Professional Documents
Culture Documents
อารยธรรมยุคกลาง
่
อารยธรรคยุคกลางทีครอบคลุ ้ ศตวรรษที่ 5-15 นั้น
มตังแต่
่
เป็ นยุคทีศาสนาคริ สต ์มีความสาคัญและมีความเจริญอย่างสูงสุด เนื่ องจาก
้ ยค
ตังแต่ ุ ปลายสมัยจักรวรรดิโรมั ์ น
ผูค้ นในโลกตะวันตกต่างมานับถือคริสต ์ศาสนาด ้วยวิธก ี ารบีบบังคับจากกฏหมาย
Theodosian Code ในขณะเดียวกัน
ชาวอาหร ับในบริเวณตะวันออกกลางบางกลุม ่ สามารถยอมร ับในหลักคริสตศา
่ ทีไม่
่ นไปนับถืออิสลามทีประกาศตั
สนา ได ้เริมหั ่ วในคริสตศตวรรษที่ 7 แทน
่
แม้วา่ ศาสนาคริสต ์จะเป็ นศูนย ์กลางของทุกสิงในโลกตะวั นตก
แต่กระนั้นก็ตาม
ในโลกของพระคริสต ์ก็มค ี วามแตกต่างทางวัฒนธรรมระหว่างโรมันตะวันตกและโรมั
นตะวันออก ดังนี ้
์ นตะวันตก จักรวรรดิโรมั
จักรวรรดิโรมั ์ นตะวันออก
ศู นย ์อานาจ โรม (อิตาลี) คอนสแตนติโนเปิ ล
(ตุรกี)
ผู น
้ าปกครองทางการเมือง โป๊ป + กษัตริย ์ องค ์จักรพรรดิ ์
ผู น้ าทางศาสนา โป๊ป พระพาร ์ธิอาร ์ช
ภาษา ละติน กรีก
ยุคการปฏิวตั วิ ท
ิ ยาศาสตร์
การปฏิวตั วิ ท
ิ ยาศาสตร์เป็ นปรากฏการณ์ เกิดจากการตืน ่ ตัวจากการค้นคว้า
ทางทะเล(ยุคการค้นพบ) ทีม ่ ก
ี ารศึกษาเรือ
่ งแผนที่
การหาค่าเส้นละติจูดและลองติจด ู
โดยในอดีตการเดินทางจะให้วธิ ีการสังเกตของดวงดาว
โดยจากดวงอาทิตย์เป็ นการสังเกตในการเดินทางจากตะวันตกไปตะวันออก
หรือตะวันออกไปตะวันตก ส่วนการเดินทางจากเหนือสูท ่ ศ
ิ ใต้
ใช้การสังเกตดวงดาวและกลุม ่ ดาวต่าง ๆ ในเวลากลางคืน
การส่งเสริมการหาเส้นทางการค้าทางทะเล
ซึง่ มีสเปนและโปรตุเกสเป็ นผูน ้ านัน ้ ก่อให้เกิดบทสรุปทางความคิดเรือ
่ งโลกกลม
แต่องค์ความรูเ้ หล่านัน
้ ต่อมาในระยะหลังได้ถูกต่อต้านด้วยโลกทางคริสต์ศาสนา
ทีไ่ ด้ประกาศไว้ใน ดัชนีหนังสือห้ามอ่าน( Index) ทาให้การศึกษาเรือ ่ งราวต่าง ๆ
ทางธรรมชาติ หรือวิทยาศาสตร์ ต้องเป็ นการศึกษาทดลองในกลุม ่ เล็ก ๆ
เท่านัน ้ โดยเฉพาะดินแดนทีย่ งั อยูใ่ นร่มเงาของคาทอลิค
ช่วงปี 1543 Nicholas
Copernicusได้ตีพม ิ พ์ผลงานเกีย่ วกับการวงโคจรของดวงดาว
ซึง่ เป็ นการศึกษาเรือ ่ งดาราศาสตร์ในช่วงเวลาทีม ่ ก
ี ารสร้างแผนทีท ่ ถ
ี่ กู ต้อง
ผลการศึกษาของ Nicholas Copernicus ในงานเขียนทีม ่ ช
ี ือ
่ ว่า De Revolutionibus
Orbium Coelestium ทีส ่ รุปว่า ควรเปลีย่ นโครงสร้างทางความคิดเดิมทีว่ า่
โลกศูนย์กลางของจักรวาล
ทีเ่ ป็ นการสอดรูร้ บั รูแ ้ ละเข้าใจของคนโดยส่วนใหญ่เพราะในสมัยผูค ้ นส่วนมากยังเ
ชือ
่ ว่าโลกแบนและเป็ นศูนย์กลางทีด ่ าวเคราะห์และดาวฤกษ์ ตอ ้ งมาโคจร มาเป็ น
ดวงอาทิตย์เป็ นศูนย์กลางของจักรวาล ซึง่ ถือเป็ นความรูใ้ หม่
และตัวเขาก็ยงั ไม่ม่น ั ใจว่าถูกต้องนัก ฉะนัน ้ งานของเขาในระยะแรก
ไม่ได้รบั ความนิยมนักในหมูผ ่ ูอ
้ า่ นและนักศึกษา
เพราะอธิบายด้วยคณิตศาสตร์ซงึ่ ยากเกินทีจ่ ะเข้าใจได้ นอกจากนี้ คณิตศาสตร์
ก็ไม่ใช่สาขาทางวิทยาศาสตร์ทเี่ ป็ นกระแสหลัก อย่างสาขา...
