Professional Documents
Culture Documents
คณะผูจ้ ดั ทา
1.นางสาวจิรฐั พ
ิ ร ลุนสะแกวงศ์ ชัน
้ 5/7 เลขที่ 3
6.นางสาวสุพช
ิ ญา วงษ์ คา ชัน
้ 5/7 เลขที่ 32
ครูทป
ี่ รึกษา
นางสาวอรทัย จ่าเหลา
โครงงานนี้เป็ นส่วนหนึ่งของวิชาการออกแบบและเทคโนโลยี
โรงเรียนกุมภวาปี อาเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี
สานักงานเขตพื้นทีก ่ ารศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานี
บทที่ 1
บทนา
1.1 ทีม
่ าและความสาคัญของการทาโครงงาน
ในปัจจุบน
ั โลกของเรานัน ้ มีววิ ฒ
ั นาการทีก่ า้ วหน้าเป็ นอย่างมาก ซึง่
ได้มีการประดิษฐ์คดิ ค้นผลิตภัณฑ์ขน ึ้ มาเพือ
่ อานวยความสะดวก และ
ตอบสนองความต้องการของบุคคลในสังคมปัจจุบน ั ทีม
่ ีความต้องการอยู่
ไม่จากัด ทาให้มีการผลิตสินค้าผลิตภัณฑ์ตา่ งๆขึน ้ มาอยูเ่ รือ
่ ยๆ
ปัจจุบน
ั นี้ขยะเป็ นปัญหาสาคัญในระดับโลกทีห ่ ลายประเทศต่างๆ
ประสบปัญหานี้ เนื่องจากมีจานวนขยะเพิม ้ ทุกปี ทัง้ ขยะจากการ
่ ขึน
อุตสาหกรรม การเกษตร ครัวเรือน สารเคมีอน ั ตราย ซึ่งล้วนแต่เป็ นขยะที่
ยากต่อการกาจัดนี้ หลายประเทศจึงมีการคิดวิธีทจี่ ะแก้ไขปัญหาขยะ เพือ ่
ลดปริมาณขยะทีเ่ ป็ นพิษต่อสิง่ แวดล้อม
ปัญหาการทิง้ ขยะเกลือ
่ นกลาดนัน ้ มานานแล้ว
้ เป็ นปัญหาทีเ่ กิดขึน
แต่ไม่ได้ถูกจากัดไปอย่างจริงจัง และอีกทัง้ ปัญหานี้ก็จะยิง่ มีเพิม ้
่ มากขึน
เนื่องจากการทิง้ ขยะของคนในโรงเรียนทีไ่ ม่เป็ นทีแ
่ ละตรงจุดจนขยะล้น
ออกมาและเกลือ ่ นกลาดในบริเวณโดยรอบ
จากปัญหาดังกล่าว ผูจ้ ดั ทาจึงมารวมแนวความคิด เพือ ่ นาขยะทีเ่ ป็ น
ขวดน้าพลาสติกมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์โดยการทาเป็ นกระปุก
ออมสิน เพือ ่ ลดปัญหาขยะในโรงเรียนและได้ใช้เวลาว่างให้เป็ นประโยชน์
อีกทัง้ สร้างความน่ าสนใจ ดึงดูดให้รจู ้ กั รักการออม ซึง่ สามารถใช้งานได้ดี
กับผูค ้ นทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะเด็ก เพราะเด็กจะได้รบ ั การปลูกฝัง
จิตสานึกทีด ่ ใี นการออมเงินตัง้ แต่อายุยงั น้อย เมือ
่ เด็กเติบโตขึน้ เด็กก็จะ
สามารถนาคุณธรรมทีด ่ น
ี ี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น การใช้จา่ ยอย่าง
ประหยัด ไม่ฟุ่มเฟื อย การรูจ้ กั ใช้จา่ ยเงินอย่างเหมาะสมกับวัยและคานึงถึง
ความจาเป็ น
1.2 วัตถุประสงค์ของการทาโครงงาน
1.2.1 เพือ
่ ศึกษาและดาเนินการทากระปุกออมสินจากขวด
พลาสติก
1.2.2 เพือ
่ ให้ปญ
ั หาขยะเกลือ
่ นกลาดลดลง
1.2.3 เพือ
่ คัดความเข้าใจผูใ้ ช้กระปุกออมสินจากขวดพลาสติก
