Professional Documents
Culture Documents
เอกสารประกอบการเรียนอัตราการเปลี่ยนแปลง
เอกสารประกอบการเรียนอัตราการเปลี่ยนแปลง
= 12 – 8 = 0
f/(-2) = 4 ตอบ
dy
เอกสารประกอบการสอนที่ 6.1 สู ตรที่ 2ถ้า y = x แล้ว dx
= 1
dx
การหาอนุพนั ธ์ ของฟังก์ชันโดยใช้ สูตร นัน่ คือ dx
= 1
= 1
พิสูจน์ จาก f(x) = 0
dy f(x h) - f(x)
จะได้ dx
= lim
h0 h
c-c
= lim
h 0 h
lim 0
= h0 = 0
dx 1
ข้ อสั งเกต 1 หมายถึง อนุพนั ธ์ของฟังก์ชนั y เทียบกับ x ที่ x ใด วิธีทำ 4
x = x 4
dx
1
ๆ
dy
= d (x )
4
dx
เท่ากับ 1 1
dx
1 1
= x 4
4
3
1 4
= x
4
dy
สู ตรที่ 3 ถ้า y = xn เมื่อ n เป็ นจำนวนจริ งแล้ว dx
nx n - 1
=
1
ตอบ
4
n 4 x3
d (x )
นัน่ คือ nx n - 1
dx
เอกสารประกอบการสอนที่ 6.2
การหาอนุพนั ธ์ ของฟังก์ ชันโดยใช้ สูตร (ต่ อ)
6 /
ตัวอย่ างที่ 3 กำหนดให้ f(x) = x จงหาค่าของ f (x)
d (x 6 )
วิธีทำ f/(x) = การหาอนุพนั ธ์ของฟังก์ชนั โดยใช้สูตร ในเอกสารชุดนี้ มีสูตร ดังนี้
dx
6-1
= 6x
= 6x5 ตอบ สู ตรที่ 4ถ้า y = f(x) + g(x) แล้ว
1 dy dy d f(x) d g(x)
ตัวอย่ างที่ 4 กำหนดให้ y = x 4 จงหา dx dx
dx
dx
1
วิธีทำ จาก y = x4 จากสู ตรที่ 4 จะได้วา่ อนุพนั ธ์ของผลบวกของฟังก์ชนั เท่ากับผลบวกของอนุพนั ธ์
= x 4
dy
dy d (x 4
)
ตัวอย่ างที่ 1 กำหนดให้ y = x6 + 7 จงหา dx
=
dx dx วิธีทำ จาก y = x6 + 7
= -4x-4 - 1 dy d (x 6 ) d (7)
จะได้ =
= -4x-5 dx dx dx
4 = 6x6 - 1 + 0
= ตอบ
x5 = 6x5 ตอบ
dy
ตัวอย่ างที่ 5 กำหนดให้ y = 4
x จงหา dx ตัวอย่ างที่ 2 กำหนดให้ y = x4 + x2 จงหา dx
dy
วิธีทำ จาก y = x4 + x 2
dy d 4 d 2
จะได้ dx
= dx (x ) dx (x )
dy
= 4x4 - 1 + 2x2 - 1 ตัวอย่ างที่ 5 กำหนดให้ y = 5x2 - 3x จงหา dx
และ f/(2)
= 4x3 + 2x ตอบ วิธีทำ จาก y = 5x2 - 3x
dy d (5x 2 - 3x)
จะได้ dx
= dx
2
dy
ตัวอย่ างที่ 4 กำหนดให้ y = x5 - x3 - x2 จงหา dx
วิธีทำ จาก y = x5 - x 3 - x 2
dy d (x 5 ) d (x 3 ) d (x 2 )
จะได้ dx
= dx
dx
dx
5-1 3-1 2-1
= 5x - 3x - 2x
= 5x4 - 3x2 - 2x ตอบ
d (4x 2 - 7x 2) d 2
(3x 2 4) - (4x 2 - 7x 2) (3x 4)
= dx dx
(3x 2 4) 2
(3x 2 4)(8x - 7 0) - (4x 2 - 7x 2)(6x)
= (3x 2 4) 2
(24x 3 - 21x 2 32x - 28) - (24x 3 - 42x 2 12x)