Organic.(ชีววิทยา)ส่วนอีก 2 สายเป็ นเรือ ่ งของคณิตศาสตร์ ได้แก่ Mechanical (กลไก
เครือ ่ งกล) และMagic (คณิตศาสตร์) ซึง่ สายที่ 3 เป็ นสายทีเ่ ข้าใจยากทีส่ ด ุ
ตัวอย่างเช่น ในภาพยนตร์เรือ ่ ง
น้าหอมมนุษย์ทแ ี่ สดงให้เห็นการเรียนรูแ ้ ละเข้าใจธรรมชาติดว้ ยแนวคิดวิทยาศาส
ตร์กระแสหลักอย่าง Organic(ชีววิทยา)
ถ่านหิน เหล็ก เหล็กกล้า Abraham Darby John Smeaton Henry Cort Henry
Bessemer
การขนส่ง
John Mcadam ถนนสมัยใหม่ George Stevenson หัวรถจักรรถไอน้ารถไฟ
Robert Fulton เรือกลไฟ Samual Cunard
เรือกลไฟข้ามทวีป Nicolas Joseph Cugnot
รถสามล้อบรรทุกปื นใหญ่ Karl Benz รถยนต์ Gottlied Daimler เครือ
่ งหัว Carburator
ใช้กบั จักรยานยนต์และรถยนต์ Rudolf Diesel เครือ
่ งดีเซล สาหรับรถยตน์ รถไฟ
เรือและโรงงาน Charles Goodyear ยางรถยนต์ Wibur & Orville Wright เครือ่ งบิน
ต่อมาในระยะที่ 2 เป็ นการพัฒนาเรือ่ งการสือ่ สาร เช่น Alexander Graham
Bell ผูป
้ ระดิษฐ์โทรศัพท์ Semuel Morseผูป
้ ระดิษฐ์โทรเลข หรือ Thomas Alva Edison
ผูป
้ ระดิษฐ์หลอดไฟฟ้ า Hienrich Rudolf Hertz ผูค
้ น
้ พบคลืน่ วิทยุ เป็ นต้น
สาขาวิทยาศาสตร์ก็มค ี วามก้าวหน้า ได้แก่ การแพทย์ Louis Pasteur
ศึกษาเรือ
่ งจุลน
ิ ทรีย์ Edward Jenner การปลูกฝี ป้ องกันโรคฝี ดาษ Joseph Lister
การผ่าตัดแผนใหม่ James Young Simpson คิดค้นยาสลบ(Chloroform) สาขาชีววิทยา
Greger Mendel พันธุกรรมศาสตร์ และ Charles Darwin ทฤษฏีกาเนิดสิง ่ มีชีวต
ิ
หรือจิตวิทยา Sigmund Freud ศึกษาเรือ ่ งจิตวิทยาวิเคราะห์
ต่อมาเมือ่ ผูค
้ นในชนบททีเ่ ข้ามาอยูใ่ นเมือง ก็กอ
่ ให้เกิดปัญหาเรือ
่ ง สลัม
ในช่วงการปฏิวตั อิ ตุ สาหกรรม มีนกั คิดทีม
่ แ
ี นวคิดทีเ่ อือ
้ ต่อระบบนายทุน
ได้แก่ โทมัส มัสทัสได้เสนอให้มก ี ารสอนหลักศีลธรรมให้แก่คนสลัม
เพือ
่ มิให้เกิดปัญหาการเพิม ้ ของประชากร หรือ เดวิด ริคาโด
่ ขึน
ได้เสนอให้มก ี ารจ้างงานในการให้คา่ แรงต่า และให้ทางานวันละมากฯลฯ
้ ของสังคมนิคม มาจากกลามนักคิดทีม
การเกิดขึน ่ องเห็นถึงความเหลีย่ มลา้
และต้องการให้สงั คมมีความเม่าเทียมกัน โดยนักวิชาการจะแบ่งเป็ น 2 กลุม ่ คือ
