Professional Documents
Culture Documents
Set Adv PDF
Set Adv PDF
1
2. ให้ 𝐴 = { 𝑥 ∈ ℝ | 5 |𝑥 − 3| < 1} และบ 𝐵 = { 𝑥 ∈ ℝ | −3 < 𝑥 ≤ −2 }
พิจารณาข้อความต่อไปนี ้
ก) 𝐴 ∪ 𝐵 = { 𝑥 ∈ ℝ | −3 < 𝑥 < 8 }
ข) 𝐴 ∩ 𝐵 ⊂ (−1 , 0)
ค) เพาเวอร์เซตของ 𝐴 ∩ 𝐵 มีสมาชิกอย่างน้อย 2 ตัว
จากข้อความ ก) ข) และ ค) ข้างต้น ข้อใดถูกต้อง [PAT 1 (มี.ค. 2565/1)]
1. ข้อความ ก) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้ 2. ข้อความ ก) และ ข) ถูกต้องเท่านัน้
3. ข้อความ ก) และ ค) ถูกต้องเท่านัน้ 4. ข้อความ ข) และ ค) ถูกต้องเท่านัน้
5. ข้อความ ก) ข) และ ค) ถูกต้อง
.0123456789
2 คลังโจทย์
.0123456789
คลังโจทย์ 3
64
62
60
58
56
54
0 วิชา
ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาญี่ปนุ่
และได้ขอ้ มูลเพิ่มเติม ดังต่อไปนี ้
นักศึกษาทัง้ 180 คน ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาต่างประเทศอย่างน้อย 1 วิชา
ไม่มีนกั ศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาจีน พร้อมกับวิชาภาษาอื่น
มีนกั ศึกษา 17 คน ที่ละทะเบียนเรียนวิชาภาษาอังกฤษและวิชาภาษาฝรั่งเศส
มีนกั ศึกษา 23 คน ที่ละทะเบียนเรียนวิชาภาษาอังกฤษและวิชาภาษาญี่ปน ุ่
มีนกั ศึกษา 21 คน ที่ละทะเบียนเรียนวิชาภาษาฝรั่งเศสและวิชาภาษาญี่ปน ุ่
มีนกั ศึกษากี่คน ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาต่างประเทศอย่างน้อย 2 วิชา [PAT 1 (มี.ค. 2565/36)]
.0123456789
4 คลังโจทย์
.0123456789
คลังโจทย์ 5
10. ให้ 𝑛(𝑆) แทนจำนวนสมำชิกของเซต 𝑆 ถ้ำ 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 เป็ นเซต โดยที่ 𝑛(𝐴) = 10 , 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) = 4 ,
𝑛(𝐴 ∩ 𝐶) = 3 และ 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶) = 18 แล้ว ค่ำมำกที่สดุ ที่เป็ นไปได้ของ 𝑛(𝐵 ∪ 𝐶) เท่ำกับข้อใดต่อไปนี ้
[PAT 1 (ก.พ. 2562/18)]
1. 10 2. 12 3. 13 4. 14 5. 15
.0123456789
6 คลังโจทย์
.0123456789
คลังโจทย์ 7
.0123456789
8 คลังโจทย์
15. ให้ 𝑛 (𝑆) แทนจำนวนสมำชิกของเซต 𝑆 ถ้ำ 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 เป็ นเซต โดยที่ 𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) + 𝑛(𝐶 ) = 199
