Professional Documents
Culture Documents
ชื่อโครงงาน
แยมจากกล้วย 3 ชนิด
2.ผู้ทำโครงงาน
เด็กชาย ชิษณุพงศ์ คำปา เลขที่ 5 ม.2/2
เด็กชาย ธี ระพงษ์ อุดมกิจ เลขที่ 18 ม.2/2
เด็กหญิง กชนันท์ บุญยืน เลขที่ 21 ม.2/2
เด็กหญิง เจนนิเฟอร์ พิล่าร์ บิสสัน เลขที่ 29 ม.2/2
3.ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน
คุณครู จุริยาภรณ์ สิทธางษ์
4.ที่มาและความสําคัญของโครงงาน
อาหารเป็ นหนึ่งในปัจจัยสี่ ที่มีความจำเป็ นต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์การถนอมอาหารได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อ
มนุษย์เป็ นอย่างมากเนื่องจากพฤติกรรมการบริ โภคอาหารมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเนื่องจากคนส่ วนใหญ่ตอ้ งการความ
สะดวก รวดเร็ ว และต้องการเก็บรักษาอาหารไว้บริ โภคได้นานๆ เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้เพื่อการแปรรู ปอาหาร เป็ นวัตถุดิบทาง
เกษตรกร เช่นผักเนื้อสัตว์ นม ผลไม้ ซึ่ งวัตถุดิบเหล่านี้เสื่ อมเสี ยได้ง่ายการแปรรู ปอาหารมีวตั ถุประสงค์เพื่อยืดอายุการเก็บ
รักษาอาหารถนอมรักษาคุณภาพอาหารด้านต่างๆของอาหารให้ใกล้เคียงของสด ชะลอ และป้ องกันการเสื่ อมเสี ยโดยมีหลาย
วิธี การถนอมอาหารโดยการตากแห้ง การถนอมอาหารโดยการดอง การอาหารเชื่อมแบบธรรมดาและการทำแยม
6.ชอบเขตการศึกษา
ขอบเขตของโครงงาน
1 พืชที่ใช้ในการทดลอง คือ กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม และกล้วยไข่
2.สูตรและการทำแยมดัดแปลงมาจากอินเตอร์เน็ต
8.นิยามเชิงปฎิบัติการ
นิยามเชิงปฎิบตั ิการ
1.คุณภาพของแยม หมายถึง คุณสมบัติของแยมมีดงั นี้
1.สี ของแยม หมายถึงแยมที่มีสีตามผลไม้ที่น ำมาทำแยมต้องไม่ใส่ สีผสมอาหาร
2. เนื้อของแยม หมายถึง เนื้ อจะต้องมีลกั ษณะข้นเหนียวและไม่เหลวมาก
3. กลิ่นของแยม หมาถึง เป็ นกลิ่นเฉพาะตัวของผลไม้ที่น ำมาทำแยมและไม่ฉุน
มากไป
4.รสชาติของแยม หมายถึง มีรสหวานและมีรสตามผลไม้ที่น ำมาทำแยม
5.ผลการประเมินโดยใช้การประเมิน หมายถึง ให้ผปู ้ ระเมิน ชิมและสังเกตแล้ว
ประเมินลงในตารางประเมิน
9.วัสดุอุปกรณ์
10 วิธีดำเนินงาน
แยมจากกล้วย 3 ชนิด
วัสดุอุปกรณ์ และสารเคมี
1.เครื่ องปั่ น 1 เครื่ อง
2.ถ้วย 6 ถ้วย
3.หม้อ 3 หม้อ
4.โหลแก้ว 3 โหล
5.ทัพพี 1 อัน
6.มีด 1 เล่ม
7.ช้อนสำหรับทำขนม 1 ชุด
สารเคมี
1.เพตทิน 4 กรัม
ส่ วนผสม
1.น้ำตาล 600 กรัม
2.น้ำมะนาว 150 กรัม
3.น้ำเปล่า 150 กรัม
4.เกลือป่ น 1 กรัม
พืชทีใช้ ในการทดลอง
กล้วยไข่ 50 กรัม
กล้วยหอม 50 กรัม
กล้วยน้ำว้า 50 กรัม
วิธีการทดลอง
1. นำกล้วยน้ำว้า 50 กรัม กับน้ำสะอาด 150 กรัม ปั่ นให้ละเอียด
2. นำส่ วนผสมที่ปั่นใส่ ภาชนะตั้งไฟ กวนเพื่อระเหยน้ำนานประมาณ 10 นาที
3. นำน้ำตาลทราย 600 กรัมที่ผสมผงเพตทิน 4 กรัมและเกลือป่ น 1 กรัม ใส่ ลงกวนให้ละลาย กวนนานประมาณ 20 นาที
4. เติมน้ำมะนาว 150 กรัม ลงไป กวนต่ออีก 10 นาที
5. บรรจุขวดสะอาดในขณะที่แยมยังร้อนปิ ดฝาตั้งทิ้งให้เย็น
6. ทำการทดลองเหมือนข้อ 1 – 5 แต่เปลี่ยนจาก กล้วยน้ำว้า เป็ น กล้วยไข่และกล้วยหอม ตามลำดับ
7. นำมาประเมินตรวจสอบคุณภาพโดยใช้ สี กลิ่น เนื้อ รส เป็ นตัวประเมิน
7.1 สี = ใช้ตาในการสังเกตสี ของแยม
7.2 กลิ่น = ใช้จมูกในการดมกลิ่นของแยม
7.3 เนื้อ = ใช้ตาในการสังเกตความเข้มข้นของแยม
7.4 รส = ใช้ลิ้นในการชิมรสชาติของแยม
7.5 นำมาประเมินโดยใช้ 10 คนในการประเมิน
