ระบบย่อยอาหาร

Digestive System

https://schoolbag.info/biology/living/204.html http://vetstudentresearch.blogspot.com/2015/05/digestive-physiology-and-anatomy-of-cows.html
http://siera104.com/bio/porifera.html https://ellenjmchenry.com/food-to-feces-an-interactive-tour-of-the-digestive-system/ https://www.cancer.gov/pediatric-adult-rare-tumor/rare-tumors/rare-digestive-system-tumors
 ระบบย่อยอาหาร
Digestive System

https://byjus.com/biology/aerobic-respiration/
https://www.google.com/url?q=https://www.pinterest.com/pin/825636544161531523/&sa=U&ved=0ahUKEwi5ht7P483lAhVFsI8KHaGiCMEQwW4IGjAC&usg=AOvVaw3cGya06rWdrhscLz4ftCPe
https://www.visiblebody.com/learn/digestive/digestive-absorption-and-elimination https://www.therespiratorysystem.com/ https://cdn1.byjus.com/wp-content/uploads/2019/04/Human-Circulatory-System-Transportation1.png
ทําไมสิ่งมีชีวิตต้องกินอาหาร?
1.เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังงาน
2.เพื่อให้ได้อินทรีย์สารสําหรับนํามาใช้สังเคราะห์ส่วนประกอบต่างๆ
ของร่างกาย
3.เพื่อให้ได้สารอาหารที่จําเป็นต่างๆ ที่ร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้

https://www.highbrowmagazine.com/8832-top-nutrition-trends
 แบ่งสิ่งมีชีวิตตามการจัดหาสารอาหาร เป็น 2 พวก คือ
1. Autotroph (auto = self, trophe = nutrition) พวกที่สร้าง
อาหารได้เองจากสารอนินทรีย์ ได้แก่ พืชสีเขียวต่าง ๆ
2. Heterotroph (hetero = other) พวกที่สร้างอาหารเองไม่ได้
ได้แก่ สัตว์ต่าง ๆ
แบ่ง Heterotroph ตามลักษณะของอาหารที่กิน เป็น 3 ชนิด คือ
1. Herbivore พวกที่กินพืชเป็นอาหาร เช่น วัว, ม้า, กระต่าย
2. Carnivore พวกที่กินเนื้อเป็นอาหาร เช่น เสือ, แมว
3. Omnivore พวกที่กินทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร เช่น แมลงสาบ,
อีกา และคน
 สารอาหารที่จําเป็น(essential nutrient)
สารอาหารที่จําเป็น: สารอาหารที่ร่างกายสัตว์สร้างเองไม่ได้ ต้องได้
รับจากอาหารมี 4 ชนิด คือ
1. Essential amino acid ร่างกายคนเราต้องการกรดอะมิโนเพื่อใช้ในการ
สร้างโปรตีนจํานวน 20 ชนิด  แต่มีกรดอะมิโนจําเป็นจํานวน 8 ชนิดที่ร่างกาย
สร้างเองไม่ได้ คือ Tryptophan, Methionine, Valine, Threonine,
Phenylalanine, Leucine, Isoleucine, Lysine (ในทารกมีตัวที่ 10 คือ Histidine
กับ Arginine)
¹ÒÇÒ ÅÔèÇäËÅ àÁäÍ ·ÃÔ»¿Õè·ÃÕ

http://food.jollyinebriate.com/8-essential-amino-acids-foods/
 2.Essential fatty acid ที่จําเป็นในสัตว์คือ กรดไขมันไม่อิ่ม
ตัว(unsaturated fatty acid) ที่พบในคนเช่น linoleic acid
3.วิตามิน ร่างกายต้องการในแต่ละวันปริมาณน้อย ที่จําเป็นมีทั้งหมด
13 ตัว แบ่งเป็น
3.1 water-soluble vitamins ได้แก่ B complex, C
3.2 fat-soluble vitamins ได้แก่ A, D, E, K
4.เกลือแร่ (minerals)