𝑛(𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶 ) = 100 𝑛((𝐴 ∪ 𝐵) − 𝐶) = 35 และ 𝑛(𝐶 − (𝐴 ∪ 𝐵)) = 9
แล้ว 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) เท่ำกับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ก.พ. 2563/5)]
1. 42 2. 43 3. 44 4. 45 5. 46
16. กำหนดให้ 𝑃(𝑆) แทนเพำเวอร์ เซตของเซต 𝑆 ให้ 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 เป็ นเซตใดๆ พิจำรณำข้ อควำมต่อไปนี ้
(ก) ถ้ ำ 𝐴 ∩ 𝐶 ∈ 𝐵 แล้ ว 𝐴 ∈ 𝐵 ∪ 𝐶
(ข) ถ้ ำ 𝐴 ∩ 𝐶 ⊂ 𝐵 แล้ ว 𝐵 = (𝐴 ∪ 𝐵) ∪ (𝐵 ∩ 𝐶)
(ค) 𝑃(𝐴 ∪ 𝐵) ⊂ 𝑃(𝐴) ∪ 𝑃(𝐵)
ข้ อใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง [PAT 1 (มี.ค. 2559/6)]
1. ข้ อ (ก) ถูกเพียงข้ อเดียว 2. ข้ อ (ข) ถูกเพียงข้ อเดียว
3. ข้ อ (ค) ถูกเพียงข้ อเดียว 4. ข้ อ (ก) ข้ อ (ข) และ ข้ อ (ค) ถูกทังสำมข้
้ อ
5. ข้ อ (ก) ข้ อ (ข) และ ข้ อ (ค) ผิดทังสำมข้
้ อ
.0123456789
คลังโจทย์ 9
.0123456789
10 คลังโจทย์
19. ให้ 𝑆 ′ แทนคอมพลีเมนต์ของ 𝑆 และ 𝑛(𝑆) แทนจำนวนสมำชิกของเซต 𝑆 ให้ 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 เป็ นเซตใดๆ
โดยที่ 𝐴 ∩ (𝐵 ∪ 𝐶)′ = ∅ , 𝑛(𝐴) = 12 , 𝑛(𝐵) = 15 , 𝑛(𝐶) = 16 , 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶) = 20
และ 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) = 𝑛(𝐵 ∩ 𝐶) = 𝑛(𝐴 ∩ 𝐶) ข้อใดต่อไปนีไ้ ม่ถกู ต้อง [PAT 1 (ต.ค. 2558/2)]
1. 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶) = 10 2. 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) = 11 3. 𝑛(𝐴′ ∩ 𝐵) = 4
4. 𝑛((𝐴 ∪ 𝐵) ∩ 𝐶) = 12 5. 𝑛((𝐴 ∪ 𝐵)′ ∩ 𝐶) = 5
20. จากการสารวจผู้เล่นเกม Pokemon Go ในประเทศไทยทังหมดพบว่ ้ า 80% มีสตั ว์เลี ้ยงอย่างน้ อยหนึง่ ตัวในบรรดา
สัตว์เลี ้ยงต่อไปนี ้ Bulbasaur, Charmander และ Squirtle โดยที่
45% มีสตั ว์เลี ้ยง Bulbasaur
28% มีสตั ว์เลี ้ยง Charmander
46% มีสตั ว์เลี ้ยง Squirtle
ถ้ า 27% มีแค่ Squirtle เท่านัน้ และ 6% มีสตั ว์เลี ้ยงทังสามชนิ
้ ด ข้ อใดต่อไปนี ้ตรงกับจานวนผู้เล่นที่มี
Bulbasaur, Charmander แต่ไม่มี Squirtle [สมาคม (พ.ย. 2559/1)]
ก. 14% ข. 15% ค. 16% ง. 17%
.0123456789
คลังโจทย์ 1
โจทย์ถาม 𝑛((𝐴 ∪ 𝐵) ∩ 𝐶 ′ )
= 𝑛((𝐴 ∪ 𝐵) − 𝐶) ซึง่ หมายส่วนพืน้ ที่ดงั รูป
