Professional Documents
Culture Documents
tales of demons & gods (พงศาวดารภูตเทพ) เล่ม2
tales of demons & gods (พงศาวดารภูตเทพ) เล่ม2
เมื่อได้เห็นท่าทางที่ซูบเซียวของท่านพ่อ ตาของ
เนี้ยหลี่ช่วยไม่ได้เลยที่จะรูส้ ึกแดงก่่า ความทรงจ่าทั้งหมดใน
ชีวิตที่แล้วของเขาก่าลังซัดเข้ามาเป็นระลอก ๆ
'ในชีวิตที่แล้วของเขา ข้าไม่สามารถป้องป้องพวก
ท่านทั้งหมดได้ ในชีวิตนี้นั้น พวกท่านจะถูกปกป้องโดยข้าเอง!'
เนี้ยหลี่ได้กลับมาถึงบ้าน และหลังจากได้เห็นแม่ของ
เขาและคุณอา มีความสนุกสนาน ครอบครัวของเขานี้ได้รวมตัว
กันอีกครั้ง หัวใจของเนี้ยหลี่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความ
ตื้นตันใจ
“พวกควรจะรับประทานอาหารก่อน!” แม่ของเนี้ยห
ลี่ เซี่ยวหยุนรีบกล่าวขึ้น
ภายในชีวิตที่แล้วของเขา ไม่ว่าเรื่องใดถ้าเป็นเนี้ย
หมิงและเซี่ยวหยุน แม้ว่าการบ่มเพาะพลังของเนี้ยหลี่จะไม่
สามารถเพิ่มระดับได้และท่าให้พวกท่านรู้สึกเศร้าใจ ซ้่าแล้วซ้่า
อีก พวกท่านยังคอยสนับสนุนเนี้ยหลี่ไม่ยอมหยุด พวกท่านไม่
ถามเรื่องราวต่าง ๆ ของเนี้ยหลีม่ ากนัก อย่างไรก็ตาม เขายังคง
รู้สึกได้ถึงความคาดหวังอย่างสูงของพวกท่าน ทุก ๆ ครั้งที่เขา
ต้องรับความรูส้ ึกเหล่านี้ มันแหลมคมราวกับใบมีดที่ได้ตัดลง
บน(ใจ)เขา และเขาจะโทษตัวเองเสมอมาที่เป็นคนไร้ค่าเช่นนี้
“การทดสอบในปีนี้ พลังวิญญาณของข้าได้ทะลุไปสู่
ค่า 100 แล้ว และข้านั้นได้เป็น ร่างทรงอสูรระดับทองแดง 1
ดาว” เนี้ยหลี่พดู ระหว่างกินอาหารอย่างสงบ เขาไม่กล้าที่จะ
บอกพวกท่านถึงพลังที่แท้จริงของตัวเขา ถ้าพวกท่านรู้ พวก
ท่านคงจะต้องตกใจจนเกือบหัวใจวายตายเป็นแน่
เนี้ยหมิงและครอบครัวไม่คาดคิดว่าเนี้ยหลี่นั้นจะ
สามารถกลายเป็นร่างทรงอสูรได้ พวกเขาต่างคิดเหมือนกันว่า
ถ้าเนี้ยหลี่นั้นได้เป็นนักต่อสู้ระดับทองแดง มันก็เป็นเรื่องมาก
เพียงพอแล้ว เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเนี้ยหลี่กลายเป็นร่างทรงอสูร
ระดับทองแดง 1 ดาว พวกเขาต่างหยุดชะงัก ตะเกียบในมือ
ของพวกเขาก็หยุดนิ่งไปด้วย
เนี้ยหมิงและครอบครัวต่างคิดว่าพวกเขาหูฟาดไป
หลังจากเวลาแห่งการหยุดชะงักอย่างเงียบงันได้ผ่าน
ไป สีหน้าของพวกเขาต่างเต็มไปด้วยความเปรมปรีดิ์ เปี่ยมล้น
ร่างทรงอสูร!
ร่างทรงอสูรใดก็ตามภายในตระกูลบันทึกสวรรค์จะ
มีสถานะทีไ่ ม่ธรรมดา นอกจากได้รับการยกเว้นการส่งส่วยทุก
ๆ เดือน พวกเขายังสามารถเรียกร้องบางสิ่งจากตระกูลได้
“ นอกจากได้เป็นร่างทรงอสูรระดับ 1 ทองแดงแล้ว
มากไปกว่านั้น ข้ายังได้รับเลือกให้เข้าสู่ห้องเรียนอัจฉริยะโดย
สถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย” เนี้ยหลีไ่ ด้คดิ ชั่วครู่และเริ่ม
พูดต่อเช่นนั้น
“ห้องเรียนอัจฉริยะนั่นงั้นหรือ? เจ้าไม่จ่าเป็นต้องมี
พรสวรรค์พิเศษเพื่อเข้าไปในชั้นนัน้ รึ?” ลูกของเนี้ยฉ่อง เนี้ย
ล่องนั้นเขาก็เป็นร่างทรงอสูรระดับทองแดง 1 ดาวด้วยเช่นกัน
แต่เขาไม่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าสู่ชั้นเรียนอัจฉริยะ!” เนี้ยไค่
พูดด้วยความงงงวย ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับสถาบัน
กล้วยไม้ศักดิส์ ิทธิ์ยังคงแจ่มชัด
“มันน่าจะเป็นเพราะว่าพรสวรรค์ของเซี่ยวหลี่ ที่มี
แง่มุมอื่นบางอย่าง ดังนั้นเขาจึงได้ถูกเลือกให้เข้าชั้นเรียน
อัจฉริยะได้ ต้องไม่ลมื ว่าเซี่ยวหลีไ่ ม่น่าจะเป็นร่างทรงอสูรระดับ
ทองแดง 1 ดาวได้ในระเวลาอันสัน้ แค่นี้! บ้านของพวกเราใน
ที่สุดก็มรี ่างทรงอสูรซะที” เนี้ยหมิงที่เต็มไปด้วยความรู้สึก ๆ
ต่างมากมายกล่าวขึ้น
“อนาคตของเซี่ยวหลี่จะต้องสดใสอย่างแน่นอน”
เนี้ยไค่แตะไปบนบ่าของเนี้ยหลี่
“ลูกของเราเพิ่งกลับมาถึงบ้าน ปล่อยให้เขากินก่อน
เป็นอันดับแรก เจ้าจะรีบร้อนไปท่าไมกัน?” แม่ของเขาเซี่ยว
หยุนท่าตาขึงโยนใส่เนี้ยหมิง
“ถูกต้อง ถูกต้อง!” เนี้ยหมิงหัวเราะอย่างอาย ๆ เขาเต็มเปีย่ ม
ไปด้วยความรูส้ ึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมากเป็นเหตุให้เขาตื่นเต้น
มากเกินไป
เมื่อได้เห็นครอบครัวมีความภาคภูมิใจในตัวเขา
เนี้ยหลี่ ก็รู้สึกมีความสุขมากภายในใจของเขาด้วย
“สถานการณ์ภายในตระกูลเป็นอย่างไรกันครับ?”
เนี้ยหลี่ถามระหว่างก่าลังกินอยู่
“แปลกมาก ๆ ” เมื่อหัวข้อสนทนาได้เปลี่ยนไปสู่
สถานการณ์ของตระกูล เนี้ยหมิงท่าหน้าบูดบึ้ง
ตั้งแต่ที่เนีย้ ลี่ได้เป็นหุ้นส่วนคนส่าคัญของสมาคม
ปรุงยา การจัดการของหยางซิ่นเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย
ความแข็งแกร่งของสมาคมปรุงยาไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์เลย ทั้งทางด้านเครือข่ายการค้าก็มีความแข็งแกร่ง
มากกว่าตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์แล้ว และต้องไม่ลมื ว่า ทุก ๆ
ตระกูลยังคงจ่าเป็นต้องซื้อยาทิพย์มาจากสมาคมปรุงยาอีกด้วย
ดังนั้นด้วยการอุ้มชูของสมาคมปรุงยา ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ก็จะ
ไม่กล้าที่จะแตะต้องซึ่งตระกูลบันทึกสวรรค์ได้อีกต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยสูตรแห่งยาทิพย์ที่ได้ให้แก่พวกเขา
โดยเนีย้ หลี่ แม้กระทั่งคฤหาสน์จ้าวเมืองและทั้งสามตระกูล
หลัก จ่าเป็นต้องมาขอแก่สมาคมปรุงยา สมาคมปรุงยาได้ขยาย
ก่าลังถึงเพียงนี้แล้ว ถ้าตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ต้องการจะเป็น
ปฏิปักษ์กับสมาคมปรุงยาแล้วล่ะก็ เมื่อนั้นมันเป็นเหมือนการ
รนหาที่ตายชัด ๆ
หลังจากการกลับมาก นอกจากการได้พบญาติ ๆ
ของเขาแล้ว เขายังจ่าเป็นต้องจัดเตรียมให้ตระกูลบันทึกสวรรค์
ได้ตดิ ต่อกับสมาคมปรุงยา เขาไม่คิดว่าหยางซิ่นได้จดั การพวก
มันเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็คือเนีย้ สามารถเริ่มคิดวิธีจัดการกับ
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ ได้ย่างแน่นอนเลย สมาคมปรุงยานั้นมี
ความส่าคัญอย่างมากกับเรื่องนี้
“ท่าไมเจ้าถึงได้บอกสิ่งเหล่านี้แก่เด็กน้อยกันหึ?”