กลุม
่ สังคมนิยมยูโทเปี ย ได้แก่ Henri de Saint-Simon
เห้นควนสร้างสังคมนิยมแบบคริสเตียนทีท ่ าคนมีความเท่าเทียมกัน Charles Fourier
เสนอเรือ่ งการจัดตัง้ สหกรณ์ ในสังคม Louis Blanc มองว่าควรล้มระบบนายทุน
สร้างโรงงานอุตสหากรรมสาหรับกรรมการ และ ...โรเบริต์ โอเวน
มีการเสนอให้มีการจัดรัฐสวัสดิการให้คนงาน
้ ทาให้แนวคิดนี้
ซึง่ แนวคิดของเขาทาให้แรงงานมีอานาจในการต่อรองมากยิง่ ขึน
ยังไม่ประสบผลสาเร็จ
จนกระทัง่ มาร์ก ได้นาเสนอแนวคิดทีส่ าคัญคือ คอมมิวนิสต์
จากการทีม ่ องเห็นสภาพสังคมอุตสาหกรรมของอังกฤษในตอนนัน ้
มาร์กนัน ้ ได้รบั แนวคิดมาจากนักปราชญ์ชาวเยอรมันชือ ่ .....คาร์ล มาร์ก และ
เฮเกล มองว่า
พัฒนาการของมนุษย์เกิดจากการต่อสูร้ ะหว่างชนชัน ้ ทางเศรษฐกิจมาโดยตลอด
ซึง่ ในชัน
้ สุดท้าย ทุกคนทีม ่ ีอยูใ่ นสังคมจะโค่นล้มนายทุนลง
ทุกคนเป็ นเจ้าของร่วมกัน เป็ นเสรีภาพร่วมกัน
แนวคิดของมาร์กได้ถูกนาไปใช้ในการปฏิวตั ริ สั เซีย ค.ศ. 1917
เป็ นการปฏิวตั ท ิ ม
ี่ ก
ี ารเปลีย่ นแปลงในยุคต่อมา คือ
ความขัดแย้งทางด้านอุดมการณ์ ระหว่างประชาธิปไตยและคอมมิวนิสต์
ซึง่ ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 การล่มสลายของรัสเซียเป็ นการสะท้อนให้เห็นว่า
คอมมิวนิสต์ไม่ประสบความสาเร็จในการปกครอง
ซึง่ จีนเองถึงแม้จะเป็ นคอมมิวนิสต์ก็ยงั มีการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ ดังนัน ้
กล่าวได้วา่ ในคริสต์ศตวรรษที่ 21 เป็ นโลกแห่งยุคทุนนิยม ทีเ่ รียกว่า โลกาภิวฒ ั น์
สงครามโลกครัง้ ที่ 1 -2 ในคริสต์ศตวรรษที่ 20
สงครามโลกครัง้ ที่ 1
เป็ นสงครามทีช
่ าติตะวันตกได้เข้าร่วมรบและสร้างความเสียหายครัง้ ยิง่ ใหญ่แก่มนุ
ษยชาติ สาเหตุเกิดจาก แนวคิดจักรวรรดินิยม
ทีม
่ าจากการความต้องการในการแสวงหาอาณานิคมเพือ ่ เป็ นแหล่งวัตถุทางอุตสาห
กรรม และเป็ นภาพลักษณ์ ของประเทศนัน ้ ในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ
รวมถึงจุดยุทธศาสตร์ทางการค้าและการทหาร ประการที่ 2
พลังชาตินิยมแบบใหม่ทรี่ กั ชาติเกินความพอดี ประการที่ 3
การแข่งขันทางการทหารและอาวุธทีน ่ าไปสูก
่ ารรวมกลุม
่ เป็ นพันธมิตร