https://www.semanticscholar.org/paper/Essential-fatty-acids-for-dry-eye%3A-A-review.-Roncone-Bartlett/e34b9af18160a24ff90cc145b14e61e8b3876aaa
https://microbenotes.com/water-soluble-vitamins-b-complex-and-c/ https://microbenotes.com/fat-soluble-vitamins-vitamin-a-d-e-and-k/ https://depositphotos.com/27776719/stock-illustration-table-mineral-substances-in-the.html
 กระบวนการกินอาหาร (food processing) ประกอบด้วย
1. Ingestion (การกิน) การนําอาหารเข้าสู่ร่างกาย
2. Digestion (การย่อย) การทําให้อาหารที่กินเข้าไปมีขนาดเล็กลง
2.1 Mechanical digestion
  -การเคี้ยว
2.2 Chemical digestion
    -การย่อยโดยเอนไซม์
3. Absorption (การดูดซึม)
4. Elimination (การขับออก)

https://opentextbc.ca/anatomyandphysiology/chapter/23-2-digestive-system-processes-and-regulation/ https://momandbaby.net/parenting/raising-children01/food08042561/
https://slideplayer.com/slide/16655458/
 การย่อย (digestion) แบ่งตามวิธีการและชนิดของสัตว์ได้ดังนี้
1. Intracellular digestion in simple organisms
ในโพรทิส (protists) และฟองนํ้า
-มีการนําอาหารเข้าสู่เซลล์ร่างกายโดยตรง
-ย่อยอาหารภายในเซลล์ (intracellular digestion)
-เคลื่อนย้ายสารอาหารที่ย่อยได้จาก food vacuole
สู่ไซโตพลาสซึม
-ขับกากอาหารออกทาง anal pore

https://www.slideshare.net/mobile/adjutant_reflex/lecture-4-digestion-and-nutrition-2nd-sem-20082009 https://slideplayer.com/slide/5060093/ https://dsip.weebly.com/porifera-sponges.html

 2. Intracellular and extracellular digestion in simple animals
พบในหนอนตัวแบน (พลานาเรีย) และ cnidarians (เช่น แมงกะพรุน, ไฮดรา)
-มี gastrovascular cavity ที่เป็นช่องสําหรับนํ้า, อาหาร และอากาศเข้าสู่
ร่างกาย
-ทางเข้าและออกของอาหารเป็นทางเดียวกัน (incomplete digestive tract)
-หลังจากอาหารเข้าสู่ gastrovascular cavity จะมีการปล่อยเอนไซม์จาก
เซลล์ออกมาย่อยเรียกการย่อยนี้ว่า extracellular digestion
-อาหารที่ย่อยแล้วยังมีขนาดใหญ่อยู่ จะถูกนําเข้าสู่เซลล์โดยวิธี
phagocytosis

https://slideplayer.com/slide/16655458/
 3. Extracellular digestion in complex animals
พบในสัตว์ส่วนใหญ่  ตั้งแต่หนอนตัวกลมจนถึงสัตว์มีกระดูกสันหลัง
-มีทางเปิดของปาก(mouth)และทวารหนัก (anus) แยกกันเรียก complete
digestive tract หรือ alimentary canal
-crop และกระเพาะอาหารทําหน้าที่เก็บอาหาร (บางครั้งอาจมีการย่อย)
-gizzard ทําหน้าที่บดอาหาร

https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcR7X3aMwhUU7j3EpOev5z2mqhHMndGxXdq5O5JaVRscBI_cddeu
 ระบบทางเดินอาหารของคน
gastrointestinal tract (GI) or digestive tract

https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcRX9Qx8jhT936BvRylKb72APuUL6as00HYMUK_X51RKU66yfCaU
 Accessory digestive organ

