Professional Documents
Culture Documents
รหัสการศึกษาต่อเนื่อง 1010-1-000-003-06-2566
จำนวน 2.5 หน่วยกิต
วันที่รับรอง 23 มิถุนายน 2566
วันที่หมดอายุ 22 มิถุนายน 2567
โดย ภญ.จุฑามาศ สืบสิน1, ผศ.ดร.ภญ.อุไรวรรณ อกนิตย์2
1โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี
2กลุ่มวิชาเภสัชกรรมปฏิบัติ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
วัตถุประสงค์
1. ทราบการพัฒนาและหลักการทำงานของวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
2. ทราบชนิดของวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
3. ทราบความจำเป็นของการฉีดวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
4. สามารถให้คำปรึกษาการใช้วัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์
บทคัดย่อ
เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2 2019) เริ่มต้นการแพร่ระบาดในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
ตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 2019 แล้วแพร่กระจายไปทั่วโลก ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะมีอาการระบบทางเดินหายใจ
ได้แก่ ไข้ ไอ มีน้ำมูก หายใจถี่ หายใจลำบาก ในกรณีที่อาการรุนแรงมาก อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม
ปอดอักเสบ ไตวาย หรือ อาจเสี ย ชี วิต วัคซี น เป็น เครื่องมือในการสร้างภู มิคุ้ม กัน เมื่ อกลุ่ ม ประชากรมีภู มิคุ้ มกัน ต่ อ
โรคติดต่อจำนวนมากพอจะเกิดภาวะภูมิคุ้มกันหมู่ทำให้โรคระบาดนี้หยุดลงหรือถูกควบคุมได้ ผู้ติดเชื้อเอชไอวีและ
ผู้ป่วยเอดส์เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรครุนแรงเมื่อมีการติดเชื้อการได้รับวัคซีนย่อมมีความสำคัญ การตัดสินใจรับ
วัคซีนต้องอาศัยข้อมูลเท่าที่มีการอ้างอิงจากทฤษฎีหรือข้อมู ลจากวัคซีนอื่น ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน จากผลงานวิจัย
ทางคลินิกระยะที่ 2 และ 3 การศึกษาความปลอดภัยและการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน ของวัคซีนโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
2019 ที่ใช้ในปัจจุบันมีความปลอดภัย ดังนั้นผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีควรได้รับวัคซีน ผู้ป่วยเอดส์หรือกรณีมีโรคติ ดเชื้อ
ฉวยโอกาสรุนแรง ควรรักษาอาการคงที่ก่อนและควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจรับวัคซีนโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
1
หน่วยการศึกษาต่อเนื่อง ฯ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี การฉีดวัคซีนไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 สำหรับผูต้ ิดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์
รหัสการศึกษาต่อเนื่อง 1010-1-000-003-06-2566 ภญ.จุฑามาศ สืบสิน, ผศ.ดร.ภญ.อุไรวรรณ อกนิตย์
บทนำ
เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (Severe Acute Respiratory Syndrome Coronavirus, SARS-CoV-2
2019) เริ่ ม ต้ น การแพร่ ร ะบาดในเมื อ งอู่ ฮั่ น ประเทศจี น ตั้ ง แต่ ป ลายปี ค.ศ. 2019 แล้ ว แพร่ ก ระจายไปทั่ ว โลก
ในประเทศไทยมีการระบาดในช่วงต้นและกลางปี ค.ศ. 2020 และเกิดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงเดือนมีนาคม
ค.ศ. 2021 การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ก่อให้ เกิดความสูญ เสียชีวิตและเศรษฐกิจของ
ประเทศไทยและเศรษฐกิจโลก
วัคซีนเป็นเครื่องมือในการสร้างภูมิคุ้มกัน เมื่อกลุ่มประชากรมีภูมิคุ้มกันต่อโรคติดต่อจำนวนมากพอจะเกิด
ภาวะภูมิคุ้มกันหมู่ทำให้โรคระบาดนี้หยุดลงหรือถูกควบคุ มได้ วัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันมีประสิทธิผลและความปลอดภัยสูง
