You are on page 1of 14

ตัว

อย
่าง
ตารางเทียบเสียงภาษาจีน (พินอิน) กับภาษาไทย
เสียงพยัญชนะ เสียงสระ
b ป -i * อือ you, -iu โยว, อีโยว
p พ ɑ, -ɑ อา yin, -in อิน
m ม ɑi, -ɑi ไอ/อาย yinɡ, -inɡ อิง
f ฟ ɑo, -ɑo เอา/อาว yu, -ü ** อวี
d ต ɑn, -ɑn อัน/อาน yuɑn, -üɑn ** เยวียน/ยวาน, เอวียน
t ถ, ท ɑnɡ, -ɑnɡ อัง/อาง yue, -üe ** เยวฺ, เอวฺ
n น e, -e เออ yun, -ün ** ยวิน, อวิน
l ล ei, -ei เอย์ yonɡ, -ionɡ ยง, อียง
ɡ ก ou, -ou โอว wu, -u อู
k ข, ค en, -en เอิน wɑ, -uɑ วา, อัว/อวฺา
h ห, ฮ enɡ, -enɡ เอง wɑi, -uɑi ไว/วาย, อวฺาย
j
q

ฉ, ช
่าง
er ****
yi, -i
เออร์
อี
wɑn, -uɑn
wɑnɡ, -uɑnɡ
วัน/วาน, อวน/อวฺาน
วัง/วาง, อวง/อวาง
อย
x ซ, ส yɑ, -iɑ ยา, เอีย wo, -uo/-o *** วอ, อูโว/โอ
z จ yɑo, -iɑo เยา/ยาว, เอียว wei, -ui เวย์, เอวฺย์
c ฉ, ช yɑn, -iɑn เยียน, เอียน wen, -un เวิน, เอวิฺน
s yɑnɡ, -iɑnɡ wenɡ, -onɡ
ตัว

ซ, ส เยียง/ยาง, เอียง เวิง, อง


zh จ ye, -ie เย, อีเย/เอีย
ch ฉ, ช เสียงวรรณยุกต์
sh ซ, ส เสียง 1 เสียง 2 เสียง 3 เสียง 4
r ย, ร
w ว ˉ ˊ ˇ ˋ
y ย สามัญ จัตวา เอก โท
* ใช้ประสมกับเสียงพยัญชนะ z c s zh ch sh r แล้วออกเสียงเป็น "อือ" เช่น zi อ่านว่า จือ
** เสียง ü จะเขียนเป็น u เมื่อตามหลังพยัญชนะ j q x y
*** เสียง uo จะเขียนเป็น o เมื่อตามหลังพยัญชนะ b p m f
**** เสียง er ไม่จ�ำ เป็นต้องมีเสียงพยัญชนะต้น

4
สารบัญ 目录

อักษรจีน................................................................................................................................ 6
การประดิษฐ์อักษรจีน............................................................................................................ 7
แบบอักษรจีน........................................................................................................................ 8
ตัวเต็ม VS ตัวย่อ.................................................................................................................. 10
ลักษณะขีดของอักษรจีน........................................................................................................ 10
ลำ�ดับขีด................................................................................................................................. 21
1. เขียนจากบนลงล่าง/จากซ้ายไปขวา
2. เขียนเส้นนอนก่อนเส้นตั้ง
3. เขียนเส้นแกนเป็นเส้นสุดท้าย
4. เขียนเส้นโค้งขวาไปซ้ายก่อนเส้นโค้งซ้ายไปขวา
่าง
5. เขียนเส้นที่อยู่ตรงกลางก่อนเส้นทางซ้ายและขวา
6. เขียนรอบนอกก่อนข้างในแล้วขีดปิด
7. เขียนเส้นตั้งทางซ้ายก่อนเขียนปิด
อย
8. เขียนส่วนฐานเป็นส่วนสุดท้าย
9. เขียนจุดหรือขีดสั้น ๆ เป็นเส้นสุดท้าย
โครงสร้างอักษรจีน................................................................................................................ 33
ตัว

