Professional Documents
Culture Documents
54) 1
3. สับเซต 𝐴 ของ ℝ ในข้ อใดต่อไปนี ้ที่ทาให้ ประพจน์ ∀𝑥 ∈ 𝐴[𝑥 2 (𝑥 4 − 3𝑥 2 + 1) < 3] มีคา่ ความจริ งเป็ นจริ ง
ก. (−3, −2) ข. (−2, −1) ค. (−1, 0) ง. (1, 2)
2 สมาคม ม.ปลาย (พ.ย. 54)
5. ให้ 𝑎 และ 𝑏 เป็ นจานวนเต็มซึง่ 𝑎 log 250 5 + log 𝑏250 = 3 ค่าของ 𝑎 + 2𝑏 ตรงกับข้ อใดต่อไปนี ้
2
ก. 13 ข. 15 ค. 17 ง. 18
7. กาหนดให้ 𝐴 เป็ นเมทริ กซ์ขนาด 3×3 ใดๆ ซึง่ 𝐴3 = 0 และ 𝐴2 ≠ 0 จงพิจารณาข้ อความต่อไปนี ้
1) 𝐴 ไม่มีอินเวอร์ สการคูณ
2) det(I − 𝐴) ≠ 0 โดยที่ I แทนเมทริ กซ์เอกลักษณ์ขนาด 3×3
ข้ อใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง
ก. ข้ อ 1) และ 2) จริ ง ข. ข้ อ 1) จริ ง และ ข้ อ 2) ไม่จริ ง
ค. ข้ อ 1) ไม่จริ ง และ ข้ อ 2) จริ ง ง. ข้ อ 1) และ ข้ อ 2) ไม่จริ ง
(2) 1𝑧 + 𝑤1 = i
(3) |𝑧 − 𝑤| = 1
ค่าที่เป็ นไปได้ คา่ หนึง่ ของ |𝑧| ตรงกับข้ อใดต่อไปนี ้
√2+1 √3+1 2−√2 2−√3
ก. √3
ข. 2
ค. √3
ง. √2
12. กาหนดให้ 𝐴, 𝐵, 𝐶 และ 𝐷 เป็ นเมทริ กซ์จตั รุ ัสขนาด 5×5 ซึง่ det 𝐴 = 2 , det 𝐵 = 3 , det 𝐶 = 4
และ adj(adj 𝐴𝐵) = 108𝐶𝐷 ค่าของ det 𝐷 ตรงกับข้ อใดต่อไปนี ้
ก. 12 ข. 16 ค. 24 ง. 48
สมาคม ม.ปลาย (พ.ย. 54) 5
13. สาหรับจานวนเต็มบวก 𝑛 ใดๆ กาหนดให้ 𝐴(𝑛) เป็ นพื ้นที่ที่ปิดล้ อมด้ วยเส้ นโค้ ง 𝑦 = 𝑛𝑥 − 𝑥 2 แกน 𝑦
และเส้ นสัมผัสโค้ งนี ้ที่จดุ 𝑥 = 𝑛
จานวนเต็มบวก 𝑛 ที่น้อยที่สดุ ทีทาให้ 𝐴(𝑛) เป็ นกาลังสองสมบูรณ์ของจานวนเต็ม ตรงกับข้ อใดต่อไปนี ้
ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4
15. จัดคน 10 คน ซึง่ รวมสมศักดิ์ มนตรี สุภาพ ให้ นงั่ รอบโต๊ ะกลมในงานเลี ้ยงอย่างสุม่ ความน่าจะเป็ นที่สมศักดิ์และ
มนตรี นงั่ ติดกัน และสุภาพไม่นงั่ ติดกับสองคนนี ้ มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
