You are on page 1of 11

ปูพื้นจัดเต็ม เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทึม ทัง้ บท!

• เลขยกกาลัง
เลขยกกาลังที่มีเลขชี้กาลังเป็ นจานวนเต็ม
บทนิ ยาม : ให้ 𝑎 เป็ นจำนวนจริง และ 𝑛 เป็ นจำนวนเต็มบวก
𝑎𝑛 = 𝑎 ∙ 𝑎 ∙ 𝑎 ∙ … ∙ 𝑎 เรียก 𝑎𝑛 ว่ำ เลขยกกำลัง
𝑛 ตัว เรียก 𝑎 ว่ำ ฐำนของเลขยกกำลัง
เรียก 𝑛 ว่ำ เลขชีก้ ำลัง
่ อ 𝑎0 = 1
ถ้ำเลขชีก้ ำลังเป็ น 0 จะกำหนดค่ำให้เป็ น 1 นันคื

กำหนดให้ 𝑎, 𝑏 เป็ นจำนวนจริงทีไ่ ม่ใช่ศูนย์ และ 𝑚, 𝑛 เป็ นจำนวนเต็ม จะได้ว่ำ [ซ้อมไปด้วยด้านหลังเลย]


1. 𝑎𝑚 ∙ 𝑎𝑛 = 𝑎𝑚+𝑛

𝑎𝑚
2. = 𝑎𝑚−𝑛
𝑎𝑛

3. (𝑎𝑚 )𝑛 = 𝑎𝑚𝑛

4. (𝑎𝑏)𝑛 = 𝑎𝑛 ∙ 𝑏 𝑛

𝑎 𝑛 𝑎𝑛
5. ( ) = 𝑛
𝑏 𝑏

1
6. 𝑎−𝑛 =
𝑎𝑛

**ทฤษฎีบทนี้กเ็ ป็ นจริง เมื่อเลขชีก้ ำลังเป็ นจำนวนตรรกยะ

ข้อที่ 1. จงเขียนเลขยกกำลังต่อไปนี้ให้อยู่ในรูปอย่ำงง่ำย และเลขชีก้ ำลังทุกตัวเป็ นจำนวนเต็มบวก


(58 )8 15 4 10 5
1) (125)21
2) ( ) ÷ ( )
8 9
• รากที่ 𝑛 ของจานวนจริง และจานวนจริงที่อยูใ่ นรูปกรณฑ์
บทนิ ยาม : กำหนดให้ 𝑥 และ 𝑦 เป็ นจำนวนจริง และ 𝑛 เป็ นจำนวนเต็มทีม่ ำกกว่ำ 1
𝑦 เป็ นรำกที่ 𝑛 ของ 𝑥 ก็ต่อเมื่อ 𝑦 𝑛 = 𝑥

ข้อที่ 2. จงหำ
1) รำกที่ 2 ของ 25 2) รำกที่ 3 ของ – 27

ค่าหลักของรากที่ 𝑛
บทนิ ยาม : กำหนดให้ 𝑥 และ 𝑦 เป็ นจำนวนจริง และ 𝑛 เป็ นจำนวนเต็มทีม่ ำกกว่ำ 1
𝑦 เป็ นค่ำหลักของรำกที่ 𝑛 ของ 𝑥 ก็ต่อเมื่อ
1. 𝑦 เป็ นรำกที่ 𝑛 ของ 𝑥 (𝑦 𝑛 = 𝑥)
2. 𝑥𝑦 ≥ 0
𝑛
แทนค่ำหลักของรำกที่ 𝑛 ของ 𝑥 ด้วย √𝑥 อ่ำนว่ำ “กรณฑ์ท่ี 𝑛 ของ 𝑥”

ข้อที่ 3. จงหำ
1) รำกที่ 2 ของ 81
2) ค่ำหลักของรำกที่ 2 ของ 81

3) รำกที่ 3 ของ 64 (เฉลย 4)


4) ค่ำหลักของรำกที่ 3 ของ 64 (เฉลย 4)

สำหรับ 𝑛 ทีเ่ ป็ นจำนวนคู่ทม่ี ำกกว่ำ 1 ถ้ำ 𝑥 ≥ 0 แล้ว 𝑥 จะมีรำกที่ 𝑛 ทีม่ ำกกว่ำหรือเท่ำกับศูนย์เสมอ


