Professional Documents
Culture Documents
Doctor - Pharmacist
-
Date of birth 01/07/2470 Race
ไทย
Gender หญิง
Height - Weight
-
Religion -
Admission 13/4/50 Occupation
งานบ้าน
Chief Complaint:
ซึมลง พูดจาสับสน ถามตอบไม่รู ้เรือง ่ อ่อนเพลีย ไม่มไี ข ้
ปัสสาวะอุจจาระปกติ กินอาหารได ้น้อยลง
ช่วยเหลือตัวเองได ้น้อย หายใจได ้ ไม่เหนื่ อย
Present illness:
1 สัปดาห ์ก่อนมาโรงพยาบาล ผู ้ป่ วยพูดจาสับสน
่ ไม่มไี ข ้ ปัสสาวะอุจจาระปกติ
ถามตอบไม่รู ้เรือง
Family History
-
Social History
Poor diet control
Allergies
– ( - ) Drug :
– ( - ) Food :
– ( / ) No know allergies:
Physical Examination
GU : --
RECTAL : --
EXT : no edema
NEURO : E4V3M6, confusion, moter all gr V,
BBK
neg, DTR 2+, stiff neck neg
Others : --
Vitalsigns / labaratory data (initial / follow
up)
Date
Data Normal 13/4/50 13/4/50 14/4/50
value (2.30) (3.30) (8.30)
Differential Diagnosis/Diagnosis
DM: hyperglycemia
Medications PTA
1. Glipizide 5 mg 1x2 ac
2. Humulin N 10 unit hs
3. Simvastatin 10 mg 1x1 hs
4. B1-6-12 1x3
8. Enalapril 20 mg 1x2
9. Baby aspirin 1x1
2. RI 5 U IV 1 x 1 pc 13/4/50 เวลา
– 3.30
13/4/50 น
3. 0.9% NSS 1000 mg statDrip 13/4/50 เวลา
IV 80 ml/hr –13/4/50 8.30
4. Manidipine 1 x 1 pc 13/4/50 -
(madiplot®) 10 mg oral -
5. Metoprolol 1 x 2 pc 13/4/50 -
100 mg oral -
6. Enalapril(enaril®) 1 x2 pc 13/4/50 -
20 mg oral -
7. Simvastatin 40 mg 1 x hs 13/4/50 -
oral -
่
เป็ นภาวะฉุ กเฉิ นของโรคต่อมไร ้ท่อและโรคเบาหวานทีพบบ่ อย 2
ภาวะได ้แก่ Diabetic ketoacidosis (DKA) และ Hyperglycemic
hyperosmolar nonketotic Syndrome (HHNS)
้
สามารถเกิดได ้ทังในผู ป้ ่ วยเบาหวานชนิ ดที่ 1 และ2
Hyperglycemic hyperosmolar nonketotic Syndrome (HHNS)
่ ป้ ่ วยเบาหวานมีระดับน้าตาลในเลือดสูงมากจนทาให ้เกิดภาว
เป็ นภาวะทีผู
ะ osmolality สูงในเลือดโดยทีไม่ ่ มภ
ี าวะ DKA
พยาธิกาเนิ ด
HHNS เกิดจากการทีร่่ างกายมีภาวะขาดอินสุลน ิ
่ นผลให ้ระดับน้าตาลในเลือดสูงขึนอย่
ซึงเป็ ้ างมากการทีไม่ ่ มภ
ี าวะ DKA
้ ่ องจากร่างกายยังมีอน
เกิดขึนเนื ิ สุลน ่ ยงพอทีจะยั
ิ อยู่ในปริมาณทีเพี ่ บยังก
้
