You are on page 1of 111

รวมตัวอย่างข้อสอบ ยศ.ทบ.

สายงานสัสดี
เพื่อการเตรียมตัว โดยเพื่อน รุ่น๔/๔๓

☺ การนับวันเริ่มเข้ารับราชการทหารกองประจาการ
ก. ให้นับวันขึ้นทะเบียนกองประจาการ
ข. ให้นับวันที่เข้ารับราชการทหารกองประจาการ
ค. ถูกทั้งสองข้อ
ง. ไม่ถูกทั้งสองข้อ

☺ การปลดและจาหน่ายทหารอากาศ ให้บังคับหน่วยทหารทหารส่งรายชื่อผู้ที่จะครบกาหนด ปลดเป็นทหารกองหนุน…….


ก. ต่อผู้บังคับการจังหวัดทหารบกที่หน่วยทหารนั้นอยู่ในพื้นที่
ข. ต่อกรมกาลังพลทหารอากาศหรือหน่วยที่ผู้บัญชาการทหารอากาศมอบหมายให้เป็นหน้าที่
ค. ต่อแผนกสัสดีจังหวัดที่หน่วยทหารนั้นอยู่ในพื้นที่
ง. ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดที่หน่วยทหารนั้นอยู่ในพื้นที่

☺ การขอเรียก ถ้าจานวนคนที่ขอเรียกไว้นั้นจาเป็นจะต้องเพิ่มขึ้น หรือลดลงให้ผู้ขอเรียกชี้แจงไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทราบล่วงหน้า


ก. ไม่เกิน ๖๐ วัน
ข. ไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน
ค. ภายใน ๒ สัปดาห์
ง. ภายใน ๗ วัน

☺ คนซึ่งต้องขึ้นทะเบียนกองประจาการนั้น คือ
ก. คนซึ่งต้องส่งเข้ากองประจาการในวันตรวจเลือก
ข. คนซึ่งนายอาเภอนัดส่งกองประจาการภายหลังวันตรวจเลือก
ค. ถูกทั้งสองข้อ
ง. ไม่ถูกทั้งสองข้อ

☺ ผู้มีหน้าที่ออกหนังสือสาคัญ ซึ่งออกให้ตามมาตรา ๙ นั้น


ก. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมด้วยสัสดีจังหวัดออกตามแบบ สด.๘
ข. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมด้วยสัสดีจังหวัดออกตามแบบ สด.๙
ค. ให้นายอาเภอพร้อมด้วยสัสดีอาเภอออกตามแบบ สด.๘
ง. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดออกตามแบบ สด.๙

☺ การเตรียมพลตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการเตรียมพล พ.ศ.๒๕๑๕ ได้แบ่งประเภอออกเป็น


ก. ๓ ประเภท
ข. ๔ ประเภท
ค. ๒ ประเภท
ง. ๕ ประเภท

☺ ผู้มีหน้าที่เข้ารับการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ ได้แก่
ก. นายทหารสัญญาบัตรกองหนุน
ข. นายทหารสัญญาบัตรนอกราชการ , นายทหารสัญญาบัตรกองหนุน , นายทหารประทวนและพลทหารประเภทที่ ๑ , พลทหารกองหนุน
ประเภทที่ ๒ ซึ่งเคยเข้ารับราชการกองประจาการ , ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ซึ่งเคยเข้ารับการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหารแล้ว ทหาร
กองเกิน ซึ่งเคยเข้ารับการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหารแล้ว
ค. ทหารสัญญาบัตรกองหนุน นายทหารประทวน และพลทหารประเภทที่ ๑ และทหารกองเกิน
ง. นายทหารสัญญาบัตรกองหนุน ทหารกองเกินที่ยังไม่เคยเข้ารับการฝึก

☺ เอกสารที่ใช้ในการออกหมายเรียกมี
ก. ตพ.๘ , ตพ.๑๓ , ตพ.๑๔ , ตพ.๑๕ , ตพ.๑๖ และ ตพ.๑๘
ข. ตพ.๔ , ตพ.๕ , ตพ.๑๕ และ ตพ.๑๖
ค. ตพ.๒ , ตพ.๓ , ตพ.๘ , ตพ.๔ และ ตพ.๑๖
ง. ไม่ถูกทั้งสามข้อ

☺ คาสั่งเรียกพลสาหรับนายทหารชั้นจอมพลและนายพล ผู้ที่ลงนามในคาสั่งนี้คือ
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ข. ปลัดกระทรวงกลาโหม
ค. เจ้ากรมเสมียนตรา ง. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
☺ ในการระดมพลนั้น ผู้เสนอของบประมาณพิเศษเพื่อจัดสรรให้แก่กองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพบก กองทัพเรือ หรือกองทัพอากาศ คือ
ก. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ค. ปลัดกระทรวงกลาโหม ง. ถูกเฉพาะข้อ ข. และ ค.

☺ ชุดเจ้าหน้าที่ดาเนินกรรมวิธีรับพลในเต่ละสายประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ที่สาคัญ ดังนี้
ก. หัวหน้าชุด , เจ้าหน้าที่แนะนา , เจ้าหน้าที่รับรายงาน , เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการเดินทาง
ข. หัวหน้าที่ , เจ้าหน้าที่ตรวจร่างกาย , เจ้าหน้าที่ตรวจขนาดเครื่องแต่งกาย , เจ้าหน้าที่รับคน และเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการเดินทาง
ค. หัวหน้าชุด , เจ้าหน้าที่แนะนา , เจ้าหน้าที่รับรายงาน , เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการเดินทาง , เจ้าหน้าที่ตรวจร่างกาย , เจ้าหน้าที่ตรวจขนาด
เครื่องแต่งกาย และ เจ้าหน้าที่รับคน
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก.

☺ ทหารซึ่งปลดจากกองเกิน หรือทหารซึง่ ปลดจากกองประจาการ โดยต้องจาขังหรือจาคุกมีกาหนดที่จะต้องลงทัณฑ์ หรือต้องโทษรวมไม่น้อยกว่า


๑ ปี หรือกระทาความเสื่อมเสียแก่ทางราชการแล้วถูกปลดจะมีสภาพเป็น
ก. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ข. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒
ค. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ชั้นที่ ๒ ง. ถูกเฉพาะข้อ ก.

☺ ภูมิลาเนาทหาร ได้แก่
ก. ท้องที่อาเภอ ซึ่งไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินไว้ หรือท้องที่อาเภอใหม่ ซึ่งได้รับอนุญาตให้ย้ายมามีถิ่นที่อยู่เป็นหลักฐาน
ข. ท้องที่อาเภอตามสามะโนครัว
ค. ท้องที่อาเภอที่ได้ไปประกอบอาชีพอยู่เป็นหลักฐาน
ง. ไม่มีข้อใดถูกเลย

☺ เมื่อมีบุคคลมาแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินใหม่
ก. ให้นายอาเภอรับลงบัญชีทหารกองเกินตาม (แบบ สด.๑) และออกใบสาคัญ (แบบ สด.๙)
ข. ให้สัสดีอาเภอลงบัญชีทหารกองเกินตาม (แบบ สด.๑) และออกใบสาคัญ (แบบ สด.๙)
ค. ถูกทั้ง ๒ ข้อ
ง. ผิดทั้ง ๒ ข้อ

☺ เจ้าหน้าที่ฝ่ายที่ต้องการคนในการเรียกทหารกองเกินเข้ารับราชการกองประจาการ ได้แก่
ก. หน่วยทหารราบ ทหารม้า ทหารปีนใหญ่
ข. กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ
ค. ผู้บัญชาการมณฑล หรือผู้บงั คับการจังหวัดทหารบก แล้วแต่กรณี
ง. ผิดทั้ง ๓ ข้อ

☺ การขอเรียกถ้าจานวนคนที่ขอเรียกไว้นั้นจาเป็นต้องเพิ่มขึ้นหรือลดลงให้ผู้ขอเรียกชี้แจงไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทราบล่วงหน้า
ก. ไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน
ข. ไม่เกิน ๓๐ วัน
ค. ภายใน ๖๐ วัน
ง. ภายใน ๙๐ วัน

☺ การปลดทหารหรือตารวจกองประจาการเป็นกองหนุนชั้นที่ ๑
ก. ให้ถือวันเข้ารับราชการก่อนขึ้นทะเบียนกองประจาการ
ข. ให้ถือวันที่ขึ้นทะเบียนกองประจาการแล้วแต่กรณี
ค. ถูกทั้ง ๒ ข้อ
ง. ผิดทั้ง ๒ ข้อ

☺ การปลดผู้ซึ่งสาเร็จการฝึกวิชาทหาร
ก. สัสดีจังหวัดต้องถือหลักฐานตามบัญชีรายชื่อขอนาตัวขึ้นทะเบียนกองประจาการและนาปลด
ข. สัสดีจังหวัดต้องถือทะเบียนกองประจาการ และสาเนาหนังสือสาคัญประจาตัวแสดงวิทยฐานะ
ค. สัสดีจังหวัดต้องใช้หลักฐานทั้งข้อ ก. และ ข.
ง. สัดสีจังหวัดต้องใช้หลักฐานเฉพาะข้อ ก.

☺ การปลด ถ้าเป็นนายทหารสัญญาบัตรถูกถอดหรือออกจากยศ ให้ปลดเป็นพ้นราชการ ประเภทที่ ๒ การออกหนังสือสาคัญ


ก. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดออกหนังสือสาคัญหรือใบสาคัญให้แก่ทหารตามประเภทที่ถูกปลดไว้เป็นหลักฐาน
ข. ให้สัสดีจังหวัดเป็นผู้ออกให้
ค. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และสัสดีจังหวัด ออกหนังสือสาคัญหรือใบสาคัญให้แก่ทหารตามประเภทที่ถูกปลดไว้เป็นหลักฐาน
ง. ไม่มีข้อใดถูก
☺ ทหารกองเกินหมายความว่า
ก. ผู้ที่มีอายุครบ ๑๘ ปีบริบูรณ์
ข. ผู้ที่มีอายุครบ ๒๑ ปีบริบูรณ์
ค. ผู้ที่มีอายุครบ ๑๘ ปีบริบูรณ์ และยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์
ง. ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ ๑๕ ปีบริบูรณ์

☺ ทหารประจาการหมายความว่า
ก. ผู้ซึ่งขึ้นทะเบียนกองประจาการ และได้เข้ารับราชการในหน่วยทหารแล้ว
ข. ทหารซึ่งรับราชการตามที่กระทรวงกลาโหมกาหนดซึ่งไม่ใช่ทหารกองประจาการ
ค. ผู้ซึ่งเข้ารับการเรียกพลตามกฎหมาย
ง. ผู้ซึ่งขึ้นทะเบียนกองประจาการและยังไม่ได้รับราชการในหน่วยทหาร

☺ การคานวณวันรับราชการกองประจาการนั้น
ก. ให้นับวันป่วย วันลา ตามข้อบังคับทหารว่าด้วยการลา
ข. นับวันถูกควบคุมหรือต้องโทษเข้าร่วมด้วย
ค. ถูกทั้ง ๒ ข้อ
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ พระภิกษุที่ถูกเข้ากองประจาการ ถ้ารูปใดขอผ่อนผันยังไม่ลาสิกขาในวันตรวจเลือกให้คณะกรรมการตรวจเลือกผ่อนผันให้ไปลาสิกขาได้กี่วัน
ก. ไม่เกิน ๑๐ วัน ข. ภายใน ๓๐ วัน
ค. ภายใน ๗ วัน ง. ภายใน ๑๕ วัน

☺ บัญชีบรรจุกาลังให้จัดทาตามอัตราเต็มและแยกบัญชีบรรจุกาลังของแต่ละหน่วยออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
ก. ๒ ประเภท คือ นายทหารประทวน และพลทหาร
ข. ๔ ประเภท คือ นายทหารสัญญาบัตร , นายทหารประทวน , พลทหาร และสิบตรีกองประจาการ
ค. ๓ ประเภท คือ นายทหารสัญญาบัตร , นายทหารประทวน และพลทหาร
ง. ไม่ถูกทั้ง ๓ ข้อ

☺ บัญชีบรรจุกาลัง (ตพ.๕)
ก. เป็นบัญชีแสดงรายชื่อตามอัตราการจัดหน่วย
ข. เป็นบัญชีแสดงอัตราการจัดกาลังพลของหน่วย
ค. เป็นบัญชีแสดงรายชื่อและตาแหน่งตามอัตราการจัดหน่วย
ง. เป็นบัญชีควบคุมกาลังพลสารอง

☺ บัญชีเรียกพล (ตพ.๘)
ก. เป็นเอกสารที่นายอาเภอออกประกาศให้บรรดาทหารกองหนุนที่ถูกเรียกทราบ
ข. เป็นบัญชีรายชื่อผู้ถูกเรียกพล
ค. เป็นเอกสารที่นายอาเภอมีถึงผู้ถูกเรียกเป็นรายบุคคล
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ วิธีเรียกบุคคลเพื่อการเตรียมพลโดยทั่ว ๆ ไปกระทาได้
ก. ๓ วิธี คือ วิธีเรียกอย่างทหารใหม่ , วิธีประกาศ , วิธีออกหมายเรียก
ข. ๔ วิธี คือ วิธีเรียกอย่างทหารใหม่ , วิธีประกาศ , วิธีออกหมายเรียก และวิธีออกคาสั่ง
ค. ๔ วิธี คือ วิธีเรียกอย่างทหารใหม่ , วิธีประกาศ , วิธีออกหมายเรียก , วิธีส่งเอกสารลับถึงตัวทหารกองหนุน
ง. ไม่ถูกทั้ง ๓ ข้อ

☺ วิธีออกหมายเรียกคือ
ก. คือการส่งหมายเรียกพล (ตพ.๑๓) ไปถึงผู้ถูกเรียกตามภูมิลาเนาทหารเป็นรายบุคคลพร้อมเอกสาอื่น ๆ
ข. คือการส่งหมายเรียกพล (ตพ.๑๐) ไปถึงผู้ถูกเรียกตามภูมิลาเนาทหารเป็นรายบุคคลพร้อมเอกสารอื่น ๆ
ค. คือการส่งหมายเรียกพล (ตพ.๑๓) พร้อมทัง้ เอกสารอื่น ๆ ไปประกาศตามภูมิลาเนาทหาร เพื่อให้ผู้ถูกเรียกทราบและปฏิบัติตาม
ง. ไม่ถูกทั้ง ๓ ข้อ

☺ ทหารนอกประจาการหมายถึง
ก. นายทหารสัญญาบัตร , นายทหารประทวน และพลทหาร ซึ่งถูกปลดออกจากประจาการหรือกองประจาการ
ข. นายทหารสัญญาบัตร , นายทหารประทวน และพลทหาร ซึ่งสาเร็จการฝึกวิชาทหารตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริม
การฝึกวิชาทหาร และได้ขึ้นทะเบียนกองประจาการแล้วถูกปลด
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข. รวมกัน
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก.
☺ บุคคลใดใช้อุบายหลอกลวงให้เจ้าหน้าที่ลงเชื่อโดยเจตนาหลีกเลี่ยงให้พ้นจากการเข้ารับราชการตาม พ.ร.บ.นี้ ต้องมีความผิด
ก. มีความผิดต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน ๓ ปี
ข. มีความผิดต้องระวางโทษจาคุกไม่น้อยกว่า ๓ ปี
ค. มีความผิดต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่ ๓ ปีขึ้นไป
ง. มีความผิดต้องระวางโทษจาคุก ๒ ปี

☺ “ ชั้นปี ” หมายความว่า
ก. ปีพุทธศักราชที่ชายผู้นั้นมีอายุครบ ๑๘ ปีบริบูรณ์
ข. ปีพุทธศักราชที่ทหารกองประจาการหรือทหารกองเกิน ซึง่ สาเร็จการฝึกวิชาทหาร ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริม
การฝึกวิชาทหารและขึ้นทะเบียนกองประจาการ แล้วปลดเป็นกองหนุน
ค. ถูกทั้ง ๒ ข้อ
ง. ผิดทั้ง ๒ ข้อ

☺ บุคคลผู้อ้างสิทธิขอยกเว้นไม่ต้องตรวจเลือกตามกฎหมาย
ก. ต้องร้องขอผ่อนผันต่อนายอาเภอท้องที่
ข. ต้องร้องขอผ่อนผันต่อสัสดีจังหวัด
ค. ต้องร้องขอผ่อนผันต่อผู้ว่าราชการจังหวัด
ง. ต้องร้องขอผ่อนผันต่อประธานกรรมการตรวจเลือก

☺ ทหารกองเกินเมื่อมีอายุครบกาหนดปลดแล้วให้ปลดเป็นกองหนุนประเภทที่ ๒
ก. อายุ ๓๐ ปีบริบูรณ์ เป็นทหารกองหนุนชั้นที่ ๒
ข. อายุ ๔๖ ปีบริบูรณ์ เป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒
ค. ถูกทั้ง ๒ ข้อ
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก.

☺ ข้อใดถูก
ก. ทหารกองเกินซึ่งมีอายุเกินกว่า ๒๑ ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์ ให้คัดจากบัญชีเรียกคนเข้ากองประจาการ ซึ่งได้ทาการ
ตรวจเลือกเสร็จแล้วในเดือนพฤษภาคมทุกปี
ข. ในการปลด เมื่อคณะกรรมการตรวจเลือกออกใบสาคัญสาหรับคนจาพวกที่ ๔ (แบบ สด.๕) ตาม ผนวก ก แล้วมอบให้ตัวรับไปพร้อม
กับให้เจ้าหน้าที่สัสดีอาเภอเรียกใบสาคัญ (แบบ สด.๙) ของผู้นั้นคืนเพื่อทาลายเสีย
ค. ผู้ที่บรรจุเข้ารับราชการ หรือได้รับยศ ก่อนอายุครบ ๑๘ ปีบริบูรณ์ ให้ล้วงวันรับราชการให้ตั้งแต่ วันที่อายุครบ ๑๘ ปีบริบูรณ์
ง. ถ้ามีผู้ที่อยู่ในกาหนดจับสลากหลบหนีไปก่อนจับสลาก ให้บันทึกในบัญชีเรียกคนเข้ากองประจาการ (แบบ สด.๑๖) ว่าหลบหนี
ไปก่อนจับสลาก แล้วให้กรรมการตรวจเลือกในคณะเซ็นชื่อกากับไว้

☺ ข้อใดผิด
ก. การลงบัญชีทหารกองเกิน แบ่งออกเป็น ๓ วิธีคือ การลงบัญชีตามปกติ , การลงบัญชีคนตกค้าง และการลงบัญชีใหม่
ข. เมื่อมีความจาเป็น นายอาเภอจะประกาศเรียกบุคคลที่ลงบัญชีทหารกองเกิน แล้วให้มาลงบัญชี ทหารกองเกินใหม่ภายใน ๖๐ วัน
ค. การลงบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ (แบบ สด.๑๖) ในการบันทึกส่วนคนขนาดสูง ตั้งแต่ ๑ เมตร ๕๘ เซนติเมตรลงมา
ซึ่งต้องปล่อยเพราะเหลือจากส่งเข้ากองประจาการ ลงว่า “ ปล่อยเพราะส่งคนขนาดสูงกว่าพอ ”
ง. การบันทึกทะเบียนกองประจาการ สาหรับผู้ที่ลงบัญชีเมื่อมีอายุเกินกว่า ๒๑ ปีบริบูรณ์ บันทึกว่า ตกค้างบัญชี

☺ นาย ก. เป็นคนมีสัญชาติไทย ปัจจุบันมีอายุ ๔๗ ปี ยังไม่เคยลงบัญชีทหารกองเกิน จึงมาขอลงบัญชีทหารกองเกินต่อนายอาเภอ เพื่อจะได้นา


หลักฐานใบสาคัญที่ไปใช้เกี่ยวกับการซื้อที่ดิน กรณีเช่นนี้ต้องดาเนินการอย่างใด
ก. ลงบัญชีทหารกองเกินให้
ข. สอบสวนได้ข้อเท็จจริงแล้วลงบัญชีทหารกองเกินให้ภายใน ๓๐ วัน
ค. ไม่ต้องลงบัญชีทหารกองเกินให้
ง. ไม่ถูกทั้ง ก.,ข. และ ค.

☺ ชายสัญชาติไทยที่ไปลงบัญชีทหารกองเกินแล้ว และในคราวตรวจเลือกจับสลากได้ใบดาไม่ต้องเป็นทหารกองประจาการ ชายคนนี้จะอยู่ในฐานะ


ทหารกองเกินไปจนถึงอายุเท่าไร
ก. ย่างเข้า ๓๐ ปี ข. ครบ ๓๐ ปีบริบูรณ์
ค. ครบ ๔๐ ปีบริบูรณ์ ง. ครบ ๖๐ ปีบริบูรณ์

☺ ทหารกองเกินที่ไม่มาเข้ารับการตรวจเลือก หรือไม่อยู่จนกว่าการตรวจเลือกแล้วเสร็จ ความผิดฐานหลีกเลี่ยงขัดขืนจะต้องระวางโทษ ดังนี้


ก. จาคุกไม่เกิน ๕ ปี อายุความ ๕ ปี ข. จาคุกไม่เกิน ๓ ปี อายุความ ๑๐ ปี
ค. จาคุกไม่เกิน ๒ ปี อายุความ ๑๐ ปี ง. จาคุกไม่เกิน ๓ ปี อายุความ ๕ ปี

☺ บุคคลซึง่ ได้เป็นบุตรบุญธรรมอันชอบด้วยกฎหมายแล้ว เมื่อถึงกาหนดให้ไปแสดงตนลงบัญชีทหารกองเกินที่ใด


ก. ที่ภูมิลาเนาของบิดาตัวจริง (ถ้าบิดาตัวจริงยังมีชีวิตอยู่)
ข. ที่ภูมิลาเนาของผู้รับบุตรบุญธรรม (ถ้าบิดาตัวจริงเสียชีวิต)
ค. ทีภ่ ูมิลาเนาของผู้รับบุตรบุญธรรม
ง. ถูกทั้งข้อ ข. และ ค.

☺ การเรียกให้บุคคลไปแสดงตน เพื่อลงบัญชีทหารกองเกินใหม่ ตามมาตรา ๑๙ ท่านซึ่งเป็นสัสดีอาเภอ เตรียมคัดรายชื่อจาก


ก. ทะเบียนบ้านซึ่งมีอยู่ที่อาเภอ หรือกิ่งอาเภอนั้น
ข. ขอคัดรายชื่อจากนายทะเบียนท้องถิ่น
ค. บัญชีรายชื่อบุคคลที่ได้ลงบัญชีทหารกองเกิน
ง. บัญชีรายชื่อทหารกองเกินและกองหนุนประเภทที่ ๒ ของจังหวัด

☺ ในการตรวจร่างกายพระภิกษุสามเณร และผู้ทจี่ าเป็นต้องตรวจอวัยวะที่ปกปิด ให้ทาการตรวจในห้องที่จัดไว้โดยเฉพาะ ผู้ที่ร่วมตรวจคือ


ก. กรรมการแพทย์เท่านั้น
ข. สัสดีจังหวัด พร้อมกับกรรมการอื่นอย่างน้อยอีกหนึ่งนาย
ค. กรรมการแพทย์และนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ บทลงโทษหนักที่สุดสาหรับผู้กระทาความผิดตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ คือ


ก. ไม่มาลงบัญชีทหารกองเกิน
ข. รับหมายเรียกแล้วไม่มาเข้ารับการตรวจเลือก
ค. รับหมายนัดแล้วขึ้นทะเบียนกองประจาการหนีไปก่อนเข้าหน่วย
ง. ทาร้ายตนเอง เพื่อให้พ้นจากการรับราชการทหาร

☺ ในการตรวจเลือก กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒ มีหน้าที่รับผิดชอบดาเนินการตรวจเลือก


ก. วัดขนาดและบันทึกผลการวัดขนาดในใบรับรองผล ฯ
ข. เก็บยอดเป็นจาพวก
ค. ควบคุมทาสลากดา แดง
ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา

☺ ผู้ที่ถูกเรียกเข้ารับการตรวจเลือกช้ากว่ากาหนดเวลา คือมาภายหลังการจับสลากแล้ว ให้คณะกรรมการตรวจเลือกดาเนินการ


ก. ส่งตัวเข้ารับการตรวจโรค วัดขนาด
ข. ส่งตัวให้นายอาเภอท้องที่ดาเนินการสอบสวน
ค. ส่งตัวเข้ากองประจาการได้เลยถ้าเป็นบุคคลจาพวก ๑
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ เมื่อครบกาหนดตามที่ทางราชการวางหลักปฏิบัติ ถ้าบุคคลใดไม่มาลงบัญชีทหารกองเกิน หรือไม่ลงบัญชีทหารกองเกินใหม่ หรือไม่มารับ


หมายเรียกที่อาเภอ เป็นผู้มีความผิดต้องระวางโทษดังนี้
ก. ปรับไม่เกิน ๑๐๐ บาท หรือจาคุกไม่เกิน ๑ เดือน หรือทั้งจาทั้งปรับ
ข. ปรับไม่เกิน ๓๐๐ บาท หรือจาคุกไม่เกิน ๓ เดือน หรือทั้งจาทั้งปรับ
ค. ปรับไม่เกิน ๓๐๐ บาท หรือจาคุกไม่เกิน ๑ เดือน หรือทั้งจาทั้งปรับ
ง. ปรับไม่เกิน ๒๐๐ บาท หรือจาคุกไม่เกิน ๓ เดือน หรือทั้งจาทั้งปรับ

☺ นายดาสาเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ ๓ (ในประเทศไทย) จะได้รับสิทธิลดวันรับราชการในกองประจาการ คือ


ก. ขึ้นทะเบียนกองประจาการ แล้วนาปลดเป็นกองหนุน
ข. รับราชการ ๖ เดือน ร้องขอ ๓ เดือน
ค. รับราชการ ๔ เดือน ร้องขอ ๒ เดือน
ง. ปลดเป็นกองหนุนเลย

☺ ถ้าท่านอ่านพบในทะเบียนกองประจาการของผู้ที่มีอายุเกินกว่ากาหนดเรียกบันทึกไว้ว่า “ ตกค้างบัญชี ” แสดงว่าผู้นั้น


ก. ลงบัญชีเมื่ออายุเกินกว่า ๒๑ ปีบริบูรณ์
ข. นายอาเภอส่งหมายเรียกให้ไม่ได้
ค. หลีกเลี่ยงขัดขืน
ง. ได้รับหมายเรียกแล้วไม่มาให้ตรวจเลือก เพราะเหตุสุดวิสัย

☺ ผู้ที่ร้องขอเข้ากองประจาการ มีสิทธิดังนี้
ก. เลือกได้เฉพาะเป็นทหารบก , ทหารเรือ , ทหารอากาศ หรือตารวจ แล้วแต่กรณีเท่านั้น
ข. เลือกเป็นทหารบก , ทหารเรือ , ทหารอากาศ และหน่วยที่ต้องการได้
ค. เลือกเหล่าและหน่วยทหารที่ต้องการรับราชการได้
ง. เลือกได้เฉพาะจะเป็นทหารบกและทหารอากาศ

☺ ในกรณีที่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตารวจจับทหารหนีทหารได้แล้ว และได้แจ้งไปยังผู้บังคับบัญชาของทหารแล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร


มีหน้าที่จะต้องไปรับตัวอย่างช้าภายใน
ก. ๗ วัน ข. ๒๔ ชั่วโมง
ค. ๒ วัน ง. ๑๒ ชั่วโมง

☺ ทหารกองเกินเมื่อมีอายุครบกาหนดปลดแล้วให้ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ตามลาดับ คือ


ก. อายุ ๓๐ ปีบริบูรณ์ เป็นทหารกองหนุนชั้นที่ ๑
ข. อายุ ๔๐ ปีบริบูรณ์ เป็นทหารกองหนุนชั้นที่ ๒
ค. อายุ ๔๖ ปีบริบูรณ์ เป็นทหารกองหนุนชั้นที่ ๓
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ในการตรวจเลือก ถ้าทหารกองเกินที่ตรวจเลือกเห็นว่าคณะกรรมการตรวจเลือกตัดสินไม่ถูกต้องหรือไม่ ยุติธรรม ให้ยื่นคาร้องต่อ


คณะกรรมการชั้นสูง
ก. ทันที ข. เมื่อการตรวจเลือกเสร็จสิ้นแล้ว
ค. ก่อนขึ้นทะเบียนกองประจาการ ง. เมื่อเข้ากองประจาการแล้ว

☺ คาสั่งถึงกานัน เนื่องในการเรียกพลหรือระดมพลโดยวิธีออกหมายเรียก
ก. ตพ.๑๓ ข. ตพ.๑๔
ค. ตพ.๑๕ ง. ตพ.๑๖

☺ นักเรียนฝึกหัดครูประกาศนียบัตรวิชาการศึกษานอกเวลาของกระทรวงศึกษาธิการ จะได้รับการผ่อนผันจนถึงอายุ
ก. ครบ ๒๗ ปีบริบูรณ์ ข. ครบ ๒๖ ปีบริบูรณ์
ค. ครบ ๒๔ ปีบริบูรณ์ ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ วิธีนับอายุ
ก. ถ้าเกินพุทธศักราชใดให้ถือว่ามีอายุครบหนึ่งปีเมื่อสิ้นพุทธศักราชที่เกิด
ข. ถ้าเกิดวันใด เดือนใด ปีใด ให้ถือว่ามีอายุครบหนึ่งปี เมื่อถึงวันนั้นเดือนนั้นของปีถัดไป
ค. ถ้าเกิดเดือนใด ปีใด ให้ถือว่ามีอายุครบหนึ่งปีเมื่อถึงสิ้นเดือนเกิดของพุทธศักราชถัดไป
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ทหารกองเกินหมายความว่า
ก. ผู้มีอายุตั้งแต่สิบห้าปีบริบูรณ์และยังไม่ถึงยี่สิบเอ็ดปีบริบูรณ์
ข. ผู้มีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์และยังไม่ถึงยี่สิบเก้าปีบริบูรณ์
ค. ผู้มีอายุตั้งแต่ยี่สิบสามปีบริบูรณ์และยังไม่ถึงสามสิบปีบริบูรณ์
ง. ผู้มีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์และยังไม่ถึงสามสิบปีบริบรู ณ์

☺ ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ในความหมายหนึ่งหมายถึง
ก. ทหารที่ปลดจากกองเกินตามมาตรา ๓๙ ทวิ
ข. ทหารที่ปลดจากกองประจาการตามมาตรา ๔๐ ใน พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗
ค. ทหารที่ปลดจากกองประจาการโดยรับราชการในกองประจาการจนครบกาหนด
ง. ทหารซึ่งรับราชการตามที่กระทรวงกลาโหมกาหนด

☺ บุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้ารับราชการทหารกองประจาการตามมาตรา ๑๓ คือ
ก. นักบวชในพุทธศาสนาทุกนิกาย
ข. คนพิการทุพพลภาพ
ค. คนสายตาสั้นจนต้องใส่แว่นตา
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ นายอาเภอจะจัดการประกาศให้ผู้ที่มีอายุถึงเขตที่จะต้อง ลงบัญชีทหารกองเกินไปลงบัญชีทหารกองเกิน ตามที่กาหนดไว้ในมาตรา ๑๖


ตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ใน
ก. เดือนตุลาคมของทุกปี ข. เดือนมกราคมของทุกปี
ค. เดือนกันยายนของทุกปี ง. เดือนพฤษภาคมของทุกปี

☺ การแต่งตั้งประธานคณะกรรมการตรวจเลือกขึ้นในท้องที่แต่ละจังหวัดเพื่อทาการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจาการ นั้น
ประธานกรรมการ
ก. จะต้องเป็นนายทหารสัญญาบัตรซึ่งมียศไม่ต่ากว่าพันโท
ข. จะต้องเป็นนายทหารสัญญาบัตรซึ่งมียศพันเอกเท่านั้น
ค. จะต้องเป็นนายทหารสัญญาบัตรซึ่งมียศตั้งแต่ร้อยเอกถึงพันโท
ง. ไม่มีข้อใดถูก
☺ การแต่งตั้งคณะกรรมการชั้นสูงในการตรวจเลือกคนเข้ากองประจาการได้กาหนดไว้ว่า
ก. กรรมการชั้นสูงต้องเป็นบุคคลเดียวกับกรรมการตรวจเลือก
ข. กรรมการชั้นสูงต้องมีความสามารถในการตรวจเลือก
ค. กรรมการชั้นสูงจะต้องเป็นบุคคลที่มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ บุคคลซึง่ ได้รับการผ่อนผันตามมาตรา ๒๙ ใน พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ได้แก่


ก. บุคคลที่อยู่ในระหว่างการศึกษาทุกระดับชั้น
ข. บุคคลทีจ่ าเป็นต้องหาเลี้ยงบิดา หรือมารดา
ค. บุคคลทีจ่ าเป็นต้องเลี้ยงบุตร
ง. บุคคลที่อยู่ในระหว่างการศึกษาตามที่กาหนดในกฎกระทรวง

☺ ทหารกองเกินที่ถูกเข้ากองประจาการผู้ใด จะต้องเข้ารับราชการทหารกองประจาการเมื่อใด
ก. ให้นายอาเภอท้องที่ที่รับเข้าตรวจเลือก เป็นผู้กาหนด
ข. ให้นายอาเภอออกหมายนัดเพื่อให้ทหารกองเกินผู้นั้นมา ณ ที่อาเภอท้องที่ตามที่ได้กาหนดไว้นั้น
ค. ให้สัสดีอาเภอท้องที่ที่รับเข้าตรวจเลือกเป็นผู้กาหนด
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ทหารกองเกินเมื่อมีอายุครบกาหนดปลดแล้ว ให้ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ตามลาดับคือ


ก. อายุยี่สิบเก้าปีบริบูรณ์เป็นทหารกองหนุนชั้นที่ ๒
ข. อายุสามสิบปีบริบูรณ์เป็นทหารกองหนุนชั้นที่ ๒
ค. อายุสี่สิบปีบริบูรณ์เป็นทหารกองหนุนชั้นที่ ๒
ง. อายุสี่สิบห้าปีเป็นทหารกองหนุนชั้นที่ ๓

☺ ทหารกองเกิน หรือทหารกองหนุนผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๒ , มาตรา ๑๒ ทวิ หรือมาตรา ๑๕ ใน พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗


จะต้องระวางโทษดังนี้
ก. จาคุกไม่เกิน ๑ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๒๐๐ บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
ข. จาคุกไม่เกิน ๑ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๓๐๐ บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
ค. จาคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒๐๐ บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
ง. จาคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๓๐๐ บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

☺ นายแดง แดนทอง เป็นทหารกองหนุนได้หลีกเลี่ยงไม่เข้ารับราชการทหารในการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร เมื่อปี ๒๕๓๐ และถูกดาเนินคดี


หากผลการดาเนินคดีมีความผิดจะต้องถูกระวางโทษ
ก. จาคุกตั้งแต่สองเดือนถึงสี่ปี
ข. จาคุกตั้งแต่สามเดือนถึงสี่ปี
ค. จาคุกตั้งแต่สองเดือนถึงสามปี
ง. จาคุกตั้งแต่สามเดือนถึงสองปี

☺ บุคคลใดทาร้ายร่างกายตนเองหรือให้ผู้อื่นทาเพื่อจะให้พ้นจากการรับราชการทหารตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ มีความผิดต้อง


ระวางโทษจาคุก
ก. ตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไปจนถึงห้าปี
ข. ตั้งแต่สองปีขึ้นไปจนถึงแปดปี
ค. ตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไปจนถึงแปดปี
ง. ตั้งแต่หนึ่งเดือนขึ้นไปจนถึงหนึ่งปี

☺ บุคคลใดใช้อุบายหลอกลวงให้เจ้าหน้าที่หลงเชื่อโดยเจตนาหลีกเลี่ยงให้พ้นจากการเข้ารับราชการทหารตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ มี


ความผิดต้องจาคุก
ก. ไม่เกิน ๒ ปี ข. ไม่เกิน ๔ ปี
ค. ไม่เกิน ๕ ปี ง. ไม่เกิน ๓ ปี

☺ ผู้ซึ่งมีคุณวุฒิพิเศษซึ่งสมควรให้อยู่ในกองประจาการน้อยกว่าสองปี ตามความในมาตรา ๙ วรรค ๑ ใน พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ คือ


ก. พนักงานเทศบาลซึ่งรับเงินเดือนประจาตั้งแต่ชั้นตรีหรือเทียบเท่าชั้นตรีขึ้นไป
ข. ผู้สาเร็จชั้นอุดมศึกษาหรือผู้สาเร็จการศึกษาจากต่างประเทศซึ่งกระทรวงศึกษาธิการรับรองวิทยฐานะเทียบได้ไม่ต่ากว่าชั้นอุดมศึกษา
ค. ผู้สาเร็จวิชาชีพจากโรงเรียนอาชีวศึกษาชั้นสูงของกระทรวงศึกษาธิการ
ง. ถูกทั้ง ๓ ข้อ

☺ ประธานกรรมการตรวจเลือกมีหน้าที่ต้องปฏิบัติอยู่ข้อหนึ่งคือ
ก. อานวยการควบคุมการตรวจเลือกในดาเนินไปด้วยความเรียบร้อย
ข. ออกเสียงชี้ขาดในกรณีที่เป็นปัญหาในทางกฎหมายหรือหลักการ
ค. ตรวจสอบลักษณะร่างกายของทหารกองเกิน
ง. รับเรื่องราวร้องขอในเหตุต่าง ๆ ซึ่งนายอาเภอได้สอบสวนแล้ว

☺ กรรมการสัสดีจังหวัดในการตรวจเลือกมีหน้าที่ต้องปฏิบัติอยู่ข้อหนึ่งคือ
ก. อานวยการตรวจเลือกและดาเนินการทุกอย่างเพื่อให้การตรวจเลือกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ข. ตรวจสอบการปล่อยทหารกองเกิน
ค. มองใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจาการ (แบบ สด.๔๓)
ง. เตรียมทาสลากบันทึกผลการจับสลากและรวบรวมสลากที่จับแล้วไว้เป็นหลักฐานตรวจสอบขึ้นทะ เบียน

☺ บุคคลซึง่ เข้ารับราชการทหารกองประจาการนั้นต้องมีขนาดรองตัว
ก. ตั้งแต่ ๗๐ ซม. ในเวลาหายใจออก และสูงตั้งแต่ ๑ ม. ๔๖ ซม. ขึ้นไป
ข. ตั้งแต่ ๗๖ ซม. ขึ้นไปในเวลาหายใจออก และสูงตั้งแต่ ๑ ม. ๔๖ ซม. ขึ้นไป
ค. ตั้งแต่ ๗๖ ซม. ขึ้นไปในเวลาหายใจเข้า และสูงตั้งแต่ ๑ ม. ๔๖ ซม. ขึ้นไป
ง. ตั้งแต่ ๗๐ ซม. ขึ้นไปในเวลาหายใจออก และสูงตั้งแต่ ๑ ม. ๔๖ ซม. ขึ้นไป

☺ ครูซึ่งได้รับการยกเว้นตามกฎกระทรวงต้องเป็นครู …..
ก. ประจาทาการสอนนักเรียน นิสิต หรือนักศึกษา ไม่น้อยกว่า ๑๕ คนเป็นปกติ
ข. สอนประจาเฉพาะวิชาที่ทาการสอนนักเรียน นิสิต หรือนักศึกษาบางเวลา
ค. มีเวลาสอนสัปดาห์ละไม่น้อยกว่า ๑๖ ชม. สาหรับครูซึ่งประจาทาการสอนในสถานศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา
ง. มีเวลาสอนไม่น้อยกว่า ๑๒ ชม. สาหรับครูซึ่งทาการสอนในสถานศึกษาระดับสูงกว่ามัธยมศึกษา

☺ คาว่า “ รุ่นปี ” หมายความว่า


ก. ปีพุทธศักราชที่คนผู้นั้นอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์
ข. ปีพุทธศักราชที่ทหารกองประจาการหรือทหารกองเกินซึง่ สาเร็จการฝึกวิชาทหาร และได้ขึ้นทะเบียนกองประจาการแล้วถูกปลดเป็น
กองหนุนประเภทที่ ๑
ค. ปีพุทธศักราชที่ชายผู้นั้นมีอายุครบ ๒๑ ปีบริบูรณ์
ง. ปีพุทธศักราชที่ทหารกองประจาการปลดเป็นกองหนุน

☺ ทหารกองหนุนหมายความว่า
ก. ผู้ซึ่งขึ้นทะเบียนกองประจาการและได้รับราชการในกองประจาการ
ข. ทหารซึ่งรับราชการในกองประจาการครบกาหนดตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร
ค. ทหารกองเกินซึ่งสาเร็จการฝึกวิชาทหารตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร และได้ขึ้นทะเบียนกองประจาการแล้วปลด
ง. ถูกทั้งข้อ ข. และ ค.

☺ การเตรียมพลแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ได้กี่ประเภท
ก. ๓ ประเภท ข. ๕ ประเภท
ค. ๔ ประเภท ง. ๒ ประเภท

☺ การเรียกพลเพื่อตรวจสอบ คือ
ก. การเรียกทหารกองหนุนและกองเกินเข้ามารายงานตัว
ข. การเรียกบุคคลในข้อ ๑๓ ของข้อบังคับ กห.ว่าด้วยการเตรียมพล พ.ศ.๒๕๑๕ เข้ารับการตรวจสอบสภาพ ตรวจสอบบัญชี
และซักซ้อมระเบียบการ
ค. เรียกทหารกองหนุนเข้ามาตรวจสอบสภาพ ตรวจสอบบัญชี และซักซ้อมระเบียบการ
ง. เรียกทหารกองหนุนและกองเกินเข้ามาทดสอบแผนและตรวจสอบบัญชี

☺ ผู้มีอานาจในการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ ได้แก่
ก. ผู้บัญชาการทหารบก
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ค. ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการกาลังสารอง
ง. ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกที่ขึ้นตรงต่อกองทัพภาคหรือผู้บัญชาการมณฑลทหารบก

☺ การเรียกพลเพื่อตรวจสอบมีกาหนด
ก. ๓๐ วัน ข. ๑ วัน
ค. ๗ วัน ง. ๒๑ วัน

☺ ผู้มีอานาจในการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร คือ
ก. ผู้บัญชาการทหารบก
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ค. ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการกาลังสารอง
ง. ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกที่ขึ้นตรงต่อกองทัพภาคหรือผู้บัญชาการมณฑลทหารบก
☺ ผู้ที่เข้ารับการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร ได้แก่
ก. นายทหารสัญญาบัตรกองหนุน ข. นายทหารสัญญาบัตรนอกราชการ
ค. นายทหารประทวนกองหนุน ง. ถูกทุกข้อ

☺ การเรียก ทหารกองหนุนและกองเกินเข้ารับการฝึกวิชาทหาร จะกระทาโดย


ก. ประกาศเรียก ข. ออกหมายเรียก
ค. คาสั่งเรียก ง. ถูกทั้ง ๓ ข้อ

☺ การเรียกพลเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม คือ
ก. เรียกทหารกองหนุนที่บรรจุในบัญชีบรรจุกาลังเข้าประจาหน่วยแล้วทาการฝึกเพิ่มพูนความรู้ความสามารถ ทั้งนี้เพื่อทดสอบแผน
หรือเตรียมรับสถานการณ์
ข. เรียกทหารกองหนุนในบัญชี ตพ.๒ และ ตพ.๓ เข้ามารับการฝึกเพื่อเพิ่มพูนความรู้ความสามารถ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์
ค. เรียกทหารกองหนุนและกองเกินตามแผนการฝึกประจาปีเข้ามารับการฝึก
ง. เรียกทหารกองหนุนทุกคนที่สามารถเรียกได้เข้ามารับการฝึกเพื่อเตรียมรับสถานการณ์

☺ ผู้มีอานาจในการเรียกพลเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม คือ
ก. ผู้บัญชาการทหารบก
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ค. ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการกาลังสารอง
ง. ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกที่ขึ้นตรงต่อกองทัพภาคหรือผู้บัญชาการมณฑลทหารบก

☺ สาหรับกองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพเรือ หรือกองทัพอากาศ หากจะทาการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ ให้ปฏิบัติดังนี้


ก. แจ้งความต้องการไปยังมณฑลทหารบกหรือจังหวัดทหารบก เพื่อดาเนินการให้
ข. แจ้งความต้องการไป นสร. เพื่อดาเนินการให้
ค. แจ้งความต้องการไปยังกองทัพบก เพื่อดาเนินการให้
ง. แจ้งความต้องการไปบังแผนกสัสดีจงั หวัด ที่ประสงค์จะเรียกพลหรือเรียกทหารกองหนุนในจังหวัดนั้น เพื่อดาเนินการให้

☺ การระดมพลจะกระทาเมื่อ ….
ก. มีพระบรมราชโองการให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
ข. มีการปราบปรามจลาจล
ค. มีภัยคุกคามจากภายนอกประเทศ
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ประกาศเรียกพล (ตพ.๙)
ก. เป็นเอกสารที่นายอาเภอ มีถึงผู้ถูกเรียกเป็นรายบุคคล
ข. เป็นเอกสารที่นายอาเภอ เป็นผู้ประกาศให้บรรดาทหารกองหนุนและ/หรือทหารกองเกินที่ถูกเรียกทราบการเรียก
ค. เป็นเอกสารที่นายอาเภอส่งไปถึงกานัน ผู้ใหญ่บ้านในการเรียกพล
ง. เป็นเอกสารที่นายอาเภอส่งไปให้ทหารกองหนุนในพื้นที่ได้ทราบล่วงหน้าก่อนการเรียกพล

☺ วิธีเรียกบุคคลเพื่อการเตรียมพล โดยทั่ว ๆ ไปกระทาได้กี่วิธี


ก. ๒ วิธี ข. ๓ วิธี
ค. ๔ วิธี ง. ๕ วิธี

☺ บัญชี ตพ.๔ คือ


ก. บัญชีนายทหารประทวนกองหนุน
ข. บัญชีนายทหารสัญญาบัตรกองหนุน
ค. บัญชีจานวนทหารกองเกินที่ยังไม่ได้รับการฝึก
ง. บัญชีบรรจุกาลังภายหลังการเรียกพลเพื่อฝึก

☺ หน่วยที่จัดทาบัญชีรายชื่อนายทหารสัญญาบัตรชั้นนายพล และจอมพล กองหนุน นอกราชการ และนอกกอง คือ


ก. กรมกาลังพลทหาร ข. กรมกาลังพลของทุกเหล่าทัพ
ค. กรมเสมียนตรา กระทรวงกลาโหม ง. สานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

☺ การจ่ายเงินตอบแทนเงินเดือน ให้แก่ทหารกองหนุนที่เรียกเข้ารับการฝึกวิชาทหารนั้นจะจ่ายให้ผู้ที่ถูกเรียก ดังนี้


ก. ถูกเรียก ๒ สัปดาห์ ข. ถูกเรียกเกินกว่า ๑๕ วัน
ค. ถูกเรียกเกิน ๒๑ วัน ง. ถูกเรียกเกิน ๓๐ วัน

☺ เมื่อทางราชการมีความจาเป็น นายอาเภอมีอานาจประกาศเรียกบุคคลที่ได้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้ที่อาเภอ ตามมาตรา ๑๖


หรือมาตรา ๑๘ แล้ว ไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินใหม่ได้
ก. ภายในกาหนด ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันประกาศ
ข. ภายในกาหนด ๖๐ วัน นับตั้งแต่วันประกาศ
ค. ภายในกาหนด ๙๐ วัน นับตั้งแต่วันประกาศ
ง. ผิดทุกข้อที่กล่าวมา

☺ ตามมาตรา ๑๓ แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร ได้กาหนดไว้ว่า “ บุคคลดังต่อไปนี้ยกเว้นไม่ต้องเข้ารับราชการทหารกองประจาการ “ คือ


ก. พระภิกษุและนักบวชในพระพุทธศาสนาแห่งนิกายจีนหรือญวน
ข. คนพิการทุพพลภาพ ซึ่งไม่สามารถเป็นทหารได้
ค. บุคคลซึง่ มีคุณวุฒิที่จะเป็นทหารได้เฉพาะบางท้องที่ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
ง. ถูกทุกข้อ

☺ การร้องขอเข้าเป็นทหารกองประจาการในวันตรวจเลือก ให้ผู้ซึ่งถูกเรียกไปร้องขอต่อคณะกรรมการตรวจเลือกก่อนการกาหนดตัวบุคคล
เข้ากองประจาการ เมื่อคณะกรรมการตรวจเลือกพิจารณารับผู้ใด
ก. ผู้นั้นมีสิทธิเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจาการเป็น ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ หรือตารวจได้ แล้วแต่กรณี
ข. ผู้นั้นมีสิทธิเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจาการ เป็นได้เฉพาะ ทหารบก ทหารเรือ หรือทหารอากาศ เท่านั้น
ค. ผู้นั้นไม่มีสิทธิเลือก แต่เป็นอานาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจเลือกจะเป็นผู้กาหนดให้
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การเรียกเข้าฝึกวิชาทหาร หรือเข้ารับการทดลองความพรั่งพร้อมนั้น ถ้าไม่ใช่กรณีพิเศษ


ก. ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารทาความตกลงกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องที่ก่อนถึงวันกาหนดอย่างน้อย ๖๐ วัน
ข. ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารทาความตกลงกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องที่ ก่อนถึงวันกาหนดอย่างน้อย ๑ - ๒๐ วัน
ค. ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารทาความตกลงกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องที่ก่อนถึงวันกาหนด ๓๐ วัน
ง. ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารทาความตกลงกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องที่ก่อนถึงวันกาหนดอย่างน้อย ๓ เดือน

☺ การปลดทหาร ตารวจ ออกจากกองประจาการ และการปลดบุคคลซึ่งสาเร็จการฝึกวิชาทหารที่ได้ขึ้นทะเบียนกองประจาการแล้วปลด


เป็นกองหนุน ให้ดาเนินการดังนี้
ก. ทหารบก ซึ่งมีภูมิลาเนาอยู่ในท้องที่จังหวัดใด ให้ผู้บังคับหน่วยทหารส่งรายชื่อผู้ที่จะครบกาหนดปลดเป็นทหารกองหนุนต่อ
ผู้บังคับการจังหวัดทหารบก เพื่อยื่นหางว่าวนาปลดต่อสัสดีจังหวัดที่เป็นภูมิลาเนาทหาร
ข. ทหารเรือ ให้ผู้บังคับหน่วยทหารส่งรายชื่อต่อสัสดีจงั หวัดในเขตพื้นที่นั้นโดยตรง เพื่อดาเนินการปลดให้
ค. ทหารอากาศ ให้ผู้บังคับหน่วยทหารส่งรายชื่อต่อสัสดีจงั หวัดในเขตพื้นที่โดยตรง เพื่อดาเนินการปลดให้
ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา

☺ พระภิกษุที่ถูกเข้ากองประจาการ ถ้ารูปใดขอผ่อนผันไม่ลาสิกขาในวันตรวจเลือก ให้ดาเนินการดังนี้


ก. ให้คณะกรรมการตรวจเลือกผ่อนผันให้ไปลาสิกขาบทได้ไม่เกิน ๓๐ วัน นับจากวันตรวจเลือกวันสุดท้ายของจังหวัดนั้น
ข. ให้คณะกรรมการตรวจเลือกผ่อนผันให้ไปลาสิกขาบทได้ไม่เกิน ๑๐ วัน นับจากวันตรวจเลือกวันสุดท้ายของจังหวัดนั้น
ค. ให้คณะกรรมการตรวจเลือกผ่อนผันให้ไปลาสิกขาบทได้ไม่เกิน ๗ วัน นับจากวันตรวจเลือกวันสุดท้ายของจังหวัดนั้น
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การเรียกพลเพื่อตรวจสอบ มีความมุ่งหมายสาคัญเพื่อ
ก. ทดสอบผลการเรียก โดยให้ผู้ถูกเรียกเข้ามารายงานตนเอง ณ ตาบล วันและเวลาที่กาหนดให้ เพื่อตรวจสอบการเดินทาง
เพื่อให้เกิดความเคยชินต่อการเรียก และเพื่อทราบสถิติที่เรียกได้
ข. เพือ่ ทาการฝึกวิชาทหารให้กับผู้ที่ถูกเรียกในระยะเวลาสั้น ๆ
ค. เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับประวัติและความเป็นอยู่ของทหาร ว่าเดือดร้อนหรือไม่ประการใด จะได้ช่วยเหลือตามสมควร
ง. ให้ทาความรู้จักกับหน่วยและผู้บังคับบัญชาที่เป็นทหารประจาการ เมื่อเวลาเกิดสงครามจะได้เรียกมาเข้าหน่วยได้รวดเร็ว

☺ บัญชีเรียกพล (ตพ.๘) เป็นบัญชีที่จัดทาต่อจากการทาบัญชีบรรจุกาลัง คือ


ก. เมื่อจังหวัดทหารบกได้ทาการบรรจุกาลังทหารลงในบัญชีบรรจุกาลังของหน่วยทหารต่าง ๆ แล้ว ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด
คัดเฉพาะรายชื่อผู้ถูกเรียกลงในบัญชีเรียกพล
ข. เมื่อจังหวัดทหารบกได้ทาการบรรจุกาลังทหารลงในบัญชีบรรจุกาลังของหน่วยทหารแล้ว ให้นายอาเภอคัดเฉพาะรายชื่อ
ผู้ถูกเรียกลงในบัญชีเรียกพล
ค. เมื่อจังหวัดทหารบกได้ทาการบรรจุกาลังทหารลงในบัญชีบรรจุกาลังของหน่วยทหารแล้ว ให้จังหวัดทหารบกคัดเฉพาะรายชื่อ
ผู้ถูกเรียกพลลงในบัญชีเรียกพล
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ รายงานผลการปฏิบัติการเรียกพลหรือระดมพล (ตพ.๒๐) ให้จังหวัดทหารบกที่เรียกพลหรือระดมพลรายงานตามสายการบังคับบัญชา


จนถึงกองทัพบก
ก. ภายใน ๗ วัน นับตั้งแต่วันเสร็จสิ้นการรับพลครั้งนั้นแล้ว
ข. ภายใน ๒๐ วัน นับตั้งแต่วันเสร็จสิ้นการรับพลครั้งนั้นแล้ว
ค. ภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันเสร็จสิ้นการรับพลครั้งนั้นแล้ว
ง. ภายใน ๑๕ วัน นับตั้งแต่วันเสร็จสิ้นการรับพลครั้งนั้นแล้ว
☺ ในกรณีที่ทหารบกกองหนุนย้ายภูมิลาเนาทหารต่างเขตพื้นที่จังหวัดทหารบก ให้แผนกสัสดีจังหวัดที่เป็นภูมิลาเนาทหารแห่งใหม่ ดาเนินการดังนี้
ก. ส่งสมุดประจาตัวทหารกองหนุน และหนังสือสาคัญ (แบบ สด.๘) ไปพร้อมกับบัญชีขอบรรจุสังกัด (ตพ.๑๙) เพื่อขอให้
จังหวัดทหารบกนั้น ๆ บรรจุสังกัดใหม่ให้
ข. ส่งสมุดประจาตัวทหารกองหนุนไปพร้อมกับบัญชีขอบรรจุสังกัด (ตพ.๑๙) เพื่อขอให้สัสดีจังหวัดเพื่อบรรจุสังกัดใหม่ให้
ค. ส่งสมุดประจาตัวทหารกองหนุนและหนังสือสาคัญ (แบบ สด.๘) ไปยังสัสดีจังหวัดเพื่อบรรจุสังกัดใหม่ให้
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร มีความมุ่งหมายเพื่อให้ผู้ถูกเรียกเข้ารับการฝึกหรือฝึกทบทวนวิชาทหาร เพื่อให้มีความรู้ความสามารถ


พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้มีหน้าที่เข้ารับการเรียกพล เพื่อฝึกวิชาทหาร ได้แก่
ก. นายทหารสัญญาบัตรกองหนุน , นายทหารสัญญาบัตรนอกราชการ
ข. นายทหารประทวนกองหนุน
ค. พลทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ , ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ และทหารกองเกิน
ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา

☺ นายอาเภอท้องที่ที่มีการตรวจเลือก มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
ก. จัดสถานที่ทาการตรวจเลือก
ข. จัดเจ้าหน้าที่และเอกสารเกี่ยวกับการตรวจเลือก เพื่อให้คณะกรรมการตรวจเลือกตรวจสอบได้ในวันตรวจเลือก
ค. จัดคนซึ่งมาตรวจเลือกให้รวมกันอยู่เป็นตาบลเพื่อฟังการเรียกชื่อ
ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา

☺ ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ หมายถึง
ก. ทหารที่ปลดจากกองเกินตามมาตรา ๓๙ หรือปลดจากกองประจาการตามมาตรา ๔๐
ข. ทหารซึ่งถูกปลดโดยได้รับราชการในชั้นต่าง ๆ จนครบกาหนด
ค. ทหารที่ปลดจากกองประจาการโดยรับราชการในกองประจาการจนครบกาหนดหรือทหารกองเกิน ซึ่งสาเร็จการฝึกวิชาทหาร
ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร และได้ขึ้นทะเบียนกองประจาการแล้วปลดเป็นกองหนุน
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ บุคคลใดหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทาการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจาการตามหมายเรียก หรือมา
แต่ไม่ยอมเข้ารับการตรวจเลือกหรือขัดขืนด้วยประการใด ๆ
ก. ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน ๕ ปี
ข. ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน ๓ ปี
ค. ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน ๓ เดือน
ง. ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน ๑๐ ปี

☺ ข้อใดถูก
ก. วิธีนับอายุ ถ้าเกิดพุทธศักราชใด ให้ถือว่ามีอายุครบหนึ่งปีบริบูรณ์เมื่อสิ้นพุทธศักราชที่เกิดนั้น ส่วนการนับอายุต่อไปให้นับ
เฉพาะปีที่สิ้นพุทธศักราชแล้ว ถ้าไม่ปรากฏปีเกิดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้กาหนดตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
ข. วิธีวัดขนาดนั้น ให้ยืนตั้งตัวตรง ส้นเท้าชิดกัน ขนาดสูงให้วัดตั้งแต่ข้อเท้าจนสุดศีรษะ ขนาดรอบตัวให้คล้องแถบเมตรรอบตัว
ให้ริมล่างของแถบได้ระดับราวนมโดยรอบ
ค. คนจาพวกที่ ๓ ให้เรียกมาตรวจเลือกในคราวถัดไป เมื่อคณะกรรมการตรวจเลือกได้ตรวจเลือกแล้วยังคงเป็นคนจาพวกที่ ๓
อยู่รวม ๒ ครั้ง ให้งดเรียก
ง. ผู้ที่ครบกาหนดปลดในระหว่างที่ถูกควบคุมหรือต้องโทษอยู่ ให้นาปลดทีเดียวไม่ต้องรอพ้นโทษ ต่อเมื่อพ้นโทษแล้วจึงปล่อยตัวไป

☺ ข้อใดผิด
ก. การเรียกและการตรวจเลือกคนเข้าเป็นตารวจกองประจาการ ตลอดถึงการยกเว้นและการปลดตารวจซึ่งอยู่ในกองประจาการ
ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกันกับการเรียกและการตรวจเลือกคนเข้าเป็นทหารกองประจาการ การยกเว้นและการปลดทหาร
ข. คนซึ่งต้องขึ้นทะเบียนกองประจาการ คือ คนซึ่งต้องส่งเข้ากองประจาการในวันตรวจเลือก , คนซึ่งนายอาเภอนัดส่ง
เข้ากองประจาการภายหลังวันตรวจเลือก และคนซึ่งร้องขอเข้ากองประจาการก่อนวันตรวจเลือก ซึ่งเจ้าหน้าที่รับไว้
ค. ผู้สาเร็จการฝึกวิชาทหารตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหารตามหลักสูตรวิชาทหารชั้นปีที่ ๑ ให้รับราชการกอง
ประจาการหนึ่งปี แต่ถ้าเป็นผู้ที่ได้ร้องขอเข้ารับราชการในกองประจาการ ก็ให้รับราชการทหารกองประจาการเพียงหกเดือน
ง. การออกหนังสือสาคัญหรือใบสาคัญแทนฉบับที่ชารุดหรือสูญหาย เงินค่าธรรมเนียมในการออกหนังสือสาคัญแทนฉบับที่ชารุด
หรือสูญหาย ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องที่เป็นผู้เรียกเก็บ

☺ หนังสือที่เจ้าหน้าที่สัสดีอาเภอออกให้แก่บุคคลใด ถ้าชารุดหรือสูญหาย บุคคลนั้นไม่แจ้งด้วยตนเองต่อนายอาเภอท้องที่เพื่อรับใหม่ ตามความใน


มาตรา ๙ , ๑๖ , ๑๘ , ๑๙ หรือ ๔๐ (พ.ร.บ.รับราชการทหาร ฯ) ภายในกาหนด ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่สามารถจะแจ้งได้ มีความผิดต้องระวางโทษ
ก. ปรับไม่เกิน ๑๐๐ บาท
ข. ปรับไม่เกิน ๑๒ บาท
ค. ปรับไม่เกิน ๕๐๐ บาท
ง. ไม่ปรับถ้ามีเหตุผลเพียงพอ
☺ ดะโต๊ะยุติธรรม ได้รับการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจาการ จะต้องอยู่ในกองประจาการ
ก. จานวน ๒ ปี
ข. จานวน ๑ ปี
ค. จานวน ๖ เดือน
ง. จานวน ๒ เดือน

☺ บุคคลใดที่ได้ลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๖ ตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ แล้ว แต่ยังไม่เป็นทหารกองเกิน ถ้าได้รับอนุมัติ


ให้เปลี่ยนชื่อสกุลแล้วไม่นาหลักฐานที่เปลี่ยนไปแจ้งต่อนายอาเภอท้องที่ที่เป็นภูมิลาเนาทหารทราบภายใน ๓๐ วัน ต้องระวางโทษ
ก. ปรับไม่เกิน ๒๐๐ บาท หรือจาคุกไม่เกิน ๑ เดือน
ข. ปรับไม่เกิน ๑๐๐ บาท หรือจาคุกไม่เกิน ๑ เดือน
ค. ปรับไม่เกิน ๒๐๐ บาท
ง. ปรับไม่เกิน ๑๐๐ บาท

☺ การผ่อนผันการรับราชการทหารชั่วระยะเวลาหนึ่งให้แก่บุคคลซึง่ เป็นนักเรียนชั้นประโยคมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญของสถานศึกษา
ที่อยู่ในความควบคุมของ
ก. กระทรวงศึกษาธิการ ข. มหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัย
ค. องค์การบริหารส่วนจังหวัด ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข.

☺ การยื่นหางว่าวนาปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ หรือปลดเป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ ๑ ให้ผู้ยื่นส่งถึงสัสดีจงั หวัดก่อน


วันครบกาหนดปลด
ก. ภายใน ๓๐ วัน ข. ภายใน ๔๕ วัน
ค. ไม่น้อยกว่า ๖๐ วัน ง. ไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน

☺ การร้องขอเข้าเป็นทหารกองประจาการ ก่อนวันตรวจเลือกให้ผู้ถูกเรียกร้องขอต่อเจ้าหน้าที่กรมกองที่ผู้นั้นประสงค์จะเข้าเป็ นทหาร


กองประจาการก่อนวันตรวจเลือก
ก. ไม่น้อยกว่า ๗ วัน ข. ไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน
ค. ไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน ง. ไม่ถูกทั้งข้อ ก., ข. และ ค.

☺ ทหารกองประจาการ ถ้าพิการทุพพลภาพ ก็ให้ปลดเป็น


ก. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ หรือ ๒ แล้วแต่กรณี
ข. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๑ หรือ ๒ แล้วแต่กรณี
ค. พ้นราชการทหาร
ง. ไม่ไม่ข้อใดถูก

☺ การปลดนักศึกษาวิชาทหารที่สาเร็จการศึกษาชั้นปีที่ ๓ หรือปีที่ ๕ ซึ่งมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ทางราชการกาหนด เพื่อปลดเป็น


ทหารกองหนุน ให้ใช้แบบบัญชีในการนาปลด คือ
ก. แบบ สด.๗ ข. แบบ สด.๔๒
ค. แบบ สด.๔๕ ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ นักเรียนฝึกหัดครูประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูงนอกเวลาของกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับการผ่อนผันไม่ต้องเข้ารับราชการทหาร
กองประจาการจนถึงอายุ
ก. ครบ ๒๖ ปีบริบูรณ์ ข. ครบ ๒๔ ปีบริบูรณ์
ค. ครบ ๒๒ ปีบริบูรณ์ ง. ครบ ๒๕ ปีบริบูรณ์

☺ กรรมการนายทหารสัญญาบัตร ในคณะกรรมการตรวจเลือก มีหน้าที่


ก. เรียกชื่อทหารกองเกิน แล้วรวมไว้ ณ ที่เดียวกัน
ข. วัดขนาด เก็บยอด
ค. ตรวจสอบสลาก ควบคุมการจับสลาก อ่านสลาก
ง. ถูกทุกข้อ

☺ บุคคลต่อไปนี้ เมื่อลงบัญชีทหารกองเกินแล้วไม่เรียกมาตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจาการ ในยามปกติ


ก. กานัน ข. นักบวชในศาสนาอื่น
ค. บุคคลซึง่ ได้สัญชาติไทยโดยการแปลงชาติ ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ส.อ.เก่ง กล้าหาญ สังกัดกองพลที่ ๒๕ อายุ ๒๔ ปี ปฏิบัติราชการสนามได้รับบาดเจ็บจนต้องตัดขาขวาเหนือเข่าออก จะต้องปลดเป็น


ก. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ข. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒
ค. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๑ ง. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๒
☺ ผู้มีหน้าที่เข้ารับราชการทหารในการเรียกพล และในการระดมพล ตามมาตรา ๓๖ แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ คือ
ก. ทหารกองเกิน
ข. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ และที่ ๒
ค. ทหารกองเกิน และทหารกองหนุน
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข.

☺ การร้องขอเข้ากองประจาการในวันตรวจเลือก ให้ผู้ซึ่งถูกเรียกร้องขอต่อคณะกรรมการตรวจเลือก
ก. ก่อนการวัดตัว
ข. ก่อนการตรวจโรค
ค. ก่อนกาหนดตัวบุคคลเข้ากองประจาการ
ง. ก่อนออกหมายนัด

☺ ในการผ่อนผันเข้ารับราชการทหารกองประจาการให้แก่บุคคล ๓ ประเภท (ตามมาตรา ๒๙) ถ้าไม่สามารถจะผ่อนผันพร้อมกันทั้ง ๓ ประเภทได้


ให้พิจารณาผ่อนผันให้แก่บุคคลในประเภทเหล่านี้ก่อน เป็นอันดับแรก คือ
ก. บุคคลทีจ่ าเป็นต้องหาเลี้ยงบิดามารดา
ข. บุคคลทีจ่ าเป็นต้องหาเลี้ยงบุตรซึ่งมารดาตาย
ค. บุคคลอยู่ในระหว่างศึกษาที่กาหนดในกฎกระทรวง
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข.

☺ วิธีการเรียกบุคคลมาเพื่อการเตรียมพล กระทาได้ ๔ วิธี ดังนี้


ก. วิธีเรียกอย่างทหารใหม่ มีวิธีการเช่นเดียวกับการดาเนินการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการประจาการ
ข. วิธีออกหมายเรียก ได้แก่การส่งหมายเรียก (ตพ. ๑๓) ไปถึงผู้ถูกเรียกตามภูมิลาเนาทหาร เป็นรายบุคคลพร้อมเอกสารอื่น ๆ ไปยัง
ภูมิลาเนาทหาร เพื่อให้ผู้ถูกเรียกทราบและปฏิบัติตามหมายนั้น
ค. วิธีประกาศ คือการส่งประกาศเรียกพล (ตพ. ๑๐) พร้อมทั้งเอกสารอื่น ๆ ที่ใช้ในการประกาศไปให้สถานีวิทยุและสื่อมวลชนประกาศ
ให้กองหนุนทราบ
ง. วิธีออกคาสั่ง คือการที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ลงนามในคาสั่งเรียกให้ทหารกองหนุนที่ถูกเรียกมารายงานตัวเพื่อเข้ารับการเรียกพล

☺ ทหารกองเกินที่นายอาเภอออกใบสาคัญให้ไว้ถ้าต้องปลดพ้นราชการทหารตามมาตรา ๔๑ (พิการ ทุพพลภาพ หรือมีโรคไม่สามารถรับราชการ


ทหารได้) สัสดีอาเภอจะต้องดาเนินการอย่างใดบ้าง
ก. เรียกใบสาคัญฉบับเดิมของผู้นั้นคืนมาทาลายเสีย
ข. บันทึกการปลดในต้นขั้วใบสาคัญ
ค. บันทึกปลดในบัญชีทหารกองเกิน
ง. ถูกทุกข้อ

☺ คาว่า “ นายอาเภอ ”
ก. หมายความถึงเฉพาะตัวนายอาเภอเท่านั้น
ข. หมายความรวมถึงตัวนายอาเภอและปลัดอาเภอด้วย
ค. หมายความรวมถึงปลัดอาเภอผู้เป็นหัวหน้าประจากิ่งอาเภอด้วย
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ลักษณะของทหารกองประจาการ ตามมาตรา ๔ (๓) ของพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ มีดังนี้


๑) เป็นผู้ที่ได้ขึ้นทะเบียนกองประจาการแล้ว
๒) เป็นผู้ที่รับราชการอยู่ในกองประจาการและยังไม่ปลด
๓) เป็นผู้ที่ได้รับราชการอยู่ในกองประจาการครบกาหนดแล้ว
ก. ถูกเฉพาะข้อ ๑. ข. ข้อ ๑. และ ๒. ถูก
ค. ข้อ ๑. และ ๓. ถูก ง. ถูกเฉพาะข้อ ๒.

☺ ผู้พิพากษาที่เข้าตรวจเลือก และถูกเข้ากองประจาการ จะต้องรับราชการทหาร


ก. เป็นเวลา ๖ เดือน ข. เป็นเวลา ๑ ปี
ค. เป็นเวลา ๑ ปี ๖ เดือน ง. เป็นเวลา ๒ ปี

☺ ทหารกองเกิน หรือทหารกองหนุน ซึ่งได้รับการผ่อนผันไม่ต้องเรียกเข้ารับราชการทหารในการเรียกพล คือ


ก. พระภิกษุ ข. สามเณร
ค. ตารวจประจาการ ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา

☺ ผู้ที่ได้ลงบัญชีทหารกองเกินแล้ว แต่ยังไม่ได้เป็นทหารกองเกิน ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล แล้ว ไม่นาหลักฐานไปแสดงต่อนายอาเภอ


ท้องที่ภูมิลาเนาทหารภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันได้รับอนุญาต มีความผิด
ก. จาคุกไม่เกิน ๑ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๒๐๐ บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
ข. จาคุกไม่เกิน ๑ เดือน หรือปรับไปเกิน ๑๐๐ บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
ค. ปรับไม่เกิน ๑๐๐ บาท
ง. ปรับไม่เกิน ๒๐๐ บาท

☺ ครูซึ่งประจาทาการสอนหนังสือ หรือวิชาการต่าง ๆ ในความควบคุมของกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้แล้ว ได้รับการยกเว้น


ไม่เรียกมาตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจาการในยามปกติ ได้แก่ ครู ใน
ก. โรงเรียนทหาร
ข. โรงเรียนเตรียมทหาร
ค. โรงเรียนช่างฝีมือทหาร
ง. ถูกทุกข้อ

☺ นักเรียนทหาร เมื่อมีอายุ ๑๘ ปีบริบูรณ์


ก. หน่วยนาตัวไปขึ้นทะเบียนกองประจาการ
ข. ต้องลงบัญชีทหารกองเกินก่อนเมื่ออายุ ๑๗ ปี
ค. ขึ้นทะเบียนกองประจาการเมื่อใดก็ได้ระหว่างเป็นนักเรียนทหาร
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ในการเรียกคนเข้ากองประจาการ ถ้าจานวนคนที่ขอเรียกนั้นจาเป็นจะต้องเพิ่มขึ้น หรือลดลง ให้ผู้ขอเรียกชี้แจงไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ


ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า
ก. ๑๕ วัน ข. ๓๐ วัน
ค. ๖๐ วัน ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ บุคคลใดไม่สามารถไปลงบัญชีทหารกองเกินด้วยตนเองได้ต้องให้บุคคลต่อไปนี้แจ้งแทน
ก. บุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้ว
ข. บิดาหรือมารดาที่เป็นใบ้
ค. ผู้ช่วยสัสดีอาเภอซึ่งเป็นญาติกัน
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การปลดทหาร หรือตารวจกองประจาการ ตามมาตรา ๔๐ ของพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ให้กระทาดังนี้


ก. ให้นาปลดทันที ไม่ต้องรอจนพ้นโทษ
ข. ถ้าอายุไม่ครบ ๓๐ ปีบริบูรณ์ ให้ปลดเป็นกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๑
ค. ถ้าอายุครบ ๓๐ ปีบริบูรณ์แล้ว ให้ปลดเป็นกองหนุนตามชั้นที่เหมาะสมกับอายุเช่นเดียวกับการปลดทหารกองเกิน
ง. ถูกทั้งข้อ ก., ข. และ ค.

☺ ในการเรียกพล หรือเรียกระดมพล ถ้าปรากฏว่าทหารกองเกินหรือทหารกองหนุนผู้ใดพิการทุพพลภาพ หรือมีโรคไม่สามารถรับราชการทหารได้


ซึ่งจะต้องปลดพ้นราชการทหารตามมาตรา ๔๑ ให้เจ้าหน้าที่ ออกใบสาคัญให้เจ้าตัวไปดาเนินการ คือ
ก. ใบสาคัญ (แบบ สด.๔)
ข. ใบสาคัญ (แบบ สด.๕)
ค. ใบสาคัญ (แบบ สด.๖)
ง. ใบสาคัญ (แบบ สด.๙)

☺ ผู้สาเร็จชั้น ม.ศ.๕ หรือเทียบเท่า ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการรับรองวิทยฐานะ หากบุคคลเหล่านี้ร้องขอเข้ากองประจาการ ก็ให้รับราชการทหาร


ในกองประจาการเพียง
ก. ๖ เดือน ข. ๑ ปี
ค. ๑ ปี ๖ เดือน ง. ๒ ปี

☺ ข้อใดผิด
ก. ครูซึ่งทาการสอนอยู่ในหน่วยฝึกอาชีพเคลื่อนที่ของกระทรวงศึกษาธิการ ต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดของท้องที่ที่เป็นภูมิลาเนาทหาร
ของครูผู้นั้น เป็นผู้ออกใบสาคัญยกเว้นครู (แบบ สด.๓๗) ให้
ข. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผุ้ว่าราชการจังหวัด มีอานาจในการผ่อนผันตามมาตรา ๒๗ เกี่ยวกับการตรวจเลือกแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา ซึง่ รับเงินประจาและเป็นข้าราชการ หรือพนักงานตั้งแต่ระดับ ๓ หรือเทียบเท่าขึ้นไป ได้รับการผ่อน
ไม่ต้องเข้ารับการระดมพล
ง. นักศึกษาวิทยาลัยศรีปทุมได้รับการผ่อนตามมาตรา ๒๙(๓) เช่นเดียวกับนักศึกษามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

☺ ข้อใดถูก
ก. คนพิการทุพพลภาพ ซึ่งไม่สามารถเป็นทหารได้ ให้ยกเว้นไม่ต้องลงบัญชีทหารกองเกิน
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือผู้ซงึ่ รัฐมนตรีมอบหมาย มีอานาจที่จะผ่อนผันเฉพาะคราว ให้แก่บุคคลซึ่งกาลังปฏิบัติงาน
ร่วมกับหน่วยทหารในราชการสนาม ไม่ต้องให้คณะกรรมการตรวจเลือกทาการตรวจเลือกตามกาหนดหมาย
ค. การระดมพลและการเข้ารับการทดลองความพรั่งพร้อม ให้กระทาโดยพระราชกฤษฎีกา
ง. คนซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดส่งเข้ากองประจาการภายหลังวันตรวจเลือก ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นาขึ้นทะเบียนกองประจาการ
☺ กระทรวงกลาโหมเป็นผู้มีอานาจกาหนดให้ทาการเรียกพลเพื่อ
ก. ตรวจสอบ ข. ทดลองความพรั่งพร้อม
ค. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข. ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ใบสาคัญซึ่งออกตามมาตรา ๔๑ นั้น ออกตาม


ก. แบบ สด.๘ ข. แบบ สด.๙
ค. แบบ สด.๘ หรือแบบ สด.๙ แล้วแต่กรณี ง. ไม่มีขอ้ ใดถูก

☺ สารวัตรกานัน เป็นที่ได้รับการผ่อนผันไม่ต้องเข้ารับ
ก. การตรวจเลือกเข้ากองประจาการ
ข. การระดมพล
ค. การเรียกพลเพื่อตรวจสอบ หรือเพื่อฝึกวิชาทหาร หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม
ง. ถูกเฉพาะข้อ ข. และ ค.

☺ การยื่นหางว่าวนาปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ หรือปลดเป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ ๑ ให้ผู้ยนื่ ส่งถึงสัสดีจังหวัด


ก่อนวันครบกาหนดปลด
ก. ภายใน ๑๕ วัน ข. ภายใน ๓๐ วัน
ค. ภายใน ๔๕ วัน ง. ภายใน ๖๐ วัน

☺ ผู้ที่ยังไม่เคยถูกเข้ากองประจาการ ถ้าร้องขอเข้ากองประจาการ ก็ให้รับได้เฉพาะผู้จะเข้าเป็น


ก. นักเรียนนายร้อยตารวจ
ข. ผู้ที่จะเข้าฝึกและอบรมในโรงเรียนตารวจ
ค. ผู้ที่เข้ารับการฝึกและอบรมเป็นพลอาสาพิเศษ
ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา

☺ โรคที่ไม่สามารถรับราชการได้ตามมาตรา ๔๑ คือ
ก. ตับทรุด
ข. ระบบการทางานของหัวใจล้มเหลว
ค. ลาไส้เล็กขอดเป็นปม
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การขึ้นทะเบียนกองประจาการและนาปลดของนักศึกษาวิชาทหารตามหลักสูตรที่กระทรวงกลาโหมกาหนด ให้ใช้บัญชี
ก. แบบ สด. ๔๔ ข. แบบ สด. ๔๓
ค. แบบ สด. ๔๒ ง. แบบ สด. ๕๐

☺ ผู้มีอานาจสั่งการเรียกพลเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม คือ
ก. ผบ.ทบ. ข. ผบ.มทบ.
ค. ผบ.จทบ. ง. ผบ.นสร.