ก. 19 ข. 29 ค. 16 ง. 13
6 สมาคม ม.ปลาย (พ.ย. 54)
𝑎+𝑏
19. จงหาเซตของจานวนจริ ง 𝑥 ทังหมด
้ ที่ทาให้ อสมการ 2 log 𝑥 (
2
) ≤ log 𝑥 𝑎 + log 𝑥 𝑏
เป็ นจริ งสาหรับทุกจานวนจริงบวก 𝑎 และ 𝑏
20. กาหนดให้ สญ
ั ลักษณ์ ⌊𝑥⌋ หมายถึง จานวนเต็มทีม่ ากที่สดุ ซึง่ น้ อยกว่าหรื อเท่ากับ 𝑥
1084
(ตัวอย่างเช่น ⌊√2⌋ = 1) จงหาเลขสามหลักสุดท้ ายของ ⌊1028 +8⌋
n n 2
3𝑛𝑏𝑛 +𝑛
21. กาหนดให้ 𝑎𝑛 = 𝑘(𝑘 + 1)(𝑘 + 2) และ 𝑏𝑛 = (2𝑘 − 1)2 จงหาค่าของ nlim
𝑎
k 1 k 1 𝑛
8 สมาคม ม.ปลาย (พ.ย. 54)
22. นิยามลาดับ (𝑎𝑛 ) โดย 𝑎1 = 1และสาหรับจานวนเต็ม 𝑛 ≥ 1 ให้ 𝑎𝑛 และ 𝑎𝑛+1 เป็ นจานวนจริ งซึง่ ทาให้ สมการ
ในตัวแปร 𝑥 2 arcsin(𝑥 + 𝑎𝑛+1 ) = 2𝜋 − arccos(𝑥 + 𝑎𝑛 ) มีคาตอบที่เป็ นจานวนจริ ง
1
จงหาค่าของ 𝑎 𝑎
n 1 𝑛 𝑛+1
23. กาหนดให้ 𝑎, 𝑏 เป็ นค่าคงตัวที่ทาให้ ฟังก์ชนั 𝑓(𝑥) = 𝑥 2 − 𝑎𝑥 − 𝑎𝑏 มีเส้ นสัมผัสที่จดุ 𝑥=𝑎+𝑏 เป็ น
เส้ นตรง 𝑦 = −𝑥 + 5 จงหาค่าของ 𝑎 ที่เป็ นไปได้ ทงหมดั้
24. กาหนดให้ 𝑧1 และ 𝑧2 เป็ นจานวนเชิงซ้ อนซึง่ |𝑧1 | = |𝑧2 | ถ้ า 𝑧1 − 𝑧2 = 𝑎 + i โดยที่ 𝑎 เป็ นจานวนจริ ง
จงหา Im (|𝑧𝑧1 ∙𝑧∙𝑧2|) (ตอบในรูปของ 𝑎)
1 2
สมาคม ม.ปลาย (พ.ย. 54) 9
27. บนเครื่ องบินที่มี 60 แถว แต่ละแถวมี 6 ที่นงั่ ถ้ าต้ องการจัดผู้โดยสารนัง่ บนที่นงั่ โดยมีเงื่อนไขว่า
1) ในแต่ละแถวไม่จาเป็ นต้ องมีคนนัง่ ครงทุกที่นงั่
2) สาหรับสองแถวใดๆ ตาแหน่งทีม่ คี นนัง่ ต้ องต่างกันอย่างน้ อย 1 ตาแหน่งเสมอ
สามารถจัดผู้โดยสารนัง่ บนที่นงั่ ในเครื่ องบินลานี ้ได้ มากที่สดุ กี่คน
10 สมาคม ม.ปลาย (พ.ย. 54)
28. กาหนดให้ 𝑎, 𝑏, 𝑐 เป็ นจานวนเต็มเรี ยงติดกัน 3 จานวน (𝑎 < 𝑏 < 𝑐) ซึง่ มีสมบัตวิ า่
มีจานวนเฉพาะ 𝑝 ทีท่ าให้ 𝑎 , 𝑏 + 10 , 𝑐 + 𝑝 เป็ นสาดับเรขาคณิต จงหาค่า 𝑎 ที่เป็ นไปได้ ทงหมด
ั้
