You are on page 1of 56

การพัฒนาทัศนคติเชิงบวก

(Positive Attitude)
หรื อ
(Proactive Leader)
ผศ.ดร.พูนศักดิ์ บุญสาลี
กศ.บ.(คณิตศาสตร์ ) ศศ.ม.(จิตวิทยา) วท.ม. (การสร้ าง
แบบทดสอบทางจิตวิทยา) บธ.ม.(การจัดการ)
ศศ.ด. (การบริหารธุรกิจ) กิตติมศักดิ์
ประกาศนียบัตรชัน้ สูงวิชาเฉพาะ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ทัศนคติเชิงบวก( Positive Attitude) คืออะไร

หมายถึง ความสามารถ (Ability) เพื่อใช้ ทกั ษะ สมรรถภาพ


ในการสร้ างสรรค์ (Positive) ของสิ่ง ๓ สิง่
ที่เป็ นองค์ประกอบของ ทัศนคติ (Attitude)
๑. การคิด (Thinking) คิดดี
๒. ความรู้สึก (Feeling) อารมณ์ ดี
๓. พฤติกรรม การกระทา(Action) ทาสิ่งดี
หลัก... มีแค่ นัน้ นอกนัน้ คือการปฏิบัตใิ ห้ ได้
ทัศนคติเชิงบวก
คือ
ความศรั ทธา
• ศรัทธาต่ อการ คิดดี ๆ
• ศรัทธาต่ อการมี ความรู้สึก มีอารมณ์ ดี ๆ
• ศรัทธาต่ อการ ปฏิบัติ การแสดงออกดี ๆ
การคิดดี ๆ - คิดไม่ ดี
การคิด มี ๓ ชนิด

๑. คิดสร้ างสรรค์ (Creative Thinking) คิดดี ๆ


๒. คิดแก้ ปัญหา (Problem Thinking) คิดดี ๆ
๓. คิดวนเวียน (Mobius loop Thinking)
คิดไม่ ดี
คิดไม่ ดี (Mobius loop Thinking)

มีการคิด แต่คิดวนเวียน ไม่แก้ ปัญหา ไม่สร้ างสรรค์ คิดไม่มีประโยชน์กบั การคิด


คิดเพียงแสดงภูมิ ไม่มีผลในทางเจริญงอกงามจากการคิด
คิดดี ๆ
สร้ างอุปนิสัยแบบ Proactive Leader
ของ Stephen Covey

Proactive = เชิงรุก เชิงบวก สร้ างความเปลี่ยนแปลง


Proactive
โลกตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2550 เป็ นต้ นมา

• เปลีย่ นแปลงไปมาก
• คิดอย่ างเก่ า คิดอย่ างเดิม
ไม่ เหมาะ
• คิดใหม่ ปรับปรุงวิธีการ
เสี ยใหม่
• พัฒนา พัฒนา พัฒนา
Proactive
การคิ
ดแบบเก่
นาแบบหั วรถจักรา
(รอการสั่งการ) ผูบ้ ริ หาร
หัวหน้า

บุคคล
Proactive
การบริหารจัดการยุคใหม่
คิดดี คิดบวก

ทางานแบบแข่ งเรือ (ร่ วมทีมงาน ทางานเป็ นทีม)


• ทุกคนมีหน้าที่
• ทุกคนสาคัญ
• ชนะ-สาเร็ จอยูท่ ี่ทุกคนในเรื อลาเดียวกัน
พีง่ พาซึ่งกันและกัน

พีง่ พาตนเอง

พีง่ พาผู้อนื่
เริ่มต้ นด้ วยการมีจุดมุ่งหมายในใจ

อุปนิสัยของวิสัยทัศน์ ฝึ กการมองไปข้ างหน้ า


ทาสิ่งที่สาคัญก่อนเสมอ
เร่ งด่วน ไม่เร่ งด่วน

สาคัญ 1 2

ไม่สาคัญ 3 4

อุปนิสยั ของความซื่อสัตย์และวินยั ในการปฏิบตั ิ


คิดแบบชนะ-ชนะ

อุปนิสยั ของผลประโยชน์ร่วมกัน
ฝึ กการเข้าใจผูอ้ ื่นก่อน แล้วจึงให้ผอู้ ื่นเข้าใจเรา

