You are on page 1of 14

เกณฑ์ ทใี่ ช้ ในการจาแนกหมวดหมู่ของอาณาจักรสั ตว์

1. ระดับการทางานของเนื้อเยื่อ
1.1 เนื้อเยื่อทีไ่ ม่ แท้ จริง (No true tissue)
• เรียกสั ตว์ กลุ่มนีว้ ่ า พาราซัว (Parazoa)
• เซลล์ ในสั ตว์ กลุ่มนีไ้ ม่ มกี ารประสานงานกันระหว่ างเซลล์ โดยเซลล์
ทุกเซลล์ จะมีหน้ าทีใ่ นการดารงชีวติ ของตนเอง
• หน้ าทีท่ วั่ ไปคือด้ านโภชนาการ และสื บพันธุ์ ได้ แก่ พวกฟองนา้
1.2 เนื้อเยื่อทีแ่ ท้ จริง (True tissue) เรียกสั ตว์ กลุ่มนีว้ ่ า ยูเมตาซัว (Eumetazoa) ซึ่งเนื้อเยื่อ
จะถูกสร้ างขึน้ เป็ นชั้น หรื อเรียกว่ า ชั้นของเนื้อเยื่อ (Germ layer) มี 2 ประเภทคือ
1.2.1 เนื้อเยื่อ 2 ชั้น (Diploblastica) ประกอบด้ วยเนื้อเยื่อชั้นนอก (Ectoderm) และเนื้อเยื่อ
ชั้นใน (Endoderm) ได้ แก่ พวกไฮดรา แมงกะพรุ น
1.2.2 เนื้อเยื่อ 3 ชั้น (Triploblastica) ประกอบด้ วยเนื้อเยื่อชั้นนอก ชั้นกลาง (Mesoderm)
และชั้นใน ได้ แก่ พวกหนอนตัวแบนขึน้ ไป จนถึงสั ตว์ ที่มีกระดูกสั นหลัง
2. สมมาตร (Symmetry)
คือ ลักษณะการแบ่ งร่ างกายออกเป็ นซีก ๆ ตามความยาวของซีกเท่ า ๆ กัน มีอยู่ 3 ลักษณะ ได้ แก่
2.1 ไม่ มสี มมาตร (Asymmetry) มีรูปร่ างไม่ แน่ นอน ไม่ สามารถแบ่ งซีกซ้ ายและซีกขวาได้
เท่ า ๆ กัน ได้ แก่ พวกฟองนา้
2.2 สมมาตรแบบรัศมี (Radial symmetry) ได้ แก่ สั ตว์ พวกไฮดรา แมงกะพรุน ดาวทะเล
เม่ นทะเล
2.3 สมมาตรแบบครึ่งซีก (Bilateral symmetry) หรื อมีสมมาตรที่ผ่าซีกได้ เท่ า ๆ กัน เพียง 1
ครั้ง ได้ แก่ พวกหนอนตัวกลม แมลง สั ตว์ มกี ระดูกสั นหลัง
3. ลักษณะช่ องว่ างภายในลาตัว (Body Cavity)
ลักษณะช่ องว่ างในลาตัวหรื อช่ องตัว (Body cavity หรื อ Coelom)
• ภายใน Coelom มักจะมีของเหลวอยู่เต็ม ทาหน้ าทีเ่ สมือนระบบไหลเวียนโลหิตง่ าย ๆ
• ช่ วยลาเลียงสารอาหาร ออกซิเจน และของเสี ย
• ลดแรงกระแทกจากภายนอกทีอ่ าจเป็ นอันตรายต่ ออวัยวะ
• เป็ นบริเวณที่ทาให้ อวัยวะภายในเคลื่อนทีไ่ ด้ อสิ ระจากผนังลาตัว
• ยอมให้ อวัยวะขยายใหญ่ ได้
3.1 พวกที่ไม่ มีช่องว่ างในลาตัว (Acoelomate animals)
เนื้อเยื่อ 3 ชั้นอยู่ชิดกัน โดยไม่ มีช่องว่ างในแต่ ละชั้น ได้ แก่ พวกหนอนตัวแบน
3.2 พวกที่มีช่องว่ างเทียมในลาตัว (Pseudocoelomate animals)
• ช่ องว่ างเทียม หมายถึง ช่ องว่ างทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในเนื้อเยื่อชั้นกลาง (mesoderm)
• ช่ องว่ างอาจอยู่ในระหว่ างเนื่อเยื่อชั้นนอก (ectoderm) กับเนื้อเยื่อชั้นกลางหรื อ อยู่ระหว่ างเนื้อเยื่อ
ชั้นกลางกับเนื้อเยื่อชั้นใน (endoderm) ได้ แก่ หนอนตัวกลม
3.3 พวกที่มีช่องว่ างที่แท้ จริง (Coelomate animals)
Coelomate animal หมายถึง สั ตว์ ทมี่ ีช่องว่ างในเนื้อเยื่อชั้นกลาง สั ตว์ กลุ่มนี้ ได้ แก่ กุ้ง ปู แมลง
ไส้ เดือนดิน และสั ตว์ มีกระดูกสั นหลังชนิดต่ าง ๆ
4. การเกิดช่ องปาก
4.1 โปรโตสโตเมีย (Protostomia)
เป็ นสั ตว์ พวกทีช่ ่ องปากเกิดก่อนช่ องทวารในขณะทีเ่ ป็ น
เอมบริโอ ซึ่งช่ องปากเกิดจากบลาสโตพอร์ หรื อบริเวณใกล้ ๆ
บลาสโตพอร์ (Blastopore) ได้ แก่ พวกหนอนตัวแบนหนอนตัว
กลม หนอนมีปล้อง หอย สั ตว์ ขาข้ อ

