Professional Documents
Culture Documents
1. งบประมาณมีความสำคัญและประโยชนตอการบริหารอยางไร
ก. เปนเครื่องมือในการพัฒนาหนวยงาน
ข. เปนเครื่องมือในการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยูอยางจำกัดใหมีประสิทธิภาพ
ค. เปนเครื่องมือกระจายทรัพยากร และเงินงบประมาณที่เปนธรรม
ง. ถูกทุกขอ
(ตอบขอ ง. (ก. เปนเครื่องมือในการพัฒนาหนวยงาน ถาหนวยงานจัดงบประมาณการใชจายอยางถูกตอง
และมีประสิทธิภาพ จะสามารถพัฒนาใหเกิดความเจริญกาวหนาแกหนวยงานและสังคมโดยหนวยงานตอง
พยายามใชจายและจัดสรรงบประมาณใหเกิดประสิทธิผลไปสูโครงการที่จําเปน โครงการลงทุนเพื่อกอใหเกิด
ความกาวหนาของหนวยงาน/ ข. เปนเครื่องมือในการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยูจำกัดใหมีประสิทธิภาพ เนื่องจาก
ทรัพยากรหรืองบประมาณของหนวยงานมีจำกัด ดังนั้นจึงจำเปนที่จะตองใชงบประมาณเปนเครื่องมือในการ
จัดสรรทรัพยากรหรือใชจายเงินใหมีประสิทธิภาพ โดยมีการวางแผนในการใชและจัดสรรเงินงบประมาณไปใน
แตละดาน และมีการวางแผนการปฏิบัติงานในการใชจายทรัพยากรนั้น ๆ ดวย เพื่อที่จะกอใหเกิดประโยชน
สูงสุดในเวลาที่เร็วที่สุด และใชทรัพยากรนอยที่สุด/ ค. เปนเครื่องมือกระจายทรัพยากร และเงินงบประมาณที่
เปนธรรม งบประมาณสามารถใชเปนเครื่องมือในการจัดสรรงบประมาณที่เปนธรรมไปสูจุดที่มีความจําเปน
และทั่วถึงที่จะทําใหหนวยงานนั้นสามารถดําเนินไปไดอยางมีประสิทธิภาพ
2. ระบบงบประมาณของประเทศไทยในปจจุบันคือระบบงบประมาณแบบใด
ก. แบบแสดงรายการ
ข. แบบแสดงแผนงาน
ค. แบบมุงเนนแผนงานตามยุทธศาสตร
ง. แบบมุงเนนผลงานตามยุทธศาสตร
(ตอบขอ ง. (สำนักงบประมาณไดมีการปรับเปลี่ยนระบบงบประมาณแบบแผนงาน เปนระบบมุงเนน
ผลงานตามยุทธศาสตร ตั้งแตปงบประมาณ พ.ศ.2546 เพื่อใหการจัดสรรงบประมาณ การบริหารจัดการ
งบประมาณสามารถขับเคลื่อนยุทธศาสตรของรัฐบาลใหบรรลุตามเปาหมายที่กำหนดไวและเกิดประโยชน
อยางแทจริง
3. จำนวนเงินอยางสูงที่อนุญาตใหจายหรือใหกอหนี้ผูกพันไดตามวัตถุประสงคและภายในระยะเวลาที่
กำหนดไวในกฎหมายวาดวยงบประมาณรายจาย เปนความหมายของขอใด
ก. งบประมาณรายจาย
ข. งบประมาณรายจายขามป
ค. งบประมาณเหลื่อมป
ง. งบประมาณจัดสรร
(ตอบขอ ก. (พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 4
2
4. หนวยหลักในการจัดทำงบประมาณประจำปคือ
ก. กระทรวงการคลัง
ข. สำนักงบประมาณ
ค. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ
ง. ธนาคารแหงประเทศไทย
(ตอบขอ ข. (พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 หมวด 4 การจัดทำงบประมาณ มาตรา 24
9. การนับปงบประมาณเริ่มจากวันใดถึงวันใด
ก. ม.ค. – 31 ธ.ค.
ข. ก.ย.ปปจจุบัน – 31 ส.ค. ปถัดไป
ค. ต.ค. ปปจจุบัน – 30 ก.ย. ปถัดไป
ง. ธ.ค. ปปจจุบัน – 30 พ.ย. ปถัดไป
(ตอบขอ ค. (พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 มาตรา 4
11. แผนงานใดที่หนวยจัดทำขอเสนองบประมาณเบื้องตนเพื่อเปนคาใชจายในการดำเนินการตามหนาที่ความ
รับผิดชอบเปนปกติประจำตามภารกิจ และกฎหมายจัดตั้งของหนวยงานนั้นๆ ซึ่งเปนกลุมงบประมาณรายจาย
กระทรวง/หนวยงาน (Function
ก. แผนงานยุทธศาสตร
ข. แผนงานบูรณาการเพื่อพัฒนาพื้นที่ระดับภาค
ค. แผนงานบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ
ง. แผนงานพื้นฐาน
(ตอบข อ ง. (คู มื อการปฏิ บ ั ติ การจั ด ทำคำของบประมาณรายจายประจำปงบประมาณ ของสำนัก
งบประมาณ
17. รายจายที่กำหนดใหจายเพื่อการบริหารงานประจำไดแกรายจายในลักษณะใด
ก. คาตอบแทนใชสอย และวัสดุ
ข. คาสาธารณูปโภค
ค. คาครุภัณฑ
ง. ถูกทั้งขอ ก. และ ข.
(ตอบขอ ง. (รายจายประจำหมายถึง รายจายที่รัฐบาลจายเพื่อใหไดรับสิ่งตอบแทนเปนบริการหรือ
สิ่งของที่ไมใชทรัพยสินประเภททุน
22. งบประมาณที่ ม ี ว งเงิ น ตั ้ ง แต 1,000 ล า นบาท ขึ ้ น ไป จะต อ งดำเนิ น การอย า งไรจึ ง จะเป น ไปตาม
พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561
ก. รัฐมนตรีเจาสังกัดเสนอผูอำนวยการสำนักงบประมาณตั้งงบประมาณ
ข. รั ฐ มนตรี เ จ า สั ง กั ด เสนอผู อ ำนวยการสำนั ก งบประมาณเพื ่ อ เสนอคณะรั ฐ มนตรี อ นุ ม ั ติ
ค. หน ว ยรั บ งบประมาณเสนอผู อ ำนวยการสำนั ก งบประมาณเพื ่ อ เสนอคณะรั ฐ มนตรี อ นุ ม ั ติ
ง. หนวยรับงบประมาณเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติกอนยื่นคำขอตั้งงบประมาณตอผูอำนวยการสำนักงาน
ประมาณ
(ตอบขอ ง. (พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 สวนที่ 1 การขอตั้งงบประมาณรายจาย
มาตรา 26
24. งบประมาณรายจายของหนวยรับงบประมาณที่กำหนดไวตามกฎหมายวาดวยงบประมาณรายจาย จะ
โอนหรือนำไปใชสำหรับหนวยรับงบประมาณอื่นมิได เวนแต
ก. มีพระราชบัญญัติใหโอนหรือนำไปใชได
ข. การโอนงบประมาณรายจายบูรณาการภายใตแผนงานบูรณาการเดียวกัน
ค. การโอนงบประมาณรายจายบุคลากรภายใตแผนงานบุคลากรภาครัฐ
ง. ถูกทุกขอ
(ตอบขอ ง. (พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 หมวด 5 การบริหารงบประมาณรายจาย
มาตรา 35
25. ขอใดไมใชระบบการติดตามประเมินผลทางอิเล็กทรอนิกสของสำนักงบประมาณ
ก. ระบบการวางแผนและจัดทำงบประมาณ(e-Budgeting
ข. การวิเคราะหระดับความสำเร็จของการดำเนินงานจากการใชจายงบประมาณ (PART
ค. ระบบติดตามและรายงานความกาวหนาในการใชจายงบประมาณ (BB EvMIS
ง. ระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส (GFMIS
7
26. สิ่งของที่จัดเปนครุภัณฑโดยสภาพ
ก.สิ่งของที่โดยสภาพมีลักษณะคงทนแตตามปกติมีอายุการใชงานไมยืนนาน หรือเมื่อนำไปใชงานแลวเกิด
ความชำรุดเสียหาย ไมสามารถซอมแซมใหใชงานไดดังเดิม หรือซอมแซมแลวไมคุมคา
ข. สิ่งของที่โดยสภาพมีลักษณะคงทนถาวร มีอายุการใชงานยืนนาน เมื่อชำรุดเสียหายแลวสามารถ
ซอมแซมใหใชงานไดดังเดิม
ค. สิ่งของที่โดยสภาพมีลักษณะเมื่อใชแลวยอมสิ้นเปลืองหมดไป แปรสภาพ หรือเปลี่ยนสภาพไปใน
ระยะเวลาอันสั้นหรือไมคงสภาพเดิม
ง. สิ่งของที่ใชเปนอุปกรณประกอบหรืออะไหลสำหรับการซอมแซมบำรุงรักษาทรัพยสินใหกลับคืนสภาพ
ดังเดิมที่มีลักษณะเปนการซอมบำรุงปกติหรือซอมกลาง
(ตอบขอ ข. (หนังสือสำนักงบประมาณ ดวนที่สุดที่ นร 0704/ว 68 ลง 29 เมษายน 58 เรื่อง การปรับปรุง
หลักการจำแนกประเภทรายจายตามงบประมาณ และหนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร 0704/ว 37 ลง 6 ม.ค.59
เรื่องแนวทางการพิจารณาสิ่งของที่จัดเปนวัสดุและครุภัณฑตามหลักการจำแนกประเภทรายจายตามงบประมาณ
28. การโอนหรือเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจายเพื่อจัดหาครุภัณฑหรือสิ่งกอสรางจะตองมีวงเงินตอ
หนวยต่ำกวาเทาใดโดยไมตองขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ
ก.ต่ำกวา 10 ลานบาทและต่ำกวา 1 ลานบาทตามลำดับ
ข.ต่ำกวา1 ลานบาทและต่ำกวา 10 ลานบาทตามลำดับ
8
29. คาใชจายตามแผนงานบุคลากรภาครัฐขอใดไมถูกตอง
ก. เงินเพิ่มพิเศษสำหรับการสูรบ
ข. คาตอบแทนพนักงานราชการ
ค. คาจางประจำ
ง. คารักษาพยาบาล
(ตอบขอ ง. (เกณฑการพิจารณารายการคาใชจายตามแผนบุคลากรภาครัฐ ใหใชจายสำหรับบุคลากร
ภาครัฐ จัดสรรงบประมาณโดยมีอัตราคาใชจายเปนรายเดือน หรือจายควบกับเงินเดือน มีจำนวนและอัตรา
คาใชจายตามกฎหมาย และระเบียบกำหนด
39. การจายเงินบำนาญจะจายในวันใดของเดือน
ก. กอน 5 วันทำการสุดทายของเดือน
ข. กอน 3 วันทำการสุดทายของเดือน
ค. วันทำการสุดทายของเดือน
ง. ไมมีขอถูก
(ตอบขอ ก.) (ตามพระราชกฤษฎีกาการจายเงินเดือน เงินป บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะ
เดียวกัน พ.ศ.2535 และที่แกไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4 พ.ศ.2549 มาตรา 43
ง. ถูกทั้ง ก และ ข
(ตอบขอ ง.)
47. ขอใดกลาวไมถูกตองในการนำเงินสงคลังและฝากคลัง
ก. เงินเบิกจากคลัง ไมไดจายหรือจายไมหมด ใหสงคืนคลังภายใน 15 วันทำการ
ข. เงินนอกงบประมาณ ฝากคลังอยางนอยเดือนละ 1 ครั้ง
ค. เงินรายไดแผนดิน นำสงอยางนอยเดือนละ 1 ครั้ง วันใดรับเงินเกิน 5,000 บาท นำสงโดยดวนอยาง
ชาไมเกิน 3 วันทำการ
ง. ใหหัวหนาหนวยงานหรือผูไดรับมอบหมายเปนผูนำเงินสงคลัง
(ตอบขอ ค.) (ตามระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยการเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน การจายเงิน การเก็บ
รักษาเงิน และการนำเงินสงคลัง พ.ศ.2562 ขอ 101 (2
48. เงินที่ขอเบิกจากคลังใชไมหมดสงคืนภายในปงบประมาณเรียกวา
ก. เงินเหลือจายปเกาสงคืน
ข. เงินรายไดแผนดิน
ค. เงินเบิกเกินสงคืน
ง. เงินกันไวเบิกเหลื่อมป
13
50. รายไดใดที่ไมใชรายไดของกองทุนเพื่อการสืบสวนและสอบสวนคดีอาญา
ก. เงินอุดหนุนจากรัฐบาล
ข. เงินคาปรับตามคำพิพากษาของศาล
ค. เงินที่ไดรับการสนับสนุนจากองคกรปกครองสวนทองถิ่น
ง. ดอกผลของกองทุน
(ตอบขอ ข.) (ตามพระราชบัญญัติตำรวจแหงชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 113
ข. สวนราชการที่รับชำระเงินตองออกใบเสร็จรับเงินใหกับผูชำระเงินทุกครั้ง
ค. การรับเงินของสวนราชการใหใชบัญชีเงินฝากธนาคารชื่อบัญชี “...ชื่อสวนราชการ... เพื่อการนำเงินสง
คลังหรือฝากคลัง”
ง. ผิดทุกขอ
(ตอบขอ ง. (ขอ ก.ที่ถูกตอง สวนราชการกำหนดแบบใบแจงการชำระเงินเพื่อใหผูชำระเงินใชในการ
ชำระเงินเขาบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่สวนราชการกำหนด ขอ ข. ที่ถูกตอง เวนแตกรณีที่ผูชำระเงินตองการ
ใบเสร็จรับเงิน ขอ ค. ที่ถูกตอง “...ชื่อสวนราชการ...เพื่อการรับเงินทางอิเล็กทรอนิกส”
60. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับการรับรูสินทรัพยของหนวยงาน
ก. สินทรัพยที่ไดมาในปงบประมาณ พ.ศ.2563 เปนตนไป มีการรับรูสินทรัพยที่มีมูลคาขั้นต่ำตั ้งแต
10,000 บาทขึ้นไป
ข. สินทรัพยที่ไดมากอนปงบประมาณ พ.ศ.2563 มีการรับรูสินทรัพยที่มีมูลคาขั้นต่ำตั้งแต 5,000 บาท
ขึ้นไป
ค สินทรัพยที่ไดมาในปงบประมาณ พ.ศ.2562 มีการรับรูสินทรัพยที่มีมูลคาขั้นต่ำตั้งแต 5,000 บาท
ขึ้นไป
16
62. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับการขอกันเงินไวเบิกเหลื่อมปและการขยายเวลาขอเบิกเงินของหนวยงาน
ก. การขอเบิกเงินจากคลังตามงบประมาณรายจายประจำปงบประมาณใด ใหกระทำไดแตเฉพาะภายใน
ปงบประมาณนั้น หากไมสามารถเบิกเงินจากคลังไดภายในปงบประมาณ ใหขยายเวลาขอเบิกเงินจากคลังได
ในกรณีไดกอหนี้ผูกพันไวกอนสิ้นปงบประมาณหรือไดกันเงินไวแลว
ข. การขยายเวลาขอเบิ กเงินจากคลัง ใหขยายออกไปได อีกไม เกิน 6 เดือนของปงบประมาณถั ด ไป
เวนแตมีความจำเปนตองขอเบิกเงินจากคลังภายหลังเวลาดังกลาว ใหขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง
เพื่อขอขยายเวลาออกไปไดอีกไมเกิน 6 เดือน
ค. การขอเบิกเงินจากคลังตามงบประมาณรายจายประจำปงบประมาณใด ใหกระทำไดแตเฉพาะภายใน
ปงบประมาณนั้น หากไมสามารถเบิกเงินจากคลังไดภายในปงบประมาณ ใหขยายเวลาขอเบิกเงินจากคลังได
ทุกกรณี ทั้งกรณีกอหนี้ผูกพันและไมมีหนี้ผูกพัน
ง. การขอกันเงินไวเบิกเหลื่อมป หนวยงานตองดำเนินการกอนสิ้นปงบประมาณ โดยปฏิบัติตามวิธีการ
ที่กระทรวงการคลังกำหนด
(ตอบขอ ค. (การขอขยายเวลาขอเบิกเงินจากคลังจะทำไดกรณีที่หนวยรับงบประมาณไดกอหนี้ผูกพันไว
กอนสิ้นปงบประมาณและไดมีการกันเงินไวตามระเบียบเกี่ยวกับการเบิกจายเงินจากคลังแลวเทานั้น
63. เงินประเภทใดที่สวนราชการไมสามารถนำไปใชจายได
ก. เงินงบประมาณ
ข. เงินนอกงบประมาณ
ค. เงินรายไดแผนดิน
ง. เงินอุดหนุนทุนวิจัย
(ตอบขอ ค.) (ตามระเบียบ กค. วาดวยการเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน การจายเงิน การเก็บรักษาเงิน
และการนำเงินสงคลัง พ.ศ.2562 ขอ 4 “เงินรายไดแผนดิน” หมายความวา เงินทั้งปวงที่หนวยงานของรัฐ
จัดเก็บหรือไดรับไวเปนกรรมสิทธิ์ตามกฎหมายระเบียบ ขอบังคับ หรือจากนิติกรรมหรือนิติเหตุและกฎหมาย
วาดวยเงินคงคลัง และกฎหมายวาดวยวินัยการเงินการคลังของรัฐ บัญญัติไมใหหนวยงานของรัฐนั้น นำไปใช
จายหรือหักไวเพื่อการใด ๆ
17
65. สวนราชการจะใชจายหรือกอหนี้ผูกพันก็ตอเมื่อ
ก. หนีส้ ินถึงกำหนดชำระ หรือใกลจะถึงกำหนดชำระเบิกจายเงินตอนไหนก็ได
ข. เมื่อมีคาใชจายที่เกิดขึ้น เบิกจายไดตลอดทั้งปงบประมาณ
ค. หนวยงานยอยสงคำขอเบิกไปยังกรมบัญชีกลางโดยตรง
ง. หนวยงานผูเบิกจะจายเงินหรือกอหนี้ผูกพันไดแตเฉพาะที่กฎหมาย ระเบียบ ขอบังคับ คำสั่ง กำหนดไว
หรือมติ ครม. ใหจายไดหรือตามที่ไดรับอนุญาตจากระทรวงการคลังและมีเงินงบประมาณรองรับ
(ตอบขอ ง. (ตามระเบียบ กค.วาดวยการเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน การจายเงิน การเก็บรักษาเงิน และ
การนำเงินสงคลัง พ.ศ.2562 ขอ 18 หนวยงานผูเบิกจะจายเงินหรือกอหนี้ผูกพันไดแตเฉพาะที่กฎหมาย
ระเบียบ ขอบังคับ คำสั่ง กำหนดไวหรือมติ ครม. อนุญาตใหจายได หรือตามที่ไดรับอนุญาตจาก กค.
18
66. ขอใดถือเปนหลักฐานการจาย
ก. ใบสำคัญรับเงินซึ่งผูรับเงินเปนผูออกให ใบเสร็จรับเงิน
ข. เงินที่สวนราชการจายใหแกบุคคลใดบุคคลหนึ่งยืมเพื่อเปนคาใชจายในการเดินทางไปราชการ
ค. หลักฐานรายงานการเดินทางไปราชราชการ คำขออนุมัติเดินทางไปราชการ
ง. หลักฐานคำขอรับเงินผานธนาคาร
(ตอบขอ ก. (ตามระเบียบ กค. วาดวยการเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน การจายเงิน การเก็บรักษาเงิน
และการนำเงินสงคลัง พ.ศ.2562 ขอ 44 การจายเงินของสวนราชการ ใหใชใบเสร็จรับเงินหรือใบสำคัญรับ
เงิน ซึ่งผูรับเงินเปนผูออกให หรือรายงานการจายเงินจากระบบอิเล็กทรอนิกส (e-Payment หรือใบรับรอง
การจายเงิน หรือเอกสารอื่นใดที่กระทรวงการคลังกำหนดเปนหลักฐานการจาย
73. รายการที่เปนเงินตราตางประเทศบันทึกรายการครั้งแรกดวยอัตราใด
ก. อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่เกิดรายการ
ข. อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ไดมา
ค. อัตราแลกเปลี่ยน ณ ขณะที่กำหนดมูลคายุติธรรม
ง. อัตราแลกเปลี่ยน ณ มูลคายุติธรรม
(ตอบขอ ก.) (มาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2564 หนา 9)
74. ขอใดไมใชสินทรัพย
ก. เงินทดรองราชการ
ข. เงินฝากคลัง
20
ค. รายไดแผนดินรอนำสงคลัง
ง. ถูกทุกขอ
(ตอบขอ ค.) (มาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2564 หนา 11)
77. ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับครุภัณฑมูลคาต่ำกวาเกณฑ
ก. อายุการใชงานมากกวา 1 ป
ข. ครุภัณฑที่ไดมาในปงบประมาณ พ.ศ.2563 มูลคาไมถึง 10,000 บาท
ค. รับรูเปนบัญชีคาใชจาย ชื่อบัญชี “คาครุภัณฑมูลคาต่ำกวาเกณฑ”
ง. ถูกทุกขอ
(ตอบขอ ง.) (อางอิง คูมือการบัญชีภาครัฐ เรื่อง ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ (หนา 3
80. ขอใดดำเนินการไดถูกตองเกี่ยวกับสินทรัพยรับบริจาค
ก. ปรับปรุงลดยอดบัญชีรายไดรอการรับรู เขาบัญชีรายไดจากการรับบริจาค ทุกสิ้นเดือน
ข. ตามมูลคาคาเสื่อมราคาประจำเดือนของสินทรัพยนั้น
ค. เมื่อสินทรัพยรับบริจาคหมดอายุการใชงานมีราคาซากคงเหลือไว 1 บาท แตบัญชีรายไดรอรับรู
ปรับปรุงเปนศูนยบาท
ง. ถูกทุกขอ
(ตอบขอ ง.) (คูมือการปฏิบัติงานระบบสินทรัพยถาวรในระบบ GFMIS ของสำนักงานตำรวจแหงชาติ
(กองบัญชี มีนาคม 2553 (หนา 5
85. ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับระบบการประเมินผลคุณภาพการบัญชีภาครัฐของกรมบัญชีกลาง
ก. ประเมินดานบัญชีการเงิน และดานบัญชีบริหาร
ข. ประเมินดานเบิกจาย และดานพลาธิการ
ค. ประเมินดานความถูกตอง และประเมินดานความโปรงใส
ง. ไมมีขอใดถูกตอง
(ตอบขอ ก.) (อางอิง เกณฑการประเมินผลการปฏิบัติงานดานบัญชีภาครัฐ ประจำปงบประมาณ พ.ศ.