อุปนิสยั ของความเข้าใจซึ่ งกันและกัน


ผนึกพลังประสานความต่าง

อุปนิสยั ของการร่ วมมืออย่างสร้างสรรค์


ลับเลื่อยให้คมอยูเ่ สมอ

อุปนิสัยของการเติมพลังชีวติ
สร้ างทั้ง ๒ ประการ
Personality
(บุคลิกภาพ)
- การแต่ งกาย
- การสู บบุหรี่
- กินเหล้า
- การพูดช้ า/เร็ว
Character
(คุณลักษณะ)
- ความซื่อสั ตย์
- ความอดทน
- ความขยัน
- ความกตัญญู
ตัวอย่ างความคิด
“วันจันทร์อีกแล้ว อีกตั้ง 5 วันกว่าจะถึงวันศุกร์”
“5 ส. อีกแล้ว ได้เวลาปลูกผักชีแล้วเว้ยพวกเรา”
“อบรมบ่อยจริ งๆ... อย่างงี้จะทางานทันได้ไงเนี่ย”
“ปี นี้ได้โบนัสดี เก็บสัก 15% เป็ นเงินออมดีกว่า”
“เฮ้อ...เบื่อพวกผูบ้ ริ หารไม่มีสมอง เมื่อไหร่ จะ.....ไปจากโลกนี้ซะที(วะ)”
“ราคาญพวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ า ไม่ช่วยแล้วยังติโน่นบ่นนี่”
“ปี หน้าจะเก็บเงินสักก้อน พาพ่อกับแม่ไปเที่ยวต่างประเทศ”
“...ประเทศ...ไม่ใช่ของเราคนเดียว ”
ราชการให้ความมัน่ คงกับชีวิต ทาให้ดีไว้
การ มองอะไร
มอง เห็นอะไร
โลก คิดอย่างไร
รู ้สึกอย่างไร
ของ ทาอย่างไร
มนุษย์
ฝึ กการเคารพหลักการ
หลักการคือ ไม่ ใช่ หลักการ
• เป็ นสากล • ขึน้ อยู่กบั สถานการณ์
• ไร้ กาลเวลา • เป็ นเรื่องชั่วครั้ง ชั่วคราว
• เป็ นความจริง • เป็ นเรื่องทีข่ นึ้ กับบุคคล (ภายในแต่
(อยู่ภายนอกตัวเรา) ละคน)
• ทางานอยู่ตลอดเวลา • ขึน้ อยู่กบั สิ่ งทีเ่ ราให้ คุณค่ าหรือไม่
ไม่ ว่าเราจะเข้ าใจหรือเห็นคุณค่ า
ของมันหรือไม่
มองทางเลือก มิใช่มองอุปสรรค
• ผูค้ ิดบวกจะมองหาทางเลือก ส่ วนคนทัว่ ไปจะมองเห็นแต่
อุปสรรค ซึ่งคุณสามารถสังเกตได้จากภาษาที่พวกเขาใช้
– “เขาไม่ให้ความช่วยเหลืออะไรกับเราเลย”
– “ฉันไม่มีงบประมาณ”
– “พวกผูบ้ ริ หารไม่รู้หรอกว่ากาลังทาอะไรกันอยู”่
– “เขาไม่มีวนั ที่จะให้เราทาสิ่ งนั้นหรอก”
– “เราไม่มีทางเลือก”
– “ฉันไม่สามารถทาอะไรได้”
– “ถ้าเพียงแต่เขา....”
การใช้ภาษาแบบคิดบวก
• พวกเราไม่สามารถทาอะไรได้ • ลองดูทางเลือกที่เรามี
• ฉันเป็ นของฉันอย่างนี้ • ฉันสามารถเลือกวิธีการที่แตกต่างออกไป
• เขาทาให้ฉนั โมโหมาก • ฉันสามารถควบคุมความรู้สึกของตัวเอง
• พวกเขาไม่อนุญาต • ฉันสามารถสร้างการนาเสนอที่มี
ประสิ ทธิผล
• ฉันจาเป็ นต้องทา • ฉันจะเลือกการตอบสนองที่มีเหมาะสม
• ฉันไม่สามารถ... • ฉันเลือก...
• ฉันต้อง... • ฉันชอบ...
• ถ้าเพียงแต่... • ฉันจะ....
คิดอย่างสร้างสรรค์
สุ มหัว (Brainstorming)
เป็ นผูน้ าการเปลี่ยนแปลง
ผูน้ าการเปลี่ยนแปลง คือ ผูท้ ี่หยุดพฤติกรรมไม่ดี เป็ นอันตราย เป็ นในทางที่
ผิด หรื อไม่เหมาะสม และทดแทนด้วยความเชื่อมัน่ มัน่ ใจ การช่วยเหลือผูอ้ ื่น
และพฤติกรรมที่มีประสิ ทธิผล
ผูน้ าการเปลี่ยนแปลงเป็ นแบบอย่างด้านพฤติกรรมเชิงบวก และส่ งผ่าน
อุปนิสยั ที่มีประสิ ทธิผลซึ่งสร้างความแข็งแรงในทางบวกให้กบั ผูอ้ ื่น

