Professional Documents
Culture Documents
โดย
นำเสนอ
หวังเป็ นอย่างยิ่งว่ารายงานนีจ
้ ะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านหรือผู้ที่คิดจะ
ศึกษาเรื่องกล้วย หากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็ขอน้อมรับและขออภัยมา
ณ ที่นี่ด้วย
วชิรกร เขื่อนแก้ว 5910740389
20 ตุลาคม 2564
สารบัญ
เรื่อง
หน้า
บทที่ 1
บทนำ.......................................................................................................
....................................... 1
- ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
2
- อนุกรมวิธาน
4
- การจำแนกกลุ่มของกล้วย
8
- การใช้ประโยชน์ของกล้วย
8
- กล้วยกับวิถีชีวิตคนไทย
บทที่ 2 ชนิดของกล้วยยอดนิยมและรายชื่อกล้วยหา
ยาก..............................................................................12
- กล้วยน้ำว้า
12
- กล้วยหอม
14
- กล้วยไข่
16
- กล้วยเล็บมือนาง
18
- กล้วยนาก
19
- กล้วยน้ำไท
20
- กล้วยตานี
21
- รายชื่อพันธ์กล้วยไทยหายาก
23
บทที่ 3 คุณประโยชน์ของ
กล้วย........................................................................................................
.......... 29
- ประโยชน์ของการกินกล้วย
30
- ประโยชน์ของกล้วย
31
- คุณค่าทางโภชนาการของกล้วย
32
- ข้อควรระวังในการกินกล้วย
33
แหล่งอ้างอิง
.................................................................................................................
............................. 34
2
บทที่ 1
บทนำ
(https://www.technologychaoban.com/agricultural-technology/article_2091 )
สัตว์แปรรูปเป็ นเชือกกล้วยและปุ๋ยส่วนใบใช้ประดิษฐ์งานด้านศิลปะและเป็ น
ภาชนะบรรจุอาหารผลของกล้วยอุดมด้วยวิตามินและเกลือแร่ที่ให้ประโยชน์
แก่ร่างกายใช้รับประทานสดและแปรรูปเป็ นผลิตภัณฑ์ใหม่ได้หลายชนิด
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
(https://sites.google.com/site/wtp1679800140037/laksna-thang-
phvkssastr)
ลง แต่หน่อหรือตะเกียงจะพัฒนาขึน
้ จากตา (bud) ที่หัว ส่งผลให้กล้วยเป็ น
พืชหลายปี หากเกิดขึน
้ หลายหน่อพร้อมกันจะเรียกว่า "การแตกกอ" ใน
ระบบการเพาะปลูก จะอนุญาตให้เจริญเติบโตเพียงหน่อเดียวเท่านัน
้ เพื่อให้
ง่ายต่อการจัดสรรพื้นที่
(https://sites.google.com/site/joy083black/laksna-khxng-dxk-klwy)
อนุกรมวิธาน
การจำแนกกลุ่มของกล้วย
การจำแนกตามลักษณะทางพันธุกรรม
การจำแนกตามวิธีการนำมาบริโภค
การจำแนกกล้วยตามวิธีการที่นำมาบริโภคสามารถแบ่งกล้วยออกเป็ น
2 กลุ่มคือ กล้วยกินสด เป็ นกล้วยที่เมื่อสุกสามารถนำมารับประทานได้
ทันที โดยไม่ต้องนำมาทำให้สุกด้วยความร้อน เพราะเมื่อสุก เนื้อจะนิ่ม
มีรสหวาน เช่น กล้วยไข่ กล้วยหอมทอง กล้วยหอมเขียว และกล้วยที่
ใช้ประกอบอาหาร เป็ นกล้วยที่เมื่อดิบมีแป้ งมาก เนื้อค่อนข้างแข็ง เมื่อ
สุกยังมีส่วนของแป้ งอยู่มากกว่ากล้วยกินสดมาก เนื้อจึงไม่ค่อยนิ่ม รส
ไม่หวาน ต้องนำมาต้ม เผา ปิ ้ ง เชื่อม จึงจะทำให้อร่อย รสชาติดีขน
ึ้
เช่น กล้วยกล้าย กล้วยหักมุก กล้วยเล็บช้างกุด
แนวทางหนึ่งที่จะแบ่งกล้วยออกเป็ นกล้วยกินสดและ
กล้วยที่ใช้ประกอบอาหาร ซึ่งกล้วยเป็ นกลุ่มย่อยหนึ่งของกล้วยที่ใช้
ประกอบอาหาร คือ พันธุ์ปลูก triploid กำเนิดมาจาก M.