https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcSmI_iBLBSMGhhtsL7tFS_w0UyJevmUG4OlEXq4wfjFdGgidwFE
 ช่องปาก (oral cavity)
1. การย่อยเชิงกล โดยการบดเคี้ยว
ของฟัน
2. การย่อยทางเคมี โดยเอ็นไซม์
Amylase หรือ Ptyalin
***amylase สําหรับย่อยแป้งและไกลโคเจน
3. ลิ้นทําหน้าที่คลุกเคล้าอาหารให้เป็น
ก้อนเรียก bolus, รับรส และช่วยในการ
กลืน (swallowing)
4. ต่อมนํ้าลาย (salivary gland) 3 คู่
-นํ้าลายประกอบด้วยสารไกลโคโปรตีน
ที่มีลักษณะลื่น เรียก mucin มีบทบาทในการ
ทําให้อาหารลื่น กลืนง่าย ป้องกันเยื่อบุช่องปาก
และฟันไม่ให้ผุ

https://i.pinimg.com/originals/0f/24/71/0f24712a06a81dc12091a69da09a5650.jpg
http://etvthai.tv/Download/Schedule_Document/11022554_1337256221.pdf
ฟัน(Teeth)
หน้าที่คือบดและฉีกก้อนอาหารภายในช่องปากให้มีขนาดเล็กลงด้วยการเคี้ยว
โครงสร้างฟัน 3 ส่วน
1. Crown
2. Neck
3. Root
ส่วนประกอบฟัน 3 ชั้น
1. Enamel
2. Dentine
3. Pulp cavity

https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcTSdytDYBcP1ADvfwj0P7qXaBciTZcpt9weWpJQWoYXhOrB15tt
ชนิดฟัน 4 ชนิด
1. Incisor : I
2. Canine : C
3. Premolar : PM
4. Molar : M
ฟันมี 2 ชุด
1. Milk teeth or
Temporal teeth or
Deciduous teeth (6m-6y)
2. Permanent teeth
(13y)

สูตรฟัน (I:C:PM:M)
M.T.= 2:1:0:2
P.T.= 2:1:2:3

https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcSpEO3n2RkKRa2I_4fcKNpRyD7ufGdtSvaUT8T-VAar9AdONBZ1
ต่อมนํ้าลาย (Salivary gland) ทําหน้าที่สร้างนํ้าลาย (Saliva) มี 3 คู่
- ใต้กกหู เกิดคางทูม (Mump)
- ใต้ขากรรไกร
- ใต้ล้นิ
นํ้าลาย (Saliva)
- นํ้า 99%
- การหลั่งนํ้าลายเป็น
Reflex จากการมองเห็น กลิ่น
การนึกถึงอาหาร หรือมีของแข็ง
อยู่ในปาก ซึ่ง จะส่ง Reflex
ไปสมองแล้วสมองจะส่งกระแส
ประสาทมายังต่อมนํ้าลายทําให้
หลั่งนํ้าลาย
- ประมาณ1,000–1,500
ลบ.ซม./24ชม.

https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcSgJ_C0cmYO8XojpARh_wuq7dDMp6m4cP8tt8BW7C6NxzdLIuxE
 ลิ้น (Tongue) ประกอบด้วยกล้ามเนื้อลาย
1. ช่วยในการเคี้ยวอาหาร และทําให้อาหารรวมตัวเป็นก้อนกลม เรียกว่า Bolus
2. กลืนอาหาร โดยการหดตัวไปด้านหลังให้ก้อนอาหารเคลื่อนที่ลงสู่
หลอดอาหาร ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกของการกลืน
3. รับรสอาหาร โดยอาศัยต่อมรับรส (Taste bud)
4. ช่วยในการออกเสียงพูด

https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcQ_h4TWjoU_ZYhh3HHbfAE0v_OK3LgckQXfcAX3C84RfyrZ1VCJ
 การกลืนอาหาร (swallowing)
1. เพดานอ่อน (solfpalate) ถูกยกข้ึนไปปิดช่องจมูก
2. เส้นเสียง (vocal cord) ถูกดึงให้ชิดกันและฝาปิดกล่องเสียง (epiglottis) เคลื่อนมา
ปิดหลอดลม
3. กล่องเสียง (larynx) ถูกยกข้ึนเปิดช่องคอ
4. กลา้มเน้ือบริเวณคอหอยหดตัว

https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcSGdCHPMfQa358GOn5Mw052EaQvo4Luk4QeRCq9Irbs6dFdsYeQ
 คอหอย (pharynx)
เป็นทางผ่านของหลอดลมไป
ยังกล่องเสียง
เป็นทางผ่านของอาหารไปยัง
หลอดอาหาร

