You are on page 1of 12

ญี่ปุ่นในประวัติศาสตร์

นิ ต ย ส า ร ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ 2 5 6 6
สำ นั ก พิ ม พ์ สุ ภั ต ร า
CONTENT
ส า ร บั ญ

ปฏิรูปเมจิ
ปฏิรูปอย่างไรให้เป็นมหาอำนาจ
page1

คดีฆาตกรรมสุดสะเทือนขวัญ
44 วัน แห่งนรกบนดิน
- จุนโกะ ฟุรุตะ
page4

ATOMIC BOMB
ทิ้งบอมลงฮิโรชิมาเเละนางาซากิ
ณ เเดนอาทิตย์อุทัย
page7
ปฏิรูปเมจิ
ปฏิรูปอย่างไรให้เป็ นมหาอำนาจ

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลก มีความมั่งคั่ง

6.4% ของความมั่งคั่งรวมของโลก ระดับการศึกษา, ทักษะแรงงาน, คุณภาพที่อยู่อาศัย,

ความปลอดภัยส่วนบุคคล และคุณภาพสิ่งแวดล้อมสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ OECD


แม้ประชากรจะมีแนวโน้มลดลง แต่เศรษฐกิจยังสามารถเติบโตไปได้อย่างมีคุณภาพ และ

หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นหนึ่งในมหาทลอำนาจของโลกนั้นก็คือ 'การปฏิรูปเมจิ'

ในยุคเมจิ จักรพรรดิและคณะรัฐบาลญี่ปุ่นปฏิรูประบบเศรษฐกิจ
สังคม และการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
ไม่ว่าจะเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งมีรากฐานมาจากการวาง
ระบบโครงสร้างพื้นฐาน การทยอยเปิดเสรีทางการค้า การลงทุน
ระหว่างประเทศ และการวางระบบสถาบันทางการเงิน อีกหนึ่ง
นโยบายสำคัญคือ การปฏิรูประบบการศึกษาในปี 1872 ให้คน
ส่วนใหญ่มีสิทธิเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งปลดล็อกให้คน
ญี่ปุ่นคิดค้นวิทยาการและนวัตกรรมซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อน
เศรษฐกิจญี่ปุ่นในเวลาต่อมา

จักรพรรดิเมจิ
page1
สาเหตุการปฏิรูป
Acemoglu and Robinson อธิบายว่าเหตุสำคัญของการปฏิรูปคือการ
ล่าอาณานิคมจากประเทศตะวันตก ญี่ปุ่นได้รับแรงกดดันจากตะวันตกอย่าง
ต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยปลายเอโดะ และในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน อังกฤษทำ
สงครามฝิ่ น (1839-1842) กับจีน โดยเป็นจีนที่แพ้และเสียเอกราชให้กับ
อังกฤษ ด้วยความกลัวที่จะสูญเสียสถานะทางเศรษฐกิจและอำนาจในการ
ปกครอง กลุ่มอำนาจจึงสร้างญี่ปุ่นให้เป็นประเทศที่ ‘มั่งคั่งและมั่นคง’
ทัดเทียมกับประเทศตะวันตกเป็นที่มาของหลักปฏิรูป ‘ฟูโกกุ เคียวเฮ’ ซึ่ง
หมายถึงการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและสร้างกำลังทหารที่เข้มแข็ง
ผู้มีอำนาจทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นไม่ได้ขัดขวางการปฏิรูป แต่มองว่าการ
ปฏิรูปเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงให้กับระบบ
เศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งจะช่วยรักษาสถานะทางเศรษฐกิจของตนเอาไว้
ผลลัพธ์คือญี่ปุ่นก้าวขึ้นมาเป็นระบบเศรษฐกิจชั้นนำของโลก นับเป็นการ
ลงทุนที่ให้ผลตอบแทนกับผู้มีอำนาจอย่างคุ้มค่า

