คำนำ

กองทัพบก โดยกรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้จัดทาคู่มือแนวทางการปฏิบัติของกองทัพบกในการ

สนับสนุนการเลือกตั้ง พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยได้นารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ มติคณะรัฐมนตรี
พระราชบัญญัติ ระเบียบ และประกาศที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้กาหนดไว้ รวมถึงนโยบายและ
แนวทางของกระทรวงกลาโหม และนโยบายด้านกิจการพลเรือนของกองทัพบก ยึดเป็นแนวทางในการ
จัดทาคู่มือดังกล่าว เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม
กรมกิจการพลเรือนทหารบก หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือแนวทางการปฏิบัติของกองทัพบกในการ
สนั บ สนุ น การเลื อ กตั้ ง พ.ศ. ๒๕๖๒ จะช่ ว ยให้ ห น่ ว ยต่ า งๆ ของกองทั พ บกใช้ เ ป็ น แนวทางในการ
สนับสนุนการเลือกตั้งได้เป็นอย่างดี
 สำรบัญ

๑. นโยบาย
๒. แนวทางการปฏิบัติของกองทัพบกในการสนับสนุนการเลือกตั้ง
- แนวทางการสนับสนุนกาลังพลของกองทัพบกในการเลือกตั้ง
- แนวทางการสนับสนุนยานพาหนะของกองทัพบกในการเลือกตั้ง
- แนวทางในการสนับสนุนอาคารสถานที่ของกองทัพบกในการเลือกตั้ง
- แนวทางในการใช้วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ของกองทัพบกในการสนับสนุนการเลือกตั้ง
 -๑–

๑. นโยบำย
๑.๑ กองทัพบก จะสนับสนุนและรักษาไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นประมุข
๑.๒ กองทัพบกในฐานะกลไกหนึ่งของรัฐ จะวางตัวเป็นกลางทางการเมืองในการเลือกตั้งทุกครั้ง
อย่างเคร่งครัด และจะไม่ดาเนินการใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งทางส่วนตัวและทางราชการโดยมิชอบ
ด้วยกฎหมาย ในลักษณะแทรกแซง ต่อต้าน หรือสนับสนุนการดาเนินการใดๆ ที่มิใช่หน้าที่เพื่อเป็นคุณ
หรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
๑.๓ กองทัพบก จะให้การสนับสนุนกิจกรรมในการเลือกตั้ง โดยใช้ศักยภาพของกองทัพบกเพื่อให้
เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง ภายใต้ขอบเขตหน้าที่และสิทธิอันชอบธรรม ตามนโยบายของ
กระทรวงกลาโหม และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
๑.๔ กองทัพบก จะส่งเสริมรณรงค์ประชาสัมพันธ์แก่กาลังพล ครอบครัว ตลอดจนประชาชนทั่วไป
เพื่อให้มีจิตสานึก อุดมการณ์ประชาธิปไตย และไปทาหน้าที่ใช้สิทธิเลือกตั้งในทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง
ให้มากที่สุด เพื่อดาเนินการตามวิถีทางในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
และเพื่อเป็นตัวอย่างแก่ประชาชนทั่วไป
๑.๕ เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งแล้ว การแต่งตั้งหรือโยกย้ายข้าราชการทุกประเภทและ
ทุกระดับให้พิจารณาเท่าที่จาเป็น รวมทั้งไม่ควรจัดให้มีการฝึกอบรมหรือประชุมสัมมนาในช่วงระยะเวลา
ประมาณ ๑๐ วันก่อนวันเลือกตั้ง เพราะอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ว่ามีจุดประสงค์แอบแฝงในการให้คุณ
หรือโทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง

๒. แนวทำงกำรปฏิบัติของกองทัพบกในกำรสนับสนุนกำรเลือกตั้ง
๒.๑ แนวทำงกำรสนับสนุนกำลังพลของกองทัพบกในกำรเลือกตั้ง
ให้ ห น่วยต่างๆ ของกองทัพบกให้ ความร่วมมือ ช่ วยเหลือ และสนับสนุนในการดาเนินการ
เลือกตั้งทุกครั้ง เมื่อได้รับการร้องขอจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาจังหวัด
หรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาเขตเลือกตั้ง เช่น การสนับสนุนกาลังพลไปช่วยปฏิบัติงานด้าน
สืบสวนสอบสวน เป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัด เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจา
หน่วยเลือกตั้ง เป็นต้น (ห้ามมิให้กาลังพลของกองทัพบกเป็นคณะกรรมการประจาหน่วยเลือกตั้ง และเป็น
เจ้าหน้าที่นับคะแนนโดยเด็ดขาด) ทั้งนี้ การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวจะต้องได้รับอนุมัติจากผู้บัญชาการทหารบก
หรือผู้ที่ได้รับมอบอานาจเสียก่อน แต่หากเป็นการสนับสนุน กาลังพลหรือยุทโธปกรณ์เพื่อปฏิบัติหน้าที่
ในการรักษาความปลอดภัยประจาหน่วยเลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงในพื้นที่ที่มีการก่อความไม่สงบ
เช่น ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือพื้นที่อื่นๆ ที่อาจมีการก่อความไม่สงบ ให้อยู่ในอานาจการอนุมั ติ
ของแม่ทัพภาค/ผู้อานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ที่รับผิดชอบพื้นที่นั้นๆ โดยให้ประสานการปฏิบัติ
กับสานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจาจังหวัดอย่างใกล้ชิด และรายงานผ่านฝ่ายอานวยการที่
รับผิดชอบ เพื่อให้ผู้บัญชาการทหารบกทราบ

