You are on page 1of 124

ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3

1 Lifestyles
เวลาเรียน 14 ชั่วโมง

1 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว
้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อ
ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ม. 3/1 ปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชีแ
้ จง และคำ
อธิบายที่ฟังและอ่าน
ต 1.1 ม. 3/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา และบทร้อย
กรองสัน
้ ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ม. 3/3 ระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ
ให้สัมพันธ์กับประโยคและข้อความที่ฟังหรืออ่าน
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียด
สนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและ
อ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทัง้ ให้เหตุผลและยก
ตัวอย่างประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยน
ข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างมี
ประสิทธิภาพ
ตัวชีว้ ัด

18
ต 1.2 ม. 3/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
เรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ในความ
สนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/3 พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้
ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ
ในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล อธิบาย เปรียบ
เทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่าน
อย่างเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึก และความคิดเห็น
ของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์
และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมทัง้ ให้เหตุผลประกอบอย่าง
เหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และ
ความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูดและการเขียน
ตัวชีว้ ัด
ต 1.3 ม. 3/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง
ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรื่อง/ประเด็น ต่าง ๆ ที่
อยู่ในความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 3/2 พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระ หัวข้อ
เรื่องที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่อง/ข่าว/เหตุการณ์/สถานกา
รณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 3/3 พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม
ประสบการณ์ และเหตุการณ์ พร้อมทัง้ ให้เหตุผลประกอบ

19
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรม
ของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ ได้อย่างเหมาะสมกับ
กาลเทศะ
ตัวชีว้ ัด
ต 2.1 ม. 3/1 เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับ
บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม
ของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ม. 3/3 เข้าร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตาม
ความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง
ภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและ
วัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ตัวชีว้ ัด
ต 2.2 ม. 3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความ
แตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ และ
การลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย
ต 2.2 ม. 3/2 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความ
แตกต่างระหว่างชีวิตความเป็ นอยู่และวัฒนธรรมของ
เจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างเหมาะสม
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ น

20
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับ
กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ น
ื และเป็ นพื้นฐานในการพัฒนา
แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตัวชีว้ ัด
ต 3.1 ม. 3/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่
เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ น
ื จากแหล่งการเรียนรู้
และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทัง้ ใน
สถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชีว้ ัด
ต 4.1 ม. 3/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์
จำลองที่เกิดขึน
้ ในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และ
สังคม
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพื้นฐานในการ
ศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
กับสังคมโลก
ตัวชีว้ ัด
ต 4.2 ม. 3/2 เผยแพร่/ ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารของ
โรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่นเป็ นภาษาต่างประเทศ

2 สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

21
การเรียนรู้คำศัพท์ สำนวน และโครงสร้างภาษา จะช่วยให้เข้าใจ
บอกรายละเอียด และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรื่องที่อ่านและฟั งได้
นอกจากนีย
้ ังช่วยให้สามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ในการพูดและเขียน
สื่อสาร เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว
ได้อย่างถูกต้อง ตลอดจนมีความเคารพความแตกต่างซึ่งกันและกัน มอง
เห็นคุณค่าในตนเองและอยู่ร่วมกับผู้อ่ น
ื ได้อย่างมีความสุข รวมถึงมี
ความเข้าใจในมารยาทและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

3 สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Jobs (stuntman, acrobat, air traffic
controller, underwater photographer,
crocodile trainer, bomb disposal expert,
interior decorator, storm chaser, security
guard, make-up artist, travel agent, social
worker, airline pilot, shop assistant, graphic
designer, computer programmer, bus
driver, personal trainer, TV presenter,
heart surgeon)
Qualities (creative, brave, daring, fit, patient, highly
trained, careful, artistic, flexible, reliable,
skilful)
Physical appearance (plump, fair, old, short, of
medium height, moustache, in her late

22
twenties, beard, well-built, slim, spiky,
wavy, long, curly, round, straight, oval, fat,
small, in his early thirties, skinny, dark,
thin, teenager, overweight, in his mid
forties, middle-aged, freckles, tall,
wrinkles)
Character adjectives (easy-going, honest, fair,
sensitive, reserved, rude, shy, outgoing,
patient, polite, cheerful, selfish, generous,
popular, talkative, bossy, energetic,
honest, impatient)
Clothes (polo-neck jumper, tight-fitting jeans, short-
sleeved T-shirt, sunglasses, flared skirt,
loose-fitting top, tartan skirt, trainers,
polka-dot dress, flat shoes)
Complimenting verbs (go with, fit, suit, match)
Verbs (stand still, swing, extend, affect, increase,
admit, tease, respect, lead)
Nouns (sideshow performer, tattoo, pointed teeth,
forked tongue, audience, dressing room,
mime, belief, opinion, winner, loser, the
Holocaust, genocide, race, difference,
belief, diversity, strength, conflict, region,
economy)

23
Adjectives (double, tolerant, cheerful, confident,
religious, ethnic, cultural, economic)
Phrase (earn a living)
Sentences (Can I help you? Single or return? What
time would you like to leave? Which
platform does the train leave from?
You’re welcome.)
Phrases (put right)
Grammar: Present continuous vs Present simple
singular/plural nouns
comparative – superlative
too - enough
linkers (and, also, as well, too, but, however, on the
other hand)
Functions: Talking about jobs
An air traffic controller needs to be highly trained.
A shop assistant works indoors and gets paid low
wages.
Describing routines and actions people doing
I have breakfast and then watch TV.
My mum is cleaning the house.
Comparing people and places
Paul is older than Tracy. Sofia is much older
than Tracy.

24
Doi Inthanon is the highest mountain in
Thailand.
Describing people
She’s quite tall and slim. She has short
blonde hair and blue eyes.
He’s energetic. He does a lot of things.
She is very lively and loves talking.
Talking about clothes (complimenting)
You look great in that tartan skirt. It matches
your top.
Thanks.
Talking about self-respect
Self-respect is the feeling of confidence we
have when we feel we have value.
Talking about respecting other people
I respect others by joining the queue.
I respect others by listening to their opinions
with opened-mindedness.
Pronunciation: word stress in compound nouns
security guard, graphic designer, make-up
artist, computer programmer, travel agent,
bus driver, social worker, personal trainer,
airline pilot, TV presenter, shop assistant,
heart surgeon

25
2) Language Skills
Listening: ฟั งเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ, ฟั งเพื่อจับใจความสำคัญ,
ฟั งการออกเสียงประโยค
Speaking: พูดเกี่ยวกับคุณสมบัติที่ต้องการในแต่ละอาชีพ, พูด
เปรียบเทียบบุคคล,
พูดขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะรูปร่างและ
บุคลิกลักษณะของบุคคลในครอบครัว, พูดสนทนา
ชื่นชมเครื่องแต่งกาย, พูดนำเสนอและแสดงความ
คิดเห็นเรื่อง self-respect, พูดแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับวิธีแสดงออกถึงการเคารพผู้อ่ น

Reading: อ่านเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ, อ่านเพื่อหา topic
sentences
Writing: เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอาชีพที่ต้องการ
ทำ, เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพที่ตนเองสนใจ,
เขียนบรรยายกิจวัตรประจำวัน สิง่ ที่บุคคลกำลัง
ทำ,
เขียนเปรียบเทียบบุคคลและสถานที่, เขียน
บรรยายลักษณะรูปร่างของเพื่อน, แต่งบทสนทนา
ตามสถานการณ์ที่กำหนด, จดบันทึกสัน
้ ๆ เกี่ยว
กับประเด็นที่จะนำเสนอ, เขียนบทความเกี่ยวกับ
เพื่อนสนิท, เขียนตารางเปรียบเทียบวัฒนธรรม
ภาษา อาหาร และประเพณีของประเทศสมาชิก
กลุ่มประชาคมอาเซียนกับประเทศไทย
3) Culture การตอบรับคำชื่นชม

26
4 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

5 คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่ เรียนรู้
2) มุ่งมั่นในการทำงาน

6 ชิน
้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1) เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพที่ตนเองสนใจ เพื่อนำไปลงเว็บไซต์ของ
โรงเรียน
2) เขียนอีเมลเล่ากิจวัตรประจำวันของตนเองและสิ่งที่บุคคลใน
ครอบครัวกำลังทำ
3) ชิน
้ งานโปสเตอร์สิ่งที่เป็ นที่สุดในประเทศไทย
4) เขียนบรรยายลักษณะรูปร่างของบุคคลในครอบครัว
5) เขียนคำบรรยายลักษณะรูปร่างของเพื่อน
6) แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ที่กำหนด
7) พูดสนทนาชื่นชมเครื่องแต่งกาย
8) พูดนำเสนอเรื่อง self-respect
9) เขียนบทความเกี่ยวกับเพื่อนสนิท

27
10) เขียนตารางเปรียบเทียบวัฒนธรรม ภาษา อาหาร และ
ประเพณีของประเทศสมาชิกกลุ่มประชาคมอาเซียนกับประเทศไทย
7 การวัดและการประเมินผล
7.1 การประเมินก่อนเรียน
7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
7.3 การประเมินหลังเรียน
7.4 การประเมินชิน
้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

1 1a
Reading 1a & Vocabulary 2 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- บอกรายละเอียดและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านและ
ฟั งได้
- พูดและเขียนบรรยายคุณสมบัติและลักษณะงานของอาชีพต่าง ๆ
ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว
้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อ
ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ม. 3/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา และบทร้อย
กรองสัน
้ ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน

28
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียด
สนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและ
อ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทัง้ ให้เหตุผลและยก
ตัวอย่างประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยน
ข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างมี
ประสิทธิภาพ
ตัวชีว้ ัด
ต 1.2 ม. 3/3 พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้
ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ
ในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล อธิบาย เปรียบ
เทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่าน
อย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และ
ความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูดและการเขียน
ตัวชีว้ ัด
ต 1.3 ม. 3/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง
ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรื่อง/ประเด็น ต่าง ๆ ที่
อยู่ในความสนใจของสังคม
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง
ภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและ
วัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

29
ตัวชีว้ ัด
ต 2.2 ม. 3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความ
แตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ และ
การลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพื้นฐานในการ
ศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
กับสังคมโลก
ตัวชีว้ ัด
ต 4.2 ม. 3/2 เผยแพร่/ ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารของ
โรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่นเป็ นภาษาต่างประเทศ

2.สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับอาชีพและคุณสมบัติ รวมถึงสำนวนต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ช่วยให้เข้าใจ บอกรายละเอียด และแสดง
ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านและฟั งได้ นอกจากนีย
้ ังช่วยให้สามารถ
นำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ในการพูดและเขียนสื่อสารได้อย่างเหมาะสม

3.สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions

30
Vocabulary: Jobs (stuntman, acrobat, air traffic
controller, underwater photographer,
crocodile trainer, bomb disposal expert,
interior decorator, storm chaser, security
guard, make-up artist, travel agent, social
worker, airline pilot, shop assistant, graphic
designer, computer programmer, bus
driver, personal trainer, TV presenter,
heart surgeon)
Qualities (creative, brave, daring, fit,
patient, highly trained, careful, artistic,
flexible, reliable, skilful)
Verbs (stand still, swing, extend)
Nouns (sideshow performer, tattoo,
pointed teeth, forked tongue, audience,
dressing room, mime)
Adjectives (double, tolerant)
Phrase (earn a living)
Functions: Talking about jobs
An air traffic controller needs to be highly
trained.
A shop assistant works indoors and gets
paid low wages.
Pronunciation: word stress in compound nouns

31
security guard, graphic designer, make-up
artist, computer programmer, travel agent,
bus driver, social worker, personal trainer,
airline pilot, TV presenter, shop assistant,
heart surgeon
2) Language Skills
Listening: ฟั งเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ
Speaking: พูดเกี่ยวกับคุณสมบัติที่ต้องการในแต่ละอาชีพ
Reading: อ่านเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ
Writing: เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอาชีพที่ต้องการ
ทำ, เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพที่ตนเองสนใจ

4.สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

5.คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่ เรียนรู้
2) มุ่งมั่นในการทำงาน

32
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงที่ 1

ขัน
้ Warm up
1. ครูนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการเขียนชื่อหน่วยการเรียนรู้ Lifestyles
บนกระดาน พร้อมอ่านออกเสียงโดยเน้นเสียง -s เพื่อแสดงให้เห็น
รูปพหูพจน์ และให้นักเรียนเดาความหมาย
lifestyle (n) = the way in which a person or a
group of people lives and works
(วิถีหรือรูปแบบการดำเนินชีวิต)
2. Find the page numbers for หน้า 9 นักเรียนอ่านหัวข้อที่ให้
มาและช่วยกันอธิบายความหมายของคำศัพท์ยาก ในที่นอ
ี ้ าจเป็ นคำ
ว่า lizard ครูอาจใช้วิธีการบอกใบ้ เช่น A lizard is an animal
with a long tail. You can find it at your home. It usually
crawls on the wall. จากนัน
้ ให้นักเรียนหาว่าภาพที่เกี่ยวข้องกับ
หัวข้อเหล่านีอ
้ ยู่ในหนังสือเรียนหน้าใด เมื่อหาพบแล้วครูถามคำถาม
เกี่ยวกับหัวข้อดังกล่าว เพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียน

a man that looks like a lizard (p. 10)

33
Why do you think he looks like this? What do you
think his job is?
What do you think is on his skin? What is it called? It
begins with a letter “t”.
a quiz (pp. 16, 20)
Where can you see quizzes like these? Do you like
quizzes?
What is the point of a quiz?
a paragraph plan (p. 17)
Do you think is it important to have a paragraph
plan?

ขัน
้ Pre-reading
1. หนังสือเรียน หน้า 9 Ex. 1 ครูเปิ ด CD ให้นักเรียนฟั งคำศัพท์เกี่ยว
กับอาชีพ และฝึ กออกเสียงตาม 2-3 ครัง้ ครูเน้นให้นักเรียนลงเสียง
หนักในคำให้ถูกต้อง โดยครูอาจเขียนคำศัพท์บางคำบนกระดาน
เพื่อให้นักเรียนฝึ กเป็ นพิเศษก่อน เช่น
controller photographer
disposal decorator
เมื่อนักเรียนออกเสียงได้คล่องแล้ว ให้ช่วยกันบอกความหมายของ
คำศัพท์โดยเดาจากภาพ
2. หนังสือเรียน หน้า 9 Ex. 2 นักเรียนอ่านออกเสียง adjective ที่ใช้
บรรยายคุณสมบัติในการทำงานตามครู โดยครูชใี ้ ห้เห็นว่าคำศัพท์
ส่วนใหญ่จะลงเสียงหนักในพยางค์แรก ยกเว้นคำต่อไปนี ้

34
creative artistic reliable
ครูให้นักเรียนฝึ กออกเสียงด้วยตนเองอีกครัง้ แล้วครูให้นักเรียน
อธิบายความหมาย ถ้าคำใดไม่ร้ใู ห้เปิ ดพจนานุกรม หรือครูช่วย
อธิบาย เช่น
daring (adj) = willing to do dangerous or
unusual things; involving danger or taking
risks (กล้า, โลดโผน)
flexible (adj) = able to change to suit new
conditions or situations (ยืดหยุ่น, ปรับตัว
เข้ากับสถานการณ์ได้)
reliable (adj) = that can be trusted to do
something well; that you can rely on
(ไว้ใจได้, เชื่อถือได้)
skilful (adj)= good at doing something, especially
something that needs special
ability or training (เชี่ยวชาญ, มีทักษะ)
จากนัน
้ ให้นักเรียนช่วยกันบอกว่าอาชีพใน Ex. 1 ต้องมีคุณสมบัติ
อย่างไรบ้าง

An acrobat needs to be flexible and fit.


An air traffic controller needs to be highly trained.
An underwater photographer needs to be fit.
A crocodile trainer needs to be daring and careful.

35
A bomb disposal expert needs to be highly trained
and skilful.
An interior decorator needs to be creative.
A storm chaser needs to be daring.

