เหตุใดตองมาเชิญพวกเราสามคนดวย? หากกลาว
วาเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลาง พรรคของทานคือหนึ่งในสิบพรรคปศาจ
ที่ยิ่งใหญ จะหามาสักสองสามคนไมไดเลยหรือ” ไปเหยาอี๋มวนเสนผมสีดำขลับที่ปรก
อยูตรงหนาผาก พลางเอยถามอยางราบเรียบ
เมื่อไดฟงคำถามเชนนี้ หานลี่พลันหนาเปลี่ยนสี ชายรางใหญเองก็ตองจองเขม็ง
ไปยังใบหนาของชายชราแซฟู ทั้งสองคนดูเหมือนจะสนใจวาชายชราจะตอบคำถามนี้
อยางไรเปนพิเศษ
“ใหคนในพรรคชวยเหลือ? สำหรับคนอื่นแลวอาจจะเปนไปได แตสำหรับตาเฒา
แลวไมไดอยางเด็ดขาด เปนเพราะบุญคุณความแคนในอดีตของสำนักเรื่องหนึ่ง ผูแซฟู
และผูบำเพ็ญเพียรระดับเดียวกันหลายคนในสำนักตางก็โกรธแคนกัน นอกจากศิษย
นองหญิงฉางแลว เกรงวาที่เหลือคงรอใหตาเฒาเพลี้ยงพล้ำไปจริงๆ ไมไหวแลว ตอให
พวกเขายอมช ว ย ตาเฒ า ก็ ยั ง กั ง วลว า พวกเขาจะตลบหลั ง ” ชายชรามี ใ บหน า
โหดเหี้ยมฉายแวบผานไป เผยใหเห็นสีหนาโกรธเกรี้ยวออกมาขณะเอย
หานลี่พลันตะลึงงัน
เชนนี้มันจะตางอะไรกันกับไมไดอธิบายละ ผูใดจะรูวาจริงหรือเท็จ ทวาอีกฝาย
กลาวเชนนี้ พวกเขาก็ไมกลาซักถามตอ ทุกคนจึงตกอยูในความเงียบอีกครั้ง
“การจะบุกเขาไปในถ้ำจันทราตะวันนั้นเปนเรื่องที่ใหญจริงๆ ขาตองขบคิดใหดี
เช น นั้ น เอาอย า งนี้ ก็ แ ล ว กั น อี ก สามวั น ข า จะให ค ำตอบกั บ สหายเป น อย า งไร?”
หลังจากที่ไปเหยาอี๋กมหนาลงครุนคิด ก็เงยหนาขึ้นเอยเชนนี้ออกมา
“สามวัน? แนนอนวาได หลังจากนี้ครึ่งปถ้ำจันทราตะวัน ถึงจะอยูในชวงที่พายุุ
จันทราออนแอที่สุดในรอบยี่สิบป ลงไปใตดินในชวงเวลานั้นจะเหมาะสมที่สุด และยิ่ง
ไปกวานั้น เหลาสหายก็คงตองไปเตรียมสมบัติอาคมพิเศษจำนวนหนึ่งเพื่อใชตอกรกับ
ภูตผีเชนเดียวกัน
ดังนั้นตอใหเหลาสหายตอบรับ ก็ตองรอปครึ่งปถึงจะเขาไปในถ้ำได แตกอนจะถึง
เวลานั้ น ข า ก็ อ ยากให เ หล า สหายใช โ ลหิ ต บริ สุ ท ธิ์ เ ขี ย นคำสาบานเอาไว บ น
หนากระดาษแมน้ำยมโลกเสียกอน ที่ขานอยใชจิตใจคนต่ำชามาวัดจิตใจวิญูชนกอน
เชนนี้ เปนเพราะไมอยากใหเรื่องของยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกและมาทมิฬแพรง
พรายออกไป” ชายชราแซฟูหัวเราะนอยๆ ออกมา สะบัดแขนเสื้อ หนากระดาษสี
เหลืองกรอบที่มีเปลวเพลิงสีดำหอหุมอยูแผนหนึ่งพลันปรากฏขึ้นตอหนาคนเหลานั้น
“หนากระดาษของแมน้ำยมโลก? ก็คือหากผิดคำสาบาน ก็จะตองประสบกับ
ยุทธภัณฑมารที่ชั่วรายชิ้นนั้นสินะ ของสิ่งนี้ไมไดสาบสูญไปเมื่อหลายรอยปแลวหรือ”
ชายรางใหญไดยิน ก็รองอุทานออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหงทันที
หานลี่ไดยินคำนี้ ก็พลันตื่นตระหนกเชนกัน
“ยุทธภัณฑมารชิ้นนี้เปนสิ่งที่ขานอยตั้งใจใชศิลาวิญญาณจำนวนมากซื้อมาจาก
งานซื้อขายใตดิน ประสิทธิภาพของสิ่งนี้ไมไดยิ่งใหญ ดุจในตำนาน แตก็ทำใหเหลา
สหายรักษาสัญญาไดในระยะเวลาสั้นๆ ในปนั้นเฟงเทียนหังแหงสำนักมารสวรรคจบ
ชีวิตลงอยางไร สหายหานอาจจะไมรู แตสหายไปสหายหยวนก็นาจะทราบดีสินะ! เฟง
เทียนหังก็เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางเชนกัน ขาคิดวาสหายทั้งสามคง
ไมอยากทดลองหรอกกระมัง” ชายชราแซฟูเอยอยางราบเรียบ
“เยี่ยม มีของดีอยางยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกเชนนี้ ผูแซหยวนไมกลาปลอยไป
งายๆ แน หลังจากนี้ครึ่งปผูแซหยวนจะมาตามนัดแนนอน” ชายรางใหญมีสีหนาดำ
คล้ำสลับกับสดใสไมแนนอนอยูชั่วครู แลวเอยขึ้นอยางตัดสินใจแลว
จากนั้นเขาก็กวักมือเรียกหนากระดาษสีดำ ดูดของสิ่งนั้นมาอยูเบื้องหนาหาง
ออกไปสองสามฉื่อ แลวอาปากพนโลหิตบริสุทธิ์ออกมา ลอยอยูเบื้องหนากระดาษ
ชายรางใหญยื่นนิ้วชี้ออกไป แตะลงบนโลหิตบริสุทธิ์แลวเขียนอักขระโบราณลง
บนหนากระดาษอยางไปอยางรวดเร็ว
หลังจากผานไปชั่วครูนิ้วก็หยุดชะงัก หัวกะโหลกที่มีเขี้ยวสีเขียวก็ปรากฏขึ้นทามกลาง
เปลวเพลิงสีดำ หลังจากสงยิ้มชั่วรายใหชายรางใหญแลวก็สูดลมหายใจเขา ตัวอักษร
โลหิตคอยๆ บินเขาไปในหนากระดาษ และหายเขาไปในปากของหัวกะโหลกทันที
ทันใดนั้นหัวกะโหลกพลันกลายเปนควันสีเขียวกลุมหนึ่ง แลวสลายหายไปในชั่ว
พริบตา
เมื่อเห็นภาพฉากที่แปลกประหลาดเชนนี้ หานลี่ก็ใจเตนตึกตัก
ชายชราแซฟูเก็บหนากระดาษลงไป หลังจากกมหนาลงตรวจสอบรอบหนึ่ง ก็เผย
สีหนาพึ่งพอใจออกมา แลวหันหนาไปหาไปเหยาอี๋
หลั ง จากที่ ส ตรีผู นี้ ลั ง เลเล็ ก น อ ยก็ ชู มื อ ขึ้ น รั บ กระดาษแผ น นี้ ม าด ว ยความจน
ปญญาเชนกัน ทำตามรอบหนึ่ง หลังจากนั้นหัวกะโหลกก็ปรากฏขึ้นเชนกัน แลวสลาย
หายไปอยางแปลกประหลาด
หลังจากที่ชายชรามองไปทางหานลี่ หานลี่ก็พนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
ถึงแมจะรูสึกหวาดกลัวกับของที่ไมรูจักรายละเอียดนั้น แตตอนนี้ไมวาจะมอง
อยางไรก็ไมมีทางเลือกอื่น
เขาชี้ไปที่หนากระดาษแผนนั้นดวยใบหนาไรความรูสึก ชั่วขณะนั้นของสิ่งนั้น
พลันบินมาอยูตรงหนาของเขา
มองหนากระดาษแผนนั้นดวยความเครงขรึมเล็กนอย เขาก็กัดปลายลิ้นตัวเอง
พนโลหิตสดๆ กลุมหนึ่งออกมา ใชโลหิตสดๆ เขียนคำสาบานวาจะไมแพรงพรายเรื่อง
ของวันนี้ออกไปทันที ลำแสงสีโลหิตพลันสวางวาบ หัวกะโหลกผูที่เคยปรากฏตัวแลว
สองครั้งปรากฏตัวขึ้นทามกลางเปลวเพลิงสีดำอีกครั้ง
หลังจากที่มันฉีกยิ้มชั่วรายออกมา ตอนที่มันอาปาก จูๆ รางกายของหานลี่ก็มี
การเคลื่อนไหว เสียงคำรามประหลาดๆ พลันดังขึ้น เสียงไมดังนัก แตกลับทำใหผู
บำเพ็ญเพียรที่อยูที่นั่นไดยินอยางชัดเจน
ชายชราและพวกเองก็ไมมีปฏิกิริยาตอบสนองที่แปลกประหลาดอะไร
เมื่อหัวกะโหลกไดยินคำพูดนี้ ใบหนาก็บิดเบี้ยวในทันที หลังจากคำรามดวยเสียง
ทุมต่ำที่ยากจะเขาใจออกมา ก็สลายหายไปราวกับวากำลังตื่นตกใจจนหนีหัวซุกหัวซุน
อยางไรอยางนั้น
ชายชราแซฟู ชายรางใหญและคนทั้งสี่คนจึงอดที่จะตกตะลึงจนตาคางไมได
หานลี่มีสีหนาแปลกประหลาดแฝงอยูเล็กนอย หลังจากสูดลมหายใจเขาไปเฮือก
หนึ่ง ก็สะบัดแขนเสื้อไปทางหนากระดาษ และเอยปากอยางราบเรียบในเวลาเดียวกัน
“ขานอยไมไดขบคิดอะไร ก็ยอมตกลงวาจะมาตามนัดของสหาย แตของสิ่งนี้ดูจะ
ขัด แย งกั บ ของที่ อ ยูในรางของข า จึงไม อ าจเขีย นคำสาบานได แต ผู แ ซ ห านเป น ผู
บำเพ็ญเพียรสันโดษ จากนี้ครึ่งปจะมาอยูที่หนานเจียงไมจากไปไหน และจะไมบอก
เรื่องนี้กับผูใดทั้งนั้น ของสิ่งนี้ไมตองใชหรอก”
ตอนนั้น หนากระดาษของแมน้ำยมโลกถูกลำแสงสีเขียวผืนหนึ่งรองเอาไวพลาง
พุงกลับเขาไปหาชายชราแซฟู
ชายชราแซฟูควาหนากระดาษเอาไว ใบหนายังมีสีหนาตกตะลึงแฝงอยู ตอนนั้น
ไมรูวาจะจัดการเรื่องนี้อยางไร ตองเขาใจวานอกจากหนากระดาษของแมน้ำยมโลก
สมบัติอาคมที่แปลกประหลาดเชนนี้ เขาก็ไมมีวิธีที่จะรับประกันวาอีกฝายจะไมแพรง
พรายเรื่องของยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกออกไปจริงๆ
“ศิษยพี่ฟู ขารูสึกวาคำพูดของสหายหานนั้นมีเหตุผล หนากระดาษของแมยมโลก
ไมตองใชหรอก ขาเชื่อวาสหายหานจะไมผิดคำพูด” สตรีผูงดงามสวมชุดสีดำที่ตั้งแต
ตนจนจบก็ไมยอมปริปากใดๆ ราวกับคนเปนใบ ก็เอยปากขึ้นในตอนนั้น
น้ ำเสี ย งของสตรีผู นั้ น แหบแห ง แต ก็ เต็ ม ไปด ว ยความเย ายวนที่ อ ธิบ ายไม ถู ก
ดวงตาสดใสกลอกไปมาเล็กนอย ทั้งเรือนรางเผยเสนหที่ลนเหลือออกมา

*สาดน้ำเย็น หมายถึง พูดทำใหรูสึกหมดไฟ


ตอนที่ 977 ตัวประหลาด
เมื่อไดยินศิษยนองหญิงของตัวเองกลาวเชนนี้ แววตาของชายชราแซฟูก็ฉายแวว
ลังเลเล็กนอย หลังจากคุณคิดแลวก็ยังพยักหนาอยางเห็นดวยแลวเอยวา
“ในเมื่อหนากระดาษของแมน้ำยมโลกไมมีผลตอสหาย ตาเฒาก็จะไมฝนใจ ทวา
ขานอยอยากจะทำสัญลักษณบนตัวของสหายสักหนอย ขอแคสหายไมออกจากหนาน
เจียง หลังจากนี้ครึ่งปสัญลักษณนี้ก็จะสลายหายไป สหายหานคงไมถือสากับการกร
ทำของตาเฒากระมัง!”
“ได ที่ พั ก ของข า น อ ยไม ได เป น ความลั บ อะไร สหายทำเถิ ด ” หานลี่ หั ว เราะ
ออกมา ก็ตอบรับอยางไมตองคิด
ชายชราไดยินคำนี้ มือหนึ่งก็รายอาคมอยางไมเกรงใจ ปากก็เริ่มบริกรรมคาถา
ลำแสงสีฟาสายหนึ่งพุงออกมา
หานลี่จองมองเขม็งไป เมื่อเห็นวาอาคมนี้เปนเพียงสัญลักษณธรรมดาๆ ทันใดนั้น
ก็ชูแขนขึ้น ลำแสงสีฟาจมหายเขาไปในแขนของเขาอยางไรรองรอย
ชายชราแซฟูเผยสีหนาพึงพอใจออกมา เก็บหนากระดาษของแมน้ำยมโลกลงไป
แลวกำชับกับทุกคนวา
“ตาเฒาบอกกลาวเรื่องราวเสร็จแลว ในเมื่อสหายไปยังตองการเวลาขบคิดอีก
สามวัน ขาและศิษยนองหญิงก็จะรอสหายไปอยูที่ภูเขาลูกนี้อีกสามวัน พี่หยวนและ
สหายหานไปไดแลวละ ทางเขาถ้ำจันทราตะวันอยูที่หุบเขาหมื่นพิษ ในนั้นมีสมุนไพร
และดอกไมพิษอยูเปนจำนวนมาก ถึงแมวาจะไมมีภัยคุกคามตอพวกเรามากนัก แตก็
หวังวาสหายหยวนจะนำสมบัติปองกัน พิ ษไปดวยสักสองสามชิ้น กอนเขาไปในถ้ำ
จันทราตะวัน พวกเราอยาใชพลังยุทธจำนวนมากจะดีกวา”
“ป อ งกั น พิ ษ ? หึ ๆ สำหรับ สำนั ก พิ ษ ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ อ ย างพวกเรานั้ น เป น เพี ย งเรื่อ ง
เล็กนอย มอบใหผูแซหยวนจัดการก็แลวกัน ขานอยขอตัวกอน” ชายรางใหญหัวเราะ
ออกมาขณะเอย
จากนั้ น เขาก็ ป ระสานมื อ คารวะคนอื่ น ตบไปที่ ย ามเก็ บ อสู ร วิ ญ ญาณ ปล อ ย
ตะพาบน้ำยักษตัวนั้นออกมา กระโดดขึ้นไปบนตะพาบและบินขึ้นไปอากาศพรอมกับ
พายุสีเทาที่ตลบอบอวลอยูดานลาง
หานลี่เห็นเชนนั้น ก็ไมไดมีทาทีจะรั้งรออีก เอยคำพูดกลาวลาออกมาเชนกัน
กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงแหวกอากาศออกไป!
เวลาครึ่งปสำหรับเขานั้นบางทีอาจจะเร็วเกินไปหนอย แตก็พอจะหลอมพัดตรี
เปลวเพลิงขึ้นมาได สวนสมบัติท่ีใชตอกรกับภูตผีนั้น เขามีอัสนีเทวาปดเปาภยันตราย
และอสูรวิญญาณครวญอยูในมือ จึงไมจำเปนตองเตรียมตัวอะไร
ที่เขารีบรอนหลอมสมบัติพัดเชนนี้ แนนอนวาก็เพราะเตรียมปองกันเอาไวกอน
หากพบอันตรายที่คาดไมถึงดานลางนั้นจริงๆ มีพัดและหุนเชิดรางมนุษยอยู ก็สบาย
ใจไดแลว
เมื่อขบคิดเชนนั้น หานลี่ก็ขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนี ตรงไปยังภูเขาอสรพิษเงินที่
อยูตรงใจกลางของหนานเจียง
หลังจากผานไปสิบกวาวัน หานลี่ก็มาปรากฏตัวอยูเหนือภูเขามหัศจรรยแหงหนึ่ง
ชีพจรภูเขาแหงนี้ไมเล็กเลย ขนาดประมาณสามรอยสี่รอยลี้ มีสันเขาที่ยาวและ
แคบ คดเคี้ยวไปมา ราวกับอสรพิษยักษตัวหนึ่งอยางไรอยางนั้น แตตนไมที่เรียงราย
อยูบนภูเขาลูกนี้ สวนใหญลวนเปนตนไมประหลาดที่มีใบเปนสีเงินชนิดหนึ่ง
มองจากดานบนลงไป ชื่อเสียงของภูเขาอสรพิษเงินก็ติดอันดับตนๆ จริงๆ
หานลี่ไมไดหยุดพักที่อื่น แตตรงไปยังสวนหัวของ ‘อสรพิษเงิน’ ยังไมทันไดบิน
เขาไปใกล หานลี่ก็สัมผัสไดถึงพายุอันรอนฉาที่พัดโชยเขามา ในนั้นมีกลิ่นกำมะถันที่
เตะจมูกปะปนอยูดวย
ผานไปชั่วครู ภูเขาไฟเปลือยเปลาสองสามลูกก็ปรากฏขึ้นเบื้องหนา ทุกลูกลวน
เปนทรงกรวยดูนาเกลียด
และสิ่งที่ทำใหผูคนตกตะลึงก็คือ ปลองของภูเขาไฟเหลานี้มีเสียงรองคำรามต่ำๆ
สงออกมา บางก็พนควันสีเทาออกมาเปนกลุมๆ ดูแลวนาตกตะลึง
แตแมจะเปนเชนนั้น ภูเขาไฟเหลานี้กลับมีลำแสงหลีกหนีหลากสันสีสวางวาบอยู
มีผูบำเพ็ญเพียรจำนวนไมนอย เขาๆ ออกๆ ที่ปลองภูเขาไฟ คาดไมถึงวาที่นี่จะมีผู
บำเพ็ญเพียรหลายสิบคนมารวมตัวกัน
ผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้สวนใหญอยูในระดับสรางปราณ ระดับหลอมรวมก็พอมี แต
แคไมกี่คนเทานั้น
นั่นเปนเรื่องที่ปกติมาก ผูบำเพ็ญเพียรสวนใหญหลังจากบรรลุระดับหลอมรวม
แลวก็จะมีเพลิงจิตวิญญาณของตัวเอง แนนอนวาจึงมุงมั่นหลอมสมบัติอาคมดวยเพลิง
ของตัวเอง และไมจำเปนตองมาที่นี่อีก
สวนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดนั้น ยิ่งไมมีเลยสักคน
หานลี่หยุดลำแสหลีกหนีลง พิจารณาเบื้องลางจากบนอากาศ จูๆ ลำแสงสีฟาก็
สวางวาบขึ้นในรูมานตา พื้นที่แหงหนึ่งของภูเขาไฟ เขามาในจิตสัมผัสของเขาอยาง
ชัดเจนทันที
ผานไปชั่วครู หานลี่ก็หาสถานที่ที่มีชีพจรเพลิงแข็งแกรงที่สุดพบ ลำแสงวิญญาณ
สวางวาบ ลำแสงหลีกหนีตรงไปยังระหวางภูเขาไฟทั้งสองลูก
หลังจากอยูหางออกไปรอยจั้ง ลำแสงหลีกหนีก็หยุดชะงักลง
หานลี่สะบัดแขนเสื้อ กระบี่ เลมเล็กสีทองเจ็ดแปดเลมพุ งออกมาจากแขนเสื้อ
หลังจากวนเวียนโคจรอยูรอบๆ ตัวเขารอบหนึ่ง สองมือก็รายอาคม ปากก็ตะโกนดวย
เสียงทุมต่ำออกมา
กระบี่บินเปลงเสียงรองออกมา ในเวลาเดียวกันก็กลายเปนลำแสงสีทองขนาด
ใหญยาวสองสามจั้ง ฟนลงไปบนพื้นดินอยางรุนแรง
ชั่วขณะนั้นดานลางพลันมีเสียงระเบิดตูมตามดังขึ้น สถานที่ที่ถูกกระบี่ลำแสง
โจมตีเปลงแสงสีทองเจิดจาจนแสบตาออกมา
รอจนหานลี่หนาเปลี่ยนสี กระบี่ลำแสทั้งหมดก็บินวนโคจรรอบหนึ่ง ลำแสงตรงที่
เดิมเริ่มหมนลง เผยใหเห็นรอยแยกขนาดยักษใหญยี่สิบกวาจั้ง เปนรูดำๆ ที่ไมรูวาลึก
ลงไปเทาใด
แน น อนวาผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รที่ ห ลอมยุ ท ธภั ณ ฑ อ ยู ในบริเวณใกล ๆ ต างก็ ถู ก การ
กระทำที่รุนแรงของหานลี่ทำใหตกใจ บางคนก็อดไมไหวบินมาหาหานลี่
หลังจากที่หานลี่สัมผัสไดถึงการเคลื่อนไหวของเหลาผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้น ก็มีสี
หนาเครงขรึมขึ้นทันที พลันแผกลิ่นอายที่แข็งแกรงของผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด
ออกไป
พลังกดดันอันนาตกตะลึงแผออกไปรอบๆ ทั้งสี่ทิศโดยมีหานลี่เปนศูนยกลางทันที
ผูบำเพ็ญเพียรที่อยูรอบๆ ในระยะสิบลี้ ตางถูกกลิ่นอายของหานลี่ทำใหตกใจจน
สะดุงโหยง ผูบำเพ็ญเพียรที่เดิมทีคิดจะเขามาตรวจสอบวาเกิดอะไรขึ้น ตางรีบรอนพา
กั น หั น หลั งเป บ แน บ บ างที่ อ ยู ใกล ห น อ ย ก็ ยิ่ งรี บ ร อ นออกจากสถานที่ ที่ ใช ห ลอม
ยุทธภัณฑเดิมทันที หนีกระจัดกระจายไปกันคนละทิศละทาง พวกเขาตางกลัววาจะ
ทำใหอาวุโสชนชั้นสูงผูหนึ่งโกรธเคืองเขา แลวจะนำภัยพิบัติที่ไมมีวันจบสิ้นมาสูตัวเอง
หานลี่เห็นผูบำเพ็ญเพียรที่อยูใกลๆ ตางออกจากที่นี่ไปอยางรูจักวางตัวก็รูสึกพึง
พอใจเปนอยางมาก ทันใดนั้นพลันตรงไปเขาไปในรอยแยกดานลาง ลำแสงหลีกหนี
สวางวาบแลวสลายหายไปจากรอยแยก
แตหลังจากนั้นไมนาน ผูบำเพ็ญเพียรที่มาหลอมยุทธภัณฑในภูเขาอสรพิษเงิน
ตางก็รูวาที่นี่มีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดอยูคนหนึ่ง ทุกคนจึงพยายามออกจากที่นี่
อยางระมัดระวัง
ทำใหตรงใจกลางของรอยแยกในรัศมีวงกลมสิบลี้ คาดไมถึงวาจะกลายเปนเขต
แดนหวงหาม ผูใดก็ไมกลายางกรายเขามาแมแตกาวเดียว
วันเวลาผานไป ในรอยแยกก็เริ่มเงียบสงัด แตหลังจากผานไปหนึ่งเดือน บางครั้ง
ดานในก็มีเสียงฟารองคำรามดังออกมา ราวกับเสียงเพรียกของหงส จากนั้นเสียงนั้นก็
คอยๆ เงียบหายไป กลายเปนเงียบสงัด
ในเวลาเดียวกันที่หานลี่รีบรอนหลอมยุทธภัณฑ ในปกของตำหนักในพระราชวัง
ตาจิ้นที่อยูไกลออกไป ก็มีผูบำเพ็ญเพียรชายหญิงสวมอาภรณหลากหลายสิบกวาคน
รวมตัวกันอยู หนึ่งในนั้นมีทั้งนักบวชหญิง นักพรต และยังมีภิกษุ นักปราชญอยูดวย
คนเหลานี้ตางมีพลังยุทธอยูในระดับกอกำเนิดขึ้นไป หนึ่งในนั้นคือผูบำเพ็ญเพียรหนา
เหลี่ยมที่สวมชุดผาไหม และหญิ งชราที่ ถือ ไมเท าสีท องที่ เป น ผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรระดั บ
กอกำเนิดขั้นกลาง
สวนชายชราสวมรัดเกลาสีดำที่มีชื่อเสียงก็รวมตัวอยูในนั้นดวย
คนเหลานี้ลวนนั่งสมาธิอยางเงียบๆ อยูบ นเกาอี้ ทุ กคนตางเงียบกริบไมเปลง
คำพูดใดๆ บางคนยังรอนรนจนตองมองออกไปนอกประตูตำหนักอยูหลายครั้ง ดู
เหมือนวาจะกำลังรอใครสักคนอยู
“นองสิบเอ็ด เจาไมไดจำคนผิดไปใชไหม ใชเขาจริงๆ หรือ? แตสามรอยปกอน
ขาเห็นทานอาเจ็ดเพลี่ยงพล้ำและหมดลมหายไปกับตานะ” จูๆ ผูบำเพ็ญเพียรหนา
เหลี่ยมก็เอยถามนักพรตเคราขาวคนหนึ่ง ใบหนาเผยแววขบคิดออกมา
“ท า นอาเจ็ ด มี ใ บหน า ที่ เ ป น เอกลั ก ษณ จ ะตาย ข า จะจำคนผิ ด ได อ ย า งไร
ยิ่งกวานั้นตอใหไมใช แตสมบัติอาคมของทานอาเจ็ด มีดจันทรเหมันต ก็อยูที่เขาไมผิด
แน” นักพรตชราผูนั้นหัวเราะอยางขมขื่นออกมาขณะเอยตอบ
“พี่สองอยาเพิ่งรอนใจไป จะจริงหรือไม อีกเดี๋ยวก็รูแลวมิใชหรือ? ที่นี่มีพวกเรา
อยูตั้งหลายคน ยังกลัวจำผิดอีกหรือ หากใชทานอาเจ็ดจริงๆ แนนอนวาก็เปนเพราะ
สวรรคชวยตระกูลเยี่ยของพวกเรา ถาหากไมใช ตอใหเขาเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับ
กอกำเนิดขั้นปลาย ก็อยาคิดจะกาวออกจากตำหนักแมแตกาวเดียวเลย” หญิงชรา
ระดับกอกำเนิดขั้นกลางอีกคนหนึ่งกลับเอยขึ้นดวยสีหนาเครงขรึม
“ก็จริง แตระวังหนอยก็ไมผิด” ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมดูเหมือนวาจะรูสึกวามี
เหตุผล ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งแลวไมไดเอยอะไรอีก
ผานไปหนึ่งชั่วยามเต็มๆ หลังจากเสียงระฆังจบลง จูๆ ปากทางเขาก็มีรางคนพลิ้ว
ไหว บุรุษรางกายผอมสูงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงนั้นไดอยางไรก็ไมรู จากนั้นพลัน
สาวเทาเขามากาวหนึ่งอยางแผวเบา คนมาปรากฏตัวที่ใจกลางของตำหนักดวยความ
แปลกประหลาดทันที
ชั่วขณะนั้นโฉมหนาของคนผูนี้พลันปรากฏขึ้นเบื้องหนา
คิ้ ว ทั้ งสองเหลื อ งกรอบ ดวงตาเล็ ก ตี่ แต ห น าผากกลั บ กว างเป น พิ เศษ กว า ง
มากกวาผูอื่นเกือบครั้ง ตนคอยักยายไปมา เหมือนกับจะหักไดตลอดเวลา ชางแปลก
ประหลาดอยางสุดๆ
แตเมื่อกลุมผูบำเพ็ญเพียรในตำหนักเห็นหนาตาที่นากลัวของคนผูนี้ กลับยืนขึ้น
ดวยความตื่นตะลึง
“ทานคือทานอาเจ็ดจริงๆ หรือ?” ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมสูดลมหายใจเขาไป
เฮือกหนึ่ง เอยถามดวยความมัดระวัง
“หึๆ! เจาเด็กนอยรอง ไมเจอกันสองสามรอยป แมแตตาเฒ าของตระกูลก็จะ
ไมไดแลวหรือ ทวานั่นก็ไมแปลก ขาตายและฟนคืนชีพ แนนอนวาจะตองทำใหพวก
เจาสงสัยอยูแลว ทวา ขามีคัมภีรถายทอดเสียงของเจาเด็กนอยสามอยู พวกเจาอานดู
ก็รูแลววาเกิดเรื่องอะไรขึ้น” คนประหลาดหัวเราะเสียงดังออกมา ชูมือขึ้นแลวโยน
คัมภีรสีเขียวมวนหนึ่งออกไป
ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมมีสีหนาตกตะลึงระคนสงสัย แตก็ยังคงรับคัมภีรนั้นมา
ทางพลางแผจิตสัมผัสเขาไปขางใน
ผานไปเพียงชั่วครู ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมก็หนาเปลี่ยนสีไปหลายครั้ง เมื่อเขา
ดึงจิตสัมผัสกลับมาอีกครั้ง ก็คารวะคนประหลาดดวยทาทางดีใจทันที
“ที่แทตอนนั้นที่ทานอาเจ็ดตาย ก็เปนเรื่องที่เหลาอาวุโสในรุนกอนๆ จัดเตรียม
เอาไวตั้งนานแลว เมื่อครูหลานเสียมารยาท หวังวาทานอาลุงจะไมถือโทษ”
“เจาจัดการเรื่องราวไดอยางรอบคอบ ตาเฒ าก็ดีใจมากแลว จะไปโทษเจาได
อยางไร” คนประหลาดโบกมือไปมา พลางเอยอยางไมใสใจแมแตนอย
ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือเองก็ทยอยกันตรวจสอบคัมภีรมวนนั้น ไมนานผูบำเพ็ญ
เพียรทั้งหมดในตำหนักก็ทยอยกันทำความเคารพดวยความยินดีเชนกัน
“ทานอาเจ็ดจริงๆ ดวย”
“คารวะทานบรรพชนอาสาม!”
เสียงทักทายดังขึ้นอยางตอเนื่องไมขาดสาย!
“จุๆ พวกเจาไมตองมีพิธีรีตองหรอก”
คนประหลาดดีอกดีใจเปนพิเศษ คนก็นั่งลงบนตำแหนงหลักอยางไมเกรงใจแมแตนอย
“ที่พี่สามกลาวในคัมภีร บอกวาทานอาเจ็ดบรรลุระดับกอกำเนิดขั้นปลายตั้งแต
สองรอยปกอน เปนเรื่องจริงหรือไมเจาคะ” หญิงชราเอยอยางนอบนอม
“ใชแลว ตอนนั้นสำนักเหลานั้นลงมือกับขาอยางลับๆ เพราะวารูสึกวาขามีโอกาส
จะบรรลุขั้นปลาย ถึงไดวางกับดักสังหารขาอยางไมเสียดาย หลังจากที่ขาหนีไปตาม
แผนของตระกูลแลว ในที่สุดก็ไมไดทำใหทุกคนผิดหวัง โชคดีที่บรรลุระดับขั้นได แต
เดิมตามแผนของอาวุโสในตระกูลนั้น หากไมใชชวงเวลาเปนตายที่สำคัญของตระกูล
เยี่ย ขาก็ไมนาจะไดมาพบกับพวกเจา แตคนที่รูการดำรงอยูของขาเพียงผูเดียวก็คือ
เจาเด็กนอยสาม ไมนานมานี้เขามาหาขา และบอกแผนการตอไปใหขาฟง ทั้งยังใช
ฐานะอาวุโสปจจุบันของตระกูลขอใหขาชวยลงมือทำเรื่องหนึ่ง ขาขบคิดอยูนาน รูสึก
วาเรื่องนี้เกี่ยวของกับความเปนตายของตระกูลเยี่ยของพวกเรา จึงออกมาชวยพวก
เจาอีกแรง” คนประหลาดมีสีหนาเครงขรึมขึ้น
ตอนที่ 978 ครึ่งป
“มีทานอาเจ็ดคอยชวยเหลือ บวกกับนองสาม การชิงสมบัติจากนี้ก็มีสองมหาผู
บำเพ็ญเพียรคอยชวยเหลือแลว บวกกับเหลาผูบำเพ็ญเพียรในตระกูลที่มารวมตัวกัน
อยูที่นี่ และจากการเชิญชวนอาวุโสมาจากภายนอก ก็เพียงพอที่จะตานทานสมดุลกับ
ขุมอำนาจของสิบสำนักมารธรรมะแลว” ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมเอยอยางเปนปลื้ม
“ขาจะไมยุงวุนวายแผนการของพวกเจา ขอแคทำมันอยางเต็มกำลัง ตระกูลเยี่ย
ก็จะรอดพนจากการควบคุมของสองสำนักมารธรรมะแลว ทุกอยางตองรอดูกันในครั้ง
นี้แลว ตาเฒาจะไมเปนตัวถวงของพวกเจา” คนประหลาดคอยๆ เอยขึ้น
เมื่อไดฟงอาวุโสที่เหลืออยูในตระกูลเอยเชนนี้ ผูบำเพ็ญ เพียรหนาเหลี่ยมและ
หญิงชราก็รูสึกดีอกดีใจอยางสุดๆ แนนอนวาจึงเอยปากอยางถอมตน
สุดทาย หลังจากที่ปรึกษาเรื่องลับๆ ในตำหนักอยูครึ่งวัน เหลาอาวุโสของตระกูล
อันดับหนึ่งของตาจิ้นถึงไดทยอยกันสลายตัวไป
ในหองลับของจวนแหงหนึ่งในราชวงศ ไอมารสีดำเขมกลุมหนึ่งปกคลุมไปทั่วทั้ง
หอง ดานในมีเงารางปศาจสองหัวขนาดยักษอยูตนหนึ่ง ดวงตาทั้งสี่ฉายลำแสงสีดำ
มวงสองสีออกมา ดูนากลัวอยางสุดๆ
ไมรูวาผานไปนานเทาไหร จูๆ มารปศาจก็รองคำรามเสียงต่ำๆ ออกมา ไอมาร
หมุนวน ถูกดูดเขาไปในรางของมารปศาจราวกับกลับคืนสูทะเล ในเวลาเดียวกันแขน
ทั้งสี่ของมารตนนั้นก็รายอาคมขึ้นพรอมกัน หลังจากที่รางกายระเบิดออก ก็กลายเปน
ชายหนุมหนาตาธรรมดาๆ คนหนึ่ง ใบหนาคลายคลึงกับหานลี่อยูหลายสวน
นั่นก็คือมารโบราณที่ซอนตัวอยูในตระกูลเยี่ย
“ไมเลว ฟนฟูบาดแผลมาไดแปดสวนแลว ตอนนี้ขอแคไมพบกับเจานั่น ในตาจิ้น
ก็แทบจะไมมีใครทำอะไรขาไดแลว เจาพวกตระกูลเยี่ยพวกนั้น ก็นาจะถึงเวลาลงมือ
แลว จากทาทีวาคุนเคยกับยุคโบราณของขา เจาพวกนั้นไมมีทางเคลื่อนไหวโดยไมมี
ข าได แ น ขอแค ไปถึ งที่ นั่ น เท านั้ น หึ ๆ …” มารตนนั้ น เอ ย พึ ม พำด ว ยเสี ย งแผ ว เบา
ใบหนาเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา
ในตอนที่มารโบราณหยุดการรักษาอาการบาดเจ็บนั้น ในจวนลับของพรรคตา
ขายทมิฬแหงหนึ่งในเมืองจิ้น เกอเทียนเหาและธิดาเทพเทียนหลานผูนั้นก็กำลังพูดคุย
บางอยางกันอยู
“ขาไดขาวมาแลววา ฟูเฉิงจากพรรคเกายมโลกออกมาจากหนานเจียงแลว วัน
นั้นเจาเด็กแซหานเขารวมการซื้อขายใตดินพรอมกับเขา หากไมใชเพราะพวกเราไดรับ
รายงานมา เกรงวาตอนนี้คงยังโงเขลาอยู เขาปรากฏตัวที่นั่น เจาเด็กแซหานอาจจะ
ปรากฏตัวใกลๆ ดวย อาวุโสใหญของพรรคขาทำธุระอยูที่หนานเจียงพอดี และกำลัง
รีบไปแลว ถาหากบังเอิญพบคนผูนี้เขา ก็จะจัดการเขาดวยตัวเอง สหายหลินสนใจจะ
ไปดวยกันหรือไม”
“ฟูเฉิง? คนผูนี้มาปรากฏตัวที่นี่ ก็ไมไดหมายความวาเจาเด็กแซหานจะตองอยูที่
หนานเจียง และขาวที่ขาไดรับมา ทุงหญามีปรมาจารยสวินเปนแมทัพนั้นสงผูบำเพ็ญ
เพียรกลุมหนึ่งมาปกปองตำหนักในตาจิ้นแลว ไมนานก็คงมารวมตัวกันกับพวกเราใน
เมืองจิ้น ขาจะตองอยูรักษาการณ สักระยะหนึ่ง รอจนพบพวกเขาแลว ยังไมมีขาว
คราวที่แนชัดของคนผูนั้น ขาจะนำทัพไปที่หนานเจียง” หลินอิ๋นผิงกลับสั่นศีรษะ
“สหายสวี่ก็จะมา! ชางเปนเรื่องที่โชคดีจริงๆ ทานอาวุโสใหญรูเขาจะตองดีใจแน
เชนนั้นขาไปเปนเพื่อนสหายก็แลวกัน ถึงอยางไรเสียตอนแรกทานอาวุโสใหญก็กำชับ
มาวาตองอยูเปนเพื่อสหายหลิน” ตอนแรกเกอเทียนเหาพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็เอย
ขึ้นดวยความดีใจ
หลินอิ๋นผิงไดฟงแลวพลันหัวเราะ พลางเอียงศีรษะเล็กนอย
“ใชแลว เจาคนแซหานไมไดปรากฏตัวที่ริมทะเล และกลายเปนอาวุโสแขกผูมี
เกียรติของสามสำนักเล็กๆ หรอกหรือ! เราคอยสงคนมาตรวจสอบสำนักเหลานั้นอยาง
ลับๆ อยูตลอด ตอนนี้ยังไมมีขาวอะไรอีกหรือ?” หลินอิ๋นผิงขมวดคิ้ว แลวนึกถึงเรื่องนี้
ขึ้นมาไดพลางเอยถาม
“ไมมี คนผูนั้นชางเจาเลหเพทุบายนัก นอกจากโผลหัวออกมารับหนาแทนสาม
สำนักแลว ก็ไมยอมปรากฏตัวอีก และยิ่งไปกวานั้นความสัมพันธของคนผูนี้กลับสำนัก
ยันตสวรรค ก็สืบมาอยางละเอียดแลว ทั้งสองแครูจักกันผิวเผินเทานั้น เดาวาตอให
พวกเราสังหารทั้งสามสำนักทิ้ง อีกฝายก็คงหนังตาไมกระตุก” เกอเทียนเหาเอยอยาง
จนปญญา
“นั่นมันก็ใช คนผูนี้เปนผูบำเพ็ญเพียรของเทียนหนาน จะสนใจความเปนความตาย
ของสำนักเหลานี้ทำไม ทวา ตอนที่ขามาตาจิ้น ก็สงคนเขาไปสอดแนมสืบหาขอมูล
ของคนผูนี้ในเทียนหนานแลว ผานมานานขนาดนี้แลว คงจะไดขาวมาแลวละ รอจน
ทานปรมาจารยสวินมาถึง พวกเราก็คอยถามดู เชนนั้นก็รูแลววาควรจะจัดการกับคน
ผูนี้อยางไร” คิ้วดำขลับของหลินอิ๋นผิงขมวดเขาหากันแนนขณะเอยอยางเยือกเย็น
“ออ ถามีขอมูลของคนผูนั้น หรือรูเคล็ดวิชาที่คนผูนั้นฝกฝน การตอกรกับเขาก็
งายขึ้นมากแลว ไมรูวาปรมาจารยสวินและพวกจะมาถึงตอนไหน” เกอเทียนเหาพลัน
มีชีวิตชีวาขึ้น
“นับดูแลว ก็คงใชเวลาอีกสองสามเดือนกระมัง ครั้งนี้ถาหากปรมาจารยสวินรวม
มือกับอาวุโสของพรรคขา ขาก็ไมเชื่อวาคนผูน้ันจะยังหนีรอดไปได” ธิดาเทพเทียน
หลานคิดถึงเรื่องที่อสูรศักดิ์สิทธิ์ถูกจับไป ก็อดที่จะเอยขึ้นอยางโกรธแคนไมได
เกอเทียนเหาไดฟงสตรีผูนั้นเอยเชนนี้ก็ใจเตน
ถึงแมวาสตรีผูนี้จะเอยเชนนั้น เพราะคนผูนั้นสังหารผูบำเพ็ญเพียรของเทียนหลานไป
จำนวนมาก นางถึงไดตองตามหาและสังหารคนผูนั้นใหได แตคนผูนั้นมีความสามารถ
ใกลเคียงกับระดับกอกำเนิดขั้นปลาย ถาหากสังหารเขาทิ้งเพราะความแคนจริงๆ ใน
ฐานะธิดาเทพแหงทุงหญาจะไลตามคนผูนั้นอยางไมลดละดวยเรื่องเล็กแคนี้ทำไม
ถึงอยางไรเสียคนก็ตายไปแลว การไปยั่วแหยผูที่ น ากลัวขนาดนี้ ชางเป น การ
กระทำที่ไมชาญฉลาดเอาเสียเลย
เรื่องนี้จะตองมีสาเหตุอะไรที่เขาไมรูเปนแน ถึงทำใหอีกฝายรั้งรออยูที่หลายปขนาดนี้
แมกระทั่งไมเสียดายที่จะโยกยายคนของทุงหญาเทียนหลานมาเพื่อสังหารอีกฝาย
ดูแลวเขาจะตองหาวิธีคนความลับนี้ใหกระจางใหได
เกอเทียนเหามีสีหนาราบเรียบ แตในใจกลับตัดสินใจเชนนั้น
หลินอิ๋นผิงเองก็ไมไดเยือกเย็นดั่งที่แสดงออกมา
ยิ่งรางแยกอสูรศักดิ์สิทธิ์ถูกกักเอาไวนานขึ้นเรื่อยๆ นางไมรูจริงๆ วาจะปดบังได
ไปอีกนานเทาไหร
สองสามปที่ผานมา นางไมกลาแมแตจะติดตอกับแดนสวรรคสักครั้ง โชคดีที่ราง
แยกของอสูรศักดิ์สิทธิ์แคถูกกักรางเอาไว และยังไมไดถูกสังหารลง เชนนั้นนายทานจึง
ยั ง ไม พ บเรื่ อ งนี้ แต ไม อ าจป ด บั ง ไปได อี ก นานกว า นี้ แ น จะต อ งช ว ยร า งแยกอสู ร
ศักดิ์สิทธิ์กลับมาภายในระยะเวลาสั้นๆ ใหจนได และในการเคลื่อนไหวนั้น กลับไม
อาจปลอยใหสูญเสียผูบำเพ็ญเพียรเทียนหลานไปมากมายนักได ดูแลวคงมีเพียงตอง
พยายามใชผูบำเพ็ญเพียรของพรรคตาขายทมิฬแลว
สตรีผูนั้นก็ตัดสินใจไดเชนกัน
ณ เขตแดนที่อยูติดกับหนานเจียง ชายชราผูหนึ่งกำลังสำแดงเคล็ดวิชาตัวเบา
พรอมกับหัวเราะคิกคักไปพลาง พูดคุยเปนตอยหอยกับผูบำเพ็ญเพียรระดับฝกปราณ
สองสามคนไปพลาง
ทำใหกลุมคนวัยเยาวที่ออกมาหาประสบการณครั้งแรกเหลานี้ลวนมีสีหนาเบิก
บานใจ พลางพูดคุยอยางออกรสชาติ
ถาหากหานลี่อยูที่นี่ เมื่อมองเห็นสีหนาปลิ้นปลอนของชายชราเกรงวาคงจะตกใจจน
สะดุงโหยงในทันที คนผูนี้ก็คือคนที่เขาสงสัยวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
เซี่ยงจือหลี่
จะวาไปแลว ตั้งแตที่ห านลี่จากสำนั กยัน ต สวรรคมา ยังไมรอให ชนชั้น สูงของ
สำนักยันตสวรรคเหลานั้นตามหาลูกศิษยระดับต่ำมาซักถามอะไร คนผูนี้ก็หายตัวไป
จากสำนักยันตสวรรคอยางไรรองรอย
เวลานี้ กลับทำใหผูบำเพ็ญ เพียรของสำนักยันตสวรรคตกใจจนสะดุงโหยง แต
พวกเขาสวนใหญ ตางก็สงสัยวาหานลี่คงทำอะไรสักอยาง แนนอนวาจึงเก็บเรื่องนี้
เอาไว ไมอนุญาตใหภายในสำนักเอยถึงเซี่ยงจือหลี่อีก
แตตอนนี้ก็ผานมาสองสามปแลว คาดไมถึงวาตาเฒาผูนี้จะมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่
ชางลึกลับจริงๆ
ไมใชแคคนเหลานี้ ขุมอำนาจใหญจำนวนไมนอยในตาจิ้น ก็ดูเหมือนวาจะสัมผัส
ไดวาโลกของผูบำเพ็ญเพียรชวงนี้กำลังมีคลื่นใตน้ำที่ไหลเชี่ยวอยูทามกลางความเงียบ
สงบ สำนักตางๆ ที่มีความสามารถ ก็ยังพบเรื่องของตระกูลเยี่ยแหงราชวงศอยางลับๆ
แตเรื่องเหลานี้ก็เปนเพียงการสงสัยเทานั้น ไมไดมีอะไรมายืนยันกับพวกเขา เหลาชน
ชั้นสูงจึงเริ่มพบปะกันบอยขึ้น และไมรูวากำลังวานแผนลับอะไรอยูเชนกัน
ทั้งตาจิ้นดูเหมือนจะกำลังเกิดภัยพิบัติ
สองสามเดือนผานไป ที่หนานเจียง ในภูเขาไฟบนภูเขาอสรพิษเงิน ก็มีเสียงกรีด
รองปติยินดีดังขึ้น เสียงนี้สูงแหลมจนไปไกลถึงขอบฟา
สายรุงสีเขียวที่เกิดจาสายหนึ่งพุงออกมาจากใตดิน สวางวาบแลวสลายหายไป
กลางอากาศ ชั่วครูก็ปรากฏขึ้นปลายสุดของขอบฟา
ความเร็วที่นาตกตะลึงเชนนี้ ทำใหผูบำเพ็ญเพียรสองสามคนที่มองเห็นถาพฉากนี้
จากที่ไกลๆ ตางก็พากันอาปากคาง ใบหนาเต็มไปดวยความตกตะลึง
ผานไปเจ็ด แปดวัน สายรุงสีเขีย วสายเดิ ม ก็ ป รากฏตั วในป าที่ เก าแก ที่ สุ ดของ
หนานเจียง เหนือเทือกเขาที่มีพื้นที่เกือบหมื่นลี้ ตรงไปยังทิศตะวันตก
หลังจากนั้นไมนาน เมื่อลำแสงหลีกหนีปรากฏขึ้นกลางอากาศเหนือที่ราบลุม
ขนาดใหญ มองเห็นหมอกพิษสีเหลืองเขมที่ปกคลุมไปทั่วในระยะพันกวาจั้ง ลำแสง
หลีกหนีก็รอนลงตรงชายขอบของหมอกพิษ
“สหายหาน เจามาชาไปนิด สหายไป สหายหยวนมาถึงตั้งแตสองสามวันกอน
แลว เวลานี้ขาดสหายแคคนเดียว” เมื่อลำแสงนั้นหมนแสงลง รางของหานลี่เพิ่งจะ
ปรากฏตัวบนพื้นขางๆ ผูบำเพ็ญเพียรสองสามคนที่นั่งสมาธิอยู ชายชราก็ลุกขึ้นยืน
ทันที พลางเอยปนหัวเราะ นั่นก็คือชายชราแซฟู คนที่เหลืออีกสามคนที่นั่งสมาธิอยู
ใกลๆ ก็คือคนที่มารวมตัวกันเมื่อครึ่งปกอน ไปเหยาอี๋ ชายรางใหญแซหยวนก็อยูดวย
“ขานอยกำลังหลอมยุทภัณฑชิ้นหนึ่ง เพิ่งจะหลอมเสร็จเมื่อสองสามวันกอน จึงมาชา
ไปเสียหนอย หวังวาเหลาสหายจะไมถือโทษ!” หานลี่ประสานมือคารวะขณะเอย
“ไมเปนไร ระยะเวลาที่พายุทมิฬออนแอนั้นยาวนาวถึงสามเดือน พวกเราก็เพิ่ง
มาไดไมกี่วัน แตสหายเพิ่งจะมาจากการหลอมยุทธภัณฑ ตองการพักผอนสักสองวัน
เพื่อฟนฟูลมปราณกอนหรือไม” ไปเหยาอี๋กลับพิจารณาหานลี่สองสามครั้ง แลวเอย
อยางละเอียดรอบคอบ
“อื ม สหายไป ก ล า วมี เหตุ ผ ล ในเมื่ อ จะลงไปในถ้ ำ จั น ทราตะวั น ก็ ต อ งรั ก ษา
ลมปราณใหอยูในสภาวะที่เต็มเปยมเสียกอน” ชายชราแซฟูเอยอยางเห็นดวย
ถึงแมวาชายชราแซหยวนและสตรีผูงดงามแซฉางจะไมไดเปดปาก แตสีหนาที่
แสดงออกมากลับแสดงออกวาเห็นดวยเชนกัน
“เอาละ หากผูแซหานจะปฏิเสธน้ำใจก็จะเปนการไมเคารพ หลังจากนี้สองวัน
พวกเราคอยเขาไปในหุบเขาเถิด” หานลี่พยักหนา หันหนาไปเหลือบมองหมอกพิษสี
เหลืองที่อยูหางออกไปสองรอยจั้ง ก็เห็นทางเขาหุบเขาสีดำอยูรางๆ แวบหนึ่ง
หานลี่นั่งพลิกฝามือ ทั้งสองมือมีศิลาวิญญาณระดับกลางธาตุไมเปลงแสงสีเขียว
กอนหนึ่งปรากฏขึ้น และสมาธิลงบนพื้นพรอมกับปดเปลือกตาลง
ถึงแมวาคนอื่น จะมีลมปราณอยูเต็ มเป ยม แต ก็ห ลั บตาโคจรลมปราณเชน กั น
เพื่อใหตัวเองอยูในสภาวะที่ยอดเยี่ยมที่สุด
สองวันผานไปอยางรวดเร็ว เมื่อหานลี่ลืมตาทั้ งสองขางขึ้นอีกครั้งดวยแววตา
ราบเรียบ ชายชราแซฟูก็ตะโกนดวยเสียงทุมต่ำอยางไมลังเลทันทีวา
“ออกเดินทาง”
คนอื่นๆ ก็ทยอยกันลุกขึ้น เกาะปองกันลำแสงหลากสีสันทยอยกันสวางวาบขึ้น
บนเรือนราง หอหุมตนเองตั้งแตหัวจรดเทา
“มีหยกกันพิษของขานอย ก็ผานหุบเขาหมื่นพิษไปไดอยางงายดายแลว แตตอง
ระวังแมลงพิษเล็กๆ สองสามชนิดในหมอกพิษ อยาสลายเกราะปองกันวิญญาณงายๆ
เด็ดขาด หากไมใชเพราะหุบเขาหมื่นพิษเองคือสถานที่หวงหามตั้งแตโบราณ จึงมีเขต
อาคมนิรนามอยู พวกเราบินฝาลงไปดานลางโดยตรง คงปลอดภัยสุด” ชายรางใหญ
แซหยวนเอยอยางราบเรียบ ชูมือขึ้น หยกสมประสงคเปลงแสงสีเงินสวางวาบ จากนั้น
ก็เดินเขาไปในหมอกพิษกอนทันที
หานลี่และพวกเองก็เดินเขาไป
เห็นเพียงชายรางใหญเขาใกลหมอกพิษ ก็ชี้ไปที่หยกสมประสงคเหนือศีรษะ ปาก
ก็บริกรรมคาถาออกมา ชั่วขณะนั้นหยกสมประสงคก็ปลอยคลื่นสีเงินกลุมแลวกลุม
เลาออกมา ทุ กที่ที่ คลื่นเหลานั้นพั ดผานไป หมอกพิ ษก็ถูกผลักออกไปกวาครึ่ง ไอ
หมอกเบาบางลงในพริบตา
หลังจากที่ชายรางใหญ สาวเทายาวๆ พรอมกับสำแดงเคล็ดวิชาตัวเบาแลว ก็
กระโจนลงไปในหุบเขาตัวปลิว
หลังจากนั้นคนอื่นๆ ก็สำแดงเคล็ดวิชาใสตัวเองเชนกัน และไลตามไปติดๆ
ตอนที่ 979 ภูเขาวิญญาณคุนอู
หลังจากผานไปครึ่งวัน จูๆ สวนลึกที่สุดที่ไหนสักแหงในหุบเขาหมื่นพิษก็มีลำแสง
สีเงินสวางวาบ จากนั้นลูกไฟขนาดยักษสิบกวาลูกก็บินออกมา
หลั ง จากเสี ย ง ‘พรึ่ บ ๆ’ ดั ง ขึ้ น ลู ก บอลเพลิ ง เหล า นี้ ก็ ไม ได ร ะเบิ ด ออก กลั บ
กลายเปนอสรพิษเพลิงสิบกวาตัวที่ดูสมจริง กระโจนไปที่พื้นดิน
กลิ่นไอรอนฉา กลายเปนทะเลเพลิงผืนเล็กๆ ชั่วพริบตาก็ทำใหแมลงพิษที่อยูบน
พื้นดินทั้งหมดกลายเปนเถาถาน
“จุๆ สหายหานควบคุมวรยุทธไดสุดยอดจริงๆ หากบอกวาเคล็ดวิชาหลักที่สหาย
ฝกฝนคือเคล็ดวิชาธาตุไฟ เกรงวาก็คงมีไมกี่คนที่ไมเชื่อ” เสียงหัวเราะของสตรีคน
หนึ่งดังขึ้น
“ไมหรอก ในอดีตตอนที่ขาอยูในระดับต่ำนั้น ชอบใชเคล็ดวิชาดีดเพลิงมากที่สุด
แคคุนชินก็เทานั้น” หานลี่ตอบกลับดวยน้ำเสียงราบเรียบ
จากนั้นทามกลางไอหมอกและลำแสงสีเงินที่อยูไกลออกไป เงารางของชายราง
ใหญและหานลี่พลันปรากฏตัวขึ้นอยางตอเนื่อง และคอยๆ เดินเขาไปในทะเลเพลิงที่
คอยๆ มอดดับลง
แววตาของหานลี่กวาดมองไปยังจุดที่ไกลออกไป ใบหนาเปลี่ยนสีขณะหยุดฝเทา
ลง ทะเลเพลิงที่อยูดานตรงขามมีหมอกพิษบางเบาเปนพิเศษ เหมือนมีอะไรซอนอยู
รางๆ แตเขายังไมทันไดแผจิตสัมผัสออกไป ชายรางใหญที่เปนผูนำก็ชี้ไปยังหยกสม
ประสงค เหนื อ ศี ร ษะ สมบั ติ ชิ้ น นั้ น พลั น ระเบิ ด ลำแสงสี เงิ น ออกมาทั น ที ในเวลา
เดียวกันก็พุงออกไปดานหนา
ผลลัพธคือเมื่อลำแสงสีเงินสาดแสงออกไป หมอกที่หนาแนนแตเดิมก็เริ่มชัดเจนขึ้น
หานลี่มองเห็นทุกอยางอยางชัดเจนแลวพลันสูดลมหายใจอันเย็นยะเยือกเขาไป
เฮือกหนึ่ง
เบื้องหนาหางออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง มีเหวยักษปรากฏขึ้นอยูตรงนั้น
มองไปทั้งสองดาน ทามกลางความรางเลือนกลับมองไมเห็นวาเหวนี้มีความยาว
เทาใด แตความกวางกลับประมาณรอยจั้ง บางครั้งดานในก็มีพายุทมิฬสีดำออนๆ โชย
พัดหมอกพิษรอบๆ จนกระจัดกระจายออกไปเจ็ดแปดสวน
“นี่คือทางเขาถ้ำจันทราตะวัน ทุกคนไปกันเถอะ”
คนเหลานี้นอกจากหานลี่และไปเหยาอี๋แลว คนอื่นๆ ตางก็เคยมาที่นี่ ดังนั้นชาย
ชราจึงเอยอยางเรียบๆ หนึ่งประโยค จากนั้นทุกคนก็เดินเขาไปอยางไมลังเล และยืน
อยูตรงดานขางเหว
ถึ งแม ว ากลางเหวจะมี พ ายุ ท มิ ฬ ที่ รุ น แรงพั ด ออกมา คนเหล านี้ ก ลั บ มี สี ห น า
ราบเรียบขณะเดินลงไปขางลางอยางไมรอนรน
ในเหวเหมือนกับขุมนรกที่ไมอาจคาดเดาไดวามีความลึกเทาไหร พายุทมิฬสีดำ
สนิทกลุมแลวกลุมเลา เล็กบางใหญบางหมุนวนอยูในหุบเหว และตรงกลางของพายุ
นั้นก็มีเสียงกรีดรองคร่ำครวญของภูตผีวิญญาณดังออกมา
หานลี่กวาดตามองไปทั้งสองดานของหุบเขาแวบหนึ่ง เห็นเพียงมันเปลงแสงแวววาว
ดูเหมือนวาจะเปนกอนน้ำแข็งหนาๆ ที่ผนึกรวมตัวกัน
“ตอนนี้สิ่งที่พวกเราเห็นไมใชพายุทมิฬสลายวิญญาณ เปนแคพายุทมิฬธรรมดาๆ
เทานั้น แตห ากลงไปลึกอีกสักสองรอยจั้ง พายุท มิฬ สลายวิญ ญาณก็จะปรากฏขึ้น
หากไมเตรียมการปองกัน ตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดอยางพวกเราก็ไมมี
ทางตานทานไดนานนัก แตตอนนี้ขานำไขมุกยมโลกมวงมาดวย อานุภาพของพายุนี้จึง
ลดลงไปเปนจำนวนมาก
แตในถ้ำจันทราตะวันนั้น พายุทมิฬสลายวิญ ญาณก็มีขนาดเล็กใหญ ไมเทากัน
เหลาสหายเองก็เปนผูที่มีประสบการณไมธรรมดา ในเรื่องของการระวังตัวคงไมตอง
ใหผูแซฟูกลาวอะไรมาก” ชายชราแซฟูรอจนทุกคนกวาดตามองหุบเหวเสร็จแลว ถึง
ไดกระแอมไอเบาๆ และเอยขึ้น
จากนั้นพลันชูมือขึ้น ในมือของเขามีไขมุกกลมๆ สีมวงเขมเม็ดหนึ่งปรากฏขึ้น
ขนาดเทากำปน
เมื่อไขมุกเม็ดนี้ปรากฏขึ้น หานลี่พลันเหลือบมองไขมุกเม็ดนี้อยางละเอียดแวบ
หนึ่ง ผลลัพธคือชั่วพริบตานั้นรูสึกเพียงวาเงาสีมวงในแววตาสวางวาบ เวลานั้นไมอาจ
ควบคุมจิตสัมผัสไดดั่งใจ ดูเหมือนวาจะจิตวิญญาณอยากจะบินออกจากรางกายไป
เขาอดที่จะตกตะลึงไมได แตในตอนนั้นเอง ชั่วขณะนั้นคาถาเทพขับเคลื่อนในราง
ก็หมุนโคจรโดยอัตโนมัติ หลังจากที่ความเย็นสบายสวางวาบในหัว สติปญญาก็ฟนฟู
กลับมาเปนปกติ
หานลี่มีสีหนาราบเรียบ แตในใจกลับตกตะลึง
ของสิ่งนี้คูควรกับการที่เปนสมบัติประจำพรรคของพรรคมารจริงๆ ชั่วรายเปน
อยางมาก เมื่อขบคิดเชนนั้น หานลี่ก็อดที่จะเหลือบมองไปทางชายรางใหญแซหยวน
และไปเหยาอี๋แวบหนึ่งไมได
แววตาของสองคนนี้ เป น ประกายสวางวาบไม ห ยุ ด สี ห น าไม ค อ ยดี นั ก ดู จ าก
ทาทางแลวคงเสียเปรียบใหกับไขมุกเม็ดนี้อยางไมทันระวังตัวเชนกัน และไมรูวา สอง
คนนั้นใชเคล็ดวิชาลับอะไรถึงไดหลบเลี่ยงประสิทธิภาพการชักจูงใหหลงใหลของไขมุก
เม็ดนี้ได
ชายชราแซฟูกลับทำเปนมองไมเห็นการกระทำของทั้งสามคน และชูมือขึ้นไปรอง
ไขมุกเม็ดนั้นเอาไว ปากก็บริกรรมคาถาที่ยากจะเขาใจออกมา
ชั่วขณะนั้นลำแสงอันเจิดจาก็สวางวาบ มานแสงบางเบาชั้นหนึ่งเปลงออกมาจาก
ไขมุก ชั่วครูก็แผคลุมในอาณาบริเวณสามสิบกวาจั้ง หานลี่และพวกทั้งสี่คนก็อยูใน
ลำแสงสีมวงออนเชนกัน พายุทมิฬที่แตเดิมวนเวียนอยูรอบดาน ออนแอกำลังลงไป
กวาครึ่ง
“ชื่อเสียงของไขมุกยมโลกมวงนี่ไมไดหลอกลวงจริงๆ ดวย” ชายรางใหญแซหยวนเก็บ
หยกสมประสงค หลังจากเห็นเชนนั้นก็อดไมไหวเอยชมขึ้น
“ตอนนี้ไขมุกเม็ดนี้ไมมีคาพอใหพูดถึงหรอก อานุภาพของมันจะเปนอยางไรตอง
รอดูตอไปถึงจะทราบได พวกเราลงไปกันเถิด” ชายชรากลับถือไขมุกยมโลกสีมวง
เอาไวมือหนึ่ง สวนอีกมือหนึ่งก็ปลอยหมอกลำแสงสีมวงแดงกลุมหนึ่งออกมาอยางไม
คิดเชนนั้น
จากนั้นลำแสงสีเขียวรอบกายของเขาพลันสวางวาบ บินลงไปในหุบเหว
หานลี่ แ ละพวกไม อ อกจากอาณาบริเวณของหมอกสีม วง ปล อ ยสมบั ติ อ าคม
ปองกันออกมาเชนกัน และบินไปตามทางของหุบเหว
ชายรางใหญ ปลอยแผนปายหยกสีเขียวมรกตชิ้นหนึ่งออกมา หมุนโคจรเหนือ
ศีรษะ ไปเหยาอี๋ปลอยมีดบินน้ำแข็งแวววาวเลมหนึ่งออกมาโคจรหมุนวนอยูรอบกาย
สตรีผูงดงามสวมชุดสีดำมีโลสีดำสนิทอันหนึ่งแนบติดอยูเบื้องหนา
หานลี่แคพนกระบี่บินสีทองออกมาสองสามเลม ปกปองเรือนรางของตัวเองไว
ผานไปชั่วครู เงารางคนสองสามคนก็เปลงลำแสงวิญญาณสวางวาบอยางรวดเร็ว
ถูกคลื่นสีดำสนิทดานลางกลืนกินเขาไปอยางไรรองรอย
รอบๆ หุบเหวยักษกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
และในเวลาเดียวกันกับที่หานลี่และพวกเขาในถ้ำจันทราตะวันนั้น กลางอากาศ
เหนือทะเลสาบเล็กๆ นิรนามแหงหนึ่งในหนานเจียง ก็มีผูบำเพ็ญเพียรเจ็ดแปดคน
ลอยอยูเหนือทะเลสาบ กำลังฟงผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีดำกลาวอะไรสักอยางอยู
ผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้มีทั้งนักพรตและปุถุชน สองสามคนในนั้นคือผูบำเพ็ญเพียร
จากตระกูลเยี่ยที่มารวมตัวกันในพระราชวังเมื่อสองสามเดือนกอน
ร า งของตั ว ประหลาดผู นั้ น ที่ โคลงเคลงไปมาก็ ยื น อยู ท า มกลางฝู ง ชนเช น กั น
ดานขางคือผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดหนาเหลี่ยมผูนั้น ดานหลังของเขาไมไกลนัก
มีชายหนุมคนหนึ่ง นั่นก็คือมารโบราณที่หนาตาละมายคลายคลึงกับหานลี่
ตอนนี้มารตนนั้นกำลังฟงผูบำเพ็ญ เพียรที่อยูเบื้องหนาบรรยายเรื่องราวตางๆ
ดวยใบหนาไรความรูสึก
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีดำมีพลังยุทธอยูในระดับหลอมรวม แตเมื่อเผชิญหนา
กับอาวุโสระดับกอกำเนิดในตระกูล ก็มีสีหนานอบนอมเปนพิเศษ
“สี่รอยปกอน ตระกูลเยี่ยของพวกเราไดขอมูลของ ‘ภูเขาคุนอู’ มาจากศิลาจารึก
ที่ชำรุดจากสมัยโบราณแผนหนึ่ง และเริ่มแผนการมาตั้งแตตอนนั้น ดินแดนศักดิ์สิทธิ์
แหงนี้มีชื่อเสียงมากในสมัยโบราณ แตไมรูวาเพราะเหตุใด คาดไมถึงวาจะถูกเหลาผู
บำเพ็ญเพียรโบราณใชความสามารถอันยิ่งใหญกดลงไปใตดิน ไมตองพูดถึงวาตอนนั้น
ภูเขาแหงนี้เปนที่พักอาศัยและถ้ำพำนักของผูบำเพ็ญเพียรโบราณจำนวนมาก จึงมี
มูลคามากมาย สิ่งที่สำคัญยิ่งกวาคือ บนศิลาจารึกยังเปดเผยวา ตอนที่ผูบำเพ็ญเพียร
โบราณผนึกภูเขาลูกนี้นั้น คาดไมถึงวาจะทิ้งสมบัติสะทานฟาสองชิ้นเอาไวในภูเขา ถา
หากตระกูลเยี่ยของพวกเราไดสมบัติทั้งสองชิ้นมา กำลังก็จะเพิ่มขึ้นเปนเทาตัวทันที
เพียงพอที่จะสั่นคลอนสำนักใหญมารธรรมะทั้งสอง พวกเราเสียเวลาไปรอยกวาป สง
ลูกศิษยในตระกูลออกไปจำนวนมากจนเกือบจะครึ่งตาจิ้น
ในที่สุดก็พบสถานที่ที่ถูกบันทึกเอาไวในศิลาจารึก และสงปรมาจารยดานเขต
อาคมของตระกูลมาเริ่มถอนเขตอาคมทันที เพราะวาเรื่องนี้เปนเรื่องใหญ ตอนนั้นจึง
ใหอาวุโสของรุนกอนๆ รับหนาที่ดูแลมาตลอด สวนอาวุโสที่เหลือที่รูเรื่องนี้ ก็มีเพียง
สองสามคนเทานั้น”
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีดำเอยมาถึงตรงนี้ ก็หยุดชะงัก จากนั้นพลันเอยตอวา
“แตเขตอาคมโบราณนี้ลึกซึ้งกวาที่พวกเราจินตนาการไว และยิ่งไปกวานั้นยังมี
หลายชั้น จนแทบจะมีทั่วใตดินในระยะรอยลี้ ปรมาจารยดานเขตอาคมสิบกวาคน
เสียเวลาไปรอยป ในที่สุดถึงไดคิดคนวิธีทลายเขตอาคมได ใชอาคมทลายอาคม ถึงจะ
กำจัดเขตอาคมที่ผนึกเหลานี้ไวไดหมด แตเขตอาคมที่ใชทลายเขตอาคมนั้นตองใช
วัตถุดิบจำนวนมาก การวางเขตอาคมจำนวนมาก เปนงานชางงานหนึ่งจริงๆ แตสิ่งที่
สำคัญที่สุดก็คือ วัตถุดิบที่ใชวางเขตอาคมจำนวนมากเปนวัตถุดิบที่หายากเปนพิเศษ
พวกเราจึงจำเปนตองรวบรวมอยางระมัดระวัง การวางเขตอาคมจำเปนตองทำอยาง
ลับๆ ไมอาจดึงความสนใจของผูอ่ืนได มิเชนนั้นจะเปนการพยายามเพื่อคนอื่นเทานั้น
ดวยเหตุนี้การวางเขตอาคมเพื่อทลายเขตอาคมจึงตองทำๆ หยุดๆ เคยหยุดไปหลาย
ครั้ง จนมาถึงตอนนี้ งานชิ้น นี้ถึงเพิ่ งจะสำเร็จ ตอนนี้ ปรมาจารยดานเขตอาคมใน
ตระกูลตางก็กำลังวางเขตอาคมสวนสุดทายที่กนทะเลสาบ เดาวาคงตองใชเวลาอีก
สองสามเดือนถึงจะเรียบรอย ถึงตอนนั้นพวกเราก็จะกระตุนเขตอาคมอำพรางที่เหนือ
ชั้น กดสถานการณการทำลายเขตอาคมที่นาตกตะลึงเอาไว อาวุโสทุกคนก็จะเขาไป
ลาสมบัติในภูเขาคุนอูไดแลว”
หลังจากเอยจบ ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีดำก็ประสานมือเขาดวยกันพลางถอย
ไปอยูดานขางโดยไมไดกลาวอะไรอีก
“ภูเขาคุนอู? ที่แทจุดประสงคที่พวกเราเดินทางมาที่นี่ก็คือภูเขาลูกนี้หรือ?”
“นาเหลือเชื่อจริงๆ! ขาคิดมาตลอดวาจะเปนถ้ำของผูบำเพ็ญเพียรโบราณที่ไหน
สักแหงเสียอีก!”
“จุๆ มีเพียงภูเขาคุนอูที่เปนภูเขาของเซียนเทานั้นถึงจะมีสมบัติสะทานฟา”
......
ตอนนั้นนอกจากคนประหลาด ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยม และมารโบราณทั้งสาม
คนแลว ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลืองตางก็แอบซุบซิบกันไปมา ทุกคนตางมีสีหนาตื่นเตนดีที่
ปดเอาไวไมมิด
“หึ! พวกเจาอยาดีใจกันเร็วไปนัก การทลายเขตอาคมเขาไปเปนเพียงดานแรกใน
การลาสมบัติเทานั้น ถาหากหาสมบัติงายขนาดนั้น นองสามคงไมเรียกพวกเรามา
รวมตัวกัน และเชิญ ทานอาเจ็ดมาชวยพวกเราอีกแรงหรอก ยิ่งไปกวานั้นในฐานะ
อาวุโสของนองสาม ตองปดบังหูตาของสำนักอื่นๆ หลังจากนี้หนึ่งเดือนก็จะรีบรุดมา
ที่นี่ และมารวมตัวกับพวกเราที่ภูเขาคุนอู” ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมกลับมีสีหนา
เครงขรึมขณะเอยเชนนี้ออกมา ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือไดฟงแลวก็พากันเงียบกริบ
“ฟ ง จากคำพู ด ของท า นพี่ หรื อ ว า ในภู เขาคุ น อู นี้ มี อ ะไรผิ ด ปกติ ?” อาวุ โ ส
ตระกูลเยี่ยที่แตงกายดวยชุดนักพรตคนหนึ่งทนไมไหว เอยถามขึ้น
“ก็ไมไดผิดปกติอะไร การเดินทางเขาไปในครั้งนี้ของพวกเราอาจจะเปนการไป
แบบไมยอนกลับ” ชายวัยกลางคนหนาเหลี่ยมเอยอยางเครงขรึม
“จะเปนไปไดอยางไร พวกเรามีสองผูบำเพ็ญเพียรที่ยิ่งใหญอยางทานอาเจ็ดและ
น อ งสาม ต อ ให เขตอาคมนั้ น ทรงพลั ง ขนาดไหน ก็ น า จะไม เป น อุ ป สรรคใดๆ”
นักปราชญคนหนึ่งรูสึกตกตะลึง
“ถามันงายอยางนั้นก็ดี พวกเจาไมลองขบคิดดูวา ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ดีๆ อยาง
ภู เขาคุ น อู เหตุ ใดผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รโบราณถึ งต อ งการผนึ ก มั น เอาไว และเก็ บ สมบั ติ
สะทานฟาเอาไวที่นี่ ไมรูวาในนั้นมีความลับอะไรบาง อันตรายในนั้นจะเปนอยางไรก็
พอจะจินตนาการไดแลว” ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมเอยอยางเครงขรึม
คนอื่นๆ ไดฟง ก็อดที่จะมองสบตากันไมได
“เอาละ นั่นเปนแคการคาดเดาแบบแยที่สุดเทานั้น บางทีภูเขาลูกนี้อาจจะถูก
ผนึ ก ไว เพราะสาเหตุ อื่ น ก็ เป น ได พวกเจ า ไม จ ำเป น ต อ งกั ง วลเกิ น ไปนั ก แต ต อ ง
ระมั ด ระวัง หากมี อ ะไรเกิ ด ขึ้ น จริงๆ ตาเฒ าก็ ค งไม นิ่ งดู ด าย” คนประหลาดกลั บ
หัวเราะหึๆ ออกมาขณะเอย
ตอนนั้น สีหนาของคนอื่นๆ ถึงไดฟนฟูกลับมาเปนปกติ
แตในตอนนั้นเอง ชายวัยกลางคนหนาเหลี่ยมกลับหันหนามา จูๆ ก็เอยกับมาร
โบราณที่อยูดานหลังดวยสีหนาบึ้งตึงวา
“อาวุโสหาน เจาเชี่ยวชาญเรื่องคัมภีรโบราณตางๆ การเขาไปในภูเขาคุนอูครั้งนี้
จะตองชวยไดมากแน เจาวางใจ พวกเราหายุทธภัณฑมารพบสองชิ้นแลว ขอแคผาน
เรื่องนี้ไป ขาก็จะมอบยุทธภัณฑมารใหสหาย”
ตอนที่ 980 แยกกันจัดการ
“ในเมื่อมียุทธภัณฑมารเปนของตอบแทน ขานอยก็จะพยายามอยางเต็มที่”
มารโบราณพยักหนาอยางเรียบๆ
“เยี่ยม สหายกลาวเชนนี้ ทุกคนก็ตามขามาที่กนทะเลสาบเถิด ถึงแมวาที่นั่นจะ
อยูหางไกล แตก็ยังตองระวังอยาไปพบกับผูบำเพ็ญเพียรที่ผานทางมาเขา จะไดไมตอง
ตอความยาวสาวความยืด” ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมเอยจบ ลำแสงวิญญาณก็สวาง
วาบขึ้นบนราง และจมหายเขาไปในทะเล
คนที่เหลือเห็นเชนนั้น ก็ทยอยกันบินลงไป
ชั่วพริบตา หลังจากที่น้ำในทะเลสาบกระเพื่อม ผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้ก็หายลับไป
จากผิวน้ำ เหลือเพียงลมพายุบริสุทธิ์ที่พัดเขามา เงียบสงัดไรสุมเสียง
และตรงกนถ้ำจันทราตะวันที่อยูหางจากทะเลสาบไปหมื่นลี้ หานลี่และพวกกลับ
พบกับปญหาเขาเล็กนอย
ภายใตความคิดที่กำลังเคลื่อนไหวไปมาของหานลี่ ลำแสงสีทองกลุมหนึ่งเบื้อง
หนาก็พุงออกไป กระโจนไปหาภูตผีเขาเดี่ยวตัวหนึ่งที่อยูดานหนาจนแหลกสลายไป
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น เหนือศีรษะและใตฝาเทาเขาก็มีลำแสงสีทองสวาง
วาบ กระบี่บินตวัดฟนภูตผีอีกสองตัวจนกลายเปนสองสวนในคราวเดียว จากนั้นราง
ของภูตผีก็กลายเปนกลุมหมอกสีดำแลวสลายหายไป
หานลี่ถึงมีเวลากวาดสายตาไปมองคนที่เหลือที่อยูขางกาย ชายชราแซฟูและพวก
ตางกำลังควบคุมสมบัติอาคมเชนกัน และกำลังสังหารภูตผีอีกสองสามตัว
ภูตผีพวกนี้มีรูปรางไมใหญนัก รางกายคอนขางเล็ก แตทุกตัวลวนมีเขี้ยวและกรง
เล็บที่แหลมคม ดุรายและไมกลัวความตาย
หานลี่ไมไดเผยสีหนาดีอกดีใจออกมา กลับขมวดคิ้ว
“พี่ฟู พวกเราเดินทางมาไดสองสามวันแลว ถึงตอนนี้ยังไมมีรองรอยของมาทมิฬ
เลย ถึงแมวาภูตผีพวกนี้จะเปนเพียงภูตผีระดับต่ำที่กำเนิดมาจากการรวมตัวกันของไอ
ทมิฬ แมแตสติปญญาก็ยังไมมี แตหากตองสังหารไปเรื่อยๆ เชนนี้ ก็ดูไมเขาทีนะ”
ชายรางใหญแซหยวนยื่นนิ้วออกมา เพลิงสีเขียวสายหนึ่งพุงทะลุผานภูตผีตัวเล็กๆ ไป
ทนไมไหวเอยถามดังที่หานลี่คิดออกมา
“พี่ ห ยวนอย า งเพิ่ ง ร อ นใจไป ถ้ ำ ใต ดิ น แห ง นี้ ก ว า งใหญ ถึ ง เพี ย งนี้ ม า ทมิ ฬ ก็
เชี่ยวชาญในเคล็ดวิชาการอำพรางตัว ไหนเลยจะพบไดงายๆ ถึงแมวาภูตผีเหลานี้จะ
สังหารลงอยางไมมีวันหมด แตพวกเราก็สังหารมันไดโดยไมไดเปลืองแรงอะไร ขอแค
ใชศิลาวิญญาณฟนฟูลมปราณกลับมา ก็เพียงพอจะประคับประคองไปไดนานแลว”
ชายชราแซฟูกลับเอยอยางคาดการณเอาไวอยูแลว
“จะพู ด เช น นั้ น ก็ ได แต ก ารต า นทานพายุ ท มิ ฬ สลายวิ ญ ญาณก็ ต อ งเสี ย พลั ง
ลมปราณไปไมนอย จากพลังยุทธระดับกอกำเนิดขั้นกลางของพวกเรา มากสุดก็คงอยู
ใตดินไดสองเดือน” ไปเหยาอี๋มองสถานการณ รอบๆ แลวกลับถอนหายใจออกมา
เฮือกหนึ่ง
พวกเขาอยูในทางเดินขนาดใหญ สูงประมาณสิบกวาจั้ง กำแพงดินทั้ งสองฝง
เปลงแสงแวววาวออกมา น้ำแข็งเย็นเยียบสีดำกระจายตัวไปทั่ว พายุทมิฬหนาแนน
กวาทางเขามากนัก และโคจรไปมารอบๆ พวกเขาไมห ยุด เปลงเสียงกรีดรองเป น
ระลอกๆ ออกมา ทำใหผูคนไดยินแลวใจเตน ยากที่จะทำใหจิตใจสงบได
แตเมื่อพายุท มิฬ เหลานี้เขามาในอาณาเขตไขมุกของชายชรา ก็ถูกทำให ออ น
กำลังลงไปกวาครึ่งโดยอัตโนมัติ แมจะเปนเชนนั้น แตหานลี่และพวกที่มีลำแสงเจิดจา
รอบกายก็ไมกลาปลอยใหพายุทมิฬที่เหลือสัมผัสรางกายแมแตนอย
และภูตผีเหลานี้ก็ทะลักเขามาจากพายุทมิฬทั้งสี่ดานไมหยุด กระโจนเขามาราว
กับแมลงเมาบินเขากองไฟ
เมื่ อ ลำแสงเหมั น ต ส ว า งวาบ ภู ต ผี น อ ยตนหนึ่ ง ก็ ถู ก มี ด ของไป เหยาอี๋ ท ำให
กลายเป น ประติม ากรรมน้ ำแข็ง และแตกกระจายออก ในที่ สุดภู ตผี รอบๆ ด านก็
หายไปจนเกลี้ยง พวกเขาจึงเก็บสมบั ติอาคมกลับมาขางกายทั น ที แลวบิ นไปตาม
ทางเดินตอ
พายุทมิฬในถ้ำจันทราตะวันเหลานี้ ทำใหจิตสัมผัสไมอาจแผออกไปไดไกลนัก
ผูใดก็ไมกลาขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีเร็วนัก มิเชนนั้น ในระยะเวลาแคไมกี่วันก็คง
ตรวจสอบทางเดินทั้งหมดไดแลว
หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่งมื้ออาหาร พายุทมิฬเบื้องหนาก็รุนแรงขึ้นอีกหลาย
สวน และตรงกลางของพายุก็มีทางเดินตัดกันสามทางปรากฏขึ้น ทางเดินใหญสาย
หนึ่งและเล็กอีกสองปรากฏขึ้นเบื้องหนาของทั้งหาคน
รางกายของพวกเขาหยุดชะงัก
“ทางเขาอีกแลว หากเปนเชนนี้ตอไป มีทางเดินตัดกันอีกสองสามทาง ใชเวลา
สองเดือนคงไมพอใหพวกเราไดคนหาอะไรในถ้ำแน พวกเราตองแบงกลุมกัน” แววตา
ของหานลี่เปลงประกายเย็นเยียบ พรอมเอยปากขึ้น
“แยกกัน? แตไขมุกยมโลกมวงมีแคเม็ดเดียว ไมมีมานไขมุกคอยปกปอง ก็ตองใช
ลมปราณตานทานพายุทมิฬสลายวิญญาณเพิ่มขึ้นเปนเทาตัวทันที เวลาที่พวกเราจะ
อยูในถ้ำไดก็จะสั้นลง” ชายรางใหญแซหยวนเหลือบตามองไขมุกในมือของชายชรา
แวบหนึ่ง แลวสายศีรษะ
“ถ า หากหมายถึ ง ไข มุ ก ยมโลกม ว งละก็ ตาเฒ า สามารถเสี ย โลหิ ต บริ สุ ท ธิ์
ประคับประคองลำแสงเทวาใหเหลาสหายไดระยะหนึ่ง แตไมนานนัก ขอแคพายุทมิฬ
สลายวิญญาณไมรุนแรงขึ้น ก็นาจะประคองไปไดประมาณเจ็ดแปดวัน” ชายชราแซฟู
เอยพรอมกับหนาเปลี่ยนสี
“เจ็ดแปดวัน นาจะพอใหพวกเราตรวจสอบทางเดินที่ตัดผานรอบหนึ่งแลว แต
กอนที่ลำแสงเทวาไขมุกยมโลกสีมวงจะหมดลง จะตองมั่นใจวาจะตามหาสหายพบ
กอนเวลานั้น ดังนั้นพวกเราจำเปนตองทำสัญลักษณกันเอาไว เชนนั้นถึงจะหากันและ
กันพบ” หานลี่ดูเหมือนวาจะขบคิดเรื่องนี้มากอนแลว
“ถึงแมวาจะไมอาจเปนไปได แตหากพบกับภูตผีระดับสูงที่ไมอาจตอกรคนเดียว
ไดละ จะทำอยางไร?” ไปเหยาอี๋กลับขมวดคิ้วดำขลับนอยๆ ขณะเอย
“หึ! ถาหากแมแตผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางอยางพวกเรายังไมอาจ
ตอกรกับภูตผีนั้นได อยางนอยที่สุดก็ตองอยูในระดับราชันภูตผีแลว ที่นี่ไมใชแดน
ยมโลกที่แทจริง แคอาศัยไอทมิฬเหลานี้จะไปมีภูตผีระดับนั้นไดอยางไร มากสุดใน
สวนลึกของถ้ำก็คงมีภูตผีที่รายกาจสองสามตัวเทานั้น วากันวามีระดับเทียบเทากับ
ราชันภูตของผูบำเพ็ญเพียร และเปนเพียงคำเลาลือซี้ซั้วของคนอื่นเทานั้น มีใครเห็น
พบจริงๆ กันละ อันตรายในจุดนี้ ก็ยังคุมที่จะลองเสี่ยง มิเชนนั้นหากสูญเสียลมปราณ
ไปจนหมด ชวงเวลาที่พายุทมิฬออนแอใกลจะจบลง พวกเราจะเขามาที่นี่อีกก็ยาก
แสนยากแลว” ในฐานะที่ชายรางใหญ แซหยวนเปนผูบำเพ็ญ เพียรของหนานเจียง
แนนอนวาจึงรูจักสถานการณของถ้ำจันทราตะวันนี้ดีที่สุด
ชายชราแซฟูและสาวงามชุดดำฟงมาถึงตรงนี้ ก็อดที่จะมองสบตากันแวบหนึ่ง
ไมได ทั้งสองคนตางเผยสีหนาครุนคิดออกมา
ตอนแรกเพื่อความปลอดภัย พวกเขาจึงไมเคยคิดจะแยกกันมากอน แตถ้ำจันทรา
ทมิฬกวางใหญถึงเพียงนี้ ทางเดินและถ้ำตางๆ ก็มีอยูมากมายเกินกวาที่คาดการณ
เอาไวในตอนแรก ถาหากไมแยกกันละก็ อาจจะไมไดอะไรกลับไปเลย
ไปเหยาอี๋ดูเหมือนวาจะถูกชักจูงแลว พลันขบคิดเล็กนอย และไมไดเอยแยงอะไรอีก
“เอาละ ตามที่เหลาสหายวาก็แลวกัน แตโปรดระวัง อยาอยูหางจากตาเฒาเกิน
ระยะทางสามวัน มิเชนนั้นอาจจะตามหาตาเฒาใหประคองลำแสงเทวานี้ไวไมทัน” ใน
ที่สุดชายชราแซฟูก็ตัดสินใจ และออกคำสั่งอยางรอบคอบ
“วางใจ ถ้ำใตดินนี้จะตองมีทางเดินหลักแน สวนทางเดินที่ตัดกันคิดดูแลวนาจะ
ไมยาวมากนัก ในเวลาสามวันก็นาจะเพียงพอใหพวกเราคนหาจนหมดแลว” หานลี่
มองทางเดินขนาดใหญตรงกลาง พลางเอยอยางสบายๆ
เมื่อไดฟงหานลี่เอยเชนนี้ ชายชราก็อาปากออกอยางไมลังเลอีก พนโลหิตบริสุทธิ์
ใสไขมุกยมโลกมวง
ไขมุกเม็ดนี้พลันเปลงแสงสวางจาออกมา!
ชายชรารายอาคมออกไปอยางตอเนื่อง จากนั้นมือหนึ่งก็ควาไปที่กลางอากาศ
ตะปบไขมุกเม็ดนั้นเอาไว
ชั่วขณะนั้นดวงแสงสีมวงที่แสบตากลุมหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนไขมุก และคอยๆ บิน
กลับมาที่มือของชายชรา
ชายชราใชมือหนึ่งถือดวงแสงสีมวงเอาไว สายตากวาดไปที่เรือนรางของคนที่เหลืออีก
สี่คน ทันใดนั้นก็ตบไปที่รางกายเยายวนของสตรีผูงดงามที่สวมชุดสีดำดานขาง
ดวงแสงสีมวงพลันสวางวาบ ชั่วพริบตาก็หายเขาไปในรางของสตรีผูงดงามอยาง
ไรรองรอย ตอมามานแสงสีมวงก็ปรากฏขึ้นชั้นหนึ่ง หอหุมเรือนรางของสตรีผูงดงาม
เอาไว เหมือนกับมานแสงของไขมุกยมโลกมวงอยางไรอยางนั้น
ชายร างใหญ แ ละพวกเห็ น ว าเคล็ ด วิ ช าลั บ มี ป ระโยชน ดั ง คาดก็ รู สึ ก วางใจลง
จากนั้นก็ปลอยใหชายชราแซฟูทำเชนเดิมอีกครั้ง
ทันใดนั้นหลังจากที่ทำสัญลักษณไวบนลมปราณของกันและกันแลว จากนั้นพวก
เขาก็แบงออกเปนสามกลุม แยกกันไปตามทางเดินทั้งสาม
แนนอนวาชายชราแซฟูจับคูกับศิษยนองหญิงของเขา และตรงเขาไปยังทางเดิน
ตรงกลางที่ใหญที่สุด ชายรางใหญและหานลี่แยกออกไปตามทางเดินที่อยูดานซาย
และขวา
หลังจากที่ไปเหยาอี๋ลังเลเล็กนอยแลว กลับตามหานลี่เขามาในทางเดินเดียวกัน
หลังจากที่หานลี่สัมผัสไดวาสตรีที่สวมชุดชาววังออกมาจากทางดานหลัง ก็ลังเล
เล็กนอย และลดระดับความเร็วลง รอใหสตรีผูนี้บินมาอยูดานหนา แลวทั้งสองก็บิน
ตรงไปดานหนาพรอมๆ กัน
“พี่ ห านรูสึกไหมวา ถ้ำจัน ทราตะวัน นี้ ไม สอดคล องกั บ ชื่อ เลย! กลาววาหากผู
บำเพ็ญเพียรเขามาจะถูกดวงตะวันและจันทราทำใหแยกออกจากกัน ดูเหมือนวาจะ
อันตรายอยางสุดๆ แตหลังจากที่พวกเราเขามาในถ้ำแลว นอกจากพบปญหาจากพายุ
ทมิฬสลายวิญญาณแลว ก็ไมไดพบอะไรที่ยุงยากอีก หรือวาชื่อเสียงที่วาเปนทางตันนี้
เปนเพียงขาวลือ?” เมื่อไปเหยาอี๋ตามหานลี่ทัน จูๆ ก็เอยถามขึ้น
หานลี่ไดยินคำนี้ก็พลันตกตะลึง แตกลับยิ้มบางๆ พลางตอบวา
“ถึงแมวาขาจะรูจักที่นี่ไมมากนัก แตชื่อเสียงของเจ็ดทางตันในตาจิ้นนั้นเปนของ
จริง สหายไปอยาลืมละ พายุทมิฬสลายวิญญาณนี้ทรงพลังขนาดไหน ถาหากผูบำเพ็ญ
เพียรระดับต่ำกวาระดับกอกำเนิดเขามา ถึงแมวาจะมีสมบัติอาคมประจำกายปกปอง
อยู ก็คงถูกพายุทมิฬเปาพัดจนรางฉีกขาดไปตั้งแตทางเขาแลว และก็เพราะวาพวกเรา
มี ไ ข มุ ก ยมโลกม ว งปกป อ งร า งกาย บวกกั บ พลั ง ยุ ท ธ ที่ สู ง ส ง กว า ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
ธรรมดาๆ ถึงไดปลอดภัยจนมาถึงตอนนี้ สิ่งที่พบก็เปนเพียงภูตระดับต่ำที่สุด ถาหาก
เขาไปลึกกวานี้ละก็ ไอทมิฬก็จะยิ่งหนาแนนขึ้น และก็นาจะพบภูตผีที่รายกาจขึ้น
เชนกัน”
“พี่หานกลาวมีเหตุผล แตขารอนใจเล็กนอย เอ ภูตผีทมิฬเหลานั้นมาอีกแลว!”
ไปเหยาอี๋เพิ่งจะเอยกับหานลี่ไมกี่ประโยค จูๆ พายุทมิฬที่อยูรอบๆ ก็สงภูตผีมา
เจ็ดแปดตน กระโจนเขามาหาทั้งสองอยางดุดัน
ลำแสงเหมันตและลำแสงสีทองสวางวาบ ชั่วพริบตาภูตผีเหลานี้ก็ถูกสังหารจนเกลี้ยง
เปนเชนนั้น กลุมของทั้งสองก็คอยๆ ออกคนหาไปเรื่อยๆ ผานไปคอนวัน ก็ยัง
ไมไดอะไรเลย
เมื่อทั้งสองออกมาจากถ้ำมือเปลาอีกครั้ง จูๆ พายุทมิฬก็พัดเอาเสียงกรีดรอง
แหลมสูงมา มันแหลมสูงจนเสียดแกวหู เต็มไปดวยความโกรธแคน
“นี่คืออะไร?” ไปเหยาอี๋ตกตะลึง
“ดูเหมือนวาจะเปนเสียงของซากหลอม ดูแลวนาจะเจอกับภูตระดับสูงเขาแลว”
แววตาของหานลี่เปลงประกายพลางเอยอยางราบเรียบ
“ซากหลอม? บั ง เอิ ญ ขนาดนั้ น เชี ย วหรื อ !” สตรี ที่ ส วมชุ ด ชาววั ง ขมวดคิ้ ว
ประหลาดใจเล็กนอย
แนนอนวาทั้งสองคงไมหวาดกลัวเสียงที่ไดยินเลยสักนิด ทั้งยังคงกาวไปขางหนา
ผลลั พ ธคื อ หลังจากที่ หั ก เลี้ ยวครั้งหนึ่ ง จู ๆ ก็ พ บถ้ ำสู งสองสามจั้ งอยู ด านข าง
ทางเดิน ดานในมีเสียงพายุทมิฬพัดผานไมหยุด รุนแรงมากกวาพายุทมิฬในทางเดิน
และเสียงกรีดรองของภูตผีก็ดังออกมาจากถ้ำแหงนี้
“เอ! นี่คืออะไร?” ไปเหยาอี๋เหลือบไปเห็นสิ่งของที่ปกอยูตรงดานขางทางเขาถ้ำ
แตมันกลับถูกน้ำแข็งผนึกเอาไว ทั้งยังเปลงแสงแวววาวสวางวาบ
ไปเหยาอี๋ชูมือขึ้น ลูกไฟขนาดเทากำปนสองสามลูกพุงออกมา โจมตีไปยังของสิ่งนั้น
ชั่วขณะนั้นหลังจากเสียงตูมดังขึ้น เปลวเพลิงสีแดงสดก็สัมผัสเขากับน้ำแข็งที่เย็น
เยียบในพริบตา เผยใหเห็นโฉมหนาที่แทจริงของสิ่งนั้นออกมา
คาดไมถึงวาจะเปนกระบี่บินสีฟาเลมหนึ่ง ตัวกระบี่จมอยูในกำแพง โผลออกมา
ดานนอกเพียงเล็กนอย
แตในชั่วพริบตาที่น้ำแข็งละลายนั้น จูๆ กระบี่บินก็เปลงแสงวิญญาณที่ออนแรง
ออกมาราวกั บ กำลั งจะตาย หลั งจากเปล งเสี ย งรอ งใสๆ ออกมา ด ามกระบี่ ก็ เริ่ม
สั่นคลอนไมหยุด ราวกับอสรพิษวิญญาณที่กำลังจะหนีออกมาจากกำแพงน้ำแข็ง
ใบหนาของไปเหยาอี๋เผยสีหนาตกตะลึงออกมา สะบัดแขนเสื้อ เชือกสีแดงสดเสน
หนึ่งพุงออกมาจากแขนเสื้อ ลำแสงสีแดงสวางวาบ ชั่วครูก็รัดกระบี่เอาไว
เพียงขยับเบาๆ เล็กนอย ชัว่ ขณะนั้นก็ดึงกระบี่ออกมาจากกำแพงน้ำแข็ง มวนวน
เขามาอยูในมือเรียว
ตอนที่ 981 วานรสามานย
ไปเหยาอี๋กลอกตาไปมา มือหนึ่งที่ ถือกระบี่ อยูตวัดสับลงไปกลางอากาศ แสง
กระบี่ยาวสองสามฉื่อพลันปรากฏขึ้น ตกกระทบลงบนกำแพงน้ำแข็งอยางแรง และ
ทิ้งรอยลึกเอาไว
หานลี่เห็นเชนนั้น ก็หนาเปลี่ยนสี
“ผานมาหลายปขนาดนี้ ไอวิญญาณบนกระบี่บินเลมนี้ยังไมหมดไป เห็นไดชัดวา
เจาของของมันเสียเวลาไปมากกับการหลอมกระบี่บินเลมนี้ขึ้นมา และดูจากอานุภาพ
ของมันแลว เจาของกระบี่เลมนี้นาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมขั้นปลาย แต
มันแปลกไปหนอย ผูบำเพ็ญเพียรระดับนี้ไมนาจะเขามาถึงที่นี่ได”
หลังจากที่ไปเหยาอี๋พลิกกระบี่เลมนี้ไปมาสองสามครั้งแลว ก็ไมพบลักษณะพิเศษ
อะไร ใบหนาจึงเผยแววความสงสัยออกมาหลายสวน
“ใหผูแซหานดูหนอยไดหรือไม?” หานลี่เอยปาก
“สหายจะตองมีมารยาทขนาดนั้นทำไม เอาไปเถิด” ไปเหยาอี๋ฉีกยิ้มเบิกบาน
พลันดีดนิ้ว กระบี่บินในมือบินมาหาหานลี่
หานลี่ใชมือหนึ่งควาเอาไว ดูดกระบี่บินเขามาในมือ จากนั้นก็กมหนาลงพินิจมอง
อยางละเอียด
หลังจากผานไปชั่วครู เขาก็ขมวดคิ้วอยางไมใสใจ
“ทำไม พี่หานมองอะไรออกหรือ?” ไปเหยาอี๋เอยถามดวยความอยากรูอยากเห็น
“กระบี่ เลม นี้ สรางจากผลึกปราณสี ฟ าทั้ งเลม แต กระบี่ บิ น ที่ ใชวัตถุ ดิบ ชนิ ดนี้
หลอมขึ้นทั้งเลมนั้น ไมใชการกระทำที่ชาญฉลาด ถาหากผสมวัตถุดิบอื่นๆ สักสอง
สามชนิดเขาไปชวยเสริม คุณภาพของตัวกระบี่บินก็จะเพิ่มขึ้นอีกขั้น แตวิธีการหลอม
กระบี่บินชนิดนี้กลับเปนที่นิยมเมื่อหมื่นปกอน ทักษะการผสมวัตถุดิบอื่นเขาไปกับ
การหลอมเพิ่งจะคิดคนไดในภายหลัง และดูจากอักขระที่สลักอยูบนกระบี่เลมนี้แลว
คงจะมี อ ายุ ค อ นข างนานมากแล ว ชี้ ให เห็ น ว าถึ งแม เจ าของกระบี่ เล ม นี้ จ ะไม ใช ผู
บำเพ็ญเพียรโบราณ แตก็นาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรเมื่อหลายหมื่นปกอน” หานลี่เอย
อยางเยือกเย็น
“พี่หานมีทักษะในดานการหลอมยุทธภัณฑสูงสงถึงเพียงนี้ ชางทำใหขาตกตะลึง
จริงๆ!” ไปเหยาอี๋เอยอยางประหลาดใจเล็กๆ
“ไมเทาไหรหรอก ขานอยแคโชคดีเคยเห็นกระบี่ประเภทนี้ในสมุดภาพเทานั้น
พวกเราเขาไปดูในถ้ำกันเถิด ไมแนวาอาจจะไดประโยชนอะไรก็ได” หานลี่หันไปมอง
ในถ้ำ แลวเอยอยางไมใสใจ
“เยี่ยม เชิญสหาย!” ไปเหยาอี๋ขบคิดเล็กนอยแลวพยักหนา ชูมือขึ้นปลอยรมหยก
สีขาวโพลนเลมหนึ่งออกมา จากนั้นรางกายเยายวนก็พลิ้วไหว ยางกรายเขาไปในถ้ำ
กอน
หานลี่ หั ว เราะน อ ยๆ ออกมา ชู ไ ปยั ง กระบี่ บิ น สองสามเล ม ที่ อ ยู เหนื อ หั ว
กลายเปนเกราะปองกันลำแสงสีทองหอหุมรางกายของเขาเอาไว แลวถึงเดินเขาไป
ดวยสีหนาราบเรียบ
ภายในถ้ำนั้นมืดสนิท ไดยินแตเพียงเสียงลมและเสียงกรีดรองแววมาเทานั้น ภูตผี
ที่อยูดานในดูเหมือนวาจะพบการมาเยือนของทั้งสองคน พวกมันจึงยิ่งดุรายมากขึ้น
แตฟงจากน้ำเสียงแลว กลับอยูไมคอยไกลนัก
“ดูแลวที่นี่คงไมใหญนัก รับมือไดงายหนอย”
หานลี่เอยพึมพำ ชูมือขึ้น ศิลาแสงจันทรเปลงแสงสีขาวสวางวาบเหนือศีรษะของ
ทั้งสองคน จากนั้นเขาก็รายอาคมสายหนึ่งออกไปโจมตี
ชั่วขณะนั้นศิลาแสงจันทรพลันเปลงแสงเจิดจา ทำใหมองเห็นทุกอยางไดอยางชัดเจน
แตเปนเพราะมีหมอกทมิฬสีดำสนิทขวางกั้นอยู ในจุดที่อยูคอนขางไกลก็ยังคง
รางเลือน
หลังจากเดินตามทางเดินของถ้ำไปหาสิบหกสิบจั้ง ทันใดนั้นลำแสงพลันสวางวาบ
เบื้ องหนาไมไกลหนักมีท างเขาแห งหนึ่ งปรากฏขึ้น มี ลำแสงสีเขียวจางๆ สาดแสง
ออกมา
หานลี่และไปเหยาอี๋มองสบตากันแวบหนึ่งดวยความตะลึงงัน
ถ้ำทั้ งหมดดานหน าของพวกเขาที่ เคยตรวจสอบต างเย็ น เยี ยบและมื ดมนเป น
พิเศษ ลำแสงสักนิดก็ไมมี และยิ่งไปกวานั้นยังเหมือนกันหมด ลวนเปนถ้ำเหมืองแรที่
ถูกทิ้ง ไมมีคาอะไรแมแตนอย
ทวาจากพลังยุทธของหานลี่ ถึงแมวาในใจจะมีความระมัดระวังเพิ่มขึ้นอีกสอง
สวน แตก็ไมไดหวาดกลัว
หลังจากที่นำรมหยกมาตานทานอยูเบื้องหนา รางของไป เหยาอี๋ก็พ ลิ้วไหวมา
ปรากฏตัวอยูตรงทางเขา มองเขาไปดานในแวบหนึ่ง สตรีผูนี้หนาซีดเผือดในทันที
หานลี่มาปรากฏตัวดานขางของสตรีผูนั้น หลังจากกวาดสายตามองไป ก็หนา
เปลี่ยนสีไปเล็กนอยเชนกัน
นี่คือถ้ำหินยอยที่มีเสนผาศูนยกลางสามสิบกวาจั้ง เพดานถ้ำและกำแพงทั้ งสี่
เปลงแสงสีเขียวออนออกมา และตรงใจกลางมีเสาศิลาสูงสองสามจั้งตั้งตระหงานอยู
เสาหนึ่ง
เสาศิลานี้ไมสะดุดเลยแมแตนอย มันหยาบและเรียบงาย แตดานบนมีซากศพที่
แหงกรังถูกผูกเอาไวบนนั้นแนน
ซากศพแหงนี้มีเรือนผมสีดอกเลา รางกายเปลือยเปลาเปนสีดำสนิท ใบหนากม
ต่ำลงทำใหมองเห็นใบหนาไมชัดเจน แตหนาอกกลับถูกคนใชมีดที่แหลมคมผาออก
ตับไตใสพุงกองออกมาอยูดานนอก
สถานการณที่แปลกประหลาดเชนนี้ ไมตองพูดถึงไปเหยาอี๋ ถึงแมวาจะเปนหานลี่
ที่ไมไดเตรียมใจ ก็ยังอดที่จะรูสึกสยองไมได
หานลี่เมมริมฝปาก ตอนที่กำลังคิดจะเอยปากนั้น กระบี่บินสีฟาเลมนั้นที่อยูในมือ
ก็เปลงเสียงรองคำรามยาวๆ ออกมาไมหยุด จากนั้นพลันสั่นคลอนอยางรุนแรง
หานลี่ใจเตน โยนกระบี่บินเลมนั้นขึ้นไปกลางอากาศอยางไมตองคิด
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีฟาสายหนึ่งพลันพุงตรงไปยังเสาศิลา แตเมื่อเขาไปใกลเสา
ศิลากระบี่เลมเล็กที่แตเดิมมีขนาดครึ่งฉื่อ ก็หมุนวนเริงระบำอยูรอบๆ ซากศพแหง
รอบหนึ่ง และเปลงเสียงรองคำรามอยางเศราโศกออกมา
“ซากศพแหงนี้คือเจาของกระบี่บินเลมนี้หรือ? ดูแลวไมใชแคแกนจิตวิญญาณสี
ทองที่ถูกคนขโมยไป คาดไมถึงวาแมแตชีวิตนอยๆ ก็ไมอาจรักษาได” ไปเหยาอี๋ถอน
หายใจยาวๆ ออกมา ใบหนาเผยสีหนาทนไมไดออกมา
“เขาไมไดตายแบบธรรมดาๆ แตถูกสังเวยดวยเคล็ดวิชาทมิฬ!” หานลี่กลับเอย
ขึ้นอยางเย็นชา
“สังเวย?” ไปเหยาอี๋พลันตกตะลึง ถึงไดสนใจเขตอาคมขนาดสิบกวาจั้งที่เลือน
รางบนพื้นถ้ำ แตแคเวลามันผานมาคอนขางเนิ่นนานแลว กวาครึ่งจึงถูกฝุนสีเทาปก
คลุมเอาไว จึงทำใหนางไมทันมองเห็น
“สวนเปนเขตอาคมสังเวยชนิดใดนั้น ตองฟนฟูเขตอาคมกอนถึงจะบอกได” หานลี่
พยักหนาอยางราบเรียบ
“นั่นมันงายมาก เรื่องนี้มอบใหขาเถิด” ไปเหยาอี๋หัวเราะนอยๆ ออกมา อาปากออก
พนประติมากรรมน้ำแข็งที่ดูเหมือนพัดเลมเล็กๆ ออกมา จากนั้นลำแสงเหมันตพลัน
สวางวาบ ชั่วพริบตาตัวพัดพลันขนายขนาดขึ้นสองสามฉื่อ และตรงไปยังพื้นของถ้ำ
พายุสีเหลืองเขมกลุมหนึ่งหมุนวนออกมาจากพัด ชั่วครูก็ปดเอาเศษฝุนดินบนพื้น
ออกไป
เวลานั้นทั้งถ้ำพลันเปลี่ยนเปนขมุกขมัว คนยื่นมือออกไปก็มองไมเห็นนิ้วทั้งหา
แตบนรางของหานลี่และไปเหยาอี๋มีมานแสงเทวาของยมโลกมวงอยู บวกกับ
ลำแสงวิญญาณที่ปกปองราง แนนอนวาจึงทำเปนมองไมเห็นพายุฝุนพวกนี้
ทั้งสองคนแคมองไปที่เขตอาคมบนพื้น ดูเหมือนวาจะไมสนใจสิ่งอื่น
ในตอนนั้นเอง ดานหลังของพวกเขาหางออกไปสิบกวาจั้ง มีลำแสงลึกลับสวาง
วาบขึ้นเหนือพื้นดิน วัตถุสีดำสนิทชิ้นหนึ่งผุดขึ้นมาจากพื้นอยางเงียบเชียบ หมอบอยู
ที่เดิมไมขยับเขยื้อน
หานลี่และพวกทั้งสองยังคงไมไดหันกลับมา ทาทางเหมือนยังไมรู
เงาสีดำเห็นเชนนั้น ดวงตาที่แดงก่ำทั้งสองก็ฉายแววโหดเหี้ยม หลังจากที่รางกาย
พลิ้ ว ไหว ก็ พุ งเข ามาราวกั บ ลู ก ธนู ระหว างทางพลั น เอี ย งศี ร ษะ เสี ย งพรึ่ บ ดั ง ขึ้ น
ลำแสงสีดำสายหนึ่งสวางวาบและพนเขาใสไปเหยาอี๋
คาดไมถึงวาเงารางสีดำคิดจะลอบโจมตีหานลี่และไปเหยาอี๋ทั้งสองคนพรอมกัน
ในชั่วพริบตานั้นเอง หานลี่กลับปรบมือ มือลำแสงสีเขียวขางหนึ่งปรากฏขึ้นกลาง
อากาศในถ้ำ และตะปบลงไปดานลางอยางรุนแรง คาดไมถึงวาจะควาเอวของเงาสีดำ
เอาไวอยางแมนยำ
สวนลำแสงสีดำที่พุงเขาใสสตรีสวมชุดชาววังนั้น กลับถูกการเคลื่อนไหวของรมใน
มือเรียวที่ปรากฏขึ้นดานหลังตอนไหนก็ไมรูสะบัดออกไปเบาๆ เมื่อสัมผัสกัน ผิวของ
รมพลันเปลงแสงสีขาวสวางวาบ ชั่วขณะนั้นลำแสงสีดำพลันถูกดีดออกไปอยางไรผล
ชั่วครูก็จมหายเขาไปในกำแพงหิ น ดานหนึ่ งอยางไรรอ งรอง เหลือ เอาไวเพี ย งรูลึก
ประมาณสองสามชุน
ตอนนั้นไปเหยาอี๋ถึงไดมองไปทางเงาสีดำที่อยูในมือลำแสงดวยรอยยิ้ม คาดไมถึง
วาจะเปนอสรพิษประหลาดตัวหนึ่งที่มีใบหนาเหมือนวานรและลำตัวมีแขนยาวคูหนึ่ง
งอกออกมา ตัวประหลาดตัวนี้มีเกล็ดสีดำสนิททั่วเรือนราง ยาวประมาณสามสี่จ้ัง มือ
ทั้งสองถือหอกกระดูกยาวสองสามฉื่อเอาไว ดูแหลมคมมาก ถึงแมวาตัวประหลาดนี้
จะถูกมือลำแสงควาเอาไว แตกลับยังคงพยายามดีดดิ้นดวยความโหดเหี้ยม ดวงตาสี
แดงโลหิตคูนั้นจองเขม็งมายังทั้งสองดวยความโกรธแคน ราวกับวาเปนศัตรูคูแคนกับ
ทั้งสองอยางไรอยางนั้น
“วานรสามานย ? ยั ง มี ภู ต ผี ช นิ ด นี้ อ ยู อี ก หรื อ ?” ไป เหยาอี๋ เห็ น รู ป ร า งของตั ว
ประหลาดตัวนี้ พลันตกใจ
“อืม ไดยินวาภูตผีชนิดนี้เกิดจากความโกรธแคนของมนุษยในที่ที่มีความชั่วราย
หนาแนน นิสัยดุรายโหดเหี้ยม ชอบกินมันสมองของมนุษย และยิ่งไปกวานั้นยังชอบ
เลียนแบบเสียงตางๆ ของเหลาภูตผี ดูแลวเสียงรองของซากหลอมคงเกิดจากการ
เลียนแบบของภูตผีตนนั้น จุๆ กอนหนานี้ขาแคเคยเห็นภาพมาจากในตำราเทานั้น นี่ก็
เปนครั้งแรกที่ไดพบภูตผีชนิดนี้ ทวาภูตผีชนิดนี้ก็ไมไดถือวารายกาจนัก ฝมือแคนี้ยัง
กลามาลอบโจมตีพวกเรา ชางรนหาที่ตายจริงๆ” หานลี่จองเขม็งไปยังภูตผีตนนั้นสอง
สามครั้ง ปากก็เอยอยางไมใสใจ
“หึ ปศาจชั่วรายเชนนี้เก็บไวทำไม สังหารไปนะดีแลว” ไปเหยาอี๋กลับรังเกียจ
ภูตผีวานรสามานยตัวนี้เปนอยางมาก ใบหนางดงามเปลี่ยนเปนเย็นชา ยื่นนิ้วชี้ไปที่
มัน ชั่วขณะนั้นลำแสงเหมันตสายหนึ่งพลันบินออกมา หลังจากลอมรอบภูตผีตนนั้น
เอาไว มันก็พลันกลายเปนประติมากรรมน้ำแข็ง
หานลี่ฉีกยิ้มเบิกบาน ไมไดกลาวอะไร แตภายใตความคิดที่เคลื่อนไหว จูๆ มือ
ลำแสงสีเขียวก็ออกแรงที่นิ้วทั้งหา ชั่วขณะนั้นปะติมากรรมน้ำแข็งพลันแตกออกเปน
เสี่ยงๆ กลายเปนกองเศษน้ำแข็งที่ตกอยูบนพื้น
เวลานี้บ นพื้ นถ้ำเต็มไปดวยฝุนละอองสีเหลือง เขตอาคมทรงกลมเผยออกมา
ทั้งหมด
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง เดินเขาไปในเขตอาคมอยางไมรีบรอน สวนไปเหยาอี๋
กลับดูเหมือนวาจะไมคอยสนใจสิ่งนี้เทาไหรนัก ดวงตาสดใสกลอกไปมารอบๆ ไมหยุด
ดูเหมือนวากำลังตามหาอะไรสักอยางอยู
“เขตอาคมนี้คือเขตอาคมหลอมวิญญาณชนิดหนึ่ง ทั้งยังเปนชนิดที่โบราณเอา
มากๆ และยิ่งไปกวานั้น…” หลังจากผานไปชั่วครู ในที่สุดหานลี่ก็เอยปากพลางขบคิด
“ยิ่งไปกวานั้นคืออะไร?” ไปเหยาอี๋เลื่อนสายตาไปที่เขตอาคม และเอยถามดวย
ความสงสัย
“และยิ่งไปกวานั้นเขตอาคมนี้ยังจารึกชวงเวลาเอาไว ดูเหมือนจะมีมายาวนาน
กวาซากศพแหงอยางมาก นาจะถูกสรางขึ้นในสมัยโบราณ” หานลี่เอยอยางมั่นใจ
“มีเรื่องเชนนี้ดวยหรือ พี่หานวินิจฉัยไดอยางไร?” ไปเหยาอี๋จองเขม็งไปยังหานลี่
ดวยความตกใจ
“นี่เดาจากประสบการณ ของขานอยเทานั้น บางทีผูแซหานอาจจะเดาผิดไป”
ครั้งนี้หานลี่กลับหัวเราะฮาๆ ออกมา พลางเอยรับมือไปอยางลวกๆ
ไปเหยาอี๋พลันตกตะลึง จากนั้นพลันปดปากหัวเราะเบาๆ ออกมา แตไมไดเอย
ซักถามตอ
“ไมวาเขตอาคมหรือซากศพแหงมีอะไรผิดปกติ ก็ไมเกี่ยวอะไรกับพวกเรา ที่นี่ไม
มีของสิ่งอื่นแลว พวกเราออกไปกันเถิด!” สตรีผูนั้นเอยชักจูง จากนั้นพลันชูมือหนึ่งขึ้น
ควากระบี่บินสีฟาเลมนั้นเอาไวในมืออีกครั้ง แลวเก็บใสยามเก็บของ
“อืม นั่นก็มีเหตุผล” หานลี่พยักหนาเห็นดวย
ทันใดนั้นทั้งสองก็ตรงไปที่ทางออก
ตอนที่ เข า ใกล ท างเข า หานลี่ ก ลั บ รู สึ ก ผิ ด ปกติ ขึ้ น มาอย า งบอกไม ถู ก ฝ เท า
หยุดชะงักลง และหันกายกลับไปเหลือบมองซากศพแหงนั้นแวบหนึ่ง
“ทำไม มีอะไรผิดปกติหรือ?” ไปเหยาอี๋รูสึกประหลาดใจขึ้นมา
หานลี่ไมไดตอบกลับสตรีผูน้ีในทันที หลังจากที่แววตาสวางวาบสองสามครั้ง จูๆ
ก็ชูมือหนึ่งขึ้น นิ้วหนึ่งขยับเล็กนอย
เสียงฟารองที่ทุมต่ำดังขึ้น ปลายนิ้วมีลำแสงสีทองสวางวาบ ประจุไฟฟาสีทอง
บางๆ สายหนึ่งดีดออกมา โจมตีไปยังซากศพแหงบนเสาหินที่อยูไกลออกไป
ตอนที่ 982 มารทั้งหา
ทามกลางสายตาที่ตกตะลึงของไปเหยาอี๋ ประจุไฟฟาสีทองพลันระเบิดขึ้นบนราง
ของซากศพแหง
ซากศพนี้ไมรูวากลายเปนซากศพมากี่ปแลว ชั่วพริบตาที่ระเบิดออกทามกลาง
ลำแสงสีทอง ก็กลายเปนเถาธุลีสีขาวกองหนึ่ง
“ไปกันเถิด ดูแลวขาคงคิดมากไป” หานลี่ขมวดคิ้วเงียบกริบอยูชั่วครู แลวถึงได
เอยอยางราบเรียบ จากนั้นเขาพลันสาวเทายาวๆ ออกจากที่นั่น
ไปเหยาอี๋สั่นศีรษะพรอมกับหัวเราะนอยๆ ออกมา และตามไปอยางไมไดใสใจ
หลังจากนั้นไมนาน ทั้งสองคนก็มาปรากฏตัวที่ทางเดินอีกครั้ง พลางบินไปเบื้อง
หนาตอ
เมื่อเงารางของทั้งสองอยูหางออกไป ลำแสงสีมวงสุดทายถูกพายุทมิฬกลืนกิน ใต
เสาหินภายในถ้ำ จูๆ ก็มีเงารางสีดำของมนุษยคนหนึ่งผุดขึ้นมาจากพื้นดิน
เงารางสีดำนี้เปนสีดำสนิท หนาตาคลุมเครือ ราวกับวาเปนเงาทมิฬบริสุทธิ์ มี
เพี ย งดวงตาสองข า ง ที่ เปล ง แสงสี เขี ย วประหลาดๆ ออกมา มั น มองไปยั ง วานร
สามานยที่กลายเปนเศษน้ำแข็งที่ทางเขา แลวกมหนาลงมองกองเถาถานของเสาหิน
เบื้องหนา รางกายพลันกระโจนขึ้นมาบนพื้น
ภาพฉากที่แปลกประหลาดจึงปรากฏขึ้น!
หลังจากที่เงาสีดำหมุนติ้วๆ กองเถาถานก็บินไปทางเงาสีดำแลวทาบทับอยูบนตัว
ของมันทันที
จากนั้นเงารางสีดำก็เปลงเสียงคำรามทุมต่ำออกมา ไอมารสีดำบนรางสวางจา
หอหุมรางทั้งหมดของมันเอาไว
ชั่วครู เมื่อไอมารหมุนติ้วๆ ซากศพแหงที่เหมือนกับกอนหนาทุกระเบียบนิ้วก็เดิน
ออกมาจากดานใน
ครั้งนี้ ซากศพแหงไมไดมีทาทีไรพลังชีวิตเหมือนสิ่งที่ตายไปแลวอีก แตหลังจากที่
ขยับ ศีรษะ จูๆ ก็อาปากออกที่ ตรงประตู ท างเขา พ น พายุท มิ ฬ สี ดำสนิ ท กลุ ม หนึ่ ง
ออกมา ดูดเอาซากของเศษน้ำแข็งวานรสามานยเขามา
ทามกลางพายุสีดำ น้ำแข็งเย็นเยียบละลายหายไปอยางรวดเร็ว
เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น วานรสามานยสมบูรณแบบตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากพายุ
มันเงยหนาพรอมกับแยกเขี้ยวยิงฟนสองสามครั้ง กระโดดขึ้นๆ ลงๆ มาอยูใตราง
ของซากศพแหงทันที จากนั้นก็ไตขึ้นมาบนขาของซากศพแหง ไมขยับเขยื้อนราวกับ
สัตวเลี้ยงอยางไรอยางนั้น
ซากศพแหงยื่นกรงเล็บสีดำสนิทขางหนึ่งออกมา จากนั้นพลันกดลงไปบนศีรษะ
ของวานรสามานยสองครั้ง ดวงตาคูนั้นกลับจองเขม็งไปที่ทางเขา ลำแสงสีเขียวสวาง
วาบไมหยุด
ซากศพแหงตนนั้นครุนคิดอะไรบางอยางราวกับเปนคนธรรมดาอยางไรอยางนั้น
ทาทางราวกับมีสติปญญา
ในตอนที่หานลี่และพวกแยกกันนั้น บนยอดเขายักษแหงหนึ่งในหนานเจียง ก็มี
เสียงรบราฆาฟนกันดังขึ้นในคฤหาสนแหงหนึ่ง ผูบำเพ็ญเพียรวมชุดสีดำเกือบรอยคน
ใชสมบัติอาคมตางๆ โจมตีไปยังมานลำแสงสีเหลืองจางๆ ชั้นหนึ่ง และมานลำแสงนี้ก็
หอหุมกวาครึ่งของตัวคฤหาสนเอาไว แตดานในกลับมีผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดสีเหลือง
แคสิบกวาคนกำลังโบกสะบัดธงอาคมหลากสีสันไปมาอยางสุดชีวิต เพื่อเพิ่มความ
แข็งแกรงของเขตอาคมมานลำแสงชั้นนั้น แตเพราะจำนวนคนนอยเกินไป มานลำแสง
จึงคอยๆ สั่นคลอน ทุกคนตางเผยสีหนาตกตะลึงและลนลานออกมา
กลางอากาศเหนื อ คฤหาสน ขึ้ น ไปสองสามร อ ยจั้ ง กลั บ มี ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รวั ย
กลางคนที่หนาตาเขมงวดคนหนึ่ง สวมชุดสีเหลืองเชนกัน แตสีหนากลับซีดขาวเปน
อยางมาก และหางจากเขาไปทั้งสี่ดาน กลับมีเงารางสีเทาขาวหาเงายืนอยู ทุกเงาลวน
ซีดจางเปนพิเศษ ราวกับวาควันจางๆ
แตเงารางคนเหลานี้กลับรายลอมเปนวงกลม ใหผูบำเพ็ญเพียรชายวัยกลางคนอยู
ตรงกลาง
“พี่ จ ง ท านปล อ ยตระกู ลเหอไปสั ก ครั้งมิ ได ห รือ ? ข าและท านผู น ำพรรคกุุ ย ก็
นับวาเคยพบหนากันหลายครั้ง ขอแคสหายยอมปรานี ขายอมนำตระกูลเหอออกจาก
โลกของผูบำเพ็ญเพียร และจะไมเขามาอีกแลว และยิ่งไปกวานั้นที่นี่คือหนานเจียง
สหายกำเริบเสิบ สานเชนนี้ ไมกลัววาจะเกิดเรื่องหรือ” ถึงแมวาผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรวัย
กลางคนจะรูวาไมอาจคาดเดาได แตก็ยังโอบกอดความหวังสุดทายเอาไวขณะเอย
“ตระกูลของพวกเจาตกลงยอมจงรักภักดีตอพรรคตาขายทมิฬของพวกเราแลว
เรื่องมาถึงขั้นนี้กลับคิดจะเปลี่ยนใจ คิดวาพรรคตาขายทมิฬของพวกเราเปนอะไร!
อยาคิดวายายตระกูลมาที่หนานเจียงแลวพรรคของขาจะตามหาพวกเจาไมพบหรือ
เพื่อชื่อเสียงของพรรคขา ก็มีเพียงตองทำใหตระกูลเหอหายไปเทานั้น และผูแซจงก็ยัง
คิดจะอาศัยศีรษะของสหาย ทำใหชนรุนหลังที่ไมมีคาตกตะลึงเสียหนอย สหายจะ
จัดการเอง หรือใหขานอยลงมือดวยตนเอง หากมารทั้งหาลงมือ จะไมเหลือแมแต
กระดู ก” เห็ น กัน อยูชัดๆ วาด านข างไม มี ค น รอบด านกลั น มี เสี ยงราบเรีย บดั งขึ้ น
น้ำเสียงลองลอยไมแนนอน แตกลับทำใหผูคนไมอาจวินิจฉัยไดวาเปนบุรุษหรืออิสตรี
เมื่อไดฟง ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีเหลืองพลันจิตใจหนักอึ้ง
ในตอนนั้นเอง ดานลางพลันมีเสียงสนั่นหวั่นไหวดังขึ้น ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสี
เหลืองหนาเปลี่ยนสีพลางบินลงไปดานลางอยางรวดเร็ว เห็นเพียงในที่สุดมานลำแสง
ที่ปกปองคฤหาสนก็ถูกโจมตีจนแหลกละเอียด กลายเปนประกายลำแสงและสลาย
หายไปอยางไรรองรอย
บนใบหนาของผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีเหลืองไรซึ่งสีโลหิต
ผูบำเพ็ญเพียรพรรคตาขายทมิฬที่อยูดานนอกคฤหาสนกลับกูรองคำราม จากนั้น
ลำแสงก็ ก ระจายไปทั่ ว ท อ งฟ า ชั่ ว พริ บ ตาก็ ป กคลุ ม ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รสิ บ กว า คนใน
คฤหาสนที่อยูในมานลำแสงเอาไว
“พวกเจากลา…”
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีเหลืองก็ทนไมไหวตบไปที่ยามเก็บอสูรวิญญาณ ลำแสงสี
เหลืองสายหนึ่งพนออกมาจากปากถุงยาม กลายเปนงูเหลือมยักษสีเหลืองยาวสอง
สามจั้งตัวหนึ่งพุงลงไปดานลาง
“เหตุ ใดสหายถึงไปหาประสบการณ กับ ชนรุน หลัง มาให ผูแ ซจ งสอนวิธีใช อิ ฐ
สวรรคโสมมของสหายดีกวา” คนลึกลับผูนั้นเอยอยางราบเรียบ เงาสีขาวทั้งสี่ดาน
พลันเคลื่อนไหว ปรากฏขึ้นดานลางงูเหลือมตามลำดับ
ความเร็วแทบจะเรียกไดวาเพียงแคชั่วพริบตา
งูเหลือมยักษสีเหลืองฉายแววโหดเหี้ยม อาปากสีแดงฉานออก ตะปบเงาสีขาว
อยางรุนแรง
รางของเงาสีขาวกลับสั่นเทิ้มโดยไมไดพูดอะไรออกมา กลายเปนหัวกะโหลกยักษ
กะโหลกหนึ่ง ขนาดสองสามจั้ง สีขาวราวกับหิมะ งูเหลือมเห็นเชนนั้นพลันตกตะลึง
คิดจะหยุดการกระทำ แตกลับสายไปเสียแลว
หลังจากนั้นหัวกะโหลกพลันหัวเราะ ‘กวากๆ’ แปลกประหลาดออกมา อาปาก
ออก พนเสนไหมสีขาวออกมา ชั่วครูก็พัวพันหัวของงูเหลือมเอาไว พริบตาเดียวก็
หอหุมไวอยางแนนหนา
ภายใตความตกตะลึงของงูเหลือมแนนอนวามันพยายามดิ้นรน หางยักษที่คลาย
กับแสเหล็ก สะบัดไปที่หัวกะโหลกอยางรุนแรง แตหัวกะโหลกไมสั่นไหว กลับพ น
ลำแสงสีเทาออกมา และไลไปตามเสนไหมสีขาวตรงไปยังรางของงูเหลือม
เหตุการณที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น
ตั้งแตสวนหัวของงูเหลือม ทุกแหงที่ลำแสงสีเทากวาดผานไป รางของงูเหลือมที่
แตเดิมเปนมันเงาพลันหมนแสงลงและแหงกรอบอยางรวดเร็ว ชั่วพริบตาเลือดเนื้อ
ของงูเหลือมตัวนี้ก็หายไป กลายเปนหนังหุมกระดูก
แนนอนวางูเหลือมสีเหลืองพลันรองคำรามออกมา
แต หั ว กะโหลกกลั บ ยั งไม ได โบกมื อ เส น ไหมสี ข าวพลั น สั่ น สะเทื อ น สู ด ซากงู
เหลือมทั้งตัวเขาไปในปากใหญ จากนั้นก็พยายามขบเคี้ยวจนสงเสียง ‘กรุบๆ’ ที่นา
กลัวออกมา
เห็นงูเหลือมวิญญาณที่ติดตามตนเองมาหลายป ตกอยูในสภาพเชนนั้น ผูบำเพ็ญ
เพียรที่สวมชุดสีเหลืองพลันตกใจระคนโกรธเกรี้ยวในเวลาเดียวกัน แววอาฆาตใน
ดวงตาพลันกะพริบพาดผานไป
เขากวาดมองไปที่รอบๆ เงาสีขาว จูๆ มือหนึ่งก็ตบไปที่ทายทอย ปากก็พนของสิ่ง
หนึ่งออกมา กลับเปนอิฐสี่เหลี่ยมขนาดสองสามชุน สีเหลืองเขม
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีเหลืองพลันรายอาคม ชี้ไปยังอิฐกอนนั้นเขม็ง สมบัติชิ้น
นั้นหมุนวนอยูกลางอากาศ จากนั้นพลันขยายใหญขึ้นทามกลางลำแสงหอหุม แทบจะ
ในชั่ วอึด ใจ วัต ถุขนาดใหญ ชิ้น หนึ่ งก็ ป รากฏขึ้ น เหนื อ ศี รษะของผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รชุ ด
เหลื อ ง มี ข นาดประมาณสิ บ กว า จั้ ง ด านบนมี ล ำแสงสี เหลื อ งที่ เจิ ด จ า จนแสบตา
อักขระไหลวนเวียน ชางนาตกตะลึงจริงๆ
“นี่คืออิฐสวรรคโสมมหรือ? ไดยินมาไมสูไดพบจริงๆ ชางทำใหผูแซจงผิดหวังเสีย
จริง ดูแลวขานอยไมจำเปนตองเผยใบหนาออกมา ก็ใหมารทั้งหาสงตัวสหายมาไดแลว
กระมัง!” ผูบำเพ็ญ เพี ยรที่อำพรางกายอยูถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ราวกับวา
ผิดหวังอยางสุดๆ
เมื่อเอยจบ เงารางสีขาวที่เหลือก็เคลื่อนไหว บินเขาไปหาผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุด
สีเหลืองอยางพลิ้วไหว
ผูบำเพ็ญเพียรชุดเหลืองเองก็ไมสนใจคำพูดเหยียดหยามของอีกฝาย หลังจากเขา
ใกลเงาสีขาวแลว ก็ตะโกนออกมาเสียงดัง
เสียงคำรามสั่นสะเทือนทองฟา กอนอิฐสวรรคโสมมเหนือศีรษะหมุนติ้วๆ จาก
ขนาดของมั น แน น อนวาชั่วพริบ ตาก็ เกิ ด พายุ ส ลาตั น ขึ้ น ชั่ วครูก็ ห อ หุ ม รางของผู
บำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีเหลืองเอาไวขางใน
แตเงารางสีขาวสองสามสายกลับแสรงทำเปนไมเห็น หลังจากเขาใกลพายุสลาตัน
ในระยะสิบกวาจั้ง คาดไมถึงวารางกายจะยืดยาวตรงไปหาพายุสลาตัน
“รนหาที่ตาย!”
ลำแสงสีเหลืองจำนวนนับไมถวนพนออกมาจากพายุ คาดไมถึงวาจะเปนกอนอิฐ
สี่เหลี่ยมขนาดสองสามฉื่อหลายกอน เสียงตึงตังดังขึ้น ชั่วพริบตาเงาสีขาวสองสาม
สายก็ถูกกลืนกินเขาไปในลำแสงสวางจา และถือโอกาสนี้ พนสายรุงสีเหลืองสายหนึ่ง
ออกมาจากพายุสลาตัน สวางวาบแลวพุงตรงขึ้นฟา ชั่วพริบตาก็มาถึงในระยะยี่สิบ
กวาจั้ง
“หึ!” เสียงหึที่เย็นชาจนเสียดแทงกระดูกดังขึ้น
จากนั้นเสียงพรึ่บๆ พลันดังตามมา เงาสีขาวสี่สายบินออกมาจากลำแสงสีเหลือง
ราวกับไมมีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นก็เปลงแสงสวางวาบ แลวหายวับไปจากที่เดิม
ตอมา สายรุงอันนาตกตะลึงที่อยูเบื้องหนาพลันหมุนวนกลางอากาศ ลำแสงสีเทา
สวางวาบ เงาสีขาวสี่เงาปรากฏขึ้น กระโจนไปหาสายรุงโดยไมปริปากใดๆ
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีเหลืองพลันตกตะลึง รางกายหยุดชะงัก รีบรอนชูมือขึ้น
ชั่วขณะนั้นอิฐยักษขนาดสองสามจั้งก็โจมตีไปยังเงาสีขาวอยางไมเกรงใจ แตเงาสี
ขาวสองสามสายนั้นกลับไมสั่นไหว รางกายทะลุผานกอนอิฐยักษมา ชั่วพริบตาก็มาอยู
เบื้องหนาของผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีเหลือง
เวลานี้ผูบำเพ็ญ เพียรที่สวมชุดสีเหลืองพลันรอนรน มือหนึ่งโบกสะบั ด ปลอย
สมบัติโบราณที่กำเอาไวตั้งนานแลวออกมา
คาดไมถึงวาจะเปนแผนปายคำสั่งสีฟา
สมบัติชิ้นนี้สั่นคลอน พนลำแสงสีฟาออกมา เงาสีขาวสองสามสายพุงเขาไปขาง
ในราวกับถูกผนึกในทันที คลายกับวาเคลื่อนไหวไดยาก
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีเหลืองยังไมทันไดเผยสีหนาดีอกดีใจออกมา เงาสีขาว
สองสามสายนั่นก็แปลกเสียงหัวเราะประหลาดๆ ออกมา รางกายพลันสลายหายไป
ทามกลางลำแสงสีฟา
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดเหลืองเห็นเชนนั้น ก็รองวาแยแลวอยูในใจ ลำแสงรอบ
กายปรากฏขึ้นอยางรอนรน ตองการจะบินหนีไป แตเบื้องหนาพลันมีไอสีขาวปรากฏ
ขึ้น เงารางคนรางๆ สองสามสายกระโจนออกมาจากขางใน คาดไมถึงวาจะทำเหมือน
ลำแสงที่ปกปอ งรางของผูบำเพ็ ญ เพี ยรชุดเหลือ งนั้ น ไม มีอยู ทะลุผานจมเขามาใน
รางกายอยางไรรองรอย
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีเหลืองยังไมทันไดมีปฏิกิริยาตอบสนอง ก็สัมผัสไดวา
ทารกในรางแข็งเกร็ง รางกายรอนฉา ดู เหมือ นวาโลหิ ตทั้ งเรือนรางจะกำลังเดือ ด
พลาน
นี่คือความรูสึกสุดทายบนโลกของเขา ตอมา ดวงตาทั้งสองขางก็มืดมัวไมรับรูสิ่งใดอีก
ถาหากมีคนอยูใกลๆ ก็จะมองเห็นไดอยางชัดเจนวา ใบหนาของผูบำเพ็ญเพียรที่
สวมชุดสีเหลืองแหงกรอบไปดวยความรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็กลายเปนโครงกระดูกที่
เหมือนกับซากศพแหงกรัง
ทารกในซากศพแห ง นั้ น กลั บ ถู ก เงาสี ข าวที่ สิ ง อยู ในร า งกลื น กิ น ไปจนเกลี้ ย ง
จากนั้นเงาสีขาวสี่สายถึงไดบินออกมาจากซากศพแหงอยางพึงพอใจ กลายเปนโครง
กระดูกสี่หัว แยกกันกัดกินซากศพที่ไมสมบูรณ
ตอนนั้นเงาสีขาวอีกสายหนึ่งถึงไดบินมาอยางเชื่องชา เงาสีขาวหาสายยืนเคียงบา
เคียงไหลกัน
เวลานั้น เสียงระเบิดและเสียงตอสูในคฤหาสนพลันหยุดลง และมีชายชราสวมชุด
สีดำคนหนึ่งบินเขามา
“คารวะทานอาวุโส! สังหารผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเหอทั้งเจ็ดสิบสองคนแลว ยังมี
ชาวบานธรรมดาอีกสามรอยกวาคน เชิญทานอาวุโสรับสั่งขอรับ” ชายชราสวมชุดสี
ดำบินมาอยูเบื้องหนาเงาสีขาว แลวคารวะอยางนอบนอม
“สังหารใหหมด” ผูบำเพ็ญเพียรลึกลับเอยอยางเย็นชา
“ขอรับ!” ชายชราชุดดำเอยตอบรับ และบินลงไป
“ชากอน อาวุโสเกอสงจดหมายมาตั้งนานแลววาผูบำเพ็ญเพียรที่สังหารอาวุโสสี่
ของพรรคขาและยังแยงชิงธงตาขายทมิฬไป อาจจะอยูในหนานเจียงเชนกัน เรื่อง
มาถึ งขั้น นี้ แ ลว จากนี้ ทุ ก คน จากนี้ ทุ ก คนต อ งค น หาคนผู นั้ น อย างเต็ ม ที่ ข าจะนั่ ง
บัญ ชาการอยูที่หนานเจียงหนึ่งป หากมีรองรอยของคนผูนี้ ก็จะลงมือกำจัดเขาทิ้ง
ในทันที สมบัติประจำพรรคของพรรคขาจะไปตกอยูในมือของคนนอกไดอยางไร” ผู
บำเพ็ญเพียรลึกลับออกคำสั่งดวยสีหนาเครงขรึม
“ขอรับ ศิษยหลานจะออกคำสั่งทันที” ชายชราชุดดำพลันใจหายวาบ ตอบรับ
ดวยความนอบนอม จากนั้นก็กลายเปนลำแสงสีดำสายหนึ่งรอนลงไป
“สังหารศิษยนองสี่ที่ถือครองธงตาขายทมิฬ และหนีจากการไลลาของตำหนัก
เทียนหลานศักดิ์สิทธิ์ได นาจะแข็งแกรงวาเจาพวกไรประโยชนตระกูลเหอเปนอยาง
มาก นาจะเปนคูตอสูที่นาสนใจสินะ!” ผูบำเพ็ญเพียรลึกลับรอจนชายชราชุดดำจาก
ไปแลว พลันเอยพึมพำกับตัวเอง ดูเหมือนวาจะรูสึกสนใจหานลี่เปนอยางมาก
ตอนที่ 983 ผลึกสีดำ
หลังจากผานไปครึ่งคอนเดือน ในสวนลึกของถ้ำจันทราตะวัน หานลี่อยูภายในถ้ำ
พายุขนาดใหญ สองมือพลันรายอาคม กระบี่บินสีทองสิบกวาเลมวนเวียนลอมรอบ
เรือนรางไปมาไมหยุด ทำใหแมลงเมาจำนวนนับไมถวนที่โผบินเขามาแหลกเปนชิ้นๆ
กลายเปนไอสีดำเปนสายๆ
แมลงเมาเหลานี้ลวนมีขนาดประมาณสองสามชุน ลำตัวสีดำสนิ ท ป กทั้ งสอง
กระพือขึ้นลง ชั่วขณะนั้นคมมีดวายุเล็กๆ บางๆ ก็พุงเขามาหานลี่ แตทั้งหมดตางถูก
กระบี่บินที่กลายเปนลำแสงสีทองตานทานเอาไวอยางงายดาย
มองเห็นแมลงเมาเหลานี้กระโจนเขามาอยางตอเนื่องราวกับวาไมมีที่สิ้นสุด หานลี่ก็มี
สีหนาเครงขรึม รูสึกหมดความอดทนเล็กนอย
จูๆ เขาพลันใชมือหนึ่งควายามเก็บอสูรวิญญาณที่เอว โยนขึ้นไปกลางอากาศ ชั่ว
ขณะนั้นดอกไมสีทองพลันทะลักออกมาจากยาม ตรงออกไปรอบๆ ดาน
นั่นก็คือฝูงแมลงกลืนทองของหานลี่
เมื่อแมลงเมาสีดำและแมลงกลืนทองสัมผัสกัน ชั่วขณะนั้นก็ทยอยกันรวงหลนลง
จากอากาศ ชั่วครูก็เปนฝายเสียเปรียบ
หานลี่เห็นเชนนั้น ก็เก็บกระบี่บินกวาครึ่งกลับไป ถอยหลังกลับไปยังสวนลึกของถ้ำ
ในเมื่อที่นี่คือถ้ำ แนนอนวารอบๆ ดานจึงมีพายุสีดำรุนแรงเปนพิเศษ ถึงแมวาจิต
สัมผัสของเขาจะแข็งแกรงขนาดไหน ก็ทำไดเพียงแผออกไปแคสองสามจั้งเท านั้น
ทวา หลังจากสะบัดการพัวพันของแมลงเมาหลุดแลว เขาก็ไมหวาดกลัวเรื่องนี้อีก
หลังจากเดินมาอยูประมาณใจกลางของถ้ำ รูมานตาของหานลี่ก็เปลงแสงสีฟา
สวางวาบ ชั่วขณะนั้นสายตาพลันทะลุผานพายุสีดำรอบๆ ดานไป ทำใหมองเห็นสิ่งที่
อยูใกลๆ ไดอยางชัดเจน
ผลลัพธคือหลังจากที่สองตาของเขากวาดออกไป ก็อดที่จะรองเอออกมาไมได
เปลี่ยนทิศทางเดินไปอีกทาง
หลังจากเดินออกมาไดยี่สิบกวาจั้ง หานลี่พลันชูมือขึ้นอีกครั้ง ศิลาแสงจันทรสี
ขาวโพลนกอ นหนึ่ งถูกไอวิญ ญาณสี เขี ย วห อ หุ ม เอาไวขณะบิ น อยูกลางอากาศ ชั่ ว
ขณะนั้นรอบๆ ในระยะสองสามจั้งพลันถูกแสงสาดสองออกไปจนมองเห็นชัดเจน
ทามกลางลำแสงสีขาวนวล ผลึกศิลาสีดำสนิทขนาดเทาศีรษะกอนหนึ่งฝงอยูบน
กำแพงหินที่อยูตรงขาม โดยโผลออกมาครึ่งกอน
สิ่งที่ทำใหตกตะลึงก็คือ ผลึกศิลากอนนี้พลันเปลงแสงสีหมนๆ ออกมา คาดไมถึง
วาจะมีแมลงเมาสีดำทะลักออกมาตัวแลวตัวเลา โจมตีไปยังศิลาแสงจันทรที่ดูสะดุดตา
ของหานลี่อยางบาคลั่ง แตแนนอนวาตางถูกแมลงกลืนทองสกัดเอาไวกลางทาง
ตอนนั้นแมลงเมาทั้งหมดก็ทยอยกันรวงลงมาจากกลางอากาศ แตก็สลายหายไป
กอนจะตกลงสูพื้น
“กอนที่สามแลว ทวากอนนี้คาดไมถึงวาจะอาศัยไอมารสรางแมลงเมายมโลกขึ้น
โดยอัตโนมัติ แปลกจริงๆ” หานลี่เอยพึมพำ
ทวา ในตอนที่หานลี่กำลังเพงพิจารณาอยางละเอียดนั้น ผลึกสีดำตรงขามก็ปลอย
ลำแสงสีดำหมื่นสายออกมา จากนั้นเสียง ‘พรึ่บ’ ก็ดังขึ้น แมลงเมายักษขนาดสอง
สามฉื่อพลันปรากฏขึ้นทามกลางลำแสงสีดำ ทันทีแมลงเมาตัวนั้นปรากฏตัว ดวงตาสี
แดงโลหิตคูหนึ่งก็จองเขม็งไปยังหานลี่ทันที
หานลี่พลันขมวดคิ้ว ดีดนิ้วอยางรวดเร็ว
หลังจากนั้นเสียงฟาผาพลันดังขึ้น ประจุไฟฟาสีทองสายหนึ่งพลันพุงออกมา ชั่ว
พริบตาก็โจมตีแมลงเมายักษจนแตกละเอียด ถึงแมวาแมลงเมายมโลกยักษนี้จะไมไดมี
ความสามารถที่ แ ปลกประหลาดอะไร แต ภ ายใต อั ส นี เทวาป ด เป าภยั น ตรายที่ ใช
ควบคุมภูตผีโดยเฉพาะนั้น ก็ไมอาจตานทานไดเลยแมแตนอย
จากนั้นเขาพลันควาไปยังผลึกศิลากลางอากาศอยางไมลังเลอีก
มือลำแสงสีเขียวขนาดใหญมือหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ หลังจากที่เสียง ‘ควับ’
ดังขึ้น คาดไมถึงวาผลึกศิลาจะถูกมือยักษที่ดูมีชีวิตควักออกมาจากกำแพงหิน
ชั่วพริบตาที่ผลึกศิลาหลุดออกมา พายุทมิฬที่รุนแรงรอบดานๆ พลันลดความแรง
ลงไปกวาครึ่ง
สวนแมลงเมาสีดำที่แมลงกลืนทองกำลังกัดกินนั้น หลังจากที่ลำแสงสีดำสวาง
วาบก็กลายเปนไอสีดำจมหายเขาไปในพายุอยางไรรองรอย
หานลี่ทำเปนมองไมเห็นสถานการณเหลานี้ ถึงแมวาผลึกศิลาสองกอนกอนหนา
จะไมไดใหญกวาผลึกศิลากอนนี้ แตก็ปรากฏตัวอยูในถ้ำพายุเชนกัน หลังจากปรากฏ
ตัวแลวก็จะเกิดสถานการณเชนนี้ขึ้น
ตอนแรกสถานการณเชนนี้ทำใหหานลี่สงเสียงจุๆ วาสุดยอดออกมา แตตอนนี้
กลับไมไดสนใจอีก
จะวาไปแลว ตั้งแตที่เขาหาชายชราแซฟูพบครั้งที่แลว หลังจากที่ประคับประคอง
ลำแสงเทวายมโลกสี ม ว งอี ก ครั้ ง ก็ แ ยกกั น กั บ ไป เหยาอี๋ ไม มี ส ตรี ผู นี้ อ ยู ข า งกาย
แนนอนวาหานลี่จึงสามารถสำแดงความสามารถอออกมาไดทั้งหมด
สองสามวันที่ผานมาเปนเพราะเขาใกลใจกลางของถ้ำขึ้นเรื่อยๆ ระหวางการ
สำรวจของเขาก็เริ่มพบภูตผีระดับสูงชุกชุมขึ้นเรื่อยๆ
แตภายใตกระบี่บินและอัสนีเทวาปดเปาภยันตราย ก็ทยอยกันถูกสังหารจนเกลี้ยง
แมกระทั่งอสูรวิญญาณครวญก็ยังไมไดใชเลยสักครั้ง
วากันตามความเร็วในการคนหาแลว หานลี่แทบจะเร็วกวาคนอื่นๆ สองสามเทา
ตอนที่ผูอื่นตรวจสอบทางเดินสายหนึ่งเสร็จ เขาก็ตรวจสอบเสร็จไปแลวสองสาย
ทวาด วยชื่ อ เสี ยงที่ ยิ่ งใหญ ข องถ้ ำจั น ทราตะวัน ก อ นหน านี้ ที่ มี ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
ระดับสูงเขามาคนหาจำนวนนอยมาก กลับไมใชวาจะไมมีเหตุผล
พวกเขาเขาไปในสวนลึกขนาดนี้ นอกจากเหมืองแรศิลาวิญญาณธรรมดาๆ และ
สมบัติอาคมยุทธภัณฑพังๆ สองสามชิ้นแลว ก็ไมไดอะไรเลย
แตสองสามวันกอนที่เขาไลสังหารภูตผีตนหนึ่งแตมันหนีไปได กลับทำใหบุกเขา
ไปในถ้ำที่ไมใหญนักอยางไมไดตั้งใจ หลังจากพบผลึกศิลาสีดำกอนหนึ่งแลว ถึงไดรูสึก
สนใจถ้ำพายุที่แตเดิมไมยอมเขาไปลึกขึ้นมา
ตองเขาใจวาสถานที่ที่มีพายุรุนแรงเชนนี้ มาทมิฬไมมีทางดำรงอยูไดแน และยิ่ง
ไปกวานั้นเมื่อเขาไปในถ้ำ ไมวาจะเปนการประคับประคองลำแสงเทวายมโลกมวง
หรือวาการสูญเสียลมปราณของตัวเอง ก็จะตองเพิ่มขึ้นทันที แนนอนวาไมมีผูใดยอม
ลำบากเขามาลึกขนาดนั้น
หานลี่ประคับประคองอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายปกปองรางกาย ดานนอกมี
ของเหลววิญญาณหมื่นปคอยฟนฟูลมปราณ จึงไมหวาดกลัวของเหลานี้เลยแมแตนอย
กลับรูสึกสนใจผลึกศิลาเปนอยางมาก ทุกครั้งที่เขาไปลึกก็จะตรวจสอบครั้งหนึ่ง
ผลึกสีดำเหลานี้หานลี่ไมเคยเห็นมากอน ตำราที่เคยอานมากอนหนานี้ก็ไมเคย
เอ ยถึ งมาก อ น ถึงแม วารูป ลั กษณ จ ะดู เหมื อ นเพชรกระดู ก มาร แต ทั้ งสองกลั บ ไม
เหมือนกันเลยแมแตนอย
ผลึกศิลาสีดำไมไดแข็งแกรงอยางหาที่เปรียบมิไดดั่งเพชรกระดูกมาร ดานในไมได
แฝงไอมารเอาไว แตดูเหมือนวาจะเปนผลึกศิลาธาตุลมประหลาดชนิดหนึ่งที่เกิดจาก
การผนึกรวมตัวกันในถ้ำมาเปนเวลานาน แตก็แฝงไวดวยไอทมิฬจำนวนมาก
แตผลึกสีดำชนิดนี้ไมใชของที่พบเห็นไดงายๆ หลังจากที่หานลี่คนหาถ้ำพายุไป
ยี่สิบสามสิบแหง จนถึงตอนนี้ก็พบเพียงสามกอนเทานั้น สองกอนแรกนั้นมีขนาดเทา
กำปน ไมไดมีประสิทธิภาพในการสรางภาพลวงตาภูตผี หางชั้นจากผลึกศิลาในตอน
แรกเปนอยางมาก
หลังจากที่หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลงพิจารณาผลึกศิลาที่ไมมีปฏิกิริยาตอบสนอง
ใดๆ เลยอยูชั่วครู ในที่สุดก็ชูมือแปะยันตวิเศษสองสามแผนลงบนผลึกศิลา แลวถึงได
บรรจุผลึกสีดำเขาไปในกลองหยก และเก็บเขาไปในยามเก็บของ
จากนั้นเขาพลันสำรวจถ้ำพายุยักษอีกรอบ หลังจากมั่นใจวาไมมีอะไรตกหลน
แลว ก็ถอยออกมาจากตรงนั้นแลวกลับไปยังทางเดิน หลังจากที่เดินตรงไปอีกสองสาม
รอยจั้ง สำรวจถ้ำเล็กๆ อีกแหงหนึ่ง ทางเดินก็เปลี่ยนเปนแคบลงเรื่อยๆ
สุดทาย ในที่สุดเบื้องหนาก็มีกำแพงศิลาที่ถูกน้ำแข็งผนึกเอาไวปรากฏขึ้น
หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แตก็ยังสาวเทาไปขางหนา ชูมือขึ้นปลอย
ลำแสงสีเขียวสายหนึ่งออกไป
เสียง ‘สวบ’ ดังขึ้น ลำแสงสีเขียวทะลุเขาไปในกำแพงหินลึกประมาณสองสามจั้ง
จากนั้นก็สวางวาบแลวสลายหายไป
หานลี่กลับไมไดหยุดพัก มือหนึ่งวางลงบนกำแพงศิลา ในเวลาเดียวกันก็กวาดจิต
สัมผัสไปทั่วกำแพง
ผานไปชั่วครู หลังจากแนใจวากำแพงหิ นไมไดมีกลไกและเขตอาคมใดๆ แลว
หานลี่ก็หันกายไปอยางไมลังเลอีก บินตรงไปตามทางเดิมที่มา
กวาดลางทางที่มาไปแลวรอบหนึ่ง แนนอนวาความเร็วจึงเร็วขึ้นอีกสองสามเทา
ถึงแมวาจะยังไมรูวาถ้ำจันทราตะวันแหงนี้มีขนาดเทาใด แตดูจากชนิดของภูตผี
ปศาจที่ปรากฏตัวแลว พวกเขาก็นาจะเขาใกลใจกลางของถ้ำแลว
แตแคจนถึงตอนนี้ยังไมมีผูใดพบรองรอยของมาทมิฬ นี่จึงทำใหหานลี่เองรูสึก
หมดความอดทนเล็กนอย รีบรอนหลอมพัดตรีเปลวเพลิงใหสำเร็จแลวยังตองเสี่ยง
อันตรายมาที่นี่ เขาไมคิดจะกลับไปมือเปลาหรอกนะ
ความยากลำบากจากการบรรลุระดับกอกำเนิดขั้นกลางไประดับกอกำเนิดขั้น
ปลายนั้น ถึงแมวาหานลี่จะไมเคยลิ้มรสมากอน แตแคคิดดูก็รูแลว
คิดๆ ดูแ ลวผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรที่ บ รรลุ ขั้น กลางได ผู ใดบ างที่ ไม ใช อั จฉริย ะ แต ผูที่
ประสบความสำเร็จบรรลุระดับ ขั้น ไปอีกขั้ น นั้ น ทั้ งเที ยนหนานก็ มี อ ยูพี ยงสามคน
ถึงแมวาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายในตาจิ้นจะมีมากหนอย แตเทียบกับ
สำนักและผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดที่มีมากมายแลว ก็ยังคงเปนหนึ่งในหมื่น
ดังนั้นถึงแมวาหานลี่จะยังมีเคล็ดวิชาปราณหลอเลี้ยงหงสที่ใชบรรลุจุดคอขวด ก็
ยังไมมั่นใจเลยสักนิดวาจะบรรลุระดับกอกำเนิดขั้นปลายไดหรือไม ในเมื่อตอนนี้มียา
ลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกที่สามารถหลอมทารกได แนนอนวาเขาจึงไมมีทางยอมพลาด
ปลอยทิ้งไปได
ถาหากครั้งนี้หามาทมิฬในถ้ำจันทราตะวันไมเจอจริงๆ ไมแนวา เขาอาจจะเอาวิธีการ
ปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกมาจากชายชราแซฟู ถึงแมวาความหวังจะนอยนิด ขอ
แคมีวิธีการปรุงอยูในมือ เขาก็มีวิธีการตามหามาทมิฬของตัวเอง สถานที่ที่มีไอทมิฬ
รวมตัวกันในใตหลานี้ ไมอาจมีเพียงถ้ำจันทราตะวันที่เดียว
หานลี่บินไปพลาง ขบคิดอยางเยือกเย็นในใจไปพลาง
จูๆ เขาพลันหนาเปลี่ยนสี จองเขม็งไปยังเบื้องหนา เห็นเพียงเบื้องหนามีลำแสง
กะพริบวาบ ลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพลันพุงเขามา
หานลี่สะบัดแขนเสื้ออยางไมตองคิด ลำแสงสีเขียวผืนหนึ่งบินออกมา ชั่วครูก็
หอหุมลำแสงสีเขียวเอาไว และดึงมาอยางสบายๆ
ลำแสงสีเขียวทามกลางผืนลำแสงพลันหมนแสงลง คาดไมถึงวาจะเปนกระบี่เลมเล็กสี
เขียวเปลงประกายเลมหนึ่ง และยังมีคัมภีรสีแดงมวนหนึ่งผูกหอยอยูกับดามกระบี่
หานลี่เมมริมฝปาก ชูมือขึ้นเก็บคัมภีรมาจากกระบี่ แลวโยนกระบี่บินขึ้นไปบน
อากาศอยางสบายๆ
กระบี่เลมเล็กสีเขียวพลันเปลงเสียงรองออกมา หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง ก็จม
หายเขาไปในพายุสีดำอยางไรรองรอย
หานลี่ทำเปนไมเห็นสิ่งนี้ กลับกมหนาลงแผจิตสัมผัสเขาไปในคัมภีร
“พบรองรอยของมาทมิฬแลว นี่เปนขาวดีจริงๆ!” หลังจากผานไปชั่วครู หานลี่ก็เผย
รอยยิ้มออกมา จากนั้นพลันพลิกฝามือ จานอาคมสีขาวออนใบหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ
มือหนึ่งชี้ไปยังจานอาคม ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเขียวพลันสวางวาบ ผิวของของสิ่ง
นั้นเปลี่ยนเปนเกลี้ยงใสราวกับกระจก และดานบนกลับมีจุดลำแสงหลากสีสันสี่ดวง
กะพริบวาบอยูรางๆ
หลังจากที่หานลี่แผจิตสัมผัสไปที่จุดลำแสงเหลานั้น ก็เก็บจานอาคมเขาไปทันที
ชั่วพริบตาลำแสงหลีกหนีก็พุงออกไปดวยความเร็วที่มากกวาเดิม
ผานไปชั่วครู หานลี่ก็มาถึงทางสามแยก ที่นั่นมีชายรางใหญแซหยวนและชาย
ชราแซฟูสองคนนั่งสมาธิอยูตรงขามกันบนทางเดินสายหนึ่ง ไขมุกยมโลกมวงลอยอยู
เหนือศีรษะของชายชราไมขยับเขยื้อน
“สหายหยวน ทานพบของสิ่งนั้นแลว” หานลี่รอนลำแสงหลีกหนีลงมาทามกลาง
ลำแสงสีมวง ปากก็พนลมหายใจเบาๆ ออกมาขณะเอยถาม
“ใชแลว มาทมิฬอยูในทางเดินสายนี้ แตแคเจานั่นมันเจาเลหเปนพิเศษ ขาคน
เดียวไมอาจจับมันได ทำไดเพียงกักมันเอาไวที่ทางออก รอเหลาสหายมา” ชายราง
ใหญแซหยวนหัวเราะหึๆ ออกมาขณะเอย ใบหนาเผยความตื่นเตนดีใจออกมาสอง
สามสวน
“เชนนั้นก็ดี ขอแคมีรองรอยของสัตววิญญาณ การจะจับมันนั้นก็เปนเรื่องที่จะ
เกิดขึ้นในอีกไมชาก็เร็วเทานั้น” หานลี่พยักหนาพรอมกับหัวเราะเบาๆ
“ศิษยนองหญิงฉางและสหายไป อยูคอนขางไกล พวกเรารออีกหนอย หากคนมาครบ
พวกเราก็มั่นใจมากขึ้นแลว” ชายชราแซฟูมีสีหนาดีอกดีใจเชนกัน
หานลี่ฟงมาจนถึงตอนนี้ ทันใดนั้นก็รูสึกผอนคลายลง พลางนั่งลงบนพื้น
หลังจากรออยูประมาณสองสามชั่วยาม สตรีผูงดงามสวมชุดสีดำและไปเหยาอี๋ก็
มาถึงตามลำดับ หลังจากไดยินขาวคราวอยางชัดเจน ก็รูสึกตกตะลึงระคนดีใจเปน
พิเศษเชนกัน
ทันใดนั้นพวกเขาก็ไมไดลาชาอีก หลังจากวางเขตอาคมงายๆ สองสามเขตแลว ก็
บินไปตามทางเดินพรอมกัน
แตพวกเขาไมมีใครรูวา ในตอนที่พวกเขาเพิ่งจะบินไปไดไมนานนั้น ตรงทางเขาก็
มีลำแสงสีดำสวางวาบ จากนั้นซากศพแหงสีดำสามตนก็ปรากฏขึ้นอยางเงียบเชียบ
หนาอกของซากศพแหงเหลานี้กลวงโบ หนังหุมกระดูก แตดวงตาทั้งสองกลับ
เปลงแสงสีเขียวที่เย็นเยียบออกมา จองเขม็งไปยังทิศทางที่หานลี่และพวกหายไป
อยางไรความรูสึก
ตอนที่ 984 ซากหมาปา
พวกเขาเดินตามทางเดินไปทางทิศตะวันออก สำรวจถ้ำทีละแหงๆ
เพื่อไมใหเกิดเรื่องที่คาดไมถึงขึ้น โดยปกติคือจะเขาไปสำรวจในถ้ำทีละสามคน
คนอื่นๆ ก็รักษาการณที่ทางเดินเอาไว เพื่อปองกันไมใหมาทมิฬถือโอกาสหนีเตลิดไป
ไมนานนัก สองสามคนก็มาถึงจุดที่ชายรางใหญแซหยวนพบมาทมิฬ นั่นคือถ้ำ
ขนาดเล็กแหงหนึ่งที่ไมใหญนัก
ครั้งนี้ สตรีผูงดงามที่สวมชุดสีดำและไปเหยาอี๋รักษาการณอยูดานนอก หานลี่กับ
ชายชราและพวกเขาไปในตรวจสอบขางในรอบหนึ่ง
เมื่อคนเดินเขาไปขางใน ก็พบจุดที่แปลกประหลาดของถ้ำ ดานในไมเพียงจะมี
พายุทมิฬที่ออนแออยางสุดๆ กระทั่งยังใหความรูสึกอบอุน
ผลลัพธคือพวกเขานอกจากจะพบดินทรายที่ออนนุมแลว ยังพบกองหยกอุนที่หา
ไดยากสองสามกอนตรงมุมถ้ำ และที่นี่ก็ยังมีกลิ่นหอมพิสุทธิ์จางๆ สายหนึ่งลอยอยูใน
อากาศ เปนกลิ่นคลายกับยาสมุนไพรอยูหลายสวน ทั้งยังมีกลิ่นของตนจันทน ราวกับ
วาทั้งสองผสมอยูดวยกัน
หลังจากที่กวาดสายตาไปดานลางแลว ก็มองเห็นรอยเทาของมาทมิฬที่ยุงเหยิง
อยูบนพื้น แตดูเล็กกวาหลายเทา
“ตองเปนสถานที่ที่มาทมิฬอยูไมผิดแน!” ชายชราแซฟูเดินวนรอบรอยกีบเทา
สองรอบ ไดกลิ่นหอมจากอากาศอีกครั้ง จากนั้นก็ถูมือทั้งสองเขาดวยกันขณะเอย
เห็นไดชัดวาเขารูสึกตื่นเตนดีใจเปนอยางมาก
“ในเมื่อพี่ฟูกลาวเชนนี้ เชนนั้นก็ไมผิดแน พวกเราไลตามไปกันเถิด ทางเดินสายนี้
ไมไดกวางขวางนัก กวาครึ่งลวนมีทางเดินเล็กๆ แยกออกไปอีก พวกเขาคอยๆ ไลตาม
ไปทีละนิดๆ จะไดบีบมันใหออกมา”
ชายรางใหญแซหยวนเอยพรอมกับหนาแดงระเรื่อ
“อืม มีเหตุผล เชน นั้ น พวกเรา…” ชายชราแซ ฟู พ ยั กหน า แต เพิ่ งเอ ย ได เพี ย ง
ครึ่งหนึ่ง จูๆ ก็มีเสียงตึงตังดังขึ้น จากนั้นใตฝาเทาของทั้งสามคนก็ไมมั่นคง ทั้งถ้ำ
สั่นคลอน
จากนั้นก็มีเสียงคำรามกึกกองดังออกมาจากดานนอกถ้ำ ราวกับวาเปนเสียงที่ดัง
มาจากไมไกลนัก
ภายใตความตกตะลึงของทั้งสามคน ลำแสงวิญ ญาณสวางวาบขึ้นบนเรือนราง
พรอมกัน กลายเปนลำแสงหลีกหนีสามสายพุงออกไปจากที่นี่
ชั่วพริบตาพวกเขาก็มาปรากฏตัวที่ทางเดิน สตรีทั้งสองมองมาทางพวกเขาดวยสี
หนาตื่นตระหนก
ที่นั่นคาดไมถึงวาจะมีเสียงฝเทาดังขึ้นอยางตอเนื่อง และไมรูวาเปนสัตวขนาด
ใหญชนิดใด ทุกครั้งที่ย่ำเทาลวนทำใหทางเดินสั่นคลอนอยางรุนแรง ในเวลาเดียวกัน
ก็มีเสียงคำรามที่นาตกตะลึงดังมาจากทิ ศทางเดียวกัน เห็ น ไดชัดวาเกิดขึ้นจากสิ่ง
เดียวกัน
พวกเขามองสบตากันแวบหนึ่ง ไมตองใหใครเตือนสติ ก็ทยอยกันปลอยสมบัติ
อาคมออกมา และมองไปทางนั้นดวยสีหนาเครงขรึม
คนอื่นเปนเพราะมีพายุทมิฬตานทานเอาไวจึงไมอาจมองไปไดไกลนัก แตในรูมาน
ตาของหานลี่พลันเปลงแสงสีฟาสวางวาบ ชั่วครูก็มองเห็นภูตผีตัวหนึ่งที่อยูหางออกไป
รอยกวาจั้ง
ผลลัพธคือเขาอดที่จะสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขามาเฮือกหนึ่งไมได
คาดไมถึงวาจะเปนหมาปายักษที่มีขนสีเขียวยาวๆ ปกคลุมเรือนราง
หมาปายักษสี่ขา สูงประมาณสามจั้ง หัวใหญยักษราวกับหองเล็กๆ ดวงตาสีแดงฉาน
ขนาดใหญ กรงเล็บแหลมคมสีดำสี่ขาง ราวกับมีดคมๆ อยางไรอยางนั้น
แตสิ่งที่ทำใหหานลี่ตกตะลึงก็คือ ในเวลาเดียวกันที่หมาปายักษรองคำรามออกมา
เพลิงซากศพสีเขียวกลุมแลวกลุมเลาก็พวยพุงออกมาจากปากของมัน กำแพงน้ำแข็งที่
ถู ก ไอสี เขี ย วฉาบทั บ ลงไป ก็ ป รากฏเป น ร อ งที่ ลึ ก ไม เท ากั น สายแล ว สายเล าทั น ที
ลำแสงสีเขียวกะพริบวาบ ทาทางเริ่มละลาย
“ซากหมาปา!”
ชั่วขณะนั้นในใจของหานลี่พลันมีชื่อของภูตผีชนิดนี้ปรากฏขึ้น แตปกติแลวซาก
หมาปาจะเปนเพียงภูตผีธรรมดาๆ ถึงแมวาจะมีรางกายใหญ โต แตก็ไมมีทางใหญ
ขนาดนี้ ขนาดของซากหมาปาที่ใหญโตขนาดนี้ เหนือกวาในบันทึกของตำราใดๆ และ
ยิ่งไปกวานั้นเรือนรางของซากหมาป าตัวนี้ ยังแผกลิ่น อายที่ ภู ตผีธรรมดาๆ ไม อาจ
เทียบเทียมไดออกมา
ตอนที่หานลี่กำลังคิดจะเอยปากเตือนคนที่เหลือทั้งสี่คน แตภายใตสายตาที่กลอก
ไปมาจูๆ ก็มองเห็นสิ่งที่ปดบังศีรษะของหมาปายักษกวาครึ่งเอาไว ปากก็อดที่จะรอง
อุทานออกมาดวยความตกตะลึงระคนดีใจไมได
“นั่นคือ...มาทมิฬ”
“อะไรนะ พี่หานวาอะไรนะ?” ชายชราแซฟูเอียงคอเล็กนอย พลางเอยถามดวย
ความตกตะลึง
“ดานหนามีภูตผีที่รายกาจตัวหนึ่งกำลังเขามา มาทมิฬก็นาจะอยูกับมัน หานลี่
ตอบกลับอยางสั้นๆ”
“มาทมิฬ?”
เมื่อไดฟง ชั่วขณะนั้นคนที่เหลือก็เผยสีหนาดีอกดีใจออกมา
ในที่สุดเวลานี้รางกายอันใหญโตของหมาปายักษก็ปรากฏขึ้นรางๆ ในพายุทมิฬ
ถึงแมวาจะยังไมเห็นรูปรางที่แทจริงของหมาปายักษ แตเงารางที่ใหญโตขนาดนี้ ก็ทำ
ให ช ายชราแซ ฟู ชายชรารางใหญ รู สึ ก ใจหายวาบ รอยยิ้ ม บนใบหน าหุ บ ลงอย าง
รวดเร็ว
สตรีผูงดงามสวมชุดสีดำมีสีหนาเครงขรึม จูๆ พลันดีดนิ้วทั้งสิบ ดวงแสงสีขาวสิบ
กวาลูกพุงออกมาจากมือ แตดวงแสงนั้นไมไดโจมตีไปทางหมาปายักษ กลับพุงเฉียง
ออกไป และระเบิดออกกลางอากาศ
ลำแสงสี ข าวที่ แ สบตาเจิด จาสวางขึ้ น ชั่ วขณะนั้ น มั น จึ งสาดส อ งให เบื้ อ งหน า
สามารถมองเห็ นไดอยางชัดเจน หมาป ายักษ ท าทางน ากลัวปรากฏขึ้น ในครรลอง
สายตาของคนอื่นๆ
ทั้งสี่คนจึงอดที่จะหนาเปลี่ยนสีไมได
พวกเขาทุกคนลวนเปนผูที่มีประสบการณไมธรรมดา แนนอนวาจึงสามารถคาด
เดาความนากลัวของหมาปาตัวนี้ได
ทวาในชั่วพริบตา พวกเขาก็มองเห็นวัตถุสีขาวที่หมอบอยูบนศีรษะของหมาปายักษ
ถึงแมวารางกายดานลางจะจมหายเขาไปในขนสีเขียว แตก็เผยออกมาสวนหนึ่ง
ลวนเปนหัวมาสีขาวนวล ดวงตาสีเขียวมรกตคูนั้นจองเขม็งมายังพวกเขา
เวลานี้ พวกเขาอดที่จะตกตะลึงระคนดีใจไมได
“ทุกคนโปรดระวัง อยาใหมาทมิฬถือโอกาสนี้หนีไปได ซากหมาปานาจะเปนภูต
กลายพันธุ ถึงแมวาจะจัดการยากหนอย แตหากผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดหาคน
อยางพวกเรารุมสังหารมันละก็เปนเรื่องที่งายดาย สหายไป ทานรับหนาที่จับมาทมิฬ
ตัวนั้น” ชายชราแซฟูเอยเตือนสติ ทันใดนั้นพลันตบไปที่ยามเก็บของที่เอว สมบัติ
เหมือนโซตรวนที่เปลงแสงสีดำก็พุงออกไป สวางวาบแลวพุงเขาไปหาหมาปายักษราว
กับอสรพิษ
คนที่เหลือไดยินแลวตางก็ทยอยกันลงมือ
สตรีผูงดงามที่สวมชุดสีดำสะบัดแขนเสื้อ กระบี่บินสีแดงสดสามเลมพุงออกไป
ชายรางใหญชี้ไปยังปายหยกเบื้องหนา แมงปองมีปกสองสามตัวบินออกมา และโผเขา
ไปเบื้องหนา หานลี่เริ่มผิวปากเบาๆ ชั่วขณะนั้นกระบี่บินสองสามเลมพลันเปลงแสง
สวางวาบ กลายเปนลำแสงสีทองผืนใหญพลันพุงทะยานออกไป
ในเวลาเดียวกัน ไปเหยาอี๋พลันพลิกฝามือ ตาขายโปรงใสผืนหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ
เพียงสะบัดเบาๆ ลำแสงเย็นเยียบพลันสวางวาบ ตาขายกลายเปนไอสีขาวตรงไปยัง
เหนือศีรษะของหมาปายักษคิดจะหอหุมมาทมิฬเอาไว
ถึงแมวาจะเปนการลงมือครั้งแรกของทั้งหาคน แตสมบัติตางๆ ที่ปลอยออกมาก็
ยังคงนาตกตะลึง
มาทมิฬตัวนั้นดูเหมือนวาจะชาญฉลาดมาก เมื่อเห็นการโจมตีเหลานี้ ก็ตกใจจน
กมหมอบลงไปดานลาง ซอนตัวอยูในขนของหมาปา และไมยอมเผยตัวตนออกมาอีก
ซากหมาปาเห็นการโจมตีที่มากมายเชนนี้ แววตาโหดเหี้ยมพลันสวางวาบ เสียง
คำรามหยุดลง กลับอาปากใหญๆ ออก พนเพลิงสีเขียวมรกตออกมาจากปากไมหยุด
ชั่วพริบตากก็กลายเปนคลื่นสีเขียวตรงเขาไปหาสมบัติอาคมสองสามชิ้นเหลานั้น
ตอนนั้นสมบัติลำแสงและเปลวเพลิงสีเขียวพลันประสานและพัวพันเขาดวยกัน
ไมวากระบี่บินของหานลี่หรือวาสมบัติของคนที่เหลือ คาดไมถึงวาจะถูกเปลว
เพลิงซากศพตานทานเอาไว ไมมีทางเขาใกลรางของหมาปายักษไดเลยแมแตนอย
แมงปองบินที่ถูกเรียกออกมาจากแผนปายหยกยังไมทันไดหลบหลีก ก็ถูกเปลวเพลิงสี
เขียวหอหุมเอาไว ชั่วขณะนั้นพลันกลายเปนควันสีเขียว ราวกับวาอานุภาพของเพลิง
ซากศพไมนอยเลยอยางไรอยางนั้น
ตาข ายสี ข าวที่ แ ต เดิ ม ต อ งลงมื อ กั บ ม าทมิ ฬ ก็ ถู ก เปลวเพลิ งสี เขี ย วรองเอาไว
เชนกัน ไมมีทางตกลงมาได เมื่อเห็นสถานการณเชนนั้น ไปเหยาอี๋ก็ทนไมไหวรองหึ
ออกมาดวยความเย็นชา
แตเดิมวังราตรีเหนือก็เปนสถานที่ที่มีหิมะ ไมวาจะเปนสมบัติอาคมหรือเคล็ดวิชา
ตางก็เปนธาตุน้ำแข็ง แนนอนวาจึงเหยียดหยามและไมใสใจเพลิงซากศพนี้แมแตนอย
ไมรอใหหานลี่และพวกมีปฏิกิริยาตอบสนองอะไร สองมือของนางพลันรายอาคม
ปากก็เปลงเสียงไพเราะออกมา รางกายเปลงแสงสวางวาบ ไอเย็นเยียบสีขาวโพลน
ชั้นหนึ่งทะลักออกมา ผลึกลำแสงที่งดงามเปนพิเศษกลุมหนึ่ง ทำใหสตรีผูนี้ดูสงางาม
ราวกับเปนธิดาน้ำแข็งอยางไรอยางนั้น อุณหภูมิรอบๆ ดานลดลงในชั่วพริบตา หานลี่
และชายชราแซฟูยังพอวา แตสตรีผูงดงามที่สวมชุดดำและชายรางใหญ ที่ไมทันได
ระวังตัวนั้น กลับสั่นสะทานอยางทนไมไหว
หมาปายักษดูเหมือนวาจะสัมผัสไดวาแยแลว หลังจากสูดลมหายใจเขามาเฮือกหนึ่ง
ปากก็พนเพลิงซากศพออกมา
แทบจะในเวลาเดียวกัน ไปเหยาอี๋ก็อาปากออกพนพัดน้ำแข็งดามหนึ่งออกมา
จากร า ง หลั ง จากหมุ น โคจรรอบหนึ่ ง ก็ ต กลงบนมื อ เรี ย ว รอบกายของนางพลั น
เปลงแสงเย็นเยียบออกมา มือสะบัดพัดเบาๆ ไปทางซากหมาปาอยางพอดิบพอดี
เวลานี้เสียงรองคำรามพลันดังออกมาจากพัด มันไมใชพายุสีเหลืองที่หานลี่เคย
เห็นมากอน แตเปนพายุหิมะที่มีผลึกน้ำแข็งจำนวนนับไมถวนพุงออกไปดานตรงขาม
ลำแสงสีเขียวและขาวสองสีสวางวาบ ชั่วขณะนั้นลำแสงสมบัติอาคมที่เหลือพลัน
ปกคลุมเอาไว เสียงระเบิดจากการปะทะของทั้งสองดังขึ้นเปนระลอกๆ
เพลิ ง ซากศพที่ ซ ากหมาป า พ น ออกมาร า ยกาจเป น พิ เ ศษ บางครั้ ง ก็ เ ป น
ความสามารถที่ควบคุมธาตุน้ำแข็งไดโดยเฉพาะ คาดไมถึงวาจะยังจะไมตกเปนรองได
ไปเหยาอี๋เห็นเชนนั้น ใบหนาพลันแดงก่ำ รูสึกโกรธแคนในเวลาเดียวกัน หลังจากพัด
น้ำแข็งสะบัดเบาๆ คาดไมถึงวาจะใหญ ขึ้นสองสามเทา กอเกิดเปนพายุน้ำแข็งที่มี
อานุภาพรุนแรงยิ่งกวาเดิมโหมกระหน่ำออกมาจากพัด
และในเวลานั้น ชายชราและพวกที่เคยประลองกับซากหมาปา แนนอนวาไมไดดู
การตอสูของไปเหยาอี๋และภูตผีตนนั้นเฉยๆ
ทั น ใดนั้ น ชายชราก็ ชี้ ไปยังโซ ต รวนที่ ป ลอ ยออกมาตอนแรก ชั่ วขณะนั้ น เสี ย ง
‘พรึ่บ’ พลันดังขึ้น ชั่วครูเปลวเพลิงสีดำก็ทะลักออกมา จากนั้นโซเสนนั้นพลันสะบัด
กลายเป น โซ เพลิ งยี่ สิ บ สามสิ บ เส น ชั่ วพริบ ตาก็ ก ลายเป น ตาข ายเพลิ งขนาดใหญ
ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของหมาปา และรวงลงมาอยางรายกาจ ราวกับตาขายสวรรค
อยางไรอยางนั้น

สวนสตรีผูงดงามที่สวมชุดสีดำก็กำลังบริกรรมคาถา กระบี่บินสีแดงสามเลมพลัน
สั่นคลอนอยางรุนแรง คาดไมถึงวาจะรวมตัวกันจากสามเปนหนึ่ง กลายเปนกระบี่
ยักษยาวสองสามจั้ง ไอกระบี่พลันตวัดฟนลงมาอยางรุนแรง
ชายรางใหญแซหยวนเก็บปายหยกในมือดวยสีหนาราบเรียบ ขวดน้ำเตาสีฟาใบ
หนึ่งปรากฏขึ้นในมือ พนหมอกสีมวงที่หนาแนนเปนพิเศษออกมา คอยๆ ลอยไปดาน
ตรงขาม และไมรูวามีผลลัพธเชนไร
หานลี่เห็นคนที่เหลือสำแดงความสามารถทั้งหมดออกมา ก็ขมวดคิ้วเล็กนอย
สะบัดแขนเสื้อเบาๆ เสนสีแดงสายหนึ่งสวางวาบแลวสลายหายไปจากแขนเสื้อ
ภายใตการโจมตีที่ถาโถมเขามา ถึงแมวาหมาปายักษจะมีความสามารถไมนอยก็
ยังรูสึกวาตานทานตอไปไมไหว โซเพลิงกลางอากาศและกระบี่ยักษสีแดงสดผสมเขา
ดวยกัน เพลิงซากศพถูกกดใหถอยออกไปทันที หมอกหนาๆ สีมวงเองก็ลอยเขามา
ทันที
ถึงแมวาซากหมาปาจะมีสติปญญาไมสูงสงนัก แตสัญชาตญาณของหมาปาก็ยังคง
ทำใหมันรูสึกอันตราย ทันใดนั้นรอบกายพลันเปลงแสงสีเขียวสวางวาบ รางกายหด
เล็กลง จากนั้นขนดานหลังพลันลุกชัน เมื่อเสียงคำรามทุ มต่ำดังขึ้น ลำแสงสีเขียว
จำนวนนับไมถวนพลันพุงออกมา คาดไมถึงวาจะปกคลุมทั้งหาคนเอาไว
เวลานี้อยูนอกเหนือความคาดหมายของพวกเขา แตก็ไมกลาดูแคลนพลางทยอย
กันสำแดงความสามารถออกมาตานทานลำแสงสีเขียวเหลานี้ ทำใหการโจมตีในมือ
หลีกเลี่ยงไมไดที่จะผอ นกำลังลง แต เพี ยงชั่วพริบ ตาที่ เสียเวลาไปนั้ น ซากหมาป า
กลายพันธุพลันหันหลัง ชั่วครูก็วิ่งกลับไปทางเดิมอยางรวดเร็ว
เวลานี้ ชายชราและพวกพลันอดที่จะตกตะลึงไมได
ตอนที่ 985 เสนไหมวิญญาณพิฆาต
ในตอนนั้นเอง ลำแสงสีแดงพลันสวางวาบ เข็มสีแดงเลมหนึ่งพลันปรากฏขึ้นที่
ดานขางหมาปายักษอยางแปลกประหลาด
หลังจากสวางวาบอีกครั้ง เข็มบินพลันกลายเปนเสนไหมสีแดงสายหนึ่งปกลงไป
บนเปลวเพลิงสีเขียวที่ปกปองหมาปายักษเอาไว
หลังจากที่เสียง ‘สวบ’ ดังขึ้น เสนไหมที่แหลมคมเปนพิเศษก็ทะลุผานเปลวเพลิง
สีเขียวไป
ภายใตความตกตะลึงของหมาปายักษ มันสะบัดหัวไปมาอยางสุดแรง แตก็ยังคง
ถูกเสนไหมสีแดงเจาะเขาไปที่ตนคอ และทะลุออกจากอีกดาน
ปากเปลงเสียงรองคำรามออกมาดวยความเจ็บปวด ชั่วขณะนั้นเทาทั้งสี่ของซาก
หมาปาพลันมีไอสีดำพุงออกมา ชั่วครูก็จมหายเขาไปในพายุทมิฬอยางไรรองรอย
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ ชายชราและพวกก็พากันดีอกดีใจ
“ตามไป!”
ไม รู ว า ผู ใ ดเป น คนตะโกน ลำแสงวิ ญ ญาณบนร า งของพวกเขาก็ ส ว า งวาบ
ขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีไลตามไป
แตในตอนนั้นเอง จูๆ ขางเอวของหานลี่พลันมีเสียงรองคำรามออกมา
น้ำเสียงไมดังนัก แตหานลี่กลับพลิกฝามือพรอมกับหนาเปลี่ยนสี ไอกระบี่สีเขียว
ขจีสองสามสายพลันพุงสลับตัดกันออกมา โจมตีไปยังพื้นดินที่หางออกไปสิบกวาจั้ง
อยางรุนแรง
เสียงตึงตังดังขึ้น พื้นดินพลันเปลงแสงทมิฬสวางวาบ มือสีดำสนิทสองสามมือ
ปรากฏขึ้นอยางแปลกประหลาด เพี ยงนิ้ วมื อ ขยับ ก็ดีดกระบี่ ลำแสงสองสามสาย
ออกมาอยางงายดาย
จากนั้นที่นั่นพลันมีลมพายุทมิฬ พัดแรง เงารางคนพลิ้วไหวสามเงาปรากฏขึ้น
รางๆ นั่นก็คือซากแหงที่ปรากฏตัวแลวครั้งหนึ่งตรงทางทางแยก
ไมรูวาพวกมันมีแผนการอะไร คาดไมถึงวาจะหลบหลีกเขตอาคมที่ทางแยก แลว
ตามคนเหลานี้มา และซอนตัวอยูไมยอมออกมาอยางแนบเนียน
แตเมื่อหานลี่และพวกกำลังจะจากไป ซากแห งตนหนึ่ งก็เผยกลิ่น อายออกมา
กลับทำใหอสูรวิญญาณครวญที่อยูในยามของหานลี่สัมผัสได ถึงไดถูกบีบใหเผยตัว
ถึงแมวาซากแหงเหลานี้จะผอมแห งเชน กัน แตความสูงนั้น ไมเหมือนกัน จาก
ความทรงจำอันยอดเยี่ยมของหานลี่ แนนอนวาจึงจำซากตนหนึ่งที่คุนตาได มันนาจะ
เปนกลายเปนเถาถานไปแลว
หานลี่อดที่จะหนาเปลี่ยนสีไมได สตรีชุดดำผูงดงามที่อยูดานขางและไปเหยาอี๋
เองก็รองอุทานออกมาดวยคามตกใจ
“ซากแหงเหลานี้กลับมามีชีวิตไดอยางไร ตอนที่ขาพบมัน มันดูเหมือนตายไปแลว”
คาดไมถึงวาจะเปนน้ำเสียงของสตรีชุดดำผูงดงาม ดูแลวตอนที่นางอยูในถ้ำอื่นคง
จะพบซากแหงอีกตัว
สวนความตกตะลึงของไปเหยาอี๋นั้น แนนอนวามาจากสาเหตุเดียวกันกับหานลี่
ใบหนาเผยสีหนาตกตะลึงระคนสงสัยออกมา
“ทำไม พวกเจารูจักภูตผีเหลานี้หรือ ตอนนี้อยาเพิ่งสนใจเรื่องอื่น การไลตามมาทมิฬ
นั้นเปนเรื่องที่สำคัญที่สุด สหายหาน ศิษยนองหญิงฉาง เจาสองคนอยูตอกรกับภูตผี
เหลานี้กอน คนที่เหลือและขาจะไลตามไป ถาหากมันหลบซอนไปอีกครั้งจะหายาก”
ถึงแมวาชายชราแซฟูจะรูสึกประหลาดใจกับการปรากฏตัวของซากศพแหงทั้งสาม แต
กลับคิดจะจับมาทมิฬกอนแลวคอยวากัน
ในความคิดของเขา ไมวาจะเป น หานลี่และศิษยน องหญิ งตอกรกับซากหลอม
ประหลาดสามตัวนี้ หรือวาพวกเขาสามคนตอกรกับซากหมาปาตัวนั้นก็ไมมีปญหา
คนอื่นๆ ก็ไมไดมีทาทีปฏิเสธ
หลังจากที่สตรีชุดดำผูงดงามตอบรับและหานลี่ก็พยักหนาแลว ชายชราแซฟูและ
พวกทั้งสามก็ไมลังเลอีกกลายเปนลำแสงหลีกหนีพุงออกไป ไลตามหมาปายักษและ
หายลับไปทามกลางพายุทมิฬ
หลังจากที่ห านลี่เก็บเข็มบินที่กลายเป นผลึกแลว ก็ยืน เคียงบากับสตรีชุดดำผู
งดงาม มองไปยังซากแหงสองสามตนนั้นอยางเย็นชา
ถึงแมวาความสามารถเดิมของภูตผีจะแปลกประหลาด แตซากศพที่ถูกอัสนีเทวา
ทำลายไปกลั บ ปรากฏขึ้ น อี ก ครั้ ง ช า งน า เหลื อ เชื่ อ จริ ง ๆ ดั ง นั้ น หานลี่ จึ ง มี สี ห น า
ราบเรียบ แตในใจกลับมีความระมัดระวังเพิ่มขึ้นอีกสองสามสวน
ในฐานะที่สตรีผูงดงามเปนอาวุโสของพรรคเกายมโลก จึงรูจักวรยุทธสายภูตผีปศาจ
อยูอยูจำนวนมาก และไมกลาดูแคลนซากแหงเหลานี้เชนกัน ถึงแมวากระบี่ยักษสีแดง
ที่โคจรอยูเหนือศีรษะจะเปลงแสงอันเจิดจาออกมา นางก็ไมไดคิดจะบุมบามลงมือ
พวกหานลี่ทั้งสองเยือกเย็นขนาดนี้ แตซากศพที่อยูตรงหนาเห็นอีกสามคนจากไป
ไกลแลวกลับระงับความเยือกเย็นเอาไวไมอยู
รางตรงกลางที่คอนขางใหญสาวเทายาวๆ ไปขางหนาสองกาว แลวอาปากออก
ในเวลาเดียวกันพน เสนไหมบางๆ สีเทาออกมาจากปาก ตรงไปหาสตรีผูงดงาม
“รนหาที่ตาย!” สตรีผูงดงามมีสีหนาเครงขรึม ปากก็รองหึออกมาอยางเย็นชา
จากนั้นก็ชี้ไปยังกระบี่ยักษที่อยูเหนือศีรษะ
กระบี่ยักษสับลงมาจากกลางอากาศ ไอกระบี่สีแดงสดสายหนึ่งฟนลงมาอยาง
รุนแรง
ในความคิดของสตรีผูนี้ เสนไหมบางๆ ที่ไมสะดุดตาเหลานี้มากสุดก็ถูกหลอมมา
จากไอมาร เคล็ดวิชาธาตุไฟนาจะควบคุมมันไดดี
ผลลัพธคือ กลับมีภาพที่นาตกตะลึงปรากฏขึ้น!
หลังจากเสียง ‘สวบ’ ดังขึ้น เสนไหมสีเทาก็ทะลุผานลูกไฟไปราวกับไมมีอะไร
ขวางกั้นอยู จากนั้นแสงเพลิงพลันสวางวาบ ลูกไฟหายไปจากกลางอากาศ ชั่วพริบตา
ก็ถูกเสนไหมบางๆ ดูดซับไปจนเกลี้ยง
สวนกระบี่แสงสีแดงที่ตามมาติดๆ แลวสับลงมายังภูตตนนั้นก็ไมไดตางอะไรจาก
ลูกไฟนัก หลังจากทำใหเสนไหมสีเทาเหนียวทนทานขึ้นแลว ก็ถูกดูดหายไปอยางไร
รองรอยเชนกัน
เมื่อเสนไหมนี้ไมไดหยุดชะงักและพุงมาอยูเบื้องหนาของสตรีชุดดำผูงดงาม นาง
พลันมีสีหนาตกตะลึง สะบัดแขนเสื้อ โลเล็กๆ สีเขียวปรากฏขึ้น ลำแสงสวางวาบ โล
อันนั้นขยายใหญขึ้นสองสามเทาพลางตานทานอยูเบื้องหนาของนาง
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น กระบี่ยักษเลมนั้นที่อยูกลางอากาศก็สวางวาบแลว
ฟนลงมา
เคล็ดวิชาที่สรางขึ้นจากลมปราณอาจจะถูกดูดซับไปได แตเปนสมบัติอาคมที่แต
เดิมมีความสามารถในการโจมตีอยูแลวจะไมเกิดเหตุการณเชนนั้นขึ้นอีกแนนอน เวลา
นี้สตรีชุดดำผูงดงามมีความคิดเชนนี้
ดั ง ที่ คิ ด ไว เมื่ อ กระบี่ ยั ก ษ ฟ น ลงมาถื อ เส น ไหมสี เทา ชั่ ว ขณะนั้ น ก็ ท ำให มั น
หยุดชะงักและอดที่จะดิ้นกระตุกซ้ำๆ ไมได
ภายใตความดีอกดีใจของสตรีผูงดงาม ตอนที่กำลังคิดจะกระตุนความสามารถของ
กระบี่ เสนไหมสีเทากลับพราเลือน คาดไมถึงวาจะกลายเปนเสนไหมสีเทารอยเสน
เสนไหมทั้งหมดพลันพลิกตวัดไปมา ชั่วพริบตาก็รัดกระบี่ยักษเอาไวอยางแนนหนา
จากนั้นเสนไหมทมิฬที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้นบนเสนไหมสีเทา ลำแสงสีแดง
บนกระบี่และลำแสงทมิฬสัมผัสกัน แลวทยอยกันหดเล็กลง ผิวของกระบี่ยักษเริ่ม
เปลี่ยนจากสีแดงเปนสีดำทีละนิดๆ ทาทางเหมือนจะถูกกลืนกิน
สตรีแซฉางและกระบี่เลมนั้นเชื่อมโยงจิตใจเขาดวยกัน เวลานั้นจึงชะงัก
ตอนนั้น สตรีชุดดำผูงดงามพลันจิตใจหนักอึ้ง ตบไปที่ยามเก็บของอยางไมตองคิด
สมบัติราวกับกรงลอชิ้นหนึ่งพลันปรากฏขึ้นในมือ
แตไมทันไดรอใหนางใชมันเปนเครื่องสังเวยแทนกระบี่บินของตน จูๆ ดานขางก็มี
เสียงฟาผาดังขึ้น ประจุไฟฟาสีทองที่แสบตาสายหนึ่งพุงออกมา โจมตีไปยังกระบี่ยักษ
อยางพอดิบพอดี
เสียงฟาผาดังขึ้น เสนไหมสีเทาขาดออกเปนทอนๆ ทามกลางลำแสงสีทอง กระบี่
ยักษเปนอิสระอีกครั้ง!
“ขอบพระคุณความชวยเหลือของพี่หาน!”
สตรีผูงดงามเอยปากขอบคุณดวยความดีใจอยางรวดเร็ว จากนั้นพลันรายคาถา
กระบี่บินกลายเปนลำแสงสีแดงสามสายพุงกลับมา หายเขาไปในแขนเสื้ออยางไร
รองรอย
หลังจากที่หานลี่โจมตีแทนอีกฝายนั้น กลับไมสนใจความมีมารยาทของสตรีผูนี้
ทวาจองเขม็งไปยังกลางอากาศ พลางขมวดคิ้วแนน
เพราะวาตรงขามมีซากแหงรองคำรามอยู เสนไหมสีเทาที่แตเดิมโจมตีจนแตก
กระจายออกคาดไมถึงวาจะผนึกรวมตัว ชั่วครูก็ฟนฟูกลับมาเปนเสนไหมบางๆ อีก
ครั้งดังเดิม
เวลานี้รางของซากแหงอีกสองตนก็เดินโยกเยกเขามา ทาทางเหมือนจะเขามา
พรอมกัน
สตรีชุดดำผูงดงามมองเห็นภาพฉากนั้น สีหนาก็ไมไดดีเทาไหรนัก แตหลังจากที่
สายตาหยุดชะงักที่เสนไหมสีเทา ลำแสงในหัวก็สวางวาบพลางนึกอะไรขึ้นได
“ไหมวิญญาณพิฆาต ของเหลานี้ไมใชไอวิญญาณของซากศพ คือไอวิญญาณของ
ซากสังหาร” นางรองอุทานออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหง สีหนาซีดขาวเปนพิเศษ
“ไอวิญญาณของซากสังหาร?”
หานลี่ ไ ด ฟ ง ชื่ อ นี้ ก็ รู สึ ก คุ น หู เ ล็ ก น อ ย หลั ง จากขบคิ ด แล ว ก็ นึ ก ถึ ง บั น ทึ ก
ประสบการณของเทพขับเคลื่อนที่เพิ่งอานไปไดไมนานทันที
เมื่อนึกถึงรายละเอียดแลว ชั่วขณะนั้นพลันพลันมีสีหนาเครงขรึมลง ของสิ่งนี้เปน
หนึ่งในความสามารถของภูตผีที่ผูบำเพ็ญเพียรนอยคนนักจะรูจัก
ซากสังหาร ชื่อตรงตัวอยูแลว ของสิ่งนี้แตเดิมคือไอสังหาร แตแคไมใชไอสังหาร
ธรรมดาๆ ก็เทานั้น หลังจากคนที่มีความแคนอยูเต็มอกตายลง ไอสังหารจะยังไม
สลายไปและจะผสานกันกับไอของซากศพกลายเปนสัตวประหลาด
วากันวากอตัวขึ้นยากเปนพิเศษ อยางนอยที่สุดก็ตองเปนซากศพของผูบำเพ็ญ
เพียรระดับหลอมรวมขึ้นไป และยังมีเงื่อนไขอีกมากมาย ถึงจะมีโอกาสผนึกรวมตัวกัน
ได แตเมื่อไอของซากสังหารกอตัวขึ้นแลว ก็จะกลายเปนอมตะ และยิ่งไปกวานั้นยัง
สามารถดูดซับไอวิญญาณเบญจธาตุและทำลายสมบัติอาคมตางๆ ได ชางประหลาด
จริงๆ นับเปนหนึ่งในความสามารถที่สุดยอดที่สุดของเหลาภูตผี
สวนเสนไหมวิญญาณพิฆาต ถึงแมวาเขาจะไมเคยไดยินมากอน แตดูแลวก็นาจะ
อาศัยไอของซากสังหารสำแดงความสามารถออกมา มินาละถึงไดจัดการยากขนาดนี้
ดู แ ล ว ถึ ง แม ว า อั ส นี เทวาป ด เป า ภยั น ตรายของเขาจะสามารถทำให มั น แตก
กระจายออกไปได แตก็ไมมีทางกำจัดมันจนสิ้นซาก
ในชั่วพริบตาที่หานลี่เขาใจเรื่องราวทุกอยางแจมแจงชัดเจน ซากแหงสามตัวกลับ
ยื่นมือทั้งสองขางออกไปพรอมกัน ดีดนิ้วทั้งสิบ ปลายนิ้วแตละนิ้วมีเสนไหมสีเทาๆ พุง
ออกมา
สตรีชุดดำผูงดงามสูดลมหายใจเขาไปเฮือกหนึ่ง ปลอยกรงลอในมือออกมา ใน
เวลาเดียวกันก็บริกรรมคาถา
หลั ง จากที่ ก รงล อ หมุ น กลางอากาศ จู ๆ ก็ มี ล ำแสงวิ ญ ญาณเจ็ ด สี พุ ง ออกมา
กลายเปนมานลำแสงชั้นหนึ่งหอหุมพวกหานลี่ทั้งสองคนเอาไว
“ลำแสงวิญญาณเจ็ดสี! สมบัติอาคมสำนักพุทธ!”
มือของหานลี่ที่แตเดิมชูขึ้น ประจุไฟฟาสีทองสวางวาบ เมื่อเห็นสถานการณ นี้
กลับอดที่จะหยุดชะงักการกระทำไมได และเผยสีหนาตกตะลึงออกมา
เสนไหมวิญญาณพิฆาตเหลานี้มหัศจรรยอยางหาที่เปรียบมิได ชั่วพริบตาก็โจมตี
ไปยังมานลำแสงเจ็ดสี แตคาดไมถึงวาจะถูกตานทานเอาไวดานนอก ไมถูกทิ่มแทงจน
ทะลุผาน
หานลี่กลับไมไดตกตะลึง แตเดิมเคล็ดวิชาสำนักพุทธก็มีความสามารถในการควบคุม
ภูตผีอยูแลว ถึงแม วาเสน ไหมวิญ ญาณพิ ฆาตจะรายกาจขนาดไหน แต เมื่ อ พบกั บ
ลำแสงวิญญาณสำนักพุทธก็ไมอาจทำลายได แตในฐานะอาวุโสแหงพรรคสายมารของ
สตรีผูงดงามผูนี้ คาดไมถึงวาจะมีสมบัติสำนักพุทธดวย นี่จึงยิ่งทำใหหานลี่รูสึกตกใจ
ซากแหงสามตนเห็นเสนไหมวิญญาณพิฆาตไมไดผล กลับไมยอมหยุดพัก พลัดสบัดนิ้ว
ทั้ งสิ บ ชั่ วขณะนั้ น เส น ไหมสี เทาจำนวนนั บ ไม ถว นพลั น ปรากฏขึ้ น จากทั่ ว ทั้ งสี่ ทิ ศ
จากนั้นก็เขาปะทะพัวพันกับมานลำแสงเจ็ดสีชั้นแลวชั้นเลา ทาทีเหมือนจะกักทั้งสอง
เอาไวขางใน
แววตาของหานลี่ฉายแววเย็นเยียบ สองมือประกบเขาดวยกันและชูขึ้นอีกครั้ง
ประจุไฟฟาสีทองหนาๆ หลายสายพลันพุงออกมาจากฝามือ โจมตีไปยังมานลำแสง
หลังจากเสียง ‘ปงๆ’ ดังขึ้น ตาขายสายฟาสีทองชั้นหนึ่งพลันปรากฏขึ้นที่ภายนอก ชั่ว
พริบตาก็โจมตีเสนไหมสีเทาที่อยูภายนอกจนกลายเปนไอสีเทา และหายลับไป
ซากแหงทั้งสามเห็นเชนนั้น กลับไมไดใสใจเลยแมแตนอย ในมือยังคงพนเสนไหม
วิญญาณพิฆาตออกมาไมหยุด ที่ถูกไอสีเทาโจมตีจนสลายไปก็ฟนฟูกลับมาอีกครั้ง
“สหายฉาง ปลดมานแลวออกไป!” หานลี่เอยขึ้นสั้นๆ
เสียงฟาผาดังขึ้นอีกครั้ง ดานหลังของเขามีปกสีเงินคูหนึ่งปรากฏขึ้น
สตรีชุดดำผูงดงามไดยินคำพูดของหานลี่ แตเดิมคิดจะเอยปากหาม ทวาเมื่อเห็น
สถานการณที่แปลกประหลาดของหานลี่ก็กลืนคำพูดลงไปในทันที ชั่วขณะนั้นมาน
ลำแสงพลันแยกออกเปนสองสวน
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ปกทั้งสองพลันกระพือ หานลี่หายลับไปทามกลาง
ลำแสงสีเงิน
สามซากศพผานการเบิกสติปญญาแลวนั้นมือพลันหยุดชะงักตามสัญชาตญาณ
สายตาอดที่จะเหลือบซายแลขวาไมได แตตอมา ดานหลังของพวกมันหางออกไปสอง
สามจั้ง ประจุไฟฟาสีเงินพลันสวางวาบ รางของหานลี่ปรากฏขึ้น สามซากศพดีดนิ้วทั้ง
สิบอยางไมตองขบคิด เสนไหมสีเทายี่สิบสามสิบสายพุงเขามาหานลี่
หานลี่ไมไดหลบหลีก แตอาปากออก พนลำแสงสีทองสามสายออกมาจากปาก
อยางตอเนื่อง โจมตีไปยังสามซากศพ
ตอนที่ 986 ยักษปกเงิน
จากความเร็วแลว เห็นไดชัดวาแสงสีทองที่หานลี่พนออกมานั้นเร็วกวาเสนไหม
เหลานั้น หลังจากเสียงฟบๆ ดังขึ้น กระบี่เลมเล็กสีทองเรืองรองสามเลมก็ปกลงไป
กลางอกของซากศพทั้งสาม
และในเวลาเดี ย วกั น นั้ น เส น ไหมวิญ ญาณพิ ฆ าตก็ ม าอยู เบื้ อ งหน าของหานลี่
ตองการจะโอบรัดรางของเขา
แตหานลี่กลับคำรามดวยเสียงทุมต่ำออกมา ชั่วครูรางกายก็มีลำแสงเจ็ดสีชั้นหนึ่ง
ปรากฏขึ้น เสนไหมสีเทาที่โจมตีไปยังตัวเขา ชั่วขณะนั้นพลันถูกกั้นเอาไวภายนอก
“ลำแสงวิญ ญาณเจ็ด สี ” สตรีชุด ดำผู งดงามที่ อ ยู ไกลออกไปเห็ น สถานการณ
เชนนั้น ก็อดที่จะตกตะลึงไมได
หานลี่กลับชี้ไปยังสามซากศพที่โยกเยกไปมาดวยความใบหนาไรความรูสึก
เสียงฟาผาดังขึ้นสามครั้ง ประจุไฟฟาสีทองพลันพุงออกมาจากกระบี่เลมเล็กสาม
เลมในเวลาเดียวกัน ชั่วพริบตาขายสายฟ าพลัน ห อหุ มสามซากศพเอาไว เวลานั้ น
ประจุไฟฟาพลันวิ่งแลนไปทั่วทั้งสี่ทิศ
ชั่ ว ขณะนั้ น สามซากศพไม แ ม แ ต จ ะส ง เสี ย งใดออกมา ร า งกายระเบิ ด ออก
ทามกลางประจุไฟฟาสีทองและหายวับไป กลับมีไอสีดำสนิทสามกลุมปรากฏขึ้นอีก
ครั้งทามกลางแสงสีทอง
ไอเหลานี้ถูกประจุไฟฟาสีทองมุงทำลายไมหยุด กลับยังผนึกรวมกันอีกครั้งภายใต
อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายราวกับวาเปนสิ่งที่ฆาไมตายอยางไรอยางนั้น
หานลี่เห็นเชนนั้นพลันขมวดคิ้ว
“นี่ถึงจะเปนรางที่แทจริงของซากหลอมเหลานี้ คาดไมถึงวาพวกมันจะหลอมรวม
ไอของซากสังหารเขากับรางตัวเอง เวลานี้เกรงวาจะไมมีทางสังหารพวกมันได ทำได
เพียงใชเขตอาคมตองหาม ผนึกพวกมันไวชั่วคราว” สตรีชุดดำผูงดงามเห็นหานลี่ทำ
สำเร็จ ก็ เก็ บ ม านลำแสงที่ พุ งเข ามาด วยความดี อ กดีใจทั น ที เมื่ อ เห็ น สถานการณ
เชนนั้น จึงเอยปากแนะนำ
“อยาทำอะไรใหยุงยากเลย ยังไมรูวาภูตผีเหลานี้มีความสามารถพิเศษอะไร เขตอาคม
ธรรมดาๆ เกรงวาจะไมอาจผนึกได ใหเรื่องหลักเสร็จสิ้น เรื่องอื่นๆ ก็เสร็จสิ้นเถิด”
“เรื่องหลักเสร็จสิ้น เรื่องอื่นๆ ก็เสร็จสิ้น?”
สตรีผูงดงามมีสีหนาประหลาดใจ ยังไมทันไดเขาใจความหมาย จูๆ หานลี่พลัน
ตบไปที่ยามเก็บอสูรวิญญาณขางเอว ลำแสงสีดำสายหนึ่งพุงออกมา หลังจากหมุนวน
หนึ่งรอบก็ตกลงสูพื้น เผยใหเห็นวานรนอยที่เปลงรัศมีสีดำออกมา
นั่นก็คืออสูรวิญญาณครวญ!
หลังจากที่อสูรตัวนั้นถูกซากศพทำใหตกใจตื่น ก็รูสึกตื่นเตนคึกคะนองอยูตลอด
หลังจากปรากฏกายก็ไมรอใหหานลี่ไดออกคำสั่ง จมูกใหญ ๆ ของมันสงเสียงเหอะ
พรอมกับพุงไปดานหนาทันที ชั่วขณะนั้นพลันพนลำแสงออกมาจากจมูก ชั่วครูก็มวน
เอาไอสีดำในประจุไฟฟาสีทองเขาไป จากนั้นก็หดเล็กลงแลวตวัดกลับเขามาในปาก
อันใหญโตของอสูรตัวนั้นอยางงายดาย
หลั งจากที่ อ สู ร วิญ ญาณครวญกลื น ลงไปหลายคำ ก็ เอามื อ ตบหนั งท อ งทั น ที
กระโดดโลดเตนดวยความดีอกดีใจ ดูเหมือนวาจะตื่นเตนดีใจเปนพิเศษ!
สตรีผูงดงามที่อยูดานขางมองเห็นแลวพลันตกตะลึงจนอาปากคาง!
อสูรวิญญาณที่กลืนกินภูตผีได ถึงแมวาในใตหลานี้จะมีอยูไมมากนัก แตก็ไมใชวาจะ
ไมมี แตตัวที่เหมือนกับวานรนอยเบื้องหนาซึ่งสามารถกลืนกินภูตผีจากซากไอสังหาร
ไดอยางสบายๆ นั้น นางไมเคยไดยินมากอน และยิ่งไปกวานั้นดูเหมือนวาจะมีเพียง
วานรวิญ ญาณเนตรมรกตในตำนานเท านั้ น ที่ สามารถทำได แต ลักษณะของมั น ไม
เหมือนกับวานรนอยที่อยูเบื้องหนาเลยแมแตนอย
ขณะที่สตรีผูงดงามกำลังตกตะลึง หานลี่ก็มองอสูรวิญญาณครวญ หลังจากพบวา
มันไมแตกตางจากเดิมเลยแมแตนอยก็วางใจ เขาไมไดเก็บอสูรตนนั้นอีกครั้งในทันที
แตหลังจากขบคิดแลว ก็กวักมือ
ชั่วขณะนั้นหลังจากที่อสูรวิญญาณครวญพลิกกลับมาดวยความเชื่อฟง ก็นั่งยองๆ
อยูบนไหลของหานลี่ไมขยับเขยื้อน
“ไปกันเถิด ไมรูวาพวกพี่ฟูนั้นจับมาทมิฬกันไดหรือยัง” หานลี่มองไปยังสตรีชุด
ดำผูงดงามแวบหนึ่ง แลวเอยอยางราบเรียบ
“นาจะไดแลวกระมัง ซากหมาปาถูกพี่หานทำใหไดรับบาดเจ็บ ไมอาจหนีไปได
ไกลนัก และยิ่งไปกวานั้นยังมีสหายหยวนและไปสองคนคอยชวยเหลือ” สตรีแซฉาง
ฝนระงับความสนใจที่มีตออสูรวิญญาณครวญเอาไว แลวตอบกลับพรอมกับอมยิ้ม
หานลี่หัวเราะออกมา ตอนที่กำลังคิดจะเอยปากนั้น รางกายกลับสั่นสะทาน จูๆ
ในเวลาเดียวกันสตรีผูงดงามที่อยูเบื้องหนาพลันหนาเปลี่ยนสี
หลังจากที่ทั้งสองมองสบตากับแวบหนึ่งดวยความตกตะลึงแลว หานลี่ก็สะบัด
แขนเสื้อ สตรีผูนั้นลูบไปที่ยามเก็บของ พลิกฝามือจานอาคมใบหนึ่งพลันปรากฏขึ้น
และมองไปทางดานบน
“สัญลักษณของสหายหยวนหายไปแลว สหายฉาง ของเจาเปนอยางไร?” หานลี่
สูดลมหายใจเขาเฮือกหนึ่ง เงยหนาเอยถามดวยความเครงขรึม
“สัญลักษณบนรางของสหายหยวนที่ขานั้นก็หายไปแลว หรือวาสหายหยวนเกิด
เรื่องแลว? แตพวกเขาเพิ่งจะแยกกับพวกเราไดไมนาน!” สตรีชุดดำผูงดงามมีสีหนาไม
อยากจะเชื่อ
“ไมแนใจนัก พี่ฟูอาจจะพบกับศัตรูที่แข็งแกรง หรือสหายหยวนไมทันไดระวังไป
ติดกักดักอะไรเขา เขตอาคมบางอยางก็สามารถตัดขาดสัญลักษณจากลมปราณของ
พวกเราได” หานลี่ตอบกลับดวยสีหนาเยือกเย็น
“สหายหานพูดถูก พวกเรารีบไปดูเถิด จากสัญลักษณแลว ศิษยพี่ฟูนาจะอยูไม
ไกลนัก” สตรีชุดดำผูงดงามเอยอยางรอนรน
แนนอนวาหานลี่พลันพยักหนาอยางไมมีความเห็น
จากนั้นทั้งสองพลันกลายเปนลำแสงหลีกหนีสองสายพุงออกไปจากที่นี่ ตรงไป
ตามเสนทางเดิม
หลังจากที่บินเลี้ยวไปตามทางเดินเจ็ดแปดครั้งอยางตอเนื่องเปนระยะสิบกวาลี้
เบื้องหนาของทั้งสองก็สวางจา ตรงหนามีที่วางปรากฏขึ้น ทุกแหงลวนเปนกองแรศิลา
ที่ถูกทิ้งไว
ภายใตความระมัดระวังตัวของทั้งสอง ชั่วขณะนั้นพลันผอนความเร็วลง
แตหลังจากที่บินออกมาไดรอยกวาจั้ง กลับไมมีแรศิลา แตมีจัตุรัสเล็กๆ ปรากฏ
ขึ้นแทน
ตรงกลางจั ตุ รั ส คื อ ไผ ยั ก ษ สี เขี ย วมรกตกอหนึ่ ง ต น ไผ สู ง เสี ย ดถ้ ำ ไม เห็ น ยอด
ดานลางมีเขตอาคมขนาดยักษวางอยู แทบจะครอบครองพื้นที่ทุกตารางนิ้วในจัตุรัส
และทั้งสี่ดานก็มีเสาหินสูงใหญสิบกวาตน ทุกตนมีซากศพแหงสีดำสนิทที่ถูกโซเหล็ก
พันธนาการเอาไวตนละหนึ่งซาก เหมือนกับซากศพสามซากที่หานลี่พบมากอนหนานี้
อยางไรอยางนั้น หนาอกถูกเปดออก
สิ่ ง ที่ ท ำให ห านลี่ แ ละสตรี ผู ง ดงามตกตะลึ ง ก็ คื อ ใต ก อไผ สี เขี ย วมรกตมี สั ต ว
ประหลาดที่มีขนสีเขียวปกคลุมเรือนรางอยู ตัวประหลาดตัวนั้นนั่งลงตรงนั้น มือหนึ่ง
ถือซากศพไรหัวเอาไว กำลังกมหนาลงกัดกินอะไรสักอยางอยางเอร็ดอรอย ดูจาก
อาภรณของซากศพแลว เห็นไดชัดวาเปนชายรางใหญแซหยวนอยางไมตองสงสัย
ดานขางตัวประหลาดขนสีเขียวมีสัตวประหลาดตัวใหญยักษอยูตัวหนึ่ง คือหมา
ปายักษที่เคยพบกอนหนา กำลังกัดกินอะไรสักอยางอยูเชนกัน เห็นไดชัดวาในกรงเล็บ
ที่แหลมคมของมันคือตะพาบวิญญาณตัวนั้นของชายรางใหญแซหยวน เวลานั้นมันไร
ซึ่งพลังชีวิต และตายแลวเชนกัน
สวนมาทมิฬนั้นยังคงหมอบอยูบนศีรษะของหมาปายักษไมขยับเขยื้อน
เมื่อเห็นเหตุการณเหลานี้ หานลี่พลันตกตะลึง!
สตรีชุดดำผูงดงามสีหนาซีดขาวขณะกวาดสายตาไปรอบๆ จากนั้นปากก็อดที่รอง
อุทานออกมาดวยเสียงต่ำๆ และแหบแหงไมได
“ศิษยพี่ฟู!”
สตรีผูนั้นจองเขม็งไปบนทองฟา ใบหนาเต็มไปดวยความหวาดกลัว
หานลี่มองตามไป ถึงไดพบวากลางอากาศเหนือจัตุรัสทั้งสองฝง มีสิ่งที่เหมือนกับ
รังไหมสีเทาลอยนิ่งอยู ดานนอกมีเสน ไหมสีเทาเป นชั้น ๆ เห็ น ไดชัดวาคือเสนไหม
วิญญาณพิฆาตที่เคยพบมากอนหนานี้ แตความหนาแนนของรังไหมเชนนี้ ซากศพแหง
กอนหนาไมมีทางเทียบไดแน
สวนในรังไหมทั้ งสอง มี เสี ย งระเบิ ด ป งป งดั งขึ้ น ไม ห ยุ ด อี ก อั น กลั บ เงีย บกริ บ
บางครั้งก็มีผลึกลำแสงเปนเสนๆ พุงออกมา
ดูแลวชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋คงจะแคถูกกักเอาไว ยังคงมีชีวิตอยูในนั้น
แตชั่วครู ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางทั้งสามก็คนตายหนึ่งถูกกักสอง
หานลี่ยังคงรักษาความเยือกเย็นในภายนอกเอาไว แตความตกตะลึงในใจนั้นแคคิดก็รู
แลว
ถึงแมวาสตรีผูงดงามสวมชุดดำจะเปนหวงชายชราแซฟู แตก็รูวาตอนนี้ไมใชโอกาสใน
การชวยเหลือ หลังจากมองรังไหมสีเทาไปสองแวบ นางก็ชักสายตากลับมา แตแขน
เรียวก็สะบัดออกอยางไมใสใจ มือหนึ่งควากรงลอสำนักพุทธเอาไวในมืออีกครั้ง
แตตัวประหลาดขนสีเขียวนั้นไมสนใจทั้งสองคน แคตั้งหนาตั้งหนากินไมหยุด
หลังจากเสียง ‘แควก’ ดังขึ้น แขนขางหนึ่งถูกตัวประหลาดขนสีเขียวฉีกออก
แลวกลืนลงไปในทองจนเกลี้ยง
มองเห็นซากศพของชายรางใหญแซหยวนเลือนรางไป รูมานตาของหานลี่พลัน
หดเล็กลง ดวงตาทั้งสองมีลำแสงสีฟาสวางวาบ
และในตอนนั้นเอง อสูรวิญญาณครวญที่หมอบอยูบนไหลก็เปลงเสียงกรีดรอง
แหลมสูงออกมา ขนที่ ห ลั งลุ ก ชั น จอ งเขม็ งไปยั งตั วประหลาดขนสี เขี ย วพลางทำ
ทาทางจะโจมตี
แตไขมุกวิญญาณครวญในรางของหานลี่กลับสัมผัสไดถึงความตื่นเตนดีใจของ
อสูรตนนี้ในเวลาเดียวกัน คาดไมถึงวากวาครึ่งจะมีความหวาดกลัวอยูในนั้น ราวกับวา
พบศัตรูโดยธรรมชาติอะไรสักอยาง
หานลี่ระมัดระวังตัวมากขึ้น
แตในตอนนั้น เมื่อตัวประหลาดขนสีเขียวไดยินเสียงกรีดรองของอสูรวิญญาณ
ครวญ การเคลื่อนไหวในมือกลับหยุดชะงัก จากนั้นพลันสะบัดมือ เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น
จากทางซากศพทันที ชั่วครูก็บินออกไปยี่สิบกวาจั้ง ถึงไดรอนลงบนพื้นอีกครั้ง
หานลี่และสตรีผูงดงามเห็นเชนนั้น ก็หนาเปลี่ยนสีไปอีกครั้ง
ตัวประหลาดขนสีเขียวตัวนี้ชางโอหังนัก!
มันยืนขึ้นอยางไมรีบรอนรอน และเงยหนาขึ้นมองมา
หานลี่ถึงไดมองเห็นรูปรางของตัวประหลาดขนสีเขียวอยางชัดเจน
มองปราดเดียวก็เห็นวาใบหนาของตัวประหลาดตัวนี้มีปากแหลมๆ แกมเหมือนลิง
ราวกั บ วานรตั ว หนึ่ ง อย า งไรอย า งนั้ น แต ห ากพิ จ ารณาอย า งละเอี ย ดจะรู ว า ไม
เหมือนกัน
ไมมีวานรตัวไหนที่มีเขี้ยวยาวโงงโผลออกมานอกปากสองสามชุน และยังแหลม
คมอยางหาที่เปรียบมิไดเชนนี้ และยิ่งไปกวานั้นตัวประหลาดตัวนั้นกลับมีโลหิตสดๆ
อยูเต็มปาก ดวงตาทั้งสองกลับเปลงประกายสีขาว คาดไมถึงวาจะดูเหมือนไมมีลูกตา
อยางไรอยางนั้น ชางเปนภาพที่แปลกประหลาดจริงๆ
สิ่งที่ใหหานลี่สนใจก็คือ หลังจากที่ตัวประหลาดตนนี้ยืนขึ้น ดานหลังของมันกลับ
มีกอนนูนสูงๆ สองอันปรากฏขึ้น ราวกับซาลาเปาไสเนื้อสองลูกอยางไรอยางนั้น
ตัวประหลาดขนสีเขียวกวาดสายตาไปบนรางของทั้งสอง แววตาแข็งคาง จอง
เขม็งไปยังอสูรวิญญาณครวญบนไหลของหานลี่เขม็ง ในเวลาเดียวกันใบหนายังเผยสี
หนาแปลกประหลาดออกมา ราวกับวาตกตะลึง และดูเหมือนวาจะงงงวย
อสูรวิญญาณครวญถูกตัวประหลาดขนสีเขียวจองเขม็ง ไมใชแคบางจุดในแผน
หลัง ขนทั่วเรือนกายพลันลุกชั้น
จากนั้นพลันกระโจนออกไป มันกระโดดมาอยูหางจากเบื้องหนาของหานลี่สองสามจั้ง
หลังจากสองมือพยายามออกแรงตบไปที่ ห น าอกนั้ น ลำแสงสีดำรอบกายสวางจา
รางกายขยายใหญขึ้น
ชั่วพริบตา วานรยักษที่โหดเหี้ยมสูงสิบกวาจั้งก็ปรากฏตัวขึ้นในถ้ำ ลวดลายภูตผี
อัปลักษณสีโลหิตบนแผนหลังชัดเจนขึ้นเปนพิเศษ ราวกับมีชีวิตขึ้นมาอยางไรอยางนั้น
หลังจากที่อสูรวิญญาณครวญเปลี่ยนไป ตัวประหลาดขนสีเขียวที่อยูตรงขามกลับดู
เหมือนวาจะสัมผัสอะไรได รางกายถอยรนไปหลายกาว ในเวลาเดียวกันไหลทั้งสองก็
สั่นเทา
เสียง ‘พรึ่บ ๆ’ ดังขึ้น ตรงกอ นซาลาเปาทั้ งสองมี ป กขนาดสองจั้ งงอกออกมา
ดานบนมีลำแสงสีเงินแวววาว เปลงประกายจนแสบตา
“ยักษปกเงิน!”
สตรีชุดดำผูงดงามเรียกชื่อออกมาแทบจะในเวลาเดียวกันที่ตัวประหลาดขนสี
เขียวสงเสียงรองครวญครางออกมา แววตางดงามมีความตกตะลึงและลนลาน
หานลี่ใบหนาซีดขาวไปเล็กนอย
ยักษ ป กเงิน คือซากหลอมที่ เป น รองแคซ ากจัน ทรารางทองที่ ดำรงอยูในแดน
มนุษยเทานั้น หากเปลี่ยนคำพูดก็คือ นี่คือสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถนากลัวไมตาง
อะไรกับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย
ในตำนาน ถาหากผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายและมันตอสูกันละก็
กวาครึ่งผูที่พายแพคงเปนฝงมนุษย
เพราะมันพัฒนาจากซากเทวัญมาเปนซากหลอมชนิดนี้ ภายใตปกสีเงินที่กระพือ
นั้น ก็สามารถบินขึ้นไปยังดินแดนอันไกลโพน และลงไปยังแมน้ำเหลืองในยมโลกได มี
ความสามารถทางดานเคล็ดวิชาหลีกหนีธาตุลมและดินโดยธรรมชาติ และยิ่งไปกวา
นั้นไมเพียงเรือนกายจะฟนแทงไมเขา พลังไรขีดจำกัด ยังเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาลวงตา
อีกดวย
ดวงตาสีเงินไมมีลูกตาดำคูนั้น ทำใหผูบำเพ็ญเพียรที่มีจิตใจไมกลาแกรงหลงใหล
ไปอยางงายดาย และเชื่อฟงคำสั่งอยางไมรูตัว
ขอมูลเกี่ยวกับยักษปกเงินสวางวาบในหัวของหานลี่อยางรวดเร็ว ทุกครั้งที่นึกขึ้น
ไดสวนหนึ่ง ริมฝปากของเขาก็จะเมนแนนขึ้นสวนหนึ่ง
“คิดไมถึงวา หลังจากมาสามตัว จะยังมีอีกสองเขามาสงถึงประตู ขาจำไมไดแลว
วา ไมไดกินโลหิตสดๆ มากี่ป ดูแลวครั้งนี้ คงจะกินอิ่มในทีเดียว” ดานหลังยักษปกเงิน
มีปกคูหนึ่งงอกออกมา ไมหวาดกลิ่นอายของอสูรวิญญาณครวญอีกตอไป กลับขบ
เขี้ยวเคี้ยวฟนขณะพนคำพูดของมนุษยออกมา
น้ำเสียงชัดเจนเปนพิเศษ แทบจะเหมือนกับมนุษยอยางไรอยางนั้น
ตอนที่ 987-1 เคล็ดวิชาเนตรสีเงินลวงตา
หานลี่ไดยินคำพูดนี้ มุมปากก็หยักขึ้นเล็กนอยอยางไมใสใจ แตจูๆ สองมือพลันชูขึ้น
กระบี่เลมเล็กสองเลมสวางวาบแลวพุงออกไปในทันที เปาหมายก็คือรังไหมยักษ
สีเทาสองรังนั้น
หลังจากที่รูวาอสูรที่อยูเบื้องหนารับมือไดยากนั้น หานลี่ก็คิดจะชวยสองคนที่
เหลือกอนทันที ถาหากทั้งสี่คนรวมมือกันละก็ โอกาสชนะจะตองสูงขึ้นอยางแนนอน
ยักษปกเงินที่อยูตรงขามเห็นฉากนั้น รางกายพลันไมไหวติง แตมุมปากกลับเผย
รอยยิ้มเย็นชาออกมา
ภายใตดวงตาสีเงินที่เปลงแสงสวางวาบออกมานั้น ระหวางรังไหมสีเทาสองรัง
พลันมีมือใหญสีเทามือหนึ่งปรากฏขึ้น ควากระบี่แสงสีทองสองเลมเอาไวดวยความ
มหัศจรรยอยางหาที่เปรียบมิได
หานลี่ไมทั น ไดระวังตัว คาดไม ถึงวาจะทำให กระบี่ บิ น สองเล ม นั้ น ถู กเสน ไหม
วิญญาณทมิฬที่แปลงเปนมือยักษกุมเอาไวขางใน
ถึงแมวาหานลี่จะรูสึกตกใจ แตก็ไมไดรอนรน ความคิดเคลื่อนไหว ในมือสีเทาทั้ง
สองมีเสียงฟาผาดังขึ้น ลำแสงสีทองสวางวาบ กระบี่บินทั้งสองเลมปลอยอัสนีเทวาปด
เป าภยั น ตรายออกมา ชั่ ว ครูก็ โจมตี เส น ไหมวิ ญ ญาณทมิ ฬ จนแตกเป น เสี่ ย งๆ ชั่ ว
พริบตาก็หนีออกมาจากพันธนาการได
แตในตอนนั้นเอง เสนไหมสีเทาที่หนาแนนพลันบินออกมาจากรังไหมสีเทาอีกรัง
รัดเอาไวชั้นแลวชั้นเลา แทบจะในเวลาเดียวกัน นั้น ไอสีเทากลุมแลวกลุมเลาก็แผ
ออกมาจากมือยักษ และผนึกรวมตัวกันเปนเสนไหมอีกครั้ง
กระบี่บินสีทองสองเลมในตอนนี้ คาดไมถึงวาจะถูกปดตายอยูในนั้น
หานลี่พลันขมวดคิ้วสอง มือที่อยูในแขนเสื้อกำหมัดแนน ชั่วขณะนั้นทั่วเรือนราง
พลัน เปลงแสงสีทองสวางวาบ เสีย งฟ ารองดั งสนั่ น ขึ้น ตาข ายไฟฟ าสีท องชั้ น หนึ่ ง
ปรากฏขึ้นบนรางจนทำใหเขาดูเหมือนเทพอัสนีอยางไรอยางนั้น!
ยักษปกเงินที่แตเดิมจองเขม็งไปยังอสูรวิญญาณครวญ พลันเลื่อนสายตาไปจอง
หานลี่ดวยความเครงขรึม ใบหนาเผยสีหนาประหลาดใจออกมา
“นาสนใจดี คาดไมถึงวาจะกำจัดเสนไหมวิญญาณทมิฬของขาได รางแยกซาก
ทมิ ฬ ทั้ ง สามของข า ก็ ถู ก เจ า ทำลายแล ว สิ น ะ” ซากหลอมป ก เงิน เอ ย ขึ้ น อย า งไร
ความรูสึก
“ขาเปนผูสังหารจริงๆ คาดไมถึงวาภาษาที่เจาพูดจะเหมือนกับมนุษยอยางพวก
เรา ดูแลวคงมีสติปญญาสูงสงมาก และรูจักขอไดเปรียบเสียเปรียบกระมัง เรื่องอื่นขา
จะไมพูดมาก ถาหากเจายอมสงมาทมิฬตัวนั้นให และปลอยสหายรวมวิถีทั้งสองของ
ขานอยไป พวกเราก็จะยอมถอยออกจากตรงนี้” หานลี่มองไปยังซากศพของชายราง
ใหญแซหยวนแวบหนึ่ง และยื่นมือออกไปชี้ที่มาทมิฬที่อยูอีกดาน แลวเอยอยางเย็นชา
ในตอนนั้นเอง หลังจากที่อสูรวิญญาณครวญที่กลายเปนวานรยักษเปลงเสียงรอง
คำรามต่ำๆ ออกมา ลวดลายปศาจดานหลังก็เปลงแสงสีโลหิตที่เจิดจาจนแสบตา และ
เผยทาทีคุกคามออกมาสองสามสวน
“สิ่งเล็กๆ ที่พวกเจาตองการ มันไดอยูแลว ปลอยสหายรวมวิถีของเจา และให
พวกเจาหนีไป ก็ไมใชวาจะพิจารณาไมได” ยักษปกเงินเอยอยางไมลังเล
“เจาตกลงจริงๆ หรือ?” สตรีชุดดำผูงดงามที่ปลอยกรงลอออกไปกลางอากาศ
แลว ไดยินคำพูดนี้ ก็มีสีหนาดีอกดีใจ
หานลี่กลับเงียบกริบไรคำพูด
“ขายอมตกลงหลายเงื่อนไขเชนนี้ พวกเจาแคตองตอบรับเงื่อนไขของขาเพียงขอ
เดียว พวกเจาออกจากที่นี่ แตอสูรวิญญาณตัวนี้ตองทิ้งไวที่นี่” ยักษปกเงินยื่นนิ้วที่มี
ขนสีเขียวออกมา ชี้ไปยังวานรยักษสีดำ ดวงตาสีเงินกลอกไปมาขณะเอย
สตรีชุดดำผูงดงามไดยินพลันตกตะลึง รูสึกประหลาดใจเปนอยางมาก
“ใหทิ้งอสูรวิญญาณของขา? เจาคงฝนไปกระมัง!” หานลี่กลับหัวเราะอยางเย็น
ชาออกมา
“เชนนั้นพวกเจาก็อยาไปเลย อยูเปนอาหารของขาที่นี่เถิด” ยักษปกเงินเห็นหาน
ลี่ปฏิเสธ ทันใดนั้นใบหนาโหดเหี้ยมก็ชักสีหนา ชั่วครูเขี้ยวที่มุมปากพลันยาวขึ้นสอง
สามเทา ในเวลาเดียวกันดวงตาทั้งสองก็เปลงแสงสีเงินหมื่นสายออกมา
“ระวังเคล็ดวิชาลวงตาของมัน!”
จู ๆ เสี ย งของชายชราแซ ฟู ท่ี เอ ย เตื อ นก็ ดั ง ขึ้ น มาจากรั งไหมสี เทารั งหนึ่ ง แต
น้ำเสียงกลับออนแรง และยิ่งไปกวานั้นเสียงพลันขาดหวง
แตประโยคนี้ เห็นไดชัดวาสายไปแลว
ดวงตาเจิดจาเปลงแสงสีเงินออกมา ถึงแมวาหานลี่จะมีเนตรวิญญาณวารีกระจาง
ดวงตาทั้งสองก็ยังหลับตาลงตามจิตสำนึก
สตรีผูงดงามที่ สวมชุดสีดำเห็ น ลำแสงนั้ น ก็ยิ่ งรูสึกวิงเวียนยิ่งกวาเดิ ม จำต อ ง
หลับตาคูนั้นลงทันที
“แยแลว!” ชั่วพริบตาที่ดวงตาทั้งสองขางปดลง หานลี่ก็รองอุทานออกมาในใจ
ผลลัพธคือตอนที่ทั้งสองลืมตาขึ้นอีกครั้ง บรรยากาศรอบดานก็เปลี่ยนไป
ไมเพียงแคจัตุรัส รังไหมสีเทาตางก็หายไปอยางไรรองรอย รอบดานเหลือเพียง
หมอกที่หนาแนน สวนยักษปกเงินยิ่งไมรูวาอยูตรงไหน
“เคล็ดวิชาลวงตา ดูเหมือนวาระดับจะไมไดต่ำตอยเลย!” หานลี่เอยพึมพำ
“ไมต่ำตอยจริงๆ หรือไม ก็ตองลองทดสอบดูถึงจะรู” สตรีชุดดำผูงดงามกลับ
ขมวดคิ้วดำขลับขณะเอยขึ้น
สตรีผูนั้นที่เปนหวงชายชราแซฟูดูเหมือนวาจะออนแอลงเปนพิเศษ และไมยอม
รอตอไปอีก ชิงชี้ไปยังกรงลอสำนักพุทธเหนือศีรษะ
เสียง ‘ฟวๆ’ ดังขึ้น!
กรงลอพลันเปลงแสงเจิดจา พนเสาลำแสงเจ็ดสีสองสามสายออกมา ชั่วครูก็จม
ลงไปในมานหมอก และเลือนหายไปอยางไรรองรอย แตก็ดูเหมือนโคลนที่จมเขาไปใน
มหาสมุทรอยางไรอยางนั้น ไมมีปฏิกิริยาตอบสนองเลยแมแตนอย
สตรีผูงดงามมีสีหนาเครงขรึม ดึงยามเก็บอสูรวิญ ญาณขางเอวใบหนึ่งออกมา
อยางไมตองขบคิด หลังจากโยนขึ้นไปกลางอากาศดวยความรวดเร็วแลว สองมือพลัน
รายอาคม
ชั่วขณะนั้นปากยามพลันสั่นคลอน ลำแสงสีแดงสดกลุมหนึ่งพุงออกมาจากดาน
ใน กลายเปนอสรพิษติดปกกลุมหนึ่ง
ขนาดของอสรพิษบินกลุมนี้ไมใหญนัก มีขนาดแคสองสามฉื่อ แตทุกตัวลวนสวม
รัดเกลาเอาไว เรือนกายของอสรพิ ษเป น สีแดงแวววาว มองปราดเดียวก็รูวาไม ใช
อสรพิษวิญญาณธรรมดาๆ
สตรีผูงดงามบริกรรมคาถา คาดไมถึงวาจะรายอาคมใหอสรพิษบินทั้งหมดปลอย
ลำแสงสีแดงหลายสายออกมา
ชั่วขณะนั้นอสรพิษบินพลันอาปากออก ลูกไฟจำนวนนับไมถวนถูกพนออกมา
จากปากและขยายใหญขึ้นในชั่วพริบตา จากนั้นก็เผาไหม ทะเลเพลิงผืนใหญกอตัวขึ้น
ในชั่วพริบตา และเริ่มลุกลาม
มองเห็นการกระทำของสตรีผูงดงาม หานลี่ก็ไมไดลงมือหรือเอยปากหามปราม
กลับถือโอกาสนี้ มองไปรอบๆ ดวยแววตาไรความรูสึก ลำแสงสีฟาสวางวาบในรูมาน
ตาไมหยุด
คลื่นเพลิงสูงสองสามจั้งชั่วพริบ ตาพลัน กอตั วขึ้น ท องฟ าแตเดิ มที่ เป น สีเทาก็
เปลี่ยนเปนสีดำสนิท
แสงสีเงินพลันสวางวาบ ทามกลางหมอกสีดำมีเนตรปศาจยักษสองดวงปรากฏขึ้น แต
ละดวงมีขนาดสองสามจั้ง เปลงแสงเงินออกมา เนตรสีเงินที่ไมมีลูกตาดำของยักษปก
เงินปรากฏขึ้นอยางกะทันหัน และไมรูวาใชภาพลวงตาใดถึงไดมีขนาดใหญขนาดนี้
เสี ย งหั ว เราะประหลาดๆ ดั ง ‘เคี๊ ย กๆ’ พลั น ส ง ออกมา จากนั้ น เนตรยั ก ษ ก็
เปลงแสงสีเงินผืนใหญออกมา โจมตีไปยังทะเลเพลิงทั้งบนและลางอยางพอดิบพอดี
ภาพฉากที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้น!
ทุ ก แห งที่ แ สงสี เงิน กวาดออกไปไม วาจะเป น เปลวเพลิ งอั น เชี่ ย วกราดหรือ ว า
อสรพิษบิน เมื่อถูกกวาดออกไปก็หายวับไปอยางไรรองรอย ราวกับระเหยไปกลาง
อากาศอยางไรอยางนั้น
ชั่วพริบตาทะเลเพลิงผืนนั้นก็หายวับไป
เมื่อเห็นเหตุการณที่นาเหลือเชื่อเชนนี้ หานลี่ก็ไมไดหนาเปลี่ยนสี สตรีชุดดำผูงดงาม
กลับหนาเปลี่ยนสีขณะปลอยกระบี่สีแดงอีกสายหนึ่งออกมา ฟนลงไปที่เนตรสีเงิน
กลางอากาศอยางตอเนื่อง กลับดูเหมือนวาจะเปนการงมพระจันทรในแมน้ำ คาดไม
ถึงวาจะไมมีผลเลยแมแตนอย
เวลานี้ สตรีผูงดงามพลันรูสึกจิตใจหนักอึ้ง
เห็ น ไดชัดวาเคล็ดวิชาลวงตานี้ รายกาจนั ก ดู เหมื อ นวาจะเหนื อ กวาที่ สตรีผูนี้
คาดการณเอาไว นางไมมีความมั่นใจวาจะกำจัดมันไดเลยแมแตนอยแลว
ตอนนั้นกลางอากาศพลันมีเสียงหัวเราะประหลาดดังขึ้นอยางตอเนื่อง เสียงดังขึ้น
เรื่อยๆ คอยๆ เหมือนกับฟาผาขึ้นเรื่อยๆ และในเวลาเดียวกันนั้น เนตรสีเงินก็ปรากฏ
ขึ้นอยางตอเนื่อง ทุกดวงตางมีขนาดใหญยักษเชนเดียวกัน
หลังจากผานไปชั่วครู ไมเพียงทองฟาจะเต็มไปดวยเนตรปศาจ แมกระทั่งมาน
หมอกรอบดานก็ยังมีแสงสีเงินกะพริบวาบ
จากนั้นเนตรปศาจทั้งหมดพลันเปลงแสงสีเงินออกมา และเปลี่ยนรูปรางไปใน
เวลาเดียวกัน กลายเปนจันทรครึ่งเสี้ยวที่แลดูบริสุทธิ์ จากนั้นไอสีดำรอบๆ ดานก็สง
เสียงกรีดรอ งออกมาพรอมกัน เสียงฝเท าหนั กอึ้งก็ ดังขึ้น อยางตอ เนื่ อง ราวกั บตั ว
ประหลาดอะไรสักอยางกำลังจะกระโจนออกมาจากมานหมอก
“พี่หาน ทานมีวิธีทำลายเคล็ดวิชานี้หรือไม!” ในที่สุดสตรีชุดดำผูงดงามก็ทนไม
ไหวหันมาเอยถาม
นางคิ ด ดี แ ล ว ถ าหากแม แ ต ห านลี่ ที่ ลึ ก ลั บ อย างสุ ด ๆ ยั งไม อ าจทำอะไรได ก็
อาจจะตองใชโลหิตบริสุทธิ์สำแดงเคล็ดวิชาลับสักชนิดออกมาแลว!
หานลี่ไมไดตอบกลับสตรีผูนั้นในทันที แตชูมือหนึ่งขึ้น ประจุไฟฟาสีทองสายหนึ่ง
ปรากฏขึ้นบนแขน
หลังจากเสียงฟาผาดังขึ้น ประจุไฟฟาพลันสวางวาบ โจมตีไปยังจันทรเสี้ยวสีเงิน
ที่ปรากฏขึ้นกลางมานหมอกอยางพอดิบพอดี
หลังจากเสียงตึงตังดังขึ้น จันทรเสี้ยวและประจุไฟฟาพลันระเบิดออกพรอมกัน
พระจันทรสีเงินดวงอื่น ๆ แทบจะมี แสงสีเงิน จำนวนนั บ ไม ถวนกระจายตัวออกมา
พรอมกัน รอบดานเปลี่ยนเจิดจาจนแสบตาอีกครั้ง
สตรีผูงดงามที่สวมชุดสีดำรูสึกเพียงวาโลกหมุน อดที่จะกะพริบดวงตาคูงามไมได
แตรอจนสติกลับมามั่นคงอีกครั้ง กลับพบวาตัวเองมาปรากฏตัวขึ้นที่จัตุรัสอีกครั้งแลว
หมอกสีดำอะไร จันทราสีเงินอะไรตางก็ไมมี
สตรีผูงดงามพลันผอนคลายลง นางที่มีประสบการณมาเฟองฟู ไมไดตกตะลึงกับ
สิ่งนี้มากนัก
แต ต รงข า ม ยั ก ษ ป ก เงิ น กำลั ง ยื น อยู ใ ต ต น ไผ สี เขี ย วมรกตราวกั บ ว า ไม เคย
เคลื่อนไหวมากอน แตดานหลังของมันกลับมีปกสีเงินงอกออกมาตานทานเอาไวเบื้อง
หนา กำลังตานทานประจุไฟฟาสีทองที่สงเสียงเปรี้ยงปรางอยูตรงหนา ดวงตาทั้งสอง
จองเขม็งไปยังหานลี่ที่อยูดานขางดวยความเย็นชา
สิ่งที่สตรีผูงดงามสนใจก็คือ ในมือที่มีขนสีเขียวของตัวประหลาดนี้ ถือกระจกสีดำ
สนิทบานหนึ่งสองมายังทั้งสองคนตอนไหนก็ไมรู
กระจกบานนี้ไมใหญนัก แตมันเปลงแสงสีดำของปศาจออกมา ทำใหผูคนเห็น
แลวรูสึกเหมือนถูกดูดจิตวิญญาณทั้งหมดเขาไปอยางไรอยางนั้น ชางมีไอมารอยูเต็ม
เปยมจริงๆ
“ทานหาตำแหนงของขาเจอไดทามกลางเคล็ดวิชาลวงตา ประหลาดจริงๆ ขามี
กระจกลวงจันทรปศาจคอยชวย อยางนอยที่สุดอานุภาพของเคล็ดวิชาเนตรสีเงินลวง
ตาก็จะตองเพิ่ มขึ้นมากกวาครึ่ง ไมใชสิ่งที่ จิตสัมผัสที่ แข็งแกรงจะมองทะลุผานได
ทามกลางเคล็ดวิชาลวงตาเมื่อครูดวงตาของเจาดูแปลกๆ หรือวาฝกฝนเคล็ดวิชาลับ
เกี่ยวกับเนตรวิญ ญาณมา?” ยักษปกเงินเอยอยางราบเรียบ ปกสีเงินกระพือขึ้นลง
อยางตามอำเภอใจ ประจุไฟฟาสีทองถูกดีดออกไปดานขางอยางงายดาย
หานลี่ไดยินคำพูดนี้ กลับหัวเราะอยางเย็นชาออกมา ไมไดมีทาทีจะตอบอีกฝาย
แตกลับสะบัดแขนเสื้อ ชั่วขณะนั้นในแขนเสื้อพลันมีเสียงรองอันไพเราะดังขึ้น กระบี่
เลมเล็กสีทองหลายสิบเลมทะลักออกมาราวกับหมูมัจฉา กลายเปนลำแสงสีทองเริง
ระบำอยูเบื้องหนา ในเวลาเดียวกันดานหลังก็มีเสียงฟารองดังขึ้น ปกสีเงินขาวคูหนึ่ง
ปรากฏขึ้น
สวนหานลีน่ ั้นก็ไมยอมหยุดพัก หลังจากสูดลมหายใจเขาไปลึกๆ เฮือกหนึ่งแลว ก็
อาปากออก พนไขมุกสีขาวราวกับหิมะที่ถูกเพลิงสีมวงกลุมหนึ่งหอหุมเอาไวออกมา
มั น หมุ น ติ้ วๆ อยู เบื้ อ งหน าไม ห ยุ ด ชั่ ว พริ บ ตาที่ ไข มุ ก เม็ ด นี้ ป รากฏขึ้ น อุ ณ หภู มิ ที่
รอนแรงของทั้งจัตุรัสพลันลดลงอยางรวดเร็ว ราวกับวาทำใหผูคนเหมือนตกอยูใน
สถานที่ที่มีหิมะปกคลุมอยางไรอยางนั้น
เห็นแสงกระบี่บินที่หานลี่ปลอยออกมาในตอนแรก ยักษปกเงินยังคงทำเปนทอง
ไมรูรอน แตเมื่อดานหลังของหานลี่มีปกนกปรากฏขึ้น ตัวประหลาดตัวนั้นก็มีสีหนา
ตกตะลึง เมื่อไขมุกผลึกหิมะที่ถูกเพลิงตาขายทมิฬสีมวงหอหุมเอาไวก็ปรากฏขึ้น และ
เผยอานุภาพที่นากลัวออกมาเชนกัน ในที่สุดมันก็มีสีหนาเครงขรึม
การเคลื่อนไหวของหานลี่ยังไมหยุด จากนั้นพลันโยนยามเก็บอสูรวิญญาณใบหนึ่ง
ขึ้นไปกลางอากาศ แมลงเกราะสีทองฝูงใหญบินออกมาจากปากถุง กลายเปนเมฆสี
ทองลอยอยูกลางอากาศ สองมือพลันรายอาคม ลำแสงวิญญาณเจ็ดสีชั้นหนึ่งปรากฏ
ขึ้นรอบกาย ในเวลาเดียวกันพลันพลิกฝามือทั้งสอง กระจกสีมวงบานหนึ่งกลายเปน
ลำแสงสีมวงกลุมหนึ่งเปลงแสงสะทอนออกมา
หานลี่ ในตอนนี้ นอกจากเครื่อ งมื อ สั งหารแลว ก็ นั บ ได วาสำแดงสมบั ติ อ าคม
ออกมาจนหมดแลว
การเผชิ ญ หน า กั บ ซากเทวั ญ ที่ อ าจจะร า ยกาจยิ่ ง กว า ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดขั้นปลาย เขาไมกลาประมาทเลยแมแตนอย
ตอนที่ 987-2 กระจกลวงจันทรปศาจ
สตรีชุดดำผูงดงามที่อยูดานขางเห็นหานลี่ควบคุมสมบัติไดมากมายขนาดนี้ ชั่ว
ขณะนั้นก็รูสึกมีชีวิตชีวาขึ้น
นางพลันชูมือปลอยโลเล็กๆ สีเขียวออกไปตานทานเอาไวเบื้องหนา แลวตบไปที่
ยามเก็บของ ชั่วขณะนั้นสมบัติที่มีรูปรางเหมือนผี้เสือสองชิ้นก็พุงออกไป เริงระบำอยู
เบื้องหนาของนาง ราวกับมีชีวิตอยางไรอยางนั้น
สตรีผูนี้คือผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิ ดขั้นกลาง แนน อนวาจึงไมไดมีสมบั ติ
อาคมเพียงเทานี้ แตในการตอสูของผูบำเพ็ญเพียรนั้นไมไดหมายความวายิ่งเอาสมบัติ
อาคมออกมามากเทาไหรจะยิ่งไดเปรียบมากเทานั้น ถึงแมวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรที่มี
สมบัติอาคมมากมายขนาดไหน หลังจากถึงขีดสูงสุดในการใชจิตสัมผัสควบคุมแลว ก็
ไมอาจใชสมบัติอาคมชิ้นอื่นๆ ไดอีก ถึงอยางไรเสียในการตอสูนอกจากตองอาศัย
สมบัติอาคมแลว ตนเองก็ตองเก็บจิตสัมผัสเอาไวสำแดงเคล็ดวิชาสวนหนึ่งดวย สวน
จะเก็บจิตสัมผัสเอาไวเทาไหร ก็แลวแตสถานการณของบุคคล
ถาหากรูสึกวาสมบัติของตนเองเฉียบแหลม เคล็ดวิชาออนแอกวา แนนอนวาก็
ตองแบงจิตสัมผัสไปกับการสำแดงสมบัติอาคมมากกวา แตถาหากสมบัติอาคมนั้น
ธรรมดาๆ แตความสามารถของเคล็ดวิชานั้นทรงพลัง ก็จะตองเหลือจิตสัมผัสเอาไวใช
สำแดงเคล็ดวิชา
นอกจากนี้แลว สมบัติอาคมยิ่งทรงพลังเทาใดก็จะตองใชจิตสัมผัสมากขึ้นเทานั้น
นี่ก็เปนสาเหตุที่ผูบำเพ็ญ เพียรระดับหลอมรวมที่ใชสมบัติโบราณมีอยูเพียงไมกี่คน
และถึงแมวาผูบำเพ็ญเพียรจะมีจิตสัมผัสแข็งแกรงขนาดไหน ก็จะเลือกสมบัติอาคมที่
มีอานุภาพมากที่สุดออกมาใชตอกรกับศัตรูเพียงสองสามชนิดเทานั้น หานลี่ปลอย
สมบัติอาคมออกมามากมายภายในครั้งเดียว ตอใหไมเหลือจิตสัมผัสไว ก็ทำใหเห็นวา
มีจิตสัมผัสที่แข็งแกรงมากแลว
แตไมรอใหห านลี่และพวกรวมมือกัน ยักษ ปกเงิน ก็มีสีห นาโหดเหี้ ยมฉายแวว
สวางวาบ จูๆ รอบกายพลันแผกลิ่นอายที่ยิ่งใหญออกมา จากนั้นรางกายพลันโคงงอ
ฝามือโจมตีไปยังดานลางอยางรุนแรง
เสียง ‘ปง’ ดังขึ้น มือที่มีเล็บแหลมคมกางนิ้วทั้งหาออกขณะกดลงไปบนพื้นดิน
หานลี่และสตรีผูดงามพลันตกตะลึง ยังไมทันไดเขาใจวาอีกฝายมีเจตนาอะไร
เสียงที่ดังสนั่นก็ดังขึ้นทั่วทั้งจัตุรัส ชั่วขณะนั้นเขตอาคมยักษบนพื้นดินพลันเปลงแสง
หลากสีสันออกมา ซากศพแหงที่ถูกมัดเอาไวรอบดานบนเสาหินพลันสั่นคลอน
“แยแลว!” หานลี่หนาเปลี่ยนสี กระพือปกดานหลังทั้งสองขางอยางไมตองคิด
รางกายและสมบัติอาคมรอบตัวหายวับไปจากที่เดิม ที่เดิมเหลือเพียงแมลงกลืนทองที่
กลายเปนเมฆสีทองและอสูรวิญญาณครวญเทานั้น
ยักษปกเงินเห็นเชนนั้นพลันหัวเราะออกมาอยางบาคลั่ง หลังจากที่พนลำแสงสีดำ
กลุมหนึ่งออกมาจากราง ปกก็ขยับแลวหายไปจากที่เดิม
เสียง ‘ปง’ ดังสนั่นขึ้นที่มุมหนึ่งของเขตอาคม ลำแสงสีดำกลุมหนึ่งและลำแสงสี
เงินปรากฏขึ้นพรอมกัน เมื่อทั้งสองปะทะเขาดวยกันก็เกิดเปนลำแสงหมื่นสาย และ
แผกระจายพุงออกไปพรอมกัน เงารางคนมีปกสองคนปรากฏขึ้น นั่นก็คือหานลี่และ
ยักษปกเงิน
และในชวงเวลาที่เสียไปนั้น ซากศพแหงบนเสาหินรอบดานก็แผกลิ่นอายสีดำเปน
กลุมๆ ออกมา จากนั้นพลันกลายเปนลำแสงสีดำกลุมแลวกลุมเลาพุงขึ้นไปบนทองฟา
ชั่วพริบตามานลำแสงขนาดใหญสีดำสนิทชั้นหนึ่ง ก็ปกคลุมไปทั่วทั้งจัตุรัส
ทางหนีทีไลของหานลี่และพวกถูกตัดขาด คาดไมถึงวาจะติดอยูในมานลำแสง
สตรีชุดดำผูงดงามเห็นเขตอาคมประหลาดปรากฏขึ้นก็รูสึกมีลางสังหรณ ไมดี
เชนกัน จึงกลายเปนลำแสงหลีกหนีสายหนึ่งพุงออกไปดานนอก แตจากความเร็วของ
นางนั้นเมื่อพุงออกไปไดยี่สิบกวาจั้งมานลำแสงก็ปรากฏขึ้น ทำไดเพียงหยุดลำแสง
หลีกหนีลงอยางจนปญญา สีหนาพลันดำคล้ำสลับกับสดใสไมแนนอน
หานลี่มองยักษปกเงินทามกลางลำแสงสีดำ สีหนาทะมึนทึบ รูสึกหงุดหงิดอยูเล็กๆ
เพราะวาแขนขาทั้งสี่และลำคอของยักษปกเงินในตอนนี้ มีวงแหวนสีโลหิตหาวง
ปรากฏขึ้ น พร อ มกั น ด า นบนเปล ง แสงแวววาวออกมาไม ห ยุ ด เห็ น ได ชั ด ว า เป น
ยุทธภัณฑคุมขังอะไรสักอยาง
“เจาไมมีทางออกจากที่นี่ไดจริงๆ ดวย มิเชนนั้นจากความสามารถของเจาจะ
ยอมอยูที่นี่ไมยอมออกไปไหนไดอยางไร แตแคคิดไมถึงวา เขตอาคมนี้ไมตองใชศิลา
วิญญาณก็ถูกเจากระตุนใหทำงานได คงจะไมมีทางออกจากเขตอาคมนี้ไดสินะ!”