เซี่ยวหยุนมองอย่างบึ้งตึงไปที่เนี้ยหมิง ในสายตาของเธอเนี้ยหลี่
นั้นเป็นแค่เพียงเด็กตัวกะเปีย๊ ก การรู้สิ่งเหล่านีไ้ ปก็ไร้ค่า
“ความคิดของพวกผู้หญิง ตอนนี้เนี้ยหลี่นั้นเป็นร่าง
ทรงอสูรระดับทองแดง 1 ดาวแล้ว ในภายภาคหน้า เขาจะ
กลายเป็นหัวใจส่าคัญของตระกูลบันทึกสวรรค์ เมื่อถึงเวลานั้น
สิ่งทั้งหลายที่เขาจะได้เรียนรู้จะมีมากยิ่งกว่านี้เสียอีก!” เนี้ย
หมิง แย้งกลับด้วยการแสดงออกอย่างภาคภูมิใจและมีความสุข
ท่านพ่อและท่านแม่เป็นเช่นนี้เสมอเมื่อชีวิตที่แล้ว
พวกเขามักจะทะเลาะกันบ่อย ๆ อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์
ระหว่างพวกท่านก็ยังดีอยู่มาก เมือ่ ได้เห็นภาพเหล่านี้แล้ว
เนี้ยหลี่กไ็ ด้หัวเราะออกมา
เนี้ยหลี่ได้ออกมาจากบ้านของเขา และมุ่งหน้าไปยัง
ป่าแห่งเนินเขาทมิฬ แล้วนั่งลงบนก้อนหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง
เขามองออกไปยังระยะทางอันแสนไกลและเห็นเพียงแสงไฟ
จากบ้านเรือนต่าง ๆ มากมาย
ตระกูลบันทึกสวรรค์เป็นตระกูลที่มีประวัติศาสตร์
มายาวนาน ประวัติศาสตร์ของตระกูลนั้นสามารถย้อนไปยังยุค
ของอาณาหิมะเหมันต์ บรรพบุรุษของตระกูลบันทึกสวรรค์นั้น
เป็นถึงลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในเวลานั้น อย่างไรก็ตาม หลัก
จากได้เผชิญกับการเปลี่ยนของยุคสมัย และเผชิญกับยุคมืดมา
เป็นเวลานาน ตระกูลบันทึกสวรรค์ก็ได้เสื่อมถอยลงเป็นตระกูล
ขนาดเล็กทีต่ อนนี้อยู่ภายในเมืองกลอรี่
เนี้ยหลี่ได้นั่งไขว้ขากันอยู่บนก้อนหินใหญ่นั้นเพื่อ
ฝึกฝนอย่างเงียบ ๆ อีกเพียงแค่ก้าวเล็ก ๆ เท่านั้นส่าหรับเขาที่
จะเข้าสูร่ ะดับเงิน เมื่อเขาได้ทะลุระดับเงินแล้ว เขาสามารถจะ
รวมเขตแดนวิญญาณกับจิตอสูรเงาพรายที่อยู่ในตะเกียงแห่งจิต
อสูรได้
ในขณะที่ใช้ยาทิพย์อย่างต่อเนื่อง เขาเคลื่อนเทคนิค
การบ่มเพาะพลัง[เทพวิถีฟ้า]ไปพร้อมกัน เนี้ยหลีส่ ามารถดูดซับ
ยาทิพย์เข้าสู่กระแสเลือดและค่อยปล่อยให้ผลของยาทิพย์
แสดงต่อเขตแดนวิญญาณของเขา สิ่งนี้ท่าให้เขตแดนวิญญาณ
ของเขาขยายกว้างออกอย่างไม่สิ้นสุด
เขตแดนวิญญาณของเขาพลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง
ต่อเนื่องตลอดเวลา ในขณะที่มันเต็มไปด้วยพลังวิญญาณ
“ข้าเกือบลืมไปแล้วว่า ยังมีวิธีอื่นอีกที่ข้านั้นยังไม่
เคยใช้!” เนี้ยหลี่ดเู หมือนว่าระลึกบางอย่างได้และปรากฏ
รอยยิ้มแห่งความสุข เมื่อจะท่าการลุไปสูร่ ะดับเงิน ยังมีวิธีหนึ่ง
เรียกกว่า ก่าหนดลมปราณอัศจรรย์ วิธีนี้จะอุดเลือดที่ไหลไป
เลี้ยงแขนและส่วนต่าง ๆ อีกหลายส่วนในร่างกายเขา เขา
สามารถอุดจุดเชื่อมลมปราณทั้ง 36 จุดได้และบังคับให้พลัง
วิญญาณของเขาถูกกักอยู่แต่ในเขตแดนวิญญาณ วิธีนี้เขาจะ
สามารถบังคับตัวเองให้ทะลุสู่ระดับเงินได้
ด้วยวิธีการนี้เพื่อที่จะทะลุระดับเงิน นอกจากต้อง
สูญเสียพลังวิญญาณจ่านวนมากแล้ว จะท่าให้เส้นลมปราณ
ได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามด้วยความ
ช่วยเหลือของยาทิพย์ มันสามารถรักษาได้อย่างง่ายดาย
หลังจากพลังวิญญาณของเขาถูกขังอย่างสมบูรณ์ พลังวิญญาณ
ของเขาเริ่มที่จะสะสมและไปรวมตัวกันที่จุดศูนย์กลางของเขต
แดนวิญญาณของเขามากขึ้นเรื่อยๆ เนี่ยหลี่ยังใช้ยาทิพย์ทุก
ประเภทที่จะท่าให้มีการเสริมสร้างพลังวิญญาณของเขา และ
มันท่าให้พลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนพลัง
วิญญาณได้รวมตัวอย่างหนาแน่น มันเป็นเหมือนราวกับอากาศ
ที่ได้ถูกบีบอัดไปยังจุดๆหนึ่ง ท่าให้มันสามารถจะมีการระเบิด
พลังที่น่าเกรงขามขึ้นได้
พลังวิญญาณของเขาได้เพิม่ พูนอย่างต่อเนื่องแล้วก็ถูก
บีบอัดกันภายในขอบเขตจิตวิญญาณของเขาโดยไม่สามารถที่
จะหาทางออกได้
มันถูกบีบอัดอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาและเหมือนกับว่า
มันจะไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย
เนี่ยหลี่ รู้สึกว่าเขตแดนวิญญาณของเขาได้รับการฉีก
ขาดตลอดเวลาแต่กไ็ ด้รับการฟื้นฟูทันทีเช่นกันความเจ็บปวดนี้
ช่างรุนแรงท่าให้การใบหน้าของเขาซีดขาวเหงื่อก็ไหลลงมา
เหมือนสายฝน
ภายในเขตแดนวิญญาณของเขาพลังวิญญานเริ่มอัด
แน่นมากขึ้นจนท่าให้เกิดการแตกร้าวของเขตแดนวิญญาณของ
เขาหลายต่อหลายครั้ง เนี่ยหลีร่ ู้สกึ ได้ถึงเขตแดนวิญญาณของ
เขาที่ได้เพิม่ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
สุดท้าย 'บูมมมม'
แรงบีบอัดของพลังวิญญาณเริม่ ระเบิดแล้วกระจายไป
ทั่วในเขตแดนวิญญาณของเขาแล้วก่อให้เกิดพลังวิญญาณ
เพิ่มขึ้นทันที
ส่วนของลมปราณของเขาก็ยังมีการฉีกขาดอย่าง
ต่อเนื่อง เนี่ยหลีไ่ ด้ทนความเจ็บปวดที่รุนแรงเพื่อรอคอยเวลานี้
เวลาที่แรงบีบอัดของพลังวิญญาณได้เปิดทะลุจุดลมปราณต่าง
ๆ ที่เขาได้ปดิ เอาไว้
หลังจากที่ใช้การบังคับจิตวิญญาณเสร็จสิ้นเขาจะต้องกู้
พลังงานคืนก่อนถึงจะไปถึงยศเงินร่างทรงอสูรได้!
เนี่ยหลีเ่ ริ่มกินยาทิพย์หลายอย่างเพื่อกู้คืนพลังของเขา
แล้วเริม่ ที่จะฝึกพลังต่ออย่างเงียบ ๆ หลังจากการเพิ่มพลังไปยัง
เขตแดนวิญญาณในปัจจุบันของเขาแล้วนั้น ในตอนนี้เขา
สามารถที่จะดูดซับพลังงานหยินคืนได้แล้ว ด้วยความจริงที่ว่า
เขาเป็นผู้ชาย ตัวของเขานั้นเต็มไปด้วยพลังงานหยางดังนั้นเขา
จะไม่เป็นเหมือนเช่น เสี่ยวหนิงเอ๋อ
[(เกร็ดความรู้)จีนพูดเสมอว่าหยินหยาง เป็นตัวแทนของผู้ชาย
และผูห้ ญิงโดยผูห้ ญิงคนหนึ่งจะเต็มไปด้วยหยินและผู้ชายก็จะ
เต็มไปด้วยหยาง]
หลังจากฝึกไปประมาณหนึ่งชั่วโมงเขตแดนวิญญาณ
ของเนี่ยหลี่ก็ได้ฟื้นฟูพลังกลับมาเหมือนเดิมเรียบร้อยแล้ว ใน
ที่สุดเขาก็ได้ไปถึงระดับเงิน
เนี่ยหลีเ่ ปิดตาของเขาขึ้นดวงตาของเขาเป็นประกาย
ในที่สุดเขาก็สามารถใช้ตะเกียงแห่งจิตอสูรเงาพรายได้
มีเสียงดังเหมือนปีศาจดังออกมาจากตะเกียงแห่งจิต
อสูรเงาพราย แล้วได้ปรากฏแสงซึง่ จิตอสูรเงาพรายสิงสถิตอยู่
อย่างไรก็ตามเนี่ยหลีไ่ ม่ได้วิตกแต่อย่างใด พลังวิญญาณของเขา
นั้นเปรียบเหมือนดังเชือกที่ได้เข้าไปพันรอบยังแสงนั้น
พลังวิญญาณของเนี้ยหลี่ได้ค้นพบเงาด่าหนึ่งเงา
เมื่อพลังวิญญาณของเขากระทบรอบ ๆ เงาด่านั้น จิตอสูรแห่ง
เงาเริ่มกรีดร้องอย่างทรมานพยายามที่จะต่อต้านเขาโดยการ
พยายามพุ่งผ่านพลังวิญญาณของเนี้ยหลี่ออกไป
จิตอสูรแห่งเงาทันใดก็สั่นสะท้านและยังคงต่อต้าน
ต่อไป อย่างไรก็ตามภายใต้แรงกดดันพลังวิญญาณของเนี้ยหลี่
จิตอสูรแห่งเงาค่อยสูญสูญเสียพลังในการต่อต้านลงเรื่อย ๆ
'วู๊ชชช' จิตอสูรแห่งเงาได้กลายเป็นเงาด่า ๆ
อันหนึ่งและเข้าไปสูเ่ ขตแดนวิญญาณเนี้ยหลี่ ครั้นเมื่อจิตอสูร
ตนใดเข้าไปในเขตแดนวิญญาณของร่างทรงจิตอสูรแล้ว พวก
มันจะถูกควบคุมโดยร่างทรงอสูรผ่านการให้พลังวิญญาณของ
ร่างทรงอสูรเสริมเข้าไป ถ้าร่างทรงอสูรไม่ได้ปลดปล่อยจิตอสูร
ด้วยตัวของเขาเอง จิตอสูรจะไม่สามารถมีอสิ ระได้
เหมือนกับท่าการตีตราไว้แล้วโดยพลังวิญญาณ
หลังจากรวมร่างกับจิตอสูรแห่งเงา เขตแดน
วิญญาณเนี้ยหลีไ่ ด้ขยายมากขึ้นเป็นสองเท่า ครั้งเมื่อได้รวมร่าง
กับจิตอสูร ร่างทรงอสูรและจิตอสูรจะส่งผลลัพธ์ซึ่งกันและกัน
แม้กระทั่งความเร็วในการฝึกพลังวิญญาณจะเพิ่มเป็นสองเท่า
ของความเร็วปกติ
จิตอสูรแห่งเงามีพลังมากอย่างน่าฉงน ใน
ขณะเดียวกันมันก็มรี ะดับการเติบโตที่สูงอย่างมากอีกด้วย
ดังนั้นมันไม่สามารถจะเทียบได้เลยกับจิตอสูรธรรมดาพวกนั้น
ยิ่งไปกว่านั้นสมองของเนี้ยหลี่เต็มไปด้วยทักษะการต่อสู้ส่าหรับ
จิตอสูรแห่งเงานี้ เมื่อนั้นแล้วเขาจึงสามารถดึงพลังของจิตอสูร
แห่งเงาออกมาได้ทั้งหมด
เนี้ยหลี่เคลื่อนมือของเขาและเรียกจิตอสูรแห่งเงา
ออกมา แล้วเขารีบรวมกับจิตอสูรตนนั้นอย่างรวดเร็ว ในขณะนี้
ร่างกายของเนี้ยหลีไ่ ด้หายไปและก็ปรากฏมาอีกครั้งคล้ายกับผี
และเคียวกระดูกได้งอกขึ้นมาจากแขนทั้งสองของเขา คล้าย ๆ
กับตั๊กแตน จิตอสูรแห่งเงาสามารถอยู่ใน รูปแบบหายตัว และ
รูปแบบปรากฏตัว เมื่อเนี้ยหลี่ได้เข้าสู่รูปแบบหายตัว น้อยคน
นักที่จะสามารถจับถึงพลังงานรอบตัวเขาได้ อย่างไรก็ตามเมื่อ
อยู่ในรูปแบบหายตัว เนี้ยหลี่จะไม่มีความสารถในการโจมตี แต่
เมื่อเขาเข้าสู่รูปแบบปรากฏตัว เขาจะสามารถท่าซึ่งการโจมตี
ไปที่จุดส่าค่ญให้ถึงแก่ชีวิตได้
จิตแห่งอสูรเงามีทักษะการลอบโจมตีที่ทรงพลัง
อย่างมากที่สุด เมื่ออยู่ระหว่างการต่อสู้ แม้กระทั่งผู้ที่อยู่
ระดับสูงแล้วก็สามารถถูกจัดการได้ ถ้าพวกเขานั้นไม่ระวังตัว
เคียวกระดูกนั้นมีความยาวประมาณ 1 เมตร มีแสง
เย็น ๆ สะท้อนอยู่ ดูเหมือนจะคมอย่างมาก
เนี้ยหลี่เก็บเคียวนั้นด้วยความพึงพอใจ ด้วย
ความคิดหนึ่ง ร่างของเขาค่อย ๆ โปร่งใสและหายไปจากจุดนั้น
หลังจากนั้นชั่วครู่ ตัวของเขาก็ได้ปรากฏออกมาอีกครั้ง
“มันคุ้มค่าอย่างยิ่งที่รู้จักจิตอสูรแห่งเงานี้”!” เนี้ยห
ลี่ยิ้มเบา ๆ ปรากฏให้เห็นรอยยิ้มพึงพอใจปรากฏบนใบหน้า
ของเขา จิตอสูรแห่งเงานีไ้ ปนักฆ่าอย่างแท้จริงเมื่อท่าการสู้กับ
ฝ่ายศัตรู ภายใต้สถานการณ์ปกติบุคคลธรรมดาที่ไม่ได้ระวังตัว
สามารถถูกฆ่าได้โดยง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีอัตราการเติบโตที่
สูงมาก ซึ่งสามารถค่อย ๆ เพิ่มความแข็งแกร่งได้ขณะที่การบ่ม
เพาะพลังของเนี้ยหลี่ได้เพิ่มสูงขึ้น
เนี้ยหลี่ที่ท่าการเลือกจิตอสูรแห่งเงามาเป็นจิตอสูร
ตนแรกนั้นเป็นการตัดสินใจเลือกที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
เนี้ยหลี่สามารถคุ้นเคยและดึงพลังมาประยุกต์ใช้ซึ่ง
จิตอสูรแห่งเงานี้ได้ในเวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง แต่ส่าหรับคน
ปกติแล้วการท่าสิ่งนี้ได้ต้องใช้เวลาเป็นเดือนเลยทีเดียว
“ไม่เลว ไม่เลว” เนีย้ หลี่พูดพร้อมรอยยิ้ม เขานั่ง
ไขว้ขาลง เขาช่าเลืองไปที่ตะเกียงวิญญาณที่แตกหัก หลังจากที่
รวมร่างกับจิตแห่งอสูรเงาแล้ว สิ่งนี้ก็ไม่มีประโยชน์อันใด เขา
จึงโยนมันไปทีม่ ุมหนึ่งของกระเป๋าต่างมิติ
“ถ้าเช่นนั้น ท่าไมพี่ใหญ่เนี้ยหลี่จึงฝึกตนในเวลา
กลางคืนเช่นนี้กันล่ะ?”