3. หนังสือเรียน หน้า 9 Ex. 3 ครูทบทวน comparatives โดยยก


ตัวอย่างบนกระดาน เช่น The book is thicker than the
notebook. The car is more expensive than the
motorbike. แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกโครงสร้าง จากนัน
้ ครูให้
นักเรียนจับคู่กับเพื่อน พูดเปรียบเทียบคุณสมบัติของแต่ละอาชีพใน
ภาพ โดยใช้ adjective จาก Ex. 2 ในรูป comparatives

2 An acrobat needs to be more flexible than an air


traffic controller.
3 An air traffic controller needs to be more reliable
than an underwater photographer.
4 An underwater photographer needs to be more
creative than a crocodile trainer.
5 A crocodile trainer needs to be fitter than a bomb
disposal expert.
6 A bomb disposal expert needs to be more careful
than an interior decorator.

36
7 An interior decorator needs to be more reliable
than a storm chaser.
8 A storm chaser needs to be more daring than an
interior decorator.

4. หนังสือเรียน หน้า 10 Ex. 1 ครูเขียนคำว่า entertainment


(ความบันเทิง) บนกระดาน แล้วให้นักเรียนอธิบายความหมาย จาก
นัน
้ ครูให้เวลา 1 นาที ให้นักเรียนเขียนคำศัพท์เกี่ยวกับอาชีพซึ่ง
เกี่ยวข้องกับ entertainment ให้ได้มากที่สุด เสร็จแล้วเปรียบเทียบ
กับเพื่อน แล้วครูให้นักเรียนที่เขียนได้มากที่สุดออกมาเขียนคำศัพท์
บนกระดาน โดยให้นักเรียนที่เหลือช่วยกันดูว่าเขียนถูกต้องหรือไม่
และเพิ่มเติมคำศัพท์ที่ยังไม่มีบนกระดาน

dancer, comedian, musician, clown, director,


composer, magician, ballerina, circus performer etc.

5. นักเรียนอ่านคำศัพท์ในกรอบ Check these words และช่วยกัน


อธิบายความหมาย ถ้าคำใดไม่ร้ใู ห้เปิ ดพจนานุกรม หรือครูช่วย
อธิบาย เช่น
earn a living (idiom) =
to make money in order to sup
port oneself financially
(หาเลีย
้ งชีพ)

37
sideshow performer (n) = a person who
performs for an audience in a
separate small show at
a fair or circus  (ผู้แสดงโชว์ในงาน
รื่นเริงหรือในละครสัตว์)
swing (v) = to move backwards or forwards or
from side to side while hanging
from a fixed point (แกว่ง)
tolerant (adj) = able to accept what other people
say or do even if you do not agree
with it (อดทน)
6. หนังสือเรียน หน้า 10 Ex. 2 นักเรียนอ่านชื่อเรื่อง Extreme jobs
Extreme looks และดูภาพประกอบแล้วช่วยกันเดาว่าบทอ่านนีน
้ ่า
จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร จากนัน
้ ครูให้นักเรียนบรรยายภาพทัง้ 3
ภาพ และเดาว่าบุคคลเหล่านีน
้ ่าจะทำงานที่ใด และทำอาชีพอะไร
แล้วครูให้นักเรียนฟั ง CD เพื่อตรวจคำตอบ

The pictures show people who have extreme


looks in their jobs. There is someone dressed as
a cartoon character, a woman who looks like a
statue and a man with many tattoos who looks
like a lizard.

38
I think the cartoon character works at a theme
park, the statue woman might be an actress and
the man with the tattoos probably works in a
stage show as a performer.

7. ครูให้นักเรียนอ่านบทอ่าน โดยใช้วิธีการอ่านแบบ skimming ซึ่ง


เป็ นการอ่านแบบข้ามคำ เพื่อเก็บประเด็นหรือใจความสำคัญ รวม
ทัง้ รายละเอียดที่สำคัญบางอย่าง แล้วจับคู่ภาพ 1-3 กับบทอ่าน A-C
เสร็จแล้วครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียน และเฉลยคำตอบพร้อมกัน

Picture 1 - C Picture 2 - A Picture 3 - B

ขัน
้ Reading
หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 3 นักเรียนอ่านคำถามที่ให้มาและขีด
เส้นใต้คำสำคัญ แล้วอ่านเรื่อง Extreme jobs Extreme looks
โดยมองหาคำพ้องความหมาย (synonym) คำที่มีความหมายตรง
กันข้าม (opposite) หรือกลุ่มคำ/วลีที่มีความหมายเหมือนกันหรือ
ต่างกันกับคำสำคัญที่ขีดเส้นใต้ไว้ เมื่อพบแล้วให้อ่านเฉพาะประโยค
ที่คำถามนัน
้ พาดพิงไปถึงหรืออาจจะอ่านข้อความแวดล้อม 1-2
ประโยคก่อนหน้าหรือถัดไปที่มีข้อมูลพาดพิงไปถึง เมื่อเข้าใจแล้วจึง
ตอบคำถามที่ให้มา ครูย้ำว่า คำถามบางข้อสามารถตอบได้มากกว่า
1 คำตอบ เสร็จแล้วครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียน และเฉลยคำ
ตอบพร้อมกัน

39
1 A (Christina) 5 B (Eric)
2 A (Christina), C (Joe) 6 C (Joe)
3 B (Eric) 7 A (Christina)
4 A (Christina), C (Joe)

ขัน
้ Post-reading
1. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 4 นักเรียนฝึ กฝนคำศัพท์จากเรื่องที่อ่าน
โดยเติมคำที่กำหนดลงในช่องว่าง จากนัน
้ ครูรวบรวมคำตอบจาก
นักเรียน แล้วเฉลยคำตอบ
หรือครูอาจเตรียมบัตรคำในข้อ 1-12 และบัตรคำศัพท์ที่กำหนดให้
เช่น stand teeth, performer จากนัน
้ แบ่งนักเรียนออกเป็ น 5-6
กลุ่ม ครูแจกบัตรคำให้กลุ่มละ 1 ชุด ให้แต่ละกลุ่มจับคู่บัตรคำให้ถูก
ต้อง

1 still 5 performer 9 room


2 statue 6 teeth 10 mask
3 her skin 7 tongue 11 slowly
4 paint 8 costume 12 his arms or legs

40
หลังจากเฉลยคำตอบแล้ว ครูให้นก
ั เรียนใช้วลีเหล่านีพ
้ ูดบรรยาย
เกี่ยวกับ Christina, Eric และ Joe

A Christina is an actress and she works as a


living statue. She covers her skin with body
paint and stands still. It can take about 90
minutes to become a living statue.
B Eric is a sideshow performer. He has pointed
teeth and a forked tongue.
C Joe is the Disney character Pluto. When he
arrives at work, he goes to the dressing room
to change. He wears a heavy mask and a
furry costume. He walks slowly and doesn’t
swing his arms or legs.

2. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 5a ครูให้นักเรียจับคู่กับเพื่อน ผลัดกัน


พูด 3 สิ่งที่จดจำได้จากเรื่อง Extreme jobs Extreme looks

Christina covers her skin with body paint.


Eric has green tattoos all over his body.
Joe works at Disney World in Florida.

41
3. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 5b ครูให้เวลานักเรียนคิดและเขียนว่า
อาชีพใดจากเรื่อง Extreme jobs Extreme looks ที่นักเรียนอยาก
ทำ/ไม่อยากทำ พร้อมทัง้ ให้เหตุผลประกอบ จากนัน
้ ให้นักเรียนผลัด
กันพูดให้คู่ของตนเองฟั ง แล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 3-4 คน บอก
ความคิดเห็นของตนเอง

I would like to be the Disney character Pluto


and work at Disney World in Florida. I think it
would be fun. I like children and I like seeing
them smile.
I think they would like my furry costume!
I wouldn’t like to be a sideshow performer
because I wouldn’t like to change my
appearance to such an extreme.

4. ครูมอบหมายให้นักเรียนไปฝึ กอ่านออกเสียงบทอ่านในหนังสือเรียน
หน้า 10 เป็ นการบ้าน โดยครูอาจแบ่งนักเรียนเป็ นกลุ่มคละความ
สามารถ เพื่อให้นักเรียนช่วยเหลือกันในการฝึ กอ่าน เสร็จแล้วมา
อ่านออกเสียงให้ครูฟังนอกเวลาเรียน
5. แบบฝึ กหัด (Workbook) หน้า 4-5 Exs. 1-4 ให้นักเรียนทำเป็ นการ
บ้าน

42
ชั่วโมงที่ 2

ขัน
้ Warm up
1. ครูทบทวนคำศัพท์เกี่ยวับอาชีพและ adjective ที่ใช้บรรยาย
คุณสมบัติในการทำงาน โดยครูพูดคำศัพท์อาชีพ และให้นก
ั เรียนพูด
บอกคุณศัพท์ในการทำงาน โดยใช้โครงสร้าง ... needs to be …
เช่น A stuntman needs to be daring and fit.
2. ครูถามนักเรียนว่ารู้จักอาชีพแปลก ๆ ที่มีในประเทศไทยบ้างหรือไม่
ให้นักเรียนช่วยกันคิด เช่น อาชีพรับจ้างต่อคิว อาชีพหน้าม้า

ขัน
้ Pre-listening
1. ครูเขียนคำว่า taxi driver, name, swim, interior decorator บน
กระดาน และถามนักเรียนว่าคำใดคือ compound nouns (คำนาม
ประสม) แล้วครูวงกลม taxi driver และ interior decorator ครู
ให้นักเรียนสังเกตและช่วยกันบอกลักษณะของ compound
nouns จากนัน
้ ครูอธิบายให้ฟังว่า compound nouns คือ คำ
นามที่เกิดจากการนำคำตัง้ แต่ 2 คำมารวมกันและเกิดเป็ นคำนามคำ

43
ใหม่ โดยที่คำข้างหลังจะเป็ นคำหลัก (head) และคำข้างหน้าจะเป็ น
คำขยาย (modifier) ซึง่ วิธีการเขียนอาจจะเขียนรวมกัน เขียนแยก
กัน หรือเขียนแยกกันโดยมี hyphen (-) คั่น

Compound nouns สามารถเกิดได้จากหลายลักษณะ ดังนี ้


1) noun + noun เช่น classroom, bus driver
2) noun + verb เช่น sunrise, haircut
3) noun + adjective เช่น greenhouse, social worker
4) noun + preposition เช่น son-in-law, sister-in-law
5) participle + noun เช่น washing machine,
swimming pool
ที่มา: http://engtest.net/forum/detail.php?
type_id=17-01&&topic_id=2913

2. ครูให้นักเรียนอ่าน Study Skills ในหนังสือเรียน หน้า 11 แล้วช่วย


กันสรุป จากนัน
้ ครูช่วยสรุปเพื่อให้นักเรียนเข้าใจมากขึน
้ ว่า การออก
เสียง compound nouns โดยปกติจะเน้นเสียงหนักที่คำที่อยู่ข้าง
หน้า เช่น football, teapot, earthquake, high school,
hotdog, walking stick
3. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 6a นักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์ที่
กำหนดตามครู แล้วครูช่วยอธิบายคำศัพท์ยาก เช่น presenter,
surgeon
presenter (n) = a person who introduces the
different sections of a radio or television

44
programme (ผู้นำเสนอส่วนต่าง ๆ ของรายการ
โทรทัศน์และวิทยุ)
surgeon (n) = a doctor who is trained to
perform surgery (= medical operations
that involve cutting open a person’s
body) (ศัลยแพทย์)
ครูให้นักเรียนเติมคำที่กำหนดลงในช่องว่างเพื่อทำเป็ น compound
nouns เสร็จแล้วครูให้นักเรียนฟั ง CD เพื่อตรวจคำตอบ แล้วให้
นักเรียนฟั งอีกครัง้ โดยฟั งพยางค์ที่เน้นเสียงหนักในแต่ละคำ จาก
นัน
้ ครูให้นักเรียนฝึ กออกเสียงตาม CD 2-3 ครัง้
ครูอาจจะเขียนคำตอบบนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันระบุ
พยางค์ที่เน้นเสียงหนัก ครูขีดเส้นใต้พยางค์ที่ลงเสียงหนัก แล้วเปิ ด
CD ให้นักเรียนฟั งและฝึ กอ่านออกเสียงตาม
security guard graphic designer
make-up artist computer programmer
travel agent bus driver
social worker personal trainer
airline pilot TV presenter
shop assistant heart surgeon

1 guard 7 designer
2 artist 8 programmer
3 agent 9 driver
4 worker 10 trainer

45
5 pilot 11 presenter
6 assistant 12 surgeon

4. ครูให้นักเรียนช่วยกันเปรียบเทียบโครงสร้างคำนามประสมในภาษา
ไทยกับภาษาอังกฤษ โดยครูช่วยด้วยการยกตัวอย่างบนกระดาน
เพื่อให้นักเรียนสังเกต เช่น
taxi driver คนขับรถแท็กซี่
heart surgeon ศัลยแพทย์หัวใจ
interior decoratorนักตกแต่งภายใน
แล้วครูสรุปว่า คำนามประสมภาษาอังกฤษ คำหลักจะอยู่ข้างหลัง
ส่วนคำนามหรือคำคุณศัพท์ที่นำมาขยายจะอยู่ข้างหน้า แต่ในภาษา
ไทย คำหลักจะอยู่ข้างหน้า ส่วนคำนามหรือคำคุณศัพท์ที่นำมาขยาย
จะอยู่ข้างหลัง
5. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 6b ครูให้นักเรียนดูคำ/วลีที่ใช้ร่วมกับคำ
กริยา work และ get ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงาน แล้วให้นักเรียน
อ่านออกเสียง และอธิบายความหมาย
work shifts (ทำงานเป็ นกะ) work from 9 to 5
(ทำงานในออฟฟิ ศ)
work part-time (ทำงานนอกเวลา) work full-time
(ทำงานเต็มเวลา)
work with computer (ทำงานกับคอมพิวเตอร์)
work under pressure (ทำงานภายใต้ความกดดัน)
work long hours (ทำงานเป็ นเวลานาน) work indoors
(ทำงานในร่ม)

46
get paid well (ได้รับเงินดี) low wages (ค่าแรงต่ำ)
high wages (ค่าแรงสูง)
จากนัน
้ ให้นักเรียนใช้วลีเหล่านีเ้ ขียนบรรยายลักษณะงานของอาชีพ
ใน Ex. 6a มา 3 อาชีพ แล้วครู สุ่มเรียกนักเรียนหลาย ๆ คน อ่าน
ประโยค

A make-up artist works indoors. She gets paid well.


A travel agent works indoors from 9 to 5.
A social worker works long hours under pressure.
An airline pilot works shifts and gets paid well.
A shop assistant works indoors and gets paid low
wages.
A graphic designer works indoors with a computer.
A computer programmer works indoors with a
computer.
A bus driver works shifts.
A personal trainer works part-time. He gets paid
well.
A TV presenter works indoors. He gets high wages.
A heart surgeon works under pressure and gets paid
well.