11.ผลที่คาดว่ าจะได้ รับ
1.เป็ นแนวทางในการทำแยมจากกล้วย 3 ชนิด
2.แยมจากกล้วย 3 ชนิด เมื่อรับประทานจะได้รับสารอาหารในแยมกล้วย 3 ชนิด
3.เพตทินที่เป็ นสารเคมีในแยมจากกล้วย 3 ชนิด มีคุณสมบัติช่วยการยับยั้งการเจริ ญเติมโตของมะเร็ ง
4.แยมจากกล้วย 3 ชนิด สามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย
5. แยมจากกล้วย 3 ชนิด สามารถช่วยเรื่ องระบบขับถ่าย ช่วยลดอัตตราการเสี่ ยงหัวใจวาย และช่วยลดความดันโลหิ ต
12.หลักการ ทฤษฎี ข้ อมูลที่เกีย่ วข้ องกับเอกสารอ้างอิง
12.1 การทำแยมจากผลไม้
12.2 ประโยชน์ของแยม
12.3 พืชที่ใช้ในการทำแยม
1) กล้วยน้ำว้า
2) กล้วยไข่
3) กล้วยหอม
12.4 โครงงานวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง
1. โครงงานแยมผลไม้
12.1 การทำแยมจากผลไม้
การทำแยม
แยม
เป็ นของหวานประเภทหนึง่ รับประทานโดยการทาลงบนขนมปั งเพื่อเพิ่มรสชาติให้ ขนมปั งอร่อยมากขึ ้น แยมมักจะทำมาจาก
ผลไม้ แต่ก็ไม่จริ งเสมอไป
วิธีการทำ
แยมเป็ นอาหารหวานประเภทหนึง่ ใช้ ทานกับขนมปั ง มีลกั ษณะคล้ ายเยลลี่แต่ไม่จบั ตัวเป็ นก้ อน โดยมีวิธีการผลิตคือการนำ
ของที่จะทำเป็ นแยมมาต้ มกับน้ำและน้ำตาล ด้ วยอุณหภูมิราว 104°C เพื่อให้ สารเคมีในตัวของผลไม้ ทำปฏิกิริยากับน้ำตาล
แล้ วปล่อยทิ ้งไว้ ให้ เย็นก็จะได้ แยมตามที่ต้องการ
แยมแบ่ งเป็ น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี ้
แยมหวาน แยมชนิดนี ้จะมีรสหวาน ตังแต่ ้ หวานมากจนกระทัง่ หวานน้ อย แต่แยมในชนิดนี ้จะไม่นิยมทาขนมปั งมากๆ
เพราะมันจะหวานเลี่ยน
แยมผลไม้ เป็ นแยมที่ได้ มาจากการต้ มผลไม้ ชนิดต่างๆกับน้ำตาล
แยมสตอเบอรี่ – เป็ นแยมที่ทำจากสตอเบอรี่ แยมชนิดนี ้จะมีสีแดง
แยมสัปปะรด – เป็ นแยมที่ทำมาจากสับปะรด เป็ นแยมที่มีสีเหลือง
แยมส้ ม – แยมส้ ม มีสีส้ม
แยมองุ่น – เป็ นแยมที่ผสมกับองุ่น
แยมรสผลไม้ รวม – เป็ นแยมที่ได้ มาจากการผสมผลไม้ ทกุ ชนิดเข้ าด้ วยกัน
แยมสารสังเคราะห์ – แยมชนิดนี ้ทำมาจากสารสังเคราะห์แต่ยงั ไม่แพร่หลาย แยมที่ไม่หวาน เป็ น
แยมที่ไม่มีรสหวาน
ส่ วนผสม
เนื ้อมะละกอสุก 310 กรัม
น้ำมะนาว 90 กรัม
น้ำตาลทรายขาว 330 กรัม
เกลือ 0.20 กรัม
ผงบุก 5 กรัม
แบะแซ 100 กรัม
ผงเพคติน (Low methoxyl pectin) 5 กรัม
วิธีทำ
เริ่มด้ วยการนำชิ ้นมะละกอสุกมาหัน่ หรื อปั่ นหยาบนำเพคตินมาผสมกับ
น้ำตาลทราย 6 เท่าของน้ำหนักแล้ วคนให้ เข้ ากัน เติมน้ำ 2 เท่าของน้ำหนักเพคติน
รวมกับน้ำตาลทรายและคนให้ เข้ ากัน นำเนื ้อมะละกอที่หนั่ แล้ วมาใส่หม้ อสเตนเลส
แล้ วเอาไปตังไฟ
้ คนให้ เดือดอ่อน ๆ 5 นาที ใส่น้ำตาลทรายทีละน้ อย
เพิ่มไฟให้ แรงขึ ้น คนตลอดเวลา ใส่เกลือ เคี่ยวจนน้ำตาลละลายดี
จึงเติมสารละลายเพคตินและน้ำมะนาวที่ใส่รวมกับแบะแซ ล้ างภาชนะด้ วยน้ำร้ อน
เคี่ยวต่อจนส่วนผสมเดือด ยกลงมาชัง่ น้ำหนักแยมต้ องได้ 1,000 กรัม
ถ้ าน้ำหนักเกินก็ให้ เคี่ยวต่อไป
ADVERTISEMENT
REPORT THIS AD
แต่ถ้าน้ำหนักน้ อยกว่าก็ให้ เติมน้ำต้ มสุก เมื่อได้ น้ำหนัก 1,000 กรัมแล้ ว
ให้ ยกลงจากเตาช้ อนฟองออกบรรจุใส่ขวดแก้ วที่ผา่ นการนึง่ ฆ่าเชื ้อแล้ ว 5 นาที
รอให้ อณ ุ หภูมิแยมลดลง 85-93 องศาเซลเซียสแล้ วจึงปิ ดฝาให้ สนิท
ก่อนที่จะวางทิ ้งไว้ ให้ แยมเป็ นเจล ก็จะได้ แยมมะละกอที่มีน้ำตาลต่ำประมาณ 35%
และควรเก็บแยมไว้ ในตู้เย็นหรื อใส่สารกันเสียคือโซเดียมเบนโซเอท 0.04%
และโปรตัสเซียมซอร์ เบท 0.04% ของน้ำหนักแยมโดยละลายน้ำเล็กน้ อย
