You are on page 1of 18

O-NET (ก.พ.

57) 1
11 Apr 2016

O-NET 57 รหัสวิชา 04 คณิตศาสตร์


วันเสาร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 11.30 – 13.30 น.

ตอนที่ 1 แบบปรนัย 5 ตัวเลือก ข้ อละ 2.5 คะแนน


1. กาหนดให้ 𝑎, 𝑏 และ 𝑐 เป็ นจานวนจริ งใดๆ พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้
ก. ถ้ า 𝑎𝑏 = 𝑎𝑐 แล้ ว 𝑏 = 𝑐
ข. ถ้ า 𝑎|𝑏𝑐| < 0 และ 𝑏 < 0 แล้ ว |𝑎𝑏|𝑐 < 0
ค. ถ้ า 𝑎 > 0 และ 𝑏 > 0 แล้ ว 𝑎 + 𝑏 ≥ √2𝑎𝑏
ข้ อใดถูก
1. ก. และ ข. ถูก แต่ ค. ผิด 2. ก. และ ค. ถูก แต่ ข. ผิด 3. ข. และ ค. ถูก แต่ ก. ผิด
4. ข. ถูก แต่ ก. และ ค. ผิด 5. ค. ถูก แต่ ก. และ ข. ผิด

5⁄ 1⁄ 1⁄
2. ให้ 𝐴=2 6 , 𝐵=3 2 และ 𝐶=5 3 ข้ อใดต่อไปนี ้ถูก
1. 𝐴<𝐵<𝐶 2. 𝐵<𝐴<𝐶 3. 𝐵<𝐶<𝐴
4. 𝐶<𝐴<𝐵 5. 𝐶<𝐵<𝐴

3. ให้ 𝑎 = √18 − √12 และ 𝑏 = √75 − √50 พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้


ก. 𝑎 และ 𝑏 เป็ นจานวนอตรรกยะ
ข. 3𝑎 < 2𝑏
ค. 𝑎 + 𝑏 < 2
ข้ อใดถูก
1. ก. และ ข. ถูก แต่ ค. ผิด 2. ก. และ ค. ถูก แต่ ข. ผิด 3. ข. และ ค. ถูก แต่ ก. ผิด
4. ค. ถูก แต่ ก. และ ข. ผิด 5. ก. ถูก แต่ ข. และ ค. ผิด
2 O-NET (ก.พ. 57)

1
4. ถ้ า 𝑎=
√5+2
√5−2
แล้ ว √𝑎 + − 2
𝑎
มีคา่ เท่ากับข้ อใด
1. 3 2. 4 3. √9 + 4√5
4. 3√2 5. 4√5

5. ส่วนที่แรเงาของแผนภาพในข้ อใดหมายถึง 𝐴 − (𝐵 − 𝐶)
𝐴 𝐵 𝐴 𝐵 𝐴 𝐵
1. 2. 3. 𝐶

𝐴 𝐵 𝐴 𝐵
4. 5.
𝐶
𝐶

6. พิจารณาผลสรุปต่อไปนี ้ ก. เหตุ 1) ทุกครัง้ ที่ฝนตก การจราจรจะติดขัด


2) วันนี ้การจราจรติดขัด
ผล วันนี ้ฝนตก
ข. เหตุ 1) ดาไม่ชอบกินผัก
2) ทุกคนที่กินผักมีสายตาดี
ผล ดาสายตาไม่ดี
ค. เหตุ 1) ผู้ที่ประหยัดจะไม่ยากจน
2) นายมีเป็ นคนยากจน
ผล นายมีเป็ นคนไม่ประหยัด
ข้ อใดถูก
1. ก., ข. และ ค. สมเหตุสมผล 2. ก. และ ข. สมเหตุสมผล แต่ ค. ไม่สมเหตุสมผล
3. ข. และ ค. สมเหตุสมผล แต่ ก. ไม่สมเหตุสมผล 4. ค. สมเหตุสมผล แต่ ก. และ ข. ไม่สมเหตุสมผล
5. ก., ข. และ ค. ไม่สมเหตุสมผล
O-NET (ก.พ. 57) 3

𝑥
7. ถ้ า แล้ ว ผลบวกของสมาชิกทุกตัวใน 𝐴 มีคา่ เท่ากับข้ อใด
2 3
𝐴 = { 𝑥 | 9𝑥 = (1 + √8) }
1
1. −
2
2. 0 3. 12 4. 1 5. 32

8. ถ้ า 64𝑘 = 16 แล้ ว 8𝑘 + 8−𝑘 มีคา่ เท่ากับข้ อใด


5
1. 0 2. 4
3. 52 4. 17
4
5. 65
8

𝑥−1
9. ผลบวกของรากทังหมดของสมการ
้ 𝑥+2
+𝑥 = 1 เท่ากับข้ อใด
1. −4 2. −3 3. −2 4. 1 5. 2

10. ถ้ า 𝐴 = { 𝑥 | |𝑥 + 1| + 1 > 2 } แล้ ว ช่วงในข้ อใดเป็ นสับเซตของ 𝐴


1. (−4, −2] 2. (−3, −1) 3. [−1, 0) 4. [0, 2) 5. [2, 3)
4 O-NET (ก.พ. 57)