1.3 สมมติฐานของการทาโครงงาน
1.3.1 กระปุกออมสินจากขวดพลาสติกทาให้ปญ
ั หาปริมาณขยะที่
เป็ นขวดพลาสติกลดลง
1.3.2 กระปุกออมสินจากขวดพลาสติกให้ปญ
ั หาขยะเกลือ
่ นกลาด
1.3.3 ผูอ
้ า่ นสามารถนาสาระทีไ่ ด้นาไปใช้ในชีวต
ิ ประจาวัน
สามารถใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ ซึง่ อาจร่วมกันประดิษฐ์ภายในครอบครัว
เป็ นการเสริมสร้างสัมพันธภาพทีด
่ ภ
ี ายในครอบครัว และใช้เวลาอยู่
ร่วมกันกับคนในครอบครัวได้อีกด้วย
1.4 ประโยชน์ ของการทาโครงงาน
1.5 ขอบเขตของการศึกษา
1.5.1 ตัวแปรในการศึกษา
(1) ขวดน้าพลาสติกเหลือใช้นามาประยุกต์ใช้ได้
1.6 นิยามศัพท์เฉพาะ
กระปุกออมสินจากขวดพลาสติก หมายถึง สิง่ ประดิษฐ์ทรี่ ีไซเคิล
กลับมาใช้ใหม่
บทที่ 2
หลักการ ทฤษฎี และเอกสารทีเ่ กีย่ วข้อง
1.การประดิษฐ์
2.พลาสติก
1. การประดิษฐ์
ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิง่ ทีจ่ ดั ทาขึน ้
โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่ าสนใจ เพือ ่
ประโยชน์ทพ ี่ งึ ประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋ า
ตุก
๊ ตา ทีค ่ ่น
ั หนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอืน ่ ๆ
2. พลาสติก
พลาสติกเป็ นวัสดุสงั เคราะห์ทม ี่ นุษย์รจู ้ กั มานานกว่า ๑๓๐ ปี และ
นามาใช้ประโยชน์ แทนโลหะ ไม้ หรือวัสดุธรรมชาติอืน ่ ๆ เช่น ทาเส้นใย
สาหรับผลิตสิง่ ทอ หล่อเป็ นลาเรือ และชิ้นส่วนของยานยนต์ ภาชนะ และ
วัสดุบรรจุภณ ั ฑ์ตา่ งๆ รวมทัง้ อุปกรณ์ และเครือ ่ งใช้อืน
่ ๆ อีกมากปัจจุบน ั
พลาสติกมีบทบาทอย่างยิง่ ในชีวต ิ ประจาวัน เราจะพบเห็นพลาสติกในรูป
ของผลิตภัณฑ์ทห ี่ ลากหลาย ตัง้ แต่ตน ื่ นอนตอนเช้าจนกระทั่งเข้านอนใน
ตอนกลางคืนเริม ่ ตัง้ แต่แปรงสีฟน ั หวี กล่องใส่สบู่ ขวด และกระปุก
เครือ่ งสาอาง เครือ ่ งประดับของสตรี หัวก๊อกน้า ฝักบัวและสายยาง ประตู
ห้องน้า เสื้อผ้า กระดุม ถุงเท้า รองเท้า เครือ ่ งใช้ไฟฟ้ า วิทยุ โทรทัศน์ ถ้วย
จาน โต๊ะ เก้าอี้ เครือ ่ งตกแต่งบ้าน สีทาบ้ากระเบื้องมุงหลังคาแบบโปร่ง
แสง ชิน ้ ส่วนรถยนต์และพาหนะอืน ่ ๆ กระเป๋ า เครือ ่ งใช้สานักงานต่างๆ
ตลอดจนอุปกรณ์ การแพทย์และชิน ้ ส่วนอวัยวะเทียม อาจกล่าวได้วา่ ไม่วา่
จะไปทีแ ่ ห่งใดก็จะพบเห็นพลาสติกเสมอ
พลาสติกเป็ นวัสดุทม ี่ นุษย์ประดิษฐ์ขน ึ้ โดยการนาวัตถุดบ ิ ทีไ่ ด้จาก
ธรรมชาติ เช่น น้ามันปิ โตรเลียม มาแยกเป็ นสารประกอบบริสุทธิห ์ ลาย
ชนิด ซึง่ ส่วนใหญ่เป็ นสารประกอบระหว่างคาร์บอน (ถ่าน) กับก๊าซ