47
6. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 7a ว่า นักเรียนจะ
ได้ฟังการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ ซึ่งผู้ที่ถูกสัมภาษณ์คือ Petra จะ
เล่าเกี่ยวกับงานและสิง่ ที่ทำเป็ นประจำในงานของเธอ แล้วให้
นักเรียนอ่านหัวข้อในตาราง จากนัน
้ ครูสอนคำศัพท์ที่นักเรียนจะ
ได้ยิน เช่น self-employed (ทำงานด้วยตนเอง), freelance (คนที่
ทำงานอิสระ ไม่ได้ทำงานประจำ), straight (ต่อเนื่อง), rewarding
(คุ้มค่า), reputation (ชื่อเสียง) โดยครูออกเสียงให้นักเรียนฟั งให้ถก

ต้อง
7. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า นักเรียนจะต้องฟั งเพื่อหาข้อมูลมาเติมใน
ตาราง ซึ่งไม่จำเป็ นต้องฟั งออกทุกคำ แต่เน้นที่จุดประสงค์หลักของ
การฟั ง คือ การฟั งเพื่อหาข้อมูลที่เกี่ยวกับหัวข้อในตาราง บางครัง้
นักเรียนอาจจะไม่ได้ยินคำตอบตรง ๆ แต่การเข้าใจบริบทจะช่วยให้
นักเรียนเข้าใจเรื่องที่ฟังได้ แม้ว่าจะฟั งไม่ออกทุกคำก็ตาม

ขัน
้ Listening
1. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 7a ครูเปิ ด CD ให้นักเรียนฟั งและจด
บันทึกข้อมูล ครูคอยสังเกตนักเรียนว่าฟั งเข้าใจหรือไม่ โดยอาจจะ
สังเกตจากสีหน้า หรือการจดบันทึกระหว่างฟั ง เมื่อฟั งจบครูอาจจะ
สอบถามนักเรียนว่าฟั งเข้าใจและเติมข้อมูลในตารางได้หรือไม่ โดย
ครูอาจจะให้นักเรียนฟั งอีกครัง้ ครูย้ำก่อนเปิ ด CD อีกครัง้ ว่า
นักเรียนกำลังฟั งเพื่อหาข้อมูลอะไร
2. เมื่อนักเรียนเติมข้อมูลในตารางเสร็จแล้ว ครูรวบรวมคำตอบจาก
นักเรียน และเฉลยคำตอบ

48
Job make-up artist
Workplac works indoors, outdoors, in
e private homes, in TV studios
or on location for TV projects
and films
Hours/ sometimes only a few hours a
Routine day
other times long hours
no routine
Skills artistic, flexible, friendly,
sociable
Wages low at the beginning but you
can get high wages if you
have experience and a good
reputation

Weak classes: ครูแจก Tapescripts ให้นักเรียนดู พร้อมกับฟั ง


CD เพื่อให้นักเรียนฟั งเข้าใจมากขึน

ขัน
้ Post-listening
1. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 7b ครูให้จับคู่ ผลัดกันพูดบรรยายเกี่ยว
กับงานและสิ่งที่ Petra ทำเป็ นประจำในงานของเธอโดยใช้ข้อมูล
จากตาราง Ex. 7a

49
Petra works indoors and outdoors. She works in
private homes, TV studios or on location for
films. She works different hours. Sometimes she
works only a few hours a day and other times
she works very long hours. She has no routine.
She needs to be artistic, flexible, friendly and
sociable. She earns a lot of money because of
her experience and reputation.

2. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 8 ครูให้นักเรียนสมมติว่ากำลังเตรียม


ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพต่าง ๆ เพื่อนำไปลงในเว็บไซต์ของโรงเรียน ให้
นักเรียนเลือกอาชีพที่ตนเองสนใจ 4 อาชีพ และเขียนให้ข้อมูลเกี่ยว
กับลักษณะของงาน ทักษะความสามารถ และรายได้

Make-up artists put make-up on people. They


are artistic and creative. Their job can be
indoors and outdoors. They need to be creative
and friendly. They get paid well.
Heart surgeons operate on sick people. They
are highly trained. They need to be careful and
skilful. They get paid high wages.

50
Personal assistants are patient. Their job can be
full-time or part-time. They need to be reliable
and flexible. They get low/high wages.
Security guards protect people and places. They
need to be brave. Their job can be full-time or
part-time. They need to be reliable and flexible.
They get low/high wages.

3. เพื่อปลูกฝั งค่านิยมและเจตคติที่ดีให้กับผู้เรียน ครูชใี ้ ห้นักเรียนเห็น


ถึงความสำคัญของอาชีพต่าง ๆ ในสังคม แม้บางอาชีพจะเงินเดือน
น้อย หรือดูไม่มีคุณค่า เพราะไม่ได้แต่งตัวสวยงาม ทำงานในสถานที่
ใหญ่โต เช่น คนเก็บขยะ พนักงานเสิร์ฟ แต่ถ้าสังคมขาดอาชีพเหล่า
นีไ้ ป ก็จะไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างปกติสุข ดังนัน
้ นักเรียนจึง
ควรให้ความสำคัญกับทุกอาชีพ
4. นักเรียนทำ Language Review 1a Exs. 1-2 ในหนังสือเรียน
หน้า 105 ร่วมกันในชัน

5. แบบฝึ กหัด (Workbook) หน้า 5 Exs. 5-8 ให้นักเรียนทำเป็ นการ
บ้าน

7. การวัดและการประเมินผล
วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ประเมินการอ่านออกเสียง แบบประเมินการอ่าน ระดับคุณภาพ
บทอ่าน ออกเสียง พอใช้
ตรวจการตอบคำถามการ แบบฝึ กหัด ร้อยละ 60

51
อ่านและการฟั ง (Workbook)
สังเกตการแสดงความคิด แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ
เห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน การเรียนรู้ พอใช้
ตรวจการเขียนเกี่ยวกับ สมุดนักเรียน -
อาชีพที่ต้องการทำ
ประเมินการเขียนให้ข้อมูล แบบประเมินการ ระดับคุณภาพ
เกี่ยวกับอาชีพที่ตนเอง เขียน พอใช้
สนใจ เพื่อนำไปลงเว็บไซต์
ของโรงเรียน
สังเกตความใฝ่ เรียนรู้และ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ
ความมุ่งมั่นในการทำงาน คุณลักษณะ ผ่าน
อันพึงประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1)หนังสือเรียน SPARK 3 ม. 3
2)Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3)แบบฝึ กหัด SPARK 3 ม. 3
4)พจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษ
5)พจนานุกรมออนไลน์

52
Grammar 1b 2
2 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- พูดและเขียนประโยคโดยใช้ Present simple, Present
continuous, singular/plural nouns, too, enough ได้ถูกต้อง
- พูดและเขียนเปรียบเทียบข้อมูลโดยใช้ comparative และ
superlative ได้ถก
ู ต้อง

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว
้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และ
ความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตัวชีว้ ัด

53
ต 1.3 ม. 3/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง
ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรื่อง/ประเด็น ต่าง ๆ ที่
อยู่ในความสนใจของสังคม
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ น

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับ
กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ น
ื และเป็ นพื้นฐานในการพัฒนา
แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตัวชีว้ ัด
ต 3.1 ม. 3/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่
เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ น
ื จากแหล่งการเรียนรู้
และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้โครงสร้างภาษา (Present simple, Present
continuous, singular/plural nouns, too, enough) ช่วยให้
สามารถพูด/เขียนสื่อสารในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Grammar: Present continuous vs Present simple
singular/plural nouns

54
comparatives – superlatives
too - enough
Functions: Describing routines and actions people
doing
I have breakfast and then watch TV.
My mum is cleaning the house.
Comparing people and places
Paul is older than Tracy. Sofia is much
older than Tracy.
Doi Inthanon is the highest mountain in
Thailand.
2) Language Skills
Speaking: พูดเปรียบเทียบบุคคล
Writing: เขียนบรรยายกิจวัตรประจำวัน สิง่ ที่บุคคลกำลัง
ทำ, เขียนเปรียบเทียบบุคคลและสถานที่

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1)ความสามารถในการสื่อสาร
2)ความสามารถในการคิด
3)ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1)ใฝ่ เรียนรู้
2)มุ่งมั่นในการทำงาน

55
6. กิจกรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงที่ 1

ขัน
้ Warm up
ครูทบทวนคำศัพท์เกี่ยวกับอาชีพ โดยครูขออาสาสมัครออกมาวาด
ภาพง่าย ๆ เกี่ยวกับอาชีพ 1 อาชีพ บนกระดาน เพื่อให้เพื่อนทายว่า
คืออาชีพใด เช่น
S1: วาดภาพรถประจำทาง
Class: bus driver
S1: That’s right.

ขัน
้ Presentation
1. หนังสือเรียน หน้า 12 Ex. 1 ครูทบทวน Present simple โดยให้
นักเรียนอ่านวิธีใช้และตัวอย่างประโยค แล้วช่วยกันสรุปโครงสร้าง
และวิธีใช้
Present simple: base form of verb
- ใช้บอกสภาพที่ถาวรหรือบอกข้อเท็จจริงตามธรรมชาติ
- ใช้บอกอุปนิสัย กิจวัตรประจำวัน
- ใช้กับตารางเวลา

56
จากนัน
้ ครูให้นักเรียนจับคู่แต่งประโยค Present simple ตามการ
ใช้ แล้วครูสุ่มเรียก 2-3 คู่ อ่านประโยคให้ฟัง เช่น We’re
students. I get up at 6. We have English classes on
Wednesdays and Fridays.
2. ครูทบทวน Present continuous โดยให้นักเรียนอ่านวิธีใช้และ
ตัวอย่างประโยคใน Ex. 1 แล้วช่วยกันสรุปโครงสร้างและวิธีใช้
Present continuous:verb to be (is, am, are) + verb -
ing
- ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึน
้ ขณะที่พูดหรือช่วงเวลาที่พูด

- ใช้กับกิจกรรมที่วางแผนหรือเตรียมการไว้แล้วในอนาคต
- ใช้กับสถานการณ์ที่เกิดขึน
้ เพียงชั่วคราว
จากนัน
้ ครูให้นักเรียนจับคู่แต่งประโยค Present continuous ตาม
การใช้ แล้วครูสุ่มเรียก 2-3 คู่ (ไม่ซ้ำกับคู่ที่พูดไปแล้ว) อ่านประโยค
ให้ฟัง เช่น We are studying English now. We’re playing
basketball tomorrow. Jane is study hard for two weeks.
3. ครูอธิบายเกี่ยวกับ state verb หรือ stative verb ซึ่งเป็ นคำกริยา
ที่เกี่ยวกับความรู้สึก ความคิดเห็น ประสาทสัมผัสทัง้ ห้า มักจะใช้ใน
รูป simple tense เท่านัน
้ จะไม่ใช้รูป continuous tense เช่น
agree, want , appear, like, love, taste, believe แล้วครูยก
ตัวอย่างบนกระดาน
This soup tastes sour.
I don’t believe the news.

57
4. ครูให้นักเรียนหาคำกริยารูป Present simple และ Present
continuous ในบทอ่าน หน้า 10 เมื่อพบแล้วให้ขีดเส้นใต้ ครู
รวบรวมคำตอบจากนักเรียน

Present simple: do, go, play, is, takes, has, call,


performs, shocks, arrives, goes, wears, works,
leaves, says, knows, speak, makes, walks,
doesn’t swing, looks, doesn’t get, extends, see,
Present continuous: is not working, is standing,
is smiling, enjoying

5. ครูเขียนคำนามเหล่านีบ
้ นกระดาน class, news, money, jeans,
glasses, group, gymnastics ให้นักเรียนช่วยกันระบุว่าเป็ น
เอกพจน์หรือพหูพจน์ โดยครูยังไม่เฉลยคำตอบ
6. หนังสือเรียน หน้า 12 Ex. 4 ครูบอกนักเรียนว่าคำนามเอกพจน์
บางคำอาจมีรูปเป็ นพหูพจน์ และคำนามบางคำอาจมีแต่รูปเป็ น
พหูพจน์ จากนัน
้ ให้นักเรียนอ่านเกี่ยวกับคำนามเอกพจน์และ
พหูพจน์ แล้วครูและนักเรียนร่วมกันสรุป
1)คำนามที่เป็ นพหูพจน์ ถึงแม้บางคำจะไม่เติม -s เช่น goods,
people ใช้ร่วมกับคำกริยารูปพหูพจน์
2)คำนามที่เป็ นเอกพจน์ ถึงแม้จะเติม -s เช่น news, maths
ใช้ร่วมกับคำกริยารูปเอกพจน์

58
3)คำนามที่เป็ นคู่ จัดเป็ นพหูพจน์เสมอ เช่น shorts, scissors
ใช้ร่วมกับคำกริยารูปพหูพจน์
4)คำนามที่ใช้เรียกบุคคลหรือสิ่งของที่เป็ นกลุ่ม เช่น team,
staff สามารถใช้ได้ทงั ้ คำกริยารูปเอกพจน์และพหูพจน์ ขึน

อยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้ว่าใช้ในความหมายเป็ นหนึ่ง
เดียวหรือแยกเป็ นส่วน

การจดจำคำนามที่มีลักษณะพิเศษเหล่านี ้ ครูอาจแนะนำ
ให้นักเรียนจดจำเฉพาะคำนามที่มีความขัดแย้งระหว่างรูป
คำกับการใช้คำกริยา เช่น คำนามที่มีรูปพหูพจน์ แต่มี
ความหมายเป็ นเอกพจน์ หรือคำนามที่มีรูปเอกพจน์แต่มี
ความหมายเป็ นพหูพจน์
7. ครูทบทวนการออกเสียง s หรือ es ท้ายคำนาม จากนัน
้ ให้นักเรียน
อ่านออกเสียงคำนามที่ลงท้ายด้วย s หรือ es ที่ยกตัวอย่างให้ใน
กรอบ โดยเน้นให้นักเรียนออกเสียง s หรือ es ท้ายคำให้ถูกต้อง

/s/ /z/ /Iz/


outskirts, clothes, glasses
atheletics, customs,
gymnastics, earnings, goods,
darts, maths, news, billiards,
physics, measles,
economics, binoculars,
politics, shorts, jeans, pyjamas,

59
tights scissors,
trousers

ที่มา: http://www.grammar.cl/english/pronunciation-
final-s.htm

ขัน
้ Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 12 Ex. 2 นักเรียนอ่านประโยค แล้วเปลี่ยนคำ
กริยาในวงเล็บให้อยู่ในรูป Present simple หรือ Present
continuous เสร็จแล้วครูให้นักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบ พร้อมทัง้
อธิบายเหตุผลประกอบในการเลือกใช้ tense

60
1 work (Present simple for habits/routines)
2 is doing (Present continuous for action
happening now/around the time
of speaking)
3 Do you like (Present simple used for verbs that
describe a state)
4 are going (Present continuous for a future
arrangement)
5 arrives (Present simple for timetables)
6 wants (Present simple for verbs that describe a
state)
7 Are you flying (Present continuous for a future
arrangement)

2. หนังสือเรียน หน้า 12 Ex. 3 ครูให้นักเรียนอ่านอีเมล แล้วเปลี่ยน


คำกริยาในวงเล็บให้อยู่ในรูป Present simple หรือ Present
continuous โดยสังเกตคำ/วลีบ่งบอกเวลา เสร็จแล้วครูขออาสา
สมัครบอกคำตอบ และนักเรียนในชัน
้ ช่วยกันตรวจคำตอบ

1 am/’m 4 am/’m making 7 doesn’t like


61
2 is/’s having 5 wants 8 is/’s making
3 is/’s tidying 6 needs 9 Do you want

3. หนังสือเรียน หน้า 12 Ex. 4 นักเรียนสังเกตประธานของประโยค


แล้วเลือกคำกริยาให้สอดคล้องกับประธาน เสร็จแล้วครูเฉลยคำ
ตอบโดยสุ่มถามนักเรียนว่า ประธานของประโยคเป็ นเอกพจน์หรือ
พหูพจน์ และต้องใช้คำกริยาคำใด

1 are 3 is 5 is 7 is 9 is
2 is 4 are 6 are 8 are 10 are

ขัน
้ Production
1. ครูอธิบายให้นักเรียนเขียนอีเมลถึงเพื่อนเพื่อเล่ากิจวัตรประจำวัน
ของตนเองและสิ่งที่บุคคลในครอบครัวกำลังทำอยู่ขณะที่นักเรียน
เขียนอีเมล ก่อนเขียนครูถามนักเรียนว่าการบอกกิจวัตรประจำวัน
ต้องใช้ tense ใด (Present simple) และการบอกสิ่งที่บุคคลกำลัง
ทำอยู่ต้องใช้ tense ใด (Present continuous) จากนัน
้ ให้เวลา
นักเรียนทำงาน
2. แบบฝึ กหัด (Workbook) หน้า 6 Exs. 1-5 ให้นักเรียนทำเป็ นการ
บ้าน

62
ชั่วโมงที่ 2

ขัน
้ Warm up
ครูทบทวนการใช้ Present continuous เพื่อบอกแผนการที่วางไว้
แล้ว โดยให้นักเรียนพูดประโยคบอกสิ่งที่ตนเองจะทำในวันพรุ่งนี ้

ขัน
้ Presentation
1. ครูทบทวน comparatives และ superlatives โดยขออาสาสมัคร
3 คน ที่มีส่วนสูงแตกต่างกันออกมายืนหน้าชัน
้ จากนัน
้ ครูพูดเปรียบ
เทียบส่วนสูงของทัง้ 3 คน เช่น
Anne is tall.
Som is taller than Anne.
Wit is the tallest of all.
2. ครูอธิบายว่า เราสามารถนำ very/extremely มาวางไว้หน้า
adjective ได้ เมื่อต้องการเน้น adjective คำนัน

3. ครูอธิบายว่า ถ้าต้องการเน้นว่าสิ่งที่นำมาเปรียบเทียบมีความแตก
ต่างกันมาก สามารถใช้ much มาวางไว้หน้า comparatives ได้
แล้วครูยกตัวอย่างโดยให้นักเรียนที่สูงที่สุดในชัน
้ และสูงน้อยที่สุดใน
ชัน
้ ออกมายืนหน้าชัน
้ แล้วครูพูดประโยค เช่น
New is very/extremely tall.
New is much taller than Nicha.