/เมื่อได้รับการประสาน…
 -๒–

เมื่อได้รับการประสานจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาจังหวัด
หรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาเขตเลือกตั้ง เพื่อขอรับความช่วยเหลือและสนับสนุนกาลังพลไปปฏิบัติ
หน้าที่ต่างๆ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร ให้หน่วยพิจารณาว่าภารกิจดังกล่าวมีผลกระทบต่อ
การปฏิบัติภารกิจหลักของหน่วยหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ให้หน่วยยึดถือ และปฏิบัติตามบทบัญญัติ
ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ และมติ
คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ เรื่องแนวทางการปฏิบัติในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
เป็นการเลือกตั้งทั่วไป (ทั้งนี้ ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๓ เรื่อง มติคณะรัฐมนตรี
เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการเลือกตั้ง และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๐ เรื่อง สรุปผล
การหารือระหว่างนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการการเลือกตั้ง)
เพื่อให้กาลังพลที่ไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับการร้องขอข้างต้น ได้มีความรู้ในกรอบอานาจหน้าที่
ของตนเอง ก่อนวันเลือกตั้งให้หน่วยประสานกับสานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งในพื้นที่ จัดให้มีการอบรม
เจ้าพนักงานผู้ดาเนินการเลือกตั้ง เพื่อให้เข้าใจ และปฏิบัติหน้าที่ได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง
๒.๑.๑ กรณีกำรเลือกตั้งระดับประเทศ เช่น การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเลือกตั้ง
สมาชิกวุฒิสภา และการลงประชามติ
๒.๑.๑.๑ กำรสนับสนุนกำลังพลเป็นกรรมกำรกำรเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง
๒.๑.๑.๑.๑ ในกรณีกาลังพลของกองทัพบกถูกทาบทาม หรือได้รับการแต่งตั้ง
จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้เป็นกรรมการการเลือกตั้งประจาเขตเลือกตั้ง ให้กาลังพลผู้นั้นรายงาน
ผู้บั งคับบั ญชา และให้ หน่วยพิจารณาความเหมาะสม เนื่องจากกองทัพบกอาจมีแผนการปรับย้ายไปดารง
ตาแหน่งในพื้นที่จังหวัดอื่น หรือเตรียมมอบภารกิจพิเศษอื่นให้อยู่แล้ว
๒.๑.๑.๑.๒ เมื่อหน่วยให้ความเห็นชอบแล้ว ให้รายงานขออนุมัติถึงผู้บัญชาการ -
ทหารบก หรือผู้ที่ได้รับมอบอานาจ พร้อมทั้งส่งรายชื่อกาลังพลผู้นั้นให้กับสานักงานคณะกรรมการ
การเลือกตั้งประจาจังหวัด เพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้งออกคาสั่งแต่งตั้งให้กับกาลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ หากกาลังพลได้รับการคัดเลือกให้เป็นกรรมการการเลือกตั้งประจาเขตเลือกตั้งแล้ว จะต้องยึดถือ
ระเบียบวินัยของทหาร ดารงตนด้วยความสุจริต เป็นกลาง และต้องไม่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติราชการ
ในตาแหน่งหน้าที่ของตน หากกาลังพลดังกล่าวมีความประพฤติไม่เหมาะสมตามพระราชบัญญัติว่าด้วย
วินัยทหาร พ.ศ. ๒๔๗๖ จะต้องถูกลงทัณฑ์ตามควรแก่กรณีด้วย
๒.๑.๑.๑.๓ ในกรณีที่กาลังพลเป็นกรรมการการเลือกตั้งประจาเขตเลือกตั้ง ได้รับ
คาสั่งปรับย้ายให้ไปรับราชการในตาแหน่งใหม่ ซึ่งมิใช่หน่วยในพื้นที่จังหวัดเดิม เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อการ
ปฏิบัติหน้าที่สองสถานะในโอกาสเดียวกัน ให้กาลังพลผู้นั้นลาออกจากตาแหน่งกรรมการการเลือกตั้งประจาเขต
เลือกตั้ง พร้อมกับรายงานตามสายการบังคับบัญชาจนถึงผู้บัญชาการทหารบกหรือผู้ที่ได้รับมอบอานาจ ทราบ
๒.๑.๑.๒ กำรสนับสนุนกำลังพลเป็นเจ้ำหน้ำที่รักษำควำมปลอดภัยประจำหน่วยเลือกตั้ง
๒.๑.๑.๒.๑ จะสามารถกระทาได้เฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ
พื้นที่อื่นๆ ที่อาจมีการก่อความไม่สงบเท่านั้น โดยส่งรายชื่อให้กับสานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ประจาจังหวัด เพื่อออกคาสั่งแต่งตั้งให้กับกาลังพลทีป่ ฏิบัตหิ น้าที่ พร้อมกับรายงานขออนุมัติถึงผู้บัญชาการ-
ทหารบก หรือผู้ที่ได้รับมอบอานาจ