โดยแบ่งเป็ น 2 กลุม
่ คือไตรมิตร ได้แก่ เยอรมัน ออสเตรีย-ฮังการี และอิตาลี
กับไตรภาคี ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศสและรัสเซีย
ชนวนแห่งสงคราม การลอบปลงพระชนม์ Archduke Fraceis Ferdinand
และพระชายา มกุฎราชกุมารของออสเตรีย-ฮังการีทเี่ มืองซาราเจโว
เมืองหลวงบอสเนีย ซึง่ เป็ นเขตทีอ่ อสเตรีย-ฮังการีมอ
ี ท
ิ ธิพลอยู่
แต่พลเมืองส่วนใหญ่เป็ นสลาฟ ทีต ่ อ
้ งการจะแยกตัวออก
โดยมีรสั เซีย(ฝรั่งเศสเป็ นพันธมิตร เพราะแพ้สงครามทีท ่ ากับเยอรมันใน ค.ศ.
1871) หนุนหลังอยู่
ทาให้เยอรมันและออสเตรียทาการประกาศสงครามกับชาติทง้ ั สอง
โดยการบุกเบลเยีย่ ม เป็ นการขยายวงของสงคราม
สงครามยุตลิ งเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1918
โดยฝ่ ายมหาอานาจกลางเป็ นฝ่ ายแพ้สงคราม
และมีการจัดตัง้ องค์การสันนิบาตรชาติ
สงครามโลกครัง้ ที่ 2
เกิดจากความไม่พอใจของกลุม ่ ประเทศทีแ
่ พ้สงครามทีไ่ ม่ได้รบั ความเป็ นธรรมจา
กสนธิสญ ั ญาต่าง ๆ นอกจากนัน ้
บางประเทศทีอ่ ยูฝ ่ ่ ายชนะสงครามก็ไม่ได้รบั ผลประโยชน์ อย่างเต็มทีอ่ ย่างญีป
่ นแล
ุ่
ะอิตาลี ก็ได้สร้างชาติดว้ ยระบบเผด็จการ
และจากความตกต่าของเศรษฐกิจโลกรวมทัง้ ความล้มเหลวขององค์การสันนิบาตร
ชาติ โดยชนวนสงครามคือการบุกโปแลนด์ เมือ่ ค.ศ. 1939
สงครามโลกครัง้ ที่ 2 มีการแบ่งฝ่ ายการต่อสูร้ บระหว่างอักษะซึง่ มีเยอรมัน
อิตาลีและญีป่ นเป็
ุ่ นผูน
้ า ฝ่ ายสัมพันธมิตรทีม
่ อ
ี งั กฤษ ฝรั่งเศสและรัสเซีย
เป็ นการต่อสูเ้ พือ่ ปกป้ องผลประโยชน์ ของชาติตนเองและในทีส่ ด ุ ฝ่ ายสัมพันธมิตรเ
ป็ นฝ่ ายชนะสงคราม ภาพยนตร์ตวั อย่างเช่น
การทารุณยิวในค่ายกักกัน
การโจมตีของญีป
่ นในสงครามโลกครั
ุ่ ง้ ที่ 2
สงครามโลกครัง้ ที่ 2 ส่งผลต่อชีวต
ิ และทรัพย์สน
ิ ของผูค
้ นจานวนมาก
และเป็ นสงครามทีใ่ ช้อาวุธร้ายแรงเช่นแก๊สพิษ ระเบิดปรมาณู
ผลของสงครามคือมีการจัดตัง้ องค์การสหประชาชาติทาให้มนุษยชาติสามารถหาห
นทางทีจ่ ะอยูร่ ว่ มกันอย่างสันติ
สงครามเย็น ตัง้ แต่ ค.ศ. 1950 -1992
สงครามเย็นถือว่าเป็ นปรากฏการณ์ ทางการเมืองระหว่างประเทศ
เมือ่ สงครามโลกครัง้ ที่ 2 สิน้ สุดในค.ศ. 1945