การปฏิรูป
EDO • ด้านสังคม ยกเลิกยกเลิกระบบชนชั้น ปรับปรุงกฎหมายให้
TOKYO ประชาชนทุกหมู่เหล่ามีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน
• ด้านการศึกษา มีการจัดการศึกษาภาคบังคับในโรงเรียนแผน
ใหม่ จัดตั้งมหาวิทยาลัย และส่งคนไปศึกษาดูงานในประเทศตะวัน
ตก
• ด้านการปกครอง มีการยกเลิกอำนาจการปกครองของโชกุน
โดยดึงอำนาจกับมารวมศูนย์ที่องค์พระจักรพรรดิที่เมืองหลวง
(เมืองเอโดะหรือโตเกียว) ทำให้การปฏิรูปความเจริญของบ้าน
เมืองในด้านต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น การปฏิรูปการปกครองของ
ประเทศในเวลาต่อมา คือ
- มีรัฐธรรมนูญ (ค.ศ. 1889) ฉบับแรกเป็นกฎหมายสูงสุดในการ
ปกครองประเทศ
- มีรัฐสภาและให้ประชาชนออกเสียงเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา
• การปฏิรูปทหาร มีการจัดตั้งกองทัพสมัยใหม่และฝึกทหารตาม
แบบอย่างชาติตะวันตก
การย้ายเมืองหลวงไปเมืองเอโดะ
ของจักรพรรดิเมจิ

• ด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม โดยส่งเสริมการลงทุนของภาค
เอกชนทั้งอุตสาหกรรมหนักและอุตสาหกรรมเบา มีการนำเข้า
เครื่องจักรที่ทันสมัย และจ้างผู้เชี่ยวชาญจากประเทศตะวันตกมา
ให้คำแนะนำ
• ด้านการสื่อสาร คมนาคม และสาธารณูปโภคต่างๆ ได้แก่ สร้าง
ถนน ทางรถไฟ โทรเลข โทรศัพท์ ไฟฟ้า ประปา และกิจการ
ธนาคาร
page2
ผลของการปฏิรูป
• เป็นแบบอย่างของการพัฒนาประเทศที่ชาติอื่นๆ เป็นแนวทาง
ศึกษา โดยเฉพาะการพัฒนาด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่เจริ
ก้าวหน้ารวดเร็วมาก และการมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด
ในการปกครองประเทศ
• ชัยชนะของญี่ปุ่นในสงครามญี่ปุ่น – รัสเซีย ค.ศ. 1904-
1905 กระตุ้นให้เกิดลัทธิชาตินิยมในหมู่ชนชาติในเอเชียและ
แอฟริกาที่ตกป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก ทำให้เกิดกระแส
การต่อสู้เรียกร้องเอกชาติ เพราะเกิดความชื่อมั่นว่าสามารถ
เอาชนะชาวตะวันตกได้
• อำนาจการปกครองของตระกูลโทกูงาวะสิ้นสุดลงเมื่อเกิดการ
ปฏิวัติเมจิ ไม่มีโชกุนอีกต่อไป สิริการสืบทอดความเป็นโชกุนต่อ
กันรวมทั้งสิ้น 15 คน จนสิ้นสุดที่โทกูงาวะ โยชิโนบุ โทกุกาวะ โยชิโนบุ
โชกุนคนสุดท้าย

สงครามญี่ปุ่น-รัสเซีย

ommend !
Rec พิพิธภัณฑ์
การปฏิรูปเมจิ
ในเมืองคาโกชิม่า

“Economic change often happens, not when


vested interests are defeated, but when different
strategies are used to pursue those interests."
Dani Rodrik, Harvard University

( การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจมักเกิดขึ้น ไม่ใช่เมื่อผลประโยชน์ที่ตกเป็นกรรมสิทธิ์พ่ายแพ้
แต่เมื่อมีการใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เหล่านั้น )

page3
หนึ่งในคดีฆาตกรรมโหดที่สะเทือนขวัญที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของ "จุนโกะ ฟุรุตะ”

เด็กสาวสาวผู้น่าสงสารที่โดนรุมโทรม ทำร้ายร่างกาย และการทรมานด้วยวิธีโหดร้ายป่าเถื่อน


เรื่องราวเหล่านั้น เกิดเป็นเช่นไร เธอต้องพบเจอกับอะไรบ้าง แล้วต้นสายปลายเหตุเป็นอย่างไร ?
สำนักพิมพ์สุภัตราจะมาให้คำตอบกัน