รู ปแบบ รู ปแบบ
ด้านลบ ด้านบวก

อดีต ผู้นาการเปลีย่ นแปลง อนาคต


ฝึ กการคิดแบบมุ่งมัน่ ทุ่มเท
เมื่อเราพูดถึง “พลังของวิสัยทัศน์ ” เรากาลังพูดถึงพลังงานที่อยู่
ลึกภายในและคงอยู่อย่ างถาวร ซึ่ งได้รับการเติมเต็มอยู่
ตลอดเวลาด้วยการตระหนักถึงความมุ่งมัน่ ทุ่มเทที่เราสร้าง
ขึ้นได้ นัน่ คือการสร้างตานานของเรา
พลังนีช้ ่ วยสร้ างความชัดเจนเกีย่ วกับวัตถุประสงค์ ให้ ทศิ ทาง
และให้ ศักยภาพ แก่ เราในการสร้ างผลงานที่มากกว่ า
ทรัพยากร ทีเ่ รามี
คิดแบบหลวงวิจิตร วาทการ

สุ ขของฉัน อยูท่ ี่งาน หล่อเลี้ยงจิต


สุ ขของฉัน อยูท่ ี่คิด ไปข้างหน้า
คิดทาโน่น ทานี่ ตลอดเวลา
เมื่อเห็น สิ่ งก้าวหน้า ก็สุขใจ
สร้ างทัศนคติฉันคือผู้นา
ความสั มพันธเชื
์ อ ่ มโยง
• คุณภาพ
• องค์การการเรียนรู ้ สู่ องค์การมีชวี ติ
• คนต้องพัฒนา “ฉัน”พัฒนาก่อน
• การเกี่ยวข้องกับคนอืน่ ๆ
ฉันคือองค์การ
องค์การของฉันต้องเรียนรู ้ สู่ องค์การมีชวี ติ ทีด่ ี
จาก บุคคล เป็ น ทรัพยากร

• Personal mastery เพิ่มศักยภาพตนเอง


• Mental models สร้างความคิด ทัศนคติ
สร้างการยอมรับตนเอง คนรอบข้าง กลายเป็ น
พื้นฐานทางอารมณ์บวก (EQ) ของตนเอง
• Shared vision การมีส่วนร่ วมทางความคิด
• Team learning มุ่งพัฒนาการทางานร่ วมกัน
• System thinking คิดเป็ นระบบ เป็ นเหตุ
เป็ นผล
ประเด็นของฉันทีส
่ าคัญ

• ความคิด ความเข้าใจ
• ความรูส้ กึ
• การกระทา
ส่วนผสมที่ตอ้ งสร้างสรรค์ พัฒนา
งานของฉันคือ
วิธีคดิ และกระบวนการคิดเชิงระบบ
• มีปัญหา - ศึกษาปัญหา
• ศึกษาเหตุแห่งปั ญหา
• ดูองค์ประกอบของการบรรลุเหตุให้ถ่องแท้
• อะไร ( What to )
• วิธีปฏิบตั ิแห่งการบรรลุเหตุ
• ทาอะไร(สิ่ งต้องทา) ทาอย่างไร ( How to )
• ใคร (Who) จะทาสิ่ งนั้นได้ผล (คนเดียว หลายคน)
• ความรู้
• ทักษะ ความชานาญ
ฉันฝึ กการคิดในงานแบบ 4 ก. (คิด 4 ก )
• คิดป้ องกัน (ทาระบบ สรางระบบ)