เกิดสถานการณ์ ความขัดแย้งระหว่าง 2
อุดมการณ์ ทางการเมืองคือระบบประชาธิปไตยและระบบสังคมนิยมโดยมีสหรัฐอเ
มริกาและรัสเซียเป็ นผูน ้ าในแต่ละฝ่ าย
ซึง่ เหตุผลมาจากข้อตกลงทีส่ รุปไม่ได้ของสถานภาพของเยอรมันหลังสงครามโลกค
รัง้ ที่ 2
ก่อให้เกิดความไม่ลงรอยทางการเมืองและการแย่งชิงอานาจเป็ นผูน ้ าทางการเมือง
โลกของทัง้ 2ประเทศ
ทาให้เป็ นปัจจัยทีน่ าไปสูก่ ารทาสงครามจิตวิทยาและสงครามตัวแทน “Proxy War”
ต่อมา ภายหลังจากการรวมชาติเยอรมัน เมือ่ ค.ศ. 1990
สงครามเย็นได้สอ่ เค้าถึงการสิน ้ สุดเมือผูน
้ าสหภาพโซเวียตรัสเซีย คือ มิคาอิล
กอร์บาซอฟ
ได้พยายามปรับปรุงประเทศรัสเซียให้ท ันสมัยมากยิง่ ขึน ้ ด้วยนโยบายเปเรสทอยก้า
(Pesestroika) และกลาสนอสต์ ( Glasnost )
โดยนาแนวทางลัทธิประชาธิปไตยกับลัทธิทน ุ นิยมมาปรับใช้กบั สังคมนิยม
ซึง่ แผนดังกล่าวได้นาไปสูก ่ ารล่มสลายของสหภาพโซเวียตรัสเซีย ค.ศ. 1992
ทีถ่ ือว่าเป็ นการตอกยา้ ว่า สงครามเย็นได้สน ิ้ สุดลงแล้ว
โลกาภิวตั น์
ภายหลังทีส่ หรัฐอเมริกาได้เป็ นผูน้ าทรงอิทธิพลทางการเมือง
ก็กอ ่ ให้เกิดแนวคิดการสร้างโลกทุนนิยมสากล
ซึง่ เป็ นการสร้างโลกให้เป็ นอันหนึ่งอันเดียวกันด้วยระบบทุนนิยม
ซึง่ ในสภาวการณ์ ปจั จุบน ั จากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทีท ่ ันสมัย
ทาให้การติดต่อสือ่ สารกันเป็ นไปอย่างรวดเร็ว
ทาให้เกิดการรับรูห ้ รือเรียนรูว้ ฒ
ั นธรรมต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน
เมือ่ วัฒนธรรมทีค ่ วามแตกต่างมาพบกัน หากเกิดความขัดแย้งทางวัฒนธรรม
เช่นตะวันตก-อิสลาม กันได้
ส่วนด้านเศรษฐกิจและการเงินเป็ นระบบทุนนิยมและบริโภคนิยมมากยิง่ ขึน ้
การเมืองระหว่างประเทศจะมีลกั ษณะของหลายขัว้ อานาจ
แทนระบบสองขัว้ อานาจอย่างในสมัยสงครามเย็น ซึง่ จากทีก ่ ล่าวมาทัง้ หมด พบว่า
การไหลบ่าของวัฒนธรรมตะวันตกหรือวัฒนธรรมทีเ่ จริญกว่าไปยังวัฒนธรรมอืน ่
ๆ ทั่วโลกอย่างไร้พรมแดน ซึง่ อาจกล่าวว่าได้แตกต่างจากโลกสมัยก่อน
แต่กระนัน้ ก็ตาม ในช่วงนี้
ถือว่าเป็ นกระแสเศรษฐกิจของกลุม ่ ประเทศตะวันออกทีเ่ ติบโตมากเป็ นอย่างยิง่
ทีเ่ รียกว่า บูรพาภิวฒ
ั น์ ทม
