You are on page 1of 2

(สําเนา)

บันทึกข้อความ
ส่วนราชการ ธน. (กนท. โทร.๒๘๒๐๑๖๘)
ที่ ธน. รับที่ ๒๕๕๔/๒๗ วันที่ ๗ ส.ค.๒๗ .
เรื่อง การผ่อนผันไม่ต้องเข้ารับราชการทหารในการเรียกพลฯ
เรียน ปล.กห.
๑. บก.ทหารสูงสุด เสนอตามรายงาน ทบ. ว่า
๑.๑ ตามที่ กห. ได้ตอบคําชี้แจงแก่สถานศึกษาในเรื่องเกี่ยวกับการขอผ่อนผัน
การเรียกพลเพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร เพื่อทดลองความพรั่งพร้อม หรือระดมพล ตามหนังสือที่
กห ๐๒๐๑/๑๒๖๐๓ ลง ๒๑ มิ.ย.๒๑ สรุปได้ว่าเมื่อสถานศึกษาได้ขอผ่อนผันการเรียกพลฯ ให้กับนักศึกษาไว้
แล้ว ไม่ต้องขอผ่อนผันใหม่ในปีถัดไป โดยที่นักศึกษายังมีสภาพเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย
๑.๒ ทบ. เห็นว่า การขอผ่อนผันการเรียกพลฯ ให้กับนักศึกษาเป็นหน้าที่ของสถานศึกษา
นั้นๆ ที่จะต้องส่งบัญชีรายชื่อขอผ่อนผันต่อกระทรวงกลาโหมทุกครั้งที่มีการเรียกพลฯ มิใช่ส่งบัญชีรายชื่อเพียง
ครั้งเดียวจะมีผลตลอดไป แม้ว่าผู้นั้นจะยังมีสภาพเป็นนักศึกษาของสถานศึกษานั้นอยู่ก็ตาม
๒. สม. พิจารณาแล้วเห็นว่า
๒.๑ เมื่อสถานศึกษาได้ส่งบัญชีรายชื่อขอผ่อนผันการเรียกเข้ารับราชการทหารใน
การเรียกพลฯ แล้ว ก็ย่อมจะมีสิทธิได้รับการผ่อนผันตลอดไป จนกว่าจะสิ้นสภาพของการเป็นนักศึกษา
๒.๒ สําหรับความในกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๙ (พ.ศ.๒๕๑๖) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ข้อ ๖ วรรคท้าย ที่ว่า “ทั้งนี้ ให้ปฏิบัติก่อนถึงวันกําหนดเข้ารับ
ราชการทหารในการเรียกพลไม่น้อยกว่าสามสิบวัน” นั้น หมายถึงทหารกองเกินหรือทหารกองหนุน ซึ่งได้รับ
การผ่อนผันจะได้รับสิทธิการผ่อนผันเมื่อ กระทรวง ทบวง กรม องค์การ เทศบาล ส่วนราชการหรือสํานักงาน
นั้นๆ ส่งบัญชีรายชื่อสําหรับบุคคลที่ยังมิได้ขอผ่อนผันต่อกระทรวงกลาโหม ก่อนถึงวันกําหนดเข้ารับราชการ
ทหารในการเรียกพลฯ ไม่น้อยกว่าสามสิบวัน และการที่กระทรวงกําหนดไว้เช่นนี้ ก็เพื่อเป็นการเว้นระยะเวลาให้
เจ้าหน้าที่ดําเนินการให้ทันกับกําหนดเวลาของการเรียกพลฯ มิได้หมายถึงกําหนดให้ส่งบัญชีรายชื่อทหารกองเกิน
หรือทหารกองหนุนที่ได้รับการผ่อนผันอยู่เดิม
๓. ธน. พิจารณาแล้ว ขอเรียนชี้แจง ดังนี้.
๓.๑ พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๓๖ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของ
คณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๒๖ ลง ๑๕ ต.ค.๑๕ ข้อ ๙ บัญญัติว่า
“ทหารกองเกิน หรือทหารกองหนุน มีหน้าที่เข้ารับราชการทหารในการเรียกพลเพื่อ
ตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม และในการระดมพล
กระทรวงกลาโหม มีอํานาจกําหนดให้ทําการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร
หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม ตามที่เห็นสมควร ส่วนการระดมพลให้กระทําโดยพระราชกฤษฎีกา
การเรียกเข้ารับราชการทหารตามวรรคหนึ่ง ให้กระทรวงกลาโหมเป็นผู้จัดเตรียมและ
ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดําเนินการเรียกและส่งทหารเข้ารับราชการ ตามความประสงค์ของกระทรวงกลาโหม
การผ่อนผันไม่ต้องเรียกหรือไม่ต้องเข้ารับราชการทหารตามมาตรานี้ ให้เป็นไปตาม
หลักเกณฑ์ และวิธีการที่กําหนดในกระทรวง”
๓.๒ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๙ (พ.ศ.๒๕๑๖) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการ
ทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ได้กําหนดหลักเกณฑ์การผ่อนผันการเรียกเข้ารับราชการทหารในการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ
เพื่อฝึกวิชาทหาร หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม ไว้ดังนี้
“ข้อ ๒ ทหารกองเกินหรือทหารกองหนุน ซึ่งได้รับการผ่อนผันไม่ต้องเรียกเข้ารับ
ราชการทหารในการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม คือ
ฯลฯ
(๒๔) บุคคลซึ่งอยู่ในระหว่างการศึกษา ตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๒๙ (๓)
ฯลฯ
ข้อ ๖ ทหารกองเกินหรือทหารกองหนุน ซึ่งได้รับการผ่อนผันไม่ต้องเรียกเข้ารับ
ราชการทหารในการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อมให้ปฏิบัติดังนี้ คือ
ฯลฯ
(๓) บุคคลตาม....... (๒๔) ของข้อ ๒ ให้กระทรวง ทบวง กรม องค์การ เทศบาล ส่วน
ราชการหรือสํานักงานนั้นๆ ส่งบัญชีรายชื่อต่อกระทรวงกลาโหม
ทั้งนี้ ให้ปฏิบัติก่อนถึงวันกําหนดเข้ารับราชการทหารในการเรียกพลไม่น้อยกว่าสามสิบ
วัน”
๓.๓ พ.ร.บ. รับราชการทหารฯ มาตรา ๓๖ จึงเป็นแม่บทบัญญัติให้การผ่อนผัน
การเรียกพลฯ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในกฎกระทรวง คือ กฎกระทรวงฉบับที่ ๓๙
(พ.ศ.๒๕๑๖) ข้อ ๒ (๒๔) ข้อ ๖ (๓) และ ข้อ ๖ วรรคท้าย กล่าวคือ ให้บุคคลที่อยู่ในระหว่างการศึกษาตาม
กฎกระทรวงที่ออกตามความในมาตรา ๒๙ (๓) ได้รับการผ่อนผันไม่ต้องเรียกเข้ารับราชการทหารใน
การเรียกพล โดยให้กระทรวง ทบวง กรม องค์การ เทศบาล ส่วนราชการ หรือสํานักงานนั้นส่งบัญชีรายชื่อต่อ
กระทรวงกลาโหม ก่อนถึงวันกําหนดเข้ารับราชการทหารในการเรียกพลไม่น้อยกว่าสามสิบวัน ฉะนั้น หากจะมี
การเรียกพลครั้งใดก็เป็นหน้าที่ของกระทรวง ทบวง กรม หรือสถานศึกษาที่มีบุคคลที่อยู่ในระหว่างการศึกษา
และมีสิทธิได้รับการผ่อนผันไม่ต้องเรียกเข้ารับราชการทหาร ในการเรียกพลในคราวนั้นจัดทําบัญชีรายชื่อเสนอ
ต่อกระทรวงกลาโหมเพื่อขอผ่อนผันโดยจะต้องยื่นต่อ กห. ก่อนถึงกําหนดการเรียกพลไม่น้อยกว่าสามสิบวัน
อนึ่งกฎกระทรวงดังกล่าว ได้ประกาศใช้บังคับมาแต่ปี ๑๖ ซึ่งในระยะนั้นจํานวนนักศึกษายังมี
ไม่มากนัก ทั้งการเรียกพลก็ไม่ได้มีบ่อยครั้ง ปัจจุบันนี้จํานวนนักศึกษาแต่ละมหาวิทยาลัยได้ทวีจํานวนเพิ่มมาก
ขึ้นเป็นลําดับ ประกอบทั้ง ทบ. มีความจําเป็นที่ต้องเรียกพลบ่อยครั้งขึ้น ด้วยการที่จะให้สถานศึกษาแจ้งรายชื่อ
ผู้ได้รับการผ่อนผันทุกครั้ง ย่อมเป็นภาระแก่สถานศึกษาอย่างมาก หาก กห. จะกําหนดทางปฏิบัติให้สถานศึกษา
เพียงแต่แจ้งรายชื่อผู้ได้รับการผ่อนผันไปแล้ว โดยไม่ต้องแจ้งรายชื่อซ้ําไปอีกในครั้งต่อไป เพียงแต่แจ้งชื่อผู้มีสิทธิ
ได้รับการยกเว้นใหม่ และแจ้งรายชื่อผู้ที่สิ้นสภาพการเป็นนักศึกษามาให้ กห. ทราบ ก็น่าจะเป็นการเพียง จึงเห็น
ควรให้ สม. ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการนี้ได้พิจารณาทําความตกลงกับ ทบ. กําหนดแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม
ก่อนและหากจําเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงดังกล่าวด้วยแล้ว ก็สมควรที่จะต้องดําเนินการต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อกรุณาทราบ

(ลงชื่อ) พล.ต. ก. มัธยมจันทร์


รอง จก.ธน. ทําการแทน
จก.ธน.

You might also like