Professional Documents
Culture Documents
ยูโด (Judo) หรื อ ยูโดโคโดกัน (Judo Kodokan) เป็ นศิลปะการต่อสู ้ประจำชาติประเภทหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เดิมเรี ยกว่า
ยูยติ สู (Jiujitsu) โดยท่านจิโกโร คาโน (Jigoro Kano) ได้ปรับปรุ งดัดแปลงทางด้านหลักการและแนวคิดต่างๆมารวมกัน
จนกลายเป็ นยูโดที่นิยมเล่นและรู้จกั แพร่ หลายทัว่ โลกในปั จจุบนั
ยูยติ สู บางครั้งเรี ยกว่า ยูยติ ซึ หรื อ ทาอิจิตซิ ซึ หรื อ ยาวารา แปลว่ าการบริหารร่ างกายซึ่งมีอยู่ในวรรณคดีของ
ญี่ปนุ่ โดยเป็ นที่นิยมเล่นกันในสมัยโตคุคาวา
ในปี คศ. 1882 ท่านจิโกโร คาโน ได้ต้ งั สถาบันสอนวิชายูยติ สู ชื่อสถาบันโคโดกัน และเปลี่ยนชื่อวิชายูยติ ไปเป็ นยูโด และ
ได้พยายามปรับปรุ งแก้ไข รวบรวมวิธีการต่างๆเป็ นหมวดหมู่ รวมทั้งใช้หลักกลศาสตร์มาประกอบ และสอดแทรกวิชา
ตรรกวิทยา จิตวิทยา จริ ยศึกษา เข้ามาในวิชายูโด
ท่านจิกาโร คาโน สิ้ นชีวิตบนเรื อ เอสเอสฮิกาวามารู ด้วยโรคปอดอักเสบ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม คศ.1938 ด้วยวัย 78 ปี
ซึ่ งท่านได้ประกอบคุณูปการไว้มากมายในฐานะ ผู้ให้ กำเนิดกีฬายูโดสากล
กีฬายูโดในประเทศไทย
ในปี พศ.2450 ได้มีชาวญี่ปุ่นชื่อกิโยฟูจิเข้ามาทำงานบริ ษทั ของประเทศญี่ปุ่นที่ต้ งั ในประเทศไทยคือบริ ษทั ซุยบุนเซนไกซา
และได้นำเอาวิชายูยติ สูเข้ามาเผยแพร่ ให้แก่ผรู้ ่ วมงานได้ฝึกหัด และมีทนั ตแพทย์ชาวญี่ปุ่นชื่อ เอนโด ซึ่ งมีความรู ้ทางยูยติ สู
ได้เข้าร่ วมเป็ นผูฝ้ ึ กสอนและเผยแพร่ จนเป็ นที่นิยมในหมู่คนใกล้ชิด และ คนไทยพอสมควร
ปี พศ. 2498 พล.ต.ท.พิชยั กุลละวาณิ ชย์ พล.ต.ต.มงคล จีรเศรษฐ และ อาจารย์สิทธิ ผล พลาชีวิน ได้ร่วมกันก่อตั้งสมาคมยูโด
แห่งประเทศไทยขึ้น และจดทะเบียนอย่างถูกต้อง เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2498 และได้เข้าเป็ นสมาชิกสหพันธ์ยโู ด
นานาชาติแห่งเอเชียในปี พศ.2499 ต่อมาในปี พศ.2507 สมาคมยูโดสมัครเล่นแห่งประเทศไทยก็ได้เป็ นสมาชิกของสหพันธ์
ยูโดสากลระหว่างประเทศ
ท่านจิโกโร คาโน ได้ให้คำจำกัดความของยูโดว่า ยูโดคือการใช้จิตใจและร่ างกายรวมกัน เพื่อให้เกิดประสิ ทธิ ภาพสู งสุ ดแก่ท้ งั
ตนเองและผูอ้ ื่น โดยมีวตั ถุประสงค์ 2 ประการ คือ
1. เพื่อให้ร่างกายมีความสมบูรณ์แข็งแรงและมีสมรรถภาพสู งสุ ด
2. เพือ่ ช่วยเหลือให้มนุษยชาติมีสวัสดิภาพและประโยชน์สุขร่ วมกัน
1. จุดที่แรงกระทำ
2. ทิศทางของแรง
3. ขนาดของแรง
วิธีแสดงความเคารพ
1. การนั่งเคารพ (Zarei)