สำหรับบุคคลทั่วไป ลดการติดเชื้อและลดการเสียชีวิตมีประโยชน์และคุ้มค่าที่จะฉีด ผู้ที่ไม่มีข้อห้ามหรือข้อระวังของการ
ฉีดควรได้รับวัคซีนอย่างถ้วนหน้า วัคซีนโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ชนิดต่าง ๆ ได้ถูกคิดค้น พัฒนาและวิจัยขึ้นมาใหม่
ในระยะเวลารวดเร็วเร่งด่วน การเริ่มวิจัยวัคซีนในทางปรีคลินิกเริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 2020 และมีโครงการฉีดวัคซีนให้กับ
ประชากรจำนวนมาก (mass vaccination) ได้เริ่มขึ้นเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2020 การขึ้นบัญชีเป็นวัคซีนสำหรับการใช้
งานฉุกเฉิน ขององค์การอนามัยโลก (WHO Emergency Use Listing – EUL) ทำให้ ข้อมูลการศึกษาต่าง ๆ จึงยังมี
ข้อจำกัดในประชากรกลุ่มพิเศษ ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่มีความภูมิกันบกพร่อง เป็นต้น การศึกษาส่วน
ใหญ่จะคัดกลุ่มบุคคลเหล่านี้ออกเพื่อความปลอดภัยในการวิจัย วัคซีนใหม่ ข้อมูลเชิงประจักษ์จึงยังมีข้อจำกัด อย่างไรก็
ตามกลุ่มบุคคลเหล่านี้เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรครุนแรงเมื่อมีการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 การได้รับ
วัคซีนย่อมมีความสำคัญ การตัดสินใจรับวัคซีนต้องอาศัยข้อมูลเท่าที่มี การอ้างอิงจากทฤษฎีหรือข้อมูลจากวัคซีนอื่น ๆ
ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน
เภสัชกรเป็นส่วนหนึ่งของทีมสหสาขาวิชาชีพ ในการให้คำปรึกษาเพื่อให้ผู้รับวัคซีนความเข้าใจประโยชน์และ
ข้อมูลประสิทธิผลและความปลอดภัยก่อนตัดสินใจในการรับวัคซีน บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และเข้าใจ
เรื่องวัคซีนด้านต่าง ๆ ได้แก่ การพัฒนา หลักการทำงาน ชนิดของวัคซีน ความจำเป็นของการฉีด และการใช้วัคซีนไวรัส
โคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ เพื่อเป็นข้อมูลที่ใช้ในการให้คำปรึกษาแก่บุคลากร
ทางการแพทย์และกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ในการตัดสินใจรับวัคซีนโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
การพัฒนาและหลักการทำงานของวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
เชื้ อ ไวรั ส โคโรนาสายพั น ธุ์ ใ หม่ 2019 (Severe Acute Respiratory Syndrome, SARS-CoV-2) อยู่ ใ น
Coronaviridae family รูปร่างกลม มีเปลื อกหุ้ม (envelope) ประกอบด้วย ชั้นไขมัน โปรตีน E แท่งโปรตีนหนาม
spike protein ยื่นออกจากตัวอนุภาคไวรัส ซึ่งไวรัสโคโรนาอาศัยโปรตีนหนาม จับกับตัวรับ ในการเข้าสู่ร่างกายของ
มนุ ษ ย์ คื อ angiotensin converting enzyme-2 receptor (ACE2) ระยะฟั กตั ว ตั้ ง แต่ 2 - 14 วั น สามารถ
แพร่กระจายจากคนสู่คนผ่านฝอยละออง จากการไอ จาม น้ำมูก น้ำลาย เสมหะของผู้ป่วย อัตราการแพร่กระจายเชื้อ
เฉลี่ย 2 - 4 คน (Basic Reproductive Number: R0 เท่ากับ 1.4 – 3.9) ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของประชากร ผู้ป่วย
ด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะมีอาการระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ไข้ ไอ มีน้ำมูก หายใจถี่ หายใจลำบาก ใน
กรณี ที่ อ าการรุ น แรงมาก อาจทำให้ เกิ ด ภาวะแทรกซ้ อ น เช่ น ปอดบวม ปอดอั ก เสบ ไตวาย หรือ อาจเสี ย ชี วิ ต 8
เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2 2019) เริ่มต้นในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ตั้งแต่ป ลายปี ค.ศ. 2019
แล้วแพร่กระจายไปทั่วโลก การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยในช่วงต้นและกลางปี ค. ศ. 2020 และในช่วงเดือน
มีนาคม ค.ศ. 2021 เกิดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบทางสาธารณสุข เศรษฐกิจเป็นอย่างมากตลอดปี ค.ศ.