หานลี่พนลมหายใจออก ขณะเอยอยางเย็นชา
ตอนนี้ลำแสงของเขตอาคมคอยๆ หายไป แตเสาหินของมานลำแสงรอบๆ ดาน
กลับถูกไอสีดำหุมเอาไว ลำแสงที่พนออกมาทั้งหมดไมออนแอลงเลยแมแตนอย
“หึๆ! เขตอาคมกักมารนี้สรางขึ้นเพื่อใชกักขังขาโดยเฉพาะจริงๆ แตแคคนที่วาง
เขตอาคมนีใ้ นตอนแรกคิดไมถงึ วา ผานมาหลายปขนาดนี้ เขตอาคมนี้จะออนแอลงจน
ถูกขานำมาใช ถึงแมวาขาจะถูกกักขังไมใหออกไปจากที่แหงนี้ แตพวกเจาก็เขามาติด
กับเชนกัน” หลังจากที่ยักษปกเงินกระพื อป กทั้งสอง ก็เปลงเสียงหัวเราะอยางพึ ง
พอใจออกมา
แววตาของหานลี่ฉายประกายเย็นเยียบ อสูรวิญญาณครวญที่อยูดานลางพลันสง
เสียงเหอะขึ้นจมูก พนลำแสงสีเหลืองเจิดจากลุมหนึ่งออกมา พุงไปทางซากเทวัญที่อยู
กลางอากาศ ชั่วพริบตาก็มาอยูเบื้องหนาดวยความรวดเร็ว
เสียงหัวเราะของยักษปกเงินพลันหยุดชะงัก ปกทั้งสองพลันกระพือกอนที่รางจะ
สัมผัสกับลำแสง และหายลับไปจากที่เดิม
แตตอมา ตัวประหลาดนั้นกลับปรากฏตัวขึ้นบนตนไผสีเขียวอีกครั้ง
ทวาอสูรวิญญาณครวญพลันสะบัดหัว ลำแสงสีเหลืองยังคงไลตามไปอยางไมลดละ
ครานี้กลับไปกระตุนความดิบเถื่อนในดวงตาสีเงินของยักษปกเงินเขาใหแลว เขา
ถลึงตาทั้งสองขาง สองปกกระพืออยางฉับพลัน ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเงินจำนวนนับไม
ถวนพลันพุงออกมาจากปก ปะทะเขากับลำแสงสีเหลืองของอสูรวิญญาณครวญที่พุง
เขามาอยางพอดิบพอดี ลำแสงสีเหลืองที่แตเดิมนาจะตอกรกับเคล็ดวิชาภูตผีไดอยาง
ไมมีปญหาถูกลำแสงสีเงินเหลานี้ตานทานไว มิอาจคุกคามไดเลยแมแตนอย
ถึ ง แม ว า หานลี่ จ ะรู ว า ยั ก ษ ป ก เงิ น ไม ใ ช ซ ากหลอมธรรมดาๆ แต เ มื่ อ เห็ น
สถานการณเชนนี้ก็อดที่จะใจหายวาบไมได
ยักษปกเงินเห็นภาพฉากนั้น ความรูสึกหวาดกลัวที่มีอยูแตเดิมก็หายไปกวาครึ่ง
หลังจากหัวเราะอยางบาคลั่งแลวรางกายก็แวบหายไปทามกลางลำแสงสีดำกลุมหนึ่ง
แลวปรากฏขึ้นกลางอากาศเหนือหัวอสูรวิญญาณครวญอยางฉับพลัน จากนั้นก็อาปาก
ออก กำลังพนลำแสงสีดำอะไรสักอยางออกมาจากปาก
แตในตอนนั้นเอง จูๆ มันพลันไดยินเสียงหึ่งๆ ดังขึ้นเหนือหัว จึงเงยหนาขึ้นดวย
ความตกใจ และพนลำแสงสีดำสนิทราวกับน้ำหมึกออกมา โจมตีไปยังเมฆสีทองขนาด
สองสามจั้งที่กำลังลดระดับลงมาโจมตี นั่นก็คือพวกแมลงกลืนทองของหานลี่
หลังจากที่ห านลี่ขับ เคลื่อนอัสนี ห ลีกหนี ออกไป ฝูงแมลงเหลานั้ น กลับ คางอยู
กลางอากาศไม ขยับ เขยื้อ น ตอนนี้ ซ ากเทวัญ มาปรากฏตั วรอบๆ พวกมั น ภายใต
ความคิดของหานลี่ แนนอนวาจึงโจมตีไปอยางไมเกรงใจ
แตลำแสงสีดำนั่นก็เปนถึงไอซากศพที่ ยักษ ปกเงิน ฝกฝนมาตั้งไมรูกี่ห มื่น ป ไม
เพียงจะเปนสิ่งที่สกปรกโสมมอยางสุดๆ ยิ่งไปกวานั้นยังแฝงพิ ษซากศพที่รายกาจ
เอาไว อีกดวย
ถึงแมวาแมลงกลืนทองจะมีรางกายแข็งแกรงดุจเหล็กกลาและไมหวั่นกลัวพิษ
ตางๆ แตภ ายใตไอซากศพที่ โถมเขามา ตางก็ ท ยอยกัน รวงลงมาราวกั บ ห าฝน ชั่ ว
พริบตาฝูงแมลงก็ลดลงไปหนึ่งในสามสวน
ภายใตความตกตะลึงของฝูงแมลงกลืนทอง ทั้งหมดตางแตกกระเจิง ไมรวมตัว
เข าด วยกั น อี ก แต ชั่ วพริบ ตาที่ ช วยสนั บ สนุ น นั้ น อสู รวิ ญ ญาณครวญก็ มี ป ฏิ กิ ริย า
ตอบสนองกลับมา หลังจากสงเสียงเหอะแลวลำแสงสีเหลืองกลุมหนึ่งก็พุงออกมาอีก
ครั้ง
ยักษปกเงินกลับกระพือปกดวยสีหนาราบเรียบ รางกายปรากฏขึ้น ไกลออกไป
สิบกวาจั้ง
ลำแสงสีเหลืองจึงพบกับความวางเปลา
และในตอนนั้นเอง จุดเดิมที่ยักษปกเงินยืนอยู ก็มีลำแสงสีเงินสวางวาบ หานลี่
ปรากฏตัวขึ้นทามกลางเสียงฟาผา
เขาสะบัดแขนเสื้อโดยไมพูดอะไร กระบี่บินทั้งหมดกลายเปนลำแสงสีทองผืน
ใหญพุงไปหายักษปกเงิน ในเวลาเดียวกันกระจกสีมวงเหนือศีรษะ ก็เปลงแสงสวาง
วาบ พ นลำแสงสีมวงสายหนึ่งออกมาไลตามแสงกระบี่ ไป หานลี่ดีดนิ้วในแขนเสื้อ
อยางเงียบเชียบ ลำแสงสีแดงสายหนึ่งสวางวาบแลวหายลับไป
จากนั้นเขาถึงไดเหลือบตามองพื้นดวยใบหนาไรความรูสึก เห็นเพียงแมลงกลืน
ทองที่ แ ต เดิ ม รวงหล น ลงพื้ น สยายป ก ออก ส งเสี ย งหึ่ งๆ พลางบิ น วนขึ้ น มากลาง
อากาศอีกครั้ง แตแคดูออนแรง และดูเหมือนวาจะออนแอลงเล็กนอย
หานลี่ถึงไดผอนคลายลง
เวลานั้น สตรีชุดดำผูงดงามซึ่งอยูไมไกลนัก ก็ถือโอกาสนี้ชี้ไปยังหยกผีเสื้อสีขาว
สองกอนนั้น
หยกผีเสื้อสองกอนพลันขยายใหญขึ้นทามกลางกลุมแสงสีขาว กลายเปนมีขนาด
เทาคนคนหนึ่ง จากนั้นพลันกระพรือปกสองสามครั้ง พายุสลาตันสีขาวโพลนสองกลุม
พลันกอตัวขึ้นเบื้องหนาของสตรีผูงดงาม
จากนั้นทามกลางเสียงบริกรรมคาถาของสตรีผูงดงาม พายุสลาตันพลันกลายเปน
อสรพิษลมสีขาวสองตัว กระโจนเขาไปหายักษปกเงินอยางรุนแรง
เห็นการลอบโจมตีพุงเขามาในเวลาเดียวกันมากมายขนาดนี้ ยักษปกเงินกลับเบะ
ปากหัวเราะอยางชั่วราย ชูมือทั้งสองขึ้น มือขางหนึ่งมีกระจกลวงจันทรปศาจชิ้นนั้น
ปรากฏขึ้น อีกมือหนึ่งมีเสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น ดวงแสงขนาดเทากำปนดวงหนึ่งพลัน
ปรากฏขึ้น
ดวงแสงนี้เปนสีเทาคลุมเครือ พลางกะพริบแสงสีทมิฬลึกลับสวางวาบ
ตัวประหลาดนั้นมองไปยังแสงกระบี่สีทองที่โจมตีเขามากอนดวยความเย็นชา
แลวพลันประกบมือทั้งสองเขาดวยกันอยางไมลังเลแมแตนอย คาดไมถึงวาดวงแสงจะ
จมหายเขาไปในกระจกบานนั้นอยางไรรองรอย ทันใดนั้นลำแสงสีดำพลันสวางวาบ
ดวงแสงจำนวนนับไมถวนเหมือนกับกอนหนาทุกระเบียบนิ้วทะลักออกมาจากดานใน
แลวรวมตัวเขาดวยกันอยางรวดเร็ว
ชั่วพริบตา ดวงแสงยักษเสนผาศูนยกลางสองสามจั้งพลันปรากฏขึ้น หอหุมยักษปก
เงินเอาไวอยางไมเกรงใจ
ลำแสงสีทองที่แสบตาสวางวาบ แสงกระบี่ฟนลงไปบนดวงแสงอยางรุนแรง
หลังจากเสียง ‘ปง’ ดังขึ้น ดวงแสงยักษพลันแตกออกราวกับฟองอากาศอยางไร
อยางนั้น แตหลังจากแตกออกแลว ก็กลายเปนดวงแสงเล็กๆ จำนวนมาก
แตลำแสงสีทองกลับสวางวาบแลวเคลื่อนผานรางของยักษปกเงินไป หลังจาก
ลำแสงสีทองกะพริบวาบ กระบี่บินยี่สิบสามสิบเลมก็พัวพันเขาดวยกันเปลงประกาย
สวางวาบ ซากเทวัญตนนั้นถูกสับละเอียดเปนชิ้นๆ จากนั้นแสงกระบี่ก็พุงออกมาจาก
ดวงแสงเล็กๆ เหลานั้น
เมื่อเห็นเหตุการณนี้ หานลี่ไมไดดีใจแตกลับตื่นตระหนก เขาไมเชื่อวา อาศัยแค
กระบี่บินจะสังหารตัวประหลาดตนนั้นได
ภาพฉากที่นาเหลือเชื่อปรากฏขึ้นทันทีดังคาด
ดวงแสงเล็กๆ เหลานั้นพลันรวมตัวกันที่จุดศูนยกลางในเวลาเดียวกัน ผสมเขากับ
ดวงแสงยักษอีกครั้ง ซากที่กระจัดกระจายพลันลางเลือน ยักษปกเงินปรากฏตัวขึ้น
ทามกลางดวงแสงยักษอีกครั้งอยางไรซึ่งอาการบาดเจ็บ ราวกับวาไมเคยมีเรื่องเชนนี้
เกิดขึ้นอยางไรอยางนั้น
หานลี่ขมวดคิ้ว
ตอนนั้น ลำแสงสีมวงที่ดานหลังและอสรพิษพายุสองตัวของสตรีชุดดำผูงดงาม ก็
โจมตีออกไปอยางบาคลั่ง
ภาพฉากที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้นเชนกัน
ดวงแสงยักษปริแตกออกอีกครั้ง ยักษปกเงินถูกมังกรพายุและลำแสงฉีกจนเปน
ชิ้ น ๆ อี ก ครั้ ง แต ห ลั ง จากที่ ด วงแสงกลั บ มาอยู ที่ เดิ ม ซากเทวั ญ นั้ น ก็ ป รากฏขึ้ น
ทามกลางดวงแสงอีกครั้งอยางไรซึ่งอาการบาดเจ็บ ราวกับเปนอมตะอยางไรอยางนั้น
ยักษปกเงินมองมาทางทั้งสองคนดวยรอยยิ้มเยาะ และไมไดกระทำการอื่น แต
กระจกสีดำในมือของเขากลับมีดวงแสงพุงออกมาในบางครั้ง ทำใหขนาดของดวงแสง
ยักษกวางถึงสิบกวาจั้ง และยังขยายใหญขึ้นอยางรวดเร็ว
หานลี่มีสีหนาเครงขรึมปรากฏขึ้น ถึงแมจะไมรูวา สถานการณที่ถูกลำแสงสีเงิน
หอหุมเอาไวเปนอยางไร แตจะตองไมใชเรื่องดีอยางแนนอน
สตรีชุดดำผูงดงามก็กำลังตกตะลึงอยูในเวลาเดียวกัน แตสองมือกลับรายอาคม
อยางไมตองขบคิด ควบคุมมังกรพายุสองตัวใหทำการโจมตีระลอกที่สอง
ชั่วขณะนั้นหลังจากที่มังกรพายุสองตัวหมุนวน ก็กระโจนเขาหาดวงแสงอีกครั้ง
และถูกทำใหแตกกระจายออกอยางงายดาย ยักษปกเงินเองก็ถูกสังหารทิ้งราวกับเงา
ลวงตาลงอีกครั้งอยางงายดาย แตครานี้มังกรพายุกลับไมไดออกจากดวงแสง แตอา
ปากออก พ น มี ดพายุสีขาวโพลนจำนวนนั บ ไม ถวนออกมาจากปาก ตรงไปทั่ วทุ ก
ทิศทาง ชั่วขณะนั้นไมรอใหดวงแสงเล็กๆ เหลานี้ผนึกรวมตัวกันอีกครั้ง ก็ถูกโจมตี
แตกกระจายออกไปอีกครั้ง ตอนนั้น ใจกลางของดวงแสงเดิม พลันมีพายุโหมกระหน่ำ
เสียงกรีดรองแหลมสูงดังขึ้น
หานลี่ไมไดกระตุนกระบี่บินทั้งหมดที่โคจรอยูรอบๆ ใหเขารวมการโจมตี แตดวงตา
กลับหรี่ลงจับตาดูทุกอยางโดยไมเอยคำพูดใดๆ รูมานตาเปลงแสงสีฟาสวางวาบ
ตอนที่ 988 วิธีการโจมตีที่เด็ดขาด
“ไมถูก รีบหยุดเร็วเขา มังกรพายุของเจาเล็กลงไมนอยแลว” จูๆ หานลี่พลันหนา
เปลี่ยนสี หันหนาไปตะโกนใสสตรีชุดดำผูงดงาม
ความจริ ง แล ว ไม ต อ งเตื อ น สตรี ผู ง ดงามก็ สั ม ผั ส ได ถึ ง ความผิ ด ปกติ อ ยู ลึ ก ๆ
หลังจากไดยินเสียงของหานลี่ ชั่วขณะนั้นพลันตกตะลึงสองมือพลันรายอาคม มีดพายุ
ที่อยูตรงปากมังกรพายุหยุดลง ชั่วครูก็คำรามและพุงออกมาจากดวงแสง หลังจาก
หมุนวนหนึ่งรอบก็ลอยคางอยูกลางอากาศ
ขนาดของมังกรพายุสองตัวนั้นเล็กลงกวาครึ่งดังคาด และดวงแสงที่ถูกโจมตีจน
แตกละเอียดเปนเมล็ดถั่วเหลืองนั้น ชั่วพริบตาที่มังกรพายุบินออกไปก็ผนึกรวมตัวกัน
อีกครั้ง
เวลานี้ดวงแสงยักษมีขนาดประมาณสามสิบกวาจั้งแลว แทบจะกินพื้นที่ในมาน
ลำแสงไปหนึ่งในสามสวน
และทามกลางดวงแสงนั้น มีเสียงหั วเราะอยางเย็น ชาดังขึ้น ยักษ ป กเงิน ที่ ถือ
กระจกลวงจันทรปศาจพลันปรากฏตัวขึ้น ใบหนาประดับไปดวยรอยยิ้มเย็นชา
เมื่อมองมาถึงตรงนี้ หานลี่พลันถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
สถานการณเชนนี้ เขาเคยประสบมาแลวตอนปะทะกับผูสืบทอดหกวิถีตอนที่อยู
ในมหาสมุทรดาวคลั่ง
ตอนนั้นเวินเทียนเหรินสำแดงสมบัติอาคมพิเศษชนิดหนึ่งออกมา สามารถหลบ
อยูในเมฆสีมวง ทำใหบรรยากาศบิดเบี้ยว กระบี่บินของเขาไมอาจทำอะไรอีกฝายได
สุดท ายเขาก็อาศัยความเผด็จการของประหารมารทมิ ฬ ถึงได ฝน ทลายเขตอาคม
ตองหามนั้นได และฟนแขนของอีกฝายทิ้งไปขางหนึ่ง
ดู แ ล ว ที่ ยั ก ษ ป ก เงิ น ใช ใ นครั้ ง นี้ เดาว า ก็ ค งไม ต า งอะไรกั น นั ก แต ร ะดั บ
ความสามารถจะตองไมใชสิ่งที่ผูสืบทอดหกวิถีจะเทียบเทียมไดแน
แตประหารมารทมิฬนั้น เปนเพราะหานลี่ยุงอยูกับการฝกบำเพ็ญเพียร จึงไมไดผนึก
หลอมเอาไว ทวาถามีวิธีการที่เด็ดขาดเชนเดียวกัน ก็นาจะทำลายเคล็ดวิชานี้ลงได
นาเสียดายที่กระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆาของเขาไมสามารถสรางเขตอาคมมหากระบี่
ทองคำได มิเชนนั้นยักษปกเงินที่กำลังสำแดงพลังอยูจนไมอาจขยับไดเชนนี้ หากถูก
กักอยูในเขตอาคมกระบี่ ตอใหดวงแสงแปลกประหลาดขนาดไหน ก็ตองตายโดยไม
ตองสงสัย
หลังจากที่หานลี่ตัดสินใจ ชั่วพริบตาก็มีความคิดหนึ่งปรากฏขึ้น
ทันทีที่เขาสูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง มือหนึ่งก็ตบไปที่ยามเก็บของ อีกมือ
หนึ่ งพลัน พลิก ฝ ามื อ ยัน ต วิเศษสีแ ดงชาดแผน หนึ่ งปรากฏขึ้ น ตรงกลางฝามื อ ตั ว
อักษรบนยันตแผนนั้นไหลโคจรไปมาไมหยุดราวกับเปลวเพลิง และมีอสรพิษสีแดงตัว
เล็กตัวหนึ่งอยูรางๆ คาดไมถึงวาจะเปนยันตลดวิญญาณ
ยันตวิเศษแผนนี้คือยันตที่หานลี่ใชจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของมังกรวารีเพลิงสีชาด
ระดับแปดตัวนั้นหลอมขึ้นมาในชวงที่หลอมพัดตรีเปลวเพลิง ดวยเหตุนี้จึงมาสายไป
สองสามวัน จนเกือบจะพลาดวันรวมตัวกันกับชายชราแซฟูและพวกที่หุบเขาหมื่นพิษ
และหลังจากที่มีประสบการณหลอมแลวครั้งหนึ่ง คุณสมบัติในครั้งนี้จึงแข็งแกรง
กวาครั้งกอนเปนอยางมาก ทำใหเพิ่มลมปราณไดมากกวายันตลดวิญญาณครั้งกอน
ฝามือของหานลี่ตบลงไปบนรางโดยไมลังเลแมแตนอย ยันตวิเศษสีแดงเพลิงสวาง
วาบแลวหายเขาไปในรางกายอยางไรรองรอย
เงาอสรพิษลวงตาตัวหนึ่งปรากฏขึ้นที่แผนหลัง ชั่วขณะนั้นพลันเขาสิงรางหานลี่
หานลี่อยูทามกลางลำแสงสีแดงกลุมหนึ่ง ศีรษะมีเขางอกออกมา รางกายสวน
หนึ่งมีเกล็ดสีแดงเพลิงปรากฏขึ้น ชั่วครูก็กลายเปนครึ่งคนครึ่งมังกรวารี ลมปราณทั่ว
สรรพางคกายเพิ่มขึ้นไปอยูในจุดยอดสุดของระดับกอกำเนิดขั้นกลาง
“สหายหาน!”
“เอ!”
ไมวาจะสตรีชุดดำผูงดงามหรือวายักษปกเงิน เมื่อเห็นหานลี่แปลงกาย ตางก็อดที่
จะรองอุทานออกมาไมได เห็นไดชัดวาตางก็ไมเคยมีประสบการณกับยันตลดวิญญาณ
มากอน!
หลังจากที่ ยักษ ป กเงินสัมผัสได วาพลังยุ ท ธของหานลี่ เพิ่ ม ขึ้น อยางบ าคลั่ง ชั่ ว
ขณะนั้นก็หุบรอยยิ้มเยาะที่มุมปาก
ในตอนนั้น สองมือของหานลี่พลันผนึกเขาหากัน กระบี่บินสีทองยี่สิบสามสิบเลม
ที่แตเดิมวนเวียนอยูดานนอกดวงแสงพลันโผขึ้นไปบนทองฟาพรอมกัน หลังจากหมุน
วนรอบหนึ่งก็เปลงเสียงรองที่ไพเราะเสนาะหูออกมา จากนั้นพลันสั่นคลอน แบงตัว
จากหนึ่งเลมเปนหกเลม
กระบี่ลำแสงสีทองเกือบสองรอยเลมพลันทะลักออกมา จากนั้นพลันรวมตัวกัน
อยูที่จุดจุดหนึ่ง
ชั่วพริบตา ลำแสงสีทองกลุมหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ เจิดจาจนแสบตา
ราวกับอาทิตยยามเที่ยงวัน
เมื่อหมนแสงลง กระบี่ยักษสิบกวาจั้งเลมหนึ่ง ก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศเหนือดวง
แสงเป น สี ท องเรื อ งรอง ตั ว กระบี่ มี พ ลั งอำนาจคุ ก คาม ถึ งแม ว ายั ก ษ ป ก เงิน ที่ อ ยู
ดานลางก็ยังหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
เมื่อเห็นกระบี่ยักษรวมตัวกัน หานลี่ก็ชี้ไปยังไขมุกผลึกหิมะที่หนาอกทันที
ไขมุกเม็ดนั้นสงเสียง ‘ฟ ว’ ออกมา กลายเป น ลำแสงสีมวงสายหนึ่ งพุ งไปทาง
กระบี่ยักษ
แทบจะในเวลาเดียวกัน ความคิดของเขาก็เคลื่อนคลอย รายอาคมใสกระบี่ยักษ
เสียง ‘เปรี้ยง’ พลันดังกัมปนาทขึ้น!
จูๆ กระบี่ยักษพลันมีประจุไฟฟาหนาเทาแขนปรากฏขึ้น ประจุไฟฟาจำนวนนับ
ไมถวนหอหุมกระบี่ทั้งเลมเอาไวขางใน เวลานั้นลำแสงสีทองพลันรัดแนนทั่วตัวกระบี่
เสียงฟาผาดังขึ้นไมหยุด
และในเวลาเดียวกันกับที่หานลี่กระตุนอัสนีเทวาปดเปาภยันตราย ไขมุกผลึกหิมะ
ก็พุงมาที่ดามจับของกระบี่ยักษ หลังจากแสงสีมวงสวางวาบ ไขมุกก็จมหายเขาไป
อยางไรรองรอย ทันใดนั้นเปลวเพลิงสีมวงที่แปลกประหลาดชั้นหนึ่งก็เริ่มแพรกระจาย
จากดามกระบี่ขึ้นไป พัวพันเขาดวยกันกับประจุไฟฟาสีทองบนกระบี่ยักษจนเกิดแสง
วิบวับ ราวกับยุทธภัณฑของเทพเซียนอยางไรอยางนั้น
ยักษปกเงินเห็นเชนนั้น ใบหนาพลันดูไมได ขนบนใบหนาเริ่มเปลี่ยนซีดขาว
เวลานั้นดวงแสงยักษพลันครองพื้นที่กวาครึ่งของมานลำแสงเอาไว หานลี่และ
สตรีผูงดงามชุดดำตางจำใจตองถอยรนไป ทวาเมื่อเห็นกระบี่ยักษกลางอากาศ สีหนา
ของสตรีผูงดงามชุดดำนั้นตกตะลึงมากกวายักษปกเงินเสียอีก ในหัวมีความคิดตางๆ
แลนผานไปไมหยุด
การโจมตีท่ีนากลัวเชนนี้ คิดดูแลวผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายก็ไม
กลารับการโจมตีนี้ตรงๆ แน
“ทลาย” ในขณะที่สตรีผูงดงามกำลังตื่นตระหนก หานลี่ก็พนคำพูดที่เย็นชาออกมา
กระบี่ยักษนั้นนำพาเสียงฟ าผาดังเสียดแกวหู มาดวย ในเวลาเดียวกัน ก็ปลอย
กระบี่ลำแสงสีทองยาวสองสามจั้งออกมา
กระบี่ เล ม นี้ ยั ง ไม ทั น ได สั ม ผั ส กั บ ดวงแสง พลั ง กดดั น บนตั ว กระบี่ ก็ ท ำให มั น
สั่นคลอนไมหยุด
ลำแสงสีทองสวางวาบ กระบี่ยักษพลันสับลงมา ดวงแสงถูกไอวิญญาณบีบจน
แตกกระจายออก
หลั งจากรอให ล ำแสงสลายหายไป ดวงแสงกลั บ ไรซึ่ งเงารางคน ยั ก ษ ป ก เงิน
ปรากฏขึ้นในจุดที่อยูไกลออกไป จองเขม็งมายังกระบี่ยักษดวยสีหนาดุราย
ภายใตแรงกดดันของกระบี่ยักษ ในที่สุดตัวประหลาดตัวนี้ก็ไมกลารับการโจมตี
ของหานลี่ตรงๆ เมื่อกระบี่ยักษเขามาใกล ก็กระพือปกสีเงินหนีออกมา
ทวากระจกลวงจันทรปศาจเองกลับหยุดพนลำแสง ลมปราณถูกกำจัดทิ้ง ดังนั้น
หลังจากที่ดวงแสงยักษถูกทำลายไป ก็ไมอาจฟนฟูกลับมาเปนสภาพเดิมไดอีก
แววตาของยักษปกเงินเปลงประกายสวางวาบ ตอนที่กำลังขบคิดวาจะสำแดง
ความสามารถอะไรออกมานั้น จูๆ ดานหลังก็มีเสียงแหวกอากาศที่แหลมสูงดังขึ้น
จากนั้นเสนไหมสีแดงสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นดานหลังเขาหางออกไปสองสามจั้ง กะพริบ
วาบหมายจะทะลุผานทายทอยของเขา
ความสามารถของยักษปกเงินถือวาเปนคูแขงที่สมน้ำสมเนื้อกับระดับกอกำเนิด
ขั้นปลาย จิตสัมผัสจึงไมไดแยนัก ถึงแมวาเสนไหมสีแดงจะปรากฏขึ้นอยางฉับพลัน
แตมันก็รีบตวัดปกกลับไปตานทานอยูเบื้องหลังไดทัน โดยที่ไมแมแตจะหันกลับมา
เสียง ‘ตูม’ พลันดังขึ้น สิ่งที่อยูนอกเหนือความคาดหมายของตัวประหลาดก็คือ
เสนไหมสีแดงที่โจมตีไปบนปกสีเงินคาดไมถึงวาจะกลายเปนลูกไฟยักษและระเบิด
ออก ทำใหยักษปกเงินใจหายวาบ!
แตทันใดนั้นเขาก็พบวาลูกไฟนี้เปนเพียงภาพลวงตา ไมอาจทำอะไรเขาได ทันใด
นั้นพลันรูสึกผอนคลายลง! แตหลังจากที่แสงเพลิงพลันดับลง ดานในกลับวางเปลา
เสนไหมสีแดงหายลับไปอยางไรรองรอย
หลังจากที่ยักษปกเงินกำลังตกใจ คิดจะใชจิตสัมผัสคนหานั้น เบื้องหนากลับมี
เสียงฟาผาดังขึ้น กระบี่ยักษหมุนวนเปนเกลียวขึ้นไปกลางอากาศ และพุงลงมาอีกครั้ง
สตรีผูงดงามชุดดำรายอาคมกระตุนอยูไกลๆ มังกรพายุสองตัวบินมาอยูเหนือซาก
เทวัญตอนไหนก็ไมรู หลังจากหมุนโคจรหนึ่งรอบ ก็สะบัดหัวสะบัดหางอาปากออก
มีดพายุจำนวนนับไมถวนพุงลงมาอยางหนาแนน
ครานี้ ยักษปกเงินในเวลานี้ไมอาจขบคิดเรื่องอื่นได
พลันสะบัดมือ กระจกลวงจันทรปศาจยังคงอยูเบื้องหนาไมไหวติง จากนั้นสองมือ
ก็ควาไปกลางอากาสที่วางเปลาทางกระบี่ยักษดวยสีหนาเครงขรึม ชั่วขณะนั้นเสนไหม
วิญญาณพิฆาตสองเสนกลางอากาศพลันกลายเปนมือยักษ ขนาดประมาณสองสามจั้ง
โบกมือตานกระบี่ยักษเอาไวดวยทาทีที่ไมออนแอเลยแมแตนอย
เวลานี้มันไมอาจดีดตัวหลบไดเหมือนเมื่อครู จึงตองตรวจสอบอานุภาพของกระบี่
ยักษเลมนี้กอนแลวคอยวากัน
และในเวลาเดียวกัน ป กสีเงินของตัวประหลาดตัวนี้ ก็ขยายใหญ ขึ้น หลายเท า
กลายเปนมานสีเงินผืนหนึ่งตานทานเหนือศีรษะเอาไว
หลังจากเสียง ‘ตูม’ ดังขึ้น การโจมตีของมีดพายุบนมานสีเงินก็ถูกดีดออกไปอีก
ทางอยางงายดาย
เมื่อมือยักษและกระบี่ยักษสัมผัสกัน ก็เกิดเสียง ‘ตูมๆ’ ดังขึ้น กระบี่เลมนั้นอาศัย
อานุภาพที่ทำผูคนตกตะลึงตวัดสับลงมาจนมือยักษขางหนึ่งสลายหายไป แตกระบี่
ลำแสงเองก็ออนแอลงกวาครึ่ง
เมื่อสับลงมาครั้งที่สอง ทั้งสองกลับกระเด็นออกไปอยางควบคุมไมอยู ทาทาง
เหมือนไมออนขอใหกัน
และในเวลาเดียวกันกับที่กระบี่ยักษสับลงมายังมือขางที่สองก็มีเสียงดังสนั่นขึ้น
เสนไหมสีแดงที่สลายหายไปคาดไมถึงวาจะปรากฏตัวขึ้นอยางแปลกประหลาด อยู
ตรงตำแหนงทรวงอกของยักษปกเงินอยางพอดิบพอดี
เมื่อสับลงมาครั้งที่สอง ทั้งสองกลับกระเด็นออกไปอยางควบคุมไมอยู ทาทาง
เหมือนไมออนขอใหกัน
“แยแลว!” ยักษปกเงินใจหายวาบ มือหนึ่งที่มีขนปกคลุมตะปบไปเบื้องหนาอยาง
รีบรอน แตกลับสายไปแลว
เสนไหมสีแดงพลันกะพริบวาบ เสียง ‘ฟว’ ดังขึ้น พลันพุงทะลุผานกระจกลวง
จันทรปศาจไป แตทันใดนั้นก็ถูกมือที่มีขนขางหนึ่งควาเอาไว การเคลื่อนไหวรวดเร็ว
ดุจสายฟา
กระจกสีด ำเล็ก ๆ บานนั้ น หลั งจากส งเสี ยง ‘เปรี๊ยะ’ ออกมา ทั น ใดนั้ น พลั น
กลายเปนลำแสงสีดำกลุมหนึ่งแลวก็ระเบิดออก
“เจากลาทำลายกระจกสมบัติของขา!” ยักษปกเงินเห็นกระจกลวงจันทรปศาจ
ถูกทำลาย รางกายก็สั่นเทิ้ ม ใบหน าเผยสีห น าโกรธเกรี้ยวอยางสุดๆ ออกมาทั นที
สมบัติกระจกชิ้นนี้ดูเหมือนวาจะมีความหมายลึกซึ้งกับเขา แมแตเข็มบินที่มือซึ่งเต็ม
ไปดวยขนควาจับเอาไวนั้นมีเปลวไฟลุกโชนอยูดานบนจนเปลี่ยนเปนสีแดงสดราวกับ
หัวแรง มันในตอนนี้กลับทำเปนมองไมเห็น
หานลี่รูสึกตื่นตระหนก!
จุดประสงคในการลอบโจมตีสมบัติกระจกชิ้นนี้ของเขานั้นงายมาก เปนเพราะมัน
สอดประสานกับเคล็ดวิชาลวงตาของตัวประหลาดนี้และทำใหรับมือไดยาก ถึงได
ตัดสินใจเชนนี้
ยามนี้เมื่อเผชิญหนากับความโกรธเกรี้ยวของยักษปกเงิน หานลี่พลันรูสึกแปลกใจ แต
การเคลื่อนไหวในมือกลับไมหยุดพักแมแตนอย ภายใตการรายอาคม กระบี่ยักษสีทอง
ที่แตเดิมหมนแสงลงไปจำนวนมาก พลันมีเสียง วูบ’ ดังขึ้น และแยกออกจากกัน
กระบี่ลำแสงเกือบสองรอยเลมกลายเปนตาขายกระบี่ขนาดยักษ สับลงมาพรอม
กัน ลงมืออยางไมปรานีแมแตนอย!
ถาหากอีกฝายกลาใชปกสีเงินตานทานละก็ เขาก็ไมรังเกียจที่จะใชกระบี่บินที่
ผสมแกนทองคำสับอีกฝายใหเปนชิ้นๆ ในพริบตา และหลังจากที่ไขมุกผลึกหิมะเม็ดนี้
หมุนติ้วๆ วิหคเพลิงขนาดเทากำปนสองสามตัวก็บินออกมาจากไขมุก จากนั้นพลัน
รอนลงอยางสงางาม
แตถึงแมวายักษปกเงินจะโกรธแคน แตกลับไมไดถูกหลอกจนเขามารับการโจมตี
ของหานลี่ พลันกระพือปกสีเงิน คนก็ปรากฏขึ้นอีกแหงหนึ่ง จองเขม็งมายังหานลี่ดวย
ใบหนาโหดเหี้ยมดุราย ดวงตาสีเงินเริ่มแดงก่ำ
“เดิมทีไมอยากเสียปราณแทมากนัก แคคิดจะใชเคล็ดวิชาลวงตาจับเจาเทานั้น
แต ต อนนี้ ข าเปลี่ ย นใจแล ว ข าจะต อ งจั ด การเจ าด วยตั ว เอง กระชากจิ ต วิ ญ ญาณ
บริสุทธิ์ของเจาออกมา และกลืนกินอยางชาๆ” ยักษปกเงินเอยดวยใบหนาชั่วราย
หลังจากที่รางของมันแวบหายไปก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเหนือซากหมาปา กระทืบ
เทาลงไปบนหัวหมาปาโดยไมพูดอะไร ปกสีเงินคูนั้นกระพือสองสามครั้งและเปลงแสง
สีเหลืองชั้นหนึ่งออกมา
จากนั้ น แม แ ต ค นและหมาป าก็ จ มหายเข าไปใต ดิ น อย างเงีย บเชี ย บ ราวกั บ ผี
อยางไรอยางนั้น!
“ลี้ธรณี!” หานลี่ขมวดคิ้วในทันที ชี้ไปยังกระบี่บินและสมบัติไขมุก สมบัติทั้งหมด
บินกลับมาพรอมกัน
และในตอนนั้ น ใต ดิ น กลั บ มี เสี ย งตึ งตั งดั งขึ้ น อย างต อ เนื่ อ ง เขตอาคมทั้ งเขต
สั่นคลอนอยางรุนแรง จากนั้นพลันมีลำแสงสีเหลืองและไอสีดำทะลักออกมาจากจุด
ตางๆ ของเขตอาคม ในสวนลึกของใตดินก็มีเสียงกรีดรองคำรามของยักษปกเงินดังขึ้น
ราวกับเจ็บปวดมากอยางไรอยางนั้น
ตอนนี้สตรีผูงดงามชุดดำมีสีหนาเครงขรึมสลับกับสดใสไมแนนอน มองหานลี่
แลวกมหนาลงมองเขตอาคมบนพื้น หลังจากขบคิดเล็กนอย ก็กัดฟน คนพุงไปที่รัง
ไหมสีเทารังหนึ่ง ระหวางทางนางชูมือขึ้น สมบัติอาคมรูปรางเหมือนกรรไกรอันหนึ่ง
พุงออกมาจากมือ
สมบัติชิ้นนี้มีลำแสงบริสุทธิ์เรืองรอง ดูเหมือนวาจะแหลมคมเปนพิเศษ!
ตอนที่ 989 ซอนตัวในพายุ
แคลงมือกรรไกรก็กลายเปนลำแสงสีสองสายหนึ่ง เห็นไดชัดวาสตรีชุดำผูงดงามคิดจะ
ใชสมบัติชิ้นนี้กรีดเสนไหมวิญญาณพิฆาต เพื่อชวยชายชราแซฟูกอนแลวคอยวากัน
หานลี่กลับขมวดคิ้ว!
ชวยคนนั้นได แตการบินออกไปเอง และยืดระยะหางออกจากเขานั้นไมใชเรื่องที่
ดีอะไร
ผลลัพธคือเงารางคนสีเขียวสายหนึ่งพลันพุงออกมา หลังจากสวางวาบก็ตานทาน
อยูเบื้องหนารังไหมยักษ มือเปลือยเปลาตะปบออกไป กรงเล็บลำแสงสองสามสายพุง
ออกมา ชั่วครูก็ทะยานออกไปโจมตีกรรไกรสีทอง
ตอนแรกหานลี่และสตรีชุดดำผูงดงาม ตางก็คิดวานั่นคือยักษปกเงิน แตรอจน
ลำแสงหมนลง เมื่อเห็นใบหนาของอีกฝายชัดเจนแลว พลันตกตะลึง
เงารางสีเขียวนั้นคาดไมถึงวาจะเปนรางมนุษยหัวหมาปา ดวงตาทั้งสองเปนสีแดง
ก่ำ นั่นคือหมาปายักษที่เคยพบกอนหนานี้ แตแคไมรูวาถูกสำแดงเคล็ดวิชาอะไร ไม
เพียงจะกลายเปนมนุษย ยิ่งไปกวานั้นรางกายยังหดเล็กลงหลายเทา ใบหนาโหดเหี้ยม
มองไปยังสตรีชุดดำผูงดงาม
แตสิ่งที่ทำใหหานลี่สนใจก็คือ มาทมิฬแตเดิมที่อยูบนศีรษะของหมาปากลับหายไป
อยางไรรองรอย หรือวาอสูรวิญญาณตัวนี้อาศัยอยูใตดิน หรือวาซอนตัวอยูที่อื่น
แนนอนวาในหัวของหานลี่ขบคิดเชนนี้ ลำแสงสีฟาสวางวาบขึ้นในแววตา กวาด
ตามองไปรอบๆ ตามจิตสำนึก
ผลลัพธคือหนาพลันเปลี่ยนสียกใหญทันที ตะโกนไปทางสตรีชุดดำผูงดงามดวย
ความรอนรน
“ระวังดานหลัง!”
จากนั้นเขาพลันดีดนิ้วทั้งสิบอยางไมตองคิด ไอกระบี่สีเขียวสิบกวาสายพุงตรงไป
หาสตรีชุดดำผูงดงาม
เมื่อไดยินเสียงตะโกนของหานลี่ ชั่วขณะนั้นสตรีผูงดงามที่มีประสบการณในการ
ตอสูเฟองฟูพลันใจหายวาบ
นางชี้ไปยังโลอันเล็กสีเขียวที่อยูเบื้องหนาอยางไมตองคิด โลพลันกะพริบหายไปอยู
ดานหลัง ในเวลาเดียวก็รวบรวมลมปราณทั่วราง กรงลอเหนือศีรษะเปลงแสงสวางจา
ลำแสงวิญญาณเจ็ดสีละลายหายเขาไปในลำแสงวิญญาณที่ปกปองราง และชั่วครูก็
ขยายใหญขึ้นหลายเทา
ในเวลาเดียวกันกับที่สตรีผูงดงามเตรียมการปองกันนั้น เงารางคนสีทองจางๆ
สายหนึ่งก็สวางวาบและปรากฏขึ้นเบื้องหลังของสตรีผูงดงาม
นั่นก็คือยักษปกเงิน!
รูปรางของซากเทวัญเปลี่ยนไปเปนอยางมาก ขนสีเขียวทั่วรางหายไป กลายเปน
เกล็ดสีทอง ปกสีเงินที่แผนหลังเปลงแสงสีเขียวและขาวสองสีออกมา ดวงตาสีเงิน
มีนัยตาสีทองจางๆ ปรากฏขึ้น แตสิ่งที่ทำใหผูคนตกตะลึงก็คือ ไอซากเทวัญของยักษ
ปกเงินนั้นหายไป สัมผัสไมไดถึงพลังชีวิตใดๆ เมื่อแผจิตสัมผัสออกไป ก็รูสึกราวกับวา
มันเปนแครางของวิญญาณอากาศเทานั้น
หลั ง จากที่ ตั ว ประหลาดปรากฏขึ้ น ก็ ชู มื อ หนึ่ ง ขึ้ น โดยไม ได เอ ย อะไรออกมา
รางกายไมขยับ แตแขนกลับขยายใหญขึ้นหลายเทา
กรงเล็บแหลมคมสีดำปลอยลำแสงสีทองยาวสองสามชุนออกมา และควาตะปบ
ไปยังโลอันเล็กสีเขียวที่ปรากฏขึ้นดานหลังสตรีผูงดงามอยางพอดิบพอดี
โลอันนั้นเพิ่งจะปรากฏก็ขยายใหญขึ้น พลางเปลงลำแสงวิญญาณออกมา ราวกับ
วามั่นคงและแข็งแกรงอยางไรอยางนั้น
แตภาพฉากที่เหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น!
ยักษปกเงินมองโลอันนั้นราวกับไมมีอยู ลำแสงสีทองสวางวาบขึ้นบนแขน คาดไม
ถึงวากรงเล็บที่แหลมคมจะทะลุผานออกไปอยางเงียบเชียบ แลวตะปบลงใสเกราะ
ลำแสงที่หอหุมรางของสตรีชุดดำผูงดงามเอาไว
เสียงปริแตกดังขึ้น กรงเล็บลำแสงชะงักไปเล็กนอย ฉีกลำแสงวิญญาณออกราว
กับกระดาษ
หลังจากเสียง ‘สวบ’ พลันดังขึ้น กรงเล็บลำแสงจมหายเขาไปในทรวงอกของ
สตรีผูนั้น หัวใจของนางพลันแหลกละเอียดเปนชิ้นๆ ทะลุผานไปอีกครั้งอยางงายดาย
หานลี่เห็นเชนนั้น จิตใจพลันหนักอึ้ง ถูกซากเทวัญที่มีพลังไรขีดจำกัดเขาใกลตัว
เชนนี้ เปนเรื่องที่ถึงแกชีวิตดังคาด
ไอกระบี่สีเขียวในเวลานี้พลันพุงออกจากจุดที่ไกลออกไป แตกลับถูกปกของยักษ
ป ก เงิ น โบกตวั ด พลั น แตกกระจายออกเป น แสงสี เขี ย วและขาวสองสี ทว า การ
ชวยเหลือของหานลี่นั้น ไมไดเสียเปลา ในที่สุดก็ดึงเวลาใหสตรีผูงดงามได
สตรีผูนี้ถือโอกาสที่ลำแสงสีแดงปรากฏขึ้นที่ตรงหนาผาก ทารกวิญญาณขนาด
สองสามชุนปรากฏขึ้นตรงนั้น
ทารกวิญญาณรางกายเปลือยเปลาคนนี้ มีใบหนางดงามเหมือนนาง แตสองมือ
กลับถือกระบี่บินขนาดสองสามชุนเอาไว แทบจะปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกัน มันตื่น
ตระหนกพรอมกับลำแสงสีแดงที่สวางวาบ ควบคุมกระบี่บินใหเคลื่อนตัวออกไปสิบ
กวาจั้ง
เพียงกะพริบวาบสองสามครั้งก็หนีไปไดแลว
ยักษปกเงินในครากลับหัวเราะอยางดุราย โยนซากศพไปอีกทาง ที่เดิมจึงวางเปลา
เงารางคนจางๆ ปรากฏขึ้นขางๆ ทารก อาปากออก พนเสนไหมสีเทาออกมา
หอหุมทารกวิญญาณที่ตองการจะหลีกหนีอีกครั้งอยางพอดิบพอดี
“สหายหาน ชวยดวย!”
ทารกวิญญาณของสตรีผูงดงามรองขอความชวยเหลือกับหานลี่อยางรอนรน และ
ยิ่งไปกวานั้นยังขับเคลื่อนกระบี่บินชนกับตาขายทั้งสี่ดาน แตถาหากกายเนื้อของเขา
นางยังอยู บางที อ าจจะมีโอกาสสับ ตาข ายเส น ไหมทิ้ ง แต เวลานี้ เหลื อ เพี ย งทารก
วิญญาณของนางเทานั้น ไมเพียงลมปราณที่เสียไป ยังพบกับเสนไหมวิญญาณพิฆาตที่
สามารถดูดซับลมปราณเบญจธาตุอีกดวย แนนอนวาจึงถูกเสนไหมดีดกลับไป
ยักษปกเงินเองก็ไมปลอยโอกาสใหสตรีผูนั้น ทันทีที่ตาขายเสนไหมเพิ่งพุงออกมา
มื อ ข า งหนึ่ ง ก็ ต ะปบลงมากลางอากาศ มื อ ยั ก ษ สี เทาพลั น ปรากฏขึ้ น คว า ทารก
วิญญาณและตาขายเอาไวในมือ
หลังจากนั้นลำแสงสีเทาพลันสวางวาบ รังไหมสีเทาขนาดสองสามฉื่อปรากฏขึ้น
กลางอากาศอยางกะทันหัน
เวลานี้รางของยักษปกเงินถึงไดชัดเจนขึ้น จากนั้นแสงสีเทาก็กะพริบคราหนึ่ง
หลังจากเหลือบตามองหานลี่แวบหนึ่งแลว ก็เปลงเสียงหัวเราะอยางเย็นชาออกมา
“เหอะๆ ขายังคิดวาเจาใชอัสนีหลีกหนีชวยคนไดเสียอีก คิดไมถึงวาจะทำไดเพียง
ปกปองตัวเอง!”
“ไปชวยคน? หากชวยได ขาก็จะชวย แตเมื่ อครูไปแล วเกรงวาจะเป น การนำ
ตนเองไปติดกับก็เทานั้น เหนือหัวเจายังมีตาขายยักษอยูอีกผืนหนึ่ง ตอนนี้ก็สามารถ
เก็ บ กลั บ มาได แ ล ว” หานลี่ มี สี ห น าไม เปลี่ ย นแปลง กลั บ เอ ย ออกมาเรีย บๆ หนึ่ ง
ประโยค
“เจาดูออกแลว? ดูแลวเจาคงมองทะลุผานภาพลวงตาของขาได คงไมใชโชคชวย
จริงๆ” ใบหนาของยักษปกเงินฉายแววตกตะลึง
เวลานี้ เหนือหัวของเขาสูงขึ้นไปสิบกวาจั้ง มีตาขายสีเทาปรากฏขึ้น โดยไมรูวา
ตัวประหลาดตนนี้ใชวิธีการใด คาดไมถึงวาจะซอนรองรอยของตาขายยักษผืนใหญได
อยางแนบเนียน
ถาหากไมใชเพราะเนตรวิญญาณวารีกระจางของหานลี่อยูในระดับที่เหมาะสม ก็
คงไมมีทางดูกับดักนี้ออกจริงๆ
ทวาถึงแมจะไมมีตาขายนี้ หานลี่ก็คงไมทำงายๆ
การแปลงรางของยักษปกเงินครั้งนี้ ชางแปลกประหลาดๆ จริง ไมเพียงสามารถ
เก็บซอนไอซากศพรอบกายไดอยางมิดชิด เคล็ดวิชาหลีกหนียังยอดเยี่ยมกวาเมื่อครู
มาก แทบจะหลบซอนอยูในพายุได
ถาหากไมใชเพราะเขาใชเนตรวิญญาณ เกรงวาอีกฝายมาอยูดานหนาก็ยังไมพบ
รองรอยของเขา และยิ่งไปกวานั้นการโจมตีของยักษปกเงินเมื่อครู คาดไมถึงวาจะ
สามารถทะลุผานสมบัติปองกันตัวของสตรีชุดดำผูงดงามอยางงายดาย นี่จึงทำใหใจ
หายวาบ และรูสึกประหลาดใจ
ยักษปกเงินเห็นหานลี่ไมตกหลุมพราง ก็สงเสียงเหอะออกมาดวยความเย็นชา
แลวชูมือขึ้นกวักเรียกซากมนุษยครึ่งหมาปา
ซากหมาปาเห็นเชนนั้นก็บินเขามาทันที ชั่วพริบตามาหยุดอยูที่ดานขางซากเทวัญ
จากนั้นซากหมาปาพลันเอียงศีรษะ จองเขม็งมาทางหานลี่ดวยความโหดเหี้ยม
แตในตอนนั้นเอง จูๆ ดานลางของหานลี่กลับมีเสียงรองคำรามดังขึ้น คาดไมถึง
วาอสูรวิญญาณครวญจะทุบอกแสดงอำนาจออกมา
การตอสูเมื่อครู นอกจากตอนแรกเริ่มแลว มันก็ถูกหานลี่ใชความคิดหยุดการ
เคลื่อนไหวเอาไว นี่จึงทำใหอสูรตัวนี้มองเห็นยักษปกเงินบินอยูเหนือหัวแตกลับไมมี
ทางลงมือได ในใจจึงรูสึกกลัดกลุมไมนอย เวลานี้มองเห็นซากหมาปาเขามาก็แยก
เขี้ยวยิงฟนใสมันอยางไมเกรงใจ
เมื่อซากหมาปาไดยิน ชั่วขณะนั้นพลันเผยสีหนาหวาดกลัวออกมา มองไปทาง
อสูรวิญญาณครวญดวยแววตาหวาดกลัว
ยักษปกเงินเห็นเชนนั้นพลันมีสีหนาเครงขรึม แตหลังจากที่ดวงตากลอกไปมา
สองสามรอบแลว จูๆ พลันอาปากออก พนไขมุกกลมๆ สีเทาเม็ดนั้นออกมา และควา
ไขมุกเม็ดนั้นเอาไว พลิกฝามือแลวโยนออกไป คาดไมถึงวาจะโยนไขมุกเม็ดนั้นเขาไป
ในปากของซากหมาปา
เมื่อซากหมาปารางคนกลืนกินไขมุกลงไป ทันใดนั้นก็หันหลังกลับไปพนไอสีเทา
ออกมา ไอซากศพแผขยาย ชั่วขณะนั้นความดุรายพลันเพิ่มขึ้น
หานลี่ทำเปนมองไมเห็นทุกอยาง กลับถือโอกาสนี้กลับมองไปทางโลสีเขียวของ
สตรีผูงดงาม
สมบัติที่สูญเสียเจาของนี้ ลอยอยูกลางอากาศไมขยับเขยื้อน ลำแสงสีเขียวบนผิว
โลเปลงรัศมีเปนมันวาวเหมือนตอนแรกเริ่ม
หานลี่ขมวดคิ้ว เลื่อนสายตาไปมา แลวตกลงบนเกล็ดสีทองจางๆ บนเรือนราง
ของยักษปกเงิน จูๆ พลันหนาเปลี่ยนสี ดูเหมือนวาจะนึกอะไรขึ้นได
และในตอนนั้นเอง ยักษปกเงินก็เงยหนาขึ้นเปลงเสียงรองคำรามยาวๆ ออกมา
จากนั้นรางกายพลันแวบหายไป และสลายหายไปกลางพายุ
ซากหมาปาตัวนั้นพลันเปลงเสียงรองคำราม ปากก็พนเพลิงซากศพออกมา คาด
ไมถึงวาจะกระโจนไปหาอสูรวิญญาณครวญทางดานลาง
อสูรวิญญาณครวญสะบัดหัวอยางไมตองคิด จมูกพนลำแสงสีเหลืองออกมา
แมวาซากหมาปาจะกลืนกินไขมุกเพิ่มพลังแลว ความรูสึกหวาดกลัวที่มีตออสูร
วิญญาณครวญนั้นลดลง แตก็ยังคงไมกลาเขาใกลลำแสงสีเหลืองเลยแมแตนอย
ทันใดนั้นรางกายพลันเลือนราง ชั่วครูก็กลายเปนเงาลวงตาสองสามสายลอมรอบ
อสูรวิญญาณครวญเอาไว เพราะวารางกายหดเล็กลง จึงทำใหลำแสงหลีกหนีของซาก
หมาปานั้นมหัศจรรยอยางหาที่เปรียบมิได ลำแสงสีเหลืองในตอนนี้กลับตามไมทัน
แตซากหมาปาก็ไมกลาเขาใกล เพราะวาอสูรตัวนี้ยังพนลำแสงเทวาออกมาจาก
จมูกอยางตอเนื่องอยางระวังตัว ทำใหลำแสงสีเหลืองกลายเปนมานลำแสงชั้นหนึ่ง
หอหุมรางกายอันใหญโตของตนเองเอาไว กำปนสองกำปนพลันรายรำไมหยุด จาก
ความใหญโตของอสูรวิญญาณครวญวานรยักษ แนนอนวากำปนก็ไมนอยเลย ถึงแมวา
ซากหมาปาจะกำเนิดขึ้นมาจากซากหลอม เกรงวาก็คงรูสึกทนไมไหว
ตางฝายตางชิงประชันกันอยางไมยอมลดละ
ในเวลาเดียวกันที่อสูรวิญญาณครวญถูกขวางเอาไว รางของยักษปกเงินและหานลี่ก็
กะพริบวาบ ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ คนหนึ่งไลตามคนหนึ่งถอยหนีราวกับภูตผี
อยางไรอยางนั้น
ปกที่ แผนหลังของหานลี่มีป ระจุไฟฟ าแล น พลานอยู เสีย งฟ าผ าดั งขึ้น ไม ห ยุ ด
รางกายกะพริบวาบปรากฏขึ้นอีกที่หนึ่งอยางไมมีกฎเกณฑ หลังจากผานไปชั่วครูก็
อาจจะปรากฏตัวที่ ทิศตะวันตก ชั่วครูก็ปรากฏตัวที่ ทิ ศตะวัน ออก ต อมาก็อาจจะ
ปรากฏตัวขึ้นในจุดที่สูงขึ้นไป ตอมาก็ปรากฏตัวขึ้นสูงกวาพื้นดินสองสามจั้ง
แตยักษปกเงินนั้นกลับไมรูวาใชความสามารถใด ปกคูนั้นพลันเปลงแสงสีเขียว
ขาวออกมา รางกายเลือนรางราวกับไมมีอยู แตคาดไมถึงวาจะตามรองรอยอัสนีหลีก
หนีของหานลี่มาอยางไมลดละ
ไมนานนัก หานลี่ก็รูสึกรับไมไหวแลว
เห็นไดชัดวาเคล็ดวิชาพายุหลีกหนีของอีกฝายเหนือกวาอัสนีหลีกหนีของเขามาก
แต ล ะครั้ ง ที่ เข า ประชิ ด มาก็ ใกล ขึ้ น เรื่ อ ยๆ ในตอนที่ เขาก า วเท า ออกไปก า วหนึ่ ง
กลายเปนประจุไฟฟาสีทองแวบหายไป ยักษปกเงินก็ตามมาติดๆ
จูๆ เมื่อรางของหานลี่ปรากฏตัวกลางอากาศสูงขึ้นอีกครั้ง ก็ไมไดกระพือปกจาก
ไปในทันที กลับชี้ไปยังไขมุกผลึกหิมะเบื้องหนา ชั่วขณะนั้นไขมุกเม็ดนี้พลันหมุนติ้วๆ
พนเปลวเพลิงสีมวงผืนใหญออกมาทั่วทุกสารทิศ ในเวลาเดียวกันกระบี่บินสีทองหลาย
สิบเลมก็หมุนวนรอบๆ กาย และระเบิดแสงกระบี่เปนกลุมๆ ออกมา หอหุมทั่วทุก
แหงในระยะสิบกวาจั้งเอาไว
เมื่อวางเขตอาคมทั้งหมดเสร็จ จุดที่หางจากหานลี่ไปหาถึงหกจั้ง ก็มีพายุเกิดขึ้น
กลางอากาศ เงารางจางๆ รางหนึ่งปรากฏขึ้นตรงนั้น
ชั่วขณะนั้นเปลวเพลิงสีมวงและลำแสงกระบี่พลันหอหุมรางของคนผูนั้นเอาไว
พรอมกัน
หานลี่ชูมือขางหนึ่งขึ้น เสียงฟาผาดังกึกกอง ประจุไฟฟาสีทองหนาๆ เสนหนึ่งก็
ปรากฏขึ้นพันรอบทอนแขน และกระโจนตัวออกมาราวกับงูเหลือมสายฟาตัวหนึ่ง
ยักษ ป กเงิน เห็ น พลังเชน นั้ น ก็ตกตะลึง แตเกล็ดบนรางพลัน สั่น คลอน ระเบิ ด
ลำแสงสีทองออกมา
จากนั้นมานลำแสงสีทองเรืองรองพลันปรากฏขึ้น ปกปองยักษปกเงินเอาไว
เสียงอึกทึกครืนครั่นพลันดังขึ้น ลำแสงกระบี่ เปลวเพลิงสีมวง ประจุไฟฟาสีทอง
ตามกันมาติดๆ พรอมระเบิดลำแสงเจิดจาออกมา ชั่วครูมานลำแสงสีทองก็จมหายเขา
ไปดานใน
ตอนที่ 990 ทองหลีกหนีกับเพลิงน้ำแข็งบริสุทธิ์
ครั้งนี้ หลังจากที่เสียงฟาผาดังขึ้นหานลี่ก็สลายหายไปจากที่เดิม หางออกไปยี่สิบ
กวาจั้งมีประจุไฟฟาสวางวาบ รางของหานลี่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง แตพอปรากฏตัวขึ้น
หานลี่ก็จองเขม็งไปยังจุดที่มีแสงระเบิดออกดวยสีหนาเครงขรึม
ภายใต เนตรวิญ ญาณวารีก ระจ างนั้ น เขาพลั น มองเห็ น สถานการณ ต างๆ ใน
ลำแสงไดอยางชัดเจน
แตเดิมกระบี่บินไผเขียวตัวตอเมฆาที่ผสมแกนทองคำเขาไปนาจะแหลมคมอยาง
ไรเทียมทาน แตเมื่อกระบี่บินที่กลายเปนแสงกระบี่เหลานี้ฟนลงไปบนเกราะปองกันสี
ทอง กลับถูกดีดออกมาอยางงายดาย ใหความรูสึกเหมือนยังไมไดแสดงอานุภาพของ
กระบี่บินออกมา ก็ถูกเกราะปองกันแสงอาศัยพลังที่ยิ่งใหญดีดออกมา
สวนงูเหลือมสายฟาที่แปลงมาจากอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายซึ่งดานบนเกราะ
ปองกันแสงนั้น กลับทำใหเกราะปองกันแสงเพียงแคสั่นคลอนเทานั้น ไมไดทำใหแตก
สลายไป
แตหลังจากทีเพลิงสีมวงตกลงมายังเกราะลำแสงสีทองนั้น…
แววตาหานลี่พลันเปลงประกายเย็นชา หลังจากที่แสงหมนลงแลว จุดที่อยูไกล
ออกไปก็มีกอนน้ำแข็งยักษสีมวงออนปรากฏขึ้นกอนหนึ่ง แตเกราะปองกันแสงสีทอง
และยักษปกเงินกลับถูกแชแข็งอยูขางในพรอมกัน
ยักษปกเงินปลอดภัยไรอันตรายอยูภายในเกราะปองกัน แตสีหนากลับตกตะลึง
เห็นไดชัดวามันคิดไมถึงวาเปลวเพลิงสีมวงจะสามารถแชแข็งเกราะปองกันสีทองได
ทวา ในเมื่อไมไดแชแข็งรางกายของมัน การที่ตัวประหลาดตัวนี้จะหนีออกมาก็
เปนเรื่องที่งายดาย
ยักษปกเงินใชสองมือกดลงไปที่เกราะปองกันสีทอง และเปลงแสงสีทองจำนวน
นับไมถวนออกมาจากเกราะปองกัน คาดไมถึงวาจะทะลุออกมาจากรูเล็กๆ รูหนึ่งบน
กอนน้ำแข็ง
น้ำแข็งสีมวงทั้งกอนพลันแตกออก
หานลี่ใจหายวาบ พลางยื่นมือออกไป หลังจากที่กระบี่บินทั้งหมดหมุนวนหนึ่ง
รอบก็บินกลับมาในทันที
หลังจากผานไปชั่วครูรางของยักษปกเงินก็หายแวบไป รางมาปรากฏตัวขึ้นที่ดาน
นอกน้ำแข็งสีมวงอยางงายดาย หลังจากนั้นมันก็ใชสายตาที่เย็นชาจนฆาคนไดจอง
มายังหานลี่แวบหนึ่ง แลวชูมือขึ้น
บนมีมือมีลำแสงสีทองเรืองรอง ดวงแสงสีทองดวงหนึ่งปรากฏขึ้น
แตในตอนนั้น หานลี่กลับเอยปากออกมาวา
“ในที่สุดตอนนี้ขาก็มั่นใจแลววา นอกจากลี้ธรณีและพายุหลีกหนีแลว เจาก็ยังใช
เคล็ ด วิช าทองหลี ก หนี ได จากที่ ข าได ยิ น มา เคล็ ด วิ ช าทองหลี ก หนี นี้ ต อ ให เป น ผู
บำเพ็ญเพียรมนุษยอยางพวกเราก็ยังรูจักเพียงไมกี่คน สวนซากหลอมนั้น ในใตหลานี้
มีเพี ยงซากจัน ทรารางทองในตำนานเท านั้ น ที่ มีความสามารถนี้ หรือวาเจาเริ่ม จะ
บรรลุระดับแลว?”
หานลี่เอยจบ แววตาก็มองไปยังเกล็ดสีทองออนบนรางของมันสองครั้ง
เมื่อไดยินหานลี่เอยถามเชนนี้ ยักษปกเงินก็ตกใจ แตทันใดนั้นก็หัวเราะอยางบา
คลั่งพลางสงเสียงเหอะดวยความเย็นชาออกมา
“เหอะ! ขาเริ่มจะบรรลุระดับขั้นตั้งแตหมื่นปกอนแลว หากผูบำเพ็ญเพียรระดับ
กอกำเนิดขั้นกลางอยางพวกเจารวมมือกันละก็ อาจจะเปนไปได แตตอนนี้เหลือเจา
เพียงคนเดียว ตอใหมีความสามารถหนอย ก็เปนเพียงการกระทำที่โงเขลาเทานั้น”
เมื่อเอยจบ ยักษปกเงินก็กระพือปกทั้งสองอีกครั้งและหายไป ชั่วขณะนั้นคาดไม
ถึงวาปกสีเงินขาวนั่นจะกลายเปนสีทองออน กลิ่นอายชีวิตที่สูงสงระเบิดออกมาราว
กับไมไดถูกปกปดเอาไวอีกแลว แรงกดมหาศาล แมแตมานลำแสงขนาดใหญของเขต
อาคมที่กักมันเอาไวก็ดูเหมือนวาจะสั่นคลอน
รูมานตาของหานลี่หดเล็กลง กลิ่นอายพลังปราณสายนี้แข็งแกรงวาผูบำเพ็ญ เพียร
ระดับกอกำเนิดขั้นปลายที่เขาเคยพบมากนัก สามมหาผูบำเพ็ญเพียรของเทียนหนาน
ไมอาจเทียบเทียมได
ขุมพลังเดียวที่จะสามารถกดดันซากเทวัญนี้ได คงจะมีเพียงมารโบราณทั้งสองที่
เคยพบในหุบเขามารโรยแลว
หานลี่รูสึกตกตะลึง แตสิ่งที่แสดงออกมากลับเป น เพี ยงการถามหยั่งเชิงอยาง
ราบเรียบวา
“ตอใหเจาเริ่มพัฒนาระดับขั้นมานานแลว แตติดอยูในสถานที่ไรฟาไรตะวันเชนนี้
ก็ไมอาจดูดซับความบริสุทธิ์ของจันทราทมิฬได ตอใหฝกฝนอีกหมื่นปเจาก็ไมอาจทำ
สำเร็จ ตอนนี้มากสุดเจาก็แครูจักวิชาทองหลีกหนีเพียงผิวเผินเทานั้น ก็แคเคล็ดวิชาที่
เมื่อใชแลวดูแปลกประหลาด แตหากพบกับสมบัติอาคมที่ไมไดผสมวัตถุดิบธาตุทองลง
ไป เคล็ดวิชาเหลานี้ก็ไมมีประโยชนแลว”
หานลี่เอยเชนนี้ ในหัวกลับมีสถานการณที่อีกฝายทะลุผานเกราะสีเขียวหลีกหนี
และกระบี่บินทั้งหมดของตัวเองออกมาได ในใจพลันรูสึกคิดหนัก ถึงอยางไรเสียสมบัติ
อาคมในตอนนี้ ก็มีอยูจำนวนนอยมากที่ไมไดผสมวัตถุดิบธาตุทองลงไป
“หึๆ อยางนั้นหรือ? เชนนั้นเจาลองลิ้มรสของมันหนอยเปนอยางไร ทวา ขาไม
อยากไลกันไปมา การโจมตีตอจากนี้ เจาก็ยอมมอบชีวิตมาแตโดยดีเถิด”
ยักษปกเงินไมเอยกับหานลี่ใหมากความอีก มือหนึ่งถือดวงแสงสีทองที่แสบตา
กลุมหนึ่งเอาไว อีกมือหนึ่งกลับกางนิ้วทั้งหาออกและชูมือขึ้น ยิงออกไปยังเสาหินสี
ทองที่มีซากศพแหงอยูดานบนทั้งสี่ทิศ
ชั่วพริบตา เสาหินพลันพลันสวางวาบและจมหายเขาไปในซากศพแหงทั้งหมด
อยางไรรองรอย
หานลี่ไมทันไดปองกัน ใบหนาจึงอดที่จะเครงขรึมไมได ในใจก็รูสึกวาซวยแลว
ตรงเสาหิ น มี เสี ย งกั ม ปนาทลอยมาดั ง คาด โซ ต รวนหลายเส น พลั น ร ว งหล น
ซากศพแหงตางลืมตาสีเขียมรกตทั้งสองขึ้น และเดินโคลงเคลงออกมาจากเสาหิน
แต ซ ากทั้ งหมดกลั บ เดิ น ออกมาได ส องสามก าวก็ ยื น อยู ที่ เดิ ม ไม ข ยั บ ในเวลา
เดียวกันก็มองมาทางหานลี่ที่อยูกลางอากาศดวยสีหนาไรความรูสึก
“มีซากสังหารแปลงกายคอยชวยเหลือมากมายขนาดนี้ เจาไมมีโอกาสชนะแลว
หากยอมใหจับแตโดยดี วิญญาณก็อาจจะเจ็บนอยหนอย!” ยักษปกเงินยืนอยูที่เดิม
และเอยกับหานลี่อยางเย็นชา
แววตาของหานลี่กวาดไปที่ซากศพแหงทั้งสี่ทิศ สีหนาพลันเครงขรึม หลังจาก
ผานไปชั่วครูถึงไดถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“คิดไมถึงวา ครั้งนี้จะมีโอกาสใหใชสมบัติอาคมนี้จริงๆ ไมรูวาเจาโชคราย หรือ
นับวาขาโชคดีเกินไปกันแน!” หานลี่เอยพึมพำจนแทบไมไดยินออกมา แลวตบไปที่
ยามเก็บของที่วิจิตรงดงามเปนพิเศษใบหนึ่งอยางไมลังเลอีก
เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น ลำแสงขนาดเทากำปนกลุมหนึ่งพุงออกมาจากยาม หลังจาก
หมุนวนหนึ่งรอบ ก็ตกลงสูมือของหานลี่ เผยใหเห็นพัดขนนกที่ดูแปลกตาเลมหนึ่ง
พัดเลมนี้มีขนาดหลายชุน แยกออกเปนสีทองเงินและแดงสามสี แตดานบนนั้นมี
อักขระวิญญาณเรียงรายเปนชั้นๆ จนแนนขนัดไปหมด เพียงสะบัดเล็กนอยลำแสง
สามสีก็เปลี่ยนไปมาไมแนนอน อักขระวิญญาณจำนวนนับไมถวนไหลทะลักออกมาใน
เวลาที่แตกตางกัน ทำใหผูคนเห็นแลวรูสึกเวียนหัวตาลาย
มองปราดเดียวก็รูแลววาสมบัติชิ้นนี้ไมธรรมดา
เวลานี้ยักษปกเงินที่อยูตรงขามกลับสำแดงอานุภาพของตนเองเสร็จแลว และชิง
ลงมือกอน
ปากของมันเปลงเสียงตะโกนออกมา โยนดวงแสงในมือออกไปกลางอากาศ
หลังจากดวงแสงสีทองหมุนติ้วๆ ชั่วขณะนั้นก็เปลงลำแสงสีทองหมื่นสายออกมา
เมื่อลำแสงสีทองเหลานี้พุงตัวออกจากดวงแสง ลำแสงวิญญาณก็พลันสวางวาบ
ทันที คาดไมถึงวาจะกลายเปนเข็มสีทองจำนวนนับไมถวน หลังจากที่เข็มสีทองเหลานี้
หมุนโคจรรอบๆ ดวงแสง ก็ตรงมาปกคลุมเหนือศีรษะของหานลี่
เวลานั้น ครึ่งหนึ่งของทองฟาพลันเปลงแสงสีทองเรืองรอง โจมตีเขามาราวกับหา
ฝนอยางไรอยางนั้น ทำใหหานลี่ไมอาจหลบหลีกได
และซากศพแหงที่อยูดานลางเสาหินทั้งสี่ ก็ชูมือทั้งสองขึ้นพรอมกัน พนเสนไหม
วิญญาณพิฆาตจำนวนนับไมถวนออกมาจากปลายนิ้วอยางตอเนื่อง พัวพันกันอยูกลาง
อากาศต่ำๆ
ชั่วพริบตาขายยักษที่กวางกวายี่สิบสามสิบจั้ง ก็รวมตัวกันอยูดานลางของหานลี่
เปลงแสงสีเทาขมุกขมัว แผขยายขึ้นไปกลางอากาศอยางไมเกรงใจเลยแมแตนอย
ตาขายผืนนี้ใหญขนาดนี้ ไอสังหารที่แฝงอยูก็นาตกตะลึงเปนพิเศษ ถาหากเปนผู
บำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ เกรงวายังไมทันมาถึงรางกาย ก็คงจะถูกไอสังหารบนตาขาย
ทำใหมือไมออนไปแลว สูญเสียการควบคุมลมปราณ และทำไดเพียงยอมใหจับแตโดย
ดีเทานั้น
เพียงแตรางของหานลี่นั้นเองก็เต็มไปดวยไอสังหารเชนกัน บวกกับที่เคยฝกฝน
คาถาราชันกระจาง แนนอนวาจึงไมแยแสไอสังหารเหลานี้
แต พ ลังของอี ก ฝ ายยิ่งใหญ ขนาดนี้ โจมตี เข ามาราวกั บ ตาขายฟ าอวนสวรรค
อยางไรอยางนั้น ถึงแมวาจะเปนหานลี่ก็ยังรูสึกตกตะลึง
ทันใดนั้นเขาพลันมีสีหนาเครงขรึม สองมือถูเขาดวยกัน
ชั่วขณะนั้นหลังจากลำแสงสวางวาบ พัดตรีเปลวเพลิงก็กลายเปนมีขนาดสองสามฉื่อ
มือหนึ่งของหานลี่กุมพัดเอาไว ผนึกลมปราณทั่วราง สะบัดพัดไปดานลางอยาง
รุนแรง
ผลลั พ ธคื อ เรื่อ งที่ ท ำให ห านลี่ ต กใจพลั น เกิ ด ขึ้ น เขารูสึ ก เพี ย งว าลมปราณทั่ ว
รางกายไหลไปตามการโจมตีดวยพัดเลมนี้ คาดไมถึงวาชั่วครูจะถูกดูดเอาไปกวาครึ่ง
ทำใหเขาตกใจจนเกือบจะโยนพัดเลมนี้ทิ้งไป
โชคดีที่หลังจากพัดตรีเปลวเพลิงเปลงเสียงรองออกมา ลมปราณภายในรางก็หยุดลง
ทันที จากนั้นพัดเลมนั้นพลันสั่นคลอน เปลวเพลิงสามสีกลุมหนึ่งทะลักออกมาจากพัด
จากนั้นเปลวเพลิงทั้งหมดก็ผนึกรวมตัวกันที่ศูนยกลาง คาดไมถึงวาจะกลายเปนหงส
เพลิงขนาดสองสามจั้งตัวหนึ่ง ขนยาวสีทองเงินแดงสามสี ตรงเขาไปหาตาขายยักษ
ภาพฉากที่แปลกประหลาดนั้นแมแตหานลี่เองก็ตกตะลึง ทวาทันใดนั้นก็ไมสนใจ
เรื่องอื่น แตเดิมเขาคิดจะโบกพัดไปทางเข็มสีทองเหลานั้น เวลานี้ลมปราณกลับไม
เพียงพอ จึงทำไดเพียงดึงความสนใจชี้ไปที่กระบี่บินทั้งหมดที่อยูเบื้องหนา
ชั่วขณะนั้นกระบี่บินทั้งหมดก็เปลงแสงสีทองออกมา เริงระบำดวยความรวดเร็ว
ดอกบัวสีทองผลิบานไปรอบๆ ตัวหานลี่ ชั่วครูก็ปกคลุมรางของหานลี่เอาไวขางใน
แตเขาไมไดห ยุดพั ก อาปากออก พ น โลหิ ตที่ บ ริสุท ธิ์อ อกมาใสไขมุกผลึกหิ ม ะ
เหนือศีรษะ
ผลลัพธคือไขมุกผลึกหิมะพลันสั่นคลอน พนเปลวเพลิงสีมวงเขมออกมา
ภายใตการกระตุน ดวยอาคม เปลวเพลิ งนั้ น พลั น หมุ น วนล อมรอบหานลี่ ดวย
ความรวดเร็ว อุณหภูมิรอบกายลดลงอยางรวดเร็ว เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น
กำแพงน้ำแข็งสูงสิบกวาจั้ง ปรากฏตัวขึ้นรอบๆ หานลี่ในเวลาเดียวกันที่เปลว
เพลิงสีมวงสลายออก ดานบนเปลงแสงสีมวงสวางวาบ ปกปองเขาเอาไวขางในอยาง
แนนหนา
เวลานี้แสงสีทองผืนใหญพลันสวางวาบ ในที่สุดเสนไหมสีทองจำนวนนับไมถวน
พลันพุงมาอยูเบื้องหนากำแพงน้ำแข็ง
เสียง ‘กึกๆๆ’ พลันดังขึ้น!
หลังจากที่ลำแสงสีทองและลำแสงสีมวงปะทะเขาดวยกัน ผิวของกำแพงน้ำแข็งก็มี
ลำแสงสีทองปรากฏขึ้นทันที และฝงลึกลงไปจนเปนรูลึกขนาดสองสามชุนเต็มไปหมด
ภายใตการโจมตีจากเสนสายสีทองอยางตอเนื่อง และปกคลุมเอาไวชั้นแลวชั้นเลา
ถึงแมวากำแพงน้ำแข็งของหานลี่จะหนาหลายจั้ง แตก็ถูกทำใหบางลงหลายฉื่อใน
ชั่วพริบตา
เขาหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
เพียงแตหานลี่หลับไมรูวา ยักษปกเงินที่อยูตรงขามเห็นภาพฉากนี้เขาก็ตกตะลึง
เชนกัน
ตองเขาใจวา ถึงแมวาเข็มบินสีทองเหลานี้ของมันจะใชลมปราณธาตุทองสรางขึ้น
แตลมปราณเหลานี้ไมใชสิ่งที่สูญเสียพลังไปแลวจะฟนฟูขึ้นมาใหมได ซึ่งชวงเวลาที่เขา
ถูกกักขังอยูที่นี่ ก็ทำการหลอมแรศิลาธาตุทองนิรนามไปทีละนิดๆ กอนหนึ่ง
ลมปราณที่พิเศษเหลานี้ผานการหลอมรวมโดยใชเพลิงซากศพของเขามาหลายพันป
อานุภาพจึงไมธรรมดา และเมื่อกลายเปนสมบัติอาคมรูปรางเข็มแลว ก็ยิ่งแหลมคม
เปนพิเศษ
ทวาเวลานี้เขาโหมโจมตีเขาไปอยางมืดฟามัวดิน คาดไมถึงวาจะไมมีทางทำอะไร
ได แนนอนวาจึงทำใหรูสึกแปลกใจ ตองเขาใจวา กอนหนานี้ไมนานเขาเพิ่งจะใชแสงสี
ทองโจมตีจนทำใหน้ำแข็งสีมวงแหลกละเอียดไป
แนนอนวายักษปกเงินไมรู เปลวเพลิงสีมวงที่หานลี่ใชโลหิตบริสุทธิ์กระตุนนั้น
ไมใชเพลิงตาขายสีมวงธรรมดาๆ หลังจากที่กินยาลูกกลอนวิญญาณหิมะไปไมหยุด
และอาศัยพลังของไขมุกผลึกหิมะคอยชวยเหลือ ตั้งแตนั้นเพลิงนั่นก็กลายเปนเปลว
เพลิงที่บริสุทธิ์ แทบจะหลอมรวมกับเพลิงตาขายสีมวงทั้งหมดจนกลายเปนไอเหมันต
แน น อนวาเพลิ งตาข ายทมิ ฬ ธรรมดาๆ จึ งไม อ าจเที ย บเที ย มได ทว าเพื่ อ เป น การ
กระตุนเพลิงนี้ ภายใตสถานการณ ที่มีลมปราณไมเพียงพอนั้น หานลี่ก็จำใจตองใช
โลหิตบริสุทธิ์มาฝนกระตุนมัน
เวลานี้สวนหัวของหงสเพลิงสามสีที่เกิดจากพัดของหานลี่เอง ก็พุงเขาไปในตา
ขายยักษสีเทาที่อยูดานลาง
เสนไหมวิญญาณพิฆาตที่กอตัวเปนตาขายยักษสีเทาพลันเปลงแสงสวางวาบ พน
เสนไหมสีเทาจำนวนนับไมถวนออกมาโดยตรง และรัดรึงหงสเพลิงที่ดูแลวตัวไมใหญ
นักเอาไว
ชั่วพริบตาเสนไหมที่หนาแนนก็แผกระจายปรกฟาคลุมตะวัน แทบจะปกคลุมราง
ของวิหคตัวนี้เอาไวทั้งหมด
หงสเพลิงเปลงเสียงรองอันเยอหยิ่งออกมา หลังจากหมุนวนหนึ่งรอบ ก็ระเบิด
ลำแสงเทวาที่นาเวียนหัวชวนตาลายออกมา ทามกลางลำแสงที่นาเวียนหัวนี้ แสงสี
ทอง สีเงิน สีแดง ทั้งสามสีก็หมุนวนไปมาไมหยุด อักขระที่ยากจะเขาใจพลันปรากฏ
ขึ้น เผยใหเห็นความงดงามเปนพิเศษ
และเมื่อเสนไหมวิญญาณพิฆาตเหลานี้พุงเขาไปในลำแสงที่นาเวียนหัวตาลายนั่น
ภาพฉากที่นาเหลือเชื่อก็ปรากฏขึ้น!
ตอนที่ 991 อานุภาพของพัด
เสนไหมสีเทาจำนวนนับไมถวนตางสั่นคลอน และหยุดนิ่งอยูทามกลางลำแสง
จากนั้นก็สวางวาบแลวกลายเปนไอสีเทา พลันหายไปอยางเงียบเชียบ ตาขายเสนไหม
ดูหนาแนนเปนราวกับหิมะที่ละลายในฤดูใบไมผลิ และคอยๆ หายไป
ในตอนนั้นเอง หงสเพลิงสามสีถึงไดเริ่มโจมตีอยางแทจริง สยายปกทั้งสองออก
กลายเปนดวงแสงยักษกะพริบวิบวับ จูๆ ก็ขยายใหญขึ้น
แทบจะในชั่วพริบตา กรงลอลำแสงสีท อง สีเงิน และสีแดงสามสีก็ปรากฏขึ้น
กลางอากาศต่ำๆ ขนาดที่ใหญโตคาดไมถึงวาจะหอหุมตาขายนยักษเอาไวขางใน ผิว
ของกรงลอมีอักขระสามสีไหลเวียนไปมาไมหยุด ใหญหนอยมีขนาดประมาณสองสาม
จั้ง เล็กหนอยก็มีขนาดประมาณสองสามฉื่อ ทุกลายอักขระลวนเปนอักษรโบราณที่
ยากจะเขาใจ ทำใหผูคนเห็นแลวรูสึกเคารพนบนอบ
ภาพฉากงดงามที่เกิดขึ้นตอมา ทำใหหานลี่ที่อยูกลางอากาศและยักษปกเงินตาง
กมหนาลงมองดวยความตกใจ
ผลลัพธคือลำแสงพลันสวางวาบ กรงลอขนาดยักษปรากฏออกมาแคชั่วอึดใจ ก็
หายไปกลางอากาศ
เมื่อมันหายไป ตาขายยักษสีเทาเสนผาศูนยยี่สิบสามสิบจั้งผืนนั้นก็ดูเหมือนวาจะ
ไมไดเคยปรากฏตัวขึ้นที่นั่นมากอนอยางไรอยางนั้น
ปกที่แผนหลังของยักษปกเงินพลันกระพือปกอยางไมรูตัว ใบหนาแข็งคางอยาง
ไมอยากจะเชื่อ ตองเขาใจวาตาขายเสนไหมยักษคือไอสังหารซากศพเกือบทั้งหมดที่
มันฝกฝนและหลอมรวมกันขึ้นมา ตอนนี้ภายในรางของซากศพแหงจึงเหลือพลังเพียง
นอยนิดเทานั้น ทำไดเพียงฝนประคับประคองซากสังหารแปลงกลายใหเคลื่อนไหว
เทานั้น ไมอาจทำการโจมตีอะไรที่รายกาจไดอีก
การโจมตีดวยพัดของอีกฝาย เปนการกำจัดความสามารถที่มันฝกฝนมาอยาง
หนักหลายเดือนหลายป และความนากลัวของพลังวิญญาณจากกรงลอสามสีเมื่อครู
ถาหากเขาถูกกักอยูในนั้น กวาครึ่งคงโชครายมากกวาโชคดี
นี่ไมใชปญหาที่วาในลำแสงมีเปลวเพลิงต่ำหรือสูงเกินไปแลว แตในนั้นมีกฎของ
ฟาดินผสมอยู มีเพียงระดับเทพแปลงเทานั้นถึงจะสัมผัสกับพลังฟาดินได
ถึงแมวามันจะยังไมพัฒนาระดับขั้นจนเหมือนกับซากจันทรารางทอง แตก็อยูที่
เสนขอบนี้มาหลายปแลว ทางดานความรูสึกและประสบการณนั้นแนนอนวามีแลว
การโจมตีเมื่อครูผสมพลังของฟาดินเอาไวเพียงนอยนิด แตก็ทำใหยักษปกเงิน
รูสึกจิตใจหนักอึ้ง พัดในมือของอีกฝายคือสมบัติอะไรกันแน เหตุใดถึงไดนากลัวเชนนี้
แตเดิมจากความสามารถและพลังยุทธของอสูรตนนี้ ถาหากในมือมีสมบัติระดับ
สุดยอดอะไรที่เกื้อหนุนกันกับเคล็ดวิชาที่ฝกฝน ก็ไมจำเปนตองหวาดกลัวการโจมตี
เชนนี้ แตนาเสียดายที่ตั้งแตมันเริ่มมีสติปญญาเปนของตนเองนั้น ก็ถูกกักขังอยูในเขต
อาคมตลอด ไหนเลยจะมีโอกาสและวัตถุดิบ มาหลอมสมบั ติอาคมที่ เหมาะสมกั บ
ตัวเอง
หากไม ใช เพราะต อ มามี ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รเข ามาในถ้ ำ ถู ก มั น สั งหารทิ้ ง ไปอย า ง
ตอเนื่อง และอาศัยรางของพวกเขามาบวงสรวงโลหิตฝกฝนซากสังหารแปลงกายนั้น
การกระทำของมันคงถูกควบคุมเอาไวแลว
ถึงแมวามันจะไดสมบัติมากมายมาจากผูบำเพ็ญเพียรที่ตายไป แตก็มีอยูเพียงไมกี่
ชิ้นที่เขาตา สิ่งเดียวที่ทำใหมันพอใจคงเปนกระจกลวงจันทรปศาจบานนั้น และเพราะ
มีสมบัติเพียงชิ้นเดียวเทานั้นที่สามารถหยิบมาใชได จึงทำใหมันทุมเทโลหิตจำนวนนับ
ไมถวน จนกระทั่งมีเคล็ดวิชาดีๆ สองสามอยางที่จำเปนตองอาศัยสมบัติชิ้นนี้ถึงจะ
สำแดงออกมาได
ดังนั้นเมื่อถูกการโจมตีของหานลี่ทำลาย ถึงไดทำใหมันโกรธเกรี้ยวเปนพิเศษ
ในตอนที่ยักษปกเงินกลอกตาไปมา ในใจก็รูสึกหวาดกลัว หานลี่มองเห็นอานุภาพ
ของพัดตรีเปลวเพลิง แนนอนวาก็รูสึกดีอกดีใจ เมื่อมองเห็นกำแพงน้ำแข็งเบื้องหนา
ของตนเองถูกเข็มสีทองทำลายไปกวาครึ่งอยางตอเนื่อง ก็พลิกฝามืออยางไมลังเลอีก
ควักขวดเล็กๆ ออกมาจากยามเก็บของ
หานลี่เปดฝาขวดออก เทใสปาก ชั่วขณะนั้นของเหลววิญญาณหมื่นปหยดหนึ่ง
พลันไหลเขาปาก
ภายใตการทำงานของฤทธิ์ยา จึงทำใหชีพจรภายในรางบริสุทธิ์ขึ้นเปนจำนวน
มาก ชั่วขณะนั้นลมปราณของเขาพลันฟนฟูกลับมาเปนดังเดิม
หลังจากเก็บขวดใบนั้นไป หานลี่ก็สัมผัสไดถึงลมปราณในรางกายที่ เต็มเปยม
พลางเหลือบมองยักษปกเงินที่อยูไกลออกไปแวบหนึ่ง พัดตรีเปลวเพลิงในมือที่ลอย
หมุนติ้วๆ ถูกควาเอาไวอีกครั้ง
จากนั้นลำแสงบนพัดพลันสวางจา เริ่มกะพริบวาบเปนอักษรสามสี
ครั้งนี้ หานลี่เตรียมจะจัดการศัตรูที่อยูเบื้องหนาใหสิ้นซาก
นี่ก็โชคดีที่อีกฝายถูกลงอาคมไว จึงไมอาจออกจากที่นี่ได มิเชนนั้นถึงแมวาพัด
เลมนี้จะมีอานุภาพที่มหัศจรรยอยางหาที่เปรียบมิได แตถาอีกฝายคิดจะหลบหลีก ใช
เคล็ดวิชาหลีกหนีทะยานรางออกไปไกลๆ เขาก็จนปญญาเชนกัน
ยักษปกเงินที่อยูตรงขามเห็นภาพนั้นพลันหนาเปลี่ยนสี
การโจมตีเมื่อครูของพัดเลมนี้เผยใหเห็นอานุภาพและขอบเขตของมัน บวกกับมี
มานแสงอยูกลางอากาศเปนขอจำกัด มันจึงทำไดเพียงตานเอาไวเทานั้น
หลังจากรองวาแยแลวในใจ ยักษปกเงินก็กัดฟนชี้ไปยังดวงแสงสีทองที่ขนาดเล็ก
ลงไปไมนอยกลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นดวงแสงสีทองพลันหยุดเปลงลำแสงสีเหลืองออกมาในทันที หลังจาก
สวางวาบก็จมหายเขาไปในรางของยักษปกเงิน ทันใดนั้นเกราะปองกันสีทองเรืองรอง
พลันปรากฏขึ้น
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ซากเทวัญตนนั้นก็อาปากออกอยางไมลังเลยแมแต
นอย พนไอซากศพสีดำออกมา ไอทุกกลุมมีลำแสงทมิฬที่แปลกประหลาดกะพริบวาบ
หลังจากผานไปชั่วครูก็กลืนกินเกราะปองกันสีทองเขาไปขางใน
หานลี่เห็นเชนนั้น พลันหัวเราะอยางเย็นชาออกมา ใสลมปราณทั้งรางเขาไปใน
พัด แตจูๆ เขตอาคมดานลางก็สั่นคลอนอยางรุนแรงโดยไมมีเคาลางมากอน จากนั้น
เขตอาคมทั้งเขตก็มีเสนแสงลอยตวัดไปมา หลังจากมานแสงสีเทาสวางวาบ ก็สลาย
หายไปจากที่เดิมอยางไรรองรอย
หานลี่พลันตะลึงงัน การเคลื่อนไหวในมือหยุดลง
แตยังไมทันไดรอใหเขาเขาใจวาเกิดเรื่องอะไรขึ้น สิ่งที่นาตกตะลึงยิ่งกวาก็ปรากฏขึ้น
เห็นเพียงดานนอกของเขตอาคมในจุดที่ไกลออกไป มีลำแสงวิญญาณที่เจิดจาจน
แสบตาพุ งออกมาจากรอยแยกบนพื้ น ดิ น เขตอาคมขนาดใหญ ยิ่ งกว าปรากฏขึ้ น
ลอมรอบเขตอาคมเดิมเอาไว ดานบนมีศิลาวิญญาณเกือบรอยกอนฝงอยู ชั่วพริบตาก็
ผสมเขากับเขตอาคมเดิม กลายเปนเขตอาคมใหม
“นี่คือ…”
จากทักษะดานเขตอาคมของหานลี่ จึงตกตะลึงแคเพียงเล็กนอย ทันใดนั้นก็รูจัก
เขตอาคมนี้ในทันที มันคือเขตอาคมสงตัวขนาดยักษอันหนึ่ง และยิ่งไปกวานั้นยังกำลัง
ถูกกระตุนอยู
เวลานี้ หานลี่พลันมีจิตใจหนักอึ้ง
มีแตผีเทานั้นที่รูวาเจาสิ่งนี้จะสงเขาไปที่ไหน ทันใดนั้นเขาพลันเก็บกำแพงน้ำแข็ง
กลับมาจนมือไมเปนพัลวัน ดานหลังมีเสียงฟาผาดังขึ้น คนก็ใชอัสนีหลีกหนีทะยาน
รางออกจากขอบเขตของเขตอาคมสงตัวทันที
แตเห็นไดชัดวาการเคลื่อนไหวของหานลี่นั้นสายไปแลว
ชั่วพริบตาเขตอาคมรอบดานพลันเปลงเสียงรองออกมา ตรงกลางในระยะรอยกวาจั้ง
ระเบิดลำแสงสีขาวที่แสบตาออกมา จากนั้นลำแสงพลันหมนลง ที่เดิมลวนวางเปลา
หานลี่ ยักษปกเงิน และทุกอยางลวนหายลับไปอยางไรรองรอย
ไมมีใครรูวา สถานการณเชนเดียวกันก็เกิดขึ้นพรอมกันในสามเขตการปกครองที่
คนรูจักของตาจิ้น
นอกจากยักษปกเงินแลว ยังมีตัวประหลาดนิรนามอีกสามตน ถูกเขตอาคมยักษ
สงตัวไป
และผูที่กอเรื่องทุกอยางนี้ กลับเปนกลุมผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยในทะเลสาบ
เล็กๆ นิรนามสักแหงบนหนานเจียง
แตในตอนนั้น กลางอากาศเหนือทะเลสาบเล็กๆ นั้น ผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงของ
ตระกูลเยี่ยที่รวมตัวกันอยูบนผิวทะเลสาบ ก็กำลังวุนวายเปนพัลวัน
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ไมไดบอกวาหลังจากวางเขตอาคมแลว จะสามารถอำพราง
ความเสียหายของเขตอาคมไดหรือ แลวการอำพรางเขตอาคมเลา? เกิดขอผิดพลาดที่
เขตอาคม หรือวากระตุนไมไดกันแน? เกิดเหตุการณเชนนี้ขึ้นในยามนี้ ผูบำเพ็ญเพียร
หลายพันคนตางก็มองเห็นอยางชัดเจน อีกไมนานก็จะเรียกผูบำเพ็ญเพียรอีกหลายคน
ใหมาที่นี่ เจาคิดจะใหตระกูลเยี่ยถูกทำลายลางรึ!” กลางอากาศเหนือทะเลสาบเล็กๆ
ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมผูน้ันใชมือหนึ่งควาคอเสื้อของชายชราผมขาวคนหนึ่งเอาไว
พลางตะโกนออกมาดวยสีหนาเขียวคล้ำ
ดานหลังของเขาหางออกไปสองสามจั้ง ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยคนอื่นๆ ตางมีสี
หนาดำคล้ำและเครงขรึมเปนพิเศษ
ใจกลางของทะเลสาบเล็กๆ นั้น มีเสาลำแสงสีขาวนวลที่หนาอยางสุดๆ เสาหนึ่ง
พุงขึ้นไปบนทองฟา เสาลำแสงนั้นมีเสนผาศูนยกลางประมาณสามสิบจั้ง ราวกับเสา
สวรรคที่สูงเสียดฟา
และจุดที่ไกลออกไปรอบๆ ดาน มีเสาลำแสงที่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วหกเสา
ปรากฏขึ้น ลอมรอบทะเลสาบเล็กๆ เอาไว ดูสะดุดตาอยางสุดๆ
เมื่อเห็นเชนนั้น มินาเลาผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมถึงไดโกรธเกรี้ยวขนาดนี้
“ขาไมรู เมื่อวานเพิ่งจะตรวจสอบการปกปดเขตอาคมแทๆ วันนี้ก็กำชับลูกศิษย
ใหไปเปดเขตอาคมแลว” ชายชราผมขาวคือปรมาจารยดานเขตอาคมที่ดูแลการแกไข
ผนึกของตระกูลเยี่ยโดยเฉพาะ เขาเอยขึ้นดวยสีหนาตกตะลึงและรอนรนทันที
“พี่รอง ปลอยศิษยหลานหลิงหลงกอนเถิด! เขาทุมเทกับการกำจัดเขตอาคมนี้ไป
ไมนอย เรื่องที่เปนไปไมไดเกิดขึ้นกับเขา จะตองมีสาเหตุอะไรแน! พวกเจาไปดูการอำ
พรางเขตอาคมเหลานั้ น ซิ ถาหากไม มีการกระตุ น ก็ ก ระตุ น เสี ย ถาหากเกิ ดความ
ผิดพลาดที่เขตอาคม ก็จัดการเสีย ถาหากภายในระยะเวลาสั้นๆ สามารถซอมแซม
เขตอาคมเหลานี้ได พวกเรารวมมือพรอมกันสังหารผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดในระยะพัน
ลี้ก็ไดแลว” ผูพูดคือนักปราชญคนหนึ่งอายุประมาณสามสิบกวาๆ สวมชุดสีขาว ผิว
ขาวเนียนดุจหยก แตคำพูดที่เอยออกมากลับโหดเหี้ยมเปนพิเศษ
แตเมื่อนักปราชญเอยคำนี้ออกมา ไมเพียงผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมที่ไดยินคำนี้
ก็ปลอยคอเสื้อของชายชราผมขาวออกในทันที อาวุโสตระกูลเยี่ยสองสามคนที่ถูก
นักปราชญชี้ตางก็คอมตัวลงตอบรับทันที
“ขอรับ ทานอาวุโส”
จากนั้นคนสองสามคนก็ตรงไปคนละทิศละทางทันที
ผูบำเพ็ญเพียรวัยเยาวที่หนาตาดูหมดจด คาดไมถึงวาจะเปนอาวุโสอันดับหนึ่ง
ของตระกูลในตาจิ้น!
หลังจากที่นักปราชญไดยินก็หันหนาไปเอยถามชายชราผมขาว
“การอำพรางเขตอาคมเกิดปญหา การกำจัดผนึก นาจะเกิดอะไรขึ้นกระมัง”
น้ำเสียงของนักปราชญฟงไมออกวารูสึกอยางไร หลังจากที่ชายชราผมขาวสั่นเทิ้ม
ดวยความหวาดกลัวแลว ก็เอยตอบรับทันที
“รายงานทานอาวุโส ไมมีปญหาอยางแนนอน! ผนึกของภูเขาคุนอูถูกเปดรอย
แยกเอาไว และรอยแยกก็เล็กลงเรื่อยๆ แมกระทั่งภายในเวลาหนึ่งป รอยแยกทั้งหมด
ก็คงหายไป”
“อืม! เชนนั้นก็ดี รวบรวมผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำในตระกูลเจาเดี๋ยวนี้ เตรียมถอย
ทัพเถิด พวกเจาก็อยากลับไปในตระกูล ใหไปซอนในที่ที่เตรียมกันไว ไมวาผูใดหาก
กลาเปดเผยตัวตนในระยะเวลาหนึ่งป ก็จัดการตามกฎทันที!” นักปราชญวัยเยาวเอย
อยางราบเรียบ
ชายชราผมขาวพลันใจหายวาบ ทันใดนั้นพลันเอยปากตอบรับ จากนั้นรางก็รอน
ลงบนผิวของทะเลสาบ จมหายเขาไปอยางไรรองรอย
บำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยคนอื่นๆ ในตอนนี้ก็ฟนฟูสีหนากลับมาเปนราบเรียบ ตาง
ยืนรออยางเงียบๆ อยูที่เดิม
สถานที่ที่อำพรางเขตอาคมเหลานี้อยูไมไกลนัก บวกกับความเร็วของผูบำเพ็ญ
เพียงระดับกอกำเนิด ไปกลับครั้งหนึ่งจึงใชเวลาเพียงชั่วครู
ผลลัพธคือเวลาผานไปหนึ่งกาน้ำชา อาวุโสตระกูลเยี่ยที่ไปตรวจสอบเหลานั้นก็มี
หนึ่งคนบินกลับมา แตคนนี้กลับมีสีหนาตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว
“ทานอาวุโส แยแลว! ขาตรวจสอบเขตอาคมนั้น พบวาถูกคนทำลายไปแลว ลูก
ศิษยที่คอยดูแลเขตอาคมอยูดานในก็หายไปอยางไรรองรอย”
เมื่อไดยิน นักปราชญพลันมีสีหนาเครงขรึม แววตาเย็นเยียบวาบประกายฉาย
ออกไปรอบๆ ดาน ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือไดยิน ก็พากันหนาเปลี่ยนสี จากนั้นพลันเกิด
เสียงอื้ออึงขึ้น
ตอนที่ 992 ปรากฏการณความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ
ไมนานนัก รอจนผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือที่ไปตรวจสอบกลับมา สถานการณที่ทุก
คนรายงานตางเหมือนกับคนแรกอยางไรอยางนั้น ลวนบอกวาเขตอาคมถูกทำลาย ลูก
ศิษยที่ควบคุมเขตอาคมอยูก็หายไป
เวลานี้ ทุ กคนลวนรูวาเกิ ด ป ญ หาใหญ ขึ้น แล ว ผู บ ำเพ็ ญ เพี ยรของตระกู ล เยี่ ย
ทั้งหมดพากันเงียบกริบ
“ในรัศมีรอยลี้ของที่นี่ นอกจากผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยของพวกเราแลว ก็ไมมี
ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รคนอื่ น ถ าหากมี ค นเข ามาทำลายที ห ลั ง เวลาที่ ค นพวกนั้ น ลงมื อ ก็
บังเอิญเกินไปหนอยแลว พวกเราเพิ่งจะทำลายผนึกลง ทางนั้นก็มีคนทำอะไรกับการ
อำพรางในทันที ดูแลวคงเปนปญหาภายในของพวกเราแลว” นักปราชญเอยพรอมกับ
หัวเราะอยางเย็นชาขึ้น
“คนของตัวเอง!”
“เป น ไปไม ไ ด ก ระมั ง ! ที่ นี่ ล ว นเป น คนของตระกู ล เยี่ ย จะทำเรื่ อ งเช น นี้ ไ ด
อยางไร?”
“ลวนเปนคนของตระกูลเยี่ย? มันก็ไมแน มิใชวามีคนหนึ่งที่ไมไดใชแซเยี่ยอยู
หรอกหรือ!”
หลังจากถกเถียงกันแลว ทันใดนั้นก็มีคนเอยเชนนี้ออกมา
เมื่อไดยิน ผูบำเพ็ญเพียรกวาครึ่งก็ใจเตนระรัวพลางมองไปทางคนผูหนึ่ง
คนผูนั้นมีหนาตาธรรมดาๆ สีหนาราบเรียบ นั่นก็คือมารโบราณที่แปลงกลายเปน
มนุษยผูบำเพ็ญเพียร
“อาวุโสหานคือคนที่ขาเชื้อเชิญมาดวยตนเอง และยิ่งไปกวานั้นยังอยูกับทานลุง
เจ็ดตลอด อยาเดาซี้ซั้ว” อาวุโสตระกูลเยี่ยกลับเอยปากตำหนิ
“ใชแลว สหายหานอยูกับตาเฒ าตลอดจริงๆ เราสองคนกำลังพู ดคุยกันอยาง
สนุกสนาน!” คนประหลาดผูนำใหญผูนั้นเอยขึ้นอยางราบเรียบ
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ไดฟงคนประหลาดเอยเชนนี้ แนนอนวาเพราะความรูสึก
เชื่อมั่นที่มีอยูอยางเต็มเปยมตออาวุโสตระกูลเยี่ยผูนี้ จึงทำใหความสงสัยหายไปปลิด
ทิ้งทันที
เวลานี้นักปราชญกลับออกคำสั่งกับผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมวา
“พี่รอง เจาไปตรวจสอบที่กนทะเลสิ ดูวานอกจากลูกศิษยที่หายตัวไปเหลานั้น
ยังมีใครหายไปหรือไม”
“เขาใจแลว!” ผูบำเพ็ญ เพียรหนาเหลี่ยมเอยปากตอบรับ จากนั้น ก็กลายเป น
ลำแสงหลีกหนีสายหนึ่ง จมหายเขาไปในผิวทะเลสาบอยางไรรองรอย
“เหล า อาวุ โส พวกเราก็ เตรี ย มตั ว เถิ ด ถึ ง แม ว า ที่ นี่ จ ะมี ส ถานการณ ที่ แ ปลก
ประหลาดเกิดขึ้น ไมมีทางปดบังตอไปไดอีก แตภายในระยะเวลาสั้นๆ ก็คงไมมีขุม
อำนาจอื่นมาคุกคามพวกเรา แตเดิมหนานเจียงก็มีไมมีสำนักที่ใหญโตอะไรตั้งอยู ตอ
ให ผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรคนอื่น ๆ รีบ มาที่ นี่ ก็ จ ำเป น ต อ งใช เวลาสิ บ กวาวัน หรือ ครึ่งเดื อ น
ถึงแมจะไมรูวาเกิดอะไรขึ้นในภูเขาคุนอู แตพวกเราตองขุดเอาสมบัติลับขางในออกมา
ใหเร็วที่สุด โดยเฉพาะสมบัติสะทานฟาสองชิ้นนั้น จะตองไดมาภายในระยะเวลาสั้นๆ
มีเพียงเชนนี้ ตอใหแผนการของเราถูกผูอื่นลวงรู ก็มีพลังปกปองตนเอง มิเชนนั้น ไม
เพียงแผนการที่วางไวหลายรอยปจะตองสูญเปลา ตระกูลเยี่ยยังอาจจะเกิดหายนะ
ครั้งใหญ! ไมอาจปลอยใหเหตุการณเชนนั้นเกิดขึ้นแน” นักปราชญชุดขาวเอยกับคน
อื่นๆ อยางเครงขรึม
“ขอรับ ทานอาวุโส!” อาวุโสคนอื่นๆ ในตระกูลเยี่ยไดยิน หลังจากใจหายวาบ ก็
ตอบรับขึ้นพรอมกัน
หลังจากรออยูชั่วครู ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมและชายชราชุดขาวก็บินออกมา
จากกนทะเลพรอมกัน
ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมมาอยูเบื้องหนาของนักปราชญชุดขาว และเอยดวยสี
หนาเครงขรึมวา
“นองสาม ปรมาจารยเขตอาคมดานลางหายไปสองคน คือหลานของตระกูลหา
และตระกูลสิบสอง หรือวาเจาสองคนนั้นกลาขายตระกูล?”
“เหอะ! ขายตระกูลใหกับศัตรูนั้นไมแน แตอาจจะถูกผูใดคนวิญญาณแลวสังหาร
กระมัง พวกเขาหายไปตอนไหน?” นักปราชญสงเสียงเหอะดวยความเย็นชาขณะเอย
ถาม
“สองวันแลวกระมัง สองคนนี้รับหนาที่ดูแลเขตอาคมที่ไกลที่สุด ตอนนั้นก็ไมมี
ใครสงสัย จนวันนี้ตอนที่ลูกศิษยทั้งหมดมารวมตัวกัน ถึงไดพบวาสองคนนี้หายไป
อยางไรรองรอย” ครั้งนี้ ชายชราผมขาวจึ งตอบกลั บ พรอมกั บ เหงื่อที่ ผุดขึ้ น มาบน
ใบหนา
“ดูแลวปญหาคงอยูที่สองคนนั้นจริงๆ ทวา ไมวาจะเปนอยางไรก็ตาม ยามนี้ไม
สำคัญแลว รอจนพวกเราเขาไปในภูเขาคุนอูไดแลว ปรมาจารยดานเขตอาคมและลูก
ศิ ษ ย ส ายในทั้ ง หมดก็ แ ยกกั น เสี ย อ อ ใช แ ล ว มั่ น ใจว า ผนึ ก รอยแยกเอาไว แ ล ว ใช
หรือไม?” นักปราชญเอยถามอยางเย็นชา
“ใชเขตอาคมตามหาพบแลว อยูทางทิศเหนือลึกลงไปใตดินยี่สิบลี้ ลึกลงไปจาก
พื้นดินพันจั้งนาจะมีรอยแยกที่ยาวประมาณยี่สิบสามสิบจั้งอยูรอยหนึ่ง เหลาอาวุโส
เขาไปก็ไดแลว” ชายชราผมขาวตอบกลับอยางรีบรอน
“นำทางเถิด พวกเราออกเดินทาง” นักปราชญเอยอยางไมลังเล
“ขอรับ ทานอาวุโส!” ชายชราผมขาวคอมตัวลงตอบรับ
ชั่วขณะนั้นกลุมผูบำเพ็ญ เพียรเกาคนก็ขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนี ตรงไปยังทิ ศ
เหนือ ผานไปชั่วครู ลำแสงหลีกหนีก็มาถึงกลางอากาศเหนือปาหนาทึบยี่สิบลี้ ตนไมที่
อยูดานลางเขียวชอุมและเรียงรายกันแนนขนัด
ชายชราผมสีขาวหยุดลำแสงหลีกหนี หลังจากกวาดตามองไปรอบๆ ดาน ถึงได
พลิกฝามือ ในมือมีจานอาคมสีเงินออนปรากฏขึ้น
หลังจากขยับปากบริกรรมคาถา ชายชรก็าใชอาคมสายหนึ่งโจมตีไปบนจานอาคม
ชั่วขณะนั้นดานบนพลันเปลงแสงสวางวาบ อักขระจุดลำแสงตางๆ ปรากฏขึ้น
“ใชแลว ที่นี่แหละ!” ชายชราผมขาวมองจานอาคมอยูชั่วครู ก็เอยอยางมั่นใจมาก
“เยี่ ย ม! น อ งหญิ ง เก า ปล อ ยอสู ร วิ ญ ญาณออกมา พวกเราลงไปกั น เถิ ด ”
นักปราชญหันหนาไป เอยกับนักพรตหญิงชราคนหนึ่งที่อยูดานหลัง
นักพรตหญิงผูนั้นเอยตอบรับ ตบไปที่ยามเก็บอสูรวิญญาณ ลำแสงสีเหลืองสาย
หนึ่งพุงออกมาจากดานใน ทันใดนั้นพลันขยายใหญขึ้น ชั่วพริบตาก็กลายเปนตะขาบ
พันขายาวสิบกวาจั้งตัวหนึ่ง พนไอสีเขียวออกมาจากปาก ดูนากลัวเปนอยางมาก
ไม ต อ งให ผู ใ ดเอ ย อะไรอี ก นอกจากชายชราผมสี ข าวแล ว ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
ตระกูลเยี่ยทั้งหมดตางก็ทยอยกันบินมาอยูบนแผนหลังของตะขาบ
นั ก พรตหญิ ง ชราตะโกนด ว ยเสี ย งทุ ม ต่ ำ ออกมา รอบกายของตะขาบยั ก ษ
เปลงแสงสีเหลืองเปนเกราะปองกันออกมา ทันใดนั้นก็หอหุมรางของผูบำเพ็ญเพียร
ทั้งหมดเอาไว จากนั้นรางของตะขาบพลันโบกสะบัด พุงลงไปใตดิน
เมื่อรางอันใหญโตของตะขาบสัมผัสกับพื้นดิน ก็จมหายเขาไปขางในอยางเงียบ
เชียบ ชั่วพริบตาก็หายไปอยางไรรองรอย
คาดไมถึงวาจะเปนอสูรปศาจที่เชี่ยวชาญเคล็ดวิชาลี้ธรณี
ชายชราผมขาวหยุดชะงักอยูกลางอากาศชั่วครู เห็นวาผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ย
ไมมีทาทีจะกลับมาอีก ถึงไดพนลมหายใจออกมายาวๆ เฮือกหนึ่ง แลวหันหลังบิน
กลับไป
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น กลางอากาศหางจากตรงนั้นไปสองรอยลี้ ผูบำเพ็ญ
เพียรสวมชุดสีฟา ผาคลุมหนาสีแดงสองสามคนกำลังมองเสาลำแสงสีขาวนวลเจ็ดเสา
ที่พุงขึ้นไปบนทองฟาซึ่งอยูไกลออกไป แลวมองสบตากัน
“นี่คืออะไร ชางเปนปรากฏการณที่นาตกตะลึงจริงๆ” ชายหนุมอายุยี่สิบกวาป
คนหนึ่งเอยขึ้นอยางตกใจ
“ไม วาจะเป น อะไร จะต อ งไม ใช เรื่อ งธรรมดาแน ศิ ษ ย น อ งอวี๋ เจ ารีบ กลั บ ไป
รายงานเรื่องนี้ใหทานอาจารยทราบ ขาจะพาศิษยนองที่เหลือไปดู!” ผูบำเพ็ญเพียร
หนาดำที่เปนผูนำ พลันออกคำสั่งอยางเครงขรึม
ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รอี ก คนหนึ่ งได ยิ น คำพู ด นี้ ชั่ ว ขณะนั้ น ก็ ต อบรั บ และขั บ เคลื่ อ น
ยุทธภัณฑจากไป
สวนคนที่เหลือก็บินไปทางทะเลสาบเล็กๆ นั่น โดยมีผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคน
เปนผูนำดวยความรวดเร็ว
ในจุดที่ไกลออกไป ตรงจุดที่มีภูเขาสูงใหญตั้งตระหงานอยู มีผูบำเพ็ญเพียรรอย
กวาคนที่สวมเสื้อผาหลากหลายรวมตัวกันอยู ผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้ลวนมีพลังยุทธไม
สูงนัก สวนใหญลวนอยูในระดับฝกปราณ แมแตระดับสรางปราณก็มีอยูเพียงไมกี่คน
คาดไมถึงวากลุมผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำจะมารวมตัวกันอยูที่นี่
ถึ ง แม ว า คนพวกนี้ จ ะมี พ ลั ง ยุ ท ธ ตื้ น เขิ น แต ก็ ม องเห็ น เสาลำแสงที่ ส ะดุ ด ตา
เหลานั้นอยางชัดเจน ตอนนั้นทุกคนที่ยืนอยูบนศิลายักษ บางก็ขับเคลื่อนยุทธภัณฑ
อยูกลางอากาศก็ทยอยกันมองมาทางเสาลำแสงดวยความตกตะลึง
ตรงตีนภูเขารกรางนิรนามแหงหนึ่ง ชายชรารางอวบคนหนึ่งยืนอยูดานนอกประตู
หินที่เปดอยูครึ่งบาน มองไปยังเสาลำแสงสองสามตนบนทองฟา ใบหนามีแผนการ
สถานการณเชนเดียวกัน จากผูบำเพ็ญเพียรตัวเล็กๆ ตระกูลเยี่ยที่อยูตรงใจกลาง
ของทะเลสาบไปจนถึงในระยะสองสามพั นลี้ตางถูกเสาลำแสงที่น ากลัวนี้ท ำให ตก
ตะลึง ไมวาจะเปนผูบำเพ็ญ เพียรจากตระกูลที่อยูใกลๆ หรือผูบำเพ็ญเพียรสันโดษ
ตางก็ทยอยกันบินมาที่เสาลำแสง
ไมนานนัก ที่นี่ก็มีขาวลือวามีสมบัติวิเศษถือกำเนิดขึ้น และแพรงพรายออกไปยัง
ทั่วทั้งหนานเจียงดวยความรวดเร็ว
หลังจากผานไปสองสามวัน แมกระทั่งในเขตใกลๆ ก็ยังไดยินขาวคราวนี้
ตอนนั้น ทั้งหนานเจียงพลันเกิดเปนความวุนวายขึ้นทันที!
และในตอนที่ผูบำเพ็ญเพียรจากตระกูลเยี่ยลงไปใตดินนั้น หานลี่ก็ยืนอยูตรงใจ
กลางเขตอาคมสงตัวขนาดใหญแหงหนึ่งในที่ที่ไมรูจักชื่อ รอบดานมีกำแพงหินหยาบๆ
ขนาดใหญ ราวกับวาเปนถ้ำหินยอยขนาดยักษ
เวลานี้เขากำลังมองไปยังสิ่งของที่ อยูตรงฝาเท าดวยสีห น ากลัดกลุม วงแหวน
กลมๆ ที่มีรอยแตกอยูสองสามรอย ดานบนเปลงแสงสีแดงโลหิตแวววาวออกมา แลว
ยังมีลำแสงวิญญาณสวางวาบอยูจางๆ
นั่นคือยุทธภัณฑที่ใชกักยักษปกเงินแตเดิมสองสามชิ้น
เวลานี้วงแหวนกลมๆ เหลานี้ลวนชำรุด สวนยักษปกเงินกลับไรรองรอย ผลลัพธ
คือไมตองขบคิดก็รูแลว
เมื่อครุนคิดมาถึงตรงนี้ หานลี่พลันเลื่อนสายตา กลับมองลงไปที่ระหวางเอวของตน
ตรงนั้นมียันตวิเศษสีเขียวแผนหนึ่งแปะอยู เปลงแสงวิญญาณจางๆ ออกมา
ลวดลายของยันตแผนนี้หานลี่คุนเคยมาก กลับเปนยันตสงตัวที่หาไดยากอยาง
สุดๆ แผนหนึ่ง
ประเภทของยันตเชนนี้ เขาเคยเห็นตอนสงตัวที่มหาสมุทรดาวคลั่ง แตวาในตอน
นั้นเปนเพียงแคกระดาษยันตแผนหนึ่งเทานั้น
หานลี่ขมวดคิ้ว พลิกฝามือ ในมือมีแผนปายสีฟ าปรากฏขึ้น นั่นก็คือแผนปาย
เคลื่อนยายที่ไดมาเมื่อนานมาแลว
ตอนที่เขาถูกสงตัวออกมา ก็ไมรูวาจะถูกสงตัวไปที่ใด กลัววาจะถูกสงตัวออกไป
ไกลเกินไปและถูกแรงกดของชั้นบรรยากาศฉีกทึ้งรางกาย ดังนั้นชั่วพริบตานั้นจึงหยิบ
แผนปายออกมา กำไวในมือ
แตคิดไมถึงเลยวา ในเวลาเดียวกันกับที่ลำแสงวิญญาณสงตัวปรากฏขึ้นนั้น กลับ
มียันตวิเศษปรากฏขึ้นที่เอวของเขา แมแตโอกาสจะหลบหลีกก็ยังไมมี
และไมรูวาเปนเพราะเขตอาคมสงตัวยักษนี้มีจุดที่พิเศษอะไรบางอยาง หรือวาผู
บำเพ็ญเพียรที่วางเขตอาคมนี้ในปนั้นจะวางไดอยางแยบยล ทวายันตสงตัวโบราณ
เชนนี้ จะตองไมเหมือนกับในปจจุบันแน คุมคาใหศึกษาเปนอยางมาก
เมื่อขบคิดเชนนั้น หานลี่ก็ชูมือขึ้นควายันตวิเศษเอาไว แตยังไมทันรอใหปลายนิ้ว
ของเขาสั ม ผั ส กั บ สิ่ ง นั้ น ยั น ต วิ เศษก็ เปล ง เสี ย ง ‘ครื น ๆ’ ออกมาแล ว สลายออก
กลายเปนสะเก็ดไฟ
เขาพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็หัวเราะอยางขมขื่นออกมา
ยั น ต ส งตั ว นี้ ส รางขึ้ น อย างยากลำบาก ลมปราณที่ อ ยู ในยั น ต ค าดไม ถึ ง ว าจะ
เพียงพอใหพวกเขาสงตัวไดเพียงครั้งเดียว ดูแลวยันตสงตัวอื่นๆ ก็ไมมีทางรักษาไวได
เชนกัน
อื่นๆ ที่หานลี่พูดถึง กลับเปนอสูรวิญญาณครวญที่อยูดานขางของเขาหางออกไปไม
ไกลนักรวมทั้งรังไหมสีทองสองรังที่แขวนอยูกลางอากาศ ก็ถูกแปะยันตเอาไวเชนกัน
เวลานี้ เขาเงยหน าขึ้น มองไปชั่ วครู ยั น ต วิเศษสองสามแผ น นั้ น ก็ ค อ ยๆ สลาย
หายไปอยางที่คิดไว
สวนซากหมาป าตัวนั้ น ก็ก ลายเป น ซากศพที่ แ ท จ ริงในที่ สุด โดยอสู รวิญ ญาณ
ครวญที่ขยายรางจนมีขนาดสองสามจั้ง กำลังทุบอกกระโดดไปมาบนซากหมาปาไม
หยุด ทาทางตื่นเตนดีใจเปนพิเศษ
จะวาไปแลวก็เปนเพราะหมาปาตัวนั้นโชคราย ตั้งแตที่สงตัวออกมา คาดไมถึงวา
จะติดอยูขางกายของหานลี่ และจิตสัมผัสของหานลี่ก็แข็งแกรงเกินไป พอหายจาก
อาการวิงเวียนจากการสงตัวด วยเขตอาคมแล ว แน น อนวาจึงใช อั สนี เทวาป ด เป า
ภยันตรายโจมตีไปยังหมาปาตัวอยางรุนแรงโดยไมเกรงใจ ทำใหมันไดรับบาดเจ็บหนัก
บวกกับที่อสูรวิญญาณครวญพนลำแสงสีเหลืองออกมาในทันที ชั่วพริบตาก็ดูดซับ
ไอมารบนรางของซากหมาปาไปจนเกลี้ยง แนนอนวาจัดการหมาปายักษตัวนี้ไดอยาง
งายดาย สวนยักษปกเงินนั้นดูเหมือนวาจะไมสนใจหมาปาตัวนี้ ไมมีทาทีจะตอสูกับ
หานลี่ตอ
ในที่สุดตัวประหลาดที่ไดรับอิสระก็ถือโอกาสนี้สำแดงพายุหลีกหนี ซอนอยูใน
พายุและหนีออกจากที่นี่ไป
ตอนที่ 993 ภูเขายักษเสียดฟา
หานลี่ไมไดไลลายักษปกเงินเชนกัน ประการหนึ่งคือเมื่อเผชิญหนากับอีกฝายที่
ไมไดถูกกักเอาไว อาศัยเพียงพัดตรีเปลวเพลิงนั้ นก็ไมมีท างสังหารอีกฝายไดอยาง
งายดาย อีกประการหนึ่งคือ…
เขากลอกตาไปมองอสูรวิญญาณครวญแวบหนึ่ง พลันเผยยิ้มนอยๆ ออกมา
มือขางหนึ่งของอสูรตัวนี้ กำลังกำสิ่งของสีขาวโพลนพลางเขยาไปมาไมหยุด
หากเพงพินิจมอง คาดไมถึงวาจะเปนมาตัวเล็กๆ สีขาวนวลตัวหนึ่ง สองตาเปนสี
เขียวมรกต ขนาดประมาณครึ่งฉื่อ เห็ น ได ชัดวานั่ น คื อ จุ ดประสงค ที่ เขายอมเสี่ ย ง
อันตรายในครั้งนี้ มาทมิฬผูเชี่ยวชาญการอำพรางกาย
จะวาไปแลวอสูรวิญญาณตัวนี้ก็ชางโชคราย
ตอนที่สงตัวมาในตอนแรก อสูรวิญ ญาณตัวนี้ก็กลับมาซอนกายอยูบนรางของ
ซากหมาปาอีกครั้ง ผลลัพธคือซากหมาปาถูกอสูรวิญญาณครวญใชลำแสงสีเหลืองที่
พนออกมาจากจมูกมวนเขามา มันจึงถูกมวนเขามาดวยพรอมกัน
ถาหากไมใชเพราะหานลี่มีสายตาที่เฉียบแหลม ตะโกนใหอสูรวิญญาณหยุดไดทัน
อสูรวิญญาณตัวนั้นก็เกือบจะถูกอสูรวิญญาณครวญกลืนเขาไปในทองแลว
สวนกระบี่บินสองเลมที่แตเดิมถูกกักเอาไว ในตอนที่สงตัว ก็ถือโอกาสที่ยักษปก
เงินไมทันไดระวังตัว ใชความคิดดึงกลับมาจากเขตอาคม สวนทารกของสตรีชุดดำผู
งดงามที่ถูกเสนไหมวิญญาณทมิฬกักเอาไวนั้น กลับถูกยักษปกเงินกลืนลงไปในทอง
กอนการสงตัว
สิ่งเดียวที่ทำใหเขากลัดกลุมก็คือ เข็มบินผลึกแปลงชิ้นนั้นของเขา คาดไมถึงวาจะ
ถูกยักษปกเงินควาไว และเอาไปดวย
โชคดีที่สมบัติชิ้นนี้ถึงแมวาจะไมใชสมบัติประจำกาย แตก็เปนสิ่งที่เขาเคยหลอม
เชนกัน อีกฝายจึงไมอาจควบคุมสมบัติชิ้นนี้ไดภายในระยะเวลาสั้นๆ และเวลานี้ก็ยัง
ไมมีโอกาสแยงคืนกลับมา
ยามนี้ หานลี่กวาดสายตาไปรอบๆ ดาน ลักษณะถ้ำของที่นี่และที่เดิมมีลักษณะ
คลายคลึงกัน แตไมมีพายุทมิฬ กลับมีไอวิญญาณที่เต็มเปยมจนนาตกตะลึง คาดไมถึง
วาจะเปนถ้ำขนาดใหญ และยิ่งไปกวานั้นดูเหมือนวาจะเปนชีพจรวิญญาณระดับสุด
ยอดอะไรสักอยาง
นี่จึงทำใหเขารูสึกประหลาดใจ
หานลี่กมหนาลงมองเขตอาคมตรงฝาเทาอีกครั้ง
จากทักษะดานเขตอาคมของเขามองปราดเดียวก็รูวา เขตอาคมสงตัวยักษนี้ถึงแมวา
จะใหญกวาเขตอาคมสงตัวที่เขาเคยพบ แตเห็นไดชัดวาเปนแคเขตอาคมสงตัวทาง
เดียวเทานั้น นั่นก็หมายความวา เขาถูกสงตัวมาที่นี่ แตกลับไมมีทางอาศัยเขตอาคม
สงตัวนี้สงตัวกลับไปที่เดิมได
เมื่อเขาใจวาเกิดอะไรขึ้น หานลี่พลันขมวดคิ้ว
จากนั้นสายตาพลันกวาดไปในรังไหมยักษทั้งสอง ดานในยังคงมีไอวิญ ญาณที่
แข็งแกรงตอบสนองอยู ดูแลวชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋จะยังมีชีวิตอยู
หลังจากลังเลเล็กนอย เขาก็กวักมือเรียกอสูรวิญญาณครวญ ดูดมาทมิฬเขามาใน
มือของตนเอง จากนั้นก็แปะยันตวิเศษกักขังลงไปสองสามแผน แลวโยนเขาไปในยาม
เก็บอสูรวิญญาณ
หลังจากทำทุกอยางเสร็จ หานลี่ถึงไดชูมือทั้งสองขึ้น ประจุไฟฟ าสีทองหนาๆ
สองสายพุงออกไป โจมตีไปยังรังไหมสีเทา
ชั่วขณะนั้นเสียงตูมตามพลันดังขึ้น ประจุไฟฟาสีทองกลายเปนตาขายไฟฟาสีทอง
สองผืนหอหุมรังไหมยักษเอาไว
เวลานั้นลำแสงสีทองพลันเจิดจา เสียงฟาผาดังขึ้นไมหยุด
ไม มี ยั ก ษ ป ก เงิน คอยควบคุ ม ชั่ ว ขณะนั้ น เส น ไหมวิญ ญาณทมิ ฬ จึ งสลายออก
ทามกลางลำแสงสีทองชั้นแลวชั้นเลา
ในที่สุดหลังจากเสียง ‘ปง’ ดังขึ้นสองครั้ง รังไหมทั้งสองก็ระเบิดออกตามลำดับ
ดานในมีบุรุษผูหนึ่งและสตรีผูหนึ่งบินออกมา นั่นก็คือชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋
แตแคสองคนนี้ลวนมีสีหนาซีดขาว ใบหนาดูไมไดอยางสุดๆ
ไมวาจะเปนผูใด ถูกเสนไหมวิญญาณทมิฬดูดลมปราณไปเปนเวลานานขนาดนั้น
คิดดูแลวก็คงทุกขทน สูญเสียลมปราณไปจำนวนมากอยางแนนอน
“ขอบพระคุณพี่หานที่ชวยเหลือ!” หลังจากที่ชายชราแซฟูมีสีหนาผอนคลายลง
สองมือก็ประสานกันพลางเอย
“ครั้ ง นี้ ห ากไม ใช เพราะพี่ ห านมี ค วามสามารถเกรี ย งไกร เกรงว า พวกเราคง
ประสบหายนะกันทั้งหมดแน ผูใดจะรูวาในถ้ำจันทราตะวันจะมียักษปกเงินตัวหนึ่ง
ซอนอยู พวกเราและสหายหยวนไมทันไดระวังตัว ถูกตัวประหลาดที่ซอนอยูตัวนั้น
ลอบโจมตี สหายหยวนถูกมันฉีกทึ้งทารกตอหนา จนจบชีวิต” ไปเหยาอี๋เองก็คารวะ
หานลี่ แลวเอยพรอมรอยยิ้มขมขื่น
หานลี่ไดฟงคำพูดนี้ ก็ยิ้มบางๆ ออกมาเทานั้น
ถึงแมวาทั้งสองคนจะดูเหมือนวาซาบซึ้งใจ แตหานลี่ก็ยังมองความหวาดกลัวใน
สวนลึกของแววตาทั้งสองออก
อยางไรเสียถึงแมวาสองคนนี้จะถูกกักอยูในรังไหม แตประสบการณที่หานลี่ลงมือ
กับยักษปกเงินนั้น พวกเขาก็ไดเห็นอยางชัดเจน
หานลี่ตอกรกับยักษปกเงิน แมกระทั่งสุดทายยังทำใหซากสวรรคหนีไปดวยความ
หวาดกลั ว ทั้ งสองคนรวมมื อ กั น ก็ ไม ใช คู ต อ สู ข องเขาแน บวกกั บ ที่ ถู ก ส งตั วไปยั ง
สถานที่ ลึ ก ลั บ ที่ ไม รู จั ก ชื่ อ เวลานี้ มี เพี ย งแค ส ามคนไม มี ค นอื่ น ใด ในใจจึ งรู สึ ก ไม
ปลอดภัยขึ้นมา
ตอนนี้หากหานลี่มีเจตนาราย ทั้งสองคนก็รูวาตองพานพบโชครายมากกวาโชคดีแน
แตหานลี่แคเอายามเก็บอสูรวิญญาณที่มีมาทมิฬอยูในนั้น โยนใหชายชราแซฟู
แลวเอยอยางราบเรียบวา
“มาทมิฬอยูในนั้น อยางอื่นขาจะไมพูดถึง ถาหากหลอมยาลูกกลอนหลอเลี้ยง
ทารกไดมากหนอย ก็เหลือไวใหขาสองเม็ดก็พอแลว ทั้งสองตกลงหรือไม?”
“สองเม็ด? ไมมีปญ หา ขอแคไดมากหนอย ผูแซฟู จะตองเก็บไวให พี่ห านแน ”
ชายชราแซฟูรูสึกผอนคลายลง พลางเอยปากตอบรับ
“ขาเองก็ไมมีความเห็นอะไร ละอายใจยิ่งนัก ครั้งนี้ขาไมไดชวยอะไรเลย ตองให
พี่หานลงมือทั้งหมด ใหสหายมากหนอย ก็เปนสิ่งที่สมควรแลว” ไปเหยาอี๋ไดยินคำพูด
นี้ ก็ตกลงพรอมกับยิ้มบางๆ
“อืม เชนนั้นก็ดี! ตอนนี้สหายทั้งสองนั่งพักกอนเถิด ขาจะไปดูกอนวาที่นี่คือที่
ไหนกันแน” หานลี่มองไปยังทางออกเพียงหนึ่งเดียวแวบหนึ่ง แลวหรี่ตาลงขณะเอย
“พี่หานไปเถิด เราสองคนสูญเสียลมปราณไปไมนอย ขอนั่งสมาธิกอน” ชายชรา
แซฟูไรซึ่งความคิดเห็น
หลังจากที่ไปเหยาอี๋ก็พยักหนา พลันนั่งสมาธิลง
หานลี่หัวเราะออกมา รอบกายเปลงแสงสีเขียวสวางวาบ กลายเปนลำแสงหลีก
หนีสีเขียวสายหนึ่งพุงออกไป ในเวลาเดียวกันก็แผจิตสัมผัสออกไป เพื่อไมใหยักษปก
เงินที่ซอนตัวอยูไกลๆ ลอบโจมตีเขา
เขากลับไมกลัววาสองคนนั้นจะแยงมาทมิฬไป สัญลักษณบนรางของทั้งสองคนที่
เขาทิ้งไว ยังเหลืออีกสองสามวันถึงจะสลายไป
ขอแคทั้งสองคนเคลื่อนไหว แนนอนวาจะถูกเขาพบรองรอยไดในทันที
หานลี่ไมใชนักปราชญ ความคิดสังหารคนเพื่อแยงชิงของ จึงสวางวาบขึ้นในหัวเมื่อครู
แตเขาก็ศึกษายาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกมานอยจริงๆ ตอใหไดสูตรปรุงยามา
หลอมเองกับมือ อัตราการประสบความสำเร็จก็ไมสูงนักแนนอน และไมวาจะอยางไร
ทั้งสองคนก็สรางความประทับใจตอเขาไดไมเลวนัก หานลี่จึงไมไดมีเจตนาจะฆาทิ้ง
ดังนั้นหลังจากขบคิดแลว เขาถึงไดลงมือปลอยทั้งสองคนออกมา
เมื่อออกมาจากสิ่งที่เหมือนหองโถงแลว ดานนอกก็เปนขั้นบันไดหินสีเขียวสายหนึ่ง
ตรงไปดานบน คาดไมถึงวามองปราดเดียวจะไมสามารถมองเห็นยอดของมันได
หรือวาพวกเขาเขามาในสวนที่ลึกที่สุดของภูเขา?
แมจะประหลาดใจเล็กนอย แตลำแสงหลีกหนีของหานลี่ก็ไมหยุดพักเลยแมแตนอย
พลางบินขึ้นไปดานบน แตหลังจากนั้นไมนาน หานลี่ก็ตกตะลึง
นานขนาดนี้ เบื้องหนายังคงเปนขั้นบันไดเหมือนเดิม นาเหลือเชื่อจริงๆ
ตองเขาใจวาถึงแมจะบินมาไมนานนัก แตจากความเร็วของเขา ระยะทางขนาดนี้
มันนากลัวเกินไปแลว หากไมใชเพราะเขาแผจิตสัมผัสออกไปรอบๆ อีกครั้ง และไม
พบรองรอยของเขตอาคมใดๆ ก็แทบจะคิดวาตนเองติดอยูในเขตอาคม
ผูใดจะสรางทางเดินที่ยาวขนาดนี้กัน?
หลังจากที่หานลี่บินมาอีกสองสามลี้ดวยความกลัดกลุมใจ ในที่สุดก็มองเห็นแสง
สวางที่ทางออก ในใจจึงรูสึกผอนคลายลง
หลังจากบินมาตามทางเดิน หานลี่ก็รูสึกวาเบื้องหนาสวางจา คนมาปรากฏตัวบน
แท น หิ น ยั ก ษ บนพื้ น มี ศิ ล าสี เขี ย วกองอยู เต็ ม ไปหมด มองปราดเดี ย วก็ รู ว า กว า ง
ประมาณเกือ บพั น จั้ง เมื่ อ สูด ลมหายใจเขาไปเฮือ กหนึ่ ง สู ดกลิ่น หอมของหมู ม วล
ดอกไมเขาไปเต็มปอด
ไอวิญญาณดูเหมือนวาจะสดชื่นมากกวาที่เขตอาคมหลายสวน
เมื่อกวาดตาไปเบื้องหนา ใบหนาของหานลี่ก็ยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้นเรื่อยๆ
ทุกที่ที่กวาดสายตาไป ตรงปลายของแทนหินคาดไมถึงวาจะมีภูเขาขนาดใหญตั้ง
ตระหงานอยู
เขามองไปตามภูเขา ถึงไดพบวาบนทองฟาคาดไมถึงวาจะมีทางเดินสีขาวจางๆ
สายหนึ่ง เขาหันกายไปในทันที ดูแลวมองปราดเดียวก็มองเห็นทางเดินแลว
ดานหลังคาดไมถึงวาจะมีภูเขาเชนเดียวกันอีกลูกหนึ่ง ตั้งอยูตรงขามกัน กักเขา
เอาไวตรงกลาง
แทนหินยักษที่ฝาเทาคาดไมถึงวาจะเปนทางเดินหุบเขาที่ลึกอยางหาที่เปรียบมิได
หานลี่เงยหนาขึ้นมองอยูนาน แลวถึงไดมองไปทั้งสองฝง นอกจากผาสูงชันที่คด
เคี้ยวแลว ก็ไมมีอะไรอีก
หานลี่ไมไดขบคิดอะไรมากนัก กลายเปนลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพุงขึ้นไปกลาง
อากาศทันที
หลั ง จากบิ น มาสองสามพั น จั้ ง ในที่ สุ ด หานลี่ ก็ อ อกจากหน า ผา แต ห ลั ง จาก
พิจารณาไปเล็กนอย ก็เผยสีหนาไมอยากจะเชื่อออกมา จากนั้นก็ขับเคลื่อนลำแสง
ออกไปอยางรวดเร็ว บินอยูรอบๆ อยูนาน ถึงไดบินกลับมาที่เดิม
แตใบหนากลับเต็มไปดวยสีหนาตกตะลึงที่ปดไมมิด!
จะกลาววาอยางไรดี มีแคคำวา ‘มหึมา’ อยูในหัวของหานลี่
จะวาไปแลว หานลี่ก็นับวาเคยเห็นภูเขาที่ใหญโตมหึมามาก็ไมนอย ที่ใหญที่สุดก็
คงเปนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่เมืองดาวจรัสฟาของมหาสมุทรดาวคลั่ง ความสูงของภูเขาลูกนี้
ราวกับเสาที่สูงเสียดฟา คาดไมถึงวาจะแบงออกเปนแปดสิบชั้น ใหผูบำเพ็ ญ เพียร
จำนวนมากไดตั้งถ้ำพำนัก แคนี้ก็รูแลววาภูเขาลูกนี้ใหญโตขนาดไหน
และตอนนี้เขาก็อยูบนภูเขายักษที่ดูเหมือนวาจะไมไดดอยไปกวาภูเขาศักดิ์สิทธิ์
ลูกนั้นเทาใดนัก บางทีอาจจะใหญกวา ‘ภูเขาศักดิ์สิทธิ์’ ลูกนั้นเปนอยางมาก แตเขาก็
ไมอาจเปรียบเทียบได
เพราะวาเมื่อเขาเงยหนาขึ้นมอง ก็พบวามันเต็มไปดวยสีเขียวขจี มองไมเห็นสวน
ปลาย สิ่งที่เรียกวาหนาผานั้น เปนแครอยแยกเล็กๆ ใตฝาเทาเทานั้น
แตแคนี้ไมสามารถทำใหหานลี่ตื่นตระหนกขนาดนี้ สิ่งที่ทำใหเขาหมดคำพูดก็คือ
ภูเขาลูกใหญขนาดนี้ยังอยูในเขตอาคมยักษ
ขอแคเอียงคอมองออกไปนอกภูเขา ก็มองเห็นมานแสงสีขาวโพลนที่สูงเสียดฟา
ไดทันที ไรขอบเขต ราวกับวาภูเขายักษทั้งลุกถูกหอหุมเอาไวขางใน
ราวกับเปนผลงานอันยิ่งใหญ ถึงแมวาหานลี่จะเพี ยงแคขบคิด ก็ยังรูสึกวาตก
ตะลึง! นี่ไมใชสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรโบราณจะทำไดแน
มองไปยั ง ม า นลำแสงที่ ไ ม รู ว า อยู ห า งออกไปเท า ไหร หลั ง จากที่ ห านลี่ ลั ง เล
เล็กนอย ก็ขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีตรงไปยังขอบฟา
หลังจากผานไปหนึ่งกาน้ำชาเต็มๆ หานลี่จึงไดมาถึงเบื้องหนาของมานแสงสีขาว
เขาควบคุมลำแสงหลีกหนี มาหยุดอยูเบื้องหนามานแสงที่ดูโปรงใสอยางมาก
หลังจากเขาใกลแลว หานลี่ก็พิจารณามานหนาๆ ที่ไมรูวาหนาเทาไหรอยูนาน จูๆ
ก็บินกลับไปอยางไมหันกลับมามองอีก เขาไมตองลงมือทดสอบ ก็สัมผัสไดวาเขต
อาคมนี้ มี ล มปราณที่ น ากลั ว แฝงอยู ไม ต อ งพู ด ถึ งว าเขาเป น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดขั้นกลาง เกรงวาตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง ก็ไมมีทางใชแรง
มหาศาลฝนทะลายกำแพงแหงแสงนั้นได
ระหวางทางที่บินกลับภูเขายักษ เมื่อหานลี่มองไปยังจุดที่ไกลออกไปของภูเขานี้
ก็ยังคงมองไมเห็นวามันใหญขนาดไหน ทวาตั้งแตที่พบภูเขาลูกนี้จนถึงตอนนี้ก็ยังคง
เงียบสงัด ไมมีเสียงใดๆ เลยแมแตน อย ทั้ งไมมีเสียงเพรียกของวิห คและไม มีเสียง
คำรามของอสูรตางๆ ราวกับวาเปนภูเขาที่ตายไปแลวอยางไรอยางนั้น
แต ไ อวิ ญ ญาณที่ เ ป ย มล น ในภู เ ขา กลั บ ทำให ทุ ก อย า งดู ส มจริ ง เช น นั้ น
สถานการณที่แปลกประหลาดเชนนี้ คาดไมถึงวาจะใหความรูสึกอันตรายอยางสุดๆ
กับหานลี่
ในที่สุดหานลี่ก็มีสีหนาเครงขรึมขณะบินกลับมายังหนาผา และกลับไปยังถ้ำที่มี
เขตอาคมสงตัวเดิม
ตอนที่ 994 หมอกสีมวง
เมื่อกลับมาถึงในถ้ำ ชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋ยังคงนั่งสมาธิอยูอยางซื่อสัตย
หานลี่เองก็ไมไดมีเจตนาจะรบกวนพวกเขา หลังจากลังเลเล็กนอยก็ใชมือหนึ่งตบ
ไปที่ยามเก็บของครั้งหนึ่ง ธงอาคมและจานอาคมตั้งหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ เขาโยนพวก
มันขึ้นกลางอากาศอยางไมใสใจเลยสักนิด
ชั่วขณะนั้นลำแสงหลากสีสันพลันพุงออกไปทั้งสี่ทิศ สวางวาบแลวจมหายเขาไป
ในถ้ำทั้งสี่ดาน ชั่วพริบตานั้นเขตอาคมงายๆ พลันกอตัวขึ้น
เขตอาคมนี้นอกจากจะมีประสิท ธิภาพในการบดบั งแลว หากมีศัตรูบุกเขามา
ภายในถ้ำ ก็มีประสิทธิภาพในการแจงเตือนดวย
คนที่เหลืออีกสองคนทำเปนมองไมเห็นการกระทำของหานลี่ นั่งอยูที่เดิมไมขยับ
เขยื้อน
หานลี่เห็นเชนนั้นก็หัวเราะนอยๆ ออกมา จากนั้นก็นั่งสมาธิลงตรงมุมหนึ่งของถ้ำ
และหลับตาเขาสูสมาธิเชนกัน
หลังจากผานไปหนึ่ งวัน หนึ่ งคืน ลมปราณของชายชราแซ ฟู แ ละไป เหยาอี๋ ถึ ง
คอยๆ ฟนฟูกลับมา
หลังจากทีท่ ั้งสองหยัดกายลุกขึ้นนั้น หานลี่ก็เปลี่ยนสีหนา ลืมตาทั้งสองขางขึ้น
“สหายทั้งสองฟนฟูลมปราณจนเต็มเปยมแลวหรือ?” เขาเอยถามอยางราบเรียบ
“ขอบพระคุณ พี่หานมากที่คอยปกปอง ลมปราณของขาและพี่ฟู ฟนฟูกลับมา
พอควรแลว” ไปเหยาอี๋ฉีกยิ้มขณะเอยตอบ
“พี่หานออกไปสำรวจแลวรอบหนึ่ง รูหรือไมวาที่นี่คือที่ใด?” ชายชราแซฟูกลับ
มองใจกลางของเขตอาคมยักษแวบหนึ่ง แลวอดไมไหวเอยถามขึ้น
“ไมแนใจนัก แตพวกเรานั้นอยูกลางภูเขายักษ รอบดานลวนถูกวางเขตอาคมไว
ดูเหมือนวาการจะออกไปนั้นไมใชเรื่องงาย” หานลี่เอยอยางสงบ
“ภู เขายั ก ษ ? พี่ ห านเป น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รจากมหาสมุ ท ร ไม คุ น กั บ ชื่ อ ภู เขาบน
แผนดิน ก็เปนเรื่องปกติ แตบางทีผูแซฟูอาจจะรูจัก” ชายชราแซฟูกลับดวงตาเปลง
ประกาย เอยอยางมั่นใจเปนอยางมาก
“หึๆ เชนนั้นหรือ? ในเมื่อพี่ฟูกลาวเชนนี้ อยางนั้นก็ลองออกไปดูกอนแลวคอยวา
กันเถิด” หานลี่หัวเราะหึๆ ออกมา เอยอยางไมคิดเชนนั้นออกไป
“ฟงจากน้ำเสียงของพี่หาน หรือวาภูเขาลูกนี้มีจุดที่พิเศษอะไร ขาเองก็จะออกไป
ดูสักรอบ” ไปเหยาอี๋กลับฟงอะไรออกในทันที ดวงตาสดใสเปลงประกายขณะเอย
หานลี่พยักหนาดวยสีหนาราบเรียบ
เขาเผยออกมาแล ว ว ามี ค วามสามารถเหนื อ กว าทั้ ง สอง แน น อนว าตอนนี้ จึ ง
กลายเปนผูนำไปโดยปริยาย
ดังนั้น หลังจากที่ชายชราและไปเหยาอี๋มองสบตากันแวบหนึ่งแลว ทันใดนั้นก็
กลายเปนลำแสงหลีกหนีสองสาย บินออกไปจากถ้ำ
หานลี่นั่งอยูที่เดิมไมไดหยัดกายลุกขึ้น แตกลับพลิกฝามือ จานอาคมสะกดรอย
กลับปรากฏขึ้นบนมือ
แววตากวาดไปบนจานอาคม ดานบนมีจุดแสงสีขาวดวงหนึ่งและสีดำดวงหนึ่งที่
เปลงประกายชัดเจนเปนอยางมาก
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง มองไปยังจานอาคมใบนั้นโดยไมปริปาก
หลังจากที่ไมรูวาผานไปนานเทาไหร เขาพลันขมวดคิ้ว ลำแสงสวางวาบขึ้นบนมือ
จานอาคมหายวับไป หลังจากผานไปชั่วครู ลำแสงพลันกะพริบวาบขึ้นที่ปากถ้ำ ชาย
ชราแซฟูและไปเหยาอี๋บินกลับมา
แตแคทั้งสองคนที่ปรากฏตัวเบื้องหนาของหานลี่นั้น มีสีหนาที่ไมคอยดีนัก
“เปนอยางไรบาง สหายทั้งสองพบอะไรหรือไม?” หานลี่หยักมุมปากขึ้น เผยสี
หนาอมยิ้มออกมา
ถึงแมวาเขาจะไมคอยคุนเคยกับตาจิ้นนัก แตถาหากมีภูเขาวิญญาณขนาดใหญ
เชนนี้จริงๆ เขาจะไมรูจักไดอยางไร
ดังคาด เมื่อหานลี่เอยประโยคนี้ออกไป ชายชราแซฟูก็หัวเราะอยางขมขื่นออกมา
“พี่หานอยาลอเลียนเลย ภูเขาลูกมหึมาขนาดนี้ อยาพูดวาขานอยเคยพบมากอนเลย
แมแตไดยินก็ยังไมเคยมากอน ขายังไมมั่นใจแมกระทั่งวาตอนนี้พวกเรายังอยูในตาจิ้น
หรือไมเลย” เอยจบ ชายชราก็เผยสีหนาเปนกังวลออกมา
“ใช ภูเขามหึมาขนาดนี้ หากอยูในตาจิ้น ขาตองเคยไดยินมาบางแนนอน” คิ้วดำ
ขลับของไปเหยาอี๋เองก็ขมวดมุน
“อาจจะกระมัง ถึงแมจะไมรูวาเขตอาคมดานนอกนั้นคืออะไร และสถานการณ
ดานนอกภูเขาเปนอยางไร แตเขตอาคมสงตัวนี้จะตองเปนสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรโบราณ
สรางขึ้นอยางแนนอน การที่จูๆ เขตอาคมก็เริ่มทำงานสงตัวพวกเรา และแมแตยักษ
ปกเงินก็ถูกสงตัวมาที่นี่ อาจจะเปนเพราะระหวางการตอสูไปสัมผัสกับเขตตองหาม
อะไรสักอยางในเขตอาคมเขา หรือไมก็อาจจะเปนเพราะเหตุผลอื่นที่เรายังไมรู ทวา
เรื่องนั้นไมสำคัญแลว ตอนนี้พวกเราตองปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกกอน จากนั้น
คอยตรวจสอบภูเขาลูกนี้อีกที สหายทั้งสองคิดอยางไร?”
หานลี่เอยอยางเยือกเย็น
“พี่ห านพู ดมีเหตุผล ไอวิญ ญาณที่ นี่ ห นาแน น ขนาดนี้ อยูที่ นี่ น านหน อยก็ไม มี
ปญหา และยิ่งไปกวานั้นตอใหภูเขาลูกนี้มีอะไรแปลกๆ จริง มีพี่หานอยูก็ไมตองกังวล
แลว ไมแนวาอาจจะเปนวาสนาของพวกเราก็ไดนะ?” ชายชราแซฟูเงียบกริบไปชั่วครู
ก็ฉีกยิ้มเบิกบานขณะเอย
ไปเหยาอี๋เองก็ใฝฝนถึงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกอยางสุดๆ แนนอนวาจึงไม
โตแยงเรื่องนี้ ดังนั้นจึงพยักหนา
“พี่ฟูชมเกินไปแลว! ทั้งสองทานคงพบแลวสินะ ไมรูวาเปนเพราะเขตอาคมดานนอก
หรือเปลา จิตสัมผัสของพวกเราจึงถูกกดเอาไว แผจิตสัมผัสออกไปไดแคสองสามลี้
เทานั้น และภูเขาลูกนี้ก็ใหญมหึมาขนาดนี้ ตอใหพวกเราสามคนลงมือพรมอกัน ก็ไมรู
วาตองใชเวลาเทาไหรถึงจะตรวจสอบทั้งหมดได” จูๆ หานลี่พลันเปลี่ยนหัวขอบท
สนทนา
“ใชแลว ขาเองก็พบเรื่องนี้ตั้งนานแลว และยิ่งไปกวานั้นในภูเขายังมีกลิ่นอาย
ของความตายหนาแนนขนาดนี้ แปลกจริงๆ กวาครึ่งคงไมใชสถานที่ที่ปลอดภัยอะไร”
ไปเหยาอี๋เอยก็เอยเชนนี้ออกมา
“ไมวาภูเขาลูกนี้จะเปนอยางไร ที่นี่มีไอวิญญาณหนาแนนขนาดนี้ มันมีประโยชนตอ
การปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกเปนอยางมาก พวกเราปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยง
ทารกกอนเถิด” ชายชราแซฟูกลับหัวเราะแหงๆ ออกมาสองสามครั้งขณะเอย
แนนอนวาหานลี่และไปเหยาอี๋ไมมีขอคิดเห็น ดังนั้นพวกเขาจึงวางเขตอาคมรวม
วิญญาณในถ้ำทันที จากนั้นก็วางเขตอาคมปองกันอีกสองสามจุด และชายชราแซฟูก็
เริ่มปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารก
ชวงเวลานั้น หานลี่และไปเหยาอี๋ก็ไมไดออกไปดานนอกอีก แตคอยรักษาการณ
อยูดานขางดุจผูคุมกัน
ถึงอยางไรเสียการปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกสำหรับทั้งสองคนก็สำคัญอยาง
หาที่เปรียบมิไดจริงๆ ตอใหภูเขาลูกนี้มีอะไรที่แปลกประหลาด พวกเขาในเวลานี้ก็ไม
คิดจะสนใจ
ในตอนที่หานลี่และพวกรอใหยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกออกมาจากหมอนั้น
ตรงแนวสันเขาของภูเขายักษ ในศาลาหินแหงหนึ่ง กลับมีผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ย
กลุมหนึ่งรวมตัวกันอยู
พวกเขากวาครึ่งลวนนั่งสมาธิอยูแถวๆ ศาลาหิน มือทั้งสองกำศิลาวิญญาณเอาไว
ขางละกอน ดูเหมือนวาจะกำลังฟนฟูพลังลมปราณ
นักปราชญชุดขาวที่อยูในฐานะอาวุโสมากที่สุดของตระกูลเยี่ย กลับลอยอยูกลาง
อากาศเหนือศิลาหิน ทอดสายตามองไปยังบันไดหินที่ทอดตัวยาวไปตามภูเขาซึ่งอยู
ไกลออกไป
บันไดหินนี้ใชหินสีขาวนวลสรางขึ้น มองจากไกลๆ ดูเหมือนวาจะเปนบันไดที่
วิจิตรงดงามมาก แตเมื่อเขาไปดูใกลๆ บันไดหินสีขาวนี้กวางใหญจนนาตกตะลึงจริงๆ
กวางประมาณหาสิบถึงหกสิบจั้ง
และไมวาจะมองขึ้นไปแคไหน หรือวากมลงมองไปดานลาง บันไดหินก็สูงระฟา
จมหายเขาไปในมานหมอกสีขาวโพลน ไมอาจมองเห็นอะไรได
นักปราชญลอยอยูกลางอากาศดวยสีหนาไรความรูสึก ไมขยับเขยื้อน
ไมนานนัก จูๆ ก็มีลำแสงสวางวาบที่ขอบฟา สายรุงที่นาตกตะลึงสายหนึ่งปรากฏ
ขึ้น พุงลงมาหาศาลาหินจากบนทองฟา ตอนนั้นนักปราชญถึงไดหนาเปลี่ยนสี มองไป
ยังลำแสงหลีกหนีสายนั้น ชั่วพริบตา สายรุงที่นาตกตะลึงสีเหลืองออนก็มาอยูเบื้อง
หนาของนักปราชญ ลำแสงพลันหมนลง เผยใหเห็นรางของตัวประหลาดผูนำทานนั้น
นั่นก็คือ ‘ทานอาเจ็ด’ ของตระกูลเยี่ย
“เจาเด็กนอยสาม ขาตรวจสอบอยางละเอียดแลว หลังจากบินขึ้นตามบันไดไป
ยี่สิบสามสิบลี้ จะมีประตูเมืองอยู ดูเหมือนวาจะเปนประตูหมื่นเซียนที่มีชื่อเสียงเกรียง
ไกร แตประตูนี้ถูกปดผนึกเอาไว ไมอาจทลายเขตอาคมได” คนประหลาดเอยอยาง
เครงขรึม
“ประตูหมื่นเซียน! เชนนั้นก็ไมผิดแลว ไดยินวาในปนั้น บนภูเขาคุนอูมีผูบำเพ็ญ
เพียรโบราณอาศัยอยูมากกวาหมื่นคน มีเพียงตองผานประตูนั้นไป ถึงจะเปนถ้ำพำนัก
ของผูบำเพ็ญเพียรบนภูเขาคุนอู” นักปราชญถอนหายใจยาวๆ ออกมาเฮือกหนึ่ง สี
หนาผอนคลายลง
“ทวาดูจากเขตอาคมที่ผนึกประตูนั้นเอาไว ดูเหมือนวาจะไมธรรมดาเลย รีบลง
มือจะดีกวา! พวกเราไมมีเวลาใหเสียแลว” คนประหลาดมองลงไปหาผูบำเพ็ญเพียรที่
กำลังพักผอนอยูที่ศาลา แลวกลับขมวดคิ้วขณะเอย
“แนนอนวาขาทราบเรื่องนี้ แตตอนนี้คนอื่นๆ สูญ เสียลมปราณไปเปนจำนวน
มาก จำเปนตองพักผอนกอน ตอใหขาและทานอาเจ็ดไมเปนไร ที่นี่ก็ไมใชสถานที่ที่
ปลอดภัยอะไร จำเปนตองใหเหลาอาวุโสคอยคุมกัน ไมอาจแยกกันได” นักปราชญ
เอยอยางหมดความอดทนเล็กนอย
“นั่นมันก็ใช! คิดไมถึงวาการขามผานผนึกรอยแยกมาจะเปนเรื่องที่ยุงยากขนาดนี้
โชคดีที่ครั้งนี้ผูที่มาลวนเปนผูบำเพ็ ญ เพี ยรระดับกอกำเนิดขึ้นไป มิเชน นั้ นคงมี คน
เพลี้ยงพล้ำไปจริงๆ” คนประหลาดเองก็ถอยหายใจออกมา
นักปราชญ ไดยินแลวก็ฉีกยิ้ม แตในตอนที่ กำลังคิดจะเอยปากเอยอะไรอีกนั้ น
พลันหนาเปลี่ยนสี มองไปที่จุดหนึ่งทันที
“อะไรหรือ?” คนประหลาดพลันตกตะลึง อดที่จะถามขึ้นไมได
“ดูเหมือนวาจะมีเสียงอะไรสักอยาง ดังมาจากทางนั้น” นักปราชญเอยอยางเครงขรึม
“เสียง?” คนประหลาดรูสึกตกตะลึงรคนสงสัยเล็กนอย โคจรลมปราณรอบกาย
ขางหูมีเสียงคำรามของอสูรดังแววเขามา ดูเหมือนวาจะเปนราชสีหหรือพยัคฆ และก็
ดูเหมือนวาจะเปนเสียงของมังกร และยิ่งไปกวานั้นเสียงยังดังขึ้นเรื่อยๆ
“นี่คืออะไร ดูเหมือนวาจะมีอะไรสักอยางเขามาจริงๆ!” แววตาของคนประหลาด
ฉายแววเย็นชาสวางวาบ มือหนึ่งพลิกฝามือ ในมือมีวัตถุที่เปลงแสงสีเงินสวางวาบชิ้น
หนึ่งปรากฏขึ้น
นักปราชญเองก็มองไปยังจุดที่ไกลออกไป ดวยดวงตาที่ไมกะพริบ!
หลังจากผานไปชั่วครู จุดที่ไกลออกไปก็มีเมฆหมอกสีมวงผืนหนึ่งปรากฏขึ้น และ
กำลังตรงมาทางนี้ เสียงคำรามของอสูรก็ดังมาจากเมฆหมอกผืนนั้น
ชั่วพริบตบา หมอกสีมวงก็บินเขามาใกล หางจากศิลาหินแครอยกวาจั้ง
นักปราชญ และคนประหลาดมองเห็ น เงาดำๆ ที่ ซอนอยูในเมฆหมอก ดวงตา
ปศาจสีแดงก่ำขนาดเทากำปนคูหนึ่งกำลังจองมายังทั้งสองคน มันเต็มไปดวยโทสะ
และความกระหายเลือด เห็นไดชัดวาไมมีความเปนมิตร
คนประหลาดมีสีหนาเครงขรึม ชูมือหนึ่งขึ้น
ลำแสงสีเงินกลุมหนึ่งพุงออกมาจากมือ จากนั้นก็สวางวาบแลวหายลับไปอยางไร
รองรอย
แตในตอนนั้นเอง หลังจากเสียง ‘เปรี้ยง’ ดังขึ้นกลับมีกรงเล็บยักษขางหนึ่งยื่น
ออกมาจากเมฆหมอกดวยความรวดเร็วปานสายฟาฟาด บนกรงเล็บเปลงแสงสีเงิน
สวางวาบ
เสียงคำรามของอสูรในเมฆหมอกดังขึ้น คาดไมถึงวากรงเล็บยักษน้ันจะจับลำแสง
สีเงินเอาไว และเผยรางเดิมออกมา คาดไมถึงวาจะเปนกระสวยจิ๋วสีเงิน ขนาดสอง
สามชุน เปลงแสงวิบวับ
แตบ นกรงเล็บยักษ กลับมีโลหิ ตสีเขี ยวหยดติ๋ งๆ ชั่วขณะนั้ น สัตวป ระหลาดใน
หมอกสีมวงก็เปลงเสียงคำรามดวยความเจ็บปวดออกมา ทันใดนั้นแววตาคูนั้นพลัน
ฉายประกายโหดเหี้ยม
จูๆ หมอกสีมวงก็เบาบางลง ชั่วพริบตาเมฆหมอกก็หายไป เหลือเพียงดวงตาที่
โหดเหี้ยมสองขางหลังจากกะพริบตาสองสามครั้ง ก็เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไป
คนประหลาดและนักปราชญเห็นเชนนั้น ก็พากันหนาเปลี่ยนสี
คาดไมถึงวาจะเปนสัตวประหลาดที่เชี่ยวชาญเคล็ดวิชาอำพราง! ตอนนี้มันอยูใน
ภูเขาลูกนี้ จิตสัมผัสของพวกเขาถูกจำกัด การตอกรกับอสูรเชนนี้ เปนสิ่งที่ปวดหัว
อยางสุดๆ
หลังจากที่ทั้งสองคนมองสบตากันแวบหนึ่ง ก็ดูเหมือนวาสำแดงความสามารถ
ออกมาพรอมกัน
คนประหลาดอาปากออก พนกระบี่บินสีเหลืองเลมหนึ่งออกมา หลังจากหมุนวนหนึ่ง
รอบก็กลายเปนกระบี่ยักษขนาดสองสามจั้งเลมหนึ่ง จากนั้นกระบี่เลมนั้นก็เปลงแสง
สวางวาบ หลังจากเริงระบำอยูกลางอากาศเล็กนอย ก็พนไอกระบี่ที่เจิดจาจนแสบตา
จำนวนนับไมถวนออกมา ชั่วพริบตาก็ปกคลุมในอาณาบริเวณยี่สิบสามสิบจั้งเอาไว
สวนนักปราชญก็เสียงหึอยางเย็นชาออกมา สะบัดแขนเสื้อ ธงเล็กๆ สีเขียวดาม
หนึ่งปรากฏขึ้นในมือ จากนั้นก็โยนไปที่ฝาเทา ชั่วขณะนั้นไอหมอกสีเขียวกลุมหนึ่ง
พลันทะลักออกมาจากธงอยางบาคลั่ง ชั่วพริบตาก็กลายเปนกลุมหมอกขนาดใหญ
ปกปองกลุมผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยที่อยูที่ศาลาหินดานลางเอาไว
ตอนที่ 995 สำนักพิษศักดิ์สิทธิ์
หลังจากเสียง ‘ฟวๆ’ ดังขึ้น หางจากศาลาหินไปสามสิบกวาจั้งก็มีลำแสงสวาง
วาบขึ้น หลังจากที่ไอกระบี่สองสายกวาดผานไปแลว หมอกสีมวงก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
แตครั้งนี้ ตัวประหลาดที่อยูในหมอกกลับดูเหมือนวาจะถูกทำใหโกรธเกรี้ยวจนถึงขีด
สุดแลว
ภายใตการกูรองคำรามดวยความโกรธเกรี้ยวนั้น ไอหมอกพลันสลายหายไป คาด
ไมถึงวาจะเผยรางของอินทรีหัวราชสีหมีปกวิหคสี่ปกออกมา
วิหคตัวนี้กางปกทั้งสี่ที่มีขนาดใหญหาหกจั้งออก รอบกายมีลำแสงสีมวงโคจรอยู
ทาทางดุรายอยางสุดๆ
“อสูรวิหคราชสีห!”
เมื่อมองเห็นรูปรางของวิหคตัวนี้ชัดเจน คนประหลาดก็รองอุทานออกมาดวย
น้ำเสียงแหบแหง
นักปราชญหนาเปลี่ยนสี พลันสะบัดแขนเสื้อ มีดบินสีดำแดงเลมหนึ่งพุงออกมา
สับลงมาที่วิหคปศาจอยางรุนแรง
จะวาไปแลวก็แปลก แตเดิมวิหคปศาจที่มีทาทีดุดัน เมื่อเห็นมีดบินเลมนี้กลับเผย
สีหนาหวาดกลัวออกมา อาปากที่เปนเหมือนกับบอโลหิตออก พนวงแหวนลำแสงสี
มวงเปนชั้นๆ ออกมา โจมตีไปยังมีดบินอยางพอดิบพอดี
หลังจากที่เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น ลำแสงสีดำที่อยูทามกลางลำแสงสีมวง คาดไม
ถึงวามีดบินจะทะลวงมานแสงวงแหวนสิบกวาชั้นไปราวกับผากระบอกไมไผ แตทุก
ครั้งที่สับลงไป ก็ทำใหลำแสงสีดำของมีดบินออนแอลงไปหนึ่งสวน ในที่สุดตอนที่เขา
ใกลวิหคปศาจในระยะสองสามจั้ง ก็เปลี่ยนเปนสีดำที่หมองหมน ถูกวงแหวนสีมวง
สองสามชั้นตานทานเอาไว
วิหคปศาจเห็นเชนนั้นพลันดีใจ ตอนที่กำลังคิดจะสำแดงความสามารถกักขังมีด
เลมนี้อีกครั้งนั้นเอง
นักปราชญที่อยูไกลออกไปก็อาปากออกเชนกัน พนโลหิตบริสุทธิ์กลุมหนึ่งออกมา
จากนั้นสองมือของเขาพลันรายอาคมอีกครั้ง ชี้ไปที่โลหิตบริสุทธิ์นั้นอยางรวดเร็วสอง
สามครั้ง
ชั่วขณะนั้นโลหิตบริสุทธิ์พลันกลายเปนอักขระสีโลหิตอยางรวดเร็ว และหายวับ
ไปกลางอากาศ
มีดบินระเบิดลำแสงที่เจิดจาจนแสบตาออกมาอีกครั้ง ชั่วครูก็ทำใหวงแหวนสีมวง
ที่อยูรอบๆ ทั้งหมดแตกกระจาย สวางวาบแลวไปอยูเบื้องหนาของวิหคปศาจ และสับ
ลงมาอยางโหดเหี้ยม
วิหคปศาจพลันตกตะลึง ปกทั้งสี่สยายออกพรอมกันและพุงไปดานหลัง ชั่ววินาที
นั้นก็ทำไดเพียงชูกรงเล็บยักษขางหนึ่งออกมาตานทานไว
ผลคือโลหิตสีเขียวพลันสาดกระเซ็น ถึงแมวาชั่วขณะนั้นมีดบินจะถูกตานทานไว
แตกรงเล็บที่แหลมคมนั้นก็ถูกกรีดออกเล็กนอย ภายใตมีดลำแสงที่กวาดเขามา
ตอนนั้น วิหคปศาจพลันเงยหัวขนาดใหญ ขึ้น ปากก็เปลงเสียงรองคำรามที่ดัง
สนั่นออกมา เสียงคำรามนี้ดูเหมือนวาจะสั่นสะเทือนฟาดิน คาดไมถึงวาจะทำใหหูของ
นักปราชญและคนประหลาดดับไปแวบหนึ่ง รางกายอดที่จะสั่นคลอนไมได
แตภาพฉากที่นาเหลือเชื่อ ก็เกิดขึ้นในทันใด
เมื่อเสียงคำรามดังขึ้น คลื่นสีทองที่โปรงใสก็ถูกพนออกมาจากปากของหัวราชสีห
โจมตีไปยังมีดบินอยางพอดิบพอดี
ผลลัพธคือเมื่อมีดบินสีดำสัมผัสกับคลื่นสีทอง ชั่วขณะนั้นก็ราวกับถูกโจมตีดวย
กำลังมหาศาลอยางไรอยางนั้น ชั่วครูก็โจมตีกระเด็นออกไป
สวน ‘ทานอาเจ็ด’ ผูนั้นที่กำลังควบคุมกระบี่แสงสีเหลืองสองสามสายเพื่อชวย
มีดบินโจมตี สถานการณ ยิ่งแยเขาไปใหญ กระบี่แสงเขาไปใกลคลื่นสีท องไดเพี ยง
เล็กนอย จากนั้นก็คอยๆ สลายตัวออกทีละชุนๆ ชั่วพริบตาก็หายวับไป เปนเพราะ
เปลี่ยนเสียงคำรามเปนคลื่นสีทอง สีหนาของวิหคปศาจจึงออนแรงลงมา
หลังจากที่มันถลึงตาใสนักปราชญแวบหนึ่งดวยความโหดเหี้ยมแลว ก็สยายปกทั้ง
สองออก ชั่วขณะนั้นบนปกพลันมีเสียงฟาผาดังขึ้นพรอมกัน จากนั้นรางกายพลันราง
เลือน และสลายหายไปทามกลางประจุไฟฟา ตอมา กลับปรากฏตัวขึ้นหางออกไป
สามสิบกวาจั้ง คาดไมถึงวาเชี่ยวชาญในเคล็ดวิชาอัสนีหลีกหนีเชนกัน
ทวา ตอนนี้วิหคปศาจไมกลาหยุดยั้งเลยแมแตนอย กลายเปนลำแสงสีมวงสาย
หนึ่งพุง ออกไปยังจุดที่ไกลออกไป
ชั่วพริบตา มันก็หายไปจากขอบฟาโดยไมแมแตจะหันหัวกลับมา
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ คนประหลาดถึงไดถอนหายใจยาวๆ ออกมาเฮือกหนึ่ง
แตเมื่อเลื่อนสายตาไป มองเห็นนักปราชญมีสีหนาซีดขาว ก็อดที่จะเอยถามดวยความ
ตกตะลึงไมได
“เจาเด็กนอยสาม เปนอะไรหรือไม? แตเดิมการควบคุมมีดโลหิตทมิฬก็เปนเรื่อง
ที่ตองสูญเสียลมปราณไปจำนวนมากอยูแลว เจายังใชโลหิตบริสุทธมาเพิ่มอานุภาพ
ของมันอีก” คนประหลาดเอยดวยความกังวลใจ
“ไม เป น ไรขอรั บ แค สู ญ เสี ย ปราณแท ไปเท า นั้ น อสู ร วิ ห ราชสี ห เป น วิ ห คที่ มี
ชื่อเสียงดานความชั่วรายในสมัยโบราณ ความสามารถเหนือกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับ
กอกำเนิดขั้นปลายอยางพวกเราสามสวน ถาหากไมจับมันใหทันเวลา ตอกรไปมาคง
เปนเรื่องที่ไมดีนัก ตอนนี้มันไดรับความเจ็บปวดเล็กนอย ก็นาจะไมมารบกวนพวกเรา
งายๆ แลว” นักปราชญสูดลมหายใจเขาเฮือกหนึ่ง พลางสั่นศีรษะ
“นั่นมันก็ใช วิหคชั่วรายในยุคโบราณเชนนี้ปกติแลวมีรางกายที่แข็งแกรงดุจเหล็กกลา
ถาหากไมใชมีดโลหิตทมิฬประจำตระกูลเยี่ยของพวกเรา สมบัติอาคมทั่วๆ ไปคงไม
อาจทำรายอสูรวิหคราชสีหได เปนเรื่องที่รับมือยากจริงๆ” คนประหลาดไดยิน ก็เผย
สีหนาวางใจออกมา
นักปราชญหัวเราะนอยๆ ออกมา สายตามองไปยังหมอกสีเขียวดานลางแวบหนึ่ง
เห็นผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยที่ถูกการมาของอสูรวิหคราชสีหทำใหตกใจตื่น ก็กลับมา
เยือกเย็นขึ้นอีกครั้ง
ทันใดนั้นเขาพลันพยักหนา หลังจากเอยกับคนประหลาดอีกสองสามประโยค ก็
กระโจนลงในศาลาหินดานลาง หลับตาลงพลางนั่งสมาธิ
การควบคุ ม สมบั ติ ที่ สื บ ทอดกั น มาอย า งมี ด โลหิ ต ทมิ ฬ เมื่ อ ครู ทำให สู ญ เสี ย
ลมปราณไปไมนอย นักปราชญจึงถือโอกาสนี้ฟนฟูพลังยุทธไวกอนจะดีกวา
ในตอนที่ตระกูลเยี่ยและพวกของหานลี่อยูในใจกลางของภูเขายักษนั้น ใตภูเขา
ยักษลูกหนึ่งที่อยูใกลๆ กับหุบเขาหมื่นพิษ ในหุบเขาที่ไมสะดุดตาลูกหนึ่ง มีเงารางคน
สีขาวหาคนยืนเรียงกันอยูที่ทางเขาหุบเขา ตรงขามของพวกเขาคือผูบำเพ็ญเพียรสวม
ชุดสีดำสองคน กำลังรายงานอะไรสักอยางอยูดวยความเคารพนบนอบ
“เกิดปรากฏการณที่นาตกตะลึงขึ้นหรือ?” ไมรูวาคำพูดที่แปลกประหลาดนี้ดัง
ออกมาจากจุดไหน น้ำเสียงแข็งกระดางเล็กๆ แตฟงไมออกวาเปนบุรุษหรือวาสตรี
“ขอรับ ทานอาวุโส ใกลๆ กับทะเลสาบนิรนามของจวนผูอวิ๋น ที่นั่นมีเสาลำแสง
ที่นาตกตะลึงเจ็ดสาย พุงขึ้นไปบนทองฟา” ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีดำผูหนึ่งตอบ
กลับเชนนี้ออกมา
“เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อใด? พบอะไรหรือไม?” เจาของน้ำเสียงนั้นดูเหมือนวาจะรูสึก
สนใจเปนอยางมาก
“สี่ วั น ก อ นขอรั บ ลู ก ศิ ษ ย ข องสำนั ก ข า ได ข า วมา ก็ ใช ยั น ต ถ า ยทอดเสี ย งมา
รายงานในทันที ไดยินวาใตเสาลำแสงสองสามตนนั้นมีผนึกขนาดใหญจนหาที่เปรียบ
มิไดอยูจุดหนึ่ง เพราะวาผนึกคอนขางใหญเกินไป ตอนนี้จึงยังไมมั่นใจนักวาตำแหนง
ของผนึกอยูที่ใด แตไดยินวาสำนักตางๆ ในหนานเจียงตางตกตะลึงกับปรากฏการณนี้
ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดตางกำลังรีบมา” ผูบำเพ็ญเพียรอีกคนเอยตอบอยาง
นอบนอม
“เสาลำแสงเจ็ดตน! ฟงดูเหมือนลมปราณที่รั่วไหลออกมาจากการทลายเขตอาคม
เลย แตนาตกตะลึงเชนนี้ ก็คุมคาที่ขาจะวิ่งไปดูสักรอบหนึ่ง แตวา สองสามวันกอน
พวกเจาบอกวาผูเฒาฟูแหงพรรคเกายมโลกปรากฏตัวใกลๆ หุบเขาหมื่นพิษ แตจนถึง
ตอนนี้กลับยังไมมีขาวคราว พวกเจาไดรับขาวมาผิดหรือไม แมแตคนผูนั้นพวกเจายัง
หาไมพบ ยิ่งไมตองพูดถึงการตามหาเจาเด็กแซหานนั่นเลย” น้ำเสียงนั้นเย็นเยียบเปน
อยางมาก
“ทานอาวุโสโปรดระงับโทสะกอน ขาวที่พวกเราไดรับมาคือ มีผูบำเพ็ญเพียรเห็น
ผูเฒาฟูตรงไปทางนั้นจริงๆ จากนั้นก็หายตัวไปแถวๆ หุบเขาหมื่นพิษ” ผูบำเพ็ญเพียร
ชุดดำสองคนเผยสีหนาลนลานออกมา หนึ่งในนั้นเอยอยางขอรับโทษในทันที
“ในหุบเขาหมื่นพิษมีรองรอยการเคลื่อนไหวของผูบำเพ็ญเพียรจริงๆ แตนอกจาก
ถ้ำจันทราตะวันที่ขาไมเคยลงไปแลว สถานที่อื่นในหุบเขาก็เคยตรวจสอบมาหมดแลว
มันไมมีคนอยูในหุบเขานั้น เจาคงไมไดอยากบอกขาวา ผูเฒ าฟู ลงไปในถ้ำจัน ทรา
ตะวันหรอกนะ ถาหากเปนเชนนั้นละก็ ขาเองก็เคยรักษาการณอยูที่นั้นชวงหนึ่ง และ
นาจะไดขาวอะไรมาบางถึงจะถูก นอกเสียจากวาผูเฒาฟูจะอยากลงไปในถ้ำจันทรา
ตะวันเพื่อใชชีวิตบั้นปลายในนั้น”
ผูบำเพ็ญเพียรชุดดำทั้งสองคนไดฟงคำนี้ ก็เอยพึมพำขึ้นสองสามประโยค ครานั้น
ไมรูวาควรจะตอบอยางไร ใบหนามีเหงื่อเม็ดเปงผุดขึ้นมา
“ชางเถิด ชวงนี้ พวกเจาสืบเรื่องพวกนี้ไดก็ไมใชเรื่องงายแลว ใหเวลาพวกเจาอีก
หนอยก็แลวกัน สงคนไปตรวจสอบหุบเขาลูกนั้น ขาจะไปที่จวนผูอวิ๋นกอน พวกเจาก็
ออกไปแจงอาวุโสอูและอาวุโสเซียวใหไปที่นั่นกับขา คนมากจะทำอะไรสะดวกกวา”
“ขอรับ ทานอาวุโส!” ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีดำสองคนถึงไดผอนคลายลง แลว
คอมตัวลงตอบรับ
เสียงนั้นกลับไมไดเอยอะไรอีก เงารางสีขาวหาสายพลันจางลง และพุงขึ้นไปบน
ทองฟาพรอมกัน ชั่วพริบตาลำแสงหลีกหนีก็พุงแหวกอากาศออกไป
ในเวลาเดียวกันนั้น ณ ขอบฟาเหนือทุงหญารกรางใกลๆ กับจวนผูอวิ๋น ผูบำเพ็ญ
เพียรกลุมหนึ่งกำลังบินตรงมาทางทะเลสาบ
ผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้มียี่สิบกวาคน ทุกคนตางสวมชุดสีฟา มีผาสีแดงโพกหัว สี่
คนที่ บิ น อยู ห น าสุ ด มี พ ลั งยุ ท ธอ ยู ในระดั บ ก อ กำเนิ ด โดยเฉพาะผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รวั ย
กลางคนหนึ่งที่ใบหนาเต็มไปดวยริ้วรอย ยิ่งมีพลังยุทธอยูในขั้นปลายสุดของระดับ
กอกำเนิดขั้นกลาง กลิ่นอายรอบกายเย็นเยียบจนนาตกตะลึง ใหความรูสึกอันตราย
อยางสุดๆ
“ศิษยพี่ฮัว ครั้งนี้ตองกระทำการใหญโตขนาดนี้จริงๆ หรือ? คาดไมถึงวาจะพาลูก
ศิษยกวาครึ่งของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรามาดวย หากเกิดขอผิดพลาด จะทำให
สำนักของเราเสียหายอยางหนัก” ชายชราระดับกอกำเนิดขั้นตนอีกคนหนึ่ง เอยกับผู
บำเพ็ญเพียรวัยกลางคนที่ใบหนาเต็มไปดวยริ้วรอยที่อยูทามกลางลำแสงหลีกหนีดวย
ความกังวล
“ถาหากสมบัติวิเศษธรรมดาๆ ปรากฏขึ้น ขาคงไมเสี่ยงอันตรายขนาดนี้ แตครั้งนี้
กลับมีโอกาสเปนอยางมากที่จะอยูในภูเขาคุนอูในตำนาน เพื่อสมบัติลับในภูเขาลูกนั้น
ความเสี่ยงครั้งนี้มันคุมคาที่จะเสี่ยงนัก” ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนเอยดวยความตก
ตะลึง
“ภูเขาคุนอู? คือภูเขาที่สำนักของเราตามหามาโดยตลอดหรือ?” ชายชราผมสี
ดอกเลาอีกคนหนึ่ง เอยดวยความตกตลึง
“ใช เรื่องนี้ หลังจากที่ศิษยนองบรรลุระดับกอกำเนิด ขาก็เคยกลาวไปแลวครั้ง
หนึ่ง ในสมัยโบราณภูเขาลูกนี้คือหนึ่งในภูเขาวิญญาณไมกี่ลูกที่ดำรงอยูในแดนมนุษย
ถึงแมจะไมรูวาเปนเพราะเหตุผลใด ถึงไดถูกผูบำเพ็ญเพียรโบราณใชความสามารถที่
ยิ่งใหญปดผนึกเอาไว แตสมบัติลับในภูเขาลูกนั้นจะตองมีมากมายอยางไมตองสงสัย
และทานบรรพชนปูที่กอตั้งสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา ความจริงแลวก็คือทายาท
ของผูบำเพ็ญเพียรโบราณที่ผนึกภูเขาลูกนี้ แตก็รูเรื่องที่ปดผนึกภูเขาลูกนี้ไมมากนัก รู
เพียงวาปดผนึกภูเขาลูกนี้เอาไวที่ใดสักแหงในหนานเจียง ดังนั้นถึงไดกอตั้งสำนักเรา
ขึ้นที่หนานเจียง และตามหารองรอยของภูเขาลูกนี้มาโดยตลอด แตนาเสียดายที่ตอน
นั้นทานบรรพชนปูไมเคยไดรับขาวคราวอะไร เรื่องนี้จึงกลายเปนเรื่องลับที่ถายทอด
กั น มาในเหล าอาวุโสเท านั้ น ” หลั งจากที่ ริ้วรอยบนใบหน าของผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รวั ย
กลางคนเปลงแสงสีเขียวมรกตสวางวาบ ก็เอยขึ้นอยางเย็นชา
“แตศิษยพ่ีฮัวรูไดอยางไรวาปรากฏการณในครั้งนี้คือสัญญาณการปรากฏตัวของ
ภูเขาคุนอู อาจจะเปนสมบัติลับชิ้นอื่นก็ไดนะ?” ชายชราคิ้วหนาที่เอยถามครั้งแรก
เอยถามอยางตกใจระคนสงสัยเล็กนอย
“หึๆ ตอนนั้นนอกจากทานบรรพชนปูจะบอกวาภูเขาคุนอูตั้งอยูที่ใดสักแหงใน
หนานเจียงแลว ในมือยังมีไขมุกญาณสัมผัสที่เขาหลอมขึ้นเองกับมืออยูเม็ดหนึ่ง ไขมุก
นี้ถูกสรางขึ้นเพื่ อภู เขาคุนอูโดยเฉพาะ มั น สามารถสัมผัสได ถึงศิ ลาเซียนเทวัญ ที่ มี
ชื่อเสียงในภูเขากอนนั้นได ขอแคภูเขาลูกนี้ปรากฏตัวขึ้น ไขมุกวิญญาณก็จะสัมผัสได
ในทันที และกอนหนานี้สองสามวัน จูๆ ไขมุกที่อยูในศาลสักการะของทานบรรพชนปู
เม็ดนี้ก็สงเสียงรองขึ้น ขาก็รูทันทีวาภูเขาคุนอูปรากฏตัวขึ้นแลว ตอใหไมมีลูกศิษยใน
สำนักมารายงานเรื่องปรากฏการณประหลาด ขาก็จะสงคนไปตรวจสอบทุกแหงใน
หนานเจียงทันที”
“เชนนี้นี่เอง!” ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดสามคนที่เหลือ จึงถึงบางออขึ้นมา
จากนั้นก็เผยสีหนาตื่นเตนดีใจออกมา
“นาเสียดายที่ศิษยพี่หยวนไมอยูในสำนัก มิเชนนั้นหากหาอาวุโสของสำนักพิษ
ศักดิ์สิทธิ์อยางพวกเรารวมมือกันละก็ การเคลื่อนไหวนี้จะตองปลอดภัยขึ้นแนนอน”
ชายชราผมสีดอกเลากลับถอนหายใจออกมา
“หลังจากที่ศิษยนองหยวนออกไปครั้งนั้น กลับมาก็ดูลึกลับ ตอนนี้ไมรูวาอยูที่ใด
ไมมีทางติดตอได ทวา ขาไดออกคำสั่งไปแลว หากลูกศิษยพบศิษยนองหยวน ก็จะให
เขามารวมตัวกับพวกเราในทันที ตอนนี้สิ่งที่พวกเราตองทำ ก็คือถือโอกาสที่สำนัก
อื่นๆ ยังไมรูเรื่องของภูเขาคุนอู เขาไปในภูเขากอน และรีบชิงสมบัติสวนใหญออกมา
ใหเร็วที่สุดแลวคอยวากัน ไมรูวา การปรากฏตัวของภูเขาลูกนั้นในครั้งนี้ เปนเพราะ
ผนึกสูญเสียประสิทธิภาพเอง หรือวาเกิดจากผูบำเพ็ญเพียร ถาหากเปนอยางหลังละก็
การเดินทางของเราในครั้งนี้คงตองระวังตัวเพิ่มขึ้นแลว” ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคน
เอยไปพลาง สีหนาก็เครงขรึมขึ้น
ตอนที่ 996 แบงยา
แนนอนวาผูบำเพ็ญเพียรกลุมนี้ของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ไมรูวาศิษยนองหยวนที่
พวกเขาพูดถึงนั้นไดจบชีวิตลงในปากของยักษปกเงินแลว ดังนั้นหลังจากพูดคุยกันอีก
เล็กนอย พวกเขาก็เรงความเร็วของลำแสงหลีกหนี ใหเร็วกวาเดิมเพื่อเรงเดินทาง
ไปถึงไวขึ้นสักวันหนึ่งสำหรับพวกเขาแลวนั้น เปนสิ่งที่มีประโยชนอยางมาก
ณ จวนผูอวิ๋น ในทะเลสาบเล็กๆ มีผูบำเพ็ญเพียรที่พลังยุทธหลากลายสองสาม
รอยคนกำลังรวมตัวกันอยูเปนกองทัพ
หนึ่งในนั้นมีอยูจำนวนไมนอยที่ บิน อยูบนท องฟ า โดยมีเสาลำแสงเจ็ดตนเป น
ศูนยกลาง พลางคนหาอะไรสักอยางอยูอยางเงียบๆ
บนพื้นเองก็มีผูบำเพ็ญเพียรที่มียันตลี้ธรณีและคนที่ใชเคล็ดวิชาลี้ธรณีอยูไมกี่คน
กำลั ง ผลุ บ ๆ โผล ๆ อยู เป น บางครั้ ง และกำลั ง พู ด คุ ย อะไรสั ก อย า งกั บ สหายร ว ม
เดินทางที่อยูบนพื้นดินดวยความตื่นเตนดีใจ เห็นไดชัดวาตราผนึกยักษที่ซอนตัวอยูใต
ดินถูกคนพบแลว
ตรงขามกับตราผนึกยักษนี้ รอยแยกสายหนึ่งที่ถูกตระกูลเยี่ยฝนใชเขตอาคมแยกออก
กลับยังไมถูกคนพบตำแหนงที่แนชัด แตถึงจะเปนเชนนั้น ก็ยังทำใหผูบำเพ็ญเพียร
เหลานี้ตื่นเตนดีใจเปนพิเศษ คนเหลานี้ตางทยอยกันสงยันตถายทอดเสียงออกไปให
ตระกูลหรือสำนักของตัวเอง บางก็เหาะจากไปในคืนนั้น เพื่อไปรายงานเรื่องนี้ดวย
ตัวเอง
ผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรที่อยูที่ นี่ในตอนนี้ มี ผูที่ มี พ ลังยุท ธระดับสรางปราณเป น ผูน ำ ผู
บำเพ็ญเพียรระดับฝกปราณและระดับหลอมรวมตางก็มีไมมากนัก สวนใหญในนั้น
ลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษที่พบปรากฏการณนี้ดวยความบังเอิญ และเขามาดู อีก
ส วนหนึ่ งคื อ สายลั บ จากขุ ม อำนาจน อ ยใหญ ที่ อ ยู ใกล ๆ ได ยิ น ข าวลื อ จึ งรีบ รุด มา
ตรวจสอบ
สวนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดในตอนนี้กลับยังไมมีผูใดพบเห็น
นั่นก็ไมแปลก แตเดิมทะเลสาบเล็กๆ แหงนี้ก็เปนสถานที่ที่รกรางเปลาเปลี่ยว
รอบๆ ทั้งไมมีภูเขาและแมน้ำขนาดใหญ จึงไมมีสำนักผูบำเพ็ญ เพียรหรือตระกูลผู
บำเพ็ญเพียรที่คอนขางใหญตั้งอยู ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดจึงไมวิ่งมาที่รกราง
เปลาเปลี่ยวเชนนี้อยางไมมีเหตุผล
แมแตกลุมผูบำเพ็ญเพียรของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ไดยินขาวนี้และรีบรุดมาในทันทีก็
ยังตองใชเวลาเดินทางสองวัน
ทวาผูบำเพ็ญเพียรสันโดษสวนใหญที่มีพลังยุทธต่ำตอย หลังจากที่พบผนึกยักษใตดิน
ที่ยากจะจินตนาการแลว ถึงแมวาจะรูสึกอาลัยอาวรณ แตก็จากไปตามลำดับดวย
ความชาญฉลาด
พวกเขารูดี ไมวาผนึกดานลางจะมีของมีคาขนาดไหน การตอสูแยงชิงระดับนี้ก็
ไมใชสิ่งที่พวกเขาจะเขารวมได หากอยูตอไป แลวเกิดถูกลูกหลงจากการตอสูของผู
บำเพ็ญเพียรระดับสูง นั่นจะยิ่งโชครายเขาไปใหญ
แนนอนวาก็มีผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำที่ยังไรเดียงสาไมยอมจากไป ประการหนึ่ง
คือพวกเขาอยากรูวาผนึกใตดินนั้นคืออะไรกันแน อีกประการหนึ่งก็เพราะหวังพึ่ ง
โชคชะตา ถึงแมจะรูวาพลังยุทธของตัวเองไมสูงสง แตหากโชคดี ก็อาจจะไดประโยชน
อะไรบาง จึงอยากลองเสี่ยงดวงดูสักตั้ง ดังนั้นในตอนนี้ ที่นี่จึงเกิดความวุนวาย สวน
ใหญลวนเปนคนที่เปนคนคิดไมซื่อ
ทว าทั้ งหมดนี้ สำหรับ หานลี่ ที่ อ ยู ในภู เขายั ก ษ ใต ผ นึ ก นี้ มี ค วามเกี่ ย วข อ งกั น
เล็กนอย
เวลานี้เขาและไปเหยาอี๋กำลังจองเขม็งไปยังชายชราแซฟูที่นั่งสมาธิอยูตรงกลาง
ถ้ำ เปลือกตาไมกะพริบเลยแมแตนอย
หากพูดวาจองเขม็งไปยังชายชรา ความจริงแลวสูบอกวาจองเขม็งไปยังเตาหลอม
ยาสีทองเบื้องหนาของชายชราจะถูกกวา เตาใบนี้ลอยสูงจากพื้นสามฉื่อ มันกำลัง
หมุนรอบตัวเองอยางชาๆ กลางอากาศต่ำๆ
ชายชราแซฟูกำลังพนเพลิงทารกสีเขียวมรกตออกมา สองมือก็รายอาคมนิรนาม
โจมตีใสเตาหลอมยาใบนั้นไมหยุด ทุกอาคมที่โจมตีเขาไปที่เตาหลอมยาซึ่งถูกหอหุมไว
ดวยเปลวเพลิงสีเขียว ตางก็เกิดเปนลำแสงหาสี เผยใหเห็นสีสันงามตา
และกลิ่นหอมของยาที่สงออกมาจากเตานั้น ชางหอมหวานเยายวน ทำใหผูคน
รูสึกเบิกบานและสุขใจ
ชายชรารายอาคมเร็วขึ้นเรื่อยๆ สีหนาก็ยิ่งเครงขรึมขึ้นเรื่อยๆ เห็นไดชัดวาถึง
ชวงเวลาสำคัญในการปรุงยาแลว
หานลี่ที่อยูดานขาง ดูเหมือนวาจะมีสีหนาราบเรียบ แตในใจกลับรูสึกตึงเครียด
เล็กๆ เชนกัน
เลือดมาทมิฬตัวนั้นและวัตถุดิบที่หายากอื่นๆ ตางถูกโยนเขาไปในเตาหลอมยา
อยางตอเนื่องในระยะเวลาสองสามวันที่ ผานมา ถาหากยาลูกกลอนเตานี้ลมเหลว
พวกเขาก็ไมมีเลือดมาทมิฬตัวที่สองใหใชปรุงยาแลว
ดังนั้นถึงแมวาเขาจะรูวาชายชราแซฟูมั่นใจในการปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารก
เปนอยางมาก แตตอนนี้ที่เห็นวายาลูกกลอนกำลังจะสำเร็จ ในใจก็อดที่จะขบคิดถึง
ประโยชนและความสูญเสียที่ตนเองจะไดรับไมได
ไปเหยาอี๋ที่อยูดานขาง ถึงแมวาจะมีสีหนาไมไดตกตะลึงเชนกัน แตดวงตาคูนั้น
กลับฉายแววรุมรอนขึ้นในบางครั้ง เผยใหเห็นเจตนาการครุนคิดถึงประโยชนและ
ความสูญเสียของสตรีผูนี้ออกมาอยางไมตองสงสัย
จูๆ เตาหลอมยาพลันหยุดชะงัก และหยุดหมุนวน ในเวลาเดียวกันก็เปลงเสียง
รองออกมา ตอนนั้นกลิ่นหอมของยาพลันตลบอบอวลมากขึ้นอีกสามสวน
ชายชราแซฟูดวงตาเปลงประกาย อาคมในมือและเพลิงทารกในปากหยุดชะงัก
พรอมกัน พลิกฝามือหนึ่งขึ้นอีกครั้ง ในมือมีขวดน้ำเตาเล็กๆ สีแดงสดปรากฏขึ้น มันมี
ขนาดเพียงสี่หาชุนเทานั้น
อีกมือหนึ่งพลันดีดนิ้ว เสียง ‘เปาะ’ ดังขึ้น ลำแสงสีขาวสายหนึ่งถูกดีดออกไป
โจมตีไปยังฝาเตา
ผลลัพธคือฝาเตาพลันสั่นคลอน และไถลตกลงมา
เสียงรองในเตาหลอมยาหยุดชะงัก ทันใดนั้นพลันมีดวงแสงขนาดเทากำปนหา
ดวงพุงออกมาจากในนั้น และทามกลางดวงแสงสีขาวเหลานั้นก็มียาลูกกลอนสีเขียว
ขนาดเทาหัวแมมือดวงละหนึ่งเม็ด สีเขียวมรกต เปลงประกาย
หลังดวงแสงเหลานี้หมุนวนอยูภายในเตาหลอมยารอบหนึ่ง ตางก็พรอมใจกันพุง
กระจายตัวออกไปรอบดาน ตองการจะหนีไป
แตชายชราแซฟูที่เตรียมการเอาไวกอนแลวก็สะบัดขวดน้ำเตาที่อยูในมือดวย
ความรวดเร็ว ลำแสงสายหนึ่งพุงออกมาจากในนั้น หลังจากเปลงแสงสวางวาบ ก็มวน
เอาดวงแสงทั้งหมดเขาไปขางใน เก็บเอาไวภายในน้ำเตา
“เอาละ สำเร็จแลว!” ชายชราถึงไดถอนหายใจออกมายาวๆ เฮือกหนึ่ง หันหนา
ไป ใบหนาเต็มไปดวยรอยยิ้มขณะเอยกับหานลี่
“ลำบากพี่ฟูแลว คิดไมถึงวาจะหลอมยาลูกกลอนออกมาไดหาเม็ดจริงๆ แตเดิม
ขายังกลัววาจะหลอมไดนอยมาก!” ไปเหยาอี๋หยัดกายลุกขึ้น เอยดวยความปติยินดี สี
หนาแดงระเรื่อ เผยเสนหอันนาเยายวนออกมา
“วัตถุดิบที่ผูแซฟูเตรียมเอาไวในตอนแรก สามารถหลอมไดประมาณหาหกเม็ด มิ
เชนนั้น ตอนแรกตาเฒาคงไมกลาเชิญสหายมาหาคนหรอก สิ่งที่นาเสียดายก็คือ ศิษย
นองหญิงฉางและสหายหยวนกลับโชครายเพลี่ยงพล้ำไปดวยเหตุนี้” ชายชราหุบยิ้ม
บนใบหนา
เห็ น ได ชั ด ว า ความสั ม พั น ธ ข องชายชรากั บ สตรี ชุ ด ดำผู ง ดงามนั้ น ไม ธ รรมดา
ถึงแมวาผูบำเพ็ญเพียรสวนใหญจะพบเจอความเปนตายมานับครั้งไมถวน แตเมื่อปรุง
ยาสำเร็จ ศิษยนองหญิงฉางผูนั้นกลับตองจบชีวิตลงดวยเหตุนี้ ก็อดที่จะรูสึกจิตใจ
หมนหมองไมได
เมื่อไดยินชายชรากลาวเชนนี้ สีหนาดีอกดีใจของไปเหยาอี๋ก็หายวับไป พลางถอน
หายใจออกมาเบาๆ เฮือกหนึ่งเชนกัน
หานลี่กลับมีสีหนาไมเปลี่ยนแปลง แตก็เงียบกริบไมไดเอยอะไรออกมา
“สหายไป เจานาจะมีกลองธาตุไมอยู ทางที่ดีที่สุดอยาใชกลองหยกธรรมดาบรรจุ
มันเลย ประสิทธิภาพของยาจะสูญเสียไปอยางงายดาย และยาลูกกลอนชนิดนี้ก็มีฤทธิ์
มากไปหนอย ถาหากกินเขาไปในทันที อยางนอยที่สุดก็ตองกักตนบำเพ็ญเพียรไปครึ่ง
ป ถึงจะหลอมฤทธิ์ยาหมด มิเชนนั้นผลลัพธจะลดลงไปจำนวนมาก” ชายชรามีสีหนา
เจ็บปวดฉายแวบผานไปอยางรวดเร็ว ไตรตรองขวดน้ำเตาที่อยูในมือพลางเอยกับไป
เหยาอี๋ดวยสีหนาราบเรียบ
“กลองไมนั้นมี ยาลูกกลอนนี้ล้ำคาขนาดนี้ ขาไมกินในทันทีแน” ไปเหยาอี๋ฉีกยิ้ม
เบิกบาน พลิกฝามือ กลองไมสีเหลืองใบหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ
ชายชราพลันพยักหนา ดีดไปที่กนน้ำเตาโดยไมพูดอะไร ชั่วขณะนั้นลำแสงสีแดง
พลันหมุนเปนเกลียวออกมา ดวงแสงสีขาวดวงหนึ่งก็พุงตรงไปหาไปเหยาอี๋
ไปเหยาอี๋ถือกลองไมเอาไว อีกมือหนึ่งก็ควาไปทางยาลูกกลอนกลางอากาศ
ยาลูกกลอนกลายเปนลำแสงสีขาวสายหนึ่งถูกดูดเขาไปในกลองไม
ไปเหยาอีพ๋ ิจารณายาลูกกลอนในกลองอยางละเอียดสองสามครั้ง เมื่อสัมผัสไดถึง
พลังวิญญาณที่แฝงอยูในยาลูกกลอนอยางชัดเจน ถึงไดเก็บกลองไมลงไปดวยความดี
ใจอยางลนเหลือ จากนั้น ปากก็เอยบอกชายชราวาไมตองขอบคุณ
ชายชราไดยินแลวพลันหัวเราะออกมา ยื่นมือออกไปควานหาของในยามเก็บของ
ที่ขางเอว คาดไมถึงวาจะมีกลองไมสีเขียวปรากฏขึ้น
จากนั้นทามกลางสายตาแปลกใจของไปเหยาอี๋ คาดไมถึงวาเขาจะเทยาลูกกลอน
เม็ ด หนึ่ งออกมาจากน้ ำเต าเช น กั น วางลงไปในกล อ งไม จากนั้ น ก็ เก็ บ ลงไปทั น ที
จากนั้นก็หัวเราะแหงๆ ใหหานลี่ คาดไมถึงวาเขาจะชูมือขึ้น โยนน้ำเตาสีแดงสดขวด
นั้นใหหานลี่
ถึงแมวาหานลี่จะรับน้ำเตาขวดนั้ น มาตามจิตสำนึ ก แตใบหน าก็เผยสีห น าตก
ตะลึงออกมาเล็กนอย
“สหายมีเจตนาใดหรือ? ดูเหมือนวาขานอยจะขอยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกกับ
สหายแคสองเม็ดเทานั้น!” หานลี่ขมวดคิ้ว ขณะเอยอยางเชื่องชา
“ผูแซฟูมิใชคนละโมบ ครั้งนี้โชคดีรอดตายมาไดและยังไดยาลูกกลอนอีก ลวน
อาศัยกำลังของสหายทั้งนั้น ศิษยนองของขานอยก็เพลี้ยงพล้ำไปแลว ผูแซฟูตองการ
ยาลูกกลอนเพียงเม็ดเดียวเทานั้น หากพี่หานไมรังเกียจละก็ เอายาลูกกลอนสามเม็ดนี้
ไปเถิด” คาดไมถึงวาชายชราจะเอยดวยความราบเรียบ
เมื่อไดฟงคำพูดของชายชรา หานลี่ก็มองน้ำเตาในมือ และพิจารณาชายชราอีก
สองครั้ง และอดที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ไมได
ชายชรากำลังคิดอะไรอยู ขาก็พอจะเดาได ดูแลวอาวุโสของพรรคเกายมโลกผูนี้
คงรูสึกวาที่ปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกสำเร็จได ตัวเองนั้นมีประโยชนนอยมาก
ยังคงกลัววาหานลี่จะเปลี่ยนเปนศัตรู ดังนั้นถึงไดใชวิธีการยอมขาดทุนเพื่อหลีกเลี่ยง
หายนะ กัดฟนยอมมอบยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกอีกเม็ดหนึ่งใหเขา
ประการหนึ่งก็เปนการแสดงความบริสุทธิ์ใจที่มีตอหานลี่ อีกประการหนึ่ง ก็คือ
ลดความอยากสังหารของหานลี่ที่มีตอตนใหเหลือนอยที่สุด ขอแคหานลี่ไมใชพวกที่ไร
ความปรานี รับยาเม็ดนี้ไป กวาครึ่งคงไมมีจิตคิดสังหารเขาอยางไมซื่ออีก
มีเรื่องดีๆ เชนนี้เขาหาตลอดทั้งป แนนอนวาหานลี่ไมมีทางปฏิเสธ
“ในเมื่อพี่ฟูกลาวเชนนี้ ผูแซหานก็จะไมปฏิเสธ”
หานลี่เองก็ไมเกรงใจ ลำแสงในมือสวางวาบ น้ำเตาสีแดงสดที่อยูในมือหายวับไป
อยางไรรองรอย
หากไมรับยาลูกกลอนนี้จริงๆ เกรงวาคงทำใหชายชราและพวกทั้งสองรูสึกระแวง
และคิดเพอเจอไปเรื่อย
“ฮาๆ พี่ ห าน เหตุใดตองสุภาพขนาดนั้ น พวกนี้ ลวนเป น สิ่งที่ สหายสมควรจะ
ไดรับ” ชายชราแซฟูหัวเราะหึๆ สีหนาผอนคลายลงดังคาด
แนนอนวาไปเหยาอี๋ก็เขาใจถึงเจตนา และอมยิ้มไมพูดอะไรอยูดานขาง
ความสัมพันธระหวางทั้งสามคน จึงผอนคลายลง
“ในเมื่อปรุงยาเสร็จแลว พวกเราก็รีบไปหาทางออกกันเถิด จะไดตรวจสอบภูเขา
ลูกนี้ไปดวย ไมแนวาอาจจะมีประโยชนอื่นก็เปนได” ชายชราเหลือบมองไปทางปาก
ทางเขาถ้ำ แลวเอยแนะนำ
แตเมื่อเอยประโยคนี้ออกไป จูๆ ทั้งภูเขาก็สั่นสะเทือน จากนั้นเสียงอึกทึกก็ดังขึ้น
มาจากกำแพงหินทั้งสี่ดาน ทั้งยังตอเนื่องไมหยุด
ภายใตความตกตะลึงของทั้งสามคน ก็อดที่จะมองสบตากันไมได!
“ภูเขาลูกนี้มีคนอื่นอยูหรือ?” ไปเหยาอี๋เมมริมฝปาก ปากก็อุทานออกมาดวย
ความตกตะลึงระคนสงสัย
“ไม แ น ห รอก อาจจะเป น ยั ก ษ ป ก เงิน ที่ ห นี ไปก็ ได !” ชายชรากลั บ ส ายศี ร ษะ
ใบหนาเผยสีหนาโกรธแคนออกมา เห็นไดชัดวานึกถึงเรื่องที่สตรีชุดดำผูงดงามตองมา
ตายดวยเงื้อมมือของอสูรตนนี้
“ไมวาจะใชหรือไม! หลังจากที่พวกเราออกไปจะตองระวังตัวหนอย พวกเราสาม
คนรวมมือกัน นาจะไมตองหวาดกลัวอะไร” หลังจากที่หานลี่เงียบกริบไปชั่วครู กลับ
เอยออกมาอยางราบเรียบ
จากนั้นเขาพลันสะบัดแขนเสื้อ ลำแสงสีเขียวผืนหนึ่งพุงออกมาจากแขนเสื้อ
ทุกแหงที่ลำแสงนั้นกวาดผานไป เขตอาคมตางๆ ที่ถูกวางไวในถ้ำตางถูกกำจัด
ออก ธงอาคมและจานอาคมเหลานี้พุงออกมาจากกำแพงใตดิน ชั่วพริบตาก็หายเขา
ไปในแขนเสื้อของหานลีอ่ ยางไรรองรอย
“ไปกันเถิด! ออกไปจากที่นี่กอนแลวคอยวากัน!”
หานลี่ พ ลั น เก็ บ ลำแสงเหล านั้ น รอบกายก็ เปล งลำแสงวิญ ญาณออกมาทั น ที
กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งอยางไมลังเลแมแตนอย และพุงออกนอกถ้ำไป
หลั ง จากที่ ช ายชราและไป เหยาอี๋ ม องสบตากั น แวบหนึ่ ง แล ว ก็ ไ ม ก ล า รั้ ง รอ
ขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีตามไปติดๆ
ตอนที่ 997 ศิลาจารึก
เมื่อพวกชายชราทั้งสองบินออกมาจากทางเดินที่ทอดยาวอยางหาที่เปรียบแลว
หานลี่ก็ลอยตัวสูงขึ้นไปอยูกลางอากาศดานนอกทางเดิน มองไปยังยอดสุดของหุบเขา
พลางเงีย่ หูฟงอะไรสักอยาง
เวลานี้พวกชายชราทั้งสองถึงไดพบวา หลังจากออกมาขางนอก เสียงอึกทึกที่ได
ยินกลับเบาลง ถาหากไมใชวาทั้งสามคือผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด ความสามารถ
ในการไดยินสูงสงกวาคนอื่น เกรงวาเสียงนี้ที่เขามาในโสตประสาทคงเปนเหมือนลม
ออนๆ ที่โชยมาเขาหูเทานั้น
"ดูเหมือนวาจะดังมาจากทางนั้น และยิ่งไปกวานั้นยังอยูไกลมาก ถาหากไมใช
เพราะที่นี่ถูกเขตอาคมผนึกเอาไวจนกลายเปนมิติตัดขาด พลังแรงสะทอนจึงมีมาก
เกินไป พวกเราคงไมมีทางไดยิน” หลังจากที่ชายชราแซฟูไดฟงอยูชั่วครู ก็ขมวดคิ้ว
พลางเอยขึ้น
“ในเมื่อพวกเราไมคุนเคยกับทุกอยางของที่นี่ เชนนั้นลองไปดูกอนเถิด ถึงอยางไร
เสียก็ยังดีกวามุงไปอยางไรจุดหมาย แนนอนวาทางที่ดีที่สุดพวกเราสำแดงเคล็ดวิชา
อำพรางระหวางเดินทางดีกวา พยายามอยาใหผูอื่นพบเห็นพวกเราเขา” หานลี่เอียง
ศีรษะมองทั้งสองคนแวบหนึ่ง พลางเอยแนะนำ
แนนอนวาพวกชายชราแซฟูไมมีขอคิดเห็น ทันใดนั้นทั้งสองพลันตกปากรับคำ
สองมือของชายชราเริ่มรายอาคม จูๆ บนรางก็เปลงแสงสีเขียวผืนใหญออกมา
จากนั้นลำแสงพลันหมนหมองลง รางของชายชราเลือนรางทันที ในที่สุดก็กลายเปน
เงาสีเขียวจางๆ สายหนึ่ง ถาหากไมพินิจมอง ก็ไมมีทางพบการดำรงอยูของเขาจริงๆ
แนนอนวานี่เปนเพราะภูเขาลูกนี้กดจิตสัมผัสเอาไว ถาหากอยูนอกภูเขาลูกนี้ เคล็ด
วิชาการอำพรางนี้คงลดประสิทธิภาพลงไปมากสำหรับผูบำเพ็ญเพียรในระดับเดียวกัน
ไปเหยาอี๋กลับชูมือเรียวขึ้น หวางนิ้วมีลำแสงเย็นเยียบสวางวาบ แผนปายโปรงใส
ราวกับ สรางมาจากผลึกน้ ำแข็งปรากฏขึ้น ชู แผ น ป ายขึ้ น ดวยมื อ ขางหนึ่ง ในเวลา
เดียวกันสตรีผูนี้ก็รายคาถาที่ไพเราะเสนาะหูออกมา ชั่วพริบตาลำแสงสีเงินผืนใหญก็
ถูกพนออกมาจากแผนปาย หอหุมเงารางอรชนออนแอนของสตรีผูนั้นเอาไวในพริบตา
จากนั้นลำแสงพลันสวางวาบ รางของไปเหยาอี๋หายวับไปกลางอากาศ
เมื่อเห็นทั้งสองสำแดงความสามารถออกมาตามลำดับ เพื่อปกปดรองรอยของ
ตนเอง หานลี่ก็หัวเราะเบาๆ ไมไดเคลื่อนไหวใดๆ ลำแสงวิญญาณบนรางสวางวาบ
เล็กนอย จูๆ กลิ่นอายพลังชีวิตพลันหายไปจนเกลี้ยง
ไมวาชายชราแซฟูหรือไปเหยาอี๋ที่ยืนอยูเบื้องหนาของหานลี่ อาศัยเพียงจิตสัมผัส
ก็แทบจะคิดวางเบื้องหนานั้นไรผูคน
เวลานี้ พวกชายชราทั้งสองตางพากันตกตะลึง
ในตอนนั้นหานลี่ถึงไดควักยันตวิเศษอำพรางกายแผนหนึ่งออกมาอยางไมรีบรอน
จากนั้นพลันแปะไปบนราง ชั่วขณะนั้นรางกายพลันหายวับไป
“ออกเดินทาง!” หานลี่ตะโกนดวยเสียงทุมต่ำออกมา ทันใดนั้นทั้งสามคนก็หมุน
ตัวลอยขึ้นไปกลางอากาศ
ทามกลางสถานที่ลึกลับที่ไมคุนเคยแหงนี้ ทั้งสามคนจึงไมกลาบินไวนัก ความเร็ว
แทบจะไวกวาเคล็ดวิชาตัวเบาเพียงเล็กนอย ตรงไปยังสถานที่ที่มีเสียงดังสงมา
ระหวางทางที่ทั้งสามคนบินไป สถานที่ทุกแหงที่บินผานลวนเต็มไปดวยตนไมใบ
หญาที่เขียวขจี และไอวิญญาณที่เต็มเปยม
แทบจะทุกแหง ลวนเปนสถานที่ฝกบำเพ็ญ เพียรที่ยอดเยี่ยมในแดนมนุษย ถา
หากอยูภายนอก ไมรูวาจะมีสำนักบำเพ็ญเพียรกี่แหงที่แยงชิงกัน
แตที่นี่ กลับมีอยูดาษดื่น!
หลังจากผานไปครึ่งชั่วยาม หานลี่และพวกทั้งสามก็ไมไดพบสิ่งผิดปกติ และไมได
เผยสีหนาดีอกดีใจอะไรออกมา
ระหวางทางมีกลิ่นอายแหงความตายหนาแนนไปหมด ไมมีสิ่งมีชีวิตเลยแมแต
นอย ทำใหพวกเขารูสึกไมปลอดภัย และรูสึกกดดันเปนอยางมาก
“พี่หาน พวกทานรูสึกไหม? ที่นี่มีไอวิญญาณยอดเยี่ยมขนาดนี้ แตพวกเราบินมา
นานขนาดนี้ ระหวางทางกลับไมพ บตนไมหรือหญ าวิญ ญาณสักตน ลวนเปนเพี ยง
ตนไมใบหญาธรรมดาๆ มันผิดปกติไปหนอย” ไปเหยาอี๋เอยปากดวยความลังเล
“ขาก็สังเกตอยู ถึงแมวาไอวิญญาณที่นี่จะไมเลวนัก แตยิ่งขึ้นไปมากเทาไหร ไอ
วิญญาณก็ยิ่งเต็มเปยมมากขึ้นเทานั้น จุดนี้เหมือนกับภูเขาวิญญาณที่อยูภายนอก ดู
แลวแตเดิมผูบำเพ็ญเพียรคงจะคิดวาขางบนภูเขาลูกนี้นั้นเหมาะสมกับการปลูกหญา
วิญญาณมากกวา จึงจงใจทำเชนนี้” หานลี่กลับไมไดมีสีหนาตกตะลึง แคเอยอยาง
ราบเรียบเทานั้น
“ไอวิญญาณเต็มเปยมกวาที่นี่!” ไปเหยาอี๋ตกตะลึงเล็กนอย
ถึงอยางไรเสียไอวิญญาณที่นี่ ก็ทำใหนางรูสึกวาเปนสถานที่ที่ฝกบำเพ็ญเพียรได
อยางยอดเยี่ยมที่สุดแลว
“พี่หาน ถาหากยอดเขาแหงนี้มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการฝกบำเพ็ญเพียรที่ดีกวา
จริงๆ พวกเราก็อาจจะไมตองรีบออกไป ลองฝกบำเพ็ ญ เพี ยรอยูที่ นี่สักหน อยเป น
อยางไร”
ชายชราแซฟูฟงหานลี่กลาวเชนนี้ ก็รูสึกสนใจ
“พี่ ฟู คงไมไดคิด วาที่ นี่ เป น ภู เขาวิญ ญาณธรรมดาๆ จริงๆ สิน ะ สถานที่ ที่ มี ไอ
วิญญาณหนาแนนขนาดนี้ ถาหากเปนสถานที่ที่ฝกบำเพ็ญเพียรไดอยางปลอดภัย จะ
ถูกผูบำเพ็ญเพียรละทิ้งทำไม ถาหากออกไปไดละก็ ผูแซหานจะไมรั้งรออยูเปนแน”
หานลี่หัวเราะอยางเย็นชาขณะเอย
เมื่อไดยินหานลี่กลาวเชนนี้ ชายชราแซฟูพลันหนาเปลี่ยนสีไปหลายครั้ง ในที่สุดก็
หัวเราะอยางขมขื่นออกมา
“พี่หานพูดมีเหตุผล ที่นี่ไมใชสถานที่ที่จะใชฝกบำเพ็ญเพียรไดอยางสงบสุขจริงๆ
เปนเพราะผูแซฟูละโมบในไอวิญญาณของที่นี่ จึงเลอะเลือนไป”
“มันก็โทษที่พี่ฟูคิดเชนนี้ไมไดหรอก ไมใชแคสหายที่มีความคิดนี้ เมื่อครูขาก็มี
ความคิดนี้เชนกัน ถึงอยางไรเสียหากใชสถานที่เชนนี้ในการฝกบำเพ็ญเพียร ก็สามารถ
ลดเวลาการนั่งสมาธิของพวกเราไปไมนอยแลว” ไปเหยาอี๋เอยอยางรูสึกเสียดาย
หานลี่ยิ้มนอยๆ ออกมา ตอนที่กำลังคิดจะกลาวอะไรนั้น แววตาที่กวาดลงไป
ดานลางอยางไมไดตั้งใจกลับทำใหหนาเปลี่ยนสีไปโดยพลัน ชั่วพริบตาก็หยุดลำแสง
หลีกหนีลง
รูมานตาของเขาเปลงแสงสีฟาสวางวาบพลางจองเขม็งไปยังดานขาง
ชายชราและไปเหยาอี๋รูสึกประหลาดใจเล็กนอย พลางมองสายตาของหานลี่ไป
เห็ น เพี ยงในจุดที่ อยูคอนขางไกลออกไปมี ห มอกสี ขาวหมุ น วนเป น เกลี ยว มั น
คอนขางเลือนราง แตในสถานการณที่มีหมอกปกคลุมเชนนี้ ระหวางทางทั้งสามคน
กลับเคยเห็นมาแลวสองสามครั้ง และไมไดรูสึกผิดปกติใดๆ แตทุกครั้งกลับไมอาจเขา
ไปตรวจสอบในมานหมอกนั้นได
“ไปดูสักหนอยเถิดวาที่นั่นมีอะไร บางทีอาจจะมีประโยชนตอพวกเรา” หานลี่
แววตาเปลงประกาย พลางเอยเชนนี้ออกมา จากนั้นลำแสงหลีกหนีพลันเปลี่ยนไป พุง
เขาไปในหมอกสีขาว
ชายชราและไปเหยาอี๋รูสึกประหลาดใจ แตก็รูวาหานลี่ไมใชคนที่ไมมีเหตุผล จึง
ตามไปอยางไมลังเล
ผลลัพธคือรอจนพวกเขาเดินเขาไปในหมอกสีขาว กลับตื่นตะลึง
เห็นเพียงในหมอก มีบันไดหินสีขาวกวางใหญที่ทอดตัวขึ้นไปบนภูเขา ทอดตัว
ยาวไกลจนสุดลูกหูลูกตา และดานขางของบันไดมานหมอกนี้ กลับมีศิลาจารึกสีขาว
นวลแผนหนึ่งตั้งตระหงานอยู มันมีความสูงประมาณสิบกวาจั้ง กวางประมาณสามจั้ง
เห็นหานลี่ยืนเอามือไพลหลังอยูหนาแผนปาย กำลังอานอะไรสักอยางบนนั้นดวย
ความตกตะลึงอยูกอนแลว
“ทำไม พี่หานพบอะไรหรือ?” หลังจากที่ชายชรารอนลงมาบนพื้น ก็เอยถามดวย
ความประหลาดใจ
“เวลานี้ ในที่สุดก็รูแลววาภูเขาลูกนี้คือที่ใด สหายทั้งสองมาดูเถิด! ศิลาจารึกแผน
นี้สลักความเปนมาของภูเขาลูกนี้เอาไวพอดี”
หานลี่หันหนาไปเอยดวยน้ำเสียงเครงขรึม
“ออ ขาดูหนอย!”
ชายชราไดฟงแลวก็รูสึกมีชีวิตชีวา ทันใดนั้นพลันสาวเทากาวออกไป ไปเหยาอี๋
เองก็ขยับตามมา
ผลลัพธคือหลังจากที่ทั้งสองกวาดสายตาไปบนศิลาจารึกแลว ก็เขาใจอยางแจมแจง
เพราะวาบนแผนศิลามีตัวอักษรโบราณอยูสองตัว อักษรสีทองที่ถูกเขียนดวย
ลายมือหวัดๆ แตงดงาม
“คุน อู! หรือ วานี่ คื อ ภู เขาคุ น อู ในตำนาน!” ชายชราแซ ฟู เห็ น ตั วอั ก ษรโบราณ
ทันใดนั้นก็เอยปากรองอุทานออกมา
สตรีนามวาไปเหยาอี๋ ใชมือหนึ่งปดปาดเอาไว ดวงตาสดใสเผยสีหนาตกตะลึง
ออกมาเชนกัน
“ใชแลว นาจะเปนภูเขาคุนอู ในสมัยโบราณ ภูเขาลูกนี้มีชื่อเสียงเปนอยางมาก
เปน สถานที่ ศักดิ์สิท ธิ์ในการฝกบำเพ็ ญ เพี ยรของผูบ ำเพ็ ญ เพี ย รโบราณ และดูจาก
ระดับความหนาแนนของไอวิญญาณและขนาดของพื้นที่แลว ก็นาจะเปนภูเขาคุนอูไม
ผิด แน แต ในตำนาน ภู เขาลู ก นี้ ไม ได ถู ก ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รโบราณนำไปแดนวิ ญ ญาณ
หรือไมก็เพราะการตอสูของผูบำเพ็ญเพียรจนทำใหมันจมลมไปใตแมน้ำเหลืองแลว
หรือ! สถานที่เชนนี้จะมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ไดอยางไร?” ไปเหยาอี๋จองเขม็งไปยังศิลา
จารึกพลางเอยพึมพำ ทาทางไมอยากจะเชื่อ
“สหายไป เรื่องเหลานั้นเปนเพียงตำนาน ดูแลวสถานการณที่แทจริงนาจะไมรูวา
เปนเพราะเหตุใดภูเขาลูกนี้จึงถูกผนึกเอาไว และพวกเราสามคนก็ไปสัมผัสกับเขต
อาคมโบราณเขาพอดี จึงถูกสงมาที่นี่อยางแปลกประหลาด! จากชื่อเสียงของภูเขาลูก
นี้ ถ้ำพำนักของผูบำเพ็ญเพียรโบราณที่อยูที่นี่คงมีมากมายจนนับไมถวนแน ขอแค
พวกเราตามหา จะตองไดประโยชนอะไรบางแน” ชายชราแซฟูฟนฟูกลับมาอยาง
รวดเร็ว แตน้ำเสียงยังคงเต็มไปดวยความตกตะลึงระคนดีใจ
“อาจจะกระมั ง แต ดู จ ากสถานการณ ที่ ป ด ผนึ ก ภู เขาลู ก นี้ นั้ น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
โบราณเหลานั้นคงจะเตรียมตัวละทิ้งภูเขาลูกนี้ไป ขาไมคิดวาในถ้ำพำนักของผูบำเพ็ญ
เพียรโบราณเหลานั้น จะมีของอะไรมากนัก ดูจากศิลาจากรึกแผนนี้ ถึงแมวาจะถูก
สรางขึ้นอยางหยาบๆ แตก็ตั้งตระหงานอยูที่นี่ตั้งไมรูกี่ปตอกี่ปแลว ดูซับไอวิญญาณ
ฟาดินไปมากมายขนาดนี้ นาจะกลายเปนสมบัติวิเศษชิ้นหนึ่งไปแลว”
หานลี่สั่นศีรษะ จากนั้นก็กาวไปขางหนา ยื่นมือออกไปตบที่ศิลาจารึกเบาๆ สอง
สามครั้ง แววตาเปลงประกายขณะเอย
“อะไรนะ ศิลาจารึกแผนนี้คือสมบัติ?” ชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋พลันตกตะลึง
ทันใดนั้นก็พิจารณาศิลาจารึกแผนนี้ใหมอีกครั้ง ทันใดนั้นก็รูสึกหมดคำพูด
ไมวาจะมองอยางไรศิลาจารึกแผนนี้ก็เปนเพียงศิลาจารึกสีเขียวธรรมดาๆ ถึงแม
จะบอกวามีไอวิญญาณ แตก็ไมมีทางเทียบกับวัตถุดิบในการหลอมยุทธภัณฑระดับต่ำ
ที่สุดไดเลยแมแตนอย!
พวกเขาสองคนอดที่จะใชสายตาแปลกๆ จองไปยังหานลี่แวบหนึ่งไมได
“หึๆ ดูแลวสหายทั้งสองคงไมเชื่อ ทวา ขานอยวินิจฉัยแนชัดแลว” หานลี่หยักมุม
ปากขึ้น สีหนาดูราบเรียบ แตความจริงแลวกลับรูสึกกลัดกลุมอยูในใจ
เพราะไมตองพูดถึงวาสองคนที่อยูดานขางนั้นมองอะไรไมออก แมแตเขาเองก็
มองอะไรไมออกเชนกัน สาเหตุที่กลาวเชนนั้นกลับเปนเพราะแตเดิมมังกรเกราะธรณี
ที่อ ยูในยามเก็บ อสูรวิญ ญาณนิ่ งๆ เมื่ อเข าใกลศิลาจารึกจูๆ ก็รูสึกฉุน เฉีย วและไม
ปลอดภัยขึ้นมา
มันสงเสียงรองออกมาไมหยุด เตือนวาของสิ่งนี้ไมธรรมดา
หานลี่ใชแมกระทั่งเนตรวิญญาณวารีกระจางตรวจสอบแผนศิลาจารึกนี้รอบหนึ่ง
ก็ยังคงไมพบความผิดปกติ ในใจจึงรูสึกเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่ง แตจากนิสัยที่ยอมสังหาร
แตไมยอมปลอยไปของเขานั้น หลังจากที่หานลี่ลังเลเล็กนอย กลับทำใจดีสูเสือกลาว
คำพูดที่ลึกล้ำยากจะคาดเดาออกมา
ทันทีที่เขามีขอแกตัวแลว ฝามือก็กดลงไปบนแผนศิลา ชั่วพริบตาพลันปลอยแสง
สีเขียวออกมา
ศิลาจารึกสั่นคลอน พลันเริ่มหดเล็กลงทามกลางลำแสง
เมื่อเห็นมันหดเล็กลงกวาเดิมครึ่งหนึ่ง หานลี่ก็ขมวดคิ้ว มือหนึ่งก็มวนลำแสงนั้น
ไว คิดจะถือศิลาจารึกแผนนั้นขึ้นมาเก็บไวในยามเก็บของ
แตเมื่อศิลาจารึกถูกถือขึ้นมาเหนือพื้นสองสามฉื่อ ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น
ดูเหมือนวาศิลาจารึกสีเขียวธรรมดาๆ จะสงเสียงหึ่งๆ ขึ้น จากนั้นพลันเปลงแสง
สีขาวนับหมื่นสายออกมา
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น จูๆ หานลี่พลันรูสึกวามันหนักอึ้ง คาดไมถึงวาลำแสง
จะไมมีทางผนึกควบคุมศิลาจารึกแผนนี้ได หลังจากเสียง ‘ตึง’ ดังขึ้น มันพลันตกลงที่
เดิม คลายกับเปนของที่หนักราวๆ หมื่นชั่งตกลงบนพื้นอยางไรอยางนั้น ทำใหพื้นดิน
รอบขางสั่นไหว
พวกหานลี่ทั้งสามที่ถูกแรงสั่นสะเทือนจนทำใหหูอื้อ พลันพบวาบนพื้นดินใตศิลา
จารึกใระยะยี่สิบสามสิบจั้งกลับมีรอยแยกขนาดหนึ่งชุนปรากฏขึ้นเต็มไปหมด
“นี่คือ?” หานลี่รูสึกจิตใจหนักอึ้ง ชั่วขณะนั้นดวงตาพลันหรี่ลงเล็กนอย
ตอนที่ 998 ผลึกศิลาจารึก
“เอ! ผิวของผลึกศิลา?” ยังไมทันรอใหหานลี่มองออกวาเกิดอะไรขึ้น ชายชราแซฟูที่
อยูดานขางกลับชี้ไปที่ดานหลังของแผนศิลาจารึกดวยสีหนาตกตะลึง
หานลี่พลันขมวดคิ้ว หากเขาจำไมผิดละก็ ดานหลังของศิลาจารึกนั้นวางเปลา ไม
มีอะไรเลย
ทวา ชายชราไมมีทางทำอะไรแบบนี้อยางไมมีเหตุผลแน ทันใดนั้นรางกายพลัน
แวบหายไป คนมาปรากฏที่ดานหลังของแผนศิลาจารึก และหันหลังใหกับหานลี่
หลังจากที่กวาดสายตาไปแลว หานลี่เองก็ตกตะลึง
เห็นเพียงดานหลังของศิลาจารึกมีรอยแตกเปนเสนๆ แตในรอยแตกที่คอนขางลึก
นั้น มีลำแสงสีฟาสดใสสองออกมา
“ศิลาวิญญาณ?” หานลี่แววตาสวางวาบ รูสึกไมคอยมั่นใจนัก
จูๆ นิ้วทั้งสิบของเขาพลันรายอาคม ไอกระบี่สีเขียวสิบกวาสายพลันพัวพันเขา
ดวยกัน ชั่วพริบตาก็กลายเปนลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งหอหุมศิลาจารึกเอาไวครึ่งหนึ่ง
ตอนนั้นเศษผงของศิลาจารึกพลันปลิววอน รอบๆ ลวนเต็มไปดวยฝุนสีเทาขมุกขมัว
แต จ ากความแหลมคมของไอกระบี่ ห านลี่ ชั่ ว ครู แสงสี ฟ า ก็ ป รากฏออกมา
ทามกลางกระบี่แสง และยิ่งไปกวานั้นยังเจิดจามากขึ้นเรื่อยๆ
ผลลัพธคือเมื่อหานลี่หยุดมือ แสงสีเขียวก็คอยๆ หายวับไป เผยใหเห็นศิลาจารึก
ที่ถูกเขาคอยๆ กลึงออก ตรงกลางของศิลาจารึกมีผลึกสีฟาเขมกอนหนึ่งฝงอยู ราวกับ
วาแตเดิมก็ถูกฝงเอาไวตรงกลางอยูแลว
ผลึกศิลานี้มีขนาดความยาวสองสามฉื่อ สีฟาสดใส เปลงแสงเรืองรองเปนพิเศษ
ถึงแมวาจะไมไดเผยรูปรางทั้งหมดออกมา แตก็ดูเหมือนวาจะมีรูปรางเปนสี่เหลี่ยม
แบนๆ
ผลึกศิลาจารึกสีเขียวทั้งกอนดูเหมือนวาจะเปนเพียงเกราะหนาๆ ของผลึกศิลานี้
เทานั้น
“ไมใชศิลาวิญญาณ ถึงแมวาจะดูเหมือนกับศิลาวิญญาณธาตุน้ำก็ตาม แตสิ่งผสม
อยูดานในกลับไมใชไอวิญญาณธาตุน้ำ” ดวงตาที่งดงามของไปเหยาอี๋กะพริบปริบๆ
สองครั้ง แลวเอยอยางมั่นใจในทันที
“ไมใชศิลาวิญ ญาณจริงๆ ไมมี ผูใดใชศิลาวิญ ญาณหลอมเจาสิ่งนี้ และยังจารึก
ตัวอักษรเอาไวหรอก นี่ดูเหมือนวาจะเปนจารึกแผนหนึ่ง” หานลี่จองเขม็งไปยังสวนที่
เปลือยเปลาของผลึกศิลา มองตัวอักษรโบราณที่เวานูนเปลงแสงระยิบระยับอยูบนผิว
ของมัน แลวพนลมหายใจออกมาเบาๆ เฮือกหนึ่ง
จากนั้นเขาก็รวบรวมลมปราณรอบกายอยางไมลังเลอีก มือหนึ่งควาไปที่ผลึกศิลา
กลางอากาศ ชั่วขณะนั้นอุงมือแสงสีเขียวขางหนึ่งพลันปรากฏขึ้นเบื้องหนาของแผน
ศิลา นิ้วทั้งหายื่นเขาไปเบื้องหนาราวกับตะขอ ควาสวนยอดของผลึกศิลาเอาไว และ
ออกแรงยกขึ้นดานบน
หนักอึ้งอยางหาใดเปรียบดังคาด แตหานลี่ที่เตรียมตัวไวแลววาในครั้งนี้จะอาศัย
พลังความแข็งแกรงของลมปราณฝนดึงผลึกศิลาออกมาจากศิลาจารึกใหได
ผลึกศิลาสีฟาเขมกอนหนึ่ง พลันปรากฏขึ้นเบื้องหนาของหานลี่ ดานบนมีอักขระ
หมุนเวียนไปมา เปลงลำแสงสีฟาจางๆ ออกมา
หานลี่ ม องอั ก ษรบนนั้ น อย า งละเอี ย ด พลางใจเต น ระรั ว แต ใบหน า กลั บ ไม
เปลี่ยนแปลง สองมือพลันรายอาคม ชี้ไปยังผลึกศิลาอยางรวดเร็ว
ชั่วขณะนั้นผลึกศิลาพลันสั่นสะเทือนและหดเล็กลง เพียงพริบตาก็กลายเปนสิ่งที่
มีรูปรางเหมือนกอนอิฐขนาดครึ่งฉื่อ และสงเสียง ‘พรึ่บ’ ออกมา จมหายเขาไปใน
แขนเสื้อของหานลี่อยางไรรองรอย
ถึงแมวาชายชราและไปเหยาอี๋จะรูสึกสนใจผลึกศิลาเชนกัน แตเห็นหานลี่ไมคิด
จะหยิบสิ่งนี้ออกมาใหพวกเขาดู ก็ไมไดเอยเรื่องนี้ขึ้นอีกอยางรูจักวางตัว หลังจากที่ทั้ง
สองปรึกษากับหานลี่เล็กนอยแลว ทันใดนั้นก็ตัดสินใจเดินขึ้นบันไดไป
เวลานี้พวกเขามั่นใจแลววา เสียงที่ดังมานั้น ดังมาจากบนภูเขาอยางแนนอน
ทันใดนั้นทั้งสามคนก็อำพรางกายอีกครั้ง และออกบินไป
แน น อนวาหานลี่ ไม รูว า เสี ย งที่ พ วกเขาได ยิ น นั้ น ความจริงแล ว เป น เสี ย งที่ ผู
บำเพ็ญเพียรทั้งหมดของตระกูลเยี่ยซึ่งอยูบนยอดเขาที่มีบันไดทอดตัวยาวออกไปตั้ง
ไมรูเทาไหร กำลังทุมเทแรงกายแรงใจทลายเขตอาคม
แตระยะหางระหวางทั้งสองนั้น กลับไมไดใกลกันเหมือนที่พวกเขาคิด ตรงกลาง
ยังกั้นไวดวยแนวเขตอาคมสายหนึ่งกวาจะมาถึงจุดที่ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยอยู
ถึงอยางไรเสียตำแหนงถ้ำที่พวกเขาถูกเขตอาคมสงตัวมา ก็อยูต่ำกวาตำแหนง
รอยแยกที่ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยกำหนดไวมาก
เวลานี้ คนประหลาดและอาวุโสระดับกอกำเนิดขั้นปลายของตระกูลเยี่ยทั้งสอง
กำลังเรียงแถวลอยอยูกลางอากาศเหนือหนาผาไมขยับเขยื้อน
และห างออกไปไม ไกลนั ก ด านล างของพวกเขา ผู บ ำเพ็ ญ เพี ยรคนอื่ น ๆ ของ
ตระกูลเยี่ยก็กำลังยืนวางเขตอาคมชั่วคราวตามจุดๆ ตางของตนเองอยู กำลังอาศัย
อานุภาพของเขตอาคมควบคุมยุทธภัณฑตางๆ พยายามโจมตีไปยังปายหินเลือนราง
ขนาดยักษบนบันไดหินเบื้องหนา
มารโบราณเองก็ปะปนอยูในเหลาผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ย ควบคุมกระบี่บินสีดำ
สนิทที่เรียกมาจากไหนไมรู พลางโจมตีไปยังปายหินดวยใบหนาไรความรูสึกเชนกัน
คาดไมถึงวาแผนปายนี้จะปลอยลำแสงนับหมื่นสายออกมาโดยอัตโนมัติ คาดไมถึงวา
จะรับการโจมตีทั้งหมดเอาไวได ราวกับวาเปนสมบัติวิเศษชิ้นหนึ่งอยางไรอยางนั้น
“เจาเด็กนอยสาม! เจาคาดการณ สิวาตองใชเวลาเทาไหร ถึงจะสามารถทลาย
ประตูห มื่น เซียนได” คนประหลาดมองไปยังแผ น ป ายเบื้ องหน าที่ ถูกลำแสงต างๆ
หอหุมเอาไว พลางหันหนาไปถามนักปราชญชุดขาว สีหนากังวลขึ้นหนึ่งสวน
“นาจะใชเวลาอีกหนึ่งวันหนึ่งคืน แผนปายนี้จัดการยากกวาที่ขาคิดไวมากนัก
มินาเลาประตูหมื่นเซียน จึงมีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญในอดีตกาล” นักปราชญกลับเยือกเย็น
เปนพิเศษ ตอบกลับดวยน้ำเสียงเครงขรึม
“พวกเราเสียเวลากับแผนปายนี้นานเกินไปแลว ถาหากเจากับขาไปชวยพวกเขา
ไดอีกแรงละก็ อยางนอยเวลาในการทลายเขตอาคมก็นาจะลดลงไปครึ่งหนึ่ง” คน
ประหลาดที่เปนผูนำเอยอยางกลัดกลุม แตรางกายกลับไมขยับเขยื้อน และไมมีทาที
จะลงมือจริงๆ
“ถึงแมวาบนภูเขาลูกนี้จะมีอสูรจำพวกราชสีหวิหคโบราณปรากฏตัว แตแนนอนวาขา
ก็ไดเตรียมการปองกันเอาไวแลว หวังวาหากทลายเขตอาคมสายไปวันสองวัน ทั้งสอง
คนจะรักษาระดับลมปราณเอาไวได ทานอาเจ็ด อดทนกอนเถิด! พวกเขาเพิ่งจะเขามา
ในภู เขาลู ก นี้ ได แ ค ไม กี่ วั น เวลายั ง เหลื อ อี ก ยาวไกล หากเร ง ไปจะไม ได ดั่ ง หวั ง !”
นักปราชญเอยอยางสุขุม
“นั่ น มั น ก็ ใช ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ ก อ กำเนิ ด ของสำนั ก อื่ น ๆ ต อ ให เคลื่ อ นไหว
รวดเร็วขนาดไหน รอจนมาถึงที่น่ี และตามหารอยแยกของผนึก เขามาในภูเขาก็ยัง
ตองใชเวลา ทวา แคประตูหมื่นเซียนบานนี้ ก็ทำใหพวกเราเสียเวลาไปมากขนาดนี้ ขา
เกรงวาเขตอาคมที่เราจะพบตอจากนี้ จะยิ่งรับมือยากมากยิ่งขึ้น” คนประหลาดถอน
หายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“ทานอาจเจ็ดไมตองกังวล ตระกูลเยี่ยของพวกเราวางแผนดำเนินการครั้งนี้มานาน
แนนอนวาจะตองขบคิดเรื่องทลายเขตอาคมอยางแนนอน ชวงปที่ผานมานี้ ในตระกูล
ไดรวบรวมสมบัติลับที่ใชทลายเขตอาคมโดยเฉพาะมาไดสองสามชนิด แตแคตอนนี้ยัง
ไมถึงเวลาใหใช” นักปราชญหัวเราะหึๆ ออกมา เผยใหเห็นความมั่นใจเปนพิเศษ
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง เชนนั้นตาเฒาก็วางใจแลว” ตัวประหลาดหัวโตไดยินคำนี้
ก็มีสีหนาผอนคลายลง
จากนั้น ทั้งสองคนที่อยูกลางอากาศก็มองภาพการทลายเขตอาคมอยางเงียบๆ
ไมไดกลาวอะไรออกมา แตไมนานนัก จมูกของตัวประหลาดก็ขยับฟุตฟต สีหนาเครง
ขรึมขึ้นในฉับพลัน
เขาดีดนิ้วไปยังอากาศที่วางเปลาโดยไมไดกลาวอะไรออกมา ชั่วขณะนั้นไอกระบี่
สีเหลืองหลายสาย พลันพุงออกไปอยางไมมีเคาลางมากอน ชั่วครูก็หอหุมตนไมขนาด
ใหญในระยะยี่สิบสามสิบจั้งเอาไว
ผลลัพธคือใตตนไมเกิดพายุลูกเล็กๆ ขึ้น สัตวประหลาดขนสีเขียวที่แผนหลังมีปก
สีเงินงอกออกมา ปรากฏขึ้นตรงนั้น
สัตวประหลาดไมขยับ แมแ ตมื อ ป กคูนั้ น แคกระพื อ กระบี่ แสงสองสามสายก็
กระเด็นออกมาอยางงายดาย
จากนั้นเสียงรองที่แสบแกวหูพ ลันดังขึ้น มันใชสายตาอันเย็นเยียบพิจารณาผู
บำเพ็ ญ เพี ย รตระกู ล เยี่ ย ด า นล า งสองสามครั้ ง แล ว มองไปยั ง นั ก ปราชญ แ ละคน
ประหลาดที่เปนผูนำ ปกทั้งสองพลันสยายออกอยางเงียบเชียบดวยความคาดไมถึง
และพุงไปดานหลังทันที หลังจากสวางวาบสองสงามครั้ง ปกสีเงินของสัตวประหลาดก็
กลายเปนพายุอีกครั้ง แลวสลายหายไป
“ขาไมไดตาฝาดไปสินะ! เคล็ดวิชาวายุหลีกหนีอันสูงสง คาดไมถึงวาจะอาศัยวายุ
อำพรางกายได เจาสิ่งนี้ดูเหมือนวาจะเปนยักษปกเงินในตำนาน ถาหากบนรางของมัน
ไมมีกลิ่นอายซากศพอยูจางๆ ละก็ ขาก็เกือบจะถูกลวงตาไปดวยแลว” คนประหลาด
ที่เปนผูนำไมไดไลตามไป แตสีหนากลับเครงขรึมขึ้น
“กลิ่นอายซากศพ? ขาไมเห็นจะสัมผัสไดเลย มีเพียงทานอาเจ็ดที่ฝกฝนเคล็ดวิชา
พาหนะโลหิต ถึงไดมีความสามารถที่เฉียบแหลมเชนนี้ ทวาไมใชแคนั้น เจายักษปก
เงินตัวนี้ดูเหมือนวาจะมีสติปญญาสูงสงไมเบา” นักปราชญจองเขม็งไปยังจุดที่ยักษปก
เงินหายไป สีหนาดูไมไดเล็กนอย
“ภูเขาคุนอูเลื่องชื่อวาเปนสถานที่ของเซียนมิใชหรือ ทำไมสิ่งที่พวกเราพบกลับ
เปนอสูรพยัคฆวิหคและซากเทวัญอันรายกาจเลา! โชคดีที่พวกเราสองคนรวมมือกัน
ถาหากมาคนเดียวละก็ เกรงวาจะอันตรายเปนอยางมาก” คนประหลาดที่เปนผูนำ
รางกายแวบหายไปเล็กนอย พลันขมวดคิ้วขณะเอย
“สถานที่ของเซียน เปนแคความคิดของคนในอดีตเทานั้น ภูเขาคุนอูในตอนนี้ ถูก
ปดผนึกลงโดยไมรูสาเหตุ มันแปลกไปหนอยจริงๆ แตเรื่องนี้ไมมีผลกับพวกเรา การ
เดินทางของพวกเราครั้งนี้ ก็เพื่อสมบัติสะทานฟา เรื่องอื่นๆ ไมจำเปนตองซักถามให
มากความ” นักปราชญเงียบกริบไปชั่วครู ถึงไดเอยขึ้นอยางเชื่องชา
“จะกลาวเชนนี้ก็ได แตถาหากป ศาจตนนี้ ไมมีสติปญ ญา ตอใหพ ลังยุทธสูงสง
ขนาดนี้ ก็ไมมีอะไรตองกังวล แตเจายักษปกเงินตัวนี้คาดไมถึงวาจะมีสติปญ ญาที่
สูงสงขนาดนี้ พวกเราตองระวังปศาจตนนี้ใหมาก อยาใหมันทำลายแผนของพวกเรา”
คนประหลาดที่เปนผูนำกลับเอยดวยสายตาเย็นเยียบ
“ขอบพระคุณ สำหรับคำเตือนของท านอาเจ็ด ขาจะระวังป ศาจตนนี้ ให ม าก”
นักปราชญพยักหนา เอยดวยน้ำเสียงเครงขรึมขึ้นหลายสวน
ในตอนที่ตระกูลเยี่ยพบกับยักษปกเงิน และกำลังจะไลปศาจตนนี้ใหลาถอยไปนั้น
กลางอากาศเหนือศาลาหินที่ผูบำเพ็ญ เพียรตระกูลเยี่ยเคยพั กผอน ตรงมานอาคม
หนาๆ ที่ดูธรรมดาๆ จูๆ ก็มีลำแสงสวางวาบ จากนั้นศีรษะที่เต็มไปดวยผมสีขาวก็ยื่น
เขามา เขาๆ ออกๆ ดูตลกขบขัน
หลังจากที่คนผูนี้พบวาที่นี่ไมมีคน รางกายก็ทะลุเขามาอยางไมเกรงใจ แสงสีเงิน
กะพริบ วิบ วับ ปรากฏออกมาจากม านอาคมกอ นที่ จ ะผสานรวมกั น จนเป น รางคน
จากนั้นคนผูนี้ก็เหยียบลงไปบนจานลำแสงยักษแผนหนึง่ คอยๆ บินตรงไปยังศาลาหิน
และรอนลงเหนือศาลาหิน ยืนอยูตรงนั้นอยางนิ่งงัน
เวลานี้เองคนผูนี้ถึงไดชูคอขึ้น เผยใหเห็นใบหนาที่เต็มไปดวยริ้วรอย แตกลับมี
ดวงตาเล็กๆ ที่ปลิ้นปลอน
คาดไมถึงวาจะเปนผูเฒานอยลึกลับนามวาเซี่ยงจือหลี่!
“นี่คือภูเขาคุนอู จุๆ! ไอวิญญาณไมธรรมดาดังคาด ทวาใครมันรนหาที่ ถึงกับกลา
เปดผนึกภูเขานี้กันนะ หากปลอยเขาออกมา นั่นไมวาอยากจะใหทั้งตาจิ้นถูกเขาฝงรึ?
ตาเฒาเองก็โชคราย ดันอยูแถวๆ นี้ จะทำเปนไมรูไมเห็นก็ไมได” เซี่ยงจือหลี่มองไป
รอบๆ ดานแวบหนึ่ง ชั่วขณะนั้นพลันไดยินเสียงอึกทึกครึกโครม ผลลัพธคือทนไมไหว
จนตองย่ำฝาเทากนดาอยูบนศาลาหินทันที ใบหนาเต็มไปดวยความหงุดหงิด
“ในเมื่อรูแลววาที่นี่มันคือสถานที่เฮงซวย เจายังกลามา ขาก็นับถือความกลาของ
เจาจริงๆ” หลังจากที่เซี่ยงจือหลี่หยุดกนดา ขางหูก็มีเสียงหวานหยดยอยของสตรีดัง
ขึ้น น้ำเสียงนุมนวลนาฟง ราวกับเทพธิดาอยางไรอยางนั้น
แตเซี่ยงจือหลี่ไดยินเสียงนี้ กลับรูสึกเย็นเยียบ ราวกับโลหิตทั้งหมดพลันแข็งตัว
อยางไรอยางนั้น
“ทานอาวุโส ทาน...ทานออกมาแลว!” ผูเฒานอยกลืมน้ำลายเหนียวๆ เขาไปอึก
หนึ่ง คาดไมถึงวาจะเอยขึ้นมาอยางติดอาง
“ออกมา? ขาควรจะออกมาไดตั้งไมรูกี่หมื่นปกอนแลว เพียงแตวาในปนั้นสามผูเฒา
คุนอูใชกำลังของคนนับหมื่นเพื่อวางเขตอาคมชั้นสุดทาย ไมใชอะไรที่ขาคนเดียวจะ
เป ดผนึ กไดจ ริงๆ มิ เชน นั้ น ไม อ ยางนั้ น ข าคงออกมานานแล ว จะรอจนถึ งตอนนี้
ทำไม” น้ำเสียงของสตรียังคงออนหวานอยางหาที่เปรียบมิได แตเซี่ยงจือหลี่กลับมีสี
หนาซีดขาวอยางหาที่เปรียบมิได
ตอนที่ 999 ปรากฏการณอัศจรรย
“เปนไปไมได! ภายใตแรงกดจากสมบัติวิญญาณสะทานฟาสองชิ้น ในแดนนี้ไม
อาจมีคนที่สามารถทลายเขตอาคมเกาอรหันตสยบมารได และยิ่งไปกวานั้นผนึกก็มี
รอยแยกออกมาแลว หากทานอาวุโสหนีออกมาไดจริงๆ ละก็ คงออกจากภูเขาลูกนี้ไป
ตั้งนานแลว จะอยูที่นี่ตอทำไม กวาครึ่งคงเพราะทานอาวุโสหนีออกมาไดแคจิตสัมผัส
เทานั้น คิดจะใหชนรุนหลังตกใจจนลาถอยไปสินะ” หลังจากที่เซี่ยงจือหลี่ตกตะลึง
แลว ทันใดนั้นก็นึกอะไรได ฟนฟูสีหนากลับมาเปนปกติในชั่วพริบตา
“เจารูเรื่องเขตอาคมเกาอรหันตสยบมารและสมบัติสะทานฟา! หรือวาคือชนรุน
หลังของสามผูเฒาคุนอู?” ถึงแมวาเสียงของสตรีผูนั้นจะยังไพเราะนาฟง แตคำพูด
กลับเย็นชาขึ้นหลายสวน
“ชนรุนหลังไมใชชนรุนหลังของทานอาวุโสคุนอูทั้งสาม แตเรื่องของทานอาวุโส ใน
แดนนี้มีคนรูอยูสองสามคนจริงๆ ชนรุนหลังก็บังเอิญเปนหนึ่งในนั้น” เซี่ยงจือหลี่เอย
ไปพลาง มองไปรอบๆ ดานไปมาไมหยุดไปพลาง ทาทางเหมือนกำลังระมัดระวังตัว
“เหอะ! ไมตองหาอะไรหรอก รางของขายังไมหลุดออกมาจริงๆ แตก็จะไมปลอย
โอกาสใหเจาหนีไปไดแน เจาอยูที่นี่อยางวานอนสอนงายสักสองสามเดือนเถิด”
สตรีผู นั้ น เพิ่ งเอ ย คำพู ด ที่ เย็ น ชาจบ อากาศเหนื อ ศาลาหิ น ก็ บิ ด เบี้ ย ว จากนั้ น
ระลอกคลื่นสีขาวโพลนก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ จูๆ ทามกลางระลอกคลื่นพลันมี
ลำแสงหาสีพุงมาหอหุมรางของผูเฒานอยเอาไว
“ปรากฏการณอัศจรรย!” เซี่ยงจือหลี่เห็นภาพฉากนี้เขาก็หนาเปลี่ยนสี ลำแสงสี
เงินรอบกายระเบิดออกอยางไมตองคิด กลายเปนลำแสงหลีกหนีสายหนึ่งพุงออกไป
แตลำแสงหาสีนั้นพลันหมุนวนเล็กนอย ชั่วขณะนั้นพลังแรงดูดมหาศาลกลุมหนึ่ง
ก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ทำใหลำแสงหลีกหนีของชายชราหยุดชะงัก
จากนั้นลำแสงสายนั้นพลันหมุนวน ชั่วพริบตารางของเซี่ยงจื่อหลี่พลันหายวับไป
จากที่เดิมอยางไรรองรอย ราวกับวาคนผูนี้ไมเคยผานมากอนอยางไรอยางนั้น
“ดูจากทาทางแลวคงจะหลับลึกไปอีกระยะหนึ่ง ผูบำเพ็ญเพียรที่มาถึงที่นี่ไดมาก
เทาไหรก็ยิ่งดีมากขึ้นเทานั้น! หวังวาวันที่ตื่นขึ้น จะเปนวันที่ขาหนีออกมาไดจริงๆ! เจา
คุณอูทั้งสาม ขาจะใหเจาไดรูถึงสิ่งแลกเปลี่ยนที่ผนึกขาเอาไว! ถึงวันนั้น หึๆ…” สตรีผู
นั้นเอยพึมพำอยางออนแรง แลวหัวเราะหึๆ อยางบาคลั่ง จากนั้นเสียงก็เงียบไป
เจ็ดวันผานไป ในขณะที่ตระกูลเยี่ยกำลังโจมตีประตูหมื่นเซียน และลวงล้ำเขาไป
ในเขตอาคมลวงตาที่สูงกระจางอันหนึ่งอีกครั้ง หานลี่และพวกทั้งสามเองก็ถูกเขต
อาคมประหลาดๆ สายหนึ่งตานทานเอาไว ณ ที่ใดสักแหงหนึ่งบนบันไดเชนกัน จึงจำ
ใจตองขบคิดหาวิธีทลายเขตอาคมอยางยากลำบาก บนพื้นดินตรงสถานที่ที่ผนึกตั้งอยู
นั้น รอบๆ ทะเลสาบเล็กๆ นิรนามกลับเกิดความครึกครื้นไมธรรมดาขึ้น
ผูบำเพ็ญเพียรที่รวมตัวกันอยูท่ีนั่นมีเกือบพันคน เรียงรายอยูรอบๆ ในระยะยี่สิบ
สามสิบลี้ แมกระทั่งผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดก็ยังมีสิบกวาคน ผูที่สะดุดตาที่สุด
คื อ สี่ อ าวุ โ สของสำนั ก พิ ษ ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ที่ ยื น เรี ย งกั น อยู บ นฝ ง ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดที่เหลือตางก็เคลื่อนไหวเพียงลำพัง เห็นไดชัดวาไดยินขาวลือจึงไดรีบรุดมา
ตอนนี้เบื้องหนาของเหลาอาวุโสของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ มีลูกศิษยในสำนักคนหนึ่ง
กำลังรายงานอะไรสักอยางอยู
“ทานอาวุโส พวกเราคนหาผนึกที่อยูใตดินไปกวาครึ่งและพอจะพบเคาลางแลว
ขอรับ หางจากพื้นดินลงไปยี่สิบกวาลี้ ที่นั่นถูกคนจงใจวางเขตอาคมลวงตาอะไรสัก
อยางเอาไว ลูกศิษยที่เชี่ยวชาญในเรื่องเขตอาคม กำลังพยายามทลายเขตอาคมอยู
ถึงแมวาจะเปนเพียงอาคมชั่วคราว แตเปนเพราะคนที่วางเขตอาคมนี้มีทักษะสูงสง
ดังนั้นการทลายเขตอาคมจึงจำเปนตองใชเวลาขอรับ” ลูกศิษยที่สวมผาโพกศีรษะคน
หนึ่ง เอยอยางนอบนอม
“มีความคืบหนาก็ดีแลว พวกเรามาถึงที่นี่หลายวันแลว ถาหากหาทางเขาของ
ผนึกไมเจอ นั่นถึงจะเรียกวายุงยาก ทวาพวกเจาตองระวัง อยาใหคนอื่นๆ พบการ
เคลื่อนไหวของพวกเจา กลับไปกอนเถิด หากทลายเขตอาคมลวงตาไดแลวตองมา
รายงานพวกเราทันที” ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนที่ใบหนามีริ้วรอยพนลมหายใจยาวๆ
ออกมาเฮือกหนึ่ง พลางออกคำสั่ง
“ขอรับ!” ลูกศิษยผูนั้นคอมตัวลงตอบรับ จากนั้นก็ยื่นมือออกไปควักยันตลี้ธรณี
แผนหนึ่งออกมา ตบไปที่ราง รางกายพลันจมหายไปใตดินอยางไรรองรอย
เวลานี้อาวุโสของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์อีกคน พลันเอยปากขึ้นวา
“ศิษยพี่ฮัว อยากังวลนักเลย หนานเจียงของพวกเราไมมีผูบำเพ็ญ เพียรระดับ
กอกำเนิดขั้นปลาย ตอใหผูบำเพ็ญเพียรของสำนักอื่นๆ รีบมา พวกเราสี่คนรวมมือกัน
ก็ไมตองกลัวผูใดแลว”
“มันก็จริง แตทุกวันที่เสียไป ผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงที่รีบมาที่นี่ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
และหนานเจียงก็ไมไดมีเพียงสำนักเราเทานั้นที่ครอบครอง มีสำนักอื่นๆ ที่ไมไดดอย
ไปกวาสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา ถาหากพวกเขามาถึงกอนที่พวกเราเขาไปละก็
จะตองแยแน และยิ่งไปกวานั้นยิ่งเสียเวลามากขึ้น เกรงวาสิบพรรคมารธรรมะก็จะยิ่ง
สอดมือเขามายุงกับเรื่องนี้” ชายวัยกลางคนแซฮัวพลันเอยอยางเครงขรึม
เมื่อไดฟง อาวุโสสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือตางก็ไมคิดเชนนั้น บางก็กลับเผยสี
หนาไมสบายขึ้นมาเล็กๆ
และในตอนนั้นเอง จูๆ ผูบำเพ็ญเพียรแซฮัวก็รองเอออกมาเบาๆ แหงนหนาขึ้น
มองทองฟาอีกดาน
คนที่เหลือพลันตกตะลึง และหันมองไปเชนกัน
เห็นเพียงขอบฟามีลำแสงสวางวาบ กลุมหมอกสีเทาผืนใหญปรากฏขึ้นที่ขอบฟา
จากนั้นก็บินตรงเขามา ดวยความเร็วที่นาตกตะลึง
จิตสัมผัสของอาวุโสสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่คนสัมผัสไดถึงแรงกดที่นาตกตะลึง
จากไอหมอกนั่น ตางก็อดที่จะนาเปลี่ยนสีไมได
ชั่วพริบตากลุมหมอกก็มาอยูเหนือทะเลสาบเล็กๆ จากนั้นพลันมีเสียงอึกทึกดัง
ขึ้น หลังจากที่กลุมหมอกระเบิดออกและสลายหายไปอยางไรรองรอยแลว บนทองฟา
กลับมีเงาสีขาวจางๆ หาสายปรากฏขึ้น ทุกเงารางลวนรางเลือน ไมขยับเขยื้อน
“หามารใจเดียว!” ผูบำเพ็ญเพียรแซฮัวสีหนาแข็งคาง
“หามาร? หรือวาคือรางแยกของมารเฒาเฉียนแหงพรรคตาขายทมิฬ?” อาวุโสคน
หนึ่งของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์เองก็มีสีหนาเขียวคล้ำขณะรองอุทานออกมาอยางแผวเบา
“หึ! นอกจากมารเฒาตนนั้นแลว ในใตหลานี้จะมีผูใดฝกฝนเคล็ดวิชามารระดับนี้
ได? รางที่แทจริงของมารเฒาเฉียนสามารถสิงอยูในมารตนไหนก็ได นอกเสียจากวาจะ
มีเวลาสังหารมารทั้งหาพรอมกัน มิเชนนั้นเขาก็แทบจะเปนสิ่งที่ฆาไมตาย” ผูบำเพ็ญ
เพียรวัยกลางคนแซฮัวสงเสียงหึดวยความเย็นชา และเอยออกมาเบาๆ ดูเหมือนวาจะ
หวาดกลัวอยางสุดๆ
“ขาก็วาเปนผูใดที่รูจักรางแปลงทั้งหาของผูแซเฉียนขนาดนี้ ที่แทก็สหายฮัวแหง
สำนักพิษศักดิ์สิทธิ์นี่เอง คิดไมถึงวาสหายจะนำกำลังคนในสำนักมาที่นี่ หรือวารูอะไร
เกี่ยวกับผนึกพวกนี้?” เสียงที่แผวเบาดังออกมาจากทองฟา แตกลับลอยละลองไม
แนนอน ทำใหผูคนไมอาจยืนยันตำแหนงได
“เหอะๆ พี่ เฉี ย นล อ เล น แล ว ผู แ ซ ฮั ว จะรูอ ะไรได แค ที่ นี่ อ ยู ใกล กั บ สำนั ก พิ ษ
ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราเทานั้น ขานอยจึงพาสหายรวมสำนักมาดูสักหนอย วาแตพี่เฉียน
เปนถึงอาวุโสของพรรคตาขายทมิฬ เหตุใดถึงวางจนมาที่นี่ได” ผูบำเพ็ญเพียรแซฮัว
สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง พลางตอบกลับพรอมรอยยิ้มฝนๆ
“ออ เชนนี้นี่เอง ขาจำไดวาสำนักที่อยูใกลที่นี่ที่สุด ดูเหมือนวาจะเปนพรรคแปลง
เซียน! ไมทราบวาสำนักของเจายายที่ตั้งตอนไหนหรือ? สวนผูแซเฉียนนั้น แคมาทำ
ธุระที่หนานเจียง และบังเอิญมาพบกับเรื่องนาสนุกก็เทานั้น”
อาวุโสของพรรคตาขายทมิฬผูนี้เอยพรอมกับอมยิ้ม ทาทางไมเชื่อถือคำพูดของผู
บำเพ็ญเพียรวัยกลางคนเลยสักนิด
“แตเดิมขานึกวาจากฐานะผูมีชื่อเสียงอยางพี่เฉียน จะไมออกจากพรรคงายๆ
เสียอีก ไมทราบวามีเรื่องใดกระทบสหายหรือ ถึงไดตองลงมืองเองเชนนี้” ผูบำเพ็ญ
เพียรแซฮัวหัวเราะแหงๆ ออกมา พลางเอยซักถามหนึ่งประโยค
“ไมมีอะไรหรอก แคมาจัดการผูตอตานที่หนีมาในหนานเจียงเทานั้น ผูแซเฉียน
แคจัดการอยางเงียบๆ เทานั้น”
“ใชหรือ? ผูแซฮัวคงคิดมากไป”
ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รแซ ฮั ว และมารเฒ าเฉี ย นเอ ย ถามและตอบกลั บ คนละประโยค
จากนั้ น ก็ ป ด ปากเงีย บพรอ มกั น เวลานั้ น บรรยากาศระหว างทั้ ง สองพลั น แปลก
ประหลาดไปเล็กนอย
“พบแลว ทางทิศเหนือของผนึกไมไกลนักมีรอยแยกอยูสายหนึ่ง สามารถเขาไป
ได คนของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์กำลังทลายเขตอาคมที่ทางเขา!”
