Professional Documents
Culture Documents
คู่มือการปฏิบัติงาน (Work Manual)
คู่มือการปฏิบัติงาน (Work Manual)
(Work Manual)
คู่มือการเลือกใช้สอื่ เพื่อการประชาสัมพันธ์
กรมชลประทาน
ฝ่ายบริหารทั่วไป
สานักงานชลประทานที่ 2
กรมชลประทาน เมษายน 2561
คู่มือการปฏิบัติงาน
(Work Manual)
คู่มือการเลือกใช้สอื่ เพื่อการประชาสัมพันธ์
กรมชลประทาน
รหัสคู่มือ สชป.2/บท.10/2561
หน่วยงานที่จัดทา
ฝ่ายบริหารทั่วไป งานประชาสัมพันธ์และสารสนเทศ
สานักงานชลประทานที่ 2
ที่ปรึกษา
นางวาสนา การสมดี
พิมพ์ครั้งที่ 1
จานวน 1 เล่ม
เดือน เมษายน พ.ศ. 2561
คู่มือการเลือกใช้สอื่ เพื่อการประชาสัมพันธ์
จัดทาโดย
สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด/ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
งานประชาสัมพันธ์และสารสนเทศ สานักงานชลประทานที่ 2
เบอร์โทรศัพท์ 054 217 186 ต่อ 213
คานา
การศึกษาสื่อที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ มีความสาคัญและมีความจาเป็นสาหรับผู้ทางานประชาสัมพันธ์
เพราะความส าเร็จของการประชาสัมพัน ธ์ ส่ วนหนึ่งขึ้นอยู่กับการใช้เครื่องมือสื่อสารที่ถูกต้อง เหมาะสมกับ
ข่าวสาร กลุ่มเป้าหมาย วัตถุประสงค์ของการประชาสัมพันธ์ เป็นสาคัญ
เครื่องมือสื่อสารที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์มีหลายประเภท แต่ละประเภทนั้นมีข้อดี ข้อเสีย ข้อจากัดการ
ใช้งานที่แตกต่างกัน ด้วยเหตุ นี้การสร้างความเข้าใจ วิธีการเลือกใช้สื่อ ตลอดจนอิทธิพลของเครื่องมือและสื่อ
ต่างๆ จึงเป็นความสาคัญที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการประชาสัมพันธ์
คู่ มื อ การเลื อ กใช้ สื่ อ เพื่ อ การประชาสั ม พั น ธ์ เป็ น คู่ มื อ ที่ จั ด ท าขึ้ น เพื่ อ เป็ น แนวทางส าหรั บ
งานประชาสัมพันธ์ ที่ต้องเลือกใช้สื่อเพื่อนาข่าวสารที่ต้องการประชาสัมพันธ์จากผู้ส่งไปสู่ผู้รับ ซึ่งปัจจุบันสื่อที่ใช้
ในการประชาสัมพันธ์ นั้นมีจานวนมากและหลากหลาย การใช้สื่อประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
จะทาให้สิ่งที่ต้องการสื่อสาร เผยแพร่ออกไปสู่ผู้รับสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาดในการสื่อสาร
การใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพัน ธ์ที่ดีจึง ต้องมีความหลากหลายและมีความต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ
มากยิ่งขึ้น
คณะผู้จัดทา งานประชาสัมพันธ์และสารสนเทศ
สานักงานชลประทานที่ 2
กรมชลประทาน
สารบัญ
หน้า
วัตถุประสงค์ ๒
ขอบเขต ๒
คาจากัดความ ๒
หน้าที่ความรับผิดชอบ ๒
Work Flow ๕
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 10
ระบบติดตามประเมินผล 19
เอกสารอ้างอิง 21
แบบฟอร์มที่ใช้ 21
ภาคผนวก 22
1) การใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์ 23
2) แบบฟอร์มแผนการดาเนินงานประชาสัมพันธ์ 34
3) แบบฟอร์มค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานแผนการประชาสัมพันธ์ 35
คู่มือการปฏิบัตงิ าน
การเลือกใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์
1. วัตถุประสงค์
1.1 เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ปฏิบัติงานด้านประชาสัมพันธ์ เลือกใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสม
กับกลุ่มเป้าหมาย
1.2 เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารถึงผู้รับสาร จากสื่อที่หลากหลาย มีความต่อเนื่องและมีความน่าสนใจ
1.3 เพื่ อ ให้ ก ารเลื อ กใช้ สื่ อ มี ค วามเหมาะสม สามารถเป็ น สื่ อ กลางในการสื่ อ สาร จากองค์ ก รสู่
กลุ่มเป้าหมาย อันจะนามาซึ่งความสัมพันธ์อันดีต่อองค์กร
2. ขอบเขต
คู่มือการเลื อกใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ ครอบคลุมขอบเขตขั้นตอนการปฏิบัติง านในการ
เลือกใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์ ดังนี้
2.1 การเตรียมข้อมูล ประเด็น เรื่องที่ต้องการเผยแพร่ทาการประชาสัมพันธ์
2.2 การศึกษารายละเอียดลักษณะของสื่อ และความสามารถของสื่อแต่ละประเภท
2.3 การศึกษาข้อดี ข้อจากัด รวมถึงรายละเอียดค่าใช้จ่ายของสื่อแต่ละประเภท
2.4 การวิเคราะห์และเลือกสื่อให้เหมาะสมกับเรื่อง/ประเด็น ที่ต้องการประชาสัมพันธ์ เสนอต่อหัวหน้า
งาน เพื่อทบทวนความเหมาะสมของสื่อที่เลือกใช้
2.5 การระบุสื่อที่เลือกใช้ พร้อมรายละเอียดค่าใช้จ่าย ลงไปในแผนการดาเนินงานประชาสัมพันธ์
2.6 การเสนอขอความเห็นชอบแผนต่อผู้บริหาร และขออนุมัติงบประมาณในส่วนของสื่อที่มีค่าใช้จ่าย
ตามที่ระบุไว้ในแผนการประชาสัมพันธ์
2.7 การเริ่มดาเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อและช่องทางต่างๆ ตามแผนการประชาสัมพันธ์
ที่วางไว้
3. คาจากัดความ
