You are on page 1of 66

คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.

6 1

สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร

การทักทายและการตอบรั บคาทักทาย (Greeting)

เรื่ องที่ 1 การทักทายในช่วงเวลาต่างๆ


เรื่ องที่ 2 การทักทายบุคคลเมื่อพบกันครัง้ แรก
เรื่ องที่ 3 การทักทายบุคคลที่ร้ ูจกั กันมาก่อน

เรื่องที่ 1 การทักทายช่ วงเวลาต่ าง ๆ

การทักทายและตอบรับการทักทายเพื่อสร้ างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ในการทักทายมีชว่ งเวลา ดังนี ้


Good morning สวัสดีตอนเช้ า (หลังเที่ยงคืน ถึงเที่ยงวัน)
Good afternoon สวัสดีตอนบ่าย (หลังเที่ยงวัน ถึงเวลา 18.00 น.)
Good evening สวัสดีตอนเย็น/ค่า (หลัง 18.00 น. ถึงเที่ยงคืน)
Good night ราตรี สวัสดิ์ (เป็ นคาใช้ กล่าวลาในตอนกลางคืนไม่ใช่คาทักทายหรื อ ตอบรับคาทักทาย)

การตอบรับคาทักทาย
Good morning ผู้กล่าวตอบใช้ Good morning
Good afternoon ผู้กล่าวตอบใช้ Good afternoon
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
Good evening
Good night
ผู้กล่าวตอบใช้
ผู้กล่าวตอบใช้
Good evening
Good night

ตัวอย่างประโยค
Mr. Bob : Good morning, Mr. Smith.
Mr. Smith : Good morning, Mr. Bob.

เรื่องที่ 2 การทักทายบุคคลเมื่อพบกันครัง้ แรก

ในการทักทายเมื่อพบกันครัง้ แรกกับบุคคลที่เราไม่ร้ ูจกั คุ้นเคย หรื อเพิ่งพบกัน จะใช้ ประโยคดังนี ้


How do you do?
Nice to meet you.
I’m glad to meet you.
Nice to know you.
How do you do? มักใช้ กบั คนที่ร้ ูจกั กันครัง้ แรกหรื อไม่ค้ นุ เคยกัน ประโยคนี ้มีความหมายเหมือนคา
ว่า สวัสดี แต่ไม่ต้องการคาตอบ ผู้กล่าวตอบจึงใช้ ประโยค How do you do? ตอบกลับได้ เช่นเดียวกัน

ตัวอย่างประโยค
Mr. Joe : Good morning, Mr. Mick. I’m glad to meet you.
Mr. Mick : Good morning, Mr. Joe. I’m glad to meet you, too.

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 2

เรื่องที่ 3 การทักทายบุคคลที่ร้ ู จักกันมาก่ อน

การทักทายกับบุคคลที่เรารู้จกั คุ้นเคย ปกติเราจะใช้ คาพูดไม่เหมือนกัน โดยทัว่ ไปการทักทายมี 2 แบบ ดังนี ้


1) การทักทายแบบเป็ นทางการ (Formal Greeting) ใช้ กบั บุคคลที่อาวุโสกว่า หรื อในวงการธุรกิจ ราชการ

ตัวอย่างประโยค

Mr. Jacky : Good morning Mr. Tony.


Mr. Tony : Good morning Mr. Jacky How are you today?
Mr. Jacky : Fine, thank you. And how are you?
Mr. Tony : Fine, thank you.

หรื อหลังคาทักทาย อาจเป็ นคาถามเกี่ยวกับเรื่ องดิน ฟ้า อากาศ ในขณะนัน้ เช่น

It’s a lovely day, isn’t it. (วันนี ้อากาศดีนะ)


It’s isn’t very nice today, is it? (วันนี ้อากาศไม่ดีเลยนะ)

การตอบรับ (Responding)

สาระที่1 ภาษาเพื
Yes, it is.
่ อ
Yes, it’s lovely.
การสื อ
่ สาร
(ค่ะ วันนี ้อากาศดี)
(ค่ะ วันนี ้อากาศดี)
Yes, it’s beautiful. (ค่ะ วันนี ้อากาศดี)
No, it isn’t. (วันนี ้อากาศไม่ดีเลย)
No, it’s terrible. (วันนี ้อากาศไม่ดีเลย)

2) การทักทายแบบไม่เป็ นทางการ (Informal Greeting) จะใช้ กบั เพื่อนสนิท หรื อคนที่เราคุ้นเคย ซึง่ จะใช้ Hi หรื อ

Hello นาก่อนชื่อเพื่อนหรื อไม่ต้องมีชื่อเพื่อนก็ได้ แล้ วตามด้ วยประโยคต่อไปนี ้


Hi, Jame. / Hello Joe. (สวัสดี)
Hi, Jame. How are things? (เป็ นอย่างไรบ้ าง)
Hello, Joe. How’re you doing? (เป็ นอย่างไรบ้ าง)
Hi, How’s everything? (เป็ นอย่างไรบ้ าง)
Hi, What’s new? (มีอะไรใหม่ ๆ ไหม)
การตอบรับคาทักทาย (Responding) คาตอบทัว่ ๆ ไปก็จะเป็ น
So so. (ก็เรื่ อย ๆ, ก็งนั ้ ๆ)
All right, thank you. (สบายดี ขอบคุณ)
Very well, thank you. (สบายดีจริง ๆ ขอบคุณ)
Not bad. (ไม่เดือนร้ อน, ก็ไม่เลว)
Not much. (ไม่มีอะไรพิเศษ)
Nothing special. (ไม่มีอะไรพิเศษ)
FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 3

ตัวอย่างประโยค

Sam: Hello, Liz. How’s life?


Liz : Hello, Sam. All right, thank you. What’s new?
Sam: Nothing special.

หลังคาทักทายจะเป็ นคาถามเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น

How are you?


How are you today?
How are you this morning?
How are you this afternoon?

การตอบรับ (Responding)

ถ้ าสบายดีจะตอบว่า

I’m fine, thank you. And how are you? (สบายดี แล้ วคุณล่ะ)
Fine, thank you. And you? (สบายดี แล้ วคุณล่ะ)
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
Very well, thank you. (สบายดี ขอบคุณ)

ถ้ าไม่สบายจะตอบว่า

I’m not so well today. (วันนี ้ฉันไม่คอ่ ยสบาย)


Not so well. I have a fever. (วันนี ้ฉันไม่สบาย เป็ นไข้ )

คูส่ นทนาจะตอบว่า

I’m sorry to hear that. (เสียใจด้ วยนะ)


Take care of yourself. (ดูแลสุขภาพคุณด้ วยนะ)
That’s too bad. (แย่จงั เลย)

ตัวอย่างประโยค
Jane : Hi ,Ben. How are you today ?
Ben : Hi, Jane. Not so well. I have a fever.
Jane : Take care of yourself.
Ben : Thank you.

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 4

Name………………………………………………………………………Class…………………..Number….......

ใบงาน เรื่ อง การทักทายและการตอบรับคาทักทาย (Greeting)

Complete the conversations. เติมบทสนทนาให้ สมบูรณ์

Good morning / Take care of yourself/Nice to meet you/Good


morning/I’m fine/thank you/Hello/Hi/I’m fine

1. Mr. Joe : ……………………….., Mr. Mick. I’m glad to meet you.


Mr. Mick : Good morning, Mr. Joe. ………………………………………, too.

2. Students : Good morning, teacher. How are you?


สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
Teacher : ………………………..I’m very well, thank you. And how are you today?
Students : …………………….., thank you.

3. Mr. Jacky : Good morning, Mr. Tony.


Mr. Tony : ……………………………………,Mr. Jacky How are you today?
Mr. Jacky : …………………….., ……………………….. And how are you?
Mr. Tony : Fine, thank you.

4. Sam: Hello, Jane. How’s life?


Jane : ………………,Sam All right, thank you. What’s new?
Sam: Nothing special.

5. Jane : Hi ,Ben. How are you today ?


Ben : …………, Jane. Not so well. I have a fever.
Jane : ……………………………………………………………
Ben : Thank you.

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 5

สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร

ประโยคที่ใช้ ในการกล่ าวลา (Leave Taking)

1. See you again. (ซี ยู อะเกน) แล้ วพบกันใหม่อีกครัง้ (มักใช้ ลาแบบทางการ)


2. See you. (ซี ยู ) แล้ วพบกันนะ (ใช้ ลาแบบไม่เป็ นทางการ)
3. See you soon. (ซี ยู ซูน) แล้ วพบกันนะ (ใช้ ลาแบบไม่เป็ นทางการ)
4. See you then. (ซี ยู เดน) แล้ วเจอกัน (ใช้ ลาเมื่อมีการนัดหมาย เพื่อเจอกันอีกใน
ไม่ช้าหรื ออีกครัง้ )
5. See you next time. (ซียู เน็กซ์ไทม์) แล้ วเจอกันคราวหน้ านะ
6. Have a nice day. (แฮ็ฟ อะ ไนซ์ เดย์) โชคดีนะ วันนี ้ขอให้ มีความสุข
7. Have a good day. (แฮ็ฟ อะ กึด เดย์) ขอให้ วนั นี ้เป็ นวันที่ดีนะ
8. Have a nice weekend. (แฮ็ฟ อะ ไนซ์ วีคเค็นด์) เสาร์ - อาทิตย์นี ้ ขอให้ มีความสุข
9. Have a good trip. (แฮ็ฟ อะ กึด ทริพ/อะ ไนซ์ ทริพ) ขอให้ เดินทางโดยสวัสดิภาพ
10. Have a good time. (แฮ็ฟ อะ กึด ไทม์) ขอให้ มีความสุขนะ
11. Take care / Take care of yourself. (เทคแคร์ /เทคแคร์ อ็อฟ ยัวร์ เซ็ลฟ) ดูแลตัวเองด้ วย/รักษาตัวด้ วย
12. I must be on my way. (ไอ มัส บี ออน มายด์ เวย์) ฉันต้ องไปแล้ ว
13. Oh, it’s time to go. (โอ อิทส์ ไทม์ ทู โก) โอ้ ได้ เวลากลับแล้ ว / ได้ เวลาออกเดินทางแล้ ว
14. I think it’s time to go. (ไอ ธิงค์ อิทส์ ไทม์ ทู โก) ฉันคิดว่า ได้ เวลากลับแล้ วนะ
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
15. I have to go now. (ไอ แฮ็ฟ ทู โก นาว) ฉันจะต้ องไปแล้ วนะ
16. I’ll see you sometime. (ไอ วิล ซี ยู ซัมไทม์) หวังว่าคงจะได้ พบคุณอีก (โดยไม่มีการนัดหมายกันล่วงหน้ า)
17. Ok, talk later. (โอเค ท็อค เลทเทอร์ ) เอาไว้ คณ ุ กันครัง้ หน้ านะ (ใช้ ในโอกาสที่คณ ุ เร่งรี บหรื อไม่มีเวลาคุย)
18. I must go. (ไอ มัสท์ โก) ฉันจะต้ องไปแล้ ว
19. Good luck . (กึด ลัค) โชคดี
20. Good night. (กึด ไนท์) ราตรี สวัสดิ/์ ไปแล้ วนะ (ใช้ ลาตอนกลางคืน)
21. Goodbye /Bye (กึด บาย) (บาย)แปลว่า ไปแล้ วนะ/ไปล่ะ

ตัวอย่างประโยค
Ben : Goodbye, Mike. See you soon.
Mike : Goodbye, my friend. See you .

Students : Thank you ,teacher. Goodbye. See you again.


Teacher : Goodbye. See you again next time.

Joe : I’m going to Bangkok. I have to go now.


Jane : Have a good trip.
Joe : Thank you. Goodbye. See you soon
Jane : Bye. See you.

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 6

Name………………………………………………………………………Class…………………..Number….......

ใบงาน เรื่องประโยคที่ใช้ ในการกล่ าวลา (Leave Taking)

จงเขียนความหมายของประโยค เป็ นภาษาไทย


1. See you again. ………….………………………………..
2. See you. …………………………………………………….
3. See you soon. …………………………………………………………………..
4. See you then. ……………………………………………………………………
5. See you next time. ……………………………………………………………………
6. Have a nice day. ……………………………………………………………………
7. Have a good day. ……………………………………………………………………
8. Have a nice weekend. ……………………………………………………………………
9. Have a good trip. ……………………………………………………………………
10. Have a good time. ……………………………………………………………………
11. Take care / Take care of yourself. ……………………………………………………………………
12. I must be on my way. ……………………………………………………………………
13. Oh, it’s time to go. ……………………………………………………………………
14. I think it’s time to go. ……………………………………………………………………
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
15. I have to go now. ……………………………………………………………………
16. I’ll see you sometime. ……………………………………………………………………
17. Ok, talk later. ……………………………………………………………………
18. I must go. ……………………………………………………………………
19. Good luck . ……………………………………………………………………
20. Good night. ……………………………………………………………………
21. Goodbye /Bye ……………………………………………………………………

จงเติมบทสนทนาให้ สมบูรณ์
1.Ben : …………………, Mike. See you soon.
Mike : Goodbye, my friend. …………………..

2.Students : ………………….., teacher. Goodbye. See you again.


Teacher : ……………………... See you again next time.

3.Joe : I’m going to Bangkok. I have to go now.


Jane : ………………………………………..
Joe : Thank you. …………………………….. See you soon
Jane : Bye. See you.
FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 7

Name………………………………………………………………………Class…………………..Number….......