☺ บัญชีบรรจุกาลัง (ตพ.๕) คือ


ก. ทาเนียบกาลังรบ
ข. ทาเนียบกาลังพลตามปกติ
ค. บัญชีแสดงรายชื่อและตาแหน่งหน้าที่ตามอัตราการจัดหน่วย
ง. ถูกทุกข้อ

☺ วิธีเรียกบุคคลเพื่อการเตรียมพล โดยทั่ว ๆ ไปกระทาด้วยวิธี


ก. เรียกอย่างทหารใหม่
ข. ออกคาสั่ง
ค. ถูกเฉพาะข้อ ข.
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.

☺ การตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการครั้งหนึ่ง ๆ นั้น จะส่งคนเข้ากองประจาการได้เฉพาะ


ก. คนจาพวกที่ ๑
ข. คนจาพวกที่ ๑ และที่ ๒
ค. คนจาพวกที่ ๑ , ที่ ๒ และที่ ๓
ง. ถูกทุกข้อ

☺ การเรียกพลเพื่อตรวจสอบ มีความมุ่งหมาย
ก. เพื่อตรวจสอบสภาพทหารกองหนุน
ข. เพื่อเป็นการพบปะกับทหารกองหนุน
ค. เพือ่ ทดสอบผลการเรียกกาลังทหารกองหนุน
ง. เพือ่ ความพร้อมรบของกาลังทหารกองหนุน

☺ การร้องขอเข้ากองประจาการในวันตรวจเลือก ให้ผู้ซึ่งถูกเรียกร้องขอต่อคณะกรรมการตรวจเลือก
ก. เมื่อได้รับหมายนัด
ข. ก่อนการวัดขนาด
ค. ก่อนการตรวจเลือก
ง. ก่อนกาหนดตัวบุคคลเข้ากองประจาการ

☺ ในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ ผูท้ ี่ถูกเข้ากองประจาการเห็นว่าคณะกรรมการตรวจเลือกตัดสินไม่ยุติธรรม ให้ยื่นคาร้องต่อ


ก. ประธานคณะกรรมการตรวจเลือก
ข. คณะกรรมการชั้นสูง
ค. กองอานวยการตรวจเลือกของกองทัพอากาศ
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ นักเรียนนายร้อย นายเรือ และนายเรืออากาศ ที่มีอายุตามเกณฑ์ที่กาหนด และได้มาดาเนินการขอขึ้นทะเบียนกองประจาการ


นักเรียนดังกล่าวจัดอยู่ในพวก
ก. ร้องขอเข้ากองประจาการก่อนวันตรวจเลือก
ข. ร้องขอเข้ากองประจาการหลังวันตรวจเลือก
ค. เรียกเข้ากองประจาการ
ง. เป็นนักเรียนทหารต้องขึ้นทะเบียนกองประจาการ

☺ การลงบัญชีทหารกองเกินของสามเณรเปรียญนั้น
ก. สามเณรมาขอลงบัญชีที่อาเภอท้องที่
ข. นายอาเภอท้องที่ไปจัดทาที่วัดหรือสานักสงฆ์
ค. สามเณรมาขอลงบัญชีที่อาเภอท้องที่ หรือนายอาเภอท้องที่ไปจัดการทาที่วัดหรือสานักสงฆ์
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ข้อใดถูก
ก. นักเรียนซึ่งออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ โดยได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย ไม่ต้องไปแสดงตนต่อนายอาเภอท้องที่
ที่เป็นภูมิลาเนาเพื่อลงบัญชีทหารกองเกิน
ข. ผู้ซึ่งเป็นบุตรของบุคคลที่แปลงชาติ ซึ่งบิดามารดาได้ขอแปลงชาติแล้วตามกฎหมายถือว่าผู้นั้นได้สัญชาติไทยโดยการแปลงชาติด้วย
ค. ในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการกองประจาการ ตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ มีคณะกรรมการต่าง ๆ
ดังนี้ คือ คณะกรรมการประสานงานการตรวจเลือก คณะกรรมการชั้นสูง และคณะกรรมการตรวจเลือก
ง. นายชัย ทาชอบ เคยถูกศาลพิพากษาลงโทษจาคุก คดีแรกมีกาหนด ๖ ปี คดีที่สองมีกาหนด ๓ ปี ๖ เดือน เมื่อกาหนดทาการ
ตรวจเลือกเข้ากองประจาการในยามปกติ นายชัยฯ จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้ารับราชการในกองประจาการ

☺ ข้อใดถูก
ก. การคานวณวันรับราชการกองประจาการนั้น ให้นับวันป่วยวันลาตามข้อบังคับทหารว่าด้วยการลาเข้ารวมด้วย ส่วนวันถูกควบคุมตัว
หรือต้องโทษ ไม่นับเข้ารวม
ข. ตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการเตรียมพล การพบปะเยี่ยมเยียนทหารกองหนุนจัดว่าอยู่ในประเภทหนึ่งของการเตรียมพล
มีลักษณะคล้ายกับการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ
ค. สาหรับบุคคลซึง่ ยังมิได้ลงบัญชีทหารกองเกินที่อาเภอ พร้อมกับคนชั้นปีเดียวกัน เพราะเหตุใด ๆ ก็ดี ถ้าอายุยังไม่ถึง ๔๖ ปีบริบูรณ์
สัสดีอาเภอจะเรียกตัวมาลงบัญชีทหารกองเกินเมื่อไรก็ได้
ง. ผู้ที่ต้องการเข้ากองประจาการ ถ้ามีความประสงค์จะยื่นคาร้องต่อคณะกรรมการชั้นสูงในกรณีที่เห็นว่า คณะกรรมการตรวจเลือกตัดสิน
ไม่ถูกต้องหรือไม่ยุติธรรม ก็ให้ยื่นได้โดยผ่านผู้บังคับบัญชาตามลาดับชั้น

☺ ข้อใดผิด
ก. กระทรวงกลาโหม มีอานาจที่จะสัง่ ปลดทหารกองประจาการเป็นทหารประเภทอื่นได้ โดยไม่ต้องให้รับราชการในกองประจาการ
จนครบกาหนดตามพระราชบัญญัติรับราชการทหารฯ
ข. นายชวน วังเวียง ถูกศาลพิพากษาลงโทษปรับ ๑๐๐ บาท และจาคุก ๑ เดือน โทษฐานไม่มารับหมายเรียกที่อาเภอ
ค. การเรียกคนเข้ากองประจาการในแต่ละปีนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนอกจากจะมีหน้าที่ส่งบัญชีทหารกองเกินให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่าย
ต้องการคนแล้ว ยังมีหน้าที่เฉลี่ยคนที่ถูกเรียกในจังหวัดของตนนั้น เป็นอาเภอตามส่วนที่มีคนมากและน้อยด้วย
ง. คณะกรรมการตรวจเลือกมีอานาจผ่อนผันให้พระภิกษุที่ถูกเข้ากองประจาการไปลาสิกขาได้ไม่เกิน ๑๐ วัน นับจากวันตรวจเลือก
วันสุดท้ายของจังหวัดนั้น โดยให้สัสดีอาเภอเป็นผู้ออกหมายนัด

☺ ในกรณีที่ผู้ที่ต้องเข้ากองประจาการได้ยื่นคาร้องต่อคณะกรรมการชั้นสูง ว่าคณะกรรมการตรวจเลือกตัดสิน ไม่ยุติธรรม ให้คณะกรรมการ


ตรวจเลือกดาเนินการดังนี้
ก. พิจารณาตัดสินใหม่ให้ถูกต้อง
ข. รอการส่งผู้นั้นเข้ากองประจาการไว้ก่อนจนกว่าจะได้รับคาตัดสินจากคณะกรรมการชั้นสูง
ค. ส่งผู้นั้นเข้ากองประจาการก่อนจนกว่าจะได้รับคาตัดสินจากคณะกรรมการชั้นสูง
ง. ระงับการส่งเข้ากองประจาการ แล้วเรียกมาตรวจเลือกใหม่ในปีต่อไป

☺ เมื่อมีความจาเป็น นายอาเภอมีอานาจประกาศเรียกบุคคลที่ได้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้ที่อาเภอตาม มาตรา ๑๖ หรือมาตรา ๑๘ แล้ว


ไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินใหม่ได้ภายใน
ก. ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันประกาศ
ข. ๔๕ วัน นับตั้งแต่วันประกาศ
ค. ๖๐ วัน นับตั้งแต่วันประกาศ
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ บุคคลซึง่ ต้องลงบัญชีทหารกองเกิน แต่ไม่ไปแสดงตนต่อนายอาเภอ ตามมาตรา ๑๖ มาตรา ๑๘ หรือ มาตรา ๑๙ คือ


ก. คนพิการทุพพลภาพ
ข. บุคคลซึง่ กาลังปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยทหารในราชการสนาม
ค. นักเรียนซึ่งออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ
ง. ผู้ซึ่งอยู่ในระหว่างควบคุมหรือคุมขังของเจ้าพนักงาน

☺ ทหารกองเกินที่ไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกตามกาหนด และไม่ถือว่าทหารกองเกินนั้นหลีกเลี่ยงขัดขืนไม่เข้ารับการตรวจเลือก ได้แก่


ก. สามเณรเปรียญ
ข. บุคคลซึง่ เกิดเหตุสุดวิสัยมาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทาการตรวจเลือกไม่ได้
ค. สารวัตรกานัน ซึ่งอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่
ง. สมาชิกกองอาสาสมัครรักษาดินแดน

☺ ผู้มีอานาจออกหนังสือสาคัญให้แก่นักบวชอื่น ซึ่งมีหน้าที่ประจาในกิจของศาสนา และได้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้ แต่ไม่เรียกเข้ากองประจาการ


ในยามปกติ ตามมาตรา ๑๔ ได้แก่
ก. หัวหน้าสานักสอนศาสนาสานักใหญ่ , เจ้าอธิการวัด หรือโต๊ะอิหม่า แล้วแต่กรณี
ข. สัสดีจังหวัดที่เป็นภูมิลาเนาทหารของนักบวชนั้น ๆ
ค. อธิบดีกรมศาสนา
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ผู้ซึ่งมีคุณวุฒิพิเศษซึ่งสมควรให้อยู่ในกองประจาการน้อยกว่า ๒ ปี ตามความในมาตรา ๙ คือ


ก. ข้าราชการตุลาการ ข. ข้าราชการอัยการ
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข. ง. ไม่มขี ้อใดถูก

☺ ทหารกองเกินซึ่ง ถูกตรวจเลือกเข้ากองประจาการ และนาตัวไปขึ้นทะเบีย นกองประจาการเมื่อ ๒๕ เมษายน ๒๕๒๒ เมื่อรับราชการ


ครบกาหนดสองปี ต้องปลดจากกองประจาการใน
ก. ๑ เมษายน ๒๕๒๔ ข. ๒๕ เมษายน ๒๕๒๔
ข. ๓๐ เมษายน ๒๕๒๔ ง. ๑ พฤษภาคม ๒๕๒๔

☺ การร้องขอเข้าเป็นทหารกองประจาการ ก่อนวันตรวจเลือก ให้ผู้ซึ่งถูกเรียกร้องขอต่อเจ้าหน้าที่กรมกอง ที่ผู้นั้นประสงค์จะเข้าเป็นทหาร


กองประจาการ เมื่อเจ้าหน้าที่ดังกล่าวพิจารณารับผู้ใด ให้นาผู้นั้นขึ้นทะเบียนกองประจาการในปีที่ถูกเรียกให้เสร็จสิ้ น
ก. พร้อมกับคนที่ตรวจเลือกส่งเข้ากองประจาการในปีนั้น เพื่อให้หมายเลขทะเบียนต่อกัน
ข. หลังจากที่ได้ขึ้นทะเบียนกองประจาการให้กับคนที่ตรวจเลือกส่งเข้ากองประจาการในปีนั้นเรียบร้อยแล้ว
ค. หลังวันตรวจเลือก แต่ต้องก่อนที่จะขึ้นทะเบียนกองประจาการให้กับคนที่ตรวจเลือกส่งเข้ากองประจาการในปีนั้น
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงมหาดไทย ในระเบียบการอันเกี่ยวกับ พระราชบัญญัติรับราชการทหาร


พ.ศ.๒๔๙๗ เรื่องที่ต้องแจ้งต่อกันใน ๓๐ วัน ได้แก่
ก. การจาหน่ายตาย สาหรับทหารหรือตารวจกองประจาการ , ทหารกองเกิน , หรือทหารกองหนุน
ข. การย้ายที่คุมขังของทหารกองเกินหรือทหารกองหนุน ที่ต้องโทษตามคาพิพากษาของศาล
ค. การย้ายภูมิลาเนาทหารของทหารกองเกินหรือทหารกองหนุน
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข.

☺ นักเรียนฝึกหัดครูประกาศนียบัตรวิชาการศึกษานอกเวลาของกระทรวงศึกษาธิการ ผ่อนผันไม่เข้ากองประจาการถ้ามีคนพอ ให้จนถึงอายุ


ก. ๒๒ ปีบริบูรณ์ ข. ๒๔ ปีบริบูรณ์
ค. ๒๖ ปีบริบูรณ์ ง. ๒๗ ปีบริบูรณ์

☺ บัญชีแบบ ตพ. ที่แผนกสัสดีจังหวัดเป็นผู้ทาส่ง จทบ.เขตพื้นที่เป็นประจาเดือน ได้แก่


ก. ตพ.๖ ข. ตพ.๗
ค. ตพ.๘ ง. ตพ.๙
☺ แบบพิมพ์ ตพ.๑๑ (ทบ.๑๐๐ - ๐๘๖) คาสั่งถึงกานันในการประกาศเรียกพล ผู้จัดทาได้แก่
ก. จทบ.เขตปกครองพื้นที่
ข. นายอาเภอท้องที่
ค. ผู้ว่าราชการจังหวัด
ง. สัสดีจังหวัด

☺ ผู้หนีราชการทหารตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๐๐ เป็นต้นมา ถ้าหนีเวลาสงครามหรือในเขตใช้กฎอัยการศึก กาหนดอายุความดังนี้


ก. ๑๐ ปี ข. ๑๕ ปี
ค. ๒๐ ปี ง. ๒๕ ปี

☺ ผู้มีหน้าที่เข้ารับการเรียกพลเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม ได้แก่
ก. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ทั้งที่เคยเข้ารับการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหารมาแล้ว และไม่เคยเข้ารับการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร
ข. ทหารกองเกินทั้งที่เคยเข้ารับการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร และไม่เคยเข้ารับการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร
ค. นายทหารประทวนกองหนุนและพลทหารกองหนุนประเภทที่ ๑
ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา

☺ ถ้าใบสาคัญที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมด้วยสัสดีจังหวัดเป็นผู้ออกให้ตามมาตรา ๔๐ หาย แล้วไม่ไปแจ้งด้วยตนเองต่อนายอาเภอท้องที่


เพื่อขอรับใหม่ภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่สามารถแจ้งได้ แล้วถ้าการ หายนั้นเป็นเพราะความเลินเล่อ จะต้องเสียค่าธรรมเนียมและ
ค่าปรับรวมกันไม่เกิน
ก. ๑๓ บาท ข. ๑๒ บาท
ค. ๑๑ บาท ง. ๑๐ บาท

☺ ผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องแจ้งจานวนคนที่เฉลี่ยแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต้องการคนทราบก่อนวันตรวจเลือกไม่น้อยกว่า
ก. ๓๐ วัน ข. ๖๐ วัน
ค. ๙๐ วัน ง. ๑๒๐ วัน

☺ ผู้สาเร็จการฝึกวิชาการทหารจากต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงกลาโหมรับรองวิทยฐานะเทียบเท่าผู้สาเร็จ การฝึกวิชาทหาร ตามกฎหมายว่าด้วย


การส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร ให้รับราชการทหารในกองประจาการ ดังนี้ คือ ถ้าเทียบเท่าผู้สาเร็จตามหลักสูตรการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ ๓
ก. ให้ขึ้นทะเบียนกองประจาการแล้วปลดเป็นทหารกองหนุน
ข. ให้รับราชการทหารกองประจาการหกเดือน
ค. ให้รับราชการทหารกองประจาการสี่เดือน
ง. ให้รับราชการทหารกองประจาการสองเดือน

☺ การร้องขอเข้าเป็นทหารกองประจาการก่อนวันตรวจเลือก ในกรณีที่ผู้ซึ่งถูกเรียกเป็นผู้สาเร็จการศึกษาชั้นอุดมศึกษาในประเทศไทย ให้ร้องขอ


ต่อกองทัพบก, กองทัพเรือ หรือกองทัพอากาศ แล้วแต่กรณี ก่อนวันตรวจเลือกไม่น้อยกว่า
ก. ๓๐ วัน ข. ๑๕ วัน
ค. ๗ วัน ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ข้อใดถูก
ก. ทหารกองประจาการต้องรับราชการในหน่วยทหาร ตามที่นายอาเภอออกหมายนัดเพื่อเข้ารับราชการทหารกองประจาการ
ข. บุคคลที่ไปแสดงตนขอลงบัญชีทหารกองเกินเมื่ออายุย่าง ๔๖ ปี ในปีต่อไปให้ปลดพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒ ทันที
ค. ผู้ที่ครบกาหนดปลดในระหว่างที่ถูกควบคุม ให้นาปลดทีเดียว ไม่ต้องรอจนพ้นโทษ ส่วนผู้ที่ต้องโทษ เมื่อพ้นโทษแล้ว
ให้รับราชการชดเชยเท่ากับจานวนวันที่ต้องโทษ เมื่อครบกาหนดแล้วจึงนาปลด
ง. กะเทยจัดอยู่ในคนจาพวกที่ ๒ ส่วนคนเผือกจัดอยู่ในคนจาพวกที่ ๔

☺ ข้อใดผิด
ก. ผู้สาเร็จชั้นอุดมศึกษา หรือผู้สาเร็จการศึกษาจากต่างประเทศซึ่งกระทรวงศึกษาธิการรับรองวิทยฐานะได้ไม่ต่ากว่าชั้นอุดมศึกษา
และข้าราชการอัยการ ให้มีสิทธิรับราชการเป็นทหารกองประจาการเพียงหนึ่งปี แต่ถ้าเป็นผู้ที่ร้องขอเข้ารับราชการในกองประจาการ
ก็ให้รับราชการกองประจาการเพียงหกเดือน
ข. การเรียกและรับทหารกองเกินหรือทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ซึ่งยังไม่เคยเข้ารับการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร ให้ดาเนินการ
เช่นเดียวกับการตรวจเลือกทหารกองประจาการโดยอนุโลม
ค. การลงชื่อในเอกสารต่าง ๆ ที่ใช้ในการเรียกพล ให้ผู้มีอานาจออกเอกสารประทับตราลายมือชื่อแทนการลงลายมือชื่อได้ รวมทั้ง
เอกสารทางการเงินด้วย
ง. แผนการรับทหารเข้าประจาหน่วย เป็นกาหนดการของจังหวัดทหารบก เพื่อให้สามารถรับทหารที่เข้ามารายงานตัว ตลอดจน
การดาเนินกรรมวิธีต่าง ๆ จนกระทั่งส่งตัวทหารเข้าประจาหน่วยได้ด้วยความเรียบร้อยและรวดเร็ว

☺ ทหารกองเกินหรือทหารกองหนุนย้ายที่อยู่ เปลี่ยนตาบล ผู้มีหน้าที่แก้บัญชีให้ถูกต้อง คือ


ก. สัสดีอาเภอ
ข. นายอาเภอ
ค. สัสดีอาเภอ หรือนายอาเภอ คนใดคนหนึ่งก็ได้
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การจาหน่วยทหารกองประจาการตาย ให้หน่วยต้นสังกัดแจ้งต่อ
ก. สัสดีจังหวัดทหารบกในเขตพื้นที่
ข. นายอาเภอท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลาเนาทหารของผู้ตาย
ค. สัสดีจังหวัดภูมิลาเนาทหารของผู้ตาย
ง. สัสดีจังหวัดที่หน่วยต้นสังกัดของผู้ตายตั้งอยู่ประจา

☺ ทหารกองเกินซึ่งถูกเรียก แต่ไม่ต้องมาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทาการตรวจเลือกตามมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร


พ.ศ.๒๔๙๗ ได้แก่
ก. บุคคลซึง่ กาลังปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยทหารในราชการสนาม
ข. ไปเข้าตรวจเลือกที่อื่น
ค. ได้รับการผ่อนผันตามมาตรา ๒๙
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข.

☺ นายทหารสัญญาบัตรถูกถอด หรือออกจากยศ ให้ปลดเป็น


ก. พ้นราชการทหาร ไม่มีเบี้ยหวัด บาเหน็จบานาญ
ข. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๑
ค. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๒
ง. ที่กล่าวมาแล้วถูกเฉพาะข้อ ก. และ ค.

☺ แพทย์ประจาตาบลซึ่งมิใช่ทหารกองหนุน จะได้รับการผ่อนผัน
ก. ไม่ต้องเรียกเข้ารับราชการทหารเพื่อฝึกวิชาทหาร
ข. ไม่ต้องเรียกเข้ารับราชการทหารเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม
ค. ไม่ต้องเข้ารับการระดมพล
ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา

☺ ทหารกองเกินที่มีอายุตั้งแต่ ๒๑ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งอยู่ในกาหนดเรียกเข้ารับการตรวจเลือกเพื่อส่งเข้ากองประจาการตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๙


(พ.ศ. ๒๔๙๘) นายอาเภอจะจัดการ
ก. ส่งหมายเรียกไปมอบให้แก่ผู้ถูกเรียก
ข. เรียกตัวมารับหมายเรียกที่อาเภอภูมิลาเนาทหารของผู้นั้น
ค. ส่งหมายเรียกไปมอบให้แก่ผู้ถูกเรียก หรือเรียกตัวมารับหมายเรียกที่อาเภอภูมิลาเนาทหารของผู้นั้นก็ได้
ง. ถูกทุกข้อ

☺ พระภิกษุที่ถูกเข้ากองประจาการ ถ้ารูปใดขอผ่อนผันยังไม่ลาสิกขาในวันตรวจเลือกให้คณะกรรมการตรวจเลือกผ่อนผันให้ไปลาสิกขาได้
ก. ไม่เกิน ๑๐ วัน ข. ไม่เกิน ๑๕ วัน
ค. ไม่เกิน ๓๐ วัน ง. ไม่เกิน ๔๕ วัน

☺ บุคคลที่จะให้เข้ารับราชการกองประจาการนั้นต้องตรวจร่างกายเสียก่อน การตรวจนั้นให้ปฏิบัติ ดังนี้ สาหรับการตรวจทหารกองเกิน


ที่หลีกเลี่ยงขัดขืน ซึ่งจะต้องส่งเข้ากองประจาการในปีนั้น ตามมาตรา ๓๓
ก. ให้กรรมการแพทย์ในคณะกรรมการตรวจเลือกเป็นผู้ตรวจ
ข. ให้แพทย์ในหน่วยที่จะรับคนเป็นผู้ตรวจ
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ บุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้ารับราชการทหารกองประจาการ


ก. มี ๔ ประเภท
ข. มี ๓ ประเภท
ค. มี ๒ ประเภท
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ วิธีการยกเว้นครู ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องส่งรายชื่อครูซึ่งจะได้รับการยกเว้นไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร


ซึ่งครูผู้นั้นมีภูมิลาเนาทหารก่อนเดือนเมษายนของปีที่ถูกเรียก
ก. ไม่น้อยกว่า ๖๐ วัน
ข. น้อยกว่า ๖๐ วันได้ แต่ต้องก่อนวันตรวจเลือก
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.
ง. ผิดหมดทุกข้อ

☺ คณะกรรมการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจาการ แต่ละคณะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ ที่เป็นกรรมการ


ก. อย่างน้อยที่สุด ๕ คน
ข. อย่างน้อยที่สุด ๖ คน
ค. อย่างน้อยที่สุด ๗ คน
ง. อย่างน้อยที่สุด ๘ คน

☺ บุคคลที่หลีกเลี่ยงขัดขืนไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกตามหมายเรียกของนายอาเภอกับบุคคลที่ทาร้ายร่างกายของตนเองเพื่อให้พ้นจากการ
รับราชการทหาร (ตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗) นั้น
ก. จะได้รับโทษเช่นกัน
ข. บุคคลที่หลีกเลี่ยงขัดขืนจะได้รับโทษหนักกว่าบุคคลที่ทาร้ายร่างกายตนเอง
ค. บุคคลที่ทาร้ายร่างกายตนเองจะได้รับโทษหนักกว่าบุคคลทีห่ ลีกเลี่ยงขัดขืน
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การผ่อนผันสาหรับตารวจประจาการ ซึ่งมีฐานะเป็นทหารกองหนุน จะได้รับการผ่อนผันไม่ต้องเรียกเข้ารับราชการทหารในการเรียกพล


เพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร เพื่อทดลองความพรั่งพร้อมนั้น ให้ส่วนราชการที่ตารวจผู้นั้นสังกัดอยู่ส่งบัญชีรายชื่อต่อ
ก. กระทรวงกลาโหม
ข. กระทรวงมหาดไทย
ค. นายอาเภอท้องที่ที่เป็นภูมิลาเนาทหารของตารวจผู้นั้น
ง. นายอาเภอท้องที่ที่ส่วนราชการต้นสังกัดของตารวจผู้นั้นประจาทาการอยู่

☺ การผ่อนผันตามมาตรา ๒๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ นั้น นักเรียนฝึกหัดครู ประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง


นอกเวลาของกระทรวงศึกษาธิการจะได้รับการผ่อนผันเฉพาะผู้ที่ได้ ศึกษาติดต่อกันทุกภาคเรียน โดยแต่ละภาคเรียนต้องศึกษาไม่น้อยกว่า
ก. แปดหน่วยกิต ข. สิบหน่วยกิต
ค. สิบสองหน่วยกิต ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ทหารกองประจาการซึ่งขึ้นทะเบียนกองประจาการ วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๔๓ ต้องปลดเป็นกองหนุนประเภทที่ ๑ ใน............. เมื่อรับราชการ


ครบตามกาหนดสองปี
ก. วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๒๕
ข. วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๒๕
ค. วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๒๕
ง. วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๒๕

☺ การกาหนดว่าท้องที่ใด หรือบุคคลใด หรือเหตุการณ์ใด จะใช้ประกาศเรียกพลหรือหมายเรียกพลนั้น ผู้กาหนด คือ


ก. ผบ.ทบ. ข. มทภ.
ค. ผบ.มทบ. ง. ผบ.จทบ.

☺ ตามข้อบังคับ กห. ว่าด้วยการเตรียมพล พ.ศ.๒๕๑๕ เอกสารแบบพิมพ์ (ตพ.) ที่ต้องใช้ในการออกหมายเรียก ทั้งหมด


ก. จานวน ๕ แบบพิมพ์ ข. จานวน ๖ แบบพิมพ์
ค. จานวน ๗ แบบพิมพ์ ง. จานวน ๘ แบบพิมพ์

☺ เอกสารเรียกพลทั้งสิ้น เมื่อได้จัดทาขึ้นแล้ว จะต้องจัดเป็นชุด ชุดละตาบลแล้วแยกเก็บเป็น


ก. หน่วยระดับกองพัน
ข. ตาบล
ค. อาเภอ
ง. จังหวัด

☺ เงินเบี้ยหวัด บานาญ ของผู้ถูกระดมพล ซึ่งเป็นทหารประจาการและมีเบี้ยหวัดหรือบานาญให้ถือปฏิบัติ ดังนี้


ก. คงได้รับต่อไปตามปกติ
ข. ให้งด
ค. ให้รับเบี้ยเลี้ยง และเงินเดือน เช่นเดียวกับที่เป็นทหารประจาการ
ง. ให้บาเหน็จทดแทน เมื่อปลดปล่อยกับภูมิลาเนา

☺ ผู้ซึ่งมีคุณวุฒิพิเศษซึ่งสมควรให้อยู่ในกองประจาการน้อยกว่า ๒ ปีตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๒๔ แห่ง พระราชบัญญัติราชการทหาร


พ.ศ.๒๔๙๗ มี
ก. ๑๑ ประเภท ข. ๑๓ ประเภท
ค. ๑๒ ประเภท ง. ๑๔ ประเภท

☺ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๓๗ (พ.ศ.๒๕๑๖) และฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ.๒๕๑๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ คนที่จัดเป็น


คนจาพวกที่ ๒ คือ คนลักษณะใดลักษณะหนึ่ง หรือหลายลักษณะ ดังนี้
ก. ใบหูลีบเล็กข้างใดข้างหนึ่ง
ข. แขนลีบ
ค. ช่องหนังตาลีบ (เล็กข้างใหญ่ข้างดูน่าเกลียด)
ง. ถูกทุกข้อ

☺ การจาหน่วยและแก้ไขบัญชี ตพ.๒ มี
ก. การจาหน่ายขาด , การจาหน่ายชั่วคราว , จาหน่ายและแก้ไขเมื่อถึงกาหนด , การแก้ไขบัญชี
ข. การจาหน่ายขาด , การจาหน่ายชั่วคราว , การแก้ไขบัญชี
ค. การจาหน่ายขาด , การจาหน่ายชั่วคราว , การจาหน่ายและแก้ไขเมื่อถึงกาหนด
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การรายงานผลการปฏิบัติการเรียกพล ให้จังหวัดทหารบกที่เรียกพล รายงานตามสายการบังคับบัญชาจนถึง กองทัพบก ภายใน


ก. ๗ วันนับแต่วันเสร็จสิ้นการรับพล
ข. ๗ วันนับแต่วันปลดปล่อยตัวกลับภูมิลาเนา
ค. ๑๕ วันนับแต่วันปลดปล่อยตัวกลับภูมิลาเนา
ง. ๑๕ วันนับแต่วันเสร็จสิ้นการรับพล

☺ ทหารกองเกินที่ถูกตรวจเลือกและถูกเข้ารับราชการกองประจาการ เกิดอุบัติเหตุแขนขาดก่อนถึงกาหนดส่งตัวเข้ากองประจาการตามหมายนัด ให้


ก. ปลดพ้นราชการทหารประเภทที่ ๑ โดยไม่ต้องส่งเข้ารับราชการในกองประจาการ
ข. ปลดพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒ โดยไม่ต้องส่งเข้ารับราชการในกองประจาการ
ค. ส่งเข้ารับราชการในกองประจาการ แล้วปลดพ้นราชการทหารประเภทที่ ๑
ง. ส่งเข้ารับราชการในกองประจาการ และปลดพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒

☺ บุคคลซึ่งคณะกรรมการตรวจเลือกที่เป็นกรรมการผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนปัจจุบันชั้น ๑ สาขาเวชกรรมเห็นว่าอยู่ในคนจาพวกที่ ๔
แต่กรรมการอื่นซึ่งมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมอีก ๒ คนมีความเห็นแย้งว่าเป็นบุคคลจาพวกที่ ๒ ให้
ก. ส่งตัวบุคคลนั้นเข้าตรวจเลือกร่วมกับคนจาพวกที่ ๔
ข. ส่งตัวบุคคลนั้นเข้าตรวจเลือกร่วมกับคนจาพวกที่ ๒
ค. แล้วแต่ประธานกรรมการจะกาหนดให้เข้าตรวจเลือกร่วมกับคนจาพวกใด
ง. ที่กล่าวมาแล้วผิดทุกข้อ

☺ คนจาพวกที่ ๒ ได้แก่ค นซึ่ง มีร่างกายเห็นได้ชัดว่าไม่สมบูร ณ์ดีเหมือนคนจาพวกที่ ๑ แต่ไม่ถึง ทุพพลภาพ คือ


ก. เท้าลีบ
ข. กระจกตาอักเสบเรื้อรัง
ค. การเต้นหัวใจผิดปกติ
ง. ที่กล่าวมาแล้วถูกทุกข้อ

☺ การตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการกองประจาการตาตรวจ ในจังหวัดที่เลือกคนเป็นทหารให้กระทา ดังนี้


ก. ตรวจเลือกคนเป็นทหารเสียก่อน แล้วตรวจเลือกคนเป็นตารวจทีหลัง
ข. ตรวจเลือกคนเป็นตารวจเสียก่อน แล้วตรวจเลือกคนเป็นทหารทีหลัง
ค. ตรวจเลือกคนเป็นทหารก่อน หรือ ตรวจเลือกคนเป็นตารวจก่อนก็ได้
ง. ให้กระทารวมกับการตรวจเลือกคนเป็นทหาร

☺ ท้องที่ซึ่งกาหนดไว้เป็นภูมิลาเนาของบุคคลซึ่งไม่มคี ณ
ุ วุฒิที่จะเป็นทหารได้ ตามบัญชีท้ายกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๕ มีอยู่
ก. ๒๔ จังหวัด
ข. ๒๕ จังหวัด
ค. ๒๖ จังหวัด
ง. ๒๗ จังหวัด

☺ การเลือกพลเพื่อฝึกวิชาทหารสาหรับพลทหารเรือกองหนุนนั้น
ก. กองทัพเรือเป็นผู้เรียกเอง โดยประสานกับกองทัพบก
ข. แจ้งให้กองทัพบกเรียกให้
ค. ขอให้ บก. ทหารสูงสุดเรียกให้
ง. ใครจะเป็นผู้เรียกก็ได้แล้วแต่จะตกลงกัน

☺ บุคคลใดเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสาหรับตัวเองหรือผู้อื่นโดยสัญญาว่าจะช่วยเหลือผู้หนึ่งผู้ใด มิให้ต้องรับราชการ


ทหารกองประจาการ มีความผิด
ก. ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่ ๖ เดือนถึง ๑ ปี
ข. ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่ ๓ เดือนถึง ๔ปี
ค. ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่ ๑ ปี ถึง ๘ ปี
ง. ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน ๓ ปี

☺ คณะกรรมการชั้นสูงในแต่ละจังหวัด ประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้แทนหนึ่งคนเป็นประธานกรรมการ และมีกรรมการอื่นอีก


ก. ๒ คนรวมเป็น ๓ คน
ข. ๓ คนรวมเป็น ๔ คน
ค. ๔ คนรวมเป็น ๕ คน
ง. ที่กล่าวมาแล้วผิดหมดทุกข้อ

☺ นักเรียนซึ่งออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ และไม่ต้องมาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทาการตรวจเลือกตามกาหนดหมายเรียกฯ


ตามาตรา ๒๗ (๒) คือ
ก. นักเรียนซึ่งออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ โดยได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย
ข. นักเรียนซึ่งออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ โดยได้รับทุนจากกระทรวงกลาโหม
ค. ถูกทั้งข้อ ก.และข้อ ข.
ง. ผิดทั้งข้อ ก.และข้อ ข.

☺ นักบวชศาสนาอื่นๆ ตามที่กาหนดไว้ในกฎกระทรวงฉบับที่ ๗ ได้แก่ศาสนา


ก. โปรเตสแตนต์, อิสลาม, คริสตังและโรมันคาทอลิก
ข. อิสลาม, คริสตัง, โรมันคาทอลิกและโปรเตสแตนต์
ค. คริสตังหรือโรมันคาทอลิก, อิสลามและโปรเตสแตนต์
ง. ที่กล่าวมาแล้วผิดหมดทุกข้อ

☺ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๓๗ ออกตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ 2 มีหน้าที่


รับผิดชอบในการดาเนินการตรวจเลือก
ก. วัดขนาดและบันทึกผลการวัดลงในใบรับรองผลฯ
ข. เก็บยอดเป็นจาพวก
ค. ควบคุมการทาสลากดาแดง
ง. ที่กล่าวมาแล้วถูกทุกข้อ

☺ บุคคลที่อยู่ในระหว่างการศึกษาซึ่งจะได้ รับการผ่อนผันตามมาตรา ๒๙ (๓) แห่ง พระราชบัญญัติรับ ราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗


ถ้าอยู่ในระหว่างการศึกษาวิชาในมหาวิทยาลัย
ก. เพื่อรับปริญญาตรี ผ่อนผันให้จนถึงอายุครบ ๒๖ ปีบริบูรณ์
ข. เพื่อรับปริญญาโท ผ่อนผันให้จนถึงอายุครบ ๒๖ ปีบริบูรณ์
ค. เพื่อรับปริญญาเอก ผ่อนผันให้จนถึงอายุครบ ๒๗ ปีบริบูรณ์
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก.และข้อ ข.

☺ กรรมการซึง่ เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันชั้นหนึ่งสาขาเวชกรรม มีหน้าที่ตรวจร่างกายผู้ที่ถูกเรียกมาตรวจเลือกและออกใบสาคัญ ให้แก่


ก. คนจาพวกที่ ๑
ข. คนจาพวกที่ ๒
ค. คนจาพวกที่ ๑ และ ๒
ง. คนจาพวกที่ ๓ และ ๔ รวมทั้งควบคุมการจับสลาก

☺ ในแต่ละปี นายอาเภอจะต้องจัดการประกาศให้ทหารกองเกินที่มีอายุย่างเข้า ๒๑ ปีในพุทธศักราชนั้น ไปแสดงตน เพื่อรับหมายเรียกฯ


ที่อาเภอ โดยจะประกาศในเดือน
ก. พฤศจิกายน
ข. ตุลาคม
ค. กันยายน
ง. ในระหว่างกันยายนถึงพฤศจิกายน

☺ การร้องขอเข้าเป็นทหารกองประจาการก่อนวันตรวจเลือก ในกรณีที่ผู้ซึ่งถูกเรียกเป็นผู้สาเร็จการศึกษาชั้นอุดมศึกษาจากต่างประเทศ ที่กระทรวง


ทบวง กรม ซึ่งมีหน้าที่ได้รับรองวิทยฐานะ เทียบได้ไม่ต่ากว่าชั้นอุดมศึกษาให้รับได้โดยไม่จากัดภูมิลาเนาทหาร ทั้งนี้ ให้ผู้นั้นร้องขอต่อ กองทัพบก ,
กองทัพเรือ หรือ กองทัพอากาศ แล้วแต่กรณี ก่อนวันตรวจเลือก
ก. ไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน
ข. ไม่น้อยกว่า ๑๐ วัน
ค. ไม่น้อยกว่า ๗ วัน
ง. ไม่น้อยกว่า ๓ วัน

☺ การผ่อนผันตามมาตรา ๒๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ เป็นหน้าที่ของ มหาวิทยาลัย สถาบัน โรงพยาบาล วิทยาลัย
หรือกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ แล้วแต่กรณีส่งรายชื่อบุคคลที่จะได้รับการผ่อนผันไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งผู้นนั้ มีภูมิลาเนาทหารอยู่
ก. ภายในเดือนมกราคม ของปีที่จะต้องตรวจเลือกเข้ากองประจาการ
ข. ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ของปีที่จะต้องตรวจเลือกเข้ากองประจาการ
ค. ภายในเดือนมีนาคม ของปีที่จะต้องตรวจเลือกเข้ากองประจาการ
ง. ภายในเดือนตุลาคม ถึงธันวาคม ของปีก่อนที่จะต้องตรวจเลือกเข้ากองประจาการ
☺ คนซึ่งต้องขึ้นทะเบียนกองประจาการนั้นคือ
ก. คนซึ่งต้องส่งเข้ากองประจาการในวันตรวจเลือก
ข. คนซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดส่งเข้ากองประจาการภายหลังวันตรวจเลือก
ค. คนซึ่งร้องขอเข้ากองประจาการก่อนวันตรวจเลือกซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับไว้
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ทหารกองประจาการผู้ใด ซึ่งกระทรวงกลาโหมเห็นว่าจะกระทาให้เสื่อมเสียแก่ราชการทหารด้วย ประการใดก็ดีจะปลดเป็น


ก. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๑ ก็ได้
ข. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๒ ก็ได้
ค. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ก็ได้
ง. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ก็ได้

☺ การเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการในปีใดนั้น ให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายต้องการแจ้งความต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ดังนี้


ก. ทหารบก เป็นหน้าที่ของ ผบ. มทบ.หรือ ผบ.จทบ.แล้วแต่กรณี
ข. ทหารเรือ เป็นหน้าที่ของเจ้ากรมกาลังพลทหารเรือ
ค. ทหารอากาศ เป็นหน้าที่ของเจ้ากรมกาลังพลทหารอากาศ
ง. ที่กล่าวมาแล้ว ถูกหมดทุกข้อ

☺ ในการระดมพล ผู้เสนอของงบประมาณพิเศษ ได้แก่


ก. ผบ.ทบ.
ข. ผบ.ทหารสูงสุด
ค. ปลัดกระทรวงกลาโหม
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

☺ ตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการเตรียมพล พ.ศ. ๒๕๑๕ เอกสารในการรับและส่งพลใช้


ก. บัญชีรับพล
ข. บัญชีส่งพล
ค. บัญชีเรียกพล
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก.และข้อ ข

☺ ผู้ที่ไม่มีหน้าที่เข้ารับการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ และเรียกพลเข้าฝึกวิชาทหาร
ก. นายทหารสัญญาบัตรกองหนุน
ข. นายทหารสัญญาบัตร นอกราชการ
ค. นายทหารสัญญาบัตร นอกกอง
ง. ที่กล่าวมาแล้วผิดหมดทุกข้อ

☺ การเรียกและรับทหารกองเกิน และทหารกองหนุน ประเภทที่ ๒ ซึ่งยังไม่เคยเข้ารับการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร ให้ดาเนินการ


ก. เช่นเดียวกับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
ข. เฉพาะทหารกองเกิน เช่นเดียวกันกับการตรวจเลือกทหารกองหนุนประเภทที่ ๑
ค. เฉพาะทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ เช่นเดียวกันกับทหารกองหนุนประเภทที่ ๑
ง. ถูกเฉพาะข้อ ข.และ ค.

☺ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้กาหนดแต่งตั้งคณะกรรมการชั้นสูงขึ้น ซึ่งประกอบด้วย


ก. ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้แทนหนึ่งคน เป็นประธานกรรมการ
ข. เจ้าหน้าที่สัสดีซึ่งดารงตาแหน่งไม่ต่ากว่าสัสดีอาเภอหนึ่งคน
ค. ข้าราชการอื่นซึ่งดารงตาแหน่งไม่ต่ากว่าหัวหน้ากองหนึ่งคน
ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา

☺ คาสั่งเรียกพลสาหรับนายทหารนอกประจาการชั้นนายพล ผู้ลงนามในคาสั่ง คือ


ก. ผบ.ทบ.
ข. ผบ.ทหารสุงสุด
ค. ปลัดกระทรวงกลาโหม
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

☺ กรรมการ ในคณะกรรมการตรวจเลือก ผู้ที่มีหน้าที่ควบคุมการจับสลาก คือ


ก. ประธานกรรมการ
ข. กรรมการสัสดีจังหวัด
ค. กรรมการนายทหารสัญญาบัตร คนที่ ๑ และคนที่ ๒
ง. กรรมการซึง่ เป็นผู้ประกอบโรคศิลป์ แผนปัจจุบันชั้น ๑ สาขาเวชกรรม
☺ การลงบัญชีทหารกองเกินของผู้ซึ่งอยู่ในระหว่างควบคุมหรือคุมขังของพนักงานตามมาตรา ๒๑ (๒) ให้
ก. เจ้าพนักงานผู้ควบคุมหรือคุมขังไปแสดงตนขอลงบัญชีแทน
ข. เจ้าพนักงานผู้ควบคุมหรือคุมขัง พาตัวไปแสดงตนขอลงบัญชีทหารกองเกินที่อาเภอ
ค. นายอาเภอไปจัดทา ณ ที่คุมขังหรือควบคุม
ง. ที่กล่าวมาแล้วผิดหมดทุกข้อ

☺ การวินิจฉัยลักษณะพิการและโรคต่างๆ นั้น ถ้าผู้ประกอบวิชาเวชกรรม ผู้ตรวจยังมีความสงสัยก็ให้คณะกรรมการตรวจเลือกจัดเข้าไว้ใน


ก. คนจาพวกที่ ๔
ข. คนจาพวกที่ ๓
ค. คนจาพวกที่ ๒
ง. คนจาพวกที่ ๑

☺ ผู้ที่ไม่ต้องมาแสดงตนลงบัญชีทหารกองเกินที่อาเภอตามมาตรา ๒๑
ก. นักศึกษาวิชาทหาร
ข. สามเณรเปรียญ
ค. ครู
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ทหารกองเกินที่หลีกเลี่ยงขัดขืนตามมาตรา ๒๗ ถ้าขัดต่อการเป็นทหารกองประจาการก็ให้
ก. ส่งเข้ากองประจาการในปีก่อนนั้น แล้วปลดพ้นราชการทหารประเภทที่ ๑ ในภายหลัง
ข. กาหนดเป็นคนจาพวกที่ ๔ แล้วออกใบสาคัญแบบ สด. ๕ ให้
ค. ส่งเข้ากองประจาการในปีนั้นก่อนแล้วปลดพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒ ในภายหลัง
ง. ที่กล่าวมาแล้วผิดหมดทุกข้อ

☺ ผู้ซึ่งมีคุณวุฒพิเศษซึ่งสมควรอยู่ในกองประจาการน้อยกว่า ๒ ปี สาหรับผู้สาเร็จการฝึกวิชาทหารจากต่างประเทศ ซึงกระทรวงกลาโหมรับรอง


วิทยฐานะเทียบเท่าผู้สาเร็จการฝึกวิชาทหาร ตามกฎหมายว่าด้วยการฝึกวิชาทหาร ให้รับราชการทหาร ดังนี้
ก. ถ้าเทียบเท่าผู้สาเร็จตามหลักสูตรวิชาทหาร ชั้นปีที่ ๓ ให้รับราชการ ๑ ปีถ้าร้องขอให้รับราชการ ๖ เดือน
ข. ถ้าเทียบเท่าผู้สาเร็จตามหลักสูตรการฝึกวิชาทหาร ชั้นปีที่ ๔ ให้รับราชการ ๖ เดือนถ้าร้องขอให้รับราชการ๓ เดือน
ค. ถ้าเทียบเท่าผู้ สาเร็จตามหลักสูตรการฝึกวิชาทหาร ชั้นปีที่ ๕ ให้ขึ้นทะเบียนกองประจาการแล้วนาปลดเป็นกองหนุน
โดยไม่ต้องรับราชการในกองประจาการ
ง. ที่กล่าวมาแล้วไม่มีข้อใดถูก

☺ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ คาว่า “ เหตุการณ์พิเศษ ” หมายถึง


ก. กรณีที่มีการรบเกิดขึ้นในต่างประเทศ และรัฐบาลส่งกองทหารไปร่วมรบในประเทศนั้น
ข. เมื่อมีการระดมพล กรณีที่ประเทศไทยต้อง ทาการรบกับศัตรูจากภายนอกประเทศ
ค. เมื่อทางราชการทหารบุคคลเข้าเป็นพลอาสาพิเศษเพื่อปราบปรามการก่อความไม่สงบ
ง. ที่กล่าวมาแล้วถูกทุกข้อ

☺ การรายงานผลการฝึกอบรมการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร ให้หน่วยที่ทาการฝึกอบรมตามสายการบังคับ บัญชา ดังนี้


ก. ถึงกองทัพบกภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันเสร็จสิ้นการฝึกอบรม
ข. ถึงกองทัพบกและกองทัพเรือภายใน ๔๕ วัน นับแต่การเสร็จสิ้นการฝึกอบรม
ค. ถึงกองบัญชาการทหารสูงสุดภายใน ๙๐ วัน นับแต่เสร็จสิ้นการฝึกอบรม
ง. ที่กล่าวมาแล้วถูกหมดทุกข้อ

☺ การผ่อนผันสาหรับตารวจประจาการ ซึ่งมีฐานะเป็นทหารกองหนุนที่ได้รับการผ่อนผันไม่ต้องเรียกเข้ารับราชการทหาร ในการเรียกพลเพื่อ


ทดลองความพรั่งพร้อม นั้น ให้ส่วนราชการที่ตารวจผู้นั้นสังกัดอยู่ส่งบัญชีรายชื่อต่อ
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นภูมิลาเนาของทหารผู้นั้น
ง. นายอาเภอท้องที่ที่เป็นภูมิลาเนาทหารของตารวจผู้นั้น

☺ การจาหน่ายและแก้ไขบัญชี ตพ.๒ มี
ก. การจาหน่ายขาด, การจาหน่ายชั่วคราว, การแก้ไขบัญชี
ข. การจาหน่ายขาด, การจาหน่ายชั่วคราว, การแก้ไขเมื่อถึงกาหนด
ค. การจาหน่ายขาด, การจาหน่ายชั่วคราว, การแก้ไขเมื่อถึงกาหนด, การแก้ไขบัญชี
ง. ที่กล่าวมาแล้วผิดหมดทุกข้อ

☺ การผ่อนผันตามมาตรา ๒๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ นั้น นักเรียนฝึกหัดครูประกาศนียบัตร วิชาการศึกษาชั้นสูง


นอกเวลาของกระทรวงศึกษาธิการจะได้รับผ่อนผัน เฉพาะผู้ที่ได้ศึกษาติดต่อกันทุกภาคเรียน โดยแต่ละภาคเรียนต้องศึกษาไม่น้อยกว่า
ก. แปดหน่วยกิต
ข. หกหน่วยกิต
ค. สี่หน่วยกิต
ง. ที่กล่าวมาแล้วไม่มีข้อใดถูก

☺ การเก็บบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๑) ให้ดาเนินการ ดังนี้


ก. ถ้าเป็นทหารกองเกิน ให้แยกแฟ้มเป็นตาบล ๆ
ข. ผู้ที่ถูกเข้ากองประจาการให้แยกเป็นแฟ้มเป็นผนวก ๆ
ค. ถ้าเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๑ ให้ถอนมารวมกับแฟ้มทหารกองเกินในตาบลเดียวกัน
ง. ที่กล่าวมาแล้วถูกทุกข้อ

☺ บุคคลตามมาตรา ๑๓ ( ๒) ได้แก่ผู้ที่ได้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้แล้ว แต่ปรากฎว่าเป็นคนพิการทุพพลภาพ ต้องปลดพ้นราชการในคราว


ก. ในขณะที่อยู่ในกองประจาการ
ข. ที่ถูกเรียกพล
ค. ตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจาการ
ง. ที่กล่าวมาแล้วถูกทุกข้อ

☺ การเขียนภูมิลาเนาของทหารกองเกินในบัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด. ๒) ต้องลง


ก. ภูมิลาเนาที่เกิด และ ภูมิลาเนาทหาร
ข. ภูมิลาเนาที่อยู่ปัจจุบัน และ ภูมิลาเนาทหาร
ค. ภูมิลาเนาที่เกิด ภูมิลาเนาที่อยู่ปัจจุบัน และภูมิลาเนาทหาร
ง. ทั้ง ก. ,ข. และ ค. ยังไม่ถูกต้อง

☺ พลทหารทองแดง หนีราชการไปเมื่อ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๑๒ (เป็นการหนีตามปกติ ไม่ มีการประกาศกฎอัยการศึก) ต้องปลดเป็น


ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ใน
ก. ๑๓ ตุลาคม ๒๕๒๒
ข. ๑๓ ตุลาคม ๒๕๑๗
ค. ๑๒ ตุลาคม ๒๕๑๗
ง. ทั้ง ก. ข. และ ค. ยังไม่ถูกต้อง

☺ การจัดทาประกาศ เมื่อประกาศเตือนให้ทหารกองเกินที่มีอายุย่าง ๒๑ ปีให้ไปแสดงตนรับหมายเรียกที่อาเภอ สัสดีอาเภอต้องจัดเสนอ


นายอาเภอเพื่อประกาศใน
ก. เดือนมกราคม ทุกปี
ข. เดือนตุลาคม ทุกปี
ค. เดือนมิถุนายน ทุกปี
ง. ไม่ถูกทั้งข้อ ก. ข. และ ค.

☺ นาย ก. เป็นคนที่มี สัญชาติไทย ปัจจุบันมีอายุ ๔๗ ปี ยังไม่เคยลงบัญชีทหารกองเกิน จึงมาขอลงบัญชีทหารกองเกินต่อนายอาเภอ เพื่อจะได้


นาหลักฐานใบสาคัญนี้ไปใช้เกี่ยวกับการซื้อที่ดิน กรณีเช่นนี้ต้องดาเนินการ
ก. ลงบัญชีทหารกองเกินให้
ข. สอบสวนได้ข้อเท็จจริงแล้วลงบัญชีทหารกองเกินให้ภายใน ๓๐ วัน
ค. ไม่ต้องลงบัญชีทหารกองเกินให้
ง. ไม่ถูกเลยทั้ง ก. ข. และ ค.

☺ เมื่อทางอาเภอ ได้รับทราบการผ่อนผันจากจังหวัดของบุคคลที่อยู่ในระหว่างการศึกษาตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ให้ดาเนินการดังนี้


ก. ลงบัญชีผ่อนผัน (แบบ สด. ๒๐ ) ไว้ตรวจสอบ
ข. ลงบัญชีเรียกฯ (แบบ สด.๑๖ ) ประเภทคนผ่อนผัน
ค. บันทึกบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด. ) ว่าผ่อนผันเพราะเหตุใด
ง. ที่กล่าวมาแล้วถูกทั้งหมด

☺ พลทหาร .ง. สังกัดกองพันบริการ มทบ.๑ พิการทุพพลภาพในระหว่างที่อยู่ในกองประจาการให้ปลดเป็น


ก. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑
ข. พ้นราชการประเภทที่ ๑
ค. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒
ง. พันราชการประเภทที่ ๒

☺ ผู้ที่สาเร็จการศึกษาชั้นอุดมศึกษา ได้รับสิทธิลดวันรับราชการเป็นทหารกองประจาการน้อยกว่าสองปี คือผูท้ ี่สาเร็จการศึกษา


ก. ได้รับปริญญาครุศาสตร์บัณฑิต
ข. ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
ค. ได้รับประกาศนียบัตรประโยคครูมัธยม
ง. ที่กล่าวมาแล้วถูกทุกข้อ
☺ นายวิชัยฯ เป็นครูประชาบาล มีสิทธิได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้ารับราชการตรวจเลือกในยามปกติ ทั้งนี้ เพราะเป็น ครู และ
ก. เป็นครูประจาทาการสอนนักเรียนไม่น้อยกว่า ๑๕ คน
ข. มีเวลาสอนสัปดาห์ละไม่น้อยกว่า ๑๘ ชม.
ค. เป็นผู้อยู่ในกาหนดที่ต้องเรียกเข้ากองประจาการ
ง. ที่กล่าวมาแล้วถูกทั้งข้อ ก. ,ข้อ ข. และข้อ ค.

☺ การประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่สัสดีจังหวัดและสัสดีอาเภอ เพื่อกาหนดวัน เวลา และสถานที่ทาการตรวจเลือกของคราวต่อไปนั้น ให้ กระทาใน


ก. หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจเลือกแล้ว
ข. ก่อนที่ทางอาเภอจะประกาศเตือนในเดือนตุลาคม
ค. เดือนธันวาคม
ง. ก่อนเดือนมกราคมของปีถัดไป

☺ เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจเลือกของแต่ละอาเภอ/เขตแล้ว เจ้าหน้าที่ สัสดีอาเภอ/เขต จะต้องจัดทารายชื่อผู้ที่เข้าตรวจเลือกซึ่งเข้ากองประจาการ


ให้ประชาชนทราบ
ก. ภายใน ๑๕ วันหลังจากเสร็จสิ้นการตรวจเลือก
ข. ประกาศนี้นายอาเภอ/หัวหน้าเขตเป็นผู้ลงนาม
ค. ประกาศนี้ติดประกาศที่อาเภอ / เขต หรือที่ทาการตรวจเลือก หรือที่ชุมชน
ง. ที่กล่าวมาแล้วถูกทั้งข้อ ก. ข และ ค.

☺ สัสดีอาเภอตรวจสอบ แล้วจัดทารายงานในนามของนายอาเภอแจ้งยอดจานวนคนที่ไม่มาแสดงตนรับหมายเรียกและส่งหมายไม่ได้ต่อจังหวัด
โดยปกติให้ส่งภายใน
ก. วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ทุกปี
ข. เดือนพฤษภาคม ทุกปี
ค. เดือนมิถุนายน ทุกปี
ง. วันที่ ๒๐ พฤษภาคม ทุกปี

☺ เมื่อครบกาหนดตามที่ราชการวางหลักปฏิบัติ ถ้าบุคคลใดไม่มาลงบัญชีทหารกองเกินหรือไม่ลงบัญชีทหารกองเกินใหม่ หรือ ไม่มารับหมายเรียก


ที่อาเภอ เป็นผู้มีความผิดต้องระวางโทษดังนี้
ก. ปรับไม่เกิน ๑๐๐ บาท หรือจาคุกไม่เกิน ๑ เดือน หรือทั้งจาทั้งปรับ
ข. ปรับไม่เกิน ๓๐๐ บาท หรือจาคุไม่เกิน ๓ เดือน หรือทั้งจาทั้งปรับ
ค. ปรับไม่เกิน ๓๐๐ บาท หรือจาคุกไม่เกิน ๑ เดือน หรือทั้งจาทั้งปรับ
ง. ปรับไม่เกิน ๒๐๐ บาท หรือจาคุกไม่เกิน ๑ เดือน หรือทั้งจาทั้งปรับ

☺ เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ที่ว่าการอาเภอ หลักฐานต่างๆ ของทางราชการเสียหายหมดทางอาเภอจะประกาศ เรียกให้มาลงบัญชีทหารกองเกินใหม่


ตามมาตรา ๑๙ ท่านเป็นสัสดีอาเภอจึงเตรียมรายชื่อบุคคลเหล่านี้ โดยอาศัยหลักฐานจาก
ก. บัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ (แบบ สด. ๒๗ ) ที่จังหวัด
ข. บัญชีเรียกคนเข้ากองประจาการ (แบบ สด. ๒ ) ที่ส่งไปให้จังหวัด
ค. บัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด. ๒ )ที่ส่งไปให้จังหวัด
ง. บัญชีทหารกองเกินเดิม

☺ สัสดีอาเภอจะต้องจัดทาหมายเรียก (แบบ สด.๓๕ ) ให้พร้อมที่จะมอบแก่ทหารกองเกินที่มีอายุย่างเข้า ๒๑ ปี พ.ศ. นั้น ได้ตั้งแต่


ก. เดือน ต.ค. เป็นต้นไป
ข. เดือน ธ.ค. เป็นต้นไป
ค. เดือน ก.พ. เป็นต้นไป
ง. วันที่ ๑ ม.ค. เป็นต้นไป

☺ สัสดีอาเภอได้มอบหมายเรียกและส่งหมายเรียกให้ทหารกองเกินไปเดือนใด จานวนเท่าใดจะต้องส่งบัญชีรายชื่อแจ้งให้ จังหวัดทราบ ภายใน


ก. วันที่ ๕ ของเดือนถัดไป
ข. วันที่ ๑๕ ของเดือนถัดไป
ค. วันที่ ๒๐ ของเดือนถัดไป
ง. ผู้รับมอบหมายในเดือน มี.ค. ให้ส่งก่อนวันที่ทาการตรวจเลือกของอาเภอนั้น

☺ ผู้ออกใบสาคัญยกเว้นให้ครู ซึ่งทาการสอนในโรงเรียนการศึกษาผู้ใหญ่ภาคค่าของกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่


ก. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ข. ผู้ว่าราชการจังหวัดแห่งท้องที่ที่เป็นภูมิลาเนาทหารของผู้นั้น
ค. หน.เขต หรือนายอาเภอท้องที่
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ นาย ข. สาเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ ๓ (ในประเทศไทย ) จะได้สิทธิ์ลดวันรับราชการในกองประจาการ คือ


ก. ขึ้นทะเบียนกองประจาการ แล้วปลดเป็นกองหนุน
ข. รับราชการ ๖ เดือน ร้องขอ ๓ เดือน
ค. รับราชการ ๔ เดือน ร้องขอ ๓ เดือน
ง. ปลดเป็นกองหนุนเลย

☺ ที่โต๊ะเรียกชื่อ กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑ จะเรียกชื่อทหารกองเกินที่มารับการตรวจเลือก ให้มาแสดงตน โดยใช้เรียกจาก


ก. บัญชีเรียกฯ (แบบ สด. ๑๖ ) ฉบับของนายอาเภอ
ข. บัญชีเรียก ฯ (แบบสด. ๑๖ ) ฉบับของนายอาเภอ
ค. ใบรับรองผลการตรวจเลือก (แบบ สด. ๔๓)
ง. อะไรก็ได้ แล้วแต่จะสะดวก

☺ เมื่อเรียกชื่อไว้รอบสองแล้วปรากฏว่านายขาวไม่มารับการตรวจเลือก ตรวจสอบหลักฐานนายขาวเป็นคนอยู่ในกาหนดเรียกธรรมดา และยังมิได้


รับหมายเรียกไป เจ้าหน้าที่จะบันทึกหลักฐานไว้ว่า
ก. “ ขาด” ในใบรับรองผลการตรวจเลือก ( แบบ สด. ๔๓)
ข. “ ขาด ” ในบัญชีเรียก ฯ (แบบ สด.๑๖ )
ค. “ ไม่มารับหมายตามมาตรา ๒๕ ” ในบัญชีเรียก (แบบ สด.๑๖ )
ง. ถูกทั้ง ก. และ ค.

☺ ในการตรวจเลือกที่อาเภอหนึ่ง ปรากฏว่ามีผู้ไม่มาเข้ารับการตรวจเลือกเป็นจานวนมาก ต้องการคนส่งเข้ากองประจาการ ๘๕ นาย แต่มีคน


จาพวกที่ ๑ เพียง ๘๓ นาย นอกนั้นเป็นคนจาพวกที่ ๑ ที่ร้องขอผ่อนผัน เลี้ยงดูมารดาพิการ ๑ นาย คนเป็นโรคหืด ๑ นาย คนตาบอดข้างเดียว
๑ นาย คนเผือก ๑ นาย คณะกรรมการตรวจเลือกจึงต้องกาหนดให้บุคคลดังนี้เข้ากองประจาการ
ก. คนเผือกกับคนเป็นโรคหืด
ข. คนตาบอดข้างเดียวกับคนเผือก
ค. คนร้องขอผ่อนผันเลี้ยงดูมารดาพิการ กับคนตาบอดข้างเดียว
ง. คนร้องขอผ่อนผันเลี้ยงดูมารดาพิการ กับคนตาบอดข้างเดียว

☺ นายแดงเกิด พ.ศ. ๒๔๗๖ รับการตรวจเลือกแล้วไม่ถูกเข้ารับราชการในกองประจาการได้ถามว่าในปี ๑๘ นี้ เขาอยู่ในเกณฑ์เป็นทหารกองหนุน


ประเภทใด ชั้นใด ท่านตอบไปว่าเป็นทหารกองหนุนประเภท ๒
ก. ชั้นที่ ๑
ข. ชั้นที่ ๒
ค. ชั้นที่ ๓
ง. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๒

☺ ผู้ริเริ่มสารวจรายชื่อ ทหารกองประจาการที่หนีราชการ ว่าผู้ใดหนีจนขาดอายุความในปีนั้นบ้าง เพื่อแจ้งให้หน่วยเกี่ยวข้องดาเนินการปลด


ต่อไปนั้น เป็นหน้าที่ของ
ก. สัสดีจังหวัด
ข. สัสดีอาเภอ
ค. หน่วยทหารต้นสังกัด
ง. จทบ.

☺ นายแขก ได้แต่งงานกับ นางนิด อยู่กินกันที่ อาเภอหาดใหญ่ จังหวัด ส. ข. จนเกิด ด.ช. ขาว เมื่อ นายแขก ตาย นางนิดได้สามีใหม่ ไปอยู่ด้วยกัน
ที่ อาเภอบ้านแพ้ว จังหวัด ส.ค. ซึ่งเป็นภูมิลาเนาเดิมของนางนิด พ่อเลี้ยงไม่ชอบ ด.ช.ขาว นางนิดจึงยกให้นายเขียวบิดาของตน ( ตาของ ด.ช. ขาว )
เลี้ยงดูแทน ต่อมา นายเขียว มีภูมิลาเนาอยู่ที่ เขตภาษีเจริญ เมื่อเติบโตขึ้นภูมิลาเนาทหารของ นายขาว ควรอยู่ที่อาเภอ
ก. ภาษีเจริญ
ข. หาดใหญ่
ค. บ้านแพ้ว
ง. แล้วแต่นายขาวจะเลือกเอา

☺ เมื่อรับลงบัญชีทหารกองเกินให้แก่ผู้ที่ตกค้าง ตามมาตรา ๑๘ แล้ว เจ้าหน้าที่สัสดีอาเภอ จะต้องส่งบัญชีรายชือ่ คนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน


ให้ จังหวัด ภายใน
ก. เดือน ธ.ค ของปีนั้น
ข. เดือน ม.ค. ของปีนั้น
ค. ๓๐ วันนับแต่วันที่สิ้นสุดวันประกาศของนายอาเภอ
ง. ๓๐ วันนับแต่วันที่ลงบัญชีทหารกองเกิน

☺ การเรียกให้บุคคลไปแสดงตน เพื่อลงบัญชีทหารกองเกินใหม่ ตามมาตรา ๑๙ ท่านซึ่งเป็นสัสดีอาเภอ เตรียมคัดรายชื่อจาก


ก. ทะเบียนบ้าน ซึ่งมีอยู่ที่อาเภอหรือกิ่งอาเภอนั้น
ข. ขอคัดรายชื่อจากนายทะเบียนท้องถิ่น
ค. บัญชีรายชื่อบุคคลที่ได้ลงบัญชีทหารกองเกิน
ง. บัญชีรายชื่อทหารกองเกินและกองหนุนประเภทที่ ๒ ของจังหวัด
☺ นาย ก. เกิด พ.ศ. ๒๔๙๕ เพิ่งไปลงบัญชีทหารกองเกิน เมื่อ ๕ พ.ย.๑๗ เพราะมีความจาเป็นบางประการ จึงมิได้ลงบัญชีทหารกองเกิน
พร้อมกับคนชั้นปีเดียวกัน ท่านเป็นสัสดีอาเภอ ควรจะดาเนินการจัดทาหมายเรียกแล้ว
ก. นัดให้มารับภายหลัง
ข. มอบให้ไปในวันนั้นเลย
ค. ส่งผ่านกานัน ผู้ใหญ่บ้านไปให้ภายหลัง
ง. นัดให้มารับหมายเรียกได้ตั้งแต่ ๑ ม.ค. ๑๘

☺ หลักการสาคัญในการป้องกันการทุจริตในการตรวจเลือกอย่างหนึ่ง คือ การปกปิดการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจเลือกไว้เป็นความลับ


การดาเนินการอออกคาสั่งซึ่งกระทาเป็น ๒ ขั้น นั้น ถือว่าขั้นที่มีความสาคัญอย่างยิ่งต้องรักษาความลับอย่างเข้มงวดที่สุด คือ
ก. คาสั่งที่ออกในขั้นที่ ๑
ข. คาสั่งที่ออกในขั้นที่ ๒
ค. มีความสาคัญเท่าเทียมกันทั้ง ๒ ขั้น
ง. ไม่ใช่ทั้ง ก., ข. และ ค.

☺ ท่านอ่านพบในทะเบียนกองประจาการของผู้ที่มีอายุเกินกว่ากาหนดเรียกบันทึกไว้ว่า “ ตกค้างบัญชี ” แสดงว่าผู้นั้น


ก. ลงบัญชีเมื่ออายุเกิน ๒๑ ปีบริบูรณ์
ข. นายอาเภอส่งหมายเรียกให้ไม่ได้
ค. หลีกเลี่ยงขัดขืน
ง. ได้รับหมายเรียกแล้วไม่มาให้ตรวจเลือกเพราะเหตุสุดวิสัย

☺ ผู้นาขึ้นทะเบียนให้แก่คนหลีกเลี่ยงขัดขืนที่ส่งเข้ากองประจาการ ตามมาตรา ๓๓ คือ


ก. เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับคน
ข. สัสดีจังหวัด
ค. ปลัดจังหวัด
ง. นายอาเภอท้องที่

☺ สัสดีจังหวัดจะต้องส่งทะเบียนกองประจาการคนที่สง่ เข้ากองประจาการ ภายหลังวันตรวจเลือกให้ฝ่ายการสัสดี มทบ. หรือ จทบ. เก็บ ภายใน


ก. ๖๐ วัน นับแต่วันขึ้นทะเบียนกองประจาการทหารผลัดนั้นๆ แล้ว
ข. ๙๐ วัน นับตั้งแต่วันขึ้นทะเบียนกองประจาการทหารผลัดนั้นๆ แล้ว
ค. ๓๐ วัน นับแต่วันขึ้นทะเบียนเสร็จ
ง. เดือน ก.ย. ของปีนั้น

☺ เมื่อมีความจาเป็น นายอาเภอมีอานาจประกาศเรียกบุคคลที่ได้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้แล้วไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินใหม่ นับตั้งแต่


วันประกาศ ภายใน
ก. ๓๐ วัน
ข. ๖๐ วัน
ค. ๙๐ วัน
ง. ๑๒๐ วัน

☺ ชายสัญชาติไทย ที่ไปลงบัญชีทหารกองเกินแล้ว และในคราวตรวจเลือกจับฉลากได้ใบดาไม่ต้องเป็นทหารกองประจาการ ชายคนนี่จะอยู่ในฐานะ


ทหารกองเกินไปจนถึงอายุ
ก. ย่างเข้า ๓ ปี
ข. ครบ ๓๐ ปีบริบูรณ์
ค. ครบ ๔๐ ปีบริบูรณ์
ง. ครบ ๖๐ ปีบริบูรณ์

☺ ในจังหวัดที่ส่งคนเข้ากองประจาการเป็นทหารเรือทั้งหมด ให้กาหนดเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการดังนี้
ก. ประธานกรรมการเป็นนายทหารบก และมีนายทหารเรือเป็นกรรมการนายทหารสัญญาบัตร ๑ คน
ข. ประธานกรรมการเป็นนายทหารบก และมีกรรมการนายทหารสัญญาบัตรเป็นนายทหารเรือทั้ง ๒ คน
ค. ประธานกรรมการเป็นนายทหารเรือ กรรมการอื่นเป็นทหารบก
ง. ประธานกรรมการเป็นนายทหารเรือ และมีนายทหารเรือเป็นกรรมการทหารสัญญาบัตร ๑ คน

☺ ผู้ที่ร้องขอเข้ากองประจาการ มีสิทธิดังนี้
ก. เลือกได้เฉพาะจะเป็นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ หรือตารวจแล้วแต่กรณีเท่านั้น
ข. เลือกเป็นทหารบก เรือ อากาศ และหน่วยที่ต้องการได้
ค. เลือกเหล่าและหน่วยทหารที่ต้องการรับราชการได้
ง. เลือกได้เฉพาะจะเป็นทหารบกและทหารอากาศ

☺ ทหารกองเกินที่ไม่มาเข้ารับการตรวจเลือก หรือไม่อยู่จนกว่าการตรวจเลือกแล้วเสร็จ มีความผิดฐานหลีกเลี่ยงขัดขืน ต้องระวางโทษดัง นี้


ก. จาคุกไม่เกิน ๕ ปี อายุความ ๕ ปี
ข. จาคุกไม่เกิน ๓ ปี อายุความ ๑๐ ปี
ค. จาคุกไม่เกิน ๒ ปี อายุความ ๑๐ ปี
ง. จาคุกไม่เกิน ๓ ปี อายุความ ๕ ปี

☺ การจัดทายอดจานวนทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบยอดจานวนที่มีอยู่อย่างแท้จริง ให้ตรวจนับยอดจานวน


ลงในบัญชีแบบ
ก. สด.๒๔ ข. สด.๒๗
ค. สด.๒๑ ง. สด.๒๒

☺ ในกรณีที่พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตารวจจับทหารหนีราชการได้แล้ว และได้แจ้งไปยังผู้บังคับบัญชาของทหารแล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร


มีหน้าที่จะต้องไปรับตัวอย่างช้าภายใน
ก. ๗ วัน ข. ๒๔ ชั่วโมง
ค. ๒ วัน ง. ๑๒ ชั่วโมง

☺ กฎกระทรวงฉบับที่ ๙ ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ได้กาหนดให้ทหารกองเกินซึ่งจะเรียกเข้ารับราชการ


กองประจาการตามมาตรา ๒๓ คือทหารกองเกินซึ่งมีอายุเกินกว่ายี่สิบเอ็ดปีบริบูรณ์ ในปีที่จะเข้ากองประจาการ ซึ่ง
ก. ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือก
ข. หลีกเลี่ยงขัดขืนไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทาการตรวจเลือก ตามมาตรา ๓๓
ค. พ้นจากฐานะยกเว้นหรือผ่อนผัน
ง. ถูกทุกข้อ

☺ บุคคลดังต่อไปนี้ เมื่อลงบัญชีทหารกองเกินแล้ว ไม่เรียกมาตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจาการในยามปกติ คือ


ก. นักเรียนโรงเรียนเตรียมทหารของกระทรวงกลาโหม
ข. บุคคลซึ่งอยู่ในระหว่างการฝึกวิชาทหารตามหลักสูตรที่กระทรวงกลาโหมกาหนดตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมฝึกวิชาทหาร
ค. บุคคลซึ่งได้รับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุกครั้งเดียวตั้งแต่สิบปีขึ้นไป
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ทหารกองเกินหรือทหารกองหนุนผู้ใด หลีกเลี่ยงหรือขัดขืน ไม่เข้ารับราชการทหารในการเรียกพล เพื่อฝึกวิชาทหาร หรือ


เพื่อทดลองความพรั่งพร้อม หรือการระดมพล ตามมาตรา ๓๖ จะต้องถูกลงโทษ
ก. จาคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสี่ปี
ข. จาคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสี่ปี
ค. จาคุกตั้งแต่สามเดือนถึงสี่ปี
ง. จาคุกตั้งแต่สามเดือนถึงสามปี

☺ บุคคลที่ไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทาการตรวจเลือกตามมาตรา ๒๗ นั้น ให้คณะกรรมการตรวจเลือกปฏิบัติดังนี้


ก. ถ้าเป็นข้าราชการซึ่งได้รับคาสั่งของผู้บงั คับบัญชาโดยปัจจุบันทันด่วน ให้ไปราชการอันสาคัญยิ่ง ก็ให้บันทึกไว้ในบัญชีช่องหมายเหตุ
ข. เกิดเหตุสุดวิสัย ก็ให้บันทึกในบัญชีว่า มารับการตรวจเลือกไว้ก่อน แล้วมอบให้นายอาเภอไปติดตามสอบสวนตามทางการ
ค. พระภิกษุที่เข้ากองประจาการ ถ้ารูปใดขอผ่อนผันยังไม่ลาสิกขาในวันตรวจเลือก ให้คณะกรรมการตรวจเลือกผ่อนผัน
ให้ไปลาสิกขาได้ไม่เกิน ๒๐ วัน นับจากวันตรวจเลือกวันสุดท้ายของจังหวัดนั้น โดยให้นายอาเภอเป็นผู้ออกหมายนัด
ง. ถูกทุกข้อ

☺ การเรียกและตรวจคนเข้าเป็นตาราจกองประจาการตลอดจนการยกเว้นและการปลดตารวจซึ่งอยู่ในกองประจาการ ให้ปฏิบัติ ดังนี้


ก. ปฏิบัติเช่นเดียวกันเฉพาะการเรียกและตรวจเลือกคนเข้าเป็นทหารประจาการ
ข. ปฏิบัติเช่นเดียวกันกับการเรียกและตรวจเลือกคนเข้าเป็นทหารกองประจากอง การยกเว้น และการปลดทหาร
ค. ปฏิบัติเช่นเดียวกับการเรียกและการตรวจเลือกคนเข้าเป็นทหารประจาการและกองประจาการรวมทั้งการปลดทหาร การยกเว้น
และการปลดทหาร
ง. ปฏิบัติเช่นเดียวกันกับการเรียกและการตรวจเลือกคนเข้าเป็นทหารประจาการ การยกเว้น และการปลดทหาร

☺ ทหารกองประจาการเมื่ออยู่ในกองประจาการจนครบตามกาหนดแล้วให้ปลดเป็นทหารกองหนุน ประเภทที่ ๑ ดังนี้


ก. กองหนุนชั้นที่ ๑ เจ็ดปี ข. กองหนุนชั้นที่ ๒ สิบปี
ค. กองหนุนชั้นปีที่ ๓ หกปี ง. ถูกทุกข้อ

☺ นักเรียนทหาร เมื่อมีอายุสิบแปดปีบริบูรณ์
ก. ให้ขึ้นทะเบียนทะทหารกองเกิน
ข. ให้ขึ้นทะเบียนทหารกองหนุน
ค. ให้ขึ้นทะเบียนทหารกองประจาการ
ง. ให้ขึ้นทะเบียนทหารนอกกองประจาการ

☺ ทหารประจาการนั้น ถ้ายัง มิได้ขึ้นทะเบียนกองประจาการ ก็ต้องขึ้นทะเบียนกองประจาการ และรับ ราชการในกองประจาการ


จนครบกาหนดตามพระราชบัญญัติ
ก. เว้นแต่ได้ทาข้อตกลงหรือสัญญาไว้ก่อนล่วงหน้า
ข. เว้นแต่กระทรวงกลาโหมจะสัง่ ปลดเป็นทหารประเภทอื่น
ค. เว้นแต่สามารถสอบเข้ารับการศึกษาในสถานศึกษาของกระทรวงกลาโหมได้
ง. เว้นแต่เหล่าทัพกาหนดให้เป็นอย่างอื่น

☺ ทหารพ้นราชการประเภทที่ ๒ หมายถึง
ก. ทหารกองหนุนที่มีอายุ ๔๖ ปีบริบูรณ์แล้ว
ข. ทหารกองเกิน
ค. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ซึ่งพิการทุพพลภาพ หรือมีโรคอันไม่สามารถจะรับราชการได้
ง. ถูกทุกข้อ

☺ การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจาการ
ก. ถ้ามีความจาเป็น จะไม่กระทาทุกท้องที่ก็ได้ ข. ต้องกระทาทุกพื้นที่
ค. งดกระทาในพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึก ง. ผิดทุกข้อ

☺ วันเริ่มเข้ารับราชการกองทหารกองประจาการ
ก. ให้นับตั้งแต่วันที่ประกาศคัดเลือกทหาร
ข. นับตั้งแต่วันขึ้นทะเบียนกองประจาการ
ค. ให้นับตั้งแต่วันที่มารายงานตัวที่หน่วยต้นสังกัด
ง. ผิดหมดทุกข้อ

☺ ตามมาตรา ๑๓ บุคคลดังต่อไปนี้ ยกเว้นไม่ต้องรับราชการทหารกองประจาการ


ก. พระภิกษุที่มีสมณศักดิ์ หรือที่เป็นเปรียญ
ข. นักบวชในศาสนาที่มีอายุพรรษาในการ บวชตั้งแต่ ๑๐ ปี ขึ้นไป
ค. ข้อ ก. ถูก ข้อ ข.ผิด
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.