1. จากท่ายืนตรงจังหวะแรก
2. ให้ถอยเท้าข้างซ้ายไปข้างหลัง คุกเข่าซ้ายลง
3. คุกเข่าขวาลง ปลายเข่าขวาเสมอเข่าซ้าย ลำตัวกับต้นขาส่ วนบนตั้งฉากกัน ส้นเท้าตั้งขึ้น
4. นัง่ ลง วางก้นลงบนสันเท้า ให้หวั แม่เท้าทั้งสองทับกัน มือทั้งสองวางบนหน้าขาชิดลำตัว เข่าแยกห่างกันพอประมาณ
5. วางฝ่ ามือทั้งสองข้างคว่ำลงข้างหน้าห่างเข่าเล็กน้อย หันปลายฝ่ ามือเฉี ยงเข้าหากัน ก้มศีรษะตรงเป็ นแนวเดียวกับแผน
หลัง
6. เงยศีรษะขึ้นให้ลำตัวตั้งตรง สายตามองไปข้างหน้า ฝ่ ามือทั้งสองข้างวางบนต้นขา
2. การยืนเคารพ (Ritsurei)
1. จากท่านัง่ วางก้นลงบนสันเท้าให้นิ้วหัวแม่เท้าทั้งสองทับกัน มือทั้งสองวางบนหน้าขาชิดลำตัว ลำตัวตรง เข่าแยกห่างกัน
พอประมาณ
2. ให้ยกก้นขึ้นจากสันเท้า สันเท้าตั้งขึ้น ลำตัวตั้งตรง
3. ตั้งเข่าขวาขึ้น ฝ่ ามือชิดลำตัว หน้ามองตรง
4. ให้ลุกขึ้นยืน ลากเท้าซ้ายมาชิดเท้าขวา
5. โน้มศีรษะลงทำความเคารพ ให้เลื่อนฝ่ ามือทั้งสองข้างไปแตะบริ เวณเหนือเข่า ศีรษะกับลำตัว แผนหลัง เป็ นเส้นตรง
เดียวกัน นิ่งอยูส่ กั ครู่
6. ยืดตัวกลับอยูใ่ นท่าตรง
สถานที่สำหรับฝึ กสอนยูโด
สถานที่สำหรับฝึ กสอนยูโดที่ญี่ปนุ่ เรี ยกว่า โดโจ ซึ่ งควรมีลกั ษณะดังนี้
ลักษณะของห้องต้องกว้างขวางพอสมควร
พื้นปูดว้ ยเสื่ อยูโดซึ่ งทำจากฟาง ญี่ปุ่นเรี ยกว่า ตาตามิ หรื อวัสดุอื่นเพื่อป้ องกันอันตรายในเวลาล้ม เสื่ อต้องปูให้เรี ยบ
อย่าให้เป็ นหลุมเพราะอาจทำให้ขอ้ เท้าแพลงได้
ผนังห้องควรบุดว้ ยวัตถุที่มีความอ่อนนุ่มหรื ออ่อนตัวได้ สิ่ งที่เป็ นแง่ เป็ นเหลี่ยม ซึ่ งอาจจะกระแทกเป็ นอันตรายควร
แก้ไขให้ปลอดภัย
ห้องฝึ กควรมีอากาศบริ สุทธิ์ โดยธรรมชาติ ถ่ายเทอากาศได้ดี
มีความสว่าง สะดวกแก่การฝึ ก
ควรรักษาความสะอาดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
สำหรับสิ่ งประดับนั้นต้องจัดให้เป็ นระเบียบเรี ยบร้อย ควรมีที่สำหรับบูชาพระและสิ่ งที่เคารพสักการะ ตลอดจนภาพครู
อาจารย์และท่านผูม้ ีอุปการะคุณ
ไม่ควรสู บบุหรี่ สวมหมวก สวมรองเท้าขึ้นไปบนเบาะยูโด
ห้ามส่ งเสี ยงโดยไม่จำเป็ น หรื อทำสิ่ งที่น่ารังเกียจ ปฏิกลู และก่อให้เกิดความรำคาญอย่างเคร่ งครัด
เครื่ องปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ระเบียบและมารยาทที่นักยูโดพึงปฏิบัติ
เมื่อไปถึงสถานที่ฝึกควรทำความเคารพก่อน 1 ครั้ง
เมื่อเปลี่ยนเครื่ องแต่งกายเป็ นชุดยูโดแล้วควรไปเคารพที่บูชาอีก 1 ครั้ง
ก่อนที่จะทำการฝึ กกับครู หรื อคู่ซอ้ มก็ตอ้ งทำความเคารพซึ่ งกันและกัน