11. กาหนดให้ 𝐴 = { 𝑥 | |𝑥 − 2| < 3 } และ 𝐵 = { 𝑥 | 𝑥 2 − 3𝑥 − 4 > 0}


สมาชิกของ 𝐴 − 𝐵 ที่เป็ นจานวนเต็มมีกี่ตวั
1. 3 2. 4 3. 5 4. 6 5. 7

12. บริ เวณที่แรเงาเป็ นกราฟของความสัมพันธ์ในข้ อใด 𝑦


𝑦 = 𝑥2
1. { (𝑥, 𝑦) | 𝑥 2 − 𝑦 < 0 และ 𝑦 ≤ 1 }
𝑦=1
2. { (𝑥, 𝑦) | 𝑥 2 − 𝑦 < 0 และ 𝑦 ≥ 1 } 𝑥
3. { (𝑥, 𝑦) | 𝑥 2 − 𝑦 ≥ 0 และ 𝑦 < 1 }
4. { (𝑥, 𝑦) | 𝑥 2 − 𝑦 ≥ 0 และ 𝑦 > 1 }
5. { (𝑥, 𝑦) | 𝑥 2 − 𝑦 > 0 และ 𝑦 ≤ 1 }

13. กราฟในข้ อใดแสดงว่า 𝑦 เป็ นฟั งก์ชนั ของ 𝑥


𝑦 𝑦 𝑦
1. 2. 3.
𝑥 𝑥 𝑥

𝑦 𝑦

4. 5.
𝑥 𝑥
O-NET (ก.พ. 57) 5

14. กาหนดให้ 𝑓(𝑥) = (𝑥 − 3)2 − 4 พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้


ก. กราฟของ 𝑓 เป็ นพาราโบลาหงาย ข. ถ้ า 𝑥 ∈ (1, 4] แล้ ว 𝑓(𝑥) < 0
ค. ถ้ ากราฟของ 𝑓 ตัดแกน 𝑦 ที่จดุ (0, 𝑎) และค่าต่าสุดของ 𝑓 คือ 𝑏 แล้ ว 𝑎 + 𝑏 = 1
ข้ อใดถูก
1. ก., ข. และ ค. ถูกทังสามข้
้ อ 2. ก. และ ข. ถูก แต่ ค. ผิด 3. ก. และ ค. ถูก แต่ ข. ผิด
4. ก. ถูก แต่ ข. และ ค. ผิด 5. ข. ถูก แต่ ก. และ ค. ผิด

15. กาหนดให้ ABC เป็ นรูปสามเหลีย่ มมุมฉากซึง่ มีมมุ B̂ = 90° และมี BD เป็ นเส้ นความสูงของรูปสามเหลีย่ ม
ถ้ ามุม Â = 60° และ AD ยาว 2 หน่วย แล้ ว CD จะยาวกี่หน่วย
1. 4 2. 4√3 3. 6 4. 6√3 5. 8

16. กาหนดให้ ABCD เป็ นรูปสีเ่ หลีย่ มผืนผ้ าซึง่ มีพื ้นที่ 100 ตารางหน่วย ถ้ า tan(BÂC) = tan(90° − AĈD) แล้ ว
สีเ่ หลีย่ ม ABCD มีเส้ นรอบรูปยาวกี่หน่วย
1. 40 2. 50 3. 58 4. 104 5. 202
6 O-NET (ก.พ. 57)

17. ชายคนหนึง่ ยืนอยูร่ ะหว่างตึกสองหลัง ถ้ าชายคนนี ้มองยอดตึกทีห่ นึง่ ด้ วยมุมเงย 30° แล้ วหันหลังกลับ เขาจะมองเห็น
ยอดตึกที่สองด้ วยมุมเงย 60° สมมติวา่ ตึกที่สองสูงกว่าตึกที่หนึง่ 20√3 เมตร และตึกทังสองห่ ้ างกัน 100 เมตร
ชายคนนี ้จะยืนอยูห่ า่ งจากตึกที่หนึง่ กี่เมตร
1. 30√3 2. 40√2 3. 60 4. 62 5. 70

18. เมื่อวางบันไดยาว 4 เมตรพาดกับผนัง บันไดจะทามุม 30° กับพื ้น ถ้ าเลือ่ นปลายบนของบันไดให้ สงู ขึ ้นอีก 1 เมตร
ปลายล่างของบันไดจะเลือ่ นจากจุดเดิมเข้ าหาผนังเป็ นระยะทางกี่เมตร
1. 2√3 − √7 2. 2√3 − √5 3. 1
4. 2√5 − √3 5. 3√2 − √5

2−(−1)𝑛 𝑛
19. ถ้ า 𝑎𝑛 =
2𝑛+3
แล้ วข้ อใดถูก
1
1. 𝑎1 = 5 2. 𝑎2 = 47 3. 𝑎3 = − 9
1
4. 𝑎4 = 11
2
5. 𝑎5 = 13
7

20. ถ้ า 𝑎1 , 𝑎2 , 𝑎3 , … เป็ นลาดับเลขคณิตและผลต่างร่วมไม่เป็ นศูนย์ แล้ ว ข้ อใดผิด


1. |𝑎10 − 𝑎11 | = |𝑎21 − 𝑎20 |
2. 𝑎9 + 𝑎14 = 𝑎11 + 𝑎12
3. 𝑎𝑎15−𝑎 12
=1
7 −𝑎4
4. ถ้ า 𝑏𝑛 = 𝑎𝑛 − 5 ทุกๆ 𝑛 แล้ ว 𝑏1 , 𝑏2 , 𝑏3 , … เป็ นลาดับเลขคณิต
5. ถ้ า 𝑐𝑛 = 5𝑛 𝑎𝑛 ทุกๆ 𝑛 แล้ ว 𝑐1 , 𝑐2 , 𝑐3 , … เป็ นลาดับเรขาคณิต
O-NET (ก.พ. 57) 7

