Professional Documents
Culture Documents
หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวติ
การกาเนิดสิ่งมีชีวิต
มีหลายทฤษฎีที่พยายามอธิบายการเกิดของสิ่งมีชีวิต เช่น ทฤษฎี “spontaneous
generation” ที่กล่าวว่าสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นได้ด้วยตัวเองจากสิ่งไม่มีชีวิตเช่น กบและแมลงเกิดจากดิน
หรือแมลงเกิดจากเนื้อเน่า อย่างไรก็ตามปัจจุบันทฤษฎีดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความ
จริง เป็นที่ทราบในปัจจุบันว่าสิ่งมีชีวิตเกิดจากสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน เช่น สุนัขจะให้กาเนิดสุนัข
หนอนผีเสื้อเกิดจากผีเสื้อและพัฒนาเป็นผีเสื้อในลาดับต่อมา อย่างไรก็ตามหากสิ่งมีชีวิตเกิดจาก
สิ่งมีชีวิตแล้วสิ่งมีชีวิตเริ่มแรกมาจากที่ใดหรือเกิดขึ้นได้อย่างไร
คาศัพท์ และหน้าที่
โครงสร้างของเซลล์พืชและเซลล์สัตว์
ลักษณะเด่นของเซลล์พืช
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
1. ไลโซโซม (Iysosome) เป็นออร์แกเนลล์ที่พบ เฉพาะในเซลล์สัตว์และโปรติสต์บางชนิดรูปร่าง
ค่อนข้างกลม ทาหน้าที่สะสมเอนไซม์ที่เกี่ยวกับการย่อยสลายสารอินทรีย์ต่าง ๆ และทาลาย
ของเสียภายในเซลล์
ระบบลาเลียงของพืชเริ่มต้นที่
1. ราก บริเวณขนราก (root hair) ซึ่งมีขนรากมากถึง 400 เส้นต่อพื้นที่ 1 ตารางมิลลิเมตร
โดยขนรากจะดูดซึมน้าโดยวิธีการที่เรียกว่า การออสโมซิส (osmosis) และวิธีการแพร่
แบบอื่นๆ อีกหลายวิธี
คาถาม
1. การแพร่และการออสโมซิสต่างกันอย่างไร
2. พืช ใช้ประโยชน์จากการแพร่และการออสโมซิสอย่างไร
การสืบพันธุ์ เเละการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืช
การสืบพันธุ์ของพืช
การสืบพันธุ์ คือ การสร้างชีวิตใหม่จากสิ่งมีชีวิตเดิม เพื่อดารงสืบพันธุ์ไป เป็นกระบวนการ
ที่ทาให้สิ่งมีชีวิตอยู่ได้อย่างต่อเนื่อง
ประกอบด้วยส่วนสาคัญ คือ
1. เปลือกหุ้มเมล็ด (seed coat) อยู่ชั้นนอกสุดของเมล็ด ป้องกันอันตรายให้เมล็ด
2. เอนโดสเปิร์ม (endosperm) ทาหน้าที่ สะสมอาหารพวกแป้ง โปรตีน ไขมัน และน้าตาล ไว้
เลี้ยงต้นอ่อนในเมล็ด
3.ต้นอ่อน (embryo) คือ ส่วนที่เจริญไปเป็นต้นอ่อน ประกอบด้วย
- ใบเลี้ยง (cotyledon) ทาหน้าที่ สะสมอาหารให้ต้นอ่อน
- ส่วนของต้นอ่อนที่อยู่เหนือใบเลี้ยง(epicotyl) จะเจริญไปเป็นลาต้นส่วนบน กิ่ง ก้าน ใบ ส่วน
ปลายสุดเรียกว่า ยอดแรกเกิด (plumule)
- ส่วนของต้นอ่อนที่อยู่ใต้ใบเลี้ยง (hypocotyl) จะเจริญไปเป็นลาต้นส่วนล่าง ส่วนปลายสุดที่
อยู่ใต้ใบเลี้ยงเรียกว่า รากแรกเกิด (radicle)ซึ่งจะกลายเป็นรากแก้วต่อไป
รากแรกเกิดจะงอกออกมาทางรอยแผลเป็น (raphae) ซึ่งบริเวณนี้จะมีรูที่เรียกว่า ไมโครไพล์
(micropyle)เป็นทางงอกของเมล็ด
ปัจจัยที่มีต่อการงอกของเมล็ด
1. น้า 2.ออกซิเจน 3.อุณหภูมิที่พอเหมาะ
การตอบสนองต่อสิ่งเร้า การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืช มีปัจจัยหลัก 2 ประการ ดังนี้
ความสาคัญของการสังเคราะห์ด้วยแสง
1. นาพลังงานแสงมาเปลี่ยนเป็นพลังงานเคมีในรูปของอาหารเก็บไว้ในรูปของเนื้อเยื่อ ได้แก่
คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน พลังงานเหล่านี้จะถ่ายทอดไปสู่สัตว์และคนที่กินพืชและ
สัตว์เป็นอาหาร
2. ได้แก๊สออกซิเจนและไอน้า ซึ่งจะถูกปล่อยออกจากใบสู่อากาศส่วนพืชในน้าก็ปล่อยออกซิเจน
สู่แหล่งน้า สัตว์ทั้งในน้าและบนบกได้นาแก๊สออกซิเจนไปใช้ในกระบวนการหายใจ
3. กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชต้องใช้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และน้าเป็นสารตั้งต้น