1. ซ้าย-ขวา 8. ส่วนขวาคลุมส่วนล่าง
2. บน-ล่าง 9. ครอบบน
3. ซ้าย-กลาง-ขวา 10. ครอบล่าง
4. บน-กลาง-ล่าง 11. ครอบซ้าย
5. ส่วนขวาคลุมส่วนบน 12. กรอบครอบ
6. ส่วนซ้ายคลุมส่วนบน 13. โครงสร้างเดี่ยว
7. ส่วนซ้ายคลุมส่วนล่าง 14. โครงสร้างพิเศษ
อุปกรณ์สำ�หรับการเขียนอักษรพู่กันจีน................................................................................ 47
เกม......................................................................................................................................... 50
เฉลย....................................................................................................................................... 54
ตารางคัด................................................................................................................................ 56

5
อักษรจีน

อักษรจีน(汉字 Hànzì)มีระบบการเขียนอักษรแบบแสดงความหมาย ซึง่ ประเทศทีใ่ ช้ระบบการเขียน


แบบนี้มีอยู่น้อยมาก นอกจากประเทศจีนก็มีประเทศอียิปต์ และชนเผ่าเล็ก ๆ ที่ไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป
ระบบการเขียนอักษรแบบนี้อาศัยรูปร่างของตัวอักษรในการแสดงความหมาย ระยะแรกนั้นตัวอักษรแต่ละ
ตัวเกิดขึน้ จากการวาดภาพ หรือทีร่ จู้ กั กันว่า “อักษรภาพ”(象形字 Xiànɡxínɡ Zì)แต่อกั ษรภาพไม่ได้แสดง
การออกเสียงด้วย แสดงเฉพาะความหมายเท่านั้น
ระบบการเขียนอักษรจีนเกิดจากการวาดภาพของคนโบราณในสมัยบรรพกาล อาศัยรูปร่างของ
ตัวอักษรในการแสดงความหมาย กล่าวคือเมื่อเห็นอักษรแล้วรู้ความหมายก็ถือว่าเพียงพอ และได้พัฒนา
มาเป็นระบบการเขียนที่สมบูรณ์เมื่อประมาณ 4,000 ปีก่อน แต่ในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา อักษรภาพ
ได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา จำ�นวนขีดจากการวาดภาพจึงค่อย ๆ น้อยลงเรื่อย ๆ เพื่อความสะดวก
และรวดเร็วในการเขียนมากขึ้น เช่น เส้นโค้งของภาพถูกแทนที่ด้วยเส้นตรงที่สามารถเขียนได้ง่ายกว่า
เป็นต้น จนในที่สุดระบบอักษรภาพจึงกลายเป็นระบบการเขียนเชิงสัญลักษณ์แทน ทำ�ให้ผู้เรียนภาษาจีน
่าง
ในสมัยใหม่ไม่สามารถรับรู้ความหมายจากรูปร่างของตัวอักษรได้อีก เหลืออักษรอยู่เพียงส่วนน้อยเท่านั้น
ที่ยังเหลือเค้าของอักษรภาพอยู่
อย
อักษรภาพ
ตัว

日 木 目 山 鱼 马 门
อักษรปัจจุบัน
(ตัวย่อ)

