Professional Documents
Culture Documents
เคมีสามัญ 2555
เคมีสามัญ 2555
ข้อ 1 ตอบ1
Y 1s2 2s2 2p6 3s2 3p6 4s2 3d10 4p3 จานวนอิเล็กตรอนเดี่ยว 3 ตัว
Z 1s2 2s2 2p6 3s2 3p6 4s2 3d10 4p5 จานวนอิเล็กตรอนเดี่ยว 1 ตัว
A=Z<X<Y
d
an
em
nD
O
หน้า 55-1
ข้อ 2 ตอบ 5
P S
Se
Te
d
an
ถ้าระดับพลังงานเท่ากัน ไอออนลบ > กลาง > ไอออนบวก
em
nD
O
หน้า 55-1
ข้อ 3 ตอบ 4
Sr (Z = 38)
ปกติ 1s2 2s2 2p6 3s2 3p6 4s2 3d10 4p6 5s2
d
an
em
nD
O
หน้า 55-1
ข้อ 4 ตอบ 5
Y Y
Y X Y X Y
Y Y
X +4 Y -2
d
an
em
nD
O
หน้า 55-2
ข้อ 5 ตอบ 2
F .. .. .. O
B N O P I I I C
F F Cl Cl Cl H H H H H H H H
I II III IV V VI
d
แบนราบ สามเหลี่ยม สามเหลี่ยม สามเหลีย่ ม แบนราบ
an
em
nD
O
หน้า 55-2
ข้อ 6 ตอบ 2
A 24 หมู่ 4 อโลหะ
d
ข้อนี้จึงผิด
2. ออกไซด์ของ B เป็นพันธะไอออนิก เพราะ B เป็นโลหะ
an
ออกไซด์ของ C เป็นพันธะโคเวเลนต์ เพราะ C เป็นอโลหะ ถูกต้อง
em
3. สารประกอบธาตุคู่ระหว่างไฮโดรเจนกับ A และ C มีพันธะโคเวเลนต์แบบมีขั้ว คือ AH4 และ CH4 เพราะเกิด
จากการทาพันธะของอะตอมต่างชนิดกัน แต่โมเลกุลไม่มีขั้ว
สารประกอบทั้งสองจึงมีจุดหลอมเหลวต่า จึงผิด
nD
ข้อ 7 ตอบ 4
A B C D
2 3 6 7
ก. สูตรของสารประกอบระหว่าง A หมู่ 2 เกิน 2 ตัว กับ D หมู่ 7 ขาด 1 ตัว คือ AD2
และระหว่าง B หมู่ 3 เกิน 3 ตัว กับ C หมู่ 6 ขาด 2 ตัว คือ B2C3 ถูกต้อง
ข. พันธะระหว่าง A ซึ่งเป็นโลหะ กับ D ซึ่งเป็นอโลหะ เป็นพันธะไอออนิก
ส่วนระหว่าง C กับ D เป็นธาตุอโลหะทั้งคู่ จึงเป็นพันธะโคเวเลนต์ ถูกต้อง
d
ค. อะตอมที่มีค่าอิเล็กโทรเนกาติวีตีสูงสุดคือ D เพราะอยู่หมู่ 7 ถูกต้อง
ง. อะตอมที่มีค่าพลังงานไอออไนเซชันสูงสุด คือ D ผิด
an
em
nD
O
หน้า 55-3
ข้อ 8 ตอบ 3
X 2 8 18 7 หมู่ 7 อโลหะ
d
Y 2 8 18 8 2 หมู่ 2 โลหะ
Z 2 8 18 18 8 2 หมู่ 2 โลหะ
ข้อ 9 ตอบ 5
สารประกอบแทรนซิชันจะมีคุณสมบัติเมื่อเลขออกซิเดชันเปลี่ยนจะทาให้สีเปลี่ยน
จากข้อมูลข้างต้น ได้แก่ A, C
d
an
em
nD
O
หน้า 55-4
ข้อ 10 ตอบ 4
ปลดปล่อยรังสีแกมมา
d
an
em
nD
O
หน้า 55-4
ข้อ 11 ตอบ 5
N= โดย n =
1.8 =
= 1.31 min
d
วิธีการหามวลของธาตุใหม่ที่เกิดขึ้น
สมมติธาตุใหม่ที่เกิดขึ้นคือ X an
em
mol Tl ที่สลายตัวไป = mol X ที่เกิดขึ้น
nD
ที่เกิดขึ้น
=
X ที่เกิดขึ้น = 14.4 g
O
หน้า 55-5
ข้อ 12 ตอบ 2
หาความเข้มข้นในหน่วยโมลาร์
N= = = M
N1V1 = N2V2
d
[CH3COOH] = 0.3 M