“ข้า....” เนี้ยหลี่ไม่สามารถพูดว่าตัวเขานั้นได้ถึง
ระดับเงินแล้ว “ผู้ชายนั้นแตกต่างจากผู้หญิง ที่มีพลังงานหยาง
อยู่มากดังนั้น พวกเราจึงไม่กลัวว่าพลังหยินจะเข้าสู่ตัวพวก
เรา”
เนี้ยหลี่น่าเอาอัญมณีออกมาจากกระเป๋าต่างมิติ
ของเขา แล้วยื่นมันให้เนี้ย หยู่และกล่าวว่า “เริ่มแรก ใส่พลัง
วิญญาณของเจ้าเข้าไปในอัญมณีวญ ิ ญาณขั้นต้นนี้”
เนี้ยหลี่วางมือลงบนศรีษะของเนี้ย หยู่และกล่าวว่า
“จุดเริม่ ต้นของตระกูลบันทึกสวรรค์ของพวกเรานั้นอยู่ใน
อาณาจักรหิมะเหมันต์ พวกเรามีประวัติศาสตร์มายาวนานมาก
นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลบันทึกสวรรค์ต่างมี[เนื้อแท้
แห่งจารึกสวรรค์] ด้วยกันทั้งหมด ความเป็นไปได้ที่สิ่งเหล่านี้จะ
ปรากฏภายในร่างกายของพวกเรามีประมาณแค่ 1 %ซึ่งนั่น
หมายความว่าภายในตระกูลของพวกเราหนึ่งร้อยคนจะมี[เนื้อ
แท้แห่งจารึกสวรรค์]ปรากฏหนึ่งคน มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่
เทคนิคการบ่มเพาะพลังส่าหรับผูม้ ี [เนื้อแท้แห่งจารึกสวรรค์]
ได้หายสาบสูญเป็นระยะเวลานานจากยุคมืด ”
“พี่ใหญ่เนี้ยหลี่ยังจะสอนเซี่ยวยู่ถึงการบ่มเพาะพลัง
อยู่หรือไม่?” เนี้ย หยู่ถามขึ้น ด้วยความกังวลเล็กน้อย เพียง
เพราะว่าเทคนิคเหล่านั้นได้สาปสูญไปนานแล้ว นั่นหมายความ
ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเรียนรู้มันได้อีกต่อไปอย่างนั้นหรือ
เนี้ยหลี่สอนเนีย้ หยู่ถึงบทสวดบทแรกของการบ่ม
เพาะพลังของ [เนื้อแท้แห่งจารึกสวรรค์] เนี้ย หยู่ได้ท่องมัน
ออกมา ด้วยค่าพลังวิญญาณ 32 ความจ่าของเธอนั้นค่อนข้างดี
ทีเดียว ในไม่ช้าเธอก็จ่าบทสวดนีไ้ ด้อย่างสมบูรณ์
เพื่อความปลอดภัย แค่บทสวดบทแรกก็เพียงพอ
แล้ว เขาจะคอยให้เนี้ย หยูฝ่ ึกส่าเร็จซึ่งบทแรกเสียก่อน
หลังจากนั้นเข้าจะสอนบทสวดต่อไป อย่างไรก็ตาม เนีย้ หยู่นั้น
ยังเล็กและไร้เดียงสา ดังนั้นเธอจึงถูกหลอกได้ง่าย
เนี้ย หยู่ท่องบทสวดของเทคนิคบ่มเพาะพลังในใจ
เธอ ในไม่ช้า พลังวิญญาณของเธอภายในเขตแดนวิญญาณของ
เธอได้เพิม่ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ภายในยุคของอาณาจักรหิมะเหมันต์ ร่างทรงอสูรผู้
มี [เนื้อแท้แห่งจารึกสวรรค์] ต่างรูจ้ ักกันดีว่าเป็นหนึ่งในสาม
ของร่างทรงอสูรที่มีพลังแข็งแกร่งมากที่สุด ภายในยุคนั้น
อัจฉริยะมีอยู่เป็นจ่านวนมาก ร่างทรงอสูรระดับต่านานภายใน
อาณาจักรมีอยู่เต็มไปทั่ว แต่กระนัน้ ก็ตามผู้ทมี่ ี [เนื้อแท้แห่ง
จารึกสวรรค์] ก็ยังคงมีชื่อเสียงอย่างมาก ดังนั้น ผู้ใดก็ตาม
สามารถรูไ้ ด้เลยว่าพลังของ [เนื้อแท้แห่งจารึกสวรรค์] มีพลัง
มากเพียงใด
บทที่ 56 - ลอบสังหาร
เนี้ยหลีส่ ัมผัสได้ถึงบางสิ่งจากระยะห่างที่ไกลออกไป
เขาสังเกตว่ามีร่างหลายร่างก่าลังเคลื่อนไหวใกล้กับหน้าผาห่าง
ออกไปไม่กี่กิโลเมตร คิ้วเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย และ
เคลื่อนมือขวาของเขา เงาร่างหนึ่งปรากฏอยู่ในอากาศและล่อง
ไปยังป่าเบื้องหน้า
เขาได้ปล่อยจิตอสูรแห่งเงาออกไปโดยมิได้รวมร่างกับ
มัน จิตอสูรนั้นไม่สามารถต่อสู้ได้ถา้ ไม่ได้รวมร่างกับร่างของร่าง
ทรงอสูร อย่างไรก็ตาม ร่างทรงอสูรสามารถมีสัมผัสรู้สึกได้ถึง
สิ่งที่จิตรอสูรนั้นเห็นและได้ยิน ซึ่งมันเป็นประโยชน์มากใน
บางครั้ง
พลังงานรอบ ๆ ของจิตอสูรทั่วไปนั้นสามารถถูกพบได้
โดยง่าย แต่จิตอสูรแห่งเงานี้สามารถซ่อนพลังรอบ ๆ ตัวและ
ร่องรอยของมันได้ ดังนั้น มันจึงเหมาะยิ่งนักส่าหรับใช้ในการ
สอดแนมและตรวจสอบบริเวณรอบ ๆ
ในไม่ช้าจิตอสูรแห่งเงาก็พบกับรูปร่างหลายร่าง
ห่างไกลออกไป ผ่านสายตาของจิตอสูรแห่งเงา เนีย้ หลีส่ ามารถ
เห็นคนสามคนที่ได้สวมใส่ชุดคลุมสีด่า ที่ก่าลังซ่อนตัวอยู่ในป่า
เนี้ยหลี่ควบคุมจิตอสูรแห่งเงา ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้
และระบุต่าแหน่งที่แน่ชัดของคนทั้งสาม
คนเหล่านั้นก่าลังพูดคุยระหว่างพวกเขาเอง
“ที่นี่คืออาณาเขตของตระกูลบันทึกสวรรค์”
“พวกเราต้องระมัดระวังตัวให้มาก ที่นี่ยังมี
ผู้เชี่ยวชาญระดับทองอยู่หลายคน ถ้าพวกเราไปพบกับเจ้าพวก
นั้น พวกเราต้องตายเป็นแน่”
“พวกเจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าหนูนั่นที่ชื่อเนี้ยหลี่ตอนนีไ้ ด้
อยู่ในบ้านเก่า ๆ หลังหนึ่งภายใต้ภเู ขาแห่งนี้”
“แน่นอน ข้าได้ไปตรวจสอบเมื่อตอนกลางวันมาแล้ว
พ่อของเจ้าหนูนั่นไม่ได้ฝึกพลัง ดังนั้นพวกเราจะสามารถจัดการ
พวกมันโดยไม่ถูกสังเกตุได้”
ผ่านการได้ยินจากจิตอสูรแห่งเงา เนี้ยหลี่ได้ยินการ
สนทนาของพวกมัน คิ้วของเขาขมวดเข้าเล็กน้อย 'พวกมัน
เหล่านีม้ าจากตระกูลศักดิส์ ิทธิ์เช่นนั้นหรือ?'
จากการดูพวกมันแล้ว พวกคนทั้งสามเหล่านี้ตั้งใจเพื่อ
มาจัดการเขา อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งสามน่าจะอยู่แค่ระดับ
เงิน
เสียงหนึ่งของบางคนรู้สึกคุ้นหูของเนี้ยหลี่เป็นอย่าง
มาก เขาจ่ามันได้ในทันที หนึ่งในสามคนนี้คือ หยุน หัวดิคอน
จากสมาคมทมิฬ
หลังจากได้พบกันที่เมืองนครกล้วยไม้โบราณ เนี่ยหลี่ก็
ได้จ่าน้่าเสียงของคนผู้นี้ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในสมองของเขา
โชคยังดี พวกมันที่มานั้นล้วนอยูเ่ พียงแค่ระดับเงิน จ่านวนของ
ผู้เชี่ยวชาญที่อยุ่ระดับทองมีอยู่น้อยมากในเมืองกลอรี่นี้ ทุก ๆ
คนจะมีป้ายชื่อพิเศษติดอยู่ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องส่าคัญ
ส่าหรับผุ้เชี่ยวชาญระดับทองของสมาคมทมิฬที่จะแทรกซึมสู่
เมืองกลอรี่ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สดุ ในพวกมันเหล่านีม้ ีเพียงหยุนหัว
ดิคอนเท่านั้น
คิ้วของเนี้ยหลี่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยและปลดปล่อย
การรับรู้แรงกล้าออกจากจิตอสูรแห่งเงา อย่างลาง ๆ เนี้ยรูส้ ึก
ได้ถึงก่าลังของเหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับเงินทั้งสามนี้ หนึ่งคนอยู่ที่
ระดับเงิน 5 ดาว และอีกสองคนนัน้ อยู่ที่ระดับเงิน3 ดาว
“นี่ค่อนข้างจะเป็นเรื่องยากที่จะรับมือ” เนี้ยหลี่พึมพ่า
คิ้วขมวดอีกครั้ง ถ้าพวกเขาอยู่ที่ระดับเงิน 1 ดาวหรือ ระดับ
เงิน 2 ดาว เนี้ยหลี่จะสามารถรับมือกับพวกมันได้ และส่าหรับ
ระดับเงิน 3 ดาวแล้วเนี้ยหลี่ก็ยังสามารถหาทางที่จะจัดการ
พวกมันได้ อย่างไรก็ตาม พวกมันมีระดับเงิน 5 ดาวมาด้วยซึ่ง
นั่นค่อนข้างจะจัดการยากอยูส่ ักหน่อย
ถ้าพวกมันทั้งสามได้เข้ามายังบ้านของเนี้ยหลี่ นั่นจะ
เป็นปัญหาอย่างมาก
“คนจากสมาคมทมิฬ?” ตาของเนี้ยอยู่ปรากฏความ
กลัวอยู่ภายใน ด้วยอายุเท่านี้ เธอก็เคยได้ยินเรื่องราวอันน่า
กลัวของสมาคมทมิฬว่าเป็นเช่นไร “เช่นนั้นแล้ว ท่านก่าลังจะ
ไปไหน? พี่ใหญ่เนี้ยหลี่ ไปด้วยกันเถอะ!”