จะเห็นว่าส่วนส่วนที่โจทย์ถาม หาได้จากการหักแผนภาพ (1) ด้วยแผนภาพ (4)
= 24 − 10 = 14
1
2. ให้ 𝐴 = { 𝑥 ∈ ℝ | 5 |𝑥 − 3| < 1} และบ 𝐵 = { 𝑥 ∈ ℝ | −3 < 𝑥 ≤ −2 }
พิจารณาข้อความต่อไปนี ้
ก) 𝐴 ∪ 𝐵 = { 𝑥 ∈ ℝ | −3 < 𝑥 < 8 }
ข) 𝐴 ∩ 𝐵 ⊂ (−1 , 0)
ค) เพาเวอร์เซตของ 𝐴 ∩ 𝐵 มีสมาชิกอย่างน้อย 2 ตัว
จากข้อความ ก) ข) และ ค) ข้างต้น ข้อใดถูกต้อง [PAT 1 (มี.ค. 2565/1)]
1. ข้อความ ก) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้ 2. ข้อความ ก) และ ข) ถูกต้องเท่านัน้
3. ข้อความ ก) และ ค) ถูกต้องเท่านัน้ 4. ข้อความ ข) และ ค) ถูกต้องเท่านัน้
5. ข้อความ ก) ข) และ ค) ถูกต้อง
ตอบ 2
1
|𝑥 − 3| < 1
5
|𝑥 − 3| < 5
−5 < 𝑥 − 3 < 5 +3 ตลอด
−2 < 𝑥 < 8
จะได้ 𝐴 = (−2 , 8)
ก) เมื่อนา 𝐴 มายูเนียนกับ 𝐵 จะ ต่อกันที่ −2 ดี ดังนัน้ 𝐴 ∪ 𝐵 = (−3, 8) → ก) ถูก
ข) เนื่องจาก 𝐴 กับ 𝐵 ไม่มีสว่ นซ้อนทับกันเลย จะได้ 𝐴 ∩ 𝐵 = ∅ และเนื่องจาก ∅ เป็ นสับเซตของทุกเซต → ข) ถูก
ค) 𝑃(𝐴 ∩ 𝐵) = 𝑃(∅) = { ∅ } มีสมาชิก 1 ตัว → ค) ผิด
.0123456789
2 คลังโจทย์
64
62
60
58
56
54
0 วิชา
ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาญี่ปนุ่
และได้ขอ้ มูลเพิ่มเติม ดังต่อไปนี ้
นักศึกษาทัง้ 180 คน ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาต่างประเทศอย่างน้อย 1 วิชา
ไม่มีนกั ศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาจีน พร้อมกับวิชาภาษาอื่น
มีนกั ศึกษา 17 คน ที่ละทะเบียนเรียนวิชาภาษาอังกฤษและวิชาภาษาฝรั่งเศส
มีนกั ศึกษา 23 คน ที่ละทะเบียนเรียนวิชาภาษาอังกฤษและวิชาภาษาญี่ปน ุ่
มีนกั ศึกษา 21 คน ที่ละทะเบียนเรียนวิชาภาษาฝรั่งเศสและวิชาภาษาญี่ปน ุ่
มีนกั ศึกษากี่คน ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาต่างประเทศอย่างน้อย 2 วิชา [PAT 1 (มี.ค. 2565/36)]
ตอบ 51
จีน 56 คน จะไม่เรียนภาษาอื่น ดังนัน้ คนที่เรียนภาษาอื่น จะไม่เรียนจีน
คนที่ไม่เรียนจีนมี 180 − 56 = 124 คน ดังนัน้ 3 วิชาที่เหลือมี 124 คน
ใช้สตู ร Inclusive – Exclusive กับ 3 วิชาที่เหลือ จะได้
𝑛(อ ∪ ฝ ∪ ญ) = 𝑛(อ) + 𝑛(ฝ) + 𝑛(ญ) − 𝑛(อ ∩ ฝ) − 𝑛(อ ∩ ญ) − 𝑛(ฝ ∩ ญ) + 𝑛(อ ∩ ฝ ∩ ญ)
124 = 58 + 62 + 60 − 17 − 23 − 21 + 𝑛(อ ∩ ฝ ∩ ญ)
5 = 𝑛(อ ∩ ฝ ∩ ญ)
.0123456789 อ ฝ วาดแผนภาพ จะได้ตรงกลาง = 5