acuminata เพียงลำพังจะเป็ นกล้วยกินสด ในขณะที่ พันธุ์ปลูก
triploid ที่เป็ นลูกผสมระหว่าง M. acuminata และ M. balbinosa
(โดยเฉพาะกลุ่มย่อยกล้ายเป็ นกลุ่มย่อยของกลุ่ม AAB) เป็ น
"กล้าย" (ในที่นห
ี ้ มายถึงกล้วยที่ใช้ประกอบอาหาร) เกษตรกรรายย่อย
ในประเทศโคลอมเบียปลูกพันธุ์กล้วยหลากหลายมากกว่าสวนเชิง
พาณิชย์ขนาดใหญ่ จากการศึกษาพันธุ์ปลูกเหล่านีแ
้ สดงว่ากล้วย
สามารถจัดกลุ่มได้อย่างน้อยสามกลุ่มตามพื้นฐานของลักษณะ ได้แก่
กล้วยกินสด กล้วยที่ใช้ประกอบอาหารที่ไม่ใช่กล้าย และกล้าย แม้ว่า
จะมีการคาบเกี่ยวกันระหว่างกล้วยกินสดและกล้วยที่ใช้ประกอบ
อาหาร
2
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ศูนย์กลางความหลากหลายของ
กล้วย ทัง้ กล้วยป่ าและกล้วยพันธุ์ ความแตกต่างระหว่าง "กล้วย" และ
"กล้าย" กลับไม่มีความหมาย ตามข้อมูลของวาลมาเยอร์ (Valmayor)
และคณะ กล้วยหลายพันธุ์ใช้ทงั ้ รับประทานสดและประกอบอาหาร
กล้วยที่ใช้ประกอบอาหารที่มีแป้ งมีขนาดเล็กกว่ากล้วยรับประทานสด
ช่วงสี ขนาด และรูปทรง หลากหลายกว่ากล้วยที่ปลูกหรือขายใน
แอฟริกา ยุโรป หรืออเมริกา ภาษาเรียกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่
บ่งชีถ
้ ึงความแตกต่างระหว่าง "กล้วย" และ "กล้าย" เหมือนอย่างใน
ภาษาอังกฤษ (และภาษาสเปน) ดังนัน
้ ทัง้ พันธุ์กล้วยหอมเขียว
(Cavendish banana) ซึง่ เป็ นกล้วยรับประทานสดที่ร้จ
ู ักกันดี และ
พันธุ์กล้วยหิน (Saba banana) ที่นิยมใช้ประกอบอาหาร ถูกเรียกว่า
pisang (ปี ซาง) ในประเทศมาเลเซียและประเทศอินโดนีเซีย, กล้วย ใน
ประเทศไทย และ chuoi (ชวย) ในประเทศเวียดนาม กล้วยเฟอิ (Fe'i
banana) ที่ปลูกและรับประทานในหมู่เกาะของมหาสมุทรแปซิฟิก มี
ต้นกำเนิดที่แตกต่างโดยสิน
้ เชิงจากกล้วยโบราณและกล้าย กล้วยเฟอิส่
วนมากจะใช้ประกอบอาหาร แต่กล้วยคาแรต (Karat banana) ที่มี
ลักษณะสัน
้ ป้ อม มีเปลือกสีแดงสดต่างจากกล้วยรับประทานสดทั่วไป
ใช้กินสด
การใช้ประโยชน์ของกล้วย
(https://lifestyle.campus-star.com/app/uploads/2019/10/
loykrathong2562-5.jpg)
กล้วยกับวิถีชีวิตคนไทย
- ด้านความเชื่อ เรื่องกล้วยของคนไทยมีอยู่มากมาย เนื่องจากกล้วย
เป็ นพืชที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างเนิ่นนานแล้ว ในหญิงมีครรภ์มักไม่รับประทาน
กล้วยแฝดเพราะมีความเชื่อว่าจะได้ลูกแฝด แต่ถ้าบ้านไหนอยากได้ลูกแฝดก็
รับประทานกล้วยแฝด สำหรับหญิงแม่ลูกอ่อนถ้ารับประทานแกงหัวปลี จะมี
น้ำนมมาก ถ้าคิดตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว หัวปลีเป็ นพืชที่มีธาตุเหล็กสูง
บำรุงเลือดดี จึงทำให้มีน้ำนมมากนัน
้ เอง ต้นกล้วยที่ขาวเนียนสะอาด ไม่มี
กาบใบแห้ง มักเชื่อว่าเป็ นที่สิงสถิตของนางพรายตานี เป็ นผีผู้หญิง ที่มีหน้า
ตาสวยงาม ผิวขาว จะปรากฏตัวตอนกลางคืน โดยยืนอยู่ใต้ต้นกล้วยนัน
้ ๆ
ส่วนการประหารชีวิตนัน
้ ก่อนลงมือประหารจะมีการนำใบกล้วยมาปูรอง
ก่อน เพื่อกันเลือดไหลลงไปบนดิน
2
- ด้านยาอายุวัฒนะ หากนำกล้วยแช่น้ำผึง้ ปิ ดไหแล้วใช้ปูนแดงทาก่อน
ฝาปิ ด จากนัน
้ เอาไว้ใต้ฐานพระในวันเข้าพรรษา ปล่อยไว้นานสามเดือน ก็
สามารถนำมารับประทานได้ ทัง้ นีก
้ ็เป็ นแนวคิดด้านการถนอมอาหารอีกวิธี
หนึ่งด้วย
- ด้านอาหาร อาหารอย่างแรกที่ให้เด็กกิน นอกจากนมแม่แล้วก็คือ
กล้วยบดผสมกับข้าว กล้วยเป็ นผลไม้พ้น
ื บ้านที่คุ้นเคยกับคนไทยเรามาตัง้ แต่
เด็กผลไม้ไทยๆ ที่ตอนนีม
้ ีออกมาให้เลือกชิมมากมายแล้วก็อย่าลืมผลไม้ธร
รมดาๆอย่างกล้วยซึ่งจัดว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้
ต่างประเทศอย่างแอปเปิ ลแล้ว กล้วยมีโปรตีนมากกว่าแอปเปิ ล 4 เท่า มี