“ข้านั้นไม่เป็นไรหรอก ข้าจะไม่เข้าไปปะทะกับพวก
มัน ข้าจะรอคอยจับตาดูพวกมันเอาไว้ รีบไปและแจ้งพวก
ผู้ใหญ่ ภายกลุ่มคนเหล่านี้ มีอยู่หนึ่งคนที่อยู่ระดับเงินห้าดาว ผู้
ที่อยู่ระดับทองต้องมาที่นี่!” เนี้ยหลี่ กล่าว เพื่อป้องการการถูก
โจมตีจากเหล่าสัตว์อสูร บริเวณของตระกูลบันทึกสวรรค์
จะต้องมีผู้ที่อยูร่ ะดับทองคอยตรวจตราทุก ๆ วัน ทั้งหมดที่เธอ
ต้องท่าคือเรียกผูล้ าดตระเวนอาวุโสมายังที่แห่งนี้
'นั่นมันท่าให้ยิ่งจัดการยากขึ้นเข้าไปอีก!' เนี้ยหลี่ขมวด
คิ้วของเขาอยู่ชั่วครู่ ซ่อนตัวภายใต้เงามืด กลั้นลมหายใจของ
เขาไว้ จิตอสูรแห่งเงาก็ด้วยเช่นกันได้ซ่อนตัวอยูห่ ลังต้นไม้ ไม่
เคลื่อนไหว
ดวงตาของจิตอสูรเสือประกายด่าได้จ้องมองไป
ด้านบน มันกวาดตาไปทั่วสิ่งต่าง ๆ รอบตัว แต่กไ็ ม่สามารถ
ตรวจพบสิ่งใด หยุนหัว ดิคอนรูส้ ึกโล่งใจและกล่าวว่า “บางที
ข้านั้นคงคิดมากไป”
ซึ่งก่าลังของเขาในตอนนี้นั้น การจัดการกับบุคคลทั้ง
สามในคราวเดียวยังคงเป็นเรื่องทีท่ ่าได้ยาก อย่างไรก็ตาม ถ้า
เป็นเพียงนักต่อสูร้ ะดับเงินสามดาวเพียงคนเดียวแล้วล่ะก็ มัน
จะเป็นเรื่องที่ง่ายอย่างมาก แม้ว่าการบ่มเพาะพลังของลิ่วค่วง
นั้นสูงกว่าเนี้ยหลี่อยู่ 2 ระดับ แต่เขานั้นเป็นแค่ระดับนักต่อสู้
ส่วนเนี้ยหลี่คือร่างทรงอสูร
“เกิดอะไรขึ้น” หลังจากลิ่วค่วงรีบออกมาเป็น
ระยะทางหลายร้อยเมตร เขารู้สึกถึงพลังแปลก ๆ รอบ ๆ ได้ใน
ทันใด เขายังคงยืนนิ่งอยู่ มองอย่างสงสัยไปยังสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
ภายในค่่าคืนอันมืดมิด นอกจากเสียงเสียดสีกันของ
เหล่าต้นไม้ผ่านสายลมนี้ ยังมีการเคลื่อนไหวอื่นอยู่อีก
“เป็นไปได้ว่าข้านั้นคิดมากเกินไป” ลิ่วค่วงหัวเราะแก่
ตัวเขาเอง และเริ่มเดินหน้าต่อไป เขาได้ชะลอฝีเท้าลง คิดกับ
ตัวเขาเอง ว่าเขาสามารถท่าการบางสิ่งอันเป็นที่พอใจแก่หยุน
หัว ดิคอนแล้ว
คงไม่จ่าเป็นต้องมาวิตกและเสี่ยงชีวิตเช่นนี้
ทันใดนั้น ลิ่วค่วงรู้สึกถึงจิตสังหารที่พุ่งเป้ามาที่ตัวเขา
ความรูส้ ึกตระหนกได้ทิ่มแทงผ่านสู่หัวใจของเขา เขารูส้ ึกแปลก
ใจมาก ทันใดเขาก็ได้หันหลังกลับ และเตะเท้าออกไปหนึ่งครั้ง
อย่างไรก็ตาม ลูกเตะของเขานั้นไม่ได้ปะทะเข้ากับสิ่ง
ใด ไม่มผี ู้ใดอยู่ดา้ นหลังของเขา
ลิ่วค่วงไม่เข้าใจได้แม้กระทั่งการตายของเขา อะไรกัน
แน่ที่ได้จู่โจมเขา ตั้งแต่เริ่มการบ่มเพาะพลังจนกระทั่งบัดนี้ เขา
ผ่านประสบการณ์มาแล้วหลายพันสิ่ง และการถูกจู่โจมนับร้อย
แต่เขาไม่เคยเจอรูปแบบการโจมตีเช่นนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีโอกาสค้นหาสิ่งเหล่านั้นได้อีก
ต่อไป
หลังจากเนี้ยหลี่จู่โจมส่าเร็จ เขาเข้าสู่รูปแบบหายตัว
อีกครั้ง กลับไปซ่อนตัวเองต่อ
นักลอบสังหารที่แท้จริงต้องฆ่าศัตรูได้อย่างไร้ร่องรอย
กลิ่นของเลือดลอยฟุ้งไปในอากาศภายในป่าแห่งนี้
“เกิดอะไรขึ้น?” คิ้วของหยุนหัว ดิคอนขมวดเข้าหา
กัน ด้วยความรูส้ ึกอย่างฉลาดหลักแหลมว่ามีบางสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
เขาเร่งก้าวไปข้างหน้าและลิ่วหยานก็ตามติดมาด้านหลัง
หลังจากรีบเร่งมาไม่กี่เมตรเบื้องหน้า พวกเขาเห็นศพ
ของลิ่วค่วงอยู่บนพื้นดิน
ในค่่าคืนที่มืดมิดเช่นนี้ มีเพียงเสียงของนกร้องที่ได้ยิน
ในป่าอันเงียบเชียบนี้ พวกเขาไม่สามารถพบผู้ใดอีกในป่าแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม พวกเขามีความรูส้ ึกหวาดกลัวของการถูกจ้อง
มองอยู่ เป็นเหตุให้ขนต่าง ๆ ตามร่างกายของพวกเขาลุกขึ้น
เวลาก่าลังเดินอยู่
หลังจากเขาสังเกตว่าบางสิ่งไม่ถูกต้องแล้วนั้น หยุนหัว
ดิคอนขมวดคิ้วของเขาและกล่าวว่า “ไปจากที่นี่กันเถอะ!”
'เจ้าต้องการหนีไปรึ? ข้าไม่ปล่อยพวกเจ้าไปง่าย ๆ
หรอก!'
แสงเย็นเฉียบพุ่งผ่านดวงตาของเนี้ยหลี่ในขณะที่เขา
ปรากฏตัวอีกครั้ง เขายกเคียวกระดูกขึ้นและตัดผ่านไปยังลิ่วห
ยาน
หลังจากที่เข้าสูร่ ูปแบบหายตัว เนี้ยหลี่ได้ซุ่มซ่อนอยู่
ใกล้ ๆ ลิ่วหยานมาเป็นเวลานานแล้ว ระยะห่างจากลิ่วหยาน
จากเขามีเพียงห้าถึงหกเมตร เขาได้เร่งความเร็วขึ้นทันที
เพียงเมื่อเนี้ยหลี่ปรากฏตัว ม่านตาของลิ่วหยานและ
หยุนหัว ดิคอนก็จ้องเขม็งมา
“ใคร?”
ลิ้วหยานกระโดดถอยหนี ร่างของเขาสะท้อนแสงหนึ่ง
ออกมา ร่างของเขานั้น ได้ป้องแขนทั้งสองข้างกัน เขายกการ์ด
แขนขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีของเนี้ยหลี่ และในเวลาเดียวกันก็
ปล่อยลูกเตะไปยังเนีย้ หลี่ หนึ่งที
เนี้ยหลีเ่ ผชิญหน้ากับลิ่วหยานและทันใดก็ยืดแขนของ
เขาออก เงี่ยงหนึ่งของเคียวพุ่งไปในทันทีเข้าสู่ด้านหลังของ
ศรีษะ ลิ่วหยาน ซึ่งเคียวอันละเมียดละไม “ฟื้ด” เงี่ยงหนึ่งทะลุ
ผ่านด้านหลังของศรีษะ ลิ่วหยาน
ถ้าเทียบด้านพละก่าลังเพียงอย่างเดียว ลิ่วหยาน
แข็งแรงกว่าเนี้ยหลี่เล็กน้อย อย่างไรก็ตามเนี้ยหลีไ่ ม่ได้
เผชิญหน้า ลิ่วหยาน แบบตรง ๆ โดยทีเขาจู่โจมออกไปในทันที
และในเวลาเดียวกัน การโจมตีนั้นก็ไม่ถูก ลิ่วหยาน คาดว่าจะ
เกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหมดนีเ้ กิดขึ้นในเวลาอันสั้น ไม่มีทางเลยที่
ลิ่วหยานจะสามารถตอบสนองกลับได้ ดังนั้น จึงท่าให้การลอบ
สังหารของเนี้ยหลี่ครั้งนีส้ ่าเร็จ โดยการจู่โจมเพียงครั้งเดียว
บทที่ 57 - ใครเป็นคนฆ่า?
บูม !
ลูกเตะนั้นโดนเข้าไปที่หน้าท้องของเนี้ยหลี่และท่า
ให้เนี้ยหลี่กระเด็นไกลไปหลายเมตร แล้วไปกระแทกอย่างหนัก
เข้ากับต้นไม้ต้นหนึ่งและค่อย ๆ ร่วงลงสู่พื้น
เนี้ยหลี่ค่อย ๆ เช็ดเลือดออกจากมุมปากของเขา
อย่างช้า ๆ แล้วยิ้มอย่างชั่วร้าย หลังจากจัดการไปได้สองคน
แล้ว ก็เหลือแต่เพียงหยุนหัวดิคอนเท่านั้น
“มันเรื่องอะไรกันวะนี?่ ตายซะ! หยุนหัวดิคอนพูด
อย่างโกรธเกรีย้ ว” หลังจากรวมร่างกับจิตอสูรเสือประกายด่า
แล้ว ร่างสูงหลายเมตรของหยุนหัวดิคอนก็กระโจนเข้า
มายังเนี้ยหลี่ ซึ่งเนี้ยหลี่ได้รวมร่างกับจิตอสูรเงาพรายแล้ว
ตอนนี้กรงเล็บของเขาได้ยดื ยาวออก
จิตอสูรแห่งเงาเป็นจิตอสูรชนิดลอบสังหารตนหนึ่ง
มีความสามารถในการลอบสังหาร ดังนั้น พลังพื้นฐานของ
ร่างกายจึงค่อนข้างมีน้อย มันจ่าเป็นที่จะต้องค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
อย่างช้า ๆ อย่างไรก็ตาม หยุนหัว ดิคอน คือจิตอสูรเสือด่า
เป็นรูปแบบของสายพละก่าลัง ดังนั้นจึงมีความสามารถต่อสู้ที่
สูงและเพิ่มด้วยลวดลายอักขระรอบ ๆ ตัวเขาอีก
ก่อนที่อุ้งมือใหญ่ของหยุนหัวดิคอน จะเข้าปะทะ
เนี้ยหลี่ ร่างของเนี้ยหลี่กไ็ ด้หายไป
บูม!