3.1 ผส.ชป.2 หมายถึง ผู้อานวยการสานักงานชลประทานที่ 2
3.2 ผผง.ชป.2 หมายถึง ผู้อานวยการส่วนแผนงาน สานักงานชลประทานที่ 2
3.3 ฝบท.ชป.2 หมายถึง หัวหน้างานฝ่ายบริหารทั่วไป สานักงานชลประทานที่ 2
3.4 ปท.ชป.2 หมายถึง หัวหน้างานประชาสัมพันธ์และสารสนเทศ สานักงานชลประทานที่ 2
3.5 สื่ อที่ใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์ หมายถึง เครื่องมือหรือตัวกลางที่ใช้ในการนาข่าวสาร เรื่องราว
จากสานักงานชลประทานที่ 2 เผยแพร่ไปสู่สาธารณชน
4. หน้าที่ความรับผิดชอบ
4.1 ผู้ อานวยการส านั กงานชลประทานที่ 2 เห็ นชอบและอนุมัติแผนการดาเนินงานประชาสัมพันธ์
ที่ได้กาหนดสื่อที่เลือกใช้ ไว้ในแผนการดาเนินงานเรียบร้อยแล้ว
4.2 ผู้อานวยการส่วนแผนงาน สานักงานชลประทานที่ 2 ดาเนินการในส่วนของงบประมาณ สาหรับสื่อ
ทีม่ ีค่าใช้จ่ายตามที่ระบุไว้ในแผนการประชาสัมพันธ์
๒
4.3 หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป สานักงานชลประทานที่ 2 ตรวจทาน ทบทวน ความถูกต้องเหมาะสมของ
แผนการประชาสัมพันธ์ ก่อนนาเสนอขอความเห็นชอบและอนุมัติแผนต่อผู้บริหาร
4.4 หั ว หน้ างานประชาสั ม พั น ธ์แ ละสารสนเทศ ตรวจสอบความเหมาะสมของสื่ อ ที่ ใช้ ในแผนการ
ประชาสัมพันธ์ เพื่อแก้ไขปรับปรุงสื่อที่เลือกใช้แผนการดาเนินการประชาสัมพันธ์ ก่อนเสนอความเห็นชอบต่อ
หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป เพื่อดาเนินการต่อไป
4.๕ งานประชาสัมพันธ์และสารสนเทศ ศึกษา วิเคราะห์ ข้อมูลต่างๆ เพื่อนามากาหนดสื่อประเภทต่างๆ
ที่จะใช้ในการประชาสัมพันธ์ ของสานักงานชลประทานที่ 2 ให้มีความหลากหลาย น่าสนใจ และมีความต่อเนื่อง
เพื่อให้การดาเนินงานประชาสัมพันธ์เป็นไปอย่างประสิ ทธิภาพ รวมถึงจัดทาแผนการประชาสัมพันธ์ ที่ระบุสื่อที่
เลือกใช้ ลงไปในแผนการประสัมพันธ์ เพื่อเสนอต่อผู้บริหารและปฏิบัติงานตามแผนการดาเนินงานที่วางไว้
๓
สรุปกระบวนการเลือกใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์
กระบวนการเลือกใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์ สานักงานชลประทานที่ 2 ประกอบด้วยขั้นตอนสาคัญ ดังนี้
1. เตรียมข้อมูล ประเด็น เรื่องที่ต้องการเผยแพร่ทาการประชาสัมพันธ์
2. ศึกษารายละเอียดลักษณะของสื่อ และความสามารถของสื่อแต่ละประเภท
3. ศึกษาข้อดี ข้อจากัด รวมถึงรายละเอียดค่าใช้จ่ายของสื่อแต่ละประเภท
4. วิเคราะห์และเลือกสื่อให้เหมาะสมกับเรื่อง/ประเด็น ที่ต้องการประชาสัมพันธ์ เสนอต่อหัวหน้างาน
เพื่อทบทวนความเหมาะสมของสื่อที่เลือกใช้
5. ระบุสื่อที่เลือกใช้ พร้อมรายละเอียดค่าใช้จ่าย ลงไปในแผนการดาเนินงานประชาสัมพันธ์
6. เสนอขอความเห็นชอบแผนต่อผู้บริหาร และขออนุมัติงบประมาณในส่วนของสื่อที่มีค่าใช้จ่าย ตามที่
ระบุไว้ในแผนการประชาสัมพันธ์
7. เริ่ ม ด าเนิ น การเผยแพร่ ป ระชาสั ม พั น ธ์ผ่ า นสื่ อ และช่ อ งทางต่ า งๆ ตามแผนการประชาสั ม พั น ธ์
ที่วางไว้
๔
Work Flow กระบวนการเลือกใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์
1. เตรียมข้อมูล/ประเด็น/เรื่อง 1 วัน
ที่ต้องการเผยแพร่ทาการ
ประชาสัมพันธ์
ไม่เหมาะสม
ศึกษาข้อดี/ข้อจากัด รวมถึงรายละเอียด
3. ค่าใช้จ่ายของสื่อแต่ละประเภท 1 วัน
วิเคราะห์และเลือก
4. สื่อให้เหมาะสมกับเรื่อง/ประเด็น ที่ต้องการ 1 วัน
ประชาสัมพันธ์ เสนอต่อหัวหน้างาน เพื่อทบทวน
ความเหมาะสมของสื่อที่เลือกใช้
เหมาะสม
5. ระบุสื่อที่เลือกใช้ พร้อมรายละเอียดค่าใช้จ่าย 1 วัน
ความถี่ในการเผยแพร่ ลงไปในแผนการดาเนินงาน
ประชาสัมพันธ์
ไม่เห็นชอบ
เสนอขอความเห็นชอบแผน
6. ต่อผู้บริหาร และขออนุมัติงบประมาณในส่วน 1 วัน
ของสื่อที่มีค่าใช้จ่าย ตามที่ระบุไว้ในแผน
การประชาสัมพันธ์
เห็นชอบ
7. เริ่มดาเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ 1 วัน
ผ่านสื่อและช่องทางต่างๆ
ตามแผนการประชาสัมพันธ์ที่วางไว้
รวมเวลาทั้งหมด 7 วัน
๕
5. Work Flow
ชื่อกระบวนการ : การเลือกใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์
ตัวชี้วัดผลลัพธ์กระบวนการจัดทาคู่มือการปฏิบัติงาน: ร้อยละของจานวนความถี่ในการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์แล้วเสร็จตามแผน
ระยะ
ลาดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน มาตรฐานคุณภาพงาน ผู้รับผิดชอบ
เวลา
เตรี ย มข้ อ มู ล พร้ อ มทั้ ง ศึ ก ษาข้ อ มู ล ต้ อ งมี ก ารศึ ก ษ าข้ อ มู ล ที่ ถู ก ต้ อ ง งาน
เตรียมข้อมูล ประเด็น 1 วัน บทบาทหน้าที่ การปฏิบัติงานของกรม และเป็ นปัจจุบัน จากแหล่ งข้อมูล ที่ ประชาสัมพันธ์
1. เรื่องที่ต้องการเผยแพร่ทาการ ช ล ป ระท าน ทั้ งงาน ต าม น โย บ าย เชื่ อ ถื อ ได้ แ ล ะ เป็ น ป ร ะ โย ช น์ และสารสนเทศ