อีกดานบนทะเลสาบ เงารางคนสายหนึ่งโผลออกมาจากพื้นดิน และบินเขามา
จากจุดที่ไกลออกไป พรอมกับตะโกนเสียงดัง
ชั่วครูเสียงนี้ก็ทำใหผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดที่อยูรอบๆ ตกใจ
เวลานี้จุดที่คนผูนั้นโผลออกมา ก็มีลูกศิษยสวมผาโพกศีรษะสีแดงสวมชุดสีฟา
สองสามคนบินออกมา ไลตามผูบำเพ็ญเพียรผูนั้นมาดวยความตกตะลึงระคนโกรธ
เกรี้ยว แตผูบำเพ็ญเพียรที่หนีมาผูนั้นก็ดูเหมือนวาจะฝกฝนเคล็ดวิชาหลีกหนีที่พิเศษ
อะไรสักอยาง ลำแสงหลีกหนีจึงรวดเร็วอยางหาใดเปรียบ ชั่วพริบตาก็หนีไปได
ชั่วขณะนั้นสีหนาของผูบำเพ็ญเพียรแซฮัวและพวกพลันดูไมไดอยางสุดๆ
“ฮาๆ ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ผูแซเฉียนเคยศึกษาเรื่องเขตอาคม อาจจะชวยลูก
ศิษยของสำนักเจาไดอีกแรง ขานอยจะไปดูสักหน อย” มารเฒ าเฉียนหั วเราะฮาๆ
อยางบาคลั่งออกมา ทันใดนั้นเงารางสีขาวหาสายก็หลีกลี้ไปดานลางพรอมกัน ชั่ว
พริบตาก็จมหายไปในผิวน้ำ และหายไปอยางไรรองรอย
“ไป มารเฒาเฉียนนั้นโหดเหี้ยมนัก อยาปลอยใหเขาทำรายลูกศิษยในสำนักของเรา”
ผูบำเพ็ญเพียรแซฮัวมีสีหนาเขียวคล้ำ ทันใดนั้นพลันพลิกฝามือ ธงเล็กๆ สีเหลือง
ที่เตรียมไวตั้งนานแลวพลันปรากฏขึ้นบนมือ
เพี ย งสะบั ด เล็ ก น อ ย เมฆสี เหลื อ งกลุ ม หนึ่ ง ก็ ห อ หุ ม ร า งของคนในสำนั ก พิ ษ
ศักดิ์สิทธิ์เอาไว พาทุกคนจมหายเขาไปใตดิน พวกเขาตางก็หายไปอยางไรรองรอย
ไมใชแคมารเฒาเฉียนและคนของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ เมื่อผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือได
ยินคำพูดนี้ก็ทยอยกันมุดลงไปใตดิน ชั่วพริบตาผูบำเพ็ญเพียรรอบๆ ก็ลดจำนวนลงไป
กวาครึ่ง บนพื้นจึงเหลือเพียงไมกี่คน แนนอนวาผูบำเพ็ญเพียรที่ใชเคล็ดวิชาลี้ธรณีไม
เปนและผูที่ไมมีสมบัติลี้ธรณี ตางก็ทำไดเพียงจองตาปริบๆ เทานั้น
ทิศเหนือของทะเลสาบหางออกไปยี่สิบลี้ ลึกลงไปใตดินพันจั้ง มีรอยแยกหวงมิติ
เวลาขนาดใหญสีดำสนิทอยูรอยหนึ่ง ลำแสงที่เจิดจาจนแสบตาสวางวาบไมหยุดอยู
ตรงเสนขอบของหวงเวลานั้น และดานลางของพวกมันกลับมีมานแสงสีขาวโพลนที่ไร
ขอบเขตอยู มานแสงนี้ไมเพียงจะหนาจนหาที่เปรียบมิได
บนมานแสงกลับมีประจุไฟฟาที่นาตกตะลึงเปนชั้นๆ วิ่งพลาน เมื่อมีคนเขาไปใกล
ก็จะมีประจุไฟฟาหนาๆ สายหนึ่ง พุงออกมาโจมตีอยางไมเกรงใจเลยแมแตนอย
ผูที่โชคดีหนอยก็หลบได หากหลบไมพนก็ทำไดเพียงตานทานเอาไว ผลลัพธคือ
ตางก็ถูกโจมตีลงบนลำแสงวิญญาณที่หอหุมรางจนกะพริบวาบไมหยุด เวลานั้นจึงไมมี
ผูใดกลาเสี่ยงเขาไปใกลอีก แตมานแสงที่ผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้นจับจองอยูนั้นกลับไมมี
ประจุไฟฟาเปลงออกมา แตก็มีลูกศิษยของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ที่สวมชุดสีฟาพันผาโพก
ศีรษะสีแดงเจ็ดแปดคนรักษาการณอยูตรงนั้น ทุกคนลวนมีสีหนาเครงขรึมขณะยืนคุม
เชิงอยูกับผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้ ไมยอมปลอยใหคนอื่นๆ เขาใกลไดงายๆ เชนนั้น พวก
เขาจึงถูกผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือกนดา แตก็ไมมีใครลงมือตามอำเภอใจ
ถึงอยางไรเสียสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ก็มีชื่อเสียงไมนอยในหนานเจียง และผูบำเพ็ญเพียรที่
อยูที่นี่แปดเกาสวนตางก็เปนผูบำเพ็ญเพียรทองถิ่นของหนานเจียง แนนอนวาจึงไมมี
ผูใดกลาหาเรื่องใสตัวงายๆ แตในเมื่อมีคนหวาดกลัวชื่อเสียงของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์
แนนอนวาก็มีคนที่ไมเลื่อมใสสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ ผลลัพธคือมีลำแสงสีแดงสายหนึ่งพุง
ออกมาจากฝูงชน น้ำเสียงที่เย็นชาประโยคหนึ่งดังขึ้น
“ไปใหพน ตาเฒาจะเขาไป” ถึงแมวาน้ำเสียงของผูพูดจะแกชรา แตดูเหมือนวา
จะเต็มไปดวยโทสะ เอยปากออกมาอยางไมเกรงใจเลยแมแตนอย
“อาวุโสผูนี้ ที่นี่คือสถานที่ที่สำนักของขาเปนผูคนพบ ทานอาจารยอาสองสาม
ทานของสำนักเราอยูแถวนี้ ทานอาวุโสโปรด…” เมื่อเห็นวามีผูบำเพ็ญ เพียรระดับ
กอกำเนิดออกตัว ลูกศิษศระดับหลอมรวมคนหนึ่งของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ก็ทำไดเพียง
ใชชื่อเสียงของอาวุโสประจำสำนัก เอยอะไรออกมาอยางใจดีสูเสือ
“ฮาๆ ตอใหฮัวเทียนฉีอยูที่นี่ ตาเฒาก็จะตองเขาไปใหได” เงารางคนในลำแสงสี
แดงหัวเราะอยางเย็นชาออกมา ทันใดนั้นพลันชูมือขึ้น ชั่วขณะนั้นลำแสงที่เจิดจาสาย
หนึ่งพลันสวางวาบขึ้นกลางฝามือ
ตอนที่ 1000 อรหันตสี่กำจาย
“จริงรึ! ไมทราบวาลูกศิษยผูนี้ของตาเฒา ไปลวงเกินพี่เจิ้งเวยอยางไรหรือ คาดไม
ถึงวาจะทำใหสหายตองลงมือสั่งสอนเองถึงเพี ยงนี้?” ในตอนนั้น เอง จูๆ จุดที่ ไกล
ออกไปก็มีเสียงราบเรียบดังขึ้น จากนั้นลำแสงหลีกหนีหลากสีสันหลายสายก็พุงเขามา
ชั่วพริบตาก็มาถึงเบื้องหนาของเหลาลูกศิษยของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์
คนที่พูด เผชิญหนากับเงารางของในลำแสงสีแดงดวยสีหนาแข็งทื่อ เปนผูบำเพ็ญ
เพียรแซฮัวนั่นเอง
“ที่แทก็พี่ฮัวนี่เอง ผูแซเจิ้งเสียมารยาทแลว เมื่อครูขานอยแคลอเลนกับลูกศิษย
ของท า นเท า นั้ น ไหนเลยจะรั ง แกผู ที่ อ อ นแอกว า ได !” ช า งอยู น อกเหนื อ ความ
คาดหมายของผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ที่อยูในเหตุการณนั้นโดยแท ผูบำเพ็ญเพียรที่ดู
ดุดันในลำแสงสีแดง เห็นอาวุโสสองสามทานของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์มาถึง คาดไมถึงวา
จะหัวเราะกลบเกลื่อนแทน ราวกับเปนคนละคน คาดไมถึงวาจะไมเห็นแกหนาตนเอง
เลยสักนิด
“หึๆ ผูนี้คือสหายเจิ้งเวยอรหันตสี่กำจายที่มีชื่อเสียงสินะ เวลานี้มีโอกาสไดพบ
ชางยิ่งใหญสมคำร่ำลือจริงๆ!” เสียงหัวเราะดังออกมาจากอีกดาน จากนั้นเบื้องหนา
ของทุ ก คนพลั น พราเลื อ น ระหว างลำแสงสี แ ดงและผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รของสำนั ก พิ ษ
ศักดิ์สิทธิ์ก็มีเงารางสีขาวโพลนเพิ่มขึ้นมา ยืนอยูตรงนั้นราวกับกระบอกไมไผก็ไมปาน
“หามารใจเดียว! ที่แทก็พี่เฉียนของพรรคตาขายทมิฬนี่เอง!” เสียงของผูบำเพ็ญ
เพียรที่อยูทามกลางลำแสงสีแดงพลันเปลี่ยนไป ดูเหมือนวาจะตกตะลึงเปนอยางมาก
“พูดไดดี ชื่อเสียงของพี่เจิ้งก็ไมไดดอยไปกวาขาเลยแมแตนอย!” มารเฒาเฉียน
หัวเราะออกมายกใหญ
ประโยคที่กลาวออกมานั้นไมผิดนัก จะวาไปแลวอรหันตสี่กำจายผูนี้ ก็นับวาเปน
ผูที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในโลกของผูบำเพ็ญเพียรตาจิ้น
แตนั่นไมไดหมายความวาคนผูนี้มีความสามารถเกรียงไกรอะไร แตเปนเพราะคน
ผูนี้เปนตัวอยางของคนปลิ้นปลอนชอบใชกำลังรังแกผูที่ออนแอกวา เมื่อเผชิญหนากับ
ผูบำเพ็ญเพียรที่มีพลังยุทธต่ำกวาตน เขาก็จะโหดเหี้ยมไรความปรานี ไมสนใจเหตุผล
เมื่อพบผูบำเพ็ญเพียรที่มีพลังยุทธเหนือกวา เขาก็จะยอมแพและประจบสอพลอทันที
ไม เห็ น แก ห น าของตนเองเลยแม แ ต น อ ย แต เมื่ อ มี โอกาส คนผู นี้ ก็ จ ะเปลี่ ย นสี ไร
ความรูสึกในทันที มักจะถือโอกาสที่ผูคนตกอยูในอันตราย ซ้ำเติมทันที
คนเชนนี้ แนนอนวาจะตองลวงเกินผูบำเพ็ญเพียรตางๆ ไปไมนอย แมกระทั่งผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดดวยกันยังโกรธเกลียดเขาจนกัดฟนกรอด แตถึงแมวาคน
ผูนี้จะเปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษระดับกอกำเนิดขั้นตน วิทยายุทธที่ฝกฝนก็เปนวิชาที่
เพิ่มระดับพลังไดงายที่สุด แตความสามารถกลับอัศจรรยแตกตางกับเคล็ดวิชา อีกทั้ง
ยังไดรับสมบัติวิเศษโบราณ ‘แสเหาะเหินจตุรทิศ’ มาชิ้นหนึ่งดวยความบังเอิญ ภายใต
การสำแดงสิ่ ง นี้ อ อกมา ความเร็ ว ของเขาก็ ไม ต า งอะไรกั บ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดขั้นปลาย
และยิ่งไปกวานั้นตอมาคนผูนี้ยังฝกฝนเคล็ดวิชาลับประจำตัวอีกสองสามชนิด
บวกกับที่ไมคอยลวงเกินผูบำเพ็ญเพียรที่รายกาจอยางระดับกอกำเนิดขั้นกลางขึ้นไป
ดังนั้นถึงแมวาจะถูกคนไมนอยโกรธเกลียดจนเขากระดูกดำ แตกลับรอดมาไดจนถึง
ทุกวันนี้ กลายเปนหนึ่งในไมกี่คนที่มีชื่อเสียงฉาวโฉในโลกของผูบำเพ็ญเพียรตาจิ้น
คนประเภทนี้ แนนอนวาฮัวเทียนฉีนั้นไมมีทางทำดีดวย กลับเปนมารเฒาเฉียนที่
ดูจะรูสึกสนใจคนผูนี้เปนอยางมาก ทวาเมื่ออรหันตสี่กำจายผูนี้เห็นอาวุโสของพรรค
ตาขายทมิฬปรากฏตัว ทันใดนั้นก็หัวเราะไปพลาง เริ่มถอยหลังไปหาฝูงชนไปพลาง
ราวกับหนูที่เห็นแมวอยางไรอยางนั้น
เมื่อเห็นอีกฝายมีทาทีหวาดกลัวเชนนี้ มารเฒาเฉียนจึงลืมความคิดที่จะเอยอะไร
กับเขาอีก แตกลับใชน้ำเสียงอมยิ้มพูดกับฮัวเทียนฉีวา
“พี่ฮัว ลูกศิษยของสำนักทานคอยรักษาการณ อยูที่นี่ หรือวาคิดจะกันขานอย
เอาไวภายนอก?”
“พี่เฉียนลอเลนแลว สำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราไหนเลยจะกลากีดกันสหายเฉียน
ตอใหเปนสหายคนอื่น ขาก็ไมมีเจตนาจะปดบัง แคที่นี่ในตอนนี้ถูกเขตอาคมลวงตาปก
คลุมเอาไว สำนักขาจึงคิดจะทลายเขตอาคมลงกอน จากนั้นคอยใหเหลาสหายเขาไป
เพื่อไมใหสหายติดอยูในนั้น”
ฮัวเทียนฉีเงียบกริบไปชั่วครู แววตาเปลงประกายขณะเอย
“ออ ผูแซเฉียนเขาใจความหวังดีของสำนักทานผิดไปจริงๆ ทวาเขตอาคมลวง
ตาจิ๊บจอยแคนี้ ขวางทางขานอยไมไดห รอก ตอนนี้ผูแซเฉียนอยากเขาไปแลว ไม
ทราบวาสหายคิดอยางไร?” มารเฒาเฉียนหัวเราะอยางเย็นชาออกมา พลางเอยตอน
“ไมมีปญ หา ขอแคพี่เฉียนทะลวงเขตอาคมเขาไปได ขานอยไมมีทางขัดขวาง
แมแตนอยแน” ฮัวเทียนฉีดูเหมือนวาจะยอมปลอยแลว จึงเอยอยางไมลังเลแมแต
นอย และโบกมือเปนสัญญาณใหลูกศิษยเปดทางใหในทันที
ถึงแมวาอาวุโสที่เหลือทั้งสามคนของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์จะไมเขาใจ แตเพราะ
ความเชื่อมั่นที่มีตอฮัวเทียนฉี ผูใดจึงไมกลาพูดอะไร
ลูกศิษยระดับหลอมรวมสองสามคน ก็ยิ่งเปดทางให หลีกไปอยูดานขางอยางเชื่อฟง
“เชนนั้นขานอยไปกอนละ” มารเฒาเฉียนหัวเราะอยางบาคลั่งออกมา เงาสีขาว
หาสายสวางวาบแลวพุงไปยังมานแสงสีขาว ชั่วพริบตาเงาสีขาวบนมานแสงสีฟาชั้น
นั้นก็คอยๆ สลายหายไป
“ยังมีสหายคนอื่น คิดจะทะลวงเขตอาคมเขาไปหรือ ไม ผู แซ ฮัวจะไม ขัดขวาง
เชนกัน” ฮัวเทียนฉีรอจนมานแสงฟนฟูกลับมาเปนสงบราบเรียบ ริ้วรอยบนใบหนาก็
กระตุก เอยกับผูบำเพ็ญเพียรที่อยูรอบๆ อยางเชื่องชา
การกระทำของฮัวเทียนฉี กลับทำใหกลุมผูบำเพ็ญเพียรที่แตเดิมกำลังกาวราว
มองสบตากัน แมแตอรหันตส่ีกำจายเจิ้งเวยเมื่อครูที่หลบอยูในฝูงชน ก็ยังเงียบกริบไม
สงเสียงใดๆ
เมื่อครูทุกคนตางคิดวาสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ตองการยึดครองทางเขาเอาไวแตเพียง
ผูเดียว แนนอนวาจึงเกิดความคิดเปนศัตรูขึ้น คิดอยากจะเขาไปในผนึก แตตอนนี้อีก
ฝ า ยยอมถอยออกมาเป ด ทางให ยิ่ ง ไปกว า นั้ น ด า นในยั ง มี ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดขั้นปลายคนหนึ่งอยูเบื้องหนา กลับทำใหพากันรูสึกระมัดระวังตัวขึ้น ไมตอง
พูดถึงวาเขตอาคมลวงตานั้นจะทลายยากหรือไม หากอาวุโสของพรรคตาขายทมิฬผู
นั้น เกิดจิตสังหารขึ้นในเขตอาคมลวงตา ในบรรดาพวกเขาจะมีใครตานทานไดกันเลา
แนนอนวาจึงเกิดความลังเล
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ ฮัวเทียนฉีก็เผยรอยยิ้มเยาะออกมา ทันใดนั้นก็ไมสนใจ
ผูอื่นอีก หันกายไปออกคำสั่งกับลูกศิษยในสำนักวา
“พวกเจาไมตองรักษาการณที่น่ีแลว เขตอาคมลวงตานั่น หากพวกเรารวมมือกัน
ใชเวลาเพียงนิดหนอยก็นาจะทลายเขาไปได พวกเจากลับไปบนพื้นดินเถอะ”
“ขอรับ ทานอาวุโส!” ลูกศิษยระดับหลอมรวมของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์เจ็ดแปดคน
คอมตัวลงรับคำสั่ง จากนั้นก็บินขึ้นไปขางบนโดยไมแมแตจะหันศีรษะกลับมาอีก ชั่ว
พริบตาก็หายลับไป
จากนั้นภายใตการเรียกของฮัวเทียนฉี อาวุโสของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่คนก็กาว
เขาไปในเขตอาคมลวงตาพรอมกัน หลังจากลำแสงสวางวาบ พวกเขาก็หายวับไป
ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือตางพากันสงเสียงอื้ออึงขึ้น
พวกเขาสวนใหญลวนเปนผูที่เดินทางมาเพียงลำพัง ตอใหมีสหายรวมเดินทางมา
ดวย มากสุดก็แคผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมสองสามคนเทานั้น ไหนเลยจะกลา
เขาไปในเขตอาคม
ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดที่เหลือสองสามคนตางก็เปนผูที่มาตามลำพัง และ
พากันเผยสีหนาขบคิดออกมา
มองเห็นวาทางเขาไมมีผูใดมาขัดขวางแลว ที่นี่กลับเงียบกริบ
“สหายผูน้ี ไมสูรวมมือกันสองคนเขาไปเปนอยางไร?” ทามกลางฝูงชน อรหันตสี่
กำจายปรากฏตัวขึ้นเบื้องหนาชายชราสูงใหญคนหนึ่งอยางลับๆ ลอๆ พลางเอยพรอม
กับหัวเราะเบาๆ
“เขาไปกับเจา? อยาดีกวา สหายมีชื่อเสียงเกรียงไกร ขานอยไดยินมาเนิ่นนานแลว!”
ชายรางใหญระดับกอกำเนิดไดยินคำพูดของเจิ้งเวย ทันใดก็คอนปะหลักปะเหลือก
ทาทางไมสบอารมณ
“เหตุใดสหายจะตองปฏิเสธดวย ขาวา ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดที่อยูที่นี่
นอกจากเราสองคนแลว ที่เหลืออีกสามคนก็ดูเหมือนวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษที่
หนาตาไมคุนเคย ถาหากพวกเรารวมมือกัน ก็ไมตองกลัวมารเฒาเฉียนและคนของ
สำนักพิษศักดิ์สิทธิ์แลว” เจิ้งเวยยังคงไมใสใจ พลางเอยดวยสีหนาเบิกบาน
“เหอะ เจาไปชวนคนอื่นกอนแลวแลวคอยมาหาขานอยเถิด” ชายรางใหญไดยิน
แลวพลันใจเตน แตอีกฝายมีชื่อเสียงฉาวโฉจริงๆ จึงเอยเงื่อนไขของตัวเองออกมา
อยางไมตองคิด
“ได ขอแคสหายรับปากก็พอ คนอื่นๆ มอบใหเปนหนาที่ของผูแซเจิ้งเถิด”
เจิ้งเวยตบแผนอกของตนเองเปนการรับประกัน ทันใดนั้นก็บินไปหาชายชราที่มี
ลำแสงสีมวงรอบกายทามกลางสายตาตกตะลึงระคนสงสัยของชายรางใหญ
“สหายผูน้ี คิดจะเขาไปขางในหรือไม? ขานอยและสหายทางนั้นปรึกษากันแลววา จะ
ชวนสหายอีกสามทานมาเขารวมการเดินทาง ไมทราบวานายทานจะยอมเขารวม
หรือไม?” ยังไมรอใหชายชราเผยสีหนาตกตะลึงที่ตองเผชิญหนากับแขกที่ไมไดรับเชิญ
ออกมา เจิ้งเวยก็เผยรอยยิ้มจนตาหยีออกมา
ชายชราขมวดคิ้ว จองไปที่เจิ้งเวยแวบหนึ่งดวยความเย็นชา ถึงไดเงยหนาไปมอง
ชายรางใหญที่อยูอีกดานแวบหนึ่ง และประสานสายตาประหลาดใจกับชายรางใหญที่
มองมาพอดี
หลังจากที่สายตาสอดประสานกันแลว ทันใดนั้นชายรางใหญก็เผยสีหนาถึงบาง
ออออกมา มุมปากหยักรอยยิ้มจางๆ ขึ้น
หลังจากนั้นไมนาน ผูบำเพ็ญเพียรสันโดษระดับกอกำเนิดหาคนที่ไมรูจักมักจี่กัน
มากอน ก็เขาไปในเขตอาคมลวงตาพรอมกัน เชนนั้น ผูบำเพ็ญ เพียรระดับสูงที่อยู
ภายนอก ก็หายไปจนหมด
……
ในตอนที่ผูบำเพ็ ญ เพี ยรระดับกอกำเนิ ดจำนวนมากเขาไปในเขตอาคมลวงตา
พรอมกันนั้น หานลี่กลับมองไปรอบๆ พรอมกับดวงตาที่เปลงแสงสีฟาไมหยุด
เวลานี้เขาอยูในหวงมิติที่ดูเหมือนความฝนอยางไรอยางนั้น รอบดานลวนเต็มไป
เมฆหมอกหลากสีสัน ดานบนไมมีทองฟา ดานลางไมมีพื้นดิน คาดไมถึงวาจะลอยอยู
กลางอากาศ
“นี่มันที่บาอะไรกัน บินอยางไรก็บินไมพนสักที ทั้งไมมีเขตอาคมปรากฏตัว และ
ไมเหมือนกับเคล็ดวิชาลวงตา! หรือวาตองถูกกักอยูที่นี่จริงๆ” หานลี่เอยพึมพำกับ
ตัวเอง สีหนากลัดกลุมอยางเห็นไดชัด
เมื่ อ สองสามวั น ก อ น ทั้ ง สามคนพบก อ นหิ น อยู ข า งบั น ไดด ว ยความบั ง เอิ ญ
ดานบนมีสมุนไพรวิญญาณที่หายากมาตนหนึ่งปรากฏอยู ทันใดนั้นชายชราแซฟูก็เขา
ไปเด็ดทันที
ผลลัพธคือ เมื่อชายชราดึงตนสมุนไพรนั้นออกมา ชั่วขณะนั้นกลับไปสัมผัสกับ
เขตอาคมตองหามอะไรสักอยางเขา หานลี่รูสึกเพียงวาเบื้องหนาพรามัว คาดไมถึงวา
จะมาปรากฏตัวที่นี่เพียงลำพัง
ไปเหยาอี๋และชายชราแซฟู กลับหายไปอยางไรรองรอย
เมื่อเผชิญ หนากับเขตอาคมตองหาม ถึงแมวาหานลี่จะไมถึงกับเรียกไดวาเปน
ปรมาจารยดานเขตอาคม แตก็เคยศึกษาเรื่องเขตอาคมโบราณมาเชนกัน แนนอนวา
ตอนแรกจึงไมหวาดกลัวอะไร
แตไมนานนัก หานลี่กลับรูสึกวาแยแลว
เพราะวาเขาไมแนใจแมกระทั่งวาที่นี่ใชเคล็ดวิชาลวงตาหรือไม รูเพียงวาไมวาตัวเอง
จะบินไปนานเทาไหร สิ่งที่ปรากฏอยูเบื้องหนาก็ยังคงเหมือนเดิม และเนตรวิญญาณ
วารีกระจางนั้นก็ใชไปตั้งนานแลว ผลลัพธคือไมพบอะไรที่ผิดปกติเลยแมแตนอย
สวนการใชสมบัติอยางกระบี่บินโจมตีนั้น ก็ลองใชไปหมดแลว ผลลัพธคือเมื่อ
โจมตี อ อกไปแล ว ก็ โจมตี ไกลออกไปอย างไม มี ขี ด จำกั ด จากนั้ น พลั งก็ แ ตกสลาย
หายไป ไมมีทางโจมตีอะไรได เชนนั้น ไมวาการโจมตีของเขาจะเฉียบแหลมขนาดไหน
ก็ไมมีประโยชนเลยสักนิด หลังจากที่หานลี่ลอยอยูกลางอากาศอยูนาน ก็ยังคงไมได
อะไร ในที่สุดตอนนี้ก็หยุดลง
หลังจากที่ดวงตาทั้งสองของเขาหรี่ลงจมเขาสูภวังคความครุนคิด จูๆ ก็นั่งสมาธิลง
หลับตาทั้งสองขางลงเบาๆ ในหัวเริ่มมีเขตอาคมมหัศจรรยโบราณตางๆ ที่เคยศึกษา
ในอดีตปรากฏขึ้น หลังจากพิจารณาอยางละเอียดอีกรอบแลว ก็คนหาวามีเขตอาคม
ประเภทใดที่คลายกันบางพอจะทลายเขตอาคมนี้ออกไปได
เวลาคอยๆ เคลื่อนคลอยผานไป รางของหานลี่ไมขยับเขยื้อน ราวกับรูปแกะสลัก
ไมอยางไรอยางนั้น หลังจากที่เวลาผานไปไมรูเทาไหร ในที่สุดหานลี่ก็หนาเปลี่ยนสี
คอยๆ ลืมตาทั้งสองขางขึ้น สายตาทอดมองไปที่เมฆดานลาง
“จุๆ! ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง เปนเชนนี้ดังคาด” สายตาของหานลี่มีความแปลก
ประหลาดอยูเล็กนอย พลางเอยพึมพำกับตนเองเบาๆ
ตอนที่ 1001 พบกันโดยบังเอิญ
หานลี่ยืนขึ้นอยางเชื่องชา มือหนึ่งควาเมฆสีแดงที่อยูกลางอากาศใกลๆ เอาไว ชั่ว
ขณะนั้นภาพลวงตามือยักษสีเขียวขางหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ควาเมฆเอาไวใน
มือแนน
เสียงบริกรรมคาถาทุมต่ำดังขึ้น!
หานลี่จองเขม็งไปยังมือยักษ สองมือผนึกเขาหากันเปนสัญลักษณโบราณ ปากก็
บริกรรมคาถาออกมา
หลังจากที่ มือ ยักษ สั่น คลอนแลว นิ้ วทั้ งห าพลั น กางออก ชั่ วครูก็กุม เมฆสี แดง
เอาไวกลางฝามือ แสงสีเขียวสวางจา ชั่วพริบตามือยักษก็กลายเปนดวงแสงที่เจิดจา
จนแสบตาดวงหนึ่ง แตทันใดนั้นหานลี่พลันอาปากออก พนเพลิงทารกสีเขียวออกมา
จากปาก ชั่วครูก็ลอยเขามาพัวพันรอบดวงแสง ทันใดนั้นเปลวเพลิงที่แผดเผาก็กลืน
กินดวงแสงเขาไปอยางรวดเร็ว หอหุมดวงแสงดวงนั้นเอาไวขางใน
เวลานี้หานลี่ถึงไดสลายอาคมในมือ มองไปที่ดวงแสงดวยสีหนาไรความรูสึก ไม
ปริปากออกมาสักคำ หลังจากผานไปตั้งไมรูเทาไหร หลังจากที่มุมปากของหานลี่หยัก
ขึ้น จูๆ พลันสะบัดไปที่เปลวเพลิงกลางอากาศ ลำแสงสายหนึ่งพุงออกไป ทันใดนั้น
เปลวเพลิงก็มอดดับไป เผยใหเห็นไขมุกกลมๆ สีแดงออนเม็ดหนึ่ง
“ดูแลวคงไมผิดแน! วิธีการลวงตาที่สามารถซุกซอนสิ่งของระดับสูงขนาดนี้เอาไว
ได มีเพียงผูบำเพ็ญเพียรโบราณเทานั้นที่ทำไดจริงๆ ทวาผูบำเพ็ญเพียรที่เขาใจเขต
อาคมนี้ ตอใหเปนในสมัยโบราณก็มีเพียงไมกี่คนสินะ? โชคดีที่คัมภีรที่ซินหรูอินมอบ
ให มีเขตอาคมที่คลายกันชนิดหนึ่ง มิเชนนั้นก็ไมรูวิธีทลายเขตอาคมจริงๆ ดูแลวตอ
จากนี้คงตองเพิ่มอานุภาพของเนตรวิญญาณใหแข็งแกรงขึ้นแลว ถาหากสามารถใช
ของเหลววิญ ญาณกระจางไดอยางตอเนื่องสักรอยกวาป ก็นาจะสามารถมองทะลุ
เคล็ดวิชาลวงตาระดับสุดยอดไดกระมัง”
หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ทาทางกลัดกลุมที่เนตรวิญญาณของตัวเองไม
สามารถมองทะลุผานเขตอาคมนี้ไดเปนอยางมาก
เขาไมสนใจไขมุกสีแดงที่ลอยอยูกลางอากาศไมขยับเขยื้อนอีก สายตามองไป
รอบๆ ดานหนึ่งรอบ จองเขม็งไปยังหมอกสีฟา ความือยักษขางหนึ่งเอาไวเชนกัน และ
พนเพลิงทารกออกไปอีกครั้ง
เวลานี้ ชั่วพริบตาเมฆหมอกพลันหายไปทามกลางเปลวเพลิง หานลี่ไมมีสีหนา
แปลกใจเลยสักนิด ทันใดนั้นพลันควาเมฆอีกกลุมเอาไวทันที หลังจากที่ลมเหลวไป
สองรอบ ในที่สุดก็หลอมไขมุกสีฟาเม็ดหนึ่งได
เชนนั้น หลังจากเสียเวลาไปครึ่งวัน ก็หลอมไขมุกสีเหลือง สีเขียว และสีทองสามเม็ด
สำเร็จ จากนั้ นหานลี่ก็เริ่มกวักมือเรียกไขมุ กหลายเม็ดนั่ น ดวยสีห น าเครงขรึม ชั่ว
ขณะนั้นไขมุกกลมๆ ที่แตเดิมลอยอยูพลันพุงเขามา
ทันใดนั้นนิ้วทั้งสิบพลันรายอาคมดึงดูด ไขมุกกลมๆ หมุนวนรอบตัวเขา และยิ่ง
ไปกวานั้นยังเร็วขึ้นเรื่อยๆ คอยๆ กลายเปนวงแหวนกลมๆ หาสีสายหนึ่ง บนวงแหวน
เปลงลำแสงวิบวับออกมา เผยใหเห็นความลึกลับอยางสุดๆ
“ไป!” หานลี่ขมวดคิ้วทั้งสอง ปากก็คำรามดวยเสียงทุมต่ำออกมา
เมื่อการเคลื่อนไหวบนนิ้วทั้งสิบหยุดลง วงแหวนกลมๆ หาสีพลันกระจายออก
ไขมุกหมุนโคจรเปนเสนทางที่ยากจะคาดเดา และดีดออกไปรอบๆ ดานพรอมกัน
ชั่วพริบตา ไขมุกก็บินมาถึงหาสถานที่ที่ดูไมไดเชื่อมโยงกันเลยแมแตนอย หมุน
ติ้วๆ ไปมาไมหยุด ในเวลาเดียวกันไขมุกก็เปลี่ยนรูปหดเล็กลงเปนรูปรางประหลาดๆ
ในตอนที่สองตาของหานลี่หรี่ตาลงนั้น เสียงปงปงพลันดังขึ้น ไขมุกกลมๆ ทั้งหา
ระเบิดออกพรอมกัน ลำแสงหลากสีสันปรากฏขึ้น สวางวาบจนแสบตา ราวกับวา
กลางอากาศมีดวงอาทิตยประหลาดหาดวงปรากฏขึ้นพรอมกัน
ถึงแมวาหานลี่จะหลับตาทั้งสองขางลงตามจิตสำนึก ไมกลาสบตากับลำแสงหาสี
นั้นตรงๆ
แตในตอนที่ลำแสงทั้งหาสีรวมตัวเขาดวยกัน ชั่วพริบตานั้นก็ทอแสงไปทั่วทั้งทองฟา
บรรยากาศรอบด านเปลี่ ย นไป ทั น ใดนั้ น เบื้ อ งหน าพลั น พราเลื อ น รางของหานลี่
ปรากฏขึ้นบนบันไดหินที่คุนเคย และไมไกลนักก็คือศิลายักษที่มีสมุนไพรวิญญาณงอก
อยูที่พวกเขาเคยเห็นนั่นเอง
“สหายหาน!”
“พี่หาน!”
เสียงรองอุทานของชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ดังขึ้นดานขางของหานลี่
หานลี่เลื่อนสายตาไป ถึงไดพ บไป เหยาอี๋และชายชราแซฟู คาดไมถึงวาจะมา
ปรากฏตัวขึ้นหางออกไปสองสามจั้ง ทั้งสองมีสีหนาทอแทเปนอยางมาก แตเวลานี้
กลับมีสีหนาตกตลึงระคนดีใจ
“สหายทั้งสองก็หนีออกมาได!” หานลี่เอยอยางราบเรียบ
“พี่หานเปนคนโจมตีเขตอาคมประหลาดๆ นั่นสินะ! ตาเฒาไมเคยเห็นเขตอาคม
เช น นี้ ม าก อ น นึ ก ว า จะถู ก กั ก อยู ที่ นั่ น จนตายเสี ย อี ก !” ชายชราแซ ฟู เอ ย อย า ง
หวาดกลัวสุดๆ
เห็นไดชัดวาอาวุโสพรรคเกายมโลกผูนี้กำลังเสียเปรียบใหกับเขตอาคมประหลาด
นั้นไมนอย ทาทางเหมือนสูญเสียลมปราณไปจำนวนมาก
“สถานการณของขาและพี่ฟูนั้นไมไดแตกตางกันนัก ขาเองก็หมดหนทางในเขต
อาคมนั้นเชนกัน ครั้งนี้ ตองขอบคุณพี่หานที่ทลายเขตอาคมแลว” ไปเหยาอี๋เองก็เอย
ขึ้นพรอมกับหัวเราะอยางขมขื่น ใบหนางดงามเผยสีหนาซาบซึ้งออกมา
“ไมเปนไรหรอก ขาเองก็แคบังเอิญไดยินเขตอาคมชนิดนี้มาเทานั้น ถึงไดสามารถ
ทลายมันได เขตอาคมโบราณชนิดนี้เปนชนิดที่พบเห็นไดยากมากชนิดหนึ่ง สมุนไพร
ต น ที่ พี่ ฟู เด็ ด ขึ้ น มา ถ า หากข า จำไม ผิ ด ละก็ น า จะเป น ภาพลวงตาที่ ส ร างขึ้ น จาก
ยุทธภัณฑชนิดหนึ่ง เกรงวาสหายคงโดนหลอกอยูไมนอย” หานลี่เอยพรอมกับหัวเราะ
หึๆ ออกมา
“สรางจากภาพลวงตา คงไมใชมั้ง ตอนนั้นขา...เอ นี่คืออะไร” ชายชราแซฟูไดยิน
คำพูดของหานลี่พลันตกตะลึง เอยอยางเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่งไปพลาง ควักกลองหยก
ออกมาจากยามเก็บของไปพลาง
ผลลั พ ธคื อ ด านในไม มี ส มุ น ไพรวิ ญ ญาณใดๆ กลั บ เป น เพี ย งหยกสมประสงค
ธรรมดาๆ กอนหนึ่งเทานั้น
ชั่วขณะนั้นชายชราพลันตกตะลึงจนตาคาง
“ความจริงแลวตอนที่พวกเราสามคนเหยียบไปบนกอนหินยักษกอนนั้น ก็ถูกเขต
อาคมลวงตาหลอกลวงแลว สมุนไพรที่สหายเด็ดมานั้นเปนแคสิ่งที่ใชกระตุนเขตอาคม
ที่รายกาจที่สุดเทานั้น ไมอยางนั้นสหายลองดูตรงนั้นอีกครั้งสิ!” หานลี่แววตาเปลง
ประกาย ชี้ไปยังกอนหินยักษ
ชายชราและไปเหยาอี๋ไดยินแลวพลันมองตามไป เห็นเพียงบนกอนหินยักษ มีตน
เจียงกั่ว (เบอรรี่ สีมวงอยูตนหนึ่ง
“ผูบำเพ็ญเพียรโบราณเหลานี้ชางชั่วรายนัก คาดไมถึงวาจะวางกับดักที่รายกาจ
ขนาดนี้ไว พวกเขาคิดอะไรอยูกันแน!” ชายชรารูสึกอับอายเปนอยางยิ่งทันที
ไปเหยาอี๋เองก็เผยอริมฝปากขึ้น ทาทางตะลึงงัน
“สหายทั้ งสองมิ ต อ งตกใจหรอก เดิ ม ที เขตอาคมโบราณเช น นี้ ก็ จ ำเป น ต อ งมี
ยุทธภัณฑเชนนี้เพื่อทำใหผูที่ติดเขาไปในเขตตองหามเขาไปสัมผัสดวยตัวเอง ถึงจะ
สำแดงอานุภาพทั้งหมดออกมาได แนนอนวาจะมีรูปรางเชนนี้ และเขตอาคมเหลานี้
ข าก็ แ ค ท ลายได ชั่ ว คราวเท านั้ น ไม ส ามารถกำจั ด ให สิ้ น ซากได ” หานลี่ เอ ย อย า ง
ราบเรียบ
“ภูเขาคุนอูนี้ไมเหมือนกับภูเขาเซียนเลย เหมือนกับบ อมังกรถ้ำพยัคฆชัดๆ!”
ชายชรามองเห็นวาสมุนไพรในมือนั้นหายไปแลว แนนอนวาก็รูสึกเจ็บปวด
“จากนี้คงตองระวังใหมากกวาเดิม ที่นี่ไมใชซากปรักหักพังของผูบำเพ็ญเพียรโบราณ
ธรรมดาๆ หากมีเรื่องประหลาดอะไร ทางที่ดีที่สุดก็อยาเคลื่อนไหวซี้ซั้ว เพื่อไมใหเกิด
หายนะขึ้น ครั้งนี้ ขานอยบังเอิญทลายเขตอาคมออกมาได แตครั้งตอไปผูแซหานก็ไม
มั่นใจนัก สหายทั้งสองคงรูความหมายของขานอย” หานลี่แววตาเปลงประกายสอง
สามครั้ง น้ำเสียงเครงขรึมเล็กนอย จูๆ ก็เย็นชาขึ้น
“เรื่อ งนี้ ...จากนี้ ผู แ ซ ฟู จ ะไม เคลื่ อ นไหวสุ ม สี่ สุ ม ห าอี ก ” ชายชราแซ ฟู หั ว เราะ
ออกมาแหงๆ อยางรูสึกกระดากอาย การเด็ดสมุนไพรวิญญาณในครั้งนี้ เขาคอนขาง
บุมบามไปจริงๆ
ไปเหยาอี๋เองก็พยักหนาอยางเหมอลอย
“ในเมื่อสหายทั้งสองเขาใจแลว พวกเราก็ไปกันเถิด เสียงบนภูเขาหยุดไปแลว พวกเรา
เองก็เสียเวลาไปหลายวันแลว บางทีคนอื่นๆ อาจจะไปถึงยอดเขาแลวกระมัง” หานลี่
หันหนาไปมองยอดเขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็บินนำหนาขึ้นไปบนบันไดกอนอีกครั้ง
ไปเหยาอี๋และพวกทั้งสองคนจึงเดินตาม
ครานี้ ไมไดพบความยุงยากอะไรอีก หลังจากผานไปสองสามชั่วยาม ในที่สุดทั้ง
สามที่ บิ น ผ านเสาขนาดใหญ ม าสองสามต น ก็ ม าถึ งศาลาหิ น ที่ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รของ
ตระกูลเยี่ยเขามาในวันนั้น วันนั้นเซี่ยงจือหลี่เองก็สลายหายไปจากในนี้
เมื่อมองเห็นดานขางของศาลาหิน ชายชราและไปเหยาอี๋ก็ไมไดรูสึกอะไร แตหาน
ลี่กลับรองเอออกมาเบาๆ จูๆ ก็จองเขม็งไปยังพื้นดินบางจุดดานนอกศาลา หยุดชะงัก
ฝเทาลง
ชายชราและพวกทั้งสองเห็นเชนนั้น ก็อดที่จะมองตามไปพรอมกันไมได ผลลัพธ
คือทั้งสองเองก็พบความผิดปกติตรงจุดนั้น
บนพื้นดินที่ออนนุม มีรอยเทาจางๆ รอยหนึ่ง ถาหากไมสังเกต ก็อาจจะมองขาม
ไปไดงายๆ จริงๆ
“มีผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นมาที่นี่ดังคาด!” ไปเหยาอี๋อุทานออกมาเบาๆ คิ้วดำขลับ
ขมวดแนนขณะเอย
“ไมใชแคน้ัน เจาดูภูเขาลูกนั้น!” หลังจากที่ชายชราเอยพึมพำ และกวาดตาไป
ตรงจุดหนึ่งขางๆ ศาลาหินแวบหนึ่งขณะเอย
บนภูเขาหินลูกนี้ มีรอยแยกยาวประมาณสองสามจั้งรอยหนึ่ง แคบและลึก แค
มองก็รูวาเปนรองรอยของกระบี่ที่รายกาจอยางสุดๆ นี่คือรองรอยของกระบี่สีเหลืองที่
ทานอาเจ็ดแหงตระกูลเยี่ยปลอยออกมาและทิ้งรองรอยเอาไวอยางไมไดตั้งใจ
“รอยกระบี่นี้ดูใหมมาก ดูแลวที่นี่ไมใชแคมีคนแตดูเหมือนวาจะประมือกันแลว
หรือวาคือยักษปกเงินตัวนั้น?” ไปเหยาอี๋กลอกตาไปมาขณะเอย
“อาจจะกระมัง! ดูแลวคนเหลานี้ คงเดิน ขึ้น มาตามบั น ไดหิ น เชน นั้ น ก็ ดี มี คน
เปดทางแทนพวกเราแลว พวกเราก็ลดความยุงยากลงไปอีก” หานลี่กลับเอยอยาง
ราบเรียบเปนพิเศษ
ชายชราแซฟูไดยินคำนี้ก็ยิ้มออกมา แตขณะกำลังจะเอยอะไรนั้น จูๆ รอบๆ ก็มี
มานแสงสีขาวสวางวาบ เงารางคนสีขาวโพลนบินออกมาจากดานใน
เพราะวาตำแหนงที่เงารางคนปรากฏขึ้นนั้นอยูตรงขามกับหานลี่และพวกทั้งสาม
คนพอดี แนนอนวาจึงถูกพวกเขามองเห็นอยางชัดเจน ผลลัพธคือหานลี่และไปเหยาอี๋
พลันตกตะลึงระคนดีใจในทันที
เขาสองคนคิดไมถึงเลยวา ทางออกที่ตัวเองตามหานั้น จะอยูใกลถึงเพียงนี้
ทวาชายชราแซฟูที่อยูดานขางเห็นเงารางสีขาวนี้ กลับหนาเปลี่ยนสีไปยกใหญ
“หามารใจเดียว รางแปลงมารของมารเฒาเฉียน!” หานลี่ไดยินชื่อนี้พลันตกตะลึง
ถึงแมจะรูสึกวาเหมือนเคยไดยินคำวาหามารใจเดียวจากที่ไหนมากอน แตตอนนั้นก็
นึกไมออกวามารเฒาเฉียนคือผูใดกันแน เมื่อไปเหยาอี๋ไดยินคำนี้ กลับเผยสีหนาซีด
ขาวออกมา และในตอนนั้ น ก็ มี เสี ย ง ‘พรึ่ บ ๆ’ ดั ง ขึ้ น อย า งต อ เนื่ อ ง เงาร า งคนที่
เหมือนกันอีกสี่เงาก็ทะลุออกมาจากมานลำแสงสีขาว
เงารางคนสีขาวจางๆ หาสาย ยืนเคียงไหลกันอยูอยางนั้น สายตาที่แข็งทื่อทั้งสิบ
ดวงจองมาที่หานลี่และพวกที่อยูตรงขามพรอมกัน
“อาวุโสพรรคตาขายทมิฬ!” เมื่อเห็นรูปรางประหลาดของทั้งหาคน ในที่สุดหานลี่
ก็นึกถึงประวัติความเปนมาของอีกฝายออก ชั่วพริบตานั้นสีหนาพลันดูไมได
“ที่แทก็สหายฟูนี้เอง ชางบังเอิญจริงๆ! มินาละลูกนองของผูแซเฉียนตามหาสหายไป
ทั่วอยางไรก็ไมพบ ที่แทก็เขามาในนี้กอนนี่เอง เซียนทานนี้ดูจากเครื่องแตงกายแลว
เปนเอกลักษณมาก หรือวาคือผูบำเพ็ญเพียรของวังราตรีเหนือ ขานอยและฮูหยินหลิ่ว
ของสำนักทานนับวาเปนสหายเกากัน สวนสหายคนสุดทายนั้น จุๆ! หรือวาคือพี่หาน
ที่มีตนกำเนิดมาจากเทียนหนาน พี่หาน เจาปลอยใหพรรคของขาและธิดาเทพเทียน
หลานตามหาตั้งนาน!” ตอนแรกเสียงของมารเฒาเฉียนเต็มไปดวยความประหลาดใจ
ทันใดนั้นก็หัวเราะอยางบาคลั่งออกกมาดวยความตกตะลึงระคนดีใจ
ตอนที่ 1002 ปะทุจิตสังหาร
เมื่อไดยินคำวาหานลี่และเทียนหนาน ชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋ตางก็เผยสีหนา
ประหลาดใจเล็กๆ ออกมา อดไมไดที่จะมองไปทางหานลี่แวบหนึ่งดวยความสงสัย
หานลี่กลับทำแคมองไปยังเงารางสีขาวทั้งหาสายที่อยูไกลออกไปดวยสีหนาเครง
ขรึมไมปริปากใดๆ
ตองเขาใจวาเขาเคยสังหารอาวุโสระดับกอกำเนิดขั้นกลางของพรรคตาขายทมิฬ
คนหนึ่งดวยมือของตัวเอง แมแตสมบัติประจำพรรคอยางธงตาขายภูตผีก็ยังถูกเขา
แยงชิงมาดามหนึ่ง แนนอนวาจึงไมอาจใชวิธีการพูดเปลี่ยนศาตรายุทธใหกลายเปนผา
แพรหยก*อะไรไดอีก และยิ่งไปกวานั้น แตเดิมเขาก็อยากไดวิธีแกคาถาผนึกวิญญาณ
จากพรรคตาขายทมิฬอยูแลว และคาถาชนิดนี้ ก็มีเพียงผูนำพรรคและอาวุโสผูหนึ่งที่
อยูเบื้องหนาเทานั้นที่รู
เชนนั้น แตเดิมหานลี่วางแผนไววาหลังจากเสร็จสิ้นธุระครั้งนี้ ก็จะหาวิธีเอาชนะ
ผูนำพรรคตาขายทมิฬ
แตตอนนี้กลับโชครายจนไดพบกับอีกฝายที่นี่ดวยความบังเอิญ ภายใตความไม
ทันระวังตัวของหานลี่ ก็เคยขบคิดถึงโอกาสที่จะบังเอิญพบกับอีกฝายที่นี่อยูเงียบๆ
แลว อยางไรเสียทั้งสองคนนั้นก็เปนถึงผูมีอำนาจสูงสงของพรรคตาขายทมิฬ โอกาสที่
จะตามหาอีกฝาย ก็มีไมมากนักจริงๆ
ในสงครามระหวางเขากับยักษปเงินซึ่งมีพลังเทียบเทากับอาวุโสระดับกอกำเนิด
ขั้นปลายนั้น เจาตัวประหลาดนั่นไมมีสมบัติอาคมที่เหมาะมือ ในตัวก็ยังมีเขตอาคม
ผนึกอยู เขาจึงเกือบสังหารมันได แมตอนนั้นเขาจะยังใชความสามารถออกมาไมหมด
หุนเชิดรางมนุษยยังไมไดใช แตก็ยังไมมั่นใจวาเมื่อเผชิญหนากับผูบำเพ็ญเพียรสาย
มารระดับกอกำเนิดขั้นปลายแลวจะสามารถเอาชนะไดหรือไม
แตถึงแมหามารใจเดียวจะมีชื่อเสียงยิ่งใหญ ทวาการกำราบเคล็ดวิชาสายมารของ
อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายของเขานั้น ก็ยังทรงพลังหาใดเปรียบ
ในตอนที่ความคิดของหานลี่กำลังเคลื่อนไหวอยางรวดเร็วราวกับสายฟา ขบคิดถึงขอ
ไดเปรียบเสียเปรียบซ้ำไปซ้ำมานั้น สองมือของเงาตรงกลางในกลุมมเงารางสีขาวทั้ง
หาที่อยูไกลออกไปก็พลันรายอาคม แสงสีเทารอบกายสวางวาบ ผูบำเพ็ญเพียรที่สวม
ชุดคลุมสีเทาคนหนึ่งกะพริบวาบออกมาจากเงารางสีขาว ขั้นตอนการปรากฏกายที่
แปลกประหลาดนั้น ทำใหผูคนรูสึกวาเหมือนภูตผีอยางไรอยางนั้น
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีเทามีไอสีเทาจางๆ ปกคลุมใบหนาอยู ไมมีทางมองเห็น
ใบหนาที่แทจริงได แตดูจากศีรษะที่มีเสนผมสีดอกเลาแซมอยูและเครื่องแตงกายนั้น
ก็เห็นไดชัดวาเปนอาวุโสที่อายุอานามไมนอยคนหนึ่ง
ร า งที่ แ ท จ ริ ง ของมารเฒ า เฉี ย นคาดไม ถึ ง ว า จะแยกออกจากร า งมารที่ สิ ง อยู
ปรากฏตัวขึ้นแลว
เวลานี้ ไมใชแคหานลี่ แมแตชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋ก็ยังรูสึกระแวดระวังขึ้น
ดวงตาจองเขม็งไปยังมารเฒาไมกะพริบ อยากรูวาอาวุโสของพรรคตาขายทมิฬผู
นี้คิดจะทำอะไรกันแน
แตมารเฒาก็ไมไดเอยปากพูดอะไร แตกลับใชมือหนึ่งตบไปที่เอว ธงเล็กๆ สีดำ
สนิทราวกับหมึกปรากฏขึ้นในมือ จากนั้นก็สะบัดไปทางตำแหนงที่หานลี่และพวกทั้ง
สามยืนอยูเบาๆ
ชายชราหนาเปลี่ยนสี มือขางหนึ่งควาสมบัติชิ้นหนึ่งเอาไวในทันที
รอบกายของไปเหยาอี๋เปลงแสงเย็นเยียบสวางวาบ ชั่วพริบตารางกายก็ถูกหอหุม
เอาไวดวยลำแสงวิญญาณ
แตหานลี่กลับขมวดคิ้ว ไมไดเคลื่อนไหวใดๆ หวางคิ้วเผยความเย็นชาออกมา
“แปลกจริง แปลก…” ธงเล็ ก ๆ ด ามนั้ น แค เปล งแสงสี ด ำสวางวาบ แต ไม มี มี
ปฏิกิริยาใดๆ อีก นี่จึงทำใหมารเฒาพึมพำกับตัวเองไมหยุด ดูเหมือนวาจะประหลาด
ใจเล็กนอย
“พี่ เฉียน นี่ มันหมายความวาอยางไร? เอาธงตาข ายภู ตผีอ อกมา คิ ดจะลงมื อ
หรือ? หรือวาคิดจะกอสงครามระหวางสองพรรค!” ถึงแม วาชายชราแซ ฟู จะรูสึก
หวาดกลัวมารเฒาเฉียนมาก แตทางดานพวกเขาก็มีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดถึง
สามคน โดยเฉพาะหานลี่ที่มีความสามารถลึกล้ำยากจะคาดเดา จึงไมคอยหวาดกลัว
อีกฝายนัก
“สองครามระหวางสองพรรค? ไม สนใจหรอก ผูแซ เฉีย นแค มีเรื่องเก าๆ ต อ ง
จัดการกับสหายหานเทานั้น ไมเกี่ยวของกับทั้งสองทาน ถาหากยอมจากไปในตอนนี้
ผูแซเฉียนก็จะไมสรางความลำบากใจอยางแนนอน” หลังจากที่มารเฒาเฉียนกวาด
สายตาไปบนรางของทั้งสามแลว ก็เอยขึ้นอยางราบเรียบ
“คำพูดของสหายเฉียนมีนัยถึงขา ผูแซหานเองไดยินชื่อเสียงของหามารใจเดียว
มาเนิ่นนานแลว กำลังคิดจะแลกเปลี่ยนกับสหายอยูพอดี!” หานลี่หัวเราะออกมา คาด
ไมถึงวาจะคลอยตามในทันที
เมื่อไดฟงคำพูดของทั้งสอง ชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋ก็มองสบตากัน
มารเฒาเฉียนเองก็ตกตะลึง สายตาเย็นชากวาดไปมาบนเรืองรางของหานลี่หลายครั้ง
“เรื่องนี้...พี่เฉียน! ถึงแมวาขานอยจะรูวาสหายหานและพรรคของทานมีเรื่องราว
ตอกัน แตอยาลงมือที่นี่เลย มันไมคอยเหมาะกระมัง พี่เฉียนไมอยากคนหาสมบัติใน
ภูเขานี้หรือ?” ชายชราแซฟูขมวดคิ้วพลางเอยชักจูง
นั่นไมใชเพราะเขาอยากจะปกปองหานลี่จริงๆ แตแคภูเขาคุนอูดูแลวอันตราย
เปนอยางมาก พันธมิตรที่ทรงพลังอยางหาไดยากเชนนี้ แนนอนวาจึงไมอยากใหเกิด
เรื่องที่คาดไมถึงขึ้น และยิ่งไปกวานั้นมีเพียงการดึงหานลี่มาเปนพวกได เขาถึงจะไม
โดดเดี่ยว ไมตองกลัววามารเฒาเฉียนผูนี้จะกลับกลอกตั้งตนเปนศัตรู
“ภูเขาลูกนี้ ผูแซเฉียนตองคนหาแนนอนอยูแลว แตสหายหานผูนี้คือคนที่พรรค
ของขาตามหามาเนิ่นนานแลว และไมอาจปลอยไปได ขากับสหายหานจะตัดสินเรื่อง
นี้กันกอนแลวคอยวากันก็แลวกัน ทำไม พี่ฟูอยากสอดมือเขามายุงเรื่องนี้หรือ?”
มารเฒาเฉียนหัวเราะอยางเย็นชาออกมา
“นอกภูเขาลูกนี้ พี่เฉียนและสหายหานมีความแคนตอกัน ขานั้นจะไมซักถาม แต
ที่นี่ พวกเราสามคนกำลังรวมมือ กัน ค น ภู เขาลูกนี้ อยู เกรงวาจะไม อ าจปล อ ยให พี่
เฉียนสมหวังได” หลังจากที่ดวงตาคูงามของไปเหยาอี๋กลอกไปมาชั่วครู ก็เอยออกมา
อยางเด็ดขาด
สำหรับสตรีผูนี้ ก็กลัววาจะสูญเสียตัวชวยที่ยิ่งใหญอยางหานลี่ไป และทำใหตัวเองตก
อยูในอันตราย แนนอนวาสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สตรีผูนี้และชายชราแซฟูเห็นหานลี่มี
ความสามารถเกรียงไกรขนาดนี้ จึงไมคิดวาหานลี่จะหวาดกลัวมารเฒาเฉียนจริงๆ
มิเชนนั้น นางจะกลาเอยวาจาเชนนี้ออกไปหรือไม ก็เปนเรื่องที่พูดยากแลว
เมื่อเผชิญหนากับความแข็งกราวของชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋ แววตาเย็นเยียบ
ในดวงตาของผูที่สวมชุดสีเทาก็สวางวาบ พลันกวาดสายตาที่ดูเหมือนจะสามารถเชือด
เฉือนหัวใจและอวัยวะภายในไดออกไป
แตไมวาจะเปนชายชราแซฟูหรือวาไปเหยาอี๋ ก็ลวนไมใชผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ
ถึงแมวาจะรูสึกตื่นตกใจอยูเงียบๆ แต ใบหน ากลับ เผยเพี ยงสีห น าขลาดกลั วเล็กๆ
ออกมาเทานั้น
“ได เห็นแกหนาของสหายทั้งสอง ตาเฒาก็ไมใชวาจะไมอาจเก็บเรื่องนี้ไวกอนได
แตสมบัติของพรรคขา ตกอยูในมือของคนผูนี้ จำตองเอาออกมามอบใหขาเดี๋ยวนี้ มิ
เชนนั้น ตอใหวันนี้ตองสูญ เสียปราณแทไปจำนวนมาก ก็จำตองสูกับสหายทั้งสาม
แลว” มารเฒาเฉียนเก็บสายตาเย็นชากลับไป พลางเอยอยางราบเรียบ
“สมบัติ? ทานหมายถึงธงตาขายภูตผีนะหรือ?” หานลี่หัวเราะฮาๆ ออกมา เอย
อยางไมเกรงใจ
“สมบัติชิ้นนั้นแหละ ตอนนั้นอาวุโสสี่ของพรรคขาเพลี่ยงพล้ำตองตายไปในเทียน
หนาน ธงดามนั้ น ก็น าจะตกอยูในมื อ ของสหายสิน ะ ขอแคคืน มั น มาตอนนี้ ขาจะ
ปลอยเจาไปชั่วคราว” มารเฒาเฉียนเอยดวยน้ำเสียงโหดเหี้ยม
“ปลอยขาไป? สหายชางโอหังนัก ธงตาขายภูตผีนั้นขาคืนใหทานได แตตองมี
เงื่อนไขขอหนึ่ง ไมทราบวาพี่เฉียนจะยอมฟงหรือไม!” หลังจากที่หานลี่เงียบกริบไปชั่ว
ครู จูๆ ก็เงยหนาขึ้นมองทองฟา มุมปากหยักรอยยิ้มเยาะออกมาขณะเอย
“เงื่อนไข? เจาสังหารอาวุโสสี่ของพรรคขา เอาสมบัติที่สืบทอดกันมาของพรรค
ขาไป ยังกลามาตั้งแงกับตาเฒาอีกหรือ! เจาคิดวาตาเฒาไมกลาเอาชีวิตเจารึ?”
มารเฒ าเฉียนหัวเราะอยางโกรธเกรี้ยว เงาสีขาวหาสายดานหลังสั่นคลอน ใน
เวลาเดียวก็ลอยขึ้นมาดานหนา ชั่วครูก็ยืนอยูเบื้องหนามารเฒาเฉียน
ชั่วพริบตาบรรยากาศพลันตึงเครียดขึ้นในทันที
ชายชราแซ ฟู ที่ อ ยู ด านข า งได ยิ น แล ว พลั น ตกตะลึ งยกใหญ เผยสี ห น า แปลก
ประหลาดออกมา
เรื่องที่อาวุโสสี่ของพรรคตาขายทมิฬหายไปอยางไมมีเหตุผล ในฐานะที่เปนหนึ่ง
ในสิบพรรคสายมาร พรรคเกายมโลกก็รูมาบางไมนอย
แตตาเฒาคิดไมถึงเลยวา ผูบำเพ็ญเพียรสายมารที่มีชื่อเสียงไมนอยในพรรคสายมาร
จะมาตายดวยน้ำมือของหานลี่ ดูเหมือนวาแมแตธงตาขายภูตผีที่มีชื่อเสียงเกรียงไกร
ของพรรคตาขายทมิฬ ก็ยังตกอยูในมื อ ของเขา มิ น าล ะมารเฒ าเฉีย นผูนี้ ทั้ งที่ รูวา
ตอนนี้ไมใชโอกาสในการตอสูที่ดีที่สุด ก็ไมยอมปลอยสหายหานของพวกเขาไป
สวนประวัติ ค วามเป น มาที่ ห านลี่ ป กป ด เอาไววาไม ใชผู บ ำเพ็ ญ เพี ยรจากนอก
มหาสมุทรแตเปนผูบำเพ็ญเพียรจากเทียนหนานนั้น ไมคุมคาใหพูดถึงเลยจริงๆ!
“เหอะ! คืนใหพรรคทาน สหายเฉียนก็พูดงาย ไมทราบวาอาวุโสสี่ของพรรคทาน
วิ่งไปเทียนหนานของพวกเราอยางไมมีเหตุมีผลเพราะเหตุใดหรือ และแอบยังลงมือ
กับคูบำเพ็ญเพียรของขานอยอีก นายทานคิดวาขาจะมอบธงดามนั้นใหงายๆ หรือ?”
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม จูๆ ก็เอยขึ้นอยางเยือกเย็น
“สาเหตุที่อาวุโสสี่ไปเทียนหนานรวมทั้งเหตุใดถึงตายดวยน้ำมือของเจา ตาเฒาไมสน
และไมอยากรูดวย แตสมบัติที่สืบทอดตอกันมาของพรรคขา ตาเฒาจะตองเอากลับมา
ใหได มิเชนนั้น พรรคตาขายทมิฬของพวกเราจะเอาหนาไปไวที่ไหน?” มารเฒาเอย
ตัดบท
“เชนนั้น สหายเฉียนก็ไมอยากฟงเงื่อนไขของขาเลยสักนิดสินะ!” รูมานตาทั้งสอง
ของหานลี่หดเล็กลง เผยแววตาบาคลั่งออกมา
“ฮาๆ เงื่อนไข? ถาหากเจาเป นอาวุโสใหญ ของสิบ พรรค บางที ตาเฒ าอาจจะ
อยากฟงสักหนอย แตเจาเปนเพียงผูบำเพ็ญเพียรเล็กๆ คนหนึ่งจากเทียนหนาน จะ
คูควรอะไรใหตาเฒาพูดคุยดวย?” มารเฒาเฉียนเงยหนาขึ้นหัวเราะกับทองฟาอยาง
บาคลั่ง ระเบิดไอทมิฬบนเรือนรางออกมาจากนั้นรางกายพลันแวบหายไป ชั่วครูก็จม
หายเขาไปในเงารางสีขาวสายหนึ่งอยางไรรองรอย
ชั่วขณะนั้นเงารางสีขาวหาสายพลันเปลงแสงออกมา ชั่วพริบตาดวงตาที่แตเดิมไร
แววโกรธเกรี้ย วก็ เผยสี ห น าบ าคลั่ งและกระหายเลื อ ดออกมา ชั่ ว ครู ก็ เปลี่ ย นเป น
อันตรายอยางสุดๆ
“แยแ ล ว! ขาเกื อ บลื ม ไป มารเฒ าผู นี้ ฝก ฝน ‘มหายุท ธฝน อารมณ ตั ด สวรรค ’
เคล็ดวิชานี้เนนหนักในเรื่องอารมณ คำพูดคุกคามของพวกเราเมื่อครูสงผลยอนกลับ
ทำใหมารเฒาผูนี้โกรธแลว” เมื่อเห็นมารเฒาเฉียนมีทาทีบาคลั่ง ชายชราแซฟูถึงไดนึก
อะไรขึ้นมาได ชั่วขณะนั้นพลันเอยขึ้นอยางรูสึกเสียใจในภายหลัง
ไปเหยาอี๋ไดยินแลวคิ้วดำขลับพลันขมวดเขาหากัน แตก็ชูมือขึ้นอยางไมตองคิด
ทันใดนั้นก็กลายเปนมีดบินผลึกน้ำแข็งเลมหนึ่งหมุนวนขึ้นไปบนฟา ชั่วพริบตาพลัน
กลายเปนลำแสงสีขาวสายหนึ่งหมุนวนติ้วๆ ลอยอยูเหนือหัว
หานลี่มีสีหนาราบเรียบพลางหรี่ตาทั้งสองขางลง มือที่ซอนอยูในแขนเสื้อพลัน
เคลื่อนไหว พัดตรีเปลวเพลิงปรากฏขึ้นในมือ อีกมือหนึ่งกดไปที่ยามเก็บของอยาง
เงียบเชียบ ชั่วพริบตาจิตสัมผัสก็ระบุเปาหมายอยูที่หุนเชิดเงารางคน
เขาตัดสินใจแลว ขอแคขยับมือทั้งสอง ถือโอกาสที่มารเฒาถูกชายชราและไปเหยาอี๋
ดึงความสนใจเอาไว ปลอยเครื่องมือสังหารออกมาพรอมกันในทันที เพื่อถือโอกาสนี้
ทำใหอีกฝายไดรับบาดเจ็บหนักในพริบตา
ถึ งแม ว าจะไม มี ท างเอาชี วิ ต ของอี ก ฝ ายได แต ก็ ท ำให พ ลั งยุ ท ธ ข องเขาได รั บ
บาดเจ็บหนัก ครั้งตอไปเมื่อเผชิญหนากับอาวุโสของพรรคตาขายทมิฬอีกครั้ง จะได
สรางเงื่อนไขได
ถึงอยางไรคาถาผนึกวิญญาณของหนานกงหวั่น ก็เปนเรื่องหนึ่งที่หานลี่ไมเคยลืม
ขอแคไดวิธีแกคาถานี้มา เขาถึงจะวางใจได ตอใหไมมีที่ยืนในตาจิ้น วันขางหนาตอง
พบกับการไลสังหารจากผูบำเพ็ญ เพียรของพรรคตาขายทมิฬทั้งวันทั้งคืน เขาก็ไม
เสียดาย
และในตอนนี้ ปากของมารทั้งหานั้นก็เปลงเสียงคำรามประหลาดๆ ออกมาพรอม
กัน จากนั้นรางกายก็พลันจางลงในชั่วพริบตา หากมองจากที่ไกลๆ เงารางสีขาวนี้ก็ดู
เหมือนวาจะกลายเปนควันจางๆ หาสาย จากนั้นรางกายพลันยืดยาวขึ้น กำลังจะ
กระโจนลงมาดวยความโหดเหี้ยม
แตในตอนนั้นเอง เงารางสีขาวแตเดิมที่อยูบนมานแสงก็ทะลวงออกมา จูๆ เสียง
ระเบิดกัมปนาทก็ดังขึ้น แสงสีเงินที่เจิดจากลุมหนึ่งสาดสองออกมาจากตรงนั้น ลำแสง
นั้นเจิดจาจนแสบตา
ยังไม รอให ห านลี่ แ ละพวกเขาใจวาเกิ ด อะไรขึ้ น เสี ย ง ‘พรึ่บ ๆ’ ก็ ดั งขึ้ น ท ามกลาง
ลำแสงสี เงิ น ไม ห ยุ ด ลำแสงหลี ก หนี เกื อ บสิ บ สายพุ ง ออกมาจากด า นในติ ด ๆ กั น
ลำแสงหลีกหนีทยอยกันหมนแสงลง รอบๆ มีเงารางคนปรากฏขึ้นมากกวาเดิม

*เปลี่ยนศาตรายุทธใหกลายเปนผาแพรหยก หมายถึง เปลี่ยนจากสงครามเปน


สันติภาพ
ตอนที่ 1003 หุนเชิดศิลา
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น เหตุใดเหลาสหายถึงมีทาทีลนลานเชนนี้” มารเฒาเฉียนรูสึก
ประหลาดใจ เงาสีขาวแตเดิมที่ตั้งทาโจมตี แวบหายไปแลวก็ปรากฏตัวขึ้นที่เดิมอีก
ครั้ง หลังจากที่หันกายไปดานหลังกึ่งหนึ่ง ก็เปลี่ยนเปนทาทางเตรียมการปองกัน
เพราะถึงแมวาผูบำเพ็ญเพียรที่บินออกมาจากมานลำแสงดานหลังจะมีทาทีจน
ตรอกอยางสุดๆ แตทุกคนลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด ถึงแมวามารเฒาจะ
อวดดีขนาดไหน ก็ไมกลาทำเปนมองไมเห็นเรื่องนี้ได และยิ่งไปกวานั้นเสียงระเบิดที่
ดังออกมาจากมานลำแสงเมื่อครู ก็ยิ่งทำใหเขาอดที่จะมีลางสังหรณไมดีไมได
“พี่เฉียนมีความสามารถเกรียงไกรดังคาด คาดไมถึงวาจะมาถึงที่นี่เร็วกวาพวกเรา
กาวหนึ่ง เอ นี่ไมใชสหายฟูจากพรรคเกายมโลกหรือ? ทานสองทานคือ…”
เห็นไดชัดวาผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้คือสี่อาวุโสจากสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์และผูบำเพ็ญ
เพียรระดับกอกำเนิดอีกหาคน อรหันตสี่กำจายก็ยังมีทาทีลับๆ ลอๆ รวมอยูในนั้น
ดวย แตเมื่อ ฮัวเทียนฉีเห็ นหานลี่และพวกทั้ งสามคน กลับ รูสึกตกตะลึงและสงสั ย
ขึ้นมา
“ที่แทก็พี่ฮัวนี่เอง ชางบังเอิญจริงๆ ทวา เสียงระเบิดเมื่อครูมันเกิดอะไรขึ้นกันแน?”
ชายชราแซฟูกลับติดใจอยูกับเรื่องทางออก จึงไมคิดจะอธิบายอะไร และเอยซักถาม
อยางรีบรอน
“เหอะ! เรื่องนี้พวกเรายังตองถามเหลาสหายมากกวานะ ในเมื่อพวกทานมาถึง
ที่นี่กอนพวกเรา คิดดูแลวเขตอาคมลวงตาที่ดานนอกก็คงเปนสิ่งที่พวกทานวางไวสินะ
เขตอาคมลวงตาที่ระเบิดปดทางเดินไปอีกครั้งเมื่อครู คิดดูแลวคงเปนสิ่งที่เหลาสหาย
เตรียมการเอาไวสินะ” ชายรางใหญหนึ่งในเหลาผูบำเพ็ญเพียร กลับเอยออกมาพรอม
กับสงเสียงเหอะดวยความเย็นชา
เมื่อไดยิน คนที่เหลือก็หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย จองเขม็งไปยังพวกหานลี่ และ
ทยอยกันเผยสีหนาไมเปนมิตรออกมา
“เหลาสหายอยาเพิ่งเขาใจผิด ตอนที่ผูแซฟูและพวกมาถึงที่นี่ ที่นี่ก็มีผูบำเพ็ญ
เพียรคนอื่นมาถึงที่นี่ตั้งนานแลว เขตอาคมลวงตาที่พวกทานพูดถึงไมใชสิ่งที่พวกเรา
สามคนทำ นายทานเสียเปรียบมาก หรือวาคิดจะมาลงกับผูแซฟู?” ชายชราแซฟูได
ยินคำพูดนี้ ชั่วขณะนั้นพลันมีสีหนาเครงขรึม พลางเอยอยางไมเกรงใจเลยแมแตนอย
ในสถานการณที่ซับซอนเชนนี้ ไมอาจแสดงความออนแอออกมางายๆ มิเชนนั้น
คนอื่นจะคิดวาเปนผูที่ออนแอและพากันมารังแก จนสุดทายก็ถูกคนอื่นๆ รุมเอางายๆ
“ที่นี่ยังมีคนอื่นอีก?” เวลานี้ ไมเพียงสี่อาวุโสของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ที่ตกตะลึง
แมแตมารเฒาเฉียนก็ยังตกตะลึงไปดวย
“เหอะ พวกเราสามคนถูกเขตอาคมโบราณสงตัวมาที่นี่โดยบังเอิญ ตอนนั้นก็ได
ยินเสียงปริแตกของเขตอาคมจากบนภูเขาแลว แตแคตอมาถูกเขตอาคมกักเอาไวที่นี่
สองสามวัน จึงไดไมอาจคนหาคนเหลานั้นไดทันเวลา คิดดูแลว เขตอาคมลวงตาที่
พวกทานพูดถึงนาจะเกี่ยวของกับคนกลุมนั้น” ชายชราแซฟูเองก็ไมปลอยไปงายๆ
อธิบายเรื่องนี้อยางคราวๆ และกระชับ
“เปนเชนนั้นจริงหรือ?” ชายรางใหญเผยสีหนาขบคิดออกมา ผูบำเพ็ญเพียรที่
เหลือก็รูสึกเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่ง
“พี่ฟูคืออาวุโสผูคุมกฎของพรรคเกายมโลก ไมอาจหลอกลวงพวกเราดวยเรื่อง
เชนนี้แน และยิ่งไปกวานั้นถาหากพรรคเกายมโลกเปนผูเปดผนึกจริงๆ สหายกูของ
พรรคเกายมโลกก็ตองมาสั่งการที่นี่ดวยตนเองแน” ฮัวเทียนฉีมีสีหนาผอนคลายลง
กลับดูเหมือนวาจะเชื่อคำพูดของชายชราทั้งหมด
“นั่นมันก็ใช!” ภายใตการขบคิดของชายรางใหญ ก็รูสึกมีเหตุผลขึ้นมา
“ทวาตอนที่ บิ น เขามาเมื่อ ครู ทั้ งสามและพี่ เฉี ยนดู แปลกๆ หรือ วาสหายฟู ไป
ล ว งเกิ น อะไรพี่ เฉี ย นเข า ?” ฮั ว เที ย นฉี ก ลอกตาไปมา จู ๆ ก็ เอ ย ถามถึ ง เรื่ อ งนี้ ขึ้ น
อยางไรเสียเมื่อครูพวกหานลี่ทั้งสามและมารเฒ าเฉียนก็กำลังอยูในทาพรอมรบ ผู
บำเพ็ญเพียรกลุมนี้มองเห็นอยางชัดเจน
“เรื่องนี้…” ชายชรามีสีหนาลังเลขึ้นมา
......
ในตอนที่ชายชราแซฟูกำลังขบคิดวาจะตอบคำถามนี้อยางไรนั้น ในวิหารยักษ
บางแหงบนภูเขาคุนอูที่อยูไกลออกไป ก็มีคนประหลาดที่เปนผูนำถือคอนเล็กๆ สี
ทองเหลืองอันหนึ่งโบกสะบัด ชั่วขณะนั้นประจุไฟฟาสีเงินขาวสายหนึ่งพลันพุงออกมา
ชั่วครูก็โจมตีหุนเชิดศิลาพยัคฆที่อยูใกลตนเองตัวหนึ่งจนแตกละเอียด
ผูบำเพ็ญ เพียรของตระกูลเยี่ยที่อยูดานหลังของเขา ตางก็กำลังควบคุมสมบัติ
อาคมของตัวเองเชนกัน กำลังโจมตีหุนเชิดศิลารูปรางตางๆ ที่อยูเบื้องหนา
หุ น เชิ ด เหล านี้ ล ว นมี รูป ร างเป น อสู ร เดิ น ดิ น และวิ ห คบิ น ไม เพี ย งร า งกายจะ
แข็งแกรงเปนพิเศษ และยิ่งไปกวานั้นยังสามารถพนเคล็ดวิชางายๆ ตางๆ ออกมาจาก
ปาก ดูดุรายเปนพิเศษ พากันทะลักออกมาจากทางเดินทั้งสี่สายรอบๆ วิหาร ราวกับ
วาไมมีที่สิ้นสุด
แตผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยพวกนี้กลับมีสีหนาเยือกเย็น แควุนอยูกับการควบคุม
สมบัติอาคมเทานั้น ดูเหมือนวาจะทราบดีอยูแลว
หลังจากผานไปชั่วครู ดานขางก็มีเสียงดังสนั่นดังขึ้น ทางเดินดานนั้นยุบตัว ชั่ว
ขณะนั้นหุนเชิดศิลาที่อยูทางนี้พลันหยุดกรูกันเขามา
ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยไดยินเสียงนี้ ใบหนาตางเผยสีหนาดีอกดีใจออกมา
ไมนานนักตามทางเดินอีกสามแหงก็มีเสียงกัมปนาทดังขึ้น ไมมีหุนเชิดตัวใหมเพิ่ม
เขามาอีก เศษซากหุนเชิดในวิหารที่ถูกผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยกำจัดถูกกวาดออกไป
จนเกลี้ยงในพริบตา
“ของพวกนี้คืออะไร ดูเหมือนวาจะไมเหมือนกับหุนเชิดกอนหนา”
เหลาคนตระกูลเยี่ยถึงไดผอนคลายลง ทยอยกันควักศิลาวิญญาณออกมา แลวนั่ง
สมาธิลง
ถึงแมวาครั้งนี้จะดูเหมือนวาไมอันตรายนัก แตเพราะวาพวกเขาควบคุมสมบัติ
อาคมมาเปนเวลานานแลว ทำใหพวกเขาสูญเสียลมปราณไปไมนอย
และในเวลานี้ลำแสงหลีกหนีสายหนึ่งก็พุงออกมาจากทางเดินที่พังทลายลงเปน
ทางเดินสุดทาย ชั่วพริบตาก็มาอยูเบื้องหนาทุกคน ลำแสงนั้นหมนแสงลง เผยใหเห็น
รางของนักปราชญที่สวมชุดสีขาว
“อาวุโสหาน ทานพูดถูก สุดทางเดินเหลานี้มีวิหารตั้งอยูอยางละแหงจริงๆ หุนเชิด
เหลานี้ลวนวิ่งออกมาจากที่นั่น ขาใชวิธีของสหาย ถึงไดทลายเขาไปได จุดศูนยกลาง
ของวิหารตางถูกขาทำลายลง” นักปราชญหัวเราะออกมาพลางเอยกับคนคนหนึ่ง
“ไมมีอะไรหรอก ความเปนมาของเขตอาคมหุนเชิดนี้ ขานอยเคยอานมาจาก
คัมภีรโบราณเลมหนึ่ง ถึงไดรูวาตองรับมือกับมันอยางไร มิเชนนั้นหากรับมือตรงๆ อยู
ที่เดิม ตอใหมีพลังยุทธเหนือชั้นก็ถูกทำลายพลังจนตายอยูดี” เสียงที่ตอบกลับมาเปน
เสียงราบเรียบของมารโบราณ
“ฮ าๆ ดู แ ล วที่ ผู แ ซ เยี่ ย เสนอให อ าวุโสหานมาด วย จะมี ป ระโยชน ดั งคาด วั น
ขางหนาเกรงวาจะตองพึ่งสหายอีกหลายอยาง” นักปราชญเอยดวยสีหนาเบิกบาน
“อาวุโสเกรงใจเกินไปแลว ตอใหไมกลาว ผูแซหานก็จะพยายามอยางสุดกำลังอยูดี”
มารเฒาหยักมุมปากขึ้น เอยคำพูดมีมารยาทออกมาอยางราบเรียบ ทำใหนักปราชญ
พยักหนา ดวยความรูสึกพึงพอใจ
ในตอนนั้นเอง คนประหลาดที่เปนผูนำซึ่งอยูดานขาง ก็หัวเราะขึ้นมาขณะเอย
“นับเวลาดูแลว เขตอาคมลวงตาที่พวกเราวางเอาไวคงทำงานแลว หากโชคดีละก็ ไม
แนวาอาจจะถวงเวลาใหตระกูลเยี่ยของพวกเราไดอีกนิดหนอย”
“แนนอน จนถึงตอนนี้ก็นาจะมีคนทะลวงเขตอาคมออกมาไดแลว ขอแคมีคนเขา
ไปในเขตอาคม แนนอนวาจะตองพบกับแผนตอมาแน ทำใหเขตอาคมลวงตาระเบิด
ตัวเองไดในระยะเวลาสั้นๆ ทวาสิ่งกีดขวางจากการระเบิดตัวเอง มากสุดก็จะถูกกำจัด
ทิ้งในหาหกวัน ทางเขาก็จะเขาไดอีกครั้ง และยิ่งไปกวานั้นหากไมมีเรื่องนี้ อีกเดี๋ยว
ผนึกก็จะเริ่มคลายตัวลง” นักปราชญเอยดวยสีหนาเครงขรึม
“ตั้งแตที่ผนึกเริ่มออนแอจนพังทลายไปจริงๆ ยังเร็วไปนัก ยังเพียงพอใหพวกเรา
ชิงสมบัติได แตตอนนี้พวกเราอยูตรงไหนของภูเขาคุนอูนะ นาจะหางจากสิ่งปลูกสราง
หลักไมไกลกระมัง” คนประหลาดที่เปนผูนำกลับเอยถามนักปราชญ
“อืม! นาจะถึงเวลาแลวกระมัง แตตอนนี้พวกเรายิ่งพบกับเขตอาคมถี่ขึ้นเรื่อยๆ
นั่ น หมายความว า พวกเราเข า ใกล จุ ด ที่ อั น ตรายของภู เขาคุ น อู แ ล ว ” หลั ง จากที่
นักปราชญขบคิด ก็เอยออกมาอยางเชื่องชา
“เช น นั้ น ก็ ดี ทวายังมี อี ก เรื่อ ง ที่ ยุ งยากมาก ยั ก ษ ป เงิน ที่ ชั่ วรายตั วนั้ น อาจจะ
ตามมาดานหลัง มันมีเจตนาอะไรกันแน หรือวาอยากถือโอกาสลอบโจมตีพวกเรา?”
คนประหลาดที่เปนผูนำเอยจบ ก็หันหนาไปมองทางเขาวิหารอีกแหงหนึ่งแวบหนึ่ง
พลางเผยสีหนากังวลออกมาหลายสวน
คนอื่นๆ ไดยิน ตางมองตามไปเชนกันตามจิตสำนึก ผลลัพธคือทางนั้นกลับวาง
เปลา ราวกับวาไมมีสิ่งใดอยูเลยสักนิด
แตผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดของตระกูลเยี่ยตางก็รูดี ทางนั้นที่ไมรูวาคือที่ไหน แปด
เกาสวนยักษปกเงินตัวนั้นกำลังใชการอำพรางตัวจับจองพวกเขาอยูไกลๆ
นี่จึงทำใหเหลาผูบำเพ็ญเพียรรูสึกไมสบายใจ
หากไมใชเพราะ ดานหลังของพวกเขามีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย
สองคนตามมาพรอมกัน ผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ ก็คงไมกลาถูกตัวประหลาดระดับสูง
ขนาดนี้จับจองโดยไมแตกกระเจิงแน
“ซากเทวัญนี้เปนปญหาจริงๆ ถาหากเวลาเหมาะสม จากพลังของขาและทานอา
เจ็ด ก็ไมใชวาจะไมอาจทำรายอสูรตัวนั้นใหไดรับบาดเจ็บหนักหรือสังหารมันได แต
ในขณะที่พวกเรากำลังเรงรีบนั้น จำตองแขงกับเวลา ในสถานการณเชนนี้ หากเสี่ยง
ลงมือขับไลมัน อาจจะทำใหมันโกรธเกรี้ยวมากกวาเดิม ตอนนี้ทำไดเพียงมองวาเบื้อง
หนาคือที่ใด สามารถอาศัยเขตอาคมอะไรไดบาง ที่พอจะลอใหมันมาติดกับจนตาย
ได” หลังจากที่นักปราชญขบคิดอยูนาน ก็ทำไดเพียงเอยเชนนี้ออกมา
คนอื่นๆ ฟงมาถึงตรงนี้ ก็รูสึกวามีเหตุผลเชนกัน ทันใดนั้นพลันพยักหนาเห็นดวย
ถึงอยางไรเสียอาศัยเคล็ดวิชาหลีกหนีที่เหนือชั้นของยักษปเงิน คิดจะอาศัยพลังของ
พวกเขาเองสะบัดตัวประหลาดตัวนี้ ก็เปนเรื่องที่เปนไปไมไดจริงๆ
ดังนั้นหลังจากที่ทุกคนฟนฟูพลังลมปราณแลว ก็เดินออกจากวิหารในทันที และ
มาปรากฏตัวที่ทางออก
แต เบื้ อ งหน า ของผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รตระกู ล เยี่ ย พลั น สว า งจ า หลั ง จากพิ จ ารณา
สถานการณที่อยูไกลออกไปชั่วครู จากนั้นกลับรูสึกงุนงงเปนไกตาแตก
เห็นเพียงเบื้องหนาของพวกเขามีขั้นบันไดที่ลดหลั่นสลับกันไปสิบกวาสาย แยก
ออกไปตามทิศทางที่ไมเหมือนกัน แตในจุดที่ไกลออกไปของบันไดทุกสายลวนมีหมอก
สีขาวหมุนวนเปนเกลียวอยู ไมมีทางแยกแยะไดวาปลายสุดของบันไดหินนั้นคือที่ใด
เชนนี้จะไมทำใหคนของตระกูลเยี่ย ตะลึงจนตาคางไดอยางไร
“ทำอยางไรดี? ตอใหพวกเราแยกไปคนละทาง ก็ไมอาจจะคนหาอยางละเอียดไดสัก
รอบ” ชายชราคนหนึ่งพนลมหายใจออกมา หันหนาไปหัวเราะขมขื่นใหนักปราชญ
“อยาเพิ่งรีบไป นั่นหมายความวาพวกเราเขามาใจกลางของภูเขาคุนอูแลว ถึงได
มีทางแยกมากมายขนาดนี้ปรากฏขึ้น นี่นาจะเปนเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง แยกกันไปนั้นทำ
ไมไดอยางแนนอน หากจำนวนคนลดลง แมแตกำลังในการปกปองตัวเองก็ยังไมมี
สวนทางที่พวกเราตองเดินไปนั้น ไปถึงที่ราบนั้นกอนแลวดูวามีเครื่องหมายอะไรไหม
คอยวากัน”
นักปราชญนั้นคูควรกับที่เปนอาวุโสใหญของตระกูลเยี่ยจริงๆ เขาคิดวิธีและเยือก
เย็นลงไดอยางรวดเร็ว
และที่ราบที่เขาหมายถึงนั้น ก็คือจัตุรัสหยกขาวที่บันไดหินทั้งหมดมาบรรจบกัน
หางจากที่พวกเขาอยูแคสองสามลี้ ดูยิ่งใหญมหึมาเปนอยางมาก
เมื่อไดยินนักปราชญกลาว คนอื่นๆ ก็ไมไดมีแผนการอื่นที่ดีกวา จึงทำไดเพียงไป
ถึงจัตุรัสนั้นกอนแลวคอยวากัน!
ดังนั้นทุกคนจึงทยอยกันขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีตรงไปทางนั้น แตเมื่อทุกคนขึ้น
ไปกลางอากาศ ก็พากันรวงตกลงมาจากกลางอากาศเสียงดัง ‘ตุบๆ’
“เขตอาคมห ามเหาะเหิ น ที่ นี่ ค าดไม ถึ งว าจะวางเขตอาคมชนิ ด เอาไว ?” คน
ประหลาดที่เปนผูนำเอยปากกลาวขึ้น
โชคดีที่ฝูงชนตระกูลเยี่ยไมไดบินสูงนัก ถึงแมวาจะตกที่นั่งลำบากอยูเล็กนอยแต
กลับไมมีผูใดไดรับบาดเจ็บหนัก แตก็ทำใหทุกคนตางตกตะลึงระคนดีใจ
ถึงแมวาเขตอาคมหามเหาะเหินจะทำใหพวกเขายืดเวลาในการเดินทางออกไป
แตนั่นก็หมายความวา พวกเขากาวเขาสูแดนสำคัญของภูเขาคุนอูแลวจริงๆ
ตอนที่ 1004 วิหารคุนอู หอสมบัติวิญญาณ ปอมปราการมาร
“ที่แทสหายหานก็มีตนกำเนิดมาจากเทียนหนาน ผูบำเพ็ญเพียรจากแดนทานหา
ไดยากนั กในตาจิ้น ของพวกเรา ทวาไม วาจะดวยเหตุ ผลอะไร ในเมื่อสหายสังหาร
อาวุโสของพรรคตาขายทมิฬแลวยังเอาธงตาขายภูตผีไป เรื่องนี้ไมอาจแกไขไดงายๆ”
ใกลกับศาลาหิน ฮัวเทียนฉีเอยดวยความตกตะลึง
เมื่อเขาไดยินชายชราแซฟูอธิบายเรื่องราวอยางคราวๆ ในใจพลันรูสึกตกตะลึงไมนอย
คนอื่นๆ ก็เกิดความวุนวายขึ้นเชนกัน ตางเผยสีหนาแปลกประหลาดออกมาขณะ
พิจารณามองหานลี่ เทียนหนานสำหรับพวกเขาแลว ชางเปนดินแดนที่หางไกลจริงๆ
ในสายตาของโลกผูบำเพ็ญ เพียรตาจิ้นแลว นั่นแทบจะเปนสถานที่ไมคุมคาใหตอง
กลาวถึง คาดไมถึงวาผูที่อยูเบื้องหนาจะมีตนกำเนิดมาจากที่นั่น และยังยั่วโมโหพรรค
ตาขายทมิฬ นี่จะไมทำใหคนเหลานนี้ตางพากันประหลาดใจไดอยางไร
“ขานอยแครักษาชีวิตตัวเองเทานั้น ถาหากไมใชเพราะอาวุโสพรรคตาขายทมิฬมาหา
เรื่องขานอยกอน ผูแซหานจะกระทำเรื่องเชนนี้ทำไมกัน” หานลี่เอยอยางราบเรียบ
“เอาละ! ไมวาอยางไร สหายทั้งสามก็อยูที่นี่มาระยะหนึ่งแลว นาจะรูวาภูเขาลูก
นี้อยูที่ไหนแลวกระมัง” ชายรางใหญ ระดับกอกำเนิดคนนั้นดูเหมือนวาจะไมสนใจ
เรื่องราวระหวางหานลี่และมารเฒาเฉียนเลยสักนิด กลับเอยถามอยางรอนรน
“เรื่องนี้ก็พอรูมาบาง ที่นี่คือภูเขาคุนอูในตำนานตาจิ้นของพวกทาน!” หลังจากที่
แววตาของหานลี่เปลงประกาย ก็ตอบกลับดวยสีหนาราบเรียบ
“ภูเขาคุนอู!” ผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดเหลานั้นพลันตกตะลึง ทั นใดนั้ น
พลันรูสึกดีใจขึ้นมายกใหญ มารเฒาเฉียนไดยินเรื่องนี้ก็รูสึกตกตะลึงไปเชนกัน
อาวุโสทั้งสี่ของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์กลับรูเรื่องนี้นานแลว เวลานี้จึงทำเพียงมอง
สบตากันแวบหนึ่งเทานั้น
“เชนนั้น ตอนนี้ก็มีคนนำหนาพวกเราไปแลวสินะ และไมรูวามีผูบำเพ็ญ เพียรกี่คน
เปนขุมอำนาจจากฝงไหน แตในเมื่อเปดผนึกที่ยิ่งใหญขนาดนี้ กำลังของคนเหลานั้น
จะตองไมธรรมดาอยางแนนอน พี่เฉียน ไมวาทานและพวกสหายหานทั้งสามจะมี
ความขัดแยงอันใดกัน แตตอนนี้ไมใชเวลาที่จะสูรบกัน ไมสูรวมมือกับพวกเรากำจัด
คนกลุมนั้นออกไปจากภูเขา จากนั้นคอยแบงสมบัติในภูเขาคุนอูกันเปนอยางไร? สวน
ความแคนของทานและสหายหาน ออกจากภูเขาคอยหาโอกาสก็แลวกัน” ฮัวเทียนฉี
ลูบคางไปมา สายตากวาดมองไปยังเงาสีขาวสองสามสายนั้นขณะเอย
“รวมมือ?” มารเฒาเฉียนไดยิน พลันเงียบกริบไป
สวนอรหันตสี่กำจายเจิ้งเวยและชายรางใหญทั้งหาไดยิน ก็ทยอยกันใจเตน ริม
ฝปากขยับเล็กนอยขณะถายทอดเสียงปรึกษาอะไรกันสักอยางอยู
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ ชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋พลันถอนหายใจออกมา
เฮือกหนึ่ง ถึงแมวาพวกเขาจะมั่นใจวาหากรวมมือกันจะไมแพมารเฒาเฉียน แตการ
ปะทะที่แปลกประหลาดเชนนี้ ไมปะทะเลยจะดีที่สุด
ไม มี ใครสั ง เกตเห็ น ว า หานลี่ ข มวดคิ้ ว เล็ ก น อ ยอย า งไม ใส ใจ เขาถอนหายใจ
ออกมาเบาๆ ในใจ
มองเห็นวาไมอาจลงมือได ดูแลวแผนการชิงคาถาทลายคำสาปผนึกวิญญาณของเขา
คงตองหาโอกาสอื่นแลว
เมื่อขบคิดมาถึงตรงนี้ หานลี่ก็เงยหนาขึ้นมองบนมานลำแสงที่ฮัวเทียนฉีและพวก
ปรากฏตัวขึ้น และเอยปากถามวา
“สหายฮัว หลังจากที่เขตอาคมลวงตาระเบิดตัวเอง ผนึกทางเขาออกถูกทำลาย
เปนอยางไร ยังมีโอกาสที่จะเขาออกทางนี้ไดหรือไม?”
“เปนอยางไรหรือ? พี่หานลองไปดูเองสิ ในระยะยาวนั้นไมกลากลาวถึง แตอยาง
นอยที่สุดในระยะเวลาสั้นๆ ทางเดินสายนี้นั้นไมมีทางเขาออกไดแน” ฮัวเทียนฉีถอน
หายใจออกมา และเอยอยางไมปดบัง
หานลี่เมมริมฝปาก หลังจากลังเลเล็กนอย ก็บินตรงไปหามานลำแสงอยางไม
เกรงใจ ชั่วพริบตาก็จมหายเขาไปในลำแสงสีเงินกลุมนั้นอยางไรรองรอย
เรื่องมันเกี่ยวของกับตัวเอง ชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋จึงอดที่จะมองไปทางนั้นไมได
ผลลัพธคือ ผานไปเพียงชั่วครู หานลี่ก็บินออกมาจากลำแสงสีเงินนั้นอีกครั้งดวยสี
หนาทะมึนทึบ หลังจากประสานสายตากับชายชราและไปเหยาอี๋แลวก็สายศีรษะ
“ไมมีทางเดินจริงๆ ทวาดูแลวหากจะฟนฟูกลับมาเปนปกติ คงใชเวลาไมนาน
ตอนนี้ พวกเราไปตรวจสอบภู เขาลู ก นี้ ก อ นแล วค อ ยว ากั น เถิ ด ” หานลี่ เอ ย อย าง
ราบเรียบ
เรื่องตอมา ก็งายมาก
ถึงแมวามารเฒาเฉียนจะหยิ่งยโสเปนพิเศษ แตหลังจากรูวาที่แหงนี้คือภูเขาคุนอู
ที่มีชื่อเสียง ในที่สุดก็กำจัดความคิดที่จะลงมือทิ้งไป การที่มีโอกาสเขามาในขุมสมบัติ
เชนนี้ เขาก็ไมคิดจะกลับไปมือเปลา ทันใดนั้นจึงฝนใจตอบตกลงที่จะวางความแคน
เรื่องหานลี่ลงชั่วคราว
นอกจากนี้หลังจากปรึกษากับพันธมิตรทั้งหาแลว ก็ตอบรับเรื่องนี้อยางไมลังเล
แมแตนอย
”หากพวกเรารวมมือกัน ถึงแมวาคนกลุมนั้นจะเปนผูบำเพ็ญเพียรในสิบพรรคใหญ
พวกเราก็ตานทานได ไปกันเถิด อยาปลอยใหคนเหลานั้นชิงสมบัติไปกอน” รอจนทุก
คนตางตกลงจะรวมมือกันแลว ฮัวเทียนฉีก็ตะโกนออกมาในทันที พาอาวุโสของสำนัก
พิษศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือบินนำขึ้นบันไดหินไป
มารเฒ าเฉียนสงเสียงเหอะอยางเย็น ชาออกมา เงารางสีขาวห าสายสวางวาบ
ลำแสงหลีกหนีผนึกรวมตัวกันแลวตามไปติดๆ
หานลี่และพวกเองก็ไมไดสงเสียงใดๆ ทยอยกันตามขึ้นไป
......
และคนของตระกูลเยี่ยที่อยูอีกดาน ในตอนนี้กลับยืนอยูบนจัตุรัสหยกขาวตั้งนานแลว
จัตุรัสนี้มีขนาดประมาณรอยหมู บนพื้นลวนปูดวยหยกสีขาวบริสุทธิ์ที่สดใสแวววาว
ทั้งสี่ดานมีเสาหยกสีขาวยักษสูงประมาณสิบจั้งตั้งตระหงานอยู และเสาหยกทุกตน
ลวนแกะสลักเป น รูป อสูรวิห ควิญ ญาณที่ ห ายาก ดู งดงามเสมื อ นจริง ทำให ผูคนที่
ทอดสายตามองไปแลวอดที่จะรูสึกศรัทธาไมได
ทวา ตระกูลเยี่ยในเวลานี้กลับไมไดมองเสาหยกเหลานี้เลยแมแตแวบเดียว แตพา
กันแยกไปรวมตัวที่อีกดานของจัตุรัส
ที่นั่น เบื้องหนาบันไดทุกสายที่ทอดตัวออกมาที่จัตุรัส ตางมีปายหยกตั้งตระหงานอยู
ดานบนตางเขียนชื่อตางๆ วา ‘วิหารเมฆามงคล’ ‘สำนักวิญญาณพิศวง’ เปนตน ทำ
ใหทุกคนในตระกูลเยี่ยทยอยกันขมวดคิ้วและคาดเดากันไปตางๆ นานาไมหยุด
“หอศิ ล าทองนั้ น ไม ต อ งถาม จะต อ งเป น สถานที่ ที่ ใช เก็ บ สะสมวั ต ถุ ดิ บ อย าง
แนนอน วิหารเมฆามงคลชื่อนี้นั้น ฟงดูลวงโลก เดาวาคงไมใชสถานที่ที่ใชฝกบำเพ็ญ
เพียร และไมใชสถานที่ที่สำคัญอะไร หอวิญญาณพิศวงนั้นมองปราดเดียวก็คือ…”
ผูบำเพ็ ญ เพี ยรตระกูลเยี่ยคนหนึ่ งมองไปพลาง คอ ยๆ วิเคราะห สถานที่ ตางๆ
อยางคราวๆ ไปพลาง
คนอื่นๆ ไดยินก็ทยอยกันพยักหนา รูวามีเหตุผล
“ดังนั้นสถานที่ที่มีโอกาสจะเก็บสมบัติวิญญาณสะทานฟาเอาไวมากที่สุด ก็เหลือ
เพียงสามที่ ที่แรกคือวิหารคุนอูที่อยูตรงใจกลาง อีกแหงคือหอสมบัติวิญญาณที่อยู
ติดกัน และที่อยูดานขางอยางปอมปราการมาร” ในที่สุดผูบำเพ็ญเพียรตระะกูลเยี่ยผู
นั้นก็เลือกมาสามเสนทาง
นักปราชญและคนประหลาดที่เปนผูนำไมไดกลาวอะไร แตก็ครุนคิดอยูเงียบๆ
เห็นไดชัดวากำลังพิจารณาวาคำพูดที่อาวุโสตระกูลเยี่ยกลาวนั้นถูกตองหรือไม
“วิหารคุนอูไมตองพูดถึง จะตองเปนใจกลางของภูเขาลูกนี้อยางแนนอน สวนหอ
สมบัติวิญญาณนั้นแคฟงชื่อก็รูแลววาเปนสถานที่เก็บสะสมสมบัติของผูบำเพ็ญเพียร
โบราณ สมบัติวิญญาณสะทานฟาจะถูกเก็บอยูในนั้น ก็ไมใชเรื่องที่แปลกอะไร สวน
ปอมปราการมารที่สุดทายนั่น นาจะเปนสถานที่ที่ผูบำเพ็ญ เพี ยรโบราณใชกักมาร
ปศาจเอาไว เมื่อพิจารณาถึงสถานการณที่ภูเขาลูกนี้ถูกปดผนึกเอาไว สมบัติวิญญาณ
สะทานฟาก็อาจจะถูกวางไวที่นี่ ถึงอยางไรเสียในสมัยโบราณผูบำเพ็ญเพียรก็มักจะใช
อานุภาพของสมบัติมากักขังมารปศาจที่รายกาจเอาไว” ผูบำเพ็ญเพียรจากตระกูลเยี่ย
ผูนั้นอธิบายอีกครั้ง
“อืม ก็จริง ขารูสึกวาสมบัติวิญญาณสะทานฟานาจะถูกเก็บไวหนึ่งในสามแหงนี้
ทวาจากความสามารถของพวกเรา ไมมีทางไปดูทุกแหงได มากสุดก็สำรวจไดแคสอง
เสนทางเทานั้น” ในที่สุดนักปราชญก็เอยปากขึ้น
“สองเสนทาง? ทานคิดจะเลือกเสนทางไหน?” คนประหลาดเอยถามอยางลังเล
เล็กนอย
“หอสมบั ติวิญ ญาณและป อ มปราการมาร!” นั กปราชญ เอย อยางไม ลังเลเลย
แมแตนอย
“สองแหงนี้! แตขารูสึกวาวิหารคุนอูนาจะเปนไปไดมากกวาปอมปราการมาร!”
คนประหลาดสายศีรษะ
“เหอะๆ! หอสมบัติวิญญาณไมตองพูดถึง ถึงแมวาจะไมมีสมบัติวิญญาณสะทานฟา
หากไดสมบัติชนิดอื่น ก็ไมนับวาพวกเรามาเสียเปลาแลว วิหารคุนอูนั้นเปนเพราะมัน
เดนเกินไป ขาถึงไมไดเลือกที่แหงนั้น ขาวาในเมื่อภูเขาลูกนี้ถูกปดผนึกเอาไวและยังจง
ใจเหลือสมบัติวิญญาณสะทานฟาเอาไวสองชิ้น จะตองไมไดวางไวในวิหารคุนอูอยาง
เปลาประโยชนแน เทียบกันแลว การใชสมบัติชิ้นนี้กักขังมารปศาจอะไรเอาไว ก็มี
โอกาสเปนไปไดมาก” นักปราชญเอยอยางเยือกเย็น
“ถึงแมวาการกลาวเชนนั้นจะไมใชวาไมมีเหตุผล แตตาเฒาคิดวาในฐานะที่วิหารคุนอู
เปนใจกลางหลักของภูเขาลูกนี้ จึงจำเปนตองสำรวจดู” คนประหลาดพลันพยักหนา
กอน แลวตอมาพลันสายศีรษะ
“คำพูดของทานอาเจ็ด ขาจะไมรูสึกไดอยางไร แตในเมื่อจำนวนคนของพวกเรามี
แคนี้ แยกออกเปนสองกลุมก็พอฝนทนแลว ถาหากแยกออกเปนสามละก็ กำลังจะ
นอยเกินไป” นักปราชญเอยพรอมกับหัวเราะอยางขมขื่นออกมา
ผูบำเพ็ญเพียรของตระกูลเยี่ยที่เหลือก็พากันปรึกษากัน บางก็รูสึกวาวิธีการของ
นักปราชญนั้นเหมาะสม บางก็รูสึกวาคำพูดของคนประหลาดนั้นมีเหตุผล เวลานั้น
คาดไมถึงวาจะไมมีทางตัดสินใจอะไรได
เมื่อคนประหลาดมองเห็นเหตุการณนี้ ก็เผยสีหนาประหลาดๆ ออกมาแวบหนึ่ง
หลังจากขบคิดเล็กนอย ทันใดนั้นพลันเอยออกมาวา
“เอาอยางนี้ก็แลวกัน พวกเรามีอยูเกาคนพอดี เจาและขาจะพาคนอีกคนละสาม
คนไปสำรวจหอสมบัติวิญญาณและปอมปราการมาร สุดทายคอยหาผูท่ีมีปฏิภาณไหว
พริบวองไวหนอย อาวุโสที่เชี่ยวชาญเคล็ดวิชาหลีกหนีไปที่วิหารคุนอูดูสักรอบ ถาหาก
มีเขตอาคมที่รายกาจจนไมอาจทลายดวยตัวคนเดียวได ก็ใหกลับมาในทันที เชนนั้น
เจาและขาก็จะรูสถานการณ สองเสนทางที่เหลือใครที่ไปไดอยางราบรื่นกวา ก็อาจจะ
วิ่งไปที่วิหารคุนอูทัน”
คนประหลาดแนะนำเชนนี้ออกมา
“เรื่องนี้...เอาละ ตามที่ทานอาเจ็ดกลาวก็แลวกัน! ทวาลูกศิษยคนนั้นไปคนเดียว
จะต อ งระวั ง อสู ร วิ ห คราชสี ห แ ละยั ก ษ ป ก เงิ น ตั ว นั้ น ให เขาเอากำไลลวงโลกไป”
นักปราชญขบคิดเล็กนอยก็รูสึกวาไมเลว และตอบตกลง ทวากลับชวยเสริมอีกสอง
ประโยค
“กำไลลวงโลก! หากมีสมบัติชิ้นนี้ ตอใหคนผูนี้พบอันตรายอะไรก็ปกปองตัวเอง
ไดแลว” คนประหลาดพยักหนา และไมไดคัดคาน
ทันใดนั้นกลุมคนของตระกูลเยี่ยก็แบงกลุมกัน ทันใดนั้นก็กลายเปนสองกลุม มาร
โบราณยืนอยูดานหลังคนประหลาดอยางเงียบเชียบ สวนผูบำเพ็ญเพียรที่จะไปสำรวจ
วิหารคุนอูนั้น ก็คือชายวัยกลางคนหนาเหลี่ยมที่เปนฝายเสนอตัวอยางหาวหาญ
ถึงอยางไรเสียในบรรดาผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยกลุมนี้ นอกจากคนประหลาด
และนั ก ปราชญ แ ล ว ก็ ดู เหมื อ นว า จะมี เพี ย งคนผู นี้ ที่ มี พ ลั ง ยุ ท ธ สู ง ที่ สุ ด ดั ง นั้ น
นักปราชญจึงลังเลเพียงเล็กนอย แลวตอบตกลง ทันใดนั้นก็ควักกำไลที่หลอมขึ้นจาก
กระดูกสีขาวขึ้นมาจากยามเก็บของวงหนึ่ง และสงใหคนผูนี้
“ทุกครั้งที่จะใชกำไลลวงโลก จะตองใชโลหิตบริสุทธิ์ของตัวเองกระตุน หากพี่
สองไมใชมันไดละก็ อยาใชสมบัติชิ้นนี้จะดีกวา” นักปราชญกำชับดวยความเครงขรึม
“วางใจ ขารูตัวเองดี” ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมตอบรับอยางดวยน้ำเสียงเครงขรึม
และรับของสิ่งนั้นไป
“ปอมปราการมารคือสถานที่ที่ใชกักมารปศาจที่รายกาจโดยเฉพาะในตำนาน ตา
เฒานับวาไดยินชื่อเสียงมาเนิ่นนานแลว ไมรูวาดานในมีมารปศาจอะไรอยู ตาเฒาจะ
ไปทางนั้นเองก็แลวกัน” คนประหลาดเอยอยางตามอำเภอใจ
“หึๆ! คาดไมถึงวาทานอาเจ็ดจะคิดเชนเดียวกันกับขา แตเดิมขาก็รูสึกสนใจปอม
ปราการมารมาก ทวา ในเมื่อทานอาเจ็ดกลาวเชนนี้ เชนนั้นก็ใหทานอาเจ็ดไปก็แลว
กัน ขาจะพาพวกเขาสามคนไปสำรวจสมบัติที่หอสมบัติวิญญาณ” นักปราชญไดยิน
แลวพลันตกตะลึง แตทันใดนั้นก็ตอบรับอยางไมใสใจทันที
ตอนที่ 1005 ฮูหยิน
คนประหลาดที่เปนผูนำเองก็ไมเกรงใจ ทันใดนั้นพลันพามารโบราณและพวกทั้ง
สามตรงไปยังบันไดหินที่ระบุวาขึ้นไปยังปอมปราการมารทันที
ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมเองก็ประสานมือคารวะนักปราชญ ในมือถือกำไลลวง
โลกเอาไว รางกายแวบหายไป คอยๆ จากไปทางบันไดหินที่อยูตรงใจกลาง
นักปราชญไมไดพาคนที่เหลือจากไปในทันที แตหลังจากที่มองคนประหลาดและ
ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมหายลับไปจากสุดบันไดหินแลว ถึงไดดึงสายตากลับมา และ
หันหนาไปเอยกับชายชราที่อยูขางกายคนหนึ่งอยางเรียบๆ วา
“ศิษยหลานเฟง ในมือของพวกเรายังมีธงอาคมและจานอาคมเหลืออยูอีกกี่ชุด?”
“รายงานทานอาวุโส ตามคำสั่งของทาน หลังจากที่เหลือเขตอาคมชั่วคราวของ
พวกเราเอาไวที่เดิมทุกครั้งที่ทลายเขตอาคม ตอนนี้นอกจากเขตอาคมเจ็ดดาวยี่เขงที่
เสียเงินไปสองสามแสนศิลาวิญญาณแลว ก็ไมมีสมบัติเขตอาคมอื่นแลว” ชายชราผูนั้น
ตอบกลับอยางนอบนอม
“อืม เชนนั้นก็เอาเขตอาคมเจ็ดดาวยี่เขงชุดนั้นออกมาวางเถิด นอกจากนี้ก็ปลอย
ตอหัวเสือฝูงนั้นและคางคาวดูดเลือดเขาไปขางใน” นักปราชญออกคำสั่งอยางไมลังเล
เลยแมแตนอย
“ขอรับ!” ชายชราตอบรับทันที ยื่นมือออกไปตบที่ขางเอว ธงอาคมสีมวงปรากฏ
ขึ้นในมือ จากนั้นก็สาวเทายาวๆ ไปที่ดานขางจัตุรัส
นักปราชญถึงไดหันไปมองทางตีนภูเขาแวบหนึ่ง ใบหนาเครงขรึมสลับกับสดใสไม
แนนอน ไมรูวากำลังขบคิดอะไรอยู หลังจากผานไปหนึ่งชั่วยาม รางของนักปราชญ
และพวกก็จมหายไปในบันไดหินอีกสายหนึ่ง
เวลานี้ ตรงตีนภูเขาที่ไมรูวาอยูหางจากสันเขาไปตั้งกี่หมื่นจั้ง หานลี่และพวกเพิ่ง
จะผานปายขนาดยักษของสำนักหมื่นเซียนมา ที่นั่น ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยไดวาง
เขตอาคมลวงตาที่นับวาสูงสงเอาไว ถาหากผูที่ประสบพบเจอกับมันคือผูบำเพ็ญเพียร
ระดับหลอมรวม อยางนอยที่สุดก็ตองติดอยูในนั้นสองสามวัน แตเมื่อผูที่ประสบพบ
เจอกับมันคือผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด ก็แทบจะถูกมารเฒาเฉียนและฮัวเทียนฉี
กำจัดทิ้งไดในพริบตา ไมเสียเวลาเลยสักนิด
หลังจากที่พบปายยักษของสำนักหมื่นเซียนแลว มารเฒาเฉียนและพวกก็หมด
ความสงสัยวาที่นี่คือภูเขาคุนอูหรือไมไปในทันที ทันใดนั้นนอกจากหานลี่และพวกทั้ง
สามคนแลว คนที่เหลือก็ทยอยกันรูสึกตื่นเตนดีใจเปนพิเศษ
ทันใดนั้นกลุมคนก็รีบรอนกันเหาะขึ้นภูเขาไป
ผลลัพธคือพวกเขาที่เหาะขึ้นไปตามบันไดหิน จึงหลีกเลี่ยงที่จะพบกับเขตอาคมอื่นๆ
ที่ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยวางเอาไวไมได แตนี่กลับไมไดทำใหมารเฒาเฉียนและคน
อื่นๆ รูสึกทอถอย กลับทำใหพวกเขารูสึกรอนใจมากยิ่งขึ้น
แตเห็นไดชัดวาเขตอาคมที่ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยวางเอาไวนั้นทรงพลังมากขึ้น
เรื่อ ยๆ ถึงแมวามารเฒ าและพวกจะอาศัย ลมปราณที่ แข็งแกรง ใชพ ลังที่ ป าเถื่อ น
ทลายเขตอาคมลงไดทั้งหมด แตก็หลีกเลี่ยงการเสียเวลาไปไมได
หลังจากผานไปหนึ่งวันหนึ่งคืน พวกเขาถึงไดมาถึงหนาวิหารศิลายักษที่มีหุนเชิด
ปรากฏตัวขึ้นจำนวนมาก
“ทุกทานระวังหนอย ถาหากที่นี่มีเขตอาคม เกรงวาคงรับมือยาก คนที่รุดไปเบื้อง
หนามีกำลังที่ยิ่งใหญจริงๆ คาดไมถึงวาจะนำเขตอาคมติดตัวมาดวยมากขนาดนี้ ดู
แลวถึงแมจะไมใชผูบำเพ็ญเพียรในสิบพรรคจริงๆ ก็คงเปนคนในขุมอำนาจที่ยิ่งใหญ
มากใดสักแหง” ฮัวเทียนฉีมองไปยังวิหารวิจิตรงดงามที่เลือนรางเบื้องหนา สีหนาเผย
ใหเห็นถึงความเครงขรึม
“เหอะ มีกำลังที่ยิ่งใหญขนาดนี้ เขตอาคมเบื้องหนา แมกระทั่งเขตอาคมเพลิง
น้ำแข็งระดับสองก็ยังหลอมสำเร็จและวางเอาไวได ตอใหเปนหนึ่งในสิบพรรคของพวก
เราก็ไมใชสิ่งที่พรรคไหนจะทำได ขาเองก็รูสึกแปลกใจฐานะที่แทจริงของผูที่รุดไป
เบื้องหนาจริงๆ” มารเฒาเฉียนกลับเอยขึ้นอยางเย็นชา
“ทวาการไลตามครัง้ นี้ คนเหลานั้นก็เหมือนกับชวยทลายเขตอาคมของภูเขาคุนอูแทน
พวกเรา ก็นับวาพวกเราไดเปรียบแลว ตอใหพวกเราถูกพวกเขาวางเขตอาคมขวางกั้น
พวกเราเอาไวชั่วคราว ก็จะตองไลตามทันแนนอน” ฮัวเทียนฉีกลับเอยอยางมั่นใจ
“หวังวาจะเปนเชนนั้นกระมัง” มารเฒาเฉียนเอยอยางราบเรียบ
ระหวางที่พูด คนเหลานั้นก็ทะลวงเขาไปในวิหาร
ในวิหารศิลาเต็มไปดวยซากปรักหักพังของหุนเชิด ทำใหทุกคนตกตะลึง อดที่จะ
หยุดลงไมได และพิจารณาไปรอบๆ
“ไมมีคลื่นของเขตอาคม ที่นี่คาดไมถึงวาจะไมไดถูกวางกับดักเอาไว ชางเปนเรื่อง
ที่นาตกตะลึงจริงๆ” หลังจากที่ฮัวเทียนฉีใชจิตสัมผัสกวาดไปทั้งวิหารศิลา ปากก็เอย
ขึ้นดวยความลังเลใจ
“นั่นมันเรื่องปกติ! เดาวาเขตอาคมที่คนเหลานั้นวางไวคงใกลหมดแลว” ชายชรา
แซฟูกลับเอยพรอมกับหัวเราะคิกคักออกมา
“ทวา นี่มันอะไรกัน ไมเคยไดยินมากอนวามีหุนเชิดที่ทำจากศิลาดวย?”
ชายรางใหญหนึ่งในผูบำเพ็ญเพียรรดับกอกำเนิดหาคน กลับกวาดสายตาไปบน
พื้นหนึ่งรอบ แลวขมวดคิ้วมุน
“พวกนี้ไมใชหุนเชิดศิลา ที่ถูกคือตองพูดวาเปนศิลาวิญญาณ มันเปนการใชเคล็ด
วิชาลับบางอยางนำวิญญาณบริสุทธิ์ของเหลาอสูรปศาจใสลงไปในรูปแกะสลักศิลา ใน
สมัยโบราณเคยนิยมเปนอยางมาก แตตอมากลับไมรูเพราะสาเหตุใด เคล็ดวิชาลับ
ชนิดนี้ถึงไดขาดการสืบทอด”
คนหนึ่งกลับโคงตัวลงอยางไมรีบรอน ยื่นมือออกไปหยิบกอนหินจากพื้นขึ้นมา
กอนหนึ่ง เพงพินิจไปพลาง เอยอยางราบเรียบไปพลาง คาดไมถึงวาจะเปนหานลี่ที่
เอยปากพูดนอยมาก ตั้งแตที่ศาลาหินปรากฏตัวขึ้น
“ออ คาดไมถึงวาสหานหายจะรูจักเคล็ดวิชาลับโบราณชนิดนี้” ฮัวเทียนฉีมอง
หานลี่แวบหนึ่งดวยความประหลาดใจ
“ไมหรอก ผูแซหานเคยศึกษาเรื่องเคล็ดวิชาหุนเชิดมาเล็กนอย แตนาเสียดายที่
เจาพวกนี้ลวนเปนของที่แตกพังแลว มิเชนนั้นขานอยก็อยากจะศึกษาดูจริงๆ” ขณะที่
หานลี่กำลังพูด ก็โยนกอนหินในมือทิ้งไป เสียงปงดังขึ้น ศิลาสีเขียวบนพื้นหมุนติ้วๆ
เมื่อครูเขาพบแลววา เศษซากของศิลาวิญญาณเหลานี้ดูเหมือนจะเปนแคศิลา
ธรรมดาๆ ถึงแมวาจะเคยผานการหลอมอยางพิเศษมาแลว แตสิ่งที่สำคัญที่สุดเห็นได
ชัดวาเปนอักขระเขตอาคมประหลาดๆ ที่ถูกสลักอยูบนผิวของศิลาแตกๆ จากของที่
แตกละเอียดเชนนี้ไมมีทางมองอะไรออกได
“สหายหานคิดอยากไดศิลาวิญญาณที่ครบถวนสักตัวนั้นงายมาก รอบดานที่พัง
ลงมานั้น ไมแนวาอาจจมีเหลืออยูสักสองสามตัว!” หนึ่ งในผูบำเพ็ ญ เพี ยรคนอื่น ๆ
กลอกตาไปมา จูๆ ก็ชี้ไปที่ทางเดินสายหนึ่งที่พังลงมา แลวเอยกับหานลี่พรอมเปลง
เสียงหัวเราะออกมา
หานลี่กลอกตาไปมา กลับพบผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนที่หนาตาดูเหมือนซื่อสัตย
จริงใจคนหนึ่ง คาดไมถึงวาจะเปนอรหันตสี่กำจายเจิ้งเวย
หานลี่ไมไดมีตนกำเนิดมาจากตาจิ้น จึงไมรูจักชื่อเสียงอันฉาวโฉของผูบำเพ็ญเพียร
ทานนี้ แตจากประสบการณของเขา จะไปยอมเชื่อคนจากลักษณะภายนอกไดอยางไร
ทันใดนั้นก็หัวเราะเบาๆ ออกมา ตอนที่กำลังคิดจะเอยอะไรนั้น อีกดาน มารเฒาเฉียน
ก็หัวเราะขึ้นยกใหญ
“เจาสารเลว อยากรนหานที่ตาย”
ทันใดนั้นเงาสีขาวหาสายก็ชูมือทั้งสองขึ้นพรอมกัน ทันใดนั้นเสาลำแสงสีเทาสิบสาย
พลันพนออกมาจากฝามือ ชั่วครูก็โจมตีไปยังสถานที่ไมมีคนยืนอยูรอบๆ
หลังจากเสียงดังสนั่นขึ้น ลำแสงสีมวงพลันสวางวาบ วิหคประหลาดตัวเปนอินทรีหัว
เปนราชสีหมีสี่ปกปรากฏขึ้นกลางอากาศ จองเขม็งไปยังทุกคนอยางโหดเหี้ยม
นั่นก็คืออสูรวิหคราชสีหที่เคยลอบโจมตีผูบำเพ็ญเพียรของตระกูลเยี่ยตัวนั้น!
วิหคที่โหดเหี้ยมตัวนี้ คาดไมถึงวาจะแอบมาเขาใกลตอนไหนก็ไมรู กำลังคิดจะ
ลอบโจมตีมารเฒาเฉียน แตสิ่งที่ทำใหผูคนตกตะลึงก็คือ แตเดิมวิหคปศาจตัวนี้ถูก
อาวุโสตระกูลเยี่ยทำใหกรงเล็บไดรับบาดเจ็บหนักไปกวาครึ่ง เวลานี้คาดไมถึงวาจะ
ฟนฟูเปนปกติแลว ดูไมออกวาเคยไดรับบาดเจ็บหนักเลยสักนิด
ทวาอสูรปศาจที่เคยเสียเปรียบมาครั้งหนึ่ง ดูเหมือนวาจะรูจักเชื่อฟงขึ้นแลว เมื่อ
เผยรางออกมา ก็สยายปกทั้งสี่ออกในทันที ชั่วพริบตาก็กลายเปนลำแสงสีมวงกลุม
หนึ่ง พุงไปดานหลัง
มารเฒ าเฉียนไมไดกระตุนหามารใจเดียวไลตามไป ผูบำเพ็ญ เพียรที่เหลือก็ถูก
รูปรางนากลัวของอสูรวิหคราชสีหทำใหตกใจจนสะดุงโหยง หลังจากขบคิดเล็กนอย
คาดไมถึงวาจะปลอยใหอสูรปศาจตัวนั้นหนีออกจากวิหารศิลาไปอยางไรรองรอยไดใน
พริบตา
“อสูรวิหคราชสีห! ที่นี่คาดไมถึงวาจะมีตัวประหลาดเชนนี้ดวย!” ฮัวเทียนฉีถอน
หายใจยาวๆ ออกมาเฮือกหนึ่ง ขณะเอยพึมพำ ดวยสีหนาเครงขรึม
เขาถามตัวเองวาถาหากตองเผชิญ กับอสูรที่โหดเหี้ยมตัวนี้เพี ยงลำพั ง เกรงวา
ตนเองคงโชครายมากกวาโชคดี
ชายชราแซฟู และไปเหยาอี๋กลั บมองสบตากัน แวบหนึ่ ง ตางมองออกถึงความ
หวาดกลัวในแววตาของอีกฝาย พวกเขารูดีวา ยังมียักษปกเงินอีกตัวที่รายกาจยิ่งกวา
พลัดหลงอยูในภูเขาลูกนี้ แตแคอยูนอกเหนือความคาดหมายของความคิดของแตละ
คน หานลี่และเขาทั้งสองคนตางปดปากเงียบไมเอยถึงเรื่องนี้ ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ
จึงไมรูวามีตัวประหลาดตัวนั้นดำรงอยู
ชายรางใหญและผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือ เองก็มีสีหนาซีดขาวเชนกัน
อสูรโบราณที่โหดเหี้ยมเชนนี้ เทียบไดกับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย
แนนอนวาจึงไมควรไปยั่วโมโหมัน
ทวาหลังจากที่อสูรวิหคราชสีหตัวนี้ปรากฏตัวขึ้น แตเดิมหานลี่ที่คิดจะคนหาตาม
ทางเดิม ก็โยนความคิดนี้ทิ้งไปในทันที
ในเมื่อบนภูเขานี้ไมไดมีเพียงยักษปกเงิน แคตัวเดียวดำรงอยู ดูแลวตอนนี้ตามทุก
คนไป จะคอนขางปลอดภัยกวา
......
แนนอนวาหานลี่และพวกไมรูวา ชั่วพริบตาที่วิหคปศาจบินออกจากวิหารศิลาไป
และหมุนวนโคจรพุงไปดานลางของภูเขานั้น หลังจากบินออกไปไดครึ่งชั่วยาม ถึงได
รอนลงบนตนไมยักษสีเขียวมรกตตนหนึ่ง จากนั้นปากก็เปลงเสียงรองของวิหคที่ยาก
จะเขาใจออกมา ราวกับเสียงคำรามของปศาจอยางไรอยางนั้น
“เขาใจแลว เจาจะรองอะไรนักหนา! ก็แคอยากใหขาไปแกแคนแทนเจามิใชหรือ!
ขาอยากทำเรื่องนี้รึเปลานะหรือ? ถูกกักอยูใตวารีไมมีแมแตแสงอาทิตยตั้งนานขนาด
นั้น การที่ขาหนีออกมาไดนั้นไมใชเรื่องงาย ขาไมอยากหาเรื่องยุงยากใสตัวอีก และยิ่ง
ไปกวานั้นผูบำเพ็ญเพียรทั้งสองกลุมนั้น ก็ลวนแตเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด
ไมมีใครนาหาเรื่องเลยสักคน”
เสียงที่ฟงดูเหมือนระฆังแตกสงออกมา ทันใดนั้นลำแสงสีเขียวพลันสวางวาบขึ้น
บนตนไมยักษ เผยใหเห็นโพรงไมสูงประมาณสองสามจั้ง ฮูหยินสวมชุดสีดำคนหนึ่ง
เดินออกมาจากดานใน ใบหนาเต็มไปดวยความรำคาญใจ
เอวของฮูห ยิน ผูนี้ ดูเหมือ นถังน้ ำอยางไรอย างนั้ น ผิวหนั งดำสนิ ท ผมที่ อยู บ น
ศีรษะก็เปนสีดำสนิท แตกลับมีเขาสีขาวขนาดสองสามชุนงอกออกมาสองเขา ทาทาง
อัปลักษณอยางหาที่เปรียบ
อสูรวิห คราชสีห ได ยิน คำนี้ ก็ดู เหมื อ นวาจะโกรธเกรี้ย วเป น พิ เศษ หลั งจากที่
ลำแสงสีแดงสวางวาบขึ้นในดวงตา ปากก็เปลงเสียงรองแหลมสูงออกมา
“เจาฝนหวานเกินไปแลว เปนเจาเองที่ชะลาใจ ถูกผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้นสับกรง
เล็บครึ่งหนึ่งไป ขาจะแกแคนอะไรแทนเจา และยิ่งไปกวานั้นที่ชนรุนหลังทั้งสามของ
คุนอู ผนึกพวกเราเอาไวในเขตอาคมในปนั้น ก็เพราะอยากใหพวกเราปกปองภูเขาลูก
นี้แทนพวกเขามิใชหรือ ขาไมอยากฉวยโอกาสจากความปรารถนาของพวกเขา”
ฮูหยินเอามือเทาสะเอว ขบเขี้ยวเคี้ยวฟนขณะเอยกับอสูรวิหคราชสีห
“แตถาหากพวกเราไมสังหารผูที่เขามาในภูเขา แลวถูกผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้บุก
เขาไปในวิหารคุนอู เอาสี่แผนปายวิญญาณที่ผนึกพวกเราเอาไวไปละก็ เกรงวาพวก
เราจะตองถูกควบคุม” เสียงของบุรุษอีกคนดังขึ้นกลางอากาศ จากนั้นลำแสงสีเขียว
พลันสวางวาบ คาดไมถึงวายักษปกเงินจะปรากฏตัวขึ้นตรงนั้น
“เหอะ! ตอใหพวกเขาบุกเขาไปในวิหารคุนอูได เจาคิดวาเขตอาคมของวิหารคุนอู
เปนของเลนรึ? โดยเฉพาะแสงปราณทิศเหนือสุดนั่น เปนถึงสิ่งที่ไรเทียมทาน หากคน
เหลานั้นบุกเขาไปในวิหารคุนอูไดจริงๆ ก็ตองตายเพียงเทานั้น” ฮูหยินอัปลักษณกลับ
ไมตกตะลึงกับการปรากฏตัวขึ้นยักษปกเงินเลยแมแตนอย กลับเอยขึ้นดวยความเย็น
ชาเปนพิเศษ
“สหายกุย มันก็ไมแนนักหรอก ถึงแมวาแสงปราณทิศเหนือสุดจะรายกาจ แตคนที่บุก
เขามาในเขตอาคมเหลานี้มีผูบำเพ็ญเพียรมนุษยระดับกอกำเนิดขั้นปลายอยู ในตัวก็
อาจจะมีสมบัติที่สามารถตานทานแสงปราณทิศเหนือสุดได และยิ่งไปกวานั้นสหายไม
คิดจะถือโอกาสนี้ เอาแผนปายชีวิตของพวกเราคืนมาหรือ? มิเชนนั้น ถึงแมวาพวกเรา
จะออกจากเขตอาคมกักวิญญาณ ก็ไมมีทางออกจากภูเขาคุนอูไดอยูดี” ยักษปกเงิน
เอยดวยสีหนาราบเรียบ
ตอนที่ 1006 ฝูงมารปรากฏตัว
“ที่นี่มีไอวิญญาณหนาแนน เหตุใดขาตองไปจากที่นี่ดวย ถึงแมวาจะไมรูวาโลก
ภายนอกในตอนนี้เปนเชนไร แตคิดดูแลวแดนมนุษยคงไมเหมาะกับการฝกบำเพ็ญ
เพียรมากกวาที่นี่หรอก ขาจะฝกบำเพ็ญเพียรอยูที่นี่จนบรรลุนั่นแหละถึงจะหยุด”
ฮูหยินอัปลักษณไดยินยักษปกเงินเอยถึงแผนปายชีวิต ใบหนาก็เปลี่ยนสี น้ำเสียง
แข็งขึ้นกวาเดิม
“สหายกุย ทั้งๆ ที่รูผนึกถูกทลายแลว ฝกบำเพ็ญเพียรอยูที่นี่เปนเรื่องที่เปนไป
ไมได เหตุใดตองปากแข็งดวย และยิ่งไปกวานั้นจะวาไปแลว พวกเราก็นับวามีตน
กำเนิดเดียวกัน ถึงเวลาตองรวมมือกันรับมือกับความยากลำบากแลว” ยักษปกเงิน
ขมวดคิ้ว
“ก็พ อจะมี ตน กำเนิ ดเดียวกั น อยู บ าง เจ าคื อ สิ่ งที่ ถูกสรางขึ้ น โดยกายเนื้ อ ของ
มนุ ษ ย ขาและอสูรวิห คราชสี ห คื อ อสู รวิญ ญาณที่ ถูก เลี้ ย งดู โดยคนผู นั้ น และถู กผู
บำเพ็ญเพียรเหลานั้นผนึกเอาไวในเขตอาคมกักวิญญาณดวยกัน”
ฮูหยินอัปลักษณแซกุยกลับไมปฏิเสธ และพยักหนานอยๆ ดวยสีหนาผอนคลาย
“ดวยเหตุนี้ พวกเราสามคนถึงไดตองรวมมือกัน และเพราะมีเขตอาคมที่ใชกักพวกเรา
โดยเฉพาะอยู ในวิห ารคุ น อู ปกติ แ ล ว จึ งไม มี ท างเข าใกล วิห ารแห งนี้ ได ตอนนี้ มี ผู
บำเพ็ญเพียรมนุษยไปเปดทางแทนพวกเรา พวกเราก็แคแอบตามพวกเขาไปดานหลัง
ถึงเวลานั้นก็รวมมือพรอมกัน การชิงแผนปายชีวิตมาก็เปนเรื่องที่งายดายแลว”
“เหอะ! เจาก็พูดงาย แตขาไดยินอสูรวิหคราชสีหกลาววา ผูบำเพ็ญเพียรสองกลุม
นี้มีจำนวนคนไมนอย และยังมีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายเปนผูนำ ใชแลว
คนที่เจาบอกวารับมือยากมากและสงสัยวาจะมีสมบัติวิญญาณสะทานฟา ดูเหมือนวา
จะปะปนอยูในคนกลุมนั้น ถึงเวลานั้น ขากลัวจะถูกจองจำ หากไมไดแผนปายชีวิต
แลวเอาตัวเองเขาไปติด ขายอมไมเอาแผนปายชีวิตดีกวา
อยางมากก็แคเขาไปในสวนลึกของชีพจรวิญญาณของภูเขาลูกนี้ แลวหลับไปอีก
สักพันกวาป ถึงตอนนั้นตอใหพวกเขามีแผนปายชีวิตของขา แตขาไมยอมพบหนาพวก
เขา พวกเขาจะทำอะไรขาได” ฮูหยินอัปลักษณใจเตน แตภายนอกยังคงไมยอมออน
ขอใหงายๆ
“สหายกุ ย อย า ลื ม ล ะ ข า เองก็ เชี่ ย วชาญในเคล็ ด วิ ช าลี้ ธ รณี ” ยั ก ษ ป ก เงิ น ดู
เหมือนวาจะทนไมไหวแลว สีหนาดำทะมึน
“เจาหมายความวาอยางไร?” ฮูหยินถลึงตาคูนั้น สายตาเย็นเยียบพลางจองเขม็ง
ไปที่ยักษปกเงิน
“งายมาก ถาหากแผนปายชีวิตของขาถูกคนเหลานั้นเอาไป หากถามถึงเรื่องนี้
ขาไมมีทางปฏิเสธไมบอกเรื่องของเจาแน แกนอสูรเตาผาทมิฬระดับสิบตัวหนึ่ง เจาคิด
วาผูบำเพ็ญ เพียรเหลานี้จะยอมปลอยเจาไปงายๆ หรือ? ถึงตอนนั้น ขาจะตองถูก
สงไปไลลาเจาแน!” ยักษปกเงินเอยอยางราบเรียบ
“ในเมื่ อ เป น เช น นั้ น เจ า และข า ก็ แ อบอยู ด ว ยกั น ก็ ได แ ล ว มิ ใช ห รื อ ” ฮู ห ยิ น
อัปลักษณหัวเราะหึๆ เผยสีหนาโกรธเกรี้ยวออกมา
“ขาไมมีทางปลอยโอกาสงามๆ ในการแยงชิงแผนปายชีวิตครั้งนี้ไปแน และไมคิด
จะติดอยูที่นี่ตลอดชีวิต ตองเขาใจวา หากไมมีทางดูดซับพลังจันทราทมิฬนอกภูเขา ก็
ไมมีทางพัฒนาระดับเปนซากจันทรารางทองได” ยักษปกเงินเอยอยางไมเกรงใจ
“หึ เจากำลังบีบบังคับขา!”
ฮูหยินกระโดดขึ้นลง ชี้ไปที่ยักษปกเงินพลันเอยปากกนดา
“หึๆ คุกคามหรือไม สหายกุยก็นาจะตัดสินเองได เจาอยาลืมละ เจายังติดหนี้ขา
อยู ตอนนั้นที่ผูบำเพ็ญเพียรโบราณกลุมนั้นรายคาถาระเบิดโลหิตไวบนรางของพวก
เรา เพื่ อ ให พ วกเรากลายเป น สิ่ งที่ โงเขลาไรส ติ ป ญ ญา หากไม ใช เพราะข าแบ งยา
ลูกกลอนสัตยสูญเม็ดหนึ่งใหเจา เจาคงกลายเปนสิ่งที่กระหายเลือดที่คลุมคลั่งไปตั้ง
นานแลว จะแปลงกายไดอยางทุกวันนี้หรือ” ปกสีเงินที่หลังของยักษปกเงินสยายออก
เอยขึ้นดวยน้ำเสียงเย็นชา
“บุญคุณครั้งนั้น ขายอมจำไดอยูแลว” ฮูหยินไดยินเรื่องคาถาระเบิดโลหิต ชั่ว
ขณะนั้นโทสะก็ลดลงไปไมนอย
“แตเจาก็อยาลืมละ นอกจากพวกเราแลวยังมีตนที่สี่ที่ถูกสงมา จนถึงตอนนี้พวก
เรายั งไม เคยพบหน ากั บ มั น สั ก ครั้ง และไม รู วาอี ก ฝ ายคื อ ภู ต ผี ห รือ ป ศ าจ ถ าหาก
รวมมือกับเขาไดละก็ ขาก็อาจจะพิจารณาดู” หลังจากที่ฮูหยินเงียบกริบไปชั่วครู ใน
ที่สุดก็เอยปากขึ้นดวยน้ำเสียงที่ผอนคลายลง
“ขาตามหาไปทั่วตั้งนานแลว แตก็ไมพบเขตอาคมกักวิญญาณเขตที่สี่ และไมพบ
รองรอยของอสูรปศาจตนอื่น บางทีเจาตัวที่สี่อาจจะโชคไมคอยดีนัก และอาจจะตาย
ไปตั้งนานแลว ถึงอยางไรเสียมันก็ไมมียาลูกกลอนสัตยสูญ ที่เอาไวรักษาสติปญ ญา
สัตวกระหายเลือดตนหนึ่งที่มีชีวิตมาเนิ่นนานขนาดนี้ มีโอกาสที่จะยังมีชีวิตอยูไมมาก
นัก และยิ่งไปกวานั้นตอใหมันยังอยูจริงๆ ตอนนี้ก็ไมมีเวลาจะตามหามันแลว”
ยักษปกเงินเอยพรอมกับสายศีรษะ
ฮูหยินอัปลักษณไดยินแลว ก็มีสีหนาเขียวคล้ำสลับกับสดใสไมแนนอน
หลังจากผานไปชั่วครู ในที่สุดนางก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แลวเอยขึ้นอยาง
โหดเหี้ยม
“เอาละ ในเมื่อเจาพูดถึงเรื่องยาลูกลอนสัตยสูญแลว ขาก็จะลงมือชวยเจาอีกสัก
ครั้ง แตบอกเอาไวกอนนะ พวกเราตองการแคแผนปายชีวิต และจะจากไปในทันที ขา
จะไม อ ยู ที่ ภู เขาลู ก นี้ แ ล ว ออกไปแล ว ก็ ไปหาสถานที่ ที่ ไร ผู ค น และจะซ อ นตั ว ฝ ก
บำเพ็ญเพียรไมออกไปไหน”
“เชนนี้แหละถูกตองแลว ขอแคเปนอิสระ จากพลังยุทธของพวกเรา ในใตหลานี้มี
ที่ใดบางที่ไปไมได”
ยักษปกเงินเผยสีหนาดีอกดีใจออกมา ความสามารถของเตาผาทมิฬที่แปลงกาย
เปนฮูหยินผูนี้แข็งแกรงกวาเขาหนึ่งสวน จึงเปนผูชวยที่ดีเปนอยางมาก
“ทว า ก อ นจะลงมื อ พวกเราจะต อ งวางแผนให ดี ก อ น ในเมื่ อ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
เหลานั้นลวงรูการดำรงอยูของสองสหายแลว พวกเราจำตองระวังตัว หามติดกับผู
บำเพ็ญเพียรมนุษยเด็ดขาด” หลังจากที่ฮูหยินอัปลักษณตอบตกลงแลว คาดไมถึงวา
จะเปลี่ยนเปนเยือกเย็นขึ้นเปนพิเศษ
“นั่นมันแนนอนอยูแลว!” ครั้งนี้ ยักษปกเงินเห็นดวยอยางไมลังเลเลยแมแตนอย
อสูรวิหคราชสีหที่อยูดานขางเองก็ชูคอขึ้นพลางคำรามต่ำๆ ออกมา
ทันใดนั้นอสูรปศาจทั้งสามที่อยูใตตนไมยักษ ก็ปรึกษากันอยางแผวเบา หลังจาก
ผานไปเปนเวลาหนึ่งมื้ออาหาร ทั้งสามถึงไดบินขึ้นไปบนทองฟา บินไปทางบันไดหิน
พรอมกันยอางรวดเร็ว
ชั่วพริบตาใตตนไมยักษก็เงียบสงัดลง เหลือเพียงเสียงลมพัดผานเทานั้น
ไมรูวาผานไปนานเทาไหร ณ ตนไมยักษอีกตนที่ดูเหมือนจะเปนตนไมธรรมดาๆ
จูๆ ก็สั่นไหว จากนั้นพลันหดเล็กลง ทามกลางเกราะปองกันลำแสงสีเขียว ผิวของ
ตนไมยักษเวานูนขึ้น จูๆ พลันมีไขมุกสีมรกตขนาดใหญสองลูกปรากฏขึ้น
หลังจากที่ดวงตาสีเขียวมรกตเปนพิเศษคูนั้นกลอกไปมาเล็กนอย ก็จองไปยังทิศทางที่
ยักษปกเงินและพวกหายไปอยางเย็นชา คาดไมถึงวาจะไมมีความรูสึกเลยสักนิด
ตนไมตนนี้คาดไมถึงวาจะเปนสิ่งที่อสูรนิรนามตนหนึ่งแปลงขึ้น ยักษปกเงินและ
พวกทั้งสามเปนผูที่มีความสามารถนาตกตะลึง แตคาดไมถึงวาจะไมพบวาอสูรตนนี้อยู
ใกลๆ ชางเปนเรื่องที่นาเหลือเชื่อจริงๆ
หลังจากที่ปศาจตนนี้ถลึงตาจองมองทองฟาอยูนาน จูๆ รอบกายก็เปลงแสงสี
เขียวสวางวาบ เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น คาดไมถึงวาตนไมแปลงจะจมหายเขาไปใตดิน
อยางไรรองรอย
เวลานี้ ที่นี่ถึงไดเงียบสงัดลงและไรผูคนอยางแทจริง
......
อีกดานหนึ่ง หลังจากที่หานลี่และพวกไมเห็นอสูรวิหคราชสีหแลว ก็ไมไดคิดจะ
หยุดพักในวิหารหินตอ แตพลันบินออกจากวิหารหินอยางรวดเร็ว
ผลลัพธคือเมื่อออกมานอกวิหาร แนนอนวาพวกเขาก็พบกับสถานการณเดียวกับ
ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยนั่นคือเขตอาคมหามเหาะเหิน และทยอยกันรอนลงมาจาก
กลางอากาศ
นี่ จึ ง ทำให พ วกเขาพากั น ตกตะลึ ง ในเวลาเดี ย วกั น และรู สึ ก ดี อ กดี ใจเช น กั น
แนนอนวารูวาในที่สุดพวกเขาก็มาถึงแดนสำคัญของภูเขาคุนอูแลว
“นั่ น คือ อะไร?” ไป เหยาอี๋ก ลับ รอ งอุ ท านออกมา ดวงตาสดใสจอ งเขม็ งไปยั ง
บันไดหินที่อยูไกลออกไป ใบหนางดงามเต็มไปดวยความตื่นตระหนก
ภายใตความตกตะลึงคนอื่นๆ ก็รีบรอนหันไปมอง ถึงไดพบวาหางออกไปสองสาม
ลี้ คาดไมถึงวาบันไดหินจะบิดเบี้ยวคดเคี้ยวจมหายเขาไปในปาไผ
ปาไผผืนนี้ลวนเปนตนไผยักษสีมวงที่มีขนาดหนึ่งคนโอบ หนาแนนไปหมด แทบ
จะกินพื้นที่ทุกตารางนิ้ว เบื้องหนาแตเดิมที่ควรเปนจัตุรัสหยกขาว กลับถูกปาไผบดบัง
เอาไวจนไรรองรอย
และในปาไผก็มีไอสีมวงลอยเต็มไปหมด มีแรงกดของไอวิญญาณที่นาตกตะลึงสงมา
ยิ่งทำใหหานลี่และพวกใจหายวาบ
“เขตอาคมนี้ดูเหมือนวาจะรายกาจวาเขตอาคมเพลิงน้ำแข็งระดับสองมาก ทวานี่
นาจะเปนเขตอาคมชั้นสุดทายที่คนกลุมนั้นวางไวแลว ขอแคทลายเขตอาคมนี้ได ก็
นาจะไลตามพวกเขาทัน” หลังจากที่ฮัวเทียนฉีพิจารณาอยางละเอียดแลว ก็เอยขึ้น
อยางเครงขรึม
“ในเมื่อเปนเชนนั้น จะรออะไรละ?” มารเฒาเฉียนหัวเราะออกมาอยางบาคลั่ง
ชั่วครูมารทั้งหาพลันกลายเปนลำแสงผืนหนึ่ง ตรงไปหาปาไผ
ฮัวเทียนฉีขบคิดเล็กนอย และพาคนของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ตรงไปหาปาไผสีมวง
“พวกเราเองก็ไปกันเถิด เอ พี่หาน ทานเปนอะไรหรือ?” ชายชราแซฟูรองอุทาน
ออกมา ตอนที่คิดจะสาวเทาไปนั้น กลับพบวาหานลี่ที่อยูขางกายมีสีหนาดูไมไดอยาง
สุดๆ ดูเหมือนวาจะไมคอยปกติ จึงอดที่จะรูสึกตกใจไมได
“ไมเปนไร พวกเราไปกันเถิด” หานลี่สูดลมหายใจเขาไปเฮือกใหญ ชั่วพริบตาสี
หน าพลัน ฟ น ฟู กลับ มาเป น ปกติ จากนั้ น รางกายพลั น แวบหายไป คาดไม ถึงวาพุ ง
ออกไปสองสามจั้งอยางไมอยากกลาวอะไรมากนัก
ชายชราลูบคางไปมา ถึงแมวาจะรูสึกตกตะลึงระคนสงสัย แตก็เก็บเรื่องนี้เอาไว
ในกนบึ้งของจิตใจ และตามไปติดๆ
แนนอนวาชายชราแซฟูไมรูวา เมื่อครูนั้น กระบี่บินหลายสิบเลมในรางของหานลี่
สั่นสะทานอยางไมมีเหตุผลพรอมกัน ภายใตความตกตะลึงของเขา ชั่วขณะนั้นจึงรูวา
มารโบราณอยูในภูเขาลูกนี้
นี่จึงทำใหสีหนาของหานลี่ดูไมดีเทาไหรนัก!
หรือวามารโบราณอยูในกลุมผูบำเพ็ญเพียรที่รุดไปเบื้องหนา? เหตุใดมารตนนี้ถึง
ไดปะปนเขาไปในกลุมผูบำเพ็ ญ เพี ยรและวิ่งมาที่ ภู เขาลูกนี้ ? หรือวาที่ นี่ มี สิ่งที่ มาร
โบราณประสงค หรือวามีแผนการชั่วรายอื่น?
ชั่วพริบตาความคิดที่ตอเนื่องและหลากหลายพลันทะลักเขามาในหัวของหานลี่
ทำใหเขารูสึกสับสน ทำอยางไรก็ไมอาจรักษาความเยือกเย็นเอาไวได แตนั่นไมได
หมายความวาหานลี่ที่มีพัดตรีเปลวเพลิงและหุนเชิดระดับกอกำเนิดขั้นปลาย จะยัง
รูสึ ก หวาดกลั วมารโบราณตนนี้ เป น อย างมาก ทวามารตนนี้ ก ลั บ ปรากฏตั ว ขึ้น มา
ในตอนนี้มันแปลกประหลาดเกินไป
ตาจิ้นกวางใหญ ขนาดนี้คาดไมถึงวาจะทำใหเขาพบกับมารตนนี้อยางตอเนื่อง
และบวกกับความทรงจำที่วังวนไอมารของเทียนหนานยังคงชัดเจน นี่จึงทำใหในกน
บึ้งหัวใจของหานลี่ รูสึกไมปลอดภัยจริงๆ
เวลานี้มารเฒาเฉียนควบคุมมารทั้งหาไปอยูเบื้องหนาปาไผ พนไอเย็นเยียบสีเทา
กลุมแลวกลุมเลาเขาใสเงาสีขาว และกระโจนเขาไปหาปาไผ
ในปาไผสีมวงมีเสียงหึ่งๆ ดังขึ้น เสาลำแสงสีมวงเจ็ดสายพุงออกมาจากปาไผตรง
ไปหาทองฟาอยางตอเนื่อง จากนั้นไอสีมวงในผาไปก็ดูเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมาอยางไร
อยางนั้น มันกลายเปนคลื่นสีมวงกดไอเย็นเยียบสีเทาเอาไว เหมือนอสูรตัวประหลาด
สองตัวกำลังพัวพันห้ำหั่นกัน
สี่อาวุโสของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์และชายรางใหญ ที่ตามมาทีหลังเห็นเชนนั้น ก็
สำแดงความสามารถต า งๆ ออกมาอย า งไม ลั ง เลเลยสั ก นิ ด ชั่ ว ขณะนั้ น สมบั ติ
หลากหลายชนิดก็กลายเปนลำแสงหลากสีสัน มวนวนพุงเขาไปหาปาไผอยางรุนแรง
ในตอนที่หานลี่พนกระบี่บินสองสามเลมออกมาอยางเงียบๆ ผสมโรงเขาไปในการ
โจมตีอยางใจลอยนั้น ดานนอกผนึก นอกชองทางใตดินที่ถูกเขตอาคมลวงตาระเบิด
ตนเองทำใหปดตายลงอีกครั้ง กลับมีแขกที่ไมไดรับเชิญเพิ่มขึ้นมาอีกสองสามกลุม
ตอนที่ 1007 เสวียนชิงจื่อ
ลึกลงไปใตดินยี่สิบกวาลี้ทางเหนือของทะเลสาบ ยังคงมีผูบำเพ็ญเพียรสองสาม
รอยคนทะลักเขามายังทางเขาที่ปริแตกของผนึก
เพราะวาอาคมลวงตาระเบิดตัวเอง ทำใหรอยแยกความกวางสองสามจั้งปรากฏ
ขึ้นเบื้องหนาของเหลาผูบำเพ็ ญ เพียร แตดวยเหตุนี้ก็ทำใหชองทางนี้อันตรายมาก
กวาเดิมเชนกัน ตรงทางเขามีลำแสงสีเงินสวางวาบไมหยุด ราวกับคลื่นสีเงินที่กำลังซัด
สาดอยางไรอยางนั้น อันตรายอยางสุดๆ
และตรงทางเขานั้น ผูบำเพ็ญเพียรสันโดษและผูบำเพ็ญเพียรขุมอำนาจเล็กๆ ที่
รูตัวเองวาไมอาจเขารวมหรือแยงชิงอะไรไดตางก็พากันหลบอยูไกลๆ นอกจากนี้ยังมีผู
บำเพ็ญเพียรอีกสามกลุมรวมตัวกันอยูตรงนั้น ดูเหมือนกำลังยืนกรานวาตางฝายตาง
ไมยอมออนขอใหกัน
กลุมหนึ่งลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรหญิงที่สวมชุดคลุมสีเขียวมรกต หนาตาสะสวย
งดงาม รางกายอรชรออนแอน และดูจากการแตงกายแลว กลับเปนผูบำเพ็ญเพียร
ของหนานเจียงเอง ผูนำกลับมีแคสองคน คนหนึ่งคือฮูหยินระดับกอกำเนิดขั้นกลาง
หนาตาธรรมดาๆ และสตรีผูออนเยาวแตกลับมีเสนหนาเยายวนใจระดับกอกำเนิด
ขั้นตนอีกคนหนึ่ง
ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รหญิ งกลุ ม นี้ ก ำลั งเผชิ ญ หน ากั บ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รอี ก กลุ ม หนึ่ งที่ มี
จำนวนคนอยูสามสิบกวาคน แตสิ่งที่ทำใหผูคนประหลาดใจก็คือ คนกลุมนี้กลับแบง
ออกเปนสองกลุมอยูรางๆ กลุมหนึ่งสวมชุดคลุมสีดำ อีกกลุมหนึ่งสวมชุดคลุมสีขาว
ราวกับหิมะ
เบื้องหนาของพวกเขามีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดยืนอยูหาคน เกอเทียนเหา
และธิดาเทพเทียนหลานหลินอิ๋นผิงก็เปนหนึ่งในนั้น แตสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผูคน
ที่สุดก็คือชายหนุมผูออนเยาวหนาตาหมดจดที่ยืนอยูขางกายธิดาเทพเทียนหลาน ดู
จากคลื่นไอวิญญาณแลว คาดไมถึงวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย
นั่นก็คือปรมาจารยเซียนแซสวีของทุงหญาเทียนหลานผูนั้น
ผูบำเพ็ญเพียรกลุมสุดทายมีจำนวนคนนอยที่สุด มีนักพรตสวมชุดสีเขียวเพียงสามคน
เทานั้น ผูนำคือนักพรตชราเรือนผมสีขาวใบหนาแดงก่ำ ดูองอาจหาวหาญดุจเซียน
คาดไมถึงวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายคนหนึ่ง
“ฮูหยินมู เหตุใดพรรคของทานถึงมาเขารวมในการนี้ดวย ไมใชวาอาตมาดูถูกฮู
หยินหรอกนะ แตการเคลื่อนไหวครั้งนี้มันอันตรายจริงๆ หากไมระวังก็อาจจะทำให
ปราณแทของพรรคแปลงเซียนไดรับบาดเจ็บได ขาเห็นแกความสัมพันธในอดีต ถึงได
พยายามหามปราม” นักพรตชราผมขาวเอยกับฮูหยินผูนั้นดวยสีหนาราบเรียบ
ฟงจากน้ำเสียง คาดไมถึงวานักพรตชราและฮูหยินผูนั้นจะสนิทสนมกันเปนอยางมาก
“เสวียนชิงจื่อ ถึงแมวาสำนักมหาเอกจะเลื่องชื่อวาเปนสำนักอันดับหนึ่งของสาย
ธรรมะ แตก็ไมอาจแข็งกราวขนาดนี้กระมัง ผนึกแหงนี้อยูในอาณาเขตของพรรคขา
แทๆ เหตุใดพรรคแปลงเซียนของพวกเราถึงไมอาจเขาไปได สวนเรื่องอันตรายนั้น ลูก
ศิษยของพรรคขานั้นไมเห็นวามันอยูในสายตา” ฮูหยินผูนั้นตอบกลับอยางราบเรียบ
ผูบำเพ็ญเพียรหญิงกลุมนี้คาดไมถึงวาจะเปนอีกพรรคของหนานเจียงที่อยูใกลๆ
กับผนึกแหงนี้ ผูบำเพ็ญเพียรแหงพรรคแปลงเซียน
จะวาไปแลว ชื่อเสียงของพรรคแหงนี้ในโลกของผูบำเพ็ญเพียรนั้นก็เหนือกวาสำนัก
พิษศักดิ์สิทธิ์อยูสองสามสวน สาเหตุมาจากเคล็ดวิชาของพรรคแหงนี้ ลูกศิษยสวน
ใหญลวนเปนสตรีผูบำเพ็ญเพียร อาวุโสผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงในพรรคก็ลวนเปนสตรี
อานุภาพของพรรคนี้ในหนานเจียงนั้น ก็อาศัยคาถาสาปแชงอันรายกาจที่ปองกัน
อยางไรก็ปองกันไมหมดของพรรค ไดยินวาไกลกวาหมื่นลี้ ก็สามารถรายคาถานี้และ
สังหารคนไดอยางแนบเนียน
ดังนั้นในโลกของผูบำเพ็ญ เพียรจึงมีขาวลือเรื่องการตายอยางประหลาดของผู
บำเพ็ญเพียรที่ไปลวงเกินพรรคนี้เขาแมตัวจะอยูหางไกลมากแพรกระจายออกมา นี่จึง
ทำใหผูบำเพ็ญเพียรในสำนักอื่นๆ ลวนหวาดกลัวสตรีผูบำเพ็ญเพียรจากพรรคนี้เปน
อยางมาก และไมกลาไปลวงเกินงายๆ
‘ฮูหยินมู’ ของพรรคแปลงเซียนผูนี้ ยิ่งเคยมีขาวลือวาเคยรายอาคมใสผูบำเพ็ญ
เพียรในระดับเดียวกันสามคนพรอมกันแมจะอยูคนละที่ ในอดีตนักพรตชราก็เคยมี
ความแคนที่ไมอาจเปดเผยไดกับสตรีผูนี้
ดังนั้นถึงแมวานักพรตชราจะอยูในฐานะอาวุโสอันดับตนๆ ของตาจิ้น แตก็มีทาที
เกรงอกเกรงใจ
“พี่เสวียนชิง เรื่องของพรรคอื่นๆ ผูแซเกอจะไมซักถาม แตพรรคตาขายทมิฬของ
พวกเราจะตองเขาไปใหได” เกอเทียนเหาที่อยูอีกดานเองก็เอยปากพูดออกมา
คนผูนี้พาผูบำเพ็ญเพียรเทียนหลานกลุมหนึ่งรีบรุดมาที่นี่ทั้งวันทั้งคืน แตเมื่อเขา
มาในหนานเจียงก็พบกับอาวุโสอีกสองคนของพรรคตาขายทมิฬ และทราบเรื่องผนึก
ใตดิน ทันใดนั้นก็พาทุกคนไปที่นั่น เวลานี้เขาจึงรูวากำลังคนของเขาเหนือกวาสำนัก
มหาเอก แนนอนวาไมมีทางลาถอยไปงายๆ แน
“หากสหายเกออยากเขาไปจริงๆ อาตมาก็ไมอาจขวางกั้น ไมปดบังเหลาสหาย
อาตมาไดรับรายงานลับมาวา มีคนพยายามหาวิธีคลายผนึกแหงนี้มาเนิ่นนานแลว
ถึงแมวาขาจะไมรูวาขางในนี้มีอะไร แตคิดดูแลวจะตองไมใชเรื่องที่ดีแน นอกจากนี้
ตอใหอาตมาสอดมือไปยุงกับเรื่องนี้ ผนึกแหงนี้เปลี่ยนไปเชนนี้ เหลาสหายจะขามไป
ไดอยางไร ผนึกในตอนนี้แมแตอาตมาตก็ไมกลาบุมบามเขาไป”
ตาเฒาเสวียนชิงจื่อไดยินคำนี้กลับไมโกรธเกรี้ยว แตกลับเอียงศีรษะมองไปทาง
ลำแสงสีเงินแวบหนึ่ง แลวเอยอยางราบเรียบ
เมื่อไดยินคำพูดของนักพรตชรา ฮูหยินชุดเขียวและเกอเทียนเหาก็เงียบกริบลง นี่
เปนปญหาที่จัดการไดยากจริงๆ!
ตอนนี้คลื่นอาคมในรอยแยกรุนแรงขนาดนี้ การเขาไปจะตองเปนเรื่องที่อันตราย
มากแน
“ชวงสองสามปที่ผานมาพรรคแปลงเซียนของพวกเราก็ไดกระสวยตะวันจันทรา
มาชิ้นหนึ่ง นับวาเปนสมบัติปองกันการโจมตีที่หายากเพียงไมกี่ชิ้นในใตหลา หากขา
และศิษยนองหญิงรวมมือกัน ก็อยากจะลองทดสอบดู” ฮูหยินปดเสนไหมสีเขียวที่
ปรกลงมาเบื้องหนา แลวเอยอยางเชื่องชา
“กระสวยตะวันจันทรา? หนึ่งในสามสมบัติกระสวยวิญญาณ คาดไมถึงวาฮูหยิน
จะมีสมบัติชิ้นนี้ดวย!” นักพรตมีสีหนาประหลาดใจ
“ไม มี อ ะไรหรอก พรรคของข าเพิ่ งได ม า กำลั งคิ ด วาจะนำสมบั ติ ชิ้ น นี้ ม าเป น
สมบั ติ ที่ ใ ช สื บ ต อ กั น ในพรรคแปลงเซี ย นของพวกเรา!” ฮู ห ยิ น มู เอ ย ด ว ยสี ห น า
ราบเรียบ ไมมีทาทางหวาดกลัวเลยสักนิด
“ในเมื่อฮูหยินมีสมบัติชิ้นนี้ อาตมาก็จะไมกลาวใหมากความแลว สหายมูดูแล
ตนเองเถิด หลังจากนี้สองวันอาตมาจะเขาไปในผนึกแหงนี้” นักพรตชราพยักหนา
แลวเอยอยางไมมากความอีกดังคาด
“สองวัน ให ห ลั ง? เมื่ อ ครูส หายไม ได บ อกว าตนเองไม มี ท างเข าไปได มิ ใช ห รื อ
ตอนนี้หมายความวาอยางไร?” เกอเทียนเหาจับความผิดปกติได
“อาตมาไมไดบอกหรือ? หลังจากนี้สองวัน อรหันตชีเมี่ยวของพรรคมารสวรรคจะ
มาที่นี่ มีรถเตาวิญญาณบินของสหายชีเมี่ยว การขามผนึกแหงนี้ก็ไมเปนปญหาแลว”
นักพรตเฒาลูบเคราขณะเอย
“อรหันตชีเมี่ยวจะมาที่นี่?” เกอเทียนเหาและพวกพากันตกใจ
“ใชแลว อาตมาไดรับการรายงานอยางลับๆ มา แตเดิมเรื่องราวที่เกี่ยวของฝาย
ธรรมะและอธรรมทั้งสองสายนี้ อาตมาและสหายชีเมี่ยวก็มีหนาที่รับผิดชอบอยูพอดี
และกอนหนานี้ไมนานพวกเราสองคนก็เพิ่งจะแยกกันจัดการธุระที่หนานเจียง ในเมื่อ
ตอนนี้หาเบาะแสพบแลว แนนอนวาวาพี่ ชีเมี่ ยวจะตองมาชวยอาตมาแน ไมใชวา
อาตมาขี้ขลาด แตถาหากรายงานลับเปนความจริง ผูเฒามั่นใจวาตัวคนเดียวไมอาจ
ทำอะไรไดแน รอใหสหายชีเมี่ยวมาถึงแลวคอยเขาไปในผนึก จะมั่นคงกวา”
นักพรตชราเอยอยางไมทุกขรอน
เมื่อไดยินวาแมแตอรหันตชีเมี่ยวของพรรคมารสวรรคยังเคลื่อนไหว สีหนาของ
เก อ เที ย นเหาก็ ดู ไม ได จ ริ ง ๆ หลั ง จากที่ เขามี สี ห น า ทะมึ น ทึ บ ไปชั่ ว ครู มุ ม ปากก็
ถายทอดเสียงไปใหเทพธิดาเทียนหลานและชายหนุมแซสวี
ชายหนุมแซสวีมีสีหนาไมเปลี่ยนแปลง แตหลินอิ๋นผิงกลับขมวดคิ้วเรียวแนน
เกอเทียนเหาเห็นเชนนั้น ก็รีบรอนเอยอะไรออกมา ชายหนุมแซสวีจึงเงียบกริบ
ไปชั่วครู ในที่สุดก็พยักหนาอยางเชื่องชา ถึงแมวาหลินอิ๋นผิงจะรูสึกลังเลเล็กนอย แต
ก็ไมไดคัดคานอะไร
เก อ เที ย นเหาถึ ง ได มี สี ห น า ผ อ นคลายลง จากนั้ น ก็ เอ ย กั บ เสวี ย นชิ ง จื่ อ อย า ง
เด็ดขาดวา
“ฟงจากคำพูดของสหายเสวียนชิง ใตผนึกแหงนี้มีปญหาจริงๆ แตในเมื่ออาวุโส
ของพรรคขาลงไปแลว ผูแซเกอก็ไมอาจนิ่งดูดายได ถึงแมวาพวกเราจะไมมีกระสวย
ตะวันจันทราและรถเตาวิญญาณบิน แตก็จะลองดู”
“หึๆ! อาตมากลาวอยางชัดเจนเชนนี้ หากพี่ เกอมั่นใจ อาตมาตก็ไมใชคนเลว
หากมีความสามารถอะไรที่ขามผานรอยแยกไปได ก็สำแดงออกมาเถิด” เสวียนชิงจื่อ
ไมแปลกใจเลยแม แต น อย สายตาเหลื อบไปมองปรมาจารย เซี ย นแซ สวีของเที ย น
หลานแวบหนึ่ง สีหนาราบเรียบ
ดูแลวนักพรตชราคงทราบประวัติความเปนมาของผูบำเพ็ญเพียรเทียนหลานเปน
อยางดี
“ในเมื่อเปนเชนนั้น พวกเราก็ไมเกรงใจแลว สหายสวี คงตองรบกวนใหทานลง
มือแลว” เกอเทียนเหาไดยินแลวพลันหัวเราะออกมา พลางหันหนาไปกลาวดวย
“อืม ในเมื่อพี่เกออยากใหชวย ผูแซสวีก็จะลองชวยสหายทั้งสองดู”
ชายหนุ ม ใช มื อ หนึ่ งตบไปที่ ย ามเก็ บ อสู ร วิญ ญาณข างเอวใบหนึ่ ง ชั่ ว ขณะนั้ น
ลำแสงผื น หนึ่ งก็ ท ะลั ก ออกมาจากปากถุ ง จากนั้ น ลำแสงวิญ ญาณพลั น สวางวาบ
นกยูงหาสีตัวหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ ขนหลากสียาวสองสามฉื่อเปลงแสงเรืองรอง
ออกมา ชางเจิดจรัสบาดตาจริงๆ
“นี่คือนกยูงหงอนวิญญาณ!” ดวงตาคูนั้นของเสวียนชิงจื่อหรี่ลง ใบหนาเปลี่ยนสี
ไปเล็กนอย
“ใชแลว นกยูงหงอนวิญญาณสามารถเปลงลำแสงหาสีที่กั้นไอวิญญาณฟาดินโดย
ธรรมชาติออกมาได หากใหมันเปดทางละก็ พวกเราก็สามารถเขาไปไดพรอมกัน พี่
เสวียนชิง พวกเราเขาไปกอนนะ”
เกอเทียนเหาและพวกเห็นชายหนุมแซสวีปลอยวิหควิญ ญาณออกมาแลวก็ไม
ลังเลอีก หลังจากทีน่ กยูงตัวนั้นเปลงเสียงรองออกมา ก็พุงเขาไปในลำแสงสีเงิน
ผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดสองสามคนอยางพวกเขาก็ท ยอยกันกางเกราะ
ปองกันออกมา แลวตามไปติดๆ ชั่วพริบตาดานนอกก็เหลือเพียงลูกศิษยระดับต่ำของ
เทียนหลานและพรรคตาขายทมิฬ และคนเหลานี้ก็ดูเหมือนวาจะไดรับคำสั่งมากอน
แลว เมื่อเห็นเกอเทียนเหาและพวกเขาไปไดอยางปลอดภัย ดูเหมือนวาจะไมมีปญหา
อะไร ทันใดนั้นก็ไมหยุดอยูที่นั่น ทยอยกันขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีตรงไปยังผืนดิน
ชั่วพริบตา ทางเขาก็เหลือเพียงเสวียนชิงจื่อและพวกกับผูบำเพ็ญเพียรหญิงของ
พรรคแปลงเซียน
ฮูหยินแซมูเห็นเชนนั้น ก็ขบคิดไปชั่วครู หันหนาไปออกคำสั่งเชนกัน ชั่วขณะนั้น
ลูกศิษยหญิงในพรรคเหลานั้นก็พากันกระจายตัวออกจากที่นี่
รอจนเห็นวาศิษยในสำนักออกจากที่แหงนี้แลว ฮูหยินถึงไดพยักหนาเปนการให
สัญญาณกับสตรีผูงดงามผูนั้นแลวเอยวา
“ศิษยนองหญิง ปลอยกระสวยวิญญาณออกไปเถิด!”
“ทราบแลวเจาคะ!” สตรีผูงดงามเอยตอบรับ ทันใดนั้นมือเรียวก็ลูบไปที่ขางเอว
ชั่วขณะนั้นในมือพลันมีวัตถุที่มีปลายแหลมทั้งสองดานสีเงินชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้น และ
โยนขึ้นไปกลางอากาศ
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ฮูหยินก็สะบัดแขนเสื้อ พลันสำแดงสมบัติสีทองสาย
หนึ่งที่เหมือนกันไมมีผิดเพี้ยนออกมา
ชั่วขณะนั้นลำแสงสองสายสีเงินและสีทองก็ปะทะกันกลางอากาศ พลางสวาง
วาบพัวพันเขาดวยกัน ไมเพียงจะไมระเบิดและดีดตัวออก กลับผสมเขาดวยกันในชั่ว
พริบตา กลายเปนกระสวยยักษสีทองเงินอันหนึ่ง ขนาดสองสามจั้ง ดูทาทางนากลัว
“ไป!” ฮูหยินตะโกนออกมา ทันใดนั้นสตรีผูงดงามก็กลายเปนสายรุงสองสาย
สวางวาบแลวจมเขาไปในกระสวยยักษและเลือนหายอยางไรรองรอย
ผิวของกระสวยยักษเปลงแสงสีเงินออกมาในเวลาเดียวกัน หลังจากหมุนโคจร
หนึ่งรอบ ชั่วครูก็พุงออกมา บินเขาไปในรอยแยก
“อาตมาเปลืองน้ำลายขนาดนี้ พวกเจาก็ยังเขาไป หากเกิดอะไรขึ้น ก็อยาหาวา
อาตมาไมเตือน!” เสวียนชิงจื่อรอจนกระสวยยักษสลายหายไปอยางไรรองรอย ก็เอย
พึมพำดวยสีหนาแปลกประหลาด
ทันใดนั้นเขาก็โบกมือใหนักพรตระดับหลอมรวมสองคนดานหลัง ทันใดนั้นทั้ง
สามก็นั่งสมาธิลงที่ทางเขา และหลับตาลง
มีผูบำเพ็ญเพียรอีกคนหนึ่งคอยรักษาการณอยูที่ทางเขา ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ที่
อยูไกลออกไปจึงทำไดเพียงมองสบตากัน
ในสวนยอดของภูเขาคุนอูดานในผนึก กลางอากาศที่ถูกปดผนึกจนมองเห็นไม
ชัดเจน สัตวขนาดยักษที่รางกายใหญโตอยางนาเหลือเชื่อลอยอยูกลางอากาศไมขยับ
เขยื้อน บนผิวของมันแปะยันตวิเศษอาคมตองหามเอาไวจำนวนนับไมถวน มีโซหลาย
เสนพันธนาการรางของมันเอาไวอยางแนนหนา
ยั น ต วิเศษเหล านี้ เปล งแสงสวางวาบออกมา แค ม องปราดเดี ย วรูว าเป น ยั น ต
ระดับสูง ทวาโซที่พันธนาการมันนั้นกลับเปนสีดำสนิทไรสีสัน แตกลับแฝงเอาไวดวย
รอยโลหิตบางๆ สายหนึ่ง
ตอนที่ 1008 สัตวยักษ วิหาร และการทลายเขตอาคม
นอกจากยันตวิเศษและโซที่พันอยูเต็มไปทั่วเรือนรางแลว รอบๆ สัตวยักษตัวนี้
ยังมีกระจกขนาดเทาฝามือนับพันเรียงรายอยูเต็มไปหมด พลางเปลงลำแสงสีเหลือง
ออกมา กลายเปนเขตอาคมประหลาดๆ พัวพันประสานเขาดวยกันและกักสัตวยักษ
ตัวนี้เอาไวขางในอยางพอดิบพอดี
กลางอากาศที่สัตวตัวนี้ลอยอยู มีมานอาคมชั้นแลวชั้นเลาซึ่งดูเหมือนระลอกคลื่น
ที่ไมมีวันสิ้นสุด ทุกแหงลวนเปลงไอวิญญาณจางๆ ออกมา
แตเงารางของเจาสัตวตัวนี้ดูเลือนรางแลวเหมือนกับภูเขาเล็กๆ อยางไรอยางนั้น
ไมมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ถาหากไมใชเพราะบางครั้งรางของมันขยับขึ้นๆ ลงๆ ไมวา
ผูใดก็คงคิดวามันเปนสิ่งที่ไรชีวิตอยางไรอยางนั้น
ตรงกั น ข า ม กลางอากาศใกล สั ต ว ยั ก ษ ก ลั บ มี แ ดนสวรรค อี ก แห ง หนึ่ ง ลอย
ตระหงานอยู
ที่นั่นเปนสีเขียวจี ทุกแหงลวนเต็มไปดวยตนไมใบหญาที่มหัศจรรย ไอวิญญาณ
เต็มเปยมจนทำใหผูคนตกตะลึงจนอาปากคาง
แตใจกลางของสถานที่แหงนั้นที่เหมือนกับแดนสวรรคนั่น กลับมีวิหารที่วิจิตร
ตระการตากวางสองสามรอยจั้งอยูแหงหนึ่ง หากมองจากที่ไกลๆ ในวิหารแหงนี้ลวน
เงียบเชียบ ราวกับวาไมมีผูคน
แตถาหากยืนอยูเหนือวิหารและมองลงมา ก็จะพบวา วิหารแหงนี้คาดไมถึงวาจะ
ถูกสรางขึ้นตรงใจกลางของเขตอาคมยักษ บริเวณรอบๆ วิหารยังมีแทนบวงสรวงนอย
ใหญสูงประมาณสิบจั้งที่ถูกสรางขึ้นอีกแปดสิบเอ็ดแทน และมีเขตอาคมตางๆ วางอยู
สิ่งที่ทำใหผูคนตกตะลึงที่สุดก็คือ ทุกแทนบวงสรวงตางมีมนุษยหินหยกขาวสูง
สองสามจั้งเซนไหวอยู
มนุษยหินเหลานี้สวมชุดเกราะสีทอง สองมือถือมีดยักษสีทองที่ไมรูจักชื่อชี้ไปทาง
วิหารอยู สีหนาเครงขรึมเปนพิเศษ ราวกับเปนสิ่งมีชีวิตอยางไรอยางนั้น
แตทุกอยางกลับดูเงียบสงัด ไมวาวิหารหรือวามนุษยศิลา ลวนดูเหมือนวาไมรูวา
ดำรงอยูมากี่ปแลว
เผยใหเห็นถึงความลึกลับเปนอยางมาก แปลกประหลาดเปนอยางมาก!
เวลานี้ ณ บางแหงในภูเขาคุนอูที่มีเขตอาคมเจ็ดดาวยี่เขงวางอยู ในเขตอาคมมี
เสียงระเบิดดังขึ้นอยางตอเนื่อง คลายกับมาถึงชวงสำคัญในการทลายเขตอาคมแลว
เสาลำแสงสีมวงเจ็ดสายพุงขึ้นไปหามานหมอกสีมวงที่มองไมเห็นจุดสิ้นสุด เสียง
ฟาผาทุมต่ำดังขึ้นอยางตอเนื่อง ประจุไฟฟาหนาๆ ดีออกมาจากผิวของเสาลำแสงสาย
แลวสายเลา โจมตีไปทั่วทุกหนแหงในเขตอาคม
ทามกลางไอหมอกที่หนาแนนจนมองไมเห็นอะไรเลย และบางครั้งก็มีเสียงรอง
คร่ำครวญที่รบกวนจิตใจผูคนดังออกมา
รอบกายของหานลี่มีลำแสงสีทองพันลอมรอบอยู ตรงเขาไปใกลเสาลำแสงตน
หนึ่งดวยสีหนาไมเปลี่ยนแปลง และหมอกสีมวงรอบๆ ดานก็กลายเปนอสรพิษยักษ
ลำตั วใหญ เท าปากชามหลายตั ว เมื่ อ เข าใกล ตั วเขาก็ ถู ก แสงสี ท องเกี่ ย วรั ด เอาไว
ในทันที แลวทยอยกันถูกสับออกเปนชิ้นๆ สลายออกกลายเปนไอหมอกอีกครั้ง
แตเมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ ใบหนาของหานลี่ยังคงไมมีความดีอกดีใจเลยสักนิด
เพราะวาทันใดนั้นทามกลางหมอกสีมวงก็มีอสรพิษสีมวงลวงตาจำนวนมากกวาเดิม
กระโจนออกมา บางครั้งเหนือศีรษะก็มีประจุไฟฟาสีเงินขาวเปนสายๆ ผาลงมา ไมวา
จะหนาขนาดไหน เขาก็ไมสนใจ ทุกครั้งที่ประจุไฟฟาสีเงินเกือบจะเขาประชิดตัวนั้น
เขาก็จะโบกมือที่เต็มไปดวยประจุไฟฟาสีทองขึ้นกลางอากาศ ประจุไฟฟาทั้งหมดพลัน
ถูกดูดไปดานขาง ไมอาจสำแดงอานุภาพออกมาไดเลยแมแตนอย
จูๆ เสียงปงๆ สองครั้งที่เบาจนแทบไมไดยินก็ดังขึ้นจากดานหลัง หานลี่ขมวดคิ้วมุน
ดีดนิ้วออกไปดวยไมแมแตจะหันศีรษะกลับไป ประจุไฟฟาสีทองบางๆ สองสายพุง
ออกไป หลังจากเสียงฟาผาดังขึ้นสองครั้ง กลิ่นไหมก็โชยตามมาติดๆ
หานลี่ถึงไดหั น กลับ ไปมองแวบหนึ่ ง เห็ น เพี ยงผึ้งยักษ ขนาดเท ากำป น สองตั ว
เรือนกายมีสีดำสนิทกำลังตกลงมาจากกลางอากาศต่ำๆ
ผึ้งเหลานี้ไมเพียงมีขนาดที่นาตกตะลึง รอบๆ ตัวมันยังมีลายพาดกลอนสีเหลือง
แลดูงดงาม ดานหลังมีหนามพิษงอกออกมายาวสองสามชุน ทำใหผูคนเห็นแลวอดที่
จะสั่นสะทานไมได
แตแมลงวิญญาณชนิดนี้ หานลี่ที่อยูทามกลางเมฆหมอกอยางนอยที่สุดก็สังหาร
ไปแลวสามสิบถึงสี่สิบตัว แตนอกจากสองสามตัวแรกที่ถูกเขาใชกระบี่บินสังหารแลว
ผึ้งยักษที่เหลือกลับถูกเขาใชอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายสังหารทั้งหมด
นั่นไมใชเพราะเขาสามารถใชอัสนีเทวาไดตามอำเภอใจ แตเพราะตั้งแตแรกผึ้ง
ยักษชนิดนี้ก็ทำใหเขาเสียเปรียบไปไมนอย
ถึงแมจะไมรูวาหนามพิษที่หางของผึ้งตัวนี้ทรงพลังขนาดไหน แตโลหิตแมลงสี
เขียวมรกตของผึ้งเหลานี้กลับมีพลังในการกัดกรอนที่แข็งแกรงเปนพิเศษ หลังจากที่
กระบี่บินของหานลี่เลมหนึ่งถูกมันครอบงำ ตัวกระบี่ก็เวาบุมกลายเปนรูทันที แมแต
พลังชีวิตของกระบี่ก็ถูกทำลาย
เชนนั้น หานลี่จึงไมยอมใชกระบี่บินสังหารผึ้งเหลานี้อีก อีกทั้งผึ้งเหลานี้ก็มีพลัง
ตานทานเคล็ดวิชาระดับต่ำอยางลูกไฟและกรวยน้ำแข็ง เขาจึงทำไดเพียงใชประจุ
ไฟฟาสีทองสังหารมันเทานั้น
โชคดีที่ถึงแมวาผึ้งเหลานี้จะมีจำนวนไมนอย แตก็ไมมีพลังตานทานอัสนีเทวาปด
เปาภยันตรายเลยสักนิด แทบจะจบชีวิตลงในทันที
หานลี่จึงไมไดสูญเสียอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายไปเยอะนัก
นอกจากผึ้งยักษขนาดเทากำปนแลว ในหมอกสีมวงก็มีคางคาวสีแดงโลหิตสอง
สามตั ว มาโจมตี ห านลี่ ค างคาวชนิ ด นี้ น อกจากสี ข องมั น แล ว ก็ ดู ไม ต างอะไรจาก
คางคาวธรรมดาเลยสักนิด
แตหลังจากที่ใชกระบี่สับลงไปแลว ลำแสงกระบี่กลับไมอาจสังหารคางคาวได
กลายเปนกระบี่บินที่หลังจากสับลงไปแลว พลันสั่นสะทานกอนจากนั้นถึงจะผาราง
ของคางคาวเหลานี้ได
นี่จึงทำใหหานลี่รูสึกตกตะลึงอยางเงียบๆ
ตองเขาใจวาหลังจากที่ผสมแกนทองคำลงไปในกระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆา ก็แทบ
จะเรียกไดวาแหลมคมอยางหาที่เปรียบมิได แมแตกระบี่บินครั้งกอนๆ ก็ยังสับลงไปได
ราวกับฟนตนหญาอยางไรอยางนั้น แตกลับสังหารคางคาวเหลานี้ไดอยางยากเย็น
เห็นไดชัดวารางกายของคางคาวเหลานี้แข็งแกรงมาก
ไมวาผึ้งยักษหรือวาคางคาวโลหิต ตางก็เปนอสูรวิญญาณที่พบเห็นไดบอยที่สุดใน
โลกของผูบำเพ็ญเพียร แตคาดไมถึงวาจะถูกคนเลี้ยงดูจนตอกรไดยากถึงเพียงนี้ เห็น
ไดชัดวาจะตองใชความทุมเทเปนอยางมาก และเพื่อใหสอดคลองกับเขตอาคม จึงไมมี
ผูใดอยูควบคุมพวกมัน ในเขตอาคม ทำให อ านุ ภ าพของผึ้งยั กษ แ ละค างคาวโลหิ ต
เหลานี้ไมไดถูกนำออกมาใชเลยแมเพียงครึ่ง
ดูแลวผูบำเพ็ ญ เพี ยรที่ มากอ นหน านี้ คงทำเพื่ อ ยื้อเวลา และไม สนใจวาจะเสี ย
คาใชจายไปเทาไหร
ขณะที่กำลังขบคิดเชนนั้น เขาก็อยูหางจากเสาลำแสงสีมวงเสานั้นเพียงแคสิบ
กวาจั้ง มองเห็นวาเหลือเพียงไมกี่กาวก็จะทำลายเสาลำแสงนั้นไดแลว
แตในตอนนั้นเอง ไผยักษสีมวงที่หายไปหลังจากที่เขาเขามาในเขตอาคม จูๆ ก็
ปรากฏขึ้นที่เสาลำแสงทั้งสี่ทิศ จากนั้นหลังจากกะพริบวาบคราหนึ่งก็ขยายใหญขึ้นไป
รอบดานอยางรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็ลอมรอบหานลี่เอาไวอยางแนนหนา เสาลำแสงที่
แตเดิมที่อยูใกลมาก พลันกลายเปนควันสีเขียว สลายหายไปอยางไรรองรอย รอบๆ
เสาลำแสงเหลานี้คาดไมถึงวาจะมีเขตอาคมลวงตาอยู หานลี่พลันตกตะลึง ทันใดนั้น
มุมปากก็หยักรอยยิ้มจางๆ ขึ้น
ขอแคไมใชเคล็ดวิชาลวงตาโบราณระดับสุดยอดที่ไรรูปราง เคล็ดวิชาเขตอาคม
ลวงตาธรรมดาๆ จะกักเขาเอาไวไดอยางไร
ลำแสงสีฟ าสวางวาบในมานตาของหานลี่ อ ย างไม ตอ งคิ ด ชั่ วพริบ ตาไผสีม วง
ทั้งหมดเบื้องหนาก็กลายเปนเงาลวงตา เสาลำแสงปรากฏขึ้นที่เดิม
หานลี่เพียงสะบัดแขนเสื้อ กระบี่บินสีทองเจ็ดแปดเลมก็พุงออกมา หลังจากหมุน
วนกลางอากาศหนึ่งรอบ พลันกลายเปนกระบี่ยักษสีทองเลมหนึ่งทามกลางเสียงรอง
คำราม แสงสีทองสวางวาบ กระบี่แสงเลมหนาๆ พลันสับลงมาบนเสาลำแสงนั่น
เสียง ‘ตูม’ ดังสนั่นขึ้น โคนเสาถูกทำลายจนหายลับไปในพริบตา
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ปาไผสีมวงขางกายของหานลี่ ไมวาจะเปนเงาลวงตา
หรือวาเขตอาคมที่แทจริงลวนหายไปโดยมีเขาเปนศูนยกลาง ในระยะรอยกวาจั้ง เผย
ใหเห็นพื้นที่ปูดวยอิฐสีขาวบริสุทธิ์ออกมา
หานลี่กมศีรษะลงมองแวบหนึ่ง ขมวดคิ้วอยางไมใสใจ
ทันใดนั้นก็หันหนาไปมองยังสถานที่ที่ถูกหมอกสีมวงปกคลุมซึ่งอยูไกลออกไป
เห็นเพียงเสาลำแสงที่เหลืออีกหกตน เวลานี้เหลือเพียงสามตน อีกสองตนนั้นคาดไม
ถึงวาจะถูกสองคนนั้นทำลายไปกอนเขาแลว
หานลี่เงียบกริบไปชั่วครู ไมไดเขาไปทลายเสาลำแสงที่เหลือ แตควักศิลาวิญญาณ
ออกมากอนหนึ่งพลางนั่งสมาธิลง
เขาถือโอกาสนี้ ขบคิดเล็กนอยถึงวิธีการรับมือหลังจากที่มารโบราณปรากฏตัว
ตอนนี้ในภูเขาตางก็มีผูบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกรงอยางมากมารวมตัวกัน มารภูตผี
ตางๆ มีอยูไมนอยจริงๆ ตอใหเขามีพัดตรีเปลวเพลิงและหุนเชิดระดับกอกำเนิดขั้น
ปลาย หากไมระวังตัว เกรงวาคงมีอันตรายถึงชีวิตได
หานลี่ฟนฟูพลังลมปราณไปพลาง สายตาสวางวาบพลางขบคิดไปพลาง
หลังจากไมรูวาผานไปนานเทาไหร จูๆ หานลี่ก็ใชมือหนึ่งลูบไปที่ยามเก็บของขางเอว
ชั่วขณะนั้นวัตถุสี่เหลี่ยมสีฟาก็ปรากฏขึ้นในมือ นั่นก็คือผลึกศิลาที่หดเล็กลงที่เขาพบ
ในแผนศิลาของภูเขาคุนอูในตอนแรก
จะวาไปแลวของสิ่งนี้ก็นับวาลึกลับอยางสุดๆ! จากจิตสัมผัสที่แข็งแกรงของเขา
แมจะจองเขม็งไปที่แผนศิลานี้อยูนาน ก็ยังไมพบอะไรที่ซอนอยูในศิลากอนนี้ ถาหาก
ไมใชเพราะมังกรเกราะธรณีมีความสามารถในการสัมผัสสมบัติประเภททองไดโดย
ธรรมชาติ เขาก็คงไมพบศิลากอนนี้
แตตัวของผลึกศิลากอนนี้ก็แปลกประหลาดจริงๆ ทั้งๆ ที่ดูเหมือนอะไรสักอยางที่
ถูกหลอมขึ้น แตลมปราณที่ตองใสเขาไปในตอนแรกนั้นมีนอยอยางสุดๆ และเมื่อใส
ลมปราณเขาไป ก็จะคอยๆ ออนจางลงราวกับเปนความวางเปลาอยางไรอยางนั้น
แตทุกอยางนี้ไมใชสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของหานลี่มากที่สุด สิ่งที่ทำใหเขาสนใจ
ที่สุดก็คืออักษรโบราณไมรูจักชื่อซึ่งถูกสลักอยูบนแผนศิลานั่น ถึงแมวาอักษรโบราณ
เหลานี้จะเปนตัวอักษรเกาแก แตห านลี่กลับ ไมรูจักเลยสักตัว คาดไม ถึงวาจะเป น
ตัวอักษรโบราณที่ไมเคยถูกบันทึกเอาไวในคัมภีรมวนใดเลย
ทวาถึงแมจะเปนเชนนั้น หานลี่ก็ตัดสินจากรูปรางของตัวอักษรโบราณเหลานี้ได
วา ตัวอักษรเหลานี้เกิดในสมัยกอน ‘สมัยดึกดำบรรพ’ ที่เขาคุนเคย นี่เปนของโบราณ
ที่แทจริง และเปนหนึ่งในสมบัติมหัศจรรย
หานลี่ใชมือหนึ่งชั่งน้ำหนักผลึกศิลาเล็กนอยแลวถอนหายใจออกมา ลำแสงบนมือ
สวางวาบ ทันใดนั้นก็เก็บมันเขาไป
ในตอนนั้นเอง แทบจะในทันทีนั้น ในเขตอาคมที่อยูไกลออกไปก็มีเสียงดังขึ้นสอง
ครั้ง เสาลำแสงอีกสองตนถูกทำลายลงแลว
เสาลำแสงที่เหลือตนสุดทาย แทบจะไมตองใหหานลี่และพวกไปทำลาย ลำแสงก็
หมนหมองลงแลวสลายหายไปโดยอัตโนมัติ เชนนั้น ในที่สุดเขตอาคมที่สามารถเรียก
ไดวาเปนเขตอาคมขนาดใหญที่มหัศจรรย ก็ถูกพวกเขารวมมือกันทลายลงได
เงาลวงตาหมอกสีมวงทั้งหมด ตางหายไป เงารางของคนอื่นๆ ก็ปรากฏขึ้น แต
ทันใดนั้นกลางอากาศก็มีเสียงโกรธเกรี้ยวของมารเฒาเฉียนดังขึ้น
“เจาสี่คนจากสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์! คาดไมถึงวาพวกเขาจะรูจักเขตอาคมนี้ แลวหนี
ไปอยางเงียบๆ แลว!”
ภายใตสายตาที่กวาดออกไปของหานลี่ ก็พบวาเหลาอาวุโสทั้งสี่ของสำนักพิษ
ศักดิ์สิทธิ์หายตัวไปอยางไรรองรอยแลว
“เหอะ! แคพวกเขาที่ไหนเลา เจาเจิ้งเวยเองก็หายไปแลวเชนกัน ขาวาแลววาที่
เขาชักจูงใหพวกเราเขามา ก็เพราะมีเจตนาไมดีต้ังแตแรกแลว” ชายรางใหญระดับ
กอกำเนิดกนดาออกมาดวยสีหนาโกรธเกรี้ยว
“มินาละคนเหลานั้นจึงสลัดพวกเราทิ้ง พวกเจาดูขางหนาเถิด” ไปเหยาอี๋กลับ
ถอนหายใจออกมา นิ้วเรียวชี้ไปที่เบื้องหนา
เวลานี้คนที่เหลือถึงไดพบวา จัตุรัสที่พวกเขายืนอยู มีบันไดหินสิบกวาสายอยู
แยกออกไปตามทิศทางที่แตกตางกัน
“ดูแลวพวกเขาคงคิดวาขอแคไมเลือกทางเดียวกับผูบำเพ็ ญ เพี ยรที่ นำหนาไป
หรือวาหากอีกฝายแยกตัวกันออกไป พวกเขาก็จะตอกรไดตามลำพั ง ดังนั้ นถึงได
แยกกันหนีไป คิดจะฮุบสมบัติคนเดียวสินะ!” ชายชราแซฟูขมวดคิ้วขณะเอย
“เหอะ เชนนั้นก็ดี ตาเฒาก็อยากไปคนเดียว ผูใดกลาขัดขวางการลาสมบัติของ
ขา ขาจะฆาใหหมด” คาดไมถึงวามารเฒาเฉียนจะฟนฟูสีหนากลับมาเปนเยือกเย็นได
อยางรวดเร็ว
จากนั้นเงารางสีขาวหาสายก็กะพริบหายไป ทยอยกันไปหยุดอยูเบื้องหนาปาย
หยกทุกกอนสองสามครั้ง แลวอานแผนปายศิลาทั้งหมดหนึ่งรอบ จากนั้นเงารางสีขาว
หาสายก็มารวมตัวกันอยางไมลังเล บินไปยังบันไดที่มีแผนปายเขียนวาวิหารคุนอู
ตอนที่ 1009 หอหลอมวิญญาณ
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ ทางดานชายรางใหญและพวกพลันหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
ทันใดนั้นพวกเขาทั้งสี่คนก็เริ่มกระซิบกระซาบกัน
ในเวลาเดียวกันนั้น ขางหูของหานลี่ก็มีเสียงจากการถายทอดเสียงของชายชรา
แซฟูดังขึ้น
“ดูทาทางแลวหลังจากทลายเขตอาคม การรวมมือกันของพวกเราคงลมเหลว ไม
ทราบวาพี่หาน มีแผนการอะไรตอหรือ?”
หานลี่เหลือบตามองชายชราที่อยูไมไกลนักแวบหนึ่ง หลังจากขบคิดเล็กนอย มุม
ปากก็เผยอออกถายทอดเสียงออกไปเชนกัน
“ที่นี่เชื่อมตอไปหลายสถานที่ จากนี้ผูแซหานก็วาจะเดินทางเพียงลำพัง ขอแคไม
เลือกสถานที่ที่คนอื่นสนใจ ก็นาจะไมเกิดอันตรายอะไรแลว”
“เชนนี้นี่เอง! แตผูแซฟูมิกลาเดินทางเพียงลำพัง หากถูกยักษปกเงินและอสูรวิหค
ราชสีหลอบโจมตีเขา ขานอยก็ไมมีกำลังจะปกปองตนเองได ขานอยเลือกบันไดหิน
เดียวกันกับสหายไปก็แลวกัน สวนจะไดรับสมบัติอะไรหรือไมนั้น ก็ตองดูวาสนาของ
ตัวเองแลว”หลังจากที่ชายชราขบคิดเล็กนอย ก็ตอบกลับพรอมกับหัวเราะอยางขมขื่น
อาวุโสของพรรคเกายมโลกผูนี้ไมมีทาทีกลาวโทษอะไร ถึงอยางไรเสียการตามหา
สมบัติดวยคนจำนวนมากขนาดนี้ ก็ไมคอยเหมาะสมที่จะไปตามหาในสถานที่เดียวกัน
นัก มิเชนนั้นหากพบสมบัติล้ำคาอะไรจริงๆ ก็จะตองแยงชิงกันอยางหลีกเลี่ยงมิได
สวนหานลี่นั้นก็เห็นไดชัดวามีความสามารถเหนือกวาเขาและไปเหยาอี๋ข้ันหนึ่ง
จึงแยกกันไปจะดีกวา
“พี่ฟู สหายหาน! พวกเราไปกอนนะ” ทางนั้นดูเหมือนวาจะปรึกษากันเสร็จแลว
ทันใดนั้นชายรางใหญก็รองตะโกนมาจากทางนั้น แลวทั้งสองกลุมก็เดินวนอยูหนา
แผนปายหินอยูรอบหนึ่ง แลวแยกกันไปบนบันไดหินสองสาย
หลังจากนั้นไมนาน เงารางของพวกเราก็จมหายไปเขาในหมอกวิญญาณ จนลับตา
เวลานี้ชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋ก็ถายทอดเสียงกันเสร็จแลว หลังจากบอกลา
หานลี่ ทั้งสองคนก็เลือกเสนทางที่ยังไมมีคนไปแลวสำแดงเคล็ดวิชาตัวเบาพลางจาก
ไปอยางอดใจตอไปไมไหว
ชั่วพริบตา จัตุรัสที่กวางใหญขนาดนี้ คาดไมถึงวาจะเหลือหานลี่เพียงคนเดียว
เมื่อมองรอบๆ ดานที่วางเปลา หานลี่ก็เผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา สองตากวาดไป
ยังแผนปายหินเหลานั้น
นอกจาก ‘วิหารคุนอู’ ‘ปอมปราการมาร’ ที่ฟงดูแลวนาจะเปนสถานที่สำคัญของ
ภูเขาคุนอูซึ่งกลุมคนกอนหนาเลือกไป ที่เหลือก็ลวนเปนสถานที่ที่ไมชัดเจน ทำใหผูคน
ไมมีทางตัดสินใจวาจะไปได
“หออัจฉริยะ วิหารเมฆมงคล บึงลวงหยก...หอหลอมวิญญาณ หรือวาจะเกี่ยวของกับ
การหลอมยุทธภัณฑ” สายตาของหานลี่หยุดชะงัก อยูบนปายหินแผนหนึ่ง
ถึงแมเขาจะรูวาวิหารคุนอูและหอสมบัติวิญญาณเปนสถานที่ที่นาจะมีสมบัติล้ำ
คามากกวา แตผูบำเพ็ญเพียรที่เขาไปก็ตองมีจำนวนไมนอย เขาจึงไมคิดจะเอาชีวิต
นอยๆ ไปเสี่ยง
ในเมื่อไดยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกมาแลว การออกไปจากที่นี่อยางปลอดภัยถึง
จะเปนสิ่งที่เที่ยงแทที่สุด
หานลี่ขบคิดเชนนั้น ก็รูสึกวาหอหลอมวิญญาณนาจะเปนสิ่งที่เขาสนใจแตผูอื่นไม
สนใจอยูแปดเกาสวน ทันใดนั้นรางกายพลันแวบหายไป เดินขึ้นไปบันไดหินหลังแผน
ปาย พลางขึ้นไปบนภูเขา
หลังจากที่รางของหานลี่หายไปไมนาน ใจกลางของจัตุรัสก็มีลำแสงสีเหลืองสวางวาบ
ป ศ าจสามตน ยั ก ษ ป ก เงิน ฮู ห ยิ น อั ป ลั ก ษณ อสู ร วิ ห คราชสี ห พ ลั น ปรากฏตั ว ขึ้ น
ทามกลางลำแสงพรอมกัน
“เคล็ดวิชาลี้ธรณี สำแดงไดเพียงเทานี้ หากตรงไปอีก จะสัมผัสกับเขตอาคมใต
ดินแลว” ลำแสงของยักษปกเงินหมนแสงลง หันไปมองบันไดที่ตรงไปยังวิหารคุนอู
แลวเอยอยางเชื่องชา
“ที่นี่มีคลื่นไอวิญญาณหนาแนนที่สุด ดูแลวผูบำเพ็ญเพียรมนุษยเหลานั้นคงเพิ่ง
จะทลายเขตอาคมเหลานี้ไป” ฮูหยินอัปลักษณเองก็เอามือเทาสะเอวขณะเอย
ในตอนนั้นเอง วิหคราชสีหตัวนั้นก็คำรามดวยเสียงต่ำๆ ออกมาสองครั้ง จากนั้นก็
สยายปกทั้งสองออก ชั่วครูก็บินขึ้นไปยังชั้นบรรยากาศต่ำๆ หมุนวนรอบแผนปายหิน
สองสามรอบ ทันใดนั้นก็บินกลับมา
“สถานที่เหลานี้มีคนเขาไปหมดแลว! จุๆ การดมกลิ่นของสหายวิหคราชสีหชาง
เฉียบแหลมจริงๆ” คราแรกยักษปกเงินพลันตกตะลึง แตทันใดนั้นก็หัวเราะออกมา
“เชนนั้นก็ดีเลย ผูบำเพ็ญเพียรมนุษยเหลานี้แยกกันเดินทาง เราก็จะแยงแผน
ปายชีวิตไดงายขึ้น ทวา หากผูบำเพ็ญเพียรที่บุกเขาไปในวิหารคุนอูมีความสามารถไม
ถึง เกรงวาคงไมมีทางทลายเขตอาคมของวิหารนี้ได” ฮูหยินอัปลักษณขมวดคิ้วดวย
ความกังวลใจ
“หึ ไมเปนไร ถาหากคนเหลานี้รับมือไมไหว ขาก็จะชวยพวกเขาอีกแรงอยางลับๆ
ขอแคไมไปสัมผัสกับเขตอาคมที่ควบคุมพวกเราเขา ที่เหลือพวกเรามั่นใจวาจะทลาย
เขตอาคมไดแลว” ยักษปกเงินเอยอยางมีแผนการ
“ในเมื่อเปนเชนนี้ พวกเราก็ไปกันเถิด ไปดูกอนวาผูบำเพ็ญเพียรที่เลือกบันไดหิน
สายนี้คือใครกันแน? พี่ปกเงิน ในบรรดาพวกเราสามคนทานเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาอำ
พรางกายมากที่สุด ทานลงมือชวยพวกเราอำพรางกายดวยเถิด” ฮูหยินอัปลักษณยน
ปากขณะเอย
“เขาใจแลว” ยักษปกเงินตอบรับอยางไมใสใจเลยแมแตนอย จากนั้นปกที่แผน
หลังก็สะบัดเบาๆ
ลำแสงสีเงินกลุมหนึ่งทะลักออกมาดานบน มวนเอาพวกเขาเขาไปขางในพรอมกัน
จากนั้นลำแสงพลันสวางวาบ ปศาจทั้งสามก็ลองหนหายไป
ตอนนั้ น ตรงศาลาหิ น บนสัน เขาของภู เขาคุน อู มี น กยูงห าสีตัวหนึ่ งเพิ่ งจะยื่ น
รางกายครึ่งหนึ่งออกมาจากมานแสง…
เรื่องทั้งหมดนี้ แนนอนวาหานลี่ไมรูเรื่องเลย
เขาในเวลานี้นั้นกำลังแตะปลายเทาลงบนพื้นเบาๆ รางกายพลันลอยไกลออกไป
สองสามจั้ง หลังจากหักเลี้ยวไปสองสามครั้ง จัตุรัสหยกขาวก็ถูกสลัดทิ้งไปอยางไร
รองรอย
ทั้งสองฝงของบันไดหินลวนเต็มไปดวยตนไมวิญญาณสูงใหญ หนึ่งในนั้นมีทั้งที่
หานลี่รูจัก และมีทั้งที่ไมเคยพบเห็นมากอน
เขามองทั้งสองฝงดวยความรูสึกสนใจเปนอยางมาก
ต น ไม เหล า นี้ อ ยู บ นภู เขาคุ น อู ตั้ ง ไม รู กี่ ห มื่ น ป แ ล ว ต อ ให เป น ต น ไม วิ ญ ญาณ
ธรรมดาๆ ในตอนนี้ก็กลายเปนวัตถุดิบในการหลอมยุทธภัณ ฑ ระดับดีไปแลว ทวา
แนนอนวาหานลี่ไมไดชะงักฝเทาลงเพราะสิ่งเหลานี้ หลังจากเดินไปประมาณหนึ่งเคอ
เบื้องหนาก็สวางจา ในที่สุดจุดที่ไกลออกไปก็มีหอคอยขนาดใหญปรากฏขึ้น
หานลี่เผยสีหนาดีอกดีใจออกมา ทันใดนั้นรางกายก็เพิ่มความเร็วขึ้นสองสามสวน ชั่ว
พริบตาก็มาถึงปลายสุดของบันไดหิน แตทันใดนั้นก็ชักสีหนาพลางหยุดชะงักฝเทาลง
เพราะวาเบื้องหนามีมานแสงสีขาวโพลนชั้นหนึ่งขวางอยู เมื่อมองทะลุผานมาน
แสงนั้นไปจะเห็นกำแพงยักษสีเขียว สูงประมาณหกเจ็ดจั้ง บดบังดานหลังเอาไวจน
อยางแนนหนา แตอนุสาวรียที่อยูตรงขามกับบันไดหินนั้น ทำใหมองเห็นอาคารขนาด
ใหญ ที่ อ ยู ด า นหลั ง กำแพงรางๆ และส ว นยอดของอนุ ส าวรี ย ก็ ใช ฝุ น สี เงิ น เขี ย น
ตัวอักษรเอาไววา ‘หอหลอมวิญญาณ’
หานลี่กวาดสายตาไปรอบๆ มานแสงนี้มีขนาดกวางใหญเปนพิเศษ ปกคลุมหอ
หลอมวิญญาณที่ยิ่งใหญราวกับคฤหาสนทั้งหมดเอาไว ไมมีอะไรสามารถเขาไปได
ดูจากทาทางแลวกอนที่ผูบำเพ็ญเพียรโบราณที่ผนึกภูเขาลูกนี้จะจากไป คงไดเปด
การทำงานของเขตอาคมทั้งหมด และปกปองที่นี่เอาไวทั้งหมด บางทีพวกเขาอาจจะ
คิดวาวันขางหนาคงจะมีโอกาสกลับมาที่ภูเขาลูกนี้อีกครั้ง
เขาขบคิดอยางเย็นชาเชนนั้นในใจ แตการเคลื่อนไหวกลับไมลังเลเลยแมแตนอย
เพียงสะบัดแขนเสื้อ แสงสีทองสายหนึ่งก็พุงออกไป สับลงไปบนมานแสงอยางรุนแรง
เสียง ‘ครืน’ ดังขึ้น กระบี่บินที่กลายเปนแสงสีทองอาศัยความแหลมคมฟนลงไป
ในมานแสงไดสองสามฉื่อ และก็จำใจตองหยุดชะงักลง แสงสีขาวของมานแสงทะลุ
ออกมาตามรอยแยก และผนึก ประสานเขาหากันอีกครั้ง
หานลี่ขมวดคิ้วแนน ชูมือขึ้นชี้ไปที่มานแสง เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น กระบี่บินทะยาน
กลับมาในทันที มานแสงที่เปดออกประสานเขาหากันอีกครั้ง
ขณะมองม านแสงที่ มี ค วามหนาประมาณสองสามจั้ ง หานลี่ ค ำนวนเล็ ก น อ ย
ถึงแมวาจะใชเคล็ดวิชากระบี่ยักษโจมตีก็เกรงวาจะไมไดผล ถึงอยางไรเสียเขตอาคม
ฉากกำบังเชนนี้ ถาหากไมอาจโจมตีใหแตกสลายได ก็แทบจะฟนฟูกลับมาเปนปกติได
ในชั่วพริบตา
แนนอนวาถาหากเขามีความอดทน ก็สามารถปลอยแมลงกลืนทองออกมา คอยๆ
กัดกินลมปราณของมานแสงได เดาวาคงใชเวลาสองสามวัน ก็สามารถทลายเขตอาคม
นี้ไดแลว
แตเขามีเวลารอขนาดนั้นที่ไหนกัน
แคคำนวณเล็กนอย เขาก็ตัดสินใจในทันที มือหนึ่งตบไปที่ยามเก็บของขางเอว
ดวงแสงขนาดเทากำปนดวงหนึ่งพุงออกมา หลังจากหมุนวนหนึ่งรอบก็มีพัดขนนกที่ดู
เกาแกแตวิจิตรงดงามปรากฏขึ้นเลมหนึ่ง ผิวของมันมีแสงสีทองสีเงินสีแดงทั้งสามสี
สวางวาบไมหยุด
เพียงกวักมือเรียกกลางอากาศ พัดเลมนี้เปลงเสียงรองออกมาพลางรอนลงมาจาก
กลางอากาศ ตกลงในมือของหานลี่
จากนั้นเขาพลันประกบมือทั้งสองอยางไมเกรงใจ ลำแสงสวางจา พัดเลมนี้ขยาย
รางจนมีขนาดประมาณสองสามฉื่อ
หานลี่ยกมือขางหนึ่ง สายตาจองไปยังมานแสงดวยความเย็นชาแวบหนึ่ง แลว
สะบัดพัดหยกในมือเบาๆ
เสี ย ง ‘ป ง ’ ดั ง ขึ้ น ภายใต ก ารควบคุ ม ลมปราณในร า งอย า งสุ ด พลั ง ของเขา
ถึงแมวาบนพัดจะมีเปลวเพลิงสามสีกลุมหนึ่งทะลักออกมาเชนกัน แตเพลิงในครั้งนี้
กลับไมไดมีรางหงสเพลิงปรากฏขึ้น แตกลับพนออกมาตรงๆ ใสมานแสง ผลลัพธคือ
ทุกแหงที่เปลวเพลิงกวาดผานไปนั้นเปนราวกับแสงตะวันที่สัมผัสกับหิมะอยางไรอยาง
นั้น ชั่วขณะนั้ น ม านแสงก็ละลายลงไปด วยความเร็วที่ ม องเห็ น ได ดวยตาเปลา ชั่ ว
พริบตารูขนาดใหญก็ปรากฏขึ้นบนมานแสง
แววตาของหานลี่สวางวาบ เก็บพัดตรีเปลวเพลิงในมือ รางกายกลายเปนสายรุงสี
เขียวสายหนึ่ง พุงเขาไปในมานแสงในทันที
ลำแสงสายรุงสีเขียวหมนแสงลง หานลี่ปรากฏรางขึ้นเบื้องหนาอนุสาวรีย จากนั้น
พลันหันหนาไปมองแวบหนึ่ง
เห็นเพียงชั่วพริบตานั้น มานแสงเริ่มกลับมาผนึกรวมตัวกันอีกครั้ง
มุมปากของหานลี่เผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา ดูแลวตอนที่ออกไป คงตองใชขั้นตอน
ที่ซับซอนเปนอยางมากถึงจะได
เมื่อขบคิดมาถึงตรงนี้ เขาก็ตรวจสอบลมปราณที่อยูในราง ถึงแมจะเปนเพราะวาเคยมี
ประสบการณจากการใชพัดตรีเปลวเพลิงแลว การควบคุมพัดในครั้งนี้ก็ใชอานุภาพ
ของมันไปเพียงสวนนอยเทานั้น แตลมปราณก็ยังคงสูญเสียไปเกือบหนึ่งในสาม
เขาสายศีรษะ ขยับกาย และสาวเทาตรงไปยังหอระฆังที่อยูหลังกำแพงหิน
หอสองสามแห งเบื้ อ งหน ามี รูป รางเหมื อ นกั น อย างไรอย างนั้ น ล วนมี สองชั้ น
ความสูงประมาณสิบกวาจั้ง หลังจากที่หานลี่เดินเขาไปใกลทางเขาของหอแหงหนึ่ง
ตามอำเภอใจถึงไดพบวา ดานในนั้นวางเปลา นอกจากเกาอี้สองสามตัวแลวก็แทบจะ
ไมมีอะไรเลย ดูเหมือนวาจะเปนสถานที่ที่ใชพักผอนโดยเฉพาะ
ดูแลวถึงแมวาในนี้จะมีของใชสวนตัว แตกอนที่ผูบำเพ็ญเพียรโบราณจะจากไป ก็
ไดเก็บขาวของไปจนเกลี้ยงแลว
ถึงแมในใจจะขบคิดเอาไวตั้งนานแลว แตหานลี่ก็ยังอดที่จะลอบถอนหายใจไมได
เชนนั้น เขาจึงไมอยากหวังกับหออื่นๆ มากนัก
เชนเดียวกัน หลังจากที่เดินสำรวจหอคอยอื่นๆ สองสามหอคอย ก็ไมไดอะไรเลย
เชนกัน
หอคอยอื่ น ๆ ก็ ดู เหมื อ นว า จะเป น คลั ง สมบั ติ เช น กั น แต ต า งก็ ว า งเปล า เฉก
เชนเดียวกัน
ไมวาชั้นหินหรือแทนหินดานใน หรือวาจะเปนกลองสีทองขนาดใหญ ตางก็วางเปลา
แมแตเงาของวัตถุดิบในการหลอมยุทธภัณฑก็ยังไมมี นี่จึงทำใหหานลี่ที่แทบจะพลิก
หาสถานที่เล็กๆ แหงนี้ รูสึกกลัดกลุม
เมื่อหานลี่เดินออกมาจากหองหินหองสุดทาย คนกลับมาปรากฏตัวที่เบื้องหนา
วิหารหินแหงหนึ่ง
วิหารหินแหงนี้ดูเหมือนจะไมใหญโตนัก มีขนาดประมาณรอยกวาจั้ง แตตัววิหาร
เปนสีแดงสด ราวกับเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหมอยูบนผนังของวิหารหินอยางไรอยางนั้น
“วิหารแปลงวิญญาณ”
หานลี่มองแผนปายสีแดงเพลิงที่แขวนเอาไวบนประตู เอยพึมพำกับตนเองดวย
น้ำเสียงแผวเบา
ถึงแมวาจะยืนอยูแคดานนอกวิหารหิน แตกลิ่นอายรอนฉา ก็ยังลอยออกมาจาก
ในวิหาร
เขาพลันใจเตน ทันใดนั้นสองมือก็ไพลหลังพลางเดินเขาไป
ผลลัพธคือคนเพิ่งจะเขามาในประตูวิหาร ขางหูก็มีเสียงฟารองคำรามดังสนั่นขึ้น
ทันที นี่จึงทำใหหานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง รีบรอนกวาดสายตาไปในวิหาร
ตอนที่ 1010 เตายักษ
เห็นเพียงภายในวิหารที่มีขนาดกวางยี่สิบสามสิบจั้ง มีเขตอาคมลำแสงสีแดงวางอยู
เสาเพลิงสิบกวาตนตั้งตระหงานอยูทั้งสี่ทิศของวิหาร ดานบนมีรูปแกะสลักมังกรวารีสี
แดงเพลิงเสมือนจริงอยู ปากของมังกรวารีพนลำแสงสีแดงออกมา รวมตัวกันหอหุม
เตายักษที่อยูตรงใจกลางของวิหารเอาไว
เตายักษใบนี้สูงประมาณหกเจ็ดจั้ง ดูเกาแกและวิจิตรงดงาม เทียบกับเตาปรุงยา
ที่หานลี่เคยพบมากอนหนาแลว นับไดวาใหญโตมโหฬารมาก
แตสิ่งที่ทำใหหานลี่ตกตะลึงก็คือ ของสิ่งนี้ถูกลำแสงสีแดงเผาไหมจนเปนสีแดงเพลิง
ซึ่งมองไมเห็นสีเดิมตั้งนานแลว ผิวของมันแผไอรอนแผดเผาออกมา ถึงแมวาจะอยู
หางออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง ก็ยังคงทำใหเขารูสึกราวกับวาตัวเองอยูในภูเขาไฟอยางไร
อยางนั้น
หลังจากที่เขาเขามาในวิหารแหงนี้แลว ไมเพียงจะรูสึกวาริมฝปากแหงผาก ผิวที่
โผลพนอาภรณออกมาก็ยังรูสึกแสบรอนเหมือนโดนเข็มทิ่มแทง เชื่อวาหากมิใชเพราะ
แสงวิญญาณเกราะปองกันสีเขียวนั้นถูกสรางขึ้นโดยอัตโนมัติ เขาก็คงเสียเปรียบไม
นอยตั้งแตวินาทีแรกที่เขามาในวิหารแหงนี้อยางไมตองสงสัย
ทว า เมื่ อ พบสถานการณ เช น นี้ หานลี่ ไม เพี ย งไม โกรธเกรี้ ย วแต ก ลั บ ดี อ กดี ใจ
หลังจากที่กวาดสายตาไปทีเ่ สาเพลิงเหลานั้น ก็ตกลงที่เตายักษ
ตอนนี้เตาใบนี้อยูตรงกลางของวิหารไมขยับเขยื้อน แตในเตากลับมีเสียงฟารอง
ดังออกมา จากประสบการณการหลอมยุทธภัณฑของหานลี่ สถานการณเชนนี้นาจะ
กำลังหลอมอะไรสักอยางอยูถึงจะถูก
ดูแลวก็นับไดวาไมไดกลับไปมือเปลา!
เมื่อขบคิดเชนนั้น หานลี่ก็พนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง หลบหลีกลำแสงสีแดงที่
ถูกพนออกมา หลังจากที่รางกายแวบหายไปแลว ก็เดินตรงไปยังเตายักษดวยสีหนา
ราบเรียบ
ตอนที่หางจากเตาไปหกเจ็ดจั้ง หานลี่ก็ชะงักฝเทาลง ในเวลาเดียวกันก็สัมผัสได
ถึงลมปราณอัคคีที่นาตกตะลึงตรงผิวของเตายักษ ซึ่งกำลังลอมรอบเตาใบนี้และหมุน
โคจรอยางชาๆ อยู ไมวาดานในจะมีอะไร จากการผานการหลอมมาหลายหมื่นป
เชนนี้ จะตองกลายพันธุต้ังนานแลวอยางแนนอน ถึงแมวาเขาจะรูสึกประหลาดใจ แต
ก็ไมบุมบามเขาไปเปด
หลังจากเดินวนเจ็ดแปดรอบ หานลี่ก็หยุดชะงักฝเทา เริ่มกวาดตามองวิหารที่
เหลืออยางมีแผนการ
ผานมานานขนาดนี้ เสาเพลิงเหลานี้และเตายักษยังคงทำงานอยู รอบๆ จะตองมี
เขตอาคมอะไรสักอยางที่ถูกกระตุนเอาไวอยางยาวนานเปนแน สิ่งที่เขาตองทำก็คือ
ตามหาขอบกพรองของเขตอาคมแลวทำลายทิ้ง ชั่วขณะนั้นก็จะทำใหเสาเพลิงทั้งสี่
ดานหยุดลงแลวหยิบสมบัติได
เพราะวาเขตอาคมแหงนี้เปนเพียงเขตอาคมรูปแบบควบคุมเทานั้น จึงไมมีการ
ปกปดและอำพรางเลยสักนิด หลังจากผานที่ไปชั่วครู รูมานตาของเขาพลันมีลำแสงสี
ฟาสวางวาบ จองเขม็งไปยังมุมหนึ่งที่ไมสะดุดตาของวิหารยักษ มุมปากก็หยักรอยยิ้ม
จางๆ ออกมา
เขาไมสนใจเตายักษอีก ชูมือขางหนึ่งขึ้น ลำแสงสีทองความยาวสองสามจั้งสาย
หนึ่งพุงออกมาจากฝามือ ชั่วครูก็โจมตีไปบนพื้นตรงมุมนั้น
เสียง ‘ปง’ ดังสนั่นขึ้น ที่มุมนั้นมีแสงสีทองกลุมหนึ่งระเบิดออก เสาเพลิงสิบกวา
ตนสวางวาบ ลำแสงสีแดงที่พนออกมาจากปากของมังกรวารีหยุดชะงักลงพรอมกัน
หลังจากที่แสงสีทองสลายหายไป หลุมขนาดสองสามจั้งก็ปรากฏขึ้นตรงนั้น รอบๆ
หลุมมีเศษจานอาคมที่แตกละเอียดตกอยู กระบี่เล็มเล็กสีทองขนาดสองสามชุนเลม
หนึ่ง ก็ลอยอยูเหนือหลุมนั้นนิ่งๆ
การโจมตีดวยกระบี่บินครั้งนี้ คาดไมถึงวาจะทำใหจานอาคมที่ฝงอยูใตดินหายวับไป
เขตอาคมขนาดกลางที่ควบคุมวิหารขนาดใหญซึ่งฝงอยูใตดิน พลันหยุดทำงานลงทันที
หลังจากที่หานลี่หัวเราะออกมาเบาๆ ก็กวักมือไปยังจุดที่ไกลออกไป หลังจากที่
กระบี่บินเปลงเสียงคำรามขึ้น ก็พุงกลับมา หลังจากหมุนวนหนึ่งรอบก็พุงหายเขาไป
ในแขนเสื้ออยางไรรองรอย
เวลานี้ไมมีเสาเพลิงคอยชวยเสริม ในที่สุดแสงบนเตายักษก็คอยๆ หมนลง
แตหานลี่กลับไมไดสนใจเตายักษในทันที กลับกมหนาลงจองมองพื้นดิน ลำแสงสีฟา
สวางวาบในแววตา เผยสีหนาประหลาดใจออกมา
เมื่อไมมีเขตอาคมคอยปกคลุมอยูถึงไดพบวา ลึกลงไปใตดินยี่สิบสามสิบจั้งลวน
เปนเพลิงสีแดง ทั้งวิหารแหงนี้คาดไมถึงวาจะถูกสรางขึ้นบนบอเพลิงระดับสุดยอด
มินาเลา เสาเพลิงรอบๆ ดานจึงพนลำแสงเพลิงออกมาไดอยางตอเนื่องเปนเวลานาน
หานลี่รูสึกถึงบางออ ชักสายตากลับมา ถึงไดใชเนตรวิญญาณมองไปยังเตายักษ
ใบนั้น คิดจะตรวจสอบดูวาในเตานั้นมีสิ่งใดอยูกันแน
ผลลัพธคือทำใหเขาตกตะลึง
เพราะวาสิ่งที่เขามาในครรลองสายตาตางเปนสีแดงเพลิงเชนกัน ดูเหมือนวาจะ
แดงสดมากกวาบ อ เพลิ งปฐพี ก อ นหน าเป น อย างมาก ยั งไม ทั น ให เขาได เห็ น อะไร
ชัดเจน เตาใบนี้ก็ดูเหมือนวาจะเปลงเสียงรอง จากนั้นเสียง ‘ปงๆ’ พลันดังขึ้น เปลว
เพลิงสีแดงสดชั้นหนึ่งปรากฏขึ้น หอหุมเตาใบนั้นเอาไวอีกครั้ง
หานลี่อาปากนอยๆ สีหนาตะลึงงัน ทวาเมื่อกะพริบตาสองครั้ง หลังจากขบคิด
เล็กนอย ใบหนากลับเผยสีหนาตกตะลึงระคนดีใจออกมา
ที่แทเตาใบนี้ซึ่งถูกรหลอมมาหลายป ก็ดูดซับพลังของเพลิงปฐพีเขาไปจนบริสุทธิ์
ถึงขั้นนี้แลว คาดไมถึงวาจะทำใหยุทธภัณฑธรรมดาพัฒนาจนเปนสมบัติมหัศจรรย
ธาตุไฟชิ้นหนึ่งได มันถึงไดอัศจรรยขนาดนี้
การใสพลังลมปราณเขาไปเปนเวลานานจนทำใหยุทธภัณฑพัฒนาระดับขึ้นโดย
อัตโนมัติเชนนี้ ไมใชวาไมเคยเกิดขึ้นมากอนในโลกของผูบำเพ็ญเพียร สมบัติที่ไดมาก็
มีอานุภาพนาตกตะลึง แตสมบัติประเภทนี้ลวนเปนสิ่งที่บังเอิญเกิดขึ้นเทานั้น
ตอนนั้นสำนักผูบำเพ็ญเพียรบางแหงก็เคยใชวิธีการเชนนี้ ทดสอบหลอมยุทธภัณฑ
ระดับสูงดู แตไมนานก็ทยอยกันลมเลิกการทดสอบไป
เพราะวาการจะใชวิธีการนี้ไมเพียงจะตองเสียเวลานาน อยางนอยก็สักพันป และ
ตองใชความทุมเทของผูบำเพ็ญ เพี ยรหลายรุน และยิ่งไปกวานั้ นอัตราการประสบ
ความสำเร็จก็ต่ำเตี้ยจนนาสงสาร บางครั้งที่ประสบความสำเร็จ อานุภาพของสมับติก็
เพิ่มขึ้นเพียงนอยนิดเทานั้น เทียบกับเวลาและวัตถุดิบที่เสียไปแลวมันไมคุมที่จะเสีย
แตเตาที่อยูเบื้องหนา ไมใชสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรโบราณคิดจะใชวิธีการนี้เพิ่มระดับ
พลังแน แตกวาครึ่งคงเปนเพราะในตอนนั้นผูบำเพ็ญ เพียรที่ไดรับหนาที่ดูแลวิหาร
แปลวิญญาณ นาจะกำลังหลอมอะไรสักอยางที่อยูในชวงเวลาสำคัญ จึงไมอาจหยุด
พักได แตคงเปนเพราะสาเหตุบางอยางจึงจำใจตองออกจากภูเขาแหงนี้ ภายใตความ
จนปญญานั้นถึงไดวางเขตอาคมในวิหารเพื่อใหมันหลอมเตาใบนี้โดยอัตโนมัติ
คิดวาพวกเขาหรือวาตัวเองหรือไมก็คนในสำนักอาจจะไดกลับมาเอาสมบัติอีก
ครั้ง ทวานี่ เป น เพราะเหตุ ก ารณ ที่ ภู เขาลู ก นี้ ถูก ผนึ ก เอาไว ตั้ งไม รูกี่ ป ห มื่ น ป ถึ งจะ
เกิดขึ้นไดเทานั้น
ถึงอยางไรเสียแมจะเปนผูบำเพ็ญเพียรโบราณ ผูใดก็ไมมีทางยอมใชเพลิงปฐพี
หลอมอะไรสักอยางมากกวาหมื่นปโดยไมไดอะไรแน มิเชนนั้นหากยังหลอมไมเสร็จ ผู
บำเพ็ญเพียรที่รับหนาที่ดูแลการหลอมคงถึงเวลาจำกัดและละสังขารไปกอนแลว
หานลี่กลอกตาไปมา คาดเดาเรื่องในปนั้นอยางซี้ซั้ว ลำแสงที่หอหุมรางกายอยู
เพิ่มพลังขึ้นโดยอัตโนมัติ ตานทานอุณหภูมิที่รอนฉามากขึ้นกวาเดิมสองสามเทา
หลังจากขบคิดไดชั่วครู จูๆ หานลี่ก็ใชมือหนึ่งตบไปที่ยามเก็บของ แลวพลิกฝามือ
อีกครั้ง ในมือมีธงอาคมสีฟาปรากฏขึ้น
จากนั้นรางกายของเขาพลันแวบหายไปมาในวิหารอยางรวดเร็ว ธงอาคมจมหาย
เขาไปตามมุมตางๆ ของวิหาร
จากนั้นพลันสวางวาบ หานลี่กลับมาอยูเบื้องหนาเตายักษ พิ จารณาของที่อยู
เบื้องหนาอีกครั้ง ปากก็บริกรรมคาถาออกมา เกราะปองกันสีฟาชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นใน
วิหารทันที ชั่วครูก็หอหุมหานลี่และแมแตเตายักษเอาไวขางใน
กลิ่นอายรอนฉาแตเดิมถูกเกราะปองกันธาตุน้ำแข็งกระตุน จนลดอานุภาพลงไป
ไมนอย
หานลี่ไมไดห ยุดเพี ยงเท านั้ น ยามเก็บ อสู รวิญ ญาณใบหนึ่ งถูกโยนขึ้น ไปกลาง
อากาศ ตะขาบสีขาวหิมะขนาดครึ่งฉื่อพลันสยายปกออกแลวบินออกมา
นั่นก็คือตะขาบเกล็ดน้ำคางหกปกที่พัฒนาะระดับจนมีปกเพิ่มขึ้นคูหนึ่งแลว
หลังจากที่ตะขาบเหลานี้หมุนวนดวยความตื่นเตนดีใจรอบหนึ่ง ก็รวมตัวกันอยูเหนือ
เตายักษดวยเสียงอื้ออึง ทุกตัวตางมีทาทีขบเขี้ยวเคี้ยวฟน พรอมรบเปนอยางมาก
หานลี่ถึงไดวางใจลง ถูมือทั้งสอง เปลวเพลิงสีมวงชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นบนฝามือ
จากนั้นก็ตะปบอากาศที่วางเปลาบนเตายักษเอาไว
มือยักษสีมวงขางหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศเหนือเตายักษ จากนั้นก็ควาตะปบ
ไปทางเตาอยางไมเกรงใจเลยแมแตนอย
เตายักษสั่นคลอน เปลวเพลิงสีแดงสดบนเตาเพิ่มความรอนขึ้นสองสามเทา และ
ชั่วพริบตาก็ผนึกกันจนกลายเปนวิหคเพลิงสีแดงสดตัวหนึ่ง ปากพนเปลวเพลิงสีแดง
ออกมาปะทะกับฝามือยักษ
เมื่อทั้งสองปะทะกันเสียงระเบิดที่แปลกประหลาดพลันดังขึ้นทันที เปลวเพลิงสี
แดงสดและลำแสงสีมวงพลันสวางวาบและพัวพันเขาดวยกัน เวลานั้นวิหคเพลิงไม
อาจหยุดมือสีมวงได และถูกมันกดเอาไวในทันที
หานลี่เห็นเชนนั้นแววตาพลันฉายแววแปลกประหลาด แตปากก็ยังรองคำรามต่ำๆ
ออกมาอยางไมลังเลเลยแมแตนอย
ตะขาบเกล็ดน้ำคางหกปกสิบกวาตัวที่แตเดิมหมุนวนอยูเหนือเตายักษไดยินเสียง
นี้ ก็อาปากออกพรอมกัน ไอเย็นเยียบสีขาวโพลนกลุมแลวกลุมเลาทะลักออกมากลาง
อากาศ ชั่วครูก็หอหุมวิหคเพลิงรวมทั้งเตาเพลิงที่อยูดานลางเอาไวในเวลาเดียวกัน
แทบจะในเวลาเดียวกัน หานลี่ก็ชูมือขึ้นชี้ไปยังมือยักษที่กลายเปนเพลิงตาขายสีมวง
ดวยความเครงขรึม
ภายใตการรายอาคม มือขางนั้นขยายใหญ ขึ้นสองสามเทา ประสานกับไอเย็น
เยียบของตะขาบเกล็ดน้ำคางหกปกที่นาตกตะลึง ภายใตพลังของนิ้วมือทั้งหา ในที่สุด
ก็บีบจนวิหคเพลิงสีแดงสดแหลกละเอียด จากนั้นมือสีมวงก็ควาฝาเตาที่อยูดานลาง
เอาไวอยางไมลังเลเลยแมแตนอย
เสี ย ง ‘ป ง’ ดั งขึ้ น แต เดิ ม ความสามารถของเตาใบนี้ ไม ได มี เพี ย งเท านี้ แต ถึ ง
อยางไรเสียยุทธภัณฑที่กลายเปนของมหัศจรรยชิ้นนี้ก็ไมมีเจานายคอยควบคุม คาดไม
ถึงวาจะถูกหานลี่เปดฝาเตาจนกระเด็นออกไปสองสามจั้งไดอยางงายดาย ดานในมี
ลำแสงสีแดงสวางจา
ตอนที่หานลี่คิดจะดูวาในเตานี้มีของสิ่งใดกันแน กลับมีเสียงรองของวิหคที่ยากจะ
ทนฟงดังขึ้น จากนั้นลำแสงสีแดงสายหนึ่งพลันพุงออกมาจากเตา ตรงไปยังเพดาน
ของวิหารดวยความรวดเร็วหาใดเปรียบ คาดไมถึงวาจะทะลุผานตะขาบหิมะสองตัว
ไป และทำใหพวกมันไมทันไดตั้งตัว
หลั ง จากเสี ย ง ‘ป ง ’ ดั ง ขึ้ น ลำแสงสี แ ดงก็ ป ะทะเข า กั บ ม า นลำแสงสี ฟ า ชั่ ว
ขณะนั้น คาดไมถึงวาจะทำใหมานลำแสงแยกออก ชั่วพริบตาก็ทะลุผานออกไป
ถึงแมวาหานลี่จะรูสึกตกใจ แตก็ไมอาจปลอยใหเจาสิ่งนี้บินหนีไปได ทันใดนั้นนิ้ว
มือทั้งสิบพลันรายอาคมอยางไมตองคิด ชั่วขณะนั้นไอกระบี่สีเขียวสิบกวาสายพลันพุง
ออกไปอยางแตเนื่อง หลังจากสวางวาบ ก็โจมตีไปยังลำแสงสีแดงอยางแมนยำ
หลังจากเสียงปงๆ ดังขึ้นอยางตอเนื่อง ถึงแมวาลำแสงสีแดงนั้นจะไมมีไอกระบี่
พุงออกมาโจมตี แตทุกครั้งที่ถูกโจมตี ลำแสงก็อดที่จะหมนหมองลงไปสองสามสวน
ไมได หลังจากที่ถูกโจมตีดวยไอกระบี่สิบกวาสาย มันก็สายไปมาเหมือนจะพังทลายลง
ลำแสงสีแดงดูเหมือนจะรูวาแยแลว ทันใดนนั้นรางของมันพลันสั่นคลอนกำลังจะ
เปลี่ยนทิศทางพุงไปอีกครั้ง แตจูๆ ดานหลังของมันก็มีลำแสงสีมวงสวางวาบ มือยักษ
สีมวงขางหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ ตะปบลงมาอยางรวดเร็วราวกับสายฟา ควา
ลำแสงสีแดงเอาไวในมือ จากนั้นมือยักษก็บินไปอยูใตหานลี่
เวลานี้ เตายักษที่ถูกเปดออกก็ดูเหมือนวาจะสูญเสียพลังตานทานไปแลว ไมเพียง
เสียงฟารองจะหยุดลง เปลวเพลิงที่พื้นผิวของมันก็สลายหายไปโดยอัตโนมัติ และถูก
ไอเย็นเยียบของตะขาบเกล็ดน้ำคางหกปกแชแข็งจนกลายเปนกอนน้ำแข็งยักษที่ใส
กระจางแวววาวกอนหนึ่ง ทวา เวลานั้นหานลี่ไมสนใจสถานการณของเตาใบนี้ สายตา
กลับถูกของที่อยูในมือดึงดูดเอาไว
“นี่คือเพลิงแกนอาทิตย!”
หานลี่จองเขม็งไปยังสิ่งนี้ และเอยพึมพำอยางตกตะลึงระคนสงสัย
“นี่ไมใชเพลิงแกนอาทิตยเจาคะ แตคือเพลิงอาทิตยเที่ยงแทที่มีชื่อเสียงเทียบเทา
กับเพลิงแกนอาทิตย และเปนหนึ่งในสามมหาเพลิงวิญญาณเที่ยงแทในแดนมนุษย!”
เสียงไพเราะที่หานลี่ไมไดฟงมาเนิ่นนาน ดังขึ้นในจิตสัมผัสของเขา
ตอนที่ 1011 เพลิงอาทิตยทมิฬเทีย่ งแท
“อิ๋นเยว เจาตื่นแลวหรือ?” หานลี่พลันรูสึกดีใจภายใตความตกตะลึง แตน้ำเสียง
ที่เอยถามกลับยังคงรักษาความเยือกเย็นเอาไว
“เจาคะ ตอนที่นายทานเขาไปในวิหารนั้น ขาก็เพิ่งไดสติ หลังจากพักฟนมาสองสามป
ก็ทำใหขาพอฝนไดสติฟนคืนมาเทานั้น เกรงวาจะไมมีทางชวยนายทานในเรื่องอื่นๆ
ได” อิ๋นเยวเอยขึ้นอยางเชื่องชา
“จิตสัมผัสของเจาไมไดรับบาดเจ็บสินะ?”
ถึ งแม จ ะฟ ง ดู เหมื อ นว าไม มี ป ญ หาอะไร แต ห านลี่ ก็ ยั ง สั ม ผั ส ได ว า ความรู สึ ก
ของอิ๋นเยวไมปกติ จนอดที่จะขมวดคิ้วเอยถามไมได
“ไมเปนไรเจาคะ แคการนอนครั้งนี้ทำใหขาฟนฟูความทรงจำสวนเล็กๆ ขึ้นมาได
จึงรูสึกไมคุนชินเล็กหนอยเทานั้น” อิ๋นเยวฝนยิ้มขณะตอบกลับ
“ฟนฟูความทรงจำ?” หานลี่ขมวดคิ้วนอยๆ ดวยความประหลาดใจ
“เจาคะ แครูสึกวาเรื่องของตัวเองเมื่อครั้งอดีตนั้นผานมานานมากแลว ราวกับ
เปนคนละคนอยางไรอยางนั้น แตความทรงจำสวนใหญ ก็ยังไมอาจฟนฟูกลับมาได”
อิ๋นเยวถอนหายใจออกมาเบาๆ ดูเหมือนวาจะรูสึกเจ็บปวดเล็กๆ
“จดจำเรื่องราวในอดีตได ก็นับวาเปนเรื่องดีเรื่องหนึ่ง บางทีหากเวลาคอยๆ ผาน
ไป เจาก็อาจจะจำเรื่องราวทั้งหมดไดก็ไดนะ!” หลังจากเงียบกริบไปชั่วครู หานลี่ก็ใช
น้ำเสียงราบเรียบเอยปลอบ
“อาจจะกระมัง” อิ๋นเยวใชน้ำเสียงที่เบาจนแทบไมไดยินเอยพึมพำขึ้น
“ใชแลว คาดไมถึงวาสิ่งที่เจาพูดจะเปนเพลิงอาทิตยทมิฬเที่ยงแท ไมไดจำผิดไป
หรอกนะ?” หานลี่เปลี่ยนหัวขอบทสนทนา ชูมือชี้ไปยังวัตถุซึ่งถูกฝามือที่มีเปลวเพลิง
สีมวงหอหุมเอาไว แลวเอยถามดวยความประหลาดใจ
เห็นเพียงทามกลางเปลวเพลิงสีมวง มีเปลวเพลิงสีแดงสดกลุมเล็กๆ ที่กลายเปน
วิหคบินขนาดเล็กพุงไปซายทีขวาทีอยางตอเนื่อง ดูเสมือนจริง ชางเต็มไปดวยพลัง
ชีวิตจริงๆ
“ขาไมมีทางจำผิดแน นี่คือขุมพลังเพลิงทมิฬบริสุทธิ์แนนอน ในความทรงจำของ
ขา เพลิงเที่ยงแทขุมนี้จัดอยูในระดับต่ำที่สุด มิเชนนั้นคงไมถูกกระบี่บินสองสามสาย
โจมตีจนสูญเสียพลังวิญญาณไปอยางมาก ทวายังโชคดีที่เพลิงอาทิตยทมิฬเที่ยงแทนี้
ไมใชเพลิงแกนอาทิตย ถึงแมวาจะเปนขุมพลังทมิฬและเหมันตเหมือนกัน แตเพลิงขุม
นี้กลับเพิ่งจะถือกำเนิดมาไดไมนาน อานุภาพยังดอยกวาเพลิงตาขายสีมวงเปนอยาง
มาก มิเชนนั้นเพลิงตาขายสีมวงคงไมมีทางกักเพลิงชนิดนี้เอาไวได และถาหากเปน
เพลิงแกนอาทิตย ตอใหอยูในระดับต่ำที่สุดและสูญเสียพลังดั้งเดิมไป ก็สามารถทลาย
เพลิงตาขายสีมวงแลวหนีออกไปได ทวาหากเลี้ยงดูเพลิงชนิดนี้จนถึงระดับสูง วัน
ขางหนาอานุภาพของมันตองเหนือกวาเพลิงตาขายสีมวงแน มิเชนนั้น คงไมมีชื่อเสียง
เทียบเทากับเพลิงแกนอาทิตย จนเปนหนึ่งในสามมหาเพลิงวิญญาณเที่ยงแทในแดน
มนุษยไดหรอกเจาคะ” อิ๋นเยวอธิบายใหหานลี่ฟงอยางละเอียด
“เพลิงชนิดนี้นากลัวขนาดนั้นเลยหรือ? สามมหาเพลิงวิญญาณเที่ยงแทอะไร ขา
ไมเคยไดยินมากอน” หานลี่จองเขม็งไปยังเปลวเพลิงวิญญาณเบื้องหนา รูสึกเชื่อครึ่ง
ไมเชื่อครึ่ง
ถึงอยางไรเสียเพลิงสีแดงสดกลุมนี้ก็ดูเหมือนมีพลังชีวิตเต็มเปยมเทานั้น แตไมได
ทำใหเขารูสึกวาตอกรไดยากเทาใดนัก
“สามมหาเพลิงวิญ ญาณเที่ยงแท ตอนที่ขาไดเห็นเพลิงขุมนี้ ในหัวก็มีชื่อนี้ผุด
ขึ้นมา ดูแลวขาคงจะรูจักของพวกนี้ไมนอย” อิ๋นเยวหัวเราะอยางขมขื่นออกมา
“ในเมื่อเจามีความทรงจำของสิ่งนี้ ดูแลวเพลิงชนิดนี้คงจะเปนของจริง ในเมื่อ
เพลิงนี้ก็มีคุณสมบัติเปนเพลิงเหมันตทมิฬอยูแลว ไมรูวาเพลิงตาขายสีมวงของขาจะ
สามารถกลืนกินไดหรือไม?” หานลี่แววตาเปลงประกาย ทาทางมีแผนการ
“นาจะไดกระมัง ทวาใหเพลิงตาขายสีมวงกลืนกินเพลิงนี้ ไมสูกลับกันใหเพลิงนี้
กลื น กิ น เพลิ งตาข ายสี ม วงไม ดี ก วาหรื อ ถึ งอย างไรเสี ย เพลิ งเที่ ย งแท ขุ ม นี้ ก็ มี พ ลั ง
วิญญาณอยูในนั้น ถาหากถูกทำลายไปก็นาเสียดายจริงๆ อานุภาพอาจจะลดลงเพราะ
เหตุนี้เปนอยางมาก” อิ๋นเยวเอยเตือนสติ
“อืม เจาพูดมีเหตุผล ทวากอนหนานั้น ขาจะตองหลอมเพลิงชนิดนี้กอน มันมี
พลังชีวิต จึงหลอมไดไมงายนัก” หานลี่พยักศีรษะ
“ทวานายทาน เพลิงชนิดนี้ยังสามารถดูบซับเพลิงแกนอาทิตยได ถาหากเปนเชนนั้น
หากนำขุมพลังแหงหยินและหยางมารวมกัน บวกกับอานุภาพของเพลิงตาขายสีมวง
ขาก็วายากที่จะจินตนาการถึงอานุภาพของมันแลว เกรงวาในแดนมนุษยคงไมมีอะไร
ที่เผาไมได” อิ๋นเยวหัวเราะหึๆ ออกมาขณะเอย
“เพลิงแกนอาทิตย? ถาหากจับเพลิงชนิดนี้ไดจริงๆ แนนอนวายอมดีที่สุด แตขา
เคยไดยินเทพขับเคลื่อนกลาววา เพลิงแกนอาทิตยไมใชสิ่งที่อยูในแดนมนุษยผูบำเพ็ญ
เพียรของพวกเรา การจะจับมันนั้นก็เปนเพียงความคิดที่เพอเจอเทานั้น” หานลี่ขมวด
คิ้ว เอยดวยความจนปญญาเล็กนอย
“นั่นมันก็ใช ทวาในเมื่อนายทานมีเพลิงอาทิตยทมิฬเที่ยงแท และเพลิงนี้ก็เทียบ
ไดกับเพลิงแกนอาทิตย บางทีอาจจะสามารถใชเพลิงชนิดนี้จับเพลิงแกนอาทิตยได”
อิ๋นเยวเอยอยางลังเล เห็นไดชัดวาไมคอยมั่นใจนักวาวิธีการนี้จะใชไดหรือไม
“เรื่องนี้คอยวากันวันหลังก็แลวกัน ยังไมรูเลยวาจะหลอมเพลิงอาทิตยทมิฬเที่ยง
แทไดตอนไหน” หานลี่ใจเตน แตก็ยังคงสายศีรษะ
อิ๋นเยวไดยินหานลี่กลาวเชนนี้ ก็หั วเราะคิกคักออกมาแลวไมเอยถึงเรื่องนี้ อีก
กลับเปลี่ยนหัวขอบทสนทนาโดยกลาววา
“นายทาน เพลิงอาทิตยทมิฬเที่ยงแทตองลงอาคมกอนถึงจะเก็บไปได มิเชนนั้น
หากไมระวัง ก็อาจจะหนีออกมาจากยุทธภัณฑได”
“อืม เรื่องนั้นขารูอยูแลว!” หานลี่หัวเราะหึๆ ออกมา จูๆ ก็โยนเปลวเพลิงสีมวง
ในมือขึ้นไปกลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นเปลวเพลิงสีมวงกลุมหนึ่งที่ลอมรอบเพลิงทมิฬอยูก็ลอยขึ้นไปเหนือ
ศีรษะอยางชาๆ
จากนั้นเขาพลันรายนิ้วทั้งสิบ ประจุไฟฟาเสนบางๆ ดีดออกมาไมหยุด ชั่วพริบตา
ก็เขาพัวพัน ทำใหเพลิงตาขายสีมวงและแมแตเพลิงทมิฬที่อยูดานในกลายเปนดวง
แสงสีทองขนาดเทากำปนดวงหนึ่ง แสงสีทองกะพริบวาบ
อิ๋นเยวดูเหมือนจะหัวเราะอยางแผวเบาออกมา
วิธีการนี้แทบจะเหมือนกับการที่หานลี่ใชกักเพลิงน้ำแข็งสวรรคอยางไรอยางนั้น
แตแคจากพลังยุทธของเขาในตอนนี้ แนนอนวามันเปนวิธีการที่เชี่ยวชาญอยางหาที่
เปรียบมิไดตั้งนานแลว จากนั้นหานลี่ก็หยิบกลองหยกสีแดงสดออกมา วางดวงแสงสี
ทองเอาไวขางใน จากนั้นสายตาก็เลื่อนไปตกที่เตาใบยักษซึ่งถูกแชแข็งอยู
“เพลิงทมิฬเที่ยงแทเชนนี้ ตามหลักแลวนาจะถือกำเนิดในสถานที่ที่เย็นเยียบถึง
จะถูก แตเมื่อครูเพิ่งจะบินออกมาจากเตา ชางแปลกประหลาดจริงๆ หรือวาวัตถุที่ใช
หลอมตอนแรกนั้นจะเปนของมหัศจรรยธาตุเย็นอะไรสักอยาง ถึงไดผสมกับธาตุหยิน
และหยาง*จนถือกำเนิดเปนไฟชนิดนี้ข้ึนมา?” หานลี่ลูบคางไปมา ขณะตกเขาสูภวังค
แหงความครุนคิด
อิ๋นเยวไมไดกลาวอะไร เห็นไดชัดวารูสึกประหลาดเชนกัน
แต ห ลั ง จากที่ แ ววตาของหานลี่ เปล ง ประกายแล ว ก็ ไม ส นใจเรื่ อ งนี้ อี ก กลั บ
สาวเทากาวเขาไปหากอนน้ำแข็งยักษเบื้องหนา
ทันใดนั้นพลันสะบัดแขนเสื้อ ประจุไฟฟาหนาๆ สายหนึ่งพุงโจมตีออกไป เมื่อ
สัมผัสกับ กอ นน้ำแข็งยักษ แ ลว ชั่วพริบ ตานั้ น ก็ กลายเป น ตาข ายสี ท องห อ หุ ม ก อ น
น้ำแข็งยักษเอาไว
ทันใดนั้นหลังจากที่เสียงตึงตังและสายฟาสวางวาบขึ้น กอนน้ำแข็งยักษก็แตก
ละเอียดเปนชิ้นๆ กลายเปนเศษน้ำแข็งกองหนึ่ง
เผยใหเห็นเตายักษที่ตอนนี้นิ่งสงบเปนพิเศษออกมา
หานลี่มองเตายักษไมขยับเขยื้อน ลำแสงสีเขียวสวางวาบดวยสีหนาราบเรียบ
รางกายลอยขึ้น คอยๆ บินไปอยูเหนือเตายักษสองสามจั้งพลางมองลงไปดานลาง
ถึงแมวาที่นี่จะมีเขตอาคมหามเหาะเหินเชนกัน แตจากพลังยุทธที่แข็งแกรงระดับ
กอกำเนิดขั้นกลางของหานลี่นั้น ภายในระยะเวลาสั้นๆ ก็พอจะฝนบังคับใหลอยขึ้นได
อยางงายดาย
ลำแสงสีแดงในเตาหายไปอยางไรรองรอย นี่จึงทำใหมองเห็นทุกอยางในเตาได
อยางชัดเจน ผลลัพธคือหานลี่พลันหนาเปลี่ยนสีอยางไมทันรูตัว ทันใดนั้นมือหนึ่ง
พลันควาไปทางเตาจากกลางอากาศ
เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น กอนสีสันแวววาวกอนหนึ่งบินออกมาจากเตา หลังจากหมุน
วนหนึ่งรอบ ก็ตกลงบนมือของหานลี่
คาดไมถึงวาจะเปนสิ่งของขนาดเทากำปนที่โปรงใส ราวกับหยกอุนอยางไรอยางนั้น
แตเมื่อนิ้วทั้งหากดลงไปกลับรูสึกถึงความยืดหยุนเล็กๆ
“นี่มันคืออะไร?” หานลี่ขมวดคิ้ว
“เหตุใดนายทานตองคิดมากดวย ไมวาแตเดิมจะเปนวัตถุดิบอะไร หลังจากผาน
การหลอมอยางตอเนื่องมาหลายหมื่นป เกรงวามันคงกลายเปนของที่ไมอาจอธิบายได
แลว ทวาการถือกำเนิดของเพลิงอาทิตยทมิฬเที่ยงแทจะตองเกี่ยวของกับเจาสิ่งนี้แน
แตเดิมคงไมใชของธรรมดาๆ แนนอน” อิ๋นเยวกลับเอยขึ้นอยางไมใสใจ
“จะวาไปแลวก็ใช รอใหขาวาง คอยศึกษาอีกทีก็แลวกันวาเจาสิ่งนี้มีประโยชนอันใด”
หานลี่ขบคิดเชนนั้น พลางหัวเราะอยางแหบแหงออกมา
ทันใดนั้นลำแสงสีเขียวในมือพลันสวางวาบ ของสิ่งนี้ถูกเก็บเขาไปในยามเก็บของ
จากนั้น หานลี่พลันพิจารณาในเตาอีกครั้ง หลังจากมั่นใจวาไมมีสิ่งใดแลว สองมือ
ก็รายอาคมอยางไมตองขบคิด ชูมือหนึ่งขึ้นอีกครั้ง อาคมสีแดงสายหนึ่งพุงลงไป โจมตี
ไปยังเตายักษ
แตเดิมเตายักษที่นิ่งสงบอยางหาที่เปรียบมิไดพลันสั่นไหวทันที ทันใดนั้นลำแสงสี
แดงก็สวางวาบ และหดเล็กลงอยางรวดเร็ว
ชั่วพริบตาเตาใบเล็กขนาดสองสามฉื่อพลันปรากฏขึ้นบนพื้น และเปลงเสียงรอง
ไพเราะก อ งกังวานออกมา ฝาเตาที่ อ ยูไกลออกไปพลั น ตอบรับ และบิ น เขามาโดย
อัตโนมัติ หลังจากหมุนวนหนึ่งรอบ ก็หดเล็กลงจนมีขนาดเทากันกับเตา
หลังจากที่เปลี่ยนเปนเตาใบเล็กเสร็จสมบูรณแลว เสียงรองก็ดังขึ้นอีกสามสวน
และเต็มไปดวยความยินดี
เมื่อเห็นเตาใบนี้มีพลังชีวิตที่เต็มเปยมเชนนี้ หานลี่ก็ดวงตาเปลงประกาย สะบัด
แขนเสื้อไปดานลาง
ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งพุงลงไปดานลาง หอหุมและมวนเอาเตาใบเล็กกลับมา
รอนลงตรงใจกลางฝามือ
หานลี่ใชมือหนึ่งถือเตาใบเล็กสีแดงเอาไวในระดับสายตา ไมนานนัก ใบหนาก็
คอยๆ เผยความพึงพอใจออกมา
จูๆ เขาพลันผนึกฝามือ ลำแสงสีเขียวสวางวาบ มือหนึ่งตบไปที่บนเตาเบาๆ
ลำแสงสีแดงบนเตานับหมื่นสายสวางวาบ จากนั้นหลังจากที่เปดฝาเตาแลว วิหค
เพลิงขนาดเทากำปนจำนวนนับไมถวนก็ทะลักออกมา ทุกตัวลวนมีรางกายอัปลักษณ
เรือนกายเปนสีแดงสด คาดไมถึงวาจะเปนอีกาเพลิงตะวัน
อีกาเพลิงเหลานี้ตางพนลูกไฟเล็กๆ ออกมา บินเริงระบำอยูภายในวิหารภายใต
การควบคุมดวยจิตสัมผัสของหานลี่ เดี๋ยวรวมตัวเดี๋ยวแยกออกจากกัน ดูมีชีวิตชีวา
อยางสุดๆ
แนนอนวาเจาพวกนี้ลวนเปนเพลิงปฐพีที่เตาใบนี้สะสมไวมาเปนเวลานาน อาศัย
อากาศสรางภาพลวงตาขึ้น ทุกตัวลวนไมแตกตางอะไรกับวิหควิญญาณธาตุอัคคีตัว
จริงเลยสักนิด
หลังจากที่เห็นความสามารถของเตาใบนี้แลว หานลี่ก็เก็บสมบัติชิ้นนี้มาดวยความ
ดีอกดีใจ และนับวาวันขางหนาก็มีวิธีการตอกรกับศัตรูเพิ่มขึ้นมาอีกวิธีหนึ่งแลว
ถึงอยางไรเสีย แมวาอานุภาพของพั ดตรีเปลวเพลิงจะเหนือกวาเตาใบนี้อยาง
แนนอน แตลมปราณที่ตองสูญเสียไปจำนวนมาก ก็ทำใหหานลี่แสนปวดหัวจริงๆ เขา
จึงไมกลาใชพัดเลมนี้งายๆ
จากนั้นหานลี่ก็ตรวจสอบในวิหารนี้อยางละเอียดอีกครั้ง ผลลัพธคือไมไดอะไรอีก
แตตอนที่เขาคิดจะจากไปนั้น หลังจากที่สายตากวาดไปที่เสาเพลิงสีแดงสิบกวา
ตนนั้น จูๆ ก็ใจเตนพลางปลอยกระบี่สิบกวาเลมออกมา คาดไมถึงวาจะสับมังกรวารี
ทั้งหมดที่อยูบนเสาเพลิงเปนชิ้นๆ อยางไมเกรงใจ แลวเก็บของชิ้นใหญๆ เหลานี้เขา
มาอยางลวกๆ
ถึงแมวาเสามังกรเพลิงเหลานี้จะไมใชสิ่งที่กลายเปนสมบัติดวยตัวมันเองเหมือน
เตายักษ แตพนเพลิงปฐพีอยางตอเนื่องมานานขนาดนี้ ก็ทำใหยุทธภัณฑที่แตเดิมทำ
มาจากทองสัมฤทธิ์เหลานี้ดูดซับไอวิญญาณที่นาตกตะลึงเอาไว และกลายเปนของที่
ไมธรรมดา
เขาเชื่อวา ไมวาวัตถุดิบหรือวายุทธภัณฑตางก็ลวนเปนของที่หายากอยางสุดๆ
สุดทายหานลี่พลันมองไปที่วิหารนี้อีกรอบหนึ่ง หลังจากมั่นใจวาไมมีอะไรตกหลนแลว
ก็หัวเราะนอยๆ พลางเดินออกมาจากวิหารแหงนี้ พลางคนหาสถานที่ที่เหลือ
เห็นไดชัดวาโชคของหานลี่นั้นหมดลงที่วิหารแปลงวิญญาณแหงนี้แลว
นอกจากคนหาจนพบคัมภีรที่ใชหลอมยุทธภัณฑระดับธรรมดาๆ อยางสุดๆ สอง
สามมวนในหอคอยที่ไมสะดุดตาแลว ก็ไมพบของอื่นๆ ในหอหลอมวิญญาณอีก

*หยินหยาง เปนสวนหนึ่งของคำสอนในลัทธิเตา เปนความเชื่อของคนจีนที่มีตอ


ธรรมชาติมาตั้งแตโบราณ สื่อความหมายถึง สภาวะธรรมชาติที่มีอยูคูกันซึ่งกอใหเกิด
สิ่งตางๆ บนโลกใบนี้ ในแตละบริบทสามารถตีความไดหลายความหมาย เชน
หยิน หมายถึง สีดำ ความมืด พระจันทร พลังแหงสตรีเพศ ความหนาวเย็น กลางคืน
หยาง หมายถึง สีขาว ความสวาง พระอาทิตย พลังแหงบุรุษเพศ ความรอน กลางวัน
ตอนที่ 1012 รางผนึกวิญญาณทมิฬ
หานลี่ กลับ ไม ป ระหลาดใจกับ สิ่ งนี้ การมาในสถานที่ เปล าเปลี่ ย วครั้งนี้ ได รับ
ผลประโยชนไปขนาดนี้ก็นับวาไมนอยแลว
หลังจากผานไปเกือบครึ่งวัน หานลี่ที่คนหาสิ่งปลูกสรางสุดทายเสร็จสิ้น ก็กลับไป
ยังเบื้องหนาแผนปายคำวาหอหลอมวิญญาณอีกครั้ง มองไปยังมานลำแสงสีขาวโพลน
ชั้นนั้น คนกลับครุนคิดขึ้นมา
เวลานี้ยังไมรุงสาง เขายังมีโอกาสที่จะไปตรวจสอบสถานที่อื่นๆ อีกสองสามแหง
แตเชนนั้นก็ดูเหมือนวาจะเสี่ยงอันตรายไปหนอย
ผูใดจะรูวาจะมีผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ที่คนหาเสร็จแลวและไปที่อื่นๆ เชนกันหรือไม
ถาหากชายชราแซฟูและพวกนั้นก็ยังพอวา แมแตมารเฒาเฉียนและคนของสำนักพิษ
ศักดิ์สิทธิ์ หานลี่ก็ไมไดหวาดกลัวอะไร แตถาหากพบกับผูบำเพ็ญเพียรกลุมที่เขามาใน
ภูเขานี้กลุมแรก มันจะยิ่งยุงยากเขาไปใหญ เดาวาแปดเกาสวนคงลงมือกับเขาทันที
แตถาหากใหหานลี่คอยเฝาสังเกตการณอยูที่นี่ รอจนผานไปสองสามวันจนรอยแยก
ฟนฟูกลับมาใหมอีกครั้ง เขากลับรูสึกไมยินยอมเล็กๆ
หานลี่ลองคิดอีกที ก็หัวเราะอยางแหบแหงออกมา
ตอใหเขาหลบอยูที่นี่ไมไป ถาหากมีคนคนหาสถานที่อื่นจริงๆ แลวจะไมมาคนหา
หอหลอมวิญญาณหรือ? และยิ่งไปกวานั้นจากที่เขาคาดการณ เวลาผานไปนานขนาด
นี้ เกรงวาสถานที่สำคัญอยางภูเขาคุนอูที่มารเฒาเฉียนและพวกไป กวาครึ่งคงพบกับผู
บำเพ็ญเพียรกลุมแรกแลว แมกระทั่งอาจจะลงมือกันแลว ถาหากเปนเชนนั้น ก็ไมสู
ถือโอกาสที่คนอื่นไมทันระวัง คนหาเพิ่มสักสองสามแหง แมกระทั่งอาจจะอาศัยความ
วุนวายปะปนเขาไปได ถึงอยางไรเสียในหอหลอมวิญญาณเล็กๆ แคนี้ ยังสามารถหา
เพลิงอาทิตยทมิฬเที่ยงแทซึ่งเปนของชั้นยอดไดขนาดนี้ ที่อื่นๆ ก็นาจะมีผลประโยชน
อยูไมนอย
และยิ่ ง ไปกว า นั้ น จากความสามารถของเขา ต อ ให ถู ก ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดขั้นปลายสองสามคนลอมโจมตี ถึงแมวาจะไมมีโอกาสชนะ แตถาหากใหหนี
ออกมาก็ยังพอมีความมั่นใจอยูบาง
หลังจากที่เขาพิจารณาไปรอบหนึ่งแลว ก็หยิบพัดตรีเปลวเพลิงออกมาอยางไม
ลั งเล หลั ง จากที่ เปลวเพลิ งทั้ ง สามสี ส ว างวาบ ก็ แ หวกผ านม านลำแสงเบื้ อ งหน า
ออกมาอยางงายดาย แลวพุงลงไปที่ตีนเขา
......