หลังจากเลิกการฝึ กกับครู หรื อคู่ซอ้ มก็ตอ้ งทำความเคารพซึ่ งกันและกัน
ขณะนัง่ พักอยูบ่ นเบาะ ควรนั้งให้เรี ยบร้อยตามแบบฉบับของยูโด
เมื่อจะเลิกฝึ กควรไปเคารพหิ้งบูชา
หลังจากเปลี่ยนเครื่ องแต่งกาย ก่อนจะออกจากสถานที่ฝึก ควรเคารพอีก 1 ครั้ง
หลักแห่งความอ่อนโยน กล่าวคือ นักยูโดทุกคนควรเป็ นผูม้ ีมารยาทอ่อนโยนเป็ นผูสำ
้ รวมทั้งร่ างกายและจิตใจ มารยาทที่นกั ยูโดพึง
ปฏิบตั ิมีดงั นี้
การรักษาสุ ขภาพอนามัยและความสะอาด
สมรรถภาพทางกายสำหรับนักกีฬายูโด
ความแข็งแรง
กำลัง
ความเร็ ว
ความคล่องแคล่วว่องไว
ความอดทน
ความอ่อนตัวหรื อความยืดหยุน่
ความสมดุลของร่ างกาย
การฝึ กซ้ อมและปัจจัยที่มีผลต่ อสมรรถภาพทางร่ างกายและจิตใจ
การฝึ กซ้อม คือ การดำเนินการหรื อการปฏิบตั ิการอย่างเป็ นระบบ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อการพัฒนา สร้างเสริ ม ปรับปรุ งแก้ไข
ทักษะเทคนิคกีฬาและสมรรถภาพทางกาย รวมทั้งความสามารถของนักกีฬาให้มีความก้าวหน้าและมีประสิ ทธิ ภาพมากขึ้น ภายใต้
เงื่อนไขของความหนักเบา รู ปแบบ วิธีการ และกิจกรรมฝึ กซ้อมที่ได้กำหนดไว้
1. การอบอุ่นร่ างกาย
2. การยืดกล้ามเนื้อ
3. การฝึ กทักษะพื้นฐาน
4. การฝึ กทักษะเฉพาะ
5. โปรแกรมการฝึ กซ้อมมีอยู่ 4 แบบคือ
5.1 แอโรบิก
5.2 แอนแอโรบิก
5.3 ความเร็ ว
5.4 ทักษะ
6. การฝึ กความเร็ วแบบอดทน
7. การฝึ กความแข็งแรง
8. การคลายกล้ามเนื้ อ
แมคโครไซเคิล (Macrocycle)
หมายถึงช่วงระยะเวลาการฝึ กซ้อมที่ยาวนานที่สุด หรื อช่วงระยะเวลาของการฝึ กซ้อมทั้งหมด ที่ครอบคลุมทุกส่ วนของช่วงเวลา
ที่ใช้ในการฝึ ก โดยปกติวงรอบดังกล่าวนี้จะมีระยะเวลาประมาณ 12 เดือนหรื อ 1 ปี และในวงรอบปฏิทิน 1 ปี สามารถที่จะจัดแบ่งช่วง
ระยะเวลาในการฝึ กซ้อมออกได้เป็ น 1-3 แมคโทไซเคิล
องค์ ประกอบของแมคโครไซเคิล
มีช่วงระยะเวลาการฝึ กซ้อมที่สำคัญ 3 ช่วง คือ
1. ช่วงเตรี ยมความพร้อมร่ างกาย
2. ช่วงการแข่งขัน
3. ช่วงปรับสภาพร่ างกาย หรื อพักฟื้ นร่ างกาย
โดยแต่ละช่วงมีความจำเป็ นและความสำคัญที่แตกต่างกัน
การวางแผนการฝึ กซ้ อมในแต่ ละช่ วงเวลา
การวางแผนการฝึ กซ้อมในหนึ่งแมคโครไซเคิลจะแบ่งเป็ น 3 ช่วงระยะเวลา และแบ่งออกเป็ น 6 ช่วงย่อยๆ โดยแต่ละช่วงย่อย
เรี ยกว่า เฟส (Phase)
ระยะเวลาการฝึ กซ้ อม
1.ระยะเวลาการอนุญาตให้นกั กีฬาและผูฝ้ ึ กสอนกีฬาไปฝึ กซ้อมก่อนการแข่งขันต้องไม่เกินกำหนดระยะเวลาดังนี้
การแข่งขันระดับกีฬาเยาวชนแห่งชาติและกีฬาแห่งชาติ 60 วัน
การแข่งขันระดับซีเกมส์ 270 วัน
การแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 90 วัน