คาร์โบไฮเดรตมากกว่า 2 เท่า มีฟอสฟอรัสมากกว่า 3 เท่า มีวิตามินเอและ
ธาตุเหล็กมากกว่า 5 เท่า และมีวิตามินรวมทัง้ แร่ธาตุอ่ น
ื ๆ มากกว่า 2 เท่า
และอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งเป็ นแร่ธาตุที่จำเป็ นต่อการทำงานของกล้าม
เนื้อและประสาท ช่วยควบคุมความดันโลหิต อีกทัง้ กล้วยสามารถนำมา
ประกอบอาหารได้เกือบทุกส่วนทัง้ ลูก ดอก หยวกกินได้หมดและคนไทยเรา
ได้ขน
ึ ้ ชื่อว่า สามารถพลิกแพลงการประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด ไม่
ว่าจะเป็ นอาหารคาวหรืออาหารหวาน จึงมีแนวคิดนำเอาส่วนต่างๆ ของ
กล้วยมาประกอบอาหารนานาชนิด
- ด้านงานพิธี ส่วนประกอบต่างๆ ของต้นกล้วยนำมาใช้ประดิษฐ์เป็ น
เครื่องบูชา ใช้ประกอบพิธีต่างๆ ของคนไทย บายศรีต้น บายศรีตงั ้ หรือ
บายศรีชน
ั ้ ใช้ต้นกล้วยเป็ นแกนมี 3-5-7 และ 9 ชัน
้ บายศรีต้นในแต่ละภาค
มีการประดิษฐ์ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป บายศรีต้นถือเป็ นบายศรี
2
ขนาดใหญ่จัดทำอยากต้องใช้ความพยามและความอดทดในการทำบายศรี
ต้นจะประดิษฐ์บายศรีในหลายรูปแบบ เช่น พับเป็ นกลีบบัวสัตตบงกช กลีบ
(https://dw.lnwfile.com/ltphrn.jpg)
(http://www.weddingtoknow.com/info/images/
20140604162535_info.jpg)
ประดับด้วยหยวกกล้วยแกะสลักอย่างงดงาม การสลักหยวกกล้วยนัน
้ ผู้ที่เป็ น
ช่างจะต้องได้รับการฝึ กหัดจนเกิดความชำนาญพอสมควร เพราะการสลัก
หยวกกล้วยนัน
้ ช่างจะไม่วาดลวดลายลงไปก่อนจับมีดได้ก็ ลงมือสลักกันเลย
ทีเดียว จึงเรียกตามการทำงานนีว้ ่า การแทงหยวก ประกอบกับมีดที่ใช้มี
ปลายเเหลม
บทที่ 2
ชนิดของกล้วยยอดนิมและรายชื่อกล้วยหายาก
กล้วยน้ำว้า
“กล้วยน้ำว้า” มีช่ อ
ื สามัญหรือชื่อเรียกท้องถิ่นว่า กล้วยใต้ กล้วยตานีอ่อง
กล้วยมะลิอ่อง หรือกล้วยอ่อง (Pisang Awak) และมีช่ อ
ื เรียกทาง
วิทยาศาสตร์ว่า Musa (ABB) ‘Nam Wa’
ประโยชน์ของกล้วยน้ำว้า
รักษาโรคกระเพาะอาหาร กล้วยน้ำว้าดิบสามารถช่วยรักษาโรค
ื ว่า แทนนิน มีฤทธิ ์
กระเพาะอาหาร เพราะในกล้วยดิบมีสารที่ช่ อ
ในการยับยัง้ การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และยังมีสารอีก
ตัวที่สำคัญคือ เซโรโทนิน ที่จะช่วยกระตุ้นให้กระเพาะอาหาร
ผลิตเยื่อเมือกมากขึน
้ จึงช่วยเคลือบแผลที่กระเพาะ ลดการ
ระคายเคือง และลดความแสบร้อนลงได้
ดับกลิ่นปาก กล้วยสุกสามารถดับกลิ่นปากได้ดี เพียงรับประทาน
ก่อนสุกในตอนเช้าแล้วจึงแปรงฟั น ทานติดต่อกันเป็ นเวลา 1
สัปดาห์ รับรองว่าช่วยระงับกลิ่นปากให้หายไปได้
2
ผลไม้สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน กล้วยน้ำว้าสุกมีดัชนีน้ำตาลต่ำ มี
ค่า GI เพียง 37 การรับประทานกล้วยน้ำว้าสุกจึงช่วยให้ร่างกาย
ดูดซึมน้ำตาลไปใช้อย่างช้าๆ กล้วยน้ำว้าจึงเป็ นผลไม้ที่เหมาะ
สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
มีแคลเซียมสูง กล้วยน้ำว้าอุดมไปด้วยแคลเซียม เมื่อนำกล้วยไป
ผ่านความร้อน เช่น กล้วยต้ม กล้วยปิ ้ ง กล้วยบวชชี ร่างกายจะ
ดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึน
้ 5-6 เท่า
ระบบขับถ่ายคล่องขึน
้ กล้วยน้ำว้าสุกช่วยแก้อาการท้องผูก
เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้จึงช่วยให้ระบบขับถ่ายดี
ขึน
้ อุจจาระนิ่ม จึงช่วยป้ องกันโรคริดสีดวงทวาร
ป้ องกันโรคโลหิตจาง กล้วยน้ำว้าเป็ นผลไม้ที่มีธาตุเหล็กสูงซึ่งจะ
ไปช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง จึงช่วยป้ องกันโรคโลหิตจาง
รักษาโรคซึมเศร้า กล้วยสุกมีสารทริปโตเฟนที่จะช่วยคลาย