ความหมาย ดวงอาทิตย์ ต้นไม้ ดวงตา ภูเขา ปลา ม้า ประตู

โดยพื้นฐานแล้วอักษรจีนเป็นอักษรภาพแสดงความหมาย โดยถือเอาตัวอักษรที่เขียนตามรูปของ
สิ่งของเป็นพื้นฐาน มีทั้งสิ้นประมาณ 10,000 ตัว แต่ที่ใช้บ่อยมีประมาณ 3,000 ตัว สามารถนำ�มา
ประกอบเป็นคำ�และสำ�นวนได้มากมาย จากนั้นคำ�และสำ�นวนต่าง ๆ ก็จะประกอบขึ้นเป็นประโยค
ระบบการสร้างอักษรจีนไม่มีข้อจำ�กัดด้านจำ�นวนตัวอักษร อาจมีมากถึง 90,000 ตัว แต่ในปัจจุบัน
หากรู้อักษรจีนประมาณ 3,000 ตัวก็จะสามารถอ่านหนังสือภาษาจีนได้เกือบ 90% แล้ว ส่วนถ้าอยาก
อ่านวรรณคดีหรืองานเขียนโบราณต้องรู้อักษรจีนประมาณ 6,000 ตัว (อ้างอิงจากหนังสือ 500 อักษรจีน
จำ�ง่ายใช้ได้จริง : ผู้เขียน ผศ.ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ, สำ�นักพิมพ์ภาษาและวัฒนธรรม)

6
ตัวเต็ม VS ตัวย่อ

รูปแบบอักษรจีนมีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบคือ อักษรจีนตัวเต็ม( 繁 体 字 Fántǐzì)ซึ่งเป็นอักษรแบบ


ดั้งเดิมของภาษาจีน มักใช้ในงานมงคลหรืองานเฉลิมฉลอง การเขียนอักษรพู่กันจีน และสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ
เป็นรูปแบบอักษรราชการที่ใช้กันในฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน ระยะต่อมาทางการจีนต้องการส่งเสริมการ
เขียนให้กับประชาชน จึงได้ออกประกาศและเริ่มมีการใช้อักษรจีนตัวย่อ( 简 体 字 Jiǎntǐzì)กันอย่าง
จริงจังในปี ค.ศ. 1949 แต่ก็ยังมีการใช้อักษรจีนตัวเต็มควบคู่กันไปด้วย โดยอักษรจีนตัวย่อนี้ใช้ในประเทศ
จีน (แผ่นดินใหญ่) และสิงคโปร์ ถึงอย่างนั้น หากสังเกตดี ๆ แล้วจะพบว่าเริ่มมีการใช้งานอักษรจีนตัวย่อ
มาตั้งแต่ครั้งที่ยังเป็นอักษรหวัดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ชาวไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้อักษรจีนตัวเต็มเป็นหลักกันอยู่ แต่การเรียนการ
สอนภาษาจีนตามสถานศึกษาทั่วไปในประเทศไทยจะใช้อักษรจีนตัวย่อ เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับ
ประเทศจีน (แผ่นดินใหญ่) และในหนังสือเล่มนี้ก็จะใช้อักษรจีนตัวย่อในการแนะนำ�วิธีการเขียนเช่นกัน

่าง
อักษรจีนตัวเต็ม 车 风 长 龙 厂
อย
อักษรจีนตัวย่อ 车 风 长 龙 厂
ตัว

ลักษณะขีดของอักษรจีน

อักษรจีนมีพื้นฐานมาจากการรวมกันของ “ขีด”(笔画 Bǐhuà)หลายขีด แต่ละขีดก็จะมีชื่อเรียกเป็น


ของตัวเอง (สำ�หรับผู้เรียนในระดับต้นอาจจะไม่ต้องถึงขั้นจำ�ชื่อของขีดก็ได้) การศึกษาเรื่องขีดในการเขียน
อักษรจีน ก็เพื่อความเข้าใจในการเขียนอักษรจีนที่ถูกต้อง เข้าใจความเปลี่ยนแปลงของขีดในแบบอักษร
ต่าง ๆ สามารถบอกชื่อและนับจำ�นวนขีดได้อย่างถูกต้อง ตลอดจนสามารถจำ�แนกส่วนประกอบของ
อักษรจีนได้

ขีดพื้นฐาน เป็นขีดเดี่ยว ๆ สามารถลากเส้นจบได้ในการจรดพู่กัน 1 ครั้ง มีทั้งหมด 6 ขีด ได้แก่



