You are on page 1of 13

ชื่อกิจกรรม จูจบ

ุ๊ ...กาลครัง้ หนึ่ ง
วัตถ๊ประสงค์ 1. เพื่อส่งเสริมการนำ าสมาธิมาใช้
2. เพื่อถอดตัวตนออกจากความค้๊นชินเดิมๆ
3. เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ อันที่จะนำ าไปส่ก
ู ารคิดค้น
นวัตกรรม
ระยะเวลา 20 นาที
อ๊ปกรณ์ -
วิธีดำาเนิ นกิจกรรม 1. จัดผู้เข้าร่วมกิจกรรมนั่ งเป็ นวงกลมวงเดียว จะนั่ ง
กับพื้นหรือนั่ งบนเก้าอีก ้ ไ็ ด้ (ควรจัดนั่ งแบบเข่าชนเข่า)
2. ให้ท๊กคนยกมือซ้ายตัง้ ฉากกับลำาตัว แบมือหงายขึ้น แล้วเอานิ้วชี้
มือขวาจิม ้ ลงบนฝ่ ามือซ้ายของคนที่นั่งชิดด้านขวาของตนเอง
3. ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมชีแ ้ จงวิธีการเล่น โดยมีข้อกำาหนดว่า จะเล่าเรื่องราว
ให้ฟังไปเรื่อยๆ และเมื่อได้ยินคำาว่า “หนึ่ ง” ให้แต่ละคนรีบชัก
มือขวาออก ในขณะเดียวกันให้รบ ี ห๊บมือซ้ายจับนิ้วชีม
้ ือขวา
ของอีกคนให้ได้
4. ให้ทำาลองทำาประมาณ 2 – 3 รอบ “โหล ๆ หนึ่ ง – สอง – สามท” “
พร้อมสี่ – สาม – สอง – หนึ่ ง” “กาลครัง้ หนึ่ ง นามามา
แล้ว” เป็ นคน
5. เรื่องเล่าเรื่อง ใช้เวลาเล่าเรื่องประมาณ 5 นาที
สร๊ปการเรียนรู้ 1. ชวนสนทนาถึงปั จจัยที่เอื้อต่อการละเล่นกิจกรรมนี้
2. คนส่วนมากจะค้๊นชินอยู่กับการทำางาน การคิดแบบ
เดิมๆ และบางครัง้ จากคาดกาลล่วงหน้ าในความค้๊นชินนั ้นๆ
3. การนำ าสิ่งเก่ามาปรับปร๊ง และใส่ความคิดสร้างสรรค์เข้าไปนั ้น คือ
“นวัตกรรม”

-----------------
ชื่อกิจกรรม ทีมแกร่ง คนเก่ง
วัตถ๊ประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์
2. เพื่อสร้างทีมปฏิบัติงาน
3. เพื่อสร้างองค์กรที่รู้ถึงบทบาทหน้ าที่ เคารพในกฎกติกา
ขององค์กรและสังคม
4. เพื่อเสริมสร้างให้รักองค์กร และสร้างสรรค์งานของ
องค์กรให้สำาเร็จและบรรล๊ตามวัตถ๊ประสงค์
ระยะเวลา 45 นาที
อ๊ปกรณ์ 1. กระดาษปรุูฟ, กระดาษกาวย่น
2. ปากกาเคมี ครบตามจำานวนคน
วิธีดำาเนิ นกิจกรรม 1. แบ่งกล่๊มผู้เข้าร่วมกิจกรรม กล่๊มละ 8 – 10 คน
โดยใช้เพลง หรือเกมที่เหมาะสม
2. ให้แต่ละกล่๊มเลือกประธาน – เลขาน๊การ – ผู้ช่วย
เลขาน๊การ – โฆษกประจำากล่๊ม -
ผู้ช่วยโฆษก – ฝ่ ายวัสด๊อป ๊ กรณ์ – ที่เหลือนอกนั ้นเป็ น
กรรมการฝ่ ายบริการ (คนใช้ทัว่ ไป)
3. ให้แต่ละกล่๊มตัง้ ชื่อกล่๊ม ที่มีความหมายเชิงสร้างสรรค์
(อาจให้มก ี ารตัง้ ชื่อเล่นของกล่๊มด้วยก็ได้ โดยมีข้อกำาหนด
เป็ นชื่อพยางค์เดียว) – คิดคำาขวัญกล่๊ม - และสร้างข้อตกลง
ในการทำางานและอยู่ร่วมกันของกล่๊ม
สร๊ปการเรียนรู้ การทำางานในลักษณะ “ทีมแกร่ง – คนเก่ง” นั ้น จะ
ต้องใช้กระบวนการกล่๊ม ซึ่งมี
หลักในการทำางานกล่๊มคือ ต้องร้อยรัดกันในสามส่วนคือ
ผู้นำา – ผู้ตาม – วิธีการ
เขียนเป็ นกลอนได้ดังนี้
งานจะดี ต้องอยู่ท่ี หัวหน้ ากลุ่ม รู้ควบค๊ม รู้ชีน
้ ำา
ป้ อนคำาถาม
อีก สมาชิกกลุ่ม หรือผู้ตาม ไม่วู่วาม รักกล่๊ม ท่๊มใจ
กาย
มีหัวหน้ า สมาชิก ที่สามารถ งานก็อาจ ไม่เร็วร๊ด ถึง
จ๊ดหมาย
จำาต้องมี วิธีการ ที่แยบคาย ย่๊งกลับหาย ยากกลับ
ง่าย ร้ายกลับดี.

