You are on page 1of 32

คลังโจทย์ 1

1. มีฉลาก 10 ใบ โดยที่ฉลากแต่ละใบเขียนเลขจานวนจาก 1 ถึง 10 โดยที่ฉลากแต่ละใบมีเพียงเลขจานวนเดียวเท่านัน้


สุม่ หยิบฉลากมา 10 ใบ จงหาความน่าจะเป็ นที่ผลต่างของจานวนที่ปรากฏบนฉลากแต่ละคูต่ ้ องมากกว่าหรื อ
เท่ากับ 2 [สมาคม (พ.ย. 2561/32)]

2. ในกล่องมีเสือ้ กีฬาจานวน 100 ตัว ซึง่ มีขนาด S, M และ L เป็ นจานวน 35, 45 และ 20 ตัว ตามลาดับ
ถ้าสุม่ หยิบเสือ้ มา 1 ตัว แล้วความน่าจะเป็ นทีจ่ ะได้เสือ้ ขนาด M หรือ L เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
[กสพท คณิต2 (มี.ค. 2561/10)]
1. 15 2. 207
3. 209 4. 1120
5. 13 20

3. โรงเรี ยนแห่งหนึง่ มีชมรมสาหรับนักเรี ยน 3 ชมรม คือ ชมรมกีฬา ชมรมศิลปวัฒนธรรม และชมรมวิทยาศาสตร์


นักเรี ยนชันมั
้ ธยมศึกษาตอนปลายทุกคนต้ องสมัครเข้ าชมรมคนละหนึง่ ชมรม
ตารางแสดงจานวนนักเรี ยนในแต่ละชมรม เป็ นดังนี ้

จานวนนักเรี ยนในแต่ละชมรม (คน)


นักเรี ยนชัน้
กีฬา ศิลปวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์
ม. 4 85 95 120
ม. 5 125 75 100
ม. 6 95 100 105
รวม 305 270 325

ถ้ าสุม่ นักเรี ยนชันมั


้ ธยมศึกษาตอนปลายมา 1 คน ความน่าจะเป็ นที่จะได้ นกั เรี ยนที่อยูใ่ นชมรมกีฬาและไม่ใช่นกั เรี ยน
ชัน้ ม. 4 เท่ากับข้ อใด [O-NET (มี.ค. 2561/25)]
1. 13 2. 23 3. 11
45
4. 18017 61
5. 180

.0123456789
2 คลังโจทย์

4. อายุของพนักงานในบริษัทแห่งหนึง่ มีการแจกแจงความถี่ดงั นี ้
อายุ (ปี ) จานวนพนักงาน (คน)
20 – 29 42
30 – 39 96
40 – 49 38
50 – 59 40
60 ปี ขน
ึ ้ ไป 4

ถ้าสุม่ พนักงานมา 1 คน แล้วความน่าจะเป็ นที่พนักงานคนนี ้ จะมีอายุนอ้ ยกว่า 60 ปี เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้


[กสพท คณิต2 (มี.ค. 2563/10)]
1. 15 49
2. 55 3. 5155
4. 5255
5. 5455

5. ตำรำงแสดงผลกำรสำรวจวันที่ออกกำลังกำยในแต่ละสัปดำห์ของนักศึกษำกลุม่ หนึง่ จำแนกตำมระดับกำรศึกษำ


จำนวนวันที่ออกกำลังกำย จำนวนนักศึกษำ (คน)
ต่อสัปดำห์ ปริญญำตรี สูงกว่ำปริญญำตรี
น้อยกว่ำ 3 วัน 45 25
3 วัน ถึง 5 วัน 20 20
มำกกว่ำ 5 วัน 25 15

หำกสุม่ นักศึกษำจำกกลุม่ นีม้ ำหนึง่ คน ควำมน่ำจะเป็ นทีจ่ ะได้นกั ศึกษำระดับปริญญำตรีที่


ออกกำลังกำย ไม่ เกิน 5 วันต่อสัปดำห์ เท่ำกับใด [O-NET (ก.พ. 2563/29)]
1. 13
30
2. 15 2
3. 11
15
4. 103
5. 3
5

6. จุกและปอเป็ นพนักงำนบัญชีประจำสำนักงำนใหญ่ของบริษัทแห่งหนึง่ ซึง่ มีสำขำอยูท่ งั้ หมด 4 สำขำ จุกและปอต้อง


เลือกสำขำ คนละหนึง่ สำขำ เพื่อไปตรวจสอบบัญชี โดยทัง้ สองคนไม่ตรวจสอบบัญชีของสำขำเดียวกัน
จำนวนวิธีที่จกุ และปอเลือกสำขำที่แตกต่ำงกันมีได้ทงั้ หมดกี่วิธี [O-NET (ก.พ. 2563/30)]
1. 7 วิธี 2. 8 วิธี 3. 12 วิธี 4. 16 วิธี 5. 24 วิธี

.0123456789
คลังโจทย์ 3

7. ถ้ าโยนเหรี ยญเที่ยงตรงเหรี ยญหนึง่ 4 ครัง้ แล้ วจานวนสมาชิกของเหตุการณ์ที่เหรียญจะออก หัว 2 ครัง้ และ


ก้ อย 2 ครัง้ เท่ากับเท่าใด [O-NET (ก.พ. 2560/31)]
1. 2 2. 3 3. 4 4. 5 5. 6

8. หมูบ่ ้ านแห่งหนึง่ มี 35 ครัวเรื อน จากการสารวจ พบว่า 25 ครัวเรื อน มีรถกระบะ


20 ครัวเรื อน มีจกั รยานยนต์
15 ครัวเรื อน มีรถกระบะและจักรยานยนต์
ถ้ าสุม่ มาหนึง่ ครัวเรื อน แล้ วความน่าจะเป็ นที่จะสุม่ ได้ ครัวเรื อนที่ไม่มีรถกระบะและไม่มจี กั รยานยนต์ เท่ากับเท่าใด
[O-NET (ก.พ. 2560/32)]
1. 17 2. 27 3. 37 4. 57 5. 67

9. กาหนดให้ 𝑆 = { −9 , −8 , −7 , … , −1 , 0 , 1 , 2 , 3 , 4 , 5 }
ถ้ า 𝑎 เป็ นสมาชิกหนึง่ ตัวของ 𝑆 ที่ได้ จากการสุม่ แล้ วความน่าจะเป็ นที่ |𝑎| + 𝑎 = 0 เท่ากับข้ อใด
[O-NET (มี.ค. 2561/26)]
1. 23 2. 35 3. 25 4. 13 5. 1
5

10. กล่องใบหนึง่ บรรจุสลาก 5 ใบ ที่มีหมายเลข 1, 3, 5, 7, 9 ใบละหนึง่ หมายเลข ถ้ าสุม่ หยิบสลากในกล่องนี ้ขึ ้นมา
สองใบ โดยหยิบทีละใบแบบไม่ใส่คืน แล้ วนาหมายเลขที่ได้ มาประกอบเป็ นจานวนสองหลัก โดยหมายเลขบนสลาก
ใบแรกเป็ นเลขโดดในหลักสิบ และหมายเลขบนสลากใบที่สองเป็ นเลขโดดในหลักหน่วย ความน่าจะเป็ นที่จะได้
จานวนสองหลักที่น้อยกว่า 60 เท่ากับข้ อใด [O-NET (มี.ค. 2561/27)]
3
1. 10 2. 25 3. 12 4. 35 5. 34

.0123456789
4 คลังโจทย์

11. นักเรี ยนห้ องหนึง่ ได้ ตกลงกันว่า แต่ละคนจะทาการ์ ดอวยพรวันปี ใหม่และส่งให้ เพื่อนๆ ในห้ องทุกคน ถ้ านักเรี ยนทุก
คนในห้ องนี ้ทาตามข้ อตกลง และมีบตั รอวยพรที่สง่ ให้ กนั ทังหมด
้ 1,722 ใบ แล้ วห้ องนี ้มีนกั เรี ยนกี่คน
[O-NET (มี.ค. 2561/36)]

12. ตารางแสดงจานวนลูกปิ งปองสีสม้ และจานวนลูกปิ งปองทัง้ หมดในถุงห้าใบ


ถุงใบที่ จานวนลูกปิ งปองสีสม้ (ลูก) จานวนลูกปิ งปองทัง้ หมด (ลูก)
1 50 75
2 55 66
3 60 80
4 66 77
5 80 100

การสุม่ หยิบลูกปิ งปอง 1 ลูกจากถุงใบใด มีโอกาสได้ลกู ปิ งปองสีสม้ มากที่สดุ [O-NET (มี.ค. 2562/29)]
1. ถุงใบที่ 1 2. ถุงใบที่ 2 3. ถุงใบที่ 3 4. ถุงใบที่ 4 5. ถุงใบที่ 5

13. กาหนดให้ 𝑆 = { 1 , 2 , 3 , … , 98 , 99 } ถ้าสุม่ หยิบจานวนจาก 𝑆 มาหนึง่ จานวน แล้วความน่าจะเป็ น


ที่จะได้จานวนคูท่ มี่ ีเลขโดด 6 อยู่ เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2563/30)]
1. 1299
2. 13
99
3. 1499
4. 15
99
5. 16
99

14. ร้ำนค้ำจัดรำยกำรสมนำคุณให้แก่ลกู ค้ำ โดยให้ลกู ค้ำสุม่ หยิบสลำก 1 ใบ จำกกล่องซึง่ มีสลำกทัง้ หมด 40 ใบ ดังนี ้
สลำกสีขำว 20 ใบ เป็ น สลำกหมำยเลข 1 , 2 , 3 , … , 19 , 20
และ สลำกสีแดง 20 ใบ เป็ น สลำกหมำยเลข 21 , 22 , 23 , … , 39 , 40
ลูกค้ำที่หยิบได้สลำกสีขำวทีม่ ีหมำยเลขมำกกว่ำ 15 หรือ หยิบได้สลำกสีแดงที่มีหมำยเลขเป็ นจำนวนคู่ จะได้รบั ของ
สมนำคุณจำกทำงร้ำนค้ำ ควำมน่ำจะเป็ นที่ลกู ค้ำคนแรกสุม่ หยิบสลำกแล้วได้รบั ของสมนำคุณเท่ำกับเท่ำใด
[O-NET (ก.พ. 2563/31)]
1. 14 2. 38 3. 25 4. 58 5. 78

.0123456789
คลังโจทย์ 5

15. กล่องใบหนึง่ มีถำ่ นไฟฉำยอยูท่ งั้ หมด 500 ก้อน เป็ นถ่ำนไฟฉำยดี จำนวน 420 ก้อน เป็ นถ่ำนไฟฉำยเสีย
จำนวน 80 ก้อน ถ้ำนำวินคัดถ่ำนไฟฉำยเสียออกไปจำกกล่องจำนวนหนึง่ แล้วพบว่ำ เมื่อสุม่ หยิบ
ถ่ำนไฟฉำย 1 ก้อน จำกถ่ำนไฟฉำยที่เหลือในกล่อง ควำมน่ำจะเป็ นที่จะได้ถ่ำนไฟฉำยดี เท่ำกับ 78
นำวินคัดถ่ำนไฟฉำยเสียออกไปกี่กอ้ น [O-NET (ก.พ. 2563/40)]

16. มีเลขโดด −3 , −2 , −1 , 0 , 1 , 2 , 3 ถ้ าสุม่ เลขโดดนี ้มาสองจานวน แล้ วความน่าจะเป็ นทีจ่ ะได้


เลขโดด 𝑚, 𝑛 ซึง่ |𝑚 − 𝑛| = 2 เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2558/26)]
2 3 4
1. 21 2. 21 3. 21
5 6
4. 21 5. 21

17. กาหนดเส้ นทางจาก X ไปยัง Y เป็ นไปตามลูกศรของแผนภาพต่อไปนี ้ X


จานวนวิธีในการเดินทางจาก X ไปยัง Y มีทงหมดเท่
ั้ ากับข้ อใดต่อไปนี ้
[กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2559/9)] A B C

1. 3 2. 4 D E
3. 5 4. 6
Y
5. 7

18. ข้ อสอบแบบเลือกตอบคาตอบชุดหนึง่ มี 5 ข้ อ แต่ละข้ อมี 5 ตัวเลือก และมีตวั เลือกที่ถกู เพียงตัวเลือกเดียว


ถ้ านายสบโชคเดาคาตอบแต่ละข้ ออย่างสุม่ ข้ อละ 1 ตัวเลือก ความน่าจะเป็ นที่นายสบโชคจะเดาคาตอบผิดหมด
ทุกข้ อเท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2559/10)]
1 5 1 5 2 5 3 5 4 5
1. (5) 2. (4) 3. (5) 4. (5) 5. (5)

.0123456789
6 คลังโจทย์

19. สลาก 25 ใบ มีหมายเลข 1 ถึง 25 กากับใบละ 1 หมายเลขโดยไม่ซ ้ากัน ถ้ าสลากถูกสุม่ ขึ ้นมา 1 ใบ


ความน่าจะเป็ นที่จะได้ สลากหมายเลขที่หารด้ วย 2 หรื อ 5 ลงตัว เท่ากับเท่าใด [O-NET (ก.พ. 2560/40)]

20. วันทามีธนบัตรหนึง่ พันบาท 3 ฉบับ และธนบัตรห้ าร้ อยบาท 2 ฉบับ ถ้ าวันทาสุม่ หยิบธนบัตรขึ ้นมา 2 ฉบับพร้ อมกัน
แล้ วความน่าจะเป็ นที่ธนบัตร 2 ฉบับนี ้ จะมีมลู ค่ารวมกันมากกว่า 1,200 บาท เท่ากับเท่าใด
[O-NET (มี.ค. 2561/40)]

21. กล่องใบหนึง่ มีสลากอยูห่ า้ ใบ คือ สลากหมายเลข 1 , 2 , 3 , 4 และ 5 ถ้าสุม่ หยิบสลากจากกล่องนีข้ นึ ้ มาสอง


ใบพร้อมกัน เหตุการณ์ในข้อใดมีโอกาสเกิดขึน้ ได้นอ้ ยที่สดุ [O-NET (มี.ค. 2562/31)]
1. ได้สลากหมายเลขคี่ทงั้ สองใบ 2. ได้สลากที่มีหมายเลขต่างกันอยู่ 3
3. ได้สลากที่มีหมายเลขน้อยกว่า 4 ทัง้ สองใบ 4. ได้สลากที่มีผลรวมของหมายเลขมากกว่า 5
5. ได้สลากที่มีผลรวมของหมายเลขเป็ นจานวนเฉพาะ

22. โรงเรียน 3 โรง ส่งตัวแทนนักเรียนมาโรงละ 2 คน เป็ นชาย 1 คน หญิง 1 คน ในจานวนตัวแทนนักเรียน 6 คนนี ้