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ในหองลับใตดินของภูเขาคุนอูพลันมีลำแสงสีฟาสวาง
วาบ คนประหลาด มารโบราณ รวมทั้ งผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ ก อ กำเนิ ด ขั้ น ต น ของ
ตระกูลเยี่ย กำลังถูกวิญญาณรายที่มีรางสีชาดผมสีแดงเจ็ดแปดตัวลอมไวตรงกลาง
ภูตผีเหลานี้ทุกตัวลวนมีใบหนาอำมหิต ปากก็พนไอทมิฬออกมา นิ้วทั้งสิบพลัน
เคลื่อนไหว กรงเล็บแสงสีดำสายแลวสายเลาพุงเขามาตะปบทั้งสามคนเอาไว
ไอทมิฬสีเทากลุมแลวกลุมเลาปดลอมคนประหลาดและพวกเอาไวตรงกลาง แต
เพราะใชสมบัติอาคมปองกันวางเขตอาคมปองกันลำแสงหลากสีสันไวสองสามชั้น ไม
วาไอทมิฬจะรุนแรงขนาดไหน กรงเล็บลำแสงจะแหลมคมขนาดไหนตางก็ไมมีทาง
สั่นคลอนไดเลยสักนิด ทวาตรงกันขาม คนประหลาดกำลังบังคับกระบี่บินสีเหลืองเลม
หนึ่ง มารโบราณและชายชราตระกูลเยี่ยอีกคนหนึ่งกำลังกระตุนกระบี่เลมเล็กสีดำ
และกอนหยกสีขาวกอนหนึ่งเอาไว ถึงแมวาจะเปลงลำแสงเปนหมื่นสาย กลับทำอะไร
ภูตผีเหลานี้ไมไดเลยแมแตนอย
ไมวากระบี่บินจะผาภูตผีออกเปนสองสวน หรือวาจะโจมตีหัวของภูตผีจนแหลก
ละเอียด ขอแคภูตผีตัวอื่นๆ พนไอทมิฬออกมาใสมันพรอมกัน ภูตผีที่ถูกทำลายก็จะ
ฟนฟูกลับมาเปนดังเดิมทันที กลับมามีชีวิตแลวกระโจนใสพวกเขาอีกครั้ง ทุกตัวลวน
เหมือนกับเปนสิ่งที่ไมยอมตายอยางไรอยางนั้น
ตอนนี้ ชายชราตระกูลเยี่ยผูนั้นกำลังถูมือทั้งสองขึ้นดวยกัน แลวชูมือขึ้นอีกครั้ง
ลูกไฟสีแดงจมหายเขาไปในรางของภูตผีตัวหนึ่ง ระเบิดภูตผีตัวนั้นจนไมเหลือชิ้นดี แต
ภายใตไอทมิฬ ใกลๆ ที่ รวมตัวกัน นั้ น ภู ตผีตัวนั้ น ก็ ป รากฏตัวขึ้น อี กครั้งทั น ที และ
กระโจนไปหาเกราะปองกันลำแสงอีกครั้ง
“ทานอาเจ็ด ทานอาวุโสหาน หากเปนเชนนี้ตอไปคงจะไมไดการ ภูตผีเหลานี้
ผานการบำรุงดวยไอทมิฬมาไมรูกี่หมื่นปแลว เห็นไดชัดวาฝกฝนจนอยูในระดับราง
ผนึกวิญ ญาณทมิฬ แลว เคล็ดวิชาและสมบัติธรรมดาๆ ไมสามารถฆาพวกมันได มี
เพียงตองใชเคล็ดวิชาหรือสมบัติสายหยางถึงจะมีผล” ชายชราตระกูลเยี่ยเอยอยาง
เปนกังวล
“เหอะ ถาหากมันงายขนาดนั้น ตาเฒ าก็ลงมือตั้งนานแลว ภู ตผีเหลานี้ฝกฝน
จนถึงระดับรางผนึกวิญญาณทมิฬที่ไหนเลา ลวนเปนรางแยกของราชันยภูตตนหนึ่ง
เทานั้น หากไมสามารถสังหารภูตผีทั้งหมดในเวลาเดียวกันได พวกมันก็จะกลับมามี
ชีวิตทามกลางไอทมิฬในทันที ที่ตาเฒาไมไดสำแดงเคล็ดวิชาธาตุอัสนีออกมา ก็เพราะ
กำลังตามหารางที่แทจริงของมันอยู” คนประหลาดสงเสียงเหอะอยางเย็นชาออกมา
พลางตอบกลับอยางไมสบอารมณ
“ลวนเปนรางแยก?” ชายชราพลันตกตะลึง
“ใชแลว มิเชนนั้นถึงแมวาจะฝกฝนจนเปนวิญญาณรายที่มีรางผนึกวิญญาณทมิฬ
ถูกพวกเราสังหารอยางตอเนื่องหลายครั้งขนาดนี้ ก็นาจะสูญเสียปราณแทไปไมนอย
แตเจาดูสิ พวกมันมีสีหนาเหนื่อยลาที่ไหนกัน ดูแลวราชันยภูตคงคิดจะทำใหพวกเรา
เหนื่อยตาย ถึงไดใชวิธีการนี้จัดการกับพวกเรา”
มารโบราณเอยอยางราบเรียบ และจากนั้นพลันชี้ไปที่กระบี่เล็กสีดำเลมนั้น ชั่วครู
ก็ทะลุผานวิญญาณรายตนหนึ่งไป
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง นาเสียดายที่นองสิบหาถูกอสรพิษเงาดำในชั้นที่แลวพน
ทรายเงามืดใส จึงหนีออกมาไดแคทารกเทานั้น มิเชนนั้นจากความสามารถในดาน
พลังหยางของเขา นาจะเหมาะสมในการตอกรกับวิญญาณรายเหลานี้มากที่สุด”
ชายชราเหลือบมองควันสีเทาที่อยูรอบๆ พลางเอยดวยสีหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
“นั่นเปนเรื่องที่ชวยไมได ผูใดจะนึกไดวาในโลกนี้จะมีอสรพิษปศาจที่สามารถ
หลีกหนีเขาไปในเงาทมิฬได และจูๆ ก็ลอบโจมตีจากเงาของศิษยหลานหมิงหลี่เอง
แมแตตาเฒาก็ชวยเอาไวไมทัน และยิ่งไปกวานั้นพิษของอสรพิษตัวนั้นรายแรงขนาดนี้
ชั่วพริบตากายเนื้อของศิษยหลานหมิงหลี่ถึงกับใชการไมไดไปทุกสวน” คนประหลาด
ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“ศิษยหลานไมไดมีเจตนาจะวาทานอาเจ็ด แคปอมปราการนั้นประหลาดจริงๆ
ไมเพียงแตสรางกลับหัว ทางเขาอยูดานบน ปลายแหลมของคอหอยอยูดานลาง และ
ยิ่งไปกวานั้นภูตผีที่อยูในแตละชั้นก็ตอกรยากมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเราเสียเวลาไปมาก
ขนาดนี้ ก็เพิ่งบุกมาถึงแคชั้นเจ็ดเทานั้น แตทานอาวุโสหานเคยกลาววา ปอมปราการ
แหงนี้นาจะมีเกาชั้น ยากที่จะจินตนาการจริงๆ วาอีกสองชั้นที่เหลือจะมีมารปศาจ
อะไรปรากฏตัว พวกเราจะลงไปตอจริงๆ หรือ?” ชายชราเอยอยางลังเลเล็กนอย
“เหอะ เพิ่งจะพบกับอันตรายเพียงเล็กนอยเจาก็กลัวแลวหรือ ยิ่งความกดดันของ
ชั้นลางมากขึ้นเทาไหร อัตราที่สมบัติสะทานฟาจะปรากฏตัวในอีกสองชั้นที่เหลือก็ยิ่ง
มากขึ้นเทานั้น อยางไรเสีย มีเพียงมารปศาจที่ทำใหผูบำเพ็ญเพียรโบราณหวาดกลัว
ไดเทานั้น ถึงจะมีความเปนไปไดวาจำเป น ตองใชสมบั ติวิญ ญาณสะท านฟ ากดมั น
เอาไว หรือวาเจาอยากใหแผนที่ตระกูลเยี่ยของพวกเราวางมาหลายรอยปเสียเปลา?”
น้ำเสียงของคนประหลาดเต็มไปดวยความเย็นชา ปากก็เอยตักเตือนอยางไมเกรงใจ
“ทานอาเจ็ดสั่งสอนถูกตอ งแลวขอรับ ศิษ ยห ลานขี้ขลาดไปหน อ ย” ชายชรา
ตระกูลเยี่ยผูนั้ นไดยินก็ทำไดเพี ยงควบคุมสมบั ติตอ กรกับ ภู ตผีที่ กระโจนเขามาไป
พลาง ตอบรับอยางเห็นดวยไปพลาง
“ขาหาราชันยภูตตัวนั้นพบแลว” ในตอนนั้นเอง มารโบราณกลับเอยปากขึ้นมา
“อะไรนะ รางที่แทจริงมันอยูที่ไหน!” ชายชรารูสึกมีชีวิตชีวาขึ้น รีบรอนเอยปากถาม
แววตาของมารโบราณเปลงประกาย ขณะที่กำลังคิดจะเอยอะไรนั้นกลับหนา
เปลี่ยนสีพลางรองอุทานออกมาเบาๆ จากนั้นในตอนนั้นเอง เสียง ‘ปง’ พลันดังขึ้น
จากจุดที่ไกลออกไป จากนั้นทางเขาหองโถงก็มีประกายแสงสวางวาบ จูๆ ลำแสงหลีก
หนีสีเขียวกลุมหนึ่งก็พุงออกมา เมื่อแสงหมนลง เงารางของคนสี่คนที่แตกตางกันพลัน
ปรากฏขึ้นทามกลางกลุมแสงนั่น
หลังจากที่ทั้งสี่คนเห็นวาพวกมารโบราณทั้งสามคนถูกเงาวิญญาณซึ่งแผไอทมิฬ
เริงระบำลอมเอาไวตรงกลางหองโถง ก็ตกตะลึงจนรองอุทานออกมาคราหนึ่งเชนกัน
“เยี่ยเยวเซิ่ง เจาไมไดเพลี้ยงพล้ำไปตั้งนานแลวหรือ? ที่แทตระกูลเยี่ยก็เปนผูเปด
ผนึกหรือ?”
ผูที่พูดคือผูบำเพ็ญเพียรที่ใบหนาเต็มไปดวยริ้วรอยคนหนึ่ง นั่นก็คือฮัวเทียนฉี
และสี่คนนี้แนนอนวาก็คือสี่อาวุโสของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์
เวลานี้ทานอาเจ็ดของตระกูลเยี่ยที่รูจักฮัวเทียนฉี พลันมีสีหนาเครงขรึมสลับไป
มากับสดใส
เมื่อทั้งสามคนในหองโถงเห็นคนของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์สีหนาก็เปลี่ยนเปนดูไมได
โดยเฉพาะในขณะที่พวกเขายังถูกวิญญาณรายพัวพันเอาไวเชนนี้
“ขาก็วาใคร ที่แทก็สหายฮัว คิดไมถึงวา การเคลื่อนไหวของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์จะ
ไมเชื่องชา เขามาในภูขาลูกนี้ไดเร็วขนาดนี้ ไมทราบวาเหลาสหายไมไดหาสมบัติที่อื่น
หรือ มาที่ปอมปราการมารดวยเหตุผลอันใดกัน” คนประหลาดมีสีหนาโหดเหี้ยมสวาง
วาบ ทันใดนั้นก็เอยอยางทองไมรูรอน
“หึๆ! คำพูดนี้ผูแซฮัวและพวกก็คิดจะถามผูแซเยี่ยอยูเหมือนกัน และยิ่งไปกวา
นั้นไมเจอกันสองสามรอยป หลังจากที่พี่เยี่ยแกลงตาย คาดไมถึงวาจะบรรลุระดับ
กอกำเนิดขั้นปลายแลว ถาหากสำนักมารธรรมะรูเรื่องนี้เขา เกรงวาคงนั่งไมติดแลว”
ฮัวเทียนฉีมองคนประหลาดที่ควบคุมกระบี่บินสับวิญญาณรายจนหนึ่งเปนชิ้นอยาง
งายดายอยูขางๆ พลางเอยอยางราบเรียบ แตในใจกลับมีความคิดเคลื่อนไหวไปมา
อยางรวดเร็ว เหมือนกำลังขบคิดอะไรอยู
“ศิษยพี่ฮัว หรือวาคนเหลานี้รูวาปอมปราการแหงนี้มีสมบัติวิเศษ จึงตั้งใจมาลา
สมบัติ!” ขางหูของฮัวเทียนฉีมีเสียงของอาวุโสสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ผูหนึ่งดังขึ้น เปน
น้ำเสียงที่แฝงเอาไวดวยความกังวลใจ
ในคำสั่งเสียที่ บ รรพชนกอตั้ งสำนั ก พิ ษ ศั ก ดิ์ สิท ธิ์ผูนั้ น ทิ้ งเอาไวในป นั้ น เอ ยถึ ง
สมบัติวิเศษที่ซอนอยูในปอมปราการมารเล็กนอย แตของสิ่งนั้นคืออะไรกลับกลาว
เอาไวอยางคราวๆ จึงไมอาจรูได แตเชนนั้น สี่อาวุโสของสำนั กพิ ษศักดิ์สิท ธิ์ก็ไมดู
แคลน เลือกปอมปราการมารนี้เปนแหงแรก
ถึงแมวาชั้นกอนๆ ที่พวกเขาบุกเขาไปจะพบวามีผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นชิงตัดหนา
มากอนแลว ทวาแตเดิมพวกเขาคิดวาปอมปราการที่อันตรายเชนนี้จะไมอยูในสายตา
ของผูบำเพ็ญเพียรที่ลวงหนามา อาศัยพลังของทั้งสี่คน นาจะเพียงพอใหชิงลวงหนา
ไปกอน แตคิดไมถึงวาจะมีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายคนหนึ่ง รอพวกเขา
อยูที่ชั้นหนึ่ง
ถาหากไมใชทานอาจารยเจ็ดของตระกูลเยี่ยและพวก ถูกกลุมภูตผีลอมอยูเชนนี้
เชื่อวาฮัวเทียนฉีจะตองหันหลังหนีโดยไมกลาวอะไรแน ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด
ขั้นปลาย บวกกับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกกำเนิดขั้นตนอีกสองคน ไมใชสิ่งที่พวกเขาสี่
คนจะตอกรไดจริงๆ
“ไมแนใจ บางทีอาจจะเหมือนกับพวกเรา แคไดเบาะแสมา” ฮัวเทียนฉีมีสีหนา
เครงขรึม มุมปากหยักขึ้นเล็กนอยพลางเอยตอบ ดวงตาคูนั้นกลับจองเขม็งไปยังคน
ประหลาดทั้งสามคนดวยดวงตาที่ไมกะพริบ
“ดูจากทาทางแลว สหายฮัวคงไมคิดจะจากไปสินะ” ตอนที่คนประหลาดเอยคำนี้
ออกมา แววตาก็เผยใหเห็นถึงความโหดเ**ยม ทันใดนั้นพลันอาปาก แสงสีเงินสาย
หนึ่งสวางวาบแลวสลายหายไปในทันที
ครูตอมา มุมหนึ่งของหองโถงก็มีลำแสงสีเงินกลุมหนึ่งระเบิดออกมา รวมทั้งเสียง
รองคำรามต่ำๆ ทันใดนั้นเงาภูตเลือนรางสีเทาก็ปรากฏขึ้นตรงนั้น ปากของมันพน
ไขมุกสีเทาขนาดเทาหัวแมมือออกมา ตานทานสามงามบินสีเงินเลมหนึ่งเอาไว และ
เพราะถูกกดใหลาถอยไป ปากก็เปลงเสียงรองคำรามวาๆ ประหลาดๆ ออก
เมื่ อ เห็ น เงาภู ต ผี ต นนี้ สี่ อ าวุ โสของสำนั ก พิ ษ ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ก็ ไ ม ทั น ได มี ป ฏิ กิ ริ ย า
ตอบสนอง มารโบราณที่อยูดานขางกลับสะบัดแขนเสื้ออยางเงียบเชียบ กระจกสีดำ
สนิทราวกับหมึกปรากฏขึ้นในมือ เงาภูตผีที่อยูรอบดานกะพริบหายไปอยางรวดเร็ว
ลำแสงสี ด ำผื น หนึ่ ง พุ ง ออกมาจากกระจก ภู ต ผี ทั้ ง หมดต า งถู ก ลำแสงสี ด ำ
ประหลาดๆ นั้นมวนเอาไวขางใน ทันใดนั้นแตละตัวก็เปลงเสียงรองคร่ำครวญออกมา
รางของภูตผีที่อยูในลำแสงถูกฉีกออกเปนชิ้นๆ ลำแสงสีดำเหลานั้นคาดไมถึงวาจะ
แหลมคมราวกับมีดหรือกระบี่อยางไรอยางนั้น แตถึงแมวารางที่แทจริงของราชันย
ภูตผีจะถูกสามงามบินสีเงินเลมนั้นพัวพันอยู ภูตผีเหลานั้นจึงยังไมอาจฟนฟูกลับมาได
แตขณะที่เสียงกรีดรองของเงาภูตผีตนนั้นดังขึ้น ไอทมิฬที่สลายหายไปของพวกมัน
กลับกลายเปนหมอกทมิฬหนาๆ กลุมหนึ่ง ชั่วครูก็หอหุมมารโบราณและพวกเอาไว
ถึงแมวากระจกบานนั้นของมารโบราณจะปลอยลำแสงสีดำอันรายกาจออกมา
แตกลับไมมีทางกำจัดไดในทันที
ในที่สุดฮัวเทียนฉีก็หนาเปลี่ยนสีแลว
ตอนที่ 1013 กำแพงพระสุเมรุเบญจธาตุ
เมื่อมองคนประหลาดและพวกอีกสามคนที่อยูทามกลางไอทมิฬแวบหนึ่ง ก็กวาด
สายตาไปที่ทางออกอีกทางของหองโถง พลันเผยสีหนาตัดสินใจออกมา ปากก็เปลง
เสียงตะโกนต่ำๆ ออกมา
“ไป!”
ทันใดนั้นพลันพลิกฝามือ ธงเล็กๆ สีเขียวดามหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ เพียงกะพริบ
วาบเล็กนอย แสงสีเขียวมรกตกลุมหนึ่งก็ระเบิดออก หอหุมทั้งสี่คนเอาไว กลายเปน
ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งพุงลงไปที่ชั้นลางราวกับดาวตก
“ฮัวเทียนฉี บังอาจ!” คนประหลาดเห็นฉากนี้ พลันพุงกระโจนดุจสายฟา กระบี่
ลำแสงสีเหลืองขนาดเทาหัวแมมือระเบิดออกจากรางของเขาอยางไมคิดไวชีวิต ชั่ว
พริบตาก็ทะลุผานเมฆทมิฬที่ลอมพวกเขาเอาไว มองเห็นวากำลังจะหนีออกมาได ทวา
พวกฮัวเทียนฉีจะกลาหยุดรั้งรอไดอยางไร ทามกลางลำแสงสีเขียวที่สวางวาบ ก็บิน
ออกมาไกลยี่สิบสามสิบจั้ง ชั่วครูพลันพุงเขาไปที่ทางออกอีกทาง แลวหายลับไป
เมื่ อ คนประหลาดและมารโบราณร ว มมื อ กั น โจมตี ไปยั ง ไอทมิ ฬ รอบๆ แล ว
ทางเขาที่แตเดิมนั้นวางเปลาไรสิ่งมีชีวิตก็มีลำแสงสีขาวสวางวาบ จากนั้นกำแพงผลึก
หนาๆ ก็เปลงแสงสวางวาบ
กำแพงผลึกนี้ไมรูวาหนาเทาไหร คาดไมถึงวาจะปดทางเขาเอาไวอยางแนนหนา
ไมมีชองโหวเลยสักนิด
คนประหลาดชูมือขึ้นอยางไมตองคิด ชั่วขณะนั้นกระบี่ลำแสงยาวสองสามจั้งสาย
หนึ่งก็ฟนลงไปยังจุดที่ไกลออกไป ปะทะเขากับกำแพงผลึกอยางรุนแรง หลังจากนั้น
ลำแสงหาสีพลันสวางวาบ กระบี่ลำแสงจมหายไปราวกับวัวโคลนลุยทะเล*
“กำแพงพระสุเมรุเบญจธาตุ!” คนประหลาดเห็นสถานการณนี้พลันตกตะลึง แต
เมื่อพิจารณากำแพงผลึกนั้นอยางละเอียดแลว ก็รองออกมาดวยความตกตะลึงระคน
โกรธขึงทันที
“สมบัติชิ้นนี้ คือสมบัติประจำพรรคของพรรคพระสุเมรุมิใชหรือ? เหตุใดถึงมาตก
อยูในมือของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ได ใชแลว พรรคพระสุเมรุมิเองก็เปนหนึ่งในพรรค
ใหญของหนานเจียง ไดยินวามีตนกำเนิดใกลเคียงกันกับสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ ดูทาแลว
สำนักพิษศักดิ์สิทธิ์คงใชวิธีการอะไรสักอยางหยิบยืมมา” อาวุโสตระกูลเยี่ยผูนั้นเอย
ดวยหนาที่เปลี่ยนสี
“กำแพงพระสุเมรุเบญจธาตุ ขาเคยไดยินมากอน ชื่อเสียงของสมบัติชิ้นนี้ไมนอย
เลยจริงๆ” มารโบราณขมวดคิ้วมุน
“ยุงยากแลว ดูแลวชั้นลางสุดของปอมปราการแหงนี้อาจจะมีสมบัติสะทานฟาก็
เปนได มิเชนนั้นเจาพวกสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์จะเสี่ยงอันตรายขนาดนี้ไดอยางไร” คน
ประหลาดจองเขม็งไปที่กำแพงผลึกดวยสีหนาเขียวคล้ำ
“พี่เยี่ยไมจำเปนตองกังวล! คนเหลานั้นลวงหนาไปก็ดีแลว ไมตองพูดถึงวาชั้นลาง
จะมี ส มบั ติ ส ะท านฟ าหรือ ไม แต เขตอาคมชั้ น ล างจะต อ งรับ มื อ ยากยิ่ ง กว าอย า ง
แนนอน คนเหลานั้นวิ่งไปกอนพวกเรา มีเพียงตองพบกับความลำบากเทานั้น รอจน
พวกเราจับ การกับ ราชัน ยภู ตผี ตัวนั้ น แล ว ค อ ยทลายกำแพงผลึ กอี กครั้ง ไม แ น วา
อาจจะไดเปรียบก็ได” มารโบราณหัวเราะอยางเย็นชาออกมาขณะเอย
คนประหลาดไดยินคำพูดนี้พลันตกตะลึง แตหลังจากขบคิดเล็กนอย ก็ฉีกยิ้มดวย
สีหนาที่ผอนคลายลง
“พี่หานพูดมีเหตุผล เปนตาเฒ าเองที่หวังสมบัติมากไป จนคิดถึงแตประโยชน
และผลเสียของตัวเอง!”
สายตาเย็นเยียบกลอกไปมา ตกลงที่สามงามบินสีเงินที่กำลังตรึงเงาภูตผีเอาไว
แนนเลมนั้น
อีกดานของกำแพงผลึก ฮัวเทียนฉีและสามอาวุโสของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ปรากฏ
กายออกมาตั้งนานแลว แตเมื่อฮัวเทียนฉีถอนหายใจยาวๆ ออกมาเฮือกหนึ่ง อาวุโส
คนหนึ่งก็ทนไมไหวกนดาทันที
“ศิษยพี่ฮัว ทำเชนนี้มันอันตรายเกินไปหรือเปลา ถึงแมวากำแพงพระสุเมรุเบญจ
ธาตุจะสามารถตานทานอีกฝายเอาไวไดชั่วคราว แตพวกเราไปลวงเกินอีกฝายขนาดนี้
วันขางหนาจะทำอยางไรดี?”
“เหอะ เจาฝนวาพวกเราและตระกูลเยี่ยจะอยูดวยกันไดอยางสงบสุขหรือ? ไม
ตองพูดถึงวาพวกเราจะยอมปลอยสมบัติชิ้นนี้ไปหรือไม แตเยี่ยเยวเซิ่งผูนั้นแกลงตาย
ไปตั้งนานถึงไดหนีการสังหารของสิบพรรคใหญได ในเมื่อเวลานี้มาพบกับพวกกเรา
แลว จะปลอยใหพวกเราจากไปงายๆ ไดอยางไร เรื่องลวงเกินอีกฝายไปหรือไมจะ
แตกตางอะไรกัน และยิ่งไปกวานั้นแมแตบรรพชนของสำนักขายังจดจำสมบัติชิ้นนี้ไว
อยางไมลืมเลือน เจาคิดวานี่คือสิ่งของธรรมดาๆ หรือ? แปดเกาสวนคงเปนสมบัติ
สะทานฟาในตำนาน เสี่ยงอันตรายเพราะของสิ่งนี้สักหนอยจะกลัวอะไร” ฮัวเทียนฉี
เหลือบตามองผูรวมสำนักที่รูสึกไมปลอดภัยแวบหนึ่ง พลางเอยดวยสีหนาเครงขรึม
“สมบัติสะทานฟา? ถาหากเปนสมบัติระดับนั้นจริงๆ ก็คุมคาใหพวกเราลองเสี่ยง
อันตรายดู แตเยี่ยเยวเซิ่งพวกนั้นเฝาอยูดานนอก ตอนที่พวกเราไดสมบัติมาแลว จะ
หนีออกไปอยางไร” อาวุโสของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์อีกคนหนึ่ง เอยถามดวยความกังวล
“เหอะๆ เหลาศิษยนองคิดวาขาจะไมมีความมั่นใจในเรื่องที่เสี่ยงอันตรายเชนนี้
หรือ?” กอนออกมา ขาไดพกไขมุกมังกรพิษของพรรคเรามาดวย หลังจากที่ไดสมบัติ
มาแลว มากสุดก็กินไขมุกที่เก็บเอาไวมาสิบปลงไป พลังก็เทียบเทากับผูบำเพ็ญเพียร
ระดับกอกำเนิดขั้นปลายในระยะหนึ่งแลว ชวงเวลานั้น พวกเราจะตองหนีออกมาได
อยางไมมีปญหาแน" ฮัวเทียนฉีเอยอยางมีแผนการ
“ที่แทศิษยพี่ก็เตรียมการมาแลว เชนนั้น คงไมมีปญหาแลว” สามอาวุโสที่เหลือ
ถึงไดมีสีหนาผอนคลายลง ถึงแมวาจะสนใจสมบัติ แตชีวิตนอยๆ ก็สำคัญกวา
“นาเสียดายที่ศิษยนองหยวนไมอยูที่นี่ มิเชนนั้นหากรวมมือกับเราก็อาจจะสูกับผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายได โดยไมตองกินไขมุกมังกรพิษบาๆ นี่”
จูๆ ฮัวเทียนฉีก็เอยถึงชายรางใหญแซหยวน แลวเผยสีหนาเสียดายเล็กๆ ออกมา
“นั่ น มั น ก็ ใช แตศิ ษ ยพี่ ฮัวไม ได ทิ้ งข อ ความไวแ ล วหรือ ไม แ น วา ศิ ษ ย พี่ ห ยวน
อาจจะกำลังรีบมาที่นี่ ถาหากเปนเชนนั้น หลังจากที่พวกเราไดสมบัติและกำลังจะ
ออกไปนั้น ก็อาจจะงายขึ้นเยอะ” อาวุโสสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งหัวเราะออกมา
ขณะเอย
“หวังวาจะเปนเชนนั้นก็แลวกัน ทุกคนโปรดระวังดวย ภูตผีที่ชั้นเจ็ดจัดการยาก
ขนาดนั้ น ชั้น ที่ แ ปดและชั้น ที่ เกาก็ไม รูจะน ากลั วขนาดไหน อย าเอาชี วิตเล็ กๆ ไป
สังเวย ทวาปอมปราการมารแหงนี้ชางสมคำร่ำลือจริงๆ ถาหากไมใชเพราะคนของ
ตระกูลเยี่ยกวาดลางสองสามชั้นแรกไป อาศัยแคพวกเรา กวาจะมาถึงที่นี่ก็ไมรูวาตอง
สูญเสีญพลังไปเทาไหร” ฮัวเทียนฉีเตือนสติดวยสีหนาเครงขรึม
คนที่เหลือทั้งสามคนก็เอยสนับสนุนอยางตอเนื่อง
จากนั้นคนกลุมนั้นก็เริ่มหันกหายเดินไปตามทางเดินดานหลัง จากประสบการณ
ของพวกเขากอนหนา หลังจากที่เดินลงไปอีกยี่สิบสามสิบจั้ง แนนอนวาก็เขาไปสูอีก
ชั้นหนึ่งแลว
แตครั้งนี้ เดินมาแคสิบกวาจั้ง เบื้องหนาของพวกเขาก็มีแสงสวาวาบ คาดไมถึงวา
เบื้องหนาจะมีหองหินสี่เหลี่ยมขนาดไมใหญปรากฏขึ้น ดานในนอกจากเขตอาคมสง
ตัวเล็กๆ สีดำอันหนึ่งและสีขาวอันหนึ่งแลว กำแพงทั้งสี่ดานก็วางเปลาไมมีสิ่งใด
“นี่คือ?” ฮัวเทียนฉีพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วมุน
อาวุโสที่เหลือทั้งสามคนพลันมองสบตากัน สาวเทาเขาไปในหองหิน ฮัวเทียนฉีเอามือ
ไพลหลังพลางกวาดมองไปรอบๆ ดาน วนรอบเขตอาคมเล็กๆ สองวงนั้นสองรอบ
“ศิษยนองเหมียว เจาเชี่ยวชาญเรื่องเขตอาคมโบราณ ดูสิวาเขตอาคมสองเขตนี้
ใชเขตอาคมสงตัวระยะสั้นหรือไม” ในที่สุดฮัวเทียนฉีหันหนาไป เอยกับชายชราคิ้ว
หนาคนหนึ่งอยางราบเรียบ
“เขาใจแลว!” อาวุโสคิ้วหนาเอยตอบรับในทันที เดินไปเบื้องหนาเขตอาคม พลาง
พิจารณาอยางละเอียด อีกสองคนก็เดินเขามาดวยความสนอกสนใจเชนกัน
“เปนเขตอาคมสงตัวระยะใกลอยางแนนอน และยิ่งไปกวานั้นยังสั้นมาก เดาวา
ระยะทางคงจะไมเกินรอยลี้” หลังจากผานไปชั่วครู ชายชราคิ้วหนาก็เงยหนาขึ้นเอย
อยางมั่นใจ
“เชนนั้นก็ไมผิดแลว นาจะเปนเขตอาคมสงตัวไปที่ชั้นแปด คาดไมถึงวาชั้นที่แปด
จะตองใชเขตอาคมสงตัว ไมธรรมดาดังคาด เขตอาคมสงตัวนี้เปนเขตอาคมสงตัวสอง
ฝงสินะ?” หลังจากที่แววตาของฮัวเทียนฉีฉายแววเย็นเยียบ ก็เอยขึ้นอยางระมัดระวัง
“แนนอน ปกติแลวเขตอาคมสงตัวระยะสั้นจะมีทั้งสองฝง ทวาที่นี่มีเขตอาคม
สองอัน หรือวาชั้นที่แปดมีสองที่” ชายชราคิ้วหนาลูบคางไปมา พลางเอยอยางรูสึก
สงสัยใครรู
“ไมแนใจ ทวาเขาไปก็รูแลวมิใชหรือ! ไปดูในเขตอาคมสงตัวอันนี้กอนเถิด อีกอัน
ขารูสึกวา ไมคอยปลอดภัยนัก” ฮัวเทียนฉีชี้ไปที่เขตอาคมสงตัวสีขาว แลวสาวเทาเขา
ไปอยางไมลังเลแมแตนอย
คนที่เหลือทั้งสองมองไปที่เขตอาคมสลัวๆ อีกอันหนึ่ง แลวรูสึกวาใจเตนระรัว
เช น กั น ทั น ใดนั้ น ก็ อุ ท านว า ชั่ ว ร า ยในใจแล ว เดิ น เข า ไปในเขตอาคมส ง ตั ว สี ข าว
หลังจากที่รายอาคมสายหนึ่งโจมตีไปยังเขตอาคม ลำแสงสีขาวพลันสวางวาบ กลุมคน
ของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์หายตัวไปทามกลางลำแสง
แตครูตอมา หลังจากที่ฮัวเทียนฉีและพวกหมุนโคจรรอบหนึ่ง ก็มาปรากฏตัวใน
สถานที่ที่เหมือนกับโลกของเทพเซียนอยางไรอยางนั้น
ดานบนมีทองฟาสีครามพรอมกับเมฆสีขาว รอบดานเต็มไปดวยสมุนไพรวิเศษ
เมื่อสูดลมหายใจเขาไปเบาๆ กลิ่นอายวิญญาณที่หนาแนนก็โชยเขามา
แตสิ่งที่ทำใหคนของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ตกตะลึงจนอาปากคางก็คือ เบื้องหนาที่
อยูไมหางออกไปนัก มีวิหารขนาดเล็กสีทองเรืองรองอยูแหงหนึ่ง วิหารแหงนี้ต้ังอยูบน
เขตอาคมขนาดใหญ ในเวลาเดียวกันก็มีแทนบวงสรวงจำนวนมากหอมลอมอยู ทุกๆ
แทนบวงสรวงตางมีมนุษยหินขนาดยักษที่กำลังถือมีดขนาดยักษสีทองเอาไว ยืนหันไป
ทางวิหารอยางเงียบๆ และไมวาแทนบวงทรวงหรือวามนุษยหิน สิ่งปลุกสรางหยาบๆ
เหลานั้นตางเผยกลิ่นอายปาเถื่อนที่อธิบายไมถูกออกมา ยืนอยูตรงขามกับวิหารอยาง
เงียบเชียบ
สถานการณที่แปลกประหลาดเชนนี้ กระทั่งฮัวเทียนฉีเองก็ไมอาจหุบปากใหสนิทได
......
ในเวลาเดียวกัน หานลี่ยืนอยูบนจัตุรัสหยกขาวที่จากไปตอนแรก มองไปยังกลุมผู
บำเพ็ ญ เพี ยรรอบๆ ดานที่ ก ำลังจองเขม็ งมายั งตนเองด วยความเย็ น ชา จูๆ ก็ รูสึก
เสียใจในภายหลังเปนอยางมากขึ้นมา
บางทีการหลบอยูในหอหลอมวิญญาณไมยอมออกมา อาจจะเปนตัวเลือกที่ไมเลว
หรืออาจออกมาชาหนอย ก็จะไมตองมาพบคนจำนวนมากที่มาตอนรับตัวเองขนาดนี้
ผูใดใหเขาที่เพิ่งมาถึงที่นี่ และกำลังคิดจะเลือกบันไดหินอีกสายหนึ่ง ก็มีกลุมผู
บำเพ็ญเพียรกลุมใหญกระโดดออกมาจากตนไมทั้งสองฝงในจัตุรัสกันเลา คนเหลานี้
คาดไมถึงวาจะไมเดินไปตามทางเดินบนบันไดหินตามปกติ แตซอนตัวเดินอยูทั้งสอง
ฝงของบันไดหิน นี่จึงทำใหเขาที่ถูกจำกัดจิตสัมผัส กวาจะพบวาสถานการณผิดปกติ ก็
ตกอยูทามกลางฝูงชนเหลานี้แลว
“สหายหาน คิดไมถึงวาจะอยูที่นี่ บังเอิญไดพบทาน ชางเปนโชคของขาจริงๆ”
สตรีสวมชุดคลุมสีขาวที่มีเสนหเยายวนใจอยูตรงขามกับหานลี่ ดวงตาจองหานลี่เขม็ง
ดวยความเย็นชา พลางกัดฟนกรอดขณะเอย
สตรีผูนี้คาดไมถึงวาจะเปนธิดาเทพเทียนหลานหลินอิ๋นผิง!
คนอื่นๆ ก็คือชายหนุมสวมชุดสีขาวที่หานลี่รูสึกคุนหนา เกอเทียนเหาและชาย
ชราชุดดำอีกสองคน คนเหลานั้นกำลังลอมวงกันเปนครึ่งวงกลม ปดทางลงภูเขาเอาไว
ราวกับกลัววาหานลี่จะหนีลงไปอยางไรอยางนั้น
หานลี่ถอนหายใจออกมา ขบคิดวาหลังจากที่จบการประมูลแลว เขาก็เคยเอา
ยุทธภัณฑหยกบนรางของสตรีผูนี้มาเพื่อเอาไวสัมผัสการดำรงอยูของนาง แตเดิมก็
เพื่อใชปองกันตัวจากสตรีผูนี้ แตผานไปสองสามป ประสิทธิภาพของยุทธภัณฑชิ้นนี้
กลับหมดไปตั้งนานแลว มิเชนนั้นถาหากพบกับสตรีผูนี้ภายในสองป ก็ไมมีทางเกิด
เรื่องเชนนี้ขึ้นแน
“ขากลับคิดไมถึงเลยวา จะไดพ บกับธิดาเทพในสถานที่ เชนนี้ ชางโชคดีจริงๆ
สหายผูนี้ คือปรมาจารยเซียนชาวทูอูของพวกเจาสินะ!” หานลี่ขบคิดอยางรวดเร็ว แต
สีหนากลับไมเปลี่ยนแปลง หลังจากประสานมือคารวะหลินอิ๋นผิงแลว ก็หันหนาไป
เอยกับชายหนุมชุดขาวอยางเชื่องชา
สถานการณในตอนนี้สำหรับหานลี่ ในบรรดาคนเหลานี้มีเพียงปรมาจารยเซียน
ระดับกอกำเนิดขั้นปลายเทานั้นที่นากลัวที่สุด ถึงแมวาจะเผชิญหนากับผูบำเพ็ญเพียร
จำนวนมากขนาดนี้ แตเขาก็ยังคงสนใจคนผูนี้อยูหกเจ็ดสวน
“ผูแซสวีคือหนึ่งในสี่ปรมาจารยชาวทูอู ตอนแรกขานอยเคยพบกับสหายหาน
จากไกลๆ ทวานาเสียดายที่สหายไมยอมแลกเปลี่ยนความรูดวยเลยแมแตนอย ไม
ทราบวาตอนนี้พี่หานจะยอมแลกเปลี่ยนสักนิดหรือไม” ชายหนุมแซสวีมีสีหนาไร
ความรูสึก มองไปยังหานลี่ที่ยังออนเยาวเหมือนตนเอง พลางเอยออกมาทีละคำๆ
*วัวโคลนลุยทะเล เปนสำนวน หมายถึง หายสาปสูญไปอยางไรรองรอย
ตอนที่ 1014 พัดศัตรู
“ถาหากไมไดอยูในสถานการณ เชน นี้ ผูแซห านคงจะลองแลกเปลี่ยนกับพี่ สวี
อยางไมถือสาแนนอน แตตอนนี้หรือ?” หานลี่มองไปยังเกอเทียนเหาและพวก พลาง
สายศีรษะพรอมอมยิ้ม
“ออ! ฟงจากน้ำเสียงของพีห่ าน ดูเหมือนวาจะมั่นใจเปนอยางมาก ไดยินวาสหาย
สังหารอาวุโสชั้นสูงสุดของระดับกอกำเนิดขั้นกลางจากพรรคตาขายทมิฬไปคนหนึ่ง
ไมทราบวาเรื่องนี้เปนความจริงหรือไม?” ชายหนุมชุดขาวกลับไมโกรธเคืองเลยแมแต
นอย กลับเอยถามดวยความเยือกเย็น
เกอเทียนเหาและคนทั้งสามของพรรคตาขายทมิฬไดยินพลันหนาเปลี่ยนสี
“มาถึงขั้นนี้แลว ขานอยปฏิเสธไปก็ไรประโยชน มีอาวุโสพรรคตาขายทมิฬคน
หนึ่ง ถูกขาสังหารที่เทียนหนานจริงๆ หรือวาสหายสวีคิดจะออกโรงแทนพรรคตาขาย
ทมิฬ?” หานลี่หยักหมุมปากขึ้น เอยดวยแววตาเย็นชา
“จากพลังยุทธระดับกอกำเนิดขั้นกลาง สังหารผูบำเพ็ญเพียรในระดับปลายขั้นได
ไม ต อ งคิ ด ก็ รูแ ล ววาความสามารถของพี่ ห านนั้ น ไม ธรรมดา ถ าหากไม ใช เพราะมี
ความแคนฝงลึกกับเทียนหลานของพวกเรา ขานอยก็อยากจะคบคาสมาคมกับพี่หาน
จริงๆ เอาอยางนี้ก็แลวกัน ขานอยไดยินมาวาพี่หานเคยใชเตาเล็กๆ ประหลาดๆ เก็บ
เอาเตาศักดิ์สิทธิ์ที่สืบกันมาและรางแยกของอสูรศักดิ์สิทธิ์ของตำหนักเราไป ขอแค
สหายยอมมอบเตาใบนั้นใหขา ขานอยสามารถเปน ตัวกลางทำให วิห ารและสหาย
เปลี่ยนจากศัตรูเปนมิตรกันได และแนนอนวาถาหากพี่หานยอมเอาธงตาขายภูตผี
ออกมา ผูแซสวีจะพยายามแกไขความแคนของพรรคตาขายทมิฬให เปนอยางไร?”
ชายหนุมแซสวีจองเขม็งไปยังหานลี่ชั่วครู คาดไมถึงวาจะเอยเชนนี้ออกมา
“อะไรนะ จะเปนไปไดอยางไรพี่สวี เขา…”
“ธิดาเทพอยากลาวอะไรใหมากความเลย เรื่องนี้ขาจะจัดการเอง!”
หลินอิ๋งผิงหนาเปลี่ยนสี รีบรอนเอยปากคิดจะกลาวอะไร แตกลับถูกชายหนุมชุด
ขาวโบกมือไปมา ทำใหตองกลืนคำพูดที่ติดอยูที่ริมฝปากลงไป
ถึ ง แม ว า เก อ เที ย นเหาและพวกทั้ ง สามที่ อ ยู ด า นหลั ง จะตกตะลึ ง เช น กั น แต
หลังจากที่มองสบตากันแวบหนึ่งกลับเงียบกริบไมมีผูใดคัดคาน
“ตองการเตาสมบัติของขา ได โปรดอยาถือสาที่ ขาทำไมได! เหลาสหายลงมื อ
เถิด” ไดยินอีกฝายเอยถึงเตานภาสูญ หานลี่ก็ปฏิเสธไปอยางไมตองคิด
“ในเมื่อสหายหานปฏิเสธความหวังดีของผูแซสวี เชนนั้นก็อยามาโทษวาขานอยมิ
ปรานี”
ชายหนุมแซสวีเห็นหานลี่มีทาทีแข็งกราว ก็เผยสีหนาเสียดายออกมา แตทันใด
นั้ น ก็ มี สี ห น าเครงขรึม พลั น สะบั ด แขนเสื้ อ ในมื อ มี ห ยกสมประสงค สี เขี ย วมรกต
ปรากฏขึ้น
ภายใตการโบกสะบัดหยกสมประสงค ลำแสงสีเขียวเปนกลุมๆ ก็สวางวาบไม
หยุด จากนั้นชายหนุมก็มองไปยังหานลี่ดวยสีหนาเครงขรึม
หานลี่ เห็ น เช น นั้ น ก็ ไม ได ก ล าวอะไร สองมื อ พลั น ร ายอาคม แผ น หลั ง มี เสี ย ง
สายฟาฟาดดังขึ้น ปกสีเงินขาวคูหนึ่งปรากฏขึ้นที่ดานหลัง จากนั้นมือหนึ่งพลันพลิก
ฝามือ พัดที่ดูแปลกตาเลมหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ ลำแสงสีเทองสีเงินสีแดงทั้งสามสี
สวางวาบ
นั่นก็คือพัดตรีเปลวเพลิงที่หานลี่แอบกุมเอาไวในมืออยางลับๆ ตั้งนานแลว
เมื่อเผชิญหนากับคูตอสูจำนวนมากขนาดนี้ หานลี่ไมอาจใชวิธีการธรรมดาๆ มา
ตอกรได ดังนั้นจึงเอาสมบัติที่รายกาจที่สุดออกมาตั้งแตแรก
สายตาของชายหนุมแซสวีถูกลำแสงแปลกประหลาดของพัดตรีเปลวเพลิงดึงดูด
เอาไว จากสายตาของเขาแนนอนวามองออกวาพัดตรีเปลวเพลิงนี้ไมใชของธรรมดา
และยิ่งไปกวานั้นลำแสงวิญญาณสามสีก็แฝงไวดวยพลังกดดันที่นาหวาดกลัว ถึงแมวา
พลังยุทธของเขาจะอยูในระดับกอกำเนิดขั้นปลาย ก็ยังอดที่จะขมวดคิ้วไมไดแน ใน
ที่สุดสีหนาก็เครงขรึมขึ้น
“สหายสวี เจาเด็กผูนี้ก็มีความแคนกับพรรคตาขายทมิฬของพวกเรา พวกเราไม
จำเปนตองแลกเปลี่ยนฝมือกับมัน รุมจับมันใหไดก็พอแลว” เกอเทียนเหาเองก็มอง
ออกวาพัดตรีเปลวเพลิงนั่นไมธรรมดา หลังจากที่กลอกตาไปมา จูๆ ก็เอยเชนนี้ขึ้น
จากนั้นเขาก็ไมรอใหชายหนุมแซสวีไดกลาวอะไร กวักมือเรียกชายชราชุดดำอีก
สองคน ทั้งสามคนสาวเทายาวๆ เขามาและพนสมบัติอาคมตางๆ ของตัวเองออกมา
พรอมกัน กระบี่บินที่เปนเอกลักษณสองเลมรวมทั้งมีดกระดูกที่เปลงแสงสีเปลวเพลิง
แผดเผาเลมหนึ่ง หมุนโคจรอยูเบื้องหนาไมหยุด
หลินอิ๋นผิงหนาเปลี่ยนสี สะบัดแขนเสื้ออยางเงียบเชียบ ผาไหมที่ถักทอมาจากตัว
ไหมสีเงินผืนหนึ่ง ปรากฏขึ้นในมือ
ชายหนุมแซสวีขมวดคิ้ว แตกลับไมไดกลาวอะไรออกมา กลับพลิกฝามือสะบัด
หยกสมประสงคในมือเบาๆ ลำแสงสีเขียวเจิดจามายิ่งขึ้น นัยนตาที่จองเขม็งไปยังพัด
ตรีเปลวเพลิงของหานลี่พลันเย็นเยือกอยางหาที่เปรียบมิไดทันที
ชั่วพริบตาการลอมโจมตีของทั้งหาคนก็เริ่มขึ้น
แตหานลี่ที่เตรียมพรอมตั้งนานแลวจะปลอยใหตัวเองติดกลับไดอยางไร ทันใดนั้น
เสียงฟาผาพลันดังขึ้น คนก็สลายหายไปจากที่เดิมทามกลางลำแสงสีเงินทันที ชั่วครูก็
ปรากฏตัวบนบันไดหินดานหลังที่หางออกไปสิบกวาจั้ง
เมื่อเห็นสถานการณ เชนนี้ คนเหลานั้นจะปลอยหานลี่ไปงายๆ ไดอยางไร ชั่ว
ขณะนั้นลำแสงสีฟาสองสายรวมทั้งสายรุงสีเขียวสายหนึ่งก็พุงออกไปพรอมกัน ไลตาม
ลำแสงสีเงินที่กระจายอยูเต็มทองฟาไปติดๆ
แตชายหนุ มแซสวีกลับ สาวเท าไปขางหน าอย างไม รีบ รอ น อาภรณ ป ลิ วไสวดู
เหมื อ นว า จะเยื อ กเย็ น คนกลั บ ปรากฏตั ว ในจุ ด ที่ ห า งออกไปสิ บ จั้ ง อย า งแปลก
ประหลาด คาดไมถึงวาจะไมเชื่องชากวาอัสนีหลีกหนีของหานลี่เลยแมแตนอย ลำแสง
สีเขียวของหยกสมประสงคในมือของเขาพลันเลือนราง คาดไมถึงวาจะกลายเปนหัว
อสูรประหลาดนิรนามตัวหนึ่ง ดูเหมือนวาจะเปนมังกรวารีแตก็ไมใช ดูเหมือนจะเปน
อาชาแตก็ไมเชิง กำลังจองเขม็งมายังหานลี่
หานลี่สูดลมหายใจเขา สีหนาเย็นชาขึ้นในเวลาเดียวกัน พัดขนนกในมือสะบัดไป
ทางฝายตรงขามอยางรุนแรง
เสียงเพรียกของหงสดังสนั่น จากนั้นหงสเพลิงสามสีตัวหนึ่งก็ปรากฏขึ้น สะบัดปก
คูนั้นกระโจนเขาไปหาอีกฝาย ตรงเขาหาสมบัติอาคมของเกอเทียนเหาและพวก
เสี ย ง ‘ป ง’ ดั ง สนั่ น ขึ้ น ณ ชั้ น บรรยากาศเตี้ ย ในจั ตุ รัส อั ก ขระสามสี ที่ ลึ ก ลั บ
ปรากฏขึ้นกลุมแลวกลุมเลาไมหยุด ลำแสงนั้นไมไดนับวาเจิดจาจนแสบตาอะไร แตก็
ทำใหผูคนแทบจะหอบหายใจจากแรงกดดันมหาศาล ทำใหทุกคนอดที่จะรูสึกใจเตน
ระรัวไมได
พอดีกับที่ชายหนุมแซสวีซ่ึงอยูทามกลางลำแสงนั้นเอยปากวา “แยแลว” ออกมา
พอดี พลันโบกหยกสมประสงคในมือไปมาดานหนา อสูรประหลาดรางมังกรวารีหัว
อสูรนิรนามตัวหนึ่งก็พุงออกมาจากหยกสมประสงคในทันที หลังจากหมุนวนหนึ่งรอบ
พลันกลายเปนลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งแลวหอหุมรางของชายหนุมเอาไวในชั่วพริบตา
สวนกระบี่บินสองเลมและมีดบินเลมหนึ่งนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นทามกลางลำแสง แต
หลบหลี ก ไม ทั น พลางถู ก ห อ หุ ม เอาไว ข า งใน ส ว นผ าไหมสี เงิน ที่ ห ลิ น อิ๋ น ผิ งเป น ผู
ควบคุมอยูดานหลัง เมื่อสัมผัสกับลำแสงนั้น ก็หายลับไปในทันที ทวาลำแสงนั้นก็ยัง
ไมยอมหยุดพัด หดเล็กลงและขยายใหญขึ้นขณะพุงออกไป และขยายตัวออกไปทั่ว
ทุกสารทิศ ลำแสงนั้นเจิดจาจนแสบตา หยกสีขาวกวาครึ่งตางไดรับผลกระทบจากมัน
จนแตกเปนเสี่ยงๆ ทันใดนั้นผิวของมันก็เริ่มละลาย
อานุภาพเชนนี้ แรงกดดันขนาดนี้ ชางทำใหผูคนหนาเปลี่ยนสีจริงๆ
หานลี่แสรงทำเปนมองไมเห็นทุกอยาง ไมมีเจตนาจะหยุดอยูที่เดิมเลยแมแตนอย
ปกสีเงินกระพืออีกครั้ง กลายเปนประจุไฟฟาสีเงินสายหนึ่งสวางวาบอยางตอเนื่อง
ขณะบินขึ้นไปยังสวนยอดของภูเขา ในเวลาเดียวกันก็หยิบขวดเล็กๆ ออกมาระหวาง
ทางอยางรวดเร็ว เทของเหลววิญญาณหมื่นปหยดหนึ่งเขาไปในปาก
ถึงแมวาอานุภาพของพัดตรีเปลวเพลิงจะอัศจรรย แตเขาไมคิดวาอาศัยเพียงการ
โจมตีที่แทจริงของสมบัติช้ินนี้จะสามารถสังหารคนเหลานี้ในวงกวางได ภายใตการกัน
ไวดีกวาแก จึงทำใหคนเหลานี้เสียเปรียบเพียงเทานั้น และในขณะที่มีศัตรูหลายคนนั้น
แนนอนวาจึงหลบหลีกเอาไวกอนจะดีกวา
จะวาไปแลวก็บังเอิญ บันไดหินสายที่อยูใกลกับหานลี่มากที่สุด กลับเปนบันไดที่
ตรงไปสูวหิ ารคุนอู ถึงแมวาหานลี่จะรูสึกหวาดระแวงเล็กนอย แตก็ไมไดเลือกเสนทาง
อื่น ถึงแมวาเบื้องหนาจะมีมารเฒาเฉียนและผูบำเพ็ญ เพียรคนอื่นๆ เขาก็ตองถาม
ตัวเองวาขอแคอาศัยเขตตองหามและภูมิศาสตรของภูเขา ก็เพียงพอจะทำใหศัตรูตอง
รับมือมากขึ้นแลว
ดังนั้นภายใตอัสนีหลีกหนีของเขา ชั่วพริบตาก็วาบรางไปที่หัวบันไดหิน
ตรงจัตุรัส ลำแสงขนาดมหึมาสามสีปรากฏขึ้นเพียงพริบตาเดียว หลังจากสวาง
วาบก็สลายหายไป ตรงขอบของจัตุรัส กลับมีเกอเทียนเหาและพวกกลุมหนึ่งปรากฏ
ขึ้น ทุกคนตางมีทาทีจนจนตรอกอยางสุดๆ
คนที่โชครายที่สุดนั่นก็คือเกอเทียนเหา
มีดกระดูกเลมนั้นของเขา ถึงแมวาจะไมใชสมบัติอาคมประจำกาย แตก็เคยตั้งใจ
หลอมและเปนสมบัติที่เชื่อมโยงกับจิตสัมผัส ดังนั้นชั่วพริบตาที่ลำแสงหลอมละลาย
มีดกระดูก จิตสัมผัสของเขาก็ถูกทำลาย จนเกือบจะสงผลกระทบกับลำแสงหลีกหนี
ของเขาที่หนีออกมาจากอาณาบริเวณของลำแสง
แตในตอนนั้นเอง เขาก็ยังถูกลำแสงดานนี้กวาดผานไปเบาๆ ผลลัพธคือเกราะ
ปองกันลำแสงพลันแหลกสลายลงในทันที แขนไหมเกรียมไปขางหนึ่ง ทาทางไดรับ
บาดเจ็บไมนอย
กระบี่ บิ น ของชายชราชุ ด ดำทั้ ง สองนั้ น ต า งก็ ไม ได โชคดี เช น กั น แต ทั้ ง สองมี
ปฏิภาณไหวพริบรวดเร็ว ชั่วพริบตาที่พบความผิดปกติก็ตัดการเชื่อมโยงกับกระบี่บิน
ในทั น ที ดั ง นั้ น นอกจากเสื้ อ ผ า ครึ่ ง หนึ่ ง และเส น ผมที่ ก ลายเป น สี ด ำแล ว ก็ ล ว น
ปลอดภัยดี
จุดที่หลินอิ๋นผิงยืนอยูนั้นอยูไกลจากการระเบิดของลำแสงนั้นมากที่สุด บวกกับที่
เสน ไหมสีเงินเหลานั้นที่ ถูกทำลายไป แคท ำให สมบั ติชิ้น นั้ น สูญ เสีญ ไอวิญ ญาณไป
เล็กนอยเทานั้น จึงไมไดรับผลกระทบมากนัก และยิ่งไปกวานั้นเบื้องหนายังมีโลยักษสี
ดำสนิทนิรนามอยู จึงหลบอยูดานหลังของมัน
สวนชายหนุมแซสวีที่มีพลังยุทธสูงที่สุด ถึงแมวาจะอยูตรงใจกลางที่อานุภาพของ
พัดตรีเปลวเพลิงมีผลมากที่สุด ก็ยังคงอาศัยเกราะปองกันของหยกสมประสงคหนี
ออกมาได ดูแลวไมไดรับความเสียหายอะไรเลยสักนิด
แตปรมาจารยเซียนเทียนหลานผูนี้ กลับมีสีหนาดูไมไดอยางสุดๆ กมหนาลงมอง
สมบัติที่กำแนนอยูในมือของตัวเอง
เห็นเพียงหยกสมประสงค เริ่มมีลำแสงสีเขียวชั้นหนึ่งปรากฏออกมาจากรอยแตก
หลังจากมีเสียงแกรกดังขึ้น ก็กลายเปนผลึกกองหนึ่งรวงลงจากฝามือ เพื่อตานทาน
ลำแสงสามสี สมบัติโบราณชิ้นนี้ยังไมทันไดถูกกระตุนอานุภาพที่แทจริง ก็ถูกทำลาย
ทิ้งไปเสียแลว
“พัดเลมนั้นคือสมบัติอะไรกันแน? หรือวาคือสมบัติสะทานฟาในตำนาน?”
เกอเทียนเหากดความเจ็บปวดที่แขนเอาไว พลางรีบรอนหยิบของเหลววิญญาณ
ออกมาจากยามเก็บของแลวทาที่แผลไปพลาง เอยขึ้นดวยสีหนาตกตะลึงระคนโกรธ
เกรี้ยวไปพลาง
ชายชราชุดดำอีกสองคนเองก็มีสีหนาซีดขาวอยางหาที่เปรียบมิได ทาทางยังมี
ความหวาดกลัวหลงเหลืออยูในจิตใจ
“เหอะ หากเปนสมบัติสะทานฟาจริงๆ เกรงวาสหายเกอคงไมอาจมีชีวิตอยูไดถึง
ตอนนี้ นั่นนาจะเปนของลอกเลียนแบบสมบัติสะทานฟาใดสักชิ้นหนึ่ง คิดไมถึงวา คน
ผูนี้จะมีสมบัติประเภทนี้ดวย มินาละตอนที่เห็นพวกเรามีจำนวนมากขนาดนี้ ถึงไดมี
ทาทีไมรีบรอน” ชายหนุมแซสวีเงยหนาขึ้นมองจุดที่ไกลออกไปบนบันไดหิน เอยขึ้น
ดวยสีหนาโหดเหี้ยม
“ของลอกเลียนแบบมีอานุภาพขนาดนี้เลยหรือ?” เกอเทียนเหาพลันตกตะลึง
“นั่นมันแปลกอะไร พัดเลมนั้นนาจะมีอานุภาพดานเดียว เปนของลอกเลียนแบบ
ที่ไมไดเปลี่ยนแปลงอะไร มีอานุภาพแคนี้ ไมเพียงพอใหเรียกวามหัศจรรย” ชายหนุม
สายศีรษะขณะเอย
“ทำอยางไรดี คนผูนี้มีสมบัติวิญ ญาณวิเศษขนาดนี้ จัดการยากกวาที่ พ วกเรา
คาดการณเอาไว ตองตามเขาไปหรือไม?” ชายชราชุดดำคนหนึ่งแววตาเปลงประกาย
ขณะเอย เห็นไดชัดวาอานุภาพของพัดเลมนั้นทำใหเขารูสึกอยากถอยกลับ
“สหายโปรดวางใจ ถึ งแม วาพั ด เล ม นั้ น จะทรงพลั ง แต ล มปราณที่ สู ญ เสี ย ไป
จะตองไมนอยเลยแนนอน มิเชนนั้นเขาคงไมหันหลังหนีไปขนาดนัน้ ขอแคตามเขาทัน
ตอนที่ลมปราณของคนผูนี้ยังไมฟนฟู ก็ไมอาจใชพัดเลมนั้นไดงายๆ แลว ตอนนี้ถึงจะ
เปนโอกาสที่ดีที่สุดในการสังหารคนผูนี้” เกอเทียนเหาเอยอยางราบเรียบ ทันใดนั้น
มือหนึ่งพลันตบไปที่ยามเก็บของ ลำแสงหาสีกลุมหนึ่งพุงออกมา หลังจากหมนแสงลง
แลว นกยูงหงอนวิญญาณก็ปรากฏขึ้นพรอมกับเปลงเสียงรองคำราม
“ขึ้นไป ครั้งนี้ปลอยคนผูนี้ไปไมไดจริงๆ เชนนั้นวันขางหนาก็จะมีหายนะเขามา
อยางไมมีที่สิ้นสุด!” สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง ชายหนุมสวมชุดสีขาวเอยดวย
น้ำเสียงเย็นชา
จากนั้นเขาก็บินขึ้นไปตามบันไดหินตามลำดับ นกยูงหาสีสยายปกคูนั้นออกพลาง
บินตามไปติดๆ
ตอนที่ 1015 ราชสีหทองสัมฤทธิ์
หลินอิ๋นผิงตามชายหนุมแซสวีไปติดๆ อยางไมลังเล สำหรับธิดาเทพเทียนหลาน
นั้ น ทั้ งๆ ที่ รูความน ากลั วของหานลี่ ในวัน นี้ ก็ ต อ งช วยรางแยกของอสู รศั กดิ์ สิท ธิ์
ออกมาใหได
เกอเทียนเหาและผูบำเพ็ญ เพียรทั้งสามคนของพรรคตาขายทมิฬกลับมีสีหนา
เครงขรึมสลับกับสดใสไมแนนอน
แตเดิมพรรคสายมารก็เปนพวกใจจืดใจดำชั่วรายอยูแลว สาเหตุที่พวกเขาลงมือ
อยางไมลังเล แนนอนวาเพราะคิดวามีผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายคอย
บัญชาการอยู และจะสามารถจัดการหานลี่ไดอยางงาย
แตคิดไมถึงวาสมบัติในมือของอีกฝายจะรายกาจขนาดนี้ อาศัยเพียงอานุภาพของพัด
แมแตปรมาจารยเซียนเทียนหลานผูนั้นก็ยังหนาเปลี่ยนสีขณะหลบหลีกลำแสงนั้น
ถึงแมคำพูดของปรมาจารยเซียนผูนี้จะนาฟง อีกฝายก็อาจจะมีเพียงพลังโจมตี
เทานั้น แตก็เปนเพียงแคความเปนไปไดหนึ่งเทานั้น หากบีบใหอีกฝายใชเคล็ดวิชาลับ
ฝนกระตุนพลังของพัดนั้นอีกสองสามครั้ง พวกเขาสามคนก็ไมมั่นใจวาจะตานทานอีก
ครั้งไดห รือไม และยิ่งไปกวานั้นฟงจากคำพู ดเมื่ อครู อีกฝายก็ดูเหมือนวาจะมี เตา
สมบัติที่รายกาจยิ่งกวาอีกชิ้น
นี่จึงทำใหทั้งสามคนยิ่งเริ่มรูสึกกังวลขึ้นมา ถึงแมวาพวกเขาจะอยากไดความดี
ความชอบจากการชิงธงตาขายภูตผีคืนมา แตถาหากตองเอาชีวิตนอยๆ เขาไปเสี่ยง
พวกเขาทั้งสามคนก็ไมยินยอม แตเมื่ออยูตอหนาคนของทุงหญาเทียนหลานแลวจะไม
ยอมไลตามไป ก็ดูเหมือนวาจะเปนไปได
เวลานั้นทั้งสามคนจึงพากันครุนคิด
“ไป พวกเราขึ้นไปกันเถิด แตก็อยาไปปะทะกับเจาคนแซหานผูนั้นตรงๆ พวกเรา
ชวยเหลืออยูขางๆ ก็พอแลว ขอแคไมปะทะกับพัดเลมนั้นจริงๆ หลบใหไวหนอย ก็
นาจะไมเปนไร” ในที่สุดเกอเทียนเหาก็ตัดสินใจ เอยกับอีกสองคนดวยน้ำเสียงแผว
เบา
หลังจากที่ชายชราชุดดำทั้งสองลังเลเล็กนอย ก็ทำไดเพียงพยักหนา
ดังนั้นทั้งสามคนจึงบินตามไป
บั น ไดหิ น ที่ มุ งไปสู วิห ารคุ น อู นั้ น ทอดยาวเป น อย างมาก ถึ งแม ว าหานลี่ จ ะไม
เสียดายพลังของอัสนี ก็ยังตองใชเวลาไปถึงหนึ่ งมื้ออาหารเต็มๆ หลังจากรางกาย
กะพริบวาบราวกับเปนประจุไฟฟาคราหนึ่ง ในที่สุดก็เดินออกมาจากบันไดหิน หยุดลง
ที่เบื้องหนาปาหินที่กวางใหญ
พู ดถึงป าหิ น มัน เป น แคเสาหิ น ธรรมดาๆ สูงสองสามจั้งที่ ตั้ งตระหงานอยู บ น
พื้นดินเทานั้น ผิวของเสาหินเหลานี้มีการแกะสลักบางๆ มันสลักอักขระและคำสาป
เอาไว แลวยังมีลำแสงวิญญาณหลากสีสันจางๆ สวางวาบ เห็นไดชัดวาปาหินนี้คือเขต
อาคมตองหามแหงหนึ่ง
ทวาเสาที่ควรอยูอยางสมบูรณ ในครานี้ลวนเอนเอียงงอนแงน และมีจำนวนไม
นอยที่เหลือเพียงซากปรักหักพังเพียงครึ่งหนึ่ง บนพื้นจึงมีเศษหินกระจัดกระจายอยู
เต็มไปหมด มีกอนหินและหลุมนอยใหญ
คาดไมถึงวาเขตอาคมนี้จะถูกคนใชพลังที่ปาเถื่อนทำลายลงไปตั้งนานแลว
หานลี่แคกวาดสายตามองภาพฉากนั้นแวบหนึ่ง แลวหายเขาไปในปาโดยไมได
กลาวอะไรออกมาแมแตคำเดียว
ปาหินนี้มีใหญ นัก หลังจากสวางวาบสองสามครั้ง คนก็มาปรากฏตัวที่อีกดาน
ทวาเบื้องหนากลับมีเนินหินลาดเอียงสายหนึ่งปรากฏขึ้น
เนินหินนี้ลวนสรางขึ้นจากศิลาสีเขียวขนาดใหญ บนเนินหินก็มีรูปปนหิน และมี
อาวุธประเภทขวานดามยาวและขวานศึกอะไรพวกนี้วางอยูอยางระเกะระกะ
หานลี่ ข มวดคิ้ ว แต จู ๆ ก็ เงยหน า ขึ้ น มองไปยั ง ปลายของเนิ น ลาดเอี ย งตาม
จิตสำนึก
เห็นเพียงบนแทนบูชาที่ดูเหมือนวาจะอยูหางออกไปรอยกวาจั้ง มีลำแสงสวาง
วาบอยู และบางครั้งก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น ราวกับวามีคนกำลังตอสูกันอยูขางใน
“หรือวามารเฒาเฉียนและคนอื่นๆ กำลังลงมือกัน”
หานลี่ใจเตน ใชเคล็ดวิชาตัวเบาพลางมุงเขาไปหาแทนบูชา ในเวลาเดียวกันก็เก็บ
กลิ่นอายบนราง หลังจากที่รางกายพลิ้วไหวสองสามครั้งก็เลือนหายไป และในที่สุดก็
สลายหายไปอยางไรรองรอย
ภายใตการจงใจอำพรางกายของหานลี่ ในที่สุดคนก็เหยียบย่ำอยูบนจัตุรัสหยก
ขาวที่กวางใหญมากกวาเดิมสองสามเทา แตหลังจากที่มองเห็นสถานการณเบื้องหนา
อยางชัดเจน หานลี่กลับตกตะลึง
เห็นเพียงมานลำแสงสีขาวโพลนขนาดมหึมา เงารางสีขาวหาสาย เงาสีเหลืองสายหนึ่ง
เงาสีเขียวสองสาย กำลังโรมรันกันอยางดุเดือด
แนนอนวาเงารางสีขาวหาสายนั่นคือรางแยกหามารใจเดียวของมารเฒาเฉียน ทุก
ตัวลวนพนไอสีเทาออกมา อาปากแยกเขี้ยวยิงฟน
สวนเงาสีเขียวนั้นกลับเปนผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนคนหนึ่ง รางกายมีกระดูกวง
แหวนสีขาวยักษพันอยู ดานบนเปลงแสงสีเหลืองเรืองรองออกมา บางครั้งก็มีไอสีเทา
เขามาโจมตี หลังจากลำแสงสีเทาสวางวาบ ก็หายลับไป สองมือของผูบำเพ็ญเพียรวัย
กลางคนเองยังควบคุมกระบี่บินสีแดงเหลืองเลมหนึ่งเอาไว และพยายามตานทานการ
โจมตีของหามารใจเดียว
เงารางสีเขียวสองสายกลับเปนราชสีหทองสัมฤทธิ์ยักษสูงสองสามจั้งสองตัว ไล
ตามหามารใจเดียวและผูบำเพ็ญ เพี ยรวัยกลางคนพลางกระโจนเขาไปกัดกระชาก
อยางไมหยุด การเคลื่อนไหวรวดเร็วดุจสายฟ า บางครั้งที่อาปากออกมา ก็พนเสา
ลำแสงสีเขียวขนาดหนาเทาปากชามสายแลวสายเลาออกมา ดูเหมือนวาจะมีอานุภาพ
ที่ไมนอยเลย
ถึงแมวาหามารใจเดียวหรือวาผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนตางก็ไมคอยสนใจการ
โจมตี ระยะไกลของราชสีห ท องสัม ฤทธิ์นั ก แตก ลับ หวาดกลัวเมื่ อ อสู รตนนี้ เข ามา
ประชิดตัว รางกายพลิ้วไหวอยางสุดๆ พยายามไมกลาปลอยใหอสูรหุนเชิดสองตัวนี้
เขาใกล หากหลบไมพนแลวจริงๆ ก็มีเพียงตองลมเลิก และโจมตีอสูรตนนี้แลว
แตราชสีหทองสัมฤทธิ์สองตัวนี้เปลงแสงสีเขียววิบวับ ราวกับวาฟนแทงไมเขา ไม
วาจะถูกไอสีเทาหรือวากระบี่โจมตีนอกจากถอยรนไปสองสามกาว ก็ไมไดรับบาดเจ็บ
เลยสักนิด
แสงสีขาวสายนี้คอนขางแปลกประหลาด บนผิวของมันคาดไมถึงวาจะมีประจุ
ไฟฟาสีเงินสวางวาบ ไมวาผูใดเมื่อเขาใกลเขตแดน มานลำแสงมีเสียงฟารองดังขึ้น
ทันที ประจุไฟฟาโจมตีลงมาพรอมกันราวกับหาฝน
ถึงแมจะดูเหมือนวาหามารใจเดียวและผูบำเพ็ญ เพียรวัยกลางคนที่มีวงแหวน
กระดูกประหลาดพันรอบรางกายจะรับประจุไฟฟานั้นไดอยางไมมีปญหาเลยแมแต
นอย แตผูใดก็ไมอยากรับการโจมตีที่รุนแรงนั้นอยางเปลาประโยชน
เชนนั้น ทำใหการตอสูในมานลำแสงรอนแรงมากยิ่งขึ้น
“นี่คืออะไรหรือ หรือวาเปนการตอสูกับอสูร?” หานลี่มองเห็นภาพฉากนั้น ก็อด
ที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งไมได
เขามองปราดเดียวก็ดูออกวา ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนอยูแคระดับกอกำเนิดขั้น
กลาง ถาหากไมอาศัยวงแหวนกระดูกประหลาดชิ้นนั้นปกปองรางกาย คงถูกหามาร
ใจเดียวที่เขาใกล ดูดโลหิตจนเกลี้ยงไปตั้งนานแลว สวนราชสีหทองสัมฤทธิ์ยักษสอง
ตัวที่ดูเหมือนจะดุรายเปนพิเศษนั้น แตถึงอยางไรเสียขอแคทั้งสองคนไมมีใครควบคุม
หุนเชิด ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนและมารเฒาเฉียนก็ไมอาจแบงความสนใจมาที่พวก
มันแลว มิเชนนั้นหากชะลอความเร็วลง หนึ่งในสองคนนั้นก็จะจัดการพวกมันไดอยาง
งายดาย
เมื่อขบคิดเชนนั้น หานลี่ก็กวาดสายตามองไปทั้งสองฝง
มานลำแสงผืนนี้แทบจะหอหุมทั้งแทนบูชาเอาไว ทั้งสองฝงของแทนบูชามีลำแสง
สวางวาบ เห็นไดชัดวามีเขตอาคมที่รายกาจอื่นอีก ทำใหไมมีใครขามผานไปได
ดวยเหตุนี้เอง คาดไมถึงวาหานลี่จะถูกปดทางเอาไว
แตเมื่อเขามองไปเบื้องหนา กลับพบวาดานหลังของมานลำแสงมีประตูขนาดยักษ
อยูบานหนึ่ง ราวกับวาเปนทางเขาของวิหารคุนอู
หานลี่ขมวดคิ้วอยางไมใสใจ
แนนอนวาเขาไมยอมหยุดอยูแคนี้แน มิเชนนั้นเวลาตอมา ชายหนุมแซสวีและ
พวกก็จะตามมาทัน
เขาสะบัดแขนเสื้อเบาๆ ดวยสีหนาราบเรียบ ชั่วขณะนั้นพัดตรีเปลวเพลิงที่ซอน
อยูในแขนเสื้อก็ปรากฏขึ้นในมืออีกครั้ง
เขาเตรียมจะอาศัยอานุภาพของพัดเลมนี้ ทลายเขตอาคมชั่วคราว จากนั้นก็ทะลุ
ผานมานลำแสงเขาไปอีกดานหนึ่งดวยความรวดเร็วดุจสายฟา ถึงแมวาจะถูกทั้งสอง
คนที่กำลังตอสูก ันในมานลำแสงพบเขา แตอันตรายแคนี้ไมเสี่ยงไมได ที่นี่ไมใชสถานที่
ที่เหมาะสมใหเขาและคนอื่นๆ สูรบกันอยางแนนอน
ในตอนที่หานลี่สูดลมหายใจเขาไปลึกๆ เฮือกหนึ่ง ตอนที่กำลังคิดจะใสลมปราณเขา
ไปในพัด คาดไมถึงวาจะหันหนาไป มองไปทางเนินหินยักษกอนหนึ่งที่อยูบนแทนบูชา
ในเวลาเดียวกันใบหนาก็เผยสีหนาตกตะลึงระคนสงสัยออกมา!
หรือวารูสึกไปเอง เหตุใดเขาถึงสัมผัสไดวาตรงนั้นเหมือนจะมีคลื่นพลังวิญญาณ
ประหลาดๆ อยู แตคลื่นพลังนี้ชางเบาบางจริงๆ ถาหากไมใชเพราะเขาอยูในสถานที่
อันตรายจนตองแผจิตสัมผัสทั้งหมดของตัวเองออกมา เกรงวาจะไมมีทางพบไดเลย
แมแตนอย
ในขณะที่กำลังสงสัย ชั่วขณะนั้นรูมานตาของเขาก็เปลงแสงสีฟาสวางวาบ ใช
ความสามารถของเนตรวิญญาณวารีกระจางออกไปตามสัญชาตญาณ
ผลลัพธคือหานลี่มองเห็นดวงตาปศาจสีแดงออนคูหนึ่งกลางอากาศเหนือกอนหิน
“ยักษปกเงิน!” ภายใตความตกตะลึง ชั่วพริบตาเขาก็จำเจาของดวงตาปศาจคู
นั้นได ทันใดนั้นก็ใสลมปราณในรางเขาไปในดวงตาทั้งสองขาง
ในที่สุดภายใตความสามารถของเนตรวิญญาณที่เพิ่มขึ้น หานลี่ก็มองเห็นเงาทมิฬ
ที่เลือนรางกลุมหนึ่งซึ่งอยูดานหลังดวงตาสีแดง นั่นก็คือรางของยักษปกเงินที่ซอนตัว
อยู แตปศาจตนนี้ไมไดมองมาทางหานลี่ แตจองเขม็งไปยังสถานการณ การตอสูใน
มานลำแสงเขม็ง ดูจากทาทางแลวเปนเพราะวาเขตอาคมของภูเขาและเคล็ดวิชาเก็บ
ลมปราณนิรนามของหานลี่สูงสง คาดไมถึงวาจะไมพบการดำรงอยูหานลี่
ทวาหานลี่ก็ไมไดสบายใจกับเรื่องนี้ แตกลับรูสึกจิตใจหนักอึ้ง
เพราะวาขางกายเงาทมิฬของยักษปกเงิน คาดไมถึงวาจะมีเงารางลางเลือนอีกสองราง
เขาเปดความสามารถทั้งหมดของเนตรวิญ ญาณ แตกลับไมมีท างมองเห็ น อะไรได
ชัด เจน แค สั ม ผั ส ได วาหนึ่ งในสองตั วนั้ น ดู เหมื อ นวาจะเป น อสู รวิห คราชสี ห ที่ เคย
ปรากฏตัวครั้งหนึ่งตรงตีนเขา อีกตัวถึงแมวาจะมีรางเปนมนุษย แตกลับไมคุนหนาเลย
ปศาจเหลานี้คาดไมถึงวากำลังลอบโจมตีอยูที่นี่ และยิ่งไปกวานั้นยังดูเหมือนวา
จะรวมมือกันดวย หรือวาพวกมันสนใจสมบัติอะไรสักอยางในวิหารคุนอู? ความคิด
ของหานลี่เคลื่อนไหวอยางรวดเร็วดุจสายฟา
ในตอนนั้นเอง จูๆ หานลี่ก็ชักสีหนา รีบรอนหันกลับไปมอง
เห็นเพียงในปาหินดานลางเนินหินมีลำแสงสวางวาบ ชายหนุมแซสวีและพวกเดิน
ออกมาจากปาหินแลว กำลังจะตามเขาทัน
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ หานลี่ก็ไมลังเลอีก พัดวิญญาณในมือสงเสียงออกมา
ถูกเปลวเพลิงสามสีชั้นหนึ่งหอหุมเอาไว จากนั้นสมบัติพัดก็ดูราวกับกลายเปนกระบี่
และมีดสับลงไปบนมานลำแสงอยางเงียบเชียบ
หลังจากเสียง ‘ปง’ ดังสนั่นขึ้น ถึงแมวาหานลี่จะสามารถควบคุมอานุภาพของ
พั ด เล ม นี้ ได แต ชั่ วพริบ ตาที่ เปลวเพลิ งสามสี แ ละเขตอาคมสั ม ผั ส กั น นั้ น ก็ ร ะเบิ ด
ลำแสงที่เจิดจาจนแสบตาออกมา
ไมวายักษปกเงินและปศาจทั้งสามตนที่ลอบโจมตีอยูดานหลังกอนหิน หรือวามาร
เฒาเฉียนและผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนที่กำลังตอสูกันอยางดุเดือดในมานลำแสง ตาง
ก็มองมาทางหานลี่ดวยความตกตะลึง
เมื่อเผยรองรอยออกมาแลว หานลี่เองก็ไมไดปดบังอะไรอีก กระโจนเขาไป คน
กลายเปนสายรุงสีเขียวที่แสบตาสายหนึ่งบินเขาไปในรูที่เพิ่งแหวกออกมา ตรงไปหา
มานลำแสงอีกดาน
ภายใตสถานการณที่ฝนดึงลมปราณออกมาตานทานกับเขตอาคมหามเหาะเหิน
นั้น สายรุงสีเขียวก็ดูเหมือนกับสายฟา! ชั่วพริบตาก็บินออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง แฉลบ
ผานใจกลางของแทนบูชาไป
“บังอาจ!” มารเฒาเฉียนตะโกนออกมาดวยความโกรธเกรี้ยว เงาสามเงาของหา
มารใจเดียวที่กำลังลอมโจมตีผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนแวบหายไป คาดไมถึงวาจะ
หายลับไปจากที่เดิม
ครูตอมา พวกมันคาดไมถึงวาจะมาปรากฏตัวเบื้องหนาของหานลี่อยางแปลก
ประหลาด ดวงตาที่เย็นเยียบทั้งหกขางถลึงตาใสหานลี่พรอมกัน
“ไสหัวไป!” หานลี่ตะโกนออกมาเสียงดังทามกลางลำแสงสีเขียว ทันใดนั้นเสียง
ฟาผาก็ดังขึ้น ประจุไฟฟาหนาๆ สายหนึ่งก็ดีดออกมาจากลำแสงหลีกนี หลังจากหมุน
วนหนึ่งรอบก็กลายเปนมังกรวารีสายฟาสีทอง กระโจนเขาใสเงารางสีขาวสามเงา
“อัสนีเทวาปดเปาภยันตราย!”
เมื่อเห็นประจุไฟฟาสีทอง มารเฒาเฉียนก็เปลงเสียงดวยความตกตะลึงระคนโกรธ
เกรี้ยวออกมา คาดไมถึงวาเขาจะรูจักอัสนีเทวาปดเปาภยันตราย
รางแยกมารทั้งสามที่แตเดิมกำลังพนไอมารออกมาตานทานหานลี่ รางกายแวบ
หายไปอยางรอนรน แลวหายไปจากที่เดิมอีกครั้ง
ชั่วครูมังกรวารีสีทองโจมตีไปยังอากาศ สายรุงสีเขียวจึงถือโอกาสนี้ เปลงแสง
สวางวาบแลวแฉลบผานตรงนั้นไป ชั่วครูก็พุงไปใกลๆ อีกดานของมานลำแสง
ตอนที่ 1016 แรงกดหมื่นชัง่
เมื่อมานลำแสงที่อยูตรงขามสัมผัสไดวาหานลี่เขามาใกลแลว เสียงฟารองก็ดังขึ้น
คราหนึ่ง ประจุไฟฟาที่หนาแนนพลันพุงลงมาดานลางพรอมกัน
ปากของหานลี่เปลงเสียงรองต่ำๆ ออกมา กระโจนขึ้นไปบนหลังของมังกรวารี
สายฟาสีทอง เสียงปงๆ ของการระเบิดดังขึ้น
ชั่วขณะนั้นตาขายยักษสีทองผืนหนึ่งพลันปรากฏขึ้น ชั่วครูก็หอหุมและปกปอง
รางของหานลี่เอาไว
ประจุไฟฟาสีเงินทั้งหมดโจมตีไปยังตาขายสีทอง แลวหายวับไปอยางเงียบเชียบ
“หานลี่ เปนเจา!”
“ทานอาวุโสหาน!”
เมื่อลำแสงหลีกหนีของหานลี่หมนแสงลง หลังจากที่รางปรากฏตัวขึ้น มารเฒาเฉียน
และผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนสองสามคนก็รองอุทานออกมาพรอมกันดวยความตก
ตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว
หานลี่ไดยินแลวพลันตกตะลึง อดที่จะหันไปเหลือบมองผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมวัย
กลางคนผูนั้นแวบหนึ่งไมได เห็นเพียงอีกฝายมีสีหนาตกใจ แตเขากลับไมรูจัก
ในขณะที่กำลังรูสึกแปลกใจ แตการเคลื่อนไหวในมือของเขากลับไมหยุดชะงัก
เลยแมแตนอย ทามกลางเสียงรองของหงส พัดตรีเปลวเพลิงก็ปลอยการโจมตีเปน
ลูกไฟสามสีออก ชั่วพริบตาที่เห็นวามานลำแสงเบื้องหนาถูกโจมตีจนเกิดเปนรูขนาด
ใหญ จากนั้นรางกายก็แวบหายไปขณะยืนอยูดานนอกมานลำแสง
เวลานี้ เขาถึงไดผอนคลายลงพลางกันกลับไปมองดานหลังอีกครั้ง
ที่ดานนอกมานลำแสงอีกดาน รางของชายหนุมแซสวีและหลินอิ๋นผิงกลับเพิ่งจะ
ปรากฏขึ้นบนแทนบูชา เมื่อเห็นหานลี่ปรากฏตัวที่อีกดานของเขตอาคม ทั้งสองก็มีสี
หนาดูไมได
หานลี่เห็นเชนนั้น กลับหัวเราะหึๆ อยางเย็นชาออกมา
“ในเมื่อมากันมากขนาดนี้ เชนนั้นผูแซหานก็จะหาอะไรใหทุกทานทำสักหนอย
จะไดไมวางกันเกินไปนัก” จูๆ หานลี่ก็เอยคำพูดประหลาดๆ ออกมา จากนั้นพลันดีด
นิ้วอยางตามอำเภอใจ ประจุไฟฟาสีทองพุงออกมาทามกลางเสียงฟาผา
เมื่อกระทบกับประจุไฟฟาสีเงินอื่นๆ บนมานลำแสง ประจุไฟฟาสีทองก็จมหาย
เขาทามกลางเสียงครืนๆ อยางไรรองรอย แตครูตอมา กลับพุงออกมาจากมานลำแสง
อีกดาน
หลังจากเสียง ‘ปง’ ดังขึ้น ประจุไฟฟาสีทองพลันโจมตีไปยังกอนหินบนแทนบูชา
ที่ไมสะดุดตาอยางรวดเร็วดุจสายฟา ผลลัพธคือเสียงหึดวยความเย็นชาดังขึ้นทันที ชั่ว
ครูรางของยักษปกเงิน อสูรวิหคราชสีห และยังมีฮูหยินอัปลักษณที่รูปรางอวบอวน
ราวกับถังน้ำพลันปรากฏขึ้น
“อสูรวิหคราชสีห!” เมื่อชายหนุมแซสวีเห็นสามปศาจ มองไปปราดเดียวก็จำอสูรวิหค
ราชสีหที่โหดเหี้ยมเปนเอกลักษณไดทันที พลันรองอุทานออกมาพรอมกับใจหายวาบ
หลินอิ๋นผิงและพวกไดฟง ก็ใจเตนระรัว ตั้งทาเตรียมปองกันตัวทันที
“ทานอาวุโส!”
จากนั้นเกอเทียนเหาและพวกที่เพิ่งมาถึงกลับมองเห็นหามารใจเดียวที่อยูในมาน
ลำแสง ก็อดที่จะรูสึกดีอกดีใจไมได
ปศาจทั้งสามที่ถูกการโจมตีบีบใหตองเผยรองรอยออกมาพากันกลัดกลุมอยางหา
ที่เปรียบมิได ยักษปกเงินยิ่งจำศัตรูผูที่เกือบจะเอาชีวิตของตนไปไดอยางหานลี่แมน
เมื่อเห็นวาเขาทำใหแผนการของตัวเองพังลง ก็อดที่จะกนดาในใจไมหยุดไมได ใน
เวลาเดียวกันพลันรูกลัดกลุมอยางสุดๆ เหตุใดอีกฝายถึงมองทะลุผานเคล็ดวิชาซอน
ตัวในพายุของเขาได นี่จึงทำใหมันรูสึกเปนฝายถูกกระทำอยูเรื่อย
ตอนนี้ สามปศาจตกอยูในการจับตามองของชายหนุมแซสวีดวยสีหนาเครงขรึม
ในใจรูสึกยุงยาก
พวกมันไมไดกลัวผูบำเพ็ญเพียรจำพวกมนุษยเหลานี้จริงๆ เพียงแตคิดจะปลอย
ใหผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้ทลายเขตอาคมตองหามแทนพวกมันก็เทานั้น ทวาเวลานี้กลับ
ถูกอีกฝายพบการดำรงอยูของตัวเอง ยามนี้จึงรูสึกวาไมรูจะจัดการอยางไรดี
หลังจากที่ชายหนุมแซสวีกวาดสายตาไปที่ยักษปกเงินและฮูหยินอัปลักษณแลว
ในใจเหมือนกับมีคลื่นพายุหมุนวน รูสึกตกตะลึงอยางสุดๆ
ไอมารบนรางของปศาจแปลงกายทั้งสองนาตกตะลึงจริงๆ คาดไมถึงวาจะไมได
ดอยไปกวาอสูรวิหคราชสีหเลย นี่จึงทำใหชายหนุมที่คาดคะเนกำลังที่แทจริงของทั้ง
สองฝายไดแลว อดไมไดที่จะรองอุทานอยางขมขื่นออกมาและไมกลาลงมืองายๆ
ส ว นมารเฒ า เฉี ย นและชายชราตระกู ล เยี่ ย ที่ อ ยู ท า มกลางลำแสง เมื่ อ เห็ น
สถานการณเปลี่ยนแปลงไปก็คิดจะหยุดมือ แตราชสีหทองสัมฤทธิ์สองหัวก็กระโจนไล
ตามมาไมหยุด ทามกลางความจนปญญาของพวกเขาจึงทำไดเพียงรับมือไปพลาง เริ่ม
ดึงระยะหางดวยความระแวดระวังไปพลาง
คาดไมถึงวาแตละฝายตางก็พะวาพะวงพลางยืนกรานไมยอมออนขอใหกันอยูที่นี่
หานลี่กลับไมไดสนใจสถานการณความยุงเหยิงเหลานี้ รางกายแวบหายไป พุง
ตรงไปดานหลัง ในเมื่อมีโอกาสดีในการแยงชิงสมบัติกอนเชนนี้ แนนอนวาเขานั้นไมมี
ทางเกรงใจแน
หลังจากที่รอนลงมาแลว ก็ยืนอยูเบื้องหนาประตูภูเขาที่สรางขึ้นจากหยกสีเขียว
มรกตที่ดูประณีตงดงาม
ประตูนี้กลับดูแปลกประหลาด นอกจากตนไมขนาดใหญนิรนามที่ขึ้นอยูตามสอง
ฝงแลว คาดไมถึงวาไมมีของสิ่งอื่น รอบๆ ดานลวนวางเปลา
เมื่อขามผานประตูบานนั้นมา เดินมาตามทางเดินหินสีขาวมรกตที่อยูตรงกลาง
สายหนึ่ ง ในระยะพั น กวาจั้งก็ม องเห็ น วิห ารยักษ ที่ ดูแ ปลกตา ดู เหมื อ นวายิ่ งใหญ
มโหฬารมาก
“นี่ ค งเป น วิห ารคุ น อู สิ น ะ!” หานลี่ เอ ย พึ ม พำ หลั งจากลั งเลเล็ ก น อ ย ก็ ก วาด
สายตาไปรอบๆ อีกครั้ง ในที่สุดก็ตกลงบนตนไมยักษที่อยูทั้งสองฝง
ตนไมยักษเหลานี้ตางมีความสูงประมาณยี่สิบสามสิบจั้ง ไมวาจะเปนกิ่งกาน ใบ
หรือวาลำตนก็แหงกรอบอยางหาที่เปรียบมิได แตก็ใหความรูสึกที่อุดมสมบูรณ ทำให
หานลี่สัมผัสไดถึงความแปลกประหลาด
หลังจากใชจิตสัมผัสกวาดไปที่ตนไมใหญอยางละเอียดรอบหนึ่ง กลับไมพบความ
ผิดปกติ ไมวาดานนอกหรือดานในของตนไมยักษเหลานี้ตางก็ไมใชตนไมธรรมดาๆ
และไมมีคลื่นประหลาดวนเวียนอยูเลยสักนิด
หานลี่ขมวดคิ้วอยางไมใสใจ ในที่สุดก็ละสายตาออกจากตนไมยักษ
หลังจากผานไปชั่วครู ก็แผจิตสัมผัสไปที่ประตูภูเขาทั้งบานนั้นอีกครั้ง เมื่อมั่นใจ
วาไมมีเขตตองหามซอนอยูแลว เขาก็กาวเทาเขาไปในประตูภูเขาแหงนั้นอยางไมลังเล
อีก ตรงไปยังวิหารคุนอูที่อยูไกลออกไป
แตหานลี่กลับคิดไมถึงวา เมื่อสองเทาเหยียบลงไปบนทางเดินหินสีขาวสายนั้นสิบ
กว า จั้ ง จู ๆ ก็ รู สึ ก เพี ย งว า รอบกายมี แ ต ไอเย็ น เยี ย บ ชั่ ว พริ บ ตาความรู สึ ก แปลก
ประหลาดกลุมหนึ่งก็ยางกรายเขามา
“แยแลว!” หานลี่รองอุทานอยูในใจ ทันใดนั้นก็พุงกลับไป แตกลับสายไปเสียแลว
ยังไมทันใหเขาไดหมุนตัวลอยขึ้นไปกลางอากาศ สองแขนก็ถูกแรงมหาศาลกดทับ
เอาไว ในขณะที่ไมไดระวังตัว ขาทั้งสองพลันออนเปลี้ยคุกเขาลงไปบนทางเดินสีขาว
หานลี่ตะโกนออกมาอยางไมตองคิด ลำแสงวิญญาณรอบกายสวางวาบ ลำแสงสี
เขียวกลุมหนึ่งหอหุมรางของตัวเองเอาไว รางกายถึงไดทรุดลงไปแคครึ่งหนึ่ง และ
คุกเขาไวเพียงขางเดียวเทานั้น
แทบจะในเวลาเดียวกัน รอบกายของเขายังคงสั่นคลอนไมหยุด ในรางกายมีเสียง
ระเบิดปงปงไมหยุด ราวกับวากระดูกทั้งรางถูกหักออกเปนทอนๆ
หานลี่ตกตะลึงไมนอย!
คาดไมถึงวาลำแสงวิญญาณที่ปกปองรางจะลดแรงกดไปไดแคสวนนอยเทานั้น เวลานี้
ถึงแมวาจะดีกวาคราวกอนอยูนิดหนอย แตก็ทำไดเพียงฝนทนไมใหลมลงไปเทานั้น
รอบกายดูเหมือนวาจะมีพลังมหาศาลหมื่นชั่งกดทับรางกายอยูอยางไรอยางนั้น
เชื่อวาถาหากเขาไมเคยฝกฝนคาถาราชันกระจางและกลืนไขมุกซากสวรรคลงไป
จึ งความแข็ งแกรงของรางกายเหนื อ กว าผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รธรรมดาๆ เวลานี้ ค งเพี ย ง
พอที่จะทำใหกระดูกของเขาแหลกละเเอียด ลมลงไปกองกับพื้นไมสามารถขยับกาย
ไดแมแตนอยแน
แตทั้งๆ ที่เขาตรวจสอบที่นี่อยางละเอียดแลว กลับไมพบเขตอาคมใดๆ เหตุใดถึง
ไดเขามาในเขตอาคมที่แปลกประหลาดและรายกาจเชนนี้ได
หานลี่รองอุทานวาแยแลวในใจ รีบรายคำสาปออกมาอยางไมตองคิด เวลานี้
แมแตนิ้วก็ไมมีทางขยับได หากคิดจะสำแดง แนนอนวาจึงมีเพียงตองใชคำสาปมาฝน
กระตุนมันเทานั้น
ชั่วพริบตา มีเสียงฟาผาดังขึ้นทามกลางลำแสงสีเขียว
ทามกลางประจุไฟฟ าที่ สวางวาบ บนรางของเขาพลัน มี อาภรณ สายฟ าสีท อง
ชั้นหนึ่งปรากฏขึ้น ภายใตการฝนใชพลัง รางของหานลี่เปลงแสงกะพริบวาบ กัดฟน
พลางยืนขึ้นอยางชาๆ
แตเมื่อยืนตรงไดเพียงครึ่งหนึ่ง ก็รูสึกวาแรงกดนั้นหนักหนวงมากยิ่งขึ้น ชั่วครูก็
กดเขาจนลงไปนั่งคุกเขาอีกครั้ง
เวลานี้ หานลี่หนาเปลี่ยนสีจริงๆ แลว
ในตอนที่หานลี่ติดอยูในประตูภูเขานั้น มารเฒาเฉียนและพวกที่อยูตรงตีนภูเขา
เปนเพราะถูกมานลำแสงบดบังประตูภูเขานั้นเอาไว ดังนั้นจึงมองเห็นเพียงเหมือน
หานลี่หายลับไป และมองไมเห็นสถานการณของเขา
เวลานี้ แน นอนวาจึงทำให ผูที่มี จิตใจฝ กใฝ อยู กับ สมบั ติ ล วนกดความต อ งการ
เอาไวไมไหว
“เดรัจฉาน! อยากรนหาที่ตาย ตาเฒาจะตอบแทนใหอยางสาสม!” จูๆ เสียงโกรธ
เกรี้ยวของมารเฒาก็ดังออกมาจากมานลำแสง
ทันใดนั้นเงารางสีขาวหาสายในเขตอาคมก็รวมตัวกันที่ตรงกลาง คาดไมถึงวาจะ
รวมตัวกันเปนหนึ่งเดียวแลวกลายเปนเงารางสีขาวยักษสูงสองสามจั้ง ทวาเขาไมไดลง
มือกับผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมผูนั้น มือยักษกลับพลิกฝามือและสะบัดไปดานหลัง
เห็นเพียงเงาสีขาวสวางวาบ ชั่วพริบตาแขนก็กลายเปนงูเหลือมสีขาวตัวหนึ่งกลืน
กินราชสีหทองสัมฤทธิ์ที่กระโจนเขามาในคำเดียว จากนั้นรางของงูเหลือมสีขาวก็ขด
ตัวเปนวงกลม ชั่วครูก็ออกหางจากรางมนุษยยักษ และกลายเปนดวงแสงสีขนาดใหญ
กักราชสีหทองสัมฤทธิ์เอาไว
อาศัยเพี ยงเขี้ยวเล็บ ดานในของหุ น เชิดทองสั ม ฤทธิ์ และปากที่ พ น เสาลำแสง
ออกมา กลับไมทำใหเกิดริ้วรอยเลยแมแตนอย
ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมที่อยูอีกดานพลันชี้ไปกระดูกวงแหวนขนาดยักษที่อยู
บนเรือนรางทันที
ชั่วพริบตาวงแหวนนั้นก็เปลงแสงนับหมื่นสายออกมา กลายเปนเงาวงแหวนสีเหลือง
จำนวนนับไมถวน แตภายใตการกระตุนของคนผูนี้ เงาลวงตาขนาดยักษพลันสลาย
หายไป แตครูตอมากลับปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของราชสีหทองสัมฤทธิ์อีกตัวหนึ่งของผู
บำเพ็ญ เพียรวัยกลางคนที่ไลตามมาติดๆ ผลลัพธคือเงาวงแหวนจำนวนนับไมถวน
พลันรวงลงมาอยางไมเกรงใจ ชั่วครูวงแหวนลำแสงก็กักอสูรตนนั้นเอาไว พลางรัด
แนนทำใหมันลมหงายลงกับพื้น
ถึงแมวาผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมจะไมสนใจอสูรทองสัมฤทธิ์นั้นอีก แตกลับจอง
เขม็งไปยังเงารางสีขาวที่อยูตรงขามดวยสีหนาทะมึนทึบ
“เหอะ! กำไลลวงโลกนั่นมีอานุภาพสมคำร่ำลือจริงๆ ไดยินวา สมบัติชิ้นนี้คือสมบัติ
ลอกเลียนแบบของสมบัติโบราณอยาง ‘วงแหวนสะทอนแสงจันทร’ แตนาเสียดายที่
ไมเคยถูกผูใดพิสูจน ในสายตาของตาเฒ า ถึงแมวาจะเป นของลอกเลียนแบบของ
สมบัติสะทานฟา แตก็ไมไดแตกตางกันเทาใดนัก” น้ำเสียงของมารเฒาเฉียน จูๆ ก็มี
เสียงเย็นชาสงออกมาจากปากของเงาสีขาวยักษ
“ไมมีสมบัติชิ้นนี้ปกปองรางกาย เกรงวาผูแซเยี่ยคงตองเพลี่ยงพล้ำใหพี่เฉียนแลว
แต ต อนนี้ ห ากสหายพั วพั น อยู กั บ ข า ไม ก ลั ว วาสมบั ติ จ ะถู ก เจ าเด็ ก นั้ น เอาไปหมด
หรือ?” หลังจากที่ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมหัวเราะอยางเย็นชาออกมา ก็จงใจเหลือบ
มองไปทางประตูภูเขาแวบหนึ่ง
“ออ! หากเขตอาคมของวิหารคุนอูทลายไดงายขนาดนั้น สหายเยี่ยคงเขาไปใน
วิหารแลวลาสมบัติไดตั้งนานแลว จะถูกตาเฒาไลทันในเขตอาคมนี้อยูไดอยางไร แต
เมื่อครูพี่เยี่ยเรียกผูนั้นวาอาวุโส หรือวาเขาคือผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยของพวกเจา?”
น้ำเสียงของมารเฒาเฉียนเย็นเยียบขึ้น
“ฮาๆ นั่นเปนเพราะผูแซเยี่ยจำคนผิดไป ตาเฒาไมรูจักคนผูนี้” ผูบำเพ็ญเพียร
หนาเหลี่ยมกลอกตาไปมาพลางหัวเราะ ไมรูวาพูดจริงหรือไม
มารเฒาเฉียนเงียบกริบลง ดูเหมือนวาจะกำลังตัดสินวาสิ่งที่อีกฝายพูดเปนความ
จริงหรือไม แตครูตอมา เขาก็เอยปากขึ้นอีกครั้งดวยความเย็นชาวา
“ไมวาคนผูนี้จะมีความสัมพันธกับตระกูลเยี่ยจริงหรือไม เขาก็เปนผูบำเพ็ญเพียร
จากเทียนหนานคนหนึ่ง ตระกูลเยี่ยของพวกเจาเองก็ไมอาจเชื่อถือคนผูนี้ได พวกเจา
เองก็ขบคิดทุกวิถีทางเพื่อหาวิธีเปดผนึกของภูเขาคุนอูลูกนี้ หรือวาคิดจะใหสมบัติตก
ไปอยูในมือของคนนอกจริงๆ? ในเมื่อในตอนนี้ขาไมอาจทำอะไรเจาได ก็ไมคิดจะ
พัวพันกับเจาตอ ไมสูรวมมือกันทลายเขตอาคมไมดีกวาหรือ จากนั้นรอจนถึงวิหาร
คุนอูคอยจัดการลาสมบัติดวยวิธีการของใครของมัน !”
“วิธีการของใครของมัน! เยี่ยม ผูแซเยี่ยก็คิดเชนนี้เชนกัน!”
อยูนอกเหนือความคาดหมายของมารเฒา แตเดิมที่อีกคิดวาอีกฝายจะตองลังเล
แตผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนกลับตอบตกลงอยางไมตองขบคิด
นี่กลับทำใหมารเฒาตกตะลึง และเริ่มครุนคิดเล็กๆ
ตอนที่ 1017 สองสตรีแปลงเซียน
“ปศาจที่อยูเบื้องหนา สหายทั้งสองคิดวิธีการจัดการพวกมันกอนแลวคอยวากัน
เถิด มิเชนนั้นการชิงสมบัติก็เปนเพียงเรื่องเพอฝนเทานั้น” เมื่อไดยินบทสนทนาของ
มารเฒาเฉียนและพวก ชายหนุมแซสวีก็หันหนาไปมองในมานลำแสงแวบหนึ่งดวย
ความเย็นชา แลวเอยขึ้นไมพอใจ
“หึๆ! ทานนี้คือพี่สวีแหงเทียนหลานสินะ? ตาเฒาไมสนใจจะแยงชิงสมบัติที่ไม
เคยพบเห็น สิ่งที่ตองทำคือสูจนทำใหทั้งสองฝายพายแพไปเสียกอน และยิ่งไปกวานั้น
ตอใหทุกคนรวมมือกัน เกรงวาก็คงทำอะไรสามทานนั้นไมได”
หลังจากที่มารเฒาเฉียนหัวเราะอยางเย็นชาออกมา คาดไมถึงวาจะเอยประโยคที่
อยูนอกเหนือความคาดหมายของผูคนเชนนี้ออกมา
“พี่เฉียนหมายความวาอยางไร?” ถึงแมวาทุงหญาเทียนหลานและพรรคตาขายทมิฬ
จะมีความสัมพันธอันดีกันมาโดยตลอด เมื่อชายหนุมไดยินประโยคนี้ก็ยังตองเผยสี
หนาเครงขรึมออกมา
“ไมมีอะไรหรอก ในเมื่อตอนที่ขาและสหายเยี่ยตอสูกันอยางดุเดือดนั้น สามทาน
นี้ก็แอบอยูดานขางไมไดคิดจะลงมือ นาจะมีแผนการอะไรนในใจสินะ มิเชนนั้นหากมี
เจตนาไมดีกับพวกเราละก็ เมื่อครูคงเปนโอกาสลงมือที่ยอดเยี่ยมที่สุดแลว” เงารางสี
ขาวยักษพนคำพูดราบเรียบออกมา
“พวกเจารูเรื่องนี้ก็ดี ตอใหพวกเจาคิดจะลงมือ แลวคิดวาจะจัดการพวกเราได
จริงๆ หรือ วากันอยางไมมีอะไรปดบัง พวกเราสามคนตองการแคสิ่งของเพียงไมกี่ชิ้น
ในวิหารคุนอูเทานั้น กอนที่จะเขาไปในวิหาร ก็ไมคิดจะลงมือ” ลำแสงสีเขียวมรกต
สวางวาบในแววตาของยักษปกเงิน พลางเอยดวยสีหนาราบเรียบ
ฮูห ยิน อั ป ลัก ษณ แ ละอสู รวิห คราชสี ห ที่ ยื น อยู ด านข างก็ ป ด ปากเงีย บ ท าทาง
เหมือนใหเขาเปนผูนำอยางไรอยางนั้น
“ขาและธิดาเทพไมสนใจสมบัติในวิหารเลยแมแตนอย แตของที่อยูกับเจาคนแซหานผู
นั้น วิหารศักดิ์สิทธิ์เทียนหลานตองนำกลับมาใหได แนนอนวาถาหากเจอธงตาขาย
ภูตผีละก็ ผูแซสวีก็จะมอบใหพรรคของทาน” แนนอนวาชายหนุมแซสวีเองก็ไมคิดจะ
เอาชีวิตปศาจที่มีความสามารถเหนือชั้นทั้งสามตน เมื่อไดยินคำพูดของมารเฒาเฉียน
แลว ก็ขบคิดเล็กนอย แลวเอยขึ้นดวยสีหนาผอนคลายลง
“ในเมื่อเปนเชนนั้น พวกเราก็ไมจำเปนตองสูรบอะไรกันอีก มารวมมือกันชิงสมบัติจะ
ดีกวา มิเชนนั้นพวกเรามีกันจำนวนมากขนาดนี้ หากถูกคนนอกแยงชิงสมบัติไป นั่น
ถึงจะเปนเรื่องที่นาขันนัก!” เกอเทียนเหาถือโอกาสเอยขึ้นเชนกัน
ไมวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรหรือวาปศาจที่อยูที่นี่ ตางก็เปนสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตอยูมา
ไมรูกี่ปตอกี่ปแลว แนนอนวาจึงไมอาจกระทำเรื่องโงเขลาอยางการปลอยใหคนอื่นฉก
ฉวยผลประโยชนไปได แทบจะในพริบตานั้นก็ทำขอตกลงชั่วคราวกันสำเร็จ
ถึงแมวาเมื่อเขาไปดานในวิหารคุนอูแลว มีโอกาสแปดเกาสวนที่สัญญานี้จะถูก
ทำลายลง แตก็ดีกวาถูกสังหารลงกอนที่จะไดพบกับสมบัติ
“ในเมื่อทุกทานไมมีขอคิดเห็น ก็รวมมือกันทลายเขตอาคมเถิด” มารเฒาเฉียน
เห็นสถานการณเชนนี้ ก็สงเสียงหัวเราะประหลาดๆ ออกมา ทันใดนั้นเงารางสีขาว
ยักษก็สะบัดแขนเสื้อทั้งสองขาง งูเหลือมยักษสีขาวลวงตาปรากฏขึ้น กระโจนเขาหา
ยอดของมานลำแสงอยางรุนแรง
ผูบำเพ็ญ เพียรหนาเหลี่ยมที่อยูดานขาง ก็ชี้ไปยังกระบี่บินที่บินโคจรอยูเหนื อ
ศีรษะอยางเงียบๆ ชั่วขณะนั้นสายรุงอันนาตกตะลึงสองสายก็พุงแหวกผานอากาศไป
สามปศาจที่อยูดานนอกและชายหนุมแซสวีพรอมพวกตางก็ผอนคลายการระวัง
ตัวลง แตเมื่อเห็นสถานการณเชนนั้น ก็ทยอยกันลงมือโจมตีไปที่เขตอาคม
เวลานั้นลำแสงหลากสีสันและไอมารพลันผสมปนเปเขาดวยกัน ดานในและดาน
นอกมานลำแสงมีเสียงระเบิดดังขึ้นพรมอกัน เสียงตูมตามดังขึ้นอยางตอเนื่อง
“จุๆ คิดไมถึงเลยวามารเฒาเฉียนที่มีทาทีอารมณรอน จะรวมมือกับปศาจอยาง
ยักษปกเงินและอสูรวิหคราชสีหไดในชั่วพริบตา วันขางหนาหากพบกับมารเฒา คง
ตองระวังใหมากแลว อยาไปถูกเขาหลอกเขาละ” บนเนินลาดเอียงในปาหิน มีเงาราง
อรชนออนแอนซอนอยูในเสาหินหนาๆ ตนหนึ่ง พลางเอยพึมพำออกมาดวยน้ำเสียง
แผวเบา
“เหอะ จากพลังยุทธของเจาในตอนนี้ มารเฒาเฉียนไมจำเปนตองสนใจอะไรใน
ตัวเจา หากหามารใจเดียวของเขานั้นกระโจนเขามาละก็ เจาก็ไมมีทางหลบเลี่ยงได
อีก” เงารางสีเขียวที่อยูติดกันอีกเงาเอยขึ้นอยางไมเกรงใจเลยสักนิด
สองคนนี้ดูเหมือนจะเปนฮูหยินมูและสตรีเยาววัยผูมีโฉมหนางดงามของพรรค
แปลงเซียน
“ศิษยพี่หญิง หรือวาขาจะไมมีทางตอกรกับมารเฒาเฉียนไดจริงๆ” สตรีผูเยาววัย
มีทาทีไมอยากจะยอมรับเล็กๆ
“ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นตนคนหนึ่งยังคิดจะตอกรกับผูบำเพ็ญเพียร
ระดับกอกำเนิดขั้นปลายแลวจะเปนอยางไร? ไมตองพูดถึงเจา ตอใหเปนขาเผชิญหนา
กับมารเฒา ก็ทำไดเพียงปกปองชีวิตตัวเองเทานั้น เดิมทีเคล็ดวิชาของพรรคเราก็ไมได
เชี่ยวชาญในการตอกรกับศัตรูอยูแลว ทวาถาหากจะใหขาไปนำโลหิตบริสุทธิ์ของมาร
เฒามา ดวยการรายคำสาปอยางเงียบๆ ละก็ ขาก็พอมั่นใจอยูเจ็ดแปดสวนวาจะทำให
เขาไดรับบาดเจ็บหนักได!” ฮูหยินมูเอยพรอมกับหัวเราะอยางเย็นชา
“พรรคแปลงเซียนของพวกเราเป นพรรคกึ่งซอนเรน อาศัยแคเคล็ดวิชาอยาง
เดียว เกรงวาคงไมไดดอยไปกวาสำนักตางๆ สักเทาไหร ถาหากที่ผานมาไมเคารพ
กฎเกณฑ ม าตลอด เกรงว า คงสำแดงกำลั ง ทั้ ง หมดที่ มี จ นมี ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดขั้นปลายไปตั้งนานแลว ไหนเลยจะตองหวาดกลัวมารเฒาเฉียนและพวก”
สตรีผูเยาววัยเอยอยางไมคอยเต็มใจนัก
“บรรพชนผูกอตั้งพรรคของเราแตเดิมก็เปนชนรุนหลังของสามผูเฒาคุนอู ตอน
แรกที่ตั้งพรรคขึ้นไมไกลจากผนึกนั้นก็เพราะเปนเงื่อนไขในการรักษาความปลอดภัย
แตเดิมก็เพื่อคอยปกปดผนึกของภูเขาคุนอู แตแคผานมาหลายหมื่นป เรื่องนี้จึงถูกลืม
เลือนไปจนเกือบหมด หากไมใชเพราะ กอนหนานี้ไมนานพวกเราไดรับจดหมายมา
จากทานอาวุโสเซี่ยง และคนหาคัมภีรกอตั้งสำนักของเราอีกครั้ง เกรงวาก็คงยังไมรู
เรื่องผนึกนี้ มิเชนนั้น พวกเราจะตองเสี่ยงอันตรายเขามาในภูเขาลูกนี้ทำไม” ฮูหยินมู
ถอนหายใจออกมา
“พูดถึงมารเฒาเฉียน ขานั้นกำลังสงสัยวาอานุภาพของพัดที่ชายหนุมผูใชอัสนีเทวาปด
เปาภยันตรายผูนั้นมีสักเทาไหร ตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายก็
ตองหลบหลีกออกไปสามฉื่อ ถาหากใชในผนึก อานุภาพของสมบัติชิ้นนี้ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น
อีกเทาตัว จะตองเปนของลอกเลียนแบบจากพัดสัตตเปลวเพลิงที่มีชื่อเสียงในสมัย
โบราณแน” จูๆ สตรีผูงดงามพลันเอยถึงหานลี่
“คือของลอกเลียนแบบสมบัติสะทานฟาไมผิดแน แตใชพัดสัตตเปลวเพลิงหรือไม
ก็พูดยาก ทวาหนาตาของคนผูนี้ดูไมคุนเลย ความสามารถอื่นของเขาก็มีอยูไมนอย
ปกสีเงินดานหลังก็ยังสามารถสำแดงเคล็ดวิชาอัสนีหลีกหนีที่หาไดยาก จะตองไมใชผู
บำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ แน แตคนผูนี้ดูเหมือนวาจะไมใชผูบำเพ็ญเพียรจากตาจิ้นของ
พวกเรา และก็ไมใชคนของตระกูลเยี่ย ชางเถอะ ตอใหคนผูนี้รายกาจขนาดไหน พวก
เราก็ไมจำเปนตองไปสนใจ จะวาไปแลว ทานอาวุโสเซี่ยงนาจะเขามาในภูเขาลูกนี้ตั้ง
นานแลว เหตุใดถึงไมเห็นเขามาขัดขวางผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้ จากความสามารถของ
เขา แคลงมือเพียงเล็กนอย มารเฒาเฉียนและพวกเหลานั้นจะกลาเหิมเกริมงายๆ ได
อยางไร” ฮูหยินฟูเอยอยางรูสึกสงสัยเล็กๆ
“บางทีทานอาวุโสเซี่ยงอาจจะมีธุระอื่น หรืออาจจะไปที่ปอมปราการมารแลว
กระมัง ถึงอยางไรเสียคาดไมถึงวาที่นั่นถึงจะเปนสถานที่ที่สำคัญที่สุด” สตรีผูงดงาม
เอยอยางลังเลใจ
“เปนไปไมได ถึงแมวาปอมปราการมารจะเปนสถานที่ที่ใชควบคุมผนึกของภูเขา
คุนอูที่แทจริง แตถาหากคิดจะเพิ่มความแข็งแกรงของเขตอาคมอีกครั้ง จำตองมีตรา
ประทั บ แปลงมั ง กรในวิ ห ารคุ น อู นั้ น ถึ ง จะได ท า นอาวุ โ สเซี่ ย งรู ถึ ง ข อ ได เปรี ย บ
เสียเปรียบ จะไมไปชิงสมบัติที่วิหารคุนอูกอนไดอยางไร” ฮูหยินมูสายศีรษะพลางเอย
ดวยสีหนาเครงขรึม
“ความหมายของศิษยพี่หญิงคือ เกิดอะไรขึ้นกับทานอาวุโสเซี่ยง? จะเปนไปได
อยางไร จากพลังยุทธของทานอาวุโสเซี่ยง ในใตหลานี้ยังมีผูใดที่ทำอะไรเขาได หรือวา
คนผูหนีออกมาไดแลวจริงๆ” เมื่อเอยจนมาถึงประโยคสุดทาย ชั่วพริบตาใบหนาของ
สตรีผูงดงามผูนั้นพลันซีดเผือดอยางหาที่เปรียบมิได
“ออกมานาจะเปนไปไมไดนัก เขตอาคมที่อยูกอนหนานี้ลวนเปนเขตอาคมที่เพิ่ง
ถูกทลาย ถาหากคนผูนี้ออกมาจริงๆ เขตอาคมคงถูกทำลายหมดแลว ไหนเลยจะรอ
จนมาถึงตอนนี้ ทานอาวุโสเซี่ยงอาจจะถูกอะไรรบกวนอยู และยังไมไดเขาไปในภูเขา
ลูกนี้กระมัง” หลังจากฮูหยินมูหนาเปลี่ยนสี ก็ฝนยิ้มเอยขึ้น
“หวังวาจะเปนเชนนั้นกระมัง ไมวาจะกลาวอยางไร พวกเราก็ตามหลังคนเหลานี้
ไปกอนจะดีกวา ดูวาจะชิงตราประทับแปลงมังกรชิ้นนี้มากอนไดหรือไม ทวาสิ่งที่เพิ่ม
พลังของผนึกไดนั้น นอกจากตราประทับแปลงมังกรแลว ไมไดมีศิลาจารึกผลึกสวรรค
อีกชิ้นหรือ เบาะแสของสมบัติชิ้นนั้น เหตุใดถึงไมทิ้งไวใหชนรุนหลังอยางพวกเรา มิ
เชนนั้นเหตุใดจะตองเสี่ยงอันตรายตามคนเหลานี้ไป” สตรีผูงดงามไดยิน ก็บนอุบ
ออกมา
“เรื่องนี้เจาไมรูวา ศิลาจารึกผลึกสวรรคนั้นเปนแคของที่เตรียมไวสำรองเทานั้น
เบาะแสของมันตกอยูในมือของสามผูเฒาคุนอูและชนรุนหลังอีกสายหนึ่ง เพราะกลัว
วา สองสายของพวกเราจะเกิดอะไรที่คาดไมถึงขึ้น จะไดมีอีกสิ่งหนึ่งที่ควบคุมผนึกใน
ภูเขาลูกนี้ได ไดยินวาสมบัติชิ้นนี้ถูกซอนเอาไวในสถานที่ที่คาดไมถึง นอกจากคนอีก
สายหนึ่งที่ไมรูวาอยูที่ไหนแลว
คนอื่นๆ ก็ไมรูวามันซอนอยูที่ไหนในภูเขาคุนอู มีขั้นตอนการเตรียมการอยาง
เปดเผยและลับๆ แลว เห็นไดชัดวาเหลาผูบำเพ็ญเพียรในปนั้นทุมเทแรงกายแรงใจไป
ไมนอย”
“แตก็ไมไดมีเพียงสามผูเฒาคุนอูท่ีคิดเชนนี้ในตอนนั้น เหตุใดตองเก็บปญหาที่
ใหญโตขนาดนี้ใหพวกเรา ฟนคนผูนั้นใหตายไปในดาบเดียวก็ไดแลวมิใชหรือ? เหตุใด
ตองผนึกเอาไว แลวยังสูญ เสียภูเขาวิญ ญาณแห งหนึ่ งไปดวยอยางเปลาประโยชน
ดวย” สตรีผูงดงามเอยพรอมกับขมวดคิ้ว
“จุด นี้ ในคัม ภี รไดกลาวเอาไวเล็ กน อ ย ดู เหมื อ นวาฐานะของคนที่ ถูกผนึ กจะ
พิเศษเปนอยางมาก แมกระทั่งยังเกี่ยวของกับความเปนตายของโลกใบนี้ ดังนั้นคนใน
โลกของผูบำเพ็ญเพียรโบราณจึงไมมีผูใดกลาลงมืออยางบาคลั่ง กลับทำไดเพียงผนึก
ภูเขาลูกนี้เอาไว” ฮูหยินมูลังเลเล็กนอย แลวเอยเรื่องของตัวเองออกมา
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง มินาละตอนนั้นคนผูนั้นถึงไดงอมืองอเทาเชนนั้น ทวาพลัง
ยุทธของผูบำเพ็ญเพียรผูนี้มันเทาไหรกัน? แมแตตอนที่อาวุโสเซี่ยงเอยถึงคนผูนี้ ยังมี
ทาทางนั่งไมติด พวกเราและทานอาวุโสเซี่ยงก็นับวารูจักกันมานานแลว ยังไมเคยเห็น
ตัวประหลาดเฒาอยางพวกเขามีทาทางไมสบายขนาดนี้มากอน” สตรีผูงดงามเอย
ถามดวยความประหลาดใจ
“ไม วาพลั งยุ ท ธข องคนผู นั้ น จะลึ ก ล้ ำขนาดไหน ถึ งอย างไรเสี ย อี ก ฝ ายแค ยื่ น
นิ้วกอยออกมาก็จัดการพวกเราไดอยางแนนอนอยูแลว เดาดูสิวาจะมีประโยชนอะไร”
ฮูหยินมูปรายตามอง พลางตอบกลับอยางไมสบอารมณ
“นั่นมันก็ใช!” สตรีผูงดงามเผยสีหนาจนปญญาออกมา
“ใชแลว ไมสี่คชสารชิ้นนั้น เจาพกมาดวยสินะ นั่นเปนความหวังเดียวในการแยงชิง
ตราประทับแปลงมังกรกอนนั้น”
ฮูหยินมูเปลี่ยนหัวขอบทสนทนา เอยอีกเรื่องหนึ่งแทน
“ศิ ษ ย พี่ ห ญิ งกำชั บ ตั้ งหลายครั้ ง ข าจะไม พ กสมบั ติ ป ระจำพรรคชิ้ น นั้ น มาได
อยางไร แตจะวาไปแลวก็นาเสียดาย หากไมใชเพราะธาตุของเคล็ดวิชาที่ศิษยพี่หญิง
ฝกฝนตรงขามกับไมสี่คชสาร ใหศิษยพ่ีหญิงเปนผูควบคุมจะเหมาะสมที่สุด ศิษยพี่
หญิงเคยกลาววาหนึ่งในสองสมบัติสะทานฟาที่ใชกดผูน้ันคือไมแปดวิญญาณ นั่นไมใช
สมบัติลอกเลียนแบบไมสี่คชสารหรือ? ขาละอยากเห็นวามันมีรูปรางอยางไรดวยตา
ของตัวเองจริงๆ” สตรีผูงดงามกลอกตาไปมา พลางเอยดวยรอยยิ้มเบิกบาน
“ไมแปดวิญญาณ ธงหงสดำ ในตำนานเคยกลาวไวเพียงเล็กนอย สวนจะเคยพบ
ของจริงหรือไมนั้น ขาเองก็...เอ มารเฒาเฉียนและพวกทลายเขตอาคมลงไปแลว พวก
เราก็รีบไปกันเถิด” ตอนที่ฮูหยินฟูคิดจะเอยอะไรกับศิษยนองหญิงของตนเองอีกนั้น
ภายใตการกวาดสายตาไป กลับมองเห็นการโจมตีตางๆ ทำใหมานลำแสงแตกละเอียด
จึงเอยขึ้นดวยสีหนารีบรอน
สตรีผูงดงามใจหายวาบ พลางเงยหนาขึ้นเชนกัน มองเห็นมารเฒาเฉียนและพวก
ที่พุงที่กำลังขามผานมานลำแสงที่สลายหายไป พลางพุงมาทางประตูภูเขาบานนั้น
ตอนที่ 1018 ไมวิญญาณแมเหล็กทอง
“พวกเราตามไปโดยอยาเขาไปใกลตัวประหลาดเฒาเหลานั้นนัก ตองขอบคุณเขต
อาคมของภูเขาลูกนี้ที่ชวยจำกัดจิตสัมผัส มิเชนนั้นพวกเราคงไมมีโอกาสไดสะกดรอย
ตามผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายแน” ฮูหยินมูรองอุทานออกมา
ชั่วขณะนั้นรอบกายของสตรีทั้งสองก็มีลำแสงสีขาวสวางวาบ บินหายเขาไปใน
เสาหินอยางเงียบเชียบ สำแดงเคล็ดวิชาลับไลตามไป
ในตอนที่สตรีทั้งสองจากไปไดไมนาน ดานหลังเสาหินอีกตนหนึ่งที่อยูดานหลังเสา
ที่สตรีสองผูนั้นเคยแอบอยูก็มีลำแสงสีเขียวสวางวาบ เงารางสูงใหญที่มีเรือนกายสี
เขียวก็ปรากฏขึ้น แววตาเย็นเยียบเปลงประกายคูหนึ่งจองเขม็งไปยังทิศทางที่สตรีทั้ง
สองหายลับไปชั่วครู ทันใดนั้นรางก็กะพริบวาบแลวหายไป
เมื่อมารเฒาเฉียนและพวกไปถึงหนาประตูภูเขา หานลี่ที่กำลังยืนอยูตรงทางเดิน
ระหวางประตูภูเขาและวิหารยักษก็คอยๆ เดินออกไป ทุกยางกาวลวนหยุดชะงัก ราว
กับวาทุกยางกาวนั้นหนักหนาเปนหมื่นชั่งก็ไมปาน และอยูหางจากวิหารยักษไปแค
สองสามรอยจั้งเทานั้น
ทวาหานลี่ในเวลานี้ ไมเพียงทั่วเรือนกายที่มีประจุไฟฟาสีทองและลำแสงสีเขียว
ลอยหมุนวนเปนเกลียว รอบกายถูกเปลวเพลิงสีมวงที่งดงามอยางสุดๆ หอหุมเอาไว
แมกระทั่งยังใชยันตลดวิญญาณจนทำใหตัวกลายเปนเปนครึ่งคนครึ่งมังกรวารีตั้งนาน
แลว นี่จึงทำใหมารเฒาเฉียนและพวกเห็นแลวตางมีสีหนาตกตะลึง
“นี่มันความสามารถอะไร เหตุใดคนผูนี้ถึงไดกลายเปนอยางนั้น?” ชายชราชุดดำ
คนหนึ่งอดที่จะรองอุทานออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหงมิได
“จะไปสนใจเขาทำไม? ตอนนี้เจาเด็กนั้นดูเหมือนวาจะถูกเขตอาคมกักตัวอยู เปน
โอกาสดีในการกำจัดเขา” เกอเทียนเหามีสีหนาเย็นเยียบ ทันใดนั้นพลันชูมือหนึ่งขึ้น
อยางรวดเร็ว ขวานสองคมยาวสีแดงเพลิงก็กลายเปนลำแสงสีแดงสายหนึ่งพุงออกไป
หานลี่ใชพัดตรีเปลวเพลิงโจมตีจนกระบี่กระดูกเลมนั้นของเกอเทียนเหาพังลง ทำ
ใหเขาเสียเปรียบไปไมนอย ตอนนี้มีโอกาส แนนอนวาจึงไมอาจปลอยไปงายๆ
แตเมื่อลำแสงสีแดงบินออกมาไดสิบกวาจั้ง เสียง ‘ตึง’ ของการตกกระทบลำพื้น
ก็ดังขึ้น บนพื้นมีหลุมลึกปรากฏขึ้น ทันใดนั้นก็ถูกกดเอาไวบนดินแนน
“นี่คือ?” เกอเทียนเหาตกตะลึงไมนอย ทันใดนั้นก็กระตุนลมปราณทั่วรางคิดจะ
ดึงสมบั ติชิ้น นั้ นกลับ มา แตขวานสองคมยาวเลมนั้ น เหมื อนกับ มี รากติ ดกับ พื้ น ดิ น
อยางไรอยางนั้น ไมขยับเขยื้อนเลยแมแตนอย
“พลังแมเหล็กเบญจธาตุ?” หลินอิ๋นผิงเห็นสถานการณเชนนี้ ก็รองอุทานออกมาเบาๆ
“ไมใช นั่นคือแสงแมเหล็กทอง คือเขตอาคมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากตนไม
วิญญาณแมเหล็กทองที่อยูทั้งสองฝง ไมวาผูใดกาวเขาไปในรัศมีของไมวิญญาณแลว
ลวนถูกตนไมตนเหลานี้เพิ่มแรงโนมถวงรางกายที่ไรรูปรางเขา นับไดวาตองยางกาว
อยางยากลำบาก” ยักษปกเงินมองไปทางตนไมขนาดยักษทั้งสองฝงแวบหนึ่ง จูๆ ก็
เอยขึ้นอยางราบเรียบ
“ยางกาวอยางยากลำบาก? เชนนั้นเจาเด็กแซหานนั่นเดินไปไดอยางไร?” ชาย
หนุมแซสวีกลับหัวเราะออกมาอยางเย็นชา พลางกวาดสายตาไปทางแผนหลังของ
หานลี่แวบหนึ่งขณะเอย
“เหอะๆ สหายดูไมออกจริงๆ หรือวาแสรงทำเปนมองไมเห็นการแปลงกายของ
คนผูนั้นกัน! หลังจากที่คนผูนั้นแปลงกายแลว อยางนอยที่สุดพลังยุทธก็จะเพิ่มขึ้น
ประมาณครึ่งหนึ่ง เทียบเทากับจุดยอดสุดของระดับกอกำเนิดขั้นกลาง และยิ่งไปกวา
นั้นไมวาจะเปนอัสนีเทวาปดเปาถยันตรายหรือวาเปลวเพลิงน้ำแข็งสีมวงนั่น ลวนเปน
สิ่งที่มีความสามารถไมธรรมดา หากสหายเขาไป เกรงวาคงยืนหยัดสูคนผูนี้ที่แปลง
กายไมไดหรอก!” ยักษปกเงินเหลือบตามองชายหนุมแวบหนึ่ง มุมปากหยักรอยยิ้ม
เยาะออกมา
“จริงหรือ! ฟงจากน้ำเสียงของนายทานดูเมือนวาจะคุนเคยกับเจาเด็กแซหานผูนี้
เปนอยางดี หรือวานายทานรูจักคนผูนี้?” ชายหนุมแซสวีมีสีหนาราบเรียบ แตพลัน
เปลี่ยนหัวขอบทสนทนา
“รูจักคนผูนี้หรือไม ดูเหมือนวาจะไมเกี่ยวอะไรกับนายทาน” ยักษปกเงินกลับฟง
ออกถึงความีเลศนัยของคำพูดนี้ จึงเอยออกมาพรอมกับหัวเราะอยางเย็นชา
ชายหนุมแซสวีไดยินยักษปกเงินตอบกลับเชนนี้ สีหนากลับไมเปลี่ยนแปลง แต
แนนอนวาในใจรูสึกโกรธเกรี้ยวเปนอยางมาก
“ไมวิญญาณแมเหล็กทอง หรือวาจะเปนตนไมวิญญาณดึกดำบรรพที่ไดรับขนาน
นามวาตนไมหยุดสมบัติ ภายนอกตนไมชนิดนี้ถูกทำลายจนสูญพันธุไปตั้งนานแลว ได
ยินวาปกติแลวสมบัติที่ผสมวัตถุดิบธาตุทองเขาไปจะถูกตนไมตนนี้ควบคุมไว มินาละ
ขวานของสหายเกอถึงไดตกลงพื้นในทันที และยิ่งไปกวานั้นพลังแมเหล็กที่แผออกมา
จากตนไมตนนี้ก็เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ถึงแม วาผูบำเพ็ ญ เพี ยรจะใชจิตสัมผัสกวาด
ออกไปก็ไมมีทางสัมผัสได” เกอเทียนเหาขมวดคิ้วขณะเอย
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง พลังแมเหล็กที่ แผออกมาจากตนไมตนนี้ท รงพลังมาก
กระทั่งสามารถสงเสริมกันและกัน ทำใหเกิดแรงกดทับลงบนรางอยางซ้ำๆ สวนความ
จริงจะหนักเทาใดนั้น ดูวาตนไมทั้งสองฝงมีเทาไหรก็รูแลว พวกมันเรียงรายกันอยาง
หนาแนนเชนนี้ เกรงวาหากพวกเราเขาไป ก็แทบจะถูกตนไมสี่หาตนนี้ทำปฏิกิริยา
พรอมกันสินะ คนอื่นนั้นไมรู แตขานอยถามตัวเองแลวไมมีทางรับพลังมหาศาลขนาด
นี้ไดแน” ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมมีสีหนาเครงขรึมเล็กนอย
“ใชหรือ ขากลับไมคอยเชื่อ อยากลองทดสอบดู” หลินอิ๋นผิงมองเงาแผนหลัง
ของหานลี่ ที่ เดิ น หน าไปอยางเชื่อ งช า ใบหน าเรีย วเย็ น เยี ย บ ตบไปที่ ย ามเก็ บ อสู ร
วิญญาณขางเอว ชั่วขณะนั้นอสรพิษประหลาดมีสี่ขาตัวหนึ่งก็พุงออกมา
เรือนกายของอสรพิษตัวนี้มีเกล็ดหนาๆ ประดับอยู มีปกเนื้อคูหนึ่งงอกออกมา
จากแผนหลัง ทาทางหนังเหนียวและหนา
“ไป!” ภายใตเสียงตะโกนต่ำๆ ของหลินอิ๋นผิง ก็ชี้ไปที่เงาหลังไวๆ ของหานลี่
จูๆ รางของอสรพิษประหลาดพลันมีลำแสงสีเหลืองปรากฏขึ้นชั้นหนึ่ง หลังจากที่
หมุนวนกลางอากาศรอบหนึ่ง ก็พุงเขาไปในประตูภูเขา
เชนนั้น ทามกลางสายตามากมาย หลังจากอสรพิษประหลาดบินเขาไปไดสิบกวาจั้ง ก็
สงเสียง ‘สวบ’ ออกมา จมลงสูพื้นดินเหมือนกับขวานสองคมยาวกอนหนาอยางไร
อย า งนั้ น แต ร า งกายของอสรพิ ษ ตั ว นี้ ก็ แ ข็ ง แกร ง เป น พิ เศษจริ ง ๆ และยั ง มี พ ลั ง
มหาศาล เมื่อตกลงพื้นก็ออกแรงที่เทาทั้งสี่ คาดไมถึงวาพลิกกลับขึ้นมายืนได ปกที่
หลังเองก็กระพือขึ้นลงสองสามครั้ง ทาทางเหมือนคิดจะบินขึ้นไป
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ หลินอิ๋นผิงก็อดที่เผยสีหนาดีอกดีใจออกมาไมได เสียง ‘ตูม’
พลันดังขึ้น รางของอสรพิษตัวนั้นระเบิดออก เศษเนื้อรอบกายถูกแรงโนมถวงกดลง
กับพื้นจนไมตางอะไรกับเนื้อบด
“เปนไปไดอยางไร ลำแสงแมเหล็กนี้รายกาจขนาดนี้จริงๆ หรือ รางของเจาเด็ก
แซห านมันทำมาจากอะไร แมแตอสรพิ ษ ของข ายังไม อ าจรับ ไหว เหตุ ใดเขาถึงไม
เป น ไร” หลิ น อิ๋ น ผิ ง มี สี ห น า ซี ด ขาว อุ ท านออกมาด ว ยน้ ำ เสี ย งแหบแห ง อย า งไม
อยากจะเชื่อ
“ไมตองคิดแลว ไอมารที่ขาสัมผัสไดจากคนผูนั้น นาจะใชเคล็ดวิชาลับอะไรสัก
อย างอาศั ย พลั งของอสู ร ป ศ าจสั ก ชนิ ด สิ งร างชั่ ว คราว นี่ จึ งทำให ร างกายของเขา
แข็งแกรงขึ้น ทวาเดิมทีความสามารถของคนผูนี้ก็สุดยอดอยูแลว คาดไมถึงวาไมตอง
ใชสมบัติอาคมก็สามารถควบคุมพลังสามชนิดพรอมกันเพื่อตานทานแรงมหาศาลนี้ได
ตาเฒาเองไมมีทางทำถึงขั้นนี้ไดแน” มารเฒาเฉียนเอยอยางเย็นชาออกมา คาดไมถึง
วาเดาความจริงออกสวนหนึ่ง
“คาดไมถึงวาจะมีเคล็ดวิชาลับเชนนี้ดวย คนผูนี้รูจักวิธีการมากมายจริงๆ!” เมื่อ
ไดยินมารเฒากลาวเชนนี้ หลินอิ๋นผิงและพวกจึงไดถึงบางออขึ้นมา
“เอาละ ไมตองพูดพลามไรสาระแลว หากมนุษยอยางพวกเจาพูดมากอีกเดี๋ยว
คนผูนั้นอาจจะเขาไปในวิหารคุนอูแลว” ฮูหยินอัปลักษณหนึ่งในสามปศาจ มองเห็น
รางของหานลี่เขาใกลวิหารยักษขึ้นเรื่อยๆ กลับกลอกตาไปมาพลางเอยดวยน้ำเสียง
หยาบกระดาง น้ำเสียงกลับนาเกลียดราวกับฆองแตก
“วางใจ เขตอาคมของวิหารคุนอูไมอาจมีแคนี้แน ในวิหารนั้นจะตองมีเขตอาคมที่
รายกาจยิ่งกวารอเขาอยูอีกแน และยิ่งไปกวานั้นในเมื่อรูที่มาของไมวิญญาณแมเหล็ก
ทองแลว การทลายเขตอาคมก็ไมใชเรื่องยากอะไรแลว ขอแคพวกเราควบคุมสมบัติที่
ไมไดทำมาจากวัตถุดิบธาตุทองตัดตนไมยักษเหลานั้น เขตอาคมนี้ก็จะถูกจำกัดลง
อยางงายดาย” ชายหนุมแซสวีเอยอยางราบเรียบ
“งายขนาดนั้นเลย!” ฮูหยินอัปลักษณกะพริบตาทั้งสอง ราวกับวาไมคอยเชื่อถือนัก
“ลำแสงแมเหล็กทองเปนสิ่งที่ปองกันอยางไรก็ปองกันไมหมด ใหใครเขาไปก็ไมมี
ทางชวยตัวเองได เรื่องอื่นก็ไมคุมคาใหพูดถึงแลว” ชายหนุมแซสวีเอยไปพลาง ชูมือ
ขึ้นอยางไมเกรงใจ กระบี่เลมเล็กสีเหลืองออนเลมหนึ่งพุงออกมาจากมือ ทันใดนั้น
สายรุงสีเหลืองสายหนึ่งก็พุงไปหาตนไมยักษตนหนึ่งที่อยูใกลกับเขาที่สุด
หลังจากเสียง ‘ปง’ ดังขึ้น จูๆ ตนไมยักษก็เปลงแสงสีทองออนสวางวาบ บนลำ
ตนที่ถูกฟนจนมีรอยกระบี่ลึกๆ สายหนึ่งเพิ่มขึ้น คาดไมถึงวาจะไมไดถูกสับจนลมลง
“เอ!” ชายหนุมแซสวีรองอุทานออกมาเบาๆ ดวยความประหลาดใจ
“ดูแลวสหายสวีคงลืมเรื่องหนึ่งไป เดิมทีไมวิญญาณแมเหล็กทองเหลานี้ก็มีความ
แข็งแกรงของธาตุทอง บวกกับถูกไอวิญญาณฟาดินของภูเขาคุนอูบมเพาะมาตั้งไมรูกี่
หมื่นป จึงไมใชไมวิญญาณธรรมดาๆ ตั้งนานแลว หากจะทำลายพวกมันเกรงวาจะ
ไมใชเรื่องงาย พวกเราอยาเสียเวลาอีกเลย รวมมือพรอมกันเถิด!”
มารเฒาเฉียนถายทอดเสียงสงมา ทันใดนั้นเงารางสีขาวขนาดใหญก็อาปาก พน
ผลึกสีขาวเม็ดหนึ่งออกมาหมุนติ้วๆ พุงไปยังตนไมยักษอีกตน
หลังจากที่เกอเทียนเหาและพวกมองสบตากันแวบหนึ่งแลว ก็ไมลังเลอีก ทยอย
กันหยิบสมบัติอยางหยกและไมตางๆ ออกมา พุงออกไปหาตนไมยักษที่อยูทั้งสองฝง
อยางมืดฟามัวดิน
เวลานั้นลำแสงหลากสีสันพลันปกคลุมไปทั่วทั้งสองฝง
และไมวามารเฒาหรือวาชายหนุมแซสวีและพวกตางก็ไมไดสังเกตวา ถึงแมวา
สามปศาจอยางยักษปกเงินจะเห็นผูบำเพ็ญ เพียรมนุษยปลอยสมบัติตางๆ ออกมา
โจมตีไมวิญญาณแมเหล็กทองเหลานี้ แมดูเหมือนวาจะมีสีหนาราบเรียบ แตในใจกลับ
รูสึกยินดีอยางสุดๆ สมบัติที่สามปศาจตนนี้พนออกมา ดูเหมือนวาจะมีอานุภาพไม
นอย แตความจริงแลวเมื่อตกลงบนตนไมยักษเหลานั้นกลับมีอานุภาพนอยมาก แต
ภายใตสถานการณเชนนี้กลับถูกเสียงการโจมตีกัมปนาทกลบเอาไว เวลานี้คาดไมถึง
วาผูบำเพ็ญเพียรมนุษยจะไมพบความผิดปกติของพวกมัน
‘ชางโงเขลาเสียจริง! คิดไมถึงวามนุษยเหลานี้ จะตัดตนไมวิญญาณแมเหล็กทอง
จริงๆ’ ในหัวของหานลี่ที่กำลังเดินไปดานหนาอยางเหนื่อยลากลับมีเสียงถอนหายใจ
ของอิ๋นเยวดังขึ้น
“นั่นก็โทษความสะเพราของมารเฒาเฉียนและพวกไมได ถึงอยางไรเสียพวกเขาก็
ไมมีความสามารถของเนตรวิญญาณกระจาง ที่สามารถมองทะลุผานดานในของตนไม
ยักษเหลานี้เหมือนขา แนนอนจึงไมรูวาในตนไมทุกตนนั้นมีคำสาปมหาวงแสงสยบ
มารในสมัยโบราณสลักอยู และยิ่งไปกวานั้นหากเจาไมเตือน ขาเองก็ไมอาจจะไมพบ
ความผิดปกตินี้ ผูใดจะคิดถึงวาผูบำเพ็ญเพียรโบราณจะสามารถรายคำสาปลงไปใน
ตนไมได” หานลี่กลับเอยขึ้นดวยสีหนาไมตกตะลึง
“แตเชนนั้น ยักษปกเงินและปศาจทั้งสามก็ยังกลาเขามาที่โดยไมหวาดกลัว ตอง
เตือนคนเหลานั้นกอนหรือไม!” อิ๋นเยวขบคิดเล็กนอย พลางเอยถามขึ้นอยางลังเล
“เตื อ น? ทำไมต อ งเตื อ น คนที่ อ ยู ด า นหลั ง เหล า นี้ นอกจากผู บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
ตระกูลเยี่ยแลว วิหารเทียนหลานและพรรคตาขขายทมิฬตางอยูฝายเดียวกัน ปศาจ
ทั้งสามมาก็ดี จะไดถวงเวลาพวกเขาเอาไว สาเหตุที่เมื่อครูขาไมไดควบคุมสมบัติอาคม
ทำลายตน ไมยักษ เหลานั้น ก็เพราะวาพลั งของคนคนเดี ยวนั้ น น อ ยเกิ น ไป การจะ
ทำลายพวกมันทิ้งไมรูวาจะตองใชเวลาเทาไหร มิเชนนั้น ขาก็ลงมือเองแลว” หานลี่
หัวเราะนอยๆ ออกมา
“นั่นมันก็ใช ทวา ทางที่ดีที่สุดนายทานเขาไปชิงสมบัติในวิหารกอนจะดีที่สุด ขอ
แคไดสมบัติมา จากความสามารถของนายการจะหนีออกมาทามกลางความวุนวายนั้น
ก็ยอมทำได จากนั้นขอแคซอนตัวอยูในสถานที่ลับในภูเขาสักสองสามวัน รอจนรอย
แยกกลับมาเปนปกติอีกครั้ง ก็คอยออกไปจากภูเขาแหงนี้” อิ๋นเยวหัวเราะออกมา
เบาๆ ขณะเอย
ตอนที่ 1019 บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซา
“ราบรื่นขนาดนั้นก็ดีสิ ตอนนี้ทำไดเพียงคอยๆ เปนคอยๆ ไปเทานั้น” หานลี่กลับ
ไมไดมองโลกในแงดีขนาดนั้น จึงเอยตอบกลับอยางราบเรียบ
และในตอนนั้นเอง เสียง ‘ปง’ พลันดังสนั่นมาจากดานหลัง หานลี่ไมหันกลับมาก็
รูวาไมวิญญาณแมเหล็กทองถูกสับลมลงไปตนหนึ่งแลว แตเขาก็ไมไดมีความตกตะลึง
หรือลนลานใดๆ เพราะเวลานี้หางจากวิหารยักษเบื้องหนาแคยี่สิบสามสิบจั้งเทานั้น
กระทั่งเขายังมองเห็นอยางชัดเจนแลววา เหนือประตูวิหารที่สูงขึ้นยี่สิบสามสิบจั้ง
แขวนแผนปายประหลาดที่ดูเหมือนทำจากทองคำก็ไมใชไมก็ไมเชิงเอาไวอยู ดานบนมี
ตัวอักษรโบราณสีทองที่ถูกเขียนอยางหวัดๆ วา ‘วิหารคุนอู’
หานลี่ถอนหายใจออกมาเบาๆ เฮือกหนึ่ง หลังจากลังเลเล็กนอย ก็ควานหาขวด
หยกที่บรรจุของเหลวหมื่นวิญญาณออกมาจากแขนเสื้อ พลางดื่มเขาไปหยดหนึ่ง แต
เดิมลมปราณที่สูญเสียไปเปนจำนวนมากจากการตานทานลำแสงแมเหล็กสีทอง ก็
ฟนฟูกลับมาจนเต็มเปยมในชั่วพริบตา ลำแสงสีเขียวบนราง ประจุไฟฟาสีทอง เปลว
เพลิงสีมวงสวางวาบขึ้นพรอมกัน
จากนั้นฝเทาของหานลี่ที่เดินตรงเขาไปหาประตูวิหารก็เร็วขึ้นสามสวน
ใตดินชั้นเจ็ดในปอมปราการมารของภูเขาคุนอู เสียงปริแตกกองกังวานดังขึ้น ใน
ที่สุดกำแพงผลึกที่ตานทานคนประหลาด มารโบราณ และพวกเอาไวหลายเคอ ก็ถูก
ทั้งสามคนใชสมบัติอาคม โจมตีจนแตกละเอียด ผลึกลำแสงคอยๆ หายไปทีละนิดๆ
“ไปกันเถิด กำแพงแหงนี้คูควรกับที่เปนสมบัติประจำพรรคของพรรคพระสุเมรุ
คาดไมถึงวาจะขวางพวกเราไดนานขนาดนี้” คนประหลาดยื่นมือกวักออกไป เก็บ
กระบี่สีเงินเลมเล็กที่กำลังโคจรอยูเหนือหัวกลับเขามาในแขนเสื้อ
“นานขนาดนี้ คนของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์คงไมไดเอาสมบัติไปแลวจริงๆ หรอก
กระมัง” หลังจากที่อาวุโสตระกูลเยี่ยอีกคนหนึ่งเก็บไมหยกขาวเขาไปเชนกัน ก็เอย
ถามขึ้นอยางกังวลใจ
“วางใจ! ตอใหไดสมบัติวิญญาณสะทานฟาแตก็ไมอาจใชไดในทันที ตอใหพวก
เขาไดสมบัติวิญญาณ พวกเราชิงกลับมาทันทีก็ไดแลว” มารโบราณที่อยูดานขางเอย
ดวยสีหนาราบเรียบ
“ไมเลว ที่อาวุโสหานกลาวนั้นเปนสิ่งที่ตาเฒาเตรียมการไวอยูพอดี” หลังจากที่คน
ประหลาดหัวเราะออกมายกใหญแลว ก็ชิงเดินเขาไปในประตูทางออกของชั้นเจ็ดกอน
หลังจากที่อาวุโสตระกูลเยี่ยผูนั้นพยักหนาเล็กนอย ก็ทำไดเพียงเดินตอไปพรอม
กับหัวเราะแหงๆ
ชั่วพริบตา ทั้งสามคนที่เดินผานบันไดหินมา ก็ปรากฏตัวขึ้นในหองหินที่มีเขต
อาคมสงตัว มองเห็นเขตอาคมสงตัวเล็กๆ สีดำและสีขาว ทั้งสามคนและคนของสำนัก
พิษศักดิ์สิทธิ์ตางพากันตกตะลึงเชนเดียวกัน ทวาหลังจากที่มารโบราณกวาดตามอง
เขตอาคมทั้งสองซายทีขวาทีแลว สายตาพลันหยุดลงบนเขตอาคมสงตัวสีดำ ทันใดนั้น
ใบหนาก็เผยสีหนาตกตะลึงระคนดีใจออกมา
“เหตุใดถึงมีเขตอาคมสงตัวสองอัน อันไหนคืออันที่สงตัวไปที่ชั้นแปด หรือวาทั้ง
สองอัน?” ชายชราตระกูลเยี่ยเอยพึมพำ แตสายตากลับไปที่ตกเขตอาคมสงตัวสีขาว
เพราะวากอนหนานี้คนของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์นั้นใชเขตอาคมสงตัวนี้ ยังมีไอวิญญาณ
หลงเหลืออยู
“ไมตองเลือก ใชอันนี้ก็ไดแลว” มารโบราณจองเขม็งไปยังเขตอาคมสงตัวสีดำ
น้ำเสียงแปลกประหลาดเล็กนอย
“ใชเขตอาคมสงตัวทางนั้นหรือ? แตคนของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์…”
เมื่อครูชายชราประหลาดคิดจะเอยถามอะไร แตมารโบราณที่ ยืนอยูดานขางกลับ
สะบัดแขนเสื้อเปนสัญญาณ แขนมารสีดำสนิทขางหนึ่งสวางวาบพุงออกมาจากแขน
เสื้อ การเคลื่อนไหวรวดเร็ว ทำใหชายชราสัมผัสไดเพียงเสียงลมที่มากระทบขางใบหู
ศีรษะทั้งศีรษะก็ถูกกรงเล็บมารที่เย็นเยียบขางหนึ่งกดลงบนสวนบนของกะโหลก
“เอ!” ภายใตความตกใจของชายชรา ทำไดเพียงรองอุทานออกมาดวยความตก
ตะลึงเทานั้น หัวก็มีเสียง ‘โพละ’ ดังขึ้น ถูกบีบจนเละราวกับแตงโมอยางไรอยางนั้น
โลหิตสดๆ พุงสูงขึ้นไปสองสามฉื่อ!
แตเชนนั้นมารโบราณก็ยังไมหยุดมือ ปากพลันเผยออกแทบจะในเวลาเดียวกัน
พนเปลวเพลิงมารสีดำสนิทกลุมหนึ่งออกมาอยางรวดเร็ว หอหุมรางกายไรหัวที่ยังไม
ทันไดลมลงพื้นเอาไว ควันสีเขียวลุกโชนขึ้นทามกลางเปลวเพลิงมาร
ชั่วครูศพของอาวุโสพลันกลายเปนจุณ ทารกวิญญาณในรางของเขาที่ถูกเกราะ
ป อ งกั น ลำแสงสี ข าวห อ หุ ม เอาไวพ ลั น ปรากฏขึ้ น ท ามกลางเปลวเพลิ งสี ด ำ ทารก
วิญญาณคนนั้นกอดอกแนนใบหนาเล็กๆ ใสสะอาด หนาตาตกตะลึงและลนลานจน
ทำอไรไมรู
“ทานอาเจ็ด! ชวยดวย!” ทารกพยายามใสลมปราณเขาไปในไมหยกขาว พลาง
มองไปยังคนประหลาดและสงเสียงรองขอใหชวยดวยเสียงแหลมอยางสุดๆ ถูกเปลว
เพลิงสีดำที่หอหุมเขาอยูทำใหไมอาจใชเคล็ดวิชาหลีกหนีได
แตภาพฉากที่แปลกประหลาดพลันปรากฏขึ้น คนประหลาดมองไปยังทารกของ
อาวุโสตระกูลเยี่ยที่พยายามดิ้นรนอยางยากลำบากในเปลวเพลิงมารดวยใบหนาไร
ความรูสึก คาดไมถึงวามีทาทางจนตรอก
ผลลัพธคือเกราะปองกันรอบกายของทารกวิญญาณตานทานอยูไดเพียงชั่วครู ใน
ตอนที่เปลวเพลิงมารกำลังโหมแรงมากขึ้นก็ถูกฉีกแยกออกเปนสองสวน
หลังจากนั้นเสียงกรีดรองอันนาเวทนาพลันดังขึ้น ทารกวิญญาณของอาวุโสถูก
เปลวเพลงสีดำแผดเผาจนหายวับไป
วินาทีกอนสิ้นลมของอาวุโสผูนาสงสารผูนั้น ยังคงไมอยากจะเชื่อวาทุกอยางนี้
เกิดขึ้นกับตัวเอง แลวสลายหายไปจากใตหลานี้พรอมกับความแคนที่มีอยูเต็มอก
“เหตุใดถึงลงมือตอนนี้ ไมไดตกลงกันวารอใหถึงขั้นสุดทายคอยลงมือหรือ?” ใน
ที่สุด คนประหลาดถึงไดเอยปากออกมาดวยน้ำเสียงเย็นชา ราวกับวาไมพอใจเล็กนอย
“แตเดิมคิดวารอใหถึงชั้นสุดทายถึงจะเห็นเปาหมาย แตที่นี่ขาก็สัมผัสไดอยูถึง
การดำรงอยูของมันแลว แนนอนวาไมจำเปนตองใหคนผูนี้มาคอยขัดลูกตาอยูขางๆ
นายทานรูสึกเสียใจอยางนั้นหรือ” มารโบราณเหลือบตามองคนประหลาดแวบหนึ่ง
เอยขึ้นดวยใบหนาไรความรูสึก
“แคชนรุนหลังคนหนึ่งเทานั้น มีอะไรใหเสียใจ” คนประหลาดเงียบกริบไปชั่วครู
ถึงไดเผยสีหนาสลับซับซอนออกมาขณะเอย
“สหายคิดไดเชนนี้ก็ดี ขอแคชวยรางแยกของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ออกมาได ก็ใหทาน
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์สำแดงเคล็ดวิชาลับถายไอมารใหนายทาน จากคุณสมบัติของนาย
ทาน อยางนอยที่สุดก็ทำใหสหายพัฒนาจนไปถึงระดับเทพแปลงไดเจ็ดแปดสวนแลว”
มารโบราณเอยอยางรูสกึ พึงพอใจ
“เหอะ! หากไมใชเพราะเสนตายใกลเขามาแลว ขาจะยอมหันหลังใหตระกูลเยี่ย
แลวชวยมารปศาจอยางเจางายๆ ไดอยางไร” คนประหลาดสงเสียงเหอะออกมา แวว
ตาสวางวาบไมแนนอน
“มารปศาจ! ถาหากนายทานใสไอมารสำเร็จแลว วันขางหนาก็จะกลายเปนหนึ่ง
ในสมาชิกเผาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา ในแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา มนุษยผูบำเพ็ญเพียร
ที่กลายเปนคนเผาศักดิ์สิทธิ์ในภายหลังอยางเจานับวามีอยูไมนอย มีอะไรตองลังเล”
มารโบราณหยักมุมปากขึ้น พลางเอยอยางไมใสใจเลยแมแตนอย
“พูดพลามใหมันนอยๆ หนอย รีบลงมือเถิด จะไดไมมีเรื่องที่คาดไมถึงเกิดขึ้น!”
คนประหลาดดูเหมือนวาจะไมอยากเอยถึงเรื่องนี้อีก แวบหายไปยืนอยูบนเขตอาคม
สงตัวสีดำ
มารโบราณเห็นเชนนั้นพลันหัวเราะออกมาอยางเย็นชา สาวเทาสองสามกาวเขา
ไปในเขตอาคมสงตัวเชนกัน
ผลลัพธคือเมื่อเขตอาคมสงตัวถูกกระตุน รางของทั้งสองก็หายลับไปทามกลาง
ลำแสง
ครูต อ มา คนประหลาดและมารโบราณก็ ม าปรากฏตั วในเขตอาคมอี ก แห งที่
เหมือนกัน รอบกายมีแสงสีดำกะพริบวาบไมหยุด ดูเหมือนวาจะมืดสลัว
“ที่ นี่ คื อ ?” เมื่ อ คนประหลาดหายจากการวิ งเวี ย นแล ว ก็ ม องไปรอบๆ ทั น ที
ใบหนาเผยสีหนาตกตะลึงระคนสงสัยออกมา
“สหายมองขึ้นบนทองฟาสักหนอยเถอะ อยูบนนั้น” มารโบราณที่อยูดานขางมี
น้ำเสียงตื่นเตนดีใจเล็กๆ
คนประหลาดไดฟง ก็รีบรอนมองตามไป ผลลัพธพลันตกตะลึง
เห็นเพียงกลางอากาศสูงขึ้นไปรอยกวาจั้ง เขตอาคมตางๆ สวางวาบไมหยุด และ
ตรงใจกลางของเขตอาคมเหลานี้ เงารางสีดำราวกับภูเขาลูกเล็กๆ ลอยอยูตรงนั้นไม
ขยับเขยื้อน รอบกายถูกโซหนาๆ สีดำสายแลวสายเลารัดเอาไว และในเวลาเดียวกันก็
ถูกยันตวิเศษจำนวนมากแปะไปทั่วเรือนราง
ใกลๆ กับเงาสีดำยังมีกระจกทองสัมฤทธิ์ที่พนเสาลำแสงสีเหลืองออกมาแขวนอยู
กลายเปนกรงขังขนาดยักษ หอหุมเงารางสีดำเอาไวอยางแนนหนา
หลังจากคนประหลาดตระกูลเยี่ยผูนั้นมองเห็นเงารางสีดำอยางชัดเจนแลว ก็สูด
ลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง รูสึกตะลึงงัน!
คาดไมถึงวารางกายจะมีหัวเปนหมาปาสีเงินสองหัวสูงมากกวารอยจั้ง ถึงแมวา
รอบกายจะมีเขตอาคม แตขนก็ยังเปลงแสงสีเงินแวววาวออกมา ราวกับสรางขึ้นจาก
เงินบริสุทธิ์ก็ไมปาน ทำใหผูคนที่เห็นแลวรูสึกวาเปนเทพหมาปายักษประหลาด
แตสิ่งที่แปลกประหลาดก็คือ หัวหมาปาทั้งสองหัวหนึ่งยังคงเปนสีเงินขาว อีกหัว
หนึ่งตรงลำคอกลับเปลี่ยนเปนสีดำเปลงประกาย และถูกไอมารสีดำจางๆ ชั้นหนึ่ง
หอหุมเอาไว บนศีรษะมีเขาสีมวงเขาหนึ่งงอกออกมา เผยใหเห็นถึงความโหดเหี้ยมนา
กลัวเปนพิเศษ
เวลานี้หัวหมาปาที่ไมเหมือนกันทั้งสองตางหลับตาสนิท ดูเหมือนวาจะกำลังหลับลึก
อยู ไมรูวาเพราะผลกระทบจากเขตอาคมหรือไม
“นี่คือรางแปลงของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ที่เจาพูดถึงหรือ?” คนประหลาดขมวดคิ้ว
ขณะเอยถาม
“ใชแลว นี่คือรางแปลงของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาของแดนศักดิ์สิทธิ์พวกเรา
ในแดนศักดิ์สิทธิ์บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาจัดวาติดหนึ่งในหาของบรรพชนทั้งหมดใน
แดนศักดิ์สิทธิ์ แนนอนวานี่ไมใชรางที่แทจริงของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซา แคสวน
หนึ่งของวิญญาณที่สิงอยูกับปศาจหมาปาในแดนมนุษยตัวหนึ่งเทานั้น แตเชนนั้น ก็ยัง
ไมใชสิ่งที่ผูบำเพ็ญ เพี ยรระดับเทพแปลงธรรมดาๆ จะเที ยบเที ยมได หากไมมี การ
แทรกแซงจากแดนวิญญาณ สิ่งนี้คงไมอาจมีอยูในแดนมนุษยไดอยางแนนอน ตอนนั้น
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาเองก็เปนหนึ่งในสามผูนำของเผาศักดิ์สิทธิ์พวกเราที่ลง
มายังแดนมนุษย” มารโบราณเอยอยางหยิ่งผยอง
“บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซา!” คนประหลาดเอยพึมพำดวยน้ำเสียงแผวเบา
“พี่ เยี่ยคุมครองขาหนอย ขาจะสำแดงเคล็ดวิชาลับติดตอกับจิตวิญ ญาณของ
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์แลวคอยวากัน” จูๆ มารโบราณก็หันหนาไปเอยเชนนี้
“ได เจาสำแดงเถิด” คนประหลาดดูเหมือนวาจะทิ้งความกังวลไป แลวตอบรับ
อยางหลังจากไดยินในทันที
มารโบราณดูเหมือนวาจะรูสึกวางใจในคนประหลาดอยางเต็มเปยม เมื่อเห็นเขา
ตอบตกลงสองมือพลันรายอาคมในทันที ไอมารสีดำสนิทกลุมหนึ่งพนออกมาจากราง
หอหุมรางของเขาเอาไวทุกกระเบียดนิ้ว
ทันใดนั้นเสียงรองคำรามต่ำๆ พลันดังขึ้น เงามารสี่แขนสองปรากฏตัวขึ้นจากโครง
กระดูก เงามารตนนี้สูงประมาณสองสามจั้ง รางกายใหญโตแผไอมารที่นาตกตะลึง
ออกมา คนประหลาดถึงกับหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอยขณะถอยหลังไปสองสามกาว
จากนั้นมารโบราณพลันเปลงเสียงรายคาถาทุมต่ำที่ฟงไมไดสรรพออกมาในเวลา
เดี ยวกั น แขนทั้ งสี่ที่ เต็ ม ไปดวยเกล็ด มารเปลงประกายค อ ยๆ รายอาคมผนึ ก เป น
สัญลักษณตางๆ ทามกลางไอสีดำ ราวกับเปนการดำรงอยูของเทพมาร
ถึงแมวาคนประหลาดจะรูสึกระมัดระวังจากสภาพแวดลอมรอบๆ ดาน แตสอง
ตาก็ยังจองเขม็งไปยังหมาปายักษสองหัวกลางอากาศ ดูวามีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม!
หลั งจากผ านไปเป น เวลาหนึ่ งกาน้ ำ ชา มารโบราณพลั น หยุ ด ร ายคาถาอย า ง
กะทันหัน อาปากกวาง พนโลหิตสีดำแดงกลุมหนึ่งไปกลางอากาศ ในเวลาเดียวกัน
แขนทั้งสี่ก็ชูขึ้น อาคมสีดำสี่สายจมหายเขาไปในโลหิตบริสุทธิ์แลวหายลับไปอยางไร
รองรอย
ชั่วขณะนั้นโลหิตบริสุทธิ์พลันกลายเปนอักขระสีแดงประหลาดๆ สวางวาบแลว
สลายหายไปจากด า นบน แต ค รู ต อ มา อั ก ขระโลหิ ต นี้ ก็ ป รากฏขึ้ น อย า งแปลก
ประหลาดบนศีรษะของหมาปาสีดำ ทันใดนั้นเขาขางนั้นก็เปลงแสงสวางวาบ เปลือก
ตาของหัวหมาปาสีดำขยับไปมาเล็กนอย ในที่สุดสองตาก็คอยๆ ลืมขึ้น ลำแสงสีมวง
เจิดจาจนแสบตา ชั่วพริบตาก็ดูราวกับวามีพระอาทิตยสีมวงสองดวงปรากฏขึ้นพรอม
กัน ทำใหผูคนไมมีทางสบตาตรงๆ ได
มารโบราณและคนประหลาดกลับไมรูวา ในเวลาเดียวกับที่รางใหญยักษสีดำหัว
หมาปาถูกปลุกใหตื่นนั้น ในผนึกอีกแหงใกลๆ กันในวิหารนั้น ตลับเล็กๆ สีเงินที่วาง
อยูบนโตะบูชาก็พลันเปลงแสงสีเงินสวางวาบขึ้นเชนกัน ราวกับวามีอะไรสักอยางถูก
ปลุกใหตื่นจากนิทรา และเหนือกลองสีเงินใบนั้น ก็มีไมบรรทัดสีเขียวมรกตยาวครึ่ง
ฉื่อลอยขึ้นมา คอยๆ หมุนวนไปมาไมหยุด เปลงลำแสงวิญญาณออกมาหอหุมกลองที่
อยูดานลางเอาไวอยางพอดิบพอดี
ตอนที่ 1020 ผสานวิญญาณ
กลองสีเงินถูกไมบ รรทั ดที่ อยูเหนื อ ศี รษะเปลงแสงสีเขี ยวออกไปห อ หุ ม เอาไว
ลำแสงสวางวาบ ชั่วขณะนั้นแสงสีเงินพลันสลายหายไป กลายเปนเงียบสงบอีกครั้ง
เผยใหเห็นความแปลกประหลาดอยางสุดๆ!
ถาหากมีคนกวาดสายตามาบนโตะที่มีกลองสีเงินเซนไหวบูชาอยูก็คงตกใจจน
สะดุงโหยง หางจากโตะเซนไหวบูชาไปสิบกวาจั้ง มีเงารางคนคนหนึ่งยืนอยูตรงนั้นไม
ขยับเขยื้อน
คนผูนั้น สวนชุดคลุมสีฟ าผาโพกหั วสีแดง ลายเสน บนใบหน าเปลงแสงสีเขีย ว
มรกตสวางวาบ เห็นไดชัดวาคืออาวุโสของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ฮัวเทียนฉี
เพียงแตในเวลานี้ฮัวเทียนฉีหลับตาทั้งสองขางลงเล็กนอย สีหนานิ่งเฉย หูจมูกและ
ทวารทั้งเจ็ดมีโลหิตไหลออกมาไมหยุด หากไมใชเพราะหนาอกยังขยับขึ้นลงไมหยุด
เกรงวาไมวาผูใดก็คงคิดวาเขาเปนซากศพไปแลว
สวนอาวุโสสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์อีกสามคนนั้นกลับไรเงา คาดไมถึงวาจะไมไดเขามา
ในวิหารแหงนี้พรอมกันกับเขา เพราะวาดานนอกประตูของวิหารแหงนี้ มีเสียงระเบิด
และเสียงคำรามดังแววๆ มา ดูเหมือนวาจะมีคนถูกเขตอาคมอะไรสักอยางกักตัวอยู
หมาปายักษที่อยูกลางอากาศในเขตอาคมอีกแหงหนึ่ง ลำแสงสีมวงในดวงตาของ
หัวหมาปาสีดำสลายหายไป ในเวลาเดียวกันปากก็เปลงเสียงพูดของสตรีออกมา
“เสวี่ยเยี่ยน ที่แทก็เจานี่เอง ตอนแรกขายังนึกวาเจากลับไปที่แดนศักดิ์สิทธิ์ตั้งนาน
แลวเสียอีก คิดไมถึงวาเจาจะยังอยูที่แดนมนุษยจนถึงเวลานี้” น้ำเสียงไพเราะเสนาะหู
คาดไมถึงวาจะคลายคลึงกับเสียงของสตรีที่กักเซี่ยงจือหลี่เอาไวในวันนั้นอยูเจ็ดแปด
สวน แคมีความเอาอกเอาใจนอยกวาสองสวน แตมีความเย็นชามากกวาหนึ่งสวน
“คารวะทานบรรพชนศักดิ์สิท ธิ์ ตอนนั้ น ขาน อ ยเคลื่อ นไหวชาไปกาวหนึ่ ง จึง
เกื อ บจะถู ก มนุ ษ ย สั ง หารและเพลี่ ย งพล้ ำ หากไม ใช เพราะมนุ ษ ย ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
เหลานั้นคิดวาขานอยรูตำแหนงชองทางจากแดนศักดิ์สิทธิ์เขามาในแดนมนุษย คิดจะ
สำแดงเคล็ดวิชากระชากวิญญาณและคอยๆ ซักถามทีละนิดๆ ขานอยก็คงไมมีชีวิตจน
มาถึงเวลานี้” มารโบราณตอบกลับดวยความนอบนอม
“ออ ถือวาเจาก็โชคดีไมเลว รอยแยกมิติเวลาที่เขาไปในสวนวิญญาณเลือนในป
นั้น แตกสลายไปตั้งแตที่พวกเราเขามาในแดนมนุษยแลว มีชองทางที่ไหนกันละ”
หัวหมาปาสีดำเอยถึงสงครามของมนุษยและมารในวันนั้น คาดไมถึงวาจะไมไดมี
ความรูสึกตื่นเตนใดๆ แคพยักหนาเล็กนอยเทานั้น
“นี่คือมารยักษโบราณที่เกือบจะสังหารเหลาผูบำเพ็ ญ เพี ยรโบราณในสมั ยโบราณ
หรือ?” คนประหลาดที่อยูดานขางมองมารโบราณและหมาปายักษคุยกันอยูดวยความ
เย็นชา เมื่อเห็นวาหัวหมาปาสีดำเอยปากพูดดวยน้ำเสียงของอิสตรีออกมา การพูด
เอื่ อ ยเฉื่ อ ยไม ก ระวีก ระวาด ดู ไม อ อกว ามี สั ญ ชาตญาณของมารเลยสั ก นิ ด ก็ รูสึ ก
ประหลาดใจอยูใ นใจ
“ในเมื่อเจามาถึงที่นี่แลว แผนการทั้งหมดก็นาจะสำเร็จแลวสินะ แตเตือนไวกอนนะ
การชวยขาออกไปนั้นไมไดงายดายอยางที่เจาคิด ไมตองพูดถึงเรื่องอื่น แคโซตรวน
กลุมดาวจักรราศีที่พันธนาการขาอยู ก็ไมใชสิ่งที่พลังยุทธของเจาในตอนนี้จะกำจัดมัน
ได ของสิ่งนี้คือสมบัติที่สืบทอดตอๆ กันมาจากแดนวิญญาณของเผาศักดิ์สิทธิ์อยาง
พวกเรา” หัวหมาปาสีดำกมหนาลงมองโซสีดำสนิทที่พันธนาการรางกายเอาไวอยาง
แนนหนา แลวเอยอยางราบเรียบ
“ท านบรรพชนศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ โปรดวางใจ! ในเมื่ อ ข า น อ ยมาแล ว แน น อนว าต อ ง
เตรียมการมาอยางรอบคอบแลว ครั้งนี้ไมเพียงมีสหายเยี่ยที่จะลงมือชวยเหลือ ขายัง
รวบรวมยุทธภัณฑมารมาไดสองสามชิ้น จนเพียงพอที่จะทำลายโซเสนนี้” มารโบราณ
กลับเอยอยางเตรียมการมาแลว
“คาดไมถึงวาเจาจะมียุทธภัณฑมารคอยชวยเสริม ก็พอจะมีโอกาสกำจัดโซตรวน
กลุมดาวจักรราศีไดสองสามสวน ทวาถึงแมจะเปนเชนนั้น ขาก็ไมอาจปลอยใหเจาลง
มือไดทันที!” หัวหมาปาสีดำสั่นศีรษะ
“เพราะเหตุใด?”
เวลานี้มารโบราณสองหัวสี่แขนพลันประหลาดใจ ลำแสงสีมวงแดงในดวงตาสวาง
วาบไมหยุด คนประหลาดตระกูลเยี่ยเองก็รูสึกตกใจ!
“งายมาก โซตรวนกลุมดาวจักรราศีนี้ไมใชเขตอาคมที่ทรงพลังที่สุดที่กักขาเอาไว
พวกเจาดูจุดที่ยืนอยูเถิด” หัวหมาปาสีดำถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“จุดที่พวกเรายืนอยู?” มารโบราณและคนประหลาดอดที่จะมองลงไปที่ฝาเทา
พรอมกันไมได แตนอกจากเขตอาคมสงตัวสีดำที่เขามาแลว ก็ไมมีสิ่งของอยางอื่น
ทั้งสองคงจึงรูสึกงุนงงอยางสุดๆ
“พวกเจาคิดวาที่นี่คือชองวางมิติอิสระที่เขาออกไดตามอำเภอใจหรือ? นี่เปนแค
การยืมพลังของสมบัติวิญญาณสะฟาชิ้นใดสักชิ้นมากั้นพื้นที่ในชั้นแปดออกจากโลก
ภายนอกก็เทานั้น ขอแคเจาเริ่มลงมือ สมบัติชิ้นนี้ก็จะเริ่มทำงาน สงพวกเจาออกไป
จากที่นี่ทันที และ การเขามาที่นี่อีกครั้งก็ไมใชเรื่องงายแลว และยิ่งไปกวานั้น พลัง
จากภายนอกเหลานี้ไมใชสาเหตุสำคัญที่กักขาเอาไวที่นี่มาหลายป สิ่งที่ยุงยากที่สุดก็
คือการออกจากรางปศาจหมาปาอิ๋นเยว” หัวหมาปาสีดำขยับศีรษะไปมาเล็กนอย
มองดูหัวหมาปาสีเงินอีกดานที่ยังคงหลับสนิทไมไดสติ ในที่สุดแววตาก็เผยความเครง
ขรึมออกมา
มารโบราณและคนประหลาดตางก็ไมใชคนธรรมดา เมื่อไดฟง ก็มองไปยังหัวหมา
ปาสีเงินที่แตกตางกับหัวหมาปาสีดำอยางสิ้นเชิงอีกครั้ง และพากันตกตะลึง ตางคน
ตางคาดเดาอะไรบางอยางอยูในใจ
“ตอนนั้นจิตวิญญาณดั้งเดิมของปศาจหมาปาอิ๋นเยวไมไดถูกบรรพชนศักดิ์สิทธิ์
กลืนกินไปหรือ หรือวาเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้น!” มารโบราณเอยถามดวยความลังเลใจ
“หึ! ตอนนั้นเจาคิดวาขาพลั้งมือถูกจับไดอยางไรละ นั่นก็เพราะวาปศาจหมาปาที่
ถูกขาสิงรางตัวนี้มันแผลงฤทธิ์ คาดไมถึงวาในเวลาเดียวกันมันจะมีจิตวิญญาณหลักถึง
สองดวง ดวงหนึ่งถูกขาทำรายจนไดรับบาดเจ็บหนัก ตอนนั้นจึงหนีออกจากรางไป ทำ
ใหขาคิดวาจะปลอดภัยไรกังวลแลว แตอีกดวงกลับสำแดงเคล็ดวิชาลับอำพรางกาย
อยูตรงจุดใดสักแหงในรางกาย ตอนที่ขากำลังตอสูกับสามอาวุโสคุนอูนั้นก็แวงกัด
ขึ้นมา ขาถึงไดถูกผนึกเอาไวที่นี่มาหลายปขนาดนี้” หัวหมาปาสีดำเผยสีหนาโกรธ
เกรี้ยวออกมาขณะเอย
“สองจิตวิญ ญาณหลัก หรือ วาจะเป น หนึ่ งรางทวิญ าณที่ พ บเห็ น ได ยาก!” คน
ประหลาดฟงจนมาถึงตรงนี้ ก็อดที่จะรองอุทานออกมาไมได
“มนุษยผูนี้ของเจามีความรูกวางขวางไมนอย หมาปาสีเงินตัวนั้นมีจิตวิญญาณ
อิสระสองดวงจริงๆ แตเดิมเปนแคหมาปาหัวเดียว แตหลังจากที่จิตวิญญาณหมาปา
ดวงที่ สองปรากฏขึ้น หั วหมาป าที่ สองก็ ป รากฏขึ้ น ในทั น ที แ ละแย งชิ งพลั งในการ
ควบคุมรางกับขา แตเคล็ดวิชาที่ปศาจหมาปาตัวนี้ฝกฝนนั้นชางแปลกประหลาดจริงๆ
ขาสิงรางมันมานานขนาดนี้ คาดไมถึงวาจะไมเคยพบความผิดปกติ” หัวหมาปาสีดำ
เอยพึมพำ ดูเหมือนวาจนถึงเวลานี้ก็ยังรูสึกไมเขาใจ
“เชนนั้นจิตวิญญาณของปศาจหมาปาดวงที่สองนี้ยังอยูหรือไม?”
“แนนอนวาอยู หลังจากที่ถูกมนุษยผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้นจับเอาไว ขาถึงไดรูวา
ปศาจหมาปาอิ๋นเยวตัวนี้คาดไมถึงวาจะเปนสนมรักของเทพหมาปาเทียนขุยหนึ่งใน
เจ็ดราชันยปศาจในแดนวิญญาณ และเปนหนึ่งในปศาจวิญญาณที่ลงมายังแดนมนุษย
ดวยรางที่แทจริงเพียงไมกี่ตน ตอนนั้นที่ขาสิงรางปศาจหมาปาตัวนี้ไดอยางงายดาย ก็
เพราะอาศัยตอนที่ปศาจตัวนั้นเพิ่งจะลงมายังแดนมนุษย ทำใหจิตวิญ ญาณดั้งเดิม
ไดรับบาดเจ็บหนัก
มิเชนนั้น จากพลังยุทธที่เต็มเปยมของงหมาปาสีเงินตัวนี้ ขาที่เปนแคเศษเสี้ยว
วิ ญ ญาณ จึ ง ไม แ น ว า จะทำสำเร็ จ ได ทว า หมาป า สี เงิ น ตั ว นี้ ค าดไม ถึ ง ว า มี ส องจิ ต
วิญญาณ นี่อยูนอกเหนือความคาดหมายของขา ทำใหเสียเปรียบไปไมนอย ทวา ตอน
นั้ น ข าก็ ยึ ด ครองรางนี้ ม าได ส องสองป แ ล ว รางกายส วนใหญ จึงแปลงรางเป น มาร
ถึงแมวาขาจะถูกจับไวที่นี่ มนุษยผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้นก็ไมมีทางบีบใหขาออกจาก
รางนี้ได และไมกลาลงมือกับขาและกายเนื้อพรอมกัน จึงทำไดเพียงผนึกขาเอาไวที่
ปอมปราการมารชั่วคราว” หัวหมาปาสีดำเอยอยางราบเรียบ
มารโบราณยังพอวา คนประหลาดไดยิน เรื่องลับโบราณเหลานี้ ตางก็อดที่ จะ
ตะลึงงันไมได
“เชนนั้น ตอนนี้จิตวิญญาณหมาปาที่สองก็ยังคงอยูในรางนี้” มารโบราณหัวเราะ
อยางขมขื่นออกมา ตาโตๆ ทั้งสี่ขางจองเขม็งไปยังหัวหมาปาสีเงินขาวพรอมกัน
“ตอนนี้ไมอยู ทวาอีกเดี๋ยว นางก็นาจะกลับมาแลว จะวาไปแลว พวกเจาก็นับวา
โชคดี คาดไมถึงวาจะมาปลุกขาใหตื่นตอนนี้” หัวหมาปาสีดำหัวเราะนอยๆ ออกมา
“ทานบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ หมายความวาอยางไร?” มารโบราณใจหายวาบ
“งา ยมาก ตอนแรกที่ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รโบราณใช ธ งหงส ด ำทำให ที่ นี่ ก ลายเป น
สถานที่ที่ตัดขาดจากพลังวิญญาณเพื่อผนึกขาเอาไวนั้น จึงจงใจดึงจิตวิญญาณดั้งเดิม
ดวงที่ ส องของหมาป า ออกมา สร า งวิ ห ารที่ เต็ ม เป ย มไปด ว ยพลั ง วิ ญ ญาณเอาไว
ดานขางอยางไมเสียดาย แลวเก็บมันเอาไวอยางปลอดภัยที่นั่น เชนนั้น ในตอนแรกจิต
วิญญาณที่สองของสนมรักราชันยปศาจผูนั้น ก็แทบจะกลับมาเพื่อแยงชิงอำนาจใน
การควบคุมกายเนื้อกับขาอยูตลอด เมื่อไมสำเร็จก็จะกลับยังที่ที่ปลอดภัยทันที แลว
ฟนฟูปราณแทที่สูญเสียไป แตเปนเพราะขาถูกผนึกอยูที่นี่ จึงทำไดเพียงอาศัยไอมาร
ในรางมาตอกรกับการกระทำของสตรีผูนี้ หากเป นเชน นี้ในระยะยาว ไมนานก็จะ
เสียเปรียบแลว เพื่อไมใหถูกบีบใหออกจากกายเนื้อจริงๆ ขาเองก็จำใจตองใชเคล็ด
วิชาผสานวิญญาณมาตอกรกับนาง” หัวหมาปาสีดำเอยอยางราบเรียบเปนพิเศษ
“อะไรนะ เคล็ดวิชาผสานวิญญาณ! ทาน…” ดวงตาสี่ขางของมารโบราณเผยสี
หนาตกตะลึงออกมาพรอมกัน เวลานั้นทำใหลืมแมแตกระทั่งความนอบนอม
“ใชแลว ขาหลอมรวมกับนางกลายเปนจิตวิญญาณใหมแลว และยิ่งไปกวานั้นยัง
ใชจิตสัมผัสของนางเปนหลัก จิตของขาเปนรอง ทวาในตอนแรก จิตวิญญาณใหมไม
เพียงจะไมมีทางมั่นคงได และยิ่งไปกวานั้นตอนแรกที่ผูบำเพ็ญเพียรโบราณเหลานั้น
เห็นจิตวิญญาณใหม ก็แยกแยะออกวาขาหลอมรวมเขาไป และไมยอมรับฐานะของ
นาง และไมปลดผนึกเพื่อปลอยนางออกไป แตเนื่องมาจากนางอยูในฐานะที่พิเศษ ผู
บำเพ็ญเพียรโบราณจึงไมกลาลงมือทำรายนางงายๆ นัก จึงละทิ้งแมกระทั่งภูเขาคุนอู
ไป และปดผนึกภูเขาลุกนี้ เชนนั้น จิตวิญญาณของขาสองคนจึงตอสูกันอยูที่นี่มาโดย
ตลอด ภายใต ส ถานการณ ก ารหลอมรวมที่ แ ปลกประหลาดนี้ จนถึ ง หมื่ น กว า ป
หลังจากหลอมรวมอีกครั้ง ถึงไดมั่นคงขึ้น และหลอมรวมอยางสมบูรณแบบแลว แต
สองสามวันกอน จิตวิญญาณใหมไดแอบดึงผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงคนหนึ่งเขา
มาในภาพลวงตามหัศจรรย ทำใหจิตสัมผัสเสียหาย ขาและจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของ
ปศาจหมาปานั่นถึงไดแยกกันอีกครั้ง แตครั้งนี้ เดาวาคงเปนการแตกแยกครั้งสุดทาย
แลว รอใหจิตวิญญาณหมาปาที่สองไดสติจากการหลับใหลในสถานที่ที่พลังวิญญาณ
เต็มเปยมแลว ก็จะหลอมรวมรางกันอีกครั้ง” หัวหมาปาสีดำเอยถึงเรื่องนี้ คาดไมถึง
วาตั้งแตตนจนจบจะยังคงรักษาน้ำเสียงที่ราบเรียบเอาไว
มารโบราณและตัวประหลาดพลันรูสึกงงเปนไกตาแตก!
“ทานบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ หลังจากหลอมรวมกับจิตวิญญาณใหมแลวเปนปศาจ
หรือวาเปนหนึ่งในสมาชิกเผาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา!” หลังจากที่มารโบราณตกตะลึง
อยูนาน ก็หัวเราะอยางขมขื่นออกมาขณะเอยถาม
“เจาคิดวาอยางไรละ?” หัวหมาปาสีดำถามกลับอยางไมใสใจ
มารโบราณไดยินก็ทำไดเพียงเงียบกริบ
“ในเมื่ออธิบายใหพวกเราฟงอยางละเอียดเชนนี้ นาจะมีวิธีการอะไรมาหยุดยั้ง
เรื่ อ งนี้ สิ น ะ หากมี อ ะไรนายท านกล าวมาตรงๆ ก็ ได แ ล ว ” คนประหลาดครุ น คิ ด
เล็กนอย จูๆ ก็เอยเชนนี้ออกมา
“อืม จะวาไปแลว ขาก็ยังไมไดถามเจา เจาเปนมนุษยคาดไมถึงวาจะลงมือชวย
เสวี่ยเยี่ยน นาจะมีแผนการอะไรสินะ ขาดูแลวพลังชีวิตที่เหลือทั้งหมดของเจานั้นมีไม
มากนัก นาจะใกลถึงอายุขัยแลวสินะ คิดจะใหบรรพชนศักดิ์สิทธิ์อยางขาใสไอมารเขา
ไปในรางเจาหรือ?” แววตาของหัวหมาปาสีดำเปลงแสงสีมวงสวางวาบ ไมไดตอบกลับ
แตกลับเอยอยางมีเลศนัย
“ในเมื่อทานดูออกแลว ขาเองก็ไมมีอะไรตองปดบัง ผูแซเยี่ยยอมเขามาอยูในทาง
สายมาร จะไมมีทางยอมละสังขารแน ถาหากเปนเชนนั้น สองสามปที่ขาฝกบำเพ็ญ
เพียรมาอยางหนักและผานการเกิดแกเจ็บตายมาจำนวนนับไมถวนก็เพื่ออะไรละ?
หรือวาจะใหตนเองกลายเปนเถาธุลี กลับคืนสูพื้นดินอีกครั้งกัน?” เรื่องมาถึงขั้นนี้ คน
ประหลาดก็ไมมีเจตนาจปดบังแมแตนอย ใบหนาเผยสีหนาโหดเหี้ยมออกมา
ตอนที่ 1021 พบแสงปราณอีกครั้ง
“จะพูดอยางตรงไปตรงมาไมเขินอายอะไร ในเมื่อเจาตัดสินใจแลว หากชวยขา
ออกไปจากที่นี่ได ขาก็ชวยใสไอมารเขาไปในรางของเจาสักครั้งหนึ่ง บอกเอาไวกอน
นะ จากสถานการณของเจาตอใหใสไอมารเขาไปมากสุดก็มีอัตราการเพิ่มระดับได
เพียงครึ่งขั้นเทานั้น ทวา แตเดิมเผาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราก็มีอายุขัยมากกวาผูบำเพ็ญ
เพียรอยางพวกเจาอยูแลว ถึงแมวาจะเลื่อนขั้นไมสำเร็จ หลังจากที่ใสไอมารเขาไป
อายุขัยก็จะเพิ่มขึ้นไมนอยเชนกัน เจาก็จะยังมีโอกาสในการบรรลุระดับเทพแปลงดวย
ตัวเจาเอง” หลังจากที่หัวหมาปาสีดำกวาดสายตาไปบนเรือนรางของคนประหลาด
แลว ก็เอยขึ้นดวยสีหนาราบเรียบ
“ครึ่งหนึ่ง? ตอใหมีเพียงหนึ่งในสิบ ผูแซเยี่ยก็จะพยายามดูสักตั้ง จะชวยทานได
อยางไรนั้น โปรดบอกมาเถิด” คนประหลาดหัวเราะอยางบาคลั่งออกมา แลวเอยขึ้น
อยางไมลังเลเลยแมแตนอย
“เยี่ยม ขาจะพูดอยางตรงไปตรงมาแลวนะ เขตอาคมผสานวิญญาณมาถึงขั้นนี้
แลว หากวิญญาณหมาปาตัวนั้นกลับเขารางนี้ นางไมจำเปนตองทำอะไร ขาไมมีก็ทาง
ขัดขืนการรวมรางกับนางได วิธีเดียวที่จะหยุดไดก็คือ มีเพียงตองกำจัดจิตวิญญาณ
ของหมาปาเทานั้น และสถานที่ที่จิตวิญญาณของหมาปาอิ๋นเยวหลับใหลอยูนั้น กลับ
ถูกสามผูเฒาคุนอูวางเขตอาคมตัดขาดเอาไวดวยมือของตนเอง เขตอาคมนี้สรางขึ้น
จากมีดประหารมารแปดสิบเอ็ดเลม ไมวาผูใดที่มีไอมารอยูในรางหากเขาใกลที่นั่น ก็
จะถูกมีดยักษเหลานั้นผสานกับพลังของเขตอาคมสับจนเปนชิ้นๆ เสวี่ยเยี่ยนไมมีทาง
ทลายเขตอาคมนี้ได ขาเห็นวาถึงแมเคล็ดวิชาที่เจาฝกฝนมาจะไมใชเคล็ดวิชาสาย
ธรรมะอะไร แตก็ไมใชเคล็ดวิชาทางสายมาร การกำจัดจิตวิญญาณหมาปานั้นคงตอง
มอบใหสหายแลว ขอแคทำเรื่องนี้สำเร็จ เรื่องใสไอมารเขาไปนั่นก็มอบใหขาจัดการ
เอง” น้ำเสียงของหัวหมาปาสีดำเหมือนกับกอนหนาอยางไรอยางนั้น แตเมื่อเขามาใน
โสตประสาทของคนประหลาดกลับเต็มไปดวยความเยายวนอยางสุดๆ ทำใหเขามอง
ไปยังหมาปายักษอยางลังเลใจ สีหนาเครงขรึมสลับกับสดใสไมแนนอน
“จิตวิญญาณหมาปานั่นอยูที่ใด?” หลังจากผานไปชั่วครู คนประหลาดตระกูลเยี่ย
ผูนั้นก็กัดฟนเอยขึ้น คาดไมถึงวาจะไมมีเจตนาตอรองเลยแมแตนอย
“สหายเยี่ยเปนผูที่ชาญฉลาดดังคาด! ในเขตอาคมสงตัวทั้งสองที่สงตัวพวกเจามา
อีกอันหนึ่งคือทางไปยังวิหารที่จิตวิญญาณหมาปาถูกเก็บเอาไวอยางปลอดภัย”
หัวหมาปาสีดำเห็นคนประหลาดไมไดคิดเล็กคิดนอยอะไร แววตาก็เผยความชื่น
ชมออกมา และเอยอยางจนหมดเปลือกอยางวองไว
“ถาหากเปนเขตอาคมสงตัวนั่นละก็ เจาคนของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ไดลวงหนาไป
กอนแลว คงยุงยากนิดหนอย ทวาถาแอบลงมืออยางลับๆ ละก็ การตอกรกับพวกเขา
ก็เปนเรื่องที่งายดายนัก ขาจะรีบไปจำกัดจิตวิญญาณหมาปานั่นทิ้ง” คนประหลาด
พึมพำสองมือพลันรายอาคม เขตอาคมสงตัวใตฝาเทาเปลงแสงสวางวาบ คาดไมถึงวา
จะสงตัวออกไปจริงๆ
ชั่วขณะนั้นใกลๆ กันกับเขตอาคม จึงเหลือเพียงมารโบราณเพียงคนเดียว
“เมื่อครูที่อยูตอหนามนุษยผูบำเพ็ญเพียรนั้น จึงถามอะไรเจาไมคอยสะดวกนัก
ตอนนี้บอกขาไดหรือไมวา เจารวบรวมยุทธภัณฑมารมาไดกี่ชิ้นแลว” รอจนรางของ
คนประหลาดหายวับไป แววตาของหัวหมาปาสีดำก็เครงขรึม ไอเย็นเยียบกลุมหนึ่ง
พลันแผออกมา โซตรวนบนรางเกิดเสียงครืดคราดในชั่ววินาทีนั้น ในเวลาเดียวกันก็
เปลงลำแสงสีดำจำนวนนับไมถวนออกมา ชั่วครูก็พุงเขามาในรางของหมาปายักษ แต
หัวหมาปาสีดำกลับมีสีหนาไมเปลี่ยนแปลงเลยแมแตนอย ทาทางเหมือนมองไมเห็น
“รายงานทานบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ หายุทธภัณฑมารที่แตเดิมคนในเผาทิ้งไวในแดน
มนุษยไดหาชิ้นแลวขอรับ!”
มารโบราณคอมเอวลง ทาทางนอบนอมมากยิ่งขึ้น
“ยุทธภัณฑหาชิ้น ก็พอฝนถูไถได วางเขตอาคมเถิด ถึงแมวาตอนนี้ขาจะควบคุม
ลมปราณในรางนี้ไดเพียงครึ่งเดียว แตขอแคดิ้นรนออกมาหนอย ก็เพียงพอจะทลาย
เขตอาคมธงหงสดำแลว ตอใหมันเปนสมบัติวิญญาณสะทานฟา แตไมมีเจานายคอย
ควบคุม ก็เปนแคของตายชิ้นหนึ่งเทานั้น” หัวหมาปาสีดำเอยดวยสีหนาเย็นชา
“ขอรับ” มารโบราณไดยิน มือทั้งสี่ก็โบกสะบัดไปกลางอากาศอยางไมลังเล ใน
เวลาเดี ย วกั น ลำแสงสี ด ำพลั น สวางวาบ แขนทั้ งสี่ มี ยุ ท ธภั ณ ฑ ม ารสี ด ำแขนละชิ้ น
ปรากฏขึ้น กระจกหมึกบานหนึ่ง คันธนูสีโลหิตคันหนึ่ง ดอกบัวดอกหนึ่งรวมทั้งวง
แหวนกลมๆ สีเทาขาววงหนึ่ง
และมารโบราณพลันอาปาก พนขวดเล็กๆ สีดำสนิทออกมาขวดหนึ่ง
เมื่อยุทธภัณฑมารหาชิ้นนี้ปรากฏออกมา ก็หมุนติ้วๆ อยูเหนือหัวมารโบราณไม
หยุดทันที
มารโบราณเปลงเสียงรองยาวๆ ออกมา จากนั้นรอบกายก็เปลงแสงสีดำสวางวาบ
ยุทธภัณฑมารทั้งหาชิ้น พุงขึ้นไปกลางอากาศตรงไปหาหมาปายักษอยางคาดไมถึง
เขตอาคมกลางอากาศพลันสัมผัสอะไรไดในทันที มันเปลงลำแสงวิญญาณออกมา
พรอมกัน ลำแสงหลากสีสันสวางวาบไม ห ยุด ท องฟ าทั้ งหมดดูเหมือนวาจะมีชีวิต
ขึ้นมาในชั่วพริบตา
......
แน น อนว า หานลี่ ไม รู ว า มี ม ารโบราณตั ว หนึ่ ง กำลั ง จะหลุ ด ออกมาจากป อ ม
ปราการมาร เขาในเวลานี้กำลังยืนอยูตรงประตูของวิหารคุนอู มองสถานการณภายใน
วิหาร ใบหนาเผยสีหนาประหลาดใจออกมา
“แสงปราณทิศเหนือสุด ของสิ่งนี้มาอยูที่นี่ไดอยางไร” หานลี่เอยพึมพำ สายตา
กลอกไปมาทามกลางลำแสงสีเงินที่หนาแนนเบื้องหนาสองสามรอบ เมื่อมั่นใจแนๆ วา
ของพวกนี้เหมือนกับสิ่งที่เคยพบในหุบเขามารโรย แตแคลำแสงเหลานี้ไมไดเปลง
ออกมาจากหินอะไรสักอยาง แตพนออกมาจากเสาหินขนาดหนึ่งคนโอบตรงกลางของ
วิหาร จนหอหุมวิหารทั้งหมดเอาไว และไมมีทางมองเห็นไดอยางชัดเจนวาดานหลัง
ของวิหารเกิดอะไรขึ้นกันแน
ในตอนนั้ น เอง ด า นหลั งของหานลี่ พ ลั น มี เสี ย งหั ว เราะอย างบ า คลั่ ง ดั ง ขึ้ น ดู
เหมือนวาจะอยูไกลแสนไกล และยังบาคลั่งอยางสุดๆ
“สหายหาน ไมทราบวาเจาคิดจะกระโดดเขาในแสงปราณทิศเหนือสุดเอง หรือ
วาอีกเดี๋ยวใหพวกเราใชสมบัติอาคมสงเจาเขาไป!”
เมื่อไดยิน คาดไมถึงวาจะเปนเสียงของมารเฒาเฉียน
หานลี่ขมวดคิ้ว หันกลับไปมองแวบหนึ่ง
เมื่อมองทะลุผานประตูยักษไป ก็มองเห็นตนไมวิญญาณแมเหล็กทองที่แตเดิม
เรียงรายอยูทั้งสองฝงเหลือเพียงสิบกวาตนแลว พวกของมารเฒาเฉียนและพวกของ
ยักษปกเงินจะไลตามมาถึงประตูวิหารแลว
พวกเขายังคงใชสมบั ติทำลายต น ไมยักษ ตน สุดท ายอยูไปพลาง มองทะลุผาน
ประตูวิหารมายังหานลี่ดวยสีหนาแปลกประหลาดไปพลาง
นอกจากปศาจเหลานั้นที่ตั้งแตแรกก็รูวามีแสงปราณทิศเหนือสุดดำรงอยูนั้น คน
อื่นๆ ตางก็เปนผูมีประสบการณ เฟ องฟู และมองเห็นสถานการณ ของวิหารหินอยู
ไกลๆ ก็ทยอยกันรูวานี่คือแสงปราณทิศเหนือสุด
แนนอนวาผลลัพธทำใหทั้งดีใจและกลุมใจผสมปนเปกัน
ที่ดีใจก็คือ มีลำแสงปราณทิศเหนือสุดมาขวางทางไว หานลี่ไมมีท างเขาไปชิง
สมบัติในวิหารไดกอนแน ที่กลุมใจแนนอนวาก็คือพวกเขาดูเหมือนวาไมมีทางขามผาน
เขตอาคมแสงปราณทิศเหนือสุดที่ปรากฏขึ้นอยางกะทันหันนี้ไปได อีกเดี๋ยวจะชิง
สมบัติอยางไร ก็เปนเรื่องที่ปวดหัวเรื่องหนึ่งแลว
แตน้ำเสียงของมารเฒาเฉียนนั้นกลับไมแนนอน ดูเหมือนวาจะหัวเราะอยางไมใสใจ
แสงปราณทิศเหนือสุดสำหรับผูบำเพ็ญเพียรที่ไมไดเตรียมตัวมากอนนั้น ชางเปน
หนทางไปสูความตายจริงๆ มินาละมารเฒาจึงมีทาทีดีอกดีใจบนความทุกขของคนอื่น
หานลี่สงเสียงเหอะอยางเย็นชาออกมา หันกลับไปตบไปที่ยามเก็บของ วงแหวนสีดำ
วงหนึ่งบินออกมาจากยามเก็บของ หลังจากหมุนวนหนึ่งรอบก็ขยายใหญ ขึ้นเหนือ
ศีรษะ กลายเปนวงแหวนยักษขนาดเสนผาศูนยกลางสองสามจั้ง
อักขระบนวงแหวนนี้เปลงแสงสวางวาบ ดูเหมือนวาจะพิเศษไมธรรมดา นั่นก็คือ
หนึ่งในแหวนทวิภาวะ
หานลี่ชี้ไปยังวงแหวนยักษดวยสีหนาเรียบเฉย ของสิ่งนั้นพลันลอยลงมาอยูเหนือ
ศีรษะทันที ในเวลาเดียวกันก็รายอาคมสายหนึ่งโจมตีเขาไป เกราะปองกันลำแสงสีดำ
สนิทปรากฏขึ้นบนวงแหวน ปกปองหานลี่เอาไวขางในอยางแนนหนา
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ เสียงหัวเราะของมารเฒาเฉียนพลันหยุดชะงักลง ผูบำเพ็ญ
เพียรที่อยูดานหลังและเหลาปศาจก็พากันตกตะลึงตาคางพรอมกัน ใบหนาเผยสีหนา
ไมยากจะเชื่ออกมา
‘หรือวาคนผูนั้นจะมีวิธีทะลวงผานแสงปราณทิศเหนือสุดไปจริงๆ!’ ในหัวของทุก
คนอดที่จะมีความคิดนี้ผุดขึ้นมาไมได แมแตการรายอาคมกระตุนใหสมบัติทำการ
โจมตีตนไมวิญญาณแมเหล็กทอง ก็ยังเชื่องชาลง
ผลลัพธคือทามกลางสายตาพวกเขา รางของหานลี่แวบหายไป ทะลวงผานเสน
ไหมลำแสงสีเงินที่หนาแนนเขาไปขณะที่เหนือศีรษะมีเกราะลำแสงหอหุมอยู แสง
ปราณทิศเหนือสุดที่พุงเขามายังมานลำแสงที่ไมสะดุดตานี้ พากันหักหลบอยางแปลก
ประหลาด หลบหลีกหานลี่ไป
เวลานี้ทุกคนตางมองสบตากันดวยความตกตะลึงจนอาปากคาง
ชั่วพริบตารางของหานลี่ก็จมหายไปทามกลางแสงปราณทิศเหนือสุด จนมองไม
เห็นรองรอย
“รีบลงมือหนอย อยาปลอยใหเจาเด็กนั้นชิงสมบัติไปไดจริงๆ!” ในที่สุดยักษปก
เงินก็ไดสติฟนคืนจากความตกใจ ปากก็รองตะโกนออกมา ใบหนาเปลี่ยนเปนบิดเบี้ยว
นากลัว
“ตอใหลงมือไวกวานี้ จะมีประโยชนอะไร ยังมีแสงปราณทิศเหนือสุดขวางอยูนะ!”
เกอเทียนเหาเองก็มีสีหนาเขียวคล้ำขณะเอย
“เหอะ! แสงปราณทิศเหนือสุดอาจจะเปนการยากสำหรับผูอื่น แตคิดจะตานทาน
ตาเฒากลับเปนไดแคเรื่องเพอฝน” มารเฒาเฉียนสงเสียงเหอะดวยความเย็นชาอยาง
สุดๆ ออกมา ทันใดนั้นมารทั้งหาก็กลายเปนเงารางสีขาวยักษ จูๆ ก็กระโดดออกไป
คาดไมถึงวาจะไมสนใจไมวิญญาณแมเหล็กทองที่เหลือ ตรงไปทางประตูวิหาร
“ทานอาวุโส ทาน…” เกอเทียนเหาและพวกพากันตกตะลึง อดที่จะรองอุทาน
ดวยเสียงต่ำๆ ออกมาไมได
ผลลัพธคือเมื่อเงายักษสีขาวเขามาในอาณาเขตของไมวิญญาณแมเหล็กทองที่เหลือ
ชั่วขณะนั้ น แรงกดมหาศาลก็ ก ดเงารางสี ขาวลงกั บ พื้ น ในทั น ที เปลี่ย นเป น เดิ น ไป
ขางหนาอยางยากลำบาก
“อาก!” เสียงคำรามราวกับฟาผาดังออกมาจากปากของเงารางสีขาว ทันใดนั้น
ลำแสงบนเงารางสีขาวพลันหมนแสงลง เงารางสีโลหิตสายหนึ่งพุงออกมาจากเงารางสี
ขาวราวกับไรรูปราง หลังจากบินออกไปสิบกวากาว ถึงไดถูกพลังมหาศาลกดเอาไวกับ
พื้นอีกครั้ง แตเงารางสีโลหิตนี้กลับสั่นคลอนเล็กนอย กาวไปยังวิหารทีละกาวๆ ราว
กับคนปกติ
ภาพฉากนี้ แนนอนวาทำใหคนและปศาจเหลานี้พากันตกตะลึง
“เรื่องมาถึงเวลานี้แลว จึงทำไดเพียงตองอาศัยความสามารถของสหายกุยแลว
ลงมือเถิด พวกเรารอตอไปไมไดแลว ของเหลานี้ไมอาจปลอยใหตกไปอยูในมือของ
ผูอื่นได!” ยักษปกเงินหันหนาไปอยางไมลังเลอีก ถายทอดเสียงไปหาฮูหยินอัปลักษณ
ดวยสีหนาทะมึนทึบ
ฮู ห ยิ น อั ป ลั ก ษณ เองก็ พ ยั ก หน า ด ว ยความเคร ง ขรึ ม ทั น ใดนั้ น รอบกายพลั น
เปลงแสงสีขาวสวางวาบ รางกายหมอบลงไปกับพื้น ทามกลางลำแสงที่เจิดจาจนแสบ
ตา เตายักษสีขาวสลับดำขนาดสองสามจั้งพลันปรากฏขึ้น และคลานตรงไปเบื้องหนา
อยางรวดเร็ว
คาดไมถึงวาปศาจตนนี้จะเผยรางเดิมออกมา
อสูรวิหคราชสีหและยักษปกเงินก็บินขึ้นไปพรอมกัน นั่งอยูบนหลังเตา เตายักษ
ตัวนั้นในเวลานี้ ถึงไดเขาไปในอาณาเขตของไมวิญญาณแมเหล็กทองพรอมกัน
ผลลัพธคือ รางของอสูรวิหคราชสีหและยักษปกเงินพลันสั่นคลอน ฝนทนอยูบน
หลังของเตาโดยไมอาจขยับ ตัวได แต เตายักษ กลับ เปลงแสงสีดำและขาวสองสาย
ออกมาไมหยุด สี่เทาคลานไปขางหนาอยางรวดเร็วโดยไมหยุดพักแมแตนอย ราวกับ
วาไมไดรับผลกระทบใดๆ
ทวาก็ไมอาจไมไดรับผลกระทบได เพราะวาในเวลาเดียวกันที่ปศาจทั้งสามตนเขา
ไปในอาณาเขตแรงโนมถวง รอบๆ มารทั้งสามก็มีอักขระสีทองประหลาดๆ ปรากฏขึ้น
ยันตเหลานั้นดูเหมือนวาจะพุงหายเขามาในรางของปศาจสามตนนั้นอยางรวดเร็ว
ถึงแมวาเกราะปองกันของสามปศาจจะเปลงแสงเจิดจาจนบาดตา คาดไมถึงวา
จะไมอาจตานทานอักขระเหลานั้นไดเลยแมแตนอย เตายักษยังดูเหมือนวาจะไมไดรับ
กระทบ หลังจากที่อักขระจมหายเขาไปในรางของยักษปกเงินและอสูรวิหคราชสีห
แลว สีหนาก็ทอแทขึ้นหนึ่งสวนทันที ราวกับวาถูกเขตอาคมที่รายแรงอยางสุดๆ กด
เอาไวอยางไรอยางนั้น
ทวาโชคดีที่ผลกระทบจากลำแสงแมเหล็กทองที่เหลือนั้นไมมากนัก ชั่วครูเตายักษก็
แบกทั้งสามคนออกมาจากอาณาเขตนั้น ปศาจทั้งสามถอนหายใจยาวๆ ออกมาเฮือก
หนึ่งทันที สีหนาฟนฟูกลับมาเปนปกติไปกวาครึ่ง
ตอนที่ 1022 ลอบโจมตี
เตายักษรอจนปศาจทั้งสองลงจากแผนหลัง รางกายก็เปลงแสงวิญญาณสวางวาบ
กลายเป น ฮู ห ยิ น อั ป ลั ก ษณ อี ก ครั้ ง แต แ ค ใบหน า อั ป ลั ก ษณ ดู ซี ด เขาเป น พิ เศษ ดู
เหมือนวาการขามผานแสงแมเหล็กสีทองเมื่อครูจะทำใหสูญเสียปราณแทไปไมนอย
รางของสามปศาจสวางวาบ พุงไปทางวิหารอยางไมหยุดรั้งรอแมแตนอย
เวลานี้มารเฒ าเฉียนที่กลายเป น เงาโลหิ ต ไดบิน ลวงหนาเขาไปกอนแลว สาม
ปศาจจึงทำไดเพียงมองเงาโลหิตขามผานเสนไหมสีเงินจำนวนนับไมถวนไป ทำให
รางกายของเขาถูกทิ่มแทงจนเกิดเปนรูนับรอยนับพัน แตรอบกายของเงาโลหิตก็เปลง
ลำแสงสีโลหิตที่เจิดจาจนแสบตาออกมา ในเวลาเดียวกันกับที่รางกายไดรับบาดเจ็บ
คาดไมถึงวาจะไมหยุดฟนฟูพลังยุทธ
ในสถานการณเชนนี้ มารเฒาเฉียนที่กลายเปนเงาโลหิตนั้นไมหยุดยั้งเลยแมแตนอย
ชั่วพริบตาก็จมหายเขาไปในแสงปราณทิศเหนือสุดจนหายลับไป
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ ปศาจทั้งสามก็ไมกลาลังเลอีก ราวกับวาปรึกษาแผนการกัน
มาแลวอยางไรอยางนั้น รางของอสูรวิหคราชสีหแวบหายไป จูๆ พลันมายืนอยูเบื้อง
หนา ในเวลาเดียวกันก็อาปากที่เปนดั่งบอโลหิตออก พ นคลื่นเสียงสีทองกลุมหนึ่ง
ออกมา ทุกแหงที่พุงผานไป เสนไหมสีเงินจะถูกสับออกเปนชิ้นเล็กชิ้นนอย
ติ ด ๆ กั น กั บ เขายั ก ษ ป เงิน กระพื อ ป ก ทั้ งสองข า ง พายุ สี เขี ย วกลุ ม หนึ่ ง ทะลั ก
ออกมาจากปก ผสานกับคลื่นสีทองแลวพัดเสนไหมที่ถูกสับออกเปนชิ้นๆ ลอยปลิวไป
ดังนั้นภายใตการกวาดลางที่แตกตางกันสองชนิดอยางตอเนื่อง ในที่สุด ‘ที่วาง’ ก็
ปรากฏขึ้น
สามปศาจถือโอกาสนี้พุงเขาไป จากนั้นก็คอยๆ ตรงเขาไปยังสวนลึกของวิหาร
หลินอิ๋นผิงที่ยังอยูดานนอกวิหารคุนอู ใบหนาเรียวดูไมไดอยางสุดๆ ชั่วพริบตา
ตรงตนไมยักษที่ถูกฟนอยางตอเนื่อง ก็เหลือเพียงพวกนางและพวกของเกอเทียนเหา
นางกัดฟนเล็กนอย คิ้วเรียวขมวดมุน เอียงศีรษะเอยกับชายหนุมแซสวีวา
“พี่สวี พวกเรา…”
“ธิดาเทพอยางรอนใจไป จุดประสงคหลักของพวกเราคือเจาเด็กแซหานผูนั้น
ไมไดสนใจสมบัติในวิหารแหงนี้ และยิ่งไปกวานั้นเขากันไปเยอะขนาดนี้ ผูใดจะฮุบ
สมบัติไปคนเดียวไดงายๆ พวกเรากำจัดตนไมยักษเหลานี้ และคอยรักษาการณอยู
ดานนอกวิหารก็พอแลว” ชายหนุมแซสวีควบคุมกระบี่บินที่หลอมขึ้นจากหยกเลม
หนึ่ง โจมตีไปยังตนไมยักษตนหนึ่งไมหยุด พลางเอยอยางทองไมรูรอน
“ฮาๆ พี่สวีพูดมีเหตุผล ตอใหคนอื่นๆ ไดสมบัติ ก็ตองออกมาจากวิหาร ถึงแมวา
พวกเราจะไม มี ท างเข าไปในแสงปราณทิ ศ เหนื อ สุ ด ได แต ห ากคิ ด จะจากไปอย าง
งายดายก็ตองถามพวกเรากอนวายอมหรือไม” เกอเที ยนเหาเองก็หั วเราะออกมา
พรอมกับปรบมือ
หลิ น อิ๋ น ผิ ง มองเส น ไหมสี เงิ น ในวิ ห าร ขบคิ ด เล็ ก น อ ย แล ว พยั ก หน า อย า ง
ราบเรียบ
ชายชราชุดดำอีกสองคนไดยินคำพูดเชนนี้ก็รูสึกวามีเหตุผล ความรูสึกที่คิดถึงแต
ผลประโยชนของตัวเองนอยลงไปไมนอย โจมตีตนไมยักษตอไปอยางวางาย
ชั่วพริบตา เสียง ‘ปง’ ก็ดังสนั่นขึ้น ตนไมยักษสีเหลืองกรอบสูงสิบกวาจั้งตนหนึ่ง
ลมลงจากการโจมตีจากคนเหลานี้
แทบจะในเวลาเดี ย วกั น นั้ น หานลี่ ยื น อยู ในส วนลึ ก ของวิห ารคุ น อู พลั น ถอน
หายใจออกมาเฮือกหนึ่ง หันหนาไปมองเสนไหมสีเงินที่หนาแนนดานหลังแวบหนึ่ง
“ตอนนั้นผูบำเพ็ญเพียรโบราณชางเจาเลหเสียจริง คาดไมถึงวาจะจงใจวางเขต
อาคมลวงตาเอาไวในแสงปราณทิศเหนือสุด หากไมใชเพราะขามีเนตรวิญญาณวารี
กระจาง เกรงวาคงออกมาอยางยากลำบาก” หลังจากเอยพึมพำอยูหลายประโยค
หานลี่ถึงไดหันไปมองเบื้องหนา
ตำแหนงที่เขาอยูในตอนนี้นาจะเปนดานหลังของวิหารคุนอู พื้นที่ไมนับวาใหญโตนัก
แต ต รงกั น ข า มกั บ เขา มี เก า อี้ ไม รู ป ร า งแตกต า งกั น สิ บ กว า ตั ว วางเรี ย งกั น อยู จ น
กลายเปนเหมือนกับที่นั่งสภา และปลายสุดของเกาอี้ไมเหลานี้ก็มีเกาอี้สีทองออนๆ
ตัวหนึ่งวางอยูตรงกลาง ดานขางของเกาอี้ไมเหลานี้ มีโตะยาวๆ สีเขียวสูงสองสามจั้ง
อยูตัวหนึ่ง
เกาอี้นั้นยังพอวา มันถูกแกะสลักมาจากไมวิญญาณไหมทองธรรมดาๆ แตโตะ
ยาวตัวนั้นกลับเปลงแสงสีเขียวมรกต แผไอวิญญาณออกมา แคมองปราดเดียวก็รูวา
ไมใชของธรรมดา และยิ่งไปกวานั้นมันในเวลานี้ยังถูกลำแสงสีเขียวชั้นหนึ่งหอหุม
เอาไว และเมื่อมองทะลุผานมานลำแสงไป กลับมองเห็นของสองสามอยางวางอยูบน
โตะหยกอยางเลือนราง
นี่นาจะเปนสมบัติของวิหารคุนอู!
หานลี่ขมวดคิ้ว กวาดสายตามองไปทางซายทีขวาที รอบดานกลับวางเปลา และ
ไมมีสิ่งที่สะดุดตาอะไร สุดทายสายของเขาก็เลื่อนกลับมาเบื้องหนา และตกลงบน
อะไรสักอยาง
นั่นก็คือเกาอี้สีทองที่หันหลังชนกับกำแพงวิหาร คาดไมถึงวาจะแขวนภาพวาดที่
ไมสะดุดตาเอาไว เปนภาพคนสามคนกำลังมองพระจันทร
เงารางของหนึ่งภิกษุ หนึ่งนักพรต หนึ่งนั กปราชญ อยูท ามกลางป าไผ ท าท าง
เหมือนกำลังมองพระจันทรทรงกลมขณะพูดคุยอะไรสักอยางอยู
เพราะวาภาพวาดนี้มีขนาดเพียงสองสามฉื่อ สีเหลืองออนๆ ดูขมุกขมัวเล็กนอย
ไมมีลำแสงวิญญาณปรากฏออกมาสักนิด ดังนั้นถึงแมวาตอนแรกหานลี่จะไมไดสนใจ
สิ่งนี้ แตตอนนี้ดวงตาทั้งสองขางของเขาพลันหรี่ลงขณะจองมองภาพวาดนั้นไมขยับ
เขยื้อน คาดไมถึงวาจะเปลี่ยนเปนมีชีวิตชีวาขึ้นมา
ชั่วครู หานลี่ถึงไดกมศีรษะลง สีหนาเครงขรึม
เมื่อครูมองไมเห็นความผิดปกติอะไรจากภาพวาด แตเมื่อแผจิตสัมผัสออกไป
เห็นไดชัดวาภาพวาดภาพนี้เปนแคภาพวาดธรรมดาๆ แตในใจของเขาก็ยังคงสัมผัสได
ถึงความแปลกประหลาดของภาพวาดนี้ ของธรรมดาๆ จะมาแขวนอยูในสถานที่แหง
นี้ไดอยางไร
ภายใตสีหนาเครงขรึมสลับกับสดใสไมแนนอนนั้น จูๆ หานลี่ก็ชูมือขางหนึ่งขึ้น
ดวยสีหนาแนวแน ลำแสงสีทองยาวสองสามฉื่อสายหนึ่งพุงออกไป ชั่วครูก็สับลงไปบน
ภาพวาดอยางแรง แสงกระบี่พลันระเบิดออก
ทามกลางลำแสงสีทองที่สวางวาบ ภาพวาดคนสามคนเงยหนามองพระจันทร
พลันถูกสับออกเปนชิ้นๆ และทยอยกันรวงหลนลงสูพื้น
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ หานลี่กลับตกตะลึง
หรือวาเขาคิดมากไปจริงๆ? หานลี่รูสึกกลัดกลุมขึ้นมาเล็กนอย!
ทวา ในเมื่อทำเชนนี้แลว เขาก็จะไมมีทางออมมืออีก
หานลี่สะบัดแขนเสื้อทันที ลูกไฟขนาดเทากำปนสองสามลูกปรากฏขึ้นเบื้องหนา
สู ด ลมใจหายเข าเล็ ก น อ ย คิ ด จะใช จิ ต สั ม ผั ส พลั ก ลู ก ไฟเหล านี้ อ อกไป เตรีย มเผา
ภาพวาดขาดๆ นั่นใหเกลี้ยงดวยเพลิงกลุมนี้
ทวาในตอนนั้นเอง ในหัวของหานลี่กลับมีเสียงรองอุทานของอิ๋นเยวดังขึ้นอยางไม
มีสัญญาณเตือนมากอน
‘นายทานระวัง!’
หานลี่พ ลันตกตะลึง ถึงแมวาจิตสัมผัสไมไดพ บความผิดปกติ แตรางกายกลับ
เลื อ นรางไปอย างไม ลั งเลเลยสั ก นิ ด ชั่ วพริบ ตาเงารางที่ เหมื อ นกั น เจ็ ด แปดสายก็
ปรากฏขึ้น เวลานั้นไมมีทางแยกออกวารางใดคือรางที่แทจริงของหานลี่
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น กอนหินสีเขียวที่อยูดานหลังหางออกไปสองสามจั้ง
ของหานลี่ก็ระเบิดออก ลำแสงวิญญาณกะพริบวาบจากกองหิน เงาลวงตาสองสาม
สายถูกลำแสงสีทองเงินพุงทะลุผานจากแผนหลัง เกิดเสียง ‘ปง’ ดังขึ้นจากบนราง
ลำแสงสีทองเงินถูกของอะไรสักอยางตานทานเอาไว และถูกดีดกลับไป คาดไมถึงวา
จะเปนสมบัติรูปรางกระสวยสีทองเงิน
เงารางคนสายนั้นถูกพลังมหาศาลโจมตีขึ้นลง แตรางกายพลันแวบหายไปจากที่
เดิมในทันที ครูตอมาก็มาปรากฏตัวขึ้นที่อีกแหงหนึ่งซึ่งหางออกไปหกเจ็ดจั้ง หลังจาก
หันหนากลับมา หานลี่พลันเผยสีหนาตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวออกมา
เมื่อครูถาหากไมใชเพราะเขาเรียกโลรชตะออกมาตานทานเอาไวเบื้องหนากอน ก็
อาจจะถูกทำรายไมนอย
ดังนั้นถึงแมวาปกติแลวไมวาจะโกรธเกรี้ยวหรือดีใจหานลี่ก็ไมเผยสีหนาออกมา
เวลานี้กลับรูสึกหวาดกลัวเปนอยางมาก ความโกรธปะทุขึ้นมาในจิตใจ ทันใดนั้นพลัน
พลิกฝามือ ลำแสงสีเงินสวางวาบ โลเล็ กๆ พลัน ปรากฏขึ้ น ในมื อ อี กมื อหนึ่ งพลั น
สะบัดแขนเสื้อ กระบี่เลมเล็กสีทองหลายสิบเลมกลายเปนแสงกระบี่ สวางวาบแลวพุง
ไปยังใตดินตรงใตกองหิน
ผลลัพธคือเสียงหัวเราะเบาๆ ของสตรีพลันลอยมา
ทันใดนั้นลำแสงที่แสบตาพลันสวางวาบ วัตถุขนาดยักษสีทองเงินปรากฏขึ้นจาก
ใตดิน แสงกระบี่มากมายสับลงมาบนของสิ่งนั้น คาดไมถึงวาทยอยกันตกลงพื้นอยาง
แปลกประหลาด
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ หานลี่ก็ใจหายวาบ ชั่วขณะนั้นโทสะในใจพลันลดลงไป
กวาครึ่ง มองไปดวยสีหนาตั้งมั่น
วัตถุยักษสีทองเงินนั่น คาดไมถึงวาจะเปนกระสวยทอผายักษขนาดสองสามจั้ง
ผิวของมันเปลงแสงสีทองเรืองรองราวกับกระจก ไมรูวาใชวัตถุดิบชนิดใดสรางขึ้น
และดูจากทาทางแลว ของสิ่งนี้คาดไมถึงวาจะเหมือนกับวัตถุที่ลอบโจมตีเขาเมื่อครู
อยางไรอยางนั้น แตแคใหญกวาตั้งไมรูกี่เทา
“สหายชางระมัดระวังตัวเสียจริง โจมตีไปขนาดนี้คาดไมถึงวาจะยังไมสำเร็จ จุๆ
สหายฝกฝนเคล็ดวิชาใด บอกใหศิษยนองหญิ งฟงไดหรือไม” ชั่วพริบตาที่กระสวย
เล็กๆ สีทองเงินสองสามอันปรากฏตัวขึ้นมาโจมตีหานลี่ เงารางคนสายหนึ่งก็หมุนวน
และบินกลับเขาไปกระสวยอยางไรรองรอย ในเวลาเดียวกันดานในกระสวยยักษก็มี
เสียงประหลาดใจของสตรีผูเยาววัยดังขึ้น
หานลี่ เรี ย กกระบี่ บิ น ทั้ ง หมดกลั บ มาด ว ยสี ห น า นิ่ ง สงบราวกั บ น้ ำ ความคิ ด
เคลื่อนไหวไปมาอยางรวดเร็วไปพลาง อยูๆ ลำแสงวิญญาณพลันปรากฏขึ้นรอบกาย
กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งตรงไปหาโตะตัวยาวที่อยูไมไกลนัก
ในเมื่อมีผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นอยูที่นี่ แนนอนวาเขาจึงคิดจะชิงสมบัติใหไดกอน
แลวคอยวากัน มิเชนนั้นถาหากยังพัวพันตอไป ผูบำเพ็ญเพียรที่ขามผานแสงปราณทิศ
เหนือสุดเขามาไดก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ความหวังที่จะไดสมบัติมาอยูในมือก็คงรางเลือน
แต ในเวลาเดี ย วกั น กั บ ที่ ห านลี่ ก ระโจนออกไปนั้ น เขาก็ รู สึ ก ประหลาดใจขึ้ น มา
น้ำเสียงของสตรีผูนี้ไมคุนหูเลยสักนิด จะตองไมใชคนหรือปศาจที่เคยพบดานนอก
วิหารอยางแนนอน หรือวาจะมีผูบำเพ็ญ เพียรคนอื่นเขามาในภูเขาคุนอูไดรวดเร็ว
ขนาดนี้ แลวยังผานแสงปราณทิศเหนือสุดมาไดกอนมารเฒาเฉียนและพวก
ทั้งหมดนี้เปนแคการวิเคราะหในหัวของหานลี่เทานั้น ในตอนที่สตรีผูออนเยาวผู
นั้นอุทานดวยความประหลาดใจออกมา ลำแสงหลีกหนีก็แฉลบผานออกไปยี่สิบกวา
จั้ง มองเห็นวาจะถึงกลางอากาศเหนือโตะตัวยาวแลว
ในตอนนั้นเอง เหนือศีรษะของหานลี่พลันมีชวงวางประหลาดเกิดขึ้น ลำแสงสี
เขียวสวางวาบ ผาไหมสีเขียวที่มีตัวอักษระพลันปรากฏขึ้น จากนั้นก็ตกลงมาอยาง
รุนแรงและไมลังเลเลยแมแตนอย
ผายักษผืนนี้กวางประมาณหาหกจั้ง จุดที่ปรากฏขึ้นอยูใกลเพียงไมกี่ฉื่อ ภายใต
ความตกตะลึง ถึงแมวาหานลี่จะมีความสามารถและอุบายมากแคไหนก็ยังตองถูก
หอหุมเอาไว เวลานั้นคาดไมถึงวาจะถูกพันธนาการเอาไวแลว!
หานลี่เห็นลำแสงสีเขียวสวางวาบ รองวาแยแลวและสะบัดโลรชตะในมืออยางรีบ
รอน มานลำแสงสีขาวโพลนชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นในพริบตา หอหุมรางของตนเองไวแลว
แค ว ากั น และด านนอกของผ าไหมนี้ ฮู ห ยิ น ผู ห นึ่ งกลั บ ปรากฏตั ว ขึ้ น อย างแปลก
ประหลาด นั่นก็คือฮูหยินมูของพรรคแปลงเซียน
ฮูหยินผูนี้เคยเห็นอานุภาพของพัดตรีเปลวเพลิงของหานลี่มากอน แนนอนวาจึงรู
วาผาไหมสีเขียวไมอาจกักหานลี่เอาไวไดนานนัก หลังจากลอบโจมตีสำเร็จ รางกายก็
แวบหายไปอยางไมกลาดูแคลน คนก็กลายเปนสายรุงสีขาวสายหนึ่งพุงออกไปยังโตะ
ตัวยาว
นางชูมือขึ้น กลางฝามือพลันมีแผนปายสีเงินปรากฏขึ้น ดานบนเปลงแสงสีเงิน
ออกมา พนลำแสงสีเงินโจมตีไปยังมานลำแสงสีเขียวอยางพอดิบพอดี
ภายใตการสั่นสะเทือนของลำแสงสีเงิน มานกำแพงปกคลุมที่มองดูแลวมั่นคง
แปลกประหลาด พลันทยอยกันแตกออกราวกับหิมะที่ละลายทามกลางแสงอาทิตย
ชั่วพริบตาก็สลายหายไป เผยใหเห็นโฉมหนาที่แทจริงของยุทธภัณฑสองสามชิ้นที่อยู
บนโตะ
แผนไมสีแดงโลหิตสี่อันซอนทับกัน กระบี่เลมเล็กสีมวง ไมสยบมารขนาดเทาฝามือ
หนังสือที่เปลงแสงสีแดงออกมาเลมหนึ่ง รวมทั้งตราประทับสีเขียวมรกต ผิวของมัน
แกะสักรูปมังกรหากรงเล็บตัวหนึ่งที่เสมือนจริงเอาไว
เมื่อเห็นของเหลานี้ ฮูหยินก็มีสีหนาที่เต็มไปดวยความปติยินดี สายตาหยุดลงบนตรา
ประทับดวงนั้น และสะบัดแขนเสื้อในทันที คิดจะเก็บของทั้งหมดเขามาในกระเปา
ตอนที่ 1023 ชิงสมบัติ
ในตอนที่สมบัติถูกหยิบออกไปนั้น ตรงเทาของฮูหยินก็มีลำแสงสีเขียวสวางวาบ
จู ๆ ก็ มี อ สรพิ ษ ตั ว สี เขี ย วสองสามตั ว พุ งออกมาจากใต ดิ น หลั ง จากหมุ น วนอย า ง
รวดเร็วราวกับสายฟา ก็รัดฮูหยินเอาไวราวกับบะจาง อสรพิษสองสามตัวอาปากฉก
ลงมาอยางรวดเร็วราวกับอสนีบาต
เสียง ‘ปง’ ดังขึ้นสองสามครั้ง ไมรูวาบนรางของฮูหยินสวมยุทภัณฑชนิดใดอยู
นางไมไดสำแดงอิทธิฤทธิ์ใดออกมา เกราะปองกันลำแสงสีขาวชั้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
โดยอัติโนมัติ ดีดอสรพิษสีเขียวออกไปและเผยรางเดิมออกมา คาดไมถึงวาจะเปน
เถาวัลยสีเขียวมรกตสองสามเสน
เวลานี้ฮูหยินมูทั้งตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวเหมือนกับหานลี่
นางคิดไมถึงเลยวาจะมีนกกระจอกสีเหลืองอยูดานหลังของตัวเอง กอนหนานี้ทั้ง
การกักหานลี่เอาไวและใชยุทธภัณฑเปดเกราะปองกันของโตะยาวตัวนี้ ก็ลวนเพื่อให
นางกระทำแทนทั้งหมดใชหรือไม! คนที่ลอบโจมตีนางคือผูใดกันแน ตามติดกระสวย
ตะวันจันทรามาไดอยางไร ทั้งยังไมถูกพบเลยสักนิด!
ตองเขาใจวาสาเหตุที่นางเขามาที่นี่ไดโดยไมมีผูใดลวงรูนั้น ลวนอาศัยแผนปายสีเงินที่
สามผูเฒ าคุน อูทิ้ งเอาไว แผน ป ายนี้ สามารถควบคุ ม เขตอาคมบางส วนในวิห ารได
ชั่วคราว ทำใหนางขี่กระสวยตะวันจันทรามาถึงกอนผูบำเพ็ญเพียรกอนคนอื่นๆ จาก
ทางใตพิภพ
เวลานี้เสียงหัวเราะอันแปลกประหลาด “เฮะๆ” พลันดังขึ้น จากนั้นเงารางคนสูง
ใหญสีเขียวก็ปรากฏขึ้นอยางเงียบเชียบใกลๆ กวาดดวงตาสีเขียวที่เย็นยะเยือกมาทาง
ฮูหยินมู ความเย็นชาในสายตา ทำใหฮูหยินอดที่จะสั่นสะทานไมได
แตหลังจากที่เพงสมาธิมองเงารางสีเขียวอยางชัดเจนแลว นางก็รองอุทานดวย
น้ำเสียงแหบแหงออกมาพรอมกับหนาเปลี่ยนสี
“จาวพฤกษา แดนมนุษยมีปศาจเชนนี้ไดอยางไร!”
ภายใตการกวาดมองเงารางสีเขียวอยางลวกๆ ถึงแมวาจะมีมือเทาครบคลายๆ
กับมนุษย แตไมวาใบหนาหรือรางกายตางก็ถูกอะไรบางอยางหอหุ มเอาไวราวกับ
เปลือกไม แตกลับยิ่งเหมือนตนไมประหลาดที่เดินไดตนหนึ่ง
และเมื่อจาวพฤกษาไดยินฮูหยินมูตะโกนออกมาเชนนี้ แววตายิ้มเยาะพลันเปลง
ประกาย ทันใดนั้นก็ไมสนใจฮูหยินอีก รางกายกลับสวางวาบกลายเปนสำแสงสีเขียว
กลุมหนึ่งพุงไปหาโตะยาวตัวนั้น
คาดไมถึงวามันจะตองการฮุบสมบัติทั้งหมด
ฮูหยินมูใจหนักอึ้ง ตอใหนางในตอนนี้สามารถหนีออกมาได ก็หามปรามปศาจตน
นี้ไมทันแลว
แตภาพฉากที่นาเหลือเชื่อก็ปรากฏขึ้น
ลำแสงแปลงกายของจาวพฤกษายังไมทันไดเขาใกลโตะตัวยาว รูปภาพของคน
สามคนที่มองพระจันทรซึ่งถูกหานลี่สับเปนชิ้นๆ ดานหนาโตะตัวยาวก็เปลงแสงจางๆ
พนลำแสงสีเหลือง ขาว แดง สามสีออกมา ลำแสงนี้พุงขึ้นไปเหนือศีรษะคาดไมถึงวา
จะสลัดออกไปไกลสิบกวาจั้งราวกับลูกหนัง
ผลลั พ ธ คื อ เมื่ อ ลำแสงสี เขี ย วหม น แสงลง ก็ เผยให เห็ น ร างของจ า วพฤกษาที่
กระเดงขึ้นๆ ลงๆ ไมหยุด
ตอนนี้คาดไมถึงวาปศาจตัวสูงใหญจะกลิ้งหลุนๆ อยูที่เดิมอยางตอเนื่องราวกับไม
อาจควบคุมตัวเองได แลวถึงไดฝนหยุดกลิ้งลง แตเมื่อเงยหนามองลำแสงสีเขียวนั้น
ใบหนาก็เต็มไปดวยความหวาดกลัว
หลังจากที่ลำแสงสามกลุมหมุนโคจรอยูเหนือโตะตัวยาวรอบหนึ่งนั้น ก็กลายเปน
คนตัวเล็กสูงประมาณสองสามฉื่อสามคน ลอยละลอง แตดูจากรูปรางทาทางแลวคือ
นักพรต นักปราชญ ภิกษุ สามคนที่อยูในภาพเมื่อครู สายตาแข็งทื่อทั้งหกดวงจอง
เขม็งไปยังจาวพฤกษาที่อยูไกลออกไป ราวกับมองคนตายคนหนึ่งยังไรอยางนั้น
“สามผูเฒาคุนอู!” จาวพฤกษารองอุทานออกมาเสียงดังดวยความตกตะลึงระคน
หวาดกลัว ทันใดนั้นรางกายพลันเปลงแสงสวางวาบ กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่ง
พุงไปทางแสงปราณทิศเหนือสุดอยางไมตองคิด แมแตหัวก็ไมกลาหันกลับมามอง แต
คนตัวเล็กทั้งสามกลับยื่นนิ้วออกมาชี้ไปยังกระบี่เลมเล็ก ไมสยบมาร มวนคัมภีร บน
โตะยาวพรอมกัน
สมบั ติ ทั้ ง สามชิ้ น เปล ง เสี ย งร อ งออกมาขณะดี ด ตั ว พุ ง ออกไป จากนั้ น พลั น
สั่นคลอนและกลายเปนสายรุงสีมวง เหลือง แดง สามสี และสลายหายไปจากกลาง
อากาศในทันที แตครูตอมา พวกมันก็แทบจะปรากฏตัวขึ้นดานหลังของจาวพฤกษาที่
กระโจนเขาใสลำแสงสีเงิน และโจมตีอยางรุนแรงพรอมกัน
จาวพฤกษาไมมีทางหลบหลีกได!
เสียง ‘ปง’ ดังกัมปนาท ลำแสงสามสีระเบิดออก ชั่วพริบตาก็กลืนกินลำแสงสี
เขียวเขาไปขางใน เปลงลำแสงที่เจิดจาราวกับดวงอาทิตยออกมา ทำใหผูคนไมอาจ
มองสบตาไปตรงๆ ได แตเมื่อแสงหมนลง ตรงที่เดิมนอกจากสมบัติสามชิ้นแลวก็วาง
เปลาไมมีผูใดอีก
การโจมตีของสมบัติสามชิ้นนี้ คาดไมถึงวาจะกำจัดจาวพฤกษาที่ดูนากลัวทิ้งไป
ทั้งรางกายและจิตวิญญาณดั้งเดิมได
แทบจะในเวลาเดี ยวกั น แผ น ป ายไม สี โลหิ ต ที่ อ ยู ใต สุด ในทั้ งสี่ แ ผ น ก็เผาไหม
ตัวเอง ชั่วพริบตาก็กลายเปนเถาธุลีกองหนึ่ง
และสามสมบัติที่กำจัดปศาจตนนั้นทิ้งก็บินกลับมาในทันที หลังจากหมุนวนหนึ่ง
รอบก็ ก ลั บ ไปวางอยู บ นโต ะ ตรงตำแหน งเดิ ม อย างเชื่ อ ฟ ง เงารางคนสามคนที่ อ ยู
ดานบนพลันสลายหายไป คาดไมถึงวาตั้งแตตนจนจบจะไมไดกลาวอะไรออกมาสักคำ
คนตัวเล็กสามคนนี้คือจิตวิญญาณเสี้ยวหนึ่งที่หลงเหลืออยูในรูปภาพของสามผู
เฒาคุนอู และเพื่อหยุดไมใหสมบัติเหลานี้ตกไปอยูในมือของปศาจ จึงจงใจเหลือเขต
อาคมชั้นสุดทายไวในวิหารคุนอู
สวนจาวพฤกษานั้นไมวาจะเปนสติปญญาหรือพลังยุทธ ตางก็นับไดวาเปนปศาจ
ที่ ท รงพลั ง อย า งสุ ด ๆ ร า ยกาจกว า ยั ก ษ ป ก เงิ น เท า หนึ่ ง แต ก ลั บ ถู ก สามเสี้ ย วจิ ต
วิญญาณควบคุมสมบัติโจมตีเอาชีวิตไป นับไดวาโชครายอยางสุดๆ
ฮูหยินมูพลันตกตะลึงระคนดีใจหลังจากที่จาวพฤกษาตายแลวเถาวัลยสีเขียวที่
แข็งแกรงราวกับเหล็กก็กลายเปนเพียงเถาวัลยธรรมดาๆ เปลวเพลิงสีขาวพลันลุกโชน
เผาเถาวัลยนี้จนหายไป
นางสูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่งหลังจากที่สงบจิตสงบใจแลว กำลังคิดจะลง
มื อ ทำอะไรนั้ น กลับ มี เสี ยง ‘ป ง’ ดั งขึ้ น จากด านหลั ง ราวกั บ วามี อ ะไรแหวกผ าน
อากาศมา แตทันใดนั้นเสียงฟาผาก็ดังตามมาติดๆ กัน
“ศิษยพี่หญิงระวัง!” สตรีผูงดงามรองอุทานออกมา
ฮูหยินใจหายวาบ ชูมือเรียวขึ้นอยางไมตองคิด นิ้วทั้งหาควาไปทางโตะตัวยาวตัว
นั้น ชั่วขณะนั้นสมบัติบนโตะตัวยาวนั้นก็สั่นคลอนและลอยขึ้นกลางอากาศ ถูกนางดูด
เขามา
และชั่วพริบตานั้นบนกลางอากาศเหนือโตะตัวยาวพลันมีฟาผาลงมา รางคนคน
หนึ่งปรากฏขึ้นทามกลางสายฟา ควาไปที่สมบัติสองสามชิ้นนั้นเชนกัน ชั่วขณะนั้น
สมบัติสองสามชิ้นที่แตเดิมกำลังจะบินมาหาฮูหยินมูพลันหยุดชะงัก ทันใดนั้นพลันตรง
ไปหาคนผูนั้น
นั่นก็คือหานลี่ที่เพิ่งหลุดออกจากผาไหมยักษ และใชปกวายุอัสนีมาถึงที่นี่
เมื่อฮูหยินมูเห็นฉากนี้แนนอนวาทั้งตกตะลึงทั้งโกรธเกรี้ยว พลันอาปากพนเสน
ไหมเย็นเยียบสองสามสายแหวกอากาศออกไปหาหานลี่ คาดไมถึงวาจะเปนเข็มบินสี
เงินสองสามเลม
ในเวลาเดียวกันพลันสะบัดแขนเสื้อทั้งสอง ลำแสงสีแดงพุงออกมามวนเอาสมบัติ
สองสามชิ้นนั้นเอาไว
เมื่อเห็นภาพนี้หานลี่พลันมีสีหนาเครงขรึมอาปากออกพนเม็ดผลึกสีขาวเขาใสเข็มบิน
นั่นก็คือ ไขมุกผลึกหิมะ มือขางหนึ่งพลิกฝามือควาไปทางสมบัติเหลานั้น ชั่วขณะนั้น
มือยักษสีเขียวขางหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศเหนือสมบัติ ตะปบลงไป อีกมือหนึ่ง
พลันพลิกฝามือ พัดโบราณที่วิจิตรงดงามเลมหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ
ตอนแรกเขาถูกสตรีที่อยูในกระสวยยักษลอบโจมตี ตอมายังถูกฮูหยินผูนี้ใชสมบัติ
กักเอาไว ในใจจึงรูสึกโกรธเกรี้ยวเปนอยางมากมาตั้งนานแลว ดังนั้นตอนนี้เมื่อถึง
ชวงเวลาสำคัญในการชิงสมบัติจึงใชพัดตรีเปลวเพลิงอยางไมเกรงใจทันที
ผลลัพธคือ เข็มบินสีเงินสองสามเลมถูกไขมุกผลึกหิมะตานทานเอาไว มือลำแสง
ตะปบลงมาและถูกลำแสงของฮูหยินพุงเขามาพัวพัน จึงไมมีทางตะปบลงมาขางลาง
ได แตเมื่อพัดตรีเปลวเพลิงสั่นไหว เปลวเพลิงสีทอง เงิน แดง สามสี ก็ทะลักออกมา
ฮูหยินมูที่อยูตรงขามเห็นฉากนี้ก็อดที่จะหนาเปลี่ยนสีไมได นางเคยเห็นอานุภาพ
ที่นากลัวของพัดตรีเปลวเพลิงนี้มากับตา จึงรูวาอานุภาพของพัดเลมนี้ไมใชสิ่งที่นางจะ
ตานทานไดแนนอน
ภายใตความจนปญญานั้นจึงทำไดเพียงพุงตัวออกไปอยางไมสนใจสมบัติ หลังจากที่
เปลวเพลิงสามสีโจมตีกับความวางเปลาแลวก็ยังคงระเบิดออกมา แผลำแสงสามสี
เสนผานศูนยกลางเกือบสิบจั้งออกมา ทำใหหานลี่เองก็อดที่จะกาวถอยหลังไปสอง
สามกาวและสมบัติเหลานั้นถึงแมวาจะอยูตรงขอบของอานุภาพพัดตรีเปลวเพลิง แต
ไมวามือยักษสีเขียวของหานลี่หรือลำแสงสีแดงของฮูหยิน มูตางก็ถูกกดเอาไวและ
สลายหายไปทั้งหมด
สมบัติสองสามชิ้นทยอยกันรวงลงสูพื้นดิน
หานลี่เห็นเชนนั้นพลันรูสึกดีใจยกใหญ ตอนที่กำลังจะลงมือนั้น จูๆ ก็มีลำแสง
หลีกหนีสามสายพุงออกมาจากแสงปราณทิศเหนือสุดพรอมกัน เงาโลหิตสายหนึ่ง
ลำแสงสี เงิน กลุ ม หนึ่ ง และยังมี ห มอกสี ม วงกลุ ม หนึ่ ง ลำแสงหลี กหนี สามชนิ ด นี้ ดู
เหมือนวาจะเชี่ยวชาญในเคล็ดวิชาหลีกหนีเปนพิเศษ บางก็สลายหายไปจากที่เดิม
บางก็กลายเปนวายุกลุมหนึ่งทันที
เมื่อหานลี่เห็นเชนนั้นพลันรองอุทานใจวาแยแลว แตการกระทำกลับไมชาเลยสักนิด
เสียงฟาผาดังขึ้น เขาเร็วกวาที่เงารางสองสามสายนั้นไปถึงสมบัติ แตก็แคกาวเดียว
เทานั้น เงารางคนอื่นๆ อีกสามสายแทบจะทยอยกันปรากฏตัวขึ้นใกลๆ กับสมบัติ
เหลานั้นในครูตอมา และทยอยกันโจมตีคนที่อยูใกลๆ พรอมกัน สำแดงความสามารถ
ในการควาสมบัติสองสามชิ้นนั้นออกมา
สิ่ งที่ อ ยู ใกล กั บ หานลี่ ม ากที่ สุ ด แผ น ป ายไม นิ ร นามกั บ คั ม ภี ร ที่ เปล งแสงสี แ ดง
ระยิบระยับ เขาไมสนใจสมบัติชิ้นอื่นๆ ทันใดนั้นพลันกลายเปนลำแสงสีเขียวพุงแฉลบ
ออกไป มวนเอาสมบัติสองชิ้นนี้เขามา แตเมื่อเขาคิดจะพุงเขาไปหาไมสยบมารที่อยู
ใกลๆ เหนือหัวก็มีเสาลำแสงสีโลหิตสิบกวาสายและคลื่นเสียงสีทองกลุมหนึ่งลอบ
โจมตีมาพรอมกัน
ภายใตความจนปญญานั้นหานลี่ทำไดเพียงถอยออกไปชั่วคราวเพื่อหลบหลีกการ
โจมตีเหลานั้น
ชั่วขณะนั้นไมสยบมารพลันถูกเงาโลหิตที่ตามมาติดๆ ควาเอาไปแลว
หมอกสีมวงกลุมนั้นและลำแสงสีเงินกลับไมสนใจสมบัติชิ้นอื่นๆ กลับพยายามหอหุม
แผนปายไมอีกสองแผนที่รวงมาทางเขา ทาทางเหมือนกลัววาผูใดจะมาแยงชิงไป
หานลี่เห็นเชนนั้นพลันตกตะลึง แตเงาโลหิตพลันเปลงแสงสวางวาบคาดไมถึงวา
จะควาตราประทับสีเขียวมรกตชิ้นนั้นไป
“หยุด ตราประทับแปลงมังกรนี้เจาเอาไปไมได” เสียงรอนรนของสตรีพลันดังขึ้น
ทันใดนั้นไมบรรทัดหยกสีขาวนวลอันหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศเหนือเงาโลหิต และ
ทุบลงมาอยางไมปรานีแมแตนอย
ไมบรรทัดอันนี้ชางแปลกประหลาดจริงๆ ยังไมทันไดกดลงมาจริงๆ บนไมก็เปลงเสียง
รองออกมา ดอกบัวสีขาวนวลจำนวนนับไมถวนปรากฏขึ้นมารอบๆ ราวกับธิดาเทพที่
มีดอกไมลอมกายอยางไรอยางนั้น ทุกดอกลวนมีขนาดเทาปากชาม กลีบดอกบัวทุก
กลีบตางมีลำแสงพระพุทธเจ็ดสี ไมเพียงเงาโลหิตแมแตลำแสงสีเงินและเงาโลหิตดาน
นอกก็ยังถูกหอหุมเอาไวเชนกัน แตเพราะหานลี่ถอยรนกลับไปแลวจึงอยูนอกเขต
อานุภาพของไมบรรทัดอันนี้พอดี
ผลลัพธคือภายใตความตกตะลึงจนอาปากคางของหานลี่ ดอกบัวสีขาวทั้งหมด
พลันระเบิดออกพรอมกันทามกลางเสียงรองของสตรีผูนั้น ทันใดนั้นกลีบดอกบัวยักษ
เจ็ดสีพลันบานออกทีละกลีบๆ อักขระพระพุทธจำนวนนับไมถวนทะลักออกมาจากแต
ละกลีบ เสียงสวดมนตดังสนั่นไปทั่วทั้งวิหารราวกับฟารองครื้นครั่น
เงาโลหิต ลำแสงสีเงิน รวมทั้งหมอกสีมวง ที่ติดอยูตรงกลางดอกบัว ไมตองพูดถึง
วาจะหยิบสมบัติชิ้นอื่น คาดไมถึงวาแมแตรางกายก็ไมมีทางยืนไดอยางมั่นคง แตละ
ตัวลมระเนระนาดราวกับดื่มสุราจนเมามายอยางไรอยางนั้น
ตอนที่ 1024 อานุภาพของวงแหวนตะวัน
ในตอนที่ ห านลี่ ก ำลั งตกตะลึ งกั บ สถานการณ เบื้ อ งหน านั้ น พระธาตุ วั ช ระที่
กลายเป น เกราะป อ งกัน วัชระซึ่งซอ นอยู ในรางกาย คาดไม ถึงวาจะปรากฏขึ้น เอง
พรอมกับดอกบัวยักษ พลางการเกิดการเหนี่ยวนำหดยอและยืดขยายตอกัน
หานลี่ รี บ ร อ นรวบรวมลมปราณในร า งกายไปพลาง ชั่ ว พริ บ ตาก็ ก ดสมบั ติ
ประหลาดชิ้นนี้เอาไว จากนั้นถึงไดมองไปยังดอกบัวหลากสีที่อยูไกลออกไป กระพือ
ปกสีเงินที่แผนหลังโดยไมกลาวอะไรออกมาสักคำ คนก็สลายหายไปจากที่เดิม
ครูตอมา เขาก็มาปรากฏตัวใกลๆ กับแสงปราณทิศเหนือสุด กลายเปนสายรุงสี
เขียวสายหนึ่งหลีกหนีไป
สำหรับหานลี่แลว ในเมื่อไดสมบัติมาสองชิ้นแลว แนนอนวาการหลบหนีไปให
ไกลจากความวุนวายในตอนนี้ถึงจะถือวาเปนการกระทำที่ชาญฉลาด ไมบรรทัดหยกที่
ปรากฏตั วขึ้ น อย างกะทั น หั น พลั น เผยอานุ ภ าพที่ น าตกตะลึ งออกมา ถึ งแม จ ะมี
ความสามารถดานการกักศัตรูดวยภาพลวงตา แตอานุภาพก็ไมไดดอยไปกวาพัดตรี
เปลวเพลิงอยางไมตองสงสัย แปดเกาสวนคงเปนของลอกเลียนแบบสมบัติสะทานฟา
ใดสักชิ้นหนึ่ง
ถึงแมวาเขาจะโมโหเจาของไมบรรทัดที่ลอบโจมตีตนเองเมื่อครูเปนอยางมาก แต
ก็ไมคิดจะเลือกปะทะกับอีกฝายในเวลานี้ ถึงอยางไรเสียไมวามารเฒาเฉียนหรือวา
ยั ก ษ ป ก เงิ น ต า งก็ ไม ค อ ยถู ก กั น กั บ เขา หากถู ก คนเหล า นี้ ล อ มโจมตี แม เขาจะมี
ความสามารถขนาดไหน ก็คงตองจำใจทิ้งชีวิตไวที่นี่
สวนทางดานกระสวยยักษสีทองเงินนั้น สองมือของสตรีผูงดงามของพรรคแปลงเซียน
ก็กำลังรายอาคมกระตุนไมบรรทัดหยกสีขาวอันนั้น สีหนาเหนื่อยลา ดังนั้นถึงแมจะ
มองเห็นวาหานลี่กำลังจะไปแลว แตก็ไดแตมองอยูเฉยๆ ขอแคหานลี่ไมไดเอาตรา
ประทับแปลงมังกรที่สำคัญที่สุดไป สตรีผูนี้ก็จะแสรงทำเปนไมเห็น
เวลานี้ฮูหยินที่แตเดิมถูกอานุภาพพัดของหานลี่สลัดออกไปชั่วครู เห็นวาศิษยนอง
ของตนเองกักมารเฒาเฉียนและพวกเอาไว จึงทำไดเพียงถลึงตามองไปทางทิศที่หานลี่
หายลั บ ไปแวบหนึ่ ง คนกลั บ ส ง เสี ย ง ‘สวบ’ แล ว กลายเป น สายรุ ง จมหายเข า ไป
ทามกลางดอกบัวยักษ
และไมรูวาเปนเพราะสตรีผูงดงามผูนั้นควบคุมเขตอาคมอยู หรือฮูหยินเองที่ไม
หวาดกลัวดอกบัวหลากสี คาดไมถึงวาแมจะอยูในดอกบัวยักษก็ไมไดรับผลกระทบ
ใดๆ จากสมบัติชิ้นนี้เลยสักนิด ควาตราประทับแปลงมังกรเอาไวไดอยางงายดาย แต
เมื่อสะบัดแขนเสื้อ ดูดเอากระบี่เลมเล็กสีมวงเลมนั้นเขามาอยูในมือ ลำแสงพระพุทธ
เจ็ดสีสวางวาบ หอหุมกลีบดอกบัวที่รวงโรยทุกกลีบ ชั่วขณะนั้นแตเดิมมารเฒาเฉียน
และสองป ศ าจที่ ถู ก กั ก ไว พ ลั น หลุ ด ออกมา หลั ง จากร า งกายมั่ น คงแล ว สายตา
โหดเหี้ยมทั้งหกขางก็จองเขม็งมายังฮูหยิน
คาดไมถึงวาในที่สุดสตรีผูเยาววัยผูนั้นก็ไมมีทางประคับประคองลมปราณไดตอ
จนทำใหอานุภาพของ ‘ไมสี่คชสาร’ ลดลง
ฮูหยินพลันหนาเปลี่ยนสี!