21. กาหนดให้ 𝑥 เป็ นจานวนจริง ถ้ า 5 − 7𝑥 , 3𝑥 + 28 , 5𝑥 + 27 , … , 2𝑥 3 − 3𝑥 + 1 เป็ นลาดับเลขคณิต


แล้ วลาดับนี ้มีกี่พจน์
1. 10 2. 11 3. 12 4. 13 5. 14

22. ซุงกองหนึง่ วางเรี ยงซ้ อนกันเป็ นชันๆ


้ โดยชันบนจะมี
้ จานวนน้ อยกว่าชันล่
้ างที่อยูต่ ิดกัน 3 ต้ นเสมอ ถ้ าชันบนสุ
้ ดมี 49
ต้ น และชันล่
้ างสุดมี 211 ต้ น แล้ ว พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้
ก. ซุงกองนี ้มี 56 ชัน้ ข. ชันที
้ ่ 8 (นับจากบนลงล่าง) มีซุง 70 ต้ น
ค. ซุงกองนี ้มีทงหมด
ั้ 7,150 ต้ น
ข้ อใดถูก
1. ก., ข. และ ค. ถูกทังสามข้
้ อ 2. ข. ถูก แต่ ก. และ ค. ผิด 3. ค. ถูก แต่ ก. และ ข. ผิด
4. ก. และ ค. ถูก แต่ ข. ผิด 5. ข. และ ค. ถูก แต่ ก. ผิด

23. ถ้ าพจน์ที่ 5 และ พจน์ที่ 8 ของลาดับเรขาคณิตเป็ น 12 และ − 16


1
ตามลาดับ แล้ วพจน์ที่ 4 เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
1. −1 2. − 12 3. − 14 4. 1 5. 2

24. พจน์ที่ 10 ของลาดับเรขาคณิต √3 , √6 , … ตรงกับข้ อใด


1. 8√6 2. 16√3 3. 16√6 4. 32√3 5. 32√6
8 O-NET (ก.พ. 57)

25. ถ้ าอนุกรมเรขาคณิตมี 𝑎1 = 12 และ 𝑎10 = 256 แล้ ว ผลบวก 10 พจน์แรกของอนุกรมนี ้เท่ากับข้ อใด
1. 511.0 2. 511.5 3. 512.0 4. 512.5 5. 513.0

26. ครอบครัวหนึง่ มีพอ่ แม่ และลูก 2 คน ไปเที่ยวสวนสนุกแห่งหนึง่ ถ้ าจัดคนทังสี


้ ถ่ า่ ยรูปกับรูปปั น้ โดราเอมอน โดยยืน
เรี ยงกันให้ โดราเอมอนอยูต่ รงกลาง และลูกทังสองคนไม่
้ ยืนติดกัน จะมีจานวนวิธีจดั ได้ กี่วิธี
1. 8 2. 10 3. 12 4. 16 5. 18

27. กนกมีถงุ เท้ าสีขาว 1 คู่ สีน ้าเงิน 2 คู่ และสีดา 3 คู่ เขาใส่ถงุ เท้ าไว้ ในลิ ้นชักโดยไม่ได้ จดั แยกเป็ นคู่ ถ้ าเขาสุม่ หยิบถุง
เท้ าจากลิ ้นชักมา 2 ข้ างแล้ ว ความน่าจะเป็ นที่จะได้ ถงุ เท้ าสีเดียวกันมีคา่ เท่ากับข้ อใด
1 1 1
1. 66 2. 22 3. 11 4. 16 5. 13

28. ข้ อใดเป็ นขันตอนหนึ


้ ง่ ของการสารวจความคิดเห็น
1. ตังสมมุ
้ ติฐานของปั ญหาที่ทาการสารวจ
2. กาหนดขอบเขตของการสารวจ
3. ประมาณการค่าใช้ จ่ายในการสารวจความคิดเห็น
4. คัดเลือกผู้เก็บข้ อมูลการสารวจ
5. นาผลการสารวจความคิดเห็นไปใช้ ประโยชน์
O-NET (ก.พ. 57) 9

29. ค่ากลางของข้ อมูลในข้ อใดมีความเหมาะสมที่จะใช้ เป็ นตัวแทนของข้ อมูลของกลุม่


1. ค่าเฉลีย่ เลขคณิตของขนาดรองเท้ าของนักเรี ยนห้ องหนึง่
2. ค่าเฉลีย่ เลขคณิตของจานวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ ดินต่อวันในเดือน มกราคม พ.ศ. 2557
3. มัธยฐานของน ้าหนักตัวของคนไทยในปี พ.ศ. 2556
4. ฐานนิยมของความสูงของนักกีฬาไทยได้ ที่ได้ รับเหรี ยญทองจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิ ก
5. ค่ากึง่ กลางระหว่างมัธยฐานกับค่าเฉลีย่ เลขคณิตของคะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชัน้ ม.6 ของ
โรงเรี ยนแห่งหนึง่

30. จากแผนภาพต้ น – ใบของข้ อมูลชุดหนึง่ เป็ นดังนี ้ 0 7 8 9


1 0 1 5 7
2 1 2 2
ข้ อใดต่อไปนี ้เป็ นข้ อสรุปที่ถกู ต้ องของข้ อมูลชุดนี ้ 3 0 2
1. ค่าเฉลีย่ เลขคณิต = 16 และ มัธยฐาน = 16
2. ค่าเฉลีย่ เลขคณิต = 16.5 และ มัธยฐาน = 17
3. ค่าเฉลีย่ เลขคณิต = 17 และ มัธยฐาน = 17
4. ค่าเฉลีย่ เลขคณิต = 17 และ มัธยฐาน = 16
5. ค่าเฉลีย่ เลขคณิต = 17.5 และ มัธยฐาน = 16

31. ผลการสอบวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรี ยนห้ องหนึง่ (เรียงจากน้ อยไปมาก) เป็ นดังนี ้


29, 35, 36, 40, 41, 43, 47, 50, 56, 59,
60, 61, 63, 65, 72, 72, 74, 75, 75, 78,
78, 78, 80, 80, 81, 82, 84, 87, 88, 89,
90, 90, 91, 91, 91, 92, 95, 95, 95, 97
เปอร์ เซ็นไทล์ที่ 70 ของคะแนนสอบนี ้เท่ากับข้ อใด
1. 87 2. 87.5 3. 87.7 4. 87.9 5. 88

32. ข้ อมูลชุดหนึง่ เรี ยงจากน้ อยไปมากดังนี ้ 5 10 12 20 𝑥 26 30 42 47 𝑦


ถ้ าข้ อมูลชุดนี ้มีพิสยั เท่ากับ 45 และค่าเฉลีย่ เลขคณิตเท่ากับ 26.4 แล้ ว ควอไทล์ที่สองของข้ อมูลชุดนี ้เท่ากับข้ อใด
1. 20 2. 21 3. 23 4. 24 5. 25
10 O-NET (ก.พ. 57)

ตอนที่ 2 แบบเติมคาตอบ ข้ อละ 2.5 คะแนน


33. กาหนดให้ 𝐴 = {1, 2, 3} และ 𝐵 = {2, 3, 5}
ถ้ า 𝑟 = { (𝑎, 𝑏) ∈ 𝐴 × 𝐵 | 𝑎 ≥ 𝑏 − 1 } แล้ ว 𝑟 มีจานวนสมาชิกกี่ตวั

34. ถ้ า 𝐴 = { (𝑥, 𝑦)| |𝑥 + 1| ≤ 𝑦 และ y≤2} แล้ ว พื ้นที่ของบริ เวณ 𝐴 เท่ากับกี่ตารางหน่วย

35. จากการสอบถามความชอบรับประทานไอศกรี มของนักเรียนจานวน 180 คน พบว่า


มี 86 คน ชอบรสช็อกโกแลต มี 31 คน ชอบรสช็อกโกแลตและวานิลลา
มี 87 คน ชอบรสวานิลลา มี 27 คน ชอบรสวานิลลาและสตรอเบอรี่
มี 70 คน ชอบรสสตรอเบอรี่ มี 22 คน ชอบรสช็อกโกแลตและสตรอเบอรี่
และ มี 5 คน ไม่ชอบทังสามรส
้ ดังนัน้ มีนกั เรี ยนที่ชอบทังสามรสกี
้ ่คน

36. ถ้ าอนุกรมเลขคณิตมีพจน์แรกเป็ น −8 และมีผลบวกของ 50 พจน์แรกเป็ น 3275 แล้ วผลต่างร่วมมีคา่ เท่ากับเท่าใด


O-NET (ก.พ. 57) 11

37. แม่ค้าขายก๋วยเตีย๋ วชามละ 25 บาท โดยมีคา่ เช่าร้ านวันละ 120 บาท และต้ นทุนค่าวัตถุดิบทังหมดคิ
้ ดเป็ นชามละ
18 บาท ถ้ าต้ องการให้ ได้ กาไรไม่ต่ากว่าวันละ 500 บาท เขาต้ องขายให้ ได้ อย่างน้ อยวันละกี่ชาม

38. ห้ องประชุมแห่งหนึง่ จัดที่นงั่ เป็ นแถวโดยนาโต๊ ะมาเรี ยงต่อกันเป็ นแถว แถวละ 5 ตัว หลังจากจัดแล้ วได้ ที่นงั่ ทังหมด

60 ที่นงั่ ถ้ าจานวนแถวน้ อยกว่าจานวนที่นงั่ ในแต่ละแถวอยู่ 4 ห้ องประชุมนี ้มีโต๊ ะทังหมดกี
้ ่ตวั

39. ข้ อมูลชุดที่หนึง่ มี 10 จานวน คือ 𝑥1 , 𝑥2 , 𝑥3 , … , 𝑥10 ซึง่ ข้ อมูลชุดนี ้มีสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.3 ถ้ าข้ อมูล
ชุดที่สองมี 10 จานวน คือ 3𝑥1 + 174 , 3𝑥2 + 174 , 3𝑥3 + 174 , … , 3𝑥10 + 174 แล้ วส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐานของข้ อมูลชุดที่สองนี ้จะเท่ากับเท่าใด

40. ถ้ าแต่ละวันในเดือนสิงหาคม มีความน่าจะเป็ นที่จะมีฝนตกตอนเช้ าหรื อตอนเย็นเท่ากับ 0.86 ความน่าจะเป็ นทีจ่ ะมี
ฝนตกตอนเย็นเท่ากับ 0.67 และความน่าจะเป็ นทีจ่ ะมีฝนตกทังตอนเช้
้ าและตอนเย็นเท่ากับ 0.35 แล้ ว ความน่าจะ
เป็ นที่จะมีฝนตกในตอนเช้ ามีคา่ เท่ากับเท่าใด
12 O-NET (ก.พ. 57)

เฉลย
1. 5 9. 3 17. 3 25. 2 33. 5
2. 5 10. 5 18. 1 26. 4 34. 4
3. 1 11. 3 19. 5 27. 5 35. 12
4. 2 12. 1 20. 5 28. 2 36. 3
5. 4 13. 2 21. 2 29. 2 37. 89
6. 4 14. 1 22. 5 30. 4 38. 30
7. 3 15. 3 23. 1 31. 3 39. 6.9
8. 4 16. 1 24. 3 32. 4 40. 0.54