และใส่ในช่วงใกล้ จดุ ยุติ จะสามารถเก็บแยมไว้ ได้ ที่อณ ุ หภูมิห้องไม่ต ่ำกว่า 6 เดือน
12.2 ประโยชน์
จากงานวิจยั ดังกล่าว สามารถสรุ ปได้วา่ การรับประทานแยม เจลลี่ และพรี เซิ ร์ฟผลไม้คุณภาพที่น ้ำตาลน้อย เป็ นการเพิ่มใย
อาหาร วิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโนที่จ ำเป็ นต่อโภชนาการของเรา ซึ่ งส่ งผลดังต่อไปนี้
ช่วยควบคุมและรักษาน้ำหนักตัวที่เหมาะสม
ช่วยให้พลังงาน และความทนทานขณะออกกำลังกาย
ช่วยรักษาฟั นและเหงือกให้แข็งแรง
ช่วยลดความดันโลหิ ต
ช่วยลดคอเลสเตอรอลตัวร้าย
ช่วยลดอาการท้องผูกและโรคถุงผนังลำไส้ใหญ่
ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง
2.กล้ วยไข่
กล้ วยไข่
ชื่อวิทยาศาสตร์ Musa (AA) "Khai"
ชื่อวงศ์ MUSACEAE ชื่
ชื่อสามัญ Pisang mas
ลักษณะทั่วไป
ต้ น- ลำต้ นเทียมสูงไม่เกิน 2.5 เมตร เส้ นผ่านศูนย์กลางประมาณ 16 เซนติเมตร กาบลำต้ นด้ านนอกสีเขียวปนเหลือง มี
ประดำหนา ด้ านในสีชมพูแดง
ใบ-ก้ านใบสีเขียวอมเหลือง มีร่องกว้ าง โคนก้ านใบมีปีกสีชมพูดอก ก้ านช่อดอกมีขนอ่อน ใบประดับรูปไข่ ม้ วนงอขึ ้น ปลาย
ค่อนข้ างแหลม ด้ านบนสีแดงอมม่วง ด้ านล่างที่โคนกลีบสีซีด กลีบรวมใหญ่สีขาว ปลายสีเหลือง กลีบรวมเดี่ยวไม่มีสี เกสร
ตัวผู้และเกสรตัวเมียมีความยาวใกล้ เคียงกันแต่เกสรตัวเมียสูงกว่าเล็ก น้ อย เกสรตัวเมียมีสีเหลือง ส่วนเกสรตัวผู้มีสีชมพู
ผลกล้ วย- เครื อหนึง่ มีประมาณ 7 หวี หวีหนึง่ มีประมาณ 14 ผล ผลค่อนข้ างเล็ก กว้ าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 8-10
เซนติเมตร ก้ านผลสันเปลื
้ อกค่อนข้ างบาง เมื่อสุกมีสีเหลืองสดใส บางครัง้ มีจดุ ดำเล็กๆ ประปรายโดยเฉพาะเมื่อผลงอม
เนื ้อสีครี มอมส้ มรสหวาน
3.กล้วย หอม
ชื่อ วิทยาศาสตร์
Musa acuminata Cavendish Subgroup
ชื่อวงศ์ Musaceae
ชื่อสามัญ Gros Michel
ลักษณะทัว่ ไป
ราก รากกล้ วยหอมเป็ นแบบ adventitious root ที่แตกออกจากหน่อ ซึง่ หน่อจะแตกออกจากเหง้ า รากมีความยาวได้ มากกว่า
5 เมตร ลึกลงดินได้ ถึง 5 - 7.5 เมตร
ลำต้ น มีลำต้ นจริ งเป็ นหัวหรื อเหง้ าอยูใ่ ต้ ดิน และมีลำต้ นที่อยูเ่ หนือดินสูง 2.5 - 3.5 เมตร เส้ นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 20
เซนติเมตร กาบลำต้ นด้ านนอกมีประดำ ด้ านในสีเขียวอ่อนและมีเส้ นลายสีชมพู
ใบ เป็ นใบเดี่ยว เป็ นแบบขนาน ก้ านใบมีร่องค่อนข้ างกว้ าง และมีปีก เส้ นกลางใบสีเขียว ใบอาจยาวได้ มากถึง 3 เมตร
ดอก/ปลี ดอกหรื อปลีจะแทงออกจากหยวกตรงกลางปลายยอด เมื่อแทงออกช่วงแรกจะตังตรง ้ และค่อยๆโค้ งงอลงด้ านล่าง
ด้ านบนสีแดงอมม่วง มีไข่ ด้ านในสีแดงซีด บรรจุน้ำข้ างใน
ผล กล้ วยหอมติดผลเป็ นเครื อ เครื อหนึง่ มี 4 - 6 หวี หวีหนึง่ มี 12 - 16 ผล กว้ าง 3 - 4 เซนติเมตร ยาว 21 - 25 เซนติเมตร
ปลายผลมีจกุ เห็นชัดเปลือกบาง เมื่อสุกเปลี่ยนเป็ นสีเหลืองทอง แต่ที่ปลายจุกจะมีสีเขียว แล้ วเปลี่ยนสีภายหลัง เนื ้อสีขาว
ขุ่น กลิ่นคาว รสหวานอุน่ ฉ่ำ
12.4 โครงงานวิทยาศาสตร์
1.โครงงานแยมผลไม้
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่ อง แยมผลไม้ เพื่อทดลองประสิ ทธิ ภาพของผลไม้ในการทำแยมโดยได้รับคำปรึ กษาจาก อาจารย์
รัตนา นวีภาพ ที่ได้ให้ค ำปรึ กษาในการทำโครงงานและการทำรู ปเล่มโครงงาน
คณะผูจ้ ดั ทำ ขอขอบคุณทุกท่านดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นและที่ไม่ได้กล่าวถึงไว้ ณ ที่น้ ีเป็ นอย่างสู ง