= (3x 2 4) 2
24x 3 - 21x 2 32x - 28 - 24x 3 42x 2 - 12x)
= (3x 2 4) 2
21x 2 20x - 28
= (3x 2 4) 2
ตอบ
3 2
n = 2
m 4m 1 …………………………
3 2
เอกสารประกอบการสอนที่ 6.4 จาก y = 2
x 4x 1
dy
เรื่อง โจทย์ ปัญหาเกีย่ วกับการใช้ สูตรการหาอนุพนั ธ์ จะได้ dx
= 3x + 2 ซึ่ งคือความชันของเส้นสัมผัสที่จุด (x, y) ใด ๆ
1
แต่เส้นสัมผัสซึ่ งตั้งฉากกับเส้นตรง x – 2y + 4 = 0 ซึ่ งมีความชันเท่ากับ 2
ตัวอย่ างที่ 1 จงหาจุดบนเส้นโค้ง y= x3 – 12x เมื่อเส้นสัมผัสที่จุดเหล่านั้นขนานกับ เส้นสัมผัสจะมีความชันเท่ากับ -2
แกน X 3x + 4 = -2
วิธีทำ จาก y = x3 – 12x 3x = -6
จะได้
dy
=
d (x 3 - 12x) x = -2
dx dx
นัน่ คือ จะได้ m = -2 นำไปแทนค่าใน จะได้
= 3x2 – 12 3
นัน่ คือ เส้นสัมผัสเส้นโค้ง ณ จุด (x, y) ใด ๆ จะมีความชันเท่ากับ 3x2 – 12 n = 2 (-2)2 + 4(-2) + 1 = -1
แต่เส้นสัมผัสเส้นโค้งที่ขนานกับแกน X ก็คือเส้นตรงที่มีความชันเป็ นศูนย์ จุด P ที่ตอ้ งการ คือ (-2, -1) ตอบ
3x2 – 12 = 0 …………………. เอกสารประกอบการสอนที่ 5.1
x2 – 4 = 0
เรื่อง ความชันของเส้ นโค้ งและความชันของเส้ นสั มผัสเส้ นโค้ ง
(x - )(x + 2) = 0
จะได้ x = 2 หรื อ x = -2
เมื่อ x = 2 จะได้ y = (2)3 – 12(2) = -16 การหาความชันของเส้นโค้งและความชันของเส้นสัมผัสเส้นโค้ง สามารถหาได้จาก
3
x = -2 จะได้ y = (-2) – 12(-2) = 16 นิยามต่อไปนี้
จุดบนเส้นโค้งที่เส้นสัมผัสที่จุดนั้นขนานกับแกน X คือ จุด (-2, 16) และ (2, -16)
ตอบ บทนิยาม ถ้า y = f(x) เป็ นสมการของเส้นโค้งแล้ว เส้นสัมผัสเส้นโค้งที่จุด
3 2
ตัวอย่ างที่ 2 จงหาจุดบนเส้นโค้ง y = 2 x 4x 1 ที่ทำให้เนสัมผัสที่จุด P(x, y)
ใด ๆ จะเป็ นเส้นตรงที่ผา่ นจุด P และมีค่าความชันเท่ากับ
ดังกล่าว f(x h) - f(x)
ตั้งฉากกับเส้นตรง x – 2y + 4 = 0 lim
h0 h
วิธีทำ ให้ P(m, n) เป็ นที่ตอ้ งการหา
3
เนื่องจากจุด P อยูบ่ นเส้นโค้ง y = 2 x 2 4x 1 จะได้วา่
บทนิยาม ความชันของเส้นโค้ง ณ จุด P(x, y) ใด ๆ บนเส้นโค้ง หมายถึง ความ = lim
[3(x h) - (x h) 2 ] - (3x - x 2 )
ชัน h0 h
3x 3h - x 2 - 2hx - h 2 - 3x x 2
ของเส้นสัมผัสเส้นโค้ง ณ จุด P = lim
h0 h
lim (3 - 2x - h)
= h 0
= 3 – 2x
