You are on page 1of 22

คลังโจทย์ 1

1. กาหนดให้ 𝐴 = {1, 2, 𝑎, 𝑏, 𝑑} − {1, 𝑏, 𝑐}


𝐵 = {2, 3, 𝑐} ∪ {2, 𝑏, 𝑑}
𝐶 = {1, 2, 3, 𝑏} ∩ {3, 𝑎, 𝑏}
จานวนสมาชิกของเซต 𝐵 ∩ (𝐴 ∪ 𝐶) เท่ากับเท่าใด [O-NET (มี.ค. 2561/31)]

2. จากการสอบถาม เรื่ องความชอบไอศกรี มรสวนิลาและรสส้ ม ของเด็กอนุบาลจานวน 40 คน


พบว่า มี 25 คน ชอบรสวนิลา
10 คน ชอบรสส้ ม
8 คน ไม่ชอบทังรสวนิ
้ ลาและรสส้ ม
มีเด็กอนุบาลที่ชอบทังรสวนิ
้ ลาและรสส้ มกี่คน [O-NET (มี.ค. 2561/34)]

3. กำหนดให้ 𝑈 = { −2 , −1 , 0 , 1 , 2 , … , 7 , 8 , 9 }
𝐴 = { 𝑥 | 𝑥∈𝑈 และ 𝑥 เป็ นจำนวนคี่ }
และ 𝐵 = { 𝑥 | 𝑥 ∈ 𝑈 และ 𝑥 2 < 9 }
𝐴 − 𝐵 คือเซตในข้อใด [O-NET (ก.พ. 2563/8)]
1. { −1 , 1 } 2. { 1 , 3 } 3. {5, 7, 9}
4. { 3 , 5 , 7 , 9 } 5. { 1 , 3 , 5 , 7 , 9}

.0123456789
2 คลังโจทย์

4. กาหนดเอกภพสัมพัทธ์คือ เซตของจานวนนับ ถ้ า 𝐴 = { 1 , 2 , 3 , … , 10 }
𝐵 = { 4 , 8 , 12 , 16 , 20}
และ 𝐶 = { 𝑥 | (𝑥 + 1)(𝑥 − 4) = 0 }
แล้ ว ข้ อใดผิด [O-NET (ก.พ. 2560/17)]
1. 𝐴 ∩ 𝐶 = 𝐵 ∩ 𝐶 2. 𝐵∪𝐶 = 𝐵
3. 𝐴 ∩ 𝐵 = { 4, 8 } 4. 𝐵 − 𝐴 = { 12 , 16 , 20 }
5. (𝐴 ∩ 𝐶) ∪ 𝐵 = { 8 , 12 , 16 , 20 }

5. กาหนดให้ 𝐴 แทน เซตของจานวนคี่ทมี่ ากกว่า 4 แต่นอ้ ยกว่า 14


𝐵 แทน เซตของจานวนเฉพาะที่มากกว่า 4 แต่นอ้ ยกว่า 14
จานวนในข้อใดเป็ นสมาชิกของ 𝐴 − 𝐵 [O-NET (มี.ค. 2562/8)]
1. 5 2. 7 3. 9 4. 11 5. 13

6. กาหนดให้ 𝐴 = { 1, 2, 3, 6 } ถ้า 𝐴 ∪ 𝐵 = { 1, 2, 3, 4, 6, 8 } และ 𝐴 ∩ 𝐵 = { 1, 3 }


แล้ว 𝐵 คือเซตในข้อใด [O-NET (มี.ค. 2562/9)]
1. { 1, 3, 4, 8 } 2. { 1, 3, 6, 8 } 3. { 2, 4, 6, 8 }
4. { 1, 3 } 5. { 4, 8 }
คลังโจทย์ 3

7. กำหนดให้ 𝐴 = {5,6,7}
𝐵 = { 𝑥 | 𝑥 เป็ นจำนวนคี่ที่มำกกว่ำ 2 แต่นอ้ ยกว่ำ 8 }
และ เมื่อ 𝑛 ∈ {1, 2, 3} }
𝐶 = { 𝑥 | 𝑥 = 3𝑛 − 2
(𝐴 ∪ 𝐵) − 𝐶 คือเซตในข้อใด [O-NET (มี.ค. 2564/4)]
1. { 5 } 2. { 1 , 2 } 3. {1,4}
4. { 3 , 5 , 6 } 5. { 5 , 6 , 7 }

8. ผลกำรสำรวจกำรเลือกคณะเข้ำศึกษำต่อของนักเรียนกลุม่ หนึง่ จำนวน 50 คน พบว่ำ


1) มีนกั เรียนเลือกทัง้ คณะรัฐศำสตร์และคณะนิเทศศำสตร์ 10 คน
2) มีนกั เรียนเลือกคณะรัฐศำสตร์ แต่ไม่เลือกคณะนิเทศศำสตร์ 8 คน
3) มีนกั เรียนเลือกคณะอื่นๆ ที่ไม่ใช่คณะรัฐศำสตร์และที่ไม่ใช่คณะนิเทศศำสตร์ 12 คน
มีนกั เรียนเลือกคณะนิเทศศำสตร์กี่คน [O-NET (มี.ค. 2564/25)]

9. กาหนดให้ 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 เป็ นสับเซตที่ไม่เป็ นเซตว่างของเอกภพสัมพัทธ์ 𝑈 โดยที่ 𝐵 ⊂ 𝐶 และ 𝐴 ∩ 𝐶 = ∅


ข้ อใดถูก [O-NET (ก.พ. 2560/11)]
1. 𝐴 ∩ 𝐵 = 𝐵 ∩ 𝐶 2. (𝐴 ∩ 𝐵) ∪ 𝐶 = ∅ 3. (𝐴 ∪ 𝐵) ∩ 𝐶 = 𝐵
4. 𝐴 − 𝐵 = 𝐶 − 𝐵 5. 𝐵 ∪ 𝐶 ⊄ 𝐴′

.0123456789
4 คลังโจทย์

10. กาหนดให้ 𝒰 แทนเอกภพสัมพัทธ์ ส่วนที่แรเงาในแผนภาพข้อใด คือ 𝐴 ∪ (𝐵 − 𝐶)


[O-NET (มี.ค. 2562/10)]
1. 𝒰 2. 𝒰 3. 𝒰
𝐴 𝐵 𝐴 𝐵 𝐴 𝐵

𝐶 𝐶 𝐶

4. 𝒰 5. 𝒰
𝐴 𝐵 𝐴 𝐵

𝐶 𝐶

11. จากการสารวจผูท้ ี่ใช้บริการโรงพยาบาล 70 คน พบว่า


1) มีผใู้ ช้บริการโรงพยาบาล A อยู่ 40 คน
2) มีผใู้ ช้บริการทัง้ โรงพยาบาล A และโรงพยาบาล B อยู่ 15 คน
3) มีผใู้ ช้บริการโรงพยาบาลอื่นๆ ที่ไม่ใช่โรงพยาบาล A และที่ไม่ใช่โรงพยาบาล B อยู่ 10 คน
ในการสารวจนี ้ มีผใู้ ช้บริการโรงพยาบาล B อยูท่ งั้ หมดกี่คน [O-NET (มี.ค. 2562/36)]

.0123456789
คลังโจทย์ 5

12. จำกกำรสำรวจลูกค้ำที่ด่มื กำแฟ จำนวน 125 คน ของร้ำนกำแฟแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับกำรใส่นำ้ ตำล นมสด


หรือครีมเทียมในกำแฟ พบว่ำ
1) มีลกู ค้ำที่ใส่นำ้ ตำลในกำแฟ 40 คน
2) มีลกู ค้ำที่ใส่ครีมเทียมในกำแฟ 50 คน
3) มีลกู ค้ำที่ใส่นำ้ ตำลและครีมเทียมในกำแฟ 20 คน
4) มีลกู ค้ำที่ใส่นำ้ ตำลและนมสดในกำแฟ 5 คน
5) ไม่มีลกู ค้ำที่ใส่นมสดและครีมเทียมในกำแฟ
6) มีลกู ค้ำที่ไม่ใส่นำ้ ตำล ไม่ใส่นมสด และไม่ใส่ครีมเทียมในกำแฟ 25 คน
ในกำรสำรวจนี ้ มีลกู ค้ำที่ใส่นมสดในกำแฟเพียงอย่ำงเดียวกี่คน [O-NET (ก.พ. 2563/10)]
1. 10 คน 2. 15 คน 3. 20 คน 4. 30 คน 5. 35 คน