จุนโกะ ฟุรุตะ เกิดใน ปี ค.ศ.1972 เมืองมิซา


ฮิโรชิบอกกับจุนโกะ ว่า อยากคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว

โตะ จังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ชีวิตของเธอนั้น


และเมื่อจุนโกะไปตามนัด เธอก็พบว่าเขาพาเพื่อนของเขามาด้วย

เหมือนเด็กสาวธรรมดาทั่วไป สนุกสนานตาม
เพื่อนของฮิโรชินั้นหน้าตาอย่างกับโจรยากูซ่า ทำให้เธอรู้สึก

ประสาวัยรุ่น เป็นที่รักของทุกคน ทั้งยังไม่เคยทำ


หวาดกลัวและพยายามจะหนีออกไปจากตรงนั้น
อะไรที่ออกนอกลู่นอกทาง แต่ช่างโชคร้ายที่เธอดัน

มีเพื่อนชายชื่อ มิยาโนะ ฮิโรชิ (Miyano Hiroshi) จากนั้น ฮิโรชิก็ได้ติดต่อกลับไปหาพ่อแม่ของเขา ว่า เขาได้

หนีออกจากบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งด้วยความที่ฮิโรชิเองเป็น

มิยาโนะ ฮิโรชิ ในเวลามีอายุ 18 ปี เขาแอบ


ลูกน้องของยากูซ่า ทำให้พ่อแม่ของฮิโรชิกลัวจนไม่กล้าแจ้ง

หลงรักจุนโกะ แต่ฮิโรชินั้นเป็นเด็กไม่เอาไหน เกเร


ความกับตำรวจว่าลูกชายของตัวเองได้หายไป ส่วนโนบุฮารุ ได้

แถมยังเป็นสมาชิกชั้นต่ำของยากูซ่า เขาขาดเรียน
โกหกกับผู้ปกครอง ว่า จุนโกะคือแฟนสาวของเขา พวกเขาทั้ง 4

บ่อยครั้ง และมีชื่อเสียงเป็นนักเลงที่รักความ
ได้บังคับให้จุนโกะโทรไปบอกพ่อแม่ของเธอ ว่าจะนอนค้างบ้าน

รุนแรง จึงทำให้จุนโกะไม่ได้สนใจในตัวของเขาเลย
เพื่อนหลายคืน ไม่ต้องตามหา
แม้แต่น้อย
จากนั้น มหกรรมนรกจึงเริ่มขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดมีการ

ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1988 ฮิโรชิ


ถ่ายภาพเอาไว้ด้วย (และกลายเป็นหลักฐานในเวลาต่อมา ) หญิง

และเพื่อนทั้งสามคนของเขาประกอบไปด้วย มินา
สาวถูกรุมข่มขืน ทรมาน รวมไปถึงถูกรุมโทรมด้วย
โตะ โนบุฮารุ อายุ 16 ปี, โจ คามิเซคุ อายุ 17 ปี

เพื่อนจากโตเกียวและมีคดีติดตัวเพิ่งออกจากคุก
ว่ากันว่า ฮิโรชิได้พาคนอื่น ๆ มาร่วมวงด้วย ในช่วงแรกที่