Laryngopharynx

https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcTwwSax6zqy10hcYFnYIgkEZsYXWYt3k5XTEY-o3-HoPQ6yKWzl
หลอดอาหาร (esophagus)
- ต่อจาก laryngopharynx
- 25-30 cm
- ด้านหลัง trachea
- ทางผ่านอาหารจากปาก
ไปกระเพาะอาหาร ด้วยวิธี
Peristalsis movement

https://www.coursehero.com/sg/anatomy-and-physiology/movement-of-food-in-the-alimentary-canal/ https://www.webmd.com/digestive-disorders/picture-of-the-esophagus
 กระเพาะอาหาร (stomach)
- ถุงเล็กๆ ปริมาตร 50
ลบ.ซม. ขยายได้ 10-40เท่า
- เชื่อมระหว่างหลอดอาหาร
กับลําไส้เล็ก
- มี 3 ส่วน
- หูรูด 2 ที่
- กล้ามเนื้อเรียบ 3 ชั้น
- ตามยาว
- ตามขวาง
- แนวเฉียง
- ผนังชั้นใน เรียก Rugae
- อาหารอยู่ประมาณ 30นาที
ถึง 4ชม. (Carb>Prot>Lipid)

https://www.anatomynote.com/human-anatomy/digestive-system-anatomy/stomach-wall-anatomy-in-detail/
 - Mucous Epithelial Cell หรือ Mucous Neck Cell ทําหน้าที่สร้างนํ้าเมือกที่มีฤทธิ์เป็น
เบส ฉาบผิวของกระเพาะอาหารไม่ให้เป็นอันตราย
- Parietal Cell หรือ Oxyntic Cell ทําหน้าที่สร้างกรดไฮโดรคลอริก (HCl) เข้มข้น
เพื่อช่วยในการย่อยอาหาร
- Chief Cell หรือ Zygamatic Cell ทําหน้าที่สร้าง Pepsinogen และ Prorennin ซึ่ง
เป็น Proenzyme
Gastric juice

B12

Rennin

Pyloric gland http://2.bp.blogspot.com/-8KTYtLG3P4U/ViD8vSdju4I/AAAAAAAAACw/q-ZC_fmJYBM/s1600/gggggggggg.jpg

 PHASES OF GASTRIC SECRETION

- เป็นระยะรับกลิ่น รส - เป็นระยะที่ก้อนอาหาร - อาหาร (Chyme)

หรือนึกถึงอาหาร เส้น (Bolus) เข้าสู่กระเพาะอาหาร ออกจากกระเพาะอาหารเข้าสู่
ประสาท Vagus จากสมอง กระเพาะอาหารจะเคลื่อนไหว ลําไส้เล็กส่วน Duodenum
จะกระตุ้นให้กระเพาะ และการหลั่งฮอร์โมน Duodenum จะหลั่งฮอร์โมน
เคลื่อนไหวและการหลั่งสาร Gastrin กระตุ้นให้กระเพาะ Secretin ออกมายับยั้งการ
อาหารหลั่ง HCl ออกมารวม หลั่งฮอร์โมน Gastrin
กับ Pepsinogen