13. ในกำรแข่งขันกีฬำสำมประเภทของโรงเรียนบ้ำนโกงกำง
มีนกั กีฬำ 37 คน ได้เหรียญรำงวัลจำกกีฬำวิ่ง
มีนกั กีฬำ 13 คน ได้เหรียญรำงวัลจำกกีฬำว่ำยนำ้ และ
มีนกั กีฬำ 19 คน ได้เหรียญรำงวัลจำกกีฬำปั่ นจักรยำน
ถ้ำมีนกั กีฬำที่ได้รบั เหรียญรำงวัลทัง้ หมด 46 คน ซึ่งมีเพียง 3 คน ที่ได้เหรียญรำงวัลจำกทุกประเภทกีฬำ
แล้วมีนกั กีฬำกี่คน ที่ได้เหรียญจำกสองประเภทกีฬำเท่ำนัน้ [O-NET (ก.พ. 2565/5)]
1. 13 คน 2. 16 คน 3. 17 คน 4. 19 คน 5. 23 คน

.0123456789
6 คลังโจทย์

14. ให้ 𝐴 = {1, 2, 3, … , 100} ถ้ า 𝑆 = { 𝑛 | 𝑛 ∈ 𝐴 โดยที่ 𝑛 หารด้ วย 2 หรื อ 5 ลงตัว แต่หารด้ วย 10 ไม่ลงตัว }
แล้ วจานวนสมาชิกของ 𝑆 เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2558/17)]
1. 40 2. 45 3. 50
4. 55 5. 60

15. กาหนดให้ 𝑆 เป็ นเซตของจานวนเต็มบวก ซึง่ มี 40 จานวน


ถ้า มี 25 จานวนใน 𝑆 ที่เป็ นจานวนคู่ มี 9 จานวนใน 𝑆 ที่หารด้วย 5 ลงตัว
และ มี 12 จานวนใน 𝑆 ที่ไม่เป็ นจานวนคู่ และหารด้วย 5 ไม่ลงตัว
แล้วจานวนสมาชิกใน 𝑆 ที่หารด้วย 10 ลงตัว มีทงั้ หมดเท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2563/17)]
1. 5 2. 6 3. 7 4. 8 5. 10

.0123456789
คลังโจทย์ 7

16. จำกกำรสำรวจนักเรียนที่เข้ำร่วมกิจกรรมของโรงเรียนแห่งหนึ่งจำนวน 800 คน พบว่ำ


1) นักเรียนที่เข้ำร่วมกิจกรรม A แต่ไม่เข้ำร่วมกิจกรรม B มีจำนวน 230 คน
2) นักเรียนที่เข้ำร่วมกิจกรรม B แต่ไม่เข้ำร่วมกิจกรรม C มีจำนวน 270 คน
3) นักเรียนที่เข้ำร่วมกิจกรรม C แต่ไม่เข้ำร่วมกิจกรรม A มีจำนวน 200 คน
4) นักเรียนที่เข้ำร่วมกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่ใช่กิจกรรม A ไม่ใช่กิจกรรม B และไม่ใช่กิจกรรม C มีจำนวน 20 คน
ในกำรสำรวจนี ้ นักเรียนที่เข้ำร่วมทัง้ กิจกรรม A กิจกรรม B และกิจกรรม C มีจำนวนกี่คน
[O-NET (ก.พ. 2563/35)]

17. กำหนดให้ 𝑈 แทนเอกภพสัมพัทธ์


𝐴 𝐵
และ 𝐴, 𝐵, 𝐶 เป็ นสับเซตของ 𝑈
โดยที่แผนภำพแสดงเซต 𝑈, 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 มีสว่ นที่แรเงำดังรูป
𝐶 𝑈
ส่วนที่แรเงำในแผนภำพแทนเซตในข้อใด
[กสพท คณิต2 (มี.ค. 2565/1)]
1. 𝐵 ∩ (𝐴 − 𝐶) 2. 𝐵 ∩ (𝐶 − 𝐴) 3. 𝐵 − (𝐴 ∩ 𝐶 )
4. 𝐵 − (𝐴 − 𝐶 ) 5. 𝐵 − (𝐶 − 𝐴)

18. กำหนดให้ 𝐴 และ 𝐵 เป็ นเซต โดยที่ เซต 𝐴 ∪ 𝐵 มีสมำชิก 166 ตัว และเซต 𝐴 ∩ 𝐵 มีสมำชิก 74 ตัว
ถ้ำจำนวนสมำชิกของเซต 𝐴 มำกกว่ำจำนวนสมำชิกของเซต 𝐵 อยู่ 12 ตัว แล้วเซต 𝐵 มีสมำชิกทั้งหมดกี่ตวั
[กสพท คณิต2 (มี.ค. 2565/2)]
1. 80 ตัว 2. 92 ตัว 3. 114 ตัว 4. 120 ตัว 5. 126 ตัว

.0123456789
8 คลังโจทย์

19. จากการสารวจนักเรี ยนในโรงเรี ยนแห่งหนึง่ จานวน 500 คน พบว่าแต่ละคนเป็ นสมาชิกของชมรมดนตรี ไทย หรื อ
ชมรมดนตรี สากล หรื อชมรมศิลปะอย่างน้ อยหนึง่ ชมรม
ถ้ า มีนกั เรี ยน 220 คน เป็ นสมาชิกของชมรมศิลปะอย่างเดียว
มีนกั เรี ยน 90 คน เป็ นสมาชิกทังชมรมดนตรี
้ ไทยและชมรมดนตรีสากล
มีนกั เรี ยนทีเ่ ป็ นสมาชิกชมรมดนตรี สากลไม่เกิน 100 คน
แล้ วจานวนนักเรี ยนที่เป็ นสมาชิกของชมรมดนตรี ไทยมีอย่างน้ อยที่สดุ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
[กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2559/18)]
1. 90 คน 2. 120 คน 3. 150 คน
4. 220 คน 5. 270 คน

20. หมูบ่ ้ านแห่งหนึง่ มี 60 ครอบครัว ที่มีอาชีพ ทานา ทาสวน หรื อ เลี ้ยงสัตว์
ถ้ า ทานา 34 ครอบครัว ทาสวน 30 ครอบครัว
ทานา และ ทาสวน 8 ครอบครัว
ทานา และ เลี ้ยงสัตว์ 23 ครอบครัว
ทาสวน และ เลี ้ยงสัตว์ 20 ครอบครัว
ทานาอย่างเดียว 6 ครอบครัว
แล้ ว มีทงหมดกี
ั้ ่ครอบครัวที่มีอาชีพเพียงอาชีพเดียว [O-NET (ก.พ. 2560/36)]
คลังโจทย์ 9

21. จากการสอบถามผูช้ มทีวีกลุม่ หนึง่ จานวน 100 คน ถึงความชอบในการรับชมรายการทีวี 3 ประเภท คือ ดนตรี กีฬา
และละคร โดยผูช้ มแต่ละคนเลือกได้ไม่เกิน 2 รายการ พบว่ามี
5 คนไม่ชอบรายการทัง้ 3 ประเภท
50 คน ชอบรายการดนตรี
40 คน ชอบรายการกีฬา
25 คน ชอบทัง้ รายการดนตรีและกีฬา
จานวนผูช้ มที่ชอบรายการละครเพียงประเภทเดียว เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2561/16)]
1. 30 คน 2. 35 คน 3. 40 คน 4. 45 คน 5. 50 คน

22. ในการสอบถามผู้ที่มาเที่ยวงานประกวดสัตว์เลี ้ยงจานวน 50 คน เรื่ องเลี ้ยงสุนขั แมว และกระต่ายเป็ นสัตว์เลี ้ยง
พบว่า ผู้ที่ไม่เลี ้ยงสัตว์ทงั ้ 3 ชนิดเลย มีจานวน 7 คน
ผู้ที่เลี ้ยงสัตว์ทงั ้ 3 ชนิด มีจานวน 5 คน
ผู้ที่เลี ้ยงสัตว์เพียง 2 ชนิด มีจานวน 22 คน
ผู้ที่เลี ้ยงสุนขั มีจานวน 30 คน
ผู้ที่เลี ้ยงแมว มีจานวน 25 คน
จานวนผู้ทเี่ ลี ้ยงกระต่าย เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2558/18)]
1. 17 คน 2. 20 คน 3. 22 คน
4. 25 คน 5. 27 คน