ไฮโดรเจน เมือ ่ นาเอาสารประกอบแต่ละชนิดมาทาปฏิกริ ยิ าให้มีลกั ษณะ
ต่อ ๆ กันเป็ นเส้นสายยาวมากๆ ก็จะได้วสั ดุทม ี่ ีสมบัตเิ ป็ นพลาสติก
พลาสติกทีเ่ กิดจากสารประกอบทีต ่ า่ งกันจะมีสมบัตแ ิ ตกต่างกันไปด้วย
และพลาสติกบางชนิดอาจเกิดจากสารประกอบมากกว่า ๑ ชนิดก็ได้
หัวข้อ
ประวัตก ิ ารทาพลาสติก
วัตถุดบ ิ จากธรรมชาติสาหรับการผลิตพลาสติก
ประวัตก ิ ารทาพลาสติก
มนุษย์รูจ้ กั ใช้ประโยชน์ จากปฏิกริ ยิ าเคมี และทาพลาสติกขึน ้ มาใช้เป็ นครัง้
แรก เมือ ่ ค.ศ. ๑๘๖๘ โดย จอห์น เวสลีย์ ไฮแอท (John wesley
Hyatt) นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกน ั ได้ทาการทดลองผลิตวัสดุชนิดหนึ่ง
จากปฏิกริ ยิ าของเซลลูโลสไนเทรตกับการบูร ผลิตภัณฑ์ดงั กล่าวสามารถ
ทาเป็ นแผ่นแบนบาง มีความใสคล้ายกระจกแต่มว้ นหรืองอได้ และได้
เรียกชือ ่ ตามวัตถุดบ ิ ทีใ่ ช้วา่ “เซลลูโลสไนเทรต” ต่อมาพลาสติกชนิดนี้ได้
เป็ นทีร่ จู ้ กั แพร่หลาย และเป็ นทีน ่ ิยม เรียกว่า “เซลลูลอยด์”
(Celluloid) การพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกเชิงอุตสาหกรรมได้ดาเนินไป
อย่างรวดเร็วทาให้มีพลาสติกชนิดอืน ้ ตามมาอีกมากมาย
่ ๆ เกิดขึน
อุตสาหกรรมพลาสติกโนประเทศไทยเริม ่ มีมาตัง้ แต่ประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๐
ในระยะแรกมีการนาเข้าพลาสติกเรซินจากต่างประเทศ มาผลิตเป็ น
ผลิตภัณฑ์พลาสติกกันประปราย ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๐๖จึงได้มีการก่อตัง้
โรงงานอุตสาหกรรมผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกขนาดใหญ่ขน ึ้ แต่ยงั คงต้อง
นาเข้าเรซินจากต่างประเทศเช่นกันจนกระทั่งใน พ.ศ. ๒๕๑๔ ประเทศ
ไทยจึงสามารถผลิตพลาสติกเรซิน คือ พีวีซี ได้เองเป็ นชนิดแรก ปัจจุบน ั
ประเทศไทยสามารถผลิตพลาสติกได้อีกหลายชนิด เช่น พอลิเอทิลีน พอลิ
โพรไพลีน พอลิสไตรีน และพอลิเอสเทอร์
วัตถุดบิ จากธรรมชาติสาหรับการผลิตพลาสติก
วัตถุดบ ิ ทีส
่ าคัญทีใ่ ช้สาหรับการผลิตพลาสติกคือ ผลิตภัณฑ์ทีไ่ ด้จาก
ปิ โตรเลียมก๊าซธรรมชาติ ถ่านหินแร่ธาตุตา่ งๆ เป็ นส่วนใหญ่ นอกจากนี้
อาจผลิตจากน้ามันพืช และส่วนต่างๆ ของพืชได้เช่นกัน
– ปิ โตรเลียม
ปิ โตรเลียมเป็ นแหล่งวัตถุดบ ิ ทีส
่ าคัญทีส
่ ุดสาหรับอุตสาหกรรมพลาสติก
แทบทุกชนิด ประเทศไทยมีแหล่งผลิตปิ โตรเลียมหลายแห่ง แต่ไม่มีการ
นามาทาประโยชน์ในด้านผลิตภัณฑ์พลาสติก มีเพียงการนามาใช้เป็ น
เชื้อเพลิงเท่านัน ้ ผลิตภัณฑ์ทไี่ ด้จากการกลั่นน้ามันปิ โตรเลียม และ
สามารถนามาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตพลาสติกทีส ่ าคัญ ได้แก่ สารใน
กลุม่ โอเลฟิ น (Olefins) เช่น มีเทน อีเทน โพรเพน บิวเทนและเพนเทน
และสารในกลุม ่ อะโรแมติก(Aromatics) เช่น เบนซีน และอนุพนธ์ของ
เบนซีน สารทัง้ ๒ กลุม ่ สามารถนามาผลิตมอนอเมอร์ได้มากมายหลาย
ชนิด
– ก๊าซธรรมชาติ
ก๊าซธรรมชาติทพ ี่ บในประเทศไทยมีสว่ นประกอบเป็ นสารไฮโดรคาร์บอน
ทีส
่ าคัญคือ มีเทน อีเทน โพรเพน และบิวเทนเป็ นส่วนใหญ่ สาร
ไฮโดรคาร์บอนเหล่านี้ใช้เป็ นวัตถุดบ ิ ในการผลิตเอทิลีนมอนอเมอร์และ
โพรไพลีนมอนอเมอร์ ซึง่ เป็ นสารเริม ่ ต้นสาหรับการผลิตพลาสติกหลาย
ชนิด
– ถ่านหินและลิกไนต์
ประเทศไทยมีแหล่งลิกไนต์สาคัญ ๒ แห่งคือ ทีแ ่ ม่เมาะ จังหวัดลาปาง
และทีจ่ งั หวัดกระบี่ ประโยชน์ของลิกไนต์นอกจากใช้เป็ นเชื้อเพลิงสาหรับ
การผลิตกระแสไฟฟ้ าแล้ว ยังใช้ผลิตเบนซีน และอนุพน ั ธ์ของเบนซีน เช่น
สไตรีนมอนอเมอร์ ได้ดว้ ย
– พืชและน้ามันพืช
วัตถุดบ ิ ทีใ่ ช้ในการผลิตพลาสติกบางชนิด ได้แก่ ส่วนต่าง ๆ ของพืชและ
น้ามันพืช เช่น เซลลูโลส เชลแล็ก และกรดไขมันต่างๆ
– แร่ธาตุตา่ งๆ
สินแร่บางชนิด เช่น ถ่านโค้ก และหินปูน เป็ นวัตถุดบ ิ ทีใ่ ช้ผลิต
แคลเซียมคาร์ไบด์ ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตอะเซทิลีน นอกจากนี้
คลอรีนทีผ ่ ลิตได้จากน้าทะเล ตลอดจนแร่ใยหินได้นามาใช้สาหรับผลิต
พลาสติกเสริมแรง
วัตถุดบ ิ ทีใ่ ช้เป็ นสารเริม
่ ต้นสาหรับการผลิตพลาสติกทีไ่ ด้จากแหล่งต่าง ๆ
นัน ้ จะมีลกั ษณะเป็ นสารไฮโดรคาร์บอนโมเลกุลเดีย่ ว เรียกว่า มอนอเมอร์
ทีส่ าคัญ ได้แก่ เอทิลีน ไวนิลคลอไรด์ ไวนิลฟลูออไรด์ โพรไพลีน บิวทา
ไดอีน เบนซีน ไซลีน ฟี นอล ยูเรีย และฟอร์มาลตีไฮด์
3. การรีไซเคิลขวดน้า
การรีไซเคิลขวดพลาสติก ช่วยลดปริมาณมลพิษในอากาศจากการ
เผาขยะ ลดมลพิษในดินจากสารเคมีทซ ี่ ม
ึ ในหลุมฝังกลบ รวมถึงลด
โอกาสทีไ่ มโครพลาสติกปนเปื้ อนไปในแหล่งน้า
บทที่ 3
วิธีดาเนินการศึกษา
ในการศึกษา กระปุกออมสินจากขวดพลาสติก ครัง้ นี้ คณะผูจ้ ดั ทา
ดาเนินการ ดังนาเสนอตามลาดับหัวข้อต่อไปนี้
1. ขอบเขตการศึกษา
2. ขัน้ ตอนการดาเนินงาน
3. วัสดุอุปกรณ์ ในการดาเนินงาน
4. การเก็บรวบรวมข้อมูล
5. การจัดกระทาข้อมูลและการวิเคราะห์ขอ้ มูล
6. สถิตทิ ใี่ ช้ในการวิเคราะห์ขอ
้ มูล
3.1 ขอบเขตการศึกษา
3.1.1 ตัวแปรในการศึกษา
3.1.1.1 ตัวแปรต้น
(1) ใช้สีในการทาขวดน้าให้มีสีสนั
(2) ใช้กระดาษสีตดั ตกแต่งให้มีสีสน
ั
3.1.1.2 ตัวแปรตาม