ทางดานของหานลี่ที่พุงเขาไปในแสงปราณทิศเหนือสุดไดไมนานนั้น คาดไมถึงวา
จะพบกับฮูหยินอัปลักษณที่กลายรางเปนเตาศิลาทมิฬ
รอบกายของปศาจตัวนี้สวมเกราะเหล็กสงครามประหลาดสีเขียวอยู เสนไหมสีเงินที่
แตเดิมไมมีอะไรตานทานไดโจมตีไปบนตัวมัน คาดไมถึงวาจะถูกดีดออกมา ทำใหมัน
ปลอดภั ย ไร กั งวลท ามกลางแสงปราณทิ ศ เหนื อ สุ ด แต สิ่ งที่ น าแปลกก็ คื อ ฮู ห ยิ น
อัป ลักษณ ที่ สวมชุดเกราะอยูในเวลานี้ ท ำได เพี ยงเดิ น ไปขางหน าที ละๆ ก าวอย าง
เชื่องชาเทานั้น ดูเหมือนวาจะไมมีทางสำแดงเคล็ดวิชาหลีกหนีได
นั่นก็โทษยักษปกเงินและอสูรวิหคพยัคฆที่สลัดมันทิ้ง และลวงหนามากอนไมได
เมื่อหานลี่ปรากฏตัวอยูเบื้องหนาปศาจตนนั้น ฮูหยินอัปลักษณก็มองออกไปแวบหนึ่ง
หลังจากตกตะลึงแลว มันก็เผยสีหนาระวังภัยออกมา สมบัติที่เหมือนกับไมกระบองสี
ดำสนิทดามหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหนา ในเวลาเดียวกันดวงตาคูหนึ่งก็กวาดไปบนเรือน
รางของหานลี่ไมหยุด
หานลี่มีสีหนาราบเรียบ ทันใดนั้นลำแสงหลีกหนีก็สวางวาบและพุงหนีไปดานขาง
เขาและปศาจตนนั้นไมไดมีขอขัดแยงกัน ในใจจึงไมไดมีความคิดจะกำจัดมาร
สวนปศาจตนนี้ที่อยูในลำแสงปราณทิศเหนือสุดนั้นก็ถูกจำกัดพลังไวไมนอย เดาวาคง
ไมมีทางลงมือกอน
แตครั้งนี้ หานลี่กลับคิดผิด
เมื่อเขาแฉลบผานไปดานขางของฮูหยินอัปลักษณ จูๆ ฮูหยินอัปลักษณพลันหนา
เปลี่ยนสี หันหนามา จองเขม็งไปยังหานลี่ดวยสีหนาตกตะลึงระคนหวาดกลัว
นี่จึงทำใหหานลี่ตกใจจนสะดุงโหยง ลำแสงหลีกหนีหยุดชะงักตามจิตสำนึก มือ
กำของสิ่งนั้นเอาไวทันที พลางจองเขม็งไปยังปศาจตนนั้นดวยความสงสัย
“เจาเอาของของขาไป เอาของของขาคืนมา!” จูๆ ปากของฮูหยินอัปลักษณพลัน
เปลงเสียงรองแหลมสูงออกมา ทันใดนั้นมันพลันจับไมกระบองสีดำเบื้องหนาเอาไว
พยายามพุงไปหาหานลี่ ชั่วครูไมกระบองดามนั้นพลันกลายเปนลำแสงยาวสองสามจั้ง
ไมกระบองสั่นไหวกลายเปนเงาลำแสงสีดำรางๆ จำนวนนับไมถวน กดลงมายังศีรษะ
ของหานลี่อยางโหดเหี้ยม
ฮูหยินอัปลักษณเผยสีหนาบาคลั่งออกมา!
เงากระบองเหมือนภูเขาทำใหหานลี่ใจหายวาบ รูสึกงุนงงกับสีหนาและคำพูดของ
ฮูหยินอัปลักษณ แตก็ไมไดเผยสีหนาหวาดกลัวออกมา ทันใดนั้นพลันชูมือหนึ่งขึ้น ชั่ว
ขณะนั้ น แหวนสี ด ำวงหนึ่ งก็ ล อยขึ้ น และบิ น ออกไป คาดไม ถึ งว าจะตรงไปหาเงา
กระบองที่อยูเหนือศีรษะ
ฮูหยินอัปลักษณที่อยูไกลออกไปเห็นเชนนั้น ก็รูสึกดีอกดีใจเปนอยางมาก
กระบองในมือของนางคือสิ่งที่ ถูกหลอมขึ้นจากแกนทองคำบริสุทธิ์ทั้งหาที่ ถูก
รวบรวมมาจากใตดิน ผานการหลอมอยางตอเนื่องมาสองสามหมื่นป และกลายเปน
สมบัติที่ล้ำเลิศชิ้นหนึ่งไปตั้งนานแลว เงากระบองลวงตาเหลานี้ดูแลวไมสะดุดตา แต
กระบองทุกดามลวนหนักเปนพันชั่ง นางเชื่อมั่นมากวา หากปะทะกันแหวนที่ไมสะดุด
ตาวงนั้นจะตองโจมตีจนแหลกเปนชิ้นๆ
เมื่อคิดเชนนั้น ปศาจตนนั้นก็เกิดความรูสึกโหดเหี้ยมขึ้น ชั่วขณะนั้นพลันกระตุน
ลมปราณทั้งหมดอยางไมเสียดาย ใสลมปราณสองสามสวนเขาไปในไมกระบองอยาง
บาคลั่ง ทำใหเงากระบองดามนั้นขยายใหญขึ้นมากกวาเดิมอีกกวาครึ่ง เตรียมจะโจมตี
ใหหานลี่จบชีวิตลงที่นี่ เพื่อตัดปญหาไปตลอดกาล!
เห็ น ความโหดเหี้ ย มของฮู ห ยิ น อั ป ลั ก ษณ เข ามาในครรลองสายตา หานลี่ เดา
เจตนาของอีกฝายออกสองสามสวน ถึงแมจะไมรูวาเหตุใดอีกฝายถึงคิดจะสังหารเขา
จากการที่พบหนากันเพียงไมกี่ครั้ง แตก็เกิดจิตสังหารขึ้นเชนกัน
ทันใดนั้นใบหนาที่ไรความรูสึกก็ชี้ไปยังวงแหวนสีดำสนิท
ชั่ วพริบ ตาก อ นที่ วงแหวนจะสั ม ผั ส กั บ เงากระบอง พลั น เกิ ด เสี ย งรอ งคำราม
ออกมา จากนั้นฉากที่นาตกตะลึงก็ปรากฏขึ้น เสนไหมลำแสงสีเงินที่อยูรอบๆ ไดยิน
เสียงรองคำราม เวลานั้นก็สั่นไหวและพุงไปรวมกันในจุดหนึ่ง กอตัวเปนแสงปราณทิศ
เหนือสุดที่หนาแนนอยางรวดเร็ว ฉับพลันก็ทะลุผานเงากระบองทั้งหมด พริบตาเดียว
เงากระบองที่สงเสียงนาหวาดกลัวก็กลายเปนรูพรุน สลายหายไปจากกลางอากาศ
“เจาควบคุมแสงปราณทิศเหนือสุดได!” ฮูหยินอัปลักษณดูเหมือนจะถูกบีบคอ
เอาไว พลันเปลงเสียงรองแหลมๆ ออกมา สีหนาเต็มไปดวยความตกตะลึง
แหวนทวิภาวะแบงออกเปนแหวนตะวันและจันทราสองวง แหวนจันทรานั้นไม
กลัวการทำลายจากแสงปราณ แหวนตะวันนั้นถึงจะสามารถควบคุมการโจมตีจากแสง
ปราณได แหวนสีดำวงนี้ก็คือแหวนตะวันวงนั้น
หานลี่สงเสียงเหอะดวยความเย็นชาออกมา!
ถาหากอยูดานนอกแสงปราณทิศเหนือสุด เขานั้นหวาดกลัวปศาจที่เทียบไดกับผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายเปนอยางมาก เพราะแทบจะไมอาจโจมตีอีก
ฝายได แตตอนนี้อีกฝายถูกกักอยูในแสงปราณทิศเหนือสุด เมื่อมีแหวนทวิภาวะอยูกับ
ตัว แนนอนวานั่นก็เปนเรื่องที่พูดยากแลว
ในเมื่ออีกฝายรนหาที่ตายเอง เขาก็ไมเสียดายที่จะใชวิธีการตางๆ ใหมากหนอย
เพื่อกำจัดอีกฝายทิ้ง ถึงแมจะดูไมออกวารางเดิมของอีกฝายคือตัวอะไร แตกายเนื้อ
และจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของปศาจระดับนี้เปนวัตถุดิบที่หายากอยางสุดๆ
เมื่อคิดเชนนั้น หานลี่ก็ไมไดคิดอธิบายอะไรใหปศาจเหลานั้นฟง ชูมือขึ้นโจมตี
อาคมสายหนึ่งไปยังวงแหวน
หลังจากที่แหวนหมุนโคจรรอบหนึ่ง เสียงหึ่งๆ ก็ดังสนั่นขึ้น ภายใตลำแสงลึกลับสี
ดำสนิท ลำแสงสีเงินในรัศมียี่สิบสามสิบจั้งตางถูกแหวนวงนี้ควบคุมเอาไว ภายใตจิต
สัมผัสของหานลี่ แสงปราณทิศเหนือสุดรอบๆ ดานพลันฉีกคลื่นสีเงินออก หมุนควาง
เขาไปหาฮูหยินอัปลักษณเปนระลอก
ปากของฮูหยินอัปลักษณเปลงเสียงรองอุทานออกมา ไมไดสนใจจะควบคุมสมบัติไป
ตอกรกับหานลี่อีก กลับอาปากพนโลหิตบริสุทธิ์สีดำแดงกลุมหนึ่งออกมาอยางรอนรน
ภายใตสองมือที่รายอาคมนั้น โลหิตบริสุทธิ์นี้ก็กลายเปนหมอกโลหิตกลุมหนึ่ง ชั่ว
พริบตาก็หอหุมเรือนรางที่สวมเกราะสงครามเอาไว
ทันใดนั้นเกราะสงครามนี้ก็เปลี่ยนสีจากสีเขียวเปนสีแดงโลหิต
ในตอนนั้น เสียงอันนาตกตะลึงของคลื่นแสงปราณทิศเหนือสุดสีเงินก็โจมตีมา
อยางตอเนื่อง ชั่วครูก็มวนเอาฮูหยินอัปลักษณไวขางใน
เกราะสงครามบนร า งของฮู ห ยิ น อั ป ลั ก ษณ เปล ง ลำแสงสี เขี ย วแดงออกมา
พยายามตานทานการกัดกรอนของเสนไหมสีเงิน และเปลงเสียงรองแสบแกวหูราวกับ
เสียงทองกระทบกัน
ถึงแมวาฮูหยินอัปลักษณจะใชเคล็ดวิชาลับตานทานเอาไวได แตมันที่ใชเกราะ
สงครามฝนตานทานแสงปราณทิศเหนือสุดมากอนหนานี้ เวลานี้เสนไหมสีเงินเขามา
โจมตีมากกวาเดิมหลายเทา แทบจะในชั่วพริบตา ผิวของเกราะสงครามก็เวานูนและมี
รูจำนวนนับไมถวนปรากฏขึ้น
ฮู ห ยิ น อั ป ลั ก ษณ มี สี ห น าดู ไม ได อ ย างสุ ด ๆ จู ๆ ปากก็ เปล งเสี ย งรอ งแหลมสู ง
ออกมา ถูมือทั้งสองไปมาและตบไปที่เกราะสงคราม ลำแสงประะหลาดสีเทาขาวเปน
ชั้นๆ กระเพื่อมไปมา วัตถุที่มีรูปรางเหมือนหินปรากฏขึ้นและเคลือบลงบนเกราะ
สงครามชั้นหนึ่ง คาดไมถึงวากลายเปนเกราะปองกันอีกชั้น และคาดไมถึงวาจะกอตัว
กลายเปนเกราะปองกันอยูดานนอก นี่ถึงไดตานทานเสนไหมสีเงินเอาไวไดในชั่วครู
ทำใหการกัดกรอนเกราะสงครามของแสงปราณทิศเหนือสุดชาลง
ของประหลาดสีเทาขาวเหลานี้ ก็ถูกเสนไหมสีเงินเปนชั้นๆ ทำลายไปเจ็ดแปด
สวนเชนกัน จำตองปลอยใหฮูหยินอัปลักษณเสริมอานุภาพของมันตอไปไมหยุดอยาง
ไมเสียดายปราณแทถึงจะใชได ไมวาผูใดเห็นก็รูวาการถูกทำลายเปนเรื่องที่จะเกิดขึ้น
ในอีกไมชาก็เร็วเทานั้น แตในชวงเวลานั้ น หานลี่ที่ เต็มไปดวยจิตสังหารก็ไมสนใจ
ปศาจตนนั้น ทันใดนั้นสองมือพลันรายอาคมโจมตีไปยังแหวนตะวันอยางตอเนื่อง ทำ
ใหแหวนวงนั้นหมุนติ้วๆ อยูกลางอากาศ และทันใดนั้นแสงปราณทิศเหนือสุดที่อยูไกล
ออกไปก็ เปล ง เสี ย งร อ งอั น แสบแก ว หู เป น การตอบรั บ ขึ้ น เมื่ อ มองออกไป ก็ ดู
เหมือนกับคลื่นลูกใหญที่ซัดโหมขึ้นลงอยางตอเนื่องไมหยุด ดูนากลัว
ฮูหยินอัปลักษณเห็นฉากนี้ สีหนาก็เปนสีเทาขาวราวกับเกราะสงครามอยางไร
อยางนั้น ภายใตการควบคุมของหานลี่ แสงปราณทิศเหนือสุดที่อยูไกลๆ พลันทะยาน
เขามาอยางมืดฟามัวดิน ชั่วขณนั้นรางของฮูหยินเองก็ไมอาจตานทานไดอีก
ตัวประหลาดที่แตเดิมตั้งใจจะโออวดความสามารถกลับไมทันไดอวดโฉม ก็ถูก
เสนไหมลำแสงสีเงินกวาดไปจนเกลี้ยง จากนั้นเกราะสงครามก็เริ่มปริแตก มองเห็นวา
มันกำลังจะพังทลายลงในพริบตา
ในที่สุดฮูหยินอัปลักษณก็เผยสีหนาหวาดกลัวออกมา ดวงตากลอกไปมาไมหยุด
สายตาเต็มไปดวยความตกตะลึงระคนหวาดกลัว
“ชากอนสหาย ไวชีวิตขาดวย ขายอมรับทานเปนนาย เปนอสูรวิญญาณของทาน!”
เมื่อมุมหนึ่งของเกราะสงครามพังทลายลง เสนไหมสีเงินหลายสิบสายก็ทะลุผาน
ทำใหแขนของฮูหยินอัปลักษณกลายเปนหมอกโลหิต ภายใตความสิ้นหวังของฮูหยิน
อัปลักษณจึงไมสนใจเสียงรองของคนอื่นๆ อีก
สำหรับเตาศิลาทมิฬ ที่มีชีวิตอยูมาตั้งไม รูกี่ห มื่น ป มั นจะกลาทิ้ งชีวิตเอาไวที่ นี่
จริงๆ ไดอยางไร
“เปนอสูรวิญญาณของขา!” เมื่อไดฟง หานลี่พลันหนาเปลี่ยนสี หยุดชะงักการใช
แหวนตะวันควบคุมการโจมตีของแสงปราณทิศเหนือสุดเอาไวชั่วคราว
“เจาคิดวาขาเปนเด็กสามขวบหรือ เคล็ดวิชากักจิตวิญญาณไมมีผลตอปศาจที่ฝก
พลังอยางพวกเจามากนัก จะใหขาวางใจเจา แลวมาเปนอสูรวิญญาณของขาหรือ?”
หานลี่มองไปยังฮูหยินอัปลักษณที่ถูกเสนไหมสีเงินจำนวนนับไมถวนลอมเอาไว พลาง
เอยขึ้นดวยสีหนาราบเรียบ
ถาหากปศาจตนนั้นไมเอยเชนนี้ออกมาในทั นที เขาก็คงกระตุนแสงปราณทิ ศ
เหนือสุดใหสังหารอีกฝายในทันทีอยางไมมีความลังเลเลยแมแตนอยไปแลว
เขาไมอยากยืดเวลาของอีกฝายเอาไว
“ไมจำเปนตองอธิบายอะไรกับขา สหายไดแผนปายแผนหนึ่งมาจากวิหารคุนอูใช
หรือไม ขอแคเอาแผนนั้นออกมาดูอยางละเอียดก็จะรูแลว นั่นคือแผนปายชีวิตของขา
ที่ถูกกักเอาไวกอนจะบรรลุ” ฮูหยินอัปลักษณเองก็มองออกวาหานลี่ในตอนนี้ไมมีจิต
สังหารหลงเหลืออยูแลว ทันใดนั้นจึงเอยขึ้นอยางนาสงสาร ไมกลาลังเลเลยแมแตนอย
ตอนที่ 1025 กำราบ
“แผนปายชีวิต!” หานลี่เผยสีหนาประหลาดใจออกมา
ตอนที่ไดแผนปายไมสีแดงโลหิตแผนนั้นมาอยูในมือ เขาก็ไมไดพิจารณาอยาง
ละเอียด แตดูเหมือนวาจะไมใชสมบัติธรรมดาๆ เวลนี้ไดยินฮูหยินอัปลักษณเอยเชนนี้
ก็รูสึกเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่ง
ทั นใดนั้น ก็ตบไปที่ ยามเก็บ ของข างเอวโดยไม ได เอ ยอะไรออกมา ชั่ วขณะนั้ น
ลำแสงสีโลหิตสายหนึ่งพลันพุงออกไป หลังจากหมุนวนหนึ่งรอบก็รอนลงในมือ
นั่นก็คือแผนปายไมแผนนั้น!
หานลี่แววตาเปลงประกายสีฟาออกมา เวลานี้ถึงไดพิจารณาสิ่งนั้นอยางละเอียด
ขนาดเทาฝามือ ผิวมีเกราะปองกันลำแสงสีโลหิตชั้นหนึ่ง ดานหนามีกลุมกอนสีเทา
ขาวราวกับกอนเมฆกลุมเล็กๆ เคลื่อนไหวนอยๆ อยูในลำแสงโลหิต คาดไมถึงวาจะดู
ราวกับสิ่งมีชีวิตอยางไรอยางนั้น
หานลี่ใชจิตสัมผัสกวาดไปที่ของสิ่งนั้นอยางรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็เผยสีหนาดีอกดี
ใจออกมา มื อ หนึ่ งพลั น รายอาคม ชูมื อ ขึ้น ยิ งลำแสงสี เขีย วสายหนึ่ งออกมาโจมตี
ชั่วขณะนั้นลำแสงโลหิตบนแผนปายไมพลันพุงออกมา กอนเมฆสีเทาขาวกอนเล็กๆ
กอนนั้นสลายหายไป กลับมีลวดลายของเตาวิญญาณสีดำขาวสองสีตัวหนึ่งปรากฏขึ้น
“เตาศิลาทมิฬ! รางเดิมของเจาคืออสูรวิญญาณฟาดิน! มินาละพลังการปองกันถึง
ไดตกตะลึงขนาดนี้ ประคับประคองอยูในแสงปราณทิศเหนือสุดไดนานขนาดนี้!”
หานลี่มองไปที่แผนปายไมอยูนาน ลำแสงสีฟาในรูมานตาหายไป พลางเงยหนา
ขึ้นเอยอยางราบเรียบ
“สหายคงรูวาขาไม ได ห ลอกลวงแล ว แผ น ป ายชี วิต นี้ เป น สิ่ งที่ สามผู เฒ าคุ น อู
หลอมขึ้นมาเองกับมือ แดนมนุษยในตอนนี้คงไมมีผูใดหลอมแผนปายชีวิตระดับสุด
ยอดเชนนี้ไดอีก ขอแคมีแผนปายนี้อยูในมือ ความเปนตายของพวกเราก็ขึ้นอยูกับ
เจานายที่ถือแผนปายนี้ไวในมือแลว” ฮูหยินอัปลักษณท่ีอยูทามกลางแสงปราณทิศ
เหนือสุดอธิบายดวยสีหนาราบเรียบ ราวกับกลัววาจะทำใหหานลี่เขาใจผิด
“ก็กลาวไดไมผิดนัก ทวาก็ตองดูวาแผนปายชีวิตนี้ตกไปอยูในมือของผูใด ถาหาก
เปนผูบำเพ็ญเพียรที่มีระดับต่ำกวาระดับกอกำเนิดคิดจะหลอมแผนปายนี้เพื่อทำให
สหายยอมเชื่อฟง เกรงวาก็คงมีพลังไมพอ กลับจะถูกอาคมของแผนปายนี้แวงกัดเอา”
หานลี่เอยอยางราบเรียบ
“ทำไม หรือวาสหายมีแผนปายแผนนี้แลว ยังไมไวใจขา?” ฮูหยินอัปลักษณมีสี
หนาดูไมไดยิ่งกวาเดิม
“แนนอนวาไมไวใจ! ตอใหขาหลอมแผนปายนี้แลวจะควบคุมเจาไดตลอดเวลา
แตพลังยุทธของเจาสูงกวาขา ถาหากพบกับอะไรที่ถึงชีวิต ก็ไมใชวาจะไมอาจดิ้นรน
ออกจากการควบคุมและกลายเปนกบฏไมได ผูแซหานไมอยากอกสั่นขวัญแขวน จะ
เก็บเจาเอาไวทำไม?” หานลี่มีสีหนาเครงขรึม ในเวลาเดียวกันแหวนตะวันเหนือศีรษะ
ก็เปลงเสียงรอ งหึ่ งๆ ออกมา ทำให เสน ไหมสีเงิน ที่ อ ยูรอบตัวฮูห ยิน อัป ลักษณ เริ่ม
เตรียมพรอมที่จะลงมือบุก
“ถาหากสหายยังไมวางใจ ขาจะยอมแยกจิตวิญญาณดั้งเดิมครึ่งหนึ่งไปสถิตอยูใน
แผนปายชีวิต ถาหากคิดไมซื่อจริงๆ สหายก็สัมผัสไดในทันที” ฮูหยินอัปลักษณพลัน
รูสึกตกตะลึง ปากก็เอยไมมีทางเรื่องดวยความรีบรอนออกมา
“ออ! แยกจิตวิญญาณดั้งเดิม! วิธีนี้ใชได ในเมื่อเจาเอยเชนนั้น เชนนั้นก็แยกจิต
วิญ ญาณดั้งเดิมออกเถิด” หานลี่มีสีห น าราบเรียบ เอ ยขึ้น พรอมกับ แววตาที่ เปล ง
ประกาย
เมื่อไดยินหานลี่เอยเชนนี้ ฮูหยินอัปลักษณพลันครุนคิด แตเมื่อเหลือบมองเห็น
แววตาของหานลี่เครงขรึมขึ้นอีกครั้ง ปศาจตนนั้นพลันตกตะลึง ยื่นมือหนึ่งออกตบที่
ทายทอยอยางไมลังเลอีก
เสียง ‘ปง’ ดังขึ้น ลำแสงประหลาดสีดำขาวมืดฟามัวดินสวางวาบ ทารกวิญญาณ
เปลือยเปลาของฮูหยินอัปลักษณปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ
ทารกคนนั้นอาปากออก พนลำแสงสีเขียวขนาดเทากำปนออกมา
หลังจากที่ฮูหยินอัปลักษณเผยสีหนาเจ็บปวดออกมา ลำแสงสีเขียวก็สั่นคลอน
แยกออกกลายเปนสองกลุมเล็กๆ หนึ่งในนั้นหมุนวน แลวทะลวงกลับเขาไปในจมูก
และปากของทารกวิญญาณ อีกกลุมหนึ่งหลังจากลังเลเล็กนอย ก็คอยๆ บินตรงมาหา
หานลี่
เมื่อหานลี่เห็นเชนนั้น ก็บังคับใหแผนปายชีวิตทะยานเขาไปใกลกับลำแสงสีเขียว
นั่นอยางไมเกรงใจ ปากพลันพนลำแสงสีโลหิตออกมามวนเอาลำแสงสีเขียวเขามาใน
แผนปายไม แผนปายไมกะพริบแสงสีโลหิตออกมาคราหนึ่ง และเปลงเสียงรองออกมา
เบาๆ
หานลี่กมหนาลงมองของสิ่งนี้ และพบวาเตาวิญญาณสีดำขาวดานบนชัดเจนขึ้น
เปนอยางมาก และยิ่งไปกวานั้นตั้งแตหัวจรดหาง มันดูเสมือนจริงขึ้นอยางไรอยางนั้น
หานลี่ถึงไดวางใจลงจริงๆ อาปากออก คาดไมถึงวาจะกลืนของที่อยูในมือเขาไป
ในทอง
ฮูหยินอัปลักษณที่อยูตรงขามเห็นภาพฉากนั้นก็รูสึกใจกระตุกวาบ รูวาตั้งแตบัดนี้
เปนตนไป นอกจากจะบรรลุระดับเทพแปลง มิเชนนั้นก็ไมมีทางหนีจากการควบคุม
ของอีกฝายไดอีก
หลั งจากที่ ก ลื น แผ น ป ายไม ล งไป หานลี่ ก ลั บ รูสึ ก ผ อ นคลายลงเป น อย างมาก
ทันใดนั้นพลันชูนิ้วหนึ่งขึ้น ชี้ไปยังแหวนที่อยูกลางอากาศ ชั่วขณะนั้น แสงปราณทิศ
เหนือสุดที่แตเดิมกำลังโอบลอมฮูหยินอัปลักษณเอาไวก็สลายออก
รางของหานลี่แวบหายไป ชั่วพริบตาคนก็มาถึงเบื้องหนาของฮูหยินอัปลักษณ
พิ จ ารณารางของป ศ าจตนนี้ ที่ แ ขนขาดไปข างหนึ่ ง แล ว ขมวดคิ้ ว ดี ด นิ้ ว ใส เกราะ
ปองกันเบื้องหนาอยางไมใสใจ
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีดำสนิทพลันสวางวาบ แหวนจันทรากลายเปนเกราะปองกัน
ลำแสงหอหุมรางของฮูหยินอัปลักษณเอาไว กั้นเศษเสนไหมสีเงินที่อยูรอบดานออกไว
ภายนอก
“วางใจ ขาไมไดคิดจะกักเจาเอาไวตลอดกาล ขอแคละสังขารหรือวาบรรลุขึ้นไป
แดนวิญญาณ ก็จะปลอยเจาเปนอิสระ ขาไมไดมีเจตนาจะใหเจาเปนอสูรวิญญาณสืบ
ทอดของตระกูลหรือสำนักใดๆ” หลังจากที่หานลี่เก็บแหวนตะวันอีกวงไปแลว ก็เอย
ขึ้นอยางราบเรียบ
“สหายพูดจริงหรือ!” ฮูหยินอัปลักษณไดยินวาจานี้ แตเดิมที่รูสึกเ**ยวเฉาก็หลุด
ปากถามขึ้น
“เชื่อไมเชื่อ วันขางหนาสหายก็จะรูเอง แตอายุขัยของมนุษยอยางพวกเรานั้น ไม
มีคาพอใหพูดถึงกับอสูรวิญญาณฟาดินอยางพวกเจา ขอแคในชวงเวลานั้นเจาลงมือ
ชวยเหลือขาอยางเต็มใจ ขาก็จะไมปฏิบัติตอเจาอยางไมยุติธรรม และยิ่งไปกวานั้น
อสูรวิญญาณของขาก็ไมไดมีเจาเพียงตนเดียว อีกไมนานเจาก็จะพบวา การเปนอสูร
วิญญาณของขานั้นอาจจะไมใชเรื่องแยก็ได!” หานลี่ไมไดสนใจกับการที่ปศาจตนนี้ไม
เปลี่ยนคำเรียกกับตัวเอง กลับหัวเราะนอยๆ ออกมาขณะเอย
“ขาไมเชื่อแลวจะทำอยางไรได แตขอแคสหายรักษาคำสัญญา ขาจะยอมใหเจา
ควบคุมสักหนอย ก็ไมเปนไร” ฮูหยินอัปลักษณหัวเราะอยางขมขื่นออกมา
“เอาละ ขาเป น คนอยางไร วัน ข างหน าหากสหายรูจั กคุ น เคยมากกวานี้ ก็ จ ะ
เขาใจเอง เจากินยาในขวดเล็กๆ นี้กอนเถิด ฟนฟูลมปราณและบาดแผลกอนแลวคอย
วากัน” หานลี่ชักสีหนา โยนขวดเล็กๆ มาให
“ฟนฟูลมปราณ? เอ หรือวานี่คือ…” ฮูหยินอัปลักษณรับขวดเล็กๆ ขวดนั้นมา
ดวยความเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่ง เปดฝาขวดออก ไอวิญญาณบริสุทธิ์กลุมหนึ่งโชยออกมา
ทำใหนางรูอุทานดวยน้ำเสียงแหบแหงออกมา
“ในนี้คือของเหลววิญญาณหมื่นปหนึ่งหยด เพียงพอจะทำใหเจาฟนฟูลมปราณที่
สูญเสียไปได ขาจำตองใหเจาออกแรงในทันที” หานลี่เอาสองมือไพลหลัง พลางเอย
อยางราบเรียบ
“ขอบพระคุ ณ สหาย!” มี เรื่อ งดี ๆ เช น นี้ ฮู ห ยิ น อั ป ลั ก ษณ ไม มี ท างปฏิ เสธแน
หลังจากที่เอยขอบคุณแลว ก็กรอกของเหลววิญญาณหมื่นปเขาไปในปากในทันที
หลังจากที่ของเหลววิญญาณเขาไปโคจรในรางกายแลว ก็กลายเปนลมปราณที่
บริสุทธิ์อยางสุดๆ ขุมหนึ่ง ชั่วครูก็แพรกระจายไปทุกสวนของรางกาย
ฮูหยินอัปลักษณมีสีหนาดีอกดีใจ มือหนึ่งพลันรายอาคม ลำแสงวิญญาณรอบกายสีดำ
และขาวปรากฏขึ้น จากนั้นก็หันกลับไปมองแขนที่ขาดไป ปากพลันบริกรรมคาถา
ออกมา
ภาพฉากที่ทำใหหานลี่ตกตะลึงพลันปรากฏขึ้น
เห็นเพียงบาดแผลของฮูหยินอัปลักษณมีลำแสงสีดำขาวรวมตัวเขาดวยกัน กอน
เนื้ อ จำนวนนั บ ไม ถ ว นยื ด ยาวออกมาอย า งบ า คลั่ ง ชั่ ว พริ บ ตาก็ ก ลายเป น แขนที่
เหมือนกับตอนแรก
“รางที่ไมอาจถูกทำลาย!” หานลี่หนาเปลี่ยนสี
อสูรปศาจที่มีความสามารถหายากชนิดนี้ เขาเคยเห็นครั้งหนึ่งนั่นก็คือคางคกเพลิงใน
หุบเขามารโรย และความสามารถของฮูหยินอัปลักษณนั้นเห็นไดชัดวาแข็งแกรงกวา
คางคกเพลิ งตั วนั้ น ตั้ งไม รูกี่ เท า แค ชั่ ว อึ ด ใจ แขนทั้ งแขนก็ งอกออกมาอย างเสร็ จ
สมบูรณ
นี่จึงทำใหเขาตกตะลึงเปนอยางมาก
ดูแลวที่เขากำราบปศาจตนนี้ได ชางเปนโชคชั้นใหญจริงๆ หากไมใชเพราะอยูใน
แสงปราณทิศเหนือสุด ปศาจตนนี้สูญเสียพลังลมปราณไปเปนจำนวนมากจากการ
ปองกันลำแสงปราณ อาศัยแคความสามารถ ก็นาจะตอกรไดอยางงายดาย
ความจริงแลวหานลี่นั้นไมรูวา กอนหนานี้ที่ฮูหยินอัปลักษณขามผานเขตอาคมไม
วิญ ญาณแมเหล็กทองมา ก็สูญ เสียลมปราณไปมากแลว มิเชนนั้นพลังปองกันแสง
ปราณทิศเหนือสุดเมื่อครู ก็อาจจะยืนหยัดไดนานกวานี้ ถึงอยางไรเสียปศาจตนนี้ก็
เปนอสูรปศาจระดับสิบ ความลึกล้ำของพลังยุทธมันมากกวาที่หานลี่จินตนาการเอาไว
“เอาละ ตองขอบคุณของเหลววิญญาณหมื่นปจริงๆ หากใหขาฟนฟูลมปราณและกาย
เนื้อเอง เกรงวาคงตองใชเวลานั่งสมาธิสองสามวัน!” ฮูหยินอัปลักษณหยุดรายอาคม
ในเวลาเดียวกันก็โบกสะบัดแขนที่งอกขึ้นมาใหม พลางเอยดวยสีหนาที่ดีขึ้นมาก
“ผูแซหานในตอนนี้ไมรูวาจะเรียกเจาวาอยางไร ในในเมื่ออยูกับยักษปกเงิน ก็คง
จะไดยินเรื่องของขามาบางสินะ” หานลี่เอยอยางเชื่องชาอยูดานขาง
“ขาชื่อกุยหลิง เรื่องของสหายหาน ขานอยไดยินมาเล็กนอยจริงๆ แตไดยินมาแค
ความสามารถของสหายเทานั้น” ฮูหยินอัปลักษณตอบกลับดวยความลังเลใจ
“เรื่ อ งที่ เกี่ ย วกั บ ข า น อ ย ข า จะหาเวลาอธิ บ ายให ส หายกุ ย ฟ ง พลั ง ยุ ท ธ แ ละ
ความสามารถของเจาลวนไมธรรมดา ถึงแมวาขาจะควบคุมแผนปายชีวิตเอาไว ก็คง
ไมกระทำกับเจาเหมือนอสูรปศาจระดับต่ำหรอก ในเวลาปกติเจากับขาก็เปนเพื่อนกัน
ก็ไดแลว” จูๆ หานลี่ก็เอยขึ้นพรอมกับหัวเราะนอยๆ ออกมา
“ขาขอบคุณสหายมาก ไมทราบวาเมื่อครูที่สหายบอกวาจำตองลงมือ หมายถึง
เรื่องใด?” ปศาจตนนี้นึกถึงเรื่องที่หานลี่กลาวถึงกอนหนา ใบหนาจึงเผยสีหนาเครง
ขรึมออกมา
นางกังวลจริงๆ วา คนผูนี้จะใหนางลงมือกับยักษปกเงินและอสูรวิหคราชสีหตัว
นั้นหรือไม ถึงแมวานางและปศาจสองตนนั้นจะไมไดเปนสหายรวมเปนรวมตายอะไร
กัน แตถึงอยางไรเสียก็มีความสัมพันธตอกัน
“อีกเดี๋ยวมารเฒาเฉียนจะเขามาในแสงปราณทิศเหนือสุด ตอนที่ออกจากที่นี่ไป
เจาก็รวมมือกันกับขา สังหารคนผูนั้นเสีย” แววตาของหานลี่เปลงประกายเย็นเยียบ
ปากกลับเอยอยางราบเรียบ
“มารเฒาเฉียน เจาหมายถึงผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายที่ใชเคล็ดวิชา
มารผูน ั้นหรือ?” ฮูหยินอัปลักษณรูสึกผอนคลายลง พลางเอยถามอยางระมัดระวัง
“ใชแลว มารเฒาผูนั้นแหละ เดิมทีขาไมไดคิดจะลงมือที่นี่ ถึงอยางไรเสียคนผูนี้ก็
มี เคล็ ด วิช ามารที่ ย อดเยี่ ย ม เชี่ ย วชาญในเคล็ ด วิช าหลี ก หนี ที่ ไม ธรรมดา แม วาจะ
ควบคุมแสงปราณทิศเหนือสุดได ความหวังที่ขาจะเก็บเขาไดก็มีอยูนอยนิด แตตอนนี้
มีสหายกุยคอยชวยเหลืออยูขางๆ แนนอนวาก็ไมเหมือนกันแลว” หานลี่เอยพรอม
หัวเราะอยางเย็นชาออกมา
“ในเมื่อสหายกลาวเชนนี้ ขาก็จะออกแรงชวยสหายอยางเต็มความสามารถ”
ปศาจที่ถูกควบคุมผูนี้ เอยตอบรับดวยอยางงายดายๆ
“เชนนั้นก็ตองลำบากสหายกุยแลว ทวาอีกเดี๋ยวตอนที่ลงมือ เก็บทารกของเขา
เอาไวกอน ขาจำตองถามเขาเล็กนอย”
“เขาใจแลว! ทวาขออภัยที่ตองพูดตามตรง ตอใหสหายไดเปรียบในสถานที่แหงนี้
บวกกับขาลงมือชวยเหลือ การจะทำใหมารเฒาเฉียนผูนั้นบาดเจ็บหนักก็เปนเรื่องที่
งายดาย แตหากจะสังหารเขา โอกาสก็มีไมมากนัก ขาเห็นมาดวยตาตัวเองวา เขา
สามารถสำแดงเคล็ดวิชาสายมารที่ทะลุแสงปราณทิศเหนือสุดไปโดยไมหวาดกลัว
หากคิดจะหนี พวกเราก็คงขวางเอาไวไดยาก” ฮูหยินอัปลักษณมองหานลี่แวบหนึ่ง
ลังเลเล็กนอย แลวเอยเตือนสติออกมา
“แนนอน อาศัยแคพวกเราสองคนนั้นยังนอยเกินไป แตถาหากมีผูบำเพ็ญเพียร
ระดับกอกำเนิดขั้นปลายอีกคนละ!” หานลี่เผยสีหนาประหลาดๆ ออกมา
“ยังมีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดอีกคนหรือ?” ฮูหยินอัปลักษณไดยินคำพูดนี้พลัน
ตกตะลึง มองไปรอบๆ ดานตามจิตสำนึก แตก็ไมไดพบวารอบๆ ดานมีใครซอนตัวอยู
ทันใดนั้นสายตาก็ตกลงบนเรือนรางของหานลี่อีกครั้งดวยสีหนาตกตะลึงระคนสงสัย
ตอนที่ 1026 สังหารมารเฒา
สวนครึ่งหลังในวิหารคุนอู กระสวยยักษอันหนึ่งกำลังพุงออกกลางอากาศดวย
ความรวดเร็วราวกับมังกรสีเงิน และดานหลังก็มีลำแสงสีเงิน หมอกสีมวง รวมทั้งเงา
โลหิตสายหนึ่งตามมาติดๆ อยางไมลดละ
การโจมตีดวยเคล็ดวิชาตางๆ พุงเขามาหากระสวยราวกับหาฝน แตหลังจากที่ผิว
ของมันเปลงลำแสงสีทองและเงินออกมา ก็ตานทานเอาไวได กระสวยตะวันจันทรา
คู ค วรกั บ ที่ เป น หนึ่ งในสามมหากระสวยวิญ ญาณในแดนมนุ ษ ย จ ริงๆ การโจมตี ที่
รุน แรงขนาดนี้ ก็ ยั ง ทำอะไรไม ได ภายในกระสวยยั ก ษ ฮู ห ยิ น มู ก ำลั งใช จิ ต สั ม ผั ส
ทั้งหมดควบคุมกระสวยวิญญาณอยู และพยายามหลบการโจมตีที่พุงมาจากดานหลัง
อยางสุดชีวิต สวนดานขางนั้น สตรีผูงดงามใชมือขางหนึ่งควาไมสี่คชสารเอาไวแนน
แตใบหนากลับไรสีโลหิต ดวงตาทั้งสองปรือลงเล็กนอย เห็นไดชัดวามีกำลังออนแอ ดู
แลวกอนหนานี้ที่ฝนใชสมบัติสะทานฟาอยางไมสี่คชสาร จะทำใหลมปราณของสตรี
พรุงนี้แทบจะหมดลง
“สหายเฉียน เจาจะรวมมือกับสองปศาจชั่วจริงๆ หรือ? สมบัติที่เราสองคนไดมา
นั้นก็เพื่อความปลอดภัยของแดนมนุษย เพื่อที่จะใชปดผนึกภูเขาลูกนี้อีกครั้ง”
พลังยุทธของฮูหยินมูดอยกวามารเฒาเฉียนและสองปศาจเปนอยางมาก ทุกครั้ง
ที่คิดจะหลบหลีกตางก็ถูกทั้งสามขวางเอาไว ลมปราณในรางจึงลดลงอยางรวดเร็ว ทำ
ใหอดไมไดที่จะเอยขึ้นดวยความตกตลึงระคนโกรธแคน
“หึ พูดถึงความปลอดภัยของแดนมนุษยอะไรนั่นใหมันนอยๆ หนอย เจาคิดวาตาเฒา
เปนเด็กสามขวบรึ อีกอยางตาเฒารวมมือกับปศาจตอนไหนกัน สหายสองทานนี้แค
อยากโจมตีเจาทั้งสองเทานั้น เปนแคพรรคแปลงเซียนเล็กๆ ยังกลาแยงของจากปาก
เสื อ อี ก ! หากสำนึ ก ได ก็ รีบ ส งสมบั ติ ม าเสี ย ดี ๆ นอกจากนี้ ไม ห ยกชิ้น นั้ น เป น ของ
ลอกเลียนแบบของสมบัติสะทานฟาสินะ เอามาใหตาเฒา” เสียงเย็นชาของมารเฒา
เฉียนลอยออกมาจากเงาโลหิต
เมื่อไดยินฮูหยินมูพลันถอนหายใจ รูวาพูดอะไรไปก็ไมมีประโยชนแลว ถึงอยางไร
เสียในสายตาของสิบพรรคมารธรรมะ พรรคแปลงเซียนของพวกนางก็ไมมีคาพอให
กลาวถึง
ภายใตการรวมมือกัน ของมารเฒ าเฉีย น ยักษ ป กเงิน และพวก ในที่ สุดลำแสง
วิญญาณของกระสวยตะวันจันทราก็เริ่มหมนแสงลง และคอยๆ ถูกบีบใหไปอยูมุม
หนึ่งของวิหาร
ในตอนที่มารเฒาเฉียนเผยสีหนาโหดเหี้ยมออกมา เตรียมจะโจมตีทลายกระสวย
วิญญาณ คราชีวิตของสตรีสองผูนั้นนั้น ในกระสวยกลับมีเสียงของวิหคดังขึ้น จากนั้น
ดอกบัวสีขาวหลายดอกก็ปรากฏขึ้นใกลๆ กับมารเฒาเฉียนและสองปศาจ ไมสีขาว
ดามหนึ่งพุงออกมาจากกระสวยในเวลาเดียวกัน
“แยแลว!” ไมวาจะเปนลำแสงสีเงิน หมอกสีมวง หรือวาเงาโลหิต หลังจากเห็น
เขาก็ถอยรนกลับไปดานหลังราวกับเห็นอสรพิษในเวลาเดียวกัน มารเฒาเฉียนรวมทั้ง
ยักษปกเงินและพวกที่เคยเสียเปรียบมาครั้งหนึ่งแลว ไมกลาปลอยใหดอกบัวสีขาว
เหลานี้มาประชิดตัวแน
ชั่วอึดใจนั้น ไมสีขาวก็สวางวาบแลวพุงกลับเขาไปในกระสวย กระสวยยักษสลาย
หายไปจากที่เดิมในทันที ครูตอมาก็มาปรากฏที่ดานหลังของเหลามารเฒา และตรง
เขาไปหาแสงปราณทิศเหนือสุด สวนดอกบัวสีขาวเหลานั้นก็คอยๆ หายไปอยางเงียบ
เชียบ คาดไมถึงวาจะเปนเพียงภาพลวงตาเทานั้น
มารเฒาเฉียน ยักษปกเงินและพวกเห็นเชนนั้นพลันโกรธเกรี้ยว รูวาถูกหลอกเขา
เสียแลว ทันใดนั้นพลันขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีไลตามไปอยางรอนรน
แตกลับสายไปแลว เมื่อกระสวยยักษสีทองเงินพุงเขาไปในแสงปราณทิศเหนือสุด
เสนไหมสีเงินจำนวนนับไมถวนก็พุงเขาใสสมบัติชิ้นนั้น แตหลังจากที่สัมผัสกับผิวของ
กระสวยแลว ก็ถูกมานสีเงินชั้นหนึ่งทยอยกันดีดตัวออกไป
สองมือของฮูหยินมูกำลังรายอาคม กระตุนแผนปายสีเงินแผนนั้นไมหยุด สีหนา
เครงขรึม
แผนปายสีเงินเปลงลำแสงสีเงินสวางวาบ พ นลำแสงกลุมแลวกลุมเลาออกมา
คาดไมถึงวามานสีเงินบนผิวของกระสวยยักษ จะมีความสามารถเชน นี้ สวนสตรีผู
งดงามที่อยูดานขางนั้นเปนเพราะใชลมปราณที่เหลืออยูสำแดงไมสี่คชสารออกไปอีก
ครั้ง จึงทำใหหมดแรงลงมือ
ทามกลางความวุนวายของฮูหยินมูนั้น พลันเอียงศีรษะเหลือบมองศิษยนองหญิง
ของตัวเองแวบหนึ่ง ใบหนาเผยสีหนากังวลใจออกมา
“ศิษยพี่หญิงไมตองกังวลไป ขากลับไปนั่งสมาธิสักสองสามป ก็ดีขึ้นแลว” สตรีผู
งดงามกลับฉีกยิ้มแลวเอยปลอบใจออกมา
“หวังวาจะเปนเชนนั้นกระมัง จากพลังยุทธของเจาในตอนนี้ การควบคุมไมสี่คชสาร
ชางทำใหเจาลำบากจริงๆ” ฮูหยินมูเอยอยางจนปญญาออกมา
“แตหากไมใชสมบัติชิ้นนั้น เราสองคนจะเอาตราประทับมังกรแปลงมาจากมาร
เฒาเฉียนและพวกไดอยางไร แตเจาคนแซหานนั้นชางเจาเลหนัก พอไดสมบัติมาแลว
ก็จากไปในทันที มิเชนนั้นก็อาจจะชวยพวกเราลดความกดดันลงไปบาง” สตรีผูงดงาม
เอยอยางโกรธเกรี้ยว
ฮูหยินมูไดยินแลวก็ทำไดเพียงหัวเราะอยางขมขื่นออกมาเทานั้น ในหัวมีภาพของ
หานลี่และพัดที่นากลัวดามนั้นปรากฏขึ้น
ดานหลังของกระสวยยักษ เงาโลหิต ลำแสงสีทอง หมอกสีมวงก็ตามเขามาในแสง
ปราณทิศเหนือสุดอยางรวดเร็วและไมยอมลดละ
ฮูหยินมูและพวกในตอนนี้กำลังอยูในชวงออนแอ ถาหากกระสวยตะวันจันทราไมไดมี
ความสามารถพิเศษ เกรงวาคงถูกจับไดไปนานแลว ดังนั้นทั้งสามจึงไมคิดจะปลอยมือ
ทวาเมื่อเขามาในแสงปราณทิศเหนือสุด มารเฒาเฉียนและพวกก็สัมผัสไดถึงลางราย
ในทันที คาดไมถึงวาสตรีทั้งสองที่อยูในกระสวยสีเงินเบื้องหนาจะอาศัยแผนปายสีเงิน
ในมือควบคุมเขตอาคมลวงตาของในแสงปราณทิศเหนือสุด ถึงแมวาเขตอาคมลวงตา
เหลานั้นจะหลอกลวงอะไรพวกเขาสามคนไมได แตก็พอตานทานไดบาง และทำให
กระสวยวิญ ญาณควาโอกาสนี้ไว หลังจากเปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง ก็สลาย
หายไปทามกลางเสนไหมสีเงินที่หนาแนน จนไรรองรอย
เวลานี้มารเฒาเฉียนโกรธจนเนื้อเตน สวนยักษปกเงินและอสูรวิหคราชสีหนั้นก็
มองสบตากันแวบหนึ่ง แตกลับใชสายตาที่ไมเปนมิตรพิจารณามารเฒาเฉียน
ชั่วขณะนั้นมารเฒาเฉียนพลันตื่นตัว หลังจากกวาดตามองสองปศาจดวยความ
เย็นชาแลว ก็เอยขึ้นอยางไมเกรงใจวา
“ทำไม? เจาสองคนคิดจะจัดการตาเฒาหรือ?”
“ที่ไหนกันละ ความสามารถของสหายเกรียงไกรขนาดนี้ เราสองคนจะกลาทำ
เรื่องโงเขลาเชนนั้นไดอยางไร!” ยักษปกเงินลังเลเล็กนอย ดูเหมือนจะรูสึกวาหาก
รวมมือกับอสูรวิหคราชสีหก็ยังไมมีทางจัดการมารเฒาไดงายๆ ทันใดนั้นพลันหัวเราะ
ฮ า ๆ ออกมาขณะเอ ย จากนั้ น ก็ เรี ย กอสู ร วิ ห คราชสี ห ป ศ าจทั้ ง สองพลั น สำแดง
ความสามารถในการเปดทาง และบินจากไป
สำหรับปศาจทั้งสองแลว ในเมื่อไดแผนปายชีวิตมาอยูในมือแลว เปาหมายหลัก
ของภารกิจครั้งนี้สำเร็จแลว ก็ไมจำเปนตองตอความยาวสาวความยืดอีก
มารเฒาเฉียนเห็นเงาแผนหลังของสองปศาจสลายหายไปในแสงปราณทิศเหนือสุด ถึง
ไดหัวเราะออกมาอยางเย็นชา กลายเปนเงาโลหิตสายหนึ่งพุงไปอีกดาน
เสน ไหมสีเงิน จำนวนนั บ ไมถวนทะลุ ผานเงาสี แ ดงโลหิ ต แต กลั บ ไม อาจทำให
ลำแสงหลีกหนีของมารเฒ าหยุดลงไดเลยสักนิด หลังจากไปทางซายทีขวาที ก็บิน
ออกมาจากเขตอาคมลวงตานั้น
เวลานี้มารเฒาเฉียนถึงไดวางใจลง ตอนที่คิดจะบินรวดเดียวใหถึงทางออกนั้น จูๆ
กลับหนาเปลี่ยนสีพลางลดความเร็วของลำแสงหลีกหนีลง แววตาคูนั้นเปลงประกาย
สวางวาบไมแนนอนทามกลางลำแสงสีโลหิต
“ผูใด ออกมาเดี๋ยวนี้!” จูๆ มารเฒาเฉียนก็ตะโกนดวยน้ำเสียงโหดเหี้ยมออกมา
“พี่เฉียนนี่คูควรกับที่เปนอาวุโสของพรรคตาขายทมิฬจริงๆ พลังยุทธชางลึกล้ำนัก!”
เสียงราบเรียบของบุรุษดังออกมาจากดานหลังของเสาหินเสาใดสักตนเบื้องหนา เงา
รางคนแวบหายไป ชายหนุมคนหนึ่งเดินออกมาดวยสีหนาสุขุมเยือกเย็น บนเรือนราง
มีลำแสงสีดำหอหุมอยู
“หานลี่!” แนนอนวามารเฒาเฉียนมองปราดเดียวก็จำคนผูนี้ได ดวงตาทั้งสอง
ขางหรี่ลง
“เจาอยูที่นี่มานานแลวสินะ! คงรอตาเฒาอยูละสิ” เมื่อเห็นวาเกราะปองกันบน
รางของหานลี่ตานทานแสงปราณทิศเหนือสุดเอาไวภายนอกไดอยางงายดาย ใบหนา
ของมารเฒาเฉียนพลันกระตุก แลวเอยดวยความโหดเหี้ยม
“ดูแลว ไมตองใหขากลาวอะไรอีก สหายเฉียนก็นาจะเดาออกไดสองสามสวน
งายมาก พี่เฉียนคัดลอกคาถาคลายคำสาปผนึกวิญญาณของพรรคทานใหขานอยชุด
หนึ่งไดหรือไม!” หานลี่เอยอยางราบเรียบ
“คาถาผนึกวิญญาณ?” ประโยคนี้ทำใหมารเฒาเฉียนประหลาดใจเล็กนอย แต
หลังจากที่ขบคิด ก็เงยหนาขึ้นหัวเราะอยางบาคลั่ง
“ถึงแมจะไมรูวาเหตุใดเจาถึงอยากไดคาถาแกคำสาปนี้ แตเจาคิดวาตาเฒาจะ
บอกเจาหรือ?”
“ข าก็ รูอ ยู แ ล ว วาคำพู ด เมื่ อ ครู มั น ก็ เป น แค ก ารเปลื อ งน้ ำลายเท านั้ น แต ก็ ยั ง
อยากจะลองดู ถึงอยางไรเสียถาหากกระชากวิญญาณของอาวุโสของสิบพรรคไป เกรง
วาขาคงไมอาจอยูในตาจิ้นไดตอ” หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งพลางเอยพึมพำ
ราวกับกำลังพูดคุยเลนกับเพื่อนบานอยางไรอยางนั้น
เมื่อไดยินคำวา ‘การกระชากวิญญาณ’ รูมานตาของมารเฒาเฉียนก็หดเล็กลง
แตทันใดนั้นพลันเปลงประกายแสงราวกับคมกระบี่ออกมา
“คิดจะกระชากวิญญาณตาเฒา ก็ตองดูวาเจามีความสามารถพอไหม มีผูชวยอะไรก็
เรียกออกมาใหหมดเถิด ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางคนหนึ่งอยางเจา ไมมี
ทางกลาพูดพลามเหลานี้แน” มารเฒาเฉียนเอยอยางเย็นชาออกมา
“ในเมื่ อ สหายกล า วเช น นี้ สหายกุ ย เจ า ออกมาเถิ ด ” หานลี่ ก ลั บ เอ ย อย า ง
ราบเรียบอยางไมเกรงใจเลยแมแตนอย
เมื่ อ เอ ย จบ เสาอี ก ต น ข า งๆ มารเฒ า ก็ เปล ง แสงสว า งวาบ ร า งของฮู ห ยิ น
อัป ลัก ษณ ที่ ส วมเกราะสงครามสี แ ดงโลหิ ต เดิ น ออกมา มื อ หนึ่ งถือ กระบองเอาไว
ใบหนาไรความรูสึก
“เจา? เจาเด็กนั้นใหอะไรเจา คาดไมถึงวาจะรวมมือกับเขา แตขานั้นสามารถ
ใหผลประโยขนกับเจาไดมากกวาเปนแน” ตอนแรกมารเฒาเฉียนพลันตกตะลึง แต
ทันใดนั้นก็กลอกตาไปมาขณะเอย
“ได ! เช น นั้ น ก็ เอาชี วิต ของเจ ามาให ข าสิ ” ฮู ห ยิ น อั ป ลั ก ษณ ส งเสี ย งหึ อ อกมา
กระแทกกระบองสีดำในมือลงกับพื้น ถลึงตาขณะเอย ปศาจตนนี้จำใจตองสวามิภักดิ์
กับหานลี่ จึงรูสึกคับแคนใจอยูเต็มอก แนนอนวาจึงไมอาจทำสีหนาดีๆ ใสมารเฒาได
มารเฒาเฉียนไดยินคำพูดของฮูหยินอัปลักษณ ก็รูสึกโกรธเกรี้ยว แตใบหนากลับ
ไมมีความแปลกใจเลยแมแตนอย จิตสัมผัสกวาดไปรอบๆ อีกครั้ง ในที่สุดหลังจากที่
มั่นใจวาไมมีบุคคลที่สาม ถึงไดวางใจลงเปนอยางมาก
ถาหากมีแคสองคนนี้ละก็ เขาก็มั่นใจวาจะหนีออกไปไดอยางไมมีปญหา
หลังจากขบคิดเชนนั้น มารเฒาเฉียนก็ไมไดเอยอะไรไรสาระอีก ลำแสงสีโลหิตบน
รางสวางจา กลายเปนเงาโลหิตพุงออกไป ไมคิดจะประมือกับหานลี่และพวกทั้งสอง
เลยสักนิด
หานลี่กลับคาดการณเรื่องนี้เอาไวตั้งนานแลว เมื่อเห็นภาพฉากนั้น ก็ชูมือหนึ่งขึ้น
โดยไมไดเอยอะไรออกมา แหวนสีดำสนิทวงหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ ขยายใหญขึ้นกลาง
อากาศ
มือหนึ่งควาสมบัติชิ้นนั้นเอาไว สะบัดเล็กนอย อาณาบริเวณยี่สิบสามสิบจั้งมีคลื่น
สีเงินสั่นสะเทือน เสนไหมสีเงินกลุมแลวกลุมเลารวมตัวกันทามกลางเสียงรองแหลมๆ
ชั่วพริบตาแสงปราณทิศเหนือสุดก็กลายเปนกำแพงกั้นสีเงิน ปกคลุมทั้งสี่ดานเอาไว
อยางแนนหนา
ถึงแมวามารเฒาเฉียนที่กลายเปนเงาโลหิตจะรายกาจก็ตาม ดูราวกับวาจะไม
หวาดกลัวการบาดเจ็บ แตเมื่อเห็นเสนไหมมารวมตัวกันเชนนี้ ก็ยังตกตะลึง ลำแสง
หลีกหนีพลันหยุดชะงัก
ชั่วพริบตาที่เสียเวลาไป ฮูหยินอัปลักษณพลันโบกกระบองสีดำในมือกลางอากาศ
อยางไมลังเล ชั่วขณะนั้นเงากระบองหนักๆ พลันปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเงาโลหิต
เงาสีดำสนิทกดทับลงมา
ยังไมทันไดตกลงมา พลังมหาศาลกลุมหนึ่งก็เขามาประชิดตัว มารเฒ าเฉียนรู
เพียงวารอบกายตึงเปรี๊ยะ ชั่วพริบตาคาดไมถึงวาจะถูกพลังที่ไรรูปรางกักเอาไวกลาง
อากาศ และไมมีทางขยับไดเลยแมแตนอย
มารเฒาใจหายวาบ
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้นนั้น หานลี่ก็สำแดงแหวนตะวันออกมา ชี้ไปที่แหวน
ดวยความเครงขรึม คลื่นสีเงินรอบๆ ดานมีลำแสงสีเงินจำนวนนับไมถวนพุงออกมา
เรียงตัวหนาแนนจนกลายเปนตาขายยักษ หอหุมเงาโลหิตเอาไว
มารเฒาเฉียนหนาเปลี่ยนสี จูๆ พลันเปลงเสียงกรีดรองออกมา ภาพฉากที่นาตก
ตะลึงก็ปรากฏขึ้น
ภายใตลำแสงวิญญาณที่โคจรอยูรอบๆ เงาโลหิต จูๆ ตรงสวนทองก็ขยายใหญขึ้น
เสียง ‘ปง’ กดังขึ้นตามมา รางทั้งรางระเบิดออกโดยอัตโนมัติ เสนไหมสีโลหิตจำนวน
นับไมถวนสวางวาบและกระจายตัวออกไป เชนนั้น ไมวาจะเปนเงากระบองที่หนักพัน
จวิน หรือวาแสงปราณทิศเหนือสุดที่กลายเปนตาขายยักษ ก็ไรซึ่งประสิทธิภาพ
ทำไดเพียงมองเสนไหมโลหิตเหลานี้หมุนโคจรหนึ่งรอบ และกอรางขึ้นในจุดที่หาง
ออกไปสิบกวาจั้ง
ชั่วพริบตา มารเฒาเฉียนที่กลายเปนเงาโลหิตก็ปรากฏตัวขึ้นใหมอีกครั้งโดยไมได
รับความเสียหายใดๆ!
ตอนที่ 1027 หามารรวมราง
ถึงแมวาหานลี่จะไมเคยคิดวาจะสังหารมารเฒาไดอยางงายดาย แตก็คิดไมถึงวา
เคล็ดวิชามารของอีกฝายจะพิ เศษขนาดนี้ คาดไม ถึงวาจะฝ กฝนเคล็ดวิชาที่ ท ำให
รางกายเปลี่ยนเปนคลายกับสิ่งมีชีวิตที่ไรลักษณอยางไรอยางนั้น แตเห็นไดชัดวาไมใช
ร า งกายของวิ ญ ญาณภู ต ผี อ ะไร แต ใช เคล็ ด วิ ช ามารอะไรสั ก อย า งทำให ร า งกาย
กลายเปนสิ่งที่ใกลเคียงกับปศาจที่ฆาไมตายชั่วคราว เคล็ดวิชามารชนิดนี้ หานลี่ก็เคย
ไดยินมาบาง ไดยินวาในสมัยโบราณมีมารโบราณจำนวนไมนอยที่ลักษณะเชนนี้ เคย
ทำใหเหลาผูบำเพ็ญเพียรโบราณเสียเปรียบไปไมนอย
ตอนนี้ไดเห็นกับตา ชางไมธรรมดาจริงๆ
หานลี่รูสึกตกตะลึงในใจ แตการโจมตีก็ไมไดหยุดลงเลยแมแตนอย เขาอาปาก
ออก พนลูกดวงแสงสีมวงกลุมหนึ่งออกมาจากปาก หลังจากหมุนวนเล็กนอยก็มีขนาด
ใหญ ยักษ ราวกับลอรถ ตรงเขาไปหาเงาโลหิ ต มือขางหนึ่ งก็รายอาคมกระตุนแสง
ปราณทิศเหนือสุดที่กลายเปนตาขายยักษใหขยายขนาดใหญขึ้นตามเขาไป อีกมือหนึ่ง
พลันสะบัดแขนเสื้อ ประจุไฟฟ าสีทองหนาๆ สายหนึ่ งดีดตัวออกมา โจมตีออกไป
ทามกลางเสียงสายฟาฟาด เปลงแสงสวางวาบแลวพุงเขาไปทางทิศตรงขาม พลาง
ฟาดลงมา
ฮูหยินอัปลักษณกุยหลิงเองก็สะบัดสมบัติอาคมไมกระบองสีดำที่อยูในมือ ชี้ไม
กระบองไปทางเงาโลหิ ตนั้ น สองสามครั้งด วยสี ห น าเครงขรึม เงากระบองผื น หนึ่ ง
ปรากฏขึ้นรอบๆ ดานเงาโลหิต กลายเปนเหมือนกับคลื่นอันนาตกตะลึงที่มวนมัน
เอาไวขางใน
จะวาไปแลว ทามกลางการตอสูในแสงปราณทิศเหนือสุด ทั้งสองฝายตางไมกลา
ปลอยสมบัติประเภทกระบี่บินและมีดบินอะไรพวกนี้ออกมางายๆ มิเชนนั้นหากไม
ระวัง ก็อาจจะยังไมทันบินไปถึงอีกฝาย ก็ถูกแสงปราณทิศเหนือสุดพุงทะลุผานจนรู
พรุน และเสียเปลาไป
หานลี่ถึงไดไมไดใชกระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆา แตใชอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายและ
เพลิงตาขายสีมวง
มารเฒาเฉียนเห็นวาตนเองกำลังจะหนีออกมาได การโจมตีจำนวนมากก็พุงเขา
มาอีกครั้งอยางไมลดละ ดูเหมือนจะมากกวาครั้งที่แลวดวยซ้ำ
ในใจจึงอดที่จะเกิดความรูสึกชั่วรายขึ้นไมได หลังจากที่ใบหนาโหดเหี้ยมฉายแวบ
ผานไป เขาพลันกัดฟน คาดไมถึงวาจะกัดปลายลิ้นของตัวเอง จากนั้นก็พนเสนไหม
โลหิตที่มีลำแสงสีเทาหอหุมอยูออกมา ปะทะเขากับประจุไฟฟาสีทองที่กดลงมาอยาง
พอดิบพอดี
เสียงฟาผาดังอึกทึก ทั้งสองกลายเปนกลุมควันประหลาดสีเขียวลอยขึ้นฟา แลว
สลายหายไป
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ หานลี่พลันรูสึกตกตะลึง
สวนรางของมารเฒาเฉียนกลับหมุนติ้วๆ เสาไอสีเทาขาวหากลุมพุงออกมารจาก
รอบๆ ดาน
รางสูงประมาณสองจั้ง โครงกระดูกมนุษยผอมโซ ปรากฏขึ้นทามกลางไอมาร
พวกมันลวนมีรางกายใหญโต โครงกระดูกสดใสแวววาวดุจหยก รางกายเปนเปลงไอ
เย็นเยียบเปนสายๆ ออกมา
คาดไมถึงวามารเฒาจะเรียกรางเดิมของหามารใจเดียวออกมา เมื่อโครงกระดูก
ทั้งหาปรากฏตัว ก็อาปากออกพนเปลวเพลิงที่ดูเหมือนเปลวพลิงมรกตออกมา
เปลวเพลิงมรกตนี้ดูแลวไมสะดุดตานัก ดูเหมือนวาจะเปนเพลิงภูตผีธรรมดาๆ แต
เพลิงตาขายสีมวงที่กลายเปนลูกบอลเพลิงนั้น ถูกมันสองกลุมโจมตีไป คาดไมถึงวาจะ
ตานทานมันเอาไวไมไหว
นอกจากนี้อีกสามกลุมยังถูกพนขึ้นไปกลางอากาศ กลายเปนมานเพลิงสีเขียว
มรกตผืนหนึ่ง ตานทานแสงปราณทิศเหนือสุดที่กลายเปนตาขายยักษเอาไว ทำใหมัน
ไมมีทางเขาใกลได
เงากระบองทั้ งสี่ ทิ ศ เองก็ เปล งเสี ย งร อ งออกมาพลางม วนวนเข าไปตรงกลาง
เหมือนกับกอนหนาอยางไรอยางนั้น เงากระบองยังไมทันไดทุบอะไร พลังที่ไรรูปรางก็
ปรากฏขึ้นรอบทิศทาง คิดจะรัดมารเฒาเอาไวอีกครั้ง
ครั้งนี้มารเฒาไมไดระเบิดรางออกมา ถึงอยางไรเสีย แมวาความสามารถเชนนั้น
จะรายกาจ แตทุกครั้งที่รวมรางใหมนั้น ก็จะตองสูญเสียลมปราณไปไมนอยเชนกัน
หากไมจำเปน แนนอนวาเขาไมมีทางใชวิธีการนี้แน และยิ่งไปกวานั้น ในเมื่อเขาเรียก
รางที่แทจริงของหามารใจเดียวออกมา แนนอนวาก็ตองมีแผนการที่จะตอกร
เขาเพียงแคใชความคิด รางของโครงกระดูกทั้งหาก็แวบหายไป และมาปรากฏตัว
ขึ้นรอบกาย ในเวลาเดียวกันแผนหลังของมารเฒ าก็มีมือสองขางงอกออกมา มาน
ลำแสงสีเทาขาวชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นบนฝามือ ชั่วพริบตาก็ปกปองมารเฒาและพวกมัน
เอาไวขางใน
เสียง ‘ปงๆ’ ดังขึ้นอยางตอเนื่องไมหยุด เงาสีดำและลำแสงสีเทาสวางวาบ ทุก
ครั้งที่โจมตี ก็ทำใหผูคนใจเตนระรัวราวกับสายฟาฟาดอยางไรอยางนั้น
หานลี่เห็นเงากระบองมีอานุภาพขนาดนี้ พลันรูสึกตกตะลึง
อสูรปศาจเตาศิลาทมิฬระดับสิบ มีความสามารถไมนอยดังคาด ดูแลวที่ลงมือกับ
ตนเองกอนหนานี้ คงเปนเพราะพลังยุทธไมเพียงพอ เกรงวาแมแตความสามารถที่
แท จริงสักครึ่งหนึ่งก็ยังไมไดสำแดงออกมา มิ เชน นั้ น ถึ งแม วาจะอยูท ามกลางแสง
ปราณทิศเหนือสุด การกำราบอีกฝายก็คงไมไดงายดายเหมือนกอนหนาแนนอน แต
เกราะปองกันที่หามารใจเดียวสำแดงออกมาก็แข็งแกรงมากกวาที่หานลี่คาดการณ
เอาไวมาก
เมื่อเสียงปงๆ หยุดลง ในที่สุดเงากระบองก็สลายหายไป มานลำแสงสีเทาขาวชั้น
นั้นที่มีโครงกระดูกทั้งหาคอยประคองอยู คาดไมถึงวาจะยังปลอดภัย การโจมตีที่นา
ตกตะลึงเชนนี้ คาดไมถึงวาไมอาจทลายเขตอาคมปองกันบางๆ ชั้นนั้นไปได
กุยหลิงเห็นเชนนั้น พลันมีสีหนาเครงขรึม
หลังจากที่กวาดสายตาเย็นชาไปที่เกราะปองกันชั้นนั้น ก็สงเสียงเหอะดวยความ
เย็นชาออกมา แลวอาปากออก พนไอบริสุทธิ์สีดำขาวสองสีกลุมหนึ่งใสไมกระบองสี
ดำในมือ
ไมกระบองดามนั้นเปลงเสียงรองออกมา รูปรางภายนอกที่อยูทามกลางลำแสง
วิญญาณเริ่มเปลี่ยนแปลง กลายเปนขวานคมๆ สีดำดามหนึ่ง
กุยหลิงเพียงสะบัดขอมือ โยนขวานนั้นขึ้นไปเหนือศีรษะ จองเขม็งไปยังขวาน
ดามนั้นดวยความเยือกเย็น ปากก็บริกรรมคาถาออกมา
ผิ วของขวานสี ด ำเปล งแสงสี เงิน ชั้ น หนึ่ งออกมา ลำแสงนั้ น เจิ ด จ าจนแสบตา
สมบัติชิ้นนี้พลันขยายขนาดใหญขึ้นและเริ่มเปลี่ยนสี
ชั่วพริบตาก็กลายเปนขวานยักษสีเงินยาวประมาณสิบกวาจั้ง
ไมตองพูดถึงใบมีดขวานที่เปลงประกายมันวาวขนาดเทาบานประตู แคดามของ
มันก็หนาราวกับขาของคนธรรมดาๆ แลว หลังจากขยายใหญ ขึ้น มีดยักษชิ้นนี้ก็ดู
เหมือนวาจะถูกคลายผนึกอะไรสักอยางออก ไอทมิฬที่นาตกตะลึงกลุมหนึ่งพุงทะยาน
ออกมา
ถึงแมวาหานลี่จะอยูหางจากมันขนาดนี้ ก็ยังสัมผัสไดถึงความกระหายเลือดของ
มีดยักษไดอยางชัดเจน
คาดไมถึงวาจะเปนมีดอำมหิตที่สมบูรณแบบ!
ครานี้ ใบหนาอัปลักษณ ของกุยหลิงฉายแววโหดเหี้ยม สองมือพลันรายอาคม
รางกายขยายใหญขึ้นเชนกัน ชั่วครูก็กลายเปนคนยักษสูงเจ็ดแปดจั้ง
“เคล็ดวิชามโหฬาร! คิดไมถึงวาป ศาจตั วนี้ ไม ได เผยรางเดิ มออกมาก็ สามารถ
แสดงความสามารถเชนนี้ได ดูแลวพลังยุทธคงเขาใกลกับระดับปลายสุดของระดับ
กอกำเนิดขั้นปลายแลว” เมื่อเห็นสถานการณประหลาดเชนนี้ ใบหนาของหานลี่ก็เผย
สีหนาประหลาดใจออกมาพลางเอยพึมพำ
ในเวลาเดียวกัน สายตาของเขาก็กวาดไปที่จุดหนึ่งในแสงปราณทิศเหนือสุด สีหนา
กลับมาเปนราบเรียบ หลังจากดวงตาทั้งสองเปลงแสงเย็นเยียบ สะบัดแขนเสื้อ มือ
ซอนอยูในแขนเสื้อ กำพัดตรีเปลวเพลิงเอาไวอยางเงียบเชียบ
ฮูหยินอัปลักษณยื่นมือที่ดูเหมือนพัดควาขวานเงินดามนั้นเอาไวในมือ จากนั้น
พลันกมหนาลงมองมารเฒ าเฉียนที่อยูไกลออกไปแวบหนึ่ง สองมือถือขวานขึ้นมา
คอยๆ สับลงมากลางอากาศ
แสงสีเงินของขวานศึกสายหนึ่งพลันเปลี่ยนเปนรูปพระจันทรเสี้ยวยาวสองสามจั้ง
เสียงรองเปลงออกมาจากขวานแลวสะบัดออก ทุกแหงที่กวาดผานไปปรากฏรอยสี
ขาวสายหนึ่งขึ้น ราวกับกรีดแยกอากาศในบริเวณนั้นออกเปนสองสวนก็ไมปาน
มารเฒาเฉียนที่หลบอยูหลังเกราะปองกัน เห็นภาพฉากนั้นพลันหนาเปลี่ยนสี ตอ
ใหเขามีความมั่นใจในหามารใจเดียวขนาดไหน ก็ไมกลารับกับการโจมตีที่นาตกตะลึง
นี้ลำพัง
เขาไมทันไดคิดมาก จูๆ มารเฒาพลันชูมือขึ้น ดาบสั้นสีขาวราวกับหิมะเลมหนึ่งก็
ปรากฏขึ้นในมือ และจับเอาไวมั่น
ลำแสงเย็นเยียบสวางวาบ ยกมือขึ้นตวัดฉับ!
นิ้วชี้อีกมือหนึ่ง คาดไมถึงวาจะถูกดาบนั้นฟนจนขาดและรวงลงมา
แตยังไมทันรอใหนิ้วรวงลงพื้น มารเฒาพลันพนโลหิตบริสุทธิ์ใสนิ้ว พลางหอหุม
มันเอาไว
ชั่วพริบตา ลำแสงสีโลหิตสวางวาบ นิ้วและโลหิตสัมผัสกัน คาดไมถึงวาจะกลายเปน
ดาบโลหิตยาวสองสามฉื่อ แคบยาวและแหลมคม กลายเปนประหลาดอยางสุดๆ!
มารเฒ าใชมือ หนึ่ งถือ มี ด มองเห็ น พระจัน ทรเสี้ ยวขนาดยั กษ ม าอยูเบื้ อ งหน า
ทันใดนั้นพลันโบกมือหนึ่งดวยสีหนาเครงขรึม คาดไมถึงวาดาบยาวในมือจะสลาย
หายไปในพริบตา และปรากฏขึ้นเบื้องหนาของหามาร และพุงเขาหาขวานศึก
อยูนอกเหนือความคาดหมายของหานลี่ ขณะที่ ลำแสงโลหิ ตและลำแสงสีเงิน
ปะทะกัน ลำแสงสองสีพลันเปลงประกายสวางวาบไมแนนอน แตคาดไมถึงวาจะไมมี
เสียงอะไรดังขึ้น เห็นเพียงดาบสีโลหิตบางๆ ยาวๆ บิดเบี้ยว ราวกับเสียงคร่ำครวญที่
สั่นเทา เผยอาการทนไมไหวออกมา ทวาในตอนนั้นเอง แตจูๆ หามารกลับกระโจน
เขามาตรงกลาง ลำแสงสีเทาสวางวาบ โครงกระดูกทั้งหาผนึกหลอมรวมเขาดวยกัน
โครงกระดูกยักษ ที่ ไม ไดด อ ยไปกวาคนยั กษ ของกุ ย หลิ งปรากฏเบื้ อ งหน าของมาร
เฒาเฉียนอยางไมนาเชื่อ
ในที่สุดเสียง ‘ฉับ’ ก็ดังขึ้น มีดยาวสีโลหิตถูกตัดออกเปนชุนๆ ขวานลำแสงเปลง
ประกายสีขาวถือโอกาสสับลงมาตอ
โครงกระดู กของห ามารที่ รวมราง กลั บ อ าปากเปล งเสี ย งหั วเราะประหลาดๆ
ออกมา ชูคอขึ้น พนลำแสงสีเทาสายหนึ่งออกมา
ลำแสงสายนั้นมีขนาดเล็กอยางมาก แตกลับหนาแนนสุดจะเปรียบ เมื่อจันทร
เสี้ยวสับลงมา คาดไมถึงวาจะไมอาจผามันออกได กลับเหมือนตกลงไปในของเหลว
หนืดๆ พลันตองหยุดลงอยางหามไมได
ทันใดนั้นขวานลำแสงสีเงินก็เปลงประกาย ชั่วพริบตาก็กลายเปนสีเทา จากนั้น
พลันถูกลำแสงผืนนั้นมวนเขาไป ถูกดูดเขาไปจนเกลี้ยง
ลำแสงผืนนั้นหมุนวน แลวบินกลับเขาไปในปากของโครงกระดูก
“ไอมารโสโครก หามารใจเดียวมีความสามารถนี้ ดูแลวกอนหนานี้พวกมันคงเปน
ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดสินะ มิเชนนั้นหากใชรางของผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ
หลอมมารขึ้น มา คงไมมีความสามารถขนาดนี้ !” กุ ยหลิงที่ แปลงเป น คนยั กษ เอ ย
ออกมา
“ตาเฒาจะใชอะไรหลอมมารใจเดียว ไมจำเปนตองใหปศาจชั่วชาอยางเจามายุง
ในเมื่อรูความรายกาจของไอมารโสโครกแลว อานุภาพของหามารที่รวมรางกัน เจา
ลองลิ้มรสดูกอนแลวคอยวากัน” มารเฒ าเฉียนหัวเราะอยางเย็นชาออกมา ปากก็
ตะโกนขึ้นดวยเสียงทุมต่ำ ชูมือปลอยอาคมสองสามสายใสรางของโครงกระดูกยักษ
ปากของโครงกระดูกยักษเปลงเสียงรองคำรามต่ำๆ ออกมา แตเดิมดวงตาที่ไร
ความรูสึกคูนั้นพลันเปลงลำแสงโลหิตออกมา มารตนนั้นยกเทาขึ้น คาดไมถึงวาจะพุง
เข า ไปหาคนยั ก ษ ร า งแปลงของฮู ห ยิ น อั ป ลั ก ษณ ทุ ก ย า งก า วล ว นทำให พื้ น ดิ น
สั่นสะเทือน
แววตาของหานลี่เปลงแสงสวางวาบ มองไปยังโครงกระดูกยักษ นิ้วทั้งหาที่กำพัด
ตรีเปลวเพลิงเอาไวแนน พลันคลายออกทันที อีกมือหนึ่งโยนบางอยางออกไปอยาง
รวดเร็ว ปลอยแหวนตะวันออกไปกลางอากาศเหนือศีรษะ
ชั่วพริบตา แสงปราณทิศเหนือสุดที่กอตัวกันกลายเปนคลื่นสีเงินเปลงเสียงหึ่งๆ
ออก ในเวลาเดียวกันลำแสงสีเงินก็สวางวาบไมหยุด เสนไหมจำนวนนับไมถวนพุ ง
ออกมาจากคลื่นเสียง พุงเขาไปหาโครงกระดูกยักษอยางหนาแนน
โครงกระดูกเปลงเสียงรองแหลมสูงออกมา ชั่วขณะนั้นบนรางพลันมีลำแสงสีเทา
ชั้นหนึ่งปรากฏขึ้น
เสนไหมจำนวนมากพุงขึ้นไปดานบน คาดไมถึงวาจะทยอยกันกระจายตัวออกไป
ไมมีประโยชนเลยสักนิด
หานลี่มีสีหนาแข็งทื่อ จูๆ พลันใสลมปราณเขาไปในแหวนตะวัน
ชั่วขณะนั้นความเปลี่ยนแปลงพลันเกิดขึ้น!
เสนไหมที่อยูดานหลังรวมตัวกันกลางทาง ผนึกกันกลายเปนโซสีเงินหลายสิบสาย
สวางวาบแลวหายวับไป
เสียง ‘พรึ่บๆ’ ดังขึ้นอยางตอเนื่อง
รูขนาดเทาหัวแมมือสองสามรูปรากฏขึ้นบนรางของโครงกระดูก บางก็เล็กบาง
กระทั่งทะลุผานหนาผาก ไอมารโสโครกคาดไมถึงวาจะไมอาจตานทานการโจมตีนี้ได!
หานลี่ควบคุมแหวนตะวันใหผนึกแสงปราณทิศเหนือสุดเขาดวยกัน อานุภาพจึง
เพิ่มขึ้นดังคาด
แตสีหนาดีอกดีใจที่เขาเผยออกมานั้น ในครูตอมาก็กลายเปนเครงขรึมขึ้น
ตอนที่ 1028 ไขมุกมารโลหิต
หลังจากที่โครงกระดูกยักษไดรับบาดเจ็บแลว ก็แคแวบหายไปเล็กนอย ลำแสงสีเทา
ขาวบนรางของโครงกระดูกพลันหมุนโคจร รูเหลานั้นผสานเขาหากันดังเดิม
การโจมตีที่ถึงชีวิตสำหรับผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ นี้ คาดไมถึงวาจะไมมีผลตอ
มารตนนี้เลยสักนิด
หานลี่ขมวดคิ้ว ดูแลวหากไมสังหารมารเฒาเฉียนกอน ก็คงสังหารหามารใจเดียว
ไดยาก
การเคลื่อนไหวของโครงกระดูกยักษดูเหมือนวาจะไมไดรวดเร็วนัก แตหลังจาก
สาวเทากาวยาวๆ ไปสองสามกาว ก็มาถึงเบื้องหนาของกุยหลิง เบาตากลวงโบคูนั้น
เปลงแสงสีโลหิ ตสวางวาบ มื อ กระดู กทั้ งสองควาอากาศตรงรางของตนเอง โครง
กระดูกสองทอนบินออกมาจากเรือนราง กลายเปนใบมีดสีขาวยาวสองสามจั้ง แลว
ควาเอาไว
ภายใตการโบกสะบัดเล็กนอย เปลวมารสีเขียวมรกตพลันปรากฏขึ้น
กุยหลิงที่กลายเปนมนุษยยักษเห็นเชนนั้น พลันสงเสียงเหอะดวยความเย็นชา
ออกมา สาวเทากาวไปขางหนาสองกาว ชูขวานยักษ ในมือขึ้นแลวจามลงมาอยาง
รุนแรง
ลำแสงสีเงินสวางวาบ เสียงตึงตังดังขึ้น
ภายใตการโบกสะบัดมือทั้งสองของโครงกระดูกยักษ มีดกระดูกในมือก็ขยายใหญ
ขึ้นหลายเทา และไมยอมแสดงความออนแอออกมาโดยการพุงตัดกันเปนกากบาท
ตานทานกับขวานยักษอยูเหนือศีรษะ
มารตนนี้ดูเหมือนวาจะมีพลังที่ไรขีดจำกัด
กุยหลิงไมประหลาดใจกับการที่ขวานถูกตานเอาไวเลยแมแตนอย ทันใดนั้นแวว
ตาพลั น ฉายแววแปลกประหลาดออกมา ปากก็ ต ะโกนด วยเสี ย งทุ ม ต่ ำออกมาว า
“พยัคฆขย้ำ”
ลำแสงสีเงินกะพริบวาบ อสูรยักษตัวหนึ่งปรากฏขึ้นบนผิวของขวาน รูปรางดู
เหมือนกับพยัคฆขาวมีเขางอกออกมาเขาหนึ่ง
อสู ร ตนนี้ อ า ปากที่ เป น ดั่ ง บ อ โลหิ ต ออกมา ร า งกายท อ นบนยื ด ออกมาอย า ง
รวดเร็วราวกับสายฟา คาดไมถึงวาจะกัดหัวกะโหลกยักษเอาไว แลวกลืนลงไปจน
เกลี้ยง ทันใดนั้นก็หดตัวกลับมาในทันที
ขวานยักษสีเงินนี้ไมเพียงจะมีคมมีดที่โหดเหี้ยม คาดไมถึงวาจะเปนยุทธภัณฑที่มี
วิญญาณเปนของตัวเอง
เวลานี้ไมใชแคหานลี่ที่ตกตะลึง มารเฒ าเฉียนที่ กลายเปน เงาโลหิตก็ตกตะลึง
เชนกัน
ฮูหยินอัปลักษณกุยหลิงที่กลายเปนคนยักษกลับไมมีลังเลแมแตนอย โบกขวานยักษใน
มือดวยความรวดเร็วราวกับลอรถ โครงกระดูกไรหัวถูกลำแสงเย็นเยียบหอหุมเอาไว
เสียง ‘ขวับๆ’ ดังขึ้น!
อาศัยแคความแหลมคมและพลังมหาศาลของขวานดามนี้ ชั่วพริบตาก็สับโครง
กระดูกยักษออกเปนทอนๆ กระดูกที่แตกละเอียดรวงลงมากองกับพื้น
ขวานยั ก ษ ในมื อ หยุ ด ลง กุ ย หลิ งอ าปากออก พ น เปลวมารสี เหลื อ งกลุ ม หนึ่ ง
ออกมาหอหุมโครงกระดูกที่ไมสมบูรณเอาไว คาดไมถึงวาตองการจะกำจัดหามารใจ
เดียวทิ้งในรวดเดียว
ทวาหลังจากที่มารเฒาเฉียนซึ่งอยูไกลออกไปไดสติแลว ก็เปลี่ยนเปนเยือกเย็นขึ้น
เมื่อเห็นวากุยหลิงใชเพลิงปศาจหลอมมารที่มีชีวิตเชื่อมโยงกับเขา สองมือก็ผนึก
เขาหากันโดยไมไดเปลงคำพูดใดๆ ในใจพลันกระตุนเคล็ดวิชามาร ทามกลางเปลว
เพลิงปศาจสีเหลืองที่กำลังลุกโชนแผดเผา สายลมเย็นยะเยือกพลันพัดเขามา ทำให
เปลวเพลิงหมนแสงลง
เสนไหมสีดำแวววาวหาสายปรากฏขึ้นทามกลางเปลวเพลิงปศาจสีเหลือง จากนั้น
พลันพุงออกมา และระเบิดออกในระยะที่หา งออกไปสิบกวาจั้ง
ไอสีเทาขาวหากลุมผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ทันใดนั้นไอหมอกพลันสลายออก โครง
กระดูกสีขาวบริสุทธิ์หาตัวปรากฏขึ้นอีกครั้ง
“มารแปลงไรลักษณ! คิดไมถึงวา เจาจะฝกฝนแมกระทั่งเคล็ดวิชามารแปลงดวย
ไมกลัววาวันหนึ่งจะถูกแวงกัดหรือ?” กุยหลิงพลันตกตะลึงขึ้นมาจริงๆ ปากก็ตะโกน
ถามดวยน้ำเสียงทุมต่ำออกมา
“แวงกัด? ขอแคตาเฒาระวังหนอย จะปลอยใหพวกมันสบโอกาสไดอยางไร”
มารเฒาเฉียนเอยอยางราบเรียบ ความคิดเคลื่อนไหว กลับกระตุนเคล็ดวิชามาร
ดวยความรวดเร็วขึ้น ชั่วพริบตา รางโครงกระดูกของทั้งหาก็กระโจนออกมา รวมกัน
เปนโครงกระดูกยักษอีกครั้ง จากนั้นมือทั้งสองพลันขยับ กลายเปนมีดโครงกระดูก
สองดาม โผเขาใสฮูหยินอัปลักษณอยางรุนแรง
ครั้งนี้ กุยหลิงไมไดกระตุนอสูรเหี้ยมบนขวานยักษใหโจมตี แตกลับสะบัดขวานยักษ
ออกไปสูรบกับอีกฝาย เห็นเพียงลำแสงเย็นเยียบกลุมหนึ่งและไอสีขาวสองกลุม เปลง
เสียงปะทะกันประหลาดๆ ระหวางรางทั้งสองออกมาไมหยุด เสียงดังสนั่นจนเสียด
แกวหู ทั้งวิห ารมีเสียงสั่นสะเทือนดังขึ้น ไมห ยุด ท าทางเหมือนจะถูกพั ดปลิวไปได
ตลอดเวลา
หานลี่หรี่ตาลงมองสถานการณทุกอยาง ถึงแมวากุยหลิงจะฟนฟูลมปราณกลับ
มาแลวกลายเปนคนยักษแลว แสงปราณทิศเหนือที่อยูรอบๆ ก็ดูเหมือนวาจะไมมีทาง
ทำอะไรนางได แตเห็นไดชัดวาไมวาเคล็ดวิชามโหฬารหรือวาเกราะสงครามโลหิตบน
รางของนาง ก็ไมอาจเทียบกับโครงกระดูกยักษที่อยูทามกลางแสงปราณทิศเหนือสุด
ไดนานได
การตอสูครั้งนี้จะตองจบลงใหไวที่สุด
เมื่อขบคิดเชนนั้น สายตาของหานลี่ก็มองไปทางเงาโลหิตแวบหนึ่ง แววตาโหดเหี้ยม
สวางวาบขึ้นในแววตา จิตสัมผัสแอบควบคุมแหวนตะวันที่อยูเหนือศีรษะใหสั่นไหว
เบาๆ
ดานหลังของเงาโลหิต มีโซสีเงินสองสามสายพุงเขาไป เงียบเชียบราวกับอสรพิษ
อยางไรอยางนั้น
มารเฒาเฉียนก็กำลังขบคิดหาวิธีการตอสูกับหานลี่และพวกทั้งสองที่รวมมือกัน
อยูพอดี ไมรูวาเขาคิดวาตนเปนรางที่ฆาไมตาย หรือวาจิตสัมผัสถูกควบคุมเอาไวมาก
ในแสงปราณทิศเหนือสุดกันแน
รอจนโซสีเงินเขามาประชิดตัว ถึงไดสัมผัสไดพลางรีบรอนแวบหายไปคิดจะหลบหลีก
แตลำแสงสีเงินพลันสวางวาบ โซเจ็ดแปดสายทะลุผานรางเงาโลหิตของมารเฒา
เฉียนไปอยางอยูนอกเหนือความคาดหมายของเขา มารเฒาเฉียนพลันตกตะลึง แต
เมื่อกมหนาลงมือโซสีเงินที่ทะลุผานรางไปแลว ก็หัวเราะออกมาดวยสีหนาเย็นชา
บาดแผลแคนี้สำหรับเขานั้น ไมจำเปนตองใสใจอะไร การฟนฟูก็ใชเวลาเพียงเล็กนอย
เทานั้น
แตทันใดนั้นมารเฒาเฉียนก็พบความผิดปกติ หลังจากที่โซสีเงินเหลานี้ทะลุผาน
แลวคาดไมถึงวาจะไมยอมหายไป ราวกับผนึกอยูบนรางของเขาจริงๆ ทั้ งยังเปลง
ลำแสงสีเงินสวางวาบเล็กๆ ออกมา
มารเฒาเฉียนพลันหนาเปลี่ยนสี
“สายไปแลว!” หานลี่เอยอยางราบเรียบออกมา
ชั่วขณะนั้นโซสีเงินสองสามสายนั้นพลันเลื้อยวนราวกับอสรพิษ คาดไมถึงวาจะ
พันรางของเงาโลหิตเอาไวแนน เพียงใชพลังดึงเล็กนอย ก็ทำใหรางของเงาโลหิตฉีก
ขาดออกเปนเจ็ดแปดสวน
มารเฒาเฉียนทั้งตกตะลึงทั้งโกรธเกรี้ยว รางกายที่ชำรุดกลายเปนหมอกสีโลหิต
พุงออกไปดานขาง จากนั้นก็รวมตัวกันอีกครั้ง คิดจะผนึกรางมารขึ้นมาใหม
ชั่ ว พริ บ ตาโซ สี เงิ น สองสามเส น นั้ น ก็ ต ามไปติ ด ๆ ดุ จ เงาตามตั ว ถาพฉากที่
เหมือนกันพลันเกิดขึ้น การรวมรางของเงาโลหิตยังไมทันไดแสดงออกมา รางมารของ
มารเฒ าเฉียนก็ถูกฉีกออกเปนสวนๆ อีกครั้ง ราวกับฉีกกระดาษาอยางไรอยางนั้น
ไมใหเวลามารเฒาผนึกรางไดอีก เปนเชนนั้นตอเนื่องกันหาหกครั้ง เห็นไดชัดวาหมอก
โลหิตบางตาลงกวากอนหนาเล็กนอย
“รนหาที่ตาย!” เสียงตะโกนที่ตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวดังขึ้นทามกลางหมอกโลหิต
เห็นไดชัดวามารเฒาเฉียนพบวาแยแลว
ทามกลางแสงปราณทิศเหนือสุด ตอใหเขาพาหมอกโลหิตหนีไปรวดเร็วแคไหน
หานลี่ก็สามารถผนึกโซสีเงินจากรอบๆ ดานไดอยางรวดเร็ว เขาไมมีทางหลบหลีกได
เลย ทันใดนั้นหมอกสีโลหิตก็ไมไดรวมตัวกันอีก กลับรวมตัวกันอยูตรงกลาง ลำแสง
โลหิตสวางวาบบนนั้น ชั่วพริบตาไขมุกสีโลหิตขนาดเทาหัวแมมือเม็ดหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
ไขมุกเม็ดนี้มีสีแดงสดราวกับโลหิต เปลงแสงสีแดงประหลาดๆ สวางวาบ กลิ่น
คาวเลือดคละคลุงโชยออกมาจากไขมุก ทำใหผูคนมองปราดเดียวก็รูวานี่ไมใชสมบัติ
ธรรมดาๆ
“ไขมุกมารโลหิต!” หานลี่เห็นไขมุกเม็ดนี้ มุมปากก็อดที่จะกระตุกเล็กนอยไมได
เอยปากรองอุทานออกมา
“เจาคิดวาตาเฒากลัวเจาจริงๆ หรือ เอาชีวิตของเจามาเดี๋ยวนี้”
เสียงของมารเฒาเฉียนคาดไมถึงวาจะดังออกมาจากไขมุกโลหิต จากนั้นไขมุกเม็ด
นั้นก็กลายเปนลำแสงสีโลหิตสายหนึ่งพุงเขาไปหาหานลี่ ทาทางโกรธเกรี้ยวจนตัวสั่น
หานลี่สูดหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง ชูมือหนึ่งขึ้นอยางไมกลาดูแคลน อาคมสอง
สามสายโจมตีไปยังแหวนตะวันเหนือหัวอยางตอเนื่อง
ชั่วขณะนั้นขณะที่ไขมุกมารโลหิตกำลังบินพุงเขาไป ชั่วครูก็มีโซสีเงินปรากฏขึ้น
สิบกวาสาย ทยอยกันเปลงแสงสวางวาบและโจมตีไปยังไขมุกโลหิต
ไขมุกโลหิตเคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว แตก็ยังคงถูกโซสีเงินเหลานั้นโจมตี เสียง
อึกทึกดังออกมาจากไขมุก ลำแสงสีเขียวสวางวาบ โซเหลานั้ นถูกดีดออกไปอยาง
งายดาย
สีหนาของหานลี่ไมมีความรูสึกเลยแมแตนอย มือหนึ่งพลิกฝามือ ชั่วขณะนั้นประจุ
ไฟฟาสีทองกลุมหนึ่งพลันปรากฏขึ้นที่ใจกลางฝามือ อีกมือหนึ่งที่ซอนอยูในแขนเสื้อ
กลับกำดามของพัดตรีเปลวเพลิงเอาไวแนน
มารเฒาไดเอาทารกวิญญาณไปซอนไวในไขมุกมารโลหิตแลว หากคิดจะสังหาร
เขา ดูแลวคงตองทำลายไขมุกเม็ดนี้ถึงสำเร็จได
ในเสนทางสายมาร ไขมุกมารโลหิตเม็ดนี้ถือไดวามีชื่อเสียงเปนอยางมาก การที่
เอาทารกวิญ ญาณไปฝากไวในนั้น ก็แทบจะเที ยบไดกับเป นกายเนื้อที่ สองอยางไร
อยางนั้น ไมคอยมีผูที่ฝกฝนสำเร็จมากเทาใดนัก ไดยินวาหากจะหลอมสมบัติชิ้นนี้ ไม
เพียงตองรวบรวมโลหิตบริสุทธิ์ของอสูรวิญญาณที่แตกตางกันมารอยชนิด
ยิ่งไปกวานั้นยังตองฝกฝนเคล็ดวิชามารพิ เศษอีกสองสามชนิ ด ถึงจะสามารถ
หลอมไขมุกเม็ดนี้ได สวนวิธีการหลอมไขมุกเม็ดนี้น้ัน ไดยินวาหายสาบสูญไปตั้งนาน
แลว แตคิดไมถึงวาจะมาตกอยูในมือของพรรคตาขายทมิฬ และมารเฒาก็ยังฝกฝน
สำเร็จตั้งนานแลว
ทวา นี่ก็เปนโอกาสของเขา ขอแคไขมุกเม็ดนี้เขามาใกล เขาก็จะใชอัสนีเทวาปด
เปาภยันตรายจำนวนมากมาลอมไขมุกเม็ดนี้เอาไวอยางไมลังเล จากนั้นก็จะใชพัดตรี
เปลวเพลิงโจมตีไปโดยที่อีกฝายไมทันไดตั้งตัว ไมวาไขมุกเม็ดนี้จะมีความสามารถ
อยางไร ก็ไมอาจไมไดรับความเสียหายเลยสักนิดหากถูกพัดตรีเปลวเพลิงโจมตี
ในตอนที่หานลี่กำลังขบคิดแผนการ เตรียมจะโจมตีมารเฒานั้น ลำแสงสีโลหิตที่
กำลังบินเขามาก็หยุดชะงักกลางทาง บนไขมุกมีเปลวเพลิงสีโลหิตสูงสองสามฉื่อ สวาง
วาบแลวสลายหายไปจากที่เดิม
หานลี่ใจหายวาบ รีบรอนแผจิตสัมผัสออกไปทั้งสี่ทิศ กลัววามารเฒาจะใชเคล็ด
วิชาหลีกหนีเขามาโจมตีระยะประชิดโดยไมรูตัว
แตครูตอมา หานลี่พลันตะลึงงัน
เพราะวาหลังจากที่ไขมุกมารโลหิตซึ่งถูกเปลวเพลิงหอหุมเอาไวปรากฏขึ้นอีกครั้ง
คาดไมถึงวาจะไมไดปรากฏตัวใกลๆ กับหานลี่ และหลบไปดานขางพลางพุงไปยังเขต
อาคมของแสงปรารทิศเหนือสุด จากนั้นเสียงหัวเราะอยางบาคลั่งของมารเฒาก็ดัง
ขึ้นมาจากทางนั้น
“เด็ ก เอ ย เจ า คิ ด ว า ตาเฒ า เลอะเลื อ นไปจริ ง ๆ หรื อ ! ต อ สู กั บ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
ระดับสูงสองคนอยางพวกเจาในนี้ ผูแซเฉียนจะทำเรื่องที่โงเขลาไดอยางไร รอใหถึง
ขางนอก รวบรวมคนใหครบ ตาเฒาจะมาจัดการกับเจาทั้งสองอีกครั้ง!”
ขณะเอยวาจาเชน นั้ น ออกมา ไข มุกมารโลหิ ต ก็ เปล งแสงสีเงิน สวางวาบ และ
ทะลวงเขาไปในเสนไหมสีเงินที่หนาแนนราวกับระลอกคลื่น
ดูเหมือนวาแสงปราณทิศเหนือสุดจะหนาแนนเปนพิเศษ ภายใตไขมุกที่เปลงแสงเปลว
เพลิงสีโลหิตที่แผดเผา ก็ทยอยกันสลายหายไป คาดไมถึงวาจะไมมีทางกักเอาไวได
เวลานี้ หานลี่ ถึ งได ส ติ ขึ้ น มา แต เห็ น ได ชั ด ว าตามไปไม ทั น แล ว ถึ งแม จ ะรู สึ ก
ประหลาดใจ แตสิ่งที่แปลกก็คือ ใบหนาของเขากลับไมไดเผยสีหนาลนลานออกมา
กลับหันหนาไปดวยสีหนาแข็งทื่อ มองกุยหลิงที่ยังคงตอสูกับหามารใจเดียว
เห็นเพียงมีดกระดูกในมือของโครงกระดูกยักษ ยังคงรายรำและเปลงเสียงรอง
แหลมๆ ออกมาไมหยุด ไมมีทาทีจะลาถอยไปพรอมกันเลยแมแตนอย
หานลี่หนาเปลี่ยนสี แผนหลังมีเสียงฟารองดังขึ้น ปกคูหนึ่งปรากฏขึ้น ทันใดนั้น
ลำแสงสีเงินพลันสวางวาบ รางสลายหายไปจากที่เดิม จูๆ ก็ปรากฏตัวที่ดานหนาของ
แสงปราณทิศเหนือสุดเชนกัน
สองตาของเขาจองเขม็งไปยังทิศทางที่มารเฒาหนีไป ชูมือหนึ่งขึ้น พัดตรีเปลว
เพลิงดามนั้นปรากฏขึ้นในมือ
ทั น ใดนั้ น หลั งจากที่ เผยสี ห น าลั งเลออกมาเล็ ก น อ ย หานลี่ ก็ อ าปากออก พ น
ลำแสงสีเขียวที่หอหุมของสิ่งหนึ่งออกมา ดานในมีเตาใบเล็กขนาดเทาหัวแมมือใบหนึ่ง
อยูรางๆ คาดไมถึงวาจะเปนเตานภาสูญใบนั้น
ทางดานของหานลี่ที่เพิ่งจะทำอะไรทุกอยางเสร็จ จูๆ ทามกลางแสงปราณทิศ
เหนือสุดก็มีเสียงดังสนั่นขึ้น ทันใดนั้นเสียงรายคาถาของมารเฒาเฉียนก็ดังขึ้นแววๆ
แสงปราณทิศเหนือสุดสั่นไหว ลำแสงสีโลหิตสายหนึ่งและลำแสงสีเงินกลุมหนึ่งพุง
ออกไปตามลำดับ
หรือวาดานหนานั้นจะเปนไขมุกมารโลหิตที่ถูกเปลวเพลิงสีโลหิตหอหุมเอาไว แต
แคในตอนนี้เปลวเพลิงโลหิตดูเหมือนวาจะเล็กลงไปเล็กนอย สวนลำแสงดานหลังนั้น
คือลำแสงสีเงินที่เจิดจาจนแสบตา ทำใหผูคนไมอาจมองเห็นไดชัดเจน แตดูเหมือนวา
จะมีเงารางผายผอมของคนคนหนึ่งกำลังเคลื่อนไหวอยูดานใน
ตอนที่ 1029 ทลายไขมุก
มารเฒาเฉียนเห็นหานลี่อยูตรงหนา พลันใจหายวาบ ไขมุกมารโลหิตสั่นคลอน
อยางหามไมอยู
เงารางคนที่อยูทามกลางลำแสงสีเงินดานหลังพลันถือโอกาสนี้ลงมือ คันธนูสีแดง
เพลิงขนาดเทาฝามือปรากฏขึ้นในมือ ชูคันธนูที่อยูในมือขึ้นกลางอากาศ ชั่วขณะนั้น
ลูกธนูสีแดงจำนวนนับไมถวนพุงออกไปจนมืดฟามัวดิน
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น หานลี่พลันสงยิ้มแปลกประหลาดใหมารเฒา พัดตรี
เปลวเพลิงในมือเปลงแสงเรืองรอง ทามกลางเสียงรองคำราม เปลวเพลิงสามสีกลุม
หนึ่งพลันทะลักออกมาจากพัด ชั่วพริบตาก็กลายเปนวิหคเพลิงตัวหนึ่งกระโจนเขาไป
หาไขมุกมารโลหิต
การโจมตีที่ตามมาตามลำดับพลันประสบความสำเร็จ
มารเฒาเฉียนพลันรูสึกตกตะลึง อานุภาพของพัดตรีเปลวเพลิงนั้น เขาเคยผาน
ประสบการณมาแลวครั้งหนึ่ง แนนอนวาจึงไมยอมปะทะกับมันตรงๆ แตการโจมตีที่
พุงเขามาจากดานหลังก็รายกาจเชนกัน กอนหนานี้เขาไมทันไดระวังตัว ก็เสียเปรียบ
ไปไมนอยเสียแลว
ภายใตความจนตรอกนั้น ไขมุกมารโลหิตพลันเปลงเสียงรองแหลมสูงออกมา จูๆ
พลันพุงถอยไปดานหลัง ในเวลาเดียวกันลำแสงโลหิตพลันขยายรัศมีกวางขึ้น ใบหนา
ปศาจสีเทาพลันปรากฏขึ้นบนไขมุก และอาปากพนไอสีดำสายหนึ่งออกมา ชั่วพริบตา
ก็กลายเปนธงดามเลมๆ ขนาดสองสามชุนดามหนึ่ง
หลังจากขยายขนาดขึ้นกลางอากาศ ก็กลายเปนธงที่มีขนาดประมาณสองสามฉื่อ
แผไอมารพวยพุง ลำแสงสีมรกตสวางวาบ!
ธงตาขายทมิฬ!
ชั่ ว พริ บ ตาหานลี่ ก็ จ ำประวั ติ ค วามเป น มาของของสิ่ ง นี้ ได นอกจากไอมารที่
หนาแนนมากยิ่งขึ้นแลว ของสิ่งนี้ก็แทบจะเหมือนกับธงดามที่เขาไดมากอนหนานี้
อยางไรอยางนั้น
ในฐานะอาวุโสของพรรคตาขายทมิฬ ของมารเฒ า มี สมบั ติชิ้น นี้ ก็ไม ใชเรื่องที่
แปลกประหลาดอะไร ความคิดของหานลี่แวบผานไปมาอยางรวดเร็ว
และในตอนนั้นเอง ธงดามนี้ก็คลี่ขยายอยูเบื้องหนาของไขมุกมารโลหิต
รอบๆ พลันมีพายุทมิฬปรากฏขึ้น หมอกสีดำแผขยายออกมา หัวปศาจที่บิวเบี้ยว
ทยอยกันปรากฏขึ้นทามกลางไอมาร ปากก็พนเพลิงสีเรืองรองเขาไปหาลูกธนูที่โหม
เขามาทั่วทองฟา
แนนอนวาลูกธนูเองก็กระโจนเขาใสไอมารอยางไมเกรงใจ เสียงระเบิดดังขึ้นเปน
ระลอก
แตถือโอกาสนี้ มารเฒาเฉียนกลับแอบซอนอานุภาพของธงดามนี้เอาไว ควบคุม
ไขมุกมารโลหิตและธงตาขายภูตผีหลบไปดานขาง ถือโอกาสมองไปทางดานหลังแวบ
หนึ่ง เห็นเพียงหงสเพลิงตัวนั้นสยายปกออกพลางพุงตามหลังเขาไปอยางไมลดละ
มารเฒาพลันใจหายวาบ รูสึกโกรธเกรี้ยวในใจ
ธงดามนั้นเปลงแสงสีเขียวออกมา บนธงมีรูสีดำปรากฏขึ้น
ไอมารที่ ดำสนิท ราวกับ น้ำหมึกทะลักออกมา ด านในมี ปศาจสูงประมาณสอง
สามชุนกระโดดออกมา เมื่อมารตนนั้นออกมาจากธง รางกายก็ขยายขนาดขึ้นทันที
คาดไมถึงวาจะกลายเปนภูตผีปศาจหนาตาโหดเหี้ยม สูงมากกวาหนึ่งจั้ง
ภูตผีตนนี้สวมเกราะสงครามที่เปลงแสงสีดำเปนมันวาวเอาไว ในมือยังถือสาม
งามสวรรคอันหนึ่งเอาไว ปลายของสามงามมีเปลวเพลิงสีเขียวลุกโชนอยู คาดไมถึงวา
จะปกคลุมทั่วเรือนรางของมันเอาไวทั้งหมด ทาทางมีความสามารถไมนอย
ภูตผีตนนี้ดูเหมือนวาจะติดอยูในธงดามนี้มาเนิ่นนาน พอปรากฏรางอยางสมบูรณ
แลว ยังไมทันไดมองสถานการณ ใหชัดเจน ก็กรีดรองออกมาดวยความตื่นเตน แต
ทันใดนั้นเสียงกรีดรองก็หยุดชะงักลง เพราะวาวิหคสามสีตัวนั้น กระโจนมาอยูเบื้อง
หนาของมันแลว
ใบหนาของมันเผยสีหนาตื่นตะลึง ทำไดเพียงเผยอปากออกอยางรีบรอน พนไอ
มารสีดำสนิทกลุมหนึ่งออกมาอยางรอนรน ในเวลาเดียวกันมือก็ไขวกันกลางอากาศ
คิดจะตานทานวิหคเพลิงที่เขามาใกล
ตองโทษวาภูตผีตนนั้นซวยเกินไป!
จากความสามารถของมันถึงแมวาจะไมไดทรงพลังเทามารเฒาเฉียนและพวกของ
หานลี่ แตก็ไมไดดอยไปกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นตน แตการที่ถูกกักอยูใน
ธงมาหลายรอยป และเพิ่งจะออกมาก็พนไอมารใสสมบัติวิเศษอยางพัดตรีเปลวเพลิง
บวกกับในตอนนั้นทำไปอยางรอนรน จึงไมทันไดพิจารณาวิหคเพลิงสามสีตัวนั้นให
ละเอียด จึงทำใหคิดวามันเปนเพียงวิหควิญญาณธรรมดาๆ
เชนนั้น เสียง ‘ปง’ จึงดังสนั่นขึ้น ชั่วพริบตาวิหคเพลิงที่อยูทามกลางไอมาร ก็สง
เสียงระเบิดขึ้น ลำแสงลวงตาลึกลับพลันปรากฏขึ้น กะพริบระยิบระยับขณะขยาย
อาณาเขตออกไปถึงสิบกวาจั้ง ภายใตอานุภาพนั้น อักขระสามสีพลันปรากฏขึ้นและ
หมุนวนไปมา ทำใหภูตผีปศาจรวมทั้งไอมารที่อยูรอบๆ หายวับไป
ไขมุกมารโลหิตกลับถือโอกาสนี้ตานทานเอาไว ใชธงตาจายทมิฬหอหุมตนเอาไว
ชั่วครูก็หนีออกมาจากรัศมีของลำแสงลวงตาสามสี หลบการสังหารครั้งนี้ได!
มารเฒาเฉียนรองอุทานวาเคราะหดีอยูในใจ หลังจากมองไปที่ธงตาขายทมิฬแวบ
หนึ่ง ในใจพลันรูสึกเจ็บปวดขึ้นมา
สมบั ติ ป ระจำพรรคตาข ายทมิ ฬ ชิ้ น นี้ ในยามนี้ ก ลั บ เปล งแสงเลื อ นรางอ อ นๆ
ทาทางราวกับสูญเสียพลังวิญญาณไปเปนจำนวนมาก
สถานการณที่ปรากฏขึ้น ยอมเปนเพราะภูตผีหลักที่อยูในธงและหมอกผีกลุมใหญ
ของธงอาคมดามนี้ถูกลำแสงลวงตาสามสีทำลายไปแลว
จะวาไปแลว ที่ธงตาขายทมิฬเลื่องชื่อวาเปนสมบัติประจำพรรคของพรรคตาขายทมิฬ
ไดนั้น แนนอนวาอานุภาพจะตองไมไดดูธรรมดาเหมือนภายนอกแน
อานุภาพจริงๆ ของพวกมัน มีเพียงตองรวบรวมธงตาขายทมิฬใหครบสิบแปดดาม
เทานั้น ถึงจะสำแดงมันออกมาได หากมีธงตาขายทมิฬสิบแปดดามอยูในมือละก็ ไม
ตองพูดถึงหานลี่และฮูหยินอัปลักษณ ตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงมาพบ
เขา มารเฒาเฉียนก็มั่นใจวาจะรักษาชีวิตของตัวเองได
แตนาเสียดายที่บรรพชนกอตั้งพรรคตาขายทมิฬไดตั้งกฎเอาไวตั้งแตในอดีตวา
หากพรรคตาขายทมิฬไมไดประสบกับหายนะครั้งใหญละก็ จะไมเอาธงตาขายทมิฬทั้ง
สิบแปดดามมาไวในมือคนคนเดียวเด็ดขาด โดยทั่วไปแลวจะมอบใหผูดูแลที่สูงมีพลัง
ยุทธสูงที่อยูในพรรคสิบแปดคนเปนคนดูแล จุดนี้ตอใหเขาเปนอาวุโสใหญของพรรค
ตาขายทมิฬ ก็ไมมีความเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด และยิ่งไปกวานั้นตอนนี้อีกดามยังตก
ไปอยูในมือของอีกฝายแลวดวย
มารเฒ าเฉี ย นขบคิ ด อย างโหดเหี้ ย ม บนไข มุ ก มารโลหิ ต พลั น มี ใบหน าป ศ าจ
ปรากฏขึ้น อาปากออกคิดจะดูดธงสีเขียวที่สูญเสียปราณแทไปเปนจำนวนมากเขาไป
หลังจากถูกพัดตรีเปลวเพลิงโจมตี เขาก็รูสึกหวาดกลัวหานลี่มากขึ้นกวาครึ่ง
สมบัติที่มีอานุภาพขนาดนี้ ลมปราณที่สูญเสียไปจะตองมากจนนาตกตะลึง อีก
ฝายใชวิธีการนี้จัดการกับสองผูบำเพ็ญ เพียรหญิงแหงพรรคแปลงเซียนไปแลวรอบ
หนึ่ง เมื่อครูใชพัดนี้โจมตีไปอีกรอบหนึ่ง ภายในระยะเวลาสั้นๆ อีกฝายนาจะไมอาจใช
สมบัติชิ้นนี้ไดอีก
มิเชนนั้นไมตองพูดถึงสิ่งอื่น ขอแคใชพัดนี้อีกสักสองสามครั้ง เกรงวาเขาคงหลบ
ไมไดและตายไปภายใตอานุภาพของพัดเลมนี้ไปตั้งนานแลว
แตในตอนนั้นเอง ความเปลี่ยนแปลงก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
เสียงฟารองพลันดังขึ้นจากมือมนุษยท่ีอยูทามกลางลำแสงสีเงิน ลำแสงสีเขียว
มรกตสายหนึ่งพุงออกมาภายใตเสียงอึกทึกนั่น และสลายหายไประหวางทาง
“ซวยแลว!” เมื่อเห็นภาพฉากที่คุนเคย มารเฒาเฉียนพลันใจหายวาบ
กอนหนานี้เขาไมทันไดระวังตัว ก็ถูกสิ่งนี้ลอบโจมตี และเสียเปรียบไปไมนอย
ทามกลางลำแสงสีเขียวมรกตนั้นมีอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายที่ใชควบคุมเคล็ดวิชา
มารโดยเฉพาะปะปนอยู เขาที่ไมทันไดระวังตัว จึงไมอาจสำแดงเคล็ดวิชาลับออกมา
ตานทานไดทัน ผลลัพธคือทำใหเกราะปองกันเปลวเพลิงโลหิตเสียหายไปไมนอย
มารเฒ าที่ เคยเสี ย เปรี ย บไปแล ว ครั้ งหนึ่ ง แน น อนว าไม มี ท างให ส ถานการณ
เชนเดียวกันปรากฏขึ้นซ้ำสองอีก
หลังจากที่หนาปศาจดูดธงตาขายภูตผีเขาไปในคำเดียวแลว จากนั้นไขมุกมาร
โลหิตก็แวบหายไป กลายเปนรางเลือนไมชัดเจน ลำแสงสีเขียวปรากฏขึ้นในจุดที่หาง
ออกไปสองสามจั้ง ลูกธนูสีเขียวมรกตขนาดสองสามชุนที่เปลงแสงสีทองสวางวาบ
ปรากฏขึ้นตรงนั้น
เสียงฟารองดังขึ้น ลูกธนูสั้นๆ นั้นสวางวาบ และทะลวงผานไขมุกไป
‘ไขมุกมารโลหิต’ กลับหายวับไปอยางเงียบเชียบ
คาดไมถึงวามารเฒาเฉียนจะใชเคล็ดวิชาลับเคลื่อนยายไขมุกมารโลหิตไปภายใต
วิกฤตที่อันตรายอยางมาก ที่เดิมจึงเหลือเพียงเงาลวงตาเทานั้น
หางออกไปสิบกวาจั้ง เปลวเพลิงโลหิ ตกลุมหนึ่ งพลัน ระเบิ ดออกกลางอากาศ
ไขมุกมารโลหิตปรากฏขึ้นดานใน
แตเหตุการณที่แปลกประหลาดพลันปรากฏขึ้น!
แทบจะในเวลาเดียวกันที่ไขมุกมารโลหิตปรากฏตัว ลำแสงสีดำที่ดูออนแรงพลัน
สวางวาบ มีดบินสีดำแวววาวราวกับน้ำหมึกยาวสองสามชุน ปรากฏขึ้นดานหลังไขมุก
มารอยางเงียบเชียบ
ลำแสงสีดำสวางวาบ เสนสีดำเสนหนึ่งแฉลบผานไขมุกมารโลหิตไปอยางงายดาย
มีดบิ น ปรากฏขึ้น อีกฝงหนึ่ ง เกราะป อ งกัน เปลวเพลิงโลหิ ตไมอ าจตานทานได เลย
แมแตนอย!
เสียงปริแตกที่ดังกังวานและเสียงรองอยางนาเวทนาดังขึ้นในเวลาเดียวกัน ผิว
ของไขมุกโลหิตแตกออกเปนชุนๆ
"เปนไปไมได! เหตุใดไขมุกโลหิตถึงได...ตอใหเปนกระบี่เทพสวรรคก็ไมมีทางทำได
กระบี่บินนี้…"
เสียงตกตะลึงระคนโกรธแคนติดๆ ขัดๆและไมอยากจะเชื่อของมารเฒาเฉียนดัง
มาจากไขมุกโลหิต
ทันใดนั้นไขมุกโลหิตพลันมีเสียงต่ำๆ ดังขึ้น แลวปริแตกออก เผยทารกวิญญาณ
คนหนึ่งออกมา
ทารกวิญญาณคนนี้ประหลาดจริงๆ ไมเพียงรอบกายที่ถูกหมอกโลหิตจางๆ ปก
คลุมอยู สองมือกอดธงเล็กๆ ขนาดสองสามชุนเอาไว คาดไมถึงวารอบกายจะถูกหัว
กะโหลกทั้งหากัดเอาไวไมปลอย และหัวกะโหลกนี้ก็มีสีดำสนิทราวกับน้ำหมึก ขยับไป
มาเล็กๆ ราวกับกำลังดูดโลหิตบริสุทธิ์ของทารกวิญญาณอยูอยางไรอยางนั้น ทำให
ผูคนเห็นแลวขนลุกซู!
ทารกวิญญาณมารเฒาเฉียนเห็นวาการสิงรางในไขมุกมารโลหิตนั้นไมไดผล ปาก
ก็เปลงเสียงรองแหลมสูงเสียดหูออกมา ทั นใดนั้ นก็หอหุมธงตาขายทมิฬ ไวบนราง
ตานทานแสงปราณทิศเหนือสุด แลวกลายเปนไอสีดำกลุมหนึ่งพุงออกไปยังจุดที่ไกล
ออกไป
โครงกระดูกยักษที่กำลังพัวพันกับมนุษยยักษกุยหลิงก็เปลงเสียงรองแหลมๆ ออกมา
เชนกัน หลังจากที่กระโดดถอยรนไปขางหลังก็แตกสลายออก กลายเปนไอสีเทาขาว
หาสาย พุงไปหามารเฒา
ถึงแมวาไขมุกมารโลหิตจะถูกทำลาย มารเฒาก็ไมอาจแปลงเปนเงาโลหิตไดอีก
แตขอแครวมรางกับหามารใจเดียว ก็สามารถอาศัยหนึ่งในนั้นสิงรางได
แนนอนวากุยหลิงไมมีทางปลอยหามารใจเดียวไปงายๆ ทันใดนั้นรางกายจึงหด
เล็กลงเปนปกติจากนั้นก็ควบคุมลำแสงหลีกหนีสีดำขาวไลตามไป
ไมวาหามารใจเดียวหรือกุยหลิง ก็อยูหางจากพวกของหานลี่อยูหาสิบหกสิบจั้ง
ถาหากทารกของมารเฒาเฉียนมีสิ่งของใหสิงหรือวาทารกวิญญาณอยูนอกแสงปราณ
ทิศเหนือสุด ก็ลวนสามารถใชเคล็ดวิชาเคลื่อนยาย เปลงแสงสวางวาบและรวมตัวกับ
มารทั้งหาได
แตตอนนี้จำใจตองใชลำแสงหลีกหนี ธรรมดาๆ หลบหนี จะไปหนี พ น หานลี่ที่
สามารถสำแดงเคล็ดวิชาอัสนีหลีกหนีไดอยางไร
ปกทั้งสองที่อยูบนแผนหลังของหานลี่ที่มีใบหนาไรความรูสึกกระพือไปมา คนก็
มาปรากฏตัวตรงหนาไอสีดำ ชูมือขึ้น เสียงฟาผาดังสนั่น ประจุไฟฟาสีทองสองสาม
สายกลายเปนตาขายสีทองพุงออกไป
แนนอนวามารเฒารูจักอัสนีเทวาปดเปาภยันตราย ทันใดนั้นสีหนาของทารกก็
เปลี่ยนสี พลางอาปากออก พนหมอกโลหิตกลุมหนึ่งออกมาตานทานตาขายสีทอง
เอาไวชั่วคราว ชั่วพริบตาก็เปลี่ยนทิศทาง บินไปดานขางอยางรวดเร็ว
แตผูใดจะรูวาเบื้องหนาพลันมีแสงสวางวาบ ลำแสงสีเงินกลุมหนึ่งขวางอยูเบื้อง
หนา ทันทีที่ลำแสงนั้นหมนแสงลง ก็เผยรางของผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนที่มีสีหนา
ซีดขาวออกมา
คนผูนั้นสวมชุดสีเหลือง สีหนาแข็งทื่อ มือถือคันธนูเล็กๆ สีแดงเอาไว นั่นก็คือหุนเชิด
รางมนุษยที่หานลี่หลอมขึ้น
ทวาหุนเชิดตัวนี้มาปรากฏตัวที่นี่อยางเงียบเชียบ และไมไดลงมือโกงคันธนูโจมตี
ในทันที กลับถือโอกาสที่มารเฒาตกตะลึงอยางสุดๆ เปลงลำแสงสีมวงออกมาจาก
ดวงตาที่ดูปกติทั่วไป พลางแผขยายไปรอบทิศทาง
ทารกวิญ ญาณของมารเฒ าเหลือบมองลำแสงสีมวงแวบหนึ่ ง รูสึกเพี ยงวามั น
ในตอนนี้ชางเยายวนนัก มีความรูสึกเหมือนดึงดูดจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของเขา เพราะ
รางกายรูสึกอบอุน จึงไมอยากคิดเรื่องอะไรทั้งนั้น และไมอยากทำอะไรสักอยาง
“ไมใช นี่คือเคล็ดวิชาลวงวิญญาณ!” ถึงแมวาตอนนี้ทารกของมารเฒาจะอยูดาน
นอก แตจากการฝกฝนจิตสัมผัสใหแข็งแกรงมาหลายป ก็ทำใหเขาไดสติขึ้นมาในชั่ว
พริบตานั้น
เขาที่กำลังตะลึงงัน หันหนาไปอยางรีบรอน ไมกลามองดวงตาทั้งสองขางอีกฝาย
อีกแมแตนอย ในเวลาเดียวกันเกราะปองกันไอสีดำก็หมุนวน ชั่วพริบตาก็คิดจะหนีไป
อีกทาง แตในตอนนั้นเอง เหนือหัวของเขาพลันมีไอวิญญาณประหลาดๆ เคลื่อนไหว
อยู มารเฒาจึงเงยหนาขึ้นไปมองดวยความตกตะลึง
ผลลัพธคือเหนือหัวของเขา มีเตาเล็กๆ ใบหนึ่งปรากฏขึ้นตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู!
เตาใบนี้หมุนโคจรอยางชาๆ และแผลำแสงสีเขียวออนออกมา
ถึงแมวาจะไดพบสมบัติชิ้นนี้เปนครั้งแรก แตจากประสบการณที่อยูมาสองสาม
รอยป มารเฒาก็สัมผัสไดในทันทีวาเตาใบนี้ตองไมธรรมดาอยางแนนอน ทันใดนั้นคน
ก็กลายเปนไอสีดำสายหนึ่งพุงออกไปอยางไมตองขบคิด
เสียงใสๆ ดังออกมาจากในเตา ฉับพลันพลันเปลงแสงสีเขียวชอุมออกมา มวนพุง
ตรงไปยังทิศทางที่มารเฒาเฉียนหนีไป
ตอนที่ 1030 แวงกัด
ลำแสงนั้ น ดู ธ รรมดาๆ แต ห ลั ง จากสว า งวาบแล ว ก็ ม าถึ ง ด า นหลั ง ไอสี ด ำได
อยางไรก็ไมรู
ทามกลางเสนแสงและไอสีดำนับหมื่นสายมีเสียงคำรามอันตกตะลึงระคนโกรธ
เกรี้ยวของมารเฒาดังขึ้น ไอมารคอยๆ สลายออก เผยใหเห็นทารกวิญญาณสีโลหิต
รวมทั้งธงตาขายทมิฬดามนั้น
พวกมันในเวลานี้ รอบกายตางถูกเสนไหมสีเขียวจำนวนนับไมถวนพัวพันเอาไว
ไมวาพวกมันจะเปลงแสงสีเขียวสวางวาบเพียงใด เปลวเพลิงสีโลหิตก็ขยายใหญขึ้น ไม
มีทางหนีออกมาไดเลยสักนิด คาดไมถึงวาจะถูกจับเปนเอาไว
ประจุไฟฟาสีเงินสวางวาบ หานลี่ก็ใชเคล็ดวิชาอัสนีหลีกหนีมาปรากฏอยูเบื้อง
หนาทารกวิญญาณของมารเฒา หลังจากหัวเราะนอยๆ ออกมา ก็กวักมือไปยังจุดที่
ไกลออกไป
อากาศเหนือศีรษะมีคลื่นวิญญาณเคลื่อนไหว เตาใบเล็กๆ สีเขียวปรากฏขึ้นกลาง
อากาศ หลังจากหมุนวนรอบหนึ่งแลว ก็รอนลงใสมือ
ขณะถือเตาใบเล็กๆ ใบนั้นเอาไว หานลี่มองไปยังทารกวิญญาณของมารเฒาเฉียน
ที่ถูกจับเอาไวอยางราบเรียบ
ใบหนาของทารกวิญญาณเต็มไปดวยสีหนาตื่นตระหนก เมื่อเห็นสายตาประสงค
รายที่หานลี่มองมา ทันใดนั้นจิตสังหารก็ประทุขึ้นมาในทันที คาดไมถึงวาจะกัดฟน
แลวกัดลิ้นตัวเอง พลางอาปากออกคิดจะพนออกมาภายนอก
หานลี่เลื่อนสายตาไปดวยความเย็นชา
เสียง ‘พรึ่บๆ’ ดังขึ้นสองครั้ง ยันตวิเศษสีทองและเงินสองแผนแปะอยูบนเรือน
รางของทารกวิญญาณทันที ทำใหลมปราณในรางของทารกวิญญาณชะงักงัน ไมมีทาง
เคลื่อ นไหวไดอี ก เคล็ดวิชาลับ อัน แสนรายกาจที่ กำลังพ น ออกมาจากปากก็สลาย
หายไปตามธรรมชาติ
เวลานี้ลำแสงสีเงินพลันเปลงแสงเจิดจา ดานหลังของทารกวิญญาณมารเฒามีผู
บำเพ็ญ เพียรชุดเหลืองคนหนึ่งปรากฏขึ้น นั่นก็คือผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนอีกคน
หนึ่งที่รวมมือกกับหานลี่
คนผูนี้มาปรากฏตัวขึ้นที่นี่อยางเงียบเชียบตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู หานลี่ถึงไดมีสีหนา
ผอนคลายลง ใบหนาเผยสีหนาอมยิ้มออกมา คนผูนี้มีสีหนาซีดขาว ใบหนาแข็งทื่อ
แนนอนวานี่เปนสิ่งที่เขาเสียเวลาไปเปนจำนวนมาก ถึงจะหลอมหุนเชิดรางมนุษย
ออกมาได
การลอบโจมตีครั้งแรกนั้นหานลี่ใหหุนเชิดรางมนุษยไปลอบโจมตีอยูที่ประตูวิหารแทน
เขา ถาหากมารเฒาเฉียนเจาเลหเพทุบายเปนพิเศษ ไมยอมสูแตหนีไปละก็ จะตองไป
ทางนั้นแน จะวาไปแลวหุนเชิดก็ไมใชมนุษย ดังนั้นจึงเก็บกลิ่นอายไดอยางแนบเนียน
นอกเสียจากจะเห็นดวยตาของตัวเอง มิเชนนั่นก็ไมมีทางพบรองรอยของเขาได
เชนนั้น มารเฒาเฉียนที่คิดจะหนีระหวางทางเมื่อครู จะตองถูกหุนเชิดรางมนุษย
ดานขางโจมตีอยางแนนอน ใชคันธนูเพลิงอัสนีในมือประสานกับลูกธนูไมอัสนีทอง
ลอบโจมตีไปโดยไมทันตั้งตัว บีบใหเขาตองกลับมา
แตเปนเพราะตองการจะจับมารเฒาเฉียนแบบเปนๆ จึงใชมีดบินกระดูกมารที่
หลอมขึ้น มาจากเพชรกระดูกมารและวัตถุดิบล้ ำค าอื่ น ๆ โจมตี ไข มุกมารโลหิ ตจน
แหลกสลาย จากนั้นหานลี่ก็ใชอัสนีเทวาทำใหทารกวิญญาณมารเฒาตกใจจนลาถอย
ทำใหมันหนีเตลิดดวยความรอนรน และถูกหุนเชิดเขาประชิดตัวจากทางเดินดานหนา
โดยไมรูตัว และใชเนตรมารที่หลอมมาจากผลึกแสงพราสำแดงเคล็ดวิชาลวงวิญญาณ
ออกมา
หานลี่ที่เคยเห็นความนากลัวของผลึกแสงพราจึงมั่นใจวาตอใหมารเฒาเฉียนมีจิต
สัมผัสที่แข็งแกรงแคไหน ก็เพียงพอจะทำใหเขาสูญเสียสติสัมปชัญญะไปชั่วครู
เหมือนกับที่เขาคาดการณไวดังคาด ถือโอกาสที่มารเฒาเสียการควบคุม เขาถึงได
สำแดงเตานภาสู ญ ออกมา กั ก ขั ง ทารกวิ ญ ญาณเอาไว อ ย า งง า ยดายด ว ยสี ห น า
ราบเรียบ
คิดมาถึงตรงนี้ หานลี่ก็มองเตาเล็กๆ ในมือ เพราะเพิ่งฝกฝนคาถาสมบัติสะทาน
ฟาสำเร็จแคขั้นที่หนึ่ง เขาในตอนนี้จึงควบคุมไดเพียงลำแสงวิญญาณที่แผออกมานอก
เตาเท า นั้ น หากคิ ด จะเป ด ฝาเตา ดู แ ล ว คงต อ งเป น เรื่ อ งหลั ง จากที่ บ รรลุ ร ะดั บ
กอกำเนิดขั้นปลายแลว
“สหายหาน มารเหลานี้จะจัดการอยางไร”
ในตอนที่หานลี่กำลังขบคิดดวยความดีใจ ดานหลังก็มีเสียงฝเทาดังขึ้น กุยหลิงที่
มือหนึ่งปลอยไอสีดำขาวกลุมหนึ่งออกมา กักโครงกระดูกสีขาวสูงที่หดตัวเล็กลงจนมี
ขนาดประมาณสองสามฉื่อ เดินลากพวกมันเขามา
ชั่วพริบตาที่ทารกวิญ ญาณมารเฒ าถูกควบคุม ชั่วขณะนั้ นห ามารแปลงกายก็
สูญเสียการควบคุม ตกลงบนพื้นไมขยับเขยื้อนผลลัพธคือถูกฮูหยินอัปลักษณสำแดง
เคล็ดวิชากักขังเอาไว
“มารทั้งหานั้น…"
หานลี่กวาดสายตาไปยังมารเฒาที่มีแววตาเลื่อนลอย ตอนที่เอยปากคิดจะเอย
อะไรนั้น จูๆ หัวกะโหลกสีดำทั้งหาที่กัดทารกวิญญาณมารเฒา ก็คลายปากที่งับออก
พรอมกันอยางคาดไมถึง พลันหันหนาไปพุงเขาหาโครงกระดูกรูปมนุษยทั้งหาที่อยู
ใกลๆ ปากก็เปลงเสียงรองแหลมสูงออกมา
เสียงนั้นไมเพียงจะดังมาก ยังทำใหผูคนไดยินแลวรูสึกเลือดลมแปรปรวน จิตใจ
สั่นไหวไมหยุด
ชั่วขณะนั้นโครงกระดูกทั้งหาที่แตเดิมถูกกักเอาไวทามกลางกลุมหมอกสีดำขาว
พลันมีปฏิกิริยาตอบสนอง ดวงตาทั้งสองขางเปลงแสงสีโลหิตออกมา เต็มไปดวยความ
บาคลั่ง
โครงกระดูกทั้งหาอาปากออก พ น เปลวเพลิงมารสีเขียวมรกตห ากลุมออกมา
โจมตีไปยังไอหมอกสีดำขาวพรอมกัน
หลังจากนั้นเสียง ‘ปง’ พลันดังขึ้น คาดไมถึงวาไอหมอกสีดำขาวที่แปลงเปนเขต
อาคมจะถูกทำลายลงโดยที่ฮูหยินอัปลักษณไมทันไดตั้งตัว
ชั่ วพริบ ตาไอสี ข าวห าสายก็ พุ งออกมา ตรงไปหาหั วกะโหลกสี ด ำเหล านั้ น ดู
เหมือนวาจะตองการรวมตัวกันอยางไรอยางนั้น
แตเมื่อหานลี่มองเห็นเหตุการณนี้ จะปลอยใหมารเหลานั้นลงมืออยางงายๆ ได
อยางไร จมูกสงเสียงเหอะดวยความเย็นชาออก มือโบกไปทางเตาใบเล็กนอยเบาๆ
ลำแสงสีเขียวสวางจา ชั่วขณะนั้นกำแพงขวางกั้นพลันปรากฏขึ้น กีดกันไอหาสี
ทั้งหมดเอาไวภายนอก
ในเวลาเดียวกันจิตสัมผัสก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง ลำแสงสวนหนึ่งหมุนวน คาดไมถึง
วาจะกักไอสีขาวทั้งหาสายเอาไวอีกดาน เผยใหเห็นโครงกระดูกสูงสองสามฉื่อหาตัว
ออกมาอีกครั้ง
มารเหลานี้ดูเหมือนวาจะอยูในจุดที่บาคลั่งแลว
ถึงแมวาจะถูกเสนไหมสีเขียวรัดเอาไวอยางแนนหนา มือเทาของมันก็ยังดิ้นรนไป
มาไมหยุด ปากก็พนเปลวเพลิงสีเขียวมรกตออกมาโจมตีไปยังเสนไหมสีเขียวบนเรือน
รางไมหยุด คิดจะเผาพวกมันใหหลุดออกจากตัว
“ไม...เจา...เจารีบปลอยพวกมันเร็วเขา!”
ทารกวิญญาณมารเฒาเห็นภาพฉากนั้น กลับมีสีหนาหวาดกลัว จูๆ พลันตะโกน
และกรีดรองออกมา ดูเหมือนวาจะหวาดกลัวอยางสุดๆ
หานลี่กวาดสายตาที่เย็นชาออกไป ในใจรูสึกแปลกประหลาด แตจะไปฟงคำพูด
ของอีกฝายไดอยางไร
แตครูตอมา เขาก็หนาเปลี่ยนสี
หัวกะโหลกสีดำทั้งหาเปลงเสียงรองแหลมๆ ออกมาไมหยุด ในเวลาเดียวกันก็
พลิกตัวกระโจนออกไป คาดไมถึงวาจะกัดทารกวิญญาณมารเฒาเอาไวอีกครั้ง
แตครั้งนี้ หัวกะโหลกเหลานี้ไมใชแคกัดเทานั้น แตปากของมันกลับขบเคี้ยว กลืน
กินทารกวิญญาณมารเฒาลงไปจริงๆ
“หัวกะโหลกมารแวงกัด!” หลังจากที่หานลี่ตกตะลึงแลว ชั่วพริบตาก็เขาใจเรื่อง
ที่เกิดขึ้น
เห็นไดชัดวาเปนเพราะมารเฒาสูญเสียลมปราณไปเปนจำนวนมาก เวลานี้จึงถูก
ความสามารถของตัวเองควบคุมเอาไว ในที่สุดหามารที่แตเดิมเชื่อฟงคำสั่งก็เกิดคลุม
คลั่งขึ้นมา ทำใหจิตวิญญาณดั้งเดิมแวงกัดเจาของ
แตหานลี่จะปลอยใหทารกวิญญาณมารเฒาถูกกลืนกินที่นี่ไดอยางไร มือหนึ่งตบ
ไปที่เตาใบเล็กๆ นั้นอยางไมตองขบคิด
เสียงไพเราะดังออกมาจากเตา ทามกลางลำแสงภายนอกมีเสนไหมสีเขียวจำนวน
นับไมถวนพุงออกมา ชั่วครูก็รัดหัวกะโหลกเอาไวอยางแนนหนา พยายามดึงพวกมัน
ออกจากรางของทารกวิญญาณ
แตหัวกะโหลกเหลานั้นกลับกัดกินอยางบาคลั่ง ทำใหผูคนเห็นแลวพากันรูสึกตื่น
ตะลึง!
หานลี่กลับไมไดมองหัวกะโหลกสีดำเหลานี้เท าใดนัก แตจองเขม็งไปยังทารก
วิญญาณมารเฒา แลวจึงผอนคลายลง
ถึงแมจะเปนเพียงชั่วครู รางกายของทารกวิญญาณก็หดเล็กลงกวาครึ่ง ลมหายใจ
รวยริน แตสำหรับเขาแลว ขอแคจิตวิญญาณยังไมสลายหายไป ก็ไมเปนไรแลว
สูดลมหายใจเขาลึกๆ หานลี่ใชมือหนึ่งควาธงตาขายทมิฬขางๆ ทารกวิญญาณ
เอาไว พิจารณาเล็กนอย แลวยัดเขาไปในยามเก็บของ ทันใดนั้นพลันกวาดสายตาไป
มองไปยังจุดที่อยูไกลออกไปแวบหนึ่ง
หุนเชิดรางมนุษยแวบหายไป หลังจากที่เปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง ก็หยิบถุง
หนังสีดำสนิทที่อยูไกลขึ้นมาแลวพุงกลับมา สงใหหานลี่
แนนอนวานี่คือยามเก็บของของมารเฒาเฉียน ในตอนที่ไขมุกมารโลหิตระเบิด
ออกนั้น ก็ตกลงมาจากในนั้น
หานลี่ไมไดตรวจสอบอะไรที่อยูดานใน แตหันหนาไปกลาวกับฮูหยินอัปลักษณวา
“สหายกุย เจาไปดูโครงกระดูกมารทั้งหาใหหนอย ขาจะไปจัดการทารกวิญญาณ
กอน”
เขาไมอยากใหตอนที่เขากำลังกระชากวิญญาณ มีใครจับตามองอยูขางๆ
“สหายไปเถิด ที่นี่มอบใหขาจัดการเอง” กุยหลิงกลาวดวยสีหนาราบเรียบ อาปาก
ออก พนไอสีดำขาวกลุมใหญออกมา หอหุม หัวกะโหลกและโครงกระดูกทั้งหาเอาไว
รับมือตอจากเขตอาคมของหานลี่
หานลี่พลันพยักหนา มือหนึ่งควาอากาศที่วางเปลาวเอาไว มือยักษสีเขียวขาง
หนึ่งปรากฏขึ้น ควาทารกวิญญาณสีแดงโลหิตและหัวกะโหลกทั้งหาเอาไวในมือ
สายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกไป ชั่วครูก็จมหายเขาไปทามกลางแสงปราณทิศ
เหนือสุดที่อยูไมไกลนัก
หุนเชิดรางมนุษยกลับยืนอยูที่เดิมไมไหวติงดวยความเชื่อฟง
เมื่อกุยหลังเห็นหานลี่หายไปอยางไรรองรอยแลว สายตาก็กวาดไปที่หุนเชิดอีกครั้ง
หลังจากผานไปชั่วครู ใบหนาถึงไดเผยสีหนาตกตะลึงออกมา
ถาหากไมใชเพราะนางเห็นดวยตาของตัวเองวาหานลี่เรียกของสิ่งนี้ออกมาจาก
ยามเก็บของ ก็ยากที่จะเชื่อจริงๆ วาคนที่อยูเบื้องหนานี้เปนแคหุนเชิดตัวหนึ่ง
เวลาคอยๆ ไหลผานไป หลังจากผานไปหนึ่งเคอเต็มๆ แสงปราณทิศเหนือสุดก็
เริ่มสั่น คลอน หานลี่เดิน ออกมาจากเสน ไหมสี เงิน ที่ แยกออกจากกั น ใบหน าไรซึ่ ง
ความรูสึก ทารกวิญญาณมารเฒากลับหายไปอยางไรรองรอย
กุยหลิงไมไดรูสึกประหลาดใจนัก แตหลังจากที่เดินเขาไปใกลหานลี่ ก็ชี้ไปยังโครง
กระดูกทั้งหาที่ยังถูกกักเอาไว แลวเอยถามวา
“มารทั้งหานี้จะจัดการอยางไร จากที่ขาไดยินมา หัวกะโหลกชนิดนี้หากถูกหลอม
ออกมาแลว นอกเสียจากจะใชเพลิงอาทิตยหลอมขึ้นอยางชาๆ แลว มิเชนนั้นก็กำจัด
มันใหหายไปจากโลกนี้ไดยาก”
“หลอม? ไมจำเปนตองทำเชนนั้น มารทั้งหายังมีประโยชนตอขาอยู ผนึกเอาไว
กอนก็แลวกัน” หานลี่ขบคิดเล็กนอย แลวเอยอยางราบเรียบ
“ได ตามที่สหายตองการ” กุยหลิงประหลาดใจเล็กนอย แตปากกลับเอยตอบรับ
ออกมา
หานลี่สะบัดแขนเสื้อ แผนยันตจำนวนมากพุงออกไป ชั่วพริบตาก็แปะไปทั่วหัว
กะโหลกมารสีดำ หอหุมพวกมันเอาไวจนกลายเปนดวงแสงหลากสีสัน สองมือถูเขา
ดวยกัน นิ้วทั้งสิบรายคาถาไปมา ประจุไฟฟาสีทองสายแลวสายเลาพุงออกไป และ
ระเบิดออกกลายเปนเสนไหมสีทองกลางทาง หอหุมดวงแสงเอาไวเปนชั้นๆ
กุยหลิงเห็นภาพฉากนี้ก็รูสึกแปลกใจขึ้นมาเล็กนอย
ลำแสงสีทองสวางวาบ ดวงแสงสีทองขนาดยักษสิบลูกปรากฏขึ้นเบื้องหนา
หานลี่รายอาคม อาคมสิบกวาสายโจมตีไปยังดวงแสงสีทอง ลำแสงเหลานั้นสวาง
วาบแลวหดเล็กลง ชั่วพริบตาก็กลายเปนไขมุกกลมๆ ขนาดเทาหัวแมมือ
มองไขมุกสีทองเรืองรองเหลานี้ หานลี่พลันขมวดคิ้วและอาปากออก พนของสิ่ง
หนึ่งที่มีลำแสงพระพุทธเจ็ดสีกลุมหนึ่งสวางวาบออกมา
ทามกลางลำแสงพระพุทธนั้น มีสมบัติที่เหมือนกับฟองอากาศอยูฟองหนึ่ง นั่นก็
คือเกราะปองกันวัชระที่หานลี่หลอมอยูในราง!
หานลี่ใชมือหนึ่งชี้ไปที่ของสิ่งนั้น ลำแสงเจ็ดสีมวนวน ดูดไขมุกสีทองเหลานั้นเขาไป
มีสมบัติสำนักพระพุทธและอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายกดเอาไวอยู ตอใหมาร
เหลานั้นจะรายกาจแคไหน ก็นาจะไมมีทางหนีออกมาได หานลี่ถึงไดวางใจหยิบกลอง
หยกใบหนึ่งออกมาจากยามเก็บของ ใสเกราะปองกันวัชระเขาไปอยางระมัดระวัง
“ไปกันเถิด! สหายรูสถานที่ลับในภูเขาแหงนี้ พวกเราไปหลบซอนอยูสักสองสามวัน
รอจนผนึกรอยแยกฟนฟูกลับมาเปนปกติแลว คอยออกไป” หานลี่มองไปทางประตู
วิหาร หรี่ตาทั้งสองขางลงพลางเอยกับกุยหลิง
“สถานที่ลับ ขารูจักอยูแหงหนึ่ง ขาบังเอิญพบที่นั่นดวยความบังเอิญ ไมมีผูใดลวงรู”
กุยหลิงไดยินคำนี้ ก็รูสึกมีชีวิตชีวาขึ้น ตอบกลับอยางไมตองขบคิด
ตอนที่ 1031 สมบัติวิญญาณปรากฏ
“ออ! มีสถานที่เชนนั้นก็เยี่ยมไปเลย ไปกันเถิด อีกเดี๋ยวหากพบกับคูอริขา ก็อยา
ติดพัน รีบสลัดพวกเขาใหไดกอนก็พอแลว” หานลี่พยักหนา เก็บหุนเชิดกลับมา
ทั้งสองคนจึงกลายเปนลำแสงหลีกหนีบินตรงไปยังประตูวิหาร
จากพลังยุทธของทั้งสอง ชั่วพริบตาก็มาถึงเสนขอบของแสงปราณทิศเหนือสุด
เขตอาคมหามบินมีผลอีกครั้ง เพื่อไมใหสูญเสียพลังลมปราณมากนัก จึงจำใจตองลด
ลำแสงหลีกหนีลง และใชเคล็ดวิชาตัวเบาแทน
หานลี่แผจิตสัมผัสออกไปไกลแสนไกล ดานนอกแสงปราณทิศเหนือสุดไมมีใคร
คอยเฝาอยู นี่จึงทำใหเขารูสึกดีอกดีใจเปนอยางมาก และรูสึกประหลาดใจมากเชนกัน
เขาเรียกกุยหลิงคำหนึ่ง มือหนึ่งกำโลรชตะไว อีกมือหนึ่ งถือพั ดตรีเปลวเพลิง
เอาไว เดินออกมาจากแสงปราณทิศเหนือสุดดวยสีหนาราบเรียบ
กวาดสายตาคนหาทุกซอกทุกมุมดวยความระมัดระวัง เมื่อมั่นใจวาไมมีคนอื่นๆ
ดักซุมอยูแลว หานลี่ก็คอยๆ เดินออกมาจากวิหารคุนอู
ดานนอกยังคงเงียบสงัดแตทุกสิ่งที่เขามาในครรลองสายตานั้นกลับทำใหหานลี่
หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
เห็นเพียงบนจัตุรัสขนาดใหญที่อยูดานนอก นอกจากตนไมวิญญาณแมเหล็กสีทองทั้ง
สองฝงที่ลมกองระเนระนาดอยูกับพื้นแลว รอบๆ ก็เต็มไปดวยหลุมบอและเศษหินที่
แตกกระจายไปทั่วบริเวณ ราวกับวาไดผานการตอสูที่ดุเดือดมากมาอยางไรอยางนั้น
และยิ่งไปกวานั้นคนที่ลงมือในการตอสูครั้งนี้ก็ไมไดมีเพียงสองสามคน
กุยหลิงเดินออกมาจากดานหลัง ดูมองเห็นสถานการณดานนอก พลันตกตะลึง
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น หรือวาคนเหลานั้นตอสูกันเอง!” นางรูสึกกลัดกลุมขึ้นมา
“ก็ไมแนหรอก อาจจะปะทะกับผูบำเพ็ญเพียรกลุมแรกก็ได ถึงแมจะไมรูที่มาของ
คนกลุมนั้น แตในเมื่อสามารถเปดผนึกของภูเขาคุนอูไดตามลำพัง คิดดูแลวก็ตองมี
ความสามารถไมนอย” หานลี่กลับมามีสีหนาเยือกเย็น เอยขึ้นดวยน้ำเสียงเครงขรึม
“นั่นมันก็ใช ตอนที่คนกลุมแรกทลายเขตอาคมของภูเขานั้น ขาก็สะกดรอยตาม
พวกเขาอยูไกลๆ นาจะมีประมาณหกเจ็ดคนกระมัง แตผูที่มีพลังยุทธเทียบเทากับขา
ก็มีสองคนแลว” กุยหลิงกลับถอนหายใจออกมาขณะเอย
“ออ เจายังจำรูปรางหนาตาของพวกเขาไดหรือไม? ผูบำเพ็ญเพียรกลุมที่ลวงหนา
เขามานั้น ขาเคยพบแคเพียงชายวัยกลางคนหนาเหลี่ยมเทานั้น คาดไมถึงวาคนผูนั้น
อาศัยแคสมบัติชิ้นเดียวก็ตอกรกับมารเฒาเฉียนและรักษาชีวิตเอาไวได เห็นไดชัดวา
ขุมอำนาจนี้ไมธรรมดา” หานลี่รูสึกสนอกสนใจขึ้นมา จึงอดที่จะเอยซักถามไมได
“พลังยุทธของสองคนนั้นลวนไมธรรมดา ขาจะกลาเขาใกลไดอยางไร แคใชจิต
สัมผัสกวาดไปเล็กนอยเทานั้น” กุยหลิงสายศีรษะ
หานลี่ไดยินแลวก็รูสึกผิดหวังเล็กนอย ตองเขาใจวา เขายังอยากรูวามารโบราณ
ปศาจตนนั้นยังปะปนอยูในกลุมผูบำเพ็ญเพียรกลุมนี้หรือไม จากนั้นคอยคิดวิธีเอา
กระบี่บินสองเลมนั้นกลับมา
ในเมื่อตอนนี้มีกุยหลิงและหุนเชิดรางมนุษย หานลี่ก็มั่นใจวาจะตอกรกับอีกฝาย
ได โดยไมตองหลบหนีเหมือนกอนหนา
“ไปกันเถิด! จากพลังยุทธของคนเหลานี้าหากจะเอาชนะ ก็ยังไมใชเรื่องที่ยากนัก
แตถาหากคิดจะสังหารอีกฝาย ขาวามันไมใชเรื่องงายๆ กวาครึ่งพวกเขาคงไลลากันไป
ถึงที่อื่นแลว” หานลี่แววตาเปลงประกายสองสามครั้ง เอยขึ้นดวยใบหนาขบคิด
ถึงแมวาปากจะกลาวเชนนั้น หานลี่กลับมั่นใจวาเรื่องที่เกิดขึ้นจะตองไมธรรมดา
มิเชนนั้นไมตองพูดถึงผูบำเพ็ญ เพียรพรรคตาขายทมิฬ ผูบำเพ็ญ เพียรจากทุงหญ า
เทียนหลานกลุมนั้นไมมีทางจากไปงายๆ แน
พวกเขาไล ล าจากทุ งหญ าจนมาถึ ง ที่ นี่ จะต อ งโกรธแค น ตนเองไม น อ ยอย า ง
แนนอน
หรือวาผูบำเพ็ญเพียรกลุมกอนหนาแข็งแกรงไมธรรมดาจริงๆ คาดไมถึงวาจะบีบ
ใหผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดลาถอยไปได
แตมันก็ไมถูก!
ถาหากผูบำเพ็ญ เพียรกลุมกอนหนาไดเปรียบ เหตุใดถึงไมเฝาอยูที่ประตูวิหาร
เพื่อคอยแยงสมบัติ
ความคิดเคลื่อนไหวอยางรวดเร็วดุจสายฟา หานลี่ก็นึกอะไรไมออก หลังจากลูบ
คางไปมา ก็เลิกคิดไปเสียเลย ไมวาจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น จุดประสงคในการเดินทางครั้ง
นี้ของเขานับวาลุลวงแลว สิ่งที่ตองทำตอจากนี้ก็มีแคตองหนีออกจากคลื่นลูกใหญนี้
เทานั้น
กระบี่บินสองเลมที่ อยูในมือของมารโบราณ คอยหาวิธีเอาคืน ที ห ลังก็แลวกัน
หลังจากคำนวณขอไดเปรียบเสียเปรียบแลว ทันใดนั้นหานลี่พลันตัดสินใจ
“ไปกันเถิด! สหายกุย! ไปดูสถานที่ลับที่เจาพู ดถึงแลวคอยวากัน ไมตองสนใจ
เรื่องอื่น อีกสองสามวัน จะมีผูบำเพ็ ญ เพี ยรทะลักเขามาอีกเท าไหรก็ไมรู!” หานลี่
หัวเราะอยางเย็นชาออกมา นำหนาลอยตัวลงไปตามบันไดหิน
กุยหลิงหัวเราะอยางขมขื่นออกมา ทำไดเพียงตามหานลี่ลงไป
ระหวางทางตางมองเห็นรองรอยการตอสูอยูไมนอย ทั้งรอยดาบ ตนไมที่ไหม
เกรียม ตางมองเห็นไดทั่วไป ผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้ไลลากันไปตามเสนทางนี้จริงๆ ดวย
“นี่คือ…”
หลังจากที่จูๆ เบื้องหนาพลันมีรอยแยกขนาดยักษปรากฏขึ้น หานลี่ก็สาวเทากาวไป
ขางหนาสองสามกาว ยืนอยูตรงขอบ พลางเหลือบมองสองสามครั้ง แลวขมวดคิ้วแนน
รอยแยกขนาดยักษนี้จะตองถูกสรางขึ้นดวยสมบัติประเภทกระบี่หรือมีดอะไรสักอยาง
แนๆ คาดไมถึงวาจะแยกบันไดหินทั้งสายออกไปสองสวน ยาวประมาณรอยกวาจั้ง
ลึกประมาณสามสิบกวาจั้ง ทำใหผูคนเห็นแลวรูสึกตกตะลึง!
อย างน อ ยที่ สุ ด หานลี่ ถ ามตนเองว าถึ งแม เขาจะสำแดงเคล็ ด วิ ช ากระบี่ ยั ก ษ
ออกมาก็ไมมีทางทำอะไรเชนนี้ได
‘ดูแลวผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้คงสูกันอยางดุเดือดจริงๆ แมแตความสามารถระดับ
นี้ก็สำแดงออกมาแลว เกรงวาการตอสูครั้งนี้จะรายแรงกวาที่ขาคิดเอาไวมากนัก’ ใน
หัวของหานลี่มีเสียงของอิ๋นเยวดังขึ้น
‘อาจจะกระมัง! แตมันไมเกี่ยวอะไรกับขา!’ หานลี่ถายทอดเสียงกลับไปอยางไม
ใสใจ จากนั้นปลายเทาพลันแตะไปบนพื้น คนก็ลอยขามรอยยักษนั้นไป
กุยหลิงพลันตามไปติดๆ
เมื่อสองเทาแตะพื้น หานลี่พลันหนาเปลี่ยนสี หันหนาไปมองยังกอนหินยักษกอนหนึ่ง
แววตาฉายแววเย็นเยียบ
“สหายผูใดอยูตรงนั้น ออกมาเดี๋ยวนี้!” หานลี่มีสีหนาเครงขรึม ตะโกนออกไป
ดวยเสียงเหี้ยมเกรียม
เมื่อเอยออกไป ไอสีดำกลุมหนึ่งก็พุ งออกมาจากดานหลังกอนหินยักษ หอหุม
ทารกวิญญาณคนหนึ่งเอาไวดานใน
“เอ!” หานลี่รูสึกประหลาดใจเล็กนอย แตจะใหอีกฝายหนีไปใตจมูกตนเองเชนนี้
ไดอยางไร ถึงอยางไรเสียในภูเขาลูกนี้ไมวาผูบำเพ็ญเพียรคนไหนก็ดูเหมือนวาจะเปน
คูอริกับเขาทั้งนั้น จึงไมจำเปนตองเกรงใจอะไร
เสียงฟาผาดังขึ้นที่แผนหลัง คนสลายหายไปจากที่เดิม ครูตอมา จากนั้นประจุ
ไฟฟาสีเงินสายหนึ่งพลันปรากฏขึ้น หานลี่ปรากฏตัวเบื้องหนาไอสีดำ
ลอยอยูกลางอากาศไมขยับเขยื้อน มือหนึ่งกดไปบนอากาศเบื้องหนา
เสียง ‘ครืน’ ดังขึ้น มือยักษสีเขียวขางหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ และตะปบลงมา
ภายใตความตกตะลึงของทารกวิญญาณ ไอสีดำบนรางพลันขยายใหญข้ึน คิดจะ
ใชเคล็ดวิชาเคลื่อนยายหนีไป
นี่เปนเพราะคนผูนี้บาดเจ็บหนักจากการตอสูกอนหนา มิเชนนั้นตอนแรกคงใช
เคล็ดวิชาเคลื่อนยายหลีกหนีตั้งแตแรกแลว แตหานลี่ที่ผานการสังหารทารกวิญญาณ
ของผูบำเพ็ญเพียรมาหลายครั้ง ก็คุนชินกับการกักทารกวิญญาณไปเสียแลว
อีกฝายเพิ่งจะสำแดงควาวมสามารถ มุมปากของเขาก็เผยรอยยิ้มเยาะออกมา
เสียงฟาผาดังขึ้น นิ้วทั้งหาของมือยักษสีเขียวเปลงแสงสีทองออกมา ประจุไฟฟาสี
ทองหาสายดีดออกมาเปรี๊ยะๆ ชั่วพริบตาพลันระเบิดออก ตาขายสีทองผืนหนึ่งหอหุม
ดานลางเอาไว แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น หลังจากที่รางของทารกวิญ ญาณเลือน
หายไป ทั้งศีรษะก็พุงเขาไปในอัสนีเทวาปดเปาภยันตราย
แลวเสียง ‘ปง’ ก็ดังขึ้น ประจุไฟฟาสีทองระเบิดออก ทำใหเกราะปองกันสีดำ
ของทารกวิญญาณหายไปกวาครึ่ง รางของทารกวิญญาณเองก็ส่ันคลอน ไมอาจยืนให
มั่นคงได ภายใตสถานการณเชนนี้ มือยักษสีเขียวพลันตะปบลงมาพรอมกับสายฟาที่
สวางวาบ ควาทารกวิญญาณเอาไวในมือ แลวบินกลับมาเบื้องหนาของหานลี่
หานลี่พิจารณาทารกวิญญาณแวบหนึ่ง หัวเราะออกมาเบาๆ ทามกลางสายตาตก
ตะลึงระคนหวาดกลัวของอีกฝาย จากนั้นพลันกลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงลง
ไป กลับไปอยูบนพื้นดิน
มือยักษที่กักทารกวิญญาณไวบินตามลงมาติดๆ รอนลงดานขางหานลี่
“คนผูนี้หรือ?” หลังจากที่สายตาของกุยหลิงกวาดมายังทารกวิญญาณผูนี้ ก็เผยสี
หนาประหลาดใจออกมาเชนกัน
ถึงแมวาจะไมมีกายเนื้อ แตหนาตาของทารกวิญญาณนั้นก็เห็นไดชัดวาคือหนึ่งใน
สองผูบำเพ็ญเพียรชราของพรรคตาขายทมิฬ ไมรูวาคนผูนี้พบกับใครเขา คาดไมถึงวา
จะหนีออกมาไดเพียงทารกวิญญาณเทานั้น และยังมาหลบอยูดานหลังกอนหินยักษ
กอนนั้น
“สหายหานคิดเห็นอยางไร ตาเฒาไมมีความแคนอะไรกับเจา เรื่องไลสังหารเจา
ยังไมเคยเขารวมเลยสักนิด!” ทารกวิญญาณพลันมีสีหนาซีดขาว หลังจากที่มือยักษ
คลายออกจนพูดได ก็เอยรองขอชีวิตทันที
“เหอะๆ เหตุใดสหายจึงตองลนลานขนาดนั้น ผูแซหานบอกวาจะลงมือกับสหาย
ตอนไหนกัน ตอนนี้ขาแคอยากถามวาดานนอกเกิดอะไรขึ้นกันแน พวกเจาและคน
ของทุงหญาเทียนหลานสูกับผูใดกัน เหตุใดถึงไมคอยรักษาการณอยูนอกวิหาร? ออ
แลวสตรีสองคนและพวกยักษปกเงินที่ออกมาจากวิหาร พวกเจาเห็นพวกเขาหรือไม”
หานลี่มีสีหนาไมเปลี่ยนแปลง พลางเอยถามดวยสีหนาราบเรียบ
เมื่อเห็นหานลี่มีทาทีเบิกบาน ทารกวิญญาณก็ผอนคลายลงไมกลาโกรธเกรี้ยว
พลางเอยตอบอยางรีบรอน
“หลังจากที่พวกเจาเขาไปไดไมนาน ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยก็เขามา อาวุโสของ
ตระกูลเยี่ยก็อยูในนั้นดวย ผลลัพธคือเมื่อพบกับพวกเรา ก็ลงมือโจมตีพวกเราในทันที
สหายสวีที่เปนผูนำของเราจึงทำไดเพียงตานทานศัตรูอยางลวกๆ และพอฝนตานทาน
ไปไดเทานั้น แตในตอนนั้นเองปอมปราการมารก็เกิดแผนดินไหวขึ้น จากนั้นยอดเขา
กวาครึ่งก็พังทลายลงมา ดูเหมือนวาปอมปราการทั้งหลังจะจมอยูในสันเขา และยิ่งไป
กวานั้น…” เมื่อเอยจนมาถึงตรงนี้ทารกวิญญาณก็ลังเล แตเมื่อเห็นสายตาที่เงียบขรึม
ของหานลี่ ก็กลาวตอทันที
“และยิ่งไปกวานั้นลำแสงที่พุงออกมาจากปอมปราการมาร ก็ตามมาดวยเสียงที่
นาตกตะลึง เสียงนั้นดังมาก แมแตพวกเราก็ยังไดยินอยางชัดเจน ผลลัพธคือไมรูวา
ผูใดตะโกนออกมาวา ‘สมบั ติสะท านฟ า’ ทุ กคนจึงไมสนใจสิ่งอื่น บิ น ไปทางป อ ม
ปราการมาร สวนสตรีทั้งสองของพรรคแปลงเซียนและพวกของยักษปกเงินนั้น ตอนที่
ออกมาก็บังเอิญพบที่มุมหนึ่งของปรากฏการณนี้พอดี และก็ตามไปเชนกัน สวนขานั้น
จงใจรั้งรอเพื่อรายงานเรื่องนี้กับทานอาวุโส”
“สมบัติสะทานฟา! สมบัติชิ้นนั้นออกมาสูโลกแลวหรือ! เหตุใดรางกายของเจาถึง
ถูกทำลาย?” หานลี่ตกตะลึงเปนอยางมาก
“ใชสมบัติสะทานฟาหรือไมนั้น ขาไมรู แตปรากฏการณประหลาดนั้นไมใชสิ่งที่
สมบัติธรรมดาๆ จะทำได และยิ่งไปกวานั้นแมแตสหายสวี อาวุโสของตระกูลเยี่ยและ
พวกยังเขาไปดูอยางไมลังเล ก็นาจะเปน ของจริง สวนรางของขานั้ น ถูกอรหั นตสี่
กำจายลอบโจมตี เจาโจรนั่นคาดไมถึงวาจะเขามาใกลขาตอนไหนก็ไมรู ใชมีดยาว
โลหิตเลมหนึ่งกรีดรางกายขา ผลลัพธคือทำใหโลหิตบริสุทธิ์รอบกายถูกดาบเลมนั้นสูบ
ไปจนหมด มีดมารเลมนั้นชางนากลัวจริงๆ! ถาหากไมใชเพราะขายอมทิ้งรางและหนี
ออกมาในทันที เกรงวาแมแตทารกวิญญาณก็คงไมมีทางหลบหลีกได” ทารกวิญญาณ
ขบเขี้ยวเคี้ยวฟนแนนขณะเอย
“มีดอะไรจะมีความสามารถขนาดนั้น?” หานลี่ขมวดคิ้ว เอยถามอยางประหลาด
ใจดูเหมือนวาจะไมคอยเชื่อถือนัก
“ไมรู ขาก็เพิ่งเคยเห็นสมบัติชิ้นนี้เปนครั้งแรก ทวานอกจากสีที่ไมเหมือนแลว
รูปลักษณของมีดโลหิตนี้ ก็ดูเหมือนวาจะคลายกับมีดมังกรมารในตำนานอยูเจ็ดแปด
สวน! และยิ่งไปกวานั้นอานุภาพยังดูเหมือนจะคลายคลึงกัน แตถาหากเปนมีดมังกร
มาจริ ง ๆ ข า จะมี โอกาสหนี อ อกมาได อ ย า งไร” หลั ง จากที่ ท ารกวิ ญ ญาณอ าปาก
พะงาบๆ สองครั้ง ก็เอยตอบอยางไมแนใจนัก
มีดมังกรมาร! หานลี่ไดยิน ก็อดที่จะหนาเปลี่ยนสีไมได
ตอนที่ 1032 มีดมารตองสงสัย
มีดมารที่ตองใชกรวยกระดูกมารถึงจะหลอมออกมาไดนั้น ชื่อเสียงที่ยิ่งใหญของ
มั น ไม ว า ผู ใดได ยิ น แล ว ก็ ต อ งพากั น ตกตะลึ ง ได ยิ น ว า สมบั ติ ชิ้ น นี้ ส ามารถดู ด จิ ต
วิญญาณบริสุทธิ์และเลือดเนื้อของผูบำเพ็ญ เพียรที่สังหารไปได บวกกับอานุภาพที่
ผ านการหลอมมาจึ งมี ค วามสามารถที่ โหดเหี้ ย ม ยิ่ งสั งหารผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รไปมาก
เทาไหร อานุภาพของมีดบินเองก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ในปนั้นผูบำเพ็ญเพียรสายมารผูหนึ่ง
ยังเคยถือมีดมังกรมารสังหารผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
ดังนั้นผูบำเพ็ญเพียรจำนวนไมนอยจึงคิดวา ขอแคถึงเวลาอันเหมาะสม สมบัติชิ้น
นี้ที่ผานการหลอหลอมอยางตอเนื่อง ก็อาจจะมีพลังเทียบเทากับสมบัติสะทานฟา
แนนอนวาไมวาจะเปนสมบัติสะทานฟาหรือวามีดมังกรมาร ตางก็หายสาบสูญไป
จากโลกนี้มาตั้งไมรูกี่ปตอกี่ปแลว แนนอนวาจึงไมอาจเปรียบเทียบไดจริงๆ แตเชนนั้น
เมื่ออาวุโสของพรรคตาขายทมิฬเอยถึงสมบัติชิ้นนี้ ก็ยังทำใหหานลี่มีสีหนาดูไมได
เล็กนอย
“ในเมื่อคลายคลึงกันแคเจ็ดแปดสวน และยิ่งไปกวานั้นจากพลังยุทธของเขายังมี
โอกาสปลอยใหทารกวิญญาณหนีออกมา ของชิ้นนี้ก็นาจะไมใชมีดมังกรมาร อาจจะ
เปนสมบัติสายมารที่หายากชิ้นใดชิ้นหนึ่งกระมัง” กุยหลิงที่ฟงทั้งสองสนทนากันอยาง
เงียบๆ มาตลอด แววตาเปลงประกายขณะเอยขึ้น
“นาจะเปนเชนนั้นกระมัง!” หานลี่พยักหนา
ทันใดนั้นพลันเงยหนาขึ้นมองไปทางปอมปราการมาร ยอดเขาที่อยูไกลออกไป
นั้นหายไปสวนหนึ่งจริงๆ ดวย
“ภูเขาคุนอูนี้เลื่องชื่อวาเปนภูเขาของเทพเซียนในแดนมนุษย มีสมบัติสะทานฟา
ก็ไมใชเรื่องที่ผิดแผกอะไร” เขาคิดถึงเตานภาสูญที่อยูในมือ แลวเอยพรอมกับใจที่เตน
ตึกตัก
มีกุยหลิงที่ยอมศิโรราบคอยชวยเหลือ บวกกับหุนเชิดรางมนุษย ก็ไมใชวาจะไมมี
โอกาสไปแยงชิงสมบัติชิ้นนั้น และยิ่งไปกวานั้นเมื่อครูก็ไดศิลาวิญญาณระดับสูงมา
จากยามเก็บของของมารเฒาเฉียนอยูเจ็ดแปดกอน นี่จึงทำใหเขาคลายความกังวลกับ
การใชหุนเชิดตัวนี้ลงไปไดมาก
‘นายท า น! พวกเราไปดู กั น เถิ ด ไม รู เพราะเหตุ ใด เมื่ อ ครู ข า ถึ ง รู สึ ก แปลกๆ
เหมือนวาจะมีอะไรสักอยางในปอมปราการมารทีพ่ วกทานพูดถึงกำลังเรียกหาขา ของ
สิ่งนั้นดูคุนเคยอยางมาก เหมือนวาจะเกี่ยวของกับความทรงจำที่หายไปกอนหนานี้’
อิ๋นเยวเอยขึ้นอยางลังเลในหัวของหานลี่
‘มีอะไรสักอยางเรียกหาเจา?’ หานลี่ไดยินแลวพลันตกตะลึง
‘ใชแ ลวเจ าค ะ ข ารูสึ ก ได อ ยูลึ ก ๆ ถ าหากพลาดโอกาสนี้ ไป ข าอาจจะสู ญ เสี ย
โอกาสในการฟนคืนความทรงจำไปตลอดกาล’ น้ำเสียงของอิ๋นเยวเผยความออนวอน
ที่หาไดยากออกมา
หานลี่เครงขรึมลง หลังจากผานไปชั่วครู ถึงไดหัวเราะออกมาเบาๆ เอยคำพูดที่ดู
เหมือนจะผอนคลายลงออกมาวา
‘ในเมื่อเจากลาวเชนนี้ ก็ไปดูกันเถิด ถึงอยางไรเสียขาก็สนใจสมบัติสะทานฟาอยู
มากทีเดียว’
‘ขอบพระคุณความเมตตาของนายทาน!’ อิ๋นเยวไดยินหานลี่ตอบกลับเชนนี้ ก็
กลาวขึ้นดวยความดีใจอยางสุดๆ
“สหายกุย ในเมื่ อ ทางนั้ น มี สมบั ติ สะท านฟ าปรากฏออกมา ดู แ ลวความสนุ ก
ครึกครื้นครั้งนี้ จะไมเขารวมไมไดแลว” หานลี่หันหนาไปเอยกับกุยหลิงอยางเชื่องชา
“ตามที่ ส หายประสงค ! ทว า คนผู นั้ น จะจั ด การอย า งไร” กุ ย หลิ ง ค อ มตั ว ลง
เล็กนอย ตอบกลับดวยสีหนาราบเรียบ
มีสมบัติระดับนี้ปรากฏออกมา ขอแคเปนผูบำเพ็ญเพียร ก็ไมมีผูใดแสรงทำเปนไม
แยแสไดแลว ปศาจตนนี้จึงคาดการณการเปลี่ยนใจของหานลี่เอาไวตั้งนานแลว จึง
ไมไดรูสึกประหลาดใจอะไร
“สหายตกลงกับขาแลววาจะไมลงมือกับขา เมื่อครูขาก็บอกความจริงทั้งหมดที่ขา
รูไปแลวนะ” เมื่อไดยินคำพูดของกุยหลิง ทารกวิญญาณที่ถูกกักเอาไวดวยมือยักษ ก็
รองออกมาดวยความรอนรน
“เมื่อครูขาไมไดบอกวาจะลงมือกับเจาก็จริง แตก็ไมไดบอกวาจะไมลงมือกับเจา
และยิ่งไปกวานั้นเจาก็รูดี เมื่อครูหากเจาไมพูดก็ตองพบกับความเจ็บปวดเทานั้น หาก
จะโทษ ก็โทษที่เจาเปนอาวุโสของพรรคตาขายทมิฬ แลวบังเอิญมาตกอยูในเงื้อมมือ
ของขาก็แลวกัน” หานลี่เอยอยางลวกๆ แลวอาปากออก ประจุไฟฟาสีทองหนาๆ สาย
หนึ่งฟาดลงไป โจมตีลงบนเรือนรางของทารกวิญญาณ
หลังจากเสียงกรีดรองดังขึ้น ทารกวิญญาณและมือยักษก็สลายหายไปทามกลาง
แสงสีทอง แตกลับมีธงสีเขียวออนดามหนึ่งตกลงมา
หานลี่แววตาเปลงประกาย สะบัดแขนเสื้อ มวนเอาธงนั้นเขามาอยูในมือ เพ ง
พิจารณามองอยางละเอียด
นี่คือ ธงตาขายทมิฬ!
หลังจากผานการใชเคล็ดวิชากระชากวิญญาณนั้นทำใหหานลี่ไดรูวาธงดามนี้มี
ความสามารถไมนอย ถาหากรวบรวมไดครบสิบแปดดาม อานุภาพของมันจะตองยาก
เกินกวาที่จะจินตนาการไดอยางแนนอน
ในเมื่อผูกความแคนกับพรรคตาขายทมิฬแลว แนนอนวาเขาก็จะไมเกรงใจอะไรอีก
พลันพลิกฝามือยัดธงดามนั้นเขาไปในยามเก็บของ ตอใหสมบัติชิ้นนี้เปนแคของจิ๊บ
จอยสำหรับเขา ก็ไมอาจปลอยใหพรรคตาขายทมิฬรวบรวมสมบัติชิ้นนี้ใหครบไดงายๆ
ในอดีตพรรคตาขายทมิฬก็เคยเกิดเรื่องเชนธงหายสาบสูญหรือวาธงถูกทำลายไป
มากอน แตจากขุมอำนาจของพรรคก็ไมอาจตามกลับมาไดอยางรวดเร็ว จึงทำไดเพียง
หลอมธงขึ้นมาใหมอีกดาม
ทวาเรื่องเชนนี้ พรรคตาขายทมิฬก็เคยประสบเพียงสองสามครั้งเทานั้น เวลานี้ธง
หายไปอีกสองสามดาม ตอใหพรรคตาขายทมิฬร่ำรวยขนาดไหน ก็คงไมอาจหลอมขึ้น
ใหมไดงายๆ และยิ่งไปกวานั้นตอใหหลอมออกมาได คิดจะหลอมใหมันมีอานุภาพ
ตามที่กำหนด ก็ไมใชสิ่งที่จะทำไดในเวลาอันสั้น
“ไปกันเถิด! ไมรูวาคนเหลานั้นแยงสมบัติกันไปไดหรือยัง” หานลี่เงยหนาขึ้นมอง
ไปทางปอมปราการมาร เอยพึมพำดวยน้ำเสียงที่แผวเบาออกมา แลวลอยตัวลงไป
ตามบันไดหิน
กุยหลิงพลันตามหลังมาติดๆ
สองฝงของบันไดหินตางมีเขตอาคมที่ผูบำเพ็ญเพียรโบราณไดวางเอาไว มิเชนนั้น
ถาหากอยูในระยะทางใกลๆ คงไปถึงปอมปราการมารไดตั้งนานแลว
ครั้งนี้ หานลี่แสรงเปนมองไมเห็นรองรอยของการตอสู ไมนานนัก ก็กลับมายัง
จัตุรัสหยกขาวที่เปนจุดที่ออกเดินทางกอนหนา และปนขึ้นไปบนบันไดหินที่ทอดไปหา
ปอมปราการมารอีกครั้ง
ครั้งนี้เดินออกมาไดไมไกล ดานหนาก็มีสถานที่เละเทะปรากฏขึ้น หลุมขนาดใหญ
และเศษหินกระจัดกระจายไปทั่ว
หานลี่ไมไดสนใจนัก ตอนที่คิดจะแฉลบผานสิ่งเหลานี้ไปโดยไมหยุดชะงักฝเทานั้น
กุยหลิงที่อยูดานหลัง กลับรองอุทานออกมาเบาๆ และทอดสายตาไปอยูที่จุดหนึ่ง
หานลี่พลันรูสึกประหลาดใจ! เขาสัมผัสอะไรไมไดเลย สายตาเลื่อนตามสายตา
ของนางไป และพบความผิดปกติขึ้น
ภายใตกองหินระเกะระกะที่ดูไมสะดุดตานั้น กลับเผยวัตถุสีขาวโพลนออกมา ถึงแมวา
จะเผยออกมาแคสวนเล็กๆ แตเห็นไดชัดวาคือแขนที่มีแตกระดูกขาวโพลนขางหนึ่ง
หานลี่สะบัดแขนเสื้อ พายุสีเขียวกลุมหนึ่งพัดผานไป กวาดกองหินระเกะระกะออกไป
อยางไรรองรอย เผยใหเห็นรางของโครงกระดูกสีขาวที่หมอบคลานอยูบนพื้นดิน
ใบหนาเขาพลันเปลี่ยนสี!
เสื้อผาทรงผมที่อยูบนโครงกระดูกนั้นชางคุนตานัก! เปนอาวุโสแซฟูจากพรรคเกา
ยมโลก ไข มุ ก ยมโลกม วงเม็ ด นั้ น ยั งกำอยูในมื อ แต ก ลั บ แตกทลายไปกวาครึ่ง ถู ก
ทำลายไปจนสิ้นซากแลว
หานลี่ไมไดกลาวอะไรออกมา แคมองไปนิ่งๆ ดวยแววตาที่เปลงประกายสวางวาบ
“คิดไมถึงวาเพิ่งจะทุมเทแรงกายแรงใจหลอมยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกขึ้นมา
เขาจะมาเพลี่ยงพล้ำอยูที่นี่! เสนทางของผูบำเพ็ญเพียรนั้น ชางเปนสิ่งที่ลึกลับยากจะ
คาดเดาจริ ง ๆ!” หลั ง จากผ า นไปชั่ ว ครู เขาถึ ง ได ถ อนหายใจออกมาเฮื อ กหนึ่ ง ดู
เหมือนวาจะสับสนเปนอยางมาก
ถึงแมวาเขาและชายชราแซฟูจะเรียกไดวาไมถึงกับสนิทกันนัก แตกอนหนานี้ไม
นานนับวาเปนพวกเดียวกัน ตอนนี้มาเพลี่ยงพล้ำอยางแปลกประหลาดอยูที่นี่ ชางทำ
ใหเขารูสึกแปลกใจจริงๆ
“ทำไม สหายหานรูจักคนผูนี้หรือ? การเพลี่ยงพล้ำของคนผูนี้ดูผิดแผกไปหนอย
นาจะเพิ่งตายชัดๆ แตผิวหนังกลับถูกลอกออกไปจนหมด เหนือศีรษะก็ไมมีรองรอย
ของทารกวิญ ญาณที่หนีออกมา ดูแลวแมแตทารกวิญ ญาณก็ไมไดหนีออกมา และ
ดานหลังก็มีรอยของสมบัติประเภทกระบี่อยู ทาทางของเขาเหมือน…” กุยหลิงจอง
เขม็งไปยังบาดแผลแบนๆ แคบๆ บนแผนหลังของโครงกระดูกสีขาวแลว แลวเอยขึ้น
อยางลังเลใจ
“เหมือนกับถูกมีดมารเลมนั้นสังหารตามที่คนของพรรคตาขายทมิฬกลาว เจาคิดวา
อยางไร?” หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แลวเอยขึ้น
“แนนอน มิเชนนั้นถึงแมจะเปนเคล็ดวิชามารอีกสองสามชนิดที่สามารถหลอก
ผิวหนังของผูบำเพ็ญเพียรได แตรอยที่เกิดขึ้นมันตองไมใชแบบนี้อยางแนนอน และยิ่ง
ไปกวานั้นกอนหนานี้ที่อาวุโสของพรรคตาขายทมิฬผูนั้นหนีออกมาไดทัน คนผูนี้กลับ
เพลี่ ย งพล้ ำ ทั้ ง เป น หรื อ ว า ในมื อ ของคนผู นั้ น มี มี ด มั ง กรมารอยู จ ริ ง ๆ? มิ เช น นั้ น
ความสามารถจะแตกตางกันขนาดนั้นเลยหรือ” กุยหลิงเอยดวยความเครงขรึม
“ไม สิ ถึ ง แม จ ะบอกว า มี ด มั ง กรมารที่ ดู ด โลหิ ต และจิ ต วิ ญ ญาณดั้ ง เดิ ม ของผู
บำเพ็ญเพียรเขาไปแลวอานุภาพจะเพิ่มขึ้น แตขั้นตอนการหลอมนั้น ตองใชเวลานาน
ถึงจะถูก ไหนเลยจะเพิ่มขึ้นไดไวขนาดนั้น”หานลี่ครุนคิด พลางสายศีรษะ
“นั่นมันก็ใช!” กุยหลิงพลันตกตะลึง และนึกไดในทันที
“ขาชักสนใจแลวสิ อรหันตสี่กำจายผูนี้ดูเหมือนวาจะลงมืออยางไมหวั่นเกรงสิ่งใด
ไมใชแคพรรคตาขายทมิฬแมแตพรรคเกายมโลกก็ยังกลาลงมือสังหาร นี่ไมใชสิ่งที่ผู
บำเพ็ญเพียรสันโดษคนหนึ่งจะกลาทำ และยิ่งไปกวานั้นหลังจากลงมือสังหารอาวุโส
ของพรรคสายมารแลว แมแตซากศพก็ยังจงใจไมทำลายทิ้ง เขาไมกลัววาวันขางหนา
สองพรรคมารจะรวมมือกันแกแคนเขาหรือ?”
หานลี่ ก วาดสายตาไปบนโครงกระดู ก สี ข าวอี ก ครั้ง แววตาฉายแววไม เข า ใจ
ออกมา บนโครงกระดูกสีขาวไมมีแมแตเงาของยามเก็บของ เห็นไดชัดวายาลูกกลอน
หลอเลี้ยงวิญญาณนั้นตกไปอยูในมือของอรหันตสี่กำจายแลว
กุยหลิงเพิ่งจะหลุดออกจากการจองจำ จึงไมเขาใจโลกของผูบำเพ็ญเพียรเลยสักนิด
แนนอนวาจึงไมตอบกลับอะไรกับเรื่องนี้
หานลี่ขบคิดอยูชั่วครู ก็ไมไดผลลัพธอะไร สุดทายก็ชูมือขึ้นปลอยลูกไฟลูกหนึ่ง
ออกไป เผาโครงกระดูกนั้นใหกลายเปนจุณ ถึงอยางไรเสียรางของชายชราแซฟูก็ไม
ควรที่จะนอนแผหลาอยูเชนนี้
“พวกเราก็ระวังตัวเถิด หลังจากที่มีดมารเลมนั้นกลืนกินทารกวิญ ญาณของผู
บำเพ็ญเพียรคนหนึ่งไปแลว ไมรูวารายกาจขนาดไหน อยาประมาท และกลายเปน
เหยื่อเชนเดียวกัน” หานลี่เอยอยางราบเรียบหนึ่งประโยค แลวพาเดินขึ้นไปบนภูเขา
แตสีหนากลับเครงขรึมกวากอนหนาเปนอยางมาก
กุยหลิงไดยินแลวพลันใจหายวาบ หลังจากนั้นใบหนาอัปลักษณ พลันบิดเบี้ยว
แลวตามไปพรอมกับหัวเราะดวยความเย็นชา
หานลี่และกุยหลิงที่เดินขึ้นไปตอกลับไมไดพบความผิดปกติอะไร ในที่สุดก็มาถึง
ตรงหัวบันได
ความจริงแลวจะเรียกวาหัวบันไดก็ไมถูก เพราะวาบันไดหินที่อยูดานหลังนั้นหาย
วับไปอยางไรรองรอย เบื้องหนาของพวกเขามีกำแพงที่สูงชันปรากฏขึ้น ดานหลังของ
ยอดเขาลวนหายไปราวกับเทพยดาสรางขึ้นอยางไรอยางนั้น
หานลี่เงยหนาขึ้นมองหนาผาที่อยูไกลออกไป แลวกมหนาลงมองกนเหวที่ลึกลง
ไปจนไมอาจคาดเดาได พลางลูบคางไปมา เผยสีหนาขบคิดออกมา
“ดูแลวคนอื่นๆ คงลงไปหมดแลว คาดไมถึงวาปอมปราการมารจะพังทลายลงไป
จริงๆ และไมรูวาดานลางเกิดอะไรขึ้นกันแน!" ถึงแมวากุยหลิงจะเคยไดยินคนกลาวถึง
มาแลว แตเมื่อมองปรากฏการณเบื้องหนา ก็ยังเผยสีหนาตกตะลึงออกมา
"สหายกุย เจารูหรือไมวาปศาจที่ถูกกักเอาไวในปอมปราการตั้งแตอดีตกาลคือ
ปศาจชนิดใด?" จูๆ หานลี่พลันเอยถามกุยหลิงขึ้นมา
"เรื่อ งนี้ ข าก็ ไม แ น ใจนั ก ตอนนั้ น ข าเป น แค ป ศ าจที่ ใช เฝ าภู เขาคุ น อู เท านั้ น ผู
บำเพ็ญเพียรโบราณเหลานั้นจะเอยเรื่องนี้กับพวกเราไดอยางไร ทวา ตอนแรกที่ขายัง
ไมไดถูกยายมาอยูตรงนี้ ก็เคยสัมผัสถึงไอมารที่แข็งแกรงอยางสุดๆ กลุมหนึ่ง ซึ่งเคย
ปรากฏตัวในภูเขาคุนอู แตทันใดนั้นก็สลายหายไปอีกครั้ง นาจะถูกผนึกอยูในปอม
ปราการ นาเสียดายที่ตอนแรกพลังยุทธของขานั้นตื้นเขินนัก จึงสัมผัสไดเพียงวาไอ
มารเหลานั้นแข็งแกรงมาก แตกลับไมอาจเดาพลังยุทธของผูที่แผไอมารออกมาได"
กุยหลิงลังเลเล็กนอย ขณะตอบกลับอยางซื่อตรง
ตอนที่ 1033 ดาบโลหิต
“ชางเถิด ตอใหมารปศาจตนนั้นแข็งแกรงเพียงใด หากถูกกดเอาไวนานขนาดนี้
ก็คงออนแอเปนอยางมาก และยิ่งไปกวานั้นจากนี้จะมีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด
ขั้นปลายเขามาอีกไมนอย นั่นก็เพียงพอที่จะรับมือกับทุกอยางแลว” หานลี่มองลึกไป
ยังกนเหว แลวเอยอยางราบเรียบ
ทันใดนั้นกุยหลิงก็รองเรียก ทั้งสองคนจึงกระโดดลงไปในเหวอยางแผวเบา
ความลึกครั้งนี้ เรียกไดวาลึกจนไมอาจคาดเดาได กระโดดลงไปจนเปนเวลาหนึ่ง
กาน้ำชาแลว คาดไมถึงวาจะมองไมเห็นกนเหวของมัน
หานลี่รูสึกกลัดกลุมอยางสุดๆ ในใจเองก็รูสึกตกตะลึง
ตอนนี้จุดที่พวกเขาอยูดูเหมือนวาจะมืดสนิทไรแสงสวางแลว รอบดานลวนเปนสีดำ
ขมุกขมัว ไมอาจมองเห็นจุดที่อยูไกลออกไปได
เมื่อเงยหนาขึ้นมองทองฟา ดานบนก็มีลำแสงสีขาวจางๆ ที่พอจะมองเห็นไดอยู
ถาหากเปนผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ อยูในสถานที่ที่จำกัดจิตสัมผัสเชนนี้ จะตอง
สัมผัสสถานการณรอบๆ ไดเพียงยี่สิบสามสิบจั้งเทานั้น
แตหานลี่ที่อยูในสถานการณที่อันตรายเชนนี้ กลับเปดใชความสามารถของเนตร
วิญญาณวารีกระจาง ลำแสงสีฟาสวางวาบที่รูมานตาไมหยุด ตรวจสอบสถานการณ
ทั้งหมดในระยะสองสามรอยจั้ง
หลังจากที่ลงไปไมรูวาเปนเวลานานเทาไหร ฉับพลันกุยหลิงก็เอยเตือนสติวา
“สหายหาน พวกเราถึงกนเหวแลว!”
หานลี่ไดยินแลวพลันหนาเปลี่ยนสี กมหนาลงมอง
ดานลางไมไกลนักมีลำแสงสวางไสวอยูสองสามดวงดังคาด มีเงาของสิ่งปลูกสราง
ขนาดใหญอยูแหงหนึ่ง
หานลี่พลันหนาเปลี่ยนสี ตอนที่เขากำลังคิดจะมองใหชัดเจน แลวกวาดสายตา
ออกไป กลับราวกับวามองเห็นอะไรสักอยางสวางวาบที่หางตา ลำแสงสีแดงโลหิตพุง
ออกมาทามกลางความมืดมิด
ชั่ ว ขณะนั้ น หานลี่ สั ม ผั ส ได ถึ ง กลิ่ น คาวเลื อ ดที่ ค ละคลุ ง ไปทั่ ว ทำให ผู ค นรู สึ ก
อยากจะสำรอกออกมา
อรหันตสี่กำจาย! ชั่วพริบตาที่หานลี่นึกถึงคนผูนี้ ใจพลันกระตุกวาบ
ลำแสงสีโลหิตสวางวาบดุจสายฟา มันเปลงแสงเจิดจาเพียงหนึ่งครั้งก็มาอยูเบื้อง
หนาแลว ถาหากไมใชหานลี่ที่ระมัดระวังตัวอยูตลอดเวลา เกรงวาตอนที่พบความ
ผิดปกตินั้น คงไดแตตองยอมรับความพายแพและดับสูญเทานั้น
เวลานี้เขาชูมือขึ้นอยางไมตองคิด โลเล็กๆ เปลงแสงสีเงินสวางวาบแลวทะยาน
ออกไป
นั่นก็คือโลรชตะ!
เมื่อโลอันนั้นขยายใหญขึ้น เกราะลำแสงสีขาวโพลนชั้นหนึ่งพลันปรากฏขึ้นบนโล
หอหุมรางของหานลี่เอาไวขางใน
ชั่วพริบตาลำแสงสีโลหิตก็มวนเขามา หานลี่ถูกหอหุมเอาไวในนั้น
เสียง ‘พรึ่บ ’ ดังขึ้น จูๆ ทามกลางลำแสงโลหิ ตก็ดาบยาวสองสามจั้งเลม หนึ่ ง
ปรากฏขึ้น สับลงมาที่เกราะปองกันลำแสงอยางรุนแรง
รู ป ลั ก ษณ ข องดาบเล ม นี้ ดู เป น เอกลั ก ษณ กว า งไม ถึ ง สองนิ้ ว แต บ างราวกั บ
กระดาษ เปลงแสงโลหิตประหลาดๆ ออกมา
หลังจากที่เกราะปองกันลำแสงสั่นคลอน ทันใดนั้นก็แตกออกเปนชุนๆ ดาบโลหิต
ถือโอกาสสับลงมาบนโลรชตะโดยตรง
ลำแสงบนโลสวางวาบ ผิวเปลี่ยนเปนใสแจวดุจกระจก ชั่วขณะนั้นแสงสีโลหิต
และแสงของโลสีเงินพลันพัวพันกอดรัดฟดเหวี่ยงเขาดวยกัน คาดไมถึงวาในตอนนั้น
ตางฝายตางก็ยืนกรานไมยอมออนขอใหกันอยูตรงนั้น
หานลี่มีสีหนาผอนคลายลง ตอนที่กำลังผอนคลายลงนั้น ดาบโลหิตกลับบิดเบี้ยว
อย า งไม มี เค า ลางมาก อ น คาดไม ถึ ง ว า จะอ อ มผ า นโล นั้ น ไปราวกั บ อสรพิ ษ และ
กระโจนออกมาจากดานขาง การเคลื่อนไหวของมันปราดเปรียวเปนพิเศษ แทบจะทำ
ใหผูคนไมอยากจะเชื่อ
หานลี่กลับรูสึกเหมือนถูกอสรพิษฉกเขาจริงๆ อยางไรอยางนั้น รางกายพุงไป
ดานหลัง ในเวลาเดียวกันนิ้วทั้งสิบก็รายอาคมไปทางดาบเลมนั้นไมหยุด
เสียง ‘ป งๆ’ ดังขึ้น อยางตอ เนื่ อ ง ไอกระบี่ สีเขี ยวสิ บ กวาสายพุ งออกมาอย าง
ตอเนื่อง กลับถูกความแหลมคมของดาบสีโลหิตผาออก คาดไมถึงวาจะพุงมาเบื้อง
หนาของหานลี่โดยไมหยุดชะงักเลยแมแตนอย
หานลี่หนาซีด อาปากออก ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งหอหุมของสิ่งนั้นเอาไว แลวพน
ออกมา
เสี ย ง ‘ป ง ’ ดั ง ขึ้ น ดาบโลหิ ต ไม อ าจผ าลำแสงสี เขี ย วนั้ น ออกได ในที่ สุ ด ก็ ถู ก
ตานทานเอาไวได
ทามกลางลำแสงที่หอหุมอยู คาดไมถึงวาเตานภาสูญจะกำลังหมุนวนอยางชาๆ
อยูในนั้น!
“เอ!” ในจุดที่ไกลออกไปมีเสียงประหลาดใจดังออกมาจากความมืดมิด
หานลี่ ถื อ โอกาสนั้ น ป ก วายุ อั ส นี ป รากฏขึ้ น ที่ แ ผ น หลั ง พลั น สยายออกไป
ทามกลางแสงสายฟาก็ปรากฏขึ้นในจุดที่หางออกไปสิบกวาจั้ง ชูมือขึ้นดวยใบหนาที่
เขียวคล้ำ โลรชตะและเตานภาสูญพุงออกไปอยูเบื้องหนาเขาในทันที
ในตอนนั้นแสงสีโลหิตผืนใหญที่อยูใกลๆ กลับสาดสองออกมาลอมรอบกายหานลี่
อยางไมเกรงใจเลยสักนิด กลิ่นคาวเลือดคละคลุง แทบจะทำใหผูคนหยุดหายใจ
หานลี่สงเสียงเหอะดวยความเย็นชา สองมือพลันรายอาคม เสียงฟาผาดังขึ้น ชั่ว
พริบตาประจุไฟฟาสีทองชั้นหนึ่งพลันปรากฏขึ้นรอบดาน ทุกแหงที่ประจุไฟฟาเคลื่อน
ผานลวนเปลงแสงสวางวาบ ลำแสงสีโลหิตคอยๆ สลายตัวออก ทำใหลำแสงโลหิต
เหลานั้นไมมีทางเขาใกลตัวไดเลยแมแตนอย
อัสนีเทวาปดเปาภยันตราย! คนที่อยูทามกลางลำแสงสีดำเห็นสถานการณเชนนี้
ยิ่งรูสึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้น รูวาครั้งนี้เจอคูตอสูที่รับมือยากแลว
“อรหันตสี่กำจาย?” หานลี่มองไปยังเงารางคนที่อยูไกลออกไป ปากก็เอยคำพูดที่
เย็นชาออกมา
คนผูนั้นไมไดตอบอะไรกลับมา ดาบโลหิตสงเสียงเพรียกออกมา จูๆ สิ่งที่หอหุม
ไปดวยลำแสงสีโลหิตพลันพุงกลับไป จากนั้นเงารางคนทามกลางความมืดมิดพลัน
แวบหายไป กลายเปนสายรุงสายหนึ่งพุงหนีลงไปดานลาง หลังจากผานไปชั่วครู ก็จม
หายไปทามกลางความมืดมิดอยางไรรองรอย
“สหายบาดเจ็บตรงไหนหรือไม!”
การโจมตีเมื่อครูเปนเรื่องที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตา กุยหลิงดูเหมือนวาจะตื่นตะลึงจนไม
ทันไดลงมือ เวลานี้จึงเอยถามดวยความรูสึกไมสบายใจ เพราะกลัววาหานลี่จะตำหนิ!
“ไมเปนไร เหมือนกับมีดมังกรมารอยูสองสามสวนดังคาด หากไมใชเพราะโลของ
ขาสามารถกำจัดและโจมตีสะทอนกลับได สมบัติธรรมดาๆ เกรงวาจะถูกสับออกเปน
สองทอนไปตั้งนานแลว” หานลี่เอยอยางราบเรียบ ชูมือที่ถือโลรชตะเอาไวขึ้นมา และ
หันหนามามองแวบหนึ่ง
รอยดาบบางๆ สายหนึ่ง ปรากฏขึ้นเปนรอยลึกลงไปบนโล!
หางตาของหานลี่อดที่จะกระตุกไมได แววตาเครงขรึมขึ้น
ใส ล มปราณเข าไปในโล ที่ อ ยูในมื อ ลำแสงสี เงิน โคจรไปมาบนผิ วโล รอยดาบ
คอยๆ หายไปทามกลางลำแสงวิญญาณ หานลี่พลิกฝามือเก็บโลในมือเขาไป อาปาก
ออก ดูดเตานภาสูญกลับเขามาในปาก
“หนาตาของคนผูนั้น พี่หานเห็นชัดหรือยัง!” กุยหลิงอดไมไหวเอยถามขึ้น
“ไม คนผูนั้ น มีลำแสงวิญ ญาณบดบั งอยู ขาจึงมองเห็ น ไม ชั ดเจนวาอี กฝ ายใช
อรหันตสี่กำจายหรือไม แตพลังยุทธของอีกฝายกลับไมคอยสูงนัก” หานลี่เอยอยาง
เชื่องชา จากนั้นก็กมหนาลงไปมองสิ่งปลูกสรางสีดำสนิทที่อยูเบื้องลาง ดวงตาทั้งสอง
หรี่ลงพลางขบคิด
กุยหลิงไมรูวาหานลี่กำลังขบคิดเรื่องอะไร ถึงแมวาจะอยากลงไปในทันที แตก็ทำ
ไดเพียงยืนอยูขางๆ นิ่งๆ
“สหายกุย! การลังเลครั้งนี้ ขาจะถือวามันเปนครั้งแรก และจะทำเปนวามันไมเคย
เกิดขึ้น หวังวาครั้งตอไปที่ถึงเวลาอันสมควรในการลงมือ เจาจะไมคิดถึงเรื่องอื่นอีก”
หานลี่เองก็เอยขึ้นอยางราบเรียบโดยไมไดเงยหนาขึ้นมา ทันใดนั้นก็ไมรอใหกุยหลิงได
แยกแยะอะไร ก็กลายเปนลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพุงลงไปดานลาง
ฮูหยินอัปลักษณพลันตกตะตึง แตเมื่อเห็นวาหานลี่ไมไดมีทาทีที่คิดรายตอนาง ก็
รูสึกผอนคลายลง แตคนกลับหยุดอยูที่เดิม ใบหนามีสีแดงสลับขาวผสมปนเปกันไปมา
รูวาความคิ ด ไม ซื่ อ เมื่ อ ครูที่ ผุ ด ขึ้ น มาในใจ ถู ก อี ก ฝ ายสั ม ผั ส ได เพราะจิต วิญ ญาณ
บริสุทธิ์สวนหนึ่งที่สิงอยูในแผนปายชีวิต
หลั ง จากผ า นไปชั่ ว ครู ฮู ห ยิ น อั ป ลั ก ษณ ก็ หั ว เราะออกมาอย า งขมขื่ น แล ว
กลายเปนลำแสงหลีกหนีไลตามหานลี่ไปอยางจนปญญา
หานลี่ในเวลานี้รอนลงบนแทนบูชาสี่เหลี่ยมขนาดยักษ พิจารณารอบดานดวยสี
หนาราบเรียบ
นอกจากเบื้องหนาไมไกลนักที่มีขั้นบันไดสีดำสนิทที่ทอดตัวลงไปดานลาง ก็ไมมี
ทางเขาอื่นอีก
“ปอมปราการมาร! มันเหมือนปอมปราการที่ไหนกัน!” หานลี่เอยพึมพำ เวลานี้
กุยหลิงเองก็รอนลงมาดานหลังเขา เมื่อไดยินคำพูดของหานลี่ ก็รีบรอนเขามาอธิบาย
“สหายไมรูอะไร ปอมปราการมารนี้ไมเหมือนกับปอมปราการทั่วๆ ไป แตเปนสิ่ง
ที่ผูบำเพ็ญเพียรโบราณสรางขึ้น ยอดแหลมอยูดานลาง ฐานอยูดานบน มารปศาจที่
ถูกขังอยูชั้นลางมากขึ้นเทาไหร ก็จะยิ่งรายกาจมากขึ้นเทานั้น”
“เชนนี้นี่เอง!” หานลี่พยักหนาอยางถึงบางออ มองไปรอบๆ ดาน ดูเหมือนคำพูด
ตักเตือนเมื่อครู จะไมไดสงผลใหเขาปฏิบัติตัวผิดแปลกกับปศาจตนนี้ไปเลยสักนิด
นี่กลับทำใหกุยหลิงรูสึกหวั่นเกรงหานลี่มากยิ่งขึ้น
หานลี่ชูมือขึ้นโยนศิลาแสงจันทรกอนหนึ่งออกไป ลอยอยูเหนือศีรษะ และเรียก
กุยหลิง แลวเดินเขาไปในบันไดหิน ในที่สุดทั้งสองก็เขาไปในปอมปราการมาร
ปอมปราการมารสองสามชั้นแรกกวางขวางเปนอยางมาก และเงียบสงบมาก
เชนกัน แมแตเงาภูตผีสักคนก็ยังไมมี เห็นไดชัดวาถูกผูบำเพ็ญเพียรที่เขามากอนหนา
กำจัดไปจนเกลี้ยงแลว แตรองรอยการตอสู กลับมากขึ้นอยางเห็นไดชัด ดูแลวเพื่อ
ไมใหคนอื่นๆ เขาไปชั้นลางกอน ผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้นจึงตอสูกันอยางดุเดือดมาก
ยิ่งขึ้น
เมื่อมาถึงชั้นสาม ซากศพไหมเกรียมซากหนึ่งก็ปรากฏขึ้นขางๆ เสาหิน หานลี่ยืน
พิจารณาอยูดานขางอยูนาน ในที่สุดก็มั่นใจวาไมใชคนที่ตัวเองรูจัก ดูแลวนาจะเปนผู
บำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยถึงจะถูก
ทวากะโหลกของคนผูนี้เปดออก ทารกวิญญาณบินหนีไป ไมรูวาหนีสำเร็จ หรือ
ถูกสังหารตายทามกลางความวุนวายกันแน
ที่ชั้นสี่ไมมีเรื่องเกินคาดอะไรเกิดขึ้น แตเมื่อถึงชั้นหา กลับมีซากศพเพิ่มขึ้นมาอีก
สองศพ เรือ นกายสี เขี ย วมรกต แค ม องปราดเดี ย วก็ รูวาเป น ซากศพที่ ติ ด พิ ษ ตาย
หนาตาบวมเปงจนมองใบหนาเดิมไมออก อีกรางคาดไมถึงวาจะเปนชายรางใหญใน
บรรดาผูบำเพ็ญเพียรสันโดษไมกี่คนที่หานลี่สนใจเปนอยางมาก ทวาศีรษะโตๆ กลับ
ตกไปดานขาง รางกายถูกผูใดสักคนสับออกเปนชิ้นๆ มากกวาเจ็ดแปดสวน
มองดูทาทีของชายรางใหญที่มีสีหนาไมอยากจะเชื่อ ดูเหมือนวากอนตายก็ยังคง
ไมอยากจะเชื่อวาตนเองจะมาจบชีวิตลงที่นี่
ถึงแมวาหานลี่จะใจหายวาบ แตก็ไมไดหยุดฝเทาลงเพราะเหตุนี้ หลังจากที่เผา
ซากศพใหกลายเปนจุณแลว ก็พากุยหลิงเขาไปที่ชั้นหกดวยสีหนาเครงขรึม
ผลลัพธคือครั้งนี้ เขากลับพบมนุษยคนหนึ่งอยางคาดไมถึง สตรีสวมชุดชาววังที่
ถูกผนึกเอาไวในกอนน้ำแข็งยักษ
คาดไมถึงวาสตรีผูนี้จะคือไปเหยาอี๋
สองมือของสตรีผูนี้พลันรายอาคม กุมกระบี่บินใสแจวดามหนึ่งเอาไว ดวงตาทั้ง
สองปดลงเบาๆ
ถาหากไมไดมีกอนน้ำแข็งกั้นอยู ก็จะสัมผัสไดถึงคลื่นไอวิญญาณที่ออนแอของ
สตรีผูนี้ มองใบหนาที่ซีดขาวเปนอยางมากของสตรีผูนี้ หานลี่ก็แทบจะนึกวาสตรีผูนี้
เพลี่ยงพล้ำและจบชีวิตลงไปเสียแลว
เขาไมไดรีบรอนคลายผนึกของสตรีผูนี้ แตใชจิตสัมผัสกวาดไปบนกอนน้ำแข็งนั้น
รอบหนึ่ง หลังจากไมพบสิ่งอื่นใด ถึงไดชูมือหนึ่งขึ้นกดไปที่กอนน้ำแข็งยักษเบาๆ
เสียง ‘แกรก’ ดังขึ้น เปลวเพลิงสีมวงชั้นหนึ่ งห อหุมมือของเขาเอาไว จากนั้ น
ความเย็นเยียบแตเดิมของน้ำแข็งยักษสีขาวโพลน ก็ถูกเปลวเพลิงน้ำแข็งนี้สูบไป
ชั่วพริบตา น้ำแข็งยักษก็หดเล็กลง หลังจากผานไปชั่วครู ในที่สุดไปเหยาอี๋ก็ถูก
ปลอยออกมาจากกอนน้ำแข็งยักษ
หลังจากที่กอนน้ำแข็งที่เย็นเยียบชั้นสุดทายสลายหายไปจากรางของสตรีผูนั้น
เปลือกตาของไปเหยาอี๋ก็ขยับเล็กนอย แลวลืมตาทั้งสองขึ้นโดยอัตโนมัติ
ผลลัพธคือมองปราดเดียว ก็มองเห็นเบื้องหนาของหานลี่ ใบหนาแตเดิมที่กำลัง
เครงเครียด ชั่วขณะนั้นพลันผอนคลายลง
“ที่แทก็พี่หานนี่เอง ขายังนึกวาเปนคนอื่นเสียอีก!” สตรีผูนี้คลี่ยิ้มอยางออนแรง
ออกมา ดูเหมือนวาสูญเสียปราณแทไปไมนอย
“หากขาจำไมผิดละก็ สหายไปฝกฝนเคล็ดวิชาธาตุน้ำแข็ง หรือวาเมื่อครูเจาผนึก
ตัวเองเขาไปในน้ำแข็ง” หานลี่ขมวดคิ้ว หลังจากที่กวาดสายตาไปบนใบหนาของสตรี
ผูงดงาม ก็เอยถามขึ้นอยางเชื่องชา
ตอนที่ 1034 ไมแปดวิญญาณ
“ขาไดรับบาดเจ็บหนักจริงๆ เพื่อตอตานศัตรู จึงไดปลอยไอน้ำแข็งทมิฬอันเย็น
เยียบของกระบี่บินประจำกายที่ฝกฝนมาอยางหนักเปนเวลาหลายปออกมา ตอนนั้น
คอนขางวุนวาย คนอื่นๆ และคนที่ทำรายขาตางก็พยายามลงไปชั้นลาง ขาถึงไดโชคดี
รอดพนจากความตายมาได” ไปเหยาอี๋เอยอยางรูสึกหวาดผวาไมหาย
“ออ ฟงจากคำพูดของสหาย ดูเหมือนวาผูที่ลงมือ เจาเองก็ไมไดคุนเคยนั ก!”
หานลี่ขมวดคิ้วขณะเอยถาม
“คนผูนั้นนาจะเปนหนึ่งในพวกผูบำเพ็ญเพียรที่เปดผนึกเหลานี้ ตอนนั้นขาพัวพัน
อยูกับอีกคนหนึ่ง ถึงไดถูกลอบโจมตีอยางไมรูตัว ไอน้ำแข็งทมิฬที่เย็นเยียบกลายเปน
กอนน้ำแข็งยักษ นอกเสียจากวาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายจะเปนผูลงมือ
ละลายน้ ำแข็ งด วยตนเอง มิ เช น นั้ น ก็ ไม อ าจละลายได ในเวลาเพี ย งสั้ น ๆ ข าได รั บ
บาดเจ็บหนักนั้นจึงไมมีทางทลายออกมาไดเชนกัน ตองขอบคุณสหายหานที่ชวยเหลือ
มิเชนนั้นหากนานเขาผลลัพธจะเปนอยางไรก็ไมอยากจะคิด จะวาไปแลวพี่หานกลับ
ยิ่ ง ร า ยกาจกว า ชั่ ว พริ บ ตาก็ ล ะลายไอเย็ น เยี ย บของข า ได ” ไป เหยาอี๋ เผยสี ห น า
ประหลาดๆ ออกมาขณะเอย
“ไมเปนไร แคเรื่องงายๆ เทานั้น ไมรูวาสหายไปมาถึงที่นี่ไดอยางไร?” หานลี่เอย
อยางไมใสใจ
“หลังจากที่ขา สหายฟู และพี่หานแยกจากกันแลว ก็ไปคนหาสมบัติที่หอลับแหง
หนึ่งของภูเขาคุนอู และไดสมบัติมาเล็กนอย แตเดิมคิดวาเพียงพอแลว จึงตัดสินใจจะ
ลาถอยจากไป แตกลับคิดไมถึงวา ทางป อมปราการมารจะมีเหตุการณ ประหลาด
เกิดขึ้น เราสองคนจึงเกิดความละโมบ วิ่งมาที่นี่อยางไมรูตัว ผลลัพธคือระหวางทางได
ปะทะกับผูบำเพ็ญเพียรจำนวนมากที่กำลังมุงไปยังปอมปราการมาร ในนั้นมีทั้งคน
ของพรรคตาขายทมิฬที่รูจัก และมีผูบำเพ็ญ เพียรอีกกลุมหนึ่งที่เปนผูเปดผนึกของ
ภูเขา
ยังมียักษปกเงินและเหลาผูบำเพ็ญเพียรสันโดษอีกดวย ความจริงแลวเมื่อเห็นวา
ที่นี่มีผูที่มีความสามารถมากมายรวมตัวกันอยูขนาดนี้ พวกเราสองคนก็รูสึกเสียใจใน
ภายหลัง คิดจะถอย แตแคตอนนั้นมีคนโจมตีพวกเราสองคนอยางไมบอกกลาว จึงถูก
ดึงเขามาอยูในนี้ ขาถูกคนผูหนึ่งไลสังหารอยางไมลดละ จึงถูกบีบใหหนีมาอยูที่นี่ แต
สหายฟูนั้นหายตัวไประหวางทาง ดูแลวคงหาโอกาสหนีไปทามกลางความวุนวาย
กระมั ง” ไป เหยาอี๋ อ ธิบ ายเรื่อ งราวของตั วเองให ห านลี่ฟ งอยางคราวๆ อย างรูจั ก
วางตัว ในเวลาเดียวกันสายตาก็พิจารณาฮูหยินอัปลักษณที่อยูดานขางสองสามครั้ง
พลางเผยสีหนาหวาดระแวงออกมา
เห็นไดชัดวานางสัมผัสไดถึงไอมารที่นากลัวบนเรือนรางของอสูรปศาจอยางกุยหลิง
“สหายไปมิตองกลัวไป สหายกุยหลิงตอบตกลงจะรวมมือกับขาแลว มิเชนนั้นผู
แซหานตัวคนเดียวคงไมกลามาอยูที่นี่งายๆ” หานลี่มองความกังวลของสตรีผูนี้ออก
จึงเอยขึ้นพรอมกับหัวเราะนอยๆ ออกมา
กุยหลิงในเวลานี้ก็เผยรอยยิ้มออกมาเชนกัน
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ขาก็วาจากความฉลาดของพี่หานจะเลอะเลือนเหมือนเรา
สองคนไดอยางไร!” ถึงแมวาไปเหยาอี๋จะไมเชื่อวาความสัมพันธของฮูหยินอัปลักษณ
และหานลี่จะงายดายอยางที่แสดงออกมา แตก็รูสึกผอนคลายลง
“ทวา ตอนที่ขามา ก็ไดเห็นโครงกระดูกของสหายฟู เขานั้นเพลี่ยงพล้ำไปแลว”
หานลี่บอกเลาขาวคราวของชายชราออกมาดวยสีหนาราบเรียบ
“สหายฟูตายแลว?” ไปเหยาอี๋พลันตกตะลึงยกใหญ แววตาเปลงประกายตกตะลึง
“ขาเปนคนจัดการกับรางกายของเขาดวยมือของตัวเอง ทาทางเหมือนแมแต
ทารกวิญญาณก็ไมทันไดหนีออกมา ใชแลว ตอนที่เจาอยูในน้ำแข็งเมื่อครู สัมผัสไดวา
มีผูใดมาที่นี่หรือไม” จูๆ หานลี่พลันนึกถึงผูที่ถือดาบสีโลหิต จึงเอยถามขึ้นดวยแววตา
ที่ฉายแววเย็นชา
“คนอื่น? สัมผัสไมไดเลย ทำไม ยังมีผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นเขามาที่นี่หรือ?”
ไปเหยาอี๋พลันตกตะลึง ไมรูวาเหตุใดหานลี่จึงเอยถามคำนี้ขึ้นมา
“ในเมื่อเปนเชนนั้นก็ไมเปนไร สหายไปสูญเสียปราณแทไปไมนอย ตอนนี้คิดจะ
ทำเชนไร?” ไมรูวากำลังขบคิดอะไรอยู หลังจากที่หานลี่เงียบกริบไปชั่วครู ก็ไมไดเอย
เรื่องของอรหันตสี่กำจายออกมา แตหันหนาไปมองทางเขาชั้นลางแวบหนึ่ง แลวเอย
ถามสตรีผูนั้นอยางราบเรียบ
“จะทำอะไรได ไมวาในนั้นจะมีสมบัติวิเศษอะไรซอนอยู ขาก็จะไมเพอเจออีก
แลว ขาจะออกไปจากที่นี่ทันที รอใหผนึกกลับมามั่นคงอีกครั้งขางนอก” ไปเหยาอี๋
เอยอยางไมตองขบคิด
“เช น นั้ น ก็ ดี ข า และสหายไป ค งต อ งแยกกั น ตรงนี้ ข า น อ ยรู สึ ก สนใจสมบั ติ
เหลานั้นมาก” หานลี่ไมไดเผยสีหนาประหลาดใจกับเจตนาลาถอยของไปเหยาอี๋เลย
แมแตนอย และเอยคำพูดกลาวลาออกมา
“ในเมื่อพี่ ห านมั่นใจเชนนี้ ขาก็จะไม เซาซี้ อีก รักษาตั วดวย!” ไป เหยาอี๋ ไดยิ น
คำพูดของหานลี่ ก็หัวเราะอยางขมขื่นออกมา
“สหายไปเองก็รักษาตัวดวยเชนกัน!” หานลี่ประสานมือเขาหากัน รางกายพลิ้ว
หายไปตรงทางเขา
กุยหลิงเองก็ตามไปดานหลังอยางเงียบเชียบ
ไปเหยาอี๋มองเงาแผนหลังของทั้งสอง แลวถอนหายใจออกมาเบาๆ เฮือกหนึ่ง
ทันใดนั้นก็ควักขวดยาออกมาจากในยามเก็บของ แลวกลืนยาลูกกลอนสีแดงเพลิงเม็ด
หนึ่งลงไป
หานลี่ที่เดินออกมาไดยี่สิบกวาจั้ง ดูเหมือนวาจะนึกอะไรขึ้นได จูๆ ก็หันหนามา
เอยถามวา
“สหายไป ผูแซหานไดยินชื่อเสียงของวังราตรีเหนือมานานแลว วันหนาหากโชค
ดีคงมีโอกาสไดไปเยี่ยมเยียน”
“พี่หานลอเลนแลว ขายินดีตอนรับสหายหานอยางแนนอน” ไปเหยาอี๋พลันตก
ตะลึง ทันใดนั้นก็ฉีกยิ้มเบิกบานขณะตอบกลับ
“มีคำพูดรับประกันของสหายไป ผูแซหานก็วางใจ” หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา
แลวถึงไดหันกลับไปแลวจากไปโดยไมหันกลับมาอีก
สหายไปรอจนรางของหานลี่หายลับไปตรงทางเขา รอยยิ้มบนใบหนาคอยๆ หุบลง
ใบหนางดงามเผยสีหนาครุนคิดออกมา ถึงแมวาสตรีผูนี้จะตอบรับอยางมีความสุข แต
แนนอนวาคำพูดเมื่อครูนั้นเต็มไปดวยความรูสึกตกตะลึงระคนสงสัย ไมรูวาเหตุใดจูๆ
หานลี่ถึงไดเอยถึงวังราตรีเหนือขึ้นมา
ชั้นที่เจ็ด ก็คือสถานที่ท่ีมารโบราณและพวกตอสูกันในตอนแรก มันกลับวางเปลา
ไมมีเงารางของคนเลยแมแตผูเดียว
หานลี่และกุยหลิงมองหาทางเดินลงไปยังหองหินเล็กๆ ชั้นที่แปดไดอยางงายดาย
เขตอาคมสงตัวขนาดเล็กสีดำและขาวพลันปรากฏขึ้น
มองเขตอาคมเบื้องหนา หานลี่ก็ลูบคางไปมา ในแววตาเผยแววครุนคิด
‘อิ๋นเยว เจารูสึกอะไรหรือไม? เขตอาคมสงตัวนี้เปนเขตอาคมระยะสั้น นาจะสง
ตัวลงไปอีกชั้น เจาไมไดบอกวามีอะไรเรียกเจามิใชหรือ เจาสัมผัสอะไรไดหรือไม?’
หานลี่เอยถามอิ๋นเยวในความคิด
‘แปลก ในเขตอาคมทั้งสองนี้ ดูเหมือนวามีของที่ขาคุนเคยอยูทั้งสองอัน ทวาสีขาวนั้น
ดูเหมือนวา จะรุนแรงกวา’ อิ๋นเยวตอบกลับอยางเชื่องชา
‘เทานั้นก็พอแลว อยางนั้นพวกเราเลือกเขตอาคมนี้เถิด เขตอาคมสีดำนั้น มีไอมาร
แฝงอยู ทำให ขารูสึก ไม ค อ ยสบายใจนั ก’ หลั งจากเงีย บกริบ ไปชั่ วครู หานลี่ ก็ เอ ย
กับอิ๋นเยวอยางราบเรียบ
จากนั้น เขาก็เดินเขาไปในเขตอาคมสงตัวสีขาวโดยไมไดกลาวอะไรออกมา กุยหลิง
เห็นการกระทำของหานลี่ ก็เดินเขามาอยางไมซักถามใหมากความ
แทบจะในเวลาเดียวกันกับที่รางมาปรากฏตัวที่ชั้นแปดนั้น หานลี่และกุยหลิงตาง
ก็รีบสำแดงโลรชตะ และเกราะสงครามสีแดงโลหิตออกมาในทันที
ถึ ง อย า งไรเสี ย ผู ใดจะรู ได ว า ที่ เขตอาคมด า นนี้ จ ะมี ใครดั ก รออยู ห รื อ ไม จาก
ประสบการณของทั้งสอง แนนอนวาจึงไมไดประมาทเรื่องนี้แมแตนอย
การตอสูที่แตเดิมคิดไววาจะเกิดขึ้นกลับไมปรากฏ แตเสียงอึกทึกกลับดังมาเปน
ระลอกๆ เมื่อความรูสึกวิงเวียนจากการส งตั วหายไป หานลี่ก็กวาดสายตามองไป
รอบๆ ชั่วขณะนั้นพลันตกตะลึง
สถานการณเบื้องหนามันวุนวายเกินไปหนอย
ทั้งทองฟาและผืนดิน มีสมบัติกระบี่บินลอยอยูเกลื่อนกลาด ทั่วทุกแหงมีลำแสง
วิญญาณระเบิดออกมา ลำแสงหลีกหนีพุงออกไป
หานลี่ทำไดเพียงกวาดตาไปอยางลวกๆ ก็มองเห็นเงารางคนมากกวาสิบสาย หนึ่ง
ในนั้นมียักษปกเงินและพวก ผูบำเพ็ญเพียรแซสวี ธิดาเทพเทียนหลานรวมทั้งสตรีผู
งดงามทั้งสองของพรรคแปลงเซียน และยังมีผูบำเพ็ญเพียรแปกหนาอีกหลายคน ดู
แลวนาเปนผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ย
แตเงารางของเกอเทียนเหาและพวกกลับไรรองรอย ไมรูวาถูกสังหารทิ้งระหวาง
ทาง หรือวายังมาไมถึงกันแน
เวลานี้ผูบำเพ็ญ เพียรเหลานี้ไมไดตอสูกันเอง แตแยกออกอยูรอบๆ ของวิหาร
ใกลๆ กับวิหารมีเขตอาคมขนาดใหญอยูแหงหนึ่งและแทนบูชาอีกยี่สิบสามสิบแทน
ทุกแทนบูชามีมนุษยหินหยกขาวสูงสองสามจั้งยืนอยู
มนุษยหินเหลานั้นสวมชุดเกราะสีทอง สองมือกุมมีดยักษสีทองเอาไว คาดไมถึง
วาจะดูเหมือนมีชีวิตอยางไรอยางนั้น พวกมันประสานกับเขตอาคมขนาดยักษ ลำแสง
สีทองยาวสองสามจั้งสายแลวสายเลาฟาดออกไป โจมตีเหลาผูบำเพ็ญเพียร คาดไมถึง
วาจะไมมีทาทีเสียเปรียบเลยแมแตนอย
แตสายตาของผูบำเพ็ญเพียรที่อยูรอบๆ กลับไมไดตกอยูบนรางของหุนเชิดหิน
เหลานี้ แตผูคนจำนวนไมนอยโจมตีไปพลาง มองไปยังทองฟาเหนือวิหารไปพลาง
เหนือวิหารไปสิบจั้ง มีทอนไมสีเขียวมรกตรูปรางเปนเอกลักษณลอยอยูดามหนึ่ง
เปลงแสงสีเขียวจางๆ ออกมา
ไมดามนี้ยาวครึ่งฉื่อ รูปลักษณงดงามตามแบบฉบับโบราณ คอยๆ หมุนวนอยาง
เชื่องชาไมหยุด
ถาหากเปนเชนนั้น แคสมบัติธรรมดาๆ ชิ้นหนึ่ง แนนอนวาไมมีอะไรที่พิเศษ คง
ไม ดึ งดู ด ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รจำนวนมากขนาดนี้ สิ่ งที่ ส ำคั ญ คื อ ทุ ก ครั้ งที่ ไม ด ามนี้ ห มุ น
วนรอบหนึ่ง รอบๆ จะมีดอกบัวสีเงินออนจำนวนนับไมถวนผุดออกมา ดูเหมือนของ
จริงแตก็ดูลวงตา คอยๆ ลอยพลิ้วไหวอยูกลางอากาศ ทามกลางดอกบัวเหลานี้ มีเงา
ลวงตาอสูรวิญญาณนอยใหญที่แตกตางกันอยูแปดตัว กะพริบวาบเดี๋ยวชัดเจนเดี๋ยว
เลือนราง เงยหนาขึ้นเปลงเสียงคำรามไปทางไมดามนั้น ราวกับวากำลังกราบไหวไม
ดามนั้นอยางไรอยางนั้น
“อสูรเขาพยัคฆ กิเลนอัฏฐะ อสรพิษเกล็ดทอง…” หานลี่แยกแยะเล็กนอย แลว
อดที่จะสูดลมหายใจเขาปอดไปเฮือกหนึ่งไมได
เงาลวงตาอสูรวิญญาณเหลานี้ คาดไมถึงวาทุกตัวตางก็เปนอสูรปศาจที่มีชื่อเสียง
เกรียงไกรในสมัยโบราณ!
“ไมแปดวิญ ญาณ! คิดไมถึงวาสามผูเฒ าคุนอุ จะไมไดเอาสมบัติชิ้นนี้กลับไปที่
แดนสวรรคดวย!” หานลี่ยังไมทันไดมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับ กุยหลิงที่อยูดานขางก็
เอยขึ้นมาดวยความตกตะลึง
“ไมแปดวิญญาณ?” หานลี่หนาเปลี่ยนสี
‘ไมแปดวิญญาณคือหนึ่งในสมบัติสะทานฟา แตแคในอดีตกาลเคยนำออกมาใช
เพียงไมกี่ครั้ง ดังนั้นชื่อเสียงจึงไมเลื่องลือ แตในเมื่อเปนสมบัติสะทานฟาได อานุภาพ
ของมันยอมไมธรรมดาอยางแนนอน’ อิ๋นเยวเอยอยางเชื่องชา
‘ทำไม เจาไมเปนไรนะ!’ หานลี่กลับขมวดคิ้ว ฟงออกวาน้ำเสียงของอิ๋นเยวนั้น
แปลกประหลาดไป
‘ไมรูเชนกันเจาคะ แปลกมาก สมบัติสะทานฟาชิ้นนี้ ขาไมเคยรูจักมากอน แต
เมื่อครูในหัวกลับมีรายละเอียดของสมบัติชิ้นนี้ผุดขึ้นมา และยิ่งไปกวานั้นในวิหารดู
เหมือนวาจะมีของสิ่งหนึ่งกำลังเรียกหาขา...ไม...ไมใชสิ่งของ...เปนคนสนิทที่กำลัง
เรียกหาขา...แตก็ไมใช...อีกครึ่งหนึ่งของขาอยูดานใน’ อิ๋นเยวดูเหมือนวาจะถึงบางออ
ขึ้นมา คาดไมถึงวาจะเอยคำพูดที่ไมตอเนื่องกันออกมา
หานลี่ขมวดคิ้ว ตอนที่กำลังตั้งใจฟงวาอิ๋นเยวจะกลาวอะไรอีกครั้ง ชายหนุมแซสวีและ
ยักษปกเงินที่อยูไกลออกไปก็พบวาหานลี่มาถึงแลว ชั่วขณะนั้นสายตามาดรายสิบกวา
สายและสายตาตกตะลึงพลันสงเขามา
ภายใตความรูสึกกะทันหัน แนนอนวาหานลี่เองก็ไมสนใจวาอิ๋นเยวจะกลาวอะไรอีก
แตแววตากลับเปลงประกายสาวเทายาวๆ เขาไปในเขตอาคม จากนั้นรางกายก็หมุน
วนทะยานขึ้นไปกลางอากาศ
ตอนที่ 1035 รวมมือ
“คิดไมถึงวาสหายหานจะยังกลามาปรากฏตัวที่นี่ ผูแซสวีนับถือจริงๆ” ชายหนุม
แซสวีหัวเราะอยางเย็นชาออกมา พลางชูมือขึ้นลำแสงสีเงินสายหนึ่งพุงออกไป โจมตี
มนุษยหินที่อยูตรงขามของเขาจนแหลกละเอียด เปดทางนำไปกอน
“เหตุใดจะไมกลา ตอนนี้ มีสมบั ติวิเศษอยู ตรงหน า สหายยังคิ ดจะจะหาเรื่อ ง
ขานอยสินะ!” หานลี่ตอบกลับไปประโยคหนึ่ง พลางกวาดตามองไปรอบๆ ดวยสีหนา
ไรความรูสึก
เห็นเพียงซากมนุษยหินที่ถูกโจมตีจนแหลกละเอียด เปลงแสงสีขาวสวางวาบอยู
บนแท น บู ช า แล ว ผนึ ก รวมตั วกั น อี ก ครั้งดั งเดิ ม โบกสะบั ด ดาบสี ท องในมื อ อย าง
ตอเนื่อง ปลอยดาบแสงขึ้นไปโจมตีบนทองฟา เขาพลันรูสึกตกตะลึงอยูในใจ!
เมื่ อ ได ฟ ง คำพู ด ของหานลี่ ปรมาจารย ข องทุ ง หญ าเที ย นหลานพลั น มี สี ห น า
อำมหิตฉายแวบผานไป ตอนที่กำลังคิดจะเอยอะไรอีกนั้น ยักษปกเงินที่อยูไกลออกไป
กลับสยายปกทั้งสองขางออกกลางอากาศแลวเอยอยางราบเรียบวา
“หรือวานายทานลืมความแคนกับขานอยไปแลว ถึงแมวาสมบัติวิเศษอยูตรงหนา
ขาก็ไมรังเกียจที่จะสะสางความแคนกับเจา”
คำพูดเพิ่ งหลุดออกจากปาก อสูรวิหคราชสีหที่ อยูดานขางก็เปลงเสียงคำราม
ออกมา เผยทาทีคุกคามออกมาอยางไมตองสงสัย
“เชนนั้นหรือ?” หานลี่ไดฟงแลว กลับเปลงเสียงหัวเราะออกมา
กุยหลิงที่อยูดานขางถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง สาวเทาไปขางหนากาวหนึ่ง
พลางยืนเคียงไหลกับหานลี่
เหตุการณนี้ทำใหยักษปกเงินหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
“สหายกุย เจามีเจตนาใดกันแน? เหตุใดถึงอยูกับมนุษยผูบำเพ็ญเพียรผูนี้?”
“เหตุใด? เจาไม รูจ ริงๆ หรือ วาเลอะเลื อ นกั น แน แม เฒ าถู กพวกเจ าหลอกใช
อยางไรละ สนใจเพียงแผนปายวิญญาณของตัวเองแตกลับไมสนใจความเปนตายของ
แมเฒา ตอนนี้แผนปายชีวิตของขาตกอยูในมือของผูอื่น หากไมอยากวิญญาณแหลก
สลาย ก็ตองเชื่อฟงคำสั่งเพียงเทานั้น” แววตาคูนั้นของกุยหลิงฉายแววโหดเหี้ยม จูๆ
พลางชี้ไปที่ยักษปกเงินที่อยูไกลออกไปแลวดากราดยกใหญ
เหตุการณนี้ทำใหผูบำเพ็ญเพียรทุกคนรูสึกตกตะลึง
ยักษปกเงินเผยสีหนากระอักกระอวนออกมา อสูรวิหคราชสีหที่อยูดานขางซึ่ง
กำลังเปลงเสียงคำรามทุมต่ำออกมา พลันปดปากฉับในทันที
จะวาไปแลว ตนกำเนิดของปศาจทั้งสามตนนั้น ก็นับวามีความสัมพันธอันดีตอกัน ถา
หากเปนไปได ปศาจทั้งสองก็อยากจะชวยฮูหยินอัปลักษณชิงแผนปายชีวิตกลับมา
แตสถานการณในตอนนี้คอนขางพิเศษ พวกเขาชิงแผนปายชีวิตของตนเองมาได
ก็นับวาเปนโชคใหญหลวงแลว ไมอาจสนใจแผนปายของกุยหลิงไดจริงๆ และยิ่งไป
กวานั้นหานลี่ก็ไหลลื่นอยางสุดๆ เมื่อไดสมบัติก็จากไปในทันทีพวกเขากลับติดอยูใน
อานุภาพของไมสี่คชสาร จึงทำไดเพียงมองหานลี่หนีไปตาปริบๆ
“สหายกุยโปรดวางใจ เราสองคนจะชวยเจาชิงแผน ป ายชีวิตกลับคืน มา” ชั่ว
พริบตายักษปกเงินพลันฟนฟูสีหนากลับมาเปนปกติ จองเขม็งไปยังหานลี่พลางเอย
ดวยสีหนาเครงขรึม
“มาถึงขั้นนี้แลว พูดเรื่องเหลานี้ไปจะมีประโยชนอะไร ตอนนี้แมเฒาจำตองเชื่อ
ฟงคำสั่งแลว ถาหากตองสูกับพวกเจาสองคน ก็อยามาโทษวาขาไมปรานี” กุยหลิง
กลับไมซาบซึ้ง ถลึงตาทั้งสองขางขณะเอย
ยักษปกเงินไดยินแลวพลันหัวเราะอยางขมขื่นออกมา จากนั้นก็ไมไดกลาวอะไร
อีก แตกลับถลึงตาอยางโกรธแคนใสหานลี่
หานลี่มีสีหนาเรียบเฉยพลางเมินใส ในใจพลันตัดสินวา ถาหากยักษปกเงินหา
เรื่องตนเองจริงๆ ก็จำใจตองใหกุยหลิงออกไปรับมือกับมัน
“สหายหาน ไมทราบวาผลการตอสูกับมารเฒาเฉียนเปนอยางไร จนถึงตอนนี้มารเฒา
ยังไมมาปรากฏตัว หรือวาเขาเพลี่ยงพล้ำในเงื้อมมือของสหายแลว?” ฮูหยินมูแหง
พรรคแปลงเซียน ฉีกยิ้มเบิกบานขณะเอย
เนื้อหาของคำพูดนี้ทำใหผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ตางใจหายวาบ
“ที่แทผูที่ลอบโจมตีพวกเราในแสงปราณทิศเหนือสุด ก็คือฮูหยินจริงๆ ดวย ยังไม
ทราบเลยวาฮูหยินมีชื่อแซวาอะไร” เมื่อไดยินฮูหยินเอยถามอยางมีเจตนาราย หางตา
ของหานลี่ก็กระตุก ทั น ใดนั้ น สายตาก็ กวาดไปบนเรือ นรางของอี กฝ ายและสตรีผู
งดงามที่อยูขางกาย พลางเอยถามอยางราบเรียบ
“ผูที่ไมรูจักขา ณ ที่แหงนี้คงมีแตพี่หานแลวละ ขามาจากพรรคแปลงเซียนแหง
หนานเจียง นับไดวาเปนเจาของของสถานที่แหงนี้ครึ่งหนึ่ง วาแตพี่หานหนาตาไมคุน
เลย หรือ วาไม ใช ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รต าจิ้ น ของพวกเรา?” รางกายที่ แ ต งกายด ว ยสี สั น
ฉูดฉาดของหยินมูสั่นเทานอยๆ บนเครื่องหนาธรรมดาๆ ของนางคาดไมถึงวาจะมี
เสนหเพิ่มขึ้นสองสามสวน แตสวนลึกของนัยนตากลับเย็นเยียบ
“ดูเหมือนวาประวัติความเปนมาของขานอยจะไมเกี่ยวของใดๆ กับเรื่องนี้ แต
ตอนที่ผูแซหานอยูในวิหารคุนอู ก็ไดรับการดูแลจากสหายทั้งสองเปนอยางดี สวน
สหายเฉียนนั้น ก็แคปะลองฝมือกันเทานั้น สุดทายก็แยกกันไป ทำไม สหายเฉียนไม
ไดมาที่นี่หรือ? ผูแซหานนึกวาเขาลวงหนามากอนแลวเสียอีก” หานลี่พูดเรื่องไรสาระ
ดวยสีหนาบราบเรียบ ทำใหกุยหลิงที่อยูดา นขางไดยินแลวแอบคอนปะหลักปะเหลือก
ในใจ พลางรูสึกหมดคำพูด
ถึงแมวาฮูหยินมูจะรูสึกสงสัย แตถาหากกลาววาหานลี่จะสังหารมารเฒาเฉียนผูที่
มีชื่อเสียงเกรียงไกรไดจริงๆ นางเองก็ไมอยากจะเชื่อนัก ดังนั้นหลังจากที่ไดยินหานลี่
ตอบกลับอยางไมเปนมิตร ก็เปลงเสียงหัวเราะออกมา ไมกลาวอะไรอีก
ผูบำเพ็ญเพียรแปลกหนาอีกสองสามคน เห็นวาผูคนตางใหความสนใจกับหานลี่ที่
เพิ่งปรากฏตัวขึ้นมาใหมเปนอยางมาก หลังจากสงสายตาใหกันแลวก็พากันถอยหลัง
หยุดการโจมตีใสหุนเชิดที่อยูในเขตอาคม
นักปราชญชุดขาวระดับกอกำเนิดขั้นปลายคนหนึ่ง แววตาเปลงประกาย ริมฝปาก
พะงาบๆ พลางถายทอดเสียงไปหาหานลี่
‘สหายผูนี้ ดูแลวเจาคงมีความแคนกับคนอื่นๆ ขานอยคืออาวุโสของตระกุลเยี่ย
ผูดูแลราชวงศแหงตาจิ้น สหายสนใจอยากรวมมือกับตระกูลเยี่ยหรือไม ตระกูลเยี่ย
ของพวกเราต อ งการแค ไม แ ปดวิญ ญาณ สมบั ติ ชิ้น อื่น ๆ ในวิห ารจะมอบให ส หาย
ทั้งหมด ไมทราบวาสหายคิดเห็นอยางไร?’
หานลี่ไดยินคำนี้พลันตกตะลึง แตใบหนาก็ยังไมไดเผยสีหนาใดๆ ออกมา และ
ไมไดตอบรับอะไร
‘สหายอยาคิดวาาตระกูลเยี่ยของพวกเราละโมบ สมบัติระดับนี้ตอใหสหายโชคดีไดมา
ภายใตขุมอำนาจของคนผูเดียวที่ออนแอก็คงมีโอกาสเก็บรักษาเอาไวไดไมนานนัก’
นักปราชญเห็นพลังยุทธของหานลี่ไมไดออนแอ และยิ่งไปกวานั้นยังสามารถควบคุม
อสูรระดับสูงอยางกุยหลิงได ก็อยากดึงมาเปนพวก
หานลี่ขมวดคิ้ว ในที่สุดก็เอยปากขึ้นเชนกัน พลางถายทอดเสียงออกไป
‘ตระกูลเยี่ยของพวกทานเปนตระกูลอันดับหนึ่งในตาจิ้น ไหนเลยจะตองใหคน
นอกอยางขานอยชวยเหลือ และยิ่งไปกวานั้นพวกทานไมไดมีผูบำเพ็ญเพียรที่ยิ่งใหญ
สองคนเขามาในภูเขาลูกนี้ดวยหรือ? ไมทราบวาสหายอีกทานอยูที่ใด?’
แววตาของหานลี่เปลงประกาย มองเห็นผูบำเพ็ญ เพียรแปลกหนาสองสามคน
อยางชัดเจน ดานในไมมีรางแปลงของมารโบราณอยางที่กำลังสงสัย ถึงแมวาจะผอน
คลายลง แตกลับรูสึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น
‘คิดไมถึงวาพี่หานจะรูแมกระทั่งวาตระกูลเยี่ยของพวกเรามากี่คน ขอกลาวอยาง
ไมปดบัง อาวุโสผูนั้นของขานอยนาจะอยูในปอมแหงนี้ ถึงแมวาขานอยจะติดตอเขา
ไมได แตเชื่อวาหากถึงชวงเวลาสำคัญ เขาจะตองลงมือแน ไมแนวา เขาอาจจะแอบ
เขาไปในวิหารแลวก็เปนได!’ นักปราชญใจหายวาย แตปากกลับเปลงเสียงหัวเราะ
ออกมา
‘เชนนั้นหรือ? ถาหากในวิหารนี้ไมมีอะไรเลย ขานอยจะไมเสียเวลาเปลาหรือ
แลวยังตองลวงเกินผูอื่นอีก’ หานลี่เงียบกริบไปชั่วครู ถึงไดเอยเชนนี้ออกมา
‘เรื่องนั้นงายมาก ขานอยไดสมบัติที่มีอานุภาพไมนอยมาสองสามชิ้น ณ สถานที่
อื่นในภูเขาคุนอู ถาหากสหายไมไดประโยชนอะไรจริงๆ ขานอยยอมมอบพวกมัน
ใหแกพี่หานทั้งหมด ถาหากพี่หานกลัววาจะไปลวงเกินผูใดเขา หลังจากนี้ตระกูลเยี่ย
ของพวกเราก็สามารถรับสหายเปนอาวุโสในนามของตระกูลเยี่ยได หรือไมก็มอบศิลา
วิญญาณหมื่นกอนใหสหายในคราวเดียว’ นักปราชญชุดขาวเห็นหานลี่เริ่มสนใจ ก็รีบ
รอนยื่นขอเสนอทันที
ต อ งเข า ใจว า เพราะคนประหลาดรวมทั้ ง ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รตระกู ล เยี่ ย คนอื่ น ๆ
หายไปอยางไรรองรอย จึงรูสึกกังวลเปนอยางมาก และรูสึกวาเรื่องนี้อยูเหนือการ
ควบคุม แนนอนวาจึงไมเสียดายเงินทุนที่จะดึงหานลี่ผูซึ่งดูเหมือนผูบำเพ็ญเพียรนอก
ตาจิ้นเขามาเปนพวก
‘อาวุโสในนามนั้นชางเถิด ผูแซหานสนใจศิลาวิญ ญาณหมื่นกอนนั่น หลังจาก
เรื่องนี้จบแลว ขานอยก็คงออกไปจากตาจิ้นในทันที’ หานลี่ขบคิดเล็กนอย คาดไมถึง
วาจะตอบตกลงพรอมกับหัวเราะเบาๆ
‘อยางนั้นก็ยิ่งดีใหญ ผูแซเยี่ยตกลงกับสหายแลวนะ อีกเดี๋ยว สหายก็ลงมือตาม
จังหวะที่เหมาะสมเถิด’ นักปราชญชุดขาวดูเหมือนวาจะดีอกดีใจเปนอยางมาก
‘เพราะเหตุใดกัน นายทานจะยอมมอบไมแปดวิญญาณใหคนอื่นจริงๆ หรือเจาคะ?’
ในฐานะที่อิ๋นเยวเปนศาสตราวิญญาณที่เชื่อมโยงจิตใจกับหานลี่ จึงไดยินบทสนทนา
ของหานลี่และนักปราชญอยางชัดเจน ฉะนั้นจึงอดที่จะเอยถามไมได
‘ให เขา? ไม ใ ช อ ย า งแน น อน ข า และเขาแค ต กลงเงื่ อ นไขกั น ข อ หนึ่ ง เท า นั้ น
ขอตกลงที่ไมมีการรับประกันอะไรเชนนี้ เขาและขาไมคิดวามันเปนความจริงหรอก
แตแคตอนนี้ตระกูลเยี่ยรูสึกออนแอ และขาเองก็ตองการคนชวยรับมือกับคนอื่นๆ ก็
เพียงเทานั้น’ หานลี่เอยกับอิ๋นเยวอยางราบเรียบ
‘ขาก็วาอยางนั้น! ขอแคทลายเขตอาคมได ถึงตอนนั้นผูใดจะไดไมแปดวิญญาณไป ก็
แลวแตความสามารถของแตละคนแลว’ อิ๋นเยวถอนหายใจออกมาขณะเอย
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา ไมไดกลาวอะไรอีก เพราะวาตอนนี้นักปราชญชุดขาว
รวบรวมพลังลมปราณขึ้นแลว แลวเอยกับคนอื่นดวยเสียงอันดังวา
“เหลาสหาย ในเมื่อสหายหานผูนี้มาถึงแลว พวกเราก็นาจะมั่นใจเพิ่มขึ้นวาจะ
ทลายเขตอาคมโบราณนี้ไดอีกหลายสวน ขอ ตกลงก อนหน าคงมี ผลต อสหายหาน
เชนกันสินะ”
“เหอะ! อาศัยเพียงพวกเราก็เพียงพอจะทลายเขตอาคมแลว เหตุใดตองเพิ่มใคร
เขาไปดวย จัดการเขาเสียก็จบแลว” ชายหนุมแซสวีสงเสียงเหอะอยางเย็นชาออกมา
“จัดการ? พี่สวีลอเลนหรือ ถาหากพี่สวีลงมือได ขานอยก็ไมมีขอคิดเห็นอะไร
และยิ่งไปกวานั้นผนึกดานนอกก็กำลังออนแอ ทานคิดวาพวกเรายังชักชาไดอีกหรือ?”
นักปราชญชุดขาวมีสีหนาเครงขรึม พลางเอยดวยสีหนาทะมึนทึบ
“มันก็จริง ชิงเสวียนจื่อของสำนักมหาเอกมาถึงดานนอกแลว นอกจากนี้ไดยินวา
อรหันตชีเมี่ยวของพรรคมารสวรรคก็มาที่นี่จริงๆ มากสุดพวกเราคงมีเวลาชิงสมบัติอีก
วันเดียวเทานั้น มิเชนนั้นถึงตอนนั้น เมื่อคนของสำนักมารธรรมะอันดับหนึ่งมาถึง เจา
คิดวาพวกเราจะไดไมแปดวิญญาณหรือ?” ฮูหยินมูปดปอยผมที่ปรกลงมาใบหนา คาด
ไมถึงวาจะเอยเชนนี้ออกมา
สำนักมหาเอก! พรรคมารสวรรค!
นอกจากปศาจสามตนแลว ผูบำเพ็ญ เพียรทั้งหมดรวมทั้งหานลี่ตางก็ตกตะลึง
โดยเฉพาะอาวุโสของตระกูลเยี่ย ยิ่งมีสีหนาที่ซีดขาวกวาผูอื่นสองสามสวน
ชายหนุมแซสวีและหลินอิ๋นผิงมองสบตากันแวบหนึ่ง สีหนาก็ไมไดดูดีเทาไหรนัก
ถึงแมวาวิหารศักดิ์สิทธิ์เทียนหลานและพรรคมารสวรรคจะเคยมีความสัมพันธอันดีตอ
กัน แตก็ไมคิดวาอีกฝายจะแบงสมบัติในภูเขาคุนอูนี้กับพวกเขาอยางยุติธรรมอยูดี
“เอาละ ใหเขาเขารวมการทลายเขตอาคมเถิด หากทลายเขตอาคมได ผูใดจะได
สมบัติสะทานฟาไป ก็แลวแตความสามารถก็แลวกัน!” ชายหนุมแซสวีคูควรกับที่เปน
ผูบำเพ็ญเพียรผูยิ่งใหญ เขาตัดสินใจไดในทันที
คนอื่นๆ และยักษปกเงินตางก็มีแผนการชั่วราย แตก็ไมมีผูใดปฏิเสธเรื่องนี้
หานลี่เห็นเชนนั้น พลันหยักมุมปากขึ้น ทันใดนั้นพลันสะบัดมือ กระบี่บินสีทอง
สิบกวาเลมพุงออกไป โจมตีไปยังหุนเชิดศิลาที่อยูดานลางโดยไมปริปากใดๆ คนอื่นๆ
ก็ทยอยกันทำการโจมตีเขตอาคมนี้อีกครั้งอยางไมรอชา
เหลาหุนเชิดแตเดิมที่หยุดการเคลื่อนไหวอยูดานลาง ฉับพลันนั้นก็กลับมามีชีวิต
อีกครั้ง โบกสะบัดมีดสีทองโจมตีไปกลางอากาศอยางไมยอมเผยความออนแอออกมา
แมแตนอย
ชั่วขณะนั้นมีดลำแสงพลันลอยพาดผานไปมา เสียงอึกทึกดังขึ้น!
ตอนที่ 1036 ทลายเขตอาคากับหลุดจากการจองจำ
ในตอนที่ทุกคนกำลังรวมมือกันโจมตีเขตอาคมรอบๆ วิหารนั้น ผูใดก็ไมไดสนใจ
วาผูบำเพ็ญเพียรหญิงทั้งสองของพรรคแปลงเซียนจะกำลังแอบซุบซิบกันอยู
“ศิ ษ ย พี่ ห ญิ ง จะช ว ยพวกเขาทลายเขตอาคมจริ ง ๆ หรื อ ? ในวิ ห ารนั่ น ไม ใช
สถานที่ที่ใชผนึกบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณที่ผูเฒาเซี่ยงพูดถึงหรอกหรือ! มิเชนนั้น
ไมแปดวิญญาณจะมาปรากฏตัวที่นี่ไดอยางไร!”
สตรีผูงดงามถายทอดเสียงไปหาฮูหยินมูอยางเงียบๆ ทาทางกังวลเปนอยางมาก
“ศิ ษ ย น อ งหญิ งโปรดวางใจ ที่ นี่ ไม ใช ส ถานที่ ผ นึ ก มารตนนั้ น อย างแน น อน มิ
เชนนั้นตราประทับมังกรแปลงคงมีปฏิกิริยาตอบรับตั้งนานแลว สวนที่ขาจะทลายเขต
อาคมนั้นไมใชเพราะไมแปดวิญญาณทั้งหมด แตเพราะจะควบคุมแกนกลางเขตอาคม
ตองหามในภูเขาคุนอูทั้งหมด เมื่ออยูที่ชั้นเกาของปอมปราการมาร หากอยากคิดจะ
เพิ่ ม ผนึ ก ให แ ข็ ง แกร ง อี ก ครั้ ง นอกจากตราประทั บ มั ง กรแปลงแล ว พวกเราก็
จำเปนตองสำแดงตอนที่อยูในชั้นสุดทาย แตเจาดูรอบๆ สิ มีทางเขาที่ไหนกัน สถานที่
เดียวที่นาสงสัยก็คือวิหารแหงนี้เทานั้น มีโอกาสเปนไปไดแปดเกาสวนที่ทางเขาจะอยู
ในวิหารแหงนี้ ไมแนวาไมแปดวิญญาณและเขตอาคมนี้จะใชผนึกทางเขาของชั้นเกา
อยู เรื่องนี้ไมไดบอกศิษยนองหญิงใหละเอียดตั้งแตแรก มินาเลาศิษยนองหญิงถึงได
กังวลมากเชนนี้” ฮูหยินมูกลับตอบกลับอยางมีแผนการ
“เปนเชนนี้นี่เอง ขาก็วาเหตุใดศิษยพี่หญิ งถึงไดไมเพิ่มความแข็งแกรงของเขต
อาคมสักที กลับลากขามาที่นี่โดยไมกลาวอะไรสักคำ แตไมแปดวิญญาณชิ้นนี้ พวก
เรา…” สตรีผูงดงามเอยอยางถึงบางออ
“จะวาไปแลวไมแปดวิญญาณก็คือสมบัติที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษพรรค
แปลงเซียนของพวกเรา เราสองคนเก็บมันไวก็สมเหตุสมผลแลว” ฮูหยินมูไมรอใหสตรี
ผูงดงามพูดจบ ก็ชิงเอยขึ้น
“มันก็จริง แตเกรงวาเราสองคนจะแยงชิงสมบัติมาไดยาก” สตรีผูงดงามมองไป
ยังฮูหยินมู ผูบำเพ็ญเพียรรอบๆ ดาน และยักษปกเงินแวบหนึ่ง พลางตอบกลับอยาง
ลังเลเล็กนอย
“มันก็ไมแน อยาลืมละ ไมสี่คชสารในมือเจาถูกหลอมขึ้นจากการลอกเลียนแบบ
ของไมแปดวิญญาณ อีกเดี๋ยวตอนที่เราแยงชิงสมบัติ เจาก็กระตุนไมดามนี้เสีย ไมแน
วาอาจจะมีประสิทธิภาพที่มหัศจรรยก็เปนได และยิ่งไปกวานั้นตอใหพวกเรารับมือไม
ไหว อยาลืมละ ผูเฒาเซี่ยงจะตามมาทันไดตลอดเวลา ถึงเวลานั้นไมวาสมบัติสะทาน
ฟาชิ้นนี้จะตกอยูในมือผูใด ก็ตองยอมมอบใหแตโดยดี จากตนกำเนิดของผูเฒาอยาง
เขาและพรรคแปลงเซียนของพวกเรา หากขอรองดู ตอให ไมสามารถมอบไมแปด
วิญญาณใหพวกเราได ประโยชนอ่ืนๆ ก็ตองมอบใหไมนอยแน” คำพูดของฮูหยินมู
เผยแววเจาเลหออกมาา
“มันก็จริง! ทวา เราถูกสงตัวมาในหองนี้ แลวเขตอาคมสีดำนั่นสงตัวไปที่ไหนกัน?