.0123456789
10 คลังโจทย์

23. จากการสอบถามนักเรี ยน 100 คน พบว่า มี 11 คน ที่ไม่เรี ยนพิเศษ


มีนกั เรี ยนชาย 66 คน เรี ยนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ
และ มีนกั เรี ยนหญิง 22 คน ที่เรี ยนพิเศษคณิตศาสตร์ อย่างเดียว
ข้ อใดต่อไปนี ้กล่าวได้ ถกู ต้ องเกี่ยวกับการเรี ยนพิเศษของนักเรี ยน 100 คนนี ้
[กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2558/24)]
1. ถ้ าไม่มีนกั เรี ยนหญิงเรี ยนวิชาภาษาอังกฤษ แล้ วจะมีนกั เรี ยนชาย 67 คนเรี ยนวิชาคณิตศาสตร์
2. ถ้ ามีนกั เรี ยนหญิงเรี ยนวิชาภาษาอังกฤษ แล้ วจะมีนกั เรี ยนชาย 66 คนเรี ยนวิชาคณิตศาสตร์
3. ถ้ ามีนกั เรี ยนชาย 67 คนเรี ยนวิชาคณิตศาสตร์ แล้ วจะมีนกั เรี ยนหญิงเรี ยนวิชาภาษาอังกฤษ
4. มีนกั เรี ยน 67 คนเรี ยนวิชาภาษาอังกฤษ
5. มีนกั เรี ยน 88 คนเรี ยนวิชาคณิตศาสตร์

24. จากการสารวจเรื่ องการซื ้อของทีร่ ะลึกของผู้ที่เข้ าชมพิพิธภัณฑ์แห่งหนึง่ จานวน 300 คน ในสินค้ าสามชนิดคือ
แก้ วกาแฟ พวงกุญแจ และโปสการ์ ด พบว่า มี 38 คน ซื ้อแก้ วกาแฟ
155 คน ซื ้อพวงกุญแจ
62 คน ซื ้อโปสการ์ ด
13 คน ซื ้อของที่ระลึกทัง้ 3 ชนิด
และ 120 คน ไม่ซื ้อของที่ระลึกทัง้ 3 ชนิดเลย
จานวนผู้ที่ซื ้อของที่ระลึกเพียง 2 ชนิด เท่านัน้ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2562/17)]
1. 49 คน 2. 51 คน 3. 61 คน 4. 75 คน 5. 100 คน

.0123456789
คลังโจทย์ 1

1. กาหนดให้ 𝐴 = {1, 2, 𝑎, 𝑏, 𝑑} − {1, 𝑏, 𝑐}


𝐵 = {2, 3, 𝑐} ∪ {2, 𝑏, 𝑑}
𝐶 = {1, 2, 3, 𝑏} ∩ {3, 𝑎, 𝑏}
จานวนสมาชิกของเซต 𝐵 ∩ (𝐴 ∪ 𝐶) เท่ากับเท่าใด [O-NET (มี.ค. 2561/31)]

ตอบ 4
จะได้ 𝐴 = {1, 2, 𝑎, 𝑏, 𝑑} − {1, 𝑏, 𝑐} = {2, 𝑎, 𝑑}
𝐵 = {2, 3, 𝑐} ∪ {2, 𝑏, 𝑑} = {2, 3, 𝑏, 𝑐, 𝑑}
𝐶 = {1, 2, 3, 𝑏} ∩ {3, 𝑎, 𝑏} = {3, 𝑏}
ดังนัน้ 𝐵 ∩ (𝐴 ∪ 𝐶) = { 2 , 3 , 𝑏 , 𝑐 , 𝑑 } ∩ ( { 2 , 𝑎 , 𝑑 } ∪ { 3 , 𝑏 } )
= {2, 3, 𝑏, 𝑐, 𝑑}∩ {2, 3, 𝑎, 𝑏, 𝑑}
= {2, 3, 𝑏, 𝑑} → มีสมาชิก 4 จานวน

2. จากการสอบถาม เรื่ องความชอบไอศกรี มรสวนิลาและรสส้ ม ของเด็กอนุบาลจานวน 40 คน


พบว่า มี 25 คน ชอบรสวนิลา
10 คน ชอบรสส้ ม
8 คน ไม่ชอบทังรสวนิ
้ ลาและรสส้ ม
มีเด็กอนุบาลที่ชอบทังรสวนิ
้ ลาและรสส้ มกี่คน [O-NET (มี.ค. 2561/34)]
ตอบ 3
ให้ 𝐴 เป็ นเซตของคนชอบวนิลา และ 𝐵 เป็ นเซตของคนชอบส้ ม จากโจทย์ จะได้ 𝑛(𝐴) = 25 และ 𝑛(𝐵) = 10
จากทังหมด
้ 40 คน มี 8 คน ที่ไม่ชอบทังวนิ
้ ลาและส้ ม → เหลือ 32 คน ที่ชอบวนิลา หรื อส้ ม ดังนัน้ 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵) = 32
จากสูตร Inclusive – Exclusive จะได้ 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵) = 𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵)
32 = 25 + 10 − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵)
𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) = 3
ดังนัน้ จะมี 3 คน ที่ชอบทังวนิ
้ ลา และส้ ม

3. กำหนดให้ 𝑈 = { −2 , −1 , 0 , 1 , 2 , … , 7 , 8 , 9 }
และ 𝑥 เป็ นจำนวนคี่ }
𝐴 = { 𝑥 | 𝑥∈𝑈
และ 𝐵 = { 𝑥 | 𝑥 ∈ 𝑈 และ 𝑥 2 < 9 }
𝐴 − 𝐵 คือเซตในข้อใด [O-NET (ก.พ. 2563/8)]
1. { −1 , 1 } 2. { 1 , 3 } 3. {5, 7, 9}
4. { 3 , 5 , 7 , 9 } 5. { 1 , 3 , 5 , 7 , 9}

ตอบ 4
𝐴−𝐵 คือ อยู่ใน 𝐴 แต่ไม่อยู่ใน 𝐵 → คือจำนวนคี่ท่ียกกำลังสองแล้วมีค่ำไม่นอ้ ยกว่ำ 9 (คือ ≥ 9)
จำนวนคี่ใน 𝑈 จะมี −1 , 1 , 3 , 5 , 7 , 9 (เลขติดลบ ก็เป็ นจำนวนคี่ได้)
ซึ่งในจำนวนเหล่ำนี ้ จะมี 3 , 5 , 7 , 9 (ตรงกับตัวเลือกข้อ 4) ที่ยกกำลังสองแล้วมีค่ำ ≥ 9

.0123456789
2 คลังโจทย์

4. กาหนดเอกภพสัมพัทธ์คือ เซตของจานวนนับ ถ้ า 𝐴 = { 1 , 2 , 3 , … , 10 }
𝐵 = { 4 , 8 , 12 , 16 , 20}
และ 𝐶 = { 𝑥 | (𝑥 + 1)(𝑥 − 4) = 0 }
แล้ ว ข้ อใดผิด [O-NET (ก.พ. 2560/17)]
1. 𝐴 ∩ 𝐶 = 𝐵 ∩ 𝐶 2. 𝐵∪𝐶 = 𝐵
3. 𝐴 ∩ 𝐵 = { 4, 8 } 4. 𝐵 − 𝐴 = { 12 , 16 , 20 }
5. (𝐴 ∩ 𝐶) ∪ 𝐵 = { 8 , 12 , 16 , 20 }
ตอบ 5
แก้ อสมการเงื่อนไขใน 𝐶 จะได้ 𝑥 = −1, 4 แต่เอกภพสัมพัทธ์คือจานวนนับ → เหลือ 𝐶={4}
1. 𝐴 ∩ 𝐶 = { 1, 2, 3, … ,10 } ∩ { 4 } = {4}
𝐵 ∩ 𝐶 = { 4, 8, 12, 16, 20 } ∩ { 4 } = {4} 
2. 𝐵 ∪ 𝐶 = { 4, 8, 12, 16, 20 } ∩ { 4 }
= { 4, 8, 12, 16, 20 } = 𝐵 
3. 𝐴 ∩ 𝐵 = { 1, 2, 3, … ,10 } ∩ { 4, 8, 12, 16, 20 }
= { 4, 8 } 
4. 𝐵 − 𝐴 = { 4, 8, 12, 16, 20 } − { 1, 2, 3, … , 10 }
= { 12, 16, 20 } 
5. (𝐴 ∩ 𝐶) ∪ 𝐵 = ( { 1, 2, 3, … ,10 } ∩ { 4 } ) ∪ { 4, 8, 12, 16, 20 }
= {4} ∪ { 4, 8, 12, 16, 20 }
= { 4, 8, 12, 16, 20 } 