เครียด รู้สึกผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล อารมณ์ดีขน
ึ ้ จึง
สามารถช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ดี
ช่วยให้นอนหลับสบาย หากใครที่นอนไม่หลับให้ลองรับประทาน
กล้วยน้ำว้าสุกก่อนนอนก็จะช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ ทำให้
นอนหลับสบายตลอดคืน
แก้ท้องเสีย กล้วยน้ำว้าดิบมีสารแทนนินซึ่งมีฤทธิย์ ับยัง้ เชื้อ
แบคทีเรีย เพียงนำผงกล้วยน้ำว้าดิบมาชงดื่มก็จะช่วยแก้อาการ
ท้องร่วง แก้ท้องเสียได้
2
กระตุ้นระบบย่อยอาหาร กล้วยน้ำว้าสุกนัน
้ มีประโยชน์ช่วย
กระตุ้นระบบย่อยอาหารทำให้ย่อยง่ายมากขึน
้ เนื่องจากแป้ งทน
การย่อยจะเปลี่ยนเป็ นน้ำตาลเมื่อกล้วยสุก
กล้วยหอม
ภาพที่ 2.2 กล้วยหอม ที่มา
(https://sites.google.com/site/fruitsaifon1set1/klwy)
2
(http://www.khonkaenram.com/th/services/health-
information/health-articles/health/banana)
ประโยชน์ของกล้วยหอม
กล้วยหอมอุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารต่างๆ ที่ร่างกาย
ควรได้รับ และให้พลังงานมากถึง 100 กิโลแคลอรีต่อหน่วย เพราะใน
กล้วยหอมมีน้ำตาลอยู่ 3 ชนิด ได้แก่ ซูโครส ฟรุกโตส และกลูโคส
รวมทัง้ เส้นใยอาหาร ดังนัน
้ ร่างกายเราจะได้รับพลังงาน และนำไป
ใช้ได้ทันที แค่กล้วยหอม 2 ลูกก็ให้พลังงานได้ถึง 90 นาที และยังมี
สรรพคุณอื่นๆ อีกดังนี ้
คลายเครียด กล้วยหอมมีสาร Tryptophan เป็ นกรดอะมิโน
ที่ร่างกายแปลงเป็ น Serotonin ได้ ซึ่งเป็ นสารกระตุ้นทำให้ร่างกาย
รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์สดใสและมีความสุข
ลดอารมณ์หงุดหงิด อาการปวดหัว ปวดท้องของคุณผู้หญิงใน
ช่วงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน
เพิ่มพลังสมอง สารอาหารที่อยู่ในกล้วยหอมสามารถกระตุ้น
ความตื่นตัวให้กับสมองได้ การทานกล้วยหอมเป็ นอาหารเช้าช่วย
ให้สมองทำงานได้อย่างเต็มที่ และทานอีกในช่วงกลางวันจะ
ทำให้ร้ส
ู ึกสดชื่นและตื่นตัวได้
ลดการเกิดแผลในกระเพาะและลำไส้ กล้วยหอมมีใยอาหารอยู่
มากจึงช่วยให้ลำไส้เล็กย่อยอาหารได้ดีขน
ึ ้ และช่วยเคลือบ
2
กระเพาะอาหารไม่ให้เกิดแผลในกระเพาะ ลดอาการจุกเสียด
แน่นท้อง และช่วยลดท้องผูกอีกด้วย
ลดโรคโลหิตจาง กล้วยหอมอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนใน
การกระตุ้นให้ร่างกายสร้างฮีโมโกลบินให้กับเม็ดเลือดแดง จึง
ช่วยป้ องกันการเกิดโรคโลหิตจางได้
ลดความดันโลหิต ในกล้วยหอมมีโพแทสเซียม ผลวิจัยยืนยันว่า
โพแทสเซียมในผลไม้ช่วยลดความดันโลหิตได้ จึงมีส่วนช่วยลด
ความเสี่ยงต่อการเป็ นโรคหลอดเลือดสมองจากความดันโลหิตสูง
ได้
ลดการเกิดตะคริว คนที่กล้ามเนื้อเป็ นตะคริวส่วนหนึ่งมาจากการ
ขาดหรือมีโพแทสเซียมในร่างกายต่ำ การทานกล้วยหอมเป็ น
ประจำจะช่วยลดอาการดังกล่าวได้
บำรุงระบบประสาท วิตามินบีในกล้วยหอมจะช่วยบำรุงระบบ
ประสาทให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสมดุลมาก
ขึน
้
กล้วยไข่
2
“กล้วยไข่” มีช่ อ
ื ท้องถิ่นว่า กล้วยกระ และชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Musa
(AA) ‘Khai’ มีลักษณะคือ ผลค่อนข้างเล็ก ก้านผลสัน
้ มีเปลือกบาง เมื่อสุก
เปลือกและเนื้อมีสเี หลืองสด มีจุดกระสีดำที่เปลือก มีรสชาติหวาน กล้วยไข่
มี 2 สายพันธุ์ที่เป็ นที่ร้จ
ู ัก คือ กล้วยไข่กำแพงเพชร และกล้วยไข่ทองเงย มี
เบต้าแคโรทีนสูง ช่วยต้านมะเร็งได้อย่างวิเศษ เมื่อสุกช่วยบำรุงกำลัง เป็ นยา
ระบาย ผลดิบใช้ชงน้ำร้อนหรือบดเป็ นผงรับประทาน ช่วยรักษาแผลใน
กระเพาะอาหารและอาการท้องเสียเรื้อรัง มีรสฝาด
ประโยชน์ของกล้วยไข่