และ ยาสุชิน วาตานาเบ้ (ไม่ทราบอายุ คาดว่ายัง


เธอโดนลักพาตัวมานั้นเธอโดนข่มขืนมากกว่าห้าร้อยครั้งโดย

เป็นเยาวชน) ผู้ชายกว่าร้อยคน!! หลังจากนั้นจุนโกะก็กลายเป็นของเล่น

สำหรับเด็กชายสุดโฉดทั้งสี่คนไปโดยปริยาย

page4
เธอได้เขียนเรื่องราวทั้งหมดไว้ในไดอารี่ 44 วันของจุนโกะ ซึ่งมีเนื้อหาอันแสนโหดร้าย
เกินกว่าจะเล่าได้ จึงขอสรุปคร่าว ๆ ดังนี้
จุนโกะถูกข่มขืนมากกว่า 500 ครั้ง การข่มขืนหลายครั้งเหล่านี้เป็นการรุมโทรม ซึ่ง
เพื่อนของเด็กชายทั้งสี่คนได้รับเชิญให้เข้าร่วมและทำให้เธออับอาย ทั้งยังมีผู้ชายมากกว่า
100 คนมีส่วนร่วมในการข่มขืน
เมื่อเธอถูกขังไว้ เธอจะถูกบังคับให้เปลือยกายและช่วยตัวเองต่อหน้าผู้จับกุมของเธอ
เด็กชายบางคนปัสสาวะรดเธอ และเธอถูกบังคับให้ดื่มปัสสาวะของเธอเอง
วัตถุแปลกปลอมทั้งหลาย รวมถึงอุปกรณ์ให้กำเนิดไฟ ถูกยัดเข้าไปในช่องคลอดและ
ทวารหนักของเธอ ทำให้เกิดแผลไหม้และบาดเจ็บสาหัส
เธอถูกทุบตีเป็นประจำ บางครั้งก็มัดเหมือนกระสอบทรายของมนุษย์ หากมีใครไม่
พอใจอะไรก็จะลงโทษเธอด้วยไม้และไม้ไผ่
หลังจากขอร้องให้ตาย เธอถูกขังไว้ค้างคืนข้างนอกโกดังในฤดูหนาว และต่อมาถูกขัง
ในตู้เย็น

page5
ในวันสุดท้าย กลุ่มคนทำให้ร่างกายเธอพิการด้วยการนำดัมเบลออกกำลังกายมารุมตีเธอ
อย่างทารุณ ตอนนั้นเธอเลือดออกมากทั้งจมูกและปาก แต่คนพวกนี้ก็ไม่วายเอาน้ำตาเทียน
หยดใส่ตาและใบหน้าของเธอ เธอขอร้องให้ฆ่าเธอ และพวกนั้นก็เอาน้ำมันเทลงใบหน้าแขน
ขาและท้องแล้วจุดไฟเผา เธอตายจากไฟใหม้อย่างทรมาน

สิ้นสุด 44 วันนรกบนดินของจุนโกะ เมื่อเธอตายแล้ว ทั้งสี่ก็เอาถังน้ำมันแบบ 55

แกลลอน ยัดศพลงในถังและเทปูนซีเมนต์ แล้วเอาไปทิ้งที่ก่อสร้างที่โคโตะ เมืองโตเกียว

หลังจากนั้นไม่นาน ตำรวจก็พบกับศพของเธอ ซึ่งสภาพศพนั้นเลวร้ายจนไม่สามารถ

อธิบายได้

เมื่อแม่ของเธอได้ยินข่าวและรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับลูกสาว แม่ของเธอแทบ

จะเป็นลม จนต้องเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยจิตเวช

สุดท้ายสี่คนนั้นก็ถูกจับและตัดสินโทษ แต่กฎหมายญี่ปุ่นเยาวชนที่มีความผิดนั้นโทษเบา
มาก ทั้งสี่คนนั้นถูกโทษจำคุกเพียง 7-20 ปี เมื่อออกจากคุกมาก็ทำการเปลี่ยนชื่อและ
นามสกุล พร้อมกลับเข้าสู่สังคมอีกครั้ง ซึ่งมันไม่สาสมกับสิ่งที่พวกเขาได้กระทำกับสาว
น้อยคนหนึ่ง

สื่อต่างๆ จึงพยายามเรียกร้องหาความยุติธรรมให้แก่ครอบครัวของเหยื่อ บางสื่อเปิด


เผยชื่อจริงของผู้การะทำความผิดทั้งสี่คน โดยให้เหตุผลว่า

”พวกนั้นไม่จำเป็นต้องมีสิทธิ
มนุษยชนหรอก”
ท้ายที่สุดครอบครัวของทั้งสี่คนนั้นก็ต้องขายบ้านชดใช้เป็นเงินรวม 50 ล้านเยน เพื่อ
นำเงินนี้มอบให้ครอบครัวจุนโกะ