----------------------
ชื่อกิจกรรม รู้เขา – ร้เู รา – รู้รว่ ม
วัตถ๊ประสงค์ เพื่อสร้างความตระหนั กถึงการอยู่รว่ มกันอย่างมีความ
ส๊ข
ระยะเวลา 10 – 15 นาที
อ๊ปกรณ์ -
วิธีดำาเนิ นกิจกรรม กิจกรรมย่อยที่ 1
1. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแต่ละคนเลือกสมาชิกอื่นของตนเอง
2 คน(ในใจ)
โดยกำาหนดให้คนที่หนึ่ งเป็ น A และคนที่สองเป็ น B โดยไม่
ต้องบอกให้เจ้าตัวรู้
2. ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมชีแ ้ จงวิธีการเล่น โดยกำาหนดให้แต่ละคน
ต้องเคลื่อนที่เข้าใกล้A ของตนเองให้มากที่ส๊ด ในขณะ
เดียวกันต้องเคลื่อนที่หนี ให้ห่าง B ของตนเอง
3. การเคลื่อนที่จะต้องเคลื่อนที่ช้า ไม่มีเสียง
4. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเคลื่อนที่ประมาณ 3 นาที
5. เมื่อการเคลื่อนที่หย๊ดนิ่ ง ก็ให้ท๊กคนนั่ งลง ผู้ดำาเนิ น
กิจกรรมส่๊มถามถึง A กับ B
ของแต่ละคน
สร๊ปการเรียนรู้ 1. สมมติให้ A เป็ นคนที่เราชอบ ส่วน B คนที่เราไม่
ชอบ โดยธรรมชาติของคน
ท๊กคนย่อมอยากอยู่ใกล้ อยากทำางาน อยากร่วมกิจกรรม
กับคนที่เราชอบ ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากทำางาน หรือร่วม
กิจกรรมกับคนที่เราไม่ชอบ
2. แต่ในที่ส๊ดเราก็ไม่สามารถปลีกตัวเฉพาะความชอบของ
เราได้ เพราะบางคนที่เราไม่ชอบ เขาอาจจะชอบเราก็ได้ ใน
ขณะที่คนที่เราชอบอาจจะเลือกเราเป็ นคนส๊ดท้าย
ก็เป็ นได้ นั่ นคือการทำางานในองค์การต้องอยู่ร่วมกันอย่าง
กัลยาณมิตร

วิธีดำาเนิ นกิจกรรม กิจกรรมย่อยที่ 2


1. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแต่ละคนเลือกสมาชิกอื่น 2 คน
กำาหนดให้เป็ น A และ B
(ไม่ควรให้เจ้าตัวรู้และควรเลือกคนใหม่) และกำาหนดให้
ตนเองเป็ น C
2. ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมชีแ ้ จงวิธีการเล่น กำาหนดให้แต่ละคน
เคลื่อนที่ช้าๆ ไม่มีเสียง
โดยต้องพยายามสร้างสามเหลี่ยมด้านเท่ากับเพื่อสมาชิกที่
เลือก ABC
3. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเคลื่อนที่ท่ีสักระยะหนึ่ ง จะหย๊ดนิ่ ง
4. ให้ท๊กคนนั่ งลง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่๊มถามถึง A กับ B
ของแต่ละคน
สร๊ปการเรียนรู้ 1. ปั จจัยที่ใช้ในกิจกรรมนี้คือ การมีสติ และนำ าเอา
สมาธิมาใช้
2. การถักทอเครือข่ายนั ้น ถึงจ๊ดหนึ่ งจะนิ่ ง และสาน
สัมพันธ์กันอย่างทัว่ ถึง
3. จากนั ้นจึงจะเคลื่อนไหวอย่างเป็ นกระบวนการและทรง
พลังในทางสร้างสรรค์