☺ ตามมาตรา ๑๔ ในยามปกติจะไม่เรียกบุคคลเหล่านี้ มาตรวจเลือก


ก. นักเรียนเตรียมทหาร
ข. บุคคลซึง่ ได้สัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
ง. ผิดทั้งข้อ ก. และข้อ ข.

☺ ทหารกองเกินนั้น ผู้ออกใบสาคัญ หรือใบรับให้ผู้ขอลงบัญชีทหารกองเกินไว้เป็นหลักฐาน คือ


ก. สัสดี ข. นายอาเภอ
ค. สัสดี และนายอาเภอ ง. ถูกทุกข้อ

☺ เมื่อลงบัญชีทหารกองเกินแล้วให้ถือว่าเป็นทหารกองเกิน ตั้งแต่
ก. วันที่ ๑ เม.ย.ของพุทธศักราชต่อไป ข. วันที่ ๑ เม.ย.ของพุทธศักราชนั้น
ค. วันที่ ๑ ม.ค.ของพุทธศักราชถัดไป ง. วันที่ ๑ ม.ค.ของพุทธศักราชนั้น

☺ ในเดือน…………นายอาเภอจะจัดประกาศให้ผู้ที่มีอายุถึงเกณฑ์ที่จะต้องลงบัญชีทหารกองเกินไปลงบัญชีทหารกองเกินที่กาหนไว้ใน มาตรา ๑๖
ก. มกราคม ข. เมษายน
ค. ตุลาคม ง. กันยายน

☺ เมื่อ วันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๔๗ นาย เอก เกิดเมื่อ วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๘ ยังมิได้ไปลงบัญชีทหารกองเกิน พร้อมกับคนชั้นปี เดียวกัน
จะต้องปฏิบัติอย่างไรจึงจะถูกต้อง
ก. ให้บุคคลผู้ซ่งึ บรรลุนิติภาวะ และ เชื่อถือได้ไปแจ้ง แทน ให้นายอาเภอสอบสวน เมื่อเห็นว่า ถูกต้องให้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้
และให้ถือว่าเป็นทหารกองเกินตั้ง แต่ วันที่ ๑ มกราคม ของพุทธศักราชถัดไป
ข. ให้ นายเอก ไปแสดงตนแจ้งขอลงบัญชีทหารกองเกินด้วยตนเอง ให้นายอาเภอสอบสวน เมื่อเห็นว่าถูกต้องให้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้
และให้ถือว่าเป็นทหารกองเกินตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ของพุทธศักราช ถัดไป
ค. ให้บุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะ และ เชื่อถือได้ ไปแจ้งแทน ให้นายอาเภอสอบสวน เมื่อเห็นว่าถูกต้องให้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้ และให้ถือว่ า
เป็นทหารกองเกินตั้งแต่ วันที่ ลงบัญชีทหารกองเกิน
ง. ให้ นาย เอก ไปแสดงตนแจ้งขอลงบัญชีทหารกองเกินด้วยตนเอง ให้นายอาเภอสอบสวน เมื่อเห็นว่าถูกต้องให้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้
และให้ถือว่าเป็นทหารกองเกินตั้งแต่วันที่ ลงบัญชีทหารกองเกิน

☺ ตาม มาตรา ๑๙ ของพระราชบัญญัติ รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ กาหนดว่า เมื่อจาเป็นนายอาเภอมีอานาจประกาศเรียกบุคคลที่ได้ลงบัญชี


ทหารกองเกินไว้ที่อาเภอตาม มาตรา ๑๖ หรือ มาตรา ๑๘ แล้ว ไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีใหม่ได้
ก. ภายใน ๙๐ วัน นับตั้งแต่วันประกาศ
ข. ภายใน ๖๐ วัน นับตั้งแต่วันประกาศ
ค. ภายใน ๔๕ วัน นับตั้งแต่วันประกาศ
ง. ภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันประกาศ

☺ ตามมาตรา ๒๐ ของ พระราชบัญญัติ รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ กาหนดให้ บุคคลที่ยกเว้นไม่ต้องลงบัญชีทหารกองเกิน ได้แก่


ก. พระภิกษุที่มีสมณศักดิ์ หรือที่เป็นเปรียญ
ข. นักบวชในพระพุทธศาสนาแห่งนิกายจีนที่มีสมณศักดิ์
ค. นักบวชในพระพุทธศาสนาแห่งนิกายญวนที่มีสมณศักดิ์
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ตามมาตรา ๒๑ ของ พระราชบัญญัติ รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ กาหนดให้ บุคคลผู้ซึ่งไม่ต้องไป แสดงตนต่อนายอาเภอ เพื่อลง


บัญชีทหารกองเกิน ตามมาตรา ๑๖ มาตรา ๑๘ หรือ มาตรา ๑๙ แต่ให้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ แบบที่กาหนด
ในกฎกระทรวง คือ
ก. นักศึกษาของศูนย์ฝึกการพลเรือนของกระทรวงคมนาคม
ข. ผู้ซึ่งอยู่ในระหว่างควบคุมหรือคุมขังของเจ้าพนักงาน
ค. นักเรียนโรงเรียนเตรียมทหารของกระทรวงกลาโหม
ง. บุคคลผู้ซงึ่ อยู่ในระหว่างการฝึกวิชาทหารตามหลักสูตรที่กระทรวงกลาโหมกาหนด ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร

☺ ตามมาตรา ๒๕ ของ พ.ร.บ.รับราชการทหาร ๒๔๙๗ กาหนดว่าทหารกองเกินที่พ้นจากการยกเว้นตาม มาตรา ๑๔ (๓) หรือการผ่อนผัน


ตามมาตรา ๒๗ (๒) และ มาตรา ๒๙ (๓) ในพุทธศักราชใด ต้องไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียก หรือเพื่อจาหน่ายบัญชีเรียกทหารกองเกิน
ตามแต่กรณี ที่อาเภอท้องถิ่นซึ่งเป็นภูมิลาเนาของตนภายใน……………….
ก. พุทธศักราชนั้น
ข. ๑๘๐ วัน
ค. ๙๐ วัน
ง. ๖๐ วัน

☺ ตามมาตรา ๒๖ ของ พ.ร.บ. รับราชการทหาร ๒๔๙๗ กาหนดให้นาย จัดการประกาศให้ทหารกองเกิน ที่มีอายุย่างยี่สิบเอ็ดปีในพุทธศักราช นั้น


ไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกที่อาเภอ ตามที่กาหนดไว้ ใน มาตรา ๒๕ โดยจัดการประกาศในเดือน………………ทุกปี
ก. สิงหาคม
ข. กันยายน
ค. ตุลาคม
ง. พฤศจิกายน

☺ ตามมาตรา ๒๒ ของ พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ กาหนดว่า บุคคลที่อยู่ในกาหนดออกหมายเรียกมาตราเลือกเข้าเป็นทหาร


กองประจาการ คือ
ก. ผู้ซึ่งมีอายุตั้งแต่ สิบแปดปีบริบูรณ์ และยังไม่ถึง สามสิบปีบริบูรณ์ ซึ่งได้ลงบัญชีทหารกองเกิน ตามมาตรา ๑๖ หรือ
ผู้ซึ่งลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๘ แล้ว
ข. ทหารซึ่งรับราชการตามที่กระทรวงกลาโหมกาหนด ซึ่งไม่ใช่ทหารประจาการ
ค. ผู้ที่เป็นทหารกองเกิน
ง. ถูกทั้ง ข้อ ก.และ ค.

☺ ตามมาตรา ๒๗ ของ พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ กาหนดว่า บุคคลซึ่งกาลังปฏิบัติงาน ร่วมกับ หน่วยทหารในราชการสนาม มีสภาพ
เป็นทหารกองเกิน ซึ่งถูกเรียกต้องมาให้คณะกรรมการ ตรวจเลือกทาการตรวจเลือกการกาหนดหมาย แต่ไม่สามารถมาเข้ารับราชการ ตรวจเลือกได้
จะถือว่าทหารกองเกินนั้น หลีกเลี่ยงขัดขืน เว้นแต่จะต้องได้รับการผ่อนผันเฉพาะคราวจาก
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือผู้ซงึ่ รัฐมนตรีมอบหมาย
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือผู้ซึ่ง รัฐมนตรีมอบหมาย
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือ ผู้ซึ่งรัฐมนตรีมอบหมาย
ง. นายอาเภอท้องที่

☺ ตามมาตรา ๒๘ ตรี ของ พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ กาหนดว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจเลือก และคณะกรรมการชั้นสูง


ในการตรวจเลือกคน เข้ากองประจาการกาหนดให้
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กาหนดผู้ดารงตาแหน่งที่เทียบได้ไม่ต่ากว่าผู้บัญชาการกองพล เป็นผู้มีอานาจแต่งตั้ง
คณะกรรมการตรวจเลือก และ คณะกรรมการชั้นสูง
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กาหนดผู้ดารงตาแหน่งที่เทียบได้ไม่ต่ากว่าแม่ทัพภาค เป็นผู้มีอานาจแต่งตั้งคณะกรรมการ
ตรวจเลือก และ คณะกรรมการชั้นสูง
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กาหนดผู้ดารงตาแหน่งที่เทียบได้ไม่ต่ากว่าผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้มีอานาจแต่งตั้งคณะ
กรรมการตรวจเลือก และ คณะกรรมการ ชั้นสูง
ง. ข้อ ก. และ ข.ถูก

☺ การแต่งตั้งคณะกรรมการชั้นสูงขึ้นในท้องที่แต่ละจังหวัดประกอบด้วย
ก. ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้แทน หนึ่งคน เป็นประธานกรรมการ
ข. เจ้าหน้าที่สัสดีซึ่งดารงตาแหน่งไม่ต่ากว่าสัสดีจังหวัด หนึ่งคน
ค. ข้าราชการอื่น ซึ่งดารงตาแหน่งไม่ต่ากว่า หัวหน้าแผนกหรือเทียบเท่าอีกหนึ่งคน
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ใบสาคัญยกเว้นครู(แบบสด.๓๗)ผู้ลงนามออกใบสาคัญได้แก่
ก. นายอาเภอท้องที่
ข. ผู้ว่าราชการจังหวัด
ค. ผู้อานวยการสถานศึกษา
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวง กลาโหม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย

☺ เมื่อได้รับลงบัญชีทหารกองเกินให้แก่ผู้ใดแล้วให้สัสดีอาเภอดาเนินการส่งบัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด. ๒) ต่อจังหวัด


โดยมีสาเนาคู่ฉบับไว้ที่อาเภอเพื่อตรวจสอบดังนี้ สาหรับผู้ที่รับลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๘ ให้ส่งภายใน………….
ก. ๓๐ วันนับแต่วันที่รับลงบัญชีทหารกองเกิน
ข. ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่สิ้นสุดวันประกาศของนายอาเภอ
ค. เดือนตุลาคม ของปีถัดไป
ง. เดือนธันวาคมของปีถัดไป

☺ หนังสือสาคัญผ่อนผันการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหาร ( สด.๔๑ ) ใช้สาหรับ ผ่อนผัน


ก. พระภิกษุ
ข. นักเรียนเตรียมทหาร
ค. นักเรียนทุนศึกษาต่อต่างประเทศ
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ คณะกรรมการตรวจเลือก มีหน้าที่รับผิดชอบดาเนินการตรวจเลือก โดยแยกหน้าที่กันกระทา ดังต่อไปนี้ “ เรียกชื่อทหารกองเกินที่ถูกเรียก


มาตรวจเลือก จัดดูแลทหารกองเกินซึ่ งตรวจเลือกแล้ว ให้รวมอยู่เป็นจาพวกป้องกันมิให้ทหารกองเกินซึ่งตรวจเลือกแล้วปะปนกับทหารกองเกิน
ซึ่งยังไม่ได้รับการตรวจเลือก และรับทหารกองเกินซึ่งคณะกรรมการตรวจเลือกกาหนดให้เข้ากองประจาการ เพื่อนาไปขึ้นทะเบียนกองประจาการ
หรือนาตัวส่งนายอาเภอเพื่อออกหมายนัด เข้ารับราชการทหาร” เป็นหน้าที่ของ
ก. ประธานกรรมการตรวจเลือก
ข. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ (๑)
ค. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ (๒)
ง. กรรมการสัสดีจังหวัด

☺ ตามมาตรา ๓๓ ของ พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ กาหนดว่า ทหารกองเกินที่หลีกเลี่ยงขัดขืน การตรวจเลือก ตามมาตรา ๒๗ ถ้าไม่ขัด
ต่อการเป็นทหารกองประจาการ ก็ให้………..
ก. ส่งผู้นั้นเข้ารับการตรวจเลือกในปีนั้น
ข. ส่งผู้นั้นเข้ารับการตรวจเลือกในปีถัดไป
ค. ส่งผู้นั้นเข้ารับราชการทหารกองประจาการในปีนั้น หรือปีถัดไป
ง. ส่งผู้นั้นเข้ารับราชการทหารกองประจาการในปีนั้น หรือปีถัดไป โดยไม่ให้จับฉลาก

☺ ตาม กฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ ข้อ ๒ กาหนดไว้ว่า
“การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจาการโดยวิธีอื่น ให้กระทาโดย วิธีร้องขอ และ บุคคลที่จะร้องขอต้องอายุ…………………………..”
ก. ตั้งแต่ สิบแปดปีบริบูรณ์
ข. ตั้งแต่ สิบแปดปีบริบูรณ์ และ ยังไม่ถึง สามสิบปีบริบูรณ์
ค. ตั้งแต่ ยี่สิบปีบริบูรณ์
ง. ตั้งแต่ ยี่สิบปีบริบูรณ์ และ ยังไม่ถึง สามสิบปีบริบูรณ์

☺ แบบ สด.๔๔ คือ


ก. ใบแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกิน
ข. ใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองประจาการ
ค. ใบสาคัญ
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การผ่อนผันให้บุคคลที่เข้ารับการตรวจเลือกตามมาตรา ๒๙ ของ พ.ร.บ รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ อันได้แก่ “บุคคลที่จาเป็นต้องหาเลี้ยงบิดา


หรือมารดาซึ่งไร้ความสามารถหรือพิการ ทุพพลภาพหรือชรา จนหาเลี้ยงชีพไม่ได้ และไม่มีผู้อื่นเลี้ยงดู” ผู้อ้างสิทธิแห่งมาตรานี้ จะต้องร้องขอผ่อนผัน
ต่อนายอาเภอท้องที่ก่อนวันตรวจเลือกเข้ากองประจาการ ไม่น้อยกว่า …….. วัน เว้นแต่ในกรณีพิเศษซึ่งไม่ใช่ความผิดของผู้ร้อง และผู้ร้องต่อคณะ
กรรมการตรวจเลือกในวันตรวจเลือก ตามมาตรา 30 อีกครั้งหนึ่ง
ก. ๙๐ วัน ข. ๖๐ วัน
ค. ๔๕ วัน ง. ๓๐ วัน
☺ ในการตรวจเลือกคนเข้ากองประจาการนั้น ถ้าผู้ที่ ต้องเข้ากองประจาการเห็นว่าคณะกรรมการตรวจเลือกตัดสินไม่ถูก หรือไม่ยุติธรรม
ก็ให้ยื่นคาร้องขอต่อ………………..แต่ให้ส่งผู้นั้นเข้ากองประจาการก่อนจนกว่าจะได้รับคาตัดสิน
ก. คณะกรรมการตรวจเลือก
ข. องค์กรอิสระ
ค. คณะกรรมการตรวจเลือกกองทัพบก
ง. คณะกรรมการชั้นสูง

☺ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๔ ( พ.ศ.๒๕๐๘ ) ออกตามความใน พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ กาหนดให้ ผู้ซึ่งมีคุณวุฒิพิเศษ


ซึ่งสมควรให้อยู่ในกองประจาการน้อยกว่า สองปี โดยผู้สาเร็จการฝึกวิชาทหารจากต่างประเทศซึง่ กระทรวงกลาโหมรับรองวิทยาฐานะเทียบเท่าผู้สาเร็จ
การฝึกวิชาทหารตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร ถ้าเทียบเท่าผู้สาเร็จตามหลักสูตรการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ ๒ ให้รับราชการทหารกอง
ประจาการ………………………
ก. หนึ่งปี
ข. หนึ่งปีหกเดือน
ค. หกเดือน
ง. สามเดือน

☺ หนังสือผ่อนผันการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหาร ลงนามโดยผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นแบบบัญชีที่


ก. สด. ๔๑
ข. สด. ๔๒
ค. สด. ๔๓
ง. สด. ๔๔

☺ ข้อบังคับ กห.ว่าด้วยการเตรียมพล พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้กาหนดให้ผู้ที่มีอานาจสั่งการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ คือ


ก. ผู้บังคับกองพัน ข. ผู้บังคับการมณฑลทหารบก
ค. ผู้บัญชาการทหารบก ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

☺ ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. การเรียกพลเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม มีความมุ่งหมายประการหนึ่ง คือ เพื่อขยายกาลังตามอัตราสงคราม
ข. ผู้มีอานาจสั่งการเรียกพลเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม คือ ผู้บัญชาการทหารบก
ค. ผู้ดาเนินการเรียกส่งทหารเข้ารับราชการทหารในการเรียกพล ให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม
ง. การระดมพลให้กระทาโดยพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการระดมพล

☺ ทหารกองเกิน หรือทหารกองหนุน ซึ่งได้รับการผ่อนผันไม่ต้องเรียกเข้ารับราชการทหาร ในการเรียกพล เพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร หรือ


เพื่อทดลองความพรั่งพร้อม จะถูกกาหนดไว้ในกฎกระทรวงฉบับใด
ก. กฎกระทรวงฉบับที่ ๓๙ (๒๕๑๖)
ข. กฎกระทรวงฉบับที่ ๓๙ (๒๕๑๗)
ค. กฎกระทรวงฉบับที่ ๔๕ (๒๕๑๘)
ง. กฎกระทรวงฉบับที่ ๔๕ (๒๕๑๙)

☺ ทหารกองเกิน หรือทหารกองหนุน ผู้ซึ่งได้รับการผ่อนผันไม่ต้องเข้ารับการเรียกพลเพื่อฝึกทหารใน กรณีที่เป็นบุตรคนเดียวของบิดา มารดา


และต้องหาเลี้ยงบิดา หรือมารดา ที่ชราจนหาเลี้ยงชีพไม่ได้ และไม่มีผู้อื่นเลี้ยงดู ทหารกองเกิน หรือทหารกองหนุนผู้นั้นต้องดาเนินการอย่างไร
ก. ร้องต่อหน่วยทหารที่ตนเองได้รับการบรรจุเป็นกาลังพลสารอง ไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน ก่อนถึงกาหนดวันเข้ารับราชการทหารในการ
เรียกพลฯ เพื่อขอผ่อนผัน
ข. ร้องต่อผู้ใหญ่บ้าน, กานัน ที่ตนเองมีลาเนาทหาร ไม่น้อยกว่า ๓๐ วันก่อนถึงกาหนดวันเข้ารับราชการทหารในการเรียกพลฯ
เพื่อขอผ่อนผัน
ค. ร้องต่อนายอาเภอ ที่ตนเองมีภูมิลาเนาทหาร ไม่น้อยกว่า ๓๐ วันก่อนถึงกาหนดวันเข้ารับราชการทหารในการเรียกพลฯ เพื่อขอผ่อนผัน
ง. ร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ตนเองมีภูมิลาเนาทหาร ไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน ก่อนถึงกาหนดวันเข้ารับราชการทหารในการเรียกพลฯ เพื่อ
ขอผ่อนผัน

☺ นายรักสันติ เมื่อมีอายุได้ ๒๑ ปีบริบูรณ์ได้ไปเข้ารับราชการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจาการ แต่จับฉลากได้ฉลากดา


ซึ่งบัดนี้ นายรักสันติ มีอายุได้ 27 ปี เขาจะมีสภาพเป็น หรือ ได้รับการปลดเป็นทหาร กองหนุนประเภทใด ชั้นใด
ก. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒
ข. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๑
ค. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๒
ง. ทหารกองเกิน

☺ ทหารกองประจาการที่ถูกปลดเป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ ๑ ตามมาตรา ๔๑ แห่งพระราชบัญญัติ รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗


จะได้รับเอกสารใดเป็นหลักฐาน
ก. ใบสาคัญ (แบบ สด.๖)
ข. หนังสือสาคัญ (แบบ สด.๘)
ค. ใบสาคัญ (แบบ สด.๙)
ง. ผิดทุกข้อ

☺ นายชาญชัย ร้องขอเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจาการ เมื่ออายุ ๒๑ ปีบริบูรณ์ ในขณะที่อยู่ในกองประจาการ นายชาญชัย คิดรวยทางลัด


จึงไปรับจ้างขนยาเสพติดถูกเจ้าหน้าที่ตารวจจับได้แล้วถูกนาตัวดาเนินคดีศาลพิจารณาโทษแล้วให้ระวางโทษจาคุก ๑๐ ปี พลทหารชาญชัย จึงปลดเป็น
ก. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒
ข. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๑
ค. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๒
ง. ถูกทุกข้อ

☺ การปลดทหารกองหนุนในการเรียกระดมพลหรือเรียกพล เพื่อฝึกวิชาทหาร หรือในการทดลองความพรั่งพร้อม คราวใด ซึ่งจะต้องปลดเป็น


พ้นราชการ แต่ต้องมีผู้ลงชื่อในใบสาคัญ (สด.๖) คือ
ก. แพทย์ที่ตรวจร่างกาย
ข. นายทหารผู้อานวยการ
ค. นายทหารสัญญาบัตรซึ่งแทนหน่วยทหาร
ง. ต้องให้บุคคลในข้อ ก., ข. และ ค. ลงชื่อทุกคน

☺ นายทหารสัญญาบัตรที่ถูกถอดยศ หรือออกจากยศจะถูกปลดเป็น
ก. นายทหารสัญญาบัตรนอกราชการ
ข. นายทหารสัญญาบัตรพ้นราชการ
ค. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๑
ง. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๒

☺ นายสมชาย ถูกคัดรายชื่อออกให้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษาวิชาทหาร เนื่องจากเวลาเรียนไม่พอ หากนายสมชาย ไม่ไปแจ้งต่อนายอาเภอท้องที่


ที่ตนอยู่ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่พ้นฐานะนักศึกษาวิชาทหาร นายสมชาย จะมีความผิดตามาตรา ๔๓ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษ
ก. ระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสองร้อยบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
ข. ระวางโทษจาคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามร้อยบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
ค. ระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
ง. ระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

☺ นายสมบัติ ได้ลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๖ แล้ว แต่ยังไม่เป็นทหารกองเกิน ซึ่งเดิมนายสมบัติได้ลงบัญชีทหารกองเกินที่ อาเภอเมือง


นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านพักปัจจุบัน ต่อมาเมื่อสาเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย นายสมบัติ จึงเข้ามาพักอาศัยอยู่กับยาย ที่เขตดุสิต
กรุงเทพฯ เพื่อเรียนพิเศษเป็นเวลา ๓ สัปดาห์ หากนายสมบัติ ไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๒ จะมีความผิดระวางโทษ
ก. ระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
ข. ระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสองร้อยบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
ค. ระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสามร้อยบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
ง. ผิดทุกข้อ

☺ นายอมรเทพ งามสมวัย ปัจจุบันอายุ ๑๙ ปีบริบูรณ์ ได้ไปลงบัญชีทหารกองเกิน ที่อาเภอบ้านนา จว. นครนายก แล้ว ต่อมา นายอมรเทพ
ได้ไปขอเปลี่ยนชื่อตัวเป็น “ โอภาส ” ซึ่งทางราชการได้อนุญาตตามที่ขอ หากนายอมรเทพ ไม่ปฏิบัติ ตามมาตรา ๑๒ ทวิ เขาจะมีความผิด
ตามมาตราใด
ก. มาตรา ๔๓ วรรคหนึ่ง
ข. มาตรา ๔๓ วรรคสอง
ค. มาตรา ๔๔ วรรคหนึ่ง
ง. มาตรา ๔๔ วรรคสอง

☺ นายนิมิตร ได้ไปลงบัญชีทหารกองเกิน ที่อาเภอแม่ระมาด จว. ตาก ซึ่งปัจจุบัน นายนิมิตร กาลังศึกษาต่อที่ จว. กรุงเทพมหานคร ต่อมาในปี
2547 เกิดฝนตกหนักน้าท่วมที อาเภอแม่ระมาด จว. ตาก เป็นผลให้เอกสารของทางราชการจมน้าเสียหายเป็นจานวนมาก นายอาเภอแม่ระมาด จึง
ประกาศเรียกทหารกองเกิน ที่ได้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้ที่ อาเภอแม่ระมาดแล้ว มาลงบัญชีใหม่ นายนิมิตร ได้ทราบเรื่องแล้วแต่ละเลยเพิกเฉยและ
ไม่ได้ขอให้ผู้อื่นไปดาเนินการแทนตามวันเวลาที่ประกาศ นายนิมิตร จะมีความผิดอย่างไร หากเจ้าหน้าที่ยกเรื่องพิจารณาความผิดแล้ว
ก. ระวางโทษจาคุกตั้งแต่สามเดือนถึงหนึ่งปี
ข. ระวางโทษจาคุกตั้งแต่หนึ่งเดือนถึงหนึ่งปี
ค. ระวางโทษจาคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินสามร้อยบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
ง. ระวางโทษจาคุกไม่เกินสองเดือนหรือปรับไม่เกินสามร้อยบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

☺ นายมานพ สาเร็จการฝึกวิชาทหาร ชั้นปีที่ ๓ ได้ขึ้นทะเบียนกองเกินประจาการและนาปลด ได้รับการแต่งตั้งยศเป็นสิบเอก โดยเป็นนายทหาร


ประทวนกองหนุน สังกัดมณฑลทหารบกที่ ๓๓ ต่อมาในปี ๒๕๔๖ สิบเอกมานพ ได้รับหมายเรียกพลเพื่อเข้ารับการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหารที่
ป.พัน. ๗ แต่ถึงวันเวลาที่กาหนดให้ไปรายงานตัวตามหมายเรียกพล สิบเอกมานพ หลีกเลี่ยงขัดขืนไม่ไปรายงานตัว เขาจึงมีความผิดตามมาตรา
ก. มาตรา ๔๖
ข. มาตรา ๔๖ วรรคสอง
ค. มาตรา ๔๔
ง. มาตรา ๔๗ วรรคสอง

☺ บุคคลใดทาร้ายร่างกายตนเอง หรือให้ผู้อื่นทาเพื่อจะพ้นจากการรับราชการทหาร ตามพระราชบัญญัติ รับราชการ พ.ศ.๒๔๙๗


มีความผิดต้องระวางโทษ
ก. จาคุกตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไปจนถึงสามปี
ข. จาคุกตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไปจนถึงแปดปี
ค. จาคุกตั้งแต่หกเดือนขึ้นไปจนถึงสี่ปี
ง. จาคุกตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไปจนถึงสี่ปี

☺ การนาปลดผู้ซึ่งสาเร็จการฝึกวิชาทหารตามกฎหมาย ให้ขึ้นทะเบียนกองประจาการแล้วปลดเป็นทหารกองหนุน โดยมิต้องรับราชการในกองประจาการ


โดยให้หน่วยบัญชาการกาลังสารอง หรือหน่วยงานซึ่งผู้บัญชาการทหารบกมอบหมายให้เป็นหน้าที่ส่งบัญชีรายชื่อขอนาตัวขึ้นทะเบียนกองประจาการ แล้ว
ก. นาปลดต่อสัสดีอาเภอที่เป็นภูมิลาเนาทหาร
ข. นาปลดต่อสัสดีจังหวัดที่เป็นภูมิลาเนาทหาร
ค. นาปลดต่อสัสดี มทบ.ที่เป็นภูมิลาเนาที่นักศึกษาวิชาทหารอยู่
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจาการตามมาตรา ๘ ใน พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ให้กระทาด้วย


ก. วิธีเรียกมาตรวจเลือก
ข. รับเข้าเป็นทหารกองประจาการโดยวิธีอื่น ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
ค. ไม่มีข้อใดถูก
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข.

☺ นายอาเภอท้องที่ที่มีการตรวจเลือกมีหน้าที่ดังต่อไปนี้
ก. จัดสถานที่ทาการตรวจเลือก
ข. จัดเจ้าหน้าที่และเอกสารเกี่ยวกับการตรวจเลือก
ค. จัดคนซึ่งมาตรวจเลือกให้รวมอยู่เป็นตาบลเพื่อฟังเรียกชื่อ
ง. ถูกทุกข้อ

☺ เงินรายเดือน หมายความว่า
ก. เงินที่ได้รับจากหน่วยต้นสังกัดเป็นประจาทุกเดือน
ข. เงินเดือนที่ได้รับจากงบประมาณรวมทั้งเงินเพิ่มค่าวิชา
ค. เงินเดือนที่ได้รับจากงบประมาณรวมทั้งเงินเพิ่มค่าวิชา และหรือเงินเพิ่มการเลื่อนฐานะ และหรือเงินเพิ่มค่าฝ่าอันตราย
และหรือเงินเพิ่มพิเศษสาหรับสูร้ บ แต่ไม่รวมเงินเพิ่มอย่างอื่น
ง. เงินเดือนที่ได้รับจากงบประมาณรวมทั้งเงินเพิ่มค่าวิชา และเงินเพิ่มอื่น ๆ อันเป็นรายได้ประจาเดือน

☺ ผู้ที่จะเป็นทหารกองเกินประจาการ ต้องมีขนาดรูปร่างอย่างไร
ก. ต้องมีขนาดรอบตัวตั้งแต่ 76 ซ.ม ขึ้นไป
ข. ต้องมีขนาดรอบตัวตั้งแต่ 80 ซ.ม ขึ้นไป
ค. ต้องมีขนาดรอบตัวตั้งแต่ 83 ซ.ม ขึ้นไป
ง. ต้องมีขนาดรอบตัวตั้งแต่ 86 ซ.ม ขึ้นไป

☺ เมื่อจับได้ฉลากสีแดง หรือสมัครเป็นทหารกองเกินประจาเมื่อปลดจากการเป็นทหาร จะได้รับเอกสารหรือหลักฐานอะไร


ก. สด. 42
ข. สด. 7
ค. สด. 8
ง. สด. 9

☺ ผลฉลากที่จับได้ กรรมการทีค่ วบคุมจะประกาศให้ทราบว่าผู้นั้นจับฉลากได้อย่างไร ให้ลงบัญชีที่ใดบ้าง


ก. ส่วนของจังหวัด
ข. ส่วนของอาเภอ
ค. ลงทั้งส่วนของจังหวัดและอาเภอ
ง. ไม่ต้องบัญชีใดเลย

☺ ความหมายของคาว่า “ ขาดราชการ ” ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องที่สุด


ก. ขาด ๒๔ ชั่วโมงต่อหน้าราชศรัตรู
ข. ขาดเกิน ๓ วันในเวลาไม่ปกติ
ค. ขาดโดยมิได้รับอนุญาต หรือเมื่อพ้นกาหนดอนุญาตลาในเวลาปกติยังไม่ถึง ๑๕ วัน
ง. ถูกทุกข้อ
☺ การปลดทหารกองประจาการเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ แผนกทหารบก ผู้บังคับหน่วยต้น สังกัดของผู้ครบกาหนดปลดจะต้อง
ดาเนินการตามคาตอบในข้อใด
ก. ส่งบัญชีรายชื่อพร้อมหางว่าวนาปลด (แบบ สด.๗) ต่อ ผบ.จทบ.ที่จังหวัดภูมิลาเนาทหารตั้งอยู่ในเขต
ข. ส่งบัญชีรายชื่อพร้อมสมุดประจาตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ และหางว่าวนาปลด (แบบ สด.๗) ต่อ ผบ.จทบ.
ที่จังหวัดภูมิลาเนาทหารตั้งอยู่ในเขต
ค. ส่งบัญชีรายชื่อพร้อมสมุดประจาตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ต่อ ผบ.จทบ. ที่จังหวัดภูมิลาเนาทหารตั้งอยู่ในเขต
ง. ส่งบัญชีรายชื่อพร้อมสมุดประจาตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ต่อ ผบ.จทบ. ที่หน่วยทหารต้นสังกัดอยู่ในเขต
ง. เมื่อจังหวัดทหารบกได้รับบัญชีรายชื่อและสมุดประจาตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ของผู้ที่เป็นทหารกองประจาการ
จะปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ จากหน่วยทหารแล้ว “ ให้สัสดีจังหวัดทหารบกดาเนินการเขียนหางว่าวนาปลดออกจากกองประจาการ (สด.๗)
ตามผนวก ค. ส่งให้สัสดีจังหวัดภูมิลาเนาทหารของผู้นั้น พร้อมกับสมุดประจาตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑
☺ ข้อใดกล่าวถึงการขึ้นทะเบียนกองประจาการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายรับราชการทหาร
ก. มาตรา ๔(๘) วรรคสอง “ ทหารประจาการที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนกองประจาการต้องขึ้นทะเบียนฯ ”
ข. มาตรา ๙ วรรคสอง “ ทหารประจาการที่ยังไม่ขนึ้ ทะเบียนกองประจาการต้องขึ้นทะเบียน ”
ค. มาตรา ๑๐ “ ทหารประจาการที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนกองประจาการต้องขึ้นทะเบียน ”
ง. มาตรา ๑๑ วรรคสอง “ ทหารประจาการที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนกองประจาการต้องขึ้นทะเบียน
ง. มาตรา ๑๑ การรับราชการทหารประจาการ การแบ่งประเภท และการปลดทหารประจาการ ให้เป็นไปตามกฎหมาย
และระเบียบแบบแผนของกระทรวงกลาโหมทหารประจาการนั้นถ้ายังมิได้ขึ้นทะเบียนกองประจาการก็ต้องขึ้นทะเบียนกองประจาการและรับราชการใน
กองประจาการจนครบกาหนดตามพระราชบัญญัตินี้เว้นแต่กระทรวงกลาโหมจะสั่งปลดเป็นทหารประเภทอื่น
☺ คาตอบในข้อใดกาหนดวิธีเขียน “ เครื่องหมายประจาตัวทหารหรือตารวจ ” ซึ่งต้องลงในทะเบียน กองประจาการ (แบบ สด.๓)
ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
ก. พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗
ข. บันทึกข้อตกลงฯ ในระเบียบอันเกี่ยวกับ พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗
ค. คาสั่ง ทบ.ที่ ๑๑๗๓/๒๕๒๘ ลง ๒๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๒๘
ง. พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๗๙ ที่ประกาศใช้สมัย ร.๗
ข. บันทึกข้อตกลงฯ ในระเบียบอันเกี่ยวกับ พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗
ข้อ ๑๐ เครื่องหมายประจาตัวทหารหรือตารวจซึ่งต้องลงในทะเบียนกองประจาการนั้น ให้ใช้ดังนี้
(๑) ให้ลงอักษรย่อแผนกแล้วลงเลขพุทธศักราชต่อท้ายไว้บรรทัดบน และลงอักษรย่อชื่อจังหวัดที่เป็นภูมิลาเนาทหาร
กับลงเลขประจาตัวบุคคลที่เข้ารับราชการกองประจาการในจังหวัดนั้นไว้บรรทัดล่าง
☺ คาตอบในข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุดถึงความสาคัญของบัญชีรายชื่อ (แบบ สด.๒๗)
ก. เป็นเอกสารที่ใช้ควบคุมทหารกองเกิน, ทหารกองหนุน และพ้นราชการทั้ง ๒ ประเภท
ข. เป็นเอกสารที่ใช้ควบคุมทหารกองเกิน, ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ชั้นที่ ๒ และพ้นราชการทหาร
ค. เป็นเอกสารที่ใช้ควบคุมทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒
ง. ที่กล่าวมาถูกทุกข้อ
ค. บัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒

☺ เมื่ออาเภอได้รับลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๖, มาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ แล้วต้องรายงานให้จังหวัดทราบ เอกสารที่ใช้คือข้อใด


ก. บัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๒)
ข. บัญชีรายชื่อผู้ที่ลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๒)
ค. บัญชีรายชื่อผู้ที่มาลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๒)
ง. บัญชีรายชื่อทหารกองเกินที่ลงบัญชี (แบบ สด.๒)

☺ ข้อใดกล่าวถึงการจัดทาบัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ (แบบ สด.๒๗) ถูกต้องที่สุด


ก. ทหารกองเกินที่เข้ารับการฝึกแล้วให้คัดบัญชีรายชื่อ ( แบบ สด.๒๗) รวมในชั้นปีเดียวกันกับทหารกองเกินที่ยังไม่ได้รับการฝึกในตาบล
และอาเภอเดียวกัน
ข. ทหารกองเกินที่ถูกปลดเป็นพ้นราชการตามมาตรา ๔๑ ให้คัดรายชื่อใน สด.๒๗ แยกต่างหาก เมื่ออายุครบ ๓๐ ปีบริบูรณ์ให้ยกรายชื่อไป
ไว้ในชั้นปีเดียวกัน
ค. คนที่ลงบัญชีตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ ให้คัดรายชื่อใน สด.๒๗ ต่อจากคนลาดับสุดท้ายในตาบลและชั้นปีเดียวกัน
ง. คนที่ลงบัญชีตามมาตรา ๑๖ ให้คัดรายชื่อจากบัญชีรายชือ่ ฯ (สด.๒) ของอาเภอแยกเป็นตาบล รวมเป็นอาเภอ, แยกชั้นปี, ตัดปี พ.ศ.ที่
เข้าบัญชี

☺ ถ้ามีทหารกองเกินย้ายภูมิลาเนาต่างบ้าน, ในตาบลและอาเภอเดียวกัน ถ้าท่านเป็นสัสดีอาเภอนี้จะบันทึกบัญชีรายชื่อฯ (แบบ สด.๒๗)


ของจังหวัดให้ถูกต้องตามขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไร
ก. วงเล็บบ้านเดิมด้วยหมึกแดงแล้วเขียนบ้านที่เป็นภูมิลาเนาทหารใหม่ด้วยหมึกดา ลงชื่อกากับ
ข. วงเล็บบ้านเดิมด้วยหมึกแดงแล้วเขียนบ้านที่เป็นภูมิลาเนาทหารใหม่ด้วยหมึกดา บันทึกช่องหมายเหตุให้ทราบ ตามเรื่อง
ฉบับที่ ....... / พ.ศ........ สัสดีจังหวัดลงชื่อกากับ
ค. วงเล็บบ้านเดิมแล้วเขียนบ้านที่เป็นภูมิลาเนาทหารใหม่ด้วยดินสอดา บันทึกช่องหมายเหตุให้ทราบ ตามเรื่อง ฉบับที่ ........ / พ.ศ. ........
ลงชื่อกากับไว้
ง. คาตอบที่กล่าวมาเบื้องต้นไม่มีข้อถูก

☺ กรณีทหารกองเกินย้ายภูมิลาเนาทหารในตาบลเดียวกัน สัสดีอาเภอจะแก้บัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๑) อย่างไร


ก. วงเล็บบ้านเดิมแล้วเขียนบ้านที่เป็นภูมิลาเนาทหารใหม่ด้วยดินสอดา บันทึกริมซ้ายตรงที่แก้ลงชื่อผู้บันทึกกากับไว้
ข. วงเล็บบ้านเดิมแล้วเขียนบ้านที่เป็นภูมิลาเนาทหารใหม่ด้วยดินสอดา บันทึกช่องหมายเหตุให้ทราบ ผู้บันทึกลงชื่อกากับไว้
ค. วงเล็บบ้านเดิมแล้วเขียนบ้านที่เป็นภูมิลาเนาทหารใหม่ด้วยหมึกดา บันทึกช่องหมายเหตุให้ทราบ ผู้บันทึกลงชื่อกากับไว้
ง. วงเล็บบ้านเดิมด้วยหมึกแดงแล้วเขียนบ้านที่เป็นภูมิลาเนาทหารใหม่ด้วยหมึกดา บันทึกช่องหมายเหตุให้ทราบ ผู้บันทึกลงชื่อกากับไว้

☺ นายเสือ สมิงพระราม ได้จดทะเบียนรับ นายสยบชัย สายสุพรรณ เป็นบุตรบุญธรรม (ภายหลังจากรับลงบัญชีทหารกองเกินแล้ว) สัสดี


อาเภอจะแก้ไขบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๑) อย่างไร
ก. สยบชัย สมิงพระราม (ชื่อสกุลของผู้รับบุตรบุญธรรม)
สายสุพรรณ (ชื่อสกุลเดิมของบุตรบุญธรรม)
ข. สยบชัย สมิงพระราม (ชื่อสกุลของผู้รับบุตรบุญธรรม)
สยบชัย สายสุพรรณ (ชื่อสกุลเดิมของบุตรบุญธรรม)
ค. สมิงพระราม (ชื่อสกุลของผู้รับบุตรบุญธรรม)
สยบชัย สายสุพรรณ (ชื่อสกุลเดิมของบุตรบุญธรรม)
ง. สยบชัย สายสุพรรณ (ชื่อสกุลเดิมของบุตรบุญธรรม)
สมิงพระราม (ชื่อสกุลของผู้รับบุตรบุญธรรม)

☺ ข้อใดกล่าวถึงวิธีการเก็บ สด.๒๗ ได้อย่างถูกต้องที่สุดตามคาแนะนาการปฏิบัติหน้าที่ในสายงานสัสดี


ก. ทหารกองเกินและทหารกองหนุนให้รวมกันทุกชั้นปี มีกระดาษอ่อนหนาทาปกเก็บ และทาบัญชีงบยอดปิดไว้ที่ปกเก็บ
(ทบ.๑๐๑-๐๘๕-๑)
ข. ทหารกองเกินและทหารกองหนุนให้รวมเล่มชั้นปี มีกระดาษอ่อนหนาทาปกแล้วเก็บรวบรวมไว้ในปกเก็บฯ และทาบัญชีงบยอดปิดไว้ที่
ปกด้านในทุกปกเก็บ ฯ (ทบ.๑๐๑-๐๘๕-๑)
ค. ทหารกองเกิน, ทหารกองหนุนให้แยกเล่มเป็นชั้นปี มีกระดาษอ่อนหนาทาปกแล้วเก็บรวบรวมไว้ในปกเก็บ (ทบ.๑๐๑-๐๘๕-๑) อีกทีหนึ่ง
และทาบัญชีงบยอดปิดไว้ที่ปกด้านในทุกชั้นปี
ง. ทหารกองเกิน, ทหารกองหนุนให้แยกเล่มเป็นชั้นปี มีกระดาษอ่อนหนาทาปกแล้วเก็บรวบรวมไว้ในปกเก็บ (ทบ.๑๐๑-๐๘๕-๑) อีกทีหนึ่ง
และทาบัญชีงบยอดปิดไว้ที่ปกด้านในทุกปกเก็บด้วย

☺ ข้อใดกล่าวถูกต้องในการจัดเก็บทะเบียนกองประจาการ (สด.๓)
ก. แยกเป็นแผนกทหารบก, ทหารเรือ, ทหารอากาศ ตั้งเล่มใหม่ทุกปี ทุกแผนก
ข. ในหนึ่งเล่มให้มี ๑๐๐ ฉบับ ถ้าเล่มใดมี ๑๙ ฉบับให้เก็บไว้ในเล่มสุดท้ายของ พ.ศ.นั้นๆ
ค. แต่ถ้าแผนกใด พ.ศ.ใด มี ๑๙ ฉบับ ให้เก็บเป็นอีกเล่มหนึ่ง
ง. ที่กล่าวมาถูกทุกข้อ

☺ การจัดทาบัญชีรายชื่อทหารกองประจาการหนีราชการ (สด.๓๓) ข้อใดถูกต้อง


ก. แยกเล่มเป็นสังกัดแต่ละสังกัด ให้ตั้งเล่ม ๑, ๒, ๓, ๔ และต่อไปตามลาดับ ตัดปี
ข. แยกเล่มเป็นจังหวัดทหารบก ให้ตั้งเล่ม ๑, ๒, ๓, ๔ และต่อไปตามลาดับ
ค. แยกเล่มเป็นประเภทแต่ละประเภทให้ตั้งเล่ม ๑, ๒, ๓, ๔ และต่อไปตามลาดับ ตัดปี
ง. แยกเล่มเป็นแผนก แต่ละแผนกให้ตัดปี พ.ศ.ที่หนีราชการ ขึ้น พ.ศ.ภายในเล่ม

☺ ผู้ที่ขึ้นทะเบียนกองประจาการในข้อใดจะต้องบันทึกริมซ้ายของทะเบียนกองประจาการ ( แบบ สด.๓) ตามระเบียบ


ก. คนที่มีอายุต่ากว่ากาหนดสั่งเรียกร้องขอเข้ากองประจาการก่อนวันตรวจเลือก
ข. ผู้ที่มีอายุเกินกว่ากาหนดสั่งเรียกถูกเข้ากองประจาการวันตรวจเลือก
ค. ผู้ร้องขอเข้ากองประจาการเป็น นนส. ที่มีอายุเกินกว่ากาหนดสั่งเรียก
ง. คนร้องขอเข้ากองประจาการก่อนวันตรวจเลือก

☺ เมื่อทหารกองประจาการถูกติดตามตัวกลับหน่วยแล้ว สัสดีอาเภอ, สัสดีจังหวัดจะบันทึกจาหน่ายบัญชีรายชื่อ (แบบ สด.๓๓) อย่างไร


ก. ขีดฆ่าด้วยหมึกดาตั้งแต่ช่อง ยศ-ชื่อ จนถึงช่องมารดา พร้อมกับบันทึกในช่องหมายเหตุผู้บันทึกลงชื่อกากับ
ข. ช่อง “ วัน/เดือน/พ.ศ.” ลงวันที่จาหน่าย, ช่อง “ ด้วยเหตุ ” ลงเหตุที่จาหน่าย, ช่อง “ ฉบับที่ พ.ศ.” ลงเลขทะเบียนรับ
ค. ขีดฆ่าด้วยหมึกดาตั้งแต่ช่อง ยศ-ชื่อ จนถึงช่องมารดา พร้อมกับบันทึกในช่องหมายเหตุ
ง. บันทึกจาหน่ายในช่องหมายเหตุให้ทราบเหตุที่ต้องจาหน่ายตามเรื่องฉบับที่ .... พ.ศ.....

☺ คนหลีกเลี่ยงขัดขืนที่ส่งเข้ากองประจาการตามมาตรา ๓๓ จะบันทึกริมซ้ายในทะเบียนกองประจาการ (สด.๓) อย่างไร


ก. บันทึกริมซ้ายทะเบียน ฯ (สด.๓) ตรงบรรทัดอายุว่า “ คนหลีกเลี่ยง ”
ข. บันทึกริมซ้ายทะเบียนบรรทัดอายุด้วยหมึกแดงว่า “ ตกค้างบัญชี ”
ค. บันทึกริมซ้ายทะเบียนตรงบรรทัดอายุด้วยหมึกแดงว่า “ หลีกเลี่ยงการเรียก ”
ง. บันทึกริมซ้ายทะเบียนด้วยหมึกแดงว่า “ ตกค้างการเรียก ”

☺ นายทหารประทวนเมื่อได้รับยศสูงขึ้นให้บันทึกทะเบียนกองประจาการ ดังนี้
ก. บันทึกช่องหมายเหตุด้านหลังให้ทราบว่า เป็น .... (ยศ ย่อ) .... ตามเรื่องฉบับที่ ....
ข. บันทึกริมซ้ายทะเบียน ฯ ตรงแนวบรรทัดชื่อผู้ขึ้นทะเบียนเป็น ... (ยศ ย่อ) ... ตามเรื่องฉบับที่ .......
ค. บันทึกริมซ้ายทะเบียนฯ แนวบรรทัดอายุว่าเป็น .... (ยศ ย่อ) ... ตามเรื่องฉบับที่ .....
ง. บันทึกริมซ้ายทะเบียนฯ แนวบรรทัดเพราะว่าเป็น ... (ยศ ย่อ) ... ตามเรื่องฉบับที่ ....

☺ ใบสาคัญ (แบบ สด.๙) ที่ออกให้ตามมาตรา ๑๖, ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ ถ้าเขียนผิดจะแก้ไขอย่างไร


ก. ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกดาเขียนคาที่ถูกด้วยหมึกดาใต้หรือต่อข้อความที่ขีดฆ่า ถ้าเขียนใต้คาที่เขียนผิดให้ทาเครื่องหมายตก ประทับตรา
ประจาตาแหน่งของนายอาเภอ ถ้าไม่มีตราประจาตาแหน่งก็ไม่ต้องลง
ข. ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกดา เขียนคาที่ถูกด้วยหมึกดาใต้หรือต่อข้อความที่ขีดฆ่า ถ้าเขียนใต้คา ที่เขียนผิดให้ทาเครื่องหมายตก ประทับตรา
ประจาตาแหน่งนายอาเภอตรงที่ขีดฆ่า
ค. ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกดา เขียนคาที่ถูกด้วยหมึกดา สัสดีอาเภอลงชื่อกากับไว้ ประทับตราประจาตาแหน่งเป็นสาคัญ
ง. ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกแดง เขียนคาที่ถูกด้วยหมึกดา ผู้บันทึกลงชื่อกากับไว้ ประทับตราประจาตาแหน่งเป็นสาคัญ

☺ ทหารกองเกินที่เข้ากองฯ จะบันทึกต้นขั้วใบสาคัญ (แบบ สด.๙) อย่างไร


ก. บันทึกด้านหน้าต้นขั้วใบสาคัญด้วยหมึกแดง ผู้บันทึกลงชือ่ กากับไว้
ข. บันทึกด้านหลังด้วยหมึกแดง ไม่ต้องลงชื่อผู้บันทึกกากับไว้
ค. บันทึกด้านหน้าต้นขั้วใบสาคัญด้วยหมึกดา ผู้บันทึกลงชื่อกากับไว้
ง. บันทึกด้านหลังต้นขั้วใบสาคัญด้วยหมึกแดง ผู้บันทึกลงชื่อกากับไว้

☺ หนังสือสาคัญ (แบบ สด.๔๑) ใช้ในโอกาสใด ผู้ใดเป็นผู้ลงนาม


ก. ใช้ออกให้กับทหารกองเกินที่ใช้สิทธิยกเว้นครูตาม ม.๑๔(๕) ผู้ว่าราชการจังหวัดลงนาม
ข. ใช้ออกให้กับทหารกองเกินที่ขอผ่อนผันไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศตาม ม.๒๗(๒) ผู้ว่าราชการจังหวัดลงนาม
ค. ใช้ออกให้กับนักบวชศาสนาอื่นซึ่งมีหน้าที่ประจาในกิจของศาสนาตาม ม.๑๔(๒) ผู้ว่าราชการจังหวัดลงนาม
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ตาหนิสาคัญ ซึ่งเป็นรายละเอียดอยู่ในหัวข้อหนึ่งของบัญชีทหารกองเกิน ( สด. ๑) ขอถามว่า การบันทึกชื่ออวัยวะ เช่น ตาหนิสาคัญ


แผลเป็นซึ่งอยู่รอบหรือใกล้เคียงบริเวณปาก ต้องเรียกให้ถูกต้องตามพจนานุกรมว่าอย่างใด
ก. ริมฝีปาก
ข. ริมปาก
ค. มุมปาก
ง. บริเวณปาก

☺ การเขียนบัญชีเรียกฯ ( สด.๑๖) ข้อใดกล่าวถูกต้อง


ก. เขียนหรือพิมพ์บรรทัดหนึ่งแล้วเว้น ๒ บรรทัด แต่ละหน้าบันทึกได้จานวนไม่เกิน ๗ คน
ข. เขียนหรือพิมพ์บรรทัดหนึ่งแล้วเว้น ๓ บรรทัด แต่ละหน้าบันทึกได้จานวนไม่เกิน ๗ คน
ค. เขียนหรือพิมพ์บรรทัดหนึ่งแล้วเว้น ๓ บรรทัด แต่ละหน้าบันทึกได้จานวนไม่เกิน ๖ คน
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การบันทึกจาหน่ายกรณีทหารกองเกินย้ายภูมิลาเนาทหารไปอยู่ต่างจังหวัด จะบันทึกต้นขั้วใบสาคัญ (แบบ สด.๙) อย่างไร


ก. บันทึกที่ด้านหน้าด้วยหมึกดา ลงชื่อผู้บันทึกกากับ
ข. บันทึกที่ด้านหน้าด้วยหมึกดา ไม่ต้องลงชื่อผู้บันทึก
ค. บันทึกที่ด้านหลังด้วยหมึกดา ไม่ต้องลงชื่อผู้บันทึก
ง. บันทึกที่ด้านหลังด้วยหมึกแดง ผู้บันทึกลงชื่อกากับ

☺ หลังจากที่ทหารกองเกินได้ลงบัญชีทหารแล้ว การเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัวของทหารกองเกินในข้อใดที่ไม่ต้องแจ้งสัสดีอาเภอเพื่อบันทึก
เปลี่ยนแปลงแก้ไขในบัญชีทหารกองเกิน (สด.๑)
ก. บิดา หรือมารดาเปลี่ยนชื่อ
ข. ทหารกองเกินไปศึกษาต่อที่ท้องที่อื่นและได้ย้ายภูมิลาเนาไปด้วย
ค. ทหารกองเกินจบการศึกษาแล้ว
ง. บิดามารดาหย่า และทหารกองเกินกลับไปใช้สกุลมารดาเป็นนามสกุลตนเอง

☺ คาตอบในข้อใดถือเป็น “ หนีราชการทหาร ”
ก. ขาดโดยมิได้รับอนุญาตลาในเวลาปกติไม่ถึง ๑๕ วัน
ข. ขาดราชการทหารโดยเจตนาขณะมีคาสั่งให้เคลื่อนกาลังทางบก ทางเรือ ทางอากาศ
ค. ขาดเป็นเวลาไม่ถึง ๒๔ ชั่วโมงต่อหน้าราชศรัตรู
ง. ถูกทุกข้อ

☺ การเรียกทหารกองเกินเข้ารับราชการกองประจาการในปีใดนั้น สาหรับทหารบก ทหารเรือ และ ทหารอากาศ เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาระดับ


ใดที่ต้องแจ้งยอดขอเรียกต่อผู้ว่าราชการจังหวัด
ก. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ข. ผู้บัญชาการทหารบก, ทหารเรือ และทหารอากาศ
ค. ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก, ผู้บังคับการจังหวัดทหารบก
ง. สัสดีจังหวัด
☺ ใบสาคัญ (สด.๙) ที่ออกแทนฉบับที่ชารุดหรือสูญหายนั้น จะต้องดาเนินการตามข้อใด
ก. ตั้งไว้เป็นเล่มต่างหาก โดยให้แยกเป็นสังกัด และไม่ตัดปี
ข. ใช้รวมกับฉบับของอาเภอ โดยแยกเป็นสังกัด และตัดปี
ค. ตั้งเป็นเล่มต่างหาก แต่ให้แยกสังกัดและไม่ตัดปี
ง. ตั้งไว้เป็นเล่มต่างหาก ไม่แยกสังกัด และไม่ตัดปี

☺ การย้ายภูมิลาเนาทหารต่างอาเภอในจังหวัดเดียวกัน สัสดีอาเภอเดิมจะดาเนินการบันทึก สด.๑ อย่างไร


ก. บันทึกช่องหมายเหตุให้ทราบว่าย้ายไปอยู่ที่ใด ผู้บันทึกลงชื่อกากับ, ฉีกมุมล่างด้านขวาตามรอยปรุ แล้วถอนไปเก็บตาม
แฟ้มย้ายภูมิลาเนา
ข. บันทึกด้านหลัง สด.๑ ช่อง ย้ายภูมิลาเนา....ไปอยู่..... , จาหน่ายบัญชีด้วยการฉีกมุมล่างด้านขวาตามรอยปรุ
ค. บันทึกด้านหน้า สด.๑ ช่อง ย้ายภูมิลาเนา ... เพื่อจาหน่ายบัญชี แล้วถอนไปเก็บไว้ในแฟ้ม ย้ายภูมิลาเนาทหาร
ง. บันทึกด้านหลัง สด.๑ ช่อง ย้ายภูมิลาเนา .... แล้วถอนไปเก็บไว้ในแฟ้มย้ายภูมิลาเนาทหารรายงานสัสดีจังหวัดทราบ

☺ การจัดทาบัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ (แบบ สด.๒๗) ได้กาหนดให้


จัดทาตามระเบียบในข้อใด
ก. พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ โดย ทบ. จัดหาแบบพิมพ์
ข. กฎกระทรวงฉบับที่ ๔๐ พ.ศ.๒๕๑๖ โดยกระทรวงมหาดไทยจัดหาแบบพิมพ์
ค. ท้ายคาสั่ง ทบ.ที่ ๑๑๗๓/๒๕๒๘ ลง ๒๕ ธ.ค.๒๘ โดย ทบ.จัดหาแบบพิมพ์
ง. ท้ายบันทึกข้อตกลงฯ โดยกระทรวงมหาดไทยจัดหาแบบพิมพ์

☺ องค์ประกอบของการย้ายภูมิลาเนาทหารตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด


ก. มีที่อยู่เป็นหลักฐาน, ประกอบอาชีพเป็นประจา, ย้ายอาเภอถูกต้องตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย
ข. มีที่อยู่เป็นหลักฐาน, ประกอบอาชีพเป็นประจา, และไม่ประสงค์หลีกเลี่ยงการรับราชการทหาร
ค. มีที่อยู่เป็นหลักฐาน, มีการย้ายมาอยู่ทั้งครอบครัวและประกอบอาชีพเป็นประจา
ง. ถูกทุกข้อ

☺ หนังสือแจ้งย้ายภูมิลาเนาทหาร ( แบบ สด.๑๒ ) ใช้กับบุคคลประเภทใด


ก. ทหารกองเกิน หรือทหารกองหนุนประเภทที่ ๒
ข. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ หรือทหารกองหนุนประเภทที่ ๒
ค. ทหารประจาการ หรือทหารกองประจาการ
ง. นายทหารสัญญาบัตรกองหนุน หรือนายทหารสัญญาบัตรนอกกอง

☺ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงท้องที่อาเภอ ให้หน่วยที่เกี่ยวข้องจัดทาบัญชีเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงท้องที่รายงานหน่วยที่เกี่ยวข้องทราบ
อยากทราบว่าบัญชีที่ใช้มีกี่แบบ
ก. ๑ แบบ
ข. ๒ แบบ
ค. ๓ แบบ
ง. ๔ แบบ

☺ บุคคลพลเรือนสอบเข้ารับราชการเป็นทหารประจาการ ถูกนาตัวขึ้นทะเบียนกองประจาการภาย หลังวันแต่งตั้งยศ จะล้วงวัน


รับราชการอย่างไร
ก. วันร้องขอเข้ากองประจาการครั้งแรก
ข. วันที่ได้รับการแต่งตั้งยศเป็นสิบตรี
ค. วันที่ได้สาเร็จการฝึกเบื้องต้น
ง. วันรายงานตัวครั้งแรก

☺ ผู้มีอานาจถอนทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) ได้แก่


ก. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมทาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมร่วมกับปลัดกระทรวงกลาโหม
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

☺ นายบุญถึง จนใจ สาเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ ๒ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ได้ร้องขอเข้ากองประจาการในคราวตรวจเลือกประจาปี จะ


บันทึกบรรทัด เพราะ ........ ในทะเบียนกองประจาการ (สด.๓) อย่างไร
ก. ไม่ต้องบันทึก ปล่อยว่างไว้
ข. ร้องขอเข้ากองประจาการ
ค. ร้องขอเข้ากองประจาการ , วุฒิ ม.๖ และสาเร็จชั้นปีที่ ๒ ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร
ง. ร้องขอเข้ากองประจาการ , วุฒิ ม.๖
☺ ผู้ที่อยู่ในกาหนดผ่อนผันต้องถูกเข้ากองประจาการเพราะคนจาพวกอื่นมีไม่พอกับจานวนที่ต้องการ
จะบันทึกทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) อย่างไร
ก. บันทึกริมซ้ายของทะเบียนกองประจาการตรงบรรทัดอายุด้วยหมึกแดงว่า “ หมดเหตุผ่อนผัน ”
ข. บันทึกริมซ้ายของทะเบียนกองประจาการตรงบรรทัดอายุด้วยหมึกแดงว่า “ คนผ่อนผัน ”
ค. บันทึกในทะเบียนกองประจาการตรงบรรทัดเพราะด้วยหมึกดาว่า “หมดเหตุผ่อนผัน”
ง. บันทึกในทะเบียนกองประจาการตรงบรรทัดเพราะด้วยหมึกดาว่า “คนผ่อนผัน”

☺ ทหารกองประจาการเมื่อได้รับราชการกองประจาการจนครบกาหนดปลดแล้วจะต้องอยู่ในกองหนุนชั้นที่ ๒ ประเภทที่ ๑ เป็นเวลาเท่าใด


ก. ๗ ปี
ข. ๑๐ ปี
ค. ๖ ปี
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) ที่ดาเนินการขึ้นทะเบียนให้แก่ผู้ที่ถูกส่งเข้ากองฯ ในวัน ตรวจเลือกฯ จะส่งให้ฝ่ายสรรพกาลัง มทบ.เมื่อใด


ก. ภายในเดือนพฤศจิกายนของปี
ข. ภายในเดือนกันยายนของปี
ค. ภายใน ๙๐ วัน
ง. ภายใน ๓๐ วัน

☺ นายไข้ หวัดนก ทหารกองเกินเกิด ๑ ส.ค.๒๗ รายงานตัวเป็น นนส.เมื่อวันที่ ๑ พ.ค.๔๔ เมื่อถึง วันที่ ๑ ต.ค.๔๕ หน่วยได้นาตัวไปขึ้นทะเบียน
กองประจาการและจะล้วงวันรับราชการตามข้อใด
ก. ๑ ต.ค. ๔๕
ข. ๑ ม.ค. ๔๕
ค. ๑ พ.ค. ๔๔
ง. ๑ ม.ค. ๔๔

☺ ทหารกองหนุนผู้ใดได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนชื่อตัวชื่อสกุล ให้ผู้นั้นนาหลักฐานไปแจ้งต่อนายอาเภอ ท้องที่ที่เป็นภูมิลาเนาทหารทราบ


ภายในกาหนดเท่าใด
ก. ภายใน ๗ วัน
ข. ภายใน ๑๕ วัน
ค. ภายใน ๓๐ วัน
ง. ภายใน ๖๐ วัน

☺ ใบสาคัญ (แบบ สด.๙) ที่สัสดีจังหวัดพร้อมกับผู้ว่าราชการจังหวัดจะออกให้แก่บุคคลใดบ้าง


ก. นายทหารสัญญาบัตรที่ถูกถอดหรือออกจากยศ
ข. นายทหารสัญญาบัตรที่ลาออกจากราชการ
ค. ทหารประจาการที่ถูกปลดตามมาตรา ๔๑
ง. ทหารกองเกินที่ถูกจาคุก

☺ ใครเป็นผู้ลงนามกากับไว้ใต้ผลการจับสลากสีดาในบัญชีเรียกฯ ( สด.๑๖ ) ฉบับของอาเภอในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกอง


ประจาการประจาปี
ก. ประธานกรรมการตรวจเลือก
ข. นายอาเภอ หรือผู้อานวยการเขต
ค. กรรมการสัสดีจังหวัด
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ทหารกองเกินถูกปลดเพราะพิการฯ ในวันตรวจเลือกจะได้รับเอกสารตามข้อใดเป็นหลักฐาน
ก. ใบสาคัญ สด.๕ และใบสาคัญ (สด.๙)
ข. ใบสาคัญ สด.๕ และหนังสือสาคัญ (สด.๘)
ค. ใบสาคัญ สด.๔ และใบสาคัญ (สด.๙)
ง. ใบสาคัญ สด.๔ และหนังสือสาคัญ (สด.๘)

☺ ทหารกองประจาการที่ถูกปลดตามมาตรา ๔๐ แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร ถ้าอายุยังไม่ถึง ๓๐ ปี บริบูรณ์ ให้ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทใด


ก. ทหารกองหนุนชั้นที่ ๒ ประเภทที่ ๑
ข. ทหารกองหนุนชั้นที่ ๒ ประเภทที่ ๒
ค. ทหารกองหนุนชั้นที่ ๑ ประเภทที่ ๒
ง. ทหารกองหนุนชั้นที่ ๑ ประเภทที่ ๑

☺ ข้อใดกล่าวถึงการแก้ไขหนังสือสาคัญ (สด.๘) ได้ถูกต้องที่สุด


ก. ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกดา เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อคาที่ผิดด้วยหมึกดา สัสดีจังหวัดลงชื่อและประทับตราประจาตาแหน่ง
ข. ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกดา เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อคาที่ผิดด้วยหมึกดา ถ้าเขียนใต้ให้ลงชื่อกากับ ประทับตราประจาตาแหน่ง
สัสดีจังหวัด ถ้าไม่มีให้ใช้ตราผู้ว่าราชการจังหวัดประทับ แทน
ค. ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกดา เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อคาที่ผิดด้วยหมึกดา และประทับตราประจาตาแหน่งสัสดีจังหวัดตรงที่ขีดฆ่า
ถ้าไม่มีให้ใช้ตราผู้ว่าราชการจังหวัดประทับแทน
ง. ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกดา เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อคาที่ผิดด้วยหมึกดา ถ้าเขียนใต้ให้ทาเครื่องหมายตก สัสดีจังหวัด
ลงชื่อกากับและประทับตราประจาตาแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด

☺ เอกสารของบุคคลในข้อใดที่ไม่มีสิทธิมีไว้เป็นหลักฐานประจาตัว
ก. นายวันฉลามฯ อายุ ๒๐ ปี มีใบสาคัญ (สด.๙) แล้ว
ข. นายวันฉลาดฯ แต่งงานแล้วเมื่ออายุ ๒๓ ปี และมีหนังสือสาคัญ (สด.๘) ให้ภรรยาเก็บไว้
ค. นายวันฉกรรจ์ฯ บิดานายวันฉมวก ซึ่งอายุ ๑๙ ปี มาแจ้งต่อสัสดีอาเภอว่าบุตรตนเองเกณฑ์ทหารแล้วโดยนาใบรับรอง
ผลการตรวจเลือกฯ มาแสดงยืนยัน
ง. นายวันแฉล้มฯ มาแจ้งสัสดีอาเภอว่าตนเองจับได้สลากดาตั้งแต่เกณฑ์ทหารเมื่อ ๕ ปีก่อน ตอนนี้อายุ ๓๐ ปีแล้ว
ยังเก็บ สด.๔๓ ไว้อย่างดี

☺ การติดตามทหารหนีราชการซึ่งมีภูมิลาเนาทหารอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ดาเนินการดังนี้
ก. ผบ.หน่วยทหารแจ้งตรงไปยังสานักงานตารวจแห่งชาติ และสาเนาเรื่องให้สัสดีกรุงเทพฯ ทราบ
ข. ผบ.หน่วยทหารแจ้งตรงไปยังสานักงานตารวจแห่งชาติ และสาเนาเรื่องให้ จทบ.ก.ท.ทราบ
ค. ผบ.หน่วยทหารแจ้งตรงไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพ และสาเนาเรื่องให้ จทบ.ก.ท.ทราบ
ง. ผบ.หน่วยทหารแจ้งตรงไปยังสานักงานตารวจแห่งชาติ และสาเนาเรื่องให้สัสดีเขตตามภูมิลาเนาทราบ

☺ เมื่อจังหวัดที่เป็นภูมิลาเนาทหารได้รับแจ้งการขอติดตามจับตัวทหารหนีแล้ว สัสดีจังหวัดต้องปฏิบัติเป็นลาดับแรกคือ
ก. ตรวจสอบบัญชีรายชื่อทหารกองประจาการหนีราชการ (สด.๓๓) และแก้ไขให้ตรงกับสมุดทะเบียนกองประจาการ
บันทึกให้ทราบ ด้วยดินสอดาว่าหนีครั้งที่เท่าใด
ข. ตรวจสอบบัญชีรายชื่อทหารหนีแก้ไขให้ตรงกับทะเบียนกองประจาการ (สด.๓) แล้วบันทึกด้วยดินสอดาให้ทราบว่า
หนีครั้งที่เท่าใด เมื่อใด
ค. คัดรายชื่อลงในบัญชีทหารกองประจาการหนีราชการ (แบบ สด.๓๓) เพื่อแจ้งอาเภอทราบ
ง. ตรวจสอบบัญชีรายชื่อฯ (สด.๓๓) ให้ตรงกับทะเบียนกองประจาการ (สด.๓) บันทึกด้วยดินสอดาให้ทราบว่าหนีครั้งที่เท่าใด เมื่อใด

☺ บัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ (แบบ สด.๒๗) จะทาลายได้เมื่อใด


ก. เมื่อมีการจาหน่ายหมดทั้งตาบลแล้ว
ข. เมื่อมีการเรียกทหารกองเกินเข้ารับการฝึกแล้วทั้งตาบล
ค. เมื่อคนชั้นปีนั้นมีอายุครบ ๔๖ ปีบริบูรณ์แล้ว
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ข้อใดกล่าวถึงแบบพิมพ์บัญชีรายชื่อฯ (แบบ สด.๒๗) ได้อย่างถูกต้องที่สุด


ก. บัญชีมี ๒ หน้า หน้าหนึ่งลงได้ ๕ รายชื่อ เว้นรายชื่อละ ๔ บรรทัด
ข. บัญชีมี ๑ หน้า หน้าหนึ่งลงได้ ๔ รายชื่อ เว้นรายชื่อละ ๔ บรรทัด
ค. บัญชีมี ๒ หน้า หน้าหนึ่งลงได้ ๕ รายชื่อ เว้นรายชื่อละ ๓ บรรทัด
ง. บัญชีมี ๑ หน้า หน้าหนึ่งลงได้ ๕ รายชื่อ เว้นรายชื่อละ ๔ บรรทัด

☺ ในเดือนมกราคม ให้สัสดีจังหวัดจัดทาบัญชีเรียกฯ คนอายุธรรมดา โดยคัดรายชื่อจากเอกสารใด


ก. สด.๑๖
ข. บัญชีฯ (แบบ สด.๒๗)
ค. บัญชีรายชื่อ (แบบ สด.๒)
ง. บัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๑)

☺ บัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ (แบบ สด.๒๗) เป็นหลักฐานสาคัญถ้าเขียนผิดจาเป็นต้องแก้ไข


ให้ดาเนินการตามข้อใด
ก. ขีดฆ่าคาผิดด้วยหมึกแดง เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อจากคาที่ขีดฆ่าด้วยหมึกดา ผู้ลงชื่อกากับคือสัสดีจงั หวัดตรงที่ขีดฆ่า
ข. ขีดฆ่าคาผิดด้วยหมึกแดง เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อจากคาที่ขีดฆ่าด้วยหมึกดา ลงชื่อผู้บันทึกกากับไว้ในช่องหมายเหตุ
ค. ขีดฆ่าคาผิดด้วยหมึกแดง เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อจากคาที่ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง สัสดีจังหวัดลงชื่อกากับในช่องหมายเหตุ
ง. ขีดฆ่าคาผิดด้วยหมึกแดง เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อจากคาที่ขีดฆ่า ลงลายมือชื่อผู้บันทึกกากับไว้ตรงที่ขีดฆ่า

☺ การเก็บทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) มีวิธีการเก็บอย่างไร


ก. เก็บแยกเป็นแผนก รวมทุก พ.ศ. และเรียงตามเลขเครื่องหมาย
ข. เก็บแยกเป็นแผนก แยกเป็น พ.ศ.ที่เข้ากองประจาการ และเรียงเลขเครื่องหมาย
ค. เก็บแยกเป็นแผนก แยกเป็น พ.ศ. เล่มหนึ่งมี ๒๐๐ ฉบับ
ง. เก็บรวมทุกแผนก แยกเป็น พ.ศ. และเรียงตามเลขเครื่องหมาย
☺ การเขียนทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) ถ้าบิดาของผู้ขึ้นทะเบียนกองประจาการตาย บันทึกอย่างใด
ก. ช่อง อาชีพบิดา ..... บันทึกด้วยดินสอดาในวงเล็บว่า ..... (บิดาถึงแก่กรรม)
ข. ช่อง ชื่อบิดา .....เขียนด้วยดินสอดาในวงเล็บว่า ..... (บิดาถึงแก่กรรม)
ค. ช่อง อาชีพบิดา ..... บันทึกด้วยหมึกดาในวงเล็บว่า ..... (บิดาถึงแก่กรรม)
ง. ช่อง ชื่อบิดา ..... เขียนด้วยหมึกดาว่า ..... “ บิดาถึงแก่กรรม ”

☺ คนที่ส่งตัวเข้ากองประจาการหลังวันตรวจเลือก สัสดีจังหวัดต้องส่งทะเบียนกองประจาการไปเก็บที่ มทบ. เมื่อใด


ก. ภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันขึ้นทะเบียนกองประจาการ
ข. ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันขึ้นทะเบียนกองประจาการเสร็จสิ้น
ค. ภายในเดือน ก.ย.ของปีนั้น
ง. ภายใน ๙๐ วัน นับแต่วันขึ้นทะเบียนกองประจาการทหารผลัดนั้น

☺ ข้อใดกล่าวถึงวันขึ้นทะเบียนกองประจาการและวันรับราชการได้อย่างถูกต้องตามมาตรา ๙ แห่ง พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗


ก. ให้ขึ้นทะเบียนในวันที่เข้ากองประจาการเท่านั้น
ข. เมื่อเข้ากองประจาการให้ขึ้นทะเบียนโดยไม่ชักช้า
ค. ถ้าขึ้นทะเบียนไม่ทันจะขึ้นทะเบียนภายหลังก็ได้ และให้ถือว่าวันขึ้นทะเบียนกับวันเข้ากอง เป็นคนละวันแต่เริ่มนับวันรับราชการ
ตั้งแต่วันเข้ากอง
ง. ถูกทั้งข้อ ข. และข้อ ค.