page6
สาเหตุที่สหรัฐฯทิ้งระเบิดที่ญี่ปุ่น
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองแรก ๆ ญี่ปุ่นได้เข้ามาบุกอ่าว Pearl Harbour ที่เกาะฮาวายของอเมริกา
โดยที่อเมริกายังไม่ได้โจมตีญี่ปุ่นด้วย อีกทั้งยังบุกจีนและเกาหลี ซึ่งไม่มีประเทศไหนสามารถต่อต้าน
กองทัพญี่ปุ่นได้เลยและเมื่อถึงช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่น เริ่มอ่อนแอลงเรื่อย ๆ อีก
ทั้งยังมีปัญหาด้านการขาดเสบียงอาหาร ในช่วงนั้นอเมริกาได้ใช้เครื่องบิน บินมายิ่งเเละถล่มญี่ปุ่นในเมือง
ต่าง ๆ อย่าง โตเกียว โอซากะจนเกือบทุกเมือง คล้ายเมืองร้างเข้าไปทุกทีเเละในขณะนั้นเป็นช่วงที่อเมริกา
กำลังจัดตั้งโครงการหนึ่ง ชื่อว่าโครงการแมนฮัตตัน

โครงการแมนฮัตตันเป็นความร่วมมือระหว่าง 3
ประเทศคือสหรัฐอเมริกา อังกฤษและแคนาดา เป็น
โครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ลูกแรกของโลก
และอยู่ภายใต้นักฟิสิกส์อเมริกัน ชื่อ เจ. โรเบิร์ต
ซึ่งประสบผลสำเร็จในกลางปี คศ. 1945 ก่อนที่
อเมริกาจะนำไปทิ้งที่ ฮิโรชิมะ เนื่องจาก ฮิโรชิมะนั้น
มีกองทัพทหารญี่ปุ่นอยู่เยอะ อีกทั้งยังมีโรงงาน
แหล่งผลิตอาวุธในการรบมากมาย
จริง ๆ ก่อนหน้านี้ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ยื่นคำขาดให้
ญี่ปุ่นยอมจำนน แต่ญี่ปุ่นไม่สนใจ เพราะไม่ได้มีใคร
ตระหนักถึงความน่ากลัวของระเบิดนิวเคลียร์เลย
จนกระทั่งในวันที่ 6 เดือนสิงหาคม คศ. 1945
ระเบิดนิวเคลียร์ทดลองที่มีชื่อว่า Little Boy ก็ได้
นำไปทิ้งที่ เมืองฮิโรชิมะ ผลของระเบิดนิวเคลียร์
ทำให้เมืองฮิโรชิมะ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก อีกทั้ง
ยังมีผู้ที่ได้รับความเจ็บป่วยและทรมานจากผลของ ประธานาธิบดี ทรูแมน จึงได้ยื่นคำขาด
กัมมันตภาพรังสีเป็นจำนวนมาก อีกครั้งเพื่อให้ญี่ปุ่นยอมจำนน ซึ่งญี่ปุ่น
ก็ตั้งใจที่จะยอมเเพ้อยู่แล้ว เเต่ญี่ปุ่นนั้น
ก็ถูกกดดันให้ยอมเเพ้เ ในขณะที่อเมริกา
เองก็ตั้งใจจะทดสอบอาวุธของตนด้วย
Harry S. Truman
ในที่สุด ทรูแมนก็ได้ได้สั่งให้นำระเบิด
(the 33rd president of นิวเคลียร์ที่มีชื่อว่า "Fat Man" ซึ่งเป็น
the United State)
ระเบิดลูกที่ 2 ไปทิ้งที่ นางาซากิ ทำให้
รัฐบาลญี่ปุ่นถึงกับยอมจำนนเเละยอม
เเพ้เเบบไม่มีเงื่อนไขในที่สุด

page7
Hiroshima 6 สิงหาคม พ.ศ.2488

ช่วงเช้าของวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2488


เครื่องบินรบ B-29 ของฝ่ายสหรัฐฯได้ทำการ
ปล่อยอาวุธระเบิดนิวเคลียร์ที่ถูกคิดค้นขึ้นใหม่
ภายใต้โครงการที่ใช้ชื่อว่า แมนฮัตตัน ของ
สหรัฐฯ อังกฤษและแคนาดาร่วมกัน ใช้ชื่อว่า
Little Boy โจมตีใส่พื้นที่ของเมืองฮิโรชิมา
ประเทศญี่ปุ่น ระเบิดนิวเคลียร์ลูกดังกล่าว
ทำลายเมืองทั้งเมืองจนราบเป็นหน้ากลอง คร่า
ชีวิตผู้คนไปราว 70,000 คนในพริบตา และอีก
กว่าหมื่นชีวิตบาดเจ็บสาหัส และในระยะเวลาต่อ
มาก็ยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่อยๆด้วยจาก
การบาดเจ็บหรือจากการรับกัมมันตรังสีที่ถูก
ปลดปล่อยออกมาจากการระเบิดรวมแล้วก็จะมี
ผู้เสียชีวิตทั้งหมดราวๆ 140,000 คนเลยที
เดียว

