Professional Documents
Culture Documents
การทำบุญด้วยการภาวนาได้กุศลผลบุญสูงสุด ทำได้ไม่ยาก
การทำบุญด้วยการภาวนาได้กุศลผลบุญสูงสุด ทำได้ไม่ยาก
1. สวดมนต์
อิทงั เม มาตาปิ ตูนงั โหตุ สุ ขิตา โหนตุ มาตา ปิ ตะโร ขอส่ วนบุญนี้จงสำเร็ จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของ
ข้าพเจ้า จงมีความสุ ข
อิทงั เม ญาตีนงั โหตุ สุ ขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอส่ วนบุญนี้จงสำเร็ จ แก่ญาติท้งั หลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติท้งั หลายของข้าพเจ้า
จงมีความสุ ข
อิทงั เม คุรูปัชฌายาจะริ ยานังโหตุ สุ ขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจะริ ยา ขอส่ วนบุญนี้จงสำเร็ จ แก่ครู อุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอ
ให้ครู อุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า จงมีความสุ ข
อิทงั สัพพะ เทวะตานัง โหตุ สุ ขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา ขอส่ วนบุญนี้จงสำเร็ จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้ง
ปวง จงมีความสุ ข
อิทงั สัพพะ เปตานัง โหตุ สุ ขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา ขอส่ วนบุญนี้จงสำเร็ จ แก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวง
จงมีความสุ ข
อิทงั สัพพะ เวรี นงั โหตุ สุ ขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี ขอส่ วนบุญนี้จงสำเร็ จ แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรม
นายเวรทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุ ข
อิทงั สัพพะ สัตตานัง โหตุ สุ ขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา ขอส่ วนบุญนี้จงสำเร็ จ แก่สตั ว์ท้งั หลายทั้งปวง ขอให้สตั ว์ท้งั หลายทั้งปวง
จงมีความสุ ขทัว่ หน้ากันเทอญฯ
คำอธิษฐานโดยทัว่ ไปที่ควรนำมาใช้
“ข้าพเจ้า………..(ชื่อ – นามสกุล) ขอน้อมอานิสงส์ผลบุญจากบุญที่ได้ท ำ….. ( รวมได้หมดทุกอย่างแห่งการสร้างบุญไม่วา่
ทำบุญมาแบบไหนทั้งการ ให้ทาน รักษาศีล และเจริ ญภาวนแล้ว) ในวันนี้ ครั้งนี้ขออุทิศให้แก่……( บุคคลที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา
ทั้งหมด หรื อ คนที่ปรารถนาจะอุทิศให้ตามหลักแห่งการอุทิศบุญแผ่เมตตา)
ขอให้อานิสงส์ผลบุญนี้ จงเป็ นพละปัจจัยให้ขา้ พเจ้า (หรื อผูอ้ ื่น โดยกล่าวชื่อ นามสกุล)…..ขอให้..(ปรารถนาสิ่ งใดก็วา่ ไป
ตามนั้น โดยสิ่ งที่ขอต้องไม่ผดิ ศีลธรรม) เช่นขอให้ประสบความสำเร็ จในหน้าที่การงานที่ท ำอยู,่ ขอให้หายจากการเจ็บไข้ได้
ป่ วย ให้คิดดี พูดดี ทำดีติอต่อกัน สนับสนุนกันให้พน้ จากภาวะที่เป็ นทุกข์อยูใ่ นปัจจุบนั ( บอกรายละเอียดของความทุกข์ดว้ ย
ก็ได้) ให้พน้ จากทุกข์น้ นั นับแต่บดั นี้เป็ นต้นไป การงานสิ่ งใดที่ชอบกอร์ปไปด้วยธรรม ขอให้ขา้ พเจ้าได้ประสบความสำเร็ จตาม
ความปรารถนา ทั้งทางโลกและทางธรรม นับแต่บดั นี้เป็ นต้นไปตราบจนกว่าจะเข้าสู่ พระนิพพานเทอญ”
การใคร่ ครวญถึง สิ่ งที่ไม่สวยงามเป็ นอารมณ์ เป็ นการพิจารณาว่าร่ างกายของคนอื่นที่วา่ สวยงามทั้งหลายที่เป็ นบ่อเกิดแห่งความ