ถ้าสุม่ นักเรียน 1 คน เพื่อถือพาน และสุม่ นักเรียนอีก 1 คน จากนักเรียนที่เหลือเพื่อร้องเพลง แล้วความน่าจะเป็ นที่
จะได้นกั เรียน 2 คนนีเ้ ป็ นเพศเดียวกันเท่ากับเท่าใด [O-NET (มี.ค. 2562/32)]
1. 15 2. 13 3. 25 4. 12 5. 23

23. คุณครูจบั สลากรายชื่อนักเรียน 4 คน ได้แก่ กล้วย ชมพู่ ส้ม และองุ่น เพื่อจัดลาดับการนาเสนอผลงาน


ถ้าคุณครูสมุ่ หยิบสลากครัง้ ละ 1 ใบ โดยไม่ใส่คืน จนครบ 4 ใบ แล้วเหตุการณ์ที่ได้สลากที่มชี ื่อส้มจากการหยิบ
ครัง้ ที่หนึง่ มีสมาชิกอยูท่ งั้ หมดกี่ตวั [O-NET (มี.ค. 2562/40)]

.0123456789
คลังโจทย์ 7

24. กล่องใบหนึง่ บรรจุลกู บอลสีขาว 6 ลูก สีแดง 7 ลูก และ สีฟา้ 8 ลูก ถ้ าสุม่ หยิบลูกบอลจากกล่อง 2 ครัง้
ครัง้ ละ 1 ลูก โดยหยิบแล้ วไม่ใส่ลกู บอลกลับคืน ความน่าจะเป็ นที่จะได้ ลกู บอลสีฟา้ ทังสองลู
้ กเท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
[กสพท คณิต2 (มี.ค. 2562/10)]
2
1. 15 2. 15 7
3. 30 4. 15 4
5. 13

25. ในการทอดลูกเต๋าสองลูกพร้ อมกัน ความน่าจะเป็ นที่ลกู เต๋าทังสองมี


้ แต้ มที่เรี ยงติดกัน เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
[กสพท คณิต2 (มี.ค. 2562/28)]
1. 16 2. 29 3. 18 5
4. 13 5. 18 7

26. จำนวนเต็มที่อยูร่ ะหว่ำง 1,000 และ 6,000 ซึง่ มีเลขโดดแต่ละหลักเป็ นเลขคี่ที่แตกต่ำงกัน มีจำนวนทัง้ หมด
เท่ำกับข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต1 (มี.ค. 2563/10)]
1. 24 2. 36 3. 64 4. 72 5. 144

27. กาหนดให้ 𝐴 = {1, 2, 3} 𝐵 = {4, 5, 6, 7}


𝑆 = { (𝑎, 𝑏) | 𝑎 ∈ 𝐴 และ 𝑏 ∈ 𝐵 }
ถ้า (𝑎, 𝑏) เป็ นสมาชิกหนึง่ ตัวของ 𝑆 ที่ได้จากการสุม่ แล้วความน่าจะเป็ นที่ 𝑏 = 2𝑎 เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
[กสพท คณิต2 (มี.ค. 2563/28)]
1
1. 10 2. 18 3. 17 4. 16 5. 1
5

.0123456789
8 คลังโจทย์

28. กาหนดให้ 𝑆 คือเซตของจานวนนับที่มี 4 หลัก ซึง่ ประกอบขึน้ จากเลขโดด 1 , 2 , 3 , 4


และ 𝐴 = { 𝑛 ∈ 𝑆 | 𝑛 มีเลขโดด 3 ปรากฏอยูอ่ ย่างน้อยหนึง่ หลัก }
จานวนสมาชิกของ 𝐴 มีทงั้ หมดเท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2563/29)]
1. 61 2. 150 3. 175 4. 244 5. 247

29. กล่องใบหนึง่ มีผ้ารูปสีเ่ หลีย่ ม 8 ผืน ซึง่ มีความกว้ างและยาว (ฟุต) ดังนี ้
{1, 2} , {2, 3} , {3, 4} , {4, 5} , {2, 4} , {4, 6} , {6, 8} , {8, 10}
ถ้ าสุม่ หยิบ 1 ผืนจากกล่องใบนี ้ แล้ วความน่าจะเป็ นที่ความยาวของเส้ นทแยงมุมของผ้ าผืนนี ้เป็ นจานวนเต็ม
เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2558/9)]
1. 18 2. 28 3. 3
8
4. 48 5. 58

30. มีรูปวงกลม รูปสามเหลีย่ ม รูปสีเ่ หลีย่ ม รูปห้ าเหลีย่ ม และรูปหกเหลีย่ ม อย่างละ 1 รูป ดังภาพ

มีสี 4 สี คือ สีฟา้ สีแดง สีเขียว และสีเหลือง ต้ องการระบายสีรูปทัง้ 5 รูปนี ้ รูปละ 1 สี โดยจะใช้ สซี ้าหรื อไม่ก็ได้
และใช้ สคี รบหรื อไม่ก็ได้ แต่ต้องมีรูปสีฟา้ ด้ วยเสมอ จานวนวิธีทจี่ ะระบายสีมีทงหมด
ั้ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
[กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2558/25)]
1. 581 2. 621 3. 678
4. 721 5. 781

31. กล่องใบหนึง่ บรรจุฉลากซึง่ เขียนหมายเลข 100 , 101 , 102 , … , 998 , 999 ไว้ ฉลากละหนึง่ หมายเลข
ถ้ าสุม่ หยิบฉลาก 1 ใบจากกล่อง ความน่าจะเป็ นที่ฉลากที่หยิบมามีผลคูณของเลข 3 หลัก เป็ นจานวนคู่ เท่ากับข้ อ
ใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2559/30)]
1. 12 2. 23 3. 3629
4. 7790
5. 3136
คลังโจทย์ 9

32. กล่องใบหนึง่ มีบตั ร 7 ใบ แต่ละใบเขียนจานวน −3, −2, −1, 0, 1, 2, 3 กากับบนบัตรใบละ 1 จานวน สุม่ หยิบ
บัตร 2 ใบ พร้อมกันจากกล่องใบนี ้ ความน่าจะเป็ นที่จะได้บตั ร 2 ใบ มีผลรวมของจานวนบนบัตรทัง้ สองเป็ นจานวนคู่
หรือเป็ นจานวนเต็มบวก เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (มี.ค. 2560/12)]
1. 27 2. 37 3. 47 4. 57 5. 67

33. สุม่ เลือกจำนวนเต็ม 𝑎 และ 𝑏 จำกเซตของจำนวนเต็ม {1, 2, … , 100} ควำมน่ำจะเป็ นที่จะสุม่ ได้ 𝑎 และ 𝑏 ซึง่ ทำ
ให้ 7𝑎 + 𝑏 หำรด้ วย 10 ลงตัวเท่ำกับเท่ำใด [สมำคม (พ.ย. 2560/25)]

34. ถ้าทอดลูกเต๋า 3 ลูกพร้อมกันแล้ว ความน่าจะเป็ นที่ลกู เต๋าจะขึน้ แต้มไม่ซา้ กันเลยเท่ากับข้อใดต่อไปนี ้


[กสพท คณิต2 (มี.ค. 2561/28)]
1. 19 2. 16 3. 59 4. 23 5. 56

35. ต้องการสร้างจานวนที่มี 5 หลัก จากเลขโดด 0 และ 1 โดยจานวนที่สร้างขึน้ มีคา่ มากกว่า 10,000


จะมีวธิ ีการสร้างได้ทงั้ หมดเท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2561/29)]
1. 15 วิธี 2. 16 วิธี 3. 20 วิธี 4. 31 วิธี 5. 32 วิธี

.0123456789
10 คลังโจทย์

36. กาหนดให้ เส้นทางวิ่งมีจดุ เริม่ ต้นอยูท่ ี่จดุ A จุดสิน้ สุดอยูท่ จี่ ดุ J และ D G
นักวิ่งต้องวิ่งตามทิศของลูกศรที่กากับไว้เท่านัน้ (ห้ามวิง่ ย้อนศร) ดังรูป
B H
ถ้านักวิ่งคนหนึง่ สุม่ เส้นทางวิ่งจากจุด A ไปยังจุด J แล้วความน่าจะ J

เป็ นที่นกั วิง่ คนนี ้ จะวิ่งผ่านจุด H เท่ากับเท่าใด E


A
[O-NET (มี.ค. 2562/30)] I

1. 12 2. 13 3. 25 C F
2 3
4. 7
5. 7

37. กาหนดให้ 𝐴 = { 0, 1, 2, … , 9 } และ 𝑆 = { (𝑚, 𝑛) | 𝑚, 𝑛 ∈ 𝐴 }


ถ้ า (𝑚, 𝑛) เป็ นสมาชิกหนึง่ ตัวของ 𝑆 ที่ได้ จากการสุม่ แล้ วความน่าจะเป็ นที่ (𝑚, 𝑛) จะเป็ นจุดบน
เส้ นตรง 𝑥 − 𝑦 = 1 เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2562/29)]
9 1 11 6 13
1. 100 2. 10 3. 100 4. 50 5. 100

38. กล่องใบหนึง่ มีลกู บอล 3 สี คือ สีแดง สีนำ้ เงิน และสีขำว โดยมีลกู บอลสีแดงและสีนำ้ เงินรวมกัน 24 ลูก
และควำมน่ำจะเป็ นในกำรสุม่ หยิบลูกบอล 1 ลูก แล้วได้ลกู บอลสีตำ่ งๆ เป็ นดังนี ้
1) ควำมน่ำจะเป็ นที่จะได้ลกู บอลสีขำวเท่ำกับ 13
2) ควำมน่ำจะเป็ นที่จะได้ลกู บอลสีแดงเท่ำกับ 14
กล่องใบนีม้ ีลกู บอลสีนำ้ เงินกี่ลกู [O-NET (ก.พ. 2563/32)]
1. 5 ลูก 2. 9 ลูก 3. 10 ลูก 4. 12 ลูก 5. 15 ลูก
คลังโจทย์ 11

39. ควำมน่ำจะเป็ นที่ดวงพรจะไปดูหนังและไปซือ้ ของในวันอำทิตย์เป็ น 0.7 และ 0.6 ตำมลำดับ ถ้ำดวงพรจะทำ


กิจกรรมอย่ำงน้อย 1 อย่ำงแน่นอน แล้วควำมน่ำจะเป็ นที่ดวงพรจะทำกิจกรรมทัง้ 2 อย่ำงเท่ำกับข้อใดต่อไปนี ้
[กสพท คณิต1 (ธ.ค. 2559/9)]
1. 0.1 2. 0.2 3. 0.3 4. 0.4 5. 0.5

40. กาหนดให้ 𝐴 = { −5 , −4 , −3 , −2 , −1 , 1 , 2 , 3 , 4 , 5 }
𝑆 = { (𝑎, 𝑏) | 𝑎, 𝑏 ∈ 𝐴 }
ถ้า (𝑎, 𝑏) เป็ นสมาชิกหนึง่ ตัวของ 𝑆 ที่ได้จากการสุม่ แล้ว ความน่าจะเป็ นที่เส้นตรง 𝑦 = 𝑎𝑥 + 𝑏 ตัดกับ
เส้นตรง 𝑦 = 8𝑥 + 1 ที่จดุ (0, 1) เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2561/30)]
1 1 1 1 1
1. 100 2. 50 3. 40 4. 20 5. 10

41. จานวนเต็มบวกสามหลัก ซึง่ ไม่มเี ลขโดด 0 อยูเ่ ลย แต่มีเลขโดด 1 อย่างน้ อยหนึง่ ตัว มีจานวนทังหมดเท่
้ ากับข้ อใด
ต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2562/30)]
1. 217 2. 321 3. 421 4. 521 5. 717

42. มีหนังสือภำษำไทยต่ำงกัน 2 เล่ม ภำษำอังกฤษต่ำงกัน 3 เล่ม และคณิตศำสตร์ ตำ่ งกัน 3 เล่ม ถ้ ำจะวำงหนังสือ
เหล่ำนี ้ซ้ อนกันอยูใ่ นตังเดี
้ ยวกัน แล้ วจำนวนวิธีทจี่ ะจัดวำงให้ หนังสือวิชำเดียวกันอยูต่ ิดกันทังหมด
้ เท่ำกับข้ อใด
ต่อไปนี ้ [กสพท คณิต1 (มี.ค. 2562/9)]
1. 18 วิธี 2. 54 วิธี 3. 72 วิธี 4. 108 วิธี 5. 432 วิธี

.0123456789
12 คลังโจทย์

43. หนูทดลองตัวหนึง่ อยูใ่ นห้ องของกล่องทดลองเขำวงกตซึง่ มีช่องประตู 4 ช่อง มีหนึง่ ช่องของประตูที่มีทำงเดินที่นำหนู


ไปสูท่ ำงออกภำยนอกโดยหนูจะใช้ เวลำในกำรเดินทำง 9 วินำที ส่วนช่องประตูอีกสำมช่องที่เหลือจะนำไปสูท่ ำงเดินที่
วกกลับมำที่ห้องเดิม โดยหนูจะใช้ เวลำในทำงเดินเหล่ำนี ้เป็ นเวลำ 3, 5 และ 7 วินำทีตำมลำดับ และทุกครัง้ ที่หนู
กลับมำที่ห้องเดิมหนูจะสุม่ เข้ ำช่องประตูอีกครัง้ โดยทีก่ ำรสุม่ เลือกประตูแต่ละครัง้ จะไม่ขึ ้นกับกำรสุม่ เลือกช่องประตู
ในครัง้ ก่อนหน้ ำ จงหำควำมน่ำจะเป็ นที่หนูจะใช้ เวลำ 30 วินำทีในกำรเดินทำงออกไปสูภ่ ำยนอก
[สมำคม (พ.ย. 2560/30)]

44. ให้ 𝑆 = { −10 , −9 , −8 , … , −1 , 0 , 1 , … , 8 , 9 , 10 } สุม่ หยิบคูอ่ นั ดับ (𝑎, 𝑏) ∈ 𝑆 × 𝑆


มำ 1 คูอ่ นั ดับ ควำมน่ำจะเป็ นที่ |𝑎| + 𝑏 = 0 ตรงกับข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต1 (มี.ค. 2561/25)]
10 20 1 1 1
1. 441 2. 441 3. 21 4. 20 5. 10

45. มีฉลำกอยู่ 𝑛 + 1 ใบอยูใ่ นกล่องใบหนึง่ ฉลำกแต่ละใบมีหมำยเลข 0, 1, 2, … , 𝑛 กำกับอยู่ สุม่ หยิบฉลำกมำ


ครัง้ ละ 1 ใบ 4 ครัง้ แบบหยิบแล้วใส่คนื ถ้ำควำมน่ำจะเป็ นที่ผลบวกของเลขบนฉลำกที่หยิบได้ในสองครัง้ แรก และ
𝑎𝑛2 +𝑏𝑛+𝑐
สองครัง้ หลังมีคำ่ เท่ำกัน มีคำ่ เท่ำกับ (𝑛+1)3
จงหำค่ำของ 𝑎, 𝑏 และ 𝑐 [สมำคม (พ.ย. 2562/13)]

