Professional Documents
Culture Documents
สรุปการสังเกตการสอนดนตรีสำหรับเด็ก
สรุปการสังเกตการสอนดนตรีสำหรับเด็ก
การสั งเกตการสอน
สรุปเนื้อหาทฤษฎีการสอนดนตรี
ของ Dalcroze วันที่ 8 กันยายน 2548
อาจารย์ ลลี าวดี โรจนเสถียร (อาจารย์ ป้ ูเป้ )
เอมิล ชาคส์ –ดาลโครซ (Emile Jaques-Dalcroze, 1865 – 1950)
ผูป้ ระพันธ์เพลงและนักดนตรี ศึกษาชาวสวิส วิธีการสอนของดาลโครซเป็ นที่นิยมใช้ทวั่ โลก
โดยเฉพาะในสหรัฐ อเมริ กาได้รับความสนใจเพิม่ ขึ้นทุกขณะ โดยดาลโครซ มีแนวคิดที่วา่ มนุษย์
มีจงั หวะอยูใ่ นตัวเองโดยธรรมชาติอยูแ่ ล้ว เช่น การเดิน การวิ่ง จังหวะการเต้นของหัวใจ เป็ นต้น
สิ่ งเหล่านี้จะมี Pattern ที่แน่นอน จึงควรนาสิ่ งที่มีอยูแ่ ล้วมาใช้ในการเรี ยนรู ้ดนตรี และใช้ร่างกาย
เป็ นสื่ อในการเรี ยนรู ้
สรุปการบรรยายและสั งเกตการสอน
สรุปการบรรยายทฤษฎีการสอนของ โคได
บรรยายโดย อาจารย์ สมชัย ตระการรุ่ง25 สิงหาคม 2548
มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทากิจกรรมที่เกี่ยวกับดนตรี โดยขั้นตอนแรก อาจารย์สมชัย ได้แนะนา
กิจกรรมการสอนระดับเสี ยง โดยใช้การทักทายระหว่างครู กบั นักเรี ยน โดยครู ร้องทักทางว่า “สวัด
ดีนกั เรี ยน”(ทานอง ซอล ซอล มี ซอล มี) หลังจากนั้นนักเรี ยนร้องตอบกลับในทานองเดิมด้วย
ประโยคที่วา่ “สวัสดีคุณครู ” ซึ่งง่ายต่อการแยกแยะระดับเสี ยงสูงต่าของตัวโน้ต โดยครู จะยกมือ
สู งและต่าแสดงระดับเสี ยงประกอบด้วย หลังจากนั้นก็ค่อยเพิ่มตัวโน้ตอื่นๆเข้าไปแล้วเปลี่ยนเนื้อ
ร้อง หรื อกาหนด Pattern อย่างง่ายๆ อาจจะเป็ นชื่อเล่นของนักเรี ยนในห้องก็ได้ โดยครู จะคอยให้
สัญลักษณ์ Hand Sign ของ Kodaly เพื่อบอกระดับเสี ยง แล้วให้นกั เรี ยนผลัดกันร้องต่อๆกันไป
กิจกรรมนี้ทาให้นกั เรี ยนเรี ยนรู ้การแยกแยะระดับเสี ยงสู งต่าและเรี ยนรู ้สัญลักษณ์มือของโคได อีก
ทั้งยังได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินจากกิจกรรมดังกล่าวด้วย
สรุปสั งเกตการสอนวิชาดนตรี
ณ โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ วันที่ 1 กันยายน 2548
ชั้นป.1-2
มีการนาทฤษฎีการสอนดนตรี ของโคได ดาลโครซ และคาร์ล ออร์ฟ มาผสมผสานในการ
สอนดนตรี สาหรับเด็ก ซึ่งกิจกรรมการสอนที่สนุกสนานและเพลิดเพลินทาให้นกั เรี ยนได้พฒั นา
ความรู ้ดา้ นดนตรี โดยที่เขาไม่รู้ตวั กิจกรรมดังกล่าวเน้นให้ผเู ้ รี ยนได้เรี ยนรู ้สัญลักษณ์ที่ใช้แทนตัว
โน้ต การเคลื่อนไหวร่ างการ การเรี ยนรู ้ระดับเสี ยงจากระนาด และครู ผสู ้ อนก็มีความรู ้และทักษะ
ในการถ่ายทอดความรู ้และสามารถควบคุมชั้นเรี ยนได้ดี ทาให้บรรยากาศในชั้นเรี ยนมีความราบรื่ น
และน่าเรี ยน นักเรี ยนมีความกระตือรื อร้นที่อยากจะเรี ยน นอกจากนี้การวางตัวและการวางบุคลิก
ของครู ก็มีความกลมกลืนกับธรรมชาติของนักเรี ยน ทาให้นกั เรี ยนรู ้สึกมีความเป็ นกันเองกับครู กล้า
แสดงออก
ชั้นป.3-4
การสอนเริ่ มมีการเพิ่มเนื้อหาด้านดนตรี มากขึ้น เช่นการอ่านโน้ตสากล การเรี ยนรู ้ระดับเสี ยง
การเป่ าขลุ่ยรี คอร์ดเดอร์ ในระดับชั้นนี้ไม่เน้นการเคลื่อนไหวร่ างกายแต่ยงั มีการร้องเพลงอยู่
สาหรับกิจกรรมและวิธีการสอนนั้นครู จะเป็ นต้นแบบในการเรี ยนรู ้ โดยสอนให้เด็กอ่านโน้ต และ
ร้องตาม แล้วจึงพัฒนาไปสู่การปฏิบตั ิ ซึ่งเป็ นการนาทฤษฎีการสอนดนตรี ของ Zuzuki ในชั้นนี้ครู
จะเป็ นผูพ้ ูดมากกว่าชั้นป.1-2
ชั้นป.5-6
มีการเน้นเนื้ อหาและทฤษฎีทางดนตรี มากขึ้นแต่ก็ยงั มีการทากิจกรรมการร้อง การเคลื่อนไหว
และการเป่ าขลุ่ย ในชั้นนี้ครู จะเป็ นผูพ้ ูดมากขึ้น สาหรับหลักสู ตรในชั้นป.5-6 ในปั จจุบนั นั้นได้มี
การทดลองใช้หลักสูตรใหม่ที่ทาการปรับปรุ ง คือนักเรี ยนสามารถเลือกเรี ยนดนตรี และนาฏศิลป์ ที่
ตนเองสนใจ โดยแบ่งออกเป็ น 4 กลุ่ม ให้นกั เรี ยนเลือกเรี ยนคือ
5
1. เกี่ยวกับทฤษฎีดนตรี
2. เกี่ยวกับดนตรี ไทย ดนตรี ตะวันตก และดนตรี เอเชีย
3. ราวงมาตรฐาน
4. ดนตรี พ้นื เมืองและการแสดงพื้นเมือง
โดยนักเรี ยนสามารถเลือกเรี ยนได้ตามความถนัด ส่วนในการเรี ยนครู จะทาการสอนแบบบูรนาการ
ทั้ง 4 กลุ่มข้างต้น เพื่อให้ผเู ้ รี ยนได้รับความรู ้และทักษะในแต่ละกลุ่มได้อย่างครบถ้วนเช่นเดียวกัน