𝑛
เรียกรำกทีว่ ่ำ รากที่ 𝑛 ที่ไม่เป็ นจานวนจริงลบของ 𝒙 และแทนด้วยสัญลักษณ์ √𝑥 โดยเครื่องหมำย √
เรียกว่ำ เครื่องหมายกรณฑ์ (Radical sign)
สรุปเพิ่ มเติ มเล็กน้ อย
▪ รำกที่ 𝑛 ของ 𝑥 เมื่อ 𝑛 เป็ นจำนวนคู่ จะมี 2 ค่ำ คือค่ำบวก และ ค่ำลบ โดยที่ 𝑥 ≥ 0 (ติดลบไม่นิยำม)
▪ รำกที่ 𝑛 ของ 𝑥 เมื่อ 𝑛 เป็ นจำนวนคี่ จะมี 1 ค่ำเท่ำนัน้ เป็ นได้ทงั ้ ค่ำบวกและค่ำลบ โดยที่ 𝑥 ∈ 𝑅
▪ ค่ำหลักของรำกที่ 𝑛 ของ 𝑥 เมื่อ 𝑛 เป็ นจำนวนคีค่ ่ี มีตวั เดียวอยู่แล้ว แต่ถำ้ 𝑛
เป็ นจำนวนคู่คอื เลือกแค่ตวั ทีไ่ ม่ตดิ ลบ
𝑛
▪ ค่ำหลักของรำกที่ 𝑛 ของ 𝑥 สำมำรถเขียนแทนด้วย √𝑥
ทฤษฎีบท : กำหนดให้ 𝑥 และ 𝑦 เป็ นจำนวนจริง และ 𝑛 เป็ นจำนวนเต็มทีม่ ำกกว่ำ 1
โดยที่ 𝑥 และ 𝑦 มีรำกที่ 𝑛 (หำค่ำได้) แล้ว
𝑛
1. √𝑥 ∙ 𝑛√𝑦 = 𝑛√𝑥𝑦
𝑛
√𝑥 𝑛 𝑥
2. 𝑛 = √ เมื่อ 𝑦 ≠ 0
√𝑦 𝑦

ถ้ำ 𝑥 < 0 และ 𝑦 < 0 แล้ว ทฤษฎีบทนี้จะเป็ นจริง ก็ต่อเมื่อ 𝑛 เป็ นจำนวนคีบ่ วกทีม่ ำกกว่ำ 1 เท่ำนัน้

𝑛
เสริม : √𝑥 𝑛 = 𝑥 เมื่อ 𝑛 เป็ นจำนวนคีบ่ วกทีม่ ำกกว่ำ 1
𝑛
√𝑥 𝑛 = |𝑥| เมื่อ 𝑛 เป็ นจำนวนคูบ่ วก *** สำคัญน้ำอันนี้

4 4 4
ข้อที่ 4. จงหำค่ำของ √(−2)4 × √5 × √0.2

• การหาผลบวกและผลต่างของจานวนจริงในรูปกรณฑ์
3
ข้อที่ 5. จงหำรูปอย่ำงง่ำยและทำให้ตวั ส่วนไม่ตดิ กรณฑ์ของ − 4 √3
2−√3

• เลขยกกาลังที่มีเลขชี้กาลังเป็ นจานวนตรรกยะ
บทนิ ยาม : ให้ 𝑎 เป็ นจำนวนจริง และ 𝑛 เป็ นจำนวนเต็มทีม่ ำกกว่ำ 1 ถ้ำ 𝑎 มีรำกที่ 𝑛 แล้ว
1
𝑛
𝑎 𝑛 = √𝑎
1
ในกรณีท่ี 𝑎 ≥ 0 สำมำรถนิยำม 𝑎 ได้เสมอ
𝑛