แก้อาการเสียดท้อง สารในกล้วยไข่มีส่วนช่วยลดกรดที่ทำให้เกิด
อาการเสียดท้อง
รักษาแผลในลำไส้ กล้วยไข่มีส่วนช่วยรักษาแผลในลำไส้ได้ โดย
จะช่วยเคลือบลำไส้ ลดการระคายเคือง
ป้ องกันโรคซึมเศร้า โปรตีนทริปโตเฟนที่อยู่ในกล้วยไข่มีส่วนช่วย
ป้ องกันภาวะโรคซึมเศร้าได้ โดยเป็ นสารที่ร่างกายจะเปลี่ยน
เป็ นเซโรโทนิน ทำให้ร้ส
ู ึกผ่อนคลาย
ป้ องกันโรคโลหิตจาง ในกล้วยไข่มีธาตุเหล็กสูง ช่วยกระตุ้นการ
ผลิตฮีโมโกลบิน ป้ องกันการเกิดโรคโลหิตจางได้ดี
ป้ องกันความดันโลหิตสูง ในกล้วยไข่มีสารโพแทสเซียมสูง และมี
เกลือต่ำ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดความดันโลหิตสูงได้ดี
ช่วยฟื้ นฟูร่างกาย ในกล้วยไข่มีวิตามินหลากชนิดที่ช่วยฟื้ นฟู
ร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม
ช่วยปรับอุณหภูมิร่างกาย การรับประทานกล้วยไข่มีส่วนช่วย
ปรับอุณหภูมิในร่างกายได้ดี และดีต่อหญิงตัง้ ครรภ์อีกด้วย
แก้อาการเมาค้าง แนะนำให้เอากล้วยไข่ไปปั่ นผสมกับน้ำผึง้ และ
นมสด โดยจะช่วยปรับสมดุลของร่างกาย และช่วยแก้อาการเมา
ค้างได้อีกด้วย
ลดความเสี่ยงเส้นโลหิตแตก งานวิจัยในวารสาร The New
England Journal of Medicine ได้กล่าวไว้ว่า การรับประทาน
2
กล้วยเล็บมือนาง
(https://www.kasettambon.com/
%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%
B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%9A
%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD
%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87-banana/)
“กล้วยเล็บมือนาง” มีช่ อ
ื เรียกโดยทั่วไปคือ กล้วยข้าว กล้วยเล็บมือ กล้วย
ทองดอกหมาก และกล้วยหมาก ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Musa (AA) ‘Lep
Mue Nang’ เป็ นกล้วยประจำท้องถิ่นของภาคใต้ ปั จจุบันนำมาปลูกกันทั่ว
ทุกภาค โดยเฉพาะภาคกลางกล้วยเล็บมือนางมีผลเล็ก ปลายเรียวยาวและ
โค้ง ก้านผลสัน
้ เปลือกหนา เมื่อสุกสีเหลืองทองและมีก้านเกสรเพศเมียติดที่
ปลายผล เนื้อด้านในมีสีเหลืองหรือสีครีม เนื้อนุ่ม รับประทานง่ายเพราะผลมี
ขนาดเรียวเล็ก กลิ่นรสหวานหอม ผลดิบมีรสมัน ไม่ฝาด นิยมนำมาปรุง
อาหารปั กษ์ใต้ ไม่นิยมนำมาแปรรูปเหมือนกล้วยชนิดอื่นเพราะขนาดเล็ก
นอกจากนีย
้ ังมีฟอสฟอรัสมากที่สุด ช่วยบำรุงให้กระดูกและฟั นแข็งแรง
ประโยชน์ของกล้วยเล็บมือนาง
2
กล้วยนาก
(https://www.baanmaha.com/community/showthread.php?
49818-quot-
%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%
B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81-quot)
ประโยชน์ของกล้วยนาก
ประโยชน์ทางสมุนไพร
o ใบอ่อนของกล้วยอังไฟพอนิ่ม ใช้พอกแก้เคล็ดขัดยอก
2
o ก้านใบตองตำให้แหลกช่วยลดอาการบวมของฝี
o หัวปลี ใช้บำรุงน้ำนม ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
o ผลกล้วยมีสารเซอโรโทนินซึ่งมีฤทธิเ์ ป็ นยาระบาย ผลดิบมี
o สารกระตุ้นเซลล์เยื่อบุกระเพาะอาหารให้หลั่งสารออกมา
เคลือบกระเพาะ ในผลกล้วยสุกอุดมด้วยคาร์โบไฮเดรตถึง 22
%
์ ่อต้าน
o รวมถึงมีเกลือแร่ เพกติน วิตามินเอ บี และซี มีฤทธิต
เชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
กล้วยน้ำไท
ประโยชน์ของกล้วยน้ำไทย
- กล้วยน้ำไท เป็ นกล้วยที่คนโบราณถือว่าเป็ นผลไม้ศักดิส์ ิทธ์หรือ
“กล้วยพิธี” ที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมและงานมงคลต่างๆ
เช่น การบวงสรวงไหว้ครู ทำขวัญ เป็ นต้น
กล้วยน้ำไทที่ใช้ทำยาเป็ นกล้วยสุก มีสรรพคุณเป็ นยาอายุวัฒนะ
- วิธีเก็บกล้วยน้ำไทสุกไว้กินนานๆ คือ เอาผลกล้วยแช่น้ำผึง้ ดอง
ในโหลแก้วที่ปิดสนิททิง้ ไว้ 7 วัน จึงนำมารับประทานบำรุง