ตัวอย่ างที่ 1 ถ้า f(x) = 5x2 – 6 เป็ นสมการเส้นโค้ง จงหาความชันของเส้นโค้ง
ความชันของเส้นสัมผัสเส้นโค้ง ณ จุด (x, y) ใด ๆ = 3 – 2x
ที่จุด (3, 12)
วิธีทำ จาก f(x) = 5x2 – 6 ความชันของเส้นสัมผัสเส้นโค้ง ณ จุด (4, 6) = 3 – 2(4) = 5
dy f(x h) - f(x) ตอบ
dx = lim
h0 h
= lim
[5(x h) 2 - 6] - (5x 2 - 6) ตัวอย่ างที่ 3 ให้ y = x3 เป็ นสมการเส้นโค้ง จงหาความชันของเส้นโค้งที่จุด (10,
h 0 h 20)
5x 2 10hx 5h 2 - 6 - 5x 2 6
= lim
h 0 h
วิธีทำ จาก y = x3
= lim (10x 5h) f(x) = x3
h0
dy f(x h) - f(x)
= 10x dx
= lim
h0 h
ความชันของเส้นโค้ง ณ จุด (x, y) ใด ๆ = 10x (x h) 3 - x 3
= lim
ความชันของเส้นโค้ง ณ จุด (3, 12) = 10(3) = 30 ตอบ h0 h
(x 3 3x 2 h 3xh 2 h 3 - x 3 )
= lim
h 0 h
2 2
= lim (3x 3xh h )
h0
= 3x2
ความชันของเส้นโค้งที่จุด (x, y) ใด ๆ = 3x2
ความชันของเส้นโค้งที่จุด (10, 20) = 3(10)2
= 300
ตัวอย่ างที่ 2 ให้ f(x) = 3x – x2 จงหาความชันของเส้นสัมผัสเส้นโค้งที่จุด (4, 6)
วิธีทำ จาก f(x) = 3x – x2
dy f(x h) - f(x)
dx = lim
h0 h สรุ ป
การหาความชันของเส้นโค้งและความชันของเส้นสัมผัสเส้นโค้ง หาได้จาก y – 2 = 3x – 6
lim
f(x h) - f(x) 3x – y – 4 = 0 ตอบ
h0 h
ตัวอย่ างที่ 2 ถ้า y = x – 3x2 เป็ นสมการของเส้นโค้ง จงหาสมการของเส้นสัมผัส
เส้นโค้งที่จุด (3, -3)
วิธีทำ จาก y = x – 3x2
หรื อ f(x) = x – 3x2
dy f(x h) - f(x)
เอกสารประกอบการสอนที่ 5.2 dx
= lim
h0 h
[(x h) - 3(x h) 2 ] - (x - 3x 2 )
เรื่อง สมการของเส้ นสั มผัสเส้ นโค้ง = lim
h 0 h
(x h - 3x 2 - 6xh - 3 h 2 - x 3x 2 )
สมการของเส้นสัมผัสเส้นโค้งที่จุด (x, y) ใด คือ y – y1 = m(x – x1) เมื่อ m คือ = lim
h0 h
ความชันของเส้นตรง ซึ่ งสามารถหาสมการของเส้นสัมผัสเส้นโค้งได้ดงั ตัวอย่างต่อไปนี้ = h 0
lim (1 - 6x - 3h)
ตัวอย่ างที่ 1 ถ้า y = x2 – x เป็ นสมการของเส้นโค้ง จงหาสมการของเส้นสัมผัส = 1 – 6x
เส้นโค้งที่จุด (2, 2) ความชันของเส้นสัมผัสเส้นโค้งที่จุด (3, -3) = 1 – 6(3) = -17
วิธีทำ จาก y = x2 – x สมการของเส้นตรงที่ผา่ นจุด (x1, y1) และมีความชันเท่ากับ m คือ y – y1 = m(x – x1)
f(x) = x2 – x เนื่องจากเส้นสัมผัสเส้นโค้งที่จุด (3, -3) เป็ นเส้นตรงที่ผา่ นจุด (3, -3) และมีความชัน