ประชาสัมพันธ์ กระทรวงเกษตรฯ และงานตามภารกิจ สามารถน ามาก าหนดเป็ น หั ว ข้ อ
เพื่ อน ามาก าหน ดเป็ นหั วข้ อ เรื่ อ ง/ เรื่อง/ประเด็น ในการประชาสัมพันธ์
ประเด็ น ที่ จ ะท าการประชาสั ม พั น ธ์ ผ่ า นสื่ อ ต่ า งๆ ให้ มี ค วามน่ า สนใจ
เผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ กลุ่มเป้าหมายมีความอยากรู้ในสิ่งที่
จะนาเสนอออกไป
2. ศึกษารายละเอียดลักษณะของสื่อ 1 วัน เลื อกศึ ก ษ ารายล ะเอี ย ด ป ระเภ ท สื่อที่เลือกมาศึกษาข้อมูล ต้องมีความ งาน
และความสามารถของสื่อ ลั ก ษ ณ ะของสื่ อ ที่ มี ค วามสามารถ เห มาะสมกั บ เรื่ อ งห รื อ ป ระเด็ น ประชาสัมพันธ์
แต่ละประเภท เผยแพร่ ใ นประเด็ น /เรื่ อ ง ที่ ต้ อ งการ ที่ ต้ อ งการเผยแพร่ และสามารถ และสารสนเทศ
ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์ ข อ ง ส า นั ก ง า น เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด
ชลประทานที่ 2
๖
ระยะ
ลาดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน มาตรฐานคุณภาพงาน ผู้รับผิดชอบ
เวลา
วิเคราะห์
๔. และเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับ
1 วัน วิเคราะห์ ข้อมูลที่ได้ศึ กษา และเลื อกใช้ สื่ อ ที่ เลื อ กใช้ ในการประชาสั ม พั น ธ์ งาน
เรื่อง/ประเด็น ที่ต้องการประชาสัมพันธ์ สื่ อ ที่ เห ม าะ ส ม กั บ ป ระ เด็ น /เรื่ อ ง ผ่ า นการทบทวนจากหั ว หน้ า งาน ประชาสัมพันธ์
เสนอต่อหัวหน้างาน เพื่อทบทวน ที่ ต้ อ งการน าเสน อ ของส านั กงาน ประช าสั ม พั น ธ์ แ ละสารสน เท ศ และสารสนเทศ
ความเหมาะสมของสื่อ ชลประทานที่ 2 และมีความสามารถใน สามารถก าหนดเป็ น สื่ อ ที่ เลื อ กใช้
ที่เลือกใช้ การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ล ง ไป ใน แ ผ น ก า ร ด า เนิ น ง า น
กว้ า งขวาง สามารถด าเนิ น งานตาม ประชาสัมพันธ์ได้
วัตถุประสงค์การประชาสัมพันธ์ได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ
เหมาะสม
๗
ระยะ
ลาดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน มาตรฐานคุณภาพงาน ผู้รับผิดชอบ
เวลา
๕. ระบุสื่อที่เลือกใช้ 1 วัน ระบุ สื่ อ ที่ เ ลื อ กใช้ พ ร้ อ มรายละเอี ย ด ร้ อ ยละความถี่ ในการเผยแพร่ แ ละ งาน
พร้อมรายละเอียดค่าใช้จ่าย ค่าใช้ จ่าย และจานวนความถี่ ลงไปใน ประชาสัมพันธ์แล้วเสร็จตามแผน ประชาสัมพันธ์
ความถี่ในการเผยแพร่ แผนการดาเนินงานประชาสัมพันธ์ ของ และสารสนเทศ
ลงไปในแผนการดาเนินงาน สานักงานชลประทานที่ 2
ประชาสัมพันธ์
ไม่เห็นชอบ
๖. เสนอขอ 1 วัน น าแผน ป ระช าสั ม พั นธ์ ที่ ระบุ สื่ อ ที่ สื่ อที่ เลื อกใช้ ในแผนการดาเนิ น งาน งาน
ความเห็นชอบแผน เลื อ กใช้ เสนอขอความเห็ น ชอบและ ป ระช าสั ม พั น ธ์ ข อ งส านั ก งาน ประชาสัมพันธ์
ต่อผู้บริหาร และขออนุมัติ อนุ มั ติ ง บประมาณ ต่ อ ฝบท.ชป.2, ชลประทานที่ 2 ได้ รั บ ความเห็ น และสารสนเทศ
งบประมาณในส่วนของสื่อที่มีค่าใช้จ่าย ผผง.ชป.2 และ ผส.ชป.2 ชอบจากผู้ บ ริ ห าร ก่ อ นน าไปใช้ ใน
ตามที่ระบุไว้ในแผน การปฏิบัติงานจริง
การประชาสัมพันธ์
เห็นชอบ
๘
ระยะ
ลาดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน มาตรฐานคุณภาพงาน ผู้รับผิดชอบ
เวลา
๗ เริ่มดาเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ 1 วัน เริ่ม ด าเนิ น การเผยแพร่ข้ อ มู ล ข่ า วสาร ร้ อ ยละของจ านวนความถี่ ใ นการ งาน
ผ่านสื่อและช่องทางต่างๆ ตามแผนการ ผ่ า นสื่ อ ช่ อ งทางต่ า งๆ ตามแผนการ เผยแพร่และประชาสัมพันธ์แล้วเสร็จ ประชาสัมพันธ์
ประชาสัมพันธ์ที่วางไว้ ประชาสัมพันธ์ ตามแผน และสารสนเทศ
๙
6. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
ระเบียบ เอกสาร บันทึก
รายละเอียดงาน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ผู้รับผิดชอบ เงื่อนไขการปฏิบัติงาน
แนวทางแบบฟอร์มที่ใช้
1. เตรียมข้อมูล ประเด็น/เรื่อง ที่ ศึกษาข้อมูลการปฏิบัติงาน ตามภารกิจกรม งานประชาสัมพันธ์ ประเด็น/เรื่อง ที่หยิบมานาเสนอ
ต้องการเผยแพร่ทาการประชาสัมพันธ์ ชลประทาน และงานตามนโยบายกระทรวง - และสารสนเทศ ควรเป็นประเด็นที่กลุ่มเป้าหมาย
เกษตรฯ เพื่อที่จะนามากาหนดเป็นประเด็น/ ต้องการทราบ มีความน่าสนใจ
เรื่อง ที่จะทาการประชาสัมพันธ์ และทันต่อเหตุการณ์
๑๗
ระเบียบ เอกสาร บันทึก
รายละเอียดงาน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ผู้รับผิดชอบ เงื่อนไขการปฏิบัติงาน
แนวทางแบบฟอร์มที่ใช้
6. เสนอขอความเห็นชอบแผนต่อ จั ด ท าใบ ป ระ ห น้ า พ ร้ อ ม แ น บ แ ผ น ก าร - งานประชาสัมพันธ์ -
ผู้บริหาร และขออนุมัติงบประมาณใน ดาเนินงานประชาสัมพันธ์ที่ได้ระบุสื่อที่เลือกใช้ และสารสนเทศ
ส่วนของสื่อที่มีค่าใช้จ่าย ตามที่ระบุ ไว้ และความถี่ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เสนอ