.0123456789
คลังโจทย์ 13

46. กล่องใบหนึง่ บรรจุลกู แก้ วสีแดง 2 ลูก ลูกแก้ วสีขำว 3 ลูก และลูกแก้ วสีเขียว 3 ลูก สุม่ หยิบลูกแก้ วออกมำจำกกล่อง
8 ครัง้ ครัง้ ละลูกโดยไม่ต้องใส่คน ื ควำมน่ำจะเป็ นที่สมุ่ หยิบลูกแก้ ว 8 ครัง้ โดยครัง้ ที่ 1 ได้ ลกู แก้ วสีขำวหรื อหยิบครัง้
ที่ 8 ไม่ได้ ลกู แก้ วสีแดง เท่ำกับข้ อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (มี.ค. 2559/29)]
1. 34 2. 58 3. 56 29

4. 78 5. 67

47. ในกำรจัดนักเรียนชำย 4 คน และนักเรียนหญิง 4 คน มำยืนเรียงเป็ นแถวตรงเพียงหนึง่ แถว ควำมน่ำจะเป็ นที่ไม่มี


นักเรียนชำยสองคนใดเลยยืนติดกัน หรือ ไม่มีนกั เรียนหญิงสองคนใดเลยยืนติดกัน มีคำ่ ตรงกับข้อใดต่อไปนี ้
[PAT 1 (ต.ค. 2558/17)]
1 1 4
1. 70 2. 35 3. 35
4. 17 5. 27

48. กาหนดให้ 𝑋 = {1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9} จงหาจานวนสับเซตของ 𝑋 ทังหมดซึ


้ ง่ สมาชิกในสับเซตนี ้มีจานวนคี่
มากกว่าจานวนคู่ [สมาคม (พ.ย. 2559/22)]

.0123456789
คลังโจทย์ 1

1. มีฉลาก 10 ใบ โดยที่ฉลากแต่ละใบเขียนเลขจานวนจาก 1 ถึง 10 โดยที่ฉลากแต่ละใบมีเพียงเลขจานวนเดียวเท่านัน้


สุม่ หยิบฉลากมา 10 ใบ จงหาความน่าจะเป็ นที่ผลต่างของจานวนที่ปรากฏบนฉลากแต่ละคูต่ ้ องมากกว่าหรื อ
เท่ากับ 2 [สมาคม (พ.ย. 2561/32)]
ตอบ 0
ข้ อนี ้ โจทย์นา่ จะผิด เพราะถ้ าสุม่ หยิบมา 10 ใบ ก็คือหยิบมาทุกใบ
ซึง่ จะมีฉลากคูท่ ตี่ า่ งกันน้ อยกว่า 2 อยูใ่ นนันอย่
้ างแน่นอน (เช่น 7 กับ 8)
เหตุการณ์ที่โจทย์สนใจ จึงเป็ นไปไม่ได้ → ความน่าจะเป็ น = 0

2. ในกล่องมีเสือ้ กีฬาจานวน 100 ตัว ซึง่ มีขนาด S, M และ L เป็ นจานวน 35, 45 และ 20 ตัว ตามลาดับ
ถ้าสุม่ หยิบเสือ้ มา 1 ตัว แล้วความน่าจะเป็ นทีจ่ ะได้เสือ้ ขนาด M หรือ L เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
[กสพท คณิต2 (มี.ค. 2561/10)]
1. 15 2. 207
3. 209 4. 1120
5. 13 20

ตอบ 5
มีเสือ้ 100 ตัว → จานวนแบบทัง้ หมด = 100 แบบ
จานวนเสือ้ ขนาด M หรือ L = 45 + 20 = 65 ตัว → จานวนแบบที่สนใจ = 65 แบบ
65 13
จะได้ความน่าจะเป็ น = 100 = 20

3. โรงเรี ยนแห่งหนึง่ มีชมรมสาหรับนักเรี ยน 3 ชมรม คือ ชมรมกีฬา ชมรมศิลปวัฒนธรรม และชมรมวิทยาศาสตร์


นักเรี ยนชันมั
้ ธยมศึกษาตอนปลายทุกคนต้ องสมัครเข้ าชมรมคนละหนึง่ ชมรม
ตารางแสดงจานวนนักเรี ยนในแต่ละชมรม เป็ นดังนี ้

จานวนนักเรี ยนในแต่ละชมรม (คน)


นักเรี ยนชัน้
กีฬา ศิลปวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์
ม. 4 85 95 120
ม. 5 125 75 100
ม. 6 95 100 105
รวม 305 270 325

ถ้ าสุม่ นักเรี ยนชันมั


้ ธยมศึกษาตอนปลายมา 1 คน ความน่าจะเป็ นที่จะได้ นกั เรี ยนที่อยูใ่ นชมรมกีฬาและไม่ใช่นกั เรี ยน
ชัน้ ม. 4 เท่ากับข้ อใด [O-NET (มี.ค. 2561/25)]
1. 13 2. 23 3. 11
45
4. 18017 61
5. 180
ตอบ 3
จานวนนักเรี ยนทังหมด
้ = 305 + 270 + 325 = 900 คน
จานวนนักเรี ยนชมรมกีฬาที่ไม่ใช่ ม.4 = กีฬา ม.5 + กีฬา ม.6 = 125 + 95 = 220 คน
จะได้ ความน่าจะเป็ น = 220
900
= 45
11

.0123456789
2 คลังโจทย์

4. อายุของพนักงานในบริษัทแห่งหนึง่ มีการแจกแจงความถี่ดงั นี ้
อายุ (ปี ) จานวนพนักงาน (คน)
20 – 29 42
30 – 39 96
40 – 49 38
50 – 59 40
60 ปี ขน
ึ ้ ไป 4

ถ้าสุม่ พนักงานมา 1 คน แล้วความน่าจะเป็ นที่พนักงานคนนี ้ จะมีอายุนอ้ ยกว่า 60 ปี เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้


[กสพท คณิต2 (มี.ค. 2563/10)]
1. 15 49
2. 55 3. 5155
4. 5255
5. 5455

ตอบ 5
จานวนพนักงานทัง้ หมด = 42 + 96 + 38 + 40 + 4 = 220 คน
พนักงานที่อายุนอ้ ยกว่า 60 ปี คือพนักงานทุกคนที่ไม่ใช่ 4 คนที่อยูใ่ นชัน้ ล่างสุด ซึง่ จะมี 220 − 4 = 216 คน
จะได้ความน่าจะเป็ น = 216220
54
= 55

5. ตำรำงแสดงผลกำรสำรวจวันที่ออกกำลังกำยในแต่ละสัปดำห์ของนักศึกษำกลุม่ หนึง่ จำแนกตำมระดับกำรศึกษำ


จำนวนวันที่ออกกำลังกำย จำนวนนักศึกษำ (คน)
ต่อสัปดำห์ ปริญญำตรี สูงกว่ำปริญญำตรี
น้อยกว่ำ 3 วัน 45 25
3 วัน ถึง 5 วัน 20 20
มำกกว่ำ 5 วัน 25 15

หำกสุม่ นักศึกษำจำกกลุม่ นีม้ ำหนึง่ คน ควำมน่ำจะเป็ นทีจ่ ะได้นกั ศึกษำระดับปริญญำตรีที่


ออกกำลังกำย ไม่ เกิน 5 วันต่อสัปดำห์ เท่ำกับใด [O-NET (ก.พ. 2563/29)]
1. 13
30
2. 15 2
3. 11
15
4. 103
5. 3
5

ตอบ 1
จำนวนนักศึกษำทัง้ หมด = 45 + 20 + 25 + 25 + 20 + 15 = 150 คน
ไม่เกิน 5 วัน จะได้จำกช่อง “น้อยกว่ำ 3 วัน” รวมกับช่อง “3 วันถึง 5 วัน”
จะได้จำนวนนักศึกษำ ป. ตรี ที่ออกกำลังไม่เกิน 5 วัน = 45 + 20 = 65
65 13
จะได้ควำมน่ำจะเป็ น = 150 = 30

.0123456789
คลังโจทย์ 3

6. จุกและปอเป็ นพนักงำนบัญชีประจำสำนักงำนใหญ่ของบริษัทแห่งหนึง่ ซึง่ มีสำขำอยูท่ งั้ หมด 4 สำขำ จุกและปอต้อง


เลือกสำขำ คนละหนึง่ สำขำ เพื่อไปตรวจสอบบัญชี โดยทัง้ สองคนไม่ตรวจสอบบัญชีของสำขำเดียวกัน
จำนวนวิธีที่จกุ และปอเลือกสำขำที่แตกต่ำงกันมีได้ทงั้ หมดกี่วิธี [O-NET (ก.พ. 2563/30)]
1. 7 วิธี 2. 8 วิธี 3. 12 วิธี 4. 16 วิธี 5. 24 วิธี
ตอบ 3
จะแบ่งงำนเป็ น 2 ขัน้ ตอน ดังนี ้
ขัน้ ตอนที่ 1 : เลือกสำขำให้จกุ จำกสำขำที่มีทงั้ หมด จะเลือกได้ 4 แบบ
ขัน้ ตอนที่ 2 : เลือกสำขำให้ปอ โดยต้องไม่ใช่สำขำทีเ่ ลือกให้จกุ จะมีสำขำเหลือให้เลือกได้ 3 แบบ
จะได้จำนวนแบบทัง้ หมด = 4 × 3 = 12 แบบ

7. ถ้ าโยนเหรี ยญเที่ยงตรงเหรี ยญหนึง่ 4 ครัง้ แล้ วจานวนสมาชิกของเหตุการณ์ที่เหรียญจะออก หัว 2 ครัง้ และ


ก้ อย 2 ครัง้ เท่ากับเท่าใด [O-NET (ก.พ. 2560/31)]
1. 2 2. 3 3. 4 4. 5 5. 6
ตอบ 5
จานวนแบบ จะเท่ากับจานวนแบบในการเรี ยง H , H , T , T
4!
ใช้ สตู รเรียงของซ ้า จะได้ จานวนแบบ = 2!2! = 6

8. หมูบ่ ้ านแห่งหนึง่ มี 35 ครัวเรื อน จากการสารวจ พบว่า 25 ครัวเรื อน มีรถกระบะ


20 ครัวเรื อน มีจกั รยานยนต์
15 ครัวเรื อน มีรถกระบะและจักรยานยนต์
ถ้ าสุม่ มาหนึง่ ครัวเรื อน แล้ วความน่าจะเป็ นที่จะสุม่ ได้ ครัวเรื อนที่ไม่มีรถกระบะและไม่มจี กั รยานยนต์ เท่ากับเท่าใด
[O-NET (ก.พ. 2560/32)]
1. 17 2. 27 3. 37 4. 57 5. 67
ตอบ 1
กระบะ จยย
15 ครัว มีรถกระบะและจักรยานยนต์ → ตรงกลาง = 15 15

25 ครัว มีรถกระบะ → วงกระบะ = 25


กระบะ จยย
แต่ตรงกลาง ไปแล้ ว 15 เหลือซีกซ้ าย = 25 − 15 = 10 10 15 5
20 ครัว มีจกั รยานยนต์ (จยย) → วง จยย = 20
แต่ตรงกลาง ไปแล้ ว 15 เหลือซีกขวา = 20 − 15 = 5
กระบะ จยย
10 15 5
ทังหมด
้ = 35 ครัว → เหลือข้ างนอก = 35 − (10 + 15 + 5) = 5 5

5 1
ดังนัน้ มี 5 ครัวเรื อน ที่ไม่มีรถกระบะและไม่มีจกั รยานยนต์ → ความน่าจะเป็ น = 35
= 7

.0123456789
4 คลังโจทย์

9. กาหนดให้ 𝑆 = { −9 , −8 , −7 , … , −1 , 0 , 1 , 2 , 3 , 4 , 5 }
ถ้ า 𝑎 เป็ นสมาชิกหนึง่ ตัวของ 𝑆 ที่ได้ จากการสุม่ แล้ วความน่าจะเป็ นที่ |𝑎| + 𝑎 = 0 เท่ากับข้ อใด
[O-NET (มี.ค. 2561/26)]
1. 23 2. 35 3. 25 4. 13 5. 1
5

ตอบ 1
จานวนแบบทังหมด้ : 𝑆 มีสมาชิก 5 − (−9) + 1 = 15 ตัว → จานวนแบบทังหมด ้ = 15
จานวนแบบที่ |𝑎| + 𝑎 = 0 : จะแบ่งกรณีนบั
กรณี 𝑎 เป็ นลบ : จะเห็นว่า |𝑎| จะกลายเป็ นบวก ดังนัน้ 𝑎 ที่เป็ นลบ จะหักล้ างกับ |𝑎| เป็ น 0 ได้
กรณี 𝑎 = 0 : จะได้ |0| + 0 = 0 จริ ง
กรณี 𝑎 เป็ นบวก : จะเห็นว่าทัง้ 𝑎 และ |𝑎| เป็ นบวกทังคู
้ ่ จะเป็ นไปไม่ได้ ที่ |𝑎| + 𝑎 = 0
จะได้ 𝑎 ต้ องเป็ นลบหรื อ 0 เท่านัน้ → จะได้ จานวนแบบ = 0 − (−9) + 1 = 10 แบบ
จะได้ ความน่าจะเป็ น = 10 15
=
2
3

10. กล่องใบหนึง่ บรรจุสลาก 5 ใบ ที่มีหมายเลข 1, 3, 5, 7, 9 ใบละหนึง่ หมายเลข ถ้ าสุม่ หยิบสลากในกล่องนี ้ขึ ้นมา
สองใบ โดยหยิบทีละใบแบบไม่ใส่คืน แล้ วนาหมายเลขที่ได้ มาประกอบเป็ นจานวนสองหลัก โดยหมายเลขบนสลาก
ใบแรกเป็ นเลขโดดในหลักสิบ และหมายเลขบนสลากใบที่สองเป็ นเลขโดดในหลักหน่วย ความน่าจะเป็ นที่จะได้
จานวนสองหลักที่น้อยกว่า 60 เท่ากับข้ อใด [O-NET (มี.ค. 2561/27)]
3
1. 10 2. 25 3. 12 4. 35 5. 34
ตอบ 4
จานวนแบบทังหมด
้ : มีสลาก 5 ใบ → ใบแรก หยิบได้ 5 แบบ
หยิบแบบไม่ใส่คืน → ตอนหยิบใบที่สอง จะเหลือสลาก 4 ใบ → ใบที่สองหยิบได้ 4 แบบ
จะได้ จานวนแบบทังหมดคื
้ อ 5 × 4 = 20 แบบ
จานวนแบบที่น้อยกว่า 60 : หลักสิบต้ องเป็ น 1, 3, 5 เท่านัน้ ส่วนหลักหน่วยเป็ นอะไรก็ได้
ดังนัน้ ใบแรกทีเ่ ป็ นหลักสิบ จะหยิบได้ 3 แบบ
ตอนหยิบใบที่สอง จะเหลือสลาก 4 ใบ → ใบที่สองหยิบได้ 4 แบบ
จะได้ จานวนแบบที่น้อยกว่า 60 คือ 3 × 4 = 12 แบบ
จะได้ ความน่าจะเป็ น = 20 = 35
12