5. กาหนดให้ แทน เซตของจานวนคี่ทมี่ ากกว่า 4 แต่นอ้ ยกว่า 14


𝐴
𝐵 แทน เซตของจานวนเฉพาะที่มากกว่า 4 แต่นอ้ ยกว่า 14
จานวนในข้อใดเป็ นสมาชิกของ 𝐴 − 𝐵 [O-NET (มี.ค. 2562/8)]
1. 5 2. 7 3. 9 4. 11 5. 13
ตอบ 3
จะได้ 𝐴 = { 5 , 7 , 9 , 11 , 13 }
𝐵 = { 5 , 7 , 11 , 13 }
ดังนัน้ 𝐴−𝐵 = {9}

6. กาหนดให้ 𝐴 = { 1, 2, 3, 6 } ถ้า 𝐴 ∪ 𝐵 = { 1, 2, 3, 4, 6, 8 } และ 𝐴 ∩ 𝐵 = { 1, 3 }


แล้ว 𝐵 คือเซตในข้อใด [O-NET (มี.ค. 2562/9)]
1. { 1, 3, 4, 8 } 2. { 1, 3, 6, 8 } 3. { 2, 4, 6, 8 }
4. { 1, 3 } 5. { 4, 8 }
ตอบ 1
𝐴 𝐵
จาก 𝐴 ∩ 𝐵 = { 1, 3 } จะวาดแผนภาพได้ดงั รูป 1
3

𝐴 𝐵
จาก 𝐴 = { 1, 2, 3, 6 } จะเติมส่วนที่เหลือของ 𝐴 ได้ดงั รูป 2 1
6 3

𝐴 𝐵
2 1 4
จาก 𝐴 ∪ 𝐵 = { 1, 2, 3, 4, 6, 8 } จะเติมส่วนที่เหลือของ 𝐴∪𝐵 ได้ดงั รูป 6 3 8
.0123456789
จาก 𝐴 ∩ 𝐵 = { 1, 3 } จะวาดแผนภาพได้ดงั รูป 1
3

𝐴 𝐵
จาก 𝐴 = { 1, 2, 3, 6 } จะเติมส่วนที่เหลือของ 𝐴 ได้ดงั รูป 2 1 คลังโจทย์ 3
6 3

𝐴 𝐵
2 1 4
จาก 𝐴 ∪ 𝐵 = { 1, 2, 3, 4, 6, 8 } จะเติมส่วนที่เหลือของ 𝐴∪𝐵 ได้ดงั รูป 6 3 8

และจากแผนภาพสุดท้าย จะได้ 𝐵 = { 1, 3, 4, 8 }

7. กำหนดให้ 𝐴 = {5,6,7}
𝐵 = { 𝑥 | 𝑥 เป็ นจำนวนคี่ที่มำกกว่ำ 2 แต่นอ้ ยกว่ำ 8 }
และ 𝐶 = { 𝑥 | 𝑥 = 3𝑛 − 2เมื่อ 𝑛 ∈ {1, 2, 3} }
(𝐴 ∪ 𝐵) − 𝐶 คือเซตในข้อใด [O-NET (มี.ค. 2564/4)]
1. { 5 } 2. { 1 , 2 } 3. {1,4}
4. { 3 , 5 , 6 } 5. { 5 , 6 , 7 }
ตอบ 4
จำนวนคี่ที่มำกกว่ำ 2 แต่นอ้ ยกว่ำ 8 จะมี 3, 5, 7 ดังนัน้ 𝐵 = { 3, 5, 7 }
เมื่อ 𝑛 = 1, 2, 3 จะได้ 3𝑛 − 2 = 1, 4, 7 ดังนัน้ 𝐶 = { 1, 4, 7 }
ดังนัน้ (𝐴 ∪ 𝐵) − 𝐶 = ({ 5, 6, 7 } ∪ { 3, 5, 7 }) − { 1, 4, 7 }
= { 3, 5, 6, 7 } − { 1, 4, 7 }
= { 3, 5, 6 }

8. ผลกำรสำรวจกำรเลือกคณะเข้ำศึกษำต่อของนักเรียนกลุม่ หนึง่ จำนวน 50 คน พบว่ำ


1) มีนกั เรียนเลือกทัง้ คณะรัฐศำสตร์และคณะนิเทศศำสตร์ 10 คน
2) มีนกั เรียนเลือกคณะรัฐศำสตร์ แต่ไม่เลือกคณะนิเทศศำสตร์ 8 คน
3) มีนกั เรียนเลือกคณะอื่นๆ ที่ไม่ใช่คณะรัฐศำสตร์และที่ไม่ใช่คณะนิเทศศำสตร์ 12 คน
มีนกั เรียนเลือกคณะนิเทศศำสตร์กี่คน [O-NET (มี.ค. 2564/25)]
ตอบ 30
จำกข้อมูลที่โจทย์ให้ จะวำดแผนภำพเวนน์ได้ดงั รูป รัฐศำสตร์ นิเทศ
จะเห็นว่ำส่วนที่อยูน่ อกวงนิเทศ จะมี 12 + 8 = 20 คน 8 10
12
แต่ทงั้ หมดมี 50 คน → วงนิเทศจะมี 50 − 20 = 30 คน

9. กาหนดให้ 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 เป็ นสับเซตที่ไม่เป็ นเซตว่างของเอกภพสัมพัทธ์ 𝑈 โดยที่ 𝐵 ⊂ 𝐶 และ 𝐴 ∩ 𝐶 = ∅


ข้ อใดถูก [O-NET (ก.พ. 2560/11)]
1. 𝐴 ∩ 𝐵 = 𝐵 ∩ 𝐶 2. (𝐴 ∩ 𝐵) ∪ 𝐶 = ∅ 3. (𝐴 ∪ 𝐵) ∩ 𝐶 = 𝐵
4. 𝐴 − 𝐵 = 𝐶 − 𝐵 5. 𝐵 ∪ 𝐶 ⊄ 𝐴′
ตอบ 3
จาก 𝐵 ⊂ 𝐶 และ 𝐴 ∩ 𝐶 = ∅ จะวาดแผนภาพได้ ดงั รูป
𝐶 𝒰 𝐶 𝒰 𝒰 = { 1, 2, 3, 4}
𝐵 𝐴 กาหนด “สมาชิกตัวแทน” 𝐵 𝐴 𝐴={3}
1 2 3 𝐵={1}
ให้ แต่ละส่วนจะได้
4 𝐶 = { 1, 2 }

1. 𝐴 ∩ 𝐵 = 𝐵 ∩ 𝐶 2. (𝐴 ∩ 𝐵) ∪ 𝐶 = ∅
{3} ∩ {1} = {1} ∩ {1, 2} ({3} ∩ {1}) ∪ {1, 2} = ∅
∅ = {1}  ∅ ∪ {1, 2} = ∅
{1, 2} = ∅ 
3. (𝐴 ∪ 𝐵) ∩ 𝐶 = 𝐵 4. 𝐴 − 𝐵 = 𝐶 − 𝐵
.0123456789
𝐶 𝒰 𝐶 𝒰 𝒰 = { 1, 2, 3, 4}
𝐵 𝐴 กาหนด “สมาชิกตัวแทน” 𝐵 𝐴 𝐴={3}
1 2
4 คลังโจทย์ ให้ แต่ละส่วนจะได้ 3 𝐵={1}
4 𝐶 = { 1, 2 }

1. 𝐴 ∩ 𝐵 = 𝐵 ∩ 𝐶 2. (𝐴 ∩ 𝐵) ∪ 𝐶 = ∅
{3} ∩ {1} = {1} ∩ {1, 2} ({3} ∩ {1}) ∪ {1, 2} = ∅
∅ = {1}  ∅ ∪ {1, 2} = ∅
{1, 2} = ∅ 
3. (𝐴 ∪ 𝐵) ∩ 𝐶 = 𝐵 4. 𝐴 − 𝐵 = 𝐶 − 𝐵
({3} ∪ {1}) ∩ {1, 2} = {1} {3} − {1} = {1, 2} − {1}
{1, 3} ∩ {1, 2} = {1} {3} = {2} 
{1} = {1} 
5. 𝐵 ∪ 𝐶 ⊄ 𝐴′
{1} ∪ {1, 2} ⊄ {3}′
{1, 2} ⊄ {1, 2, 4} 