/๒.๑.๑.๒.๒ ให้หน่วยพิจารณา…
 -๓-

๒.๑.๑.๒.๒ ให้หน่วยพิจารณาจัดกาลังพลนายทหารชั้นประทวนขึ้นไปในการ
ให้การสนับสนุน โดยพิจารณาให้การสนับสนุนหน่วยเลือกตั้งที่ใกล้เคียงหน่วยทหารที่สังกัดอยู่ให้มากที่สุด
๒.๑.๑.๒.๓ ให้หน่วยพิจารณาจัดกาลัง พลจากหน่วยสารวัตรทหารก่อน แล้ว
จึงพิจารณาจัดจากหน่วยอื่นๆ ซึ่งกาลังพลดังกล่าวจะพกพาอาวุธได้เฉพาะผู้ที่เป็นสารวัตรทหารเท่านั้น
๒.๑.๑.๒.๔ ให้หน่วยประสานกับสานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัด
ให้มีการอบรมกาลังพลที่ได้รับการแต่งตั้งก่อนการปฏิบัติงาน
๒.๑.๑.๒.๕ หากหน่วยได้รับการร้องขอให้ไปสนับสนุนในหน่วยเลือกตั้งที่ห่างไกล
จากที่ตั้งหน่วย ให้หน่วยประสานขอรับการสนับสนุนยานพาหนะ และ/หรืองบประมาณค่า สป.๓ จาก
สานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัด
๒.๑.๑.๒.๖ กาลังพลดังกล่าวจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในตาแหน่งเจ้าหน้าที่รักษา
ความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการยึดถือระเบียบวินัยของทหาร ดารงความสุจริตเป็นกลางอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ หากมีความประพฤติที่ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ หรือส่อว่ากระทาความผิดต่อหน้าที่ นอกจากจะมี
ความผิดแล้ว จะถือว่ากาลังพลผู้นั้นประพฤติไม่เหมาะสมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ. ๒๔๗๖
และจะต้องถูกลงทัณฑ์ตามควรแก่กรณีด้วย
๒.๑.๑.๓ กำรสนับสนุนกำลังพลไปช่วยปฏิบัติงำนด้ำนสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยชี้ขำด
ปัญหำหรือข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับกำรปฏิบัติตำมกฎหมำยเลือกตั้ง
๒.๑.๑.๓.๑ ให้สามารถกระทาได้เฉพาะกรณีที่ในพื้นที่นั้นมีเจ้าหน้าที่ตารวจ
ไม่เพียงพอ และในพื้นที่ที่มีการก่อความไม่สงบ อาทิ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เท่านั้น
๒.๑.๑.๓.๒ เมื่อหน่วยได้รับการติดต่อจากคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อสนับสนุน
กาลังพลให้ปฏิบัติหน้าที่ในการดาเนินการตรวจสอบสานวนการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
ให้รายงานขออนุมัติผู้บัญชาการทหารบก หรือผู้ที่ได้รับมอบอานาจ
๒.๑.๑.๓.๓ ให้พิจารณาจัดกาลังพลที่มีความรู้ความสามารถทางด้านกฎหมาย
โดยพิจารณาจัดนายทหารพระธรรมนูญให้การสนับสนุนเป็นความเร่งด่วนลาดับแรก ทั้งนี้ จะต้องไม่กระทบ
ต่อการปฏิบัติภารกิจหลัก และคานึงถึงความประพฤติ ความสามารถในการปฏิบัติงาน รวมทั้งควร
หลีกเลี่ยงผู้ที่ได้รับการบรรจุให้ปฏิบัติราชการสนาม หรือภารกิจพิเศษอื่นๆ (เพื่อมิให้เกิดความซ้าซ้อน
ทั้งนี้ เนื่องจากการไปช่วยปฏิบัติงานในสานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จะต้องกระทาเต็มเวลา
เพราะได้รับค่าตอบแทนจากสานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง)
๒.๑.๑.๓.๔ การสนับสนุนตามคาร้องขอของคณะกรรมการการเลือกตั้งในการ
ปฏิบัติหน้าที่สืบสวนสอบสวน จะกระทาได้คราวละไม่เกิน ๓ เดือน ทั้งนี้ หากภารกิจยังไม่แล้วเสร็จให้
คณะกรรมการการเลือกตั้งทาเรื่องขอรับการสนับสนุนเป็นคราวๆ ไป และคาร้องขอต้องไม่ระบุตัวบุคคล
เป็นการเฉพาะ ทั้งนีใ้ ห้สานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัด ทารายงานผลการปฏิบัติงาน
เพื่อจะใช้เป็นข้อมูลในการประกอบการพิจารณาความดีความชอบประจาปีให้หน่วยต้นสังกัดทราบด้วย
๒.๑.๑.๔ กำรสนับสนุนกำลังพลเป็นชุดป้องปรำมและหำข่ำวกำรซื้อสิทธิขำยเสียง
๒.๑.๑.๔.๑ ให้ หน่วยส่ งรายชื่ อก าลั งพลให้ กั บส านั กงานคณะกรรมการการ
เลือกตั้งประจาจังหวัด เพื่อออกคาสั่งแต่งตั้งให้กับกาลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ พร้อมกับรายงานขออนุมัติถึงผู้
บัญชาการทหารบก หรือผู้ที่ได้รับมอบอานาจ
/๒.๑.๑.๕.๒ เนื่องจาก…
 -๔-

๒.๑.๑.๕.๒ เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจดังกล่าว มีความเสี่ยงต่อการ