คณะผูจ้ ดั ทำ
บทคัดย่ อ
การศึกษา แยมผลไม้รวม
บทที่ 1
บทนำ
1.ความเป็ นมาและความสำคัญของปัญหา
แยมเป็ นผลิตภัณฑ์แปรรู ปซึ่ งอาจเป็ นผลไม้ท้ งั ผล ผลไม้เป็ นชิ้น เนื้อผลไม้ หรื อผลไม้ปั่น ผสมกับน้ำตาลหรื อสาร
ให้ความหวานชนิดอื่นที่มีลกั ษณะเป็ นผล แยมมีลกั ษณะกึ่งเหลวมีความข้นเหนียวพอเหมาะ สามารถปาดหรื อทาขนมปั งได้
ส่ วนมาร์มาเลด คือ แยมที่ท ำจากผลไม้ตระกูลส้มซึ่ งอาจเป็ นผลไม้เป็ นชิ้น เนื้อผลไม้ หรื อผลไม้ปั่น ผสมกับเปลือกหรื อ
เนื้อผลไม้ชิ้นบางๆ และน้ำตาล การแปรรู ปแยมเป็ นการถนอมอาหารโดยการใช้น ้ำตาลความเข้มข้นสู ง จัดอยูใ่ นกลุ่มการเกิด
เจล แยมเกิดจาก กรด น้ำตาล และเพกติน ผสมกันในสัดส่ วนที่เหมาะสม สรุ ป แยม หมายถึงของหวานประเภทหนึ่ง รับ
ประทานโดยการทาลงบนขนมปังเพื่อเพิ่มรสชาติให้ขนมปั ง อร่ อยมากขึ้น แยมมักจะทำจากผลไม้แต่กไ็ ม่จริ งเสมอไป
ดังนั้น เราจะเห็นว่าแยมที่ขายตามท้องตลาดบางยีห่ อ้ มักเป็ นเยลลี่ปรุ งแต่ง มีน ้ำตาลเยอะ มีสารกันบูด สารเคมี
ปนเปื้ อนอยูท่ ำให้สารตกค้างในร่ างกายและเกิดโรคต่างๆ ตามมา ก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา ก่อให้เกิดผลกระทบต่อ
ร่ างกาย ทำให้ได้สารอาหารที่ไม่ดีต่อสุ ขภาพ ซึ่ งตามท้องตลาดของเรามีแยมหลากหลายรสชาติ โดยแยมส่ วนมากที่น ำมา
ขายมากที่สุดตามท้องตลาด คือ แยมสตอเบอร์รี่ ซึ่ งมีราคาประมาณ 70 บาท ขึ้นไป มีราคาค่อนข้างแพงแต่ถึงยังไงก็เป็ นที่
นิยมตามท้องตลาด
เพราะฉะนั้นผูจ้ ดั ทำจึงคิดที่จะนำผลไม้ที่ได้จากท้องตลาดมาแปรรู ปให้เป็ นแยมผลไม้ โดยคิดว่ามีความปลอดภัย
ไร้สารกันบูด มีการใส่ ส่วนประกอบที่ไม่มากหรื อน้อยเกินไป ไม่ท ำให้ร่างกายปนเปื้ อนสารเคมีต่างๆ จึงได้น ำผลไม้ 4
ชนิด คือ สตอเบอร์รี่ กีวี่ ส้ม และแอปเปิ้ ล มาทำแยมผลไม้
ดังนั้นการศึกษาค้นคว้าฉบับนี้ จึงมุ่งศึกษาวิธีการทำแยม ประโยชน์และสรรพคุณของผลไม้ต่างๆ ที่คดั สรรมา
เพื่อให้รู้ถึงวิธีการทำแยม และแก้ปัญหาการซื้ อแยมที่มีสารปนเปื้ อนได้อีกด้วย
2.วัตถุประสงค์ของการทำโครงงาน
1.เพื่อศึกษาวิธีการทำแยม
2.เพื่อศึกษาผลไม้ที่สามารถทำแยมได้
3.เพื่อศึกษาความเป็ นมาและประโยชน์ของแยม
3.ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับในการศึกษา
1.สามารถทำแยมได้ดว้ ยตนเอง
2.สามารถรู ้วา่ ผลไม้ชนิดใดมี่สามารถทำแยมได้
3.สามารถรู ้ประวัติความเป็ นมาและประโยชน์ของแยม
บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยที่เกีย่ วข้ อง
การศึกษาเรื่ องแยมผลไม้ในครั้งนี้ ผูศ้ ึกษาได้ศึกษาเอกสารและงานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง โดยแบ่งเนื้อหาของเอกสารงานวิจยั
ออกเป็ นหัวข้อต่างๆ ดังนี้
1.ความหมายและประโยชน์ของแยม
1.1 ความหมายของแยม
1.2 ประโยชน์ของแยม
2.ประเภทของแยม
2.1 แยมผลไม้
2.1.1 แยมสับประรด
2.1.2 แยมมะนาว
2.1.3 แยมสตรอเบอร์รี่
2.1.4 แยมมะละกอ
2.1.5 แยมมะตูม
2.1.6 แยมมะม่วง
2.1.7 แยมพุทรา
2.1.8 แยมส้มโอ
2.1.9 แยมลูกท้อ
2.1.10 แยมกล้วย
3.ตลาดของแยม
4.วัสดุและอุปกรณ์ของแยม
1.ความหมายและประโยชน์ ของแยม
1.1 ความหมายของแยม
ผศ.ดร.พิมพ์เพ็ญ พรเฉลิม ให้ความหมายว่า
แยม เป็ นผลิตภัณฑ์แปรรู ปจากจากผลไม้ซ่ ึ งอาจเป็ นผลไม้ท้ งั ผล ผลไม้เป็ นชิ้น เนื้อผลไม้ หรื อผลไม้ปั่น ผสมกับน้ำตาล
หรื อ สารให้ความหวาน(sweetener) ชนิดอื่นจะผสมน้ำผลไม้หรื อน้ำผลไม้เข้มข้นด้วยก็ได้ มีลกั ษณะเป็ นเจล (gel) แยมมี