จะใช ส ถานที่ ที่ ใ ช ผ นึ ก มารโบราณหรื อ ไม ? น า เสี ย ดายที่ เขตอาคมส ง ตั ว นั้ น ไร
ประสิทธิภาพแลว มิเชนนั้น ไปดูกอนสักหนอยก็ดี” สตรีผูงดงามนึกถึงอีกเรื่องขึ้นมา
ได พลางเอยถามดวยความกังวล
“ผูใดจะรูละ? อาจจะใชกระมัง คัมภีรในพรรคของพวกเราก็ไมไดเอยถึงเรื่องมาร
โบราณที่ถูกผนึกไวอยางละเอียดนัก” ฮูหยินมูพลันตกตะลึง ทำไดเพียงตอบกลับไป
เชนนี้
......
ในตอนที่สตรีทั้งสองกำลังซุบซิบกันนั้น กลับไมรูวาใกลๆ กันในสถานที่ที่มืดสนิทอีก
แหงหนึ่ง บรรพชนมารโบราณที่พวกนางกลาวถึงในเวลานี้กำลังถูกผนึกรัดพันอยาง
แนนหนา
ยุทธภัณ ฑมารหาชิ้น กระจกหมึก ดอกบัวหยก วงแหวนกลม คันธนู ขวดสีดำ
ลอยอยูกลางอากาศตรงศีรษะของหมาปายักษสองหัว ในเวลาเดียวกันก็พนเสาลำแสง
สีดำสายแลวสายเลาลงมาดานลาง จมหายเขาไปในรางมหึมาของหมาปาสีเงิน ทำให
ผิวของหมาปายักษมีลำแสงมารปรากฏขึ้นชั้นหนึ่ง ยันตและโซสายแลวสายเลาบน
เรือนรางถูกผลักออกจากรางกายออกไปสองสามฉื่อ
ดวยเหตุน้ียันตวิเศษและโซสีดำเองก็สวางวาบไมหยุด ดูเหมือนวาเขตอาคมจะถูก
กระตุน
แตสิ่งที่ทำใหผูคนตกตะลึงที่สุดกลับไมใชสิ่งนี้ แตเปนกระจกทองสัมฤทธิ์สีเหลือง
ที่อยูรอบๆ ดาน เวลานี้พวกมันพลันเปลงเสียงเพรียกออกมาพรอมกัน พนเสาลำแสง
สีเหลืองที่หนากวากอนหนาสองสามเทาออกมา ทำใหกรงขังที่สรางขึ้นแข็งแกรงขึ้น
ราวกับไมอาจทำลายได
มารโบราณสองหัวสี่แขนกำลังอยูกลางอากาศ สี่มือรายอาคมกระตุนยุทธภัณฑ
โบราณหาชิ้น ใบหนาทั้งสองเผยสีหนาเครงขรึมออกมา จับตามองหัวหมาปาสีเงินที่
ลอยอยูกลางอากาศ
เขตอาคมสงตัวสีดำใตรางของเขา ถูกลำแสงสีเทาชั้นหนึ่งที่เกิดจากเขตอาคมหอหุม
เอาไว ทำใหเขตอาคมนี้หยุดสงตัวชั่วคราว เพื่อไมใหผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ บุกเขามา
เวลานี้ หัวหมาปาสีเงินและดำตางมีรางแปลงมารปรากฏออกมานอกราง ไมเพียง
เขาเดี่ยวที่ขยายใหญขึ้นหลายเทา ดานบนยังมีประจุไฟฟาสีดำสวางวาบไมหยุด เสียง
ฟารองดังอึกทึก และในแววตาของหัวหมาปาทั้งสอง ก็มีเปลวเพลิงมารสีมวงที่เจิดจา
จนแสบตาเปลงประกายอยู ยันตวิเศษที่ถูกสายตาคูนี้จับจอง คาดไมถึงวาจะทยอยกัน
เผาไหมอยางแปลกประหลาด กลายเปนจุณ
หลังจากที่ยุทธภัณฑมารทั้งหาชิ้นผานการกระตุนดวยไอมาร ในที่สุดวิญญาณ
แยกบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ของมารโบราณผูนี้ก็สะสมไอมารไดเพียงพอ และเริ่มสำแดง
การขัดขืนออกจากการจองจำ
เวลาคอยๆ ไหลผานไป ในที่สุดหัวหมาปาสีดำก็ทำใหยันตวิเศษแผนสุดทายที่อยู
ใกลๆ หายไป ปากก็เปลงเสียงคำรามต่ำๆ ออกมา รางกายที่แตเดิมดูนาตกตะลึง คาด
ไมถึงวาจะขยายใหญขึ้นอีกครั้งทามกลางลำแสงสีดำที่สวางวาบ ดูราวกับจะแปลงกาย
กลายเปนเทพผูสรางโลก ทำใหทั่วทุกพื้นที่อัดแนนไปดวยพลังวิญญาณ
เสาลำแสงสีเหลืองที่รวมตัวกันกลายเปนกรงขัง ทำไดเพียงฝนควบคุมหมาปา
ยักษเอาไวไดชั่วครูก็ถูกทลายออก กระจกสัมฤทธิ์จำนวนนับไมถวนระเบิดออกพรอม
กันดวยเหตุนี้ กลายเปนสะเก็ดดาวกระจายอยูทั่ว และสลายหายไปอยางไรรองรอย
แตโซดวงดาวที่ดูไมสะดุดตานั้น กลับเปลงแสงสวางวาบ คาดไมถึงวาจะขยายใหญขึ้น
ตามรางของหมาปายักษ ยังคงรัดรางของหมาปายักษเอาไวแนน ไมยอมผอนปรนแม
เพียงชั่วครู และยิ่งไปกวานั้นยังดูเหมือนวายิ่งหมาปายักษดิ้นรน บนผิวของโซหนาๆ
เหลานั้นก็มีเพลิงสีขาวบริสุทธิ์ชั้นหนึ่งปรากฏขึ้น
กลิ่นไหมของเนื้อหนังตลบอบอวลไปทั่วทุกสารทิศ เปลวเพลิงสีขาวคาดไมถึงวา
จะไมสนใจลำแสงมารที่ปกปองเรือนรางของหมาปายักษ เผาไหมขนของหมาปาสีขาว
ตัวนั้น หัวหมาปาสีดำเผยสีหนาเจ็บปวดอยางสุดๆ ออกมา เพลิงชนิดนี้ดูเหมือนวาจะ
ไมธรรมดาจริงๆ
มารโบราณที่ อ ยู ด า นล า งเห็ น เปลวเพลิ ง สี ข าวบริ สุ ท ธิ์ ใบหน า ก็ เผยสี ห น า
หวาดกลัวออกมา ปากก็เอยพึมพำดวยน้ำเสียงแผวเบาวา
“เพลิงกระดูกขาวตะวันพิสุทธิ์! คิดไมถึงวาผูบำเพ็ญ เพี ยรโบราณเหลานี้จะนำ
เพลิงปศาจชนิดนี้ผสมเขาไปในโซ ยุงยากจริงๆ”
แตในตอนนั้นเอง หัวหมาปาสีดำก็สะบัดหัวใหญยักษ เสียงสนั่นพลันดังขึ้น ประจุ
ไฟฟาสีดำสนิทบนเขากลายเปนกอนสายฟาลอยขึ้นไปบนทองฟา แตทันใดนั้นก็ระเบิด
ออกอีกครั้ง
ประจุไฟฟาสีดำจำนวนนับไมถวนพลันหอหุมทองฟาเอาไว แฃะโจมตีไปยังโซสีดำ
ทั้งหมด
ชั่วพริบตานั้น เปลวเพลิงสีขาวและประจุไฟฟาสีดำพลันพัวพันเขาดวยกัน ราวกับ
วาอสรพิษประหลาดสองตัวกำลังกอดรัดฟดเหวี่ยงกันอยูอยางไรอยางนั้น เสียงอึกทึก
ดังขึ้นไมหยุด!
หั ว หมาป า สี ด ำไม ย อมรามื อ เปลวเพลิ ง สี ม ว งในแววตาขยายใหญ ขึ้ น เสี ย ง
บริกรรมคาถาทุมต่ำดังออกมาจากปาก ลำแสงสีดำสนิทกลุมหนึ่งขยายออกไปรอบๆ
ดานกลายเปนคลื่นสีดำสนิท ทุกแหงที่คลื่นซัดสาดผานไป เขตอาคมนิรนามที่อยูไกล
ออกไปก็ถูกกวาดลางจนเกลี้ยง อานุภาพนาตกตะลึงเหลือคณา
มารโบราณที่อยูดานลางเห็นฉากนั้น ก็เผยสีหนาดีอกดีใจออกมา
ดูแลวถึงแมวาจิตวิญญาณแยกของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ผูนี้จะถูกกักมาหลายป แต
ความสามารถก็ไมไดมลายหายไป ไมตองรอนานนักก็คงหนีออกมาไดแลว
......
ตรงผนึกรอยแยกของภูเขาคุนอู เงารางคนพลิ้วไหวแวบไปมา แตผบู ำเพ็ญเพียรที่
รวมตัวกันอยูนั้นก็ไมไดมากขึ้นสักเทาไหร เทียบกับผูบำเพ็ญเพียรนับพันคนกอนหนา
แลว คาดไมถึงวาจะมีเพียงสองสามรอยคนเทานั้น ลดนอยลงไปกวาครึ่ง
แตเสวียนชิงจื่อที่นั่งสมาธิอยูเบื้องหนาทางเขาก็ไมไดมีสีหนาผอนคลายลง กลับ
ยิ่งเครงขรึมขึ้นเรื่อยๆ
เพราะวาผูบำเพ็ญเพียรกวาครึ่งในจำนวนสองสามรอยคนนี้อยูในระดับหลอมรวม
ขึ้นไป แมกระทั่งหนึ่งในนั้นยังมีระดับกอกำเนิดอีกมากกวาสิบคน
ถาหากไมใชเพราะสำนักมหาเอกมีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญมาก และเสวียนชิงจื่อเปนผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย เกรงวาในบรรดาคนเหลานี้ คงมีคนทนไมไหว
บุกเขาไปในผนึกรอยแยกนั้นตั้งนานแลว
แตตอ ให เป นเชน นั้ น เดาวาอาวุโสของสำนั กมหาเอกผูนี้ ก็ไม มี ท างต านทานผู
บำเพ็ญเพียรทั้งหมดไดนานนัก ถึงอยางไรเสียในบรรดาหลาผูบำเพ็ญเพียรในตอนนี้ ก็
มีอาวุโสของพรรคใหญๆ อยูไมนอย ขุมอำนาจเหลานี้แมแตสำนักมหาเอกเองก็ไมกลา
ลวงเกินงายๆ
“สหายเสวียนชิงจื่อ เจาคิดจะใหพวกเรารออีกนานแคไหนกัน! ขานอยไมไดมา
ที่นี่เพื่อเสียเวลาไปเปลาๆ นะ” ในที่สุดทามกลางฝูงชนก็มีคนอดไมไหว ชายชราหนา
แดงก่ ำคนหนึ่ งเดิ น ออกมา คาดไม ถึ งวาจะเป น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ ก อ กำเนิ ด ขั้ น
กลางคนหนึ่ง
“สหายหลัว อาตมาไมไดบอกหรือ? รอยแยกเบื้องหนาไมอาจขามผานไปได การ
ที่ขานอยขัดขวางทานนั้น ก็เพราะไมอยากใหสหายเขาไปตายเปลาก็เทานั้น”
เสวียนชิงจื่อถอนหายใจออกมาในใจ แตยังพูดตาปริบๆ สีหนาราบเรียบเปนพิเศษ
“แตทำไมขากลับไดยินวา กอนหนานี้ผูบำเพ็ญเพียรของพรรคตาขายทมิฬและ
พรรคแปลงเซียนไดเขาไปแลว นี่มันมีเหตุผลตรงไหนกัน?”
ผูเฒาแซหลัวเอยถามอยางไมพอใจ
“นั่ น ก็ เพราะว า ฮู ห ยิ น มู แ ละพี่ เฉี ย นมี ก ระสวยตะวั น จั น ทราและนกยู ง แรด
วิญญาณคอยเปดทาง จึงลองเสี่ยงเขาไปแลว ถาหากพี่หลัวเองก็มีหนึ่งในสามกระสวย
วิญญาณที่ยิ่งใหญ อาตมาจะไมมีทางขัดขวางแน ความจริงแลวขอแคอดทนรออีกสัก
สองสามวัน รอยแยกแหงนี้ก็จะฟนฟูกลับมาเปนดังเดิมแลว” เสวียนชิงจื่อเอยอยาง
ราบเรียบ
“รออีกสั กสองสามวัน เกรงวาสมบั ติด านในคงถู กพวกมารเฒ าเฉี ย นกวาดไป
หมดแลว!” เสียงที่ไมคอยพอใจนักพลันดังออกมา จากนั้นเงารางของคนผูหนึ่งที่มี
หมอกสีเขียวปกคลุมทั่วเรือนราง พลันลอยขึ้นและเดินออกมาจากฝูงชน
“ที่แทสหายอวี่ของผามรกตก็มาที่นี่ดวย” เสวียนชิงชื่อเห็นเงารางของคนผูนั้น ก็
อดที่จะขมวดคิ้วไมได ถึงแมวาคนผูนี้จะไมใชผูบำเพ็ญเพียรของพรรคที่ยิ่งใหญอะไร
แตเคล็ดวิชาพิษของเขาก็มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งตาจิ้น เปนผูที่เขาเองก็ไมอยากปวดหัวเขา
ไปยุงดวยงายๆ
จะวาไปแลว ความจริงแลวในใจของเขาก็ไมไดรูสึกสนใจความเปนตายของคน
เหลานั้นเลยสักนิด ตอใหทั้งหมดไปตายในผนึกรอยแยกนั้น เขาก็ไมมีทางแมแตจะ
ขมวดคิ้วเพียงเล็กนอย
แตขาวลับที่ไดรับมากอนหนา บอกวาผูที่เปดผนึกนาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ย
และในตอนที่เขากำลังขบคิดวาตระกูลเยี่ยมีแผนการชั่วรายอะไรนั้น ก็ไดรับคำสั่งลับๆ
มาจากภายในสำนักทันทีวาจะตองรวมมือกับอรหันตชีเมี่ยวแหงพรรคมารสวรรคเพื่อ
เขาไปในนั้น และกอนออกเดินทางก็จำตองขัดขวางไมใหผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นเขาไป
ฐานะของผูที่ออกคำสั่ง เปนผูที่มีฐานะพิเศษที่สุดภายในสำนักมหาเอก แมแตเขา
เองก็ไมกลาตอตานแมเพียงเล็กนอย มิเชนนั้ นจากฐานะของเขาจะทำเรื่องที่ไมได
ประโยชนเชนนี้ไดอยางไร
ทวาในเมื่อคำสั่งนั้นไดสั่งใหผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายสองคนอยาง
พวกเขารวมมือกัน ถึงจะเขาไปในผนึกรอยแยกได เห็นไดชัดวาของที่อยูในผนึกรอย
แยกแหงนี้ไมธรรมดา
ดังคาด กอนหนานั้นไมนานเขาไดจดหมายมาอีกฉบับ เนื้อหาดานในคาดไมถึงวา
จะเกี่ยวของกับผนึกแหงนี้ นี่จึงทำใหผูเฒาอานแลว รูสึกตกตะลึงยิ่งนัก อดที่จะรูสึก
เสียใจในภายหลังกับเรื่องที่มารเฒาเฉียนและพวกเขาไปกอนหนาไมได
เวลานี้แนนอนวายิ่งไมกลาปลอยผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นเขาไปในรอยแยก มิเชนนั้น
หากผูบำเพ็ญเพียรจำนวนมากบุกเขาไปเชนนี้ จะตองเกิดเรื่องใหญอยางแนนอน ถา
ปลอยผูท่ีถูกผนึกเอาไวออกมา แดมนุษยแหงนี้จะมีผูใดเปนคูมือได? และยิ่งไปกวานั้น
ในนั้นคาดไมถึงวาจะมีสมบัติสะทานฟา แนนอนวายิ่งไมอาจใหผูอื่นเขาไป
ตอนที่ 1037 แหวนกักมาร หุบเขาวิญญาณน้ำแข็ง
เสวียนชิงจื่อคิดไดเชนนั้น ก็กระแอมไอแหงๆ ออกมาสองสามครั้ง ตอนที่กำลัง
คิดจะเอยอะไรปลอบใจทั้งสองที่อยูเบื้องหนานั้น เสียงที่เย็นชาเสียงหนึ่งกลับลอยมา
“ทำไม พรรคมารสวรรคของพวกเราและสำนักมหาเอกไมอนุญาตใหผูใดเขาไป
เหลาสหายก็คิดจะบุกเขาไปเชนนั้นหรือ?”
เมื่อเอยจบ อาวุโสแซหลัวพลันหนาเปลี่ยนสี จากนั้นก็มีลำแสงสีดำสนิทสายหนึ่ง
พุงออกมาจากจุดที่ไกลออกไป ชั่วพริบตาก็มาอยูเบื้องหนาของคนเหลานั้น
หลังจากที่ลำแสงสายนั้นหมนแสงลง นักกวีวัยกลางคนที่จมูกเหมือนกับจะงอย
ปากเหยี่ยว สวมชุดจีนสีดำก็ปรากฏขึ้น
เมื่อคนผูนี้ปรากฏกาย สายตาก็กวาดไปที่ชายชราแซหลัวและผูบำเพ็ญเพียรที่อยู
ทามกลางหมอกสีเขียว พลันขมวดคิ้วมุนสีหนาเต็มไปดวยความโหดเหี้ยม
“อรหันตชีเมี่ยว!” ชั่วขณะที่ชายชราแซห ลัวจำนั กกวีผูนั้ น ได ก็อดที่ จะสูดลม
หายใจอันเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่งไมได
ไมไดกลาวกันวาอรหันตชีเมี่ยวผูนี้มีความสามารถเหนือกวาเสวียนชิงจื่อหรือ ขั้นตอน
การจัดการศัตรูก็โหดเหี้ยมเด็ดขาดสมกับเปน อาวุโสผูคุมกฎของพรรคมารสวรรค
ฉายาผูโหดเหี้ยมแหงพรรคสายมารก็โดงดังไปทั้งตาจิ้น ถึงแมวาชายชราแซหลัวจะ
เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลาง แตก็ไมยอมทำใหอีกฝายโกรธาเปนแน
“สหายชีเมี่ยวลอเลนแลว ในเมื่อพรรคของขาและสำนักมหาเอกจะเอาจริงเอาจัง
ขนาดนี้ ดูแลวรอยแยกในตอนนี้คงอันตรายจริงๆ ตาเฒาจะเสียเวลาอีกสองสามวัน ก็
ไม เป น ไร” ชายชราแซ ห ลั ว เปล ง เสี ย งหั ว เราะออกมา พลางถอยกรู ด กลั บ ไปอยู
ทามกลางฝูงชน
ผูบำเพ็ญเพียรที่อยูทามกลางหมอกสีเขียวก็หันกายจากไปโดยไมกลาวคำพูดใดๆ
แตผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ที่อยูรอบๆ ยิ่งเห็นสำนักอันดับหนึ่งของพรรคสายมาร
และธรรมะรวมมือกัน กลับยิ่งเกิดเสียงอื้ออึงขึ้น
ตอนนี้ตอใหเปนคนที่โงเขลาก็ยังรูวาของที่อยูดานหลังผนึกรอยแยกแหงนี้นั้นไม
ธรรมดา มิเชนนั้นสองสำนักผูยิ่งใหญจะทำทาทีแข็งกราวเชนนี้ไดอยางไร
ทวาขุ ม อำนาจที่ แ ข็ งแกรงสองสำนั ก ร วมมื อ กั น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รสั น โดษและผู
บำเพ็ญเพียรจากสำนักเล็กๆ ก็ไดแตโกรธขึงแตไมกลาเอยปากใดๆ ผูบำเพ็ญเพียรจาก
สำนักที่คอนขางใหญเหลานั้น ก็ไมกลาออกหนาเชนกัน
เวลานี้ ผูบำเพ็ญเพียรของพรรคมารสวรรคเจ็ดแปดคนก็บินเขามาจากจุดที่ไกล
ออกไป คาดไมถึงวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรสายมารระดับกอกำเนิด
หลังจากที่พวกเขามาถึงที่นี่ ก็ทยอยกันควักธงและจานอาคมออกมาโดยไมเปลง
คำพูดใดๆ ชั่วพริบตาก็วางเขตอาคมตองหามขึ้นเขตหนึ่ง กลายเปนหมอกสีขาวโพลน
ปดทางเขาของผนึกรอยแยกเอาไว เสวียนชิงจื่อและอรหันตชีเมี่ยวหันกายเดินเขาไป
ในเขตอาคม และหายไปอยางไรรองรอย
เวลานี้ ผูบำเพ็ญเพียรจากสำนักนอยใหญที่แตเดิมอยากรูวาจะไดผลประโยชน
อะไรหรือไมนั้น ก็อดที่จะมองสบตากันไมได
เสวียนชิงจื่อเดินเขามาอยูตรงใจกลางของเขตอาคม พนลมหายใจออกมาเบาๆ
หยุดชะงักฝเทาแลวหัวเราะกับอรหันตชีเมี่ยวเบาๆ
“พี่ชีเมี่ยว ทานมาไวกวาที่อาตมาคิดไวมาก ทวาก็โชคดีแลว มิเชนนั้นอาตมาคง
ไมอาจขัดขวางสหายรวมวิถีเอาไวได มีเพียงชื่อเสียงที่ยิ่งใหญของสหายเทานั้น ถึงจะ
ทำใหพวกเขาหวาดกลัวได”
“สหายจะบอกวาชื่อเสียงของขานอยฉาวโฉสินะ!” นักกวีวัยกลางคนไดฟง กลับ
ตอบกลับดวยรอยยิ้มเย็นเยียบ
“ฮาๆ อาตมาจะไปคิดอยางนั้นไดอยางไร” เสวียนชิงจื่อหัวเราะแหงๆ ออกมา
“เอาละ ไมตองพูดอะไรแลว ครั้งนี้ เจาและขาตางก็ไดรับคำสั่งจึงจำใจตองมา
เมื่อครูขาไดยินสหายกลาวจากที่ไกลๆ วาคนของพรรคตาขายทมิฬไดเขาไปแลว ผูที่
เขาไปเหลานั้น หรือวามารเฒาเฉียนก็มา! มิเชนนั้น สหายจะปลอยพวกเขาเขาไปได
อยางไร” นักกวีขมวดคิ้วขณะเอย
“ตอนที่ขามาถึงที่นี่ มารเฒาเฉียนและผูบำเพ็ญเพียรสันโดษสองสามคนก็ไดเขา
ไปในผนึกแลว จากนั้นพรรคตาขายทมิฬและคนของทุงหญาเทียนหลานก็เขาไป หนึ่ง
ในนั้นมีปรมาจารยผูยิ่งใหญจากทุงหญาเทียนหลานดวย ตอนนั้นขาไมรูวาผนึกแหงนี้มี
สมบัติล้ำคามากมาย จึงไมไดขัดขวางพวกเขาเทาไรนัก” เสวียนชิงจื่อเองกมสีหนา
เครงขรึม ไมรูวาเขาสะเพราหรือไม แตเขาก็ไมไดเอยถึงเรื่องของสองสตรีจากพรรค
แปลงเซียนออกมา
“เหอะ คิดไมถึงวาตระกูลเยี่ยจะใชกลยุทธสงเสียงบูรพาฝาตีประจิม เบื้องหนาก็
ใชของลอกเลียนแบบสมบัติสะทานฟาชิ้นหนึ่ง ดึงดูดความสนใจของสองสำนักอยาง
พวกเราเอาไว เบื้องหลังก็คิดจะฮุบสมบัติสะทานฟาของจริงอยาลับๆ ถาหากไมใช
เพราะพวกเราเคยสงสายลับเขาไปอยูในตระกูลเยี่ยตั้งนานแลว เกรงวาถึงตอนนั้นก็
ยังคงงมโขงกันอยู” อรหันตชีเมี่ยวเอยอยางโหดเหี้ยม
“แตสิ่งที่นาเสียดายก็คือ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของตระกูลเยี่ยนั้นรอบคอบมาก
ถึงแมวาสายลับจะรูขาวนี้ตั้งนานแลว แตกลับไมมีทางสงออกมากอนได และทำได
เพียงทลายเขตอาคมของพวกมัน ถึงไดถือสบโอกาสหนีออกมาได มิเชนนั้นคงไดขาว
ตั้งนานแลว ไมมีปลอยใหพวกเขาไดทลายผนึกนี้หรอก สมบั ติสะทานฟ านั้นล้ำคา
จริงๆ แตถาหากปลอยบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณออกมา นั่นจะเปนเรื่องที่ไมคุมคา
เลย มารเฒ าเฉียนเขาไปนานขนาดนี้ อาจจะหาสถานที่ ที่ ใชผนึ กได แลวก็ เป นได ”
เสวียนชิงจื่อถอนหายใจออกมา
“มารเฒาเฉียนไมใชคนโงเขลา ไมมีทางทำเรื่องที่ไดไมคุมเสียหรอก แตขากลับไม
คอยวางใจผูบำเพ็ญเพียรของทุงหญามูหลานเหลานั้น พวกเขาไมใชผูบำเพ็ญเพียรของ
ตาจิ้น จึงไมจำเปนตองกังวลมากนัก” อรหันตชีเมี่ยวสายศีรษะขณะเอย
“ออ ขาไดยินวาพรรคของทานและวิหารศักดิ์สิทธิ์เทียนหลานมีความสัมพันธตอกัน
คิด ไม ถึ งวาสหายจะระแวดระวังพวกเขาขนาดนั้ น ” เสวีย นชิ งจื่ อ ได ยิ น ก็ หั วเราะ
ออกมาเบาๆ
“ความสั ม พั น ธอ ะไรกั น ก็ แ ค ก ารแลกเปลี่ ย นที่ มี ป ระโยชน เล็ ก น อ ยเท านั้ น ”
อรหันตชีเมี่ยวเอยอยางไมใสใจ
“ผนึ ก ของผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รโบราณ เป ด ง า ยขนาดนั้ น เสี ย ที่ ไ หนกั น ขอแค ค น
เหลานั้นทลายเขตอาคมมารโบราณ อาศัยสองสำนักอยางพวกเรา คิดดูแลวคงสกัด
พวกเขาได ถาหากปลอยรางแยกของมารโบราณออกมา มารตนนั้นถูกกักเอาไวหลาย
ป คิดดูแลวคงสูญเสียปราณแทไปไมนอย เจาและขารวมมือกัน ประกอบกับขาที่เอา
แหวนกักมาหาวงมาดวย ก็เพียงพอจะทำใหมันถูกผนึกเอาไวอีกครั้งแลว”
อรหันตชีเมี่ยวเอยอยางราบเรียบ
“แหวนกักมาร? คือสิ่งที่สืบทอดมาในแดนวิญญาณ ยุทธภัณฑโบราณที่ใชกักมาร
ปศาจโดยเฉพาะ!” เสวียนชิงจื่อไดยินชื่อนี้ ดวงตาทั้งสองพลันเปลงประกาย
“ใชแลว นี่คือสมบัติที่ใชตอกรกับมารโบราณระดับสูงโดยเฉพาะของผูบำเพ็ญ
เพียรในแดนวิญญาณ ตอใหเปนรางแยกของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณที่ถูกผนึก
เอาไว หากมีแหวนกักมารทั้งหาอยู ก็ทำไดเพียงยอมสยบใหจับแตเพียงโดยดีเทานั้น”
อรหันตชีเมี่ยวเอยอยางเย็นชา
“เชนนั้นก็ดี แตเดิมขายังกังวลวาการดำเนินการครั้งนี้จะอันตรายไปหนอยเสียอีก
คิดไมถึงวาสหายชีเมี่ยวจะเตรียมการอยางรอบคอบเชนนี้ แมแตสมบัติโบราณเชนนี้ก็
ยังหาได” เสวียนชิงจื่อเอยดวยสีหนาที่ผอนคลาย
“ขานอยมีสมบัติวิเศษเชนนี้ที่ไหนกัน แหวนกักมารทั้งหาเปนสิ่งที่ทานผูนั้นใน
พรรคของพวกเราสงมาใหพรอมคำสั่ง แตทานผูนั้นของสำนักมหาเอกของพวกเจา
ไมไดใหเจานำมาตอกรศัตรูหรือ?” นักกวีหรี่ตาลงมองชายชราแวบหนึ่งเผยสีหนาไม
เชื่อออกมา
“อาตมารีบมาอยางฉุกละหุกไปหนอย จึงไมมีเวลาเตรียมสมบัติอะไร ทวาตอนที่
ไดรับคำสั่งนั้น ขานอยไดนำกระบี่เทพสวรรคติดตัวมาดวย คิดดูแลวคงชวยสหายได
อีกแรง” เสวียนชิงจื่อหัวเราะอยางขมขื่นออกมาขณะเอย
“กระบี่เทพสวรรค? สมบัติชิ้นนี้เปนสิ่งที่ตอกรกับมารไดเหมาะสมที่สุดแลว”
นักกวีไดยินแลวพลันพยักหนา ดูคอนขางพึงพอใจ
“ทวา อาตมายังไมคอยเขาใจนัก ตอนที่ขาไดรับจดหมายจากในสำนัก คาดไมถึง
วาจะไมใหพวกเราสังหารมารโบราณตนนั้น หากไมเขาตาจน ทางที่ดีที่สุดคือผนึกมัน
ไวอีกครั้ง นี่มันมีหมายความวาอยางไร? สังหารมันเสีย ไมเปนการตัดไฟตั้งแตตนลม
หรือ!” เสวียนชิงจื่อเอยเชนนี้ออกมา
“ผูใดจะรูเลา! คำสั่งที่ขาไดมาก็มีนัยเชนนี้เชนกัน ทวาลองคิดดู ตอนนั้นเหตุใดผู
บำเพ็ญเพียรโบราณถึงไมสังหารมารตนนี้ทิ้ง ดูแลวคงมีเหตุผลอะไรที่พิเศษแน พวก
เราทำตามที่เบื้องบนสั่งเถิด” นักกวีครุนคิด พลางเอยอยางเครงขรึม
“สหายพูดถูกแลว! พวกเราไมอยากมีปญหา จะไดไมหาเรื่องอะไรใสตัวอีก พี่ชีเมี่ยว
เอารถเตาวิญญาณบินมาดวยหรือไม พวกเรารีบเขาไปกันเถิด” เสวียนชิงจื่อพยักหนา
ขณะขบคิด จากนั้นสายตาก็กวาดไปยังผนึกรอยแยกขณะเอย
นักกวีไดยินคำพูดของนักพรตก็หัวเราะหึๆ ออกมา สะบัดแขนเสื้อ ลำแสงสีดำ
สนิทกลุมหนึ่งที่หอหุมวัตถุวงรีเอาไวก็บินออกมา
หลังจากที่ของสิ่งนั้นหมุนโคจรเบื้องหนาของทั้งสองคนแลว ก็ขยายใหญขึ้นกลาง
อากาศ ชั่วพริบตาก็กลายเปนหนึ่งในรถวิญญาณขนาดสองสามจั้ง ราวกับกระดองเตา
ขนาดยักษอยางไรอยางนั้น
เสวียนชิงจื่อเห็นเชนนั้น ก็เปลงเสียงหัวเราะออกมา
ทันใดนั้นนักกวีและเสวียนชิงจื่อก็แยกกันออกคำสั่งรวบรวมเหลาผูบำเพ็ญเพียร
ทั้งสองคนก็แวบหายไปเขาในรถ
รถวิญญาณกลายเปนสายรุงสีดำสายหนึ่ง พุงเขาไปในรอยแยก
......
ภูเขาเจินหวนคือหนึ่งในสี่ชีพจรวิญญาณตาจิ้น สำนักมหาเอกผูซึ่งเลื่องชื่อวาเปน
สำนักอันดับหนึ่งของฝายธรรมะก็ตั้งอยูในชีพจรวิญญาณแหงนี้
และสำนักมหาเอกที่ไดชื่อวาเปนสำนักอันดับหนึ่งนั้น นอกจากพรรคมารสวรรค
และหุ บ เขาหมื่ น ป ศ าจที่ พ อจะเที ย บเคี ย งกั บ เขาได แ ล ว ทั้ ง ต า จิ้ น ก็ ไ ม มี ผู ใ ดที่
เทียบเทียมได ดังนั้นภายในระยะแสนลี้ของภูเขาเจินหวน ภูเขาวิญญาณนอยใหญนับ
พันลูกตางก็ถูกผูบำเพ็ญเพียรของสำนักมหาเอกควบคุมเอาไว
แตหุบเขาวิญญาณน้ำแข็งนั้นเปนหุบเขาเล็กๆ แหงหนึ่งที่ไมสะดุดตา
หุบเขาแหงนี้ไมมีสี่ฤดูเหมือนภูเขาวิญญาณอื่นๆ ที่อยูในเทือกเขา ไมเพียงมีไอ
วิญญาณที่เบาบาง และยิ่งไปกวานั้นพายุทมิฬยังโหมกระหน่ำ หนาวเหน็บจนเสียด
กระดูก ทั้งหุบเขาลวนใสแจวแวววาวตลอดทั้งปเพราะถูกน้ำแข็งชั้นหนาๆ เกาะอยู
แตผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ ก็ไมแมแตจะอยากมองสถานที่ที่เลวรายเชนนี้ ทวา
กลับเปนหนึ่งในสถานที่ตองหามที่มีผูคนรูจักนอยมากของสำนักมหาเอก
ลูกศิษยท่ัวๆ ไปไมตองพูดวาเคยมาที่หุบเขาแหงนี้ ตอใหฟงก็มีเพียงไมกี่คนที่ไดยินคน
กลาวถึงที่นี่
สถานที่ลึกลับเชนนี้ นอกจากปากทางเขาหุบเขาที่มีเขตอาคมลวงตาปกคลุมอยู
แลว ดานนอกก็ไมมีเขตอาคมตองหามเลยสักนิด และไมมีผูบำเพ็ญเพียรของสำนัก
มหาเอกใดๆ รักษาการอยูนอกหุบเขา
แตความจริงแลว หุบเขาแหงนี้ไมมีผูใดยางกรายเขามาหลายรอยปแลว ตอให
บางครั้งมีอาวุโสผูเครงครัดมาที่นี่บาง ก็ทำไดเพียงกลาวคำคารวะอยูดานนอก ไมกลา
ยางกรายเขามาขางใน
แตวันนี้ ในตอนที่อรหันตชีเมี่ยวและเสวียนชิงจื่อเขาไปในผนึกรอยแยกพรอมกันนั้น
ชายชราสวมชุดสีเทาที่สีหนาดูเจ็บปวยกลับปรากฏตัวขึ้นที่ทางเขาดวยทาทีลับๆ ลอๆ
เขามองเขตอาคมลวงตาที่ ท างเข า ดวงตาฉายแววยิ้ ม เยาะออกมา หลั ง จาก
กระแอมไอสองครั้งเบาๆ ก็กลายเปนลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพุงเขาไปในหุบเขา ราวกับ
มองไมเห็นเขตอาคมลลวงตาตรงปากทางเขาหุบเขาอยางไรอยางนั้น
ชั่วครู ลำแสงสีเขียวก็หมนแสงลงตรงสุดทายเดินของหุบเขา ชายชราเผยรางออกมา
มองไปยังกำแพงน้ำแข็งขนาดยักษเบื้องหนาดวยความเย็นชา จูๆ เขาพลันมีสี
หนาเครงขรึม เอยอยางเยือกเย็นวา
“ผี เฒ าไป ทั้ งๆ ที่ รูวาผู แ ซ ฮู ม าถึ งที่ นี่ เหตุ ใดยั งหลบอยู ในโลงไม ย อมออกมา
ตอนรับแขก!”
น้ำเสียงของชายชราไมดังนัก แตหลังจากผานไปชั่วครู ทั้งหุบเขาน้ำแข็งก็มีเสียง
อึกทึกดังสนั่นขึ้น และเสียงยังดังขึ้นอยางตอเนื่อง ราวกับฟาผาซ้ำไปซ้ำมาไมหยุด
อยางไรอยางนั้น
กำแพงน้ำแข็งเบื้องหนาสั่นคลอนไมหยุด ดูเหมือนวาจะถลมลงมาไดทุกเมื่อ
แตชายชราสวมชุดสีเทาก็ยังทำเปนมองไมเห็นสิ่งนี้ ดวงตาคูนั้นหรี่ลง ยืนอยูเบื้อง
หนากำแพงน้ำแข็งไมขยับเขยื้อน
ตอนที่ 1038 ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
ไมรูวาผานไปนานเทาไหร เสียงถอนหายใจของบุรุษก็ดังออกมาจากสวนลึกของ
กำแพงน้ำแข็ง
“สหายฮู! เจาไมไดฝกบำเพ็ญ เพียรอยูที่เนินเขามารหรือ เหตุใดถึงมาที่หุบเขา
วิญญาณน้ำแข็ง? ขาจำไมไดวาเชิญพี่ฮูมาที่นี่สักหนอย”
“เจาคิดวาขาอยากมาที่นี่หรือ ก็เพราะเรื่องของภูเขาคุนอูนะสิ” ชายชราชุดสีเทา
สงเสียงเหอะขึ้นจมูก ดูเหมือนวาจะไมสบอารมณนัก
“ภูเขาคุนอู! เรื่องนี้ไมไดมอบใหลูกศิษยใตอาณัติของเจาไปจัดการแลวหรือ? เหตุ
ใดจะตองยุงยากดวย?” คนในกำแพงน้ำแข็งตอบกลับอยางไมยินดียินราย
“งายอยางนั้นก็ดีนะสิ ขาจะวิ่งมาจากเนินเขามารทำไม เจายังไมรูสินะ ผีเฒาเซี่ยงดู
เหมือนวาจะเกิดเรื่องในภูเขาคุนอูแลว” ชายชราชุดสีเทาเอยดวยสีหนาเครงขรึม
“ผีเฒาเซี่ยง? เขาใจผิดหรือเปลา เขาคือผูที่มีความสามารถยิ่งใหญที่สุดในบรรดา
ผูเฒาที่ฆาไมตายอยางพวกเรา จะเปนอะไรไปไดอยางไร” ในที่สุดคนในกำแพงน้ำแข็ง
ก็รูสึกประหลาดใจมา
“ขาก็ไมคอยอยากจะเชื่อนัก แตตัวประหลาดเฒาเฟงสงกระบี่บินมาบอกขาวกับ
ขา เจาเองก็รูดี ตัวประหลาดเฒาเฟงและผีเฒาเซี่ยงมีความสัมพันธอันดีตอกัน เชนนั้น
จึงมีไขมุกจิตวิญญาณของกันและกัน การที่ภูเขาคุนอูมาปรากฏตัวในครั้งนี้ ผีเฒาเซี่ย
งก็อยูละแวกนั้นพอดี จึงเขาไปดูสักหนอย ผลลัพธคือหลังจากเขาไปไดไมนาน ไขมุก
จิตวิญญาณของเขาก็มืดมัวลง ถาหากไมใชรางกายไดรับบาดเจ็บหนัก ก็คงถูกกักอยู
ในเขตอาคมอะไรสักอยาง ไมวาจะอยูในสถานการณใด ผีเฒาเซี่ยงก็คงไมไดอยูดีนัก
ทางดานตัวประหลาดเฒาเฟงเองก็กำลังพบกับความยุงยาก ไมอาจมาชวยไดทัน
จึงสงจดหมายมาหวังวาพวกเราสองคนจะวิ่งไปดูสักหนอย! และกลาววาหลังจากเสร็จ
สิ้นเรื่องราวจะยอมมอบยาลูกกลอนไอโลหิตใหขาสองเม็ด เพื่อเปนการตอบแทน”
ชายชราชุดเทาเอยอยางเย็นชา
“ยาลูกกลอนไอโลหิต! ครั้งนี้ตัวประหลาดเฒาเฟงลงมืออยางใจกวางเสียจริง! มี
ยาลูกกลอนชนิดนี้ อายุขัยของเจาและขาก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกยี่สิบสามสิบป ทวา เหตุใด
ตัวประหลาดเฒาเฟงถึงรูวาผีเฒาเซี่ยงเขาไปในภูเขาคุนอูละ?” บุรุษที่อยูในกำแพง
น้ำแข็งเอยถามอยางละเอียดรอบคอบ
“ผีเฒ าเซี่ ย งนั้ น เจาเล ห เพทุ บ ายมาตั้ งแต ไหนแต ไรแล ว เวลาทำอะไรก็ มั ก จะ
หาทางหนีที่รอดใหตัวเองเอาไว ถึงจะยอมเสี่ยงอันตราย กอนที่เขาจะเขาไปในผนึก
รอยแยก ก็ไดสงกระบี่ บิ น พรอมจดหมายไปให ตัวประหลาดเฒ าเฟ ง ตอนนี้ ดูแล ว
วิธีการนี้ของเขาก็เปนการกระทำที่ถูกตองแลว อยางนอยที่สุดตอนนี้ก็มีคนจะไปชวย
เขา เปนอยางไร สหายไปไมสนใจหรือ หากพวกเราปรุงยาลูกกลอนไอโลหิตนี้ดวย
ตนเอง ก็ไมรูวาตองเสียเวลาไปอีกนานเทาไหรนะ!” ชายชราเอยชักจูง
บุรุษในกำแพงน้ำแข็งเงียบขรึมไป ไมไดตอบอะไรกลับมาในทันที
หลังจากผานไปไมรูวานานเทาไหร เขาถึงไดเปลงเสียงออกมาอยางเชื่องชาวา
“ชางเถิด เจาไปเถิด ผูแซไปไมสนใจเรื่องนี้”
“ทำไม แมแตยาลูกกลอนไอโลหิตก็ไมทำใหเจาสนใจไดหรือ?” คำตอบของบุรุษ
ในกำแพง เห็นไดชัดวาทำใหชายชราชุดสีเทารูสึกประหลาดใจเล็กนอย
“ขาอยากไดยาลูกกลอนไอโลหิตมากก็จริง แตกลัวการเดินทางในครั้งนี้มากกวา
มันจะไดไมคุมเสีย” บุรุษผูนั้นเอยดวยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“เจาหมายความวาอยางไร ตอใหมารตนนั้นหลุดพนจากพันธนาการมาไดจริงๆ
เจาและขารวมมือกันยังจะกลัวมันอีกหรือ” ชายชราเอยพรอมกับหัวเราะอยางเย็นชา
“จะวากลัวก็ไมเชิง! ตอใหมันในตอนนั้นรายกาจขนาดไหน ผานการผนึกไวตั้ง
หลายป บวกกับจิตวิญญาณฟาดินที่เปลี่ยนไป ความสามารถในตอนนี้ก็คงไมไดสูงกวา
พวกเราเทาไหรนัก ไหนเลยจะเหมือนกับสงครามในอดีตกาลได ถาหากกดขี่ได บวก
กับยอมเสี่ยงอันตราย สำแดงความสามารถขั้นหลอมสุญตาในแดนมนุษย ก็ไมใชวาจะ
เปนไปไมได”
“เชนนั้นเหตุใดถึงไมไป?” ชายชราขมวดคิ้วมุน รูสึกไมเขาใจยิ่งกวาเดิม
“ถาหากสามปกอนขาไมไดกินพุทราเพลิงพิสุทธิ์เขาไป ก็อาจจะไปกับเจา แต
เวลานี้ขากำลังใชมันทะลวงจุดคอขวดอยู ถึงแมความหวังจะไมมากนัก แตก็ไมอยาก
พลาดมันไป” คาดไมถึงวาบุรุษผูนั้นจะเอยเชนนี้ออกมา
“พุทราเพลิงพิสุทธิ์? คาดไมถึงวาเจาจะมีผลไมวิญญาณชนิดนี้ดวย หรือวาเจา...
เจากินเขาไปดิบๆ?” ชายชราชุดเทาหนาเปลี่ยนสีไปยกใหญ
“แนนอน มีเพียงเชนนี้ถึงจะใชประโยชนจากพลังวิญญาณอัคคีที่เต็มเปยมของ
พุทราลูกนี้ได!” บุรุษผูนั้นตอบกลับอยางไรความรูสึก
“คาดไมถึงวาเจาจะทำเชนนี้จริงๆ! หรือเจาไมรูวาหากไมนำพุทราเพลิงพิสุทธิ์มา
ปรุงยา ลมปราณเพลิงของมันจะรุนแรงเกินไป เพียงพอที่จะแผดเผาลมปราณในราง
ของเจา อันตรายจากมัน ตอนนั้นพวกเราก็เคยถกกันในที่ประชุมมิใชหรือ?” ชายชรา
แววตาเปลงประกาย เอยอยางเครงขรึม
“ไมตองใหพี่ฮูกลาว ขาก็รูความเสี่ยงของมันดี แตหากไมควาเอาไวสักหนอยละก็
ข า คงตายอยู ในกำแพงน้ ำ แข็ ง แห ง นี้ จ ริ ง ๆ หรื อ จะเลี ย นแบบผี เฒ า เซี่ ย งและตั ว
ประหลาดเฟง มีความสามาถยิ่งใหญแทๆ แตเพื่อไมใหสูญเสียปราณแทไป กลับจำใจ
ตองแตงกายอัปลักษณปะปนอยูในเหลาผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำ
ทั้งวันเอาแตกลัววาจะใชลมปราณเกินขนาด และปลิดชีวิตของตัวเอง!” บุรุษแซไป
เปลงคำพูดเยาะเยยออกมา
“พี่ไปพูดเกินไปแลว ที่เขาสองคนทำเชนนี้ ก็เพราะอยากตามหาเสนทางอัศจรรย
ตอนที่ผูบำเพ็ญเพียรแดนวิญญาณลงมายังโลกมนุษยในปนั้น และดูวาหากไมอยูใน
ระดับเทพแปลงขั้นปลาย จะใชเสนทางนี้บรรลุขึ้นไปยังแดนวิญ ญาณตรงๆ เลยได
หรือไม ถึงอยางไรเสียตามหลักการแลว ผูบำเพ็ญเพียรเบื้องบนกดลมปราณตัวเองลง
มาในแดนมนุษยของพวกเราได ผูบำเพ็ญเพียรจากแดนมนุษยอยางพวกเราก็อาจจะ
อาศัยเสนทางนี้คอยชวย ใชเคล็ดวิชาลับเพิ่มลมปราณชั่วคราวเขาไปในแดนวิญญาณ
ไดก็ได” ชายชราชุดเทาเอยขึ้น
“หลังจากปนั้นที่ไอวิญญาณฟาดินเปลี่ยนแปลงไป ก็มีผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
จำนวนไมนอยไปตามหาเสนทางอัศจรรยเชนกัน ไมตองพูดถึงตาจิ้น กวาครึ่งในแดน
มนุษยตางก็ถูกคนหาไปกวาครึ่งแลว หากหาพบจริงๆ คงมีเคาลางตั้งนานแลว ไหน
เลยจะใหพวกเราออกไปตามหาอีก กวาครึ่งเสนทางอัศจรรยนั้นคงไมมีอยูแลว ไมก็
ไมไดอยูบนพื้นดิน แตอยูในมหาสมุทรที่หางไกล ไมมีทางหาพบ” บุรุษที่อยูในกำแพง
หินเอยอยางไมใสใจ
“อาจจะกระมัง แตไมวาจะกลาวอยางไร นั่นก็เปนความหวังในการขึ้นไปยังแดน
วิญ ญาณของพวกเรา ก็ยังดีกวาการนั่งรอเฉยๆ” ชายชราชุดเทาเหมือนจะรูสึกวา
คำพูดของบุรุษผูนี้มีเหตุผล จึงเผยสีหนาจนปญญาออกมา
“เทียบกับเสนทางอัศจรรยแลว บรรลุระดับเทพแปลงขั้นปลายตรงๆ จะดีกวา
จากนั้นก็จะสามารถขึ้นไปยังแดนเบื้องบนไดดวยตัวเอง ตอนนั้นหากแดนมารโบราณ
ไมไดแอบวางแผน ทำใหไอวิญญาณฟาดินในแดนมนุษยอยางพวกเราเบาบางลง จาก
คุณสมบัติของพวกเรา จะหยุดอยูแคขั้นตนโดยไมขยับเลยแมเพียงนิดไดอยางไร” เมื่อ
เอยมาถึงตรงนี้บุรุษผูนี้ก็กัดฟนกรอด
“พี่ไปกลาวโทษไปก็ไมมีประโยชน หลังจากที่ผูบำเพ็ญเพียรโบราณกลุมสุดทายบรรลุ
ถึงแมวาจะไมอาจกลาวไดวาไมมีผูบำเพ็ญเพียรคนไหนฝกปรือจนไปถึงขั้นปลาย และ
บรรลุ ไปยั งแดนวิญ ญาณได อี ก แต ก็ นั บ ได ว ามี เพี ย งไม กี่ ค นเท านั้ น เที ย บกั บ สมั ย
โบราณแลวชางแตกตางกันมาก จนมาถึงชวงนี้ สถานการณดูเหมือนวาจะยิ่งเลวราย
ไปกันใหญ คาดไมถึงวาเกือบหมื่นปแลวที่ไมมีผูบำเพ็ญเพียรบรรลุได มินาละทั้งที่ตัว
ประหลาดเฒาเฟงและพวกรูวามีความหวังเพียงนอยนิด แตก็ยังฝากความหวังเอาไว
กับเสนทางอัศจรรย” ชายชราชุดเทารูสึกกลัดกลุมเชนกัน
“พวกเขาก็มีวิธีการของพวกเขา ขาก็มีเสนทางการฝกบำเพ็ญเพียรของขา เอาละ
พอแคนี้เถิด ตอนนี้พี่ฮูคงรูความหมายของผูแซไปแลว หากไมปฏิเสธตัวประหลาดเฒา
เฟงไปตรงๆ ก็ไปคนเดียวเถิด ขายังตองกักตนบำเพ็ญเพียร สงแคนี้นะ ออ จากนี้ขา
จะสงลูกศิษยไปปดผนึกหุบเขาแหงนี้ ไมหลอมพุทราเพลิงพิสุทธิ์ใหหมด จะไมยอมพบ
หนาผูใดเด็ดขาด เจาไปบอกเหลาตัวประหลาดเฒาใหหนอยก็แลวกัน!” บุรุษที่อยูใน
กำแพงน้ำแข็งกลับเอยตออีกอยางรำคาญเล็กๆ หลังจากเอยประโยคทายๆ ดวยความ
รีบรอนแลว ก็เปลงคำพูดสงแขกออกมาตรงๆ
ทันใดนั้นเสียงในกำแพงน้ำแข็งก็หายไป!
ชายชราชุดเทามีสีหนาเขียวคล้ำ หลังจากลังเลอยูหน ากำแพงน้ำแข็งชั่วครู ก็
กระทืบเทา
“เพื่อยาลูกกลอนไอโลหิตสองเม็ด ตาเฒาจะยอมเสี่ยงอันตรายดูสักครั้ง หากมี
อายุขัยรอยกวาปเปนการแลกเปลี่ยน ก็คุมคาที่จะใหขายอมเสียปราณแทดู” ชายชรา
เอยพึ ม พำจบ ลำแสงสีเขียวรอบกายพลั น สวางวาบ กลายเป น สายรุงสายหนึ่ งพุ ง
ออกไปจากหุบเขาแหงนี้
เบื้องหนาชั้นแปดของปอมปราการมารคุนอู สองมือของหานลี่กำลังรายเขตอาคม
ดวยใบหนาไรความรูสึก กระบี่บินสิบกวาเลมที่ อยูกลางอากาศเปลงเสียงรองหึ่ งๆ
พลางรวมตัวกัน จากนั้นก็กลายเปนกระบี่ยักษขนาดสองสามจั้ง ลำแสงสีทองสวาง
วาบพลางสับลงมา
หลังจากเสียง ‘ปง’ ดังสนั่นขึ้น จุดที่กระบี่ยักษสับลงไป มนุษยหินหยกขาวตัว
หนึ่งก็แหลกละเอียด
สายตาหยุดชะงักอยูที่ซากของมนุษยหิน เศษหินที่แตกละเอียดไมไดรวมตัวกัน
ดังเดิมอีกครั้ง
หานลี่พยักหนาเล็กนอย ยื่นมือออกไป กระบี่ยักษสงเสียง ‘ฟว’ แลวบินกลับมา
นี้เปนหุนเชิดหินตัวที่สี่ที่ถูกเขาทำลาย
หุนเชิดหินที่อยูตรงใจกลางเขตอาคมเหลานี้ ดูเหมือนวาจะเปนเพราะประสาน
พลังเขากันกับเขตอาคมแลวจึงเปนสิ่งที่ฆาไมตาย แตความจริงแลวหลังจากที่พวกมัน
ถูกทำลายจนแหลกละเอียดไปสองสามครั้ง ในที่สุดก็จะไมมีทางฟนฟูกลับมาไดอีก
ทวานี้ก็เปนเพราะผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายจำนวนมากลงมือโจมตี
ไมหยุดพรอมกัน มิเชนนั้นถาหากแคสองคนละก็ เกรงวาคงออกแรงจนหมด ก็ไมอาจ
ทำลายหุนเชิดมนุษยหินทั้งหมดได
สวนมีดสีทองในมือของหุนเชิดมนุษยหินนั้น ก็ไมรูวาใชวัตถุดิบอะไรหลอมขึ้น ไม
เพียงจะแหลมคมอยางหาที่เปรียบมิได ยิ่งไปกวานั้นทุกเลมยังมีความสามารถในการ
กำจัดมาร
หานลี่เห็นกับตาตัวเองวา เมื่อมีดสีทองเหลานี้ปลอยไอศาสตราออกมา ผูบำเพ็ญเพียร
ที่ฝกฝนเคล็ดวิชาสายมารสองสามคน ก็ไมกลาปลอยใหมันเขาใกลตัวแลว มิเชนนั้นไอ
มารรอบกายจะถูกทะลวงเขามา และไมมีทางตานทานได
สวนผูบำเพ็ญเพียรที่คิดจะเขาไปในเขตอาคม หุนเชิดมนุษยหินบนแทนบูชาก็จะ
ไมสนใจผูที่อยูภายนอก และใชไอศาสตราจำนวนนับไมถวนรวมตัวกันหมุนเปนวง
โคจร และโจมตีพรอมกันในเขตอาคม
เชนนั้น ไมวาผูใดก็ไมอาจตานทานการโจมตีที่โหดรายและตอเนื่องนี้ได แตเขต
อาคมนี้เปนเขตอาคมประเภทที่มีความสามารถในการโจมตีหลากหลายชนิดในเวลา
เดียวกัน หลังจากบุกทะลวงเขาไปในเขตอาคมแลวก็ไมมีทางทำลายมันไดในเวลาอัน
สั้ น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รที่ อ ยู ในนี้ ล ว นไม ใช ค นธรรมดา แน น อนว า จึ ง รู ถึ ง ความลึ ก ลั บ
มหัศจรรยของมันดี
ทันใดนั้นก็ไมมีผูใดกลาเสี่ยงออกหนาอะไรอีก ตางเอาแตตั้งหนาตั้งตาโจมตีหุน
เชิดหินที่อยูใกลตัวเอง รอจนหุนเชิดเหลานี้ห ายไปจนเกลี้ยงแลว เขตอาคมนี้ก็ถูก
ทำลายไปกวาครึ่งแลว
หลังจากที่หานลี่โจมตีหุนเชิดตรงหนาจนพังทลายแลว ก็ไมไดลงมืออีก แตขมวด
คิ้วมุนขณะกวาดมองไปรอบๆ ดาน เห็นเพียงหุนเชิดที่ยังเคลื่อนไหวบนแทนบูชาเหลือ
เพียงไมกี่ตัวเทานั้น ดูแลวการทลายเขตอาคมนี้คงใกลจะสำเร็จแลว
ตอนที่เขากำลังขบคิดเชนนั้น จูๆ ในหัวก็มีเสียงรองของอิ๋นเยวดังขึ้นอยางไมมีเคา
ลางมากอน ทันใดนั้นพลันเปลงเสียงรองคำรามต่ำๆ ออกมา ดูเหมือนวาจะปวดหัว
เปนอยางมาก
นี่จึงทำใหหานลี่ตกตะลึง อดที่จะถายทอดเสียงเอยถามไมได
‘นี่มันเรื่องอะไรกัน อิ๋นเยว มีอะไรผิดปกติหรือ?’
น้ำเสียงของหานลี่เจือแววเปนหวงเปนใยเล็กนอย
‘อยาเพิ่งรอนใจเจาคะ...ของที่อยูในวิหารดูเหมือนวาจะตื่นแลว มันใหความรูสึกที่
พิเศษมากแกขา ดูเหมือนวาจะคุนเคยยิ่งนัก ทั้งยังสำคัญอยางมาก ไม...ขาปวดหัว
เหลือเกิน…’ อิ๋นเยวฝนพูดออกมาสองสามประโยค แลวก็ทนไมไหวรองครวญคราง
ออกมา
ตอนที่ 1039 อิ๋นเยว เสวี่ยหลิง หลงเมิ่ง
หานลี่ไดยินคำพูดนี้พลันใจหายวาบ รีบรอนมองไปทางวิหารที่อยูทามกลางเขต
อาคม สิ่งปลูกสรางนี้มองจากภายนอกดูแลวเหมือนเมื่อครูอยางไรอยางนั้น ไมไดมีจุด
ที่พิเศษผิดแผกอะไร
ขณะที่กำลังรูสึกสงสัย และกำลังคิดจะถามอิ๋นเยวอีก แรงกดมหาศาลขุมหนึ่งก็
พุงออกมาจากในวิหาร จากนั้นเสียงกัมปนาทพลันดังขึ้น ลำแสงสีเหลืองสายหนึ่งพุง
ออกมาจากสวนยอด ทันใดนั้นก็กลายเปนมือยักษสีเหลือง พุงไปหาไมแปดวิญญาณ
พลางตะครุบมันเอาไว
ภาพฉากนี้ทำใหผูบำเพ็ญเพียรที่กำลังทลายเขตอาคมอยูดานนอกลวนพากันตื่น
ตะลึง บางคนถึงกับตกตะลึงจนอาปากคาง
ในตอนนั้นเอง เสียงหัวเราะอันไพเราะของจิตวิญญาณดวงหนึ่งพลันดังออกมา
จากวิหาร ทันใดนั้นใกลกับไมแปดวิญญาณก็ปรากฏเปนเกลียวคลื่นหมุนวน เงาราง
คนที่ผมเผากระเซอะเซิงคนหนึ่งพลันปรากฏขึ้น
เมื่อคนผูนี้ปรากฏตัวก็อาปากออก พนเสาลำแสงหนาเทาแขนสายหนึ่งออกมา
จากปาก หลังจากที่เปลงแสงสวางวาบราวกับฟาผาแลว มือยักษสีเหลืองขางหนึ่งก็ถูก
เสาลำแสงเสานี้ทะลุผานไปไดอยางงายดาย
เสียงกรีดรองโหยหวนพลันดังขึ้น ฝามือยักษหายลับไปอยางรวดเร็ว ทันใดนั้นเงา
รางคนที่มีลำแสงสีเหลืองหอหุมตัวเอาไวพ ลันปรากฏขึ้น และถอยกรูดไปดานลาง
อยางรีบรอน
ผูที่มีผมเผากระเซอะกระเซิงเปลงเสียงหัวเราะแผวเบาออกมา พลิ้วไหวไปมาราว
กับภูตผี คาดไมถึงวาจะพุงออกไปสิบกวาจั้งไดอยางไรก็ไมรู ชั่วพริบตาก็ไลตามมาอยู
เบื้องหนาของคนผูนั้น
ผูบำเพ็ญ เพียรที่อยูทามกลางลำแสงสีเหลืองพลันตกตะลึง อาปากพนลูกธนูสี
โลหิตดอกหนึ่งออกมา
โลหิตบริสุทธิ์นี้กลายเปนการโจมตีที่รวดเร็วอยางหาที่เปรียบไมได แตผูที่มีผมเผา
ยุงเหยิงก็แคพลิ้วไหวรางกายเล็กนอย ลูกธนูโลหิตก็ทะลุผานรางของเขาไปราวกับ
ทะลุผานเงาลวงตาอยางไรอยางนั้น สวนผูที่มีผมเผายุงเหยิงก็ดูเหมือนวาจะขยับแขน
ขางหนึ่งเพียงเล็กนอยเทานั้น
เสียงกรีดรองโหยหวนดังออกมาจากปากของผูบำเพ็ญเพียรที่อยูทามกลางลำแสง
สีเหลือ งทั น ที ทั น ใดนั้ น ไม รูวาสำแดงเคล็ ด วิช าลั บ อะไรออกมา ชั่ วครูก็ก ลายเป น
ลำแสงสีเหลืองหลายสายพุงกระจายกันออกไปทั่วทุกสารทิศ และเงารางคนพลันรวม
รางกอรางใหมขึ้นอีกแหงหนึ่งที่อยูไกลออกไป
แตแคเขาในเวลานี้ มีสีหนาซีดขาวมาก รอบกายมีคราบเลือดเปนจ้ำๆ ตรงทรวง
อกมีรอยกรงเล็บยาวๆ สองสามสาย แขนขางหนึ่งกระเด็นลอยละลิ่วออกไป ราวกับ
สุนัขจนตรอกอยางไรอยางนั้น
“ทานอาเจ็ด!”
นักพรตหญิงผูบำเพ็ญเพียรที่แตงกายดวยอาภรณของตระกูลเยี่ยคนหนึ่งซึ่งอยูนอก
เขตอาคม มองเห็นใบหนาของคนผูนี้ชัดเจน ก็รองอุทานออกมาอยางไมอยากจะเชื่อ
คนแขนขาดที่นาเวทนาผูนี้ คาดไมถึงวาจะเปนอาวุโสสูงสุดแหงตระกูลเยี่ย คน
ประหลาด เวลานี้เหลาผูบำเพ็ญเพียรของตระกูลเยี่ยพลันตกตะลึงกันไมนอย
นักปราชญสวมชุดสีขาวหนาเปลี่ยนสี
ถึ ง แม ว า หานลี่ ชายหนุ ม แซ ส วี แ ละพวกจะไม รู ฐ านะของคนประหลาด แต
หลั ง จากแผ จิ ต สั ม ผั ส ไปแล ว กลั บ สั ม ผั ส ได ถึ ง พลั ง ยุ ท ธ ร ะดั บ ก อ กำเนิ ด ขั้ น ปลาย
เชนนั้น ในใจของพวกเขาจึงตกตะลึงไมตางอะไรจากเหลาผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ย
เทาไหรนัก
หานลี่มองไปทางผูที่มีผมเผายุงเหยิงนิ่ง แตหลังจากพิจารณาเล็กนอย กลับตะลึงงัน
คนผูนี้สวมชุดสีฟา ดูจากเสื้อผาอาภรณเห็นไดชัดวาเปนผูบำเพ็ญเพียรของสำนักพิษ
ศักดิ์สิทธิ์ ถึงแมวาผมเผาจะกระเซอะกระเซิงจนมองไมเห็นใบหนาที่แทจริง แตดูจาก
รูปรางแลว กลับดูเหมือนฮัวเทียนฉีอาวุโสของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ แตเมื่อครูหากฟงไม
ผิดละก็ เห็นไดชัดวาเสียงที่เปลงออกมาจากปากของคนผูนี้คือเสียงของอิสตรีวัยเยาว
นี่มันประหลาดเกินไปแลว!
ถาหากไมใชเพราะผูบำเพ็ญเพียรที่อยู ณ ที่แหงนี้ตางก็มีความสามารถไมธรรมดา
และยิ่งไปกวานั้นเมื่อไมแปดวิญญาณมาปรากฏอยูเบื้องหนา หานลี่ก็รีบหันหลังหนี
ทันที เขามักจะหลีกเลี่ยงอันตรายนิรนามเหลานี้ไปใหไกลแสนไกลมาตั้งแตไหนแตไร
แลว
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ เองก็เห็นความแปลกประหลาดนี้ จึงทยอยกันใชสายตา
ตกตะลึงมองไปทางผูที่มีผมเผายุงเหยิงและดูลึกลับผูนั้น
คาดไมถึงวาคนผูนี้จะบีบใหผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายคนจนตรอกถึง
ขนาดนี้ หรือวาเขาคือผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง?
หลังจากที่ความคิดนี้แวบผานความคิดของทุกคน ทุกคนตางก็ตกตะลึง!
คนลึ ก ลั บ ผู นี้ เห็ น คนประหลาดโชคดี ห นี ร อดพ น ไปได ก็ หั ว เราะอย างเย็ น ชา
ออกมาแตไมไดไลตามไปอีก กลับมองไปทางผูคนที่อยูนอกเขตอาคมสองแวบ
สายตาของคนผู นี้ เย็ น เยี ย บประดุ จ คมมี ด ทุ ก คนที่ ถู ก สั ม ผั ส กั บ สายตาคู นี้ ดู
เหมือนวาจะถูกโจมตีอยางรุนแรงอยางไรอยางนั้ น ทุ กคนตางพากันหน าเปลี่ยนสี
นักพรตหญิงชราของตระกูลเยี่ยผูนั้นและสตรีผูงดงามของพรรคแปลงเซียนที่มีพลัง
ยุทธออนแอที่สุด ยิ่งตัวสั่นสะทาน อดไมไดที่จะถอยกรูดออกไปสองกาวแลวถึงจะยืน
ไดอยางมั่นคง
หานลี่รองอุทานวาแยแลวในใจ แววตาเปลงแสงสีฟาสวางวาบ รีบรอนใชเนตร
วิญญาณวารีกระจางตานทานเอาไว แตหลังจากที่ถูกสายตาของอีกฝายกวาดมองมา
ก็ยังคงหนาวสะทาน ราวกับอยูในเหมันตฤดูที่หนาวเหน็บอยางไรอยางนั้น
เขาหนาซีดขาวไปเล็กนอย
“เอ! เจาคือ…” คนลึกลักผูนี้เปลงเสียงรองอุทานของอิสตรีออกมา กลอกตาไปมา
คาดไมถึงวาจะมาตกอยูบนรางของหานลี่ และไมไดเลื่อนไปไหนอีก ดูเหมือนวานาง
จะพบกับเรื่องที่ไมยากจะเชื่ออยางไรอยางนั้น
ในตอนนั้ น เอง ย า มเก็ บ อสู ร วิ ญ ญาณใบหนึ่ ง ที่ อ ยู ข า งเอวของหานลี่ พ ลั น
เคลื่อนไหว จูๆ ลำแสงขาวสายหนึ่งก็พุงออกมาจากปากถุง หลังจากหมุนโคจรหนึ่ง
รอบ จิ้งจอกนอยสีขาวราวกับหิมะตัวหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเบื้องหนาของหานลี่
หลังจากที่อสูรวิญญาณตัวนี้กลิ้งหลุนๆ อยูกับพื้นอยางไมลังเลแลว ก็กลายเปน
สตรีเยาววัยที่มีลำแสงสีเงินลอมรอบคนหนึ่ง สวมอาภรณสีขาว งดงามดุจบุปผา
นั่นก็คืออิ๋นเยวที่อาศัยรางของสุนัขจิ้งจอกแปลงกายเปนมนุษย
“เจานี่เอง!” คนลึกลับผูนั้นเห็นอิ๋นเยว รางกายพลันสั่นสะทาน ใชน้ำเสียงที่เย็นชาเอย
ขึ้น จากนั้นพลันชูคอขึ้น ใบหนาที่ถูกปกปดดวยผมเผาที่ยุงเหยิง เผยใบหนาที่แทจริง
ออกมา
“ฮัวเทียนฉี!” รอบบริเวณเกิดเสียงอื้ออึงขึ้น มีคนอุทานชื่อของคนผูนี้ออกมา
คนลึกลับผูนี้มีใบหนาที่เต็มไปดวยริ้วรอย ไมใชฮัวเทียนฉีแลวจะเปนผูใดได?
แตแคสิ่งที่แปลกประหลาดก็คือ ใบหนาของเขาเปลี่ยนไปเล็กนอย แตนัยนตาคู
นั้นกลับเปลี่ยนเปนสีมรกตแปลกประหลาด และจองเขม็งไปยังอิ๋นเยวไมขยับเขยื้อน
ใบหนาเผยสีหนาแปลกใจออกมา
เมื่อเห็นสถานการณที่แปลกประหลาดเชนนี้ คนอื่นๆ ตางก็เงียบขรึมลงอยางรูจัก
วางตัว
จากประสบการณที่เฟองฟูของคนเหลานี้ จะไมรูไดอยางไรวาเกิดอะไรขึ้นกับราง
ของฮัวเทียนฉี? เห็นไดชัดวากำลังถูกอะไรสักอยางเขาสิงอยู คนเหลานี้ใจหายวาบ
ทยอยกันคาดเดาฐานะของคนผูนี้ไปตางๆ นานา!
คนประหลาดถือโอกาสนี้ถอยรนออกไปอยางเงียบๆ ดึงระยะหางออกจาก
‘คนประหลาด’ ในเวลาเดียวกันก็กลืนยาลงไปเม็ดหนึ่งอยางรีบรอน และควัก
ยันตวิเศษสองสามใบออกมาแปะไวตรงแขนที่ขาดสะบั้นออกไป ชั่วขณะนั้นลำแสงสี
ขาวพลันสวางจา ปากแผลฟนฟูกลับมาเปนดังเดิม จากนั้นเขาถึงไดเงยหนาขึ้น มอง
ไปยัง ‘ฮัวเทียนฉี’ อีกครั้งดวยสีหนาเขียวคล้ำ
หานลี่มองไปยังสถานการณเบื้องหนา สองตาหรี่ลงครึ่งหนึ่ง ความคิดตางๆ ฉาย
แวบหมุนวนผานไปอยางรวดเร็ว
ดูทาทางแลว คนผูนี้คงเปนสิ่งที่เรียกอิ๋นเยวใหมาที่นี่ แตแคไมรูวานางและอิ๋นเยว
มีความสัมพันธอันใดตอกัน เปนศัตรูหรือสหาย?
“เสวี่ยหลิง! เจานาจะหาที่นี่พบตั้งนานแลว คิดไมถึงวาผานไปนานขนาดนี้ เจาถึงเพิ่ง
จะมาที่นี่ ทวา กลิ่นอายของเจาออนแอลงขนาดนี้ แถมยังสิงรางอสูรสุนัขจิ้งจอกสี่ตา
อีก ไมคิดวามันเปนความดางพรอยในฐานะหมาปาสวรรคจันทราสีเงินของพวกเรา
บางหรือ?” สีหนาประหลาดใจของ ‘ฮัวเทียนฉี’ หายไป เอยขึ้นอยางราบเรียบ
อิ๋นเยวยกมือขึ้นปดปอยผมที่ปรกลงมาที่หนาผาก หลังจากเงียบกริบไปชั่วครู ถึง
ไดใชน้ำเสียงที่ไมคอยยอมรับนักเอยขึ้น
“เจาคือหลิงหลง!”
‘ฮัวเทียนฉี’ ไดยินคำนี้ แววตาพลันเปลงประกาย หลังจากจองเขม็งไปยังอิ๋นเยวอยูชั่ว
ครู จูๆ ก็เปลงเสียงหัวเราะคิกคักออกมา
“คิดไมถึงจริงๆ วา สาวงามแหงตระกูลหมาปาของพวกเรา ชายารักของเทพหมาปา
เทียนขุยจะสูญเสียความทรงจำไป ขานาจะคิดออกตั้งนานแลว ตอนนั้นที่บรรพชน
ศักดิ์สิทธิ์หยวนซาแยกจิตวิญญาณดั้งเดิมของเจาออกจากกายเนื้อ จิตสัมผัสของเจา
จะคงไวดังเดิมไดอยางไร นองสาวที่แสนดีของขา ขาไมใชหลิงหลง! แตคือหลงเมิ่ง!
คนผูนี้มีใบหนาและรางของบุรุษแทๆ แตเสียงหัวเราะกลับมีเสนหนาเยายวนใจ
ทำใหผูคนรูสึกตะขิดตะขวงใจอยางหาที่เปรียบมิได!
หานลี่กลับขมวดคิ้ว รูสึกลางสังหรณในใจไมดี
ถึงแมจะไมเขาใจความสัมพันธของสตรีผูนี้กับอิ๋นเยว แตเมื่อไดยินคำพูดเมื่อครู
คาดไมถึงวาจะมีความรูสึกดีใจบนความทุกขของอิ๋นเยว
อิ๋นเยวขมวดคิ้วแนน ดวงตาคูนั้นจองเขม็งไปยัง ‘ฮัวเทียนฉี’ ใบหนาเรียวมีสีเขียว
คล้ำสลับกับสดใสไมแนนอน ราวกับวาคำพูดของอีกฝายทำใหตนเองนึกอะไรขึ้นมาได
อยางไรอยางนั้น
“คำพูดของเจา ทำใหขาจำเรื่องราวขึ้นมาไดเรื่องหนึ่งแลว! แตก็ยังรางเลือนอยู
อีกมาก หากขาจำไมผิดละก็ เจาควรจะเปนขา ขาควรจะเปนเจาสินะ!” ริมฝปากแดง
ระเรื่อของอิ๋นเยวขยับเอยอยางเครงขรึม
“หึ! ดูแลวเจาคงจำเรื่องเหลานี้ได แนนอน แตเดิมเราควรเปนคนคนเดียวกัน เจาและ
ขารวมกันถึงจะเรียกวาหลิงหลง ตอนแรกที่นางกำลังสูกับเคราะหอสนีบาตครั้งที่หา
นั้ น ถู ก บี บ ให ฝ น ใช เคล็ ด วิ ช าลั บ ของเผ า หมาป า สวรรค จั น ทราสี เงิน ของพวกเรา
ผลลัพธคือเกิดความผิดพลาดขึ้นกลางคัน ทำใหแยกจิตวิญญาณออกมาเปนสองสวน
กลายเปนจิตวิญญาณของเจาและขาที่เปนอิสระจากกัน แตแค กอนหนานี้จิตสัมผัส
ของเจาคอนขางแข็งแกรง เจาจึงเปนจิตวิญญาณหลัก ขาที่ถูกเจาบีบไว จึงจำใจตอง
อยู ในภวั ง ค แ ห ง นิ ท ราเป น เวลานาน แต ต อนนี้ สถานการณ ก ลั บ ตรงกั น ข า ม จิ ต
วิ ญ ญาณของเจ า อ อ นแอจนน า เวทนาขนาดนี้ แค ข า ยกมื อ ก็ สั ง หารเจ า ได แ ล ว ”
น้ำเสียงของ ‘ฮัวเทียนฉี’ เย็นเยียบลง
อิ๋นเยวไดยินแลวพลันมีสีหนาตึงเครียด แตทันใดนั้นก็ฟนฟูกลับมาเปนปกติ
“ถึงแมขาจะจำเรื่องราวไดไมมากนัก แตผนึกวิญญาณกลืนโลหิต กลับจำไดอยาง
ชัดเจน เจาฆาขาไมได ถาหากจิตวิญ ญาณของขาถูกทำลาย เจาก็ไมไดดีไปกวาขา
เทาใดนักหรอก” คาดไมถึงวาอิ๋นเยวจะเอยอยางเยือกเย็นเชนนี้
เมื่อไดยินคำพูดของอิ๋นเยว ‘ฮัวเทียนฉี’ พลันมีสีหนาเครงขรึม ดวงตาทั้งสองขาง
เปลงลำแสงสีเขียวออกมา
ทันใดนั้นอิ๋นเยวพลันรองคำรามเสียงต่ำๆ ขึ้น รางกายสั่นสะทานถูกแรงกดไร
รูปรางพุงเขาใส
หานลี่เมมปาก พลิกฝามือตะปบออกไปอยางไมตองคิด
ชั่วขณะนั้นมือลำแสงสีเขียวขางหนึ่งก็ปรากฏขึ้นดานหลังของอิ๋นเยว ควาราง
ของอิ๋นเยวเอาไว จากนั้นก็ปลอยลงเบาๆ
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ ‘ฮัวเทียนฉี’ พลันตกตะลึง ทันใดนั้นโทสะก็ปะทุ สายตาเลื่อน
ไปหาหานลี่ทันที
หานลี่รองวาแยแลวในใจ พลันชูมือขึ้นอยางไมตองคิด โลรชตะขยายใหญ ขึ้น
ตานทานอยูเบื้องหนาทันที
หลังจากเสียง ‘ปง’ ดังสนั่นขึ้น โลสีเงินก็เปลงลำแสงสีเงินสวางวาบ ผิวของโลบุบ
ลงไปสองสามชุน เผยใหเห็นรอยเวาขนาดใหญที่ชัดเจน
หานลี่สูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ที่อยูในบริเวณนั้นไดยิน ‘ฮัวเทียนฉี’ คุยกับอิ๋นเยวก็รูสึก
งุนงง และเมื่อเห็นเหตุการณนี้ก็เกิดเสียงอื้ออึงขึ้นเชนกัน
สวนยักษปกเงินและอสูรวิหคพยัคฆนั้น หลังจากที่ ‘ฮัวเทียนฉี’ ปรากฏตัวก็มีสี
หนางุนงง เมื่อไดยินคำเรียกขานวาหลิงหลงและเสวี่ยหลิง ชั่วพริบตานั้นก็เผยสีหนา
หวาดกลัวออกมา ดูเหมือวาปศาจสองตนนี้จะรูความเปนมาของคำเรียกขานสองคำนี้
หลังจากรองเรียกกันและกันแลว คาดไมถึงวาออมวนถอยไปยังเขตอาคมสงตัว
‘ฮัวเทียนฉี’ เห็นการโจมตีไมเปนผลก็เผยความประหลาดใจออกมา หลังจาก
แค น เสีย งในลำคอเบาๆ แล ว ก็ คิ ด จะลงมื อ อี ก ครั้ง แต น างพลั น นึ ก อะไรขึ้ น มาได
หลังจากเหลือบตามองหานลี่แลวปรายตามองอิ๋นเยว จูๆ ก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“เสวี่ยหลิง! กลิ่นอายของเจาอยูบนรางของคนผูนั้นหนาแนนนัก และเมื่อครูเจาก็
ออกมาจากยามเก็บอสูรวิญ ญาณ หรือวาเจากลายเป นอสูรวิญ ญาณของคนผูนี้ไป
แลว?”
“ต อ ให เป น เช น นั้ น แล ว อย า งไร?” อิ๋ น เย ว ไ ด ยิ น ใบหน า เรี ย วพลั น ฉายแวว
โหดเหี้ยม ตอบกลับอยางเย็นชา
“จุๆ ก็ไมมีอะไรหรอก! หากกลาวเชนนั้น ขาก็นับถือคนผูนั้นแลว รับชายารักของ
ราชาป ศ าจเที ย นขุ ย เป น อสู ร วิ ญ ญาณได เกรงว า ต อ ให เป น สามกษั ต ริ ย แ ห ง แดน
วิญญาณก็ไมกลาทำเรื่องที่บาระห่ำเชนนี้” หลังจากที่ ‘ฮัวเทียนฉี’ หัวเราะอยางบา
คลั่ง ก็เอยขึ้นดวยความประสงคราย
ตอนที่ 1040 เขตอาคมนพสัจจะสยบมาร
หลังจากที่รางของอิ๋นเยวยืนไดอยางมั่นคงอีกครั้ง ใบหนาพลันขาวซีด แตเมื่อมอง
ไปยัง ‘ฮัวเทียนฉี’ แวบหนึ่ง มุมปากก็เผยรอยยิ้มเยาะบางๆ ออกมา
“เจาคือขา ขาก็คือเจา ถาหากปลอยใหคนผูนั้นรูเรื่องนี้ เจาคิดวาสถานการณของ
เจาจะไปไดดวยดีหรือ? และยิ่งไปกวานั้นถึงแมวาคนผูนั้นจะแตงงานกับหลิงหลง แต
คนที่เขารักใครมากที่สุดก็คือขา อยาลืมละ ตอนนั้นผูใดชวยขาผนึกเจาเอาไว และยัง
บังคับใหเจาหลับใหลอยูในรางของขา”
เมื่ อ ได ยิน คำพู ด ของอิ๋ น เยว ‘ฮั วเที ย นฉี ’ พลั น หุ บ ยิ้ ม ดวงตาคู นั้ น เผยไอทมิ ฬ
ออกมา แตทันใดนั้นก็หัวเราะออกมาอยางเย็นชา หันหนาไป มือหนึ่งกดไปทางดาน
นอกเขตอาคมเบาๆ
เสียง ‘ปง’ ดังสนั่นขึ้น เห็นเพียงเขตอาคมสงตัวสีขาวที่ทุกคนเดินเขามาพังทลาย
ลงและยุบตัวลงไป ที่เดิมเผยรูลึกขนาดสองสามจั้งออกมา
ยักษปกเงินและอสูรวิหคราชสีหที่อยูใกลๆ กำลังถอยหลังเขาไปหาเขตอาคมชาๆ
ชั่วขณะนั้นพลันหนาเปลี่ยนสีรางกายหยุดชะงัก จำใจตองหยุดฝเทา
“เจาสองคนคิดจะไปไหน! คนหนึ่งเหมือนกับหมอยาคงเสวียนอยางไรอยางนั้น
แตบนรางกลับมีไอซากศพหนาแนนขนาดนี้ ถึงแมวารูปรางจะเปลี่ยนแปลงไปไมนอย
แตขาก็ยังจำได วาเจาคืออสรูวิญญาณตัวที่หมอยาคงเสวียนเลี้ยงดูไวไมผิดแน หากขา
จำไมผิดละก็ กอนที่ขาจะถูกผนึกหมอยาคงเสวียนก็เพลี่ยงพล้ำไปตั้งนานแลว ดูแลว
เจาคงใชกายเนื้อที่เขาเหลือเอาไวฝกฝนสินะ คาดไมถึงวาฝกปรือจนมาถึงระดับของ
ยักษปกเงินแลว ขาพูดผิดตรงไหน!” ‘ฮัวเทียนฉี’ จองเขม็งไปยังยักษปกเงิน และเอย
อยางเย็นชา
“คิดไมถึงวาทานเซียนหลิงหลงจะมองภูมิหลังของเราสองคนออกไดอยางงายดาย
ขนาดนี้! จะวาไปแลว ตอนนั้นขาก็นับวามีวาสนาไดพบกับทานเซียนอยูหลายครั้ง”
ยักษปกเงินมีสีหนาเขียวคล้ำสลับกับสดใสไมแนนอน แตในที่สุดแลวก็หัวเราะออกมา
อยางขมขื่นขณะเอย
“ผูที่มีวาสนากับขาคือผูที่อยูเบื้องหนาเจา ไมใชเจา แตเปนอสูรวิหคราชสีหตนนั้น
ตอนนั้นเปนแคอสูรวิญญาณระดับเจ็ดเทานั้น ตอนนี้คาดไมถึงวาจะพัฒนาจนอยูใน
ระดับสิบแลว ดูแลวถึงแมวาจะกลับไปยังแดนวิญญาณก็มีคงมีที่ยืนสินะ” ‘ฮัวเทียนฉี’
แคนเสียงในลำคอขณะเอย
“ไมวาจะอยางไรก็ตาม ขายังจำไดวาทานเซียนในตอนนั้นรูปโฉมงดงามสะทาน
แผนดิน แตเหตุใดทานเซียนถึงทำลายเขตอาคมสงตัวนี้?” เมื่อถูกมองภูมิหลังออก
ยักษปกเงินกลับเครงขรึมขึ้น
“ไมมีอะไร ในเมื่อมาแลว ก็ไมตองรีบไป ไมแนวาขาอาจจะตองการใหเจาสองคน
ชวยเหลือ!” ‘ฮัวเทียน’ เอยอยางคราวๆ
ยักษปกเงินมีสีหนาเครงขรึม
ถึงแมวาปศาจตนนี้จะไมอยากอยูที่นี่ แตในเมื่อเขตอาคมถูกทำลายไปแลว คิดจะ
หาทางออกก็ไมอาจทำไดในเวลาเพียงสั้นๆ หลังจากกลอกตาไปมา ก็เงียบกริบลงไป
ชั่วขณะ
‘ฮัวเทียนฉี’ เห็นเชนนั้น ก็ไมสนใจปศาจสองตนนั้นอีก สายตามองไปยังชายหนุม
แซสวี และยังกวาดตาไปที่เหลาผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยแวบหนึ่ง มุมปากหยักขึ้น
ขณะหัวเราะอยางเย็นชา
“เยี่ยม เยี่ยมมาก! คิดไมถึงวาจะมีผูบำเพ็ญเพียรจำนวนมากอยูที่นี่ และยิ่งไปกวา
นั้นพลังยุทธของแตละคนลวนไมไดออนแอ!”
“ไมวาทานอาวุโสจะมีฐานะที่ยิ่งใหญอยางไรในแดนวิญญาณ และมาสิงรางของ
สหายฮัวไดอยางไร ที่ตระกูลเยี่ยของพวกเราเปดผนึกของภูเขาคุนอูในครั้งนี้ ก็แคเพื่อ
สมบัติวิญ ญาณสะทานฟาเทานั้น ขอเพียงทานอาวุโสยอมมอบไมแปดวิญ ญาณให
ขานอย ตระกูลเยี่ยของพวกเราก็จะยอมชวยทานอาวุโสหนีออกไปจากปอมปราการ
แหงนี้!” นักปราชญชุดขาวไดฟงอยางละเอียด ก็เริ่มเขาใจภูมิหลังของคนผูนี้อยาง
คราวๆ ทันใดนั้นจึงกาวมาขางหนาพลางเอยดวยความเคารพนบนอบ
“สิ่งที่ผูแซสวีอยากจะกลาว คิดไมถึงวาสหายเยี่ยจะกลาวไปกอนแลว” ชายหนุม
แซสวีไดยินแลวพลันหัวเราะฮาๆ ออกมา เอยพรอมรอยยิ้มเสแสรง
สองคนนี้ลวนเจาเลหเพทุบาย เมื่อเห็นปศาจที่สิงรางฮัวเทียนฉีจะลงมือ ก็รูวาไม
ควรตั้งตนเปนศัตรู จึงอดที่จะมีความคิดอยากดึงเขามาเปนพวกไมได
“ไมแปดวิญญาณ? ไดสิ พวกเจาผูใดมีฝมือเอาสมบัติชิ้นนี้ไปได ก็เขามาเอาไดเลย
ขาไมหามปรามแน!” ‘ฮัวเทียนฉี’ แววตาเปลงประกาย คาดไมถึงวาจะเอยขึ้นไมคอย
ใสใจ
เมื่อไดฟง อาวุโสตระกูลเยี่ยและชายหนุมแซสวีพลันตกตะลึง จากนั้นก็มองสบตา
กันแวบหนึ่งดวยความตกตะลึง
“ทำไม ใหพวกเจาเขาไปเอาสมบัติ ก็รูสึกกลัวขึ้นมาหรือ!” ‘ฮัวเทียนฉี’ ปากก็
เปลงเสียงหัวเราะเยาะออกมา
แตนักปราชญชุดขาวและชายหนุมแซสวี กลับไมกลาเคลื่อนไหวงายๆ
ตั้งแตที่ ‘ฮัวเทียนฉี’ ปรากฏตัว ฮูหยินมูที่อยูอีกดานหนึ่ง ก็เผยสีหนาระแวดระวัง
มาโดยตลอด เวลานี้มือเรียวที่ซอนอยูในแขนเสื้อพลันเคลื่อนไหว คาดไมถึงวาจะหยิบ
ของในยามเก็บของออกมาชิ้นหนึ่งอยางเงียบเชียบ เคลื่อนไหวดวยความระมัดระวัง
เปนพิเศษ กลัววา ‘ฮัวเทียนฉี’ จะเห็นเขา
“ในเมื่อทานอาวุโสไมอยากไดสมบัติชิ้นนี้ เหตุใดเมื่อครูตอนที่ตาเฒาจะเอาสมบัติ
ไป ถึงไดขัดขวางขา?” คนประหลาดที่ลอยตัวอยูกลางอากาศเหนือวิหารอีกดานไกลๆ
กลับเอยถามดวยเสียงแหลมสูง
“คนอื่นๆ เอาไปได มีเพียงเจาคนเดียวที่ไมได!”
‘ฮัวเทียนฉี’ เหลือบตามองคนประหลาดแวบหนึ่ง แลวเอยอยางราบเรียบ
“เพราะเหตุใด?” คนประหลาดมีสีหนาดูไมไดเปนพิเศษ เหลือบมองแขนที่ขาด
ของตนเองแวบหนึ่ง แลวเอยซักถามอยางโกรธแคน
“เพราะเหตุ ใด? ก อ นหน านี้ ไม น านเจาเพิ่ งจะไปพบกั บ รางแยกของบรรพชน
ศักดิ์สิทธิ์หยวนซาสินะ!”
“บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาอะไร ขาไมรูจัก!” คนประหลาดใจหายวาบ แตปาก
ก็เอยปฏิเสธในทันที
“ถึงแมวาเจาและมารตนนั้นจะอยูดวยกันเพียงสั้นๆ แตบนรางของเจายังมีไอมาร
ที่หายากปะปนอยู ขามองปราดเดียวก็รู เจาไมยอมรับก็ไมเปนไร แตหลังจากที่เจาเขา
มาในวิหารเมื่อครู พอเห็นกลองวิญญาณของขาก็เกิดเจตนาไมดี จุดนี้ไมผิดสินะ! หาก
ไมใชเพราะคนที่ขาสิงรางอยูมาปลุกใหขารูสึกตัวกอนเจากาวหนึ่ง เกรงวาคงถูกเจา
ทำลายไปแลว คาดไมถึงวาจะใชยันตกำจัดวิญญาณตอกรกับขา เจามันโอหังเกินไป
แลว” แววตาของ ‘ฮัวเทียนฉี’ เปลงแสงสีเขียวสวางวาบ น้ำเสียงเย็นเยียบจนเขา
กระดูก
นักปราชญชุดขาวไดยินคำพูดเหลานี้พลันตกตะลึง ทันใดนั้นมุมปากก็ขยับขมุบขมิบ
รีบรอนถายทอดเสียงไปหาคนประหลาด ดูเหมือนวาคิดจะถามอะไรสักอยาง แตคน
ประหลาดกับแสรงทำเปนไมไดยิน ใบหนาเย็นเยียบไมปริปากใดๆ ออกมาสักคำ
ชั่วขณะนั้นนักปราชญชุดขาวพลันมีสีหนาเรียบนิ่งดุจผิวน้ำ
“บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาคืออะไร? คือมารปศาจโบราณหรือ?” เวลานี้ คาด
ไมถึงวาหานลี่จะเอยปากออกมา
“หึๆ บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซา?” ‘ฮัวเทียนฉี’ หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย แต
ทันใดนั้นพลันเงยหนาขึ้นหัวเราะกับทองฟาอยางบาคลั่ง แตก็ไมไดตอบกลับคำถาม
ของหานลี่ในทันที
หานลี่ขมวดคิ้วเล็กนอย! ลางสังหรณ บอกหานลี่วามารโบราณเที ยนหนานนั้ น
ปรากฏตัวที่ภูเขาคุนอู เกรงวาคงเกี่ยวของกับบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาแน
ทุกคนตางขบคิดในใจไมหยุด เวลานั้นที่แหงนี้คาดไมถึงวาตกอยูในความเงียบ
สงัด แตหลังจากผานไปชั่วครู และเสียงไพเราะกังวานของสตรีก็ดังขึ้น
“เหลาสหายอยาหลงกล สตรีผูนี้ไมใชปศาจจากแดนเบื้องบน เห็นไดชัดวาเปน
รางแปลงของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณที่แปลงกายมาหลอกหลวงพวกเรา ถาหาก
พวกเจาเขาไปเก็บไมแปดวิญญาณที่ผูบำเพ็ญเพียรโบราณใชกักมารตนนี้เอาไว เกรง
วามารตนนี้คงหนีออกมาไดจริงๆ ถึงเวลานั้น ก็ทำใหแดนมนุษยทั้งหมดพังพินาศแน”
ผูที่พูดคาดไมถึงวาจะเปนฮูหยินมูของพรรคแปลงเซียน เวลานี้มือหนึ่งของนางถือ
ตราประทับสีเขียวขนาดสองสามชุนเอาไว ผิวของมันเปลงแสงเรืองรอง คาดไมถึงวา
จะมีเงาลวงตาของมังกรหากรงเล็บขนาดสองสามฉื่อปรากฏขึ้น เงามังกรลวงตานี้แยก
เขี้ยวยิงฟนใส ‘ฮัวเทียนฉี’ โกรธเกรี้ยวอยางสุดๆ เหมือนวาพบเห็นอะไรที่เกลียดแคน
มากอยางไรอยางนั้น
“ตราประทับมังกรแปลง!”
‘ฮัวเทียนฉี’ เห็นของสิ่งนี้ พลันหนาเปลี่ยนสี คาดไมถึงวาจะใชมือขางหนึ่งโบกไป
ทางสตรีผูนั้นกลางอากาศอยางไมตองคิด
เสียง ‘ครืน’ ดังขึ้น พลังมหาศาลที่ดูเหมือนวาฉีกอากาศออกจากกันกดลงมาจาก
ศีรษะของอีกฝาย
ฮูหยินมูพลันตกตะลึง ชูตราประทับในมือขึ้นอยางรอนรน
ชั่วขณะนั้นเสียงคำรามพลันดังขึ้น ชั่วพริบตาเงามังกรพลันขยายใหญขึ้นนับสิบ
เทา คาดไมถึงวาจะพุงออกมาจากสมบัติชิ้นนั้น ตรงเขาไปปะทะกับพลังมหาศาลกลาง
อากาศ
หลังจากที่เสียงดังสนั่นราวกับสั่นคลอนทั้งชั้นบรรยากาศดังขึ้น เงามังกรและพลัง
มหาศก็เปลงแสงสีขาวเจิดจาออกมา คาดไมถึงวาจะหายลับกลับคืนบานเกาไป
ฮูหยินมูและสตรีผูงดงามที่อยูดานขางถือโอกาสนี้ชูมือขึ้นพรอมกัน ลำแสงสีทอง
และเงินสองสายสวางจา กระสวยตะวันจันทราปรากฏขึ้น
รางของสตรีสองนางพลันพลิ้วไหว และทะลวงเขาไปขางใน
‘ฮัวเทียนฉี’ เห็นเชนนั้น พลันเลิกคิ้วทั้งสองขึ้น อาปากออก พนเสาลำแสงสีเงิน
สายหนึ่งออกมาพุงเขาไปหากระสวยวิญญาณ
เหตุการณที่ทำใหทุกคนประหลาดใจพลันปรากฏขึ้น
เงาลวงตารูปกวางขนาดยักษที่เรือนกายมีเกล็ดประหลาดๆ ปกคลุมอยูทั่วเรือน
รางพลันปรากฏขึ้นทามกลางเขตอาคมอยางไมมีเคาลางมากอน คาดไมถึงวาจะอา
ปากออกกลืนกินเสาลำแสงนี้ลงไป จากนั้นก็เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไป ราวกับ
ไมเคยปรากฏตัวขึ้นมากอนอยางไรอยางนั้น
“กิเลนอัฏฐะ!”
หานลี่พลันรูสึกตกตะลึง รีบรองมองไปทางไมแปดวิญญาณดามนั้น เห็นเพียงไม
เลมนั้นที่แตเดิมลอยอยูกลางอากาศ คาดไมถึงวาจะสั่นคลอนเล็กนอยตั้งแตเมื่อไหรก็
ไม รู และเมื่ อ มั น สั่ น คลอน ลำแสงวิ ญ ญาณเจ็ ด สี พ ลั น ปรากฏขึ้ น เงาลวงตาอสู ร
วิญญาณแปดตัวเองก็เริ่มมองเห็นชัดเจนขึ้นทามกลางลำแสงวิญญาณ คาดไมถึงวา
สมบัติชิ้นนี้จะดูเหมือนถูกกระตุนอยางไรอยางนั้น
แยแลว!
‘ฮัวเทียนฉี’ เห็นภาพฉากนั้น พลันมีสีหนาเย็นเยียบ ทันใดนั้นรางกายก็เปลงแสง
สีเงินออกมา พุงลงไปยังดานลางของวิหารอีกครั้งโดยไมปริปากใดๆ
จูๆ ไมแปดวิญญาณพลันเปลงเสียงรองที่เสียดแกวหูข้ึน จากนั้นรอบๆ เขตอาคม
พลันเปลงแสงเจิดจา หลังจากที่พื้นดินสั่นคลอน ก็แตกออกเปนรอยแยกเกาสาย เสียง
ตึงตังดังออกมามีแทนบูชาอีกเกาแทนปรากฏขึ้น
แทนบูชาทั้งเกานี้มีขนาดใหญกวาแทนบูชาที่อยูดานนอกสองสามเทา ทุกแทน
ลวนมี มี ด ยั ก ษ ที่ เปล งแสงสี ท องเรือ งรองป ก อยู ต รงกลาง รูป ลั ก ษณ ภ ายนอกล ว น
เหมือนกับมีดสีทองที่หุนเชิดหินกอนหนาถือไวอยางไรอยางนั้น แตพวกมันใหญเกินไป
ทุกเลมลวนสูงสิบกวาจั้ง ราวกับเสาเกาตนอยางไรอยางนั้น ทำใหผูคนรูสึกหวาดกลัว
อยางสุดๆ
“เขตอาคมนพสัจจะสยบมาร” เมื่อเห็นแทนบูชาทั้งเกา นักปราชญชุดขาวพลัน
ตกตะลึง ชั่วขณะนั้นพลันรองอุทานออกมา
หานลี่เห็ นท าไมดี ก็ควาแขนของอิ๋ น เยวให ถอยออกมาตั้งนานแลว เมื่ อ ไดยิ น
คำพูดของอาวุโสเหลานี้ ในหัวพลันมีลำแสงสวางวาบ ดูเหมือนจะรูสึกวาเหมือนเคยได
ยินมาจากที่ไหนมากอน
แตเขายังไมทันไดขบคิดเรื่องนี้ละเอียดนัก กลางอากาศก็มีลำแสงสีดำสวางวาบ
คาดไมถึงวาจะยุบตัวลงมา ไอมารจำนวนนับไมถวนทะลักออกมาจากดานในราวกับงู
หลามสีดำ
เสียงหัวเราะอยางพึงพอใจพลันดังขึ้น เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้นตามมา เงามารสอง
แขนสี่หัวตนหนึ่งพุงออกมาจากไอมาร ชั่วครูก็ยืนสงาอยูกลางอากาศ
ลำแสงจากมี ด ยั ก ษ เก าเล ม เปล งแสงสว างวาบ มี ด ลำแสงหนาๆ สายหนึ่ งพุ ง
ออกมาจากมีดยักษเหลานั้น ลำแสงสีทองสองแสงเรืองรอง ชั่วพริบตาที่ปรากฏตัวก็
แทบจะเปนปกคลุมไปครึ่งทองฟา กดเงารางมารเอาไวอยางโหดเ**ยม
เงารางมารที่กำลังเปลงเสียงหัวเราะพลันหยุดชะงัก! พุงกลับไปดานหลังทันทีดวย
ความหวาดกลัว!
แตมีดลำแสงพลันสวางจา ลำแสงสีทองสายหนึ่งปรากฏขึ้นเหนือเงารางมารอยาง
มหัศจรรย พลางฟนลงมาอยางรุนแรง
เสียง ‘ปง’ ดังขึ้น ไอมารและลำแสงสีทองพลันพัวพันเขาดวยกัน!
เงารางอรชนออนแอนออนชอยปรากฏขึ้นเบื้องหนาเงารางมาร ยื่นนิ้วเรียวนิ้ว
หนึ่งออกมา ตานลำแสงสีทองสายนั้นเอาไวได
ตอนที่ 1041 มารปรากฏ
หลังจากเสียง ‘ปง’ ดังขึ้น จูๆ ลำแสงสีทองก็ถูกนิ้วมือนั่นดีดออกไป เผยใหเห็น
ใบหนาที่ดูเหมือนทั้งโกรธเคืองและดีใจออกมา คาดไมถึงวาจะเปนสตรีที่งดงามราว
กับมิใชคนธรรมดา สวมอาภรณสีดำคนหนึ่ง
อิ๋นเยวเห็นใบหนานั้น รางกายพลันสั่นสะทาน หนาซีดเผือด
สายตาของหานลี่กลับ ตกไปที่เรือนรางของเงามารสองหัวสี่แขนกอน เขาไมมีทาง
มองผิดแน มารปศาจตอนนี้ก็คือมารโบราณที่หนีออกมาจากหุบเขามารโรยตนนั้น
กระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆาที่อยูในรางของเขาพลันเปลงเสียงคำรามทุมต่ำออกมา
สัมผัสไดถึงกระบี่บินสองเลมที่ถูกยึดไป
สวนสตรีผูงดงามที่อยูเบื้องหนามารโบราณนั้น ดูออนแอราวกับไมมีพลังยุทธใดๆ
ไมอาจมองระดับพลังยุทธออกไดเลย
หานลี่สูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง รางกายพลิ้วไหว พาอิ๋นเยวไปอีกดาน
ของเขตอาคมนพสัจจะสยบมาร จากนั้นถึงไดปลอยแขนของอิ๋นเยวออก กุยหลิงที่ไม
ปริปากใดๆ ตั้งแตแรกตามเขามาติดๆ ดุจเงาตามตัว และทนไมไหวเหลือบมองอิ๋นเยว
สองครั้ง สายตาเผยสีหนาประหลาดใจออกมา
"ขอบพระคุณนายทาน!" อิ๋นเยวมองหานลี่แวบหนึ่ง เอยดวยน้ำเสียงแผวเบาสี
หนาสับสน
"เจาก็ระวังตัวใหมากเถิด" หานลี่รูวาฐานะของอิ๋นเยวไมธรรมดา แตก็ยังขมวดคิ้ว
มุนขณะออกคำสั่ง
อิ๋นเยวพยักหนา และหันไปมองสตรีผูงดงามที่อยูตรงขาม พลางเผยสีหนาหอเหี่ยว
ชายหนุ ม แซ ส วี ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รตระกู ล เยี่ ย และพวกเองก็ ห ลบหลี ก จนไปอยู
ด า นข า งของเขตอาคมเช น กั น ถึ ง แม ว า ต า งฝ า ยต า งจะมองสบตากั น ด ว ยความ
ระมัดระวัง แตใบหนาก็ยังเผยสีหนาตกตะลึงออกมาเมื่อเห็นสองคนนั้น
"นี่มันเรื่องอะไรกัน บนเรือนรางของสองคนนั้นตอบสนองกับไอมารถึงเพียงนี้!"
เสียงไมอยากจะเชื่อดังออกมาจากกระสวยตะวันจันทรา ทันใดนั้นก็แวบหายไป ราง
ของฮูหยินมูก็ปรากฏขึ้นบนสมบัติชิ้นนั้น ในมือกุมตราประทับมังกรแปลงที่สรางภาพ
ลวงตาเงามังกรขึ้นมาอีกครั้งเอาไว
แตแคเงามังกรในตอนนี้ เผชิญหนากับสตรีและมารโบราณที่อยูตรงขาม ปฏิกิริยา
ตอบสนองก็รุนแรงมากกวาตอนที่พบ ‘ฮัวเทียนฉี’ สองสามสวน
แมกระทั่งถาหากไมใชฮูหยินมูสำแดงเคล็ดวิชาควบคุมสมบัติชิ้นนี้ เงามังกรก็คง
ไมอาจบินกระโจนออกไปไดเองโดยอัตโนมัติ
ชายหนุมแซสวียิ่งไมรูประวัติความเปนมาของตราประทับมังกรแปลง กลับมองไป
ยังฮูหยินมูแวบหนึ่ง เวลานี้เขาถึงไดไมสนใจไอมาร สถานการณเบื้องหนาวุนวายขนาด
นี้ มารปศาจที่ปรากฏตัวขึ้นก็รายกาจขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงคิดจะถอนทัพหนีตั้งนานแลว
ถึ ง แม ว า สมบั ติ ส ะท า นฟ า จะน า สนใจ แต ก็ ต อ งเอาชี วิ ต ไปแลกถึ ง จะได ม า
หลังจากขบคิดเชนนี้
มุมปากของเขาพลันขยับเล็กนอย ถายทอดเสียงไปหาธิดาเทพเทียนหลานที่อยู
ดานขาง
ผลลั พ ธคื อ หลั งจากที่ ห ลิ น อิ๋ น ผิ งขมวดคิ้ ว และพยั ก หน าเล็ ก น อ ย สายตาของ
ปรมาจารยเซียนเทียนหลานผูนี้เริ่มเปลงประกายไมแนนอน มองหาอะไรไปรอบๆ
ดานไมหยุด
ชายหนุ ม แซ ส วี ก ลั บ ตรงกั น ข า ม นั ก ปราชญ ชุ ด ขาวเห็ น คนอื่ น ๆ ต า งถู ก การ
ปรากฏตัวของมารปศาจดึงดูดเอาไว จนละความสนใจจากไมแปดวิญญาณลง ทันใด
นั้นแววตาพลันเปลงประกายสองสามครั้ง สงสัญญาณไปหาผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ย
คนอื่นๆ สองมือพลันรายอาคมภายใตการคุมครองของทั้งสองคนนี้ รางกายพลิ้วไหว
ไปเล็กนอย ที่เดิมคาดไมถึงวาจะเกิดเงาลวงตาขึ้น รางที่แทจริงอำพรางกายหายวับไป
อยางเงียบเชียบ
ยักษปกเงินเห็นใบหนาของสตรีที่ปรากฏตัวขึ้นใหม พลันงุนงงเปนไกตาแตก
ถาหากไมใชเพราะอีกฝายมีไอมารอยูทั่วเรือนราง มองใบหนาของสตรีผูนี้ ก็เห็นไดชัด
วาคือทานเซียนหลิงหลง แตผูที่ลงมือกับเขตอาคมเมื่อครูคือผูใดกัน แลวยังมีอิ๋นเยวที่
อยูขางกายหานลี่อีก ยักษปกเงินรูสึกกังขา กลอกตาไปมาไมหยุด ไมรูวากำลังคิดอะไร
อยูในใจกันแน
ฮูหยินมูของพรรคแปลงเซียนมองตราประทับมังกรแปลงที่อยูในมือ สีหนาเครง
ขรึ ม สลั บ กั บ สดใสไม แ น น อน จู ๆ ก็ ก ระทื บ เท า คาดไม ถึ ง ว า จะทะลวงเข า ไปใน
กระสวยตะวันจันทรา จากนั้นกระสวยกระสวยนั้นพลันแวบหายไป มุดลงไปใตดิน ชั่ว
พริบตาก็หายไปอยางไรรองรอย
“โงเขลา! ที่นี่ไมวาจะเปนบนพื้ นดิน หรือวากลางอากาศตางถูกผูบำเพ็ ญ เพี ยร
โบราณวางเขตอาคมเอาไวแลว หนีไปใตดินแลวจะมีอะไรโยชนอะไร!” กุยหลิงที่อยู
ดานหลังของหานลี่หัวเราะอยางเย็นชาออกมา ทาทีไมแยแสการกระทำของฮูหยินมู
“นั่นก็ไมแน สตรีสองคนนั้นลึกลับนัก และยิ่งไปกวานั้นยังรูจักภูเขาคุนอูน้ีไมนอย
ไมแนวาพวกนางอาจจะมีวิธีทลายเขตอาคมจริงๆ ก็เปนได” หานลี่กลับเอยขึ้นดวย
แวววตาเปลงประกาย
เวลานี้เขานึกออกแลววาในคัมภีรเลมหนึ่งไดเอยถึงประวัติความเปนมาของ ‘เขต
อาคมนพสัจจะสยบมาร’ เอาไว ถึงแมวาจะกลาวถึงไมมาก แตกลับบอกวาเขตอาคมนี้
คือเขตอาคมที่รายกาจที่สุดเปนอันดับหนึ่งของการขับไลมารในแดนมนุษย วากันวาใน
การตอสูในอดีต ผูบำเพ็ญเพียรในแดนมนุษยเคยใชมันสังหารมารปศาจโบราณไปไม
นอย
เมื่อขบคิดมาถึงตรงนี้ หานลี่ก็รีบรอนรวบรวมสมาธิมองไป
เบื้องหนาตั้งแตที่สตรีผูงดงามปรากฏกายขึ้น มีดยักษสีทองเกาเลมก็กลายเปน
ลำแสงสีทองจำนวนนับไมถวน มวนวนออกมาราวกับหาฝน
สตรีสวมชุดสีดำกลับรายนิ้วมืออยางพลิ้วไหว ไมวามีดลำแสงจะแหลมคมเพียงใด
เมื่อสัมผัสกับปลายนิ้วของนาง ก็ถูกตัดออกราวกับตนหญาก็ไมปาน ทำใหผูคนเห็น
แลวตกตะลึงตาคาง
ทวาหานลี่ที่ตกตะลึงอยางสุดๆ ก็ยังดูออก
สตรีผูนี้ดูเหมือนวาจะหวาดกลัวเขตอาคมสยบมารนี้เล็กนอย คาดไมถึงวาจะ
วนเวียนอยูเพียงภายนอกของเขตอาคมเทานั้น มิไดบุมบามบุกเขามา และยิ่งไปกวา
นั้นสตรีผูนี้กวาดตามองหานลี่และพวกแวบหนึ่ง ก็มองเขาไปในวิหาร สุดทายสายตาก็
ตกลงบน ‘ไมแปดวิญญาณ’
ไมแปดวิญญาณในเวลานี้ ตั้งแตที่มารปศาจสองตนปรากฏตัว ก็เปลงเสียงรอง
และเปลงแสงสวางวาบไมหยุด ดอกบัวสีเงินที่ปรากฏอยูรอบๆ ไมเพียงจะขยายใหญ
ขึ้นสองสามเทา เงาอสูรวิญญาณลวงตาทั้งแปดก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ราวกับของจริงอยางไร
อยางนั้น
สตรีชุดดำหันหนาไปเอยบางอยางกับมารโบราณที่อยูขางกาย น้ำเสียงแผวเบา
ราวกับกระซิบ หานลี่จึงไมไดยินอะไรเลย!
“อิ๋นเยว สตรีผูนี้คือรางแปลงของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาหรือ?” หานลี่ถอน
หายใจออกมายาวๆ จูๆ ก็เอยถามขึ้น
“ไมใชมารตนนั้นแลวจะเปนผูใดไปได คนผูนั้นคือจิตวิญญาณบริสุทธิ์สวนหนึ่ง
ของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณ และเปนหนึ่งในสามผูนำมารโบราณที่เขามารุกล้ำ
แดนมนุษยในปนั้น มีผูบำเพ็ญเพียรโบราณที่ตองมาตายดวยน้ำมือของมันอยูนับไม
ถวน” ดูแลวความจำของอิ๋นเยวจะฟนฟูกลับมาแลวไมนอยจริงๆ หลังจากเงียบกริบ
ไปเล็กนอยก็เอยประวัติความเปนมาของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาออกมา
“จิตวิญญาณของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณ? เมื่อครูไดยินคนผูนั้นกลาววา เดิมที
จิตวิญญาณดั้งเดิมของเจาถูกบีบใหออกจากราง หรือวาตอนนี้จิตวิญญาณบริสุทธิ์มาร
โบราณผูนี้กำลังใชรางกายของ…” นัยนตาของหานลี่เปลงแสงสีฟาสวางวาบ แนนอน
วามองออกวารางกายของสตรีชุดดำไมใชภาพลวงตา จึงอดที่จะเอยถามไมได
“เปนรางเดิมของขานั่นแหละ ถึงแมจะจำไมไดวาถูกอีกฝายสิงรางและกลายเปน
วิญญาณศาสตราถูกกักอยูในเตานภาสูญไดอยางไรก็ตาม แตรางกายของมันคือกาย
เนื้อของขาและหลงเมิ่งอยางแนนอน” อิ๋นเยวกัดฟนกรอดพรอมเอยอยางเชื่องชา
“ออ เจายังมีโอกาสแยงชิงกลับมาไดสินะ? ถึงอยางไรเสียเจาก็เปนนายที่แทจริง
ของกายเนื้อนั่น คงไมใชวาไมมีโอกาสหรอกนะ” หานลี่มองสตรีชุดดำที่มีใบหนาแข็ง
ทื่อซึ่งอยูตรงขามพลางชักสีหนา
“หรือวานายทานลืมไปแลว ขาเคยสำแดงการกลืนกินวิญญาณไปแลว บวกกับยึด
ครองรางของสุนัขจิ้งจอกมานานขนาดนี้ จะยังมีกำลังเปลี่ยนรางไดอยางไร หรือหากมี
ความสามารถทำไดถึงขนาดนั้นจริงๆ แตก็ไมมีทางทำไดในแเดนมนุษย จำตองกลับไป
ยังแดนวิญญาณ และยิ่งไปกวานั้นจิตสัมผัสของขาก็ไดรับความเสียหาย พลังยุทธตก
ลงมาถึงขั้นนี้ แมแตเคล็ดวิชาในอดีตก็ลืมเลือนไปแลวกวาครึ่ง จะไปสูวิญญาณมารตน
นั้นไดอยางไร นอกเสียจากวา…” อิ๋นเยวเอยอยางลังเล
“นอกเสียจากอะไร?” หานลี่ไมยอมแพงายๆ
“นอกเสียจากวาขาและหลงเมิ่งจะรวมมือกัน ก็อาจจะยังพอมีหวัง แตทานดู
สถานณการณของนางในตอนนี้สิ จะยอมรวมมือกับขาอยางนั้นหรือ? บางทีเพิ่งจะบีบ
วิญ ญาณมารให อ อกจากราง ฝ งนางก็ อ าจจะผนึ ก ข าเอาไวในทั น ที เพื่ อ จะได เป น
ประโยชนในการยึดครองราง!” อิ๋นเยวถอนหายใจออกมา
หานลี่ไดยินพลันเงียบขรึมลง
ในตอนนั้นเอง มารโบราณสองหัวสี่แขนที่อยูตรงขามก็ตะโกนไปยังกลางวิหาร
เอยกับคนประหลาดวา
“สหายเยี่ย เจาจะลังเลอีกทำไมในเมื่อเจาไมมีทางสังหารวิญญาณหมาปาตนนั้น
ได ตอนนี้ขอแคกักไมแปดวิญญาณเอาไว บรรพชนศักดิ์สิทธิ์ก็ตกลงจะมอบไอมารให
เจาเชนกัน เคล็ดวิชาที่เจาฝกฝนก็ไมใชวิชามาร สมบัติวิญญาณชิ้นนั้นก็ไมมีเจาของ
ไมมีทางทำรายสหายแน” น้ำเสียงของมารโบราณไมถือวาดังนัก แตก็เพียงพอที่จะทำ
ใหหานลี่และพวกไดยินอยางชัดเจน
หลังจากที่ทุกคนตกตะลึงแลวตางก็มองไปยังทองฟาเหนือวิหารนั้นอีกครั้ง
คนประหลาดไดยินคำพูดของมารโบราณก็เผยสีหนาครุนคิดออกมา แตทันใดนั้น
ก็นึกอะไรขึ้นมาได หลังจากกัดฟน คาดไมถึงวาจะกลายเปนลำแสงสีเหลืองสายหนึ่ง
ตรงไปหาไมแปดวิญญาณ
จะวาไปแลวก็แปลก ไมแปดวิญ ญาณที่ ดูนากลัว คาดไมถึงวาจะไมมีปฏิกิริยา
ตอบสนองใดๆ เมื่อลำแสงหลีกหนีของคนประหลาดเขาไปใกล ชั่วพริบตาคาดไมถึงวา
จะปลอยใหลำแสงของเขาไปอยูเบื้องหนาไมแปดวิญญาณ เงาอสูรวิญญาณลวงตาทั้ง
แปดก็ทำเปนมองไมเห็นเขา!
คนประหลาดที่แตเดิมรูสึกกังวลใจ เห็นเชนนั้นก็รูสึกดีอกดีใจยกใหญ หลังจากที่
ลำแสงหมนลง เงารางคนก็สวางวาบและตรงเขาไป หมายจะควาสมบัติชิ้นนั้นเอาไว
“เจาบังอาจเกินไปแลว!” เสียงแคนเสียงอยางเย็นชาดังออกมาจากใตวิหาร คน
ประหลาดดูเหมือนวาจะพบอะไรสักอยางเขา ชั่วขณะนั้นพลันหนาเปลี่ยนสีและพุง
แฉลบออกไปดานขาง
ที่เดิมที่เขาอยูมีเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น ชั่วพริบตาพลังมหาศาลกลุมหนึ่งก็ทะลุ
ผานไป ทลายสวนยอดของวิหารออกไปกวาครึ่ง
คนประหลาดมีสีหนาดูไมไดอยางสุดๆ!
“มารเฒาเจาไมจำเปนตองยุยงชนรุนหลังเหลานี้เพื่อประโยชนสวนตน มีขานั่ง
บัญชาการอยูใตไมแปดวิญญาณ ไมวาผูใดที่คิดจะเอาสมบัติชิ้นนี้ไป ก็ตองใหขาตกลง
กอนถึงจะได คิดไมถึงวาเจาจะหนีออกมาจากธงวายุทมิฬได เชนนั้นสมบัติวิญญาณที่
แตเดิมใชผนึกขาตอนนี้คงตองเอามาเปนอาวุธในการตอกรกับเจาแลว!” เสียงที่เย็นชา
ของหลงเมิ่งดังออกมา
“เชนนั้นหรือ? ขากลับไมคิดจะพัวพันอะไรกับสหายหลงเมิ่ง เพียงแคหนึ่งกำแพง
เล็กจอยขวางกั้นกลางอากาศ เจาคิดวามันจะตานทานขาไดอยางนั้นหรือ?” สตรีสวม
ชุดสีดำแยมยิ้ม พลางตอบกลับเชนนี้ออกมา
จากนั้นจูๆ สตรีผูนี้ก็พุงออกไปสิบกวาจั้ง หลบลำแสงสีทองไดชั่วคราว หลังจาก
พลิกตัวหันไปตะปบกลางอากาศ ไอมารสีดำทมิฬที่แตเดิมกำลังหมุนวนอยู ชั่วพริบตา
ก็สลายหายไป คาดไมถึงวามีธงเล็กๆ สีดำเปนประกายดามหนึ่งปรากฏขึ้น
ธงดามนี้พุงเขามาอยางไมลังเล หลังจากหมุนวนหนึ่งรอบ ก็ตกลงที่ใจกลางฝามือ
ของสตรีชุดดำ
“ธงวายุทมิฬ? เปนไปไมได เจาไมเคยฝกฝนคาถาสมบัติสะทานฟา จะควบคุม
สมบัติชิ้นนี้ไดอยางไร!” เสียงของหลงเมิ่งเปลี่ยนเปนรอนรน
“ข า ไม มี เ วลาฝ ก ฝนคาถาสมบั ติ ส ะท า นฟ า ของธงด า มนี้ แต เ จ า อย า ลื ม
ความสามารถของรางแปลงมารบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราสิ ตอใหมันคือสมบัติ
สะท านฟ า ถู ก ข าใส ไอมารเข าไป ก็ ต อ งฟ งคำสั่ งของข าชั่ วคราวแล ว” สตรี ชุ ด ดำ
หัวเราะเบิกบานใจออกมา ทันใดนั้นก็สะบัดธงวายุทมิฬในมือ
เสียงอึกทึกดังออกมาจากธงดามนั้น ชั้นบรรยากาศทั้งหมดถูกทำใหสั่นคลอน
หานลี่และพวกยิ่งดูเหมือนวาจะสัมผัสไดวาบรรยากาศรอบๆ ดูอึดอัด ชั่ววินาที
นั้นราวกับวาถูกผนึกไวอยางไรอยางนั้น
ผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดตางก็พากันตกตะลึง!
ตอนที่ 1042 ธงวายุทมิฬ
หานลี่สูดลมหายใจเย็นเยียบเขาไปเฮือกหนึ่ง
การตอสูเบื้องหนาเห็นไดชัดวาอยูเหนือกวาระดับกอกำเนิด ไมใชสิ่งที่เขาจะไป
เขารวมไดงายๆ
ทันใดนั้นความคิดในใจจึงเคลื่อนไหวไปมาอยางรวดเร็ว ริมฝปากขยับนอยๆ กุยหลิงที่
อยูดานหลังแววตาเปลงประกาย หลังจากลังเลเล็กนอยรางกายก็พลิ้วไหว กลายเปน
ลำแสงสีเหลืองสายหนึ่งมุดลงไปใตดิน
จากนั้นสองตาของหานลี่ก็มองไปรอบๆ อยางไมแนนอน หลังจากผานไปชั่วครู
สายตาก็หยุดชะงัก คาดไมถึงวาหยุดอยูตรงที่แหงหนึ่งฝงตรงขาม
เห็ น เพี ย งพื้ น ที่ ว างด านหลั งของมารทั้ ง สอง มี เขตอาคมส งตั ว สี ด ำที่ ส มบู ร ณ
ปรากฏขึ้นที่มุมหนึ่ง ดานบนมีธงอาคมชุดหนึ่งปกคลุมเอาไว
“นี่คือ…”
ชั่วพริบตาหานลี่ก็นึกออกวาสีของมันเหมือนกับเขตอาคมสงตัวอีกอันที่อยูในหองหิน
อยางไรอยางนั้น ทันใดนนั้นก็รูสึกปติยินดีขึ้นมา!
แตเมื่อสายตาของเขาเคลื่อนยายไป กลับประสานสายตาเขากับชายหนุมแซสวีท่ี
มองมาเชนกันอยางพอดิบพอดี ทั้งสองคนพลันตกตะลึง แตทันใดนั้นก็ละสายตาออก
ในใจเกิดความคิดชั่วรายขึ้นมาพรอมกัน!
เห็นไดชัดวาปรมาจารยเซียนของทุ งหญ าเทียนหลานผูนี้ ดูเหมือนวาจะสนใจ
หนทางหนีออกไปเพียงทางเดียวเสนนี้เชนกัน
เวลานี้สตรีชุดดำที่เรียกธงวายุทมิฬของออกมา เห็นไดชัดวาไมยอมประวิงเวลาอีก
ทันใดนั้นมือขางหนึ่งก็ถือธงพรอมสาวเทายาวๆ ไปทางวิหารที่อยูทามกลางเขตอาคม
มารโบราณก็หยิบสมบัติธรรมดาๆ ออกมาสี่ชิ้น ตามหลังสตรีผูนั้นไปติดๆ
การกระทำของมารทั้งสอง แนนอนวาเปนการกระตุนเขตอาคมนพสัจจะสยบมาร
ทันใดนั้นลำแสงสีทองที่นาตกตะลึงมากกวาเดิมพลันพุงลงมาจากกลางอากาศ
สตรีชุดดำหัวเราะอยางเย็นชาออกมา สองมือถูธงเล็กๆ ที่อยูในมือ ชั่วขณะนั้น
ลำแสงสีดำพลันระเบิดออก ลำแสงสีดำสนิทชั้นหนึ่งปรากฏขึ้น ปกปองนางและมาร
โบราณเอาไวพรอมกัน
ภาพฉากที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้น!
เมื่อลำแสงสีทองที่ดุดันสัมผัสเขาไปเกราะปองกันลำแสงสีดำ ก็กลายเปนดั่งดิน
โคลนที่ จ มหายเข าไปในมหาสมุ ท ร จมหายเข า ไปอย างไรร อ งรอย ผิ ว ของเกราะ
ป อ งกั น ลำแสงไม มี ค ลื่ น ใดปรากฏขึ้ น สั ก นิ ด ลำแสงสี ท องเหล านี้ ไม ได ส ร างความ
เสียหายใดๆ ใหมันเลย ชั่วพริบตาสตรีชุดดำก็อาศัยเกราะปองกันลำแสงนี้ เขาไปใน
บริเวณของเขตอาคมนพสัจจะสยบมาร
มีดยักษเกาเลมสั่นคลอนพรอมกัน เปลงเสียงเพรียกออกมาเปนระลอก อักขระ
ลึกลับเปลงแสงสวางวาบพลางปรากฏขึ้น มีดยักษหดเล็กลงอยางรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็
กลายเปนมีดสีทองเกาเลมขนาดสองสามฉื่อ
มีดสีทองเล็กลงแลว แตลำแสงวิญ ญาณที่เปลงออกมากลับสวางจาจนแสบตา
ราวกับวาในชั้นบรรยากาศมีดวงอาทิตยสีทองเกาดวงปรากฏขึ้นอยางไรอยางนั้น ทำ
ใหผูคนไมอาจสบตาไปตรงๆ ได
แววตาของสตรีชุดดำเปลี่ยนไป แตเดิมที่ราบเรียบก็เผยสีหนาเครงขรึมนอยๆ ออกมา
ชั่วพริบตาลำแสงสีดำก็ขยายใหญขึ้นหลายเทา ผิวสีดำของมันเปลงประกายมันวาว
ในตอนนั้นเอง มีดสีทองเกาเลมพลันปรากฏขึ้น หลังจากปลายมีดหมุนติ้วๆ แลว
ก็ชี้ไปหาสตรีชุดดำอยางพรอมเพรียง
ลำแสงสวางวาบ เสนไหมสีทองบางๆ เกาเสนพุงออกไป ทันใดนั้นก็สวางวาบแลว
สลายหายไป
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ธงวายุทมิฬที่กลายเปนเกราะปองกันลำแสงก็ถูกแสง
สีทองเกาดวงระเบิดเขาใส จากนั้นก็เปลงแสงเจิดจา ชั่วพริบตาลำแสงสีทองที่เจิดจาก็
ปกคลุมเกราะปองกันลำแสงนั้นเอาไว
สิ่งที่นาตกใจก็คือ การโจมตีที่นาตกตะลึงเชนนี้กลับไมมีเสียงอะไรเกิดขึ้นเลยสักนิด
ทุกอยางลวนเกิดขึ้นอยางเงียบเชียบ กลับทำใหผูคนรูสึกตกตะลึง!
หานลี่กลับถือโอกาสนี้เหลือบตามองคนอื่นๆ เห็นทุกคนตางถูกสถานการณเบื้อง
หนาดึงดูดความสนใจเอาไว ทันใดนั้นใบหนาพลันฉายแววประหลาดใจ มือหนึ่งขยับ
อยางรวดเร็วราวสายฟา
ยามเก็บอสรูวิญญาณใบหนึ่งพุงเขามาในแขนเสื้อของเขา
สองมือเลื่อนไปที่แผนหลังดวยสีหนาราบเรียบ ลูกไฟสีทองพุงออกมาจากแขนเสื้อ
เมื่อสัมผัสกับพื้นดินก็มุดหายไปใตดิน ชั่วพริบตาก็สลายหายไปอยางไรรองรอย
ชั่วพริบตาแมลงกลืนทองหลายพันตัวในยามก็จมหายลงไปใตดิน จนมองไมเห็นเงา ไม
มีผูใดลวงรูเลยสักนิด
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ หานลี่พลันรูสึกผอนคลายลง
และในตอนนั้นเอง สตรีชุดดำที่อยูทามกลางเขตอาคมนพสัจจะสยบมารก็เปลง
เสียงคำวา “เก็บ” ออกมา
ลำแสงสีทองพลิ้วไหว ปรากฏรูสีดำสนิทขนาดสองสามจั้งขึ้น
เมื่ อ รู นี้ ป รากฏขึ้ น ชั่ ว ขณะนั้ น ลำแสงสี ท องก็ ถู ก ดู ด เข า ไปราวกั บ ถู ก ดู ด ลง
มหาสมุทรอยางไรอยางนั้น ไมเหลือเลยสักนิด
หลังจากเสียงถอนหายใจเบาๆ ดังขึ้น รูสีดำก็สั่นไหวแลวสลายหายไป เผยราง
ของสตรีชุดดำและรางของมารโบราณออกมา
มือขางหนึ่งของสตรีผูนี้ควาธงวายุทมิฬดามหนึ่งเอาไว มองมีดสีทองเกาเลมที่อยู
ไกลออกไปพลิ้วไหวอีกครั้ง และกำลังจะทำการโจมตีอีกครา จูๆ ก็มองไปทางวิหาร
พลางขมวดคิ้วมุนและเอยวา
“สหายหลงเมิ่ ง เจ าอย า คิ ด ว า จะอาศั ย เขตอาคมนพสั จ จะสยบมารทำให ข า
สูญเสียไอมาร แลวคอยลงมือเลย เจาก็นาจะรู ธงวายุทมิฬคือสมบัติประเภทชองวาง
มิติที่หายากในเหลาบรรดาสมบัติสะทานฟา ตอใหการโจมตีนั้นทรงพลังขนาดไหน ถา
หากไมสามารถทะลวงผานชองวางมิติมาได ก็ไมอาจทำรายขาไดเลยแมแตนอย หาก
รูตัวแลวละก็ เจาก็ยอมออกมาดีๆ เถิด ถาใหขาบุกเขาไปดานใน ขาจะไมเจรจาดีๆ
แลวนะ”
“จะใหขาออกไปทำไม? หรือวาเปลี่ยนใจแลว คิดวารวมมือกับขาจะดีกวาอยาง
นั้นหรือ!” เสียงหัวเราะของหลงเมิ่งดังออกมาจากวิหาร ราวกับวาไมสนใจที่เขตอาคม
นพสัจจะสยบมารนั้นไมมีประโยชนอะไรเลยสักนิด
“ใชแลว ขาอยากผสานจิตกับจิตวิญญาณดั้งเดิมของเจาอีกครั้ง!” นอกเหนือความ
คาดหมายของทุกคน สตรีชุดดำคาดไมถึงวาจะเอยเชนนี้ออกมาดวยใบหนาแข็งทื่อ
“เจาพูดอะไร? มารเฒา เจาคิดวาขาเปนเด็กสามขวบและเชื่อคำพูดของเจาหรือ?”
เห็นไดชัดวาหลงเมิ่งรูสึกตกตะลึง ทันใดนั้นพลันแคนเสียงขึ้นจมูก ทาทางไมเชื่อถือ
“แนนอนวาไมอาจผสานจิตวิญ ญาณดั้งเดิมเหมือนแตกอนได แตจำตองใหขา
ผนึกเจาไวกอน เพื่อรับประกันวาหลังจากผสานแลวจะใหขาเปนจิตวิญญาณหลักถึง
จะได” สตรีชุดดำเอยอยางราบเรียบ โบกสะบัดธงสีดำในมือเบาๆ ในเวลาเดียวกัน
สรางรูลวงตาขนาดยักษสีดำขึ้นมาไดอยางงายดาย พลันกลืนกินเสนไหมสีทองสาย
แลวสายเลาที่ถูกพนออกมาจากมีดสีทองเกาเลมอีกครั้งอยางงายดาย ทวาเปนเพราะ
หยุดชะงักฝเทาลงชั่วคราว จึงไมไดกระตุนมีดสีทองเกาเลมใหสำแดงความสามารถที่
รายกาจอื่นๆ
“เจายังไมตื่นจากฝนอีกหรือ? ขาจะตกลงทำเรื่องที่เหลวไหลอยางนั้นไดอยางไร
ใหจิตวิญญาณดั้งเดิมของเจาเปนจิตวิญญาณหลัก เจาก็ชางคิดนัก ตอนนี้เจายึดครอง
รางของขาแลว จะผสานจิตวิญญาณใหยุงยากอีกทำไม มีแผนชั่วอะไร ก็กลาวมาตรงๆ
เถิด!” หลงเมิ่งเอยอยางตกตะลึงระคนสงสัย
“แผนชั่วนั้ น มีอยูแลว พวกเราผสานจิตวิญ ญาณดั้งเดิ มกั น สองสามครั้ง เจาก็
นาจะสัมผัสไดแลว ไมวาเจาหรือขาที่ครอบครองรางนี้แตเพี ยงผูเดียว จะไมมีทาง
ควบคุมความสามารถที่รายกาจที่สุดของรางกายนี้ได แตหลังจากผสานกันแลวกลับ
สามารถทำให เจ า มนุ ษ ย ผู นั้ น บรรลุ ร ะดั บ เทพแปลง และเข า ไปในปรากฏการณ
มหัศจรรยไดอยางงายดาย ดังนั้นหากเจาและขาไมอยากออกไป จะถูกผูบำเพ็ญเพียร
ในแดนมนุษยรวมมือกันผนึกไวอีกครั้ง หรือวาผสานจิตวิญญาณดั้งเดิมดีกวากันละ”
สตรีชุดดำเอยอยางเย็นชา
“จุๆ คิดไมถึงวาผูนำมารโบราณที่ ยิ่งใหญ ผูซึ่งยึดครองแดนมนุ ษ ยในป นั้น จะ
หวาดกลัวผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงเพียงไมกี่คน ชางนาขันเสียจริง” หลงเมิ่ง
เงียบกริบไปชั่วครู แตกลับหัวเราะเยาะออกมา
“ตอนนั้นแดนศักดิ์สิทธิ์และแดนมนุษยเชื่อมโยงเขาดวยกัน เผาศักดิ์สิทธิ์ของพวก
เราก็สามารถฟนฟูไอมารไดตลอดเวลา แนนอนวาจึงสำแดงความสามารถที่ยิ่งใหญ
ตางๆ ไดตามอำเภอใจ แตตอนนี้ทางเดินสายนั้นถูกปดตายเอาไว ตอนนี้ไอวิญญาณ
ฟาดินในแดนมนุษยก็เปลี่ยนไปแลว ตอใหแตเดิมขามีความสามารถที่ยิ่งใหญ ตอนนี้ก็
สำแดงออกมาไดเพี ยงสองสามครั้งเท านั้ น จะกลั วผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรระดั บ เทพแปลง
เหลานี้ก็ไมแปลกสักหนอย เจาก็เหมือนกันมิใชหรือ! อยามองวาเดิมทีก็เจาอยูในระดับ
เทพแปลงขั้นปลายของเผาปศาจในแดนวิญญาณ ตอนนี้กลับสำแดงความสามารถได
เพียงสองสามครั้งเทานั้น” สตรีชุดดำเอยดวยสีหนาราบเรียบ
“ใหจิตวิญญาณดั้งเดิมของเจาเปนจิตวิญญาณหลัก ตอใหฟาถลมดินทลาย ขาก็
ไมมีทางตกลง มิเชนนั้นตอใหหนีออกไปได มันจะแตกตางอะไรกับกอนหนาละ อยา
คิดวาขาไมรู ไอมารที่ใสเขาไปในธงวายุทมิฬนั้นทำใหเจาควบคุมสมบัติวิญญาณชิ้นนี้
ไดชั่วคราว แตก็ทำใหมันสำแดงความสามารถออกมาแคครึ่งหนึ่งเทานั้น เจาจะเขาไป
ในวิหารไดหรือไม ก็เปนเรื่องที่พูดยากแลว! เจาพูดถึงการผสานจิตวิญญาณดั้งเดิมนั้น
ได แตตองใหขาเปนจิตวิญญาณหลัก มิเชนนั้นก็เสียเวลา!” หลงเมิ่งเอยอยางเด็ดขาด
สตรีชุดดำไดฟงคำพูดของหลงเมิ่ง ใบหนาเยายวนก็ดำคล้ำ
“ดูแลว เจาคงมั่นใจในเขตอาคมนพสัจจะสยบมารและไมแปดวิญญาณมากจริงๆ
ชางเถิด ในเมื่อไมยอมตกลง เชนนั้นก็รอบรรพชนอยางขาเขาไปจับเจาดวยตนเอง
จากนั้นก็กระชากพลังวิญญาณจากจิตวิญญาณดั้งเดิมของเจาออก ทำใหเจากลายเปน
ฝุนควันอีกครั้ง ทำเชนนี้ผลลัพธดูจะเลวรายไปสักหนอย แตก็ทำใหความสามารถของ
ขาเพิ่มขึ้นเชนกัน”
สตรีชุดดำเอยจบดวยความโหดเหี้ยม แตกลับมองไปทางนั้นสองแวบ จูๆ ก็หัน
หนาไปออกคำสั่งเบาๆ กับมารโบราณสองประโยค
มารปศาจสองหัวสี่แขนพยักหนาอยางตอเนื่อง ทันใดนั้นรางกายก็เปลงแสงสวาง
วาบถอยกรูดไปดานหลัง ชั่วพริบตา ก็ออกจากอาณาเขตของเขตอาคม หนีไปใกลๆ
กับเขตอาคมสงตัว ปรากฏตัวเหนือเขตอาคมอยางเงียบๆ
ภาพฉากที่นาตกตะลึงพลันปรากฏขึ้น หลังจากที่ทำใหหานลี่และพวกตะลึงงันแลว
ตางก็พากันกนดาในใจ
เชนนั้น แตเดิมที่พวกเขาคิดจะเคลื่อนไหวอยางเงียบๆ จากนั้นก็หาโอกาสออก
จากที่นี่ แนนอนวาในยามนี้ถูกทำลายไปจนหมดแลว
เทียบกับชายหนุมแซสวีและยักษปกเงินแลว หานลี่ลงมือไปตั้งนานแลว ในใจจึง
พอมีแผนการอยูบาง ทวาเขาหันไปทางซายทีขวาที ก็พบวารางของยักษปกเงินและ
อสูรวิหคราชสีหเริ่มรางเลือน แลวสลายหายไปทามกลางลำแสงสีเขียว
หานลี่พลันขมวดคิ้ว
ดานขาง ปากของชายหนุมแซสวีและธิดาเทพเทียนหลานผูนั้นก็ขมุบขมิบไมหยุด
ปรึกษาอะไรกันสักอยางดวยสีหนาเครงขรึม
สวนเหลาผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยที่ติดตามนักปราชญชุดขาวนั้นกลับยืนนิ่งอยู
ดวยกัน ทั้งไมไดปริปากและไมไดเคลื่อนไหวใดๆ
หานลี่ขมวดคิ้ว หลังจากที่สายกวาดมองไปยังใบหนาแข็งทื่อของนักปราชญชุดขาว ใน
ใจก็เกิดความรูสึกผิดปกติ หลังจากขบคิดเล็กนอย ในรูมานตาก็เปลงแสงสีฟาสวาง
วาบ สำแดงความสามารถของเนตรวิญญาณวารีกระจางออกมา
ผลลัพธคือเมื่อมองไป หานลี่พลันพบวานักปราชญที่อยูทามกลางผูบำเพ็ญเพียร
ตระกูลเยี่ยเหลานั้นมีลำแสงปกคลุมรางกายเปนแคเงาลวงตาเงาหนึ่งเทานั้น
หานลี่ใจหายวาบ กวาดสายตามองไปใกลๆ กับตนเอง หลังจากไมพบอะไรแลว
ถึงไดวางใจตามหารางที่แทจริงของอาวุโสตระกูลเยี่ยผูนั้นไปรอบๆ
และในเวลาเดียวกันนั้น จิตวิญญาณของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาที่กลายเปน
สตรีชุดดำผูนั้น หลังจากขัดขวางการโจมตีของเสนไหมสีทองที่พนออกมาจากมีดสี
ทองไปรอบหนึ่ง จูๆ ก็สำแดงธงวายุทมิฬในมือ โยนขึ้นไปบนทองฟา สองมือพลันราย
อาคม ปากก็เปลงคำพูดประหลาดๆ ออกมา
หลังจากเสียง ‘ปง’ ดังขึ้น บนธงวายุทมิฬพลันมีพายุสีดำกลุมหนึ่งปรากฏออกมา
พายุลูกนี้ขยายใหญขึ้น ชั่วพริบตาก็กลายเปนพายุสลาตันสูงเสียดฟา แทบจะใน
เวลาเดียวกันที่พายุสลาตันนั้นปรากฏตัว สวนยอดก็เกิดเสียงฟาผาขึ้น หมูเมฆสีเหลือง
เขมจำนวนนับไมถวนพลันปรากฏขึ้น ประจุไฟฟาสีเงินหนาๆ บางๆ สวางวาบและดีด
เปรี๊ยะๆ อยูในมานหมอก ราวกับวาจะผาลงมาไดทุกเมื่อ
ภายใตเมฆสีเหลืองนั้น รอบๆ พายุสีดำ มีเสียงคำรนคำรามราวกับปรากฏการณ
น้ำขึ้นน้ำลง คมมีดพายุจำนวนนับไมถวนเริ่มปรากฏขึ้นรางๆ กลางอากาศเต็มไปดวย
ฝุนผงถูกพัดปลิววอน ทุกแหงลวนมีเสียงดังสนั่นขึ้น
รอบกายของหานลี่เปลงแสงสีเขียวเจิดจา เกราะปองกันหนาๆ ชั้นหนึ่งปรากฏขึ้น
คุมครองรางของตนเองและอิ๋นเยวเอาไวตั้งนานแลว แตทุกแหงที่สองตากวาดไป ลวน
เปนพายุประหลาดสีเหลือง เกราะปองกันเปลงเสียงรองหึ่งๆ ออกมา ราวกับเรือลำ
เล็กที่อยูทามกลางคลื่นลูกใหญอยางไรอยางนั้น เห็นไดชัดวาเล็กนิดเดียวอยางหาที่
เปรียบมิได
หานลี่อดที่จะปดปากไมได ใบหนาขาวซีดเปนอยางมาก
ภายใตการควบคุมธงวายุทมิฬของรางแปลงบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซา ในที่สุดก็
เริ่มสำแดงความนากลัวของสมบัติวิญญาณสะทานฟาออกมาแลว
ตอนที่ 1043 รักษาชีวิต
ในที่สุดหานลี่ในเวลานี้ก็รูแลววาอะไรที่เรียกวาพายุโหมกระหน่ำดุจใบมีด และฟา
ถลมดินทลายคืออะไร
ถึงแมวาตรงนี้จะเปนเพียงสวนริมขอบของพายุทมิฬ แตก็ยังรูสึกวาตัวเองสูญเสีย
ประสาทสัมผัสทั้งหาไป ในโสตประสาทมีเสียงหวีดหวิว ในครรลองสายตาลวนเปนสี
เหลืองโพลน แมกระทั่งจิตสัมผัสก็ยังไมมีทางแผออกไปไดแมแตครึ่งกาว เมื่อออกจาก
เกราะปองกันก็จะถูกพายุโหมกระหน่ำดานนอกพัดจนจิตสัมผัสสลายหายไปในชั่ว
พริบตา
ตอนนี้นับวาเขารูแลววา เหตุใดพัดตรีเปลวเพลิงที่ลอกเลียนแบบมาจากพัดสัตต
เปลวเพลิง ถึงจัดอยูในอันดับรั้งทายของสมบัติสะทานฟา และสำแดงอานุภาพออกมา
ไดแคสามสี่สวนเทานั้น เทียบกับอานุภาพของธงวายุทมิฬแลว ชางแตกตางกันราวฟา
กับเหว
โชคดีที่ความสามารถของเนตรวิญญาณวารีกระจางของเขายังอยู หลังจากที่ใส
ลมปราณเขาไปในดวงตาทั้งสอง รูมานตาก็เปลงแสงสีฟาสวางวาบ นับไดวามองเห็น
อยางชัดเจนในระยะสิบจั้งเศษ
สวนเขตอาคมนพสัจจะสยบมารซึ่งอยูไกลออกไปทามกลางพายุกระหน่ำเชนนี้จะ
เป น อย างไร เขาก็ไม มี ท างรูได จึงทำได เพี ย งสั ม ผั ส ได ถึงการต อ สูที่ ดู เหมื อ นวาจะ
รุนแรงขึ้นจากพื้นดินที่เดี๋ยวสั่นคลอนอยางรุนแรงและแผวเบาสลับกันไปมา
เมื่อเงยหนาขึ้นมองทองฟา บรรยากาศบนทองฟาที่ดูธรรมดาๆ ลวนถูกพายุปก
คลุมเอาไวจนขมุกขมัวราวกับผงแปง ไมมีทางทอดสายตามองออกไปไกลๆ ได
หานลี่หนาเปลี่ยนสี เกราะปองกันลำแสงเปลงเสียงรองหึ่งๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ และเพื่อ
ประคับประคองเกราะปองกันนี้ ลมปราณที่สูญเสียไปจึงมากกวาเดิมอยางเห็นไดชัด
อานุภาพของธงวายุทมิฬนี้คาดไมถึงวาจะสูงขึ้นเรื่อยๆ อยางตอเนื่อง
สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง เขามองไปที่ฝาเทาแวบหนึ่งตามสัญชาตญาณ ดู
เหมือนวาการหนีลงไปใตดินก็เปนความคิดที่ไมเลว
เมื่อความคิดนี้ปรากฏขึ้น หางจากเกราะปองกันของเขาไปสองสามจั้ง วงพายุสีดำ
ขนาดหนาเทาปากชามก็พวยพุงขึ้นมาจากพื้นดิน หมุนวนดวยความเร็วที่บาคลั่ง
ชั่วขณะนั้นขุมพลังมหึมาสายหนึ่งพลันสงมา เกราะปองกันลำแสงสีเขียวเคลื่อน
ตรงไปหาวงพายุอยางควบคุมไมได
หานลี่ตกตะลึงในทันใด ลมปราณรอบกายรวมตัวกัน เกราะปองกันลำแสงสวางจาขึ้น
ถึงไดพอฝนขยับกายได ทันใดนั้นกระบี่ลำแสงสีทองสิบกวาสายก็พุงออกมาจากมาน
ลำแสง ลอมรอบเกราะปองกันลำแสงเอาไว ไอกระบี่ตัดกันเปนรูปกากบาท และทุบ
วงพายุที่ยังไมไดสำแดงอานุภาพอยางเปนทางการออกมาจนแยกออกเปนสวนๆ และ
กลายเปนไอสีดำ แตทันใดนั้นไอสีดำก็รวมตัวกันหมุนวนติ้วๆ อีกครั้ง พายุสลาตันกอ
ตัวขึ้นเบื้องหนาอีกครั้ง
หานลี่ เห็ น เช น นั้ น ก็ ร อ งเรี ย กอิ๋ น เย ว ด ว ยสี ห น า ดำทะมึ น พลางถอยกรู ด ไป
ดานหลัง
ดูแลวเสาพายุเหลานี้จะชั่วรายจริงๆ หนีลงไปใตดินก็คงจะไมคอยปลอดภัยนัก
หลังจากหลบหลีกวงพายุสองสามวงพรอมกันอยางระมัดระวัง ทั้งสองคนก็มาอยูตรง
ริมขอบบริเวณที่วาง
เบื้องหนาคือกำแพงกั้นสีเทาที่ขมุกขมัวไมสดใส
ไมตางอะไรจากที่เขาคาดไวมากนั ก ที่ นี่ไมเพียงจะมีพ ายุกระหน่ำน อยลงเป น
จำนวนมาก เสาวายุทมิฬเหลานี้ไมไดปรากฏขึ้นตรงนี้
ในที่สุดทั้งสองคนก็นับไดวาผอนคลายลง
แตสีหนาเครงขรึมของหานลี่ไมไดหายไปเลยสักนิด กลับมองไปทางวิหารปราดหนึ่ง
พรอมกับแววตาที่เปลงประกาย พลันพลิกฝามือ กระบี่บินสีทองยาวสองสามฉื่อเลม
หนึ่งก็ฟนลงไปบนกำแพงกั้นที่ดานหลัง
เสียง ‘ตูม’ ดังขึ้น ชั่วขณะนั้นกำแพงสีเทาหมนพลันเกิดรอยแยกลึกลงไปสอง
สามฉื่อสายหนึ่ง แตกลับปรากฏลำแสงสีขาวสวางจา แลวฟนฟูกลับมาเปนดังเดิม
หานลี่พลันขมวดคิ้ว กำแพงกั้นผืนนี้ดูเหมือนวาจะไมไดแข็งแกรงเทาไรนัก ใช
กระบี่บินฟนลงไปก็แตกออกอยางงายดาย แตความหนานั้นไมรูวาหนาเทาไหรกันแน
จริงๆ และยิ่งไปกวานั้นภายใตพลังการฟนฟูที่รวดเร็วจนนาตกตะลึงเชนนี้ หากไมอาจ
โจมตีทะลวงกำแพงกั้นไดละก็ ก็ไมตองคิดจะออกจากที่นี่แลว
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลังจากขบคิดเล็กนอย แขนของหานลี่ก็ขยับ ชั่วขณะนั้นแขน
ขางหนึ่งก็กดไปที่ยามเก็บของขางเอว
ลำแสงวิญญาณสวางวาบ พัดตรีเปลวเพลิงเลมนั้นพลันปรากฏขึ้นในมือ
หานลี่ใสพลังวิญญาณเขาไปอยางระมัดระวัง พัดตรีเปลวเพลิงเริ่มสั่นคลอน ชั่ว
ขณะนั้นลำแสงสามสีชั้นหนึ่งพลันปรากฏขึ้นบนพัด
หานลี่สูดลมหายใจเขา มือหนึ่งถือพัดเลมนั้นโบกไปทางกำแพงกั้นเบาๆ
ชั่วขณะนั้นเปลวเพลิงสามสีกลุมหนึ่งก็ทะลักออกมา ทุกแหงที่กวาดออกไปนั้นทำ
ใหกำแพงละลายอยางเงียบเชียบ รูขนาดสองสามจั้งปรากฏขึ้น แตเมื่อสายตามองไป
ดานในแวบหนึ่ง หานลี่ก็หนาเปลี่ยนสีอยางสุดๆ
เพราะวาการโจมตีนี้มีความลึกสิบกวาจั้งเต็มๆ เปลวเพลิงถึงจะละลายหายไป แต
กำแพงแหงนี้กลับไมมีทาทีจะถูกหลอมละลายจนทะลุเลยแมแตนอย ถึงแมจะไมไดใช
อานุภาพเต็มอัตราของพัดตรีเปลวเพลิง แตความหนาของกำแพงแหงนี้ ก็ทำใหเขา
เผยสีหนาครุนคิดออกมา
ถึงแมวาพัดตรีเปลวเพลิงจะมีอานุภาพไมนอย แตในเมื่อการโจมตีเบื้องหนาไมมีผล
ถาหากเขาเพิ่มอานุภ าพลงไป ก็อาจจะทลายเขตอาคมประหลาดที่ผูบำเพ็ญ เพี ยร
โบราณวางไวได เขาก็ไมคอยเชื่อถือนัก ถึงอยางไรเสียที่นี่ก็เปนสถานที่ที่ใชผนึกปศาจ
หลงเมิ่งและรางแยกของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณ
และยิ่ ง ไปกว า นั้ น หากสำแดงอานุ ภ าพของพั ด ตรี เ ปลวเพลิ ง เต็ ม อั ต รา
ปรากฏการณที่เกิดขึ้นก็ไมนอยเลย หลังจากโจมตีแลวอาจจะดึงดูดความสนใจจาก
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณได ถึงเวลานี้กำแพงยังไมทันทลาย ก็คงเผาตนเองไป
เสียกอน
และยิ่งไปกวานั้นเขายังรูสึกระแคะระคายในใจ กำแพงผืน นี้ แปลกประหลาด
เชนนี้ จะแอบซอนเขตอาคมลูกโซอะไรไวขางในหรือไม หากทลายกำแพงนี้ลงได แลว
ไปดึงดูดการตอบโตของเขตอาคมอื่นๆ ก็ไมอาจกลาววาเปนเรื่องลอเลนได
เมื่อขบคิดเชนนั้น นิ้วทั้งหาที่กุมพัดตรีเปลวเพลิงเอาไวพลันคลายลง สีหนาเครง
ขรึมสลับกับสดใสไมแนนอน
“ที่แหงนี้ไมไดธรรมดาขนาดนั้น นายทานอยาเสี่ยงเลย!” อิ๋นเยวที่คอนขางใจ
ลอยตั้งแตเห็นหลงเมิ่ง จูๆ พลันเอยปากขึ้น
หานลี่ไดยินแลวพลันหัวเราะออกมา ตอนที่กำลังคิดจะเอยอะไรกับสตรีผูนี้ กลับ
มีสีหนาเครงขรึม และหันหนาไปเอยกับพายุที่บาคลั่งดานขางดวยความเย็นชา
“ผูใดที่ตรงนั้น ทำตัวลับๆ ลอๆ อยามาหาวาขาไมเกรงใจ”
เอยจบ เขาก็กำพัดตรีเปลวเพลิงในมือแนน ชั่วขณะนั้นบนพัดพลันมีลำแสงสามสี
หมุนวนขึ้นอีกครั้ง
“สหายหานอยาเพิ่งลงมือ ขานอยรูจักอานุภาพพัดเลมนั้นของสหายแลว นี่ไมตาง
อะไรจากโจมตีอยางเปลาประโยชนหรือ” เสียงของบุรุษดังขึ้นอยางวังเวง จากนั้นเงา
รางคนสีขาวสองสายก็ปรากฏขึ้นทามกลางพายุสีเหลือง เปนชายหนึ่งคนหญิงหนึ่งคน
คาดไมถึงวาจะเปนชายหนุมแซสวีและธิดาเทพเทียนหลานหลินอิ๋นผิง
หานลี่พลันขมวดคิ้ว ใบหนาไมไดปกปดความแปลกใจเอาไว แตปากกลับเอยดวย
น้ำเสียงที่เย็นชาไมเปลี่ยนแปลง
“ออ ทั้งสองทานมาที่นี่ หรือคิดจะถือโอกาสนี้ลงมือกับผูแซหาน?”
เอยจบ เขาก็ดูเหมือนวาจะมองไปทางวิหารแวบหนึ่งอยางตามอำเภอใจ
ถึงแมวาทางนั้นจะมีพายุโหมกระหน่ำที่บาคลั่งอยางสุดๆ กวาครึ่งลวนมีวงพายุสีดำ
รวมตัวกันอยู แตก็ยังคงกลบเสียงฟาผาที่ดังขึ้นไมได บางครั้งก็มีลำแสงสีทองที่เจิดจา
จนแสบตาสองสายแหวกผานอากาศไป คาดไมถึงวาจะสวางวาบไปทั่วทองฟาในชั่ว
พริบตา
ดูแลวเขตอาคมนพสัจจะสยบมารคงจะไมธรรมดาจริงๆ ธงวายุทมิฬมีอานุภาพ
ร า ยกาจขนาดนี้ คาดไม ถึ ง ว า จะยื น หยั ด ฝ น เอาไว ได จ นถึ ง ตอนนี้ ไม รู ว า ไม แ ปด
วิญญาณไดเขารวมการตอสูหรือไม
หานลี่ขบคิด ในใจ แตเมื่อ เห็ น สตรีชุ ด ดำยั งไม อ าจหั น มาสนใจทางนี้ ได ก็ รูสึ ก
ปลอดภัยขึ้นชั่วคราว ทันใดนั้นก็จองเขม็งไปยังชายหญิงที่อยูเบื้องหนาอีกครั้ง สีหนา
ไมยินดียินราย
“สหายไมจำเปนตองทำเชนนี้ ครั้งนี้เราสองคนไมไดมาเพื่อหาเรื่องพี่หาน แตจะ
มาปรึกษาวิธีรักษาชีวิตดวยกัน” หลินอิ๋นผิงดูเหมือนวาจะคาดเดาความไมเปนมิตร
ของหานลี่ออกตั้งนานแลว หลังจากชูมือขึ้นปลอยเกราะปองกันเสียงออกมา ก็เอย
อยางไมลังเล
“วิ ธี ก ารรรั ก ษาชี วิ ต อะไร?” หานลี่ ใจเต น ปากก็ ยั ง คงเอ ย อย า งไร ค วามรู สึ ก
ออกมา
“เหตุใดสหายจักตองถามทั้งที่รูอยูแลว ธงวายุทมิฬของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มาร
โบราณผูนั้ นรายกาจเชน นี้ พวกเรารวมมือกั น ก็ไม อาจเป น คูตอสูของเขาได ไมถือ
โอกาสที่มารตนนี้ถูกปศาจแหงแดนวิญ ญาณพั วพั นอยูหนีออกไปจากเขตอันตราย
หรือวาจะรอใหมารตนนั้นหันกลับมาจัดการพวกเรากันละ?” เพราะวามีเวลาไมมาก
นัก สตรีผูนั้นจึงไมไดมีทาทีลอเลนอีก กลับเอยเจตนาอยางตรงไปตรงมา
“ออ หรือวาทั้งสองไมอยากไดสมบัติสะทานฟา?” หานลี่หรี่ตาคูนั้นลง เอยถาม
อยางราบเรียบ
“สหายลอเลนแลว สมบัติวิญญาณนี้ล้ำคาก็จริง แตจะเทียบกับชีวิตของพวกเรา
ไดอยางไร บรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณนี้ถูกกักเอาไวใตปอมปราการนานขนาดนี้
ปราณแทในรากายคงเสียหายไปตั้งนานแลว และทารกวิญญาณของพวกเรากลับเปน
ยาที่ดีที่สุดในการฟนฟูปราณแทของมัน หากมันลงมือได ก็ไมมีทางปลอยพวกเราไป
แน” ชายหนุมแซสวีดูเหมือนวาจะเขาใจเหลามารโบราณเปนอยางมาก จึงเอยขึ้น
อยางมั่นใจ
“เชนนั้นพวกเจาคิดจะทำอยางไร?” หานลี่คาดความคิดของอีกฝายออก แตก็
ยังคงเอยถามอยางทื่อๆ
“แนนอนวาพวกเราตองรวมมือกันลอบโจมตีมารโบราณที่รักษาการณอยูที่เขตอาคม
สงตัวแหงนี้ จากนั้นก็หนีออกไป” ชายหนุมแซสวีเอยอยางไมลังเลเลยแมแตนอย
“อาศัยแคพวกเราสองสามคน? พวกเจารูหรือไมวามารโบราณสองหัวสี่แขนนั่น
รายกาจขนาดไหน?” หานลี่หัวเราะอยางเย็นชาออกมา ถามยอนกลับ
“ทำไม หรือวาพวกเราไมอาจสยบมารตนนั้นได?” หลินอิ๋นผิงรูสึกประหลาดใจ
เล็กนอย เอยถามพรอมกับหัวเราะออกมาอยางแผวเบา
“ถาหากพวกเจาไดรูวาในปนั้นมารตนนั้นเคยหนีรอดจากการลอมโจมตีของสามมหาผู
บำเพ็ญเพียรและผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดอีกสิบกวาคนไปได ก็ไมรูวาจะมีความ
มั่นใจขนาดไหน?” หานลี่ใชมือหนึ่งลูบพัดขนนกที่อยูในมือ พลางเอยอยางเชื่องชา
“มารตนนี้คือมารปศาจที่หนีออกมาจากเที ยนหนานของพวกเจาหรือ?” ชาย
หนุมแซสวีเอยอยางรูสึกตกตะลึง!
“ใชแลว คือมารตนนั้นแหละ”
เมื่อเห็นหานลี่มั่นใจเชนนี้ ปรมาจารยเซียนมูหลานและหลินอิ๋นผิงที่อยูดานขางก็
มองหนากันแวบหนึ่ง และเผยสีหนาลังเลออกมา
“เชนนั้นพวกเราสองคนเขารวมดวย จะไดบีบใหมารตนนั้นถอยไป เปนอยางไร!”
จูๆ น้ ำเสีย งที่ เย็น ชาก็ ดังออกมาจากเหนื อ ศี รษะ ขณะที่ ห านลี่ แ ละพวกพลั น หน า
เปลี่ยนสีอยางสุดๆ กลางอากาศเปลงแสงสีเขียวและมวงสวางวาบทามกลางพายุสี
เหลือง เผยใหเห็นรางของยักษปกเงินและอสูรวิหคราชสีหออกมา
ปศาจสองตนนี้มีลำแสงวิญญาณพันรอบรางกายอยู คาดไมถึงวาจะไมไดหวาดกลัว
พายุโหมกระหน่ำเลยสักนิด ลอยอยูตรงนั้นอยางปลอดภัย ดูแลวความสามารถวายุ
หลีกหนีของยักษปกเงิน จะอยูทามกลางสภาพบรรยากาศที่โหดรายเชนนี้ได
“พวกเจานี่เอง ทั้งสองทานก็คิดจะรวมมือดวยหรือ?” หลังจากที่มองเห็นปศาจ
สองตนนี้อยางชัดเจน หานลี่ก็เงียบขรึมอีกครั้ง
“แนนอน ถึงแมวาเราสองคนจะไมใชมนุษยอยางพวกเจา แตในสายตาของบรรพ
ชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณแลวก็ไมไดแตกตางอะไรกัน หากไมไปก็คงโชครายมากกวา
โชคดีเชนกัน!” ยักษปกเงินเอยอยางไมเกรงใจ
“เยี่ยม มีสหายทั้งสองชวย บวกกับสหายกุยหลิง ก็ไมตองตองกลัวความสูญเสีย
แลว ชักชาไมไดแลว ลงมือกันเถิด! ผูใดจะรูวาเขตอาคมนั้นและไมแปดวิญญาณจะ
ประวิงเวลาใหพวกเราไดอีกเทาไหรกัน” ชายหนุมแซสวีเอยปากเห็นดวย ใบหนาฉาย
แววอำมหิต พลางหันหนาไปทางหานลี่ เห็นไดชัดวาขอแคหานลี่ยอมตกลง พวกเขาก็
จะรวมมือกัน ยักษปกเงินและอสูรวิหคราชสีหทั้งสอง ก็มองมาทางหานลี่เชนกัน
หานลีเ่ ลียริมฝปากตามจิตสำนึก หลังจากเงียบกริบไปเล็กนอย ในที่สุดก็พยักหนา
อยางเชื่องชา
“พวกเราแคบีบใหมารตนนั้นถอยออกไปชั่วคราวเทานั้น ไมไดจะสังหารมัน คน
เทานี้ก็เพียงพอแลว เยี่ยม ขาจะเรียกใหสหายกุยหลิงมา” ในเมื่อตัดสินใจแลว หานลี่
ก็ไมลังเลอีก ทันใดนั้นมือทั้งสองพลันรายอาคม แผนปายชีวิตของกุยหลิงที่อยูในราง
สั่นคลอน ทันใดนั้นก็เริ่มเปลงแสงวิญญาณจางๆ ออกมา
ยักษปกเงินและอสูรวิหคราชสีหทั้งสอง ถือโอกาสนี้รอนลงมาจากกลางอากาศ
ยืนลงดานขาง
แคชั่วพริบตานั้น จุดที่หานลี่อยูก็เปลงแสงสีเหลืองสวางวาบ ฮูหยินอัปลักษณก็
ปรากฏขึ้นดานหลังอยางเงียบเชียบราวกับภูตผีอยางไรอยางนั้น
ตอนที่ 1044 ลอบโจมตี
เมื่อกุยหลิงปรากฏตัวขึ้น มนุษยกับปศาจอยางพวกชายหนุมแซสวีและยักษปก
เงินที่อยูตรงขามตางก็ไมไดรูสึกตกตะลึง แตกลับเหลือบมองหานลี่แวบหนึ่ง มุมปาก
ขยับเล็กนอยถายทอดเสียงมาหาสองสามประโยค
หานลี่ที่มีสีหนาราบเรียบดั่งเดิม ชั่วขณะนั้นพลันเผยสีหนาตกตะลึงออกมา
“ทำไม? สหายกุยพบอะไรที่ดานลางหรือ?” หลินอิ๋นผิงธิดาเทพแหงเทียนหลาน
เห็นสถานการณเชนนี้ของหานลี่ ก็เอยถามขึ้นดวยแววตาเปลงประกาย
“ไมมีอ ะไรหรอก แคสหายทั้ งสองของพรรคแปลงเซี ยน ดู เหมื อ นวาจะคิดจะ
หาทางออกจากด านล างเช น กั น ” หานลี่ ก ลั บ มามี สี ห น าเป น ปกติ พ ลางเอ ย อย า ง
ราบเรียบ
“ออ เชนนั้นหรือ!” สตรีผูนั้นกลอกตาที่เปลงประกายไปพลางหยักยิ้มขึ้นที่มุมปาก
เห็นไดชัดวาไมเชื่อคำพูดของหานลี่
แตหานลี่กลับมีสีหนาไรความรูสึก เห็นไดชัดวาไมอยากพูดมาก
คนอื่นๆ ถึงแมวาจะรูสึกสงสัยเชนกัน แตจะรวมมือกันแลว แนนอนวาจึงไมอยาก
มีปญหาอะไรอีก ทุกคนจึงปรึกษากันวาจะจัดการเรื่องนี้อยางไรในทันที
พวกเขาตางเปนผูที่มีช่ำชองในการตอสู หลังจากปรึกษากันภายในเกราะปองกันเสียง
ชั่วครู ก็ตกลงกันไดในทันที ทันใดนั้นบนเรือนรางของคนอื่นๆ ก็มีลำแสงวิญ ญาณ
เปลงประกาย ทยอยกันอำพรางกายหายไปทามกลางพายุโหมกระหน่ำ เริ่มแผนการ
หานลี่พยักหนาใหกุยหลิง สตรีผูนั้นพลันมุดหายเขาไปใตดินอีกครั้ง
สวนอิ๋นเยวนั้นกลายเปนสุนัขจิ้งจอกนอยอีกครั้ง ตามคำสั่งของเขา พลางบินเขา
ไปในแขนเสื้อ
หานลี่มองไปทางที่เขตอาคมสงตัวสีดำนั้นตั้งอยู ลูบคางไปมา มือหนึ่งตบไปที่ยาม
เก็บของขางเอว ลำแสงสีเงินสวางวาบ เงารางคนสีเงินรางหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหนา
นั่นก็คือหุนเชิดรางมนุษยตัวนั้น
มือหนึ่งโบกสะบัด
หุนเชิดตัวนั้นเปลงแสงรอบกาย กลายเปนลำแสงสีเหลืองที่ไมสะดุดตากลุมหนึ่ง
ในทันที จากนั้นสองตาก็เปลงแสงสีมวงเจิดจา รางกายหายไปกลางอากาศอยางไร
รองรอย ราวกับวาไมเคยปรากฏตัวขึ้นมากอนอยางไรอยางนั้น
การตอสูครั้งนี้ไมธรรมดา เพื่อปองกันสิ่งที่คาดไมถึง หานลี่จึงไมคิดจะยั้งมืออีก
มีหุนเชิดตัวนี้คอยสนับสนุนอยูดานขาง เขาถึงจะวางใจยอมตอสูได และยิ่งไปกวา
นั้นหุนเชิดตัวนี้ยังเชี่ยวชาญในการอำพรางกาย คิดดูแลวมารโบราณก็ไมมีทางรูตัวได
สวนสตรีชุดดำนั้น หานลี่ไมเคยประมือกับมารปศาจอยางบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซา
ระดับนี้มากอน จึงไมมั่นใจนักวาจะปดบังจิตสัมผัสของอีกฝายได
นิ้วทั้งหากำพัดตรีเปลวเพลิงเอาไว สองมือพลันรายอาคม แผนหลังมีปกวายุอัสนี
ปรากฏขึ้น ลำแสงสีเงินสวางวาบ หานลี่เองก็สลายหายไปจากที่เดิม
ณ อีกมุมหนึ่งบนทองฟา ดานบนเขตอาคมสงตัวสีดำ มารโบรารสองหัวสี่แขน
กำลังกอดอกลอยอยูกลางอากาศ ดานลางมีลำแสงสีเทาจากธงอาคมปกคลุมอยู
ศีรษะหนึ่งของมารตนนี้ จองเขม็งไปที่วิหาร เผยสีหนาเครงขรึมออกมา อีกศีรษะ
หนึ่งพลันกวาดมองไปรอบๆ ไมหยุด ทาทีเหมือนกำลังระแวดระวังเตรียมการปองกัน
อะไรสักอยางอยู
กรงเล็บมารทั้งสี่แยกกันกุมแหวนสีมวง ขวานยาวสีเขียว รวมทั้งอิฐเพลิงสีแดงสด
เอาไว
ถึงแมวาธงวายุทมิฬที่กอพายุโหมกระหน่ำขึ้นจะรายกาจ แตก็ดเู หมือนวาจะไมได
ผลกระทบกับมารตนนี้มากนัก ศีรษะที่จองเขม็งไปทางวิหาร ดวงตาไมกะพริบเลยสัก
นิด
จูๆ มารตนนี้ก็ดวงตาเปลงประกาย เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นมาจากจุดที่ไกลออกไป
บนทองฟามีไอมีดสีทองสายหนึ่งพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา ทุกแหงหนที่มันกวาดผาน
เมฆหนาๆ พลันถูกผาออก เสียงกึกกองดังกัมปนาท แมแตเสียงกรีดรองคร่ำครวญก็ดู
เหมือนวาจะหยุดชะงักไป
มารโบราณขมวดคิ้วเล็กนอย เผยสีหนาลังเลออกมา ดูเหมือนวาคิดจะเขาไปชวย
แตก็ยังกังวล
แตมันก็วางใจลงในทันที
เพราะหลังจากที่มีดลำแสงที่นาตกตะลึงเปลงประกายแลว เสาวายุหนาๆ สาย
หนึ่งก็พวยพุงออกมาจากเชนกัน เสาวายุมีเสนผาศูนยกลางประมาณสิบจั้งเศษ ราว
กับมังกรวายุสีดำตัวหนึ่งอยางไรอยางนั้น ทุกแหงที่มันมวนผานไปคาดไมถึงวาแมแต
สายฟาที่กะพริบวาบก็ยังถูกมวนวนเขาไปดวย แมกระทั่งบรรยากาศรอบๆ ก็ยังบิด
เบี้ยว เพราะความโหมกระหน่ำ ราวกับวาถูกฉีกขาดออกไรอยางนั้น
เมื่อมองเห็นภาพฉากนี้ สีหนามารโบราณพลันผอนคลายลง ศีรษะอีกศีรษะหนึ่ง
กลับถลึงตาทั้งสองอยางไมมีเคาลางมากอน มือยักษขางหนึ่งโบกไปมาเบื้องหนา
ลำแสงสีแดงสายหนึ่งพุงแหวกผานอากาศไป หลังจากสวางวาบก็กลายเปนอิฐ
ยักษขนาดสองสามจั้ง ทุบลงมาอยางโหดเหี้ยม ยังไมทันตกกระทบพื้น ดานบนก็มี
เปลวเพลิงสีแดงที่กำลังลุกโชน อสรพิษเพลิงที่มีกรงเล็บและเขี้ยวโงงสองสามตัวก็
ปรากฏขึ้น ทาทางดุดันนากลัว
“หึ ! คิดไมถึงวาเจาเองก็มี ป ฏิ ภ าณไหวหริบ เฉียบแหลมขนาดนี้ !” เสีย งหึ ดวย
ความเย็นชาดังออกมาทามกลางพายุที่โหมกระหน่ำ เงารางคนสองสายปรากฏขึ้น
ตอจากนั้น
หนึ่งในนั้นชูมือขึ้นอยางตามอำเภอใจ สายรุงสีฟาสายหนึ่งพุงออกมาจากฝามือ
กลายเปนรมหยกคันหนึ่งลอยขึ้นบนไปทองฟาขนาดสองสามจั้ง
เสียงระเบิด ‘ปงๆ’ ดังสนั่นขึ้น รมหยกคันนั้นคาดไมถึงวาจะเปนสมบัติโบราณธาตุ
น้ำแข็ง ผลลัพธคือทามกลางความเย็นเยียบสีฟา ชั่วครูก็ตานทานอิฐเพลิงที่ตกลงมาได
ลำแสงสีฟาและเปลวเพลิงสีแดงตอสูกันอยางดุเดือดไมหยุด ถึงแมวาอสรพิษสอง
สามตัวนั้นจะกระโจนเขามาและกัดทึ้งไมหยุด ดูดุดันอยางสุดๆ แตเปนเพราะธาตุที่
เปนรอง จึงไมอาจทำอะไรรมหยกได
เงารางคนสองคนยืน อยูที่ เดิม ไม ข ยั บ เขยื้ อ น มองไปยั งมารโบราณที่ อ ยู ก ลาง
อากาศดวยความเย็นชา นั่นก็คือชายหนุมแซสวีและหลินอิ๋นผิงสองคน
ศีรษะขนาดใหญของมารโบราณทั้งสองพลันขยับ ดวงตาทั้งสี่จองเขม็งไปยังบุรุษ
และสตรีสองคนนั้นพรอมกัน
“ขาจำพวกเจาได พวกเจาคือผูบำเพ็ญเพียรจากทุงหญาเทียนหลาน ทำไม ตอนนี้
อยากไปจากที่ นี่ แ ล ว หรื อ ? น า เสี ย ดายที่ ส ายไปแล ว !” ศี ร ษะหนึ่ ง หั ว เราะอย า ง
โหดเหี้ยมออกมา จนดังสะเทือนเลื่อนลั่น
ชายหนุมแซสวีไดยินแลวพลันมีจิตสังหารปรากฏขึ้นบนใบหนา ไมปริปากใดๆ
พลิกฝามือตบไปที่ยามเก็บอสูรวิญญาณขางเอว
ชั่วขณะนั้นเสียงเพรียกของหงสพลันดังขึ้น ลำแสงวิญญาณสวางวาบ นกยูงหาสี
ตัวหนึ่งบินออกมาจากดานใน สองปกสยายออกลอยอยูเหนือศีรษะของชายหนุม
จะวาไปแลวก็ไมนาจะเชื่อ เมื่อรางของนกยูงเปลงแสงหาสีออกมา พายุที่โหม
กระหน่ำทั้งหมดพลันหยุดชะงัก คลื่นพายุเงียบสงบลงในทันที
ภาพฉากนี้ ตางตกอยูในครรลองสายตาของมารโบราณทั้งหมด
“นกยูงแรดวิญ ญาณ! คาดไมถึงวาเจาจะมีวิหควิญ ญาณโบราณชนิดนี้ดวย นา
เสียดายที่ตบะของมันตื้นเขินไปหนอย หากโตเต็มวัย ขาก็อาจจะหวาดกลัวมันสักสวน
หนึ่งจริงๆ” มารโบราณดูเหมือนวาจะตกตะลึงไปเล็กนอย
“เชนนั้นหรือ? ลองลิ้มรสความรายกาจของลำแสงวิญญาณหาสีกอนแลวคอยวา
กันเถิด!” ชายหนุมแซสวีไมสนใจคำพูดของมารโบราณ พลันผิวปากเบาๆ ชั่วขณะนั้น
นกยูงเหนือศีรษะก็ชูคอตอบรับเบาๆ จากนั้นสองปกพลันกระพือ ลำแสงหาสีหมื่น
สายพลันหมุนวนพวยพุงออกมา
มารโบราณแคนเสียงหึ สองมือใหญๆ ที่ถือแหวนสีมวงพลันประกบกัน เกิดเสียง
แหลมสูงขึ้นภายใตการกระทบกันของแหวนทั้งสอง ทำใหผูคนไดฟงแลวรูสึกรอนรน
และหนามืดวิงเวียน
จากนั้นแหวนทั้งสองก็หลุดออกจากมือ เกิดเปนเงาสีมวง เวลานั้นพลันปกคลุม
บรรยากาศรอบๆ เอาไว ทาทางไมนากลัว แตมารตนนี้ก็ยังไมยอมหยุดพัก สองมือราย
อาคม ไอมารสีดำรอบกายปรากฏขึ้น ดูเหมือนวาตองการสำแดงเคล็ดวิชามารออกมา
ชวยเสริมการโจมตีของสมบัติเหลานี้
ชายหนุมแซสวีและธิดาเทพเทียนหลานที่อยูตรงขามตางก็หยิบสมบัติออกมาคน
ละชิ้น มือหนึ่งชูขึ้น ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งทุบลงไป อีกมือหนึ่งผาไหมสีเงินเปลงแสง
เจิดจา พนเสนไหมสีเงินจำนวนนับไมถวนออกไป
ในตอนนั้นเอง กลางอากาศ ควันสีมวงและเขียวจางๆ สองกลุมพลันปรากฏขึ้น
จากนั้นพลันหนีไปเหนือศีรษะของมารโบราณ การเคลื่อนไหวเงียบเชียบ เห็นไดชัดวา
เปนเคล็ดวิชาการอำพรางกายที่สูงสง
เงาลวงตาสีมวงและลำแสงวิญ ญาณฟ าสี ป ะทะเขาด วยกัน เกิ ดเป น สะเก็ดไฟ
ระยิบระยับ ไอมารบนรางของมารโบราณกลายเปนอสรพิษสีดำสองสามตัว กระโจน
ออกมาดวยทาทางนากลัว
ควันสีเขียวมวงสองกลุมนี้ระเบิดออกจนเปนลำแสงที่เจิดจาจนแสบตา เงาสอง
สายกระโจนออกมา กรงเล็บแหลมคมสองกรงเล็บและเสนไหมบางๆ สีเทาปกคลุมลง
มาจากเหนือศีรษะ ชั่วพริบตาก็มาถึงศีรษะของมารโบราณ ในตอนนั้นเอง ชายหนุม
แซสวีและพวกทั้งสองก็ปลอยการโจมตีของสมบั ติอาคมออกมา และปะทะเขาไป
ตรงหน า ของมารโบราณอย า งพอดิ บ พอดี เวลานั้ น มั น สอดประสานกั น ได อ ย า ง
เหมาะสม ไรซึ่งชองโหว
มีคนแอบลอบโจมตีในระยะประชิดเชนนี้ แนนอนวาทำใหมารโบราณรูสึกตกตะลึง
ทวาก็ไมไดตกตะลึงจนทำอะไรไมถูก ภายใตการเคลื่อนไหวของจิตสัมผัส ไอมารรอบๆ
พลันกลายเปนอสรพิษสีดำหมุนวนโคจรรอบหนึ่ง ชั่วขณะนั้นพลันเปลี่ยนจากการ
โจมตีเปนตั้งรับตานทานลำแสงสีเขียวและเสนไหมสีเงินนั่นเอาไว ในเวลาเดียวกันหัว
ทั้งสองก็ชูขึ้น ศีรษะหนึ่งพนเปลวมารสีดำสนิทออกมา อีกศีรษะหนึ่งก็มีลำแสงสีดำ
สายหนึ่งสวางวาบ
แต ทั น ใดนั้ น เหตุ ก าณณ ที่ น าตกตะลึ ง ก็ เกิ ด ขึ้ น อี ก ครั้ ง ในตอนที่ ค วามสนใจ
ทั้งหมดของมารโบราณถูกการลอบโจมตีเหนือศีรษะดึงดูดเอาไว ใตฝาเทาของเขาที่อยู
ตรงริมขอบของเขตอาคมสีเทา ก็เปลงแสงสีท องสวางวาบ กระบี่ ยักษ เลมหนึ่ งพุ ง
ออกมาจากใตดินพรอมกับเสียงฟาผา ฟนฉับลงไปกลางอากาศ
ดวยความเร็วของมัน มารโบราณแทบจะสัมผัสไดในเวลาเดียวกันที่กระบี่ยักษมา
อยูเบื้องหนา บนตัวกระบี่มีเปลวเพลิงสีมวงและประจุไฟฟาสีทองปรากฏอยู ทำให
มารตนนั้นมองเห็นอยางชัดเจน
“เจา!” ชั่วพริบตาที่มารโบราณตนนั้นจำเจาของกระบี่ยักษได ก็อดที่จะกูรอง
ออกมาดวยความเดือดดาลไมได แตเปนเพราะกระบี่ยักษรวดเร็วเกินไป และเขายังถูก
การโจมตีอื่นๆ พัวพันอยู ภายใตความจนปญญานั้นจึงทำไดเพียงโบกสะบัดแขนทั้งสี่
อยางรีบรอน เสียงแหวกอากาศ ‘ฟว’ ดังขึ้น กรงเล็บลำแสงแวววาวยี่สิบสามสิบสาย
พลันกอตัวกันกลายเปนตาขายผืนใหญ จับกุมกระบี่ยักษเอาไว
การสกัดกั้นที่ฉุกละหุกเชนนี้ แนนอนวาจึงไมมีทางตานทานกระบี่ยักษได
ผลลัพธคือชั่วพริบตา กระบี่ยักษก็แทงทะลุผานตาขาย จากนั้นก็เปลงแสงสวาง
วาบพลางสับลงมาที่ตัวมารโบราณ
แตชั่วพริบตาที่ลาชานั้น และชั่ววินาทีที่กระบี่ยักษเขามาประชิดตัวนั้น รางของ
มารโบราณก็มีเกราะปองกันมารสีดำสนิทปรากฏขึ้น
เสียงปงดังสนั่นขึ้น ลำแสงกลุมใหญ ปรากฏขึ้นบนรางของมารโบราณ ดานใน
เปลงแสงเจิดจา ทำใหผูคนไมอาจมองเห็นอยางชัดเจนได
บนพื้นมีประจุไฟฟาสีเงินสวางวาบ หานลี่สำแดงอัสนีหลีกหนีจากดานลาง เงย
หนาขึ้นมองไปยังทองฟา พลางขมวดคิ้วมุน
เมื่อครูเขาสัมผัสไดอยางชัดเจนวา ถึงแมกระบี่ยักษจะฟนลงบนรางของมารตน
นั้น แตก็ไมไดฟนลงบนของจริง ดูเหมือนวาจะถูกอะไรดีดออกมา
ในตอนที่ กำลั งรูสึกตกตะลึงระคนสงสั ย อยู นั้ น กลางอากาศก็ มี อ ะไรสั ก อย าง
เปลงแสงสวางจา จากนั้นเสียง ‘ปงๆ’ ดังขึ้น เงาสีดำสายหนึ่งพุงออกไปราวกับลูกธนู
พลิ้วไหวและแวบหายไป ครูตอมากลับปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของหานลี่
“ไปตายเสีย” เงารางยักษเปลงเสียงคำรามราวกับฟาผาออกมา มีดยักษสีดำสนิท
สับลงมาหาหานลี่พรอมกับเสียงหึ่งๆ รวดเร็วราวกับสายฟาอยางไรอยางนั้น
ถึงแมวาหานลี่จะตกตะลึง แตเขาที่เตรียมการเอาไวลวงหนาแลวก็สยายปกออก
กอนที่มีดยักษจะสับลงมา คนพลันสลายหายไปจากที่เดิมราวกับสายฟา มีดสีดำจึงสับ
ลงมากลางอากาศที่วางเปลา
เสียงกองดังขึ้น รอยมีดยักษลึกสองสามฉื่อปรากฏขึ้นบนพื้น
เสียงฟาผาดังสนั่นดังไกลออกไปถึงยี่สิบจั้งเศษ รางของหานลี่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
พลางจองเขม็งไปยังจุดเดิม
เงารางยักษนั่นก็คือมารโบราณ
แตแคมันในตอนนี้เห็นไดชัดวาจนตรอกอยางสุดๆ แขนทั้งสี่เหลือเพียงสามแขนที่ยังไร
ซึ่งความเสียหาย แขนอีกขางถูกสับออกครึ่งหนึ่ง หัวไหลมีรูขนาดกำปนปรากฏขึ้น
ทรวงอกมีรอยกรงเล็บหนาๆ สองสายปรากฏใหเห็น แทบจะทะลุทรวงอกของมันไป
ดูแลวภายใตการรวมมือกันของหานลี่และคนอื่นๆ ในที่สุดมารตนนี้ก็ไมมีทาง
ตานทานได และเปนฝายเสียเปรียบอยูไมนอย
เมื่อเห็นหานลี่หนีไปตอหนา ดวงตาทั้งสี่ของมารโบราณก็ฉายแววโหดเหี้ยม จอง
เขม็งไปยังหานลี่แวบหนึ่ง สองมือแยกออกจากกัน ลำแสงสีดำสวางวาบ มีดยักษเปลง
เสียงหึ่งๆ แยกออกเปนสองสวน กลายเปนมีดลำแสงเล็กๆ สองเลม ยังคงเปลงเสียง
กรีดรองที่แหลมสูงออกมา
ตอนที่ 1045 สับมาร
มีดคูในมือของมารโบราณพลันสั่นคลอน ชั่วขณะนั้นมีดลำแสงพระจันทรเสี้ยว
ขนาดเทาฝามือสีดำ ก็พุงไปหาหานลี่
คาดไม ถึ งวามารป ศ าจตนนี้ จ ะไม สนใจผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รคนอื่ น ๆ ดู เหมื อ นวาจะ
ตั้งเปาหมายแลววาหานลี่คือคูตอสู และคิดจะไลตามอยางไมลดละ
นั่นก็ไมแปลก ในบรรดาคนเหลานี้หานลี่และธิดาเทพเทียนหลานมีพลังยุทธต่ำ
ที่สุด แตหลินอิ๋นผิงนั้นกลับอยูกลางอากาศกับชายหนุมแซสวี เทียบกันแลวแนนอนวา
หานลี่นั้นตัวคนเดียว จึงดูเหมือนวาจะเปนคูตอสูที่โจมตีไดงายที่สุด
แนนอนวานี่ก็เปนเพราะวามารโบราณตนนี้ไมใชวิญญาณมารตนที่เคยประมือกับ
หานลี่มากอน มิเชนนั้นคงไมเกิดความคิดที่ทำใหเขาเสียใจในภายหลังเชนนี้แน
หานลี่มองการโจมตีที่นาดุดันของมารโบราณ แตก็ไมไดเผยสีหนาตกตะลึงออกมา
กลับสะบัดแขนเสื้อ โลเล็กๆ สีเงินพุงออกมา ชั่วพริบตาก็กลายเปนโลยักษตานทาน
เอาไวเบื้องหนา
เขามองไปที่มารตนนั้นแวบหนึ่ง แลวถอนหายใจออกมาเบาๆ
มารโบราณมองเห็นสีหนาของหานลี่อยูไกลๆ ก็อดที่จะตกตะลึงไมได แตทันใด
นั้นก็สัมผัสไดวาใตฝาเทามีพลังแรงกดประหลาดๆ อยูเล็กนอย
ยังไมท ำรอใหมัน ไดกมหนาลงไปมอง เสียง ‘พรึ่บ ’ ก็ดังขึ้น ลำแสงสี เหลื องที่
หอหุมเงารางคนเอาไวกลุมหนึ่งก็ปรากฏออกมาจากใตดินอยางแปลกประหลาด หาง
ออกไปจากทางดานหลังสองสามจั้ง
ทันใดนั้นเงารางคนผูนี้ก็กูคำรามดวยเสียงทุมต่ำออกมา สองมือโบกสะบัด ขวาน
ยักษสีเงินดามหนึ่งพรอมพายุที่บาคลั่งสับลงมาอยางรุนแรง
คนผูนี้นั่นก็คือฮูหยินอัปลักษณกุยหลิงที่แอบซอนตัวอยูใตฝาเทาของหานลี่มาโดย
ตลอด จากพลังยุทธระดับสิบที่นากลัวของอสูรปศาจตนนี้ บวกกับการโจมตีสุดแรง
ดวยสัญชาตญาณดิบเถื่อน
ใบมีดบนขวานยังไมทันฟนลงมา แตตัวขวานที่ผสมดวยพลังวิญญาณที่นากลัวก็
ทำใหพื้นดินโดยรอบเกิดเสียงดังขึ้น กลายเปนหลุมลึกลงไปสองสามฉื่อ
มารโบราณหนาเปลี่ยนสี ไมสนใจการโจมตีที่พุงเขาใสหานลี่ รางกายพลิ้วไหว
เปลี่ยนทิศทางราวกับภูตผี ในเวลาเดียวกันมีดคูในมือก็ไขวเขาหากันเปนรูปกากบาท
ขณะฟนลงมา
ลำแสงสีดำระเบิดออก มีดลำแสงหนาๆ สองสามสายพุงออกไป โจมตีไปยังตัว
ขวานสีเงินอยางพอดิบพอดี
ลำแสงสีดำและสีเงินสองสีปะทะเขาหากันอยางแปลกประหลาด จากนั้นก็ระเบิด
ออกในทันที
ไอคลื่นธาตุรอนและเย็นสองธาตุพวยพุงหมุนวนไปรอบๆ มีดลำแสงทำใหขวา
นยักษที่สับลงมาหยุดชะงักเอาไวไดชั่วคราว แลวถึงไดสลายหายไป
อาศัยจังหวะนี้ มารโบราณถึงไดสำแดงเคล็ดวิชามารอื่นๆ ออกมา มือทั้งสองพลัน
รายอาคม จูๆ รางกายพลันลั่นกรอบแกรบ ขยายใหญขึ้น ในเวลาเดียวกันรางกาย
เปลือยเปลาที่พนขอบเสื้อ ก็มีเกล็ดสีดำเขียวขนาดหนาเทาปากชามปรากฏขึ้น เปลง
ประกายราวกับเกราะสงครามชั้นหนึ่งที่ปกคลุมตัวเอาไวอยางไรอยางนั้น
จุดที่แตเดิมไดรับบาดเจ็บถูกไอมารสีดำหอหุมเอาไว เนื้อหนังประสานเขาดวยกัน
ไมหยุด คาดไมถึงวาจะหายเปนปกติไดอยางรวดเร็วเชนนี้
หลังจากที่รางของมารโบราณหมุนวนรอบหนึ่ง แววตาก็ฉายแววอำมหิต สูดลม
หายเขาไปลึกๆ เฮือกหนึ่ง อาปากออกอีกครั้ง คลื่นความสั่นสะเทือนที่ดูราวกับของ
จริงก็กระทบเขากับตัวขวานยักษ คลายกับวาถูกวัตถุที่ไรรูปรางตานทานเอาไวอยู ไม
มีทางตกลงมาไดอีกแมแตนอย
และปากของมารตนนี้ก็เปลงเสียงบริกรรมคาถาแปลกประหลาดออกมา หลังจาก
ที่ลำแสงสีดำบนแผนเกล็ดเปลงประกาย เปลวมารสีดำมวงยาวสองสามฉื่อก็ปะทุ
ออกมา รางทั้งรางถูกหอหุมเอาไวขางใน เผาไหมลุกโชน แสดงใหเห็นถึงความแปลก
ประลหาด ราวกับใชเคล็ดวิชาลับอะไรที่รายกาจสักอยางหนึ่ง
กุยหลิงใจหายวาบ แตรางกายกลับไมไดถอยรนไป นางอาปากออกเปลงเสียงรอง
ตะโกน รางกายขยายใหญขึ้น บนรางพลันปรากฏเกราะสงครามสีเขียวชั้นหนึ่งขึ้นมา
เชนกัน คาดไมถึงวาจะสำแดงเคล็ดวิชารางมหึมาออกมา
ขวานสีเงินพลันขยายใหญขึ้นตามรางของปศาจ ลำแสงวิญญาณก็ขยายใหญขึ้น
ตามเชนกัน ภายใตอานุภาพของมัน ในที่สุดก็สับลงมาอีกครั้ง
การที่กุยหลิงแปลงกายเชนนี้เห็นไดชัดวาอยูนอกเหนือความคาดหมายของมารโบราณ
ดูจากรางกายของฮูหยินอัปลักษณแลวก็ยังสูงกวาเขาอีกสองสามเทา มารตนนี้พลัน
รูสึกตกตะลึง ปากก็บริกรรมคาถาไมหยุด มือทั้งสองที่เปนใบมีดสีดำพุงขึ้นไปบนฟา
อยางรวดเร็ว รางกายกลับถอยกรูดไปดานหลัง
เมื่อใบมีดสีดำและขวานยักษสัมผัสกัน ก็เกิดเสียงกัมปนาทขึ้น วายุวิญญาณกลุม
หนึ่ ง สลายออก แต ม ารโบราณที่ เตรี ย มการป อ งกั น เอาไว ก อ นแล ว กลั บ ไม ได รั บ
อันตรายใดๆ รางกายกลับอาศัยวายุวิญญาณกลุมนี้ พุงหนีออกไปอยางรวดเร็ว ไมได
รับบาดเจ็บเลยสักนิด
ทวาระหวางทางที่พุงออกไป มารโบราณพลันหัวเราะอยางบาคลั่ง แขนที่สามที่
ถือขวานสองคมยาวสีเขียวเอาไวมี เปลวมารสีดำชั้ น หนึ่ งพุ งออกมา มั น โบกสะบั ด
กลายเปนสะเก็ดไฟสายหนึ่งพุงไปหารางอันมหึมาของกุยหลิง
ความเร็วขนาดนี้ ราวกับฟาคำรนฝนคำรามอยางไรอยางนั้น หลังจากสวางวาบก็
โจมตีไปยังรางอันใหญโตของกุยหลิง เกราะสงครามระเบิดลำแสงอันเจิดจาออกมา
จากนั้นมารโบราณไมทันรอใหรางกายกลับมามั่นคง เสียงบริกรรมคาถาก็ดังขึ้น
อีกครั้ง เตรียมจะสำแดงเคล็ดวิชาลับที่เตรียมการเสร็จสิ้นแลวอีกครั้ง ดูแลวเขาเองก็
ไมคิดวา การโจมตีเมื่อครูจะสังหารอสูรปศาจแปลงกายระดับสิบตัวหนึ่งไดจริงๆ
แตในตอนนั้นเอง ความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น!
ดานหลังของมารโบราณหางออกไปสองสามจั้ง ลำแสงสีดำจางๆ สวางวาบ มีด
บินแวววาวราวกับน้ำหมึกขนาดสองสามชุนพลันปรากฏขึ้นอยางเงียบเชียบ ทันใดนั้น
เสนไหมสีดำพลันสวางวาบ มีดบินเลมนั้นสวางวาบแลวหายไปอยางแปลกประหลาด
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ดวยจิตสัมผัสอันนากลัวของมารโบราณคาดไมถึงวาจะ
สัมผัสไดถึงความผิดปกติ รางกายเคลื่อนไหวคิดจะพุงออกไป แตชั่วพริบตานั้น ศีรษะ
หนึ่งของมารโบราณก็ดูเหมือนวาจะถูกกรวยแหลมปกเอาไว ความเจ็บปวดประทุ
ขึ้นมา
ถึงแมวาจิตสัมผัสของมารตนนั้นจะแข็งแกรงขนาดไหน ถูกโจมตีอยางไมทันตั้งตัว
เชนนี้รางกายก็อดที่จะหยุดชะงักดวยความลังเลไมได
ช ว งเวลาที่ เสี ย ไปเพี ย งน อ ยนิ ด คอของศี ร ษะอี ก ศี รษะพลั น มี เส น โลหิ ต จางๆ
ปรากฏขึ้นทันใดนั้นศีรษะนั้นพลันตกลงมาอยางไมมีเคาลางมากอน ลำคอมีโลหิ ต
บริสุทธิ์พุงออกสูงขึ้นไปสองสามฉื่อ
เวลานี้ หานลี่ที่อยูไกลออกไปพลันหนาซีดพลางปลอยผนึกทั้งสองมือออกไป สี
หนาเห็นไดชัดวาทอใจไมนอย
การโจมตี จิ ต สั ม ผั ส ของมารโบราณเมื่ อ ครู คื อ การโจมตี ด ว ยจิ ต สั ม ผั ส ที่ เขา
ดัดแปลงอยางงายๆ มาจาก ‘หนามสะทานจิต’ ของเคล็ดวิชาขับเคลื่อน
เปนเพราะวายังไมไดฝกฝนเคล็ดวิชาขับเคลื่อนขั้นสุดทาย อานุภาพจึงไมอาจ
เทียบเทียมกับ ‘หนามสะทานจิต’ ที่แทจริงได แตหลังจากที่สำแดงออกไป ขอแคไมมี
การเตรียมการปองกัน ไมวาผูใดก็ไดรับผลกระทบไมนอย ดังนัน้ เคล็ดวิชาลับเชนนี้ จึง
ถูกเขาเรียกขานวา ‘หนามสูญสติ’ ซึ่งแตกตางจาก ‘หนามสะทานจิต’
ทวาการโจมตี ด วยจิ ต สั ม ผั สเช น นี้ ถึ งแม วาจะถูก เขาจงใจลดอานุ ภ าพลง แต
หลังจากที่โจมตีออกไป ก็ยังทำใหจิตสัมผัสของเขารูสึกวิงเวียนไมหยุด ไมอาจสำแดง
การโจมตีระลอกที่สองไดอีก
ศีรษะที่เหลืออยูของมารโบราณกะพริบตาปริบๆ ดูเหมือนวาจะไมเชื่อกับเรื่องที่
เกิดขึ้น แตทันใดนั้นก็เปลงเสียงกรีดรองที่นากลัวออกมา บนรางมีไอมารจำนวนนับไม
ถวนปรากฏขึ้นหอหุมรางกายเอาไว
ทันใดนั้นไอมารพลันหมุนวน รางของมารตนนั้นรางเลือนไปจนมองไมเห็นเงา ครู
ตอมา หางออกไปสามสิบสี่สิบจั้ง ชั้นบรรยากาศก็เกิดการเปลี่ยนแปลง!
ทันใดนั้นไอมารที่แปลกประหลาดกลุมหนึ่งก็ปรากฏขึ้น มารโบราณปรากฏตัวขึ้น
อยางซวนเซท ามกลางไอมาร ดูแล วที่ ถูกฟ น ศี รษะหนึ่ งออกไป ถึงแม วาจะไม อ าจ
สังหารมารตนนี้ได แตก็ทำใหมันไดรับบาดเจ็บหนักจริงๆ
ตั้งแตที่กุยหลิงปรากฏตัวและฟนลง จนถึงตอนที่มารโบราณถูกฟนศีรษะทิ้งจน
รางกายไดรับบาดเจ็บหนักและหนีไปอยางรวดเร็วนั้น การเคลื่อนไหวที่ตอเนื่องราว
กับกระแสไฟฟาเคลื่อนตัวนี้ เปนเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นชั่วพริบตาเทานั้น
กลับทำใหชายหนุมแซสวีและยักษปกเงินที่อยูดานบนตกตะลึงจนตาคาง!
นี่มันไมเหมือนกับที่พวกเขาปรึกษากันเอาไวตอนแรก แตเดิมพวกเขาวางแผนวา
จะรวมมือกันโจมตี ใหมารตนนั้นถอยออกไปจากบริเวณของเขตอาคมสงตัวชั่วคราว
เทานั้น
สวนจะสังหารมารตนนี้ไดหรือไม ก็ไมไดอยูในหัวขอที่พวกเขาสนทนากัน แต
ตอนนี้หลังจากที่มารตนนี้ถูกพวกเขาบีบใหถอยไป ถึงแมวาหานลี่จะอยูดานหนาสุด
และรวมมือ กับ กุยหลิงลอบโจมตีมารตนนี้ ตามที่ พ วกเขาวางแผนเอาไว แต ความ
เปลี่ยนแปลงที่ตามมาทีหลังมันเรื่องอะไรกันแน?
คาดไมถึงวาหานลี่จะมีทาทีอยากสังหารมารตนนี้ และกระบี่บินประหลาดเลมนั้น
ปรากฏตัวที่ดานหลังของมารโบราณไดอยางไร พวกเขาที่อยูในสภาวะไดเปรียบคาด
ไมถึงวาจะไมรูสึกถึงสมบัติชิ้นนี้เชนกัน
หากมาปรากฏที่ดานหลังของพวกเขา พวกเขาจะรูตัวหรือไม?
ทันทีที่ความคิดนี้พลันปรากฏขึ้น ชายหนุมแซสวีและยักษปกเงินตางรูสึกเสียวสันหลัง
ใบหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
แตจะวาไปแลวก็นับวามารโบราณชางโชคราย!
ผูบำเพ็ญเพียรที่ทรงอิทธิฤทธิ์ขนาดนี้โจมตีรวดเดียว ไมปลอยโอกาสใหมันหายไป
แมแตนอย ไมทันไดสำแดงความสามารถที่นาตกตะลึงออกมาแมแตนอย ก็ถูกทำให
ไดรับบาดเจ็บหนัก มิเชนนั้นหากปลอยใหมันไดสำแดงเคล็ดวิชามารที่นาตกตะลึง
ออกมา ถึงแมวาหานลี่และพวกจะรวมมือกัน คิดจะทำใหมารตนนี้ไดรับบาดเจ็บก็ไม
อาจทำไดในเวลาเพียงชั่วครู
ฉะนั้นมารโบราณที่ปรากฏตัวในตอนนี้ ศีรษะที่เหลืออยูพลันหันมา ใชสายตา
อำมหิตถลึงตาใสหานลี่ จากนั้นไอสีดำก็พุงทะยาน คิดจะหนีไปทางสตรีชุดดำ
มันรูวาจากสถานการณของตนเองในตอนนี้ ไมมีทางตอกรกับหานลี่และพวกไดอีก จึง
ไมมีความคิดจะฝนสูตอ แตสายตาของหานลี่ที่มองไปทางมารตนนั้น กลับเผยรอยยิ้ม
เยาะออกมา
ลำแสงสีเงินกลุมหนึ่งระเบิดออกใกลๆ กับมารโบราณ จากนั้นเงารางพลันแวบ
หายไป สิ่งที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้น
มารโบราณพลันตกตะลึง ตั้งทาระวังอยางรวดเร็วราวกับขวัญเสีย ไอมารหมุนวน
หอหุมรางกายเอาไว จากนั้นถึงไดมองไป ผลลัพธคือเมื่อประสานสายตากับอีกฝาย
กลับรูสึกโลกหมุน ชั่วขณะนั้นในหัวนอกจากลำแสงสีมวงประหลาดๆ สองกลุมแลว
เขาก็ไมรูสึกอะไรอีก
“เคล็ดวิชาหลงใหลเคลิบเคลิ้ม!”
ถาพูดถึงความแข็งแกรงของจิตสัมผัสมารโบราณตนนั้น ผูบำเพ็ ญ เพี ยรระดับ
กอกำเนิดขั้นปลายไมอาจเทียบเทียมได ดังนั้นสิ่งที่เคยทำใหมารเฒาเฉียนรูสึกหนามืด
ตาลาย ก็ทำใหมารตนนั้นสูญเสียสติสัมปชัญญะไปเพียงชั่วพริบตา แลวไดสติกลับมา
ในทันที
แตชั่วพริบตาที่สูญเสียสติสัมปชัญญะไป ลำแสงสีเขียวที่มีเสียงฟาผาดังสนั่นก็มา
อยูเบื้องหนาไอมารแลว ประจุไฟฟาสีทองที่เปลงประกายพัวพันทำใหมารโบราณที่
เพิ่งไดสติ มองเห็นไดอยางชัดเจน
“อัสนีเทวาปดเปาภยันตราย!” มารโบราณพลันตกตะลึง คาดไมถึงวาจะจำประจุ
ไฟฟาสีทองที่ทำใหมารโบราณในตอนนั้นเสียเปรียบไมนอยได ถาหากไมไดรับบาดเจ็บ
หนัก เขาก็ยังมีวิธีกระตุนเคล็ดวิชาลับตานทานไวได แตตอนนี้กลับไมอยากปะทะ
ตรงๆ เพราะกลัววาจิตวิญญาณดั้งเดิมจะเสียหายหนักอีกครั้ง
ทันใดนั้นมือหนึ่งของมารตนนั้นพลันโบกสะบัด ชั่วขณะนั้นพลันรวมตัวกันอยู
เบื้องหนา ชั่วพริบตาพลันกลายเปนโลเล็กๆ สีดำสนิท ตรงเขาไปลำแสงสีเขียว ราง
ของมันเองพลันพลิ้วไหว ชั่วครูก็พุงออกไปสองสามจั้ง
แตในตอนที่รางของมารตนนั้นยืนไดอยางมั่นคง ดานหลังก็เกิดเสียงฟาผาขึ้น
“แยแลว!” ชั่วขณะนั้นมารตนนั้นพลันใจหายวาบ ยังไมทันรอใหเขาไดเคลื่อนไหว
ประจุไฟฟ าสีเงินสายหนึ่งก็ตามมาติดๆ หานลี่สยายป กทั้ งสองขางออกปรากฏขึ้น
ดานหลังของมารตนนั้นสะบัดแขนเสื้อทั้งสอง อสรพิษเพลิงสีมวงตัวหนึ่งและกระบี่
เล็กๆ สีทองยี่สิบสามสิบสายพลันพุงออกไป
เวลานั้นเปลวเพลิงของหานลี่ก็ชาญฉลาดเปนพิเศษ ตอใหมารโบราณคิดจะหลบ
ก็ไมอาจหลบพน
ภายใตความจนปญ ญา ศีรษะเพี ยงหนึ่งเดียวของมารตนนั้ นก็หั นรอยแปดสิบ
องศา คาดไมถึงวาเผชิญหนากับหานลี่อยางแปลกประหลาด จากนั้นพลันอาปากออก
คลื่นเสียงสีดำประหลาดถูกพนออกมาจากปากอีกครั้ง แขนมารทั้งสองพลิ้วไหว มีดสี
ดำสองเลมปรากฏขึ้นทันที โบกสะบัดและตามเขามาติดๆ
แตตอนที่มารตนนั้นคิดไมถึง ในเวลาเดียวกันที่ศีรษะของเขาเพิ่งจะหันไป เบื้อง
หนาของเขาที่แตเดิมเปนระลอกคลื่น มีดบินสีดำที่เคยสับศีรษะขางหนึ่งของเขาก็
ปรากฏขึ้นอีกครั้ง สวางวาบแลวหายไป
ตอนที่ 1046 ไดสมบัติเกากลับคืน
เวลานี้ ความสนใจทั้งหมดของมารโบราณพลันถูกหานลี่ที่มาปรากฏตัวดานหลัง
อยางกะทันหันดึงดูดเอาไว เมื่อเพชรกระดูกมารที่หลอมเปนมีดบินปรากฏตัวขึ้นอีก
ครั้ง มารโบราณกลับสัมผัสถึงมันไดอยางชัดเจนชากวาครั้งที่แลว อีกทั้งความเร็วของ
มีดบินนี้กลับเร็วจนนาประหลาดใจ รอจนมารโบราณหลบหลีกอีกครั้งดวยสีหนาที่ตก
ตะลึง ก็กลับสายไปเสียแลว
ภาพฉากที่ เหมื อ นกัน ปรากฏขึ้น ที่ คอของมารโบราณ สายโลหิ ตฉี ดพุ งขึ้น อี ก
ศีรษะหนึ่งของมารโบราณเองก็กลิ้งตกลงมาอยางรวดเร็ว
หานลี่เห็นเชนนั้น พลันรูสึกดีอกดีใจ แตยังไมทันรอใหเขาเผยรอยยิ้มออกมา มีด
คูในมือของมารโบราณที่ไรศีรษะก็ยังไมหายไป กลับชูมือขึ้น คาดไมถึงวาจะกลายเปน
ลำแสงสีดำสองสายพุงตรงไปหาหานลี่ ทันใดนั้นพายุที่โหมกระหน่ำก็บังเกิดขึ้น ราง
มารที่ไรศีรษะคาดไมถึงวาจะกลายเปนไอมารที่เขมขนกลุมหนึ่งแลวระเบิดออก
ถึงแมวาหานลี่จะตกตะลึง แตจะใหเหยื่อหนีไปจริงๆ ไดอยางไร สองมือเขารายอาคม
อยางไมตองขบคิด อสรพิษเพลิงสีมวงที่พุงออกมาแตเดิมก็ระเบิดตัวเองออกมาเชนกัน
เปลวเพลิงสีมวงขนาดสองสามชุน แผออกไปเปนรัศมีขนาดสิบจั้ง ราวกับหาฝน
อยางไรอยางนั้น
สวนกระบี่เลมเล็กสีทองหลายสิบเลมพลันหมุนวน ชั่วขณะนั้นก็ทำใหมีดสีดำสองเลม
หายวับไป กระบี่บินทั้งหมดที่ตามมาติดๆ ก็กระจายออก ประจุไฟฟาสีทองสายแลว
สายเลาดีดตัวออกมาจากกระบี่บิน กอตัวกันเปนตาขายยักษสีทอง เปลวเพลิงสีมวงที่
อยูติดกันพลันแผลงมาจากเหนือศีรษะ
เสียง ‘ครืน’ ดังสนั่นขึ้น!
ไอมารกวาครึ่งไมทันไดหนีออกไปไกลนัก ก็ถูกกอนน้ำแข็งยักษสีมวงกอนแลว
กอนเลาจับตัวกันเปนกลุมอยูขางใน ไอมารที่ เหลือปะทะเขากับตาขายยักษสีทอง
หลังจากเกิดเสียงฟาผาขึ้น ก็หายวับไป
หานลี่เห็นเชนนั้น สองมือก็ยังคงรายอาคมดวยความระมัดระวัง ปากก็เปลงคำวา
‘ระเบิด’ ออกมาเบาๆ
ตาขายยักษสีทองผืนนั้นระเบิดออก ประจุไฟฟาบางๆ จำนวนนับไมถวนที่โจมตี
ลงมา ทำใหน้ำแข็งสีมวงที่อยูดานลางทยอยกันสลายหายไปในชั่วพริบตา
ไอมารที่อยูทามกลางเศษน้ำแข็งและจิตวิญญาณมารโบราณจำนวนนับไมถวนที่
ถูกซอนอยูในนั้น ตางถูกกวาดลางจนเกลี้ยง
มีสมบัติสองสามชิ้นรวงลงมาจากไอมารเหลานั้น
เมื่อหานลี่เห็นสมบัติสองชิ้นถูกเสนไหมสีดำกอตัวกันดวงตาก็เปลงประกาย
พลันดีดนิ้ว ประจุไฟฟาสีทองสองสายพุงออกไป ทำใหเสนไหมสีดำกระจายออก
ในทั น ที เผยกระบี่ เล ม เล็ ก สี ท องสองเล ม ออกมา ผิ ว ของมั น มั ว หม น เล็ ก น อ ย ดู
เหมือนวาจิตวิญญาณจะไดรับบาดเจ็บไปไมนอย
เปนกระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆาสองเลมที่หลนหายไปหลายปของหานลี่นั่นเอง
ภายใตความดีอกดีใจยกใหญของหานลี่ รีบรอนใชจิตสัมผัสกระตุนมัน กระบี่บิน
สองเลมมีประจุไฟฟาดีดตัวออกมา แลวรอนลงมาอยูในมือของเขาโดยอัตโนมัติ
ในที่สุดจิตใจที่บีบรัดมาตลอดของหานลี่ ก็ผอนคลายลงไปกวาครึ่ง
ยังดีที่ถึงแมวาจะถูกมารโบราณผนึกเอาไวเปนเวลานาน แตพลังวิญญาณในกระบี่
ยังไมไดถูกกำจัดทิ้งไป ขอแคบวงสรวงใหม ก็จะฟนฟูกลับมาเปนดังเดิม
และในเวลานั้น ชายหนุมแซสวี ยักษ ปกเงิน และคนอื่น ๆ ที่ อยูไกลออกไป ซึ่ง
กำลังมองหานลี่โจมตีมารโบราณจนไดรับบาดเจ็บ แลวยังไลตามไปอีก กระทั่งกำจัด
มารโบราณจนเกลี้ยง แมแตจิตวิญญาณดั้งเดิมก็หนีออกมาไมได ตางก็ทำไดเพียงมอง
สบตากัน และมองเห็นความหวาดกลัวสองสามสวนออกมาจากแววตาของอีกฝาย
สวนหุนเชิดรางมนุษยที่ปรากฏตัวขึ้นใหมนั้น แนนอนวาพวกเขาตางก็รูสึกงุนงง
ไมรูวาหานลี่เรียกผูบำเพ็ญเพียรที่รายกาจคนหนึ่งนี้ออกมาจากไหน ทุกคนที่ถูกสงตัว
มาจากเขตอาคมสงตัวกอนหนา ไมมีคนผูนี้รวมอยูดวย หรือวาคนผูนี้มีเคล็ดวิชาหลีก
หนีที่สูงสง จึงสามารถหลบพนหูตาของผูคนมากมายขนาดนี้ในเวลาเดียวกันได
เมื่อขบคิดเชนนี้ ทุกคนก็รูสึกไมปลอดภัยยิ่งกวาเดิม ทวาพวกเขาเองก็ไมใชคน
ธรรมดา ทันใดนั้นก็กดความคิดนี้เอาไวในกนบึ้งของจิตใจ กลับโจมตีไปยังเขตอาคม
ดานลางพรอมกันอยางไมตองนัดหมาย
ธงอาคมหลายดามที่ปกอยูตรงมุมของเขตอาคมสงตัวสีดำซึ่งสรางเกราะปองกันสีเทา
ชั้นหนึ่งขึ้น กั้นทุกอยางเอาไวขางใน ก็คือเขตอาคมนี้ ทำใหเขตอาคมสงตัวอีกอันหนึ่ง
สูญเสียประสิทธิภาพไป
การโจมตีตางๆ เปลงเสียงคำรามพลางกระหน่ำลงไปดานลาง
ลำแสงวิญ ญาณสวางวาบ หลังจากเสียงอึ กทึ กดังขึ้น สิ่งที่ อ ยูน อกเหนื อความ
คาดหมายของทุกคนก็คือ เกราะปองกันสีเทาที่ธงอาคมสรางขึ้นแข็งแกรงเปนอยาง
มาก ไมวาจะเปนเสนไหมวิญญาณทมิฬของยักษปกเงิน กรงเล็บที่แหลมคมคูนั้นของ
อสูรวิหคราชสีห แมกระทั่งไขมุกกลมๆ ภานใตลำแสงสีเขียวที่ชายหนุมแซสวีสำแดง
ออกมา เมื่อโจมตีไปตรงนั้นก็ทำใหเกิดเพียงระลอกคลื่นบางๆ ชั้นหนึ่งเทานั้น ธงสีเทา
เจ็ดแปดดามที่ดูเหมือนจะธรรมดาๆ นั้น แคสั่นไหวเล็กนอย ไมมีอะไรเกิดขึ้น
ภาพฉากนี้ ทำใหผูคนที่แตเดิมคิดวาไมมีมารโบราณคอยขวางทางแลวทางออกจะ
ราบรื่น ตางก็รูสึกตึงเครียด
อสูรวิหคราชสีหที่นิสัยขี้โมโหที่สุด เห็นกรงเล็บของตัวเองไมมีผล ทันใดนั้นแววตา
โหดเหี้ยมก็สวางวาบ อาปากออก พนคลื่นเสียงสีทองออกมาอยางไมตองขบคิด ใน
ที่สุดก็ทำใหกำแพงทั้งหมดบุบเปนรู ราวกับวาจะตานทานไมไหวอยางไรอยางนั้น
ชายหนุมแซสวีเห็นเชนนั้น ความคิดพลันเคลื่อนไหว นกยูงแรดวิญ ญาณที่อยู
เหนือศีรษะสยายปกคูนั้นออก ลำแสงหาสีหมุนติ้วๆ ออกมาจากพายุ หลินอิ๋นผิงที่อยู
ดานขางดีดนิ้ว พนดวงแสงสีเงินกลุมแลวกลุมเลาออกมาจากปาก โจมตีไปยังเกราะ
ปองกันลำแสงอยางตอเนื่อง บวกกับยักษปกเงินที่ผนึกเสนไหมวิญญาณทมิฬจำนวน
นับไมถวนเขาดวยกัน จนกลายเปนอสรพิษยักษตัวหนึ่ง โจมตีอยางรุนแรงไปที่เกราะ
ปองกันลำแสงเปนขั้นตอนสุดทาย
ทุ ก คนต างรู ว าจะหนี อ อกไปที่ นี่ ได ห รื อ ไม นั้ น ขึ้ น อยู กั บ การโจมตี เบื้ อ งหน านี้
แนนอนวาจึงโจมตีเต็มกำลัง ไมยั้งมืออะไรอีก
ชั่วพริบตา ลำแสงวิญญาณที่นาตกตะลึงก็ปกคลุมเขตอาคมนี้เอาไว
ในที่สุดเกราะปองกันลำแสงสีเทาขาวก็เปลงเสียงปริแตกออกมา และในตอน
นั้นเอง ลำแสงหลีกหนีของหานลี่และกุยหลิง ก็เปลงแสงสวางวาบสองสามครั้งแลวบิน
กลับมาถึงตรงนี้
หุนเชิดรางมนุษยกลับหายไป ไมรูวาไปซอนตัวอยูที่ใด
การมาถึงของหานลี่ ดูเหมือนวาจะเงีย บสงบ แต กลั บ ทำให คนอื่ น ๆ ต างรูสึก
หวาดกลัว และเมื่อธงอาคมเหลานั้นเริ่มเปลงเสียงคร่ำครวญ ก็หักออกเปนสองสวน
เงารางของทุกคนตางเคลื่อนไหว พุงเขาไปหาเขตอาคมพรอมกัน แตหลังจากที่ลำแสง
สองสามสายระเบิ ด ออกพร อ มกั น เงาร า งคนสองสามสายกลั บ ตกลงมาในเวลา
เดียวกัน
คาดไมถึงวาการโจมตีที่พรอมกันในยามนี้ จะโจมตีจนทำใหคนอื่นๆ ตางตองลาถอยไป
“สหายหาน พวกเจาหมายความวาอยางไร!” ชายหนุมแซสวีมีสีหนาเขียวคล้ำ
มือหนึ่งถือไขมุกกลมๆ สีเขียวเอาไว จองเขม็งไปยังหานลี่พลางเอยถามดวยความ
เดือดดาล
“หมายความวาอะไร สหายสวีก็ถามตัวเองเถิด” หานลี่เอยพรอมกับอมยิ้ม เบื้อง
หนามีกระบี่สีทองสองสามเลมลอยอยู มือขางหนึ่งกลับควาพัดตรีเปลวเพลิงที่ทำให
คนอื่นๆ ใจหายวาบเอาไว
“คนที่จะสงตัวไปคนแรก จะตองเปนขา ขาไมเชื่อผูบำเพ็ญเพียรมนุษยอยางพวกเจา!”
ยักษปกเงินที่มีปกปกปองรางกายอยู เอยกับหานลี่อยางเย็นชา
“ฮาๆ คงยากแลว เขตอาคมขนาดเล็กนี้สงตัวไดมากสุดแคสองคนเทานั้น หากผูที่
ออกไปกอนทำลายเขตอาคมดานนอกใหพังทลาย เชนนั้นผูที่อยูขางใน ก็ไมเทากับ
ตายหรือ” หานลี่หุบยิ้ม น้ำเสียงเย็นเยียบ
ระหวางที่พูด อสูรวิหคราชสีหและกุยหลิงก็เขามาลอมรอบอยางเชื่องชา
ทั้งสามฝายตางมองสบตากันดวยความหวาดกลัว ตอนนั้นตางฝายตางก็ยืนกราน
ไมยอมออนขอใหกัน
ในตอนนั้นเอง ทางวิหารที่อยูไกลออกไปก็มีเสียงหวานที่เต็มไปดวยความโกรธ
เกรี้ยวและเย็นชาดังขึ้น!
“คิดไมถึงวาจะกลาสังหารคนของเผาศักดิ์สิทธิ์ตอหนาขา พวกเจาอยาไดคิดจะ
ออกไปแมแตคนเดียว!” เสียงนั้นเย็นเยียบจนเสียดกระดูก ฟงดูเหมือนจะไมดังนัก
หลังจากสงออกมากลับเขามาในโสตประสาทของทุกคนอยางชัดเจน คาดไมถึงวาจะ
เปนเสียงของสตรีชุดดำ
ชั่วพริบตาที่มารโบราณตาย บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาก็สัมผัสไดในทันที แตเมื่อ
ครูเพิ่งจะละมือได จึงเอยขึ้นอยางโกรธเกรี้ยว
เวลานี้ธงวายุทมิฬในมือของนางที่กำลังโบกสะบัด ปลอยอานุภาพออกมากวาครึ่ง
ทำใหเขตอาคมนพสัจจะสยบมารเกือบจะปริแตก สวนไมแปดวิญญาณที่ลอยอยูกลาง
อากาศเหนือวิหารนั้น ก็เปลงเสียงรองออกมาควบคุมอสูรวิญญาณลวงตาทั้งแปดใหมา
ปรากฏตัวใกลๆ กับมารตนนั้น เขารวมการลอมโจมตีดวย แตรางแยกของบรรพชน
ศักดิ์สิทธิ์ที่อยูใกลกับธงวายุทมิฬที่มีพลังปองกันจากธงวายุทมิฬนั้น ก็ไมมีทางอะไรให
นางบาดเจ็บไดสักนิด
แตเดิมสตรีผูนี้คิดจะจัดการเขตอาคมนพสัจจะสยบมารกอน จากนั้นคอยลงมือ
กับไมแปดวิญญาณ ผลลัพธคือผูใตบังคับบัญชาของตัวเอง คาดไมถึงวาจะจบชีวิตลง
อยางคาดไมถึง ชั่วขณะนั้นจึงกระตุนจิตสังหารของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ผูนี้ขึ้นมา
สตรีชุดดำมีสีหนาเครงขรึมดุจสายธาร พนโลหิตสดๆ ออกมาใสธงเล็กๆ ที่อยู
กลางอากาศอยางตอเนื่องสองสามครั้ง จากนั้นนิ้วทั้งสิบพลันรายอาคม ปลอยอาคม
ออกไปสายแลวสายเลา
ธงเล็กๆ เปลงแสงสีดำสนิทที่เสียดแทงตาออกมา มันขยายใหญขึ้น ชั่วพริบตาก็มี
ขนาดสิบกวาจั้ง ธงยักษขนาดเทาปากชาม ผิวของธงมีตัวอักษรสีมวงไหลวนไปมา ไอ
มารพัวพันอยูโดยรอบ
พายุสลาตันที่อยูรอบๆ ตางก็สัมผัสไดถึงอานุภาพที่เพิ่มขึ้นของธงนี้เชนกัน มัน
หมุนวนอยางบาคลั่ง คาดไมถึงวาจะหมุนติ้วๆ จนทำใหเขตอาคมนพสัจจะสยบมาร
แตกออกเปน ชิ้น ๆ มีดสีท องสองสามเลมหมุ น ติ้ วๆ ไรซึ่ งการควบคุ ม มองเห็ นเขต
อาคมสยบมารถูกทำลายลงทันที!
ส วนไม แ ปดวิญ ญาณนั้ น เมื่ อ สตรีผู นี้ เข าไปใกล ห น าวิ ห ารแล ว ก็ ไม ได ส ำแดง
อานุภาพออกมาอีก แคสรางภาพลวงตาอสูรทั้งแปดออกมาลอมโจมตีสตรีผูนี้ไมหยุด
แตธงวายุทมิฬก็ถูกวงพายุพัดจนกระเจิงเชนกัน ไมอาจหยุดอยูนิ่งๆ ได
ชายหนุมแซสวี ยักษปกเงินและคนอื่นๆ ที่อยูอีกดานไดยินคำพูดหยาบกระดาง
ของสตรีชุดดำ ก็สัมผัสไดถึงพายุที่โหมกระหน่ำยิ่งกวาเดิม ตางพากันใจหายวาบ หาก
ไมใชเพราะทั้งสามฝายกำลังจองกันตาเปนประกาย เกรงวาคงพุ งหนีเขาไปในเขต
อาคมสงตัวในทันที
“ใหสหายกุยและสหายหลินสงตัวไปกอน สหายกุยคืออสูรปศาจและนับวาเปน
สหายเกาของยักษปกเงิน และขานอยก็เชื่อมั่นวาสหายกุยจะไมทิ้งขานอยหนีไป สวน
ที่ใหสหายหลินไปกอนนั้น สหายสวีก็นาจะวางใจได สหายพยัคฆและสหายสวีจะสงตัว
ไปเปนกลุมที่สอง ขาและสหายปกเงินจะเปนกลุมสุดทาย รีบเริ่มเถิด มิเชนนั้นจะสาย
ไป!” เมื่อเห็นวาทางดานวิหารมีเสียงกัปนาทดังขึ้น เมฆสีดำลอยทั่วทองฟา พายุสีดำ
สิบกวาสายผสมเขาดวยกัน แมแตชั้นบรรยากาศโดยรอบก็ยังเริ่มสั่นคลอน นี่จึงทำให
หานลี่รูสึกมีลางสังหรณไมดี จึงเอยขึ้นอยางเด็ดขาดโดยไมตองขบคิด
ชายหนุมแซสวีและยักษปกเงินตางก็สัมผัสไดถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพ
อากาศเชนกัน ถึงแมวาจะยังกังวล แตเวลานี้ไมมีวิธีที่ดีกวาแลว หากชักชาตอไป เกรง
วาคงเกิดหายนะ หลังจากมองสบตากันแวบหนึ่งแลว ก็พยักหนาเบาๆ
ทันใดนั้นกุยหลิงที่ถูกหานลี่ออกคำสั่ง ก็พุงออกไปหาหลินอิ๋นผิง คิดจะสงตัวเขา
ไปในเขตอาคม
แตผูใดจะรูวา เมื่อเทาขางหนึ่งของทั้งสองเหยียบลงไป ลำแสงสีขาวในเขตอาคม
พลันสวางวาบ เงารางคนคนหนึ่งปรากฏขึ้นตรงกลางเขตอาคม คาดไมถึงวาจะมีคนสง
ตัวมาจากดานนอกในเวลานี้
เวลานี้ ทำใหหานลี่และพวกตกตะลึงจนตาคาง!
ในตอนนั้นเอง จูๆ เสียงที่ไพเราะของสตรีชุดดำก็ดังขึ้น
“โกลาหลเบิกฟา!”
เมื่อเปลงคำพูดนี้ออกมา เสาลำแสงสีดำสนิทราวกับน้ำหมึกเสาหนึ่งก็พวยพุงขึ้นไปบน
ทองฟา จากนั้นเสาลำแสงก็หยุดชะงักอยางประหลาดอยูกลางอากาศ จากนั้นทองฟา
ทั้งผืนก็ดูเหมือนวาจะถูกเสาลำแสงนี้แบงเขตออก จูๆ ก็แยะออกเปนสองสวน ดาน
หนึ่งเจิดจาจนแสบตา อีกดานหนึ่งกลับมืดมนอยางหาที่สิ้นสุดมิได ชั่วครูก็ปกคลุม
ทองฟากวาครึ่งเอาไว ชั่วพริบตาก็มาถึงเหนือศีรษะของหานลี่และคนอื่นๆ
ตอนที่ 1047 โกรธเกรี้ยว
หานลี่และพวกยังไมมีปฏิกิริยาตอบสนอง ในตอนที่เสียงหัวเราะอันเย็นชาของ
สตรีชุดดำกำลังดังนั้น ลำแสงที่เปลงประกายก็สลายหายไปอยางรวดเร็ว เบื้องหนา
ของทุกคนมืดสนิท ตางจมลงสูความมืดมิด
คาดไมถึงวาบรรพชนหยวนซาผูนี้จะกระตุนความสามารถประเภทชองวางมิติ
ของธงวายุทมิฬ และปดผนึกพื้นที่เล็กๆ นี้อีกครั้ง ทำใหทุกคนติดอยูในนี้
ชายหนุมแซสวีและพวกตางพากันหนาเปลี่ยนสี
“รีบสงตัวหนีไปเร็วเขา!”
“เอ! ผูที่สงเพิ่งสงตัวเขามาละ?”
“การสงตัวไรผล เขตอาคมไมอาจทำงานได”
เสียงตกตะลึงและโกรธเกรี้ยวดังออกมาอยางตอเนื่อง คนสวนใหญตางรูสึกรอนรน
หานลี่รูสึกจิตใจหนักอึ้ง เขาไมรูวาคนที่ปรากฏตัวในเขตอาคมหายไปไดอยางไร
เชนกัน และยิ่งไมมีใครมองเห็นใบหนาที่ชัดเจนของอีกฝาย ทวาเทียบกับที่เขตอาคม
สงตัวไรประสิทธิภาพแลว มันไมนับวามีคาอะไรเลย
รางกายของเขาแวบหายไป มาอยูเบื้องหนาเขตอาคมสงตัว
หลินอิ๋นผิงและกุยหหลิงที่อยูในเขตอาคม มองสำรวจรอบๆ เขตอาคมไมหยุด
ใบหนาเปนกังวล
“ใหขาดูหนอย!” หานลี่เอยดวยน้ำเสียงเครงขรึม จากนั้นก็ชูมือหนึ่งขึ้น
ชั่วขณะนั้นอาคมสายหนึ่งพลันโจมตีไปยังริมขอบดานนอกของเขตอาคม ผลลัพธ
คือลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบจางๆ แลวไมมีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ อีก
หานลี่มีสีหนาเครงขรึมขึ้น
เวลานี้ ชายหนุมแซสวีและยักษปกเงินตางก็เขามาลอมรอบเชนกัน แตแคพวก
เขาไมเชี่ยวชาญในเรื่องเขตอาคม เวลานี้เห็นหานลี่มีสีหนาเชนนี้ ยักษปกเงินก็อดไม
ไหวเอยถามขึ้นวา
“เกิดอะไรขึ้น เขตอาคมสงตัวมีปญญาหรือ?”
“เขตอาคมส ง ตั ว ไม ไ ด มี ป ญ หา แต ก ลั บ ถู ก พลั ง ของธงวายุ ท มิ ฬ ผนึ ก เอาไว
นอกจากจะทำลายชองวางมิตินี้ หรือสังหารเจาของธงวายุทมิฬเพื่อใหเขตอาคมเปด
ออกเอง มิเชนนั้นพวกเราก็ไมมีทางออกไปได” หานลี่มองไปที่เขตอาคมสงตัว แลว
เอยอยางเชื่องชา
“ทลายชองวางมิติ จะไปทลายไดอยางไร! หรือจะให พ วกเราสังหารบรรพชน
ศักดิ์สิทธิ์หยวนซาอยางนั้นรึ หากพวกเรามีความสามารถพอ เหตุใดจะตองรีบรอน
จากไปเลา?” ยักษปกเงินไดยินเชนนี้ ก็เอยอยางรอนใจออกมา
“สหายบอกขาแลวจะมีประโยชนอันใด? โชคดี ที่มารตอนนั้นยังงวนอยูกับการ
ตอกรกับผูที่อยูในวิหาร ตอนนี้แคกักพวกเราเอาไวเทานั้น ไมอาจมาประมือกับเราได
ทัน พวกเราลองไตรตรองดูสักหนอย ดูวาจะคิดวิธีออกไปจากที่นี่ออกหรือไม คำพูด
กลาวโทษนั้น สหายอยาเอยถึงเลย” หานลี่กลอกตาไปมา พลางตอบกลับอยางไม
เกรงใจ
ยักษปกเงินไดยินแลวพลันโกรธเกรี้ยว แววตาอำมหิตฉายแววสวางวาบ แตทันใด
นั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได หลังจากแคนเสียงขึ้นจมูกแลวก็ระงับความโกรธเกรี้ยวเอาไว
แววตาเปลงประกายสวางวาบพลางขบคิดอะไรสักอยาง
ชายหนุมแซสวีเองก็เผยสีหนาขบคิดออกมา
หลินอิ๋นผิงและกุยหลิงเองก็เดินออกมาจากเขตอาคมดวยความจนปญญา และพา
กันขมวดคิ้วมุน
……
ในตอนที่หานลี่และพวกกำลังติดอยูในผนึกอยางไรซึ่งหนทางนั้น บรรยากาศดานนอก
สตรีชุดดำถูกพายุสลาตันสายหนึ่งหอหุมเอาไวขางใน มองลำแสงสีดำที่ลดขนาดลง
กลางอากาศของธงยักษ ใบหนาก็เผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา
เวลานี้นอกจากเสาพายุสองสามตนขางกายของนางแลว พายุที่บาคลั่งรอบๆ ก็คอยๆ
หยุดลง รอบดานเริ่มเผยใหเห็นสภาพแวดลอมที่ยุงเหยิง และคอยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ถึงแมวาจะสำแดงความสามารถกลางอากาศ ทำใหอานุภาพของธงสีดำลดลงไป
ไมนอย แตเขตอาคมนพสัจจะสยบมารที่ถูกทำลายไปเบื้องหนา อานุภาพที่เหลือก็ยัง
เพียงจะตอกรกับไมแปดวิญญาณที่ไมมีผูใดควบคุมได ถึงแมวาสมบัติชิ้นนี้จะรายกาจ
แตจะสำแดงความสามารถออกมาไดแคไหนก็ลวนตองพึ่งพาพลังวิญญาณ และทำได
เพียงกดจิตวิญญาณหมาปาที่ไมมีกายเนื้อเปนของตัวเองไวในวิหารเทานั้น
สตรีผูนี้ขบคิดเชนนั้น สายตาก็กวาดมองไปรอบนอก
เห็นเพียงเงาลวงตาของอสูรวิญญาณทั้งแปดเริ่มสลายหายไปทามกลางพายุสลาตันที่
กำลั งฉี ก ทึ้ ง และผนึ ก รวมตั วกั น อี ก ครั้ง ถึ งแม วาพวกมั น จะไม มี ท างโจมตี ในพายุ
สลาตันได แตสตรีผูนี้ก็ไมยอมเดินออกมาจากการปกปองของพายุลูกนี้งายๆ
สตรีชุดดำกลอกตาไปมาดวยใบหนาไรความรูสึก จูๆ ก็มองไปยังผูใดสักคนหนึ่ง
ในวิหาร ตั้งแตที่เริ่มตอสูกัน คนผูนั้นก็เอาแตอยูใกลๆ ไมยอมออกหางไป และไมกลา
กระทำการอื่นๆ ซึ่งก็คือคนประหลาดนั่นเอง
ถึงแมวาธงวายุสีดำเมื่อครูจะรุนแรง แตใจกลางของวิหารกลับยังปลอดภัยทุก
กระเบียดนิ้ว คนผูนั้นจึงยังปลอดภัยไรการบาดเจ็บ
แววตาของสตรีชุดดำเปลงแสงสวางวาบ ปากก็เปลงเสียงอันไพเราะออกมาวา
“สหายเยี่ย เจาไปเอาไมแปดวิญญาณมาใหขา วางใจ มีขาคอยดูอยู ไมมีทางทำ
ใหสหายหลงเมิ่งลงมือกับเจาไดแน”
คนประหลาดไดยินคำพูดนี้ ใบหนาพลันตกตะลึง เผยสีหนาลังเลออกมา
“ทำไม สหายกลัววาบรรพชนศักดิ์สิทธิ์อยางขาจะไมอาจคุมครองความปลอดภัย
ใหเจาไดหรือ?” สตรีชุดดำหัวเราะเบาๆ ออกมา ปดปอยผมที่ปรกลงมาตรงหนาผาก
ชูมือหนึ่งขึ้น ชี้ไปยังผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยที่อยูไกลออกไป
คนผูนั้ น กำลังปลอ ยสมบั ติ อ าคมออกมาปกป อ งรางกายตั วเองเอาไวอ ยู ที่ เดิ ม
นักปราชญชุดขาวที่มีเงาลวงตาคอยติดตามอยู เห็นการเคลื่อนไหวของสตรีผูนี้ ชั่ว
ขณะนั้นพลันรูสึกตกตะลึง
นิ้วเรียวพลันขยับ!
แตปลายนิ้วกลับไมมีลำแสงวิญญาณใหเห็นเลยสักนิด สตรีชุดดำดูเหมือนวาจะ
แคดีดนิ้วกลางอากาศที่วางเปลาเทานั้น
ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยรูสึกงุนงง คนประหลาดเห็นสถานการณเชนนั้น พลัน
ตกตะลึง ไมเขาใจวาสตรีชุดดำมีเจตนาใด
เสียง ‘ฟวๆ’ พลันดังขึ้น หวางคิ้วของนักพรตหญิงที่อยูทามกลางกลุมผูบำเพ็ญ
เพียรตระกูลเยี่ยและชายชราที่อยูดานขางมีจุดเล็กๆ สีแดงโลหิตปรากฏขึ้น รางกาย
พลันลมลงบนพื้น ลำแสงวิญญาณคุมครองรางและสมบัติอาคมคุมครองกายคาดไมถึง
วาจะไมมีประโยชนเลยแมแตนอย
ชายวัยกลางคนหนาเหลี่ยมที่เหลือ กลับมีเงาวงแหวนกระดูกขาวสวางวาบขึ้น
เบื้องหนา หลังจากลำแสงสีเหลืองกระเพื่อมขึ้นลง ก็ตานทานไขมุกกลมๆ กึ่งโปรงใส
เม็ดหนึ่งเอาไว
ไขมุกเม็ดนี้มีขนาดเพียงหัวแมมือ โปรงใส ถูกลำแสงสีเหลืองดีดออกไป เสียง ‘ปง’ ก็
ดังขึ้น ระเบิดออกและหายไปโดยอัตโนมัติ เงาลวงตาเหลานั้นที่ถูกนักปราชญชุดขาว
ควบคุม อยู ก็ถูกโจมตีที่ ห วางคิ้วเชน กัน ชั่วพริบ ตาเงาลวงตาพลัน ระเบิ ดออกแลว
สลายหายไป
“เอ!”
“หา?”
สตรี ชุ ด ดำและคนประหลาดเปล ง เสี ย งออกมาพร อ มกั น แต แ ค ส ตรี ชุ ด ดำมี
น้ำเสียงประหลาดใจ แตคนประหลาดกลับตกตะลึง
“แหวนสะท อ นจัน ทรา ไม สิ ของลอกเลี ย นแบบ!” สตรีชุ ด ดำเอย พึ ม พำ เผย
ความรูสึกประหลาดใจออกมา
“บรรพชนศักดิ์สิทธิ์ ทานหมายความวาอยางไร?” คนประหลาดมีสีหนาโหดเหี้ยม
“หมายความวาอะไร? ในเมื่อสหายเยี่ยไมเชื่อใจบรรพชนอยางขา ขาจะทำใหเจาดู
ทำไม หรือวาคนเหลานี้มีความสัมพันธอะไรกับเจา?” สตรีชุดดำหรี่ตามอง พลางเอย
อยางไมใสใจ
“หึ!” คนประหลาดแคนเสียงหึอยางเย็นชา ดูเหมือนวาจะไมคอยพอใจนัก แตก็ยัง
ไมไดกลาวอะไรออกมา แตสุดทายสายตากลับตกไปที่เงาลวงตาของนักปราชญชุดขาว
ใบหนาตกตะลึงระคนสงสัยเล็กนอย
เวลานี้ศพของผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยสองคนพลันระเบิดออก ทารกวิญญาณ
สองคนบินออกมาจากดวยความรอนรน ตรงไปยังผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยม
ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมสีหนาเครงขรึมดุจสายธารพลางเก็บวงแหวนกระดูก
เบื้องหนา ใหทารกวิญญาณทั้งสองเขาไปในแขนเสื้อของเขา จากนั้นก็ปลอยวงแหวน
กระดูกออกมาอีกครั้ง ขั้นตอนนี้ เขาพลันจับจองสตรีชุดดำดวยดวงตาที่ไมกะพริบ
กลัววานางจะถือโอกาสนี้ลงมืออยางโหดเหี้ยมอยางฉับพลัน
ไมรูวาหลังจากการโจมตีเมื่อครู นางไมคิดที่จะลงมืออีก หรือวาแคคิดจะใหคน
ประหลาดได เห็ น ความสามารถกั น แน สตรีชุ ด ดำไม ได สนใจที่ ผูบ ำเพ็ ญ เพี ย รหน า
เหลี่ยมเก็บทารกวิญญาณกลับไป แตเอยกับคนประหลาดตอวา
“ขอแคสหายเยี่ยชวยขานำไมแปดวิญญาณมา ก็นับวาเปนการชวยขาอีกแรงแลว
หลังจากออกไปได ขาจะมอบไอมารใหเจา ทำใหอายุขัยของเจาเพิ่มขึ้น อีกเดี๋ยวตอน
ที่ตอกรกับปศาจตนนั้น เจาเองไมจำเปนตองลงมือ หรือวาเรื่องแคนี้สหายทำไมได?”
เอยจนมาถึงตอนนี้ ใบหนาของสตรีชุดดำพลันเครงขรึมลง ลูกตาดำและขาวมีสี
โลหิตชั้นหนึ่งหอหุมเอาไว ดูเหมือนปศาจอยางสุดๆ
คนประหลาดหนาเปลี่ยนสี แนนอนวารูวารางแปลงของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาผู
นี้ไมพอใจแลว ทันใดนั้นพลันขบคิดเล็กนอย รูวาอันตรายครั้งนี้ไมเสี่ยงไมไดแลว จึง
กัดฟนไมกลาวอะไรอีก รางกายพุงไปหาไมแปดวิญญาณ
ในตอนที่รางของคนประหลาดเริ่มเคลื่อนไหว เสียงแคนเสียงดวยความเย็นชาก็
ดังมาจากทางวิหาร จูๆ บรรยากาศเหนือศีรษะของคนประหลาดก็บิดเบี้ยว มือยักษ
ขนาดสิบกวาจั้งปรากฏขึ้น กำหมัดแนนอยางไมเกรงใจ ราวกับวาภูเขาเล็กๆ ที่ทุบลง
มาบนรางของคนประหลาดอยางไรอยางนั้น
เมื่ อ สั ม ผั ส ได ถึ งความน ากลั วของกำป น ยั ก ษ คนประหลาดก็ ต กตะลึ งไม น อ ย
ทันใดนั้นก็คิดจะถอยหนีไป แตในตอนนั้นเอง สตรีชุดดำเปลงเสียงหัวเราะอยางแผว
เบาออกมา มือเรียวประกบกันหันไปทางวิหารเบาๆ
เสียง ‘ป ง’ ดังขึ้น กำป นยักษ ดูเหมื อนวาจะถูกอะไรที่ โหดเหี้ ยมโจมตี อยางไร
อย างนั้ น คาดไม ถึ งวาจะถู ก โจมตี จ นกระเด็ น ลอยไป ทั น ใดนั้ น พลั น สลายหายไป
กลายเปนสะเก็ดไฟสีขาวๆ
คนประหลาดตั ด สิ น ใจ ทั น ใดนั้ น ลำแสงหลี ก หนี ก็ ส ว า งวาบอย างไม ลั ง เลอี ก
กลายเปนลำแสงสีเหลืองสายหนึ่งพุงออกไปหาไมแปดวิญญาณ
แตเมื่อลำแสงหลีกหนีนี้พุงออกไปสิบกวาจั้ง กลับมีเสียงคำรามต่ำๆ ที่เบาจนแทบ
กระซิบดังออกมา จากนั้นลำแสงประหลาดก็สวางวาบขึ้นกลางอากาศ มีดประหลาดสี
แดงดำเลมหนึ่งพุงออกมา กลายเปนดาบลำแสงสีแดงดำ ตรงไปหาคนประหลาด
“มีดโลหิตทมิฬ!”
คนประหลาดกลับสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปพลางรองอุทานออกมา อาปากออก
อยางไมตองคิด พนกระบี่เลมเล็กสีเหลืองออกมาจากปาก กลายเปนกระบี่ยักษขนาด
สองสามจั้ง หลังจากหมุนวนเล็กนอยก็สรางภาพลวงตาเงากระบี่ขึ้น ปกปองรางของ
ตัวเองเอาไว ทันใดนั้นคนประหลาดก็พลิกฝามือหนึ่งอีกครั้ง ขวดเล็กๆ สีขาวบริสุทธิ์
พลันปรากฏขึ้นในมือ หันปากขวดไปทางดาบลำแสงซึ่งบินเขามาอยางพอดิบพอดี
ลำแสงสีขาวผืนหนึ่งพุงออกมาจากขวด ชั่วครูก็สวางวาบมาถึงดาบลำแสงสองสาย
เมื่อทั้งสองสัมผัสกัน ดาบลำแสงสีแดงดำพลันผสมเขาดวยกัน ทำใหลำแสงที่ดู
เหมือนหนาแนนแตกกระจายออกเปนชิ้นๆ ทันใดนั้นลำแสงสีดำแดงก็ขยายใหญขึ้น
ดาบลำแสงผนึกรวมตัวกันที่ตรงกลาง กลายเปนดาบยักษสีดำแดงยาวสองสามจั้ง สับ
ลงมาทางศีรษะของคนประหลาดอยางแมนยำ
คนประหลาดมีสีหนารอนรน สองมือพลันรายอาคม กระตุนกระบี่ยักษสีเหลืองให
ออกมาตานทาน ในเวลาเดียวกันแขนเสื้อพลันสะบัด สามงามบินอีกอันกลายเปน
ลำแสงสีเงินสายหนึ่งพุงขึ้นไปบนฟา
หลังจากที่ดาบยักษสีแดงดำตกลงมาก็ถูกเงากระบี่ตานทานเอาไว มันหยุดชะงัก
เล็กนอย แตทันใดนั้นก็เปลงเสียงรองทุมต่ำออกมา เงากระบี่ทั้งหมดถูกสับออกราวกับ
กระดาษอยางไรอยางนั้น จากนั้นพลันปะทะเขากับตัวของกระบี่ยักษโดยตรง
กระบี่ยักษสีเหลืองเปลงเสียงคร่ำครวญออกมา เมื่อกระบี่และดาบลำแสงโจมตีใสกัน
บนตัวกระบี่พลันเกิดรอยแยกสายหนึ่งขึ้นทันที
คนประหลาดหนาซีด อดที่จะอาปากพนโลหิตสีดำออกมาไมได โชคดีที่เวลานี้
สามงามบินอันนั้นบินมาถึงตรงนั้นอยางพอดิบพอดี หลังจากสั่นคลอนแลวก็กลายเปน
ลำแสงสีเงิน ชวยกระบี่ยักษตานทานดาบยักษที่สับลงมา
ทว าเห็ น ได ชั ด วาถึ งแม ว าสามงามสี เงิน จะไม ธ รรมดา สมบั ติ ส องชิ้ น ไม มี ท าง
ตานทานมีดเลมนั้นไดนานนัก รอบกายของคนประหลาดเปลงแสงวิญญาณสวางวาบ
พลางพุงออกไปดานขาง
สตรีชุดดำที่อยูไกลออกไปเห็นภาพฉากนั้น พลันมีสีหนาเครงขรึม มือหนึ่งดีดไปที่
กลางอากาศเหนือวิหารตรงจุดที่ไมมีผูคน
ชั่วขณะนั้นเสียงหึดวยความเย็นชาพลันดังออกมา เงาสีขาวจางๆ สายหนึ่งลอย
ขึ้นๆ ลงๆ ปรากฏขึ้นตรงนั้น
นั่นก็คืออาวุโสใหญของตระกูลเยี่ย นักปราชญชุดขาวที่อำพรางกายหายไปตั้ง
นานแลว
ทวาเวลานี้เขาพลันมีสีหนาไรความรูสึก ทรวงอกมีรูโลหิตบางๆ ปรากฏขึ้นหนึ่งรู
ดูจากตำแหนงแลวตรงกับหัวใจอยางพอดิบพอดี แตกลับไมรูเพราะเหตุใดถึงไดมี
ทาทางเหมือนไมไดรับผลกระทบใดๆ เลย
ตอนที่ 1048 กลืนทารก
ในเวลาเดียวกับที่นักปราชญชุดขาวถูกบีบใหปรากฏตัวออกมา ดาบลำแสงสีแดงดำที่
กำลังฟนฉับลงมาตางก็ไดรับผลกระทบ หลังจากเปลงแสงสวางวาบ ลำแสงประหลาด
สีแดงดำก็ลดลงไปจำนวนไมนอย คาดไมถึงวาจะทำใหกระบี่ยักษและสามงามสีเงิน
ของคนประหลาดตานทานการฟนฉับลงมาของดาบยักษเอาไวได
รางของคนประหลาดแวบหายไป คนก็ถือโอกาสนี้คิดจะพุงตัวออก ในที่สุดก็หนี
ออกจากอาณาเขตการฟนลงมาของดาบยักษได
“ทานอาเจ็ด ท านจะหนีไปที่ใด? มี ดโลหิ ตทมิฬ คือสมบั ติที่ สืบ ทอดกัน มาของ
ตระกูลเยี่ย และเปนสมบัติที่ใชลงโทษกบฏของตระกูลเรา ในเมื่อทานและบรรพชน
ศักดิ์สิทธิ์มารโบราณรวมมือกัน หลังจากที่โยนเรื่องตระกูลเยี่ยทิ้งไปแลว ก็อยามาโทษ
วาศิษยหลานไมเกรงใจ ไมแปดวิญญาณดามนี้ คือสิ่งที่ตระกูลเยี่ยจะตองเอามาใหได
หากคิดจะมอบของสิ่งนี้ใหมารปศาจตัวนั้น ก็เอาชีวิตของตัวทานเองมาแลกกอนแลว
กัน” นักปราชญชุดขาวไมสนใจอาการบาดเจ็บที่ทรวงอก เอยกับคนประหลาดที่อยู
ไกลออกไปอยางเด็ดขาด
เมื่อไดยินคำพูดของนักปราชญ ใบหนาของคนประหลาดพลันเริ่มมีสีแดงและขาว
สลับกัน แตทันใดนั้นก็หัวเราะอยางเย็นชาออกมา เผยสีหนาไมใสใจออกมา คาดไมถึง
วาจะไมคิดจะแกตัวเลยสักนิด
เมื่อเห็นคนประหลาดมีสีห นาไมใสใจ แววตาอำมหิ ตพลัน ฉายแวบผานไปบน
ใบหนา คาดไมถึงวาคิ้วทั้งสองจะคอยๆ เลิกขึ้น รางทั้งรางเริ่มเปลี่ยนไป แตกตางกับ
ทาทางสงางามกอนหนาเปนอยางมาก
สตรีชุดดำที่กอนหนาที่โจมตีแตไมไดคราชีวิตของนักปราชญ พลันรูสึกประหลาด
ใจเล็กนอย เวลานี้เห็นนักปราชญเผยสีหนาโหดเหี้ยมออกมา พลันขมวดคิ้วมุน ตะปบ
อากาศที่วางเปลาเอาไวโดยไมปริปากใดๆ
เพียงการเคลื่อนไหวอยางงายๆ ไมเห็นทาทีโกรธเกรี้ยวเลยสักนิด
แตทันใดนั้นเสียง ‘ปง’ พลันดังแหวกผานอากาศมา
ลำแสงที่แวววาวและแหลมคมยาวครึ่งฉื่อพุงออกมาจากมือ สวางวาบแลวมาปรากฏ
ตัวเบื้องหนาของนักปราชญ ความเร็วดุจการเคลื่อนยายชั่วพริบตาอยางไรอยางนั้น
รูมานตาของนักปราชญชุดขาวหดเล็กลง แตสิ่งที่แปลกประหลาดก็คือ กลับไมมี
เจตนาจะหลบหลีกใดๆ แคอาปากออก พนสมบัติอาคมทรงกลมสีแดงเพลิงออกมา
เคลื่อนไหวเล็กนอย ลำแสงสีแดงหมื่นสาย ก็ปกคลุมเรือนรางของเขาเอาไว
ลำแสงที่แหลมคมหาสายกลับไมไดโจมตีไปยังสมบัติชิ้นนี้ เพราะวามือสีขาวขางหนึ่ง
พลันปรากฏขึ้นเบื้องหนานักปราชญเสียกอน จากนั้นก็ตะปบลงมาดวยความรวดเร็ว
ดั่งสายฟาฟาด ควาลำแสงที่แหลมคมเหลานั้นเอาไวในมือ นิ้วทั้งหาออกแรงบีบจนทำ
ใหกรงเล็บลำแสงที่แวววาวแหลกสลายไป
สตรีชุดดำเห็นภาพฉากนั้น แววตาพลันเปลงประกาย เผยสีหนาเครงขรึมออกมา
เวลานี้ ในวิหารจึงมีเสียงหัวเราะอยางเย็นชาของหลงเมิ่งดังขึ้น
“หยวนซา เจาควบคุมคนเพื่อใหมาชิงสมบัติแทนเจาได ขาเองก็รวมมือกับมนุษย
ผูบำเพ็ญเพียรไดเชนกัน อยาคิดวาจะทลายเขตอาคมของไมแปดวิญญาณไดงายๆ ขา
ก็อยากรูนักวา หลังจากที่ถูกผนึกมานานขนาดนี้ เคล็ดวิชามารที่ไรเทียมทานของเจา
ในตอนนั้นปะทะกับสมบัติวิญญาณของสำนักพุทธ จะสำแดงออกมาไดสักกี่ครั้ง ตอให
เจาโชคดีทำลายไมแปดวิญญาณได ก็ไมรูวาสุดทายตอนที่ปะทะกับขา การอาศัยการ
ดูดกลืนไอมารจากภายนอกจะยังเหลืออยูอีกกี่สวน”
สตรีชุดดำไดยินเชนนั้น พลันหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย แววตาเย็นชา แตปากกลับ
เอยอยางเย็นชาวา
“ไมวาจะมีไอมารเทาไหร การตอกรกับเศษวิญญาณที่ไรกายเนื้ออยางเจา บรรพชน
ศักดิ์ สิท ธิ์อ ยางขาก็มั่ น ใจมาก อีกอย างที่ นี่ ก็ มี สมุ น ไพรอั ศ จรรย ลูกกลอนวิญ ญาณ
มากมายขนาดนี้ บรรพชนศักดิ์สิทธิ์อยางขาจะกลัวการสูญเสียไอมารไปทำไม?”