63
4. ครูอธิบายว่า ถ้าต้องการเปรียบเทียบ 2 สิ่งที่เท่ากัน สามารถใช้ as
+ adjective + as ได้ เช่น Nan is as tall as Anne. แต่ถ้า
ต้องการบอกว่า 2 สิ่งที่นำมาเปรียบเทียบไม่เท่ากัน ให้ใช้ not + as
+ adjective + as เช่น Wit isn’t as tall as New.
5. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 5 ให้นักเรียนเติม comparatives และ
superlatives ที่ขาดหายไป แล้วครูขออาสาสมัครออกมาเขียนคำ
ตอบบนกระดาน

1 longer 2 fatter 3 the happiest

ครูให้นักเรียนสังเกตการเปลี่ยนรูปของ adjective เป็ น


comparative และ superlative แล้วช่วยกันสรุปวิธีการสร้าง
comparative และ superlative โดยครูคอยช่วยเสริม

With single-syllable adjectives and two-syllable


adjectives, we form the comparative by adding -
er and the superlative by adding -est. With
adjectives with three or more syllables, we form
the comparative with more and the superlative
with most. With some two-syllable adjectives
(e.g. clever, narrow, gentle, friendly) we form
the comparative and the superlative with either
-er/-est or with more/most.

64
ครูชใี ้ ห้นักเรียนสังเกต adjective บางคำที่มีการเปลี่ยนรูปไปเลย
เมื่อเปลี่ยนเป็ น comparative และ superlative โดยครูย้ำให้
นักเรียนจดจำ adjective เหล่านี ้
จากนัน
้ ครูให้เวลานักเรียน 2 นาที อ่านบทอ่าน หน้า 10 เพื่อหา
comparative และ superlative จากนัน
้ พูดบอกครู

superlative: the strangest, the most important

6. ครูสุ่มเรียกนักเรียน 4-5 คน พูดประโยคเปรียบเทียบโดยใช้


comparative จากนัน
้ ครูสุ่มเรียกนักเรียนอีก 4-5 คน พูดประโยค
เปรียบเทียบโดยใช้ superlative
7. ครูยกตัวอย่างประโยคที่ใช้ too และ enough บนกระดาน แล้วให้
นักเรียนสังเกตตำแหน่งของ too และ enough แล้วครูถามว่า too
อยู่หน้าหรือหลัง adjective (หน้า adjective) และถามต่อว่า
enough อยู่หน้าหรือหลัง adjective (หลัง adjective)
The table is too heavy to lift.
The box is light enough to lift.
ครูเดินไปจับโต๊ะทำท่ายก แล้วพูดว่า The table is too heavy to
lift. จากนัน
้ ครูยกกล่องขึน
้ มา แล้วพูดว่า The box is light
enough to lift.
ครูถามนักเรียนว่า too มีความหมายในเชิงบวกหรือลบ (ลบ) แล้ว
ถามต่อว่า enough มีความหมายในเชิงบวกหรือลบ (บวก) จากนัน

ครูอธิบายว่า too มีความหมายว่า “มากเกินไป” ใช้เพื่อแสดงว่ามี

65
บางสิ่งมากเกินต้องการ แล้วครูอธิบายว่า enough มีความหมายว่า
“พอ, พอดี” ใช้เพื่อแสดงว่ามีบางสิง่ พอเท่าที่ต้องการ
8. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 9 ครูให้นักเรียนอ่านการใช้ too และ
enough เพื่อทบทวนความเข้าใจ

ขัน
้ Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 6 นักเรียนฝึ กใช้ comparatives โดย
เปลี่ยน adjective ในวงเล็บให้อยู่ในรูป comparatives เสร็จแล้ว
ครูสุ่มเรียกนักเรียนอ่านคำตอบ

1 nicer 3 hotter 5 worse


2 more beautiful 4 cheaper

2. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 7 นักเรียนฝึ กใช้ superlatives โดย


เปลี่ยน adjective ในวงเล็บให้อยู่ในรูป superlatives เสร็จแล้วครู
สุ่มเรียกนักเรียนอ่านคำตอบ

1 the tallest, the biggest 3 the shortest


2 the longest 4 the healthiest

จากนัน
้ ครูบอกนักเรียนว่าในข้อความนีม
้ ีเรื่องเกี่ยวกับประเทศไทย
โดยกล่าวถึงผู้หญิงชนเผ่าหนึ่ง ที่มีคอยาวที่สุดในโลก ครูถาม
นักเรียนว่ารู้หรือไม่ว่าคือชนเผ่าอะไร (กะเหรี่ยงคอยาว)

66
3. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 8 นักเรียนจับคู่กัน แล้วพูดเปรียบเทียบ
โดยใช้ข้อมูลจากตารางร่วมกับ adjective ที่กำหนดให้ จากนัน
้ ครู
สุ่มเรียกนักเรียนหลาย ๆ คู่ พูดรายงานคำตอบ แล้วครูเขียนคำตอบ
ที่ถูกต้องบนกระดาน

Paul is older than Tracy. Sofia is much older than


Tracy.
Paul isn’t as old as Sofia. Sofia is the oldest of all.

Tracy is taller than Sofia. Paul is much taller than


Sofia.
Tracy isn’t as tall as Paul. Paul is the tallest of all.

Sofia is more active than Paul. Tracy is much more


active than Paul.
Sofia isn’t as active as Tracy. Tracy is the most
active of all.

Paul is more sociable than Tracy. Sofia is much


more sociable than Tracy.
Paul isn’t as sociable as Sofia. Sofia is the most
sociable of all.

67
4. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 10 นักเรียนอ่านประโยค แล้วเลือกเติม
too หรือ enough ร่วมกับ adjective ในวงเล็บให้ถูกต้อง เสร็จ
แล้วครูขออาสาสมัครอ่านประโยค แล้วครูตรวจความถูกต้อง

1 clever enough 3 old enough 5 too lazy


2 too small 4 too expensive

5. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 11 ครูให้เวลานักเรียน 3 นาที ทบทวน


โครงสร้างภาษาที่เรียนในบทนี ้ แล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนพูดสรุปเกี่ยว
กับ Present simple, Present continuous, comparatives,
superlatives, singular/plural nouns, too, enough จากนัน
้ ให้
นักเรียนแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้างภาษาที่เรียนมา โครงสร้างละ
2 ประโยค แล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนอ่านประโยคที่แต่งให้เพื่อนฟั ง

Water freezes at 0°C. The film starts at 8 pm.


Mum’s cooking dinner at the moment. We’re going
on holiday next week.
My clothes are always clean. Gymnastics is difficult.

68
Sam is taller than Billy. Billy is more
friendly/friendlier than Sam.
It’s too cold to play in the garden. It’s warm
enough to swim in the sea.

ขัน
้ Production
1. ครูแบ่งนักเรียนเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ให้นักเรียนทำตารางเหมือน
ใน Ex. 8 แล้วเขียนข้อมูลของ สมาชิกในกลุ่มลงในตาราง เสร็จ
แล้วให้นักเรียนพูดเปรียบเทียบสมาชิกในกลุ่มของตนเองให้อีกกลุ่ม
หนึง่ ฟั ง
2. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมค้นคว้าข้อมูลทางด้านภูมิศาสตร์ของ
ประเทศไทย เพื่อหาสิง่ ที่เป็ นที่สุดในด้านต่าง ๆ แล้วนำข้อมูลมาทำ
โปสเตอร์ โดยติดภาพประกอบและตกแต่งให้น่าสนใจ

Doi Inthanon is the highest mountain in


Thailand. It is in Chom Thong District, Chiang
Mai Province
Bangkok is the capital city of Thailand. Its full
name is listed in Guinness World Records as
the world’s longest place name, at 168 letters.
Phuket is one of the southern provinces of
Thailand. It is the largest island in Thailand.

69
The Thi Lo Su Waterfall is the largest waterfall
in Thailand. It’s nearly 450 metres wide.
The Chi River is the longest river in Thailand.

7. การวัดและการประเมินผล
วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ประเมินการเขียนอีเมล แบบประเมินการ ระดับคุณภาพ
เล่ากิจวัตรประจำวันของ เขียน พอใช้
ตนเองและสิ่งที่บุคคลใน
ครอบครัวกำลังทำ
ประเมินชิน
้ งานโปสเตอร์ แบบประเมินชิน
้ งาน ระดับคุณภาพ
สิ่งที่เป็ นที่สุดใน พอใช้
ประเทศไทย
สังเกตความใฝ่ เรียนรู้และ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ ผ่าน
มุ่งมั่นในการทำงาน คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1)หนังสือเรียน SPARK 3 ม. 3

70
2)Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3)แบบฝึ กหัด SPARK 3 ม. 3
4)พจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษ
5)พจนานุกรมออนไลน์
6)อินเทอร์เน็ต

Skills 1c 3
2 ชั่วโมง

71
จุดประสงค์ (Objectives)
- บอกรายละเอียดของเรื่องที่ฟังได้
- พูดขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะรูปร่างและบุคลิกลักษณะของ
บุคคลในครอบครัวได้
- เขียนบรรยายลักษณะรูปร่างของบุคคลอื่นได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว
้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อ
ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ม. 3/3 ระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ
ให้สัมพันธ์กับประโยคและข้อความที่ฟังหรืออ่าน
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียด
สนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและ
อ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทัง้ ให้เหตุผลและยก
ตัวอย่างประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยน
ข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างมี
ประสิทธิภาพ
ตัวชีว้ ัด

72
ต 1.2 ม. 3/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
เรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ในความ
สนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และ
ความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตัวชีว้ ัด
ต 1.3 ม. 3/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง
ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรื่อง/ประเด็น ต่าง ๆ ที่
อยู่ในความสนใจของสังคม
2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้คำศัพท์และประโยคที่ใช้ในการบรรยาย ขอและให้ข้อมูล
เกี่ยวกับลักษณะรูปร่างและบุคลิกลักษณะ ช่วยให้สามารถพูด /เขียน
สื่อสารในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Physical appearance (plump, fair, old,
short, of medium height, moustache, in
her late twenties, beard, well-built, slim,
spiky, wavy, long, curly, round, straight,
oval, fat, small, in his early thirties, skinny,
dark, thin, teenager, overweight, in his mid

73
forties, middle-aged, freckles, tall,
wrinkles)
Character adjectives (easy-going, honest,
fair, sensitive, reserved, rude, shy,
outgoing, patient, polite, cheerful, selfish,
generous, popular, talkative, bossy,
energetic, honest, impatient)
Functions: Describing people
She’s quite tall and slim. She has short
blonde hair and blue eyes.
He’s energetic. He does a lot of things.
2) Language Skills
Listening: ฟั งเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ
Speaking: พูดขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะรูปร่างและ
บุคลิกลักษณะของบุคคลในครอบครัว
Writing: เขียนบรรยายลักษณะรูปร่างของเพื่อน

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1)ความสามารถในการสื่อสาร
2)ความสามารถในการคิด

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1)ใฝ่ เรียนรู้
2)มุ่งมั่นในการทำงาน

74
6. กิจกรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงที่ 1

ขัน
้ Warm up
1. ครูให้นักเรียนเปิ ดพจนานุกรมของตนเอง แล้วครูถามว่าเมื่อนักเรียน
ค้นหาคำศัพท์นอกจากจะพบความหมายแล้วยังพบอะไรอีก ให้
นักเรียนช่วยกันตอบ เช่น คำอ่าน คำที่มีความหมายเหมือน
(synonym) คำตรงข้าม (antonym) ตัวอย่างประโยค จากนัน
้ ครู
บอกนักเรียนว่าการใช้พจนานุกรมเพื่อหาคำศัพท์จะทำให้นักเรียนได้
ขยายวงคำศัพท์ของตนเอง
2. ครูให้นักเรียนจับคู่แข่งขันกันหาคำศัพท์ตามที่ครูบอกในพจนานุกรม
3. ครูถามนักเรียนว่า ในภาษาอังกฤษเมื่อต้องการบรรยายว่าสิ่งของ
หรือบุคคลมีลก
ั ษณะอย่างไร จะใช้คำประเภทใด ครูกระตุ้นให้
นักเรียนตอบว่า adjective จากนัน
้ ครูยกตัวอย่างการใช้ adjective
ในประโยค เช่น I am a tall woman with long hair. แล้วชีใ้ ห้
นักเรียนดูการใช้ adjective เพื่อขยายคำนาม ในที่นค
ี ้ ือคำว่า tall
woman กับ long hair

ขัน
้ Presentation
1. ครูนำเสนอ adjective บรรยายลักษณะรูปร่าง (appearance)
ได้แก่ plump, fair, old, short, of medium height,
moustache, in her late twenties, beard, well-built, slim,
spiky, wavy, long, curly, round, straight, oval, fat, small, in
his early thirties, skinny, dark, thin, teenager, overweight,

75
in his mid forties, middle-aged, freckles, tall, wrinkles โดย
ใช้บัตรภาพหรือวาดภาพง่าย ๆ บนกระดาน แล้วออกเสียงคำศัพท์
ให้นักเรียนออกเสียงตามและเดาความหมาย

ครูสามารถดาวน์โหลดบัตรภาพ adjective บรรยายลักษณะ


รูปร่าง ได้จาก
http://www.mes-english.com/flashcards/has.php

2. ครูนำเสนอ adjective บรรยายบุคลิกลักษณะ (character) ได้แก่


easy-going, honest, fair, sensitive, reserved, rude, shy,
outgoing, patient, polite, cheerful, selfish, generous,
popular, talkative, bossy, energetic, honest, impatient
โดยเขียนคำศัพท์บนกระดาน ให้นักเรียนอ่านตามครู 1-2 ครัง้ โดย
ลงเสียงหนักที่พยางค์แรก ยกเว้นคำว่า energetic และ impatient
ดังนี ้
energetic impatient
แล้วให้นักเรียนเปิ ดพจนานุกรมหาความหมาย
3. หนังสือเรียน หน้า 14 Ex. 1 ครูเขียนหัวข้อต่อไปนีบ
้ นกระดาน
Face, Hair, Special features, Height, Build, Age, Character
และอธิบายความหมายของ Special features (ลักษณะพิเศษ)
จากนัน
้ ครูแบ่งนักเรียนเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน ให้แต่ละกลุ่มช่วย
กันแยกประเภทของ adjective ที่ให้มาตามหัวข้อบนกระดาน
ภายในเวลา 5-7 นาที ครูอนุญาตให้นักเรียนใช้พจนานุกรมได้

76
4. ครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียนมาเขียนบนกระดาน และให้นักเรียน
ช่วยกันตรวจคำตอบอีกครัง้

Face: round, oval, small, freckles


Hair: fair, short, spiky, wavy, long, curly, straight,
dark
Special features: wrinkles, moustache, beard,
freckles
Height: short, of medium height, tall
Build: plump, well built, slim, fat, skinny, thin,
overweight
Age: old, in her late twenties, in his early
thirties, teenager, in his mid forties, middle-aged
Character: easy-going, honest, sensitive,
reserved, rude, shy, outgoing, patient, polite, fair

5. นักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์ตามครู โดยเน้นลงเสียงหนักในคำให้
ถูกต้อง ครูอธิบายว่า คำนามและ adjective ที่มี 2 พยางค์ มักจะ
ลงเสียงหนักที่พยางค์แรก โดย adjective ใน Ex. 1 ทัง้ หมด ให้
นักเรียนลงเสียงหนักทีพ
่ ยางค์แรก ยกเว้นคำต่อไปนี ้
reserved easy-going
well built overweight
polite middle-aged
ครูสุ่มเรียกให้นักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์ทีละคน

77
6. ครูนำเสนอการบรรยายลักษณะร่างกายทีละส่วน ด้วยการพูด
ประโยคทีละประโยค แล้วสุ่มเรียกนักเรียนออกมาวาดภาพตาม
ประโยคที่ครูบอก โดยเริ่มจากการบรรยายใบหน้า เช่น
T: He has got a round face.
S1: นักเรียนวาดภาพผู้ชายหน้ากลม
T: She has got an oval face.
S2: นักเรียนวาดภาพผู้หญิงหน้ารูปไข่/วงรี
เมื่อครูพูดบรรยายรูปทรงของใบหน้าครบแล้ว ครูชท
ี ้ ี่ภาพทีละภาพ
ให้นักเรียนพูดบรรยาย เสร็จแล้วให้นักเรียนสรุปโครงสร้างประโยคที่
ใช้ในการบรรยายใบหน้า has/have got + a/an + adjective +
face
ครูทำกิจกรรมเช่นเดียวกันนีก
้ ับการบรรยายผม (hair), ลักษณะ
พิเศษ (special features), ความสูง (height), รูปร่าง (build), อายุ
(age), ลักษณะนิสัย (character)
หน้า/ผม/ลักษณะพิเศษ has/have got + a/an +
adjective + face/hair
ความสูง verb to be + short, of medium
height, tall
รูปร่าง verb to be + plump, well built,
slim, fat, skinny, thin,
overweight
อายุ verb to be + old, in her
early/mid/late +

78
twenties/thirties/forties,
middle aged

adjective บรรยายลักษณะรูปร่างบางคำ ถือว่าไม่สุภาพ


เช่น fat, skinny, thin ดังนัน
้ นักเรียนควรหลีกเลี่ยงการใช้
เพื่อบรรยายลักษณะของบุคคลอื่น

7. ครูให้นักเรียนดูภาพบุคคลทัง้ สามในหนังสือเรียน หน้า 14 แล้วช่วย


กันพูดบรรยายลักษณะรูปร่าง

Mary is young and slim with long straight dark


hair, brown eyes, a big nose and full lips.
James is tall and thin and in his twenties. He’s
got pale skin, spiky hair and blue eyes.
Kelly is a young slim teenager. She’s got long
fair wavy hair.

8. ครูพูดบรรยายลักษณะนิสัยของตนเอง แล้วเขียนประโยคบน
กระดาน เช่น I’m easy-going and sensitive. แล้วยกตัวอย่าง
เพิ่มเติมอีก 2-3 ประโยค เพื่อให้นักเรียนดูโครงสร้างประโยค จาก
นัน
้ ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปโครงสร้าง verb to be + adjective

79
(easy-going, honest, sensitive, reserved, rude, shy,
outgoing, patient, polite, fair)
9. หนังสือเรียน หน้า 14 Ex. 2 นักเรียนจับคู่ adjectives กับเหตุผล
ที่สัมพันธ์กัน เสร็จแล้วครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียน และเฉลยคำ
ตอบ

B6 D1 F2 H7
C 5E 3G 4I 8

จากนัน
้ ครูให้นักเรียนนำคำตอบจาก Ex. 2 มาแต่งประโยคเหมือน
ดังตัวอย่าง

He’s bossy. He tells people what to do.


He’s talkative. He talks a lot.
He’s cheerful. He smiles a lot.
He’s generous. He likes giving people things.
He’s selfish. He only cares about himself.
He’s popular. Lots of people like him.
He’s energetic. He does a lot of things.
He’s honest. He always tells the truth.

10.ครูนำเสนอคำถามที่ใช้ถามลักษณะรูปร่างด้วยการยกตัวอย่างบน
กระดาน
What does she look like?

80
She’s of medium height and slim with fair hair.
What does your dad look like?
He’s tall and plump. He has got a moustache.
ครูให้นักเรียนอ่านประโยคพร้อมกัน แล้วบอกโครงสร้างคำถาม จาก
นัน
้ ครูสรุปให้ฟังว่า What does … look like? ใช้ถามลักษณะรูป
ร่าง
11.ครูนำเสนอคำถามที่ใช้ถามบุคลิกลักษณะ ด้วยการยกตัวอย่างบน
กระดาน
What is your brother like?
He’s cheerful and easy-going. Sometimes he’s
talkative.
What is she like?
She’s outgoing and popular.
ครูให้นักเรียนอ่านประโยคพร้อมกัน แล้วบอกโครงสร้างคำถาม จาก
นัน
้ ครูสรุปให้ฟังว่า What is … like? ใช้ถามบุคลิกลักษณะ
ขัน
้ Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 14 Ex. 3 ครูแบ่งนักเรียนเป็ น 2 ฝั่ ง เพื่อฝึ กอ่าน
ตัวอย่างบทสนทนา โดยฝั่ งหนึ่งอ่านประโยคของ A อีกฝั่ งหนึ่งอ่าน
ประโยคของ B จากนัน
้ ให้สลับกัน
2. ครูให้นักเรียนจับคู่กัน พูดขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะรูปร่าง
และบุคลิกลักษณะของบุคคลในครอบครัว ให้นักเรียนฝึ กเป็ นทัง้ ผู้
ถามและผู้ตอบ ครูเดินสังเกตขณะนักเรียนทำกิจกรรม

81
A: What does your uncle look like?
B: He’s short and plump with curly hair.
A: Has he got a beard?
B: No, he hasn’t, but he’s got a moustache.
A: What is he like?
B: Well, he’s generous. He likes giving people
things.

3. ครูให้นักเรียนจับคู่ใหม่ และเปลี่ยนบุคคลในครอบครัวใหม่ด้วย เมื่อ


นักเรียนฝึ กพูดได้คล่องแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คู่ ออกมาพูด
สนทนาที่หน้าชัน

ขัน
้ Production
1. ครูให้นักเรียนทำชิน
้ งาน โดยติดภาพประกอบหรือวาดภาพบุคคลใน
ครอบครัวของตนเอง แล้วเขียนบรรยายลักษณะ
2. แบบฝึ กหัด (Workbook) หน้า 8 Exs. 1-5 ให้นักเรียนทำเป็ นการ
บ้าน

ชั่วโมงที่ 2

ขัน
้ Warm up

82
ครูแบ่งนักเรียนเป็ น 2 ทีม เพื่อเล่นเกม 20 คำถาม โดยครูนึกถึงนัก
แสดงที่มีช่ อ
ื เสียง 2-3 คน แล้วให้นักเรียนถามคำถาม Yes/No
questions เพื่อหาว่าคือใคร
T: He’s a man.
Team A S1: Is he of medium height? etc.
ขัน
้ Pre-listening
1. ครูทบทวน adjective ที่ใช้บรรยายลักษณะรูปร่าง โดยให้นักเรียน
อ่านออกเสียง adjectives ใน หนังสือเรียน หน้า 14 Ex. 1 ให้
นักเรียนอ่านออกเสียงโดยเน้นเสียงหนักให้ถูกต้อง
2. ครูทบทวนโครงสร้างภาษาที่ใช้ในการบรรยายลักษณะรูปร่าง โดย
นำภาพนักแสดงมาให้นักเรียนฝึ กพูดบรรยาย
3. ครูอธิบายว่านักเรียนจะได้ฟังคำบรรยายลักษณะรูปร่างของบุคคลที่
ตำรวจกำลังตามหา ให้นักเรียนตัง้ ใจฟั งว่าบุคคลดังกล่าวมีลักษณะ
รูปร่างอย่างไร ครูแนะนำว่านักเรียนไม่จำเป็ นต้องฟั งออกทุกคำ ให้
เน้นฟั งที่ adjectives บรรยายลักษณะ

ขัน
้ Listening
หนังสือเรียน หน้า 14 Ex. 4 ครูเปิ ด CD ให้นักเรียนฟั ง และจด
บันทึกข้อมูลที่ต้องการ เมื่อฟั งจบครูถามนักเรียนว่าฟั งทันหรือไม่ ถ้า
นักเรียนส่วนใหญ่ฟังไม่ทัน ครูอาจจะเปิ ด CD อีก 1-2 ครัง้ จากนัน

ครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียนหลาย ๆ คน แล้วจึงเฉลยคำตอบ

He is of medium height with short brown hair and


brown eyes.

83
He is in his mid twenties. He has got a beard and a
moustache and he wears glasses.

ขัน
้ Post-listening
1. หนังสือเรียน หน้า 14 Ex. 5 ครูอธิบายสถานการณ์ว่า สมมติเพื่อน
ร่วมชัน
้ ของนักเรียนหายไป 2 คน ให้นักเรียนเขียนคำบรรยาย
ลักษณะรูปร่างของเพื่อนทัง้ สองคนตามรายละเอียดที่กำหนด จาก
นัน
้ ครูให้เวลานักเรียนเขียน เมื่อเขียนเสร็จเสร็จแล้วครูส ุ่มเรียก
นักเรียน 3-4 คน อ่านคำบรรยายให้เพื่อนฟั ง และทายว่าคือใคร

Sarah is thirteen. She’s quite tall and slim. She


has short blonde hair and blue eyes. She’s
wearing jeans and a purple top. Alan is fifteen.
He’s of medium height and quite plump.
He has short brown hair and blue eyes. He’s
wearing trainers, black jeans and a T-shirt.

2. แบบฝึ กหัด (Workbook) หน้า 9 Ex. 7 ให้นักเรียนฟั ง CD แล้วจับคู่


บุคคลกับอาชีพให้ถูกต้อง
3. แบบฝึ กหัด (Workbook) หน้า 9 Ex. 8 ให้นักเรียนฟั ง CD แล้วเติม
คำลงในช่องว่าง
4. แบบฝึ กหัด (Workbook) หน้า 9 Ex. 6 ให้นักเรียนทำเป็ นการบ้าน

84
7. การวัดและการประเมินผล
วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝึ กหัด ร้อยละ 60
การฟั ง (Workbook)
ประเมินการเขียน แบบประเมินการ ระดับคุณภาพ
บรรยายลักษณะรูปร่าง เขียน พอใช้
ของบุคคลในครอบครัว
ประเมินการเขียน แบบประเมินการ ระดับคุณภาพ
บรรยายลักษณะรูปร่าง เขียน พอใช้
ของเพื่อน
สังเกตความใฝ่ เรียนรู้และ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ ผ่าน
ความมุ่งมั่นในการทำงาน คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1)หนังสือเรียน SPARK 3 ม. 3
2)Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3)แบบฝึ กหัด SPARK 3 ม. 3
4)พจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษ
5)พจนานุกรมออนไลน์
6)บัตรภาพลักษณะรูปร่าง
7)ภาพนักแสดง

85
Everyday English 1d4

2 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- บอกใจความสำคัญและรายละเอียดของบทสนทนาที่อ่านได้
- แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ที่กำหนดได้
- พูดสนทนาชื่นชมเครื่องแต่งกายได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว
้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อ
ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล
ตัวชีว้ ัด

86
ต 1.1 ม. 3/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา และบทร้อย
กรองสัน
้ ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียด
สนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและ
อ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทัง้ ให้เหตุผลและยก
ตัวอย่างประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยน
ข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างมี
ประสิทธิภาพ
ตัวชีว้ ัด
ต 1.2 ม. 3/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึก และความคิดเห็น
ของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์
และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมทัง้ ให้เหตุผลประกอบอย่าง
เหมาะสม
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรม
ของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ ได้อย่างเหมาะสมกับ
กาลเทศะ

ตัวชีว้ ัด
ต 2.1 ม. 3/1 เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับ
บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม
ของเจ้าของภาษา

87
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง
ภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและ
วัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ตัวชีว้ ัด
ต 2.2 ม. 3/2 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความ
แตกต่างระหว่างชีวิตความเป็ นอยู่และวัฒนธรรมของ
เจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างเหมาะสม
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทัง้ ใน
สถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชีว้ ัด
ต 4.1 ม. 3/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์
จำลองที่เกิดขึน
้ ในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และ
สังคม

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับประโยคและสำนวนต่าง ๆ ในการซื้อ
ขายตั๋วรถไฟ ช่วยให้สามารถพูด/เขียนสื่อสารในชีวิตประจำวันได้อย่าง
เหมาะสม ตลอดจนมีความเข้าใจในมารยาทและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษา

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions

88
Vocabulary: Clothes (polo-neck jumper, tight-
fitting jeans, short-sleeved T-shirt,
sunglasses, flared skirt, loose-fitting top,
tartan skirt, trainers, polka-dot dress, flat
shoes)
Complimenting verbs (go with, fit, suit,
match)
Sentences (Can I help you? Single or
return? What time would you like to
leave? Which platform does the train
leave from? You’re welcome.)
Functions: Talking about clothes (complimenting)
You look great in that tartan skirt. It
matches your top.
Thanks.
2) Language Skills
Listening: ฟั งเพื่อจับใจความสำคัญ, ฟั งการออกเสียงประโยค
Speaking: พูดสนทนาชื่นชมเครื่องแต่งกาย
Reading: อ่านเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ
Writing: แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ที่กำหนด
3) Culture การตอบรับคำชื่นชม

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1)ความสามารถในการสื่อสาร

89
2)ความสามารถในการคิด

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1)ใฝ่ เรียนรู้
2)มุ่งมั่นในการทำงาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงที่ 1

ขัน
้ Warm up
ครูทบทวนคำศัพท์เกี่ยวกับเสื้อผ้า เช่น jumper, sweater, T-shirt,
top, skirt, trousers, trainers, dress โดยการเล่นเกม Bingo

ขัน
้ Presentation
1. ครูนำเสนอคำศัพท์ที่ใช้บรรยายลักษณะเสื้อผ้า ได้แก่ polo-neck,
tight-fitting, loose-fitting, short-sleeved, long-sleeved,
flared, tartan, checked, polka-dot, flat, high-heeled โดยใช้
ภาพหรือพูดบอกความหมาย
polo-neck (adj)= (a sweater) with a high neck that
folds over (AmE = turtleneck) (ที่ปิด
คอ)
loose-fitting (adj) = (of clothes) not fitting the
body tightly (ไม่รัดรูป, หลวม ๆ)

90
tight-fitting (adj) = (of clothes) that fits very
tightly or closely (รัดรูป)
sleeved (adj) = having the length of sleeves
mentioned (ที่มีแขนเสื้อ)
flared (adj)= becoming wider at one end (ที่บานออก)
tartan (adj) = having a pattern of squares and lines
of different colours and widths that
cross each other at an angle of 90°,
used especially on cloth, and originally
from Scotland (ที่มีลายตารางหมากรุก)
checked (adj) = having a pattern of squares,
usually of two colours (ที่มีลายตาราง
หมากรุก)
polka-dot (adj) = having a large number of small,
round spots (ลายจุดวงกลมขนาดใหญ่)
flat (adj) = (shoes) with no heels or very low ones
(ไม่มีส้น)
high-heeled (adj) = having very high heels (ส้น
สูง)
2. ครูให้นักเรียนดูภาพเครื่องแต่งกายในหนังสือเรียน หน้า 15 อ่าน
ออกเสียงคำคำศัพท์พร้อมกัน แล้วช่วยกันอธิบายความหมาย
3. ครูนำเสนอคำกริยา go with, fit, suit, match สำหรับชื่นชมเครื่อง
แต่งกาย ด้วยการเขียนตัวอย่างประโยค แล้วให้นักเรียนช่วยกันเดา
ความหมาย และบอกวิธีการใช้คำกริยาเหล่านี ้

91
go with something (phr v) = to combine well
with something (= go together,
match) (เข้ากันกับ)
ตัวอย่าง This tie goes with your shirt.
fit (v) = to be the right shape and size for
somebody/something (พอดี)
ตัวอย่าง This shoes fit well.
suit somebody (especially of clothes, colours etc.)
= to make you
look attractive
(เหมาะกับ)
ตัวอย่าง I think this coat really suits you.
match something (v) = If two colours, designs,
or objects match, they are similar
or look attractive together (เข้ากับ)
ตัวอย่าง These jeans match these trousers.