ตอบ 51
4 คลั
จีนงโจทย์
56 คน จะไม่เรียนภาษาอื่น ดังนัน้ คนที่เรียนภาษาอื่น จะไม่เรียนจีน
คนที่ไม่เรียนจีนมี 180 − 56 = 124 คน ดังนัน้ 3 วิชาที่เหลือมี 124 คน
ใช้สตู ร Inclusive – Exclusive กับ 3 วิชาที่เหลือ จะได้
𝑛(อ ∪ ฝ ∪ ญ) = 𝑛(อ) + 𝑛(ฝ) + 𝑛(ญ) − 𝑛(อ ∩ ฝ) − 𝑛(อ ∩ ญ) − 𝑛(ฝ ∩ ญ) + 𝑛(อ ∩ ฝ ∩ ญ)
124 = 58 + 62 + 60 − 17 − 23 − 21 + 𝑛(อ ∩ ฝ ∩ ญ)
5 = 𝑛(อ ∩ ฝ ∩ ญ)
อ ฝ วาดแผนภาพ จะได้ตรงกลาง = 5
12
5
หัก 5 ออกจาก อ ∩ ฝ , อ ∩ ญ , ฝ ∩ ญ จะได้ดงั รูป
18 16
ดังนัน้ มีคนเรียนอย่างน้อย 3 วิชา = 12 + 18 + 16 + 5
ญ = 51 คน
ตอบ 3
จำกโจทย์ จะได้ 𝑈 = {1, 2, 3, … , 10} และ 𝐴 = {2, 4, 6, 8} (น้อยกว่ำ 10 คือไม่รวม 10)
𝐴′ = {1, 3, 5, 7, 9, 10}
โจทย์ให้ 𝑛(𝐴′ ∪ 𝐵) = 7 แต่จะเห็นว่ำ 𝐴′ มีสมำชิก 6 ตัวไปแล้ว ดังนัน้ 𝐵 ต้องมีเพิ่มอีก 1 ตัว ที่ไม่อยู่ใน 𝐴′ …(∗)
(และ 𝐵 อำจมีเลขที่ซำ้ กับ 𝐴′ เพิ่มอีกกี่ตัวก็ได้)
โจทย์ให้ 3 ∉ 𝐴′ − 𝐵 และเนื่องจำก 3 ∈ 𝐴′ แสดงว่ำ 𝐴′ − 𝐵 ต้องถูกหัก 3 ออกไป จึงสรุปได้ว่ำ 3 ∈ 𝐵
1. จำก (∗) → 1. ผิด 2. เนื่องจำก 5 ∉ 𝐴 → 2. ผิด
3. จำก (∗) แสดงว่ำ 𝐵 มี 1 ตัวที่อยู่ใน 𝐴 → 3. ถูก
4. จำก (∗) และ 3 ∈ 𝐵 ด้วย ดังนัน้ 𝐵 มีสมำชิกมำกกว่ำ 1 ตัว → 4. ผิด
5. เนื่องจำก 3 ∈ 𝐵 ดังนัน้ 𝐴 ∪ 𝐵 จะมีสมำชิกมำกกว่ำ 4 ตัว → 5. ผิด
.0123456789
คลังโจทย์ 5
.0123456789
6 คลังโจทย์
10. ให้ 𝑛(𝑆) แทนจำนวนสมำชิกของเซต 𝑆 ถ้ำ 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 เป็ นเซต โดยที่ 𝑛(𝐴) = 10 , 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) = 4 ,
𝑛(𝐴 ∩ 𝐶) = 3 และ 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶) = 18 แล้ว ค่ำมำกที่สดุ ที่เป็ นไปได้ของ 𝑛(𝐵 ∪ 𝐶) เท่ำกับข้อใดต่อไปนี ้
[PAT 1 (ก.พ. 2562/18)]
1. 10 2. 12 3. 13 4. 14 5. 15
ตอบ 5
จำกสูตร Inclusive – Exclusive จะได้
𝑛(𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶) = 𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) + 𝑛(𝐶) − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐶) − 𝑛(𝐵 ∩ 𝐶) + 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶)
18 = 10 + 𝑛(𝐵) + 𝑛(𝐶) − 4 − 3 − 𝑛(𝐵 ∩ 𝐶) + 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶)