an
em
nD
O
หน้า 55-5
ข้อ 13 ตอบ 4
= mKb
เมื่อตัวทาละลายชนิดเดียวกัน Kb จะเท่ากัน
เมื่อตัวทาละลายต่างชนิดกัน
d
= m Kb = m Kf
จุดเดือดของ X =
จุดเดือดของ P =
an
+ 80.10 = (2 × 2.53) + 80.10 = 85.16 oC
การเปลี่ยนหน่วยจากโมแลลมาเป็นร้อยละโดยมวล หาจาก
%W/W = × 100
%P = × 100 = 10.71%
%Q = × 100 = 15.25%
d
%R =
%X =
× 100 = 25.48%
× 100 = 21.63%
an
em
%W/W; R > X > Q > P
nD
O
หน้า 55-6
ข้อ 14 ตอบ 4
สัดส่วนการทาปฏิกิริยา
ไนโตรเบนซีน ไตรเอทิลีนไกลคอล
VS
= 0.5 VS = 0.54
d
an
กาหนดปริมาณ มากเกินพอ
เหลือ 0 0.167
ไนโตรเบนซีน
เกิดเอโซเบนซีน = = 0.5 mol = 0.5 × 182 = 91 g
%= × 100 = 60.4%
หน้า 55-6
ข้อ 15 ตอบ 4
ก. O2: × 22.4 = 2.24 dm3 ที่ STP
ข. CO2: × 22.4 = 11.2 dm3 ที่ STP
ค. He: 1.0 × 22.4 = 22.4 dm3 ที่ STP
ง. Cl2: × 22.4 = 33.6 dm3 ที่ STP #
จ. Ne: × 22.4 = 26.21 dm3 ที่ STP
ดังนั้น Cl2 มีปริมาตรมากที่สุดที่ STP #
เมื่อ ก และ ง ทาปฏิกิริยากัน
หาจานวนโมล
d
ก. O2: × 22.4 = 2.24 dm3 ที่ STP
หาสารกาหนดปริมาณ
O2 VS 2Cl2
O
= 0.1 = 0.75
หมดก่อน กาหนดปริมาณ มากเกินพอ
O2 + 2Cl2 2Cl2O
มี 0.1 1.5
ใช้ -0.1 -0.2 +0.2
เหลือ 0 1.3 0.2
หาจานวนโมลของสารตั้งต้น
mol N2 = = 1 mol
mol H2 = = 2 mol
หาสารกาหนดปริมาณ
N2 VS H2
d
=1
มากเกินพอ
N2 + 3H2
= 0.67
an
หมดก่อน กาหนดปริมาณ
2NH3
em
มี 1 2
nD
ใช้ - - ×3 ×2
เหลือ 0
O
ข้อ 17 ตอบ 2
1. เอทานอล มีพันธะไฮโดรเจน
2. น้าแข็งแห้ง เป็นพันธะโคเวเลนต์แบบไม่มีขั้วจึงมีเฉพาะแรงลอนดอนเท่านั้น
3. ไส้ดินสอ เป็นแกรไฟต์ เป็นโครงผลึกร่างตาข่าย
4. แท่งเหล็ก พันธะโลหะ
5. เกลือแกง พันธะไอออนิก
d
an
em
nD
O
หน้า 55-7
ข้อ 18 ตอบ 5
d
B = เอทานอล เพราะมีจุดเดือดต่ากว่า 100 oC A = กลีเซอรีน เพราะมีจุดเดือดมากกว่า 200 oC
an
em
nD
O
หน้า 55-8
ข้อ 19 ตอบ 2
d
5. ผิด เพราะ บอกไม่ได้ต้องรู้มวลของน้า
an
em
nD
O
หน้า 55-9
ข้อ 20 ตอบ 4
d
PV = nRT
nR เป็นค่าคงที่
an
em
V = 3.6 dm3
nD
O
หน้า 55-10
ข้อ 21 ตอบ 5
จากโจทย์นาข้อมูลมาวิเคราะห์ได้ดังนี้
Ea (1)
Ea (2)
d
an
ข้อ 1 ผิด เพราะ A มีพลังงานก่อกัมมันต์สูงกว่า D อัตราการสลายตัวจึงน้อยกว่า
em
ข้อ 2 ผิด เพราะปฏิกิริยาที่ 2 เป็นปฏิกิริยาดูดความร้อน
nD
O
E
ข้อ 3 บอกไม่ได้ เพราะ พลังงานก่อกัมมันต์มีค่าไม่เท่ากัน
ข้อ 4 บอกไม่ได้ เพราะไม่มีข้อมูลการลดพลังงานก่อกัมมันต์ของตัวเร่งปฏิกิริยา