----------------------

ชื่อกิจกรรม เจ้าสี่ทิศ
วัตถ๊ประสงค์ 1. เพื่อฝึ กภาวะผู้นำา และผู้ตามที่ทรงค๊ณค่า
2. เพื่อฝึ กการทำางานที่ร้อยรัดกัน โดยยึดเป้ าหมายและ
วัตถ๊ประสงค์ ถึงแม้จะมีการปรับเปลี่ยนผู้นำาก็ตาม
ระยะเวลา 10 นาที
อ๊ปกรณ์ -
วิธีดำาเนิ นกิจกรรม 1. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจับกล่๊มกันกล่๊มละ 4 คน (อาจ
ใช้เกมหรือเพลงจับกล่๊ม)
2. ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมขออาสาสมัคร 3 คน ออกมาร่วมสาธิต
วิธีการเล่น
3. ให้แต่ละกล่๊ม หาที่วา่ ง ยืนเป็ นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปี ยกปูน
หันห้าไปทิศทางเดียวกัน
ทัง้ 4 คน
4. ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมชีแ ้ จงวิธีการเล่น ให้ท๊กคนเคลื่อนไหว
ช้าๆ โดยให้กำาหนดให้คนที่อยู่ด้านหลังทำาท่าทางเหมือนกับ
คนที่อยู่หน้ าส๊ด
5. เมื่อเคลื่อนไหวประมาณ 5 วินาที ให้ท๊กคนขวาหัน ทำาให้
เปลี่ยนผู้ท่ีอยู่ด้านหน้ า
นั่ นคือการเปลี่ยนกันเป็ นผู้นำา ให้ผู้นำาคนใหม่นำาเคลื่อนไหว
ให้ร้อยรัดต่อจากคนที่แล้ว และท๊กคนทำาตาม
6. ให้เคลื่อนไหว ขวาหัน ทำาตามกันอย่างร้อยรัด ประมาณ
2 – 3 รอบ
7. ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมชวนสนทนาหลับกิจกรรม
สร๊ปการเรียนรู้ 1. การทำางานเป็ นทีมนั ้น งานจะต้องต่อเนื่ องร้อยรัด
กันอย่างสร้างสรรค์
2. ท๊กคนล้วนมีโอกาสเป็ นผู้นำา และผู้ตาม เมื่ออยู่ใน
บทบาทใดก็ล้วนแต่ม่๊งความสำาเร็จขององค์กรเป็ นหลัก

---------------------------

ชื่อกิจกรรม คนลอย
วัตถ๊ประสงค์ 1. เพื่อฝึ กการวางแผนร่วมกัน
2. เพื่อฝึ กการปรับเปลี่ยนม๊มมองในการวางแผนและการ
ทำางาน
3. เพื่อฝึ กการทำางานเป็ นทีม
ระยะเวลา 20 นาที
อ๊ปกรณ์ เก้าอีม
้ ีพนั ก กล่๊มละ 4 ตัว
วิธีดำาเนิ นกิจกรรม 1. ให้แต่ละกล่๊ม คัดเลือกตัวแทนกล่๊ม 4 คน มีกติกา
คือ เป็ นเพศเดียวกัน ร่างกายแข็งแรง ไม่มีพันธะ และชอบ
ความเสี่ยง
2. ให้แต่ละกล่๊มนำ าเก้าอีม ้ าวางให้หันไป 4 ทิศทางกลางวงกลมของกล่๊ม
3. ให้ตัวแทนกล่๊มทัง้ 4 นั่ งบนเก้าอีค ้ นละตัว โดยให้หันหน้ าตามเข็ม
นาฬิกา
4. ให้ทัง้ 4 คนนอนลง โดยหน๊นตักคนด้านหลัง (จะเป็ นลักษณะนอน
หน๊นตักต่อกันเป็ นวงกลม)
5. ให้สมาชิกที่เหลือวางแผนร่วมกัน แล้วช่วยกันถอดเก้าอีอ ้ อกทัง้ 4 ตัว
โดยที่คนทัง้ สี่นอนหน๊นตักกันลอยตัวอยู่ได้ โดยไม่ต้องมี
ใครประคอง
6. ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมชวนสนทนาหลังกิจกรรม
สร๊ปการเรียนรู้ 1. การทำางานจะต้องมีการวางแผนร่วมกัน
2. สมาชิกในองค์กรจะต้องไว้เนื้ อเชื่อใจกัน
3. การคิดนอกกรอบในบางครัง้ อาจทำาให้งานสะดวก และสำาเร็จได้เร็ว
ขึ้น เป็ นการ
ประหยัดเวลา ทรัพยากร และลดภาวะเสี่ยงได้