2564 หนังสือกรมบัญชีกลาง ที่ กค 0410.3/ว160 ลง 23 มี.ค.64 (หนา 3
89. บัญชีคาเบี้ยประกันภัยรถยนตจายลวงหนาอยูในบัญชีหมวดใด
ก.สินทรัพย
ข.หนี้สิน
ค.ทุน
ง.รายได
(ตอบขอ ก.) (หนังสือ ตร. ที่ 0010.322/ว14 ลง 18 พ.ค.60 เรื่องผังบัญชีของสำนักงานตำรวจ
แหงชาติ หนาที่ 5 รหัสบัญชี 1106010103 ชื่อบัญชี คาใชจายจายลวงหนา
92. ขอใดไมใชหมวดบัญชีรายได
ก. รายไดรอรับรู
ข. รายไดเงินนอกงบประมาณ
ค. รายไดคาปรับอื่น
ง. รายไดไมใชภาษีอื่น
24
97. ขอใดตอไปนี้ไมถูกตองเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวของกับงบประมาณ
ก. ระเบียบ ก.ต.ช. วาดวยหลักเกณฑการปฏิบัติราชการของผูบัญชาการในฐานะอธิบดีฯ
ข. พ.ร.บ.ตำรวจแหงชาติ พ.ศ.2547
ค. กฎ ก.ตร. วาดวยการอุทธรณและการพิจารณาอุทธรณ พ.ศ.2547
ง. พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561
(ตอบขอ ค. (กฎ ก.ตร. วาดวยการอุทธรณและการพิจารณาอุทธรณ พ.ศ.2547 เปนกฎวาดวยการ
อุทธรณ และการพิจารณาอุทธรณคำสั่งลงโทษทางวินัย และคำสั่งใหออกจากราชการ
98. กรณีหนวยรับงบประมาณตองการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณระหวางงบรายจาย/ผลผลิต/โครงการ
ภายใตแผนงานเดียวกัน ทำไดภายในอำนาจของใคร
ก. คณะรัฐมนตรี
ข. สำนักงบประมาณ
ค. หัวหนาสวนราชการ
ง. หัวหนาหนวยงาน
(ตอบขอ ค. (หลักเกณฑ วาดวยการใชงบประมาณรายจาย การโอนเงินจัดสรรหรือการเปลี่ยนแปลงเงิน
จัดสรร พ.ศ.2562 ขอ 8
99. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับการขอกันเงินไวเบิกเหลื่อมปและการขยายเวลาขอเบิกเงินของหนวยงาน
ก. การขอกั น เงิ น งบประมาณไว เ บิ ก เหลื ่ อ มป จะสร า งเอกสารสำรองเงิน เพื ่ อ จองเงิ น งบประมาณ
ปปจจุบันที่ไมสามารถเบิกจายไดทันภายในวันสิ้นปงบประมาณ โดยตรวจสอบเงินงบประมาณคงเหลือจาก
รายงานแสดงยอดงบประมาณตามหนวยรับงบประมาณ (ZFMA55 แลวสรางเอกสารสำรองเงิน เพื่อขอกัน
เงินงบประมาณปปจจุบัน รวมถึงการกอหนี้ผูกพันที่เขาเงื่อนไขไมตองสราง ใบสั่งซื้อสั่งจาง (PO) ในระบบ
GFMIS และจำเปนตองขอขยายเวลาเบิกจายเงินในปงบประมาณถัดไป ตองดำเนินการใหเสร็จสิ้นภายในวันทำ
การสุดทายของเดือน ก.ย.
ข. กรณีหนวยไดขอกันเงินงบประมาณไวเบิกเหลื่อมป สามารถเบิกจายงบประมาณไดถึงวันทำการสุดทาย
ของเดือน มี.ค. หากไมสามารถเบิกจายใหแลวเสร็จ แตยังมีความจำเปนตองใชจายงบประมาณตอไป ใหขอ
ขยายเวลาการเบิกจายงบประมาณไดถึงวันทำการสุดทายของเดือน ก.ย.
ค. กรณีหนวยไดขอกันเงินงบประมาณไวเบิกเหลื่อมป ตอมาไดยกเลิกสัญญาแตไมสามารถกอหนี้ผูกพัน
และทำสัญญาใหมไดทันภายในวันทำการสุดทายของเดือน มี.ค. จะถือวา ณ วันสิ้นเดือน มี.ค. รายการ
นั้นไมมีหนี้ผูกพัน ซึ่งสงผลใหเงินงบประมาณพับไป หรือกรณีหนวยยกเลิกสัญญาและสามารถกอหนี้ผูกพันได
ทันภายในวันทำการสุดทายของเดือน มี.ค. หนวยจะตองเรงรัดการเบิกจายเงินใหเสร็จสิ้นภายในวันทำการ
สุดทายของเดือน ก.ย.
ง. กอนสิ้นปงบประมาณ หากหนวยไมสามารถเบิกจายเงินงบประมาณไดแลวเสร็จภายในระยะเวลา
ที่กำหนด แตมีความจำเปนตองใชจายงบประมาณ และไมไดกอหนี้ผูกพันไว หนวยสามารถขอกันเงินได
26
6. ข้อใดต่อไปนี้ถูก
ก. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หมายความว่า หนังสือราชการที่จัดทำและได้รับ ส่ง หรือเก็บรักษาด้วยระบบสาร
บรรณอิเล็กทรอนิกส์
ข. ระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ หมายความว่า การรับส่งและเก็บรักษาข้อมูลข่าวสารหรือหนังสือผ่านระบบสื่อสาร
ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
ค. ทะเบียนหนังสือรับ ทะเบียนหนังสือส่ง บัญชีหนังสือส่งเก็บทะเบียนหนังสือเก็บ บัญชี ส่งมอบหนังสือครบ
20 ปี
บัญชีหนังสือครบ 20 ปีที่ขอเก็บเองบัญชีฝากหนังสือ และบัญชีหนังสือขอทำลาย ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบ ง.) (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2564 ข้อ 2 ,ข้อ 3 และข้อ 4)
11. หนั งสืออิเล็ กทรอนิกส์ ที่เก็บ รักษาไว้ในการสำรองข้อมูล และที่ส่ งให้ สำนักหอจดหมายเหตุแห่ งชาติ กรม
ศิลปากร ให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน โดยให้มีความละเอียดไม่น้อยกว่าเท่าไร
ก. 130 dpi
ข. 140 dpi
ค. 145 dpi
ง. 150 dpi
(ตอบ ง.) (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2564 ข้อ 89/4 การเก็บ
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ นอกจากการเก็บไว้ในระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์อันเป็นผลจากที่ได้มีการรับหรือการส่ง
หนังสือนั้น ให้มีการสำรองข้อมูล ( backup) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไว้อีกแห่งเป็นอย่างน้อยด้วย ทั้งนี้ ตาม
หลักเกณฑ์และวิธีการที่หัวหน้าส่วนราชการกำหนด
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่เก็บรักษาไว้ในการสำรองข้อมูลตามวรรคหนึ่ง และที่ส่งให้สำนักหอจดหมายเหตุ
แห่งชาติ กรมศิลปากร ตามข้อ 58 ให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน เช่น PDF ความละเอียดไม่น้อยกว่า 150 dpi และ
ให้นำหลักเกณฑ์การตั้งชื่อไฟล์ที่กำหนดไว้ในภาคผนวก 7มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม)
14. กรณี จ ำเป็ น ต้องเพิ่ มพื้ น ที่ จัด เก็บ ในระบบสารบรรณอิเล็ กทรอนิกส์ ของส่ ว นราชการ เอกสารในข้อใดไม่
สามารถทำลายด้วยวิธีการลบออกจากระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ได้
ก. เอกสารจดหมายเหตุ ตามกฎหมายว่าด้วยจดหมายเหตุแห่งชาติ
ข. เอกสารที่มีระยะเวลาเก็บไว้เป็นเวลานานที่สุดย้อนขึ้นมา
ค. เอกสารที่มีอายุการเก็บเกินกว่า 10 ปี
ง. เอกสารที่สำรองข้อมูลไว้มีอายุเกินกว่า 20 ปี
(ตอบ ก.) (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2564 ข้อ 89/5 หนังสือ
อิเล็กทรอนิกส์ไม่มีอายุการเก็บหนังสือ โดยปกติให้เก็บไว้ตลอดไป เว้นแต่กรณีมีความจำเป็นต้องเพิ่มพื้นที่จัดเก็บ
ในระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ของส่วนราชการ หรือมีเหตุผลความจำเป็นอื่นใด หัวหน้าส่วนราชการจะมีคำสั่ง
ให้ทำลายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่มิใช่เอกสารจดหมายเหตุตามกฎหมายว่าด้วยจดหมายเหตุแห่งชาติ ที่เก็บมา
เป็นเวลาเกินกว่า 10 ปีแล้วก็ได้ โดยในการทำลายให้ใช้วิธีลบออกจากระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ และให้ลบ
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่เก็บไว้เป็นเวลานานที่สุดย้อนขึ้นมา
ให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับแก่หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่เก็บรักษาไว้ในการสำรองข้อมูลของส่วน
ราชการตามข้อ 89/4 ด้วยโดยอนุโลม โดยหัวหน้าส่วนราชการจะมีคำสั่งให้ทำลายได้เฉพาะหนังสือที่เก็บมาเป็น
เวลาเกินกว่า 20 ปี ซึ่งได้มีการส่งให้สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติกรมศิลปากร ตามข้อ 58 แล้ว)
15. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. การเก็ บ หนั งสื อ อิ เล็ ก ทรอนิ ก ส์ อั น เกิ ด จากการรั บ การส่ งหนั งสื อ นั้ น ให้ มี ก ารสำรองข้ อ มู ล หนั ง สื อ
อิเล็กทรอนิกส์ไว้อีกแห่งเป็นอย่างน้อย
ข. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไม่มีอายุการเก็บหนังสือ โดยปกติให้เก็บไว้ไม่น้อยกว่า 20 ปี
ค. หัวหน้าส่วนราชการจะมีคำสั่งให้ทำลายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่มิใช่เอกสารจดหมายเหตุตามกฎหมายว่า
ด้วยจดหมายเหตุแห่งชาติ ที่เก็บมาเป็นเวลาเกินกว่า 5 ปีแล้วก็ได
ง. หัวหน้าส่วนราชการจะมีคำสั่งให้ทำลายได้เฉพาะหนังสือที่เก็บมาเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี ซึ่งได้มีการส่งให้
สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติกรมศิลปากร
(ตอบ ก.) (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2564 ข้อ 89/4 การเก็บ
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ นอกจากการเก็บไว้ในระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์อันเป็นผลจากที่ได้มีการรับหรือการส่ง
6
หนั งสื อ นั้ น ให้ มี ก ารสำรองข้ อ มู ล ( backup) หนั งสื อ อิ เล็ ก ทรอนิ ก ส์ ไ ว้ อี ก แห่ ง เป็ น อย่ า งน้ อ ยด้ ว ย ทั้ งนี้
ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่หัวหน้าส่วนราชการกำหนด
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่เก็บรักษาไว้ในการสำรองข้อมูลตามวรรคหนึ่ง และที่ส่งให้สำนักหอจดหมายเหตุ
แห่งชาติ กรมศิลปากร ตามข้อ 58 ให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน เช่น PDF ความละเอียดไม่น้อยกว่า 150 dpi และ
ให้นำหลักเกณฑ์การตั้งชื่อไฟล์ที่กำหนดไว้ในภาคผนวก 7มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม)
18. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถูกต้อง
ก. การรับ การส่ง และการเก็บรักษาหนังสือด้วยระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และ
วิธีการขั้นต่ำ
ข. ให้หัวหน้าส่วนราชการมอบหมายเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานสารบรรณกลางคนหนึ่งหรือหลายคนเพื่อทำ
หน้าที่รับส่งหนังสือด้วยระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์
ค. ให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายหรือแต่งตั้ง ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารและหนังสือที่ได้รับในระบบสารบรรณ
อิเล็กทรอนิกส์ของส่วนราชการเป็นประจำตามที่หัวหน้าส่วนราชการกำหนด
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบ ง.) (ระเบี ย บสำนั ก นายกรั ฐ มนตรี ว่ าด้ ว ยงานสารบรรณ (ฉบั บ ที่ 4) พ.ศ.2564 ภาคผนวก 6
หลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติในการรับส่งและเก็บรักษาข้อมูลข่าวสารและหนังสือราชการด้วยระบบสารบรรณ
อิเล็กทรอนิกส์
ข้อ 4. การรั บ การส่ ง และการเก็ บ รักษาหนั งสื อ ด้ ว ยระบบสารบรรณอิ เล็ ก ทรอนิ ก ส์ ให้ เป็ น ไปตาม
หลักเกณฑ์และวิธีการขั้นต่ำ ดังต่อไปนี้
4.1 หลักเกณฑ์และวิธีการทั่วไป
4.1.1 ให้หัวหน้าส่วนราชการมอบหมายเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานสารบรรณกลางคนหนึ่งหรือ
หลายคนเพื่อทำหน้าที่รับส่งหนังสื อด้วยระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งให้
เข้าถึงเอกสารชั้นความลับเพื่อทำหน้าที่รับส่งหนังสือที่มีชั้นความลับเฉพาะในชั้นลับหรือลับมากด้วยระบบสาร
บรรณอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ
4.1.2 ให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายหรือแต่งตั้งตาม 4.1.1 ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารและ
หนังสือที่ได้รับในระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ของส่วนราชการเป็นประจำตามที่หัวหน้าส่วนราชการกำหนด
ทั้งนี้ ต้องไม่น้อยกว่าวันละสองครั้งในเวลาราชการ อย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วงเช้าและอย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วงบ่าย
4.1.3 ให้ผู้ใช้ระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์จัดเก็บข้อมูลข่าวสารหรือหนังสือที่หน่วยงานได้รับ
ไว้ในสื่อกลางบันทึกข้อมูลตามที่ระเบียบกำหนด และลบข้อมูลข่าวสารหรือหนังสือที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานแล้ว โดย
ดำเนินการเป็นประจำตามระยะเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ ตามที่หัวหน้าส่วนราชการกำหนด)
8
19. “OPM” คือ รหัสตัวอักษรโรมันประจำส่วนราชการใด
ก. กระทรวงการคลัง
ข. กระทรวงพาณิชย์
ค. สำนักนายกรัฐมนตรี
ง. กระทรวงคมนาคม
(ตอบ ค.) (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2564 รหัสตัวอักษรโรมัน
ประจำส่วนราชการแนบท้ายภาคผนวก 7หลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติในการรับส่งและเก็บรักษาข้อมูลข่าวสาร
และหนังสือราชการโดยไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
1. รหัสตัวอักษรโรมันประจำกระทรวง ทบวง และส่วนราชการที่ไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีกระทรวง
หรือทบวง ให้กำหนดไว้ ดังนี้ สำนักนายกรัฐมนตรี OPM
24. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและการปฏิบัติงานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ของเจ้าหน้าที่
ของรัฐ ให้หน่วยงานใดรวบรวมที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์กลางของหน่วยงานของรัฐทั้งหมด
ก. สำนักนายกรัฐมนตรี
ข. ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
10
ค. สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ง. สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
(ตอบ ง.) (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2564 หมวด 5 ระบบสาร
บรรณอิเล็กทรอนิกส์
ข้อ 89/1วรรคสาม เพื่ อเป็ น การอำนวยความสะดวกให้ แก่ป ระชาชนและการปฏิบั ติงานสารบรรณ
อิเล็กทรอนิกส์ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) รวบรวมที่อยู่ไปรษณีย์
อิเล็กทรอนิกส์กลางของหน่วยงานของรัฐทั้งหมดเพื่อเผยแพร่ในที่เดียวกับที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์กลางของ
ส่วนราชการตามวรรคสามด้วย)
25. ข้อใดที่ไม่มีอยู่ในแบบของหนังสือภายใน
ก. ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง
ข. อ้างถึง
ค. สิ่งที่ส่งมาด้วย
ง. หมายเหตุ
(ตอบ ง.) (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.2526 และแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 12)
26. ขนาดของครุฑในกระดาษบันทึกข้อความมีขนาดเท่าไหร่
ก. ขนาดตัวครุฑสูง 5 ซม.
ข. ขนาดตัวครุฑสูง 3 ซม.
ค. ขนาดตัวครุฑสูง 1.5 ซม.
ง. ขนาดตัวครุฑสูง 1 ซม.
(ตอบ ค.) (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.2526 และแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ )
28. ตรารับหนังสือให้ประทับไว้ที่ส่วนใดของหนังสือ
ก. มุมบนด้านซ้ายของหนังสือ
ข. มุมบนด้านขวาของหนังสือ
ค. ส่วนที่มีที่ว่างของหนังสือ
ง. ส่วนใดก็ได้ตามแต่เหมาะสม
(ตอบ ข.) (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.2526 และแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 37 )
11
29. กรณีที่หนังสือรับไม่มีชื่อเรื่อง เมื่อจะลงทะเบียนรับหนังสือไว้เป็นหลักฐานจะต้องปฏิบัติอย่างไร
ก. ไม่ต้องลงชื่อเรื่องในทะเบียนหนังสือรับ
ข. ตั้งชื่อเรื่องให้ตามเค้าโครงหนังสือรับ
ค. บันทึกไว้ในช่องหมายเหตุ
ง. ลงสรุปเรื่องย่อไว้
(ตอบ ง. ) (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.2526 และแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 38 )
31. บุคคลภายนอกจะยืมหนังสือราชการได้หรือไม่
ก. ย่อมจะยืมได้
ข. ยืมมิได้
ค. ต้องได้รับอนุญาตจากหัวหน้าส่วนราชการ
ง. อธิบดีอนุญาตเพียงคนเดียว
(ตอบ ข.) (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.2526 และแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 65 )
33. การทำลายเอกสารตามระเบียบงานสารบรรณให้ใช้วิธีใด
ก. เผา
ข. ฉีกให้ละเอียด
ค. เครื่องทำลายกระดาษ
ง. วิธีใดก็ได้ที่จะไม่ให้หนังสือนั้นอ่านเป็นเรื่องได้
(ตอบ ง.) (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.2526 และแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 68.5 )
38. ผู้มีอำนาจตีความและวินิจฉัยปัญหาในทางปฏิบัติเกี่ยวกับงานสารบรรณคือใคร
ก.คณะรัฐมนตรี
ข.สำนักนายกรัฐมนตรี
ค.สภานิติบัญญัติ
ง. ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
(ตอบ ง.) (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.2526 และแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 8)
39. ถ้าต้องการให้รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานใดที่เป็นส่วนราชการใช้รหัสตัวพยัญชนะชองส่วนราชการที่สังกัด
ตัวเลข 2 ตัวแรกที่จะใช้ให้เริ่มจากเลขอะไร
ก. 00
ข. 01
ค. 50
13
ง. 51
(ตอบ ง. ) (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.2526 และแก้ไขเพิ่มเติม ภาคผนวก 1 )
43. ตราครุฑาที่ใช้ในราชการมีกี่ขนาด
ก. 1 ขนาด
ข. 2 ขนาด
ค. 3 ขนาด
ง. 4 ขนาด
(ตอบข. ) (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.2526 และแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 71 )
52. ข้อใดไม่ใช่ความหมายของหน่วยงานของรัฐ
ก. ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น
ข. ศาลในส่วนที่เกี่ยวกับการพิจารณาพิพากษาคดี
ค. รัฐวิสาหกิจ ส่วนราชการสังกัดรัฐสภา
ง. องค์กรควบคุมการประกอบวิชาชีพ หน่วยงานอิสระของรัฐ
(ตอบข. ) (พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 4 )
54. หน่วยงานของรัฐต้องส่งข้อมูลข่าวสารใดไปลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา
ก.โครงสร้างและการจัดองค์กรในการดำเนินงาน
ข. มติคณะรัฐมนตรี ข้อบังคับ คำสั่ง หนังสือเวียน
ค. สรุปอำนาจหน้าที่ที่สำคัญและวิธีดำเนินงาน
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบ ง.) (พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 7 )
16
55.บุคคลใดมีสิทธิเข้าตรวจดู ขอสำเนาหรือขอสำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องของข้อมูลข่าวสารได้
ก. บุคคลที่มีส่วนได้เสียเกี่ยวข้อง
ข. บุคคลที่ไม่มีส่วนได้เสีย
ค. คนต่างด้าว
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบ ง.) (พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 9 )
56. เมื่อมีการร้องเรียนเกี่ยวกับหน่วยงานของรัฐไม่จัดหาข้อมูลข่าวสารจะต้องร้องเรียนต่อใคร
ก. ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ข. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ง. ประธานรัฐสภา
(ตอบ ข.) (พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 13)
72. วันข้าราชการพลเรือนตรงกับวันที่เท่าใดของทุกปี
ก. 1 มกราคม ของทุกปี
ข. 1 กุมภาพันธุ์ ของทุกปี
ค. 1 มีนาคม ของทุกปี
ง. 1 เมษายน ของทุกปี
(ตอบ ง.) (เป็นวันที่ตรงกับวันประกาศใช้พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับแรก คือ วันที่ 1
เมษายน ๒๔๗๒)
82. การคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่นแบ่งออกเป็นทั้งหมดด้วยกันกี่กลุ่ม
ก. 3 กลุ่ม
ข. 4 กลุ่ม
ค. 5 กลุ่ม
ง. 6 กลุ่ม
(ตอบ ข.) (อ้างอิงคู่มือการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2564)
85. แบบประเมินสำหรับการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่นใช้หลักการใด
ก.ประกอบด้วย 5 หัวข้อ ได้แก่ การครองตน การครองคน การครองงาน การปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม
และผลงานดีเด่น
23
ข.ประกอบด้วย 4 หั วข้อ ได้แก่ การครองตน การครองคน การครองงาน และการปฏิบัติตามมาตรฐาน
จริยธรรม
ค.ส่วนราชการสามารถกำหนดวิธีวัดและประเมินให้สอดคล้องกับวิธีปฏิบัติของแต่ละส่วนราชการเฉพาะตาม
ลักษณะงานได้และอาจเพิ่มตัวชี้วัดและเกณฑ์พิจารณาภายในส่วนราชการ
ง. ถูกทั้งข้อ ก.และ ค.
(ตอบ ง.) (อ้างอิงคู่มือการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2564)
87. หน่วยงานใดเป็นหน่วยงานรับผิดชอบเรื่องการคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติ
ก. สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ข. สมาคมแม่บ้านตำรวจแห่งชาติ
ค. สำนักงานเลขานุการตำรวจแห่งชาติ
ง. สำนักงานเลขาธิการ ก.พ.