ร่างกายให้แข็งแรงอายุยืนยาว
กล้วยน้ำไทอุดมด้วยธาตุอาหารและพลังงาน
- กล่าวคือ กล้วยน้ำไทสุกหนัก 100 กรัม มีพลังงาน 124 กิโล
แคลอรี คาร์โบไฮเดรต 29% โปรตีน 1.5% ไขมัน 0.2% และน้ำ
68.6% สารอนินทรีย์ 0.7%
2
กล้วยตานี
เมนูที่ทำจากกล้วยตานี:
- กล้วยนัน
้ ถือว่าเป็ นพืชที่ใช้ประโยชน์ได้ทงั ้ ต้นจริงๆ โดยส่วนปลีและหยวก
กล้วยนัน
้ สามารถนำไปปรุงอาหารได้ เช่น นำไปใส่แกงหรือหมกใส่ไก่ได้
2
สรรพคุณทางยาและประโยชน์ของกล้วยตานี
กล้วยนัน
้ ถือว่ามีสรรพคุณต่างๆมากมาย ดังต่อไปนี ้
o ถ้าหากนำใบที่แห้งแล้วนำไปต้มกับใบมะขาม สามารถนำน้ำมาอาบได้
เพื่อแก้ผดผื่นคันตามตัวได้
o ช่วยแก้ท้องเสียได้ โดยการนำผลดิบที่ยังอ่อนอยู่ นำมาฝานแล้วตาก
แดดไว้หลังจากนัน
้ นำมาบดแล้วรับประมานจะช่วยแก้ท้องเสียได้
o ช่วยแก้ร้อนใน ดับกระหายได้ โดยการนำรากมาต้มน้ำรับประทาน
o ลำต้น หรือกาบตรงลำต้น สามารถนำมาทำเป็ นเชือกใช้ทอผ้าได้
o สามารถนำมาทำอาหารสัตว์หรืออาหารของคนได้
o ช่วยกันผมร่วงและเร่งให้ผมเจริญเติบโตเร็วขึน
้ โดยนำลำต้นมาคัน
้ น้ำ
แล้วนำมาทากับผมตรงที่เราต้องการ
o ใบของกล้วยตานีนน
ั ้ จะนิยมนำมาทำงานประดิษฐ์ต่างๆเพราะใบกล้วย
ตานีนน
ั ้ มีใบที่ใหญ่และเหนียวไม่แตกง่าย
o ช่วยบรรเทาอาการเคล็ดขัดยอกได้ โดยการนำใบกล้วยที่อ่อน นำมาอัง
ไฟแล้วนำมาทาบริเวณที่เคล็ดขัดยอกจะช่วยบรรเทาได้
o หัวปลีนน
ั ้ สามารถใช้บำรุงน้ำนมมารดาได้ โดยวิธีการคือนำหัวปลีกไป
ต้มแล้วคัน
้ สด รับประทานจะช่วยบำรุงน้ำนมแม่ได้
2
o หัวปลีก็ยังสามารถรักษาโลหิตจางได้เพราะหัวปลีมีธาตุเหล็กอยู่มาก
วิธีการทำโดยการนำหัวปลีไปตากแห้งแล้วรับประทาน สามารถใช้
รักษาโลหิตจางได้
รายชื่อพันธ์กล้วยไทยหายาก
ชื่อ รสชาติ
1.กล้วยตีบ(กรบูร) รสหอมหวาน
2.กล้วยกรัน “
3.กล้วยกรามช้าง(กรามคชสาร,กรามแรด) “
4.กล้าย(โกก,หมอนทอง) “
5.กล้วยกาไน “
6.กล้วยกาบก “
7.กล้วยกินกาบ “
8.กล้วยกุ้งเขียว(กลายพันธุ์จากกล้วยนาก) “
9.กล้วยกุ้งทองผาภูมิ “
10.กล้วยขนุน “
11.กล้วยขม(ขมหนัก,ขมเบา) “
12.กล้วยขีแ
้ มวหาดใหญ่ “
13.กล้วยไข(ไข่กำแพงเพชร,กระ) “
14.(บ้านไร่) “
2
15.กล้วยไข่ขาว “
16.กล้วยไข่แดง “
17.กล้วยไข่พระตะบอง “
18.กล้วยไข่ทองเงย(ทองเงย) “
19.กล้วยไข่ทองร่วง(ค่อมเบา) “
20.กล้วยไข่โบราณ “
21.กล้วยไข่ศรีสะเกศ “
22.กล้วยไข่ดำ “
23.กล้วยครั่ง(น้ำครั่ง,นากพม่า,นาก “
ทองผาภูมิ,นากยักษ์,หลอกเด็ก[ใต้]) “
24.กล้วยค่อม “
25.กล้วยค่อมเขียว “
26.กล้วยคำ “
27.กล้วยคอหัก “
28.กล้วยงาช้าง(ยักษ์) “
29.กล้วยง้าว “
30.กล้วยเงิน “
31.กล้วยเงาะ(หอมมือนาง) “
32.กล้วยจันนวล “
33.กล้วยจี “
34.กล้วยช้าง “
35.กล้วยเชียงฮาย “
36.กล้วยแซลอ “
2
37.กล้วยแดง(นากค่อม) “
38.กล้วยแดงค่อม(แดงเตีย
้ ) “
39.กล้วยตะกุ่ย “
40.กล้วยตะโหลน(ตะลิ) “
41.กล้วยตีบ(ตีบคำ,อีตีบ) “
42.กล้วยเตีย
้ “
43.กล้วยตำนวล(แตงนวล) “
44.กล้วยต่ำ(ป้ำ) “
45.กล้วยทองก้านดำ “
46.กล้วยทองขีแ
้ มว “
47.กล้วยทองคด “
48.กล้วยทองดอกหมาก(หมาก) “
49.กล้วยทิพรส “
50.กล้วยทองมัน “
51.กล้วยทองเลื่อน “
52.กล้วยทองเสา “
53.กล้วยเทพรส รสชาติหวามเย็นหอมเล็ก
54.กล้วยทุเรียน น้อย
55.กล้วยนกสวรรค์(ไข่ฝรั่ง,นางนวล) “
56.กล้วยนมแขก “
57.กล้วยนมแพะ “
58.กล้วยนมนาง “
59.กล้วยนมสาว “
2
60.กล้วยนมหมี รสหวานหอม
61.กล้วยนาก(กุง้ ,กุ้งแดง) รสชาติไม่ดี นิยมทำเป็ น
62.กล้วยนางนวล กล้วยฉาบ
63.กล้วยนางพญา(พระยาเสวย,พญา,นาง “
ญา{ใต้}) “
64.กล้วยนางเงย “
65.กล้วยนิว้ มือนาง(หวาน) “
66.กล้วยน้ำ(กระเจาะเนิก) “
67.กล้วยน้ำกาบดำ(น้ำพัด) “
68.น้ำเชียงราย “