10. กาหนดให้ 𝒰 แทนเอกภพสัมพัทธ์ ส่วนที่แรเงาในแผนภาพข้อใด คือ 𝐴 ∪ (𝐵 − 𝐶)


[O-NET (มี.ค. 2562/10)]
1. 𝒰 2. 𝒰 3. 𝒰
𝐴 𝐵 𝐴 𝐵 𝐴 𝐵

𝐶 𝐶 𝐶

4. 𝒰 5. 𝒰
𝐴 𝐵 𝐴 𝐵

𝐶 𝐶

ตอบ 5
𝐴 𝐵 𝐴 𝐵 𝐴 𝐵
ยูเนียน
(เอาพืน้ ที่มารวมกัน)
𝐶 𝐶 𝐶
𝐴 𝐵−𝐶 𝐴 ∪ (𝐵 − 𝐶)

11. จากการสารวจผูท้ ี่ใช้บริการโรงพยาบาล 70 คน พบว่า


1) มีผใู้ ช้บริการโรงพยาบาล A อยู่ 40 คน
2) มีผใู้ ช้บริการทัง้ โรงพยาบาล A และโรงพยาบาล B อยู่ 15 คน
3) มีผใู้ ช้บริการโรงพยาบาลอื่นๆ ที่ไม่ใช่โรงพยาบาล A และที่ไม่ใช่โรงพยาบาล B อยู่ 10 คน
ในการสารวจนี ้ มีผใู้ ช้บริการโรงพยาบาล B อยูท่ งั้ หมดกี่คน [O-NET (มี.ค. 2562/36)]
ตอบ 35
จาก 2) จะเติม 15 ตรงกลางได้ A B 𝒰
15
จาก 3) จะเติม 10 ด้านนอกได้ ดังรูป 10

จาก 1) แสดงว่าวง A ต้องรวมกันได้ 40 A B 𝒰


25 15
แต่ในวง A มี 15 อยูแ่ ล้ว → เหลือ 40 − 15 = 25 ตรงเสีย้ วซ้าย ดังรู ป 10

มีคนทัง้ หมด 70 คน → จะเหลือ 70 − 25 − 15 − 10 = 20 ตรงเสีย้ วขวาที่เหลือ ดังรู ป A B 𝒰


25 15 20
นั่นคือ วง B จะมีสมาชิก 15 + 20 = 35 คน 10

.0123456789
จาก 3) จะเติม 10 ด้านนอกได้ ดังรูป 10

จาก 1) แสดงว่าวง A ต้องรวมกันได้ 40 A B 𝒰


25 15 คลังโจทย์ 5
แต่ในวง A มี 15 อยูแ่ ล้ว → เหลือ 40 − 15 = 25 ตรงเสีย้ วซ้าย ดังรู ป 10

มีคนทัง้ หมด 70 คน → จะเหลือ 70 − 25 − 15 − 10 = 20 ตรงเสีย้ วขวาที่เหลือ ดังรู ป A B 𝒰


25 15 20
นั่นคือ วง B จะมีสมาชิก 15 + 20 = 35 คน 10

12. จำกกำรสำรวจลูกค้ำที่ด่มื กำแฟ จำนวน 125 คน ของร้ำนกำแฟแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับกำรใส่นำ้ ตำล นมสด


หรือครีมเทียมในกำแฟ พบว่ำ
1) มีลกู ค้ำที่ใส่นำ้ ตำลในกำแฟ 40 คน
2) มีลกู ค้ำที่ใส่ครีมเทียมในกำแฟ 50 คน
3) มีลกู ค้ำที่ใส่นำ้ ตำลและครีมเทียมในกำแฟ 20 คน
4) มีลกู ค้ำที่ใส่นำ้ ตำลและนมสดในกำแฟ 5 คน
5) ไม่มีลกู ค้ำที่ใส่นมสดและครีมเทียมในกำแฟ
6) มีลกู ค้ำที่ไม่ใส่นำ้ ตำล ไม่ใส่นมสด และไม่ใส่ครีมเทียมในกำแฟ 25 คน
ในกำรสำรวจนี ้ มีลกู ค้ำที่ใส่นมสดในกำแฟเพียงอย่ำงเดียวกี่คน [O-NET (ก.พ. 2563/10)]
1. 10 คน 2. 15 คน 3. 20 คน 4. 30 คน 5. 35 คน
ตอบ 4
ตำล ครีม ตำล ครีม
20
จำก 5) และ 6) จะได้ 0 0 เมื่อตรงกลำงเป็ น 0 และ จำก 3) กับ 4) จะได้ 5 0 0
25 25
สด สด

ตำล ครีม
จำก 1) จะได้ส่วนที่เหลือของวงนำ้ ตำล = 40 − 20 − 5 = 15 15 20 30
จำก 2) จะได้ส่วนที่เหลือของวงครีมเทียม = 50 − 20 = 30 5 0 0
25
สด
มีทงั้ หมด 125 คน → เหลือนมสดอย่ำงเดียว = 125 − 15 − 20 − 30 − 5 − 25 = 30 คน

13. ในกำรแข่งขันกีฬำสำมประเภทของโรงเรียนบ้ำนโกงกำง
มีนกั กีฬำ 37 คน ได้เหรียญรำงวัลจำกกีฬำวิ่ง
มีนกั กีฬำ 13 คน ได้เหรียญรำงวัลจำกกีฬำว่ำยนำ้ และ
มีนกั กีฬำ 19 คน ได้เหรียญรำงวัลจำกกีฬำปั่ นจักรยำน
ถ้ำมีนกั กีฬำที่ได้รบั เหรียญรำงวัลทัง้ หมด 46 คน ซึ่งมีเพียง 3 คน ที่ได้เหรียญรำงวัลจำกทุกประเภทกีฬำ
แล้วมีนกั กีฬำกี่คน ที่ได้เหรียญจำกสองประเภทกีฬำเท่ำนัน้ [O-NET (ก.พ. 2565/5)]
1. 13 คน 2. 16 คน 3. 17 คน 4. 19 คน 5. 23 คน
ตอบ 3
𝐴 𝐵
ให้ 𝐴, 𝐵, 𝐶 แทน วิ่ง, ว่ำยนำ้ และปั่ นจักรยำน 𝑥

มี 3 คน ได้ทกุ ประเภท → ส่วนตรงกลำง = 3 𝑦 3 𝑧

โจทย์ถำมคนที่ได้เหรียญจำก 2 ประเภท → คือถำมบริเวณ 𝑥, 𝑦, 𝑧 ดังรูป 𝐶


จำกสูตร Inclusive – Exclusive จะได้
𝑛 (𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶 ) = 𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) + 𝑛(𝐶 ) − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) − 𝑛(𝐵 ∩ 𝐶 ) − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐶 ) + 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵 ∪ 𝐶 )
46 = 37 + 13 + 19 − (𝑥 + 3) − (𝑧 + 3) − (𝑦 + 3) + 3
46 = 69 −𝑥 − 3 −𝑧 − 3 −𝑦 − 3 + 3
𝑥+𝑦+𝑧 = 69 − 46 −3 −3
𝑥+𝑦+𝑧 = 17

.0123456789
ตอบ 3
𝐴 𝐵
ให้ 𝐴, 𝐵, 𝐶 แทน วิ่ง, ว่ำยนำ้ และปั่ นจักรยำน 𝑥

มี ง3โจทย์
6 คลั คน ได้ทกุ ประเภท → ส่วนตรงกลำง = 3 𝑦 3 𝑧

โจทย์ถำมคนที่ได้เหรียญจำก 2 ประเภท → คือถำมบริเวณ 𝑥, 𝑦, 𝑧 ดังรูป 𝐶


จำกสูตร Inclusive – Exclusive จะได้
𝑛 (𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶 ) = 𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) + 𝑛(𝐶 ) − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) − 𝑛(𝐵 ∩ 𝐶 ) − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐶 ) + 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵 ∪ 𝐶 )
46 = 37 + 13 + 19 − (𝑥 + 3) − (𝑧 + 3) − (𝑦 + 3) + 3
46 = 69 −𝑥 − 3 −𝑧 − 3 −𝑦 − 3 + 3
𝑥+𝑦+𝑧 = 69 − 46 −3 −3
𝑥+𝑦+𝑧 = 17