(ตอบ ก.) (อ้างอิงหลักเกณฑ์การคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติ ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ของสมาคมสภาสังคม
สงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
89. ข้อใดเป็นคุณสมบัติของแม่ดีเด่นแห่งชาติ
ก. มีสัญชาติไทย
ข. มีอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี ยกเว้นแม่ของผู้เสียสละ
ค. เป็นผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่นและสังคม
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบ ง. ) (ตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติ ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ สมาคมสภาสังคม
สงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์)
24
90. ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดให้มีการคัดเลือกแม่ดีเด่นในประเภทใด
ก. แม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม
ข. แม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร
ค. แม่ของลูกผู้ทำประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ
ง. แม่ของผู้เสียสละ
(ตอบ ง.) (ตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติ ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์
แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์)
96. ข้อใดเป็นรัฐพิธีประจำปี
ก. วันที่ระลึกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ข. วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า
ค. วันพระราชทานรัฐธรรมนูญ
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบ ง. ) (กองกลาง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย. ปฏิทินงานพระราชพิธีและรัฐพิธีประจำปีที่สำคัญ
ของจังหวัด (ยกเว้นงานราชพิธีและรัฐพิธีทางศาสนา). เข้าถึงได้จาก http://www.gad.moi.go.th/Piti-20-
02-63.html)
101. ข้อใดคือเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่พ้นสมัยพระราชทานแล้ว
ก. ราชมิตราภรณ์
ข. นพรัตนราชวราภรณ์
ค. ดิเรกคุณาภรณ์
ง. วัลลภาภรณ์
(ตอบ ง.) (สถาปนาขึ้นในรัชกาลที่ 6 ปัจจุบันพ้นสมัยพระราชทานแล้ว อ้างอิง : มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์
ร.6. (2561) วัลลาภรณ์. เข้าถึงได้จาก
https://m.facebook.com/rama6memorial/posts/1998848093708454/)
ข้อสอบในสายงานอำนวยการ (งานวินัย)
1. ข้อใดคือการกระทำความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง
ก. ละทิ้งหน้าที่ราชการในคราวเดียวกันเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันควร
ข. ทำอาวุธปืนของทางราชการสูญหายและยินยอมชดใช้
ค. เหยียดหยาม ข่มเหง หรือทำร้ายประชาชนผู้มาติดต่อราชการหรือในระหว่างปฏิบัติหน้าที่
ง. นำอาวุธปืนของทางราชการไปจำนำ
(ตอบข้อ ข.) (มาตรฐานการลงโทษวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ข้อ 6.1.1)
2. ข้อใดคือการกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ก. ปล่อยปละละเลยให้คู่สมรสเล่นการพนันทีบ่ ้านพักของตัวเอง
ข. เสพสุรามึนเมา ไม่สามารถครองสติได้
ค. ทำสำนวนการสอบสวนล่าช้า
ง. เป็นชู้หรือมีชู้กับสามีหรือภรรยาของผู้อื่น
(ตอบข้อ ง.) (แนวทางการลงโทษวินัยอย่างร้ายแรง ข้อ 10.1)
3. ข้อใดคือการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ก. ไม่รักษาระเบียบการเคารพระหว่างผู้ใหญ่ ผู้น้อย
ข. กระทำความผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุก
ค. ไม่รักษาความลับของทางราชการ
ง. กระทำการอันเป็นเหตุให้แตกความสามัคคีระหว่างข้าราชการตำรวจ
(ตอบข้อ ข.) (พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 79)
4. โทษทางวินัยมีกี่สถาน
ก. 5 สถาน
ข. 6 สถาน
ค. 7 สถาน
ง. 8 สถาน
(ตอบข้อ ค.) (พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 82)
5. ข้อใดไม่ใช่โทษทางวินัย
ก. ว่ากล่าวตักเตือน
ข. ภาคทัณฑ์
ค. ให้ออกจากราชการ
ง. ถูกทั้ง ก และ ค
(ตอบข้อ ง.) (พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 82)
6. การลงโทษทัณฑกรรม หมายถึงอะไร
ก. การลงโทษแก่ผู้กระทำผิดอันควรต้องรับโทษสถานหนึ่งสถานใดแต่มีเหตุอันควรปรานี
ข. การให้ทำงานโยธา อยู่เวรยาม นอกจากหน้าที่ประจำหรือการให้ทำงานสาธารณประโยชน์
ค. การกักตัวในบริเวณใดบริเวณหนึ่งที่สมควรตามที่กำหนด
ง. ขังในที่จัดไว้เพื่อควบคุมแต่เฉพาะคนเดียวหรือหลายคนรวมกันตามที่จะได้มีคำสั่ง
(ตอบข้อ ข.) (พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 82)
10. ข้อใดเป็นเหตุจำเป็นที่ผู้บังคับบัญชามีอำนาจกักตัวข้าราชการตำรวจซึ่งถูกกล่าวหาไว้เพื่อประโยชน์
ในการสอบสวน
ก. ผู้ถูกกล่าวหาจะหลบหนี
ข. ผู้ถูกกล่าวหาจะไปทำร้ายผู้เสียหาย
ค. ผู้ถูกกล่าวหาจะไปข่มขู่พยาน
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง.) (พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 88)
11. ข้อใดถือเป็นกรณีที่ข้าราชการตำรวจถูกสั่งให้ออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญเหตุทดแทน
ก. ข้าราชการตำรวจเจ็บป่วยไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ราชการของตนได้โดยสม่ำเสมอ
ข. ข้าราชการตำรวจย้ายจากสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ค. ข้าราชการตำรวจไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ง. ข้าราชการตำรวจไม่สมัครใจไปปฏิบัติงานตามความประสงค์ของทางราชการ
(ตอบข้อ ก.) (พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 100)
1๒. ผู้บังคับบัญชามีอำนาจกักตัวข้าราชการตำรวจซึ่งถูกกล่าวหาไว้เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนได้เป็น
ระยะเวลาเท่าใด
ก. ไม่เกินอำนาจลงโทษกักขังของผู้สั่งกักตัวและต้องไม่เกิน ๕ วัน
ข. ไม่เกินอำนาจลงโทษกักขังของผู้สั่งกักตัวและต้องไม่เกิน ๗ วัน
ค. ไม่เกินอำนาจลงโทษกักขังของผู้สั่งกักตัวและต้องไม่เกิน ๑๕ วัน
ง. ผิดทุกข้อ
(ตอบข้อ ค.) (พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 88)
1๓. หากผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจพิจารณาแล้วเห็นว่าข้าราชการตำรวจผู้ใดกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง
แต่มีเหตุอันควรลดหย่อน ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจจะสามารถลงโทษสถานใดได้
ก. ปลดออก
ข. ตัดเงินเดือน
ค. กักขัง
ง. กักยาม
(ตอบข้อ ก.) (พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 90)
1๔. ข้อใดเป็นอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องที่สอบสวน
ก. เรียกให้บริษัทมาให้ถ้อยคำหรือชี้แจงข้อเท็จจริง
ข. เรียกให้หน่วยราชการส่งเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
ค. เรียกให้ห้างหุ้นส่วนส่งผู้แทนหรือบุคคลในสังกัดมาชี้แจงหรือให้ถ้อยคำ
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง.) (พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 93)
1๕. ความผิดวินัยฐานใดผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจสามารถลงโทษวินัยไม่ร้ายแรงได้
ก. ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองได้รับประโยชน์ที่มิควรได้
ข. ใช้กิริยาวาจาหรือประพฤติตนในลักษณะที่ไม่สมควร
ค. เหยียดหยามประชาชนผู้ติดต่อราชการ
ง. ประพฤติตนในลักษณะที่ไม่สมควรเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง
(ตอบข้อ ข.) (พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 78)
๑๖. ผู้บังคับบัญชาสามารถใช้อาวุธหรือกำลังบังคับผู้ใต้บังคับบัญชาในกรณีใดได้
ก. เพื่อประโยชน์ในการรักษาวินัยและปราบปรามข้าราชการตำรวจผู้ก่อการกำเริบ
ข. เพื่อบังคับข้าราชการตำรวจผู้ละทิ้งหน้าที่ให้กลับทำหน้าที่ของตน
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และขัอ ข.
ง. ผิดทุกข้อ
(ตอบข้อ ค.) (พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 81)
๑๗. ข้อใดคือความหมายของการสืบสวนข้อเท็จจริง
ก. การแสวงหาข้อเท็จจริง
ข. การแสวงหาพยานหลักฐาน
ค. การรวบรวมพยานหลักฐาน
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 4)
๑๘. ข้อใดต่อไปนี้มีกรณีที่ควรทำการสืบสวนข้อเท็จจริง
ก. ผู้ใต้บังคับบัญชามีเหตุควรสงสัยว่ากระทำผิดวินัย
ข. มีส่วนราชการอื่นหรือหน่วยงานอื่นแจ้งมา
ค. ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสารมวลชน
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 5)
๑๙. ผู้สั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนและคณะกรรมการสืบสวนต้องไม่เป็นบุคคลตามข้อใด
ก. มีส่วนร่วมกระทำและ รู้เห็นเหตุการณ์ในเรื่องที่สืบสวน
ข. มีส่วนได้เสียในเรื่องที่สืบสวน
ค. มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกสืบสวน
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 9)
2๐.บุคคลใดต่อไปนี้ไม่อาจแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการสืบสวนได้
ก. เป็นบุพการีกับผู้ร้องเรียนกล่าวหา
ข. เป็นคู่สมรสกับผู้ร้องเรียนกล่าวหา
ค. เป็นผู้สืบสันดานกับผู้ร้องเรียนกล่าวหา
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 9)
2๑. ประธานกรรมการหรือผู้สืบสวนข้อเท็จจริงต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
ก. เป็นชั้นสัญญาบัตร
ข. มียศไม่ต่ำกว่าผู้ถูกกล่าวหา
ค. มีตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้ถูกกล่าวหา
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 10)
2๒. ในการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงสามารถแต่งตั้งเลขานุการได้กี่คน
ก. ๑ คน
ข. ๒ คน
ค. ๓ คน
ง. แล้วแต่ประธานกรรมการกำหนด
(ตอบข้อ ก) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 10)
2๓. ในการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงสามารถแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการได้กี่คน
ก. ๑ คน
ข. ๒ คน
ค. แล้วแต่ผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนกำหนด
ง. แล้วแต่ประธานกรรมการกำหนด
(ตอบข้อ ค) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 10)
๒๘. ข้อใดต่อไปนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวน
ก. รวบรวมประวัติของผู้ถูกกล่าวหา
ข. จัดทำบันทึกการปฏิบัติงานทุกครั้งที่มีการสืบสวน
ค. ห้ามมิให้บุคคลอื่นเข้าร่วมทำการสืบสวน
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 14)
3๐. ระยะเวลาในการสืบสวนข้อเท็จจริงเริ่มนับตั้งแต่เมื่อใด
ก. นับแต่ประธานกรรมการรับทราบคำสั่ง
ข. นับแต่กรรมการรับทราบคำสั่ง
ค. นับแต่ผู้ถูกกล่าวหารับทราบคำสั่ง
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ก) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 17)
3๑. การสืบสวนต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน
ก. ไม่เกิน ๑๕ วัน
ข. ไม่เกิน ๓๐ วัน
ค. ไม่เกิน ๔๕ วัน
ง. ถ้าไม่มีการขยายเวลาให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วัน
(ตอบข้อ ง) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 17)
๓5. การสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาและพยานของคณะกรรมการสืบสวนต้องมีกรรมการไม่น้อยกว่ากี่คน
ก. 1 คน
ข. 2 คน
ค. 3 คน
ง. 4 คน
(ตอบข้อ ข.) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 23)
3๘. ข้อใดต่อไปนี้เป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา
ก. คัดค้านผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ
ข. คัดค้านกรรมการ
ค. นำทนายความหรือที่ปรึกษาเข้าร่วมฟังการสืบสวนได้ แต่ให้ถ้อยคำแทนไม่ได้
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 33-35)
3๙. ข้อใดเป็นหน้าที่ของผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวน
ก. ตรวจสอบความถูกต้องของสำนวนการสืบสวน
ข. สั่งให้คณะกรรมการสืบสวนเพิ่มเติม
ค. ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีหากมีมูลความผิดอาญา
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 36)
4๐. ข้อใดเป็นอำนาจของผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวน
ก. สั่งยุติเรื่องถ้าเห็นว่าผลการสืบสวนไม่มีมูล
ข. สั่งลงโทษภายในอำนาจ
ค. เสนอความเห็นต่อผู้บังคับบัญชากรณีมีมูลกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 36)
๔๑. เมื ่ อ ข้ า ราชการตำรวจถู ก กล่ า วหาว่ า กระทำผิ ด วิ น ั ย อย่ า งร้ า ยแรง ให้ ผ ู ้ บ ั ง คั บ บั ญ ชาผู ้ ม ี อ ำนาจ
ดำเนินการอย่างไร
ก. สืบสวนข้อเท็จจริง
ข. ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ค. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ค.) (พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 86)
4๒. ข้อใดเป็นลักษณะต้องห้ามของการเป็นคณะกรรมการสอบสวน
ก. รู้เห็นเหตุการณ์ในเรื่องที่สอบสวน
ข. มีส่วนได้เสียในเรื่องที่สอบสวน
ค. มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกกล่าวหา
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง.) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ.2547 ข้อ 3)
4๖. เมื่อประธานกรรมการสอบสวนได้รับสำเนาคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนและเอกสารหลักฐานที่
เกี่ยวกับเรื่องที่กล่าวหาแล้ว ต้องดำเนินการประชุมคณะกรรมการสอบสวนเพื่อพิจารณาวางแนวทางการ
สอบสวน รวมทั้งแจ้งและอธิบายข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบภายในกี่วัน
ก. ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ประธานกรรมการสอบสวนได้รับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
ข. ภายใน 20 วันนับแต่วันที่ประธานกรรมการสอบสวนได้รับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
ค. ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ประธานกรรมการสอบสวนได้รับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
ง. ภายใน 45 วันนับแต่วันที่ประธานกรรมการสอบสวนได้รับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
(ตอบข้อ ก.) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ.2547 ข้อ 15(1))
5๒. เมื่อคณะกรรมการสอบสวนได้เสนอสำนวนการสอบสวนให้ผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ ว
ผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนต้องพิจารณาสั่งการให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน
ก. ไม่เกิน 60 วันนับแต่วันที่ผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนได้รับสำนวน
ข. ไม่เกิน 180 วันนับแต่วันที่ผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนได้รับสำนวน
ค. ไม่เกิน 240 วันนับแต่วันที่ผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนได้รับสำนวน
ง. ผิดทุกข้อ
(ตอบข้อ ค.) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ.2547 ข้อ 36)
5๓. ในการสอบสวน ผู้ถูกกล่าวหาสามารถนำบุคคลใดเข้าร่วมฟังการสอบสวนได้
ก. ทนายความ
ข. ที่ปรึกษา
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
ง. ผิดทุกข้อ
(ตอบข้อ ค.) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ.2547 ข้อ 38 วรรคท้าย)
5๔. คณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการพิจารณาสั่งลงโทษมีระดับใดบ้าง
ก. ระดับ ตร.
ข. ระดับ บช.
ค. ระดับ บก.
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง.) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการพิจารณาสั่งลงโทษ พ.ศ.2547 ข้อ 3)
5๖. ข้อใดไม่ใช่ความผิดที่ปรากฏชัดแจ้ง
ก. กระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงต่อหน้าผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจลงโทษ
ข. ละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่าสิบห้าวันและผู้บังคับบัญชาได้ดำเนินการสืบสวนแล้ว
เห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรหรือมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
ง. ผิดทุกข้อ
(ตอบข้อ ง.) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยกรณีที่เป็นความผิดปรากฏชัดแจ้ง พ.ศ.2547 ข้อ 2)
5๗. ข้อใดเป็นวิธีการของผู้บังคับบัญชาเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาให้ข้าราชการตำรวจมีวินัย
ก. สร้างขวัญและกำลังใจอย่างพอเพียงและเหมาะสม
ข. ปกครองและดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเที่ยงธรรมและเสมอหน้ากั น โดยมุ่งเน้นส่งเสริมคนดีและ
งดเว้นการช่วยเหลือผู้ประพฤติผิดวินัย
ค. จูงใจหรือกระทำการอื่นใดในอันที่จะเสริมสร้างและพัฒนาทัศนคติ จิตสำนึก และพฤติกรรมให้เป็นผู้มีวินัย
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง.) (ระเบียบ ตร.ว่าด้วยวิธีเสริมสร้างและพัฒนาให้ข้าราชการตำรวจมีวินัยฯ พ.ศ.2549 ข้อ 4)
5๘. ข้อใดเป็นวิธีการของผู้บังคับบัญชาเพื่อป้องกันมิให้ข้าราชการตำรวจกระทำผิดวินัย
ก. เอาใจใส่ สังเกตการณ์ รายงานเหตุ และขจัดเหตุที่อาจก่อให้เกิดการกระทำผิดวินัยในเรื่องที่อยู่ในวิ สัยที่
จะดำเนินการป้องกันตามควรแก่กรณีได้
ข. กวดขัน ควบคุม กำกับดูแล การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชา ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ
ของทางราชการอย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพและเป็นผลดีต่อทางราชการ
ค. ดำเนินการทางวินัยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และด้วยความรวดเร็ว เป็นธรรม
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง.) (ระเบียบ ตร.ว่าด้วยวิธีเสริมสร้างและพัฒนาให้ข้าราชการตำรวจมีวินัยฯ พ.ศ.2549 ข้อ 5)
6๔. พฤติการณ์ข้อใดเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ก. เสพสุรามึนเมาจนไม่สามารถครองสติได้ จนเกิดเรื่องเสื่อมเสียหรือเสียหาย
ข. ทำอาวุธปืนของทางราชการหายและไม่ยอมชดใช้ราคา
ค. ขับขี่รถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึงแก่ความตาย
ง. มีอาวุธปืนผิดกฎหมายไว้ในความครอบครอง
(ตอบข้อ ง.) (แนวทางการลงโทษวินัยอย่างร้ายแรง ข้อ 8.1)
6๖. ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง
ก. การลงโทษกักยาม ให้นำตัวผู้ถูกลงโทษไปกักไว้ในบริเวณใดบริเวณหนึ่งตามที่เห็นสมควร
ข. การลงโทษกักขัง ให้นำตัวผู้ถูกลงโทษไปรับโทษที่หน่วยงานอื่นที่ผู้ถูกลงโทษมิได้ประจำอยู่
ค. การลงโทษกักขัง ให้ลงโทษกักขังไว้ในสถานที่จัดไว้โดยเฉพาะ ห้ามมิให้กักขังรวมกับผู้ต้องหา โดยไม่มีข้อยกเว้น
ง. ถูกทั้ง ก. และ ข.
(ตอบข้อ ง.) (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยอำนาจการลงโทษฯ พ.ศ.2547 ข้อ 7 - 9)
6๙. ข้อใดเป็นโทษทางวินัยร้ายแรง
ก. ให้ออกจากราชการ
ข. กักขัง
ค. ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
ง. ปลดออก
(ตอบข้อ ง.) (พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 90)
7๐. ส.ต.ต.แทนใจ ได้ร ับ มอบอาวุธ ปืน ของทางราชการ เพื่อ ใช้ในการปฏิบัติห น้าที่ ต่อมาได้ล าพักร้อน
และเดินทางกลับบ้านพักที่ต่างจังหวัดเพื่อไปร่วมงานบวชน้องชายของตน โดยนำอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปด้วย
ในวันอุปสมบท ส.ต.ต.แทนใจ ได้ยิงปืนประจำกายดังกล่าวขึ้นฟ้า จำนวน ๕ นัด เพื่อเอาฤกษ์ก่อนนำนาค
ไปอุปสมบทที่วัด
ก. ส.ต.ต.แทนใจ ไม่มีความผิดวินัย เพราะไม่มีเจตนาจะยิงผู้ใด
ข. ส.ต.ต.แทนใจ ไม่มีความผิดวินัย เพราะได้รับอนุญาตให้ใช้เป็นอาวุธปืนประจำกาย
ค. ส.ต.ต.แทนใจ มีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง แต่ได้รับยกเว้นโทษเพราะมีเหตุจำเป็น
ง. ส.ต.ต.แทนใจ มีความผิดวินัยร้ายแรงเพราะเป็นการยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือชุมนุมชนโดยใช่เหตุ
(ตอบข้อ ง.) (แนวทางการลงโทษวินัยอย่างร้ายแรง ข้อ 8.2)
7๓. ข้อใดเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ก. เดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต
ข. พนักงานสอบสวนเกียจคร้านทำสำนวนคดีอาญาล่าช้า
ค. ได้รับสิทธิอาศัยในอาคารบ้านพักของทางราชการแล้วเอาไปให้ผู้อื่นเช่า
ง. ประมาทเลินเล่อทำให้ผู้ต้องหาหรือผู้ถูกควบคุมหลบหนี
(ตอบข้อ ค.) (แนวทางการลงโทษวินัยอย่างร้ายแรง ข้อ 13)
7๔. ข้อใดเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง
ก. ข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับหญิงอื่นหรือชายอื่น โดยที่ตนเองมีภรรยาหรือสามีอยู่แล้ว และเกิดเรื่อง
เสื่อมเสียหรือเสียหาย
ข. เขียนบัตรสนเท่ห์กล่าวหาผู้บังคับบัญชา หรือผู้บังคับบัญชาเขียนบัตรสนเท่ห์กล่าวหาผู้ใต้บังคับบัญชา
สอบสวนแล้วไม่เป็นความจริง
ค. เกี่ยวกับการเสพหรือติดยาเสพติด กรณีได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ผลการฟื้นฟู
สมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดเป็นที่พอใจของคณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด
ง. ยิงปืนด้วยความคึกคะนอง
(ตอบข้อ ก.) (มาตรฐานการลงโทษวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ข้อ 12.1)
7๖. ข้อใดเป็นสถานโทษทางวินัยที่ต่ำที่สุด
ก. ภาคทัณฑ์
ข. ตัดเงินเดือน
ค. ว่ากล่าวตักเตือน
ง. ทำทัณฑ์บน
(ตอบข้อ ก.) (พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 82)
8๐. ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้
(ทุจริตต่อหน้าที่ราชการ) ระดับโทษ คือ
ก. กักขัง ๓๐ วัน
ข. ปลดออกหรือไล่ออกตามความร้ายแรงแห่งกรณี
ค. ปลดออก
ง. ไล่ออก
(ตอบข้อ ง.) (แนวทางการลงโทษวินัยอย่างร้ายแรง ข้อ 1)
ส่วนที่ ๑ ความรู้ทั่วไปด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
ข้อที่ ๑ องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ มี ๔ ส่วน ข้อใดไม่ใช่
ก. HARDWARE
ข. SOFTWARE
ค. PEOPLEWARE
ง. BUDGETING
คำตอบ ง.
ข้อที่ ๒ การจับภาพหน้าจอบน Windows ๑๐ เพื่อเก็บเป็นไฟล์รูปทำได้ด้วยวิธีใด
ก. กดปุ่ม Windows + Print Screen พร้อมกัน
ข. กดปุ่ม Windows + Shift + S เพื่อใช้ Snip & Sketch ในการจับภาพหน้าจอ
ค. กดปุ่ม Print Screen แล้ววางในโปรแกรม Paint บันทึกเป็นไฟล์
ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ ง.
ข้อที่ ๓ ข้อใดไม่ใช่ระบบปฏิบัติการที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (Desktop)
ก. Windows
ข. Linux
ค. Ubuntu
ง. iOS
คำตอบ ง.
ข้อที่ ๔ ข้อใดต่อไปนี้เป็นอุปกรณ์ที่ป้อนข้อมูลเข้า (Input) ให้กับคอมพิวเตอร์
ก. เครื่องอ่านบัตรประชาชน (Card Reader)
ข. จอภาพ
ค. ลำโพง
ง. CPU
คำตอบ ก.
ข้อที่ ๕ ส่วนประกอบใดของคอมพิวเตอร์ที่ขาดหายหรือไม่มี เครื่องก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
ก. Mainboard
ข. CD Drive
ค. RAM
ง. Power Supply
คำตอบ ข.
กำหนดตัวเลือกต่อไปนี้ ตอบคำถามข้อต่อไป
a. USB Port
b. DVI Port
c. HDMI Port
d. Display Port
e. VGA Port
ข้อสอบ ความรูด้ ้านเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับงานฝ่ายอำนวยการ
คำตอบ ข.
ข้อที่ ๑๑ รูปของอุปกรณ์ด้านล่าง คืออุปกรณ์ตามข้อใด
e. MacOS Monterey
f. Linux
g. LINE
h. Amazon
i. Mp4
j. Jpeg
k. TIFF
l. GIF
ข้อที่ ๑๕ ข้อใดต่อไปนี้เป็นซอฟท์แวร์ระบบปฏิบัติการ
ก. a, b, d, f, g
ข. a, c, e, f
ค. b, d, g
ง. b, c, d, f
คำตอบ ข.
ข้อที่ ๑๖ ข้อใดต่อไปนี้เป็นซอฟท์แวร์ประยุกต์
ก. a, b, d, f, g
ข. a, c, e, f
ค. b, d, g
ง. b, c, d, f
คำตอบ ค.
ข้อที่ ๑๗ ข้อใดต่อไปนี้เป็นนามสกุลของไฟล์วีดีโอ
ก. i
ข. j
ค. k
ง. l
คำตอบ ก.
