You are on page 1of 10

11/29/2010

ความหลากหลายทางชีวภาพหมายถึง: ความหลากหลาย
Biodiversity I ด้ านพันธุกรรม จานวนชนิดพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต และความหลากหลายทางระบบนิเวศน์

ความหลากหลายทางชีวภาพ I
โดย ผศ.ดร. วิสาตรี คงเจริญสุนทร
ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

ทาไมป่ าในประเทศไทยจึงมีความหลากหลายทาง ระดับของความหลากหลาย


ชีวภาพอย่างมาก  Genetic diversity หมายถึง
 ความหลากหลายทางพันธุศาสตร์แต่ ละชนิ ดถ่ายทอดจากพ่อแม่
 ลักษณะพันธุกรรมที่ถ่ายทอดทางยีน
1. ตัง้ อยู่ในเขตโซนร้อนและอยู่ติดทะเล เหมาะสมต่อการอยู่รอด
 เป็ นที่มาของการจาแนกสายพันธุ์
เติ บโต และแพร่พนั ธุ์
2. มีความแตกต่างกันของสภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศ  species diversity หมายถึง
ของแต่ละภูมิภาค ทาให้เกิ ดป่ าผลัดใบ ป่ าเบญจพรรณ ป่ าชายหาด  ควบคุมด้วยยีน เป็ นตัวกาหนดชนิ ดของสิ่ งมีชีวิตที่เหมือนกัน
3. ตัง้ อยู่ในบริ เวณศูนย์กลางของการกระจายพันธุข์ องพืชและสัตว์  ทาให้ เกิ ดสิ่ งมีชีวิตหลายชนิ ดในพื้นถิ่ น พบ 2-30 ล้านชนิ ดในโลก
เขตศูนย์สตู ร  Ecological system หมายถึง
 ความซับซ้อนตามภูมิศาสตร์ของทวีป ทาให้ภมู ิอากาศต่างกัน เกิ ดระบบ
นิ เวศน์ที่แตกต่างกัน บนภูเขาสูง ที่ราบลุ่ม ป่ าทึบ ทาให้เกิ ดการคัดเลือก
สิ่ งมีชีวิตตามธรรมชาติ

การจัดหมวดหมู่ของสิ่ งมีชีวิต
ภาพใดมีความหลากหลายทางชีวภาพมากกว่า

A B

1
11/29/2010

สิ่งมีชีวิตในโลกแบ่ งเป็ น 5 กลุ่ม คือ


1. ไวรั ส ไวรอยด์ และไพริออน
2. อาณาจักรโมเนอรา คือแบคทีเรี ยและสาหร่ าย
สีเขียวแกมนา้ เงิน
3. อาณาจักรฟั งไจ คือราและยีสต์
4. อาณาโปรตีสตา
สาหร่ ายและโปรโตซัว
5. อาณาจักรพืช
Virus 6. อาณาจักรสัตว์

คือ ปาราสิตของเซลล์ (obligate intracellular parasite)


อาศัยวัตถุดบิ จากเซลล์ เพื่อจาลองตัวและเพิ่มจานวน
Virus องค์ ประกอบของไวรัส
1. เป็ นอนุภาคที่มีชีวิต แต่ ไม่ใช่เซลล์
ประกอบด้วย Nucleic acid ชนิ ด DNA หรือ RNA อย่างใดอย่างหนึ่ ง
2. มี protein coat เรียก Capsid คือส่วนของโปรตี นห่อหุ้มสารพันธุกรรม
3. มีเปลือก Envelope หุ้มชัน้ นอกของโปรตีน เป็ นไขมัน
virus บางชนิ ดไม่พบ envelope
4. ไวรัสอาศัยอยู่ในเซลล์ของสิ่ งมีชีวิตอื่น
จึงไม่จดั เป็ น organism

HIV virus
Avian Influenza virus (H5N1)
ไวรัสโรคเอดส์ ไข้ หวัดนก
HIV A/B Haemagglutinin
RNP

