You are on page 1of 34

(Circulartory S

ystem)

นางสาวพรทิพย ์ จำลองเพลง
กลุม
่ สาระการเรี ยนรู้ วท
ิ ยาศาสตร์
ตัวช้ีวัด
• ว 1.2 ม.2/6บรรยายโครงสร ้างและหน ้าทีข
่ อง
หัวใจหลอดเลือดและเลือด
• ว 1.2 ม.2/7อธิบายการทำงานของระบบ
หมุนเวียน
• ระบบหมุนเวียนเลือด
เป็ นระบบทีเ่ ลือดทำหน ้าทีลำ่ เลียง
สารต่างๆ ไปยังเซลล์ทวั่ ร่างกาย
เชน ่ สารอาหาร แก๊สต่างๆ เกลือแร่
ฮอร์โมน และรับของเสย ี สง่ ออก
นอกร่างกายโดยลำเลียงไปตาม
้ อด เชน
เสนเลื ่ CO2 ยูเรีย ยูรกิ
แอมโมเนีย
• วิลเลีย
่ ม ฮาร์วย
ี ์ (William
Harvey) นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ
เป็ นผู ้ค ้นพบระบบการหมุนเวียนเลือดของ
คน ว่ามีระบบปิ ด คือ มีการไหลของ
เลือดภายในหลอดเลือดเป็ นทิศทาง
เดียวกัน ซงึ่ ระบบจะทำหน ้าทีลำ
่ เลียงสาร
อาหารต่างๆไปยังเซลล์และกำจัดของเสย ี
ทีเ่ ซลล์ไม่ต ้องการออกจากร่างกาย
• อว ัยวะในระบบหมุนเวียน
เลือด
1. ห ัวใจ (Heart)
2. เสน ้ เลือด (Blood vessels)
3. เลือด (Blood)
ห ัวใจ
(Heart)
• เป็ นอวัยวะสำคัญ ตัง้ อยูบ่ ริเวณทรวงอกของ
มนุษย์ อยูร่ ะหว่างปอดทัง้ สองข ้าง ค่อนไป