ารสลายไขมันและการสร ้างคีโตนแต่ไม่เพียงพอต่อการ
ส่งเสริมการใช ้น้าตาลทีเนื
่ อเยื
้ อส่
่ วนปลายและการยับยังการผลิ
้ ตน้าตาลจ
ากตับ HHNS มีการระดับกลูคากอนในเลือดต่ากว่าใน DKA
ดังนั้นการผลิตคีโตน จึงน้อยกว่า DKA
ลักษณะทางคลินิก
อาการและอาการแสดงของ HHNS เป็ นผลจากความผิดปกติดงั นี ้
1. ภาวะน้าตาลในเลือดสูง ได ้แก่ ปัสสาวะมาก กระหายน้า
มีภาวะขาดน้า โดยตรวจพบ ริมฝี ปากแห ้ง poor skin turgor
หลอดเลือดดา jugular แฟบ และความดันเลือดต่า เป็ นต ้น
2. ภาวะฮัยเปอร ์ออสโมลาร ์ ่ ้แก่
ซึงได
่
การรู ้สติเปลียนแปลงในระดั บต่าง ๆ ้ การรู ้สติยงั เป็ นปกติ
ตังแต่
เริมมี่ อาการซึมลงทีละน้อย
และหมดสติในรายทีเป็ ่ นรุนแรงนอกจากนี ประมาณร้ ้อยละ 15
ของผูป้ ่ วยอาจมีอาการและอาการแสดงทางระบบประสาทอย่างใดอย่างห
นึ่ งหรือหลายอย่างซึงหายได ่ ่
้เมือได ้ร ับการร ักษาจนระดับน้าตาลในเลือดล
ดลง ได ้แก่ ชักเกร็งแบบ focal หรือ generalized, hemiparesis,
quadriplegia, hemiparesthesia, aphasia, homonymous
hemianopsia, nystagmus, muscle fasciculation, myoclonus,
Babinski sign, visual hallucination และdelirium
เป็ นต ้นดังนั้นผูป้ ่ วย HHNS
จึงมักพบว่ามีภาวะขาดน้าและมีการสูญเสียอีเล็คโทรไลท ์
รวมทังมี ้ ความดันเลือดต่ารุนแรงกว่าผูป้ ่ วย DKA อาการอืน ่ ๆ
่
ทีอาจพบได ้แต่ไม่บ่อยเหมือนใน DKA ได ้แก่ คลืนไส่ ้ อาเจียน
ปวดท ้อง gastric stasis ผูป้ ่ วยจะไม่มก ี ารหายใจแบบ Kussmual
หรือถ ้ามีแสดงว่าอาจมีภาวะกรดจากเหตุอนร่ ่ื วมด ้วย
ผลการตรวจทางหอ้ งปฏิบต ั ก
ิ ารส่วนใหญ่จะพบว่าคล ้ายคลึงกับทีพบใน ่
DKA แต่จะพบว่าระดับพลาสมากลูโคส ซีร ัม BUN และ
ครีอะตินีนสูงมากกว่าใน DKA
การวินิจฉัย
การวินิจฉัย HHNS
อาศัยประวัตแิ ละลักษณะทางคลินิกร่วมกับผลการตรวจทางหอ้ งปฏิบต
ั ก
ิ า
รตามเกณฑ ์ ดังนี ้
การร ักษา
1. Fluid
่
ใน 1 – 3 ชัวโมงแรกให ้ NSS IV 15-20 ml/hr หรือ 1 L/hr
หลังจากนั้นให ้
NSS/2 5 – 15 ml/kg/hr ( BP normal , corrected
serum sodium normal/high )
NSS ( BP ต่า , shock , corrected serum sodium
low )
การควบคุมระดบ
ั ความด ันโลหิตและการเลือกใช้ยาลด
ความด ันโลหิตในผู ป
้ ่ วยเบาหวาน
ยา ACEI
่ จารณาใช ้ในผูป้ ่ วยเบาหวานทีมี
ควรเป็ นยาอันดับแรกทีพิ ่ ความ
ดันโลหิตสูงร่วมกับโรคหัวใจและหลอดเลือดหรือมีภาวะ