ขัน
้ Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 1 นักเรียนฟั ง CD โดยตัง้ ใจฟั งพยางค์ที่
เน้นเสียงหนัก แล้วครูเปิ ด CD อีก 1-2 ครัง้ ให้นักเรียนออกเสียง
ประโยคตาม จากนัน
้ ช่วยกันระบุพยางค์ที่เน้นเสียงหนักในแต่ละ
ประโยค

92
You look great in that polo-neck.
It matches the colour of your eyes.
They fit you perfectly!
Your dress really suits you.

2. Complimenting หน้า 15 ครูให้นักเรียนอ่านประโยค แล้วเติม


คำ/วลีลงในช่องว่างให้ถูกต้อง เสร็จแล้วเฉลยคำตอบพร้อมกัน

1 matches 2 fit 3 go with 4 suit

3. หนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 2 ครูอธิบายว่าประโยคใน Ex. 1 มาจาก


บทสนทนาของเพื่อน 2 คน ให้นักเรียนเดาว่าบทสนทนาน่าจะเกี่ยว
กับเรื่องอะไร แล้วครูเปิ ด CD ให้นักเรียนฟั งบทสนทนาเพื่อจับใจ
ความสำคัญ

The dialogue is about clothes. Mary and Sally


are complimenting each other on their clothes.

4. ครูบอกนักเรียนว่าจะให้อ่านบทสนทนาใน Ex. 2 เพื่อหาคำตอบว่า


ใครซื้อของขวัญให้ Sally และทำไมถึงซื้อให้ จากนัน
้ ให้นักเรียนอ่าน
บทสนทนา เมื่ออ่านจบครูขออาสาสมัครบอกคำตอบ

93
Sally’s aunt bought her the clothes. They were a
birthday present.

5. หนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 3 นักเรียนอ่านประโยค 1-4 พร้อมกัน


แล้วหาประโยคในบทสนทนาที่มีความหมายเหมือนกับประโยคเหล่า
นี ้ เสร็จแล้วครูให้นักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบ

1 That polo-neck looks good on you. – You look


great in that polo-neck.
2 They are the right size for you. – They fit you
perfectly!
3 It really looks nice on you. – It really suits you.
4 Your aunt knows what clothes to buy. – Your aunt
has got great taste in clothes.

6. หนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 4 นักเรียนอ่านประโยคใน Ex. 1 อีกครัง้


แล้วช่วยกันอธิบายความหมายเป็ นภาษาไทย
7. นักเรียนฝึ กอ่านออกเสียงบทสนทนาใน Ex. 2 ตาม CD แล้วครูแบ่ง
นักเรียนเป็ น 2 กลุ่ม ให้กลุ่มที่ 1 อ่านบทของ Mary และกลุ่มที่ 2
อ่านบทของ Sally จากนัน
้ สลับกัน
8. ครูสุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คู่ อ่านบทสนทนาให้ครูและเพื่อนฟั ง

94
ขัน
้ Production
1. หนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 5 นักเรียนจับคู่ฝึกสนทนาตามบท
สนทนา โดยแสดงสีหน้า ท่าทาง และใช้น้ำเสียงให้เข้ากับ
สถานการณ์ ครูเดินสังเกตนักเรียนแต่ละคู่ จากนัน
้ ครูสุ่มเรียก
นักเรียน 3-4 คู่ แสดงบทบาทสมมติเป็ น Mary และ Sally
2. แบบฝึ กหัด (Workbook) หน้า 10 Exs. 1-2, 4 ให้นักเรียนทำ
เป็ นการบ้าน

ชั่วโมงที่ 2

ขัน
้ Warm up
ครูทบทวนคำศัพท์เกี่ยวกับเครื่องแต่งกายที่เรียนไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว
โดยครูแสดงภาพแล้วให้นักเรียนบอกคำศัพท์ พร้อมทัง้ สะกดคำ

ขัน
้ Presentation
1. หนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 6a ครูเขียนหัวข้อต่อไปนีบ
้ นกระดาน
CLOTHES, ACCESSORIES, SHOES แล้วให้นักเรียนจับคู่ช่วยกัน
เขียนคำศัพท์ภายใต้หัวข้อเหล่านีใ้ ห้ได้มากที่สุดภายในเวลา 1
นาที เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนออกมาเขียนคำศัพท์บนกระดานคู่
ละ 1 หัวข้อ จากนัน
้ ให้นักเรียนในชัน
้ ช่วยเพิ่มเติมคำศัพท์ที่ตนเอง
คิดออกและไม่มีบนกระดาน

95
Clothes: dress, skirt, shirt, trousers, suit, socks, T-
shirt, jacket, shorts, blouse, jeans
Accessories: tie, belt, bag, scarf, gloves, hat, cap
Shoes: boots, slippers, sandals, high-heeled shoes,
flat shoes, trainers

2. ครูทบทวนคำกริยา go with, fit, suit, match สำหรับชื่นชมเครื่อง


แต่งกาย โดยแจกกระดาษที่มีประโยคให้นักเรียนทุกคน จากนัน
้ ให้
นักเรียนเติมคำกริยาลงในประโยคให้ถูกต้อง เสร็จแล้วให้แลก
เปลี่ยนกันตรวจ

1)That dress really Tina. (suits)


2)This jacket your skirt. (goes with)
3)The shoes you very well. (fit)
4)Pink you. (suits)
5)Your purse your dress. (matches)
6)The skirt   her perfectly. It’s the
right size. (fits)

3. ครูให้นักเรียนอ่านบทสนทนาในหนังสือเรียน หน้า 15 แล้วช่วยกัน


บอกประโยคที่แสดงความชื่นชมเครื่องแต่งกาย จากนัน
้ ให้นักเรียน
บอกประโยคตอบรับคำพูดชื่นชม แล้วครูเขียนบนกระดาน ได้แก่

96
Thank you. That’s nice of you. You look good too.
Thanks!
4. ครูให้นักเรียนช่วยกันคิดว่า ในสังคมไทยมักจะพูดตอบรับคำชื่นชม
ว่าอย่างไรบ้าง เช่น ขอบคุณ เธอก็ดูดีเหมือนกัน

ขัน
้ Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 6b ครูให้นักเรียนทำงานคู่ ช่วยกันแต่ง
บทสนทนา โดยกำหนดสถานการณ์ว่า ป้ าซื้อเสื้อผ้าให้ในวันเกิด
และเพื่อนพูดชมเกี่ยวกับเสื้อผ้าดังกล่าว ครูแนะนำว่านักเรียน
สามารถดูบทสนทนาใน Ex. 2 เป็ นต้นแบบได้

A: You look great in that tartan skirt. It matches


your top.
B: Thanks.
A: It really suits you. Is it new?
B: Yes, it is. It’s a gift from my mum. She also got
me this T-shirt.
A: It fits you perfectly. Your mum has got great
taste in clothes.

97
B: That’s nice of you. You look good, too. Those
jeans really suit you.
A: Really? Thanks!

2. ครูให้นักเรียนแต่ละคู่ฝึกสนทนากัน ครูเดินสังเกตการสนทนาของ
นักเรียนและคอยให้คำแนะนำ

ขัน
้ Production
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคู่ออกมาพูดสนทนาที่หน้าชัน
้ เรียน โดยใช้น้ำ
เสียงและแสดงท่าทางให้เหมาะสมกับสถานการณ์
2. แบบฝึ กหัด (Workbook) หน้า 10 Ex. 5 ให้นักเรียนทำเป็ นการ
บ้าน

7. การวัดและการประเมินผล
วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ป ร ะ เ ม ิน ก า ร อ ่า น อ อ ก แบบประเมิน การอ่า น ร ะ ด ับ ค ณ
ุ ภาพ
เสียงบทสนทนา ออกเสียง พอใช้
ตรวจการตอบคำถามจาก แ บ บ ฝ ึ ก ห ัด ร้อยละ 60
การอ่าน บทสนทนา (Workbook)
ป ร ะ เ ม ิน ก า ร แ ต ่ง บ ท แบบประเมินการเขียน ร ะ ด ับ ค ณ
ุ ภาพ
สนทนาตามสถานการณ์ที่ พอใช้
กำหนด
ประเมิน การพูด สนทนา แบบประเมิน การแสดง ร ะ ด ับ ค ณ
ุ ภาพ
ตามสถานการณ์ที่กำหนด บ ท ส น ท น า /บ ท บ า ท พอใช้

98
สมมติ
สังเกตความใฝ่ เรียนรู้และ แ บ บ ป ร ะ เ ม ิน ร ะ ด ับ ค ณ
ุ ภาพ
ความมุ่งมั่นในการทำงาน คุณลักษณะ ผ่าน
อันพึงประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1)หนังสือเรียน SPARK 3 ม. 3
2)Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3)แบบฝึ กหัด SPARK 3 ม. 3
4)พจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษ
5)พจนานุกรมออนไลน์
6)ภาพเครื่องแต่งกาย ได้แก่ เสื้อแขนยาวคอเต่า กางเกงยีนส์รัดรูป เสื้อ
ยืดแขนสัน
้ กระโปรงไม่มีลาย ชุดเดรสลายจุด รองเท้นส้นเตีย

99
5 1e
Across the curriculum

2 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- บอกความสำคัญและและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ self-respect
ได้
- ค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ self-respect และพูดนำเสนอได้

100
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว
้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อ
ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ม. 3/1 ปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชีแ
้ จง และคำ
อธิบายที่ฟังและอ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยน
ข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างมี
ประสิทธิภาพ
ตัวชีว้ ัด
ต 1.2 ม. 3/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็น
ของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์
และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมทัง้ ให้เหตุผลประกอบอย่าง
เหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และ
ความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตัวชีว้ ัด
ต 1.3 ม. 3/2 พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระ หัวข้อ
เรื่องที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่อง/ข่าว/เหตุการณ์/สถานกา
รณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคม
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ น

101
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับ
กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ น
ื และเป็ นพื้นฐานในการพัฒนา
แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน

ตัวชีว้ ัด
ต 3.1 ม. 3/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่
เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ น
ื จากแหล่งการเรียนรู้
และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับ self-respect ช่วยให้สามารถพูด
และแสดงความคิดเห็นในเรื่องนีไ้ ด้ นอกจากนีย
้ ังช่วยให้มองเห็นคุณค่า
ในตนเองและอยู่ร่วมกับผู้อ่ น
ื ได้อย่างมีความสุข

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verbs (affect, increase, admit, tease)
Nouns (belief, opinion, winner, loser)
Adjectives (cheerful, confident)
Phrases (put right)
Functions: Talking about self-respect
Self-respect is the feeling of confidence
we have when we feel we have value.

102
2) Language Skills
Speaking: พูดนำเสนอและแสดงความคิดเห็นเรื่อง self-
respect
Reading: อ่านเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ
Writing: จดบันทึกสัน
้ ๆ เกี่ยวกับประเด็นที่จะนำเสนอ

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1)ความสามารถในการสื่อสาร
2)ความสามารถในการคิด
3)ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
4)ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1)ใฝ่ เรียนรู้
2)มุ่งมั่นในการทำงาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงที่ 1

ขัน
้ Warm up

103
ครูเขียนคำว่า self-respect บนกระดาน แล้วอธิบายความหมาย
ของ self และ respect จากนัน
้ ให้นักเรียนช่วยกันเดาความหมาย
ของ self-respect
self- (prefix) = by yourself
respect (n) = admiration felt or shown for
someone or something that you believe
has good ideas or qualities

ขัน
้ Presentation
1. ครูให้นักเรียนอ่านคำจำกัดความของ self-respect ในหนังสือเรียน
หน้า 16 เพื่อตรวจว่านักเรียนเดาความหมายถูกต้องหรือไม่
2. หนังสือเรียน หน้า 16 Ex. 1 ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิด
เห็นว่าทำไมการนับถือตนเอง (self-respect) จึงเป็ นสิ่งสำคัญ
โดยให้แสดงความคิดเห็นในแง่มุมของความสัมพันธ์ การทำงานใน
โรงเรียน และอารมณ์หรือความรู้สึกของนักเรียน

I think it’s important to have self-respect in


relationships because no one will show you
respect when you don’t respect yourself.
You need self-respect in your schoolwork
because you want to do the best you can.

104
Your self-respect affects your mood. A lack of
self-respect will make you feel sad and it will
affect other areas of your life.

3. ครูให้นักเรียนอ่านคำศัพท์ในกรอบ Check these words แล้วช่วย


กันอธิบายความหมาย ถ้าคำใดไม่ร้ใู นนักเรียนเปิ ดพจนานุกรม เช่น
affect (v) = to produce a change in
somebody/something (กระทบ)
confident (adj) = feeling sure about your own
ability to do things and be successful
(ที่มั่นใจ)
increase (v) = to become or to make something
greater in amount, number, value etc.
(เพิ่มขึน
้ )
put right (phr v) = to make a situation better,
especially after someone has made a
mistake or behaved badly (ทำให้ร้ส
ู ึกดี
ขึน
้ )
tease (v) = to laugh at somebody and make jokes
about them, either in a friendly way or
in order to annoy or embarrass them
(หยอกล้อ)

ขัน
้ Practice

105
1. หนังสือเรียน หน้า 16 Ex. 2 ครูให้นักเรียนอ่านคำเกริ่นนำของ
quiz เพื่อให้เข้าใจความสำคัญของ self-respect
2. นักเรียนอ่านคำถามใน quiz แล้วครูตรวจสอบว่าทุกคนเข้าใจ
คำถาม จากนัน
้ ให้นักเรียนทำ quiz เสร็จแล้วให้เปรียบเทียบกับ
เพื่อน แล้วครูสำรวจว่านักเรียนส่วนใหญ่ตอบข้อใดมากที่สุด
3. ครูให้นักเรียนอ่านผลลัพธ์ของ quiz แล้วครูสรุปให้นักเรียนฟั ง

ขัน
้ Production
1. หนังสือเรียน หน้า 16 Ex. 3 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6
คน แล้วให้แต่ละกลุ่มสมมติว่าตนเองเป็ นนักสังคมสงเคราะห์เด็ก ซึ่ง
ต้องไปพูดให้วัยรุ่นฟั งในหัวข้อเรื่อง self-respect ครูให้นักเรียน
แต่ละกลุ่มระดมสมองคิดเกี่ยวกับประเด็นที่จะต้องพูด คือ what
self-respect is, why it’s important, ways to respect
yourself และจดบันทึกสัน
้ ๆ ในแต่ละประเด็น

what self-respect is: a feeling of confidence,


pride in your own self-worth.
why it’s important: can lead to better
friendships, better marks at school.
ways to respect yourself: don’t be afraid to
say no, admit your mistakes, respect others,
don’t compare yourself with others.

106
2. ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มไปค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมจาก
อินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับแต่ละประเด็น เพื่อเตรียมพูดนำเสนอในชั่วโมง
หน้า
3. นักเรียนทำ Language Review 1e & Prepositions Exs. 4-5 ใน
หนังสือเรียน หน้า 105 ร่วมกันในชัน

4. แบบฝึ กหัด (Workbook) หน้า 10 Ex. 3 ให้นักเรียนทำเป็ นการ
บ้าน

ชั่วโมงที่ 2

ขัน
้ Warm up
ครูให้นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างพฤติกรรมที่แสดงถึงการมี self-
respect แล้วครูเขียนบนกระดาน เช่น ไม่ยอมแพ้ต่อสิง่ ยาก ๆ ไม่
เปรียบเทียบรูปร่างของตนเองกับผู้อ่ น

ขัน
้ Pre-speaking
1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเตรียมตัวพูดนำเสนอ โดยครูแนะนำขัน

ตอนการนำเสนอ ดังนี ้
- พูดทักทายผู้ฟังก่อนนำเสนอ เช่น Hello, everyone.,
Good morning. Good afternoon.