ข้อ 5 ถูก เพราะทั้งปฏิกิริยาที่ 1 และ 2 จานวนโมลของสารตั้งต้นเท่ากับจานวนโมลของสารผลิตภัณฑ์
ปฏิกิริยาที่ 1: 2A(g) B(g) + C(g) ปฏิกิริยาที่ 2 : D(g) + 2E(g) 3F(g)
จานวนโมลของสารตั้งต้น = 2 จานวนโมลของสารตั้งต้น = 3
จานวนโมลของสารผลิตภัณฑ์ = 2 จานวนโมลของสารผลิตภัณฑ์ = 3
หน้า 55-11
ข้อ 22 ตอบ 2
d
ข้อ ค ถูก เมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้นปฏิกิริยาจะเกิดช้าลง an
em
ข้อ ง ผิด จากกราฟ ณ วินาทีที่ 5-6 ปฏิกิริยาจะเริ่มคงที่ แสดงว่าปฏิกิริยาเกิดอย่างสมบูรณ์แล้ว
-
วินาที่ที่ 4-6 Rปฏิกิริยา = mol/dm3·s
O
หน้า 55-12
ข้อ 23 ตอบ 5
d
an
em
nD
O
หน้า 55-12
ข้อ 24 ตอบ 5
หาความเข้มข้นของสารในระบบ
d
ข้อ 1 ผิด เพราะ อัตราการลดลงของสารตั้งต้นและผลิตภัณฑ์มีค่าไม่เท่ากัน เพราะ เลขดุลสมการไม่เท่ากัน
ข้อ 2 ผิด เพราะ RC = 3.83 × 10-2 mol/dm3 ·s
ข้อ 3 ผิด เพราะ RA = 1.9 × 10-2 M/s
ข้อ 4 ผิด เพราะ RA = RB = 1.9 × 10-2 M/s
an
em
ข้อ 5 ถูก เพราะ RA = 1.9 × 10-2 M/s
nD
O
หน้า 55-13
ข้อ 25 ตอบ 1
d
an
em
nD
O
หน้า 55-13
ข้อ 26 ตอบ 4
PV = nRT
n = 0.25 mol
เริ่มต้น 0.25 0 0
d
เปลี่ยน -x x x
สมดุล 0.25 - x
(0.25 - x) + x + x = 0.09 × 5
x x
an
em
x = 0.2 mol
ข้อ 27 ตอบ 2
HA- + H2O + OH- + H3O+ A2- + H3O+ + 2H2O (5) ; (2) + (4)
d
HA- + OH- A2- + H2O
an
(5)
หรือ
em
A2- + H2O HA- + OH- Kb =
กลับข้างสมการ
nD
ข้อ 28 ตอบ 4
หาความเข้มข้นของสารในหน่วยโมลาร์ที่ภาวะสมดุล
[N2] = 0.3 M
[H2] = 0.4 M
[NH3] = 0.1 M
เมื่ออุณหภูมิคงที่ ค่าคงที่สมดุลจึงคงที่
d
N2 + 3H2 2NH3
สมดุลใหม่
x = ความเข้มข้นสารที่เปลี่ยนแปลงไป
O
y = ความเข้มข้นของแก๊สไนโตรเจนที่เติมลงไป
N2 + 3H2 2NH3
เปลี่ยน -x -3x 2x
0.1 + 2x = 2 (0.1)
x = 0.05 M
d
an
em
nD
O
หน้า 55-15
ข้อ 29 ตอบ 1
+
NH3CH2COO-
คู่กรด +NH3CH2COOH
คู่เบส NH2CH2COO-
d
an
em
nD
O
หน้า 55-15
ข้อ 30 ตอบ 1
จุดสมมูล
d
สมบัติเป็นกรดซึ่งเป็นกรดอ่อนเพราะมีค่า pH เริ่มต้นประมาณ 3 ดังนั้น ข้อ 2, 3, 5 จึงผิด
an
เมื่อทาการไทเทรตโดยการเติมสารละลายเบสลงไป ปรากฏว่าจุดสมมูลมีค่า pH ค่าประมาณ 8
ดังนั้นแสดงว่า สารที่อยู่ในบิวเรตต์ คือ เบสแก่ ได้แก่ KOH ดังนั้น ข้อ 1 จึงถูกต้อง
em
nD
O
หน้า 55-16
ข้อ 31 ตอบ 3
[A] = = 0.01 M
pOH = 2 pH = 12
[B] = = 0.1 M