ข้อที่ ๑๘ Universal Serial Bus เป็น Port มาตรฐานที่มีหน้าที่หลายประเภท ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของ USB
ก. โอนถ่ายสัญญาณข้อมูลระหว่างอุปกรณ์
ข. โอนถ่ายพลังงานระหว่างอุปกรณ์
ค. ส่งข้อมูล Input ให้หน่วยประมวลผลกลางทำงาน
ง. ประมวลผลข้อมูลส่งให้อุปกรณ์ปลายทางแสดงผล
คำตอบ ง.
ข้อที่ ๑๙ ข้อใดต่อไปนี้คือการส่งข้อมูลผ่านระบบอินเตอร์เน็ต
ก. นายแดงฝากไฟล์ไว้บน Dropbox แล้วแชร์ลิงก์ให้กับเพื่อนร่วมงานใช้งานไฟล์
ข. นายเขียวส่งอีเมลให้เอกชนพร้อมแนบ resume เพื่อสมัครงาน
ค. นางสาวส้มส่ง USB Drive ให้นายดำ โดยแจ้งการส่งดังกล่าวผ่านไลน์
ข้อสอบ ความรูด้ ้านเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับงานฝ่ายอำนวยการ
ค. SHOPEE/ LAZADA
ง. SLACK/ LINE
คำตอบ ง.
ข้อที่ ๒๕ พฤติกรรมใดต่อไปนี้ เป็นการใช้เทคโนโลยีช่วยในการศึกษาหาความรู้
ก. วิริยะใช้คอมพิวเตอร์เปิด Photoshop เพื่อตัดต่อภาพ
ข. สมศักดิ์ใช้มือถือเรียกดูวิดีโอสอนการทำอาหาร
ค. จินตหราใช้แล็ปท็อปในการค้นหาสินค้าที่ต้องการซื้อ
ง. ไม่มีข้อถูก
คำตอบ ข.
ข้อที่ ๒๖ โดยทั่วไปแล้วเมนบอร์ดจะมีช่องเสียบอุปกรณ์ไมค์และลำโพงหรือหูฟังมากับตัวอยู่แล้ว โดยเป็นลักษณะ
ของช่องเสียบ ๓.๕ มม. มีสีระบุช่องที่เสียบเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกยี่ห้อที่ผลิตออกมา ถ้าหากต้องการเสียบ
ไมค์ ช่องสีใดคือช่องที่ถูกต้อง
ก. สีชมพู
ข. สีขาว
ค. สีฟ้า
ง. สีเขียว
คำตอบ ก.
ข้อที่ ๒๗. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network)
ก. Vimeo
ข. Telegram
ค. Canva
ง. Line
คำตอบ ค.
---------------------------------------------------------
ข้อสอบ ความรูด้ ้านเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับงานฝ่ายอำนวยการ
ก. อัยการ
ข. ทนายความ
ค. ประชาชนทั่วไป
ง. ข้าราชการตำรวจ
ตอบ ง.
ข้อที่ ๕๘ ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของระบบประจำวันอิเล็กทรอนิกส์
ก. การจัดเก็บประจำวันเป็นไปอย่างเป็นระบบ ง่ายต่อการสืบค้น
ข. การบริการประชาชนสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เอกสารสามารถอ่านได้ง่าย
ค. รองรับการแจ้งความได้ทั่วประเทศ และป้องกันการแจ้งซ้ำซ้อนได้
ง. การแจ้งประจำวันเป็นหลักฐาน ผู้แจ้งไม่จำเป็นต้องมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ตอบ ง.
ข้อที่ ๕๙. วิธีการในการกำหนดให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งานระบบสารสนเทศ คือการใช้ 2 factor
authentication ข้อใดคือคำตอบที่ถูกต้อง
ก. ระบบลงทะเบียนตัวตน
ข. ระบบยืนยันตัวตน ๒ ชั้น
ค. ระบบตรวจสอบข้อมูลบุคคล ๒ ชั้น
ง. ระบบสำรองข้อมูล ๒ ชั้น
ตอบ ข.
ข้อที่ ๖๐. การนำข้อมูลมาประมวลผล แล้วจัดทำรายงานเพื่อนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชาเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน
และแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงาน ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานสรุปใดที่เป็นรายงานสรุปหลักที่ใช้
ในการบริหารงาน
ก. สถิติคดีอาญา ๕ กลุ่ม
ข. สถิติคดีอาญา ๔ กลุ่ม
ค. รายงานสรุปการบันทึกประจำวัน
ง. สถิติคดีอาญา-จราจร จำแนกตามสาเหตุ รายเดือน
ตอบ ข.
1
คำสั่ง ให้ทำเครื่องหมาย เพื่อเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว
1. INTERNATIONAL TELECOMMUNICATION UNION (ITU) หมายถึง
ก. สหภาพสากลไปรษณีย์ ข. สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ
ค. สหภาพวิทยุระหว่างประเทศ ง. สหภาพวิทยุสมัครเล่นสากล
2. กฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคมที่บังคับใช้ในปัจจุบัน คือข้อใด?
ก. พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2489
ข. พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498
ค. พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสาร พ.ศ. 2491
ง. พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสาร พ.ศ. 2497
3. องค์กรใดเป็นผู้จัดสรรคลื่นความถี่และกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมในประเทศไทย ?
ก. กสทช. ข. กกต.
ค. กระทรวง ICT ง. ITU
4. ตามข้อบังคับวิทยุระหว่างประเทศ ประเทศไทยอยู่ในภูมิภาคใด ?
ก. ภูมิภาคที่ 1 ข. ภูมิภาคที่ 2
ค. ภูมิภาคที่ 3 ง. ภูมิภาคที่ 4
5. คำว่า “คลื่นแฮรตเซียน” ตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 หมายความว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่
มีความถี่ระหว่าง ?
ก. 10 เมกะไซเคิลต่อวินาที และ 3,000,000 เมกะไซเคิลต่อวินาที
ข. 10 เมกะไซเคิลต่อวินาที และ 3,000,000 กิโลไซเคิลต่อวินาที
ค. 10 กิโลไซเคิลต่อวินาที และ 3,000,000 เมกะไซเคิลต่อวินาที
ง. 10 กิโลไซเคิลต่อวินาที และ 3,000,000 กิโลไซเคิลต่อวินาที
6. คำว่า “สถานีวิทยุคมนาคม” ตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 หมายความว่า ?
ก. ที่ส่งวิทยุคมนาคม ข. ที่รับวิทยุคมนาคม
ค. ที่ส่งและรับวิทยุคมนาคม ง. ถูกทุกข้อ
7. ห้ามมิให้ผู้ใดทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้า ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจาก?
ก. อธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข ข. ปลัดกระทรวง ICT
ค. เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
8. ใบอนุญาตให้ใช้เครื่องวิทยุคมนาคม มีอายุ ?
ก. 1 ปีนับแต่วันออก ข. 3 ปีนับแต่วันออก
ค. 5 ปีนับแต่วันออก ง. ตลอดอายุของเครื่องวิทยุคมนาคม
9. ใบอนุญาตให้ตั้งสถานีวิทยุคมนาคม มีอายุ ?
ก. 1 ปีนับแต่วันออก
ข. 3 ปีนับแต่วันออก
ค. 5 ปีนับแต่วันออก
ง. ตลอดระยะเวลาที่ผู้รับใบอนุญาตใช้สถานีตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาตเป็นสถานีวิทยุคมนาคม
2
10. ข้อใดคืออัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้เครื่องวิทยุคมนาคม ?
ก. 100 บาท ข. 200 บาท
ค. 500 บาท ง. 1,000 บาท
11. ข้อใดคืออัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ตั้งสถานีวิทยุคมนาคม กำลังส่ง 5 วัตต์ แต่ไม่เกิน 10 วัตต์ ?
ก. 100 บาท ข. 200 บาท
ค. 500 บาท ง. 1,000 บาท
12. ผู้มีอำนาจทำการเปรียบเทียบปรับตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 คือ ?
ก. เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ข. พนักงานอัยการ
ค. พนักงานสอบสวน ง. ถูกทุกข้อ
13. ระวางโทษฐานใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต คือ ?
ก. ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินสองปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกินสองปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
14. ระวางโทษฐานจงใจกระทำให้เกิดการรบกวนหรือขัดขวางต่อการวิทยุคมนาคม คือ ?
ก. ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินสองปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกินสองปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
15. เครื่องวิทยุคมนาคมแบบสังเคราะห์ความถี่ประเภท 2 ตามประกาศ กสทช. เรื่อง การใช้เครื่องวิทยุคมนาคม
แบบสังเคราะห์ความถี่ (Synthesizer) ของหน่วยงานของรัฐ หมายความว่า ?
ก. เครื่องวิทยุคมนาคมที่ผู้ใช้สามารถตั้งความถี่วิทยุได้เองจากภายนอกเครื่องวิทยุคมนาคม
ข. เครื่องวิทยุคมนาคมที่ผู้ใช้ไม่สามารถตั้งความถี่วิทยุได้เองจากภายนอกเครื่องวิทยุคมนาคม แต่สามารถตั้ง
ความถี่วิทยุด้วยเครื่องตั้งความถี่วิทยุ (Programmer) หรือโดยวิธีอื่น
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
16. หน่วยงานใดต่อไปนี้ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องวิทยุคมนาคมแบบสังเคราะห์ความถี่ประเภท 1 ?
ก. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ค. สำนักงาน ป.ป.ช. ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ค.
17. บุคคลซึ่งมีฐานะในข้อใด ที่สามารถใช้เครื่องวิทยุคมนาคมแบบสังเคราะห์ความถี่ประเภท 2 ได้ ?
ก. เป็นข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานองค์กรของรัฐ
ข. เป็นพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ค. เป็นบุคคลธรรมดาที่ได้รับอนุญาตให้ร่วมใช้ความถี่วิทยุกับหน่วยงานราชการที่ได้รับการจัดสรรความถี่วิทยุ
ง. ถูกทุกข้อ
18. ข้อใดคือข้อปฏิบัติในการใช้ความถี่วิทยุของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ ?
ก. ใช้ความถี่วิทยุในกิจการวิทยุสมัครเล่น ข. ใช้ความถี่วิทยุที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
ค. ใช้ความถี่วิทยุใดก็ได้ตามความพึงพอใจ ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
3
19. เอกสารใดต่ อไปนี้ ที่ท่ า นใช้สำหรับ แสดงต่อเจ้า พนั กงานเมื่ อ ถูกตรวจค้น ในกรณี ที่ เครื่ องวิท ยุค มนาคม
ดังกล่าวเป็นเครื่องวิทยุคมนาคมของหน่วยงานที่ท่านสังกัดอยู่ ?
ก. บัตรประจำตัวผู้ใช้เครื่องวิทยุคมนาคม ข. บัตรประจำเครื่องวิทยุคมนาคม
ค. ใบอนุญาตให้ใช้เครื่องวิทยุคมนาคม ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
20. ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง ?
ก. หน่วยงานที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ความถี่วิทยุต้องจัดทำบัญชีเบิกจ่ายเครื่องวิทยุคมนาคมของหน่วยงาน
ข. การใช้เครื่องวิทยุคมนาคมแบบสังเคราะห์ความถี่ ไม่จำเป็นต้องดำเนินไปเพื่อราชการของหน่วยงาน
ค. บุคคลที่มีฐานะเป็นผู้ใหญ่บ้าน ไม่สามารถใช้เครื่องวิทยุคมนาคมแบบสังเคราะห์ความถี่ได้
ง. ผู้ ที่ ใช้ เครื่ อ งวิ ท ยุ ค มนาคมแบบสั ง เคราะห์ ค วามถี่ ข องหน่ ว ยงานราชการและรั ฐ วิ สาหกิ จ ต้ อ งได้ รั บ
ประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่นขั้นต้นก่อน
21. ความถี่วิทยุ 136 - 174 MHz (เมกะเฮิรตซ์) เป็นความถี่วิทยุในย่านใด ?
ก. UHF (ยู-เอช-เอฟ) ข. HF (เอช-เอฟ)
ค. VHF (วี-เอช-เอฟ) ง. LF (แอล-เอฟ)
22. อุปกรณ์ใดทำหน้าที่รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่แพร่กระจายในอากาศแล้วเปลี่ยนเป็นสัญญาณไฟฟ้า ?
ก. สายดิน ข. สายนำสัญญาณ
ค. ลำโพง ง. สายอากาศ
23. การติดต่อสื่อสารโดยวิธีผลัดกันส่ง-รับข่าวสาร และใช้ความถี่เดียว เรียกว่าการติดต่อแบบใด ?
ก. ฟูล ดูเพล็กซ์ (FULL DUPLEX) ข. ฮาล์ฟ ดูเพล็กซ์ (HALF DUPLEX)
ค. เซมิ ดูเพล็กซ์ (SEMI DUPLEX) ง. ซิมเพล็กซ์ (SIMPLEX)
24. เหตุใดสายอากาศย่านความถี่ VHF ในการใช้งานต้องติดตั้งให้อยู่ในตำแหน่งสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ?
ก. เพื่อให้คู่สถานีเห็นตำแหน่งที่ท่านออกอากาศ ข. เพื่อการประหยัดพลังงานไฟฟ้า
ค. เพื่อให้แพร่กระจายคลื่นได้ไกลที่สุด ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข้อ ค.
25. การที่กำลังส่งของเครื่องรับ-ส่งวิทยุแบบมือถือลดน้อยลงกว่าปกติ โดยทั่วไปมีสาเหตุมาจาก ?
ก. แบตเตอรี่ที่ใช้เสื่อมคุณภาพ ข. วงจรภาคส่งของเครื่องเสื่อมคุณภาพ
ค. วงจรภาครับของเครื่องเสื่อมคุณภาพ ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข้อ ข.
26. ข้อใดคือ หมายเลขทะเบียนวิทยุคมนาคมในกิจการเคลื่อนที่ทางบก ?
ก. NTC ID. B30099 – 09 – 1122 ข. NTC ID. B19900 – 08 – 1221
ค. NTC ID. B10099 – 09 – 1122 ง. NTC ID. B59900 – 08 – 1221
27. เครื่องวิทยุคมนาคมสามารถจำแนกออกตามลักษณะการใช้งานได้กี่ชนิด ?
ก. 2 ชนิด ข. 3 ชนิด
ค. 4 ชนิด ง. 5 ชนิด
28. เครื่องวิทยุคมนาคมชนิดใด ที่อนุญาตให้ใช้งานได้โดยมีกำลังส่งไม่เกิน 5 วัตต์ ?
ก. ชนิดเคลื่อนที่ ข. ชนิดประจำที่
ค. ชนิดมือถือ ง. ถูกทุกข้อ
29. ข้อใดคือหลักปฏิบัติในการพกพาเครื่องวิทยุคมนาคมของทางราชการ
ก. มีบัตรประจำตัวผู้ใช้เครื่องวิทยุคมนาคม ข. มีบัตรประจำเครื่องวิทยุคมนาคม
ค. ไม่ต้องมีเอกสารใดเนื่องจากได้รับยกเว้น ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
4
30. ข้อความใดต่อไปนี้ไม่ใช่หลักปฏิบัติในการใช้งานเครื่องวิทยุคมนาคมชนิดมือถือ ?
ก. ส่งออกอากาศให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
ข. ส่งออกอากาศด้วยกำลังส่งต่ำเมื่อระยะทางการติดต่อใกล้
ค. ส่งออกอากาศด้วยกำลังส่งสูงเมื่อระยะทางการติดต่อไกล
ง. ถูกทุกข้อ
31. “สายลม 01 จาก สายลม 02 ว.2 เปลี่ยน” เป็นการเรียกขานแบบใด ?
ก. เรียกขานแบบไม่เจาะจงสถานี ข. เรียกขานแบบเจาะจงสถานี
ค. เรียกขานเพื่อแจ้งเหตุฉุกเฉิน ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
32. ประมวลสัญญาณวิทยุ (รหัส ว.) มีไว้เพื่อ ?
ก. ใช้แทนข้อความหรือประโยคในการติดต่อสื่อสารทางวิทยุคมนาคม
ข. ให้คู่สนทนาเข้าใจข่าวสารได้ยากยิ่งขึ้น
ค. ให้คุณภาพของเสียงในขณะสนทนามีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ค.
33. “ ว.3 ” หมายความว่า ?
ก. ได้ยินแล้ว/รับทราบแล้ว ข. ขอทราบที่อยู่
ค. ให้ติดต่อทางโทรศัพท์ ง. ให้ทวนข้อความซ้ำอีกครั้ง
34. “ ขอทราบ ว.1 ว.16 ” หมายความว่า ?
ก. ขอทราบที่อยู่และให้ติดต่อทางโทรศัพท์ ข. ขอทราบที่อยู่และขอทดสอบสัญญาณวิทยุ
ค. ขอแจ้งเวลาและแจ้งข้อความทางวิทยุ ง. ขอทราบที่อยู่และให้ไปพบ
35. ข้อใดต่อไปนี้หมายถึง “พบวัตถุต้องสงสัยเกี่ยวกับระเบิดที่บริเวณหน้าธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่” ?
ก. พบเหตุ 500 ว.1 หน้าธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่
ข. พบเหตุ 510 ว.1 หน้าธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่
ค. พบเหตุ 511 ว.2 หน้าธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่
ง. พบเหตุ 512 ว.2 หน้าธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่
36. เมื่อท่านรับทราบหรือเข้าใจข้อความ ข่าวสารที่สถานีแม่ข่ายได้แจ้งมานั้น ให้ท่านตอบกลับว่า ?
ก. ว.1 ว.5 ข. ว.2 ว.7
ค. ว.1 ว.16 ง. ว.2 ว.8
37. ข้อใดคือหลักในการใช้เครื่องวิทยุคมนาคมเพื่อให้เกิดการติดต่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ?
ก. ใช้ความถี่วิทยุที่ถูกต้อง โดยได้รับอนุญาตจาก กสทช.
ข. ใช้เครื่องวิทยุคมนาคมที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ค. ผู้ใช้เครื่องวิทยุคมนาคมต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และกฎระเบียบที่ กสทช. กำหนด
ง. ถูกทุกข้อ
38. ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง สำหรับการใช้เครื่องวิทยุคมนาคมในข่ายราชการและรัฐวิสาหกิจ?
ก. ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพหรือใช้คำหยาบคายในการติดต่อสื่อสาร
ข. ไม่รับส่งข่าวสารอันมีเนื้อหาละเมิดต่อกฎหมายบ้านเมือง
ค. ส่งเสียงดนตรี รายการบันเทิง การโฆษณาทุกประเภท
ง. ติดต่อสื่อสารในขณะมึนเมาหรือควบคุมสติไม่ได้
5
39. ข้อใดคือคุณสมบัติของผู้ใช้เครื่องวิทยุคมนาคมตามประกาศ กสทช. เรื่อง การใช้เครื่องวิทยุคมนาคม
แบบสังเคราะห์ความถี่ (Synthesizer) ของหน่วยงานของรัฐ ?
ก. สำเร็จการอบรมหลักสูตรการใช้เครื่องวิทยุคมนาคมแบบสังเคราะห์ความถี่
ข. ได้รับการรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัดให้เข้าร่วมข่ายสื่อสาร
ค. ได้รับใบอนุญาตให้ใช้เครื่องวิทยุคมนาคมจาก กสทช. กรณีใช้เครื่องวิทยุคมนาคมส่วนตัว
ง. ถูกทุกข้อ
40. ผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมข่ายสื่อสารของหน่วยงานของรัฐ จะสิ้นสุดสิทธิดังกล่าวเมื่อใด ?
ก. จนกว่าหน่วยงานต้นสังกัดจะแจ้งยกเลิกสิทธิ ข. ลาออก หรือเกษียณอายุราชการ
ค. ใช้ได้ตลอดไปไม่มีระยะเวลาสิ้นสุด ง. ไม่มีข้อใดถูก
ความรู้พื้นฐานในงานฝ่ายอำนวยการ
ข้อ 1 ฝ่ายอำนวยการหลักของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแบ่งเป็นกี่สายงาน
ก. 4 สายงาน ได้แก่ งานกำลังพล งานข่าว งานแผนงาน และงานยุทธศาสตร์
ข. 5 สายงาน ได้แก่ งานกำลังพล งานข่าว งานแผนงานและงานยุทธศาสตร์ งานส่งกำลัง บำรุง
และงานชุมชนมวลชนสัมพันธ์หรืองานกิจการพลเรือน
ค. 5 สายงาน ได้แก่ งานกำลังพล งานข่าว งานแผนงาน งานยุทธศาสตร์ และงานส่งกำลังบำรุง
ง. 4 สายงาน ได้แก่ งานกำลังพล งานข่าว งานส่งกำลังบำรุง และงานชุมชนมวลชนสัมพันธ์
(ตอบข้อ ข.)
ฝายอํานวยการประสานงานหรือฝายอํานวยการหลัก ไดแก ฝายอํานวยการที่รับผิดชอบ งานอํานวยการหลัก
ของสํานักงานตํารวจแหงชาติ 5 สายงาน คือ งานกําลังพล งานขาว งานแผนงานและยุทธศาสตร งานสงกําลังบํารุง
และงานชุมชนมวลชนสัมพันธ
ข้อ 2 ฝ่ายอำนวยการแบ่งเป็นกี่ประเภท
ก. 2 ประเภท ได้แก่ ฝ่ายอำนวยการหลัก ฝ่ายอำนวยการรอง
ข. 2 ประเภท ได้แก่ ฝ่ายอำนวยการหลัก ฝ่ายอำนวยการสนับสนุน
ค. 3 ประเภท ได้แก่ ฝ่ายอำนวยการหลัก ฝ่ายอำนวยการสนับสนุน ฝ่ายอำนวยการพิเศษ
ง. 3 ประเภท ได้แก่ ฝ่ายอำนวยการประสานงานหรือฝ่ายอำนวยการหลัก ฝ่ายอำนวยการพิเศษ ฝ่าย
อำนวยการประจำตัว
(ตอบข้อ ง.)
ฝ่ายอำนวยการแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
ฝ่ายอำนวยการประสานงานหรือฝ่ายอำนวยการหลัก ได้แก่ ฝ่ายอำนวยการที่รับผิดชอบงานอำนวยการหลัก
ของสำนั ก งานตำรวจแห่ ง ชาติ 5 สายงาน คื อ งานกำลั ง พล งานข่ า ว งานแผนงานและยุ ท ธศาสตร์
งานส่งกำลังบำรุง และงานชุมชนมวลชนสัมพันธ์
ฝ่า ยอำนวยการพิเ ศษ ได้แก่ ผู้ที่ร ับผิดชอบในการช่วยเหลือผู้บังคับบัญชาด้วยการปฏิบัติงานในหน้าที่
ที่ต้องการความชำนาญเป็นพิเศษเฉพาะด้าน ตามสาขาวิชาชีพเทคนิค และงานในหน้าที่อื่น ๆ ที่มีขอบเขต
น้อยกว่าหน้าที่ของฝ่ายอำนวยการหลัก เช่น การสื่อสาร การประมวลผลข้อมูลข้อสนเทศ ฯลฯ
ฝ่ายอำนวยการประจำตัว ได้แก่ ผู้ที่รับผิดชอบการให้ความช่วยเหลือผู้บังคับบัญชาในเรื่ องกิจการเฉพาะ
หรืองานในหน้าที่พิเศษ อันได้แก่ ตำแหน่งนายเวร หรือนายตำรวจประจำสำนักงานผู้บังคับบัญชา
ข้อ 4 การรักษาความปลอดภัยและอำนวยการความสะดวกให้กับผู้บังคับบัญชาคือฝ่ายอำนวยการประเภทใด
ก. ฝ่ายอำนวยการพิเศษ
ข. ฝ่ายอำนวยการจราจร
ค. ฝ่ายอำนวยการเฉพาะกิจ
ง. ฝ่ายอำนวยการประจำตัว
(ตอบข้อ ง.)