ลักษณะกึ่งเหลวมีความข้นเหนียวพอเหมาะ สามารถปาดหรื อทาบนขนมปั งได้เพื่อเพิ่มรสชาติให้ขนมปั งอร่ อยมากขึ้น แยม
มักจะทำมาจากผลไม้ แต่กไ็ ม่จริ งเสมอไป
ส่ วนผสม
เนื้อสับปะรดสับละเอียด 300 กรัม
น้ำสับปะรด 700 กรัม
น้ำตาลทราย 800 กรัม
น้ำเปล่า 150 กรัม
กรดซิตริ ก 1 ช้อนโต๊ะ
ผงเพคติน 7 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
วิธีทำ :
ล้างสตรอเบอร์รี่ให้สะอาด ผ่าครึ่ งลูกใส่ ลงในหม้อ เคล้ากับน้ำตาล
แล้วนำไปตั้งไฟอ่อน ๆ คอยคนตลอดเวลา
เมื่อโดนความร้อน น้ำสตรอเบอร์รี่จะออกมา
ตั้งไฟเคี่ยวไปเรื่ อย ๆ จนสตรอเบอร์รี่สุกนุ่มและข้นติดพาย
จึงตักใส่ ขวดที่ลา้ งสะอาดแล้วปิ ดฝา
ลงในภาชนะเคลือบใบโต ๆ ตั้งทิ้งไว้ 4 นาที
ถ้าหาเจลาตินผงไม่ได้กใ็ ช้แผ่นเจลาติน ยีห่ อ้ เยลลิตา้ [GELITA] แทนได้
เป็ นซองสี ฟ้า ๆ หาซื้ อได้ในซุปเปอร์มาร์เก็ตทัว่ ไป โดยใช้ประมาณ 8 - 9 แผ่น
ตัดให้เป็ นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำมาแช่ในน้ำ ตั้งทิ้งไว้ 4 นาทีเหมือนกัน
จากนั้นก็น ำส่ วนผสมนี้ข้ นึ ตั้งไฟอ่อนประมาณ 5 นาที คนเรื่ อย ๆ จนเจลาตินละลายดี
จึงเติมสตรอเบอรี่ 4 + 1/ 2 ถ้วย , น้ำตาลทราย 3/ 4 ถ้วย และ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะลงไป ตั้งไฟจนส่ วนผสมเดือด
แล้วเร่ งไฟเป็ นไฟกลางค่อนข้างแรง เคี่ยวให้เดือดต่อไปอีกประมาณ 10 นาที
ช่วงนี้ตอ้ งหมัน่ คน พอได้ที่กย็ กลง ทิ้งให้เย็น
แล้วตักใส่ ขวดที่น่ ึงฆ่าเชื้อแล้ว เป็ นอันเสร็ จ
แยมสตรอเบอร์ รี่ สู ตร 4
วิธีทำ :
2.1.4 แยมมะละกอ
แยมมะละกอ สู ตรที่ 1
เนื้อมะละกอสุ ก (บด) 400 กรัม (2 ถ.ต.)
น้ำ 200 กรัม (1 ถ.ต.)
น้ำตาลทรายขาว 800 กรัม หรื อ 4 ถ.ต.
ผงเพคติน 8.4 กรัม (2 ช.ช.)
กรดมะนาว (กรดซิ ตริ ก) 8.4 กรัม (2 ช.ช.)หรื อใช้น ้ำมะนาว 100 ซี ซี (1/2 ถ.ต.)
เกลือ 2.1 กรัม (1/2 ช.ช)
แยมมะละกอ สู ตรที่ 2
เนื้อมะละกอสุ ก (บด) 400 กรัม หรื อ 2 ถ.ต.
เนื้อสับปะรด (หัน่ ชิ้นเล็ก) 200 กรัม (1 ถ.ต.)
น้ำตาลทรายขาว 800 กรัม หรื อ 4 ถ.ต.
ผงเพคติน 8.4 กรัม หรื อ 2 ช.ช.
เกลือ 2.1 กรัม หรื อ 1/2 ช.ช.
กรดมะนาว (กรดซิ ตริ ก) 7.0 กรัม หรื อ 1 1/2 ช.ช.
วิธีทำ
1. นำเนื้อผลไม้ใส่ หม้อปลอดสนิมหรื อกะทะทองเหลือตั้งไฟ
2. เติมน้ำตาลทรายขาวที่เหลือหลังจากแบ่งบางส่ วน
ไปผสมกับผงเพคติน คนจนน้ำตาลทรายละลายหมด
3. ค่อย ๆ โรยผงเพคตินที่ผสมกับน้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
และกวนต่อไปเรื่ อย ๆ จนข้น
4. เติมกรดมะนาว หรื อน้ำมะนาวลงไป แล้วคนไปเรื่ อย ๆ
จนวัดความหวานได้ 65 องศาบริ กซ์ หรื อเมื่อยกไม้พายขึ้นตามแนวนอน
แยมจะค่อย ๆ ไหลย้อยเป็ นแผ่นคล้ายผ้าม่าน
5. บรรจุขณะร้อนลงไปในขวดที่สะอาดซึ่ งผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว
ปิ ดฝาทิ้งไว้ให้เย็นแยมจะแข็งตัว
หมายเหตุ
1. แยมที่เปิ ดใช้แล้ว ควรเก็บในตูเ้ ย็น จะช่วยให้เก็บได้นาน
2. ขวดที่ใช้บรรจุ ต้องนำมาล้างให้สะอาด ทั้งขวดและฝาแล้วนึ่งฆ่าเชื้อ
นานประมาณ 15 นาที ผึ่งให้แห้งโดยคว่ำขวด และฝาตะแกรงที่สะอาดแล้วปิ ดฝาให้สนิท พร้อมที่จะนำไปใช้
2.1.5 แยมมะตูม
แยมมะตูม
เครื่องปรุง
เนื้อมะตูมขูด 6 ช้อนโต๊ะ
อินทผลัมสดลูกใหญ่ 3 ผล
เกลือนิดหน่อย
ขนมปังโฮลวีต
วิธีทำ
ขูดเนื้อมะตูมออกมาให้ได้ตามปริ มาณข้างต้น แกะอินทผลัมออกจากเมล็ด
หัน่ เป็ นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปผสมกับเนื้อมะตูม เติมเกลือลงไป