ใบงาน เรื่องประโยคที่ใช้ ในการกล่ าวลา (Leave Taking)

จงเขียนความหมายของประโยค เป็ นภาษาไทย


1. See you again. ………………………………….………………………………..

2. See you. ……………………..…………………………………………….

3. See you then. ……………………………………………………………………

4. See you next time. ……………………………………………………………………

5. Have a nice day. ……………………………………………………………………

6. Have a good day. ……………………………………………………………………

7. Have a nice weekend. ……………………………………………………………………

8. Have a good trip. ……………………………………………………………………


สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
9. Have a good time. ……………………………………………………………………

10. Take care / Take care of yourself. ……………………………………………………………………

11. I think it’s time to go. ……………………………………………………………………

12. I have to go now. ……………………………………………………………………

13. I’ll see you sometime. ……………………………………………………………………

14. Ok, talk later. ……………………………………………………………………

15. I must go. ……………………………………………………………………

16. Good luck . ……………………………………………………………………

17. Good night. ……………………………………………………………………

18. Goodbye /Bye ……………………………………………………………………


FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 8

ใบงาน เรื่องประโยคที่ใช้ ในการกล่ าวลา (Leave Taking)

จงเติมบทสนทนาให้ สมบูรณ์
1. Ben : ……………………………, Mike. See you soon.

Mike : Goodbye, my friend. …………………………..

2. Students : Thank you, teacher. See you next time.

Teacher : …………………………. See you again next time.

สาระที3. ่1Lizaภาษาเพื ่อstudy


: I will go to การสืin่อEngland
สาร next month.
Pan : I’m glad to hear that. ……………………………………

4. Joe : I’m going to Bangkok. I have to go now.

Jane : ………………………………….

Joe : Thank you. ……………………... See you soon

Jane : Bye. See you.

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 9

สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
Phonics (โฟนิคส์ )

การทีเ่ ราออกเสี ยงตัวอักษรถูกต้ อง จะทาให้ เราพูดภาษาอังกฤษได้ อย่ างชั ดเจนมากยิง่ ขึน้


ในภาษาไทยเราไม่ มีเสี ยงท้าย การทีเ่ ราออกเสี ยง Phonics (โฟนิคส์ ) ได้ จะช่ วยเรื่ องการพูดภาษาอังกฤษได้ เป็ นอย่ างดี

ตัวอักษร อ่านออกเสียง
Aa แอะ
Bb เบอะ
Cc เคอะ
Dd เดอะ
Ee เอะ
Ff ฟึ
Gg เกอะ
Hh ฮะ
Ii อิ
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร Jj
Kk
เจอะ
เคอะ
Ll อัล
Mm มึม
Nn อึน
Oo เอาะ
Pp เพอะ
Qq คุวะ
Rr อะเรอ
Ss สึ
Tt ทึ
Uu อะ
Vv เวอะ
Ww เวอะ
Xx เอะคะสึ
Yy เยะ
Zz ซึ

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 10

Alphabet ตัวอักษรภาษาอังกฤษมี 26 ตัว

พยัญชนะ 21 ตัว เรี ยกว่ า Consonants


สระ 5 ตัว เรี ยกว่ า Vowels

A B C เราเรี ยก เอ บี ซี คือชื่อของตัวอักษร แต่ออกเสียงได้ ดงั นี ้

Vowels สระมีทงั ้ เสียงสัน้ และเสียงยาว


1. สระเสียงสัน้
Short A sound เช่นคาว่า apple เราออกเสียงว่า แอพเพิล เสียงของ ตัว A เสียงสันจึ
้ งเป็ นเสียง แอ
Example: hat cat rat fat mat bat

Short E sound เช่น egg เราอ่านคานี ้ว่า เอ็ก เสียงของ e เสียงสันจึ


้ งเป็ นเสียง เอะ
Example: bed red bell ten hen pen web

Short I sound เช่น ink เราอ่านคานี ้ว่า อิงค เสียงของ i เสียงสันจึ


้ งเป็ นเสียง อิ
Example: pig wig dish fish gift

Short O sound เช่น fox เราอ่านคานี ้ว่า ฟอคส เสียงของ o เสียงสันจั


้ งเป็
้ นเสียง ออ
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
Example: box ox mop sock lock clock top doll

Short U sound เช่น duck เราอ่านคานี ้ว่า ดัค เสียงของ u เสียงสันคื


้ อเสียง เออะ
Example: bug bus sub cub truck

2.สระเสียงยาว นัน้ คือตัวที่เราค่ อนข้ างคุ้นเคยเพราะเราเรี ยกชื่อตัวอักษรนัน้ ๆ อยู่แล้ ว ชื่อที่เราเรี ยก


A E I O U ก็คือสระเสียงยาวนัน้ เอง

Long A Sound เช่น Ace เราอ่านว่า เอดส เสียง A เสียงยาวจึงเป็ นเสียง เอ


แต่ Long A ยังมีในรูปอื่นๆ ด้ วย เช่น
_ay tray play spray hay jay _ai sail snail train rain

_eigh eight weigh

สังเกตว่าเสียง egg กับ eight ต่างกันเพราะ egg เป็ นสระ e เสียง สัน้ แต่ eight เป็ น สระ a เสียงยาว
_a เสียงยาวที่ตามด้ วย e ที่ไม่ออกเสียง ตัวอย่าง เช่น
mad (แอ) made (เอ) แมด เมด
man mane แมน เมน
can cane แคน เคน
hat hate แฮท เฮท
cap cape แคพ เคพ
FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 11

Long E sound เช่น key เราอ่านว่า คี เสียง E เสียงยาวจึงเป็ นเสียง อี แต่ Long E และในรูปอื่น ๆ เช่น

_ee tree three teeth feet meet sheep

_ea meat peanut seal jeans eagle

_ey monkey money donkey

_ie,e he she field shield cookie chief thief

Long I sound เช่น ice เราอ่านว่า ไอส เสียง I เสียงยาวจึงเป็ นเสีย ไอ


แต่ Long I ยังมาให้ เห็นในรูปอื่นๆ เช่น

_ie,y fly my shy pie tie

_igh high night light fight

สาระที่1 ภาษาเพื ่ อการสื่อสาร


_ild,ind find kind mind blind wild child

i เสียงยาวตามด้ วย e ที่ไม่ ออกเสียง เช่ น


time write hive five bike

Long O sound เช่น goat เราอ่านว่า โกท เสียง O เสียงยาวจึงเป็ นเสียง โอ


และ มาในรูปอื่นๆ เช่น
_oe,oa toe hoe road coat boat toast

_o,ow,old,ost gold crow bowl snow ghost go no old

O เสียงยาวตามด้ วย e ที่ไม่ ออกเสียง เช่ น


rope nose bone home rose hole note

Long U sound เช่น University เราอ่านว่า ยูนิเวอซิตี ้ เสียง U เสียงยาว แต่ Long U ยังมาให้ เห็นในรูปอื่นๆ
เช่น

_ui,ew,ue screw suit tube cube huge


glue fuel few use view
FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 12

Name………………………………………………………………………Class…………………..Number….......

ใบงาน เรื่ อง Phonics (โฟนิกส์ )

ตัวอักษร อ่านออกเสียง
Aa
Bb
Cc
Dd
Ee
Ff
Gg
Hh
Ii
Jj
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร Kk
Ll
Mm
Nn
Oo
Pp
Qq
Rr
Ss
Tt
Uu
Vv
Ww
Xx
Yy
Zz

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 13

สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
traffic signs
ป้ ายสัญลักษณ์ จราจร

No parking You can not park your car here.


ห้ ามจอด คุณไม่สามารถ จอดรถของคุณที่นี่

Don’t enter You can not enter.


ห้ ามผ่าน / ห้ ามเข้ า คุณไม่สามารถ ขับรถผ่านทางนี ้ได้

You must stop your car.


Stop คุณต้ องหยุดรถ
หยุด *(รถทุกชนิดต้ องหยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้ ว จึงให้ เคลื่อนรถ
ต่อไปได้ ด้วยความระมัดระวัง)

สาระที่1 ภาษาเพื
Don’t่อride
การสืa ่อbike
สาร You can not ride a bike this area.
ห้ ามขี่จกั รยาน คุณไม่สามารถขี่จกั รยานบริเวณนี ้

Don’t u-turn You can not u-turn.


ห้ ามกลับรถ คุณไม่สามารถ กลับรถ

Don’t turn left You can not turn left.


ห้ ามเลี ้ยวซ้ าย คุณไม่สามารถ ขับรถเลี ้ยวซ้ าย

Don’t turn right You can not turn right.


ห้ ามเลี ้ยวขวา คุณไม่สามารถ ขับรถเลี ้ยวขวา

Don’t go straight You can not go straight .


ห้ ามตรงไป คุณไม่สามารถ ขับรถตรงไป

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 14

signs
ป้ ายสัญลักษณ์ ตามสถานที่ต่างๆ

Exit Please keep Disable


ทางออก off the grass parking only
กรุณาอย่าแตะต้ องหญ้ า ที่จอดรถสาหรับ
/ ห้ ามเดินลัดสนาม ผู้พิการเท่านัน้

Help Wanted Fasten your First Aid


จุดให้ ความช่วยเหลือ seat belts ปฐมพยาบาลเบื ้องต้ น
กรุณารัดเข็มขัด
ที่นงั่ ของคุณ

สาระที่1 No
ภาษาเพื
mobile
่อการสื่อสาร No No food
phones photograph or drink
ห้ ามใช้ โทรศัพท์มือถือ ห้ ามถ่ายภาพ ห้ ามนาอาหารและ
เครื่ องดื่มเข้ ามา

Please Don’t swim Don’t make


don’t litter ห้ ามเล่นน ้า a noise
กรุณาอย่าทิ ้งขยะ ห้ ามใช้ เสียง

Please Please A mailbox


don’t litter putting litter ตู้จดหมาย / ตู้ไปรษณีย์
กรุณาอย่าทิ ้งขยะ in the bin
กรุณาทิ ้งขยะลงถัง

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 15

Name………………………………………………………………………Class…………………..Number….......

ใบงาน เรื่ อง traffic signs ป้ ายสัญลักษณ์ จราจร

สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 16

Name………………………………………………………………………Class…………………..Number….......

signs
ใบงาน เรื่ อง ป้ ายสัญลักษณ์ ตามสถานที่ต่างๆ

สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 17

สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร

Wh Question

Wh Questions คือ ประโยคคาถามที่ขึ ้นต้ นด้ วย wh

What วอท อะไร


When เว็น เมื่อไหร่
Where แวร์ ที่ไหน
Why วาย ทาไม
Who ฮู ใคร
Whose ฮูส ของใคร
Whom ฮูม ของใคร
How ฮาว อย่างไร

หลักการใช้

สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
Who ฮู ใคร ถามว่า ใคร คาตอบต้ องตอบเป็ นบุคคล เช่น

- Who is this? นี่ คือ ใคร This is John. นี่ คือ จอน
- Who ate my cake? ใคร กินเค้ กของฉัน Tom! ทอม
- Who are they? พวกเขา เป็ น ใคร They are my friends. พวกเขา เป็ น เพื่อน ของฉัน

What ว็อท อะไร ถามว่า อะไร คาตอบต้ องเป็ น สัตว์ หรื อสิ่งของ เช่น

- What is this? นี่ คือ อะไร This is a cat. นี่ คือ แมว
- What is your name? ชื่อ ของคุณ คือ อะไรMy name is Tom. ชื่อ ของผม คือ ทอม
- What do you eat? คุณ กิน อะไร I eat rice. ฉัน กิน ข้ าว

Where แว ที่ไหน ถามว่า ที่ไหน คาตอบต้ องเป็ นสถานที่ เช่น

- Where do you come from? คุณ มา จาก ไหน


I’m from a small town. ผมมาจากเมืองเล็กๆ
- Where will you go for your holiday? คุณ จะ ไป ไหน สาหรับ วันหยุด ของคุณ (วันหยุดพักผ่อน)
I’ll go to London. ฉันจะไปลอนดอน
- Where are you going? คุณ กาลังไป ไหน
To the market. ไปตลาก

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 18

When เว็น เมื่อไหร่ ถามว่า เมื่อไหร่ คาตอบต้ องเป็ นเวลา เช่น


- When were you born? คุณ เกิด เมื่อไหร่
I was born in January. ฉันเกิดเดือนมกราคม
- When will you come back to Thailand? คุณ จะ กลับ ไทย เมื่อไหร่
I’ll go back next week. ฉันจะกลับอาทิตย์หน้ า
- When will I see you again? ฉัน จะ พบ คุณ อีกครัง้ เมื่อไหร่ On Monday. วันจันทร์

Why วาย ทาไม ถามว่า ทาไม คาตอบต้ องเป็ นเหตุผล เช่น


- Why do we have to go? ทาไม พวกเรา ต้ อง ไป
To see our boss. เพื่อพบเจ้ านาย
- Why are they crying? ทา ไม พวกเขา กาลัง ร้ องไห้
They lost the game. พวกเขาแพ้ การแข่งขัน

Whom ฮูม ใคร ถามว่า ใคร คาตอบต้ องเป็ นบุคคล


แต่ Whom ใช้ เป็ นกรรม ส่วน Who ใช้ เป็ นประธาน เช่น
- Whom do you love? คุณ รัก ใคร
I love Jo. ฉันรักโจ
- Who loves you? ใคร รัก คุณ
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
Jo loves me. โจรักฉัน
- Whom did she see at the party? หล่อน เห็น ใคร ที่ งานปาร์ ตี ้
She saw Jo. หล่อนเห็นโจ

Whose ฮูส ของใคร ถามว่า ของใคร คาตอบเป็ นอะไรก็ได้


- Whose is this pen? ปากกา ด้ ามนี ้ คือ ของใคร
My pen. ปากกาของฉัน
- Whose house is that? นัน่ คือ บ้ าน ของใคร
John’s house. บ้ านของจอห์น
- Whose dog is running? หมา ของใคร กาลังวิ่ง
His dog. หมาของเขา

How ฮาว อย่างไร ถามว่า อย่างไร คาตอบเป็ นวิธีการ


- How are you? คุณ เป็ น อย่างไร
I’m good. ฉันสบายดี
- How does she feel? หล่อน รู้สกึ อย่างไร
She feels good. หล่อนรู้สกึ ดี
- How does she go to school? หล่อน ไป โรงเรี ยน อย่างไร
She goes to school by bus. หล่อนไปโรงเรี ยนโดยรถบัส

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 19

Name………………………………………………………………………Class…………………..Number….......