dy f(x h) - f(x)
dx
= lim
h0 h
เท่ากับ -17
[(x h) 2 - (x h)] - (x 2 - x) สมการของเส้นสัมผัสเส้นโค้ง คือ y – (-3) = -17(x – 3)
= lim
h 0 h y + 3 = -17x + 51
= lim
2 2 2
x 2xh h - x - h - x x 17x + y – 48 = 0 ตอบ
h 0 h
lim (2x h - 1)
= h 0 ตัวอย่ างที่ 3 จงหาสมการของเส้นสัมผัสเส้นโค้ง y = x3 – 2x2 + 4 ที่จุด ซึ่ ง x
= 2x – 1 =2
ความชันของเส้นสัมผัสเส้นโค้งที่จุด (2, 2) = (2 2) – 1 = 3 วิธีทำ จาก y = x3 – 2x2 + 4
สมการของเส้นตรงที่ผา่ นจุด (x1, y1) และมีความชันเท่ากับ m คือ y – y1 = m(x – x1) dy
= lim
f(x h) - f(x)
เนื่องจากเส้นสัมผัสเส้นโค้งที่จุด (2, 2) เป็ นเส้นตรงที่ผา่ นจุด (2, 2) และมีความชัน dx h0 h
[(x h) 3 - 2(x h) 2 4] - [x 3 - 2x 2 4]
เท่ากับ 3 = lim
h 0 h
สมการของเส้นสัมผัสเส้นโค้ง คือ y – 2 = 3(x – 2)
=
(x 3 3x 2 h 3xh 2 h 3 - 2x 2 - 2xh - h 2 4 - x 3 2x 2 - 4)
lim
h0 h
2 2
= lim (3x 3xh h - 4x - 2h)
h0
= 3x2 – 4x
ความชันของเส้นโค้ง ณ จุด (x, y) ใด ๆ = 3x2 – 4x
ความชันของเส้นสัมผัสเส้นโค้งที่จุด ที่ x = 2 , เท่ากับ 3(22) – 4(2) = 4
เมื่อ x = 2 จะได้ y = 23 – 2(22) + 4 = 4
จุดสัมผัสเส้นโค้ง คือ จุด (2, 4)
สมการเส้นสัมผัสเส้นโค้ง คือ y – 4 = 4(x – 2)
y – 4 = 4x – 8
4x – y – 4 = 0 ตอบ
dy
ตัวอย่ างที่ 1 เมื่อเวลา t วินาที วัตถุเคลื่อนที่ได้ระยะทาง S = 4t3 + 2t – 3 เมตร
f/(x) = y/ = dx
แทน อนุพนั ธ์อนั ดับหนึ่ง จงหา 1) ความเร็ วขณะเวลา t ใด ๆ
d2 y 2) ความเร่ งขณะเวลา t ใด ๆ
f//(x) = y// = แทน อนุพนั ธ์อนั ดับสอง
dx 2 3) ความเร่ งขณะเวลา t = 2 วินาที
d3 y
f///(x) = y/// = แทน อนุพนั ธ์อนั ดับสาม วิธีทำ (1) จาก S = 4t3 + 2t – 3
dx 3 dS
. จะได้ v = = 12t2 + 2 เมตร/วินาที
. dt
.
dn y
ความเร็ วขณะเวลา t ใด ๆ เท่ากับ 12t2 + 2 เมตร/วินาที
f(n)(x) = y (n)
= dx n
แทน อนุพนั ธ์อนั ดับ n (2) จาก v = 12t2 + 2
dv
จะได้ a = dt = 24t เมตร/วินาที2
ตัวอย่ างที่ 1 ให้ f(x) = 3x3 + 6x2 + 2x – 10 จงหา f///(x)
ความเร่ งขณะเวลา t ใด ๆ เท่ากับ 24t เมตร/วินาที2
วิธีทำ จาก f(x) = 3x3 + 6x2 + 2x – 10
(3) จาก (2) จะได้ความเร่ งขณะเวลา t = 2 วินาที เท่ากับ 24(2)