ในแผนการประชาสัมพันธ์ ต่อ ฝบท.ชป.2 หากผ่านความเห็นชอบแผนการ
ดาเนินงานประชาสัมพันธ์แล้ว นาแผนนั้นเสนอ
ต่อ ผผง.ชป.2 เพื่อดาเนินการในส่วนของสื่อที่มี
งบประมาณ แล้วเสร็จนาเสนอขออนุมัติแผนการ
ดาเนินงาน ต่อ ผอ.ชป.2 ต่อไป
๑๘
7. ระบบติดตามประเมินผล
ผู้ติดตาม/
กระบวนการ มาตรฐาน/คุณภาพงาน วิธีการติดตามประเมินผล ข้อเสนอแนะ
ประเมินผล
1. เตรียมข้อมูล ประเด็น/เรื่อง ที่ต้องการ มี ก ารศึ ก ษาข้ อ มู ล ต่ า งๆ ที่ ถู ก ต้ อ งครบถ้ ว น และเป็ น ตรวจสอบความถู ก ต้ อ งข้ อ มู ล ที่ ศึ ก ษาให้ งานประชาสัมพันธ์ -
เผยแพร่ทาการประชาสัมพันธ์ ปัจจุบัน สามารถนามากาหนดเป็นประเด็น/เรื่อง ในการ ค ร อ บ ค ลุ ม ค ร บ ถ้ ว น แ ล ะ ต ร งต า ม และสารสนเทศ
ทาการประชาสัมพันธ์ได้อย่างครบถ้วน ถูกต้อง มีความ วัตถุประสงค์การประชาสัมพันธ์
น่าสนใจ
3. ศึกษาข้อดี ข้อจากัด รวมถึงรายละเอียด ศึก ษาข้ อ ดี ข้ อจ ากั ด ของสื่ ออย่ างละเอี ยดถี่ ถ้ วน และ วิเคราะห์เปรียบเทียบสื่อแต่ละชนิด ให้มี งานประชาสัมพันธ์ -
ค่าใช้จ่าย ของสื่อแต่ละประเภท วิเคราะห์ เปรียบเทียบ เพื่อตัดสินใจในการที่จะเลือกใช้ ความเหมาะสม และสารสนเทศ
สื่อในการประชาสัมพันธ์ ของสานักงานชลประทานที่ 2
5. ระบุสื่อที่เลือกใช้ พร้อมรายละเอียด ระบุสื่อที่เลือกใช้ และรายละเอียด เรื่อง/ประเด็น ที่จะ ตรวจสอบรายละเอี ย ดทั้ ง หมด ที่ อ ยู่ ใ น งานประชาสัมพันธ์ -
ค่าใช้จ่าย ความถี่ในการเผยแพร่ ทาการประชาสัมพันธ์ ความถี่ในการเผยแพร่ ลงไปใน แผนการประชาสั ม พั น ธ์ ให้ ค รบถ้ ว นและ และสารสนเทศ
ลงไปในแผนการดาเนินงาน แผนการประชาสัมพันธ์ให้ครบถ้วน ถูกต้อง
ประชาสัมพันธ์
๑๙
ผู้ติดตาม/
กระบวนการ มาตรฐาน/คุณภาพงาน วิธีการติดตามประเมินผล ข้อเสนอแนะ
ประเมินผล
6. เสนอขอความเห็นชอบแผนต่อผู้บริหาร แผนการดาเนินงานประชาสัมพันธ์ได้รับความเห็นชอบ ตรวจสอบความถูกต้องของสื่อต่างๆ ที่ระบุ งานประชาสัมพันธ์ -
และขออนุมัติงบประมาณในส่วนของสื่อที่มี และอนุ มั ติ ง บประมาณในส่ ว นของสื่ อ ที่ มี ค่ า ใช้ จ่ า ย ไว้ในแผนการดาเนินงานประชาสัมพันธ์ใน และสารสนเทศ
ค่าใช้จ่าย ตามที่ระบุไว้ในแผน จากผู้บริหาร ก่อนนาไปใช้ในการปฏิบัติงานจริง ขั้ น ตอนสุ ด ท้ า ยก่ อ นเสนอขออนุ มั ติ ต่ อ
การประชาสัมพันธ์ ผู้บริหาร
๒๐
8. เอกสารอ้างอิง
8.1 การใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์
รายละเอียดตามเอกสารภาคผนวกที่แนบ
9. แบบฟอร์มที่ใช้
9.1 แบบฟอร์มแผนการดาเนินงานประชาสัมพันธ์
9.2 แบบฟอร์มค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานแผนการประชาสัมพันธ์
รายละเอียดตามเอกสารภาคผนวกที่แนบ
๒๑
ภาคผนวก
๒๒
การใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์
ความหมาย สื่อ แปลมาจากคาว่า medium หรือ media ซึ่งเป็นภาษาละติน แปลว่า กลาง อยู่ตรงกลาง สิ่งที่อยู่ตรงกลาง แต่เมื่อ
นามาใช้ในภาษาอังกฤษก็มีความหมายกว้างออกไป จนรวมถึงวิธี ( means) สิ่งแวดล้อมห่อหุ้ม (environmental element) อาทิ
อากาศสาหรับคน น้าสาหรับปลา เครื่องมือ (instrument) ตัวแทนหรือตัวนา (agency) วัสดุ (material) เทคนิค (technique) หรือ
แม้แต่ person as medium แต่เมื่อวิชาการด้านการสื่อสาร และการสื่อสารมวลชนก้าวหน้ามากขึ้น คาว่า สื่อ (medium หรือ
media) ก็ได้ รับการวิเคราะห์ศึกษาและตกแต่งพัฒนาจนมีความหมายเป็นศัพท์เทคนิค ( technical term) หรือศัพท์เฉพาะที่มี
ความสาคัญยิ่ง ทั้งนี้เพราะสื่อกลายเป็นองค์ประกอบที่จะขาดเสียมิได้ในการสื่อสารทุกรูปแบบและทุกประเภท ความหมายเดิม
ที่ จ ากั ด อยู่ เฉพาะเรื่ อ งของภาษาที่ ใช้ ใ นการพู ด หรื อ การสอน (อาทิ ภาษาไทยที่ เป็ น สื่ อ การสอนที่ ใ ช้ กั น มากที่ สุ ด ใน
สถาบันการศึกษาของไทย ) ก็ได้ขยายออกมาครอบคลุมถึงสื่อวัตถุ (อาทิ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ) สื่อบุคคล (อาทิ สื่อ
ภาษา สื่อท่าทาง พ่อสื่อแม่สื่อ สื่อประชาชน หรือ population media) สื่อผสม (อาทิ สื่อมวลชน สื่อการสอน สื่อข้อมูล สื่อโสต
ทัศน์) หรือแม้กระทั่งสาร (อาทิ สื่อวัจนะภาษา สื่อ อวัจนะภาษา)
ประเภทของสื่อที่ใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์
โดยปกติทั่วไปมีการแบ่งประเภทของสื่อกันไว้หลายประเภท และหลายหลักเกณฑ์ (criteria) ได้ประมวลสรุปไว้ดังนี้
1. แบ่ งตามวิ วั ฒ นาการ ได้ แ ก่ สื่ อ ประเพณี ( traditional media) สื่ อ มวลชน (mass media) สื่ อ เฉพาะกิ จ (specializedmedia)
2. แบ่ ง ตามบทบาทหน้ า ที่ ท างสั ง คม ได้ แ ก่ สื่ อ ข่ า วสาร (information media) สื่ อ การศึ ก ษา (educationmedia) สื่ อ บั น เทิ ง
(entertainmentmedia)