14. ให้ 𝐴 = {1, 2, 3, … , 100} ถ้ า 𝑆 = { 𝑛 | 𝑛 ∈ 𝐴 โดยที่ 𝑛 หารด้ วย 2 หรื อ 5 ลงตัว แต่หารด้ วย 10 ไม่ลงตัว }
แล้ วจานวนสมาชิกของ 𝑆 เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2558/17)]
1. 40 2. 45 3. 50
4. 55 5. 60
ตอบ 3
หาจานวนตัวที่หารด้ วย 2 กับ 5 ลงตัว เพื่อวาดลงแผนภาพดังนี ้
หารด้ วย 2 ลงตัว มี 2, 4, 6, … , 100 มีจานวน 100
2
= 50 ตัว → วง ÷2 ลงตัว
หารด้ วย 5 ลงตัว มี 5, 10, 15, … , 100 มีจานวน 1005
= 20 ตัว → วง ÷5 ลงตัว
หารด้ วย 2 และ 5 ลงตัว = หารด้ วย 10 ลงตัว มี 10, 20, 30, … , 100 มีจานวน 100
10
= 10 ตัว → ตรงกลาง
ใส่ตรงกลาง = 10 และหาริ มซ้ ายขวาได้ ดงั รูป
÷2 ลงตัว ÷5 ลงตัว ÷2 ลงตัว ÷5 ลงตัว

10 40 10 10

วง ÷2 ลงตัว ทังวง
้ มี 50 ตัว วง ÷5 ลงตัว ทังวง
้ มี 20 ตัว
เป็ นตรงกลาง 10 ตัว เป็ นตรงกลาง 10 ตัว
เหลือริมซ้ าย 50 − 10 = 40 ตัว เหลือริมขวา 20 − 10 = 10 ตัว

โจทย์ถาม ตัวที่หารด้ วย 2 หรื อ 5 ลงตัว แต่หารด้ วย 10 ไม่ลงตัว = ริ มซ้ ายขวา (ไม่เอาตรงกลาง)


= 40 + 10 = 50

15. กาหนดให้ 𝑆 เป็ นเซตของจานวนเต็มบวก ซึง่ มี 40 จานวน


ถ้า มี 25 จานวนใน 𝑆 ที่เป็ นจานวนคู่ มี 9 จานวนใน 𝑆 ที่หารด้วย 5 ลงตัว
และ มี 12 จานวนใน 𝑆 ที่ไม่เป็ นจานวนคู่ และหารด้วย 5 ไม่ลงตัว
แล้วจานวนสมาชิกใน 𝑆 ที่หารด้วย 10 ลงตัว มีทงั้ หมดเท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2563/17)]
1. 5 2. 6 3. 7 4. 8 5. 10
ตอบ 2
𝑆
ให้เอกภพสัมพัทธ์คอื 𝑆 คู่ ÷5 ลงตัว
12 จานวน ไม่เป็ นคู่ และ ÷ 5 ไม่ลงตัว → จะได้บริเวณนอกวงกลม = 12 ดังรู ป 𝑎 𝑏 𝑐
12
โจทย์ถามจานวนที่ ÷ 10 ลงตัว → ต้องเป็ นคู่ และ ÷ 5 ลงตัว → ต้องหา 𝑏 มาตอบ
25 จานวนเป็ นคู่ → 𝑎 + 𝑏 = 25 …(1)
9 จานวน ÷ 5 ลงตัว → 𝑏 + 𝑐 = 9 …(2)
𝑆 มีทงั้ หมด 40 จานวน → 𝑎 + 𝑏 + 𝑐 + 12 = 40
จาก (1)
25 + 𝑐 + 12 = 40
𝑐 = 3 → แทนใน (2) จะได้ 𝑏+3 = 9
𝑏 = 6

.0123456789
คลังโจทย์ 7

16. จำกกำรสำรวจนักเรียนที่เข้ำร่วมกิจกรรมของโรงเรียนแห่งหนึ่งจำนวน 800 คน พบว่ำ


1) นักเรียนที่เข้ำร่วมกิจกรรม A แต่ไม่เข้ำร่วมกิจกรรม B มีจำนวน 230 คน
2) นักเรียนที่เข้ำร่วมกิจกรรม B แต่ไม่เข้ำร่วมกิจกรรม C มีจำนวน 270 คน
3) นักเรียนที่เข้ำร่วมกิจกรรม C แต่ไม่เข้ำร่วมกิจกรรม A มีจำนวน 200 คน
4) นักเรียนที่เข้ำร่วมกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่ใช่กิจกรรม A ไม่ใช่กิจกรรม B และไม่ใช่กิจกรรม C มีจำนวน 20 คน
ในกำรสำรวจนี ้ นักเรียนที่เข้ำร่วมทัง้ กิจกรรม A กิจกรรม B และกิจกรรม C มีจำนวนกี่คน
[O-NET (ก.พ. 2563/35)]

ตอบ 80
จำกทัง้ 4 ข้อ จะได้ A แต่ไม่ B = 230 B แต่ไม่ C = 270 C แต่ไม่ A = 200 ไม่ A B C = 20

จะเห็นว่ำ รูปทัง้ 4 ไม่ซอ้ นทับกันเลย ซึ่งถ้ำนำทุกรูปมำรวมกัน


จะได้เกือบครบทุกส่วน (ยกเว้นตรงกลำง) ดังรูป 230 + 270 + 200 + 20 = 720

เนื่องจำกมีนักเรียนทัง้ หมด 800 คน → จะเหลือตรงกลำง (เข้ำทั้ง A B C) = 800 − 720 = 80 คน

17. กำหนดให้ 𝑈 แทนเอกภพสัมพัทธ์


𝐴 𝐵
และ 𝐴, 𝐵, 𝐶 เป็ นสับเซตของ 𝑈
โดยที่แผนภำพแสดงเซต 𝑈, 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 มีสว่ นที่แรเงำดังรูป
𝐶 𝑈
ส่วนที่แรเงำในแผนภำพแทนเซตในข้อใด
[กสพท คณิต2 (มี.ค. 2565/1)]
1. 𝐵 ∩ (𝐴 − 𝐶) 2. 𝐵 ∩ (𝐶 − 𝐴) 3. 𝐵 − (𝐴 ∩ 𝐶 )
4. 𝐵 − (𝐴 − 𝐶 ) 5. 𝐵 − (𝐶 − 𝐴)

ตอบ 5
ส่วนที่แรเงำคือ 𝐵 ที่หกั ออกด้วย “เสีย้ วหนึ่งใน 𝐶”
จะเห็นว่ำ “เสีย้ วหนึ่งใน 𝐶” ที่ตอ้ งถูกหักออกนัน้ ไม่อยู่ใน 𝐴 ซึ่งจะได้จำก 𝐶 −𝐴
𝐵 𝐶−𝐴

− = จะได้ส่วนที่แรเงำคือ 𝐵 − (𝐶 − 𝐴)

.0123456789
8 คลังโจทย์

18. กำหนดให้ 𝐴 และ 𝐵 เป็ นเซต โดยที่ เซต 𝐴 ∪ 𝐵 มีสมำชิก 166 ตัว และเซต 𝐴 ∩ 𝐵 มีสมำชิก 74 ตัว
ถ้ำจำนวนสมำชิกของเซต 𝐴 มำกกว่ำจำนวนสมำชิกของเซต 𝐵 อยู่ 12 ตัว แล้วเซต 𝐵 มีสมำชิกทั้งหมดกี่ตวั
[กสพท คณิต2 (มี.ค. 2565/2)]
1. 80 ตัว 2. 92 ตัว 3. 114 ตัว 4. 120 ตัว 5. 126 ตัว
ตอบ 3
จำกสูตร Inclusive – Exclusive : 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵) = 𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵)
166 = 𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) − 74
240 = 𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵)
𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) = 240 …(1)
และโจทย์ให้ 𝑛(𝐴) − 𝑛(𝐵) = 12 …(2)
(1) − (2) : 2𝑛(𝐵) = 228
𝑛(𝐵) = 114