อุ้งมือของหยุนหัวดิคอนกระแทกเข้าไปที่ต้นไม้ข้าง
ๆ เนี้ยหลี่ ท่าให้มันแตกออก
เพราะมันพิเศษยิ่งและหายากจึงมีน้อยคนที่จะรู้ถึง
รวมถึงหยุนหัวดิคอนด้วย
หยุนหัว ดิคอนชะงักด้วยความกลัว แม้ว่าเขาไม่
สามารถเห็นคูต่ ่อสูไ้ ด้ชัด แต่เขาแน่ใจว่าคู่ต่อสู้ต้องเป็นมนุษย์ที่
รวมร่างกับจิตอสูรตนหนึ่งอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเขาไม่
สามารถรูไ้ ด้ว่าเป็นจิตอสูรประเภทใดที่อีกฝ่ายใช้ จิตสังหาร
แวบขึ้นมาในตาเขาที่ค่อย ๆ ควานหาไปทั่วบริเวณแห่งนี้ เพื่อ
หาต่าแหน่งของเนี้ยลี่
'เงาด่า ๆ เมื่อครู่นั่นต้องเป็นจิตอสูรประเภทลอบ
สังหารที่หายากตนหนึ่งอย่างแน่นอน!' หยุนหัว ดิคอนคิดกับ
ตัวเอง หลังจากเนี้ยหลี่ที่ได้ปรากฏตัวและหายตัวอย่างไม่
คาดคิด ความกดดันอย่างมากได้ถกู ทิ้งไว้แก่เขา
วู๊ชชช!
ภายใต้การควบคุมของเขา จิตอสูรแห่งเขาทันใดก็
ปรากฏขึ้น กรงเล็บที่แหลมคมด้านหน้าของมันตัดผ่านไปที่คอ
ของหยุนหัวดิคอน
กรงเล็บอันแหลมคมของจิตอสูรเงาผ่านไปอย่างห
วุดหิวดที่คอของหยุนหัว ดิคอนหลายต่อหลายครั้ง หยุนหัว ดิ
คอนที่ก่าลังกลัวได้มีเหงื่อไหลเย็นออกมา สิ่งชั่วร้ายเช่นนี้เป็นที่
ตื่นตระหนกต่อเขาเป็นอย่างมาก กรงเล็บด้านหน้าสามารถ
เปลี่ยนให้ยาวและสั้นได้ และการเคลื่อนไหวของมันก็รวดเร็ว
อย่างน่าตระหนก การผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจท่าให้เขาจบ
ชีวิตด้วยการถูกโจมตีเพียงครั้งเดียว
หยุนหัว ดิคอนกระโดดถอยหลังออกไปเป็นสิบ
เมตร เพียงเมื่อเขาสามารถหลบพ้นการโจมตีของจิตอสูรแห่ง
เงาได้ เขาถอนหายใจออกด้วยความโล่งใจ แต่เพียงเมื่อเขา
เตรียมตัวที่จะสวนกลับ จิตอสูรแห่งเงาเบื้องหน้าเขา มันก็
เลือนลางและหายตัวไป
เจ้าจิตอสูรนั้นมันใช้ทักษะอะไรกัน มันไม่ใช่ทักษะ
การซุ่มโจมตี แต่เป็นทักษะโจมตีพร้อม ล่องหนที่หาได้ยาก ซึ่ง
มันจะเปลี่ยนตัวมันให้เหมือนกับดังอากาศ สามารถท่าให้การ
โจมตีต่าง ๆ ผ่านมันไปได้ อย่างไรก็ตาม ทักษะการโจมตี
ล่องหนก็มีจุดอ่อนอันหนึ่งอยู่ เมื่อครั้นมันเข้าสู่รูปแบบหายตัว
การเคลื่อนไหวของมันจะช้าลงเทียบได้กับเต่าตัวหนึ่ง อย่างไรก็
ตาม ทักษะการโจมตีและล่องหนไม่ค่อยถูกปรากฏให้เห็นได้
ยากยิ่ง มันเป็นทักษะหายากของจิตอสูรเงาพราย บุคคล
ธรรมดาทั่วไม่ค่อยได้เห็น คนส่วนมากจึไม่สามารถรูไ้ ด้
แม้กระทั่งจุดอ่อนของมัน
'ในวันหนึ่ง ข้าจะมาท่าลายตระกูลบันทึกสวรรค์
ของพวกเจ้าทั้งหมด!' หยุนหัว ดิคอนคิดอย่างเคียดแค้น
อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพียงแค่ความคิดหนึ่งเท่านั้น
แม้ว่าตระกูลบันทึกสวรรค์ก่าลังเสื่อมถอย มันยังคง
เป็นตระกูลขุนนางของเมืองกลอรีแ่ ละถูกปกป้องโดยเมืองกลอรี่
ดังนั้น ถ้าสมาคมทมิฬต้องการที่จะท่าลายส่วนหนึ่งของเมือง
กลอรี่ พวกมันจะต้องท่าลายเมืองกลอรี่ทั้งหมด และเรื่อง
เหล่านีไ้ ม่ใช่สิ่งที่สามารถตัดสินใจได้โดยเขา
ทันใดนั้น เสียงดังของกร๊อบแกร๊บได้ก่าลังเข้ามาที่นี่
จากที่ไกลจากแห่งหนึ่งของป่า ร่างหลายร่างก่าลังเข้ามาด้วย
ความรวดเร็ว
มันคือคนของตระกูลบันทึกสวรรค์!
ตาของหยุนหัวดิคอนบีบตัว หรี่ลงและกระโดดขึ้นสู่
ท้องฟ้า วิ่งหนีอย่างคนบ้า
ตาของเนี้ยหลี่ หรีล่ งเช่นกัน เมื่อก่าลังเสริมมาถึง
แล้ว ไม่สิ่งใดที่เขาจ่าเป็นต้องกังวลอีก ทันใดเขาก็ปรากฏตัวขึ้น
และเคียวแหลมยาวก็พุ่ง เจาะไปทีห่ ยุนหัวดิคอน
การเคลื่อนไหวของเนีย้ หลี่นั้นรวดเร็วยิ่งเมื่อรวมร่าง
กับจิตอสูรแห่งเงา เหมือนเช่นตั๊กแตนออกล่าเหยื่อ
เมื่อรับรู้ถึงการจู่โจมอย่างทันใด หยุนหัวดิคอนรูส้ ึก
ตระหนกยิ่ง ทันใดเขาก็เหวี่ยงตัวไปรอบ ๆ เพื่อท่าการหลบ
อย่างไรก็ตาม เขาได้ก้าวช้าไป
ฟึ๊ด!
บาดแผลได้ถูกทิ้งไว้ทขี่ าของเขา เลือดสด ๆ พุ่ง
ออกมารอบ ๆ
ด้วยการบ่มเพาะพลังของเขา เนี้ยหลี่คาดคะเนได้
ว่าเขาไม่สามารถจะไล่ตามได้ และเสียงหนึ่งก็ได้ดังมาจาก
ด้านหลังของเขา เสียงนั้นน่าจะเป็นพวกอาวุโสที่ก่าลังมา ตัว
ของเนี้ยหลี่เคลื่อนไหวเล็กน้อย จิตอสูรแห่งเงาก็ค่อย ๆ ถอย
กลับเข้าสู่เขตแดนวิญญาณของเขา ร่างกายของเขากลับคืนสู่
สภาพเดิม
วู้ชช !
“เนี้ยหลี่ เจ้าได้ให้เนี้ยยู่ไปบอกว่ามีคนสามคนมา
จากสมาคมทมิฬเช่นนั้นหรือ?” เนีย้ อิ้งถามด้วยเสียงดุดัน ในไม่
ช้าก็ได้กลิ่น รับรูไ้ ด้ถึงกลิ่นคาวเลือดที่มาจากป่า
“คนหนึ่งได้วิ่งไปยังทิศทางนั้น ส่วนอีกสองคนอยู่
บนพื้น” เนี้ยหลี่กล่าวต่อ “คนหนึง่ ที่วิ่งไปมีความแข็งแกร่งของ
ร่างทรงอสูรเงินระดับ 5 ดาว เขาได้รวมร่างกับอสูรเสือประกาย
ดาว ผู้อาวุโสท่านต้องระวังตัวให้มาก แต่คนผู้นั้นก็ได้รับ
บาดเจ็บด้วย ดังนั้นจึงมีร่องรอยของเลือดที่ทิ้งไว้”
เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยหลี่ ผู้อาวุโสเนี้ยอิ้งมองเนี้ย
หลี่อย่างแปลกใจ เขารู้สึกได้ราง ๆ ว่าเนี้ยหลี่ในตอนนีไ้ ด้
เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน
เนี้ยอิ้งกระโดดไป ไล่ตามจับโดยมุ่งไปยังทิศทางที่
หยุนหัว ดิคอนได้หลบหนี หลังจากนั้นชั่วครู่ ร่างของเขาก็ได้
หายเข้าไปสู่ป่าด่าทมิฬ
“ท่าไมพวกคนจากสมาคมทมิฬถึงได้มายังที่แห่งนี้
ถ้าเจ้าโกหกต่อผู้อาวุโสล่ะก็ เจ้ารูน้ ะว่าสถานการณ์จะเป็นเช่น
ไร.....” เนีย้ เสี่ยวหลี่ กล่าวพร้อมหายใจฟึดฟัด เขาก่าลังสวมชุด
คลุมสีด่า เขาอายุ 20 ปีเป็นคนที่รา่ งสูงกว่าเนี้ยหลี่ แววตา
รังเกียจปรากฏขึ้นเมื่อเขามองมายังเนี้ยหลี่
แม้ว่าเขาจะไม่ชอบสองพี่น้องนี้ พวกเขาก็ยังเป็น
สมาชิกของตระกูลบันทึกสวรรค์ หลังจากประสพกับความล่ม
สลายของเมืองกลอรี่ในชีวิตที่แล้วของเขา ด้วยสมาชิกทั้งหมด
ของตระกูลบันทึกสวรรค์ได้จบชีวิตลงภายใต้กรงเล็กของพวก
อสูร ความหยาบคายของพวกเขาก็ไม่ได้มีความหมายนัก
เนี้ยเสี่ยวเฟิ่งนั้นแก่กว่าเนี้ยเสี่ยวหลี่เพียงปีเดียว
และอารมณ์ค่อนข้างนิ่งกว่าเมื่อเทียบกับเสีย่ วหลี่ เพราะเหล่า
คนรุ่นก่อนของครอบครัวพวกเขานั้นไม่ถูกกัน พวกเขาก็เลยไม่
ถูกกับเนี้ยหลีไ่ ปด้วย อย่างไรก็ตาม เนี้ยเสี่ยวเฟิ่งตระหนักได้ว่า
เนี้ยหลี่ในวันนีไ้ ด้แตกต่างไปจากปกติที่เป็นมา เขากล้าที่จะสวน
กลับพวกเขาด้วยความมั่นใจ
พวกเขาทั้งสามได้ไปยังทิศทางที่กล่าว ซึ่งเสี่ยวเฟิ่ง
และเสี่ยวหลี่ก็ได้เห็นซากศพของลิว้ ค่วงและลิ่วหยาน
พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมีศพอยู่ 2 ศพ
จริง
“พวกมันตายอย่างไร ?” เซี่ยวหลี่แน่นิ่งไปชั่วขณะ
เขาท่าหน้าบึ้งตึงและถามอีกครั้ง “เจ้าเป็นคนจัดการพวกมัน
เพียงคนเดียวรึ?”