ใบงาน เรื่อง Wh Question


จงเติม Wh Question ให้ ถกู ต้ อง

1……………….do you want to be ? I want to be a doctor.

2…………….. will you go to Phuket ? Next week.

3………….……. were you born ? I was born in KhonKaen.

4…………….. does he go to Japan ? He goes to visit his grandparents.

5………………… do you live with ? I live with my Mom.

สาระที6……………….
่1 ภาษาเพืdo่อyou
การสื
live ่อ
? สาร I live in Surin.

7…………….. do you go to school ? I walk to school .

8……………… is this car ? It is Ben’s car.

9……………..do you love most ? I love my son.

10…………… is your job ? I am a teacher.

11………… is your hero ? My father.

12………….. do you work ? I work at the restaurant.

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 20

สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร การใช้ Yes-No Question

ในการสนทนากับคูส่ นทนาที่เรามีข้อมูลอยูบ่ ้ างแล้ ว และเราต้ องการถามเพียงเพื่อต้ องการคาตอบแค่ “ใช่” หรื อ “ไม่ใช่” รูป
ประโยคคาถามเช่นนี ้ในภาษาอังกฤษก็คือ Yes-No Question ซึง่ การสร้ างประโยคมีหลักง่ายๆดังนี ้

1. ถามนาขึ ้นต้ นด้ วย Verb to be


ถ้ าประโยคนันมี
้ Verb to be ให้ นามาวางข้ างหน้ าได้ เลย ดังเช่นรูปประโยคต่อไปนี ้

ประโยคบอกเล่ า ประโยคคาถาม การตอบรั บ การตอบปฏิเสธ

She is a teacher. Is she a teacher? Yes, she is. No, she isn’t.
(เขาคือคุณครู) (หล่อนคือคุณครูใช่ไหม?) (ใช่ หล่อนเป็ น) (ไม่ หล่อนไม่ได้ เป็ น)

You are Japanese. Are you Japanese? Yes. I’m. No, I’m not.
(คุณเป็ นคนญี่ปนุ่ ) (คุณเป็ นคนญี่ปนุ่ ใช่ไหม?) (ใช่ ฉันเป็ น) (ไม่ ฉันไม่ได้ เป็ น)

สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
He was a doctor. Was he a doctor? Yes, he was. No, he wasn’t.
(เขาเคยเป็ นหมอ) (เขาเคยเป็ นหมอหรื อ?) (ใช่ เขาเป็ น) (ไม่ เขาไม่ได้ เป็ น)

They were at Were they at Yes, they were. No, they weren’t.
school yesterday. school yesterday? (ใช่ พวกเขาอยู)่ (ไม่ เขาไม่ได้ อยู่)
(เมื่อวาน พวกเขาอยูท่ ี่ (เมื่อวาน พวกเขาอยูท่ ี่
โรงเรี ยน) โรงเรี ยนหรื อเปล่า?)

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 21

2. ถามขึ ้นต้ นด้ วย Verb to do


ถ้ าประโยคที่เราจะถามไม่มี Verb to be ให้ นา Verb to do มาใช้ นาหน้ าประโยค โดยใช้ รูปเอกพจน์หรื อพหูพจน์
ตามประธาน ดังเช่นรูปประโยคต่อไปนี ้

ประโยคบอกเล่ า ประโยคคาถาม การตอบรั บ การตอบปฏิเสธ

You know her name. Do you know her Yes, I do. No, I don’t.
(คุณรู้จกั ชื่อของเธอ) name? (ค่ะ ฉันรู้จกั ) (ไม่ ฉันไม่ร้ ูจกั )
(คุณรู้จกั ชื่อของเธอไหม?)

She plays the piano. Does she play the Yes, she does. No, she doesn’t.
(เธอเล่นเปี ยโน) piano? (ค่ะ เธอเล่นเปี ยโน) (ไม่คะ่ เธอไม่ได้ เล่น
(เธอเล่นเปี ยโนไหม?) เปี ยโน)

สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
You walked to Did you walk to Yes, I did. No, I didn’t.
school yesterday. school yesterday? (ค่ะ ฉันเดินไป (ไม่ ฉันไม่ได้ เดินไป
(คุณเดินไปโรงเรี ยนเมื่อ (เมื่อวานนี ้คุณเดินไปโรงเรี ยน โรงเรี ยน) โรงเรี ยน)
วาน?) หรื อเปล่า?)

**ข้ อสังเกต เมื่อเราใช้ Do, Does หรื อ Did อย่าลืมเปลี่ยนรูปกาลและพหูพจน์/เอกพจน์ตามประธานด้ วย

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 22

3. ถามขึ ้นต้ นด้ วยกริยาช่วย


หากประโยคนันมี ้ กริยาช่วยตัวอื่น ๆ เช่น Can, Could, Will, Would, Shall, Should ให้ เอาคากริยาเหล่านี ้
ขึ ้นต้ นแล้ วตามด้ วยประโยคคาถาม เช่น

ประโยคบอกเล่ า ประโยคคาถาม การตอบรั บ การตอบปฏิเสธ

You can speak Can you speak Yes, I can. No, I can’t.
Chinese. Chinese? (ค่ะ ฉันพูดได้ ) (ไม่คะ่ ฉันพูดไม่ได้ )
(คุณพูดภาษาจีนได้ ) (คุณพูดภาษาจีนได้ ไหม?)

You will go with us. Will you go with us? Yes, I will. No, I won’t.
(คุณก็จะไปกับพวกเราด้ วย) (คุณจะไปกับพวกเราด้ วยไหม?) (ค่ะ ฉันจะไปด้ วย) (ไม่คะ่ ฉันไม่ได้ ไปด้ วย)
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
You could tell me Could you tell me Yes, I could. No, I couldn’t.
your name. your name? (ค่ะ ฉันบอกได้ ) (ไม่คะ่ ฉันบอกไม่ได้ )
(คุณจะบอกชื่อของคุณให้ ฉนั (คุณจะบอกชื่อของคุณให้ ฉนั
ทราบ) ทราบได้ ไหม?)

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 23

Name………………………………………………………………………Class…………………..Number….......

ใบงาน เรื่ อง Yes-No Question

สร้ างประโยคบอกเล่าต่อไปนี ้ ให้ เป็ นประโยคคาถาม

1. She is a teacher? Is she a teacher?

2. He was a doctor. …………….. he a doctor ?

3. She plays the guitar. ……………………………………………..?

4. You can speak Thai. ……………………………………………..?

สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
5. You will go with me. ……………………………………………..?

ตอบคาถามต่อไปนี ้ ให้ ถกู ต้ อง

1. Is she a teacher? ………..………………………

2. Is he a football player ? ………..………………………

3. Can she play basketball ? ………..………………………

4. Can she play piano ? ………..………………………

5. Do you walk to school? ………..………………………

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 24

สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร

การกล่ าวคาขอโทษ การขอบคุณ การชมเชย

การขอโทษ (Apologizing)

I’m sorry. ฉันขอโทษ


I’m very sorry. ฉันขอโทษ
I’m sorry. I’m late. ขอโทษที่มาช้ า/ มาสาย
I’m sorry I troubled you. ขอโทษที่ทาให้ ต้องลาบาก
Sorry for my mistake ขอโทษด้ วยที่ทาพลาด
I’m apologize for that. ฉันขอโทษกับเรื่ องนันด้
้ วย
Sorry, blame it on me. ขอโทษด้ วย ผมเป็ นคนผิดเอง คุณโทษผมได้ เลย

การตอบรับคาขอโทษ

Not at all. ไม่เป็ นไร


It’s nothing. / It’s nothing at all. ไม่เป็ นไร
That’s all right. / That’s O.K. ไม่เป็ นไร

สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
Don’t worry about it.
No problem.
อย่ากังวลไปเลย
ไม่มีปัญหา
I accept your apologies. ฉันรับคาขอโทษของคุณ

Saying sorry
ตัวอย่างประโยคการกล่าวคาขอโทษ

A : Ouch! You are stepping on my foot.


อุ๊ย คุณกาลังเหยียบเท้ าผม

B : Oh. I'm sorry.


โอ้ ขอโทษจริงๆค่ะ

A : Little bit.
เล็กๆ น้ อยๆ

B : I didn't mean to. I'm deeply apologized.


ฉันไม่ได้ ตงใจจริ
ั้ งๆค่ะ ขอโทษจริงๆนะคะ

A : It's OK. But please mind your step.


ไม่เป็ นไรครับ แต่ชว่ ยเดินระมัดระวังด้ วย
FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 25

การขอบคุณ

Thanks ขอบคุณ
Thank you ขอบคุณ
Thank you so much ขอบคุณมาก
Thank you very much ขอบคุณมาก
Thank you for your help ขอบคุณสาหรับการช่วยเหลือของคุณ

การตอบรับคาขอบคุณ
You’re welcome. ด้ วยความยินดี
My pleasure. ด้ วยความยินดี

การชมเชย การตอบรับคาชมเชย

Good ดี / เก่ง Thank you. ขอบคุณ


Nice ดี
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
Well
Very good
ดี
ดีมาก
Very nice ดีมาก
Very well ดีมาก
Great ยอดเยี่ยม
Excellent ยอดเยี่ยม

ตัวอย่างประโยคการขอบคุณ

Ann : Thank you so much for helping my work.

Jane : You’re welcome.

ตัวอย่างประโยคการชมเชย

Teacher : Your report is excellent .

Jane : Thank you, teacher.


FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 26

ใบงาน เรื่ อง การกล่ าวคาขอโทษ การขอบคุณ การชมเชย

เขียนความหมายของประโยคต่ อไปนีเ้ ป็ นภาษาไทย


การขอโทษ (Apologizing)
I’m sorry. ………………………………………………
I’m very sorry. ……………………………………………..
I’m sorry. I’m late. ……………………………………………..
Sorry for my mistake ……………………………………………..
I’m apologize for that. ……………………………………………..

การตอบรับคาขอโทษ
Not at all. ……………………………………………..
It’s nothing. / It’s nothing at all. ……………………………………………..
That’s all right. / That’s O.K. ……………………………………………..
Don’t worry about it. ……………………………………………..
No problem. ……………………………………………..
I accept your apologies. ……………………………………………..

สาระที ่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร ………………………………………………


การขอบคุณ
Thank you
Thank you so much ………………………………………………
Thank you for your help ………………………………………………

การตอบรับคาขอบคุณ
You’re welcome. ………………………………………………
My pleasure. ………………………………………………

การชมเชย
Good ………………………………………………
Nice ………………………………………………
Well ………………………………………………
Very good ………………………………………………
Very nice ……………………………………………..
Very well ………………………………………………
Great ………………………………………………
Excellent ………………………………………………

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 27

ใบงาน เรื่ อง การกล่ าวคาขอโทษ การขอบคุณ การชมเชย

1. A : Ouch! You are stepping on my foot.

B : Oh. ………………………………………..

A : Little bit.

B : I didn't mean to. I'm deeply apologized.

A : …………………………… But please mind your step.

2. Ann : ……………………………………....for helping my work.

Jane : You’re welcome.


สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
3. Teacher : Your report is excellent .

Jane : ……………………………………….., teacher.

4. Bob : I’m………………………... I’m late.

Teacher : ……………………………………..

5. Joe : Mom, Thank you so much for my birthday present .

Mother: …………………………………………………….

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 28

สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
Seasons ฤดูกาล

In Thailand ในประเทศไทย

Hot season Rainy season Cold season


ฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว

Seasons in Thailand
The hot season March, April, May, June

The rainy season July, August, September, October

The cold season November, December, January, February

สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
In Europe ในยุโรป

Spring ฤดูใบไม้ ผลิ Autumn ฤดูใบไม้ ร่วง Winter ฤดูหนาว

March, April, May, September, October, December, January,


June, July, August November February

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 29

In the United States of America ในประเทศสหรัฐอเมริกา

December,
Winter January, February
ฤดูหนาว ธันวาคม,
มกราคม, กุมภาพันธ์

March, April, May


Spring
มีนาคม,
ฤดูใบไม้ ผลิ
เมษายน, พฤษภาคม
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร

June, July, August


Summer
มิถนุ ายน,
ฤดูร้อน
กรกฎาคม, สิงหาคม

December,
Fall October, November
ฤดูใบไม้ ร่วง กันยายน,
ตุลาคม, พฤศจิกายน

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรี ยมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 30

The weather สภาพอากาศ

Sunny มีแดดแรง Rainy มีฝนตก Cloudy มีเมฆมาก

Windy มีลมแรง Foggy มีหมอกหนา Thunder ฟ้าร้ อง

Cool เย็น Cold หนาว Snowy มีหิมะ

Warm อบอุ่น Hot ร้ อน Wet เปี ยก

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 31

คาศัพท์ เกี่ยวกับสภาพอากาศ

clouds (คลาวดสฺ) (n.) เมฆ


cloudy (คลาวดี) (adj.) เต็มไปด้ วยเมฆ, มืดครึม้
gloomy (กลูมมี) (adj.) มืดครึม้
foggy (ฟอกกี) (adj.) เต็มไปด้ วยหมอก
overcast (โอเวอรฺ แคสทฺ) (adj.) มีเมฆมาก,มืดครึม้
clear (เคลียรฺ ) (adj.) สดใส,ไม่มีเมฆหมอก

temperature (เท็มเพรอะเชอ) (n.) อุณหภูมิ


hot (ฮอท) (adj.) ร้ อน
warm (วอรฺ ม) (adj.) อบอุน่
cool (คูล) (adj.) เย็น
cold (โคลดฺ) (adj.) หนาว
freezing (ฟรี ซซิง) (adj.) การทาให้ เย็นจัด

cold (โคลดฺ) (adj.) หนาว


hail (เฮล) (n.) ลูกเห็บ
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
sleet
snow
(สลีท)
(สโนว)
(n.) แผ่นน ้าแข็งบางที่ปกคลุมตามพื ้นหรื อต้ นไม้ , ฝนลูกเห็บ
(n.) หิมะ
snowflake (สโนวเฟลคฺ) (n.) เกล็ดหิมะ
blizzard (บลิซเซิรฺด) (n.) พายุหิมะ

wind (วินดฺ) (n.) ลม


breeze (บรี ซ) (n.) สายลมที่พดั เบาๆ
blustery (บลัสเทอรี ) (adj.) ซึง่ มีลมพัดแรง
windy (วินดดี) (adj.) ซึง่ มีลมแรง
gale (เกล) (n.) ลมแรง
hurricane (เฮอริเคน) (n.) พายุเฮอริ เคน