2021 ที่มีการระบาดอย่างหนักทัว่ โลก
2
หน่วยการศึกษาต่อเนื่อง ฯ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี การฉีดวัคซีนไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 สำหรับผูต้ ิดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์
รหัสการศึกษาต่อเนื่อง 1010-1-000-003-06-2566 ภญ.จุฑามาศ สืบสิน, ผศ.ดร.ภญ.อุไรวรรณ อกนิตย์
3
หน่วยการศึกษาต่อเนื่อง ฯ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี การฉีดวัคซีนไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 สำหรับผูต้ ิดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์
รหัสการศึกษาต่อเนื่อง 1010-1-000-003-06-2566 ภญ.จุฑามาศ สืบสิน, ผศ.ดร.ภญ.อุไรวรรณ อกนิตย์
สำหรับวัคซีนโควิด 19 ที่รัฐบาลจัดหาและประชาชนสามารถเข้าถึงได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในระยะแรกของ
การบริการฉีดวัคซีน มี 2 ชนิด คือ14
1. วัคซีน AstraZeneca ให้ในในผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน 10 – 12 สัปดาห์
2. วัคซีน CoronaVac หรือ Sinovac ในผู้ที่มีอายุ 18 – 59 ปี ฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน 2 – 4 สัปดาห์
ในปัจจุบัน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ยังคงมีการให้บริการวัคซีนในโรงพยาบาลและหน่วยงานสังกัด
กรมการแพทย์ทั่วประเทศ เช่น วัคซีน Pfizer/ BioNtech (Bivalent) วัคซีน Moderna และวัคซีน AstraZeneca
รายละเอียดเปรียบเทียบของวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แสดงในตารางที่ 1
4
หน่วยการศึกษาต่อเนื่อง ฯ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี การฉีดวัคซีนไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 สำหรับผูต้ ิดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์
รหัสการศึกษาต่อเนื่อง 1010-1-000-003-06-2566 ภญ.จุฑามาศ สืบสิน, ผศ.ดร.ภญ.อุไรวรรณ อกนิตย์
ความจำเป็นของการฉีดวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
การฉีดวัคซีน ทำให้ ผู้ที่ ฉีดมีภูมิคุ้ มกัน ต่อเชื้อโรค เมื่อคนส่ วนใหญ่ มีภูมิคุ้มกันแล้ วจึงไม่ติดโรคและมีโอกาส
แพร่โรคน้อยลงทำให้เกิดผลทางอ้อมในการป้องกันการติดเชื้อกับคนส่วนน้อยที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรค เกิดภูมิคุ้มกันหมู่
(herd immunity) และหยุดการแพร่ระบาด
วัคซีนเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้ างสภาวะภูมิคุ้มกันหมู่ โดยไม่ต้องรอให้ประชากรจำนวนมากมีภูมิคุ้มกัน
จากการติดเชื้อตามธรรมชาติเพราะการปล่อยให้ติดเชื้อเองตามธรรมชาติจะนำไปสู่การเจ็บป่วยรุนแรง การเสียชีวิตใน
จำนวนมากจนเกินขีดความสามารถของทรัพยากรทางการแพทย์ เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล
การทำให้เกิดสภาวะภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) ต่อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งมีความสามารถใน
การแพร่กระจายเชื้อให้ผู้อื่นได้ (R0) เฉลี่ย 2.2 คน การสร้างสภาวะภูมิคุ้มกันหมู่ คำนวณได้ดังสมการ
5
หน่วยการศึกษาต่อเนื่อง ฯ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี การฉีดวัคซีนไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 สำหรับผูต้ ิดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์
รหัสการศึกษาต่อเนื่อง 1010-1-000-003-06-2566 ภญ.จุฑามาศ สืบสิน, ผศ.ดร.ภญ.อุไรวรรณ อกนิตย์
อาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีน
อาการไม่พึงประสงค์ที่พบบ่อยและไม่รุนแรง5 ได้แก่ ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด มีไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว เหนื่อย
เพลีย คลื่นไส้ อาเจียน
อาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง สามารถเกิดได้ แต่พบได้น้อย ได้แก่
1. อาการผื่นแพ้วัคซีน
2. ภ า ว ะ ลิ่ ม เลื อ ด อุ ด ตั น ร่ ว ม กั บ เก ล็ ด เลื อ ด ต่ ำ (Vaccine-induced immune thrombotic
thrombocytopenia (VITT) กลไกการเกิด: เกี่ยวกับองค์ประกอบของวัคซีนบางส่วนที่ทำให้ร่างกาย
ของผู้ที่ได้รับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาไปกระตุ้นเกล็ ดเลือด ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันและเกล็ดเลือด
ต่ำ โดยอุบัติการณ์ในการเกิด ประชากรทั่วไปจะพบได้ประมาณ 1 ต่อแสนประชากร ที่ฉีดวัคซีน ส่วน
ผู้สูงอายุจะพบได้น้อยมาก โดยอายุเกิน 65 ปีจะพบได้ 1 ต่อล้านของประชากร สำหรับผู้ที่มีอายุน้อย
กว่า 55 ปี จ ะพบได้บ่ อยขึ้น พบได้ 1 ต่อ 50,000 ของประชากร นอกจากนี้พ บว่า ส่ ว นใหญ่ พบใน
6
หน่วยการศึกษาต่อเนื่อง ฯ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี การฉีดวัคซีนไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 สำหรับผูต้ ิดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์
รหัสการศึกษาต่อเนื่อง 1010-1-000-003-06-2566 ภญ.จุฑามาศ สืบสิน, ผศ.ดร.ภญ.อุไรวรรณ อกนิตย์
สรุป
วัคซีน เป็ นเครื่องมือที่สำคัญ ในการควบคุมหรือหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพั นธุ์ใหม่
2019 วัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันมีความปลอดภัย ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีควรได้รับวัคซีน ผู้ป่วยเอดส์หรือกรณีมีโรคติด
เชื้อฉวยโอกาสรุนแรงควรรักษาอาการคงที่ก่อนและควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจรับวัคซีน
7
หน่วยการศึกษาต่อเนื่อง ฯ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี การฉีดวัคซีนไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 สำหรับผูต้ ิดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์
รหัสการศึกษาต่อเนื่อง 1010-1-000-003-06-2566 ภญ.จุฑามาศ สืบสิน, ผศ.ดร.ภญ.อุไรวรรณ อกนิตย์
เอกสารอ้างอิง
1. ธเนศ ชัยสถาพร. วัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019. กลยุทธ์การบริบาลผู้ป่วยนอก Ambulatory
Medicine.กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัด เทพเพ็ญวานิสย์; 2564. หน้า 9-35.
2. สมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย. คำแนะนำการรับวัคซีนโควิด-19 สำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี สมาคมโรคเอดส์
แห่งประเทศไทย.สืบค้นเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2564. Available from:
http://www.thaiaidssociety.org/index.php?option=com_content&view=article&id=199&Itemid
=131.
3. กรมควบคุมโรค 2564. แนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด 19 ในสถานการณ์การระบาด ปี 2564 ของประเทศ
ไทย. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2564. Available from: https://ddc.moph.go.th/vaccine-
covid19/getFiles/11/1620107083101.pdf
4. WHO. Coronavirus disease (COVID-19): COVID-19 vaccines and people living with HIV. สืบค้น
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564. Available from: https://www.who.int/news-room/q-a-
detail/coronavirus-disease-(covid-19)-covid-19-vaccines-and-people-living-with-hiv.
5. กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์.กรมควบคุมโรค.แนวทางฉีดวัคซีนโควิด-19 ในผู้ติดเชื้อเอชไอวี (1
มิ.ย. 2564). สืบค้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564. Available from
https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=19077&deptcode=brc&news_views=1040.
6. สำนักข่าว Hfocus เจาะลึกระบบสุขภาพ. ประสิทธิภาพวัคซีนโควิด.สืบค้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564.
Available from https://www.hfocus.org/content/2021/05/21582
7. นฤดี รุกขะเสรณีย์,ณวัฒน ฉายเเสงมงคล,ณัฐรัตน์ พลแหลมและคณะ.คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
องค์ความรู้ที่สำคัญเกี่ยวกับวัคซีนต้านโควิด-19 Essential knowledge of COVID-19 vaccines. สืบค้นเมื่อ
วันที่ 12 กรกฎาคม 2564. Available from:
https://med.mahidol.ac.th/library/th/books/med/07022021-1431-th.
8. ลลิตา นรเศรษฐ์ธาดา, ชาตรี ชัยอดิศักดิ์โสภา.คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
และเกล็ดเลือดต่ำหลังฉีดวัคซีนโควิด19 (VITT). สืบค้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564. Available from:
https://web.med.cmu.ac.th/index.php/th/allarticle/25-hilight-news/1185-19-vitt-2.
9. สถาบันประสาทวิทยาและกรมควบคุมโรค.แนวทางปฏิบัติสำหรับอาการไม่พึงประสงค์หลังการได้รับวัคซีน
ป้องกันโรค กรณีปฏิกิริยาที่สัมพันธ์กับความเครียดจากการฉีดวัคซีน กลุ่มอาการคล้ายภาวะหลอดเลือดสมอง .
สืบค้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564. Available from:
.https://covid19.dms.go.th/backend/Content/Content_File/Covid_Health/Attach/2564043009
3047AM_%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0
%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0
%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%
B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%20ISRR_25Apr2021.pdf.
10. กองระบาดวิทยา. ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบที่เกิดจากวัคซีนโควิด 19 ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ.
สืบค้นเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564. Available from:
https://apps.doe.moph.go.th/boe/software/file/Vaccine%20induced%20myocarditis_Jul29_20
21_Final_v2.pdf.
8
หน่วยการศึกษาต่อเนื่อง ฯ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี การฉีดวัคซีนไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 สำหรับผูต้ ิดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์
รหัสการศึกษาต่อเนื่อง 1010-1-000-003-06-2566 ภญ.จุฑามาศ สืบสิน, ผศ.ดร.ภญ.อุไรวรรณ อกนิตย์