diabetic nephropathy ( รวมถึง microalbuminuria )
้
พบว่ายากลุ่มนี สามารถลดอั ตราตายในผูป้ ่ วยเบาหวานได ้ดีเ
่
ท่ากับหรือมากกว่าผูป้ ่ วยทัวไปแต่ ่
ก็ควรหลีกเลียงการใช ้ยากลุ่ม
้
นี ในผู ่ โรคหลอดเลือดส่วนปลายหรือในผูป้ ่ วยทีมี
ป้ ่ วยทีมี ่ น้าตาล
ในเลือดต่าง่าย เพราะการยับยัง้ Β-receptors
อาจทาให ้เกิดถาวะน้าตาลในเลือดต่าโดยผูป้ ่ วยไม่รู ้ตัวและการ
แก ้ไขภาวะน้าตาลต่าเกิดได ้ช ้าลงเนื่ องจากการกระตุ ้นกระบวน
การสลายไกลโคเจนโดยกลูคากอนและ catecholamines
ผ่านทาง β-receptors ลดลง
่
และยายังเพิมไตรกลี
เซอไรด ์และลด HDL – cholesterol ได ้
้ วยชะลอการเสือมของไตและลด
ยากลุ่มนี ช่ ่
proteinuria
่ งเหมาะทีจะใช
ได ้ดีกว่ายากลุ่มอืนจึ ่ ่
้ในผูป้ ่ วยเบาหวานทีมี
proteinuria ร่วมด ้วย
้
และยังพบว่ายากลุ่มนี สามารถลดการร ัวของอัลบูมน
ิ ทางปัสสาว
่
ะได ้และอาจมีผลในการช่วยชะลอการเสือมของไตได ้
้ ACE inhibitor
นอกจากนี ยา
่
ยังสามารถเพิมความไวต่ ออินซูลน
ิ
์
ทาให ้เกิดการออกฤทธิของอิ นซูลน ึ้
ิ ดีขนในผู ป้ ่ วยเบาหวานบาง
รายอาจเกิดภาวะน้าตาลต่าได ้
การใช้ Anti platelet
พิจารณาให ้ Aspirin ขนาด 75–162 มิลลิกรัมต่อวัน เป็ น primary prevention
ในผูป้ ่ วยเบาหวานชนิ ดที่ 1 และชนิ ดที่ 2 ในรายทีมี
่ ความเสียง
่ (10-yearrisk
>10%) คือ เพศชายอายุมากกว่า 50 ปี และหญิงอายุ 60
่
ปี และมีปัจจัยเสียงเหล่ ้ างน้อย 1 น้อยขึนไป
านี อย่ ้
(มีประวัตค
ิ รอบครัวเป็ นโรคหัวใจและหลอดเลือด,
ความดันโลหิตสูง,สูบบุหรี,่ ไขมันในเลือดสูง,หรือมีภาวะ albuminuria).
ยังไม่มห ่
ี ลักฐานเพียงพอทีจะแนะน ่ องกันในผูท้ ่ี
าแอสไพรินเพือป้
่ ่า เช่น
มีความเสียงต
เพศชายอายุ<50 ปี หรือเพศหญิงอายุ< 60 ปี
่ งไม่มโี รคแทรกซ ้อนทางหัวใจและหลอดเลือดมาก่อน)
(ทียั
้ ปัจจัยเสียงอื
สาหร ับผูป้ ่ วยเหล่านี มี ่ น ่
่ เกิ
ๆ(ปัจจัยเสียงที ่ ดจากการได ้ร ับยาต ้านเกร็ดเลือด)
่ ้องพิจารณา
ทีต
ให ้ aspirin ขนาด 75–162 มิลลิกรัมต่อวัน เป็ น secondary prevention
่ โรคทางหัวใจและหลอดเลือดแล ้ว
ในผูป้ ่ วยเบาหวานทีมี
Outcome
Subjective data:
่
ผูป้ ่ วย อายุ 79 ปี มาด ้วยอาการซึมลง ถามตอบไม่รู ้เรือง
อ่อนเพลีย ไม่มไี ข ้ ปัสสาวะอุจจาระปกติ
กินอาหารได ้น้อยลง ช่วยเหลือตัวเองได ้น้อย หายใจได ้
ไม่เหนื่ อย