ี่ จี ีนเป็ นผูน
้ า
จีนสมัยใหม่
เมือ่ ตะวันตกเข้ามาติดต่อค้าขาย เปิ ดเมืองท่าให้ทก ี่ วางตุง้ พร้อมกับกฎเกณฑ์
จีนมีปญ ั หากับโดยเฉพาะกับอังกฤษ เรือ ่ ง ฝิ่ น
เนื่องจากจีนมีปญั หาในเรือ่ งของการปรับตัว โดยเฉพาะเรือ ่ ง ทัศนคติ จงกว๋อ –
มองตัวเองเป็ นศูนย์กลาง จากภาพยนตร์เรือ ่ ง The Last Emperor ทีก ่ ล่าวถึง
องค์พรรดิร์ าชวงศ์สดุ ท้าย คือ ราชวงศ์ ชิง ทีย่ งั คงรักษาไว้เรือ ่ งความเชือ่ เรือ
่ งนี้
การสนับสนุนการเผยแพร่องค์ความรูต ้ ะวันตก
โดยมีจด
ุ มุง่ หมายให้จีนมีการปฏิรูปการสร้างระบบการศึกษาแบบตะวันตก
และประเทศทีเ่ จริญแล้วแต่หลังจาก เจ้าชาย Kung สิน
้ พระชนม์
โครงการดังกล่าวก็ลม ้ เลิกไป
3.Reform ภายใต้การอุปถัมภ์ของจักรพรรดิกวางซวี่
ได้มกี ารปฏิรูปร้อยวัน (Hundred
Days Reform) โดยมีการปรับปรุงการสอบรับราชการ ปรับปรุงการเมือง
สนับสนุนอุตสาหกรรม ปรับปรุงจีนให้ทนั สมัย
ภายหลังถูกพระนางซูสไี ทเฮายึดอานาจคืน
หากเปรียบเทียบระหว่างจีนกับญีป ่ น ุ่ พบว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน
ญีป
่ นได้
ุ่ มก
ี ารเรียนรูว้ ท
ิ ยาการตะวันตก
จากการปฏิรูปเมจิทที่ าให้ญป ี่ ุ่ นมีความทันสมัยและพัฒนามากกว่าจีนทีย่ งั อยูใ่ นทัศ
นคติเดิม
4.Revolution เกิดจากการคุกคามของของประเทศมหาอานาจตะวันตกและญีป
่ น
ุ่
กระแสอิทธิพลของความคิดแบบตะวันตก
ความอ่อนแอของราชวงศ์แมนจูนาไปสูก ่ ารล่มสลายของราชวงศ์แมนจู
โดยดร.ซุนฮัดเซน
ภายหลังจากการปฏิวตั แ ิ ล้ว จีนเป็ น Republic เป็ นระบบประชาธิปไตย
มีประธานาธิบดีหยวน ซี ไข (คนที่ 2) เป็ นผูบ ้ ริหารประเทศ
ต่อมาพยายามสถาปนาตัวเองเป็ นจักรพรรดิอก ์ ี ครัง้ หนึ่ง แต่เกิดตายก่อน
ต่อมาเกิดการชิงอานาจของขุนศึกต่าง ๆ
เป็ นยุคสงครามความขัดแย้งภายในประเทศ เรียกว่า Warriors War หลังจากนัน ้
นายพลเจียง ไคเช็ค ได้ทาการรวมจีนขึน ้ มาอีกครัง้
แต่ปญ ั หาทางสังคมทีโ่ ครงสร้างของชนชัน ้ ล่างยังไม่เปลีย่ นแปลงก่อให้เกิดการเหลี่
ยมลา้ ทางสังคมนาไปสูก ่ ารปฏิวตั จิ ีนอีกครัง้ หนึ่ง
แนวคิดสังคมนิยมนัน ้ โดยมาจากแนวคิดของคาร์ล มาร์กซ
และเฟดเดอร์รค ิ แองเกล ได้เขียนหนังสือ ทุน