Nagasaki 9 สิงหาคม พ.ศ.2488


นางาซากิ เป็นเมืองสุดท้ายในโลกที่โดนโยมตีด้วยระเบิด
ปรมาณูของกองทัพสหรัฐฯ มีการคาดการณ์ว่ามีผู้เสียชีวิต
จากระเบิดราว 135,000 คน ในตอนแรกนางาซากิไม่ใช่เป้า
หมาย แต่โคคุระในขณะนั้นเต็มไปด้วยหมอกและควันทำให้
สหรัฐฯเปลี่ยนเป้าหมายไปที่เมืองนางาซากิอย่างกะทันหัน
หลายครั้งที่นางาซากิถูกลืมว่าโดนสหรัฐฯปล่อยระเบิด เกร็ก
มิทเชล นักเขียนชาวอเมริกัน สังเกตว่า ไม่มีใครเขียนหนังสือ
ขายดี หรือสร้างภาพยนตร์ โดยใช้ชื่อนางาซากิเลย และตอนปี
“I pray that every human being finds peace" 2016 นาย บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น ไป
Matsumoto Shigeko เยือนแค่เมืองฮิโรชิมา และไม่มีนางาซากิอยู่ในกำหนดการ
ขอให้มนุษย์ทุกคนพบกับความสงบสุข - มัตสึโมโต้ ชิเงโกะ ทำให้ผู้รอดชีวิตและญาติๆของผู้เสียชีวิตผิดหวัง
(ผู้รอดชีวิตจากเหตการณ์ทิ้งระเบิดที่ฮิโรชิม่า)

page8
แหล่งอ้างอิง

Red diary. (2562). คดีฆาตกรรมสุดสะเทือนขวัญ 44 วันแห่งนรกบนดิน - จุนโกะ ฟุรุตะ.


สืบค้นเมื่อ 13 มกราคม, 2566, จาก
https://www.blockdit.com/posts/5cb742fd4f99c51d7d38eb61

เควิน เฮนริเก้. (ม.ป.ป). JUNKO FURUTA – เรื่องราวการตายที่เลวร้ายที่สุดใน


ประวัติศาสตร์. สืบค้นเมื่อ 13 มกราคม, 2566, จาก https://skdesu.com/th/junko-
furuta-all-about-the-worst-death-in-history/

โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์. (2651). ร้อยห้าสิบปีของการปฏิวัติเมจิ (1) : ภาพกว้างกับภูมิหลัง.


สืบค้นเมื่อ 14 มกราคม, 2566, จาก
https://mgronline.com/japan/detail/9610000100785

สมประวิณ มันประเสริฐ. (2564). การฟื้ นฟูเมจิ: การปฏิรูปที่สร้างสมดุลระหว่างกลุ่มผล


ประโยชน์และคนส่วนใหญ่ในระบบเศรษฐกิจ. สืบค้นเมื่อ 13 มกราคม, 2566, จาก
https://thestandard.co/meiji-restoration-interest-group-and-
people-in-economy/

BBC News ไทย. (2561). นางาซากิ: เมืองระเบิดปรมาณูถล่มที่ "ถูกลืม". สืบค้นเมื่อ 14,


มกราคม, 2566, จาก https://www.bbc.com/thai/international-45119425

dass. (2564). ทำไมอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมะและนางาซากิ?. สืบค้นเมื่อ 15


มกราคม, 2566, จาก https://intrend.trueid.net/article/ทำไมอเมริกาทิ้งระเบิด
นิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมะและนางาซากิ-trueidintrend_229588

Wikipedia, การทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมะและนางาซากิ, สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม, 2566,


จาก https://shorturl.asia/oALxH
ม า ก ก ว่ า 1 บ .

You might also like