f/(x) = 9x2 + 12x + 2
= 48 เมตร/วินาที2 ตอบ หาอนุพนั ธ์ของ f ได้ทุก ๆ จุด ในช่วงเปิ ด (a, b)
3 2
ตัวอย่ างที่ 2 กำหนดให้ f(x) = x – 2x + x – 5 จงหาอัตราการเปลี่ยนแปลงของ 1) ถ้า f/(x) > 0 สำหรับทุก ๆ x บนช่วง (a, b) แล้ว
ความชันขณะที่ x = 2 f จะเป็ นฟังก์ชนั เพิ่มบนช่วง [a, b]
วิธีทำ จาก f(x) = x3 – 2x2 + x – 5 2) ถ้า f/(x) < 0 สำหรับทุก ๆ x บนช่วง (a, b) แล้ว
f/(x) = 3x2 – 4x + 1 f จะเป็ นฟังก์ชนั ลดบนช่วง [a, b]
f//(x) = 6x – 4
ให้ x = 2 จะได้ 1 1
ตัวอย่ างที่ 1 ให้ f/(x) = 3 x 3 - 2 x 2 - 2x จงหา
f//(2) = 6(2) – 4 = 8
1. ช่วงที่ทำให้ f เป็ นฟังก์ชนั ลด
นัน่ คือ อัตราการเปลี่ยนแปลงของความชันของเส้นสัมผัสของกราฟที่ x = 2 เท่ากับ 8
2. ช่วงที่ทำให้ f เป็ นฟังก์ชนั เพิม่
ตอบ 1 3 1 2
วิธีทำ จาก f(x) = 3
x - x - 2x
2
สรุ ป ความเร่ ง (a) ของวัตถุขณะเวลา t ใด ๆ คืออัตราการเปลี่ยนแปลงของ เนื่องจาก f เป็ นฟังก์ชนั พหุนาม
ความเร็ ว (v) เทียบกับเวลา t ใด ๆ ถ้าวัตถุเคลื่อนที่ตามสมการเคลื่อนที่ ดังนั้น f มีความต่อเนื่องทุกค่าของ x ที่เป็ นจำนวนจริ ง
คือ S = f(t) เมื่อ S คือ ระยะทางที่วตั ถุเคลื่อนที่ได้ในเวลา t จะได้ จาก f(x) ที่โจทย์กำหนด จะได้
dv dS
a = dt และ v = dt f/(x) = x2 – x – 2
d dS d2S
1) เนื่องจากค่า x ที่จะทำให้ f เป็ นฟังก์ชนั ลดคือค่า x ที่ทำให้ f/(x) เป็ นจำนวนลบ
a =
dt dt = dt 2 นัน่ คือ f/(x) < 0
นัน่ คือ ความเร่ งขณะเวลา t ใด ๆ ก็คือ อนุพนั ธ์อนั ดับที่ 2 ของ S = f(t) x2 – x – 2 < 0
(x – 2)(x + 1) < 0
+ – +
เอกสารประกอบการสอนที่ 9.1 -1 2
เรื่อง ฟังก์ ชันเพิม่ และฟังก์ชันลด จากกราฟช่วงที่ทำให้ f/(x) < 0 คือ (-1, 2)
ช่วงที่ทำให้ f เป็ นฟังก์ชนั ลด คือ [-1, 2] ตอบ
โดยทัว่ ไปฟังก์ชนั ใด ๆ จะเป็ นฟังก์ชนั เพิ่มหรื อฟังก์ชนั ลด จะต้องมีลกั ษณะดังทฤษฎีบท
ต่อไปนี้
+ – +
-1 1
เรื่อง ค่าสู งสุ ดสั มพัทธ์ และค่าต่ำสุ ดสัมพัทธ์ ทฤษฎีบท กำหนดให้ f เป็ นฟังก์ชนั ต่อเนื่องบนช่วง S ใด ๆ และ c เป็ น
ค่าวิกฤตของ f ซึ่ ง f/(c) = 0
1. ถ้า f//(c) > 0 แล้ว f(c) เป็ นค่าต่ำสุ ดสัมพัทธ์
ค่าสู งสุ ดสัมพัทธ์และค่าต่ำสุ ดสัมพัทธ์ของฟังก์ชนั นิยามได้ดงั นี้