“สมุ น ไพรอั ศ จรรย ลู ก กลอนวิญ ญาณ? มารเฒ าเจ าคิ ด …” เสี ย งของหลงเมิ่ ง
หยุดชะงัก ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได น้ำเสียงเปลี่ยนไปในทันที
แตยังไมรอใหสตรีผูนี้เอยจบ สตรีชุดดำพลันยิ้มอยางแปลกประหลาดออกมา
พลิกฝามือดีดไปที่ธงวายุสีดำกลางอากาศเบาๆ
ชั่วขณะนั้ น อาคมสีเขียวสายหนึ่ งพลัน ดี ดตั วออกไป ชั่ วครูก็โจมตี ไปยังสมบั ติ
วิญญาณ แลวจมหายไป
ธงยักษสีดำที่แตเดิมนิ่งงันไมไหวติงพลันสั่นคลอน ปลายธงเริ่มหนักอึ้ง ดานบน
ระเบิดลำแสงสีดำเจิดจา พนเสาลำแสงสีดำสนิทสายหนึ่งออกมา
เสาลำแสงนี้เปลงสวางวาบ เมื่อออกหางธงสีดำก็สลายหายไปกลางอากาศ ครู
ตอมาก็มาปรากฏตัวเบื้องหนาผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมที่อยูไกลออกไป จากนั้นพลัน
ระเบิดออก
หลังจากที่ลำแสงงวิญญาณสีดำกระจายตัวออก ชั่วพริบตาเสาวายุสีดำสนิทสาย
หนึ่งก็พวยพุงออกมาจากพื้นดินตรงจุดเดิม คาดไมถึงวาชั่วครูจะมวนเอาผูบำเพ็ญ
เพียรหนาเหลี่ยมเขาไปอยางคาดคิดไมถึง
เสียงคร่ำครวญโหยหวนดังออกมาจากเสาลำแสง คมมีดวายุสีดำจำนวนนับไม
ถวนปรากฏขึ้น ภายใตการหมุนวนอยางรุนแรง ราวกับวามีดแหลมคมนับพันนับหมื่น
เลมสับลงที่ใจกลางอยางสะเปะสะปะ
ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมพลันตกตะลึง รีบรอนใสพลังวิญญาณในรางเขาไปในวง
แหวนกระดูก
เงาลวงตาบนวงแหวนปรากฏขึ้ น อี ก ครั้ ง ลำแสงสี เหลื อ งที่ เจิ ด จ าจนแสบตา
ชั้นหนึ่งพลันกอตัวกันเปนเกราะปองกันลำแสง ปกปองผูบำเพ็ญเพียรผูนั้นเอาไวอยาง
แนนหนา
แต เมื่ อ มี ด วายุ สี ด ำมี จ ำนวนมากเกิ น ไป และหนาแน น เกิ น ยิ่ งไปกว านั้ น ยั งดู
เหมือนวาจะผสมความสามารถพิเศษอะไรสักอยางเอาไว ทุกการฟนลงมาของมีดวายุ
ตางก็ทำใหเกราะปองกันเปลงแสงสวางวาบและสลายหายไป คาดไมถึงวาจะไมเห็น
การระเบิดของมันเลยสักนิด!
หลังจากที่ผานไปเพียงชั่วครู พลันมีรูขนาดเทาฝามือปรากฏขึ้น หนาแนนไปหมด
ราวกับวาสลายหายไปกลางอากาศอยางไรอยางนั้น
ภายใตการโจมตีที่แปลกประหลาดเชนนี้ ลำแสงสีเหลืองที่กลายเปนเกราะปองกัน
ลำแสงอันแข็งแกรงและหนาแนนชั่วพริบตาพลันพังทลาย จากนั้นทามกลางแววตาไม
อยากจะเชื่อของผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยม พายุสลาตันสีดำก็หมุนวนอยางบาคลั่ง
จากนั้นเกราะปองกันลำแสงที่ถูกลำแสงสีดำจำนวนนับไมถวนเปลงแสงสวางวาบใส
สลายหายไปในที่สุด คาดไมถึงวาวงแหวนจะเริ่มแตกออกเปนริ้วๆ
ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมใบหนาไรสีเลือด ทันใดนั้นพลันกัดฟน พนกระบี่บินสีเขียว
เลมหนึ่งออกมา จากนั้นก็คำรามดวยเสียงทุมต่ำและรวมรางคนกับกระบี่เขาดวยกัน
กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกไป ทิ้งใหกำไลลวงโลกที่เห็นไดชัดวาใกลจะพัง
เต็มที่แลวอยูที่เดิม ดูแลวเขาคงรูดีกวา หากอยูตอไปก็มีเพียงดานเดียวคือตองตาย
เทานั้น จึงพยายามจะดิ้นรนตอสูดู
“อยา!” นักปราชญชุดขาวเห็นการกระทำของผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยม ก็รอง
อุทานออกมาดวยความรอนรนพรอมกับหนาเปลี่ยนสี
แตคำพูดนี้กลับสายไปเสียแลว
เมื่ อ สายรุงสี เขี ย วจมหายเข าไปพายุ ส ลาตั น สี ด ำ ก็ เปล งแสงสี เขี ย วสว างวาบ
ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดรองดังขึ้น สายรุงสีเขียวระเบิดออก
ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมถูกมีดวายุตัดฟนจนรางเปนชิ้นๆ ทันที
และเมื่อเสียงกรีดรองหวิดหวิวดังขึ้นทามกลางซากศพ ลำแสงหลากสีสันสามสีก็
พุงออกมาในทันที ทามกลางลำแสงเหลานั้นตางเปนทารกวิญญาณขนาดสองสามชุน
ทั้งสามรวมตัวกัน และบินหนีไปในทิศทางเดียวกัน
ไมเพียงทารกวิญญาณของผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยม คนอื่นๆ ของตระกูลเยี่ยที่
ถูกเขาเก็บทารกวิญญาณเอาไวอีกสองคน ก็ถูกบีบใหหนีเอาชีวิตรอดอีกครั้ง แตมีด
วายุที่เรียงตัวอยางหนาแนนอยูรอบดาน ตางก็ทำใหพวกเขาไมมีทางใหหนีรอด เมื่อ
บินออกมาไดเล็กนอย ก็ถูกมีดวายุจำนวนมากลอมเอาไว เมื่อเห็นวาจะถูกฉีกทึ้งเปน
ชิ้นๆ ทามกลางพายุสลาตันพลันมีลำแสงสีดำสวางวาบ มีดวายุทั้งหมดสั่นคลอนแลว
สลายหายไป
ทารกวิญญาณทั้งสามพลันตกตะลึง แตทันใดนั้นลำแสงปกปองรางกายก็สวาง
วาบพรอมกับความดีใจ คิดจะบินหนีไปอีกครั้ง
เมื่อสตรีชุดดำเห็นเชนนั้น มุมปากก็เผยรอยยิ้มเยาะนอยๆ ออกมา นิ้วทั้งหาเริ่มโคงงอ
ควาอากาศที่วางเปลาทามกลางพายุสลาตันเอาไว
หลังจากที่เหลาทารกวิญญาณสัมผัสไดวาบรรยากาศรอบๆ มีลำแสงสีขาวสวางวาบ
ทันใดนั้นพลันหยุดชะงัก รางกายไมมีทางขยับไดแมแตนอย แทบจะในเวลาเดียวกัน
นั้น ทามกลางพายุสลาตันก็มีประกายไฟสีดำจำนวนนับไมถวนปรากฏขึ้น รวมตัวกัน
บนรางของทารกวิญญาณ หอหุมพวกมันเอาไวขางใน คาดไมถึงวาจะกอตัวกันเปน
ดวงแสงสีดำสามดวง
สองมือของสตรีชุดดำในเวลานี้พลันรายอาคม ปากก็บริกรรมคาถาประหลาดๆ ที่
ฟงไมไดศัพทออกมา
ลำแสงสีดำสวางวาบ ดวงแสงสลายหายไปทามกลางพายุสลาตัน
แตครูตอมาเบื้องหนาของสตรีชุดดำก็เปลงแสงสวางวาบ ดวงแสงสามดวงรวงลง
มาจากกลางอากาศ คาดไม ถึ ง ว า จะถู ก บรรพชนศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ห ยวนซาผู นี้ ส ำแดง
ความสามารถเคลื่อนยายมาอยูตรงหนาของเขา
“มารปศาจ เจาคิดจะทำอะไร หยุดเดี๋ยวนี้!” นักปราชญชุดขาวเห็นเชนนั้นพลันมี
สีหนารอนรน ชี้ไปยังมีดสีโลหิตทมิฬที่ลอยอยูใกลๆ ลำแสงสวางวาบแลวบินเขาไป
ชวยคนในทันที
“สายไปแลว!” หลงเมิ่งเอยอยางราบเรียบ
เมื่อคำพูดนี้หลุดปากออกไป แววตาที่งดงามเปนอยางมากคูนั้นของสตรีชุดดำก็
เปลงสีโลหิตสวางวาบ จูๆ ริมฝปากแดงระเรื่อพลันอาออก พนลำแสงโลหิตออกมา
ดวงแสงใสๆ หอหุมทารกวิญญาณทั้งสามเอาไว
ทารกวิญญาณมีสีหนาที่เต็มไปดวยความตกตะลึงระคนหวาดกลัว รางกายที่อยู
ทามกลางลำแสงหดเล็กลงอยางรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็มีขนาดเทาหัวแมมือ ถูกลำแสงที่
หอหุมตัวมวนเขาไป และถูกสตรีชุดดำกลืนกินเขาไปในปาก จากนั้นก็กลืนเขาไปใน
ทอง
การเคลื่อนไหวนี้ดูเหมือนวาซับซอน แตชั่วอึดใจสตรีชุดดำก็ทำสำเร็จ ราวกับวา
คุนเคยเปนอยางมาก
ถึงแมวานักปราชญจะมีสีหนานิ่งขรึมไมรูวาดีใจหรือโกรธเกรี้ยว เวลานี้สีหนาก็
เขียวคล้ำ
มี ด โลหิ ต ทมิ ฬ เล ม นั้ น พลั น เปล ง แสงออกมาในทั น ที มั น กำลั ง สั่ น ไหวน อ ยๆ
หลังจากผานไปชั่วครู อาวุโสตระกูลเยี่ยผูนั้นก็ระงับความตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว
เอาไว และปลอยใหมีดโลหิตทมิฬฟนฟูกลับมาดังเดิม
“ทานอาวุโสหลงเมิ่ง นี่มันหมายความวาอยางไร? เหตุใดถึงไมชวยผูบำเพ็ญเพียร
ตระกูลเยี่ยของขา จากความสามารถของเจานาจะทำได หรือวาที่คุยกันวาจะรวมมือ
กันกอนหนานี้ เปนเพียงคำหลอกลวงเทานั้น!” นักปราชญเอยดวยน้ำเสียงเฉียบขาด
ออกมา
“หึ! เหตุใดขาตองชวย? คนผูนั้นเปนแคผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลาง
เท านั้ น ถึ งแม ว าจะมี ส มบั ติ ล อกเลี ย นแบบสมบั ติ ส ะท านฟ าอยู ในมื อ ชิ้ น หนึ่ ง แต
อานุภาพก็ยังต่ำตอยจนนาเวทนา แมแตพลังหนึ่งในสิบก็ยังไมมี ลมปราณของขามี
จำกัด จะชวยผูที่ไรประโยชนคนหนึ่งทำไม ยิ่งไปกวานั้นเจาอยาเขาใจผิดละ ขาไมได
เปนพันธมิตรกับตระกูลเยี่ย แครวมมือกับเจาครั้งนี้เทานั้น” หลงเมิ่งที่อยูใตวิหารตอบ
กลับอยางเย็นชา
“ตอใหเปนเชนนั้น ทานไมกลัววามารตนนี้ที่กลืนกินทารกวิญ ญาณไปแลว จะ
ฟนฟูปราณแทกลับมาหรือ?” นักปราชญยังคงมีสีหนาดูไมไดเปนอยางมาก
“เจาจะรูอะไร? การกลืนกินทารกวิญญาณทำใหลมปราณของมารเฒ าเพิ่มขึ้น
ชั่วขณะก็จริง แตผลของการทำเชนนี้กลับเปนการทำใหเขาตองใชไอมารหลอมทารก
วิญญาณในระยะเวลาอันสั้น มันจะยิ่งทำใหเขาสูญเสีญไอมารมากกวาเดิม ดูแลวเขา
คงเตรียมจะใชความสามารถของรางปศาจหมาปาสีเงินรางนั้นของขาแลว ดังนั้นจึงไม
เสียดายไอมารที่สูญเสียไปจำนวนมาก ขาไมไดพูดผิดไปสินะ หยวนซา!” หลงเมิ่งเอย
อยางแข็งกราว ประโยคสุดทายคาดไมถึงวาจะเอยกับสตรีชุดดำ
“ใชแลว แตเดิมขาก็ไมไดมีเจตนาจะปดบังเจา รางกายของเจานั้นทรงพลัง ไม
ตองใหขาพูดเจาก็คงจะรู แตเดิมคิดจะรักษาลมปราณเอาไว อาศัยเพียงธงวายุทมิฬ
ทลายเขตอาคมของไมแปดวิญญาณ แตตอนนี้จูๆ ขากลับรูสึกวาการทำเชนนี้นั้นเปน
การเสียเวลามากเกินไป เพื่อไมใหเกิดความเปลี่ยนขึ้น บรรพชนศักดิ์สิทธิ์อยางขาจะ
ยอมสูญเสียไอมาร อาศัยรางของปศาจหมาปาที่ยังไมแปลงกาย สังหารพวกเจาอยาง
รวดเร็ว” สตรีชุดดำเอยออกมาอยางไมปดบังเลยสักนิด
ทั น ใดนั้ น สตรี ผู นั้ น ก็ พ น ลมหายใจออกมาเฮื อ กหนึ่ ง สองมื อ พลั น ร า ยอาคม
ทั้งหมดถูกลำแสงสีเงินกลุมหนึ่งหอหุมเอาไว เปลงแสงเจิดจาจนบาดตา ราวกับมีดวง
อาทิตยสีเงินปรากฏขึ้นอยางไรอยางนั้น ทำใหผูคนไมอาจมองสบตาตรงๆ ได
ทามกลางเสียงกูรองของหมาปาที่ดังไปไกลจนสุดขอบฟา จากนั้นพลันเผยพลัง
กดดันวิญญาณที่สั่นสะเทือนทั้งชองวางมิตินี้ออกมา
ทั้ งช อ งว างมิ ติ นี้ ถู ก พลั ง กดดั น วิ ญ ญาณรบกวน พลั น เปล งเสี ย งคำรามทุ ม ต่ ำ
ออกมา พื้นดินสวนใหญสั่นคลอน เผยรอยแยกเปนสายๆ นอยใหญออกมา
ลำแสงสี เงิน กะพริ บ วาบเดี๋ ย วเล็ ก เดี๋ ย วใหญ จากนั้ น พลั น ขยายใหญ ขึ้ น ยี่ สิ บ
สามสิบเทา และหมนแสงลงในที่สุด หมาปาสีเงินสองหัวขนาดใหญราวกับภูเขาลูก
ยักษพลันปรากฏขึ้น
หัวของหมาปาทั้งสองเปนสีดำหนึ่งหัวและสีเงินหนึ่งหัว ดวงตาของหัวสีเงินปดสนิท
ราวกับอยูในภวังคแหงการหลับใหล หัวสีดำกลับเงยหนาขึ้นแยกเขี้ยว ทาทางดุดัน!
เมื่อมองกรงเล็บที่แหลมคมของหมาปายักษเบื้องหนา ก็ดูเหมือนกับมีดยักษเลม
หนึ่ ง หั ว ทั้ ง สองดู เหมื อ นว า จะใหญ เท า หอคอย และยั ง มี แ รงกดพลั ง วิ ญ ญาณที่
แข็งแกรงจนนาเหลือเชื่อ ไมวานักปราชญชุดขาว หรือวาคนประหลาดที่คุมเชิงอยูกับ
นาง ตางก็สูดลมหายใจอันเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง มองไปยังสัตวมหึมาตัวนั้น
ดวยดวงตาที่ไมกะพริบ
ตอนที่ 1049 มีดโลหิตปรากฏอีกครั้ง
ในที่สุดตอนที่สตรีชุดดำเผยรางของปศาจหมาปาสีเงินออกมา
หานลี่กับชายหนุมแซสวี กุยหลิงและพวกทั้งสี่คน กลับกำลังลอมเงารางคนที่มี
ลำแสงสีแดงจางๆ หอหุมรางกายคนหนึ่งเอาไว ทั้งสี่คนตางจองเขม็งไปที่คนผูนี้ สีหนา
ไมเปนมิตร
สวนยักษ ป กเงิน และอสูรวิห คราชสี ห ต างก็ ม องเหตุ ก ารณ นี้ อ ยู ไกลๆ ท าทาง
เหมือนจะไมสอดมือเขามายุงกับเรื่องนี้
“เหลาสหายหมายความวาอยางไร เหตุใดถึงมาลอมผูแซเจิ้ง ขานอยไมไดลวงเกิน
เหลาสหายเลย!”
เงารางคนทามกลางลำแสงสีดำคืออาวุโสคนหนึ่งที่หนาตาเหมือนอายุหาสิบกวาป
ทาทางออนนอมถอมตน เวลานี้กลับกลอกตาไปมาอยางรวดเร็ว
นั่นก็คืออรหันตสี่กำจาย!
“ในเมื่อนายทานเปนคนใชเขตอาคมสงตัวเขามา แตเหตุใดถึงทำตัวลับๆ ลอๆ ถาหาก
ไมมีความคิดชั่วราย ก็คงมีแผนการราย” ชายหนุมแซสวีเอยดวยใบหนาไรความรูสึก
“สหายลอเลนแลว ขานอยบุมบามเขามา เห็นชนชั้นสูงจำนวนมากขนาดนี้อยู
เบื้องหนา ยังไมไดแบงแยกวาเปนมิตรหรือศัตรู แนนอนวาจึงตองระวังเอาไวหนอย”
อรหันตสี่กำจายเอยแกตัวออกมาอยางตอเนื่อง
“เชนนั้นหรือ? เชนนั้นที่ซอนตัวอยูขางขาละ? เคล็ดวิชาหลีกหนีของสหายชางลึก
ล้ำนัก ถาหากไมใชเพราะลำแสงวิญญาณหาสีของนกยูงแรดวิญญาณกวาดไปที่นั่น
พอดี เกรงวาขาคงไมมีทางรูเลย” หลินอิ๋นผิงขมวดคิ้ว สีหนาไมคอยดีนัก
“ทานเซียนเขาใจผิดแลว นั่นคือ…”
อรหันตสี่กำจายคิดจะอธิบายอะไรสักอยางพรอมใบหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม
แตในตอนนั้นเอง หานลี่กลับเอยอยางเย็นชาวา
“กอนที่จะเขามาในปอมปราการมาร นายทานใชสมบัติลอบโจมตีขาสินะ? ตอน
นั้นเจาหนีไปรวดเร็วนัก แตเงาแผนหลังขากลับมองเห็นอยางชัดเจน และยิ่งไปกวานั้น
ถึงแมมีดโลหิตเลมนั้นจะถูกผนึกเอาไว แตกลิ่นอายโลหิตที่คละคลุงนั่นก็ยังแผออกมา
จากรางของเจา ระหวางทาง เกรงวามีดโลหิตเลมนั้นคงกลืนกินผูบำเพ็ญเพียรระดับ
กอกำเนิดไปไมนอยสินะ แลวเหลาผูบำเพ็ญเพียรที่เขามาพรอมกับเจาละ ระหวางทาง
ขาก็ไมพบสักคนเลย จุดจบของพวกเขา หึๆ…”
ชายหนุมแซสวีและหลินอิ๋นผิงไดยินคำนี้ พลันรูสึกใจหายวาบ
อรหันตสี่กำจายยิ้มคาง แตทันใดนั้นก็สายศีรษะราวกับรัวกลอง พลางเอยปากปฏิเสธ
“สหายหานอยาลอเลนเลย กลิ่นคาวโลหิตคละคลุงอะไรกัน ผูแซเจิ้งเปนเพียงผู
บำเพ็ญเพียรสันโดษคนหนึ่งเทานั้น ไหนเลยจะมีสมบัติเหนือชั้นที่สามารถสังหารผูที่
อยูระดับเดียวกันได หากไมมีหลักฐาน สหายก็อยาใสความขานอยซี้ซั้วเลย”
“หลักฐาน? นาขัน หากเจาไมใชคนผูนั้น เจาก็ไปตายเสียเถิด!” ใบหนาของหานลี่เย็น
เยียบ หลังจากตะโกนออกมาคำหนึ่ง ก็พนกระบี่เลมเล็กสีทองขนาดสองสามชุนออก
มาจากปาก กลายเปนลำแสงสีทองสายหนึ่งสับลงมาที่อรหันตสี่กำจายอยางแรง
ชายหนุมแซสวีและหลินอิ๋นผิงตางมองสบตากันแวบหนึ่ง ไมไดมีทาทีจะลงมือ
ขัดขวาง
อรหันตสี่กำจายกลับตกตะลึง ปากก็เอยวา “เมตตาดวย” กับ “เขาใจผิดแลว”
ไมหยุด แตก็สะบัดแขนเสื้อ ปลอยกระบี่บินสีฟาเลมหนึ่งออกมาตานทานการโจมตี
ของหานลี่
ชั่วขณะนั้นกระบี่บินทั้งสองพลันปะทะเขาดวยกัน ลำแสงวิญญาณสวางจาขึ้นบน
ทองฟา ระเบิดออกไมหยุด
หานลี่เห็นเชนนั้น กลับหัวเราะอยางเย็นชาออกมา
สองมื อ พลัน รายอาคม กระบี่ ไผเขี ย วตั วต อ เมฆาเปล งแสงสีท องเจิด จ าขึ้ น มา
ในทันที หลังจากที่กระบี่บินสีฟาสงเสียงเพรียกออกมา ก็ถูกลำแสงสีทองที่เปลงแสง
สวางวาบสับออกเปนสองสวน กลายเปนเหล็กสัมฤทธิ์รอนลงมาจากทองฟา
อรหั น ต สี่ ก ำจายพลั น ตกตะลึ ง ชู มื อ ขึ้ น อี ก ครั้งด วยความจนป ญ ญา ปล อ ยโล
สัมฤทธิ์สีเขียวออกมา ผลลัพธคือถูกสับออกเปนหลายๆ ชิ้นเชนกัน ไมอาจตานทาน
กระบี่ลำแสงของหานลี่ได
ภาพฉากนี้ ทำใหหางตาของชายหนุมแซสวีกระตุก
ถึงอยางไรเสียแกนทองคำก็เปนวัตถุดิบที่หายากมากในใตหลา ไมใชสิ่งที่กระบี่บินทุก
เลมจะมีสวนผสมนี้ ความแหลมคมของกระบี่บินหานลี่ ทำใหปรมาจารยเซียนผูนี้รูสึก
ระวังตัวมากขึ้น
กระบี่บินสีทอง ตกลงบนศีรษะของอรหันตสี่กำจาย
อรหันตสี่กำจายหนาเปลี่ยนสีอยางตอเนื่อง จูๆ ใตฝาเทาพลันเปลงแสงสีขาว
สวางวาบ คนกลายเปนเงาสีขาวผืนหนึ่งพุงไปอีกดานแตลำแสงสีดำขาวเบื้องหนาพลัน
สวางวาบ กุยหลิงตานทานอยูเบื้องหนาอยางไรความรูสึก อรหันตสี่กำจายพลันตก
ตะลึง ทำไดเพียงบิดตัว คิดจะหนีไปอีกทาง
ชายหนุมแซสวีกลับขยับฝเทาดวยสีหนาราบเรียบ ขวางทางอื่นเอาไวเชนกัน ทำ
ใหอรหันตสี่กำจายจำใจตองหยุดลำแสงหลีกหนีลง
ชวงเวลาที่ลาชานั้น ลำแสงสีทองมาอยูเหนือศีรษะของเขา หลังจากเสียงหวีด
หวิวดังขึ้น ก็กลายเปนเงากระบี่ปกคลุมลงมา
อรหันตสี่กำจายเห็นวาไมมีทางหลบหลีกได ในที่สุดใบหนาก็ฉายแววโหดเหี้ยม
สะบัดแขนเสื้อ ลำแสงสีโลหิตพลันฟนฉับลงมา
เสียง ‘ปง’ ดังสนั่นขึ้น ชั่วขณะนั้นเงากระบี่สีทองพลันกระจายออกแลวกลับคืนสู
สภาพเดิม กระบี่สีทองขนาดสองสามชุน บินออกไปสองสามจั้ง เมื่อลำแสงสีโลหิ ต
สั่นคลอน พลันกลายเปนลำแสงสีโลหิตสิบกวาสายขณะไลตามไป
การโจมตีเกิดขึ้นอยางตอเนื่อง ชั่วพริบตาที่ลำแสงสีโลหิตหอหุมกระบี่สีทองเอาไว
กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุงพลันโชยออกมา ทำใหทุกคนรวมทั้งปศาจตางขมวดคิ้ว
พวกเขาตางไมใชผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ แนนอนวาจึงสัมผัสไดถึงความนากลัว
ของกลิ่นกายโลหิตนี้
หานลี่กลับหรี่ตาลงมองไปยังทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนทองฟา สีหนานิ่งเฉย ราวกับวา
สมบัติที่ถูกโจมตีอยูกลางอากาศคือสมบัติประจำตัวของเขาอยางไรอยางนั้น
ชายหนุมแซสวีมองหานลี่แวบหนึ่ง แววตาเปลงประกายประหลาดสวางวาบ!
อรหันตสี่กำจายดูเหมือนวาจะสัมผัสไดถึงความผิดปกติ จึงชี้ไปบนทองฟาดวยสี
หนาเครงขรึม ชั่วขณะนั้ นลำแสงสีโลหิ ตทั้ งหมดพลัน พุ งบิ น กลับ ไป หลังจากหมุ น
วนรอบหนึ่ง ก็กอตัวกันเปนมีดสั้นขนาดครึ่งฉื่อ อยูเหนือศีรษะของเขา สีแดงสดราว
กับโลหิต ถูกหมอกสีโลหิตจางๆ กลุมหนึ่งหอหุมเอาไว
“เจานี่เอง! มีดโลหิตของเจาคือของลอกเลียนแบบมีดมังกรมารสินะ หานลี่จอง
เขม็งไปยังมีดสั้นเลมนั้น แลวเอยอยางเชื่องชา
เมื่อคำวามีดมังกรมารหลุดออกจากปากไป คนอื่นๆ ตางก็หนาเปลี่ยนสี แมแต
ยักษปกเงินที่เปนปศาจ แววตาก็ยังเปลงแสงสวางวาบ จองเขม็งไปยังมีดโลหิตที่อยู
กลางอากาศ
อรหันตส่ีกำจายไมไดตอบกลับคำพูดของหานลี่ กลับจองเขม็งไปยังกระบี่บินสีทอง
ของหานลี่ ใบหนาตกตะลึง
เพราะวากระบี่บินเลมนี้ถูกมีดโลหิตฟนลงไปตั้งหลายครั้ง แตตัวกระบี่ก็ยังคง
เปลงแสงสีท องสวางวาบ คาดไม ถึงวาจะไม มีรอ งรอยการได รับ ความเสีย หายเลย
แม แ ตน อ ย นี่ จึงทำให อ รหั น ต สี่ก ำจายที่ รูจั ก อานุ ภ าพของมี ด โลหิ ต เล ม นี้ ดีรูสึ กไม
อยากจะเชื่อ
“อยาเปลืองแรงเลย กระบี่บินของขาคอนขางพิเศษ ตอใหมีดโลหิตของเจามีอานุภาพ
มากแคไหน คิดจะทำรายมัน ก็เปนเรื่องที่เพอฝนเพียงเทานั้น” มุมปากของหานลี่หยัก
ขึ้น พลันชูมือกวักเรียกกลางอากาศ กระบี่บินเลมนั้นสั่นคลอนและบินกลับมา
“ทำไม เจาไมอยากฆาขาหรือ!” อรหันตสี่กำจายเห็นเชนนั้น แววตาพลันเปลง
ประกายขณะเอย
“สังหารเจา? เหตุใดตองสังหารเจา? คนที่เจาสังหารเหลานั้นไมใชเลือดเนื้อเชื้อไข
อะไรของขา ขาไมคิดจะแกแคนแทนผูอื่นหรอก แตถาหากเจาไมใชคนที่ขาคิดจริงๆ
ฆาก็ฆา เก็บไวก็ไมมีประโยชนอะไร แตตอนนี้เจามีสมบัติที่มีอานุภาพยิ่งใหญขนาดนี้
พวกเรากลับตองรวมมือกับเจาสักครั้ง” หานลี่หัวเราะอยางเหี้ยมเกรียมออกมา แลว
เอยเชนนี้ออกมา
“สหายหานหมายความวาอยางไร…” ชายหนุมแซสวีหนาเปลี่ยนสี เดาความคิด
ของหานลี่ออกรางๆ
“หากอยากจะออกไปจากที่นี่ มีเพียงตองอาศัยพลังอันดิบเถื่อนเทานั้น ถึงแมวา
ธงวายุทมิฬจะเปนสมบัติสะทานฟา แตบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซากลับตองตอกรกับ
ศัตรูอยู คิดดูแลวคงไมอาจสำแดงอานุภาพของสมบัติชิ้นนั้นไดสักเทาไหร ถาหากฝน
โจมตีชองวางมิติละก็ นาจะมีโอกาสทลายชองวางมิตินี้ได” หานลี่เอยอยางเครงขรึม
จากประสบการณการทลายชองวางมิติในสวนวิญญาณเลือน ทำใหเขามั่นใจอยู
หลายสวน
ถึงแมจะบอกวาตอนนั้นพบจุดที่ชองวางมิติไมมั่นคง ถึงไดทำได แตเชนเดียวกัน
ตอนนี้ไมไดมีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดติดอยูที่นี่เพียงคนเดียว ถาหากรวมมือกัน
พลังเพียงพอ ก็นาจะทำไดเชนกัน
“สหายหานกลาวมีเหตุผล ไมทราบวาสหายปกเงินคิดเห็นอยางไร?” ชายหนุม
แซสวีขบคิดเล็กนอย หันหนาไปถามยักษปกเงิน
“มีดโลหิตของคนผูนี้ดูแลวมีอานุภาพไมนอย ขอแคออกไปจากที่นี่ได ก็ตองลองดู
อยูแลว!” ยักษ ปกเงินจองเขม็งไปยังอรหั น ตสี่กำจายชั่วครู หลังจากแววตาแปลก
ประหลาดเปลงประกายแลว ก็เอยอยางไมลังเล
หานลี่เห็นเชนนั้น พลันพยักหนา แลวเอยกับอรหันตสี่กำจายที่อยูไมไกลอยาง
ราบเรียบ
“เงื่อนไขของพวกเราเจาคงไดยินแลว พวกเราไมไดมีเจตนาจะสังหารเจา รวมมือ
กันทลายเขตอาคมนี้ ก็เหมือนกับการชวยตนเอง เจาคงไมอยากถูกมารตนนั้นกลืนกิน
ทารกวิญญาณหรอกใชหรือไม”
อรหันตสี่กำจายมีสีหนาไมเปลี่ยนแปลง แตแววตากลับเปลงประกายไมหยุด เห็น
ไดชัดวากำลังขบคิดขอเสนอของหานลี่
“หลังจากออกไปจากที่นี่แลว พวกเราก็ทางใครทางมัน ทุกทานคงไมคิดจะลาง
แคนทีหลังหรอกนะ!” ในที่สุดอรหันตสี่กำจายก็เอยปากออกมา
“เจ า คิ ด ว า พวกเราเป น คนอย า งนั้ น หรื อ ขอแค ไม ล งมื อ กั บ พวกเราอี ก ผู ใ ด
อยากจะหาเรื่องเจา!” ชายหนุมแซสวีแคนเสียงในลำคอ พลางเอยอยางเหยียดหยาม
“ก็จริง ถาหากที่นี่มีผูบำเพ็ญเพียรของสำนักมหาเอก ขาคงจะขบคิดสักหนอย
ตอนนี้ในเมื่อเหลาสหายกลาวเชนนี้ ผูแซเจิ้งก็ไมมีทางปฏิเสธอยูแลว”
อรหันตสี่กำจายฉีกยิ้ม คาดไมถึงวาจะเอยตอบรับออกมา
อีกฝายตกลงอยางรวดเร็วเชนนี้ ทั้งทำใหหานลี่ประหลาดใจ แตก็สมเหตุสมผล
ทันใดนั้นทุกคนจึงรวมมือกัน ปรึกษาวิธีการแกปญหา เห็นไดชัดวาการทลายกำแพงที่
กั้นระหวางชองวางมิติเอาไว จะตองใชสิ่งที่มีอานุภาพมากเทาไหรก็ยิ่งดี แตนั่นก็ไมได
หมายความวาตองปลอยการโจมตีทั้ งหมดออกไปที เดียว ถึงอยางไรเสียการโจมตี
สมบัติ และวิธีการ ธาตุตางๆ ของพวกเขาก็ไมเหมือนกัน หากโจมตีพรอมกันละก็
กลับจะทำใหเกิดผลสะทอน และลดพลังการโจมตีลง
“สหายหาน ขาจำไดวาขางกายของเจามีสหายที่ซอนตัวอยูคนหนึ่ง เหตุใดถึงไม
เรียกเขาออกมารวมดวย มีดบินของสหายผูนั้นมีอานุภาพไมนอย” เพิ่งจะปรึกษากัน
ไดไมกี่ประโยค ชายหนุมแซสวีก็เอยกับหานลี่ดวยสีหนาราบเรียบ
ยักษปกเงินและพวกตางก็หนาเปลี่ยนสี มองหานลี่ในเวลาเดียวกัน
หานลี่กลับกนดาชายหนุมแซสวีในใจ แตใบหนาก็ยังคงปกติ หลังจากเงียบกริบไป
เล็กนอยก็ตอบกลับวา
“เหลาสหายโปรดวางใจ สหายผูนั้นจะลงมือชวยพวกเราอีกแรง อยาเรียกเขา
ออกมาเลย เพราะเคล็ดวิชาของเขา จึงไมสะดวกที่จะปรากฏตัวใหเหลาสหายเห็น”
เมื่อไดยินหานลี่เอยเชนนี้ ชายหนุมแซสวีก็เผยสีหนาไมพอใจออกมา แตเพราะ
เพิ่งจะเห็นวา หานลี่มีความสามารถมหัศจรรยถึงขนาดสังหารมารโบราณสองหัวได
เขาจึงไมกลาบีบบังคับอะไร ทำไดเพียงแคนเสียงในลำคอและลมเลิกไป
หลังจากที่อรหันตสี่กำจายที่อยูดานขางตอบตกลงวาจะรวมมือกันแลว ใบหนาก็
ประดับไปดวยรอยยิ้มตลอดเวลา เวลานี้เห็นหานลี่ดูเหมือนวาจะขัดแยงกับชายหนุม
แซสวีและพวกเล็กนอย รูมานตาก็ฉายแววเย็นชาสวางวาบ
ในตอนนั้นเอง เขาพลันหนาเปลี่ยนสี ทันใดนั้นก็ฟนฟูกลับมาเปนปกติ จากนั้นก็
คอยๆ กมศีรษะลง ทำใหผูอื่นมองเห็นใบหนาไมชัดเจน ราวกับวากำลังขบคิดอะไรสัก
อยางอยู
แตความจริงแลวอรหันตสี่กำจายกลับขยับปากขมุบขมิบไมหยุด คาดไมถึงวาจะ
กำลังแอบถายทอดเสียงไปหาใครสักคนอยู
ชั่วครู ก็เงยหนาขึ้นอีกครั้ง ใบหนาของคนผูนี้มีรอยยิ้มจนตาหยีประดับไวดังเดิม แต
ผูใดก็ไมไดสังเกตวา แขนที่ยื่นไปดานหลังของเขา มีขนสีขาวยาวสองสามชุนกระจุก
หนึ่งปรากฏขึ้นตอนไหนก็ไมรู ทุกเสนดูแข็งทื่อดุจเข็มก็ไมปาน
ตอนที่ 1050 ทลายกำแพงอยางฉับพลัน
ขนสีขาวบนแขนของอรหันตสี่กำจายปรากฏขึ้นในชั่วพริบตาเทานั้น พลันหายเขา
ไปในผิวหนังอยางไรรองรอยทันที จากนั้นก็ศึกษาวิธีการทลายกำแพงกับหานลี่และ
พวกตออยางไมมีอะไรเกิดขึ้น
หานลี่มีสีหนาไมทุกขรอนและไมไดใจเย็น น้ำเสียงที่พูดก็ราบเรียบ
แตกลับไมมีใครสังเกตวาเขาไดแบงจิตสัมผัสเขาไปในยามเก็บอสูรวิญญาณ พลาง
ปลอบขวัญอสูรวิญญาณครวญที่รองโหยหวนขึ้นมาอยางกะทันหัน ในเวลาเดียวกัน
ความคิดก็เคลื่อนไหวโคจรอยางรวดเร็ว
ภายในเวลาหนึ่งกาน้ำชา หานลี่และพวกก็ปรึกษาวิธีการลงมือเสร็จ ทันใดนั้นทุก
คนก็ทยอยกันวาบกายหายไป หลังจากเลือกสถานที่เหมาะๆ ไดแลวก็ควักจานอาคม
และธงอาคมของตัวเองออกมา วางเขตอาคมที่ชวยเสริมอานุภาพการโจมตีของตัวเอง
หานลี่และชายหนุมแซสวีกลับวางเขตอาคมโจมตีที่มีชื่อวา ‘เขตอาคมพายุมังกรไฟ’
ดวยกัน ถึงแมวาเขตอาคมนี้จะไมอาจเทียบเคียงกับมหาเขตอาคมตองหามของสำนัก
ตางๆ ได แตกลับเปนเขตอาคมโจมตีภายในเวลาอันสั้นที่รายกาจที่สุด
เดาวาหากวางเขตอาคมนี้เสร็จ หลังจากกระตุนแลว ก็เพียงพอจะตานทานการ
โจมตีเต็มอัตราของสมบัติอาคมธรรมดาๆ ของผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย
คนหนึ่งได แนนอนวาจึงมีประโยชนเปนอยางมาก
หลังจากผานไปครึ่งเคอ ก็ทยอยกันวางเขตอาคมเสร็จสิ้น กุยหลิง ยักษปกเงิน
และพวกตางก็เดินเขาไปในเขตอาคมเสริม
สวน ‘เขตอาคมพายุมังกรไฟ’ นั้น แนนอนวามีหานลี่และชายหนุมแซสวีชวยกัน
ควบคุมดูแล
จะวาไปแลวก็นาขันจริงๆ แตเดิมหานลี่และวิหารศักดิ์สิทธิ์เทียนหลานไมไดมี
ความสัมพันธแบบเจาอยูขาตายหรอกหรือ ชั่วพริบตาก็จำใจตองมารวมมือกันเสียแลว
ชายหนุมแซสวีจองเขม็งไปยังกำแพงกั้นสีเทาดานลางที่อยูไมไกลออกไปนัก เมื่อชูมือ
ขางหนึ่งขึ้น ดวงแสงสีขาวนวลก็พุงออกมาจากฝามือ โจมตีไปยังกำแพงกั้น ทวาดวง
แสงนี้กลับไมไดระเบิดออก แคหยุดชะงักเล็กนอย แลวปรากฏขึ้นที่ผิวของกำแพงกั้น
เปลงแสงสวางวาบ แลวกลายเปนเปาปาลูกดอก
“อีกเดี๋ยวเหลาสหายก็ลงมือโจมตีจุดนี้เถอะ!” ชายหนุมแซสวีเอยเชนนี้ออกมา
อยางไมเกรงใจ
คนอื่นๆ ก็ไมไดกลาวอะไร แนนอนวาตางก็ยอมรับเรื่องนี้โดยดุษณี
ชายหนุมแซสวีเห็นเชนนั้น ก็หันหนาไปมองหานลี่ที่อยูใจกลางเขตอาคมแวบหนึ่ง
พลันพยักหนาเล็กนอย
หานลี่ฉีกยิ้มพลางรายอาคมโดยไมปริปากใดๆ ปลอยอาคมออกไปสายแลวสายเหลา
ชั่วพริบตาธงอาคมหลายสิบดามโดยรอบก็เปลงลำแสงวิญญาณหลากสีสวางวาบ เกิด
เปนเสียงรองคำรามขึ้น
ชายหนุมแซสวีถอนหายใจออกมาเบาๆ มือขางหนึ่งถือดวงแสงวิญญาณสีแดงเพลิง
เอาไว พลางกดไปที่พื้นดิน ชั่วขณะนั้นดวงแสงสีแดงพลันจมหายลงไปใตดินของธง
และจานอาคมเหลานั้นโดยมีเขาเปนศูนยกลาง
ชั่วขณะนั้นพื้นดินพลันสั่นไหว จากนั้นเสียง ‘ครืนๆ’ ก็ดังขึ้น เสาเพลิงสีแดงสด
สิบกวาสายพวยพุงขึ้นจากเขตอาคม เสาทุกตนลวนมีขนาดหนาเทาปากชาม แผไอ
ความรอนหนาแนน ราวกับวาแมแตบรรยากาศรอบๆ ก็ยังถูกเผาไหมอยางไรอยางนั้น
ทุกคนตางรูสึกวาลำคอแหงผาก
หานลี่ในตอนนี้กลับพลิกฝามือ จานอาคมสีเขียวออนใบหนึ่งปรากฏขึ้นบนฝามือ
เมื่ อ เขาตบไปบนจานอาคมเบาๆ ลำแสงสีเขียวเปลงแสงสวางวาบ ทั น ใดนั้ น
ทามกลางเขตอาคมพลันมีลำแสงกะพริบเปนการตอบสนองในทันที หลังจากมีเสียง
รองครวญครางดังขึ้น มังกรวารีสีเขียวสิบกวาตัวก็กอตัวขึ้นที่ใจกลางของเขตอาคม
ทันใดนั้นทามกลางเสียงบริกรรมคาถาของหานลี่ แตละตัวพลันกระโจนเขาไปหาเสา
เพลิงทั้งหมดตัวละตนอยางแมนยำ
ชั่วขณะที่เปลวเพลิงและพายุสัมผัสกัน ก็กลายเปนมังกรทะเลเพลิงพายุสิบกวาตัว
ลำตัวเปนพายุ ผิวหนังเปนเปลวเพลิง อาศัยพลังของเปลวเพลิงและลมพายุ ขยาย
ใหญขึ้นพรอมกัน
“ลงมือ!”
เมื่อเห็นวามังกรทะเลเพลิงพายุกอตัวขึ้น ชายหนุมแซสวีก็เผยสีหนาดีใจออกมา พลาง
รองตะโกนดวยเสียงอันดังกอง จากนั้นเขาพลันอาปากออก พนไขมุกกลมๆ สีเขียวใส
เม็ดหนึ่งออกมา นกยูงแรงวิญญาณที่บินโคจรอยูเหนือศีรษะของเขาก็สยายปกคูนั้น
ออก ลำแสงวิญญาณหาสีทะลักออกมา หอหุมไขมุกเอาไวพลางโจมตีไปยังกำแพงกั้น
ทาทีนาเกรงขามเปนพิเศษ
ยักษปกเงิน หลินอิ๋นผิงและคนอื่นๆ ตางทยอยกัน กระตุน เขตอาคมเสริมของ
ตั ว เอง บ า งก็ ส ำแดงความสามารถ บ า งก็ ส ำแดงการโจมตี จ ากสมบั ติ อ าคม ตาม
ขั้นตอนที่ไดลำดับเอาไว และโจมตีไปยังกำแพงกั้น
กำแพงเบื้ อ งหน า ส ง เสี ย งร อ งคำรามสะเทื อ นเลื อ นลั่ น ออกมาอย า งต อ เนื่ อ ง
ลำแสงวิญญาณขนาดใหญระเบิดออกกลุมแลวกลุมเลา อานุภาพของมันยิ่งใหญ ราว
กับวาจะทำใหชั้นบรรยากาศทั้งหมดเกิดเสียงอึกทึกตามไปดวย
หานลี่สะบัดแขนเสื้อ ทันใดนั้นกระบี่ลำแสงหลายรอยสายพลันปรากฏขึ้น ลำแสง
สีทองเจิดจาแทบจะปกคลุมทองฟาทั้งผืนเอาไว เมื่อชายหนุมแซสวีและผูบำเพ็ญเพียร
คนอื่นที่อยูรอบๆ เห็นอานุภาพที่นาหวาดกลัวเชนนี้ พลันนึกไปถึงความแหลมคมของ
กระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆากอนหนานี้ ตางก็พากันหนาเปลี่ยนสี ความหวาดกลัวหานลี่
เพิ่มขึ้นในใจอีกหนึ่งสวน
หานลี่กลับไมสนใจวาผูอื่นจะคิดเห็นอยางไร กระบี่ลำแสงเหลานี้รวมตัวกันเปนกระบี่
ยักษยาวสิบกวาจั้งเลมหนึ่ง โดยมีเขาเปนผูรายอาคมกระตุน เมื่ออาคมสายหนึ่งโจมตี
ไปยังตัวมัน ประจุไฟฟาสีทองชั้นหนึ่งพลันปรากฏขึ้นบนผิวของตัวกระบี่ เสียงฟ า
คำรนฝนคำรามดังครืนครั่น
ทวา ถึงแมกระบี่ยักษจะกอตัวขึ้น แตหานลี่ก็ไมไดรีบรอนจะกระตุนมันในทันที
แตปากกลับเปลงเสียงคำรามทุมต่ำออกมา โยนจานอาคมในมือออกไป จากนั้นสอง
มือพลันรายอาคมใสจานอาคมอยางตอเนื่องสองสามครั้ง ชั่วขณะนั้นบรรยากาศใน
เขตอาคมพลันสั่นคลอน เสียงระเบิดดังขึ้น ลำแสงสีเขียวผืนใหญแผคลุมลงมาจาก
ทองฟา จากนั้นก็จมหายเขาไปในเขตอาคมภายในชั่วพริบตา
หลังจากที่จานอาคมดูดซับลำแสงสีเขียวรอบๆ เขาไปแลว ก็ระเบิดลำแสงที่นาตก
ตะลึงออกมา ทำใหมังกรทะเลเพลิงพายุสิบกวาตัวที่กำลังเริงระบำอยูบนทองฟาหมุน
วนรอบหนึ่ง ตางก็อาปากเปลงเสียงคำรามออกมา รางกายขยายใหญขึ้นสองสามเทา
แลวแยกเขี้ยวยิงฟนตะปบเล็บกระโจนเขาไปเบื้องหนา
มังกรทะเลเพลิงพายุสิบกวาตัวที่ดูนาเกรงขาม เรียงตัวกันเปนแถว โจมตีไปยัง
กำแพงกั้นทีละตัวๆ อยางรุนแรง
ครั้งนี้ ในที่สุดกำแพงกั้นสีเทาก็สั่นคลอนอยางรุนแรง จากนั้นก็เริ่มบิดเบี้ยวผิดรูป
เมื่อมังกรทะเลเพลิงพายุตัวสุดทายระเบิดใสกำแพงกั้นแลว ก็กลายเปนกอนเพลิง
วายุขนาดยักษกลุมหนึ่ง ลำแสงสีโลหิตสวางวาบ กลายเปนมีดโลหิตยักษเลมหนึ่งสับ
ลงมาในจุดเดียวกัน
เสียง ‘ปง’ ดังขึ้น ราวกับวาเปนเสียงปริแตกของอาวุธ
ในที่สุดบนกำแพงกั้นก็มีรอยยาวขนาดสองสามจั้งสายหนึ่งปรากฏขึ้น แตแครอย
นี้กลับลึกลงไปเพียงสองสามฉื่อเทานั้น ไมไดมีทาทีจะถูกทำใหทะลุได แตที่รอยนั้น
พลันมีลำแสงสีดำกะพริบวาบ ทาทางเหมือนจะผสานเขาหากัน
แลวชายหนุมแซสวี ยักษปกเงินและคนอื่นๆ จะยอมเสียโอกาสงามๆ เชนนี้ไปได
อยางไร ทันใดนั้นสมบัติอาคมจำนวนมากก็โจมตีเขามาราวกับหาฝน โจมตีเขาไปที่
รอยแยกนั้นไมหยุด ถึงไดฝนไมใหมันผสานตัวเขาหากันไดชั่วคราว
เวลานี้ หานลี่พลันลงมือ
กระบี่ยักษที่ถูกพลังมหาศาลกระตุนอยูกอนแลวกลายเปนสายฟาสีทองสายหนึ่งสับลง
มาบนรอยแยกทามกลางเสียงฟารองคำราม
ประจุไฟฟาบนกระบี่ระเบิดออกทามกลางรอยแยก ราวกับมีดวงอาทิตยสีทอง
เจิดจาปรากฏขึ้นอยางไรอยางนั้น ชั่วพริบตารอยแยกสองสามจั้งก็หลอมละลาย คาด
ไมถึงวาจะขยายขนาดขึ้นสองสามเทา ผลลัพธของการโจมตีนี้ ดูเหมือนวายิ่งใหญกวา
การโจมตีของทุกคนกอนหนานั้นหลายเทา
ไมใชแคคนอื่นๆ ที่ตกตะลึง หานลี่เองก็ตื่นตะลึงเปนอยางมากเชนกัน
นี่มันเรื่องอะไรกัน? เมื่อเห็นสถานการณ เมื่อครู คาดไมถึงวาอัสนีเทวาป ดเป า
ภยันตรายจะเหนือกวากำแพงกั้นนั้นอยางพอดิบพอดี หรือวาธงวายุทมิฬคือหนึ่งใน
สมบัติวิญญาณสายมาร? ถาหากเปนเชนนั้น สถานการณที่เกิดขึ้นเบื้องหนาก็ไมใชวา
จะเปนไปไมได
ในตอนที่หานลี่กำลังรูสึกกังขานั้น ลำแสงสีทองพลันหมนแสงลง บนกำแพงพลันมี
ลำแสงสีขาวจางๆ ทะลุออกมา คาดไมถึงวาในรอยแยกจะเหลือเพียงชั้นบางๆ เทานั้น
เมื่อทุกคนเห็นเชนนั้น ตางก็รูสึกดีอกดีใจ แตไมรอใหคนอื่นๆ กระตุนการโจมตี
ของสมบัติอาคม มีดบินสีดำขนาดสองสามชุนก็ปรากฏขึ้นหนารอยแยกอยางเงียบ
เชียบ จากนั้นก็เปลงแสงสวางวาบแลวสลายหายไปอีกครั้งในทันที แตสุดทายกำแพง
กั้นก็มีเสียง ‘ปง’ ดังขึ้น ทันใดนั้นกำแพงบางๆ พลันมีลำแสงสีดำสายหนึ่งปรากฏขึ้น
ฉับพลันนั้นก็พังทลายลงกระจายออกเปนชิ้นๆ รูขนาดสองสามจั้งปรากฏขึ้น ดานนอก
คือทัศนียภาพที่ทุกคนตางคุนเคยดี
เมื่อเห็นทัศนียภาพนั้น ทุกคนรูสึกดีใจ แตลำแสงสีเงินพลันสวางวาบ เงารางคน
คนหนึ่งปรากฏขึ้นที่หนากำแพง จากนั้นก็เปลงแสงสวางวาบ พุงออกไปจากรูนั้นกอน
นั่นก็คือหุนเชิดรางมนุษยของหานลี่
เวลานี้ ค นอื่ น ๆ ที่ แ ต เดิ ม กำลั งลั งเลก็ ร อ นรน สำแดงเคล็ ด วิ ช าหลี ก หนี ต า งๆ
ออกมาแลวพุงไปยังทางออกเพียงหนึ่งเดียวนั้น
แผนหลังของหานลี่มีปกสีเงินคูหนึ่งปรากฏขึ้น แตไมไดเคลื่อนยายออกไปในทันที
แววตากลับฉายแววประหลาด ริมฝปากขมุบขมิบ
แตเดิมกุยหลิงที่กลายเปนไอสีดำขาวสายหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่หนากำแพง จูๆ พลันเผย
สีหนาตกตะลึงระคนสงสัยออกมา การเคลื่อนไหวอดที่จะหยุดชะงักไมได ชั่วพริบตาที่
ลาชาไปนั้น ชายหนุมแซสวีและคนอื่นๆ รวมทั้งพวกปศาจกลับชิงหนีออกจากกำแพง
กั้นไปกอนแลว
ในตอนนั้นเอง จูๆ ดานนอกกำแพงก็มีลำแสงสีโลหิตที่เจิดจาเปลงแสงสวางวาบ
เส น ไหมสี ด ำจำนวนนั บ ไม ถวนเปล งเสี ย ง ‘พรึ่บ ๆ’ ออกมาจากกลางอากาศ และ
เปลงแสงกะพริบวาบพุงไปที่ดานนอกรูนั้น
เสียงตะโกนราวกับฟาผาของชายหนุมแซสวีและเสียงรองคร่ำครวญดวยความ
โกรธเกรี้ยวของหลินอิ๋นผิงดังขึ้นพรอมกัน เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นดานนอกรู ไอโลหิตที่
คละคลุงปรากฏขึ้น ในนั้นยังมีเสียงหัวเราะอยางบาคลั่งก็อรหันตสี่กำจายอีกดวย
“ไป!”
หานลี่ตะโกนดวยเสียงทุมต่ำอยางไมลังเลอีก ทันใดนั้นปกวายุอัสนีพลันสยาย
ออกมาจากแผนหลัง กลายเปนประจุไฟฟาสีเงินสายหนึ่งหนีออกไปจากรูนั้น
ถึงแมวากุยหลิงจะรูสึกตกตะลึงระคนสงสัยเปนอยางมาก แตก็ตามออกไปทันที
อยางไมตองขบคิด
รางของหานลี่เพิ่งจะปรากฏตัวที่ดานนอกกำแพงกั้น ไอโลหิตจำนวนนับไมถวน
รอบๆ ก็มวนวนผานรางของเขาไป แตเขากลับดูเหมือนวาจะเตรียมการปองกันไวกอน
แลว ประจุไฟฟาสีเงินเปลงแสงสวางวาบขณะออกหางจากไอโลหิต ปรากฏตัวขึ้นหาง
ออกไปรอยกวาจั้ง
รางกายหยุดชะงัก มองไปทางรูที่หนีออกมา ผลลัพธคือทำใหหางตาของเขาอดที่
จะกระตุกไมได
เขาเห็นเพียงรูนั้นหดเล็กลงอยางรวดเร็ว เบื้องหนาคาดไมถึงวากลายเปนทะเล
โลหิตขนาดสองสามหมู หมอกโลหิตที่เขมขนจนไรขอบเขต ไอโลหิตหมุนวนอยาง
รุนแรง ทามกลางทะเลโลหิตพลันมีอะไรสักอยางปรากฏขึ้น แตไมไดจมเขาไปในไอ
โลหิตเหลานั้น นั่นก็คือยักษปกเงิน อสูรวิหคราชสีหและสัตวประหลาดขนาดใหญที่มี
ขนสีขาวรอบตัว
สั ต ว ป ระหลาดตั ว นี้ ส วมชุ ด ของอรหั น ต สี่ ก ำจาย แต ก ลั บ มี ก ลิ่ น อายซากศพ
หนาแนนมาก จูๆ พลันหันหนามา สองตามีเปลวเพลิงสีเขียวสวางวาบ ปากเผยเขี้ยว
โงงออกมา คาดไมถึงวาจะเปนใบหนาของหมีที่มีขนสีขาวซึ่งดูซูบผอมเปนพิเศษ
ตัวประหลาดนั่นในเวลานี้กำลังควบคุมลำแสงมีดโลหิตลวงตาไลสังหารเงาคนของ
ใครสักคนอยูทามกลางทะเลโลหิต ทำใหเขาไมอาจหลบหนีได
เงารางคนผูนี้เหลือเพียงครึ่งเดียว แขนขางหนึ่งและเทาขางหนึ่งกระเด็นออกไป
แตกลับยังพยายามสำแดงไขมุกกลมๆ สีเขียวและสมบัติอาคมรูปลักษณเหมือนตะขอ
สีเงินออกมา ตานทานลำแสงสีโลหิตเหนือศีรษะและไอโลหิตที่กัดกรอนรางอยูรอบ
ดาน ใบหนานั้นเต็มไปดวยความเคียดแคน
คาดไมถึงวาเขาจะเปนปรมาจารยเทพเซียนของทุงหญาเทียนหลาน ชายหนุม
แซสวีผูนั้น
และหางจากเขาไปไมไกลนัก นกยูงแรดวิญญาณที่มีความสามารถไมนอยตัวหนึ่ง
กลับถูกอสูรวิห คราชสีหที่กลายเปนหมอกสีมวงกักเอาไวเชน กัน มันจึงทำไดเพี ยง
รักษาชีวิตตัวเองเอาไวอยางฝนทนเทานั้น
หลินอิ๋นผิงเองก็ไมไดดีไปกวากันเทาไหรนัก นางถูกยักษปกเงินปลอยเสนไหม
วิญญาณทมิฬจำนวนนับไมถวนออกมาโจมตีกลางอากาศ หากไมใชเพราะตัวไหมสีเงิน
ของนางมีความสามารถไมนอย พนเสนไหมสีเงินออกมาตานทานการโจมตีจากเสน
ไหมสีเทาจำนวนนับไมถวนไดอยางพอดิบพอดี เกรงวาคงถูกจัดการไปนานแลว
แตถึงจะเปนเชนนั้น ความพายแพของสตรีผูนั้นก็อยูอีกไมไกลแลว
“เปนมัน!”
กุยหลิงที่มีหานลี่คอยชวยเตือนสติ และเคลื่อนยายออกมาเชนกัน จูๆ สองตาก็
จองเขม็งไปยังตัวประหลาดขนสีขาวตัวนั้น พลันเปลงเสียงรองอุทานออกมา
ตอนที่ 1051 เงื่อนไข
“ทำไม เจ า รูจั ก ซากหลอมนั่ น หรื อ ?” หานลี่ เอ ย โดยไม ได แ ม แ ต จ ะหั น ศี ร ษะ
กลับมา
“นับวาใชกระมัง!” หลังจากลังเลเล็กนอย กุยหลิงก็ตอบกลับอยางซื่อตรง
“หมายความวาอยางไร?” หานลี่แววตาเปลงประกาย พลางหันกลับมา
“กอนที่มันจะกลายเปนซากหลอมนั้นก็เปนแคอสูรวิญญาณตัวหนึ่งเทานั้น ตอน
นั้นพวกเรานับไดวามีความสัมพันธกันเล็กนอย เจานายของขาคือผูบำเพ็ญเพียรจาก
แดนวิญญาณที่ลงมายังแดนมนุษย ทวาหลังจากที่พวกเราถูกผนึกอยูในภูเขาคุนอู ก็ไม
เคยพบมันอีก ไมรูวามันกลายเปนซากหลอมไดอยางไร” กุยหลิงเอยอธิบาย
“เชนนั้น เดิมทีรางกายของมันคืออสูรปศาจจากแดนวิญญาณหรือ?” หานลี่หนา
เปลี่ยนสี
“ใช ตอนนั้นผูบำเพ็ญเพียรจากแดนวิญญาณที่ลงมายังแดนมนุษย พลังยุทธไม
อาจสูงสงเกินไปได และอสูรวิญญาณที่นำมาดวยก็ไดรับขอจำกัดเชนกัน สวนพวกเรา
นั้นก็ตามลงมาที่แดนมนุษยเชนกัน หลังจากที่ถูกลบความทรงแลว ถึงไดรับอนุญาตให
ลงมา” กุยหลิงถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“ลบความทรงจำ เจาจำไมไดสักนิดเลยหรือ?” หานลี่ใจหายวาบ ทันใดนั้นก็รูสึก
ผิดหวังเล็กนอย ตองเขาใจวาแตเดิมเขาก็อยากจะถามเรื่องแดนวิญญาณกับกุยหลิง
สักหนอยอยูแลว
“นอกจากตั วเองที่ ม าจากแดนวิญ ญาณแลว ก็ ไม มี ค วามทรงจำเกี่ย วกั บ แดน
วิญญาณเลยสักนิด” กุยหลิงเองก็เผยสีหนาหดหูออกมา
หานลี่เงียบขรึมไป แตเมื่อขบคิดอยางรวดเร็ว ก็นึกถึงอิ๋นเยวขึ้นมา
ฐานะของอิ๋นเยวไมธรรมดา นาจะมีความทรงจำเกี่ยวกับแดนวิญญาณสักนิดกระมัง!
ใจของเขาพลันเตนระรัว แตทันใดนั้นก็กดความอยากรูเอาไวในกนบึ้งของจิตใจ ตอนนี้
ไมใชเวลาที่จะมาขบคิดถึงเรื่องนี้ สายตาของเขาจึงกวาดไปทางอื่นตามจิตสำนึก
หลังจากที่ออกมาจากกำแพงกั้น สภาพอากาศก็แปลกประหลาดไปเล็กนอย รอบ
ดานลวนวางเปลา คาดไมถึงวาจะไมมีเงารางมนุษยแมแตคนเดียว แมแตธงวายุทมิฬที่
กักพวกเขาไวแตเดิมก็ปลิววอน มินาเลาพวกเขาถึงไดออกมาไดอยางสบายๆ เชนนี้
บนพื้นลวนกลายเปนรูขนาดใหญและรอยเล็บยาวสองสามจั้ง คาดไมถึงวาจะดู
เหมือนวาถูกกรงเล็บของอสูรยักษสักตัวหนึ่งตะปบเขา เกือบครึ่งของวิหารถูกโจมตีจน
เหลือแตซาก ทาทางเหมือนผานศึกใหญมาอยางไรอยางนั้น
จิตสัมผัสของหานลี่กวาดไปยังวิหารที่ผุพัง แตนาเสียดายที่เขตอาคมกั้นจิตสัมผัส
ดานในยังทำงานอยู เวลานั้นจึงไมอาจพบเห็นอะไรได แตยิ่งทำใหเขารูสึกผอนคลาย
ลง ถึงอยางไรเสียบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาก็กดดันพวกเขาเปนอยางมาก ถาหาก
เผชิญหนากับมารตนนี้ตรงๆ เขาคงไมใชคูตอสูอยางแนนอน
ทวาเขตอาคมสงตัวเพียงหนึ่งเดียวในตอนนี้ กลับทำใหผูคนถูกกักเอาไวอยูในเขต
อาคมของธงวายุทมิฬ หากคิดจะหนีออกจากที่นี่มีเพียงตองหาวิธีการอื่นแลว
หานลีแ่ ววตาเปลงประกาย เริ่มขบคิดวิธีหลบหนี
“สหายหาน ถาหากเจายอมลงมือชวยขาและพี่สวี ในงานฉลองของขาและวิหาร
ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์เที ย นหลานของพวกเรา ข าจะใช ฐ านะธิ ด าเทพรั บ ผิ ด ชอบ ปลดเปลื้ อ ง
บุญคุณความแคนที่เจามีตอทุงหญาเทียนหลาน” ในตอนนั้นเอง หลินอิ๋นผิงก็รองเรียก
หานลี่ดวยความกังวล น้ำเสียงเต็มไปดวยความรอนใจ
“ขาถูกคนทูอูของพวกเจาไลลามาเนิ่นนานแลว มีความแคนอะไรใหตองคลายกัน
ขานอยไมคิดจะลงมือ!” หานลี่มีสีหนาราบเรียบ เอยปากปฏิเสธทันที
“พี่หานอยาลืมละ พวกเรามาที่ตาจิ้นก็เพราะเจา ถาหากขาและทานเซียนสวี
เพลี่ยงพล้ำที่นี่ เจาคิดวาปรมาจารยเซียนที่เหลือทั้งสาม จะยอมรามืองายๆ หรือ?”
หานลี่ไดฟงคำนี้ พลันหัวเราะหึๆ ออกมา กวาดตามองไปยังทะเลโลหิตแวบหนึ่ง
หลินอิ๋งผิงกำลังกระตุนลำแสงสีเงินของผาไหมสีเงินในมือ คาดไมถึงวาเวลานั้นจะ
ดันใหเสนไหมวิญญาณทมิฬถอยออกไปสองสามสวน แตสีหนากลับซีดเผือด เห็นได
ชัดวาเริ่มใชเคล็ดวิชาลับมาเพิ่มอานุภาพของสมบัติอาคมแลว
เปนเพราะชายหนุมแซสวีถูกลอบโจมตีกอน และถูกกักอยูในทะเลโลหิต ถึงแมวา
จะควบคุมสมบัติอาคมสองชิ้นที่มีอานุภาพไมนอย เวลานี้ก็ยังรวงลงมาจากบนฟ า
ทาทางจะยืนหยัดตอไปไมไหวแลว สถานการณที่ดีที่สุด กลับเปนนกยูงแรดวิญญาณ
ที่เปลงลำแสงหาสีออกมารอบกาย ถึงแมวาวิหควิญญาณโบราณตัวนี้จะไมอาจหนี
ออกจากหมอกสีมวงได แตอสูรวิหคราชสีหในเวลานี้ก็ไมอาจทำอะไรได ถึงอยางไร
เสียการโจมตีดวยคลื่นเสียงสีทองที่รายกาจที่สุดของวิหคตัวนี้ ก็เปนรองลำแสงหาสีอยู
ดี ไมวาจะใชคลื่นเสียงสีทองมากเทาไรโจมตีไปยังลำแสงหาสีนั้น ตางก็ถูกทำใหสลาย
หายไปในทันที
“ตอนนี้ตอใหทานเซียนหลินพูดวาฟาจะถลมดินจะทลายลงมา ขานอยก็ไมมีทาง
ลงมือ ความจริงแลว ถาหากไมใชเพราะทั้งสองทานดูเหมือนจะเอาตัวไมรอดแลว
ขานอยคงคิดจะอาศัยโอกาสนี้ปลนชิงสักหนอย สวนปรมาจารยเซียนทั้งสามนั้นถา
หากมาหาเรื่องขาจริงๆ ผูแซหานก็ไมรังเกียจที่จะประลองฝมือดวยสักตั้ง” หานลี่เอย
ดวยสีหนาราบเรียบ และไมทุกขรอน
ประโยคนี้ เขากลับไมไดหลอกลวง
หลังจากผานการสังหารมารโบราณมา หานลี่ในตอนนี้ก็เขาใจพละกำลังที่แทจริง
ของตัวเองมากขึ้น มีหุนเชิดรางมนุษยที่เหมือนกับรางแยกอยูขางกายและมีกุยหลิงที่
เชื่อฟงคำสั่ง ตอใหมีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายสามสี่คนมาลอมโจมตี
พรอมกัน เขาก็ไมมีทางตกเปนรอง
และยิ่งไปกวานั้นสามปรมาจารยเซียนของเทียนหลานไมอาจออกจากทุงหญามา
หาเรื่องทั้งหมดได นอกเสียจากวาพวกเขาคิดจะจบชีวิตผูคนในชนเผาของตัวเอง ถึง
อยางไรเสียไมมีปรมาจารยผูยิ่งใหญอยูที่ทุงหญาเทียนหลาน ถาหากถูกคนมูหลานรู
ขาวเขา เกรงวาคนทูอูคงถูกทำลายลางเผาพันธุในพริบตา
เขารูดีอยูแกใจ แนนอนวาหานลี่จึงไมสนใจคำขูของธิดาเทพเทียนหลานผูนี้เลย
สักนิด
เมื่อซากหลอมขนสีขาวที่แตเดิมยังกังวลใจอยูเล็กนอยไดยินคำพูดนี้ ชั่วขณะนั้น
พลันมีสีหนาผอนคลายลง ปากก็เปลงเสียงหัวเราะประหลาดๆ ออกมา
“สหายหานเปนผูที่เขาใจเรื่องราวไดดีจริงๆ ขาไมไดลงมือกับพี่หาน เขาจะให
ความสำคัญกับมดแมลงอยางพวกเจาทำไม พวกเจาสองคนยอมใหจับเสียแตโดยดี
เถิด”
หานลี่มีสีหนาไรซึ่งความรูสึก แตในใจกลับไดแคนเสียงหึออกมา ไมรูวาผูที่แปลงกาย
เปนอรหันตสี่กำจายผูนี้ใชเคล็ดวิชาลับอะไร จึงแอบซอนฐานะซากหลอมเอาไวได แต
กลับถูกอสูรวิญญาณครวญที่อยูในยามเก็บอสูรวิญญาณสัมผัสได หลังจากที่เขาตก
ตะลึงแลว ก็พบวาปศาจตนนี้และยักษปกเงินกำลังถายทอดเสียงหากัน
อาศัยจิตสัมผัสของตัวเองที่เหนื อกวาผูบำเพ็ ญ เพี ยรระดับ กอกำเนิ ดขั้นปลาย
ประมาณสองสามสวน ทันใดนั้นเขาก็แอบฟงไดสวนหนึ่งดวยสีหนาราบเรียบ
เพื่อไมใหปศาจสองตนนี้รูวาตนเองแอบฟงอยู เขาจึงไมกลารุกล้ำจิตสัมผัสของ
พวกเขา แคฟงมาอยางคราวๆ เทานั้น
แตแคสวนเดียวก็ทำใหเขารูแลววา ซากหลอมขนสีขาวผูนี้คิดจะรวมมือกับยักษปกเงิน
และพวก หลังจากที่ทลายกำแพงแลว จะถือโอกาสที่คนอื่นๆ รูสึกประมาท ลดการ
ระวังตัวลง ลงมือกับมนุษยผูบำเพ็ญเพียรที่ออกไปจากหุบเขากอนพวกมัน
สวนจะเปนชาวทูอูหรือหานลี่ สำหรับพวกเขาแลวกลับไมตางอะไรกัน หานลี่จึง
จงใจออกไปชากาวหนึ่ง ถึงไดทำใหชายหนุมแซสวีและหลินอิ๋นผิงประสบเคราะหราย
ดังนั้นหานลี่จึงไมไดคิดจะชวยอีกฝาย
ถึ งแม วาเขาจะไม เคยพบซากหลอมขนสี ข าวผู นี้ ม าก อ น แต มี พ ลั งยุ ท ธ ระดั บ
กอกำเนิดขั้นปลาย และยิ่งไปกวานั้นปศาจซากหลอมที่รูปลักษณเชนนี้ ก็มีเพียงซาก
หลอมหมีหมื่นปของหุบเขาหมื่นวิญญาณแลว
ไดยินมาเนิ่นนานแลววาปศาจตนนี้ฝกฝนจนบรรลุ นับวามีชื่อเสียงเปนอยางมาก
ในชนเผาปศาจแหงตาจิ้น อีกทั้งหุบเขาหมื่นปศาจก็เปนขุมอำนาจที่นับวาสามารถ
ควบคุมสำนักมหาเอกและพรรคมารสวรรคเอาไวได ปศาจที่มีฐานะเปนรองของเจา
หุบเขาตนนี้แปลงกายเปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษและมาปรากฏตัวที่นี่ ชางเปนเรื่องที่
นาสนใจจริงๆ
และอรหั น ต สี่ ก ำจายที่ เป น ร างแปลงของป ศ าจตนนี้ ก็ ไม รู ว าผู บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
สันโดษผูนั้น ถูกเขาสังหารไปจริงๆ และสรางภาพลวงตาขึ้น หรือวาคือปศาจตนนี้
แปลงกายเปนผูบำเพ็ญเพียรเดินดินอยูตั้งแตแรกแลว
เคล็ดวิชาอำพรางกายที่ปศาจตนนี้ฝกปรือชางมหัศจรรยอยางมาก คาดไมถึงวา
แมแตเขาก็ยังไมอาจมองเห็นฐานะซากหลอมของเขาได ทวาเชนนั้น มันก็ดูเหมือนวา
จะไดรับขอจำกัดในเรื่องของพลังยุทธ มิเชนนั้นตอนแรกที่ใชมีดโลหิตเลมนั้นลอบ
โจมตีอาวุโสชุดดำของพรรคตาขายทมิฬผูนั้น คงไมปลอยใหทารกวิญญาณของเขาหนี
ไปไดงายๆ
หานลี่มองผูที่ลอยอยูทามกลางทะเลโลหิตซึ่งอยูไกลออกไป ซากหลอมหมีหมื่นป
ที่มีไอซากศพลอยวนอยูรอบกาย ใบหนาไรซึ่งความรูสึกพลางขบคิดอะไรสักอยางอยู
จูๆ แววตาพลันฉายแววเย็นชา
ถึงแมวาเขาจะไมมีกะจิตกะใจจะลงมือชวยคูอริในอดีต แตก็ไมคิดจะใหมีดโลหิต
ของอีกฝายกลืนกินกายเนื้อและจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด
ขั้นปลายไปงายๆ รอจนอานุภาพของสมบัติชิ้นนี้เพิ่มขึ้น แลวยอนกลับมาตอกรกับ
พวกเขา ขอแคตอนที่ชายหนุมแซสวีจบชีวิต ก็จะเปนชวงเวลาที่เขาลงมือแยงชิงมีด
โลหิตนั้นมา
คิดดูแลวตอใหมีดโลหิตมีความรวดเร็วขนาดไหน จะตองมีชวงเวลาที่ลาชาอยูเปนแน
และในตอนนั้น ก็จะเปนโอกาสที่ดีที่สุดที่เขาจะแยงชิงสมบัติมา!
สมบั ติ ชั่ วรายระดั บ นี้ แน น อนว าอยู ในมื อ ของตั ว เองจะปลอดภั ย กว า หานลี่
ตัดสินใจอยางเยือกเย็นตั้งนานแลว
ทันใดนั้นก็มีสีหนาราบเรียบ ริมฝปากของเขาพลันขมุบขมิบเล็กนอย
กุยหลิงที่อยูดานขางแววตาเปลงประกาย แตก็มีสีหนาราบเรียบดุจปกติ
“พี่หาน ถาหากเจายอมชวยเหลือ ขาจะมอบคาถาลับในการทำใหแมลงกลืนทอง
โตเต็มวัยขั้นสุดทายให เงื่อนไขนี้ เพียงพอจะทำใหสหายสนใจแลวกระมัง” ชายหนุม
แซสวีที่ไมปริปากใดๆ มาตลอดสูดลมหายใจเขาไปลึกๆ เฮือกหนึ่ง ตะโกนไปทางหาน
ลี่ดวยน้ำเสียงเฉียบขาด
“แมลงกลืนทอง?” หานลี่ตะลึงงัน เผยสีหนาแปลกประหลาดออกมา
“ไมได วิธีทำใหแมลงกลืนทองโตเต็มวัยในขั้นสุดทาย เปนความลับที่สืบทอดกันมา
ของวิหารศักดิ์สิทธิ์พวกเรา จะเปดเผยใหคนภายนอกงายๆ ไดอยางไร!” หลินอิ๋นผิงได
ยินคำนี้ กลับโตแยงดวยความตกตะลึง
“ชีวิตจะหาไมแลว ยังจะสนใจความลับที่ไมอาจถายทอดอะไรอีกเลา หากเจาถูก
มีดโลหิตนี้กลืนกิน แมแตวัฏสงสารก็จะไมมีโอกาสไดกลับคืนมาอีก อีกอยางถาหาก
พวกเราเพลี่ยงพล้ำ คนมูหลานก็จะถือโอกาสนี้โจมตีทุงหญา เคล็ดวิชาลับจิ๊บจอยจะ
เทียบอะไรกับทั้งเผาของเราไดหรือ?” ชายหนุมแซสวีไมรอใหหลินอิ๋นผิงเอยตอ ก็ตัด
บทดวยสีหนาเขียวคล้ำ
หลินอิ๋นผิงไดยินคำนี้ ใบหนาพลันซีดขาวราวกับกระดาษ แตในที่สุดก็ไมปริปาก
ใดๆ อีก
ซากหลอมหมีหมื่นปมองเห็นหานลี่มีสีหนาครุนคิด ชั่วขณะนั้นก็สัมผัสไดวาแยแลว
ทันใดนั้นปศาจตนนั้นก็ไมสนใจจะเก็บรักษาลมปราณอีก สองมือพลันรายอาคม
ใสลมปราณเขาในมีดโลหิตที่สรางขึ้นจากลำแสงสีโลหิต ชั่วขณะนั้นลำแสงโลหิตพลัน
ระเบิดออกหลายเทา คาดไมถึงวาจะกลายเปนหนาผียักษใบหนาหนึ่ง อาปากกวางๆ
ออก กลืนชายหนุมแซสวีที่อยูทามกลางทะเลโลหิตดานลางลงไป
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น หมอกโลหิ ตทั้ งสี่ดานก็ห มุน วนอยางบ าคลั่ง คลื่น
โลหิตลูกแลวลูกเลากอตัวกันจนกลายเปนพายุโลหิต คาดไมถึงวาจะมวนวนรางของ
ชายหนุมแซสวีเขาไปในพริบตา ทำใหเขาไมอาจหลบหลีกได
ชายหนุ มแซสวีตื่นตะลึง รองวาแยแลวในใจ ทำได เพี ยงกระตุน สมบั ติสองชิ้น
อยางไขมุกกลมๆ สีเขียวและตะขอสีเงิน ฝนตานทานการโจมตีของหนาผีเอาไว แต
ปากของภูตผีพลันเปลงแสงโลหิตสวางวาบ พนเสนไหมสีโลหิตออกมา ชั่วพริบตาก็กัก
สมบัติชิ้นนั้นเอาไวแนน มวนเขามาแลวกลืนเขาไปในปาก ชายหนุมแซสวีพลันมีสีหนา
ตกตะลึง!
หนาผีกลับอาปากออกอีกครั้ง เผยเขี้ยวแหลมโคงออกมา เสียงหัวเราะที่บาคลั่ง
ดังออกมา จากนั้นพลันกระโจนลงมายังทะเลโลหิตดานลางโดยไมมีอะไรขวางกั้นอีก
ชายหนุมแซสวีพลันกัดฟน ทารกวิญญาณในรางเบิกตาคูนั้นขึ้น คิดจะหลบหนีไป
ตอนที่ 1052 วิหควิญญาณกับทารกปราณ
ในตอนนั้ น เอง ประจุ ไฟฟ า สี ท องสายหนึ่ ง ก็ พุ ง ออกมาราวกั บ เทพเซี ย นเหิ น
ทะยาน เปลงแสงสวางวาบและโจมตีไปยังใบหนาผี
เสียง ‘ปง’ ดังขึ้น ลำแสงสีทองระเบิดออก
เสียงกรีดรองของใบหนาผีดังขึ้น ชั่วพริบตาพลันสลายออกไปครึ่งหนึ่ง แตสวนที่
เหลือกลับฉายแววโหดเหี้ยมออกมา ถือโอกาสที่ชายหนุมแซสวีเผยสีหนาดีอกดีใจ
ออกมา จูๆ พลันกระโจนลงไปกัดคอของเขาที่อยูดานลาง ลำแสงสีโลหิตเปนชั้นๆ
หอหุมเอาไว ชั่วพริบตาก็มีทาทีจะกลืนกินชายหนุมแซสวีเขาไป
ชายหนุมแซสวีสัมผัสไดถึงรางกายที่ถูกลำแสงโลหิตกัดกรอน ภายใตความตก
ตะลึงนั้น ปากก็บริกรรมคาถาประหลาดที่เขาใจไดยากออกมา ทันใดนั้นรางที่เหลือก็
เปลงแสงสีเหลืองชั้นหนึ่งออกมา กะพริบวาบ แลวระเบิดออก
ชั่วพริบตาที่ลำแสงสีโลหิตถูกเสนแสงจำนวนนับไมถวนทะลุผานนั้น ก็เปลี่ยนเปน
ใกล จ ะแตกสลาย ทั น ใดนั้ น ทารกวิ ญ ญาณสู ง สองสามชุ น ก็ เปล ง แสงสว า งวาบ
เคลื่อนยายออกมาจากดานใน ชั่วพริบตาก็มาปรากฏตัวกลางอากาศหางออกไปสิบ
กวาจั้ง จากนั้นลำแสงวิญญาณที่ปกปองรางกายพลันเปลงแสงสวางวาบ กลายเปน
สายรุงสีเหลือง คิดจะหนีออกไป
“คิดจะหนี?” ซากหมีแคนเสียงหึออกมา เห็นเพียงเขาตะปบไปกลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นเหนือศีรษะของทารกวิญญาณ พลันมีไอสีดำกลุมหนึ่งปรากฏขึ้น ทันใดนั้น
ลำแสงพลันสวางวาบ กลายเปนมือยักษตะปบทารกวิญญาณเอาไว ยังไมทันไดตกลง
มา มือยักษที่เปยมไปดวยอานุภาพก็หอหุมทุกอยางในรัศมีวงกลมสิบกวาจั้งเอาไว
ชายหนุมแซสวีเห็นเชนนั้น พลันรองวาแยแลวออกมาในใจ
ถาหากเปนตอนที่กอนเขาจะถูกลอบโจมตี แนนอนวาสามารถใชการเคลื่อนยาย
อยางตอเนื่องได แมกระทั่งอาศัยกำลังของทารกวิญญาณฝนทลายเขตอาคมของเคล็ด
วิชาทมิฬได ถึงอยางไรเสียทารกวิญญาณของผูบำเพ็ญเพียรขั้นปลาย ก็ไมใชสิ่งที่ผู
บำเพ็ญเพียรระดับขั้นตนหรือขั้นกลางจะเทียบเทียมได ถึงแมวาจะไมมีกายเนื้อ ก็มี
พลังตอสูกับผูอื่นเชนกัน
แตวาทารกวิญญาณของเขาในเวลานี้ กลับใชพลังวิญญาณเกินขีดจำกัดในทะเล
โลหิตตั้งนานแลว ยังจะมีพลังมาทลายเคล็ดวิชาของอีกฝายไดอยางไร
หานลี่ในเวลานี้ กลับเอาสองมือไพลห ลังอยูหางออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง สีหน า
ราบเรียบ ดูเหมือนวาหลังจากที่โจมตีดวยประจุไฟฟาสายหนึ่งออกไปแลว ก็ไมยอมลง
มืออีก
ภายใตความจนปญญานั้น ชายหนุมแซสวีก็ทำไดเพียงดิ้นรนเพียงเทานั้น
เขากระตุนลมปราณที่เหลืออยู ทารกวิญญาณพลันอาปากออก พนแผนปายที่ดู
เหมือนทองแตก็ไมใชทองออกมา เตรียมจะใชสมบัติประจำกายโจมตีใหถึงชีวิต
แตในตอนนั้นเอง มือใหญสีดำพลันเปลงแสงสีเงินสวางวาบ เงารางคนสายหนึ่ง
ปรากฏขึ้นอยางแปลกประหลาด คนผูนั้นชูมือขึ้น ชั่วขณะนั้นเสียงรองคำรามดุจเสียง
ของมังกรก็ดังออกมา ลำแสงสีเขียวสวางวาบ ลำแสงสีมรกตเหลือบทองสายหนึ่งพุง
ออกมา ความเร็วราวกับฟาผาอยางไรอยางนั้น ชั่วครูก็โจมตีไปยังมือยักษที่กอตัวขึ้น
จากไอสีดำ
เสียง ‘ปง’ ดังขึ้น
ประจุไฟฟาสีทองสวางวาบ ชั่วพริบตามือยักษก็ถูกทะลวงจนเปนรูขนาดใหญ
ภายใตการโจมตีดวยประจุไฟฟาบางๆ จำนวนนับไมถวน มือยักษพลันกลายเปนไอสี
ดำแลวสลายหายไป
เงารางคนในลำแสงสีเงินพลันแวบหายไป คาดไมถึงวากาวขามระยะหางสิบกวาจั้งไป
ปรากฏตัวอยูใกลๆ กับทารกวิญญาณของชายหนุมแซสวี
ทารกวิญญาณของชายหนุมแซสวีเพิ่งจะหนีพนจากความตาย ทั้งรูสึกตกตะลึง
และดีใจ ลำแสงวิญญาณสวางจาขึ้นรอบกายอยางไมตองขบคิด กลายเปนสายรุงสวาง
วาบแลวหลีกหนีไป
ถึงแมวาเงารางคนในลำแสงสีเงินจะดูเหมือนวาชวยเหลือเขาเอาไว เขาก็ไมกลา
ปลอยใหทารกวิญญาณของตัวเองตกอยูในเงื้อมมือของผูอื่นงายๆ แน
โชคดีที่เงารางคนที่อยูทามกลางลำแสงสีเงินกลับทำเปนมองไมเห็น แคมองไปยัง
ซากหมีและพวกที่อยูไกลออกไปดวยความเย็นชา
และในตอนนั้นเอง นกยูงแรดวิญญาณก็ดูเหมือนวาจะไดรับคำสั่งอะไรสักอยาง
จากชายหนุมแซสวี จูๆ รางกายก็สั่นคลอน เสนขนงดงามที่สวนหางพุงออกมา แลว
ระเบิดออก
ลำแสงหาสีเปลงประกาย อสูรวิหคราชสีหพลันตกตะลึง ไมกลาปะทะตรงๆ ขณะ
ถอยรนไป
ชั่วขณะนั้นหมอกสีมวงพันถูกลำแสงหาสีสองสะทอน พริบตานั้นพลันละลาย
หายไป ชองโหวขนาดสองสามจั้งปรากฏขึ้น
วิหควิญญาณถือโอกาสนี้สยายปกทั้งสองออกพลางกระพือขึ้นลงสองสามครั้ง รางกาย
ดูเหมือนวาจะบิดเบี้ยวราวกับกลุมควัน แลวปรากฏตัวขึ้นดานนอกหมอกสีมวงอยาง
แปลกประหลาด จากนั้นก็บินตรงไปหาทารกวิญ ญาณของชายหนุมแซสวีอยางไม
แมแตจะหันหัวกลับมา ชั่วพริบตาก็มาอยูเบื้องหนาของเขา
ชายหนุมแซสวีรูสึกดีอกดีใจเปนอยางมาก ทารกวิญญาณกระโจนออกไปอยางไม
ลังเลแมแตนอย ทั้งสองจึงประสานตัวเขาดวยกัน
ภาพฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น!
วิหควิญญาณอาปากออก คาดไมถึงวาทารกวิญญาณของชายหนุมแซสวีจะจม
หายไปอยางไรรองรอย ทันใดนั้นเสียงเพรียกพลันดังขึ้น ขนหางยาวๆ ที่เหลืออยูของ
นกยูงแรดวิญญาณตั้งชันดวยความหวาดกลัว
ชั่วขณะนั้นลำแสงหาสีพลันเจิดจา ชั่วครูก็กลืนกินรางของวิหควิญญาณเอาไวขาง
ใน จนไมอาจมองเห็นได
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น การตอสูกลางอากาศของยักษปกเงินและหลินอิ๋นผิง
ก็ปรากฏไอสีดำขาวกลุมหนึ่งลนทะลักออกมา รางของกุยหลิงปรากฏขึ้น
ยักษปกเงินเห็นฮูหยินอัปลักษณ ชั่วขณะนั้นสีหนาพลันเครงขรึม
หลังจากที่กุยหลิงกวาดสายตาไปยังปศาจตนนั้นแวบหนึ่งดวยใบหนาไรความรูสึก
ก็ไมไดเคลื่อนไหวใดๆ อีก แตกลับขยับริมฝปากถายทอดเสียงออกไปสองสามประโยค
ยักษปกเงินหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย หลังจากขบคิดชั่วครู ก็ถอนหายใจยาวๆ ออกมา
เฮือกหนึ่ง สองมือโบกสะบัด เสนไหมวิญญาณทมิฬที่แตเดิมกักธิดาเทพเทียนหลาน
เอาไวอยางแนนหนา พลันมวนวนหดตัวกลับมา ปลอยหลินอิ๋นผิงที่กักขังเอาไวเนิ่น
นานแลวออก
ท ามกลางความดี ใจของหลิน อิ๋ น ผิ งและกำลังจะหลบหนี นั้ น กุ ยหลิงกลั บ เผย
รอยยิ้มเย็นชาออกมา รางกายแวบหายไป ปรากฏตัวขึ้นดานขางสตรีผูนั้น ขวานยักษ
สีเงินดามหนึ่งกลายเปนลำแสงสีเงินฟนฉับลงมาอยางรวดเร็ว
เวลานี้ ธิดาเทพเทียนหลานพลันตกตะลึง ชี้ไปยังผาไหมเบื้องหนาตัวเองอยางไม
ตองขบคิด คิดจะใหมันทะยานไปตานทานเอาไวกลางอากาศ
แตลำแสงประหลาดพลันสวางวาบ เงาลวงตาพยัคฆเขาเดี่ยวยักษปรากฏขึ้นบน
ขวานยักษ และกระโจนลงมา
เสียง ‘ปง’ ดังขึ้น ผาไหมที่กลายเปนเสนไหมสีเงินถูกสับออกเปนสองสวนอยาง
คาดไมถึง ทันใดนั้นเงารางพยัคฆตัวนั้นก็แวบหายไป ชั่วพริบตาก็กลายเปนไอสีเหลือง
กลุมหนึ่งกอหุมรางของสตรีผูนี้เอาไว
หลินอิ๋นผิงรูสึกเพียงวากลิ่นคาวเลือดโชยเขามาปะทะจมูก หลังจากรองอุทานวา
ซวยแลวในใจ ศีรษะพลันหนักอึ้ง คนก็ลมลงกับพื้น
สองมือของกุยหลิงพลันรายอาคมอยางไมเกรงใจ ชั่วขณะนั้ นไอสีเหลืองพลัน
กลายเปนเชือกเสนหนึ่งมัดสตรีผูนั้นเอาไวแนน
จากนั้นไอสีดำขาวพลันหมุนวน ชั่วพริบตาหลินอิ๋นผิงก็สลายหายไปจากที่เดิม
หลังจากเปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง ก็มาปรากฏตัวดานขางหานลี่
ระหวางทางนั้น ซากหมีผูนั้นไมไดลงมือขัดขวาง ทำไดเพียงมองอยางเย็นชาดวย
สีหนาเครงขรึมไมไดปริปากใดๆ
หุนเชิดรางมนุษยทามกลางลำแสงสีเงินรอจนกุยหลิงถอยรนออกไปแลว ก็แวบ
กายหายไปดวยสีหนาแข็งทื่อ หลังจากนั้นก็บินมาอยูดานหลังของหานลี่
หานลี่กลับไมไดเหลือบมองธิดาเทพเทียนหลานที่จับเปนมาไดเลยสักแวบ แต
กลับมองไปอีกดานดวยสีหนาแปลกประหลาด
ที่นั่นมีลำแสงหาสีสวางจาจนแสบตา ใหญกวาเดิมประมาณเทาตัว
“สหายหาน! เจามีเจตนาใดกัน แน ?” เสียงราวกับฟ าผาดังออกมาจากลำแสง
วิญญาณ ฟงจากน้ำเสียงที่ดูเหมือนชายหนุมแซสวี แตกลับเครงขรึมกวาเปนอยางมาก
และเต็มไปดวยความคลุมคลั่ง
“ไมมีอะไร! ผูแซหานไมไดชวยสหายดึงสหายหลินออกมาหรือ” หานลี่มีสีหนาไม
เปลี่ยนแปลง พลางตอบกลับอยางราบเรียบ
“เช น นั้ น ผู แ ซ ส วี ค งกั ง วลมากเกิ น ไป” เสี ย งของบุ รุ ษ ที่ อ ยู ท า มกลางลำแสง
วิญญาณหาสีพลันผอนคลายลง ลำแสงวิญญาณหมนแสงลง เผยรางของนกยูงแรด
วิญญาณออกมา แตแคเวลานี้เห็นไดชัดวาวิหควิญญาณมีขนาดใหญมากกวากอนหนา
และยิ่งไปกวานั้นหัวของนกยูงยังมีใบหนาสีขาวปรากฏขึ้นจางๆ ราวกับเงาลวงตา
อยางไรอยางนั้น นั่นก็คือหนาตาของชายหนุมแซสวีผูนั้น
ทวาใบหนานั้นจองเขม็งไปยังหลินอิ๋นผิงที่กำลังหลับใหลไมไดสติ พลางเผยสีหนา
รอนใจออกมา
“วางใจ ขาไมทำอะไรสหายหลินหรอก แตขานอยมีสิ่งที่อยากจะถามสหายสักสอง
สามเรื่อง เชื่อวาสหายคงไมทำใหผูแซหานผิดหวัง” หานลี่เอยถามดวยสีหนาราบเรียบ
“พี่หานคิดจะบีบบังคับผูแซสวี!” เงาลวงตาที่กอตัวเปนใบหนา มีสีหนาเครงขรึม
เห็นสีหนาโกรธเกรี้ยวอยูสองสามสวน
“ก็ไมถึงกับบีบบังคับ หรือวาสหายลืมไปแลววา เมื่อครูตอบรับอะไรกับผูแซหาน
เอาไว รางของสหายหลินในตอนนี้อยูในนี้ ก็แคเปนการรับประกันวาพี่สวีจะไมทำเรื่อง
ที่เสื่อมเสียฐานะ หรือวาคิดจะผิดคำพูด!” หานลี่หัวเราะอยางเย็นชาออกมา สีหนา
เครงขรึมขึ้น
“เจาอยากจะถามอะไร ก็โจมตีปศาจเบื้องหนากอนแลวคอยวากันก็แลวกัน” เมื่อ
ไดยินหานลี่เอยเชนนี้ ในที่สุดชายหนุมแซสวีก็เยือกเย็นขึ้น เงาลวงตารูปหนาคนกลอก
ตาไปมาขณะเอย
“โจมตีพวกมัน ไดสิ! ขาก็กำลังคิดเชนนั้นพอดี” หานลี่ลูบคางไปมา คาดไมถึงวา
ตกปากรับคำ
หานลี่มีทาทีไมใสใจ แตกลับทำใหชายหนุมแซสวีพลันตกตะลึง เวลานั้นไมรูจะ
พูดอะไรอีก
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา หลังจากหันหนาไปกำชับกุยหลิงแลว ทันใดนั้นหุนเชิด
รางมนุษยก็รวมดวย บินเคียงไหลกันออกไป
เมื่ออยูใกลๆ กับทะเลโลหิต ลำแสงหลีกหนีของทั้งสองก็หยุดชะงัก หานลี่จอง
เขม็งไปยังซากหมีหมื่นปแวบหนึ่ง แลวเอยอยางราบเรียบวา
“สหายคือรองเจาหุบเขาหมื่นปศาจ คิดดูแลวนาจะมีธุระถึงไดมาที่ภูเขาคุนอูแหงนี้
สองคนนี้ยังมีประโยชนตอขา ขาจะพาตัวไปชั่วคราว สหายคงไมถือสาหรอกกระมัง”
ถึงแมวาจะเปนคำพูดเชิงปรึกษา แตน้ำเสียงของหานลี่กลับแข็งกราว นี่จึงทำใหยักษ
ปกเงินและอสูรวิหคราชสีหไดฟงแลวรูสึกโกรธเกรี้ยวขึ้นมา
“สหายมีนามวาหานลี่ เปนผูบำเพ็ญเพียรจากเทียนหนานสินะ?” ซากหมีที่เงียบ
ขรึมมาตลอด คาดไมถึงวาจะเอยปากถามสิ่งที่ทำใหผูคนรูสึกประหลาดใจออกมา
หานลี่พลันตกตะลึง แตทันใดนั้นก็เผยสีหนาเฉยชาออกมา
“ใชแลว ทำไม หรือวาสหายคิดจะไปลางแคนขานอยทีหลังที่เทียนหนาน?”
“ไมคิดจะลางแคนหรอก ครั้งนี้ที่พี่หานชวยเจาสองคนจากเทียนหลานไป ขาจะ
ทำเปนมองไมเห็น แตแคครั้งเดียวเทานั้น ครั้งหนา ถาหากลงมือทำลายเรื่องดีๆ ของ
หุบเขาหมื่นปศาจพวกเราอีก ขานอยจะไมดีดวยแลว ถึงแมวาพี่หานจะมีสองคนนั้น
คอยชวยเหลือ ก็ไมมีทางกลับไปยังเทียนหนานอยางเปนๆ ได” ซากหมีหมื่นปแววตา
เปลงประกายเปลวไฟสีเขียวลุกโชน แตทันใดนั้นก็ฟนฟูกลับมาเปนปกติขณะเอย
หานลี่ไดฟงแลว มุมปากก็กระตุก กลับเผยรอยยิ้มจางๆ ออกมา ไมไดกลาวอะไรอีก
ซากหมีหมื่นปกลับรายอาคมดวยใบหนาแข็งทื่อ ชี้ไปยังลำแสงโลหิตที่อยูไกล
ออกไป
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีโลหิตพลันเปลงแสงสวางวาบ ลำแสงสีโลหิตทั้งหมดหมุนวน
อยูกลางอากาศ แลวกลายเปนมีดยักษสีโลหิต มีดนี้หมุนติ้วๆ รอบหนึ่ง แลวจมหาย
เขาไปในทะเลโลหิตดานลาง
ลำแสงโลหิตพวยพุงขึ้นไป บนมีดยักษมีใบหนาผีที่เพิ่งถูกหานลี่โจมตีไปปรากฏขึ้น
มั น หั ว เราะอย า งบ า คลั่ ง อ า ปากออก ชั่ ว ขณะนั้ น ทะเลโลหิ ต ด า นล า งพลั น
กลายเป น เสาโลหิ ต ต น หนึ่ งจมหายเข าไปในปากของมั น ชั่ ว พริ บ ตาก็ ถู ก มี ด ยั ก ษ
ดูดกลืนเขาไปจนเกลี้ยง
มีดโลหิตดูเหมือนวาจะไมมีอะไรแตกตางไปจากเดิม แตกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุงนั้น
กลับทำใหผูคนรูสึกคลื่นไสอาเจียนอยางสุดๆ
จากนั้นซากหมีหมื่นปก็รองเรียกยักษปกเงินและอสูรวิหคราชสีหขางกาย แลว
ตรงไปทางวิหารโดยไมปริปากใดๆ
หลังจากที่เปลงแสงสวางวาบ ลำแสงหลีกหนีของสามปศาจก็จมหายไปอยางไร
รองรอยดวยทาทีทะนงองอาจ คาดไมถึงวาซากหมีดูเหมือนวาจะมีจุดประสงคอื่น แต
แคไมรูวาปศาจตนนี้ทำใหยักษปกเงินและพวกทั้งสองเชื่อฟงจนกลายเปนผูชวยของ
เขาไดอยางไร
ภายในวิหาร ดูแลวคงมีอะไรที่ยิ่งใหญสักอยาง
หานลี่หรี่ตาทั้งสองลง แววตาฉายแววเย็นเยียบไมแนนอน
“เอาละ ตอนนี้พี่สวีตอบคำถามขานอยไดแลวสินะ!” หานลี่หันหนาไป เอยถาม
นกยูงแรดวิญญาณที่อยูดานหลัง
ตอนที่ 1053 ตราประทับอสูรศักดิ์สิทธิ์
“พี่หานอยากถามอะไร?” ใบหนาของนกยูงแรดวิญญาณ มองไปยังหลินอิ๋นผิงที่
อยูในมือของหุนเชิดรางมนุษยและกุยหลิงแวบหนึ่ง หลังจากขบคิดเล็กนอย ก็ทำได
เพียงเอยพรอมรอยยิ้มขมขื่น
“ฟงจากน้ำเสียงของสหาย ขั้นสุดทายในการโตเต็มวัยของแมลงกลืนทอง ไมอาจ
เกิดขึ้นดวยตนเอง นั่นมันแปลกประหลาดไปหนอย จากที่ขาไดยินมา แมลงมหัศจรรย
ประเภทนี้ มี ช่ื อ เสี ย งวาโหดรายเป น อย างมากในสมั ย โบราณ ต อ ให ไม มี เจ านายก็
สามารถโตเต็มวัยและปรากฏกายในโลกของผูบำเพ็ญเพียรได เพราะวาไมมีอะไรที่
กลืนกินไมไดจึงแทบจะเปนสิ่งที่ฆาไมตาย ตอนนั้นเปนสิ่งที่นาหวาดกลัวมาเปนเวลา
เนิ่นนาน ก็คือแมลงกลืนทองของวิหารศักดิ์สิทธิ์เทียนหลานพวกเจา เกรงวาคงไดเก็บ
ไขแมลงที่เหลือเอาไวจากสมัยโบราณไวบางสินะ ถึงไดมีโอกาสควบคุมแมลงเหลานี้!”
หานลี่แวบหายไปมาสองสามครั้ง แลวกลับมาอยูขางกายของกุยหลิง มองไปยังใบหนา
เงาลวงตา เอยดวยสีหนาราบเรียบ หุ น เชิดรางมนุ ษยกลับเปลงแสงสีเงิน รอบกาย
รางกายพลันพราเลือน แลวหายไปจากที่เดิม
“ถาหากทำตามวิธีการธรรมดาๆ รอจนสองสามหมื่นป แมลงกลืนทองก็อาจจะมี
โอกาสโตเต็มวัยขึ้นอยางชาๆ แตผูบำเพ็ญเพียรอยางพวกเราจะมีอายุขัยที่ยาวนาน
ขนาดนั้นไดอยางไร ตอใหสืบทอดกันมารุนตอรุน ก็มีไมกี่ตระกูลหรือวาไมกี่สำนักที่
สามารถยืน หยัด ได น านขนาดนั้ น โดยเฉพาะแมลงกลืน ทองที่ ใกล จ ะโตเต็ ม วัย ขั้ น
สุดทาย ระยะเวลาในการพัฒนารางจะเนิ่นนานอยางมาก และยิ่งทำใหผูคนหมดความ
กลาในการเลี้ยงดู สหายเองก็ควบคุมแมลงชนิดนี้ นาจะรูดีวาตัวที่โตเต็มวัยกับยังไมโต
เต็มวัยนั้นมันแตกตางกันแคไหน หากบอกวาแตกตางกันราวฟากับเหวก็ยังไมพอ”
ชายหนุมแซสวีเอยดวยน้ำเสียงเครงขรึม
“คำพูดของเจา ไมผิดอยูหลายสวน แมลงกลืนทองของขาพัฒนามาถึงขั้นนี้แลว แตใน
ระยะเวลาสองสามปใหหลังกลับไมยอมเติบโตเลยแมแตนอย ทุงหญาเทียนหลานของ
พวกเจาเลี้ยงดูจนแมลงกลืนทองโตเต็มวัยได จะตองมีวิธีการเฉพาะเปนแน ไมรูวา
วิธีการของพวกเจา จะทำใหมันโตเต็มวัยในระยะเวลาสั้นๆ นั้นตองใชเวลาเทาไหร!”
หานลี่พนลมหายใจออกมา พลางเอยถามอยางราบเรียบ
“รนระยะเวลาไดหนึ่งในสาม และยิ่งไปกวานั้นถาหากสหายไมเสียดายวัตถุดิบ
ยอมเลี้ยงดูมันอยางเต็มที่สักสองสามตัว ก็รนระยะเวลาไดอีก” ชายหนุมแซสวีตอบ
กลับอยางไมลังเลแมแตนอย
“หนึ่งในสามสวน นั่นก็ถือวาคูควรใหขาลงมือแลว ทวาเจาคิดจะบอกคาถาลับกับ
ขาอยางไร และยิ่งไปกวานั้นไมกลัววาเมื่อขาไดวิธีการลับไป พวกเจาจะยิ่งไมอาจ
ตอกรไดหรือ?” จูๆ หานลี่พลันหัวเราะหึๆ ออกมา
“สหายลอเลนแลว ฝูงแมลงกลืนทองของพี่หาน ผูแซสวีไมใชวาไมเคยไดยินมากอน
ถึงแมวาฝูงนั้นจะพัฒนาจนถึงขั้นสุดทาย แตก็เห็นไดชัดวายังไมเริ่มพัฒนาจนถึงระดับ
โตเต็มวัย ตอใหไดคาถาเลี้ยงดูของพวกเราไป ไมฝกฝนอยางหนักสองสามพันป ก็ไมมี
ทางพัฒนาได และเรื่องหลังจากนี้อีกสองสามพันป พวกเราก็ไมจำเปนตองไปใสใจ”
ชายหนุมแซสวีกลับไมคิดจะปดบังเจตนาของตัวเอง พลางเอยตรงๆ
“เจาก็พูดตรงไป เรื่องอีกสองสามพันปใหหลัง แมลงกลืนทองเหลานี้จะอยูในมือ
ของชนรุนหลังของผูแซหานหรือไม ก็เปนเรื่องที่พูดยากแลว แมกระทั่งวิหารชั้นสูงที่รู
เรื่องนี้ก็อาจจะคิดคนวิธีรับมือกับสิ่งนี้ตั้งนานแลวก็เปนได” หานลี่หยักมุมปากขึ้น
และเผยสีหนาอมยิ้มออกมา
“ถาหากสหายคิดเชนนั้น ก็ไมผิด ทำไม สหายไมอยากไดเคล็ดวิชาลับนี้แลวหรือ
ถาหากมีเงื่อนไขอื่น ขาก็…”
“อยาก ทำไมจะไมอยาก ตอใหขานอยไมอาจเลี้ยงดูแมลงกลืนทองใหโตเต็มวัยได
ชั่วชีวิตนี้ แตก็นับวามีหนทาง ผูแซหานสนใจวิธีการเลี้ยงดูแมลงวิญญาณมาตั้งแตไหน
แตไรแลว” หานลี่เลียริมฝปาก สองมือกอดอกขณะเอย
“เยี่ยม สหายรอสักครู ขาจะคัดลอกคาถาลับนี้ลงในคัมภีร สหายก็ลองเลี้ยงแมลง
นี้ดูสักสองสามป ก็นาจะรูผลแลววาจริงหรือเท็ จ” ใบหน าของชายหนุ มแซสวีเผย
ความประหลาดใจออกมาขณะเอย แตไมมีทาทีจะเปลี่ยนใจแมแตนอย
ทันใดนั้นลำแสงพลันสวางวาบ ใบหนาของคนผูน้ันจมหายเขาไปในรางของนกยูง
แรดวิญญาณ
หานลี่ยิ้มนอยๆ ออกมา กลับถือโอกาสนี้ กลอกตาไป ตกลงบนวิห ารที่ อยูไกล
ออกไป
หลังจากที่ สามป ศาจนั้ น เขามา ด านในยังคงเงียบเชี ยบ ราวกั บ วาไม มี ผูใดอยู
อยางไรอยางนั้น
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ หานลี่พลันขมวดคิ้ว จูๆ ก็ถายทอดเสียงไปถามอะไร
กุยหลิงสักสองสามประโยค
ฮูหยินอัปลักษณพลันตกตะลึง แตทันใดนั้นก็ถายทอดเสียงอะไรสักอยางกลับมา
หลังจากที่หานลี่พยักหนา พลันมีสีหนาเครงขรึมลง
“เอาละ พี่หานรับตอเถิด” จูๆ วิหควิญญาณพลันเปดปาก ลำแสงสีขาวสายหนึ่ง
พุงออกไป
ดวงตาทั้งสองพลันเปลงประกาย สะบัดแขนเสื้อ ลำแสงสีเขียวพุงออกมา ชั่วครูก็
มวนเอาของสิ่งนั้นเขามาอยูในมือ
ลำแสงสีขาวหมนแสงลง นั่นก็คือคัมภีรสีขาวขนาดเทาฝามือ
หานลี่เองก็ไมไดเกรงใจ มือหนึ่งหยิบสิ่งนั้นแตะไปที่หนาผากเบาๆ ทันที แลวใส
จิตสัมผัสเขาไปในนั้น
สีหนาเริ่มเครงขรึมขึ้น แตก็คอยๆ เผยสีหนาประหลาดใจออกมา ทันใดนั้นก็เผยสี
หนาถึงบางออออกมา
คาดไมถึงวาเขาดูเหมือนจะเขาใจคาถาในคัมภีรนี้ไดในทันที
หลังจากผานไปหนึ่งกาน้ำชาเต็มๆ ในที่สุดหานลี่ก็ดึงจิตสัมผัสออกมาจากคัมภีร
หลังจากพนลมหายใจออกมาเบาๆ ก็เงยหนาขึ้นมองไปฝงตรงขามแวบหนึ่ง แลวเอย
ขึ้นอยางเด็ดขาดวา
“สหายสวี ไมทราบวาชนชั้นสูงผูใดของชนเผาทูอูที่สรางวิธีการเลี้ยงดูแมลงกลืนทองนี้
ขึ้นมาหรือ? ขานอยชางนับถือจริงๆ คาดไมถึงวาจะคิดหาวิธีกระตุนพลังฟาดิน นำไอ
วิญญาณเบญจธาตุใสเขาไปในรางของแมลงวิญญาณ เพื่อกระตุนการเจริญเติบโตของ
แมลงวิญญาณ วิธีการเชนนี้ไมใชสิ่งที่คนธรรมดาจะคิดได ตอใหคิดไดเกรงวาก็ตอง
เสียเวลาทดลองครั้งแลวครั้งเลา ไมรูวาตองลมเหลวไปกี่ครั้งแลว!”
“หลังจากที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ไดไขแมลงกลืนทองมา ก็ใหอาวุโสที่เชี่ยวชาญเคล็ด
วิชาแมลงในวิหารศึกษาวิธีการเลี้ยงดูแมลงวิญญาณชนิดนี้โดยเฉพาะ ใชเวลากวาพัน
ป ถึงจะคิดคนวิธีนี้ได สิ่งที่นาเสียดายก็คือ ยังไมมีทางแกไขปญ หาของไขแมลงที่มี
จำนวนนอยมากได และยิ่งไปกวานั้นวัตถุดิบที่ใชเสริมนั้นก็หายากเปนอยางมากและ
ไมมีทางกระตุนแมลงวิญญาณนี้ไดมากนัก” ชายหนุมตอบกลับอยางจนปญญา
หานลี่ไดยินแลวพลันพยักหนาหงึกหงักไมไดรูสึกแปลกใจอะไร ถาหากไมใชวาเขา
มีขวดเล็กลึกลับขวดนั้นและพบวิธีการใชหญ าสีรุง เกรงวาก็คงไมมีทางทำใหแมลง
กลืนทองบรรลุระดับไดครั้งแลวครั้งเลาหรอก
“เอาละ ขาชวยพวกเจาสองคนออกมา เจาก็มอบคาถานั้นใหขานอยแลว การ
แลกเปลี่ยนกอนหนานี้ก็จะนับไดวาเสร็จสมบู รณ จากนี้ พี่ สวีคิดจะปลิดชีพ ตนเอง
ขานอยก็จะปลอยใหจิตวิญญาณของเจากลับสูวัฏสงสารอีกครั้ง หรือวาจะใหขาลงมือ
เผาทั้งวิหควิญญาณและทารกวิญญาณใหเปนจุณพรอมกันดีละ” จูๆ หานลี่พลันมีสี
หนาเครงขรึมจองเขม็งไปที่นกยูงแรดวิญญาณที่อยูตรงขาม จิตสังหารปรากฏขึ้นบน
ใบหนา
เพิ่งจะเอยจบดานหลังของเขาก็มีเสียงฟาผาเกิดขึ้นมาในทันที ปกสีเงินขาวคูหนึ่ง
เปลงประกายสวางวาบ สองมือกำหมัดแนนในเวลาเดียวกัน ชั่วขณะนั้นเสียงอึกทึก
ครึกโครมพลันดังขึ้น อาภรณทั้งหมดมีสายฟาสีทองชั้นหนึ่งปรากฏขึ้น ประจุไฟฟา
เปลงแสงสวางวาบ ทาทีเปลี่ยนเปนดุดัน แทบจะในเวลาเดียวกันนั้นดานหลังของ
นกยูงแรดวิญญาณก็มีลำแสงสีเงินสวางวาบ หุนเชิดรางมนุษยปรากฏขึ้นอยางเงียบ
เชียบ ในมือมีลำแสงสีแดงเปลงแสงสวางวาบ คันธนูเล็กๆ ดามหนึ่งเปลงแสงสีมรกต
ออกมาหันตรงไปยังวิหควิญญาณนั้นอยางพอดิบพอดี
นกยูงแรดวิญญาณสั่นเทาดวยความหวาดกลัว สยายปกทั้งหมดออก ชั่วพริบตา
ลำแสงหาสีชั้นหนึ่งก็หอหุมรางของมันเอาไวขางใน อาปากออกอีกครั้ง พนลำแสงสี
เหลืองกลุมหนึ่งออกมา คาดไมถึงวาทารกวิญญาณของชายหนุมแซสวีจะพุงออกมา
และรอนลงบนหัวของวิหควิญญาณตัวนั้นภายในชั่วพริบตา จากนั้นก็มองไปทางหานลี่
พลางเปลงเสียงหัวเราะอยางขมขื่นออกมา
“ชากอนสหาย เจาและเทียนหลานของพวกเราไมไดเกลียดกันถึงขั้นนั้น พวกเรา
สามารถปรองดองกันได ตอใหสหายไมกลัวการไลสังหารของปรมาจารยเซียนอีกสาม
คน แตจะไมสนใจพรรคของตนเองและชนรุนหลังหรือ?”
“เจาคิดจะบีบใหขาสังหารปรมาจารยเซียนทั้งหมดของพวกเจาหรือ?” เมื่อไดยิน
คำนี้หานลี่พลันชักสีหนา แตทันใดนั้นก็เอยขึ้นอยางนาสะพรึงกลัว
“เหตุ ใ ดพี่ ห านต อ งทำเช น นี้ ? ก อ นหน า นี้ ข า และธิ ด าเทพไล สั ง หารสหายก็
เพราะวาในโลกของผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรอย างพวกเรา แต เดิ ม ก็ นั บ ถื อ ผูที่ แ ข็งแกรงกวา
สหายใชฐานะของผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลาง คาดไมถึงวาจะโจมตีและ
สังหารปรมาจารยเซียนระดับสูงของทุงหญาของพวกเราไปตั้งมากมาย วิหารศักดิ์สิทธิ์
ของพวกเราจึงจำเปนตองกำจัดสหาย ตอมาสหายก็เอารางแยกของอสูรศักดิ์สิทธิ์ไป
อีก นี่ยิ่งเปนการลวงเกินวิหารของพวกเรา จึงจำใจตองไลตามมาจนถึงตาจิ้น ตอนนี้
กลับไมเหมือนกันแลว สหายมารถควบคุมผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายได
ความสามารถจึงไมไดดอยไปกวาผูบำเพ็ญ เพียรที่ยิ่งใหญ มีคุณสมบัติเทียบเทากับ
วิหารศักดิ์สิทธิ์เทียนหลานของพวกเราแลว พวกเราจึงไมคิดจะทำใหสหายและเรา
บาดเจ็บทั้งสองฝาย แนนอนวาปรองดองกันไวจะดีกวา และยิ่งไปกวานั้นในภูเขาคุนอู
ก็อันตรายเปนอยางมาก เจาและขารวมมือกันจะยิ่งรักษาชีวิตเอาไวไดดีกวา” ชาย
หนุมแซสวีเห็นหานลี่ไมไดเอยตัดบทในทันที ก็รูสึกผอนคลายลง รีบรอนเอยสิ่งที่ขบ
คิดกอนหนามาทันที และพูดออกมารวดเดียวจบ
“เอยจบแลวหรือ?” หานลี่ไดคำพูดของชายหนุมแซสวีอยางเงียบๆ เอยถามหนึ่ง
ประโยคดวยใบหนาไรความรูสึก
“ทำไม สหายรูสึกวาคำพูดของผูแซสวีไมใชความจริงหรือ?” ชายหนุมแซสวีเห็นสี
หนาของหานลี่ ก็ใจเตนตึกตัก เอยถามอยางระมัดระวัง
“ชางเถิด ก็ไมใชวาจะไมได แตเจาจะใชวิธีอะไรที่ทำใหขาเชื่อวาเจาคิดจะคลาย
ความแคนกับ ขาจริงๆ อาศัยแคคำพู ดเพี ยงไม กี่คำ หรือวาคิ ดจะสาบาน?” หานลี่
หัวเราะอยางเย็นชาออกมาใบหนาแฝงไปดวยการเยาะเยย
“แนนอนวาเปนไปไมได! ธิดาเทพของวิหารศักดิ์สิทธิ์พวกเราอยูที่นี่ สามารถใช
เคล็ดวิชาลับเรียกอสูรศักดิ์สิทธิ์เทียนหลานออกมา และลงตราประทับอสูรศักดิ์สิทธิ์
ใหสหายได เรียนเชิญสหายใหเปนอาวุโสในนามของวิหารศักดิ์สิทธิ์เทียนหลานพวก
เรา เพียงเทานี้ ขอแคสหายคืนรางแยกอสูรศักดิ์สิทธิ์มาใหพวกเรา ใหหลังจากพวกเรา
กลับไปแลวสงมอบมันกับคนอื่นๆ วิหารศักดิ์สิทธิ์ก็ใชวาจะลงมือกับคนของตัวเองอีก”
ชายหนุมแซสวีเอยอยางรีบรอน
“ตราประทั บ ของอสู ร ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ตอนที่ ข า เดิ น ทางผ า นทุ ง หญ า มาก็ ได ยิ น มา
เล็กนอย ไดยินวาผูที่มีผนึกนี้ลวนเปนคนสำคัญของวิหารศักดิ์สิทธิ์ ไมอาจฆากันเองได
มิเชนนั้นผนึกจะกำเริบทำใหคนผูนั้นตองคำสาปประหลาด จิตสัมผัสถูกทิ่มแทงเปน
เวลานานไมตางจากตายทั้งเปน” หานลี่ไดยินแลวพลันประหลาดใจเล็กนอย เงียบ
กริบไปสักครูแลวเอยขึ้นมา
“สหายหานรูเรื่องนี้ก็ดีแลว พวกเราและพี่หานไมไดมีความแคนถึงขั้นตองตายกัน
ไปข า ง สิ่ ง ที่ ส ำคั ญ คื อ ร า งแยกอสู ร ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ที่ ยั ง ถู ก จั บ เป น อยู ส ว นการสั ง หาร
ปรมาจารยเซียนนั้นเทียบกับกำลังของพี่หานในตอนนี้ก็นับวาเปนเพียงเรื่องเล็กนอย”
ทารกวิ ญ ญาณของชายหนุ ม แซ ส วี รู สึ ก ใจเต น ยั ง คงเอ ย ชั ก ชวนต อ อย า งสุ ด
ความสามารถ
หานลี่พลันขมวดคิ้วมุน สีหนาเครงขรึมสลับกับสดใสไมแนนอน
เวลานี้ ทารกวิญญาณของชายหนุมแซสวีปดปากฉับอยางรูจักวางตัว แตแครอ
หานลี่ตัดสินใจอยางเงียบๆ ทวาหวางคิ้ว พลันมีสีหนาไมปลอดภัยปรากฏขึ้น
เขารูดีวาหากหานลี่ตองการสังหารพวกเขาจริงๆ เมื่อผูคนเหลานั้นรวมมือกัน
ทารกวิญญาณเล็กจอยคนหนึ่งคงไมมีโอกาสนี้ไปได นับไดวาความเปนตายขึ้นอยูกับ
ความคิดของอีกฝายแลว ดังนั้น ถึงแมวาจะเปน ผูบำเพ็ ญ เพี ยรระดับกอกำเนิดขั้น
ปลายคนหนึ่ง ในใจก็ยังรูสึกใจคอไมดี ราวกับมีเกล็ดน้ำแข็งบางๆ เกาะอยูอยางไร
อยางนั้น
ตอนที่ 1054 อัสนีเพรียกจิต
“ถึงแมขาจะไมกลัววิห ารศักดิ์ สิท ธิ์เที ยนหลานของพวกเจา แตก็ไมอยากเป น
ปฏิปกษดวย ทวาการตีตราประทับอสูรศักดิ์สิทธิ์และเขารวมวิหารศักดิ์สิทธิ์ของพวก
เจานั้นก็ลืมมันไปเสียเถิด ขาจะไปรูไดอยางไรวาตราประทับอสูรศักดิ์สิทธิ์จะมีอะไร
แปลกๆ หรือไม วิหารศักดิ์สิทธิ์เทียนหลานของพวกเจาไมมาหาเรื่องผูแซหานอีกก็
พอแลว แนนอนวา ถาหากพวกเจาไมรูวาอะไรควรไมควร แลวมายุมยามอีก ก็อยามา
หาวาผูแซหานโหดเหี้ยมไรความปรานี” หานลี่จองเขม็งไปยังทารกวิญญาณของชาย
หนุมแซสวี พลางเอยอยางราบเรียบ
“นั่นมันแนนอนอยูแลว จากความสามารถของสหายในเวลานี้ วิหารศักดิ์สิทธิ์
เทียนหลานของพวกเราจะทำเรื่องตระบัดสัตยอีกไดอยางไร สหายปลอยธิดาเทพ
เทียนหลานกอนไดหรือไม”
ชายหนุมแซสวีไดยินแลวพลันดีอกดีใจ เอยขึ้นอยางรีบรอน
“อยารีบรอน ขายังพูดเงื่อนไขของขาไมจบเลย” หานลี่แคนเสียงหึขึ้นจมูก เอย
อยางอารมณไมดีนัก
“พี่หานมีเงื่อนไขอะไรอีก วามาเถิด” ชายหนุมแซสวีพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็ใจ
หายวาบ
“ขาจะคืนรางแยกอสูรศักดิ์สิทธิ์ใหกับพวกเจา แตยังไมใชตอนนี้ คงจะตองรออีก
สักสองสามป วางใจ ขารับปากพวกเจาไดวาจะไมคราชีวิตชองอสูรตนนี้” หานลี่เผยสี
หนาแปลกประหลาดออกมา
“ไมอาจคืนรางแยกของอสูรศักดิ์สิทธิ์ไดในตอนนี้? นี่...นี่มันไมคอยดีกระมัง” ชาย
หนุมแซสวีไดยิน พลันลังเลใจขึ้นมา
“นั่นมันแคประการแรกเทานั้น ประการที่สอง เพื่อเปนการรับประกันไมใหพวก
เจาเปลี่ยนใจในภายหลัง ขาจะลงอาคมกับทารกของเจาและธิดาเทพผูนี้เอาไว วางใจ
ไมใชเคล็ดวิชากักจิตหรอก พลังยุทธระดับนี้อยางเจาและขา เคล็ดวิชากักจิตนั้นไมมี
ผลอะไรหรอก ขานอยก็แคบังเอิญไดวิธีการฝกฝน ‘อัสนีเพรียกจิต’ ซึ่งเปนเคล็ดวิชา
ลับโบราณมาเทานั้น ขอแคทารกวิญญาณของเจากลืนอัสนีที่แฝงจิตของขาลงไปเม็ด
หนึ่ง ก็พอแลว” หานลี่แสรงทำเปนมองไมเห็นสีหนาของชายหนุมแซสวี พลางเอย
อยางราบเรียบ
“อัสนีเพรียกจิต ไมไดเด็ดขาด!” ชายหนุมแซสวีพลันตกตะลึง ตะโกนออกไป
เสียงดังอยางไมตองขบคิด
“ถาหากไมยอม ขาก็จะกำจัดเจาทั้งสองไปจากโลกใบนี้ จากนั้นก็หาโอกาสแอบไปยัง
ทุงหญาเทียนหลาน อาศัยโอกาสตอนที่สามปรมาจารยเทพเซียนอยูตามลำพัง สังหาร
พวกเขาทีละคนๆ แลวกลับไปบอกชาวมูหลานแห งเที ยนหนาน ขาวาชาวมูห ลาน
จะตองดีใจมากแน ที่จะไดกลับมายังทุงหญาอีกครั้ง ถึงตอนนั้นก็ไมตองพูดถึงวิหาร
ศักดิ์สิทธิ์เทียนหลานแลว แมแตชนเผาทูอูจะดำรงอยูบนโลกนี้ไดหรือไม ก็พูดยาก
แลว” หานลี่เอยอยางแชมชา
“เจากลาทำเชนนั้นหรือ?” ทารกวิญญาณของชายหนุมแซสวีไดยินเชนนี้ ก็รูสึก
เย็นเยียบที่แผนหลัง เอยขึ้นดวยความเดือดดาล
“เหตุใดจะไมกลา กอนหนานี้ที่เจาพูดถึงการเขารวมวิหารศักดิ์สิทธิ์ และการลง
ตราประทับของอสูรศักดิ์สิทธิ์ ก็เปนการกำหนดขอบเขตของผูแซหานมิใชหรือ คิดจะ
ใชตราประทับแลวหาทางลงมือกับขานอย มันก็ไมตางกันหรอก และยิ่งไปกวานั้นผูแ ซ
หานก็ไมเคยถูกผูใดควบคุมมากอน เรื่องของขา มีเพียงขาเทานั้นที่เปนฝายตัดสินใจ
หากเจาไมยอมถูกลงอาคมอัสนีเพรียกจิต ขาเองก็จะไมยอมปลอยโอกาสงามๆ ที่จะ
ทำใหพวกเจาหายไปจากโลกนี้งายๆ ชางเถิด ขาจะใหโอกาสเจาเปนครั้งสุดทาย หาก
ขางอนิ้วทั้งหาลงทั้งหมดแลว เจายังไมยอมเปลงคำพูดวายอมออกมา
ขาจะถือวาเจาปฏิเสธเงื่อนไข และจะลงมือกับเจาในทันที หนึ่ง!” หานลี่ไมไดมี
เจตนาจะลาชาอีก ชูมือหนึ่งขึ้นเล็กนอย เก็บนิ้วหัวแมมือแลวเอยอยางเด็ดขาด
“ขาจะรูไดอยางไรวา หลังจากที่ถูกลงอาคมอัสนีไปแลว เจาจะไมถือโอกาสนี้จัดการ
กับพวกเรา” ชายหนุมแซสวีรูสึกรอนรนเล็กนอย แตก็ยังคงเอยอยางไมยอมแพงายๆ
“หากขาอยากสังหารเจา ขาจะทำอะไรใหยุงยากทำไม?” หานลี่หัวเราะอยางเย็นชา
ปากก็เปลงคำพูดคำวา “สอง” ออกมา แลวเก็บนิ้วลงนิ้วหนึ่ง
“แต…” ทารกวิญญาณที่ยืนอยูเหนือศีรษะของนกยูง เอยพึมพำไมหยุดไปพลาง
กลอกตาไปมาไปพลาง ดูเหมือนวากำลังมองหาวามีโอกาสใหหนีไปไดหรือไม
แตกุยหลิงกลับมาอยูอีกดานของนกยูงแรดวิญญาณตั้งแตตอนไหนก็ไมรู อีกทั้งยัง
ใชสายตาไมเปนมิตรมองมาทางทารกวิญญาณดวย
ชายหนุมแซสวี รูสึกจิตใจหนักอึ้ง เมื่อถูกทั้งสามคนลอมเอาไวในเวลาเดียวกัน
จากรางของทารกวิญญาณของเขา หากคิดจะหนี ก็เปนเรื่องที่เพอฝนแลว
“สี่”
ชั่วพริบตาหานลี่ก็หดนิ้วที่สี่ลง นิ้วมือจึงเหลือเพียงนิ้วกอยนิ้วเดียวเทานั้น
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น กุยหลิงและหุนเชิดรางมนุษยตางก็ไมปกปดพลังอัน
นากดดันอีก พลังวิญญาณที่นาตกตะลึงเริ่มบีบเคนนกยูงแรดวิญญาณ
เพียงโบกมือไปมา ขวานสีเงินดามหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของกุยหลิง สวนหุนเชิด
รางมนุษยก็มีคันธนูเพลิงอัสนีที่เปลงลำแสงสีแดงสวางวาบปรากฏขึ้น ลูกธนูไผอัสนีสี
ทองเปลงแสงสีมรกตระยิบระยับ เล็งมาทางนกยูงแรดวิญญาณที่อยูไกลออกไปอยาง
แมนยำ
สวนหานลี่ที่มีใบหนาไรความรูสึกกลับใชมืออีกขางหนึ่งพลิกฝามือ ลำแสงสวาง
วาบ พัดตรีเปลวเพลิงเลมนั้นปรากฏขึ้น พลิ้วไหวเล็กนอย บนพัดมีอักขระหมุนวน
ลำแสงสามสีเปลงประกายออกมา และเริ่มเปลงเสียงเพรียกกังวานของวิหคดังออกมา
ชายหนุมแซสวีที่หลบอยูทามกลางลำแสงหาสีเห็นเชนนั้น ชั่วพริบตานั้นใบหนา
ของทารกวิญญาณก็ไรสีโลหิต แตริมฝปากกลับยังคงปดแนน
แววตาของหานลี่เปลงประกายเย็นเยียบดุจใบมีด ริมฝปากขมุบขมิบ คำวา “หา”
เปลงออกมาจากปาก
“ได ผูแซสวียอมใหเจาลงอาคม!” ในที่สุดชายหนุมแซสวีก็มองเห็นสีหนาอำมหิต
และการตัดสินใจบนใบหนาของหานลี่ จึงทำไดเพียงกัดฟนเอยขึ้น
เมื่อหานลี่ไดยิน แววตาก็เปลงประกายขณะพยักหนา มือหนึ่งรายอาคม ปากก็
บริกรรมคาถาโบราณออกมา
หลังจากผานไปชั่วครู ใบหนาพลันซีดขาว หวางคิ้วมีดวงแสงสีขาวขนาดเทาเมล็ด
ถั่วเหลืองปรากฏขึ้น ดูเหมือนวาจะหอหุมอะไรสักอยางอยู มันลอยตรงไปหาทารก
วิญญาณชายหนุมแซสวี
พัดตรีเปลวเพลิงที่ยังอยูอีกมือหนึ่งเปลงเสียงคำรามต่ำๆ ออกมาไมหยุด หานลี่
ไมไดสลายลมปราณออกเลยแมแตนอย เห็นไดชัดวาเพื่อยับยั้งไมใหชายหนุมแซสวี
อาศัยจังหวะนี้หนีไป และจงใจใชมันเพื่อเตรียมปองกันอีกฝาย
กุยหลิงและหุนเชิดรางมนุษยเองก็ไมไดผอนคลายเชนกัน แมกระทั่งในประสาท
สัมผัสของชายหนุมแซสวี แรงกดดัน บนตัวของพวกเขายังเพิ่ มขึ้นอีกสองสามสวน
พันธนาการทารกวิญญาณเอาไว ไมปลอยโอกาสใหมีชองวางหลบหนีไปไดเลยสักนิด
ชายหนุมแซสวีถอนหายใจออกมา มองไปยังดวงแสงสีขาวสองครั้งดวยความ
หวาดกลัว เห็นเพียงดานนอกของมันเปน สีขาวโพลน ดานในกลับแฝงลำแสงหาสี
เอาไว นั่นก็คืออัสนีเพรียกจิตในตำนานโบราณ นาจะไมผิดแน
ชั่วพริบตาอัสนีเพรียกจิตก็มาถึงเบื้องหนา แตกลับถูกลำแสงหาสีตานทานเอาไวเบื้อง
นอก ชายหนุมแซสวีลังเลเล็กนอย หลังจากประสานสายตากับดวงตาที่เย็นเยียบจน
เสียดกระดูกของหานลี่ ก็ทำไดเพียงปลอยใหดวงแสงสีขาวเขามาในลำแสงวิญญาณ
หลังจากที่ดวงแสงสีขาวเปลงแสงสวางวาบ ลำแสงนั้นก็จมหายเขาไปในรางของ
ทารกวิญญาณและหายวับไป
ชายหนุมแซสวีรีบรอนใชจิตสัมผัสตรวจสอบสถานการณของตัวเอง
ผลลัพธกลับไมมีอะไรเกิดขึ้น อัสนีเพรียกจิตนั้นดูเหมือนวาจะสลายหายไปอยาง
ไรอยางนั้น
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ ชายหนุมแซสวีไมเพียงไมรูสึกสบายใจ กลับยิ่งรอนใจ
มากยิ่งขึ้น
ตำนานกลาววาเมื่ออัสนีเพรียกจิตรวมตัวอยูในจิตสัมผัส ก็จะไรรูปราง คาดไมถึง
วาจะเปนเรื่องจริง
เชนนั้น วันขางหนาเขาจะกำจัดมันอยางไร
และในเวลานั้น หานลี่ก็เอยอยางราบเรียบวา
“สหายอยาคิดจะทำลายมันเลย เคล็ดวิชาลับโบราณชนิดนี้ไมไดอาศัยเพียงกำลัง
มหาศาลเพี ยงอยางเดี ยวแล วจะกำจั ดมั น ได ขอแค สหายเชื่ อฟ ง ผู แ ซ ห านก็ จะไม
กระตุนอาคม มิเชนนั้นหามันกำเริบขึ้นมา ก็อยามาโทษวาผูแซหานไมเตือน”
ทารกวิญญาณของชายหนุมแซสวีไดยินคำพูดนี้ ก็มีสีหนาดูไมไดอยางสุดๆ
หานลี่หันหนาไปมองธิดาเทพที่ยังสลบไสลไมไดสติ พลันขมวดคิ้วมุน หลังจากขบ
คิดอยูชั่วครู ก็ยังสายศีรษะ สำแดงอาคมออกมาเชนกัน นำอัสนีเพรียกจิตเม็ดหนึ่งใส
เขาไปในทารกวิญญาณของสตรีผูนี้
นาสงสารที่สตรีผูนี้ยังไมไดสติ ก็ถูกหานลี่ลงอาคมใสอยางไมรูตัว
“เจาไมสังหารพวกเรา หรือวาคิดจะอาศัยอาคมนี้ควบคุมพวกเราไปโดยตลอด?”
ชายหนุมแซสวีใชจิตสัมผัสคนหาในทารกวิญญาณอีกครั้ง หลังจากไมไดอะไร ก็เอยขึ้น
อยางไมยินยอม
“ควบคุมพวกเจา? นับวาเปนเชนนั้นก็ได ทวาพวกเจาโปรดวางใจ ขอแคเชื่อฟงและ
ชวยขาใหออกไปจากภูเขาคุนอูแหงนี้ จากนั้นก็ตางคนตางไป พวกเจาก็กลับไปเปน
อาวุโสและธิดาเทพแหงเทียนหลาน ขาก็จะกลับไปกักตนบำเพ็ญเพียรที่เทียนหนาน
ตอ สวนอัสนีเพรียกจิตนั้น ผานไปสักสามสี่รอยป ก็หมดฤทธิ์ไปเอง” หานลี่ตอบกลับ
อยางราบเรียบ
“สามสี่รอยป!” ชายหนุมแซสวีหมดคำพูดแลวจริงๆ
“เอาละ พวกเราเสียเวลากับที่นี่มาไมนอยแลว ควรจะออกเดินทางไดแลวละ”
หานลี่ เหลื อ บมองหลิ น อิ๋ น ผิ ง ที่ ก ำลั ง สลบไสลไม ได ส ติ สะบั ด แขนเสื้ อ ไปทางนาง
เล็กนอย ลำแสงสีเขียวพุงออกไป
เมื่อลำแสงสีเขียวหอหุมรางของสตรีผูนี้เอาไว เปลือกตาก็เริ่มขยับ แลวคอยๆ
เปดดวงตาคูงามขึ้น แตกลับมองไปยังหานลี่ที่อยูขางกายอยางพอดิบพอดี นางพลัน
รูสึกตื่นตะลึง รางกายพลิ้วไหวไปอยางไมตองขบคิด คนก็หางออกไปสิบกวาจั้ง และ
พนกระบี่บินสีเงินออกมาเลมหนึ่งดวยทาทางปองกันตัวทันที
“สหายหลิน ชากอน!” แนนอนวาชายหนุมแซสวีไมมีทางปลอยใหหลินอิ๋นผิงลง
มืองายๆ เขาจึงรีบรอนตะโกนยับยั้งสตรีผูนั้น และปากก็ยังขมุบขมิบถายทอดเสียง
ออกไปอยางรวดเร็ว
หานลี่ไมไดขัดขวาง แคเอาสองมือไพลหลัง ใบหนาไรซึ่งความรูสึก
กุยหลิงบินหลับมาอยูขางกายของหานลี่ หุนเชิดรางมนุษย ก็อำพรางกายสลาย
หายตัวไปอีกครั้ง ตามคำสั่งของเขา
และในชั่วพริบตานั้น ธิดาเทพเทียนหลานก็ดูเหมือนจะรูวาตัวเองถูกลงอาคมอัสนี
เพรียกจิตเอาไว ใบหนาจึงซีดเซียว แววตาปกปดความตื่นตะลึงเอาไวไมมิด
หานลี่เห็นเชนนั้น แววตาพลันเปลงประกายสองสามครั้ง ทันใดนั้นก็กำลังจะเอย
ปากพูดอะไรออกมา แตจูๆ ก็มีเสียงดังสนั่นขึ้น ชั้นบรรยากาศทั้งหมดสั่นไหว
ในตอนที่หานลี่กำลังตกตะลึงอยางสุดๆ นั้น จูๆ ไอกระบี่หนาๆ สายหนึ่งก็พุง
ทะลุผานกำแพงกั้นที่กักพวกเขาไวแตเดิมเขามา จากนั้นก็พลิ้วไหวขึ้นลง ชั่วขณะนั้นรู
ยักษขนาดสองสามจั้งก็ปรากฏขึ้น จากนั้นสายรุงที่นาตกตะลึงสองสายก็พุงออกมา
จากดานใน หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง ก็รอนลงใกลๆ กับหานลี่และพวก เผยรางของ
นักพรตและนักปราชญออกมา
“ทานพี่ชีเมี่ยว!” หลินอิ๋นผิงเห็นนักกวีชุดดำ กลับรองอุทานออกมา ใบหนาเผยสี
หนาดีใจเล็กๆ ออกมา
“เอ! ที่แทก็สหายนี่เอง เซียนหลินมาอยูที่นี่ไดอยางไร” นักกวีชุดดำผูนั้นมีจมูกงอ
งุมเหมือนจมูกของเหยี่ยว เผยใหเห็นความโหดเหี้ยมที่ซอนอยู เมื่อเห็นหลินอิ๋นผิงอยู
ที่นี่ ก็เอยขึ้นดวยความประหลาดใจเล็กนอย
คนผูนี้คาดไมถึงวาจะเปนอรหันตชีเมี่ยวอาวุโสของพรรคมารสวรรค เพราะวาพรรค
มารสวรรคและวิหารศักดิ์สิทธิ์เทียนหลานมีผลประโยชนตอกัน ดังนั้นมารเฒาผูนี้และ
ธิดาเทพเทียนหลานอยางหลินอิ๋นผิงจึงมีความสัมพันธตอกัน กระจกเสียงกังวานที่
สามารถมองทะลุผานภาพลวงตาได ก็เปนสมบัติที่มารตนนี้ใหสตรีผูนี้ยืมมาใช
สวนผูที่มีสีหนาแดงก่ำผมขาวโพลนดานขางของเขา ก็คือนักพรตชราที่มีทาทีดุจ
เทพเทวา แนนอนวาคือเสวียนชิงจื่อแหงสำนักมหาเอก นักพรตชราเห็นสตรีผูนี้ก็รอง
เรียกพรอมรอยยิ้มจนตาหยี แตสายตากลับกวาดไปที่หานลี่และพวก คอยๆ เผยสีหนา
ตกตะลึงออกมา
“เซียนหลินจื่อ สหายทั้งสองคือใคร วิหควิญญาณของสหายสวีอยูท่ีนี่ เหตุใดพี่สวี
ถึงไมอยูเลา?” นักพรตชราหุบยิ้ม เอยถามอยางตกตะลึงระคนสงสัย
ตอนที่ 1055 ชองวางมิติฉีกขาด
เมื่อไดยินคำพูดของเสวียนชิงจื่อ หลิน อิ๋น ผิงพลัน มองไปที่ น กยูงแรดวิญ ญาณ
ปราดหนึ่ง แลวเหลือบตามองหานลี่อีกสองครา เผยสีหนาลังเลออกมา
แตในตอนนั้ น เอง เหนื อ หั วของนกยูงแรดวิญ ญาณก็ เปลงแสงสีขาวสวางวาบ
ใบหนาของชายหนุมแซสวีปรากฏขึ้นอีกครั้ง นักกวีและนักพรตพลันตกตะลึงและ
หัวเราะอยางขมขื่นออกมา จากนั้นก็เอยวา
“สหายทั้ งสองไมตอ งตามหาขาน อยแลว รางของขาถูกทำลายไปแลว ตอนนี้
เหลือเพียงทารกวิญญาณที่สิงอยูบนรางของวิหควิญญาณเทานั้น”
“เปนไปไดอยางไร! พี่สวีคือผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย กายเนื้อจะ
ถูกทำลายอยางงายดายไดอยางไร? หรือวาบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณที่ถูกกักอยู
ที่นี่หลุดจากพันธนาการแลว” เสวียนชิงจื่อพลันตกตะลึง ใบหนาถอดสี
“ฟงจากคำพูดของสหาย คงจะรูตั้งนานแลวสินะวามารตนใดอยูในปอมปราการมาร
แหงนี้” ชายหนุมแซสวีมีสีหนาเครงขรึมลง
“สหายสวีอยาเขาใจผิด แตเดิมอาตมาก็ไมรู แตตอมาไดขาวมาจากในสำนัก ถึง
ไดรูสถานการณของที่นี่ บรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณนั่นเปนเรื่องใหญ หวังวาสหาย
จะอธิบายใหพวกเราสองคนฟงสักหนอย” เสวียนชิงจื่อหัวเราะฮาๆ ออกมา พลางเอย
อยางคลุมเครือ
แนนอนวาชายหนุมแซสวีนั้นไมเชื่อคำพูดนี้ แตตอนนี้ตัวเองเปนแคทารกวิญญาณ
จึงไมอาจซักถามอะไรไดมากนัก ทันใดนั้นก็ถอนหายใจออกมาพลางเอยวา
“บรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณหลุดจากพันธนาการแลวจริงๆ ทวากายเนื้อของ
ขาไมไดถูกมารโบราณทำลาย แตถูกซากหมีหมื่นปของหุบเขาหมื่นปศาจลอบทำราย”
“หุบเขาหมื่นปศาจ? เปนไปไมได อาตมารักษาการณอยูภายนอก ปรมาจารยหมี
ตนนั้นจะเขามาไดอยางไร หรือวาเขามากอนที่พวกเราจะเขามาในภูเขาลูกนี้”
เสวียนชิงจื่อพลันตกตะลึง แตทันใดนั้นก็นึกถึงความเปนไปไดนี้ขึ้นมา
“ใชแลว ซากหมีตนนั้นไมเพียงจะเขามากอนเจาและขา ยิ่งไปกวานั้นไมรูวาใช
เคล็ดวิชาลับชนิดใด คาดไมถึงวาจะกลายเปนมนุษยผูบำเพ็ญเพียรเฉกเชนพวกเรา
และยังไมมีไอซากศพเลยแมแตนอย มิเชนนั้น ผูแซสวีจะถูกลอบทำรายไดอยางไร”
ชายหนุมแซสวีนึกถึงเรื่องที่กายเนื้อถูกมีดโลหิตกลืนกิน ก็รูสึกเจ็บปวดเหลือคณา
“ถาหากซากหมีนั้นลอบทำรายสหาย ก็อาจจะเปนไปได ประมุขแหงหุบเขาหมื่น
ปศาจมีสมบัติวิเศษ ‘ไขมุกพรางกาย’ อยูเม็ดหนึ่ง ไดยินวาเมื่อกลืนไขมุกเม็ดนี้ลงไป
แลว ไมเพียงจะแปลงกายได ยิ่งไปกวานั้นยังสามารถกลบกลิ่นอายพิเศษอยางกลิ่น
อายปศาจและซากศพได ผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ ไมอาจสัมผัสได ตอใหเปนกระจก
เสียงกังวาน ก็ไมอาจมองทะลุผานความสามารถของสมบัติชิ้นนี้ได”
อรหันตชีเมี่ยวกลับขมวดคิ้วมุนขณะเอย
“เจากลาวเชนนี้ ขากลับนึกขึ้นมาได หุบเขาหมื่นปศาจมีสมบัติวิเศษชนิดนี้จริงๆ
แตไดยินวาผูที่กลืนไขมุกเม็ดนั้นลงไปจะสูญ เสียลมปราณไปจำนวนมาก มิเชนนั้ น
จะตองสูญเสียความสามารถของไขมุกเม็ดนั้นไป ตอนที่ซากหมีตนนั้นลอบโจมตีเจาคง
ไมไดปรากฏรางเดิมออกมาหรอกนะ” นักพรตชราเสวียนชิงจื่อถึงบางออขึ้นมา
“สหายทั้งสองกลาวเชนนี้ ดูแลวคงเปนความจริง หลังจากที่ซากหมีตนนั้นลอบ
โจมตีขา ถึงไดเผยฐานะของซากหลอมออกมา” ชายหนุมแซสวีมีสีหนาที่เต็มไปดวย
ความโกรธแคน
“สหายถูกซากหมีโจมตี แตทารกวิญญาณก็ยังหนีออกมาได ก็นับวาโชคดีในโชค
รายแลว และยิ่งไปกวานั้นสหายก็ยังไมถูกแยงชิงราง ขอแคกลับไปหารางที่เหมาะสม
ฝกบำเพ็ญเพียรเพิ่มอีกสักรอยปเศษ ก็คงฟนฟูพลังยุทธไดแลว” นักกวีวัยกลางคน
พิจารณานกยูงแรดวิญ ญาณแวบหนึ่ง และไมรูวามองเห็นอะไร จึงไดเอยพรอมกับ
หัวเราะนอยๆ ออกมา
“พี่ชีเมี่ยวชางหลักแหลมจริงๆ ถึงแมวาตอนนี้จะสิงรางอยูกับวิหควิญ ญาณได
ชั่วคราว แตก็ทำไดไมนานนัก ขานอยจำตองรีบหารางที่เหมาะสมใหได” ชายหนุม
แซสวีถอนหายใจออกมา ขณะตอบกลับ
นักกวีวัยกลางคนไดฟง ก็ไมไดเอยอะไรอีก แตสายตากลับเลื่อนไปที่รางของกุยหลิง
แลวเผยสีหนาเครงขรึมออกมา
“สหายผู นี้ ดู ไม คุ น หน าเลย ไม ท ราบว ามี ชื่ อ เสี ย งเรีย งนามว าอย างไรหรือ ?”
อรหั น ต ชี เมี่ ย วเอ ย ถามอย างเชื่ อ งช า แววตาของนั ก พรตชราที่ อ ยู ด านข างก็ เปล ง
ประกายสวางวาบพลางพิจารณาฮูหยินอัปลักษณอยางละเอียดเชนกัน
ถึงอยางไรเสี ยพลังยุ ท ธข องกุ ย หลิงก็ คื อ อสูรป ศ าจระดั บ สิบ ไม มี ท างป ด บั งผู
บำเพ็ญเพียรทั้งสองที่อยูในระดับเดียวกันได
ฮูหยินอัปลักษณมีสีหนาไรความรูสึก แตหานลี่กลับฉีกยิ้มเบิกบานพลางเอยปากวา
“สหายกุยหลิงผูนี้ เหมือนกับผูแซหาน เพราะไปสัมผัสเขากับเขตอาคมจึงถูกสง
ตัวมาที่ภูเขาแหงนี้”
“สัมผัสเขากับเขตอาคมแลวถูกสงตัวเขามา นั่นเปนเรื่องที่พบเห็นไดยากมาก ไม
ทราบวาสหายหานคือผูบำเพ็ญ เพียรจากพรรคใด ดูเหมือนวาอาตมาจะไมเคยพบ
สหายมากอน” เมื่อเสวียนชิงจื่อเห็นวาฮูหยินอัปลักษณปดปากเงียบ ดูเหมือนวาจะให
หานลี่เปนผูนำทุกอยาง แววตาก็ฉายแววตกตะลึงเล็กนอย ทาทางที่ไมสนใจหานลี่แต
เดิมพลันเปลี่ยนไป แลวตอบกลับพรอมกลั้วหัวเราะ
“ผูแซหานเปนเพียงผูบำเพ็ญเพียรสันโดษเทานั้น สหายไมรูจักก็ไมแปลก ทวา
อยูกับอรหันตชีเมี่ยวแหงพรรคมารสวรรคได คิดดูแลวฐานะของทานคงไมธรรมดา
ขานอยขอลวงเกินถามไถสักหนอย สหายทั้งสองเขามาในชั้นที่แปดไดอยางไร จากที่
ขารูมา ดูเหมือนวาเขตอาคมสงตัวทางนั้นจะใชการไมไดแลว” หานลี่ไมเคยพบกับ
เสวียนชิงจื่อมากอน แตเมื่อไดยินบทสนทนาของพวกเขา ก็พอจะเดาไดแปดเกาสวน
วาอีกฝายคืออาวุโสของสิบพรรคผูยิ่งใหญ แนนอนวาจึงเอยถามดวยความรูสึกสนใจ
“อาตมาเลอะเลือนแลว ไมไดแนะนำตนเองกอน อาตมาเสวียนชิงจื่อแหงสำนัก
มหาเอก สวนเขามาไดอยางไรนั้น เราสองคนไมไดใชวิธีการสงตัวอะไรนั้น แตใชยันต
ทลายเขตแดนของสำนักมหาเอกของพวกเรา ทลายกำแพงกั้นของชั้นที่แปดเขามา”
เสวียนชิงจื่อเอยอยางไมใสใจ
“ยันตทลายเขตแดน? ยันตชนิดนี้ทลายชองวางมิติระหวางกำแพงกั้นไดหรือ”
หานลี่ไดยินชื่อแลวพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็เผยสีหนาระแคะระคายออกมา
“อาศัยแคยัน ตวิเศษอยางเดียวนั้ น คงไม ได ยังต องใชเคล็ดวิชาลับเฉพาะและ
กระบี่เทพสวรรคของสำนักขา ทวาอาตมากลับไมคิดวา เมื่อเขามาที่นี่แลวจะถูกกัก
เอาไวในชองวางมิติอีกทีหนึ่ง” นักพรตชราหันหนาไปมองชองวางมิติที่เกิดจากเขต
อาคมธงวายุทมิฬนั่นแวบหนึ่ง แลวสงเสียงจิ๊ๆ พลางเอยขึ้น
“ยันตทลายเขตแดนของสำนักมหาเอกและกระบี่เทพสวรรคนั้นมีชื่อเสียงยิ่งใหญ
เพี ย งใด ข าได ยิ น มาเนิ่ น นานแลว พวกเราต างไม อ าจทำอะไรช อ งวางมิ ติ ระหวาง
กำแพงกั้นนี้ได คาดไมถึงวาสหายทั้งสองจะทำเหมือนไมเห็นคาของมัน สำนักมหาเอก
และพรรคมารสวรรคคูควรกับที่เปนหนึ่งในสิบสำนักมารธรรมะที่ยิ่งใหญแหงตาจิ้น
จริงๆ” หลินอิ๋นผิงถอนหายใจออกมาขณะเอย
“ทานเซียนหลินลอเลนแลว สมบัติในวิหารศักดิ์สิทธิ์เทียนหลานของพวกเจาก็มีอยูไม
นอย แคบังเอิญที่กระบี่เทพของสำนักขาทลายชองวางมิติไดเทานั้น” เสวียนชิงจื่อลูบ
เครา พลางเอยอยางเกรงใจ
หลินอิ๋นผิงไดยินคำพูดถอมตนของนักพรตชรา กลับอดที่จะหัวเราะอยางขมขื่น
ออกมาไมได
หากกลาวถึงผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงแลว วิหารศักดิ์สิทธิ์เทียนหลานก็ไมไดดอยไป
กวาทั้งสองสำนัก แตถาหากกลาวถึงสมบัติวิเศษ จะไปเทียบเทียมกับทั้งสองสำนักที่
ไดรับสมบัติสืบทอดกันมาตั้งแตสมัยโบราณไดอยางไร
“ใชแลว มารเฒาเฉียนอยูที่ใด ขาไดยินสหายเสวียนชิงจื่อกลาววามารเฒาผูนั้นก็
เขามาในภูเขาแหงนี้เชนกัน” จูๆ นักกวีวัยกลางคนก็กวาดสายตาไปรอบๆ เอยถาม
พรอมกับชักสีหนา
มารเฒาเฉียน!
ชายหนุมแซสวีและหลินอิ๋นผิงไดยินคำนี้ ตางก็เหลือบมองไปทางหานลี่แวบหนึ่ง
ถึงอยางไรเสียตอนแรกฮูหยินมูแหงพรรคแปลงเซียนผูนั้นก็เคยกลาวถึงการตอสู
ของหานลี่และมารเฒาเฉียน แตเดิมพวกเขาตางก็ไมเชื่อวามารเฒาเฉียนจะมาเพลี่ยง
พล้ำใหกับหานลี่ แตหลังจากไดเห็นความสามารถของหานลี่กับตาแลว เวลานี้กลับอด
ที่จะรูสึกสงสัยอยูหลายสวนไมได
ทาทีของทั้งสองคน ตกอยูในสายตาของเสวียนชิงจื่อและอรหันตชีเมี่ยว แนนอน
วาจึงรูแปลกใจเล็กนอย และอดที่จะมองสบตากันแวบหนึ่งไมได สายตาตกลงบน
ใบหนาของหานลี่เชนกัน
หานลี่ถอนหายใจออกมา แตก็ยังเอยอยางราบเรียบวา
“หลังจากที่สหายเฉียนและขาแยกกันในวิหารคุนอู ก็หายตัวไป บางทีอาจจะลาสมบัติ
ที่อื่นกระมัง จะวาไปแลว ขาเองก็ไมเห็นคนอื่นๆ ของพรรคตาขายทมิฬเชนกัน”
“สหายหานหมายถึงพวกสหายเกอสินะ พี่หานไมตองคิดมากหรอก ระหวางทาง
สหายเกอและพวกถูกอาวุโสของตระกูลเยี่ยลอบโจมตี จนเพลี่ยงพล้ำ แมแตทารก
วิญญาณก็ถูกทำลายไปจนหมดแลว” ชายหนุมแซสวีเอยเสียงเรียบ
“เชนนี้นี่เอง!” หานลี่ รูสึกถึงบางออเล็กนอย
“ภูเขาคุนอูแหงนี้ชางอันตรายจริงๆ คาดไมถึงวาผูบำเพ็ญเพียรตั้งมากมายขนาด
นั้นยังเพลี่ยงพล้ำ” เสวียนชิงจื่อดูเหมือนวาจะสัมผัสอะไรได หลังจากที่สีหนาฉายแวว
แปลกประหลาดขณะจองเขม็งไปยังหานลี่แลว ก็เอยออกมาหนึ่งประโยค
“คนของพรรคตาขายทมิฬไมอยูก็ดี จะไดไมเกะกะ เหลาสหายเลาเรื่องบรรพชน
ศักดิ์สิทธิ์มารโบราณมาเถิด” นักกวีวัยกลลางคนกวาดสายตาไปยังโครงกระดูกตรง
วิหารที่อยูไกลออกไปแวบหนึ่ง แลวเอยขึ้นอยางเครงขรึม
“ชี่เมี่ยวพูดถูก! ไมปดบังเหลาสหาย การเคลื่อนไหวของพวกเราในเวลานี้ความ
จริงแลวก็มาเพราะตระกูลเยี่ยและมารโบราณ เรื่องนี้เกี่ยวของกับโลกผูบำเพ็ญเพียร
ทั้งหมด หวังวาเหลาสหายจะยอมรวมมือ”
เสวียนชิงจื่อยิ้มจนตาหยีขณะเอยกับหานลี่และพวก
เมื่อไดยิน ชายหนุมแซสวีและหลินอิ๋นผิงก็ไมไดตอบรับอะไรขึ้นมาในทันที แตสี
หนากลับแปลกประหลาดเล็กนอย ตอนนี้พวกเขาถูกลงอาคมเอาไว หากยังไมรูความ
คิดเห็นของหานลี่ ก็ไมกลาเอยปากอะไรซี้ซั้ว เวลานี้หลินอิ๋นผิงและใบหนาของชาย
หนุมแซสวี ตางก็เครงขรึมสลับกับสดใสไมแนนอน
กุยหลิงก็ยังคงเงียบกริบตั้งแตตนจนถึงตอนนี้
เชนนั้น ทาทางของหานลี่ที่ยังคงสีหนาราบเรียบเอาไว จึงตกไปอยูในครรลอง
สายตาของผูบำเพ็ญเพียรทั้งสอง และแนนอนวาทำใหพวกเขารูสึกประหลาดใจ
เสวียนชิงจื่อและพวกทั้งสองลอบสบตากันแวบหนึ่ง เผยสีหนาแปลกประหลาด
ออกมา เห็นไดชัดวาพวกเขาเองก็มองออกวาชายหนุมแซสวีและธิดาเทพเทียนหลาน
ผูนี้ดูเหมือนจะหวาดกลัวหานลี่อยูหลายสวน
นี่จึงทำใหทั้งสองคนใจหายวาบ
“ในเมื่อสหายทั้งสองอยากรูเรื่องของมารโบราณ ผูแซหานก็จะเปนบอกเองก็แลวกัน”
สายตาของหานลี่พลันเคลื่อนไหว และเอยอยางราบเรียบ
“เยี่ยม ในเมื่อสหายหาน…”
ขณะที่ นั ก พรตชราเสวี ย นชิ ง จื่ อ กำลั ง ฉี ก ยิ้ ม คิ ด จะเอ ย อะไรนั้ น จู ๆ ก็ มี เสี ย ง
แผนดินไหวดังสนั่นมาจากวิหาร จูๆ กลางวิหารก็มีเสาลำแสงสีขาวนวลสิบกวาตน
พวยพุงขึ้นมา
ชั่วขณะนั้นนักพรตชราพลันหนาเปลี่ยนสี หยุดชะงักคำพูดไป
ทันใดนั้นชองวางมิติทั้งหมดของชั้นแปดก็สั่นไหว เสียงอึกทึกดังขึ้น พื้นดินคอยๆ
ปริแยกออก ชองวางมิติเปลงแสงสีขาวสวางวาบ ทุกอยางพลันบิดเบี้ยว
“แยแลว! บรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณผูนั้นกำลังเปดผนึกของชั้นเกา! มันทำได
อยางไร เปนไปไมได!” อรหันตชีเมี่ยวเห็นภาพฉากนั้น กลับรองอุทานดวยน้ำเสียง
แหบแหงออกมา ใบหนาเผยความหวาดกลัวออกมาเชนกัน
ผนึกของชั้นเกา?
หานลี่ไดยินคำนี้พลันตกตะลึง แตเมื่อเห็นวาทั้งชองวางมิติดูเหมือนวาจะพังทลายลง
ลำแสงวิ ญ ญาณบนร างก็ ส ว างวาบอย า งไม ต อ งคิ ด โล ร ชตะพุ ง ออกมาจากฝ า มื อ
กลายเปนลำแสงเกราะปองกันสีเงินชั้นหนึ่ง หอหุมรางของเขาเอาไว
แตไมรอใหเขาไดทำอะไรอีก เสาลำแสงสิบกวาตนที่พุงออกมาทางวิหาร ก็เปลี่ยนสี
กลายเปนสีดำสนิทราวกับน้ำหมึก จากนั้นเสาลำแสงก็ขยายใหญขึ้นและเปลี่ยนรูปราง
คาดไม ถึ ง ว า จะบิ ด เบี้ ย วและพุ ง ตั ว ออกไปทั่ ว ทุ ก สารทิ ศ ทุ ก แห ง ที่ มั น พุ ง ผ า นไป
ชองวางมิติตางถูกฉีกขาด ลำแสงสีขาวและลำแสงสีดำตางพั วพั น เขาดวยกันขณะ
เปลงแสงแปลบปลาบ
“ชองวางมิติฉีกขาด!”
เมื่อเห็นเหตุการณ นี้ หานลี่ก็รักษาความเยือกเย็น เอาไวไมไดอีก ใบหน าพลัน
เปลี่ยนสี
ทันใดนั้นก็พลิกฝามืออยางไมตองคิด ยันตวิเศษสีแดงเพลิงใบหนึ่งปรากฏขึ้นบนฝามือ
ตบไปบนเรือนราง เงามังกรวารีสีแดงสดปรากฏขึ้นบนราง และสลายหายไป
หานลี่กลายเปนครึ่งคนครึ่งมังกรวารีภายในชั่วพริบตา!
และในตอนนั้นเอง ทามกลางเสียงรองดวยความตกใจของหลินอิ๋นผิง ชั่วพริบตา
รอยแยกสีดำสายหนึ่งก็มาอยูเบื้องหนาของทุกคน
หานลี่รูสึกเพียงวาลำแสงสีดำเปลงแสงสวางวาบ ความมืดมิดอันไรที่สิ้นสุดพลัน
กลืนกินพวกเขาเขาไปอยางไมมีทางหลบเลี่ยงได
ตอนที่ 1056 ชั้นที่เกา
หานลี่ที่เคยผานการกลืนกินของชองวางมิติที่ฉีกขาดมาแลวครั้งหนึ่ง ถึงแมวา
จิ ต ใจจะยั ง คงหวาดกลั ว แต ก ลั บ ไม ได ล นลาน เขาที่ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพของยั น ต ล ด
วิญ ญาณคอยช วย ลมปราณจึงอยูในระดั บ ปลายสุ ด ของระดั บ ก อ กำเนิ ด ขั้ น กลาง
ทันใดนั้นก็ใสลมปราณเขาไปในโลรชตะอยางบาคลั่ง กลายเปนลำแสงสีเงินที่เจิดจา
กลุมหนึ่ง
รอยแยกใหญ ขนาดนี้ ขอแคไมสัมผัสกับขอบของมัน จากพลังของโลรชตะ ก็
นาจะไมเกิดปญหาอะไร
หานลี่เองก็ทำไดเพียงขบคิดเชนนี้ดวยความกระวนกระวายใจ
ชั่วพริบ ตาที่ อ ยูท ามกลางความมื ดมิ ด หลั งจากที่ ห ายจากอาการวิงเวีย นแล ว
ดวงตาทั้งสองขางของเขาพลันเปลงประกาย ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ
โชคดีที่หานลี่เคยมีประสบการณมาแลวครั้งหนึ่ง จึงไดสติกลับมาในชั่วพริบตา
รีบรอนมองไปทางดานลางดวยความระมัดระวังตัว ผลลัพธกลับทำใหเขาตกตะลึง
“ชั้นเกา!” หานลี่แทบจะไมตองขบคิด ก็เอยพึมพำออกมาในทันที
เห็นไดชัดวาดานในคือชองวางมิติที่เปนอิสระอีกแหงหนึ่ง ตรงกลางมีที่กวางโลง
ขนาดสองสามลี้อยู รอบดานเปลงแสงสีเหลือง ไอหมอกหมุนวนเปนเกลียว ทำใหที่นี่ดู
ขมุกขมัว และไมรูวาจริงๆ แลวกวางเทาใดกันแน
ดานลางของเขา กลับมีแทนบูชาขนาดยักษสูงรอยกวาจั้ง ดานลางกวางดานบนแคบ
เปนรูปสี่เหลี่ยมคางหมู แกะสลักขึ้นจากหยกงามสีขาวบริสุทธิ์ ดูวิจิตรตระการตาเปน
อยางมาก
รอบดานมีเสาหินสูงใหญที่กอตัวกันขึ้นเปนเขตอาคมขนาดยักษลอมแทนบูชา
เอาไว บนเสาหินทุกตนเปลงแสงสวางวาบ คาดไมถึงวาจะดูเหมือนวาถูกอะไรสักอยาง
กระตุนอยู สวนยอดของแทนบูชา มีหมาปายักษสองหัวขนาดเทาภูเขาขนาดยอมตัว
หนึ่งยืนอยู หัวหมาปาสีดำหัวหนึ่งพนไอสีดำที่ไรขอบเขตออกมาใสคูตอสูจำนวนนับไม
ถวนที่ลอยอยูใกลๆ กำลังคุมเชิงกันอยูอยางดุเดือด
คูตอสูที่กลาวถึง นั่นก็คือกลุมผูบำเพ็ญเพียรและเหลาปศาจที่หายตัวไปจากชั้นแปด
ไมเพียงปศาจหลงเมิ่งที่สิงอยูในรางของฮัวเทียนฉีกำลังรายระบำเพลงมวยอยูตรง
นั้น มือยักษสีขาวโพลนขางหนึ่ง ก็ยังทุบลงมาที่ไอสีดำอยางรุนแรง ซากหมีหมื่นป
ยั ก ษ ป ก เงิ น และพวกต า งก็ ยื น อยู ที่ นั่ น ผู เดี ย วที่ ยั ง ไม เห็ น เงามี เพี ย งอาวุ โ สของ
ตระกูลเยี่ยและคนประหลาด ไมรูวาพวกเขาเพลี่ยงพล้ำไปแลว หรือวาไมไดอยูใน
ชองวางมิตินี้กันแน ทวาสิ่งที่ทำให ห านลี่ตกตะลึงก็คือ ดานขางหมาป ายักษ ยังมีผู
บำเพ็ญเพียรอยูอีกคนหนึ่ง กำลังกระตุนกระสวยสีเงินที่เปลงแสงวิญญาณสวางวาบ
ชวยหมาปายักษอยู คนผูนี้คาดไมถึงวาจะเปนสตรีผูงดงามของพรรคแปลงเซียน
เวลานี้ใบหนาของนางมีไอสีดำหอหุมอยู แววตาแข็งทื่อ ควบคุมสมบัติตอสูกับฮูหยินมู
ที่กำลังโกรธเกรี้ยวอยางสุดๆ อยู ราวกับวาถูกสะกดจิตอยางไรอยางนั้น
สวนคนอื่นๆ ตางก็สำแดงความสามารถของตัวเองออกมา พยายามโจมตีไปยัง
หมาปายักษเบื้องหนา สวนเหนือหมาปายักษก็มีพายุสีเหลืองหมุนติ้วๆ มังกรวารีสีดำ
สนิทตัวหนึ่งซอนอยูในนั้น ปากก็พนพายุสีดำออกมา ตอกรกับดอกบัวยักษสีเงินและ
เงาอสูรลวงตาทั้งแปดเอาไว
ดอกบั ว สี เงิน ลอยอยู ก ลางอากาศไม ข ยั บ เขยื้ อ น มั น เปล ง แสงเจิ ด จ าออกมา
อักขระพระพุทธลอยลงไปดานลางอยางตอเนื่อง ทุกตัวอักษรมีขนาดเทาฝามือ ปะทะ
กับ พายุ สี ด ำที่ มั งกรวารีพ น ออกมา หลั งจากเกิ ด เสี ย งดั งสนั่ น ขึ้ น ก็ ระเบิ ด ออกโดย
อัตโนมัติ ทำใหพายุสีดำที่ดูนากลัวสลายหายไป
ธงพายุทมิฬ ไมแปดวิญญาณ!
หานลี่มองไปปราดเดียวก็รูจักสมบัติสะทานฟาสองชิ้นนี้ ในเวลาเดียวกันก็รูสึกตก
ตะลึงกับสถานการณของสตรีพรรคแปลงเซียนทั้งสองเปนอยางมาก
เดิมทีกุยหลิงเคยรายงานกับเขากอนหนานี้แลววา สตรีทั้งสองดูเหมือนวาจะวาง
เขตอาคมอะไรสักอยางไวใตดิน และวางแผนจะทำอะไรสักอยาง แตตอนแรกถาหาก
ไมใชเพราะเขาอยากรีบออกไปจากเขตอาคมสงตัวสีดำ คงตองแอบไปดูแนวานางทำ
อะไรกั น แน แต ต อนนี้ เหตุ ใดสตรี ค นหนึ่ งกลั บ ถู ก บรรพชนศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ม ารโบราณ
ควบคุมจิตใจเชนนี้
สิ่งที่ทำใหหานลี่ตกตะลึงมากกวาเดิมก็คือ ตอนนี้ห มาป ายักษ เผชิญ กับคูตอสู
จำนวนมากขนาดนี้ คาดไมถึงวาจะยังเปนฝายไดเปรียบ บีบใหอีกฝายถอยรนไป ไม
อาจเขาใกลแทนบูชาไดเลยแมแตนอย
ปากของหมาปายักษตัวนั้นพนไอสีดำออกมา มันเปลงแสงสีดำเปนมันวาว ราว
กับของเหลวอยางไรอยางนั้น
นอกจากมีดโลหิตที่กลายเปนลำแสงโลหิตในมือของซากหมีหมื่นป ที่สับลงมา
อยางมั่วซั่วทามกลางไอสีดำแลว คนและปศาจตนอื่นๆ คาดไมถึงวาจะนำสมบัติมา
ปกปองตนเองทั้งหมด ไมกลาเขาใกลเลยแมแตนอย ยิ่งไมกลาปลอยใหไอสีดำเขามา
โจมตี ทำไดอาศัยเคล็ดวิชาตางๆ และใชการโจมตีระยะไกลเขาปะทะกับไอสีดำ ทำให
มันแตกสลายไปไมหยุดก็เทานั้น
เชนนั้น พวกเขาจึงไมอาจทำอะไรได และไดแตตกเปนรอง
ถาหากไมใชเพราะ ‘ฮัวเทียนฉี’ และซากหมีรับการโจมตีกวาครึ่งของหมาปายักษ
เอาไว ไมแปดวิญญาณที่กลายเปนดอกบัวสีเงินกลางอากาศก็ดึงดูดความสนใจของ
หมาปายักษเอาไวไมนอย บางครั้งหมาปายักษก็จำตองพนไอสีดำกลุมหนึ่งออกมา
ประคับประคองมังกรสีดำเอาไว เกรงวาคนและปศาจกลุมนี้คงไมอาจตานทานได
ถึงอยางไรเสียเสนไหมวิญญาณทมิฬของยักษปกเงินและคลื่นสีทองที่อสูรวิหคราชสีห
พนออกมา ก็ดูเหมือนวาจะไมอาจทำอะไรไอมารสีดำนี้ไดเลยสักนิด
ทวาแววตาหานลี่พลันเปลงประกาย เขาพบความผิดปกติเขาแลว
หัวหมาปาหัวที่สองดูเหมือนวาจะไมอาจอยูหางจากแทนบูชา หรือลอยขึ้นมา
โจมตีบนฟาได ทำไดเพียงยืนอยูที่สวนยอดของแทนบูชาไมหางออกไปไหน นี่จึงทำให
หานลี่อดที่จะรูสึกแปลกใจไมได
ในตอนนั้นเอง เสียงโกรธเกรี้ยวและตกตะลึงก็ดังออกมาจากจุดที่หางออกไปไมไกลนัก
“แยแลว ผนึกถูกเปดแลวดังคาด มารโบราณตนนี้มียุทธภัณ ฑที่ใชเปดผนึกได
อยางไร”
หานลี่พลันตกตะลึง มองไปทางตนเสียง
เห็นเพียงดานขางหางออกไปยี่สิบกวาจั้ง เสวียนชิงจื่อจองเขม็งไปบนแทนบูชา
พลางรอนอุทานออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหง อรหันตชีเมี่ยวที่อยูดานขาง ตางก็มีสี
หนาเขียวคล้ำเชนกัน
หานลี่ถึงไดพบวา ไมใชแคสองคนนี้ หลินอิ๋นผิง นกยูงแรดวิญญาณ กุยหลิง และ
หุนเชิดรางมนุษยตางปรากฏตัวใกลบางไกลบางในพื้นที่มิติของชั้นเกาเชนกัน ตางก็ไม
มีทาทีวาไดรับบาดเจ็บใดๆ
ดูแลวการฉีกขาดของชองวางมิติเมื่อครู คาดไมถึงจะไมใชอุบัติเหตุ แตเปนเพราะ
ไปสัมผัสกับเขตอาคมเขา จึงทำใหทุกคนถูกสงตัวมาที่ชั้นนี้
ทวา ใบหนาของหลินอิ๋นผิงนั้นซีดขาว ดูแลวการเปลี่ยนแปลงเมื่อครู จะทำให
สตรีผูนี้ตกตะลึงไมนอย
สายตาของหานลี่แคกวาดผานไป ทันใดนั้นก็ตกลงบนรางของเสวียนชิงจื่อและ
พวกทั้งสองที่อยูบนแทนบูชา
หลังจากพิจารณาอยางละเอียดชั่วครู หานลี่ก็อดที่จะรองอุทานออกมาเบาๆ ไมได
ดานหลังหมาปายักษตัวนั้นคาดไมถึงวาจะมีแผนปายหินสูงสองสามจั้งอยูสองแผน
เปนสีเทาตุนๆ ไมสะดุดตาเลยสักนิด แตเมื่อหานลี่เห็นปายหินทั้งสอง กลับเผยสีหนา
ตกตะลึงออกมา ความรูสึกคุนเคยทะลักเขามา
ทันใดนั้นคำวา ‘หยกออนเพรียกวิญญาณ’ วัตถุดิบล้ำคาที่หายากก็แวบเขามาในหัว
ตอนที่อยูในแหลงกำเนิดไอมารหมื่นจั้งของเทียนหนาน เขาก็เคยพบปายหินประเภทนี้
แลว แตแคแผนปายหินที่เห็นในวันนั้น แตกละเอียดเปนชิ้นๆ แลวเทานั้น แตสองแผน
นี้กลับยังคงสมบูรณ แผนปายแผนหนึ่งยังมีตราประทับสีเขียวมรกตชิ้นหนึ่งฝงอยูใน
นั้น ทำใหแผนปายหินเปลงแสงสีดำจางๆ ออกมา ลอยพลิ้วไหวไปมาไมหยุด
หานลี่หนาเปลี่ยนสี พบวาลำแสงวิญญาณที่แผออกมาจากแผนปายหินนี้กำลัง
ตอบสนองกับเขตอาคมที่อยูรอบๆ เขตอาคมของแทนบูชา ราวกับวาเปนศูนยกลาง
ของเขตอาคมนี้อยางไรอยางนั้น สวนหมาปายักษตัวนั้นก็ดูเหมือนวาจะกำลังปกปอง
แผนปายหินแผนนั้น ถึงไดไมยอมออกหางจากแทนบูชา
หานลี่มองไปที่แผนปายหินดวยความตกตะลึง ในหัวเกิดความรูสึกสับสนเล็กนอย
“เสวียนชิงจื่อ พี่ชีเมี่ยว พวกเจามาก็ดีแลว บรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณตนนี้กำลัง
กำจัดเขตอาคมที่ใชผนึกแทนบูชาอยู และใตแทนบูชาก็ดูเหมือนวาจะมีอะไรสักอยาง
อยู ถึงแมจะไมรูวาคือสิ่งใด แตไมอาจปลอยใหมารตนนั้นสมปรารถนาแน” ฮูหยินมู
เห็นเสวียนชิงจื่อและพวกปรากฏตัว ชั่วขณะนั้นก็รองอุทานออกมาดวยความดีอกดีใจ
“ขาเห็นแลว สหายเสวียนชิง พวกเรารีบลงมือเถิด ดูเหมือนวาสถานการณจะไม
คอยดีนัก” อรหันตชีเมี่ยวมีสีหนาเครงขรึมดุจสายธาร หลังจากรองเรียกเสวียนชิงจื่อ
ก็สะบัดแขนเสื้อทันที
ชั่วขณะนั้นลำแสงตางๆ พลันสวางวาบ คาดไมถึงวาสมบัติทั้งเจ็ดชิ้นจะพุงออกไป
พรอมกัน แยกออกเปน ดาบ กระบี่ ไขมุก กระจก และสมบัติตางๆ กระจกสัมฤทธิ์
หนึ่งในนั้น คือกระจกเสียงกังวานที่หลินอิ๋นผิงเคยยืมมาใชครั้งหนึ่ง
พวกมันคือเจ็ดสมบัติที่มีอานุภาพสะทานสะเทือนตาจิ้นของนักกวีวัยกลางคน
กลายเปนลำแสงประหลาดเจ็ดกลุม พุงลงไปหาหมาปายักษดานลาง
เสวียนชิงจื่อถอนหายออกมา และไมกลาลังเลมือขางหนึ่งลวงเขาไปในแขนเสื้อ
คาดไมถึงวาจะชักกระบี่โบราณสีเหลืองเลมหนึ่งออกมา
เมื่อดึงกระบี่ออกจากฟก ดูเหมือนวาจะมืดสลัวไรสีสัน ราวกับเกาคร่ำครึอยางสุดๆ
แตเมื่อนักพรตชราอาปากออก พนโลหิตบริสุทธิ์ใสตัวกระบี่แลว ชั่วขณะนั้นกระบี่เลม
นั้นก็ดูเหมือนวาจะฟนคืนชีพขึ้นมา
เสียงคำรามของมังกรดังขึ้น ตัวกระบี่เปลงแสงเจิดจาจนแสบตาออกมา
มื อ หนึ่ งของนั ก พรตชราพลั น รายอาคม นิ้ ว สองนิ้ วชี้ ไปที่ ตั วกระบี่ โบกสะบั ด
รองรับอยูดานลางอยางแมนยำ ไอกระบี่หนาแนนยาวสิบกวาจั้ง พุงออกมาจากตัว
กระบี่โบราณ ราวกับการยกกระบี่เทพสวรรคขึ้นอยางไรอยางนั้น จากนั้นก็ฟนลงมา
ดานลางอยางรุนแรง
ไอกระบี่สีเหลืองหนาเทาปากชามยังไมทันตกลงมา เสียงฟาผาก็ดังสนั่นขึ้น ทุก
แหงที่กวาดผานไปแมแตอากาศก็ยังดูเหมือนวาจะถูกแบงออกเปนสองสวน ตวัดจน
กลายเปนรอยกระบี่สีขาวยาวๆ สายหนึ่ง
แน น อนวาตั้งแตที่ ห านลี่และพวกราปรากฏตั ว บรรพชนศั กดิ์สิท ธิ์ห ยวนซาที่
กลายเปนหมาปายักษ ก็มองเห็นพวกเขาตั้งนานแลว
เมื่อเห็นภาพฉากที่นาตกตะลึงเชนนี้ แววตาของหัวหมาปาก็ฉายแววเฉียบขาด
ออกมา ทันใดนั้นรางกายพลันสั่นเทิ้ม ไอสีดำชั้นหนึ่งแผออกมาจากเทาทั้งสี่ที่ยืนอยู
บนแทนบูชา สวางวาบแลวหายเขาไปในรางกายอยางไรรองรอย และแทบจะในเวลา
เดียวกันนั้น หมาปาตัวนั้นพลันอาปากออก ไอสีดำที่หนาแนนราวกับของเหลว ก็พวย
พุงขึ้นไปบนทองฟา
“ระวัง ไอมารนี้รายกาจนัก หามสัมผัสกับสมบัติประจำกายโดยเด็ดขาด มิเชนนั้น
จะถูกมารตนนั้นครอบงำจนไรประสิทธิภาพ” ฮูหยินมูตะโกนเตือนสติ
เวลานี้ ลำแสงประหลาดเจ็ดกลุมและไอกระบี่ยักษตางก็พุงเขาไปหาไอมารแลว
นักกวีวัยกลางคนไดยินคำนี้ พลันหนาเปลี่ยนสี ตะปบมือไปทางสมบัติของตนเอง
กลางอากาศอยางไมตองคิด
ชั่วขณะนั้นลำแสงประหลาดทั้งเจ็ด พลันหยุดชะงักอยูที่เดิมกอนที่จะสัมผัสเปาหมาย
จากนั้นก็รวมตัวกัน ปลอยลำแสงหลากสีออกมา แลวพุงเขาไปมวนรอบไอมารอีกครั้ง
แตในเวลานั้น ไอกระบี่ยักษก็ฟนลงไปบนไอมารกอนเสียแลว
ไอกระบี่และไอสีดำพัวพันเขาดวยกัน เกิดเปนเสียงสั่นสะเทือนฟาดินออกมา ลำแสงสี
เหลืองจำนวนนับไมถวนปริแตกทามกลางไอสีดำและพุงออกไป ทะลุผานไอมารสีดำ
จนกลายเปนรูพรุนนับรอยนับพัน จากนั้นลำแสงวิญญาณทั้งเจ็ดของอรหันตชีเมี่ยวก็
มวนเขามาเชนกัน ราวกับชั่วพริบตาก็โจมตีจนทำใหไอมารกลุมนั้นแหลกสลายไปได
จากนั้นก็พุงไปหาหมาปายักษ
แตเสียง ‘ฟูๆ’ พลันดังขึ้น หัวที่สองของหมาปายักษที่อยูดานลางพลันพนไอสีดำ
ออกมาอยางตอเนื่อง
ชั่วขณะนั้นไอมารสีดำสนิทพลันหมุนติ้วเปนเกลียว กลืนกินลำแสงสีเหลืองไปทั้งหมด
ลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง แลวหายวับไป อยางเงียบเชียบ
นักพรตชราที่อยูกลางอากาศเห็นเชนนั้น พลันใจหายวาบ รีบรอนใชมือหนึ่งรายอาคม
กระตุนไอกระบี่ที่อยูดานลาง แตก็ไมมีปฏิกิริยาตอบสนองเลยสักนิด คาดไมถึงวาจะดู
เหมือนกับหายวับไปกลางอากาศ
เวลานี้ นักพรตชราพลันหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
ในตอนนั้นเอง ไอสีดำดานลางก็ทะลักออกมาแลวพุงเขาไปหาทุกคนที่อยูกลาง
อากาศอยางไมเกรงใจเลยแมแตนอย ปกคลุมเต็มทองฟา ทาทางยิ่งใหญ และดุดัน
แมแตหานลี่และพวกก็ยังไดรับการโจมตีนี้เชนกัน
อรหันตชีเมี่ยวเห็นสถานการไมดี พลันรีบรอนรายอาคม ดึงสมบัติทั้งเจ็ดกลับมา
กระบี่โบราณในมือของเสวียนชิงจื่อกลับสับลงไปแลวสองสามครั้ง
ในที่สุดหยุดอยูทามกลางลำแสงสีเหลือง ชั่วขณะนั้นพลันตานทานไอมารที่ทะลัก
มาเบื้องหนาเอาไวได แตทันใดนั้นเขาก็หันไปเอยกับนักกวีอยางเครงขรึมวา
“พี่ชีเมี่ยว ดูแลวสมบัติธรรมดาคงไมอาจตอกรกับมารตนนี้ได รีบใชสมบัติวิเศษ
ชิ้ น นั้ น เถิ ด การเป ด ผนึ ก นี้ ดู เหมื อ นว า จะต อ งใช เวลา ไม อ าจล า ช า ได อาตมาจะ
คุมครองสหายให!”
“เขาใจแลว รบกวนพี่เสวียนชิงแลว” อรหันตชีเมี่ยวเองก็ไมไดลังเลแมแตนอย
ทันใดนั้นพลันพยักหนาตอบรับ จากนั้นมือหนึ่งพลันตบไปที่ยามเก็บของ ชั่วขณะนั้น
ลำแสงสีขาวพลันสวางวาบ แหวนกลมๆ สีเขียวมรกตขนาดเทาฝามือสองสามวงพลัน
ปรากฏขึ้นในมือ
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น หานลี่ก็ปลอยกระบี่บินสีทองหลายสิบเลมที่กลายเปนเงา
กระบี่ออกมา ไมรอใหไอมารเขาใกลประจุไฟฟาสีทองก็เปลงแสงสวางวาบ เสียงฟาผา
ดังขึ้น โจมตีไอมารทั้งหมดจนแหลกสลายหายไป
ตอนที่ 1057 กักมาร
กุยหลิงถือขวานยักษสีเงินเอาไวในมือ ดานบนมีเงาพยัคฆประหลาดๆ ปรากฏขึ้น
ปากก็พ นหมอกประหลาดสีเหลืองออกมา แตก็ยังพอฝน ต านทานไอสีดำเอาไวได
ทางดานหลินอิ๋นผิงและชายหนุมแซสวีที่ สิงอยูในรางของนกยูงแรดวิญ ญาณนั้ น มี
ลำแสงหาสีปกคลุมอยู ก็พอจะรักษาชีวิตตัวเองเอาไวไดเชนกัน
หานลี่แคกวาดสายตามองคนเหลานี้ แลวขมวดคิ้วมองไปทางไมแปดวิญ ญาณ
และธงวายุทมิฬที่อยูบนทองฟา
สมบัติวิญญาณสองชิ้นนี้ อันหนึ่งถูกมารควบคุมอยูชั่วคราว อีกอันหนึ่งไรซึ่งผูเปนนาย
ตางก็ไมมีทางกระตุนอานุภาพที่แทจริงของมันได แตดวยเหตุนี้ ระหวางดอกบัวสีเงิน
ขนาดสองสามจั้งและอสรพิษสีดำที่ดูเหมือนมังกรวารีก็มิปานตัวนั้น ทามกลางเขต
อาคมวายุ ท มิ ฬ อั ก ขระสี เ งิ น ซึ่ ง กำลั ง พลิ้ ว ไหว ทั้ ง สองกลั บ ต อ สู กั น ได อ ย า ง
พอฟดพอเหวี่ยงพอดิบพอดี
ทวาสมบัติวิญญาณสองชิ้นนี้ก็ลอยอยูกลางอากาศดวยความสะดุดตาเชนกัน ตอ
ใหหานลี่เตรียมพรอมรบเพียงใด กลับทำไดเพียงมองแตไมอาจแตะตอง ไมตองพูดถึง
รางแปลงหมาปายักษของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณเลย ตอใหเปนคนอื่นก็ไมมี
ทางนั่งมองแลวปลอยใหเขาแยงชิงสมบัติไปแน
หลังจากที่บรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณหลุดจากพันธนาการแลว และเมื่อพบวา
ความสามารถของเขาไมอาจตานทานนางได ทันใดนั้นหานลี่ก็คิดจะใชลำแสงหลีกหนี
หลบออกไปให ไกลจากที่ แ ห งนี้ แต ที่ นี่ ก ลั บ ถู ก ผนึ กเอาไวเสี ย ก อ น เวลานี้ จึ งไรซึ่ ง
หนทางหนี
เชนนั้น หานลี่จึงทำไดเพียงทำใจดีสูเสื้อ พยายามหลบเลี่ยงไมใหตนเองถูกเหมา
รวมเขาไปในสงครามนี้ก็เทานั้น
เชนนั้นถึงแมวาหานลี่จะรูสึกวาการใชอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายตอกรกับไอมาร
ประหลาด ก็ยังคงไดผลลัพธที่ดี แตก็แคเอามาปกปองรางกายไวเทานั้น ไมยอมลงแรง
บุกเขาไปแบบโงเขลาหรือออกรับหนาเปนแน หากถูกบรรพชนมารโบราณจับจอง
ขึ้นมา แลวพุงเปาหมายมาที่ตัวเขา เขาจะไมซวยหรือ
และยิ่งไปกวานั้น ตอใหบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณหลุดออกจากพันธนการได
จริงๆ ผู ที่ โชครายก็ ค วรจะเป น โลกของผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รต าจิ้ น เขาไม คิ ด จะไปเสี่ ย ง
อันตรายอะไรแทนผูบำเพ็ญเพียรของตาจิ้นหรอก
แมหานลี่ขบคิดเชนนี้ แตจิตสัมผัสกลับคอยๆ แผออกไปสำรวจแทนบูชาอยางเงียบๆ
ผลลัพธที่เกิดขึ้นกลับเปนเรื่องที่คาดไมถึง เมื่อจิตสัมผัสกวาดไปที่ผิวของแทนบูชา
ก็ถูกพลังแรงดีดประหลาดขุมหนึ่งดีดกลับมา ไมมีทางเขาไปสำรวจในแทนบูชาไดเลย
แมแตนอย
หานลี่ลอบถอนหายใจ กวาดจิตสัมผัสไปที่ดานลางของแทนบูชา แตกลับไมถูกดีด
ออกมาเลยแมแตนอย
เมื่อสำรวจลึกลงไปในดินใตแทนบูชารอยจั้ง คาดไมถึงวาเขาจะสัมผัสไดถึงกอน
กลมสีทองขนาดสองสามฉื่อกอนหนึ่ง มันคือแมลงกลืนทองที่เขาแอบปลอยออกไปใน
ตอนแรกฝูงนั้น
แมลงวิญญาณเหลานี้ คาดไมถึงวาจะมาถึงชั้นที่เกาแลวเชนกัน
ตอนแรกที่เขาปลอยแมลงวิญญาณเหลานี้ไปนั้น ไดใชมันเพื่อตามหาจุดที่ออนแอ
ของกำแพงกั้นระหวางมิติในชั้นที่แปดวามีหรือไม แตเปนเพราะเขตอาคมสงตัวสีดำ
ปรากฏขึ้น จึงไมไดติดตอกับแมลงวิญญาณเหลานี้ ตอนนี้ดูแลว พวกมันคงถูกสงตัวมา
ที่ชั้นเกาในชั่วพริบตาเดียวกับที่ชองวางมิติฉีกขาด
อาจจะเปนเพราะวาเดิมที่แมลงกลืนทองเหลานี้ก็อยูตรงใตดินของชั้นแปด เมื่อ
ถูกสงออกมา จึงเขามาอยูในใตดินของแทนบูชาชั้นเกาอยางเงียบเชียบ และทำใหคน
อื่นๆ ไมรูตัว
หานลี่มองเสาหินขนาดยักษที่เปลงประกายวิบวับรอบแท น บู ชา ทั น ใดนั้นจิต
สั ม ผั ส พลั น เคลื่ อ นไหว หลั ง จากลั ง เลเล็ ก น อ ย ก็ ยั ง ออกคำสั่ ง กั บ แมลงกลื น ทอง
เหลานั้นเงียบๆ
ชั่ ว ขณะนั้ น ก อ นกลมสี ท องพลั น เปล งแสงสว างวาบ มั น แตกตั ว ออกจากการ
กลายเปนแมลงกลืนทองนับพันตัวที่แยกตัวออกจากกัน
สวนซากหมีหมื่นป ‘ฮัวเทียนฉี’ และคนอื่นๆ ที่อยูบนพื้นดินนั้น เห็นไดชัดวาไม
คิดยืนกรานทำเรื่องเชนนี้ตอไป บางครั้งก็มีคนพุงเขาไปหาเสาหินยักษที่อยูไกลออกไป
โจมตีอยางรุนแรงไปสองสามครั้ง คิดจะทลายเขตอาคมแหงนี้ แตนอกจากมีดโลหิต
ของซากหมีที่บางครั้งก็สรางรอยแผลตื้นๆ ไดสักรอยสองรอยแลว การโจมตีที่เหลือที่
โจมตีไปยังเสาหิน ก็ไมทำใหเกิดความเสียหายเลยแมแตนอย
แมแต กำปนสีขาวนวลที่ดูนาเกรงขามของ ‘ฮัวเทียนฉี’ ก็ทำไดเพียงทำใหเสาหิน
เหลานี้สั่นไหวเพียงเล็กนอยเทานั้น
และไมรูวาเสาหินเหลานี้ใชวัตถุดิบชนิดไดหลอมขึ้น คาดไมถึงวาจะแข็งแกรง
ทนทานขนาดนี้
แนนอนวาถาหากซากหมีหรือวาชายาปศาจหลงเมิ่งซึ่งสิงรางฮัวเทียนฉีอยูนั้นมี
เวลาคอยๆ จัดการกับเสาหินเหลานี้ ก็ไมใชวาจะไมมีทางทลายมันลงได
แตสิ่งที่สำคัญก็คือ ทุกครั้งที่หนึ่งในพวกเขาคิดจะถอย หมาปายักษสองหัวก็จะพนไอสี
ดำออกมาเต็มกำลังอยางไมเกรงใจ เมื่อปะทะเขากับไอมาร ที่มวนเอาผูคนที่อยูหาง
จากแทนบูชาเขามา ก็ทำใหพวกเขาตกตะลึง จนจำใจตองกลับมาตอกรกับไอมารเต็ม
กำลังอีกครั้ง
ไมมีทางถอยหนีออกไปได!
หานลี่ ที่ ต อ กรกั บ การโจมตี ข องไอมารอย างไม ใส ใจไปพลาง สายตาก็ ม องไป
ทางซายทีขวาทีไมหยุด ดูเหมือนวาจะกำลังหาหนทางเอาตัวรอด
เวลานี้อรหันตชีเมี่ยวก็ปลอยแหวนทรงกลมสีเขียวมรกตหาวงออกไปกลางอากาศ
โดยมีเสวียนชิงจื่อเปนผูคุมกัน
นักกวีรายคาถาออกมาไมหยุด ดีดนิ้วทั้งสิบไปมา อาคมสายแลวสายเลาโจมตีไป
ยังวงแหวน วงแหวนทั้งหาเปลงเสียงกรีดรองประหลาดๆ ดังบางเบาบางออกมา ใน
เวลาเดียวกันลำแสงก็สวางวาบและสั่นเทานอยๆ
หลังจากที่หมาปายักษสองหัวพนไอมารกลุมใหญออกมาพัวพันกับทุกคนที่อยู
กลางอากาศอีกครั้ง สายตาที่แตเดิมชักกลับมาแลว ก็จองเขม็งไปยัง ‘ฮัวเทียนฉี’ และ
ซากหมีหมื่นปที่อยูใกลกับแทนบูชาอีกครั้ง
ในสายตาของมารตนนี้ สองคนนี้ถึงจะเปนศัตรูตัวฉกาจอยางแทจริง
‘ฮัวเทียนฉี’ นั้นไมตองพูดถึง ชายาปศาจหลงเมิ่งและมันตอสูแยงชิงรางหมาปาสีเงิน
กันมาเนิ่นนานขนาดนี้ ตางก็รูจักกันดีอยูแลว แนนอนวาจึงหวาดกลัวเปนพิเศษ
สวนผูที่อยูๆ เพิ่งมาปรากฏตัวและลอบโจมตีมันอยางซากหมีนั้น ถึงแมวาลมปราณจะ
อยูแคระดับกอกำเนิดขั้นปลาย แตมีดโลหิตเลมนั้นที่อยูในมือกลับนากลัวอยางสุดๆ
ไมเพียงจะไมกลัวไอมารของมัน คาดไมถึงวาจะยังแฝงพลังที่เหนือกวาเอาไว
ถาหากไมใชวาพลังยุทธของซากหมีตนนี้ยังหางชั้นกับรางของหมาปาสีเงินอยูมากโข
เกรงวาอาศัยแคพลังของปศาจตนนี้ ก็อาจจะทำลายไอมารลงได
นี่จะไมทำใหรางแยกบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณผูนี้ใหความสนใจไดอยางไร
ความจริงแลวถาหากไมใชเพราะตอนที่อยูที่ชั้นแปด มันสำแดงความสามารถ
สะกดจิตออกไปควบคุมมนุษยผูบำเพ็ญเพียรหญิงผูนั้นอยางไมไดตั้งใจ และไดรับตรา
ประทับมังกรแปลงที่ใชควบคุมเขตอาคมของแทนบูชาชั้นเกามาไดดวยความบังเอิญ
มันก็คงไมมาปรากฏตัวที่ชั้นเกา และขบคิดเอาไวตั้งนานแลววากอนที่ไอมารจะหมด
ลง มันจะหนีออกไปจากปอมปราการมารแหงนี้
แตตอนนี้มันเปดผนึกของแทนบูชาออก ถึงแมวาจะไมสำเร็จทั้งหมด เปดออกได
แคนิดหนอยเทานั้น แตขอแคเทาทั้งสี่ไมออกหางจากแทนบูชา ก็จะมีไอมารโบราณไม
จำกัด ไมเพียงจะตอกรกับผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้ไดอยางเหนือกวา แมกระทั่งปราณ
มารที่แตเดิมเกือบหมดลงแลวก็คอยๆ ฟนฟูกลับมา
เชนนั้น มารตนนี้จึงยิ่งไมยอมเสี่ยงอันตราย แคตอสูอยางใจเย็น รอใหผนึกเปด
ออกอยางเงียบๆ
ทวา เมื่อลำแสงสีเขียวบนทองฟาเริ่มแผขยายออกมา หมาปาตัวนี้กลับสัมผัสได
ถึงพลังลมปราณอันนากลัวที่คุนเคย จึงอดที่จะเงยหนาขึ้นดวยความตกตะลึงไมได
“แหวนกักมาร”
เมื่อหมาปายักษตนนั้นเห็นวงแหวนสีเขียวมรกตห าวงบนท องฟ าอยางชัดเจน
ดวงตาทั้งสองก็ฉายแววหวาดกลัว หัวหมาปาสีดำเปลงเสียงรองคำรามสะเทือนฟา
สะเทือนดินออกมาในเวลาเดียวกัน อาปากออกกวาง ดูเหมือนวาคิดจะพนลำแสงสีดำ
ออกมาจากปากอีกครั้ง
แตในตอนนั้นเอง อรหันตชีเมี่ยวที่อยูบนทองฟาก็สำแดงความสามารถเสร็จสิ้น
มือหนึ่งชี้ไปที่แหวนสีเขียวมรกตวงหนึ่ง พนคำวา “กัก” ออกมาดวยสีหนาเครงขรึม
น้ำเสียงไมดังนัก แตวงแหวนสีเขียวมรกตนั้นพลันระเบิดลำแสงที่บาดตาออกมา
ในทันที พลิ้วไหวแลวหายวับไปจากบนทองฟา
ครูตอมา เหนือหัวของหมาปายักษก็เกิดเสียงอื้ออึง ไอสีเขียวมรกตสายหนึ่งสวาง
วาบแลวปรากฏขึ้น จากนั้นก็แวบหายไป คาดไมถึงวาจะรัดคอของหัวหมาปาสีดำ
เอาไว ชั่วพริบตาก็กลายเปนวงแหวนยักษวงหนึ่ง
ผิวของวงแหวนมีอักขระปรากฏขึ้น ในเวลาเดียวกันก็หดเล็กลงอยางรวดเร็ว
แตเดิมหัวของหมาปาที่คิดจะพนไอมารออกมา ชั่วขณะนั้นพลันไมอาจทำได และ
ทันใดนั้นก็เปลงเสียงรองคร่ำครวญดวยความเจ็บปวดออกมา
ภายใตความลนลานนั้น กรงเล็บหมาปาขางหนึ่งก็ตะปบไปที่แหวนวงนั้น บนกรง
เล็บเปลงลำแสงเย็นเยียบสวางวาบ ดูเหมือนวาคิดจะตะกุยใหแหวนวงนั้นฉีกขาด
ผลลัพธคือลำแสงสีเขียวมรกตเปลงแสงสวางวาบ หลังจากเปลงเสียงคำรามทุมต่ำ
ออกมา กรงเล็บหมาปาก็ถูกดีดออกไป วงแหวนวงนั้นหดเล็กลงสองสามสวน ปากของ
หมาปายักษที่เปลงเสียงรองครวญครางไมอาจเปลงเสียงไดอีก ทำไดเพียงครางหงิงๆ
ออกมาเทานั้น แววตาลวนเต็มไปดวยความเจ็บปวด
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ ผูที่อยูใกลกับแทนบูชาก็สำแดงความสามารถออกมาในทันที
และทยอยกันโจมตีไปที่ไอมารอยางบาคลั่ง
ดังคาด เปนเพราะหมาปายักษไมอาจควบคุมไอมารได อานุภาพของมันจึงลดลงเปน
อยางมาก คาดไมถึงวาจะถูกพวกเขาทยอยกันโจมตีจนแตกกระจายออกไป ซากหมี
และฮัวเทียนฉีจึงพุงเขาไปตรงกลางอยางรีบรอน
ยักษปกเงินและอสูรวิหคราชสีหตางก็คิดจะเขาใกลเชนกัน แตขางหูกลับมีเสียง
ของซากหมีดังขึ้น หลังจากสบตากันแวบหนึ่งแลว คาดไมถึงวาหันกายพุงไปยังเสาหิน
รอบๆ ดานแทน
ยังไมทันไดเขาใกลเสาหินเหลานี้ พวกมันก็ปลอยเสนไหมวิญญาณทมิฬสีเทาและ
คลื่นเสียงสีทองออกมา พนเขาใสเสาตนหนึ่งพรอมกันอยางแมนยำ
เสวียนชิงจื่อและอรหันตชีเมี่ยวที่อยูกลางอากาศเห็นเชนนั้นพลันดีใจ ทันใดนั้น
นักพรตชราก็ใสลมปราณเขาไปในกระบี่ จากนั้นก็ฟนลงบนไอมารที่อยูเบื้องหนาอยาง
รุนแรง กระบี่ลำแสงยักษสายหนึ่งถูกตวัดออก ทุกแหงที่กวาดผานไปพลันเกิดรอย
เล็กๆ สายหนึ่งขึ้น
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น นักกวีพลันพยักหนา วงแหวนอีกสี่วงที่เหลือก็สวาง
วาบแลวหายวับไปเชนกัน จากนั้นก็ปรากฏขึ้นที่ขาทั้งสี่ของหมาปายักษ
วงแหวนเปลงแสงสวางวาบ หดเล็กลงพรอมกัน ชั่วขณะนั้นหมาปายักษก็ไมมีทางยืน
อยูบนแทนบูชาได เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น คาดไมถึงวาจะลมลงไปจนไมอาจยืนหยัดขึ้นได
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ หานลี่ก็กะพริบตาปริบๆ ในใจนึกถึง ‘แหวนเบญจธาตุ’ ชิ้น
หนึ่งที่ไดมาจากวิหารนภาสูญ
นอกจากอานุภาพจะไมเหมือนกันแลว การที่อรหันตชีเมี่ยวหยิบแหวนเหลานี้
ออกมาแลวจัดการกักหมาปายักษตนนี้ไดอยางงายดายนั้น มันดูคลายกับแหวนเบญจ
ธาตุอยางไรอยางนั้น หรือวาแหวนเบญจธาตุก็คือสมบัติที่ลอกเลียนแบบมาจากแหวน
กักมาร
ในตอนนั้น เอง จูๆ เสวียนชิงจื่อ ก็ตะโกนดวยความตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว
ออกมา
“ขุนพลหมี พวกเจา?”
จากนั้นนักพรตชราก็สะบัดกระบี่ในมือ ชั่วครูก็กลายเปนสายรุงสีเหลืองสายหนึ่งพุง
ออกไปหาไอมาร คาดไมถึงวานักกวีวัยกลางคนที่อยูดานขางจะไมสนใจหมาปายักษ
บนแทนบูชา และกลายเปนไอสีเทากลุมหนึ่งเชนกัน ชั่วครูพลันเลือนรางลง แลวสลาย
หายไป
เวลานี้หานลี่ถึงไดพบวา ‘ฮัวเทียนฉี’ และซากหมีสีขาวตังนั้น หลังจากพุงเขาไป
ในไอมารแล ว ก็ ส ำแดงมื อ ยั ก ษ สี ข าวข างหนึ่ งและสี เขี ย วข างหนึ่ ง แยกกั น ตะปบ
อสรพิษสีดำซึ่งแปลงกายมาจากธงวายุทมิฬและดอกบักยักษสีเงินเอาไว
สวนฮูหยินมูผูนั้นกลับถูกศิษยนองหญิงของนางพัวพันอยู ไมอาจหลีกหนีออกมา
ไดแมแตนอย
เมื่อเห็นเหตุการณนี้ หานลี่พลันเลียริมฝปาก คาดไมถึงวาจะขมวดคิ้ว รางกายไม
ไหวติง แตอีกดานกลับมีลำแสงหลีกหนีสองสายพุงออกมาเสียงดัง ‘พรึ่บๆ’
คาดไมถึงวาหลินอิ๋นผิงผูน ี้และชายหนุมแซสวีที่สิงอยูในนกยูงแรดวิญญาณ จะพุง
แหวกอากาศออกไป เปาหมายคือสมบัติทั้งสองชิ้นที่อยูกลางอากาศเชนกัน
แตกุยหลิงกลับเหลือบตามองหานลี่ หลังจากขบคิดเล็กนอย ก็ไมไดเขารวมการ
แยงชิงครั้งนี้
ลำแสงวิญ ญาณสวางวาบขึ้นกลางอากาศอยางยุงเหยิง พัวพันเขาดวยกันและ
เปลงแสงสวางวาบไมหยุด กลุมมนุษยและปศาจที่เพิ่งจะรวมมือกันตานทานกับมาร
โบราณ ชั่วพริบตาก็ลงมือแยงชิงสมบัติทั้งสองชิ้นกัน
สายตาของหานลี่กลับตกลงบนแทนบูชา มองไปยังหมาปายักษที่ดูเหมือนวาถูก
แหวนกักมารกักเอาไวสองสามครั้ง จูๆ ก็มีสีหนาเครงขรึม สะบัดแขนเสื้อ กระบี่เลม
เล็กสีทองหลายสิบเลม เปลงเสียงรองคำรามขณะพุงออกมาจากแขนเสื้อ
ตอนที่ 1058 เภรีสีชาด
ในเวลาเดียวกับที่หานลี่ปลอยกระบี่บินออกไปนั้น เสียงถายทอดของอิ๋นเยวก็ดัง
ขึ้นในจิตสัมผัส
“ถ า หากข าฟ น หั ว หมาป า สี ด ำหั ว นั้ น จะสามารถกำจั ด ร างแยกของบรรพชน
ศักดิ์สิทธิ์มารโบราณไดชั่วคราวจริงๆ หรือ ไมใชเขาใจผิดแลวกลายเปนปลอยไกแทน
หรอกนะ เหตุใดหลงเมิ่งผูนั้นไมยึดครองรางกอนเลา?”
‘วางใจ ในเมื่อถูกแหวนกักมารควบคุมตัวเอาไว นั่นก็หมายความวาไอมารในราง
ของมารตนนี้จะไมมีทางหลุดออกจากการควบคุมของวงแหวนได แมแตวิญญาณมาร
ก็ไมมีทางหนีออกจากหัวหมาปาได ขอแควิญ ญาณมารออกจากรางชั่วคราว ขาก็
มั่น ใจวาจะชิงรางกลับ มาได ดังเดิม ส วนหลงเมิ่ งนั้ น ถึ งแม วาจิ ตสั ม ผัสของนางจะ
แข็ ง แกร ง ไร ที่ ติ แต น างไม มี ส มบั ติ ที่ ผ สมแก น ทองคำอยู ในมื อ สมบั ติ ธ รรมดาไม
สามารถทำอะไรรางของหมาปาสีเงินได จึงยิ่งไมกลาแยงชิงรางกับวิญญาณมารตอนที่
มีไอมารอยูเต็มเปยมในราง เชนนั้นจะมีโอกาสเสียเปรียบถึงแปดเกาสวน เจานายมี
กระบี่บินที่ผสมแกนทองคำเขาไปจำนวนมากขนาดนี้ แนนอนวานี่เปนสิ่งที่นางคิดไม
ถึง มิเชนนั้นนางจะปลอยโอกาสนี้ไปงายๆ และไปแยงชิงสมบัติสะทานฟาไดอยางไร’
อิ๋นเยวอธิบายอยางรวดเร็ว
เมื่อไดฟง หานลี่พลันสูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง ไมกลาลังเลอีกตอไป
ถึงอยางไรเสียอิ๋นเยวก็คือศาตราวิญญาณของเขาถาหากแยงชิงรางกลับคืนมาได
กำลังก็จะเพิ่มมากขึ้น แนนอนวานั่นคือสิ่งที่เขาเต็มใจอยางยิ่ง
ทันใดนั้นสองมือพลันรายอาคม ชั่วขณะนั้นกระบี่บินทั้งหมดก็ทะยานขึ้นไปบน
ทองฟาพรอมกัน หลังจากลำแสงสีทองสวางวาบ ก็ผนึกรวมตัวกัน กลายเปนกระบี่
ยักษเปลงแสงสีทองเรืองรอง
มือหนึ่งชี้ไปที่กระบี่ยักษเบาๆ
ชั่วขณะนั้นเสียงฟาผาที่ทุมต่ำก็ดังขึ้น รอบตัวกระบี่มีประจุไฟฟาสีทองชั้นหนึ่ง
ปรากฏขึ้น ปลายกระบี่มีลำแสงสีเงินกลุมหนึ่งระเบิดออกมา หัวหมาปาสีเงินหัวหนึ่ง
ปรากฏขึ้น สวางวาบแลวหายวับไป
คาดไมถึงวาอิ๋นเยวจะอาศัยรางศาตราวิญญาณสิงเขากับกระบี่ยักษ ประการที่
หนึ่งเพื่อเพิ่มอานุภาพของกระบี่ยักษ ประการที่สองคือหลังจากฟนหัวหมาปาสีดำแลว
ก็จะสามารถหนีเขาไปในรางของหมาปาไดในทันที
กระตุนอาคม!
กระบี่ยักษพลิ้วไหวกลายเปนประจุไฟฟาสีทองสายหนึ่งฟนลงไปทามกลางไอมาร
ทุกแหงที่พุงผานไปตางเกิดประกายไฟสวางจา ไอมารสีดำถูกดีดออก หลังจากกะพริบ
วาบสองสามครั้งก็มาอยูเหนือแทน บู ชา ฟ น ลงไปตรงหมาป ายักษ ที่ ไมขยับเขยื้อน
อยางแมนยำ
การเคลื่อนไหวอันนาตกตะลึงเชนนี้ของกระบี่บิน แนนอนวาทำใหกลุมคนและ
ปศาจที่กำลังลอมสมบัติวิญญาณสองชิ้นอยูพากันตกตะลึง
หลงเมิ่งที่สิงราง ‘ฮัวเทียนฉี’ อยูเห็นเหตุการณนั้นพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็แสยะ
ยิ้มเย็นชาที่มุมปาก
แน น อนว า นางไม คิ ด ว า กระบี่ บิ น ของผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ ก อ กำเนิ ด ขั้ น
กลางจิ๊บจอยคนหนึ่ง จะสามารถทำลายรางของหมาปาสีเงินได
แตเมื่อความคิดนี้ของนางผุดขึ้นมา ภาพฉากที่ทำใหทุกคนตกตะลึงก็ปรากฏขึ้นที่
ดานลาง
เพราะวาเมื่อเห็นไอกระบี่ยักษที่นาดุดันสับลงมาตรงคอของหัวหมาปาสีดำ หมาปา
ยักษที่แตเดิมดูเหมือนวาจะไมอาจขยับตัวได คาดไมถึงวาจะกระโจนตัวขึ้น หลบหลีก
รัศมีของลำแสงกระบี่ไดอยางพอดิบพอดี
ผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดรวมทั้งหานลี่ ตางก็ตกตะลึงจนตาคาง
“แยแลว เมื่อครูมารตนนี้มันหลอกลวง แหวนกักมารไมไดกักมารตนนี้ไดจริงๆ”
เสวียนชิงจื่อที่มีปฏิภาณไหวพริบรองอุทานออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหง
อรหันตชีเมี่ยวมีสีห นาดูไมไดอยางสุดๆ แตก็ยังรายอาคมอยางไมยอมถอดใจ
ปากก็บริกรรมคาถากระตุนวงแหวนกักมารทั้งหาอีกครั้ง
ชั่วขณะนั้นลำแสงของวงแหวนทั้งหาพลันเปลงประกาย หดเล็กลงอีกครั้ง แตครั้ง
นี้หัวหมาปาสีดำกลับกมหนาลงมองวงแหวนบนรางเล็กนอย ดวงตาฉายแววเยาะเยย
ออกมา ปากไมไดเปลงเสียงรองครวญครางใดๆ ออกมา แตเทาทั้งสี่กลับกระทืบไปบน
แทนบูชา
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีดำทมิฬราวกับน้ำหมึกพลันทะลักออกมาจากตัวของหมาปา
หอหุมรางกายของหมาปายักษเอาไว จากนั้นก็สวางวาบราวกับฟาแลบ แลวจมหาย
เขาไปในรางอันใหญโตของหมาปา
ชั่วพริบตา ผิวหนังและขนของหมาปาสีเงินที่แตเดิมเปลงแสงสีเงินเปนประกายก็
หมนแสงลง นอกจากหัวหมาปาสีเงินอีกหัวหนึ่งแลว สวนที่เหลือก็กลายเปนสีดำสนิท
“มารยึดราง มันยึดรางสำเร็จตั้งแตเมื่อไหร!”
‘ฮัวเทียนฉี’ ที่อยูกลางอากาศเห็นเหตุการณ นั้น สีหนาพลันซีดขาวอยางหาที่
เปรียบมิได ใบหนาเต็มไปดวยความไมอยากเชื่อ
แทบจะในเวลาเดี ย วกั น นั้ น หั วหมาป าสี ด ำก็ ชู ขึ้น ปากก็ พ น ระลอกคลื่ น สี ด ำ
ออกมา ระลอกคลื่นนี้พุงออกจากปากอยางเงียบเชียบ ราวกับไมมีอานุภาพใดๆ
แต เมื่ อ วงแหวนสี ม รกตทั้ งห าบนรางของหมาป า ถู ก คลื่ น สี ด ำห อ หุ ม เอาไว ก็
เปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง แลวแตกออกเปนชิ้นๆ
วงแหวนกักมารทั้งหาหายไปในชั่วพริบตา
แตเดิมกระบี่ยักษสีทองที่สับลงมากลางอากาศ พบเหตุการณนั้นเขาพลันหมุน
โคจรขณะกลับมาอยูกลางอากาศ ชั่วขณะนั้นก็พุงแหวกผานอากาศมาราวกับอสรพิษ
ปากของหมาปาเปลงเสียงกรีดรอง แตเดิมไอมารที่ถูกโจมตีจนแตกกระจายออก
พลันรวมตัวหมุนวนเขาหากันอีกครั้ง ชั่วครูก็โอบลอมกระบี่ยักษไวขางหนาใน ทาทาง
คิดจะกักขังกระบี่นั้นเอาไว
หานลี่หนาเปลี่ยนสี มือหนึ่งกระตุนอาคมกระบี่อยางไมตองคิด ตะโกนใสกระบี่ยักษที่
อยูทามกลางไอมาร ชั่วครูก็กระตุนอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายครึ่งหนึ่งของกระบี่
ทามกลางเสียงฟาผา ประจุไฟฟาสีทองกลุมหนึ่งก็กลายเปนมานอัสนีขนาดยักษ
แลนอยูบนผิวของกระบี่ยักษ ทันใดนั้นก็เปลงเสียงรองดังสะเทือนเลือนลั่นออกมา
แลวระเบิดออก
ประจุไฟฟาบางๆ จำนวนนับไมถวน สวางวาบและกระจายตัวออก ผสมเขากับไอมาร
และสลายหายไปในทันที เผยที่วางขนาดใหญ ออกมา ไอมารที่อยูไกลออกไปก็มีรู
จำนวนนับไมถวนปรากฏขึ้น จนบางตาเปนพิเศษ
กระบี่ยักษที่ถูกกักอยูถือโอกาสนี้เปลงเสียงรองหึ่งๆ ออกมา กลายเปนสายรุงสีทอง
สายหนึ่งทะลุออกมาจากไอมารที่ไมสมบูรณ และกลับมาอยูขางกายของหานลี่ในชั่ว
พริบตา
“อัสนีเทวาปดเปาภยันตราย คาดไมถึงวาจะมีมากถึงเพียงนี้?” หมาปายักษเห็น
ภาพฉากนั้น ก็อดที่จะเผยสีหนาประหลาดใจออกมาไมได แลวจองเขม็งไปที่หานลี่
แวบหนึ่ง
หานลี่มีสีหนาไรความรูสึก แตกลับใจหายวาบ
ส ว นระลอกคลื่ น สี ด ำประหลาดๆ ที่ ถู ก พ น ออกมาจากปากของหมาป า นั้ น
ถึงแมวาจะรายกาจ แตเห็นไดชัดวาเชื่องชาเกินไป และยิ่งไปกวานั้นยังไปไกลไมได
หลังจากออกหางจากรางหมาปาไดสามสิบจั้งเศษ ก็ทยอยกันสลายหายไป
เวลานี้ อรหันตชีเมี่ยวและเหลาผูบำเพ็ญเพียรพลันมีเหงื่อกาฬผุดขึ้นมาที่แผนหลัง
ตางพากันรองวา ‘โชคดี’ อยูในใจ
รางแยกบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาชางเจาเลหเสียจริง! เห็นๆ กันอยูวาสามารถ
ทำลายวงแหวนกักมารบนรางไดอยางงายดาย แตกลับจงใจแสรงทำเปนตานทานไม
ไหวจนลมลงกับพื้น ลอใหพวกเขาไดใจ ถาหากไมใชเพราะเมื่อครูหานลี่โจมตีอยางไม
ทันตั้งตัว บีบใหมันตองเผยรางเดิมออกมา เกรงวาสมบัติของพวกเขาคงไดรับบาดเจ็บ
จนถึงกับพังทลายแน ถึงเวลานั้น คนที่เหลือจะตองสูญเสียปราณแท และไมมีทางเปน
คูตอสูกับมารตนนี้ไดอยางแนนอน
เวลานี้พวกเขาพลันมองสบตากันแวบหนึ่ง สายรุงสลายออกไปในทันใด
สมบัติสะทานฟาล้ำคาเปนอยางมาก แตผูใดก็ไมมั่นใจวาจะสยบพวกมันไดใน
ระยะเวลาอันสั้น แนนอนวาตองตอกรกับศัตรูกอนถึงจะได
ในตอนนั้นเอง สายตาสีมวงของหมาปายักษพลันเปลงประกายเย็นเยียบ ชูกรง
เล็บหมาปาขึ้น สะบัดไปกลางอากาศดานขาง กรงเล็บลำแสงยาวสองสามจั้งหาสาย
พุงออกไป สวางวาบแลวสลายหายไปอยางไรรองรอย
ทันใดนั้น เสียงกรีดรองอันนาเวทนาของสตรีพลันดังขึ้น
คนอื่นๆ ตางก็มองตามไปดวยความตกตะลึง เห็นเพียงตรงขอบของไอมาร ฮูหยินมูผู
นั้นกำลังควบคุมกระสวยสีทองตอกรกับศิษยนองของนางไมหยุด โดยไมทันไดระวังตัว
คาดไมถึงวากรงเล็บลำแสงจะปรากฏขึ้นขางกายแลวสับเอวของนางออกเปนหลายๆ
ทอน ผาไหมที่ปกคลุมรางของนางและลำแสงวิญญาณ คาดไมถึงวาจะไมอาจตานทาน
ไดเลยแมแตนอย
ทันใดนั้นทารกวิญญาณก็ดูเหมือนวาจะหนีออกมาจากรางที่ไมสมบูรณนั้นดวย
ความตื่นตระหนก มองไปยังกระสวยสีทองที่กลางอากาศแวบหนึ่งดวยความลังเล ดู
เหมือนวาจะอยากเรียกสมบัตินั้นใหกลับคืนมาและพุงหนีไปอีกครั้ง
แตชั่วพริบตาที่เสียเวลาไปนั้น สตรีผูนั้นก็ไมมีทางหนีออกไปไดอีก
ไอมารที่อยูรอบๆ พลันหมุนวน จูๆ พลันกลายเปนฝามือยักษสีดำ พุงเขาไปควา
ทารกวิญญาณของสตรีผูนั้นเอาไวราวกับฟาแลบ
ทารกวิญญาณพลันตกตะลึง คิดจะเคลื่อนยายหนีไปอีกครั้ง แตหมาปาที่อยูไกล
ออกไปกลับเปลงเสียงรองแหลมสูงออกมา
เสียงนั้นแหลมสูงจนเสียดแกวหู ทารกวิญญาณไดยิน ลมปราณในรางพลันหลุด
ออกจากการควบคุม
ถูกมือยักษสีดำขางนั้นควาเอาไว พลางพุงกลับไป ชั่วพริบตาก็ถูกไอมารหอหุม
เอาไวจนมองไมเห็นเงา
“หยุดมือ!” เมื่อเห็นเหตุการณนั้น เสวียนชิงจื่อที่แตเดิมมีสีหนาสงบนิ่งดุจเซียนเทพ
คาดไมถึงวาสีห นาจะเขียวคล้ำในพริบตา ปากก็รองตะโกนออกมาดวยความโกรธ
เกรี้ยว ใสลมปราณรอบกายเขาไปในกระบี่ ในเวลาเดียวกันกระบี่โบราณที่อยูในมือก็
สับลงมาทางดานลางอยางบาคลั่งไมหยุด
ชั่วพริบตา กระบี่เทพสวรรคที่อยูในมือก็กลายเปนเงากระบี่ยักษ กระบี่ลำแสงสี
เหลืองเขมจำนวนนับไมถวนรวมตัวกันกลายเปนกระบี่ยักษราวกับภูเขาขนาดยอม กด
ลงมาดานลางดวยท าทางดุดัน คาดไม ถึงวาจะมีท าที เหมื อนตองการจะชวยทารก
วิญญาณของฮูหยินมู
เมื่ อ เห็ น ภาพฉากนั้ น หานลี่ พ ลัน ตกตะลึง แต แ น น อนวาคนอื่น ๆ ต างก็ ดีใจที่
นักพรตชราเปนฝายเปด
หลังจากที่ ‘ฮัวเทียนฉี’ และซากหมีมองสบตากันแวบหนึ่ง ลำแสงสีโลหิตสาย
หนึ่งและมือยักษสีขาวขางหนึ่งก็พุงออกมาโจมตีจากทางดานขางทั้งสองดานพรอมกัน
อรหันตชีเมี่ยวเห็นนักพรตชรามีทาทีเชนนั้นกลับขมวดคิ้วมุนเล็กนอย ชั่วขณะนั้น
พลันนึกถึงขาวลือที่เกี่ยวของกับฮูหยินมูและนักพรตชรา ใบหนาจึงอดที่จะเผยสีหนา
ประหลาดใจออกมาไมได แตหลังจากขบคิดเล็กนอยก็พลิกฝามือ คาดไมถึงวาจะมี
กลองใบเล็กขนาดครึ่งฉื่อปรากฏขึ้น
กลองนี้มีสีแดงสด พื้นผิวของมันเปลงแสงสีแดงเปนเสนๆ ออกมา คาดไมถึงวาจะ
กอตัวขึ้นจากเปลวเพลิง
เมื่อปรากฏตัวขึ้นก็ทำใหอุณภูมิในรัศมียี่สิบสามสิบจั้งสูงขึ้น คนและปศาจที่อยูใน
รัศมีตางไดรับผลกระทบจากกลองใบนี้ ชั่วพริบตาลวนลำคอแหงผาก ราวกับอยูขาง
เตาหลอมก็ไมปาน
“เภรีสีชาด”
ทามกลางการแยงชิงสมบัติสะทานฟาเมื่อครู หลินอิ๋นผิงที่เสียเปรียบเล็กนอย
เห็นกลองใบเล็กสีแดงเพลิง ชั่วขณะนั้นพลันรองออกมาดวยสีหนาตกตะลึง ชายหนุม
แซสวีที่สิงรางนกยูงแรดวิญญาณอยู และกำลังหมุนวนอยูเหนือศีรษะของสตรีผูนั้น
ดวงตาทั้งสองฉายแววประหลาดใจออกมาพรอมกัน
ขณะที่สายตาของหานลี่กวาดออกไป กลับสัมผัสไดถึงลมปราณอัคคีที่นากลัวซึ่ง
ผสมอยูในกลองใบเล็กใบนั้น ดูเหมือนวาจะไมไดดอยไปกวาพัดตรีเปลวเพลิงเลย
นี่ จึ งทำให เขารูสึ ก ตกตะลึ ง ในหั ว อดที่ จ ะมี ค ำว า ‘ของลอกเลี ย นแบบสมบั ติ
สะทานฟา’ ขึ้นมาไมได
“สหายหาน อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายของเจามีผลตอไอมารเหลานี้เปนอยางมาก
โจมตีพรอมกันเถิด ขาจะใชกลองใบนี้คุมกันพวกเจา” นักกวีวัยกลางคนถือกลองใบ
เล็กๆ เอาไวดวยมือขางหนึ่ง แตกลับหันกายมาเอยกับหานลี่อยางไรความรูสึก
เมื่อหานลี่ไดยิน รูมานตาก็อดที่จะหดเล็กลงไมได และในตอนนั้นเอง นักพรตชรา
ก็ปลอยไอกระบี่ที่นาตกตะลึงออกไปปะทะกับไอมารที่ขยายใหญขึ้นดานลางภายใน
อึดใจ
ชั่วขณะนั้นเสียงอึกทึกพลันดังขึ้น!
กระบี่ลำแสงและไอมารพัวพันเขาดวยกันอยางสับสน เวลานั้นพลันยืนกรานไม
ยอมออนขอใหกัน เมื่อมือยักษสีขาวของฮัวเทียนฉีและมีดโลหิตของซากหมีพุงเขาไป
หมาปายักษก็อาปากออก คาดไมถึงวาจะพนเสาลำแสงสีดำสนิทเปนสายๆ ออกมา
ตานทานกับการโจมตีทั้งสองเอาไวอยางสบายๆ
ไมใชแคนั้น หมาปายักษที่กลายเปนสีดำสนิท พลันสะบัดหัว พนวัตถุสีดำสอง
กลุมออกมาจากปากอีกครั้ง
เมื่อวัตถุนั้นตกลงบนพื้น ก็หมุนวนทามกลางไอมารทันที กลายเปนมารนกอินทรี
สองตัวที่มีรางเหมือนมนุษย
มารทั้งสองมีทาทีเหมือนเด็กหนุมอยางไรอยางนั้น นอกจากมีปกของนกอินทรีสีดำ
สนิทงอกออกมาคูหนึ่ง จมูกก็เปนตะขอแลว ในมือยังถือมีดสีดำสนิทเอาไว เมื่อปกทั้ง
สองสยายออก คาดไมถึงวาจะตรงเขาไปหายักษปกเงินและอสูรวิหคราชสีหที่อยูไกล
ออกไปซึ่งทำลายเสาหินไปแลวกวาครึ่ง
ยังไมทันไดเขาใกลปศาจทั้งสอง มารทั้งสองก็สะบัดมีดสีดำที่อยูในมือ ชั่วขณะนั้น
มีดลำแสงสีดำสนิทก็พุงเขาไปหาปศาจทั้งสองอยางตอเนื่อง
ตอนที่ 1059 ไอมารเที่ยงแท
ปศาจทั้งสองเห็นไอมารสองกลุมที่ดูเหมือนจะผนึกรวมตัวกันเปนมารโจมตีเขามา
ก็รูสึกตื่นตะลึง
รางของยักษปกเงินแวบหายไปอยางไมตองขบคิด ชั่วพริบตาก็สลายหายไปตามลม
อสูรวิหคราชสีหหันกายไปดวยความดุดัน เปลงเสียงคำรามดังสนั่นออกมา คลื่นสีทอง
สายหนึ่งพุงออกไปโจมตีมารตนหนึ่ง
มารตนนั้นทำไดเพียงชูมีดยักษขึ้นมาตานทาน แลวถูกคลื่นสีทองกลืนกินเขาไป
รางกายแหลกละเอียด กลายเปนไอมารจางๆ อีกครั้ง
สวนมารอีกตัวพลันโบกสะบัดมือ มีดลำแสงขนาดสองสามฉื่อสายหนึ่งพุงออกมา
รางของยักษปกเงินพลันปรากฏขึ้นดานหลังของมันอยางแปลกประหลาด
รายนิ้วทั้งสิบ เสนไหมวิญญาณทมิฬสีเทาสิบสายพุงออกมา ชั่วพริบตาก็ทะลุผาน
รางของมารปศาจ จนทำใหรางของมันแหลกเปนชิ้นๆ
สังหารมารทั้งสองลงไดอยางงายดายเชนนี้ แตยักษปกเงินกลับจองเขม็งไปยังไอมาร
ขมวดคิ้วแลวเผยสีหนาเครงเครียดออกมา
เห็นไดชัดวาปศาจตนนี้ก็ไมเชื่อวาจะจัดการมารทั้งสองไดจริงๆ
ไอมารที่อ ยูเบื้ องหนาพลันหมุน วนเป น เกลียว ลำแสงสี ดำเปลงประกาย ผนึ ก
รวมตัวกันกลายเปนมารปศาจสองตัวอีกครั้ง
เมื่ อ มารป ศ าจสองตนนี้ ป รากฏกาย ตั ว หนึ่ งก็ ก ระโจนเข ามาในทั น ที ในเวลา
เดียวกันก็อาปากออก พนไอมารออกมาโจมตีไปยังยักษปกเงิน
ยักษปกเงินขมวดคิ้วมุน ชูมือหนึ่งขึ้น เสนไหมวิญ ญาณทมิฬพุงออกมาอีกครั้ง
พัวพันเขากันไอมาร สวนมารอีกตนหนึ่ง กลับเปลี่ยนราง กลายเปนอินทรียักษขนาด
สองสามจั้ง ชั่วครูก็เขาประชิดอสูรวิหคราชสีห กรงเล็บที่แหลมคมสีดำคูหนึ่งและปาก
แหลมที่ แ ข็ งแกรงดุ จ เหล็ก กล าพลั น เคลื่ อ นไหวพรอ มกั น คาดไม ถึงวาจะเป ด ฉาก
ตะลุมบอน
ชั่วขณะนั้นระยะหางระหวางวิหคยักษทั้งสองตัว พลันปรากฏขนนกสีดำและสีมวง
ปลิววอน
เห็นไดชัดวาอสูรวิหคราชสีหเปนฝายไดเปรียบ แตไมวารางของอินทรียักษสดี ำจะ
ไดรับบาดเจ็บขนาดไหน ลำแสงสีดำรอบกายก็ยังคงหมุนโคจร แลวฟนฟูกลับมาเปน
ปกติ ราวกับวาเปนรางอมตะอยางไรอยางนั้น
ทางดานยักษปกเงินก็ตกอยูในสถานการณเดียวกัน ไมวาเสนไหมวิญญาณทมิฬ
จะโจมตีมารตนนั้นสักกี่ครั้ง ตางก็รวมรางขึ้นใหมภายในชั่วพริบตา
เห็นไดชัดวามารปศาจสองตัวนั้นเหมือนจะเปนสิ่งที่แปลงกายไดอะไรสักอยาง ถา
หากรางหลักไมถูกทำลาย และมีไอมารคอยสนับสนุนอยางตอเนื่อง ก็จะเปนรางอมตะ
มินาเลารางแยกบรรพชนมารศักดิ์สิทธิ์ถึงไดใชพวกมันมาพัวพันปศาจสองตนนี้เอาไว
เห็นไดชัดวาไมหวังใหมารปศาจสังหารพวกมัน แตแครั้งพวกมันไว ไมใหไปทำลายเสา
หินไดอีกก็พอ
ยักษปกเงินเองก็รูเรื่องนี้เชนกัน และถึงแมวามารปศาจทั้งสองจะมีพลังปองกัน
ต่ำสุดๆ แตไอมารที่พนออกมากลับไมตางอะไรกับหมาปายักษเลยสักนิด ปศาจทั้งสอง
จึงจำใจตองหลบหลีกและตานทานไปอยางจนปญญา ไมอาจมุงความสนใจไปที่อื่นได
สวนเสาหินที่ถูกทำลายไปกวาครึ่งในเวลานี้ก็เปลงแสงสวางวาบ และฟนฟูกลับมาโดย
อัตโนมัติ ชั่วพริบตาสวนที่ถูกโจมตีจนแหลกเปนชิ้นๆ ก็ฟนฟูกลับมาเปนดังเดิม
นี่จึงทำใหยักษปกเงินยิ่งรูสึกกลัดกลุมมากยิ่งขึ้น
สถานการณ ท างดานของป ศาจทั้ งสองตกอยูในสายตาของซากหมี นี่ จึงทำให
ปศาจตนนี้รูสึกตื่นตะลึงเชนกัน
‘ฮัวเทียนฉี’ ที่ใชจิตสัมผัสสรางฝามือยักษขึ้นสองสามขาง ก็ทุบลงไปที่ไอมาร
ดานลางไมหยุด ปากกลับถายทอดเสียงไปหาซากหมีดวยความเย็นชาวา
“ไมตองกังวล การแยกจิตดวยวิชามารอยางกะทันหันสรางเปนรางแยกเชนนี้
ขึ้นมา จากจิตแยกที่เล็กจอยของมันสรางไดสองตัวก็ถึงขีดจำกัดแลว มิเชนนั้นมารตน
นี้คงไมตองเสียเวลากับพวกเราขนาดนี้ ขอแคสรางออกมาเพิ่มอีกสักสองสามตัว พวก
เราก็ตองเพลี่ยงพล้ำอยางไมตองสงสัยแลว ตอนนี้สิ่งที่สำคัญก็คือ คาดไมถึงวามารตน
นี้จะใชไอมารยึดครองรางของขา ถึงแมจะแคชั่วคราว แตการดูดซับไอมารบริสุทธิ์ใน
แทนบูชาอยางตอเนื่องเชนนี้ อีกไมนานการยึดครองรางก็จะมั่นคง เวลานั้นวิญญาณ
มารและรางกายก็จะหลอมรวมกัน ขาก็จะไมมีโอกาสชิงรางกลับมาไดอีก และเมื่อมาร
ตนนี้ไดความสามารถกลับคืนมา ตอใหพวกเรารวมมือกันก็ไมมีทางเปนคูมือกับมันได
ดูแลวขาคงตองลองเสี่ยงดูสักตั้ง”
“ลองเสี่ยงดูสักตั้ง! ความหมายของพระชายาคือ?” ซากหมีตกตะลึงแตปากก็ยัง
ถามดวยความรอบคอบ
“ขาจะใชเคล็ดวิชาลับทะลวงรางของหมาปาตัวนี้ แยงชิงการครอบครองรางกับ
วิญญาณมาร ถึงแมวารางจะถูกครอบงำ ไมอาจไดเปรียบ แตกลับทำใหรางของหมา
ปาสีเงินสูญเสียการควบคุมชั่วคราว จากนั้นควรทำอยางไรตอ เจาก็นาจะรูดีสินะ”
หลงเมิ่งถายทอดเสียงกลับมาอยางเยือกเย็น
“ขาเขาใจความหมายของพระชายาแลว แตทำเชนนี้มันไมเสี่ยงเกินไปหนอยหรือ”
ซากหมีควบคุมลำแสงโลหิตสับลงมาที่ไอมารกลุมใหญดานลางไปพลาง ลังเลใจ
ไปพลาง
“เสี่ยง? หากไมยอมเสี่ยง แลวผนึ กของแท น บู ชาถูกคลายออก พวกเราก็ ไม มี
แมแตโอกาสแลว” หลงเมิ่งเอยอยางไมสบอารมณ
“ผนึกดานลางแทนบูชาคืออะไร ดูเหมือนวาพระชายาจะหวาดกลัวเปนอยางมาก
หรื อ ว า คื อ ยุ ท ธภั ณ ฑ ม ารที่ มี อ านุ ภ าพยิ่ ง ใหญ ที่ แ ดนมารโบราณทิ้ ง เอาไว ในแดน
มนุษย?” ซากหมีอดไมไหวเอยถามขึ้น
“ถาหากเปนยุทธภัณฑมารจริงๆ ก็คงจะดี ตอใหตกอยูในมือของมารตนนั้นแลว
จะรายกาจขนาดไหน พวกเราหนีออกมากอน จากนั้นก็รวบรวมผูบำเพ็ญ เพียรคน
อื่นๆ มาลอมโจมตีมันแคคนเดียว จะตองมีวิธีกำจัดมารตนนี้แน ขาจะอยูตานมันที่นี่
ตอหรือ? ผนึกของแทนบูชานี้ กวาครึ่งลวนเปนไอมารเที่ยงแทที่ถูกสงมาจากทางเดินที่
เปดขึ้นจากแดนมารโบราณมาสูแดนมนุษย!” หลงเมิ่งเอยดวยสีหนาเครงขรึม
“ไอมารเที่ยงแทที่ถูกสงมาจากแดนมารโบราณ?” ซากหมีพลันตกตะลึงยกใหญ
“ตอนที่เจายังไมไดเปนซากหลอม ก็นาจะรูความรายกาจของไอมารเที่ยงแทดี
พวกมันไมเหมือนกับไอมารธรรมดาๆ ไมเพียงสามารถกลืนกินชีพจรวิญญาณในแดน
มนุษยได ยิ่งไปกวานั้นเมื่อถูกปลอยออกมาจำนวนมาก ไมวาคนธรรมดาหรือผูบำเพ็ญ
เพียรระดับต่ำ ก็จะคอยๆ ถูกมารครอบงำ แมกระทั่งนานวันเขา ก็อาจจะทำใหแดน
มนุษยกลายเปนแดนมารโบราณ” หลิงเมิ่งเอยอยางเครงขรึม
“แตขาไดยินวา หลังจากผานสงครามในปนั้นไป ไอมารเหลานี้ก็ถูกผูบำเพ็ญเพียร
โบราณจำกัดไปจนเกลี้ยงแลวมิใชหรือ จะยังอยูใตแทนบูชานี้ไดอยางไร?” ซากหมี
ยังคงเอยอยางไมอยากจะเชื่อ
“เกลี้ยง? ถาหากเปนไอมารธรรมดาๆ ผูบำเพ็ญเพียรโบราณก็สามารถกำจัดทิ้งได
แตไอมารเที่ ยงแท กลับแฝงเอาไวดวยจิตวิญ ญาณดั้งเดิมของเหลามารในแดนมาร
โบราณ ที่ถูกสงมายังแดนมนุษย แตเดิมก็ใชเพื่อแลกเปลี่ยนกับไอวิญญาณฟาดินของ
แดนมนุษย ไหนเลยจะกำจัดไดงายดายขนาดนั้น
ถาหากเปนแดนวิญญาณของพวกเราก็อาจจะมีวิธีกำจัดมัน แตในแดนมนุษยนั้น
กลั บ ยากแสนยาก ก อ นที่ ข าจะถู ก ผนึ ก ก็ ได ยิ น สามผู เฒ า คุ น อู ก ล าวว า หลั งจาก
สงครามจบลงตองกักไอมารเที่ยงแทสวนใหญเอาไว แยกออกไปตามจุดที่มีไอวิญญาณ
หนาแนนตางๆ ในแดนมนุษย ใชไอวิญญาณที่บริสุทธิ์กดมันเอาไว และขากับรางแยก
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณก็เคยรวมรางกัน จึงสัมผัสไดถึงไอมารชนิดนี้ที่ถูกผนึก
เอาไวใตแทนบูชา...
...นั่นก็ไมแปลก ตอนนั้นภูเขาคุนอูเปนภูเขาเซียนที่มีชื่อเสียงที่สุด ใชชีพจรวิญญาณนี้
กดไอมารเอาไว ก็เปนเรื่องที่สมเหตุสมผล พวกเขาหวังวาหลังจากผานการชะลางดวย
ไอวิญญาณบริสุทธิ์ จะสามารถกำจัดไอมารเหลานี้ไดทีละนิดๆ แตไอวิญญาณบนภูเขา
ลูกนี้เบาบางกวาตอนที่ผนึกเอาไวไมนอย ดูแลวคงมีประโยชนเพียงครึ่งเดียว หากไม
ใชเวลาเปนลานปก็ไมมีทางกำจัดไอมารเหลานี้ไดหมด ตอนนี้ถาหากถูกปลอยออกมา
ตอใหผูบำเพ็ญเพียรมนุษยคิดจะผนึกมันอีกครั้ง ก็เปนเรื่องที่เพอฝนเทานั้น และไม
ตองพูดถึงวา หลังจากที่รางแยกบรรพชนมารโบราณผูนี้ดูดซับไอมารเที่ยงแทเขาไป
เกรงวาคงไรเทียมทานในแดนมนุษย”
หลงเมิ่งพลันเงียบกริบไปชั่วครู พลางเอยออกมารวดเดียว
เมื่อไดยินคำอธิบาย ซากหมีก็รูสึกตื่นตะลึงเปนอยางมาก ใบหนาเขียวคล้ำสลับ
กับสดใสไมแนนอน
“ตอใหแดนมนุษยถูกครอบงำ แลวอยางไร เกี่ยวอะไรกับพวกเรา ในตอนนั้นเผาปศาจ
และเผามนุษยสงพระชายาและพวกเราลงมา เพื่อขับไลมารโบราณ พวกเราก็ทำได
แลว ตอนนี้เกิดอะไรอีก เบื้องบนก็ไมอาจโทษพวกเราไดแลว ไมเชนนั้นพวกเรา…”
แววตาของซากหมีฉายแววเย็นชา เอยแนะนำอยางอ้ำๆ อึ้งๆ
“ขารูอยูแลววา ตอนนั้นซากหมีอยางเจาคืออสูรวิญญาณของมนุษย ถึงไดเขามา
ชวยขาในปอมปราการมาร และหวังวาจะอาศั ยเสน ทางมหั ศจรรยกลับไปยังแดน
วิญญาณสินะ ทวา พลังยุทธของเจายังไมถึงระดับเทพแปลง ตอใหเขาไปขางใน ก็มีแต
จะถูกชองวางมิติฉีกทึ้งเทานั้น และยิ่งไปกวานั้นเจารูไดอยางไรวา ขารูวาเสน ทาง
มหัศจรรยอยูที่ใด?” หลงเมิ่งเอยถามดวยความเย็นชา
“พระชายาลอเลนแลว อสูรวิญญาณของมนุษย นั่นเปนเรื่องที่เกิดขึ้นกอนที่ขาจะ
เบิกเนตร สวนขาน อยจะขามผานทางเดิ น ไปได อยางไรนั้น พระชายาโปรดวางใจ
ขานอยเตรียมการมาหลายป จึงมีความมั่นใจอยูสองสามสวน และในฐานะพระชายา
ของราชาปศาจเทียนขุย ถาหากไมรูวาเสนทางนั้นอยูที่ไหน ขานอยก็ไมรูวาจะมีผูใด
ลวงรูแลว” ใบหนาที่เต็มไปดวยขนดกๆ ของซากหมีหมื่นป เผยรอยยิ้มออกมาขณะ
เอย
“หึ ขาจะลองเชื่อเจาดู บอกตามตรงนะ มีเพียงตองชิงรางกลับมาเทานั้น ถึงจะมี
วิธีหาตำแหนงของเสนทางมหัศจรรยได ดังนั้น อยาคิดเผนแนบหนีไปเด็ดขาด ทำ
ตามที่ขาสั่งอยางเชื่อฟงก็พอ” หลงเมิ่งเอยอยางไมเกรงใจ
“ขอรับ ขอแค มี ค ำสั ญ ญาของพระชายา วาจะพาข ากลั บ ไปยั งแดนวิญ ญาณ
ขานอยก็ยินดีพลีชีพเพื่อพระชายาแลว” ซากหมีเบะปาก ถายทอดเสียงกลับไปอยาง
ไมลังเลเลยแมแตนอย
“ได! เจาตองคุมครองขากอน” หลงเมิ่งพยักหนาอยางพึงพอใจ
ทันใดนั้นสองมือของสตรีผูสิงรางฮัวเทียนฉีก็รายอาคม รอบกายมีลำแสงสีเงินสวางจา
และในตอนนั้นเอง หานลี่ที่ถูกอรหันตชีเมี่ยวจับจองอยู ก็ถูมือทั้งสองเขาดวยกัน
โดยไมปริปากใดๆ อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายโจมตีไปยังดานลางสายแลวสายเลา ทำ
ใหไอมารสลายหายไป
แตหมาปายักษดานลางซึ่งเผชิญหนาอยูกับการรวมมือกันของเหลาผูบำเพ็ญเพียร
กลับแผขยายเปลวมารขึ้น ไอมารและลำแสงสีดำถูกพนออกมาจากปากไมหยุด โจมตี
ไปยังไอกระบี่สีเหลือง และลำแสงสีโลหิต บีบใหตองถอยหลังไป มองเห็นเพียงไอมาร
ที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของทองฟา จนมืดฟามัวดิน ทาทีเหมือน
คิดจะโอบลอมทุกคนเอาไว
เวลานี้ เสาหินรอบๆ แทนบูชาพลันคอยๆ เปลงแสงเจิดจาขึ้น และเริ่มเปลงเสียง
คำรามต่ำๆ ออกมา ผิวของเสาทุกตนมีอักขระโบราณที่ไมคุนตาปรากฏขึ้น และเริ่ม
สั่นสะเทือนเล็กนอย
มนุษยและปศาจที่จับจองภาพฉากนี้ ตางก็พากันตกตะลึง
อรหันตชีเมี่ยวที่ถือกลองใบเล็กสีแดงสดในมือเห็นเชนนั้นก็มีสีหนาเครงเครียด
ถึงแมเขาจะไมไดยินบทสนทนาของหลงเมิ่งและซากหมีหมื่นป แตลางสังหรณไม
ดีเชนนี้กลับปรากฏขึ้นในหัวอยางชัดเจน คนผูนี้พลันกัดฟน ในที่สุดก็โยนกลองใบเล็ก
ในมือออกไปกลางอากาศ ในเวลาเดียวกันปากก็ตะโกนวา
“สหายเสวียนชิงจื่ อ เจาจะรออะไร รีบ สำแดงสิ่ งที่ เจ าเพิ่ งได ม าเถิ ด มิ เช น นั้ น
หายนะจะมาเยือนจริงๆ แลวนะ!”
ตอนที่ 1060 รวมพลังสามสมบัติ
หลังจากกระบี่โบราณในมือของนักพรตชราโจมตีไปอยางบาคลั่ง ในที่สุดก็เยือกเย็นลง
ไม น อ ย เพราะรู ชั ด ว า ผ า นมานานขนาดนี้ แ ล ว ยั ง ไม อ าจทำลายไอมารได ทารก
วิญญาณของฮูหยินมูคงโชครายมากกวาโชคดี
เวลานี้ไดยินคำพูดของอรหันตชีเมี่ยว ใบหนาพลันฉายแววโหดเหี้ยม สะบัดแขน
เสื้อโดยไมพูดอะไร ชั่วขณะนั้นตราประทับสีเหลืองพลันพุงทะยาน ไปปรากฏขึ้นลอย
อยูเหนือศีรษะของนักพรตชรา
สมบัติชิ้นนี้เปนสี่เหลี่ยม ผิวเกลี้ยงเกลาดุจหยก แตผิวที่เปลงประกายของมัน มี
อักขระสีทองเงินเปนชั้นๆ ปรากฏขึ้น ถึงแมวาไอวิญญาณที่เปลงออกมาจะราบเรียบ
และมั่นคง แตก็ยิ่งใหญอยางสุดๆ
หานลี่เห็นของสิ่งนี้ พลันหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
“ตราประทับเขาผิงซาน!” เสียงรองอุทานดวยความตกตะลึงของสตรีดังขึ้น
หานลี่พลันมองไปพรอมใจเตน
หลินอิ๋นผิงที่อยูดานขางกำลังเอามือปดปากแดงระเรื่อ ขณะจองเขม็งไปยังตรา
ประทับดวยความตกตะลึง
สมบัติชิ้นนี้คือ ‘ตราประทับเขาผิงซาน’ สมบัติลอกเลียนสมบัติสะทานฟาที่เคย
เห็นในงานประมูลใตดิน
ถึงแมวาหานลี่จะออกจากงานประมูลนั้นกลางคัน แตตอมาก็ไดยินวา สมบัติชิ้นนี้
ถูกขายออกไปดวยราคาที่สูงลิบ ถูกผูบำเพ็ญเพียรนิรนามคนหนึ่งประมูลไป คิดไมถึง
วาจะตกอยูใสมือของสำนักมหาเอก
สำนักนี้มีทรัพยสมบัติมหาศาล คูควรกับที่เปนสำนักอันดับหนึ่งในสายธรรมมะจริงๆ
เมื่อเห็นตราประทับเขาผิงซานปรากฏออกมา อรหันตชีเมี่ยวก็เปลงเสียงหัวเราะ
ออกมาอยางบาคลั่ง ทันใดนั้นก็ชูมือหนึ่งขึ้น นิ้วชี้งอเล็กนอยพลางดีดไปทางกลองใบ
เล็กที่อยูกลางอากาศ
เสียงอึกทึกปงปงดังสนั่นออกมาจากกลองใบเล็ก
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น กลองใบเล็กพลันเปลงแสงสีแดงสวางจา ชั่วขณะนั้น
ลำแสงสีแดงวงหนึ่งก็ปรากฏขึ้นรอบๆ กลองใบเล็ก
นักกวีวัยกลางคนเห็นเชนนั้น ก็ดีดนิ้วอีกนิ้วอยางไมลังเลเลยแมแตนอย หลังจาก
เสียงดังสนั่นขึ้น ลำแสงสีแดงวงหนึ่งพลันเจิดจาขึ้นสามสวน ในเวลาเดียวกันก็ขยาย
ใหญขึ้นเทาหนึ่ง
เสียงกลองดังขึ้นอยางตอเนื่อง พระอาทิตยสีแดงดุจแสงอาทิตยยามอัสดงคอยๆ
ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ลำแสงสีแดงราวกับโลหิต เสียงกลองทุมต่ำทำใหทุกคนสัมผัส
ไดถึงความนากลัวที่แฝงอยูในพระอาทิตยสีแดงไดอยางชัดเจน
เสวียนชิงจื่อที่อยูอีกดานโยนตราประทับขุนเขาออกไป ขณะที่ปากของนักพรตชราก็
รายคาถาอยูกอนแลว อาคมสายแลวสายเลาที่ปลอยออกไปกลายเป นภูเขาขนาด
ยอมๆ สูงยี่สิบจั้งเศษ ยันตเขตอาคมและคาถาเปนชั้นๆ ปรากฏขึ้นบนตราประทับ ใน
เวลาเดียวกันลำแสงสีเหลืองเจิดจาก็เปลงประกายออกมารอบๆ ดาน จึงยิ่งทำใหมัน
เปลงรัศมีมากยิ่งขึ้น ราวกับสมบัติของเทพเซียนอยางไรอยางนั้น
เมื่อสมบัติสองชิ้นปรากฏขึ้น ชั่วขณะนั้นพลันดึงดูดความสนใจของผูอื่น ‘ฮัวเทียนฉี’
ที่เปลงลำแสงสีเงินรอบกาย สัมผัสไดถึงแรงกดดันที่นากลัวสองกลุม ก็อดที่จะเปลือก
ตากระตุ ก เหลื อ บมองสมบั ติ ชิ้ น นั้ น สองแวบไม ไ ด หลั ง จากที่ แ ววตาฉายแวว
ประหลาดๆ แลว ก็หลับตาคูนั้นอีกครั้งอยางเงียบๆ
หมาปายักษบนแทนบูชามองเห็นภาพฉากนั้น ชั่วขณะนั้นพลันตกตะลึง สีหนา
เครงขรึม
“หึๆ! คิดหรือวาสมบัติลอกเลียนแบบสองชิ้นจะทำรายบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณ
ได ฝนกลางวันจริงๆ” แววตาของหมาปายักษเปลงประกายเย็นเยียบ หลังจากเปลง
เสียงหึดวยความเย็นชาออกมา ลำแสงสีดำก็ปรากฏขึ้นในปาก ดวงแสงสีดำบินออกมา
จากดานในอยางเชื่องชา ปรากฏขึ้นเบื้องหนา และกะพริบวาบเดี๋ยวหดเล็กลงและ
ขยายใหญขึ้นไมหยุด
ทันใดนั้นปากของหมาปาก็พนเสาลำแสงสีดำสนิทสายแลวสายเลาออกมา จม
หายเขาไปในดวงแสงอยางตอเนื่องและสาบสูญไปอยางไรรองรอย
ดวงแสงขยายใหญ ขึ้นอยางรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็มีขนาดใหญ เทาหองหองหนึ่ง
จากนั้นก็ลอยขึ้นอยางเชื่องชา หยุดอยูเหนือหัวของหมาปายักษ
ดวงแสงนี้เปนสีดำสนิท ทำใหผูคนเห็นแลว รูสึกใจหายวาบ
ขนาดยังขยายใหญขึ้นอยางตอเนื่อง
“ไป!” เสวียนชิงจื่อมีสีหนาเครงขรึม ชี้ไปยังตราประทับยักษกลางอากาศดวยสีหนา
เครงขรึม คาดไมถึงวาจะกระตุนการโจมตีกอน
ลำแสงหมื่นสายของตราประทับเขาผิงซาน กลายเปนดาวตกสีเหลืองทุบลงมาที่
หมาปายักษบนแทนบูชา ในเวลาเดียวกันพระอาทิตยสีแดงพลันสั่นคลอน และตามลง
มาติดๆ
ลำแสงทั้งสองพลันเปลงแสงสวางวาบ ทาทีดุดันเปนพิเศษ เมื่อไอสีดำสัมผัสเขา
ก็แตกสลายออกราวกับไมไผที่ถูกขวานจาม ไอมารกอนหนาไมอาจตานทานพลังของ
สมบัติทั้งสองชิ้นได
ถึงแม วาจะเป นแคสมบั ติลอกเลีย นแบบ แต เมื่ อ สมบั ติทั้ งสองชิ้น ประสานกั น
อานุภาพการโจมตีก็ไมไดดอยไปกวาการโจมตีธรรมดาๆ ของสมบัติที่แทจริง
หมาปายักษมองเห็นเหตุการนั้นก็พนลำแสงออกมาอยางไมลังเลอีก พลางจมหาย
เขาไปในดวงแสงยักษเหนือหัว
ชั่วขณะนั้นดวงแสงสีดำพลันสั่นคลอน เปลงเสียงกรีดรองต่ำๆ ออกมา ทันใดนั้น
ก็พุงออกไป คาดไมถึงวาจะพุงไปหาสมบัติกลางอากาศ
ทุกแหงที่พุงผาน ไอมารพลันถูกมวนเขาไปในดวงแสง ดูแลวนากลัวอยางสุดๆ!