107
- พูดบอกหัวข้อหรือเรื่องที่จะนำเสนอ เช่น I would like to
talk about …
- พูดนำเสนอข้อมูลในแต่ละประเด็นอย่างชัดเจน
- พูดขอบคุณผู้ฟังเมื่อจบการนำเสนอ เช่น Thank you for
listening. Thank you for your attenstion.
2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายว่ามารยาทผู้ฟังที่ดีควรปฏิบัติ
อย่างไร เช่น ตัง้ ใจฟั ง ไม่คุยรบกวนการนำเสนอ สบตาผู้พูด ยกมือ
เมื่อมีคำถามหรือต้องการขัดจังหวะ ปรบมือเมื่อจบการนำเสนอ จาก
นัน
้ ครูบอกนักเรียนว่าในขณะที่ฟังเพื่อนนำเสนอ นักเรียนต้องปฏิบัติ
ตามมารยาทของผู้ฟังที่ดี
3. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทบทวนข้อมูลที่จะนำเสนอ และเตรียมตัว
พูด โดยครูแนะนำว่านักเรียนควรเว้นจังหวะในการพูด และสบตาผู้
ฟั งด้วย

ขัน
้ Speaking
ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาพูดนำเสนอในหัวข้อเรื่อง self-
respect โดยปฏิบัติตามขัน
้ ตอนที่ครูแนะนำ

Good morning. I would like to talk to you


about self-respect.

108
Self-respect is the feeling of confidence we
have when we feel we have value. It is also a
feeling of pride in what we do.
Self-respect affects every area of our life.
When we don’t respect ourselves, it is more
difficult to respect others. Also, other people
will respect you more when you respect
yourself.
There are many ways to develop self-respect.
Think of yourself as a winner not a loser.
Don’t give up easily and don’t do anything
you don’t agree with just to be popular. Don’t
compare yourself with others and always
respect other people’s property, opinions and
beliefs. We are all special so make the effort
and respect yourself!
Thank you for listening.

ขัน
้ Post-speaking
ครูให้นักเรียนช่วยกันสรุปว่า self-respect คืออะไร และร่วมกัน
อภิปรายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อดีของการมี self-respect

7. การวัดและการประเมินผล
วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน

109
ตรวจการจดบันทึกสัน
้ ๆ สมุดนักเรียน -
เกี่ยวกับประเด็นที่จะนำ
เสนอ
ประเมินการพูดนำเสนอ แบบประเมินการพูด ระดับคุณภาพ
เรื่อง self-respect พอใช้
สังเกตความใฝ่ เรียนรู้และ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ
ความมุ่งมั่นในการทำงาน คุณลักษณะ ผ่าน
อันพึงประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1)หนังสือเรียน SPARK 3 ม. 3
2)แบบฝึ กหัด SPARK 3 ม. 3
3)พจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษ
4)พจนานุกรมออนไลน์
5)อินเทอร์เน็ต

110
Writing 1f 6
2 ชั่วโมง

111
จุดประสงค์ (Objectives)
- บอกใจความสำคัญและรายละเอียดของบทสนทนาที่อ่านได้
- แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ที่กำหนดได้
- พูดสนทนาชื่นชมเครื่องแต่งกายได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว
้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อ
ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียด
สนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและ
อ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทัง้ ให้เหตุผลและยก
ตัวอย่างประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และ
ความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตัวชีว้ ัด
ต 1.3 ม. 3/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง
ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรื่อง/ประเด็น ต่าง ๆ ที่
อยู่ในความสนใจของสังคม

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

112
การเรียนรู้เกี่ยวกับ topic sentence และการใช้ linkers ช่วยให้
เข้าใจและสามารถจับใจความหลักของงานเขียนที่มีหลายย่อหน้าได้
รวมถึงสามารถเขียนบทความได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Physical appearance (plump, easy-
going, honest, fair, old, short, sensitive,
reserved, of medium height, moustache,
rude, shy, in her late twenties, outgoing,
patient, beard, well-built, slim, spiky,
wavy, long, curly, round, straight, oval,
polite, fat, small, in his early thirties,
skinny dark, thin, teenager, overweight, in
his mid forties, middle-aged, freckles, tall,
wrinkles,)
Character adjectives (cheerful, selfish,
generous, popular, talkative, bossy,
energetic, honest, impatient)
Grammar: linkers (and, also, as well, too, but,
however, on the other hand)

113
Functions: Describing people
She is tall with long dark hair and blue
eyes.
She is very lively and loves talking.
2) Language Skills
Reading: อ่านเพื่อหา topic sentences
Writing: เขียนบทความเกี่ยวกับเพื่อนสนิท

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1)ความสามารถในการสื่อสาร
2)ความสามารถในการคิด

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1)ใฝ่ เรียนรู้
2)มุ่งมั่นในการทำงาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงที่ 1

ขัน
้ Warm up

114
ครูทบทวนคำศัพท์ที่ใช้บรรยายลักษณะรูปร่าง (appearance) และ
บุคลิกลักษณะ (character) ด้วยการให้นักเรียนเล่นเกม เช่น
Hangman

ขัน
้ Pre-reading
ครูเขียนคำว่า topic sentence บนกระดาน แล้วให้นักเรียนอ่าน
Study Skills ในหนังสือเรียน หน้า 17 และช่วยกันอธิบายว่าคือ
อะไร จากนัน
้ ครูสรุปให้ฟังว่า topic sentence คือ ประโยคที่แสดง
ความคิดหลัก (main idea) ของย่อหน้า โดยทั่วไปมักจะอยู่ต้น
ย่อหน้า

Topic sentence คือ ประโยคที่แสดงความคิดหลัก


(main idea) ของย่อหน้า อาจจะวางอยู่ต้น กลาง หรือ
ท้ายย่อหน้า โดยทั่วไปมักจะอยู่ต้นย่อหน้า ส่วนประโยคที่
ตามมาจะเป็ นประโยคที่ขยายความความคิดหลัก
การเขียนย่อหน้าควรมี topic sentence และมีโครงสร้าง
ที่ชัดเจน จะทำให้ผู้อ่านติดตามได้ง่าย ไม่ควรเขียน
ข้อความที่ไม่เกี่ยวข้องกับ topic sentence ในย่อหน้านัน


ที่มา:
http://graduate.east.spu.ac.th/KM/AcademicWritin
g(F)/unit3/U3_3/02.html

ขัน
้ Reading

115
1. ครูแจก worksheet 1 (ท้ายแผน Writing 1f) ให้นักเรียนอ่านและ
หา topic sentence เสร็จแล้วครูขออาสาสมัครบอกคำตอบ แล้ว
ครูเฉลยคำตอบที่ถูกต้อง

1C 2B 3C 4B 5D

2. หนังสือเรียน หน้า 17 Ex. 1 นักเรียนอ่าน topic sentence (A-C)


แล้วอ่านบทความเพื่อหาว่าแต่ละ ย่อหน้ากล่าวถึงเรื่องอะไร แล้ว
ให้นักเรียนจับคู่ topic sentence ให้สัมพันธ์กับย่อหน้า ซึง่ จะมี
topic sentence เกินมา 1 หัวข้อ เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบ

1C 2A

3. นักเรียนอ่านบทความที่สมบูรณ์แล้วพร้อม ๆ กัน แล้วครูให้นักเรียน


ดูภาพเด็กผู้หญิง 2 คน ครูถามว่าเด็กผูห
้ ญิงที่กล่าวถึงในบทความคือ
คนใด

Lindsay is the girl on the right in the picture.

4. หนังสือเรียน หน้า 17 Ex. 2 ครูให้นักเรียนอ่านบทความใน Ex. 1


อีกครัง้ เพื่อหา adjective ที่ผู้เขียนใช้บรรยายบุคลิกลักษณะของ

116
Lindsay พร้อมทัง้ หาเหตุผลที่ผู้เขียนใช้ประกอบความคิดเห็นของ
ตนเอง

popular, kind, polite, tolerant (never says a bad


word about anyone),
great sense of humour (makes me laugh a lot), a bit
sensitive

ขัน
้ Post-reading
1. ครูถามนักเรียนว่าจากบทอ่านผู้เขียนรู้ข้อมูลอะไรบ้างของ Lindsay
แล้วให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นว่านักเรียนควรรู้ข้อมูลอะไรบ้าง
เกี่ยวกับเพื่อนสนิทของตนเอง
2. แบบฝึ กหัด (Workbook) หน้า 11 Exs. 1-4 ให้นักเรียนทำเป็ นการ
บ้าน

ชั่วโมงที่ 2

ขัน
้ Warm up
ครูทบทวน adjective บรรยายลักษณะรูปร่างและบุคคลิกลักษณะ
โดยแบ่งนักเรียนเป็ น 2 ทีม จากนัน
้ ครูนึกคำศัพท์ 1 คำ แล้วเขียน
ตัวอักษรตัวแรก และขีดเส้นเท่าจำนวนตัวอักษรที่เหลือของคำนัน

117
เช่น คำว่า popular p _ _ _ _ _ _ ให้ทงั ้ 2 ทีม แข่งกันทายคำ
ศัพท์

ขัน
้ Pre-writing
1. ครูนำเสนอการใช้ linkers ในการเชื่อมประโยค ด้วยการยกตัวอย่าง
ประโยคบนกระดาน
He is a smart and diligent employee.
He is smart and he is a diligent employee as
well/too.
He is smart and he is also a diligent employee.
It was raining but they went on a picnic.
It was raining. However, they went on a picnic.
In the UK the hottest month of the year is usually
July. On the other hand, in southern Europe
the hottest period is usually in August.
ครูให้นักเรียนระบุว่าประโยคใดแสดงความคล้อยตามกัน ประโยคใด
แสดงขัดแย้งกัน จากนัน
้ ให้นักเรียนระบุว่าประโยคที่คล้อยตามกันใช้
linkers คำใดบ้าง และประโยคที่ขัดแย้งกันใช้ linkers คำใดบ้าง
แล้วครูสรุปให้ฟัง
2. ครูให้นักเรียนอ่าน Study Skills หนังสือเรียน หน้า 17 เกี่ยวกับ
การใช้ linkers เพื่อทบทวนความเข้าใจ
3. หนังสือเรียน หน้า 17 Ex. 3 นักเรียนฝึ กใช้ linkers โดยเขียน
ประโยคที่ให้มาโดยใช้ linkers ในวงเล็บ ครูย้ำกับนักเรียนว่า
however กับ on the other hand มักจะใช้ขน
ึ ้ ต้นประโยค และมี

118
comma ตาม เมื่อเขียนเสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนออกมาเขียน
ประโยคบนกระดาน และให้นักเรียนในชัน
้ ช่วยกันตรวจความถูกต้อง

2 She’s tall. She’s very thin as well.


3 He’s cheerful. He’s also outgoing.
4 She’s clever. However, she can be bossy at times.
5 They are usually generous but they can be selfish
at times.

4. หนังสือเรียน หน้า 17 Ex. 4 นักเรียนอ่านประโยคคำถามพร้อมกัน


แล้วครูตรวจสอบว่าทุกคนเข้าใจคำถาม จากนัน
้ ให้นักเรียนตอบ
คำถามโดยใช้ข้อมูลของเพื่อนสนิท แล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คน
อ่านคำตอบให้ครูและเพื่อนฟั ง

1 Sophie is 13 years old.


2 She’s tall with long dark hair and blue eyes.
3 She is very lively and loves talking. She calls
me almost every night. She is also very

119
patient and always listens to me when I talk
about my problems.
4 All in all, I think Sophie is an interesting and
exciting person. We always have a great time
together and tell each other everything. I’m
very happy that she is my best friend!

5. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 17 Ex. 5 ว่า นักเรียนจะ


ได้เขียนบทความเกี่ยวกับเพื่อนสนิท โดยใช้คำตอบจาก Ex. 4 แล้ว
ให้นักเรียนดูโครงร่างการเขียน และบอกครูว่าแต่ละย่อหน้าจะต้อง
เขียนเกี่ยวกับอะไร

ขัน
้ Writing
หนังสือเรียน หน้า 17 Ex. 5 ครูให้นักเรียนเขียนบทความเกี่ยวกับ
เพื่อนสนิท โดยเขียนตามโครงร่างที่กำหนด

My best friend is Sophie. We first met at a


party when we were 12.
Sophie is pretty with a great personality. She is
tall with long dark hair and blue eyes. She is
very lively and loves talking. She calls me
almost every night and sometimes we chat for
hours! She is also very patient and always
listens to me when I talk about my problems.

120
Sophie likes writing. Last year, she won first
prize in a short story competition.
I was not surprised because she is imaginative
and very good at writing stories. She plays the
piano and the guitar as well.
All in all, I think Sophie is an interesting and
exciting person. We always have a great time
together and tell each other everything. I’m
very happy that she is my best friend!

ขัน
้ Post-writing
1. ครูให้นักเรียนตรวจทานงานเขียนของตนเอง โดยดูเรื่องไวยากรณ์
(grammar) การสะกด (spelling) เครื่องหมายวรรคตอน
(punctuation) การใช้อักษรตัวใหญ่ (capitalisation) การใช้คำย่อ
(abbreviation) และการใช้คำเชื่อม (linkers) ครูอาจยกตัวอย่างข้อ
ผิดพลาดเหล่านีใ้ ห้นักเรียนดูบนกระดาน
2. นักเรียนทำ Self-Check 1 ในหนังสือเรียน หน้า 113
3. แบบฝึ กหัด (Workbook) หน้า 11 Exs. 5-6 ให้นักเรียนทำเป็ นการ
บ้าน

7. การวัดและการประเมินผล
วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝึ กหัด ร้อยละ 60
การอ่าน (Workbook)

121
ประเมินการเขียน แบบประเมินการ ระดับคุณภาพ
บทความเกี่ยวกับเพื่อน เขียน พอใช้
สนิท
สังเกตความใฝ่ เรียนรู้และ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ ผ่าน
ความมุ่งมั่นในการทำงาน คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1)หนังสือเรียน SPARK 3 ม. 3
2)Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3)แบบฝึ กหัด SPARK 3 ม. 3
4)Worksheet 1

Worksheet 1

122
Find the topic sentence.
1.
All insects have three main body parts: the head, the
thorax, and the abdomen. The head has a pair of
antennae, and a pair of compound eyes. The thorax
is the middle region of the body, and it bears the
legs and wings. The abdomen contains many body
organs, such as the heart, respiratory system,
digestive system and reproductive system. Even
though there are many different sizes, shapes, and
colors of insects, they all have the same body.

A The thorax is the middle region of the body.


B The abdomen contains many body organs.
C All insects have three main body parts, the head, the
thorax, and the abdomen.
D The head has a pair of antennae, and a pair of
compound eyes.

2.
I had a wonderful summer this year. I went to visit
my aunt and my cousins in San Diego. My aunt is a
ballet instructor. I took Ballet lessons from her. I
went to see the famous San Diego Zoo with my

123
cousins. We went to the beach almost every day. We
stayed up late watching TV and playing card games. I
wished my summer would never end!

A I wished my summer would never end. B I had a


wonderful summer this year.
C We went to the beach almost every day. D My
aunt is a Ballet instructor.

3.
Kitty Hawk was made famous on December 17, 1903,
when the Wright brothers made the first airplane
flights. The exact location where they flew their first
airplane is known as the Kill Devil Hills. It is a small
coastal area in Kitty Hawk town in Dare County,
North Carolina, United State of America. The town
was established in 1700s.

A The town was established in 1700s.


B It is a small coastal area in Kitty Hawk town in Dare
County, North Carolina, United State of America.

124
C Kitty Hawk was made famous on December 17, 1903,
when the Wright brothers made the first airplane
flights.
D. The exact location where they flew their first
airplane is known as the Kill Devil Hills

4.
Niagara Falls is a set of massive waterfalls located on
the Niagara River. The falls are located between the
twin cities of Niagara Falls, New York. The distance of
the falls from Buffalo, New York is approximately 27
km. It is also about 120 km south-southeast of
Toronto, Ontario. Thousands of tourists go to visit
the falls every year. My uncle visited it last year. I
would like to go there some day as well.

A My uncle visited it last year.