โจมตีทางการเมืองต่อภาพลัก ษณ์ของกองทัพบก และความปลอดภัยของก าลังพล จึงขอให้ ห น่ว ย
ประสานการปฏิบัติกับสานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัดอย่างใกล้ชิด
๒.๑.๒ กรณีกำรเลือกตั้งระดับท้องถิ่น เช่น การเลือกตั้งสมาชิกองค์ก ารบริห ารส่วนตาบล
เทศมนตรี ฯลฯ
๒.๑.๒.๑ ห้ามมิให้สนับสนุนกาลังพลเป็นเจ้าหน้าที่นับคะแนนการเลือกตั้ง โดยเด็ดขาด
๒.๑.๒.๒ การสนับสนุนกาลังพลเข้าร่วมเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน และเป็นเจ้าหน้าที่
รักษาความปลอดภัยประจาหน่วยเลือกตั้ ง จะสามารถให้การสนับสนุนได้เฉพาะกรณีที่ในพื้นที่นั้นมี
เจ้าหน้าที่ตารวจไม่เพียงพอ และในพื้นที่ที่มีการก่อความไม่สงบ อาทิ ในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้
เท่านั้น
๒.๑.๒.๓ การสนับสนุนกาลังพลเป็นเจ้าหน้าที่อื่นๆ ให้อยู่ในอานาจการอนุมัติของแม่ทัพภาค
และผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก
๒.๑.๓ ข้อพึงปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง
๒.๑.๓.๑ ให้ยึดถือตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ เรื่องแนวทาง
การปฏิบัติในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป โดยให้ส่วนราชการทั้งส่วนกลาง
และส่วนภูมิภาคให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือและสนับสนุนการเลือกตั้งทุกครั้ง เมื่อ ได้รับการร้องขอจาก
คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาจังหวัด หรือคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ประจาเขตเลือกตั้ง และให้ถือเป็นงานในหน้าที่ของข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่นั้นๆ ด้วย รวมทั้งให้เข้ารับ
การอบรมจากสานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัดก่อนการปฏิบัติ พร้อมกับให้ยึดถือและ
ปฏิบัติตามกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด
๒.๑.๓.๒ ห้ามกาลังพลเข้าไปบริเวณโดยรอบ และเขตคูหาลงคะแนนในช่วงเวลาที่มีการ
ลงคะแนนเสียงหรือจุดที่จะมีผลส่วนได้ ผลเสียกับคะแนนเสียง หรือผลการเลือกตั้งโดยเด็ดขาด ยกเว้น
กาลังพลผู้มาใช้สิทธิในการเลือกตั้งสามารถมาใช้สิทธิได้ตามปกติ
๒.๑.๓.๓ ให้กาลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่วางตัวเป็นกลางทางการเมือง ทั้งนี้ หากมีการประพฤติ
หรือส่อว่าทุจริตต่อการเลือกตั้ง นอกจากจะมีโทษทางคดีอาญาแล้ว ยังจะมีโทษทางวินัยทหารด้วย
๒.๑.๓.๔ เมื่อหน่วยได้รับการร้องขอจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้อานวยการการ
เลือกตั้งประจาจังหวัด หรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาเขตเลือกตั้ง ให้หน่วยรีบส่งรายชื่อกาลังพล
ให้หน่วยงานที่ร้องขอเพื่อออกคาสั่งปฏิบัติหน้าที่ พร้อมกับรายงานขออนุมัติผู้บัญชาการทหารบกหรือ
ผู้ที่ได้รับมอบอานาจควบคู่กันไปด้วย
๒.๑.๓.๕ การสนับสนุนกาลังพลหรือยุทโธปกรณ์ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความ
ปลอดภัยประจาหน่วยเลือกตั้งหรือบริเวณใกล้เคียงในพื้นที่ที่มีการก่อความไม่สงบ เช่น ในพื้นที่จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ หรือ พื้นที่อื่นๆ ที่อาจมีการก่อความไม่สงบ ให้อยู่ในอานาจการอนุมัติของ แม่ทัพภาค/
ผู ้อ านวยการรัก ษาความมั ่น คงภายในภาคที ่ร ับ ผิด ชอบพื ้น ที ่นั ้น ๆ โดยให้ป ระสานการปฏิบ ัต ิก ับ
สานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัดอย่างใกล้ชิด และรายงานให้กองทัพบกทราบ

/๒.๑.๓.๖ การแต่งกาย…
 -๕-

๒.๑.๓.๖ การแต่งกายของกาลังพลที่ไปปฏิบัติหน้าที่ ควรแต่งกายชุดพลเรือน ชุดสุภาพ หรือ

ชุดวอร์มของหน่วย ยกเว้นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และปฏิบัติในพื้นที่ที่มี
การก่อความไม่สงบให้แต่งกายชุดปฏิบัติงาน
๒.๑.๔ อำนำจกำรอนุมัติให้กำลังพลปฏิบัติหน้ำที่สนับสนุนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง
๒.๑.๔.๑ การอนุมัติให้กาลังพลปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในกำร
เลือกตั้งระดับประเทศนั้น ให้การอนุมัติกาลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ อยู่ในอานาจของผู้บัญชาการทหารบก
หรือผู้ที่ได้รับมอบอานาจ
๒.๑.๔.๒ การอนุมัติให้กาลังพลปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในกำร
เลือกตั้งระดับท้องถิ่น เช่น การเลือกตั้งสมาชิก สภาเทศบาลฯลฯ ให้อยู่ในอานาจของแม่ทัพภาคหรือ
ผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก แล้วรายงานให้กองทัพบกทราบ
๒.๒ แนวทำงกำรสนับสนุนยำนพำหนะของกองทัพบกในกำรเลือกตั้ง
๒.๒.๑ ห้ามใช้ ยานพาหนะและอากาศยานของ กองทัพบก ทาการประชาสัมพันธ์เ ผยแพร่
ใบปลิว หรือสิ่งพิมพ์ของพรรคการเมือง บุคคล หรือกลุ่มคนที่หวังผลทางด้านการเมืองโดยเด็ดขาด
๒.๒.๒ ห้ ามใช้ ย านพาหนะและอากาศยานของกองทัพบกเพื่อขนย้ายหี บ บัต รโดยเด็ดขาด
สาหรับในพื้นที่ที่มีการก่อความไม่สงบ หากได้รับการประสานขอรับการสนับสนุนจากคณะกรรมการการ
เลื อ กตั้ ง ประจ าพื้ น ที่ สามารถด าเนิ น การสนั บ สนุ น ได้ โดยให้ อ ยู่ ใ นอ านาจอนุ มั ติ ข องแม่ ทั พ ภาค/
ผู้อานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ทั้งนี้ ให้พิจารณาตามความจาเป็น และจะต้องมีการบันทึกภาพ
เป็นหลักฐานทุกขั้นตอน รวมทั้งจะต้องมี เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากสานักงานคณะกรรมการการ
เลือกตั้งประจาจังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยทุกครั้ง
๒.๒.๓ การจัดยานพาหนะของหน่วย เพื่ออานวยความสะดวกให้กับกาลังพลของหน่วยในการเดินทางไป
ทาหน้าที่ใช้สิทธิเลือกตั้ง จะต้องได้รับอนุญาตจากสานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัดก่อนทุกครั้ง
ทั้งนี้ จะต้องไม่มีการชี้นาเพื่อให้กาลังพลเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งโดยเฉพาะ
๒.๒.๔ การจัดยานพาหนะไปรับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล หรือพื้นที่ไม่มีความปลอดภัย ไปทา
หน้าที่ใช้สิทธิเลือกตั้ง จะต้องได้รับการร้องขอจากคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อนทุกครั้ง
๒.๓ แนวทำงกำรสนับสนุนอำคำรสถำนที่ของกองทัพบกในกำรเลือกตั้ง
๒.๓.๑ การขอใช้พื้นที่ หรืออาคารของหน่วยเป็นที่ทาการชั่ วคราวของสานักงานคณะกรรมการ
การเลือกตั้งประจาจังหวัด ให้พิจารณาร่วมมือสนับสนุน โดยต้องไม่กระทบกระเทือนต่อระเบียบการรักษา
ความปลอดภัยของหน่วย
๒.๓.๒ ไม่ควรใช้พื้นทีห่ รืออาคารของหน่วยเป็นสถานที่สาหรับเก็บหีบบัตรเลือกตั้ง เนื่องจากจะ
ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของกองทัพบกได้
๒.๓.๓ ไม่ควรใช้ อาคารสถานที่ของหน่วยเป็นหน่วยเลือกตั้ง เนื่องจากอาจมีผ ลกระทบต่อ
ภารกิจของหน่วย ความไม่สะดวกในการดาเนินงาน และภาพลักษณ์ของกองทัพบกได้ ควรประสาน
คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้อานวยการเลือกตั้งประจาจังหวัด หรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาเขต
เลือกตั้ง ที่ได้ร้องขอให้ทราบถึงเหตุผลและความจาเป็น พร้อมทั้งขอให้พิจารณาใช้สถานที่อื่นที่เหมาะสมกว่า
ในการเป็นหน่วยเลือกตั้ง
/๒.๓.๔ การจัดสถานที…่
 -๖-