ฝายอํานวยการประจําตัว ไดแก ผูที่รับผิดชอบการใหความชวยเหลือผูบังคับบัญชาในเรื่องกิจการเฉพาะ หรือ
งานในหนาที่พิเศษ อันไดแก ตําแหนงนายเวร หรือ นายตํารวจประจําสํานักงานผู บังคับบัญชา ซึ่งปฏิบัติงาน
โดยตรงตอผูบังคับบัญชา มีหนาที่ความรับผิดชอบในเรื่องตาง ๆ ดังนี้
1 ชวยเหลือผูบังคับบัญชาในการแบงเวลาปฏิบัติราชการและกิจกรรมอื่น ๆ โดยปลดเปลื้องจากงาน
ทีไ่ มจําเปน เพื่อใหสามารถใชเวลาในการปฏิบัติงานตามหนาที่ไดมากขึ้น
2. การรักษาความปลอดภัยและอํานวยการความสะดวกใหกับผูบังคับบัญชา
3. ชวยเหลือในการจัดตารางเวลาการปฏิบัติราชการ
4. เตรียมการและดําเนินงานเกี่ยวกับการเดินทางของผูบังคับบัญชา
5. การรับรองผูมาติดตอราชการกับผูบังคับบัญชา
6. การประสานงานที่เกี่ยวของกับพิธีการ ในสวนที่เกี่ยวของกับผูบังคับบัญชา
7. การปฏิบัติงานดานธุรการของผูบังคับบัญชา
8. การกํากับดูแลเจาหนาที่อื่นประจําสํานักงานผูบังคับบัญชา เชน พลขับ เจาหนาที่ธุรการ
ข้อ 7 ข้อใดถือเป็นหน้าที่เบื้องต้นตามพันธกิจของฝ่ายอำนวยการ
ก. การประมาณการ
ข. การให้ข้อมูลข่าวสาร
ค. การกำกับดูแลการปฏิบัติตามแผน/คำสั่ง
ง. การทำแผน/คำสั่ง
(ตอบข้อ ข.)
การใหขอมูลขาวสาร การใหขอมูลขาวสารถือเปนหนาที่เบื้องตน ที่ฝายอํานวยการจะตองเปนผู ใหขอมูลขาวสาร
ในสวนที่เกี่ยวของกับงานในหนาที่ของฝายอํานวยการนั้น ๆ อยางครบถวนสมบูรณตอผู บังคับบัญชา ทั้งนี้
เพื่อใหผูบังคับบัญชาสามารถทราบขอมูลขาวสารสําคัญที่เกี่ยวของกับการปฏิบัติงานที่จําเปนอยางครบถวน
ไมมองขามขอมูลขาวสารบางประการที่มีสวนเกี่ยวของ
ข้อ 11 การให้ ค วามช่ ว ยเหลื อ ผู ้ บ ั ง คั บ บั ญ ชา ให้ ม ั ่ น ใจว่ า หน่ ว ยงานต่ า ง ๆ ได้ ป ฏิ บ ั ต ิ ต ามแผน/คำสั่ ง
ของผู้บังคับบัญชา เพื่อสั่งการ แก้ไขปัญหาตามสถานการณ์อย่างถูกต้องรวดเร็ว ถือเป็นพันธกิจของฝ่าย
อำนวยการตำรวจในด้านใด
ก. การกำกับดูแลการปฏิบัติตามแผน/คำสั่ง
ข. การให้ข้อเสนอแนะ
ค. การวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร
ง. การให้ข้อมูลข่าวสาร
(ตอบข้อ ก.)
การกํากับดูแลการปฏิบัติตามแผน/คําสั่ง ถือเปนการใหความชวยเหลือผูบังคับบัญชา ใหมั่นใจไดวาหนวยงาน
ตางๆ ที่เกี่ยวของไดปฏิบัติตามแผน/คําสั่งของผู บังคับบัญชา อันเปนการแบงเบาภาระในการกํากับดูแลการ
ปฏิบัติของผู บังคับบัญชาอีกสวนหนึ่ง ทั้งยังเปนการทําใหฝายอํานวยการสามารถทราบสถานการณตางๆได
อยางถูกตองและรวดเร็ว ตลอดจนในกรณีที่หนวยปฏิบัติตามแผน/คําสั่งเกิดมีป ญหาขัดของในการปฏิบัติ ก็
สามารถเสนอขอมูลขาวสารใหกับผูบังคับบัญชาทราบและสั่งการแกไขปญหาได
(ตอบข้อ ง.)
รายงานและสรุปผลงาน
การรายงานและสรุปผลการปฏิบัติงานเปนสิ่งที่ใชการอยางกวางขวางในระบบการปฏิบัติงานของทุกหนวย
ราชการ และทุกระดับ หนวยงาน ซึ่งฝายอํานวยการทุกสายงานจะเปนผู รับผิดชอบในการเสนอแนะให
ผู บังคับบัญชาสั่งการ และรวบรวมขอมูลขาวสารจากรายงานและสรุปผลงานมาใชในการวิเคราะหขอมูล
ขาวสารประเภทของการรายงานและสรุปผลงานแบงออกไดเปน 3 ประเภทดังนี้
1. รายงานและสรุปผลงานตามหวงระยะเวลา ซึ่งบรรจุข อมูลขาวสารสําคัญที่กําหนดไว โดยกําหนด
หวงระยะเวลาการรายงานสม่ำเสมอ เชน รายงานประจําวัน ประจําสัปดาห ประจําเดือน รอบ 6 เดือน
หรือประจําป
2. รายงานและสรุป ผลงานเปนครั้ งคราว เปนการรายงานหรื อสรุปผลการปฏิ บัติ ซึ่ ง ไดกํ า หนด
ความตองการ หรือสั่งการไวใหดําเนินการทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ หรือสถานการณที่ไดกําหนดไวลวงหนา ไดแก
การรายงานเหตุดวนสําคัญ การรายงานเกี่ยวกับการชุมนุมประทวง เปนตน
3. รายงานและสรุปผลงานครั้งเดียว เปนรายงานและสรุปผลงานที่จัดทําเพียงครั้งเดียวเมื่อเสร็จสิ้น
การปฏิบ ัติในแตละภารกิจ เชน สรุป ผลการระดมกวาดลางอาชญากรรมในเทศกาลตาง ๆ หรือสรุปผล
การรักษาความสงบในการเลือกตั้ง ฯ เปนตน
ข้อ 20 ข้อใดดังต่อไปนี้เป็นแนวทางปฏิบัติในการประสานงานตามแนวทางการดำเนินการของฝ่ายอำนวยการ
ก. การประชุมของฝ่ายอำนวยการอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ
ข. การบรรยายสรุป
ค. การแจกจ่ายข้อมูลข่าวสารสำคัญ
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง.)
แนวทางปฏิบัติในการประสานงาน ไดแก
(1) การประชุมของฝายอํานวยการอยางเปนทางการ และไมเปนทางการ
(2) การบรรยายสรุป
(3) การแจกจายขอมูลขาวสารสําคัญ
(4) การติดตอประสานงานโดยตรง
ข้อ 26 ข้อใดคือจริยธรรมของฝ่ายอำนวยการ
ก. ไม่ทำงานข้ามสายงาน
ข. ไม่รับปากหรืออนุมัติคำขอของหน่วยรอง
ค. ไม่มีอำนาจในการบังคับบัญชาและสั่งการหน่วยรอง
ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
(ตอบข้อ ง.)
จริยธรรมของฝ่ายอำนวยการ
1. ไม่มีอำนาจในการบังคับบัญชาและสั่งการหน่วยรอง
2. เคารพสิทธิ อำนาจของผู้บังคับบัญชา
3. สร้างความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับผู้บังคับบัญชาและผู้บังคับบัญชาหน่วยรอง
4. ไม่รับปากหรืออนุมัติคำขอของหน่วยรอง
5. ไม่ทำงานข้ามสายงาน
6. การให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับตัวผู้บังคับบัญชาหน่วยรอง ต้องกระทำการอย่างรอบคอบ
7. ไม่ละเมิดความไว้วางใจของ ผู้บังคับบัญชา
8. ปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่เอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง
9. ศึกษานโยบายหน่วยเหนือ ระเบียบข้อบังคับที่สำคัญ
เอกสารอ้างอิง
1. คู่มือผู้บังคับหน่วยและฝ่ายอำนวยการ โรงเรียนเสนาธิการทหารบก
2. เว็บไซต์ กองบัญชาการศึกษา เอกสารหลักสูตรการฝึกอบรม หลักสูตร ฝอ.ตร. เข้าถึงได้จาก
https://edupol.org/Page/5.Education/Policegs/index.php
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
3. ตำแหน่งใดมิใช่กรรมการโดยตำแหน่งของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ก. ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ข. อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
ค. อัยการสูงสุด ง. เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
เฉลย ก. ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
อ้างอิง มาตรา 8(3)
4. ข้อมูลใดจัดอยู่ในข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562
ก. ชื่อ – สกุล ข. ที่อยู่
ค. เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ง. เลขบัตรประจำตัวประชาชน
เฉลย ค. เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์
อ้างอิง มาตรา 26
5. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลสามารถทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับความยินยอมจาก
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีใด
ก. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
ข. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ค. เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลย ง. ถูกทุกข้อ
อ้างอิง มาตรา 24 (1) (2) (4)
6. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลสามารถทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากเจ้าของ
ข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในกรณีใด
ก. ได้แจ้งถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้า
ข. เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม
ค. ถูกทั้ง ก. และ ข.
ง. ไม่มีข้อใดถูก
เฉลย ค. ถูกทั้ง ก. และ ข.
อ้างอิง มาตรา 25
7. ข้อใดมิใช่หน้าที่ของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ก. ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งที่ได้รับจากผู้ควบคุมข้อมูล
ส่วนบุคคลเท่านั้น
ข. จัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทาลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บ
รักษา
ค. จัดทำและเก็บรักษาบันทึกรายการของกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ง. จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
เฉลย ข. จัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทาลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการ
เก็บรักษา
อ้างอิง มาตรา 40
8. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่แจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่ส ำนักงานคณะกรรมการคุ้มครอง
ข้อมูลส่วนบุคคลภายในกี่ชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุเท่าที่จะสามารถกระทำได้
ก. 72 ชั่วโมง ข. 48 ชั่วโมง
ค. 24 ชั่วโมง ง. 12 ชั่วโมง
เฉลย ก. 72 ชั่วโมง
อ้างอิง มาตรา 37(4)
9. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีใด
ก. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นหน่วยงานของรัฐตามที่คณะกรรมการ
ประกาศกำหนด
ข. การดำเนินกิจกรรมของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผย จำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลหรือระบบอย่างสม่ำเสมอ
ค. กิจกรรมหลักของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ
เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลย ง. ถูกทุกข้อ
อ้างอิง มาตรา 41
11. คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติและคณะกรรมการกำกับดูแลด้านความ
มั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ มีตำแหน่งใดเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง
ก. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ข. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ค. ปลัดกระทรวงพลังงาน ง. ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
เฉลย ข. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
อ้างอิง มาตรา 5(2) และ มาตรา 12(2)
12. หน่วยงานใดเป็นหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ ตามมาตรา 49
ก. ด้านความมั่นคงของรัฐ ข. ด้านพลังงานและสาธารณูปโภค
ค. ด้านสาธารณสุข ง. ถูกทุกข้อ
เฉลย ง. ถูกทุกข้อ
อ้างอิง มาตรา 49
13. ข้อใดมิใช่สิ่งที่หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศต้องปฏิบัติ
ก. แจ้งรายชื่อและข้อมูลการติดต่อผู้ครอบครองคอมพิวเตอร์และผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ไปยังสำนักงาน
หน่วยงานควบคุมหรือกำกับดูแลของตน
ข. ดำเนินงานตามมาตรฐาน โดยมีหน่วยงานควบคุมหรือกำกับดูแลเป็นผู้ตรวจสอบ
ค. กำหนดประมวลแนวทางปฏิบัติและกรอบมาตรฐานข้อกำหนดขั้นต่ำโดยคำนึงถึงหลักการบริหารความเสี่ยง
ง. เมื่อมีเหตุภัยคุกคาม ต้องรายงานต่อสำนักงานและหน่วยงานควบคุมหรือกำกับดูแล
เฉลย ค. กำหนดประมวลแนวทางปฏิบัติและกรอบมาตรฐานข้อกำหนดขั้นต่ำโดยคำนึงถึงหลักการบริหารความ
เสี่ยง
อ้างอิง มาตรา 52 , มาตรา 53 และ มาตรา 57
14. ข้อใดมิใช่ระดับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ตามมาตรา 60
ก. ระดับร้ายแรงมาก ข. ระดับวิกฤต
ค. ระดับร้ายแรง ง. ระดับไม่ร้ายแรง
เฉลย ก. ระดับร้ายแรงมาก
อ้างอิง มาตรา 60
15. ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญถึงระดับที่ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงาน
โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศหรือการให้บริการของรัฐด้อยประสิทธิภาพลง คือลักษณะของภัยคุกคาม
ทางไซเบอร์ระดับใด
ก. ระดับร้ายแรงมาก ข. ระดับวิกฤต
ค. ระดับร้ายแรง ง. ระดับไม่ร้ายแรง
เฉลย ง. ระดับไม่ร้ายแรง
อ้างอิง มาตรา 60(1)
16. ข้อใดคือโทษของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติฯ ที่เปิดเผยหรือส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูล
จราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตาม
พระราชบัญญัตินี้ให้แก่บุคคลอื่น
ก. โทษจำคุกไม่เกินสามปี ข. โทษปรับไม่เกินหกหมื่นบาท
ค. ถูกทั้ง ก. และ ข. ง. ไม่มีข้อใดถูก
เฉลย ค. ถูกทั้ง ก. และ ข.
อ้างอิง มาตรา 70
17. ข้อใดคือโทษของหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศที่ไม่รายงานเหตุภัยคุกคามทางไซเบอร์
ที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญต่อระบบของหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ โดยไม่มีเหตุอัน
สมควร
ก. โทษปรับไม่เกินสองแสนบาท ข. โทษจำคุกไม่เกินสามปี
ค. โทษปรับไม่เกินหกหมื่นบาท ง. ถูกทั้ง ก. และ ข.
เฉลย ก. โทษปรับไม่เกินสองแสนบาท
อ้างอิง มาตรา 73
18. ข้อใดมิใช่เป้าหมายและแนวทางของนโยบายและแผนว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
ก. การบูรณาการการจัดการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ
ข. การสร้างความตระหนักและความรู้ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
ค. การสร้างมาตรการในการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศของประเทศ
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลย ง. ถูกทุกข้อ
อ้างอิง มาตรา 42
19. ข้อใดคือชื่อภาษาอังกฤษของคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
ก. National Cyber Secure Committee ข. National Cyber Security Committee
ค. National Cyber Security Commit ง. Nation Cyber Security Committee
เฉลย ข. National Cyber Security Committee
อ้างอิง มาตรา 5
20. ผู้ใดคือประธานกรรมการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
ก. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ข. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ค. เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ง. นายกรัฐมนตรี
เฉลย ง. นายกรัฐมนตรี
อ้างอิง มาตรา 5(1)
21. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับวิกฤติ
ก. เป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์อันกระทบหรืออาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ข. เป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์อันเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐหรืออาจทาให้ประเทศหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของ
ประเทศตกอยู่ในภาวะคับขันหรือมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
ค. เป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เกิดจากการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ในระดับ
ที่สูงขึ้นกว่าภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับร้ายแรง โดยส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ทาง
สารสนเทศของประเทศในลักษณะที่เป็นวงกว้าง
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลย ง. ถูกทุกข้อ
อ้างอิง มาตรา 60(3)
22. กิจการของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่ง
กฎหมายใด
ก. กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน ข. กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์
ค. กฎหมายว่าด้วยประกันสังคม ง. ถูกทุกข้อ
เฉลย ง. ถูกทุกข้อ
อ้างอิง มาตรา 21
23. ข้อใดมิใช่หน้าที่และอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
ก. ดำเนินการและให้ความร่วมมือหรือช่วยเหลือในการป้องกัน รับมือ และลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทาง
ไซเบอร์ โดยเฉพาะภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่กระทบหรือเกิดแก่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ
ข. ออกข้อบังคับว่าด้วยการจัดองค์กร การเงิน การบริหารงานบุคคล การบริหารงานทั่วไป การพัสดุ การ
ตรวจสอบภายใน รวมตลอดทั้งการสงเคราะห์และสวัสดิการต่าง ๆ ของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความ
มั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
ค. อนุมัติแผนการใช้จ่ายเงินและงบประมาณรายจ่ายประจาปีของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความ
มั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
ง. กำหนดนโยบายการบริหารงาน และให้ความเห็นชอบแผนการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการการ
รักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
เฉลย ก. ดำเนินการและให้ความร่วมมือหรือช่วยเหลือในการป้องกัน รับมือ และลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทาง
ไซเบอร์ โดยเฉพาะภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่กระทบหรือเกิดแก่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ
อ้างอิง มาตรา 27
24. ข้อใดคือหน้าที่และอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
ก. ประสานงานและให้ความร่วมมือในการตั้งศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์
ในประเทศและต่างประเทศในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และก ำหนด
มาตรการที่ใช้แก้ปัญหาเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
ข. ปฏิบัติการ ประสานงาน สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติตามนโยบาย
และแผนว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
ค. เฝ้าระวังความเสี่ยงในการเกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์ ติดตาม วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับภัย
คุกคามทางไซเบอร์ และการแจ้งเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลย ง. ถูกทุกข้อ
อ้างอิง มาตรา 22 (4) (6) (7)
25. ข้อใดคือส่วนประกอบของประมวลแนวทางปฏิบัติและกรอบมาตรฐานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
ไซเบอร์ของหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานควบคุมหรือกำกับดูแล และหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทาง
สารสนเทศ
ก. แผนการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
ข. แผนการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์
ค. ถูกทั้ง ก. และ ข.
ง. ไม่มีข้อใดถูก
เฉลย ค. ถูกทั้ง ก. และ ข.
อ้างอิง มาตรา 44
ข้อสอบพื้นฐานงานกำลังพล
ข้อ 2 โครงสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติในปัจจุบันมีกี่กองบัญชาการ
ก. 29 ข. 30
ค. 33 ง. 34
(ตอบ ข. 30)
ตาม พ.ร.ฎ. แบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2552 กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็น
กองบั ง คั บ การหรื อ ส่ ว นราชการอย่ า งอื ่ น ในสำนั ก งานตำรวจแห่ ง ชาติ พ.ศ.2552 และแก้ ไ ขเพิ ่ ม เติ ม
แบ่งโครงสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานระดับกองบัญชาการ 30 กองบัญชาการ หน่วยงานระดับ
กองบังคับการ 7 กองบังคับการ ขึ้นตรงต่อสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
3. ขาราชการตำรวจผูใดแตงเครื่องแบบตำรวจในขณะกระทำความผิดอยางใดอยางหนึ่งตามที่บัญญัติไวใน
ประมวลกฎหมายอาญา มีกำหนดโทษอยางไร
ก. โทษจำคุกตั้งแต 1 ป ถึง 7 ป
ข. โทษจำคุกตั้งแต 6 เดือน ถึง 1 ป
ค. โทษจำคุกตั้งแต 1 ป ถึง 8 ป
ง. โทษจำคุกตั้งแต 1 ป ถึง 10 ป
(ตอบ ขอ ก. (ตาม พ.ร.บ. ตำรวจแหงชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 109 ขาราชการตำรวจผูใดแตงเครื่องแบบตำรวจ
ในขณะกระทำความผิดอยางใดอยางหนึ่งตามที่บัญญัติไวในประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีกำหนดโทษจำคุกอยาง
สูงตั้งแตหนึ่งปขึ้นไป ตองระวางโทษจำคุกตั้งแตหนึ่งปถึงเจ็ดป
-2 -
4. ขอใดไมใชคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อการสืบสวนและสอบสวนคดีอาญา
ก. ผูบัญชาการตำรวจแหงชาติ
ข. ผูแทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ค. ผูแทนสำนักงานอัยการสูงสุด
ง. ผูแทนกระทรวงมหาดไทย
(ตอบ ขอ ง. (ผูแทนกระทรวงมหาดไทย ไมใชคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อการสืบสวนและสอบสวนคดีอาญา
ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแหงชาติ มาตรา 115 ใหมีคณะกรรมการบริหารกองทุนคณะหนึ่ง ประกอบดวย ผูบัญชาการตำรวจ
แหงชาติ เปนประธานกรรมการ ผูแทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผูแทนสำนักงานอัยการสูงสุด ผูแทน
กระทรวงยุติธรรม ผูแทนสำนักงบประมาณ ผูแทนกรมบัญชีกลาง ผูแทนกรมสงเสริมการปกครองทองถิ่น และรองผู
บัญชาการตำรวจแหงชาติ หรือผูชวยผูบัญชาการตำรวจแหงชาติที่ไดรับมอบหมายจากผูบัญชาการตำรวจแหงชาติ
จำนวน 2 คน เปนกรรมการใหประธานกรรมการแตงตั้งขาราชการตำรวจเปนเลขานุการคนหนึ่งและผูชวยเลาขานุการ
ไมเกินสองคน
5. คณะกรรมการบริหารกองทุนจัดทำงบการเงินและบัญชี สงผูสอบบัญชีตรวจสอบภายในกี่วันนับแตวันสิ้นป
ปฏิทินทุกป
ก. 150 วัน
ข. 120 วัน
ค. 90 วัน
ง. 60 วัน
(ตอบ ขอ ข. (ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแหงชาติ มาตรา 117 ใหคณะกรรมการบริหารกองทุนจัดทำงบการเงิน
และบัญชี สงผูสอบบัญชีตรวจสอบภายใน 120 วันนับแตวันสิ้นปปฏิทินทุกป ใหสำนักงานการตรวจเงินแผนดิน
เป น ผู ส อบบั ญ ชี ข องกองทุ น ทุ กรอบป แลว ทำรายงานผลการสอบบัญ ชี ข องกองทุน เสนอต อ ก.ต.ช. และ
กระทรวงการคลัง
(ตอบ ขอ ข. (ตาม พ.ร.บ. ตำรวจแหงชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 82 การลงโทษทัณฑกรรม ไดแก การใหทำงาน
โยธา การใหอยูเวรยามนอกจากหนาที่ประจำ หรือการใหทำงานสาธารณประโยขนซึ่งตองไมเกินหกชั่วโมงตอหนึ่งวัน
8. ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับคุณสมบัติของผูเขารวมโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล
ก. เปนขาราชการตำรวจที่มียศไมเกินพลตำรวจโท
ข. เปนขาราชการตำรวจที่มีอายุตั้งแต 55 ปบริบูรณขึ้นไป
ค. มีเวลาราชการ 25 ปบริบรู ณขึ้นไป โดยไมรวมเวลาทวีคูณ
ง. มีเวลาราชการเหลือตั้งแต 1 ปขึ้นไป นับตั้งแตวันที่ 1 ตุลาคม ของปนั้น
(ตอบ ขอ ข. (ตามแนวทางปฏิบัติในการเขารวมโครงการสับเปลี่ยนกำลังพล ขอ 2.1 คุณสมบัติของผูเขารวม
โครงการฯ
11. ผูพิจารณาอนุญาตการขอตรวจสอบขอมูลหรือขอสำเนาเอกสารทางทะเบียนประวัติจากหนวยงานตาง ๆ ใน
สังกัด ตร. ตองมีตำแหนงใด
ก. รอง สว.