คาศัพท์อื่นๆที่เกี่ยวข้ อง
forecast (ฟอรฺ แคสทฺ) (n.) พยากรณ์อากาศ
drought (เดราทฺ) (n.) ความแห้ งแล้ ง
lightning (ไลทฺนงิ ) (n.) สายฟ้า,ฟ้าแลบ
thunder (ธันเดอรฺ ) (n.) ฟ้าร้ อง
rainbow (เรนโบวฺ) (n.) รุ้งกินน ้า

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 32

คาถามเกี่ยวกับสภาพอากาศ

What’s it like outside? (วัทสฺ อิท ไลคฺ เอาทไซดฺ) ข้ างนอกมีสภาพอากาศเป็ นอย่างไรบ้ าง

How’s the weather? (ฮาวสฺ เดอะ เวเธอรฺ ) อากาศเป็ นอย่างไรบ้ าง

What’s the weather like? (วัทสฺ เดอะ เวเธอรฺ ไลคฺ) อากาศเป็ นอย่างไรบ้ าง

What’s the temperature? (วัทสฺ เดอะ เทมพฺเพระเชอ) ตอนนี ้อุณหภูมิเท่าไหร่

What’s the weather forecast? (วัทสฺ เดอะ เวเธอรฺ ฟอรฺ เคสทฺ) พยากรณ์อากาศว่าอย่างไรบ้ าง

Is it hot or cold? (อิส อิท ฮอท ออรฺ โคลดฺ) มันร้ อนหรื อหนาวกันแน่

Is it sunny? / raining? (อิส อิท ซันนี /เรนนี) แดดจ้ ามัย้ หรื อ ฝนตกมัย้

สาระที ่1 day,
Beautiful ภาษาเพื
isn’t it?่อการสื่อ
(บิสาร
วทิฟลู เด อิสซึนทฺ อิท) วันนี ้อากาศดีวา่ มัย้

คาตอบเกี่ยวกับสภาพอากาศ

Today is warm and sunny out. (ทูเด อิส วอรฺ ม แอนดฺ ซันนี เอาทฺ) วันนรี อ้ ากาศอบอุน่ และมีแดดออก

It’s cold out there. (อิทสฺ โคลดฺ เอาทฺ แด) ข้ างนอกอากาศค่อนข้ างหนาว

It’s not raining, but it’s cloudy (อิทสฺ นอท เรนนิง บัท อิทสฺ คลาวดี) ฝนไม่ตก แต่ฟ้าครึม้ ๆ

ตัวอย่างประโยค
A : What’s the weather like?
B : It is cold.

A : What’s the weather like today?


B : Today is sunny.

FB@krunaenae
คูม่ คูือม
่ เตรี
ือ ยเตรี ยมสอบ
โอเนต โอเนต อังกฤษ ป.6 33
มสอบ อังกฤษ ป.6
Name………………………………………………………………………Class…………………..Number….......
ใบงาน เรื่ อง The weather สภาพอากาศ

สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร

FB@krunaenae
34
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6
Name………………………………………………………………………Class…………………..Number….......

ใบงาน เรื่ อง The weather สภาพอากาศ

Example A : What’s the weather like today?

B : It’s cool. / Today is cool.

1. A : What’s the weather like today?

B : ……………………………………………….

2. A : What’s the weather like today?

B : ……………………………………………….
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
3. A : What’s the weather like today?

B : ……………………………………………….

4. A : What’s the weather like today?

B : ………………………………………………..

5. A : What’s the weather like today?

B : ………………………………………………..
FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 35

สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
การแนะนาตนเอง เพื่อน และบุคคลใกล้ ตัว

Let me introduce myself. ฉันขออนุญาติแนะนาตัวเอง


My name is Sumittra. ดิฉนั ชื่อสุมิตรา
My nickname is Gift. ชื่อเล่นของฉันคือ กิ๊ฟท์
I study in Prathom 6. ฉันเรี ยนอยูช่ นประถมศึ
ั้ กษาปี ที่ 6
I live in Bangkok. ฉันอาศัยอยูท่ ี่กรุงเทพฯ
I live with my parents. ฉันอยูก่ บั พ่อแม่
I have two brother and two sister. ฉันมีน้องชาย 2 คน และน้ องสาวอีก 2 คน
My hobby is listening to music. งานอดิเรกของฉันคือฟั งเพลง
My favorite sport is volleyball. กีฬาที่ฉนั ชื่นชอบคือ วอลเล่ย์บอล
My favorite color is green. ฉันชอบสีเขียว และสีขาว
My favorite food is Noodle. อาหารที่ฉนั ชอบ คือ ก๋วยเตี๋ยว
ประโยคการแนะนาตัวแบบเป็ นทางการ
Good morning. สวัสดียามเช้ า เป็ นประโยคทักทาย
May I introduce myself? ฉันขออนุญาตแนะนาตัวเองนะคะ เป็ นประโยคขออนุญาต
My name is Padee Jaidee. ฉันชื่อพาดี ใจดี
I’m the marketing manager. ผมเป็ นผู้จดั การฝ่ ายการตลาด
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
Nice to meet you. ยินดีที่ได้ ร้ ูจกั ใช้ แสดงความยินดีที่ได้ เจอกัน
ประโยคการแนะนาตัวแบบไม่เป็ นทางการ
Hello. แปลว่า สวัสดี เป็ นประโยคทักทาย
My name’s Ton. ผมชื่อต้ น
I’m from Thailand. ผมมาจากประเทศไทย เป็ นการบอกข้ อมูลเพิ่มเติม
I’m an exchange student. ผมเป็ นนักเรี ยนแลกเปลี่ยน เป็ นการบอกข้ อมูลเพิ่มเติม
Glad to meet you. ดีใจที่ได้ เจอกันนะ ใช้ แสดงความยินดีที่ได้ เจอกัน

ตัวอย่ างประโยคแนะนาเพื่อน หรื อผู้อ่ ืน ให้ บุคคลที่สามได้ ร้ ู จัก

1. Ben : Ton , This is my friend. His name is Sam.


Ton : Hello, Sam. Nice to meet you.
Sam : Hello Ton. Nice to meet you, too.

2. Father : This is your cousin. Her name is Sandy. She is from Chainat.
Jane : Hello, Sandy. I’m Jane. Nice to meet you
Sandy : Hello, Jane. Nice to meet you, too.

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 36

Name………………………………………………………………………Class…………………..Number….......

ใบงาน เรื่อง การแนะนาตัว

เติมข้ อมูลเพื่อแนะนาตนเอง และเขียนความหมายเป็ นภาษาไทย

Let me introduce myself. ………………………………………………..

My name is ……………………………….. ………………………………………………..

My nickname is …………………………. …………………………………………………

I study in ………………….................... ………………………………………………..

I live in ………………………………………. ………………………………………………..

I live with my …………………………….. ………………………………………………..

I have ………. brother and ………..sister. ………………………………………………..

สาระที ่1 isภาษาเพื
My hobby ่อการสื่อสาร
……………………………….. ………………………………………………..

My favorite sport is ……………………. ………………………………………………..

My favorite color is …………….………. ………………………………………………..

My favorite food is ……………………... ………………………………………………..

เติมบทสนทนาให้ ถูกต้ อง
1. Ben : Ton , This is my friend. His name is Sam.

Ton : ………………………, Sam. Nice to meet you.

Sam : Hello Ton. ……………………………………………..

2. Father : This is your cousin. Her name is Sandy. She is from Chainat.

Jane : Hello, Sandy. I’m Jane. ……………………………………………..

Sandy : …………………………………, Jane. Nice to meet you, too.


FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 37

สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร การบอกทิศทาง การบอกเส้ นทาง

Places สถานที่ต่างๆ

Bookstore School Home

สาระที่1Market
ภาษาเพื่อการสื่อสาร
Hospital Bus station

Post office Coffee shop Library

Museum Department store restaurant

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 38

รวมคาศัพท์ เกี่ยวกับการ “บอกเส้ นทาง”

เมื่อมีนกั ท่องเที่ยวถามทาง เราก็จะสามารถตอบเค้ าไปได้ อย่างถูกต้ อง

Go straight on = ตรงไปข้ างหน้ า


walk past…(ชื่อสถานที่) หรื อ go past…(ชื่อสถานที่) = เดินผ่าน

turn left = เลี ้ยวซ้ าย


turn right = เลี ้ยวขวา
on the left = ทางซ้ าย
on the right = ทางขวา
cross the road = ข้ ามถนน

behind = ด้ านหลัง
in front of = ด้ านหน้ า
straight on = ตรงไป
opposite = ตรงกันข้ ามกับ
สาระที่1on ภาษาเพื ่อการสื่อสาร
the other side of the road = อีกฝั่งของถนน(ตรงกันข้ าม)
near = ใกล้
next to = ถัดจาก
beside = ข้ างๆ

Turn back / Go back = กลับหลัง


between = อยูร่ ะหว่าง
at the end (of) = สุดทางของ…
Go along … = เดินไปตาม…/ ขับไปตาม…
Cross … = ข้ าม…

Take the first/second road on the left/right


= เดินไปตามถนนแรก / ถนนที่สองทางด้ านซ้ าย / ด้ านขวา
It’s on the left/right = มันอยูท่ างด้ านซ้ าย / ด้ านขวา

junction = สามแยก
intersection / crossroads = สี่แยก
on/at the corner = หัวมุมถนน
around the corner = อยูต่ รงหัวมุม

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 39

รวมคาศัพท์ เกี่ยวกับการ “บอกเส้ นทาง”

road = ถนนใหญ่
at the end of the road = สุดถนน
railroad/ railway = ทางรถไฟ

footpath/ sidewalk/ pavement = ทางเท้ า


crosswalk/ zebra crossing = ทางม้ าลาย
traffic light = สัญญาณไฟจราจร
bus stop = ป้ายรถประจาทาง
bridge = สะพาน

overcrossing/ footbridge = สะพานลอยคนข้ าม


airport = สนามบิน
bus stop = ป้ายรถเมล์

crossroads, junction = ทางข้ าม, สี่แยก


สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
signpost = ป้ายบอกทาง, ป้ายสัญลักษณ์
bus = รถประจาทาง
taxi = รถแท็กซี่

express boat = เรื อด่วน

ferry boat = เรื อข้ ามฟาก

train = รถไฟ

subway/ underground = รถไฟใต้ ดนิ

sky train = รถไฟลอยฟ้า

airplane = เครื่ องบิน

take / catch / get on = ขึ ้นรถ

get off = ลงรถ

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 40

ประโยคสัน้ ๆ ง่ ายๆ สาหรั บบอกทาง

It’s this way./ It’s that way. = ทางนี ้/ ทางนัน้

You have to go that way. = เดินไปทางนันเลย


take this road. = ไปตามถนนนี ้

Walk along the road./ Walk straight on/ Go straight on. /Keep going straight. /Just

go straight on. = เดินตรงไปเรื่ อยๆ

take the first on the left. = แยกแรกให้ เลี ้ยวซ้ าย

take the second on the right. = แยกสองให้ เลี ้ยวขวา

turn right at the crossroads. = ถึงสี่แยกให้ เลี ้ยวขวา

สาระที
go under่1
theภาษาเพื
bridge. = ่อลอดใต้
การสื ่อสาร
สะพาน

go over the bridge. = ข้ ามสะพาน

Continue straight ahead for 500 meters. = ตรงไปเรื่ อยๆ ประมาณ 500 เมตร.

Walk for about 10 minutes. = เดินไปประมาณ 10 นาที

Go through the intersection to Phra Athit Road. = เดินข้ ามสี่แยกไปยังถนนพระอาทิตย์

You’re going to the wrong way. = คุณกาลังไปผิดทาง

It’s too far to walk. You should take a cab. = มันไกลมากถ้ าจะเดินไป เรี ยกแท็กซี่จะดีกว่า.

แต่ถ้าไม่ร้ ูทางจริงๆ อาจใช้ ประโยคนี ้แทนคาว่า “I don’t know”

I don’t know the way. But I’ll try to help you. = ไม่ร้ ูเหมือนกัน แต่จะลองช่วยดูครับ/ค่ะ.

Just a moment. Let me ask someone who knows. = รอสักครู่นะคะ/ครับ เดี๋ยวไปถามผู้ร้ ูให้ .
FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 41

Name………………………………………………………………………Class…………………..Number….......

ใบงาน เรื่ อง การบอกทิศทาง การบอกเส้ นทาง

Look at the map

Museum Home
School
Library restaurant
A street

B street
Bus station Market Post office

C street
Start
Coffee shop

สาระที่1 ภาษาเพื
Bookstore
่อการสื่อสาร Department
store
Hospital

A : Could you tell me the way to the bus station, please.