11. นักเรี ยนห้ องหนึง่ ได้ ตกลงกันว่า แต่ละคนจะทาการ์ ดอวยพรวันปี ใหม่และส่งให้ เพื่อนๆ ในห้ องทุกคน ถ้ านักเรี ยนทุก
คนในห้ องนี ้ทาตามข้ อตกลง และมีบตั รอวยพรที่สง่ ให้ กนั ทังหมด
้ 1,722 ใบ แล้ วห้ องนี ้มีนกั เรี ยนกี่คน
[O-NET (มี.ค. 2561/36)]

ตอบ 42
สมมติให้ ในห้ องมี 𝑛 คน → แต่ละคนต้ องส่งการ์ ด 𝑛 − 1 ใบ (ส่งให้ คนอื่นทุกคน ยกเว้ นตัวเอง)
ดังนัน้ จะมีการ์ ดทังหมด
้ 𝑛(𝑛 − 1) ใบ
โจทย์บอกว่ามีการ์ ด 1722 ใบ ดังนัน้ ต้ องแก้ สมการ 𝑛(𝑛 − 1) = 1722
เนื่องจาก 𝑛 เป็ นจานวนคน ต้ องเป็ นจานวนเต็ม → จะใช้ วิธีลองแทนค่า
𝑛 = 40 : 𝑛(𝑛 − 1) = 40(39) = 1560 
𝑛 = 41 : 𝑛(𝑛 − 1) = 41(40) = 1640 
𝑛 = 42 : 𝑛(𝑛 − 1) = 42(41) = 1722 
จะได้ จานวนนักเรี ยนในห้ อง คือ 42 คน
.0123456789
ตอบ 42
สมมติให้ ในห้ องมี 𝑛 คน → แต่ละคนต้ องส่งการ์ ด 𝑛 − 1 ใบ (ส่งให้ คนอื่นทุกคน ยกเว้ นตัวเอง)
ดังนัน้ จะมีการ์ ดทังหมด
้ 𝑛(𝑛 − 1) ใบ คลังโจทย์ 5
โจทย์บอกว่ามีการ์ ด 1722 ใบ ดังนัน้ ต้ องแก้ สมการ 𝑛(𝑛 − 1) = 1722
เนื่องจาก 𝑛 เป็ นจานวนคน ต้ องเป็ นจานวนเต็ม → จะใช้ วิธีลองแทนค่า
𝑛 = 40 : 𝑛(𝑛 − 1) = 40(39) = 1560 
𝑛 = 41 : 𝑛(𝑛 − 1) = 41(40) = 1640 
𝑛 = 42 : 𝑛(𝑛 − 1) = 42(41) = 1722 
จะได้ จานวนนักเรี ยนในห้ อง คือ 42 คน

12. ตารางแสดงจานวนลูกปิ งปองสีสม้ และจานวนลูกปิ งปองทัง้ หมดในถุงห้าใบ


ถุงใบที่ จานวนลูกปิ งปองสีสม้ (ลูก) จานวนลูกปิ งปองทัง้ หมด (ลูก)
1 50 75
2 55 66
3 60 80
4 66 77
5 80 100

การสุม่ หยิบลูกปิ งปอง 1 ลูกจากถุงใบใด มีโอกาสได้ลกู ปิ งปองสีสม้ มากที่สดุ [O-NET (มี.ค. 2562/29)]
1. ถุงใบที่ 1 2. ถุงใบที่ 2 3. ถุงใบที่ 3 4. ถุงใบที่ 4 5. ถุงใบที่ 5
ตอบ 4
จานวนลูกสีสม้ 50 55 60 66 80
ความน่าจะเป็ นที่จะได้สสี ม้ =
จานวนลูกทัง้ หมด
→ ต้องดูวา่ 75
, 66
, 80
, ,
77 100
ค่าไหนมากที่สดุ
2 5 3 6 4
3
, 6
, 4
, 7
, 5 → ครัง้ ที่ 4 มากที่สดุ

13. กาหนดให้ 𝑆 = { 1 , 2 , 3 , … , 98 , 99 } ถ้าสุม่ หยิบจานวนจาก 𝑆 มาหนึง่ จานวน แล้วความน่าจะเป็ น


ที่จะได้จานวนคูท่ มี่ ีเลขโดด 6 อยู่ เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2563/30)]
1. 1299
2. 13
99
3. 1499
4. 15
99
5. 16
99

ตอบ 3
𝑆 มีสมาชิก 99 จานวน → จานวนแบบทัง้ หมด = 99 แบบ
จานวนเลขคูท่ ี่มี 6 อยู่ จะมี 6 เป็ นหลักหน่วย : 6 , 16 , 26 , 36 , 46 , 56 , 66 , 76 , 86 , 96 → 10 แบบ
6 เป็ นหลักสิบ : 60 , 62 , 64 , 68 (ไม่นบ
ั 66 ที่เคยนับไปแล้ว) → 4 แบบ
รวมทัง้ สองกรณี จะได้จานวนแบบ = 10 + 4 = 14 แบบ → จะได้ความน่าจะเป็ น = 14 99

14. ร้ำนค้ำจัดรำยกำรสมนำคุณให้แก่ลกู ค้ำ โดยให้ลกู ค้ำสุม่ หยิบสลำก 1 ใบ จำกกล่องซึง่ มีสลำกทัง้ หมด 40 ใบ ดังนี ้
สลำกสีขำว 20 ใบ เป็ น สลำกหมำยเลข 1 , 2 , 3 , … , 19 , 20
และ สลำกสีแดง 20 ใบ เป็ น สลำกหมำยเลข 21 , 22 , 23 , … , 39 , 40
ลูกค้ำที่หยิบได้สลำกสีขำวทีม่ ีหมำยเลขมำกกว่ำ 15 หรือ หยิบได้สลำกสีแดงที่มีหมำยเลขเป็ นจำนวนคู่ จะได้รบั ของ
สมนำคุณจำกทำงร้ำนค้ำ ควำมน่ำจะเป็ นที่ลกู ค้ำคนแรกสุม่ หยิบสลำกแล้วได้รบั ของสมนำคุณเท่ำกับเท่ำใด
[O-NET (ก.พ. 2563/31)]
1. 14 2. 38 3. 25 4. 58 5. 78
ตอบ 2
จำนวนแบบทัง้ หมด = จำนวนสลำกทัง้ หมด = 40 แบบ
จำนวนแบบที่สนใจ = จำนวนสลำกสีขำวที่มำกกว่ำ 15 + จำนวนสลำกสีแดงทีเ่ ป็ นเลขคู่
สีขำวที่มำกกว่ำ 15 จะมี 16 , 17 , 18 , 19 , 20 รวม 5 แบบ
20
สีแดงที่เป็ นคู่ จะมีครึง่ หนึง่ ของสลำกสีแดงทัง้ หมด (เพรำะสลำกสลับ คี่ , คู่ , คี่ , คู่ , … , คู)่ →
2
= 10 แบบ
จะได้ควำมน่ำจะเป็ น = 5 +4010 = 15 40
= 8
3

.0123456789
6 คลั
ตอบ
งโจทย์2
จำนวนแบบทัง้ หมด = จำนวนสลำกทัง้ หมด = 40 แบบ
จำนวนแบบที่สนใจ = จำนวนสลำกสีขำวที่มำกกว่ำ 15 + จำนวนสลำกสีแดงทีเ่ ป็ นเลขคู่
สีขำวที่มำกกว่ำ 15 จะมี 16 , 17 , 18 , 19 , 20 รวม 5 แบบ
20
สีแดงที่เป็ นคู่ จะมีครึง่ หนึง่ ของสลำกสีแดงทัง้ หมด (เพรำะสลำกสลับ คี่ , คู่ , คี่ , คู่ , … , คู)่ →
2
= 10 แบบ
จะได้ควำมน่ำจะเป็ น = 5 +4010 = 15 40
= 8
3

15. กล่องใบหนึง่ มีถำ่ นไฟฉำยอยูท่ งั้ หมด 500 ก้อน เป็ นถ่ำนไฟฉำยดี จำนวน 420 ก้อน เป็ นถ่ำนไฟฉำยเสีย
จำนวน 80 ก้อน ถ้ำนำวินคัดถ่ำนไฟฉำยเสียออกไปจำกกล่องจำนวนหนึง่ แล้วพบว่ำ เมื่อสุม่ หยิบ
ถ่ำนไฟฉำย 1 ก้อน จำกถ่ำนไฟฉำยที่เหลือในกล่อง ควำมน่ำจะเป็ นที่จะได้ถ่ำนไฟฉำยดี เท่ำกับ 78
นำวินคัดถ่ำนไฟฉำยเสียออกไปกี่กอ้ น [O-NET (ก.พ. 2563/40)]
ตอบ 20
สมมติให้คดั ถ่ำนเสียออกไป 𝑥 ก้อน → จะเหลือถ่ำน 500 − 𝑥 ก้อน
มีถ่ำนดี 420 ก้อน → ควำมน่ำจะเป็ นที่จะหยิบได้ถำ่ นดี = 500420− 𝑥 = 7
8
60 1
=
500 − 𝑥 8
480 = 500 − 𝑥
𝑥 = 20

16. มีเลขโดด −3 , −2 , −1 , 0 , 1 , 2 , 3 ถ้ าสุม่ เลขโดดนี ้มาสองจานวน แล้ วความน่าจะเป็ นทีจ่ ะได้


เลขโดด 𝑚, 𝑛 ซึง่ |𝑚 − 𝑛| = 2 เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2558/26)]
2 3 4
1. 21 2. 21 3. 21
5 6
4. 21 5. 21
ตอบ 4
|𝑚 − 𝑛| = 2 แปลว่า สองจานวนนันห่
้ างกัน 2
นับเอา จะมี (−3, −1), (−2, 0), (−1, 1) , (0, 2) , (1, 3) → ทังหมด
้ 10 แบบ
(−1, −3), (0, −2), (1, −1) , (2, 0) , (3, 1)
จานวนแบบทังหมด ้ : มีเลข 7 ตัว สุม
่ ตัวแรกได้ 7 แบบ
→ จานวนแบบทังหมด
้ = 7 × 6 แบบ
เหลือ 6 ตัว สุม่ ตัวที่สองได้ 6 แบบ
10 5
ดังนัน้ จะได้ ความน่าจะเป็ น = 7×6 =
21

.0123456789
คลังโจทย์ 7

17. กาหนดเส้ นทางจาก X ไปยัง Y เป็ นไปตามลูกศรของแผนภาพต่อไปนี ้ X


จานวนวิธีในการเดินทางจาก X ไปยัง Y มีทงหมดเท่
ั้ ากับข้ อใดต่อไปนี ้
[กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2559/9)] A B C

1. 3 2. 4 D E
3. 5 4. 6
Y
5. 7
ตอบ 4
เขียนนับ จะได้ 6 แบบ ดังนี ้
X X X X X X

A A B B B B C C

D D D E E E

Y Y Y Y Y Y

หรื อจะนับจานวนแบบย้ อนจากปลายทางมารวมกันก็ได้ (จานวนแบบที่ต้นลูกศร = จานวนแบบที่ปลายลูกศร รวมกัน)


6

1 1 1 4 1 1 4 1

1 1 1 1 1 1 1 1

1 1 1 1 1

18. ข้ อสอบแบบเลือกตอบคาตอบชุดหนึง่ มี 5 ข้ อ แต่ละข้ อมี 5 ตัวเลือก และมีตวั เลือกที่ถกู เพียงตัวเลือกเดียว


ถ้ านายสบโชคเดาคาตอบแต่ละข้ ออย่างสุม่ ข้ อละ 1 ตัวเลือก ความน่าจะเป็ นที่นายสบโชคจะเดาคาตอบผิดหมด
ทุกข้ อเท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2559/10)]
1 5 1 5 2 5 3 5 4 5
1. (5) 2. (4) 3. (5) 4. (5) 5. (5)

ตอบ 5
จานวนแบบทังหมด
้ : มี 5 ข้ อแต่ละข้ อเลือกได้ ข้อละ 5 แบบ → จานวนแบบทังหมด ้ = 5 × 5 × 5 × 5 × 5 = 55
จานวนแบบที่ผิดหมด : มี 5 ข้ อ แต่ละข้ อมีตวั เลือกทีถ่ กู ตัวเลือกเดียวเดียว → อีก 4 ตัวเลือก คือผิด
ดังนัน้ แต่ละข้ อมีวิธีผิดได้ 4 แบบ → จานวนแบบที่ผิดหมด = 4 × 4 × 4 × 4 × 4 = 45
45 4 5
จะได้ ความน่าจะเป็ นที่ผิดหมด = 55
= (5)

19. สลาก 25 ใบ มีหมายเลข 1 ถึง 25 กากับใบละ 1 หมายเลขโดยไม่ซ ้ากัน ถ้ าสลากถูกสุม่ ขึ ้นมา 1 ใบ


ความน่าจะเป็ นที่จะได้ สลากหมายเลขที่หารด้ วย 2 หรื อ 5 ลงตัว เท่ากับเท่าใด [O-NET (ก.พ. 2560/40)]
ตอบ 0.60
เลขไม่เยอะ จะเขียนนับเอาเลยก็ได้ → จะเห็นว่ามี 15 ตัว ที่หารด้ วย 2 หรื อ 5 ลงตัว
1 2 23 4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25
24
หรื อถ้ าจะคานวณ → จานวนที่หารด้ วย 2 ลงตัว (= เลขคู)่ จะมี 2, 4, 6, … , 24 มีทงหมด
ั้ 2
= 12 จานวน

.0123456789 → จานวนที่หารด้ วย 5 ลงตัว ที่ไม่ใช่เลขคู่ จะมี 5, 15, 25 มี 3 จานวน


เลขไม่เยอะ จะเขียนนับเอาเลยก็ได้ → จะเห็นว่ามี 15 ตัว ที่หารด้ วย 2 หรื อ 5 ลงตัว
1 2 23 4 5 6 7 8 9 10
8 คลั11
งโจทย์ 12 13 14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25
24
หรื อถ้ าจะคานวณ → จานวนที่หารด้ วย 2 ลงตัว (= เลขคู)่ จะมี 2, 4, 6, … , 24 มีทงหมด
ั้ 2
= 12 จานวน
→ จานวนที่หารด้ วย 5 ลงตัว ที่ไม่ใช่เลขคู่ จะมี 5, 15, 25 มี 3 จานวน
→ รวมได้ 15 จานวน
15
ดังนัน้ ความน่าจะเป็ น = 25
= 0.6