เนี้ยหลี่ไม่ได้ตอบค่าถามของเขา แต่เขาได้ก้มลง
และตรวจสอบลิ่วค่วงและลิ่วหยาน เขาพบเหรียญของสมาคม
ทมิฬบนสองศพนั่น
“มันเป็นคนจากสมาคมทมิฬจริง ๆ ” เนี้ยเสี่ยวหลี่
แค่นเสียง “เป็นไปได้ว่าไปหัวขโมย งี่เง่าสองตัว มันได้เข้ามายัง
ตระกูลบันทึกสวรรค์และถูกพบโดยเจ้า”
เพราะว่าการบ่มเพาะพลังของเนี้ยหลี่ยังไม่ถึงระดับ
ทองแดง 1 ดาว ความแข็งแกร่งของพวกหัวโขมย งี่เง่าพวกนี้คง
มีไม่มากเท่าใด
“เจ้าเป็นคนทีฆ่ ่าพวกมันงั้นรึ?”
เนี้ยหลี่ยักไหล่และพูดว่า “ข้าไม่เคยพูดว่าข้าเป็น
คนฆ่าพวกมันเลย พวกมันอาจฆ่าตัวตายเองก็ได้”
เรื่องมันชักจะยังไงชอบกลอยู่ ทั้งเนี้ยเสี่ยวเฟิ่งและ
เนี้ยเสีย่ วหลี่ท่าหน้าถมึงทึง สามารถเป็นไปได้ว่ามีผู้เชี่ยวชาญ
อยู่รอบ ๆ ที่แห่งนี้หรือเปล่า ? เมื่อผู้เชี่ยวชาญนั้นได้ช่วยก่าจัด
คนจากสมาคมทมิฬแล้ว พวกเขาไม่น่าจะเป็นศัตรูกับตระกูล
บันทึกสวรรค์ได้
สองพี่น้องนั้นปฏิเสธที่จะเชื่อว่าก่าลังของเนี้ยหลีไ่ ด้
เพิ่มขึ้นไปถึงระดับที่น่าตกใจเช่นนั้นได้จริง
“ใจเย็นไว้ก่อน เขาไม่น่าจะมีปญ
ั หาอะไรหรอก”
เนี้ยเสีย่ วเฟิ่งส่ายศรีษะของเขาแล้วกล่าวว่า “ที่นี่เป็นดินแดน
ของตระกูลบันทึกสวรรค์ และพวกคนเหล่านั้นจากสมาคมทมิฬ
มีระดับสูงสุดเพียงแค่ระดับเงิน 5 ดาว แต่ว่า
ท่านอาวุโสเนี้ยอิ้งเป็นนักต่อสูร้ ะดับทอง 3 ดาว นั่นน่าจะไม่
เป็นปัญหาแต่อย่างใด”
ท่านอาวุโสเนี้ยอิ้งส่ายศรีษะของเขาแล้วพูดว่า
“อีกฝ่ายเป็นร่างทรงอสูรระดับเงินห้าดาว หลังจากมันได้รวม
ร่างกับจิตอสูรเสือประกายดาว ” พลังของมันมีมากล้น ยิ่งไป
กว่านั้น มันยังมีวิธีการบางอย่างทีส่ ามารถหลบหนีข้าไปได้ ข้า
นั้นไม่สามารถจับมันได้ มันได้หนีไปเสียแล้ว!”
เมื่อได้ยินค่าของเนี้ยอิ้ง เนี้ยเสี่ยวเฟิ่งและเนี้ย
เสี่ยวหลี่ทั้งสองต่างมองหน้ากัน 'ร่างทรงอสูรนั้นมันสามารถ
หลบหนีจากมือของท่านอาวุโสเนีย้ อิ้งได้ มันผู้นั้นไม่ธรรมดา
แน่นอน!'
เมื่อได้เห็นศพสองร่างบนพื้นดิน เนี้ยอิ้งขมวดคิ้ว
เรื่องเหล่านี้ค่อนข้างจะแปลกซักหน่อย ท่าไมคนจากสมาคม
ทมิฬถึงได้มาปรากฏตัวบริเวณนี้ ? และอีกเรื่อง ใครเป็น
ผู้จัดการพวกมันกัน ? เป็นไปได้หรือว่ามีความขัดแย้งภายใน
ระหว่างสมาคมทมิฬและพวกเขาได้ฆ่ากันเองภายในดินแดน
ของพวกมัน ? แต่นั้นไม่นา่ จะเป็นไปได้ หรือมีผเู้ ชี่ยวชาญท่าน
หนึ่งได้ซ่อนตัวอยูร่ อบ ๆ บริเวณนี้ ได้ช่วยเหลือตระกูลบันทึก
สวรรค์
โดยการจัดการคนทั้งสองของสมาคมทมิฬ ?
ผู้เชี่ยวชาญนั้นได้ฆา่ นักต่อสู้ระดับเงินไปสองคนใน
เวลาเดียวกัน และท่าให้ร่างทรงอสูรระดับเงิน 5 ดาวได้รบั
บาดเจ็บ ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นอย่างน้อยที่สุดก็น่าจะอยู่ระดับทอง
! ใครกันที่ได้ช่วยเหลือตระกูลบันทึกสวรรค์เอาไว้เช่นนี้ ? ท่าไม
ท่านผู้นั้นถึงไม่ปรากฏตัวกันเล่าหลังจากที่ได้ช่วยเหลือตระกูล
บันทึกสวรรค์แล้ว ?
แม้ว่าเขายังคงสงสัยเนี้ยหลี่อยู่บ้าง ท่านอาวุโส
เนี้ยอิ้ง ก็ไม่เคยคิดว่าจะเป็นเนีย้ หลี่ที่เป็นผู้ก่าจัดคนทั้งสองจาก
สมาคมทมิฬและท่าให้ หยุนหัว ดิคอน ได้รับบาดเจ็บ ตอนที่
เนี้ยหลีไ่ ด้ออกจากหมู่บ้านเพื่อไปยังสถาบันกล้วยไม้ศักด์สิทธิ์
เขายังไม่ถึงระดับทองแดง 1 ดาวด้วยซ้่า มันเป็นไปไม่ได้สา่ หรับ
เขาที่จะสามารถถึงระดับเงินได้ในเวลาอันสั้นเช่นนี้
“การฆ่าได้ด้วยพลังเช่นนี้!” เนี้ยอิ้งเก็บความรู้สึก
ตกใจมาก ๆ เอาไว้ แม้ว่าจะเป็นตัวเขา เขาก็ไม่สามารถฆ่าพวก
มันทั้งสองที่เป็นนักต่อสู้ระดับเงิน 3 ดาวได้อย่างง่ายเช่นนี้ ยิ่ง
ไปกว่านั้น อาวุธที่ผู้เชี่ยวชาญลึกลับได้ใช้เป็นอะไรที่แปลก
ประหลาด เขาไม่เคยพบรอยแผลเช่นนี้มาก่อน
ภายในห้องโถงเต็มไปด้วยสมาชิกของกองก่าลัง
ตระกูลบันทึกสวรรค์ พวกเขาได้ถอื คบเพลิง พวกเขารู้ว่าคน
จากสมาคมทมิฬได้เข้ามาสูด่ ินแดนของพวกเขา พวกเขาก่าลัง
ตื่นตัวและเตรียมพร้อมเข้าสู่การต่อสู้
“ท่านผู้น่า ได้มีสามโจรย่องเบามาจากสมาคม
ทมิฬ พวกมันน่าจะพยายามมาขโมยบางสิ่งบางอย่างจาก
ตระกูลบันทึกสวรรค์ของพวกเรา สองคนของพวกมันถูกฆ่า
หนึ่งคนนั้นหนีไปได้!” เนี้ยอิ้ง ตอบกลับโดยป้องมือทั้งสองเข้า
ไว้
“ครับ !” เหล่ายามของตระกูลบันทึกสวรรค์ที่อยู่
ด้านข้างตอบกลับ
“เจ้าเป็นผู้ที่จัดการคนทั้งสองนั้นรึ ?” ด้วยการดู
เนี้ยไฮ้สามารถบอกได้ว่าศพทั้งสองนั้นอย่างน้อยที่สุดก็มีความ
แข็งแกร่งอยู่ที่ระดับเงิน
“ท่านหัวหน้าตระกูล พวกเราทั้งสองไม่ได้ท่าซึ่ง
เรื่องดังกล่าว” เนี้ยเสี่ยวเฟิ่งและเนี่ยเสี่ยวหลี่ตา่ งรู้สึกหน้าร้อน
ผ่าว
เนี้ยไฮ้หน้านิ่วเล็กน้อยเมื่อได้ยินค่าตอบของพวก
เขาทั้งสอง และถามกลับไปด้วยความสงสัยว่า “เช่นนั้นแล้วใคร
เป็นผู้ที่ท่าเรื่องนี้กันเล่า?”
มีเพียงแค่สามคนนี้เท่านั้นที่ได้ส่งไปเพื่อตามจับคน
เหล่านั้นจากสมาคมทมิฬ ถ้าไม่ใช่ซึ่งพวกเขาแล้วเมื่อนั้นจะเป็น
ใครไปได้?
“เมื่อเวลาที่ข้าไปถึง พวกมันก็ได้ตายลงไป
เรียบร้อยแล้วท่าน มีเพียงเนี้ยหลีท่ ี่อยู่ตรงนั้นเมื่อเรื่องทั้งหมด
ก่าลังเกิดขึ้น” เนี้ยอิ้งกล่าวด้วยน้่าเสียงเป็นเรื่องจริงยิ่ง
“ข้าก็ไม่ทราบเช่นกัน ข้าเพียงเห็นแต่เงาด่า ๆ
อันหนึ่งพุ่งผ่านและพวกมันทั้งสองต่างก็ล่วงลงสู่พื้นเพียงแค่
นัน้ ” เนี้ยหลี่ ยักไหล่ แสร้งท่าเป็นไม่รเู้ รื่อง เขายังคงไม่ต้องการ
เปิดเผยพลังที่แท้จริงของเขา
ท่านอาวุโสเนี้ยอิ้งได้เงียบไปชั่วขณะก่อนที่จะนั่งลง
และชี้ไปยังศพของนักต่อสูร้ ะดับเงินทั้งสองและกล่าวว่า “ท่าน
หัวหน้า โปรดดูที่แผลอันนี้ มันถูกท่าโดยอาวุธบางสิ่งและอาวุธ
นี้นั้นก็ประหลาดอย่างมาก ข้าคิดไม่ออกเลยว่าผู้ใดในเมืองกลอ
รี่ที่ใช้อาวุธชนิดนี้กัน”
ทุก ๆ คน ต่างจ้องไปที่รอยแผลของศพทั้งสอง
“พวกมันทั้งสองได้ถกู จัดการโดยการโดนบางสิ่ง
เข้าที่จุดตาย ถูกฆ่าโดยการโจมตีเพียงครั้งเดียว” อาวุโสเนี้ยอิ้ง
หายใจยาวเข้าไป และได้กล่าวเช่นนั้น
“เมื่อมีผหู้ นึ่งได้ช่วยพวกเราจัดการคนของสมาคม
ทมิฬ เขาเหล่านั้นน่าจะอยูฝ่ ่ายเดียวกันกับเมืองกลอรี่ ดังนั้นไม่
น่าจะเป็นซึ่งปัญหา” เนี้ยไฮ้กล่าวเช่นนั้น “เรื่องนี้ไม่จ่าเป็นต้อง
เป็นกังวลอีกต่อไป สิ่งส่าคัญคือ ท่าไมคนของสมาคมทมิฬถึง
ได้มายังที่แห่งนี้ เพื่อความปลอดภัย ตระกูลบันทึกสวรรค์ของ
พวกเราต้องเข้าสู่สภาวะสงครามและการป้องกันภายในตระกูล
ต้องเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย”
“ท่านอาวุโส ข้าพึ่งได้กลับมาเพียงวันเดียว!”
เนี่ยหลี่ป้องมือดังถือถ้วยและกล่าวไป
เนี้ยเว่ยแค่นเสียงอย่างต่าหนิเสียจริง “เนี่ยหลี่ เจ้า
จะยอมรับความผิดของเจ้าหรือไม่?”