☺ คนหลีกเลี่ยงที่ส่งเข้ากองประจาการภายหลังวันตรวจเลือก ใครเป็นผู้นาตัวขึ้นทะเบียน ฯ
ก. เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับคน
ข. นายอาเภอภูมิลาเนาทหาร
ค. ปลัดจังหวัด
ง. ข้อ ข. และข้อ ค. ถูกต้อง

☺ บุคคลใดต้องขึ้นทะเบียนกองประจาการ
ก. ข้าราชการกลาโหมพลเรือน
ข. นักเรียนนายสิบทหารบกเมื่อมีอายุ ๑๘ ปีบริบูรณ์
ค. ทหารพราน
ง. ที่กล่าวมาต้องขึ้นทะเบียนทั้งหมด

☺ นายแห้วฯ อายุ ๑๗ ปีบริบูรณ์พอดี ได้ไปพบสัสดีอาเภอเมืองสงขลา พร้อมด้วยหลักฐานทะเบียน บ้านตนเอง และของบิดาซึ่งอยู่ที่


อ.อมก๋อย จว.เชียงใหม่ และของมารดาอยู่ที่ อ.นาแห้ว จว.เลย สัสดีอาเภอเมืองสงขลา จะแนะนานายแห้วตามข้อใดจึงถูกต้อง
ก. ให้นายแห้วฯ ไปขอลงบัญชีทหารกองเกิน ที่ อ.นาแห้ว จึงจะถูกต้อง
ข. ให้นายแห้วฯ ต้องไปลงบัญชีทหารกองเกิน ที่ อ.อมก๋อย เพราะบิดามีชื่ออยู่ที่นั่น
ค. ให้นายแห้วฯ ลงบัญชีทหารกองเกิน ที่ อ.เมืองสงขลา ได้ เพราะชื่อตนเองอยู่ที่สงขลา
ง. ให้นายแห้วฯ ลงบัญชีทหารกองเกิน ที่ อ.เมืองสงขลา ได้ หากร้องขอเข้ารับราชการ

☺ คนที่หลีกเลี่ยงขัดขืนตามมาตรา ๓๓ แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหารฯ ที่สง่ เข้ากองประจาการ ให้ บันทึกริมซ้ายทะเบียนกองประจาการว่าอย่างไร


ก. ตกค้างการเรียก
ข. หลีกเลี่ยงขัดขืน
ค. หลีกเลี่ยงการเรียก
ง. หลบเลี่ยงการเรียก

☺ ข้อใดกล่าวถึงการแก้ไขหนังสือสาคัญ ( สด.๘ ) ได้ถูกต้องตามระเบียบ


ก. ขีดฆ่าคาผิดด้วยหมึกดา เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อคาผิดด้วยหมึกดา สัสดีจังหวัดลงชื่อกากับ
ข. ขีดฆ่าคาผิดด้วยหมึกดา เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อคาผิดด้วยหมึกดา ประทับตราประจาตาแหน่งสัสดีจังหวัด
และสัสดีจังหวัดลงชื่อกากับ
ค. ขีดฆ่าคาผิดด้วยหมึกดา เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อคาผิดด้วยหมึกดา ประทับตราประจาตาแหน่งสัสดีจังหวัด
ถ้าไม่มีให้ใช้ตราประจาตาแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแทน
ง. ขีดฆ่าคาผิดด้วยหมึกดา เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อคาผิดด้วยหมึกดา ประทับตราประจาตาแหน่งสัสดีจังหวัด
ถ้าไม่มีให้ลงชื่อกากับไว้

☺ ผู้ที่ถูกเข้ากองประจาการในปีที่มีอายุ ๒๑ ปีบริบูรณ์ แต่ถูกกาหนดตัวให้เข้ากองประจาการในผลัดอื่นของปีต่อไป จะบันทึก


ทะเบียนกองประจาการอย่างใด
ก. บันทึกริมซ้ายตรงบรรทัดอายุว่า “ ถูกเข้ากองประจาการ เม.ย. .... เพิ่งเข้ารับราชการ ”
ข. บันทึกริมซ้ายบรรทัดยศ-ชื่อ ว่า “ ถูกเข้ากองประจาการ เม.ย. .... เพิ่งเข้ารับราชการ ”
ค. บันทึกริมซ้ายบรรทัดเพราะด้วยหมึกดาว่า “ ถูกเข้ากองประจาการ เม.ย. .... เพิ่งเข้ารับราชการ ”
ง. บันทึกริมซ้ายบรรทัดใดบรรทัดหนึ่งด้วยหมึกแดงว่า “ ถูกเข้ากองประจาการ เม.ย. ... เพิ่งเข้ารับราชการ ”
☺ การบันทึกต้นขั้วใบสาคัญ (แบบ สด.๙) เพื่อจาหน่ายทหารกองเกินเข้ากองประจาการข้อใดถูกต้อง
ก. บันทึกด้านหลังต้นขั้วใบสาคัญ (แบบ สด.๙) ด้วยหมึกดา ผู้บันทึกไม่ต้องลงชื่อกากับไว้
ข. บันทึกด้านหน้าตามเส้นทาบเฉียงซ้ายด้วยหมึกดาในลักษณะจาหน่ายเข้ากอง ผู้บันทึกลงชื่อกากับ
ค. บันทึกด้านหน้าตามเส้นทาบเฉียงซ้ายด้วยหมึกแดงในลักษณะจาหน่ายเข้ากอง ผู้บันทึกลงชื่อกากับ
ง. บันทึกด้านหลังต้นขั้วใบสาคัญ (แบบ สด.๙) ด้วยหมึกแดง ผู้บันทึกลงชื่อกากับไว้

☺ ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด
ก. นายทหารสัญญาบัตรต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๓๙
ข. นายทหารประทวนประจาการต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗
ค. ทหารกองเกินไม่ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗
ง. ข้อ ก. และข้อ ข. น่าจะถูกต้อง

☺ ผู้ที่หลีกเลี่ยงขัดขืนมีอายุเกินกว่ากาหนดสั่งเรียก และมีคุณวุฒิพิเศษซึ่งจะอยู่ในกองประจาการน้อยกว่า ๒ ปีได้ ให้บันทึกข้อความในทะเบียน


กองประจาการ (แบบ สด.๓) ดังนี้
ก. บรรทัดเพราะ .... บันทึกด้วยหมึกดาว่า “ ร้องขอเข้ากองประจาการ ”
ข. ตรงบรรทัดอายุริมซ้ายทะเบียนบันทึกด้วยหมึกแดงว่า “ หลีกเลี่ยงการเรียก ”
ค. บันทึกที่ด้านหลังทะเบียนกองประจาการ ผู้บันทึกลงชื่อกากับ
ง. ต้องบันทึกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.

☺ เมื่อทหารกองประจาการมาขออนุญาตลากิจต่อนายอาเภอ ควรอนุญาตให้ลาได้ไม่เกินกี่วัน
ก. ๕ วัน
ข. ๗ วัน
ค. ๖ วัน
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ นายทหารสัญญาบัตรที่ถูกปลดเป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒ ตามมาตรา ๔๑ วรรคสอง เป็นการปลดด้วยเหตุใด


ก. พิการทุพพลภาพ
ข. มีโรคไม่สามารถรับราชการได้
ค. ถูกถอดหรือออกจากยศ
ง. ถูกทุกข้อ

☺ การบันทึกจาหน่ายต้นขั้วใบสาคัญ (แบบ สด.๙) กรณีลงบัญชีทหารซ้า ให้บันทึกดังนี้


ก. บันทึกด้านหน้าด้วยหมึกดาว่า “ ซ้ากับใบสาคัญที่ .... พ.ศ. .... ได้ทาลายใบสาคัญแล้ว ” ผู้บันทึกลงชื่อกากับไว้
ข. บันทึกด้านหลังด้วยหมึกดา ผู้บันทึกลงชื่อกากับ
ค. บันทึกด้านหลังด้วยหมึกแดงว่า “ ซ้ากับใบสาคัญที่ .... พ.ศ. .... ได้ทาลายใบสาคัญแล้ว ”
ง. บันทึกด้านหน้าด้วยหมึกแดงว่า “ ซ้ากับใบสาคัญที่ .... พ.ศ. .... ได้ทาลายใบสาคัญแล้ว ” ผู้บันทึกลงชื่อกากับ

☺ การปลดทหารกองประจาการเป็นทหารกองหนุนแผนกทหารบก ผู้บังคับหน่วยมีวิธีปฏิบัติดังนี้
ก. ส่งรายชื่อผูค้ รบกาหนดปลด, สมุดประจาตัวทหารกองหนุนฯ ต่อ ผบ.จทบ. ในเขตพื้นที่
ข. ส่งบัญชีหางว่าวนาปลดฯ ต่อสัสดีจังหวัดภูมิลาเนา
ค. ส่งหางว่าวนาปลดฯ ต่อ ผบ.จทบ. ในเขตพื้นที่
ง. ส่งบัญชีรายชื่อต่อ ผบ.จทบ. ในเขตพื้นที่

☺ การปลดทหารเรือออกจากกองประจาการ ผู้บงั คับหน่วยในข้อใดดาเนินการถูกต้องที่สุด


ก. ส่งสมุดประจาตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ และหางว่าวนาปลดฯ ต่อ ผบ.จทบ. ในเขตพื้นที่
ข. ส่งบัญชีรายชื่อผู้ที่ครบปลดต่อกรมกาลังพลทหารเรือเพื่อยื่นหางว่าวนาปลดต่อสัสดีจังหวัดตามภูมิลาเนา
ค. ส่งหางว่าวนาปลดฯ ต่อ ผบ.จทบ. ในเขตพื้นที่ เพื่อยื่นต่อสัสดีจังหวัดตามภูมิลาเนาทหาร
ง. ส่งหางว่าวนาปลดต่อกรมกาลังพลทหารเรือ เพื่อยื่นต่อ จทบ. ที่หน่วยอยู่ในเขตพื้นที่

☺ การปลดทหารอากาศออกจากกองประจาการ ให้ดาเนินการดังนี้
ก. ผู้บังคับหน่วยส่งบัญชีรายชื่อผู้ครบกาหนดปลดต่อกรมกาลังพลทหารอากาศ
ข. ผู้บังคับหน่วยส่งหางว่าวนาปลดฯ ต่อแผนกสัสดีจังหวัด
ค. ผู้บังคับหน่วยส่งรายชื่อผู้ที่ครบกาหนดต่อแผนกสัสดีจังหวัดภูมิลาเนาทหาร
ง. ผู้บังคับหน่วยส่งรายชื่อผู้ที่ครบกาหนดต่อ จทบ. ในเขตพื้นที่

☺ การปลดตารวจออกจากกองประจาการซึง่ รับราชการประจาในท้องที่กรุงเทพมหานคร ผู้ใดต้องส่งรายชื่อผูค้ รบกาหนดปลดต่อ ผบ.จทบ.


ที่จังหวัดภูมิลาเนาทหารอยู่ในเขตพื้นที่เพื่อขอทราบสังกัด
ก. ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ
ข. ผู้บังคับการตารวจนครบาล
ค. ผู้บังคับการกองกาลังพล กรมตารวจ
ง. ผู้กากับการตารวจจังหวัด

☺ ทะเบียนกองประจาการแผนกตารวจ ถ้ามี ๑๑๙ ฉบับ มีวิธีเก็บดังนี้


ก. ตั้งเป็น ๒ เล่ม คือ เล่มที่ ๑ มี ๑๐๐ ฉบับ, เล่มที่ ๒ มี ๑๙ ฉบับ
ข. ตั้งเป็น ๑ เล่ม เก็บทั้ง ๑๑๙ ฉบับ
ค. ตั้งเป็น ๒ เล่ม เล่มที่ ๑ มี ๖๐ ฉบับ, เล่มที่ ๒ มี ๕๙ ฉบับ
ง. ตั้งได้ตามข้อ ก. และข้อ ข.

☺ พลฯทองมี มาเกิด เข้ารับราชการทหารกองประจาการเมื่อ ๑ พ.ค.๔๒ ระหว่างรับราชการได้หนีราชการตัง้ แต่วันที่ ๑๕ ธ.ค.๔๒


และกลับเข้ารับราชการเมื่อวันที่ ๒๐ ก.พ.๔๓ พลฯทองมี มาเกิด หนีราชการไปเท่าใด
ก. ๒ เดือน ๘ วัน
ข. ๒ เดือน ๖ วัน
ค. ๒ เดือน ๗ วัน
ง. ๓ เดือน

☺ สัสดีอาเภอต้องส่งบัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน (สด.๒) ตามมาตรา ๑๖ ให้จังหวัด เพื่อจัดทาบัญชีฯ (แบบ สด.๒๗) ภายใน


ก. เดือน ม.ค. ของปีถัดไป
ข. ๙๐ วัน
ค. ๓๐ วัน
ง. ๖๐ วัน

☺ การเก็บสาเนาทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) ที่รับโอนให้เก็บดังนี้


ก. แยกแผนกเป็นจังหวัด
ข. รวมทุกแผนก รวมทุกจังหวัด
ค. รวมทุกแผนก แยกเป็นจังหวัด
ง. แยกเป็นแผนก รวมทุกจังหวัด

☺ คนที่ส่งตัวเข้ากองประจาการในปีถัดไป ให้บันทึกริมซ้ายทะเบียนกองประจาการ (สด.๓) ด้วยหมึกแดงที่ใด


ก. บรรทัดชื่อผู้ขึ้นทะเบียน
ข. บรรทัดอายุ
ค. ริมซ้ายทะเบียนฯ แห่งใดแห่งหนึ่ง
ง. บรรทัด วัน เดือน ปีเกิด

☺ ผู้บังคับหน่วยทหารต้องส่งหลักฐานขอนาปลดทหารกองประจาการทีร่ ับราชการครบกาหนดปลด ต่อหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อยื่นหางว่าวนาปลด


ก่อนครบกาหนดปลดได้กี่วัน
ก. ๙๐ วัน
ข. ไม่น้อยกว่า ๙๐ วัน
ค. ๖๐ วัน
ง. ไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน

☺ ผู้ที่รับหมายเรียกแล้วไม่มาเข้ารับการตรวจเลือกเพราะเหตุสุดวิสัยฯ ต้องบันทึกเหตุที่ถูกเรียกนั้นริมซ้ายทะเบียนกองประจาการว่าอย่างใด
ก. ตกค้างบัญชี
ข. ตกค้างการเรียก
ค. หลีกเลี่ยงการเรียก
ง. เหตุสุดวิสัย

☺ การปลดทหารกองเกินที่ไม่ถูกเข้ากองประจาการ เมื่ออายุครบกาหนดปลด ให้ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ดังนี้


ก. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๒ อายุ ๔๕ ปีบริบูรณ์
ข. ทหารกองหนุนชั้นที่ ๓ อายุ ๔๐ ปีบริบูรณ์
ค. ทหารกองหนุนชั้นที่ ๒ อายุ ๔๐ ปีบริบูรณ์
ง. ทหารกองหนุนชั้นที่ ๑ อายุ ๓๐ ปีบริบูรณ์

☺ การจัดทาบัญชีรายชื่อทหารกองประจาการที่หนีราชการฯ (สด.๓๓) ให้จัดทาดังนี้


ก. แยกเป็นแผนก ทบ., ทร., ทอ.
ข. แยกเป็น พ.ศ. ที่หนีรวมทุกแผนก
ค. แยกเป็นแผนก ทบ., ทร., ทอ. ตัดปีภายในเล่ม
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ทหารกองเกินซึ่งเข้ารับการตรวจเลือกและมีโรคซึ่งไม่สามารถรับราชการทหารได้ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ให้ปลดพ้นราชการทหาร
ประเภทที่ ๒ ตั้งแต่
ก. วันเข้ารับการตรวจเลือก
ข. วันที่ ๑ เม.ย.
ค. อายุ ๔๖ ปีบริบูรณ์
ง. วันที่ ๑ ม.ค.

☺ สัสดีจังหวัดต้องจัดทาบัญชีรายชื่อทหารกองประจาการที่ปลดพิการทุพพลภาพหรือมีโรคซึ่งไม่สามารถรับราชการทหารได้ ส่งต่อ
สัสดี มทบ. ภายในเดือน
ก. ธ.ค. ของทุกปี
ข. ต.ค. ของทุกปี
ค. ก.ย. ของทุกปี
ง. ม.ค. ของทุกปี

☺ ทหารที่หนีราชการจนคดีขาดอายุความให้ปลดเป็น
ก. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๒
ข. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๑
ค. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ หรือพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒ แล้วแต่กรณี
ง. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ หรือทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ แล้วแต่กรณี

☺ บุคคลใดต่อไปนี้ไม่ต้องใช้ทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) เป็นหลักฐานรับราชการ


ก. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒
ข. ทหารกองประจาการและตารวจกองประจาการ
ค. นักเรียนทหาร
ง. ทหารประจาการ

☺ ข้อใดนับวันเริ่มเข้ารับราชการทหารกองประจาการถูกต้อง
ก. นับตั้งแต่วันที่เข้ารับราชการทหารกองประจาการ
ข. นับตั้งแต่วันขึ้นทะเบียนกองประจาการ
ค. นับได้ตามข้อ ก. และข้อ ข.
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การขึ้นทะเบียนกองประจาการให้กับคนที่มีเหตุสุดวิสัยไม่สามารถส่งตัวมาขึ้นทะเบียนกองประจาการได้ เช่น ไปปฏิบัติหน้าที่ห่างไกล หรือตาย


ให้ปฏิบัติดังนี้
ก. ใช้หลักฐานตามบัญชีทหารกองเกินที่มี
ข. ไม่ต้องลงลายมือชื่อของผู้ขึ้นทะเบียน
ค. ไม่ต้องลงชื่อของผู้นาขึ้นทะเบียน
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ข้อใดกล่าวถึงหน่วยทหารซึ่งทาหน้าที่ขึ้นทะเบียนกองประจาการถูกต้อง
ก. หน่วยทหารซึ่งทาหน้าที่ขึ้นทะเบียนกองประจาการมี ๓ ระดับ
ข. ระดับมณฑลทหารบกมีสัสดีมณฑลทหารบกเป็นเจ้าพนักงานทะเบียน
ค. ระดับจังหวัดทหารบกมีสัสดี จทบ.เป็นเจ้าพนักงานทะเบียน
ง. ถูกทุกข้อ

☺ หลักฐานในข้อใดไม่เกี่ยวข้องในการรับลงบัญชีทหารกองเกินสาหรับผู้ที่อยู่ในกาหนดลงบัญชีตาม มาตรา ๑๖
ก. ใบรับ ( สด.๑๐ )
ข. หมายเรียกฯ ( สด.๓๕)
ค. ใบสาคัญ ( สด.๙ )
ง. บัญชีทหารกองเกิน ( สด.๑ )

☺ นายสินฯ ได้ลงบัญชีทหารกองเกินแล้ว ต่อมาได้เข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกิน จับได้สลากแดง เข้ากองแผนก ทร.๔ ปัจจุบันปลดเป็นทหาร


กองหนุนประเภทที่ ๑ หลายปีแล้ว ปัจจุบันเป็นผู้จัดการบริษัทส่งออกแห่งหนึ่ง หลักฐานทางทหารในข้อใด ไม่มีข้อมูลขอนนายสินฯ
ก. ทะเบียนกองประจาการ, ต้นขั้วใบสาคัญทหารกองเกิน
ข. หมายนัดเข้ารับราชการทหาร, หางว่าวนาปลดฯ
ค. สด.๔, ประกาศ (สด.๓๘)
ง. บัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ, แบบ สด.๔๔

☺ ข้อความในทะเบียนกองประจาการ ถ้าช่องใดไม่มีข้อความให้บันทึก ต้องดาเนินการตามข้อใด


ก. หาข้อความบันทึกให้สมบูรณ์ทุกช่อง
ข. ขีด ( - ) เสียทุกช่อง
ค. ให้เว้นว่างไว้ไม่ต้องบันทึก
ง. ขีด ( × ) เสียทุกช่อง

☺ การแก้ไขใบสาคัญที่ออกตามมาตรา ๔๐ แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ กรณีที่เขียนผิด จะดาเนินการอย่างไร


ก. ขีดฆ่าคาที่เขียนผิดด้วยหมึกดา เขียนคาที่ถูกต้องใต้หรือต่อคาที่ขีดฆ่า ประทับตราประจาตาแหน่งสัสดีจังหวัดกากับไว้
ข. ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกดาแล้วเขียนคาที่ถูกต่อท้ายหรือใต้คาที่ขีดฆ่าด้วยหมึกดา ถ้าเขียนใต้ให้ทาเครื่องหมายตกกากับไว้
ประทับตราประจาตาแหน่งนายอาเภอกากับไว้
ค. ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกดาแล้วเขียนคาที่ถูกต่อท้ายหรือใต้คาที่ขีดฆ่าด้วยหมึกดา ถ้าเขียนใต้ให้ทาเครื่องหมายตกกากับไว้
สัสดีอาเภอลงชื่อกากับไว้
ง. ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกแดงแล้วเขียนคาที่ถูกต่อท้ายหรือใต้คาที่ขีดฆ่าด้วยหมึกดา ถ้าเขียนใต้ให้ทาเครื่องหมายตกกากับไว้

☺ การลงบัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ( สด.๒๗ ) เขียนจากหลักฐานใด เว้นรายชื่อละเท่าใด


และหน้าหนึ่งเขียนได้กี่รายชื่อ
ก. บัญชีฯ ( สด.๑ ) เว้นรายชื่อละ ๒ บรรทัด หน้าหนึ่งเขียนได้ ๗ รายชื่อ
ข. บัญชีฯ ( สด.๑ ) เว้นรายชื่อละ ๓ บรรทัด หน้าหนึ่งเขียนได้ ๖ รายชื่อ
ค. บัญชีฯ ( สด.๒ ) เว้นรายชื่อละ ๔ บรรทัด หน้าหนึ่งเขียนได้ ๕ รายชื่อ
ง. บัญชีฯ ( สด.๒ ) เว้นรายชื่อละ ๓ บรรทัด หน้าหนึ่งเขียนได้ ๗ รายชื่อ

☺ เมื่อมีทหารกองเกินซึ่งมีภูมิลาเนาอยู่ต่างอาเภอแต่ภายในจังหวัดเดียวกันมาแจ้งย้ายภูมิลาเนาทหาร เข้ามาอยู่ในอาเภอของท่าน
ถ้าท่านเป็นสัสดีอาเภอท่านจะดาเนินการอย่างไร
ก. สอบสวนว่าไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยง สอบถามไปยังอาเภอภูมิลาเนาทหารเดิม เมื่อได้รับคาตอบยืนยันให้รับลงบัญชีและออกใบรับ
ให้เจ้าตัวรับไป, เรียกใบสาคัญฉบับเดิมกลับมาทาลาย
ข. สอบถามอาเภอภูมิลาเนาทหารเดิม เมื่อได้รับคาตอบยืนยันให้รับลงบัญชีแล้วออกใบสาคัญให้ และเรียกใบสาคัญฉบับเดิมกลับมาทาลาย
ค. สอบสวนปากคา, สอบถามอาเภอภูมิลาเนาทหารเดิม เมื่อได้รับการยืนยันให้รับลงบัญชี และออกใบสาคัญให้พร้อมกับเรียกใบสาคัญ
ฉบับเดิมกลับมาทาลาย
ง. รับลงบัญชีทหาร (แบบ สด.๑) ออกใบสาคัญ (สด.๙) ให้เจ้าตัวรับไป และเรียกใบสาคัญฉบับเดิมกลับมาทาลาย

☺ ข้อใดบันทึกการย้ายภูมิลาเนาในทะเบียนกองประจาการ (สด.๓) ถูกต้อง


ก. วงเล็บบ้านเดิมด้วยหมึกแดง เขียนใหม่ด้วยหมึกดา บันทึกช่องหมายเหตุให้ทราบเรื่อง
ข. บันทึกด้านหลังช่องย้ายภูมิลาเนา
ค. ให้บันทึกริมซ้ายทะเบียนกองประจาการ
ง. ให้บันทึกด้านหลังทะเบียนกองประจาการช่องหมายเหตุ

☺ ความหมายของคาว่า “ ขาดราชการ ” ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องที่สุด


จ. ขาด ๒๔ ชั่วโมงต่อหน้าราชศรัตรู
ฉ. ขาดเกิน ๓ วันในเวลาไม่ปกติ
ช. ขาดโดยมิได้รับอนุญาต หรือเมื่อพ้นกาหนดอนุญาตลาในเวลาปกติยังไม่ถึง ๑๕ วัน
ซ. ถูกทุกข้อ

☺ เมื่อสัสดีอาเภอได้รับหลักฐานการปลดทหารกองเกินเป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒ จะดาเนินการเกี่ยวกับบัญชีทหารกองเกินอย่างไร
ก. บันทึกด้านหลัง (สด.๑) บรรทัดปลดพ้นราชการ .... ตามเรื่องฉบับที่ .... ลงชื่อกากับไว้, ฉีกมุมล่างด้านขวา
และเก็บยอดบัญชี ให้ถูกต้อง
ข. บันทึกด้านหลัง (สด.๑) บรรทัดปลดพ้นราชการ .... ตามเรื่องฉบับที่ .... ลงชื่อกากับไว้, ฉีกมุมล่างด้านขวา
และถอนบัญชีทหาร ไปเก็บในแฟ้มพ้นราชการ
ค. บันทึกด้านหลัง (สด.๑) ลงชื่อผู้บันทึกกากับไว้ แล้วฉีกมุมล่างด้านขวา แก้งบยอดบัญชีให้ถูกต้อง
ง. บันทึก (สด.๑) ถอนบัญชีฯไปเก็บไว้ในแฟ้มปลดพ้นราชการทหารแก้บัญชีงบยอดให้ถูกต้อง

☺ การย้ายภูมิลาเนาทหารต่างอาเภอภายในจังหวัดเดียวกันให้แก่ผู้ที่ลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๖ แล้วแต่ยังไม่เป็นทหารกองเกิน
ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. อาเภอเดิมส่งรายชื่อผู้ที่ขอย้ายภูมิลาเนาทหารลงในบัญชีหักโอน แยกเฉพาะรายแจ้งอาเภอใหม่ทราบ ครั้นเมื่อคราวถึงกาหนดส่ง
บัญชีรายชื่อ (สด.๒) ตอนสิ้นปีให้หมายเหตุให้ทราบ
ข. อาเภอเดิมคัดรายชื่อผู้ที่ขอย้ายภูมิลาเนาทหารลงในบัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน (สด.๒) แยกเฉพาะรายแจ้งจังหวัดทราบ
ครั้นเมื่อคราวถึงกาหนดส่งบัญชีรายชื่อ(สด.๒) ตอนสิ้นปีให้หมายเหตุให้ทราบ
ค. อาเภอเดิมคัดรายชื่อผู้ที่ขอย้ายภูมิลาเนาทหารลงในบัญชีผู้ที่อยู่ในกาหนดลงบัญชีทหารกองเกินแยกเฉพาะรายแจ้งจังหวัดทราบ
ครั้นเมื่อคราวถึงกาหนดส่งบัญชีรายชื่อ (สด.๒) ตอนสิ้นปีให้หมายเหตุให้ทราบ
ง. อาเภอเดิมคัดรายชื่อผู้ที่ขอย้ายภูมิลาเนาทหารลงบัญชีทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ แยกเฉพาะรายส่งจังหวัด ,
อาเภอเดิมทาหนังสือแจ้งย้ายภูมิลาเนาทหาร (สด.๑๒) แจ้งจังหวัดใหม่ทราบเมื่อคราวสิ้นปี

☺ การจัดทาบัญชีรายชื่อทหารกองเกินฯ (แบบ สด.๒๗) สาหรับทหารกองเกินที่ได้รับการฝึกแล้ว หรือยังไม่ได้รับการฝึก ให้จัดทาอย่างไร


ก. คัดรายชื่อรวมในชั้นปี, ตาบลหรือแขวงเดียวกัน
ข. ตั้งเป็นชั้นปี ชั้นกองหนุนเป็นสังกัด ตัดปี
ค. ตั้งเป็นชั้นปี ชั้นกองหนุนเป็นสังกัด ไม่ตัดปี
ง. จัดทาได้ตามข้อ ก. และข้อ ค.

☺ บัญชีรายชื่อที่แผนกสัสดีจังหวัดจัดทาโดยแยกเป็นตาบลหรือแขวง เป็นอาเภอ/เขตหรือกิ่งอาเภอ เป็นชั้นปี มีข้อมูลตรงกับบัญชีรายชื่อ


ที่ทางอาเภอส่งให้ เป็นการจัดทาบัญชีใด
ก. บัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๑)
ข. บัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ (แบบ สด.๒๗)
ค. บัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ (แบบ สด.๑๖)
ง. บัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๒)

☺ การขึ้นทะเบียนกองประจาการของคนที่มีเหตุสุดวิสัยไม่สามารถส่งตัวมาขึ้นทะเบียนกองประจาการได้ เช่น ไปราชการแล้วตาย


ใครเป็นผู้ลงชื่อนาขึ้นทะเบียน
ก. เจ้าหน้าที่ของหน่วย
ข. ไม่ต้องลงชื่อผู้นาขึ้นทะเบียน
ค. ปลัดจังหวัด
ง. นายอาเภอท้องที่

☺ พลฯอิทธิ กล้าหาญ ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ถูกเรียกเข้ารับราชการในการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร แพทย์ตรวจร่างกายแล้ว


ปรากฏว่ามีโรคซึ่งไม่สามารถรับราชการทหารได้ พลฯอิทธิ จะถูกปลดเป็นทหารประเภทใด
ก. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๒
ข. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒
ค. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๑
ง. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑

☺ ทหารกองประจาการถ้าต้องจาขังหรือจาคุก เมื่อมีกาหนดวันที่จะต้องทัณฑ์หรือโทษรวมได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งปี ซึ่งจะปลดเป็นทหารกองหนุน


ประเภทที่ ๒ ทางราชการจะออกเอกสารใดให้เป็นหลักฐานประจาตัว
ก. ไม่ต้องออกเอกสารใดให้
ข. ใบสาคัญ (แบบ สด.๙)
ค. หนังสือรับรอง
ง. หนังสือสาคัญ (แบบ สด.๘)

☺ การย้ายภูมิลาเนาทหารต่างอาเภอภายในจังหวัดเดียวกัน เมื่ออาเภอทั้งสองหักโอนกันเรียบร้อยจะ ต้องดาเนินการอย่างไรต่อไป


ก. อาเภอภูมิลาเนาทหารเดิมเป็นผู้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ
ข. อาเภอภูมิลาเนาทหารใหม่เป็นผู้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ
ค. อาเภอทั้งสองแห่งต้องรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ
ง. ถูกหมดทุกข้อ

☺ ข้อมูลทหารกองเกินที่นาไปจัดทาบัญชีเรียกฯ (แบบ สด.๑๖) แผนกสัสดีจังหวัดนาข้อมูลมาจากบัญชีใดของจังหวัด


ก. บัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๑)
ข. บัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๒)
ค. บัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ (แบบ สด.๒๗)
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) เป็นเอกสารสาคัญแสดงประวัติของบุคคล การบันทึกถ้าผิดพลาดใครเป็นผู้รับผิดชอบ


ก. เจ้าพนักงานทะเบียน
ข. ผู้นาขึ้นทะเบียน
ค. ผู้ขึ้นทะเบียน
ง. เจ้าหน้าที่ผู้เขียนทะเบียน

☺ หน่วยทหารที่ทาหน้าที่ขึ้นทะเบียนกองประจาการได้นั้นมีกี่ระดับ และหน่วยใดบ้าง
ก. ๓ ระดับ คือ มณฑลทหารบก, แผนกสัสดีกรุงเทพมหานคร, แผนกสัสดีจังหวัด
ข. ๒ ระดับ คือ มณฑลทหารบก, แผนกสัสดีกรุงเทพมหานคร/แผนกสัสดีจังหวัด
ค. ๓ ระดับ คือ จังหวัดทหารบก, แผนกสัสดีกรุงเทพมหานคร และแผนกสัสดีจังหวัด
ง. ๑ ระดับ คือ แผนกสัสดีกรุงเทพมหานคร/แผนกสัสดีจังหวัด

☺ พลฯการุน กนกแก้ว เข้ากองประจาการเมื่อ ๑ พ.ย.๔๒ ระหว่างรับราชการทหารกองประจาการได้หนีราชการไปจากหน่วยเมื่อ ๑๕ ก.ย.๔๔


กลับเข้ารับราชการเมื่อ ๑ พ.ค.๔๕ อยากทราบว่า พลฯการุนฯ มีจานวนวันหนีราชการทั้งสิ้นเท่าใด
ก. ๖ เดือน ๑๖ วัน
ข. ๗ เดือน ๑๘ วัน
ค. ๗ เดือน ๑๙ วัน
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ทหารกองเกินเมื่อมีอายุครบกาหนดปลดแล้วให้ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ อยากทราบว่าทหารกองหนุนประเภทที่ ๒
เมื่ออายุ ๔๐ ปีบริบูรณ์ อยู่ในกองหนุนชั้นใด
ก. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๒
ข. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๓
ค. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๒
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การลงวันต้องโทษในหนังสือสาคัญหรือใบสาคัญของผู้ปลดเป็นกองหนุนและมีวันต้องโทษระหว่างรับราชการทหารกองประจาการ
มีวิธีการเขียนหลังหนังสือสาคัญหรือใบสาคัญอย่างไร
ก. มีวันต้องโทษเท่าใด
ข. ลงชื่อและประทับตราประจาตาแหน่งสัสดีจังหวัด
ค. ลงตามข้อ ก. และข้อ ข.
ง. ไม่ต้องลงอย่างใด

☺ ใบสาคัญ (แบบ สด.๙) ออกให้แก่ผู้ใดดังต่อไปนี้


ก. ทหารกองเกิน
ข. ทหารกองประจาการและถูกปลดเพราะต้องโทษจาคุก
ค. นายทหารสัญญาบัตรที่ลาออกจากราชการ
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.

☺ ข้อใดกล่าวถึงการบันทึกต้นขั้วใบสาคัญ (สด.๙) ไม่ถูกต้อง


ก. ต้นขั้วใบสาคัญ (สด.๙) ของผู้ที่ย้ายภูมิลาเนาทหาร ให้บันทึกด้านหลังด้วยหมึกดา ผู้บันทึก ไม่ต้องลงชื่อกากับไว้
ข. ผู้ที่จาหน่ายซึ่งไม่ต้องถือใบสาคัญ (สด.๙) อีกต่อไป ให้เรียกใบสาคัญฯ มาทาลายเสีย ถ้าเรียกไม่ได้ให้บันทึกไว้ในต้นขั้วใบสาคัญ
ให้ทราบเรื่อง
ค. ต้นขั้วใบสาคัญ (สด.๙) ของผู้ที่ย้ายภูมิลาเนาทหาร ให้บันทึกด้านหน้าด้วยหมึกแดงเส้นทาบเฉียงซ้าย ผู้บันทึกลงชื่อกากับไว้
ง. ต้นขั้วใบสาคัญ (สด.๙) ของผู้ที่จาหน่ายไม่ต้องถืออีกต่อไป ให้บันทึกด้านหน้าที่เส้นทาบเฉียงซ้ายทับข้อความเดิมด้วยหมึกแดง
ผู้บันทึกลงชื่อกากับไว้

☺ แผนกสัสดีจังหวัดภูมิลาเนาทหารเมื่อขึ้นทะเบียนกองประจาการ (สด.๓) ให้กับข้าราชการกลาโหมพลเรือนที่ได้รับการแต่งตั้งยศแล้ว จะต้อง


ส่งทะเบียนกองประจาการ (สด.๓) ไปเก็บไว้ที่ฝ่ายสรรพกาลัง มทบ. ภายในกาหนดตามข้อใด
ก. ภายในเดือนกันยายนของปีนั้น
ข. ๙๐ วัน
ค. ๖๐ วัน
ง. ๓๐ วัน

☺ การบันทึกริมซ้ายทะเบียนกองประจาการ (สด.๓) ด้วยหมึกสีแดงตรงบรรทัดอายุว่า “ ตกค้างการเรียก ” แสดงว่าเป็นผู้ที่มีอายุ


เกินกว่ากาหนดเรียกด้วยเหตุใด
ก. รับหมายเรียก ฯ แล้วไม่มาเข้ารับการตรวจเลือกเพราะเหตุสุดวิสัย
ข. เป็นผู้ที่พ้นจากฐานะยกเว้น
ค. คนหลีกเลี่ยงขัดขืน
ง. ลงบัญชีทหารกองเกินเมื่ออายุเกิน ๒๑ ปีบริบูรณ์

☺ ทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) เป็นหลักฐานสาคัญ ถ้าเขียนผิดให้ขีดฆ่าข้อความที่ผิดด้วย หมึกแดง ผู้ใดต้องลงลายมือชื่อ


กากับไว้ที่ริมซ้ายทะเบียนฯ
ก. สัสดีจังหวัด / สัสดี มทบ.หรือ หน.ฝ่ายสรรพกาลัง มทบ.แล้วแต่กรณี
ข. สัสดีกรุงเทพมหานคร / สัสดีจังหวัด หรือสัสดี มทบ.แล้วแต่กรณี
ค. สัสดีกรุงเทพมหานคร และสัสดีจงั หวัด
ง. เจ้าหน้าที่ผู้บันทึก และสัสดีจังหวัด

☺ นักเรียนทหารจะขึ้นทะเบียนกองประจาการได้เมื่อใด
ก. เมื่อเข้าเป็นนักเรียนทหาร
ข. เมื่อมีอายุย่างเข้า ๑๘ ปี
ค. เมื่อมีอายุ ๑๘ ปีบริบูรณ์
ง. เมื่อมีอายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์

☺ การทาลายบัญชีรายชื่อทหารกองเกินฯ (แบบ สด.๒๗) กระทาเมื่อใด


ก. เมื่ออายุครบ ๖๐ ปี
ข. เมื่อปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๒
ค. เมื่อปลดพ้นราชการทหารประเภทที่ ๑
ง. เมือ่ จาหน่ายบัญชีหมดทั้งชั้นปีหรือทั้งตาบลแล้ว หรือเมื่อคนชั้นปีนั้นมีอายุครบ ๖๐ ปีบริบูรณ์

☺ ผู้ที่รับหมายเรียกฯ แล้วไม่มาเข้ารับการตรวจเลือกเพราะเหตุสุดวิสัย หรือผู้ที่นายอาเภอส่งหมาย เรียกฯ ไม่ได้ ให้บันทึกว่าอย่างไรที่ริมซ้าย


ทะเบียนกองประจาการตรงบรรทัดอายุด้วยหมึกแดง
ก. ตกค้างการเรียก
ข. ตกค้างบัญชี
ค. หลีกเลี่ยงการเรียก
ง. หลบเลี่ยงการเรียก

☺ ข้อใดมิใช่ทัณฑ์ที่จะลงแก่ผู้กระทาผิดต่อวินัยทหาร
ก. จาคุก
ข. ขัง
ค. กัก
ง. ภาคทัณฑ์

☺ ข้อใดต่อไปนี้เป็นข้อที่ถูกต้อง
ก. ทะเบียนกองประจาการ (สด.๓) จัดทาตามข้อบังคับ กห.
ข. ทะเบียนกองประจาการ (สด.๓) จัดทาตามบันทึกข้อตกลงระหว่าง กห. กับ มท.ในระเบียบอันเกี่ยวกับ พ.ร.บ.รับราชการทหารฯ
ค. ทะเบียนกองประจาการ (สด.๓) จัดทาตามคาสั่ง ทบ.
ง. ทาเบียนกองประจาการ (สด.๓) จัดทาตามคาสั่งผู้บังคับบัญชา

☺ หลักการสาคัญเกี่ยวกับการย้ายภูมิลาเนาทหารประกอบด้วย
ก. ไปประกอบอาชีพเป็นประจา หรือมีที่อยู่เป็นหลักฐาน
ข. ไม่ประสงค์จะหลีกเลี่ยงการรับราชการทหาร
ค. ต้องแจ้งภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่ย้ายเข้าพื้นที่
ง. ถูกทุกข้อ

☺ การทาลายบัญชีรายชื่อฯ (แบบ สด.๒๗) จะทาลายได้เมื่อใด


ก. เมื่อได้จาหน่ายบัญชีหมดทั้งชั้นปี หรือคนชั้นปีนั้นอายุครบ ๖๐ ปีบริบูรณ์
ข. เมื่อได้จาหน่ายบัญชีหมดทั้งชั้นปี หรือคนชั้นปีนั้นอายุครบ ๔๖ ปีบริบูรณ์
ค. เมื่อคนชั้นปีนั้นอายุครบ ๔๖ ปีบริบูรณ์
ง. เมื่อคนชั้นปีนั้นอายุครบปลดพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒

☺ ข้อใดกล่าวถึงการบันทึกเลื่อนยศนายทหารประทวนในทะเบียนกองประจาการ (สด.๓) ได้ถูกต้อง


ก. ให้บันทึกริมซ้ายตรงบรรทัดชื่อผู้ขึ้นทะเบียนว่า เป็น จ.ส.ท.ตามเรื่องฉบับที่ ๒๑๒/๔๑
ข. ให้บันทึกที่หมายเหตุว่า เป็น จ.ส.ท.ตามเรื่องฉบับที่ ๒๑๒/๔๑
ค. ให้บันทึกริมซ้ายตรงบรรทัดอายุว่าเป็น จ.ส.ท.ตามเรื่องฉบับที่ ๒๑๒/๔๑
ง. ถูกเฉพาะข้อ ข.

☺ การแก้ไขบัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ (แบบ สด.๒๗) กรณีที่เขียนผิดมีวิธีการแก้ไขอย่างไร


ก. เมื่อเขียนผิดต้องแก้ไขให้ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกแดง แล้วเขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อจากคาที่ขีดฆ่าด้วยหมึกดา สัสดีจังหวัดลงชื่อกากั บไว้
ข. เมื่อเขียนผิดต้องแก้ไขให้วงเล็บคาที่ผิดด้วยหมึกแดง แล้วเขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อจากคาที่วงเล็บด้วยหมึกดา ผู้บันทึกลงชื่อกากับไว้
ค. เมื่อเขียนผิดต้องแก้ไขให้วงเล็บคาที่ผิดด้วยหมึกแดง แล้วเขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อจากคาที่วงเล็บด้วยหมึกแดง สัสดีจังหวัดลงชื่อกากั บไว้
ง. เมื่อเขียนผิดต้องแก้ไขให้วงเล็บคาที่ผิด แล้วเขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อจากคาที่วงเล็บด้วยหมึกแดง ผู้บันทึกลงชื่อกากับไว้

☺ นายเชิงชาย ชาติอาชาไนย มีภูมิลาเนาทหารอยู่ที่จังหวัด ก.บ. สาเร็จการฝึก นศท.ชั้นปีที่ ๓ ของ ศฝ.นศท.มทบ.๑๒ ได้นาตัวขึ้นทะเบียนฯ


และนาปลดเป็นทหารกองหนุน ในการบันทึกทะเบียนฯ (สด.๓) ถ้าเขียนผิดใครเป็นผู้รับผิดชอบ
ก. สัสดี มทบ.๑๒
ข. หน.ฝ่ายสรรพกาลัง มทบ.๑๒
ค. สัสดีจังหวัด ป.จ.
ง. สัสดีจังหวัด ก.บ.

☺ บุคคลที่อยู่ในกาหนดต้องขึ้นทะเบียนกองประจาการมีผู้ใดบ้าง
ก. ทหารประจาการที่ไม่เคยขึ้นทะเบียนกองประจาการ
ข. ผู้สาเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ ๓
ค. คนหลีกเลี่ยงขัดขืนที่ส่งเข้ากองประจาการตามมาตรา ๓๓
ง. ถูกทุกข้อ

☺ การบันทึกทะเบียนกองประจาการที่ริมซ้ายทะเบียนฯ บรรทัดอายุด้วยหมึกแดงของผู้ที่ลงบัญชีเมื่ออายุเกินกว่า ๒๑ ปีบริบูรณ์ จะบันทึกว่าอย่างไร


ก. พ้นจากการยกเว้นฯ
ข. หมดเหตุผ่อนผันฯ
ค. ตกค้างบัญชีฯ
ง. ตกค้างการเรียกฯ

☺ นายทหารสัญญาบัตรเมื่อได้รับการเลื่อนยศสูงขึ้น เช่น จาก ร.ท.เป็น ร.อ. บันทึกเลื่อนยศในทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) อย่างไร


ก. เลื่อนขึ้นเป็น ร.อ.ตั้งแต่ ๑ ต.ค.๔๒ ตามคาสั่ง กห.ที่ .... ลง .... ที่หมายเหตุ เจ้าหน้าที่ลงชื่อกากับไว้
ข. เลื่อนขึ้นเป็น ร.อ.ตั้งแต่ ๑ ต.ค.๔๒ ริมซ้ายทะเบียนฯ ตรงบรรทัดชื่อ เจ้าหน้าที่ลงชื่อกากับ
ค. เลื่อนขึ้นเป็น ร.อ. ตั้งแต่ ๑ ต.ค.๔๒ ตรงริมซ้ายทะเบียนฯ บรรทัดอายุ
ง. เป็น ร.อ. ตั้งแต่ ๑ ต.ค.๔๒ ตามคาสั่ง กห.ที่ .... ลง .... ในช่องหมายเหตุ

☺ นายทหารสัญญาบัตรที่ถูกปลดโดยถูกถอดหรือออกจากยศ ทางราชการจะออกเอกสารใดให้เป็นหลักฐานประจาตัว
ก. หนังสือสาคัญ (แบบ สด.๘)
ข. หนังสือใบรับรอง
ค. ใบสาคัญ (แบบ สด.๙)
ง. ใบรับ (แบบ สด.๑๐)

☺ คนที่ต้องบันทึกริมซ้ายทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) คือข้อใด


ก. นายสุชาติฯ ทหารกองเกินมีอายุครบ ๒๑ ปีบริบูรณ์
ข. นายณัฐพลฯ ทหารกองเกินซึ่งเป็นคนส่งหมายเรียกฯ ไม่ได้แต่ปีก่อนและถูกเข้ากองประจาการ
ค. นายอาคมฯ อายุ ๑๘ ปีบริบูรณ์ ร้องขอเข้าเป็น นนส.ทบ.
ง. ต้องบันทึกทุกข้อ

☺ การปลดทหารกองประจาการแผนก ท.อ. เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ มีวิธีปฏิบัติอย่างไร


ก. ผู้บังคับหน่วยทหารส่งหางว่าวนาปลดฯ (สด.๗) ต่อ กพ.ทอ.
ข. ผู้บังคับหน่วยทหารส่งบัญชีรายชื่อผู้ทคี่ รบกาหนดปลดต่อ กพ.ทอ.
ค. ผู้บังคับหน่วยทหารส่งหางว่าวนาปลดฯ (สด.๗) ต่อ ผบ.จทบ.ในพื้นที่
ง. ผู้บังคับหน่วยทหารส่งบัญชีรายชื่อผูค้ รบกาหนดปลดฯ ต่อ ผบ.จทบ.ในพื้นที่

☺ การแก้ไขหนังสือสาคัญ (แบบ สด.๘) ดาเนินการดังนี้


ก. ขีดฆ่าคาผิดด้วยหมึกแดง เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อคาผิดด้วยหมึกดา ประทับตราประจาตาแหน่งสัสดีจังหวัด
ข. ขีดฆ่าคาผิดด้วยหมึกดา เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อคาผิดด้วยหมึกดา ประทับตราประจาตาแหน่งสัสดีจังหวัด
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ หน่วยงานที่มีหน้าที่จัดทาบัญชีท้องที่ที่เปลี่ยนแปลงไว้ตรวจสอบ คือ
ก. หน่วยสัสดีอาเภอ/เขต หรือกิ่งอาเภอ, แผนกสัสดีจังหวัด, ฝ่ายสรรพกาลัง จทบ.
ข. หน่วยสัสดีอาเภอ/เขต, แผนกสัสดีกรุงเทพฯ, แผนกสัสดีจังหวัด, ฝ่ายสรรพกาลัง จทบ.
ค. หน่วยสัสดีอาเภอ/เขต หรือกิ่งอาเภอ, แผนกสัสดีกรุงเทพฯ, แผนกสัสดีจังหวัด, ฝ่ายสรรพกาลัง มทบ.
ง. ถูกทุกข้อ

☺ การบันทึกทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) ของคนที่มีอายุเกินกว่ากาหนดเรียก เช่น บันทึกว่า “ หลีกเลี่ยงการเรียก ” มีวิธีการบันทึกเหตุ


ที่ถูกเรียกนั้นอย่างไร
ก. บันทึกริมซ้ายทะเบียนตรงบรรทัดอายุด้วยหมึกแดง
ข. บันทึกริมซ้ายทะเบียนตรงบรรทัดชื่อด้วยหมึกแดง
ค. บันทึกตรงหมายเหตุด้วยหมึกแดง
ง. บันทึกริมซ้ายทะเบียนตรงบรรทัดอายุด้วยหมึกดา

☺ การตั้งเล่มใบสาคัญ (แบบ สด.๙) แทนฉบับที่ชารุดหรือสูญหาย ได้กาหนดไว้ในระเบียบให้ตั้ง อย่างไร


ก. ไม่ตัดปี แยกแผนก เป็นชั้นปี
ข. ไม่ตัดปี รวมทุกสังกัด ทุกชั้นปี ทุก พ.ศ. ภายในเล่ม
ค. ให้ตัดปี รวมทุกสังกัด ทุกชั้นปี
ง. แยกเล่มเป็นแผนก สังกัด เป็นชั้นปี

☺ แผนกสัสดีจังหวัดซึ่งได้ขึ้นทะเบียนกองประจาการแผนกทหารบกให้กับนักเรียนทหารและทหารกองประจาการแล้ว จะต้องจัดทาบัญชีใด
ส่งให้ ฝ่ายสรรพกาลัง จทบ. ในเขตพื้นที่
ก. บัญชีปลดย้ายประเภท (สด.๒๙)
ข. บัญชีคนที่ส่งเข้ากองประจาการ (สด.๑๘)
ค. หางว่าวนาปลดออกจากกองประจาการ (สด.๗)
ง. ทะเบียนกองประจาการ (สด.๓)
☺ การขึ้นทะเบียนกองประจาการแทน ถ้าจังหวัดที่ตั้งของหน่วยทหารนั้นมิใช่เป็นที่ตั้งของ มทบ. การนาตัวทหารในสังกัดขึ้นทะเบียนฯ
หน่วยจะนาตัวทหารไปขึ้นทะเบียนฯ ได้ที่ใด
ก. นาตัวไปขึ้นทะเบียนฯ ได้ที่ มทบ. หรือแผนกสัสดีจังหวัดที่ใกล้เคียง
ข. แผนกสัสดีจังหวัดท้องที่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วย
ค. ฝ่ายสรรพกาลัง จทบ.
ง. ฝ่ายสรรพกาลัง มทบ.

☺ หน่วยทหารซึ่งทาหน้าที่ขึ้นทะเบียนกองประจาการแทน ได้แก่ข้อใด
ก. มทบ. และแผนกสัสดี ก.ท./ แผนกสัสดีจังหวัด แล้วแต่กรณี
ข. มทบ.และ จทบ./ แผนกสัสดี ก.ท.และแผนกสัสดีจังหวัด แล้วแต่กรณี
ค. จทบ., มทบ. หรือแผนกสัสดีจังหวัดภูมิลาเนาทหาร แล้วแต่กรณี
ง. มทบ. หรือแผนกสัสดีจังหวัด แล้วแต่กรณี

☺ พลฯสาคู ไส้อั่ว ลากิจกลับมาเยี่ยมบ้าน เมื่อครบกาหนดลาบิดาป่วยหนักจึงนาใบรับรองแพทย์พร้อมใบลาไปยื่นขอลาต่อกับนายอาเภอ


จะอนุญาตให้ลาต่อได้กี่วัน
ก. ไม่ควรเกิน ๕ วัน
ข. ไม่ควรเกิน ๖ วัน
ค. ไม่ควรเกิน ๗ วัน
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ สัสดีจังหวัดต้องสารวจทหารที่หนีราชการจนขาดอายุความในเดือนใด
ก. ธันวาคม
ข. ตุลาคม
ค. มีนาคม
ง. มกราคม

☺ ทหารกองประจาการที่ถูกปลดเป็นทหารกองหนุน ฯ ตามมาตรา ๔๐ ทางราชการจะออกเอกสารใด ให้เป็นหลักฐานประจาตัว


ก. ใบสาคัญ (แบบ สด.๘)
ข. ใบสาคัญ (แบบ สด.๙)
ค. หนังสือสาคัญ (แบบ สด.๘)
ง. หนังสือสาคัญ (แบบ สด.๙)

☺ การบันทึกปลดทหารกองเกินเป็นพ้นราชการทหารในคราวตรวจเลือกฯ ในบัญชีรายชื่อฯ (สด.๒๗) จะบันทึกอาการที่พิการในช่องใดของบัญชี


ก. ช่อง “ พิการ ..... ”
ข. ช่อง “ หมายเหตุ ”
ค. ช่อง “ ด้วยเหตุ ”
ง. ช่อง “ พ้นราชการทหาร ”

☺ พลฯกรุณา เมตตา จับสลากถูกเข้ากองประจาการแผนก ทบ. มีคุณวุฒิปริญญาตรี เมื่อ ๑ พ.ย.๔๒ และได้ยื่นคาร้องขอลดสิทธิลด


วันรับราชการ ระหว่างรับราชการได้หนีราชการไปตั้งแต่วันที่ ๒๘ ส.ค.๔๓ ถึงวันที่ ๑๐ ต.ค.๔๓ พลฯกรุณาฯ หนีราชการเป็นเวลาเท่าใด
ก. ๑ เดือน ๑๕ วัน
ข. ๑ เดือน ๑๔ วัน
ค. ๑ เดือน ๑๓ วัน
ง. ๒ เดือน ๑๔ วัน

☺ พลฯรวินทร์ เหลืองทอง เข้ารับราชการทหารกองประจาการแผนก ทร.ตั้งแต่ ๑ พ.ค.๔๐ – ๓๐ เม.ย.๔๒ ระหว่างรับราชการได้หนีราชการ


ไปจากหน่วยเมื่อ ๑๕ มิ.ย.๔๑ กลับมารายงานตัวเข้ารับราชการต่อเมื่อ ๗ ธ.ค.๔๑ พลฯรวินทร์ฯ หนีราชการไปเป็นเวลาเท่าใด
ก. ๕ เดือน ๒๖ วัน
ข. ๕ เดือน ๒๕ วัน
ค. ๕ เดือน ๒๔ วัน
ง. ๕ เดือน ๒๓ วัน

☺ การย้ายภูมิลาเนาทหารต่างอาเภอ ต่างจังหวัด เมื่ออาเภอภูมิลาเนาทหารใหม่ได้รับตอบยืนยันการย้ายจากอาเภอเดิมแล้ว


จะต้องดาเนินการอย่างไร
ก. รับลงบัญชีทหารกองเกิน
ข. ออกใบสาคัญ (แบบ สด.๙)
ค. ออกใบรับแจ้งย้าย (สด.๑๐)
ง. ข้อ ก. และข้อ ค. ถูกต้อง
☺ แบบพิมพ์ที่แผนกสัสดีจังหวัดจาเป็นต้องใช้สาหรับการแจ้งย้ายภูมิลาเนาทหารคือ
ก. ใบสาคัญ (สด.๙) และบัญชี ฯ (สด.๑)
ข. บัญชีบอกย้ายภูมิลาเนา (สด.๑๒) และบัญชีฯ (สด.๓๒)
ค. บัญชีทหารกองเกิน (สด.๑) และทะเบียนฯ (สด.๓)
ง. ใบสาคัญ (สด.๙) และใบรับ (สด.๑๐)

☺ ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ แผนก ทร.ขอย้ายภูมิลาเนาทหาร แผนกสัสดีจังหวัดภูมิลาเนาทหารใหม่ ต้องดาเนินการอย่างไร


ก. จัดทาบัญชีขอบรรจุสังกัด (ตพ.๑๙) ส่ง กพ.ทร.
ข. ให้ถือสังกัดเดิมและจัดทาบัญชีฯ (ตพ.๖) ส่ง กพ.ทร.
ค. ขอบรรจุสังกัดให้ โดยแจ้ง จทบ.ในเขตพื้นที่
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การบันทึกต้นขั้วใบสาคัญ (สด.๙) ของทหารกองเกินหรือทหารกองหนุนเพื่อจาหน่ายย้ายภูมิลาเนาทหาร มีวิธีการบันทึกอย่างไร


ก. บันทึกด้านหลังด้วยหมึกดา ไม่ต้องลงชื่อผู้บันทึกกากับไว้
ข. บันทึกด้านหลังใบสาคัญด้วยหมึกแดง ลงชื่อผู้บันทึกกากับไว้
ค. บันทึกด้านหน้าที่เส้นทาบเฉียงซ้ายด้วยหมึกแดง ลงชื่อผูบ้ ันทึกกากับไว้
ง. บันทึกด้านหน้าใบสาคัญที่เส้นทาบเฉียงซ้ายด้วยหมึกดา ไม่ต้องลงชื่อผู้บันทึกกากับไว้

☺ ผู้ที่ลงชื่อเป็นเจ้าพนักงานทะเบียนในการขึ้นทะเบียนกองประจาการแทน ตามระเบียบคือผู้ใด
ก. สัสดี มทบ.หรือสัสดีจังหวัดที่เป็นภูมิลาเนาทหารที่ขึ้นทะเบียนแล้วแต่กรณี
ข. หน.ฝ่ายสรรพกาลัง จทบ.หรือ สัสดี มทบ.ที่ขึ้นทะเบียนแล้วแต่กรณี
ค. สัสดี มทบ. หรือสัสดี จทบ.ที่ขึ้นทะเบียนแล้วแต่กรณี
ง. สัสดี มทบ.หรือสัสดีจังหวัดที่ขึ้นทะเบียนแล้วแต่กรณี

☺ วิธีเขียนจานวนทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ การลงยอดรวมของทหารกองหนุนลงอย่างไร
ก. ลงยอดรวมของทหารกองหนุนทุกชั้นปี แต่ละบรรทัด
ข. ลงยอดรวมของทหารกองหนุนทุกรุ่นปี แต่ละบรรทัด
ค. ลงยอดรวมของทหารกองหนุนทุกชั้นปี และทุกรุ่นปีแต่ละบรรทัด
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ข้อความในข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. การรับแจ้งย้ายภูมิลาเนาทหารให้นายอาเภอออกใบรับ (สด.๑๐) ให้แก่ผู้แจ้งไว้เป็นหลักฐาน
ข. การย้ายภูมิลาเนาทหารต่างจังหวัด ผู้ย้ายต้องแจ้งนายอาเภอท้องที่ที่ไปอยู่ใหม่ภายใน ๓๐ วัน
ค. ผู้ที่ย้ายภูมิลาเนาทหารไปต่างเขต จทบ.ให้แผนกสัสดีจังหวัดจัดทาบัญชีรายชื่อรายงานการย้ายภูมิลาเนาทหาร (สด.๓๒) ส่งให้
ฝ่ายสรรพกาลังฯ ภายในวันที่ ๓ ของเดือนใหม่
ง. ที่กล่าวมาถูกทุกข้อ

☺ ทหารกองประจาการที่ปลดตามมาตรา ๔๑ จะต้องปลดเป็น
ก. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๒
ข. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๑
ค. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๑
ง. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ชั้นที่ ๑

☺ บุคคลที่ถูกเรียกเข้าฝึกวิชาทหารหรือระดมพลโดยวิธีเรียกอย่างทหารใหม่ ใครเป็นผู้นาขึ้นทะเบียนกองประจาการ
ก. เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับคน
ข. นายอาเภอท้องที่ภูมิลาเนาทหาร
ค. ปลัดจังหวัด
ง. สัสดีจังหวัด

☺ ทหารกองประจาการที่ปลดตามมาตรา ๔๐ เมื่ออยู่ในชั้นกองหนุนจนถึงอายุ ๔๐ ปีบริบูรณ์แล้ว จะปลดไปอยู่ในชั้นกองหนุนใด


ก. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๑
ข. ชั้นที่ ๓
ค. ชั้นที่ ๒
ง. ชั้นที่ ๑

☺ สัสดีอาเภอมีหน้าที่จัดทาบัญชีการเปลี่ยนแปลงท้องที่ไว้ตรวจสอบ กรณียกบ้านหรือตาบลหรืออาเภอไปขึ้นที่อื่น เช่น ยกอาเภอวัฒนานคร


จังหวัด ป.จ. ไปขึ้นจังหวัด ส.ก. ใช้บัญชีใดจัดทา
ก. บัญชี ก.
ข. บัญชี ข.
ค. ใช้ทั้ง ๒ บัญชี
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงมหาดไทย คนซึ่งร้องขอเข้ากองประจาการก่อนวันตรวจเลือกซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับไว้
ใครเป็นผู้นาตัวขึ้นทะเบียนกองประจาการ
ก. ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นาตัวขึ้นทะเบียน
ข. ปลัดจังหวัดเป็นผู้นาตัวขึ้นทะเบียน
ค. นายอาเภอท้องที่เป็นผู้นาตัวขึ้นทะเบียน
ง. เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับคนเป็นผู้นาตัวขึ้นทะเบียน

☺ ในบัญชีทหารกองเกิน (สด.๑) บุคคลที่มารดาเป็นใบ้และยังมีชีวิตอยู่ บิดาไม่ปรากฏเพราะไม่ทราบ ชื่อ หรือเป็นบุตรนอกสมรส ในบรรทัด


“ บิดาชื่อ ..... ” ให้เขียนข้อความใด
ก. บิดาไม่ปรากฏ
ข. ไม่ทราบชื่อบิดา
ค. บิดาสาบสูญ
ง. ไม่ต้องเขียนข้อความใด ๆ ลงไป

☺ ในการแก้ไขทะเบียนกองประจาการ (สด.๓) และการบันทึกนั้น ข้อใดถูกต้องที่สุด


ก. เมื่อเขียนผิดให้ขีดฆ่าข้อความที่ผิดด้วยหมึกแดง แล้วเขียนข้อความที่ถูกด้วยหมึกแดง ไว้ที่ต่อหรือใต้ข้อความที่ขีดฆ่า
ข. เมื่อเขียนผิดให้ขีดฆ่าข้อความที่ผิดด้วยหมึกแดง แล้วเขียนข้อความที่ถูกด้วยหมึกดา ไว้ที่ต่อหรือใต้ข้อความที่ขีดฆ่า
ค. เมื่อเขียนผิดให้ขีดฆ่าข้อความที่ผิดด้วยหมึกดา แล้วเขียนข้อความที่ถูกด้วยหมึกดา ไว้ที่ต่อหรือใต้ข้อความที่ขีดฆ่า
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ นายตูมตาม ตื่นตูม มีอายุ ๑๘ ปีบริบูรณ์ ยังไม่ได้ลงบัญชีทหารกองเกิน มีความประสงค์ขอย้ายภูมิลาเนาทหาร จะไปดาเนินการได้ที่ใด


ก. ไปแจ้งย้ายต่อนายอาเภอท้องที่ภูมิลาเนาทหารใน ๓๐ วัน
ข. ไปแจ้งย้ายต่อนายอาเภอท้องที่ที่ไปอยู่ใหม่ใน ๓๐ วัน
ค. ไปแจ้งต่อสัสดีอาเภอเก่า หรือสัสดีอาเภอใหม่ได้
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ทหารที่จะต้องถูกปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ คือ
ก. ทหารที่ปลดจากกองเกินตามมาตรา ๓๙
ข. ทหารกองประจาการที่ปลดเพราะทาความเสื่อมเสียแก่ทางราชการ
ค. ทหารที่ถูกปลดจากกองประจาการตามมาตรา ๔๐
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ผู้ที่ย้ายภูมิลาเนาทหารไปต่างเขต จทบ. ถ้าเป็นผู้ที่มีทะเบียนกองประจาการก็ให้จัดทาบัญชีรายชื่อ รายงานการย้ายฯ (สด.๓๒) ส่งฝ่ายสรรพกาลัง


มทบ. หรือ จทบ. แล้วแต่กรณีภายในกาหนดเท่าใด
ก. วันที่ ๕ ของเดือนใหม่
ข. วันที่ ๓ ของเดือนใหม่
ค. วันที่ ๑๐ ของเดือนใหม่
ง. วันที่ ๑๕ ของเดือนใหม่

☺ พลฯแครายฯ ร้องขอเข้ารับราชการทหารกองประจาการเมื่อ ๑ พ.ค.๔๔ วุฒิ ม.๖ ระหว่างรับราชการหนีราชการไปจากหน่วยเมื่อ ๑๕ มี.ค.๔๕


และกลับมารับราชการ ๑๔ พ.ค.๔๕ อยากทราบว่า พลฯแครายฯ หนีราชการไปเท่าใด
ก. ๒ เดือน ๒ วัน
ข. ๑ เดือน ๒๙ วัน
ค. ๒ เดือน ๑ วัน
ง. ๒ เดือน

☺ แบบพิมพ์ในข้อใดจะไม่ปรากฏรายชื่อของทหารกองเกิน หรือทหารกองหนุนในบัญชี
ก. สด.๒, สด.๑๖, สด.๕
ข. สด.๙, สด.๔, สด.๓๕
ค. สด.๑๕, สด.๑๗, สด.๓๙
ง. สด.๑, สด.๔๐, สด.๔๔

☺ แบบพิมพ์ สด.๔๔ กาหนดให้ใช้ตามข้อใด


ก. กฎกระทรวงฉบับที่ ๔๐ ที่ออกตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗
ข. กฎกระทรวงฉบับที่ ๒๔ ที่ออกตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗
ค. มาตรา ๑๖ มาตรา ๑๘ มาตรา ๑๙ ตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗
ง. บันทึกข้อตกลงฯ ตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗
☺ การปลดทหารกองประจาการที่รับราชการจนครบกาหนดปลดแล้ว หน่วยทหารต้นสังกัดจะส่งหลักฐานในการนาปลดต่อหน่วยที่เกี่ยวข้อง
ภายในที่วันก่อนครบกาหนดปลด
ก. ๑๕ วัน
ข. ๓๐ วัน
ค. ๖๐ วัน
ง. ๙๐ วัน

☺ การเก็บบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๑) ของคนที่จาหน่ายเพราะพิการทุพพลภาพ เมื่อได้บันทึกปลดพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒ แล้ว


มีวิธีการเก็บบัญชีอย่างใด
ก. บันทึกหลังบัญชีฯ แล้วไม่ต้องถอนบัญชีฯ คงเก็บไว้ตามชั้นปี แต่ให้ฉีกมุมขวาตอนล่างออก
ข. บันทึกหลังบัญชีฯ แล้วไม่ต้องถอนบัญชีฯ คงเก็บไว้ตามชั้นปีและไม่ฉีกมุมขวาตอนล่างออก
ค. บันทึกจาหน่ายหลังบัญชีฯ แล้วถอนบัญชีฯ ออกเก็บตามชั้นปี
ง. แยกเก็บในแฟ้มพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒

☺ การคานวณวันหนีราชการของทหารกองประจาการข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. นับวันแรกที่ขาดราชการทหารไปเป็น ๑ วัน
ข. หนีราชการไม่ครบรอบปีให้นับเศษของปีซึ่งเป็นจานวนวันเป็นเดือน โดยถือเอา ๓๐ วัน เป็น ๑ เดือน
ค. ข้อ ก. และข้อ ข. ถูกต้อง
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ทหารกองประจาการหนีราชการตามข้อใด ให้ผู้บังคับบัญชาส่งตัวผู้นั้นไปฟ้องศาล
ก. หนีเวลาไม่ปกติ ครั้งที่ ๑ เกินกว่า ๓๐ วัน
ข. เมื่อคานวณวันลงทัณฑ์แล้วต้องรับทัณฑ์จาขังเกินกว่า ๖ เดือน
ค. ข้อ ก. และข้อ ข. ถูกต้อง
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ เมื่อทหารกองประจาการมาพบท่านที่อาเภอเพื่อแจ้งขอแก้ชื่อตัวในบัญชีทหารตามมาตรา ๑๒ ทวิ ท่านเป็นสัสดีอาเภอจะดาเนินการให้อย่างใด


ก. ไม่ต้องดาเนินการให้เพราะไม่ใช่หน้าที่
ข. ให้เจ้าตัวยื่นคาร้อง ตรวจสอบหลักฐานแก้ชื่อตัวในบัญชีทหารและออกใบรับ (สด.๑๐) ให้
ค. ให้ยื่นคาร้องและแก้ชื่อตัวในบัญชีทหารให้
ง. ตรวจสอบหลักฐาน ออกใบรับ (สด.๑๐) ให้

☺ เมื่อนายอาเภออนุญาตให้ทหารกองประจาการลาต่อได้แล้วจะต้องดาเนินการอย่างไร
ก. ออกใบลาแบบ ๒ ให้ไว้เป็นหลักฐาน
ข. บันทึกด้านหลังใบลาแบบ ๒ ให้ทราบกาหนดวันลา ลงชื่อนายอาเภอกากับไว้
ค. บันทึกด้านหลังใบลาแบบ ๒ ให้ทราบกาหนดวันลา ออกใบรับ(สด.๑๐) ให้ไว้เป็นหลักฐาน
ง. ต้องปฏิบัติตามข้อ ก. และข้อ ข.

☺ ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับเงื่อนไขการลาศึกษาต่อของทหารกองประจาการ
ก. ผู้ที่ได้รับอนุมัติให้ลาศึกษาต่อ หน่วยต้นสังกัดจะออกบัตรอนุญาตลาแบบ ๒ ให้
ข. เวลาที่ลาไปศึกษาต่อไม่คิดเป็นเวลารับราชการในกองประจาการ
ค. ถ้าสาเร็จการศึกษาหรือต้องออกจากการศึกษา หรือมีอายุครบ ๒๖ ปีบริบูรณ์ ให้กลับเข้ารับราชการต้นสังกัดเดิม
ง. ที่กล่าวมาถูกทุกข้อ

☺ คนหลีกเลี่ยงขัดขืนที่ส่งเข้ากองประจาการตามมาตรา ๓๓ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้ส่งเข้ากองประจาการภายหลังวันตรวจเลือกฯ
ใครเป็นผู้นาตัวขึ้นทะเบียนกองประจาการ
ก. ปลัดจังหวัด
ข. นายอาเภอ
ค. ปลัดอาเภอ
ง. สัสดีจังหวัด

☺ พลทหารสุชัยฯ ได้หนีราชการในเวลาปกติเป็นครั้งที่ ๒ แต่กลับเองจะได้รับโทษอย่างไร


ก. จาขังกึ่งจานวนวันที่หนีราชการ
ข. จาขัง ๑ ใน ๔ ของจานวนวันที่หนีราชการ
ค. จาขัง ๑ ใน ๓ ของจานวนวันที่หนีราชการ
ง. จาขังเท่ากับจานวนวันที่หนีราชการ

☺ การปลดพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒ ออกหนังสือสาคัญอย่างไร
ก. หนังสือสาคัญ ( แบบ สด.๘ )
ข. ใบสาคัญ ( แบบ สด.๙ )
ค. ใบสาคัญ ( แบบ สด.๓ )
ง. ใบสาคัญ ( แบบ สด.๑๐ )

☺ เมื่อแผนกสัสดีจังหวัดรับหางว่าวนาปลด (สด.๗) จาก จทบ. จะต้องดาเนินการอย่างไร


ก. ตรวจสอบหางว่าวนาปลดทุกฉบับว่ามีสิ่งต้องสงสัย มีรอยขูดขีดลบหรือไม่
ข. ตรวจสอบรายชื่อกับทะเบียนกองประจาการ
ค. ตรวจสอบกับบัญชีรายชื่อทหารหนี
ง. ถูกทุกข้อ

☺ บัญชีสั่งยกเว้นหรือผ่อนผัน ถ้าเขียนรายชื่อผิดควรแก้ไขอย่างไร แต่ละรายชื่อเขียนเว้นกี่บรรทัด


ก. เขียนเว้น ๓ บรรทัด เขียนผิดให้ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง
ข. เขียนเว้น ๒ บรรทัด เขียนผิดให้ขีดฆ่าด้วยหมึกดา
ค. เขียนเว้น ๓ บรรทัด เขียนผิดให้ขีดฆ่าด้วยหมึกดา
ง. เขียนเว้น ๒ บรรทัด เขียนผิดให้ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง

☺ ใครเป็นผู้จัดทาบัญชียกเว้นหรือผ่อนผัน และจัดทาอย่างไร
ก. จัดทาแยกเป็นยกเว้นหรือผ่อนผัน แยกเป็นประเภทบุคคล และแยกเป็นอาเภอ อาเภอจัดทา
ข. จัดทาแยกเป็นยกเว้น แยกเป็นประเภทรายชื่อ แยกเป็นอาเภอ จังหวัดเป็นผู้จัดทา
ค. จัดทาแยกเป็นคนผ่อนผัน แยกเป็นประเภทรายชื่อ แยกเป็นอาเภอ จังหวัดเป็นผู้จัดทา
ง. จัดทาแยกเป็นยกเว้นหรือผ่อนผัน แยกเป็นประเภทรายชื่อ แยกเป็นอาเภอ จังหวัดจัดทา

☺ วิธีเขียนจานวนทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ การลงเลขที่ช่องชั้นปีควรลงเลขอย่างไร
ก. ลงเลขที่ชั้นปีที่เป็นทหารกองเกินเรียงไปตามลาดับ จากชั้นปีใหม่จนครบทุกชั้นปีของชั้นทหารกองหนุน
ข. ลงเลขที่รุ่นปีที่เป็นทหารกองหนุนเรียงไปตามลาดับจากชั้นปีใหม่ไปจนครบทุกรุ่นปีของชั้นทหารกองเกิน
ค. ลงเลขที่ชั้นปีที่เป็นทหารกองหนุนเรียงไปตามลาดับจากชั้นปีใหม่ไปจนครบทุกชั้นปีของชั้นทหารกองเกิน
ง. ลงเลขที่ชั้นปีที่เป็นทหารกองเกิน และทหารกองหนุน

☺ บัญชีรายชื่อ ฯ (สด.๒๗) เมื่อเขียนผิดต้องแก้ไขให้ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง เขียนคาที่ถูกลงใหม่ใต้หรือต่อจากคาที่ขีดฆ่า แล้วให้ปฏิบัติอย่างไร


ก. เขียนด้วยหมึกดา แล้วให้เจ้าหน้าที่ลงชื่อกากับไว้
ข. เขียนด้วยหมึกดา แล้วให้สัสดีจังหวัดลงชื่อกากับไว้
ค. เขียนด้วยหมึกดา แล้วให้เจ้าหน้าที่และสัสดีจังหวัดลงชื่อกากับไว้
ง. เขียนด้วยหมึกแดง แล้วให้สัสดีจังหวัดลงชื่อกากับไว้

☺ ข้อใดกล่าวถูกต้องสาหรับการใช้ใบสาคัญ ( สด.๔ ) ที่ออกให้ทหารกองเกินในวันตรวจเลือกฯ


ก. ออกให้กับทหารกองเกินที่ยังไม่แข็งแรงพอ และมีผู้ปกครองมาแจ้งป่วย
ข. ออกให้กับทหารกองเกินที่มีร่างกายยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับราชการในขณะนั้นได้ เพราะป่วยยังไม่หายภายใน ๓๐ วัน
ค. ออกให้กับทหารกองเกินที่พิการทุพพลภาพ
ง. ออกให้กับทหารกองเกินที่พิการแต่ไม่ถึงกับทุพพลภาพ

☺ การลงรายละเอียดในช่องบัดนี้อายุครบในหนังสือสาคัญ (สด.๘) ดาเนินการอย่างใด


ก. ลงอายุปีใน พ.ศ. ที่ครบกาหนดที่เข้ากองประจาการ
ข. ลงอายุปีบริบูรณ์ใน พ.ศ. ที่ปลดจากกองประจาการ
ค. ลงอายุใน พ.ศ. ที่ได้รับหางว่าวนาปลด
ง. ลงอายุใน พ.ศ.ที่ลงบัญชีทหารกองเกิน

☺ ช่องสังกัดเมื่อปลดเป็นทหารกองหนุนเขียนอย่างไรในแบบ สด.๔๒
ก. ลงสังกัดตาม จทบ.ภูมิลาเนาทหาร
ข. ลงสังกัดตามหน่วยทหาร
ค. ลงสังกัดตาม จทบ.ที่หน่วยสังกัด
ง. ปล่อยเว้นว่างไว้

☺ หางว่าวนาปลดออกจากกองประจาการ ใช้ในกรณีปลดทหารหนีราชการจนคดีขาดอายุความ ท่านจะปลดเป็นประเภทใด


ก. ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒
ข. ปลดเป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒
ค. ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๑
ง. ถูกทุกข้อ

☺ หางว่าวนาปลดออกจากกองประจาการ เมื่อเขียนรายการต่าง ๆ เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ต้องทาอย่างใด


ก. ขีดเส้นแดงปิดตลอดบรรทัด ผู้เขียนลงชื่อและตาแหน่งไว้ด้านซ้ายใต้รายชื่อคนสุดท้าย
ข. ขีดเส้นแดง ให้ผู้เขียนลงชื่อด้านขวา
ค. ขีดเส้นแดงปิดตลอดบรรทัด ผู้เขียนลงชื่อและตาแหน่งไว้ด้านขวาใต้รายชื่อคนสุดท้าย
ง. ถูกทุกข้อ

☺ การส่งบัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกินสาหรับผู้ที่รับลงบัญชีฯตามมาตรา ๑๘ ให้ส่งภายใน ๓๐ วันนับตั้งแต่วันที่รับลงบัญชีฯ


และให้แจ้งยอดผู้ที่รับลงบัญชีฯ ตามมาตรา ๑๘ โดยแยกเป็น ตาบลรวมทั้งอาเภอภายใน
ก. ทุกวันที่ ๑ ของเดือนถัดไป
ข. วันที่เข้าร่วมประชุมประจาเดือน
ค. ภายใน ๓๐ วันนับตั้งแต่วันที่รับลงบัญชีฯ
ง. ภายในวันที่ ๑๐ มกราคมของปี

☺ ในการส่งบัญชีตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ (สด.๑๗) ต้องส่งก่อนบัญชีใด


ก. แบบ สด.๓
ข. แบบ สด.๑๔
ค. แบบ สด.๑๕
ง. แบบ สด.๑๖

☺ อาเภอทุกอาเภอได้จัดส่งบัญชีคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน (สด.๒) มาให้จังหวัดครบถ้วนแล้ว ท่านคิดว่าการสั่งการของสัสดีจงั หวัดข้อใดถูกต้อง


ก. ให้ จนท.ภาค ๒ ตรวจสอบรายชื่อกับบัญชีฯ (สด.๒๗)
ข. ให้ จนท.ภาค ๑ เตรียมรวบรวมจัดทาบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖)
ค. ให้ จนท.ภาค ๒ คัดรายชื่อทั้งหมดลงในบัญชีฯ (สด.๒๗)
ง. ให้ จนท.ภาค ๑ เรียกบัญชีฯ (สด.๑) จากอาเภอมาตรวจสอบความถูกต้อง

☺ นายศักดิ์ แก้วสะอาด มาพบสัสดีอาเภอเพื่อขอลงบัญชีทหารกองเกินตามกาหนดอายุย่าง ๑๘ ปีบริบูรณ์ และ ส.อ.ทวนทน ทนทั้งวัน


เป็นเจ้าหน้าที่รับลงบัญชีฯ ท่านคิดว่าการดาเนินการในข้อใดของ ส.อ.ทวนทนฯ ถูกต้องที่สุด
ก. สอบถามการร้องขอเข้ากองประจาการ
ข. ให้เขียนคาร้องและบันทึกสอบสวน
ค. ตรวจสอบหลักฐานให้ถูกต้องก่อนดาเนินการรับลงบัญชีทหารกองเกิน
ง. จัดทาใบสาคัญฯ (สด.๙) มอบให้นายศักดิ์ฯ รับไว้เป็นหลักฐาน

☺ เมื่อมีผู้มาขอลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๖, ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ ต่อนายอาเภอ ข้อใดมิใช่ หลักฐานสาคัญที่ต้องตรวจสอบก่อนรับลงบัญชีฯ


ก. ทะเบียนบ้านของผู้ขอลงบัญชี และขอบิดามารดา
ข. บัตรประจาตัวประชาชนของผู้ขอลงบัญชี
ค. เอกสารวุฒิการศึกษาของผู้ขอลงบัญชี
ง. ทะเบียนบ้านของบิดาที่อยู่ต่างตาบลในอาเภอเดียวกันกับผู้ขอลงบัญชี

☺ หากกระทรวงมหาดไทยมีความประสงค์ขอเรียกทหารกองเกินเข้าเป็นตารวจกองประจาการ หน่วยที่มีหน้าที่รวบรวมยอดที่กระทรวงมหาดไทย
ขอเรียกคือหน่วยใด
ก. สัสดีมณฑลทหารบก
ข. แผนกสัสดีกองทัพภาค
ค. กองการสัสดี กรมเสมียนตรา
ง. กองการสัสดี หน่วยบัญชาการกาลังสารอง

☺ ห้วงอายุสูงสุดของทหารกองเกินคือห้วงอายุใด
ก. อายุย่าง ๑๗ ปี และยังไม่ถึง ๔๖ ปีบริบูรณ์
ข. อายุ ๑๗ ปีบริบูรณ์ และยังไม่ถึง ๔๖ ปีบริบูรณ์
ค. อายุย่าง ๑๘ ปี และยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์
ง. อายุ ๑๘ ปีบริบูรณ์ และยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์