29. มีตะกร้ า 2 ใบ ตะกร้ าใบแรกมีลกู บอลสีขาว 2 ลูก สีดา 1 ลูก ตะกร้ าใบที่สองมีลกู บอลสีขาว 1 ลูก สีดา 2 ลูก สุม่
หยิบลูกบอล 1 ลูกจากตะกร้ าใบแรก แล้ วใส่ลงในตะกร้ าใบที่สอง จากนันสุ้ ม่ หยิบลูกบอล 1 ลูกจากตะกร้ าใบที่สอง
ใส่คืนกลับในตะกร้ าใบแรก จงหาความน่าจะเป็ นที่เมื่อหลังจากการสุม่ หยิบลูกบอลทังสองครั
้ ง้ แล้ ว จานวนลูกบอล
แต่ละสีในตะกร้ าทังสองใบมี
้ จานวนเท่าเดิม
30. กาหนดรูป ∆ABC และ ∆AEF เป็ นรูปสามเหลีย่ มในระนาบ 𝑥𝑦 โดยที่ B เป็ นจุดกึ่งกลางของด้ าน EF
ถ้ า |AB
̅̅̅̅| = |EF
̅̅̅̅| = 1 , |BC ̅̅̅̅| = √33 และ AB
̅̅̅̅| = 6 , |CA ⃑⃑⃑⃑⃑ ∙ AE
⃑⃑⃑⃑⃑ + AC
⃑⃑⃑⃑⃑ ∙ AF
⃑⃑⃑⃑⃑ = 2
แล้ ว จงหาค่าของ cos 𝜃 โดยที่ 𝜃 เป็ นขนาดของมุมระหว่าง EF ⃑⃑⃑⃑ และ BC ⃑⃑⃑⃑⃑
สมาคม ม.ปลาย (พ.ย. 54) 11
8
31. กาหนดให้ 𝑎𝑛 = 1 +
𝑛2
สาหรับทุกจานวนเต็มบวก 𝑛
98
จงหาจานวนเต็มที่มากที่สดุ ที่มคี า่ ไม่เกิน √𝑎2𝑛−1 + 𝑎2𝑛+1
n 1
1
33. กาหนดให้ 𝑤 เป็ นรากเชิงซ้ อนของสมการ 𝑧4 − 𝑧3 + 𝑧 + 1 = 0 จงหาค่าของ |𝑤 + 𝑤|
12 สมาคม ม.ปลาย (พ.ย. 54)
1 1 1
34. จงหาค่าของ cos2 10°
+ 2 + 2
sin 20° sin 40°
35. กาหนดให้ 𝑟 > 0 และ ℎ < 0 เป็ นค่าคงตัวซึง่ |ℎ| > 𝑟 พิจารณาวงกลม 𝑥2 + 𝑦2 = 𝑟2 และจุด P = (ℎ, 0)
จากจุด P ลากส่วนของเส้ นตรงไปตัดกัวงกลมทีจ่ ดุ A และ B ตามลาดับ
𝑦
B ถ้ าให้ จดุ H เป็ นจุดที่อยูบ่ นส่วนของเส้ นตรง PB
A
𝑥
ซึง่ ทาให้ |PH
̅̅̅̅| เป็ นค่าเฉลีย่ ฮาร์ มอนิกของ |PA
̅̅̅̅| และ |PB
̅̅̅̅|
P จงหาสมการทางเดินของจุด H เมื่อส่วนของเส้ นตรงข้ างต้ น
แปรเปลีย่ นไป (ตอบในรูปของ 𝑟 และ ℎ)
สมาคม ม.ปลาย (พ.ย. 54) 13
เฉลย
7
1. ข 8. ง 15. ค 22. 0.5 29. 12
2
2. ข 9. ง 16. 5 23. 3, −7 30. 3
3. ค 10. - 17. ℝ − {12} 24. −2𝑎
1+𝑎2
31. 141
4. ค 11. ค 18. (14, 27) 25. 37.2 32. 993, 994
5. ข 12. ง 19. (0, 1) 26. 4.5 33. 4