ในกรณีท่ี 𝑎 < 0 จะนิยำมเฉพำะกรณีท่ี 𝑛 เป็ นจำนวนคี่

บทนิ ยาม :
𝑝
ให้ 𝑎 เป็ นจำนวนจริง โดยที่ 𝑎 ≠ 0 และ 𝑟 เป็ นจำนวนตรรกยะซึง่ 𝑟 = โดยที่ 𝑝, 𝑞 เป็ นจำนวนเต็มซึง่
𝑞
1 𝑝 1 𝑝
𝑟
𝑞 > 0 และ ห.ร.ม. ของ 𝑝 และ 𝑞 เป็ น 1 ถ้ำ 𝑎 เป็ นจำนวนจริง (หำค่ำได้) แล้ว 𝑎 = 𝑎 = (𝑎 )
𝑞 𝑞 𝑞
3
ข้อที่ 6. จงหำค่ำของ 814

• ฟังก์ชนั เอกซ์โพเนนเชียล
บทนิ ยาม : ฟั งก์ชนั เอกซ์โพเนนเชียล คือ ฟั งก์ชนั ทีอ่ ยูใ่ นรูป {(𝑥, 𝑦) ∈ 𝑅 × 𝑅|𝑦 = 𝑎 𝑥 }
โดยที่ 𝑎 เป็ นจำนวนจริง ซึง่ 𝑎 > 0 และ 𝑎 ≠ 1

1 𝑥
ข้อที่ 7. กำหนดให้ 𝑓(𝑥) = 2𝑥 , 𝑔(𝑥) = 3𝑥 และ ℎ(𝑥) = ( )
2
จงจับคู่กรำฟและฟั งก์ชนั ว่ำกรำฟใดเป็ นของฟังก์ชนั 𝑓, 𝑔 และ ℎ

ข้อสังเกต (เมื่อกำหนดให้ 𝑎 > 0 และ 𝑎 ≠ 1)


1. กรำฟของฟั งก์ชนั 𝑦 = 𝑎 𝑥 จะผ่ำนจุด (0,1) เสมอ เนื่องจำก 𝑎0 = 1
2. ถ้ำ 𝑎 > 1 แล้ว 𝑦 = 𝑎 𝑥 เป็ นฟั งก์ชนั เพิม่
3. ถ้ำ 0 < 𝑎 < 1 แล้ว 𝑦 = 𝑎 𝑥 เป็ นฟั งก์ชนั ลด
4. จำกสมบัตขิ องฟังก์ชนั หนึ่งต่อหนึ่ง จะได้ว่ำ 𝑎 𝑥 = 𝑎 𝑦 ก็ต่อเมือ่ 𝑥 = 𝑦
5. เมื่อ 𝑦 = 𝑎 𝑥 จะได้ว่ำ เรนจ์ของฟั งก์ชนั คือ (0, ∞) หรือ 𝑅+ นันก็ ่ คอื 𝑦 > 0 เสมอ
6. ถ้ำ 𝑎 𝑥 = 𝑏 𝑥 เมื่อ 𝑎, 𝑏 > 0 โดยที่ 𝑎 ≠ 𝑏 จะได้ว่ำ 𝑥 = 0
• สมการและอสมการเอกซ์โพเนนเชียล
ใช้สมบัตคิ วำมเป็ นฟังก์ชนั หนึ่งต่อหนึ่ง ฟังก์ชนั เพิม่ และฟังก์ชนั ลดของฟั งก์ชนั เอกซ์โพเนนเชียล

2𝑥−3
ข้อที่ 9. จงหำเซตคำตอบของสมกำร = 16(32)
45

ข้อที่ 10. จงหำเซตคำตอบของอสมกำรต่อไปนี้


2 −𝑥
1) 10𝑥 ≤ 100

1 𝑥+1 1
2) ( ) <
4 32

• ฟังก์ชนั ลอการิ ทึม


บทนิ ยาม : ฟั งก์ชนั ลอกำริทมึ คือ ฟั งก์ชนั ทีอ่ ยู่ในรูป
{(𝑥, 𝑦) ∈ 𝑅+ × 𝑅| 𝑦 = log 𝑎 𝑥 , 𝑎 > 0 และ 𝑎 ≠ 1}
ฟั งก์ชนั ลอกำริทมึ คือ ตัวผกผันของฟั งก์ชนั เอกซ์โพเนนเชียล (𝑦 = 𝑎 𝑥 )
ควำมสัมพันธ์ระหว่ำง 𝑥 กับ 𝑦 ในรูป 𝑥 = 𝑎 𝑦 จะได้วำ่ log 𝑎 𝑥 = 𝑦
โดย log 𝑎 𝑥 อ่ำนว่ำ “ล็อกเอกซ์ฐำนเอ”