แล้วคนให้เข้าเป็ นเนื้ อเดียวกัน ปิ้ งขนมปังแล้วใช้แยมมะตูมทา
หมายเหตุ
แยมมะตูมนี้จะรสชาติและกลิ่นพิเศษ เป็ นแยมที่หากินยาก
สูตรที่ให้ไว้เป็ นแยมที่ท ำจากมะตูมสด ทำแล้วกินเลย
แต่หากอยากเก็บไว้ใช้นาน ๆ ให้เอาใส่ ชามแล้วใช้แผ่นฟิ ล์มปิ ดหน้า
ทำสุ กในไมโครเวฟ ใช้ไฟแรงนาน 2 นาที แล้วเก็บไว้ในตูเ้ ย็นจะเก็บได้นานเป็ นเดือน
2.1.6 แยมมะม่ วง
แยมมะม่ วง
ส่ วนผสม
เนื้อมะม่วงสุ กบดละเอียด 1,000 กรัม
กรดมะนาว 10 กรัม
น้ำตาลทราย 1,000 กรัม
น้ำ 250 กรัม
วิธีทำ
1. เติมกรดมะนาว น้ำในเนื้อมะม่วง ต้มโดยใช้ไฟอ่อนจนเกือบเดือด
คนตลอดเวลาจนเนื้ อมะม่วงข้น
2. เติมน้ำตาลทรายทีละน้อย คนส่ วนผสมอยูต่ ลอดเวลาจนน้ำตาลละลายหมด
เพิ่มไฟให้แรงขึ้นจนส่ วนผสมเดือด
วัดปริ มาณสารละลายทั้งหมดไม่ต ่ำกว่า 65 องศาบริ กซ์
ดูการเกิดเจลโดยใช้พายตักขึ้นดูลกั ษณะการไหลเป็ นแผ่น ช้อนฟองทิ้ง 3. บรรจุแยมลงในขวดที่ฆ่าเชื้อจุลินทรี ยแ์ ล้ว
2.1.7 แยมพุทรา
แยมพุทรา
ส่ วนประกอบ
เนื้อพุทรา 500 กรัม หรื อ 1/2 กก.
น้ำตาลทรายขาว 400 กรัม หรื อ 4 ขีด
เพคตินผง 9.0 กรัม หรื อประมาณ 4 1/2; ช้อนชา
กรดซิตริ ก (กรดมะนาว)8.0 กรัม หรื อประมาณ 2 3/4; ช้อนชา
น้ำสะอาด 800 มิลลิกรัม หรื อประมาณ 3 ถ้วยตวง
วิธีทำ
- ใช้พทุ ราสุ กแต่ไม่งอม ล้างให้สะอาด ปอกเปลือก สับให้ละเอียด
- ใส่ กรดซิ ตริ ก ต้มจนเนื้ อพุทราเปื่ อยใช้ไฟอ่อน ๆ
- เติมน้ำตาลทรายผสมเพคติน เพิ่มไฟให้แรงขึ้นจากอุณหภูมิถึง 105 องศาเซลเซี ยส และความข้นไม่ต ่ำกว่า 65 องศาบริ กซ์
- บรรจุขวดที่สะอาดและปิ ดสนิท
2.1.8 แยมส้ มโอ
แยมส้ มโอ
ส่ วนผสม
ส้มโอ (แกะเอาแต่เนื้อ) 1 ผล
น้ำตาลทราย 4 ถ้วย
มะนาว 1 ผล
น้ำ
วิธีทำ
1.ส้มโอแกะเอาแต่เนื้อ แล้วหัน่ เป็ นชิ้นเล็ก ๆ
2.ใส่ หม้อเคลือบต้มกับน้ำในอัตราส่ วน 2/1 (น้ำ 2 ถ้วยต่อส้ม 1 ถ้วย) จนเปื่ อยประมาณ 20 นาที
3.ตวง ส้มใส่ หม้อผสมกับน้ำตาลในอัตราส่ วน 1/1 (ส้ม 1 ถ้วยต่อน้ำตาล 1 ถ้วย) กวนในไฟขนาดกลางใช้ชอ้ นไม้คนอยูเ่ สมอ
ใส่ มะนาว (ถ้าส้มหวาน) กวนจนกระทัง่ ข้นใส ประมาณ 30 นาที
4.เทแยกใส่ ขวดซึ่ งล้างสะอาดแล้ว เว้นที่วา่ งปากขวดประมาร 1/8 นิ้ว ปิ ดฝาทันทีจะเก็บไว้ได้นาน (ควรเก็บไว้ในที่เย็น)
2.1.9 แยมลูกท้ อ
แยมลูกท้ อ
ส่ วนผสม
เนื้อลูกท้อ 3 ถ้วย
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 3 ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. ลูกท้อล้างให้สะอาด ผ่าสองเอาเม็ดออก แล้วสับให้ละเอียด
2. ตวงน้ำตามส่ วยใส่ ลงในหม้อเคลือบ ใส่ ลูกท้อที่สบั แล้วลงไปคนให้เข้ากัน
เคี่ยวไฟปานกลางจนน้ำงวดและลูกท้อเปื่ อย
3. ใส่ น ้ำตาลที่ตวงไว้ลงไปในหม้อลูกท้อ พร้อมกับเกลือ แล้วเคี่ยวต่อไปจนงวด
4. เทใส่ ขวดแก้วซึ่ งเตรี ยมไว้ขณะแยมยังร้อน ๆ ปิ ดฝาให้สนิท
2.1.10 แยมกล้ วย
แยมกล้ วย
แยมโฮมเมดสู ตรนี้ หาทานที่ไหนไม่ได้หรอกค่ะ นอกจากทำเอง
หากไม่ชอบหวานอาจลดน้ำตาลได้บา้ ง แต่ระยะเวลาที่เก็บอาจสั้นลง คือ
ถ้าเก็บในตูเ้ ย็น จะอยูไ่ ด้ประมาณ 1-2 สัปดาห์
หลักอย่างหนึ่งในการทำแยม คือ หากเนื้อผลไม้ที่ใช้ท ำรสไม่จดั พอ
มักจะนิยมเติมน้ำมะนาว หรื อน้ำส้ม เพื่อให้รสแหลมขึ้น
และเพิ่มความเป็ นวุน้ ให้กบั แยมด้วยค่ะ
ส่ วนผสม
กล้วยหอมห่าม 12 ผล
มะนาว 4 ผล
น้ำตาลทราย ประมาณ 1 กิโลกรัม
ส้มเกลี้ยง 6 ผล
วิธีทำ
ปอกเปลือกกล้วย หัน่ เป็ นชิ้นบางๆ แต่ให้คงเป็ นแว่นรู ปกล้วยไม่แตกจากกัน
ตวงน้ำตาลในอัตราส่ วนกล้วย 1 ก.ก. ต่อน้ำตาลทราย 1 1/2 ก.ก.