แนวคิด
1. 5
ก. ถ้ า 𝑎 = 0 จะได้ 𝑎𝑏 = 𝑎𝑐 = 0 โดยที่ 𝑏 ไม่จาเป็ นต้ องเท่ากับ 𝑐 → ผิด
ข. จาก 𝑎|𝑏𝑐| < 0 จะได้ 𝑎 เป็ นลบ (เพราะค่าสัมบูรณ์เป็ นบวก) จะเห็นว่า 𝑐 เป็ นอะไรก็ได้ ดังนัน้ ถ้ าให้ 𝑎, 𝑏 เป็ นลบ และ
𝑐 เป็ นบวก จะทาให้ ประโยคนี ้ผิด → ผิด
ค. จาก 𝑎, 𝑏 > 0 จะยกกาลังสองทังสองข้
้ างได้ 𝑎2 + 2𝑎𝑏 + 𝑏2 ≥ 2𝑎𝑏 → ตัด 2𝑎𝑏 เหลือ 𝑎2 + 𝑏2 ≥ 0 ซึง่ เป็ น
จริ งเสมอ (เพราะผลกาลังสอง ≥ 0 เสมอ) → ถูก

2. 5
5⁄ 6
ค.ร.น. 6, 2, 3 = 6 → ยกกาลัง 6 ตลอด เพื่อกาจัดตัวส่วน จะได้ (2 6) = 25 = 32
1⁄ 6
(3 2) = 33 = 27
1⁄ 6
(5 3) = 52 = 25
เนื่องจาก 25 < 27 < 32 ดังนัน้ 𝐶 < 𝐵 < 𝐴

3. 1
ก. เนื่องจาก แต่ละคูข่ อง 𝑎 และ 𝑏 ถอดรูทไม่ลงตัวและไม่หกั ล้ างกันพอดี ดังนัน้ 𝑎 และ 𝑏 เป็ น อตรรก → ถูก
ข. 3(√18 − √12) < 2(√75 − √50) ค. 3√2 − 2√3 + 5√3 − 5√2 < 2
3(3√2 − 2√3) < 2(5√3 − 5√2) 3√3 < 2 + 2√2
2 2
9√2 − 6√3 < 10√3 − 10√2 (3√3) < (2 + 2√2)
19√2 < 16√3 27 < 4 + 8√2 + 8
2 2
(19√2) < (16√3) 15 < 8√2
15
361(2) < 256(3) < √2
8
722 < 768 → ถูก 1.8… < √2 → ผิด
4. 2
1 √5+2 √5−2 (5+4√5+4)+(5−4√5+4)
√𝑎 + − 2 = √
𝑎
+ − 2=√ 5−4
− 2 = √18 − 2 = √16 = 4
√5−2 √5+2
O-NET (ก.พ. 57) 13

5. 4

1. 2.

𝐵−𝐶 𝐴 − (𝐵 − 𝐶) 𝐵−𝐶 𝐴 − (𝐵 − 𝐶)

3. 4.

𝐵−𝐶 𝐴 − (𝐵 − 𝐶) 𝐵−𝐶 𝐴 − (𝐵 − 𝐶)

5.

𝐵−𝐶 𝐴 − (𝐵 − 𝐶)

6. 4
ก. มีแบบทีข่ ดั แย้ ง ข. มีแบบทีข่ ดั แย้ ง ค. ได้ แบบเดียว ซึง่ ไม่ขดั แย้ ง
ติดขัด ตาดี ประหยัด ยากจน
ฝนตก กินผัก
วันนี ้ ดา มี

7. 3
ฝั่งซ้ ายแทน 9 = 32 และฝั่งขวาแทน 3√8 = 2 จะได้ (32 )𝑥 = 3𝑥 ตัดฐาน 3 ทังสองฝั
้ ่ง จะเหลือ 2𝑥 2 = 𝑥
2

ย้ ายข้ างแล้ วแยกตัวประกอบ จะได้ 𝑥(2𝑥 − 1) = 0 จะได้ 𝑥 = 0 , 12 → ผลบวกสมาชิก = 0 + 12 = 12

8. 4
2
เปลีย่ นเป็ นฐาน 4 จะได้ (43 )𝑘 = 42 ตัดฐาน 4 จะได้ 3𝑘 = 2 → 𝑘 = 3
2 1 1 1 17
ดังนัน้ 8𝑘 + 8−𝑘 = 82/3 + 8−2/3 = √8 + 3
3
2 = 22 + 2 2 = 4 + 4 = 4
√8

9. 3
คูณ 𝑥 + 2 ตลอด จะได้ 𝑥 − 1 + 𝑥(𝑥 + 2) = 𝑥 + 2
𝑥 2 + 2𝑥 − 3 = 0
(𝑥 − 1)(𝑥 + 3) = 0
𝑥 = 1, −3
จะได้ ผลบวกราก = 1 + (−3) = −2

10. 5
จะได้ |𝑥 + 1| > 1 จากสมบัติคา่ สัมบูรณ์ จะได้ 𝑥+1> 1 หรื อ 𝑥 + 1 < −1
𝑥 > 0 𝑥 < −2
จะได้ 𝐴 = (−∞, −2) ∪ (0, ∞) ซึง่ จะเห็นว่า ข้ อ 5 จะได้ [2, 3) ⊂ (0, ∞) ⊂ 𝐴
14 O-NET (ก.พ. 57)