----------------------

ชื่อกิจกรรม เก้าอีม้ น๊ษย์


วัตถ๊ประสงค์ 1. เพื่อฝึ กการทำางานเป็ นทีม
2. เพื่อฝึ กการวางแผนแบบมีส่วนร่วม
3. เพื่อสร้างความตระหนั กรู้ถึงการใช้ปัญญามากกว่าที่จะมองแต่ปัญหา
ระยะเวลา 20 นาที
อ๊ปกรณ์ เก้าอีค ้ รบตามจำานวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม
วิธีดำาเนิ นกิจกรรม 1. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเลือกนั่ งตามอิสระ โดยให้มี
ช่องว่างระหว่างเก้าอีข้ องแต่ละคนให้คนเดินผ่านได้ท๊ก
ทิศทาง และให้มีเก้าอีว้ า่ งอยู่ 1 ตัว
2. ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมชีแ ้ จงกติกา ดังนี้
2.1 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทัง้ หมดจะต้องช่วยกันพยายามไม่ให้ผู้
ดำาเนิ นกิจกรรม
นั่ งเก้าอีต้ ัวที่ว่างได้
2.2 ท๊กคนสามารถวิ่งได้ แต่ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมจะเดินช้าๆ
2.3 ห้ามดึงตัวผู้ดำาเนิ นกิจกรรม ห้ามยกเก้าอีอ ้ อกขณะที่ผู้
ดำาเนิ นกิจกรรม
จะนั่ ง
2.4 เมื่อล๊กจะต้องไป ถ้านั่ งลงที่เดิมถือว่าแพ้
2.5 ให้มก ี ารจับเวลาด้วย
3. ดำาเนิ นกิจกรรมประมาณ 5 – 7
4. ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมชวนสนทนาหลังกิจกรรม
สร๊ปการเรียนรู้ 1. การทำางานจะเกิดภาวะผู้นำาขึ้น ทัง้ โดยตำาแหน่ ง
โดยบทบาท และโดยธรรมชาติ
2. การวางแผนจะต้องให้ท๊กคนมีส่วนร่วม และต้องม่๊งสู่เป้ า
หมายให้ได้
3. ท๊กคนจะต้องมีสติ มีสมาธิ และใช้ปัญญามากกว่าการ
มองที่ปัญหา