B Niagara Falls is a set of massive waterfalls located on
the Niagara River.
C It is also about 120 km south-southeast of Toronto,
Ontario.
D Thousands of tourists go to visit the falls every year.

5.

125
Alicia was very upset today. She lost her favorite toy
that she got on her birthday. This was not an
ordinary present; it was a present from her best
friend. Her friend’s name is Amy. She is of her age.
They play together after school everyday. Their
favorite pastime is to dress up dolls. Alicia’s dad told
her that he would buy her a new toy. But that did
not make her happy.

A Their favorite pastime is to dress up dolls. B


They play together after school everyday.
C But that did not make her happy. D Alicia was
very upset today.

ที่มา: http://www.mytestbook.com/worksheet.aspx?
test_id=617
ASEAN corner 1 7
1 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)

126
- บอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
- พูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเคารพซึง่ กันและกันได้
- เขียนเกี่ยวกับวัฒนธรรม ภาษา อาหาร และประเพณีของประเทศ
สมาชิกกลุ่มประชาคมอาเซียนได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว
้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อ
ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียด
สนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและ
อ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทัง้ ให้เหตุผลและยก
ตัวอย่างประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และ
ความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตัวชีว้ ัด
ต 1.3 ม. 3/2 พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระ หัวข้อ
เรื่องที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่อง/ข่าว/เหตุการณ์/สถานกา
รณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 3/3 พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม
ประสบการณ์ และเหตุการณ์ พร้อมทัง้ ให้เหตุผลประกอบ
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ น

127
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับ
กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ น
ื และเป็ นพื้นฐานในการพัฒนา
แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน

ตัวชีว้ ัด
ต 3.1 ม. 3/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่
เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ น
ื จากแหล่งการเรียนรู้
และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การเข้าใจในความแตกต่าง ทัง้ ด้านศาสนา วัฒนธรรม เชื้อชาติใน
ประเทศกลุ่มประชาคมอาเซียน ช่วยให้เคารพความแตกต่างซึ่งกันและ
กัน ก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ และสามารถอยู่ร่วมกันได้
อย่างสันติ

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verbs (respect, lead)
Nouns (the Holocaust, genocide, race,
difference, belief, diversity, strength,
conflict, region, economy)

128
Adjectives (religious, ethnic, cultural,
economic)
Functions: Talking about respecting other people
I respect others by joining the queue.
I respect others by listening to their
opinions with opened-mindedness.
2) Language Skills
Speaking: พูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีแสดงออกถึงการ
เคารพผู้อ่ น

Reading: อ่านเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ
Writing: เขียนตารางเปรียบเทียบวัฒนธรรม ภาษา อาหาร
และประเพณีของประเทศสมาชิกกลุ่มประชาคม
อาเซียนกับประเทศไทย

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1)ความสามารถในการสื่อสาร 2)ความสามารถในการคิด
3)ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1)ใฝ่ เรียนรู้ 2)มุ่งมั่นในการทำงาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ขัน
้ Warm up

129
ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับการนับถือศาสนาในประเทศไทยและ
ประเทศกลุ่มประชาคมอาเซียน จากนัน
้ ครูให้นักเรียนยกตัวอย่าง
สถานที่ซึ่งแสดงถึงความแตกต่างด้านศาสนา เช่น วัด สุเหร่า โบสถ์

ขัน
้ Pre-reading
1. ครูให้นักเรียนดูภาพและอ่านชื่อเรื่อง Respecting Differences: A
Strong ASEAN ในหนังสือเรียน หน้า 18 แล้วให้นักเรียนแสดง
ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเคารพความแตกต่าง
2. ครูให้นักเรียนอ่านบทอ่านย่อหน้าที่ 2 แล้วบอก topic sentences
(A special feature of Southeast Asia is its cultural
diversity.)
3. ครูแบ่งนักเรียนเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ให้แต่ละกลุ่มอ่านเรื่อง
Respecting Differences: A Strong ASEAN และขีดเส้นใต้คำ
ศัพท์ยาก ครูสุ่มเรียกนักเรียนให้อ่านคำศัพท์ที่ขีดเส้นใต้กลุ่มละ 1
ย่อหน้า คำใดที่นักเรียนอ่านไม่ถูกต้อง ให้อ่านตามครูพร้อมกัน จาก
นัน
้ ให้นักเรียนช่วยกันเดาความหมายของคำศัพท์ ถ้าคำใดนักเรียน
ไม่ร้ใู ห้หาความหมายจากพจนานุกรม เช่น
race (n) = one of the main groups that humans
can be divided into according to the
colour of their skin and
other physical features (เชื้อชาติ)
diversity (n) = the fact of including many different
types of people or things (ความ
หลากหลาย)

130
ethnic (adj) = relating to a particular race, nation,
or tribe and their customs and traditions

ขัน
้ Reading
หนังสือเรียน หน้า 18 Ex. 1 ครูสุ่มเรียกนักเรียนอ่านประโยคกลุ่ม
ละ 1 ข้อ พร้อมทัง้ บอก Key words ในแต่ละประโยค จากนัน
้ ให้
แต่ละกลุ่มอ่านเรื่อง Respecting Differences: A Strong ASEAN
และตอบคำถาม เสร็จแล้วครูขอตัวแทนกลุ่มบอกคำตอบ

1F 2T 3F 4T 5T

ขัน
้ Post-reading
1. หนังสือเรียน หน้า 18 Ex. 2 ครูให้นักเรียนจับคู่ ผลัดกันพูดบอกวิธี
แสดงออกถึงการเคารพผู้อ่ น
ื โดยใช้วลีที่กำหนด ครูเดินสังเกตรอบ
ๆ ชัน
้ เรียน
2. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีแสดงออกถึงการ
เคารพผู้อ่ น
ื นอกเหนือจากใน Ex. 2 ให้นักเรียนช่วยกันคิดและบอก
ครู แล้วครูเขียนบนกระดาน
3. หนังสือเรียน หน้า 18 Ex. 3 ครูแบ่งนักเรียนเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 4
คน ให้แต่ละกลุ่มค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรม ภาษา อาหาร
และประเพณีของประเทศสมาชิกกลุ่มประชาคมอาเซียนที่แตกต่าง

131
จากประเทศไทยมา 3 ประเทศ แล้วเขียนเป็ นตารางเปรียบเทียบ
ข้อมูล

7. การวัดและการประเมินผล
วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ตรวจการตอบคำถามจาก สมุดนักเรียน ร้อยละ 60
เรื่องที่อ่าน
สังเกตการแสดงความคิด แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ
เห็นเกี่ยวกับวิธีแสดงออก การเรียนรู้ พอใช้
ถึงการเคารพผู้อ่ น

ประเมินการเขียนตาราง แบบประเมินการเขียน ระดับคุณภาพ
เปรียบเทียบวัฒนธรรม พอใช้
ภาษา อาหาร และ
ประเพณีของประเทศ
สมาชิกกลุ่มประชาคม
อาเซียนกับประเทศไทย
สังเกตความใฝ่ เรียนรู้และ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ
ความมุ่งมั่นในการทำงาน คุณลักษณะ ผ่าน
อันพึงประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1)หนังสือเรียน SPARK 3 ม. 3
2)พจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษ
3)พจนานุกรมออนไลน์

132
4)อินเทอร์เน็ต

8 time 1
O-NET practice & Fun

1 ชั่วโมง

จุดประสงค์การเรียนรู้
- ทบทวนคำศัพท์และไวยากรณ์ที่เรียนมาแล้วในหน่วยการเรียนรู้ที่
1
- เขียน quiz เกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนมาแล้วได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว
้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อ
ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ม. 3/4 เลือกหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ บอกรายละเอียด
สนับสนุน (supporting detail) และแสดงความคิดเห็น

133
เกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่าน พร้อมทัง้ ให้เหตุผลและยก
ตัวอย่าง ง่าย ๆ ประกอบ
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรม
ของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกับ
กาลเทศะ
ตัวชีว้ ัด
ต 2.1 ม. 3/3 เข้าร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตาม
ความสนใจ

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้และเข้าใจคำศัพท์และโครงสร้างภาษา ช่วยให้พูด/เขียน
สื่อสาร และเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาได้อย่างเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: คำศัพท์ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1
Grammar: ไวยากรณ์ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1
2) Language Skills
Listening: ฟั งเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ

134
Writing: เขียน quiz เกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนมาแล้ว

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1)ความสามารถในการสื่อสาร
2)ความสามารถในการคิด

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- มุ่งมั่นในการทำงาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้
ขัน
้ Warm up
นักเรียนดูหนังสือเรียน หน้า 19-20 แล้วบอกครูว่ากิจกรรมที่
นักเรียนคิดว่าจะได้ทำในชั่วโมงนีม
้ ีอะไรบ้าง

ขัน
้ Presentation
1. ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกคำศัพท์ที่เรียนในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1
2. ครูทบทวนไวยากรณ์ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ด้วยการให้นักเรียน
ระดมสมองพูดบอกไวยากรณ์ที่เรียนรู้ในหน่วยนี ้ ครูเขียนตามที่
นักเรียนบอกบนกระดานในรูปของ mind map จากนัน
้ ให้นักเรียน
ช่วยกันพูดบอกหลักการใช้และโครงสร้างประโยค

135
Present
simple

too - Present
enough ไวยากรณ์ continuous
หน่ วยการ
เรียนรู้ ที่ 1

comparatives singular/
- superlatives plural nouns

ขัน
้ Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 20 Ex. 1 นักเรียนจับคู่กัน อ่านคำใบ้ที่ให้มา
แล้วเติมคำลงในอักษรไขว้ เสร็จแล้วครูให้นักเรียนช่วยกันเฉลยคำ
ตอบ

Down Across
1 surgeon 3 stuntman
2 increase 4 wages
3 shifts 5 creative

2. หนังสือเรียน หน้า 20 GAME ครูแบ่งนักเรียนเป็ น 2 ทีม เพื่อเล่น


เกม What’s the job? โดยให้แต่ละทีมนึกถึงอาชีพจากหนังสือ
เรียน หน้า 9-11 แล้วส่งตัวแทนออกมากระซิบบอกครู จากนัน
้ ให้

136
สมาชิกอีกทีมหนึ่งผลัดกันถามคำถาม Yes/No questions เพื่อทาย
ว่าคืออาชีพอะไร โดยสามารถถามคำถามได้แค่ 5 คำถามเท่านัน

Team A S1: Do you work outdoors?
Leader: No, I don’t
Team A S2: Do you work with a computer?
Leader: Yes, I do.
3. หนังสือเรียน หน้า 20 Ex. 2 ครูให้นักเรียนคู่เดิมช่วยกันทำ quiz
โดยห้ามเปิ ดดูเนื้อหา เสร็จแล้วให้นักเรียนเปรียบเทียบคำตอบกับ
เพื่อน จากนัน
้ ครูจึงเฉลยคำตอบ

1T
2 F (A living statue covers her skin with body paint.)
3T
4 F (The Pygmies are the shortest people in the
world.)

4. หนังสือเรียน หน้า 20 Ex. 4 นักเรียนดูภาพบุคคลในเนื้อเพลง ครู


ถามนักเรียนว่ารู้จักบุคคลใดบ้าง ให้นักเรียนช่วยกันบอกชื่อ (e.g.
Queen Cleopatra VII, King Ramses II, Marie Curie, George
Washington)
ต่อมาให้นักเรียนอ่านคำ/วลีที่กำหนดให้ ครูอธิบายว่าคำเหล่านี ้
ปรากฏอยู่ในเนื้อเพลง ให้นักเรียนเดาว่าเพลงนีน
้ ่าจะมีเนื้อหาเกี่ยว
กับอะไร จากนัน
้ ครูเปิ ดเพลงให้นักเรียนฟั งเพื่อหาคำตอบ

137
The song is about leaders of countries and how
they help their people.
The song is also about how we can be great leaders
in our daily lives.

5. หนังสือเรียน หน้า 20 Ex. 5 หลังจากฟั งเพลงจบ ครูถามนักเรียน


ว่าเห็นด้วยกับนักร้องหรือไม่ ครูให้เวลานักเรียนเขียนแสดงความคิด
เห็น พร้อมทัง้ อธิบายเหตุผลประกอบ จากให้นักเรียนอภิปรายร่วม
กัน

I think great leaders need to listen to their


people and make decisions based on what is
best for the people. On the other hand, leaders
sometimes have to make decisions that people
don't like. When they do this, they must be
strong and daring.

6. หนังสือเรียน หน้า 19 O-NET practice ครูให้เวลานักเรียนทำ


ข้อสอบ เสร็จแล้วตรวจคำตอบร่วมกัน ถ้านักเรียนไม่เข้าใจ ให้ครู
อธิบายเพิ่มเติม

Ex. 1 1 A b, B d 2 A c, B c 3 A d, B a

138
Ex. 2 1 b2 d3 d4 c5 c

ครูอาจแนะนำเทคนิคในการทำข้อสอบ reading ให้


นักเรียน ดังนี ้
1)อ่านคำถามที่ให้มาก่อน เพื่อหาว่าควรจะอ่านเพื่อหา
ข้อมูลเกี่ยวกับอะไร หรือคำถามที่ให้มาต้องการคำตอบ
ประเภทไหน เช่น บอกใจความสำคัญ ความรู้สึกหรือ
ความคิดเห็นของผู้เขียน
2)ดูช่ อ
ื เรื่อง ภาพประกอบ หรือบริบทในเนื้อหา (context
clue) เพื่อช่วยให้เข้าใจ เนื้อเรื่องที่อ่านมากขึน

3)ใช้วิธีการอ่านแบบ skimming อย่าอ่านทำความเข้าใจ
แบบคำต่อคำ
4)สังเกตคำเชื่อมในเนื้อเรื่อง เช่น moreover,
therefore, however, on the other hand เพราะ
ถ้าเข้าใจคำเชื่อมเหล่านี ้ จะทำให้เข้าใจเนื้อเรื่องและจุด
ประสงค์ของผู้เขียนมากยิ่งขึน
้ เช่น เข้าใจว่าประโยคที่
ตามหลัง however หรือ on the other hand จะ
เป็ นข้อมูลที่ขัดแย้งกับประโยคข้างหน้า เป็ นต้น
5)ในขณะที่อ่าน เมื่อเจอประเด็นที่สงสัย ให้ทำ
เครื่องหมายไว้เพื่อกลับมาอ่าน อีกครัง้ การทำเช่น

139
นีจ
้ ะทำให้ไม่ต้องเสียเวลากลับมาอ่านเนื้อเรื่องใหม่
ทัง้ หมด
6)การบริหารเวลาเป็ นเรื่องสำคัญมากในการทำข้อสอบ
การอ่าน เพราะบางครัง้ เนื้อเรื่องที่ให้มาจะค่อนข้าง
ยาวมาก ถ้านักเรียนให้ความสนใจกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
มากเกินไป เช่น คำศัพท์ยาก จะทำให้ทำข้อสอบไม่ทัน

ขัน
้ Production
หนังสือเรียน หน้า 20 Ex. 3 นักเรียนจับคู่กัน แล้วครูแจกกระดาษ
ให้คู่ละ 1 แผ่น ให้แต่ละคูค
่ ิดคำถาม quiz 5-6 ข้อ เกี่ยวกับเนื้อหา
ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ครูให้นักเรียนเปิ ดดูเนื้อหาได้ และให้
นักเรียนเขียนคำตอบไว้ด้านหลังกระดาษ เมื่อทุกคู่คค
ู่ ิดคำถามเสร็จ
แล้วให้แลกกันทำ quiz กับคู่อ่ น

1 Disney characters must say “Have a nice day!”


to all the visitors at Disney World. (F)
2 A living statue wears body paint. (T)
3 The tallest man in the world is over 2 metres.
(T)
4 Lindsay plays in the school volleyball team.
(F)

140
7. การวัดและการประเมินผล
วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ตรวจการเขียน quiz - ร้อยละ 60
เกี่ยวกับเนื้อหาในหน่วย
การเรียนรู้ที่ 1
สังเกตความมุ่งมั่นในการ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ ผ่าน
ทำงาน คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1)หนังสือเรียน SPARK 3 ม. 3
2)Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3

141

You might also like