ข. ตั้งแต รอง สว. หรือเทียบเทาขึ้นไป
ค. สว. หรือเทียบเทา
ง. ตั้งแต สว. หรือเทียบเทาขึ้นไป
(ตอบ ขอ ง. ( ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแหงชาติ วาดวยประมวลระเบียบการตำรวจไมเกี่ยวกับคดี
ลักษณะที่ 13 พ.ศ.2556 หมวดที่ 4 ขอ 13 ขอมูลเอกสารหลักฐานทางทะเบียนประวัติขาราชการตำรวจ เปน
เอกสารสวนบุคคลและเปนเอกสารทางราชการที่ไมพึงเปดเผย ที่จัดทำขึ้นเพื่อใชสำหรับการบริหารงานของ
หนวยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแหงชาติ การขอตรวจสอบขอมูลหรือสำเนาเอกสารทางทะเบียนประวัติจาก
หนวยงานตาง ๆ ในสังกัดสำนักงานตำรวจแหงชาติ ผูขอตองระบุวาจะนำไปใชเพื่อการใดในหนาที่ที่รับผิดชอบ
และผูพิจารณาอนุญาตตองมีตำแหนงตั้งแตสารวัตรหรือตำแหนงเทียบเทาขึ้นไป ที่รับผิดชอบในการจัดเก็บ ควบคุม
ดูแลรักษาขอมูลเอกสารดังกลาว สวนบุคคลทั่วไปหรือหนวยงานอื่น ๆ ที่ขอตรวจสอบตองเปนไปตามกฎหมายวา
ดวยขอมูลขาวสารของราชการ
12. กรณีตามขอใดไมสามารถเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณได
ก. รับราชการมาแลว 4 ป บริบูรณ
ข. ปที่ผานมามีผลการประเมินการปฏิบัติราชการในระดับพอใช
ค. ถูกกลาวหาวากระทำผิดวินัยอยางรายแรง
ง. ถูกทุกขอ
(ตอบ ขอ ง. (ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี วาดวยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณอันเปนที่เชิดชู
ยิ่งชางเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณอันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย พ.ศ.2564
ขอ 12 (6 เปนผูที่ไมอยูในระหวาง ถูกกลาวหาวา
(ก. กระท ำผิ ดวิ นั ย อยางรายแรงและถู กตั้งกรรมการสอบสวน หรืออยูร ะหว าง
พิจารณาโทษทางวินัย หรืออยูระหวางอุทธรณคำสั่งลงโทษทางวินัย
ขอ 18 ในการนับระยะเวลาเพื่อเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณตามระเบียบ
นี้
หากเปนผูมีกรณีดังตอไปนี้ในปใด ใหเพิ่มกำหนดระยะเวลาการขอพระราชทานอีกกรณีละหนึ่งป
(2 เปนผูมีผลการประเมินการปฏิบัติราชการหรือการปฏิบัติงานตามภารกิจที่
กฎหมายกำหนดต่ำกวาระดับดี เวนแตเปนการขอพระราชทานตามหลักเกณฑที่กำหนดระยะเวลาดำรงตำแหนง
หรือระยะเวลาเลื่อนชั้นตราเกินกวาหาปบริบูรณ ใหพิจารณาผลการประเมินดังกลาวในระยะเวลาหาป
บัญชี 19 การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณใหแกขาราชการตำรวจ ทายระเบียบ
สำนักนายกรัฐมนตรีวาดวยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณฯ
ง. ใหขาราชการตำรวจดังกลาวปฏิบัติราชการตอไป โดยไมตองดำเนินการใด
(ตอบ ขอ ค. (ตาม พ.ร.บ.สงเคราะหขาราชการผูไดรับอันตรายหรือการปวยเจ็บเพราะเหตุปฏิบัติราชการ พ.ศ.
2546 มาตรา 8 ถาอันตรายหรือการปวยเจ็บ หรือการถูกประทุษรายอันเกิดจากกรณีดังกลาวใน มาตรา 5 ทำให
ขาราชการตำรวจผูใดตกเปนผูทุพพลภาพหรือพิการ อันเปนเหตุจะตองออกจากราชการตามกฎหมาย ระเบียบ
หรือขอบังคับที่ใชอยู หากรัฐมนตรีเจาสังกัดพิจารณาเห็นวาขาราชการผูนั้นยังอาจปฏิบัติหนาที่ราชการอื่นใดที่
เหมาะสมไดและเมื่อขาราชการผูนั้นประสงคจะรับราชการตอไป รัฐมนตรีเจาสังกัดจะสั่งใหขาราชการผูนั้นไปรับ
ราชการในตำแหนงหนาที่อื่นก็ได
19. การบรรจุและแตงตั้งขาราชการตำรวจซึ่งออกจากราชการไปแลวกลับเขารับราชการเปนขาราชการตำรวจใน
ตำแหนง รองผูบังคับการ ผูใดเปนผูสั่งบรรจุและแตงตั้ง
ก. ผูบัญชาการตำรวจแหงชาติเปนผูสั่งบรรจุและแตงตั้ง
ข. ผูบัญชาการตำรวจแหงชาติเปนผูสั่งบรรจุและแตงตั้ง จากผูที่ ก.ตร. ใหความเห็นชอบ
ค. ผูบัญชาการตำรวจแหงชาติหรือผูบังคับบัญชาที่ไดรับมอบอำนาจจากผูบัญชาการตำรวจแหงชาติเปนผู
สั่งบรรจุและแตงตั้ง
ง. ผูบัญชาการตำรวจแหงชาติหรือผูบังคับบัญชาที่ไดรับมอบอำนาจจากผูบัญชาการตำรวจแหงชาติเปนผู
สั่งบรรจุและแตงตั้ง จาก ก.ตร. ใหความเห็นชอบ
(ตอบ ขอ ค. (ตามระเบียบ ก.ตร. วาดวยผูมีอำนาจสั่งบรรจุและแตงตั้งบุคคลภายนอกเขารับราชการเปน
ข า ราชการตำรวจ พ.ศ.2547 ข อ 2 การบรรจุและแตงตั้งบุคคลเขารับ ราชการเปน ขาราชการตำรวจให
ผูบังคับบัญชาดังตอไปนี้ เปนผูมีอำนาจสั่งบรรจุและแตงตั้ง ฯลฯ
(3 การบรรจุแ ละแตงตั้งบุคคลเขารับราชการเปนขาราชการตำรวจ ตำแหนงตั้งแตรองผู
บังคับการและพนักงานสอบสวนผูเชี่ยวชาญหรือตำแหนงเทียบเทาลงมาถึงตำแหนงสารวัตร และพนักงาน
สอบสวนผูชำนาญการหรือตำแหนงเทียบเทา ใหผูบัญชาการตำรวจแหงชาติ หรือผูบัญชาการที่ไดรับมอบหมาย
จากผูบัญชาการตำรวจแหงชาติ เปนผูสั่งบรรจุและแตงตั้งจากผูที่ ก.ตร. ใหความเห็นชอบ
(4 การบรรจุและแตงตั้งในตำแหนงตาม (3 หากเปนการบรรจุและแตงตั้งขาราชการ
ตำรวจซึ่งออกจากราชการไปแลวกลับเขารับราชการเปนขาราชการตำรวจตามมาตรา 63 (2 (ก และ (ข ใน
ตำแหนงที่ไมสูงกวาเดิม ใหผูบัญชาการตำรวจแหงชาติหรือผูบังคับบัญชาที่ไดรับมอบหมายจากผูบัญชาการ
ตำรวจแหงชาติเปนผูสั่งบรรจุและแตงตั้ง
การบรรจุและแตงตั้งตามวรรคแรกในหนวยงานระดับกองบัญชาการ ใหผูบัญชาการหรือผู
ดำรงตำแหนงเทียบเทา เปนผูสั่งบรรจุและแตงตั้ง
ฯลฯ
20. ขาราชการตำรวจยศพันตำรวจโทไดรับเงินเดือนระดับใด
ก. ระดับ ส.3
ข. ระดับ ส.2
ค. ระดับ ส.4
ง. ระดับ ส.1
(ตอบ ขอ ก. (ตาม พ.ร.บ. ตำรวจแหงชาติ พ.ศ.2547 และที่แกไขเพิ่มเติม มาตรา 68 (7 ขาราชการ
ตำรวจยศพันตำรวจโท ใหไดรับเงินเดือนระดับ ส.3
21. ปจจุบันการเลื่อนเงินเดือนขาราชการตำรวจเลื่อนปละกี่ครั้ง
ก. 1 ครั้ง
ข. 2 ครั้ง
ค. 3 ครั้ง
ง. 4 ครั้ง
-8 -
24. ขอใดไมใชองคประกอบการแตงตั้งยศสูงขึ้น
ก. ดำรงตำแหนงซึ่งมีระดับเงินเดือนของยศที่จะแตงตั้ง
ข. มีจำนวนปที่รับราชการตามที่กำหนดไว ในกฎ ก.ตร.
ค. รับเงินเดือนไมต่ำกวาขั้นต่ำสุดของยศที่จะแตงตั้ง
ง. มีคุณสมบัติเหมาะสมครบถวนและผานการประเมินแลว
(ตอบ ขอ ง. ((ไมใชองคประกอบการแตงตั้งยศสูงขึ้น ตาม กฎ ก.ตร.วาดวยหลักเกณฑและวิธีการแตงตั้ง
ยศ พ.ศ.2554 การแตงตั้งยศสูงขึ้น ตองมีองคประกอบ ดังนี้
(1 ดำรงตำแหนงซึ่งมีระดับเงินเดือนของยศที่จะแตงตั้งได
(2 มีจำนวนปที่รับราชการตามที่กำหนดไวในกฎ ก.ตร. นี้ และ
(3 รับเงินเดือนไมต่ำกวาชั้นต่ำสุดของย ศที่จะแตงตั้ง
28. การกำหนดขอตกลงเกี่ยวกับผลการปฏิบัติราชการเปนการตกลงกันระหวางผูใด
ก. ผูประเมินและผูตรวจสอบ
ข. ผูประเมินและผูรับการประเมิน
ค. ผูรับการประเมินและผูตรวจสอบ
ง. ผูรับการประเมินและคณะกรรมการพิจารณาผลการประเมิน
(ตอบ ขอ ข. (กฎ ก.ตร.วาดวยหลักเกณฑ วิธีการและระยะเวลาการประเมินผลการปฏิบัติราชการของ
ขาราชการตำรวจ พ.ศ.2547 หนา 2 ขอ 5 ใหมีการกำหนดขอตกลงเกี่ยวกับผลการปฏิบัติราชการรว มกัน
ระหวางผูประเมินและผูรับการประเมิน... และตามหนังสือ ตร. ที่ 0009.26/ว 66 ลง 25 ก.ย.57 แจง
- 10 -
33. สำนักงานตำรวจแหงชาติแบงสวนราชการออกเปนกี่สวน
ก. 2 สวน
ข. 3 สวน
ค. 4 สวน
ง. 5 สวน
(ตอบ ขอ ก. (ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแหงชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 10 สำนักงานตำรวจแหงชาติแหงชาติแบงสวน
ราชการออกเปนดังนี้
(1 สำนักงานผูบัญชาการตำรวจแหงชาติ
(2 กองบัญชาการ
ก. ครบระยะเวลาตามที่ไดกำหนดไว
ข. ขาราชการตำรวจผูนั้นไดรับการแตงตั้งไปดำรงตำแหนงอื่น
ค. ขาราชการตำรวจผูนั้นถูกสงตัวกลับตนสังกัด
ง. ถูกทุกขอ
(ตอบ ขอ ง (ตามระเบียบ ตร. วาดวยการสั่งใหขาราชการตำรวจไปชวยราชการนอกสังกัด ตร. พ.ศ.2545
ขอ 11 คำสั่งใหขาราชการตำรวจไปชวยราชการใหถือวาสิ้นสุดลง ในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังตอไปนี้
11.1 ครบระยะเวลาตามที่ไดกำหนดไวในขอ 10
11.2 ขาราชการตำรวจผูนั้นไดรับการแตงตั้งไปดำรงตำแหนงอื่น
11.3 ขาราชการตำรวจผูนั้นถูกสงตัวกลับสังกัดเดิม
38. ตำแหนงขาราชการตำรวจมีกี่ระดับ
ก. 11 ระดับ
ข. 12 ระดับ
ค. 13 ระดับ
ง. 14 ระดับ
(ตอบ ขอ ค. (ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแหงชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 44 ตำแหนงขาราชการตำรวจ มีดังตอไปนี้
(1 ผูบัญชาการตำรวจแหงชาติ
(2 จเรตำรวจแหงชาติ และรองผูบัญชาการตำรวจแหงชาติ
(3 ผูชวยผูบัญชาการตำรวจแหงชาติ
(4 ผูบัญชาการ
(5 รองผูบัญชาการ
(6 ผูบังคับการ
(7 รองผูบังคับการ
(8 ผูกำกับการ
(9 รองผูกำกับการ
(10 สารวัตร
(11 รองสารวัตร
(12 ผูบังคับหมู
(13 รองผูบังคับหมู
ระดับตำแหนง ยศ ระยะเวลาการดำรงตำแหนง
ในแตละระดับไมนอยกวา
ผูชวย ผบ.ตร. เลื่อนเปน จตร.และ พล.ต.ท. 1 ป
รอง ผบ.ตร.
ผบช. เลื่อนเปน ผูชวย ผบ.ตร. พล.ต.ท. 1 ป
รอง ผบช. เลื่อนเปน ผบช. พล.ต.ต. 1 ป
ผบก. เลื่อนเปน รอง ผบช. พล.ต.ต. 2 ป
รอง ผบก. เลื่อนเปน ผบก. พ.ต.อ. ซึ่งไดรับอัตราเงินเดือน 5 ป และมีคุณสมบัติครบถวนตาม
พ.ต.อ.(พิเศษ หลักเกณฑการเลื่อนยศ เปน พล.ต.ต.
ผกก. เลื่อนเปน รอง ผบก. พ.ต.อ. 5 ป
รอง ผกก. เลื่อนเปน ผกก. พ.ต.ท. 4 ป
สว. เลื่อนเปน รอง ผกก. พ.ต.ท. 6 ป
รอง สว. เลื่อนเปน สว. ร.ต.อ. 7 ป
- 15 -
43. ผูพักอาศัยอาคารบานพักสวนกลางสำนักงานตำรวจแหงชาติจะหมดสิทธิพักอาศัยดวยเหตุใด
ก. ยายไปอยูหนวยซึ่งมีที่ทำการตั้งอยูนอกเขตกรุงเทพมหานคร
ข. มีบานพักเปนของตัวเองหรือคูสมรสในเขตกรุงเทพมหานคร
ค. ถูกสั่งใหออกจากราชการไวกอน
ง. ถูกทุกขอ
(ตอบ ง. (ระเบียบคณะอนุกรรมการสวัสดิการอาคารบานพักสวนกลางวาดวย หลักเกณฑและวิธีการเขาพัก
อาศัยในอาคารบานพักสวนกลาง สำนักงานตำรวจแหงชาติ พ.ศ. 2553 หมวด 4 ขอ 19 ผูพักอาศัยจะหมด
สิทธิพักอาศัยในบานพักสวนกลาง ดวยเหตุตางๆ
ค. สวัสดิการระดับกองบังคับการ และสวัสดิการระดับกองกำกับการ
ง. สวัสดิการระดับบน และสวัสดิการระดับลาง
(ตอบ ข. (ระเบียบคณะกรรมการสวัสดิการสำนักงานตำรวจแหงชาติวาดวยการจัดสวัสดิการ พ.ศ.2550 หมวด
1 ขอความทั่วไป ขอ 4 สวัสดิการภายในสำนักงานตำรวจแหงชาติ แบงเปน 2 ระดับ
49. เมื ่ อข า ราชการตำรวจเกษี ย ณอายุ ร าชการ และขอรับ บำนาญ สิทธิในการเบิกคาการศึ กษาบุต รและ
คารักษาพยาบาล สามารถดำเนินการยื่นเอกสารขอเบิกได ณ ที่ใด
ก. กองการเงิน สำนักงานงบประมาณและการเงิน สำนักงานตำรวจแหงชาติ
ข. กรมบัญชีกลาง
ค. หนวยงานตนสังกัดที่ขอรับบำนาญ
ง. ถูกทุกขอ
(ตอบ ค. (พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล
มาตรา 4 “ผูมีสิทธิ” หมายความวา
(3 ผูไดรับบำนาญปกติหรือผูไดรับบำนาญพิเศษเพราะเหตุทุพพลภาพตามกฎหมายวาดวยบำเหน็จ
บำนาญข า ราชการหรื อ กฎหมายว า ด ว ยกองทุ น บำเหน็ จ บำนาญข า ราชการ และทหารกองหนุ น
มีเบี้ยหวัดตามขอบังคับกระทรวงกลาโหมวาดวยเงินเบี้ยหวัด
หลักเกณฑกระทรวงการคลังวาดวยวิธีการเบิกจายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ.2553
หมวดที่ 2 การรับรองสิทธิและการอนุมัติ
ข อ 10 ให ห ั ว หน า ส ว นราชการผู เ บิ ก บำนาญหรื อ เบี ้ ย หวั ด หรื อ ผู ท ี ่ ห ั ว หน า ส ว นราชการ
ผูเบิกมอบหมายเปนผูมีอำนาจอนุมัติการเบิกเงินคารักษาพยาบาลของผูไดรับบำนาญหรือเบี้ยหวัด
- 18 -
50. สิทธิประโยชนของขาราชการตำรวจพึงไดจากทางราชการเมื่อรับราชการจนเกษียณอายุราชการมีอะไรบาง
ก. บำเหน็จตกทอด , เงินชวยเหลือพิเศษ
ข. บำเหน็จตกทอด , เงินชวยเหลือพิเศษ , กองทุนบำเหน็จบำนาญขาราชการ (กบข.
ค. บำเหน็จตกทอด , เงินชวยเหลือพิเศษ , กองทุนบำเหน็จบำนาญขาราชการ (กบข. , เงินฝากและหุน
จากสหกรณออมทรัพย
ง. ไมมีขอถูก
(ตอบ ข. (พระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญขาราชการ พ.ศ. 2494
มาตรา 48 ขาราชการผูใดตายในระหวางรับราชการอยู หรือทหารกองหนุนมีเบี้ยหวัดตาย ถาความตาย
นั้นมิไดเกิดขึ้นเนื่องจากการประพฤติชั่วอยางรายแรงของตนเอง ใหจายเงินเปนบำเหน็จตกทอดเปนจำนวนตาม
หลักเกณฑในมาตรา 32 (1 ใหแกทายาทผูมีสิทธิ
พระราชกฤษฎีกาการจายเงินเดือน เงินป บําเหน็จ บํานาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน
มาตรา 23 ข า ราชการผู ใดถึ งแกความตายในระหวางรับ ราชการใหจ ายเงินพิเศษจำนวนสามเทา
ของเงิ น เดื อ นเต็ ม เดื อ นที ่ ข า ราชการผู น ั ้ น มี ส ิ ท ธิ ไ ด ร ั บ ในเดื อ นที ่ ถ ึ ง แก ค วามตาย และหากข า ราชการ
ผูนั้นมีสิทธิไดรับเงินเพิ่มพิเ ศษคาวิชาเงิน ประจำตำแหน งที่ตองฝาอันตรายเปนปกติ เงินเพิ่มพิเศษสำหรับ
การสูรับ และเงินเพิ่มพิเศษสำหรับการปราบปรามผูกระทำผิด ใหรวมเงินดังกลาวกับเงินเดือนเพื่อคำนวณเปน
เงินชวยพิเศษจำนวนสามเทาดวย
พระราชบัญญัติ กองทุนบำเหน็จบำนาญขาราชการ พ.ศ. 2539
มาตรา 37 บำเหน็จบำนาญ บำเหน็จดำรงชีพ และบำเหน็จตกทอด ใหจายจากเงินงบประมาณ สำหรับ
เงินสะสม เงินสมทบ เงินประเดิม เงินชดเชยและผลประโยชนตอบแทนเงินดังกลาวใหจายจากกองทุน ทั้งนี้ ตาม
หลักเกณฑที่กำหนดไวในพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 55 สิ ท ธิ ใ นการรั บ บำนาญให เ ริ ่ ม มี ต ั ้ ง แต เ มื ่ อ สมาชิ ก ภาพของสมาชิ ก สิ ้ น สุ ด ลงจนกระทั่ ง
ผูนั้นถึงแกความตาย
51. ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับการเบิกจายเงินคารักษาพยาบาล
ก. ผูมีสิทธิเขารับการรักษาพยาบาลจากสถานพยาบาลของทางราชการทั้งประเภทผูปวยภายนอกและ
ผูปวยภายในใหเบิกคารักษาไดเต็มจำนวนที่จายจริงตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
ข. หากมีความจำเปนเรงดวนซึ่งหากมิไดรับการรักษาพยาบาลในทันทีอาจเปนอันตรายตอชีวิตเมื่อได
ใบรับรองแพทยจากสถานพยาบาลของเอกชนมาประกอบใหเบิกคารักษาได
ค. คารักษาพยาบาลประเภทอื่นๆ ใหเบิกไดครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ไดจายไปจริงแตไมเกิน 4,000 บาท
ง. ถูกทุกขอ
(ตอบ ง. (อัตราการเบิกจายเงินคารักษาพยาบาล ผูมีสิทธิเขารับการรักษาพยาบาลจากสถานพยาบาลของ
ทางราชการทั้งประเภทผูปวยภายนอกและผูปวยภายในใหเบิกคารักษาไดเต็มจำนวนที่จายจริงตามที่
กระทรวงการคลังกำหนด และหากผูมีสิทธิเขารับการรักษาพยาบาลจากสถานพยาบาลเอกชนประเภทผูปวย
ภายในเฉพาะกรณีที่ผูมีสิทธิประสบอุบัติเหตุ อุบัติภัย หรือมีความจำเปนเรงดวนซึ่งหากมิไดรับการรักษาพยาบาล
ในทันทีอาจเปนอันตรายตอชีวิตเมื่อไดใบรับรองแพทยจากสถานพยาบาลของเอกชนมาประกอบใหเบิกคารักษา
ได ดังนี้
- 19 -
53. ขอใดถูกตอง
ก. บำเหน็จ หมายถึง เงินตอบแทนความชอบที่ไดรับราชการมา ซึ่งจายเปนรายเดือน
ข. ประเภทของบำเหน็จบำนาญมี 2 ประเภท ไดแก บำเหน็จบำนาญปกติ บำเหน็จตกทอด
ค. บำเหน็จตกทอด คือ กรณีขาราชการหรือผูรับบำนาญประสงคโอนใหแกทายาทที่ไดแสดงเจตนาไว
ง. ไมมีขอใดถูก
(ตอบ ง. (เงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญ
บำเหน็จ หมายถึง เงินตอบแทนความชอบที่ไดรับราชการมา ซึ่งจายใหครั้งเดียว
ประเภทของบำเหน็จบำนาญมี 3 ประเภท ไดแก บำเหน็จบำนาญปกติ บำเหน็จตกทอด และบำเหน็จ
บำนาญพิเศษ
บำเหน็จตกทอด คือ กรณีที่ขาราชการถึงแกกรรมขณะรับราชการหรือผูรับบำนาญตาย ทางราชการ
จายเงินเปนเงินกอนใหแกทายาทฯ หรือบุคคลซึ่งผูตายแสดงเจตนาไว
ที่มา : สำนักงานตำรวจแหงชาติ. (2553. เงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญ, คูมือสวัสดิการและสิทธิ
ประโยชนขาราชการตำรวจ. (น.14. กรุงเ ทพฯ: โรงพิมพตำรวจ.