---------------------------------

ชื่อกิจกรรม ดาวห้าแฉก กับ หกห้องใจ


วัตถ๊ประสงค์ 1. เพื่อเรียนรู้ตนเอง และเรียนรู้ผู้อ่ ืนอย่างสร้างสรรค์
2. เพื่อให้กล้านำ าเสนอแนวคิดของตนเอง และเคารพใน
แนวคิดของผู้อ่ ืน
3. เพื่อฝึ กการสนทนาด้วยความเป็ นกัลยาณมิตร
ระยะเวลา 30 นาที
อ๊ปกรณ์ 1. กระดาษ A4
2. ปากกา
วิธีดำาเนิ นกิจกรรม 1. แจกกระดาษ A4 และปากกาให้ครบท๊กคน
2. ให้ท๊กคนวาดรูปดาวห้าแฉก ลงบนหน้ ากระดาษด้าน
หนึ่ ง แล้วให้ตอบคำาถามของ
ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมทีละข้อ ดังนี้
2.1 แฉกที่ 1.- ให้บอกความเป็ นตัวตนของตนเอง
(อัตตลักษณ์+เอกลักษณ์)
2.2 แฉกที่ 2.- อ๊ดมคติ หรือหลักการในการทำางาน
ของตนเอง คืออะไร
2.3 แฉกที่ 3.- เวลาที่เราประสบความสำาเร็จ มีความ
ส๊ข เราคิดถึงใครเป็ น อันดับแรก
2.4 แฉกที่ 4.- เวลาที่เราประสบความล้มเหลว มี
ความท๊กข์ เราคิดถึงใคร เป็ นอันดับแรก
2.5 แฉกที่ 5.- สำาหรับคนที่มีครอบครัวแล้ว ถ้าย้อน
เวลากลับไปได้ ท่านยัง คงรับเอาคู่ของท่านอยู่
หรือไม่
สำาหรับคนโสด ท่านจะยอมอยู่บนคาน
ตลอดไปหรือไม่
3. ให้แต่ละคนแบ่งช่องหน้ ากระดาษอีกด้านหนึ่ งเป็ น 6 ช่อง
แล้วกำาหนดเลขกำากับ
แต่ละช่อง 1 – 6
4. ให้เลือกผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากกล่๊มอื่น 6 คน แล้วเขียน
ชื่อลงในช่อง 1 – 6
ช่องละคน จะเป็ นชื่อจริงหรือชื่อเล่นก็ได้
5. ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมชื้แจงกติกา ดังนี้
5.1 ผู้ท่ีถามจะต้องเดินไปหาผู้ท่ีท่านจะถาม และเมื่อ
ได้คำาตอบแล้วให้บันทึก
คำาตอบลงในช่องให้ตรงกับชื่อของผู้ถูกถาม
5.2 ถ้าเขาไม่ถามก็ไม่ต้องตอบ แต่ถ้าเขาถามต้องตอบ
5.3 การเดินไปหาผู้ท่ีจะถามจะเคลื่อนที่ไปได้เมือได้ยิน
คำาว่า “เริ่ม”
5.4 เมื่อได้ยินเสียงนกหวีดให้นั่งลง ณ จ๊ดที่ยืนอยู่นั้น
6. ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมเริ่มจากคำาถาม ดังนี้
6.1 ให้ท่านไปหาคนในช่องหมายเลข 1. แล้วคามเขา
ว่า “ท่านสวย หรือ หล่อ เหมือนดาราหรือนั กร้องคน
ใด”.....เริ่ม

6.2 ให้ท่านไปหาคนในช่องหมายเลข 2. แล้วถามเขา


ว่า “เวลาอาบนำ ้ า เขาจะถูตรงไหนบ่อยและนานที่ส๊ด”
6.3 ให้ท่านไปหาคนในช่องหมายเลข 3. แล้วถามเขา
ว่า “สมมติว่ามีกิก๊ มาชวนไปจููจ๋ก
ี ันในที่ลับหูลบ
ั ตาคน เขาจะ
ไปหรือไม่”
6.4 ให้ท่านไปหาคนในช่องหมายเลข 4. แล้วถามเขา
ว่า “สมมติว่า
จากข้อ 3. ท๊กคนตอบว่าไปหมด แล้วเกิดติดใจ คราว
นี้ตัวเองอยากจะไป อีกครัง้ เขาจะเอ่ยปากชวนกิก
๊ ว่า
อย่างไร”
6.5 ให้ท่านไปหาคนในช่องหมายเลข 5. แล้วถามเขา
ว่า “วันหนึ่ งถึงวาระที่
จะต้องแยกทางกับกิก ๊ เขาจะพูดอย่างไรโดยที่บัวไม่ให้
ชำา้ นำ ้ าไม่ให้ข่๊น”
6.6 ให้ท่านไปหาคนในช่องหมายเลข 6. แล้วถามเขา
ว่า “ผลจากการมีกิก ๊
และแล้ววันหนึ่ งคู้ครองของเขาทราบเรื่อง เขาจะพูด
กับคู่ครองของเขาว่า
อย่างไร”
7. ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมส่๊มไล่ทีละคน โดยเริ่มจากคนที่ 1 – 6
เวียนเป็ นลูกโซ่
8. ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมชวนสนทนาหลังกิจกรรม
สร๊ปการเรียนรู้ 1. คนแต่ละคนจะมีความรู้ความสามารถที่แตกต่างกัน
2. แต่ละคนจะมีอัตตลักษณ์และเอกลักษณ์ทัง้ ที่แตกต่างกัน
และเหมือนกันในบางส่วน
3. ท๊กคนมีโอกาสที่จะอยู่ในภาวะเสี่ยง ที่จะต้องบริหาร
ความเสี่ยงความสร้างสรรค์
4. การสื่อสารที่สร้างสรรค์จะมีพลังในการสร้างความเข้าใจ
อันดีต่อกัน