11. 3
𝐴: จากสมบัติคา่ สัมบูรณ์ จะได้ −3 < 𝑥 − 2 < 3
−1 < 𝑥 < 5 → 𝐴 = (−1, 5)
𝐵: แยกได้ (𝑥 + 1)(𝑥 − 4) > 0 + − +
−1 4 → 𝐵 = (−∞, −1) ∪ (4, ∞)
จะได้ 𝐴 − 𝐵 = (−1, 4]

12. 1
จุด (0, 0.5) อยูใ่ นบริ เวณที่แรเงา ดังนัน้ ต้ องแทนในสมการกราฟแล้ วเป็ นจริง
จะได้ 𝑥 2 − 𝑦 = 02 − 0.5 = −0.5 → ตัดข้ อ 3, 4, 5 ทิ ้ง และจาก 𝑦 = 0.5 จะได้ ข้อ 1 เป็ นคาตอบ

13. 2
จะเป็ นฟั งก์ชนั ก็ตอ่ เมื่อ ลากเส้ นตรงไนแนวตังให้
้ ตดั กราฟเกิน 1 จุดไม่ได้
จะเห็นว่า ข้ อ 1, 3, 4 ลากเส้ นแนวตังให้ ้ ตดั เกิน 1 จุดได้ ดังรูป
ส่วนข้ อ 5 ถ้ าลากเส้ นแนวตังให้้ ทบั เส้ นกราฟพอดี ก็ตดั เกิน 1 จุดได้ เช่นกัน
จะเห็นว่ามีข้อ 2 เท่านันที ้ ่ลากเส้ นแนวตังให้
้ ตดั เกิน 1 จุดไม่ได้ จึงตอบข้ อ 2

14. 1
ก. เทียบกับรูป 𝑎(𝑥 − ℎ)2 + 𝑘 จะได้ 𝑎 = 1 > 0 เป็ นกราฟหงาย → ก. ถูก
ข. แก้ สมการ (𝑥 − 3)2 − 4 < 0
(𝑥 − 3)2 − 22 < 0 + − +
→ (1, 4] อยูใ่ นช่วงลบ → ข. ถูก
(𝑥 − 5)(𝑥 − 1) < 0 1 5

ค. ตัดแกน 𝑦 ที่ (0 − 3)2 − 4 = 5 → (0, 5) → 𝑎 = 5


จุดยอด (ℎ, 𝑘) = (3, −4) → ค่าตา่ สุด = −4 = 𝑏 → 𝑎 + 𝑏 = 5 + (−4) = 1 → ค. ถูก

15. 3
AD AD 2
B จะได้ cos 60° = BA → BA = cos 60° = 1/2 = 4 จะได้ BD = BA sin 60° = 2√3
BA AD BD 4 2 2√3
∆BAD ~ ∆CBD → CB
= BD = CD → CB
= 2 3 = CD

60° (2√3)(2√3)
A 2 D C จากคูห่ ลัง จะได้ CD = 2
=6

16. 1
D C 90° − AĈD = AĈB แทนในสมการที่ให้ จะได้ tan(BÂC) = tan(AĈB)
𝑦 จะได้ 𝑦𝑥 = 𝑦𝑥 → 𝑥 = 𝑦 และจากพื ้นที่ = 100 จะได้ 𝑥 = 𝑦 = 10

A 𝑥 B ดังนัน้ เส้ นรอบรูป = 4(10) = 40


O-NET (ก.พ. 57) 15

17. 3
ให้ ชายคนนี ้ห่างตึกหนึง่ = 𝑥 → จะอยูห่ า่ งตึกสอง = 100 − 𝑥 ดังรูป
𝑏 ให้ ตกึ สูง 𝑎, 𝑏 จะได้ tan 30° = 𝑎𝑥 และ tan 60° = 100−𝑥
𝑏

𝑎 จะได้ 𝑎 = 𝑥 tan 30° และ 𝑏 = (100 − 𝑥) tan 60°


30° 60°
𝑥 100 − 𝑥 จาก 𝑏 − 𝑎 = 20√3 จะได้ (100 − 𝑥) tan 60° − 𝑥 tan 30° = 20√3
𝑥
(100 − 𝑥)√3 − = 20√3
√3
300 − 3𝑥 − 𝑥 = 60
𝑥 = 60
18. 1
จะได้ ตอนแรก พื ้นยาว 𝑎1 = 4 cos 30° = 2√3 และผนังสูง ℎ1= 4 sin 30° = 2
4 4
ℎ1 ℎ2 ดังนัน้ ตอนหลังผนังสูง ℎ2 = ℎ1 + 1 = 2 + 1 = 3
30°
𝑎1 𝑎2 พีทากอรัส ได้ 𝑎2 = √42 − 32 = √7 → พื ้นหด 2√3 − √7

19. 5
2−(−1) 3 2−2 2−(−3) 5 2−4 2 2−(−5) 7
𝑎1 = 5
=5 , 𝑎2 = 7
= 0 , 𝑎3 = 9
=9 , 𝑎4 = 11
= − 11 , 𝑎5 = 13
= 13

20. 5
1. ในลาดับเลขคณิต พจน์คทู่ ี่ติดกัน จะห่างกันเท่ากัน → |𝑎10 − 𝑎11 | = |𝑎11 − 𝑎10 |= |𝑎21 − 𝑎20 | → 1. ถูก
2. 𝑎9 น้ อยกว่า 𝑎11 อยู่ 2𝑑 แต่ 𝑎14 มากกว่า 𝑎12 อยู่ 2𝑑 ดังนัน้ 𝑎9 + 𝑎14 = 𝑎11 + 𝑎12 → 2. ถูก
3. 𝑎𝑎15−𝑎 12 3𝑑
= = 1 → 3. ถูก
7 −𝑎4 3𝑑
4. ลาดับของ 𝑏 คือ การเอาลาดับเลขคณิตมาลดทุกพจน์ลง 5 → แต่ละพจน์ที่ติดกัน จะยังห่างกันเท่าเดิม (เพราะทุกตัว
ลดลงเท่าๆกัน) → ลาดับ 𝑏 เป็ นลาดับเลขคณิต → 4. ถูก
5. ถ้ าลาดับ 𝑎 คือ 1, 2, 3, … จะได้ ลาดับ 𝑐 คือ 51 (1), 52 (2), 53 (3), … = 5, 50, 375, … → ไม่ใช่เรขา → 5. ผิด