เสนอเรือ ่ งการต่อสูร้ ะหว่างชนชัน ้ ทีเ่ กิดจากความแตกต่างทางเศรษฐกิจ
ซึง่ ในขัน
้ สุดท้ายจะเป็ นการต่อสูร้ ะหว่างชนชัน ้ กรรมกรกับนายทุน
ทีน่ าไปสูส่ งั คมนิยมทีท
่ ก
ุ คนเป็ นเจ้าของปัจจัยการผลิตเท่ากันหมด
รัสเซียได้หลักของมาร์กซไปใช้ในการอธิบายความชอบธรรมในการปฏิวตั ริ สั เซียใ
น ค.ศ. 1917
ในขณะนัน ้ ปัญญาชนทีส่ าคัญ คือ หลี่ ต้าเจา
(บิดาแห่งลัทธิคอมมิวนิสต์ของจีน)
เป็ นผูท
้ เี่ ขียนงานวรรณกรรมในทางคอมมิวนิสต์เป็ นจานวนมาก
ได้เขียนบทความเรือ ่ ง “ทัศนะลัทธิมาร์กซของข้าพเจ้า”
เป็ นการนาลัทธิมาร์กซ์มาใช้ในจีน ต่อมา ใน ค.ศ. 1920
มีการจัดตัง้ หน่ วยศึกษาลัทธิมาร์ซส ิ ในจีน นาไปสูก
่ ารจัดตัง้ พรรคคอมมิวนิสต์
ช่วงสงครามโลกครัง้ ที่ 2 ญึป่ นทุ่ าการรุกรานจีน
ทาให้พรรคคอมมิวนิสต์รว่ มมือกับพรรคก๊กมิน ่ ตั๋งขับญีป
่ นออกจากจี
ุ่ น
หลังสงครามโลก ได้เกิดความแตกแยกของพรรคทัง้ สอง
พรรคคอมมิวนิสต์ใช้วธิ ก ี ารเดินทางไกลเผยแพร่อด ุ มการณ์
ส่วนพรรคก๊กมิน่ ตั๋งได้รบั ความช่วยเหลือจากอเมริกา ท้ายทีส่ ด ุ
พรรคคอมมิวนิสต์รบชนะในสงครามครัง้ นี้ พรรคก๊กมิน ๋ ตั๋ง
ได้อพยพไปตัง้ ประเทศใหม่ คือ ประเทศสาธารณรัฐจีน หรือ ไต้หวัน ใน ค.ศ.
1949 และพรรคจีนคอมมิวนิสต์ ได้สถาปนาเป็ นสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่
1 ตุลาคม ค.ศ. 1949 และได้พฒ ั นาประเทศตามแบบรัสเซีย
แต่ไม่ประสบความสาเร็จ
จีนสามารถพัฒนาประเทศได้อย่างรุกหน้ามาจาก นโยบาย
การเปิ ดประเทศจีน 4 ทันสมัยของ เติง้ เสีย่ ว ผิง ได้แก่
การพัฒนาทางอุตสาหกรรม เกษตรกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
และการป้ องกันประเทศ และ
ใช้นโยบายทุนนิยมผสมกับสังคมนิยมในทางด้านเศรษฐกิจ
รวมทัง้ เปิ ดเมืองท่าเขตเศรษฐกิจพิเศษทางการค้าด้วย ปัจจุบน
ั
จีนมีความเจริญทางเศรษฐกิจสูงมาก
และยังได้รบั การคาดหมายให้เงินสกุลหยวนสามารถเป็ นเงินอีกหนึ่งสกุลในเงินทุน
สารองระหว่างประเทศปลายเดือนพฤศจิกายน 2558 ด้วย
ญีป
่ นสมั
ุ่ ยใหม่
ในช่วงการปกครองของโชกุนโตกุกาวะ ต่อมาสหรัฐอเมริกา ได้สง่ Mathew
Perryใช้นโยบายเรือปื น (Gun Boat Policy) บังคับให้ญป ี่ นท ุ่ าการเปิ ดประเทศใน ค.ศ.