การแข่งขันระดับเอเชียนเกมส์ 365 วัน
การแข่งขันชิงชนะเลิศของโลก 180 วัน
การแข่งขันระดับโอลิมปิ กเกมส์ 365 วัน
การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน 30 วัน
การแข่งขันกีฬาชิงชนะเลิศกีฬามหาวิทยาลัยแห่งเอเชีย 30 วัน
การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน 30 วัน
การแข่งขันชิงชนะเลิศกีฬามหาวิทยาลัยโลก 30 วัน
2.ด้านจิตใจ
ช่วยกระตุน้ ให้จิตใจมีความพร้อมที่จะออกกำลังกายหรื อเล่นกีฬามากขึ้น
ช่วยลดเวลาปฏิกิริยาของประสาทสัง่ การและกระตุน้ ให้มีความสัมพันธ์ในการทำงาน
ช่วยกระตุน้ ให้นกั กีฬามีมโนภาพและจินตนาการในการเคลื่อนไหว
ช่วยกระตุน้ ให้ระบบประสาทและกลไกการทำงานในสภาวะที่เหมือนจริ ง นักกีฬาจะเกิดความมัน่ ใจในตัวเอง
มากขึ้น
ช่วยทำให้นกั กีฬาผ่อนคลายความกดดันจากการฝึ กซ้อมหรื อแข่งขัน
ท่ าสำหรับการอบอุ่นร่ างกาย
1.ท่ าหมุนคอ (แบบช้ า)
วัตถุประสงค์ : เพื่อเตรี ยมความพร้อมของกลุ่มกล้ามเนื้อบริ เวณต้นคอของมุมการเคลื่อนไหวและลดความเสี่ ยงต่อการบาดเจ็บ
บริ เวณกล้ามเนื้ อต้นคอ
วิธีปฏิบัติ : ยืนตรง เริ่ มหมุนคอไปทางขวาจนครบรอบ และหมุนไปทางซ้ายสลับกันไป เวลาหมุนคอไม่ควรหลับตา เป็ นลักษณะ
การหมุนแบบช้าๆ โดยให้ปฏิบตั ิหมุนไปทางขวา 10 รอบ และทางซ้าย 10 รอบ
2.ท่ าเหวีย่ งแขนบิดลำตัว
วัตถุประสงค์ : เพื่อเตรี ยมความพร้อมของกลุ่มกล้ามเนื้อบริ เวณหัวไหล่เพิ่มมุมการเคลื่อนไหวของไหล่
วิธีปฏิบัติ : ยืนตรง เท้าแยกช่วงไหล่ เหวี่ยงแขนไปทางขวา มือขวาเหยียดมือซ้ายทับที่ขอ้ ศอก นับเป็ นครั้ งที่ 1 และเปลี่ยนทาง
ซ้ายให้ปฏิบตั ิรอบละ 20 ครั้ง จำนวน 2 รอบ
5.ท่ ายุบย่อเข่ า
วัตถุประสงค์ : เพื่อเตรี ยมความพร้อมของการยืดหยุน่ ของกล้ามเนื้อบริ เวณหัวเข่าและกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า และช่วยลดความ
เสี่ ยงต่อการบาดเจ็บบริ เวณเอ็นที่อยูบ่ ริ เวณรอบๆหัวเข่า
วิธีปฏิบัติ : ยืนตรง เท้าชิดกัน ก้มเอามือจับที่เข่าทั้งสอง ย่อเข่าลงแล้ว ยุบเข่าไปทางซ้ายสลับกับยุบเข่าไปทางขวา ยืนตรงยืดเข่า
ขึ้น โดยปฏิบตั ิรอบละ 10 ครั้ง จำนวน 2 รอบ
6.ท่ าย่อเข่ า-ยืดลำตัว
วัตถุประสงค์ : เพื่อเตรี ยมความพร้อมของการยืดหยุน่ ของกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า กล้ามเนื้ อสะโพก และกล้ามเนื้ อลำตัว
วิธีปฏิบัติ : ยืนยืดลำตัว แยกเท้าให้มากๆ ย่อตัวลง ลำตัวตั้งตรงเข่าแยกออกด้านข้าง มือวางที่ตน้ ขาใบหน้ามองตรง ยืดตัวขึ้น ลำ
ตัวตรง เข่าตึง โดยปฏิบตั ิรอบละ 10 ครั้ง จำนวน 2 รอบ