15 = 𝑛(𝐵) + 𝑛(𝐶) − 𝑛(𝐵 ∩ 𝐶) + 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶)
15 = 𝑛(𝐵 ∪ 𝐶) + 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶) ใช้สตู ร Inclusive –
15 − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶) = 𝑛(𝐵 ∪ 𝐶) Exclusive ที่ 𝐵 กับ 𝐶
.0123456789
คลังโจทย์ 7
𝐴 𝐵 𝐴 𝐵 𝐴 𝐵 𝐴 𝐵
𝐶 𝐶 𝐶 𝐶
𝑛(𝐴 ∩ 𝐵′ ) = 25 𝑛(𝐵 − 𝐶) = 18 𝑛(𝐶 ∩ 𝐴′ ) = 16 𝑛((𝐴 ∪ 𝐵)′ − 𝐶) = 7
=𝐴−𝐵 =𝐶−𝐴 = (𝐴 ∪ 𝐵)′ ∩ 𝐶 ′
= (𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶)′
𝐴 𝐵
ถ้ำนำส่วนที่แรเงำทัง้ 4 รูปมำรวมกัน
= 25 + 18 + 16 + 7
จะได้เกือบครบทุกส่วน (ยกเว้นตรงกลำง) ดังรูป = 66
𝐶
.0123456789
คลังโจทย์ 9
ตอบ ค
ก. เมื่อ 𝑎 เป็ นจำนวนจริ งใดๆ จะเห็นว่ำ 𝑎 ∈ [−𝑛 + 𝑛1 , 𝑛 − 𝑛1 ) ได้ เสมอ เมื่อ 𝑛 เป็ นจำนวนนับที่มีคำ่ มำกพอ
เช่น เมื่อ 𝑛 = ⌈|𝑎|⌉ + 2 จะได้ 3 ∈ [−5 + 15 , 5 − 15) , 91.9 ∈ [−93 + 931 , 93 − 931 )
1 1
−5.1 ∈ [−7 + 7 , 7 − 7) เป็ นต้ น
ดังนัน้ จำนวนจริงทุกจำนวน จะอยูใ่ น [−𝑛 + 𝑛1 , 𝑛− ) →
1
𝑛
ก. ถูก
n 1
ข. จะเห็นว่ำ 0 ∈ (− 𝑛1 , 𝑛1 ) สำหรับทุกจำนวนนับ 𝑛
และเมื่อ 𝑎 ≠ 0 จะสำมำรถหำ 𝑛 ที่ 𝑎 ∉ (− 𝑛1 , 𝑛1 ) ได้ เสมอ เมื่อ 𝑛 เป็ นจำนวนนับที่มีคำ่ มำกพอ
เช่น เมื่อ 𝑛 = ⌈|𝑎1|⌉ จะได้ 3 ∉ (− 11 , 11) , 0.05 ∉ (− 20 1 1
, ) เป็ นต้ น
20
ดังนัน้ 0 จะเป็ นจำนวนเดียวเท่ำนัน้ ที่อยูใ่ น (− 𝑛1 , 1
𝑛
) → ข. ถูก
n 1
1 1 1 1
ค. ไม่วำ่ 𝑛 จะเป็ นจำนวนนับอะไรก็ตำม จะเห็นว่ำ 1 ∉ ( , 1− ]
𝑛 𝑛
ดังนัน้ 1 ∉ ( , 1− ]
𝑛 𝑛
n 1
แต่ 1 ∈ (0, 1] ดังนัน้ (𝑛1 1
, 1 − 𝑛] ≠ (0, 1] → ค. ผิด
n 1
ง. จะแสดงว่ำทังฝั
้ ่ งซ้ ำยและฝั่งขวำ ต่ำงก็เท่ำกับ (0, 1] ทังคู ้ ่
เมื่อ 𝑎 ∈ (0, 1] จะเห็นว่ำ (0, 1] ⊂ (0, 1 + 𝑛1 ] และ (0, 1] ⊂ (0, 1 + 𝑛1 ) สำหรับจำนวนนับ 𝑛 ทุกตัว
เมื่อ 𝑎 ≤ 0 จะเห็นว่ำ 𝑎 ∉ (0, 1 + 𝑛1 ] และ 𝑎 ∉ (0, 1 + 𝑛1 ) สำหรับ 𝑛 บำงตัว (เช่นเมื่อ 𝑛 = 1)
เมื่อ 𝑎 > 1 จะมี 𝑛 ที่ 𝑎 ∉ (0, 1 + 𝑛1 ] และ 𝑎 ∉ (0, 1 + 𝑛1 ) เสมอ เมื่อ 𝑛 เป็ นจำนวนนับทีม่ ีคำ่ มำกพอ
1 1
เช่น เมื่อ 𝑛 = ⌈𝑎−1 ⌉ + 1 จะได้ 3 ∉ (0, 1 + 1] และ 3 ∉ (0, 1 + 11)
1 1
1.1 ∉ (0, 1 + 11] และ 1.1 ∉ (0, 1 + 11) เป็ นต้ น
ดังนัน้ จะมีแค่ (0, 1] เท่ำนัน้ ที่อยูท่ งฝั
ั ้ ่งซ้ ำยและฝั่งขวำ → ง. ถูก