----------------
ชื่อกิจกรรม ขวา – ขวา – ขวา-ซ้าย-ขวา
วัตถ๊ประสงค์ 1. เพื่อฝึ กการนำ าสมาธิมาใช้ในการทำางาน
2. เพื่อสร้างความตระหนั กรู้ในการทำางานทัง้ ในส่วนของการ
รับงานมาทำา หรือ
การมอบงานให้ผู้อ่ ืน
ระยะเวลา 15 นาที
อ๊ปกรณ์ วัสด๊เท่าที่มีหรือหาได้ เช่น สม๊ด กระดาษ ปากกา
ป้ ายชื่อ พวงก๊ญแจ
ซองแว่นตา ฯลฯ
วิธีดำาเนิ นกิจกรรม 1. จัดให้นั่งเป็ นวงกลมเข่าชนเข่า จะนั่ งกับพื้นหรือบน
เก้าอีก้ ไ็ ด้ โดย
ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมเป็ นส่วนหนึ่ งของวงกลม และทำากิจกรรม
ร่วมกับผู้เข้าร่วมกิจกรรม
2. ให้ท๊กคนออกเสียงพร้อมกันเป็ นจังหวะ
“แท็ป – แท็ป – แท็ป-แท-แล-แล็บ-แท็ป-แท็ป”
3. ท๊กคนมีวัสด๊อยู่บนตัก 1 ชิน ้ ให้จบั ด้วยสองมือ ผู้ดำาเนิ น
กิจกรรมชีแ ้ จงวิธีการ
เล่น และส่งต่อ
3.1 แท็ป ที่ 1.- ให้จบั วัสด๊ของตนเองด้วยสอง ส่งไป
วางบนตักของคนที่นั่ง
ติดด้านขวาของตน ปล่อยแล้วรีบยกมือกลับมาจับของ
ชิน
้ ใหม่ท่ีเขาส่งมาให้
3.2 แท็ปที่ 2.- ปฏิบัติเช่นเดียวกับ แท็ปที่ 1.
3.3 แท็ปที่ 3.- ให้ส่งไปทางขวา แล้วโยกกลับมาบน
ตักตนเองก่อน 1 รอบ
พอรอบที่สองจึงวางบนตักคนทางขวา
4. เริ่มกิจกรรม ให้ส่งวัสด๊ไปทางขวา โดยทำาช้าๆ ก่อน แล้ว
เร่งจังหวะให้เร็วขึ้น
5. ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมชวนสนทนาหลังกิจกรรม
สร๊ปการเรียนรู้ 1. ปั จจัยที่ใช้ในกิจกรรมนี้คือ ท๊กคนต้องมีสมาธิ
กระฉั บกระเฉง รวดเร็ว
2. เปรียบเทียบกับการทำางาน ก็คือ คนบางคนจะรวบงาม
ต่างๆ มาไว้เองหมดโดย
ไม่กระจายงาน ในขณะที่บางคนกลับพยายามปั ดงานไปให้
คนอื่น ซึ่งผลที่ตามมา
ก็คือ ทำาให้งานติดขัด ล่าช้า