☺ ชายไทยเกิด พ.ศ.๒๕๔๗ จะมีอายุครบ ๔ ปีบริบูรณ์เมื่อใด


ก. ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๐
ข. ๑ มกราคม ๒๕๕๑
ค. ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๑
ง. ๑ มกราคม ๒๕๕๒

☺ คนสัญชาติไทยต้องไปรับหมายเรียกเมื่ออายุเท่าใด
ก. ย่าง ๑๘ ปี
ข. ย่าง ๒๐ ปี
ค. ๒๐ ปีบริบูรณ์
ง. ไม่มีข้อใดถูก
☺ “ ภูมิลาเนาทหาร ” หมายถึงอะไร
ก. ภูมิลาเนาของบิดา มารดา หรือผู้ปกครองแล้วแต่กรณี
ข. ภูมิลาเนาของตนเองเมื่อบิดา – มารดาถึงแก่กรรม ไม่มีผู้ปกครอง
ค. ข้อ ก. และข้อ ข. รวมกัน
ง. ภูมิลาเนาที่ตนเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

☺ นายมนต์ ไม่มีสิทธิ์ เป็นทหารกองเกินสาเร็จการฝึกวิชาทหารจากประเทศสวีเดน และกระทรวงกลาโหมรับรองวิทยฐานะเทียบเท่ากับ


ผู้สาเร็จการฝึกวิชาทหารของไทย ชั้นปีที่ ๓ นายมนต์ฯ จะรับราชการกองประจาการอย่างไร
ก. จับสลากแดงรับราชการ ๑ ปี ๖ เดือน, ร้องขอฯ รับราชการ ๑ ปี
ข. จับสลากแดงรับราชการ ๑ ปี, ร้องขอฯ รับราชการ ๖ เดือน
ค. จับสลากแดงรับราชการ ๖ เดือน, ร้องขอฯ รับราชการ ๓ เดือน
ง. ขึ้นทะเบียนกองประจาการและนาปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๑

☺ ผู้ที่ไม่ต้องมาแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินที่อาเภอคือใคร
ก. พระภิกษุนักธรรม
ข. สามเณรนักธรรม
ค. ผู้ซึ่งอยู่ในระหว่างควบคุมหรือคุมขังของเจ้าพนักงาน
ง. ข้อ ข. และข้อ ค. ถูก

☺ การรายงานยอดจานวนทหารกองเกินที่รับลงบัญชีทหารตามมาตรา ๑๘ ให้ส่งตามกาหนดเวลาใด
ก. ภายในมกราคมของทุกปี
ข. ทุกวันที่ ๑ ของเดือนถัดไป
ค. ภายใน ๓๐ วันนับแต่วันรับลงบัญชี
ง. ภายใน ๓๐ วันนับแต่วันสิ้นสุดวันประกาศ

☺ ลักษณะของทหารกองประจาการประกอบด้วยอะไรบ้าง
ก. จับสลากได้ใบแดง
ข. สมัครเข้ารับราชการ
ค. ขึ้นทะเบียนกองประจาการแล้ว และยังรับราชการอยู่ในกองประจาการ
ง. ข้อ ก. และข้อ ข. ถูก

☺ ทหารกองเกินอายุ ๑๙ ปี ซึ่งสมัครเข้ารับราชการในวันตรวจเลือกในปัจจุบันนี้นั้น ผู้นาตัวขึ้นทะเบียนคือใคร


ก. นายอาเภอ
ข. ปลัดจังหวัด
ค. ปลัดอาเภออาวุโส
ง. เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับคน

☺ นักเรียนนายสิบพร ไม่มีศักดิ์ เกิด ๓๐ ธันวาคม ๒๕๒๙ เข้าเป็นนักเรียนนายสิบเมื่อ ๑ พฤษภาคม ๒๕๔๖ จะขึ้นทะเบียนกองประจาการ


ตามกาหนดได้ตั้งแต่เมื่อใด
ก. ๑ มกราคม ๒๕๔๖
ข. ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๖
ค. ๑ มกราคม ๒๕๔๗
ง. ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๗

☺ การปลดทหารกองประจาการแผนกทหารบกเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ หน่วยที่จัดทาหางว่าวนาปลดคือหน่วยใด
ก. กองร้อย
ข. กองพัน
ค. จังหวัดทหารบก
ง. แผนกสัสดีจังหวัด

☺ “ สมชาย ” เป็นคนหลีกเลี่ยงขัดขืน เข้ารับราชการกองประจาการเมื่ออายุ ๒๗ ปี ต่อมาถูกปลด เพราะกระทาเสื่อมเสีย จะเป็น


ทหารกองหนุนตามข้อใด
ก. ประเภทที่ ๑ ชั้นที่ ๑
ข. ประเภทที่ ๑ ชั้นที่ ๒
ค. ประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๑
ง. ประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๒

☺ “ ทหารประจาการ ” หมายความว่าอย่างใด
ก. ทหารซึ่งอยู่ประจาไม่ย้ายไปไหน
ข. ทหารซึ่งรับราชการอยู่ ยังไม่ได้ปลดตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร
ค. ทหารซึ่งรับราชการตามที่กระทรวงกลาโหมกาหนด ซึ่งไม่ใช่ทหารประจาการ
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การลาของข้าราชการสัสดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนั้น ๆ มีอานาจให้ลาได้และมีอานาจเทียบเท่า ข้าราชการทหารตาแหน่งใด


ก. ผู้บังคับกองพัน
ข. ผู้บังคับการกรม
ค. ผู้บัญชาการกองพล
ง. แม่ทัพภาค

☺ หน่วยรับผิดชอบในการตรวจสภาพทหารกองหนุนแผนกทหารบก คือหน่วยใด
ก. จังหวัดทหารบก
ข. หน่วยสัสดีอาเภอ
ค. แผนกสัสดีจังหวัด
ง. ถูกทุกข้อ

☺ บัญชีตรวจสอบสภาพทหารกองหนุนที่สัสดีอาเภอส่งคืนไปให้สัสดีจังหวัด คือฉบับใด
ก. ฉบับใดก็ได้
ข. ฉบับที่เรียบร้อยสวยงามที่สุด
ค. ฉบับที่อาเภอคัดลอกแก้ไขแล้ว
ง. ฉบับที่อาเภอส่งไปตรวจสอบสภาพ

☺ บัญชีตรวจสอบสภาพทหารกองหนุนที่สัสดีจังหวัดส่งคืนไปจังหวัดทหารบก คือฉบับใด
ก. ฉบับใดก็ได้
ข. ฉบับที่อาเภอส่งคืนมา
ค. ฉบับที่จังหวัดคัดลอกใหม่
ง. ฉบับที่จังหวัดส่งไปตรวจสอบสภาพ

☺ เมื่อได้ตรวจสอบสภาพทหารกองหนุนครั้งใหม่แล้ว บัญชีเดิมจะดาเนินการอย่างไร
ก. ส่งไปเก็บไว้ที่จังหวัดทหารบก
ข. ส่งไปเก็บไว้ที่แผนกสัสดีจังหวัด
ค. เก็บไว้ตามระเบียบงานสารบรรณ
ง. ทาลายตามระเบียบงานสารบรรณ

☺ พลฯสมปอง น้องสมชาย เครื่องหมาย ท.บ.๒๕๔๗ ป.ข.๑๑๓ รับราชการทหารผลัดที่ ๑ ไม่ถึงปีก็จบเพราะจบนิติศาสตร์บัณฑิต รามคาแหง


“ สมปอง ” เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ชั้นที่ ๒ เมื่อใด
ก. ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔
ข. ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖
ค. ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
ง. ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖

☺ ใบสาคัญ (แบบ สด.๙) เมื่อจ่ายหมดแล้ว จากข้อความที่หน้าปกว่า “ ใบสาคัญ คนชั้นปี ๒๕๓๐ เกิด พ.ศ.๒๕๑๒ เล่ม ๑ ” ควรเขียนไว้ที่
สันปกด้วย และหากเขียนในแนวนอนจะเขียนอย่างไร
ก. ชั้นปี ๒๕๓๐ เล่ม ๑
ข. เกิด พ.ศ. ๒๕๑๒ เล่ม ๑
ค. คนชั้นปี ๒๕๓๐ เกิด พ.ศ. ๒๕๑๒ เล่ม ๑
ง. ใบสาคัญคนชั้นปี ๒๕๓๐ เกิด พ.ศ. ๒๕๑๒ เล่ม ๑

☺ เนื่องจากวันที่ ๑ – ๔ มกราคม ๒๕๔๗ เป็นวันหยุดราชการ พอวันจันทร์ที่ ๕ มกราคม ๒๕๔๗ สัสดีอาเภอบ้านแหลมก็มาปฏิบัติงานตามปกติ


และเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๔๗ ได้บันทึกปลด นายสมชาย คาคม เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๒ ตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๔๗
เมื่อ นายสมชายฯ เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๓ เมื่อ ๑ มกราคม ๒๕๕๗ นั้น จะบันทึกปลดได้ เมื่อใด
ก. ๑ มกราคม ๒๕๔๗
ข. ๑ มกราคม ๒๕๕๗
ค. ๕ มกราคม ๒๕๔๗
ง. ๖ มกราคม ๒๕๔๗

☺ ตามคาสั่ง ทบ.ที่ ๙๕/๒๕๔๖ เรื่อง แก้ไขคาสั่งกองทัพบก ให้เพิ่มข้อความเป็นข้อ ๔.๑.๕ ตอนที่ ๒ การลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๘


ของคาสั่ง ทบ.ที่ ๑๑๗๓/๒๕๒๘ ลง ๒๕ ธ.ค. ๒๘ นั้น การบันทึกหลังใบสาคัญ (แบบ สด.๙) ใจความว่า “ ไม่เคยลงบัญชีที่ใดมาก่อน ” นั้น
ผู้บันทึก คือใคร
ก. นายอาเภอ
ข. สัสดีอาเภอ
ค. ผู้ขอลงบัญชีฯ
ง. เสมียนหน่วยสัสดีอาเภอ


☺ จากข้อความ “ ๑ ฯ ๕ ค่า ปีฉลู ” อ่านได้ความหมายได้อย่างไร
ก. เดือนอ้าย วันเสาร์ ขึ้นห้าค่า ปีฉลู
ข. วันอาทิตย์ เดือนเจ็ด แรมห้าค่า ปีฉลู
ค. วันอาทิตย์ ขึ้นเจ็ดค่า เดือนห้า ปีฉลู
ง. เดือนหนึ่ง แรมเจ็ดค่า วันพฤหัสบดี ปีฉลู

☺ นายเก่ง ขยันเรียน ภูมิลาเนาทหารอยู่อาเภอรัตนบุรี จังหวัด ส.ร. ได้รับการผ่อนผันเพราะกาลัง ศึกษาอยู่ ณ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล อาเภอ


คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ยังอยู่ในระยะเวลาผ่อนผันก็เรียนจบและเข้าทางานที่ บริษัท ซูซูกิ (ประเทศไทย) จากัด ตั้งอยู่ที่อาเภอธัญบุรี จังหวัด ป.ท.
หากมีความประสงค์เข้ารับการตรวจเลือกแล้ว นายเก่งฯ จะต้องแจ้งต่อใคร
ก. นายอาเภอธัญบุรี
ข. สัสดีอาเภอรัตนบุรี
ค. นายอาเภอคลองหลวง
ง. สัสดีอาเภอคลองหลวง

☺ ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับงานในหน้าที่ของแผนกสัสดีจังหวัด
ก. ภาค ๑ การเรียก การตรวจเลือก และการย้ายภูมิลาเนาทหาร
ข. ภาค ๒ การทะเบียนบัญชี และทหารขาดหนีราชการ
ค. ภาค ๓ การปลด จาหน่าย การเรียกพล
ง. ภาค ๔ การเตรียมพล ธุรการ การเงินและงบประมาณ

☺ วิธีเก็บบัญชีทหารกองเกิน (สด.๑) ของทหารกองเกินเก็บอย่างไร


ก. ไม่แยกเป็นชั้นปี แต่รวมทุกตาบล เรียงตามลาดับหมู่บ้านและเลขที่บ้าน
ข. ไม่แยกเป็นตาบล เก็บได้ตามขนาดแฟ้ม เรียงตามวัน เดือน พ.ศ.ที่ลงบัญชี
ค. แยกแฟ้มเป็นตาบล เรียงตามลาดับหมู่บ้าน แต่ละหมู่บ้านเรียงตามลาดับเลขที่บ้าน
ง. แยกแฟ้มเป็นชั้นปี ชั้นปีหนึ่งแยกเป็นตาบล แต่ละตาบลเรียงตามลาดับหมู่บ้าน แต่ละหมู่บ้านเรียงตามลาดับเลขที่บ้าน

☺ วิธีเก็บบัญชีทหารกองเกิน (สด.๑) ของทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ชั้นที่ ๑ เก็บอย่างไร


ก. แยกแฟ้มเป็นตาบล เรียงตามวัน เดือน พ.ศ.ที่ปลด
ข. แยกแฟ้มเป็นแผนก เป็นสังกัด เรียงตามวัน เดือน พ.ศ.ที่ปลด
ค. แยกเป็นรุ่นปี เป็นแผนก เรียงตามลาดับวัน เดือน พ.ศ.ที่ปลด
ง. ไม่แยกแฟ้มเป็นตาบล ให้เก็บรวมกัน แต่เรียงวัน เดือน พ.ศ.ที่ปลด

☺ บัญชีทหารกองเกิน (สด.๑) ของทหารกองหนุนพ้นราชการทหารประเภทที่ ๑ เก็บอย่างไร


ก. แยกเป็นตาบล เรียงตามลาดับวัน เดือน พ.ศ.ที่ปลด
ข. แยกเป็นตาบล แต่ไม่แยกชั้นปี เรียงตามลาดับวัน เดือน พ.ศ.ที่ปลด
ค. แยกแฟ้มเป็นชั้นปี แยกเป็นตาบล เรียงตามลาดับวัน เดือน พ.ศ.ที่ปลด
ง. ไม่ต้องแยกแฟ้มเป็นตาบล ให้เก็บรวมกันได้หลายปีตามขนาดแฟ้ม แต่เรียงตามลาดับวัน เดือน พ.ศ.ที่ปลด

☺ คนซึ่งต้องส่งเข้ากองประจาการในวันตรวจเลือกฯ ผู้นาขึ้นทะเบียนคือใคร
ก. ปลัดอาเภอ
ข. ปลัดจังหวัด
ค. นายอาเภอท้องที่
ง. เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับคน

☺ คนซึ่งนายอาเภอส่งเข้ากองประจาการภายหลังวันตรวจเลือก ผู้นาขึ้นทะเบียนคือใคร
ก. ปลัดอาเภอ
ข. ปลัดจังหวัด
ค. นายอาเภอท้องที่
ง. เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับคน

☺ คนซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดส่งเข้ากองประจาการภายหลังวันตรวจเลือกฯ ผู้นาขึ้นทะเบียนคือใคร
ก. ปลัดอาเภอ
ข. ปลัดจังหวัด
ค. นายอาเภอท้องที่
ง. เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับคน
☺ คนซึ่งร้องขอเข้ากองประจาการในวันตรวจเลือก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับไว้ ผู้นาขึ้นทะเบียนคือใคร
ก. ปลัดอาเภอ
ข. ปลัดจังหวัด
ค. นายอาเภอท้องที่
ง. เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับคน

☺ “ สมพร ” เป็นคนชั้นปี ๒๕๑๘ ใน พ.ศ.๒๕๔๗ สมพรจะมีสภาพตรงตามข้อใด


ก. ทหารกองเกิน
ข. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑
ค. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๑
ง. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๒

☺ “ ทหารกองประจาการ ” เป็นความหมายของใคร
ก. สมชาย เข้าตรวจเลือกฯ จับสลากแดง
ข. สมพล ร้องขอเข้ากองประจาการและรับหมายนัดแล้ว
ค. สมภาร ใกล้จะได้กลับบ้านแล้วเพราะจะครบกาหนด ๓๐ วันที่ถูกเรียกพลฯ
ง. สมพร เป็นทหารเพราะเป็นคนหลีกเลี่ยงฯ เครื่องหมาย ท.บ.๒๕๔๗ ป.ข. ๔๕ ปัจจุบัน กองร้อยให้ลากิจไปเยี่ยมบ้าน

☺ นายอาเภอมีอานาจให้บุคคลใดลาได้ และในกรณีใด
ก. ทหารกองเกินป่วย
ข. ทหารประจาการป่วย
ค. ทหารกองประจาการป่วย
ง. ทหารกองประจาการลากิจมาแล้วขอลาป่วย

☺ ประกาศของนายอาเภอที่ทาในเดือนกันยายนทุกปี คือประกาศใด
ก. ประกาศให้มารับหมาย (แบบ สด.๓๘)
ข. ประกาศให้มาลงบัญชี (แบบ สด.๓๙)
ค. ประกาศให้มารับหมาย (แบบ สด.๓๙)
ง. ประกาศให้มาลงบัญชี (แบบ สด.๓๘)

☺ นายแดน ดีสูดี ภูมิลาเนาทหารอยู่อาเภอเมืองเชียงราย ปัจจุบันเป็นพนักงานประจาของบริษัท กว้างไพศาล จากัด ซึ่งอยู่ที่ อาเภอเมืองตรัง


หากนายแดนฯ ต้องการขอใบสาคัญ (แบบ สด.๙) แทนฉบับสูญหาย นายแดนฯ สามารถแจ้งขอได้กับผู้ใด
ก. สัสดีอาเภอเมืองตรัง
ข. นายอาเภอเมืองตรัง
ค. สัสดีอาเภอเมืองเชียงราย
ง. นายอาเภอเมืองเชียงราย

☺ ข้อความที่บันทึกหลังใบสาคัญ (แบบ สด.๙) กรณีลงบัญชีตามมาตรา ๑๘ บันทึกว่าอย่างไร


ก. “ ข้าพเจ้าไม่เคยแสดงตนลงบัญชีทหารกองเกินที่อาเภอใดมาก่อน ”
ข. “ ข้าพเจ้าขอรับรองว่าไม่เคยแสดงตนลงบัญชีทหารกองเกินที่อาเภอใดมาก่อน ”
ค. “ ข้าพเจ้าไม่เคยแสดงตนลงบัญชีทหารกองเกินที่เขต/อาเภอ หรือกิ่งอาเภอใดมาก่อน ”
ง. “ ข้าพเจ้าขอรับรองว่า ไม่เคยแสดงตนลงบัญชีทหารกองเกินที่เขต/อาเภอ หรือกิ่งอาเภอ ใดมาก่อน ”

☺ งานในหน้าที่สัสดีเป็นไปตามหลักฐานใด
ก. คาสั่ง กห. ว่าด้วยการกาหนดหน้าที่สัสดี พ.ศ.๒๕๓๔
ข. คาสั่ง ทบ. ว่าด้วยการกาหนดหน้าที่สัสดี พ.ศ.๒๕๓๔
ค. ระเบียบ กห. ว่าด้วยการกาหนดหน้าที่สัสดี พ.ศ.๒๕๓๔
ง. ข้อบังคับ กห. ว่าด้วยการกาหนดหน้าที่สัสดี พ.ศ.๒๕๓๔

☺ การแบ่งเฉลี่ยคนส่งเข้ากองประจาการเป็นขั้นตอนการดาเนินการเรียกและการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจาการ
ตามคาสั่ง ทบ.ที่ ๒๙/๒๕๑๗ ในขั้นตอนใด
ก. การดาเนินการตรวจเลือก
ข. การสังเกตการณ์
ค. การปฏิบัติภายหลังการตรวจเลือก
ง. การเตรียมการ

☺ ข้อใดมิใช่ขั้นตอนการดาเนินการตรวจเลือกตามคาสั่ง ทบ.ที่ ๒๙/๒๕๑๗


ก. การจัดสถานที่ตรวจเลือก
ข. การรายงานการตรวจเลือกของคณะกรรมการตรวจเลือก
ค. การกาหนดคนเข้ากองประจาการ
ง. การนาหลักฐานเอกสาร เครื่องมือเครื่องใช้ไปในวันตรวจเลือก

☺ ขั้นตอนการดาเนินการเรียกและการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจาการ ตามคาสั่ง ทบ.ที่ ๒๙/๒๕๑๗ มีกี่ขั้นตอน


ก. ๔ ขั้นตอน
ข. ๓ ขั้นตอน
ค. ๒ ขั้นตอน
ง. ๕ ขั้นตอน

☺ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการออกหมายเรียกทหารกองเกิน
ก. ให้ออกหมายเรียกมาเข้ารับการตรวจเลือกวันหนึ่งไม่เกิน ๗๐๐ คน
ข. ทหารกองเกินที่มีอายุย่างเข้า ๒๑ ปี ในปีพุทธศักราชนั้น ให้จัดทาให้พร้อมที่จะมอบได้ตั้งแต่ ๑ ม.ค. เป็นต้นไป
ค. เมื่อสัสดีอาเภอได้มอบหมายเรียกให้ทหารกองเกินแล้ว ให้ส่งบัญชีรายชื่อแจ้งสัสดีจงั หวัดทราบภายในวันที่ ๕ ของเดือนใหม่
ง. การจัดทาประกาศตามความในมาตรา ๒๖ แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ให้ดาเนินการในเดือน ต.ค.ของทุกปี

☺ ในการจัดทาหมายเรียกสาหรับทหารกองเกินที่อายุเกินกว่า ๒๑ ปี และยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์ ในปีที่จะต้องเข้ากองประจาการ


ให้จัดทาหมายเรียกฯ ตามหลักฐานในข้อใด
ก. บัญชีทหารกองเกิน ( สด.๑ )
ข. หมายเรียกเข้ารับราชการทหารปีที่ทาการตรวจเลือกครั้งหลังสุด
ค. บัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ( สด.๒๗ )
ง. บัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการของปีก่อน

☺ การส่งหมายเรียกให้กับทหารกองเกินที่อายุเกินกว่า ๒๑ ปี และยังไม่ถึง ๓๐ปีบริบูรณ์ในปีที่จะต้องเข้ากองประจาการ สัสดีอาเภอจะต้องพยายาม


ดาเนินการให้เสร็จสิ้นไม่ให้ติดค้างเป็นเวลาเท่าใด
ก. เกินกว่า ๕ ปี
ข. เกินกว่า ๑ ปี
ค. เกินกว่า ๓ ปี
ง. เกินกว่า ๒ ปี

☺ ข้อใดมิใช่ประเภทของบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
ก. บัญชีคนที่อยู่ในกาหนดเรียกธรรมดา
ข. บัญชีคนที่ไม่มาเข้ารับการตรวจเลือก
ค. บัญชีคนผ่อนผัน
ง. บัญชีคนที่ขาดการตรวจเลือก

☺ ในการจัดทาบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการสาหรับผู้ที่อยู่ในกาหนดเรียกธรรมดา ให้ใช้หลักฐานเป็นหลักในการจัดทา
ก. บัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการของปีก่อน
ข. บัญชีทหารกองเกิน
ค. บัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน
ง. บัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒

☺ ในการจัดทาบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการของอาเภอ ต้องจัดทาเมื่อใด
ก. ภายในเดือนสิงหาคม
ข. ภายในเดือนมกราคม
ค. ภายในเดือนพฤษภาคม
ง. ภายในเดือนธันวาคม

☺ ผู้ที่มาเข้ารับการตรวจเลือกฯ แต่หลบหนีไปก่อนกาหนดให้เข้ากองประจาการกรณีที่ไม่มีการจับสลากในปีก่อน ในการจัดทาบัญชีเรียกฯ


ในปีถัดไปจักพิมพ์รายชื่ออยู่ในบัญชีใด
ก. บัญชีคนที่พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน
ข. บัญชีคนหลีกเลี่ยงขัดขืน
ค. บัญชีคนผ่อนผัน
ง. บัญชีคนที่ขาดการตรวจเลือก

☺ บัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการในข้อใดที่พิมพ์ไม่ต้องแยกเป็นตาบล
ก. บัญชีคนหลีกเลี่ยงขัดขืน
ข. บัญชีคนที่ขาดการตรวจเลือก
ค. บัญชีคนผ่อนผัน
ง. ถูกทุกข้อ

☺ หากในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการท้องที่ใดมีการเรียกคนอายุถัดจาก ๒๑ ปีบริบูรณ์ขึ้นไปด้วย จะเขียนหรือพิมพ์


รายชื่อไว้ในบัญชีใด
ก. บัญชีคนที่พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน
ข. บัญชีคนที่อยู่ในกาหนดเรียกธรรมดา
ค. บัญชีคนอายุถัดจาก ๒๑ ปีบริบูรณ์
ง. บัญชีคนผ่อนผัน

☺ บัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการประเภทใดต้องพิมพ์แยกเป็นตาบล
ก. บัญชีคนที่พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน
ข. บัญชีคนผ่อนผัน
ค. บัญชีคนที่อยู่ในกาหนดเรียกธรรมดา
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ค.

☺ ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
ก. การจัดทาบัญชีเรียกฯ ของจังหวัด ต้องจัดทาภายในเดือนพฤษภาคม
ข. หากอาเภอใดไม่มีคนหลีกเลี่ยงขัดขืนก็ต้องจัดทาบัญชีไว้ด้วย
ค. เมื่อสัสดีจังหวัดจัดทาบัญชีเรียกฯ เสร็จสิ้นแล้วให้เสนอผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อส่งให้สสั ดีอาเภอดาเนินการต่อไป
ง. ให้สัสดีจังหวัดลงชื่อกากับบัญชีเรียกฯ ใต้รายชื่อคนสุดท้ายของทุกแผ่น

☺ อาเภอกุดจับ จังหวัด อ.ด. ทาการตรวจเลือกฯ ๒ วัน มีคนหลีกเลี่ยงขัดขืนจานวน ๕ คน จะแบ่งเฉลี่ยลงในบัญชีเรียกฯวันละเท่าใดจึงจะถูกต้อง


ก. แบ่งให้วันที่ ๒ ทั้ง ๕ คน
ข. แบ่งให้วันแรกทั้ง ๕ คน
ค. แบ่งให้วันแรก ๒ คน และวันที่สอง ๓ คน
ง. แบ่งให้วันแรก ๓ คน และวันที่สอง ๒ คน

☺ ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการจัดทาบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการของอาเภอ
๑. ให้จัดทาบัญชีเรียกฯ ฉบับของอาเภอไว้ ๑ ชุด โดยมีรายชื่อและข้อความตรงกับฉบับจังหวัด ทุกประการ
๒. เมื่อรับบัญชีเรียกฯ จากจังหวัดแล้วให้ตรวจสอบความถูกต้องกับบัญชีทหารกองเกิน (สด.๑)
๓. เมื่อจัดทาบัญชีเรียกฯ ฉบับของอาเภอเสร็จแล้ว ให้เสนอนายอาเภอลงชื่อกากับไว้ใต้รายชื่อคนสุดท้ายของทุกแผ่น
๔. ถูกหมดทั้งข้อ ก. ข้อ ข. และข้อ ค.

☺ ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการแบ่งบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
ก. ถ้าอาเภอใดมีทหารกองเกินเกินกว่า ๕๐๐ คน ก็ให้แบ่งบัญชีเรียกฯ ออกเป็นวันๆ วันหนึ่ง ไม่เกิน ๕๐๐ คน
ข. ถ้าอาเภอใดมีการตรวจเลือกหลายวัน ให้เอาคนหลีกเลี่ยงขัดขืนเข้าตรวจเลือกในวันสุดท้าย ของอาเภอนั้น
ค. ถ้าอาเภอใดมีการตรวจเลือกหลายวัน และอาเภอนั้นมีคนผ่อนผันน้อย จะลงบัญชีเรียกฯ ให้มาเข้ารับการตรวจเลือกในวันสุดท้าย
ของอาเภอนั้นก็ได้
ง. ถ้าอาเภอหนึ่งมีการตรวจเลือก ๔ วัน และมีคนหลีกเลี่ยงขัดขืนจานวน ๔ คน ให้แบ่งเข้ารับการตรวจเลือกในวันแรกและวันสุดท้าย
วันละ ๒ คน

☺ หน่วยใดมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดทาบัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้
ก. ฝ่ายสรรพกาลัง มทบ.๑๒
ข. สัสดี จทบ.ส.ก.
ค. สัสดีจังหวัด ฉ.ช.
ง. สัสดีอาเภออรัญประเทศ

☺ เอกสารในข้อใดที่จะต้องจัดส่งไปพร้อมกับการส่งบัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้
ก. รายงานยอดคนร้องขอเข้ากองประจาการอายุ ๑๘ – ๒๐ ปี
ข. บัญชีกาหนดวัน เวลา และสถานที่ทาการตรวจเลือก
ค. บัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
ง. รายงานยอดรับหมายเรียกฯ

☺ การจัดทาบัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้ในข้อใดกล่าวถูกต้องถ้าในจังหวัดนั้นมีการเรียกคนเข้ากองประจาการแผนกทหารอากาศและทหารเรือด้วย
ก. ให้จัดทาบัญชีฯ เฉพาะแผนก ทอ.ต่างหากส่งให้ กพ.ทอ. ๑ ฉบับ
ข. ให้จัดทาบัญชีฯ เฉพาะแผนก ทร.ต่างหากส่งให้ กพ.ทร. ๑ ฉบับ
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
ง. จัดทารวมกันทุกแผนก แต่ให้ส่งสาเนาให้ กพ.ทอ. และ กพ.ทร.ด้วย

☺ ข้อใดเรียงลาดับระยะเวลาการจัดทาบัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้ของสัสดีจังหวัด, สัสดี มทบ. และ สัสดี ทภ.ได้ถูกต้อง


ก. สัสดีจังหวัด (ภายใน ๕ มิ.ย.)--- สัสดี มทบ.(ภายใน ๑๕ มิ.ย.)--- สัสดี ทภ.(ภายใน ๒๕ มิ.ย.)
ข. สัสดีจังหวัด (ภายใน ๑๐ มิ.ย.)---สัสดี มทบ.(ภายใน ๒๐ มิ.ย.)---สัสดี ทภ.(ภายใน ๓๐ มิ.ย.)
ค. สัสดีจังหวัด (ภายใน ๑๕ มิ.ย.)---สัสดี มทบ.(ภายใน ๒๐ มิ.ย.)---สัสดี ทภ.(ภายใน ๓๐ มิ.ย.)
ง. สัสดีจังหวัด (ภายใน ๑๐ มิ.ย.)---สัสดี มทบ.(ภายใน ๒๐ มิ.ย.)---สัสดี ทภ.(ภายใน ๒๕ มิ.ย.)

☺ การส่งบัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้ของ ทภ.ครั้งสุดท้ายจะต้องส่งถึง ทบ.หลังจากได้รับบัญชีฯ จาก มทบ. หรือ จทบ. เมื่อใด


ก. ไม่เกิน ๑๐ วัน
ข. ไม่เกิน ๗ วัน
ค. ไม่เกิน ๕ วัน
ง. ไม่เกิน ๓ วัน

☺ วันที่ ๑๐ มิ.ย.๔๕ สัสดี ก.ท.ส่งบัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้ให้ มทบ.๑๑ ต่อมา ๓๐ มิ.ย.๔๕ สัสดีเขตทั้ง ๕๐ เขตได้รายงานการรับลงบัญชี


ของผู้ที่อยู่ในกาหนดเรียกซึ่งมีจานวนทั้งหมด ๑๒๓ คน หากท่านเป็นเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการจัดทา ท่านต้องทาอย่างไรจึงจะถูกต้อง
ก. รายงานการเพิ่มยอดให้ มทบ.๑๑ ทราบ ภายใน ๓๐ ก.ค.๔๕
ข. รายงานการเพิ่มยอดให้ มทบ.๑๑ ทราบ ภายใน ๑๐ ก.ค.๔๕
ค. จัดทาบัญชีจานวนคนที่จะเรียกส่งให้ มทบ.๑๑ ใหม่ ภายใน ๑๐ ก.ค.๔๕
ง. จัดทาบัญชีจานวนคนที่จะเรียกส่งให้ มทบ.๑๑ ใหม่ ภายใน ๑๐ ส.ค.๔๕

☺ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดทาบัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้
ก. มทบ. จัดทาส่ง ทภ. จานวน ๒ ฉบับ
ข. ทภ. จัดทาส่ง ทบ. ครั้งต่อไปภายใน ๒๐ ของเดือน
ค. จังหวัดต้องจัดทาส่ง มทบ.อีกครั้งเมื่อได้รับแจ้งจานวนคนที่ขอเรียก
ง. การจัดส่งครั้งต่อไปไม่ต้องส่งบัญชีกาหนดวัน เวลา และสถานที่ตรวจเลือก ยกเว้นมีการเปลี่ยนแปลง

☺ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการขอเรียกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจาการ
ก. การขอลดจานวนคนจากจานวนที่ขอเรียกไว้เดิมจะขอเท่าใดก็ได้
ข. ถ้ามีการขอเพิ่มจานวนคนจากจานวนที่ขอเรียกไว้เดิม จะต้องแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ทราบล่วงหน้าก่อนการตรวจเลือก
ไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน
ค. ถ้าไม่มีเหตุจาเป็นจะต้องแจ้งจานวนขอเรียกต่อผู้ว่าราชการจังหวัดล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๖ เดือน
ง. ในการขอเรียกจะต้องแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบด้วยว่าจะกาหนดรับคนเสร็จเมื่อใด

☺ หน่วยใดมีหน้าที่ในการแบ่งเฉลี่ยคนส่งเข้ากองประจาการ
ก. สัสดีจังหวัด
ข. สัสดีอาเภอ
ค. สัสดี จทบ.
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ค.

☺ การจัดทาบัญชีเทียบจานวนคนที่จะกะเรียก จะดาเนินการเมื่อใด
ก. เมื่อได้รับแจ้งจานวนคนที่จะขอเรียก
ข. จัดทาพร้อมกับบัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้
ค. จัดทาหลังจากทาการแบ่งเฉลี่ยคนส่งเข้ากองประจาการแล้ว
ง. จัดทาหลังจากคณะกรรมการมาตรวจสอบบัญชีเรียกฯ และใบรับรองผลการตรวจเลือกแล้ว

☺ ส.อ.เทียนชัย ชัยยศ เสมียนหน่วยสัสดีอาเภอกรงปีนัง ดาเนินการรวบรวมบัญชีทหารกองเกิน (สด.๑) ของทหารกองเกินชั้นปี ๒๕๒๘


ในท้องที่ของตนมาดาเนินการจัดทาหมายเรียกฯ การปฏิบัติของ ส.อ.เทียนชัยฯ เป็นการปฏิบัติในเรื่องใด
ก. การยกเว้นและผ่อนผัน
ข. การควบคุมทหารกองเกิน
ค. การดาเนินการเรียกและการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
ง. การลงบัญชีทหารกองเกิน

☺ เอกสารใดเมื่อจัดทาเสร็จแล้วสัสดีจังหวัดต้องจัดทาส่งให้ กพ.ทร.ด้วย หากจังหวัดนั้นมีการเรียกคนเข้ากองประจาการแผนกทหารเรือ


ก. บัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
ข. บัญชีเทียบจานวนคนที่จะกะเรียก
ค. บัญชีคนที่ส่งเข้ากองประจาการ
ง. บัญชีตรวจเลือกคนเข้ากองประจาการ

ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ตอบคาถามข้อ ๒๘๐ – ๒๘๑ ในการแบ่งเฉลี่ยคนเข้ากองประจาการของจังหวัด น.ภ. ได้ผลลัพท์ออกมาดังนี้


อาเภอ ก. = ๒๘๙.๑๔ อาเภอ ข. = ๒๒๐.๕๘ อาเภอ ค. = ๑๙๖.๘๗
และอาเภอ ง. = ๑๙๙.๐๕ ฝ่ายต้องการคนขอเรียกเป็นแผนก ทบ.แผนกเดียว จานวน ๘๙๖ คน

☺ อาเภอ ง. จะได้รับยอดเฉลี่ยจานวนเท่าใด
ก. ๑๙๙ คน
ข. ๑๙๘ คน
ค. ๒๐๐ คน
ง. ๑๙๙.๐๕ คน

☺ อาเภอ ข. และอาเภอ ค.จะได้รับยอดเฉลี่ยจานวนเท่าใด


ก. ๒๑๐ คน, ๑๙๗ คน
ข. ๒๑๑ คน, ๑๙๗ คน
ค. ๒๑๐ คน, ๑๙๖ คน
ง. ๒๑๑ คน, ๑๙๖ คน

☺ ในการแบ่งเฉลี่ยคนเข้ากองประจาการ หากผลลัพธ์ที่ได้ยังไม่เท่ากับจานวนที่ต้องการ จะต้องดาเนินการอย่างไร


ก. ส่งยอดที่เหลือไปให้จังหวัดอื่นภายใน มทบ.หรือ จทบ.เดียวกัน
ข. เพิ่มยอดที่เหลือให้กับอาเภอเมืองของจังหวัดทั้งหมด
ค. เพิ่มจานวนในอาเภอที่มีเศษมากไปหาน้อยตามลาดับ
ง. เพิ่มจานวนให้อาเภอที่มีเศษน้อยไปหามากตามลาดับ

☺ การคานวณการแบ่งเฉลี่ยฯ ถ้าได้รับแจ้งจานวนขอเรียกแผนกเดียวข้อใดถูกต้อง
ก. จานวนคนขอเรียกทั้งหมด × จานวนที่จะเรียกได้ของทุกจังหวัด
จานวนรวมของคนที่จะเรียกได้ของจังหวัดนั้น
ข. จานวนคนที่จะเรียกได้เฉพาะอาเภอ × จานวนคนที่ขอเรียกทั้งหมด
จานวนคนที่จะเรียกได้ในจังหวัดนั้น
ค. จานวนคนที่จะเรียกได้ของจังหวัด × จานวนคนที่ขอเรียกทั้งหมด
จานวนคนที่จะเรียกได้เฉพาะอาเภอ
ง. ไม่มีข้อใดถูก

ข้อมูลต่อไปนี้ใช้ตอบคาถามข้อ ๒๘๔ - ๒๘๖


จานวนคนที่จะเรียกได้ในจังหวัดโอ มีรายละเอียดดังนี้ : อาเภอเอ = ๑๐๐ คน ,อาเภอบี = ๑๕๐ คน ,อาเภอซี = ๑๘๐ คน
และอาเภอดี = ๘๐ คน ทางจังหวัดได้รับยอดจาก จทบ. เป็นแผนก ทอ.๑ แผนกเดียว จานวน ๖๐ คน

☺ อาเภอซี และอาเภอเอ จะได้รับยอดแบ่งเฉลี่ยอาเภอละเท่าใด


ก. ๒๑ คน และ ๑๑ คน
ข. ๒๑ คน และ ๑๒ คน
ค. ๒๒ คน และ ๑๒ คน
ง. ๒๒ คน และ ๑๑ คน

☺ อาเภอใดได้รับการเพิ่มจานวนจากผลการแบ่งเฉลี่ยที่ได้รับไว้เดิม
ก. อาเภอเอ และอาเภอบี
ข. อาเภอบี และอาเภอซี
ค. อาเภอซี และอาเภอดี
ง. อาเภอดี และอาเภอเอ

☺ อาเภอใดจะได้รับการเพิ่มจานวนคนจากผลการแบ่งเฉลี่ยไว้เดิมเป็นอาเภอแรก
ก. อาเภอดี
ข. อาเภอซี
ค. อาเภอบี
ง. อาเภอเอ

☺ ในการแบ่งเฉลี่ยคนเข้ากองประจาการ สัสดีจังหวัดจะต้องนาข้อมูลจากหลักฐานใดไปดาเนินการ
ก. บัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
ข. ยอดจานวนคนตามบัญชีทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒
ค. บัญชีเทียบจานวนคนที่จะกะเรียก
ง. บัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้

☺ หากวันตรวจเลือกวันใดมิใช่วันสุดท้ายของคณะกรรมการฯ และมีผู้ร้องขอเกินจานวนยอดที่แบ่งเฉลี่ยไว้เดิม จะต้องดาเนินการอย่างไร


ก. ให้ดาเนินการจับสลากเพื่อคัดออกให้เหลือเท่าจานวนที่แบ่งเฉลี่ยไว้เดิม
ข. ให้รายงานขอเพิ่มยอดไปยัง มทบ., ทภ. และ ทบ. ตามลาดับ
ค. ให้นายอดที่ร้องขอเกินไปลดยอดแบ่งเฉลี่ยเดิมของวันต่อๆ ไปทุกวันที่เหลือ
ง. ดาเนินการได้ทั้ง ๓ กรณี ขึ้นอยู่กับประธานกรรมการ

☺ การบันทึกใบรับรองผลการตรวจเลือก (แบบ สด.๔๓) ในข้อ ๑.๑ และ ๑.๒ ทั้ง ๓ ท่อน เป็นความรับผิดชอบของใคร
ก. กรรมการสัสดีจังหวัด
ข. สัสดีจังหวัดท้องที่
ค. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑
ง. ประธานกรรมการตรวจเลือก

☺ ใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ ที่ใช้ในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการในปี ๒๕๔๓ หลังเสร็จสิน้ การตรวจเลือกแล้ว


จะต้องเก็บรักษาไว้ถึงเมื่อใดจึงจะทาลายได้
ก. ปี ๒๕๔๘
ข. ปี ๒๕๕๓
ค. ปี ๒๕๕๐
ง. ปี ๒๕๔๖

☺ ในการสอบทานบัญชีเรียกฯ กับใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ ท่อนที่ ๒ ของ ทภ. เมื่อเสร็จสิ้นแล้วสัสดี ทภ.จะต้องลงชื่อรับรองความถูกต้อง


ในบัญชีเรียกฯ ที่ใด
ก. มุมบนด้านซ้ายหน้าแรกทุกฉบับ
ข. มุมบนด้านขวาหน้าแรกทุกฉบับ
ค. มุมล่างด้านขวาหน้าแรกทุกฉบับ
ง. มุมล่างด้านซ้ายหน้าแรกทุกฉบับ

☺ ในการสอบทานบัญชีเรียกฯ ของ ทภ.หลังเสร็จสิ้นการตรวจเลือก ผู้ที่ไม่ได้เข้ารับการตรวจเลือก จะต้องดาเนินการอย่างไร


ก. สัสดี ทภ.ลงชื่อกากับใต้รายชื่อผู้ที่ไม่ได้เข้ารับการตรวจเลือกทุกคน
ข. ประทับตรายางคาว่า “ ไม่เข้ารับการตรวจเลือก ” ในช่องว่างที่ขีดห้ามไว้ทุกคน
ค. ประทับตรายางคาว่า “ ไปจากท้องที่ไม่ทราบที่อยู่ ” ในช่องว่างที่ขีดห้ามไว้ทุกคน
ง. ขีด ( - ) ด้วยหมึกแดงตั้งแต่ช่อง “ ได้รับหมายเมื่อใด ... ” จนถึงช่อง “ หมายเหตุ ” ทุกคน

☺ นายสุดใจ ฯ เข้ารับการตรวจเลือกในปี ๒๕๓๖ ผลการตรวจเลือกจับได้สลากดา ต่อมาในปี ๒๕๓๗ ได้ไปสมัครงานเป็นพนักงานรักษา


ความปลอดภัยของสานักงานองค์การทหารผ่านศึก แต่ปรากฏว่าหลักฐานใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ สูญหายไป จึงไปติดต่อสัสดีอาเภอ
ภูมิลาเนา เพื่อขอใบแทน ท่านคิดว่าการปฏิบัติในข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. สัสดีอาเภอตรวจสอบบัญชีเรียกฯ ของอาเภอ และออกหนังสือรับรองพร้อมสาเนาบัญชีเรียกที่มีผลการตรวจเลือกฯ ของนายสุดใจฯ ให้
ข. จังหวัดตรวจสอบบัญชีเรียกฯ ของจังหวัดตามที่อาเภอรายงานมา และออกใบแทนให้
ค. จังหวัดเมื่อได้รับเรื่องจากอาเภอแล้วให้ขอตรวจสอบไปยัง นสร.ทบ.ก่อน เมื่อได้รับการยืนยันจึงออกใบแทนให้
ง. จังหวัดเมื่อตรวจสอบบัญชีเรียกฯ ของจังหวัดแล้ว ให้สอบถามผลการตรวจเลือกไปยัง ทภ. ก่อน เมื่อได้รับการยืนยันจึงออกใบแทนให้

☺ จ.ส.อ.วันชัย ฯ เป็นเสมียนแผนกสัสดีจังหวัด น.น. ได้รับเรื่องขอใบแทนใบรับรองผลการตรวจเลือกของนายขวัญใจ ใสจริง ซึ่งถือเรื่องจาก


อาเภอมาเองเนื่องจากต้องนาใบแทนไปประกอบหลักฐานการบรรจุเป็นพนักงานราชการ สานักงานจังหวัด น.น. ในวันรุ่งขึ้น ซึ่งในขณะนั้น
สัสดีจังหวัด น.น. ได้รับคาสั่งให้ไปประชุมสัมมนาแนวทางการลดขั้นตอนการปฏิบัติงานบริการประชาชน ที่ นสร.ทบ. เป็นเวลา ๓ วัน การปฏิบัติ
ของ จ.ส.อ.วันชัยฯ ข้อใดถูกต้อง
ก. ตรวจสอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามระเบียบและออกหนังสือรับรองแทนให้ไปก่อนเนื่องจากสัสดีจังหวัดไม่อยู่
ไม่มีผู้ลงนามในใบแทนใบรับรองผลฯ
ข. ตรวจสอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามระเบียบและออกใบแทนใบรับรองผลฯ ให้ โดยให้ ผช.สัสดีจังหวัด น.น.
ลงนามแทนสัสดีจังหวัด น.น.
ค. ตรวจสอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามระเบียบและออกใบแทนใบรับรองผลฯ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด น.น.
ลงนามแทนสัสดีจังหวัด น.น.
ง. ไม่สามารถดาเนินการได้ตามที่กล่าวมาทุกข้อ

☺ นายวิ่งเต้น ศีรษะหมอ ภูมิลาเนาทหารอยู่ที่จังหวัด ป.น. ในปี ๒๕๔๔ ได้ย้ายภูมิลาเนาไป จังหวัด ม.ส. และได้เข้ารับการตรวจเลือกที่นั่น
ผลการตรวจเลือกปรากฏว่า “ ปล่อยเพราะรับคนร้องขอฯ พอ” และพอปี ๒๕๔๕ ได้กลับมาประกอบอาชีพและย้ายภูมิลาเนาทหารกลับมาอยู่ที่
จังหวัด ป.น.ตามเดิม ต่อมาในปี ๒๕๔๗ ได้ทาหลักฐานใบรับรองผลการตรวจเลือกสูญหาย จึงไปยื่นคาร้องขอใบแทนยังอาเภอภูมิลาเนา หากท่าน
เป็นเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในการออกใบแทน ใบรับรองผลฯ ของ ผสด.จว.ป.น. ท่านจะดาเนินการเช่นไรในกรณีนี้
ก. แจ้งไปยังจังหวัด ม.ส. ให้ออกใบแทนให้ เพราะนายวิ่งเต้นฯ เข้ารับการตรวจเลือกที่นั่น
ข. ส่งเรื่องกลับไปยังอาเภอเนื่องจากนายวิ่งเต้นฯมิได้เข้าตรวจเลือกฯ ที่จังหวัด ป.น.
ค. แจ้งให้นายวิ่งเต้นฯ ไปติดต่อขอใบแทนที่จังหวัด ม.ส.
ง. สอบถามผลการตรวจเลือกฯ ไปยังจังหวัด ม.ส. เมื่อได้รับตอบแล้วจึงออกใบแทนใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ ให้ นายวิ่งเต้นฯ

☺ ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับการออกใบแทนใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ (สด.๔๓)
ก. เขียนตัวอักษรสีแดงบนกึ่งกลางด้านบนของใบแทนใบรับรองผลฯ ว่า “ ใบแทนฉบับที่ชารุดหรือสูญหาย ”
ข. สัสดีจังหวัดลงนามด้วยยศเต็ม และตาแหน่งเต็มรับรอง
ค. สัสดีจังหวัดประทับตราประจาตาแหน่งไว้เป็นสาคัญ
ง. การลงข้อความในข้อ ๒. ของใบแทนฯ ผลการตรวจเลือกให้กรอกรายการตามที่ปรากฏในบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
☺ ผู้ใดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในความรับผิดชอบบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) และใบรับรองผลฯ (สด.๔๓) ในเรื่องการดาเนินการเรียกและการตรวจเลือกทหาร
กองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจาการ
ก. พ.อ.สุดใจ ผาแดง กรรมการสัสดีจงั หวัด
ข. น.ต.เวหา อากาศยน กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑
ค. พ.อ.สิงหน กลไก ประธานกรรมการตรวจเลือก
ง. พ.ท.ชานน สนลู่ลม สัสดีอาเภอเมืองเชียงราย

☺ งบประมาณค่าใช้จ่ายในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการในปี ๒๕๕๕ จะต้องเสนอความต้องการเมื่อใด


ก. เดือนกันยายน ๒๕๕๔
ข. เดือนตุลาคม ๒๕๕๓
ค. เดือนกันยายน ๒๕๕๕
ง. เดือนตุลาคม ๒๕๕๔

☺ ข้อใดมิได้อยู่ในหมวดงบประมาณที่สนับสนุนเป็นค่าใช้จ่ายในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
ก. ค่าดัดแปลงสถานที่ตรวจเลือก
ข. ค่าเบี้ยเลี้ยง และอาหารของเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือของอาเภอท้องที่
ค. ค่าเบี้ยเลี้ยงและที่พักของเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกรรมการสัสดีจังหวัด
ง. ค่าใช้จ่ายในการนาทหารจากตาบลนัดหมายมายังตาบลขึ้นทะเบียน

☺ บุคคลในข้อใดไม่อยู่ในหลักเกณฑ์การคัดเลือกคณะกรรมการตรวจเลือก
ก. พ.ท.สมชาติ สมพันธ์ สัสดีอาเภอเมืองนครนายก เป็นกรรมการสัสดีจังหวัด
ข. น.อ.ถาวร สอนดี ร.น. รอง ผบ.กรม ทพ.นย. เป็นประธานกรรมการตรวจเลือก
ค. ร.ต.อนุชิต จิตต์สุข นายแพทย์ รพ.พระมงกุฎเกล้า เป็นกรรมการผู้ประกอบโรคศิลป์
ง. ร.ท.ประกอบ ประกอบเก่ง รอง ผบ.ร้อย ๑ ร.๑๑ รอ. เป็นกรรมการนายทหารสัญญาบัตร

☺ หลักฐานในข้อใดที่สัสดีอาเภอมิต้องจัดเตรียมไว้ในวันตรวจเลือกฯ
ก. หลักฐานการจาหน่ายเข้ากองประจาการ
ข. บัญชีสั่งยกเว้นหรือผ่อนผัน
ค. ต้นขั้วใบสาคัญทหารกองเกิน
ง. หมายนัดเข้ารับราชการทหาร

☺ ข้อใดคือขั้นตอนการตรวจเลือกที่ถูกต้อง
ก. เรียกชื่อ - ตรวจร่างกายและกาหนดคนเป็นจาพวก - วัดขนาด - ตรวจสอบและปล่อยตัว - จับสลาก
ข. เปิดการตรวจเลือก - เรียกชื่อ - ตรวจร่างกาย - วัดขนาด - ตรวจสอบและปล่อยตัว
ค. เปิดการตรวจเลือก - เรียกชื่อตรวจร่างกาย กาหนดคนเป็นจาพวก และวัดขนาด - ตรวจสอบและปล่อยตัว - กาหนดคน
เข้ากองประจาการ - ส่งคนเข้ากองประจาการ
ง. เรียกชื่อ - ตรวจร่างกายและกาหนดคนเป็นจาพวก - วัดขนาด - ตรวจสอบและปล่อยตัว - กาหนดคน
เข้ากองประจาการ - ส่งคนเข้ากองประจาการ

☺ ข้อใดมิใช่หน้าที่ของกรรมการสัสดีจังหวัดในการชี้แจงทหารกองเกินในวันตรวจเลือกฯ
ก. ขั้นตอนการปฏิบัติในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
ข. ประชาสัมพันธ์ให้ร้องขอฯ เข้ารับราชการ
ค. ชี้แจงวิธีปฏิบัติในการร้องขอเข้ากองประจาการ
ง. สิทธิในการยกเว้นและผ่อนผัน

☺ การเรียกชื่อเข้าตรวจเลือกฯ อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ใด
ก. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑
ข. เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกรรมการสัสดีจงั หวัดที่ประจาอยู่โต๊ะเรียกชื่อ
ค. เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือของนายอาเภอที่ประจาอยู่โต๊ะเรียกชื่อ
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.

☺ ในการเรียกชื่อเข้ารับการตรวจเลือกฯ ให้ใช้หลักฐานใดในการเรียก
ก. บัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการฉบับของอาเภอ
ข. บัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการฉบับของจังหวัด
ค. ใบรับรองผลการตรวจเลือก
ง. ถูกทั้งข้อ ข. และข้อ ค.

☺ การปฏิบัติในข้อใดมิได้กาหนดไว้ในขั้นตอนการปฏิบัติของการเรียกชื่อเข้ารับการตรวจเลือกฯ
ก. ตรวจบัตรประจาตัวประชาชน และหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร
ข. ให้ทหารกองเกินลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วมือในใบรับรองผลฯ ท่อนที่ ๑
ค. บันทึกการร้องขอเข้ากองประจาการไว้ด้านบนของใบรับรองผลฯ ท่อนที่ ๒ และ ๓
ง. บันทึกการร้องขอเข้ากองประจาการในบัญชีเรียกฯ ช่อง “ หมายเหตุ ”

☺ ในการทาลายใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ ก่อนดาเนินการจับสลาก อยู่ในความควบคุมและกากับดูแล ของผู้ใด


ก. ประธานกรรมการ
ข. กรรมการสัสดีจังหวัด
ค. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒
ง. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑

☺ ในการลงบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ ข้อใดกล่าวผิด
ก. คนที่ได้รับการผ่อนผันให้ลงว่า “ ผ่อนผันตาม ม.๒๙(๓) ”
ข. คนที่ได้รับการยกเว้นให้ลงว่า “ ยกเว้นตาม ม.๑๔(๑) ”
ค. ทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การบันทึกบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการในช่อง “ ได้รับหมายเมื่อใด หรือไม่ได้รับหมายเพราะเหตุใด ” ในการปฏิบัติก่อน


วันตรวจเลือกสาหรับคนเข้ากองประจาการ ข้อใดถูกต้อง
ก. เข้ากอง ฯ ทร.๓๙ ป.น. ๑
ข. เข้ากอง ฯ ท.บ.๒๕๕๐ ภ.ก. ๑๖๖
ค. เข้ากองประจาการ ท.อ.๒๕๔๐ กทม.๖๖๖
ง. เข้ากองประจาการ ต.ร.๒๕๐๑ ป.จ.๗๘๙

☺ นายดิน, นายน้า, นายลม และนายไฟ เป็นเพื่อนรักกัน ได้เข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกิน เข้ากองประจาการพร้อมกัน ซึ่งผลการตรวจเลือก


ของแต่ละคนเป็นดังนี้
นายดิน : ร่างกายสมบูรณ์ดี สูง ๑๖๐ ซม. รอบตัว ๗๕/๗๘ ซม.
นายน้า : ขาขวาและแขนซ้ายเป็นอัมพาต
นายลม : ร่างกายสมบูรณ์ดี สูง ๑๕๙ ซม. รอบตัว ๗๘/๘๑
นายไฟ : อุบัติเหตุแขนขวาหักใส่เฝือกมาเข้ารับการตรวจเลือกฯ
บุคคลในข้อใดจะได้รับการปล่อยตัวเป็นอันดับที่ ๒
ก. นายดิน
ข. นายน้า
ค. นายลม
ง. นายไฟ

☺ นายดิน, นายน้า, นายลม และนายไฟ เป็นเพื่อนรักกัน ได้เข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกิน เข้ากองประจาการพร้อมกัน ซึ่งผลการตรวจเลือก


ของแต่ละคนเป็นดังนี้
นายดิน : ร่างกายสมบูรณ์ดี สูง ๑๖๐ ซม. รอบตัว ๗๕/๗๘ ซม.
นายน้า : ขาขวาและแขนซ้ายเป็นอัมพาต
นายลม : ร่างกายสมบูรณ์ดี สูง ๑๕๙ ซม. รอบตัว ๗๘/๘๑
นายไฟ : อุบัติเหตุแขนขวาหักใส่เฝือกมาเข้ารับการตรวจเลือกฯ
จงเรียงลาดับการปล่อยตัวของบุคคลทั้งสีค่ น
ก. นายน้า - นายไฟ - นายดิน - นายลม
ข. นายลม - นายน้า - นายไฟ - นายดิน
ค. นายไฟ - นายลม - นายน้า - นายดิน
ง. นายดิน - นายน้า - นายลม - นายไฟ

☺ นายดิน, นายน้า, นายลม และนายไฟ เป็นเพื่อนรักกัน ได้เข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกิน เข้ากองประจาการพร้อมกัน ซึ่งผลการตรวจเลือก


ของแต่ละคนเป็นดังนี้
นายดิน : ร่างกายสมบูรณ์ดี สูง ๑๖๐ ซม. รอบตัว ๗๕/๗๘ ซม.
นายน้า : ขาขวาและแขนซ้ายเป็นอัมพาต
นายลม : ร่างกายสมบูรณ์ดี สูง ๑๕๙ ซม. รอบตัว ๗๘/๘๑
นายไฟ : อุบัติเหตุแขนขวาหักใส่เฝือกมาเข้ารับการตรวจเลือกฯ
ผู้ใดจัดเป็นคนจาพวกที่ ๓
ก. นายดิน
ข. นายน้า
ค. นายลม
ง. นายไฟ

☺ นายสุชาติ ขาวนวล เข้ารับการตรวจเลือกฯ ที่ อาเภอเมืองฯ จังหวัด ส.ร. กรรมการตรวจแล้ว ปรากฏว่าเป็นคนสมบูรณ์ดี ขนาดสูง ๑๖๕ ซม.
รอบตัว ๘๒/๘๕ ซม. ถ้าในการตรวจเลือกวันนั้น มีคนร้องขอเข้ากองประจาการพอดีกับจานวนที่ต้องการ ผลการตรวจเลือกฯ ของ นายสุชาติฯ
จะเป็นไปตามข้อใด
ก. ปล่อยเพราะส่งคนหลีกเลี่ยงและคนร้องขอฯ พอ
ข. ปล่อยเพราะส่งคนร้องขอฯ พอ
ค. ปล่อยเพราะส่งคนขนาดสูงกว่า และคนร้องขอฯ พอ
ง. ปล่อยเพราะรับคนร้องขอฯ พอ

☺ นายสุชาติ ขาวนวล เข้ารับการตรวจเลือกฯ ที่ อาเภอเมืองฯ จังหวัด ส.ร. กรรมการตรวจแล้ว ปรากฏว่าเป็นคนสมบูรณ์ดี ขนาดสูง ๑๖๕ ซม.
รอบตัว ๘๒/๘๕ ซม. ถ้าในการตรวจเลือกวันนั้น มีคนร้องขอเข้ากองประจาการพอดีกับจานวนที่ต้องการ จะต้องบันทึกผลการตรวจเลือกฯ ของ
นายสุชาติฯ ในใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ ท่อนใด และที่ใด
ก. ท่อนที่ ๑ ข้อ ๑.๗ บันทึกอื่นๆ
ข. ท่อนที่ ๒ ข้อ ๒.๔ ผลการจับสลาก
ค. ท่อนที่ ๒ และ ๓ ข้อ ๓ บันทึกอื่นๆ
ง. ท่อนที่ ๒ และ ๓ ข้อ ๒.๔ ผลการจับสลาก

☺ นายสรยุทธ์ เทียมทัน เข้ารับการตรวจเลือกฯ ที่อาเภอหนึ่งในจังหวัด อ.บ. กรรมการกาหนดเป็นคนสมบูรณ์ดี สูง ๑๗๒ ซม. รอบตัว
๘๗/๙๐ ซม. ร้องขอเข้ากองประจาการ แผนก ทอ.๒ ในบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการช่อง “ กรรมการตรวจเลือกกาหนดว่าอย่างใด ”
จะต้องบันทึกตามข้อใด
ก. ไม่ต้องบันทึกใด ๆ
ข. บันทึกว่า “ ร้องขอ ฯ ทอ.๒ ”
ค. บันทึกว่า “ ส่งเข้ากองฯ ทอ.๒ ”
ง. บันทึกว่า “ ส่ง ทอ.๒ ”

☺ นายสรยุทธ์ เทียมทัน เข้ารับการตรวจเลือกฯ ที่อาเภอหนึ่งในจังหวัด อ.บ. กรรมการกาหนด เป็นคนสมบูรณ์ดี สูง ๑๗๒ ซม. รอบตัว
๘๗/๙๐ ซม. ร้องขอเข้ากองประจาการ แผนก ทอ.๒ ในบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการช่อง “ หมายเหตุ ” ต้องบันทึกตามข้อใด
ก. ร้องขอฯ ทอ.๒
ข. สมัคร ฯ ทอ.๒
ค. ร้องขอ ฯ ทหารอากาศ ๒
ง. สมัคร ฯ ทหารอากาศผลัดที่ ๒

☺ นายทองขาว โชคดี กาลังให้กรรมการตรวจร่างกายในระหว่างการตรวจเลือกฯ ที่อาเภอพระนครศรีอยุธยา ขณะนั้น พ.ต.ท.สุนทร แสงทับทิม


สวส.สภอ.กงหรา มาขอจับกุมตัวเนืองจากก่อคดีข่มขืนกระทาชาเราไว้ และประธานกรรมการตรวจเลือกก็อนุญาตให้จับกุม จ.ส.อ.กอบกาฯ จึง
ได้บันทึกบัญชีเรียกฯ ในช่องหมายเหตุไว้ว่า “ สวส.สภอ.กงหรา มาแจ้งจับกุมตัวเพราะต้องคดีฯ ” แล้วให้ประธานกรรมการลงชื่อกากับไว้ ท่านคิดว่า
การบันทึกของ จ.ส.อ.กอบกาฯ ถูกต้องหรือไม่
ก. ไม่ถูกต้อง เพราะไม่ได้บันทึกชื่อผู้ขอจับกุม
ข. ไม่ถูกต้อง เพราะไม่ได้บันทึกคดีที่จับกุม
ค. ไม่ถูกต้อง เพราะไม่ได้ให้ พ.ต.ท.สุนทรฯ ลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน
ง. ถูกทุกข้อ

☺ เรื่องใดที่ไม่ต้องลงให้ทราบในช่อง “ หมายเหตุ ” ของบัญชีเรียกฯ ในวันตรวจเลือกฯ


ก. ร้องขอเข้ากองประจาการ
ข. หลบหนีไปก่อนกาหนดให้เข้ากองประจาการ
ค. สละสิทธิ์ขอเข้าตรวจเลือก
ง. ตกค้างบัญชี

ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ตอบคาถามข้อ ๓๑๙ - ๓๒๑


ร.ท.นาวิน ถิ่นนาวา กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑
น.ต.เวหา อากาศยาน กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒
ร.อ.วัคซีน แพทย์แผนเดิม กรรมการแพทย์
พ.ท.พัสดี สวัสดี กรรมการสัสดีจังหวัด

☺ ผู้ใดมีหน้าที่นาตัวทหารกองเกินที่ถูกเข้ากองประจาการไปมอบให้นายอาเภอท้องที่จัดการออกหมายนัดเข้ารับราชการทหาร
ก. ร.ท.นาวิน ถิ่นนาวา
ข. พ.ท.พัสดี สวัสดี
ค. ร.อ.วัคซีน แพทย์แผนเดิม
ง. น.ต.เวหา อากาศยาน

☺ ผู้ใดเป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบรายงานว่า มีกรรมการคนใดมาทาการตรวจเลือก ช้ากว่ากาหนด


ก. ร.ท.นาวิน ถิ่นนาวา
ข. พ.ท.พัสดี สวัสดี
ค. น.ต.เวหา อากาศยาน
ง. ประธานกรรมการตรวจเลือก

☺ หลังเสร็จสิ้นการตรวจเลือกฯ หากมีข้อคิดเห็นที่จะเสนอแนะหรือให้ดาเนินการแก้ไขอย่างใด ผู้ใดเป็นผู้รายงาน


ก. พ.ท.พัสดี สวัสดี
ข. ร.อ.วัคซีน แพทย์แผนเดิม
ค. ร.ท.นาวิน ถิ่นนาวา
ง. ถูกทั้งข้อ ก. ข้อ ข. และข้อ ค.

☺ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องในเรื่องของการบันทึกบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการสาหรับ บัญชีคนหลีกเลี่ยงขัดขืน
ก. ช่อง “ ขนาดสูง ซม. รอบตัว ซม. ” ให้ลงขนาดที่วัดได้
ข. ช่อง “ กรรมการกาหนดเป็นคนจาพวกที่ ” ให้ลงว่า ๑, ๒, ๓ หรือ ๔ ตามที่กรรมการกาหนด สาหรับบัญชีคน
ที่อยู่ในกาหนดเรียกธรรมดา
ค. ช่อง “ ผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบัน ฯ ตรวจแล้วเห็นว่า ” ถ้าเป็นคนจาพวกที่ ๑ ให้ลงว่า “ ไม่ขัดต่อการเป็น
ทหารกองประจาการ ” สาหรับบัญชีคนขาด
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจเลือกในข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. พ.อ.สุเทพ สีใส ผบ.จทบ.ร.อ. ออกคาสั่งแต่งตั้งให้ พ.ท.สุดใจ สุนทร เป็นประธานกรรมการตรวจเลือกประจาจังหวัด ร.อ.
ข. พล.ต.สุนทร คงไทย ผบ.มทบ.๑๓ แต่งตั้งให้ พ.อ.อาพล เสนานาม สัสดีจังหวัด ล.บ. กรรมการสัสดีจงั หวัด
ค. พล.ท.สุสิงห์ สิงหสุนทร มทภ.๔ แต่งตั้งให้ นายบุญเลิศ เอี่ยมวิถี ปลัดจังหวัด ภ.ก. เป็น กรรมการชั้นสูงประจาจังหวัด ภ.ก.
ง. ไม่ถูกต้องทั้งข้อ ก. ข้อ ข. และข้อ ค.

☺ การปฐมนิเทศของ ทภ.ก่อนการตรวจเลือกฯ ในแต่ละปีในปลายเดือนมีนาคม บุคคลในข้อใด ไม่ต้องเข้ารับการปฐมนิเทศ


ก. กรรมการสัสดีจังหวัดประจาจังหวัดในพื้นที่ ทภ. นั้น
ข. หน.ฝ่ายสรรพกาลัง มทบ.ในพื้นที่ ทภ. นั้น
ค. สัสดี จทบ.ในเขตพื้นที่ ทภ. นั้น
ง. สัสดีจังหวัดในเขตพื้นที่ ทภ. นั้น

☺ การจัดเตรียมเอกสารหลักฐาน เครื่องมือเครื่องใช้สาหรับมอบให้คณะกรรมการตรวจเลือกของสัสดีจังหวัดท้องที่ข้อใดถูกต้อง
ก. เตรียมใบสาคัญสาหรับคนจาพวกที่ ๓ และ ๔ มอบให้กรรมการแพทย์
ข. เตรียมเครื่องวัดขนาดสูง มอบให้กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒
ค. เตรียมลูกคิด มอบให้กรรมการสัสดีจังหวัด
ง. เตรียมบัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้ มอบให้ประธานกรรมการ

☺ คณะกรรมการตรวจเลือกแต่ละคณะจะต้องมีบัตรเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือการตรวจเลือกฯ นายอาเภอแต่งตั้ง จานวนคณะละเท่าใด


ก. ๑๓ ใบ
ข. ๑๕ ใบ
ค. ๑๗ ใบ
ง. ไม่กาหนดแน่นอนขึ้นอยู่กับจานวนของเจ้าหน้าที่ของแต่ละอาเภอ

☺ ในการตรวจเลือกทหารฯ ถ้าเรียกชื่อทหารกองเกินแล้วปรากฏว่าเป็นพระภิกษุ จะต้องบันทึกใบรับรองผลการตรวจเลือกที่ใดจึงจะถูกต้อง


ก. บันทึกด้านบนของใบรับรองฯ ว่า “ พระ ” ทั้ง ๓ ท่อน
ข. บันทึกด้านบนซ้ายหรือขวาว่า “ พระ ” ทั้ง ๓ ท่อน
ค. บันทึกท่อนที่ ๑ ข้อ ๑.๗ ว่า “ พระ ”
ง. ไม่ต้องบันทึกใด ๆ

☺ ผู้ใดมีหน้าที่รับผิดชอบในการบันทึกใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ ท่อนที่ ๒ – ๓ ข้อ ๒.๑ หลังข้อความว่า “ ควรเป็นคนจาพวกที่ ”


ก. กรรมการสัสดีจังหวัด
ข. กรรมการแพทย์
ค. เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกรรมการแพทย์
ง. เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกรรมการสัสดีจงั หวัด

☺ การบันทึกบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการในช่อง “ เรียกชื่อแล้วปรากฎว่า ” หลังการเรียกชื่อครัง้ แรกของโต๊ะเรียกชื่อ


ข้อใดบันทึกไม่ถูกต้อง
ก. ถ้าเรียกชื่อคนใดแล้วไม่มาให้บันทึกว่า “ ขาด ”
ข. ถ้าเป็นคนอายุอื่นไม่ได้รับหมายให้ลงว่า “ อพยพไปจากท้องที่ ”
ค. ถ้ามีผู้นาหลักฐานมาแจ้งว่าถึงแก่กรรมให้ลงว่า “ ตาย ”
ง. ถ้าเรียกชื่อแล้วทหารกองเกินมารายงานตัวให้ลงว่า “ มา ”

☺ ข้อใดมิใช่หน้าที่ของกรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑ ในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
ก. ตรวจสอบหมายเรียกฯ (แบบ สด.๓๕)
ข. ตรวจสอบใบรับรองผลฯ กับรายชื่อในบัญชีเรียกฯ ในระหว่างขั้นตอนการจับสลาก
ค. จัดดูแลคนที่ตรวจเลือกให้รวมอยู่เป็นจาพวก มิให้ปะปนกับคนที่ยังไม่ตรวจเลือก
ง. บันทึกใบรับรองผลการตรวจเลือกท่อนที่ ๒ – ๓ ข้อ ๑.๓

☺ ผู้มีหน้าที่กาหนดจานวนทหารกองเกินที่จะออกหมายเรียกมาเข้ารับการตรวจเลือก และวัน เวลา สถานที่ที่ทาการตรวจเลือกในคราวถัดไปคือผู้ ใด


ก. สัสดีจังหวัด
ข. สัสดีเขต
ค. สัสดีกิ่งอาเภอ
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ทหารกองเกินชั้นปี ๒๕๕๐ สามารถไปขอรับหมายเรียกฯ (สด.๓๕) ได้ตั้งแต่เมื่อใด


ก. ๑ มกราคม ๒๕๕๒
ข. ๑ เมษายน ๒๕๕๒
ค. ๑ มกราคม ๒๕๕๓
ง. ๑ เมษายน ๒๕๕๓

☺ นายกุ๊กไก่ฯ เกิดปี พ.ศ.๒๕๒๐ ได้ไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินเมื่อวันที่ ๓๐ ธ.ค.๔๕ สัสดีอาเภอจะจัดทาหมายเรียกมอบให้


นายกุ๊กไก่ฯ เมื่อใด
ก. ๑ มกราคม ๒๕๔๖
ข. ๓๐ ธันวาคม ๒๕๔๕
ค. ๑ มกราคม ๒๕๔๘
ง. ๓๐ ธันวาคม ๒๕๔๘

☺ ทหารกองเกินซึ่งมีอายุเกินกว่า ๒๑ ปีบริบูรณ์และยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์ ซึ่งยังมีรายชื่ออยู่ในบัญชีเรียกฯ เมื่อได้สืบทราบที่อยู่โดยแน่ชัดแล้ว


ปรากฏว่าไปประกอบอาชีพในท้องที่อื่น จะดาเนินการเกี่ยวกับการส่งหมายเรียกฯ อย่างใด
ก. จัดทาหนังสือแจ้งให้มารับหมายเรียกฯ
ข. ส่งหมายเรียกฯ ไปให้สัสดีอาเภอเจ้าของท้องที่จัดการมอบให้แทน
ค. ส่งหมายเรียกไปให้กานัน หรือผู้ใหญ่บ้านเจ้าของท้องที่มอบให้แทน
ง. ส่งหมายเรียกไปให้นายอาเภอซึ่งเป็นเจ้าของท้องที่จัดการมอบให้แทน

☺ ในการลงบัญชีเรียก ฯ (สด.๑๖) ช่อง “ เลขที่ ” ในช่อง “ เข้าบัญชีทหารกองเกิน ” นาลาดับเลขที่จากหลักฐานใดมาบันทึก


ก. บัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน (สด.๒)
ข. หมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (สด.๓๕)
ค. บัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ (สด.๒๗)
ง. ใบรับรองผลการตรวจเลือก (สด.๔๓)

☺ ในการจัดทาบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ของจังหวัด จัดทาเป็นกี่ชุด


ก. จัดทาเพียงชุดเดียวไม่ต้องมีสาเนาไว้
ข. จัดทา ๒ ชุด มอบสาเนาให้อาเภอ ๑ ชุด
ค. จัดทา ๓ ชุด มอบให้อาเภอ ๑ ชุด เก็บเป็นสาเนาคู่ฉบับ ๑ ชุด
ง. จัดทา ๒ ชุด แยกเป็นคนที่อยู่ในกาหนดเรียกอายุธรรมดา และคนที่พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน

☺ ผู้ใดสามารถลงนามในใบแทนใบรับรองผลการตรวจเลือก (สด.๔๓) ได้


ก. พ.ต.ก้อฯ ผช.สัสดีจังหวัด ทาการแทนสัสดีจังหวัด
ข. พ.ท.ออฯ สัสดีอาเภอเมืองฯ รักษาราชการแทนสัสดีจังหวัด
ค. ลงนามได้ทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
ง. ไม่มีอานาจลงนามทั้ง ๒ นาย

☺ นายไกรสรฯ เกิดปี พ.ศ.๒๕๐๑ ได้ไปลงบัญชีทหารกองเกินเมื่อ ๑๐ เม.ย.๔๕ ในปี ๒๕๔๖ นายไกรสรฯ จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกหรือไม่


เพราะเหตุใด
ก. ต้องเข้าตรวจเลือกฯ เพราะเพิ่งลงบัญชีทหารกองเกินและยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือก
ข. ไม่ต้องเข้ารับการตรวจเลือกฯ เพราะอายุเกิน ๓๐ ปีบริบูรณ์
ค. ต้องเข้าตรวจเลือกฯ เพราะเป็นคนพ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ค.