2. ถ้า f//(c) < 0 แล้ว f(c) เป็ นค่าสู งสุ ดสัมพัทธ์
บทนิยาม ฟังก์ชนั f มีค่าสูงสุ ดสัมพัทธ์ที่ x = c ถ้ามีช่วง (a, b) Df และ
c (a, b) โดยที่ f(c) > f(x) สำหรับทุก x ในช่วง (a, b) ที่ x c
ฟังก์ชนั f มีค่าต่ำสุ ดสัมพัทธ์ที่ x = c ถ้ามีช่วง (a, b) Df และ ตัวอย่ างที่ 2 จงหาค่าสู งสุ ดสัมพัทธ์หรื อค่าต่ำสุ ดสัมพัทธ์ของ f(x) = x3 – 3x
c (a, b) โดยที่ f(c) < f(x) สำหรับทุก x ในช่วง (a, b) ที่ x c วิธีทำ จาก f(x) = x3 – 3x
จะได้ f/(x) = 3x2 – 3
ตัวอย่างที่ 1 จงหาค่าสู งสุ ดสัมพัทธ์และค่าต่ำสุ ดสัมพัทธ์ของฟั งก์ชนั f เมื่อกำหนดให้ ให้ f/(x) = 0
f(x) = 2x3 + 3x2 – 12x – 7 3x – 3 2
= 0
วิธีทำ จาก f(x) = 2x3 + 3x2 – 12x – 7 2
3(x – 1) = 0
จะได้ f/(x) = 6x2 + 6x – 12 3(x + 1)(x – 1) = 0
ให้ 6x2 + 6x + 2 = 0 x = 1, -1
2
6(x + x – 2) = 0 จาก f/(x) = 3x2 – 3
6(x + 2)(x – 1) = 0 f//(x) = 6x
x = -2, 1 f//(1) = 6
/
ถ้า x < -2 จะได้ f (x) > 0 f//)-1) = -6
ถ้า x > -2 จะได้ f/(x) < 0 f มีค่าสู งสุ ดสัมพัทธ์ที่ x = -1 และมีค่าเท่ากับ 2
f มีคา่ สู งสุ ดสัมพัทธ์ที่ x = -2 และมีค่าเท่ากับ 13 และ f มีค่าต่ำสุ ดสัมพัทธ์ที่ x = 1 และมีค่าเท่ากับ -2 ตอบ
ถ้า x < 1 จะได้ f/(x) < 0
ถ้า x > 1 จะได้ f/(x) > 0
f มีค่าต่ำสุ ดสัมพัทธ์ที่ x = 1 และมีค่าเท่ากับ -14 ตอบ สรุ ป วิธีการหาค่ าสู งสุ ดสั มพัทธ์ และค่ าต่ำสุ ดสั มพัทธ์ มีข้ นั ตอนดังนี้
จากฟังก์ชนั y = f(x) ที่โจทย์กำหนดให้
1. หา f/(x) ตัวอย่ างที่ 1 ให้ f(x) = x3 + x2 - 8x - 1 เป็ นฟังก์ชนั บนช่วงปิ ด [-4, 2]
2. ให้ f/(x) = 0 จงหาค่าสู งสุ ดสัมบูรณ์ และค่าต่ำสุ ดสัมบูรณ์ของฟังก์ชนั
หาค่า x ที่ทำให้สมการนั้นเป็ นจริ ง วิธีทำ ขั้นที่ 1 หาค่าวิกฤตของฟังก์ชนั
ซึ่ งค่า x ที่ได้เรี ยกว่า ค่าวิกฤต จาก f(x) = x3 + x2 - 8x - 1
3. นำค่าวิกฤตไปตรวจสอบ ซึ่ งมีวิธีตรวจสอบ 2 วิธี คือ จะได้ f/(x) = 3x2 + 2x - 8
3.1 ตรวจสอบโดยพิจารณาจากความชันของเส้นสัมผัส ให้ f./(x) = 0
- ถ้าความชันเปลี่ยนจากบวกไปเป็ นลบ จะให้ค่าสู งสุ ดสัมพัทธ์ 3x2 + 2x - 8 = 0
- ถ้าความชันเปลี่ยนจากลบไปเป็ นบวก จะให้ค่าต่ำสุ ดสัมพัทธ์ (3x - 4)(x + 2) = 0
3.2 ตรวจสอบโดยใช้อนุพนั ธ์อนั ดับที่ 2 ดังนี้ x