B : Yes, you go along …………………the bus station is………………………..the……………….....

behind / in front of / opposite / near next to / between / beside

1. The bus station is ……………………………................... the market.

2. The hospital is ………………………………………………. the post office.

3. The coffee shop is ……………………………………………... the bookstore.

4. My home is ……………………………………………... The school.

5. The market is …………………………the bus station and the post office.

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 42

สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร

การพูดแทรกอย่ างสุภาพ

การพูดแทรก ขณะที่ผ้ ูฟังกาลังสนทนากับคนอื่น หรื อ ต้ องการถามข้ อมูลบางอย่ าง เช่ น ถามทาง ถามเวลา

ใช้ Excuse me (ขอโทษ / ขออนุญาต) นาหน้ าประโยค

เช่น Excuse me, Can you tell me the way to the Prathat temple ?
ขอโทษนะคะ คุณสามารถบอกทางไปวัดพระธาตุได้ ไหม

Excuse me, How Can get to the police station ?


ขอโทษนะครับ ผมสามารถไปสถานีตารวจได้ อย่างไร

Excuse me, Could you tell me the time ?


ขอโทษนะครับ รบกวนถามเวลาหน่อยครับ

Excuse me, May I come in ?


ขอโทษนะคะ ขออนุญาตเข้ าห้ องค่ะ
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
Excuse me, May I go out ?
ขอโทษนะคะ ขออนุญาตออกจากห้ องค่ะ

การตอบอนุญาตพูดว่า

Yes. / Yes, you may.

ถ้ าไม่อนุญาต ก็พดู ว่า

No. / No, you may not.

ตัวอย่างประโยค

Sandy : Excuse me. May I go out, please. ขออนุญาตออกจากห้ องค่ะ

Teacher : Yes, you may. ได้ คะ่

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 43

การขอความช่ วยเหลือ Asking for help

Could you…? คุณช่วย…ได้ไหม


Would you please…? คุณจะกรุ ณา…ได้ไหม
Would you mind..[verb-ing]..? คุณจะว่าอะไรไหมถ้า…
Could you possibly…? เป็ นไปได้ไหมที่คุณจะ…
Okay, no problem. ได้ ไม่มีปัญหา
Sure, I’d be glad to. แน่นอน ฉันยินดี
Sorry, I’m kind of busy now. ขอโทษทีนะ แต่ตอนนี้ฉนั ยุง่ อยู่
I’m sorry. I don’t have time right now. ฉันขอโทษด้วย ตอนนี้ฉนั ไม่มีเวลา
Do you have a minute? คุณมีเวลาสักนิดไหม
Can you spare a few minutes? คุณช่วยสละเวลาสักหน่อยได้ไหม
Could you do me a favor? คุ ณพอจะช่วยฉันหน่อยได้ไหม
Could I ask you a favor? ฉันขอความช่วยเหลือคุณหน่อยได้ไหม
Can I ask you to…? ฉันขอให้คุณ…ได้ไหม
I need some help if you have time. ฉันอยากได้ความช่วยเหลือ ถ้าหากคุณมีเวลา

สาระที
การขอความช่่1 ภาษาเพื
วยเหลื ่ อ
อ เรี ยงจากสุ ภาพน้
Can you open the door for me?
การสื ่อสาร
อย ไปสุ ภาพมาก

Will you hand me a pencil?


Would you turn on the air conditioner?
Could you help me with these boxes?
Would you please turn down the music?
Would you mind taking a picture for us?

การตอบรับ หลังจากได้รับความช่วยเหลือ
Thanks for your help
Thank you so much.

ตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษ
Excuse me, could you do me a favor?
Sure, what is it?
Could you help me move these tables?
I’d be glad to.
Thanks a lot.

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 44

Name………………………………………………………………………Class…………………..Number….......

ใบงาน เรื่ อง การพูดแทรกอย่ างสุภาพ


เขียนความหมายประโยคต่อไปนี ้เป็ นภาษาไทย

1. Excuse me, Can you tell me the way to the Prathat temple.
……………………………………………………………………………………………………….
2. Excuse me, How Can get to the police station.
……………………………………………………………………………………………………….
3. Excuse me, Could you tell me the time ?
……………………………………………………………………………………………………….
4. Excuse me, May I come in ?
……………………………………………………………………………………………………….
5. Excuse me, May I go out ?

สาระที่1……………………………………………………………………………………………………….
ภาษาเพื่อการสื่อสาร
6. Yes, you may.
……………………………………………………………………………………………………….

7. No, you may not.


……………………………………………………………………………………………………….

เติมบทสนทนาให้ ถกู ต้ อง

Sandy : ………………………………………. May I go out, please.


I would like to go to the restroom.

Teacher : Yes, …………………………………...

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6
45

สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร ประโยคคาสั่ง-คาขอร้ องและคาขออนุญาต

1. ประโยคคาสัง่ (Orders)

1. ประโยคคาสัง่ นิยมใช้ กบั ผู้ที่เด็กกว่า หรื อผู้ที่อยูใ่ ต้ บงั คับบัญชา และแสดงได้ โดยการใช้ คากริยาแท้ (Main Verb)
ขึ ้นต้ นประโยค เช่น
(1) Stop! (สต๊ อพ) หยุด
(2) Come here! (คัม เฮียร์ ) มานี่ซิ
(3) Go away! (โก อเวย์) ออกไป
(4) Shut the door! (ชัท เธอะ ดอร์ ) ปิ ดประตูซะ
(5) Open the door. (โอเพิ่น เธอะ ดอร์ ) เปิ ดประตู
(6) Speak English. (สปี ค อิงลิช) จงพูดภาษาอังกฤษ
ส-2. ใช้ใช้VerbVerb ประโยค เช่น form (V.1) ขึ ้นต้ นประโยคแล้ วตาม
‘be’ ขึ ้นต้ นbase
ด้(1)(2)วยสิ ง
่ ที ่
Be careful.
Be quiet. จ ะสั ง่ ให้ ท า หรื อ
(บี ไควเอ็ท) อาจใช้
(บี แคร์ ฟลุ )
Verb แค่อยคาเดียวก็ได้ เช่น
ระวังนะ
เงียบหน่
(3) Be a good boy.
Stop!(หยุ ด ) (บี อะกึด บอย)
(4) Be kind to children. (บี คาย ทู ชิลเดรน)
จงเป็ นเด็กดี
จงมีเมตตาต่อเด็ก ๆ
Come
3. ถ้ าต้ องการสัง่ ห้here!(มานี ่) าคากริยาแท้ เช่น
าม ให้ เติม Don’t ไว้ ข้างหน้
(1) Don’t go!
Open
(2) Don’t go there. the (โด้ นท์ โก)
door.(จงเปิ
(โด้ นท โก แธร์ ) ด ประตู ) อย่าไป
อย่าไปที่นนั่
(4) Don’t touch.
Speak English.(จงพู (โด้ นท ทัช)
(3) Don’t talk too much. (โด้ นท ทอค ทู มัช) ด ภาษาอั ง กฤษ)
อย่าแตะ/ห้ ามสัมผัส
อย่าพูดมากไปเลย
- (5)ใช้Don’t
Verb ‘be’ ขึ ้นต้ นประโยค เช่น
swim in this canal. (โด้ นท สวิม อิน ดิส คะแนล) อย่าว่ายน ้าในคลองนี ้

(โด้ นท บีงน๊)อยซี่)
4.ถ้ าประโยคขึ ้นต้ นด้ วย be ให้ วาง don’t หน้ ากริยา be เช่น
BeDon’tcareful.(จงระวั
be noisy. (อย่าส่งเสียงดัง)

2. ประโยคขอร้ อง (Requests)
1. เราสามารถใช้ ในเชิงขอร้ องได้ โดยเพียงเติม Please เข้ าไปวางไว้ หน้ าหรื อท้ ายประโยคก็ได้ เพื่อให้ ดสู ภุ าพขึ ้น เช่น
Please sit down. หรื อ Sit down, please. (กรุณานัง่ ลง)
Please wait here. (กรุณารอตรงนี ้)
Please give me chocolate. (เอาช็อกโกแลตให้ ฉนั หน่อยค่ะ)
Be quiet, please. (กรุณาเงียบ)
Please don’t smoke here. (กรุณาอย่าสูบบุหรี่ ตรงนี ้)

ประโยคคาสั่ง : Shut the door! (ชัท เธอะ ดอร์ ) ปิ ดประตู


ประโยคคาขอร้ อง : (1) Please shut the door (พลีส ชัท เธอะ ดอร์ ) กรุณาปิ ดประตูหน่อย

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 46

3. ประโยคขออนุญาต

ใช้ โครงสร้ างประโยคดังนี ้

May I …?(เมย์ ไอ …)ฉันขออนุญาต…ได้ ไหม


Can I …? (แคน ไอ …) ฉันขออนุญาต…ได้ ไหม
Would you mind if I …?(วูด ยู ไมนด์ อิฟ ไอ …)คุณจะว่าอะไรไหม…ถ้ าฉัน

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ การขออนุญาต (Asking for permission)

May I borrow your pen, please? เมย์ ไอ บอโรว ยัว เพ็น พลีส ฉันขอยืมปากกาของคุณได้ ไหม
Yes, you may. เยส ยู เม ได้

May I go out, please? เมย์ ไอ โก เอ้ าท์ พลีส ฉันขออนุญาตออกไปข้ างนอก


Yes, you may. เยส ยู เม ได้

Can I go to the restroom, please? แคน ไอ โก ทู เดอะ เรสรูม พลีส ผมขอไปห้ องน ้าได้ ไหมครับ
Yes, you can. เยส ยู แคน ได้ คะ่
สาระที ่ 1 ภาษาเพื ่ อ การสื อ
่ สาร
Do you mind if I use your phone? ดู ยู ไมนด์ อิฟ ไอ ยูส ยัวร โฟน
คุณจะรังเกียจไหมถ้ าผมจะขอยืมโทรศัพท์คณ
ุ หน่อย
No, not at all. โน นอท แอท ออล ไม่เลยค่ะ/ไม่รังเกียจค่ะ/ได้ เลยค่ะ

Would it be okay if I open the window? It is hot in here.


วูด อิท บี โอเค อิฟ ไอ โอเพน เธอะ วินโดว อิท อีส ฮอท อิน เฮียร์
จะโอเคไหมถ้ าผมเปิ ดหน้ าต่าง ในนี ้ค่อนข้ างร้ อนครับ
No problem. โน พลอบเบลม ไม่มีปัญหาค่ะ

ตัวอย่ างบทสนทนา
1. ประโยคคาสั่ง A : Close the door. B. : Yes, sir.

2. ประโยคขอร้ อง A : Will you please close the door? B : Certainly.

3. ประโยคขออนุญาต A : Would you mind if I closed the door. B : Not at all.

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 47

Name………………………………………………………………………Class…………………..Number….......

ใบงาน เรื่ องประโยคคาสั่ง-คาขอร้ องและคาขออนุญาต


เขียนความหมายประโยคต่อไปนี ้เป็ นภาษาไทย

1. Stop! …………………………………………………………
2. Come here! …………………………………………………………
3. Go away! …………………………………………………………
4. Shut the door! …………………………………………………………
5. Open the door. …………………………………………………………
6. Speak English. …………………………………………………………
7. Be careful. …………………………………………………………
8. Be quiet. …………………………………………………………
9. Be a good boy. …………………………………………………………
10. Be kind to children. …………………………………………………………
15. Don’t go! …………………………………………………………
16. Don’t go there. …………………………………………………………
17. Don’t touch. …………………………………………………………
18. Don’t talk too much. …………………………………………………………
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
19. Don’t swim in this canal. …………………………………………………………
…………………………………………………………
20. Don’t be noisy.

เติมบทสนทนาต่อไปนี ้ให้ ถกู ต้ อง

1. A : May I borrow your pen, please? B: ……………………………...

2. A : May I go out, please? B: ……………………………….

3. A : Can I go to the restroom, please? B: ……………………………….

4. A : Do you mind if I use your phone? B: ……………………………….

5. A: Would it be okay if I open the window? It is hot in here. B: …………………………..

6. A : Close the door. B. : ………………………………

7. A : Will you please close the door? B : ………………………………

8. A : Would you mind if I closed the door. B : ……………………………….


FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 48

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
Punctuation หรือ เครื่องหมายวรรคตอน

เครื่ องหมายเหล่านี ้มีหน้ าที่เพื่อให้ การแบ่งวรรคตอนหรื อประโยคในภาษาอังกฤษไม่สบั สน


1. Full Stops (British English) หรื อ Periods (American English) .
เป็ นเครื่ องหมายที่เราคุ้นเคยกันที่สดุ และน่าจะเป็ นตัวแรกที่ทกุ คนรู้จกั คือเอาไว้ ใช้ เวลาจบประโยคที่ไม่ใช้
เครื่ องหมายคาถามหรื อเครื่ องหมายตกใจ ดังนัน้ ทุกการขึ ้นต้ นประโยคใหม่หลัง Full Stop นัน้ เราจะต้ องใช้
อักษรตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ เช่น
We are discussing this issue. (เรากาลังถกปัญหา นี ้กันอยู่)
นอกจากนี ้ เรายังใช้ . สาหรับตัวย่ออีกด้ วย เช่น
I have an appointment at 10 a.m. (ฉันมีนดั ตอนสิบโมงเช้ า)
2. Question Marks ?
Question Mark หรื อเครื่ องหมาย ? จะเอาไว้ ใช้ จบประโยคที่เราต้ องการเขียน เพื่อให้ ร้ ูวา่ ประโยค นี ้เป็ น
ประโยคคาถาม แทนตาแหน่งของ Full Stop เช่น
Do you really want to go there? (เธอต้ องการไปที่นนั่ จริงๆหรอ)
3. Exclamation Marks !
Exclamation Mark หรื อเครื่ องหมาย ! ใช้ ในประโยคที่ไม่เป็ นทางการมาก เพื่อเน้ น การแสดงอารมณ์ที่
รุนแรงมากกว่าปกติในประโยค ไม่วา่ จะเป็ นตื่นเต้ น ตกใจ แสดงถึงคาสัง่ หรื อ การตะโกน เช่น
Don’t talk to me like that! (อย่ามาพูดแบบนันกั ้ บฉันนะ!)
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
4. Commas ,
Comma หรื อ เครื่ องหมาย , เอาไว้ ใช้ ในการแบ่งวลีหรื อคา เพื่อให้ อา่ นง่ายขึ ้น เช่น
I love singing, dancing, and playing guitar. (ฉันชอบร้ องเพลง เต้ น และเล่นกีต้าร์ )
หรื อใช้ ในการคัน่ อนุประโยค (clauses) เช่น
If you were me, you would be upset too.(ถ้ าเธอเป็ นฉัน เธอก็ต้องกลุ้มเหมือนกันแหละ)
5. Colons :
Colon หรื อเครื่ องหมาย : มีไว้ เพื่อขยายความของประโยคที่เขียนก่อนหน้ า เช่น
I know why I failed this test: lack of preparation.
ฉันรู้วา่ ทาไมฉันถึงสอบตก เพราะไม่ได้ เตรี ยมตัวมากพอ) นอกจากนี ้ ยังใช้ ในการแสดงเวลาก็ได้ เช่น
The train leaves at 6:30 a.m. (รถไฟออกตอน หกโมงครึ่งในตอนเช้ า) เป็ นต้ น
6. Apostrophes ’
Apostrophe หรื อ เครื่ องหมาย ’ ใช้ เวลาลดรูปกริยาช่วยในภาษาอังกฤษ เช่น
is not เป็ น isn’t
do not เป็ น don’t
I will เป็ น I’ll
นอกจากนี ้ ยังใช้ เครื่ องหมาย ’ ในการแสดงความเป็ นเจ้ าของโดยการใส่ ’s เข้ าไป เช่น
Suda’s house is near the hospital. (บ้ านของสุดาอยูใ่ กล้ โรงพยาบาล)
หรื อถ้ ามี s เป็ นตัวสะกดอยูแ่ ล้ ว ก็ใส่แค่ ’ เช่น
The princess’ dress looks so beautyful. (ชุดของเจ้ าหญิงสวยมากเลย)