√8
6. ง 13. ค 20. 063 27. 189 34. 12
𝑟2
7. ก 14. ข 21. 16 28. 11, −121 35. 𝑥= ℎ
𝑟√ℎ 2 −𝑟 2
|𝑦| ≤ −
ℎ
แนวคิด
1. ข
≡ [(𝑞 ∨ F) ∧ (𝑝 ∨ 𝑟)] ∨ [(𝑞 ∨ F) ∧ (𝑝 ∨ ~𝑟)] ≡ 𝑞 ∧ [(𝑝 ∨ 𝑟) ∨ (𝑝 ∨ ~𝑟)] ≡ 𝑞
2. ข
𝐴 ∩ 𝐵 ⊂ 𝐶 แปลว่า 𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶 = 𝐴 ∩ 𝐵 𝐴
0
𝐵
𝐴 ∩ 𝐶 ⊂ 𝐵 แปลว่า 𝐴 ∩ 𝐶 ∩ 𝐵 = 𝐴 ∩ 𝐶 0
จะได้ 𝐴 ∩ 𝐵 = 𝐴 ∩ 𝐶 = 𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶 วาดรูปได้ 𝐶
3. ค
𝑥 6 − 3𝑥 4 + 𝑥 2 − 3 < 0 → (𝑥 4 + 1)(𝑥 + √3)(𝑥 − √3) < 0 → (−√3, √3)
4. ค
4−𝑥≥0 และ 5 − (4 − 𝑥) ≥ 0 ได้ [−1, 4]
5. ข
5𝑎 2𝑏 = 2503 = 59 23 → 𝑎 = 9 , 𝑏 = 3
6. ง
𝑥2 (𝑦−5)2
(ℎ, 𝑘) = (0, 5) , 𝑎 = 4 → 42
− 𝑏2
=1 → ผ่าน (6, 0) ได้ 𝑏 = √20 → (8, 5 ± √60)
7. ก
det 𝐴3 = (det 𝐴)3 = 0 → det 𝐴 = 0 → 1) ถูก
det(I − 𝐴3 ) = det I ≠ 0 → det[(I − 𝐴)(I + 𝐴 + 𝐴2 )] ≠ 0 → 2) ถูก
8. ง
ตังฉากกั
้ น จะดอทกันได้ 0 ได้ ⃑ |2 − 3|𝑢
|𝑢 ⃑ ||𝑣 | cos 𝜃 + 2|𝑣 |2 = 0
2 2
ได้ cos 𝜃 = |𝑢⃑3|𝑢
| +2|𝑣
⃑ ||𝑣
⃑|
⃑|
=3
4
√2
=
2√2
3
14 สมาคม ม.ปลาย (พ.ย. 54)
9. ง
จากกฎของ sin : sin𝑎3𝐵 = sin𝑏 𝐵 → 3−4 sin
𝑎 𝑎 2
2 𝐵 = 𝑏 → 4 cos2 𝐵−1 = 𝑏 → 𝑎 = 𝑏(4 cos 𝐵 − 1)
3 1
10. √ ±√
2 2
จาก (2) |𝑤 + 𝑧| = |𝑤𝑧i| = |𝑤||𝑧| จาก (1) ได้ |𝑤||𝑧| = |𝑤|2 ได้ |𝑤| = 0 หรื อ |𝑤| = |z|
จากสูตร |𝑧 + 𝑤|2 + |𝑧 − 𝑤|2 = 2|𝑧|2 + 2|𝑤|2
ถ้ า |𝑤| = 0 ได้ 0 + 1 = 2|𝑧|2 ได้ |𝑧| = ± √12
4±√12
ถ้ า |𝑤| = |z| ได้ |𝑧|4 + 1 = 4|𝑧|2 → |𝑧|4 − 4|𝑧|2 + 1 = 0 → |𝑧|2 =
2
= 2 ± √3
3 1
ได้ |𝑧| = √ ± √
2 2
11. ค
𝑛2 −𝑛
𝑎𝑛 = (𝑛 − 1) + 𝑎𝑛−1 = (𝑛 − 1) + (𝑛 − 2) + 𝑎𝑛−2 = … = (𝑛 − 1) + ⋯ + 0 = 2
𝑛2 −𝑛 1 (25)(26)(51) (25)(26)
∑ = ( − 2 ) = 2600
2 2 6
12. ง
(2∙3)16
(det 𝐴𝐵)16 = 1085 det 𝐶𝐷 → det 𝐷 = = 48
