Professional Documents
Culture Documents
เรื่อง โครงสร้ำงและหน้ำที่ของลำต้น
(apical meristem)
ลาต้นอ่อน
(young stem)
ตาตามซอกเริ่มเกิด(axillary
bud primordium)
ภาพ : โครงสร้างภายในของลาต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว
ที่มา : http://function-planty.exteen.com/images/real%20pri%202.jpg
ภาพ : โครงสร้างภายในของลาต้นพืชใบเลี้ยงคู่
ที่มา : http://function-planty.exteen.com/images/real%20pri%202.jpg
สาหรับลาต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวชั้นของเนื้อเยื่อต่างๆคล้ายกับในพืชใบเลี้ยงคู่ แต่แตกต่างกันตรงที่มัด
ท่อลาเลียงในพืชใบเลี้ยงเดี่ยวจะกระจายอยู่ทั่วไป ไม่มีวาสคิวลาร์แคมเบียมคั่นระหว่างไซเล็ม และโฟล
เอ็ม พืชบางชนิดพิธจะสลายไปกลายเป็นช่องกลวงอยู่ใจกลางลาต้น เรียกว่า ช่องพิธ (pith cavity) พบมากใน
บริเวณปล้อง
กำรเจริญเติบโตขั้นที่สองของลำต้น
การเจริญขั้นที่สองของลาต้น เกิดจากการแบ่งเซลล์ออกทางด้านข้างของวาสคิวลาร์แคมเบียม
(Vascular cambium) ซึ่งพบขั้นระหว่างเนื้อเยื่อลาเลียงน้าและแร่ธาตุ (Xylem) และ เนื้อเยื่อลาเลียงอาหาร
(Phloem) การแบ่งเซลล์ของวาสคิวลาร์แคมเบียมจะแบ่งได้ 2 ทิศทาง คือแบ่งเข้าด้านในและแบ่งออกด้านนอก
การแบ่งเข้าด้านในของวาสคิวลาร์แคมเบียมจะเกิดได้เร็วกว่าแบ่งออกด้านนอก และเจริญเป็นเนื้อเยื่อลาเลียงน้า
และแร่ธาตุรียกเนื้อเยื่อลาเลียงน้าและแร่ธาตุที่เกิดจากวาสคิวลาร์แคมเบียมว่า เนื้อเยื่อลาเลียงน้าและแร่ธาตุขั้น
ที่สอง (Secondary Xylem) การแบ่งออกทางด้านนอกแบ่งได้ช้ากว่าเข้าด้านในและเจริญไปเป็นเนื้อเยื่อลาเลียง
อาหารเรียกเนื้อเยื่อลาเลียงอาหารที่เปลี่ยนแปลงมาจากวาสคิวลาร์แคมเบียมว่า เนื้อเยื่อลาเลียงอาหารขั้นที่
สอง (Secondary phloem)
ภำพ กำรเปลี่ยนแปลงของลำต้นพืชใบเลี้ยงคู่ขณะเกิดกำรเจริญเติบโตขั้นที่สอง
ที่มำ : http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/stem.html
การแบ่งเซลล์เพิ่มจานวนของวาสคิวลาร์แคมเบียมเพื่อเจริญไปเป็นเนื้อเยื่อลาเลียงนั้นทาให้เซลล์ที่เกิดมาใหม่
ดันให้โฟลเอ็มขั้นแรก รวมถึงเนื้อเยื่อในชั้นคอร์เทกซ์ (Cortex) ถูกเบียดให้ตายและสลายไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง
เหลือเนื้อเยื่อพาเรงคิมา (Parenchyma tissue) ประมาณ 1-2 แถว เนื้อเยื่อพาเรงคิมาเหล่านี้จะเปลี่ยน
กลายเป็นเนื้อเยื่อเจริญชนิด คอร์กแคมเบียม (Cork cambium) ซึ่งคอร์กแคมเบียมจะแบ่งเซลล์เพิ่มจานวน
เพิ่มขึ้น การแบ่งเซลล์ของคอร์กแคมเบียมแบ่งได้ สองทิศทางแบ่งเข้าด้านใน หรือแบ่งออกทางด้านนอกการแบ่ง