ข้อที่ 11. จงหำค่ำของ 𝑦 เมื่อกำหนดให้


1
1) 𝑦 = log 3 9 3) 𝑦 = log 2
4

2) 𝑦 = log 2 32 4) log 2 𝑦 = 3
ข้อที่ 12. กำหนดให้ 𝑓(𝑥) = 3𝑥
จงวำดกรำฟ 𝑓 และ 𝑓 −1

ข้อที่ 13. จงวำดกรำฟของ 𝑓(𝑥) = log 3 𝑥


และ 𝑔(𝑥) = log 1 𝑥 ในระบบพิกดั ฉำกเดียวกัน
3

ข้อสังเกตเพิ่ มเติ ม
1. กรำฟของฟั งก์ชนั 𝑦 = log 𝑎 𝑥 เมื่อ 𝑎 > 0 และ 𝑎 ≠ 1 จะผ่ำนจุด (1,0) เสมอ เนื่องจำก
log 𝑎 1 = 0

2. ถ้ำ 𝑎 > 1 แล้ว 𝑦 = log 𝑎 𝑥 เป็ นฟั งก์ชนั เพิม่

3. ถ้ำ 0 < 𝑎 < 1 แล้ว 𝑦 = log 𝑎 𝑥 เป็ นฟั งก์ชนั ลด

4. จำกสมบัตขิ องฟังก์ชนั หนึ่งต่อหนึ่ง จะได้ว่ำ เมื่อ 𝑎 > 0 และ 𝑎 ≠ 1 แล้ว


log 𝑎 𝑥 = log 𝑎 𝑦 ก็ต่อเมื่อ 𝑥 = 𝑦
• สมบัติที่สาคัญของฟังก์ชนั ลอการิทึม
ทฤษฎีบท : ให้ 𝑎, 𝑀 และ 𝑁 เป็ นจำนวนจริงบวกที่ 𝑎 ≠ 1 และ 𝑘 เป็ นจำนวนจริง จะได้ว่ำ
1. log 𝑎 𝑀𝑁 = log 𝑎 𝑀 + log 𝑎 𝑁
𝑀
2. log 𝑎 = log 𝑎 𝑀 − log 𝑎 𝑁
𝑁

3. log 𝑎 𝑀𝑘 = 𝑘 log 𝑎 𝑀

1
4. log 𝑎𝑘 𝑀 = log 𝑎 𝑀 เมื่อ 𝑘 ≠ 0
𝑘
5. log 𝑎 𝑎 = 1

6. log 𝑎 1 = 0

1
7. log 𝑏 𝑎 = เมื่อ 𝑏 > 0 และ 𝑏 ≠ 1
log𝑎 𝑏

log𝑐 𝑀
8. log 𝑎 𝑀 = เมื่อ 𝑐 > 0 และ 𝑐 ≠ 1 [ใช้สำหรับเปลีย่ นฐำนลอกำริทมึ เพื่อจัดรูป]
log𝑐 𝑎

แถมสูตรเพิ่ มเติ ม
9. 𝑎log𝑎 𝑥 = 𝑥

10. 𝑎log𝑏 𝑐 = 𝑐 log𝑏 𝑎


ข้อที่ 14. จงหำค่ำของ
1) log 3 12 − log 3 4

4
2) log 6 27 + log 6
3

3) log128 16

1
4) log 3 5 +
log1.8 3

5) 8log2 5

ค่าประมาณของ log ต่างๆ ที่สาคัญ


- log 2 ≈ ________
- log 3 ≈ ________
- log 5 ≈ ________
- ln 𝑒 ≈ ________
- log 𝑒 ≈ ________

• แอนติ ลอการิทึม
บทนิ ยาม : 𝐴 เป็ นแอนติลอกำริทมึ ของ 𝐵 ก็ต่อเมื่อ 𝐵 = log 𝐴
เช่น แอนติลอกำริทมึ ของ 2 คือ 100 เพรำะ 2 = log 100