“เนี่ยหลี่ เจ้าไม่ท่าการศึกษาเล่าเรียนอย่าง
เหมาะสมเช่นที่เจ้าควรท่าที่โรงเรียนและไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่
เป็นปัญหา ข้าได้ยินมาว่าเจ้าไปรบกวนกับผู้สืบสายเลือดของ
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ เป็นเหตุให้พวกเขามากดดันตระกูลบันทึก
สวรรค์ของพวกเรา เจ้าแน่ใจว่าเรือ่ งเช่นนั้นไม่เคยเกิดขึ้นกัน
รึ?” เนี้ยเว่ย ถามด้วยความเข้มงวด
เมื่อได้ยินค่าของอาวุโสเนี้ยเว่ย ทุก ๆ คนต่างมอง
ไปที่เนี้ยหลี่ ตลอดช่วงระยะเวลาทีผ่ ่านมานี้ พวกเขาได้ผ่าน
ช่วงเวลาที่ยากล่าบาก การถูกกดดันโดยตระกูลศักดิส์ ิทธิ์และ
หลายชนิดของธุรกิจทีไ่ ด้สูญเสียอย่างหนัก ทั้งหมดเหล่านี้
เกี่ยวข้องกับเนี้ยหลีเ่ ช่นนั้นรึ ?
เนี้ยหลีไ่ ม่ได้ปรากฏอารมณ์ใดบนใบหน้าของเขา
ในชีวิตที่แล้วของเขา เนี้ยหลี่กลัวเขามากที่สุด เพียงแค่การเห็น
เขาก็ท่าให้เขากลัว จนกระทั่งผมของเขาตั้งขึ้นแล้ว และพูด
อะไรไม่ออก อย่างไรก็ตามในชีวิตนี้ เขาไม่ได้อยู่ในสายตาของ
เนี้ยหลี่แม้แต่น้อย
เนี่ยให้ได้ช่วยพูดให้เนี่ยหลี,่ ในฐานะที่เขาเป็นหัวหน้าตระกูล
เมื่อเขาได้ยินมาว่าเนี่ยหลี่ได้ไปถึง 1 ดาวทองแดงและเป็นที่
ยอมรับให้เข้าชั้นเรียนระดับอัจฉริยะ เข้าก็มีข้อสงสัย,สิ่งแรก
นั้นท่าใมการบ่มเพาะพลังของเขาถึงได้รวดเร็วยิ่งนักจนข้ามไป
ถึงระดับทองแดง 1 ดาว และอีกข้อท่าใมเขาถึงถูกยอมรับให้
เข้าชั้นเรียนระดับอัจฉริยะ
“ท่านหัวหน้าตระกูล มันเป็นเรื่องจริงที่ข้าได้รุกรานตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์และน่าปัญหามาสู่ตระกูลบันทึกสวรรค์ของพวกเรา
อย่างไรก็ตาม ข้านั้นไม่ได้แก้ไขมันแล้วหรอกหรือ?” เนี้ยหลี่
กล่าว เขานั้นทั้งไม่ประจบสอพลอและท่าตัวเย่อหยิ่ง เขายังคง
แสดงความเคารพต่อเนี้ยไฮ้ หลังจากได้ก่าเนิดใหม่ เขาไม่ได้
เผชิญหน้ากับคนระดับสูงอย่างเนีย้ ไฮ้เช่น คนขี้ขลาดอีกต่อไป
สภาวะจิตใจของเนี้ยหลี่นั้นได้ก้าวสูงกว่าคนเหล่านี้ไปเรียบร้อย
แล้ว
เนี้ยไฮ้และผู้อื่นต่างก็สะดุ้งเล็กน้อย สิ่งนี้ก็เป็นค่าถามที่
แฝงอยุ่ในใจของพวกเขาเช่นกัน สมาคมนักปรุงยาไม่ได้เพียงแต่
ช่วยเหลือตระกูลบันทึกสวรรค์ แต่พยายามให้พวกเขาอยู่ใน
ด้านที่รับผลโยชน์สูงด้วย อย่างไรก็ตาม พวกเขาต่างก็สงสัยว่า
ท่าไมสิ่งที่เก่าแก่และทรงอ่านาจเช่นสมาคมนักปรุงยา จึงได้
พยายามที่จะให้พวกเขาอยู่ในต่าแหน่งที่ได้เปรียบเช่นนี้ ? มัน
ไมค่อยสมเหตุสมผลเท่าใดนัก
เนี้ยไฮ้มองไปยังเนี้ยหลี่ เขารู้สึกอยู่บ้างว่าการที่สมาคม
ปรุงยาได้เข้ามาอุม้ ชูตระกูลบันทึกสวรรค์ต้องมีบางสิ่งบางอย่าง
เกี่ยวกับเนี้ยหลี่ เขาก้มลงหัวลงต่า่ ไปยัง เนี้ยหมิง และพูดว่า
“เนี้ยหมิง จงลุกขึ้นโดยเร็ว ก่อนที่เรื่องนี้จะกระจ่างแจ้ง จะไม่มี
ผู้ใดลงโทษเนีย้ หลีไ่ ด้ แม้ว่า เนี้ยหลี่ได้ท่าการลบหลูต่ ระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์จริง ตระกูลบันทึกสวรรค์ของพวกเราก็ไม่ได้รับความ
สูญเสียอันใด ดังนั้นจึงไม่มผี ู้ใดจะลงโทษเนี้ยหลี่ตามใจชอบ
ได้!”
เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยไฮ้ เนี้ยหมิงแสดงความ
ประหลาดใจออกมา เขายืนขึ้นด้วยความสงสัย‘ท่านผู้น่า
ตระกูลไม่ได้ด่าเนินการอันใดเกีย่ วกับเรื่องนี้?’
เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เขายังคงเต็มไปด้วยความคลุมเครือ
เรื่องทั้งสองนั้นไม่สามารถน่ามาเทียบกันได้ ความ
ขัดแย้งของเนี้ยเสี่ยวหลี่กับคนรุ่นใหม่ของตระกูล เถียนหลิง นั้น
เป็นเพราะผลประโยชน์ของตระกูล ยิ่งไปกว่านั้น ก่าลังของ
ตระกูลเถียนหลิง ก็ไม่สามารถเทียบได้กับตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ!์ ” หน้าของเนี้ยเว่ยได้บึ้งตึง เนี้ยหลีไ่ ด้แหย่ซึ่งหนวด
เสือและกล้าเผชิญหน้ากับเขา แต่สิ่งนี้ท่าให้เขาเศร้าใจเกี่ยวกับ
เรื่องนี้ก็คือ เนี้ยไฮ้ได้ยืนอยู่ข้างเนีย้ หลี่อย่างแท้จริง เขาไม่
สามารถท่าการเผชิญหน้ากับหัวหน้าตระกูลได้
“ท่านอาวุโสไม่ได้ท่าการสืบสวนใด ๆ เลย ท่านรูไ้ ด้
อย่างไรว่าข้านั้นไม่ได้ขัดแย้งกับตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ซึ่ง
ผลประโยชน์ของตระกูล?เพียงแค่เพราะท่านไม่กล้าที่จะ
เผชิญหน้ากับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ ท่านจึงได้จะลงโทษข้า
เพื่อให้มีเหตุผลทีต่ ระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์จะยอมปล่อยพวกเรา
ไป? ถ้าตระกูลบันทึกสวรรค์ไม่สามารถปกป้องได้แม้กระทั่งคน
ของตัวเอง ถ้าเช่นนั้นคงไม่มีเหตุอันใดที่ควรอยู่ในตระกูลนี้อีก
ต่อไป!”เนี้ยหลี่กล่าวพร้อมมองอย่างเย็นชาไปที่เนี้ยเว่ย
ทั่วทั้งห้องโถง ต่างรู้สึกตกใจ
ทุก ๆ คนไม่เคยคาดคิดว่าเนี้ยหลี่จะได้พดู ซึ่งค่าเหล่านั้น
ออกมาได้ ไม่เพียงแต่เถียงกับท่านอาวุโส เนี้ยหลี่ยังหมายถึงว่า
เขานั้นต้องการออกจากตระกูลบันทึกสวรรค์!
แต่ก่อนนั้น ภาพของเนี้ยหลี่ส่าหรับทุกคนต่างเห็นว่าเขา
เป็นคนที่ขี้หวาดกลัว แต่ตอนนี้ เขาได้พูดเช่นนั้นจริง ๆ โดยท่า
ต่อหน้าหัวหน้าตระกูลและเหล่าอาวุโสทั้งหมด
เนี้ยหมิงได้กลัวจนตัวสั่น เขาดุด้วยความจริงจัง“เสี่ยวหลี่
เจ้าก่าลังพูดอะไรอยู?่ รีบไปขอโทษหัวหน้าตระกูลเร็วเข้า!”
“ฮื้ม เจ้าปีกกล้าเสียจนกระทั่งต้องการออกจากตระกูล
จริง ๆ เช่นนั้นรึ? อย่าลืมซะล่ะ มันเป็นเหมือนดั่งที่พักอาศัย
และที่หล่อเลีย้ งที่ท่าให้เจ้าได้เป็นมาเช่นทุกวันนี้!” อาวุโสเนี้ยเว่
ยกล่าวอย่างเย็นชา“เจ้าคนเลวที่ไม่รู้จักบุญคุณ!”
“ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นเป็นตระกูลของพวกเรา ดังนั้นจึงไม่มี
สิ่งผิดอันใดเกี่ยวกับตระกูลบันทึกสวรรค์ที่ได้จดั หาซึ่งที่พัก
อาศัยให้แก่ข้า อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ตระกูลบันทึกสวรรค์ที่ได้
เลี้ยงดูข้า แต่เป็นท่านพ่อท่านแม่ตา่ งหากที่ได้ท่างานหนักอยู่ทุก
วันและปลูกสมุนไพรเพื่อเลี้ยงดูขา้ และพวกเขาก็ได้จ่าย(ส่วย)
ให้แล้วแก่ตระกูลบันทึกสวรรค์ด้วยหยาดเหงื่อของพวกเขา
ดังนั้นพวกเราไม่ได้ติดค้างผู้ใด ข้า เนี้ยหลีไ่ ม่ได้เป็นหนี้บุญคุณ
ใครทั้งสิ้น!” เนี้ยหลีย่ ืดตัวเขาออกและกล่าวปฏิเสธเช่นนั้น
“นี่เป็นการคิดเอาเองที่อุกอาจมาก ๆ!” เนี้ยเว่ยแสดงออกซึ่ง
ความโกรธ(จนหน้าเขียว) เนี้ยเว่ยยังคงต้องการด่าว่าเนีย้ หลีต่ ่อ
อย่างไรก็ตาม เขาถูกหยุดไว้โดยเนีย้ ไฮ้
เนี้ยหมิงดึงเนี้ยหลี่มาอย่างกังวลใจ เขาไม่รู้เลยว่ามีสิ่งใด
ผิดปกติเกี่ยวกับเนี้ยหลี่ เนีย้ หลี่นั้นเป็นคนขี้กลัวเสมอมาใน
เมื่อก่อน แต่วันนี้ เขาก่าลังโต้เถียงกับท่านอาวุโสและหัวหน้า
ตระกูล
เนี้ยไฮ้แว่บมองเล็กน้อยไปที่เนี้ยหลี่ วันนี้เนีย้ หลีไ่ ด้
ถกเถียงอย่างมีเหตุผลท่าให้ตัวเขาต้องมองเนี้ยหลีด่ ้วยมุมมอง
ใหม่ เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับท่านอาวุโสทั้งหลาย เขาไม่ได้
แสดงอาการของความขีต้ ื่นซึ่งเขามักท่าในอดีตแต่อย่างใด เนีย้
ไฮ้ได้ยมิ้ และกล่าวว่า“สิ่งที่เนี้ยหลีพ่ ูดมานั้นถูกต้องแล้ว ตระกูล
บันทึกสวรรค์เป็นของครอบครัวทุก ๆ คน ทุก ๆ คนได้ช่วยกัน
สร้างตระกูลนี้ขึ้นมา ดังนั้น การปกป้องสมาชิกจึงเป็นความ
รับผิดชอบของตระกูล ก่อนที่เรื่องนี้จะกระจ่างชัด จะไม่มีใคร
โดนลงโทษได้!”