ทางด ้านซายเล็ กน ้อย หัวใจทำหน ้าทีร่ ับทำ
หน ้าทีเ่ สมือนเครือ
่ งสูบฉีด ทำให ้เกิดแรงดัน
ให ้แก๊สไหลไปกับเลือดไปยังสว่ นต่างๆของ
ร่างกาย เกิดการแลกเปลีย ่ นแก๊ส หลังจาก
นัน
้ เลือดไหลกลับเข ้าสูห ่ วั ใจตามเดิม
ห ้อง แต่ละห ้องทำหน ้าทีด
่ งั นี้
• ห้องบน (atrium) ทำหน ้าทีร่ ับเลือดเข ้าสูห ่ วั ใจจาก
หลอดเลือดเวน
- left atrium รับเลือดแดงทีม ่ าจากปอดผ่าน pulmonary
veins
- right atrium รับเลือดจากร่างกายสว่ นบนและสว่ นล่าง
ผ่านหลอดเลือดดำใหญ่ 2 เสน้ คือ superior vena cava
และ Inferior vena cava
• ห้องล่าง (ventricle) ทำหน ้าทีส ่ บ
ู ฉีดเลือดจากหัวใจไป
ยังหลอดเลือดอาร์เทอรี
- left ventricle สูบฉีดเลือดแดงไปยังสว่ นต่างๆของ
ร่างกายผ่าน Aortic valve และหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์
ตา (Aorta)
- right ventricle รับเลือดจากหัวใจห ้องบนขวา และสง่
ต่อไปยังปอดผ่าน pulmonary valve และหลอดเลือดแดง
หลอดเลือด
(Blood
• แบ่งออกเป็ น 3 ระบบ
คือ
vessels)
้ เลือดดำ
1. เสน
(vein) นำเลือดจาก
สว่ นต่างๆ ของร่างกาย
่ วั ใจ แรงดันเลือด
เข ้า ้สูห
ต่ำผนังเสนเลื ้ อดบาง
สว่ นใหญ่เป็ นเลือดทีม ่ ี
ออกซเิ จนต่ำ ยกเว ้น
้ อดดำทีนำ
เสนเลื ่ เลือดที่
ฟอกแล ้วจากปอดมาสู่
หัวใจจะมีออกซเิ จนสูง
หลอดเลือด
(Blood (artery)
vessels)
้ เลือดแดง
2. เสน
นำเลือดออก
จากหัวใจไปยังอวัยวะต่าง
ๆ ของร่างกาย ผนัง
้ อดหนาและมีความ
เสนเลื
ยืดหยุน ่ มากเพือ่ ต ้านทาน
ต่อแรงดันเลือดทีถ ่ ก
ู บีบ
ออกจากหัวใจ เลือดทีอ ่ ยู่
ในเสนเลื้ อดแดงโดย
ทัว่ ไปมีสแ ี ดงหรือ
ออกซเิ จนสูง ยกเว ้น
เสนเลื้ อดแดงทีนำ ่ เลือด
ไปยังปอดเพือ ่ นำเลือดดำ
หลอดเลือด
(Blood
้ เลือดฝอย
3. เสน vessels)
(capillary) เป็ น
้ อดทีเ่ ชอ
เสนเลื ื่ มต่อระ
หว่างอาร์เทอรีและเวน มี
ขนาดเล็ก จำนวนมาก
ผนังบาง แทรกอยูต ่ าม
สว่ นต่างๆ ของร่างกาย
เป็ นบริเวณทีม
่ ก ี ารแลก
เปลีย่ นอาหาร แก๊สสาร
ต่างๆ และของเสย ี
ระหว่างเลือดกับ เซลล์
เลือดร่างกายของมนุ
(Blood) ษย์มเี ลือดอยู่
ประมาณ 6,000 ลูกบาศก์เ์ซนติ
เมตร (6 ลิตร) หรือประมาณร ้อยละ
7-8 ของน้ำหนักตัว ทำหน ้าทีเ่ ป็ น
ตัวนำอาหาร แก๊ส สารและของเสย ี
เข ้าและออกจากเซลล์
ประกอบด ้วย 2 สว่ น คือ
1. สว่ นทีเ่ ป็ นของเหลวมีร ้อยละ 55
ซงึ่ เรียกว่าน้ำเลือด หรือ plasma
2. สว่ นทีไ่ ม่เป็ นของเหลวมีร ้อยละ
45 ได ้แก่ เซลล์เม็ดเลือด และ
เกล็ดเลือด
น้ำเลือด
คือ (plasma)
สว่ นประกอบของโลหิตที่มีลักษณะเป็นของเหลวสเี หลืองใส มีน้ำ
เป็นสว่ นประกอบร้อยละ 91 ที่เหลือเป็นสารอาหารและโปรตีน ทำ
หน้าที่ลำเลียงเอ็นไซม์ ฮอร์โมน แร่ธาตุ วิตามิน แก๊ส สารอาหารตา่ งๆ
ไปใหเ้ ้ซลล์ และรับของเสยี สง่ ไปกำจัดนอกร่างกาย
ซลลเ์ ม็ดเลือด (Blood cell)
เซลลเ์ ม็ดเลือดแดง (Red blood cell)
- เกิดใหมม ่ ีนิวเคลียส โตเต็มที่จะไมม่ ีนิวเคลียส
่ ้ างมาจากไขกระดูก // เด็กสร้างที่ตับ มา้ ม
- ผูใ้ หญสร
และไขกระดูก
- มี hemoglobin เป็นองคป ์ ระกอบ
- ลำเลียงออกซิเจน
- มีอายุ 120 วัน แหลง่ ทำลายคือตับ และมา้ ม
- ในเลือด 1 ลูกบาศกม ์ ิลลิเมตร มีเม็ดเลือดแดง
ประมาณ 5 ลา้ นเม็ด
ซลลเ์ ม็ดเลือด (Blood cell)
เซลลเ์ ม็ดเลือดขาว (White blood cell )
- ขนาดใหญก ่ วา่ เม็ดเลือดแดง กลม ไมม ่ ี สี
- มีนิวเคลียส
- สร้างที่ไขกระดูก มา้ ม และตอ่ มน้ำเหลือง
- ทำลายเช้ ือโรคที่อยูใ่ นร่างกาย และหลั่งสารแอนติบอดี
หรื อภูมิคุม ้ กันออกมาทำลายเช้ ือโรค มีอายุ 7 - 14 วัน
- ถูกทำลายโดยตอ่ มน้ำเหลืองและมา้ ม
- เลือด 1 ลูกบาศกม ์ ิลลิเมตรจะมีเม็ดเลือดขาวประมาณ
6 - 8 พันเซลล์
แตถ ่ า้ มีเช้ ือโรคเขา้ สูร่ ่างกายจะมีจำนวนเพิม ่ มากถึง
15,000 เซลล์
เกล็ดเลือด (Platelets)
หรื อทรอมโบไซท์ (Thrombocytes) ไมม ่ ีสี รู ปร่าง
่ ีนิวเคลียส ไมม
ไมแ่ น่นอน ชว่ ยในการทำใหเ้ ลือดแข็งตัว และลดการสูญเสยี เลือด
จากร่างกายเวลาเกิดแผล
เกล็ดเลือดถูกสร้างขึ้นในไขกระดูกพร้อมกับเซลลเ์ ม็ดเลือดแดงและ
เซลลเ์ ม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือดแตล่ ะชุดจะไหลเวียนอยูใ่ น
กระแสเลือดประมาณ 8-10 วัน
เมื่อหลอดเลือดถูกทำลาย หลอดเลือดจะสง่ สัญญาณไปยังเกล็ด
เลือด แลว้ เกล็ดเลือดก็จะหลั่งเอนไซมท ์ ่ีชว่ ยใหเ้ ลือดแข็งตัวออก
มา พร้อมกับยึดเกาะกันเป็นกอ ้ นเลือดเพื่อหยุดการไหลของเลือด
จากนัน้ เมื่อปากแผลถูกอุด และเลือดหยุดไหลแลว้ เกล็ดเลือดก็
จะลดขนาดของลิม ่ เลือดที่อุดปากแผลอยูใ่ หเ้ ล็กลง เพื่อไมใ่ หส้ ง่
ผลกระทบตอ่ การไหลเวียนของเลือด
ปริ มาณเกล็ดเลือดปกติของคนเราจะอยูท ่ ่ี 150,000-
450,000 ตอ่ ไมโครลิตร หากจำนวนเกล็ดเลือดลดลง หรื อ
น้อยกวา่ 150,000 ตอ่ ไมโครลิตร ก็จะเขา้ สูภ ่ าวะเกล็ดเลือด
ต ่ำ ทำใหเ้ กิดเลือดออกงา่ ย หรื อร่างกายมีปัญหาในการทำให้
เลือดหยุดไหล ยิง่ หากมีจำนวนเกล็ดเลือดต ่ำกวา่ 50,000
ตอ่ ไมโครลิตร ก็ยงิ่ เส่ยี งเกิดปัญหาเลือดออกผิดปกติขัน้
รุ นแรง จนอาจเป็นอันตรายได้
การหมุนเวียนของ
เลือด
ความดันเลือด (Blood
Pressure)
คือ ความดันที่เกิดจากการบี บและคลายตัวของหัวใจ โดยหัววใจบี
ใจบีบ
เลือดดันออกจากหัวใจดว้ ยความดันสูง และเสน ้ เลือดที่นำเลือด
เขา้ สูห่ ั วใจมีแรงดันต ่ำ การวัดความดันเลือดจะวัดจากหลอดเลือด
ที่อยูใ่ กลห ใจเพื่อใหไ้ ดค
้ ั ววใจเพื ้ า่ ใกลเ้ คียงกับความดันในหัวใจมากที่สุด
(หลอดเลือดอาร์เตอร์รีท่ีตน ้ แขน) เครื่ องมือวัดความดันเลือด
เรี ยกวา่ มาตรความดันเลือด (Sphymonanomiter) ใชค ้ ูก
่ ั บหูฟัง
หรื อ สเตทโทสโคป (Stethoscope)
ใชห ้ น่วยวัดเป็นมิลลิเมตรของปรอท มีคา่ ตัวเลข 2 คา่ คือ
1. Systolic pressure คือคา่ ความดันที่วัดขณะหัวใจบีบตัว
(เขียนไวด ้ า้ นหน้า)
2. Diastolic pressure คือคา่ ความดันที่วัดขณะหัวใจคลายต วใจคลายตั ว
(เขียนไวด ้ า้ นหลัง)
ความดันเลือด (Blood
ความดันของผูใ้ หญPressure)