54. ขอใดกลาวถึงการขอเปลี่ยนแปลงสิทธิเขาพักอาศัยอาคารบานพักสวนกลางไดอยางถูกตอง
ก. การเปลี่ยนแปลงสิทธิใหตรงตามสถานภาพ เชน การเปลี่ยนจากหองชั้นประทวนเปนชั้นสัญญาบัตร หรือ
จากโสดเปนสมรส
ข. การขอเปลี่ยนแปลงเนื่องจากไมพอใจประเภทหอง
ค. การขอเปลี่ยนแปลงเนื่องจากยายสถานที่ทำงาน
- 20 -
ง. การขอเปลี่ยนแปลงสิทธิใหผูอื่นมาอาศัยแทน
(ตอบ ก. (การขอเปลี่ยนแปลงสิทธิเขาพักอาศัย มี 2 กรณี คือ
1. การเปลี่ยนแปลงสิทธิใหตรงตามสถานภาพ เชน การเปลี่ยนหองชั้นประทวนเปนชั้นสัญญาบัตร หรือ
จากโสดเปนสมรส เพื่อใหสถานภาพตรงตามประเภทหอง
2. การเปลี่ยนแปลงสิทธิเขาพักอาศัยจากอาคารหนึ่งไปอีกอาคารหนึ่ง
ที่มา : สำนักงานตำรวจแหงชาติ. (2553. การขอเปลี่ยนแปลงสิทธิเขาพักอาศัย, คูมือสวัสดิการและ
สิทธิประโยชนขาราชการตำรวจ. (น.52. กรุงเทพฯ: โรงพิมพตำรวจ.
55. สถานพักฟนและตากอากาศมีไวเพื่อวัตถุประสงคใด
ก. เพื่อใหการสงเคราะหแกขาราชการตำรวจ ผูที่ไดรับบาดเจ็บเนื่องจากการปฏิบัติหนาที่ในรูปของการเขา
พักฟนและตากอากาศ
ข. เพื่อใหเปนสถานฝกอบรม และสัมมนาของขาราชการตำรวจและครอบครัว
ค. เพื่อการนันทนาการและการพักผอนสำหรับขาราชการตำรวจและครอบครัว
ง. ถูกทุกขอ
(ตอบ ง. (สถานพักฟนและตากอากาศ ตั้งอยูเลขที่ 106 หมูที่ 3 ถนนสุขุมวิท (กม.ที่ 134-135 ตำบล
บางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค
1.เพื่อใหการสงเคราะหแกขาราชการตำรวจ ผูที่ไดรับบาดเจ็บเนื่องจากการปฏิบัติหนาที่ในรูปของการ
เขาพักฟนและตากอากาศ
2.เพื่อใหบริการหรือจัดกิจกรรมอันจะกอใหเกิดประโยชนแกขาราชการตำรวจและครอบครัว
3.สงเสริมการกีฬา การนันทนาการและการพักผอนสำหรับตำรวจและครอบครัว
4.เพื่อใชเปนสถานฝกอบรม และสัมมนาของขาราชการตำรวจและครอบครัว
5.การดำเนินการดานอื่นๆ
ที่มา : สำนักงานตำรวจแหงชาติ. (2553. สถานพักฟนและตากอากาศ, คูมือสวัสดิการและสิทธิ
ประโยชนขาราชการตำรวจ. (น.53. กรุงเทพฯ: โรงพิมพตำรวจ.
59. การขอแฟลตสวนกลางสามารถทำไดวิธีใด
ก. ทำคำรองขอบานพักผานหนวยงานตนสังกัด
ข. สงคำรองดวยตนเองที่กองสวัสดิการ
ค. สงคำรองดวยตนเอง ณ บานพักสวนกลางที่ประสงคเขาพัก
ง. ถูกทุกขอ
(ตอบ ก. (ระเบียบคณะอนุกรรมการสวัสดิการอาคารบานพักสวนกลางวาดวย หลักเกณฑและวิธีการเขาพัก
อาศัยในอาคารบานพักสวนกลาง สำนักงานตำรวจแหงชาติ
หมวด 2 สิทธิการเขาพักอาศัย ขอ 7 การขอสิทธิเขาพักอาศัย มีหลักเกณฑและขอปฏิบัติ ดังนี้
7.1 สมาชิกยื่นคำรองตอผูบังคับบัญชาตนสังกัด พรอมหลักฐาน
ง. บัตรสวัสดิการดิจิทัล
(ตอบ ค.
66. ขอใดไมใชสวัสดิการตำรวจ
ก. สถานพักฟนและตากอากาศบางละมุง
ข. รถรับสงสวัสดิการ
ค. สารบรรณอิเล็กทรอนิกส
ง. สโมสรตำรวจ
(ตอบ ค.
67. ใครคือหัวหนาคณะทำงานแกไขปญหาหนี้สินขาราชการตำรวจและลูกจางประจำ ตร. ในระดับ บก.
ก. ผบก.
ข. รอง ผบก. ที่ไดรับมอบหมาย
ค. หัวหนาสถานีตำรวจ หรือหัวหนาหนวยในสังกัดทุกแหง
ง. ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณของกองบังคับการ
(ตอบ ก. (คำสั ่ ง ตร. ที ่ 589/2564 ลง 17 พ.ย.64 เรื่อง แตงตั้งคณะทำงานแกไขปญ หาหนี้สิน
ขาราชการตำรวจและลูกจางประจำ สำนักงานตำรวจแหงชาติ โดยมีคณะทำงานฯ 3 ระดับ คือ ระดับ ตร. ระดับ
บช. และระดับ บก. ซึ่งคณะทำงานฯ ในระดับ บก. (ขอ 3.2 มีหัวหนาคณะทำงาน คือ ผบก. (ข อ 3.2.1.1
71. การลากิจสวนตัวเพื่อเลี้ยงดูบุตรลาไดไมเกินกี่วันทำการ
ก. ไมเกิน 45 วันทำการ
ข. ไมเกิน 60 วันทำการ
ค. ไมเกิน 90 วันทำการ
ง. ไมเกิน 150 วันทำการ
(ตอบ ง. (การลาคลอดบุตร ลาไดไมเกิน 90 วัน (โดยไดรับเงินเดือน และมีสิทธิลากิจสวนตัวเพื่อเลี้ยงดู
บุตรตอเนื่องจากการลาคลอดไดอีกไมเกิน 150 วันทำการ โดยไมไดรับเงินเดือนระหวางลา (ขาราชการมีสิทธิลา
โดยไดรับเงินเดือนระหวางลาภายใตพระราชกฤษฎีกาการจายเงินเดือน เงินป บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นใน
ลักษณะเดียวกัน พ.ศ.2522 ตามประเภทของการลา แหงระเบียบวาดวยการลาของขาราชการ พ.ศ.2535
73. หลักเกณฑการเบิกจายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาบุตรตองเปนบุตรที่ชอบดวยกฎหมายที่มีอายุกี่ป
ก. อายุไมเกิน 25 ปบริบูรณ
ข. อายุไมเกิน 20 ปบริบูรณ
ค. อายุตั้งแต 3 ป ถึง 25 ปบริบูรณ
ง. อายุตั้งแต 5 ป ถึง 20 ปบริบูรณ
(ตอบ ค. (ตามพระราชกฤษฎี กาเงินสวัสดิ การเกี่ยวกับการศึกษาบุตร พ.ศ.2562 มาตรา 4 “บุตร”
หมายความวา บุตรโดยชอบดวยกฎหมายซึ่งมีอายุครบสามปแตไมเกินยี่สิบหาป...
- 26 -
74. ใครมีสิทธิขอบานพักสวนกลางได
ก. ขาราชการตำรวจทั่วประเทศ
ข. ขาราชการตำรวจหรือคูสมรสของขาราชการตำรวจ
ค. ขาราชการตำรวจเฉพาะอยูในหนวยที่มีที่ตั้งในกรุงเทพฯ
ง. ถูกทั้ง ก. และ ข.
(ตอบ ค. (อาคารบ า นพั ก ส ว นกลาง ผู ม ี ส ิ ท ธิ ย ื ่ น คำร อ งขอเข า พั ก อาศั ย คื อ ข า ราชการตำรวจและ
ลูกจางประจำในสังกัดสำนักงานตำรวจแหงชาติซึ่งที่ทำการตั้งอยูในเขตกรุงเทพมหานคร
ที่มา : สำนักงานตำรวจแหงชาติ. (2553. อาคารบานพักสวนกลาง, คูมือสวัสดิการและสิทธิประโยชน
ขาราชการตำรวจ. (น.51. กรุงเทพฯ: โรงพิมพตำรวจ.
75. เงินสวัสดิการเบี้ยกันดารจะไดรับในอัตราสวนเทาใด
ก. อัตราสวนรอยละ 10 ของเงินเดือน แตไมนอยกวาเดือนละ 200 บาท
ข. อัตราสวนรอยละ 10 ของเงินเดือน แตไมนอยกวาเดือนละ 300 บาท
ค. อัตราสวนรอยละ 20 ของเงินเดือน แตไมนอยกวาเดือนละ 300 บาท
ง. อัตราสวนรอยละ 20 ของเงินเดือน แตไมนอยกวาเดือนละ 400 บาท
(ตอบ ก. (เงินสวัสดิการเบี้ยกันดาร เปนเงินสวัสดิการที่เกี่ยวกับเบี้ยกันดารเพื่อจายใหสำหรับขาราชการ
หรือลูกจางประจำที่ปฏิบัติราชการประจำอยูในทองที่กันดารตามที่ราชการกำหนด โดยกระทรวงการคลังจะ
ประกาศทุก 3 ป จะไดรับเงินชวยเหลือเบี้ยกันดารในอัตรารอยละ 10 ของเงินเดือน แตไมนอยกวาเดือนละ
200 บาทตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับเบี้ยกันดาร พ.ศ.2524
12.ผูบังคับหมู
13.รองผูบังคับหมู
78. ขอใดไมใชเอกสารหลักฐานในการสมัครเขารวมโครงการสมรสสวัสดิการขาราชการตำรวจ
ก. สำเนาบัตรขาราชการ (ฝายที่เปนขาราชการตำรวจ
ข. สำเนาคำสั่งแตงตั้งตำแหนงปจจุบัน (ฝายที่เปนขาราชการตำรวจ
ค. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ชาย, หญิง
ง. สำเนาทะเบียนหยา (กรณีเคยผานการสมรสมาแลว
(ตอบ ข. (ประกาศโครงการสมรสสวัสดิการขาราชการตำรวจ ครั้งที่ 16 ผูสมัครตองแนบเอกสารหลักฐาน
พรอมรับรองสำเนาทุกฉบับ ดังนี้
1. ใบสมัครเขารวมโครงการ
2. ภาพถาย
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ชาย, หญิง
4. สำเนาบัตรประจำตัวขาราชการ (ฝายที่เปนขาราชการตำรวจ
5. สำเนาทะเบียนบาน
6. สำเนาใบหยา (กรณีเคยผานการสมรสมาแลว
7. ผูสมัครตองกรอกรายละเอียดใหครบถวน ชัดเจน และแนบเอกสาร (ตามขอ 1-6
ขอสอบในสายงานอำนวยการ
กองอัตรากำลัง (20 ขอ
84. การเที ย บระดั บ ตำแหน งของตำแหนงที่เรีย กชื่ออยางอื่น เชน ตำแหนงนายแพทย (สบ ๑ ตำแหนง
นักวิทยาศาสตร (สบ ๑ เปนตน กับตำแหนงตามที่กำหนดไวในวรรคหนึ่งของมาตรา ๔๔ แหง พ.ร.บ.ตำรวจ
แห งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ เช น ระดั บ รองสารวัตร ระดับ สารวัตร หรือระดับ รองผูกำกับ การ เปน ตน จะตอง
ดำเนินการกำหนดไว โดยจัดทำในรูปแบบอะไร
ก. กฎกระทรวง
ข. กฎ ก.ตร.
ค. ระเบียบ ก.ตร.
ง. ระเบียบ ตร.
(ตอบขอ ข. (ตาม พ.ร.บ. ตำรวจแหงชาติ พ.ศ.๒๕๔๗ และที่แกไขเพิ่มเติม มาตรา ๔๔ บัญญัติวา ตําแหนง
ขาราชการตํารวจ มีดังตอไปนี้ (๑ ผู บัญชาการตํารวจแหงชาติ (๒ จเรตํารวจแห งชาติ และรองผูบัญชาการ
ตํารวจแหงชาติ (๓ ผู ชวย ผูบัญชาการตํารวจแหงชาติ (๔ ผู บัญชาการ (๕ รองผู บัญชาการ (๖ ผู บังคับการ
(๗ รองผู บังคับการ (๘ ผู กํากับการ (๙ รองผู กํากับการ (๑๐ สารวั ตร (๑๑ รองสารวัตร (๑๒ ผู บังคับหมู
(๑๓ รองผู บังคับหมู
ก.ตร. จะกําหนดใหมีตําแหนงที่เรียกชื่ออยางอื่น โดยจะใหมีชื่อตําแหนงใดเทียบกับตําแหนงตามวรรคหนึ่ง
ก็ไดโดยใหกําหนดไวในกฎ ก.ตร.
85. ส.ต.อ.สมชาย แสนดี ดำรงตำแหนง ผบ.หมู ฝอ.ภ.จว.สระบุรี เมื่อ ๑ มีนาคม ๒๕๕๘ โดยสำเร็จหลักสูตร
การฝ กอบรมบุ คคลภายนอกที ่ บ รรจุ ห รื อโอนมาเปน ขาราชการตำรวจชั้น ประทวนและพลตำรวจ (กอป.
หาก ส.ต.อ.สมชาย แสนดี ประสงค จ ะย า ยไปดำรงตำแหน ง ผบ.หมู ป. สภ.เมื อ งลพบุ ร ี จะต อ งมี
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหนงตามขอใด
ก. เขาอบรมหลักสูตรชัยยะ
ข. ศึกษาตอในระดับปริญญาตรีทางกฎหมาย
ค. เขาอบรมหลักสูตร กดต.(ปป.)
ง. ขอ ก. และ ขอ ข. ถูก
(ตอบข อ ง.) (ตามมาตรฐานกำหนดตำแหน ง กลุ ม สายงานป อ งกั น ปราบปราม พ.ศ 2561 กำหนด
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหนง ผบ.หมู (ป.) มีคุณสมบัติขอหนึ่งขอใด ดังนี้
๑. สำเร็จหลักสูตรนักเรียนนายสิบตำรวจ หรือเทียบหลักสูตรนักเรียนนายสิบตำรวจ ตามที่ ก.ตร.
กำหนด
๒. คุณวุฒิอื่นที่ ก.ตร. กำหนดใหเปนคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหนงนี้ได ไดแก
๒.๑ สำเร็ จ หลั ก สู ต รการฝ ก อบรมบุ ค คลภายนอกที ่ บ รรจุ ห รื อ โอนมาเป น ข า ราชการตำรวจ
ชั้นประทวนและชั้นพลตำรวจ ผนวกกับหลักสูตรการฝกอบรมชัยยะ หรือหลักสูตรการฝกอบรมตอตานและ
ปราบปรามการกอความไมสงบ
๒.๒ สำเร็จหลักสูตรการฝกอบรมที่หนวยตาง ๆ จัดใหมีขึ้น เพื่อทำหนาที่เกี่ยวของในการปองกัน
ปราบปรามโดยเฉพาะ ซึ่งสำนักงานตำรวจแหงชาติเปนผูอนุมัติ โดยมีระยะเวลาในการฝกอบรม ไมนอยกวา ๓ เดือน
๒.๓ คุ ณวุ ฒ ิ ป ริ ญ ญาตรี หรื อเทีย บไดไมต่ำกวานี้ทางเดียวกับ รองสารวัตร (ปฏิบ ัติการปองกัน
ปราบปราม โดยจะตองสำเร็จหลักสูตรการฝกอบรมบุคคลภายนอกที่บรรจุหรือโอนมาเปนขาราชการตำรวจ
- 31 -
ชั ้ น ประทวนและชั ้ น พลตำรวจ หรื อหลั กสู ตรการฝ ก อบรมชั ย ยะ หรือหลักสู ตรการฝ ก อบรมต อ ต า นและ
ปราบปรามการกอความไมสงบ หรือหลักสูตรการฝกอบรมที่หนวยตาง ๆ จัดใหมีขึ้น เพื่อทำหนาที่เกี่ยวของใน
การปองกันปราบปรามโดยเฉพาะ ซึ่งสำนักงานตำรวจแหงชาติเปนผูอนุมัติ โดยมีระยะเวลาในการฝกอบรมไม
นอยกวา ๓ เดือน ทั้งนี้ ใหใชคุณวุฒิขอนี้ไดเฉพาะในการแตงตั้งโยกยายเทานั้น หามใชในการบรรจุ
ง. ธุรการ
(ตอบขอ ก. (ตาม มติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 15/2558 เมื่อ 21 ก.ย.2558 ที่ประชุมมีมติอนุมัติ
ปรับปรุงแกไขคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหนงของขาราชการตำรวจในสังกัด สตม.ทุกตำแหนง ตามมติ อ.ก.ตร.
ตำแหนงในการประชุมครั้งที่ 9/2544 เมื่อ 26 ธ.ค.2544 มติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 11/2555 เมื่อ 1 ส.ค.
2555 และมติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 11/2556 เมื่อ 25 ต.ค.2556 ดังนี้
1. คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหนงของขาราชการตำรวจในสังกัด สตม. เฉพาะระดับตำแหนง ผกก. ลงมา
ทุกตำแหนง “ตองผานการทดสอบความรูภาษาตางประเทศตามหลักเกณฑที่ ตร. กำหนด ” โดยมีผลใชบังคับ
ตั้งแตวันที่ ก.ตร. มีมติอนุมัติ
2. ยกเวน โดยไมบังคับใชกับตำแหนงเฉพาะทางที่ทำหนาที่ดานงบประมาณ การเงินและการบัญชี การเงินและ
พัสดุ นิติกร และนายเวร
90. ผูปฏิบัติหนาที่ดานสืบสวนที่มีสิทธิไดรับเงินเพิ่มสำหรับตำแหนงที่มีเหตุพิเศษตำแหนงผูปฏิบัติหนาที่ดาน
สืบสวน (ต.ส.ส. หากเขารับการฝกอบรมหลักสูตรฝายอำนวย การตำรวจ (ฝอ.ตร. สิทธิในการไดรับ ต.ส.ส. ของ
ผูนั้นเปนไปตามขอใด
ก. มีสิทธิไดรับ ต.ส.ส. ไมเกินหกสิบวันทำการ
ข. มีสิทธิไดรับ ต.ส.ส. ไมเกินเกาสิบวันทำการ
ค. มีสิทธิไดรับ ต.ส.ส. เต็มจำนวน
ง. ไมมีสิทธิไดรับ ต.ส.ส. แตอยางใด
(ตอบขอ ค. (ตามระเบียบ ก.ตร. วาดวยเงินเพิ่มสำหรับตำแหนงที่มีเหตุพิเศษ ตำแหนงผูปฏิบัติหนาที่ดา น
ปองกันและปราบปราม ดานสืบสวน และดานจราจร พ.ศ. 2563 ขอ 11(5 กรณีสำนักงานตำรวจแหงชาติจัด
อบรมหรือพิจารณาคัดเลือกใหผูปฏิบัติหนาที่ดานสอบสวน ไปราชการเพื่อเขารับการอบรมในหลักสูตรตางๆ หรือ
ดูงาน หรือปฏิบัติการวิจัย เพื่อเปนการพัฒนาความรูความสามารถในการปฏิบัติหนาที่ดานสอบสวนใหมีสิทธิ
ไดรับ ต.ด.ส. เต็มจำนวน
91. ขาราชการตำรวจผูปฏิบัติหนาที่ดานสืบสวนที่มีสิทธิไดรับเงินเพิ่มสำหรับตำแหนงที่มีเหตุพิเศษตำแหนงผู
ปฏิบัติหนาที่ดานสืบสวน (ต.ส.ส. ไปปฏิบัติราชการหนาที่จราจร จะมีสิทธิไดรับเงินผูปฏิบัติหนาที่ดานสืบสวน
(ต.ส.ส. อยูหรือไม
ก. ได เนื ่ อ งจากระเบี ย บกำหนดให ผ ู ป ฏิ บ ั ต ิ ห น า ที ่ ใ นสายงานป อ งกั น ปราบปราม สื บ สวน จราจร
สามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนหนาที่กันได
ข. ไมได เพราะเงินแตละระดับไมเทากัน
ค. ได เพราะเปนคำสั่งผูบังคับบัญชา
ง. ไมได เพราะปฏิบัติหนาที่โดยมิชอบ
(ตอบขอ ก. (ตามระเบียบ ก.ตร. วาดวยเงินเพิ่มสำหรับตำแหนงที่มีเหตุพิเศษ ตำแหนงผูปฏิบัติหนาที่ดาน
ปองกันและปราบปราม ดานสืบสวน และดานจราจร พ.ศ. 2563 ขอ 11 ขาราชการตำรวจที่ไดรับแตงตั้งใหดำรง
ตำแหนงดานปองกันปราบปราม ดานสืบสวน หรือดานจราจร ดานใดดานหนึ่งหรือหลายดานรวมกัน ไมเต็มเดือนใน
เดือนใดใหมีสิทธิไดรับ ต.ป.ป ต.ส.ส. หรือ ต.จ.ร.สำหรับเดือนนั้น ตามสวนของจำนวนวันที่ไดดำรงตำแหนง และ
ปฏิบัติหนาที่ดังกลาว ถาเดือนใด ไดปฏิบัติหนาที่ ดานปองกันปราบปราม ดานสืบสวน หรือดานจราจร ที่ไดรับการ
แตงตั้งดานใดดานหนึ่ง หรือหลายดานรวมกัน ไมมีสิทธิไดรับ ไดรับ ต.ป.ป ต.ส.ส. หรือ ต.จ.ร. สำหรับเดือนนั้น
ง. ไดรับไมเกินกึ่งหนึ่งของระดับเดิม
(ตอบขอ ข. (ตามระเบียบ ก.ตร. วาดวยเงินเพิ่มสำหรับตำแหนงที่มีเหตุพิเศษ ตำแหนงผูปฏิบัติหนาที่ดาน
ปองกันและปราบปราม ดานสืบสวน และดานจราจร พ.ศ. 2563 ขอ 6 ผูปฏิบัติหนาที่ดานปองกันปราบปรามให
ไดรับ ต.ป.ป. นับแตวันที่ไดรับการแตงตั้งและเขาปฏิบัติหนาที่ ในตำแหนงผูปฏิบัติหนาที่ดานปองกันปราบปราม
ในอัตราดังนี้
รอง ผกก.หรือเทียบเทา ใหไดรับเดือนละ 4,700 บาท
สารวัตร หรือเทียบเทา ใหไดรับเดือนละ 4,000 บาท
รองสารวัตร หรือเทียบเทา ใหไดรับเดือนละ 3,500 บาท
ผบ.หมู หรือเทียบเทา ใหไดรับเดือนละ 3,000 บาท
94. ขอใดตองขอรับรองเงินเดือนเหลือจาย
ก. การใชอัตราเงินเดือนใหม เพื่อรองรับการบรรจุแตงตั้งขาราชการใหม
ข. การเบิกจายเงินประจำตำแหนง หรือเงินเพิ่มพิเศษประเภทตาง ๆ ที่มีการกำหนดเพิ่มใหมตาม มติ ก.ตร.