ในปฏิกิริยา ดังนั้น พืชสีเขียวจึงมีประโยชน์ ช่วยลดปริมาณของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ที่
เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน
น้าตาลเป็นสารชนิดแรกที่พืชสร้างขึ้นได้เองก่อนที่จะเปลี่ยนรูปไปเป็นแป้งและสารอื่น ๆ
ต่อไปกระบวนการสร้างน้าตาลของพืชเราเรียกว่า กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
(Photosynthesis) ซึ่งพืชต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างในกระบวนการนี้
ปัจจัยที่พืชใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
ปัจจัยสาคัญที่พืชจาเป็นต้องนาไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ได้แก่
1) คลอโรฟิลล์ มีอยู่ในคลอโรพลาสต์
2) แสง คลอโรฟิลล์จะดูดซับพลังงานแสงเข้ามาในใบพืช
3) แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ พืชจะรับเข้ามาทางปากใบที่เปิดในเวลากลางวัน
4) น้า รากพืชจะดูดน้าขึ้นมาแล้วลาเลียงต่อไปยังใบโดยผ่านทางลาต้นพืช
ลักษณะเด่น ของพืชใบเลี้ยงคู่และใบเลี้ยงเดียว
การคายน้าของพืช
.
8. น้าเข้าสู่รากโดยวิธีการใดมากที่สุด
ก. การแพร่ ข. การกระจาย
ค. ออสโมซิส ง. แรงเต่ง
9. ปัจจัยในข้อใด ไม่มี ผลต่อการแพร่ของอนุภาคของสารผ่านเยื่อเลือกผ่าน
ก. อุณหภูมิของสาร
ข. ขนาดของอนุภาคของสาร
ค. ชนิดของเยื่อเลือกผ่านที่กั้นอยู่ระหว่างสารทั้งสองสาร
ง. ความแตกต่างระหว่างความเข้มข้นอนุภาคของสารสองบริเวณ
10. การที่เราได้กลิ่นน้าหอมเกิดจากกระบวนการใด
ก. การแพร่
ข. การออสโมซิส
ค. การลาเลียง
ง. การแพร่และการออสโมซิส
11. ขนรากดูดซึมแร่ธาตุเข้าสู่เซลล์โดยวิธีการใด
ก. การไหล ข. การแพร่
ค. การลาเลียง ง. การออสโมซิส
12. อัตราการแพร่จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับปัจจัยข้อใด
ก. ชนิดของสาร
ข. ชนิดของเยื่อกั้น
ค. ขนาดอนุภาคของสาร
ง. ความแตกต่างระหว่างความเข้มข้นอนุภาคของสาร 2 บริเวณ
13. ข้อใดไม่ใช่วัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
ก. น้า ข. แสง
ค. ออกซิเจน ง. คลอโรฟิลล์
14. ข้อใดถูกต้อง
ก. พืชส่งอาหารไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของลาต้นในรูปของน้าตาล
ข. การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชเกิดขึ้นที่บริเวณใบเท่านั้น
ค. สิ่งแรกที่ได้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชคือน้า
ง. แก็สคาร์บอนไดออกไซด์เกิดจากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
15. ข้อใดไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
ก. น้า
ข. น้าตาล
ค. แก็สออกซิเจน
ง. แก็สคาร์บอนไดออกไซด์
16. พืชสามารถสังเคราะห์ด้วยแสงได้เพราะเหตุใด
ก. มีออกซิเจน ข. มีคาร์โบไฮเดรต
ค. มีคลอโรฟิวส์ ง. มีไนโตรเจน
17. พืชสามารถเปลี่ยนอากาศเสียให้เป็นอากาศดีได้ อาการดีในที่นี้หมายถึงแก็สอะไร
ก. โอโซน ข. ออกซิเจน ค. ไนโตรเจน ง. ไฮโดรเจน
18. ส่วนใดของพืชที่ใช้ในการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
ก. ใบ ข. ดอก
ค. ราก ง. ลาต้น
19. ข้อต่อไปนี้เป็นการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศยกเว้นข้อใด
ก. การปักชา ข. การต่อกิ่ง
ค. การแตกหน่อ ง. การเพาะเมล็ด
20. ส่วนประกอบของดอกไม้ถ้าเรียงจากชั้นนอกสุดไปยังชั้นในสุดได้แก่ข้อใด
30. อะไรไม่ใช่สิ่งเร้าที่ทาให้รากของพืชเคลื่อนที่ลงไปในพื้นดิน
ก. ความชื้นใต้พื้นดิน
ข. อุณหภูมิของพื้นดิน
ค. แรงโน้มถ่วงของโลก
ง. แร่ธาตุที่อยู่ในพื้นดิน
*************************************************************************************************************************