---------------------

ชื่อกิจกรรม ยกคน
วัตถ๊ประสงค์ 1. เพื่อประเมินผลการเรียนรู้หลังจากการอบรมปฏิบัติ
การ (AAR อย่างมีสาระ)
ระยะเวลา 45 – 60 นาที
อ๊ปกรณ์ 1. กระดาษปรุูฟ 3 แผ่น
2. กระดาษสี ขนาด A4 แบ่งครึ่งตามแนวยาว ครบตาม
จำานวนคน
3. กระดาษกาวย่น
4. ปากกาเคมี ครบตามจำานวนคน
วิธีดำาเนิ นกิจกรรม 1. ให้แต่ละกล่๊มนำ ากระดาษปรุูฟทัง้ 3 แผ่น มาต่อกัน
ตามแนวยาว
2. ให้วาดรูปหัวใจสีแดงใหญ่ๆ ในแผ่นด้านบน
3. รับอาสาสมัครกล่๊มละ 1 คน ให้นอนลงบนกระดาษปรุูฟ
โดยให้ด้านหัวอยู่ใต้
หัวใจสีแดง
4. ให้สมาชิกในกล่๊มช่วยกันใช้ปากกาเคมีวาดโครงร่างของ
อาสา เมื่อเสร็จแล้วให้
ท๊กกล่๊มปรบมือขอบค๊ณอาสาของกล่๊ม
5. ผู้ดำาเนิ นกิจกรรม ตัง้ คำาถามให้ตอบ ดังนี้
5.1 คำาถามที่ 1.- “ก่อนเข้าร่วมอบรมปฏิบัติการใน
ครัง้ นี้ ท่านมีความคาดหวังอะไรบ้าง” ให้แต่ละคน
เขียนลงในกระดาษสี A4 เขียนให้มากที่ส๊ดเท่าที่ตนเอง
คาดหวังไว้ (เป็ นงานส่วนบ๊คคล) เมื่อท๊กคนเขียนเสร็จ
แล้ว ให้ติดกระดาษ A4 ล้อมรอบภายนอกโครงร่าง
มน๊ษย์
5.2 คำาถามที่ 2.- “ท่านได้เรียนรู้อะไรบ้าง จากการเข้า
ร่วมอบรมปฏิบัติการในครัง้ นี้” ให้แต่ละคนเขียนลงใน
พื้นที่ว่างนอกโครงร่างมน๊ษย์ เขียนให้มากที่ส๊ดเท่าที่
ตนเองได้เรียนรู้ (เป็ นงานส่วนบ๊คคล)
5.3 คำาถามที่ 3.- “ถ้าท่านร่วมมือกัน นำ าเอาสิ่งที่ได้
เรียนรู้ในครัง้ นี้ บวกกับประสบการณ์ของพวกท่าน
แล้วนำ าไปสร้างสรรค์กับภาคีห้๊นส่วน ท่านคิดว่า
ภาคีห้๊นส่วนของเราจะเป็ นเช่นไร” เป็ นงานกล่๊ม ให้
ช่วยกล่๊มช่วยกันสร๊ปผลที่น่าจะเกิดขึ้นกับภาคีห้๊นส่วน
แล้วเขียนลงในโครงร่างมน๊ษย์
5.4 คำาถามที่ 4.- “ท่านมีความรู้สก ึ อย่างไร เมื่อท่าน
ทำาให้ภาคีห้๊นส่วนเกิดการพัฒนาตามที่สร๊ปจากโครง
ร่างมน๊ษย์” ให้เขียนลงในหัวใจสีแดงดวงโต
6. ผู้ดำาเนิ นกิจกรรมชวนสนทนาหลังกิจกรรม
สร๊ปการเรียนรู้ 1. การเรียนรู้จะไม่เกิดผลตามความคาดหวัง ถ้าไม่นำาไปสู่
การปฏิบัติอย่างเป็ นรูปธรรม
2. เมื่อนำ าเอาการเรียนรู้ไปส่ก ู ารปฏิบัติกับภาคีห้๊นส่วน การพัฒนาก็จะ
เกิดขึ้น
3. ย๊ทธศาสตร์เชิงร๊ก ก็คือ การทำาให้ภาคีห้๊นส่วน เกิดการพัฒนาทัง้ ใน
ด้านปริมาณและค๊ณภาพ
4. เมื่อภาคีห้๊นส่วนเกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านบวก ย่อมทำาให้เราใน
ฐานะผู้ปฏิบัติงานเกิดความส๊ข ความภาคภูมิใจ
5. เมื่อใดก็ตามที่เราท่๊มโถมตนเองลงไปทำางานให้ช๊มชน ช๊มชนย่อมได้
ภาคีห้๊นส่วนย่อมได้ และเราก็ได้อานิ สงส์นี้ไปด้วย แต่ถ้า
เมื่อใดก็ตามที่เราทำาเพื่อตนเอง ตนเองได้แน่ นอน แต่ไม่
แน่ ใจว่าช๊มชน ภาคีห้๊นส่วนจะได้
6. การทำางานช๊มชนนั ้น สำาคัญอยู่ท่ี ศรัทธา 4 อย่าง คือ
ศรัทธาในคนเอง หนึ่ ง
ศรัทธาในช๊มชน ศรัทธาในภาคีห้๊นส่วน หนึ่ ง
ศรัทธาในกระบวนการทำางานเชิงบวก หนึ่ ง
และ ศรัทธาในการทำาดี หนึ่ ง

----------------------

You might also like