ค. การเบิกจายเงินเดือนใหแกขาราชการตำรวจซึ่งถูกสั่งใหออก ปลดออก หรือ ไลออกจากราชการ และ
ตอมา ไดมีคำสั่งใหกลับเขารับราชการ
ง. ถูกทุกขอ
(ตอบขอ ง. (หนังสือ ตร. ดวนที่สุด ที่ 0009.167/ว 60 ลง 17 มิ.ย.56 เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการขอ
หนังสือรับรองเงินเดือนเหลือจายและสงรายงานสรุปผลการเบิกจายเงินเดือน
96. การจางพนักงานราชการใหกระทำเปนสัญญาจางไมเกินคราวละกี่ป
ก. ๒ ป
ข. ๓ ป
ค. ๔ ป
ง. ๕ ป
(ตอบขอ ค. (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีวาดวยพนักงานราชการ พ.ศ.2547 ขอ 11 การจางพนักงาน
ราชการใหกระทําเปนสัญญาจางไมเกินคราวละสี่ปหรือตามโครงการที่มีกําหนดเวลาเริ่มตนและสิ้นสุดไวโดยอาจ
มีการตอสัญญาจางได ทั้งนี้ตามความเหมาะสมและความจําเปนของแตละสวนราชการ
1. หลักการการจัดซื้อจัดจ้างตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
ข้อใดถูกต้อง
ก. คุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตรวจสอบได้
ข. คุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ไร้ทุจริต
ค. โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
ง. โปร่งใส ตรวจสอบได้
(ตอบข้อ ก.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 8)
2.
ใครเป็นผู้รักษาการและมีอำนาจออกกฎกระทรวงและระเบียบเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัด
จ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
(ตอบข้อ ง.) (ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 3)
3. ข้อใดคือความหมายของ “วิธีคัดเลือก”
ก. การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการทั่วไปที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานของรัฐ
กำหนดให้เข้ายื่นข้อเสนอ
ข. การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานของรั ฐกำหนด
รายใดรายหนึ่ งให้ เข้ายื่ น ข้อ เสนอหรื อ ให้ เข้ ามาเจรจาต่ อรองราคารวมทั้ งการจั ดซื้ อ จัด จ้ างพั ส ดุ กั บ
ผู้ประกอบการโดยตรงในวงเงินเล็กน้อยตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ค. การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการที่รู้จักที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานของรัฐ
กำหนดให้เข้ายื่นข้อเสนอ
ง. การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนเฉพาะผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานของรั ฐ
กำหนดซึ่งต้องไม่น้อยกว่าสามรายให้ เข้ายื่นข้อเสนอ เว้นแต่ในงานนั้นมีผู้ประกอบการที่มีคุณ สมบัติ
ตรงตามที่กำหนดน้อยกว่าสามราย
(ตอบข้อ ง.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 55 (2))
4. เป็นพัสดุที่จะขายทอดตลาดโดยหน่วยงานของรัฐ องค์การระหว่างประเทศหรือหน่วยงานของต่างประเทศ
“หากท่านเป็นเจ้าหน้าที่จะเลือกใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างแบบใด”
ก. ประกวดราคา
ข. ประกาศเชิญชวนทั่วไป
ค. เฉพาะเจาะจง
ง. คัดเลือก
(ตอบข้อ ค.) (ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
ข้อ 215 (ข))
5. อัตราค่าปรับ กรณีคู่สัญญาไปจ้างช่วงให้ผู้อื่นไปทำต่ออีกทอดหนึ่ง โดยฝ่าฝืนข้อตกลงกับหน่วยงานของรัฐ
ต้องมีค่าปรับไม่น้อยกว่าร้อยละเท่าใด ของวงเงินของงานจ้างช่วงตามสัญญา
ก. ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 20
ข. ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 10
ค. ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 15
ง. ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 25
(ตอบข้อ ข.) (ประกาศคณะกรรมการกำหนดนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ เรื่อง
แบบสัญญาเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
ฉบับที่ 2 ข้อ 8)
7. ข้อใดคือความหมายของ “วิธีเฉพาะเจาะจง”
ก. การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานของรัฐกำหนด
รายใดรายหนึ่ งให้ เข้ายื่ น ข้อ เสนอหรื อ ให้ เข้ ามาเจรจาต่ อรองราคารวมทั้ งการจั ดซื้ อ จัด จ้ างพั ส ดุ กั บ
ผู้ประกอบการโดยตรงในวงเงินเล็กน้อยตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ข. การซื้อหรือการจ้างจากส่วนราชการหน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการ ส่วนท้องถิ่น
หน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ
ค. การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการที่รู้จักที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานของรัฐ
กำหนดให้เข้ายื่นข้อเสนอ
ง. การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนเฉพาะผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานของรัฐ
กำหนดซึ่งต้องไม่น้ อยกว่าสามรายให้เข้ายื่นข้อเสนอ เว้นแต่ในงานนั้นมีผู้ประกอบการที่มีคุณ สมบัติ
ตรงตามที่กำหนดน้อยกว่าสามราย
(ตอบข้อ ก.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 55 (3))
8.
ผู้ใดเป็นเจ้าหน้าที่หรือเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือบริหารพัสดุปฏิบัติห
รือละเว้นการปฏิบัติหรือกระทำโดยมิชอบต้องระวางโทษตามข้อใด
ก. จำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 30,000 บาทถึง 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 30,000 บาทถึง 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จ. จำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 250,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(ตอบข้อ ข.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 120)
9. การลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างจะกระทำได้ต่อเมื่อใด
ก. อยู่ในกรอบระยะเวลาของสัญญา
ข. ได้รับอนุมัติงบประมาณ
ค. ล่วงพ้นระยะเวลาอุทธรณ์และไม่มีผู้ใดอุทธรณ์
ง. ผ่านการตรวจสอบจาก ค.ป.ท. แล้วอย่างน้อย 30 วัน
(ตอบข้อ ค.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 66)
10. คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนใครเป็นประธาน
ก. อธิบดีกรมบัญชีกลาง
ข. ปลัดกระทรวงการคลัง
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ง. เลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี
(ตอบข้อ ข.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 41)
11. พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับในการจัดซื้อจัดจ้างใด
ก. การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับการพาณิชย์โดยตรง
ข. การจัดซื้อจัดจ้างยุทโธปกรณ์
ค. การจัดซื้อจัดจ้างเพื่อการวิจัยและพัฒนา
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 7)
14. ใครเป็นผู้มีอำนาจสั่งให้ผู้ยื่นข้อเสนอหรือคู่สัญญาเป็นผู้ทิ้งงาน
ก. ค.ป.ท.
ข. ปลัดกระทรวงการคลัง
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ง. คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ
(ตอบข้อ ข.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 109 วรรค 2)
15. การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการให้พิจารณาข้อใดสำคัญที่สุด
ก. แล้วเสร็จตามสัญญา
ข. คุณภาพของงาน
ค. บริการและคุณภาพ
ง. คุณภาพและความคงทนถาวร
(ตอบข้อ ก.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 106)
2 9 .
เพื่อประโยชน์ในการจัดทำร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดของพัสดุที่จะทำการจัดซื้อจัดจ้างหน่วยงานขอ
งรัฐต้องดำเนินการอย่างไร
ก. จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นร่างขอบเขตของงาน
ข. รายละเอียดของพัสดุ
ค. ร่างเอกสารเชิญชวนจากผู้ประกอบการ
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 59)
2 9 . ก า ร ไ ด้ ม า ข อ ง ร า ค า ก ล า ง
เพื่ อ ใช้ เป็ น ฐานสำหรั บ เปรี ย บเที ย บราคาที่ ผู้ ยื่ น ข้ อ เสนอได้ ยื่ น ข้ อ เสนอไว้ซึ่ งสามารถจั ด ซื้ อ จั ด จ้า งได้ จริ ง
ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ราคาที่ได้มาจากการคำนวณตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการราคากลางกำหนด
ข. ราคาที่ได้มาจากฐานข้อมูลราคาอ้างอิงของพัสดุที่กรมบัญชีกลางจัดทำ
ค. ราคามาตรฐานที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนด
ง. ราคามาตรฐานที่สำนักงบประมาณหรือหน่วยงานกลางอื่นกำหนด
(ตอบข้อ ค.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 4)
30. ที่ปรึกษาที่จะเข้าร่วมการเสนองานกับหน่วยงานของรัฐต้องขึ้นทะเบียนไว้กับที่ใด
ก. กรมการค้า กระทรวงพาณิชย์
ข. ศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษา กรมบัญชีกลาง
ค. ศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษา กระทรวงการคลัง
ง. ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร สำนักนายกรัฐมนตรี
(ตอบข้อ ค.) (ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
หมวด 3 ข้อ 101)
32. ข้อใดไม่ได้อยู่ในรายงานขอซื้อขอจ้าง
ก. ราคากลางของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง
ข. กำหนดเวลาที่ต้องการใช้พัสดุนั้นหรือให้งานนั้นแล้วเสร็จ
ค. ความเป็นมาที่ต้องซื้อหรือจ้าง
ง. หลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอ
(ตอบข้อ ค.) (ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 22)
34. ข้อใดไม่ใช่เกณฑ์ประกอบการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปหรือวิธีคัดเลือก
ก. ต้นทุนของพัสดุนั้นตลอดอายุการใช้งาน
ข. บริการหลังการขาย
ค. การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ
ง. คุณสมบัติของผู้เสนอราคา
(ตอบข้อ ง.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 65)
35. กรณีใดที่หน่วยงานของรัฐไม่ต้องจัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี เพื่อประกาศเผยแพร่ในระบบ
เครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง
ก. กรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หรือเป็นพัสดุที่ใช้ในราชการลับ
ข. กรณี ที่ มี ว งเงิน ในการจั ด ซื้ อ จั ด จ้ างตามที่ ก ำหนดในกฎกระทรวงหรือ มี ค วามจำเป็ น ต้ อ งใช้ พั ส ดุ
โดยฉุกเฉิน หรือเป็นพัสดุที่จะขายทอดตลาด
ค. กรณีที่เป็นงานจ้างที่ปรึกษาที่มีวงเงินค่าจ้างตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 11 (1) – (3))
37. การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุกรณีตามข้อใดให้ใช้วิธีคัดเลือก
ก. มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องใช้พัสดุนั้นอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดหมายได้
ข. มีความจำเป็นต้องใช้พัสดุนั้นโดยฉุกเฉิน เนื่องจากเกิดอุบัติภัยหรือภัยธรรมชาติ
ค. เป็นพัสดุที่จะขายทอดตลาดโดยหน่วยงานของรัฐ
ง. เชิญชวนผู้ประกอบการทั่วไปที่คุณสมบัติตรวจตามเงื่อนไขที่หน่วยงานของรัฐกำหนดให้เข้ายื่นเสนอ
(ตอบข้อ ก.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 56(1) (ค))
42. ในการซื้อหรือจ้างครั้งเดียวกันห้ามแต่งตั้งผู้ที่เป็นกรรมการชุดใดซ้ำกัน
ก. กรรมการซื้อหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือกเป็นกรรมการกำหนดราคากลาง
ข. กรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เป็นกรรมการกำหนดราคากลาง
ค. กรรมการซื้อหรือจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงเป็นกรรมการตรวจรับพัสดุ
ง. กรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เป็นกรรมการตรวจรับพัสดุ
(ตอบข้อ ง.) (ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
ข้อ 26 วรรค 3)
43. ข้อใดมิใช่ความหมายของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
ก. องค์กรตามรัฐธรรมนูญ หมายถึง ผู้พิพากษา
ข. ราชการส่วนกลาง หมายถึง อธิบดี
ค. ราชการส่วนภูมิภาค หมายถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ก.) (ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซือ้ จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 4)
44. ข ้ อ ใ ด ไ ม ่ ใ ช ่ ห ล ั ก ป ร ะ ก ั น ส ั ญ ญ า ต า ม ร ะ เ บี ย บ ก ร ะ ท ร ว ง ก า ร ค ลั ง
ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐
ก. หนังสือค้ำประกันของบริษัทเงินทุนที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการเงินทุนเพื่อการพาณิชย์และ
ประกอบธุรกิจค้ำประกันตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย
ข. พันธบัตรรัฐบาลไทย
ค. เช็คที่ธนาคารสั่งจ่ายซึ่งเป็นเช็คลงวันที่ที่ใช้เช็คนั้นชำระต่อเจ้าหน้าที่หรือก่อนวันนั้นไม่เกิน 3 วันทำการ
ง. เช็คที่ผู้เสนอราคาสั่งจ่ายซึ่งเป็นเช็คลงวันที่ที่ใช้เช็คนั้นชำระแก่เจ้าหนี้ ซึ่งเป็นเช็คลงวันที่ที่ใช้เช็คนั้นไม่เกิน
3 วันทำการ
(ตอบข้อ ง.) (ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐
ข้อ ๑๖๗)
45. การประชุมของคณะกรรมการแต่ละคณะต้องมีองค์ประชุมอย่างไร
ก. ต้องมีกรรมการมาประชุมจำนวนหนึ่งในสาม
ข. ต้องมีกรรมการมาประชุมจำนวนกี่คนก็ได้
ค. ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด
ง. ไม่มีข้อใดถูก
(ตอบข้อ ค.) (ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐพ.ศ. ๒๕๖0
ข้อ ๒๗)
46. ข้อใดไม่ใช่ความหมายของการจัดซื้อจัดจ้าง
ก. การซื้อ
ข. การจ้าง
ค. การเช่าซื้อ
ง. การแลกเปลี่ยน
(ตอบข้อ ค.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา ๔)
47. คณะกรรมการราคากลางต้องพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดราคากลางอย่างน้อยปีละ
กี่ครั้ง
ก. อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
ข. อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
ค. อย่างน้อยปีละ 3 ครั้ง
ง. อย่างน้อยปีละ 4 ครั้ง
(ตอบข้อ ก.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา ๓๕)
50. ก ร ณี ที่ ห น่ ว ย ง า น ข อ ง รั ฐ ไ ม่ ไ ด้ ท ำ สั ญ ญ า ต า ม แ บ บ สั ญ ญ า
ไม่แก้ไขสัญญาตามความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดหรือไม่ตกลงหรือยินยอมให้แก้ไขสัญญาตามความเห็น
ข อ ง ส ำ นั ก ง า น อั ย ก า ร สู ง สุ ด
หากข้อสัญญาที่แตกต่างจากแบบสัญญาหรือสัญญาที่ไม่แก้ไขตามความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดในส่วน
ทีเ่ ป็นสาระสำคัญหรือ เป็นกรณีผิดพลาดอย่างร้ายแรง สัญญานั้นมีผลเป็นอย่างไร
ก. โมฆียะ
ข. สมบูรณ์
ค. ไม่สมบูรณ์
ง. โมฆะ
(ตอบข้อ ง.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 93 วรรค 6)
51. หน่วยงานของรัฐใดไม่ต้องอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
พ.ศ.2560
ก. องค์กรอิสระ
ข. องค์กรตามรัฐธรรมนูญ
ค. องค์การมหาชน
ง. ทุกข้ออยู่ในบังคับกฎหมายนี้
(ตอบข้อ ง.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา ๔)
52. คณะกรรมการตรวจรั บ พั ส ดุ ในงานจ้ างก่ อ สร้า ง โดยปกติ ให้ ต รวจผลงานที่ ผู้ รับ จ้ างส่ งมอบภายใน
ระยะเวลาใดนับแต่วันที่ประธานกรรมการ ได้รับทราบการส่งมอบงาน
ก. ภายใน 3 วัน
ข. ภายใน 3 วันทำการ
ค. ภายใน 5 วัน
ง. ภายใน 5 วันทำการ
(ตอบข้อ ข.) (ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐
ข้อ ๑๗๖ (5))
58. หลักประกันการเสนอราคาและหลักประกันสัญญา
ให้กำหนดมูลค่าเป็นจำนวนเต็มในอัตราร้อยละเท่าใดของวงเงินงบประมาณหรือราคาพัสดุที่จัดซื้อจัดจ้างครั้งนั้
น
ก. ร้อยละ 3
ข. ร้อยละ 5
ค. ร้อยละ 7
ง. ร้อยละ 10
(ตอบข้อ ข.) (ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐
ข้อ ๑๖๘)
59. ข้อใดคือความหมายของ “คณะกรรมการวินิจฉัย”
ก. คณะกรรมการวินิจฉัยความร่วมมือป้องกันการทุจริต
ข. คณะกรรมการวินิจฉัยนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
ค. คณะกรรมการวินิจฉัยราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ
ง. คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
(ตอบข้อ ง.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 4)
60. คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
มีกี่คน
ก. ไม่น้อยกว่า 6 คน ไม่เกิน 8 คน
ข. ไม่น้อยกว่า 7 คน ไม่เกิน 9 คน
ค. ไม่น้อยกว่า 9 คน ไม่เกิน 11 คน
ง. ไม่น้อยกว่า 5 คน ไม่เกิน 7 คน
(ตอบข้อ ง.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 20 (3))
62. งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างอาจกระทำได้โดยวิธีใด
ก. วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป
ข. วิธีคัดเลือก
ค. วิธีเฉพาะเจาะจง
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 79)
64. ข้ อ ใดคื อ ความหมายของ “เจ้ าหน้ า ที่ ” ตาม พ.ร.บ. การจั ด ซื้ อ จั ด จ้ า งและการบริห ารพั ส ดุ ภ าครั ฐ
พ.ศ. 2560
ก. ผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ
ข. ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้มีอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุของ
หน่วยงานของรัฐ
ค. ถูกเฉพาะข้อ ข
ง. ถูกข้อ ก และ ข
(ตอบข้อ ง.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 4)
6 5 . ร า ค า ก ล า ง คื อ
ราคาเพื่ อใช้เป็ น ฐานสำหรับ เปรีย บเทีย บราคาที่ผู้ ยื่นข้อเสนอได้ยื่นเสนอไว้ซึ่งสามารถจัดซื้อจัดจ้างได้จริง
โดยพิจารณาข้อใดเป็นลำดับแรก
ก. ราคาที่เคยซื้อหรือจ้างครั้งหลังสุดภายในระยะเวลาสองปีงบประมาณ
ข. ราคาที่ได้มาจากการคำนวณตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการราคากลางกำหนด
ค. ราคาที่ได้มาจากฐานข้อมูลราคาอ้างอิงของพัสดุที่กรมบัญชีกลางจัดทำ
ง. ราคามาตรฐานที่สำนักงบประมาณหรือหน่วยงานกลางอื่นกำหนด
(ตอบข้อ ข.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 4)
66.
หน่วยงานใดมีหน้าทีจ่ ัดทำแนวทางปฏิบัติในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างผ่านทางระบบจัดซื้อจัดจ้าภาครัฐด้วย
อิเล็กทรอนิกส์
ก. สำนักงบประมาณ
ข. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ค. กรมบัญชีกลาง
ง. กระทรวงการคลัง
(ตอบข้อ ค.) (ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 10)
71.
ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐได้ทำการจัดซื้อจัดจ้างขั้นตอนหนึ่งขั้นตอนใดผิดพลาดและไม่มีผลต่อการจัดซื้อจัดจ้า
งอย่างมีนัยสำคัญ ให้ถือว่าการจัดซื้อจัดจ้างนั้นเป็นอย่างไร
ก. การจัดซื้อจัดจ้างนั้นย่อมไม่เสียไป
ข. การจัดซื้อจัดจ้างนั้นเสียไป
ค. การจัดซื้อจัดจ้างนั้นเป็นโมฆะ
ง. การจัดซื้อจัดจ้างนั้นผิดระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง
(ตอบข้อ ก.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 14)
76. ในกรณี ที่พัส ดุสู ญ ไปไม่ป รากฏตัวผู้รับ ผิ ดหรือมีตัว ผู้รับผิ ดแต่ไม่ส ามารถชดใช้ได้ ให้ จำหน่ายพัส ดุนั้น
เป็นสูญ ตามหลักเกณฑ์ในข้อใด
ก. ถ้าพัสดุนั้นมีราคาซื้อ หรือได้มารวมกันไม่เกิน 500,000 บาท
ข. ถ้าพัสดุนั้นมีราคาซื้อ หรือได้มารวมกันไม่เกิน 1,000,000 บาท
ค. ถ้าพัสดุนั้นมีราคาซื้อ หรือได้มารวมกันไม่เกิน 1,200,000 บาท
ง. ถ้าพัสดุนั้นมีราคาซื้อ หรือได้มารวมกันไม่เกิน 1,500,000 บาท
(ตอบข้อ ข.) (ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
ข้อ 217)
77. เมื่อได้รับอนุมัติให้จำหน่ายพัสดุแล้วเจ้าหน้าที่พัสดุต้องดำเนินการอย่างไร
ก. ให้เจ้าหน้าทีจ่ ำหน่ายออกจากบัญชีหรือทะเบียน
ข. ให้เจ้าหน้าทีล่ งจ่ายพัสดุออกจากบัญชีหรือทะเบียนทันที
ค. ให้เจ้าหน้าทีต่ ัดออกจากบัญชีหรือทะเบียน
ง. ให้เจ้าหน้าทีล่ บออกจากบัญชีหรือทะเบียน
(ตอบข้อ ข.) (ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
ข้อ 218)
7 8 .
ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการควบคุมและดูแลพัสดุที่อยู่ในความครอบครองให้มีการใช้และการบริหารพัสดุตา
มข้อใด
ก. เหมาะสม
ข. คุ้มค่า
ค. เกิดประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐมากที่สุด
ง. ถูกทุกข้อ
(ตอบข้อ ง.) (พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 112)
81. รถราชการมีกี่ประเภท
ก. 1 ประเภท รถประจำตำแหน่ง
ข. 2 ประเภท รถประจำตำแหน่ง และ รถส่วนกลาง
ค. 3 ประเภท รถประจำตำแหน่ง รถส่วนกลาง และ รถอารักขา
ง. 5 ประเภท รถประจำตำแหน่ง รถส่วนกลาง รถรับรอง รถรับรองประจำจังหวัด และ รถอารักขา
(ตอบข้อ ง.) (ระเบียบสำนั กนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยรถราชการ พ.ศ.2523 ข้อ 4 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2530 (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2535 (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2538 (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2541 (ฉบับที่
6) พ.ศ.2545)
82. รถส่วนกลางให้เก็บรักษาไว้ที่ใด
ก. คลัง
ข. บ้านพัก
ค. สถานที่ราชการ
ง. บ้านพักส่วนตัว
(ตอบข้อ ค.) (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยรถราชการ พ.ศ.2523 ข้อ 16)
84.
การโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุเฉพาะที่ดินทีเ่ ป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉ
พาะ ให้ตราเป็นกฎหมายใด
ก. พระราชบัญญัติ
ข. พระราชกำหนด
ค. พระราชกฤษฎีกา
ง. กฎกระทรวง
(ตอบข้อ ก.) (พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 มาตรา ๓๐)
8 6 .
การจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุจากบุคคลที่มิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐต้องเป็นเพื่อให้เกิดประโยชน์แ
ก่ทางราชการโดยต้องคำนึงถึงข้อต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด
ก. วัตถุประสงค์ในการจัดหาประโยชน์
ข. ผลประโยชน์ตอบแทนอื่นนอกเหนือจากค่าเช่าที่จะได้รับ
ค. อัตราเช่าตามปกติในท้องตลาด
ง. มูลค่าอสังหาริมทรัพย์บนที่ดินที่ตกหรือจะตกเป็นของกระทรวงการคลัง อันเป็นมูลค่า ณ ระยะเวลาเช่า
(ตอบข้อ ง.) (พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 มาตรา ๒๗)
87.
การจัดทำรายงานการปกครองดูแลและใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
(แบบ ธร.3801) ต้องรายงานแก่กรมธนารักษ์ภายในเดือนใดของทุกปี
ก. มกราคม
ข. มีนาคม
ค. สิงหาคม
ง. กันยายน
(ตอบข้อ ง.) (หน่วยงานในสังกัด ตร. ทุกหน่วย จะต้องถือปฏิบัติตามหนังสือ ตร. ที่ ๐๕๑๔.๕๑๔/๗๙๓๓
ลง ๑๕ มิ.ย.๒๕๓๘)
......................................................