.0123456789
10 คลังโจทย์
15. ให้ 𝑛 (𝑆) แทนจำนวนสมำชิกของเซต 𝑆 ถ้ำ 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 เป็ นเซต โดยที่ 𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) + 𝑛(𝐶 ) = 199
𝑛(𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶 ) = 100 𝑛((𝐴 ∪ 𝐵) − 𝐶) = 35 และ 𝑛(𝐶 − (𝐴 ∪ 𝐵)) = 9
แล้ว 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) เท่ำกับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ก.พ. 2563/5)]
1. 42 2. 43 3. 44 4. 45 5. 46
ตอบ 2
ลบแผนภำพ ได้ดงั รูป (1) − (2) (1) − (3)
𝐴 𝐵 𝐴 𝐵 𝐴 𝐵 𝐴 𝐵 𝐴 𝐵
𝐶 𝐶 𝐶 𝐶 𝐶
𝑛(𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶) 𝑛((𝐴 ∪ 𝐵) − 𝐶) 𝑛(𝐶 − (𝐴 ∪ 𝐵)) 𝑛(𝐶) = 100 − 35 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵) = 100 − 9
= 100 = 35 =9 = 65 = 91
…(1) …(2) …(3) …(4) …(5)
จำก 𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) + 𝑛(𝐶 ) = 199
จำก (4)
𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) + 65 = 199
𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) = 134 …(6)
จำกสูตร Inclusive & Exclusive : 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵) = 𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵)
จำก (5) และ (6)
91 = 134 − 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵)
𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) = 43
16. กำหนดให้ 𝑃(𝑆) แทนเพำเวอร์ เซตของเซต 𝑆 ให้ 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 เป็ นเซตใดๆ พิจำรณำข้ อควำมต่อไปนี ้
(ก) ถ้ ำ 𝐴 ∩ 𝐶 ∈ 𝐵 แล้ ว 𝐴 ∈ 𝐵 ∪ 𝐶
(ข) ถ้ ำ 𝐴 ∩ 𝐶 ⊂ 𝐵 แล้ ว 𝐵 = (𝐴 ∪ 𝐵) ∪ (𝐵 ∩ 𝐶)
(ค) 𝑃(𝐴 ∪ 𝐵) ⊂ 𝑃(𝐴) ∪ 𝑃(𝐵)
ข้ อใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง [PAT 1 (มี.ค. 2559/6)]
1. ข้ อ (ก) ถูกเพียงข้ อเดียว 2. ข้ อ (ข) ถูกเพียงข้ อเดียว
3. ข้ อ (ค) ถูกเพียงข้ อเดียว 4. ข้ อ (ก) ข้ อ (ข) และ ข้ อ (ค) ถูกทังสำมข้
้ อ
5. ข้ อ (ก) ข้ อ (ข) และ ข้ อ (ค) ผิดทังสำมข้
้ อ
ตอบ 5
(ก) 𝐴 ∩ 𝐶 ∈ 𝐵 คือ 𝐴 ∩ 𝐶 ต้ องเข้ ำไปอยูใ่ นปี กกำของ 𝐵
เช่น 𝐴 = {1, 2} , 𝐶 = {2, 3} จะได้ 𝐴 ∩ 𝐶 = {2} → ถ้ ำให้ 𝐵 = { {2} } จึงจะได้ วำ่ 𝐴∩𝐶∈𝐵