3. แบ่งตามประสาทที่ใช้ในการรับสาร ได้แก่ สื่อโสต (audio media) สื่อทัศน์ (visual media)สื่อโสตทัศน์ (audio-visualmedia)
4. แบ่งตามบทบาทหน้าที่ทางเทคนิค ( technical functions) ได้แก่ สื่อถ่ายทอดสาร transmissionmedia) สื่อบันทึกสาร (record
media)
5. แบ่งตามเครื่ องนารหัสสาร ได้ แก่ สื่อสิ่งพิม พ์ ( print media) สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (electronicmedia) สื่อบันเทิงเสียงหรือภาพ
(film or tape)
ความสาคัญของสื่อที่ใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์
สื่อที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์มีความสาคัญ คือ
1. เพื่อการถ่ายทอดหรือบอกข่าวสารให้แก่ประชาชนได้รับทราบ
2. เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
3. เพื่อเป็นการสร้างความนิยมและภาพพจน์ที่ดีขององค์กร
๒๓
ลักษณะของสื่อประชาสัมพันธ์แต่ละประเภท
สื่อสิ่งพิมพ์ (Print Media)
สื่อประเภทสิ่งพิมพ์ (The Printed Words)
1.1 สื่อเพื่อการสัมพันธ์ภายในหน่วยงาน (House or Home Journal) เป็นหนังสือวารสารสิ่งพิมพ์ที่ใช้สื่อสัมพันธ์ในหน่วยงานให้รู้
หรือเข้าใจและแจกจ่ายกันเฉพาะภายในหน่วยงาน
1.2 สื่ อ สั ม พั น ธ์ ภ ายนอกหน่ ว ยงาน ( External Publication) เป็ น วารสารสิ่ ง พิ ม พ์ ที่ ใ ช้ เ พื่ อ สั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า งหน่ ว ยงานกั บ
บุคคลภายนอกหน่วยงาน จัดทารูปเล่ม ประณีต ใช้ถ้อยคา สานวน ภาษา เป็นทางการ การระมัดระวังมากกว่าหนังสือสัมพันธ์
ภายใน
1.3 สื่อสัมพันธ์แบบผสม (Combination) เป็นการจัดทาสิ่งพิมพ์ สื่อสัมพันธ์ในลักษณะผสมใช้อ่านได้ ทั้งคนภายในและภายนอก
หน่วยงานในเล่มเดียวกัน
สื่อสิ่งพิมพ์มีลักษณะต่าง ๆ คือ
1.1 หนังสือพิมพ์ (Newspaper) หนังสือพิมพ์เป็นเครื่องมือที่สาคัญในการเผยแพร่และการประชาสัมพันธ์ เพราะหนังสือพิมพ์เป็น
สื่อมวลชนที่สามารถเข้าถึงประชาชนจานวนมาก และมีระยะเวลากาหนดออกที่แน่นอนเป็นประจาสม่าเสมอ หนังสือพิมพ์ผิด
กับสื่อชนิดอื่น ๆ ตรงที่ว่าหนังสือพิมพ์นั้นอาจจะเป็นเครื่องเร่งเร้าก่อให้เกิดประชามติขึ้นในหมู่ประชาชนได้ และขณะเดียวกันก็
จะส่อประชามติของประชาชนสะท้อนออกมาให้เห็นอีกด้วย เราจึงสามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากว่า หนังสือพิมพ์เป็นเครื่องมือ
อันสาคัญยิ่งในวงการประชาสัมพันธ์หนังสือพิมพ์ สามารถเสนอข่าวสารเรื่องราวต่าง ๆ หลายด้านปะปนผสมผสานกันไปใน
ฉบับ เดียวกั น มี ทั้งข่าวสาร เรื่องราว ที่ ประชาชนเฉพาะกลุ่ม และประชาชนทั่วไปสนใจ เช่น ข่าวการเมือ ง อาชญากรรม
เศรษฐกิจ สังคม กีฬา บันเทิง เป็นต้น หนังสือพิมพ์เป็นสื่อในการติดต่อ 2 ทาง (Two-Way Communication) เพราะเป็นสื่อในการ
ถ่ายทอดความคิดเห็น นโยบายการดาเนินงานของกิจการ แล้วยังเป็นสื่อแสดงความรู้สึกนึกคิดของประชาชนที่มีต่อองค์กรด้วย
เช่น การวิจารณ์การปฏิบัติงานหรือนโยบายของรัฐบาล เพื่อองค์การที่ถูกวิจารณ์จะได้ปรับปรุงนโยบายให้ดีขึ้น หรือรัฐบาลใช้
หนั งสือ พิ ม พ์ เป็ น สื่อ ชี้แ จงให้ ป ระชาชนเข้าใจ เพื่ อ ขอความร่วมมื อในการปฏิ บั ติให้ ส าเร็จลุ ล่วงตามเป้ าหมาย นอกจากนี้
หนังสือพิมพ์ยังเป็นสื่อที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยใช้เป็นสื่อแถลงนโยบาย ข้อคิดเห็นทางการเมือง เพื่อสร้าง
ความเข้าใจอันดีต่อกัน ใช้ในการเผยแพร่วัฒนธรรมให้เป็นที่รู้จักของประเทศต่าง ๆ หรือแนะนาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อดึงดูด
นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ
ข้อดีของหนังสือพิมพ์
1. หนั ง สื อ พิ ม พ์ เ ป็ น สื่ อ ที่ เ สนอข่ า วที่ น่ า สนใจสม่ าเสมอและรวดเร็ ว จึ ง เป็ น สื่ อ ที่ ม วลชนยอมรั บ ข่ า วการเผยแพร่
2. มีความคงทนถาวรกว่าสื่อมวลชนประเภทอื่น เพราะเมื่อผู้อ่านไม่เข้าใจตอนใดก็ย้อนกลับมาอ่านทบทวน ใหม่ได้
3. เสนอเรื่องราวข่าวสารหลายประเภท มีทั้งเรื่องราวข่าวสารที่ประชาชนเฉพาะกลุ่ม และประชาชนทั่วไป สนใจ จึงสามารถ
เข้าถึงประชาชนได้หลายกลุ่มหลายอาชีพ
๒๔
4. เสนอข่าวหรือเรื่องราวต่าง ๆ ครั้งละมาก ๆ ได้ รวมทั้งเสนอข่าวประจาวันทุกวันเป็นประจา ทาให้ประชาชนสามารถติดตาม
ข่าวสารเรื่องราวต่าง ๆ ได้ อย่างสม่าเสมอและต่อเนื่อง
5. มีภาพถ่ายประกอบช่วยดึงดูดความสนใจและเข้าใจข่าวสารได้ยิ่งขึ้น
6. ราคาถูก หาซื้อได้ง่าย และมีหลายภาษา
ข้อจากัดของหนังสือพิมพ์
1. ไม่สามารถเข้าถึงผู้อ่านที่อ่านหนังสือไม่ออก หรือผู้สูงอายุที่สายตาไม่ดี
2. หนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่ไม่มีสีสันสวยงาม ไม่มีสิ่งใดสะดุดตาผู้อ่านนอกจากพาดหัวข่าวซึ่งควรเป็นข้อความที่ กะทัดรัด อ่าน