☺ ในปี ๒๕๔๐ เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ที่จังหวัดชุมพรในช่วงตลอดเดือนเมษายน ทางจังหวัดจึงได้เลื่อนการตรวจเลือกทหารกองเกินฯ ประจาปี ๒๕๔๐


จากเดิมวันที่ ๑ – ๑๑ เม.ย.๔๐ เป็น ๑๐ – ๒๐ มิ.ย.๔๐ ท่านคิดว่าจะกระทาได้หรือไม่
ก. ได้ เพราะเป็นเหตุอันพอควรที่สามารถกระทาได้
ข. ไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในกาหนดที่ระบุไว้ตามระเบียบ
ค. ได้ หากได้รับคาสั่งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ง. ไม่ได้ ต้องทาการตรวจเลือกฯ ให้เสร็จสิ้นภายในกาหนดอย่างช้าไม่เกินวันที่ ๑๒ เม.ย.๔๐

☺ ในเดือนธันวาคมของทุกปี สัสดีอาเภอแจ้งกาหนดวัน เวลา และสถานที่ทาการตรวจเลือกคราวถัดไปให้สัสดีจังหวัดทราบ เป็นขั้นตอนใด


ในการเรียกคนเข้ากองประจาการตามคาสั่ง ทบ.ที่ ๑๑๗๓/๒๘
ก. กาหนดเวลาเรียก
ข. วิธีเรียก
ค. การเตรียมการเรียก
ง. ผู้ที่อยู่ในกาหนดเรียก

☺ ถ้าอาเภอหนึ่งออกหมายเรียกให้ทหารกองเกินมาเข้ารับการตรวจเลือกฯ จานวน ๖๒๐ คน สัสดีจังหวัดน่าจะพิจารณาให้อาเภอ นั้น


ทาการตรวจเลือกกี่วัน
ก. ๑ วัน
ข. ๒ วัน
ค. ๓ วัน
ง. ๔ วัน

☺ นายทักษิณา ชูธน บิดานายทึกทักฯ ได้นาหนังสือมอบหมายจากนายทึกทักมาขอรับหมายเรียกฯ แทน การปฏิบัติในข้อใดถูกต้องที่สุด


ก. เขียนคาร้องเสนอนายอาเภอพิจารณาอนุมัติก่อนมอบหมายเรียก
ข. ให้นายทักษิณาฯ ลงนามในต้นขั้วหมายเรียกฯ แทน และมอบให้รับไป
ค. ลงทะเบียนรับและนาเรียนนายอาเภอขออนุมัติก่อนมอบหมายเรียก
ง. ลงทะเบียนรับ บันทึกปากคานายทักษิณาฯ แล้วเสนอนายอาเภอพิจารณาอนุมัติก่อนมอบหมายเรียก

☺ ถ้าหากต้องการส่งหมายเรียกฯ (สด.๓๕) ให้กับผู้ถูกเรียกที่มีอายุ ๒๑ ปีและยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์ควรปฏิบัตติ ามคาแนะนาในข้อใด


ก. จัดทาบัญชีรายชื่อมอบให้กานัน หรือผู้ใหญ่บ้านไปแจ้งเจ้าตัวมารับ
ข. จัดทาหนังสือจากสัสดีอาเภอ ไปยังผู้ถูกเรียกทุกคน
ค. มอบให้นายอาเภอลงนามในหนังสือเรียกตัว และมอบให้กานัน/ผู้ใหญ่บ้านไปมอบให้
ง. ดาเนินการตามข้อ ๓. แต่ให้ส่งทางไปรษณีย์ไปยังผู้ถูกเรียกแทนมอบให้กานันหรือผู้ใหญ่บ้าน

☺ ในการดาเนินการส่งหมายเรียกให้กับผู้ถูกเรียกที่อายุตั้งแต่ ๒๑ ปีและยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์ ของสัสดีอาเภอ ต้องดาเนินการให้เสร็จสิ้นเมื่อใด


ก. ภายในเดือนธันวาคมของทุกปี
ข. ภายในเดือนสิงหาคมของทุกปี
ค. ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี
ง. ภายในเดือนมกราคมของทุกปี

☺ กานันตาบลบ้านใหม่ อ.เซกา จังหวัด น.ค. ได้รับมอบหมายจากนายอาเภอให้ดาเนินการส่งหมายให้กับลูกบ้านที่อายุเกิน ๒๑ ปีและยังไม่ถึง ๓๐


ปีบริบูรณ์ จานวน ๑๐ คน แต่กานันส่งได้ ๘ คน หมายเรียกที่เหลืออีก ๒ ฉบับ กานันจะทาอย่างไร
ก. รอจนกว่าการตรวจเลือกเสร็จแล้วจึงมอบคืนอาเภอไปและชี้แจงเหตุขัดข้อง
ข. รอจนกว่าถึงวันตรวจเลือกแล้วจึงมอบคืนอาเภอและชี้แจงเหตุขัดข้อง
ค. ส่งคืนอาเภอภายในเดือนกันยายน และชี้แจงเหตุขัดข้อง
ง. ส่งคืนอาเภอภายในเดือนมีนาคม และชี้แจงเหตุขัดข้อง

☺ บัญชีรายชื่อผู้ที่รับหมายเรียกฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ต้องส่งให้สสั ดีจังหวัดภายในกาหนดในข้อใด


ก. ภายในสิ้นเดือนมีนาคม
ข. ภายในวันที่ ๑๕ มีนาคม
ค. ก่อนวันตรวจเลือกของอาเภอนั้น
ง. ภายในวันที่ ๑๐ มีนาคม

☺ ในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการของคณะกรรมการตรวจเลือกทั่วประเทศ ไม่ว่าจานวนทหารกองเกินที่มาเข้ารับการตรวจเลือก
จะมีจานวนมากเพียงใดก็ตาม จะต้องทาการตรวจเลือกให้แล้วเสร็จภายในเวลาเท่าใด
ก. ไม่เกินเวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกา
ข. ไม่เกินเวลา ๑๙.๐๐ นาฬิกา
ค. ไม่เกินเวลา ๐๐.๐๐ นาฬิกา
ง. จะแล้วเสร็จเวลาใดก็ได้

☺ นายเรียนราม สอนไม่เป็น ได้รับการผ่อนผันเนื่องจากอยู่ในระหว่างศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งจะต้องไปแสดงตนตามหมายเรี ยกฯ


ใน ๓ เมษายน ๒๕๓๘ แต่ปรากฏว่าติดสอบภาคฤดู จึงไม่ได้ไปตามกาหนด ในปีต่อมานายเรียนรามฯ จะมีชื่ออยู่ในบัญชีเรียกทหารกองเกินฯ
(สด.๑๖) บัญชีใด
ก. บัญชีคนผ่อนผัน
ข. บัญชีคนที่พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน
ค. บัญชีคนที่ขาดการตรวจเลือก
ง. บัญชีคนหลีกเลี่ยงขัดขืน

☺ การบันทึกใบรับรองผลการตรวจเลือก(สด.๔๓) ท่อน ๒ – ๓ ช่อง “ บันทึกอื่น ๆ ” ข้อใด บันทึกไม่ถูกต้อง


ก. ปล่อยเพราะส่งคนขนาดสูงกว่าพอ
ข. ปล่อยเพราะส่งคนร้องขอฯ พอ
ค. ผ่อนผันตามมาตรา ๒๙(๓)
ง. ไม่ได้ขนาด

☺ ข้อมูลใดไม่ปรากฏในบัญชีเทียบจานวนคนที่จะกะเรียก
ก. ยอดจานวนคนที่ฝ่ายทหารต้องการทั้งหมด
ข. ยอดจานวนคนที่จาหน่ายเข้ากองประจาการ
ค. ยอดจานวนคนที่ขอผ่อนผัน
ง. สถานที่ทาการตรวจเลือกของทุกอาเภอ

☺ เมื่อมีผู้บรรลุนิติภาวะมาติดต่อขอรับหมายเรียกฯ (สด.๓๕) แทน สัสดีอาเภอควรจะตรวจสอบหลักฐานใดเป็นสาคัญเพื่อประกอบการพิจารณา


ก. บัตรประจาตัวประชาชนของผู้บรรลุนิติภาวะ
ข. บัตรประจาตัวประชาชนของทหารกองเกิน หรือสาเนาฯ
ค. หนังสือมอบหมายให้รับหมายเรียกแทนของทหารกองเกินผู้ถูกเรียก
ง. ถูกหมดทุกข้อ

☺ การดาเนินการจัดส่งบัญชีเทียบจานวนคนที่จะกะเรียก (สด.๑๕) ข้อใดถูกต้อง


ก. จังหวัดใดเรียกคนแผนก ทร. และ ทอ. ด้วยให้จัดทาเพิ่มขึ้นอีกอย่างละ ๑ ฉบับ เพื่อส่งให้ กพ.ทอ. และ กพ.ทร. ด้วย
ข. หลังจากได้รับแจ้งจานวนคนและทาการแบ่งเฉลี่ยแล้ว ต้องรีบจัดทาส่ง มทบ.หรือ จทบ. แล้วแต่กรณี ภายใน ๗ วัน นับแต่
วันที่ได้รับแจ้งจานวนขอเรียก
ค. สัสดี มทบ. หรือ จทบ. รวบรวมรายงานตามสายการบังคับบัญชาถึง ทภ. ภายใน ๗ วัน นับแต่วันได้รับบัญชีฯ จากจังหวัด
ง. เมื่อ ทภ. ได้รับจาก มทบ.หรือ จทบ.แล้ว ให้รวบรวมเสนอถึง ทบ. ภายใน ๓ วัน

☺ เมื่อสัสดีจังหวัดได้บันทึกใบรับรองผลการตรวจเลือก (สด.๔๓) ตามระเบียบหลังจากได้รับจาก นสร.ทบ.แล้ว การดาเนินการในข้อใดถูกต้อง


ก. รายงาน ผบ.มทบ. ทราบ เพื่อแต่งตั้งกรรมการมาดาเนินการตรวจสอบต่อไป
ข. รายงานผลการใช้ใบรับรองผลฯ (สด.๔๓) ให้ นสร.ทบ.ทราบ
ค. จัดทาบัญชีควบคุมการออกใบรับรองผลการตรวจเลือกไว้ตรวจสอบ
ง. รายงานส่งคืนใบรับรองผลการตรวจเลือกส่วนที่ไม่ได้ใช้บันทึกไปยัง นสร.ทบ.

☺ การกาหนดความรับผิดชอบบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) และใบรับรองผลฯ (สด.๔๓) ข้อใดถูกต้อง


ก. หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจเลือกแล้ว ให้อยู่ในความรับผิดชอบของกรรมการสัสดีจังหวัดจนกว่าจะส่งมอบให้สัสดีจังหวัดท้องที่
ข. กรรมการแต่ละหน้าที่รับผิดชอบในระหว่างทาการตรวจเลือกฯ
ค. หลังจากรับมอบจากสัสดีจงั หวัดท้องที่แล้ว แต่ยังไม่ได้ทาการตรวจเลือก ให้กรรมการสัสดีจงั หวัดเป็นผู้รับผิดชอบ
ง. ในระหว่างทาการตรวจเลือกให้เจ้าหน้าที่รับคาร้องของสัสดีจังหวัดท้องที่เป็นผู้รับผิดชอบ จนกว่าจะเสร็จสิ้นการตรวจเลือกฯ

☺ ใครเป็นผู้รับผิดชอบในการลงลายมือชื่อผู้บันทึก ข้อ ๑.๓ ของใบรับรองผล ฯ ท่อนที่ ๑


ก. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑
ข. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒
ค. เจ้าหน้าที่ผู้บันทึก
ง. กรรมการสัสดีจังหวัด

☺ หน่วยใดเป็นหน่วยรับรายงานผลการใช้ใบรับรองผลการตรวจเลือก (สด.๔๓) หลังเสร็จสิ้นการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ


ก. ฝ่ายการสัสดีกองทัพภาค
ข. ฝ่ายการสัสดีมณฑลทหารบก
ค. กองการสัสดีหน่วยบัญชาการกาลังสารอง
ง. กองวิชาการสัสดีโรงเรียนการกาลังสารอง

☺ วันที่ ๓ มิ.ย.๓๘ สัสดี กท.ได้ส่งบัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้ให้ สัสดี มทบ.๑๑ ทราบ ต่อมา วันที่ ๓๐ มิ.ย.๓๘ สัสดีเขตดุสิต , สายไหม และ
จอมทอง ได้ส่งบัญชีฯ (สด.๒) ของผู้ลงบัญชี ตามมาตรา ๑๘ และเป็นผู้ที่อยู่ในกาหนดต้องเข้าตรวจเลือกฯ ในปี ๓๙ รวมทั้ง ๓ เขต จานวน ๗๒ คน
สัสดี กท.จะต้องดาเนินการในข้อใดจึงจะถูกต้อง
ก. ส่งบัญชีฯ (สด.๑๔) ใหม่ พร้อมกับบัญชีกาหนดวัน เวลาและสถานที่ทาการตรวจเลือก
ข. ส่งบัญชีฯ (สด.๑๔) ใหม่ ภายใน ๗ วัน
ค. ส่งบัญชีฯ (สด.๑๔) ใหม่ พร้อมกับชี้แจงในช่องหมายเหตุด้วยว่าเพิ่มขึ้นเพราะเหตุใด
ง. รอรวบรวมและส่งบัญชีใหม่อีกครัง้ เมื่อได้รับแจ้งยอดจานวนคนจากฝ่ายต้องการคน
☺ เหตุผลในข้อใดที่ไม่ต้องส่งบัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้ใหม่ให้ สัสดี มทบ.หรือ จทบ. ทราบ
ก. มีจานวนคนเพิ่มขึ้น ๖๐ คน
ข. มีคนย้ายเข้ามา ๓๒ คน
ค. จาหน่ายเข้ากองประจาการ ๑๑๑ คน
ง. มีคนลงบัญชีซ้า ๑๑ คน, และรับลงบัญชีตามมาตรา ๑๘ จานวน ๕๓ คน

☺ ร.ต.กิ่ง ณ สุรินทร์ สัสดีกิ่งอาเภอหนองม่วงไข่ ได้รับบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการจากสัสดีจังหวัด ส.ร. ร.ต.กิ่งฯ


จะต้องดาเนินการในข้อใดเป็นอันดับแรก
ก. ตรวจสอบกับบัญชีทหารกองเกินของอาเภอ
ข. คัดบัญชีของอาเภอหนองม่วงไข่ไว้ ๑ ชุด
ค. ลงวันรับหมายเรียกฯ ในบัญชีของจังหวัด
ง. รายงานสิ่งคลาดเคลื่อนให้จังหวัดทราบ

☺ กรรมการตรวจเลือกในหน้าที่ใดทาหน้าที่ชี้แจงการปฏิบัติในการร้องขอเข้ากองประจาการ
ก. ประธานกรรมการตรวจเลือก
ข. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑
ค. ผู้ช่วยประธานกรรมการ
ง. กรรมการสัสดีจังหวัด

☺ บัญชีเรียกทหารกองเกิน (สด.๑๖) ที่เขียนหรือพิมพ์โดยแยกเป็นตาบลคือข้อใด


ก. บัญชีคนผ่อนผัน และบัญชีคนที่อยู่ในกาหนดเรียกธรรมดา
ข. บัญชีคนที่พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน และบัญชีคนที่อยู่ในกาหนดเรียกธรรมดา
ค. บัญชีคนที่พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน และบัญชีคนผ่อนผัน
ง. บัญชีคนที่ขาดการตรวจเลือก และบัญชีคนหลีกเลี่ยงขัดขืน

☺ ใครเป็นผู้รับผิดชอบนาใบรับรองผลฯ (สด.๔๓) ท่อนที่ ๓ ไปมอบให้ทหารกองเกินในกรณีที่ประธานกรรมการมิได้มอบให้ในวันนั้น


ก. นายอาเภอฯ และสัสดีอาเภอท้องที่ รับผิดชอบดาเนินการ
ข. สัสดีจังหวัดท้องที่รับผิดชอบดาเนินการ
ค. สัสดี มทบ. รับผิดชอบดาเนินการ
ง. สัสดี ทภ. รับผิดชอบดาเนินการ

☺ ประธานกรรมการจะต้องดาเนินการปล่อยตัวถึงแม้ว่าจะมีคนพอหรือไม่พอเข้าจับสลาก ตามลาดับในข้อใด
ก. คนจาพวกที่ ๔, ๓, ๒ และคนผ่อนผัน
ข. คนไม่ได้ขนาด, คนจาพวกที่ ๔, ๓, ๒ และคนผ่อนผัน
ค. คนจาพวกที่ ๔, ๒, คนผ่อนผัน และคนจาพวกที่ ๓
ง. คนไม่ได้ขนาด, คนจาพวกที่ ๒, ๓, ๔ และคนผ่อนผัน

☺ ตามคาสั่ง ทบ.ที่ ๒๙/๒๕๑๗ ในเรื่องการแบ่งขั้นตอนการตรวจเลือก สาหรับขั้นตอนที่ ๔ คือขั้นตอนใด


ก. การกาหนดคนเข้ากองประจาการ
ข. การส่งคนเข้ากองประจาการ
ค. การตรวจสอบและปล่อยตัว
ง. การจับสลาก

☺ ตามคาสั่ง ทบ.ที่ ๒๙/๒๕๑๗ ในเรื่องการแบ่งขั้นตอนการตรวจเลือก ขั้นตอนที่ ๒ คือขั้นตอนใด


ก. การเรียกชื่อตรวจร่างกาย
ข. การตรวจสอบและปล่อยตัว
ค. การกาหนดคนเป็นจาพวกและวัดขนาด
ง. ทั้งข้อ ก. และข้อ ค.

☺ สัสดีจังหวัดมีอานาจออกใบแทนใบรับรองผลการตรวจเลือกได้โดยไม่ต้องตรวจสอบกับ ทภ. สาหรับผู้ที่ผ่านการตรวจเลือกมาแล้วกี่ปี


ก. ๔ ปี
ข. ๓ ปี
ค. ๒ ปี
ง. ๑ ปี

☺ ในปี พ.ศ.๒๕๔๐ สัสดีจังหวัดทั่วประเทศมีอานาจออกใบแทนรับรองผลการตรวจเลือกโดยไม่ต้องขอตรวจสอบกับใบรับรองผลฯ ท่อนที่ ๒


จาก ทภ.ก่อน สาหรับผู้เข้ารับการตรวจเลือกในปีใด
ก. ปี ๒๕๓๙
ข. ปี ๒๕๓๘
ค. ปี ๒๕๓๗
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.

☺ หากในระหว่างทาการตรวจเลือกฯ เจ้าหน้าที่ได้ทาใบรับรองผลฯ (สด.๔๓) สูญหายไปโดยที่ยังมิได้มอบท่อนที่ ๓ ให้กับทหารกองเกินการ


ดาเนินการในข้อใดถูกต้อง
ก. จัดทาขึ้นใหม่โดยตรวจสอบตัวทหารกองเกินและบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖)
ข. ดาเนินการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
ค. รายงาน มทภ.ทราบ เพื่อจะได้ดาเนินการให้ ทบ.ประกาศยกเลิก
ง. ข้อ ข. และข้อ ค. ถูก

☺ ผู้ใดมีหน้าที่ในการสอบสวนผู้ร้องขอยกเว้น ผ่อนผัน หรือร้องขอในเหตุอื่น ๆ ในระหว่างดาเนินการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ


ก. เจ้าหน้าที่รับคาร้องของสัสดีจังหวัดท้องที่
ข. นายอาเภอท้องที่
ค. สัสดีอาเภอท้องที่
ง. กรรมการสัสดีจังหวัด

☺ อาจารย์สุทิน ไกรสิงห์ อายุ ๒๓ ปี เป็นอาจารย์สอนประจาอยู่ที่โรงเรียนถลางวิทยา อ.ถลาง จังหวัด ภ.ก. แต่มีภูมิลาเนาทหารอยู่ที่


เขตทวีวัฒนา กทม. ดังนั้น หากอาจารย์สุทินฯ จะขอยกเว้น ครู ผู้ใดมีหน้าที่ออกใบสาคัญยกเว้นให้
ก. นายอาเภอถลาง
ข. ผู้อานวยการเขตทวีวัฒนา
ค. ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
ง. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

☺ ใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ จะทาลายได้จะต้องเก็บไว้เป็นระยะเวลาเท่าใด
ก. ๒ ปี
ข. ๕ ปี
ค. ๑๐ ปี
ง. ๗ ปี

☺ ข้อใดเป็นหน้าที่ของประธานกรรมการจะต้องรายงานหลังเสร็จสิ้นการตรวจเลือกฯ แล้ว
ก. เจ้าหน้าที่ฝ่ายขอเรียกขอเพิ่มหรือลดจานวนคนแผนกใด เท่าใด
ข. กรรมการมาทาการตรวจเลือกพร้อมตามกาหนดเวลาหรือไม่
ค. มีปัญหาขัดแย้งกับกรรมการในหน้าที่ใดด้วยเรื่องหรืออาการโรคอย่างใดหรือไม่
ง. นายอาเภอได้ออกหมายเรียกฯ ให้ทหารกองเกินมารวมพร้อม ณ ที่ใด เวลาใด

☺ ข้อใดมิใช่หน้าที่การรายงานของกรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒ หลังเสร็จสิ้นการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
ก. ได้จัดสถานที่สาหรับคนที่เข้าตรวจเลือกแล้วไว้เป็นจาพวกครบถ้วนถูกต้องตามวิธีปฏิบัติ เพียงใดหรือไม่
ข. การจับสลากเป็นการเรียบร้อยหรือไม่
ค. การวัดขนาด ผู้ใด ตาแหน่งใด เป็นผู้วัดขนาดสูง
ง. มีข้อคิดเห็นที่จะเสนอแนะ หรือให้ดาเนินการแก้ไขอย่างใด

☺ หากกรรมการสัสดีจังหวัดต้องการทราบว่าแต่ละอาเภอที่จะต้องไปทาการตรวจเลือกนั้น ต้องการคนเข้ากองประจาการในแต่ละอาเภอ
จานวนเท่าใด จะต้องดูจากเอกสารใด
ก. บัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้
ข. บัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
ค. หมายนัดเข้ารับราชการที่อาเภอจัดทาไว้
ง. บัญชีเทียบจานวนคนที่จะกะเรียก

☺ บุคคลในข้อใดจะถูกนารายชื่อมาใส่ในบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ในบัญชีคนหลีกเลี่ยงขัดขืน


ก. นายขวดฯ ลงบัญชีทหารกองเกินประเภทคนตกค้างการเรียก
ข. นายหม่าฯ ศาลลงโทษจาคุก ๓ เดือน รอลงอาญาไว้ ๑ ปี ฐานไม่ไปเข้าตรวจเลือกตามหมายเรียกของนายอาเภอแม่สะเรียง
ค. นายเท่งฯ ขอผ่อนผันตามมาตรา ๒๙ ไว้ แต่ไม่ไปรายงานตัวต่อกรรมการ
ง. นายบังฯ ไม่ได้ไปรับหมายเรียกฯ และก็ไม่ไปเข้าตรวจเลือกอีกด้วย

☺ บุคคลใดจะมีรายชื่อปรากฏในบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการประเภทคนผ่อนผัน
ก. นายแดงฯ ได้รับการผ่อนผันให้ไปศึกษาที่ประเทศอิรัก
ข. นายเขียวฯ ได้รับการผ่อนผันต้องเลี้ยงดูบิดาที่เป็นอัมพาต
ค. นายเหลืองฯ ได้รับการผ่อนผันเพราะกาลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
ง. มีรายชื่อทั้ง ๓ คน

☺ การจัดทาบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) สาหรับผู้ที่อายุเกินกว่า ๒๑ ปี และยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์ในปีที่จะต้องเข้ากองประจาการ ให้สัสดีจังหวัด


จัดทาตามเอกสารใด
ก. บัญชีทหารกองเกิน (สด.๑)
ข. บัญชีเรียกฯ ฉบับอาเภอที่ได้ทาการตรวจเลือกฯ ครั้งสุดท้าย
ค. บัญชีเรียกฯ ฉบับของจังหวัดที่ได้ทาการตรวจเลือกฯ ครั้งสุดท้าย
ง. หมายเรียกเข้ารับราชการทหารที่สง่ ไม่ได้ในปีก่อน

☺ ภายในเมื่อใดที่สัสดีอาเภอต้องดาเนินการออกหนังสือของนายอาเภอเพื่อส่งทางไปรษณีย์เรียกตัว ผู้ถูกเรียกฯ ในการส่งหมายเรียกให้กับผู้ ที่อายุ


เกินกว่า ๒๑ ปี และยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่
ก. เดือนมีนาคม
ข. เดือนเมษายน
ค. เดือนพฤษภาคม
ง. เดือนมิถุนายน

☺ บุคคลในข้อใดเราไม่ต้องเอามาคานวณในการแบ่งเฉลี่ยคนเข้ากองประจาการ
ก. คนหลีกเลี่ยงขัดขืน และคนผ่อนผันตั้งแต่ พ.ศ.ก่อน
ข. คนที่ขาดการตรวจเลือกและคนผ่อนผัน
ค. คนที่ส่งหมายไม่ได้แต่ พ.ศ.ก่อนๆ และคนผ่อนผันแต่ พ.ศ.ก่อนๆ
ง. คนที่ส่งหมายไม่ได้แต่ พ.ศ.ก่อนๆ และคนผ่อนผันทั้งหมด

☺ ในการจัดทาบัญชีรายชื่อทหารกองประจาการที่มีบิดาเป็นคนต่างด้าว สัสดีอาเภอจะต้องรายงานให้สัสดีจังหวัดเมื่อใด
ก. ภายใน ๑๐ วัน ก่อนส่งคนเข้ากองประจาการผลัดแรก
ข. ภายใน ๑๐ วัน นับแต่วันเสร็จสิ้นการตรวจเลือกของอาเภอ
ค. ภายใน ๑๕ วัน ก่อนส่งคนเข้ากองประจาการผลัดแรก
ง. ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันเสร็จสิ้นการตรวจเลือกของอาเภอ

☺ ผู้ใดเป็นผู้บันทึกบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ฉบับของอาเภอในช่อง “ คณะกรรมการกาหนดเป็นคนจาพวกที่ ”


ก. สัสดีอาเภอ
ข. ผู้ช่วยสัสดีอาเภอ
ค. ปลัดอาเภอ
ง. ผู้ใดก็ได้ แต่ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือที่นายอาเภอออกคาสั่งแต่งตั้ง

☺ เมื่อใดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องจัดส่งบัญชีจานวนทหารกองเกินที่จะเรียกเข้ารับราชการทหารกองประจาการของจังหวัดตนเองให้
ผบ.มทบ. ทราบ
ก. ภายในเดือนมิถุนายน
ข. ภายในเดือนกรกฎาคม
ค. ภายในเดือนธันวาคม
ง. ภายในเดือนกันยายน

☺ กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑ อาจจัดเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือในหน้าที่ต่างๆ ดังนี้


ก. ตรวจบัตรประจาตัวประชาชนของทหารกองเกิน
ข. นาตัวทหารกองเกินไปยังโต๊ะตรวจร่างกาย
ค. บันทึกข้อมูลในใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ (สด.๔๓)
ง. ถูกต้องทั้งข้อ ก. และ ข้อ ค.

☺ ข้อใดมิได้อยู่ในความรับผิดชอบของกรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑
ก. จัดเจ้าหน้าที่นาตัวทหารกองเกินไปยังโต๊ะตรวจร่างกาย
ข. บันทึกผลในใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ
ค. จัดเจ้าหน้าที่นาบัญชีเรียกฯ จากโต๊ะประธานกรรมการกลับมายังโต๊ะเรียกชื่อเพื่อดาเนินการเรียกชื่อในรอบที่ ๒
ง. จัดดูแลคนให้รวมอยู่เป็นจาพวกไม่ให้ปะปนกันกับคนที่ยังไม่ตรวจเลือก

☺ ผู้มีหน้าที่บันทึกผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการคือ
ก. กรรมการสัสดีจังหวัด
ข. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑
ค. เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกรรมการสัสดีจงั หวัด
ง. ประธานกรรมการตรวจเลือก

☺ ผู้ใดต้องจัดเป็นคนจาพวกที่ ๔
ก. นายบุญฯ เป็นต้อหิน (Glaucoma)
ข. นายเกิดฯ ตาเหล่ (Squint)
ค. นายแก่ฯ ไส้เลื่อนลงถุง
ง. นายทับฯ ข้อติด (Ankylosis)

☺ อาการใดบ้างที่คิดว่าน่าจะต้องจัดเป็นคนจาพวกที่ ๔ ทั้งหมด
ก. ไตอักเสบเรื้อรัง, เบาหวาน, กะเทย (Hermaphrodism)
ข. คนเผือก (Albino), ขาลีบ, โรคเรื้อน
ค. ช่องปากผิดรูป, แก้วหูทะลุ, ลมชัก (Epilepsy)
ง. ลิ้นไก่สั้น, คอพอก (Simple Goitre), หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง

☺ อาการใดบ้างที่ต้องจัดเป็นคนจาพวกที่ ๒ ทั้งหมด
ก. ซอกคอติดกัน, ขาบิดเก
ข. ลูกตาสั่น (Nystagmus), ต้อหิน (Glaucoma)
ค. โรคหืด (Asthma), ตาข้างขวาบอด
ง. ตับแข็ง (Cirrhosis of Liver), แขนซ้ายบิดเก

☺ การดาเนินการเกี่ยวกับใบแทนใบรับรองผลการตรวจเลือก ข้อใดถูกต้อง
ก. ท่อนที่ ๑ ไม่ต้องจัดการอย่างใด
ข. เขียนด้วยหมึกแดงว่า “ ใบแทนฉบับที่ชารุดหรือสูญหาย ”
ค. สัสดีจังหวัดหรือผู้ทาการแทนเป็นผู้ลงนามรับรอง
ง. ตั้งเล่มไว้ส่วนหนึ่งต่างหาก ตัดปี

☺ ในการจัดทาสาเนาใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ ขึ้นใหม่ กรณีที่ท่อนที่ ๒ ซึ่งเก็บไว้ที่ ทภ. หายไป สัสดีจังหวัดจะต้องใช้ใบรับรอง จากข้อใด


ก. ใช้ใบรับรองผลฯ เล่มที่ใช้ออกใบแทนอยู่ออกให้
ข. ใช้ใบรับรองผลฯ เล่มที่เก็บไว้สารองออกให้
ค. ใช้ใบรับรองผลฯ ต่อจากฉบับสุดท้ายของอาเภอนั้นออกให้
ง. ขอเบิกจาก นสร.ทบ.ใหม่เพื่อออกให้

☺ ในการตรวจเลือกฯ ของอาเภอเมืองหนองบัวลาภู ซึ่งเป็นวันตรวจเลือกวันสุดท้ายของจังหวัด มียอดแบ่งเฉลี่ยแผนก ทบ.ทั้งสิ้น ๑๐๖ คน มีคน


หลีกเลี่ยงต้องส่งเข้ากองประจาการ ๕ คน, คนร้องขอฯ อายุ ๑๘-๒๐ ปี จานวน ๖๕ คน, อายุ ๒๒-๒๕ ปี จานวน ๕ คน และอายุอยู่ในกาหนดเรียก
อีกจานวน ๒๒ คน จะต้องจัดทาสลากแดงจานวนเท่าใด และใครเป็นผู้จัดทา
ก. ๙ ใบ กรรมการแพทย์ร่วมกับกรรมการสัสดีจงั หวัดจัดทา
ข. ๙ ใบ กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑ ร่วมกับกรรมการสัสดีจังหวัดจัดทา
ค. ๙ ใบ กรรมการสัสดีจังหวัดจัดทาแต่เพียงผู้เดียว
ง. ๙ ใบ กรรมการทุกคนยกเว้นประธานกรรมการร่วมกันจัดทา

☺ นาสลากทั้งหมดใส่ภาชนะแล้วคลุกเคล้าต่อหน้ากรรมการตรวจเลือกและผู้ถูกเรียกก่อนดาเนินการ จับสลาก เป็นหน้าที่ของใคร


ก. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒
ข. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑
ค. กรรมการสัสดีจังหวัด
ง. ประธานกรรมการ

☺ เมื่อทหารกองเกินจับสลากแล้ว ให้ผู้จับสลากลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือขวาให้ชัดเจนในใบรับรองผลการตรวจเลือก เป็นหน้าที่ ของผู้ใด


ก. ประธานกรรมการ
ข. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒
ค. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑
ง. กรรมการสัสดีจังหวัด

☺ ในการตรวจเลือกของอาเภอหนึ่งได้รับยอดแบ่งเฉลี่ยเป็นดังนี้ : ทบ.๑ = ๒๐ คน , ทบ.๒ = ๒๐ คน , ทร.๑ = ๒๒ คน , ทร.๒ = ๑๙ คน


และ ทอ.๑ = ๒๐ คน ถ้ามีคนหลีกเลี่ยงขัดขืน ต้องส่งเข้ากองประจาการจานวน ๒ คน ควรจะต้องส่งเข้ากองฯ แผนกใด
ก. ทบ.๑
ข. ทร.๑
ค. ทอ.๑
ง. ทร.๒

☺ ก่อนการจับสลากให้นายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑ ตรวจสอบและทาลายใบรับรองผลฯ (สด.๔๓) ท่อนที่ ๓ สาหรับผู้ที่ไม่มาเข้ารับการตรวจเลือก


และที่ไม่ได้ใช้ด้วยเครื่องเจาะทาลายเอกสารโดย เหลือไว้เป็นอะไหล่จานวนเท่าใด
ก. ๓ ฉบับ
ข. ๕ ฉบับ
ค. ๗ ฉบับ
ง. ๑๐ ฉบับ
☺ นายเอกชัย ศรีชาเย็น เดินทางไปถึงสถานที่ตรวจเลือกในขณะที่คณะกรรมการกาลังดาเนินการจับสลากเหลือตาบลสุดท้ายพอดี คณะกรรมการ
ควรจะดาเนินการอย่างไรกับนายเอกชัย
ก. รับตัวเข้าทาการตรวจเลือกฯ ตามปกติ
ข. ส่งให้พนักงานสอบสวนดาเนินคดี
ค. ชี้แจงให้ไปรับหมายเรียกฯ ในปีต่อไปต่อสัสดีอาเภอ
ง. ให้ไปพบสัสดีอาเภอหลังการตรวจเลือกเพื่อสอบสวนบอกจาหน่าย

☺ การตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการได้ดาเนินการมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว และมีการแก้ไขปรับปรุงวิธีปฏิบัติต่าง ๆ มาโดยตลอด


เพื่อให้เหมาะสมกับปัจจุบัน สาหรับในเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจเลือกและคณะกรรมการชั้นสูง ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทหน้าที่สาคัญที่จะทาให้
การตรวจเลือกเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ปัจจุบันยังคงกาหนดให้ผู้ใดมีอานาจแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าว
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ข. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ค. ผู้บัญชาการทหารบก
ง. แม่ทัพกองทัพภาคที่ ๑, ๒, ๓ และ ๔

☺ นายโหน่งฯ ได้เข้ารับการตรวจเลือกในวันหนึ่งของชีวิตลูกผู้ชาย และมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะสมัครรับใช้ชาติเพื่อเอาใจแฟนสาว


แต่คณะกรรมการตรวจแล้วเห็นว่า นายโหน่งฯ เป็นโรคภาวะอ้วน (Obesity) ซึ่งไม่สามารถจะรับราชการทหารได้ หลังเสร็จสิ้นการตรวจเลือก
แล้วนายโหน่งฯ จะได้รับหลักฐานอะไรจากประธานกรรมการ
ก. ใบรับรองผลการตรวจเลือก และใบสาคัญสาหรับคนจาพวกที่ ๔
ข. ใบรับรองผลการตรวจเลือก และหมายนัดเข้ารับราชการทหารตามที่ร้องขอฯ
ค. ใบรับรองผลการตรวจเลือกทีร่ ะบุเป็นคนจาพวกที่ ๔
ง. ใบรับรองผลการตรวจเลือกและใบสาคัญ (แบบ สด.๙) ฉบับใหม่

☺ ข้อใดเป็นหน้าที่ของกรรมการสัสดีจังหวัด
ก. ควบคุมการจัดทาสลาก
ข. รับเรื่องร้องขอยกเว้นซึ่งนายอาเภอท้องที่ได้สอบสวนแล้ว
ค. ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ร้องขอเข้ากองประจาการให้มากมาก
ง. ถูกทุกข้อ

☺ บุคคลในข้อใดจะได้รับการยกเว้นไปต้องเข้ารับราชการทหารกองประจาการตามมาตรา ๑๓
ก. ข้อที่ท่านจะอ่านต่อไปนี้ถูกทุกข้อ
ข. พระครูสุเทพ ธรรมมา เจ้าคณะตาบลหนองงูเหลือม
ค. พระวินัย จันทสโร เจ้าคณะอาเภอชนบท
ง. นายสุชน ชาลี ตาข้างขวาเหล่

☺ บุคคลในข้อใดไม่มีคุณสมบัติที่จะแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการชั้นสูง
ก. พ.ท.สุจริต รักพวกพ้อง สัสดีอาเภอเมืองตราด
ข. พ.อ.บุญถึง ฝอยขัดทัพ สัสดีจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ค. พ.อ.ปักษี ชาเรืองทรัพย์ สัสดี ทภ.๓
ง. นายอาดูร เกียรติโยธิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย

☺ ความหมายของคนจาพวกที่ ๓ คือ
ก. คนพิการทุพพลภาพ
ข. คนซึ่งมีร่างกายที่เห็นได้ชัดว่าไม่สมบูรณ์ดี
ค. คนซึ่งมีร่างกายยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับราชการทหารในขณะนั้นได้ เพราะป่วยซึ่งจะบาบัด ให้หายภายในกาหนด ๓๐ วัน ไม่ได้
ง. จัดเป็นคนจาพวกที่ ๓ ได้ทุกข้อ ขึ้นอยู่กับประธานกรรมการ

☺ บุคคลในข้อใดยกเว้นไม่ต้องเข้ารับราชการทหาร แต่ต้องลงบัญชีทหารกองเกิน
ก. คนพิการทุพพลภาพ
ข. พระภิกษุนักธรรมที่กระทรวงศึกษาธิการรับรอง
ค. นักเรียน นิสิต นักศึกษา ในสถานศึกษาตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
ง. พระภิกษุที่มีสมณศักดิ์เป็น พระครู

☺ ผู้ที่เป็นคนจาพวกที่ ๑ ที่มีขนาดสูงตั้งแต่ ๑๖๐ ซม.ขึ้นไป และขนาดรอบตัวตั้งแต่ ๗๖ ซม.ขึ้นไป เราเรียกว่าเป็นคนพวกใด


ก. คนดี ๑ ประเภทที่ ๑
ข. คนสมบูรณ์ดี
ค. คนขนาดถัดรอง
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ใครเป็นผู้มีอานาจออกหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (สด.๓๕) ให้กับทหารกองเกิน


ก. สัสดีอาเภอท้องที่
ข. ปลัดอาเภอผู้เป็นหัวหน้าประจากิ่งอาเภอ
ค. สัสดีจังหวัดท้องที่
ง. ผู้ช่วยสัสดีอาเภอฯ รักษาการสัสดีอาเภอ

☺ ผู้ใดมีอานาจผ่อนผันไม่เข้ารับการตรวจเลือกให้กับนักเรียนซึ่งออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ โดยทุนส่วนตัว


ก. ประธานกรรมการตรวจเลือก
ข. สัสดีอาเภอท้องที่
ค. นายอาเภอท้องที่
ง. ผู้ว่าราชการจังหวัด

☺ ข้อใดมิใช่สาระสาคัญประกอบหลักฐานสาหรับผู้ที่ขอผ่อนผันกรณีไปศึกษาต่างประเทศ
ก. กาหนดเดินทางกลับเมื่อใด
ข. หลักสูตรที่ศึกษามีระยะเวลาเท่าใด
ค. จะขอผ่อนผันการตรวจเลือกเป็นเวลาเท่าใด
ง. ศึกษาอยู่ที่ประเทศใด

☺ ในบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการสาหรับผู้ที่จับได้สลากดา ผู้ใดต้องลงชื่อกากับไว้ที่ใต้ผลการจับสลาก
ก. ประธานกรรมการตรวจเลือก
ข. กรรมการสัสดีจังหวัด
ค. สัสดีอาเภอ
ง. เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกรรมการสัสดีจงั หวัด

☺ ผู้ใดเป็นผู้ลงนามกากับสาหรับผู้ที่ไม่มารับหมายเรียกฯ และไม่ได้เข้ารับการตรวจเลือก
ก. ประธานกรรมการตรวจเลือก
ข. นายอาเภอ
ค. สัสดีอาเภอ
ง. กานัน หรือผู้ใหญ่บ้าน

☺ ในการเรียกชื่อสาหรับโต๊ะเรียกชื่อในการตรวจเลือกฯ ข้อใดถูกต้อง
ก. เรียกชื่อในบัญชีคนผ่อนผัน และคนที่อยู่ในกาหนดเรียกธรรมดาไปพร้อมๆ กัน
ข. บัญชีคนที่ขาดการตรวจเลือกไม่ต้องเรียกชื่อ เพราะไม่สามารถนาตัวมาเข้ารับการตรวจเลือกได้
ค. กรณีที่ไม่มีคนหลีกเลี่ยงขัดขืนในบัญชี ก็ให้เรียกบัญชีคนที่ขาดการตรวจเลือก และคนที่อยู่ในกาหนดเรียกธรรมดา ตามลาดับ
ง. บัญชีคนที่พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน ให้เรียกเฉพาะผู้ที่ลงวันรับหมายไว้เท่านั้น

☺ ข้อใดเป็นหน้าที่ของประธานกรรมการ
ก. เชิญชวนให้มีการร้องขอเข้ากองประจาการ
ข. ข้อ ก. ข้อ ค. และข้อ ง. เป็นคาตอบที่ถูก
ค. ออกเสียงชี้ขาดกรณีที่เกิดปัญหาในการปฏิบัติ
ง. มอบใบรับรองผลการตรวจเลือกสาหรับคนจาพวกที่ ๔

☺ ครูที่จะขอยกเว้นไม่ต้องเข้าตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการได้ จะต้องประจาทาการสอนนักเรียนไม่น้อยกว่าเท่าใด
ก. ๒๕ คน
ข. ๓๐ คน
ค. ๑๕ คน
ง. ๔๐ คน

☺ บุคคลในข้อใดที่จัดเป็นคนจาพวกที่ ๒
ก. นายบุญทนฯ มีใบหน้าผิดปกติจนดูน่าเกลียดเนื่องจากอัมพาต (Facial Paralysis)
ข. นายทสนัยฯ ตาเป็นต้อหิน (Glaucoma)
ค. นายนิยศักดิ์ฯ เป็นโรคตับแข็ง (Cirrhosis of Liver)
ง. นายคีตาฯ นิ้วชี้ของมือขวาด้วนตั้งแต่ข้อถึงปลายนิ้ว

☺ บุคคลในข้อใดจัดเป็นคนไม่ได้ขนาด
ก. นายอติตะฯ สูงไม่ถึง ๑๖๐ ซม.
ข. นายกายเพชรฯ ขนาดรอบตัวไม่ถึง ๗๖ ซม.
ค. นายมควินทร์ฯ สูง ๑.๕๙ ม.
ง. ทั้งข้อ ก. นายอติตะฯ และข้อ ข. นายกายเพชร

☺ กรณีใดที่คณะกรรมการชั้นสูงมีอานาจในการตัดสิน
ก. กรณีที่ทหารกองเกินแย้งว่าคณะกรรมการวัดขนาดไม่ยุติธรรม
ข. กรณีที่ทหารกองเกินแย้งว่ามีการทุจริตระหว่างการตรวจเลือก
ค. กรณีมีคาร้องว่าคณะกรรมการตรวจเลือกตัดสินไม่ยุติธรรม
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ หากนายสุชาติ แย้มฝา เป็นครูทาการสอนอยู่ในหน่วยฝึกอาชีพเคลื่อนที่ของกระทรวงศึกษาธิการ ถ้าขอยกเว้นจะได้รับใบสาคัญจากผู้ใด


ก. ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการกาลังสารอง
ข. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ค. ผู้ว่าราชการจังหวัดภูมิลาเนาทหาร
ง. สัสดีจังหวัดภูมิลาเนาทหาร

☺ ข้อใดคือหน้าที่ของสัสดีอาเภอในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
ก. ดูแลอานวยความสะดวกเรียบร้อยของสถานที่ทาการตรวจเลือก
ข. เป็นผู้ลงรายการต่างๆ ในบัญชีเรียกฯ ฉบับอาเภอ
ค. ดูแลทหารกองเกินมิให้ดื่มสุราขณะทาการตรวจเลือก
ง. ถูกทุกข้อ

☺ อาจารย์คณิต เรขะศาสตร์ เป็นอาจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์ประจาโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งใน กทม. มีชั่วโมงสอนอาทิตย์ละ ๒๐ ชม.


มีลูกศิษย์ ๑๙ คน อาจารย์คณิตฯ ได้ไปรับหมายเรียกฯ เมื่อต้นปี ๒๕๔๑ โดยกาหนดต้องเข้าตรวจเลือกฯ ในวันที่ ๑ เม.ย.๔๑ จึงได้รวบรวม
หลักฐานที่เกี่ยวข้องไปยื่นขอยกเว้นครูต่อนายอาเภอภูมิลาเนา ในวันที่ ๒๗ มี.ค.๔๑ อาจารย์คณิตฯ จะได้รับการยกเว้นหรือไม่
ก. ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย
ข. ไม่ได้รับการยกเว้น เพราะมีจานวนนักเรียนที่สอนน้อยกว่ากาหนด
ค. ไม่ได้รับการยกเว้น เพราะมีจานวนชั่วโมงสอนไม่ครบตามกาหนด
ง. ไม่ได้รับการยกเว้น เพราะมิได้ขอยกเว้นภายในกาหนด

☺ นายวิชัย สุดารัก เดินทางออกจากบ้านเพื่อไปเข้ารับการตรวจเลือกตามกาหนดในหมายเรียกฯ ระหว่างทางรถเกิดเสียหลักตกข้างทาง


ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์ทาแผลให้เสร็จแล้วให้กลับบ้านได้ แต่ด้วยความรับผิดชอบสูงจึงรีบเดินทางไปยังสถานที่ตรวจเลือก แต่เมื่อ ไปถึง
พบว่าคณะกรรมการกาลังเก็บของเพื่อเดินทางกลับพอดี ท่านทราบไหมว่าในบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ของ นายวิชัยฯ จะถูกบันทึกว่าอย่างไร
ก. เป็นคนจาพวกที่ ๓ ไปพลางก่อน
ข. ขาด
ค. ไม่มารับหมายตามมาตรา ๒๕
ง. ไปจากท้องที่ไม่ทราบที่อยู่

☺ นายวิชัย สุดารัก เดินทางออกจากบ้านเพื่อไปเข้ารับการตรวจเลือกตามกาหนดในหมายเรียกฯ ระหว่างทางรถเกิดเสียหลักตกข้างทาง


ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์ทาแผลให้เสร็จแล้วให้กลับบ้านได้ แต่ด้วยความรับผิดชอบสูงจึงรีบเดินทางไปยังสถานที่ตรวจเลือก แต่เมื่อ ไปถึง
พบว่าคณะกรรมการกาลังเก็บของเพื่อเดินทางกลับพอดี นายวิชัยควรจะดาเนินการเช่นไรจึงจะดีที่สุด
ก. ไปพบประธานกรรมการที่ที่พักเพื่อชี้แจงสาเหตุ
ข. ขอเข้าทาการตรวจเลือกที่อาเภอถัดไปในวันรุ่งขึ้น
ค. ไปพบสัสดีอาเภอเพื่อชี้แจงสาเหตุและขอคาแนะนาการปฏิบัติที่ถูกต้อง
ง. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการชั้นสูง

☺ ในการตรวจเลือกทหารกองเกินของกรรมการคณะหนึ่ง มียอดแบ่งเฉลี่ยเป็น แผนก ทบ.๑ = ๑๐ คน และ ทอ.๑ = ๑๒ คน แต่ก่อน


จะทาการตรวจเลือกฯ ประธานกรรมการได้รับแจ้งจาก ทภ. ด่วนทางโทรสารว่าให้ลดยอดเฉลี่ยลงจากเดิมแผนกละ ๒ คน ประธานกรรมการ
จะต้องดาเนินการตามข้อใด
ก. ดาเนินการตรวจเลือกตามยอดที่ได้รับเฉลี่ยเดิมก่อน
ข. แจ้งให้กรรมการทุกคนทราบ และดาเนินการตรวจเลือกฯ ตามยอดเฉลี่ยใหม่
ค. แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดทราบให้ดาเนินการเฉลี่ยให้ใหม่ตามที่ได้รับแจ้งจาก ทภ.
ง. แจ้งสัสดีอาเภอท้องที่ทราบเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ร้องขอเข้ากองประจาการ

☺ ผู้ใดรับผิดชอบในการจัดทาบัญชีตรวจเลือกคนเข้ากองประจาการ
ก. กรรมการสัสดีจังหวัด
ข. สัสดีจังหวัด
ค. สัสดีอาเภอ
ง. ประธานกรรมการตรวจเลือก

☺ ข้อมูลใดไม่ปรากฏในรายงานผลการดาเนินการเกี่ยวกับการเรียกและการตรวจเลือกของฝ่ายปกครอง
ก. จานวนคนที่ร้องขออายุ ๑๘ – ๒๐ ปี
ข. จานวนคนที่ไม่มารับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร
ค. จานวนคนที่รับหมายเรียกแล้วขาดการตรวจเลือก
ง. ถูกหมดทุกข้อ
☺ รายงานผลการดาเนินการเกี่ยวกับการเรียกและการตรวจเลือกของฝ่ายปกครอง เป็นการรายงานระหว่างผูใ้ ดกับผู้ใด
ก. สัสดีอาเภอ รายงานนายอาเภอ
ข. สัสดีอาเภอ รายงานสัสดีจังหวัด
ค. นายอาเภอ รายงานผู้ว่าราชการจังหวัด
ง. สัสดีจังหวัด รายงานผู้ว่าราชการจังหวัด

☺ เรื่องใดมิใช่เรื่องที่ต้องสังเกตการณ์ของคณะสังเกตการณ์ตรวจเลือกฯ
ก. กรรมการสัสดีจังหวัดได้เตรียมสลากไว้ก่อนล่วงหน้า หรือมาจัดทาในวันตรวจเลือก
ข. จานวนยอดแบ่งเฉลี่ยถูกต้องตามที่รายงาน มทบ.หรือไม่
ค. ประธานกรรมการได้ตรวจสอบและปล่อยตัวตามลาดับหรือไม่
ง. มีเสาธงสาหรับเคารพธงชาติหรือไม่

☺ ในการทาการตรวจเลือกของคณะกรรมการคณะหนึง่ มีคนร้องขอเข้ากองประจาการซึง่ ร่างกาย สมบูรณ์ดี แต่มีขนาดสูง ๑๕๙ ซม. รอบตัว


๗๘/๘๑ ซม. นายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒ จึงไปปรึกษาประธานกรรมการว่าจะส่งเข้ากองได้หรือไม่ ประธานกรรมการพิจารณาแล้ว เห็นว่า
สูงเกินกว่า ๑๔๖ ซม. สามารถส่งเข้ากองได้ จึงมอบใบรับรองผลฯ และมอบให้สสั ดีอาเภอออกหมายนัดให้ต่อไป ในขณะดาเนินการทุกขั้นตอนนั้น
มีคณะสังเกตการณ์คอยเฝ้าสังเกตการณ์ ท่านคิดว่าการปฏิบัติของผู้สังเกตการณ์ ในข้อใดถูกต้อง
ก. แย้งประธานกรรมการว่า บุคคลดังกล่าวไม่สามารถส่งเข้ากองฯ ได้ถึงแม้จะร้องขอก็ตาม
ข. แจ้งให้กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒ วัดขนาดใหม่
ค. เรียกกรรมการสัสดีจังหวัดมาสอบถามว่าการดาเนินการนั้นถูกต้องหรือไม่
ง. บันทึกผลการสังเกตการณ์และรายงานให้ผู้บงั คับบัญชาทราบ

☺ ในการรายงานผลการสังเกตการณ์เกี่ยวกับการตรวจเลือกฯ ผู้สังเกตการณ์จะต้องรายงานถึง ทบ. ภายในกาหนดเมื่อใด


ก. ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันเสร็จสิ้นการสังเกตการณ์
ข. ภายในเดือนพฤษภาคม
ค. ภายในเดือนมิถุนายน
ง. ภายในเดือนเมษายน

☺ สิ่งใดที่ผู้สั่งการสังเกตการณ์ควรชี้แจงคณะสังเกตการณ์ในการไปสังเกตการณ์ตรวจเลือกฯ
ก. ให้เฝ้าสังเกตการณ์ปฏิบัติหน้าที่ของสัสดีอาเภออย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ
ข. มิให้ไปก้าวก่ายการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตรวจเลือก
ค. ตรวจสอบจานวนทหารกองเกินกับจานวนที่ต้องการในแต่ละวันว่าเหมาะสมหรือไม่
ง. ถูกทุกข้อ

☺ การบันทึกบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการช่อง “ ได้รับหมายเมื่อใด หรือ ไม่ได้รับเพราะเหตุใด ” ข้อใดถูกต้อง


ก. ผ่อนผันตาม ม.๑๔(๓)
ข. ย้ายฯ อ.เขาค้อ จังหวัด พ.ช.
ค. ตาย
ง. รับหมาย ๖ มีนาคม ๔๗

☺ ผู้ใดมีหน้าที่ต้องลงชื่อและตาแหน่งกากับบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ช่อง “ เรียกชื่อแล้วปรากฏว่า ” ที่มีการบันทึกว่า “ ขาด ”


ก. กานันตาบลช้างกลาง
ข. ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๖ ตาบลแก้วดง
ค. เทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองคาย
ง. ถูกทุกข้อ

☺ นายสุทิน ฝังเพชร เข้ารับการตรวจเลือกในบัญชีคนหลีกเลี่ยงขัดขืน กรรมการแพทย์ตรวจร่างกายแล้วปรากฏว่ามีอาการลูกตาสั่น


จึงจัดเป็นคนจาพวกที่ ๒ ในบัญชีเรียกฯ ช่อง “ ผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันฯ ตรวจแล้วเห็นว่า ” จะต้องบันทึกเช่นใดจึงจะถูกต้อง
ก. สมบูรณ์ดี
ข. ลูกตาสั่น (Nystagmus )
ค. ส่งเข้ากองประจาการ
ง. ไม่ขัดต่อการเป็นทหารกองประจาการ

☺ นายองอาจ คุ้มทุน เข้าตรวจเลือกในบัญชีคนหลีกเลี่ยงขัดขืน แพทย์ตรวจร่างกายแล้วปรากฏว่า เป็นคนจาพวกที่ ๒ ขนาดสูง ๑๕๘ ซม.


รอบตัว ๗๖/๗๙ ซม. การบันทึกบัญชีเรียกฯ ในช่อง “ กรรมการกาหนดเป็นคนจาพวกที่ ” ต้องบันทึกว่า
ก. ไม่ต้องบันทึกใด ๆ เว้นว่างไว้
ข. บันทึกว่า “ ๒ ”
ค. ให้ขีด ( - )
ง. ให้บันทึกว่า “ ไม่ขัดต่อการเป็นทหารกองประจาการ ”
☺ “ ปล่อยเพราะส่งคนหลีกเลี่ยงพอ ” เป็นการบันทึกบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ ในช่องใดในวันตรวจเลือก
ก. หมายเหตุ
ข. คณะกรรมการตรวจเลือกกาหนดว่าอย่างใด
ค. จับสลากถูกอย่างใด
ง. เรียกชื่อแล้วปรากฏว่า

☺ การบันทึกบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ช่อง “ คณะกรรมการตรวจเลือกกาหนดว่าอย่างใด ” ข้อใดบันทึกไม่ถูกต้อง


ก. ยกเว้นตามมาตรา ๑๔(๑)
ข. ส่ง ทอ.๒
ค. ถัดรอง
ง. ปล่อยเพราะส่งคนขนาดสูงกว่าและคนร้องขอฯ พอ

☺ การบันทึกบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการในช่องหมายเหตุในข้อใดต้องบันทึกด้วยดินสอดา
ก. ๔๔ ขาด
ข. สละสิทธิ์ขอเข้าตรวจเลือก
ค. ๔๓ – ๔๔ จาพวก ๓
ง. ร้องขอฯ

☺ ในบัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้ ข้อมูลต่อไปนี้ข้อใดไม่ปรากฏ
ก. จานวนคนจาพวกที่ ๓
ข. จานวนคนที่พ้นจากการฝึกวิชาทหาร
ค. จานวนคนที่ขาดการตรวจเลือก
ง. จานวนคนที่พ้นโทษ

☺ ในการลงบัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้ช่อง “ จานวนตามบัญชีทหารกองเกิน ” จาพวกต้องเรียกในบรรทัด “ คนอายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ”


ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. ลงจานวนคนในชั้นปีที่จะเรียกมาตรวจเลือกของจังหวัดนั้นตามยอดบัญชีฯ (สด.๒๗) ไม่รวมคนที่จาหน่ายด้วยเหตุต่าง ๆ
ข. ลงจานวนคนในชั้นปีที่จะเรียกมาตรวจเลือกของจังหวัดนั้นตามยอดบัญชีฯ (สด.๒๗) รวมทั้งคนผ่อนผันตามมาตรา ๒๙
และไม่หักการจาหน่าย
ค. ลงจานวนคนในชั้นปีที่จะเรียกมาตรวจเลือกของจังหวัดนั้นตามยอดบัญชีฯ (สด.๒๗) ไม่รวมคนผ่อนผันตามมาตรา ๒๙
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การลงบัญชีเทียบจานวนคนที่จะกะเรียกในช่อง “ คงมีตัวในบัญชีทหารกองเกิน ” นายอดจานวนคนจากหลักฐานใดมาลง


ก. บัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้
ข. บัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒
ค. บัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
ง. บัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน

☺ ร.อ.สุวิชัย หว่านแก้ว กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑ ได้ตรวจพบว่าใบรับรองผลการตรวจเลือกซึ่งต้องใช้ในวันแรกของการตรวจเลือก


เล่มที่ ๓ ในจานวน ๗ เล่ม มีจานวน ๙๙ ฉบับ จะต้องดาเนินการแก้ไขอย่างไร
ก. ให้บันทึกริมซ้ายด้านล่างหน้าปกไว้ว่า “ เล่มนี้มี ๙๙ ฉบับ ”
ข. ให้นาใบรับรองผลฯ จากเล่มสุดท้ายของวันนั้นมาเพิ่มให้เต็ม ๑๐๐ ฉบับ
ค. ให้บันทึกริมซ้ายด้านล่างหน้าปกไว้ว่า “ เล่มนี้ขาดไป ๑ ฉบับ ”
ง. ให้รายงานประธานกรรมการเพื่อขอให้สัสดีจังหวัดท้องที่แก้ไขก่อนทาการตรวจเลือกฯ

☺ การใช้ใบรับรองผลการตรวจเลือก ถ้าจังหวัดใดมีใบรับรองผลฯที่เหลือเต็มเล่มจากปีก่อน จะต้องดาเนินการอย่างไร


ก. ให้ใช้เครื่องเจาะทาลายเอกสารทาลายเสีย
ข. ให้นาส่งคืน นสร.ทบ.
ค. ให้ใช้ใบรับรองผลฯ นั้นในการตรวจเลือกวันแรกจนกว่าจะหมด
ง. บันทึกริมซ้ายด้านล่างหน้าปกว่า “ ยกเลิก ” และส่งคืน นสร.ทบ.ต่อไป

☺ พ.ท.สมใจ แก้วเหลือ สัสดี มทบ.๑๒ ได้รับคาสั่ง ฯ จาก ผบ.มทบ.๑๒ ให้เป็นกรรมการตรวจสอบบัญชีเรียกฯ และใบรับรองผลฯ ของสัสดีจังหวัด
ในพื้นที่รับผิดชอบของ มทบ.๑๒ ซึ่ง พ.ท.สมใจฯ ยังไม่ค่อยเข้าใจในระบบงานของสัสดีดีพอเพราะเพิ่งโอนย้ายมาจาก ศฝ.นศท.มทบ.๑๒ จึงมาปรึกษา
ท่านว่าในการตรวจจะต้องใช้หลักฐานอะไรประกอบในการตรวจบ้าง ท่านควรจะแนะนาให้กับ พ.ท.สมใจฯ อย่างไร
ก. ให้ใช้ พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗, คาสั่ง ทบ.ที่ ๒๙/๒๕๑๗ และคาสั่ง ทบ.ที่ ๑๑๗๓/๒๕๒๘ เป็นหลักฐานประกอบการตรวจ
ข. ให้ใช้ต้นขั้วใบสาคัญ(สด.๙), บัญชีทหารกองเกิน (สด.๑) ของอาเภอเป็นหลักฐานประกอบ
ค. ให้ใช้บัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ฉบับของจังหวัดปีก่อน และบัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ เป็นหลักฐาน
ประกอบการตรวจ
ง. ให้ใช้บัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ฉบับของอาเภอปีก่อน และหลักฐานการจาหน่ายต่าง ๆ เป็นหลักฐานประกอบการตรวจ
☺ ในการตรวจสอบบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ของคณะกรรมการฯ ที่ มทบ.หรือ จทบ.ตั้งขึ้นก่อนการตรวจเลือก ในการตรวจสอบบัญชีคนผ่อนผัน
ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. ได้คัดรายชื่อคนผ่อนผันจากบัญชีเรียกฯ ของปีก่อนที่ยังไม่ได้จาหน่ายขาดถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
ข. คนผ่อนผันที่เป็นคนที่อยู่ในกาหนดเรียกอายุธรรมดาซึ่งมีรายชื่ออยู่ในบัญชีเรียกฯ ประเภท คนที่อยู่ในกาหนดเรียกธรรมดา ได้มีการ
ขีดฆ่ารายชื่อเดิมก่อนหรือไม่
ค. คนผ่อนผัน มีจานวนจาหน่ายย้ายภูมิลาเนามากน้อยเพียงใดหรือไม่
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.

☺ งบประมาณที่ใช้ในการตรวจเลือกฯ ในข้อใดมิใช่งบประมาณในส่วนของสัสดีจังหวัดและสัสดีอาเภอ
ก. ค่าสารองค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึง
ข. ค่าพาหนะในการส่งทหารกองเกินจากตาบลนัดหมายไปยังตาบลขึ้นทะเบียน
ค. ค่าดัดแปลงสถานที่ตรวจเลือกฯ
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ส่วนราชการใดจะได้รับงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายในการสังเกตการณ์ตรวจเลือกฯ
ก. รร.กสร.ศสร.
ข. ทภ.
ค. มทบ.
ง. สัสดีจังหวัด

☺ ประธานกรรมการตรวจเลือกสามารถขอเบิกค่าใช้จ่ายเป็นค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะให้กับเจ้าหน้าที่ของตนได้กี่นาย
ก. ๒ นาย
ข. ๔ นาย
ค. ๕ นาย
ง. ๖ นาย

☺ ในการเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ ใครคือเจ้าหน้าที่ฝ่ายต้องการคน
ก. ผู้กากับการตารวจภูธรจังหวัด
ข. ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก
ค. แม่ทัพภาค
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.

☺ นายสิน สุดเสียง บิดานายเสียง สุดเสียง ซึ่งต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ ปรากฏว่าในวันตรวจเลือกฯ


นายเสียงฯ เกิดไส้ติ่งอักเสบต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วนในวันนั้น จึงได้ให้บิดานาหลักฐานใบรับรองแพทย์ไปแจ้งต่อคณะกรรมการตรวจเลือ ก
หากท่านเป็นเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการบันทึกบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) โต๊ะเรียกชื่อ ในช่อง “ เรียกชื่อแล้วปรากฏว่า ” ท่านจะบันทึกข้อมูล
ของนายเสียงฯ ว่าอย่างใด
ก. ขาด
ข. ป่วย โดยให้นายสิน สุดเสียง บิดามาชี้แจงแทน
ค. เป็นคนจาพวกที่ ๓ ไปพลางก่อนฯ
ง. นายสิน สุดเสียง บิดามาแจ้งว่าป่วย

☺ นายสิน สุดเสียง บิดานายเสียง สุดเสียง ซึ่งต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ ปรากฏว่าในวันตรวจเลือกฯ


นายเสียงฯ เกิดไส้ติ่งอักเสบต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วนในวันนั้น จึงได้ให้บิดานาหลักฐานใบรับรองแพทย์ไปแจ้งต่อคณะกรรมการตรวจเลือก
ในบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ในช่อง “ หมายเหตุ ” จะต้องบันทึกว่าอย่างใด
ก. นายสิน สุดเสียง บิดามาแจ้งว่าป่วย
ข. ไม่ต้องบันทึกใด ๆ เว้นว่างไว้
ค. เป็นคนจาพวกที่ ๓ ไปพลางก่อนฯ
ง. บิดามาแจ้งว่าป่วย

☺ คาว่า “ ไม่ขัดต่อการเป็นทหารกองประจาการ ” ใช้กับคนจาพวกใด


ก. คนที่ร้องขอเข้ากองประจาการ
ข. คนที่จับได้สลากสีแดง
ค. คนร้องขอฯ อายุ ๑๘ – ๒๐ ปี
ง. คนหลีกเลี่ยงขัดขืนที่ร่างกายสมบูรณ์ดี ไม่มีโรคที่ขัดต่อการรับราชการทหาร

☺ จ.ส.อ.สุชาติฯ ได้รับคาสั่งจากสัสดีจงั หวัดให้คานวณยอดเฉลี่ยคนเข้ากองประจาการให้อาเภอ จึงแสดงฝีมือเต็มที่ ได้ผลลัพธ์จากการคานวณดังนี้


อ.เด็ก = ๒๑๐.๖๘ คน , อ.เต่า = ๑๗๘.๒๙ คน , อ.ถุง = ๙๘.๙๒ คน และ อ.ทหาร = ๑๒๗.๗๖ คน และได้รวมยอดทั้ง ๔ อาเภอ
โดยปัดเศษทศนิยมออกปรากฏว่ายังขาดอีก ๒ คน จึงจะเท่าจานวนที่ฝ่ายทหารต้องการ จ.ส.อ.สุชาติฯ จะเพิ่มยอดให้กับอาเภอใด
ก. อาเภอถุงและอาเภอเต่า อาเภอละ ๑ คน
ข. เพิ่มให้อาเภอถุงอาเภอเดียว ๒ คน
ค. เพิ่มให้อาเภอถุงและอาเภอทหาร อาเภอละ ๑ คน
ง. เพิม่ ให้อาเภอเด็กอาเภอเดียว ๒ คน

☺ จากข้อ ๒๐๓. จ.ส.อ.สุชาติฯ ใช้หลักเกณฑ์ใดในการเพิ่มยอดให้เท่ากับจานวนที่ต้องการ


ก. เพิ่มให้อาเภอที่ได้รับแบ่งเฉลี่ยเป็นจานวนน้อยไปหามากตามลาดับ
ข. เพิ่มให้อาเภอที่มีเศษมากไปหาเศษน้อยตามลาดับ
ค. เพิ่มให้อาเภอที่มีเศษน้อยไปหาเศษมากตามลาดับ
ง. เพิ่มให้อาเภอที่ได้รับแบ่งเฉลี่ยเป็นจานวนมากไปหาน้อยตามลาดับ

☺ นายสงขลา หาดใหญ่ดี เข้ารับการตรวจเลือกที่อาเภอหนึ่ง มีจานวนคนที่ฝ่ายขอเรียกต้องการ แผนก ทบ.๑ = ๑๒ คน และ ทอ.๒ = ๘ คน


มีผู้ร้องขอฯ อายุ ๑๘ – ๒๐ ปี ที่กรรมการรับไว้ ๑๕ คน และคนอายุธรรมดาร้องขอฯ อีก ๖ คน รวมทั้งสองแผนกแล้วทาให้ไม่ต้องจับสลาก
ผลการตรวจเลือกของนายสงขลา ฯ จะเป็นไปตามข้อใด
ก. ปล่อยเพราะส่งคนหลีกเลี่ยงและคนร้องขอฯ พอ
ข. ปล่อยเพราะรับคนร้องขอฯ พอ
ค. ปล่อยเพราะส่งคนขนาดสูงกว่าพอ
ง. ปล่อยเพราะส่งคนขนาดสูงกว่าและคนร้องขอฯ พอ

☺ นายกิ๊ก ชอบสืบพันธ์ เข้ารับการตรวจเลือกตามกาหนดของกฎหมาย คณะกรรมการลงความเห็นว่าเป็นคนสมบูรณ์ดี สูง ๑๗๖ ซม. รอบตัว


๘๐/๘๓ จึงต้องเข้าจับสลาก ผลการจับสลากปรากฏว่าได้ ทอ.๒ ถ้าท่านมีหน้าที่บันทึกบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ในการจับสลาก ช่อง “ คณะกรรมการ
ตรวจเลือกกาหนดว่าอย่างใด ” ท่านต้องบันทึกว่าอย่างไร
ก. แดง (ทอ.๒)
ข. ส่ง ทอ.๒
ค. เข้ากอง ทอ.๒
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ปลอกแขนคณะกรรมการตรวจเลือกและเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือมีลักษณะอย่างใด
ก. กว้าง ๗.๕ ซม. ทาด้วยผ้ากามะหยี่
ข. มีสีแดงสาหรับกรรมการฯ และสีน้าเงินสาหรับเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือฯ
ค. ให้ติดที่แขนเสื้อข้างซ้ายเหนือข้อศอก
ง. ที่ปลอกแขนขลิบริมบนและล่างโดยรอบด้วยผ้าสีดา

☺ นายกัมพู ชาขะแม มารายงานตัวต่อคณะกรรมการตรวจเลือกที่โต๊ะเรียกชื่อ และคณะกรรมการ สงสัยว่าจะไม่ใช่นายกัมพูฯ จริงเนื่องจาก


พูดภาษาไทยไม่ชัด อ่านหนังสือไทยไม่ได้ ควรปฏิบัติ เช่นใด
ก. ให้กานัน หรือผู้ใหญ่บ้านมารับรองตัวบุคคล
ข. สอบถามสัสดีอาเภอให้แน่ใจก่อนนาตัวเข้ารับการตรวจเลือก
ค. กันไว้สอบสวนก่อน
ง. นาตัวเข้ารับการตรวจเลือกตามปกติ

☺ ก่อนทาการปล่อยตัว นายดีกรี ขันคา ซึ่งกรรมการแพทย์ กาหนดเป็นคนจาพวกที่ ๔ เนื่องจากเป็น โรคเบาหวาน ประธานกรรมการ


ไม่แน่ใจว่าปล่อยตัวได้หรือไม่ เพราะตนเองก็เป็นโรคเบาหวานเหมือนกันก็ยังเป็นทหารได้ ควรจะปรึกษาผู้ใด
ก. กรรมการแพทย์
ข. กรรมการสัสดีจังหวัด
ค. สัสดีกองทัพภาค
ง. สัสดีจังหวัดท้องที่

☺ ข้อใดมิใช่หน้าที่ของกรรมการสัสดีจังหวัดในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ
ก. กาหนดคนเป็นจาพวกที่ ๑, ๒, ๓ และ ๔
ข. กากับดูแลเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือของอาเภอให้บันทึกหลักฐานให้ถูกต้อง
ค. ตรวจสอบการบันทึกเอกสารของกรรมการอื่นให้ถูกต้องตามระเบียบ
ง. ต้องชี้แจงให้ทหารกองเกินทราบถึงการสละสิทธิ์ยกเว้นผ่อนผัน

☺ เมื่อมีทหารกองเกินมารายงานตัวที่โต๊ะเรียกชื่อ และกรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑ สงสัยว่าอาจมิใช่เจ้าตัวจริงเพราะไม่มีหลักฐานใด ๆ


มาเลย สอบถามผู้ใหญ่บ้านแล้วก็ไม่แน่ใจว่าเป็นลูกบ้านตนเองหรือไม่ จึงไปปรึกษากรรมการสัสดีจงั หวัด ท่านคิดว่ากรรมการสัสดีจังหวัดควรแนะนา
ว่าอย่างใดจึงจะถูกต้อง
ก. ให้ประธานกรรมการเป็นผู้พิจารณา
ข. ให้สอบถามสัสดีอาเภอท้องที่เพื่อยืนยันตัวบุคคล
ค. ให้ตรวจสอบบัญชีทหารกองเกิน (สด.๑) และต้นขั้วหมายเรียกฯ ประกอบการพิจารณา
ง. เรียกนายอาเภอท้องที่ให้มารับรองตัวบุคคล

☺ เรื่องใดที่กรรมการสัสดีจังหวัดต้องจัดทาบันทึกข้อมูลของวันทาการตรวจเลือกแต่ละวันไว้ เพื่อนาส่งสัสดีจังหวัดท้องที่เพื่อเก็บไว้
เป็นหลักฐานตรวจสอบ
ก. จานวนการขอลดสิทธิวันรับราชการ
ข. จานวนผู้แทนมาแจ้งว่าทหารกองเกินป่วย
ค. จานวนผู้ขอยกเว้นหรือผ่อนผัน
ง. ถูกทุกข้อ

☺ บัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการหากจาเป็นต้องแก้ไขหากมีการเขียนผิด จะต้องแก้ไขอย่างไร
ก. ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกแดง เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อคาที่ผิด ให้ผู้รับผิดชอบลงชื่อกากับ
ข. ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกแดง เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อคาที่ผิดด้วยหมึกดาหรือน้าเงิน ให้ผู้รับผิดชอบลงชื่อกากับ
ค. ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกดาหรือน้าเงิน เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อคาที่ผิด ให้ผู้รับผิดชอบลงชื่อกากับ
ง. ผิดทุกข้อ

☺ หลังเสร็จสิ้นการตรวจเลือกของอาเภอแล้ว สัสดีอาเภอมีหน้าที่ต้องลงนามกากับบัญชีเรียกฯ ฉบับของอาเภอในข้อใด


ก. ผู้ที่จาหน่ายขาดในบัญชีเรียกฯ
ข. ผู้ที่จาหน่ายป่วยในบัญชีเรียกฯ
ค. ผู้ที่ไม่มาแสดงตนรับหมายเรียกฯ ในบัญชีเรียกฯ
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ พ.ต.ท.ประชุม อยู่เสมอ สวส.สภอ.ปัว จังหวัด น.น. มาแจ้งต่อกรรมการตรวจเลือกเพื่อขอรับตัว นายอุดมฯ ซึ่งกาลังเข้าแถวรอการเรียกชื่อ


เข้ารับการตรวจเลือก ไปดาเนินคดีข้อหาปล้นทรัพย์ ในการปฏิบัติต้องทาอย่างไร
ก. อนุญาตให้ พ.ต.ท.ประชุมฯ นาตัวไปได้เพราะยังมิได้เรียกชื่อเข้าตรวจเลือกฯ
ข. ให้รอจนกว่านายอุดมฯ จะทาการตรวจเลือกเสร็จเสียก่อนจึงให้รับตัวไปได้
ค. ให้รับตัวไปแล้วบันทึกบัญชีเรียกฯ ว่า“ ขาด ”และบันทึกหลักฐานให้ทราบว่า พ.ต.ท.ประชุม อยู่เสมอ สวส.สภอ.ปัว จังหวัด น.น.
มาขอรับตัวไปดาเนินคดีฐานปล้นทรัพย์
ง. ปฏิบัติได้ทั้ง ๓ กรณี

☺ นายสาเริง ดูดี เข้าไปพบกรรมการตรวจเลือกที่ อ.ภูกระดึง จังหวัด ล.ย. เพื่อขอเข้าตรวจเลือก ฯ เพราะตนเองเดินทางไปตรวจเลือกที่


อ.เมืองชัยภูมิ ตามหมายเรียกในวันเดียวกันไม่ทัน ผู้ใดต่อไปนี้มีอานาจพิจารณาให้ นายสาเริงฯ เข้าตรวจเลือกที่ อ.ภูกระดึง ได้
ก. ประธานกรรมการตรวจเลือก
ข. สัสดีอาเภอภูกระดึง
ค. นายอาเภอภูกระดึง
ง. ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย

☺ จากข้อ ๒๑๖. ถ้าผู้มีอานาจอนุญาตให้นายสาเริงฯ เข้าตรวจเลือกที่ อ.ภูกระดึงได้ การดาเนินการทางบัญชีเรียกฯ ของ อ.ภูกระดึง ข้อใดถูกต้อง


ก. จัดทาบัญชีเรียกฯ เฉพาะนายสาเริงฯ ขึ้นใหม่
ข. เพิ่มชื่อของนายสาเริงฯ ลงในบัญชีเรียกฯ และนาตัวเข้าตรวจเลือก
ค. ให้นายอาเภอภูกระดึงกาหนดภูมิลาเนาในท้องที่ของตนให้นายสาเริงชั่วคราวเพื่อบันทึก บัญชีเรียกฯ
ง. ถูกทั้ง ๓ ข้อ

☺ หากผลการจับสลากในวันตรวจเลือกปรากฏว่ามีพระภิกษุรูปหนึ่งจับสลากได้ ทบ.๒ ในการออกหมายนัดของนายอาเภอจะต้องเพิ่ม


ข้อความใดหรือไม่
ก. เพิ่มข้อความข้างหน้าบรรทัด “ ให้มา ณ ที่ ” ว่า “ ให้ลาสิกขา ”
ข. เพิ่มเติมต่อความบรรทัดสุดท้ายว่า “ เมื่อจะมาเข้ากองประจาการต้องลาสิกขาเสียก่อน ”
ค. เพิ่มเติมต่อความบรรทัดสุดท้ายว่า “ เมื่อจะมาเข้ารับราชการกองประจาการต้องลาสิกขาเสียก่อน ”
ง. ข้อ ก. และข้อ ค. ถูกต้อง

☺ หลักฐานในข้อใดที่สัสดีอาเภอต้องส่งมอบกับฝ่ายทหารสาหรับผู้ถูกเข้ากองประจาการ
ก. สาเนาทะเบียนบ้านของผู้ถูกเข้ากอง
ข. บัญชี ทบ.๑๐๐ – ๐๑๖ สอบความประพฤติของทหาร
ค. สาเนาบัญชีทหารกองเกิน
ง. ใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ และสาเนาหลักฐานการขอสิทธิลดวันรับราชการ

☺ ในการลงบัญชีคนที่ส่งเข้ากองประจาการในช่อง “ รูว้ ิชา ”, “ อาชีพ ” และ “ ศาสนา ” จะนาข้อมูลจากที่ใดมาบันทึก


ก. ข้อมูลที่สอบถามจากผู้ถูกเข้ากองไว้ก่อนในวันตรวจเลือกฯ
ข. บันทึกตามที่ปรากฏในบัญชีทหารกองเกิน
ค. บันทึกตามที่ปรากฏในทะเบียนกองประจาการ
ง. ไม่ต้องบันทึก ให้ขีด ( - ) เสียทุกช่อง

☺ ในช่องหมายเหตุของบัญชีคนที่ส่งเข้ากองประจาการ บุคคลประเภทใดจาต้องบันทึกสาเหตุที่ต้องส่งเข้ากองประจาการ
ก. ผู้จับได้สลากแดงทุกคน
ข. ผู้ที่ร้องขอเข้ากองประจาการ
ค. ผูท้ ี่พ้นจากการยกเว้น
ง. ถูกทั้งข้อ ข. และข้อ ค.