Capsid

Neuraminidase

2
11/29/2010

Viroid คือสิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุดในโลก
. ความสาคัญของไวรัส - สารพันธุกรรม คือ RNA
1. ก่ อโรคระบาดในคน เช่ น - ขนาด 264-375 nucleotides
- โรคไข้ หวัดใหญ่ (Influenza A, B) หวัดธรรมดา (Rinovirus) - ไม่ มี capsid และ envelope
- โรคตับอักเสบ (Hepatitis A, B), โรคเอดส์ HIV
- ไม่ สังเคราะห์ โปรตีน
- มะเร็ง สัมพันธ์ กับการติดเชือ้ ไวรัสชนิดดีเอ็นเอ
HPV (human papilloma) virus, HBV (hepatitis B virus)
2. ไวรัสอาจมีแมลงเป็ นพาหาและแพร่ กระจายในพืช สัตว์ เช่ น
ไข้ เลือดออก
3. ไวรัสก่ อโรคในสัตว์ โรคปากเปื่ อเท้ าเปื่ อยในโค กระบือ โรคกลัวนา้
4. ก่ อโรคในพืช เช่ น ในด่ างในยาสูบ โรคใบด่ างใน มะเขือเทศ
มะละกอ แตงโม

อาณาจักรโมเนอรา
Kingdom Monera: โมเนอรา
Kingdom Monera ลักษณะเด่ น
 โครงสร้ างเป็ นเซลล์ แบบง่ ายๆ
 สืบพันธุ์แบบไม่ อาศัยเพศ (asexual reproduction)
 สร้ างและผลิตอาหารได้ เอง (autotroph)
 สิ่งมีชีวิตเซลล์ เดียว ไม่ มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส
 ได้ แก่ แบคทีเรีย สาหร่ ายสีเขียวแกมนา้ เงินและอาเคียแบคทีเรีย

I แบคทีเรี ย หรื อ •ภาพแสดงรู ปร่ างของแบคทีเรี ย


(eubacteria)
•ท่ อนสัน้ rod, ท่ อนยาว bacilli
•อาจจะพบ pilli, flagella
II ไซยาโนแบคทีเรี ย •คอคคัส กลม coccus
•สไปโรขีท spirochete
III อาร์ เคียแบคทีเรีย

3
11/29/2010

ภาพแสดงโครงสร้ างของแบคทีเรีย โทษของแบคทีเรี ย


ทาให้ อาหารบูดเน่ า
สร้ างสารพิษ ก่ อโรคอาหารเป็ นพิษใน
อาหาร Clostridium bitulinum, Bacillus
cereus
ก่ อโรคยางชนิดในคน เช่ น
อหิวาตกโรค ไข้ รากสาด บาดทะยัก ปอด
บวม ซิฟิลิส ฉี่หนู
ก่ อโรคในพืช ทาให้ ราก ลาต้ น เน่ า

เชือ้ ซิฟิลิส โรคติดต่ อทางเพศสัมพันธ์

ประโยชน์ ของแบคทีเรีย
เป็ นผู้ย่อยสลายซากพืชซากสัตว์
ตรึงไนโตรเจน ให้ เป็ นสารไนเตรตและไนไตรด์ Nitrosomonas sp.
นามาทายาปฏิ ชีวนะ ผลิตวัคซี นและฮอร์โมนจาก E. coli
ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ (Genetically Modified Organism)
ใช้ในอุตสาหกรรมหมักอาหารและแต่ งกลิ่ นอาหาร เช่น น้าปลา ซีอิ้ว
อาหารหมักดองจะพบ น้าส้มสายชู
Helicobacter pylori
มะเร็งกระเพาะอาหาร Streptococcus lactis ทาโยเกิ รต์ จากนม
Lactobacillus bulgaricus ทาเนยแข็ง

ประโยชน์ และโทษของแบคทีเรีย II ไซยาโนแบคทีเรี ย : หรื อสาหร่ ายสีเขียวแกมนา้ เงิน


Phototrophic bacteria สามารถสังเคราะห์ แสงได้
ตรึงไนโตรเจนในอากาศให้ เป็ นสารไนเตรต เพื่อสร้ างโปรตีน
ผลิตออกซิเจนให้ ชัน้ บรรยากาศของโลกเพิ่มมากขึน้ ทาให้ เกิด
วิวัฒนาการที่หายใจด้ วยออกซิเจนในปั จจุบัน
ลดภาวะโลกร้ อน เพราะลดปริมาณ CO2
เป็ นแหล่ งอาหารให้ สัตว์ นา้ เค็มและนา้ จืด
ได้ แก่ แอนนาบินา นอสตอก ออสสิลลาเทอเรีย