แต่จะได้ 𝐴 ∈ 𝐵 ∪ 𝐶
{1, 2} ∈ { {2} } ∪ {2, 3}
{1, 2} ∈ { 2 , 3 , {2} } ×
𝐴 𝐶 𝐴 𝐶
(ข) 𝐴∩𝐶⊂𝐵 จะวำดได้ ดงั รูป จะตรวจสอบข้ อนี ้ โดยใช้ วิธีกำหนด 1 3 5
4
“สมำชิกตัวแทน” ให้ ทกุ ส่วน ดังรูป 2
6 7
𝐵 𝐵
จะได้ 𝐴 = {1, 2, 3} , 𝐵 = {2, 3, 4, 6} , และ 𝐶 = {3, 4, 5}
ดังนัน้ 𝐵 = (𝐴 ∪ 𝐵) ∪ (𝐵 ∩ 𝐶)
{2, 3, 4, 6} = {1, 2, 3, 4, 6} ∪ {3, 4}
{2, 3, 4, 6} = {1, 2, 3, 4, 6} ×
(ค) ปกติแล้ ว 𝑃(𝐴 ∪ 𝐵) จะใหญ่กว่ำ 𝑃(𝐴) ∪ 𝑃(𝐵) เพรำะใน 𝑃(𝐴 ∪ 𝐵) จะมีสบั เซตที่ “บำงตัวมำจำก 𝐴 และ
บำงตัวมำจำก 𝐵” ในขณะที่ 𝑃(𝐴) ∪ 𝑃(𝐵) คือ กำรนำ “สับเซตทีม่ ำจำก 𝐴 รวมกับ “สับเซตที่มำจำก 𝐵” ซึง่ จะไม่
มีสบั เซตทีเ่ กิดร่วมกัน ระหว่ำง 𝐴 กับ 𝐵
.0123456789
𝐵 𝐵
จะได้ 𝐴 = {1, 2, 3} , 𝐵 = {2, 3, 4, 6} , และ 𝐶 = {3, 4, 5}
ดังนัน้ 𝐵 = (𝐴 ∪ 𝐵) ∪ (𝐵 ∩ 𝐶)
คลังโจทย์
{2, 3, 4, 6} = {1, 2, 3, 4, 6} ∪ {3, 4} 11
{2, 3, 4, 6} = {1, 2, 3, 4, 6} ×
(ค) ปกติแล้ ว 𝑃(𝐴 ∪ 𝐵) จะใหญ่กว่ำ 𝑃(𝐴) ∪ 𝑃(𝐵) เพรำะใน 𝑃(𝐴 ∪ 𝐵) จะมีสบั เซตที่ “บำงตัวมำจำก 𝐴 และ
บำงตัวมำจำก 𝐵” ในขณะที่ 𝑃(𝐴) ∪ 𝑃(𝐵) คือ กำรนำ “สับเซตทีม่ ำจำก 𝐴 รวมกับ “สับเซตที่มำจำก 𝐵” ซึง่ จะไม่
มีสบั เซตทีเ่ กิดร่วมกัน ระหว่ำง 𝐴 กับ 𝐵
เช่น ถ้ ำให้ 𝐴 = {1} , 𝐵 = {2} จะได้ 𝐴 ∪ 𝐵 = {1, 2}
ดังนัน้ 𝑃(𝐴 ∪ 𝐵) ⊂ 𝑃(𝐴) ∪ 𝑃(𝐵) หมำยเหตุ : ถ้ ำ ข้ อ ค. สลับข้ ำงสับเซต
𝑃({1, 2}) ⊂ 𝑃({1}) ∪ 𝑃({2}) เป็ น 𝑃(𝐴) ∪ 𝑃(𝐵) ⊂ 𝑃(𝐴 ∪ 𝐵) จะถูก
{ ∅, {1}, {2}, {1,2} } ⊂ { ∅, {1} } ∪ { ∅, {2} }
{ ∅, {1}, {2}, {1,2} } ⊂ { ∅, {1}, {2} } ×
สับเซตที่มีสมำชิกมำจำกทัง้ 𝐴 และ 𝐵
.0123456789
12 คลังโจทย์
.0123456789
คลังโจทย์ 13
19. ให้ 𝑆 ′ แทนคอมพลีเมนต์ของ 𝑆 และ 𝑛(𝑆) แทนจำนวนสมำชิกของเซต 𝑆 ให้ 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 เป็ นเซตใดๆ
โดยที่ 𝐴 ∩ (𝐵 ∪ 𝐶)′ = ∅ , 𝑛(𝐴) = 12 , 𝑛(𝐵) = 15 , 𝑛(𝐶) = 16 , 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶) = 20
และ 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) = 𝑛(𝐵 ∩ 𝐶) = 𝑛(𝐴 ∩ 𝐶) ข้อใดต่อไปนีไ้ ม่ถกู ต้อง [PAT 1 (ต.ค. 2558/2)]
1. 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶) = 10 2. 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) = 11 3. 𝑛(𝐴′ ∩ 𝐵) = 4