1085 ∙4
13. ค
𝑦−0
เส้ นโค้ ง ชัน 𝑦 ′ = 𝑛 − 2𝑥 → เส้ นสัมผัสที่ 𝑥 = 𝑛 มีสมการคือ 𝑥−𝑛
= 𝑛 − 2𝑛 → 𝑦 = −𝑛𝑥 + 𝑛2
3 𝑛3
พื ้นที่ = ∫0𝑛(−𝑛𝑥 + 𝑛2 ) − (𝑛𝑥 − 𝑥 2 ) 𝑑𝑥 = ∫0𝑛 𝑥 2 − 2𝑛𝑥 + 𝑛2 𝑑𝑥 = 𝑛3 − 𝑛 ∙ 𝑛2 + 𝑛2 ∙ 𝑛 = 3
14. ข
1,000,000 1,000,000 105
∑ 𝑧 2 = 42 = 𝑁 → 𝑥̅ =
42
→ ตอบ 42
× 100 = 25,000
15. ค
มัดสมศักดิ์กบั มนตรี ตอกไว้ สับในมัดได้ 2 แบบ สุภาพเลือกได้ 6 → 2∙6∙7!
9!
1
=6
16. 5
จาก 𝑓(𝑓(0)) = 5 แปลว่าถ้ าให้ 𝑓(0) = 𝑘 ได้ 𝑓(𝑘) = 5
จาก 𝑓(𝑓(𝑘)) = 5 − 𝑘 แปลว่า 𝑓(5) = 5 − 𝑘 จะได้ 𝑓(0) + 𝑓(5) = 𝑘 + 5 − 𝑘 = 5
สมาคม ม.ปลาย (พ.ย. 54) 15
1
17. ℝ−{ }
2
𝑥 2 − 𝑦 2 − 𝑥 + 𝑦 = 0 → (𝑥 − 𝑦)(𝑥 + 𝑦) − (𝑥 − 𝑦) = 0
1
แต่ 𝑥 ≠ 𝑦 เอา 𝑥 − 𝑦 หารตลอด ได้ 𝑥 + 𝑦 − 1 = 0 แต่ 𝑥 ≠ 𝑦 ดังนัน้ 𝑥+𝑥−1≠0 ได้ 𝑥≠2
19. (0, 1)
𝑎 2 +2𝑎𝑏+𝑏2 𝑎 2 +2𝑎𝑏+𝑏2
log 𝑥 4
≤ log 𝑥 𝑎𝑏 ; เนื่องจาก 4
≥ 𝑎𝑏 (เพราะ 𝑎2 − 2𝑎𝑏 + 𝑏 2 ≥ 0)
ดังนัน้ 0<𝑥<1
20. 063
1084 1084 +83−83 (1028 +8)(1056 −8∙1028 +64)−83 83
⌊1028 +8⌋ = ⌊ 1028 +8
⌋ = ⌊
1028 +8
⌋ = ⌊1056 − 8 ∙ 1028 + 64 − 1028 +8⌋
21. 16
𝑛(𝑛+1) 2 𝑛4
𝑎𝑛 = ∑ 𝑘 3 + 3𝑘 2 + 2𝑘 → ตัวกาลังสูงสุด ได้ จาก ∑ 𝑘 3 = [ ] → ได้
2 4
𝑛(𝑛+1)(2𝑛+1)
𝑏𝑛 = ∑ 4𝑘 2 − 4𝑘 + 1 → ตัวกาลังสูงสุดของ 3𝑛𝑏𝑛 + 𝑛2 คือ 3𝑛 ∑ 4𝑘 2 = (12𝑛) ( 6
)= 4𝑛4
4
ได้ คาตอบ = 𝑛4𝑛4/4 = 16
22. 0.5
arccos ∈ [0, 𝜋] จะได้ 2𝜋 − arccos ∈ [𝜋, 2𝜋] จะได้ 2 arcsin(𝑥 + 𝑎𝑛+1 ) ต้ องอยูใ่ น [𝜋, 2𝜋]
แต่ arcsin ∈ [− 𝜋2, 𝜋2] แปลว่า arcsin (𝑥 + 𝑎𝑛+1) = 𝜋2 และ arccos (𝑥 + 𝑎𝑛 ) = 𝜋
จะได้ 𝑥 + 𝑎𝑛+1 = 1 และ 𝑥 + 𝑎𝑛 = −1 → 𝑎𝑛+1 = 2 + 𝑎𝑛
1 1 1 1 1 1 1 1 1
𝑎 𝑎
= 1∙3 + 3∙5 + ⋯ = 2 (1 − 3 + 3 − 5 + ⋯ ) = 2
n 1 𝑛 𝑛+1
23. 3, −7
ถ้ า 𝑥 = 𝑎 + 𝑏 ได้ 𝑦 = (𝑎 + 𝑏)2 − 𝑎(𝑎 + 𝑏) − 𝑎𝑏 = 𝑎2 + 2𝑎𝑏 + 𝑏 2 − 𝑎2 − 𝑎𝑏 − 𝑎𝑏 = 𝑏 2
𝑦−𝑏 2