4
11/29/2010

สาหร่ ายสีเขียวแกมนา้ เงิน


 ใช้ กาจัดมลพิษและรั กษาสิ่งแวดล้ อม เช่ น สลายโลหะหนัก ตะกั่ว
เหล็ก แคดเมียม
เพราะใช้ แร่ ธาตุและโลหะเป็ นสารอาหาร
III Archeabacteria
ชอบอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้ อมที่อันตราย ได้ แก่ Hyperthermophilic อยู่ท่ ี
อุณหภูมสิ ูง 55-350 Cº
 เป็ นแหล่ งสร้ างพลังงานทางชีวภาพ พลังงานทดแทนนา้ มันดิบ
สร้ างก๊ าซมีเธน Methanogen archeae
กาจัดโลหะหนักจากโรงงาน เช่ น คาร์ บอนไดอ็อกไซด์ อะซิเตด
คาร์ บอนมอน็อกไซด์ เมธานอล
 ชอบอยู่ในที่เค็มจัด เช่ น ทะเล Dead sea Halophilic archaea

Archaea archaeabacteria กาจัด pyrite (FeS2)


และกรดกามะถัน

- เย็นจัด มีกามะถัน
- บ่อน้ าพุร้อน
ใต้แสงยูวี
- เป็ นพลังงาน
ทางเลือกและ
- กาจัดมลพิษ

อาณาจักรโปตีสตา
ได้ แก่ ไฟลัมโพรโทซัว (Protozoa) ไฟลัมอัลจีล (Algae)
Kingdom Protista คือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ขนาดมองด้ วยตาเปล่ าไม่ เห็น
จนถึงพวกขนาดใหญ่ เช่ น สาหร่ ายทะเล
มีเซลล์ เดียว หรื อหลายเซลล์ อาจรวมอยู่เป็ นกลุ่มแต่
ไม่ รวมกัน

5
11/29/2010

Phylum protozoa (โพรโทซัว) Class Mastigophora


ลักษณะเด่ น o Morphology
 เซลล์ เดียวหรื อรวมอยู่เป็ นกลุ่มโคโลนี o เคลื่อนที่ด้วยแฟลกเจลลา อาจ
มีมากกว่ าหนึ่งเส้ น
 ดารงชีวิตแบบอิสระหรื อปรสิต o พบในนา้ จืดและนา้ เค็มอาจ
 ส่ วนใหญ่ เป็ นแพลงตอนสัตว์ แหล่ งอาหารของสัตว์ นา้ เป็ นปรสิต
 เคลื่อนที่ด้วยซิเลียหรื อแฟ็ กเจลลา บางชนิดใช้ เท้ าเทียม o ชนิดที่เป็ นปรสิตได้ แก่
Trypanosoma ก่ อโรคเหงาหลับ
 ได้ แ ก่ Class Sarcodina, Mastigophora, Ciliata,
Sporozoa และอื่นๆ

Class Sarcodina
(Amoebozoas) Class Ciliata
Morphology
 Morphology เคลื่อนที่ด้วย ซิเลีย ที่มีจานวน
 เคลื่อนที่ด้วยเท้ าเทียม มาก
(Pseudopodia) ได่ แก่ อมีบา ดารงชีพแบบอิสระและเป็ นปรสิต
 รู ปร่ างเป็ น lobe-shape โดยทั่วไปมีสองนิวเคลียส
 พบในนา้ จืดและนา้ เค็มอาจ ได้ แก่ paramecium, vorticella
 เป็ นปรสิตได้ แก่ entamoebas คล้ ายกระดิ่ง
เป็ นแพลงตอนสัตว์ ในนา้ นา้ จืด
 ก่ อโรคบิด
และนา้ ทะเล