10
捺 nà
ลักษณะการเขียน : ขีดป้ายไปทางขวา
rén

chánɡ
่าง
อย

ตัว

tiān

15
ลำ�ดับขีด

หลังจากที่เรียนรู้เกี่ยวกับขีดพื้นฐานแต่ละขีดไปแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เขียนภาษาจีนได้อย่าง
ราบรืน่ คล่องมือ และสวยงามก็คอื “ลำ�ดับขีด”(笔顺 Bǐshùn)นัน่ เอง ผูเ้ รียนหลายคนอาจเห็นว่าแค่เขียน
ออกมาให้ได้ผลลัพธ์เป็นอักษรตัวนั้น ๆ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่การเขียนอักษรจีนตามลำ�ดับขีดจะยิ่งช่วย
ให้สามารถเขียนได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ลำ�ดับขีดเหล่านี้จะเรียกว่าเป็นการรวบรวมประสบการณ์
ของผู้ใช้ภาษาจีนก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์เมื่อจะค้นหาคำ�ศัพท์จากพจนานุกรมด้วย เพราะ
พจนานุกรมภาษาจีนจะค้นจากจำ�นวนขีดของแต่ละตัวอักษร เริ่มจากการดูจำ�นวนขีดของหมวดคำ�
อักษรจีน(部首 Bùshǒu)ก่อน แล้วจึงนับขีดทีเ่ หลือ ฉะนัน้ หากสามารถจำ�ลำ�ดับขีดและจำ�นวนขีดได้อย่าง
แม่นยำ�ก็จะช่วยได้มากทีเดียว
ทำ�อย่างไรจึงจะจำ�ลำ�ดับขีดได้ ? วิธีที่ดีที่สุดคือ การหมั่นคัดบ่อย ๆ ยิ่งคัดมากเท่าไรก็จะยิ่งจำ�ลำ�ดับ
ขีดได้อย่างแม่นยำ� เพราะต้องอาศัยความเคยชินจนกลายเป็นระบบไปในที่สุด หลักการเบื้องต้นของการ
เขียนอักษรจีนตามลำ�ดับขีด ได้แก่


่าง
1. เขียนจากบนลงล่าง/จากซ้ายไปขวา เช่น
อย
一 1 ขีด

一 一 一 一 一 一 一 一 一
ตัว

一 一 一 一
ตัวเต็ม เสียงอ่าน : yī ความหมาย : เลขหนึ่ง หนึ่ง

* ตัวอักษร 一 เป็นการเขียนโดยลากเส้นจากซ้ายไปขวา

6 ขีด

交 交 交 交 交 交 交 交 交
交 交 交 交
ตัวเต็ม เสียงอ่าน : jiāo ความหมาย : ส่ง (ของ)

21
10 ขีด

容 容 容 容 容 容 容 容 容
容 容 容 容
ตัวเต็ม เสียงอ่าน : rónɡ ความหมาย : ถือ อนุญาต รูปลักษณ์

9 ขีด

星 星 星 星 星 星 星 星 星
星 星 星 星
ตัวเต็ม ่าง
เสียงอ่าน : xīnɡ ความหมาย : ดาว ดวงดาว

9 ขีด
อย
是 是 是 是 是 是 是 是 是
是 是 是 是
ตัว

ตัวเต็ม เสียงอ่าน : shì ความหมาย : เป็น คือ ใช่

2. เขียนเส้นนอนก่อนเส้นตั้ง เช่น
2 ขีด

十 十 十 十 十 十 十 十 十
十 十 十 十
ตัวเต็ม เสียงอ่าน : shí ความหมาย : เลขสิบ สิบ

22
โครงสร้างอักษรจีน

นอกจากตัวอักษรจีนจะประกอบขึ้นจากขีดหลาย ๆ ขีดแล้ว ขีดที่รวมกันเป็นตัวอักษรหรือโครงสร้าง


(结构 Jiéɡòu)บางโครงสร้างก็น� ำ มารวมกันเป็นอักษรตัวใหม่ได้อกี เป็นจำ�นวนมาก จึงต้องมีล�ำ ดับในการ
เขียนแต่ละโครงสร้างเหล่านี้เข้าด้วยกัน มีทั้งสิ้น 14 โครงสร้าง ได้แก่