1853 ก่อนหน้านัน ้ กลุม ่ ซามูไรทีม ่ ก
ี ารศึกษาเรือ
่ งราวของตะวันตก ได้แก่ Sugita
Gempaku ซามูไรทีม ่ ค
ี วามรูท ้ างการแพทย์
เขาได้ศก ึ ษาเปรียบเทียบองค์ความการแพทย์ระหว่างจีนกับตะวันตกเขาได้ตระหนั
กว่า วิทยาการความก้าวหน้าของตะวันตกเหนือกว่าจีน เป็ นต้น จากการศึกษานี้
ชี้ให้เห็นว่า ญีป
่ นไม่
ุ่ สามารถหลบเลีย่ งการเผชิญหน้ากับชาติตะวันตกได้
ทีจ่ ะดังกล่าวทาให้โชกุนต้องเซ็นสัญญาเปิ ดประเทศกับชาติตะวันตก หลังจากนัน ้
อังกฤษ (1854) รัสเซีย (1855) และฮอลันดา (1856) การเซ็นสัญญาต่าง ๆ ดังกล่าว
นาไปสูน ่ าไปสูค
่ วามขัดแย้งระหว่างกลุม ่ หัวอนุรกั ษ์ ทไี่ ม่ตอ ้ งการเปิ ดประเทศ
และกลุม ่ หัวสมัยใหม่ทต ี่ อ้ งการเปิ ดประเทศ และการสิน ้ ระบบโชกุนใน ค.ศ. 1867
กล่าวคือ ไดเมียวทีห ่ วั สมัยใหม่ทเี่ ข้มแข็งถือโอกาส
ในการโค่นอานาจโชกุน โดยอ้างถึง จากงานศึกษาเรือ ่ ง
ประวัตศ
ิ าสตร์ญปี่ นที
ุ่ ย่ งิ่ ใหญ่ (Dai Nihonshi)
สานักศึกษาประวัตศ ิ าสตร์แห่งแคว้นมิโตะ
ทีค่ รอบคลุมเหตุการณ์ ตง้ ั แต่จกั รพรรดิองค์แรกถึงสมัยโตกุกาวะ
ชี้ให้เห็นถึงความสาคัญในด้านพระราชอานาจของจักรพรรดิ
และการขาดสิทธิธรรมของโชกุน ซึง่ เป็ นคืนอานาจแก่จกั รพรรดิในสมัยโตกุกาวะ
ผลมาจากความแตกต่างทางเชื้อชาติและศาสนาก่อให้เกิดการจราจลขึน ้ หลายครัง้
ได้นานาไปสูก ่ ารเกิดจัดตัง้ พืน
้ ทีข
่ องประเทศใหม่ ทีเ่ รียกว่า “Pakistan” ความหมาย=
ดินแดนแห่งความบริสท ุ ธ์ (The Land of the Pure)
ด้วยการแบ่งดินแดนทีเ่ คยเป็ นอารยธรรมอินเดียออกเป็ น 2 ประเทศ คือ
อินเดียและปากีสถาน โดยปากีสถานเป็ นประเทศทีม ่ คี วามพิเศษคือ มี 2 ส่วน
คือปากีสถานตะวันตกและปากีสถานตะวันออกมีอน ิ เดียอย่างตรงกลาง
แต่ความแตกต่างทางเศรษฐกิจ
ทาให้ปากีสถานตะวันออกแยกตัวออกมาจากปากีสถานสถานตะวันตก
เป็ นบังคลาเทศในปัจจุบ ัน
อินเดียปัจจุบน
ั มีการศึกษาเรือ
่ งราวอินเดียในโลกตะวันตกอย่างกว้างขวาง
ทัง้ ศาสนา วิทยาการ ความรูถ ้ ูกแปลเป็ นภาษาอังกฤษและเยอรมันเป็ นจานวนมาก
ทัง้ นี้ Max Muller ได้ทาการศึกษาและแปลองค์ความรูอ้ อกเป็ นภาษาเยอรมัน
และมีการศึกษาเรือ ่ งอินเดียศึกษาในโลกตะวันตก
ปัญหาแคชเมียร์ทป
ี่ ระชากรส่วนใหญ่นบ
ั ถืออิสลาม แต่อยูเ่ ขตของอินเดีย
ทาให้ปากีสถานไม่พอใจเกิดสงครามความขัดแย้งเสมอมากระหว่างอินเดียและปา
กีสถาน
ปัญหาพวกทมิฬในศรีลงั กาเกิดจากศรีลงั กาเมือ่ ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤ
ษแล้ว อังกฤษได้พฒ ั นาให้ศรีลงั กาเป็ นดินแดนทีเ่ น้นการเกษตรกรรม
ทาให้ตอ ้ งใช้แรงงานจานวนมาก
ซึง่ พวกทมิฬทีม ่ าจากอินเดียตอนใต้ได้อพยพเข้าศรีลงั กา
เมือ่ ศรีลงั กาได้รบั เอกราชจากอังกฤษ
พวกทมิฬจึงเป็ นปัญหาชนกลุม ่ น้อยในศรีลงั กา
และก่อปัญหาในการเรียกร้องความเสมอภาค