4
= 3 , -2
- ถ้า f//(x) > 0 จะให้ค่าต่ำสุ ดสัมพัทธ์ 4
- ถ้า f//(x) < 0 จะให้ค่าสูงสุ ดสัมพัทธ์ ค่าวิกฤต คือ x = 3
และ x = -2
- ถ้า f//(x) = 0 แสดงว่าตรวจสอบวิธีน้ ี ไม่ได้ ต้องตรวจสอบ 4 4
4
4
2
4
f = - 8 - 1 =
โดยวิธีตรวจสอบจากความชันของเส้นสัมผัส 3 3 3 3
203
27
f(-2) = (-2)4 + (-2)2 - 8(-2) – 1 = 11
ขั้นที่ 2 เนื่องจากจุดปลายของช่วงเปิ ด [-4, 2] คือ x = -4 และ x = 2
เอกสารประกอบการสอนที่ 9.3
f(-4) = (-4)3 + (-4)2 - 8(-4) – 1 = -17
เรื่อง ค่าสู งสุ ดสั มบูรณ์ และค่าต่ำสุ ดสัมบูรณ์ f(2) = 23 + 22 - 8(2) – 1 = -5
4
ขั้นที่ 3 นำค่าของ f ,
3
f(-2), f(-4) และ f(2) มาเปรี ยบเทียบกัน
ค่าสู งสุ ดสัมบูรณ์และค่าต่ำสุ ดสัมบูรณ์ของฟังก์ชนั นิยามได้ดงั นี้ จะได้ f(-2) = 11 มีคา่ มากที่สุด
และ f(-4) = -17 มีคา่ น้อยที่สุด
บทนิยาม ฟังก์ชนั f มีคา่ สูงสุ ดสัมบูรณ์ที่ x = c ถ้า f(c) > f(x) ค่าสู งสุ ดสัมบูรณ์ จะมีค่าเท่ากับ 11
สำหรับทุก x ในโดเมนของ f ที่ x c ค่าต่ำสุ ดสัมบูรณ์ จะมีคา่ เท่ากับ -17
ฟังก์ชนั f มีค่าต่ำสุ ดสัมบูรณ์ที่ x = c ถ้า f(c) < f(x) ตอบ
สำหรับทุก x ในโดเมนของ f ที่ x c ตัวอย่ างที่ 2 ให้ f(x) = -x2 + 4x + 5 เป็ นฟังก์ชนั บนช่วง [0, 5] จงหาค่าสู งสุ ด
สัมบูรณ์หรื อค่าต่ำสุ ดสัมบูรณ์
วิธีทำ จาก f(x) = -x2 + 4x + 5
จะพบว่า ฟังก์ชนั f ต่อเนื่องบนช่วงปิ ด [0, 5]
จะได้ f/(x) = -2x + 4
- 2x + 4 = 0
x = 2
จะพบว่า x = 2 เป็ นค่าวิกฤตเพียงค่าเดียวบนช่วง [0, 5]
จึงสามารถตรวจสอบค่าวิกฤตว่า จะทำให้เกิดค่าสู งสุ ดสัมบูรณ์หรื อค่าต่ำสุ ดสัมบูรณ์
หรื อไม่
โดยใช้อนุพนั ธ์อนั ดับสอง
f//(x) = -2
เอา x = 2 ไปแทน จะได้
f//(2) = -2 < 0
แสดงว่า x = 2 เป็ นค่าวิกฤตที่ทำให้เกิดค่าสูงสุ ดสัมบูรณ์
f(2) = -(2)2 + 4(2) + 5 = 9
ค่าสู งสุ ดสัมบูรณ์ เท่ากับ 9 ตอบ
ข้ อสั งเกต ค่าสูงสุ ดสัมบูรณ์ไม่จำเป็ นต้องเป็ นค่าสู งสุ ดสัมพัทธ์ อาจจะเป็ น
ค่าของฟังก์ชนั ที่จุดปลายของโดเมนของฟังก์ชนั ก็ได้
ค่าต่ำสุ ดสัมบูรณ์ไม่จำเป็ นต้องเป็ นค่าต่ำสุ ดสัมพัทธ์ อาจจะเป็ น
ค่าของฟังก์ชนั ที่จุดปลายโดเมนของฟังก์ชนั ก็ได้
สรุ ป
2
=
20 -
3
x 0
x = 3
y = 10
จำนวนทั้งสองจำนวน คือ 30 และ 10 ตอบ