POSDC : Organization plan
• คิดแก้ ปัญหา (เกิดสิ่ งทีน
่ อกระบบ)
Road Map : Action plan
• คิดก่ อสิ่ งดีกว่า (ให้หลุดจากสิ่ งเดิม )
PDCA : Strategic plan
• คิดก้ าวหน้า ( ทาสิ่ งใหมที
่ ด ี วาเดิ
่ ก ่ ม) :
Creative plan
กบกระโดด
Top Performance
สภาวะ
การบริหารให้ บุคคล
ยอดเยี่ยม
คาถาม
กบกระโดดจากขาคู่ใด ?
ก. คู่หน้ า
ข. คู่หลัง
เฉลย
กบกระโดด
คือสภาวะที่บุคคลในองค์การ
ทางานอย่างยอดเยีย่ มไม่ธรรมดา
(Top Performance)
ปัจจัยสาคัญของการบริหารแบบกบกระโดด

• ลูกน้อง ผูร้ ่ วมงาน เป็ นขาคู่หลังที่สาคัญ


• ลูกน้อง มีความแตกต่างกันในศักยภาพ เป็ นธรรมชาติ เขามีความสามารถพิเศษ
• พยายามปรับปรุ งวิธีการทางานให้เข้ากับ Talent(ความสามารถ)ของแต่ละคน
องค์ การทุกแห่ ง
ต้ องการให้ คนในองค์ การเป็ นกบกระโดด
..ซึ่งคือ ให้การสังเกต ให้การฝึ กอบรม...
...การให้คาปรึ กษาแก่พนักงานในองค์การ ...
เพื่อสร้างจุดแข็งจากพนักงานในความสามารถพิเศษ(Talent)
...ที่แตกต่างกัน ...
- ผลงานยอดเยีย่ มขององค์ การคือขาคู่หลัง ได้ แก่ บุคลากร
เป็ นพลังที่ทาให้ องค์ การขับเคลือ่ นไปได้
- บุคลากร เป็ นสิ่ งทีข่ ับเคลือ่ นงานหนัก งานมาก
- แต่ ต้องขึน้ อยู่กบั ขาคู่หน้ าพยุงให้ สามารถลอยตัวได้
คือ หัวหน้ างาน
หน้าที่ของหัวหน้างานคือ
ศึกษาวิธีการพัฒนาขาคู่หลัง
เรียนรูก้ ารเป็ นขาคู่หลัง เพือ่ ให้เขากระโดด
ปัจจัยพิจารณาทีจ่ ะทาให้ ขาคู่หลังกระโดด
• ตบมือข้างเดียว ดังหรื อไม่?
• ถ้ามือหนึ่งคือหัวหน้า อีกมือหนึ่งคือใคร?
• มีหวั หน้าเก่ง แต่ไม่มีลูกน้องเก่ง ทางานได้ดีหรื อไม่?
• มีเครื่ องจักรดี แต่ไม่มีคน Operate(ดูแล)ที่ดี มีประโยชน์หรื อไม่?
• มีคน มีงาน แต่ ขาดการบริหารจัดการที่ดี จะมั่นคงหรือไม่ ?
• มีคน มีหัวหน้ า แต่ ขาดอาวุธคือความเข้ าใจ จะเจริญก้ าวหน้ าหรือไม่ ?
• มีทรัพยากร มีเงิน แต่ ขาดทรัพยากรกาลังคนทีม่ คี ุณภาพ
จะไปได้ หรือไม่ ? ?
จงทาให้พนักงาน ร่ วมกันค้นหา Talent(ความสามารถของตน)
ร่ วมกัน
และร่ วมกัน รับผิดชอบ ในความสอดคล้องให้มากที่สุด
โดยนา เป้ าหมาย มาเป็ นตัวนา
ความสาเร็ จเป็ นตัวเชิดชู
และมีความสุ ข ให้แหวกว่าย ...
ตัวชี้วดั ประสิ ทธิภาพการมีและใช้ ภาวะผู้นา
• ผลทีเ่ กิดขึน้ ของกลุ่ม วัดจาก
ความสาเร็จ ไม่ ใช่ แค่ เสร็จ
• ทัศนคติของผู้ตาม วัดจาก คน
Success