69.กล้วยน้ำนม “
70.กล้วยน้ำฝาด “
71.กล้วยน้าไทย(น้ำไท,หอมเล็ก) “
72.กล้วยน้ำนมราชสีห์ “
73.กล้วยน้ำละโว้ รสหวานออกเปรีย
้ ว
74.กล้วยน้ำว้า(ใต้{เหนือ}มะลิอ่อง,น้ำ “
ละว้า) “
75.กล้วยน้ำว้ากาบขาว “
76.กล้วยน้ำว้าขาว “
77.กล้วยน้ำว้าเขียว “
78.กล้วยน้ำว้าค่อม(น้ำว้าเตีย
้ ,น้ำว้าปี นัง) “
79.กล้วยน้ำว้าด่าง “
80.กล้วยน้ำว้าดง “
2
81.กล้วยน้ำว้าแดง(น้ำว้าไส้แดง,น้ำว้าใน “
อ่อน) “
82.กล้วยน้ำว้าดำ(น้ำว้าไฟ) “
83.กล้วยน้ำว้าตะนาวศรี “
84.กล้วยน้ำว้านวลจันทร์(น้ำว้านวล) “
85.กล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง “
86.กล้วยน้ำว้ามะลิอ่องขาว “
87.กล้วยน้ำว้ามะลิอ่องเขียว “
88.กล้วยน้ำว้ามหาราช “
89.กล้วยน้ำว้ายักษ์ “
90.กล้วยน้ำว้าไส้ดำ “
91.กล้วยน้ำว้าสวน(ทองมาเอง,ทองลอย “
มา) “
92.กล้วยน้ำว้าไส้แดง(น้ำว้าอ่อน,น้ำว้าไส้ “
แดง) “
93.กล้วยน้ำว้าหนัง “
94.กล้วยน้ำว้าเหลือง “
95.กล้วยน้ำหมาก “
96.กล้วยนิว้ จระเข้(นิว้ นาง) “
97.กล้วยนิว้ นางรำ “
98.กล้วยประจำพานร “
99.เปราะ “
100.กล้วยพม่าแหกคุก “
2
101.กล้วยภีมเสน(พิมเสน) “
102.กล้วยเภา(ใต้) “
103.กล้วยมัน “
104.กล้วยมือจระเข้ “
105.กล้วยแม่หม้ายต๊อก “
106.กล้วยไร่ “
107.กล้วยไร่กระเหรี่ยง รสหวานหอม
108.กล้วยลังกา “
109.กล้วยเล็บช้างกุด(โก๊ะ,เล็บช้าง,อี “
เต่า,โก้) “
110.กล้วยเล็บมือนาง(ข้าว,เล็บมือ) “
111.กล้วยไล(ใต้) รสหวานหอม
112.กล้วยสา “
113.กล้วยสากกะเบือ “
114.กล้วยสามเดือน “
115.กล้วยสาวกระทืบหอ(เนื้อทอง) “
116.กล้วยสีแสด ใช้ต้มรับประทาน อร่อย
117.กล้วยสีสะโต มาก
118.กล้วยแส้ม้า “
119.กล้วยสองกำปั่ น “
120.กล้วยหิน “
121.กล้วยหมูสี “
122.กล้วยหริน “
2
123.กล้วยหลวง “
124.กล้วยหวานกระเหรี่ยง “
125.กล้วยหวานทับแม้ว “
126.กล้วยหอมกระเหรี่ยง “
127.กล้วยหอมไข่(หอมแขก) “
128.กล้วยหอมเขียว(คร้าว,เขียวคอหัก) “
129.กล้วยหอมเขียวค่อม “
130.กล้วยหอมแขก(จากนวล,น้ำนม) “
131.กล้วยหอมจำปา(ทองเถื่อน “
นครศรีธรรมราช) “
132.กล้วยหอมจันทร์(หอมจัน,หอม “
จันทร์) “
133.กล้วยหอมทอง(หอม) “
134.กล้วยหอมทองกาบดำ “
135.กล้วยหอมทองกาบเขียว “
136.กล้วยหอมทองค่อม “
137.กล้วยหอมทองสัน
้ (หอมผลสัน
้ ,หอม “
อีสาน) “
138.กล้วยหอมทิพย์นครสวรรค์ “
139.กล้วยหอมทองไต้หวัน รสชาติเปรีย
้ ว
140.กล้วยหอม “
เปรีย
้ ว(เปรีย
้ ว,มะขาม,ใช้[กระเหรี่ยง]) “
141.กล้วยหอมมือนาง “
2
142.กล้วยหอมว้า “
143.กล้วยหอมหนองบัวลำพู “
144.กล้วยหักมุก “
145.กล้วยหักมุกเขียว
“
146.กล้วยหักมุกทอง
“
147.กล้วยหักมุกนวล
“
148.กล้วยหักมุกส้ม(ส้ม)
“
149.กล้วยหักมุกเหลือง(ส้ม)
“
150.กล้วยหัวแข็ง
รสชาติหวานอร่อย
151 กล้วยหัวหิน
“
กล้วยพันธุ์ต่างประเทศ
“
152.กล้วยกรู
“
153.กล้วยซาบ้า
“
154.กล้วยซูซู
รสหอมหวาน
155.กล้วยด่างฟอริด้า
“
156.กล้วยแดงเล็ก
“
157.กล้วยเทพนม
“
158.กล้วยปิ ซังปาปาน
“
159.กล้วยปิ ซังราชา
“
160.กล้วยปิ ซังอัมเปรียง
“
161.กล้วยมาฮอย(หอมเครือแฝด)
“
162.กล้วยราชาปูริ
“
163.กล้วยแลนดี ้
2
164.กล้วยแปซิฟิกแพนเทรน “
165.กล้วยหอมแกรนด์เนล “
166.กล้วยหอมโทม๊อก
167.กล้วยหอม FAIE-03
168.กล้วยหอมวิลเลี่ยม
169.กล้วยไอศครีม
170.กล้วยโอกินาวา
171.กล้วยฮัวเมา
172.กล้วยฮอนดูรัส
บทที่ 3
คุณประโยชน์ของกล้วย
(https://mgronline.com/china/detail/9610000121693)
ผลไม้อย่างแอปเปิ ลที่ขน
ึ ้ ชื่อเรื่องความมีประโยชน์ก็ยังแพ้กล้วย เพราะ
ว่าในกล้วยนัน
้ มีวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ มากกว่าแอปเปิ ลถึง 2 เท่า โดยมี