http://ksumsc.com/download_center/Archive/2nd/434/2-GIT%20Block/Teams/Physiology/3-%20physiology%20of%20the%20stomach%20and%20regulation%20of%20gastric%20secretion.pdf
*cholecystokinin ; CCK
*gastric inhibitory peptide ; GIP
*enterogastrone
- CCK และ enterogastrone ลดการหลั่งกรดและเอ็นไซม์ในกระเพาะอาหาร      
- GIP มีผลที่ตับอ่อน ลดการหลั่งสารของกระเพาะอาหาร และลดการบีบตัวของกระเพาะ
อาหาร ทําให้การการส่งผ่านอาหารจากกระเพาะช้าลง  ทําให้ลําไส้เล็กมีเวลาเพียงพอต่อการย่อย
และดูดซึมอาหาร       
- secretin จากลําไส้เล็กยับยั้งพาไรทอลเซลล์  และชิฟท์เซลล์   ทําให้ลดการหลั่งแกส
ตริกจุยซ์  ฮอร์โมนนี้ยังไปมีผลต่อตับอ่อนให้สร้างไบคาร์บอเนตเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นบัฟเฟอร์
(buffer) (เพื่อลดความเป็นกรดของไคม์ในลําไส้เล็ก) และยังกระตุ้นการสร้างนํ้าดีในตับด้วย  

https://slideplayer.com/slide/6224709/
ลําไส้เล็ก (Small Intestine)
- ยาว 6 ฟุต
- 3 ส่วน
- duodenum
- jejunum
- ileum
- ย่อย Carb. Prot. Lipids
- Intestinal juices
- Enterokinase
- Amylase
- Maltase
- Sucrase
- Lactase
- Aminopepsidase
- Dipepsidase
- Lipase

https://medlineplus.gov/ency/images/ency/fullsize/19221.jpg
 Duodenum
- 25 cm
- รับ acid chyme จาก
stomach
- มี common bile duct
เปิดรวมกับ pancreatic duct
รวมเรียกว่า hepato-
pancreatic duct

https://www.nursingtimes.net/clinical-archive-2/gastrointestinal-tract-3-the-duodenum-liver-and-pancreas-29-07-2019/ https://www.anatomynote.com/human-anatomy/digestive-system-anatomy/hepatic-duct-cystic-duct-anatomy/
Pancreatic juices
- NaHCO3 มีฤทธิ์เป็นเบส เปลี่ยน Chyme เป็นกลางหรือเบสอ่อน
- Amylase ย่อยแป้ง ไกลโคเจน หรือเดกซ์ทรินเป็นมอลโทส
- Lipase ย่อยไขมันเป็นกรดไขมันและกลีเซอรอล (pH8)
- Trypsinogen อาศัย Enterokinase เปลี่ยนเป็น Trypsin จึงย่อยโปรตีนได้
- Chymotrypsinogen อาศัย trypsin เปลี่ยนเป็น Chymotrypsin จึงย่อยโปรตีนได้
- Procarboxypeptiddase
อาศัย trypsin หรือ enterokinase
เปลี่ยนเป็น Carboxypeptidase จึง
ย่อยโปรตีนตรงปลายด้านหมู่คาร์
บอกซิลเท่านั้น

ÊÃéÒ§ Insulin áÅÐ Glucagon https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcTw8Bo5lWewYpbLqPEDgBXLCwHaaIq9eekMAuxAr4ChO-tyyvpM

https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcSwQo7fMs8atfDdLfwSNgzNtYiseLKQn7V48mXnGMo0ghT-uYCU
Liver and Gall bladder
ตับ
- สร้างนํ้าดี ช่วยให้ไขมันแตกตัว
- เก็บกลูโคสในรูปไกลโคเจน
- สะสมวิตามิน A D และ B12
- กําจัดสารพิษ
- สร้างวิตามิน A จากสารแคโรตีน
- สะสมธาตุเหล็กและทองแดง
- สร้างองค์ประกอบในการแข็งตัว
ของเลือด เช่น FibrinogenและProthrombin
- สร้างสารป้องกันการแข็งตัวของ
เลือด heparin
- ทําลายเชื้อโรคโดย macrophage
เรียกว่า kupffer’s cell
- ทารกในครรภ์ ตับสร้างเม็ดเลือด
แดง นํ้าดี (Bile), ขับออกทางอุจจาระ (เหลืองแกมนํ้าตาล)
- เกลือนํ้าดี (Bile salt), Emulsification
ถุงนํ้าดี - สารสี (Bile pigment), Hemoglobin ถูก
- เก็บนํ้าดี ทําลาย
- หลังทานอาหารลําไส้เล็กจะหลั่ง - Bilirubin สีนํ้าตาล
CCK ทําให้นํ้าดีถูกปล่อยออกจากถุงนํ้าดี - Biliverdin สีเหลืองจนเขียว
https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcTq3vAdaVs2OheK7DWku2pLsmrCSg7TUQSMP_xtdIG3Ly4aC1u7
การทํางานระหว่างตับกับถุงนํ้าดี ÀÒÇеÑÇàËÅ×ͧµÒàËÅ×ͧ¨Ò¡´Õ«èÒ¹
Liver