เข้าด้านในของคอร์กแคมเบียมจะแบ่งได้ช้ากว่าแบ่งออกด้านนอกมากการแบ่งตัวออกทางด้านนอกแบ่งตัวเพื่อ
สร้างเนื้อเยื่อคอร์ก การเพิ่มจานวนของเนื้อเยื่อคอร์กทาให้เนื้อเยื่อเอพิเดอร์มิสถูกเบียดให้ตายและสลายไปทา
ให้เปลือกภายนอกของลาต้นที่มีการเจริญเติบโตขั้นที่สองเป็นเนื้อเยื่อคอร์ก
ภำพ กำรเกิดเนื้อเยื่อคอร์ก
ที่มา : http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/stem.html
ใน 1 ปี วาสคิวลาร์แคมเบียมจะมีการแบ่งเซลล์เพิ่มขึ้นตามจานวนมากน้อยต่างกันในแต่ละฤดู ซึ่งขึ้นจะ
ขึ้นอยู่กับปริมาณน้าและอาหาร เซลล์ชั้นไซเล็ม ที่สร้างขึ้นในฤดูฝนจะเจริญเร็วมีขนาดใหญ่ทาให้ไซเล็มกว้างและ
มักมีสีจาง ส่วนในฤดูแล้งจะได้เซลล์ขนาดเล็กมีสีเข้ม ลักษณะดังกล่าวทาให้เนื้อไม้มีสีจาง และสีเข้มสลับกัน
มองเห็นเป็นวง เรียกว่า วงปี (annual ring)
ตำรำงแสดงควำมแตกต่ำงระหว่ำงลำต้นพืชใบเลี้ยงคู่กับลำต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว
ลำต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ลำต้นพืชใบเลี้ยงคู่
1. มีข้อและปล้องเห็นได้ชัดเจน 1. เห็นได้ไม่ชัดเจนนัก
2. ไม่ค่อยแตกกิ่งก้านสาขา 2. มีกิ่งก้านสาขามาก
3.มัดท่อน้าท่ออาหารกระจายไปทั่วลาต้น 3. มัดท่อน้าท่ออาหารเรียงตัวเป็นวงรอบลาต้น
4. ส่วนมากไม่มีแคมเบียม 4. ส่วนมากมีแคมเบียม นอกจากพืชล้มลุกบาง
5. ส่วนมากไม่มีการเจริญขั้นที่สอง ชนิดไม่มี
6. ส่วนมากไม่มีวงปี 5. ส่วนมากมีการเจริญขั้นที่สองและเจริญไป
7. โฟลเอ็มและไซเล็มมีอายุการในการทางาน เรื่อยๆสัมพันธ์กับความสูง
6. ส่วนมากมีวงปี
7. โฟลเอ็มและไซเล็มมีอายุการทางานสั้น แต่จะ
มีการสร้างขึ้นมาทดแทนอยู่เรื่อยๆโดยแคมเบียม
หน้ำที่และชนิดของลำต้น
ลาต้นนอกจากจะทาหน้าที่สร้างใบและกิ่ง ยังช่วยพยุง
กิ่งก้านสาขา ชูใบกางออกเพื่อรับแสง
เพราะแสงแดดเป็นสิ่งจาเป็นอย่างยิ่งต่อการสร้างอาหารของใบและการ
สร้างดอก ลาต้นยังมีหน้าที่สาคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ลาเลียงน้า ธาตุ
อาหารและสารต่างๆที่พืชสร้าง ส่งผ่านไปยังส่วนต่างๆ นอกจากนี้ลาต้น
อาจมีหน้าที่พิเศษอื่นๆ อีกบางส่วนของลาต้นเปลี่ยนแปลงไป บางชนิดเปลี่ยนเป็นหนาม เช่น
มะนาว ส้ม เฟื่องฟ้า บางชนิดเปลี่ยนไปเป็นมือเกาะ เช่น พวงชมพู องุ่น
พืชที่เจริญในที่แห้งแล้งและอุณหภูมิสูง จะมีวิวัฒนาการของใบเปลี่ยนไปเป็นหนาม ลาต้นอวบน้า
ที่ลาต้นมีคลอโรฟิลล์ใช้สังเคราะห์แสงแทนใบ เช่น กระบองเพชร พญาไร้ใบ
ภาพ : มันฝรั่งและขิง
ที่มา : http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/image%20stem/tuber.jpg