19. จากการสารวจนักเรี ยนในโรงเรี ยนแห่งหนึง่ จานวน 500 คน พบว่าแต่ละคนเป็ นสมาชิกของชมรมดนตรี ไทย หรื อ
ชมรมดนตรี สากล หรื อชมรมศิลปะอย่างน้ อยหนึง่ ชมรม
ถ้ า มีนกั เรี ยน 220 คน เป็ นสมาชิกของชมรมศิลปะอย่างเดียว
มีนกั เรี ยน 90 คน เป็ นสมาชิกทังชมรมดนตรี
้ ไทยและชมรมดนตรีสากล
มีนกั เรี ยนทีเ่ ป็ นสมาชิกชมรมดนตรี สากลไม่เกิน 100 คน
แล้ วจานวนนักเรี ยนที่เป็ นสมาชิกของชมรมดนตรี ไทยมีอย่างน้ อยที่สดุ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
[กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2559/18)]
1. 90 คน 2. 120 คน 3. 150 คน
4. 220 คน 5. 270 คน
ตอบ 5
ไทย สากล ไทย สากล ไทย สากล
ลบ เหลือ
− =
ศิลปะ ศิลปะ ศิลปะ
ทังหมด
้ 500 คน ศิลปะอย่างเดียว 220 คน 500 − 220 = 280
จะได้ 𝑛(ไทย ∪ สากล) = 280
แทนค่า 𝑛(ไทย ∪ สากล) = 280 ลงในสูตร Inclusive – Exclusive ดังนี ้
𝑛(ไทย ∪ สากล) = 𝑛(ไทย) + 𝑛(สากล) − 𝑛(ไทย ∩ สากล)
โจทย์กาหนด
280 = 𝑛(ไทย) + 𝑛(สากล) − 90
370 − 𝑛(ไทย) = 𝑛(สากล)
โจทย์ให้ ชมรมดนตรีสากล ไม่เกิน 100 คน
370 − 𝑛(ไทย) ≤ 100
270 ≤ 𝑛(ไทย)

จะได้ ชมรมดนตรี ไทย ≥ 270 คน → อย่างน้ อย 270 คน

.0123456789
คลังโจทย์ 9

20. หมูบ่ ้ านแห่งหนึง่ มี 60 ครอบครัว ที่มีอาชีพ ทานา ทาสวน หรื อ เลี ้ยงสัตว์
ถ้ า ทานา 34 ครอบครัว ทาสวน 30 ครอบครัว
ทานา และ ทาสวน 8 ครอบครัว
ทานา และ เลี ้ยงสัตว์ 23 ครอบครัว
ทาสวน และ เลี ้ยงสัตว์ 20 ครอบครัว
ทานาอย่างเดียว 6 ครอบครัว
แล้ ว มีทงหมดกี
ั้ ่ครอบครัวที่มีอาชีพเพียงอาชีพเดียว [O-NET (ก.พ. 2560/36)]
ตอบ 15
จะใช้ วิธีลบแผนภาพ โดยพิจารณาข้ อมูลที่เกี่ยวกับการทานาก่อน
เอา “ทานาทังหมด”
้ หักออกด้ วย “ทานาและทาสวน” กับ “ทานาอย่างเดียว” จะเหลือเสี ้ยวทางซ้ ายดังรูป
นา สวน นา สวน นา สวน นา สวน

− − = 20

สัตว์ สัตว์ สัตว์ สัตว์


นา = 34 นา และ สวน = 8 นาอย่างเดียว = 6 34 − 8 − 6 = 20

8−3=5
จาก นา และ สัตว์ = 23 → จะได้ ตรงกลาง = 23 − 20 = 3 นา สวน
เมื่อได้ ตรงกลาง จะหาส่วนที่เหลือได้ ดังนี ้
3
นาและสวน = 8 → เหลือเสี ้ยวบน = 8 − 3 = 5 20 20 − 3 = 17

ส่วนและสัตว์ = 20 → เหลือเสี ้ยวขวา = 20 − 3 = 17 สัตว์


จะลบต่อเพื่อหาส่วนที่เหลือก็ได้ แต่โจทย์ถามครอบครัวที่มีอาชีพเดียว ซึง่ ได้ แก่สว่ นที่ไม่มีการซ้ อนทับกัน
ซึง่ หาได้ จากการเอาจานวนครอบครัวทังหมด
้ หักออกด้ วยส่วนที่มกี ารซ้ อนทับกัน = 60 − 20 − 5 − 17 − 3 = 15

21. จากการสอบถามผูช้ มทีวีกลุม่ หนึง่ จานวน 100 คน ถึงความชอบในการรับชมรายการทีวี 3 ประเภท คือ ดนตรี กีฬา
และละคร โดยผูช้ มแต่ละคนเลือกได้ไม่เกิน 2 รายการ พบว่ามี
5 คนไม่ชอบรายการทัง้ 3 ประเภท
50 คน ชอบรายการดนตรี
40 คน ชอบรายการกีฬา
25 คน ชอบทัง้ รายการดนตรีและกีฬา
จานวนผูช้ มที่ชอบรายการละครเพียงประเภทเดียว เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2561/16)]
1. 30 คน 2. 35 คน 3. 40 คน 4. 45 คน 5. 50 คน
ตอบ 1
ละครอย่างเดียว 𝑥 คน …(1)
จะใช้วิธีบวกลบแผนภาพ โดยพยายามประกอบชิน้ ส่วนให้ครบ (ทัง้ หมด = 100 คน) ดนตรี กีฬา
สมมติให้จานวนผูช้ มทีช่ อบละครเพียงประเภทเดียว มี 𝑥 คน → ส่วนที่แรเงา = 𝑥 ดังรูป
ละคร

และจากข้อมูลทัง้ หมดที่โจทย์โจทย์กาหนด จะได้แผนภาพดังรูป


ไม่ชอบเลย 5 คน …(2) ดนตรี 50 คน …(3) กีฬา 40 คน …(4) ดนตรีและกีฬา 25 คน …(5)

.0123456789
ตอบ 1
ละครอย่างเดียว 𝑥 คน …(1)
จะใช้วิธีบวกลบแผนภาพ โดยพยายามประกอบชิน้ ส่วนให้ครบ (ทัง้ หมด = 100 คน) ดนตรี กีฬา
สมมติ
งโจทย์ให้จานวนผูช้ มทีช่ อบละครเพียงประเภทเดียว มี 𝑥 คน → ส่วนที่แรเงา = 𝑥 ดังรูป
10 คลั
ละคร

และจากข้อมูลทัง้ หมดที่โจทย์โจทย์กาหนด จะได้แผนภาพดังรูป


ไม่ชอบเลย 5 คน …(2) ดนตรี 50 คน …(3) กีฬา 40 คน …(4) ดนตรีและกีฬา 25 คน …(5)

(4) − (5) : 40 − 25 = 15 คน …(6)

จะเห็นว่า ชิน้ ส่วนที่แรเงาใน (1) + (2) + (3) + (6) จะประกอบกัน


ได้ครบทัง้ รูป (= 100 คน) พอดี → 𝑥 + 5 + 50 + 15 = 100
𝑥 = 30

22. ในการสอบถามผู้ที่มาเที่ยวงานประกวดสัตว์เลี ้ยงจานวน 50 คน เรื่ องเลี ้ยงสุนขั แมว และกระต่ายเป็ นสัตว์เลี ้ยง
พบว่า ผู้ที่ไม่เลี ้ยงสัตว์ทงั ้ 3 ชนิดเลย มีจานวน 7 คน
ผู้ที่เลี ้ยงสัตว์ทงั ้ 3 ชนิด มีจานวน 5 คน
ผู้ที่เลี ้ยงสัตว์เพียง 2 ชนิด มีจานวน 22 คน
ผู้ที่เลี ้ยงสุนขั มีจานวน 30 คน
ผู้ที่เลี ้ยงแมว มีจานวน 25 คน
จานวนผู้ทเี่ ลี ้ยงกระต่าย เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2558/18)]
1. 17 คน 2. 20 คน 3. 22 คน
4. 25 คน 5. 27 คน
ตอบ 2
สุนขั (D) แมว (C) เลี ้ยง 3 ชนิด = 5 คน จะได้ ตรงกลาง = 5
𝑥
เลี ้ยง 2 ชนิด = 22 คน จะได้ 𝑥 + 𝑦 + 𝑧 = 22 …(∗)
5
𝑦 𝑧
ไม่เลี ้ยง = 7 คน จะได้ เลี ้ยง = ทังหมด
้ − ไม่เลี ้ยง
= 50 − 7
กระต่าย (R) = 43 = 𝑛(D ∪ C ∪ R)