ในที่สุดสมบัติทั้งสามชิ้นก็ปะทะเขาหากันกลางอากาศอยางเงียบเชียบ
หลังจากเหิดเสียงดังสนั่นขึ้นจนทำใหชั้นบรรยากาศสั่นคลอน ลำแสงสีดำ ลำแสง
สี เหลื อ ง ลำแสงสี แ ดงพลั น ระเบิ ด ออกพรอ มกั น คาดไม ถึ งว าแรงกดมหาศาลจะ
กอใหเกิดกำแพงกั้นผืนหนึ่ง
ดานหนึ่งสีดำสนิทราวกับน้ำหมึก ดุจทองฟาซึ่งไรที่สิ้นสุด อีกดานมีลำแสงสีเหลือง
และแดงสองสีสลับกัน ดูงดงามดุจแดนสวรรค
เมื่อทั้งสองปะทะกันก็เกิดเสียงอึกทึกขึ้น ทั้งเหมือนเสียงฟาผา และเหมือนกับ
เสียงเครื่องดนตรีจำนวนนับ ไมถวนที่ บ รรเลงเพลงพรอมกั น ทั้ งสองตางสอดเสีย ง
ประสานกัน ดังบางเบาบาง ประเดี๋ยวลำแสงสีดำก็กดลงมาบนลำแสงสีเหลืองตรงเสน
แบงเขตแดนนั้น ประเดี๋ยวลำแสงสีเหลืองและแดงก็บีบลำแสงสีดำใหถอยรนออกไป
หนึ่งสวน
ทั้งสองตางไมยอมออนขอใหกัน ดูแลวแปลกประหลาดมาก
แตสถานการณ เชนนี้เกิดขึ้น เพี ยงชั่วพริบตาเท านั้ น หลังจากลำแสงสีดำที่ พ น
ออกมาจากหมาปายักษจมหายเขาไปในดวงแสงยักษสายแลวสายเลา ในที่สุดก็กด
ลำแสงสีเหลืองและแดงลงมา ทั้งยังบีบใหพวกมันเริ่มถอยออกไปทีละกาวๆ
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ เสวียนชิงจื่อและอรหันตชีเมี่ยวพลันหนาเปลี่ยนสี
เห็ น ได ชั ด วาทั้ งสองคิ ด ไม ถึ งว า หลั งจากที่ อี ก ฝ ายยึ ด ครองร างแล ว จะอาศั ย
ความสามารถของรางเดิม ตานทานสมบัติลอกเลียนแบบสมบัติสะทานฟาสองชิ้นของ
พวกเขาได ทั้งสองคนรายอาคมอยางตอเนื่องไปพลาง ใสลมปราณรอบกายเขาในตรา
ประทับเขาผิงซานและเภรีสีชาด พลางมองสบตากันไปพลาง และตางมองเห็นแววตา
ตกตะลึงจากนัยนตาของอีกฝาย
ความรายกาจของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณนี้เหนือกวาที่พวกเขาคาดคิดไว
ไมเพียงแหวนกักมารที่ไรผลกอนหนานี้ เวลานี้คาดไมถึงวาสมบัติของพวกเขาจะดู
เหมือนไมอาจกดอีกฝายลงได อีกทั้งตรงผนึกของแทนบูชาก็มีทาทีเหมือนจะถูกเปด
ออกในทันที ถึงแมจะไมรูวาคืออะไร แตเมื่อพิจารณาดูก็รูวาจะตองไมธรรมดาอยาง
แนนอน
ในตอนที่ทั้งสองคนกำลังรูสึกลางสังหรณไมดีนั้น หานลี่ที่อยูอีกดานก็จองเขม็ง
อ านสถานการณ จู ๆ มื อ หนึ่ งก็ ต บไปที่ เอว ลำแสงสามสี ก ลุ ม หนึ่ งพลั น พุ งออกไป
หลังจากหมุนวนรอบหนึ่งก็รอนลงบนมือของเขา พัดตรีเปลวเพลิงปรากฏขึ้น เขามอง
ลึกลงไปในการตอสูของความมืดมิดและแสงสวางทั้งสองเขตแดนดานลาง แลวสูดลม
หายใจเขาเบาๆ ความคิดเคลื่อนไหว เงารางที่อำพรางกายของหุนเชิดรางมนุษย พลัน
มาปรากฏตัวอยูดานหลังเขา
จากนั้นหานลี่พลันถูมือเขาดวยกันอยางไมลังเลเลยแมแตนอย พัดขยายใหญขึ้น
ชั่วพริบตา พัดยักษขนาดสองสามจั้งก็ปรากฏขึ้นในมือ
ถึงแมจะไมอยากตานทานอะไรกับรางแยกบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณที่ซอน
อยูในรางของหมาปายักษ แตเขาก็รูดีวาภายใตสถานการณที่ไรหนทางหนีนี้ ถาหาก
ปลอยใหเสวียนชิงจื่อและพวกทั้งสองเพลี่ยงพล้ำ จุดจบของเขาก็ไมไดดีไปกวาทั้งสอง
เทาไหรแน
ดังนั้นเมื่อเห็นวาทั้งสองใชอานุภาพของสมบัตินี้แลวมีทาทีตานทานไมไหว ใน
ที่สุดเขาก็อดไมไหวลงมือชวยพวกเขาอีกแรง
พัดขนาดยักษเปลงเสียงหึ่งๆ ออกมา ทันใดนั้นเปลวเพลิงสามสีก็สวางจา หานลี่
ใสลมปราณแทบทั้งหมดเขาไปในพัดทันที
ตอนนี้ไมใชเวลามาประหยัดพลังใดๆ เขาแทบจะอยากใหอานุภาพของพัดเลมนี้
เพิ่มขึ้นอีกสักสองสามสวนดวยซ้ำ
หลังจากกระตุนอานุภาพที่นาตกตะลึงของพัดตรีเปลวเพลิงในมือ ก็ดึงดูดความ
สนใจของเสวียนชิงจื่อและนักกวีวัยกลางคนใหหันมามองแทบจะในเวลาเดียวกัน
และเหลือบมองพัดตรีเปลวเพลิงในมือของหานลี่ เสวียนชิงจื่อรองอุทานออกมา
ดวยเสียงแหบแหง
“สหาย สมบัติชิ้นนี้ของเจา...”
หานลี่กลับไมไดอธิบายอะไร สะบัดพัดในมือ ชั่วขณะนั้นลำแสงสามสีกลุมหนึ่งก็
ทะลักออกมาจากพัด รวมตัวกันแลวเปลี่ยนสี กลายเปนวิหคเพลิงสามสีขนาดสี่หาจั้ง
สยายปกทั้งสองขางออกทามกลางเสียงเพรียก พลางกระโจนเขาไปหาลำแสงสีเหลือง
และแดง
ผลลัพธคือทามกลางสายตาที่ตกตะลึงของเสวียนชิงจื่อและนักกวีวัยกลางคน
วิหคเพลิงสามสีพลันระเบิดออก ลำแสงสามสีกลุมหนึ่งปรากฏขึ้นทามกลางลำแสงสี
เหลืองแดง จากนั้นอักขระสีทองเงินขนาดใหญพลันหมุนวน ลำแสงสามสีสวางวาบ
แลวหายไปอยางไรรองรอย
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเหลืองและแดงพลันขยายใหญขึ้น ในเวลาเดียวกันเปลวเพลิง
สีทองเงินก็ปรากฏขึ้น ลำแสงสีดำที่แตเดิมตกเปนรองพลันยอนกลับหมุนวนในทันที
คอยๆ กดลงมาที่เหนือหัวของหมาปายักษอยางบาคลั่ง
เวลานี้ ยักษปกเงิน เหลาปศาจ หลินอิ๋นผิงและคนอื่นๆ ยังพอวา พวกเขาตางเคย
เห็นหานลี่ใชพัดตรีเปลวเพลิงแลว แตซากหมีหมื่นปกลับตกตะลึง อดที่จะเหลือบมอง
หานลี่สองแวบไมได สายตาฉายแววตกตะลึง
เสวียนชิงจื่อและอรหันตชีเมี่ยวกลับตกตะลึงระคนดีใจ ถึงแมวาพวกเขาจะไมรูวา
พัดตรีเปลวเพลิงในมือของหานลี่คือสมบัติลอกเลียนแบบชนิดไหนกันแน แตเห็นไดชัด
วาอานุภาพของมันไมดอยไปกวาตราประทับเขาผิงซานและเภรีสีชาดเลย ทันใดนั้นทั้ง
สองก็กระตุนสมบัติของตัวเองอยางไมตองคิด ทำใหลำแสงสีเหลืองและแดงขยายใหญ
ขึ้นอีกครั้ง เตรียมจะควาโอกาสที่หายากเชนนี้ อาศัยอานุภาพของสมบัติทั้งสามกำจัด
รางแยกบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณผูนี้
เมื่อพัดโจมตีออกไปหานลี่พลันมีสีหนาซีดขาว ทันใดนั้นพลันสะบัดแขนเสื้อ ขวดหยก
เปลงแสงสีเขียวสวางวาบปรากฏขึ้นในมือ เทของเหลววิญญาณหนึ่งหยดลงในปาก
อยางรวดเร็ว พลังวิญญาณที่แตเดิมหมดไปแลวพลันกลับมาเต็มเปยมในชั่วพริบตา
หลังจากที่ทำทุกอยางเสร็จ จูๆ เสียงคำรามอันโศกเศราของหมาปาก็ดังขึ้น หานลี่ใจ
หายวาบ เงยหนาขึ้นมองอยางรีบรอน
เห็นเพียงหมาปายักษที่อยูบนแทนบูชา รางกายถูกลำแสงสีดำที่เจิดจาจนแสบตา
หอหุมเอาไวในชั่วพริบตา เสียงคำรามของหมาปาดังออกมาจากขางใน แตกลับไมมี
ผูใดมองเห็นสถานการณดานใน
ถึงแมวาหานลี่จะหนาเปลี่ยนสี แตลำแสงสีฟาในมานตาก็เปลงแสงสวางวาบ ทวา
ตอใหใชเนตรวิญญาณวารีกระจาง ก็ไมอาจมองทะลุผานลำแสงสีดำไดเชนกัน นี่จึงทำ
ใหเขาขมวดคิ้ว
จูๆ หานลี่พ ลัน รูสึกวาในลำแสงสี ด ำมี อ ะไรสั ก อย างกะพริบ วาบ จากนั้ น ม าน
ลำแสงสีเงินบนเรือนรางพลันพลิ้วไหว ลำแสงเย็นเยียบกลุมหนึ่งระเบิดออก คาดไมถึง
วาจะมีอะไรสักอยางสับลงมาอยางไมคาดคิดมากอน
คาดไมถึงวาเขาจะไมมีปฏิกิริยาตอบสนองเลยสักนิด
“แยแลว!” เมื่อเห็นสถานการณประหลาดนี้ ทันใดนั้นหานลี่พลันจิตใจหนักอึ้ง
รางกายแวบหายไปอยางไมตองขบคิด แตทันใดนั้นขางหูก็มีเสียงปริแตกที่กองกังวาน
ดังขึ้น จากนั้นเสียง ‘ฟวๆ’ ก็ดังขึ้น
รางกายของหานลี่แวบหายไป ทันใดนั้นรางทั้งรางก็ถูกโจมตีจนกระเด็นออกไป
“เอ!” เสียงรองอุทานดวยความประหลาดใจดังออกมาจากลำแสงสีดำบนแทน
บูชา ทันใดนั้นก็สงเสียงหึดวยความเย็นชาออกมา แลวมีลำแสงอะไรสักอยางเปลงแสง
สวางวาบ
“นายทานรีบหลบเร็ว นั่นคือกรงเล็บหมาปาสวรรค!” เสียงตกตะลึงของอิ๋นเยว
ดังขึ้นในจิตสัมผัสของหานลี่
แทบจะในเวลาเดียวกัน เงารางหนึ่งก็สวางวาบขึ้นเบื้องหนาของหานลี่
เสียง ‘ปง’ ‘ปง’ ดังขึ้น เงารางคนถอยกรูดกลับไปหลายกาวทันที คาดไมถึงวาจะ
เปนหุนเชิดรางมนุษยที่อำพรางกายอยูใกลๆ กับหานลี่ สวนชุดคลุมสีเขียวที่ปกปด
เรือนราง พลันมีมีดสั้นประหลาดๆ สองดามปรากฏขึ้นที่ทรวงอกและจุดตันเถียน ปก
อยูบนรางของหุนเชิดอยูครึ่งดาม
ตอนที่ 1061 อสูรดินปน
หลังจากที่หานลี่ถูกโจมตีจนกระเด็นออกไปเจ็ดแปดจั้ง และรูสึกเจ็บปวดที่ทรวงอก
นั้น ก็รวบรวมลมปราณในรางดวยความตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว ในที่สุดรางกายก็
มั่นคงขึ้น แตเมื่อกมหนาลงไปมองที่เรือนรางแลว ก็อดที่จะสูดลมหายใจเย็นยะเยือก
เขาไปเฮือกหนึ่งไมได
โลรชตะที่กลายเปนเกราะปองกันสีเงินและลำแสงวิญญาณปกปองรางสีเขียว มีรู
ขนาดเทากำปนปรากฏขึ้นพรอมกัน และตรงทรวงอกของเขา อาภรณพลันฉีกขาด
ลำแสงสีทองเงินเปลงประกาย เกราะสงครามที่ผนึกขึ้นจากแมลงกลืนทองก็ถูกโจมตี
จนพรุนเชนกัน เผยใหเห็นเกราะในสีดำสนิทออกมา
เกราะในเกราะนี้มีรูขนาดสองสามชุนปรากฏขึ้น มีดประหลาดสีเงินแวววาวเลม
หนึ่งปกอยูตรงนั้น คาดไมถึงวาจะปกเขาไปในทรวงอกอยูเล็กนอย
หานลี่มีสีหนาเขียวคล้ำ ปากก็รองตะโกนดวยเสียงทุมต่ำออกมา รางทั้งรางมีแสง
สีทองจางๆ ปรากฏขึ้นชั้นหนึ่ง ชั่วขณะนั้นดูเหมือนวามีดประหลาดเลมนั้นจะถูกโจมตี
ดวยพลังมหาศาลอะไรสักอยาง เมื่อสงเสียงเพรียกออกมาก็ถูกดีดออกไป พุงขึ้นไป
กลางอากาศ
หานลี่รางกายพลิ้วไหว ขยับแขนความีดประหลาดเลมนั้นเอาไว และมองเห็น
รูปรางของมันอยางชัดเจนไดในครานั้น
ยาวครึ่งฉื่อ โคงงอเล็กนอย ดูเหมือนวาใบมีดครึ่งหนึ่งจะเปนรูปทรงพระจันทร
ครึ่งเสี้ยวที่แหลมคมเปนพิเศษ แตเมื่อพิจารณาอยางละเอียดแลว ถึงไดพบวา นี่คือ
กรงเล็บหมาปาที่แหลมคมเล็บหนึ่ง
หานลี่ใจหายวาบ มองไปยังบาดแผลที่ทรวงอกอีกครั้ง เห็นเพียงบาดแผลลึกลงไป
สองสามชุ น แต ก ลั บ มี โลหิ ต ไหลริน ออกมา ส วนผิ วเปลื อ ยเปล าเป อ นโลหิ ต ที่ เผย
ออกมาใหเห็นกลับเปลงแสงแวววาว คาดไมถึงวาจะมีเสนไหมสีทองจางๆ ปรากฏขึ้น
นั่นก็คือผลของการรายคาถาราชันกระจางที่ฝกฝนมาขั้นแรก ทำใหรางกายของเขา
แทบจะแข็งแกรงดุจเหล็กกลา
มิเชนนั้นการโจมตีเมื่อครู ตอให เขามี พลังปกป องรางกายหลายชั้น ขนาดไหน
เกรงวาก็คงถูกทะลวงจุดตันเทียน และลมลงในทันที
สิ่งที่เรียกวา ‘กรงเล็บหมาปาสวรรค’ เปนสิ่งที่นากลัวจริงๆ
หานลี่รูสึกตกตะลึง เงยหนาขึ้นมองหุนเชิดรางมนุษยที่อยูเบื้องหนาตัวเองอีกครั้ง เมื่อ
เห็นจุดที่ถูกเล็บหมาปายักษสองเล็บโจมตี ลำแสงหาสีพลันเปลงแสงสวางวาบไมหยุด
แมมีดจะเสียบอยูในรางถึงครึ่งเลม แตทาทางกลับไมเปนไร
เมื่อเห็นภาพฉากนั้น ชั่วขณะนั้นเขาพลันผอนคลายลง
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณที่อยูทามกลางลำแสงสีดำ เห็นการโจมตีของตนไร
ผลอยางตอเนื่องก็รูสึกตกตะลึงเปนอยางมากเชนกัน
ตองเขาใจวา กรงเล็บหมาปาสวรรคเมื่อครู เปนหนึ่งในความสามารถที่รายกาจ
ที่สุดของหมาปาสีเงินตัวนี้
ทุกครั้งที่ใชงาน ลวนตองเสียเล็บสีเงินจากอุงเทาทั้งสี่ไปเล็บหนึ่ง และเล็บบนอุงเทา
หมาปาเหลานี้ ทุกเลมลวนเปนสิ่งที่หมาปาสีเงินทุมเทแรงกายแรงใจฝกบำเพ็ญเพียร
อยางหนัก อานุภาพจึงยิ่งใหญ ตอใหผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงมาพบกับมันเขาก็
ไมอาจดูแคลนได แตแนนอนวาเวลานี้รางแยกของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณใช
วิชามารเปนตัวกระตุน อานุภาพของมันจึงลดลงเปนอยางมาก
แต แ ค ส ามเล็ บ ที่ ป ล อ ยออกมาอย า งต อ เนื่ อ ง ล ว นถู ก ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดขั้นกลางคนหนึ่งตานทานไวได บรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณจึงรูสึกตกตะลึง
ไปเล็กนอย
เวลานี้ หลังจากที่ลำแสงสีดำบนแทนบูชาหมนแสงลง รางของหมาปายักษพลัน
สลายหายไป รางอรชนออนแอนรางหนึ่งพลันปรากฏขึ้น คาดไมถึงวาหมาปายักษจะ
แปลงกายเปนสตรีชุดดำอีกครั้ง
แต เวลานี้ ส ตรีผู นี้ ก ลั บ ไม ได ส วมชุ ด สี ด ำอี ก แต รอบกายกลั บ มี เกราะสงคราม
หอหุมอยู เกราะสงครามเกราะนี้เปลงแสงสีดำเปนมันวาว ดานบนมีหัวกะโหลกสัตว
ประหลาดสองเขาแกะสลักอยู ไหลทั้งสองเปลือยเปลามีหนามสีดำยาวสองสามฉื่อง
อกออกมา เปลงลำแสงเย็นเยียบ ทำใหผูคนมองแลวอดที่จะรูสึกเสียววาบไมได
สตรีชุดดำมองหานลี่แวบหนึ่งดวยความเย็นชา
“นี่คือ?” หานลี่สูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่งเชนกัน
‘นี่ คื อ เกราะมารที่ แ ท จ ริงของมารโบราณ ขอแค มี รางแยกมาร มารโบราณก็
สามารถนำไอมารที่แทจริงจำนวนมากมากอเปนรูปรางได ไมเพียงมีพลังปองกันที่
แข็งแกรง ยิ่งไปกวานั้นยังอาศัยไอมารในเกราะมารมาเพิ่มความสามารถได
ในสงครามสมัยโบราณ เผาปศาจของพวกเราและมนุษยผูบำเพ็ญเพียรลวนเคย
ปวดหัวกับเกราะชนิดนี้มาไมนอย โชคดีที่ความสามารถชนิดนี้ดูเหมือนวาจะมีมาร
โบราณเพียงสวนเดียวที่มีความสามารถชนิดนี้ มารโบราณสวนใหญลวนไมมีพลังเชนนี้
มิเชนนั้นสงครามในปนั้น จะชนะหรือแพ ก็เปนเรื่องที่พูดยากแลว’
คาดไมถึงวาอิ๋นเยวจะอธิบายใหหานลี่ฟงอีกครั้ง
“เรื่อ งเช น นี้ เจ าก็ จ ำได แ ล ว” หานลี่ รูสึก ประหลาดเล็ ก น อ ย ในเวลาเดี ย วกั น
ความคิดพลันเคลื่อนไหว หุนเชิดรางมนุษยขยับกาย ชักมีดสีเงินสองเลมออกมาจาก
ราง จากนั้ น ก็เปลงแสงสวางวาบแล วเก็ บ กลั บ ไป จากนั้ น บาดแผลก็ มีลำแสงห าสี
ไหลวนอยู คาดไมถึงวาจะคอยๆ ผนึกเขาหากัน แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น เกราะ
สงครามแมลงกลืนทองตรงทรวงอกก็สั่นคลอน และฟนฟูกลับมาเปนดังเดิมเชนกัน
สวนเกราะปองกันลำแสงสีเงินนั้น หานลี่เพิ่งจะเก็บไป ก็กลายเปนโลเล็กๆ สีเงิน
ตานทานอยูเบื้องหนา
‘ขาเองก็ไมแนใจนักวาเกิดอะไรขึ้น ดูเหมือนวาความทรงจำกอนหนานี้คอยๆ
กลับมาแลว เรื่องที่กอนหนาไมแนใจนัก ก็เริ่มจำไดแลว และรูจักสิ่งที่กอนหนานี้ไม
รูจักเต็มไปหมด’ อิ๋นเยวตอบกลับพรอมกับเสียงหัวเราะอยางขมขื่น
หานลี่แววตาเปลงประกายไมแนนอน เงียบกริบไมกลาวอะไร รางของหุนเชิดรูป
มนุษยพลิ้วไหว และมายืนเคียงบาเขา
เวลานี้สตรีชุดดำชักสายตาออกไปจากหานลี่ เงยหนาขึ้นมองสมบัติวิเศษสามชิ้น
ที่กดทับลงมาเหนือศีรษะพรอมกับลำแสงสีดำ หลังจากเผยสีหนาแปลกประหลาด
ออกมา จูๆ สองมือพลันรายอาคม ปากก็รายคาถาอันไพเราะออกมา จากนั้นนิ้วเรียว
พลันรายคาถา
เสนไหมสีดำบางๆ ไมสะดุดตาสิบสายโจมตีไปยังแผนศิลาที่แกะสลักเปนตราประทับ
มังกรแปลง แผนศิลานั้นมีลำแสงสีดำไหลเวียน ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดรองดังขึ้น
เสาหินรอบแทนบูชา ดูเหมือนวาจะเปลงเสียงขานรับอยางรุนแรงมากยิ่งขึ้น
สตรีผูสวมเกราะสีดำมีสีหนาโหดเหี้ยมฉายแวบผานไป เสนผมชี้ชันทั้งศีรษะ ชั่ว
พริบ ตาใบหน าพลั น ฉายแววอำมหิ ต ทั น ใดนั้ น แท น บู ช าใต ฝ าเท าพลั น สั่ น คลอน
เล็ ก น อ ย ผิ ว ของมั น เปล ง แสงสี ด ำสว า งวาบ คาดไม ถึ งว าจะเริ่ ม แตกละเอี ย ด ชั่ ว
ขณะนั้นไอมารสีดำสนิทจำนวนนับไมถวนก็พุงออกมาจากรอยแยก
สตรีเกราะดำเห็นเชนนั้นก็อดที่จะเผยสีหนาบาคลั่งออกมาไมได
ปากก็เปลงเสียงหัวเราะดวยความพึงพอใจออกมา ทันใดนั้นก็ชี้ไปกลางอากาศ
ตะโกนคำวา “ทลาย ออกมา
เสียงนั้นแหลมสูง ชั่วพริบตาไอมารสีดำที่ทะลักออกมาจากแทนบูชาพลันพุงขึ้น
ไปบนทองฟาและผนึกรวมกัน หลังจากหมุนวนเปนเกลียวรอบหนึ่ง คาดไมถึงวาจะ
กลายเปนอสูรดินปนสีดำขนาดมหึมา
อสูรดินปนตนนี้มีขนาดเทาหอคอย แตรางกายที่เต็มไปดวยมัดกลามนั้น ก็สวมชุด
เกราะอยูเชนกัน และรูปแบบของชุดเกราะนั้นคาดไมถึงวาจะเหมือนกับเกราะสีดำบน
รางของสตรีผูนั้นอยางไรอยางนั้น แตแคสวนหัวของอสูรดินปนกลับมีใบหนาหมดจด
แตบนหัวของสตรีกลับมีเขาสั้นๆ คูหนึ่งงอกออกมา ดวงตาทั้งสองปดสนิท
“บรรพชนศักดิ์ิสิทธิ์หยวนซา!”
เมื่อเห็นอสูรดินปน ‘ฮัวเทียนฉี’ ที่อยูกลางอากาศและกำลังปกปองซากหมีอยูนั้น
พลันหนาเปลี่ยนสี แลวรองอุทานออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหง
หานลี่ เสวียนชิงจื่อและคนอื่นตางก็ตกตะลึงเชนกัน
ในชั่ ววิน าที นั้ น อสู ร ดิ น ป น ยั ก ษ ก ลั บ ค อ ยๆ ลื ม ตาขึ้ น ดวงตาคู นั้ น เหมื อ นกั บ
ดวงดาวสีมวงสองดวงที่ทอประกายอยูบนทองนภา เปลงแสงวิบวับ
ในตอนนั้นเอง ในที่สุดลำแสงสีดำเหนืออสูรดินปนก็ไมอาจตานทานอานุภาพการ
รวมมือกันของสามสมบัติได พลันแตกสลายออก กลายเปนลำแสงสีดำจำนวนนับไม
ถวนตกลงมา
ลำแสงสีเหลืองและแดงไรซึ่งการตานทาน กดลงมาอยางไมเกรงใจ ทอดตัวเต็ม
ทองฟา คาดไมถึงวาจะมีมานลำแสงสีเหลืองและแดงขนาดยักษปรากฏขึ้นบนทองฟา
ทาทางนาดุดันอยางสุดๆ
อสูรดินปนดูเหมือนวาจะสัมผัสไดถึงความแปลกประหลาดบนทองฟา เงยหนาขึ้น
มองลำแสงสีเหลืองและแดงที่ลดลงมาเหนือหัวดวยความเย็นชาแวบหนึ่ง คาดไมถึงวา
จะชูมือหนึ่งขึ้นตามความอำเภอใจ ตบไปที่กลางอากาศเบาๆ
เสียง ‘ปง’ ดังสนั่นขึ้น
กรงเล็บมารสีดำขนาดสองสามหมูปรากฏขึ้นกลางอากาศ ตะปบขึ้นไปดานบน
อยางไมไดออกแรงนัก ลำแสงสีดำสวางวาบ คาดไมถึงวาชั่วครูนิ้วทั้งหาจะตะปบมาน
สีเหลืองแดงจนเกิดเปนรอยกรงเล็บขนาดยักษสีดำหาสาย ทันใดนั้นกรงเล็บทั้งหา
พลันรวมกัน ตราประทับยักษและกลองใบเล็กสีแดงสดปรากฏขึ้นระหวางนิ้วทั้งหา
เวลานี้ ลำแสงสีเหลืองแดงที่ทอตัวอยูเต็มทองฟาราวกับสรวงสวรรคพลันสลายหายไป
ในพริบตา
ทุกคนมองเห็นภาพฉากนี้ก็อดที่จะตกตะลึงจนตาคางไมได!
อสูรดินปนกมหนาลงมองสมบัติสองชิ้นที่อยูในมือ ลำแสงสีมวงสวางวาบ คาดไม
ถึงวาจะมีเสียงของสตรีที่ไมคุนเคยดังขึ้น น้ำเสียงดูเย็นชา และแฝงไวดวยความงงงวย
“ที่...ที่นี่คือ...แดนมนุษย!”
กลางอากาศในตอนนั้น ‘ฮัวเทียนฉี’ พลันหลับตาทั้ งสองขาง ลำแสงสีเงินบน
เรือนรางมารวมตัวกันอยูตรงแผนหลังกลายเปนหัวหมาปาสีเงินตัวหนึ่ง ราวกับกำลัง
จะคลานออกมาอยางไรอยางนั้น
แตเมื่อหัวหมาปาเห็นอสูรดินปนที่อยูไกลออกไป ชั่วขณะนั้นก็หายเขาไปในราง
อีกครั้ง หลังจากรางของฮัวเทียนฉีสั่นเทาแลว ดวงตาทั้งสองพลันเบิกโพลง ปากก็
เปลงเสียงรองคำรามแหลมสูงออกมา
“มหายุทธทลายความคิด นี่คือเจตนาที่แทจริงของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซา!”
เสียงนี้ทำใหผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดตางหนาเปลี่ยนสี
เสวียนชิงจื่อและอรหันตชีเมี่ยวยิ่งหนาถอดสี เพราะวากรงเล็บมารที่อสูรดินปน
สรางขึ้น คาดไมถึงวาจะกำเขาหากันแนน ตราประทับสีเหลืองและกรงเสียงเพรียกที่
อยูดานในพลันระเบิดออกพรอมกัน
สมบัติลอกเลียนแบบสมบัติสะทานฟาทั้งสองชิ้น ถูกบีบจนเปนผุยผง
จากนั้นอสูรดินปนก็ไมแมแตจะมองผูคนที่อยูกลางอากาศ ยื่นแขนทั้งสองออกไป
คอยๆ หันหนามามองสตรีชุดเกราะสีดำดานลาง
สตรีชุดเกราะสีดำตางก็มองขึ้นมาดวยสีหนาไรความรูสึกเชนกัน หลังจากทั้งสอง
ประสานสายตากันแลว อสูรดินปนพลันเอยปากวา
“ไมเลว คาดไมถึงวาเจาจะยังมีชีวิตอยู สมกับที่ขาเสียแรงไปเปนอยางมากเพื่อสง
เจามาที่แดนมนุษย ที่เรียกขามาในครั้งนี้ แคจะใหเก็บพวกมดแมลงพวกนี้หรือ ไมคิด
ว า มั น มากเกิ น ไปหรื อ ! เจ า ก็ น า จะรู ว า ก อ นหน า นี้ เจ า ก็ เรี ย กข า มาสองครั้ ง แล ว
หลังจากที่เรียกออกมาในครั้งนี้ ตราประทับวิญญาณที่ขาฝงไวในความคิดเจาจะสลาย
หายไป และไอมารที่แทจริงที่สูญเสียไปจากการเรียกขานั้น ก็เพียงพอที่จะสรางชนเผา
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราไดกลุมหนึ่งแลว”
“เจาก็คือขา ขาก็คือเจา ถาหากไมมีทางเลือก จะเกิดความคิดนี้ไดอยางไร ถา
หากไมอาศัยไอมารเที่ยงแทที่รั่วไหลออกมาจากแทนบูชา จากสถานการณ ของขา
ในตอนนี้ ก็ไมมีทางเรียกเจาออกมาได” สตรีชุดเกราะสีดำกลับขมวดคิ้วทั้งสอง แลว
ตอบกลับดวยความเย็นชา
“เชนนี้นี่เอง! ขาก็วาการสูญเสียพลังเพื่อสรางรางของขาในครั้งที่แทก็ไมไดใชไอมาร
ของเจาเรีย กข าให ขามแดนมา ดู แ ลวข าคงต อ งรีบ ลงมื อ หน อ ยแล ว ไม รูวาไอมาร
เหลานี้จะพอใหขาปรากฏกายไดนานเทาไหร” มารยักษพยักหนา มองไอมารสีดำบน
แท น บู ช าที่ ยังคงพุ งเข าใส ส องเท าของมั น อย างต อ เนื่ อ ง พลางเอ ย อย างราบเรีย บ
จากนั้นก็เงยหนาขึ้นมองทุกคน
เมื่อทั้งมนุษยและปศาจถูกสายตาสีมวงที่เย็นเยียบไรความรูสึกกวาดผานไป ตาง
ก็รูสึกระแวดระวังขึ้นหลายสวน บางคนก็เริ่มถอยออกไปอยางเงียบเชียบ
แตอสูรดินปนกลับดูเหมือนวาจะหยักมุมปากขึ้น จากนั้นพลันชูมือหนึ่งขึ้น ดีดนิ้ว
มารขนาดยักษนิ้วหนึ่งไปทิศทางหนึ่งเบาๆ
เสียงแหลมเสียดหูดังขึ้น อะไรสักอยางสวางวาบแลวสลายหายไป
อสูรวิหคราชสีหที่กำลังตอกรกับมารอินทรียักษอยางไมยอมยุดพัก พลันเปลงเสียงรอง
แหลมสูงออกมา รางกายขยายใหญขึ้น หลังจากเสียง ‘ปง’ ดังขึ้น วิหคชั่วรายตัวนั้นก็
ระเบิดออกอยางแปลกประหลาด
ตอนที่ 1062 อานุภาพมารไรเทียมทาน
ภาพฉากนี้ทำใหยักษปกเงินที่กำลังตอสูกับมารอีกตนอยูดานขางตัวสั่นสะทาน
มันกระพือปกคูนั้นอยางไมตองคิด รางกายพลิ้วไหวสำแดงเคล็ดวิชาวายุหลีกหนี หาย
วับไปพรอมกับสายลม
อสูรดินปนแคนเสียงหึดวยความเย็นชาออกมา มือหนึ่งชี้ไปยังทิศที่ยักษปกเงิน
หายไปอยางไมลังเล แลวตะปบฝามือลงไปกลางอากาศ
เสียง ‘ปง’ ดังสนั่นขึ้น
กรงเล็บมารขนาดสองสามจั้งเปลงแสงสีดำสวางวาบปรากฏขึ้นกลางอากาศ และ
ตะปบลงมาดานลาง
ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งระเบิดออกกลางกรงเล็บมาร เคล็ดวิชาวายุหลีกหนีถูก
ทำลายลงอยางงายดาย รางของยักษปกเงินปรากฏขึ้นกลางกรงเล็บ แตซากหลอมใน
เวลานั้น รางกายรวมทั้งปกสีเงินตางถูกไอสีดำจางๆ สายหนึ่งมัดเอาไวกลางอากาศ
มองเห็นกรงเล็บมารเขาใกลตนโดยไมอาจขยับกายไดเลยแมแตนอย
ยักษปกเงินพยายามดิ้นรนดวยความตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว ชั่วพริบตาที่กรง
เล็บเขามาประชิด ปากก็เปลงเสียงกรีดรองออกมา เสนไหมสีเทาจำนวนนับไมถวนพุง
ออกมาจากผิวหนัง เมื่อออกหางกายก็ทยอยกันระเบิดออก
ลำแสงสีเทาสวางวาบ เสียงกัมปนาทดังขึ้น ทาทางนาหวาดกลัว
หลังจากที่ นิ้ วทั้ งห าของกรงเล็บ มารหุ บ เข ามาแลว ลำแสงสี ดำพลัน สวางวาบ
ลำแสงสีเทาและเสียงระเบิดพลันหายไปราวกับถูกควบคุม เปลวเพลิงมารสีดำลุกแผด
เผารอบกายของยั ก ษ ป กเงิน รางของซากเทวัญ พลั น กลายเป น เถาถ าน แม แ ต จิ ต
วิญญาณดั้งเดิมก็ไมทันไดหนีออกมา
จากนั้นกรงเล็บมารพลันปลงแสงสวางวาบ แลวหายวับไปกลางอากาศ
ปศาจที่มีกำลังเทียบเทากับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายสองคน ถูกอสูรดิน
ปนกำจัดไปอยางไมเปลืองแรง ความฉงนสงสัยสุดทายของคนอื่นๆ ตางมลายหายไป
ถึงแมวาอสูรดินปนตนนี้จะไมใชรางแปลงของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณผูนั้น
จริงๆ ก็คงเปนบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณตนอื่นในแดนมารโบราณที่ลงมาจุติใน
แดนนี้ ตางก็ไมใชสิ่งพวกเขาตานทานไดเชนกัน
หลังจากที่รูสึกใจเย็นเยียบในทันใดนั้น ทุกคนตางแตกฮือ ไมมีผูใดหยุดอยูที่เดิม
อีก ทยอยกันอำพรางกาย และหลีกหนีไป กลัววาจะตกเปนเปาหมายของอสูรดินปน
อีกครั้ง
หานลี่เองก็ไมกลาอยูที่เดิมเชนกัน ที่แผนหลังมีเสียงฟาผาดังขึน้ กลายเปนประจุไฟฟา
สีเงินสายหนึ่งหลบหนีออกไป แตเมื่อรางของเขาสวางวาบมาปรากฏตัวหางออกไป
ยี่สิบจั้งเศษ ขางหูของเขาพลันมีเสียงลนลานของสตรีดังขึ้น
‘เสวี่ยหลิงละ รีบปลอยนางออกมารวมรางกับขาเปนหลิงหลง มีเพียงเชนนี้ ถึงจะ
มีความหวังในการรักษาชีวิตของขาเอาไวได’ คาดไมถึงวาหลงเมิ่งที่สิงรางฮัวเทียนฉี
อยูจะถายทอดเสียงมาหาเขา ดูแลวการปรากฏกายของอสูรดินปนจะทำใหแมแต
ปศาจที่มีแผนการอยูในใจมาตลอดตนนี้ยังตองรอนรนขึ้นมา
“รวมราง!” เมื่อหานลี่ไดยินคำนี้พลันรูสึกตกตะลึง ใบหนาฉายแววสงสัยออกมา
แตในตอนนั้นเองเมื่อสายตาของอสูรดินปนกวาดไปกลางอากาศเหนือแทนบูชา ก็
มองเห็นนกยูงแรดวิญญาณแลวเปลงเสียงรองอุทานออกมาเบาๆ
“เอ ! นกยู ง แรดวิ ญ ญาณ ลำแสงห า สี ! คิ ด ไม ถึ ง ว า ในแดนมนุ ษ ย จ ะยั ง มี วิ ห ค
วิญญาณที่หายากเชนนี้ พอดีเลย ขากำลังตองการลำแสงวิญญาณชนิดนี้อยูพอดี!”
อสูรดินปนเอยพึมพำกับตนเอง นิ้วชี้ไปทางนกยูงโบราณที่ถูกชายหนุมแซสวีสิงอยูไกล
ออกไปแบบไมลังเลเลยแมแตนอย
เวลานี้ ช ายหนุ ม แซ ส วี ที่ สิ ง ร า งอยู พ ลั น หน า ถอดสี ควบคุ ม วิ ห ควิ ญ ญาณให
กลายเปนลำแสงหลีกหนีสายหนึ่งพุงออกไปพลาง กัดฟนไปพลาง ใสปราณแทในราง
ของทารกวิญญาณเขาไปในรางของนกยูง
เสี ย ง ‘พรึ่ บ ’ ดั ง ขึ้ น ลำแสงห า สี เปล ง แสงเจิ ด จ า จนแสบตา คาดไม ถึ ง ว า จะ
กลายเปนโลลำแสงหนาๆ เสมือนจริงชั้นหนึ่ง หอหุมรางของนกยูงเอาไว ลำแสงนี้
เหมือนดวงอาทิตยที่ทำใหผูคนไมอาจประสานสายตาตรงๆ ได
อสูรดินปนเห็นเชนนั้น มุมปากกลับเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา ดีดนิ้วเบาๆ พลิกฝา
มือออกไปตะปบเบาๆ อีกครั้ง
เสียง ‘ป ง’ ดังสนั่ น ขึ้น เกราะป อ งกั น ลำแสงห าสี เบี้ ย วไปข างหนึ่ ง ชั่ วขณะนั้ น
นกยูงที่มีลำแสงปกปองรางอยูยังกระเด็นถลาไป ไมรอใหรางกายไดกลับมามั่นคงอีก
ครั้ง กรงเล็บมารขนาดใหญขางหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ เปลงแสงสวางวาบพลัน
ตะปบลงมา ควารางของนกยูงแรดวิญญาณเอาไวในมือ
“พี่สวี!” หลินอิ๋นผิงเห็นเชนนั้นก็อดที่จะหนาถอดสีขึ้นมาไมได
แตภายใตเปลวเพลิงมารที่หอหุ มกรงเล็บอยูนั้ น เกราะป องกันลำแสงห าสีก็ดู
เหมือนวาจะตานทานไดอยางยากลำบาก
อสูรดิน ป น เห็ น เชนนั้ น แววตาสีมวงพลัน ฉายแววโหดเหี้ ยม ลำแสงสี ดำเปล ง
ประกายสวางวาบ กรงเล็บมารหุบเขาหากันในทันที ชั่วขณะนั้นเกราะปองกันลำแสงดู
เหมือนวาจะถูกบีบใหเปลี่ยนรูปอยางไรอยางนั้น หลังจากเสียงคร่ำครวญดังขึ้น เกราะ
ปองกันลำแสงหาสีก็แตกกระจายออก
“ไม!” ชายหนุมแซสวีรองอุทานออกมาดวยความหวาดกลัวแตเมื่อรางของนกยูง
แรดวิญญาณปรากฏกายออกมาก็ถูกกรงเล็บมารตะปบรางจนแหลกเหลวทั้งเปน
เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น
ทารกวิญญาณของชายหนุมแซสวีควาโอกาสชั่ววินาทีนั้นหลีกหนีออกมาจากกรง
เล็บมาร ครูตอมาถึงไดมาปรากฏกายหางออกไปยี่สิบจั้งเศษ
แตอสูรดินปนกลับดูเหมือนวารูทิศทางที่เขาจะหนีออกไปตั้งแตแรกแลวคาดไมถึง
วาจะดีดนิ้วไปทางนั้นกอนแลว
เวลานี้ชายหนุมแซสวีไมทันแมแตจะกรีดรอง ทารกวิญญาณก็ระเบิดตัวเองออก
ปรมาจารยเซียนที่ยิ่งใหญแหงทุงหญ าเทียนหลาน จบชีวิตระเหยกลายเปนไอ
หายไปจากโลกนี้
เห็นเหตุการณทั้งหมดอยางชัดเจน แมแตเสวียนชิงจื่อและอรหันตชีเมี่ยวที่เปน
อาวุโสของสำนักมารธรรมะอันดับหนึ่ง ก็เริ่มเผยสีหนาลนลานออกมา
ความสามารถของอสูรดินปนตนนี้เกรียงไกรเกินไปจริงๆ ภายใตอานุภาพของมาร
ตนนี้ พวกเขาไมมีแมแตกำลังจะตานทาน หากเปนเชนนี้ตอไป เกรงวาพวกเขาคงถูก
อสูรดินปนตนนี้กำจัดทิ้งจนเกลี้ยงภายในชั่วพริบตา
หานลี่มีสีหนาเขียวคล้ำ แตสายตากลับยังรักษาความเยือกเย็นเอาไวได และแฝง
เอาไวดวยประกายแสงเย็นเยือก
‘เจายังจะคิดอะไรอยูอีก หากไมปลอยเสวี่ยหลิงออกมาก็จะไมทันแลวนะ การ
ตอกรกับมารตนนี้มีแคหลงเมิ่งเทานั้นที่มีกำลังตานทานมันได วางใจเราสองคนไม
หายไปหรอก อีกเดี๋ยวก็จะแยกตัวออกดวยตัวของมันเอง’ เสียงของสตรีดังขึ้นที่ขางหู
อยางตอเนื่อง พระชายาปศาจหลงเมิ่งผูนี้รอนใจขึ้นยิ่งกวาเดิม เอยเรงเราหานลี่ให
ปลอยจิตวิญญาณดั้งเดิมของอิ๋นเยวออกมารวมรางกับนางไมหยุด
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม ตั้งแตตนจนจบไมไดเอยตอบอะไรกลับมา
‘ได ขารับปากเจา ขาจะไปเดี๋ยวนี้แหละ’ จูๆ ในจิตสัมผัสก็มีเสียงของอิ๋นเยวตอบ
กลับมา
‘อิ๋นเยว เจาพูดเหลวไหลอะไรกัน เจาจะรูไดอยางไรวาหลังจากรวมรางแลวจะ
กลับมาเปนดังเดิม! และตอนนี้จิตสัมผัสของเจาก็ออนแอกวาอีกฝาย หลังจากรวมราง
แลวอีกฝายก็จะเปนจิตวิญญาณหลักนะ' หานลี่พลันตกตะลึงเอยออกไปดวยน้ำเสียง
เครงขรึมอยางไมตองขบคิด
‘นายทาน เวลานี้ไมตองสนใจเรื่องนี้แลว ถาหากขาและหลงเมิ่งไมรวมรางกัน
พวกเราก็จะประสบกับโศกนาฏกรรมครั้งใหญทันที ถาหากเปนเชนนั้นไมสูยอมเสี่ยงดู
สักตั้งหรือ’ อิ๋นเยวเอยดวยน้ำเสียงเย็นเยียบ ทันใดนั้นแขนเสื้อของหานลี่พลันสะบัด
สุนัขจิ้งจอกสีขาวตัวหนึ่งพุงออกมา ตรงไปหา ‘ฮัวเทียนฉี’ ที่อยูอีกดาน เมื่อฮัวเทียนฉี
เห็นเชนนั้นก็พุงเขามาหาดวยความดีอกดีใจเชนกัน
หานลี่ยืนอยูที่เดิมสีหนาดูไมได แตริมฝปากกลับปดสนิทไมไดเอยอะไรออกมาอีก
ถึงอยางไรเสียสิ่งที่อิ๋นเยวพูดก็เปนตัวเลือกที่ดีที่สุดแลว
และในตอนนั้นเอง หลังจากที่ทารกวิญญาณของชายหนุมแซสวีถูกกำจัดไป จิต
วิญญาณดั้งเดิมของนกยูงแรดวิญญาณที่ควบคุมแกนอสูรอยูก็คิดที่จะหนีออกมาจาก
กรงเล็บมาร ผลลัพธคือยังไมทันไดหนีออกมาก็ถูกลำแสงสีดำผืนหนึ่งพุงเขามาหอหุม
เอาไวและหายวับไปในทันที
แตซากของนกยูงกลับมีเสียงพรึ่บๆ ดังขึ้น ถูกเปลวเพลิงมารสีดำหอหุมเอาไว ชั่ว
พริบตาซากศพก็กลายเปนจุณ แตในกรงเล็บมารกลับมีลำแสงหาสีปรากฏขึ้นแทน
ลำแสงกลุมนี้เจิดจาสดใสแวววาว ราวกับของจริงอยางไรอยางนั้น เมื่อปรากฏขึ้น
ก็ถูกกรงเล็บมารควาเอาไว หลังจากเปลงแสงสวางวาบก็หายวับไปจากที่เดิม
ครูตอมา กรงเล็บมารก็เปลงแสงสวางวาบปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ อสูรดินปนควา
ลำแสงนั้นเอาไวไมขยับเขยื้อน
อสูรดินปนเงยหนาขึ้นมองลำแสงหาสีแวบหนึ่ง ใบหนาเผยความยินดีออกมาสวนหนึ่ง
อาปากออกพนพายุมารขนเหนียวเหมือนน้ำหมึกออกมา ลำแสงหาสีถูกพายุลูกนั้น
มวนวนเขาไป คาดไมถึงวาจะหมุน ติ้วๆ อยูในพายุและหดเล็กลงอยางรวดเร็ว ชั่ว
พริบตาก็กลายเปนไขมุกวิญญาณหาสีขนาดเทาหัวแมมือเม็ดหนึ่ง
อสูรดินปนมองไขมุกเม็ดนี้ ชูมือขึ้นและพุงเขามาในมือ แลวหันกายไปโยนไปทาง
ดานหลังของสตรีที่สวมชุดเกราะสีดำ พลางเอยปากอยางราบเรียบวา
“ไขมุกเม็ดนี้มีประโยชนตอขา คราวหนาเจาก็หาโอกาสนำไขมุกเม็ดนี้กลับไปยัง
แดนมารโบราณ อยาทำหายละ” สตรีท่ีสวมชุดเกราะสีดำไดยินคำพูดนี้ ใบหนาก็ฉาย
แววตกตะลึง แตก็รับไขมุกเม็ดนั้นเอาไวอยางไมลังเล หลังจากเหลือบมองแวบหนึ่ง
ลำแสงสีดำก็สวางวาบกลางฝามือทั้งสอง ไขมุกเม็ดนั้นหายไปอยางแปลกประหลาด
โดยไมรูวาเก็บไวที่ไหนแลว
หลังจากทำเสร็จสายตาของมารโบราณก็กวาดออกไป คาดไมถึงวาจะตกอยูที่
ประจุไฟฟาสีเงินที่ปรากฏขึ้นดานหลังของหานลี่ ใบหนาหมดจดเผยสีหนาเหี้ยมโหด
ออกมา ชูนิ้วขึ้นอีกครั้งและชี้ไปยังหานลี่
หานลี่รูสึกจิตใจหนักอึ้ง ความคิดเคลื่อนไหว หุนเชิดรางมนุษยเปลงแสงสวางวาบแลว
มาตานทานอยูเบื้องหนาของเขา ทันใดนั้นมือหนึ่งของเขาพลันควาออกไป โลรชตะที่
แตเดิมลอยอยูเบื้องหนาของหานลี่พุงเขามาในมือ โลใบนั้นพลิ้วไหว ชั่วขณะนั้นเกราะ
ปองกันลำแสงสีเงินเจิดจาชั้นหนึ่งพลันหอหุมหานลี่และมันเอาไวขางใน สวนอีกมือ
หนึ่งของเขาก็รายอาคม ลำแสงหาสีเปลงแสงสวางวาบบนเรือนรางไมหยุด
หานลี่ เองก็ พ ลิ ก ฝ ามื อ ของตั ว เองด ว ยความรวดเร็ ว พั ด ตรี เปลวเพลิ งเล ม นั้ น
ปรากฏขึ้นในมือ อีกมือหนึ่งก็ชี้ไปยังกระบี่ยักษที่หมุนโคจรอยูเหนือศีรษะ
ชั่วขณะนั้นกระบี่ยักษเปลงเสียงหึ่งๆ ออกมาแลวแยกตัวออก กระบี่ลำแสงสีทอง
เรืองรองหลายรอยเลมที่มีเกราะปองกันลำแสงสีเงินหอหุมอยูเริงระบำไปมาไมหยุด
คาดไมถึงวากระบี่ลำแสงที่มากมายเชนนี้จะกลายเปนดอกบัวยักษสีทองดอกหนึ่งวน
ลอมรอบหานลี่เอาไว ดูวิจิตรตระการตาอยางสุดๆ และระหวางกลีบดอกบัวนั้นก็มี
เสียงฟาผาดังขึ้น ประจุไฟฟาสีทองสวางวาบ
หานลี่เองก็เปลงเสียงรายคาถาประหลาดๆ ออกมา ชั่วขณะนั้นมานลำแสงสีทอง
ชั้ น หนึ่ ง พลั น ปรากฏขึ้ น ด า นนอก ในเวลาเดี ย วผิ ว กายเขาพลั น สว า งวาบแล ว
เปลี่ยนเปนสีทองออน
คาดไมถึงวาเขาจะใชอานุภาพของเกราะปองกันรชตะมารับมือกับกรงเล็บมารทั้งหา
เคล็ดวิชาของราชันยกระจางโคจรอยูรอบกายทำใหตนเองกลายเปนรางรชตะ
การเคลื่อนไหวอยางตอเนื่องนี้หานลี่แทบจะทำเสร็จไดในชั่วพริบตา แตเชนนั้นก็
ยังไมวางใจ เขารูดีวาการปองกันที่ดูเหมือนจะแข็งแกรงนี้ บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซา
สามารถทำลายมันลงไดอยางงายดาย ซึ่งนั่นไมใชเรื่องแปลกประหลาดอะไร เพราะวา
การตอกรกับการโจมตีอันยิ่งใหญของอีกฝายนั้นเปนเรื่องที่โงเขลา หานลี่ครุนคิดดวยสี
หนาเครงขรึม
“อัสนีเทวาปดเปาภยันตราย!” แววตาสีมวงของอสูรดินปนเปลงแสงสวางวาบ
มองประจุไฟฟาสีทองที่เปลงประกายบนดอกบัวสีทอง แตนิ้วกลับชี้ไปที่หานลี่สองครั้ง
อยางไมหยุดชะงัก
เสียง ‘ปงๆ’ ดังสนั่นขึ้น
เสียงไมดังนัก แตเมื่อครั้งแรกดังขึ้น กระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆาที่กลายเปนดอกบัว
สีทองก็มีรูขนาดใหญปรากฏขึ้นอยางแปลกประหลาด ในเวลาเดียวกันก็ทำใหเกราะ
ปองกันสีเงินบุบเขาไป และแตกออกเปนริ้วๆ สุดทายก็โจมตีไปยังเกราะปองกันรชตะ
ที่กลายเปนเกราะปองกันลำแสง
มานสีทองเปลงแสงสวางวาบไมหยุด หลังจากชะงักเล็กนอย ก็เกิดเสียงปริแตก
และพังทลายลง
ภายในชั่วพริบตานั้นรูมานตาของหานลี่พลันเปลงแสงสีฟาสวางวาบ ในที่สุดก็
มองเห็นสิ่งที่โจมตีอยางชัดเจน ขณะควบคุมพัดตรีเปลวเพลิงใหเผชิญหนากับของสิ่ง
นั้น ใบหนาก็อดที่จะเผยสีหนาไมอยากจะเชื่อออกมาไมได
ตอนที่ 1063 บรรพชนเอาเซี่ยว
หลังจากทลายมานลำแสงที่เกิดจากเกราะปองกันสีทอง ไขมุกกลมๆ สีขาวนวล
ขนาดเท าเมล็ ด ถั่ วเขี ย วปรากฏขึ้ น เปล งแสงสดใสแวววาว คาดไม ถึ งวาบรรพชน
ศักดิ์สิทธิ์หยวนซาผูนั้นจะผนึกจิตสัมผัสของตัวเองเอาไว ใหกลายเปนวัตถุที่จับตองได
มาถึงขั้นนี้ได ตองใชจิตสัมผัสที่แข็งแกรงขนาดไหนก็นาจะรูดี
มิ น า เล า อสู ร ดิ น ป น ตนนี้ เพี ย งแค ชี้ นิ้ ว ส ง ๆ แม แ ต อ สู ร ป ศ าจระดั บ สิ บ หรื อ ผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายก็ไมมีทางตานทานไดเลยแมแตนอย
หานลี่พลันรูสึกตกตะลึง พัดตรีเปลวเพลิงในมือกลับเปลงลำแสงสามสีสวางวาบ
ออกมา ชั่วพริบตาเปลวเพลิงที่ทะลักออกมาก็ผนึ กรวมตัวกัน กลายเป นโลสีเพลิง
ปรากฏขึ้นเบื้องหนา
โลใบนี้มีอักขระสีทอง เงิน แดง สามสีลอยวนเวียนไปมา เผยใหเห็นความลึกลับ
เปนพิเศษ
จากนั้น หานลี่ก็อาปากออกอยางไมตองขบคิด พนเตาเล็กๆ ใบหนึ่งที่มีลำแสงสี
เขียวหอหุมเอาไวออกมา แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ในที่สุดมานลำแสงสีทองก็แตก
สลายออก ไขมุกกลมๆ สีขาวโพลนสวางวาบและมาอยูเบื้องหนาโลเพลิงสามสี
หลั งจากเสี ย งกั ม ปนาทดั งกึ ก ก อ ง โล สี เพลิ งยั งไม ทั น ได ส ำแดงปฏิ กิ ริย าอะไร
ออกมาก็ถูกทำลายออก คาดไมถึงวาเปลวเพลิงสามสีจะไมมีปฏิกิริยาอะไรตอไขมุก
กลมๆ แมแตนอย ไขมุกจึงพุงเขาไปในลำแสงสีเขียวทันที
เตาใบเล็ ก ที่ อ ยู ท ามกลางลำแสงสี เขี ย วพลั น สั่ น คลอน ระเบิ ด เส น ไหมสี เขี ย ว
จำนวนมากออกมา ถักทอกลายเปนตาขาย ไขมุกกลมๆ เม็ดนั้นพุงเขาไปขางใน สวาง
วาบทามกลางลำแสงสีเขียวและถูกตานทานเอาไว
หานลี่มีสีหนาดีอกดีใจ อสูรดินปนพลันตกตะลึง ลำแสงสีมวงในดวงตาทั้งสอง
ขยายใหญขึ้น จองเขม็งไปยังเตานภาสูญ
เสวียนชิงจื่อและซากหมีพลันมีสีหนาตกตะลึง พวกเขาตางคิดวาหานลี่จะตองถูก
ระเบิดรางและจบชีวิตลงในชั่วพริบตาเหมือนกับยักษปกเงินและพวกกอนหนาอยาง
แนนอน
เสวียนชิงจื่อนั้นมีแมกระทั่งยันตทลายเขตแดนสีเหลืองออนใบหนึ่งเพิ่มขึ้นมาในมือ
เตรียมจะดูวาในตอนที่หานลี่กำลังเสี่ยงอันตรายเขาจะทลายชองวางมิตินั้นแลวหนีไป
ได ห รือ ไม แต ก็ ก ลั ววาการกระทำเช น นี้ จะดึ งดู ด การโจมตี ข องอสู ร ดิ น ป น เข ามา
ในทันที ดังนั้นจึงกำลังลังเล
สวนทางดานอิ๋นเยวที่กลายเปนสุนัขจิ้งจอกนั้นก็บินไปอยูดานขางของ ‘ฮัวเทียนฉี’
แล ว ทั น ใดนั้ น ลำแสงสี เงิ น กลุ ม หนึ่ ง ก็ พุ ง ออกมาจากร า งของสุ นั ข จิ้ ง จอกสี ข าว
หลังจากเปลงแสงสวางวาบ ก็จมหายเขาในรางของฮัวเทียนฉี
ทันใดนั้นรางของ ‘ฮัวเทียนฉี’ พลันสั่นเทิ้ม แลวนิ่งงันอยูกลางอากาศไมไหวติง
“นาสนใจ คาดไมถึงวาจะตานทานการโจมตีดวยจิตสัมผัสของขาได เอามาดูซิวา
คือสมบัติอะไร!” อสูรดินปนเอยอยางราบเรียบ ทันใดนั้นก็ปรบมือกลางอากาศไปทาง
หานลี่ที่อยูไกลออกไป
เสียง ‘ปง’ ดังขึ้น ฝามือยักษสีดำขางหนึ่งปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของหานลี่ และ
กดลงมาอยางเงียบเชียบ
หานลี่ใจหายวาบ เสียงฟาผาดังขึ้นที่แผนหลัง คิดจะใชเคล็ดวิชาอัสนีหลีกหนีถอย
ออกไป
ทวาเมื่อลำแสงสีเงินที่ดานหลังปรากฏขึ้น บรรยากาศรอบกายของเขาพลันแข็งตัว
รางกายมีไอมารสีดำสองสามสายปรากฏขึ้น ปกวายุอัสนีไมอาจขยับไดแมแตนอย
หานลี่พ ลันตกตะลึง แลวถึงไดรูวาสาเหตุวาเหตุใดเคล็ดวิชาหลีกหนีของเหลา
ปศาจกอนหนานี้ถึงไมอาจหลบหลีกได ภายใตความจนปญญานั้น จึงทำไดเพียงใชจิต
สัมผัสกระตุนเตานภาสูญเบื้องหนา ชั่วขณะนั้นเสนไหมสีเขียวจำนวนมากพลันพุงขึ้น
ไปบนทองฟา ในเวลาเดียวกันหุนเชิดรางมนุษยที่อยูดานขางก็ชูมือขึ้น หลังจากเสียง
ฟาผาดังขึ้น ลำแสงสีมรกตสายหนึ่งก็สวางวาบพุงออกไปหาฝามือสีดำทามกลางประจุ
ไฟฟาสีทอง
เสนไหมสีเขียวที่เกิดจากเตานภาสูญทนทานอยางหาที่เปรียบมิได ทวาภายใต
การฝกฝนคาถาสมบัติสะทานฟาแคขั้นแรกนั้น ก็เห็นไดชัดวาไมมีทางกระตุนอานุภาพ
ของมันไดมากนัก
ผลลัพธคือฝามือแข็งคาง แลวแตกออกเปนชิ้นๆ
ลำแสงสีเขียวมรกตสวางวาบโจมตีไปยังฝามือมาร ประจุไฟฟาสีทองสวางวาบ
ทะลุผานไปจนเปนรูขนาดสองสามฉื่อ แตหลังจากที่มีลำแสงสีดำสวางวาบ รูนั้นพลัน
สลายหายไปอยางไรรองรอย
ฝ ามื อ นั้ น ตกลงมาด านล างราวกั บ มองไม เห็ น คว ารางของหานลี่ เอาไว ในมื อ
จากนั้นก็ออกแรงบีบอยางไมเกรงใจเลยแมแตนอย
เสียง ‘ปง’ ดังขึ้น ลำแสงสีเขียวสวางวาบขึ้น รางกายของหานลี่ระเบิดออก
ทันใดนั้นอสูรดินปนพลันคลายนิ้วของฝามือมารทั้งหาออกดวยความพึงพอใจ
และควาตะปบลงมาทางเตานภาสูญใบนั้น
แตในตอนนั้นเอง จูๆ เสียงฟาผาก็ดังขึ้น ประจุไฟฟาสีเงินสายหนึ่งเปลงแสงสวาง
วาบสองสามครั้ง เคลื่อนยายออกมาจากฝามือมาร หลังจากกะพริบวาบสองสามครั้งก็
ปรากฏขึ้นหางออกไปยี่สิบจั้งเศษ เผยเงารางคนรางหนึ่งออกมา นั่นก็คือหานลี่
แตแคเขาในเวลานี้ มีสีหนาซีดขาวเปนอยางมาก สูญเสียลมปราณไปเปนจำนวนมาก
สวนซากศพในกรงเล็บมารก็พลันเปลงแสงสีเขียวสวางวาบ กลายเปนลูกไฟดวง
เล็กๆ รวมตัวกันกลายเปนยันตสีเขียวแผนหนึ่ง ขณะที่ทุกคนไมคาดคิดเตานภาสูญ
พลันสลายหายไปจากที่เดิม ชั่วครูก็มาปรากฏเหนือศีรษะของหานลี่
ยันตวิเศษแผนหนึ่งเปลี่ยนเปนสีดำ นั่นก็คือ ‘ยันตแปลงวิญญาณ’ ที่หานลี่ไดมา
จากสำนักยันตสวรรค
ถึงแมวาหานลี่จะฝกฝนยันตแผนนี้มาหลายป แตก็ยังหางชั้นกับอานุภาพที่แทจริง
ของมันอยูหลายสวน ทวา หานลี่ที่มียันตลดวิญญาณคอยชวยเสริม บวกกับที่ยันต
วิเศษแผนนี้เปนยันตธาตุไม จึงกระตุนความสามารถของยันตแผนนี้ออกมาอยางไม
เสียดายลมปราณ
ชั่วพริบตาที่ฝามือมารเขามาประชิด ก็ใชมันสรางรางตัวแทน ตานทานการโจมตี
ครั้งนี้เอาไว
ภาพฉากนี้ ทำใหคนอื่นๆ ยิ่งพากันตกตะลึงมากยิ่งขึ้น
แตเมื่ออสูรดินปนเห็นเชนนั้น กลับหัวเราะอยางเย็นชาออกมา ทันใดนั้นพลันชู
มือขางหนึ่งขึ้นชี้ไปทางหานลี่อีกครั้ง ในเวลาเดียวกันนิ้วทั้งหาก็หดงอเขามา
หานลี่มีจิตใจหนักอึ้ง เวลานี้เขาไดปลอยสมบัติออกมาหมดแลว ไมมีความมั่นใจ
วาจะตานทานการโจมตีระลอกนี้ไดอีก
ภายใตความจนปญญานั้น ก็ทำไดเพียงกัดฟนกรอด ใสลมปราณที่เหลืออยูเขาไป
ในเตานภาสูญ ทำใหเตาใบนี้ขยายใหญขึ้นจนมีขนาดสองสามจั้ง ตานทานเอาไวเบื้อง
หนา ในเวลาเดียวกันประจุไฟฟาสีทองรอบกายก็มีเปลวเพลิงสีมวงเปลงประกายสวาง
วาบ กลายเปนลำแสงวิญญาณหอหุมรางของตนเองเอาไว
หุนเชิดรางมนุษยเองก็เปลงแสงสวางวาบ หนีมาอยูเบื้องหนาของหานลี่ สองมือ
ประกบเขาหากัน ลำแสงหาสีรอบกายหมุนติ้วๆ ไมหยุด สีสันสดใสจนแสบตา คาดไม
ถึงวาจะทำใหตนเองกลายเปนสมบัติปองกันตัวชิ้นหนึ่ง
อสูรดินปนเห็นการเคลื่อนไหวอยางตอเนื่องของหานลี่ ดวงตาสีมวงกลับฉายแวว
ดูแคลน นิ้วทั้งหาคลายออกพลางดีดนิ้ว
แตในชั่วพริบตานั้น จูๆ อสูรดินปนก็มีลำแสงสีเงินสองสามสายเปลงแสงสวาง
วาบ ทันใดนั้นลำแสงสีขาวกลุมแลวกลุมเลาก็ระเบิดออก คาดไมถึงวาอสูรดินปนเพิ่ง
คิดจะลงมือ ก็ถูกอะไรสักอยางโจมตีจนแหลกสลายไป
อสูรดินปนตกตะลึงไปเล็กนอย
ทันใดนั้นขางๆ เตานภาสูญที่อยูระหวางมันกับหานลี่ ก็มีเงารางคนพลิ้วไหว เงา
รางอรชนออนแอนรางหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ เรือนผมสีเงินประบา ใบหูเรียว
แหลม จองเขม็งไปยังอสูรดินปนดวยความเย็นชา
คาดไม ถึ งวาจะเป น สตรีแ ปลกหน าสวมชุ ด กระโปรงคลุม ยาวสี ข าว ใบหู เรีย ว
แหลมคนหนึ่ง
“เจาคือ…” อสูรดินปนพิจารณาเงารางของผูที่อยูเบื้องหนา เผยสีหนาตกตะลึง
พรึงเพริดออกมา
“อิ๋นเยว!” หานลี่มองเงาแผนหลังของสตรีผูนี้ แตกลับอดที่จะรองอุทานออกมา
เบาๆ ไมได
สตรีผมสีเงินไดยินเสียงของหานลี่ ก็หันหนามามองอยางชาๆ เผยใหเห็นใบหนา
งดงามที่ดูไรความรูสึก ดวงสีดำคูนั้นฉายแววสดใสเปลงประกาย ทำใหหานลี่รูสึกทั้ง
แปลกหนาและทั้งคุนเคยในเวลาเดียวกัน
สตรีผูนี้มองหานลี่แวบหนึ่งดวยแววตาแข็งทื่อ จูๆ ก็ชูมือขึ้นชี้ไปกลางอากาศทาง
หานลี่
หานลี่พลันตกตะลึง เบี่ยงกายออกตามจิตสำนึก
ลำแสงสีเงินเปลงแสงเย็นเยียบสายหนึ่งฟนลงมาที่เตานภาสูญเหนือหัวของเขา
แทบจะแฉลบผานหัวไหลของหานลี่ไป อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายและเพลิงตาขายสี
มวงที่ถูกใชเปนลำแสงวิญ ญาณปกปองรางถูกสับออกอยางเงียบเชียบ และไมอาจ
ตานทานไดเลยแมแตนอย
หานลี่แทบจะสัมผัสไดถึงความเย็นเยียบที่หัวไหล
หานลี่พลันหนาเปลี่ยนสีไปยกใหญ
“ขาคือเจาหญิงใหญแหงเผาจันทราสีเงิน หลิงหลง! เจาทำอะไรกับจิตแยกของขา
ก็นาจะรูดี จากนี้ หากกลาเรียกขาวาอิ๋นเยวอีก ขาจะสังหารเจา” สตรีผูนี้เอยอยาง
ราบเรียบ
ถึงแมวาหานลี่จะโชคดีที่ไมไดรับบาดเจ็บ แตสีหนาก็เปลี่ยนเปนดูไมไดอยางสุดๆ!
หลังจากที่สตรีผมสีเงินเอยจบ ก็ไมสนใจหานลี่อีก และหันกายกลับไป จองเขม็ง
ไปยังอสูรดินปนที่อยูไกลออกไป
“เผ า จั น ทราสี เงิ น ! เจ า และหมาป า เฒ า เอ า เซี่ ย วมี ค วามสั ม พั น ธ อ ะไรกั น ?”
นอกเหนือความคาดหมายของทุกคน อสูรดินปนไมไดรีบรอนลงมือกับสตรีผูนี้ แต
ดวงตาทัง้ สองกลับหรี่ลงมา พลางเอยถามขึ้น
“ราชันยปศาจเอาเซี่ยวคือบรรพบุรุษของขา!” สตรีผมสีเงินตอบกลับอยางทื่อๆ
“เจาคือหลานสาวของหมาปาเฒา!” อสูรดินปนขมวดคิ้ว เห็นไดชัดวาคำตอบนั้น
อยูนอกเหนือความคาดหมายของมัน
“เจารูจักบรรพบุรุษขา?” หลิงหลงชักสีหนา น้ำเสียงแปลกประหลาดไปเล็กนอย
“ก็ไมถือวารูจักหรอก แตในอดีตครั้นสงครามอันยาวนานของแดนวิญญาณทั้งสองครั้ง
ขารูสึกนับถือเคล็ดวิชาปศาจของหมาปาเฒาเอาเซี่ยวอยูหลายสวน” อสูรดินปนเอย
ตอบอยางเชื่องชา
สตรีผมสีเงินไดยินเชนนี้ พลันขมวดคิ้ว แตเงียบกริบไมเอยอะไรออกมา
“ในเมื่อเจาคือชนรุนหลังของหมาปาเฒา ขาก็จะไมรังแกผูที่ดอยกวา เอาอยางนี้
ก็แลวกัน เจาไปจากที่นี่ได ขาจะไมลงมือขัดขวาง แตเจาจำตองสาบานกับบิดาของ
เจา วาจะไมลงมือขัดขวางจิตแยกของขาในแดนแหงนี้” อสูรดินปนลังเลเล็กนอย เอย
ขึ้นดวยน้ำเสียงที่ผอนคลายลง
เห็นไดชัดวาบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาผูนี้ รูสึกหวาดกลัวบรรพชนเอาเซี่ยวเปน
อยางมาก
“ปลอยขาไป? บรรพชนหยวนซา เจาอวดดีเกินไปหนอยแลว ถาหากเจาลงมาจุติ
ยังแดนนี้ ดวยจิตวิญ ญาณทั้ งหมด ขาก็ อ าจจะหั น กายจากไป แต ไอมารเที่ ยงแท ที่
รั่วไหลออกมาเพียงเทานี้ รับจิตวิญญาณของเจาไดมากสุดเพียงหนึ่งในสิบสวนก็ถือวา
ไมเลวแลว เหตุใดขาจะตองไปดวย” หลิงหลงหัวเราะอยางเย็นชาออกมา พลางเอย
อยางไมเกรงใจ
อสูรดินปนไดยินคำพูดของหลิงหลง ชั่วขณะนั้นพลันมีสีหนาเครงขรึม
“เด็กนอยระดับเทพแปลงขั้นปลายเพียงคนหนึ่ง แมแตกายเนื้อก็ยังไมมี คาดไม
ถึงวาจะไมรูจักที่ต่ำที่สูงขนาดนี้ ตอใหเปนเพียงจิตวิญญาณหนึ่งในสิบสวน การสังหาร
เจ า ก็ ง า ยดั ง ประสงค ในเมื่ อ เจ า กล า วเช น นี้ อย า งนั้ น ก็ ไ ม ต อ งไปแล ว บรรพชน
ศักดิ์สิทธิ์อยางขาจะสังหารเจาเอง” อสูรดินปนดูเหมือนวาจะถูกคำพูดของหลิงหลง
ทำใหโกรธา
ทันใดนั้นก็ไมลังเลอีก มือหนึ่งควาไปทางสตรีผมสีเงินกลางอากาศ กางนิ้วทั้งหา
ออก ชั่วขณะนั้นเสียงแหวกผานอากาศดัง ‘ฟวๆ’ พลันดังขึ้น ชั่วพริบตาลำแสงแวว
วาวจำนวนนับไมถวนที่ดูเหมือนจริงก็พุงออกมาจากมือยักษ สีสันเจิดจาแวววาวทอ
ประกายเต็มทองฟา ทาทางนาตื่นตะลึง
หลิงหลงเห็นเชนนั้น ริมฝปากบางพลันเผยอออกโดยไมกลาวอะไร พนจานกลมๆ
ขนาดเทาฝามือออกมา
จานนี้มีสีดำสนิท แตหลังจากขยายใหญขึ้น ดานบนคาดไมถึงวาจะมีลำแสงของ
ดวงดาวที่เปลงประกายปรากฏออกมา เผยใหเห็นความลึกลับเปนพิเศษ
ลำแสงสีสันแวววาวเหลานี้พุงออกไปรอบๆ จานกลมๆ หมุนโคจรเล็กนอย เปลง
เสียงรองหึ่งๆ ออกมา ในเวลาเดียวกันแรงดูดที่ไรรูปรางพลันแผออกมาจากจานใบนั้น
ลำแสงแวววาวที่ดูไมธรรมดา คาดไมถึงวาจะทยอยกันพุงเขามาราวกับแมลงเมาบิน
เขากองเพลิง
ชั่วพริบตา สีสันที่งดงามเต็มทองฟาพลันถูกกวาดออกไปจนเกลี้ยง
“จานดาวอัศจรรย!”
อสูรดินปนเห็นภาพฉากนี้ รางกายกลับสั่นเทิ้มและรองอุทานออกมาดวยน้ำเสียง
แหบแหง ใบหนาเต็มไปดวยสีหนาตกตะลึง
ไกลออกไป ซากหมีที่อยูดานขางซึ่งคอยปกปองรางที่เหลืออยูของ ‘ฮัวเทียนฉี’
อยู ไดยิน คำวา ‘จานดาวอัศจรรย’ ชั่วขณะนั้ น ดวงตาทั้ งสองพลัน เปลงแสงวิเศษ
ออกมา จองเขม็งไปยังจานกลมๆ ที่อยูเบื้องหนาของหลิงหลงใบนั้น ใบหนาเผยสีหนา
แปลกประหลาดออกมา
หลังจากที่สตรีผมสีเงินปรากฏตัวแลว เสวียนชิงจื่อและอรหันตชีเมี่ยวก็ตกตะลึง
ไปเล็กนอย แตเมื่อไดยินคำวาจานดาวอัศจรรยแลว ก็อดที่จะมองสบตากันแวบหนึ่ง
พรอมกับหนาเปลี่ยนสีไมได จากนั้นก็เผยสีหนาละโมบออกมาขณะจองเขม็งไปยังจาน
กลมๆ ที่อยูไกลออกไปใบนั้น
“เจาและเจ็ดราชันยปศาจของเผาปศาจมีความสัมพันธอันใดกัน จานดาวอัศจรรยมี
เพี ย งเจ็ ด ราชั น ย ป ศ าจและสามกษั ต ริ ย แ ห งเผ ามนุ ษ ย เท านั้ น ที่ มี คุ ณ สมบั ติ พ อให
ครอบครองกันละชิ้น!” หลังจากที่อสูรดินปนรูสึกประหลาดใจแลว ก็ตะโกนออกมา
ดวยสีหนาโหดเหี้ยม
ตอนที่ 1064 การตอสูครั้งใหญปะทุขึ้นอีกครั้ง
“เจาคิดวาขาจะตอบหรือ?” สตรีผมสีเงินใชนิ้วเรียวชี้ออกไปที่จานกลมๆ เบื้องหนา
แลวเอยอยางราบเรียบ
“ในเมื่อเจาคือเผาปศาจ จะตองไมเกี่ยวของอะไรกับสามกษัตริยแหงเผามนุษย
แน ตอนนั้นเจ็ดราชันยปศาจรวมมือกันสยบแดนมารโบราณของพวกเราหลายตอ
หลายครั้ ง สั ง หารคนของเผ า ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ไ ปนั บ ไม ถ ว น ในเมื่ อ เจ า และพวกเขามี
ความสัมพันธกัน ขาก็ไมจำเปนตองไวหนาบรรพชนเฒาเอาเซี่ยว สังหารเจาเสียก็จบ
เรื่องแลว” อสูรดินปนเอยดวยสีหนาที่เต็มไปดวยจิตสังหาร จากนั้นพลันถูมือทั้งสอง
เขาดวยกัน แรงกดมหาศาลกลุมหนึ่งหมุนวนมาจากทั่วทุกสารทิศ และรางของอสูรดิน
ปนที่แตเดิมรางเลือนก็ชัดเจนขึ้นในชั่วพริบตา
ลำแสงแวววาวสายแลวสายเลาพุงออกมาจากมือของอสูรดินปน ไมไดตรงไปหา
สตรีผมสีเงิน แตกลับรัดรางของตนเองเอาไว
ชั่วพริบตาอสูรดินปนก็กลายเปนยักษผลึกที่สูงใหญและมีหมอกสีดำหอหุมอยู แต
ดวงตาทั้งสองยังคงเปลงแสงสีมวงแวววาวที่ทำใหผูคนหวาดกลัวเชนเดิม
“อยาคิดวาจานดาวอัศจรรยจะสำแดงความบาคลั่งตอหนาบรรพชนศักดิ์สิทธิ์
อยางขาได ขาเองก็อยากดูวาเจาจะรับมือกับการโจมตีครั้งนี้ไดหรือไม” ยักษผลึก
เปลงเสียงอันราบเรียบออกมา ชูมือหนึ่งขึ้น ลำแสงแวววาวโคจรอยูบนใจกลางฝามือ
คาดไมถึงวาจะดูเหมือนกับจะมีอะไรสักอยางพุงออกมา
สตรีผมสีเงินหลิงหลงเห็นภาพฉากนั้น ไมเพียงจะไมไดลนลาน แตใบหนางดงาม
กลับ ฉีกยิ้ม บางๆ ออกมา แตดูเหมื อนจะแฝงเอาไวดวยความเย็น ชาแห งฤดูห นาว
ดอกไม ผ ลิ บ าน อารมณ แ ตกต า งกั บ ความเย็ น ชาดุ จ น้ ำ แข็ ง ในก อ นหน า ราวกั บ
เปลี่ยนเปนคนละคนอยางไรอยางนั้น
“เจาคิดวาเจายังมีเวลาอยูบนโลกนี้หรือ?”
“หมายความวาอยางไร?” ดวงตาสีมวงของยักษผลึกสีแวววาวพลันเปลงประกาย
ดวยความตกตะลึง
และในตอนนั้นเอง เสาหินที่แตเดิมเปลงแสงแวววาวอยูรอบๆ แทนบูชาพลันหมน
แสงลง เปลี่ยนเปนมืดมัวไรสีสัน ชั่วขณะนั้นมหายุทธเขตอาคมแตเดิมที่กำลังทำงาน
อยูพ ลันหยุดชะงัก เพราะไอมารสีดำในแท น บู ชาที่ คอยสนั บสนุน อสูรดินป นอยาง
ตอเนื่องจูๆ ก็หยุดลง
ยักษผลึกเห็นภาพฉากนั้น ชั่วขณะนั้นพลันเผยสีหนาตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวออกมา
เมื่อครูเปนเพราะมันใชจิตสัมผัสหลอมรางมารขึ้นมา จึงสูญเสียไอมารเที่ยงแทไปจน
หมดแลว ตอนนี้ยังถูกตัดไอมารสนับสนุนสายสุดทายไป เชนนั้น ผลที่ตามมาจะเปน
อยางไร มันก็ไมอาจรูได
ทันใดนั้นหลังจากที่มันเปลงเสียงรองคำรามออกมาก็ชูมือขึ้นขางหนึ่ง กะพริบ
แสงสวางวาบ พนลำแสงขนาดความหนาเทาปากชามสายหนึ่งออกมา
แตเมื่อลำแสงแวววาวนั้นพนออกมาไดเพียงครึ่งหนึ่ง บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซา
ก็เปลงเสียงรองคำรามอยางไมยินยอมออกมา รางแวววาวที่ถูกผนึกขึ้นแตกออกเปน
ชิ้นๆ จิตสัมผัสของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาที่แฝงอยูดานในไมมีรางกายใหควบคุม
ชั่วพริบตาก็แตกกระจายออก แลวสลายหายไปจากโลกใบนี้
สวนลำแสงแวววาวครึ่งหนึ่งนั้นพลันเปลงแสงสวางวาบ ขณะเขาใกลสตรีผมสีเงิน
แตสตรีผูนั้นที่เตรียมการเอาไวอยูแลวพลันชูมือขึ้น อาคมสีเงินสายหนึ่งโจมตีไป
ยังจานกลมๆ ที่อยูเบื้องหนา
ชั่ ว ขณะนั้ น จานกลมๆ พลั น ขยายใหญ ขึ้ น สองสามจั้ ง เปล ง แสงระยิ บ ระยั บ
ลำแสงแวววาวครึ่งหนึ่งถูกดูดเขาไปขางใน แตเห็นไดชัดวาการโจมตีครั้งนี้ไมธรรมดา
จริงๆ ถึงแมวาจะไมใชการโจมตีที่สมบูรณ แตยังคงทำใหจานดาวอัศจรรยเปลงเสียง
หึ่งๆ ออกมา จากนั้นพลันสั่นคลอนและพุงออกไปดานหลัง
หลิงหลงที่อยูดานหลังพลันหนาเปลี่ยนสี เห็นไดชัดวาสถานการณในตอนนี้อยู
นอกเหนือความคาดหมายของนาง มือหนึ่งพลันเปลงแสงสีเงินสวางวาบอยางไมตอง
คิด ตบไปที่จานกลมๆ ซึ่งบินไปดานหลังเบาๆ
แตจานกลมๆ ใบนั้นแคหยุดชะงักเล็กนอย ก็เปลงแสงเจิดจาออกมา ลำแสงแวว
วาวครึ่งทอนนั้นสวางวาบที่ดานหลังจานดาวอยางไมคาดคิดมากอน โจมตีไปยังทอง
ของหลิงหลงอยางรุนแรง
สตรีผมสีเงินเห็นไดชัดวาคาดคิดไมถึงวาจะเกิดเรื่องเชนนี้ขึ้น ภายใตควาวมตก
ตะลึงนั้น ลำแสงสีเงินรอบกายพลันปรากฏขึ้น แตลำแสงแวววาวสายนั้นก็ทะลุผาน
รางของสตรีผูนั้นไปอยางไรซึ่งการตานทาน
สตรีผูนั้นแคนเสียงหึดวยความเย็นชาออกมา รางกายลมลง ใบหนาเต็มไปดวย
ความเจ็บปวด แตมือหนึ่งกลับเปลงแสงสีเงินสวางวาบขณะกดไปที่บาดแผล ทำให
ผูคนไมอาจมองเห็นไดวาบาดแผลเปนอยางไรบาง
แตเดิมรางของสตรีผูนี้ก็อาศัยจิตสัมผัสผนึกขึ้น การโจมตีธรรมดาๆ จึงไมมีคาพอ
ให ส นใจ แต ล ำแสงแวววาวเมื่ อ ครูก ลั บ เป น สิ่ งที่ ผ นึ ก ขึ้ น จากจิ ต สั ม ผั ส ที่ แ ข็ งแกร ง
รางกายไดรับบาดเจ็บหนักจึงไมใชเรื่องแปลกอะไร
ภาพฉากที่ทำใหทุกคนสายตาพรามัวเมื่อครู กลับทำใหทุกคนรูสึกตกตะลึง
เสวียนชิ่งจื่อและพวกเห็นอสูรดินปนตัวนั้นถูกกำจัดไป แนนอนวารูสึกดีอกดีใจ
เปนอยางมาก สวนจิตแยกของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาที่แปลงเปนสตรีสวมชุด
เกราะสีดำนั้น กลับยากที่จะเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู
มั น ทุ ม เทแรงกายแรงใจเรีย กจิ ต สั ม ผั ส ของตั วเองออกมา คาดไม ถึ ง ว าจะถู ก
ทำลายลงอยางงายดายเชนนี้ และเห็นกันอยูชัดๆ วาเสาหินเสานี้แข็งแกรงขนาดไหน
อีกทั้งยังไมมีใครมาโจมตีมัน แลวจะสูญเสียพลังวิญญาณไปไดอยางไร
ภายใต ค วามตกตะลึ งระคนโกรธเกรี้ย วของสตรีส วมชุ ด เกราะสี ด ำ ผสานกั บ
ความรูสึกฉงนสนเทหนั้น หลังจากที่นางกวาดสายตาไปที่ตอของเสาหินที่พังทลาย
กลับหนาเปลี่ยนสี จูๆ มือหนึ่งพลันตะปบไปที่เสาหินตนหนึ่งกลางอากาศ
เสาตนนั้นดูทาทางวาจะไรซึ่งความเสียหาย กลับถูกดึงขึ้นจากพื้นดินจนเกิดเสียง
ดังสนั่น และตกลงมาบนพื้นดินอีกครั้ง
เสวียนชิงจื่อและพวกเห็นการเคลื่อนไหวประหลาดๆ ของสตรีชุดเกราะสีดำ ก็อด
ที่จะมองไปเปนตาเดียวไมได
เห็นเพียงเสาหินสวนที่ถูกดึงขึ้นมาเกิดเปนรูพรุนไมสม่ำเสมอกัน เห็นไดชัดวาถูก
อะไรสักอยางกัดแทะอยางรุนแรง
สตรีสวมชุดเกราะสีดำมีสีหนาเครงขรึมดุจสายธาร ทันใดนั้นก็โจมตีไปที่พื้นดิน
ตรงนั้นอยางรุนแรง
เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้น หลุมลึกสองสามจั้ง ปรากฏขึ้นกลางรอยแตก และ
ทามกลางเศษหินที่แตกกระจาย มีลำแสงสีทองแฝงอยู ขณะบินกระจายตัวออกมาไป
ทั่วทุกสารทิศ
อีกมือหนึ่งของสตรีชุดเกราะสีดำกดไปที่กลางอากาศ ลำแสงสีทองเล็กๆ เลานั้น
เปลี่ยนทิศทางพุงเขามา แลวถูกดึงเขามาในมือไดอยางงายดาย
เหลือบตามองแมลงเกราะสีทองเรืองรองเหลานั้นแวบหนึ่ง สตรีผูนั้นตะโกนชื่อ
ของมันออกมาดวยความตกตะลึง
“แมลงกลืนทอง! เจาใหแมลงนี้หมอบซุมอยูใตดินหรือ” สตรีชุดเกราะสีดำหัน
หนาไป จองเขม็งไปยังหลิงหลงที่มีสีหนาซีดขาวเล็กนอยซึ่งอยูไกลออกไป
สตรีผมสีเงินกลับหัวเราะอยางเย็นชาออกมา กดไปที่ลำแสงสีเงินตรงทอง ชักมือ
กลับมา จุดที่เปนรูแตเดิมหายไปเปนปลิดทิ้ง
“จานดาวอัศจรรย! หรือวาจะเปนสมบัติที่สามารถใชตานทานพลังสวนใหญขณะ
เดินทางขามดินแดนไดในตำนานชิ้นนั้น” สายตาของเสวียนชิงจื่อจองเขม็งไปยังจาน
กลมๆ นั้นนิ่ง พลางเอยปากขึ้น
“สหายเสวียนชิงจื่อ เจาถามอยางนี้หมายความวาอยางไร? หรือวายังคิดละโมบอีก”
ซากหมีหมื่นปที่มีใบมีดสีโลหิตเลมหนึ่งลอยอยูเบื้องหนา กลับเอยขึ้นดวยความ
เย็นเยียบ
“ฮาๆ สหายหมีลอเลนแลว ตอนนี้มารตนนั้นยังไมถูกกำจัด พวกเราจะทำเรื่อง
เชนนี้ไดอยางไร ศัตรูตัวฉกาจคือมารที่อยูเบื้องหนาถึงจะถูก กอนหนานี้ที่เรียกจิต
สัมผัสของตนออกมา จะตองทำใหมันสูญเสียไอมารไปไมนอยแน เวลานี้เขตอาคมถูก
ทำลายแลว นี่คือโอกาสงามในการสังหารมารตนนี้ของพวกเรา เหลาสหาย พวกเรา
รวมมือกันเถิด” อรหันตชีเมี่ยวหัวเราะออกมายกใหญ เลื่อนสายตาจองเขม็งไปยังสตรี
ชุดเกราะสีดำ
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาที่กลายเปนสตรีชุดเกราะสีดำไดยิน ก็หัวเราะอยาง
เย็นชาออกมา
“เจามารปศาจ มีอะไรใหนาขำกัน ในเมื่อบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ผูนี้ไมไดอยูบนโลกนี้แลว
เจายังคิดวาตัวเองจะตานทานพวกเราไดหรือ?”
เสวียนชิงจื่อมีสีหนาโหดเหี้ยมฉายแววสวางวาบ พลางตะโกนออกมาดวยเสียงอันดัง
“หึๆ! หากเจาคิดเชนนั้นจริงๆ คงลงมือกับขาตั้งนานแลว ไหนเลยจะมาพูดพลาม
ไรสาระเชนนี้ ถึงแมวาตอนนี้สถานการณของขาจะไมคอยดีนัก พวกเจาก็คงไมตางกัน
นั้น ไมเพียงสมบัติถูกทำลายไปจนเกือบหมด เกรงวาแมแตลมปราณก็คงเหลือเพียง
นอยนิดเชนกัน และยิ่งไปกวานั้นพวกเจาคิดวาการทำลายเสาสองสามตน ลง เขต
อาคมนี้จะไมมีทางใชไดอีกแลวหรือ?” สตรีชุดเกราะสีดำเผยสีหนาแปลกประหลาด
ออกมาขณะเอย จากนั้นรางกายก็พลิ้วไหว คาดไมถึงวาจะมาปรากฏตัวดานหนาศิลา
จารึกหิน กางนิ้วทั้งหาออก กดไปที่ตราประทับมังกรแปลงที่สลักอยูในศิลาจารึกแผน
นั้น
เสาหิ น ที่ แ ต เดิ ม ถู ก ทำลายเหล านี้ ก ะพริบ แสงสี ด ำวาบขณะฟ น ฟู ก ลั บ มาเป น
ดังเดิม แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ตรงจุดที่เสาหินถูกทำลาย จูๆ พายุทมิฬพลันกอตัว
ขึ้น ลำแสงสีดำสิบกวาสายพุงขึ้นมา ลำแสงเหลานี้เปลงเสียงหึ่งๆ ออกมา เสาหินอื่นๆ
เปลงประกายขึ้นอีกครั้งอยางคาดไมถึง
เขตอาคมทั้งหมดคาดไมถึงวาจะกลับมาทำงานอีกครั้ง
“แยแลว รีบหยุดมารตนนั้นเร็วเขา!” เสวียนชิงจื่อเห็นภาพฉากนี้กลับหนาเปลี่ยนสี
กระบี่เทพสวรรคที่อยูในมือสับลงมาจนกลายเปนไอกระบี่สีเหลืองเขมสายแลวสายเลา
อยางไมตองคิด ในเวลาเดียวกันลำแสงหลีกหนีก็ปรากฏขึ้น พุงตรงไปหาแทนบูชา
ซากหมีและอรหันตชีเมี่ยวเองก็ไมกลาดูแคลน ทันใดนั้นลำแสงสีโลหิตและลำแสง
วิญญาณเจ็ดกลุมพลันเปลงเสียงรองประสานรับกันและโจมตีออกไปพรอมกัน
ขวานยักษในมือกุยหลิงโบกสะบัด กรงลอสีเงินสายแลวสายเลาพุงออกไป
แมแตหลินอิ๋นผิงก็สะบัดแขนเสื้อ มีดพระจันทรครึ่งเสี้ยวสีแดงก็กลายเปนลำแสง
สีเพลิงสองสายสับลงไปเชนกัน
ดูเหมือนวาหลังจากอสูรดินปนที่ถูกสตรีชุดเกราะสีดำเรียกออกมาเมื่อครูถูกสังหารไป
แลว ผูบำเพ็ญเพียรทุกคนก็เกิดความเคียดแคนขึ้นมาพรอมกัน กลัววามารตนนั้นจะ
เปดผนึกออก อาศัยไอมารเรียกสิ่งที่นากลัวอะไรออกมาอีก หายนะที่ไมวาผูใดก็ไมมี
พลังตานทานเชนนี้ ทำใหผูบำเพ็ญเพียรทุกคนไมอยากสัมผัสอีกเปนครั้งที่สอง
ส ว นรา งแปลงมารมนุ ษ ย ที่ มี ป ก เป น อิ น ทรี ทั้ ง สองตั ว ก็ ก ระโจนเข า ไปหาคน
เหล านั้ น เช น กั น ครานั้ น ไอมารรอบๆ แท น บู ช าพลั น หมุ น วน ลำแสงวิญ ญาณพุ ง
ออกไปมั่วซั่ว การตอสูครั้งใหญประทุขึ้นอีกครั้ง
แตในตอนนั้นเอง กลับมีสองคนที่ไมไดลงมือ และยิ่งไปกวานั้นยังยืนเผชิญหนา
กันหางออกไปสิบจั้งเศษ
“เจาพูดอะไรนะ?” หานลี่เพิง่ จะไดยินอีกฝายถายทอดเสียงมาดวยความตกตะลึง
ในใจรูสึกหนักอึ้ง
“ขาบอกวาจะยืมเตานภาสูญของเจา!” สตรีผมสีเงินเอยอยางราบเรียบ สายตา
ประสานกับสายตาของหานลี่
“หึ ทำไมขาตองใหเจา” รูมานตาของหานลี่หดเล็กลง แคนเสียงหึออกมา สตรีผม
สีเงินที่อยูเบื้องหนา ถึงแมจะไมรูวามีความทรงจำของอิ๋นเยวอยูมากเทาไหร แตก็
กลายเปนสตรีแปลกหนาไปแลว หานลี่จึงรูสึกระวังตัวเปนอยางมาก
“ทำไมหรือ? แนนอนวาเพราะจะยืมรางแยกของอสูรศักดิ์สิทธิ์ในเตาใบนั้น สิ่งที่
เรียกวาอสูรศักดิ์สิทธิ์เทียนหลาน ก็เปนสิ่งที่มีชื่อเสียงมากในแดนวิญญาณ สามารถทำ
ใหมันกอตัวขึ้นมาเปนรางชั่วคราวใหขาไดพอดี มิเชนนั้นอาศัยเพียงรางของจิตสัมผัส
และรางมนุษยในตอนนี้ สูกับรางหมาปาสีเงินของขาแลวก็เสียเปรียบอยูไมนอย”
สตรี ผ มสี เงิ น เหลื อ บมองเสวี ย นชิ ง จื่ อ และพวกแวบหนึ่ ง พลางเอ ย ออกมา
ราบเรียบ
“ไมใหยืม!” นอกเหนือความคาดหมายของเซียนหลิงหลง แววตาของหานลี่พลัน
เปลงประกาย คาดไมถึงวาจะเอยปากปฏิเสธ
“เจาพูดอะไร!” สตรีผมสีเงินมีแววตาเย็นเยียบ เผยจิตสังหารออกมา
“ในเมื่อจิตสัมผัสของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาผูนี้ไมอยูแลว ขาก็ไมเห็นวา จะตอง
ทำอะไรใหยุงยากอีก” หานลี่จองเขม็งไปยังสตรีผูนั้น พลางตอบกลับอยางไมเกรงใจ
“เจ าอยากตายหรือ ?” หลิ งหลงได ฟ งคำพู ด ของหานลี่ ก็ โกรธเกรี้ ย วแต ก ลั บ
หั วเราะออกมา นิ้ วเรีย วชู ขึ้ น ชั่ วขณะนั้ น ลำแสงแวววาวยาวสองสามชุ น พลั น พุ ง
ออกมาจากนิ้วเรียว กะพริบวิบวับ ราวกับวาจะพุงออกมาไดตลอดเวลา
และในตอนนั้นเอง จูๆ ก็มีเสียงกรีดรองดังออกมาจากแทนบูชาที่มีไอมารตลบ
อบอวล ทันใดนั้นไอมารพลันหมุนวน รางของมารยักษสามหัวหกแขนปรากฏขึ้นรางๆ
ตอนที่ 1065 มารสงครามกรงลอหยก
สตรีผมสีเงินเห็นมารตนนั้นพลันหนาเปลี่ยนสี ลำแสงแวววาวที่เปลงแสงสวาง
วาบในมือหายไป ตะโกนใสหานลี่ดวยความโหดเหี้ยม
“มันพยายามจะเพิ่มวิชามารใหถึงจุดสูงสุด ถาหากเจาไมเอาเตาใบนั้นมาใหขายืม
พวกเราจะไมมีใครตานทานมันได”
หลิงหลงเพิ่งจะเอยคำนี้จบ ก็ไดยินเสียงคำรามดังออกจากมานหมอก เสาลำแสง
สีดำขนาดใหญพุงแหวกผานอากาศมา โจมตีไปทางนักพรตชราเสวียนชิงจื่อ
นักพรตชราพลันตกตะลึง กระบี่โบราณในมือเริงระบำจนกลายเปนกลุม ไอกระบี่
สีเหลืองจำนวนนับไมถวนทะลักออก จนพอตานทานเอาไวได แตในตอนนั้นเอง ไอ
มารก็หมุนวนเปนเกลียวอยางรุุนแรง เงารางมารสามหัวกระโจนออกมาจากไอมาร
เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไป
เสวียนชิงจื่อตกตะลึงอยางสุดๆ เขาอยูกลางอากาศ ลำแสงสีดำเปลงประกาย
อยางเงียบเชียบ เงามารสามหัวเปลงแสงสวางวาบขึ้นกลางอากาศ
เสวียนชิงจื่อนั้นก็ไมรูวาผานการตอสูมากี่สนามแลว ประสบการณจึงมากมายไม
ธรรมดา แทบจะชั่วพริบตาที่เงามารปรากฏตัวนั้น ก็สัมผัสไดในทันที กระบี่ยักษในมือ
พุงไปขางหลังและสับลงมาอยางไมลังเลแมแตนอย ในเวลาเดียวกันรางกายก็แวบ
หายไป คนหมุนติ้วๆ กลายเปนลำแสงสายหนึ่งพุงหนีไป
หลังจากที่หัวซายขวาของเงามารยักษตนนั้นเปลงเสียงหัวเราะอยางบาคลั่งแลว
พลันอาปากออก พนเสาลำแสงสีดำสองสายออกมา กระบี่ยักษที่เปลงไอมารสายหนึ่ง
ออกมา สัมผัสกับมันแลวสลายหายไป อีกสายหนึ่งกลับเปลงแสงสวางวาบ คาดไมถึง
วาจะไลตามเสวียนชิงจื่อที่กลายเปนลำแสงหลีกหนีไปอยางไมรูสาเหตุ และหอหุมเขา
ไวขางในอยางงายดาย
นักพรตชราที่ใชกระจกแปดเหลี่ยมชิ้นหนึ่งและหยกชิ้นหนึ่งเปนเกราะปองกัน
ลำแสงหอหุมรางกายนั้น ชั่วพริบตาละลายหายไปทามกลางเสาลำแสง คาดไมถึงวา
จะไมมีทางตานทานไดเลยแมแตนอย
นักพรตชราพลันตกตะลึง กระบี่โบราณในมือโบกสะบักดวยความรวดเร็ว กระบี่
ลำแสงสีเจิดจาหอหุมรางกายของเขาเอาไว
สุ ด ท ายก็ เกิ ด เสี ย งปริ แ ตกขึ้ น ท า มกลางลำแสงสี ด ำ หลั ง จากลำแสงสี เหลื อ ง
เปลงแสงสวางวาบ ก็สลายหายไปอยางไรรองรอย หลังจากที่นักพรตชราเปลงเสียง
รองอยางนาอเนจอนาถอกมาแลว ก็เงียบสงัดไป
หลังจากที่ลำแสงสีดำนั่นกวาดผานไป ทุกอยางพลันหายวับไป ราวกับวาแมแต
สมบัติอาคมที่มีทารกวิญญาณอยูดวยก็ยังถูกเสาลำแสงนั้นทำใหระเหยจนกลายเปนไอ
คนอื่นๆ เห็นเชนนั้น ก็อดที่จะตกตะลึงขึ้นมาไมได
เมื่อครูประมือกันนานขนาดนั้น นักพรตชราก็ยังปลอดภัยไรอันตราย แตเวลานี้
เมื่อปะทะกัน ก็ถูกสังหารไปอยางงายดาย สถานการณที่เปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้ มัน
จะมากเกินไปหนอยแลวกระมัง ทวาคนอื่นๆ กลับสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไป
พรอมกัน เมื่อมองเห็นมารสามหัวอยางชัดเจน ก็รูสึกใจหายวาบ
ดูแลว มารตนนี้คือมารที่สตรีชุดเกราะสีดำสรางขึ้นดังคาด
เวลานี้รางของสตรีผูนั้นอยูสูงขึ้นไปสามสี่จั้งเศษ หัวตรงกลางยังคงเหมือนเดิม
นั่นก็คือเปนใบหนาที่งดงามของสตรี แตหัวทั้งซายและขวากลับเปนหัวหมาปาสีดำ
ขนาดเทาถังน้ำ นากลัวอยางสุดๆ รางมารถูกเกราะสงครามสีดำสนิทหอหุมเอาไวกวา
ครึ่ง จุดที่โผลพนชุดเกราะออกมากลับเต็มไปดวยเสนขนละเอียดของหมาปา สีดำแวว
วาว แขนทั้งหกเต็มไปดวยเกล็ดสีดำเขียว บนมือวางเปลา แตนิ้วทั้งสิบที่แหลมคมนั้น
กลับเปลงแสงสีดำสวางวาบ
ไมวาจะรางกายหรือการสังหารเสวียนชิงจื่อเมื่อครูของมารตนนี้น้ัน ก็ทำใหคนอื่นๆ
รูสึกใจสั่นสะรัว แตก็เห็นไดชัดวามารตนนี้ก็สูญเสียปราณแทไปไมนอย หัวหมาปาทั้ง
สองยังพอวา ยังดูความเปลี่ยนแปลงไมออก หัวของสตรีที่อยูตรงกลางกลับมีสีหนาซีด
เผือด แมแตลำแสงสีมวงในแววตาก็ยังหมนหมองลงไมนอย
มารรางมนุษยปกอินทรีสองตนที่แตเดิมพนไอหมอกออกมาทามกลางไอมารนั้น
หลังจากที่มารสามหัวปรากฏตัวก็หายวับไปอยางไรรองรอย ไมรูวาเปนเพราะหลังจาก
ที่มารตนนี้แปลงรางแลว ก็ไมมีทางประคับประคองไอมารจำนวนมากขนาดนี้ไดใช
หรือไม
ซากหมี นักกวีวัยกลางคนและคนอื่นๆ เห็นมารตนนี้ออนแอลงเชนนี้ หลังจาก
มองสบตากันแวบหนึ่ง ทันใดนั้นก็เขาไปลอมโจมตีอีกครั้งอยางไมตองขบคิด
ถึงแมจะไมรูวาเหตุใดมารตนนี้ถึงไดแปลงรางเปนสิ่งที่นากลัวเชนนี้ แตพวกเขาก็
ไมมีทางยอมใหถูกโจมตีทีละคนๆ แน
ชั่วพริบตาลำแสงสีโลหิต ลำแสงสีเงิน ลำแสงสีแดงพลันหมุนวนเปนเกลียว ลอม
มารตนนั้นเอาไว ไมยอมใหมันมีโอกาสไดหายใจ
และหลังจากที่สำแดงอานุภาพอันยิ่งใหญเมื่อครู มารสามหัวก็ดูเหมือนวาจะไมมี
แรงโจมตีเชนเดิมออกมาไดอีกจริงๆ ทำไดเพียงพนไอสีดำออกมา แขนทั้งหกรายระบำ
ฝนตานทานเอาไวเทานั้น
“ไมถูก!”
สตรีผมสีเงินที่อยูตรงขามกลับเตานภาสูญของหานลี่กลับหนาเปลี่ยนสี หลังจากที่
เปลงเสี ยงตะโกนต่ ำๆ ออกมา คาดไม ถึ งวารางกายจะเลือ นรางหายไปจากที่ เดิ ม
ทั นใดนั้ น รางของสตรีผูนี้ ก็เปลงแสงสวางวาบ ปรากฏขึ้น บนแท น บู ชาที่ ถูกไอมาร
หอหุมเอาไว
นางจองเขม็งไปยังไอมารดานลาง หลังจากขมวดคิ้วอยูชั่วครู คาดไมถึงวาพุงเขา
ไปในไอมารทามกลางลำแสงแวววาวชั้นหนึ่งที่หอหุมรางเอาไว
หานลี่เห็นเชนนั้นพลันตะลึงงันไปเล็กนอย
เขาเพิ่งจะปฏิเสธอีกฝายไป และไมกลัววาพระชายาปศาจหลิงหลงจะลงมือกับ
เขา เพราะวากอนหนานี้เคยลองทดสอบแลววา ยังคงสัมผัสไดถึงการดำรงอยูของ
ศาสตราวิญญาณผานกระบี่บินประจำกายในรางของเขาได ดูแลวถึงแมอีกฝายจะรวม
ร า งกั บ จิ ต วิ ญ ญาณดั้ ง เดิ ม ของอิ๋ น เย ว แต จิ ต วิ ญ ญาณส ว นหนึ่ ง ก็ ยั ง เป น ศาสตรา
วิญญาณของเขาไมเปลี่ยนแปลง
ถึงแมวาอีกฝายจะมีจิตสัมผัสแข็งแกรง ไมมีทางควบคุมอีกฝายไดเลยแมแตนอย
แตสตรีผูนี้คงจะวิตกกังวลไมกลาลงมือเชนกัน
สวรรคเทานั้นที่รูวา หากนางลงมือโจมตีหรือสังหารหานลี่ขึ้นมาจริงๆ จะเกิด
เรื่อ งประหลาดอะไรขึ้น ถึงอยางไรเสี ย จิ ตวิญ ญาณส วนหนึ่ งที่ กลายเป น ศาสตรา
วิญญาณของผูอื่น คิดดูแลวกอนหนานี้สตรีผูนี้ก็คงไมเคยไดยินมากอนสินะ
ตอนนี้หานลี่เห็นสตรีผมสีเงินไมสนใจเขา ก็รูสึกงุนงงเล็กนอย มองไปทางแทนบูชาที่มี
ไอมารสีดำสนิ ท ห อ หุ มอยู ถึงแมจ ะใช เนตรวิญ ญาณวารีกระจ าง แต กลั บ ไม มี ท าง
มองเห็นอะไรไดชัดเจน
หานลี่พลันขมวดคิ้ว สายตากวาดไปยังมารยักษสามหัวที่มีเคล็ดวิชารับมือ แตไม
มีทาทีจะเอาคืน มองไปที่เสาหินรอบๆ ที่ยังคงเปลงแสงวิญญาณจางๆ ไอมารบนแทน
บูชากลับไมมีทาทีจะเพิ่มขึ้นเลยสักนิด ทันใดนั้นพลันใจเตน สองมือถูเขาหากันทันที
อยางไมตองคิด ดีดนิ้วทั้งสิบไปมา
ลำแสงสีทองเปลงแสงสวางวาบ เสียงฟาผาที่ทุมต่ำดังขึ้นอยางตอเนื่อง
ประจุไฟฟาสิบกวาสายพุงออกไป เปาหมายคือเสาหินที่สรางขึ้นจากไอสีดำสิบกวาตน
เมื่อประจุไฟฟาจมหายเขาไปดานใน เสียงฟาผาพลันดังขึ้น เปลงแสงสีทองสวางวาบ
เสาสีดำเหลานี้สลายหายไป เมื่อสัมผัสกันพลันแหลกสลายออก ราวกับวาเสาสีดำ
เหลานี้เปนเพียงภาพลวงตาอยางไรอยางนั้น
ไมใชแคหานลี่ สีหนาของคนอื่นๆ ก็เปลี่ยนสีเชนกัน
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้ น กลางแท น บู ชากลับ มีเสียงของสตรีผมสีเงินที่ เย็น
ชาตะโกนออกมา
“บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซา รางที่แทจริงของเจาอยูที่นี่นี่เอง?”
“หึๆ มหายุทธกรงลอสวรรคแปลงมาของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์นั้นไมเลวสินะ คนผู
นั้นมีคุณสมบัติไมเลว ไมเสียแรงที่ขาใชเคล็ดวิชาลับดึงเขาเขามาในผนึกตั้งแตแรก แต
นาเสียดายที่ใสไอมารเที่ยงแทเขาไปไดเพียงระยะเวลาสั้นๆ จึงไมอาจกลายเปนมาร
สงครามกรงลอหยกสามหัวที่แทจริงได แตสวมชุดเกราะมารของขาและหลอมรวมราง
กัน ภายใตการโจมตีอยางเต็มกำลังก็ไมแตกตางจากผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
เลยสักนิด นาเสียดายที่ไอมารเที่ยงแทในชุดเกราะมารมีจำกัด มิเชนนั้นอาศัยมันแค
คนเดียว ก็เพียงพอจะสังหารพวกเจาทั้งหมดแลว” คาดไมถึงวาทามกลางแทนบูชาจะ
มีเสียงหัวเราะที่พึงพอใจของสตรีชุดเกราะสีดำดังขึ้น
ในตอนที่อรหันตชีเมี่ยว กุยหลิง และคนอื่นๆ ที่ลอมมารสามหัวตนนั้นอยูไดยิน
วาจานั้นเขา ก็อดที่จะตกตะลึงไมได
ในตอนนั้นเอง หลังจากที่รางของมารสามหัวเปลงแสงเจิดจาออกมา หัวมารทั้ง
สามก็ขยายใหญขึ้น
หัวตรงกลางกลายเปนใบหนาของบุรุษมีเขางอกออกมาจากศีรษะเขาหนึ่ง ลำแสง
สีแดงมวงฉายแววสวางวาบ แตใบหนายังเห็นไดชัดวาเปนคนประหลาดที่หายตัวไป
กอนหนา หัวทั้งสองฝงกลับกลายเปนใบหนาของมนุษยปกอินทรี ทั้งสามที่มีรางกาย
แยกจากกัน คาดไมถึงวาจะถูกนำมาหลอมรวมกันเปนรางเดียว
เมื่อเห็นสถานการณที่นากลัวเชนนี้ ถึงแมวาอรหันตชีเมี่ยวและพวกจะเคยพบกับ
ความนากลัวมานับครั้งไมถวน เวลานี้ก็ยังทยอยกันเผยสีหนาตื่นตะลึงออกมา การ
โจมตีในมือเชื่องชาลง
และเมื่อมารตนนี้เผยโฉมหนาที่แทจริงออกมา หัวตรงกลางก็เงยหนาขึ้นกูคำราม
สีหนาโหดเหี้ยม เกราะสงครามสีดำบนเรือนรางขยายใหญขึ้น ชั่วพริบตาก็หอหุมราง
ของมารตนนั้ น เอาไวทั้ งราง แม แ ต หั วทั้ งสามก็ ยั งถู ก เกราะสี ดำห อ หุ ม เอาไวอ ย าง
หนาแนน ในเวลาเดียวกันแขนทั้งหกที่โบกสะบัก มีดยาวสีดำสองเลม หอกยาวสีดำ
สองเลม กระบี่สีดำสองเลมก็ปรากฏขึ้นในมือทั้งหกพรอมกัน จากนั้นมารตนนี้ก็แคน
เสียงหึดวยความเย็นชาและเต็มไปดวยจิตสังหารออกมา กระโจนเขาใสอรหันตชีเมี่ยว
และพวก
และในตอนนั้นเอง ไอมารที่อยูไกลออกไปก็มีเสียงกึกกองดังขึ้น จากนั้นเสียง
ระเบิดก็ดังขึ้นอยางตอเนื่อง ทั้งแทนบูชาพลันสั่นสะเทือน
“บรรพชนหยวนซา เจาจะทำอะไร!” เสียงตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวของของ
สตรีผมสีเงินดังออกมาจากไอมาร
“เหตุใดขาจะไมกลา! ขอแคทำลายผนึกนี้ได ภารกิจของขาก็ถือวาเสร็จสมบูรณ
ไมมีแดนวิญ ญาณมาแส ไหนเลยที่แดนนี้จะมีกำลังกักไอมารเที่ยงแทเอาไวได การ
กลายเปนสวนหนึ่งของแดนมารโบราณของพวกเรา ก็เปนเรื่องที่ตองเกิดขึ้นไมชาก็เร็ว
เทานั้น” สตรีชุดเกราะสีดำหัวเราะเยาะเยยออกมาหลังจากเอยจบ ไอมารรอบๆ แทน
บูชาราวกับถูกแมเหล็กดูดไปอยางไรอยางนั้น จูๆ พลันผนึกรวมตัวกันตรงใจกลาง
ชั่วอึดใจ ไอมารรอบๆ ก็หายวับไป ไอมารทั้งหมดหายเขาไปในรางของคนที่ยืน
อยูบนแทนบูชาเพียงผูเดียว นั่นก็คือสตรีชุดเกราะสีดำผูนั้น เกราะมารบนรางของสตรี
ผูนี้หายไปอยางไรรองรอย แตมือหนึ่งพลันชูขึ้น กลับมีลูกบอลลำแสงสีดำขนาดเทาหัว
แมมือปรากฏขึ้น
ผิวของลูกบอลลูกนี้เปลงแสงสีดำสวางวาบ เดี๋ยวขยายใหญขึ้นเดี๋ยวหดเล็กลงอยางไม
แน น อน แต เมื่ อ พิ จ ารณาอย างละเอี ย ดแล ว ด านในคาดไม ถึ งว าจะมี ล ำแสงห าสี
เปลงแสงวิบวับอยู
ไอมารทั้งหมดเมื่อครู ถูกลูกบอลนั้นดูดเขาไปดานใน
หานลี่เห็นภาพฉากนี้ ลำแสงวิญญาณพลันเปลงแสงสวางวาบในหัว ชั่วขณะนั้น
พลันนึกถึงตอนที่จิตวิญ ญาณหลักของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาลงมาจุติ ลำแสง
วิญญาณหาสีที่แผออกมาจากรางของอสูรนกยูงแรดวิญญาณ หรือวาจะเปนของอสูร
วิญญาณตัวนั้น?
สตรีชุดเกราะสีดำกลับมีทาทีแปลกประหลาดพรอมกับไอมารที่หมุนโคจรอยูทั่วราง
ถือลูกบอลลำแสงเอาไวในมือ ปากก็บริกรรมคาถา บนรางของนางมีเงาลำแสงจางๆ
ปรากฏขึ้น ดูจากทาทางแลวเหมือนกับอสูรดินปนกอนหนาอยางไรอยางนั้น
การเคลื่อนไหวของเงาลำแสงนี้กลับเหมือนกับทาทางของสตรีผูนี้อยางไรอยางนั้น
ชูมือขึ้น และรายอาคมเชนกัน
เวลานี้ รางของหลิ งหลงพลั น ปรากฏขึ้ น ที่ ด านข างแท น บู ช า เงยหน าขึ้ น มอง
ทองฟา ใบหนางดงามเต็มไปดวยสีหนาตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว
หานลี่มองไปดวยความประหลาดใจเชนกัน เวลานี้ถึงไดพบวาไมแปดวิญญาณที่
กำลังตอกรกับธงวายุทมิฬกลางอากาศเกิดปรากฏการณที่นาตกตะลึงขึ้น
สมบัติที่กลายเปนอสรพิษยักษสีดำชิ้นนี้ คาดไมถึงวาจะจะกลายเปนลูกบอลวายุ
ยักษสีดำลูกหนึ่งตอนไหนก็ไมรู ลูกบอลนี้มีขนาดราวกับหอคอยหอหนึ่งอยางไรอยาง
นั้น ดานในมีลำแสงสีดำจำนวนนับไมถวนหมุนวนเปนเกลียวระลอกคลื่น ทำใหผูคน
มองไปแลว รูสึกเวียนหัวตาลาย แตกลับไมมีเสียงใดเลยสักนิด
เมื่ออักขระสีเงินจำนวนมากรวงหลนลงมาจากกลีบดอกบัวยักษสัมผัสเขากับผิว
ของลูกบอล ก็เปลงแสงสวางวาบแลวจมหายไปในทันที ราวกับโคลนที่จมลงไปใน
มหาสมุทรอยางไรอยางนั้น เงียบกริบไรสุมเสียง
ลูกบอลสีดำขนาดใหญหนึ่งลูกและเล็กหนึ่งลูก ปรากฏขึ้นอยางแปลกประหลาด
ทั้งดานบนและลาง ชั่วขณะนั้นหานลี่พลันสัมผัสไดถึงลางสังหรณที่ไมดี
ตอใหเขาไมรูวาสตรีสวมชุดเกราะสีดำนี้คิดอะไร แตแคลูกบอลสีดำสองลูกที่แฝง
เอาไวดวยไอมารและลมปราณ ก็นากลัวแลว ไมมีทางปลอยใหพวกมันทำอะไรตอแน
ชั่วพริบตาที่หานลี่ตัดสินใจ ทันใดนั้นความคิดพลันเคลื่อนไหว หุนเชิดรางมนุษย
ที่ อ ยูด านขางชู มือ ขึ้น ทั น ที ลำแสงสี ดำสายหนึ่ งเปล งแสงสวางวาบแล วพุ งออกไป
เปาหมายก็คือลูกบอลวายุยักษที่อยูกลางอากาศ
ตอนที่ 1066 ระลอกคลื่น
สิ่งที่พุงออกไปก็คือมีดบินที่หลอมขึ้นมาจากเพชรกระดูกมารสีดำ มีดบินเลมนี้มี
ความรวดเร็วเปนอยางมาก นับวาเปนสมบัติอาคมที่สุดยอดที่สุดของหานลี่
ดานนี้เพิ่งจะปลอยออกไป ดานนั้นก็ทะลวงผานลูกบอลวายุไปแลว
ราวกับน้ำเย็นเยียบที่สาดลงไปในน้ำมันที่เดือดพลาน! เมื่อมีดบินจมหายเขาไป
ดานใน ลูกบอลวายุก็ดูเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมาอยางไรอยางนั้น คลื่นสีดำดานในพลัน
เปลี่ยนรูปราง เปลงเสียง ‘ปงปง’ ดังสนั่นขึ้น ผิวของลูกบอลเริ่มเวานูนอยางไมเปน
ระเบียบ แรงกดที่นากลัวดานขาง ดูเหมือนวาใกลจะระเบิดออกมาแลว หากสัมผัสก็
จะปะทุออกมาในทันที
ภาพฉากนี้ทำใหสตรีสวมชุดเกราะสีดำที่กำลังหัวเราะอยางลำพองใจอยูหยุดลง
หลังจากที่สตรีผมสีเงินพิจารณาเล็กนอยกลับนึกอะไรขึ้นมาได แววตาสดใสฉายแวว
ผอนคลายลง
“เปนไปไมได มีดบินเลมหนึ่งจะโจมตีธงวายุทมิฬไดอยางไร” สตรีสวมชุดเกราะสีดำ
ยังคงเอยปากออกมาอยางไมอยากจะเชื่อ แตเมื่อเห็ นลูกบอลวายุเหนือศีรษะใกล
ระเบิดออก ก็ไมอาจรอไดอีก สองมือพลันรายอาคม ชี้ไปยังลูกบอลลำแสงสีดำที่ลอย
อยูบนมือของตัวเองอีกครั้ง
อาคมสีเทาที่ไมสะดุดตาสายหนึ่งพุงออกมาจากในนั้น
เสียง ‘พรึ่บๆ’ ดังขึ้น ลูกบอลลำแสงสั่นคลอน แลวพนเสาลำแสงสีดำสายหนึ่ง
ออกมาขณะที่กำลังสั่นคลอน เปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขาไปในลูกบอลววายุ ชั่ว
พริบตาลูกบอลลูกนี้ที่สั่นคลอนอยางหนักพลันสงบลง
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม หุนเชิดรางมนุษยกลับไมอาจกระตุนอาคมไดอีก มีดบิน
เพชรกระดูกมารสีดำจมหายเขาไปในลูกบอลวายุ และเริ่มขยายใหญขึ้น ลำแสงสีดำ
เปลงแสงสวางวาบทามกลางลูกบอลวายุ เวลานั้นไมไดพุงเขาไป ลูกบอลวายุที่เพิ่งจะ
สงบลงจากการโจมตีกลับมาไมมั่นคงอีกครั้ง
“รนหาที่ตาย!” สตรีสวมชุดเกราะสีดำเห็นเชนนั้น แนนอนวาตองรูสึกโกรธเกรี้ยว
อย างสุ ด ๆ ตะปบมื อ กลางอากาศไปทางหานลี่ อ ย างไม ต อ งคิ ด ชั่ วพริบ ตาแรงกด
มหาศาลพลันตกลงมาที่เหนือศีรษะของหานลี่
หานลี่ใจหายวาบ ตอนที่กำลังคิดจะหลบหลีกนั้น หลิงหลงที่ปรากฏตัวบนแทน
บูชากลับลงมือลวงหนาไปแลวกาวหนึ่ง
สตรีผูนี้ ตบมือไปยังจุดที่หานลี่อยูเบาๆ
เสียง ‘ปง’ ดังสนั่นขึ้น กรงเล็บมารสีดำขางหนึ่งและมือยักษสีขาวโพลนขางหนึ่ง
ปะทะกันกลางอากาศ เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น ทันใดนั้นลำแสงสีดำและลำแสงสีขาวก็
พัวพันเขาดวยกัน เปลงเสียง ‘ฟวๆ’ แหวกอากาศตอเนื่อง
“มีขาอยู เจาคิดวาจะสังหารคนผูนั้นไดงายๆ อยางนั้นหรือ?” สตรีผมสีเงินเปลง
เสียงหัวเราะแผวเบาออกมา ดวงตาสดใสคูนั้นจองเขม็งไปยังสตรีที่สวมชุดเกราะสีดำ
ดวยดวงตาที่ไมกะพริบขณะเอย
สตรีสวมชุดเกราะสีดำมีสีหนาเครงขรึมดุจสายธาร ไมไดเอยอะไรออกมา
นางรูดีวาถึงแมสตรีผมสีเงินผูนี้จะไมมีกายเนื้อ กอนหนานี้ยังถูกตนเองโจมตีดวย
จิตสัมผัส ทาทางดูไดรับบาดเจ็บไมนอย แตหากจะโจมตีศัตรูผูนี้ใหเพลี่ยงพล้ำจริงๆ
หากไมใชเวลาสักหนอย ก็ไมมีทางสำเร็จไดงายๆ
“เดิมทีคิดจะรออีกเดี๋ยว เพื่อเพิ่มความมั่นใจอีกสักสองสามสวน แตดูแลวคงไมมี
ทางรอไดอีก” สตรีชุดดำมองไปยังลูกบอลวายุยักษกลางอากาศที่ดูเหมือนวาสูญเสีญ
การควบคุมไดทุกเมื่อ พลันสูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง ถึงไดเอยพึมพำดวยเสียง
ทุมต่ำออกมา จูๆ รางกายก็พลิ้วไหว คาดไมถึงวารางกายจะสลายไปราวกับกลุมควัน
หายวับไปจากที่เดิม
หลิงหลงพลันตกตะลึง แตทันใดนั้นแววตาก็ฉายแววโหดเ**ยม ผมสีเงินทั้งศีรษะ
ลุกชันขึ้นอยางไรซึ่งสายลม เสนไหมสีเงินจำนวนนับไมถวนพุงไปกลางอากาศใกลๆ
กับลูกบอลวายุ
แตไมรอใหเสนไหมสีเงินตกลงมา ไอสีดำกลุมหนึ่งพลันตกลงมา ชั่วพริบตาก็ผนึก
รวมกันและเปลี่ยนรูปราง กลายเปนหมาปาสีดำสองหัวขนาดสองสามจั้ง
หมาปาตัวนี้เห็นเสนไหมสีเงินที่อยูกลางอากาศพลันหนาเปลี่ยนสี ดูเหมือนวาจะ
มีสีหนาประลหาดใจเล็กนอย แตทันใดนั้นแววตาก็ฉายแววเหยียดหยาม รางกายสั่น
เทาเบาๆ ชั่วขณะนั้นดานหลังของมันพลันมีเสียงแหวกอากาศราวกับลูกธนูพุงเขามา
ลำแสงสีดำที่เปลงประกายผืนใหญพุงออกมา ตรงไปหาเสนไหมสีเงินอยางหนาแนน
ทั้งสองปะทะกันและพัวพันกันอยูกลางอากาศ เสียงแหลมที่เกิดจากอาวุธซึ่งสับ
ลงมาดังขึ้น หมาปากลับถือโอกาสนี้พุงกระโจนเขาไปในลูกบอลวายุ
ลูกบอลวายุสั่นสะเทือนอยางบาคลั่ง เสียงอึกทึกหายไปในชั่วพริบตา คาดไมถึงวา
ทั้งดานในและดานนอกจะเงียบสงัดลง
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น หานลี่ก็สัมผัสไดจากหุนเชิดวา มีดสั้นสีดำที่แตเดิมมี
ไอวิญญาณโคจรอยูนั้น เริ่มเชื่องชาลง ราวกับวาจมเขาไปในบึงน้ำที่ไมอาจถอนตัว
ออกไดอยางไรอยางนั้น
หานลี่ ใจหายวาบ ความคิ ด เคลื่ อ นไหว ชั่วพริบ ตาหุ น เชิ ด รางมนุ ษ ย พ ลั น เป ด
ลมปราณทั้งหมด ฝนดึงมีดบินเพชรกระดูกมารสีดำกลับมา ทวาเสียงแคนหัวเราะ
อยางเย็นชาพลันดังออกมาจากทามกลางลูกบอลวายุ ทันใดนั้นมีดบินพลันสั่นคลอน
คาดไมถึงวาจะสูญเสียการเชื่อมโยงทางจิตสัมผัสกับหุนเชิดไป
การตกตะลึงในครั้งนี้ ไมใชเรื่องเล็กเลยจริงๆ!
เขาถูมือทั้งสองอยางไมตองคิด ชูมือขึ้นอีกครั้ง ประจุไฟฟาสีทองขนาดยักษหนา
เทาปากชามสองกลุมพุงออกมา ในเวลาเดียวกันกระบี่บินทั้งหมดที่หมุนโคจรอยูเบื้อง
หนาก็สั่นคลอนตามไปดวย หลังจากเสียงฟาผาดังขึ้นอยางตอเนื่อง ชั่วขณะนั้นประจุ
ไฟฟาสีทองจำนวนนับไมถวนพลันดีดเปรี๊ยะๆ ออกมาจากตัวกระบี่ ชั่วพริบตาประจุ
ไฟฟาก็ที่รวมตัวกัน ก็กลายเปนมังกรวารีสายฟาสีทองยาวยี่สิบจั้งเศษ
รอบกายของมังกรวารีตัวนี้เปลงแสงแปลบๆ ไมหยุด กางกรงเล็บและแยกเขี้ยว
ยิงฟน เสียงฟาผาที่ทุมต่ำดังออกมาจากในราง
นอกจากอัสนีที่ใชควบคุมปกวายุอัสนีแลว คาดไมถึงวาหานลี่จะปลอยอัสนีเทวา
ปดเปาภยันตรายทั้งหมดของกระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆาออกมา ทาทางดุดัน ทำใหผูคน
ตาถลน
หานลี่ไมลังเลแมแตนอย มังกรวารีสายฟากอตัวขึ้น และกระโจนลงไปหาลูกบอล
ลำแสงสีดำที่อยูดานลางจำนวนนมากอยางดุดัน
ลูกบอลสีดำนี้ไมเหมือนกับลูกบอลวายุขนาดยักษที่อยูกลางอากาศ ลวนใชไอมาร
ที่บริสุทธิ์กอขึ้น เมื่อถูกโจมตีดวยอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายจำนวนมากเชนนี้ ตอให
มันมีจุดที่ผิดแผกอัศจรรยอะไรอีกก็ตองหายวับไปในทันที
สตรีผมสีเงินที่กำลังควบคุมเสนไหมสีเงินของตัวเองตอกรกับลำแสงบางๆ สีดำ
อยางไมยอมออนขอตอกันนั้น เมื่อเห็นมังกรวารีสายฟาตัวนี้ ปากก็อดที่จะเปลงเสียง
รองอุทานออกมาไมได
ถึงแมวานางจะหลอมรวมกับจิตวิญ ญาณดั้งเดิมของอิ๋นเยว แตในสถาการณ ที่
แทบจะใช อัส นี เทวาป ด เป าภยัน ตรายเต็ ม กำลั งนั้ น กลับ เพิ่ งเคยเห็ น เป น ครั้งแรก
อานุภาพของมังกรวารีสายฟา ทำใหสตรีผูนี้ตื่นตะลึงไปเล็กนอย
ทามกลางลูกบอลวายุ หมาปาสีดำสองหัวกำลังใชสิ่งของกึ่งโปรงใสรูปรางเหมือนกาว
กักมีดบินเพชรกระดูกมารสีดำเอาไว เมื่อเห็นเชนนั้นพลันตกตะลึง สองตากลายเปนสี
แดงสดอยางไมตองคิด ในเวลาเดียวกันหัวหมาปาทั้งสองพลันพนเสาลำแสงสีโลหิต
สองกลุมออกมา
ชั่วพริบตามังกรวารีสายฟาและเสาโลหิตพลันปะทะเขาดวยกัน ชั่วขณะนั้นประจุ
ไฟฟาพลันพุงออกมาแปลบปลาบ กลิ่นคาวเลือดคละคลุง คาดไมถึงวาจะตานทาน
อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายจำนวนมากเอาไวได
“เจากลาทำรายรางของขา!” หลิงหลงเห็นเสาลำแสงโลหิต คิ้วดำขลับพลันเลิก
ขึ้นดวยความโกรธเกรี้ยว!
คาดไมถึงวาเสาโลหิตจะเปนสิ่งที่รางแยกบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซากระตุนให
รางของหมาปาสีเงินพนโลหิตสดๆ ออกมา นี่จะไมทำใหเจาของรางอยางสตรีผมสีเงิน
เกิดโทสะไดอยางไร
“เจาก็จะถูกสังหารอยูแลว ยังจะหวงรางอีกหรือ” เสียงหัวเราะอยางเย็นชาของสตรี
ชุดเกราะสีดำดังออกมจากลูกบอลวายุ แตฟ งน้ ำเสียงดูแลวกลับดูออนแรงลงเป น
อยางมาก
เมื่อไดยินคำพูดนี้ คาดไมถึงวาจะมองไมเห็นสีหนาโกรธเกรี้ยวบนใบหนาของหลิงหลง
กลับเปนสีหนาเครงขรึมขึ้น
“เจาอวดดีใหมันนอยๆ หนอยเถิด ระดับจิตสัมผัสของเจาก็อยูแคขั้นเทพแปลงเทานั้น
สมบัติสะทานฟาคือสมบัติชนิดใด เจาคิดวาจะระเบิดธงวายุทมิฬไดจริงๆ หรือ? ตอให
ระเบิดออก จะทลายผนึกไดหรือไม ก็ยังเปนเรื่องที่พูดยาก”
“จะทำไดหรือไม เดี๋ยวเจาก็รูเอง” สตรีสวมชุดเกราะสีดำเห็นวาในที่สุดลูกบอล
ลำแสงดานลางก็พนไอมารทั้งหมดใสเขาไปในลูกบอลวายุแลว ทันใดนั้นก็หัวเราะ
อยางชั่วรายออกมา แลวสำแดงอานุภาพออกมาในทันที
ลูกบอลวายุท้ังลูกเปลงแสงสีดำที่เจิดจาจนแสบตาออกมา เสียงกรีดรองแหลมสูง
ดังขึ้น ดานในของระลอกคลื่นทั้งหมดตางผสมรวมกัน คาดไมถึงวาจะกอตัวกันเปน
ระลอกคลื่นยักษเสนผาศูนยกลางสิบจั้งเศษ ดานในเปลงแสงสีดำสวางวาบ รางของ
หมาปายักษสองหัวปรากฏขึ้นตรงใจกลางของระลอกคลื่น หัวอีกสองหัวพนลำแสงสี
ดำที่หอหุมธงเล็กๆ สีดำสนิทดามหนึ่งออกมา นั่นก็คือ ‘ธงวายุทมิฬ’
เมื่อระลอกคลื่นกอตัวขึ้น แรงกดที่นาตกตะลึงก็แผออกมาจากดานใน พนลำแสงหาสี
เปนกลุมๆ ออกมา
หลังจากทีล่ ำแสงหมุนวนผานไป บรรยากาศรอบๆ ก็มีประกายไฟสีขาวปรากฏขึ้น มัน
หมุนวนเขาสูใจกลางระลอกคลื่น และยิ่งไปกวานั้นยังมากขึ้นเรื่อยๆ ทาทีนากลัว
สวนไมแปดวิญญาณที่กลายเปนดอกบัวสีเงินนั้น ก็ดูเหมือนวาจะสัมผัสอะไรได
ลำแสงแปลกประหลาดหม น แสงลง กลายเป น ไม บ รรทั ด สี เขี ย วด ามหนึ่ ง อี ก ครั้ ง
จากนั้นพลันเปลงเสียงรองต่ำๆ ออกมา ภายใตการติดตามโดยเงาลวงตาอสูรทั้งแปด
พลันลอยพุงขึ้นไปดานบน ชั่วพริบตาก็จมหายเขาไปในมานหมอนหนาทึบอยางไร
รองรอย
เมื่อเห็นสถานการณเชนนั้น ฉับพลันหลิงหลงก็หนาเปลี่ยนสี สองมือรายอาคมอยางไม
ตองขบคิด อาปากออกพนจานกลมๆ ออกมา นั่นก็คือ ‘จานดาวอัศจรรย’ ชี้นิ้วไปที่
สมบัติชิ้นนั้น ชั่วขณะนั้นสมบัติชิ้นนั้นพลันหมุนติ้วๆ จนมีขนาดประมาณสองสามฉื่ือ
สตรีผมสีเงินชูมือเรียวขึ้น นิ้วทั้งหากดลงบนดานหลังของจานกลมๆ ทันใดนั้นสตรีผู
นั้นก็มีลำแสงแวววาวเปลงประกายรอบตัว จานกลมๆ มีลำแสงเปลงประกายสาดสอง
ออกมามากยิ่งขึ้น ราวกับวาดวงดาวจำนวนนับไมถวนทะลักออกมาจากจานใบนั้น
หมาปาสีดำที่สองมืออยูทามกลางระลอกคลื่นสีดำเห็นเชนนั้น ดวงตาทั้งสี่ก็เผยสีหนา
เหยียดหยามออกมา ดูเหมือนวาจะไมเห็นการกระทำของสตรีผูนี้อยูในสายตา
และในตอนนั้นเอง หลังจากที่ลำแสงสีขาวผืนใหญทะลวงเขาไปในระลอกคลื่น
คาดไมถึงวาชั้นบรรยากาศรอบๆ ระลอกคลื่นจะสงเสียงหึ่งๆ ออกมา บางที่เริ่มบิด
เบี้ยวเปลี่ยนรูป ราวกับกระดาษขาวแผนเรียบ เกิดรอยยนขึ้นอยางไรอยางนั้น รอบๆ
ระลอกคลื่น เริ่มบิดเบี้ยวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อหานลี่เห็นสถานการณเชนนั้นก็สูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง เขา
ที่เคยเห็นความรายกาจของชองวางมิติฉีกขาดมาแลว รางกายพลิ้วไหวไปในทันใด พุง
ไปทางริมขอบของชองวางมิติโดยไมปริปาก หุนเชิดรางมนุษยก็ตามติดเปนเงาตามตัว
แนน อนวาในเวลาเดียวกันที่ เขาเคลื่อนไหว ก็ ไม ลืมถายทอดเสีย งออกไปสองสาม
ประโยค
กุยหลิงและหลินอิ๋นผิงที่กำลังพัวพันกับคนประหลาดซึ่งกลายเปนมารสามหัวก็
แทบจะหนาเปลี่ยนสีในเวลาเดียวกัน จูๆ รางกายก็พุงลงไปดานลางโดยไมปริปากใดๆ
สวางวาบแลวถอยรนออกไปดานหลังพลางหนีไป
แนนอนวาซากหมีและอรหันตชีเมี่ยวไดยินบทสนทนาของหมาปาสีดำและหลิงหลงตั้ง
นานแลว เมื่อเห็นคลื่นสีดำประหลาดเชนนี้ แนนอนวาก็รูวาสถานการณไมดีแลว การ
เคลื่อนไหวทางดานของสตรีทั้งสอง หนึ่งมนุษยและหนึ่งปศาจตางกลายเปนลำแสง
โลหิตกลุมหนึ่งและสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพลางพุงออกไป
จูๆ เบื้องหนาก็ไมมีเงาของศัตรูแมแตคนเดียว กลับทำใหมารสามหัวผูนั้นตกตะลึง แต
ทันใดนั้นรางกายก็พลิ้วไหวราวกับสายฟาฟาดลงมา ครูตอมาก็มาปรากฏที่เบื้องหนา
ลำแสงหลีกหนีของอรหันตชีเมี่ยว โบกสะบัดยุทธภัณฑในมือทั้งหกชิ้น ลำแสงสีดำ
เปลงแสงสวางวาบ เสียงปริแตกดังขึ้น คาดไมถึงวาจะขัดขวางอรหันตชีเมี่ยวเอาไวได
แนนอนวาอรหันตชี่เมี่ยวรูสึกทั้งตกตะลึงระคนโกรธขึงผสมปนเปกัน ควบคุมสมบัติทั้ง
เจ็ดชิ้นเต็มอัตรา กลายเปนลูกบอลลำแสงเจ็ดกลุมหมุนติ้วๆ ขณะพยายามทำการ
โจมตี ในเวลาเดียวกันบางครั้งรางกายก็เปลงแสงสวางวาบ คิดจะสลัดมารตนนี้ออก
แตไมรูวาคนประหลาดที่ถูกทำใหกลายเปนมารตนนี้ใชเวลานอยเกินไป หรือการ
ที่มนุษยกลายเปนมารโบราณจะมีความบกพรองอยู ดูเหมือนวาสมองของมารตนนี้จะ
ไมคอยดีนัก มันตั้งเปาหมายแคกับนักกวีวัยกลางคนเพียงผูเดียว เคลื่อนยายปราณ
อยางตอเนื่องโดยไมเสียดาย คาดไมถึงวาจะพัวพันกับอรหันชีเมี่ยวไมหยุด และไมอาจ
ออกหางจากแทนบูชาไดมากนัก
นักกวีวัยกลางคนรูสึกจิตใจหนักอึ้ง
ตอนที่ 1067 หลุมดำ
เวลานี้หลิงหลงที่ควบคุมจานดาวอัศจรรยอยูนั้นสำแดงอานุภาพของมันออกมา
จนถึงขีดสุดแลว
เห็นเพียงตรงกลางมีแสงดาวเปลงประกาย ดวงแสงขนาดเทากำปนจำนวนนับไม
ถวนทะลักออกมา ราวกับกำลังพนดวงดาวนับพันออกมาอยางไรอยางนั้น ชั่วพริบตา
ก็แหวกผาอากาศจนกลายเปนริ้วรอยสีทองเปนสายๆ ดุจธารน้ำตกที่ไหลวน ดั่งทาง
ชางเผือกที่ทอดตัวยาว คาดไมถึงวาจะทำใหผูพบเห็นเกิดความรูสึกวานาหลงใหล
หมาปาประหลาดสองหัวที่อยูตรงใจกลางระลอกคลื่น มองเห็นการโจมตีนี้กลับไม
สนใจเลยแมแตนอย เพียงแคกระตุนระลอกคลื่นสีดำ ใหมันสูบแสงสีขาวเขาไปมาก
ขึ้นเรื่อยๆ การบีบอัดตัวเองก็เร็วยิ่งขึ้น
ครูตอมา หมาปาสีดำพลันตื่นตะลึง
เพราะวาดวงดาวสีทองที่ทอประกายเต็มตองฟานั้นเฉียดผานสวนเหนือสุดของ
ระลอกคลื่นไป คาดไมถึงวาจะไมไดโจมตีไปบนระลอกคลื่น
“ผิ ด เป า ? น า ขั น มี จิ ต สั ม ผั ส เป น ตั ว เหนี่ ย วนำจะเกิ ด เรื่ อ งเหลวไหลเช น นี้ ได
อยางไร” หมาปายักษสองหัวพลันมีสีหนาตกตะลึง แตจูๆ ก็สัมผัสอะไรได หัวขางหนึ่ง
พลันหันกลับไปมอง ชั่วขณะนั้นพลันตกตะลึง
จูๆ อีกหัวหนึ่งก็บริกรรมคาถาออกมาอยางตอเนื่องดวยความรวดเร็ว พนลำแสง
หาสีออกมาใสระลอกคลื่น ชั่วขณะนั้นพลันหมุนวนเขาไป ทำใหสะเก็ดดาวสีทองที่บิน
ผานไปหายวับไปจากตรงใจกลาง
แตเสียงของหลิงหลงกลับเอยออกมาอยางเย็นชาวา
“ตอนนี้เพิ่งจะรูสึกก็สายไปเสียแลว! ขาปลอยเขาออกมาแลว”
เมื่อเปลงคำพูดออกไป ดานหลังระลอกคลื่นสีดำที่หางออกไปยี่สิบจั้งเศษ สะเก็ด
ดาวกลุมใหญก็รวมตัวกัน จากนั้นเงารางคนสายหนึ่งก็สวางวาบขึ้นตรงนั้น จากนั้น
พลันกอรางขึ้น หลังจากพลิ้วไหว คนผูนั้นก็ลอยออกมาจากสะเก็ดดาว ใบหนาตก
ตะลึงระคนสงสัยขณะมองพิจารณารอบๆ ดาน คาดไมถึงวาจะมีทาทีลับๆ ลอๆ
หานลี่ที่เพิ่งจะหนีมาจนถึงบริเวณริมขอบ หันกลับไปมองพอดี เมื่อเห็นคนผูนั้น
พลันตกตะลึง
“เขา? คนผูนั้นมาปรากฏตัวที่นี่ไดอยางไร!” หานลี่รูสึกวาตัวเองเลอะเลือน
ชายชราที่ดูปลิ้นปลอนผูนี้ คาดไมถึงวาจะเปนเซี่ยงจือหลี่ ผูที่เขาไปในภูเขาคุนอู
แลวถูกจิตวิญญาณใหมซึ่งเกิดจากการผสานเขาดวยกันของวิญญาณมารและหลิงหลง
เนรเทศไปยังปรากฏการณมหัศจรรย ในตอนนั้นจิตวิญญาณใหมซึ่งใชมหายุทธผสาน
วิญญาณกอเปนรูปรางขึ้นมาได เพราะวามีรางของหมาปาสีเงินคอยประคับประคอง
อยู บวกกั บ เคล็ ด วิ ช าต า งๆ ของมารโบราณและแดนวิ ญ ญาณ ความสามารถจึ ง
เหนือกวาวิญญาณมารและหลิงหลงในตอนนี้ แทบจะเหนือกวาทั้งสองในยุครุงเรือง
หลายเทา พลังยุทธใกลเคียงแมกระทั่งระดับหลอมสุญตาขั้นตน
นี่ถึงจะพอผนึกรางเอาไวได ทั้งยังสามารถนำลมปราณสงออกมานอกผนึกได แลว
ผนึกเซี่ยงจือหลี่ผูนี้เอาไวชั่วคราว
และปรากฏการณมหัศจรรยนี้ ก็คือเคล็ดวิชาลับโบราณที่หายสาบสูญไปจากแดน
มนุษย ความจริงแลวความสามารถของมันก็เปนเพียงการผนึกคนเอาไว ไปจนถึงใช
ความสามารถอันยิ่งใหญสรางรอยแยกมิติเวลาชั่วคราวไดก็เทานั้น รอยแยกนี้ไมมีทาง
อยูไดนาน และยิ่งไปกวานั้นผูที่สำแดงออกมาจะไมมีทางเขาไปไดตามอำเภอใจ แต
เพราะวารอยแยกของมิติเวลาที่ปรากฏขึ้นแตละแหงมีคุณสมบัติไมเหมือนกัน จึงมีชื่อ
เรียกที่แตกตางกันออกไป เชน ‘กรงกักเซียน’ ‘หวงนิทราอาถรรพ’ เปนตน
แนนอนวาในความเปนจริง ผลลัพธในการตอกรกับศัตรูนั้นจะเปนอยางไร กลับ
ตองตัดสินดวยพลังยุทธของอีกฝายและตนเอง
แตผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำถูกผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงใชเคล็ดวิชานี้กักเอาไวขางใน
แปดเกาสวนนั้นก็ถือวาโชคราย นอกจากรอจนถึงวันที่หวงมิติเวลาจะสลายหายไปเอง
หรือไมก็มีสมบัติอาคมที่รายกาจกวามาฉีกกำแพงหวงมิติออก มิเชนนั้นก็มีเพียงตอง
ติดอยูในนั้น และรอใหเคล็ดวิชานี้สลายหายไปเทานั้น
ทวานอกเหนือเหตุการณที่พิเศษเหลานี้แลว ประโยชนของเคล็ดวิชานี้ก็มีไมมากนัก
อยางไรเสียถาหากผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงตอกรกับผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำกวาตนเอง
ก็สามารถสำแดงความสามารถอื่นๆ ออกมาไดอยางงายดาย เหตุใดจะตองไปใชเคล็ด
วิชาลับที่ตองสูญเสียลมปราณและจิตสัมผัสจำนวนมากดวย ถาหากผูบำเพ็ญเพียร
ระดับต่ำสำแดงใสผูบำเพ็ญ เพียรระดับสูง เขาก็ใชความสามารถของตัวเอง ทลาย
กำแพงหวงมิตินี้ออกไดอยางงายดาย
เชนนั้น จึงจะพบการสำแดงความสามารถเชนนี้มากหนอยในผูบำเพ็ญเพียรระดับ
เดียวกัน แตถาโอกาสนั้นไมเหมาะสม ก็ยากที่จะทำใหอีกฝายเขาไปในรอยแยกได
และยิ่งไปกวานั้นคิดจะสำแดงเคล็ดวิชานี้ อยางนอยที่สุดก็ตองอยูในระดับเทพแปลง
ขั้นกลาง!
ภายใตเงื่อนไขที่จำกัดเชนนี้ นี่จึงเปนหนึ่งในเหตุผลที่เคล็ดวิชาลับนี้หายสาบสูญ
ไปจากแดนมนุษย แตการทลายเคล็ดวิชานี้ก็ไมจำเปนตองใชจิตสัมผัสและลมปราณ
มากเทาใดนัก อาศัยเพียงพลังของจานดาวอัศจรรย หลิงหลงก็พอจะทลายได
ถึงแมวาเซี่ยงจือหลี่จะไมรูจักเคล็ดวิชาลับชนิดนี้ แตก็เคยไดยินขาวลือที่เกี่ยวของ
มาบาง วันที่ถูกกักเอาไวในปรากฏการณ อัศจรรย ก็เอาแตนั่งสมาธิไมขยับเขยื้อน
อยางเชื่อฟงอยูในนั้น เพราะวาหากขยับ แปดเกาสวนจะตองตกลงไปในภาพลวงตา
แตเมื่อครูขณะที่กำลังกลัดกลุมและตะลึงงันอยูนั้น ครูตอมาก็ปรากฏตัวที่นี่ จึงทำให
เขารูสึกดีอกดีใจ และรูสึกสับสนเล็กนอยเชนกัน
เวลานี้เซี่ยงจือหลี่กะพริบตาเรียวแหลมนั้นปริบๆ ยังคงกวาดมองไปรอบๆ ดวย
ความงุนงง แตในตอนนั้น หมาปายักษสองหัวกลับมีแววตาโหดเหี้ยมฉายแวบผานไป
ปากทั้งสองอาปากออกอยางไมลังเลอีก ทันใดนั้นเสาลำแสงสีดำสนิทสองสายก็โจมตี
ไปยังธงวายุทมิฬเบื้องหนา ชั่วขณะนั้นธงดามนั้นก็สั่นคลอน ชั่วพริบตาก็ปลอยเสน
ไหมสีดำจำนวนนับไมถวนออกมา ใจกลางของระลอกคลื่นมวนออกไปทั่วทุกสารทิศ
ระลอกคลื่นสีดำที่แตเดิมหดเล็กลงจนมีขนาดสองสามจั้ง พลันหยุดชะงัก จากนั้น
ก็ ห ดเล็ ก ลงเข าไปหาใจกลางอย างรวดเร็ ว ชั่ ว พริ บ ตาก็ ก ลายเป น หลุ ม อากาศที่ มี
เสนผาศูนยกลางขนาดสองสามฉื่อ
ใจกลางของหลุมนี้มีสีดำสนิทราวกับน้ำหมึก ลำแสงนี้ไมมีชองโหวเลยสักนิด รอบ
ดานกลับเดี๋ยวขยายใหญออกเดี๋ยวหดเล็กลงไมแนนอน และกลืนกินทุกอยางอยาง
ตอเนื่อง ชั้นบรรยากาศแตเดิมที่บิดเบี้ยวอยางรุนแรง เห็นไดชัดวาถูกดูดเขาไปใน
ปรากฏมหัศจรรยแลว
สถานการณ ที่ประหลาดเชนนี้ ชางนากลัวจริงๆ! เกรงวาคงมีเพียงธงวายุทมิฬ
สมบัติที่มีความสามารถเรียกลมวายุ ถึงจะสามารถทำเรื่องที่นาตกตะลึงนี้ได
แนนอนวาสายตาของเซี่ยงจือหลี่นั้นถูกหลุมดำเหลานั้นดึงดูดเอาไวในทันที ทันใด
นั้นพลันหนาเปลี่ยนสีขณะรองวา “แยแลว!” ออกมา
รีบรอนอาปากออก พนธนูสีแดงสดสามเหลี่ยมออกมา เปลงแสงสวางวาบ สมบัติ
ชิ้นนั้นมีเปลวเพลิงสีทองเรืองรองหอหุมอยู จากนั้นลำแสงสีทองพลันเจิดจาขึ้น คาด
ไมถึงวาจะกลายเปนอสูรเพลิงสีทองตัวหนึ่ง
อสู รตนนี้ ส วมเกราะอยู ทั่ วเรือ นราง บนหั วมี เขาสองเขา ถู ก เปลวเพลิ งสี ท อง
หอหุมเอาไวเปนชั้นๆ ดูเหมือนโคแตก็ไมใชโค ดูเหมือนพยัคฆแตก็ไมใชพยัคฆ แตเมื่อ
ปรากฏตัวขึ้น อสูรตัวนี้กระโดดหมอบลงไปอยางไมลังเลเลยแมแตนอย กลายเปน
สายรุงสีทองสายหนึ่ง พุงเขาไปหาหลุมดำ
และในเวลาเดียวกันนั้นบนชุดคลุมยาวที่ดูไมสะดุดตาบนรางของเซี่ยงจือหลี่ก็
เปลงแสงเจิดจาออกมา เกราะปองกันสีมวงชั้นหนึ่งปรากฏขึ้น จากนั้นถึงไดมองไป
ทางหลุมดำนั้นดวยสีหนาที่เต็มไปดวยความตึงเครียด
สุดทาย ภาพฉากที่ปรากฏขึ้นมาในครรลองสายตาก็คืออสูรสีเพลิงตัวนั้นยังไมทัน
กระโจนเขาหาเปาหมาย ดานในหลุมดำก็มีเสียงหัวเราะของสตรีสวมชุดเกราะสีดำดัง
ขึ้น ทันใดนั้นหลุมดำนั่นก็ลดระดับลงมาดานลาง คาดไมถึงวาจะยายไปอยูเหนือแทน
บูชาอยางแปลกประหลาด จากนั้นก็กะพริบวาบเดี๋ยวขยายใหญเดี๋ยวหดเล็กลง แลว
ระเบิดออก
ในสายตาของหานลี่ เวลาเดียวกันกับที่หลุมดำบนแทนบูชาระเบิดออก รอยแยก
สีดำหนาๆ สองสามจั้งและบางๆ อีกองสองสามชุน จำนวนนั บไมถวนก็ปรากฏขึ้น
ไกลๆ ในชั่วพริบตา จากนั้นก็เปลงเสียงกรีดรองออกมาพรอมกัน รอบดานเปลงแสง
สวางวาบขณะขยายอาณาเขตออกไป
มองจากที่ไกลๆ ก็ดูเหมือนวากระจกยักษบานหนึ่งจะถูกโจมตีจนแหลกละเอียด
ทำใหผูคนเห็นแลวรูสึกตกตะลึง
หานลี่มีสีหนาซีดขาวเล็กนอย หรือวาจะตองประสบกับชองวางมิติที่พังทลายอีกแลว!
แตชองวางมิติที่พังทลายลงมาของชั้นที่แปดนั้นก็แคบังเอิญไปสัมผัสกับเขตอาคม
ของผูบำเพ็ญเพียรโบราณเทานั้น ดังนั้นจึงมีเพียงแคความตกตะลึงทวาไรอันตราย แต
ครั้งนี้นั้นไมเหมือนกัน รอยแยกของชองวางมิติเหลานี้ปรากฏขึ้นอยางไมมีกฎเกณฑ
ไมเพียงจะเล็กใหญไมเทากัน และยิ่งไปกวานั้นเสนแสงสีดำเปนสายๆ ก็เปลงแสงสวาง
วาบ ทาทางไมมั่นคง ตอใหโชคดีถูกรอยแยกหนาๆ เหลานี้ดูดเขาไป แปดเกาสวนก็มี
เพียงตองตายเพียงเทานั้น
นอกเสียจากวาจะเหมือนครั้งที่แลว ที่โชคดีวารอยแยกนั่นเชื่อมไปยังมิติเล็กๆ ที่มั่นคง
มิเชนนั้นคงไมมีทางโชคดีแน
ภายใตการกวาดสายตาไปนั้น อรหันตชีเมี่ยวที่อยูคอนขางใกลกับแทนบูชากำลัง
ถู ก รอยแยกหนาสองสามฉื่ อ เจ็ ด แปดสายแฉลบผ าน ฉั บ พลั น รางกายและสมบั ติ
ปองกันตัวพลันแยกเปนเจ็ดแปดสวน ทันใดนั้นซากศพและทารกวิญญาณที่เพิ่งหนี
ออกมาก็ถูกรอยแยกสายที่หนาที่สุดกลืนหายไป ไมมีแมแตเสียงกรีดรองคร่ำครวญก็
สลายหายไปจากโลกนี้อยางไรรองรอย
แตสิ่งที่ทำใหหานลี่รองอุทานในใจอยางเจ็บปวดก็คือ คาดไมถึงวาจะมีรอยแยก
สองสามสายที่ขนาดเล็กใหญไมเทานั้นปรากฏขึ้นพรอมกัน ชั่วพริบตาก็มาปรากฏขึ้น
ที่เบื้องหนา คาดไมถึงวาขวางเขาเอาไวจากทั่วทุกทิศทาง ไมมีทางหลบหลีกได และ
เวลานี้ ก็ดูเหมือนวาจะมีเสียงกรีดรองดังขึ้น ฟงจากน้ำเสียงแลวดูเหมือนวาจะเปน
เสียงของกุยหลิง แตหานลี่ก็ไมอาจละความสนใจไปได เขาไมมีเวลาแมแตจะเหลือบ
ไปมองวาเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้นพลันกัดฟน คาดไมถึงวานึกความคิดดีๆ ออกมาไดใน
ฉับพลัน ลำแสงหลีกหนีพุงเขาไปหารอยแยกที่มีขนาดสองสามชุนสายหนึ่ง ในเวลา
เดียวกันเตานภาสูญที่ลอยอยูเบื้องหนาก็ลวงหนาพุงเขาไปหารอยแยกนั้นกอนแลว
ภายใต ค วามจนป ญ ญาของหานลี่ นั้ น ก็ ท ำได เพี ย งพนั น กั บ เตาที่ เป น สมบั ติ
วิญญาณเหมือนกันใบนี้วาจะสามารถตานทานการตัดขาดของรอยแยกนี้ไดหรือไม
ภาพฉากที่ทำใหหานลี่ดีอกดีใจปรากฏขึ้นหลังจากนั้น เมื่อรอยแยกบางๆ กรีด
ผานลงบนเตานภาสูญ ลำแสงสีเขียวพลันสวางวาบ เตาใบเล็กเปลงเสียงรอง ‘หวีด’
ออกมา คาดไมถึงวารอยแยกนั้นจะหยุดชะงัก
ลำแสงหลีกหนีของเขาพลันเปลงแสงสวางวาบอยางไมตองคิด พลันออมผานรอย
แยกนั้นไป จากนั้นก็หันหนามาเล็กนอย เห็นเพียงที่เดิมที่ยืนอยู ถูกรอยแยกสีดำสอง
สามสายกรีดผาน กลายเปนสีดำทะมึน
นี่ยิ่งทำใหแผนหลังของเขามีเหงื่อกาฬผุดขึ้นมามากยิ่งขึ้น!
ทวาทั น ใดนั้ น รอยแยกสีดำเหล านี้ ก็สั่น คลอนอย างรุน แรง ลำแสงสี ดำด านใน
เปลงแสงเจิดจา นี่จึงทำใหหานลี่มีสีหนาดูไมได จิตใจที่ผอนคลายลงเมื่อครูกลับมาตึง
เครียดอีกครั้ง
แตตอมา ก็ทำใหหานลี่ตะลึงงันในทันที!
หลังจากที่รอยแยกเหลานี้เปลงแสงลำแสงสีดำสวางวาบออกมา คาดไมถึงวาพวก
มันเพิ่งจะปรากฏตัว ชั่วครูก็ถอยรนไป ราวกับวาหวงมิติบิดเบี้ยวอยางไรอยางนั้น ตาง
ทยอยกันหดตัวลงแลวถอยกรูดไปดานหลัง ชั่วพริบตา รอยแยกใกลๆ กับหานลี่พลัน
หายไป ราวกับวาเหตุการณเมื่อครูเปนเพียงภาพลวงตาอยางไรอยางนั้น
หานลี่รูสึกผอนคลายลง แลวถึงไดนึกถึงเสียงกรีดรองเมื่อครู จึงรีบรอนหันไปมอง
ทางที่กุยหลิงอยู เห็นเพียงจุดที่เดิมที่นางอยูนั้นยังเหมือนเดิม ฮูหยินอัปลักษณเพียง
หนึ่งเดียวกลับหายไปอยางไรรองรอย
หานลี่ใจหายวาบ ความคิดเคลื่อนไหวมองไปทางแผนปายชีวิตของปศาจตนนั้น แผน
ปายหายวับไปดังคาด คาดไมถึงวาปศาจตนนี้จะถูกรอยแยกนั้นกลืนกินเขาไปจริงๆ
หานลี่ถอนหายใจออกมาเงียบๆ ไมไดสนใจอะไรมากอีก สายตากวาดออกไปอยาง
รวดเร็ว มองดูวามันเกิดอะไรขึ้นกันแน สุดทายก็พบวาถึงแมหลินอิ๋นผิงและซากหมีจะ
หนีมาถึงบริเวณริมขอบไมไดเชนเขา แตกลับไมไดรับบาดเจ็บเลยแมแตนอย
รางของซากหมีถูกหอหุมไปดวยลำแสงสีโลหิตที่เจิดจาจนแสบตา สีหนายังถือวา
เยือกเย็น สวนหลินอิ๋นผิงกลับมีสีหนาซีดขาวเปนอยางมาก เพราะวารอยแยกหลาย
สายเมื่อครูแฉลบผานรางของนางไป นางยังมีชีวิตอยูได ก็ถือวาเปนเรื่องที่โชคดีสุดๆ
แลว
และไมรูวา สิ่งที่เรียกวาอสูรศักดิ์สิทธิ์เทียนหลานมีความสามารถเกรียงไกรจริงๆ
ใชหรือไม คาดไมถึงวาจะคุมครองธิดาเทพเทียนหลานของมันเอาไวได
ตอนที่ 1068 หลบหนี
ทวาหลังจากหานลี่กวาดตามองไปบนรางของทั้งสองปราดหนึ่ง สายตาก็ตกอยู
บนแทนบูชาที่อยูหางออกไป เผยสีหนาตึงเครียดออกมาสองสามสวน
เมื่อครูที่บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาทำใหธงวายุทมิฬระเบิดออก เห็นไดชัดวามุง
เปาไปยังผนึก และเหนือแทนบูชาที่ถูกลำแสงสีดำหอหุมเอาไว ถึงแมวาจะไมมีทาง
มองเห็นอะไรไดอยางชัดเจน แตเสาหินรอบๆ ดานกลับถูกทำลายลงเพราะชองวางมิติ
ที่ฉีกขาดเมื่อครู จนเหลือเพียงเสี้ยวหนึ่ง ตั้งตระหงานอยางโดดเดี่ยวอยูตรงนั้น เห็นได
ชัดวาเขตอาคมนี้ถูกทำลายลงแลว
ภายใตการหรี่ตาทั้งสองขางลงมองของหานลี่นั้น ลำแสงสีดำที่อยูไกลออกไปก็
เปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง แลวหดเล็กลงอยางรวดเร็ว จากนั้นก็สลายหายไป
อยางแปลกประหลาดในชั่วพริบตา
เหตุการณที่ปรากฏขึ้น ทำใหรูมานตาของหานลี่หดเล็กลงอยางอดไมได
แทนบูชาที่สูงขึ้นไปรอยจั้งเศษ ตอนนี้เหลือความสูงเพียงหาสิบหกสิงจั้งเทานั้น
สวนยอดบนราวกับถูกมีดยักษสับลงมาอยางไรอยางนั้น เหลือเพียงครึ่งหนึ่ง
และรอบๆ ของทานบูชาก็มีสิ่งของสองอยางและเงารางคนรางหนึ่งปรากฏขึ้น
คนคนหนึ่งถูกเกราะปองกันลำแสงสีมวงหอหุมเอาไว นั่นก็คือเซี่ยงจือหลี่ เกราะ
ปองกันลำแสงที่แตเดิมเปลงแสงเจิดจาจนแสบตาในเวลานี้กำลังจะพังแหลมิพังแหล
ราวกับวาแคลมพัดก็พรอมจะสลายหายไป
เซี่ยงจือหลี่เองก็มีใบหนาที่เต็มไปดวยเหงื่อกาฬ สีหนาซีดขาว ราวกับวาเพิ่งผาน
การตอสูที่ดุเดือดมาอยางไรอยางนั้น
หนึ่งในของสองสิ่งนั้น ก็คือจานดาวอัศจรรยเสนผาศูนยกลางสองสามฉื่อ ของสิ่งนี้
หมุนติ้วๆ อยูกลางอากาศ รอบกายถูกลำแสงสีทองที่หนาแนนหอหุมเอาไว เผยให
ความลึกลับยากจะคาดเดา ของอีกชิ้นลอยอยูกลางอากาศเหนือแทนบูชา กวาครึ่ง
เปนสีดำ รูปทรงแปลกประหลาดทำใหหานลี่รูสึกตกตะลึง แตทันใดนั้นก็นึกออก คาด
ไมถึงวาจะเปนธงวายุทมิฬที่เหลือเพียงครึ่งหนึ่ง
ชิ้นสวนกวาครึ่งของสมบัติชิ้นนี้ ตางถูกทำใหระเบิดตนเองและสลายหายไปแลว
สวนที่เหลือนี้ก็ยังเปลงแสงสีดำสวางวาบ คาดไมถึงวาจะยังไมถูกทำลายไป
หานลี่กวาดมองไปรอบๆ มองไมเห็นเงารางของหลิงหลงและหมาปาสีดำ ในใจ
พลันรูสึกประหลาดใจ จูๆ จานดาวอัศจรรยพลันขยับ และพนลำแสงสีทองออกมา
จากใจกลาง
รางอรชนออนแอนรางหนึ่งปรากฏขึ้นตามลำแสงสีทอง จากนั้นพลันจองเขม็งไป
ยังธงวายุทมิฬดวยความเย็นชา นั่นก็คือสตรีนามวาหลิงหลงผูนั้น
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ชิ้นสวนของธงวายุทมิฬก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเชนกัน
ไอสีดำกลุมหนึ่งทะลักออกมา ทันใดนั้นพลันรวมตัวกันกลายเปนหมาปาสีดำสองหัว
ขนาดสองสามฉื่อ หมาปาตัวนี้มีขนสีดำทมิฬ ดวงตาทั้งสี่ขางไรซึ่งความรูสึก
ทางดานเซี่ยงจือหลี่นั้นเมื่อเห็นหมาปาตัวนี้ก็พลันมีสีหนาเครงขรึม สูดลมหายใจลึกๆ
เขาไปสองสามเฮือก ชั่วพริบตาสีหนาที่ซีดขาวแตเดิมก็กลับมาสดใส จากนั้นพลันชูมือ
ขึ้นโดยไมปริปากใดๆ ยื่นนิ้วสองนิ้วออกไปชี้ไปยังหมาปาตัวนั้น
เสียง ‘ฟว’ ดังขึ้น กระบี่ลำแสงสีทองและสีแดงสองสายพุงออกมาจากปลายนิ้ว
หลั งจากพุ งออกมาแล วก็ ข ยายขนาดขึ้ น เป น สิ บ จั้ งเศษ ราวกั บ มั งกรเทวาสองตั ว
อยางไรอยางนั้น ตัดกันเปนรูปกากบาทแลวพุงสับลงมาที่หมาปาสีดำ
เซี่ยงจือหลี่เองก็มีปฏิภาณไหวพริบวองไวเปนอยางมาก ถึงแมวาจะไมรูวาเมื่อครูเกิด
อะไรขึ้น แตก็เห็นไดชัดวาคนผูนี้มีไอมารอยูทั่วเรือนราง จะตองเปนมารที่ถูกกักอยูใน
ปอมปราการมารเปนแน แนนอนวาจึงถือโอกาสที่อีกฝายกำลังออนแอ ชิงลงมือกอน
หมาปาสีดำเผยสีหนาโกรธเกรี้ยวออกมา ทันใดนั้นหัวทั้งสองก็ชูขึ้นพลันพนเสา
ลำแสงสีดำออกมา ชั่วครูก็ไปตานทานกระบี่ลำแสงยักษเอาไว แตเมื่อสัมผัสกันก็เห็น
ไดชัดวามันไมใชคูตอสูในทันที การทำใหธงวายุทมิฬระเบิดตนเองเมื่อครูทำใหไอมาร
ของมันหายไปจนเกือบหมด
แตหมาปาตัวนี้กลับไมตกตะลึง หลังจากที่กวาดสายตาไปยังแทนบูชาดานลางแลว จูๆ
ปากก็เปลงเสียงกรีดรองทะลุศิลาสีทองออกไป
หานลี่ที่อยูไกลออกไปมีสีหนาตื่นตะลึง เพราะวาภาพฉากที่คาดไมถึงพลันปรากฏขึ้น
ชั่วพริบตาแทนบูชาที่สูงหลายสิบจั้งพลันแตกกระจายออก ราวกับผุยผงอยางไร
อยางนั้น เสียงกรีดรองหายไป
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ทามกลางซากปรักหักพังของแทนบูชามีไอมารสีดำทมิฬ
ดุจน้ำหมึกพุงออกมา ขยายอาณาเขตไปทั่วทองฟาดวยความรวดเร็ว
“แยแลว ผนึกถูกเปดแลว” ซากหมีหมื่นปตกตะลึงจนหนาถอดสี
หลิงหลงเห็นภาพฉากนั้นชั่วขณะพลันมีสีหนาเครงขรึมขึ้น
ถึงแมวาเซี่ยงจือหลี่จะไมเขาใจสถานการณเบื้องหนานัก แตเมื่อเห็นไอมารจำนวนมาก
พุงออกมา ก็ดูเหมือนวาจะนึกอะไรออกขึ้นมาในทันที สีหนาดูไมไดอยางสุดๆ
หานลี่เห็นไอมารจำนวนมากพุ งออกมามุ มปากพลัน หยักขึ้น เล็กน อย ชี้ไปบน
ทองฟาโดยไมปริปากใดๆ
กระบี่ยักษสีทองปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ หลังจากเปลงเสียงกรีดรอง ก็กลายเปน
สายรุงสีทองสายหนึ่ง พุงเขาไปหากำแพงกั้นแลวฟนลงไปอยางตอเนื่อง
หลังจากเสียงอึกทึกดังขึ้น บนกำแพงก็เปลงลำแสงสีทองเจิดจาและแตกกระจายออก
แตทันใดนั้นก็มีธนูสีแดงสดจำนวนนับไมถวนยิงเขาไป คาดไมถึงวาจะถูกยิงออกมา
จากคันธนูเพลิงอัสนีที่อยูในมือของหุนเชิดรางมนุษย
ชั่วพริบตากำแพงทั้งหมดก็สั่นคลอน แตยังหางไกลจากคำวาพังทลายอีกไกลนัก
หานลี่มีสีหนาเครงขรึมดุจสายธาร พลิกฝามือขางหนึ่ง พัดตรีเปลวเพลิงปรากฏ
ขึ้ น ในมื อ แต ยั งไม ร อให เขาได สู ด ลมหายใจเข าลึ ก ๆ เพราะคิ ด จะปล อ ยพั ด เล ม นี้
ออกไปนั้น ลำแสงสีโลหิตที่เจิดจาสายหนึ่งและมีดบินรูปพระจันทรเสี้ยวสองสายก็พุง
ออกไปพรอมกัน โจมตีไปยังกำแพงกั้น
หานลี่กวาดสายตาออกไปดวยความตกตะลึง กลับเปนซากหมีหมื่นปและหลินอิ๋นผิงที่
บินเขามาใกลๆ และลงมือดวยสีหนาที่เต็มไปดวยความกังวลใจ
ดูแลวพวกเขาเองก็รูดีวา ถาหากไมสามารถทลายกำแพงกั้นนี้และหนีไปกอนได ก็
ไมมีทางตานทานการกัดกรอนของไอมารได
ไมวาคิดจะอาศัยพลังของหลิงหลงชวยเหลือใหบรรลุขึ้นไปยังแดนวิญญาณ หรือ
วาคิดจะครอบครองสมบัติสะทานฟา แนนอนวาก็ตองรักษาชีวิตตัวเองเอาไวกอน
หานลี่ไมไดกลาวอะไร พัดตรีเปลวเพลิงในมือเปลงแสงเจิดจาออกมา วิหคเพลิง
สามสีตัวหนึ่งเปลงเสียงกรีดรองยาวๆ ออกมาพลางบินออกมาจากพัด โจมตีไปยัง
กำแพงกัน้ อยางรุนแรง
ครู ต อ มา ลำแสงสามสี ท่ี เจิ ด จ า พลั น ปรากฏขึ้ น อั ก ขระหลากสี สั น สว างวาบ
กำแพงกั้นเปลงเสียงเสียดแกวหูออกมา และเริ่มบิดเบี้ยวผิดรูป
การโจมตีของสมบัติชิ้นอื่นๆ แนนอนวาบาคลั่งขึ้นพรอมกัน!
การโจมตีตางๆ เบื้องหนา ทำใหกำแพงกั้นบิดเบี้ยวจนถึงขั้นสุด ทวาตั้งแตตนจน
จบก็ยังไมพังทลาย
หานลี่มีสีห นาเครงขรึม ควักขวดหยกออกมาอยางรวดเร็ว กิน ของเหลวฟ นฟู
ลมปราณเขาไปพลาง ความคิดเคลื่อนไหวอยางรวดเร็วคิดจะสำแดงการโจมตีอื่น
ในตอนนั้นเอง ลำแสงสีเหลืองสายหนึ่งพลันสวางวาบแลวพุงออกไป หลังจากที่
หมนแสงลงก็เผยใหเห็นยันตสีเหลืองแผนหนึ่ง แปะอยูบนกำแพง
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเหลืองชั้นหนึ่งก็สองสะทอนไปทั่วกำแพงกั้น หานลี่พลันตก
ตะลึง ยังไมทันเขาใจวาเกิดอะไรขึ้น ลำแสงสีทองที่เจิดจาจนแสบตาที่หอหุมอะไรสัก
อยางอยูก็พุงออกมาราวกับดาวตก
อสูรประหลาดที่ถูกเปลวเพลิงสีทองหอหุมเอาไวเปลงแสงสวางวาบปรากฏขึ้น
ใกลๆ กำแพง
กำแพงกั้นพลันสั่นคลอนคาดไมถึงวาจะปริแตกออก รูเล็กๆ สีขาวรูหนึ่งพลัน
ปรากฏขึ้นมา
ขณะที่กำลังรูสึกตกตะลึงระคนดีใจนั้น รางของหานลี่พลันแวบหายไปอยางไม
ตอ งขบคิด ชั่วขณะนั้ น พลัน กลายเป น สายรุงสายหนึ่ งพุ งออกไปจากรู หุ น เชิดราง
มนุษยเปลงแสงสวางวาบแลวสลายหายไปจากที่เดิมเชนกัน
เบื้องหนาเปลงแสงเจิดจา หานลี่ปรากฏตัวขึ้นในหองโถงที่คุนเคย ลำแสงหลีกหนี
จำนวนนับไมถวนแทบจะบินตามหานลี่มาติดๆ หลังจากที่หมุนวนกลางอากาศรอบ
หนึ่ง ก็ทยอยกันปรากฏรางออกมา
นอกจากซากหมีและหลินอิ๋นผิงแลว อีกคนคาดไมถึงวาจะเปนผูที่เขาไปใกลแทนบูชา
อยางเซี่ยงจือหลี่
และหองโถงนี้ คาดไมถึงวาจะเปนชั้นเจ็ดของปอมปราการมาร!
หานลี่มองไปทางเซี่ยงจื่อหลี่ดวยความตกตะลึงเล็กนอย อีกฝายกลับหัวเราะหึๆ
ออกมา ดูเหมือนวาจะเอยปากพูดอะไร
แตเวลานี้เสาลำแสงสีทองสายหนึ่งพลันพุงออกมาจากกำแพงกั้น ทันใดนั้นก็กอ
ตัวกันกลายเปนดวงแสงยักษ เงารางคนเปลงแสงสวางวาบ สตรีผมสีเงินที่ถือจานดาว
อัศจรรยเอาไวปรากฏตัวขึ้นทามกลางดวงแสงนั้น
ผูเฒานอยอาปากออก ทันใดนั้นพลันปดปากฉับ คาดไมถึงวาจะกลืนคำพูดลงไป
รูตรงกำแพงกั้นหดเล็กลงอยางรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็ผสานผนึกเขาหากันจนมองไม
เห็นชองโหว
ทุกคนในหองโถงปดปากเงียบ ตางฝายตางระแวดระวัง คาดไมถึงวาจะหันมอง
สบตากัน
“หึ พวกเจาจะอึ้งอยูที่นี่อีกนานไหม หากมารตัวนั้นดูดซับไอมารจนเพียงพอแลว
พวกเราก็มีเพียงแตตองตายเทานั้น” หลิงหลงกวาดสายตาที่เย็นชาไปปทางหานลี่และ
เซี่ยงจือหลี่ แตกลับเปนฝายเอยปากขึ้น
“ทานคืออาวุโสหลงเมิ่ง?” เซี่ยงจือหลี่รูสึกฉงนสงสัย ขณะเอยถามอยางไมมั่นใจนัก
ถึงอยางไรเสียจิตวิญ ญาณใหมที่เกิดขึ้นจากการผสานวิญ ญาณกันของหลงเมิ่ง
และจิตวิญญาณมารผนึกผูกักเขาเอาไวในปรากฏการณอัศจรรยในตอนแรกนั้น ให
ความรูสึกที่ไมเหมือนกับหลิงหลงตรงหนานี้เปนอยางมาก
“เจารูดีไมนอย สามผูเฒาคุนอูสั่งเสียอะไรไวกับพวกเจาหรือไม ทวาที่เรียกวาหลงเมิ่ง
ก็เปนแคสวนหนึ่งของขาเทานั้น” หลิงหลงเอยอยางไมเกรงใจเลยแมแตนอย
ความสัมพันธที่ซับซอนนี้ ทำใหเซี่ยงจือหลี่กะพริบตาปริบๆ เวลานั้นรูสึกเลอะเลือน
หลิ ง หลงขมวดคิ้ ว แน น แต มุ ม ปากก็ ยั ง ขยั บ เล็ ก น อ ยพลางถ า ยทอดเสี ย งไป
หลั งจากเอ ย ไปแค ไม กี่ ป ระโยค เซี่ ย งจื อ หลี่ พ ลั น ตกตะลึ ง จากนั้ น พลั น ถึ งบางอ อ
ดวงตาทั้งสองพิจารณาหลิงหลงอีกครั้ง ใชจิตสัมผัสตรวจสอบสตรีผมสีเงินเบื้องหนา
เล็กนอย หลังจากที่มั่นใจวาไมมีไอมารแมแตนอย ถึงไดมีสีหนาผอนคลายลงขณะ
ประสานมือทำความเคารพ
“ขอแสดงความยินดีกับพระชายาหลิงหลงที่ไดหลุดออกมาจากพันธนาการในวันนี้
เรื่องของพระชายานั้น ตอนนั้นสามผูเฒาไดสั่งเสียไวกับชนรุนหลังอยางพวกเราจริงๆ
เรื่องในตอนนั้น สามผูเฒาเองก็ถูกบีบจนจนตรอก ถึงอยางไรเสียตอนนั้นจิตวิญญาณ
ดั้งเดิมของทานเซียนหลงเมิ่งคาดไมถึงวาจะรวมรางกับวิญญาณมาร พวกเขาจึงไม
กลาปลอยทานเซียนหลงเมิ่งออกมาจริงๆ”
“หึ เรื่องนี้รอใหขากลับไปถึงแดนวิญญาณกอนแลวคอยวากัน เจาคิดมาดีกวาวาจะ
ควบคุมไอมารอยางไร ขอแครางกายของขาอยูในไอมารเกินสามวัน ก็จะกลายเปนราง
แปลงมาร ถึงตอนนั้นมารตนนี้ก็จะฟนฟูความสามารถดั้งเดิมได บวกกับการบวงสรวง
ดวยไอมารอันไรที่สิ้นสุด หากออกจากที่นี่ คิดจะเปนขุนพลมารอีกครั้ง ก็ไมใชเรื่องที่
ยากอะไร ทั้งแดนมนุษยจะเกิดสงครามที่วุนวายดั่งสงครามโบราณอีกครั้ง” หลิงหลง
เอยอยางเย็นชา
“ไมตองใหพระชายาเตือน ชนรุนหลังก็รูดีขอรับ อยาพูดถึงความนากลัวของไอมาร
เที่ยงแทเลย แคมารตนนี้ฟนฟูพลังยุทธที่นากลัวกลับมาไดดังเดิม เกรงวาแดนมนุษย
ของพวกเราก็ไมมีผูใดควบคุมเขาได แตตอนนี้ในชั้นเกาเต็มไปดวยไอมาร ตอใหพวก
เราถือโอกาสที่อีกฝายออนแอสังหารมัน เกรงวาก็คงไมมีกำลัง มารตนนี้มีไอมารคอย
เสริมอยางไรสิ้นสุด ขอแคจงใจหลบหลีกพวกเรา เราสองคนก็จำใจตองถอยกลับไปอีก
ครั้ง และยิ่งไปกวานั้นยันตทลายเขตแดนที่ขาขอมาจากสำนักมหาเอก ก็เหลือเพียง
สองใบเทานั้น” เซี่ยงจือหลี่ถูมือทั้งสองเขาดวยกัน พลางหัวเราะอยางขมขื่นออกมา
สตรีผมสีเงินไดยินแลว ก็รูวาที่อีกฝายพูดทั้งหมดเปนความจริง จึงอดที่จะขบคิดไมได
“ในเมื่อเปนเชนนั้น หรือวาไมอาจผนึกไอมารนั้นไดอีกครั้งกัน?” หลินอิ๋นผิงไดยิน
ก็อดที่จะเอยปากขึ้นไมได
“ไหนเลยจะงายดายเชนนั้น แตเดิมผนึกอาคมนี้ตางถูกทำลายไปแลว และตรา
ประทั บ มั งกรแปลงที่ ส ามารถควบคุ ม เขตอาคมของภู เขาคุ น อู ได ก็ ถู ก มารตนนั้ น
ทำลายจนแตกละเอี ยดไปแลวตอนที่ ขาออกมา มิ เช น นั้ น ถ าหากชิ งสมบั ติชิ้ น นั้ น
ออกมาได ก็สามารถควบคุมเขตอาคมสำรอง และกดไอมารไวอีกครั้ง แตเวลานี้…”
เซี่ยงจื่อหลี่สายศีรษะ ถอนหายใจออกมาขณะเอย
เมื่อเปลงคำพูดนี้ออกไป ทั้งหองโถงก็ตกอยูในความเงียบสงัด
“ในเมื่อมีเขตอาคมสำรอง จากสติปญ ญาของผูบำเพ็ญ เพียรโบราณ คงไมไดมี
ยุทธภัณ ฑควบคุมตราประทับมังกรแปลงเพี ยงอยางเดียวหรอกกระมัง?” หานลี่ที่
เงียบกริบไมกลาวอะไร เอยขึ้นอยางราบเรียบ
ตอนที่ 1069 เสนทางมหัศจรรย
พอไดยินคำพูดของหานลี่ เซี่ยงจื่อหลี่พลันตกตะลึง แตก็สายศีรษะพลางเอยวา
“แนนอน! แมวาจะมีเขตอาคมสำรอง ตอนนั้นผูบำเพ็ญเพียรโบราณก็ยังเตรียม
ยุทธภัณฑที่ใชควบคุมเขตอาคมคุนอูไวอีกชิ้นหนึ่ง แตยุทธภัณฑนี้ไมเหมือนกับตรา
ประทับมังกรแปลง รองรอยของมันหายสาบสูญไปตั้งแตสมัยโบราณ ไดยินวาถูกซอน
เอาไวที่ใดสักแหงในภูเขาแหงนี้ ผูที่รูวามันอยูที่ใด ก็มีเพียงชนรุนหลังอีกสายหนึ่งของ
สามผูเฒาคุนอูเทานั้น แตตระกูลเนี่ยไดฝงชื่อแซหายสาบสูญไปตั้งนานแลว พวกเรา
จะไปหาจากที่ไหนละ?”
“ชนรุนหลังอีกสายหนึ่ง! หึ ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง สามผูเฒานั่นชางระมัดระวังตัว
จริงๆ” หลิงหลงแคนเสียงหึออกมา ทันใดนั้นก็เขาใจเจตนาของสามผูเฒาคุนอู
หลินอิ๋นผิงและซากหมีไดยินกลับเผยสีหนากังวลออกมา หานลี่พลันขมวดคิ้วแนน
เชนกัน แตกลับเอยปากถามออกไปตามอำเภอใจวา
“สมบัติอีกชิ้นคืออะไร หรือวาก็เหมือนกันกับตราประทับ?”
“ไมใช แตเปนศิลาจารึกที่เรียกวาศิลาจารึกผลึกสวรรค ถาหากมีศิลาจารึกผลึกนี้
ก็สามารถเรียกเขตอาคมสำรองออกมาได” เซี่ยงจือหลี่ตอบกลับอยางไมใสใจ
“ศิ ล าจารึก ผลึ ก สวรรค !” หานลี่ มี สี ห น าไม เปลี่ ย นแปลง แต ในกลั บ ตกตะลึ ง
ทันใดนั้นพลันนึกถึงของที่ไดมาตรงประตูภูเขา อักขระโบราณที่อยูดานบนก็มีชื่อนี้
สลักอยูมิใชหรือ?
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้ น เขาก็ สัมผัสได ถึงสายตาที่ กวาดผานเรือ นรางของ
ตัวเองไปในทันที กลับเปนหลิงหลงที่ดูเหมือนวาจะกวาดสายตามามองเขาแวบหนึ่ง
อยางไมใสใจ
หานลี่ใจเตนตึกตัก
“หากไมมีวิธีจริงๆ พวกเราก็หนีไปจากที่นี่กอน หากไมใชเวลาสองสามวัน มารตนนั้น
ไมมีทางทลายชองวางมิติออกมาไดแน เราก็ถือโอกาสนี้ ไปรวบรวมผูบำเพ็ญเพียร
ทั้งหมดในแถบหนานเจียง วางเขตอาคมใหญ ผนึกภูเขาคุนอูเอาไวอีกครั้งชั่วคราว
จากนั้นก็เชิญผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดของตาจิ้นมารวมตัวกัน ตอนนี้มารตนนั้นตัวคน
เดียว ตอใหดูดซับไอมารไปจะรายกาจขนาดไหน หากผูบำเพ็ญเพียรนับพันนับหมื่น
คนลงมือพรอมกัน ก็สังหารเขาไดอยูดี สวนไอมารเที่ยงแทนั้น ถึงอยางไรเสียก็เปน
ของที่ ไมมีชีวิต มากสุดก็กั้น เขตนี้ ในระยะหมื่ น ลี้ เป น เขตต องห าม จากนั้ น ก็ คอ ยๆ
จัดการมันก็ไดแลว” ถึงอยางไรเสียเซี่ยงจือหลี่ก็เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
เอยออกมาสองสามประโยค ก็เสนอวิธีการที่เขาทาออกมา
“สหายเซี่ยงพูดมีเหตุผล เอาอยางนั้นก็แลวกัน ขาจะกลับไปยังหุบเขาหมื่นปศาจ
และรายงานเรื่องนี้กับประมุขแหงหุบเขา เรื่องนี้ไมใชแคเรื่องของเผามนุษยพวกเจา
แลว เผาป ศาจของพวกเราก็จะสงกำลังมาชวยอีกแรง” ซากหมี ถอนหายใจยาวๆ
ออกมาเฮือกหนึ่ง พลางเอยอยางจริงใจ
“ออ! ถาหากหุบเขาของทานลงมือ ก็มั่นใจไดมากขึ้นแลว โดยเฉพาะสหายเชอ
ของหุบเขาทาน ผูเฒ านอยนั่นมีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญในเสนทางการบำเพ็ญเพียรอยาง
สันโดษมาโดยตลอด นาเสียดายที่ขาวิ่งไปตั้งหลายครั้งแตก็ไมพบ ดูเหมือนวาสหาย
เชอจะกักตนบำเพ็ญเพียรอยูตลอด!” เซี่ยงจือหลี่เอยอยางดีอกดีใจ
ซากหมี ห มื่ น ป ได ยิ น ก็ หั วเราะแห งๆ ออกมา และไม ได ต อบอะไรกลั บ มา แต
สายตากลับกลอกไปมาเล็กนอย จูๆ ก็หันหนาไปเอยกับหลิงหลงอยางนอบนอมวา
“พระชายาหลิงหลง! จะวาไปแลวเจาหุบเขาของพวกเราก็นับวาเปนสหายเกา
ของพระชายา! เขาคือ…” เอยมาถึงตรงนี้ซากหมีก็เงียบเสียงไป มุมปากขยับเล็กนอย
ขณะถายทอดเสียง
แตเดิมหลิงหลงที่มีสีหนาเรียบเฉย เมื่อไดยินคำพูดนี้กลับหนาเปลี่ยนสี แววตา
เปลงประกายประหลาดๆ
“เปนเขา! ขาก็วาเหตุใดเขาถึงรูวาขาถูกผนึกอยูที่ปอมปราการมาร!” หลิงหลงเอย
พึมพำกับตัวเอง ดูเหมือนวาจะนึกอะไรขึ้นมาได หวางคิ้วเผยสีหนาเหงาหงอยออกมา
“ในเมื่อพระชายารูฐานะของประมุขแหงหุบเขาพวกเราแลว เชนนั้นก็ตามขานอย
กลั บ ไปพั ก ที่ หุ บ เขาหมื่ น ป ศ าจสะระยะเถิ ด หุ บ เขาหมื่ น ป ศ าจของพวกเรามี อ สู ร
วิญญาณและสัตวประหลาดมากมายจนนับไมถวน เพียงพอที่จะใหพระชายาไดเลือก
รางที่เหมาะสม” ซากหมีเอยอยางจริงใจ
“ไปหุบเขาหมื่นปศาจ ไมสนใจ จะไมออกจากภูเขาคุนอู อีกเดี๋ยว จะขากลับเขา
ไปในชองวางมิตินั่นอีกครั้ง” คาดไมถึงวาสตรีผมสีเงินจะเอยสิ่งที่ทำใหทุกคนเกือบจะ
นึกวาฟงผิดออกมา
“พระชายาจะกลับไป จะไดไดอยางไร?” ซากหมีหมื่นปเอยดวยน้ำเสียงแหบแหง
“ใช แ ล ว ทว า ข า ไม ไ ด ไ ปคนเดี ย ว อั ส นี เทวาป ด เป า ภยั น ตรายของคนผู นี้ มี
ประโยชนตอขา เขาจะตองไปกับขา” หลิงหลงมองหานลี่แวบหนึ่ง นิ้วเรียวชี้ออกไป
ขณะเอยอยางราบเรียบ
หานลี่หนาเปลี่ยนสี แตทันใดนั้นก็มีสีหนาไรความรูสึก
“หรือวาอาวุโสหลิงหลงลอเลน เหตุใดตองเสี่ยงขนาดนั้น?” เซี่ยงจือหลี่เหลือบตา
มองหานลี่ดวยความแปลกใจแวบหนึ่ง แลวอดไมไหวเอยถามขึ้น ทาทางเหมือนไม
อยากใหสตรีผูนี้เสี่ยงอันตรายมากเกินไป
“ขาและพวกเจาไมเหมือนกัน แตเดิมขาก็เปนผูที่มาจากแดนวิญญาณลงมาจุติที่
แดนนี้ ตอใหวันขางหนาพลังยุทธฟนฟูกลับมาอยูในระดับเทพแปลง ก็ไมอาจใชพลัง
ของตนเองขามแดนไปได หากคิดจะกลับไปยังแดนวิญญาณ หนทางเดียวก็คือเอาราง
ที่แทจริงของขากลับมา จากนั้นก็กลับไปยังเสนทางมหัศจรรย แตครั้งนี้ ขาจะเตรียม
ใชพรสวรรคของเผาหมาปาสีเงินพวกขา ขอแคเขาใกลมารตนนี้ ก็มั่นใจไดกวาครึ่งวา
จะสามารถแยงชิงรางคืนมา” หลิงหลงเอยอยางเย็นชา
“เรื่องนี้...พระชายาไตรตรองอีกสักหนอยเถิด!” ซากหมีหมื่นปเผยสีหนาสงสัย
ออกมา ดูเหมือนวาจะมีทาทางลำบากใจเปนอยางมาก
เซี่ยงจือหลี่เองก็คอยหามปรามอยูดานขาง
นิ้วเรียวบางของสตรีผมสีเงินมวนปลายผมสีเงินที่ปรกลงมาบนบา มุมปากเผย
รอยยิ้มเยาะเยย
“ขารูวาพวกเจาอยากรูที่อยูของเสนทางมหัศจรรยจากปากขา กลัววาขาจะเอา
ชีวิตไปตายในนั้นละสิ เลิกคิดเสียเถิด!”
เมื่ อ ได ยิน ซากหมี พ ลัน เผยสีห น าหม น หมองออกมา แต เซี่ ย งจือ หลี่ กลั บ หน า
เปลี่ยนสี ปากก็เอยคำวา “เขาใจผิดแลว” ออกมา ไม มีท าที เหมื อ นถูกจี้ใจดำเลย
แมแตนอย
“เอาละ ไมวาพวกเจาจะคิดเชนไร ในตอนนั้นมนุษยและปศาจที่ผานทางเดินนั่น
มายังแดนมนุษย ถึงแมวาจะมีอยูจำนวนมาก แตผูที่รูรายละเอียดที่แทจริง เกรงวาคง
มีเพียงไมกี่คน เสนทางมหัศจรรยของแดนวิญญาณไมใชที่สิ่งผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ
จะสัมผัสได สิ่งที่เรียกวาเสนทางมหัศจรรย ไมใชสิ่งที่ดำรงอยูจริงๆ และไมมีตำแหนง
ที่อยูแนนอน”
สตรีผมสีเงินเอยออกมาอยางสบายๆ ทำใหเซี่ยงจือหลี่และซากหมีมีสีหนาตะลึงงัน
แววตาของหานลี่เปลงประกายสองสามครั้ง ราวกับวาตั้งใจฟงคำพูดของผูที่เบื้องหนา
แตจิตสัมผัสกลับแทรกเขาไปในยามเก็บของ ตรวจสอบศิลาจารึกผลึกสวรรคกอนนั้น
อยางเงียบๆ หลินอิ๋นผิงที่อยูดานขางในเวลานี้กลับถูกคำวาเสนทางมหัศจรรยดึงดูด
ความสนใจเอาไว จึงตั้งใจฟงอยางไมวอกแวก
“ไมใชสิ่งที่ดำรงอยูจริงๆ หมายความวาอยางไร?” เซี่ยงจือหลี่เหมือนเดาอะไรได
แตก็ยังคงเอยถามดวยสีหนาที่เต็มไปดวยความสงสัย
“งายมาก เสนทางมหัศจรรย เปนสิ่งที่แดนวิญญาณของพวกเราอาศัยพลังของฟาดิน
เป ดเสนทางนี้ขึ้นชั่วคราวเท านั้น หลังจากที่ สงพวกเราลงมาจุติยังแดนมนุ ษยแลว
ทางเดินนั้นก็หายไปตั้งนานแลว” หลิงหลงเอยอยางเย็นชา
“เปนไปไมได ถาหากเปนเชนนั้นจริงๆ ละก็ หลังจากสงครามโบราณ ยังมีผูที่
กลับไปแดนวิญญาณอยูเลย ไมมีเสนทางมหัศจรรย พวกเขาจะทำไดอยางไร” ซากหมี
กลับไมยอมเชื่อเรื่องนี้ ปากก็เอยถามดวยความรอนรนออกมา
“เจาลืมไปแลวหรือ ตอนนั้นที่แดนมารโบราณเริ่มเขามารุกรานแดนมนุษยใน
ตอนแรก ผูบำเพ็ญเพียรโบราณของแดนมนุษยติดตอแดนวิญญาณของพวกเราใหไป
ชวยไดอยางไร” หลิงหลงเอยอยางทองไมรูรอน
“เทียนสงแดน!” เซี่ยงจือหลี่ขมวดคิ้ว
“ใชแลว ตอนที่คนเหลานั้นจะจากไป ไดจุดเทียนนี้เพื่อบอกแดนวิญญาณ และ
เปดทางเดินขึ้นอีกครั้ง ไมตองพูดถึงวาเวลานี้เจายังมีเทียนนี้อยูหรือไม ตอใหมี เจาคิด
วาแดนวิญญาณจะเปดทางเดินนั้นอีกครั้งเพื่อพวกเจาหรือ? ตองเขาใจวาทุกครั้งที่เปด
เสนทางมหัศจรรย จำนวนของศิลาวิญญาณระดับสุดยอดที่ตองสูญเสียไป ถึงแมวา
มนุษยอยางพวกเจาและปศาจอยางพวกเราจะรวมมือกันก็ยังรูสึกรับไมไหว” คำพูด
ของหลิงหลงแทบจะทำลายความหวังสุดทายของซากหมีใหกลายเปนผุยผง
“เชนนั้นหลังจากที่พระชายาชิงรางกลับมาแลว จะกลับไปยังแดนวิญญาณอยางไร!”
เซี่ยงจือหลี่กลับควาจุดที่สำคัญ เอยถามดวยความเยือกเย็น
“ในฐานะที่ขาเปนชายาของราชันยหมาปาเทียนขุย ฐานะก็เปนองคหญิงของเผา
หมาปาจันทราสีเงิน แนนอนวาจึงไมเหมือนกับผูบำเพ็ญเพียรในแดนมนุษยและเผา
ป ศ าจ ในขณะที่ รางที่ แ ท จ ริงและจิ ต สั ม ผั ส ของข าถู ก ทำสั ญ ลั ก ษณ ไว ในจานดาว
อัศจรรย ขอแคขากลับรางเดิม และกระตุนอานุภาพของสัญลักษณ
ถึงแมวาจะมีเขตแดนกั้นเอาไว อาวุโสในเผาก็จะกระตุนพลังรางหลักของจานดาว
อัศจรรยจากเขตอาคมที่วางเอาไวโดยเฉพาะทันที เพื่อเปดเสนทางอัศจรรยเล็กๆ สาย
หนึ่งรับขากลับไป แตทางเดินนี้รับขาไดเพียงคนเดียวเทานั้น หากคนอื่นๆ คิดจะอาศัย
มันเขาไป สัญลักษณก็จะไมสอดคลองกัน และถูกบดขยี้จนกลายเปนผุยผงทันที ตอน
นั้นหากไมใชเพราะขาประสบทุกขจากการถูกจิตแยกบรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณยึด
ราง จนถูกบีบจิตสัมผัสใหออกมา คงกลับไปยังแดนวิญญาณตั้งนานแลว ไหนเลยจะ
มาอยูที่นี่จนถึงทุกวันนี้!” หลิงหลงเอยอยางไมสบอารมณนัก
“สัญลักษณ? ที่แทจานดาวอัศจรรยในมือของทานก็ไมใชรางหลัก ขาก็วาเหตุใด
สมบัติลับของแดนวิญญาณในตำนานถึงมีอานุภาพดอยกวาที่จินตนาการเอาไวนัก!”
ซากหมีมองจานกลมๆ ในมือของหลิงหลง แลวเอยอยางใจลอยไปเล็กนอย
เซี่ยงจือหลี่เองก็หุบยิ้มบนใบหนาลง สีหนาเปลี่ยนเปนเครงขรึมขึ้น
ไมวาผูใด เมื่อความหวังที่มีมาตลอดสองสามรอยปสูญสลายไปในพริบตา เกรงวา
ก็คงมีสีหนาที่ไมตางกันนัก
หานลี่ในเวลานี้ กลับมีจิตใจระแวดระวังมากขึ้น ถอยหลังไปสองสามกาว เขาไมรู
วาการที่ความฝนของพวกเขาแหลกสลาย จะทำใหเกิดเรื่องอะไรบาขึ้นหรือไม
“หรือวานอกจากบรรลุระดับเทพแปลงขั้นปลายแลว ก็ไมมีทางขึ้นไปยังแดนวิญญาณ
ได สถานการณของไอวิญญาณฟาดินบนแดนมนุษยของพวกเรา พระชายาก็นาจะรู
อัตราการฝกฝนจนถึงระดับเทพแปลงขั้นปลาย ก็แทบจะไมมีแลว” ซากมีถอนหายใจ
ออกมาเฮือกหนึ่ง เอยถามสตรีผมสีเงินดวยความหวังสุดทาย
“แน น อนวาไมใช นอกจากแดนวิญ ญาณของพวกเราจะสามารถเป ด ทางเดิ น
อัศจรรยไดแลว พวกเจาก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่จะเขาไปยังแดนวิญญาณ แตแควิธีนี้ เปน
เพียงทฤษฎีเทานั้น ผูที่ทำสำเร็จ ตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบันก็มีเพียงไมกี่คน นับไดวา
สำเร็จไดเพียงหนึ่งในสิบสวนเทานั้น พวกเจาอยากฟงไหมละ?”
หลิงหลงมองไปยังแววตาที่เต็มไปดวยความกระตือรือรนของทั้งสองคน คาดไมถึง
วาจะหัวเราะออกมาเบาๆ เวลานั้นความงดงามพลันเพิ่มขึ้น นาหลงใหลอยางสุดๆ
ทำใหหานลี่ที่จับตองอยางเย็นชาอยูดานขาง รูสึกริมฝปากแหงผาก โคจรคาถา
เทพขับเคลื่อนอยางตกตะลึงดวยความรวดเร็ว ถึงไดกลับมามีจิตใจที่มั่นคงขึ้น
เขาอดที่จะรูสึกตกตะลึงไมได!
“แนนอนวาตองฟง ตอใหอันตรายขนาดไหน ก็ดีกวายอมตายในแดนมนุษย!”
เซี่ยงจือหลี่รูสึกกระปรี้กระเปราขึ้น พลางเอยปากอยางรอนรน
ซากหมีหมื่นปพยักหนาไมหยุด
“เลาใหพวกเจาฟงสักหนอยก็ไมใชวาจะไมได แตเพื่อเปนการตอบแทน ขาจำตอง
ตองยืมของของพวกเจาสองคน เพื่อจะไดชวยใหขาชิงรางกลัมาได!” แววตาเจาเลห
ของสตรีผมสีเงินเปลงประกาย
“ยืมของ!”
เซี่ยงจือหลี่และซากหมีหมื่นปอดที่จะตกตะลึงไมได
“ใชแลว มีดโลหิตที่ลอกเลียนแบบมาจากมีดมังกรมารเลมนั้น และยันตทลายเขตแดน
ที่เหลืออยูอีกสองแผนของสหายเซี่ยง!” หลิงหลงเอยพรอมกับหัวเราะคิกคักออกมา
ตอนที่ 1070 มหายุทธผนึกวิญญาณ
เมื่อไดยินคำพูดของหลิงหลง เซี่ยงจือหลี่พลันเอยตอบรับในทันที
ซากหมีกลับมีสีหนาลังเลเล็กนอย แตสุดทายก็กัดฟนพยักหนา ถึงแมวามีดโลหิตเลมนี้
จะล้ำคา แตจะเทียบกับการไดเขาไปในแดนวิญญาณไดอยางไร แนนอนวาปศาจตนนี้
จึงรูผลไดผลเสียในเรื่องนี้ดี
หลังจากผานไปชั่วครู ยันตลับสีเหลืองสองแผน และมีดโลหิตยาวครึ่งฉื่อเลมหนึ่ง
ก็ปรากฏขึ้นบนมือของหลิงหลง
สตรีผูนี้พิจารณาของเหลานี้อยางละเอียด และใชมือหนึ่งถือมีดโลหิตเอาไวพลาง
พลิกไปพลิกมาเลนกับมันเล็กนอย หลังจากที่ลำแสงสีโลหิตเปลงแสงวิบวับ นางถึงได
เก็บเขาไปดวยความพึงพอใจ จากนั้นก็เอยกับเซี่ยงจือหลี่และพวกทั้งสองคนวา
“ในใตหลานี้ สถานที่ที่สามารถเชื่อมโยงระหวางสองแดนได นอกจากเสนทาง
มหัศจรรยชั่วคราวแลว ความจริงแลวในแดนมนุษยยังมีจุดที่ชองวางมิติออนแอตาม
ธรรมชาติดวย สถานที่เหลานี้ออนแอกวาที่อื่นเปนอยางมาก แมกระทั่งบางแหงก็อยู
ตรงรอยแยกระหวางสองแดน ขอแคใชพลังภายนอกที่เพียงพอ ก็สามารถเปดทางเดิน
สูสวรรคได ตอนนั้นที่แดนมารโบราณสามารถบุ กเขามาในแดนมนุ ษยได ก็เพราะ
บังเอิญไปพบเขากับรอยแยกของแดนมารโบราณและแดนมนุษยเขา มิเชนนั้นตอให
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณจะมีความสามารเกรียงไกรขนาดไหน ก็ไมมีทางมาถึง
แดนแหงนี้ไดงายๆ”
“รอยแยก!” เซี่ยงจือหลี่เอยพึมพำ คนอื่นๆ ไดยินแลว ก็เผยสีหนาขบคิดออกมา
“แนนอนในใตหลากวางใหญขนาดนี้ รอยแยกเหลานี้จึงหายากมาก ตอนนั้นผู
บำเพ็ญเพียรโบราณคนหาไปทั่วหลา ก็พบแคสิบกวาแหงเทานั้น พวกมันนั้นบางก็
สามารถเคลื่อนยายตำแหนงไดตลอดเวลา บางก็มีตำแหนงที่แนนอน แตไมวาจะแบบ
ไหน ชองวางมิติในรอยแยกทั้งหมดตางก็ไมมั่นคง อาจจะพังทลายไดตลอดเวลา และ
อาจกอตัวขึ้นไดตลอดเวลา ดังนั้นการเปดทางเดินนี้จึงเปนเรื่องที่อันตรายอยางสุดๆ
เหนื อ กวาที่ เส น ทางมหั ศ จรรย จ ะเที ย บเที ย มได และตอนที่ เดิ น ผ านพวกมั น สิ่ งที่
อันตรายที่สุดไมใชพลังแรงกั้นเขตแดน แตกลับเปนเพราะทางเดินนี้จะสรางระเบิด
พายุชองวางมิติออกมา หากถูกดูดเขาไป ตอใหมีความสามารถเกรียงไกรขนาดไหนก็มี
เพียงแตตองตายอยางไมตองสงสัย ทวาเรื่องนี้ วันขางหนาพวกเจาคอยคิดอีกทีก็แลว
กัน เวลานี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหาตำแหนงที่แนนอนของรอยแยกเหลานี้กอน! ถึงแมวา
ขาจะจำไดสองสามแหง แตผานมานานขนาดนี้ กวาครึ่งคงสลายหายไปไมก็ทลายตัว
ลงแลว รอยแยกใหม พวกเจาจำตองออกไปคนหาเอง แนนอนวากอนหนานั้นขาจะ
บอกตำแหนงเดิม วิธีการคนหา และลักษณะเฉพาะที่ละเอียดใหเจาทั้งสอง” หลิงหลง
เอยอยางราบเรียบ
“เชนนั้นก็ตองรบกวนพระชายาแลว!” ซากหมีและเซี่ยงจือหลี่รูสึกดีอกดีใจเปน
อยางมาก ตางหยิบคัมภีรที่วางเปลามายื่นใหสตรีผมสีเงิน
สตรีผูนั้นตางคัดลอกรายละเอียดตางๆ ใหทั้งสองคนคนละชุด แลวถึงสงคืน
หลินอิ๋นผิงที่อยูดานขางรูสึกตาลุกวาว แตกลับไมกลาเขาไปรองขอ
“เอาละ! ของก็มอบใหเจาแลว จากประสบการณของเจาคงตัดสินไดไมยากวา
พวกมันเปนความจริงหรือไม ตอนนี้ขาจะกลับไปยังชั้นเกาแลว ถาหากพวกเจาไม
อยากถูกลากเขามาดวย ทางที่ดีที่สุดก็รีบออกไปจะดีกวา ขาไมอาจรับประกันไดวา
มารโบราณตนนั้นจะถือโอกาสนี้ออกมาจากชองวางมิตินั่นหรือไม” หลิงหลงเอย
เซี่ยงจือหลี่และซากหมีไดยินคำพูดที่ดูเหมือนวาสงแขก หลังจากที่เอยชักจูงสองสาม
ประโยคโดยไรผลแลว ก็ไมไดกลาวอะไรอีก ตางขับเคลื่อนลำแสงของตัวเองออกไป
สวนหลินอิ๋นผิงนั้นหลังจากมองหานลี่แวบหนึ่ง ก็กลายเปนลำแสงสีเงินกลุมหนึ่ง
พุงออกไปอยางเงียบเชียบ
ชั่วพริบตา ทั้งหองโถงก็เหลือเพียงหานลี่และสตรีผมสีเงินสองคน
หานลี่หรี่ตาลงเล็กนอย จองสตรีผนู ั้นดวยดวงที่ไมกะพริบ สีหนาเย็นชา สตรีผูนั้น
ก็มองไปยังทางเขาหองโถง แววตาเปลงประกายไมแนนอน
หลังจากผานไปชั่วครู สตรีผมสีเงินก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“นับวาเจาสองคนนั้นรูจักวางตัว ไมไดเหลือจิตสัมผัสไวสอดแนมอะไร ตอนนี้ก็เอา
ศิลาจารึกผลึกสวรรคออกมาไดแลว” สตรีผูนั้นเอยไปพลาง หันกลับมาจองหานลี่เขม็ง
“ทานมั่นใจมากเลยนะวาขามีศิลาจารึกผลึกสวรรค!” หานลี่ลอบถอนหายใจ
ออกมา พลางตอบกลับอยางราบเรียบ
“ถาหากเจาสิ่งนั้ น ไมใชศิลาจารึกสวรรค ก็แ ปลกแล ว อยาลืม ละ ตอนแรกจิ ต
วิญญาณดั้งเดิมสวนหนึ่งของขาเปนศาสตราวิญญาณของเจา และเห็นตัวอักษรโบราณ
บนศิลาจารึกผลึกนั้นเชนกัน ครั้งนี้เจาตองชวยขาชิงรางคืน เตาใบเล็กในมือเจานั่นขา
ไมตองการแลว อีกอยางสมบัติไมแปดวิญญาณชิ้นนั้นก็มอบใหเจาแลวกัน ถึงแมวา
สมบัติสะทานฟาจะล้ำคามาก แตในแดนวิญญาณกลับไมใชสมบัติที่ล้ำคาอะไร! ทวา
สิ่งที่ขารูสึกแปลกใจก็คือ ดูเหมือนในความทรงจำของขา เจายังมีสมบัติล้ำคาอะไรสัก
อยาง แตกลับไมอาจนึกอะไรได? เจาทำอะไรกับจิตแยกของขาใชหรือไม” หลิงหลง
เอยมาถึงชวงสุดทาย แววตาเปลงประกายเย็นเยียบ
“ทานอาวุโสลอเลนแลว จากจิตสัมผัสที่แข็งแกรงของทาน ผูบำเพ็ญเพียรระดับ
กอกำเนิดขั้นกลางเล็กจอยเพียงคนเดียว จะทำอะไรได” หานลี่ใจเตนระรัว แตก็ตอบ
กลับอยางไมรูไมชี้
“หึ! อยามาทำเปนไขสือ พันธะการเปนศาตราวิญญาณของเจายังไมไดถูกทำลาย และ
ความทรงจำที่มีตอเจาของขาสวนหนึ่งก็ถูกผนึกเอาไว ดูแลวคงเกี่ยวกับที่เจามีสมบัติ
ล้ำคาสินะ ขาชางสงสัยแลวสิวามันคืออะไรกันแน ที่สำคัญกวาเตานภาสูญในความคิด
เจา” สตรีผมสีเงินหัวเราะอยางเย็นชาออกมา ใชสายตาไมเปนมิตรพิจารณาหานลี่
“ทานรูแลวอยางไร? หรือวาคิดจะจับเปนขานอย แลวบีบบังคับขา?” หานลี่มีสี
หนาดูไมไดขึ้นมา
รางของหุนเชิดรางมนุษยที่อยูดานขางพลิ้วไหว มายืนเคียงบากับเขา ในเวลา
เดียวกันลำแสงสีเงินก็เปลงประกายออกมาจากรางชั้นหนึ่ง
หานลี่ตัดสินใจแลว ถาหากสตรีผูนี้คิดจะซักไซถามถึงเรื่องขวดเล็กขวดนั้นจริงๆ
ก็จำใจตองใชการกระตุนศาสตราวิญญาณดู วาจะเรียกอิ๋นเยวใหไดสติขึ้นมาไดหรือไม
แตก็ยิ่งเปนไปไดวา ยังไมรอใหอิ๋นเยวไดสติ เขาก็จะถูกสตรีผูนี้จัดการกอน ถึงอยางไร
เสียความสามารถระดับเทพแปลงก็สิ่งที่เขาในตอนนี้ไมอาจตานทานได จะวาไปแลวก็
คงถูกอีกฝายจัดการไดในไมกี่กระบวนทา! นี่ยังถือวาอยูในสถานการณที่อีกฝายยั้งมือ
ไมกลาทำรายเขามากนักดวย
สตรีผมสีเงินไดยินหานลี่ถามยอนกลับ ใบหนาก็เย็นชามากยิ่งขึ้น คิ้วเรียวคูนั้น
คอยๆ เลิกขึ้น หวางคิ้วเผยจิตสังหารออกมา
หานลี่มองสตรีผูนั้นดวยความระแวดระวัง สองมือที่อยูใตแขนเสื้อ มือหนึ่งกุมพัด
ตรีเปลวเพลิงเอาไวแนน อีกมือหนึ่งรายอาคม ในเวลาเดียวกันมือขางหนึ่งของหุนเชิด
รางมนุษยก็มีคันธนูเล็กๆ ปรากฏขึ้น
เสียง ‘ปง’ พลันดังขึ้น!
ใบหนาของสตรีผมสีเงินผอนคลายลง จูๆ พลันเปลงเสียงหัวเราะ เผยน้ำเสียงที่
ทำใหหานลี่รูสึกคุนเคยมากออกมา
“อิ๋นเยว เปนเจา?” หานลี่ตกตะลึง ทันใดนั้นก็รองอุทานออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหง
“นายทาน ทานชางเจาเลหเพทุบายนัก คาดไมถึงวาจะผนึกความทรงจำเรื่องขวดเล็ก
เอาไวชั่วคราวกอนที่ขาและหลงเมิ่งจะรวมรางกัน หากไมใชเพราะจิตสัมผัสของหลิง
หลงเสียหายไปตอนที่ชองวางมิติระเบิดออก ทำใหจิตสัมผัสหลักของหลงเมิ่งจำตอง
หลับใหล ทำใหขาแยงชิงการเปนจิตวิญ ญาณกลับคืนมาได และเปดผนึกนี้อีกครั้ง
เกรงวาคงถูกทานตบตาไดจริงๆ” สตรีผูนี้เอยพรอมกับยิ้มบางๆ
“เรื่องผนึกความทรงจำนั้น เจาก็ตกลงแลวมิใชหรือ มิเชนนั้นไหนเลยลงมือได
อยางงายดายเชน นี้ ” เมื่ อ แน ใจแล ววาหลิ งหลงที่ อ ยู เบื้ อ งหน า มี จิตวิญ ญาณหลั ก
คืออิ๋นเยว หานลี่ก็เอยขึ้นอยางดีอกดีใจ รางทั้งรางผอนคลายลง
“ถึงแมวาขาจะไดเปนจิตวิญญาณหลัก แตถึงอยางไรเสียพลังของจิตสัมผัสก็ยัง
นอยกวาหลงเมิ่ง ขอแคนางไดพักสักหนอย หรือรางของจิตวิญญาณหลักไดรับความ
เสียหายอีกครั้ง ก็จะทำใหนางชิงการควบคุมไดแลว โชคดีที่ถึงแมวากอนหนานี้นางจะ
พบความทรงจำที่ถูกผนึกอยู แตก็ไมไดสนใจจะคนหา มิเชนนั้นวิธีการผนึกที่งายๆ
เชนนี้ ก็ทลายไดอยางงายดาย หากนายทานไมตองการใหเรื่องขวดเล็กขวดนั้นแพรง
พรายออกไป ก็จำตองใชมหายุทธผนึกวิญ ญาณของขา เคล็ดวิชาลับในการผนึ กนี้
ผสานกับการรวมมือของขา ก็สามารถปองกันเรื่องราวเกี่ยวกับขวดนี้ไดแลว นอกเสีย
จากวาทานจะเพลี่ยงพล้ำ หรือถูกกำจัดฐานะศาสตราวิญญาณออก มิเชนนั้นตอให
เปนวิญญาณก็ไมอาจทำอะไรได” อิ๋นเยวเอยอยางเครงขรึม
“ก็มีเพียงแตตองทำเชนนี้ ทวากลาวเชนนี้ หลังที่เจาชิงรางคืนไดแลว จะสามารถ
กลับไปยังแดนวิญญาณไดจริงๆ หรือ?” สีหนาดีใจของหานลี่คอยๆ หายวับไป พลาง
เอยถามอยางเครงขรึม ไมไดเอยถึงวาเหตุใดสตรีผูนี้ถึงเปนฝายจะชวยเขากอน
“ขาจำตองกลับแดนวิญญาณ มิเชนนั้นแคหลงเมิ่งคนเดียว ก็ไมอาจเรียกเสนทาง
มหัศจรรยได ทั้งหลิงเมิ่ง ตัวขา และหลงหลิงตางก็เกี่ยวของกัน ฐานะวิญญาณศาตรา
ก็ตองรอเพียงทานขึ้นไปบนแดนวิญญาณ ขาถึงจะมีโอกาสสำแดงเคล็ดวิชาลับเพื่อตัด
มันออก” แววตาของอิ๋นเยวพลันฉายแววแปลกประหลาดขณะเอยอยางยอมรับ
เวลานั้น หานลี่พลันเงียบกริบ
“นายทานรีบลงมือเถิด มิเชนนั้น จะไมทันการณ จากนั้นขาจะใชยันตทลายเขต
แดนเปดกำแพงกั้นแหงนี้ ใชมีดโลหิตรั้งมารตนนั้นเอาไว นายทานถือโอกาสนี้กระตุน
ศิ ล าจารึ ก ผลึ ก สวรรค ขอแค ก ดไอมารเอาไว ได ข าก็ จ ะใช ค วามสามารถกลื น กิ น
วิญญาณ กลืนมันลงไปในราง ขอแคกลืนจิตแยกของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาได
ทุกอยางก็จะเรียบรอย” ในที่สุดอิ๋นเยวก็ยังเอยอยางราบเรียบออกมา
“เอาละ ขาจะวางเขตอาคมชั่วคราวกอน เพื่อกันไมใหสองคนนั้นกลับมา” หานลี่
พลันพยักหนา พลิกฝามือ ชั่วขณะนั้นในมือพลันมีธงอาคมปรากฏขึ้น จากนั้นพลัน
กระตุนอาคม เกิดแสงสวางวาบแลวจมหายไปรอบๆ อยางไรรองรอย ชั่วขณะนั้น
ลำแสงสีเขียวชั้นหนึ่งพลันปรากฏขึ้น หอหุมกวาครึ่งของหองโถงเอาไว
อิ๋นเยวเห็นเชนนั้น พลันนั่งลงที่เดิมโดยไมพูดอะไร
หานลี่เองก็เคลื่อนไหว นั่งสมาธิลงตรงขามกับอิ๋นเยว มองใบหนางดงามของสตรีผูนั้น
พลางเอยอยางราบเรียบวา “ขาจะเริ่มลงมือแลว! เจาระวังดวย”
เมื่อเอยเตือนจบ สองมือของหานลี่พลันรายอาคม ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเขียวพลัน
ทะลักออกมาจากราง เสียงบริกรรมคาถาที่ฟงไมไดศัพทดังออกมาในเวลาเดียวกัน
หลังจากผานไปชั่วครู รางของหานลี่ก็เปลงแสงสีเขียวเจิดจาจนแสบตาออกมา หอหุม
รางของทั้งสองเอาไว ทำใหไมอาจมองเห็นไดแมแตนอย หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่ง
มื้ออาหาร เสียงบริกรรมคาถาก็หยุดลง กลับเปนเสียงรองอุทานของอิ๋นเยว ทันใดนั้น
ลำแสงสีเขียวพลันหมนแสงลง เผยใหเห็นรางของทั้งสองอีกครั้ง
เงารางอรชนออนแอนใชมือหนึ่ งกดที่หนาผากเอาไว ใบหนางดงามเผยสีหน า
เจ็บปวดออกมา
“ไมเปนไรนะ!” หานลี่เผยแววตากังวลใจออกมา พลางเอยถามอยางรอนรน
“ไมเปนไร เคล็ดวิชาลับสำเร็จแลว ตอใหหลงเมิ่งกลับมาเปนจิตวิญญาณหลัก ก็
ไมมีทางคลายผนึกได อยาเสียเวลาเลย พวกเรารีบไปกันเถิด! ไมรูวาหลงเมิ่งจะไดสติ
ขึ้นมาตอนไหน รีบเขาไปในชั้นเกากันเถิด” สตรีผมสีเงินสายศีรษะ หลังจากฟนฟูสี
หนากลับมาเปนปกติแลวก็สงยิ้มใหหานลี่พลางเอยอยางเบิกบาน
เวลานั้น รอยยิ้มของสตรีผูนั้นดุจดั่งดอกกุหลาบ ชางเยายวนนัก!
หานลี่จองเขม็งไปยังสตรีผูนั้นแวบหนึ่ง หลังจากที่มั่นใจวาอิ๋นเยวไมเปนอะไรมาก
ถึงไดพยักหนาดวยความลังเล ดังนั้นทั้งสองจึงหยัดกายลุกขึ้น สตรีผมสีเงินชูมือขึ้น
ยันตสีเหลืองสายหนึ่งพุงออกไปกลางอากาศ ผลลัพธคือกลางอากาศมีลำแสงวิญญาณ
เปลงประกายสวางวาบ ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเหลืองพลันระเบิดออก กำแพงกั้นกลาง
อากาศโปรงใสพลันปรากฏขึ้น
ตอนที่ 1071 ผนึก
หลังจากที่ลำแสงสีโลหิตสายหนึ่งฟนลงไปบนกำแพงกั้น หานลี่ที่เตรียมตัวไวกอน
แลวก็โบกมือหนึ่งไปมา พนเปลวเพลิงสามสีและไอกระบี่ยักษสายหนึ่งออกมาอยาง
ตอเนื่อง
ลูกธนู จ ากธนู เพลิงอัส นี ในมื อ ของหุ น เชิ ด รางมนุ ษ ย เองก็ เรีย งรายเต็ ม ท อ งฟ า
โจมตีออกไปเชนกัน ในที่สุดหลังจากกำแพงกั้นก็เริ่มบิดเบี้ยว และถูกแรงมหาศาล
โจมตีจนพังทลาย ชั่วขณะนั้นรูขนาดใหญ พลันปรากฏขึ้น ในเวลาเดียวกันไอมารก็
ทะลักออกมาเปนกลุมๆ
อิ๋น เยวรอ งแค น หั วเราะออกมาเสี ย งหนึ่ ง รางกายที่ มี ล ำแสงสี โลหิ ต กลุ ม หนึ่ ง
หอหุมอยูก็บินเขาไป ปกอัสนีวายุที่แผนหลังหานลี่สยายออก รางเคลื่อนยายเขาไปใน
ชองวางมิตินี้ทามกลางประจุไฟฟาสีเงิน
เมื่อรางกายปรากฏขึ้น ไอมารจำนวนนับไมถวนก็หมุนวน หานลี่ขมวดคิ้วมุน มือ
อี ก ข างหนึ่ งควาโล ร ชตะที่ พุ งออกมาจากแขนเสื้ อ เอาไว หลั งจากลำแสงพลิ้ ว ไหว
เกราะปองกันลำแสงสีเงินชั้นหนึ่งก็หอหุมรางของเขาเอาไว
เมื่อไอมารสีดำสนิทสัมผัสกับเกราะแหงนี้ ผิวของมันก็เริ่มเปลงเสียงจากการถูก
กัดกรอนขึ้น ทำใหลำแสงบนเกราะปองกันออนแรงลงไปหนึ่งสวน
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ หานลี่พลันขมวดคิ้วมุนเล็กๆ
ตอนนั้นที่เขาจมลงไปในมหาสมุทรที่ไรขอบเขตอยางวังวนมารหมื่นจั้งนั้น ไอมารที่นั่น
ลวนไมไดนากลัวเทากับที่นี่ นาเสียดายที่อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายเหลือไมมากนัก
โลรชตะที่กลายเปนเกราะปองกันจึงดูเหมือนไมอาจยืนหยัดทามกลางไอมารไดนาน
นัก มีเพียงตองรีบลงมือใหจบโดยเร็วเทานั้น
เมื่อคิดเชนนั้น หานลี่ก็เหลือบตามองอิ๋นเยวแวบหนึ่ง
ตอนนี้สตรีผูนี้ถูกลำแสงสีโลหิตที่สรางขึ้นจากมีดโลหิตหอหุมเอาไว ไอมารที่อยูใน
บริเวณรอบๆ จึงหมุนวนเปนเกลียวไมหยุด ไมอาจเขาใกลไดมากนัก ดูแลว ที่สตรีผูนี้
ยืมมีดโลหิตมาจากซากหมี ก็ไมใชวาจะไมมีเหตุผล
อิ๋นเยวรองเรียกคำหนึ่ง พลางเดินตรงเขาไปหาใจกลางของชองวางมิติ รางกาย
ของหานลี่พ ลิ้วไหว บินขึ้นไปกลางอากาศ ในเวลาเดียวกัน ลำแสงหลีกหนี ก็คอยๆ
สลายหายไป ทำการอำพรางกาย
เวลานี้ แทนบูชาที่อยูไกลออกไปมีเสียงหัวเราะของอิ๋นเยวดังขึ้น จากนั้นเสียงหมาปา
คำรามพลันดังขึ้นติดๆ กัน ตามมาดวยเสียงอันเย็นชาของสตรีผูสวมชุดเกราะสีดำ
“หึ! คาดไมถึงวาเจาจะกลากลับมา ก็ดี ขาจะกำจัดเจาเสีย”
เมื่อเอยจบ เสียงระเบิดก็ดังขึ้นในทันใด
หานลี่รูสึกมีชีวิตชีวาขึ้น ชั่วขณะนั้นพลันบินเขาไปหาแทนบูชาอยางเงียบเชียบ
ชั่วครู เขาก็ปรากฏตัวบนชั้นเมฆหนาๆ มองลงไปดานลางอยางเย็นชา
ใชความสามารถเนตรวิญญาณวารีกระจางจนถึงขั้นสูงสุดทันที เปนเพราะบรรพชน
ศักดิ์สิทธิ์มารโบราณหยวนซาไมไดจงใจปดบังเขาเปนพิเศษ ถึงแมวาจะมีไอมารสีดำ
กั้นอยู แตก็ยังคงมองเห็นสถานการณดานลางไดอยางชัดเจน
เห็นเพียงตรงที่เดิมซึ่งเปนแทนบูชา มีหลุมดำขนาดความกวางรอยกวาจั้งปรากฏขึ้น
ไอมารเปนกลุมๆ พุงออกมาจากตรงนั้นไมหยุด
ความดำมืดภายในนั้นลึกล้ำยากจะคาดเดา!
และเหนื อ หลุ ม นั้ น ก็ มี ล ำแสงสี โลหิ ต กลุ ม หนึ่ งและลำแสงสี ด ำกลุ ม หนึ่ งพลั น
เปลงแสงประกายไลลาตามกันไมหยุด บางครั้งก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นระหวางทั้งสอง
แรงกดมหาศาลพัดไอมารรอบๆ ใหหมุนวนเปนเกลียวไมหยุด ราวกับอสรพิษสองตัว
กำลังตอสูกันจนแทบจะพลิกแผนฟาคว่ำมหาสมุทรอยางไรอยางนั้น
บางครั้งก็มองไมออกวาผูใดเปนฝายไดเปรียบ
หานลี่ เห็ น อิ๋ น เย ว ไม ได มี ป ญ หาอะไรก็ รู สึ ก วางใจขึ้ น ลำแสงสี ฟ า ในรู ม า นตา
เปลงแสงสวางวาบ มองไปรอบๆ หลุมดำหลุมนั้น
แมวากอนหนานี้ชองวางมิติจะระเบิดออกจนทำใหแทนบูชาพังทลาย แตศิลา
จารึกทั้งสองที่ลอกเลียนแบบมาจากหยกออนเรียกวิญญาณนั้น จากเอกลักษณเฉพาะ
ในตัวของมัน ก็นาจะไมสลายหายไปงายๆ และศิลาจารึกหนึ่งในนั้น ก็นาจะใชกระตุน
ศิลาจารึกผลึกสวรรคได
หลังจากรูสึกดีอกดีใจ หานลี่ยังกวาดตาไปที่การตอสูของลำแสงสีดำและลำแสงสี
โลหิตที่เกิดขึ้นอยางไมลดละ ทันใดนั้นก็โคจรเคล็ดวิชาอำพรางอีกครั้ง เก็บกลิ่นอาย
ใหแนบเนียนที่สุด แลวลงไปดานลางอยางเงียบเชียบ
เขาลงมาดานลางอยางเงียบๆ ในขณะที่การตอสูของมารตนนั้นยังไมทันไดเริ่มขึ้น
เลยสักนิด
หลังจากรอใหสองเทายืนอยูบนศิลาที่แตกกระจายอยางมั่นคงแลว หานลี่พลัน
พลิ ก ฝ า มื อ ข า งหนึ่ ง ในมื อ มี ค ทาหยกสมประสงค ด า มหนึ่ ง ปรากฏขึ้ น โบกไปมา
เล็กนอย เกราะปองกันลำแสงสีเหลืองที่เปราะบางชั้นหนึ่งพลันปรากฏขึ้น รางของ
หานลี่ถูกมันหอหุมเอาไวทันที
เมื่อเขาควาศิลาจารึกกอนนั้นเอาไวในมือ ในที่สุดจิตใจที่หนักอึ้งก็ผอนคลายลงไป
หลายสวน
หานลี่ไมลังเลเลยแมแตนอย ความคิดเคลื่อนไหว ยามเก็บของที่เอวมีลำแสงสีฟา
พุงออกมา นั่นก็คือศิลาจารึกผลึกสวรรค
หลังจากมองสิ่งของที่มีความยาวครึ่งฉื่อปราดหนึ่ง หานลี่ก็โยนคทาหยกสมประสงค
ขึ้นไปเหนือศีรษะ มือหนึ่งตะปบออกไปกลางอากาศ ดูดของสิ่งนั้นเขามาในมือ อีกมือ
หนึ่งควาศิลาจารึกเอาไวแนน ใสลมปราณเขาไปในศิลาจารึกผลึกสีฟาอยางบาคลั่ง
ขณะที่ศิลาจารึกผลึกสั่นคลอน พลางเปลงลำแสงวิญญาณวิบวับออกมา เผยให
เห็นความงดงามเปนอยางมาก
ภายใตความสงสัยของหานลี่นั้น พลันกดศิลาจารึกผลึกชิ้นนั้นลงไปบนศิลาจารึกยักษ
ชั่วขณะนั้นศิลาจารึกยักษพลันมีขนาดเทาเมล็ดถั่วเขียว ศิลาจารึกผลึกจมหายเขาไป
อยางเงียบเชียบ
ยังไมรอใหหานลี่เผยสีหนาดีอกดีใจออกมา ชั่วขณะนั้นพลันหนาเปลี่ยนสี
ในเวลานั้นศิลาจารึกพลันเปลงแสงสีฟาชั้นหนึ่งออกมา จากนั้นก็หนักอึ้งเปนพันชั่ง
คาดไมถึงวาจะรวงหลนจากฝามือของหานลี่ ศิลาจารึกครึ่งหนึ่งจมหายเขาไปใตดิน ตั้ง
ตระหงานอยูตรงนั้น
ดานบนมีเสียงหึ่งๆ ดังออกมา
บนหลุมดำมีเสียงตะโกนดวยคามตะตกลึงระคนโกรธเกรี้ยวดังขึ้น
หานลี่ใจหายวาบ ชี้ไปที่โลรชตะอยางไมตองคิด เกราะปองกันลำแสงขยายใหญ
ขึ้นหลายเทา
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น เสาลำแสงสีดำสายหนึ่งพลันเปลงแสงสวางวาบแลว
พุงออกไป!
หลังจากเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ลำแสงสายยักษพลันระเบิดออก ชั่วพริบตาลำแสงสีดำ
สายใหญพลันชโลมอาบครอบคลุมพื้นที่ในรัศมีสิบกวาจั้ง กอนศิลาระเกะระกะที่อยู
ทามกลางลำแสงสีดำถูกทำลายไปอยางรวดเร็วจนหายลับไป เกราะปองกันลำแสงสี
เงินถูกเกราะปองกันลำแสงสีดำหอหุมเอาไว
ลำแสงสีเงินสั่นคลอนอยางบาคลั่งในลำแสงสีดำไมหยุด สีเงินและสีดำสองสีแยก
ออกจากกันอยางชัดเจน!
หานลี่พลันหนาเปลี่ยนสี สองมือพลันรายอาคม โจมตีไปยังเกราะปองกันลำแสง
อยางตอเนื่อง ชั่วขณะนั้นเกราะปองกันลำแสงพลันกลายเปนสีมันวาว ลำแสงสีดำกวา
ครึ่งถูกเกลาออก ในที่สุดเกราะปองกันสีเงินก็กลับมามั่นคงอีกครั้ง
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาที่อยูไกลออกไปไมทันไดปลอยการโจมตีออกมาอีก ก็
ถูกอิ๋นเยวพัวพันเอาไวอีกครั้ง
มิเชนนั้นหากถูกโจมตีอีกครั้งสองครั้ง เกราะปองกันคงถูกทำลายลงอยางไมตองสงสัย
แตเชนนั้น ก็ทำใหหมาปาสีดำสองหัวรูสึกโกรธเกรี้ยวเปนพิเศษ และไมหลบหลีก
การโจมตีของอิ๋นเยวอีก ลำแสงสีดำที่อยูในปาก ทำใหไอมารสีดำหมุนวนสูงขึ้นไปสอง
สามจั้ง ทั้งหมดตางพุงเขาไปหารางของอิ๋นเยว ทาทางยอมเสียปราณแทจำนวนมาก
อยางไมเสียดายอีกครั้ง เผยเจตนาตองการโจมตีอิ๋นเยวใหลาถอยไป
แตการทำเชนนี้ เห็นไดชัดวาสายไปแลว!
จูๆ พื้นดินพลันเกิดการสั่นคลอนอยางบาคลั่ง ตรงมุมตางๆ มีเสาลำแสงยี่สิบกวา
สายพุงออกมาพรอมกับเสียงที่ดังสนั่น กลายเปนเสาหินยักษสูงยี่สิบจั้งเศษ
เสาหินตางๆ มีลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบ ในเวลาเดียวกันผิวของมันพลัน
มีวงแหวนวิญญาณหนาๆ หลากสีสันปรากฏขึ้น และหมุนวนอยางรวดเร็ว
ทวาภาพฉากที่คาดไมถึงพลันปรากฏขึ้น!
ไอสีดำสนิทที่แตเดิมตลบอบอวลไปทั่วทุกสารทิศและหมุนวนรอบๆ วงแหวน
วิญญาณเหลานี้พรอมกัน ชั่วขณะนั้นพลันทยอยกันบินเขาไปในวงแหวนราวกับแมลง
เมาบินเขากองไฟ ในเวลาเดียวกันกลางอากาศเหนือหลุมดำก็มีเสนไหมบางๆ จำนวน
นับไมถวนปรากฏขึ้น เสนแลวเสนเลา เรียงรายหนาแนน ราวกับใยแมงมุมอยางไร
อยางนั้น
ชั่วพริบตา ลำแสงสายหนึ่งก็กอตัวขึ้นจนกลายเปนลำแสงวิญญาณกลุมใหญ กิน
พื้นที่กวางใหญ ราวกับภูเขาขนาดยอมอยางไรอยางนั้น!
หานลี่เห็นสถานการณเชนนั้น แนนอนวาก็รูวาตองกระตุนเขตอาคมสำรองแลว
เขาจึงใสลมปราณลงไปในศิลาจารึกอยางตอเนื่องโดยไมตองขบคิด
วงแหวนบนเสาหินขยายใหญขึ้น ดูดซับไอมารเขาไปดวยความเร็วที่นาตกตะลึง
แทบจะในชั่วอึดใจ ไอมารทั้งหมดก็ถูกสูบเขาไปจนเกือบหมด แลวทยอยกันจม
หายเขาไปในเสาหินอยางไรรองรอยอีกครั้ง
เชนนั้น หมาปาสีดำสองหัวที่แตเดิมอาศัยไอมารตอกรกับอิ๋นเยวจึงตกเปนรอง
เสียงคำรามของหมาปาดังขึ้นทามกลางลำแสงสีดำไมหยุด แตกลับถูกลำแสงสี
โลหิตกลุมนั้นบีบใหลาถอยไป
หานลี่ผอนคลายลง มือขางหนึ่งพลันรายอาคม โจมตีไปยังศิลาจารึกแผนนั้นอยาง
พอดิบพอดี
ศิลาจารึกเปลงเสียงครวญต่ำๆ ออกมา จากนั้นไอวิญญาณสีขาวโพลนที่ปรากฏ
ขึ้นเหนือแทนบูชากลุมนั้นพลันรวงโรยลงมา ยังไมรอใหเขาใกลหลุมดำ แรงกดที่นาตก
ตะลึงก็ทำใหหมาปาสีดำสองหัวที่ยังติดพันอยูตกตะลึง ไมสนใจอิ๋นเยวอีก กลายเปน
ลำแสงหลีกหนีพุงออกดานนอก
อิ๋นเยวแคนเสียงในลำคอ รางกายพลิ้วไหว คาดไมถึงวาจะสลายหายไปจากที่เดิม
หลังจากที่ลำแสงวิญญาณตกลงมา ลำแสงสีขาวโพลนก็ทอดตัวไปทั่วทั้งหลุมนั้น
ในชั่วพริบตา หลังจากที่ลำแสงนั้นหมนแสงลง คาดไมถึงวาหลุมดำจะหายไปอยางไร
รองรอย ที่เดิมกลับปรากฏกำแพงกั้นสีสันแวววาวชั้นหนึ่งออกมา ผนึกไอมารเอาไว
ดานในอีกครั้ง
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์มารโบราณที่กลายเปนหมาปาสีดำเห็นเชนนั้น แนนอนวารูสึก
วาสถานการณไมดีแลว แตเมื่อกวาดสายตาออกไป ก็ตกลงบนศิลาจารึกที่ถูกผนึกอยู
ดานขางกอนนั้น
หมาปาที่เคยใชตราประทับมังกรแปลงตัวนี้แทบจะเดาออกถึงความลึกลับของมัน
ไดในทันที ทันใดนั้นพลันมีสีหนาโหดเหี้ยมปรากฏขึ้น หลังจากหัวหมาปาเปลงเสียง
รองคำรามต่ำๆ ออกมา รางของหมาปาที่อยูทามกลางลำแสงสีดำพลันเลือนรางไม
ชัดเจน ทันใดนั้นรางกายพลันเคลื่อนไหว คาดไมถึงวาจะกลายเปนเงาหมาปาสามตัว
ที่เหมือนกันอยางไรอยางนั้น พลางกระโจนเขาไปหาหานลี่และศิลาจารึก
ลำแสงสีโลหิตกลุมหนึ่งขางกายของหานลี่พลันระเบิดออก ลำแสงสีโลหิตที่อยู
ทามกลางทะเลโลหิตปรากฏขึ้น กวาดเอาทุกอยางรอบๆ เขาไป
ทามกลางกลิ่นอายคละคลุง เงาหมาปาสามตัวถูกทะเลโลหิตมวนเขาไปโดยไม
รูสึกตัว ในเวลาเดียวกันก็ถูกกักเอาไวขางใน
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ลำแสงสีเงินกลุมหนึ่งเปลงแสงสวางวาบบนทะเลโลหิต
หลังจากเสียงฟาผาดังขึ้น ลูกธนูสีเพลิงที่หนาแนนก็พุงออกมาจากลำแสงสีเงิน เรียง
รายเต็มทองฟาหอหุมหมาปาสีดำทั้งสามตัวเอาไวไดในเวลาเดียวกัน
หมาปาสีดำสามตัวพลันตกตะลึง ทยอยกันเงยหนาขึ้นพนลำแสงสีดำออกมาจากปาก
กลายเปนมานลำแสงตานทานลูกธนูเพลิงทั้งหมดเอาไว
แววตาของหานลี่เปลงประกายเย็นเยียบ พลิกฝามือ พัดตรีเปลวเพลิงหมุนติ้ว
ปรากฏขึ้นในมือ เขาสะบัดพัดไปทางหมาปาสีดำอยางรุนแรง ชั่วขณะนั้นพลันมีเสียง
ไพเราะดั งขึ้ น วิห คเพลิ งขนาดเพี ย งสองสามฉื่ อ สามตั วพุ งออกมาจากพั ด ในเวลา
เดียวกัน ตรงเขาไปหาหมาปาทั้งสามตัว ยังไมรอใหบินมาถึงเบื้องหนา อุณหภูมิที่สูง
ทำใหทะเลโลหิตซึ่งอยูรอบๆ ระเหยกลายเปนไอจนแผไอรอนฉาออกมา
หมาปาสีดำสามหัวเผยสีหนาลนลานออกมา อีกสองตัวที่เหลือกลับแข็งทื่ออยางสุดๆ
“เยี่ยม!” เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ อิ๋นเยวพลันเผยสีหนาดีใจออกมาพลางรอง
อุ ท านด วยเสี ย งทุ ม ต่ ำออกมา ทั น ใดนั้ น สองมื อ พลั น รายอาคม รางกายหมุ น ติ้ ว ๆ
กลายเปนหมาปายักษสีเงินขนาดมากกวาหนึ่งจั้งทามกลางลำแสงสีเงิน กระโจนเขาไป
หาหมาปาสีดำที่เผยตัวออกมา
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาเมื่อเห็นอิ๋นเยวกลายรางเปนหมาปายักษ ในหัวพลันมี
ลำแสงสวางวาบขณะนึกอะไรขึ้นได ทันใดนั้นปากก็เปลงเสียงรองตะโกนดวยความ
หวาดกลัวออกมา
“เจาคิดจะใชวิชายุทธกลืนกินวิญญาณ อยาแมแตจะคิด!” ทันใดนั้นหมาปาตัว
นั้นพลันสูดลมหายใจเขาไปเฮือกหนึ่งและพนออกมา ปากพนหมอกโลหิตกลุมหนึ่ง
ออกมาในชั่วพริบตา คาดไมถึงวาจะกลายเปนเปลวเพลิงสีโลหิตหอหุมรางของตัวเอง
เอาไว เมื่อทะเลโลหิตรอบๆ สัมผัสกับเปลวเพลิงโลหิต ก็คอยๆ หลอมละลายเขาหา
กันราวกับน้ำแข็งที่ละลายในฤดูใบไมผลิอยางไรอยางนั้น ชั่วพริบตาคาดไมถึงวาหมา
ปาตัวนี้จะไดรับอิสระ ทันใดนั้นรอบกายพลันเปลงแสงสีดำสวางวาบ พุงออกไปกลาง
อากาศ แตรางกายของมันเพิ่งจะหนีออกไปไดสิบจั้งเศษ จูๆ เหนือศีรษะพลันมีเสียง
ฟารองดังขึ้น จากนั้นประจุไฟฟาสีเงินสายหนึ่งพลันปรากฏขึ้นกลางอากาศ ยังไมรอ
ใหหมาปาตัวนี้ไดเปลี่ยนทิศทางของลำแสงหลีกหนี เสนไหมสีเขียวจำนวนนับไมถวนก็
พุงออกมาจากประจุไฟฟาสีเงิน ลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบ คาดไมถึงวาจะมัด
หมาปาตัวนี้เอาไวแลว
ตอนที่ 1072 กลืนกินวิญญาณ
หมาปาสีดำพลันตกตะลึง รีบรอนกระตุนเปลวเพลิงโลหิตบนราง ชั่วพริบตาเสน
ไหมสีเงินก็หอหุมมันเอาไว แตสิ่งที่คิดไมถึงก็คือ ทามกลางประจุไฟฟาสีเงินพลันมี
เสียงแคนเสียงดวยความเย็นชาออกมา เสนไหมสีเขียวเหลานี้เปลงแสงสวางวาบ คาด
ไมถึงวาจะถูกเผาทำลายอยางไรรองรอย
มารตนนั้นพลันจิตใจหนักอึ้ง
ในตอนที่มันไมอาจขยับตัวไดนั้น หมาปาสีเงินก็เปลงแสงสวางวาบแลวพุงออกไปเบื้อง
หนา มารตนนั้นจึงไมอาจหลบหลีกได ลำแสงวิญญาณเปลงประกาย หมาปาสีเงินจม
หายเขาไปในรางจนมองไมเห็นเงา
รางหมาปายักษ สั่นเทิ้ม หัวหมาป าทั้ งสองเปลงเสียงกรีดรองแหลมสูงออกมา
พรอมกัน
รางกายบิดเบี้ยวอยางรุนแรง!
หัวหมาปาหัวหนึ่งมีสีห นาไรซึ่งจิตวิญ ญาณ ทั นใดนั้ นดวงตาทั้ งสองก็เปลี่ยนเปน มี
ชีวิตชีวา และทันใดนั้นก็เอียงศีรษะ คาดไมถึงวาจะงับลงมาที่ตนคอของหัวหมาปาอีก
หัวหนึ่ง
เวลานี้เสนขนบนหัวขางนี้พลันกลายเปนสีเงินขาว
แนนอนวาหัวหมาปาสีดำไมยอมนิ่งเฉยรอความตาย พลันอาปากใหญๆ ออกแลวงับ
ลงมาเชนกัน ชั่วพริบตาระหวางหัวทั้งสองก็กัดกันเอง
ในตอนนั้นเอง เงารางคนก็แวบหายไปจากประจุไฟฟ าสีเงิน หานลี่ถือเตานภาสูญ
เอาไวขณะเดินออกมา มองไปยังหัวหมาปายักษสองหัวแวบหนึ่ง เผยสีหนากังวลใจ
ออกมา
ถึงแมวาหัวหมาปาสีเงินจะชิงลงมือกอน แตเมื่อรางของหมาปาฟนฟูกลับมาเปนปกติ
ลำแสงสีดำก็สวางวาบ ไอมารเปนชั้นๆ รวมตัวกันที่หัวของหมาปาสีดำ ดังนั้นจึงทำให
หัวหมาปาสีดำยิ่งสูยิ่งรูสึกกลาหาญมากยิ่งขึ้น
หานลี่เห็นเชนนั้นพลันมีสีหนาเครงขรึม จูๆ มือหนึ่งก็รายอาคมไปทางเตานภา
สูญเบาๆ ชั่วขณะนั้นเสียงไพเราะพลันดังขึ้น
เสนไหมสีเขียวที่รัดหมาปายักษอยูเปลงแสงสวางเจิดจา ทันใดนั้นพลันรัดแนนขึ้น
ทำใหรางของหมาปาตัวนนี้ไมมีทางขยับตัวไดเลยแมแตนอย
จากนั้นหานลี่พลันอาปากออกอีกครั้ง พนประจุไฟฟาสีทองสายหนึ่งออกมาจากปาก
โจมตีไปยังหัวของหมาปาสีดำอยางโหดเหี้ยม
ลำแสงสีทองระเบิดออก ประจุไฟฟาบางๆ เปลงแสงสวางวาบไมหยุด ชั่วขณะนั้น
ไอมารบนหัวหมาปาสีดำพลันแตกกระจายออก หลังจากเสียงกรีดรองดังขึ้น ไอมารก็
ลดลงเปนอยางมาก
ถื อ โอกาสนี้ หั ว หมาป าสี เงิน ชู ค อขึ้ น หั ว หมาป าสี เงิน อี ก หั วหนึ่ งที่ เหมื อ นกั น
อยางไรอยางนั้นยื่นคอออกมา กลืนหัวหมาปาสีดำหัวนั้นลงไป จากนั้นก็กระชากออก
จนขาด คาดไมถึงวาจะดึงเงาสีดำสนิทนั้นออกมา
เงาสี ด ำนั้ น เปลี่ ย นรู ป ร า งไปมาไม แ น น อน คาดไม ถึ ง ว าจะดู เหมื อ นโคลนตม
อยางไรอยางนั้น มันเปลี่ยนใบหนาเปนภูตผีทาทางนากลัวหลากชนิด และยังคงกัดกิน
เงาสีเงินไมหยุด
เสียงแคนหัวเราะอยางเย็นชาจนเสียดกระดูกของอิ๋นเยวดังออกมาจากเงาสีเงิน
ลำแสงสีเงินเปลงแสงเจิดจา เงารางสีเงินขยายใหญขึ้นสองสามเทา กลืนกินเงาสีดำลง
ไป จากนั้นก็หดเล็กลงอีกครั้ง แลวจมหายเขาไปในหัวของหมาปาสีเงิน
ชั่วพริบตา หัวหมาปาสีดำที่แตเดิมกำลังพยายามฉีกทึ้งก็นิ่งงัน ดวงตาทั้งสองแข็งทื่อ
หัวหมาปาสีเงินไมสนใจมัน กลับมวนเอาหัวนั้นเขามาอยางรวดเร็ว และคอยๆ สะบัด
ไปมาไมหยุด ราวกับวาเจ็บปวดศีรษะมากอยางไรอยางนั้น
หานลี่เห็นเชนนั้น กลับรูสึกผอนคลายลง โยนเตาใบเล็กในมือไปที่รางของหมาปายักษ
แลวชี้ไปที่เตาสองสามครั้ง
ลำแสงสีเขียวผืนใหญมวนเตาใบนั้นขึ้นไปดานบน ชั่วพริบตาก็หอหุมหมาปายักษ
เอาไวจนกลายเปนลูกบอลยักษ จากนั้นหานลี่กวาดสายตาไปกลางอากาศ ใบหนา
เปลี่ยนสี จูๆ ก็บินเขาไปใกลกับผนึก
หลังจากผานไปชั่วครู เขาก็บินมาอยูเหนือเศษซากแทนบูชาอีกกองหนึ่ง ตบมือเบาๆ
ลูกบอลเพลิงสีแดงสดหลายลูกพุงลงไป
หลังจากที่เสียงระเบิดดังขึ้น หลุมขนาดใหญก็ปรากฏขึ้นเบื้องหนา ลำแสงสีดำใน
หลุมเปลงแสงสวางวาบ มีอะไรอยูในนั้น
หุนเชิดรางมนุษยตะปบมือไปกลางอากาศ ของสิ่งนั้นถูกดึงเขามาในมือไดอยาง
งายดาย
เมื่อพิจารณาอยางละเอียด คาดไมถึงวาจะเปนเศษซากของธงวายุทมิฬสีดำทอนเล็กๆ
ถึงแมวาสมบัติชิ้นนี้จะถูกทำลายไปแลวกวาครึ่ง แตก็ยังคงแผไอวิญญาณที่นาตกตะลึง
ออกมา เผยใหเห็นวามีไอวิญญาณที่ไมมีวันสิ้นสุด
หานลี่เหลือบมองของสิ่งนั้นแวบหนึ่ง พลันพลิกฝามือ เก็บของสิ่งนั้นใสยามเก็บ
ของอยางไมเกรงใจเลยแมแตนอย
ถึงแมวาเขาจะไมรูวาจะซอมสมบัติสะทานฟาชิ้นหนึ่งอยางไร รวมทั้งจะซอมได
หรือไม แตวัตถุดิบชนิดนี้ไดหายสาบสูญไปจากแดนนี้ตั้งนานแลว มูลคาของมันจึงยาก
ที่จะคาดคะเน
หานลี่เก็บของชิ้นนี้เสร็จ ยังไมทันไดกลับมาขางกายของหมาปายักษก็พุงไปอีกดาน
อยางไมลังเลเลยแมแตนอย และยิ่งไปกวานั้นยิ่งบินสูงขึ้นเรื่อยๆ ชั่วพริบตาก็จมหาย
เขาไปเมฆหมอกอีกครั้ง
เมื่อลำแสงหลีกหนีหยุดชะงัก หานลี่ก็เผยสีหนาเครงขรึมออกมาขณะหยุดลง เห็น
เพียงเบื้องหนาไมไกลนัก ลำแสงสีเขียวออนกลุมหนึ่งปรากฏขึ้น ดานในมีไมสีเขียว
มรกตดามหนึ่งหมุนไปมาอยู นั่นก็คือไมแปดวิญญาณ สมบัติสะทานฟาอีกหนึ่งชิ้น!
ถึงแมวาสมบัติชิ้นนี้จะไรซึ่งความเสียหาย แตเปนเพราะมันเปนสมบัติของสำนักพุทธ
จึงมีอานุภาพในการควบคุมเคล็ดวิชามาร
ดังนั้นบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนซาจึงทำไดเพียงจองมันตาถลึงเทานั้น แตไมอาจ
ยึดครองมันได แนนอนวาถาหากมารตนนี้ฟนฟูความสามาถกลับมาเต็มเปยม นั่นก็
เปนเรื่องที่พูดยากแลว
หานลี่มองไปยังไมแปดวิญญาณแตไมกลาลงมือ
ตอนแรกที่เขาไดเตานภาสูญกลับมานั้น ก็เกือบจะถูกเพลิงน้ำแข็งสวรรคคราชีวิตไป
ผูใดจะรูวาไมแปดวิญญาณนี้จะมีอะไรอยูหรือไม!
คิดมาถึงตรงนี้ จิตสัมผัสของหานลี่พลันเคลื่อนไหว หุนเชิดรางมนุษยที่บินตามมา
จนถึงตอนนี้ รางกายพลิ้วไหวตรงไปหาไมแปดวิญญาณ คาดไมถึงวาจะควาสมบัติชิ้น
นั้นเอาไว และไมไดมีอะไรที่แปลกประหลาดปรากฏขึ้น
หานลี่รูสึกดีอกดีใจเปนอยางมาก รับสมบัติชิ้นนั้นมาจากหุนเชิด และควงเลนไป
มาในมือ
สมบั ติ ชิ้ น นี้ ผิ ว เรี ย บลื่ น เป น พิ เศษ เย็ น เยี ย บราวกั บ หยกอุ น อย า งไรอย า งนั้ น
หลังจากขยับไปมาเล็กนอย ลำแสงสีเขียวก็เปลงประกายออกมาไมหยุด แตหลังจากที่
ใสลมปราณเขาไป กลับไมมีอะไรเกิดขึ้น
หานลี่พลันตกตะลึงไปเล็กนอย
ในตอนนั้ น เอง หมาป ายัก ษ ที่ มี ลำแสงห อ หุ ม อยู ซึ่ งอยู ไกลออกไปก็ เปล งเสี ย ง
อึกทึกขึ้น ทันใดนั้นลำแสงวิญญาณก็สวางวาบและระเบิดออก
หานลี่พลันตกตะลึง รีบรอนเก็บไมแปดวิญญาณลงไป และชี้ไปยังเตานภาสูญที่
อยูไกลออกไปดวยความรวดเร็ว ใบหนาเผยสีหนาตึงเครียดออกมา
เตานภาสูญ เปลงเสียง ‘พรึ่บ’ ออกมา ตรงไปหาหานลี่ ชั่วพริบตาก็กลายเปน
ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งรอนลงมาในมือของหานลี่
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง จองเขม็งไปยังจุดที่ไกลออกไปดวยความเครงขรึม
หลังจากที่ลำแสงสีเขียวจางหายไป เงารางสงางามก็ยืนขึ้น นั่นคือหมาปายักษตัวนั้น
แตแคในเวลานี้สองหัวของหมาปายักษเปลี่ยนเปนหัวเดียว รางกายกลายเปนสีเงินขาว
รอบกายเปลงแสงเรืองรอง เงยหนาขึ้นมองหานลี่
หานลี่รูสึกดีอกดีใจ บินกลับมาในทันที แตเมื่อบินออกไปไดครึ่งทาง เมื่อประสาน
สายตากับหมาปาตัวนี้ ก็รูสึกเพียงวาสายตาของมันเย็นชาเปนพิเศษ
เขาอดที่จะรูสึกใจเตนตึกตักไมได ลางสังหรณไมดีพลันผุดขึ้นมา
เงารางของหมาปายักษพลันพลิ้วไหว กลายเปนรางอรชรออนแอนของสตรีคน
หนึ่งทามกลางลำแสงสีเงิน ลักษณะทาทางเหมือนกับหลิงหลง
สตรีผูนี้มองหานลี่แวบหนึ่งดวยใบหนาไรความรูสึก มุมปากหยักรอยยิ้มเย็นชาออกมา
“เจาคือหลงเมิ่ง!” หานลี่สูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง เอยถามดวย
ความเครงขรึม
“จะบอกวาขาคือหลงเมิ่งก็ไมผิดนัก ถึงอยางไรเสียขาในตอนนี้ ก็ใชจิตวิญญาณหลัก
ของหลงเมิ่ง” หลงเมิ่งชูมือเรียวขึ้น มองนิ้วเรียวที่แวววาวเปนพิเศษ ถึงแมวาจะอยาก
ทำสีหนาราบเรียบ แตแววตากลับเผยแววดีใจออกมาอยางไมอาจปดบังความรูสึกได
“อิ๋นเยวเปนอยางไรบาง!” หานลี่หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย สุดทายก็เลียริมฝปาก
พลางเอยถามอยางเยือกเย็น
“นางไมเปนไร แคการกลืนกินวิญญาณทำใหสูญเสียจิตสัมผัสไปไมนอย จึงจมเขา
สูภวังคแหงนิทรา มิเชนนั้น ขาคงไมอาจออกมาไดอยางราบรื่นเชนนี้!” แววตาตื่นเตน
ดีใจของหลิงหลงคอ ยๆ หมน แสงลง เผยแววตาประหลาดๆ ออกมาขณะเอ ย แต
น้ำเสียงก็ยังคงแผวเบา
“ตอนนี้ ท า นคิ ด จะทำอย า งไร?” หานลี่ ไ ด ยิ น ว า อิ๋ น เย ว ไ ม เป น อะไร ก็ รู สึ ก
ปลอดภัยขึ้นตามจิตสำนึก ปากก็เอยถามออกมาดวยความเยือกเย็น
“จะทำอยางไร? ก็ตองกลับแดนวิญ ญาณสิ! ทำไม เจาอาลัยอาวรณ เสวี่ยหลิง
อยากใหนางอยูที่นี่หรือ?” หลิงหลงขมวดคิ้ว น้ำเสียงเย็นชา
เมื่อไดยินคำพูดที่ไมปดบังของสตรีผูนี้ หานลี่พลันหนาแดงระเรื่อขึ้นเล็กนอย แต
ทันใดนั้นเมื่อกะพริบตาคราหนึ่ง ก็ฟนฟูกลับมาเปนปกติ
“เจาก็นาจะรูดี แตเดิมอิ๋นเยวคิดจะกลับแดนวิญญาณ ขาจะไมขัดขวาง และก็ไม
อาจขัดขวางได”
“เจาชาญฉลาดขนาดนี้ แนนอนวานั่นคือสิ่งที่

You might also like