21. 2
ลาดับเลขคณิต จะได้ 𝑎2 − 𝑎1 = 𝑎3 − 𝑎2 → 10𝑥 + 23 = 2𝑥 − 1 แก้ สมการ จะได้ 𝑥 = −3
แทน 𝑥 ในลาดับ จะได้ 26, 19, 12, … , −44 จะได้ 𝑎1 = 26 , 𝑑 = −7 , 𝑎𝑛 = −44
แทนสูตร 𝑎𝑛 = 𝑎1 + (𝑛 − 1)𝑑 จะได้ −44 = 26 + (𝑛 − 1)(−7) → 𝑛 = 11

22. 5
ก. จะได้ 𝑎1 = 49 , 𝑑 = 3 , 𝑎𝑛 = 211
แทนสูตร 𝑎𝑛 = 𝑎1 + (𝑛 − 1)𝑑 จะได้ 211 = 49 + (𝑛 − 1)(3) → 𝑛 = 55 → ก. ผิด
ข. ชันที
้ ่ 8 = 𝑎8 = 𝑎1 + 7𝑑 = 49 + 7(3) = 70 → ข. ถูก
ค. ผลรรวมซุง = 𝑆𝑛 = 𝑛2 (𝑎1 + 𝑎𝑛 ) = 55
2
(49 + 211) = 7150 → ค. ถูก
16 O-NET (ก.พ. 57)

23. 1
จะได้ 𝑎5 = 𝑎1 𝑟 4 = 12 …(1) และ 𝑎8 = 𝑎1 𝑟 7 = −
1
16
…(2) เอา (2) ÷ (1) จะได้ 𝑟3 = −
1
8
→ 𝑟=−
1
2
1
𝑎5
หา 𝑎4 โดยเอา 𝑎5 มาถอยหลังกลับโดยการหารด้ วย 𝑟 จะได้ 𝑎4 =
𝑟
= 2

1 = −1
2

24. 3
𝑎2 √6 9
𝑟=
𝑎1
=
√3
= √2 แทนในสูตร 𝑎𝑛 = 𝑎1 𝑟 𝑛−1 จะได้ 𝑎10 = 𝑎1 𝑟 9 = √3(√2) = 16√6

25. 2
1
จากสูตร 𝑎𝑛 = 𝑎1 𝑟 𝑛−1 จะได้ 𝑎10 = 𝑎1 𝑟 9 = 2 𝑟 9 = 256 แก้ สมการ จะได้ 𝑟=2
1
𝑎𝑛 𝑟−𝑎1 𝑎10 𝑟−𝑎1 256(2)−
จากสูตร 𝑆𝑛 =
𝑟−1
จะได้ 𝑆10 =
𝑟−1
=
2−1
2
= 511.5

26. 4
แปลว่าลูกต้ องยืนคนละฝั่งของโดราเอมอน
ลูกคนแรก เลือกได้ 4 ที่ , ลูกคนที่สอง ต้ องอยูอ่ กี ฝั่งของโดราเอมอน → เหลือ 2 ที่ , พ่อแม่ได้ 2 × 1 ที่ รวม 16 แบบ

27. 5
(12)(11)
มีถงุ เท้ า (1 + 2 + 3)(2) = 12 ข้ าง → จานวนแบบทังหมด ้ = (122
) = 2 = 66 แบบ
แบบที่ได้ สเี ดียวกัน = ขาวทังคู
้ ่ หรื อ น ้าเงินทังคู
้ ่ หรื อ ดาทังคู
้ ่ = (22) + (42) + (62) = 1 + 6 + 15 = 22 แบบ
จะได้ ความน่าจะเป็ น = 22 66
=3
1

28. 2
ขันตอนการส
้ ารวจ : กาหนดขอบเขตของการสารวจ → เลือกกลุม่ ตัวอย่าง (ไม่ใช่เลือกผู้เก็บข้ อมูล) → สร้ างแบบสารวจ
→ ประมวลผล และวิเคราะห์

29. 2
ข้ อ 5. ไม่นิยมนาค่ากลางหลายๆชนิดมาผสมกัน
ข้ อ 4. ความสูง เป็ นข้ อมูลเงินปริมาณ สามารถบวกลบคูณหารได้ จึงไม่ต้องใช้ ฐานนิยม
ข้ อ 3. ข้ อมูลมีจานวนมาก ค่ามากสุดกับน้ อยสุดไม่ตา่ งกันมาก ไม่นิยมใช้ มธั ยฐาน
ข้ อ 1. ไม่ระบุกรอบเวลา ทาให้ ข้อมูลไม่ชดั เจน และจะไม่มคี า่ กลางที่เหมาะสม

30. 4
7+8+9+10+11+15+17+21+22+22+30+32 204
𝑥̅ = 3+4+3+2
= 12 = 17
12+1 15+17
Med อยู่ ตัวที่
2
= 6.5 → 15 ระหว่าง
17 → Med = 2 = กับ 16