๒.๓.๔ การจัดสถานที่โฆษณาหาเสียงหรือเวทีก ลางให้ ผู้สมัครและพรรคการเมืองให้ หน่วย

ประสานการปฏิบัติกับสานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัด ให้ดาเนินการอย่างเป็นธรรม
และเท่าเทียมกัน สาหรับการจัดให้มี การแสดง หรือการดาเนินการอื่นใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมา
ฟังการโฆษณาหาเสียง ให้เป็นหน้าที่ของสานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัด ตามที่ได้
หารือกับพรรคการเมือง หรือผู้สมัครแล้วแต่กรณี แต่ต้องมิใช่เป็นการจัดให้มีเพื่อการสนับสนุนผู้สมัคร
หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งโดยเฉพาะ โดยมีแนวทางในการปฏิบัติดังนี้
๒.๓.๔.๑ เมื่อหน่วยได้รับแจ้งจากพรรคการเมือง ประสงค์จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งทาการ
หาเสียงในพื้นที่ของหน่วย โดยใช้อาคารสถานที่ของหน่วยเพื่อหาเสียง หากเป็นไปได้หน่วยประสานกับ
คณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อแจ้งให้พรรคการเมืองอื่นๆ เข้าร่วมทาการหาเสียงในโอกาสเดียวกัน
๒.๓.๔.๒ ให้หน่วยจัดทาประกาศเพื่อแจ้งวัน เวลา และสถานที่ ในการให้ผู้สมัครและพรรค
การเมืองเข้าหาเสียงภายในหน่วย พร้อมกับสาเนาประกาศให้ สานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ประจาจังหวัดทราบ เพื่อแจ้งให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ยังมิได้แจ้งความประสงค์ทราบ และ
ร่วมหาเสียงตามห้วงวัน เวลา และสถานที่ที่หน่วยกาหนด
๒.๓.๔.๓ ในการกาหนดเวลาและสถานที่ของหน่วย เพื่อสนับสนุนในการหาเสียงของ
ผู้สมัคร และพรรคการเมืองให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้บังคับหน่วยนั้นๆ แต่ทั้งนี้จะต้องไม่ให้กระทบกระเทือน
ต่อการปฏิบัติภารกิจทางทหารของหน่วย
๒.๓.๔.๔ ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และพรรคการเมืองเข้าหาเสียงในพื้นที่ในหน่วยทหารที่อยู่
รวมกันเป็นค่ายทหารได้ ค่ายละ ๑ ครั้ง โดยให้ใช้เวลานอกเวลาราชการ ทั้งนี้ เวลาในการหาเสียงของ
ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และพรรคการเมืองต่างๆ ให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้บังคับหน่วยนั้นๆ
๒.๓.๕ ผู้บังคับหน่วยที่ได้รับการร้องขอใช้ สถานที่ของหน่วยเพื่อการหาเสียงให้พิจารณาใช้
สถานที่บริเวณสโมสร สนามกีฬา หรือหอประชุมของหน่วย โดยผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือพรรคการเมือง
ต้องเสียค่าใช้จ่ายตามระเบียบที่ส่วนราชการกาหนด
๒.๓.๖ การแจกจ่ายเอกสาร ใบปลิว หรือสิ่งพิม พ์ ประกอบการหาเสียงให้ แก่กาลังพลและ
ครอบครัว ภายในอาคารสถานที่ของหน่วยในสังกัดกองทัพบกไม่สามารถกระทาได้ ยกเว้น สโมสร สนามกีฬา
หรือหอประชุมที่ได้กาหนดไว้แล้ว
๒.๓.๗ การขอใช้อาคารสถานที่ของกองทัพบกให้ ผู้บังคับหน่วยที่ดารงตาแหน่งชั้นยศระดับ
พลตรีขึ้นไป เป็นผู้มีอานาจในการอนุมัติ ทั้งนี้ หากปรากฏว่ามีการร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่เป็นกลาง
หรือไม่เสมอภาคในการใช้อาคารสถานที่ในการสนับสนุนเลือกตั้งให้หน่วยรายงานให้ผู้บัญชาการทหารบก
ทราบ ด้วยเครื่องมือสื่อสารที่เร็วที่สุด
๒.๓.๘ ให้หน่วยตั้งแต่ระดับกองร้อยอิสระขึ้ นไป กาหนดสถานที่ของหน่วยที่สามารถอนุญาตให้
มีการปิดประกาศ และติดแผ่นป้ายโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้ง และพรรคการเมืองได้
และอานวยความสะดวกตามสมควรแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคการเมืองโดยเท่าเทียมกัน โดยยึดถือ
ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องหลักเกณฑ์ และวิธีการจัดทา สถานที่ปิดประกาศ
เกี่ยวกับการเลือกตั้งและสถานที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑

/๒.๓.๙ การจัดสถานที…่
 -๗-

๒.๓.๙ การจัดสถานที่ปิดประกาศหรือโปสเตอร์
๒.๓.๙.๑ ให้หน่วยจัดสถานที่ปิดประกาศ (ได้แก่ ป้าย หรือบอร์ด หรือผนัง) ไว้ในบริเวณ
ที่ตั้งของหน่วย สานักงาน จานวนแห่งละอย่างน้อย ๒ ป้าย สาหรับใช้เป็นที่ปิดประกาศของผู้สมัครแบบ
แบ่งเขต จานวน ๑ ป้าย และแบบบัญชีรายชื่อ จานวน ๑ ป้าย
๒.๓.๙.๒ ออกประกาศกาหนดสถานที่ หลักเกณฑ์ และวิธีการให้ผู้สมัครได้ปิดประกาศ
โดยเท่าเทียมกัน ป้ายละ ๑ แผ่น โดยให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องหลักเกณฑ์
และวิธีการจัดทา สถานที่ปิดประกาศเกี่ยวกับการเลือกตั้งและสถานที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ เมื่อได้ออกประกาศแล้วส่งสาเนาให้สานักงานคณะกรรมการ
การเลือกตั้งประจาจังหวัดทราบ ตามห้วงเวลาที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกาหนด เพื่อจะได้แจ้งผู้สมัคร
และพรรคการเมืองทราบ
๒.๓.๑๐ การจัดที่ติดแผ่นป้ายประกาศหรือโปสเตอร์
๒.๓.๑๐.๑ ให้หน่วยออกประกาศกาหนดสถานที่บริเวณพื้นที่อันเป็นสาธารณะหรือ
สาธารณสถานของรัฐ เพื่อให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองนาแผ่นป้ายไปติดตั้งโดยเท่าเทียมกัน
๒.๓.๑๐.๒ แผ่นป้ายที่จะนาไปติดตั้งในแต่ละที่ต้องมีขนาดกว้างไม่เกิน ๑๓๐ เซนติเมตร
และยาวไม่เกิน ๒๔๕ เซนติเมตร จานวนเท่าใดให้เป็นไปตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเห็นสมควร
โดยพิจารณาขนาดของพื้นที่ บริเวณ ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความสะอาด ความปลอดภัยผู้สัญจร
ไปมา ความพอเพียง และความเท่าเทียมกันของผู้สมัครทุกคน และพรรคการเมืองทุกพรรค
๒.๓.๑๐.๓ เมื่ อ ได้ อ อกประกาศก าหนดสถานที่ แ ล้ ว ขอให้ ส าเนาส่ ง ส านั ก งาน
คณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัดในเขตที่ตั้งของหน่วยที่ออกประกาศทราบตามห้วงเวลาที่
คณะกรรมการการเลือกตั้งกาหนด เพื่อที่จะแจ้งให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองทราบ
๒.๔ แนวทำงกำรใช้วิทยุกระจำยเสียงและวิทยุโทรทัศน์ของกองทัพบกในกำรสนับสนุนกำรเลือกตั้ง
๒.๔.๑ กองทัพบกให้การสนับสนุน สถานีวิทยุกระจายเสียง และสถานี วิทยุโทรทัศน์ ในเครือ
กองทัพบก หรือเคเบิ้ลทีวี ในการประชาสัมพันธ์ รณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิในการเลือกตั้ง ต่อต้าน
การซื้อสิทธิขายเสียง เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ตลอดจนการประกาศแจ้ง
กาหนดวันเลือกตั้ง ขั้นตอนการเลือกตั้ง การขอใช้สิทธินอกเขตเลือกตั้ง รวมทั้งการให้ความรู้ทางวิชาการ
แก่ประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้งตามกฎหมาย
๒.๔.๒ ในกรณีที่ได้รับการร้องขอจากพรรคการเมือง หรือผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อขอใช้เครื่องมือ
และสื่อ ของกองทัพบกในการประชาสัมพันธ์ และโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ให้พิจารณาให้ก ารสนับสนุนด้ว ยความเสมอภาคและเท่า เทีย มกันทุก พรรคการเมือง และผู้ ส มัค ร
รับ เลือกตั้งทุกคน ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการ
สนับสนุนการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยพรรคการเมืองจะต้อง
แจ้งความประสงค์ต่อเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และผู้สมัครรับเลือกตั้งจะต้องแจ้งความประสงค์
ต่อผู้อานวยการสานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัดในจังหวัดที่ตนสมัคร
๒.๔.๓ แนวทางการปฏิบัติของสถานีวิทยุกระจายเสียง และสถานีวิทยุโทรทัศน์ในเครือของกองทัพบก
แต่ละสถานี ในการสนับสนุนการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคการเมือง

/ให้ปฏิบัติตาม…
 -๘-

ให้ปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสนับสนุนการโฆษณาหาเสียง
เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ ดังนี้
๒.๔.๓.๑ การออกอากาศโฆษณาข้อความสั้ นๆ เกี่ยวกับนโยบายของพรรคการเมือง
ให้สถานีจัดสรรเวลาให้พรรคการเมืองอย่างน้อยวันละ ๓ ครั้ง ครั้งละไม่เกิน ๓๐ วินาที
๒.๔.๓.๒ การออกอากาศเพื่อแถลงนโยบายของพรรคการเมือง ให้สถานีจัดสรรเวลา
ให้พรรคการเมืองอย่างน้อยพรรคละ ๓ ครั้ง ครั้งละไม่เกิน ๑๐ นาที
๒.๔.๓.๓ การจัดสรร วัน เวลา และลาดับพรรคการเมืองออกอากาศตามข้อ ๒.๔.๓.๑
และข้ อ ๒.๔.๓.๒ ให้ ส านั ก งานกิ จ การกระจายเสี ย ง กิ จ การโทรทั ศ น์ และกิ จ การโทรคมนาคม
กองทัพบก ดาเนินการให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการ
สนับสนุนการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑
๒.๔.๓.๔ การโฆษณาหาเสียงให้พรรคการเมือง จัดทาเทป หรือวัสดุเผยแพร่สาหรับการ
ออกอากาศตามมาตรฐานของสถานี และมีความยาวไม่เกินเวลาตามที่กาหนด ต้องใช้ถ้อยคาที่สุภาพ มีรูปแบบ
ที่เหมาะสมไม่ใส่ร้าย หรือเสียดสีบุคคลหรือพรรคการเมืองใด ไม่ขัดต่อกฎหมายความสงบเรียบร้อย หรือ
ศีลธรรมอันดีของประชาชน โดยพรรคการเมืองต้องรับผิดชอบต่อข้อความ ถ้อยคา หรือรูปแบบที่ปรากฏ
ในเทปหรือวัสดุเผยแพร่สาหรับการออกอากาศที่พรรคการเมืองจัดทาขึ้น
๒.๔.๓.๕ ถ้าปรากฏว่า เทปหรือ วัสดุเผยแพร่สาหรับการออกอากาศที่พรรคการเมือง
จัดทาขึ้นมีข้อความถ้อยคา หรือรูปแบบที่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๒.๔.๓.๔ ให้ระงับการออกอากาศ เทป
หรือวัสดุเผยแพร่สาหรับการออกอากาศของพรรคการเมืองนั้นได้ แล้วแจ้งต่อเลขาธิการคณะกรรมการ
การเลือกตั้งเพื่อสั่งแก้ไขเปลี่ยนแปลงโดยทันที
๒.๔.๓.๖ กรณีที่พรรคการเมืองใดจัดทาเทปหรือวัสดุเผยแพร่สาหรับการออกอากาศที่มี
ความยาวเกินกว่าเวลาที่ได้รับการจัดสรรเวลา ให้พรรคการเมืองนั้นออกอากาศได้ในเวลาเท่าที่ได้รับการจัดสรร
และหากเทปหรือวัสดุเผยแพร่สาหรับการออกอากาศนั้น มีความยาวน้อยกว่าเวลาที่ได้รับการจัดสรร ก็ให้
ออกอากาศได้เท่ากับความยาวนั้น ห้ามสถานีนาเทปหรือวัสดุเผยแพร่สาหรับการออกอากาศใดๆ ที่ไม่ผ่าน
ความเห็นชอบจากเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งออกอากาศ
๒.๔.๓.๗ ให้พรรคการเมืองหรือผู้สมัครรับเลือกตั้ง จัดส่งเทปหรือวัสดุเผยแพร่สาหรับ
การออกอากาศต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งภายในเวลาที่กาหนด ถ้าไม่ดาเนินการภายในกาหนดเวลา
ให้ถือว่าพรรคการเมืองหรือผู้สมัครรับเลือกตั้ง นั้นสละสิทธิ์ในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งตามที่ ได้รับ
จัดสรรเวลาไว้
๒.๔.๓.๘ ถ้าสถานีใดมีเหตุจาเป็นที่ไม่สามารถออกอากาศเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ของ
พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งได้ตามกาหนด ให้สถานีดังกล่าวจัดสรรเวลาอื่นที่ทัดเทียมกันให้
พรรคการเมืองนั้นได้ออกอากาศแทนตามควรแก่กรณี
๒.๔.๔ เพื่อประโยชน์ในการให้ความรู้แก่ประชาชน และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ทางการเมือง และกระตุ้นให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น สถานีอาจเชิญพรรคการเมืองทุกพรรค
ไปออกรายการเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ หรืออภิปรายเชิงนโยบาย หรืออาจจัดรายการให้พรรคการเมืองตอบ
ข้อซักถามหรือแสดงความคิดเห็นก็ได้ แต่ต้องไม่เป็นการโจมตีให้ ร้ายเสียดสีบุคคลหรือสถาบันให้ได้รับ

/ความเสียหาย…
 -๙-

ความเสียหาย ทั้งนี้ ให้สถานีพิจารณาตามหลักวิชาชีพ และจรรยาบรรณ โดยเปิดโอกาสให้ทุกพรรค