เข้าใจง่าย และสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องของข่าว
3. มี อ า ยุ สั้ น ผู้ อ่ า น อ่ า น ค รั้ งเดี ย ว แ ล้ ว จ ะ ทิ้ งไป ป ร ะ ช า ช น ไม่ นิ ย ม เก็ บ ห นั งสื อ พิ ม พ์ ไว้ เป็ น เว ล า น า น
4. มี ช่ ว งอ า ยุ ที่ สั้ น เมื่ อ ค น อ่ า น เพี ย งค รั้ งเดี ย ว แ ล้ ว ก็ จ ะ ผ่ า น ไป เพ ร า ะ ข่ า ว ต่ า ง ๆ มี ผ่ า น เข้ า ม า ทุ ก วั น
5. ผู้ อ่ า น ห นั ง สื อ พิ ม พ์ จ ะ อ่ า น เพี ย ง บ า ง เรื่ อ ง ห รื อ บ า ง ค อ ลั ม น์ ที่ เข า เกี่ ย ว ข้ อ ง ห รื อ ส น ใจ เท่ า นั้ น
6. ไม่มีสีสันหรือภาพสีที่สวยงามสะดุดตาชวนอ่าน
ข้อดีของวารสาร
1. รูปเล่มแข็งแรงและสวยงาม
2. สามารถเข้าถึงกลุ่มประชาชนเป้าหมายได้ตามความประสงค์เจาะจงหรือต้องการ
3. มีผลทางด้านช่วยย้าเตือนความทรงจาและประทับใจ เพราะออกติดต่อกันเป็นประจาและต่อเนื่องโดย สม่าเสมอ
4. มีเนื้อที่เพียงพอที่จะสื่อสารหรือชี้แจงรายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์
5. มีความยืดหยุ่นสูง เพราะอาจเปลี่ยนแปลงเนื้อหา รูปเล่มให้เป็นไปตามความต้องการและงบประมาณของ องค์กรสถาบันได้
ง่าย
ข้อจากัดของวารสาร
1. คุณภาพของวารสารมักไม่ค่อยดีและขาดคุณภาพ เพราะจัดทากันเองในองค์กรเป็นส่วนใหญ่
2. งบประมาณเป็นอุปสรรคสาคัญในการจัดทา
3. ยุบเลิกได้ง่าย หากผู้บริหารไม่เห็นด้วย หรือเมื่อไม่ได้รับงบประมาณ
4. ผู้จัดทาไม่มีเวลาเพียงพอ เพราต้องมีงานภาระอื่น ๆ ภายในองค์การอีกมากมาย
5. หากวารสารที่ออกนั้นมีวัตถุประสงค์ที่ไม่แน่ชัดหรือขาดความรูท้ ี่น่าสนใจและสาระประโยชน์ที่แท้จริงแล้ววารสารนั้นก็อาจจะ
ไม่ได้รับความสนใจจากประชาชน
๒๕
1.3 นิตยสาร (Magazines) นิตยสาร เป็นเครื่องมือหรือสื่อในการประชาสัมพันธ์ประเภทสิ่งพิมพ์ที่สาคัญอย่างหนึ่ง นิตยสารมี
รูปเล่มที่กะทัดรัดสวยงาม และมีระบบการพิมพ์ที่ประณีต มีสีสวยงามช่วยดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้เป็นอย่างดี
ข้อดีของนิตยสาร
1. การจัดทานิตยสารมักทาในรูปของธุรกิจโดยทีมงานขององค์กร
2. มีการวางแผนงานจัดทาอย่างเป็นระบบ ทาให้มีรูปเล่มที่สวยงามและเนื้อหาแปลกใหม่ ไม่ซ้าหรือน่าเบื่อ
3. สามารถนาเสนอรายละเอียดเรื่องราวได้มาก และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้
4. จานวนการผลิตไม่มาก มีการบอกเงื่อนไขการรับเป็นสมาชิก ทาให้ไม่สูญเปล่า
5. ระยะเวลาในการอ่านนิตยสารนานกว่าหนังสือพิมพ์
ข้อจากัดของนิตยสาร
1. ราคาต่อหน่วยของนิตยสารแพงกว่าหนังสือพิมพ์
2. การจัดจาหน่ายและเผยแพร่อยูใ่ นวงจากัดเฉพาะกลุม่
3. ขาดความรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ เพราะอาจออกเป็นรายเดือนหรือรายปักษ์
4. มีราคาแพง ประชาชนบางกลุม่ อาจไม่สามารถซื้อหรือจับจ่ายได้
5. มีจานวนจาหน่ายและเผยแพร่คอนข้างน้อย
1.7 ป้ายประกาศและโปสเตอร์ เป็นสื่อที่ใช้เพื่อดึ งดู ด ความสนใจของประชาชนที่มี ความเด่ นและสะดุด ตา จัดท าด้ วยสีสัน
สวยงาม มีภาพและตัวอักษรชัดเจน อ่านง่าย แม้อยู่ไกล
ประเภทของคาพูดที่ใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์
1. การพบปะพูดจาธรรมดา
2. การจัดตั้งหน่วยติดต่อ - สอบถาม
3. การพูดติดต่อทางโทรศัพท์
4. การแสดงปาฐกถา
ลักษณะของสื่อบุคคล
2.1 การพูดสนทนา เป็นการสื่อสารของบุคคลโดยทั่วไปในวงสนทนา ซึ่งเป็นการสื่อสารกันใน ชีวิตประจาวันทั่วไป
2.2 การอภิ ปราย เป็นการสื่อความโดยกลุ่ม คนตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ซึ่งเป็นการให้ความรู้ ความคิด เห็น และ ข้อเสนอแนะที่มี
แนวโน้มไปในทางเดียวกัน
2.3 การบรรยาย เป็ นการสื่อความเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจต่อเนื่องในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยผู้ฟังเป็นผู้รับสาร และผู้บรรยาย
เป็นผู้ให้สาร
2.4 การประชุม เป็นการร่วมกันปรึกษาหารือกันในกลุ่มหรือทีมงานอย่างมีระบบและระเบียบวิธีทางการ ประชุม เช่นการยกมือ
ก่อนพูดแสดงความคิดเห็น มีการจดบันทึกรายงานการประชุม และมีประธานการประชุม
2.5 การฝึกอบรม เป็นการให้ความรู้ความเข้าใจแก่บุคคล เพื่อให้มีความรู้เพิ่มขึ้น และมีความสามารถขึ้นในเรื่องที่ได้รับการฝึก
และอบรมมา
ข้อดีของสื่อบุคคล
1. เป็นสื่อที่ทุกคนมีอยู่แล้ว ไม่ต้องสิ้นเปลืองในการซื้อสื่อแบบสื่ออื่น ๆ
2. ทาให้ผู้พูดและฟังเห็นหน้าตา บุคลิก ลีลา ท่าทาง น้าเสียงประกอบการพูดซึ่งมีอิทธิพลในการชักจูงและเร้าความสนใจได้
มากกว่า
3. เป็นการสื่อสารสองทาง ทั้งผู้พูดและผู้ฟังสามารถโต้ตอบกันได้ทันที
4. ผู้พูดสามารถปรับเนื้อหาให้เหมาะกับผู้ฟังได้ทันท่วงที
5. เหมาะกับการเผยแพร่เรื่องราวที่ไม่สลับซับซ้อนหรือติดต่อสัมพันธ์กันเป็นการส่วนตัว
ข้อจากัดของสื่อบุคคล