20. วันทามีธนบัตรหนึง่ พันบาท 3 ฉบับ และธนบัตรห้ าร้ อยบาท 2 ฉบับ ถ้ าวันทาสุม่ หยิบธนบัตรขึ ้นมา 2 ฉบับพร้ อมกัน
แล้ วความน่าจะเป็ นที่ธนบัตร 2 ฉบับนี ้ จะมีมลู ค่ารวมกันมากกว่า 1,200 บาท เท่ากับเท่าใด
[O-NET (มี.ค. 2561/40)]

ตอบ 0.9
จานวนแบบทังหมด
้ : มีธนบัตรทังหมด
้ 5 ฉบับ หยิบฉบับแรกได้ 5 แบบ หยิบฉบับที่สองได้ 4 แบบ
หยิบ 2 ฉบับพร้ อมกัน (พ1, ห1) กับ (ห1, พ1) นับเป็ นแบบเดียว จานวนแบบจะลดลงครึ่งหนึง่
5×4
จะได้ จานวนแบบทังหมด
้ = 2 = 10 แบบ

จานวนแบบที่ได้ มากกว่า 1,200 บาท : จะเห็นว่าแบบการหยิบเกือบทุกแบบ จะได้ มากกว่า 1,200 บาท


ยกเว้ น 1 แบบเท่านัน้ คือหยิบได้ ห้ าร้ อยทังสองใบ

นับแบบตรงข้ าม จะได้ จานวนแบบที่ต้องการ = 10 − 1 = 9 แบบ
9
จะได้ ความน่าจะเป็ น = 10 = 0.9

21. กล่องใบหนึง่ มีสลากอยูห่ า้ ใบ คือ สลากหมายเลข 1 , 2 , 3 , 4 และ 5 ถ้าสุม่ หยิบสลากจากกล่องนีข้ นึ ้ มาสอง


ใบพร้อมกัน เหตุการณ์ในข้อใดมีโอกาสเกิดขึน้ ได้นอ้ ยที่สดุ [O-NET (มี.ค. 2562/31)]
1. ได้สลากหมายเลขคี่ทงั้ สองใบ 2. ได้สลากที่มีหมายเลขต่างกันอยู่ 3
3. ได้สลากที่มีหมายเลขน้อยกว่า 4 ทัง้ สองใบ 4. ได้สลากที่มีผลรวมของหมายเลขมากกว่า 5
5. ได้สลากที่มีผลรวมของหมายเลขเป็ นจานวนเฉพาะ
ตอบ 2
1. จะมี 13, 15, 35 2. จะมี 14, 25 3. จะมี 12, 13, 23
4. จะมี 15, 24, 25, … เยอะ 5. จะมี 12, 14, 23, … เยอะ
จะเห็นว่าข้อ 2 จะมีจานวนแบบน้อยที่สดุ จึงมีโอกาสเกิดน้อยที่สดุ

22. โรงเรียน 3 โรง ส่งตัวแทนนักเรียนมาโรงละ 2 คน เป็ นชาย 1 คน หญิง 1 คน ในจานวนตัวแทนนักเรียน 6 คนนี ้


ถ้าสุม่ นักเรียน 1 คน เพื่อถือพาน และสุม่ นักเรียนอีก 1 คน จากนักเรียนที่เหลือเพื่อร้องเพลง แล้วความน่าจะเป็ นที่
จะได้นกั เรียน 2 คนนีเ้ ป็ นเพศเดียวกันเท่ากับเท่าใด [O-NET (มี.ค. 2562/32)]
1. 15 2. 13 3. 25 4. 12 5. 23
ตอบ 3
คนถือพาน จะเป็ นใครก็ได้ ขอแค่คนที่สองต้องเป็ นเพศเดียวกับคนถือพาน
ตอนเลือกคนที่สอง จะเหลือคนให้เลือก 5 คน (หักคนถือพานไป 1 คน)
2
และใน 5 คนนัน้ จะมีแค่ 2 คน ที่เป็ นเพศเดียวกับคนถือพาน → จะได้ความน่าจะเป็ น = 5
(มีเพศละ 3 คน หักคนถือพานออก จะเหลือนักเรียนเพศเดียวกับคนถือพาน 2 คน)

.0123456789
คลังโจทย์ 9

23. คุณครูจบั สลากรายชื่อนักเรียน 4 คน ได้แก่ กล้วย ชมพู่ ส้ม และองุ่น เพื่อจัดลาดับการนาเสนอผลงาน


ถ้าคุณครูสมุ่ หยิบสลากครัง้ ละ 1 ใบ โดยไม่ใส่คืน จนครบ 4 ใบ แล้วเหตุการณ์ที่ได้สลากที่มชี ื่อส้มจากการหยิบ
ครัง้ ที่หนึง่ มีสมาชิกอยูท่ งั้ หมดกี่ตวั [O-NET (มี.ค. 2562/40)]
ตอบ 6
แบ่งงานการจับสลากเป็ น 4 ขัน้ ตอน : ครัง้ ที่ 1 ต้องเป็ นส้มเท่านัน้ → เลือกได้ 1 แบบ
ครัง้ ที่ 2 เหลือคนที่ไม่ใช่สม้ 3 คน → เลือกได้ 3 แบบ
ครัง้ ที่ 3 เหลือ 2 คนที่ยงั ไม่ถกู หยิบ → เลือกได้ 2 แบบ
ครัง้ ที่ 4 เหลือ 1 คนที่ยงั ไม่ถกู หยิบ → เลือกได้ 1 แบบ
ดังนัน้ จานวนแบบที่ได้สม้ ในครัง้ ที่หนึง่ = 1 × 3 × 2 × 1 = 6 แบบ

24. กล่องใบหนึง่ บรรจุลกู บอลสีขาว 6 ลูก สีแดง 7 ลูก และ สีฟา้ 8 ลูก ถ้ าสุม่ หยิบลูกบอลจากกล่อง 2 ครัง้
ครัง้ ละ 1 ลูก โดยหยิบแล้ วไม่ใส่ลกู บอลกลับคืน ความน่าจะเป็ นที่จะได้ ลกู บอลสีฟา้ ทังสองลู
้ กเท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
[กสพท คณิต2 (มี.ค. 2562/10)]
2
1. 15 2. 15 7
3. 30 4. 15 4
5. 13
ตอบ 1
จานวนแบบทังหมด
้ : มีลกู บอลทังหมด
้ 6 + 7 + 8 = 21 ลูก → ครัง้ แรกหยิบได้ 21 แบบ
→ ครัง้ ที่สอง จะเหลือ 20 ลูก → หยิบได้ 20 แบบ
จะได้ จานวนแบบทังหมด
้ = 21 × 20 แบบ
จานวนแบบที่สนใจ : มีลกู บอลสีฟา้ 8 ลูก → ครัง้ แรกหยิบได้ 8 แบบ
→ ครัง้ ที่สอง จะเหลือบอลสีฟา้ 7 ลูก → หยิบได้ 7 แบบ
จะได้ จานวนแบบที่สนใจ = 8 × 7 แบบ
8×7 2
จะได้ ความน่าจะเป็ น = 21×20 =
15

25. ในการทอดลูกเต๋าสองลูกพร้ อมกัน ความน่าจะเป็ นที่ลกู เต๋าทังสองมี


้ แต้ มที่เรี ยงติดกัน เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
[กสพท คณิต2 (มี.ค. 2562/28)]
1. 16 2. 29 3. 18 5
4. 13 5. 18 7

ตอบ 3
ทอดลูกเต๋า 2 ลูก แต่ละลูกออกได้ 6 แบบ → จานวนแบบทังหมด ้ = 6 × 6 = 36 แบบ
แบบที่ได้ แต้ มเรียบติดกัน จะมี 12 , 23 , 34 , 45 , 56 ทังหมด
้ 10 แบบ
21 , 32 , 43 , 54 , 65
10 5
จะได้ ความน่าจะเป็ น = 36
= 18

26. จำนวนเต็มที่อยูร่ ะหว่ำง 1,000 และ 6,000 ซึง่ มีเลขโดดแต่ละหลักเป็ นเลขคี่ที่แตกต่ำงกัน มีจำนวนทัง้ หมด
เท่ำกับข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต1 (มี.ค. 2563/10)]
1. 24 2. 36 3. 64 4. 72 5. 144
ตอบ 4
ต้องอยูร่ ะหว่ำง 1,000 และ 6,000 → เป็ นจำนวน 4 หลัก ที่หลักพันเป็ น 1, 3, 5 ได้เท่ำนัน้ → เลือกได้ 3 แบบ
หลักร้อย ต้องเป็ นเลขคี่ 1, 3, 5, 7, 9 และต้องไม่ซำ้ กับหลักพัน → เหลือให้เลือกได้ 4 แบบ
หลักสิบ ต้องเป็ นเลขคี่ 1, 3, 5, 7, 9 และต้องไม่ซำ้ กับ 2 หลักที่ผำ่ นมำ → เหลือให้เลือกได้ 3 แบบ
.0123456789 หลักหน่วย ต้องเป็ นเลขคี่ 1, 3, 5, 7, 9 และต้องไม่ซำ้ กับ 3 หลักที่ผำ่ นมำ → เหลือให้เลือกได้ 2 แบบ
ตอบ 4
ต้องโจทย์
10 คลั งอยูร่ ะหว่ำง 1,000 และ 6,000 → เป็ นจำนวน 4 หลัก ที่หลักพันเป็ น 1, 3, 5 ได้เท่ำนัน้ → เลือกได้ 3 แบบ
หลักร้อย ต้องเป็ นเลขคี่ 1, 3, 5, 7, 9 และต้องไม่ซำ้ กับหลักพัน → เหลือให้เลือกได้ 4 แบบ
หลักสิบ ต้องเป็ นเลขคี่ 1, 3, 5, 7, 9 และต้องไม่ซำ้ กับ 2 หลักที่ผำ่ นมำ → เหลือให้เลือกได้ 3 แบบ
หลักหน่วย ต้องเป็ นเลขคี่ 1, 3, 5, 7, 9 และต้องไม่ซำ้ กับ 3 หลักที่ผำ่ นมำ → เหลือให้เลือกได้ 2 แบบ
จะได้จำนวนแบบ = 3 × 4 × 3 × 2 = 72 แบบ

27. กาหนดให้ 𝐴 = {1, 2, 3} 𝐵 = {4, 5, 6, 7}


𝑆 = { (𝑎, 𝑏) | 𝑎 ∈ 𝐴 และ 𝑏 ∈ 𝐵 }
ถ้า (𝑎, 𝑏) เป็ นสมาชิกหนึง่ ตัวของ 𝑆 ที่ได้จากการสุม่ แล้วความน่าจะเป็ นที่ 𝑏 = 2𝑎 เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
[กสพท คณิต2 (มี.ค. 2563/28)]
1
1. 10 2. 18 3. 17 4. 16 5. 1
5

ตอบ 4
จานวนแบบทัง้ หมด: 𝐴 มีสมาชิก 3 ตัว → เลือก 𝑎 ได้ 3 แบบ
𝐵 มีสมาชิก 4 ตัว → เลือก 𝑏 ได้ 4 แบบ → จะได้จานวนแบบ = 3 × 4 แบบ
จานวนแบบที่ตอ้ งการ: 𝑎 เป็ นได้แค่ 1, 2, 3 ดังนัน้ 2𝑎 คือ 2, 4, 6 แต่ 2 ใช้ไม่ได้ เพราะไม่อยูใ่ น 𝐵
จะเหลือ 𝑎 = 2 , 𝑏 = 4 กับ 𝑎 = 3 , 𝑏 = 6 แค่ 2 แบบ
2 1
จะได้ความน่าจะเป็ น = 3×4 = 6

28. กาหนดให้ 𝑆 คือเซตของจานวนนับที่มี 4 หลัก ซึง่ ประกอบขึน้ จากเลขโดด 1 , 2 , 3 , 4


และ 𝐴 = { 𝑛 ∈ 𝑆 | 𝑛 มีเลขโดด 3 ปรากฏอยูอ่ ย่างน้อยหนึง่ หลัก }
จานวนสมาชิกของ 𝐴 มีทงั้ หมดเท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2563/29)]
1. 61 2. 150 3. 175 4. 244 5. 247
ตอบ 3
นับแบบตรงข้าม (คือแบบที่ไม่มี 3 เลย) จะง่ายกว่า แล้วค่อยเอามาหักออกจากจานวนแบบทัง้ หมด
แบบที่ไม่มี 3 คือมีแต่ 1, 2, 4 → เลือกได้หลักละ 3 แบบ และมี 4 หลัก → จะได้จานวนแบบ = 34 แบบ
จานวนแบบทัง้ หมด คือมี 1, 2, 3, 4 → จะเลือกได้หลักละ 4 แบบ และมี 4 หลัก → จะได้จานวนแบบ = 44 แบบ
จะได้จานวนแบบที่มี 3 อย่างน้อยหนึง่ หลัก = 44 − 34 = 256 − 81 = 175 แบบ

29. กล่องใบหนึง่ มีผ้ารูปสีเ่ หลีย่ ม 8 ผืน ซึง่ มีความกว้ างและยาว (ฟุต) ดังนี ้
{1, 2} , {2, 3} , {3, 4} , {4, 5} , {2, 4} , {4, 6} , {6, 8} , {8, 10}
ถ้ าสุม่ หยิบ 1 ผืนจากกล่องใบนี ้ แล้ วความน่าจะเป็ นที่ความยาวของเส้ นทแยงมุมของผ้ าผืนนี ้เป็ นจานวนเต็ม
เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2558/9)]
1. 18 2. 28 3. 3
8
4. 48 5. 58
ตอบ 2
จะใช้ พีทากอรัส ไล่หาเส้ นทแยงมุมของแต่ละผืนก็ได้ หรื อถ้ าท่องด้ านชุดพีทากอรัสได้ จะเห็นว่ามี {3, 4} → 5 และ
{6, 8} → 10 จานวน 2 ผืนเท่านัน้ (จากทังหมด
้ 8 ผืน) ที่มีอยูใ่ นด้ านชุด → แสดงว่าด้ านที่เหลือของผืนอื่นๆ จะไม่เป็ น
2
จานวนเต็ม → ดังนัน้ จะได้ ความน่าจะเป็ น = 8

.0123456789
คลังโจทย์ 11

30. มีรูปวงกลม รูปสามเหลีย่ ม รูปสีเ่ หลีย่ ม รูปห้ าเหลีย่ ม และรูปหกเหลีย่ ม อย่างละ 1 รูป ดังภาพ