ทีพ่ ฒ
ั นาไปในทางบวก ทางดีมี
Attitude ระเบียบ มีวนิ ัย ตั้งใจ มุ่งมัน่
Quality • คุณภาพของกลุ่ม วัดจากความ
ร่ วมมือ ความเห็นพ้อง การยอมรับ
ความเต็มใจ ความมีชีวติ ชีวา
แจ่ มใส กระตือรือร้ น
บุคคลทีเ่ ก่ ง
• คือคนทีท่ าให้ คนอืน่ รู้ สึกว่ า เขาเป็ นคนเก่ ง
• เขาภูมใิ จ กับการได้ รับการยกย่ อง ยอมรับ
• เขาชื่นชอบ คนทีแ่ บ่ งความเก่ งให้ เขาบ้ าง
• ให้ รางวัล (ชื่นชมเขา) และเขาจะเลือกเราให้ เป็ นผู้สร้ างคน
เก่ ง
คนที่เก่ ง คือคนที่สร้ างทีมงาน
คนเก่งจริง
• คือคนทีท่ าให้ ผ้ ูอนื่ มีส่วนร่ วมในการทางาน
• เขา ภูมใิ จกับการได้ รับความไว้ วางใจ
• เขา มีเกียรติ ที่ได้ รับมอบหมายงานให้ ทา
• ให้ รางวัล (เมือ่ เขาทางานได้ ผล) และเขาจะทางานด้ วยชีวติ
เป็ นหัวหน้ างาน หัวหน้ าทีม และร่ วมใจ

ผู้ทเี่ ก่ ง คือผู้ทสี่ ร้ างทีมงาน สร้ างใจคน


วิธีการ
• ร่ วมกันค้นหา (ปั ญหาและวิธีแก้ไข) IDPE
• พัฒนาจุดแข็ง
• เสริ มแรงจุดอ่อน Individual Development Plan
For
• สอนอย่างรักใคร่ Empowerment
• ให้ “ใจ” ในการทางาน
• จิตวิญญาณ เรี ยกขึ้นมา และ
• ศึกษาตัวตนคน
องค์ ประกอบของการขับเคลือ่ นชีวติ
สภาวะรู้ อารมณ์ (สร้ างทัศนะเชิงบวก)

จิต
กาย

จิต = อารมณ์ ความรู้สึก ขับเคลื่อนร่ างกาย


รู้จักชีวติ จากธาตุ 6
• ธาตุดนิ (สภาวะแข็ง) กระดูก ฟัน
• ธาตุนา้ (สภาวะเหลว ไหล) เลือด เนือ้ นา้ เหลือง นา้ หนอง
• ธาตุลม ( สภาวะเคลือ่ นที)่ ความเย็นภายใน ลมหายใจ
• ธาตุไฟ (สภาวะทีท่ าให้ ร้อน) ความร้ อนภายในร่ างกาย
• อากาศธาตุ สภาวะทีว่ ่ าง ความว่ าง
• วิญญาณธาตุ (สภาวะทีร่ ้ ู อารมณ์ ) คือ จิต+เจตสิ ก
หน้ าทีข่ องจิต+เจตสิ กและการทางาน
รับรู้ และปรุ งแต่ ง ผ่ านอวัยวะรับรู้
ตา = เห็นภาพ
หู = ได้ ยนิ เสี ยง
จมูก = รับกลิน่
ลิน้ = รับรส
ผิวหนัง = รับสั มผัส ร้ อน-เย็น
ส่ งไปให้ สมอง (CPU) เพือ่ ประมวลผลจากความรู้ และ ประสบการณ์
สมอง สั่ งการไปตามเส้ นประสาทต่ าง ๆ
จะพัฒนาจิตไปทางไหน

จิตรับรู้ อารมณ์ และ จะให้ อารมณ์


ปรุงแต่ ง ไปทางใด
ทาไมต้ องรอให้ ตายก่อนถึงให้ ไปที่ชอบๆ
ทาไมตอนเป็ นๆไม่ พยายามขวนขวาย
ไปหาที่ชอบๆ กัน
คือ
การคิดดี รู้ สึกดี และ แสดงออกดี ๆ
(Positive Attitude)
• คนทุกคน รูไม ้ หมด่
แตเรามั
่ กลืม และคิดวารู ่ ้หมด
• คนไมทุ ่ กคน เบือ ่ การทางานมาก ๆ
แตอยากได
่ เงิ
้ นมาก การบังคับจิตจึงจาเป็ น
• คนทุกคน ไมชอบให ่ ้ใครมาวาตน

แต..ก็่ มป ี ระเด็นให้คนวาได ่ ้ เพราะรูไม
้ หมด

ไมว่ ากั
่ น แนะกัน นากัน
บอกกัน...อยางวั ่ นนี้ ..ดีไหม...
ขอบคุณก๊าบ
สวัสดี

You might also like