ส้ ม เป็ นไม้พมุ่ หรื อไม้ตน้ ขนาดเล็กหลายชนิด เป็ นพืชใบเลี้ยงคู่ สกุล Citrus วงศ์ Rutaceae มีดว้ ยกันนับร้อยชนิด เติบโต
กระจายอยูท่ วั่ โลก โดยมากจะมีน ้ำมันหอมระเหยในใบ ดอก และผล และมีกลิ่นฉุน หากนำใบขึ้นส่ องกับแสงแดด จะเห็นจุด
เล็กๆ เต็มไปหมด ซึ่ งจุดเหล่านั้นก็คือแหล่งน้ำมันนัน่ เอง ส้มหลายชนิดรับประทานได้ ผลมีรสเปรี้ ยวหรื อหวาน มักจะมี
แคลเซียม โปแทสเซี ยม ไวตามินเอ และไวตามินซี มาก
แอปเปิ ล (อังกฤษ: apple; ชื่อวิทยาศาสตร์ : Malus domestica) เป็ นผลไม้ในตระกูล Rosaceae แอปเปิ ลเป็ นผลไม้ที่นิยมมาก
ที่สุดชนิดหนึ่งในโลก เป็ นไม้ผลเมืองหนาว มีตน้ กำเนิดในบริ เวณประเทศอิหร่ านในปั จจุบนั จากนั้นจึงกระจายพันธุ์ไปยัง
เทือกเขาคอเคซัสและลุ่มแม่น ้ำไทกริ ส-ยูเฟรติส แล้วแพร่ หลายต่อไปในทวีปยุโรป ทวีปอเมริ กา และดินแดนอื่นทัว่ โลก ใน
ประเทศไทยปลูกได้ในพื้นที่ภาคเหนือ เช่นที่ดอยอ่างขาง
บทที่ 3
วิธีการดำเนินงาน
ในการศึกษาครั้งนี้ผศู ้ ึกษาได้ท ำการศึกษาแยมผลไม้รวม ซึ่ งมีวิธีการดังนี้
วัสดุและอุปกรณ์
1. กีวี 2 ผล
2. แอปเปิ้ ล 2 ผล
3. สตรอเบอร์รี่ 4 ผล
4. ส้ม 2 ผล
5. เครื่ องปั่ นน้ำผลไม้ถว้ ย 5 ชาม
6. มีด
7. ที่คนั่ น้ำส้ม
8. เขียง
9. เครื่ องปั่ นน้ำผลไม้
10. เกลือ
11. น้ำตาล
12. เพกติน
13. หม้อ
14. ช้อน
วิธีการดำเนินงาน
1. นำผลไม้ กีวี่ แอปเปิ้ ล สตรอเบอร์รี่ ไปหัน่ เป็ นชิ้นเล็กๆ
2. น้ำส้มไปคั้นในที่ค้ นั น้ำส้ม
3. จากนั้นนำผลไม้ท้ งั 4 ชนิด ไปปั่ นให้เข้ากัน
4. นำไปต้มในหม้อ รอให้เดือด
5. ใส่ เกลือ 3 ช้อนชา ใส่ น ้ำตาล 10 ช้อนโต๊ะ
6. เคี่ยวจนเริ่ มหนืด แล้วใส่ เพกติน 2 ช้อนชา เพื่อเพิม่ ความเหนียวยิง่ ขึ้น
7. ปิ ดแก็ส แล้วนำไปใส่ ถว้ ยรื อแก้วที่ตอ้ งการบรรจุ รอให้เย็นสักครู่ จึงค่อยนำไปแช่ในตูเ้ ย็น
บทที่ 4
ผลการวิเคราะห์ ข้อมูล
การวิเคราะห์ขอ้ มูลเกี่ยวกับแยมผลไม้ ของนักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2/4 โรงเรี ยน กาญจนาภิเษกวิทยาลัย สุ พรรณบุรี
จำนวน 48 คน
ตารางที่ 1 แสดงผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล ของนักเรี ยนหญิงและชายชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2/4 โรงเรี ยน กาญจนาภิเษกวิทยาลัย
สุ พรรณบุรี จำนวน 48 คน
เกณฑ์การให้คะแนน 1 = น้อยที่สุด 2 = น้อย 3 = ปานกลาง 4 = มาก 5 = มากที่สุด
ระดับคะแนน
รายการประเมิน
5 4 3 2 1
1.รสชาติของแยมผลไม้ 26 คน 15 คน 7 คน - -
2.สี สนั ของแยมผลไม้ 15 คน 10 คน 16 คน 7 คน -
3.ความสะอาดของแยมผลไม้ 45 คน 3 คน - - -
4.ปริ มาณของแยมผลไม้ 14 คน 10 คน 18 คน 6 คน -
5.กลิ่นของแยมผลไม้ 41 คน 6 คน 1 คน - -
จากตารางที่ 1 พบว่า นักเรี ยนหญิงและชายชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2/4 โรงเรี ยน กาญจนาภิเษกวิทยาลัย สุ พรรณบุรี จำนวน 48 คน
มีความพึงพอใจกับแยมผลไม้ มีดงั นี้ คือ มีระดับมากถึงมากที่สุด 3 รายการ คือ รสชาติของแยมผลไม้ ความสะอาดของแยม
ผลไม้ กลิ่นของแยมผลไม้ คิดเป็ นร้อยละ 88 มีระดับน้อยที่สุดถึงปานกลาง 2 รายการ คือสี สนั ของแยมผลไม้ ปริ มาณของแยม
ผลไม้ คิดเป็ นร้อยละ 59
บทที่ 5
สรุ ปผล อภิปรายผล และข้ อเสนอแนะ
จากการศึกษาดังนี้ เพื่อศึกษาถึงวิธีการทำแยม ศึกษาความเป็ นมา และประโยชน์ของแยม เพื่อสามารถทำแยมได้เอง