มีสี 4 สี คือ สีฟา้ สีแดง สีเขียว และสีเหลือง ต้ องการระบายสีรูปทัง้ 5 รูปนี ้ รูปละ 1 สี โดยจะใช้ สซี ้าหรื อไม่ก็ได้
และใช้ สคี รบหรื อไม่ก็ได้ แต่ต้องมีรูปสีฟา้ ด้ วยเสมอ จานวนวิธีทจี่ ะระบายสีมีทงหมด
ั้ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
[กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2558/25)]
1. 581 2. 621 3. 678
4. 721 5. 781
ตอบ 5
จะนับแบบตรงข้ าม คือนับแบบทีไ่ ม่มีสฟี า้ แล้ วเอาทังหมดตั
้ งลบ

แบบทังหมด
้ : มี 5 รู ป แต่ละรู ปเลือกระบายได้ 4 แบบ (ฟ้า แดง เขียว เหลือง) → ระบายได้ 45 แบบ
แบบที่ไม่มีสฟี า้ : มี 5 รูป แต่ละรูปเลือกระบายได้ 3 แบบ (แดง เขียว เหลือง) → ระบายได้ 35 แบบ
ดังนัน้ แบบที่ต้องมีสฟี า้ = 45 − 35 = 1024 − 243 = 781 แบบ

31. กล่องใบหนึง่ บรรจุฉลากซึง่ เขียนหมายเลข 100 , 101 , 102 , … , 998 , 999 ไว้ ฉลากละหนึง่ หมายเลข
ถ้ าสุม่ หยิบฉลาก 1 ใบจากกล่อง ความน่าจะเป็ นที่ฉลากที่หยิบมามีผลคูณของเลข 3 หลัก เป็ นจานวนคู่ เท่ากับข้ อ
ใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2559/30)]
1. 12 2. 23 3. 3629
4. 7790
5. 3136

ตอบ 5
ผลคูณเป็ นเลขคู่ จะนับยาก เพราะเป็ นได้ หลายแบบ (แค่มี “อย่างน้ อย 1 หลัก” เป็ นเลขคู่ ก็จะได้ ผลคูณเป็ นเลขคู)่
จะเห็นว่านับแบบตรงข้ ามง่ายกว่า → ผลคูณเป็ นเลขคี่เมื่อ “ทุกหลัก” เป็ นจานวนคี่
เลขคี่ มี 1, 3, 5, 7, 9 ทังหมด
้ 5 แบบ ดังนัน้ จานวนฉลากที่ทงั ้ 3 หลักเป็ นเลขคี่ = 5 × 5 × 5 = 125 ใบ
และจากจานวนฉลากทังหมด ้ = 999 − 100 + 1 = 900 ใบ
ดังนัน้ จานวนฉลากที่ผลคูณเลข 3 หลักเป็ นเลขคู่ = 900 − 125 = 775 ใบ
จะได้ ความน่าจะเป็ น ที่ฉลากมีผลคูณเลข 3 หลักเป็ นเลขคู่ = 775
900
= 36
31

.0123456789
12 คลังโจทย์

32. กล่องใบหนึง่ มีบตั ร 7 ใบ แต่ละใบเขียนจานวน −3, −2, −1, 0, 1, 2, 3 กากับบนบัตรใบละ 1 จานวน สุม่ หยิบ
บัตร 2 ใบ พร้อมกันจากกล่องใบนี ้ ความน่าจะเป็ นที่จะได้บตั ร 2 ใบ มีผลรวมของจานวนบนบัตรทัง้ สองเป็ นจานวนคู่
หรือเป็ นจานวนเต็มบวก เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (มี.ค. 2560/12)]
1. 27 2. 37 3. 47 4. 57 5. 67
ตอบ 4
สุม่ หยิบ 2 ใบ จาก 7 ไบ → จานวนแบบทัง้ หมด 𝑛(𝑆) = (72) = 7×6 2
= 21 แบบ
จานวนแบบที่สนใจ จะเห็นว่า นับแบบตรงข้าม จะง่ายกว่า
−2 → −5
ตรงข้ามกับ “ผลรวมเป็ นคู่ หรือ เป็ นบวก” คือ “ผลรวมเป็ นคี่ และ ≤ 0” −3 0 → −3
2 → −1
ซึง่ จะมี 6 แบบ ดังตาราง
−1 → −3
−2
ดังนัน้ 𝑛(เป็ นคู่ หรือ เป็ นบวก) = ทัง้ หมด − 𝑛(เป็ นคี่ และ ≤ 0) 1 → −1
−1 0 → −1
= 21 − 6 = 15 แบบ
15 5
จะได้ความน่าจะเป็ น = 21 = 7

33. สุม่ เลือกจำนวนเต็ม 𝑎 และ 𝑏 จำกเซตของจำนวนเต็ม {1, 2, … , 100} ควำมน่ำจะเป็ นที่จะสุม่ ได้ 𝑎 และ 𝑏 ซึง่ ทำ
ให้ 7𝑎 + 𝑏 หำรด้ วย 10 ลงตัวเท่ำกับเท่ำใด [สมำคม (พ.ย. 2560/25)]
ตอบ 0.1
ถ้ ำ 𝑎 = 1 จะได้ 7𝑎 = 7 → จะมี 𝑏 = 3, 13, 23, … , 93 ทังหมด
้ 10 แบบ ที่ทำให้ 7𝑎 + 𝑏 หำรด้ วย 10 ลงตัว
ถ้ ำ 𝑎 = 2 จะได้ 7𝑎 = 49 → จะมี 𝑏 = 1, 11, 21, … , 91 ทังหมด
้ 10 แบบ ที่ทำให้ 7𝑎 + 𝑏 หำรด้ วย 10 ลงตัว
ถ้ ำ 𝑎 = 3 จะได้ 7𝑎 = 343 → จะมี 𝑏 = 7, 17, 27, … , 97 ทังหมด้ 10 แบบ ที่ทำให้ 7𝑎 + 𝑏 หำรด้ วย 10 ลงตัว

จะเห็นว่ำ ไม่วำ่ 7𝑎 จะลงท้ ำยด้ วยอะไรก็ตำม จะมี 𝑏 ทังหมด
้ 10 แบบ จำก 100 แบบ ที่ทำให้ หำรด้ วย 10 ลงตัวเสมอ
10
ดังนัน้ ควำมน่ำจะเป็ น = 100 = 0.1

34. ถ้าทอดลูกเต๋า 3 ลูกพร้อมกันแล้ว ความน่าจะเป็ นที่ลกู เต๋าจะขึน้ แต้มไม่ซา้ กันเลยเท่ากับข้อใดต่อไปนี ้


[กสพท คณิต2 (มี.ค. 2561/28)]
1. 19 2. 16 3. 59 4. 23 5. 56
ตอบ 3
จานวนแบบทัง้ หมด : แต่ละลูก มี 6 แบบ โยน 3 ลูก จะมีได้ 6 × 6 × 6 แบบ
จานวนแบบที่แต้มไม่ซา้ : ลูกแรก ไม่ซา้ แน่นอน จะเลือกได้ 6 แบบ
ลูกที่ 2 ต้องไม่ซา้ กับลูกแรก → เหลือ 5 แบบ
ลูกที่ 3 ต้องไม่ซา้ กับสองลูกแรก → เหลือ 4 แบบ
จะได้จานวนแบบ = 6 × 5 × 4 แบบ
จะได้ความน่าจะเป็ น = 6×5×4
6×6×6
= 9
5

.0123456789
คลังโจทย์ 13

35. ต้องการสร้างจานวนที่มี 5 หลัก จากเลขโดด 0 และ 1 โดยจานวนที่สร้างขึน้ มีคา่ มากกว่า 10,000


จะมีวธิ ีการสร้างได้ทงั้ หมดเท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2561/29)]
1. 15 วิธี 2. 16 วิธี 3. 20 วิธี 4. 31 วิธี 5. 32 วิธี
ตอบ 1
หลักซ้ายสุด ต้องเป็ น 1 เท่านัน้ ไม่งนั้ ค่าจะน้อยกว่า 10000
ส่วน 4 หลักทางขวาเป็ นอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่ 0 หมด (ถ้า 0 หมด จะได้เท่ากับ 10000 → ไม่มากกว่า 10000)
มี 4 หลัก แต่ละหลัก เลือกได้ 2 แบบ (คือ 0 หรือ 1) → จะเลือกได้ 24 = 16 แบบ
หักแบบที่เป็ น 0 หมดออก จะเหลือแบบที่ใช้ได้ = 16 − 1 = 15 แบบ

36. กาหนดให้ เส้นทางวิ่งมีจดุ เริม่ ต้นอยูท่ ี่จดุ A จุดสิน้ สุดอยูท่ จี่ ดุ J และ D G
นักวิ่งต้องวิ่งตามทิศของลูกศรที่กากับไว้เท่านัน้ (ห้ามวิง่ ย้อนศร) ดังรูป
B H
ถ้านักวิ่งคนหนึง่ สุม่ เส้นทางวิ่งจากจุด A ไปยังจุด J แล้วความน่าจะ J

เป็ นที่นกั วิง่ คนนี ้ จะวิ่งผ่านจุด H เท่ากับเท่าใด E


A
[O-NET (มี.ค. 2562/30)] I

1. 12 2. 13 3. 25 C F
2 3
4. 7
5. 7

ตอบ 5
ข้อนี ้ จะใส่ตวั เลขย้อนจาก J ขึน้ มาหา A ก็ได้ แต่เนื่องจากรูปไม่ซบั ซ้อน เขียนนับเอาจะง่ายกว่า
วิ่งจาก A ถึง J จะมี A→B →D →G →J
A→B →D →H →J
A→B →E →H →J
A→B →E → I →J
A→C →E →H →J
มี 3 แบบ จาก 7 แบบ ที่ผา่ น H
A→C →E → I →J ดังนัน้ ความน่าจะเป็ น = 37
A→C →F → I →J

37. กาหนดให้ 𝐴 = { 0, 1, 2, … , 9 } และ 𝑆 = { (𝑚, 𝑛) | 𝑚, 𝑛 ∈ 𝐴 }


ถ้ า (𝑚, 𝑛) เป็ นสมาชิกหนึง่ ตัวของ 𝑆 ที่ได้ จากการสุม่ แล้ วความน่าจะเป็ นที่ (𝑚, 𝑛) จะเป็ นจุดบน
เส้ นตรง 𝑥 − 𝑦 = 1 เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2562/29)]
9 1 11 6 13
1. 100 2. 10 3. 100 4. 50 5. 100
ตอบ 1
𝐴 มีสมาชิก 10 ตัว ดังนัน้ เลือก 𝑚 กับ 𝑛 ได้ ตวั ละ 10 แบบ → จะได้ จานวนแบบทังหมด้ = 10 × 10 = 100 แบบ
(𝑚, 𝑛) จะเป็ นจุดบนเส้ นตรง 𝑥 − 𝑦 = 1 เมื่อแทน (𝑚, 𝑛) ลงไปแล้ วทาให้ สมการเป็ นจริ ง นัน ่ คือ เมื่อ 𝑚 − 𝑛 = 1
จะได้ แบบที่โจทย์ต้องการคือ (1, 0) , (2, 1) , (3, 2) , (4, 3) , … , (9, 8) ซึง่ จะมีทงหมด
ั้ 9 แบบ
9
จะได้ ความน่าจะเป็ น = 100

.0123456789
14 คลังโจทย์

38. กล่องใบหนึง่ มีลกู บอล 3 สี คือ สีแดง สีนำ้ เงิน และสีขำว โดยมีลกู บอลสีแดงและสีนำ้ เงินรวมกัน 24 ลูก
และควำมน่ำจะเป็ นในกำรสุม่ หยิบลูกบอล 1 ลูก แล้วได้ลกู บอลสีตำ่ งๆ เป็ นดังนี ้
1) ควำมน่ำจะเป็ นที่จะได้ลกู บอลสีขำวเท่ำกับ 13
2) ควำมน่ำจะเป็ นที่จะได้ลกู บอลสีแดงเท่ำกับ 14
กล่องใบนีม้ ีลกู บอลสีนำ้ เงินกี่ลกู [O-NET (ก.พ. 2563/32)]
1. 5 ลูก 2. 9 ลูก 3. 10 ลูก 4. 12 ลูก 5. 15 ลูก
ตอบ 5
สมมติให้มีลกู บอลสีแดง 𝑟 ลูก สีนำ้ เงิน 𝑏 ลูก และสีขำว 𝑤 ลูก
จำนวนลูกบอลสีขำว จำนวนลูกบอลสีแดง
จำก 1) จะได้ =
1
จำก 2) จะได้ =
1
จำนวนลูกบอลทัง้ หมด 3 จำนวนลูกบอลทัง้ หมด 4
𝑤 1 𝑟 1
โจทย์ให้ แดง 𝑟+𝑏+𝑤
=
3 𝑟+𝑏+𝑤
=
4
และนำ้ เงิน 𝑤 1 𝑟 1
รวมกัน 24 ลูก 24 +𝑤
= 3
=
24 +12 4
3𝑤 = 24 +𝑤 4𝑟 = 36
2𝑤 = 24 𝑟 = 9
𝑤 = 12 ดังนัน้ จะเหลือสีนำ้ เงิน = 24 − 9 = 15 ลูก

39. ควำมน่ำจะเป็ นที่ดวงพรจะไปดูหนังและไปซือ้ ของในวันอำทิตย์เป็ น 0.7 และ 0.6 ตำมลำดับ ถ้ำดวงพรจะทำ


กิจกรรมอย่ำงน้อย 1 อย่ำงแน่นอน แล้วควำมน่ำจะเป็ นที่ดวงพรจะทำกิจกรรมทัง้ 2 อย่ำงเท่ำกับข้อใดต่อไปนี ้
[กสพท คณิต1 (ธ.ค. 2559/9)]
1. 0.1 2. 0.2 3. 0.3 4. 0.4 5. 0.5
ตอบ 3
จำกโจทย์ จะได้ 𝑃(ดูหนัง) = 0.7 และ 𝑃 (ซือ้ ของ) = 0.6
ทำอย่ำงน้อย 1 อย่ำงแน่นอน แสดงว่ำ 𝑃 (ดูหนัง หรือ ซือ้ ของ) = 1
ใช้สตู ร Inclusive – Exclusive : 𝑃(𝐴 ∪ 𝐵) = 𝑃(𝐴) + 𝑃(𝐵) − 𝑃(𝐴 ∩ 𝐵)
จะได้ 𝑃 (ดูหนัง หรือ ซือ้ ของ) = 𝑃(ดูหนัง) + 𝑃 (ซือ้ ของ) − 𝑃 (ดูหนัง และ ซือ้ ของ)
1 = 0.7 + 0.6 − 𝑃 (ดูหนัง และ ซือ้ ของ)
ดังนัน้ 𝑃 (ดูหนัง และ ซือ้ ของ) = 0.3