pOH = 1 pH = 13 มีความเป็นเบสมากกว่า
d
an
em
nD
O
หน้า 55-16
ข้อ 32 ตอบ -
10-3 = √
10-6 = KaN
0.05 V = N (25)
0.05 V = (25)
Ka = (25)
d
an
ไม่มีคาตอบ
em
nD
O
หน้า 55-16
ข้อ 33 ตอบ 3
ที่จุดสมมูลของการทาปฏิกิริยา พบว่าสารทาปฏิกิริยาพอดีกัน
N1V1 = N2V2
d
mol C9H8O4= 2 × 10-4 mol
1 เม็ด
an
em
กรดแอซิทิลซาลิซิลิก = 5 × 10-5 × 180 = 9 mg
nD
O
หน้า 55-17
ข้อ 34 ตอบ 4
pH = pKa – log
เมื่อสารอยู่ในระบบเดียวกันปริมาตรรวมจะเท่ากัน จึงใช้จานวนโมลที่ภาวะสมดุลมาคิด ปรับสูตรได้เป็น
pH = pKa – log
ก. mol HF = 0.1 × 0.1 = 0.01 mol mol NaF = 1 × 0.1 = 0.1 mol
d
ข. mol HCN = 0.2 × 0.01 = 2 × 10-3 mol
an
mol KOH = 0.1 × 0.1 = 10-2 mol เหลือเบสแก่ ไม่เป็นบัฟเฟอร์
em
ค. เมื่อกรดอ่อนผสมกับกรดแก่จึงไม่เกิดสารละลายบัฟเฟอร์
มี 0.02 0.01
ข้อ 35 ตอบ 4
d
SO3 S=6 CaSO4 S=6
an
em
nD
O
หน้า 55-17
ข้อ 36 ตอบ 3
d
2CrO3 + 3H2SO4 + 6H+ + 6e-
รวมสมการ an
Cr2(SO4)3 + 6H2O (2) ดุล O, H
em
3C3H8O 3C3H6O + 6H+ + 6e-
a = 3, c =3
หน้า 55-18
ข้อ 37 ตอบ 4
E0cell < 0
d
E0แคโทด < E0แอโนด
ข้อ 38 ตอบ 1
d
ที่ขั้วแอโนด จะเกิด SO32- เหลือข้อ 1, 2
ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นที่ขั้วแคโทด คือ 2H2O(g) + 2e- H2 + 2OH-(aq) E๐ = -0.83 V เกิดปฏิกิริยารีดักชัน
มีแก๊ส H2 เป็นผลิตภัณฑ์
an
em
nD
O
หน้า 55-19
ข้อ 39 ตอบ 5
แคโทด E0 แอโนด E0
1. Zn2+ -0.76 Al -1.67
2. Cu2+ 0.34 Sn -0.14
3. Fe2+ -0.44 Zn -0.76
d
4. Cu2+ 0.34 Al -1.67
5. Al3+ -1.67
an Sn -0.14
em
nD
O
หน้า 55-19
ข้อ 40 ตอบ 3
d
an
em
nD
O
หน้า 55-20
ข้อ 41 ตอบ 1
d
an
em
nD
O
หน้า 55-20
ข้อ 42 ตอบ 3
6 5
3
2 1
ตาแหน่งหมู่แทนที่ต้องมีเลขน้อยที่สุด
3-เอทิล-2,4-ไดเมทิลเฮกเซน
d
an
em
nD
O
หน้า 55-20
ข้อ 43 ตอบ 2
d
ไม่เกิด HBr เพราะเป็นปฏิกิริยาการเติม
an
em
nD
O
หน้า 55-21
ข้อ 44 ตอบ 2
ง.ผิด เพราะเป็นสารคนละชนิดกัน
d
เมอร์กัน
an
em
nD
O
หน้า 55-22
ข้อ 45 ตอบ 4
Cx H y O + O 2 CO2 + H2O
d
C H O
3 8 1
nD
สูตรโมเลกุลคือ C3H8O
สามารถเกิดปฏิกิริยากับโซเดียมได้
หน้า 55-22
ข้อ 46 ตอบ 5
d
an
em
nD
O
หน้า 55-22
ข้อ 47 ตอบ 3
ข้อ 5 ถูกตามที่กล่าวมา
d
an
em
nD
O
หน้า 55-23
ข้อ 48 ตอบ 3
d
an
em
nD
O
หน้า 55-23
ข้อ 49 ตอบ 3
d
an
em
nD
O
หน้า 55-23
ข้อ 50 ตอบ 2
สูตรโครงสร้างของเมลามีน คือ
d
an
em
nD
O