1. ซ้าย-ขวา(左右结构 Zuǒ Yòu Jiéɡòu)เช่น

5 ขีด

汉 汉 汉 汉 汉 汉 汉 汉 汉
汉 汉 汉 汉
ตัวเต็ม 汉
่าง
เสียงอ่าน : Hàn ความหมาย : ชาวฮัน่ (ชาวจีน) ราชวงศ์ฮน่ั
อย
5 ขีด

打 打 打 打 打 打 打 打 打
ตัว

打 打 打 打
ความหมาย : ตี สร้าง พิมพ์ ต่อสู้ ยิง
ตัวเต็ม เสียงอ่าน : dǎ หมุน (โทรศัพท์) คำ�นวณ

7 ขีด

体 体 体 体 体 体 体 体 体
体 体 体 体
ตัวเต็ม 体 เสียงอ่าน : tǐ ความหมาย : ร่างกาย รูปแบบ

33
อุปกรณ์สำ�หรับการเขียนอักษรพู่กันจีน

การเขียนอักษรจีนในปัจจุบันมีพื้นฐานมาจากการเขียนด้วยพู่กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทั้งขีดต่าง ๆ
และลายเส้นก็เป็นลายเส้นของพู่กันมาก่อน แม้ว่าปัจจุบันจะมีระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้การพิมพ์แทนการ
เขียนและไม่ได้ใช้พู่กันในชีวิตประจำ�วัน การเขียนอักษรด้วยพู่กันก็ไม่ได้ลดความสำ�คัญลงไป เพราะถือเป็น
ศิลปะแขนงหนึ่งไปแล้ว จะเห็นได้จากการใช้เพื่อเขียนอักษรต่าง ๆ รวมไปถึงการวาดภาพจีนด้วย
อุปกรณ์ทใ่ี ช้ในการเขียนอักษรพูก่ นั จีนโดยหลัก ๆ มีอยูด่ ว้ ยกัน 4 อย่าง เรียกว่า 文房四宝 (Wénfánɡ
Sì Bǎo) หรือ สมบัตล ิ �ำ้ ค่าสีป่ ระการในการเรียนของบัณฑิตจีน ได้แก่ พูก่ นั (笔 bǐ)หมึก(墨 mò) กระดาษ
(纸 zhǐ) และแท่นฝนหมึก(砚 yàn)

1. พู่กัน แน่นอนว่าการเขียนอักษรจีนจะขาดพู่กันไม่ได้เลย ด้ามของพู่กันก็มีให้เลือกหลากหลาย


วัสดุ ทั้งไม้ไผ่ งาช้าง เงิน แก้ว และทองคำ� ขนพู่กันก็เช่นกัน สามารถทำ�ขึ้นได้จากขนสัตว์หลายชนิด เช่น
ขนกระต่าย ขนกวาง ขนแพะ ขนม้า หรือแม้กระทัง่ ผมของเด็กเกิดใหม่ เป็นต้น และตามทีไ่ ด้เกริน่ ไปตัง้ แต่
่าง
แรกว่า แม้ปัจจุบันจะเป็นยุคโลกาภิวัตน์ มีการใช้คอมพิวเตอร์และมีปากกา ดินสอ แล้วก็ตาม การเขียน
อักษรจีนที่เข้าถึงอารมณ์และศิลปะแบบจีนแท้ ๆ ก็ยังคงต้องใช้พู่กันอยู่ดี แต่ก็มีการประยุกต์ปากกาแบบ
เติมหมึกที่มีปลายเป็นขนแบบพู่กันด้วย
อย
ตัว

พู่กันขนาดและแบบต่าง ๆ

47
56
ตัว
อย
่าง
58
ตัว
อย
่าง
ตัว
อย
่าง

61
ตัว
อย
่าง

You might also like