จากสูตร Inclusive – Exclusice จะได้


𝑛(D ∪ C ∪ R) = 𝑛(D) + 𝑛(C) + 𝑛(R) − 𝑛(D ∩ C) − 𝑛(D ∩ R) − 𝑛(C ∩ R) + 𝑛(D ∩ C ∩ R)
43 = 30 + 25 + 𝑛(R) − (5 + 𝑥) − (5 + 𝑦) − (5 + 𝑧) + 5
43 = 30 + 25 + 𝑛(R) − 5 − 𝑥 − 5 − 𝑦 −5 −𝑧 + 5
43 = 45 + 𝑛(R) − (𝑥 + 𝑦 + 𝑧)
43 = 45 + 𝑛(R) − 22 จาก (∗)
20 = 𝑛(R)

.0123456789
คลังโจทย์ 11

23. จากการสอบถามนักเรี ยน 100 คน พบว่า มี 11 คน ที่ไม่เรี ยนพิเศษ


มีนกั เรี ยนชาย 66 คน เรี ยนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ
และ มีนกั เรี ยนหญิง 22 คน ที่เรี ยนพิเศษคณิตศาสตร์ อย่างเดียว
ข้ อใดต่อไปนี ้กล่าวได้ ถกู ต้ องเกี่ยวกับการเรี ยนพิเศษของนักเรี ยน 100 คนนี ้
[กสพท คณิต2 (ธ.ค. 2558/24)]
1. ถ้ าไม่มีนกั เรี ยนหญิงเรี ยนวิชาภาษาอังกฤษ แล้ วจะมีนกั เรี ยนชาย 67 คนเรี ยนวิชาคณิตศาสตร์
2. ถ้ ามีนกั เรี ยนหญิงเรี ยนวิชาภาษาอังกฤษ แล้ วจะมีนกั เรี ยนชาย 66 คนเรี ยนวิชาคณิตศาสตร์
3. ถ้ ามีนกั เรี ยนชาย 67 คนเรี ยนวิชาคณิตศาสตร์ แล้ วจะมีนกั เรี ยนหญิงเรี ยนวิชาภาษาอังกฤษ
4. มีนกั เรี ยน 67 คนเรี ยนวิชาภาษาอังกฤษ
5. มีนกั เรี ยน 88 คนเรี ยนวิชาคณิตศาสตร์
ตอบ 2

M E ใส่ตวั เลข 11, 66, และ 22 ลงในแผนภาพ จะได้ ดงั รูป


𝑎 66 𝑏 ช
มีนกั เรี ยนทังหมด
้ 100 คน แต่จะเห็นว่า 11 + 66 + 22 = 99 → ขาดไป 1 คน
22 𝑐 𝑑 ญ
11 ดังนัน้ บริ เวณ 𝑎, 𝑏, 𝑐, 𝑑 ที่เหลือในแผนภาพ จะมีหนึง่ บริ เวณ = 1 นอกนัน้ = 0

1. ถ้ าไม่มี ญ เรี ยน E → จะได้ 𝑐, 𝑑 = 0 ดังนัน้ 𝑎 หรื อไม่ก็ 𝑏 ต้ องเป็ น 1


ถ้ า 𝑎 = 1 , 𝑏 = 0 จะมี ช 66 + 1 = 67 คน เรี ยน M แต่ถ้า 𝑎 = 0 , 𝑏 = 1 จะมี ช 66 คน เรี ยน M
จึงยังไม่ร้ ูวา่ มี ช 66 หรื อ 67 คน เรี ยน M → 1. ผิด
2. ถ้ ามี ญ เรี ยน E → จะได้ 𝑐 หรื อไม่ก็ 𝑑 เป็ น 1 ดังนัน้ 𝑎, 𝑏 = 0 จึงมี ช 66 คน เรี ยน M → 2. ถูก
3. ถ้ ามี ช 67 คน เรี ยน M → จะได้ 𝑎 = 1 ดังนัน้ 𝑏, 𝑐, 𝑑 = 0 จึงไม่มี ญ เรี ยน E → 3. ผิด
4. ถ้ า 𝑎 = 1 จะได้ 𝑏, 𝑐, 𝑑 = 0 และจะมีนกั เรี ยนแค่ 66 คน เรี ยน E → 4. ผิด
5. ถ้ า 𝑎 = 1 จะได้ 𝑏, 𝑐, 𝑑 = 0 และจะมีนกั เรี ยน 66 + 22 + 1 = 89 คน เรี ยน M → 5. ผิด

24. จากการสารวจเรื่ องการซื ้อของทีร่ ะลึกของผู้ที่เข้ าชมพิพิธภัณฑ์แห่งหนึง่ จานวน 300 คน ในสินค้ าสามชนิดคือ
แก้ วกาแฟ พวงกุญแจ และโปสการ์ ด พบว่า มี 38 คน ซื ้อแก้ วกาแฟ
155 คน ซื ้อพวงกุญแจ
62 คน ซื ้อโปสการ์ ด
13 คน ซื ้อของที่ระลึกทัง้ 3 ชนิด
และ 120 คน ไม่ซื ้อของที่ระลึกทัง้ 3 ชนิดเลย
จานวนผู้ที่ซื ้อของที่ระลึกเพียง 2 ชนิด เท่านัน้ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต2 (มี.ค. 2562/17)]
1. 49 คน 2. 51 คน 3. 61 คน 4. 75 คน 5. 100 คน
ตอบ 1
ให้ 𝑥 แทนจานวนคนที่ซื ้อ แก้ ว และ พวงกุญแจ แต่ไม่ซื ้อโปสการ์ ด 𝐴 (แก้ ว) 𝐵 (กุญแจ)
𝑦 แทนจานวนคนที่ซื ้อ แก้ ว และ โปสการ์ ด แต่ไม่ซื ้อพวงกุญแจ 𝑥
13
𝑧 แทนจานวนคนที่ซื ้อ พวงกุญแจ และ โปสการ์ ด แต่ไม่ซื ้อแก้ ว 𝑦 𝑧

จะได้ จานวนคนทีซ่ ื ้อ 2 ชนิดเท่านัน้ = 𝑥 + 𝑦 + 𝑧


𝐶 (โปสการ์ ด)
และมี 13 คน ซื ้อทัง้ 3 ชนิด → วาดแผนภาพได้ ดงั รูป
มีทงหมด
ั้ 300 คน แต่มี 120 คน ไม่ซื ้อของทัง้ 3 ชนิดเลย
จะได้ จานวนคนทีซ่ ื ้อแก้ ว หรื อกุญแจ หรื อโปสการ์ ด = 300 − 120 = 180 คน → 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶)
.0123456789
𝑦 แทนจานวนคนที่ซื ้อ แก้ ว และ โปสการ์ ด แต่ไม่ซื ้อพวงกุญแจ 𝑥
13
𝑧 แทนจานวนคนที่ซื ้อ พวงกุญแจ และ โปสการ์ ด แต่ไม่ซื ้อแก้ ว 𝑦 𝑧

จะได้
12 คลั จานวนคนทีซ่ ื ้อ 2 ชนิดเท่านัน้ = 𝑥 + 𝑦 + 𝑧
งโจทย์
𝐶 (โปสการ์ ด)
และมี 13 คน ซื ้อทัง้ 3 ชนิด → วาดแผนภาพได้ ดงั รูป
มีทงหมด
ั้ 300 คน แต่มี 120 คน ไม่ซื ้อของทัง้ 3 ชนิดเลย
จะได้ จานวนคนทีซ่ ื ้อแก้ ว หรื อกุญแจ หรื อโปสการ์ ด = 300 − 120 = 180 คน → 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶)
จากสูตร Inclusive - Exclusive จะได้
𝑛(𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶) = 𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) + 𝑛(𝐶) − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐶) − 𝑛(𝐵 ∩ 𝐶) + 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶)
180 = 38 + 155 + 62 − (𝑥 + 13) − (𝑦 + 13) − (𝑧 + 13) + 13
180 = 229 − 𝑥 − 𝑦 − 𝑧
𝑥+𝑦+𝑧 = 49

.0123456789

You might also like