Class Sporozoa: ก่ อโรคมาเลเรีย Phylum algae หรือสาหร่ าย


สิ่งมีชีวิตคล้ ายพืชแต่ มีเซลล์ เดียว อยู่รวมเป็ นกลุ่ม มีรงควัตถุสังเคราะห์ แสง
Morphology แบ่ งเป็ น 7 กลุ่ม คือ
ได้ แก่ เชือ้ มาเลเรี ย  Chlorophyta สาหร่ ายสีเขียว
ระยะติดเชือ้ คือ สปอร์  Charophyta สาหร่ ายไฟ
โรซอยด์ ของเชือ้
 Phaeophyta สาหร่ ายนา้ ตาล
ดารงชีพแบบเป็ นปรสิต
 Rhodophyta สาหร่ ายสีแดง
มีพาหะคือยุงก้ นปล่ อง
 Chrysophyta สาหร่ ายทอง
 Bacillariophyta ไดอะตอม
 Phyrrophyta ไดโนแฟกเจเลท

6
11/29/2010

แหล่ งที่อยู่ของสาหร่ าย คือนานา้ จืดและนา้ เค็ม


Chlorophyta (green algae)
o Morphology
o สะสมรงควัตถุ chlorophylle a, b
o สาหร่ ายเซลล์ เดียว ได้ แก่ Volvox
(colony), Chlamydomonas
สาหร่ ายหลายเซลล์ ได้ แก่ Ulva,
Spirogyra
o มีมากกว่ า 7,000 species ในนา้
จืดและทะเล
o แหล่ งอาหาร แพลงตอนพืชใน
ทะเลและในนา้ จืด

Dinoflagellates
(red tide bloom) ปรากฏการณ์ นา้ ทะเลสีแดง
เซลล์ เดียว รงควัตถุสีนา้ ตาล
แกมเหลือง
เป็ นพิษต่ อระบบประสาท
ทาให้ นา้ ทะเลมีสีแดง

Morphology Bacillariophyta (Diatom)


Glass-like wall สะสมซิลกิ า
มีเปลือกประกบกันสองฝา
แข็งแรงทนทานมาก
เป็ นแหล่ งแพลงตอนในทะเล
สร้ างนา้ มันดิบ ฟอสซิลสะสม
ในชัน้ diatomaceous earth

7
11/29/2010

Phaeophyta (Brown algae) Rhodophyta (red algae)


Morphology
สะสมรงควัตถุสแี ดง
สะสมรงควัตถุสีนา้ ตาล (brown & phycoerythrin
olive carotenoids) อยู่ในนา้ ทะเลลึกในกระแส
Multicellular ส่ วนใหญ่ อยู่ใน นา้ อุ่น
นา้ เค็ม ผลิตสารคล้ ายวุ้นหรือเจล
ได้ แก่ แคลป์ (giant seaweed) สูง เรียก carrageenan เพิ่ม
60 เมตร ความหนืดในอาหาร
Sea palm (Postelsia), Sargassum ได้ แก่ porphyra (nori), Dulse
Laminaria ทาซุป สารสกัด algin
ทาวุ้น agar

Class Charophyta
Morphology
Multicellular พบแคลเซียม
สะสม
เป็ นบรรพบุรุษของพืช อาณาจักรเห็ด รา
ได้ แก่ สาหร่ ายไฟ
และไลเคน

อาณาจักรเห็ดรา
เป็ นยูคาริ โอต ที่มีลกั ษณะเป็ นเส้นใย
เป็ นกลุ่มที่ย่อยสลายซากพืชซากสัตว์ (saprophytes)
ไม่สงั เคราะห์แสง (chemoheterotrophs)
ได้แก่ เห็ด รา และยีสต์ ตัวอย่ างเห็ด ราและยีสต์
ผลิ ตยารักษาโรค เช่น ยาปฏิ ชีวนะจากรา
เห็ดชนิ ดต่างๆ เป็ นแหล่งโปรตีนและแร่ธาตุ
โทษ ก่อโรคเชื้อราในคน พืช สัตว์
สารพิ ษจากเห็ด ราปนเปื้ อนในอาหารก่อมะเร็ง เช่น aflatoxin

8
11/29/2010

เห็ดใช้ เป็ นอาหาร บางพันธุ์มีพษิ


ยีสต์ คือ
Saccharomyces
cerevisiae
การผลิตเครื่องดื่ม
แอลกอฮอล์ สุรา
การหมักข้ าวสาลี นา้
ผลไม้
ให้ เกิดแอลกอฮอล์

Lichens (ไลเคน) การดารงชีวิตร่ วมกันระหว่ างรากับสาหร่ าย Lichens (ไลเคน)