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 49

7. Semicolons ;
หน้ าที่ของ Semicolons หรื อ ; คือ การเชื่อมสองประโยคที่มีความเกี่ยวข้ องกันมากๆเข้ าด้ วยกัน แทนที่
จะใช้ Full Stop ก็ใช้ ตวั นี ้แทน เช่น

I don’t want to go back home now; the traffic is so bad.


(ฉันไม่อยากกลับบ้ าน ตอนนี ้เลย เพราะรถมันติดเกินไป)

หรื อใช้ แทน Comma ในการเชื่อมวลีที่ซบั ซ้ อนเข้ าด้ วยกันเพราะในวลีนนมีั ้ Comma อยูแ่ ล้ วเพื่อ
ป้องกันความสับสน เช่น
I have two options for you; finish this before 2, and go to this meeting
for me; or prepare yourself for this meeting, and drop everything
you’re doing right now. (ฉันมีทางเลือกให้ สองทาง: ทานี่ให้ เสร็จก่อนบ่ายสองแล้ วเข้ าประชุม
แทนฉัน หรื อ เตรี ยมตัวประชุมตังแต่
้ ตอนนี ้แล้ วหยุดทุกอย่างที่กาลังทาอยู่)

8 Hyphens และ Dashes -


สองตัวนี ้หน้ าตาคล้ ายกัน โดย Hyphens จะใช้ เวลาเชื่อมคาสองคาเข้ าด้ วยกัน เพื่อให้ เกิดความ หมาย
ใหม่ เช่น time-consuming ซึง่ เราสามารถตรวจสอบได้ ในพจนานุกรมว่าคาใดบ้ างที่ต้องมี
Hyphen คัน่ ในขณะที่ Dash จะใช้ เวลาที่เราต้ องการแยกคา วลี ออกมาจากประโยค เพื่อให้ สว่ น นัน้
โดดเด่นยิ่งขึ ้น โดยต้ องเว้ นวรรคหน้ าหลัง dash ด้ วย เช่น
สาระที่1 ภาษาเพื ่อการสื่อสาร
She ignores all remarks - good or bad ones - which makes her seem
like a self-righteous person. (เธอไม่สนใจข้ อคิด เห็นใดๆเลย ไม่วา่ จะดีหรื อไม่ดี และนัน่ มันทา
ให้ เธอดูเป็ นคนมัน่ ใจว่าตัวเองถูกอยูค่ นเดียว)

9. Quotation Marks “ ”
Quotation marks หรื อเครื่ องหมายคาพูด ซึง่ มีทงแบบ
ั้ ‘เดี่ยว’ หรื อแบบ “คู”่ ในประเทศอังกฤษใช้ ทงั ้
สองแบบ ในขณะที่ในอเมริกานิยมใช้ แบบคู่ แต่ทงสองแบบสามารถปรากฏตั
ั้ วร่วมกันได้ เช่น

Tommy asked, ‘Do you know where the “Tower Bridge” is?’ ซึง่ เราสามารถ
ใช้ เครื่ องหมาย คาถามแบบเดี่ยวได้ เพื่อแสดงการพูดประโยคคาถาม และใส่เครื่ องหมายแบบคูไ่ ปในส่วน ที่
ต้ องการเน้ น เป็ นต้ น

10. Brackets และ Parentheses (...)


แปลเป็ นภาษาไทยก็คือ วงเล็บ นัน่ เอง ความแตกต่างก็คือ Brackets คือเครื่ องหมาย [...] แบบ เหลี่ยม
ในขณะที่ Parentheses คือวงเล็บ แบบที่เราคุ้นเคย เราใช้ วงเล็บเพื่อเพิ่มเติมข้ อมูล เข้ าไปในประโยค ที่
ไม่ได้ มีความสาคัญมากนัก และใช้ ในการเขียนที่ไม่เป็ นทางการ เช่น

She will fly to New York (with two stopovers) and will come back at
the end of the month. (เธอจะ บินไปนิวยอร์ ค (โดยต้ องเปลี่ยนเครื่ องสองรอบ) และจะกลับมา
ตอนสิ ้นเดือน)
FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 50

Name………………………………………………………………………Class…………………..Number….......

ใบงานเรื่อง Punctuation เครื่องหมายวรรคตอน

Matching correctly จับคูใ่ ห้ ถกู ต้ อง

วงเล็บ
1 Parentheses
“ ”
2 Quotation Marks (...) ใช้ จบประโยคบอกเล่า

3 Full Stops . เครื่ องหมายคาพูด

4 Question Marks
? ใช้ จบประโยคคาถาม

เชื่อมสองประโยคที่มี
5 Semicolons ; ความเกี่ยวข้ องกันมากๆเข้ าด้ วยกัน
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
6 Commas , ใช้ ในการแบ่งวลีหรื อคา เพื่อให้ อ่านง่ายขึ ้น

7 Colons : ใช้ เวลาเชื่อมคาสองคาเข้ าด้ วยกัน

8 Apostrophes
’s เพื่อขยายความของประโยคที่เขียนก่อนหน้ า

ใช้ ในประโยคเน้ น การแสดงอารมณ์


9 Hyphens และ Dashes - ตื่นเต้ น ตกใจ คาสัง่ หรื อ การตะโกน

ใช้ เวลาลดรูปกริยาช่วยในภาษาอังกฤษ
10 Exclamation Marks
! และใช้ แสดงความเป็ นเจ้ าของ

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 51

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

Christmas Day

Christmas Day, on December 25, is one of the most festival


Christian holidays in many countries around the world. It celebrates
Jesus' birth.

Christmas Day is a holiday in many, but not all, countries.


Many homes have Christmas trees and other decorations in the
weeks leading to Christmas Day. Some workplaces hold Christmas
parties prior to December 25. Festival activities include exchanging
presents, singing Christmas songs, going to parties.

It's a special time when children get presents from family,


friends and Santa Claus, or Father Christmas. Christmas cards are also
given or sent out prior to Christmas Day.

สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสารวันคริสมาสต์
วันคริ สต์มาสตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม เป็ นเทศกาลที่สาคัญ และมีการฉลองอย่างยิง่ ใหญ่
ของชาวคริ สเตียนในหลายประเทศ ทัว่ โลก ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการประสู ติของพระเยซู

วันคริ สต์มาสเป็ นวันหยุดในหลายๆประเทศ แต่ไม่ใช่ทุกประเทศ หลายๆบ้านมีตน้


คริ สต์มาสและเครื่ องประดับอื่นๆ เริ่ มประดับตั้งแต่ตน้ สัปดาห์จนถึงวันคริ สต์มาส บางสถานที่จดั งาน
เฉลิมฉลองก่อนถึงวันที่ 25 ธันวาคม มีกิจกรรมการแลกเปลี่ยนของขวัญ ร้องเพลงคริ สต์มาส และไปงาน
เลี้ยงฉลองกัน

มันเป็ นช่วงเวลาที่พิเศษสุ ดสาหรับเด็กๆ เมื่อได้รับของขวัญจากครอบครัว เพื่อนๆ และ


ซานตาครอส (คุณพ่อของวันคริ สมาสต์) มีการมอบบัตรอวยพรให้แก่กนั ก่อนถึงวันคริ สต์มาสด้วย

FB@krunaenae
คู่มือ เตรี ยมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 52

คาศัพท์ เกี่ยวกับ “วันคริสต์ มาส”

Tradition – ขนบธรรมเนียมประเพณี
Goodwill – ความปรารถนาดี
Celebrate – การเฉลิมฉลอง
Jolly – ครึกครื น้ รื่ นเริง สนุกสนาน
Tradition – ขนบธรรมเนียมประเพณี

Santa Claus Snowman Reindeer


ซานตาคลอส สโนว์แมน กวางเรนเดียร์

สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
The Christmas Wreath Chimney Christmas carols
พวงมาลัยวันคริสต์มาส ปล่องไฟ เพลงคริสต์มาส

Stockings Christmas Gifts Christmas Tree


ถุงเท้ า ของขวัญวันคริสต์มาส ต้ นคริสต์มาส

Ornaments Christmas Lights


ของประดับต้ นคริสต์มาส Christmas Trimmings
ไฟคริสต์มาส
ของประดับเทศกาลคริสต์มาส

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 53

Halloween

Halloween is an annual holiday celebrated each year on


October 31.
It originated with the ancient Celtic festival of Samhain,
when people would light bonfires and wear costumes to ward off
ghosts.
In the eighth century, Pope Gregory III designated November
1 as a time to honor all saints; soon, All Saints Day incorporated some
of the traditions of Samhain. The evening before was known as All
Hallows Eve, and later Halloween.
Over time, Halloween evolved into a day of
activities like trick-or-treating, carving jack-o-lanterns, festive
gatherings, donning

ฮาโลวีน
สาระที่1 ภาษาเพื ่อการสื่อสาร
ฮาโลวีน เป็ นงานฉลองวันหยุดประจาปี ทุกๆปี ในวันที่ 31 ตุลาคม
มีต้นกาเนิดมาจาก ประเพณี Samhain (เป็ นชื่อของเทพเจ้ าแห่งความตาย ทังนี ้ ้ ในวันที่
31 ตุลาคม ชาวเซลท์ Celt ซึง่ เป็ นชนพื ้นเมืองเผ่าหนึง่ ในไอร์ แลนด์ ถือกันว่าเป็ นวันสิ ้นสุดของฤดูร้อน และวัน
ต่อมา คือ วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็ นวันขึ ้นปี ใหม่ ) ผู้คนจะก่อกองไฟ และแต่งตัวเป็ นผี เพื่อขับไล่ภตู ผี ปี ศาจ
ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 8 สันตะปาปา Gregory ที่ 3 จึงได้ กาหนดวันที่ 1 พฤศจิกายน ให้
เป็ นวันเฉลิมฉลอง All Saints Day หรื อ All Hallows Day สาหรับชาวคริสต์เพื่อระลึกถึงนักบุญ
และผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ ว แต่การเฉลิมฉลองในคืนวันที่ 31 ตุลาคม หรื อ Hallow's Eve ก็ยงั คงอยู่มาจนถึง
ปั จจุบนั แต่ชื่อเรี ยกได้ เพี ้ยนไปเป็ น Halloween
กาลเวลาผ่านไป (ความเชื่อเรื่ องผีจะสิงสู่ร่างมนุษย์เสื่อมถอยลงตามลาดับ) ฮาโลวีนจึง
กลายเป็ นวันจัดกิจกรรม เช่น“หลอก หรื อ เลี ้ยง” , การแกะสลักฟั กทอง แจ๊ ก-โอ'-แลนเทิร์น การชุมนุมใน
เทศกาล การแต่งตัวในชุดผี