การเมืองมีโอกาสแสดงความคิดเห็นอย่างเท่าเทียมกัน หากการจัดรายการดังกล่าวเป็นรายการสด สถานีนั้นๆ
จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการกาหนดมาตรการการดาเนินรายการและควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด
๒.๔.๕ ให้สถานีเ ครือข่ายกองทัพบกที่ส ถานีมีที่ตั้งอยู่ในท้องถิ่นนั้น ๆ ให้ก ารสนับสนุนการ
โฆษณาหาเสียงให้แก่ผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งทุกคน ในแต่ละเขตเลือกตั้ง ตามห้วงเวลาที่ สานักงาน
คณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัดร้องขอ โดยให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสนับสนุนการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑
๒.๔.๖ การโฆษณาหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ให้ใช้เทป และวัสดุเผยแพร่
สาหรับการออกอากาศ โดยให้ผ่านความเห็นชอบจากผู้อานวยการสานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ประจาจังหวัดในจังหวัดที่ตนสมัครก่อน จึงนามาออกอากาศได้
๒.๔.๗ ห้ามพรรคการเมือง หรือผู้สมัครรับเลือกตั้งจัดรายการโดยการเช่าเวลา ซื้อเวลาหรือรับ
โฆษณาหาเสีย ง นอกเหนือ จากในข้อ ๒.๔.๓ และข้อ ๒.๔.๕ กรณีที่ผู้ส มัค รรับ เลือ กตั้ง มีอ าชีพ
เกี่ยวกับรายการวิทยุโทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง สื่อมวลชน สื่อโฆษณา เช่น ผู้จัดรายการ นักแสดง นักร้อง
นักดนตรีพิธีกร หรือมี ร ายการเป็นของตนเองอยู่แล้ว เพื่อมิให้เ ป็นการเอื้อประโยชน์ในการหาเสียง
เลือกตั้งแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือพรรคการเมืองใดๆ ให้จัดผู้แทนทาหน้าที่จัดรายการแทน หรือระงับ
การออกอากาศ ในช่วงที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จนถึง
วันเลือกตั้งไว้ก่อน ทั้งนี้ รายละเอียดอื่นๆ ให้สถานีเป็นผู้กาหนด
๒.๔.๘ ให้หน่วยยึดถือและปฏิบัติตามแนวทางข้างต้น เว้นเสียแต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง
ได้กาหนดข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ในการสนับสนุนขึ้นใช้ใหม่

๓. แนวทำงกำรส่งเสริมกำรเลือกตั้ง และให้ควำมรู้กับกำลังพลของกองทัพบก
๓.๑ แนวทางการส่งเสริมการเลือกตั้ง
๓.๑.๑ ให้หน่วยขึ้นตรงของกองทัพบกอานวยความสะดวกเท่าที่ไม่ขัดต่อกฎหมายระเบียบ
ข้อบังคับ เพื่อให้กาลังพลในสังกัดไปทาหน้าที่ใช้สิทธิเลือกตั้ง และให้กาชับกาลังพลให้เห็นถึงความสาคัญ
ของการเลือกตั้งด้วย
๓.๑.๒ ให้กาลังพลไปทาหน้าที่ใช้สิทธิเลือกตั้งทุกครั้ง ให้เป็นตัวอย่างของประชาชนทั่วไป รวมทั้ง
ให้คาแนะนา ชักชวนบุคคลผู้มีสิทธิในครอบครัว ญาติ และมิตรสหาย ไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยพร้อมเพรียงกัน
๓.๑.๓ ให้ทุกหน่วยพิจารณาให้การส่งเสริม และอานวยความสะดวกให้กาลังพล และครอบครัว
ได้รับฟังการหาเสียงโดยทั่วกัน ด้วยการประกาศแจ้งเตือนให้ทราบถึงวัน เวลา และสถานที่ที่จะมีการหาเสียง
และจัดเจ้าหน้าที่ควบคุมรักษาความสงบเรียบร้อยตามความเหมาะสม
๓.๑.๔ กรณีที่กาลังพลดังกล่าวมีภูมิลาเนาอยู่นอกเขตการเลือกตั้งที่กาลังพลผู้นั้นไปปฏิบัติ งาน
ให้กาลังพลผู้นั้นไปทาหน้าที่ใช้สิทธิลงคะแนน ณ หน่วยเลือกตั้งกลางได้ โดยต้องลงทะเบียนใช้สิทธิ
เลือกตั้งล่วงหน้า สาหรับกรณีที่กาลังพลมีภูมิลาเนาอยู่ในเขตการเลือกตั้งของหน่วยการเลือกตั้งที่ตนเอง
ไปให้การสนับสนุน สามารถไปใช้สิทธิลงคะแนน ณ หน่วยเลือกตั้งนั้น โดยให้กาลังพลดังกล่าวนาคาสั่ง
แต่งตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้งไปแสดง ณ หน่วยเลือกตั้ง เพื่อขอใช้สิทธิเลือกตั้ง

/๓.๑.๕ การไปทาหน้าที่…
 - ๑๐ –

๓.๑.๕ การไปทาหน้าที่ใช้สิทธิเลือกตั้งของทหารประจาการที่ได้รับคาสั่งจากทางราชการ ให้ไป

ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ
นอกที่ตั้งปกติที่ตนมีภูมิลาเนานั้น หากผู้บังคับหน่วยตั้งแต่ชั้นผู้บังคับกองพัน หรือเทียบเท่าขึ้นไป เห็นว่า
กาลังพลไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเลือกตั้งได้ ให้ผู้บังคับหน่วยนั้นแจ้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เพื่อให้กาลังพลดังกล่าวได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าได้
๓.๑.๖ กาลังพลทหารกองประจาการที่เข้าประจาการใหม่ และได้ย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ใน
หน่วยที่ป ระจาการ แต่ยังไม่ครบกาหนด ๙๐ วัน ให้หน่วยดาเนินการให้กาลังพลไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
ล่วงหน้า ทั้งนี้ หากกาลังพลดังกล่าวไม่ได้แจ้งขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าให้หน่วยสนับสนุนให้กาลังพล
ไปทาหน้าที่ใช้สิทธิเลือกตั้งตามภูมิลาเนาของตนเอง
๓.๒ การให้ความรูก้ บั กาลังพลของกองทัพบกและครอบครัว
ให้หน่วยจัดให้มีการอบรม เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจในการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งการอบรมตามแผนงานที่ได้รับงบประมาณประจาปีและตามความริเริ่ม
ของหน่วย เพื่อให้กาลังพลและครอบครัวมีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องของการเมืองการปกครอง และมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามวิถี ของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นประมุข

---------------------------------