การดารงชีวิตร่ วมกันระหว่ าง
รากับสาหร่ ายเขียวหรือสาหร่ ายสีเขียวแกมนา้ เงิน
สาหร่ ายเป็ นแหล่ งสร้ างอาหาร ตรึงไนโตรเจน ราให้ ความชืน้ และ
ช่ วยแลกเปลี่ยนแก๊ ส ปกป้องสาหร่ าย
ประโยชน์ ไลเคนช่ วยทาลายหินและสร้ างหน้ าดินให้ กับพืช
ไลเคนตรึงไนโตรเจนและกาจัดสารพิษ เช่ น nitric oxide
รักษาสมดุลสิ่งแวดล้ อม เป็ นดัชนีบอกความสมบูรณ์ ของระบบ
นิเวศน์
ย่ อยสลายซากพืชซากสัตว์ เพื่อหมุนเวียนแหล่ งคาร์ บอนและแร่ ธาตุ

ประโยชน์ และการนาไปใช้ เป็ นแหล่งอาหารและรักษาสมดุลของสิ่ งแวดล้อม


เป็ นแหล่ งอาหารและรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้ อม ในระบบนิเวศน์ I เป็ นแหล่งอาหารและการถ่ายทอดพลังงานของสิ่ งมีชีวิต
ด้ านการแพทย์
ผลิตยารั กษาโรค เช่ น เบาหวาน จากแบคทีเรี ยจีเอ็มโอ ยาปฏิชีวนะจาก
เชือ้ รา
สร้ างและพัฒนาวัคซีนเพื่อรั กษาโรคเอดส์ ไข้ หวัดนก เป็ นต้ น
แหล่ งอาหารและเกษตรกรรม
สาหร่ ายนามาทาวุ้น พืชสาหร่ ายทาปุ๋ย เห็ดชนิดต่ างๆ เป็ นแหล่ งโปรตีน
ราและแบคทีเรี ยบางชนิดใช้ ผลิตโยเกิร์ตและซ๊ อสถั่วเหลือง
แหล่ งทดแทนพลังงานและอุปกรณ์ ตัดต่ อยีน
อาร์ เคียแบคทีเรี ยสร้ างก็าซมีเธนและไดอะตอมเป็ นแหล่ งผลิตนา้ มันดิบ
แหล่ งพลังงานทดแทนทางชีวภาพ สาหร่ าย อาเคียแบคทีเรี ย
แบคทีเรี ยกาจัดมลพิษ เช่ น นา้ เสีย โลหะหนัก polycyclic aromatic

9
11/29/2010

ผลกระทบของความหลากหลายทางชีวภาพ การบ้ าน
ไวรัสและจุลินทรียก์ ลายพันธุแ์ ละดื้อต่ อยาปฏิ ชีวนะ จงยกตัวอย่ างสิ่งมีชีวิตรอบตัวเราที่ให้ ประโยชน์ และให้ โทษ มา
แบคทีเรียและไวรัสพัฒนาสายพันธุใ์ หม่ๆอย่างรวดเร็ว อย่ างละ 3 ตัวอย่ าง พร้ อมทัง้ ระบุส่งิ มีชีวติ เหล่ านัน้ ว่ าอยู่ในไฟลัมหรื
ไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 อดิวชิ ่ ันใดและก่ อประโยชน์ หรื อโทษอย่ างไร
สิ่ งมีชีวิตบางอย่างสูญพันธุ์ ลดความหลากหลายทางชี วภาพ 1. สิ่งมีชีวติ ที่เกิดโทษ
แบคทีเรีย รา โปตี สตา ที่กลายพันธุแ์ ละแข็งแรงกว่าจะ 1.1
แก่งแย่งอาหารและที่ อยู่ของพันธุเ์ จ้าถิ่ น ก่อโรค 1.2
1.3
ทาให้พืชและสัตว์สูญพันธุ์
2. สิ่งมีชีวติ ที่เกิดประโยชน์
ผลกระทบต่อสิ่ งแวดล้อม 2.1
ตัดไม้ทาลายป่ า ไปเปลี่ยนแปลงระบบนิ เวศน์ ของสิ่ งมีชีวิต 2.2
เกิ ดภาวะโลกร้อน เพิ่ มคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ 2.3

10

You might also like