• สมการและอสมการลอการิทึม
อำศัยสมบัตทิ ส่ี ำคัญต่ำง ๆ ของลอกำริทมึ
เนื่ องจากฟังก์ชนั Logarithm เป็ นฟังก์ชนั ________ จึงทาให้ทราบว่า ถ้า log 𝑎 𝑥1 = log 𝑎 𝑥2
จะได้ ________ และฟังก์ชนั Logarithm 𝑦 = log 𝑎 𝑥 เป็ นฟังก์ชนั เพิ่ มเมื่อ __________ และ
เป็ นฟังก์ชนั ลดเมื่อ ___________
ข้อควรระวังเพิ่มเติ ม !!!

ข้อที่ 15. จงหำเซตคำตอบของสมกำร log 6 4 + 2 log 6 𝑥 = 2

ข้อที่ 16. จงหำเซตคำตอบของอสมกำรต่อไปนี้


1) log 3 𝑥 > 2

2) log 1 𝑥 > 2
3

3) log 2 𝑥 2 < 2 + log 2 (2𝑥 − 3)


• ลองลุยข้อสอบกันสักหน่ อย
ข้อที่ 17. ผลบวกของคำตอบทัง้ หมดของสมกำร 4𝑥 +24 = 65(2𝑥−1 ) เท่ำกับข้อใดต่อไปนี้
(วิ ชาสามัญ ม.ค. 56)
1. −2
1
2. −
2
3
3.
2
4. 2
5. 4

ข้อที่ 18. ผลบวกของคำตอบทัง้ หมดของสมกำร (log 100𝑥)2 + 2 log100 𝑥 + 2 = 0


เท่ำกับข้อใดต่อไปนี้ (วิชาสามัญ ธ.ค. 59)
11
1.
1000
101
2.
1000
11
3.
100
4. 101
5. 110

จบแล้วววว ขอให้น้องๆนาความรูจ้ ากการติ วครัง้ นี้


ไปฝึ กฝนเพิ ม่ เติ ม และซัดข้อสอบให้ร่วงเลย !!
พีก่ ล้าพูดว่า Expo & Log แม้จะยากในตอนแรก
แต่มนั เป็ นบททีน่ ่ าเก็บ เหมาะแก่การทาคะแนนเป็ นอันดับต้นๆเลย
ขอให้น้องทามันได้น้า
คอร์สปูพื้นฐานละเอียดสาหรับอัปคะแนนปังที่โรงเรียน และพิ ชิตมหา’ลัยในฝัน
ดูรายละเอียดสแกนเลย

คอร์สพี่ปัน้ ดีกว่าใน Youtube ยังไง ?


• ปูพน้ื ฐำนละเอียดกว่ำ เจำะลึกดีเทลได้มำกกว่ำ เพรำะมีเวลำในกำรติวมำกกว่ำ
• โจทย์ครบถ้วนกว่ำ และหลำกหลำยกว่ำใน Youtube มีทงั ้ ง่ำยไปจนถึงยำก
• ได้ตะลุยโจทย์ ในปริมำณเยอะกว่ำในคลิปมำกๆ
• มีแบบฝึกหัดเสริมนับพันข้อและแบบทดสอบให้ฝึกทำ วัดผลตัวเอง
• มีบริกำรถำมตอบโจทย์/ให้คำปรึกษำกำรเรียนจำกพีท่ มี วิชำกำรมือฉมัง (รวมถึงพีป่ ัน้ เองด้วย)
• มีกลุ่มพูดคุยแยกตำมรุ่นต่ำงๆ อัปเดตข่ำวสำรพร้อมกำลังใจจัดเต็มจำกพีป่ ัน้
• มีตำรำงวำงแผนกำรเรียนคอร์สพีป่ ั ้นให้
• เรียนออนไลน์บนเว็บ ให้เวลำเรียน 2 เท่ำของชัวโมงคอร์
่ ส (อำยุคอร์ส 1 ปี )
• แถมหนังสือเรียน และของแจกตำมเทศกำลฟรีถงึ บ้ำน (มีไฟล์ PDF ให้จดบน Tablet ด้วย)

You might also like