(ญ) มีคา่ ประมาณ 110/70 มิลลิเมตรของปรอท
(ช) มีคา่ ประมาณ 120/80 มิลลิเมตรของปรอท
- ปกติคา่ ความดันสูงสุดมีคา่ ประมาณ 100 + อายุของผูถ ้ ูกวัด
- ความดันเลือดขณะหัวใจรับเลือดไมค ่ วรเกิน 90 มิลลิเมตร
ของปรอท ถา้ เกินถือวา่ เป็นโรคความดันโลหิตสูง
- อาจมีสาเหตุ มาจากโกรธงา่ ย เครี ยด หลอดเลือดตีบ
คอเลสเตอรอลในเลือดสูง พบในผูส ้ ูงอายุเุป็นสว่ นใหญ่ และ
หากปลอ่ ยไวอ้ าจทำใหม ้ ีผลตามมาคือ เป็นโรคหัวใจขาดเลือด
โรคหลอดเลือดในสมองแตก และโรคไตวายเรื้ อรัง เป็นตน ้
ความดันเลือด (Blood
Pressure)
ปัจจัยที่มีผลตอ่ ความ
ดันเลือด
ความดันเลือด (Blood
การจับชีพจรPressure)

ชีพจร ( pluse ) หมายถึง อัตราการ


เตน้ ของหัวใจ
วใจ จังหวะการยืดหยุน ่
ของเสน ้ เลือดอาร์เทอรี เป็นไปตาม
จังหวะการเตน ้ ของหัวใจ สำหรับการ
เตน ้ ของหัวใจปกติ
วใจปกติประมาณ 70-80
ครัง้ /นาที แตอ่ าจเปลี่ยนแปลงได้
ตามลักษณะตา่ งๆ เชน ่ เพศ วัย
อิริยาบท โรคภัยไขเ้ จ็บ เป็นตน ้
สรุ ปสว่ นประกอบและหน้าที่ของอวัยวะใน
ระบบหมุนเวียนเลือด
การดูแลรักษาอวัยวะในระบบหมุนเวียนเลือดให ้ทำงานได ้อย่างปกติ
• ว 1.2 ม.2/8 ออกแบบการทดลองและทดลองในการเปรียบ
เทียบอัตราการเต ้นของหัวใจขณะปกติและหลังทำกิจกรรม
• ว 1.2 ม.2/9ตระหนักถึงความสำคัญของระบบหมุนเวียน
เลือดโดยการบอกแนวทางในการดูแลรักษาอวัยวะในระบบ
หมุนเวียนเลือดให ้ทำงานเป็ นปกติ

You might also like