Hapatic duct

Common hepatic duct

CCK

Cystic duct Gallbladder

Common bile duct ÊÒà赯 : ·è͹íéÒ´ÕÍØ´µÑ¹¨Ò¡ cholesterol

·íÒãËéäÁèÊÒÁÒöÊ觹íéÒ´Õä» duodenum ä´é
¼Å : ¹íéÒ´ÕäËÅà¢éÒËÅÍ´àÅ×Í´´íÒ¡ÅѺà¢éÒÊÙèËÑÇ㨠¡ÃШÒÂ
ä»ÊèǹµèÒ§æ ·íÒãËéÁÕÊÕàËÅ×ͧ àªè¹ ¼ÔÇ µÒ¢ÒÇ à»ç¹
hepato-pancreatic duct ÍÒ¡Òâͧâä´Õ«èÒ¹ (jaundice)
sphincter of Oddi
Duodenum

https://teachmephysiology.com/gastrointestinal-system/gallbladder/bile-production/
การดูดซึม (Absorption) - อาหารย่อยจนมีโมเลกุลเล็กแล้วดูดซึมเข้ากระแสเลือด
- พื้นที่สําหรับดูดซึม (villi)
- การไหลเวียนของเลือด (ไหลเวียนดีดูดซึมดี)
AA, Mono. Capillaries Portal vein Liver In. vena cava ❤ "#

Lipid Lacteal Thoracic duct Left Internal jugular vein "#

Jejunum - 2.5 m Ileum - 4 m https://www.britannica.com/science/jejunum

ลําไส้ใหญ่ (Large Intestine)
- 3 ส่วน
- Caecum
- 1-2 inches
- Appendix
- Colon
- Ascending colon, 5-8 inches
- Transverse colon, 18 inches
- Descending colon, 9-12 inches
- Sigmoid colon, 15 inches
- Rectum, 4-5 inches
- Anal canal
หน้าที่
- รับกากอาหารที่ย่อยเสร็จจากลําไส้เล็กสู่กระบวนการสุดท้ายของระบบการย่อยอาหาร
- ดูดซึมนํ้าและวิตามินบี 12 ที่แบคที่เรียในลําไส้ใหญ่สร้างขึ้น
- ดูดซึมแร่ธาตุและกลูโคสที่ยังหลงเหลือกลับเข้าสู่กระแสเลือด
- ผลักดันกากอาหารสู่ไส้ตรงเพื่อขับออกทางทวารหนัก

https://medlineplus.gov/ency/imagepages/19220.htm
 ทวารหนัก (Anus)
- Internal sphincter
- External sphincter
¡Ò¡ÍÒËÒÃ

Rectum

Receptor ¼¹Ñ§ÅíÒäÊé

Brain

Autonomic nervous system : ANS

ÅíÒäÊéãË­èË´µÑÇ Anus

https://uihc.org/health-topics/anal-fissure
https://d1yboe6750e2cu.cloudfront.net/i/ea4fed0958f0afed59332f5e9811f1d68353febb
Reference
http://www.sc.chula.ac.th/courseware/GenBio103/digestive-system19_6_3.ppt
http://etvthai.tv/Download/Schedule_Document/11022554_1337256221.pdf
https://pornsudazzzz.wordpress.com/tag/
%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%A
D%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%
B3%E0%B9%84%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87/
https://www.honestdocs.co/what-is-gall-bladder
http://kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK17/chapter4/t17-4-l1.htm
https://biologybscience.weebly.com/uploads/2/6/6/0/26603557/350_10.pdf