40. กาหนดให้ 𝐴 = { −5 , −4 , −3 , −2 , −1 , 1 , 2 , 3 , 4 , 5 }
𝑆 = { (𝑎, 𝑏) | 𝑎, 𝑏 ∈ 𝐴 }
ถ้า (𝑎, 𝑏) เป็ นสมาชิกหนึง่ ตัวของ 𝑆 ที่ได้จากการสุม่ แล้ว ความน่าจะเป็ นที่เส้นตรง 𝑦 = 𝑎𝑥 + 𝑏 ตัดกับ
เส้นตรง 𝑦 = 8𝑥 + 1 ที่จดุ (0, 1) เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2561/30)]
1 1 1 1 1
1. 100 2. 50 3. 40 4. 20 5. 10
ตอบ 5
จานวนแบบทัง้ หมด : นับดูจะได้ 𝐴 มีสมาชิก 10 ตัว → เลือกมา 2 ตัวเพื่อสร้างคูอ่ นั ดับ (𝑎, 𝑏) ได้ 102 = 100 แบบ
จานวนแบบที่สนใจ : เส้นตรง 𝑦 = 𝑎𝑥 + 𝑏 จะตัดเส้นตรง 𝑦 = 8𝑥 + 1 ที่จดุ (0, 1) เมื่อ 𝑦 = 𝑎𝑥 + 𝑏 ผ่าน (0, 1)
และเส้นตรงทัง้ สองเส้นไม่ขนานกัน (ความชันไม่เท่ากัน)
นั่นคือ (0, 1) ต้องแทนใน 𝑦 = 𝑎𝑥 + 𝑏 แล้วเป็ นจริง และ 𝑎 ≠ 8
1 = 𝑎(0) + 𝑏
1= 𝑏
.0123456789
ตอบ 5
จานวนแบบทัง้ หมด : นับดูจะได้ 𝐴 มีสมาชิก 10 ตัว → เลือกมา 2 ตัวเพื่อสร้างคูอ่ นั ดับ (𝑎, 𝑏) ได้ 102 = 100 แบบ
จานวนแบบที่สนใจ : เส้นตรง 𝑦 = 𝑎𝑥 + 𝑏 จะตัดเส้นตรง 𝑦 = 8𝑥 + 1 ที่จดุ (0, 1) เมื่อ 𝑦 = 𝑎𝑥 𝑏 ผ่าน (0, 1) 15
คลัง+โจทย์
และเส้นตรงทัง้ สองเส้นไม่ขนานกัน (ความชันไม่เท่ากัน)
นั่นคือ (0, 1) ต้องแทนใน 𝑦 = 𝑎𝑥 + 𝑏 แล้วเป็ นจริง และ 𝑎 ≠ 8
1 = 𝑎(0) + 𝑏
1= 𝑏
นั่นคือ 𝑏 ต้องเป็ น 1 แบบเดียว และ 𝑎 เป็ นอะไรก็ได้ใน 𝐴 (ไม่มี 8 ใน 𝐴 อยูแ่ ล้ว) → ได้ 10 แบบ
10 1
จะได้ความน่าจะเป็ น = 100
= 10

41. จานวนเต็มบวกสามหลัก ซึง่ ไม่มเี ลขโดด 0 อยูเ่ ลย แต่มีเลขโดด 1 อย่างน้ อยหนึง่ ตัว มีจานวนทังหมดเท่
้ ากับข้ อใด
ต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2562/30)]
1. 217 2. 321 3. 421 4. 521 5. 717
ตอบ 1
จะแบ่งกรณีนบั ตามจานวนเลข 1
กรณีมี 1 สามตัว : มี 111 แบบเดียว
กรณีมี 1 สองตัว : เลือกเลขโดดอีก 1 ตัวทีเ่ หลือ จาก 2 ถึง 9 → เลือกได้ 8 แบบ
เลือกหลักจาก 3 หลักที่มี ให้ เลขโดดจากขันแรก ้ → เลือกได้ 3 แบบ
ที่เหลือ ต้ องใส่ 1 เท่านัน้ จะเลือกไม่ได้ ดังนัน้ จะได้ จานวนแบบของกรณีนี ้ คือ 8 × 3 = 24 แบบ
กรณีมี 1 หนึง่ ตัว : เลือกหลักจาก 3 หลักที่มี ให้ 1 หนึง่ ตัวนัน้ → เลือกได้ 3 แบบ
2 หลักที่เหลือ เป็ นได้ ตงแต่
ั ้ 2 ถึง 9 หลักละ 8 แบบ → เลือกได้ 8 × 8 แบบ
จะได้ จานนแบบของกรณีนี ้ คือ 3 × 8 × 8 = 192
รวมทุกกรณี จะได้ จานวนแบบทังหมด ้ = 1 + 24 + 192 = 217 แบบ

42. มีหนังสือภำษำไทยต่ำงกัน 2 เล่ม ภำษำอังกฤษต่ำงกัน 3 เล่ม และคณิตศำสตร์ ตำ่ งกัน 3 เล่ม ถ้ ำจะวำงหนังสือ
เหล่ำนี ้ซ้ อนกันอยูใ่ นตังเดี
้ ยวกัน แล้ วจำนวนวิธีทจี่ ะจัดวำงให้ หนังสือวิชำเดียวกันอยูต่ ิดกันทังหมด
้ เท่ำกับข้ อใด
ต่อไปนี ้ [กสพท คณิต1 (มี.ค. 2562/9)]
1. 18 วิธี 2. 54 วิธี 3. 72 วิธี 4. 108 วิธี 5. 432 วิธี
ตอบ 5
จับหนังสือวิชำเดียวกัน มัดติดกันเป็ นหนังสือเล่มใหม่ → มี 3 วิชำ จะมีหนังสือ 3 มัด สลับที่ได้ 3! แบบ
สลับหนังสือภำยในมัด → ไทย 2 เล่ม สลับได้ 2! แบบ
→ อังกฤษ 3 เล่ม สลับได้ 3! แบบ
→ คณิต 3 เล่ม สลับได้ 3! แบบ
คูณจำนวนแบบของทุกขันตอน ้ จะได้ จำนวนแบบ = 3! 2! 3! 3! = 6 × 2 × 6 × 6 = 432 แบบ

.0123456789
16 คลังโจทย์

43. หนูทดลองตัวหนึง่ อยูใ่ นห้ องของกล่องทดลองเขำวงกตซึง่ มีช่องประตู 4 ช่อง มีหนึง่ ช่องของประตูที่มีทำงเดินที่นำหนู


ไปสูท่ ำงออกภำยนอกโดยหนูจะใช้ เวลำในกำรเดินทำง 9 วินำที ส่วนช่องประตูอีกสำมช่องที่เหลือจะนำไปสูท่ ำงเดินที่
วกกลับมำที่ห้องเดิม โดยหนูจะใช้ เวลำในทำงเดินเหล่ำนี ้เป็ นเวลำ 3, 5 และ 7 วินำทีตำมลำดับ และทุกครัง้ ที่หนู
กลับมำที่ห้องเดิมหนูจะสุม่ เข้ ำช่องประตูอีกครัง้ โดยทีก่ ำรสุม่ เลือกประตูแต่ละครัง้ จะไม่ขึ ้นกับกำรสุม่ เลือกช่องประตู
ในครัง้ ก่อนหน้ ำ จงหำควำมน่ำจะเป็ นที่หนูจะใช้ เวลำ 30 วินำทีในกำรเดินทำงออกไปสูภ่ ำยนอก
[สมำคม (พ.ย. 2560/30)]
737
ตอบ 48
30 − 9 = 21 → แสดงว่ำหนูวนอยูท่ ี่เดิม 21 วินำที ก่อนจะเลือกประตู 9 วินำที และออกจำกห้ องได้
เขียน 21 เป็ นผลบวกของ 3, 5, 7 จะได้ 4 แบบ ดังนี ้
3+3+3+3+3+3+3 : คือหนูสม ุ่ ได้ ประตู 3 วินำที 7 ครัง้ ก่อนจะสุม่ ได้ ประตู 9 วินำทีในครัง้ สุดท้ ำย
สมมติให้ ควำมน่ำจะเป็ นที่หนูเลือกแต่ละประตู มีคำ่ เท่ำกัน = 14
7
จะได้ ควำมน่ำจะเป็ นของกรณีนี ้ = (14) (14) = 418
7+7+7 : คือหนูสมุ่ ได้ ประตู 7 วินำที 3 ครัง้ ก่อนจะสุม่ ได้ ประตู 9 วินำทีในครัง้ สุดท้ ำย
1 3 1 1
ทำแบบเดียวกับกรณีที่แล้ ว จะได้ ควำมน่ำจะเป็ นของกรณีนี ้ = (4) (4) = 44

3+3+5+5+5 : คือหนูสมุ่ ได้ ประตู 3 วินำที 2 ครัง้ และประตู 5 วินำที 3 ครัง้ ก่อนสุม่ ได้ ประตู 9 วินำที
5!
จะเห็นว่ำลำดับของประตู 3 วินำที กับประตู 5 วินำที สลับกันยังไงก็ได้ → ได้ 2!3! แบบ
5! 1 2 1 3 1 10
จะได้ ควำมน่ำจะเป็ นของกรณีนี ้ = 2!3! ( )
4
( ) ( )
4 4
=
46
5!
3+3+3+5+7 : ลำดับของประตู สลับกันได้ 3! แบบ
5! 1 3 1 1 1 20
จะได้ ควำมน่ำจะเป็ นของกรณีนี ้ = ( ) (4) (4) (4)
3! 4
= 46
1 1 10 20
รวมทุกกรณี จะได้ ควำมน่ำจะเป็ น =
48
+ 4+ 6+ 6
4 4 4
1 1 10 20
= (44 ) (44 + 1 + 42 + 42 )
1 1 + 256 + 160 + 320 737
= ( 4) ( ) =
4 44 48

44. ให้ 𝑆 = { −10 , −9 , −8 , … , −1 , 0 , 1 , … , 8 , 9 , 10 } สุม่ หยิบคูอ่ นั ดับ (𝑎, 𝑏) ∈ 𝑆 × 𝑆


มำ 1 คูอ่ นั ดับ ควำมน่ำจะเป็ นที่ |𝑎| + 𝑏 = 0 ตรงกับข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต1 (มี.ค. 2561/25)]
10 20 1 1 1
1. 441 2. 441 3. 21 4. 20 5. 10
ตอบ 3
จำนวนแบบทัง้ หมด : 𝑆 มีสมำชิก 10 − (−10) + 1 = 21 จำนวน → เลือก 𝑎, 𝑏 ได้ทงั้ หมด 212 แบบ
จำนวนแบบที่สนใจ : จะเห็นว่ำ 𝑎 เป็ นอะไรก็ได้ แต่ตอ้ งเลือก 𝑏 เป็ นจำนวนตรงข้ำมกับ |𝑎| (คือ 𝑏 = −|𝑎|)
(สังเกตว่ำ ถ้ำ 𝑎 ∈ 𝑆 แล้ว −|𝑎| ∈ 𝑆 เสมอ)
เช่น ถ้ำ 𝑎 = −10 จะได้ 𝑏 = −| − 10| = −10
ถ้ำ 𝑎 = 10 จะได้ 𝑏 = −|10| = −10 เป็ นต้น
ดังนัน้ จะเลือก 𝑎 ได้ 21 แบบ (𝑎 เป็ นอะไรก็ได้ใน 𝑆) และ 𝑏 จะถูกบังคับค่ำให้สอดคล้องกับ 𝑎
จะได้จะนวนแบบที่ |𝑎| + 𝑏 = 0 ทัง้ หมด 21 แบบ
21 1
จะได้ควำมน่ำจะเป็ น = 21 2 = 21

.0123456789
คลังโจทย์ 17

45. มีฉลำกอยู่ 𝑛 + 1 ใบอยูใ่ นกล่องใบหนึง่ ฉลำกแต่ละใบมีหมำยเลข 0, 1, 2, … , 𝑛 กำกับอยู่ สุม่ หยิบฉลำกมำ


ครัง้ ละ 1 ใบ 4 ครัง้ แบบหยิบแล้วใส่คนื ถ้ำควำมน่ำจะเป็ นที่ผลบวกของเลขบนฉลำกที่หยิบได้ในสองครัง้ แรก และ
𝑎𝑛2 +𝑏𝑛+𝑐
สองครัง้ หลังมีคำ่ เท่ำกัน มีคำ่ เท่ำกับ (𝑛+1)3
จงหำค่ำของ 𝑎, 𝑏 และ 𝑐 [สมำคม (พ.ย. 2562/13)]

ตอบ 23 , 43 , 1
ผลบวกของสลำก 2 ใบ จะมีคำ่ ได้ตงั้ แต่ 0 + 0 = 0 ไปจนถึง 𝑛 + 𝑛 = 2𝑛
จะแบ่งกรณีนบั ตำมค่ำผลบวกแต่ละค่ำที่เป็ นไปได้ ตัง้ แต่ 0 ไปถึง 2𝑛
กรณีผลบวกสองครัง้ แรก = สองครัง้ หลัง = 0 : ผลบวกได้ 0 จะมี (0,0) แบบเดียว
→ สองครัง้ แรกเลือกได้ 1 แบบ สองครัง้ หลังเลือกได้ 1 แบบ → ได้จำนวนแบบ = 1 × 1 = 12 แบบ
กรณีผลบวกสองครัง้ แรก = สองครัง้ หลัง = 1 : ผลบวกได้ 1 จะมี (0,1), (1,0) รวม 2 แบบ
→ สองครัง้ แรกเลือกได้ 2 แบบ สองครัง้ หลังเลือกได้ 2 แบบ → ได้จำนวนแบบ = 2 × 2 = 22 แบบ

กรณีผลบวกสองครัง้ แรก = สองครัง้ หลัง = 𝑛 : ผลบวกได้ 𝑛 จะมี (0, 𝑛), (1, 𝑛 − 1), … , (𝑛, 0) รวม 𝑛 + 1 แบบ
→ สองครัง้ แรกเลือกได้ 𝑛 + 1 แบบ สองครัง้ หลังเลือกได้ 𝑛 + 1 แบบ → ได้จำนวนแบบ = (𝑛 + 1)2 แบบ
กรณีผลบวกสองครัง้ แรก = สองครัง้ หลัง = 𝑛 + 1 : กรณีนจี ้ ะเริม่ เปลีย่ นไป เพรำะตัวเลขบนสลำกมีถึงแค่ 𝑛
ผลบวกได้ 𝑛 + 1 จะเหลือแค่ (1, 𝑛), (2, 𝑛 − 1), … , (𝑛, 1) รวม 𝑛 แบบ
→ สองครัง้ แรกเลือกได้ 𝑛 แบบ สองครัง้ หลังเลือกได้ 𝑛 แบบ → ได้จำนวนแบบ = 𝑛2 แบบ