4.2 ดิวเทอโรสโตเมีย (Deuterostomia)


เป็ นสั ตว์ พวกทีช่ ่ องปากเกิดภายหลังช่ องทวาร เกิดจาก
ช่ องใหม่ ทจี่ ะเจริญพัฒนาไปเป็ นทางเดินอาหารซึ่งอยู่ตรงข้ าม
กับ บลาสโตพอร์ ได้ แก่ พวกดาวทะเล และสั ตว์ มีกระดูกสั นหลัง
5. ทางเดินอาหาร (Digestive tract)
โดยทั่วไปแบ่ งได้ เป็ น 2 ลักษณะ คือ
5.1 ทางเดินอาหารแบบไม่ สมบูรณ์ (Incomplete digestive tract)
• มีช่องทางเดินอาหารเข้ าออกทางเดียวกัน หรื อทางเดินอาหารแบบปากถุง (One-hole-sac) ได้ แก่
พวกไฮดรา แมงกะพรุน หนอนตัวแบน
5.2 ทางเดินอาหารแบบสมบูรณ์ (Complete digestive tract)
• เป็ นทางเดินอาหารของสั ตว์ ที่มีท้งั ปากและทวารหนัก หรื อมีช่องทางเข้ าออกของอาหารคนละทาง
กัน ทางเดินอาหารแบบท่ อกลวง (Two-hole-tube) ได้ แก่ พวกหนอนตัวกลม จนถึงสั ตว์ มีกระดูก
สั นหลัง
6. การแบ่ งเป็ นปล้ อง (Segmentation)

6.1 การแบ่ งเป็ นปล้ องเฉพาะภายนอก (Superficial segmentation)


เป็ นการเกิดปล้องขึน้ เฉพาะที่ส่วนผิวลาตัวเท่ านั้นไม่ ได้ เกิดตลอดตัว เช่ น พยาธิตัวตืด

6.2 การแบ่ งเป็ นปล้ องที่แท้ จริง (Metameric segmentation)


เป็ นการเกิดปล้องขึน้ ตลอดลาตัวทั้งภายนอกและภายใน ข้ อปล้องเกิดขึน้ ในเนื้อเยื่อชั้ นกลาง ทาให้ เนื้อเยื่อ
ชั้นอื่น ๆ เกิดเป็ นปล้องไปด้ วย ได้ แก่ ไส้ เดือน กุ้ง ปู แมลง ตลอดไปจนสั ตว์ มีกระดูกสั นหลังทุกชนิด

You might also like