𝑓 ′ (𝑥) = 2𝑥 − 𝑎 ได้ ได้ เส้ นตรงคือ 𝑥−(𝑎+𝑏)
𝑓 ′ (𝑎 + 𝑏) = 𝑎 + 2𝑏 = 𝑎 + 2𝑏
จัดรูป ได้ 𝑦 = (𝑎 + 2𝑏)𝑥 − 𝑎2 − 3𝑎𝑏 − 𝑏2 ได้ 𝑎 + 2𝑏 = −1 และ −𝑎2 − 3𝑎𝑏 − 𝑏2 = 5
แทน 𝑎 = −2𝑏 − 1 ได้ −(−2𝑏 − 1)2 − 3(−2𝑏 − 1)𝑏 − 𝑏2 = 5 → 𝑏2 − 𝑏 − 6 = 0 → 𝑏 = −2, 3
𝑎 = 3, −7
−2𝑎
24. 1+𝑎 2
𝜃1 +𝜃2 𝜃 −𝜃 𝜃1 +𝜃2
และ 𝑟(sin 𝜃1 − sin 𝜃2 ) = 𝑟 (2 cos
2
sin 1 2 ) = 1
2
จับสองสมการหารกัน ได้ − tan
2
=𝑎
𝑧 ∙𝑧2 𝑟 2 ∠(𝜃1 +𝜃2 ) −2𝑎 2 tan 𝐴
Im (|𝑧1 )= Im (
𝑟2
)= sin(𝜃1 + 𝜃2 ) =
1+𝑎2
(ใช้ สตู ร sin 2𝐴 =
1+tan2 𝐴
)
1 ∙𝑧2 |
25. 37.2
ให้ 𝑥̅ = 𝑘 ได้ 𝑦̅ = 𝑘 ± 10 ได้ คา่ เฉลีย่ รวม = 20𝑘+30(𝑘±10)
50
=𝑘±6
2 2
จากสูตรความแปรปรวน ได้ ∑20𝑥 − 𝑘 2 = 9 และ ∑30𝑦 − (𝑘 ± 10)2 = 16
ได้ ∑ 𝑥 2 = 20𝑘 2 + 180 , ∑ 𝑦 2 = 30(𝑘 ± 10)2 + 480 = 30𝑘 2 ± 600𝑘 +3480
ได้ ผลบวกกาลังสอง = 50𝑘 2 ± 600𝑘 + 3660
50𝑘 2 ±600𝑘+3660
ได้ 𝑣รวม = 50
− (𝑘 ± 6)2 = 𝑘 2 ± 12𝑘 + 73.2 − 𝑘 2 ∓ 12𝑘 + 36 = 37.2
26. 4.5
โฟกัส ห่าง ไดเรคตริ กซ์ = √1|1−(−2)|
2 +(−1)2 √
3
= 2 → 𝑐=2
3
√2
→ AB = 4𝑐 =
6
√2
= ฐาน
จุด C ห่างไดเรคตริ กซ์ = √12+(−1)2 = 0 ดังนัน้ จุด C อยูบ่ นไดเรคตริกซ์พอดี → จุด C ห่าง AB = 2𝑐 = √32 = สูง
2554−2554
27. 189
6 คน ได้ (66) = 1 แบบ ; 5 คน ได้ (65) = 6 แบบ ; 4 คน ได้ (64) = 15 แบบ ; 3 คน ได้ (63) = 20 แบบ ;
2 คน ได้ (62) = 15 แบบ ; 1 คน ได้ (61) = 6 แบบ → เกิน 60 ละ → ได้ 1+6+15+20+15+3 = 60
ได้ จานวนคน = 1(6)+6(5)+15(4)+20(3)+15(2)+3(1) = 189
30. 23
จาก EF ⃑⃑⃑⃑⃑ = |EF
⃑⃑⃑⃑ ∙ BC ⃑⃑⃑⃑⃑ | cos 𝜃 = 6 cos 𝜃
⃑⃑⃑⃑ ||BC
และจาก EF ⃑⃑⃑⃑⃑ = (AF
⃑⃑⃑⃑ ∙ BC ⃑⃑⃑⃑⃑ − AE⃑⃑⃑⃑⃑ ) ∙ (AC
⃑⃑⃑⃑⃑ − AB
⃑⃑⃑⃑⃑ ) ⃑⃑⃑⃑⃑ ∙ AC
= AF ⃑⃑⃑⃑⃑ − AF
⃑⃑⃑⃑⃑ ∙ AB
⃑⃑⃑⃑⃑ − AE
⃑⃑⃑⃑⃑ ∙ AC
⃑⃑⃑⃑⃑ + AE
⃑⃑⃑⃑⃑ ∙ AB
⃑⃑⃑⃑⃑
E
⃑⃑⃑⃑⃑ ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