คาร์โบไฮเดรตมากกว่า 2 เท่า มีฟอสฟอรัสมากกว่า 3 เท่า มีโปรตีนมากกว่า
4 เท่า วิตามินเอและธาตุเหล็กมากกว่า 5 เท่าด้วยกัน โดยการกินกล้วยจะ
ให้ผลดีที่สุดคือกินตอนเช้า เพราะจะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงาน
ได้ดี และการกินกล้วยทุกวัน วันละ 2 ผลถือเป็ นสิง่ ที่ดีและวิเศษมาก ๆ จะ
กล้วยหอม กล้วยไข่ กล้วยน้ำว้าก็ได้ทงั ้ นัน
้
2
ประโยชน์ของการกินกล้วย
ช่วยลดอาการเมาค้างได้ดีระดับหนึ่ง เพราะจะช่วยชดเชยน้ำตาลที่
ร่างกายขาดไปในขณะดื่มแอลกอฮอล์
เป็ นตัวช่วยสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่ เพราะในกล้วยมีวิตามินเอ
ซี บี 6 บี 12 โพรแทสเซียม และแมกนีเซียมที่ช่วยให้ร่างกายฟื้ นตัวได้
เร็วขึน
้ จากการเลิกนิโคติน
ช่วยรักษาอาการท้องผูก เพราะกล้วยมีเส้นใยและกากอาหารซึ่งจะ
ช่วยให้ขับถ่ายได้อย่างปกติ
ช่วยบรรเทาอาการของริดสีดวงทวารหรือในขณะขับถ่ายจะมีเลือด
ออกมา
ช่วยลดอาการเสียดท้อง ลดกรดในกระเพาะ การกินกล้วยจะทำให้คุณ
รู้สึกผ่อนคลายจากอาการนีไ้ ด้
ช่วยรักษาโรคโลหิตจางได้ เพราะในกล้วยมีธาตุเหล็กสูง ซึง่ จะช่วยใน
การผลิตฮีโมโกลบินในเลือด เพื่อรักษาภาวะโลหิตจางหรือผู้ที่อยู่ใน
สภาวะขาดกำลัง
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูงหรือเส้นเลือดฝอยแตกได้
ช่วยลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดเส้นโลหิตแตกได้
สำหรับผู้ที่เป็ นโรคกระเพาะหรือกระเพาะอักเสบ การรับประทาน
กล้วยบ่อย ๆ ถือเป็ นสิ่งที่ดีมาก เพราะกล้วยมีสภาพเป็ นกลาง มีความ
นิ่มและเส้นใยสูง
ช่วยรักษาแผลในลำไส้เรื้อรัง เพราะกล้วยมีสภาพเป็ นกลาง ทำให้ไม่
เกิดการระคายเคืองในผนังลำไส้และกระเพาะอาหารด้วย
2
ประโยชน์ของกล้วย
o เปลือกกล้วยด้านในช่วยฆ่าเชื้อที่เกิดจากบาดแผลได้เหมือนกัน แต่
อย่างไรก็ตามเมื่อแปะที่บาดแผลแล้วก็ควรจะเปลี่ยนเปลือกใหม่ทุก ๆ
2 ชั่วโมงด้วย
o ยางกล้วยสามารถนำมาใช้ในการห้ามเลือดได้
o ก้านใบตอง ช่วยลดอาการบวมของฝี แต่ก่อนใช้ต้องตำให้แหลกเสีย
ก่อน
o ใบอ่อนของกล้วย หากนำไปอังไฟให้นิ่ม ก็ใช้ประคบแก้อาหารเคล็ด
ขัดยอกได้
o หัวปลีนำมารับประทานเพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด รวมทัง้ บำรุง
และขับน้ำนมสำหรับมารดาหลังคลอดบุตร
o ผลดิบนำมาบดให้ละเอียดทัง้ ลูกผสมกับน้ำสะอาด รับประทานเพื่อแก้
อาการท้องเสีย
o ใบตอง อีกส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์กันอย่างมาก เช่น ทำกระทง ห่อ
ขนม ห่ออาหาร ทำบายศรี บวงสรวงต่าง ๆ
ประโยชน์ของกล้วยพลังงาน 89 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 22.84 กรัม
น้ำตาล 12.23 กรัม
เส้นใย 2.6 กรัม
ไขมัน 0.33 กรัม
2
(https://www.sanook.com/health/27325/)
ข้อควรระวังในการกินกล้วย
แหล่งอ้างอิง
-
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9
%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2
-
https://www.baanlaesuan.com/110228/plant-scoop/type_of_ba
nana
-
https://medthai.com/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E
0%B8%A7%E0%B8%A2/
-
https://www.technologychaoban.com/bullet-news-today/article
_147785
2
https://sites.google.com/site/reuxngklwyklwy2/homehttps://
vegetweb.com/
%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A
2%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5-
%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B8%8A%E0%B8%9A
%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%9
9%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%A1/