กรณีผลบวกสองครัง้ แรก = สองครัง้ หลัง = 2𝑛 : ผลบวกได้ 2𝑛 จะมี (𝑛, 𝑛) แค่แบบเดียว
→ สองครัง้ แรกเลือกได้ 1 แบบ สองครัง้ หลังเลือกได้ 1 แบบ → ได้จำนวนแบบ = 1 × 1 = 12 แบบ
รวมทุกกรณี จะได้จำนวนแบบ = 12 + 22 + … + 𝑛2 + (𝑛 + 1)2 + 𝑛2 + … + 22 + 12
= 2(12 + 22 + … + 𝑛2 ) + (𝑛 + 1)2
𝑛(𝑛+1)(2𝑛+1)
= 2( 6
) + (𝑛 + 1)2
ดึงตัวร่วม 𝑛 + 1
𝑛(2𝑛+1)
= (𝑛 + 1) ( 3 + 𝑛 + 1)
2𝑛2 +𝑛+3𝑛+3 2𝑛2 +4𝑛+3
= (𝑛 + 1) ( 3
) = (𝑛 + 1) ( 3
)

และมีสลำก 𝑛 + 1 ใบ → หยิบ 4 ครัง้ จะหยิบได้ (𝑛 + 1)4 แบบ


2𝑛2 +4𝑛+3 2𝑛2 +4𝑛+3
(𝑛+1)( ) ( ) 𝑎𝑛2 +𝑏𝑛+𝑐 2 4
จะได้ควำมน่ำจะเป็ น = (𝑛+1)
3
4 =
3
(𝑛+1) 3 → เทียบกับรูป (𝑛+1)3
จะได้ 𝑎=3, 𝑏=3,𝑐=1

46. กล่องใบหนึง่ บรรจุลกู แก้ วสีแดง 2 ลูก ลูกแก้ วสีขำว 3 ลูก และลูกแก้ วสีเขียว 3 ลูก สุม่ หยิบลูกแก้ วออกมำจำกกล่อง
8 ครัง้ ครัง้ ละลูกโดยไม่ต้องใส่คน ื ควำมน่ำจะเป็ นที่สมุ่ หยิบลูกแก้ ว 8 ครัง้ โดยครัง้ ที่ 1 ได้ ลกู แก้ วสีขำวหรื อหยิบครัง้
ที่ 8 ไม่ได้ ลกู แก้ วสีแดง เท่ำกับข้ อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (มี.ค. 2559/29)]
1. 34 2. 58 3. 56 29

4. 78 5. 67
ตอบ 5
จำกสูตร Inclusive – Exclusive จะได้
𝑃(ครัง้ ที่ 1 สีขำว หรื อ ครัง้ ที่ 8 ไม่ได้ สแี ดง) = 𝑃(ครัง้ ที่ 1 สีขำว) + 𝑃(ครัง้ ที่ 8 ไม่ได้ สแี ดง) − 𝑃(ครัง้ ที่ 1 สีขำว และ
ครัง้ ที่ 8 ไม่ได้ สแี ดง)
จำนวนแบบทังหมด ้ : มีลกู แก้ ว 2 + 3 + 3 = 8 ลูก หยิบทีละลูก 8 ครัง้ แบบไม่ใส่คืน → จะหยิบได้ ทงหมด
ั้ 8! แบบ
𝑃(ครัง้ ที่ 1 สีขำว) : มีสขี ำว 3 ลูก ดังนัน้ ครัง้ ที่ 1 เลือกได้ 3 แบบ
.0123456789
ตอบ 5
จำกสูตร Inclusive – Exclusive จะได้
18 คลั ครัง้ ที่ 1 สีขำว หรื อ ครัง้ ที่ 8 ไม่ได้ สแี ดง)
𝑃(งโจทย์ = 𝑃(ครัง้ ที่ 1 สีขำว) + 𝑃(ครัง้ ที่ 8 ไม่ได้ สแี ดง) − 𝑃(ครัง้ ที่ 1 สีขำว และ
ครัง้ ที่ 8 ไม่ได้ สแี ดง)
จำนวนแบบทังหมด ้ : มีลกู แก้ ว 2 + 3 + 3 = 8 ลูก หยิบทีละลูก 8 ครัง้ แบบไม่ใส่คืน → จะหยิบได้ ทงหมด
ั้ 8! แบบ
𝑃(ครัง้ ที่ 1 สีขำว) : มีสขี ำว 3 ลูก ดังนัน้ ครัง้ ที่ 1 เลือกได้ 3 แบบ
ที่เหลือ 7 ครัง้ เหลือลูกแก้ วในกล่อง 7 ลูก จะหยิบได้ 7! แบบ
ดังนัน้ 𝑃(ครัง้ ที่ 1 สีขำว) = 38!∙ 7! = 38
𝑃(ครัง้ ที่ 8 ไม่ได้ สแี ดง) : มีสอี ื่นๆที่ไม่ใช่สแี ดง = 3 + 3 = 6 ลูก ดังนัน้ ครัง้ ที่ 8 เลือกได้ 6 แบบ
ที่เหลือ 7 ครัง้ เหลือลูกแก้ วในกล่อง 7 ลูก จะหยิบได้ 7! แบบ
ดังนัน้ 𝑃(ครัง้ ที่ 8 ไม่ได้ สแี ดง) = 68!∙ 7! = 34
𝑃(ครัง้ ที่ 1 สีขำว และ ครัง้ ที่ 8 ไม่ได้ สแี ดง) : มีสขี ำว 3 ลูก ดังนัน้ ครัง้ ที่ 1 เลือกได้ 3 แบบ
เหลือสีขำว 2 ลูก ดังนัน้ เหลือสีอื่นๆที่ไม่ใช่สแี ดง = 2 + 3 = 5 ลูก
ดังนัน้ ครัง้ ที่ 8 เลือกได้ 5 แบบ
ที่เหลือ 6 ครัง้ เหลือลูกแก้ วในกล่อง 6 ลูก จะหยิบได้ 6! แบบ
ดังนัน้ 𝑃(ครัง้ ที่ 1 สีขำว และ ครัง้ ที่ 8 ไม่ได้ สแี ดง) = 3 ∙ 8!5 ∙ 6! = 15
56
3 3 15 21 + 42 − 15 48 6
จะได้ 𝑃(ครัง้ ที่ 1 สีขำว หรื อ ครัง้ ที่ 8 ไม่ได้ สแี ดง) = 8
+ 4 − 56 = 56
= 56
= 7

47. ในกำรจัดนักเรียนชำย 4 คน และนักเรียนหญิง 4 คน มำยืนเรียงเป็ นแถวตรงเพียงหนึง่ แถว ควำมน่ำจะเป็ นที่ไม่มี


นักเรียนชำยสองคนใดเลยยืนติดกัน หรือ ไม่มีนกั เรียนหญิงสองคนใดเลยยืนติดกัน มีคำ่ ตรงกับข้อใดต่อไปนี ้
[PAT 1 (ต.ค. 2558/17)]
1 1 4
1. 70 2. 35 3. 35
4. 17 5. 27
ตอบ 3
มีคนทัง้ หมด 8 คน ดังนัน้ จะได้จำนวนแบบทัง้ หมด = 8!
“หรือ” คือ “ยูเนียน” ดังนัน้ จำนวนแบบที่โจทย์ตอ้ งกำร จะหำได้จำกสูตร 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵) = 𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵)
นั่นคือ จำนวนแบบที่ไม่มี ช ติดกัน หรือ ไม่มี ญ ติดกัน = จำนวนแบบที่ไม่มี ช ติดกัน + จำนวนแบบที่ไม่มี ญ ติดกัน
− จำนวนแบบที่ไม่มี ช ไม่ติดกัน และไม่มี ญ ติดกัน
จำนวนแบบที่ไม่มี ช ติดกัน → ขัน้ ที่ 1 : เอำ ญ ทัง้ 4 คนมำเข้ำแถวปั กเป็ นหลักไว้ก่อน ได้ 4! แบบ
→ ขัน
้ ที่ 2 : จะเหลือช่องให้ ช เข้ำไปแทรกได้ 5 จุด ดังรูป
ดังนัน้ ช1 เลือกยืนได้ 5 แบบ __ ญ __ ญ __ ญ __ ญ __
ช2 จะยืนได้ 4 แบบ (เพรำะ ช ห้ำมยืนติดกัน)
ข3 ยืนได้ 3 แบบ และ ช4 ยืนได้ 2 แบบ
รวมจะได้จำนวนแบบที่ ช ไม่ติดกัน = 4! × 5 × 4 × 3 × 2 = 4! 5! แบบ
จำนวนแบบที่ไม่มี ญ ติดกัน → คิดแบบเดิม แต่เอำ ช ทัง้ 4 ไปยืนเข้ำแถวปักเป็ นหลักไว้ก่อน แล้วเอำ ญ เข้ำไปแทรก
จะได้จำนวนแบบที่ ญ ไม่ติดกัน = 4! 5! แบบ เหมือนอันแรก

จำนวนแบบทีไ่ ม่มี ช ไม่ติดกัน และไม่มี ญ ติดกัน → ขัน้ ที่ 1 : เลือกใครก็ได้ มำยืนตำแหน่งแรก ได้ 8 แบบ
→ ขัน
้ ที่ 2 : ตำแหน่งที่ 2 ต้องเป็ นคนละเพศกับตำแหน่งแรก
จะมีคนทีเ่ ป็ นเพศตรงข้ำมให้เลือกได้ 4 คน
→ ขัน้ ที่ 3 : ตำแหน่งที่ 3 ต้องเป็ นคนละเพศกับตำแหน่งที่ 2 แต่ตอ้ งไม่
ซำ้ กับคนตำแหน่งที่ 1 จะเหลือให้เลือกได้ 3 คน
ทำแบบนีไ้ ปเรือ่ ยๆ จะได้จำนวนแบบของแต่ละตำแหน่งคือ 8 4 3 3 2 2 1 1
.0123456789
ข3 ยืนได้ 3 แบบ และ ช4 ยืนได้ 2 แบบ
รวมจะได้จำนวนแบบที่ ช ไม่ติดกัน = 4! × 5 × 4 × 3 × 2 = 4! 5! แบบ
จำนวนแบบที่ไม่มี ญ ติดกัน → คิดแบบเดิม แต่เอำ ช ทัง้ 4 ไปยืนเข้ำแถวปักเป็ นหลักไว้ก่อน แล้วเอำคลั
ญงโจทย์
เข้ำไปแทรก 19
จะได้จำนวนแบบที่ ญ ไม่ติดกัน = 4! 5! แบบ เหมือนอันแรก

จำนวนแบบทีไ่ ม่มี ช ไม่ติดกัน และไม่มี ญ ติดกัน → ขัน้ ที่ 1 : เลือกใครก็ได้ มำยืนตำแหน่งแรก ได้ 8 แบบ
→ ขัน
้ ที่ 2 : ตำแหน่งที่ 2 ต้องเป็ นคนละเพศกับตำแหน่งแรก
จะมีคนทีเ่ ป็ นเพศตรงข้ำมให้เลือกได้ 4 คน
→ ขัน้ ที่ 3 : ตำแหน่งที่ 3 ต้องเป็ นคนละเพศกับตำแหน่งที่ 2 แต่ตอ้ งไม่
ซำ้ กับคนตำแหน่งที่ 1 จะเหลือให้เลือกได้ 3 คน
ทำแบบนีไ้ ปเรือ่ ยๆ จะได้จำนวนแบบของแต่ละตำแหน่งคือ 8 4 3 3 2 2 1 1
จะได้จำนวนแบบ = 8 ∙ 4! 3!

ดังนัน้ จำนวนแบบที่ไม่มี ช ติดกัน หรือ ไม่มี ญ ติดกัน = 2(4! 5!) − 8 ∙ 4! 3!


จะได้ ควำมน่ำจะเป็ น = 2(4! 5!)8!− 8∙4!3! = 2(5!) − 8∙3!
8×7×6×5
5−1 4
= 7×5 = 35

48. กาหนดให้ 𝑋 = {1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9} จงหาจานวนสับเซตของ 𝑋 ทังหมดซึ


้ ง่ สมาชิกในสับเซตนี ้มีจานวนคี่
มากกว่าจานวนคู่ [สมาคม (พ.ย. 2559/22)]
ตอบ 256
จะพยายามโยงเข้ าไปหาเซตที่เล็กกว่า คือ 𝑌 = {1, 2, 3, … , 8} แบบไม่มี 9
จากสูตรจานวนสับเซต = 2𝑛(𝐴) จะได้ จานวนสับเซตทังหมดของ
้ 𝑌 คือ 28 = 256
จะแบ่งสับเซตของ 𝑌 ทัง้ 256 สับเซต เป็ น 3 กลุม่ คือ (1) สับเซตของ 𝑌 ที่มีจานวนคี่ มากกว่า จานวนคู่
(2) สับเซตของ 𝑌 ที่มีจานวนคี่ น้ อยกว่า จานวนคู่
(3) สับเซตของ 𝑌 ที่มีจานวนคี่ เท่ากับ จานวนคู่
(1) กับ (2) จะมีจานวนเท่ากัน (เนื่องจาก {1, 2, 3, … , 8} มีเลขคูก่ บั เลขคี่อย่างละ 4 ตัวเท่าๆกัน + หลักความสมมาตร)
ให้ (1) และ (2) มีอย่างละ 𝑎 สับเซต และให้ (3) มี 𝑏 สับเซต ดังนัน้ 2𝑎 + 𝑏 = 256 …(∗)
(จะเห็นว่า 𝑋 = {1, 2, 3, … , 8, 9} มีจานวนคี่ มากกว่า จานวนคู่ จึงใช้ หลักความสมมาตรไม่ได้ )
โจทย์ถาม จานวนสับเซตของ 𝑋 = {1, 2, 3, … , 8, 9} ที่มีจานวนคี่ มากกว่า จานวนคู่
จะแบ่งสับเซตของ 𝑋 ที่มี จานวนคี่ มากกว่า จานวนคู่ ออกเป็ น 2 ประเภท คือ
(4) สับเซตของ 𝑋 ที่มีจานวนคี่ มากกว่า จานวนคู่ และไม่มี 9 เป็ นสมาชิก
(5) สับเซตของ 𝑋 ที่มีจานวนคี่ มากกว่า จานวนคู่ และ มี 9 เป็ นสมาชิก
เนื่องจาก (4) ไม่มี 9 เป็ นสมาชิก ดังนัน้ (4) ของ 𝑋 จะมีจานวนเท่ากับ (1) ของ 𝑌 → (4) มี 𝑎 สับเซต
และสาหรับ (5) จะเห็นว่า ถ้ าตัด 9 ที่เป็ นสมาชิกออก จะกลายเป็ น สับเซตที่มีจานวนคี่ มากกว่าหรื อเท่ากับ จานวนคู่
ดังนัน้ (5) จะมีจานวนเท่ากับ (1) + (3) → (5) มี 𝑎 + 𝑏 สับเซต
จานวนคี่ > จานวนคู่
(1) คือ มากกว่า , (3) คือเท่ากับ จานวนคี่ − 1 ≥ จานวนคู่
ดังนัน้ (4) + (5) จะมี = 𝑎 + 𝑎 + 𝑏 = 2𝑎 + 𝑏
จาก (∗)
= 256

.0123456789

You might also like