(1) การใช้สี กว่าจะรอให้สีแห้งต้องใช้เวลานาน ถ้าสีไม่แห้งสนิทจะ
ทาให้ตด
ิ มือ
(2) ใช้กระดาษ ลดระยะเวลาในการทา ไม่ตด ิ มือ
3.1.1.3 ตัวแปรควบคุม
(1) จับเวลาในการทา
(2) ทาในพื้นทีเ่ ดียวกัน
3.2.5 นาเสนองาน
เป็ นขัน
้ ตอนสุดท้ายของการจัดทาโครงงานเป็ นการนาผล
การดาเนินงานทัง้ หมดมาเสนอให้ผอ ู ้ ืน
่ ได้ทราบ อาจมีลกั ษณะเป็ นเอกสาร
้ งาน แบบจาลอง ฯลฯ ซึง่ สามารถนาเสนอในรูปแบบที่
รายงาน ชิน
หลากหลาย เช่น การจัดนิทรรศการ การแสดง การสาธิต การบรรยาย
การจัดทาสือ่ สิง่ พิมพ์ การจัดทาสือ
่ มัลติมีเดีย
3.2.1 คัดเลือกหัวข้อโครงงานทีส ่ นใจจะทา โดยทั่วไปเรือ ่ งทีไ่ ด้มกั
ได้จากปัญหา คาถาม หรือความสนใจในเรือ ่ งต่าง ๆ จากการสังเกตสิง่ ต่าง
ๆ ทีเ่ กีย่ วข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิง่ ต่างๆ ทีอ ่ ยูร่ อบตัวเรา จาก
แหล่งข้อมูลทีเ่ ชือ ่ ถือได้
3.2.2 ศึกษาค้นคว้าและวางแผน การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและ
แหล่งข้อมูล รวมถึงการขอคาปรึกษาจากผูท ้ รงคุณวุฒิ จะช่วยให้นกั เรียน
ได้แนวคิดทีใ่ ช้ในการกาหนดขอบเขตของเรือ ่ งทีจ่ ะศึกษาได้
เฉพาะเจาะจงมากยิง่ ขึน ้ รวมทัง้ ได้ความรูเ้ พิม ่ เติมในเรือ ่ งทีจ่ ะศึกษา จน
สามารถใช้ออกแบบและวางแผนดาเนินการทาโครงงานนัน ้ ได้
3.2.3 จัดทาเค้าโครงของโครงงานทีจ่ ะทา ดังนี้
3.2.3.1 ศึกษาค้นคว้าเอกสารอ้างอิงและรวบรวมข้อมูลทีไ่ ด้
จากผูท ้ รงคุณวุฒแ ิ ละทางอินเทอร์เน็ต
3.2.3.2 วิเคราะห์ขอ ้ มูล เพือ
่ กาหนดขอบเขตและลักษณะ
ของงานวิจยั
3.2.3.3 ออกแบบอุปกรณ์ ชว่ ยวิดพื้น และวัสดุตา่ ง ๆ ทีต ่ อ
้ ง
ใช้
3.2.3.4 ลงมือทารูปเล่มรายงานและสรุปผลการวิจยั โดย
กาหนดช่วงเวลาอย่างกว้าง ๆ
3.2.4 การนาเสนอ โดยทั่วไปเมือ ่ งานวิจยั เสร็จสิน ้ แล้ว ต้องมี
การนาเสนอให้กบ ั ผูท
้ ต
ี่ อ้ งการใช้งานหรือครูทป ี่ รึกษา ดังนัน ้ ควรเตรียม
เอกสารนาเสนอให้สมบูรณ์ โดยอาจปรับย่อข้อความทีส ่ าคัญมาจากการ
รายงานก็ได้ การนาเสนอในรูปแบบใดนัน ้ ต้องเลือกให้เหมาะสมโดย
พิจารณาวัตถุประสงค์ของงานนาเสนอ เช่น สือ ่ อิเล็กทรอนิกส์ ป้ าย
นิทรรศการ เอกสารรายงาน และควรฝึ กตอบคาถามทีเ่ กีย่ วข้องไว้ดว้ ย
(3) ขวดพลาสติก
(4) ขวดพลาสติก
3.3.1.2 ขัน
้ ตอนการทาไม้กวาดจากขวดพลาสติก
(1) ทาการ
(2) ทาการ
(3) ทาการ
3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล
3.5 การจัดกระทาข้อมูลและการวิเคราะห์ขอ
้ มูล
3.6 สถิตท
ิ ใี่ ช้ในการวิเคราะห์ขอ
้ มูล
ค่าเฉลีย่ (Mean) คานวณจากสูตร ดังนี้