Objective data
FBG = 694 mg/dl, BP = 190/78 mmHg, Pulse =104
้ั
ครง/min, BUN = 24 mg/dl,
Cr = 1.3 mg/dL Na+= 130 mEq/L Cl-= 94 mEq/L WBC =
20-30 x103 Cell/mm3
Medicine: Glipizide 5 mg
Humulin N 10 units
Simvastatin 10 mg
B1-6-12
Folic acid
Madiplot 10 mg
Metoprolol 100 mg
Enaril 20 mg
Diagnose: Hyperglycemia
Assessment:
Plan
1. Manidipine (Madiplot®) 10 mg
1 x 1 pc
2. Metoprolol 100 mg 1 x 2 pc
3. Enalapril(Enaril®) 20 mg 1 x2 pc
4. Folic acid 5 mg 1x
1 pc
5. B1-6-12 1 x 1 pc
6. Humulin N 10 u IV 50 hs
7. Aspirin (B-Aspirin®) 1 x 1 pc
Education
การใช้ยา
• ผูป้ ่ วยเป็ นเบาหวาน
่
ทีจะต ้องควบคุมระดับน้าตาลให ้ปกติ โดยการได ้ร ับ
Insulinในรูปแบบฉี ดเข ้าใต ้ผิวหนัง ได ้แก่ทต ่ี าแหน่ ง
ต ้นแขน ต ้นขา หน้าท ้อง หรือ สะโพก
ไม่ควรฉี ดซาที ้ เดิ ่ มมากกว่า 1 ครง้ั ใน 1-2 เดือน
ห ้ามนวดตรงบริเวรทีฉี ่ ด ใช ้สาลีกดเบาๆ
• ใช ้ยาสม่าเสมอตามทีแพทย ่ ์แนะนา เช่น ยาฉี ด
Insulin ยาลดความดันโลหิต
่
ซึงจะต ้องได ้ร ับยาอย่างต่อเนื่ อง
ห ้ามปร ับขนาดยาหรือหยุดยาเอง
• ให ้ร ับประทานยา Aspirin หลังอาหารทันที
่ ให ้ระคายเคืองทางเดินอาหาร
เพือไม่
การปฏิบตั ต
ิ วั
• ควบคุมอาหารสม่าเสมอ
่
โดยหลีกเลียงอาหารประเภทแป้ งและน้าตาลในปริมาณมาก
และเลือกร ับประทานคาร ์โบไฮเดรตเชิงซ ้อน หรือ
อาหารทีมี ่ ใยอาหารสูงช่วยชะลอการดูดซึมของแป้ งและคาร ์โ
บไฮเดรตจากมืออาหารที ้ ร่ ับประทานก่อนหน้านี ้
้ งทาหน้าทีขั
ทังยั ่ ดขวางการดูดซึมของน้าตาล
ทาให ้ระดับน้าตาลกลูโคส
ในกระแสโลหิตเป็ นปกติและกรดไขมันอิสระในเลือดลดลง
เช่น ผักกระเฉด ยอดสะเดา ยอดมะกอก ผักหวาน
้ ก ยอดขีเหล็
ใบขีเหล็ ้ ก ดอกแค เป็ นต ้น
• ควรหลีกเลียงอาหารที่ ่ มจัดรวมทังอาหารไขมั
เค็ ้ นสูงๆ
เนื่ องจากผูป้ ่ วยรายนี ้ มีระดับไขมันในเลือดสูงด ้วย
• ออกกาลังกาย ตามความเหมาะสมกับสภาวะร่างกาย เช่น
การเดิน อย่างน้อย 30 นาทีอย่างน้อบสัปดาห ์ละ 3 ครง้ั
• พบแพทย ์สม่าเสมอตามนัด เพือวั ่ ดผลการควบคุมน้าตาล
และตรวจหาโรคแทรกซ ้อน
• ตรวจน้าตาลในเลือด หรือในปัสสาวะบ่อยๆ
โดยเฉพาะในรายทีควบคุ่ มน้าตาลไม่ดี
• กรณี ทน่ี ้าตาลต่าจะมีอาการ เหงือออก
่ ่ อ่อนเพลีย
ใจสัน
่ ให ้อมลูกอม หรือกินของหวานทันที
มือสัน
Monitoring
Future plan