= (AF AC + ⃑⃑⃑⃑⃑
AE ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑ ⃑⃑⃑⃑⃑ ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AB) − (AF AB + ⃑⃑⃑⃑⃑
AE ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑ ⃑⃑⃑⃑⃑ ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AC) = 2 − (AF AB + ⃑⃑⃑⃑⃑
AE ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AC)
0.5 B
จะได้ 6 cos 𝜃 = 2 − (AF ⃑⃑⃑⃑⃑ ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AB + ⃑⃑⃑⃑⃑
AE ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AC) …(1) 1 0.5
1
จาก ⃑⃑⃑⃑⃑ ⃑⃑⃑⃑⃑ + ⃑⃑⃑⃑⃑
AB = 2 (AE AF) → 2 ⃑⃑⃑⃑⃑ AB ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AB = ⃑⃑⃑⃑⃑AE ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AB + ⃑⃑⃑⃑⃑
AF ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AB A F
→ 2 = ⃑⃑⃑⃑⃑
AE ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AB + ⃑⃑⃑⃑⃑
AF ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AB …(2)
√33
C
สมาคม ม.ปลาย (พ.ย. 54) 17
1
จาก ⃑⃑⃑⃑⃑
AB =
2
⃑⃑⃑⃑⃑ +
(AE ⃑⃑⃑⃑⃑
AF) → 2 ⃑⃑⃑⃑⃑
AB ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AC = ⃑⃑⃑⃑⃑
AE ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AC + ⃑⃑⃑⃑⃑
AF ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AC
2 2 2
⃑⃑⃑⃑⃑ | + |AC
→ |AB ⃑⃑⃑⃑⃑ | − |BC ⃑⃑⃑⃑⃑ | = AE ⃑⃑⃑⃑⃑ ∙ AC⃑⃑⃑⃑⃑ + AF ⃑⃑⃑⃑⃑ ∙ AC
⃑⃑⃑⃑⃑
→ 1 + 33 − 36 = −2 = AE ⃑⃑⃑⃑⃑ ∙ AC ⃑⃑⃑⃑⃑ + AF ⃑⃑⃑⃑⃑ ∙ AC⃑⃑⃑⃑⃑ (3)
⃑⃑⃑⃑⃑ ⃑⃑⃑⃑⃑ ⃑⃑⃑⃑⃑ ⃑⃑⃑⃑⃑ ⃑⃑⃑⃑⃑
(2) + (3) : 0 = AE ∙ AB + AF ∙ AB + AE ∙ AC + AF ∙ AC ⃑⃑⃑⃑⃑ ⃑⃑⃑⃑⃑ ⃑⃑⃑⃑⃑
⃑⃑⃑⃑⃑ ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