1. ไม่มีความคงทนถาวร พูดแล้วก็ผ่านเลยไป
2. ไม่สามารถครอบคลุมผู้ฟังจานวนมาก ๆได้
3. หากผู้พูดขาดความสามารถในการพูดจูงใจ ก็จะทาให้การพูดล้มเหลวได้
4. เนื้อหาสาระที่นามาพูดหากสลับซับซ้อนเกินไป ทาให้ผู้ฟังไม่เข้าใจ ต้องมีอุปกรณ์ประกอบการพูด เช่น ภาพถ่าย ภาพสไลด์
ภาพยนตร์
5. เป็นสื่อที่ไม่มีหลักฐานอ้างอิงที่ชัดเจน
๒๗
สื่อโสตทัศน์ (Audio Visual Media)
เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ที่มีการใช้ทั้งภาพและเสียง มีลักษณะ คือ
3.1 ภาพยนตร์ (Films) หรือวิดีโอ (Video) ภาพยนตร์มีทั้งภาพและเสียงประกอบอื่น ๆ เช่น ภาพนิ่ง ภาพเลื่อนเป็นชุด ภาพโปร่ง
แสง ทั้งนี้เป็นเทคนิคต่างๆที่จะให้นักประชาสัมพันธ์เลือกใช้ให้เหมาะกับงานแต่ละแบบ ภาพยนตร์เป็นสื่อที่ใช้ประสาทสัมผัส
ทางตา นับว่าเป็นสื่อที่ให้ความประทับใจและทาให้ผู้คนจดจาเรื่องราวเนื้อหาได้นาน เพราะผู้ชมจะได้ดูและได้ฟังคาบรรยายไป
พร้อม ๆกัน
ข้อดีของภาพยนตร์
1. มีทั้งแสง สี เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบดนตรี ทาให้ประทับใจและจดจา
2. สามารถเร่งเร้าความสนใจของผู้ชมได้ตลอดเวลาที่ภาพยนต์ฉายอยู่
3. สามารถสอดแทรกความคิดเห็น และเป็นสื่อในการเปลี่ยนแปลงทัศนคติพฤติกรรมได้ง่าย
4. สามารถเสนอภาพในอดีตที่เราไม่สามารถย้อนกลับไปชมได้อีก
5. ใช้เทคนิคสร้างเหตุการณ์ประกอบฉากการถ่ายทาได้อย่างสมจริงสมจังที่สดุ
ข้อจากัดของภาพยนตร์
1. ค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการถ่ายทาภาพยนต์สูงมาก
2. ไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มชนเป้าหมายจานวนมาก ๆ ได้ ชมได้ในจานวนจากัด เพราะผู้ชมอยู่ในห้องฉายภาพยนตร์เท่านั้น
3. มีข้อจากัดเกี่ยวกับเครื่องอุปกรณ์และห้องฉายภาพยนตร์
3.2 วิท ยุ (Radio) เป็น สื่อประชาสัม พัน ธ์ที่ส่ งข่าวสารได้ ร วดเร็ ว และเผยแพร่ ข่าวไปได้ ไกลมาก เป็น ที่ นิย มทั่ วไปทั้ งในและ
ต่างประเทศ ประชาชนมีใช้มากแม้ในชนบทที่อยู่ห่างไกลและยังไม่มีไฟฟ้าใช้ มีหลากหลายรายการ ทั้งข่าวสาร บันเทิง รายการ
เพลง รายการละคร
ข้อดีของวิทยุ
1. มีราคาถูก มีความรวดเร็ว แม้จะอยู่ห่างไกลจากสถานีก็ตาม
2. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ผู้ที่อ่านหนังสือไม่ออกก็สามารถรับฟังได้ ครอบคลุมบริเวณพื้นที่กว้างขวางมาก
3. ให้ความรู้สึกเป็นกันเองกับผู้ฟัง สร้างความใกล้ชิด ซ้ายังพกติดตัวได้ตลอดเวลา
4. ให้ความรู้สึกเร้าอารมณ์ และเป็นสื่อที่จูงใจได้ง่าย เพราะเน้นจังหวะ ลีลาที่ใส่อารมณ์ทาให้ผู้ฟังจินตนาการ
และมีความรู้สึกร่วมด้วย
5. สามารถฟังไปด้วยและทางานอื่นไปด้วยได้
ข้อจากัดของวิทยุ
1. ไม่สามารถเสนอรายละเอียดได้มาก เพราะต้องพูดให้สั้น กระชับ เข้าใจง่าย
2. ไม่มีความคงทนถาวร ถ้าผู้ฟังพลาดรายการไปก็ไม่สามารถจะรับฟังได้อีก
3. ถ้ามีข้อผิดพลาดจะแก้ไขได้ยาก
4. ต้องฟังอย่างมีสมาธิจึงจะได้ใจความทั้งหมด
5. เป็นการสื่อสารทางเดียว ไม่สามารถไต่ถามเรื่องราวที่ไม่เข้าใจได้
๒๘
ข้อดีของโทรทัศน์
1. ดึงดูดความสนใจได้มาก เพราะสามารถทดแทนได้ทั้ง หนังสือพิมพ์ วิทยุ และภาพยนต์
2. ผู้ชมเก็บข่าวสารได้มากเพราะมีทั้งภาพและเสียง
3. ถ่ายทอดข่าวสารได้รวดเร็ว ทาให้ข่าวเป็นที่น่าเชื่อถือ
4. สามารถเสนอรายการบางรายการได้ดีกว่าวิทยุและหนังสือพิมพ์ เช่น รายการสารคดี การสาธิตทางวิชาการต่าง ๆ
ข้อจากัดของโทรทัศน์
1. ราคาแพงกว่าสื่อประเภทอื่น
2. เมื่อพลาดรายการก็ไม่สามารถจะชมได้อีก นอกจากบันทึกเป็นวิดีโอเทป
3. เป็นการสื่อสารทางเดียว
สื่อกิจกรรมต่างๆ
สื่อกิจกรรมต่างๆที่จัดในลักษณะกิจกรรมตามวาระหรือโอกาสต่าง ๆ โดยมากจัดในรูปของนิทรรศการ การออกร้าน งานฉลอง
การประกวด การแข่งขัน ประงานสถาปนาองค์กร หรือการเปิดให้เข้าชมกิจการในวันสาคัญ มีลักษณะเด่น 3 ประการ คือ
1. ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนจานวนมากมาเข้าร่วมงาน
2. ประชาสัมพันธ์กิจกรรมภายในงานและองค์กรให้เป็นที่รู้จักของประชาชน
3. ประชาชนที่มาร่วมงานได้รบั สาระประโยชน์ ส่วนองค์กรได้สร้างภาพพจน์ที่ดีในสายตาประชาชนเพิม่ ขึ้น
วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมเพื่อการประชาสัมพันธ์
1. เพื่อให้การศึกษาทางอ้อมในวิชาการสาขาต่าง ๆ และเหตุการณ์ต่าง ๆ แก่กลุ่มประชาชนเป้าหมาย
2. เพื่อเผยแพร่ข่าวสาร ข้อมูล กิจกรรมของสถาบันต่อกลุ่มประชาชนเป้าหมาย
3. เพื่อกระตุ้นเร่งเร้ากลุ่มประชาชนเป้าหมายให้ร่วมมือกับสถาบันหรือเปลี่ยนแปลงทัศนคติของกลุ่มประชาชนเป้าหมายที่มีต่อ
สถาบัน ไปในทางที่พึงประสงค์
4. เพื่อสร้างความบันเทิง สนุกสนานความพึงพอใจแก่กลุ่มประชาชนเป้าหมาย
หลักในการจัดกิจกรรมหรือนิทรรศการ
1. การจัดแต่ละครั้งควรมีศูนย์รวมแนวความคิดเพียงอย่างเดียว