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 54

ความรู้ เพิ่มเติม วันฮาโลวีน

สาระที ่In the


การเล่ น Trick or Treat eighth century, Pope Gregory
III designated
สาหรับประเพณี ทริก ออร์ ทรีNovember
ต (Trick or Treat แปลว่า หลอกหรื อเลี ้ยง) นัน้ เริ่มขึ ้นในราว
คริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยชาวยุโรป ซึง่ ถือว่า วันที่ 2 พฤศจิกายน เป็ นวัน "All Souls" พวกเขาจะเดินร้ องขอ
"ขนมสาหรับวิญญาณ" (soul Cake) จากหมู่บ้านหนึ่งไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง โดยเชื่อว่ า ยิ่งให้ ขนมเค้ ก
มากเท่ าไร วิญญาณของญาติผ้ ูบริจาคก็ได้ รับผลบุญ ทาให้ มีโอกาสขึน้ สวรรค์ ได้ มากเท่ านัน้
1 as a time to honor all saints; soon, All
ประเพณีทริก ออร์ ทรี ต คือ การละเล่นอย่างหนึง่ ที่เด็ก ๆ เฝ้ารอคอยในวันฮาโลวีน ตามบ้ านเรื อนจะ
Saints Day incorporated some
ตกแต่งด้ วยโคมไฟฟั กทอง และตุ๊กตาหุ่นฟางที่เป็ นส่วนหนึง่ ของเทศกาลประเพณีเก็บเกี่ยว (Harvest)
ในช่วงเดียวกันนัน้ แต่ละบ้ านจะเตรี ยมขนมหวานที่ทาเป็ นรูปเม็ดข้ าวโพดสีขาว เหลือง ส้ ม ในเม็ดเดียวกัน
เรี ยกว่า Corn Candy และขนมอื่น ๆ ไว้ เตรี ยมคอยท่า
ส่วนเด็ก ๆ ในชุมชนก็จะแต่งตัวแฟนซี เป็ นภูตผีมาเคาะตามประตูบ้าน โดยเน้ นบ้ านที่มีโคมไฟฟั กทอง
of the traditions of Samhain. The evening
ประดับ เรี ยกว่า แจ๊ ก-โอ'-แลนเทิร์น (jack-o'-lantern) (เพราะมีความหมายโดยนัยว่าต้ อนรับพวกเขา)
พร้ อมกับถามว่า "Trick or Treat ?" เจ้ าของบ้ านมีสิทธิ์ที่จะตอบ Treat ด้ วยการยอมแพ้ มอบขนมหวาน
before was known as All Hallows
ให้ ภตู ผี (เด็ก) เหล่านัน้ ราวกับว่า ช่างน่ากลัวเหลือเกิน หรื อเลือกตอบ Trick เพื่อท้ าทายให้ ภตู ผีเหล่านัน้
Over time, Halloween evolved into a day
อาละวาด ซึง่ ก็อาจเป็ นอะไรก็ได้ ตังแต่้ แลบลิ ้นปลิ ้นตาหลอกหลอน ไปจนถึงขันท
แล้ วอาจจบลงด้ วยการ Treat เด็ก ๆ ด้ วยขนมในที่สดุ
้ าลายข้ าวของเล็ก ๆ น้ อย ๆ

of
เครื่ องดื่มวันฮาโลวีน
โดยธรรมเนียมแล้ ว วันฮาโลวีน เป็ นวันถือศีล และไม่ดื่มสุราหรื ออาหารฟุ่ มเฟื อย อาจมีโซลเค้ ก (Soul
Cake) ซึง่ เป็ นขนมตามธรรมเนียมดังเดิ
activitiและที่ขาดไม่ได้ สาหรับเทศกาลฮาโลวีนเลย คือ การ
้ มของงานวันฮาโลวีน หรื ออาหารที่ไม่ใช่เนื ้อ และเมื่อได้ รับโซลเค้ กให้
สวดภาวนาแด่ผ้ ลู ่วงลับเป็ นการตอบแทน (อย่างไรก็ดี นี่เป็ นละครในงานวัน "ฮาโลวีน" ไม่ใช่พธิ ีกรรม ดังนันการ

ประดับประดาแสงไฟ และการแกะสลักฟั กทองเป็ นโคมไฟ เจาะ
จัดงานเลี ้ยงในบ้ านเราคงจะต้ องมีขนม, น ้า และอาหารเป็ นธรรมดา)

ทาตา จมูก และปากที่แสยะยิ ้ม เรี ยกว่า แจ๊ ก-โอ'-แลนเทิร์น


(jack-o'-lantern)
es like trick-or-treating, carving

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 55

Valentine’s Day

Valentine’s Day is celebrated on every February 14,

many places around the world, candy, flowers and gifts are

exchanged between loved ones, all in the name of St. Valentine.

วันวาเลนไทน์

วันวาเลนไทน์ จะมีการฉลอง ทุกๆวันที่ 14 กุมภาพันธ์ และในหลายๆ สถานที่ ทัว่ โลก,


สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
ขนมหวาน, ดอกไม้ และของขวัญ ได้ รับการแลกเปลี่ยน ระหว่างคู่รัก ทุกคนลงนาม ในชื่อนักบุญวาเลนไทน์

Valentine’s card
บัตรอวยพร วาเลนไทน์

roses cupid
ดอกกุหลาบ กามเทพ

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 56

ข้ อมูลเพิม่ เติม
ประวัติวนั วาเลนไทน์ (Valentine's Day)

เทศกาลวาเลนไทน์ เริ่มมีขึ ้น ตังแต่


้ ยคุ ที่จกั รวรรดิโรมันเรื องอานาจ ในยุคนัน้ วันที่ 14
กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้ เป็ นวันหยุดเพื่อเป็ นเกียรติแต่เทพเจ้ าจูโนผู้เป็ น จักรพรรดินีแห่งเทพเจ้ าโรมัน
นอกจาก นี ้แล้ วพระองค์ยงั ทรงเป็ นเทพเจ้ าแห่ง อิสตรี เพศและการแต่งงานและในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็ นวัน
เริ่มต้ นเทศกาล เฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์ คาร์ เลีย การดาเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะ ถูกตัดขาดออกจากกันอย่าง
สิ ้นเชิง
ในรัชสมัยของ จักรพรรดิคลอดิอสั ที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่ง กรุงโรม พระองค์
ทรงเป็ นกษัตริย์ที่มี ใจคอดุร้ายและทรงนิยม การ ทาสงครามนองเลือด ได้ ทรงตระหนักว่าเหตุที่ ชายหนุ่ม
ส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้ าร่วม ในกองทัพเนื่องจากไม่อยากจากคู่รัก และครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโอง
การสัง่ ห้ ามมิให้ มีการจัดพิธีหมันและ
้ แต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด ทาให้ ประชาชนทุกข์ใจเป็ นอย่างยิ่ง
และขณะนัน้ มีนกั บุญรูปหนึง่ นามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรื อวาเลนตินสั ซึง่ อาศัยอยู่ในโรมได้
ร่วมมือกับเซนต์มาริอสั จัดพิธีแต่งงานให้ กบั ชาวคริสต์หลายคู่ และด้ วยความปรารถนาดีนี ้เองจึงทาให้ วาเลน
ไทน์ถกู จับและระหว่างนี ้ก็ยงั คงส่งคาอวยพรวาเลนไทน์ ของเขาเองขณะที่เขาเป็ นนักโทษ เป็ นความเชื่อว่าวา
เลนไทน์ได้ ตกหลุมรักหญิง สาวที่เป็ นลูกสาวของผู้คมุ ที่ชื่อจูเลีย ซึง่ ได้ มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถกู คุมขัง ในคืน
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
ก่อนที่วาเลนไทน์จะสิ ้นชีวิตโดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ ส่งจดหมายฉบับ สุดท้ ายถึงจูเลีย โดยลงท้ ายว่า
"From Your Valentine" ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270
หลังจากนันศพของเขาได้
้ ถกู เก็บไว้ ที่โบสถ์ พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้
ปลูกต้ นอามันต์ หรื ออัลมอลต์สีชมพู ไว้ ใกล้ หลุม ศพของวาเลนตินสั แด่ผ้ เู ป็ น ที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี ้ ต้ น
อามันต์สีชมพูได้ เป็ นตัวแทน แห่งรักนิรันดรและมิตรภาพ อันสวยงาม และคานี ้ก็เป็ นคาที่ใช้ มา จนถึงปั จจุบนั
ถึงแม้ ว่าเบื ้อง หลังความเป็ นจริงของวาเลนไทน์จะเป็ นตานานที่มืดมัว แต่เรื่ องราวยังคงแสดงให้ เห็นถึง
ความรู้สกึ สงสาร ความกล้ าหาญและที่สาคัญที่สดุ เป็ นเครื่ องหมาย ของความโรแมนติค จึงไม่น่าประหลาดใจ
เลยว่าในช่วงยุคกลางวาเลนไทน์เป็ นนักบุญ ที่มีชื่อเสียงมากที่สดุ ในอังกฤษและฝรั่งเศส
ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็ นวันเฉลิมฉลอง เทศกาล
วันแห่งความรักและดูเหมือนว่ายัง คงเป็ นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือก หญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลน
ไทน์ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี ้
วันวาเลนไทน์ ในแต่ละประเทศจะมีประเพณีหรื อการ ปฏิบตั ิที่แตกต่างกันบ้ าง แต่โดยรวมแล้ ว
จะมีการเฉลิมฉลองและเป็ นการแสดงถึง ความรักที่มีระหว่างกัน ต่อมาเมื่อความ เจริญก้ าวหน้ าทางด้ าน
เทคโนโลยีทางด้ าน การพิมพ์เข้ ามาเกี่ยวข้ องมีการพิมพ์บตั ร อวยพรโดยเข้ ามาแทนที่จดหมายที่ เขียนด้ วย
ลายมือ และปั จจุบนั ก็มีการส่ง บัตรอวยพรทางออนไลน์เพื่อแสดงถึงความ ก้ าวหน้ าของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ที่ช่วย ให้ คนที่ต้องการแสดงความรักความห่วงใย ถึงคนที่รักได้ อย่างรวดเร็วยิ่งขึ ้น

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 57

Thanksgiving Day

Thanksgiving Day is a national holiday celebrated on various


dates in Canada, the United States It began as a day of giving thanks for
the blessing of the harvest and of the preceding year. Thanksgiving is
celebrated on the second Monday of October in Canada and on the
fourth Thursday of November in the United States.
Although Thanksgiving has historical roots in religious and
cultural traditions, it has long been celebrated as a secular holiday as
well.
On Thanksgiving day, all Americans will go back home for
celebrate with family an close friends. They have a big meal together.
The popular food is turkey. So turkey become a symbol of this tradition.

สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
วันขอบคุณพระเจ้ า

วันขอบคุณพระเจ้ าเป็ นวันหยุดประจาชาติ มีการเฉลิมฉลอง หลายๆวันใน ประเทศแคนนาดา


และสหรัฐอเมริกา ต้ นกาเนิดมาจาก การขอบคุณพระเจ้ าที่อวยพรให้ การเก็บเกี่ยวพืชผลอุดมสมบูรณ์ ก่อนปี
ใหม่จะมาถึง การขอบคุณพระเจ้ า จัดขึ ้นในวันจันทร์ ที่ 2 เดือนตุลาคม ในประเทศแคนนาดา และในวัน
พฤหัสบดี ที่ 4 เดือนพฤศจิกายน ในประเทศ สหรัฐอเมริกา
ถึงแม้ ว่า การขอบคุณพระเจ้ า จะมีรากฐานทางประวัติศาสตร์ ที่เกี่ยวข้ องกับศาสนา และ
ประเพณี วัฒนธรรม ฆราวาสเองก็ได้ เฉลิมฉลอง และถือเป็ นวันหยุดราชการด้ วย
เมื่อถึงวันขอบคุณพระเจ้ า ชาวอเมริกนั ทังหลายไม่
้ ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตามมักจะเดินทางกลับบ้ าน
เพื่อร่วมเฉลิมฉลองกับครอบครัวและเพื่อนสนิท ในแต่ละครอบครัวจะมีการรับประทานอาหารมื ้อใหญ่ร่วมกัน
โดยมีอาหารที่นิยมรับประทานจนเป็ นเหมือนสัญลักษณ์ของประเพณีนี ้ก็คือ ไก่งวง

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 58

ข้ อมูลเพิม่ เติม
ประวัติวนั ขอบคุณพระเจ้ า

ประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น ได้ ประกาศให้ วนั ขอบคุณพระเจ้ าเป็ นวันหยุดราชการ


ครัง้ แรกในปี ค.ศ.1863 เป็ นเพื่อเป็ นการเฉลิมฉลองขอบคุณพระเจ้ าสาหรับชาวอเมริกนั
ย้ อนกลับไป ในปี ค.ศ. 1620 ชาวอังกฤษ ได้ ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติค มาขึ ้นฝั่ งใน
ดินแดนใหม่ในทวีปอเมริกาเหนือ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 1620 สถานที่ที่ผ้ บู กุ เบิก หรื อ พิวกริม ใน
รัฐแมสสาซูเสท
ครัง้ แรกที่ชาวอังกฤษเหล่านี ้มาตังถิ
้ ่นฐานอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาต้ องล้ ม
ป่ วยลงและเสียชีวิตเนื่องจากอากาศหนาวจัด ในขณะนัน้ ชนเผ่าอินเดียนแดง ซึง่ ตังถิ ้ ่นฐานอยู่ในบริเวณ
เดียวกันได้ ให้ ความช่วยเหลือชาวอังกฤษเหล่านี ้
ในฤดูใบไม้ ร่วงปี ค.ศ.1621 ชาวอังกฤษกลุ่มนี ้ได้ เชิญชาวเผ่าอินเดียนแดงมาร่วม
ขอบพระคุณพระเจ้ าที่ได้ ช่วยพวกเขามีชีวิตที่ดีในดินแดนแห่งใหม่นี ้ และถือเป็ นการขอบคุณชาวเผ่า
อินเดียนแดงด้ วย ในการเลี ้ยงฉลองครัง้ แรกๆได้ มีการรับประทานไก่งวง ขนมพาย
การฉลองวันขอบพระคุณพระเจ้ าอย่างไม่เป็ นทางกานี ้ ซึง่ จัดเป็ นครัง้ แรกในเดือน
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
พฤศจิกายน ค.ศ.1621 โดยมีการจัดงานถึง 3 วัน ต่อมาก็มีการจัดบ้ างไม่จดั บ้ าง ในแต่ละปี จนถึงปี
ค.ศ.1863
เมื่อรัฐบาลได้ ประกาศให้ มีการฉลองวันขอบคุณพระเจ้ าอย่างเป็ นทางการ ในวัน
พฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน ค.ศ.1863 และก็มีการฉลองติดต่อกันในวันพฤหัสบดีสดุ ท้ ายของเดือน
พฤศจิกายนของทุกปี
คนอเมริกนั ทังหลายไม่
้ ว่าจะไปอยู่ที่ไหนจะกลับบ้ านกัน เพราะเป็ นการฉลองภายในแต่
ละครอบครัวและเพื่อนสนิท สาหรับชาวอเมริกนั ที่นบั ถือศาสนาคริสต์ ถือว่าวันนี ้มีความสาคัญมาก
เพราะเป็ นการราลึกถึงพระคุณของพระเจ้ าที่มีต่อชีวิตของเขา

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 59

Easter

Easter is a Christian holiday. Christians are happy, get

beautiful dress and decorate colorful eggs giving to each other for

celebrates the belief in the resurrection of Jesus Christ from the dead.