ใคร่ และตัณหานั้นที่จริ งแล้วก็เป็ นสิ่ งที่ไม่แน่นอน ทุกคนต้องแก่ตอ้ งเหี่ยวหรื อมีความเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา จนเมื่อตายแล้ว
ร่ างกายก็ตอ้ งเปลี่ยนสภาพกลายเป็ นเน่าเปื่ อย ทุกอย่างเป็ นของน่าสะอิดสะเอียนหาความสวยงามใด ๆไม่ได้อีก ซึ่งหาความเป็ น
ตัวตนของตนเองไม่ได้เลย ในที่สุดสังขารของเราก็จะต้องเป็ นเช่นนี้เหมือนกัน
การใคร่ ครวญถึงว่า ร่ างกายของเราเป็ นแหล่งรวมสิ่ งสกปรก การพิจารณาในข้อนี้กเ็ พื่อให้เห็นว่า แท้จริ งแล้วร่ างกายของเราก็
เป็ นที่รวมซากศพและของเน่าเหม็นที่เราได้รับประทานเข้าไป และต้องขับถ่ายออกมาจากทวารทั้งหลาย เป็ นสารพัด “ขี้” เช่น
เมื่อมีการขับถ่ายออกมาทางหูกเ็ รี ยกว่า ขี้หู ออกมาทางตาก็เรี ยก ขี้ตา ออกมาจากผิวหนังก็เรี ยก ขี้ไคล เป็ นต้น เมื่อได้พิจารณา
ความจริ งข้อนี้จะเห็นความสกปรกในร่ างกายนั้นเป็ นสิ่ งที่เป็ นจริ งและไม่อาจเลี่ยงได้ เมื่อรับรู้แล้วจิตก็จะมีก ำลังและเกิดความ
เบื่อหน่ายในการยึดติดร่ างกายทั้งของตัวเองและผูอ้ ื่น
การฝึ กเจริ ญภาวนาด้ วยการคิดใคร่ ครวญหาเหตุผลทั้ง 4 แบบนีเ้ ป็ นข้ อที่ท ำได้ ยากที่สุดเพราะในโลกของมนุษย์ เรายังมีสิ่งปรุ ง
แต่ งเจือปนให้ กับจิตใจด้ วยวัตถุมากมาย แต่ หากใครทำได้ จิตก็จะค่ อย ๆหลุดพ้ นไปอันเป็ นทางสู่นิพพานในที่สุด การสะสม
สร้ างบุญในทุกวิธีที่กล่ าวมานีเ้ ป็ นเรื่ องที่ต้องใช้ หลักในการปฏิบัติเพิ่มเข้ าไปอีก 3 ประการคือ
1. มีความสม่ำเสมอ
การทำบุญนั้นเป็ นเรื่ องที่ท ำได้ยากกว่าทำบาป แต่กไ็ ม่ใช่เรื่ องที่เหลือวิสยั จนไม่สามารถทำได้ เปรี ยบเสมือนงานประจำ ก็คือ งาน
นั้นเราต้องทำอยูป่ ระจำทำทุกเมื่อเชื่อวันจึงจะเกิดความชำนาญ บุญก็เช่นเดียวกันต้องมีความสม่ำเสมอในการสร้างบุญ บุญนั้นก็
จะได้พอกพูนขึ้นมาเรื่ อยๆและเวลานำไปใช้กจ็ ะมีความชำนาญในการใช้ ไม่ให้เสี ยไปโดยเปล่าประโยชน์
2. มีความมากพอในบุญ
นอกจากมีความสม่ำเสมอแล้วการทำบุญก็ตอ้ งมีความมากพอที่จะนำบุญนั้นไปใช้ เปรี ยบเทียบเหมือนเราตักน้ำใส่ ตุ่มน้ำที่บา้ น
เราต้องตื่นมาแต่เช้าและทำเป็ นประจำเสมอ แต่ถา้ เราตักน้ำใส่ เป็ นประจำเพียงแค่วนั ละขันมันก็ยงั น้อยเกินไปไม่พอจะนำไปใช้
ประโยชน์ได้ ถ้าจะให้มากพอให้มนั เต็มตุ่มในแต่ละวันก็ตอ้ งตักน้ำวันละหลาย ๆถังเพื่อให้เพียงพอจะนำไปใช้ได้
3. มีความนานพอ
บุญต้องใช้การ “สะสม” มันไปเรื่ อย ๆเหมือนกับความสำเร็ จในด้านอื่น ๆ ทุกสิ่ งทุกอย่างในโลกนี้ กฎแห่งความสำเร็ จก็ข้ ึนอยูก่ บั
3 ข้อนี้ท้งั นั้น ทุกความสำเร็ จจะต้องใช้เวลาสะสมในตัวของมันเอง เมื่อสร้างบุญได้สม่ำเสมอ, มากพอ, และนานพอ ก็จะ
ทำให้บรรลุธรรมถึงขั้นสูงสุ ดอันคือ พระนิพพานได้ การบรรลุพระนิพพานเป็ นเหตุให้บุคคลสิ้ นเวรสิ้ นกรรมสิ้ นบาปสิ้ นบุญ
หมดแล้วทุกอย่าองในโลก เหมือนดังที่พระพุทธเจ้าของเรา ได้บ ำเพ็ญเพียรสร้างบุญมากว่า 500 ชาติ และใน สิ บชาติสุดท้าย
ก็ได้บ ำเพ็ญสร้าง “มหาทศบารมี” จนในชาติสุดท้ายพระองค์กต็ รัสรู้สิ้นเวรกรรมในโลกและหลุดพ้นไปในที่สุด