2. ควรเลือกสถานที่ที่เหมาะสมและสะดวกในการเข้าชม
3. ต้องให้ผู้ชมเข้าใจง่าย และเสียเวลาน้อยที่สุด คือ จะต้องใช้ทัศนวัสดุประเภท ภาพ ของจริง ของจาลองและวัสดุสามมิติอื่น ๆ
ให้มากที่สุด เท่าที่จะทาได้ เพราะเป็นการดูมากกว่าการอ่าน
4. ใช้คาอธิบายสั้น ๆ ข้อความโต ๆ มองเห็นชัดแต่ไกล
5. แสงก็มีบทบาทในการจัดนิทรรศการ
6. สีที่สะดุดตาจะช่วยเร้าความสนใจและน่าติดตาม
7. ควรพยายามให้ผู้เที่ยวชมได้มีส่วนร่วมตามความเหมาะสม
8. ควรจัดเรื่องราวหรือกลุ่มวัสดุที่แสดงให้เป็นหมวดหมู่ และต่อเนื่องสัมพันธ์กัน
๒๙
สื่อมวลชน ลักษณะของสื่อมวลชน สามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ
5.1 หนังสือพิมพ์ทั้งรายวัน และนิตยสารทั้งรายสัปดาห์และรายปักษ์
5.2 สื่อกระจายเสียงและแพร่ภาพ นอกจากวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แล้วยังมี
- ภาพยนตร์ เป็นสื่อที่ได้จัดทาเป็นรายการภาพยนตร์เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์
- เคเบิลทีวี เป็นเคเบิลที่มีลักษณะไร้สาย ต้องติตั้งเสาอากาศไมโครเวฟเพื่อรับความถี่ ถอดรหัสเป็นการ ส่งด้วยคลื่นไมโครเวฟ
- ดาวเทียม เป็นการสื่อสารโดยการส่งคลื่นวิทยุโทรทัศน์จากสถานีขนึ้ สู่ดาวเทียมและสะท้อนกลับมายังจานรับคลื่น ซึ่งจะมี
ความคมชัดของภาพมาก
- วิดีโอเท็กซ์ เป็นสื่อที่คล้ายกับการส่งสารสนเทศสิ่งพิมพ์ของเทเลเท็กซ์ที่ส่งไปพร้อมกับคลื่นวิทยุโทรทัศน์แต่วิดีโอเท็กซ์อาศัย
สายโทรศัพท์หรือสายเคเบิลเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างสถานีส่งกับผูร้ ับและมีการโต้ตอบกันได้
บทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนที่มีตอ่ ประชาชน
1. แจ้งข่าวสาร ความรู้ ความเคลื่อนไหวของกิจการหรือหน่วยงานต่าง ๆ
2. เผยแพร่ไปยังประชาชนส่วนใหญ่อย่างกว้างขวาง
3. สิ่งที่เผยแพร่มีการจัดเตรียมอย่างดีไว้ก่อนล่วงหน้า
4. สื่อมวลชนส่งข่าวสารทีส่ นองความสนใจของกลุ่มประชาชนจานวนมาก
5. พยายามรักษามาตรฐานหรือคุณภาพการทางานของสื่อมวลชนประเภทนั้นไว้เพื่อภาพพจน์ที่ดีงามและความเชื่อถือของ
ประชาชน
แนววิธีการใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์
1. การย้าหรือซ้าบ่อย ๆ (Repeating) จะช่วยให้เกิดความน่าสนใจเพิ่มขึ้น คงทนถาวรมากขึ้น เหมือนการตอกย้าหัวตะปู ยิ่งติด
แน่นแม่นยา แต่การใช้วิธีการนี้ควรระวังว่า ถ้าย้าบ่อย ๆ และกรทาต่อเนื่องกันนานอาจถึงจุดอิ่มตัวขึ้นได้ ถ้าเมื่อใดถึงจุดอิ่มตัว
ผลจะลดลงทันที เพราะผู้รับจะเริ่มเบื่อหน่ายหรือชินชาเพราะฉะนั้นถ้าจะทาอยู่เรื่อย ๆ ควรให้มีทั้งความต่อเนื่องและความ
หลากหลาย
หลักการพิจารณาเลือกใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์
เนื่องจากสิ่งที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์มีอยู่มากมายหลายชนิดด้วยกัน ฉะนั้นผู้ที่จะตัดสินใจเลือกสื่ออะไรมาใช้จะต้องพิจารณา
ให้รอบคอบเสียก่อน ว่าจะเหมาะสมและช่วยให้บรรลุเป้าหมายหรือไม่ การพิจารณาเลือกสื่อมาใช้นั้นควรจะคานึงถึงลักษณะ
ของสื่อที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. ด้านเนื้อที่ – เวลา (Space – Time) สิ่งพิมพ์ รูปภาพ เป็นสื่อที่คานึงถึงเฉพาะด้าน “ เนื้อที่ ” การพูดทาง โทรศัพท์ วิทยุ คานึง
เฉพาะด้าน “ เวลา ” ส่วนการติดต่อธรรมดา โทรทัศน์และภาพยนต์นั้น คานึงถึง “ เนื้อที่ – เวลา ”
2. การมีส่วนร่วมของประชาชนเป้าหมาย (Audience's participation) หากจะรียงลาดับสื่อที่ประชาชนเป้าหมายได้มสี ่วนร่วมมาก
ที่สุดไปยังน้อยที่สุด สามารถเรียงได้ดังนี้ การสนทนาระหว่าบุคคล กลุ่มอภิปราย การประชุมทีไ่ ม่เป็นทางการ โทรศัพท์ การ
ประชุมที่เป็นทางการ ภาพยนตร์เสียงในฟิล์ม โทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง โทรเลข จดหมายโต้ตอบระหว่างบุคคล ( ทั้งส่วนตัว
และกึ่งราชการ ) จดหมายติดต่อทัว่ ไป ( จดหมายราชการหรือที่มีรูปแบบเป็นทางการ ) หนังสือพิมพ์ ใบประกาศและภาพ
โฆษณา นิตยสาร หนังสือ
3. ด้านความเร็ว (Speed) สื่อที่มีความเร็วมากที่สุดคือ วิทยุและโทรทัศน์ และสื่อที่ช้าที่สุด คือ พวกหนังสือ ลักษณะเหล่านี้อาจ
กล่าวได้วา่ หากเป็นการติดต่อเผยแพร่ข่าวความเคลื่อนไหว ก็ต้องอาศัยความเร็วสูง แต่หากข่าวสารใดที่ต้องการให้ประชาชน
เป้าหมายได้ศึกษาวิเคราะห์อย่างละเอียดก็ต้องใช้สื่อที่มีความเร็วต่า
4. ด้านความคงทน (Permanence) หนังสือจัดได้ว่าเป็นสื่อที่มีความคงทนถาวรมากกว่าสื่อใด ๆ วิทยุและโทรทัศน์จัดเป็นสื่อที่มี
ความคงทนน้อยที่สุด
๓๐
ที่มาของข้อมูล :
http://km.rubber.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=4730:2012-07-06-06-16-
29&catid=129:2012-07-06-06-19-57&Itemid=240
สืบค้นเมื่อ : 1 เมษายน 2561
๓๑