4. 𝑛((𝐴 ∪ 𝐵) ∩ 𝐶) = 12 5. 𝑛((𝐴 ∪ 𝐵)′ ∩ 𝐶) = 5
ตอบ 5
จำก 𝐴 ∩ (𝐵 ∪ 𝐶)′ = ∅
ใช้สตู ร 𝐴 − 𝐵 = 𝐴 ∩ 𝐵′
𝐴 − (𝐵 ∪ 𝐶) = ∅
𝐴 𝐵 𝐴 𝐵
ซึง่ 𝐴 − (𝐵 ∪ 𝐶) คือบริเวณ เป็ นเซตว่ำง ดังนัน้ ใส่ 0 ได้ดงั รูป 0
𝐶 𝐶
จำก 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) = 𝑛(𝐵 ∩ 𝐶) = 𝑛(𝐴 ∩ 𝐶) → กำหนด 𝑎, 𝑏, 𝑐, 𝑥 ดังรูป 𝐴 𝐵
0 𝑎
จะได้ 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) = 𝑛(𝐵 ∩ 𝐶) = 𝑛(𝐴 ∩ 𝐶) 𝑥 𝑐
𝑏
𝑎+𝑥 = 𝑐+𝑥 = 𝑏+𝑥
𝑎 = 𝑐 = 𝑏
𝐶
𝐴 𝐵
ให้ 𝑎=𝑏=𝑐=𝑦 จะได้ 0 𝑦
𝑦 𝑥 𝑦 จำก 𝑛(𝐴) = 12 จะได้ 0 + 𝑦 + 𝑥 + 𝑦 = 12
𝑥 + 2𝑦 = 12 …(1)
𝐶
1. 𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶 → 10 2. 𝐴 ∩ 𝐵 → 11 3. 𝐴′ ∩ 𝐵 = 𝐵 ∩ 𝐴′
𝐴 𝐵 𝐴 𝐵 = 𝐵−𝐴 → 4
0 1 3 0 1 3 𝐴 𝐵
10 10 0 1 3
1 1 1 1
10
4 4 1 1
𝐶 𝐶 4
𝐶
4. (𝐴 ∪ 𝐵) ∩ 𝐶 → 12 5. (𝐴 ∪ 𝐵)′ ∩ 𝐶 = 𝐶 ∩ (𝐴 ∪ 𝐵)′
= 𝐶 − (𝐴 ∪ 𝐵) → 4
𝐴 𝐵
0 1 3 𝐴 𝐵
0 1 3
10
1 1
.0123456789 10
𝐴 𝐵 𝐴 𝐵
0 1 3 0 1 3 𝐴 𝐵
10 10 0 1 3
1 1 1 1
10
1 1
14 คลังโจทย์ 4 4
𝐶 𝐶 4
𝐶
4. (𝐴 ∪ 𝐵) ∩ 𝐶 → 12 5. (𝐴 ∪ 𝐵)′ ∩ 𝐶 = 𝐶 ∩ (𝐴 ∪ 𝐵)′
= 𝐶 − (𝐴 ∪ 𝐵) → 4
𝐴 𝐵
0 1 3 𝐴 𝐵
0 1 3
10
1 1 10
1 1
4
𝐶 4
𝐶
จะเห็นว่ำ ข้อ 5. เท่ำนัน้ ที่ไม่ตรงกับข้อควำมในตัวเลือก
20. จากการสารวจผู้เล่นเกม Pokemon Go ในประเทศไทยทังหมดพบว่ ้ า 80% มีสตั ว์เลี ้ยงอย่างน้ อยหนึง่ ตัวในบรรดา
สัตว์เลี ้ยงต่อไปนี ้ Bulbasaur, Charmander และ Squirtle โดยที่
45% มีสตั ว์เลี ้ยง Bulbasaur
28% มีสตั ว์เลี ้ยง Charmander
46% มีสตั ว์เลี ้ยง Squirtle
ถ้ า 27% มีแค่ Squirtle เท่านัน้ และ 6% มีสตั ว์เลี ้ยงทังสามชนิ
้ ด ข้ อใดต่อไปนี ้ตรงกับจานวนผู้เล่นที่มี
Bulbasaur, Charmander แต่ไม่มี Squirtle [สมาคม (พ.ย. 2559/1)]
ก. 14% ข. 15% ค. 16% ง. 17%
ตอบ ก
จาก 6% มีสตั ว์เลี ้ยงทังสามชนิ
้ ด และ 27% มีแค่ Squirtle จะเติมได้ ดงั รูป 𝐵 𝑥
𝐶
จาก 46% มี Squirtle แสดงว่าวง 𝑆 ต้ องรวมกันได้ 46 𝑦 6 𝑧
นัน่ คือ จะได้ 𝑦 + 6 + 𝑧 + 27 = 46 27
𝑦 +𝑧 = 13 …(∗) 𝑆
และจากสูตร Inclusive – Exclusive จะได้
𝑛(𝐵 ∪ 𝐶 ∪ 𝑆) = 𝑛(𝐵) + 𝑛(𝐶) + 𝑛(𝑆) − 𝑛(𝐵 ∩ 𝐶) − 𝑛(𝐵 ∩ 𝑆) − 𝑛(𝐶 ∩ 𝑆) + 𝑛(𝐵 ∩ 𝐶 ∩ 𝑆)
80 = 45 + 28 + 46 − (𝑥 + 6) − (𝑦 + 6) − (𝑧 + 6) + 6
80 = 45 + 28 + 46 − 𝑥 − 6 −𝑦−6 −𝑧−6 + 6
𝑥+𝑦+𝑧 = 27
จาก (∗)
𝑥 + 13 = 27
𝑥 = 14
.0123456789