= (AE AB + ⃑⃑⃑⃑⃑
AF ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AC) + ⃑⃑⃑⃑⃑
AF ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AB + ⃑⃑⃑⃑⃑
AE ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AC
= 2 + ⃑⃑⃑⃑⃑
AF ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AB + ⃑⃑⃑⃑⃑
AE ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AC
2
จะได้ ⃑⃑⃑⃑⃑
AF ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AB + ⃑⃑⃑⃑⃑
AE ∙ ⃑⃑⃑⃑⃑
AC = −2 แทนใน (1) ได้ cos 𝜃 = 3
31. 141
8 8 2[(2𝑛−1)2 (2𝑛+1)2 +4((2𝑛+1)2 +(2𝑛−1)2 )}
𝑎2𝑛−1 + 𝑎2𝑛+1 = 1 + (2𝑛−1)2 + 1 + (2𝑛+1)2 = ใช้ แรงลุย = (2𝑛−1)2 (2𝑛+1)2
2
2[16𝑛4 −8𝑛2 +1+4(8𝑛2 +2)} 2[16𝑛4 +24𝑛2 +9} 2(4𝑛2 +3)
= 2
(2𝑛−1) (2𝑛+1)2 = 2
(2𝑛−1) (2𝑛+1) 2 = (2𝑛−1)2 (2𝑛+1)2
2(4𝑛 2 +3) 4 2 2
ได้ √
√𝑎2𝑛−1 + 𝑎2𝑛+1 = 4𝑛2 −1 = √2 (1 + 4𝑛2 −1) = √2 (1 + 2𝑛−1 − 2𝑛+1)
98
2 2 2 2 2 2 2 2
ได้ √𝑎2𝑛−1 + 𝑎2𝑛+1 = √2 (98 + 1 − 3 + 3 − 5 + 5 − 6 + ⋯ + 195 − 197)
n 1
2 2.828
= (1.414) (100 − 197) = 141.4 – 197
→ 141
33. 4
√8
1 −(−1)±√(−1)2 −4(1)(2) 1±√7i
𝑧4 − 𝑧3 + 𝑧 + 1 = 0 𝑧−
𝑧
=
2(1)
=
2
1 1 1 1±2 7i−7 −6±2 7i −3±√7i
𝑧 2 − 𝑧 + 𝑧 + 𝑧2 = 0 𝑧 2 − 2 + 𝑧2 =
√
=
√
=
4 4 2
1 1
𝑧 2 + 𝑧2 − 𝑧 + 𝑧 = 0 2 1 −3±√7i
𝑧 + 2 + 𝑧2 = 2 + 4 = 2
5±√7i
1 2 1
(𝑧 − ) + 2 − 𝑧 + = 0 1 2 5±√7i √25+7
𝑧 𝑧 |𝑧 + 𝑧| = | 2 | = 2 = √8
1 2 1
(𝑧 − 𝑧) − (𝑧 − 𝑧) + 2 = 0 1
จะได้ 4
|𝑧 + 𝑧| = √8
34. 12
1 1 1 1 1 1
cos2 10°
+ sin2 20° + sin2 40° = sin2 80°
+ sin2 20° + sin2 40°
จะหาสมการกาลังสาม 𝑎𝑥 + 𝑏𝑥 + 𝑐𝑥 + 𝑑 = 0 ที่มีคาตอบคือ sin2120° , sin2140° , sin2180°
3 2
𝑟2 𝑟√ℎ 2 −𝑟 2
35. 𝑥= ℎ
, |𝑦| ≤ − ℎ
′ ′ ′
𝑦 จากสามเหลีย่ มคล้ าย ให้ PA
PA
PH PB
= PH = PB = 𝑘