31. 3
70
มีข้อมูล 40 ตัว → 𝑃70 อยูต
่ วั ที่ 100 × 41 = 28.7 = ตัวที่ 28 + 0.7(ตัวที่ 29 – ตัวที่ 28)
= 87 + 0.7(88 – 87) = 87.7
O-NET (ก.พ. 57) 17

32. 4
จากพิสยั = 45 จะได้ 𝑦 − 5 = 45 ดังนัน้ 𝑦 = 45 + 5 = 50
จาก 𝑥̅ = 26.4 จะได้ 5+10+12+20+𝑥+26+30+42+47+𝑦
10
= 26.4
แทนค่า 𝑦 = 50 จะได้ 242+𝑥
10
= 26.4 แก้ สมการ จะได้ 𝑥 = 264 – 242 = 22
หา Q2 : มีข้อมูล 10 ตัว → Q2 อยูต่ วั ที่ 24 (10 + 1) = 5.5 = ระหว่าง 𝑥 กับ 26
จะได้ Q2 = 𝑥+26
2
22+26
= 2 = 24

33. 5
แจกแจงเซต จะได้ 𝑟 = {(1, 2), (2, 2), (2, 3), (3, 2), (3, 3)} → มีสมาชิก 5 ตัว

34. 4
|𝑥 + 1| = 𝑦 เป็ นตัววี หักที่ (−1, 0) |𝑥 + 1| = 𝑦
อสมการ |𝑥 + 1| ≤ 𝑦 มี 𝑦 อยูฝ่ ั่งมาก → แรเงาด้ านบน A B 𝑦=2
𝑦 = 2 เป็ นเส้ นแนวนอน ที่ตดั แกน 𝑦 ที่ 2
อสมการ y ≤ 2 มี 𝑦 อยูฝ่ ั่งน้ อย → แรเงาด้ านล่าง
C
จะได้ บริ เวณทีซ่ ้ อนทับกัน เป็ น ∆ABC ดังรูป
หาจุดตัดกราฟ A, B โดยแก้ ระบบสมการ แทน 𝑦 = 2 ในอีกสมการ จะได้ |𝑥 + 1| = 2
𝑥 + 1 = 2 , −2
𝑥 = 1, −3
จะได้ พิกดั A, B คือ (1, 2) และ (−3, 2) จะได้ AB ยาว 1 − (−3) = 4
ใช้ AB เป็ นฐาน จะได้ สงู =2 ดังนัน้ พื ้นที่ = 12 × 4 × 2 = 4

35. 12
ให้ 𝐴, 𝐵, 𝐶 เป็ นเซตของคนที่ชอบช็อกโกแลต, วานิลลา, สตรอเบอรี่ ตามลาดับ
มีทงหมด
ั้ 180 คน แต่ไม่ชอบทังสามรส
้ 5 คน → ชอบอย่างน้ อย 1 รส = 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶) = 180 – 5 = 175 คน
ใช้ สตู ร 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶) = 𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) + 𝑛(𝐶) − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) − 𝑛(𝐵 ∩ 𝐶) − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐶) + 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶)
175 = 86 + 87 + 70 − 31 − 27 − 22 + 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶)
แก้ สมการจะได้ 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶) = 12

36. 3
𝑛 50
จากสูตร 𝑆𝑛 = 2 (2𝑎1 + (𝑛 − 1)𝑑) จะได้ 3275 = 2
(2(−8) + (50 −1)𝑑)
131 = −16 + 49 𝑑
จะได้ 𝑑 = 147
49
=3

37. 89
ให้ 𝑛 = จานวนชาม → ขายได้ เงิน 25𝑛 และ ต้ นทุน = 18𝑛
จะได้ สมการคือ 25𝑛 − 120 − 18𝑛 ≥ 500 แก้ ได้ 𝑛 ≥ 620 7
= 88.5… → 89 ชาม
18 O-NET (ก.พ. 57)

38. 30
โจทย์ให้ จานวนแถวน้ อยกว่าจานวนที่นงั่ ในแต่ละแถวอยู่ 4 ดังนัน้ ถ้ าให้ มี 𝑥 แถว จะได้ แต่ละแถวมีที่นงั่ 𝑥 + 4 ที่นงั่
มีที่นงั่ ทังหมด
้ 60 ที่นงั่ จะได้ 𝑥(𝑥 + 4) = 60
𝑥 2 + 4𝑥 − 60 = 0
(𝑥 + 10)(𝑥 − 6) = 0
𝑥 ต้ องเป็ นเต็มบวก จะได้ 𝑥 = 6 นัน่ คือ มี 6 แถว จากแต่ละแถวมีโต๊ ะ 5 ตัว ดังนัน้ จะมีโต๊ ะทังหมด
้ 6(5) = 30 ตัว

39. 6.9
การ “บวก 174” จะไม่มีผลกับ 𝑠 แต่การ “คูณ 3” จะทาให้ 𝑠 เพิ่ม 3 เท่า → 𝑠 ชุดสอง = 3(2.3) = 6.9

40. 0.54
วงเย็น = 0.67 เช้ าหรือเย็น = 0.86
เหลือเย็นอย่างเดียว = 0.67 − 0.35 เหลือเช้ าอย่างเดียว = 0.86 – 0.35 – 0.3
เช้ าและเย็น = 0.35 = 0.32 = 0.19
เช้ า เย็น เช้ า เย็น เช้ า เย็น
0.35 0.35 0.32 0.19 0.35 0.32

จะได้ วงเช้ า = 0.19 + 0.35 = 0.54

เครดิต
ขอบคุณ คุณ Punyateepo Surasen สาหรับข้ อสอบนะครับ

You might also like