โรงเรี ยนกาญจนาภิเษกวิทายาลัย สุ พรรณบุรี ในภาคเรี ยนที่ 2 ปี การศึกษา 2557 ซึ่ งสามารถสรุ ปผล อภิปรายผล และข้อเสนอ
แนะได้ดงั นี้
1.วัตถุประสงค์ของการศึกษา
2.ขอบเขตของการศึกษา
3.เครื่ องมือที่ใช้ในการศึกษา
4.วิเคราะห์ขอ้ มูล
5.สรุ ปผลการศึกษา
6.ข้อเสนอแนะ
วัตถุประสงค์จากการศึกษา
1.เพื่อศึกษาวิธีการทำแยม
2.เพื่อศึกษาผลไม้ที่สามารถทำแยมได้
3.เพื่อศึกษาความเป็ นมาและประโยชน์ของแยม
ขอบเขตของการศึกษา
สิ่ งที่ศึกษา ผลไม้ในการทำแยม
ระยะเวลา เดือน กันยายน – ธันวาคม 2557
สถานที่ บ้านของด.ญ. ศิรประภา หวู
เครื่ องมือที่ใช้ในการศึกษา
เครื่ องมือที่ใช้ในการศึกษาในครั้งนี้ประกอบด้วยแบบสอบถาม 1 ฉบับ เรื่ อง ความพึงพอใจเกี่ยวกับแยมผลไม้ของ
นักเรี ยนชั้น ม. 2/4 โรงเรี ยนเรี ยนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย สุ พรรณบุรี จำนวน 5 ข้อ
วิเคราะห์ขอ้ มูล
ในการวิเคราะห์ขอ้ มูล ผูศ้ ึกษาได้วิเคราะห์ขอ้ มูลของนักเรี ยนที่มีต่อแยมผลไม้รวม เช่น รสชาติ สี สนั กลิ่น ปริ มาณ
และความสะอาดของแยมผลไม้ โดยการคิดคะแนนเฉลี่ยอยูใ่ นระดับมากถึงมากที่สุด ร้อยละ 88 และอยูใ่ นระดับน้อยที่สุดถึง
ปานกลาง ร้อยละ 59
สรุ ปผลการศึกษา
จากการศึกษาแยมผลไม้ของนักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2/4 โรงเรี ยนกาญจนาภิเษก
วิทยาลัย สุ พรรณบุรี พบว่านักเรี ยนทุกคนมีความพึงพอใจกับแนวคิดของแยมผลไม้
อยูใ่ นระดับมากถึงมากที่สุด ร้อยละ 88 และอยูใ่ นระดับน้อยที่สุดถึงปานกลาง ร้อยละ 59
การอภิปรายผล
พบว่าชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2/4 โรงเรี ยนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย สุ พรรณบุรี เห็นถึงความสะอาดของแยมผลไม้ กลิ ่น
หอม และรสชาติที่อร่ อยของแยมผลไม้ จึงอยูใ่ นระดับร้อยละ 88 แต่กต็ อ้ งปรับปรุ งในเรื่ องของสี สนั ที่ดูไม่ค่อยสดใสของแยม
ผลไม้ และปริ มาณของแยมผลไม้ จึงอยูใ่ นระดับร้อยละ 59
ข้ อเสนอแนะ
สามารถนำผลไม้ชนิดอื่นๆ มาแปรรู ปเป็ นแยมผลไม้ได้
13.เอกสารอ้ างอิง
การทำแยมผลไม้ สื บค้นเมื่อ 3 พฤษจิกายน 2563, จาก https://aksara99.wordpress.com
การทำแยมกล้วย สื บค้นเมื่อ 3 พฤษจิกายน 2563,จาก https://konphrae.wordpress.com
กล้วยน้ำว้า สื บค้นเมื่อ 3 พฤษจิกายน 2563, จาก https://th.m.wikipedia.org/wiki
กล้วยไข่ สื บค้นเมื่อ 3 พฤษจิกายน 2563, จาก https://sites.google.com/site/mybananas5720410054/klwy-khi
กล้วยหอม สื บค้นเมื่อ 3 พฤษจิกายน 2563, จาก https://th.m.wikipedia.org/wiki
แยมจากกล้วย สื บค้นเมื่อ 3 พฤษจิกายน 2563,จาก http://skillg.blogspot.com/2015/01/blog-post.html
ประโยชน์ของแยมกล้วย สื บค้นเมื่อ 3 พฤษจิกายน 2563,จาก https://www.pholfoodmafia.com/
14.ตารางบันทึกผลการทดลอง
ตารางตรวจสอบคุณภาพของแยมจาก กล้วย 3 ชนิด
กล ้วยน้ำว ้า
กล ้วยไข่
กล ้วยหอม
แบบประเมินแยมจาก กล้วย 3 ชนิด
คำชี้แจงให้ผปู ้ ระเมินสังเกตแยมจากกล้วย 3 ชนิด ได้แก่ กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม กล้วยไข่ ในด้านต่างๆ มีดงั นี้ 1.สี 2.กลิ่น
3.เนื้อ 4.รสชาติ โดยมีคะแนนการประเมินดังนี้
4 หมายถึง ดีมาก
3 หมายถึง ดี
2 หมายถึง พอใช้
1 หมายถึง ปรับปรุ ง
10
รวม
ค่าเฉลีย
่
สรุปค่าเฉลีย
่