☺ ในการส่งคนเข้ากองประจาการทหารเรือผลัดที่ ๑ ของ อ.อมก๋อย จังหวัด ช.ม. จานวน ๒๑ นาย ในวันนั้นปรากฏว่า พระภิกษุอาข่า นกแล
ยังจาพรรษาอยู่ไม่มารายงานตัวเข้ากองประจาการ และให้ญาติมาแจ้งว่าจะขอรอฤกษ์ลาสิกขาอีก ๒ วัน หลังจากนั้นจึงจะมารายงานตัว ในการจัดทา
บัญชีคนที่ส่งเข้ากองประจาการจะต้องบันทึกแจ้งฝ่ายรับคนว่าอย่างใด
ก. “ ส่วนที่ยังขาดอยู่อีก ๑ คน ยังเป็นพระภิกษุอยู่ เมื่อลาสิกขาบทมาขึ้นทะเบียนแล้วจะส่งตัว และบัญชีรายชื่อภายหลัง ”
ข. “ ส่วนที่ยังขาดอยู่อีก ๑ คน ยังไม่ได้ลาสิกขาเพราะเป็นพระภิกษุ เมื่อลาสิกขาบทมาขึ้นทะเบียนแล้วจะส่งตัวและบัญชีรายชื่อภายหลัง ”
ค. “ ส่วนที่ยังขาดอยู่อีก ๑ คน ยังเป็นพระภิกษุอยู่ ถ้าพระภิกษุลาสิกขาบทมาขึ้นทะเบียนแล้วจะส่งตัวและบัญชีรายชื่อภายหลัง ”
ง. “ ส่วนที่ยังขาดอยู่อีก ๑ คน เมื่อได้ตัวมาขึ้นทะเบียนแล้วจะส่งตัวและบัญชีรายชื่อภายหลัง ”

☺ การบันทึกตามข้อ ๒๒๒. จะต้องบันทึกในบัญชีคนที่ส่งเข้ากองประจาการที่ใด


ก. ช่องหมายเหตุ
ข. ช่องขึ้นทะเบียนกองประจาการวัน เดือน พ.ศ.
ค. ช่องใดก็ได้ที่ว่างและเห็นว่าเหมาะสมที่จะบันทึก
ง. บันทึกท้ายบัญชี

☺ นายสีรัง บุญเชิญ เป็นผู้ที่อยู่ในบัญชีคนที่ขาดการตรวจเลือก เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกชื่อทั้งสองรอบแล้วก็ยังไม่มารายงานตัว สอบถามผู้ใหญ่บ้าน


ได้ความว่าไม่มีตัวและไม่มีหลักฐานบ้านเรือนอยู่ในท้องที่ จะบันทึกบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ในช่อง “ ได้รับหมายเมื่อใด หรือ ไม่ได้รับเพราะเหตุใด “
ว่าอย่างใด
ก. ขาด
ข. ไปจากท้องที่ไม่ทราบที่อยู่
ค. อพยพไปจากท้องที่
ง. ไม่มารับหมายตามมาตรา ๒๕

☺ นายแก้วฯ ต้องเข้ารับการตรวจเลือกในบัญชีคนที่พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน แต่ไม่สามารถเข้ารับการตรวจเลือกได้เพราะกาลังต้องโทษ


ในคดีข่มขืนกระทาชาเราอยู่ที่เรือนจาประจาจังหวัดอุบลราชธานี ในวันตรวจเลือกฯ นายน้าฯ ผู้เป็นบิดาจึงนาหนังสือรับรองจากเรือนจาฯ
มาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ ในการบันทึกบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ช่อง “ ได้รับหมายเมื่อใด หรือ ไม่ได้รับเพราะเหตุใด ” จะต้องบันทึกอย่างใด
ก. ไปจากท้องที่ไม่ทราบที่อยู่
ข. ต้องโทษคดีข่มขืนกระทาชาเรา อยู่ที่เรือนจาจังหวัดอุบลราชธานี
ค. ไม่มารับหมายตามมาตรา ๒๕
ง. ขาด

☺ เมื่อเรียกชื่อทหารกองเกินในบัญชีคนที่ขาดการตรวจเลือกแล้วปรากฏว่าทหารกองเกินผู้นั้นมารายงานตัวจะต้องปฏิบัติเช่นใด
ก. ให้ไปรับหมายเรียกกับเจ้าหน้าที่ และนาตัวเข้ารับการตรวจเลือก
ข. ยกรายชื่อไปอยู่ในบัญชีคนหลีกเลี่ยงขัดขืน และนาตัวเข้ารับการตรวจเลือก
ค. ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดาเนินคดี
ง. ถูกหมดทุกข้อ

☺ บัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ในช่อง “ กรรมการตรวจเลือกกาหนดว่าอย่างใด ” สาหรับบัญชีคนที่ขาดการตรวจเลือก หากมีทหารกองเกินมารายงานตัว


และได้มอบให้พนักงานสอบสวนดาเนินคดีตามความผิดตามที่นายอาเภอได้แจ้งไว้นั้น จะต้องบันทึกเช่นใด
ก. ส่งพนักงานสอบสวนรับตัวไปดาเนินการ
ข. พนักงานสอบสวนรับตัวไปดาเนินคดี
ค. มอบให้พนักงานสอบสวนรับตัวไปดาเนินการ
ง. ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนรับตัวไปดาเนินคดี

☺ เรื่องใดที่ต้องลงในช่องหมายเหตุในบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ด้วยหมึกก่อนวันตรวจเลือก


ก. คนที่เปลี่ยนชื่อสกุล
ข. คนที่ไม่มารับหมายแต่ พ.ศ.ก่อน
ค. คนที่หมดเหตุผ่อนผันแต่ พ.ศ.ก่อน
ง. คนที่ตกค้างบัญชี

☺ เรื่องใดที่ต้องลงในช่องหมายเหตุในบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ด้วยดินสอดาก่อนวันตรวจเลือก


ก. คนที่สละสิทธิ์ขอเข้าตรวจเลือก
ข. คนที่ร้องขอเข้ากองประจาการ
ค. คนที่ไปเข้าตรวจเลือกที่อื่น
ง. คนที่พ้นโทษ

☺ เรื่องใดที่ต้องลงในช่องหมายเหตุในบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ด้วยดินสอดาในวันตรวจเลือก


ก. คนที่มีผู้แทนมาแจ้งว่าป่วย
ข. คนที่หมดเหตุผ่อนผันแต่ พ.ศ.ก่อน
ค. คนที่กรรมการจัดเป็นคนจาพวกที่ ๓ แต่ปีก่อนแต่ไม่นับครั้งให้
ง. ไม่มีข้อใดถูก
☺ นายสายัณห์ฯ เข้ารับการตรวจเลือกและถูกกาหนดให้จับสลาก แต่ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเรียกชื่อให้ไปรอจับสลากนั้นเกิดใจไม่สู้กลัวโดนใบแดง
จึงหนีกลับบ้านเสียก่อน เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกชื่อ นายสายัณห์ฯ ให้จับสลาก ก็ไม่มา จะต้องบันทึกการหลบหนีในบัญชีเรียกฯ ในช่องใด
ก. ช่อง จับสลากถูกอย่างใด
ข. ช่อง หมายเหตุ
ค. ช่อง คณะกรรมการตรวจเลือกกาหนดว่าอย่างใด
ง. ช่อง เรียกชื่อแล้วปรากฏว่า

☺ “ หลบหนีไปก่อนขึ้นทะเบียนกองประจาการ ” ใช้ในกรณีที่มีการส่งตัวเข้ากองประจาการในวันตรวจเลือกและหลบหนีไปก่อนขึ้นทะเบียนฯ
ซึ่งจะต้องบันทึกไว้ในบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ในช่องใด และผู้ใดลงชื่อกากับ
ก. ช่อง หมายเหตุ และกรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑ ลงชื่อ
ข. ช่อง หมายเหตุ และกรรมการสัสดีจงั หวัดลงชื่อ
ค. ช่อง คณะกรรมการตรวจเลือกกาหนดว่าอย่างใด และกรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑ ลงชื่อ
ง. ช่อง คณะกรรมการตรวจเลือกกาหนดว่าอย่างใด และกรรมการสัสดีจังหวัดลงชื่อ

☺ ในการวินิจฉัยโรคและลักษณะพิการของกรรมการแพทย์ในการตรวจเลือกฯ หากยังมีความสงสัย ในลักษณะโรคหรืออาการพิการนั้นๆ


จะต้องปฏิบัติอย่างไร
ก. จัดเป็นคนจาพวกที่ ๒ หรือ ๔ เพื่อให้ประธานกรรมการปล่อยตัว
ข. ส่งต่อโรงพยาบาลของกองทัพบกที่ใกล้เคียงให้วินิจฉัยต่อไป
ค. จัดเป็นคนจาพวกที่ ๓ ไปพลางก่อนฯ
ง. จัดเป็นคนจาพวกที่ ๑ ก่อน

☺ ถ้าหากในการตรวจเลือกฯ เมื่อคณะกรรมการดาเนินการคัดเลือกแล้วปรากฏว่ามีคนจาพวกที่ ๑ สูง ๑๖๐ ซม.ขึ้นไปไม่พอกับจานวนที่ต้องการ


จะต้องเลือกคนประเภทใด เป็นอันดับต่อไปก่อน
ก. คนผ่อนผัน
ข. คนจาพวกที่ ๒
ค. คนจาพวกที่ ๑ ที่สูง ๑๕๙ ซม.
ง. ถูกทุกข้อ

☺ การเขียนชื่อโรคในข้อใดถูกต้อง
ก. ลิ้นหัวใจพิการ
ข. ลิ้นหัวใจพิการ ( Mitral Stenosis )
ค. ลิ้นหัวใจพิการ ( Aortic Regurgitation )
ง. ถูกทุกข้อ

☺ การวินิจฉัยภาวะอ้วน หรือโรคอ้วนพี (Obesity ) ใช้เกณฑ์ใดในการวินิจฉัย


ก. ดัชนีไขมันของร่างกาย
ข. ดัชนีน้าหนักของร่างกาย
ค. ดัชนีความหนาของร่างกาย
ง. ดัชนีความอ้วนของร่างกาย

☺ ในการวินิจฉัยว่าทหารกองเกินผู้ใดมีภาวะอ้วน ( Obesity ) ใช้สูตรใดในการคานวณ


ก. น้าหนักตัวเป็นกิโลกรัม
ความสูงเป็นเซนติเมตร
ข. น้าหนักตัวเป็นปอนด์
ความสูงเป็นนิ้ว
ค. น้าหนักตัวเป็นกิโลกรัม
ความสูงเป็นเซนติเมตรยกกาลังสอง
ง. น้าหนักตัวเป็นกิโลกรัม
ความสูงเป็นเมตรยกกาลังสอง

☺ ในการควบคุมการใช้แบบพิมพ์บัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) นั้น เมื่อได้ดาเนินการตรวจเลือกเสร็จสิ้นแล้ว หากมีเหลือสัสดีจังหวัดจะต้องส่งคืน นสร.ทบ.


ภายในกาหนดเท่าใดนับแต่วันเสร็จสิ้นการตรวจเลือกของจังหวัดตนเอง
ก. ๗ วัน
ข. ๑๐ วัน
ค. ๑๕ วัน
ง. ๓๐ วัน
☺ ข้อใดเป็นแนวทางการปฏิบัติในการเขียนชื่อโรคของกรรมการแพทย์ได้ถูกต้อง
ก. ให้ถือภาษาไทยเป็นหลัก
ข. ถ้าชื่อโรคมีภาษาอังกฤษประกอบ จะเขียนหรือไม่ก็ได้
ค. ให้เขียนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษประกอบ
ง. ข้อ ก. และข้อ ข. ถูก

☺ เรื่องใดมิใช่เรื่องทีค่ ณะสังเกตการณ์ตรวจเลือกจะต้องสังเกตการณ์
ก. การแต่งกายของกรรมการและเจ้าหน้าที่
ข. การเก็บยอดเพื่อเตรียมการในการจับสลาก
ค. การส่งคนเข้ากองประจาการในวันตรวจเลือก
ง. การปฏิบัติหน้าที่ของสัสดีอาเภอ

☺ ผู้ใดไม่มีหน้าที่ประจาที่โต๊ะ ๒ การตรวจร่างกายและกาหนดคนเป็นจาพวก
ก. เจ้าหน้าที่เดินบัญชีเรียกและใบรับรองผล
ข. เจ้าหน้าที่จัดคนเป็นจาพวก
ค. เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกรรมการแพทย์
ง. เจ้าหน้าที่ของนายอาเภอบันทึกบัญชีเรียกฯ

☺ ข้อใดเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการชั้นสูงที่ถูกต้อง
ก. พิจารณาตัดสินกรณีมีคาร้องของทหารกองเกินซึ่งเห็นว่าคณะกรรมการตรวจเลือกกระทาการทุจริต
ข. พิจารณาตัดสินกรณีมีคาร้องของผู้ที่ต้องเข้ากองประจาการซึ่งเห็นว่าคณะกรรมการตรวจเลือกมีการทุจริตต่อหน้าที่
ค. พิจารณาตัดสินกรณีมีคาร้องของผู้ที่ต้องเข้ากองประจาการซึ่งเห็นว่าคณะกรรมการตรวจเลือกตัดสินไม่ถูกหรือไม่ยุติธรรม
ง. มีหน้าที่ตัดสินได้ทุกข้อ

☺ การจัดเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือคณะกรรมการตรวจเลือกแต่ละคณะข้อใดผิด
ก. เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือของกรรมการสัสดีจังหวัดอาจจัดนายทหารยศไม่เกิน ร.อ. ไปด้วยก็ได้
ข. กรรมการสัสดีจังหวัดมีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ๔ นาย
ค. ถ้าจัดนายทหารสัญญาบัตรเป็นเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ๑ นาย ก็ต้องลดยอดนายทหารประทวน ลง ๑ นาย ด้วย
ง. ที่กล่าวมาทั้ง ๓ ข้อ ยังไม่มีข้อใดผิด

☺ การลงบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ของบัญชีคนผ่อนผันในข้อใดลงด้วยดินสอดาในช่องหมายเหตุไว้ถูกต้อง


ก. ศิลปากร
ข. คนผ่อนผัน
ค. ผ่อนผัน
ง. ผ่อนผันตามมาตรา ๒๙(๓)

☺ สภาพของคณะกรรมการตรวจเลือกจะหมดสิ้นไปเมื่อใด
ก. เมื่อทาการตรวจเลือกวันสุดท้ายเสร็จสิ้น
ข. เมื่อจัดส่งเอกสารหลักฐาน และเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ คืนหน่วยที่รับมาเรียบร้อยแล้ว
ค. เมื่อรายงานผลการตรวจเลือกเสร็จสิ้นแล้ว
ง. ถูกทั้งข้อ ข. และข้อ ค.

☺ ผู้ใดเป็นผู้ขึ้นทะเบียนกองประจาการสาหรับบุคคลทีต่ ้องส่งเข้ากองประจาการในวันตรวจเลือก
ก. ประธานกรรมการ
ข. กรรมการสัสดีจังหวัด
ค. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑
ง. นายอาเภอท้องที่

☺ ในการเรียกชื่อและบันทึกผลการจับสลากในบัญชีเรียกฯ (สด.๑๖) ในขั้นตอนการจับสลากซึ่งเป็นหน้าที่ของกรรมการสัสดีจังหวัด


ทั้งนี้การดาเนินการจะต้องทาคู่กับกรรมการใด
ก. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑
ข. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒
ค. กรรมการแพทย์
ง. ถูกทั้งข้อ ข. และข้อ ค.

☺ เรื่องใดที่ประธานกรรมการไม่จาเป็นต้องแจ้งให้ผู้ที่จะต้องจับสลากทราบก่อนเริ่มทาการจับสลาก
ก. มีผู้ใดต้องการจะร้องขอเข้ากองประจาการอีกหรือไม่
ข. จานวนผู้ต้องจับสลากกี่คน
ค. แผนก ทร.๔ จะต้องเข้ารับราชการในวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ปีถัดไป
ง. เมื่อผู้ใดจับสลากขึ้นมาแล้วให้ส่งให้กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒

☺ ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับสลาก
ก. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑ ต้องแจ้งยอดคนที่ต้องจับสลากให้กรรมการสัสดีจังหวัดทราบ
ข. เรียงลาดับการจับสลากก่อน-หลังของตาบลตามบัญชีเรียกฯ
ค. สลากแดงให้เอาจานวนคนที่ต้องส่งเข้ากองฯ ในวันนั้น หักคนร้องขอฯ และคนหลีกเลี่ยงขัดขืนออก
ง. สลากดาให้มีเท่ากับจานวนคนที่ต้องจับสลาก

☺ ขั้นตอนการตรวจสอบปล่อยตัว ข้อใดถูกต้อง
ก. คนขนาดถัดรองจะต้องปล่อยตัวต่อจากคนจาพวกที่ ๓
ข. คนที่ร้องขอเข้ากองประจาการจะได้รับการปล่อยตัวเป็นอันดับแรก
ค. คนผ่อนผันจะต้องปล่อยตัวก่อนคนจาพวกที่ ๒
ง. คนผ่อนผันให้แยกไปดาเนินการปล่อยตัวต่างหากพร้อมกับการดาเนินการตรวจเลือก
☺ ข้อใดไม่ใช่ การจัดระเบียบในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ?
ก. กาหนดยศ บรรดาศักดิ์ข้าราชการ ข. จัดทาเนียบหัวเมืองต่าง ๆ
ค. ออกกฎหมายเทียบศักดินา ง. รวมอานาจด้านพลเรือนและด้านทหาร

☺ ข้อใดไม่ใช่ วิธีการเกณฑ์กาลังพลทหารโดยทั่วไป ?
ก. คัดเลือกชายฉกรรจ์ ข. วางระเบียบควบคุม
ค. วางระเบียบระดมพล ง. ฝึกอบรมยุทธวิธี

☺ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ครองราชย์นานกว่าสมเด็จพระรามาธิบดีกี่ปี ?
ก. ๒ ข. ๑
ค. เท่ากัน ง. ผิดทุกข้อ

☺ แผนกสรรพกาลัง ทภ. มีนายทหาร ชกท.(๒๓๑๐) กี่ตาแหน่ง?


ก. ๑ ข. ๒
ค. ๓ ง. ๔

☺ ฝ่ายสรรพกาลัง มทบ. มีนายทหาร ชกท.(๒๓๑๐) อย่างไร ?


ก. มากกว่า ฝ่ายสรรพกาลัง ทภ. ข. น้อยกว่า ฝ่ายสรรพกาลัง ทภ.
ค. เท่ากันกับ ฝ่ายสรรพกาลัง ทภ. ง. ผิดทุกข้อ

☺ บุคคลประเภทใดคือทหารกองเกินตามความหมายของ พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ?


ก. ในปีที่บุคคลมาลงบัญชีทหารกองเกินตามประกาศของนายอาเภอแล้ว
ข. บุคคลอายุสามสิบ ปี มาขอลงบัญชีทหารกองเกินตาม มาตรา ๑๘
ค. บุคคลที่มีอายุไม่ถึงสามสิบปีบริบรู ณ์ ไม่เคยลงบัญชีทหารกองเกิน
ง. บุคคลที่เคยลงบัญชีตามมาตรา ๑๖ และจะคัดรายชื่อลงในบัญชีเรียก ฯ(แบบ สด.๑๖) ปีถัดไป

☺ พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ เป็นกฎหมายอาญาประเภทหนึ่งจาต้องใช้หลักเกณฑ์กาหนดความรับผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมาย


อาญาในภาค ๑ มาใช้บังคับแก่กรณีที่บุคคลใดจะต้องรับผิดทางอาญาด้วย อยากทราบว่าบทบัญญัติของพระราชบัญญัติรับราชการทหารมาตราใด
อยู่ภายใต้หลักเกณฑ์เดียวกันกับประมวลกฎหมายอาญา ?
ก. มาตรา ๑๖ ประกอบด้วยมาตรา ๔๒
ข. มาตรา ๑๘ ประกอบด้วยมาตรา ๔๓
ค. มาตรา ๓๖ ประกอบด้วยมาตรา ๔๗
ง. ถูกทุกข้อ

☺ การลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๖ แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ท่านควรจะมีความรู้ ตามกฎหมายใดมากที่สุด ?


ก. พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘
ข. พระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ.๒๕๓๕
ค. พระราชบัญญัติบัตรประจาตัวประชาชน พ.ศ.๒๕๒๕
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ในการแก้ชื่อตัวชื่อสกุลตามมาตรา ๑๒ ทวิ ข้อใดกล่าวถูกต้อง ?


ก. นาหลักฐานแจ้งนายอาเภอท้องที่ที่ตนอยู่ภายใน ๓๐ วัน นับแต่ได้รับอนุญาต
ข. นายอาเภอออกใบรับ และแก้หนังสือสาคัญ
ค. นายอาเภอออกใบรับ และแก้ใบสาคัญซึ่งออกให้ทหารกองเกินตามมาตรา ๑๖
ง. ถูกทุกข้อ
☺ บุคคลประเภทใดไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ?
ก. สามเณรสอบได้นักธรรมตรีได้รับการยกเว้นตาม ม.๑๔(๑) ต่อมาอายุ ๒๙ปี ขอลาสิกขาบทไม่มา แจ้งนายอาเภอ
ข. นายดี กาลังจะขึ้นรถโดยสารไปคัดเลือกทหารที่อาเภอแต่ถูกตารวจจับกุมพลขับระหว่างทาง ข้อหามียาเสพติดไว้ใน
ครอบครองจึงขาดการตรวจเลือก
ค. นายดาได้รับอนุญาตจากนายอาเภอท้องที่ที่มิใช่ภูมิลาเนาทหารให้เปลี่ยนชื่อสกุลไม่นาเอกสาร ไปแก้ไขหลักฐานทางทหาร
ที่อาเภอภูมิลาเนาทหารเพราะถือว่านายอาเภอทราบแล้ว
ง. นายอาเภอส่งดาเนินคดีบุคคลที่กระทาผิดตามมาตรา ๒๕ ในเดือน พ.ค. และแนบประกาศ (แบบ สด.๓๙) ไปด้วย

☺ ข้อใดเป็นการแจ้งย้ายภูมิลาเนาทหารตาม มาตรา ๑๒ ที่ถูกต้องแล้ว ?


ก. เมื่อแจ้งต่อนายอาเภอท้องที่ว่าย้ายมามีที่อยู่เป็นหลักฐานและไม่ประสงค์จะหลีกเลี่ยงการรับ ราชการทหาร
ข. เมื่อแจ้งต่อนายอาเภอท้องที่ว่าย้ายมาประกอบอาชีพเป็นประจาหรือมีที่อยู่เป็นหลักฐานและไม่ ประสงค์จะ หลีกเลี่ยง
การรับราชการทหาร
ค. เมื่อนายอาเภอท้องที่สอบสวนได้ความจริงตามข้อ ข. และนายอาเภอเดิมตอบยืนยันเป็นการ ถูกต้องแล้ว
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข

☺ ข้อใดน่าจะเป็นเหตุที่ต้องปฏิบัติตาม มาตรา ๑๙ แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ?


ก. น้าท่วมอาเภอ
ข. ไพไหม้โต๊ะสัสดีอาเภอเสียหาย
ค. ไฟไหม้ที่ว่าการอาเภอเสียหายทั้งหลังแต่หน่วยสัสดีอาเภอซึ่งตั้งอยู่อีกหลังปลอดภัย
ง. สมศักดิ์ โกธรแค้น สัสดี มากจึงเผาเอกสารราชการเสียหายทั้งหมด

☺ นายสมชาย ยุบพรรค จับสลากถูกเข้ากองประจาการแผนก ทร.๔ จะต้องเข้ากองประจาการ ในเดือน ก.พ.๔๘ (เข้าตรวจเลือกฯ เมื่อ


๔ เม.ย.๔๗) ท่านจะบันทึกทะเบียนกองประจาการว่าอย่างใด ?
ก. บันทึกริมซ้ายตรงบรรทัดอายุว่า “ ถูกเข้ากองประจาการ ๔ เม.ย.๔๗ เพิ่งเข้ารับราชการ
ข. บันทึกริมซ้ายตรงบรรทัดอายุว่า “ ถูกเข้ากองประจาการ เม.ย.๔๗ เพิ่งเข้ารับราชการ ”
ค. บันทึกบรรทัดเพราะ.. ว่า “ ถูกเข้ากองประจาการ ๔ เม.ย.๔๗ เพิ่งเข้ารับราชการ ”
ง. บันทึกบรรทัดเพราะ.. ว่า “ ถูกเข้ากองประจาการ เม.ย.๔๗ เพิ่งเข้ารับราชการ ”

☺ ผู้ที่หลีกเลี่ยงขัดขืนมีอายุเกินกว่ากาหนดสั่งเรียก และมีคุณวุฒิพิเศษซึ่งจะอยู่ในกองประจาการน้อยกว่า ๒ ปีได้ ให้บันทึกข้อความในทะเบียน


กองประจาการ (แบบ) สด.๓) ดังนี้ ?
ก. บรรทัดเพราะ .... บันทึกด้วยหมึกดาว่า “ ร้องขอเข้ากองประจาการ ”
ข. ตรงบรรทัดอายุริมซ้ายทะเบียนบันทึกด้วยหมึกแดงว่า “ หลีกเลี่ยงการเรียก ”
ค. บันทึกที่ด้านหลังทะเบียนกองประจาการ ผู้บันทึกลงชื่อกากับ
ง. ต้องบันทึกทั้งข้อ ก. และ ข้อ ข.

☺ หมายเรียกที่จะมอบคนอายุธรรมดาในปี พ.ศ.๒๕๕๒ ข้อใดคัดเสร็จตามกาหนด


ก. ธันวาคม ๒๕๕๑ ข. มกราคม ๒๕๕๒
ค. พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ง. พฤศจิกายน ๒๕๕๒

☺ “นายบุญมี บุญมานนท์” ได้สัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติเพราะเดิมทีเดียวเป็นคนใต้หวั่น ได้เดินทาง มาลงบัญชีทหารกองเกินที่


เขตบางกะปิ กมท. สิทธิในการยกเว้นไม่เรียกมาตรวจเลือกเข้ารับราชการทหาร กองประจาการในยามปกติเกิดขึ้นเมื่อใด
ก. เมื่อได้สัญชาติ
ข. เมื่อมาแสดงตนลงบัญชีทหาร
ค. เมื่อมารับหมายเรียก
ง. เมื่อมาเข้ารับการตรวจเลือก

☺ เมื่อคณะกรรมการได้แบ่งคนเป็นจาพวกแล้ว นายทหารนักเรียนว่า คนจาพวกใด คณะกรรมการจะต้องปล่อยคนจาพวกนั้นอย่างแน่นอน


ก. คนจาพวก ๑ ข. คนจาพวก ๒
ค. คนจาพวก ๓ ง. ไม่แน่นอนสักจาพวกเลยครับ

☺ พระภิกษุที่ถูกเข้ากองประจาการ ให้ผ่อนผันเพื่อไปลาสิกขาได้ไม่เกิน ๑๐ วัน นับแต่เมื่อใด


ก. เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจเลือกคนในวันนั้น
ข. เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจเลือกคนในอาเภอนั้น
ค. เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจเลือกคนในจังหวัดนั้น
ง. เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจเลือกคนในจังหวัดทหารบกนั้น

☺ การบันทึกคนจาพวกที่ ๔ ในใบรับรองผล (แบบ สด.๔๓) ของกรรมการแพทย์ ข้อใดถูกต้องที่สุด


ก. ตับแข็ง
ข. ตับแข็ง ตามกฎกระทรวงฉบับที่ ......
ค. ตับแข็ง ตามกฎกระทรวงฉบับที่ ......ข้อ....(....)
ง. ตับแข็ง ตามกฎกระทรวงฉบับที่ ......ข้อ.... (....) (....)

☺ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ ครองราชย์ มากกว่า สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ กี่ปี?


ก. ๑ ปี ข. ๒ ปี
ค. ๓ ปี ง. ผิดทุกข้อ

☺ พระสุรัสวดี เป็นรูปเทวดานั่งบนฐานสูง มีผ้าทิพย์ห้อยหน้าพระหัตถ์ซ้ายถืออะไร ?


ก. พระขรรค์ ข. สารบัญชีไพร่พล
ค. ขนนก ง. หอยสังข์

☺ ปัจจุบันรูปแกะสลักลอยของ พระสุรัสวดี ทาโดยช่างหลวงสมัยกรุงธนบุรี ทาด้วยอะไร ?


ก. หิน ข. ไม้
ค. โลหะ ง. ทองคา

☺ พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระราเมศวร ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ทาเนียบยศ ข. ทาเนียบหัวเมือง
ค. ทาตาราพิชัยสงคราม ง. ตั้งจตุสดมภ์

☺ การทหารในสมัย ร. ๕ ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องที่สุด
ก. การสักเลก เมื่อบุตรอายุ ๑๖ ปี รับราชการทหารไปจนอายุ ๗๐ ปี
ข. การสักเลก เมื่อบุตรอายุ ๑๘ ปี อายุเกิน ๔๐ ปี ไม่ต้องเข้ารับราชการทหาร
ค. การสักหมาย เมื่อบุตรอายุ ๑๘ ปี อายุเกิน ๔๐ ปีไม่ต้องเข้ารับราชการทหาร
ง. การสักหมาย เมื่อบุตรอายุ ๑๖ ปี รับราชการทหารไปจนอายุ ๗๐ ปี

☺ การบันทึกทะเบียนกองประจาการ ผู้ที่มีอายุเกินกว่ากาหนดเรียก ให้บันทึกที่ริมซ้าย ตรงบรรทัดอายุ ด้วยหมึกสีแดง ดังนี้


ก. บุคคลที่ส่งหมายเรียกไม่ได้ บันทึกว่า ส่งหมายไม่ได้
ข. บุคคลที่หลีกเลี่ยงขัดขืน บันทึกว่า หลีกเลี่ยงขัดขืน
ค. บุคคลที่มีอายุต่ากว่ากาหนดสั่งเรียก บันทึกว่า ออกหมายเรียกผิดอายุ
ง. บุคคลที่มีอายุเกินกว่า ๒๑ ปี ได้ร้องขอเข้ากองประจาการ บันทึกว่า ตกค้างบัญชี

☺ นายอาเภอได้พิจารณาอนุญาตให้ทหารประจาการผูใ้ ดลาป่วยต่อได้ ให้มีหนังสือแจ้งให้หน่วยต้นสังกัด ของทหารผู้นั้นทราบ อยากทราบว่า


นายอาเภออนุญาตได้กี่วัน
ก. อนุญาตไม่ควรเกิน ๗ วัน
ข. อนุญาตได้ ๗ วัน
ค. อนุญาตได้ไม่ควรเกิน ๗ วัน หรือ ตามความเห็นแพทย์
ง. ไม่สามารถอนุญาตให้ลาป่วยได้

☺ การแก้ไขแบบพิมพ์ หนังสือสาคัญ และใบสาคัญ มีการปฎิบัติดังนี้


ก. ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง ไม่ประทับตรา ข. ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง ประทับตรา
ค. ขีดฆ่าด้วยหมึกดา ไม่ประทับตรา ง. ขีดฆ่าด้วยหมึกดา ประทับตรา

☺ การเลื่อนยศเป็นนายทหารสัญญาบัตร เราจะปฏิบัติอย่างไร ในทะเบียนกองประจาการ(แบบ สด. ๓)


ก. ให้บันทึกริมซ้ายตรงบรรทัดชื่อผู้ขึ้นทะเบียน ข. ให้บันทึกริมซ้ายตรงที่ว่าง
ค. ให้บันทึกที่หมายเหตุ ง. ให้บนั ทึกตรงที่มีที่ว่าง

☺ หน่วยงานที่ไม่เกี่ยวข้อง ในการจัดทาบัญชีท้องที่เปลี่ยนแปลง
ก. หน่วยสัสดีอาเภอ ข. สานักงานสัสดีจังหวัด
ค. สัสดีจังหวัดทหารบก ง. ฝ่ายสรรพกาลังมณฑลทหารบก

☺ ข้อใดกล่าวถูกต้องกรณีที่มีททหารกองเกินร้องขอเกินยอดแบ่งเฉลี่ย
ก. วันแรกเต็มเกินยอดแบ่งเฉลี่ย ให้ยกยอดที่เกินทั้งหมดให้อาเภอหรือวันถัดไป
ข. วันแรกเต็มเกินยอดแบ่งเฉลี่ย ให้ยกยอดที่เกินให้อาเภอหรือวันที่ตั้งเป้าไว้ให้สมัครเต็ม
ค. การแบ่งยอดที่เกินให้อาเภอใดหรือวันใดนั้น เป็นหน้าที่ของประธานกรรมการฯ
ง. การแบ่งยอดที่เกินให้อาเภอใดหรือวันใดนั้น เป็นหน้าที่ของสัสดีจังหวัดท้องที่นั้น

☺ ระเบียบเกี่ยวกับการผ่อนผันฉบับใหม่ กาหนดอายุสาหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่ได้รับการผ่อนผันตาม ม.๒๙(๓) ไว้ไม่เกินกี่ปี


ก. ๒๒ ปี ข. ๒๖ ปี
ค. ๒๗ ปี ง. ไม่มีข้อถูก
☺ ใครเป็นผู้ส่งบัญชีเรียกฯ (แบบ สด.๑๖) ไปยังโต๊ะที่ ๓ เพื่อให้จนท.ของกรรมการสัสดีจงั หวัดเรียกชื่อวัดขนาด
ก. กรรมการผู้ประกอบโรคศิลปะฯ ข. จนท.กรรมการสัสดีจงั หวัดโต๊ะที่ ๒
ค. กรรมการสัสดีจังหวัด ง. ประธานกรรมการตรวจเลือก

☺ ใครเป็นผู้นาใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ (แบบ สด.๔๓) มามอบให้กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒ เพื่อให้ทาการวัดขนาด


ก. ทหารกองเกิน ข. จนท.กรรมการสัสดีจงั หวัด
ค. จนท.กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒ ง. จนท.กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑

☺ การกาหนดคนเข้ากองประจาการ ถ้าคนจาพวกที่ ๑ ขนาดถัดรอง มีไม่พอกับจานวนที่ต้องการ ให้เลือกคนจาพวกที่ ๒ ถ้ายังไม่พออีก


ให้เลือกจากคนจาพวกใด
ก. คนที่จะได้รับการผ่อนผัน ข. คนจาพวกที่ ๓
ค. มีขนาดสูงตั้งแต่ ๑๔๖ ซ.ม. ขึ้นไป ง. คนผ่อนผัน

☺ ข้อใดไม่ใช่ การจัดระเบียบในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ?
ก. กาหนดยศ บรรดาศักดิ์ข้าราชการ ข. จัดทาเนียบหัวเมืองต่าง ๆ
ค. ออกกฎหมายเทียบศักดินา ง. รวมอานาจด้านพลเรือนและด้านทหาร

☺ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ ครองราชย์ ในห้วง พ.ศ. ใด ?


ก. ๒๐๓๑ – ๒๐๗๒ ข. ๒๐๓๒ – ๒๐๗๒
ค. ๒๐๓๔ – ๒๐๗๒ ง. ๒๐๓๔ – ๒๐๗๑

☺ ข้อใดไม่ใช่การวางระเบียบการทหารของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ ?
ก. ทาพิธีเกณฑ์พล ระดมพล ข. ทาตาราพิชัยสงคราม
ค. การทาสารบาญชี ง. จัดการสักเลขให้กับไพร่พล

☺ ล่าสุดการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาโอนภารกิจ ความรับผิดชอบหน้าที่กองสัสดี กรมเสมียนตรา ให้กบั กรมใด ใน กห.?


ก. กรมกาลังพลทหาร ข. กรมสัสดีทหาร
ค. กรมการสรรพกาลังทหาร ง. กรมการรักษาดินแดน

☺ ข้อใด ไม่ใช่ งานในหน้าที่สัสดีจังหวัด ?


ก. ภาค ๑ การเรียก การตรวจเลือก เตรียมพล ข. ภาค ๒ ทะเบียนบัญชี ทหารหนี
ค. ภาค ๓ ป่วย จาหน่าย ย้ายหนี ง. ภาค ๔ ธุรการ งบประมาณ การเงิน

☺ สานักงานสัสดีกรุงเทพ มีตาแหน่ง ผช.อัตรา จ. (พ) จานวนกี่นาย ?


ก. ๑ ข. ๒
ค. ๓ ง. ผิดทุกข้อ

☺ ข้อใดไม่ใช่เครื่องมือเครื่องใช้สาหรับคณะกรรมการตรวจเลือก ?
ก. สถานที่ตรวจเลือก ข. ไม้วัดส่วนสูง
ค. เครื่องขยายเสียง ง. ภาชนะใส่สลาก

☺ ค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ อยู่ในพื้นที่ ทภ. ใด ?


ก. ๑ ข. ๒
ค. ๓ ง. ๔

☺ ข้อความต่อไปนี้ ข้อความในข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับภูมิลาเนาทหาร ?


ก. ทหารกองเกิน ทหารกองประจาการ ทหารกองหนุน ต้องมีภูมิลาเนาทหาร และต้องมีเพียงแห่งเดียว
ข. การที่ทหารกองเกินได้ย้ายไปทามาหากินเป็นประจาในท้องที่อาเภออื่น เกิน ๓๐ วัน แม้ไม่แจ้งย้าย ภูมิลาเนาทหาร ก็ไม่มีความผิด
ตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร
ค. ในการแจ้งย้ายภูมิลาเนาทหาร ผู้ที่ประสงค์จะแจ้งย้าย จะต้องแจ้งต่อนายอาเภอภูมิลาเนาทหารภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่
วันเข้าอยู่ในท้องที่ใหม่
ง. ทั้ง ก. ข. และ ค. ไม่มีข้อใดไม่ถูกต้อง

☺ บุคคลในข้อใดได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเข้ารับราชการทหารกองประจาการ ?
ก. ซมชาย ฯ มีสัญชาติไทย เป็นนักบวชในพระพุทธศาสนาแห่งนิกายจีน จบเปรียญธรรม ๔ ประโยค
ข. สามเณรสมชาย มีสัญชาติไทย จบเปรียญธรรม ๓ ประโยค
ค. ชมซาย ฯ ได้สัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ
ง. ไม่มีข้อถูก
☺ บุคคลตามข้อใด เมื่อไปอยู่ต่างท้องที่ชั่วคราวเกิน ๓๐ วัน ต้องแจ้งต่อนายอาเภอ ตามมาตรา ๑๒ ?
ก. สมชาย ฯ กาลังจะไปลงบัญชีทหารกองเกินตาม มาตรา ๑๙ ในวันนี้
ข. สมศักดิ์ ฯ เป็นบุคคลตาม มาตรา ๒๐ แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗
ค. ทั้ง ก. และ ข. มีหน้าที่ ตาม มาตรา ๑๒
ง. ทั้ง ก. และ ข. ไม่มีหน้าที่ ตาม มาตรา ๑๒

☺ บุคคลตามข้อใดได้รับการยกเว้นไม่ต้องรับราชการทหารกองประจาการแต่กฎหมายบังคับให้ลงบัญชีทหารกองเกิน ?
ก. พระภิกษุที่เป็นนักธรรม ข. สามเณรที่เป็นนักธรรม
ค. คนพิการทุพพลภาพ ง. ถูกทุกข้อ

☺ บุคคลตามข้อใด ได้รับการยกเว้นไม่เรียกมาเข้ารับการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจาการ ในเวลาปกติ ?


ก. นายสมชาย ฯ เป็นทหารหารกองเกิน แต่ เป็นคนวิกลจริตที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ
ข. นายสมควร ฯ เป็นทหารกองเกิน กาลังปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยทหารในราชการสนาม
ค. นักเรียนนายสิบสมศักดิ์ ฯ อายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ กาลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนายสิบทหารบก
ง. ไม่มีข้อถูก

☺ ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการยกเว้นไม่เรียกเข้ากองประจาการ สาหรับศาสนาโรมันคาทอลิค ?
ก. เจ้าอธิการวัดและผู้ช่วยเจ้าอธิการวัดรวม ๓ คน แล้วแต่เจ้าอธิการวัดจะเห็นสมควรออกใบสาคัญ ให้แก่ผู้ใด
ข. ผู้มีความรู้สอนศาสนาได้ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หรือผู้ช่วยหัวหน้าในสานักสอนศาสนาสานักใหญ่ แห่งละ ๓ คน แล้วแต่ผู้เป็นหัวหน้า
จะขอใบสาคัญให้ใคร
ค. หัวหน้าสานัก และผู้ช่วยหัวหน้าสานักผู้มีความรู้สอนศาสนาได้ อีก ๓ คน แล้วแต่ผู้เป็นหัวหน้า จะ ขอใบสาคัญให้ใคร
ง. ไม่มีข้อถูก

☺ ความในข้อใดต่อไปนี้ กล่าวถูกต้องที่สุด เกี่ยวกับการเป็นทหารกองเกิน ?


ก. ผู้ซึ่งลงบัญชี ฯ ตามมาตรา ๑๖ แล้ว จะเป็นทหารกองเกินในเดือนมกราคมของปีถัดไป
ข. ผู้ซึ่งลงบัญชี ฯ ตามมาตรา ๑๘ แล้ว จะเป็นทหารกองเกินในวันที่ ลงบัญชี
ค. ผู้ซึ่งลงบัญชี ฯ ตามมาตรา ๑๙ แล้ว จะเป็นทหารกองเกินในวันที่ลงบัญชี
ง. ทั้ง ก., ข. และ ค. กล่าวถูกต้อง

☺ ความในข้อใดต่อไปนี้ ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการลงบัญชีทหารกองเกิน ?
ก. การลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๖ กฎหมายบังคับคนเพียง ๑ ปีเท่านั้น
ข. การลงบัญชีทหารกองเกินกาหนดไว้ ๓ กรณี คือกรณีปกติตามมาตรา ๑๖ กรณีตกค้างตามมาตรา ๑๘ และการลงบัญชีใหม่
ตามมาตรา ๑๙ ซึ่งการลงบัญชีทั้ง ๓ กรณีดังกล่าว กฎหมายบัญญัติไว้ว่า ถ้ามีความจาเป็นไม่สามารถไปลงบัญชีด้วยตนเองได้
ก็สามารถให้มีการลงบัญชีทหารกองเกินแทนได้
ค. การลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๙ ต้องไปลงบัญชีภายใน ๙๐ วัน นับแต่วันประกาศ ฯ
ง. ทั้ง ก., ข. และ ค. ถูกต้องแล้ว

☺ นายสมชาย ฯ มีสัญชาติไทย เกิด พ.ศ.๒๕๓๒ กาลังศึกษาอยู่ต่างประเทศ ยังไม่ได้ลงบัญชีทหารกองเกิน และมีความจาเป็นไม่สามารถเดินทาง


กลับประเทศไทยเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินได้ จึงให้บิดาที่อยู่ในประเทศไทยไปลงบัญชีทหารกองเกินแทน ข้อต่อไปนี้ข้อใดกล่าวถูกต้อง ? ตาม พ.ร.บ.
รับราชการทหารฯ
ก. บิดาของสมชายไปลงบัญชีทหารกองเกินแทน สมชายได้
ข. บิดาของสมชายไปลงบัญชีทหารกองเกินแทน สมชาย ไม่ได้ เพราะมีกฎหมายห้ามไว้
ค. ถ้าบิดาของสมชายไปลงบัญชีทหารกองเกินแทน สมชายนายอาเภอต้องสอบสวนก่อน จะได้หรือไม่ได้ อยู่ที่ผลของการสอบสวน
ง. ถ้าบิดาของสมชายไปลงบัญชีทหารกองเกินแทน สมชาย ฯ จะรับลงบัญชีหรือไม่อยู่ในดุลยพินิจ ของนายอาเภอ

☺ ทหารกองหนุนตาม พ.ร.บ.รับราชการทหารมีกี่ประเภท ? และทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ มีทั้งสิ้น กี่ชั้น ?


ก. ๒ ประเภท ๒ ชั้น ข. ๒ ประเภท ๓ ชั้น
ค. ๔ ประเภท ๒ ชั้น ง. ๔ ประเภท ๓ ชั้น

☺ ผู้ซึ่งได้รับหมายเรียกแล้วตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๗๙ เมื่อ พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ออกใช้บังคับ ปรากฏว่าเป็นบุคคลซึ่งมีสิทธิ


ได้รับการยกเว้นตาม พ.ร.บ.พ.ศ.๒๔๙๗ ความในข้อใด ต่อไปนี้ถูกต้องที่สุด
ก. ปฏิบัติตามหมายนั้น ข. ไม่ต้องปฏิบัติตามหมายนั้น
ค. ไปพบนายอาเภอให้นายอาเภอเป็นผู้พิจารณา ง. ไม่มีข้อถูก

☺ ผู้ซึ่งอยู่ในกองประจาการตาม พ.ร.บ.รับราชการทหารเดิม เมื่อ พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ออกใช้บังคับ ความในข้อใดต่อไปนี้


ถูกต้องที่สุด ?
ก. ถ้าเป็นบุคคลซึ่งมีสิทธิได้รับการยกเว้นตาม พ.ร.บ.พ.ศ.๒๔๙๗ ก็ให้ได้สิทธินั้น
ข. ถ้าเป็นบุคคลซึ่งมีสิทธิได้ลดเวลารับราชการในกองประจาการ ตาม พ.ร.บ.พ.ศ.๒๔๙๗ ก็ให้ได้สิทธินั้น
ค. ต้องอยู่ในกองประจาการต่อไปจนกว่าจะครบกาหนดปลด
ง. ไม่มีข้อถูก
☺ ผู้ที่ต้องระวางโทษเบาที่สุด ได้แก่บุคคลตามข้อใด ?
ก. สมชาย ฯ หลีกเลี่ยงขัดขืนไม่เข้ารับราชการทหาร ในการระดมพล
ข. สมศักดิ์ ฯ ทาร้ายตนเองเพื่อจะให้พ้นจากการรับราชการทหาร
ค. สมควร ฯ สมรู้เป็นใจให้ สมศักดิ์ ฯ ทาร้ายร่างกายตนเองเพื่อจะให้พ้นจากการรับราชการทหาร
ง. ถูกทั้ง ๑. และ ๓.

☺ พระภิกษุที่ถูกเข้ากองประจาการ ถ้ารูปใดขอผ่อนผันยังไม่ลาสิกขาในวันตรวจเลือกให้คณะกรรมการตรวจเลือกผ่อนผันให้ไปลาสิกขา
ได้ไม่เกิน ๑๐ วัน นับตั้งแต่เมื่อใด ?
ก. วันที่ผู้นั้นรับหมายนัดของนายอาเภอ ข. วันตรวจเลือกวันสุดท้ายของอาเภอนั้น
ค. วันตรวจเลือกวันสุท้ายของจังหวัดนั้น ง. วันที่ที่กาหนดในหมายนัดของนายอาเภอ

☺ เขียว ฯ เป็นทหารกองเกินที่ไม่ถูกเข้ากองประจาการ ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถูกต้องที่สุด ?


ก. อายุ ๓๐ ปีบริบูรณ์ ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๑
ข. อายุ ๔๐ ปีบริบูรณ์ ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๒
ค. อายุ ๔๖ ปีบริบูรณ์ ปลดเป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒
ง. ถูกทั้ง ก. ข. และ ค.

☺ สมชาย ฯ ถูกปลดออกจากทหารกองประจาการ เพราะมีโรคซึ่งไม่สามมารถรับราชการทหารได้ ข้อใดต่อไปนี้ ถูกต้องที่สุด ?


ก. สมชายจะได้รับใบสาคัญซึ่งถ้าชารุดหรือสูญหายไม่ต้องแจ้งเพื่อขอรับใหม่
ข. สมชายจะได้รับหนังสือสาคัญซึ่งถ้าชารุดหรือสูญหายไม่ต้องแจ้งเพื่อขอรับใหม่
ค. สมชายจะได้รับใบสาคัญซึ่งถ้าชารุดหรือสูญหายต้องแจ้งเพื่อขอรับใหม่
ง. สมชายจะได้รับหนังสือสาคัญซึ่งถ้าชารุดหรือสูญหายต้องแจ้งเพื่อขอรับใหม่

☺ สมหวังฯ เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ ได้แจ้งเพื่อขอผ่อนผันไม่เข้ารับพลเพื่อฝึกวิชาทหาร อยากทราบว่าการผ่อนผันจะมีผลเมื่อบัญชีรายชื่อถึงที่ใด ?


ก. นายอาเภอ ข. ผู้ว่าราชการจังหวัด
ค. กระทรวงกลาโหม ง. เลขาธิการรัฐสภา

☺ สมควร ฯ ได้ไปลงบัญชีทหารกองเกินเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๔๕ ในการลงบัญชี ฯ สัสดีอาเภอบันทึกว่า สมควร เข้าบัญชีทหารกองเกิน


ตั้งแต่วันที่ ๑๐ มกราคม ๔๕ ต่อไปนี้ข้อใดที่เป็นไปไม่ได้ ?
ก. สมควร เกิดเมื่อ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๒๕
ข. เมื่อรับลงบัญชี ฯ แล้ว สัสดีอาเภอได้มอบหมายเรียกให้สมควรรับไปด้วย
ค. สมควร ได้ลงบัญชีทหารกองเกิน ตาม มาตรา ๑๙ แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร
ง. เป็นไปไม่ได้ทุกข้อเพราะข้อมูลไม่ครบ

☺ บุคคลตาม มาตรา ๑๔(๔) เมื่อพ้นจากฐานะดังกล่าว ต้องปฏิบัติอย่างไร?


ก. แจ้งการพ้นฐานะเช่นนั้นภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่สามารถแจ้งได้
ข. แจ้งการพ้นฐานะเช่นนั้นภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่พ้นฐานะ
ค. แจ้งการพ้นฐานะเช่นนั้นภายใน พ.ศ. นั้น
ง. ทั้ง ก., ข., และ ค. ไม่มีข้อใดกล่าวถูกต้อง

☺ ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้องที่สุด ?
ก. เมื่อ สด.๙ ชารุดหรือสูญหาย ผู้ถือต้องแจ้งเพื่อขอรับใหม่ ต่อนายอาเภอภูมิลาเนาทหาร ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่หาย
ข. เมื่อ สด.๙ ชารุดหรือสูญหาย ผู้ถือต้องแจ้งเพื่อขอรับใหม่ ต่อนายอาเภอภูมิลาเนาทหาร ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่สามารถจะแจ้งได้
ค. การรับลงบัญชีทหารกองเกินให้แก่สามเณรเปรียญเมื่อรับลงบัญชีฯแล้วก็ต้องส่ง สด.๒ ด้วย
โดยอาจส่งภายในเดือนมกราของปีถัดไป หรือภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่รับลงบัญชีฯ แล้วแต่กรณี
ง. ไม่มีข้อถูก

☺ ภารกิจของสมเด็จพระราเมศวร ข้อใดกล่าวผิด ?
ก. ตั้งจตุสดมภ์ ข. ตั้งทาเนียบยศ
ค. ทาเนียบหัวเมือง ง. ทาตาราพิไชยสงคราม

☺ บุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องสักจะได้รับสิ่งใดเป็นหลักฐาน ?
ก. ตั๋วคุ้มสัก ข. ตั๋วคุ้มสักเลก
ค. ตั๋วคุ้มกัน ง. ตั๋วภูมิคุ้มห้าม

☺ ชายที่มีอายุ ๑๖ ปี ต้องไปทาบัญชีรายชื่อไว้ในกรมทหาร เกิดขึ้นในสมัยใด ?


ก. รัชกาลที่ ๒ ข. รัชกาลที่ ๔
ค. รัชกาลที่ ๕ ง. รัชกาลที่ ๖
☺ การประกาศยกกรมสุรัสวดีขึ้นตรงต่อกระทรวงกลาโหม เกิดขึ้นในสมัยใด ?
ก. รัชกาลที่ ๒ ข. รัชกาลที่ ๕
ค. รัชกาลที่ ๖ ง. รัชกาลที่ ๘

☺ การสักหมายโดยใช้อักษรย่อชื่อจังหวัดเป็น ๒ ตัว แทนการใช้วิธีอาศัยกองทัพเป็นหลักนั้น เริ่มใช้หลังจากประกาศใช้พระราชบัญญัติใด ?


ก. พระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร พ.ศ. ๒๔๔๘
ข. พระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร พ.ศ. ๒๔๖๐
ค. พระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร พ.ศ. ๒๔๗๕
ง. พระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร พ.ศ. ๒๔๗๙

☺ บัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ (แบบ สด.๒๗) คัดมาจากบัญชี ?


ก. บัญชีรายชื่อคนลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๒) ที่อาเภอส่งมาให้
ข. บัญชีรายชื่อคนที่รับลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๒) ที่อาเภอส่งมาให้
ค. บัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๒) ที่อาเภอส่งมาให้
ง. บัญชีรายชื่อทหารกองเกินที่รับบัญชี (แบบ สด.๒) ที่อาเภอส่งมาให้

☺ การแก้ไข แบบ สด.๒๗ ในกรณีเขียนผิดได้กาหนดวิธีการปฏิบัติไว้ชัดเจนแล้ว เมื่อท่านเป็นสัสดีอาเภอ จะดาเนินการแก้ไขอย่างไร?


ก. เขียนใหม่
ข. ขีดฆ่าด้วยหมึกดา เขียนคาที่ถูกลงใหม่ใต้หรือต่อจากคาที่ขีดฆ่าด้วยหมึกดา ลงชื่อกากับ
ค. ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง เขียนคาที่ถูกลงใหม่ใต้หรือต่อจากคาที่ขีดฆ่าด้วยหมึกดา ลงชื่อกากับ
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ การจัดทาและจัดเก็บทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) ข้อใดไม่ถูกต้อง ?


ก. จัดทาตามแบบที่กาหนดไว้ในท้ายบันทึกข้อตกลงระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงมหาดไทย จัดทาคนละ ๒ ฉบับ เก็บที่
แผนกสัสดีจังหวัดภูมิลาเนา ๑ ฉบับ, ส่งให้ฝ่ายสรรพกาลัง มทบ. เก็บไว้ ๑ ฉบับ
ข. แยกเก็บเป็นแผนก ทบ , ทร. , ทอ. และ ตร. ตั้งเล่มใหม่ทุกปี ทุกแผนก เล่มหนึ่ง ๆ มีทะเบียน ๑๐๐ ฉบับ เล่มใดไม่ถึง ๒๐ ฉบับ
เก็บไว้เล่มสุดท้าย พ.ศ.นั้น ถ้ามี ๒๐ ฉบับขึ้นไป ให้เก็บเป็นอีกเล่มหนึ่งแผนกใด พ.ศ.ใด ไม่ถึง ๒๐ ฉบับ ให้เก็บไว้เป็นเล่มหนึ่งตามที่มี
ข. สาเนาทะเบียนกองประจาการที่รับโอน แยกเป็นแผนก ทบ., ทร., ทอ. และ ตร.แยกแฟ้มเป็นจังหวัด แต่ละจังหวัดแยกเป็นแผนก
ตามที่โอนมา เรียงตามลาดับก่อนหลัง เก็บเต็มเล่มหนึ่งแล้วให้ตั้งเป็น เล่ม ๒, ๓ และต่อ ๆ ไปตามลาดับ
ค. ถูกทุกข้อ

☺ ผู้ที่ถูกเข้ากองประจาการ ถ้ามีอายุเกินกว่ากาหนดเรียก ให้บันทึกที่ริมซ้ายทะเบียน ตรงบรรทัดอายุ ด้วยหมึกสีแดง สาหรับผู้ที่ลงบัญชี


ทหารกองเกิน อายุเกินกว่า ๒๑ ปีบริบูรณ์ บันทึกว่าอย่างไร ?
ก. ตกค้างบัญชี ข. ตกค้างการเรียก
ค. ตกค้างการลงบัญชี ง. ตกค้างการลงบัญชีและตกค้างการเรียก

☺ ผู้ที่มีอานาจใช้หางว่าวนาปลดออกจากกองประจาการ (แบบ สด.๗) คือผู้ใด ?


ก. หน่วยต้นสังกัด ข. สัสดีจังหวัด/สัสดีกรุงเทพมหานคร
ค. ผู้บังคับการจังหวัดทหารบก ง. ถูกทุกข้อ

☺ ทหารกองเกินเข้ารับการตรวจเลือกฯ คณะกรรมการกาหนดให้เป็นคนจาพวก ๔ จะปลดไปมีสภาพตามข้อใด


ก. เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ข. เป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ ๑
ค. เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ง. เป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒

☺ ทหารกองประจาการที่เข้ารับราชการตาม พ.ร.บ. รับราชการทหารฯ ได้หนีราชการจนคดีขาดอายุความแล้ว จะดาเนินการอย่างไร ?


ก. ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ข. ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ชั้นที่ ๒
ค. ปลดเป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ ง. ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒

☺ ทหารกองประจาการถ้าต้องจาคุกหรือจาขังรวมได้ตั้งแต่ ๑ ปีขึ้นไปให้ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทใด ?
ก. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ชั้นที่ ๑ ข. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ชั้นที่ ๒
ค. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๑ ง. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๒

☺ นายประสิทธิ์ ถูกกาหนดให้เข้ากองประจาการใน ๑ พ.ค.๕๐ แต่นายประสิทธิ์ ยังเรียนหนังสือไม่จบ ประสงค์จะขอผ่อนผัน


เพื่อไปศึกษาต่อ จนสาเร็จ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง ?
ก. เป็นอานาจของ รมว.กห.
ข. อยู่ในระหว่างรอฟังผลการสอบเข้าศึกษาต่อในสถาบันแห่งใหม่
ค. มีเหตุสุดวิสัยมาเข้ารับการผ่อนผันไม่ทัน
ง. เป็นนักศึกษาภาคสมทบ
☺ ขาดราชการ หมายความว่า ?
ก. ขาดไม่ถึง ๒๔ ชั่วโมงในเวลาปกติ ข. ขาดไม่ถึง ๗๒ ชั่วโมงในเวลาปกติ
ค. ขาดไม่ถึง ๗๒ ชั่วโมงในเวลาไม่ปกติ ง. ถูกทั้งข้อ ข.และ ค.

☺ พลฯ สมศักดิ์ เกิด พ.ศ. ๒๕๒๙ รับราชการเมื่อ ๑ พ.ค.๕๐ สังกัด ร.๑๑ พัน ๓ รอ. ได้รับอนุญาตให้ลาพัก ตั้งแต่ ๕ – ๑๒ พ.ย.๕๐
กลับเข้าหน่วยใน ๑๔ พ.ย.๕๐ พลฯ สมศักดิ์ จะมีความผิดในข้อใด ?
ก. ไม่ต้องลงทัณฑ์ เพราะกลับเอง ข. ไม่ต้องลงทัณฑ์ เพราะยังไม่ถึง ๓ วัน
ค. ต้องลงทัณฑ์ เพราะหนีราชการ ง. ต้องลงทัณฑ์ เพราะขาดราชการ

☺ พลฯ สัมฤทธิ์ หนีราชการตั้งแต่ ๑ ม.ค.๔๐ ถึง ๒๘ ธ.ค.๔๐ จับได้ ๒๙ ธ.ค.๔๐ อยากทราบว่า พลฯ สัมฤทธิ์ หนีราชการไปเป็นเวลาเท่าใด
และจะถือเกณฑ์คานวณ ?
ก. หนีราชการ ๑๑ เดือน ๒๘ วัน ถือเอาเป็นวันคานวณทัณฑ์
ข. หนีราชการ ๓๖๒ วัน ถือเอา ๓๖๒ วัน คานวณทัณฑ์
ค. หนีราชการ ๓๖๒ วัน ถือเอา ๓๖๐ วัน คานวณทัณฑ์
ง. ถูกทั้ง ข้อ ข. และ ค.

☺ ทหารกองหนุนเข้ารับราชการในการเรียกพลเพื่อตรวจสอบหรือทดลองความพรั่งพร้อม ถ้าหนีราชการ จะลงทัณฑ์อย่างไร ?


ก. ลงทัณฑ์เช่นเดียวกับทหารกองประจาการ
ข. ลงทัณฑ์เช่นเดียวกับทหารกองประจาการ แต่ไม่เกิน ๓ เดือน
ค. ลงทัณฑ์เช่นเดียวกับทหารกองประจาการ แต่ไม่เกิน ๖ เดือน
ง. ลงทัณฑ์เช่นเดียวกับทหารกองประจาการ แต่ไม่เกิน ๑ ปี

☺ การแก้ไขแบบพิมพ์ หนังสือสาคัญ และใบสาคัญ การปฏิบัติคือ ?


ก. ขีดฆ่าด้วยหมึกดา ประทับตรา ข. ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง ประทับตรา
ค. ขีดฆ่าด้วยหมึกดา ไม่ต้องประทับตรา ง. ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง ไม่ต้องประทับตรา

☺ เลื่อนยศเป็นนายทหารสัญญาบัตร ทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) บันทึกที่ใด ?


ก. ให้บันทึกริมซ้ายตรงบรรทัดชื่อผู้ขึ้นทะเบียน ข. ให้บันทึกริมซ้ายตรงบรรทัดเครื่องหมาย
ค. ถูกทั้ง ข้อ ก. และ ข้อ ข. ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ แบบ สด. ๒๘ คือ ?


ก. บัญชีรับหนังสือสาคัญ และใบสาคัญ
ข. บัญชีรับหนังสือสาคัญหรือใบสาคัญ
ค. บัญชีรับใบสาคัญ หรือหนังสือสาคัญ
ง. บัญชีรับใบสาคัญ และหนังสือสาคัญ

☺ การย้ายภูมิลาเนาทหารต่างอาเภอในจังหวัดเดียวกัน สัสดีอาเภอเดิมจะดาเนินการบันทึก สด.๑ อย่างไร ?


ก. บันทึกช่องหมายเหตุให้ทราบว่าย้ายไปอยู่ที่ใด ผู้บันทึกลงชื่อกากับ ฉีกมุมล่างด้านขวาตามรอยปรุ แล้วถอนไปเก็บตามแฟ้มย้ายภูมิลาเนา
ข. บันทึกด้านหลัง สด. ช่องย้ายภูมิลาเนา..ไปอยู่...จาหน่ายบัญชี ด้วยการฉีกมุมล่างด้านขวาตามรอยปรุ
ค. บันทึกด้านหน้า สด.๑ ช่องย้ายภูมิลาเนา...เพื่อจาหน่ายบัญชี แล้วถอนไปเก็บไว้ในแฟ้มย้ายภูมิลาเนาทหาร
ง. บันทึกด้านหลัง สด.๑ ช่อง ย้ายภูมิลาเนา ... แล้วถอนไปเก็บไว้ในแฟ้มย้ายภูมิลาเนาทหาร รายงานสัสดีจังหวัดทราบ

☺ ผู้ที่ย้ายภูมิลาเนาทหารไปต่างเขต จทบ. ถ้าเป็นผู้ที่มีทะเบียนกองประจาการก็ให้จัดทาบัญชีรายชื่อ รายงานการย้ายฯ (แบบ สด.๓๒) ส่งฝ่าย


สรรพกาลัง มทบ. หรือ จทบ. แล้วแต่กรณีภายในกาหนดเท่าใด ?
ก. วันที่ ๕ ของเดือนใหม่ ข. วันที่ ๓ ของเดือนใหม่
ค. วันที่ ๑ ของเดือนใหม่ ง. วันที่ ๑๐ ของเดือนใหม่

☺ การย้ายภูมิลาเนาทหารต่างอาเภอภายในจังหวัดเดียวกันให้แก่ผู้ที่ลงบัญชีทหารกองเกิน ตามมาตรา ๑๖ แล้ว แต่ยังไม่เป็นทหารกองเกิน


ข้อใดกล่าวถูกต้อง ?
ก. อาเภอเดิมส่งรายชื่อผู้ที่ขอย้ายภูมิลาเนาทหารลงในบัญชีหักโอน แยกเฉพาะราย แจ้งอาเภอใหม่ทราบ ครั้นเมื่อคราวถึงกาหนด
ส่งบัญชีรายชื่อ (แบบ สด.๒) ตอนสิ้นปีให้หมายเหตุให้ทราบ
ข. อาเภอเดิมคัดรายชื่อผู้ที่ขอย้ายภูมิลาเนาทหารลงในบัญชีรายชื่อคนที่รับลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๒) คัดเฉพาะราย
ส่งจังหวัดทราบ ครั้นถึงกาหนดส่งบัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๒) ให้คัดรายชื่อลงในบัญชีกับคนชั้นปี
และตาบลเดียวกันพร้อมจาหน่ายการย้ายฯ ส่งจังหวัด
ค. อาเภอเดิมคัดรายชื่อผู้ที่ขอย้ายภูมิลาเนาทหารลงในบัญชีผู้ที่อยู่ในกาหนดลงบัญชีทหารกองเกิน แยกเฉพาะรายแจ้งจังหวัดทราบ
ครั้นถึงกาหนดส่งบัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๒) ให้คัดรายชื่อลงในบัญชีกับคนชั้นปี และตาบลเดียวกัน
พร้อมจาหน่ายการย้าย ฯ ส่งจังหวัด
ง. อาเภอเดิมคัดรายชื่อผู้ที่ขอย้ายภูมิลาเนาทหารลงบัญชีทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ แยกเฉพาะรายส่งจังหวัด,
อาเภอเดิมทาหนังสือแจ้งย้ายภูมิลาเนาทหาร (แบบ สด.๑๒) แจ้งจังหวัดใหม่ ทราบเมื่อคราวสิ้นปี
☺ อาเภอปทุมราชวงศา อุบลราชธานี ได้ยกไปขึ้นเป็นอาเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอานาจเจริญ เช่นนี้ท่านจะต้องจัดทาบัญชีใด รายงานจังหวัด ?
ก. ผนวก ก. ข. ผนวก ข.
ค. บัญชี ก. ง. บัญชี ข.

☺ บัญชี ก. และ บัญชี ข. ที่ใช้ในการจัดทาบัญชีการแปลี่ยนแปลงท้องที่ ข้อใดถูกต้อง ?


ก. บัญชี ก. และ บัญชี ข. ให้จัดทารวมอยู่ในบัญชีเดียวกัน
ข. บัญชี ก. และบัญชี ข. ให้จัดทาแยกเล่ม
ค. บัญชี ก. เป็นบัญชีบ้าน ตาบล อาเภอ จังหวัด ที่เปลี่ยนแปลง
ง. บัญชี ข . เป็นบัญชียกบ้านหรือตาบลหรืออาเภอไปขึ้นที่อื่น

☺ หน่วยงานใดไม่เกี่ยวข้องกับการจัดทาบัญชีท้องที่ ที่เปลี่ยนแปลง ?
ก. สัสดีจังหวัดทหารบก ข. ฝ่ายสรรพกาลังมณฑลทหารบก
ค. สานักงานสัสดีจังหวัด ง. หน่วยสัสดีอาเภอ

☺ ต้นขั้วใบสาคัญที่ผู้จาหน่ายซึ่งต้องถือใบสาคัญอีกต่อไป เช่น ?
ก. ไม่อยู่ในกาหนดต้องลงบัญชี ข. เข้ากองประจาการ
ค. ลงบัญชีทหารกองเกินซ้า ง. ย้ายภูมิลาเนาทหาร

☺ เลื่อนยศเป็นร้อยตารวจตรี ทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) บันทึก ข้อใดถูกต้อง ?


ก. ริมซ้ายตรงบรรทัดชื่อผู้ขึ้นทะเบียน ข. บันทึกที่หมายเหตุ
ค. บันทึกหน้าชื่อผู้ขึ้นทะเบียน ง. ไม่ต้องบันทึก

☺ แบบ สด.๔๒ คือ ?


ก. บัญชีรายชื่อขอนาตัวขึ้นทะเบียนกองประจาการนักศึกษาวิชาทหาร
ข. บัญชีรายชื่อขอนาตัวขึ้นทะเบียนกองประจาการนักศึกษาวิชาทหารและนาปลด
ค. บัญชีรายชื่อขอนาตัวขึ้นทะเบียนกองประจาการและนาปลด
ง. บัญชีรายชื่อขอนาตัวขึ้นทะเบียนกองประจาการและนาปลดนักศึกษาวิชาทหาร

☺ การจาหน่ายตาย ต้นขั้วใบสาคัญ บันทึกด้านหน้าด้วยหมึกแดงว่า ?


ก. “ตายเมื่อ.....(ลง วัน, เดือน,พ.ศ.(เต็ม)ที่ตาย) ตามเรื่องฉบับที่ .....พ.ศ....”
ข. “ตายเมื่อ.....(ลง วัน, เดือน,พ.ศ.(ย่อ)ที่ตาย) ตามเรื่องฉบับที่ .....พ.ศ....”
ค. “ตายเมื่อ.....(ลง วัน, เดือน,(เต็ม),พ.ศ.(ย่อ)ที่ตาย) ตามเรื่องฉบับที่ .....พ.ศ....”
ง. “ตายเมื่อ.....(ลง วัน, เดือน(ย่อ),พ.ศ.(เต็ม)ที่ตาย) ตามเรื่องฉบับที่ .....พ.ศ....”

☺ ข้อใดต่อไปนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน
ก. ชายฉกรรจ์ ข. หลักประกันในการ ปบ. ของ จนท.
ค. วิธีสะสมกาลังพล ง. ผิดทุกข้อ

☺ วิธีที่ผิดทาให้ประเทศชาติมีกาลังพลพร้อมใช้ทาการรบได้ คือ ข้อใด


ก. ทหารกองประจาการ ข. ทหารประจาการ
ค. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ง. ถูกทั้ง ก. และ ค.

☺ ข้อใดไม่ใช่ การเตรียมบุคคลไว้สาหรับฝึกอบรม
ก. ทหารกองประจาการ อายุ ๑๘ – ๒๑ ปี ข. ทหารกองเกิน อายุ ๑๘ – ๒๙ ปี
ค. ทหารกองหนุนประเภทที ๒ ง. ถูกทั้ง ข.และ ค.

☺ ข้อใดที่ไม่ได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗


ก. ทาให้ประเทศชาติมีทหารใช้ทาการรบ ๒๕ รุ่นปี ข. การเตรียมให้สามารถใช้ทาการรบ ๒๘ รุ่นปี
ค. ทหารกองเกินและทหารกองประจาการ ง. ทหารนอกกอง

☺ มาตราใดไม่อยู่ในเรื่องการเรียกคนเข้ากองประจาการ
ก. มาตรา ๒๒, ๒๘ ข. มาตรา ๒๓, ๒๗
ค. มาตรา ๒๔, ๒๖ ง. มาตรา ๒๕, ๒๔

☺ ต่อไปใครคือ ผู้ที่อยู่ในกาหนดเรียกมาตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจาการ
ก. นาย เก่ง ถือ สด.๙ ไปให้สด.จทบ. เพื่อวัดขนาด
ข. นาย แต่ โอ้อวด สด.๙ ที่โต๊ะสนุ๊กบอกเพื่อนว่า “ไปหา สด.อ.มาหลังจากทาบัตร ปชช. ๒ ปี”
ค. นาย ปาก นาบัตร ปชช. , ทะเบียนบ้าน ไปพบ สด.อ.
ง. นาย นะ นา สด.๔ ไปหาหมอที่ รพ.

☺ ใครคือผู้ที่ไม่อยู่ในกาหนดเรียกมาตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจาการ
ก. คณะกรรมการจัดเป็นคนจาพวก ๓ ข. ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือก
ค. พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน ง. ผิดทุกข้อ

☺ ข้อใดคือการกาหนดเวลาเรียกทหารกองเกิน
ก. ปีหนึ่งเรียกครัง้ เดียว ข. ปีหนึ่งเรียกสองครั้ง
ค. ปีหนึ่งเรียกสามครั้ง ง. ถูกทั้ง ก, ข, ค. ถ้า รมว.กห.สั่ง

☺ การจัดทาหมายเรียกเข้ารับราชการทหารตามรายชื่อใน สด.๑ เฉพาะทหารกองเกินที่มีอายุย่าง ๒๑ ปี ให้เสร็จในเดือนใด


ก. ม.ค. ถึง ส.ค. ข. ก.ย. ถึง พ.ย
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข. ง. ไม่มีข้อถูก

☺ ทหารกองเกิน อายุ ๒๒ ปี ถึงอายุ ๒๙ ปี ในปีที่ต้องเข้ากองประจาการ ให้สัสดีอาเภอจัดทาหมายเรียก ตามรายชื่อใน สด.๑๖ จากหลักฐานใด


ก. สด.๑๖ ตรวจเลือกครั้งสุดท้าย ข. สด.๑๖ ตรวจเลือกครั้งสุดท้ายของอาเภอ
ค. สด.๑๖ ตรวจเลือกครั้งสุดท้ายของ จว. ง. ถูกทุกข้อ

☺ ในคราวตรวจเลือกปี ๒๕๕๒ อ.หัวหิน จว.ป.ข. มีทหารกองเกินอายุ ๒๑ ปีบริบูรณ์มีไม่พอ จะต้องปฏิบัติอย่างไร


ก. กรรมการสัสดีจังหวัด แจ้งฝ่ายขอเรียก ฯ ข. ประธานฯ แจ้ง ทภ.
ค. เรียกทหารกองเกินอายุถัดจาก ๒๑ ปีบริบูรณ์ ง. นอภ. แจ้ง ผวจ.

☺ ทหารกองเกินที่ถูกเรียกรายใดไปจากท้องที่ เมื่อสืบทราบที่อยู่แน่ชัด ใครเป็นผู้มอบหมายเรียกฯ


ก. สด.อ.เจ้าของท้องที่ ข. สด.อ.ภูมิลาเนาทหาร
ค. นอภ.เจ้าของท้องที่ ง. นอภ.ภูมิลาเนาทหาร

☺ การส่งหมายเรียกในเขตสุขาภิบาล ให้สัสดีอาเภอออกหนังสือในนาม นอภ.ส่งทางไปรษณีย์ ให้ผู้ถูกเรียกไปรับที่อาเภอภายในกี่วัน


ตั้งแต่ได้รับหนังสือ
ก. ๗ วัน ข. ๑๐ วัน
ค. ๑๕ วัน ง. ถูกเฉพาะ ก , ข

☺ การส่งหมายเรียกฯ ถ้าผู้ถูกเรียกตาย ข้อใดถูกต้อง


ก. จาหน่าย สด.๑ ข. จาหน่าย สด. ๒๗
ค. ลดยอด ตพ.๔ ง. ถูกทุกข้อ

☺ เดือน ต.ค.ทุกปี สด.อ.จัดทาประกาศเสนอ นอภ.ลงนาม เพื่อประกาศให้ทหารกองเกินอายุย่าง ๒๑ ปี ไปรับหมายเรียกฯ ตามมาตราใด


ก. ม.๑๘ ข. ม.๒๕
ค. ม.๒๖ ง. ม.๒๗

☺ บัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้ (แบบ สด.๑๔) ถ้าจานวนเพิ่มหรือลดลงเกินกว่า ๔๙ คน ต้องส่งบัญชีใหม่เมื่อใด


ก. ภายในวันที่ ๕ ของเดือนที่รับบัญชี ข. ภายในวันที่ ๑๐ ของเดือนที่รับบัญชี
ค. ภายในวันที่ ๑๕ ของเดือนที่รับบัญชี ง. ไม่มีข้อถูก

☺ การขอเรียกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจาการจังหวัดใด แผนกใด เป็นหน้าที่ของใคร


ก. ผบ.จทบ. ข. ผบ.มทบ
ค. ผบ.ทบ. ง. ผิดเฉพาะข้อ ค.

☺ เมื่อ ผวจ.ได้รับแจ้งจานวนคนที่ขอเรียกจากฝ่ายต้องการคนให้ สด.จว.ทาการแบ่งเฉลี่ยคนถูกเรียกเป็นอาเภอ ข้อใดถูกต้อง


ก. แบ่งเฉลี่ยแยกเป็นวัน ๆ ข. แจ้งยอดขอเรียกต่อ นอภ.
ค. แจ้งยอดขอเรียกต่อ สด.อ. ง. จัดทาบัญชีฯ สด.๑๕ ส่ง สด.มทบ.

☺ กรณีรับหมายเรียก (แบบ สด.๓๕) แทนนั้น จะต้องบันทึกการรับหมายแทนที่ใด


ก. บริเวณที่ว่างใน (แบบ สด.๓๕) ที่ใดก็ได้
ข. ด้านหลัง (แบบ สด.๓๕) แนวบรรทัดบนสุด
ค. ด้านหลัง (แบบ สด.๓๕) แนวบรรทัดวัน..เดือน..พ.ศ… ในต้นขั้ว
ง. บันทึกด้านหลัง (แบบ สด.๑)

☺ กรณีตรวจเลือกศาลาการเปรียญวัดดอนมดแดงนั้น ช่อง “ให้มา ณ ที่…” นั้น มีข้อความใดต่อไปนี้ อยู่ด้วย


ก. อาเภอดอนมดแดง ข. ตาบลเมืองใหม่
ค. สมาคมชาวปักษ์ใต้ ง. ถูกทุกข้อ

☺ นายศรราม เทพพิทักษ์ คนอาเภอเมืองชุมพร ขอเข้าตรวจเลือกที่อาเภอนายูง ด้วยนั้น เป็นคนประเภทใด


ก. เป็นคนใช้ไม่ได้ ข. เป็นคนหลีกเลี่ยงขัดขืน
ค. เป็นทหารกองประจาการ ง. เป็นทหารกองเกินอายุอื่น

☺ ท่านเป็น ผช.สัสดีอาเภอฯ บัญชีเรียกฯ(แบบ สด.๑๖) ของท่านคัดจากอะไร


ก. (แบบ สด.๒๗) ข. (แบบ สด.๑)
ค. (แบบ สด.๑๖) ง. ไม่มีข้อถูก (ผมไม่ได้คัด..)