Christians did not specify the date of Easter Day but take

the first Sunday after full moon day of the 4th month.

สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสารวันอีสเตอร์
"วันอีสเตอร์ " เป็ นวันหยุดของชาวคริสต์ เป็ นวันที่ชาวคริสต์ทกุ คนต่างชื่นชมยินดี แต่งตัว

สวยงาม และตกแต่งไข่ด้วยสีสนั ต่าง ๆ มามอบให้ แก่กนั และกัน เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องจากในวันที่พระเยซู

คริสต์ทรงคืนพระชนม์ชีพจากความตาย

ทังนี
้ ้ วันอีสเตอร์ นนั ้ ไม่มีวนั ที่ระบุตายตัว แต่ชาวคริสต์ได้ ถือเอาวันอาทิตย์แรกหลัง

พระจันทร์ เต็มดวงในเดือน 4 เป็ นตัวกาหนด

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 60

Matching the correct sentence. จับคู่วนั สาคัญ / เทศกาล กับประโยคให้ ถกู ต้ อง

People wear costumes to ward off


Easter ghosts.

Halloween Lovers exchanged flowers and gifts.

Celebrating the belief in the


Christmas Day resurrection of Jesus Christ from
the dead.

Thanksgiving Day It celebrates Jesus' birth.

A day of giving thanks for the


Valentine’s Day blessing of the harvest.
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
Matching the correct picture. จับคู่วนั สาคัญ / เทศกาล กับรูปภาพให้ ถกู ต้ อง

Christmas Day

Halloween

Easter

Thanksgiving Day

Valentine’s Day
FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 61

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

Wisakha Bucha Day

Wisaka Bucha Day marks the three important incidents in the life of Lord
Buddha (พระพุทธเจ้ า) on the same day
1. The Buddha’s Birth (ประสูต)ิ
2. The Enlightenment of Buddha (ตรัสรู้)
3. The Nibbana (ปรินิพพาน)
Activities are:
1. Offering food to monks and novices in the morning. (ตักบาตร)
2. Some people visit the temples to listen to Dhamma preaching. (ฟั งธรรม)
3. Making merit by giving some donations and join in the other Buddhist
activities. (ทาบุญ)
4. Setting birds or fish free to get rid of bad karma. (ปล่อยนกปล่อยปลา)

สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
วันวิสาขบูชา

เป็ นวันที่เกิดเหตุการณ์สาคัญของพระพุทธเจ้ า ขึ ้น 3 เหตุการณ์ ในวันเดียวกันคือ


1. ประสูติ
2. ตรัสรู้
3. ปรินิพพาน
กิจกรรมที่ปฏิบตั ิได้ แก่
1. ใส่บาตร ถวายภาหารเช้ าแด่พระสงฆ์
2. ไปวัดเพื่อฟั งธรรม
3. ทาบุญด้ วยการบริจาคทาน และร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา
4. ปล่อยนกปล่อยปลาเพื่อลดกรรมชัว่

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 62

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

Songkran Festival

Songkran is Thailand’s most famous. An important event on the


Buddhist calendar, this water festival marks the beginning of the traditional
Thai New Year.
Thai people celebrate Songkran by splashed water.
Family is important for the festival. Many Thai people go back to
their hometowns to spend time with older relatives. Buddhists also visit
temples throughout Songkran where water is poured on Buddha images and
on the hands of Buddhist monks as a mark of respect.
April 13th is the first day of the festival.
Thai people prepare for the beginning of the New Year by cleaning
their houses.
April 14th is Wan Nao ,the celebration of the old Thai New Year’s
Eve. Many Buddhists go to their temples to build sand chedis.
April 15th is Thai New Year’s Day ,the final day of Songkran,
celebrated on.

สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
เทศกาลสงกรานต์
สงกรานต์เป็ นประเพณีของไทย ที่มีชื่อเสียง และมีความสาคัญในปฏทินของ
พระพุทธศาสนา เป็ นเทศกาลการเล่นน ้า เป็ นเครื่ องหมายของการเริ่มต้ นประเพณีปีใหม่ไทย
ชาวไทยเฉลิมฉลอง สงกรานต์ โดยการ สาดน ้า
ครอบครัวมีความสาคัญมาก สาหรับเทศกาลนี ้ คนไทยส่วนใหญ่กลับบ้ านเกิด เพื่อใช้ เวลาอยูก่ บั ญาติ
ผู้ใหญ่
ชาวพุทธจะไปวัด เพื่อสรงน ้าพระพุทธรูป และสรงน ้าที่มือของพระสงฆ์ ซึง่ เป็ นสัญลักษณ์ของการเคารพ
บูชา
วันที่ 13 เมษายน เป็ นวันแรกของเทศกาล
ชาวไทยเตรี ยมการต้ อนรับวันปี ใหม่ ด้ วยการทาความสะอาดบ้ านเรื อน
วันที่ 14 เมษายน คือวันเนา เป็ นวันฉลองก่อนวันปี ใหม่ไทย ชาวพุทธไปวัดเพื่อสร้ างเจดีย์ทราย
วันที่ 15 เมษายน คือวันปี ใหม่ไทย และเป็ นวันสุดท้ ายของการฉลองเทศกาลสงกรานต์

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 63

เขียนชื่อวันสาคัญของไทยต่อไปนี ้ ใส่หน้ าข้ อความให้ ถกู ต้ อง


Songkran / Wisakha Bucha

Thai New Year’s Day


1.………………………

water is poured on Buddha images


2.………………………

Family is important for the festival


3………………………..

Thai people celebrate by splashed water.


4…………………………

Offering food to monks and novices in the morning.


สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
5…………………………

The Buddha’s Birth, The Enlightenment of Buddha and


6………………………… The Nibbana

Many Buddhists go to their temples to build sand chedis.


7…………………………

Some people visit the temples to listen to Dhamma


8………………………… preaching

Many Thai people go back to their hometowns to spend


9………………………… time with older relatives.

The three important incidents in the life of Lord Buddha on


10……………………… the same day

FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 64

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์ กับชุมชนและโลก

Classroom English Language (ภาษาอังกฤษ ในชั้นเรียน)

ประโยคภาษาอังกฤษ สาหรับการทักทาย
Good morning, everyone. อรุ ณสวัสดิ์ ทุกคน
Good afternoon, class. สวัสดีตอนบ่าย ทุกคนในชั้นเรี ยน (ใช้หลังเที่ยง)
How are you this morning? เช้านี้เป็ นอย่างไรบ้าง
How are you today? วันนี้เป็ นอย่างไรบ้าง
Do you have a cold? คุณเป็ นหวัดหรื อเปล่า

ประโยคภาษาอังกฤษ สาหรับถามตอบ ในชั้นเรียน


ถามง่ายๆ เรี ยกให้ขาน โดยการเรี ยกชื่อ
Teacher : Max?
Max : Yes หรื อ Here
การถามหานักเรี ยนชื่อ…
Teacher : Where is Peter ? ปี เตอร์ อยูไ่ หน
Students : He is absent. เขาขาดเรี ยน
ถามว่าวันนี้ นักเรี ยนชื่อ…ขาดเรี ยนหรื อ
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
Teacher : Is Padee absent today?
Students ตอบว่าใช่: Yes, she’s absent. ใช่ หล่อนขาดเรี ยน
Students ตอบปฏิเสธ: No, she is coming. ไม่ หล่อนกาลังมา

ประโยคภาษาอังกฤษในชัน้ เรียน เมื่อเริ่มการเรียน การสอน


Please sit down, everyone. ทุกคน เชิญนัง่ ลง
Let’s begin today’s lesson. เรามาเริ่มบทเรี ยนวันนี ้กันเลย
It’s time to begin, please stop talking. ได้ เวลาเริ่มแล้ ว โปรดหยุดคุยก่อน
Let’s quickly review the last lesson. เรามาทบทวนบทเรี ยนบทสุดท้ ายอย่าง
รวดเร็วกันเถอะ
Try to answer my questions. ลองตอบคาถามพวกนี ้ของครู(ฉัน)หน่อยสิ
Right / Correct ถูกต้ อง
Nearly Right / Close / Almost เกือบถูก, ใกล้ เคียง
Let’s start on page 22. เรามาเริ่มกันที่หน้ า 22
Let’s start at line 5. เรามาเริ่มกันตรงบรรทัดที่ 5
Turn to page 13. เปิ ดไปที่หน้ า 13
Please look at the blackboard. โปรดมองบนกระดาน
Look at your textbooks. ดูที่ตาราเรี ยนของคุณ
Now open your textbooks to page 10. เปิ ดหนังสือไปที่หน้ า 10
Write this down in your notebooks. จดสิ่งนี ้ลงในสมุดบันทึกของพวกคุณ
Pass back these sheets/handouts. ส่งเอกสารพวกนี ้คืน
FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 65

ประโยคภาษาอังกฤษในชัน้ เรียน เกี่ยวกับการอ่ าน


Please listen carefully. โปรดตังใจฟั
้ ง
Repeat! ทวนซ ้า
Repeat after me. พูดตามครู
Read this out loud. อ่านออกเสียงดังๆ
Sumittra, begin reading at line 8. สุมิตรา เริ่มอ่านบรรทัดที่ 8
Okay, stop there, thank you. เอาล่ะ หยุดตรงนัน้ ขอบคุณ
How do you say it in English? คุณพูดมันอย่างไรในภาษาอังกฤษ
Please summarize the first paragraph. โปรดสรุปย่อหน้ าแรก
What is the paragraph/section/story about? ย่อหน้ านี ้/ส่วนนี ้/เรื่ องนี ้ กล่าวถึงอะไร
Let’s do some translation work. มาแปลกันเถอะ

ประโยคภาษาอังกฤษในชัน้ เรียน เกี่ยวกับการถาม


Any questions? มีคาถามไหม
Do you have any questions? คุณมีคาถามไหม
Now I’m going to ask you some questions. ตอนนี ้ครูจะถามเธอแล้ วนะ
Who knows the answer? ใครรู้คาตอบ
Raise your hand. ยกมือขึ ้น
Please raise your hand if you don’t understand. โปรดยกมือ ถ้ าคุณไม่เข้ าใจ
สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
Try to answer by yourself.
Try again.
ลองตอบด้ วยตนเอง
ลองใหม่อีกครัง้
A full sentence, please. ขอเป็ นประโยคเต็มๆ
Use a full sentence please. โปรดใช้ ประโยคเต็ม
Make a sentence. สร้ างประโยค
Louder, please! โปรดดังกว่านี ้หน่อย
Again, please. ขออีกครัง้
Do you understand? คุณเข้ าใจไหม

ประโยคภาษาอังกฤษในชัน้ เรียน เมื่อจบบทเรียน สิน้ สุดชั่วโมงการเรียนการสอน


For homework, please do the exercises on page 11. สาหรับการบ้ าน ให้ ทาแบบฝึ กหัดหน้ า 11
Today’s homework is … การบ้ านวันนี ้ คือ …
Please read pages … to … for homework. โปรดอ่านหน้ า … ถึง … เป็ นการบ้ าน
There’s the bell. กระดิง่ ดังแล้ ว
That’s all for today. วันนี ้พอแค่นี ้ (นี่คือทังหมดของวั
้ นนี ้)
The lesson is over for today. เ เสร็จบทเรี ยนแล้ วสาหรับวันนี ้
We’ve run out of time. เราหมดเวลาแล้ ว
Goodbye, class. ลาก่อนทุกคน(ในชันเรี ้ ยน)
See you on Wednesday. แล้ วเจอกันวันพุธ
Have a nice weekend! มีชว่ งวันหยุด(เสาร์ -อาทิตย์)ที่ดีนะ
See you next week. เจอกันสัปดาห์หน้ า
FB@krunaenae
คูม่ ือ เตรียมสอบ โอเนต อังกฤษ ป.6 66

Name………………………………………………………………………Class…………………..Number….......
เขียนความหมายประโยคต่อไปนี ้เป็ นภาษาไทย

ใบงาน เรื่ อง Classroom English Language (ภาษาอังกฤษ ในชั้นเรียน)

1.Good morning, everyone. …………………………………………………………


2.Good afternoon, class. …………………………………………………………
3.How are you today? …………………………………………………………
4.Please sit down, everyone. …………………………………………………………
5.Try to answer my questions. …………………………………………………………
6.Right / Correct …………………………………………………………
7.Turn to page 13. …………………………………………………………
8.Please look at the blackboard. …………………………………………………………
9.Look at your textbooks. …………………………………………………………
10.Now open your textbooks to page 10. …………………………………………………………
11.Write this down in your notebooks. …………………………………………………………
12.Please listen carefully. …………………………………………………………
13.Repeat after me. …………………………………………………………
14.Read this out loud. …………………………………………………………

สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
15.Do you have any questions? …………………………………………………………
16.Now I’m going to ask you some questions.…………………………………………………………
17.Who knows the answer? ………………………………………………………..
18.Raise your hand. …………………………………………………………
19.Try to answer by yourself. …………………………………………………………
20.Try again. …………………………………………………………
21.A full sentence, please. …………………………………………………………
22.Make a sentence. …………………………………………………………
23.Louder, please! …………………………………………………………
24.Again, please. …………………………………………………………
25.Do you understand? …………………………………………………………
26.Today’s homework is … …………………………………………………………
27Goodbye, class. ………………………………………………………..
28.See you on Wednesday. …………………………………………………………
29.Have a nice weekend! …………………………………………………………
30.See you next week. ………………………………………………………..

เติมบทสนทนาให้ ถกู ต้ อง
Teacher : Is Padee ………………………………. today?
Students : No, she is ………………………………

FB@krunaenae

You might also like