☺ การเก็บรักษาและการทาลาย (แบบ สด.๔๓)นั้น มีกาหนดไว้ชัดเจน สาหรับท่อนที่ ๓ นั้นเก็บไว้กี่ปี


ก. สัสดีจังหวัดเก็บไว้ไม่น้อยกว่า ๑๐ ปีจึงทาลายได้
ข. ทภ. เก็บไว้ไม่น้อยกว่า ๕ ปี กรณีมีปัญหาเก็บไว้ไม่น้อยกว่า ๑๐ ปีจึงทาลายได้
ค. เก็บไว้ตลอดชีพ
ง. ข้อ ก.และข้อ ข.ถูก

☺ อาเภอของท่านมีคนหลีกเลี่ยงอยู่ในบัญชีคนผ่อนผัน ๒ คน ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง
ก. ไม่ต้องมีบัญชีคนหลีกเลี่ยงขัดขืน เพราะสามารถตรวจเลือกในบัญชีคนผ่อนผันได้
ข. มีบัญชีคนหลีกเลี่ยงขัดขืน
ค. ถ้าสละสิทธิผ่อนผันให้ตรวจเลือกในบัญชีคนผ่อนผันได้
ง. ถ้าสละสิทธิผ่อนผันมีโอกาสเข้าจับสลากแดง-ดา

☺ เจ้าหน้าที่รับคาร้องของจังหวัดท้องที่ตรวจเลือก อยู่ในการควบคุมกากับดูแลของกรรมการใด
ก. ประธานคณะกรรมการตรวจเลือก ข. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑ (น.๑)
ค. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒ (น.๒) ง. กรรมการสัสดีจังหวัด

☺ ข้อใดเป็นคนไม่ได้ขนาด
ก. สูง ๑๖๔ ซม. รอบตัว ๗๖/๗๙ ซม. ข. สูง ๑๔๖ ซม. รอบตัว ๘๐/๘๓ ซม.
ค. สูง ๑๔๖ ซม. รอบตัว ๖๙/๗๒ ซม. ง. ข้อ ข.และข้อ ค.ถูก

☺ อาเภอเกาะกูด มียอดแบ่งเฉลี่ย ๒ คน มีคนหลีกเลี่ยงส่งเข้ากองประจาการ ๒ คน คนจาพวกที่ ๑ บันทึกปล่อย ว่าอย่างไร


ก. “ปล่อยเพราะไม่ต้องส่งคนประเภทอื่น” ข. “ปล่อยเพราะได้คนพอ”
ค. “ปล่อยเพราะส่งคนพอ” ง. “ปล่อยเพราะส่งคนหลีกเลี่ยงพอ”

☺ คนที่ต้องปล่อยแน่นอนคือประเภทใด
ก. คนจาพวกที่ ๔, คนจาพวกที่ ๓, คนจาพวกที่ ๒
ข. คนจาพวกที่ ๔, คนจาพวกที่ ๓, คนไม่ได้ขนาด
ค. คนจาพวกที่ ๔, ๓, ไม่, ผ่อน, ๒, ถัดรอง
ง. ไม่มีข้อถูก

☺ คนหลีกเลี่ยง ๑ คนต้องส่งแผนกคนมาก หากขอเรียก ๓ แผนกตามยอดคือ ทบ.๓๐ คน , ทอ.๒๐ คน , ทร.๑๐ คน แผนกทหารบก


รับคนร้องขอครบแล้ว ๓๐ คน จะส่งคนหลีกเลี่ยงอย่างไร
ก. ส่งลดยอดให้อาเภออื่นในแผนก ทบ.๑ ข. ส่งในยอดแผนก ทอ.๑
ค. แล้วแต่กรรรมการสัสดีจังหวัดพิจารณา ง. ส่งไปลดยอดของคณะอื่นๆ ในจังหวัดนี้

☺ นายสมชาย ฯ เป็นทหารกองเกินอาเภอปราณบุรี จับสลากเป็นคนสุดท้ายในจานวน ๒๕๓ คน แต่ก่อนหน้าที่จะได้จับสลากนั้น


มีคนหลบหนีก่อนจับสลาก ๑ คน และร้องขอฯ ๒ คน หาก นายสมชาย โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่แน่แต่จับได้สลาก “ดา” สลากที่จับจะตี
หมายเลขลาดับด้วยเครื่องอัตโนมัติเป็นลาดับที่เท่าไร
ก. ๒๕๓ ข. ๓๕๒
ค. ๕๓๒ ง. ๒๕๐

☺ อาเภอเมืองสวง มีหน่วยสัสดีอาเภออยู่ชั้น ๑ (ไม่ต้องขึ้นชั้น ๒) มียอดขอเรียกรวม ๓๐ คน , คนขนาดสูง ๑๖๐ ซม.ขึ้นไป และรอบตัว


๗๖ ซม.ขึ้นไป มีจานวน ๑๒๐ คน, คนสูง ๑๕๙ ซม.และรอบตัว ๗๖ ซม.ขึ้นไปมีจานวน ๙๕ คน หากไม่มีคนร้องขอฯ จะมีสลากแดง-ดากี่ใบ
ก. ๓๐ ใบ ข. ๒๑๕ ใบ
ค. ๑๒๐ ใบ ง. ๙๕ ใบ

☺ นายสมหมาย ฯ มาเข้าตรวจเลือกฯ เป็นโรคคอพอก ตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๓๗(พ.ศ.๒๕๑๖)ข้อ ๓ (๗) หากหมอไม่มีความสงสัย


ในการวินิจฉัยแล้ว เขาจะเป็นคนจาพวกใด
ก. จาพวกที่ ๑ ข. จาพวกที่ ๒
ค. จาพวกที่ ๓ ง. จาพวกที่ ๔

☺ กรรมการสัสดีจังหวัดลงชื่อกากับผลการตรวจเลือกใด
ก. จับสลาก “แดง” ข. จับสลาก “ดา”
ค. “ปล่อย” ง. ถูกทุกข้อ

☺ เมื่อมีเหตุการณ์ส่อไปในทางทุจริต ประธานฯรายงานด่วนอย่างไร
ก. รายงาน ผบ.ทบ.ผ่าน มทภ. ข. รายงาน รมว.กห.ผ่าน มทภ.
ค. รายงาน มทภ.ผ่าน ผบ.มทบ.หรือ ผบ.จทบ. ง. รายงาน นสร.ผ่าน มทภ.

☺ การลงชื่อใน (แบบ สด.๔๓) “ขอรับรองว่าถูกต้อง” ในบรรทัดที่ ๓ กรรมการใดเป็นผู้ลงชื่อ


ก. น.๑ ข. น.๒
ค. แพทย์ ง. กรรมการสัสดี

☺ กรมสัสดี เดิมชื่อกรมอะไร?
ก. กรมพระสุรัสวดี ข. กรมยุทธนาธิการ
ค. กรมเกียกกายทัพบก ง. กรมยกกระบัตรทหารบกใหญ่

☺ ข้อใดกล่าวถูกต้อง?
ก. สัสดี หมายถึง การตรวจเลือกทหาร บัญชีทหารหรือบัญชีคน
ข. งานสัสดีมีมาพร้อมกับการทหารสมัยโบราณ แต่มาปรากฏเป็นหลักฐานในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒
ค. การกาหนดหน้าที่สัสดีเป็นไปตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗
ง. หน่วยสัสดี เป็นการจัดหน่วยแบบพิเศษ คือสายการบังคับบัญชาขึ้นกับฝ่ายพลเรือน และยังมอบอานาจปกครองบังคับบัญชา
ไว้กับฝ่ายทหารอีกด้วย

☺ อัตราเต็มของอัตรากาลังพลสานักงานสัสดีจังหวัด มีเสมียน อัตรา ส.อ. ทั้งสิ้นจานวนกี่นาย?


ก. ๕ ข. ๖
ค. ๗ ง. ๘

☺ ปัจจุบัน สานักงานสัสดีจังหวัด ประเภทที่ ๑ มีกี่จังหวัด?


ก. ๓๒ ข. ๔๓
ค. ๔๖ ง. ไม่มขี ้อถูก

☺ ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของกาลังพลอัตรา ส.อ. ในสานักงานสัสดีจังหวัด?


ก. พลขับรถ ข. เสมียนฯ
ค. เสมียนพิมพ์ดีด ง. นายสิบการเงิน

☺ พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ มีการแก้ไขเพิ่มเติมมาแล้ว หลายครั้ง อยากทราบว่าการเพิ่มเติม ครั้งหลังสุด เพิ่มเติมตาม ข้อใด?


ก. ม. ๔ (๙)(๑๐)(๑๑) ข. ม.๒๘ ทวิ, ๒๘ ตรี, ๒๘ จัตวา
ค. ม. ๑๒ ทวิ ง. ทั้ง ก. และ ข.

☺ กฏหมายเกี่ยวกับการรับราชการทหารของประเทศไทย ได้ตราขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรก ในสมัยใด


ก. กรุงรัตนโกสินทร์ ข. กรุงศรีอยุธยา
ค. กรุงธนบุรี ง. ไม่มีข้อถูก

☺ ข้อความต่อไปนี้ ข้อความในข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับภูมิลาเนาทหาร


ก. ทหารกองเกิน ทหารกองประจาการ ทหารกองหนุน ต้องมีภูมิลาเนาทหาร และต้องมีเพียงแห่งเดียว
ข. การที่ทหารกองเกินได้ย้ายไปทามาหากินเป็นประจาในท้องที่อาเภออื่น เกิน ๓๐ วัน แม้ไม่แจ้งย้าย ภูมิลาเนาทหาร
ก็ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร
ค. ในการแจ้งย้ายภูมิลาเนาทหาร ผู้ที่ประสงค์จะแจ้งย้าย จะต้องแจ้งต่อนายอาเภอภูมิลาเนาทหาร ภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่
วันเข้าอยู่ในท้องที่ใหม่
ง. ทั้ง ก., ข., และ ค. ไม่มีข้อใดไม่ถูกต้อง

☺ บุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องลงบัญชีทหารกองเกิน พ.ร.บ.รับราชการทหารได้กาหนดไว้ในมาตราใด
ก. ๑๓ ข. ๑๔
ค. ๒๑ ง. ไม่มีข้อถูก

☺ บุคคลที่ต้องไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกิน ตาม มาตรา ๑๘ คือ ผู้ที่มีอายุเท่าใด ?


ก. ๑๗ ปีบริบูรณ์ ถึง ๔๕ ปีบริบูรณ์ ข. ๑๗ ปีบริบูรณ์ ถึง ๔๖ ปีบริบูรณ์
ค. ๑๘ ปีบริบูรณ์ ถึง ๔๕ ปีบริบูรณ์ ง. ๑๘ ปีบริบูรณ์ ถึง ๔๖ ปีบริบูรณ์

☺ ความในข้อใดต่อไปนี้ กล่าวถูกต้องที่สุด เกี่ยวกับการเป็นทหารกองเกิน


ก. ผู้ซึ่งลงบัญชี ฯ ตามมาตรา ๑๖ แล้ว จะเป็นทหารกองเกินในเดือนมกราคมของปีถัดไป
ข. ผู้ซึ่งลงบัญชี ฯ ตามมาตรา ๑๘ แล้ว จะเป็นทหารกองเกินในวันที่ ลงบัญชี
ค. ผู้ซึ่งลงบัญชี ฯ ตามมาตรา ๑๙ แล้ว จะเป็นทหารกองเกินในวันที่ลงบัญชี
ง. ทั้ง ก. ข. และ ค. กล่าวถูกต้อง

☺ บุคคลตามข้อใด รับราชการทหารกองประจาการน้อยที่สุด
ก. หนึ่ง จับฉลากถูกเข้ากองประจาการ แต่ยื่นคุณวุฒิสาเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ ๓ จากต่างประเทศ
ข. สอง ร้องขอเข้ากองประจาการ โดยยื่นคุณวุฒิสาเร็จชั้นอุดมศึกษาจากต่างประเทศ
ค. สาม ร้องขอเข้ากองประจาการ โดยยื่นคุณวุฒิอนุปริญญาจากมหาวิทยาลัยรามคาแหง
ง . ทั้ง หนึ่ง สอง และ สาม รับราชการเท่ากัน

☺ บุคคลในข้อใดได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้ารับราชการทหารกองประจาการ
ก. ซมชาย ฯ มีสัญชาติไทย เป็นนักบวชในพระพุทธศาสนาแห่งนิกายจีน จบเปรียญธรรม ๔ ประโยค
ข. สามเณรสมชาย มีสัญชาติไทย จบเปรียญธรรม ๓ ประโยค
ค. ชมซาย ฯ ได้สัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ
ง. ไม่มีข้อถูก

☺ คาสั่งกระทรวงกลาโหม(เฉพาะ) ที่ ๓๐/๓๔๓๐ ได้กาหนดให้ใช้บันทึกข้อตกลง ระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงมหาดไทยในระเบียบการอัน


เกี่ยวกับพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ อยากทราบว่าเรื่องที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ได้แก่เรื่องใด ?
ก. การออกหนังสือสาคัญหรือใบสาคัญแทนฉบับที่ชารุดหรือสูญหาย ข. การยกเว้นและผ่อนผัน
ค. การเรียกทหารกองเกินและทหารกองหนุนเข้ารับราชการทหาร ง. ไม่มีข้อถูก

☺ บุคคลตามข้อใดได้รับการยกเว้นไม่ต้องรับราชการทหารกองประจาการแต่กฎหมายบังคับให้ลงบัญชีทหารกองเกิน
ก. พระภิกษุที่เป็นนักธรรม ข. สามเณรที่เป็นนักธรรม
ค. คนพิการทุพพลภาพ ง. ถูกทุกข้อ

☺ บุคคลตามข้อใดได้รับการยกเว้นไม่เรียกมาเข้ารับการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจาการในเวลาปกติ
ก. นายสมชาย ฯ เป็นทหารหารกองเกิน แต่ เป็นคนวิกลจริตที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ
ข. นายสมควร ฯ เป็นทหารกองเกิน กาลังปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยทหารในราชการสนาม
ค. นักเรียนนายสิบสมศักดิ์ ฯ อายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ กาลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนายสิบทหารบก
ง. ไม่มีข้อถูก

☺ ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการยกเว้นไม่เรียกเข้ากองประจาการ สาหรับศาสนาโรมันคาทอลิค
ก. เจ้าอธิการวัดและผู้ช่วยเจ้าอธิการวัดรวม ๓ คน แล้วแต่เจ้าอธิการวัดจะเห็นสมควรออกใบสาคัญให้แก่ผู้ใด
ข. ผู้มีความรู้สอนศาสนาได้ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หรือผู้ช่วยหัวหน้าในสานักสอนศาสนาสานักใหญ่ แห่งละ ๓ คน แล้วแต่ผู้เป็นหัวหน้า
จะขอใบสาคัญให้ใคร
ค. หัวหน้าสานัก และผู้ช่วยหัวหน้าสานักผู้มีความรู้สอนศาสนาได้ อีก ๓ คน แล้วแต่ผู้เป็นหัวหน้า จะขอ ใบสาคัญให้ใคร
ง. ไม่มีข้อถูก

☺ มาตรา ๑๕ แห่ง พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ บัญญัติให้บุคคลซึ่งพ้นจากฐานะยกเว้น หรือ ผ่อนผันบางประเภทต้องแจ้งต่อ


นายอาเภอฯ อยากทราบว่าบุคคลที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๕ มีกี่ประเภท ?
ก. ๘ ข. ๙
ค. ๑๐ ง. ๑๑

☺ ผู้ซึ่งได้รับหมายเรียกแล้วตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๗๙ เมื่อ พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ ออกใช้บังคับ ปรากฏว่า


เป็นบุคคลซึ่งมีสิทธิได้รับการยกเว้นตาม พ.ร.บ.พ.ศ.๒๔๙๗ ความในข้อใด ต่อไปนี้ถูกต้องที่สุด ?
ก. ปฏิบัติตามหมายนั้น ข. ไม่ต้องปฏิบัติตามหมายนั้น
ค. ไปพบนายอาเภอให้นายอาเภอเป็นผู้พิจารณา ง. ไม่มีข้อถูก

☺ ผู้ซึ่งอยู่ในกองประจาการตาม พ.ร.บ.รับราชการทหารเดิม เมื่อ พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ออกใช้บังคับ ความในข้อใดต่อไปนี้


ถูกต้องที่สุด ?
ก. ถ้าเป็นบุคคลซึ่งมีสิทธิได้รับการยกเว้นตาม พ.ร.บ.พ.ศ.๒๔๙๗ ก็ให้ได้สิทธินั้น
ข. ถ้าเป็นบุคคลซึ่งมีสิทธิได้ลดเวลารับราชการในกองประจาการ ตาม พ.ร.บ.พ.ศ.๒๔๙๗ ก็ให้ได้สิทธินั้น
ค. ต้องอยู่ในกองประจาการต่อไปจนกว่าจะครบกาหนดปลด
ง. ไม่มีข้อถูก
☺ พระภิกษุที่ถูกเข้ากองประจาการ ถ้ารูปใดขอผ่อนผันยังไม่ลาสิกขาในวันตรวจเลือกให้คณะกรรมการ ตรวจ เลือกผ่อนผันให้ไปลาสิกขา ได้ไม่เกิน
๑๐ วัน นับตั้งแต่เมื่อใด ?
ก. วันที่ผู้นั้นรับหมายนัดของนายอาเภอ ข. วันตรวจเลือกวันสุดท้ายของอาเภอนั้น
ค. วันตรวจเลือกวันสุดท้ายของจังหวัดนั้น ง. วันที่ที่กาหนดในหมายนัดของนายอาเภอ

☺ นายหนึ่งฯ ใช้อุบายหลอกลวงให้เจ้าหน้าที่หลงเชื่อ โดยเจตนาให้พ้นจากการรับราชการทหาร นายสองฯ ยุยงเสี้ยมสอน นายหนึ่งฯ


ให้กระทาการดังกล่าว ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ถูกต้อง
ก. นายหนึ่งฯ ไม่ต้องระวางโทษตามกฎหมาย ถ้ากระทาดังกล่าวแล้ว ยังคงต้องถูกเข้ากองประจาการ
ข. นายหนึ่งฯ และ นายสอง ฯ ต้องระวางโทษตามกฎหมายเท่ากัน
ค. ถ้า นายหนึ่งฯ กระทาผิดจริง นายหนึ่งฯ ต้องระวางโทษตามกฎหมาย เท่ากับ นายสองฯ ซึ่ง หลีกเลี่ยงขัดขืน
ไม่มาตามหมายนัดของนายอาเภอ
ง. ไม่มีข้อใดไม่ถูกต้อง

☺ เขียว ฯ เป็นทหารกองเกินที่ไม่ถูกเข้ากองประจาการ ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถูกต้องที่สุด


ก. อายุ ๓๐ ปีบริบูรณ์ ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๑
ข. อายุ ๔๐ ปีบริบูรณ์ ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ๒
ค. อายุ ๔๖ ปีบริบูรณ์ ปลดเป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒
ง. ถูกทั้ง ก. ข. และ ค.

☺ สมชาย ฯ ถูกปลดออกจากทหารกองประจาการ เพราะมีโรคซึ่งไม่สามมารถรับราชการทหารได้ ข้อใดต่อไปนี้ ถูกต้องที่สุด ?


ก. สมชายจะได้รับใบสาคัญซึ่งถ้าชารุดหรือสูญหายไม่ต้องแจ้งเพื่อขอรับใหม่
ข. สมชายจะได้รับหนังสือสาคัญซึ่งถ้าชารุดหรือสูญหายไม่ต้องแจ้งเพื่อขอรับใหม่
ค. สมชายจะได้รับใบสาคัญซึ่งถ้าชารุดหรือสูญหายต้องแจ้งเพื่อขอรับใหม่
ง. สมชายจะได้รับหนังสือสาคัญซึ่งถ้าชารุดหรือสูญหายต้องแจ้งเพื่อขอรับใหม่

☺ บุคคลตาม มาตรา ๑๔ (๔) เมื่อพ้นจากฐานะดังกล่าว ต้องปฏิบัติอย่างไร


ก. แจ้งการพ้นฐานะเช่นนั้นภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่สามารถแจ้งได้
ข. แจ้งการพ้นฐานะเช่นนั้นภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่พ้นฐานะ
ค. แจ้งการพ้นฐานะเช่นนั้นภายใน พ.ศ. นั้น
ง. ทั้ง ก., ข., และ ค. ไม่มีข้อใดกล่าวถูกต้อง

☺ ถ้าระหว่างรับราชการทหารกองประจาการ สมชาย ฯ ถูกปลดออกจากกองประจาการ เพราะทาให้ เสื่อม เสียแก่ราชการทหาร ใน พ.ศ. ๔๖


ต่อมา ใน พ.ศ. ๔๙ เขาได้ทาหลักฐานสาคัญที่ได้จากการ ปลดสูญหาย สมชาย ฯ จะต้องปฏิบัติอย่างไร ? จึงชอบด้วย พ.ร.บ.รับราชการทหาร
ก. ต้องแจ้งเพื่อขอรับหนังสือสาคัญใหม่ มิฉะนั้นจะมีความผิดต้องระวางโทษตามมาตรา ๔๒
ข. ต้องแจ้งเพื่อขอรับใบสาคัญใหม่ มิฉะนั้นจะมีความผิดต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน ๑๒ บาท
ค. ต้องแจ้งเพื่อขอรับเอกสารนั้นใหม่ และมีระมีระวางโทษปรับ ไม่เกิน ๑๒ บาท
ง. ไม่ต้องแจ้งเพื่อขอรับเอกสารนั้นใหม่ และไม่มีโทษใดใด

☺ สมศักดิ์ฯ มีภูมิลาเนาทหารอยู่ที่ อ.เมืองเพชรบุรี รับหมายเรียกแล้วได้ไปประกอบอาชีพอยู่ที่ อ.เมืองเชียงราย เมื่อใกล้วันจะตรวจเลือกฯ


ปรากฎว่าไม่สามารถจะไปตามหมายเรียกได้เพราะไม่มี ค่าพาหนะ และจะไปไม่ทนั ด้วย จึงไปแจ้งต่อ นายอาเภอเมืองเชียงราย เพื่อขอปฏิบัติ
ตามมาตรา ๓๒ ข้อต่อไปนี้ ข้อใดถูกต้องที่สุด ?
ก. เมื่อนายอาเภอสอบสวนได้ความจริง ก็ให้เข้ารับการตรวจเลือกพร้อมกับคนในท้องที่ อ.เมืองเชียงราย
ข. เมื่อนายอาเภอสอบสวนได้ความจริง ก็ให้เข้ารับการตรวจเลือกพร้อมกับคนในท้องที่ อ.เมืองเชียงราย ถ้าไม่สามารถ
เข้ารับการตรวจเลือกพร้อมกับคนในท้องที่ อ.เมืองเชียงราย ก็ให้ส่งไปรับการตรวจเลือก ที่อาเภอใกล้เคียงตามที่เห็นสมควร
ค. เมื่อนายอาเภอสอบสวนได้ความจริง ก็ให้เข้ารับการตรวจเลือกพร้อมกับคนในท้องที่ อ.เมืองเชียงราย ถ้าไม่สามารถเข้ารับการตรวจเลือก
พร้อมกับคนในท้องที่ อ.เมืองเชียงรายได้ ก็ให้ส่งไปรับการตรวจเลือกที่ อาเภอใกล้เคียงตามที่เห็นสมควร แล้วแจ้งไปยัง อ.เมืองเพชรบุรี
ทราบ ภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ ได้รับแจ้ง
ง. ไม่มีข้อถูก

☺ ชาติชาย ฯ ร้องขอเข้ากองประจาการในวันตรวจเลือก ชาติชาย ? จะเข้ารับราชการในกองประจาการที่ใด ใครเป็นผู้กาหนด


ก. ชาติชาย ฯ ข. ผู้ว่าราชการจังหวัด
ค. นายอาเภอ ง. เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร

☺ สมควร ฯ ได้ไปลงบัญชีทหารกองเกินเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๔๕ ในการลงบัญชี ฯ สัสดีอาเภอบันทึกว่าสมควร เข้าบัญชีทหารกองเกิน ตั้งแต่


วันที่ ๑๐ มกราคม ๔๕ ต่อไปนี้ข้อใดที่เป็นไปไม่ได้
ก. สมควร เกิดเมื่อ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๒๕
ข. เมื่อรับลงบัญชี ฯ แล้ว สัสดีอาเภอได้มอบหมายเรียกให้สมควรรับไปด้วย
ค. สมควร ได้ลงบัญชีทหารกองเกิน ตาม มาตรา ๑๙ แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร
ง. เป็นไปไม่ได้ทุกข้อเพราะข้อมูลไม่ครบ
☺ ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้องที่สุด ?
ก. เมื่อ สด.๙ ชารุดหรือสูญหาย ผู้ถือต้องแจ้งเพื่อขอรับใหม่ ต่อนายอาเภอภูมิลาเนาทหาร ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่หาย
ข. เมื่อ สด.๙ ชารุดหรือสูญหาย ผู้ถือต้องแจ้งเพื่อขอรับใหม่ ต่อนายอาเภอภูมิลาเนาทหาร ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่สามารถจะแจ้งได้
ค. การรับลงบัญชีทหารกองเกินให้แก่สามเณรเปรียญเมื่อรับลงบัญชีฯแล้วก็ต้องส่ง สด.๒ ด้วย ทานองเดียวกับการส่ง สด.๒
ของผู้ลงบัญชีตามมาตรา ๑๖ หรือ มาตรา ๑๘ แล้วแต่กรณี
ง. ไม่มีข้อถูก

☺ บันทึกข้อตกลงระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงมหาดไทยฯ ข้อ ๒๐ วรรค ๒ กาหนดว่า ทหารที่อยู่ ในกองประจาการ ถ้าปรากฏว่า


พิการทุพพลภาพหรือมีโรคซึง่ ไม่สามารถรับราชการทหารได้ ตามที่กาหนด ในกฎกระทรวง ต้องให้แพทย์แผนปัจจุบันชั้น ๑ เป็นกรรมการอย่าง
น้อยกี่นาย ? และในจานวนนี้ต้อง เป็นแพทย์ในหน่วยทหารอย่าน้อยกี่นาย ? ทาการตรวจ
ก. ๒ , ๑ ข. ๓ , ๑
ค. ๓ , ๒ ง. ไม่มีข้อถูก

☺ ผู้ที่ต้องระวางโทษเบาที่สุด ได้แก่บุคคลตามข้อใด ?
ก. สมชาย ฯ หลีกเลี่ยงขัดขืนไม่เข้ารับราชการทหาร ในการระดมพล
ข. สมศักดิ์ ฯ ทาร้ายตนเองเพื่อจะให้พ้นจากการรับราชการทหาร
ค. สมควร ฯ สมรู้เป็นใจให้ สมศักดิ์ ฯ ทาร้ายร่างกายตนเองเพื่อจะให้พ้นจากการรับราชการทหาร
ง. ถูกทั้ง ๑. และ ๓.

☺ ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ข้อใดกล่าวผิด ?
ก. พระนครบาล มีหน้าที่ดูแลท้องที่
ข. พระธรรมาธิกรณ์ มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับงานในราชสานัก
ค. กรมสุรัสวดีขวา จัดทาสารบาญชีหัวเมืองฝ่ายใต้
ง. เมืองนครราชสีมา เมืองไชยา เป็นเมืองพระยามหานคร

☺ บุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องสักจะได้รับสิ่งใดเป็นหลักฐาน ?
ก. ตั๋วคุ้มสัก ข. ตั๋วคุ้มสักเลก
ค. ตั๋วคุ้มกัน ง. ตั๋วภูมิคุ้มห้าม

☺ ชายที่มีอายุ ๑๖ ปี ต้องไปทาบัญชีรายชื่อไว้ในกรมทหาร เกิดขึ้นในสมัยใด ?


ก. รัชกาลที่ ๒ ข. รัชกาลที่ ๔
ค. รัชกาลที่ ๕ ง. รัชกาลที่ ๖

☺ การสักหมายโดยใช้อักษรย่อชื่อจังหวัดเป็น ๒ ตัว แทนการใช้วิธีอาศัยกองทัพเป็นหลักนั้น


เริ่มใช้หลังจากประกาศใช้พระราชบัญญัติใด ?
ก. พระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร พ.ศ. ๒๔๔๘
ข. พระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร พ.ศ. ๒๔๖๐
ค. พระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร พ.ศ. ๒๔๗๕
ง. พระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร พ.ศ. ๒๔๗๙

☺ บัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ (แบบ สด.๒๗) คัดมาจากบัญชี ?


ก. บัญชีรายชื่อคนลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๒) ที่อาเภอส่งมาให้
ข. บัญชีรายชื่อคนที่รับลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๒) ที่อาเภอส่งมาให้
ค. บัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๒) ที่อาเภอส่งมาให้
ง. บัญชีรายชื่อทหารกองเกินที่รับบัญชี (แบบ สด.๒) ที่อาเภอส่งมาให้

☺ การแก้ไข แบบ สด.๒๗ ในกรณีเขียนผิดได้กาหนดวิธีการปฏิบัติไว้ชัดเจนแล้ว เมื่อท่านเป็นสัสดีอาเภอ จะดาเนินการแก้ไขอย่างไร?


ก. วงเล็บด้วยหมึกแดง เขียนคาที่ถูกลงใหม่ใต้หรือต่อจากคาที่วงเล็บด้วยหมึกดา ลงชื่อกากับ
ข. ขีดฆ่าด้วยหมึกดา เขียนคาที่ถูกลงใหม่ใต้หรือต่อจากคาที่ขีดฆ่าด้วยหมึกดา ลงชื่อกากับ
ค. ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง เขียนคาที่ถูกลงใหม่ใต้หรือต่อจากคาที่ขีดฆ่าด้วยหมึกดา ลงชื่อกากับ
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ลักษณะตาหนิแผลเป็น ที่ใช้บันทึกลงในบัญชีหลักฐานทางราชการทหารนั้น ให้ลงตาหนิแผลเป็น ตอนเหนือเอวขึ้นไปที่เห็นได้ง่ายและชัดเจน


ซึ่งต่อไปจะไม่สูญหาย ข้อใดกล่าวถูกต้อง ?
ก. แผลเป็นริมฝีปาก ข. แผลเป็นแขนซ้ายท่อนล่าง
ค. แผลเป็นที่ศรีษะ ง. แผลเป็นหลังมือขวา

☺ ผู้ที่มีอานาจใช้หางว่าวนาปลดออกจากกองประจาการ (แบบ สด.๗) คือผู้ใด ?


ก. หน่วยต้นสังกัด ข. สัสดีจังหวัด/สัสดีกรุงเทพมหานคร
ค. ผู้บังคับการจังหวัดทหารบก ง. ถูกทุกข้อ

☺ ขาดราชการ หมายความว่า ?
ก. ขาดไม่ถึง ๒๔ ชั่วโมงในเวลาปกติ ข. ขาดไม่ถึง ๗๒ ชั่วโมงในเวลาปกติ
ค. ขาดไม่ถึง ๗๒ ชั่วโมงในเวลาไม่ปกติ ง. ถูกทั้งข้อ ข.และ ค.

☺ พลฯ สัมฤทธิ์ หนีราชการตั้งแต่ ๑ ม.ค.๔๐ ถึง ๒๘ ธ.ค.๔๐ จับได้ ๒๙ ธ.ค.๔๐ อยากทราบว่า พลฯ สัมฤทธิ์ หนีราชการไปเป็นเวลาเท่าใด
และจะถือเกณฑ์คานวณ ?
ก. หนีราชการ ๑๑ เดือน ๒๘ วัน ถือเอาเป็นวันคานวณทัณฑ์
ข. หนีราชการ ๓๖๒ วัน ถือเอา ๓๖๒ วัน คานวณทัณฑ์
ค. หนีราชการ ๓๖๒ วัน ถือเอา ๓๖๐ วัน คานวณทัณฑ์
ง. ถูกทั้ง ข้อ ข. และ ค.

☺ ข้อใดไม่ใช่โอกาสที่ใช้ใบสาคัญ (แบบ สด.๙) ?


ก. ออกให้แก่ผู้ที่ได้รับลงบัญชีทหารกองเกิน แยกตาม พ.ศ.ที่เกิด
ข. ออกให้แก่ทหารกองเกินที่ต้องจาขังหรือจาคุก หนึ่งปีขึ้นไป ซึ่งให้ปลดทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ตามมาตรา ๔๐
ค. ออกแก่ทหารกองเกินที่พิการทุพพลภาพหรือมีโรคซึง่ ไม่สามารถรับราชการทหารได้ ที่ต้องปลดพ้นราชการทหารในคราวตรวจเลือก
ง. ออกให้แก่ผู้รับใบสาคัญแทนฉบับชารุดหรือสูญหาย โดยเสียค่าธรรมเนียมฉบับละ ๑ บาท

☺ แบบ สด. ๒๘ คือ ?


ก. บัญชีรับหนังสือสาคัญ และใบสาคัญ
ข. บัญชีรับหนังสือสาคัญหรือใบสาคัญ
ค. บัญชีรับใบสาคัญ หรือหนังสือสาคัญ
ง. บัญชีรับใบสาคัญ และหนังสือสาคัญ

☺ วิธีการตั้งเล่มใบสาคัญแทนฉบับที่ชารุดหรือสูญหาย ?
ก. ให้ตั้งเล่มไว้เป็นส่วนหนึ่ง ไม่ต้องแยกเล่มเป็นแผนก และตัดปี
ข. ให้ตั้งเล่มไว้เป็นส่วนหนึ่ง แยกเล่มเป็นแผนก และไม่ต้องตัดปี
ค. ให้ตั้งเล่มไว้เป็นส่วนหนึ่ง แยกเล่มเป็นแผนก และตัดปี
ง. ให้ตั้งเล่มไว้เป็นส่วนหนึ่ง ไม่ต้องแยกเล่มเป็นแผนก และไม่ต้องตัดปี

☺ การย้ายภูมิลาเนาทหารต่างบ้านหรือต่างตาบลในอาเภอเดียวกัน ถ้าท่านเป็นเจ้าหน้าที่สัสดีจังหวัด จะบันทึกบัญชีรายชื่อฯ (แบบ สด.๒๗)


ของจังหวัดให้ถูกต้องอย่างไร ?
ก. วงเล็บบ้านเดิมด้วยหมึกแดงแล้วเขียนบ้านที่เป็นภูมิลาเนาทหารใหม่ด้วยหมึกดา ลงชื่อผู้บันทึก กากับไว้
ข. วงเล็บบ้านเดิมด้วยหมึกแดงแล้วเขียนบ้านที่เป็นภูมิลาเนาทหารใหม่ไว้ใต้ความที่วงเล็บด้วยหมึกดา แล้วบันทึกช่องหมายเหตุ
ให้ทราบตามเรื่องฉบับที่........พ.ศ.....ลงชื่อผู้บันทึกกากับไว้
ค. วงเล็บบ้านเดิมแล้วเขียนบ้านที่เป็นภูมิลาเนาทหารใหม่ด้วยดินสอดาบันทึกช่องหมายเหตุให้ทราบ ตามเรื่อง ฉบับที่ ....พ.ศ......
ลงชื่อผู้บันทึกกากับไว้
ง. คาตอบที่กล่าวมาเบื้องต้นไม่มีข้อถูก

☺ การย้ายภูมิลาเนาทหารต่างบ้านหรือต่างตาบลในอาเภอเดียวกัน ถ้าท่านเป็นสัสดีอาเภอจะบันทึกบัญชี ทหารกองเกิน (แบบ สด.๑) อย่างไร ?


ก. วงเล็บบ้านเดิมแล้วเขียนบ้านที่เป็นภูมิลาเนาทหารใหม่ใต้ความที่วงเล็บด้วยดินสอดา บันทึกไว้ที่ ริมซ้ายตรงบรรทัดที่เปลี่ยนแปลงว่า
ตามเรื่องฉบับ........พ.ศ.......ลงชื่อผู้บันทึกกากับไว้
ข. วงเล็บบ้านเดิมแล้วเขียนบ้านที่เป็นภูมิลาเนาทหารใหม่ด้วยดินสอดา แล้วบันทึกไว้ที่ช่องหมายเหตุให้ทราบ ผู้บันทึกลงชื่อกากั บไว้
ค. วงเล็บบ้านเดิมแล้วเขียนบ้านที่เป็นภูมิลาเนาทหารใหม่ด้วยหมึกดา บันทึกช่องหมายเหตุให้ทราบ ผู้บันทึกลงชื่อกากับไว้
ง. วงเล็บบ้านเดิมด้วยหมึกแดงแล้วเขียนบ้านที่เป็นภูมิลาเนาทหารใหม่ด้วยหมึกดา บันทึกช่องหมายเหตุ ให้ทราบ ผู้บันทึกลงชื่อกากับไว้

☺ อาเภอปทุมราชวงศา อุบลราชธานี ได้ยกไปขึ้นเป็นอาเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอานาจเจริญ เช่นนี้ ท่านจะต้องจัดทาบัญชีใด รายงานจังหวัด ?


ก. ผนวก ก. ข. ผนวก ข.
ค. บัญชี ก. ง. บัญชี ข.

☺ การย้ายภูมิลาเนาทหารต่างอาเภอในจังหวัดเดียวกัน สัสดีอาเภอเดิมจะดาเนินการบันทึก สด.๑ อย่างไร ?


ก. บันทึกช่องหมายเหตุให้ทราบว่าย้ายไปอยู่ที่ใด ผู้บันทึกลงชื่อกากับ ฉีกมุมล่างด้านขวาตามรอยปรุ แล้วถอนไปเก็บตามแฟ้มย้ายภูมิลาเนา
ข. บันทึกด้านหลัง สด.๑ ช่องย้ายภูมิลาเนา..ไปอยู่...จาหน่ายบัญชี ด้วยการฉีกมุมล่างด้านขวา ตามรอยปรุ
ค. บันทึกด้านหน้า สด.๑ ช่องย้ายภูมิลาเนา...เพื่อจาหน่ายบัญชี แล้วถอนไปเก็บไว้ในแฟ้มย้าย ภูมิลาเนาทหาร
ง. บันทึกด้านหลัง สด.๑ ช่อง ย้ายภูมิลาเนา... แล้วถอนไปเก็บไว้ในแฟ้มย้ายภูมิลาเนาทหาร รายงานสัสดีจังหวัดทราบ

☺ ต้นขั้วใบสาคัญที่ผู้จาหน่ายซึ่งต้องถือใบสาคัญอีกต่อไป เช่น ?
ก. ไม่อยู่ในกาหนดต้องลงบัญชี ข. เข้ากองประจาการ
ค. ลงบัญชีทหารกองเกินซ้า ง. ย้ายภูมิลาเนาทหาร
☺ ต้นขั้วใบสาคัญ คนที่แก้ชื่อตัวชื่อสกุล ข้อใดถูกต้อง ?
ก. ให้วงเล็บคาที่ผิดด้วยหมึกแดง เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อจากวงเล็บไม่ต้องประทับตรา
ข. ให้ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกดา เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อคาที่ผิดไม่ต้องประทับตรา
ค. ให้วงเล็บคาที่ผิดด้วยหมึกแดง เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อคาที่ผิดแล้วประทับตรา
ง. ให้ขีดฆ่าคาที่ผิดด้วยหมึกดา เขียนคาที่ถูกใต้หรือต่อคาที่ผิดแล้วประทับตรา

☺ เลื่อนยศเป็นร้อยตารวจตรี ทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) บันทึก ข้อใดถูกต้อง ?


ก. ริมซ้ายตรงบรรทัดชื่อผู้ขึ้นทะเบียน ข. บันทึกที่หมายเหตุ
ค. บันทึกหน้าชื่อผู้ขึ้นทะเบียน ง. ไม่ต้องบันทึก

☺ การจาหน่ายตาย ต้นขั้วใบสาคัญ บันทึกด้านหน้าด้วยหมึกแดงว่า ?


ก. “ตายเมื่อ.....(ลง วัน, เดือน,พ.ศ.(เต็ม)ที่ตาย) ตามเรื่องฉบับที่ .....พ.ศ....”
ข. “ตายเมื่อ.....(ลง วัน, เดือน,พ.ศ.(ย่อ)ที่ตาย) ตามเรื่องฉบับที่ .....พ.ศ....”
ค. “ตายเมื่อ.....(ลง วัน, เดือน,(เต็ม),พ.ศ.(ย่อ)ที่ตาย) ตามเรื่องฉบับที่ .....พ.ศ....”
ง. “ตายเมื่อ.....(ลง วัน, เดือน(ย่อ),พ.ศ.(เต็ม)ที่ตาย) ตามเรื่องฉบับที่ .....พ.ศ....”

☺ แบบ สด.๔๒ คือ ?


ก. บัญชีรายชื่อขอนาตัวขึ้นทะเบียนกองประจาการนักศึกษาวิชาทหาร
ข. บัญชีรายชื่อขอนาตัวขึ้นทะเบียนกองประจาการนักศึกษาวิชาทหารและนาปลด
ค. บัญชีรายชื่อขอนาตัวขึ้นทะเบียนกองประจาการและนาปลด
ง. บัญชีรายชื่อขอนาตัวขึ้นทะเบียนกองประจาการและนาปลดนักศึกษาวิชาทหาร

จ. ☺ ข้อใดต่อไปนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน
ก. ชายฉกรรจ์ ข. หลักประกันในการ ปบ. ของ จนท.
ค. วิธีสะสมกาลังพล ง. ผิดทุกข้อ

☺ วิธีที่ผิดทาให้ประเทศชาติมีกาลังพลพร้อมใช้ทาการรบได้ คือ ข้อใด


ก. ทหารกองประจาการ ข. ทหารประจาการ
ค. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ง. ถูกทั้ง ก. และ ค.

☺ ข้อใดไม่ใช่ การเตรียมบุคคลไว้สาหรับฝึกอบรม
ก. ทหารกองประจาการ อายุ ๑๘ – ๒๑ ปี ข. ทหารกองเกิน อายุ ๑๘ – ๒๙ ปี
ค. ทหารกองหนุนประเภทที ๒ ง. ถูกทั้ง ข.และ ค.

☺ มาตราใดไม่อยู่ในเรื่องการเรียกคนเข้ากองประจาการ
ก. มาตรา ๒๒, ๒๘ ข. มาตรา ๒๓, ๒๗
ค. มาตรา ๒๔, ๒๖ ง. มาตรา ๒๕, ๒๔

☺ ต่อไปใครคือ ผู้ที่อยู่ในกาหนดเรียกมาตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจาการ
ก. นาย เก่ง ถือ สด.๙ ไปให้สด.จทบ. เพื่อวัดขนาด
ข. นาย แต่ โอ้อวด สด.๙ ที่โต๊ะสนุ๊กบอกเพื่อนว่า “ไปหา สด.อ.มาหลังจากทาบัตร ปชช. ๒ ปี”
ค. นาย ปาก นาบัตร ปชช. , ทะเบียนบ้าน ไปพบ สด.อ.
ง. นาย นะ นา สด.๔ ไปหาหมอที่ รพ.

☺ ใครคือผู้ที่ไม่อยู่ในกาหนดเรียกมาตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจาการ
ก. คณะกรรมการจัดเป็นคนจาพวก ๓ ข. ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือก
ค. พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน ง. ผิดทุกข้อ

☺ ข้อใดคือการกาหนดเวลาเรียกทหารกองเกิน
ก. ปีหนึ่งเรียกครั้งเดียว ข. ปีหนึ่งเรียกสองครั้ง
ค. ปีหนึ่งเรียกสามครั้ง ง. ถูกทั้ง ก, ข, ค. ถ้า รมว.กห.สั่ง

☺ การจัดทาหมายเรียกเข้ารับราชการทหารตามรายชื่อใน สด.๑ เฉพาะทหารกองเกินที่มีอายุย่าง ๒๑ ปี ให้เสร็จในเดือนใด


ก. ม.ค. ถึง ส.ค. ข. ก.ย. ถึง พ.ย
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข. ง. ไม่มีข้อถูก

☺ ทหารกองเกิน อายุ ๒๒ ปี ถึงอายุ ๒๙ ปี ในปีที่ต้องเข้ากองประจาการ ให้สัสดีอาเภอจัดทาหมายเรียก ตามรายชื่อใน สด.๑๖ จากหลักฐานใด


ก. สด.๑๖ ตรวจเลือกครั้งสุดท้าย ข. สด.๑๖ ตรวจเลือกครั้งสุดท้ายของอาเภอ
ค. สด.๑๖ ตรวจเลือกครั้งสุดท้ายของ จว. ง. ถูกทุกข้อ

☺ ทหารกองเกินที่ถูกเรียกรายใดไปจากท้องที่ เมื่อสืบทราบที่อยู่แน่ชัด ใครเป็นผู้มอบหมายเรียกฯ


ก. สด.อ.เจ้าของท้องที่ ข. สด.อ.ภูมิลาเนาทหาร
ค. นอภ.เจ้าของท้องที่ ง. นอภ.ภูมิลาเนาทหาร

☺ การส่งหมายเรียกในเขตสุขาภิบาล ให้สัสดีอาเภอออกหนังสือในนาม นอภ. ส่งทางไปรษณีย์ ให้ผู้ถูกเรียกไปรับที่อาเภอภายในกี่วัน


ตั้งแต่ได้รับหนังสือ
ก. ๗ วัน ข. ๑๐ วัน
ค. ๑๕ วัน ง. ถูกเฉพาะ ก,ข

☺ เดือน ต.ค.ทุกปี สด.อ.จัดทาประกาศเสนอ นอภ.ลงนาม เพื่อประกาศให้ทหารกองเกินอายุย่าง ๒๑ ปี ไปรับหมายเรียกฯ ตามมาตราใด


ก. ม.๑๘ ข. ม.๒๕
ค. ม.๒๖ ง. ม.๒๗

☺ การจัดทาบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ ( แบบ สด.๑๖) ในเดือน ม.ค.๕๕ เพื่อใช้ทาการตรวจเลือกฯ ปีใด


ก. ๕๔ ข. ๕๕
ค. ๕๖ ง. ๕๗

☺ บัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้(แบบ สด.๑๔) ถ้าจานวนเพิ่มหรือลดลงเกินกว่า ๔๙ คน ต้องส่งบัญชีใหม่เมื่อใด


ก. ภายในวันที่ ๕ ของเดือนที่รับบัญชี ข. ภายในวันที่ ๑๐ ของเดือนที่รับบัญชี
ค. ภายในวันที่ ๑๕ ของเดือนที่รับบัญชี ง. ไม่มีข้อถูก

☺ การแบ่งเฉลี่ยคนเข้ากองประจาการของ จทบ. ถ้าได้รับแจ้งจานวนขอเรียกสองแผนกข้อใดถูก


๑. จานวนรวมของคนที่จะเรียกได้ทั้งหมด
๒. จานวนคนที่ขอเรียกทุกแผนก
๓. จานวนคนที่จะเรียกได้ของแต่ละ จว.
ก. ๑ คูณ ๒ หาร ๓ ข. ๑ คูณ ๓ หาร ๒
ค. ๒ คูณ ๑ หาร ๓ ง. ๒ คูณ ๓ หาร ๑

☺ ใครเป็นผู้ดาเนินการจัดสถานที่ตรวจเลือกอาเภอนายูง จว.หนองบัวลาภู
ก. จ.ส.อ.นิคม ฯ เสมียนหน่วยสัสดีอาเภอนายูง ข. นายอาเภอนายูง
ค. สัสดีอาเภอนายูง ง. ภารโรงอาเภอนายูง

☺ กรณีรับหมายเรียก (แบบ สด.๓๕) แทนนั้น จะต้องบันทึกการรับหมายแทนที่ใด


ก. บริเวณที่ว่างใน (แบบ สด.๓๕) ที่ใดก็ได้
ข. ด้านหลัง (แบบ สด.๓๕) แนวบรรทัดบนสุด
ค. ด้านหลัง (แบบ สด.๓๕) แนวบรรทัดวัน..เดือน..พ.ศ… ในต้นขั้ว
ง. บันทึกด้านหลัง (แบบ สด.๑)

☺ กรณีตรวจเลือกศาลาการเปรียญวัดดอนมดแดงนั้น ช่อง “ให้มา ณ ที่…” นั้น มีข้อความใดต่อไปนี้ อยู่ด้วย


ก. อาเภอดอนมดแดง ข. ตาบลเมืองใหม่
ค. สมาคมชาวปักษ์ใต้ ง. ถูกทุกข้อ

☺ ท่านเป็น ผช.สัสดีอาเภอฯ บัญชีเรียกฯ(แบบ สด.๑๖) ของท่านคัดจากอะไร


ก. (แบบ สด.๒๗) ข. (แบบ สด.๑)
ค. (แบบ สด.๑๖) ง. ไม่มีข้อถูก (ผมไม่ได้คัด..)

☺ การเก็บรักษาและการทาลาย (แบบ สด.๔๓)นั้น มีกาหนดไว้ชัดเจน สาหรับท่อนที่ ๓ นั้นเก็บไว้กี่ปี


ก. สัสดีจังหวัดเก็บไว้ไม่น้อยกว่า ๑๐ ปีจึงทาลายได้
ข. ทภ.เก็บไว้ไม่น้อยกว่า ๕ ปี กรณีมีปัญหาเก็บไว้ไม่น้อยกว่า ๑๐ ปีจึงทาลายได้
ค. เก็บไว้ตลอดชีพ
ง. ข้อ ก.และข้อ ข.ถูก

☺ เจ้าหน้าที่รับคาร้องของจังหวัดท้องที่ตรวจเลือก อยู่ในการควบคุมกากับดูแลของกรรมการใด
ก. ประธานคณะกรรมการตรวจเลือก ข. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑ (น.๑)
ค. กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๒ (น.๒) ง. กรรมการสัสดีจังหวัด

☺ นอกจากมีหน้าที่เรียกชื่อทหารกองเกินเข้ารับการตรวจเลือกแล้ว น.๑ ยังมีหน้าที่ใดอีก


ก. นาตัวทหารกองเกินที่ถูกเข้ากองประจาการไปรับหมายนัด
ข. นาตัวทหารกองเกินที่ถูกเข้ากองประจาการไปขึ้นทะเบียนฯ
ค. ดูแลคนที่เข้าตรวจเลือกแล้วและยังไม่เข้ารับการตรวจเลือกไม่ให้ปะปนกัน
ง. ถูกทุกข้อ

☺ ห้องลับสาหรับตรวจโรคในวันตรวจเลือก เกี่ยวข้องกับเรื่องใด
ก. วัดขนาดคนเมาจนลุกขึ้นวัดขนาดไม่ได้ ข. วัดขนาดพระภิกษุสามเณร
ค. ตรวจโรคภายในช่องหู ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา

☺ อาเภอเกาะกูด มียอดแบ่งเฉลี่ย ๒ คน มีคนหลีกเลี่ยงส่งเข้ากองประจาการ ๒ คน คนจาพวกที่ ๑ บันทึก ปล่อยว่าอย่างไร


ก. “ปล่อยเพราะไม่ต้องส่งคนประเภทอื่น” ข. “ปล่อยเพราะได้คนพอ”
ค. “ปล่อยเพราะส่งคนพอ” ง. “ปล่อยเพราะส่งคนหลีกเลี่ยงพอ”

☺ คนที่ต้องปล่อยแน่นอนคือประเภทใด
ก. คนจาพวกที่ ๔, คนจาพวกที่ ๓, คนจาพวกที่ ๒
ข. คนจาพวกที่ ๔, คนจาพวกที่ ๓, คนไม่ได้ขนาด
ค. คนจาพวกที่ ๔, ๓, ไม่, ผ่อน, ๒, ถัดรอง
ง. ไม่มีข้อถูก

☺ คนหลีกเลี่ยง ๑ คนต้องส่งแผนกคนมาก หากขอเรียก ๓ แผนก ตามยอดคือ ทบ.๓๐ คน, ทอ.๒๐ คน, ทร.๑๐ คน แผนกทหารบก
รับคนร้องขอครบแล้ว ๓๐ คน จะส่งคนหลีกเลี่ยงอย่างไร
ก. ส่งลดยอดให้อาเภออื่นในแผนก ทบ.๑ ข. ส่งในยอดแผนก ทอ.๑
ค. แล้วแต่กรรรมการสัสดีจังหวัดพิจารณา ง. ส่งไปลดยอดของคณะอื่นๆ ในจังหวัดนี้

☺ นายสมชาย ฯ เป็นทหารกองเกินอาเภอปราณบุรี จับสลากเป็นคนสุดท้ายในจานวน ๒๕๓ คนแต่ก่อนหน้าที่จะได้จับสลากนั้น มีคนหลบหนี


ก่อนจับสลาก ๑ คน และร้องขอฯ ๒ คน หากสมชายโชคดี หรือโชคร้ายก็ไม่แน่แต่จับได้สลาก “ดา” สลากที่จับจะตีหมายเลขลาดับด้วยเครื่องอัตโนมัติ
เป็นลาดับที่เท่าไร
ก. ๒๕๓ ข. ๓๕๒
ค. ๕๓๒ ง. ๒๕๐

☺ อาเภอเมืองสวง มีหน่วยสัสดีอาเภออยู่ชั้น ๑ (ไม่ต้องขึ้นชั้น ๒) มียอดขอเรียกรวม ๓๐ คน , คนขนาดสูง ๑๖๐ ซม.ขึ้นไป และรอบตัว


๗๖ ซม.ขึ้นไปมีจานวน ๑๒๐ คน, คนสูง ๑๕๙ ซม.และรอบตัว ๗๖ ซม.ขึ้นไปมีจานวน ๙๕ คน หากไม่มีคนร้องขอฯจะมีสลากแดง-ดากี่ใบ
ข. ๓๐ ใบ ข. ๒๑๕ ใบ
ค. ๑๒๐ ใบ ง. ๙๕ ใบ

☺ นายสมหมาย ฯ มาเข้าตรวจเลือกฯ เป็นโรคคอพอก ตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๓๗(พ.ศ.๒๕๑๖)ข้อ ๓ (๗) หากหมอไม่มีความสงสัยในการวินิจฉัยแล้ว


เขาจะเป็นคนจาพวกใด
ข. จาพวกที่ ๑ ข. จาพวกที่ ๒
ค. จาพวกที่ ๓ ง. จาพวกที่ ๔

☺ จากข้อ ๕๒ หากนายสมหมาย ฯ ถูกเข้ากองประจาการ จะร้องกรรมการชั้นสูงภายในกาหนดใด หากตรวจเลือก ๕ เม.ย.๕๒


ก. ๑๕ เม.ย.๕๒ ข. ๓๐ เม.ย.๕๒
ค. ๑๕ พ.ค.๕๒ ง. ๓๐ พ.ค.๕๒

☺ ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่เดินบัญชีเรียกฯ(แบบ สด.๑๖)
ก. โต๊ะ ๑ ไป ๒ เป็นของ น.๑,โต๊ะ ๒ ไป ๓ เป็นของแพทย์,โต๊ะ ๓ ไปประธานเป็นของ น.๒
ข. โต๊ะ ๒ ไป ๓ เป็นของ น.๑,โต๊ะ ๒ ไปประธานเป็นของสัสดี,โต๊ะ ๓ ไปประธานเป็นของ น.๒
ค. โต๊ะ ๒ ไป ๓ เป็นของสัสดี,โต๊ะ ๑ ไป ๒ เป็นของ น.๑,โต๊ะ ๓ ไปประธานเป็นของ ประธาน
ง. โต๊ะ ๑ ไป ๒ เป็นของ น.๒,โต๊ะ ๒ ไป ๓ เป็นของสัสดี,โต๊ะ ๓ ไปประธานเป็นของ น.๒

☺ ประธานกรรมการฯลงชื่อกากับผลการตรวจเลือกในช่องหมายเหตุ จากผลการตรวจเลือกใด
ก. จับสลาก “ดา” ข. “ปล่อย”
ค. จับสลาก “แดง” ง. ถูกทุกข้อ

☺ กรรมการสัสดีจังหวัดลงชื่อกากับผลการตรวจเลือกใด
ก. จับสลาก “แดง” ข. จับสลาก “ดา”
ค. “ปล่อย” ง. ถูกทุกข้อ

☺ เมื่อมีเหตุการณ์ส่อไปในทางทุจริต ประธานฯรายงานด่วนอย่างไร
ก. รายงาน ผบ.ทบ.ผ่าน มทภ. ข. รายงาน รมว.กห.ผ่าน มทภ.
ค. รายงาน มทภ.ผ่าน ผบ.มทบ.หรือ ผบ.จทบ. ง. รายงาน นสร.ผ่าน มทภ.

☺ การลงชื่อใน (แบบ สด.๔๓) “ขอรับรองว่าถูกต้อง” ในบรรทัดที่ ๓ กรรมการใดเป็นผู้ลงชื่อ


ก. น.๑ ข. น.๒
ค. แพทย์ ง. กรรมการสัสดี

☺ ข้อใดไม่ใช่ลักษณะการเกณฑ์กาลังทหารของไทยโบราณ?
ก. มีการควบคุมเป็นหมู่เป็นพวกตามวงศ์สกุล ญาติพี่น้อง
ข. กาลังพลต้องจัดหาศาสตราวุธ พาหนะ และเสบียงอาหารของตนไปเอง
ค. เจ้าหมู่ เป็นผู้ควบคุม นายบ้านให้จัดเตรียมกาลังพล
ง. เจ้าหมู่ ขึ้นการบังคับบัญชากับ เจ้าเมือง

☺ ข้อใดไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยของ “สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ”?
ก. การทาตาราพิไชยสงคราม ข. การตั้งทาเนียบยศ
ค. การจัดทาเนียบหัวเมือง ง. การตั้งทาเนียบกระทรวงทบวงการ

☺ “การทาพิธีตามหัวเมือง” เกิดขึ้นในสมัยใด?
ก. สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ข. สมัยสมเด็จพระราชาธิบดี
ค. สมเด็จพระราชาธิบดีที่ ๒ ง. สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒

☺ ข้อใดไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยของ “สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒” ?
ก. การทาสารบาญชี ข. การทาตาราพิไชยสงคราม
ค. การทาตาราพิชัยยุทธ์ ง. การทาพิธีตามหัวเมือง

☺ “กรมพระสุรสั วดี” เกิดขึ้นในสมัยใด?


ก. สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
ข. สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒
ค. รัชกาลที่ ๑
ง. รัชกาลที่ ๕

☺ “กรมพระสุรสั วดี” ขึ้นตรงต่อผู้ใด?


ก. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข. เจ้าเมือง
ค. สัสดีมณฑล ง. ไม่มีข้อถูก

☺ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดคือรัชสมัยใด?
ก. รัชกาลที่ ๓ ข. รัชกาลที่ ๔
ค. รัชกาลที่ ๕ ง. รัชกาลที่ ๖

☺ กองการสัสดี กรมเสมียนตรา ขึ้นการบังคับบัญชากับหน่วยใด?


ก. กระทรวงกลาโหม ข. สานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
ค. สานักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหม ง. สรรพกาลังกระทรวงกลาโหม

☺ หน่วยสัสดีกิ่งอาเภอฝากการบังคับบัญชาไว้กับหน่วยใดของกระทรวงมหาดไทย?
ก. กรมการปกครอง ข. จังหวัด
ค. อาเภอ ง. กิ่งอาเภอ

☺ ข้อใดคือลักษณะของทหารกองเกิน?
ก. ผู้ซึ่งมีอายุ ๑๗ ปีบริบูรณ์ และยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์
ข. ผู้ซึ่งมีอายุย่าง ๑๘ ปีบริบูรณ์ จนถึงอายุ ๓๐ ปีบริบูรณ์
ค. ผู้ซึ่งมีอายุ ๑๘ ปีบริบูรณ์ จนถึงอายุ ๓๐ ปีบริบูรณ์
ง. ผู้ซึ่งมีอายุ ๑๘ ปีบริบูรณ์ และยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์

☺ นาย อุดม อายุ ๓๐ ปีมาลงบัญชีทหารกองเกิน ท่านในฐานะเจ้าหน้าที่จะดาเนินการอย่างไร?


ก. รับลงบัญชีทหารกองเกิน โดยให้มีสภาพทหารกองเกินตั้งแต่วันที่ลงบัญชี
ข. ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒
ค. ให้พ้นราชการประเภทที่ ๒
ง. ไม่รับลงบัญชี
☺ นายสว่าง เป็นเป็นบุตรนอกสมรสของนายมืดและนางแจ้ง โดยในตอนนาย สว่างเกิดนาย มืด ได้ทาการรับรองบุตรเอาไว้ ดังนี้ข้อใดถูกต้อง?
ก. ให้นายสว่างลงบัญชี ณ ภูมิลาเนาของนายมืด ซึ่งเป็นบิดา ตามมาตรา ๕(๑) ได้
ข. นายมืดต้องลงบัญชี ณ ภูมิลาเนาของ นางแจ้ง มารดา ตามมาตรา ๕(๒) เพราะเป็นบุตรนอกสมรส แม้จะได้ทาการจดทะเบียน
รับรองบุตรแล้วก็ตาม
ค. ให้ลงบัญชี ณ ภูมิลาเนาของนายสว่าง เพราะการเป็นบุตรนอกสมรสจะใช้ภูมิลาเนาของบิดาและมารดาไม่ได้
ง. ไม่มีข้อถูก

☺ “สมพร” ขอลงบัญชีที่ อ.ด่านขนาด สัสดีอาเภอส่งไปดาเนินคดีที่ไม่มาลงตามกาหนดแล้วจึงรับลงบัญชีทหารให้ เมื่อวันที่ ๑๔ ก.พ. ๒๕๔๙ ถามว่า


“สมพร” เป็นทหารกองเกินเมื่อใด?
ก. ๑ ม.ค. ๔๙ ข. ๑๔ ก.พ. ๔๙
ค. ๑ ม.ค. ๕๐ ง. ตอบไม่ได้ เพราะไม่ทราบ พ.ศ. เกิด

☺ ข้อใดมิใช่ลกั ษณะของทหารกองหนุนประเภทที่ ๒?
ก. ทหารกองเกินที่มีอายุครบ ๓๐ ปีบริบูรณ์
ข. ทหารกองประจาการที่ต้องโทษตั้งแต่ ๖ เดือนขึ้นไป
ค. บุคคลที่กระทรวงกลาโหมเห็นว่าสร้างความเสื่อมเสียให้กองทัพ
ง. ทุกข้อคือลักษณะของทหารกองหนุนประเภทที่ ๒

☺ นายทหารสัญญาบัตรถูกถอดหรือออกจากยศ ข้อใดกล่าวถูกต้อง?
ก. ปลดเป็นนายทหารนอกกอง ข. ปลดเป็นนายทหารนอกประจาการ
ค. ปลดเป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ ๒ ง. ปลดเป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ ๑

☺ เมื่อรับลงบัญชีทหารกองเกินตาม มาตรา ๑๖ นายอาเภอไม่สามารถออกใบสาคัญให้ได้เนื่องจาก ใบสาคัญสูญหายทั้งเล่ม จะต้องออกหลักฐาน


แทนให้ผู้ขอลงบัญชีทหารกองเกิน ?
ก. ใบรับ (แบบ สด.๑๐) ข. ใบสาคัญแทนฉบับที่ชารุดหรือสูญหาย (แบบ สด.๙)
ค. บัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๑) ง. ออกได้ทั้ง ก และ ข

☺ บุคคลที่อยู่ในกาหนดออกหมายเรียก คือ ?
ก. ทหารกองเกิน ข. ทหารกองหนุน
ค. บุคคลที่ลงบัญชีทหารกองเกินเมื่อมีอายุ ๓๐ ปีบริบูรณ์ ง. ถูกทั้ง ก และ ค

☺ นายดา เป็นคนเกิด พ.ศ.๒๕๒๙ มาเข้ารับการตรวจเลือกเมื่ออายุ ๒๑ ปี ผลปรากฏว่าจับได้สลากดา อยากทราบว่า นายดา


จะเป็นทหารกองหนุนเมื่อใด ?
ก. ๑ ม.ค.๕๘ ข. ๑ ม.ค.๕๙
ค. ๑ ม.ค.๖๐ ง. ๑ ม.ค.๖๑

☺ ทหารกองเกินที่ถูกเข้ากองประจาการในแผนกต่าง ๆ จะต้องมอบหมายนัดให้รับไปทุกคน อยากทราบว่า ใครเป็นผู้ออกหมายนัด ?


ก. สัสดี ข. นายอาเภอ
ค. ปลัดอาเภอผู้เป็นหัวหน้าฝ่ายทะเบียน ง. ถูกทั้ง ข และ ค

☺ หากนักเรียนต้องการทราบว่าทหารกองหนุนมีสิทธิผ่อนผันการเรียกพลได้หรือไม่อย่างไร จะไปดู กฎกระทรวงฉบับใด


ก. ๓๖ ข. ๓๙
ค. ๔๙ ง. ๕๐

☺ ทหารกองเกินเมื่อมีอายุ ๔๐ ปี ให้ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ ชั้นที่ ....?


ก. ๑ ข. ๒
ค. ๓ ง. พ้นราชการทหารประเภทที่ ๒

☺ ทะเบียนพล หมายถึง
ก. บัญชีจดลักษณะจานวนคน ข. บัญชีที่จดลักษณะจานวนของกาลังพล
ค. บัญชีจดลักษณะงานต่างๆของรัฐ ง. ไม่มีข้อถูก

☺ การสักเลก ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด
ก. สักเมื่ออายุ ๑๘ ปี ให้พ้นราชการทหารเมื่ออายุ ๕๐ ปี
ข. สักเมื่ออายุ ๑๘ ปี ให้พ้นราชการทหารเมื่ออายุ ๔๐ ปี
ค. สักเมื่ออายุ ๑๖ ปี ให้พ้นราชการทหารเมื่ออายุ ๗๐ ปี
ง. สักเมื่ออายุ ๑๖ ปี ให้พ้นราชการทหารเมื่ออายุ ๕๐ ปี

☺ เหตุการณ์ใดไม่เกี่ยวเนื่องกันในสมัย ร. ๖
ก. มีการเปลี่ยนคาว่า เมือง เป็น จังหวัด ข. ตราพระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร พ.ศ. ๒๔๖๐
ค. งดการสักคนกองเกิน ง. ตราพระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร พ.ศ. ๒๔๗๕

☺ ทัณฑ์ที่จะลงแก่ผู้กระทาผิดต่อวินัยทหาร ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. กัก ข. ขัง
ค. จาขัง ง. จาคุก

☺ กรณีการย้ายต่างบ้านหรือต่างตาบลในอาเภอเดียวกันจะต้องปฏิบัติอย่างไรเกี่ ยวกับบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.๑)


ก. ให้วงเล็บบ้านเดิมด้วยดินสอดา ข. บันทึกไว้ที่ริมซ้ายตรงบรรทัดที่เปลี่ยนแปลง
ค. ให้ผู้บันทึกลงชื่อกากับ ง. ต้องปฏิบัติทุกข้อที่กล่าวมา

☺ อาเภอคลองหาด จังหวัดปราจีนบุรี ถูกแยกไปขึ้นกับจังหวัดสระแก้ว ในฐานะเจ้าหน้าที่สัสดีอาเภอจะต้องปฏิบัติเช่นไร


ก. จัดทาบัญชี ก รายงานฝ่ายสรรพกาลังมณฑลทหารบก ข. จัดทาบัญชี ก รายงานสานักงานสัสดีจังหวัด
ค. จัดทาบัญชี ข รายงานสานักงานสัสดีจังหวัด ง. จัดทาบัญชี ข รายงานฝ่ายสรรพกาลังมณฑล

☺ โอกาสที่ใช้บัญชีทหารกองเกิน ( แบบ สด.๑ ) ข้อใดถูกต้อง


ก. รับลงบัญชีทหารกองเกิน ตามมาตรา ๑๖,๑๘,๑๙
ข. รับแจ้งย้ายภูมิลาเนา ผู้ที่มาตั้งทามาหาเลี้ยงชีพเป็นประจา หรือมีที่อยู่เป็นหลักฐานตามมาตรา ๑๒
ค. เมื่อออกใบสาคัญ ( แบบ สด.๙ ) ให้ตามมาตรา ๔๐,๔๑
ง. ข้อ ก และ ข ถูก

☺ ใครเป็นผู้ลงชื่อเป็นเจ้าหน้าที่รับลงบัญชี ( แบบ สด.๙ )


ก. เสมียนหน่วยสัสดีอาเภอ ข. ผู้ช่วยสัสดีอาเภอ
ค. สัสดีอาเภอ ง. นายอาเภอ

☺ กาหนดรายงานบัญชีรายชื่อคนที่ลงบัญชีทหารกองเกิน ( แบบ สด.๒ ) สาหรับคนตกค้าง ตามมาตรา ๑๘ ส่งผู้ว่าราชการจังหวัด ข้อใดถูกต้อง


ก. ภายใน วันที่ ๓๐ มกราคมของปีถัดไป
ข. ภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันรับลงบัญชีทหารกองเกิน
ค. ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่สิ้นสุดกาหนดวันประกาศของนายอาเภอ
ง. ภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่สามารถปฏิบัติได้

☺ ผู้มอบหนังสือสาคัญ ( แบบ สด.๘ ) ต้องให้ผู้ถือหนังสือสาคัญลงชื่อในหนังสือสาคัญ ข้อใดถูกต้องที่สุด


ก. พลทหารรักชาติ ยิ่งชีพ ข. ส.ต.รักชาติ ยิ่งชีพ
ค. สิบตรีรักชาติ ยิ่งชีพ ง. ข้อ ก และ ค ถูก

☺ โอกาสที่ใช้ ใบรับ ( แบบ สด. ๑๐ ) ข้อใดไม่ถูกต้อง


ก. ไม่สามารถออกหนังสือสาคัญ ( แบบ สด. ๘ )
ข. ผู้แจ้งย้ายที่อยู่ชั่วคราว หรือ แจ้งย้ายถูมิลาเนาทหาร
ค. ผู้แจ้งขอเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล
ง. ผู้แจ้งพ้นฐานะยกเว้นหรือผ่อนผัน

☺ ใบสาคัญที่ออกให้ตามมาตรา ๔๐,๔๑ ใครมีหน้าที่ออกตาม ( แบบ สด.๙ )


ก. สัสดีอาเภอ พร้อม สัสดีจังหวัด ข. นายอาเภอ พร้อม สัสดีอาเภอ
ค. ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อม สัสดีจังหวัด ง. นายอาเภอ พร้อม ผู้ว่าราชการจังหวัด

☺ ต้นขั้วใบสาคัญที่ผู้จาหน่าย ซึ่งต้องถือใบสาคัญอีกต่อไป คือข้อใด


ก. ไม่อยู่ในกาหนดต้องลงบัญชี ข. ย้ายภูมิลาเนาทหาร
ค. เข้ากองประจาการ ง. ลงบัญชีทหารกองเกินซ้า

☺ บัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ (แบบ สด.๒๗)ในกรณีเขียนผิด(บันทึกเพิ่มเติม ภายหลัง ใครเป็นผู้ลงชื่อกากับไว้


ก. เจ้าหน้าที่ผู้บันทึก ข. สัสดีจังหวัด
ค. เจ้าหน้าที่ผู้บันทึก และสัสดีจังหวัด ง. ถูกทุกข้อ

☺ การส่งทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) ไปให้ฝ่ายสรรพกาลัง มทบ. มีวิธีการปฏิบัติอย่างไร


ก. กรณีส่งคนในวันตรวจเลือกฯ ให้ส่งภายใน ๓๐ วันนับตั้งแต่วันขึ้นทะเบียนกองประจาการ
ข. กรณีส่งคนในวันตรวจเลือกฯ ให้ส่งภายใน ๖๐ วันนับตั้งแต่วันขึ้นทะเบียนกองประจาการ
ค. กรณีส่งคนในวันตรวจเลือกฯ ให้ส่งภายในเดือนกันยายน ของปีที่ทาการตรวจเลือก
ง. กรณีส่งคนในวันตรวจเลือกฯ ให้ส่งภายในเดือนตุลาคม ของปีที่ทาการตรวจเลือก
☺ ใครเป็นผู้ที่มีอานาจในการสั่งถอนทะเบียนกองประจาการ
ก. ผบ. มทบ. หรือผูท้ ี่ได้รับหมอบหมายจาก ผบ.มทบ.
ข. มทภ. หรือผู้ทไี่ ด้รับมอบหมายจาก มทภ.
ค. ผบ.ทบ. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผบ.ทบ.
ง. รมว.กห. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก รมว.กห.

☺ ทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) ในช่อง “เพราะ……” บุคคลที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ร้องขอเข้ากองประจาการ บันทึกว่าอย่างไร


ก. ร้องขอเข้ากองประจาการ ข. ร้องขอเข้ากองประจาการวุฒิชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
ค. ไม่ต้องบันทึกใด ๆ ทั้งสิ้น ง. ร้องขอฯ วุฒิ ม.๓

☺ หน่วยต้นสังกัดยื่นบัญชีรายชื่อทหารกองประจาการที่ครบกาหนดปลด ถึง จทบ.ในพื้นที่ ก่อนวันครบกาหนดปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๑


ภายในกี่วัน
ก. ไม่น้อยกว่า ๙๐ วัน ข. ไม่น้อยกว่า ๖๐ วัน
ค. น้อยกว่า ๙๐ วัน ง. น้อยกว่า ๖๐ วัน

☺ บัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ (แบบ สด.๒๗) เป็นบัญชีที่ใช้


ก. ควบคุมทหารกองประจาการ ที่ถูกปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๑
ข. ควบคุมทหารกองประจาการ ที่ถูกปลดเป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ ๑
ค. ควบคุมทหารกองเกิน และทหารกองหนุนประเภทที่ ๒
ง. ไม่มีข้อใดถูก

☺ ข้อกาหนดในการเรียกที่ถูกต้องคือข้อใด
ก. ปีหนึ่งเรียกครัง้ เดียวในเดือน เม.ย.ตามที่ รมว.กห.สั่ง
ข. ปีหนึ่งเรียกสองครั้งในเดือน เม.ย.และเดือน พ.ค.ตามที่ รมว.กห.สั่ง
ค. ปีหนึ่งเรียกครัง้ เดียวระหว่างเดือน เม.ย.กับเดือน พ.ค.แล้วแต่ รมว.กห.สั่ง
ง. ปีหนึ่งเรียกครัง้ เดียวระหว่างเดือน เม.ย.กับเดือน พ.ค.เว้นแต่ รมว.กห.สั่ง

☺ จานวนทหารกองเกินตามข้อใด ที่กาหนดให้ตรวจเลือกฯวันเดียว
ก. ๗๐๑ คน ข. ๘๐๑ คน
ค. ๖๙๙ คน ง. ๗๙๙ คน

☺ หากต้องแบ่งการตรวจเลือกออกเป็น ๒ วัน วันหนึ่งๆนั้นจะมียอดทหารกองเกินเข้าตรวจเลือกฯ ไม่เกินกี่คน


ข. ๕๐๐ คน ข. ๖๐๐ คน
ค. ๗๐๐ คน ง. ไม่มีข้อถูก

☺ การแจ้งวันเวลาและสถานที่ตรวจเลือกในเดือน ธ.ค.๕๑ นี้ เป็นการแจ้งวันเวลาและสถานที่ตรวจเลือกของปี พ.ศ.ใด


ก. ๒๕๕๑ ข. ๒๕๕๒
ค. ๒๕๕๓ ง. ๒๕๕๔

☺ การรายงานวันรับหมายเรียกต่อจังหวัดของสัสดีอาเภอ ต้องรายงานภายในกาหนดใด
ก. วันที่ ๑๐ ของเดือนถัดไป
ข. ครั้งแรก ๑๐ ก.ย.
ค. รับหมายเดือน มี.ค. ส่งก่อนวันตรวจเลือก
ง. ถูกทุกข้อ

☺ บัญชีเรียกมีกี่ประเภท
ก. รวมบัญชีคนยกเว้นแล้วมี ๕ ประเภท
ข. รวมบัญชีคนสละสิทธิ์ผ่อนผันแล้วมี ๕ ประเภท
ค. รวมทุกบัญชีแล้วมี ๕ ประเภท
ง. ถูกทุกข้อ

☺ บัญชีจานวนคนที่จะเรียกได้ (แบบ สด.๑๔) ต้องส่งใหม่เมื่อมียอดเพิ่มขึ้น/ลดลงกี่คน


ก. ๕๐ คน ข. เกิน ๕๐ คน
ค. น้อยกว่า ๕๐ คน ง. ไม่มีข้อถูก

☺ การแบ่งเฉลี่ยคนส่งเข้ากองประจาการ หากผลลัพธ์ไม่ครบตามจานวนต้องการอีก ๑ คน จะเพิ่มให้อาเภอใด


ข. อาเภอปราณบุรี เศษ ๑๒๑ ข. อาเภอกุยบุรี เศษ ๑๑๒
ค. อาเภอสามร้อยยอด เศษ ๒๑๑ ง. อาเภอบางสะพาน เศษ ๒๑๒
☺ นักบวชศาสนาอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่เรียกมาตรวจเลือกฯ คือศาสนาใด
ข. ศาสนาพุทธ ข. ศาสนาซิกส์
ค. ศาสนาอิสลาม ง. ถูกทุกข้อ

☺ การผ่อนผันมี ๒ ลักษณะ หนึ่งในลักษณะการผ่อนผันดังกล่าวถูกต้องตามข้อใด


ก. ผ่อนผันไม่ต้องมาเข้ารับการตรวจเลือก
ข. ผ่อนผันไม่ต้องมาเข้ารับราชการทหาร
ค. ผ่อนผันไม่ส่งเข้ากองประจาการในคราวที่คนไม่พอ
ง. ผ่อนผันไม่มาเข้ารับการตรวจเลือกเมื่อมีคนพอ

☺ พระที่เป็นเปรียญนั้น เมื่อลาสิกขามีอายุ ๒๖ ปี ต้องดาเนินการข้อใดบ้าง


ข. ลงบัญชีทหารกองเกิน
ค. ลงบัญชีทหารกองเกิน,รับหมายเรียก
ง. ลงบัญชีทหารกองเกิน, รับหมายเรียก, เข้ารับการตรวจเลือก
จ. ลงบัญชีทหารกองเกินแล้วปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๒

☺ ในวันตรวจเลือก ฯ กรรมการในหน้าที่ใด มีหน้าที่ในการกาหนดคนเป็นจาพวก


ก. ประธานกรรมการ ข. กรรมการสัสดีจังหวัด
ค. กรรมการแพทย์ ง. นายทหารสัญญาบัตร คนที่ ๑

☺ ก่อนจะดาเนินการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ ใครมีหน้าที่เรียกรวมทหารกองเกินให้มาเข้าแถวยังป้ายตาบล
เพื่อกระทาพิธีเปิดการตรวจเลือก
ก. กรรมการสัสดีจงั หวัด ข. ประธานกรรมการ
ค. สัสดีอาเภอ ง. เจ้าหน้าที่รับคาร้อง

☺ การควบคุมการจับสลากในวันตรวจเลือก เป็นหน้าที่ของกรรมการหน้าที่ใด
ก. ประธานกรรมการ ข. กรรมการสัสดีจังหวัด
ค. กรรมการแพทย์ ง. นายทหารสัญญาบัตร คนที่ ๑

☺ กรรมการในหน้าที่ใด จะต้องลงชื่อกากับผลการจับสลากดาของทหารกองเกินในช่อง “หมายเหตุ” ในบัญชีเรียก ฯ (แบบ สด.๑๖)


ก. ประธานกรรมการ ข. กรรมการสัสดีจังหวัด
ค. กรรมการแพทย์ ง. นายทหารสัญญาบัตร คนที่ ๑

☺ ในการส่งคนเข้ากองประจาการในวันตรวจเลือก ใครมีหน้าที่จัดทาทะเบียนกองประจาการ (แบบ สด.๓) และบัญชีส่งคนเข้ากองประจาการ (แบบ สด.๑๘)


ก. ประธานกรรมการ ข. กรรมการสัสดีจังหวัด
ค. กรรมการแพทย์ ง. นายทหารสัญญาบัตร คนที่ ๑

☺ พระภิกษุที่ถูกเข้ากองประจาการ ให้ผ่อนผันเพื่อไปลาสิกขาได้ไม่เกิน ๑๐ วัน นับแต่เมื่อใด


ก. เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจเลือกคนในวันนั้น ข. เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจเลือกคนในอาเภอนั้น
ค. เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจเลือกคนในจังหวัดนั้น ง. เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจเลือกคนในจังหวัดทหารบกนั้น

You might also like