เนี้ยเว่ย นั้นไม่เข้าใจเลย มีสิ่งใดผิดไปเกีย่ วกับท่านผู้น่า
ในวันนี้ เนี้ยหลี่ได้กล่าวถ้อยค่าที่ช่างอุกอาจและเนี้ยไฮ้ก็ยังคง
ยืนอยู่ข้างเขาอีก ท่าการปกป้องเนีย้ หลี่ มันหมายถึงอะไรกัน?
เมื่อได้ยินค่าของเนีย้ ไฮ้ ทุก ๆ คนรวมถึงตัว เนี้ยหมิง
ต่างก็พลอยงุนงง พวกเขาคิดในตอนแรกว่าการที่เนี้ยหลี่โต้เถียง
กับท่านอาวุโสเช่นนี้ ถ้าเขาไม่ถูกเฉดหัวส่งออกจากตระกูล เขา
ก็คงหนีไม่พ้นจากการถูกลงโทษเป็นแน่ อย่างไรก็ตาม เนี้ยไฮ้
ไม่ได้คิดอะไรที่เนียหลี่ได้พูดออกมาทั้งหมดนั่นเลย เขายังคง
คอยช่วยเหลือเนีย้ หลี่
เนี้ยเว่ยท่าหน้าบึ้งตึง คิดอยูภ่ ายในในว่า‘ เนี้ยไฮ้’เจ้า
จิ้งจอกเฒ่า มันไม่ถูกต้อง! เนี้ยไฮ้นนั้ ได้โอนอ่อนต่อเนีย้ หลีม่ าก
เกินไปซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย!’
ท่านอาวุโสเนี้ยอิ้งและคณะต่างมองไปที่เนี้ยหลี่ และ
ก่าลังคิดซึ่งบางสิ่ง
หลังจากที่เขาได้ยินค่าพูดของ เนี้ยไฮ้ อารมณ์ของเนี้ยห
ลี่เบิกบานขึ้น ต้องไม่ลมื ว่า เขายังคงมีความผูกพันกับตระกูล
บันทึกสวรรค์ เหตุที่เขากล่าวเช่นนั้นออกมาเป็นเพราะเขาไม่
พอใจกับคนบางกลุ่มของตระกูลบันทึกสวรรค์ แต่เมื่อ หัวหน้า
ตระกูล เนี้ยไฮ้ได้มีความใจกว้างเกีย่ วกับเรื่องนี้ เมื่อนั้นทุก ๆ
สิ่งก็เรียบร้อยดี
“เนี่ยหลี่ เจ้าเพิ่งกลับมาจากโรงเรียนและต้องประสบเรื่องราว
มากมาย ก่อนอื่นเลย เจ้าจงกลับไปบ้านและพักผ่อนก่อน
พรุ่งนี้ปู่คนนี้จะเป็นคนทดสอบเจ้าและดูว่าการบ่มเพาะพลัง
ของเจ้าได้ก้าวหน้าไปเพียงไรแล้ว”เนี้ยไฮ้ลุกขึ้นและยืดตัวออก
พร้อมกับกล่าวเช่นนั้น
ในตอนนี้ ทุก ๆ คนต่างตกใจ ไม่เพียงแต่ท่านผู้น่า เนีย้
ไฮ้ จะไม่ลงโทษต่อความผิดของเนี้ยหลี่ เขายังท่าแม้กระทั่งดึง
ตัวเขาเองให้สนิทกับเนีย้ หลีม่ ากขึน้
เมื่อได้ยินค่ากล่าวของเนี้ยไฮ้ เนี้ยหมิงไม่สามารถกลั้น
ความรูส้ ึกสะเทือนอารมณ์เช่นนี้ไว้ได้ ท่านหัวหน้าตระกูล เนี้ย
ไฮ้ ต้องการทดสอบการเติบโตในการบ่มเพาะพลังของเนี้ยหลี่
ด้วยตัวของเขาเองจริง ๆ นี่มันถือเป็นเกียรติอย่างสูง! ต้องไม่
ลืมว่า เนี้ยหลีไ่ ม่ได้เป็นผู้สบื สายเลือดของ เนี้ยไฮ้ ดังนั้น เนีย้ ไฮ้
ไม่ได้ก่าลังปฏิบัติกับเนี้ยหลี่อย่างดีมากเกินไปหน่อยหรือ?
ทุก ๆ คนต่างมองหน้ากัน แต่ยังไม่สามารถหาค่าตอบว่า
มันเกิดอะไรขึ้นได้
หลังจากได้ยินค่าพูดของ เนีย้ ไฮ้ เนี้ยหลี่ก็เข้าใจ เนี้ยไฮ้
น่าจะตระหนักถึงบางสิ่งได้ ต้องไม่ลืมว่า เนี้ยไฮ้นั้นเป็นร่างทรง
อสูรระดับทอง ดังนั้นเขาอาจจะสัมผัสถึงพลังงานของจิตอสูรที่
อยู่ภายในตัวเขาได้ และหลังจากเนี้ยหลีไ่ ด้พูดเกี่ยวกับเรื่อง
สมาคมปรุงยา เขาก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะเชื่อมโยงถึงพวกมัน
ต้องเป็นเช่นนั้นเป็นแน่ เนีย้ หลี่ไม่ตั้งใจที่จะซ่อนสิ่ง
เหล่านั้นอีกต่อไป แต่ว่ามันไม่ใช่เพื่อตัวของเขาเองเอง เขาต้อง
สู่เพื่อผลประโยชน์ของครอบครัวเขา รวมถึงท่านลุงและท่านน้า
เมื่อพวกเขาถูกท่าให้ตกใจได้ไม่นาน สมาชิกคนหนึ่งของ
ตระกูลได้วิ่งเข้ามาและพูดกับเนี้ยไฮ้ว่า“ท่านหัวหน้าตระกูล
ผู้อ่านวยการหยางแห่งสมาคมปรุงยาได้มายังที่แห่งนี”้
“ผู้อ่านวยการหยาง?” ไม่ว่าทั้งเนีย้ อิ้ง เนี้ยเว่ย หรือ เนี้ยไฮ้
พวกเขาทั้งหมดต่างแสดงอาการประหลาดใจออกมา
พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าผู้อา่ นวยการหยางของสมาคม
ปรุงยาจะมาเป็นการส่วนตัวและท่าการเยีย่ มเยียนตระกูล
บันทึกสวรรค์ในยามค่่าคืนเช่นนี้ พวกเขามีการติดต่อเป็น
จ่านวนมากกับสมาคมปรุงยา เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะรู้
เกี่ยวกับสถานะของผู้อ่านวยการหยางภายในสมาคมปรุงยา
เธอเป็นคนที่มีอ่านาจอย่างมากในสมาคมปรุงยานอกจากท่าน
ประธานกู้เหยียนและท่านอาวุโส
ผู้อ่านวยการหยางคนนี้ เพียงแค่ค่าพูดธรรมดาไม่
มีกี่ค่าของเธอก็สามารถท่าลายล้างตระกูลขุนนางหนึ่งลงได้
และในเวลาเดียวกัน มันก็สามารถน่าตระกูลขุนนางไปสู่ความ
มั่งคั่งได้เช่นกัน ในเวลานี้ ขณะที่ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ก่าลัง
กดดันตระกูลบันทึกสวรรค์อยู่ เป็นเหตุให้พวกเขาตกอยู่ใน
สถานการณ์ยากล่าบาก แต่ผู้อ่านวยการหยางเป็นผู้หนึ่งที่ได้มา
ช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้น
สมาคมปรุงยานั้นเป็นสมาคมที่ด่ารงอยู่และเทียบได้กับ
ตระกูลหลักทั้งสาม อิทธิพลของสมาคมปรุงยาในเมืองกลอรี่นั้น
มีมากยิ่งกว่าตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์และตระกูลปราชญ์วเิ ศษเสีย
อีก เป็นรองก็เพียงแค่ตระกูลหิมะเหมันต์ ที่มีร่างทรงอสูรระดับ
ต่านานและจ้าวเมืองของเมืองกลอรี่ ดังนั้นการพบกับ
ผู้อ่านวยการหยางเช่นนี้ท่าให้เนี้ยไฮ้ต้องแสดงเคารพต่อเธอเป็น
อย่างยิ่ง
บทที่ 60 – กลับกลาย
เมื่อได้ยินข่าวการมาของผู้อ่านวยการหยางทุก ๆ คนต่างเข้าสู่
ความสับสนและถูกกดดันด้วยข่าวเรื่องนี้
"รีบเร็วเข้าและไปจัดขบวนต้อนรับเดีย๋ วนี้!พวกเราจะ
พบเธอที่ห้องโถงหลัก" เนี้ยไฮ้สั่งด้วยความรีบเร่งบุคคลที่ทรง
อิทธิพลเช่นเธอนั้น พวกเขาไม่กล้าที่จะเพิกเฉยได้เพียงแต่เมื่อ
ทุกคนได้จัดขบวนและพิธตี ้อนรับเสร็จแล้วก็มผี ู้หนึ่งที่ได้เดินน่า
ทุกคนมา ซึ่งก็คือผู้อ่านวยการหยางเธอนั้นมีทรวดทรงที่โค้งมน
และยั่วยวนใจยิ่งนัก แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงแต่กไ็ ม่มีผู้ใดใน
ตระกูลบันทึกสวรรค์ที่ถูกยั่วยวนโดยเธอ พวกเขาไม่เคยลืมว่า
เธอยังคงเป็นผู้ที่ทรงอิทธิพลมาก(จนน่ากลัว)คนหนึ่งเลยทีเดียว
ผู้อ่านวยการหยางได้ก้าวอย่างเร็วเมื่อเธอเข้ามาภายในสายตา
ของเธอกวาดผ่านไปยังทุก ๆ คนและไปตกอยู่ที่เนี้ยหลี่และเธอ
ก็รู้สึกโล่งใจโดยลูกน้องของเธอได้คอยเฝ้าดูพื้นที่ของตระกูล
บันทึกสวรรค์อยู่และเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตระกูลนี้ไม่สามารถ
รอดพ้นสายตาของลูกน้องเธอไปได้เมื่อเธอได้ยินข่าวว่าเนี้ยหลี่
ได้กลับมายังตระกูลบันทึกสวรรค์เธอก็ได้เตรียมตัวทันที่เพื่อจะ
มาปรึกษาถึงบางสิ่งกับเขาก่อนหน้านี้เธอตั้งใจจะมาในเช้าของ
วันพรุ่งนี้แต่เมื่อเธอได้ยินข่าวเกีย่ วกับการโจมตีของพวกแฝงตัว
จากสมาคมทมิฬเธอก็รีบมาอย่างรวดเร็วในค่่าคืนทีล่ ่วงเลยไป
มากแล้วเช่นนี้
"รีบเอาน้่าชามาให้ผู้อ่านวยการหยางโดยเร็ว!"เนี้ยไฮ้สั่ง
ไปยังพวกแม่บ้านด้วยความรีบเร่ง
"ไม่จ่าเป็นหรอก"ผู้อ่านวยการหยางกล่าวพร้อมกับส่าย
ศีรษะของเธอไปมาวัตถุประสงค์ของเธอในการมาที่แห่งนี้ก็คือ
ท่าให้มั่นใจในความปลอดภัยของเนี้ยหลีไ่ ม่ใช่เพียงการมาจิบชา
ในที่แห่งนี้ ตาของเธอประสานเข้ากับเนี้ยหลี่และสื่อสารเป็นนัย
กับเขาผ่านทางการสบตา
ภาพเหล่านี้ล้วนอยู่ในสายตาของเนี้ยไฮ้และทันใดนั้นเขาก็
เข้าใจภาพรวมทั้งหมดได้มันดูเหมือนว่าเนี่ยหลี่นั้นได้มีสาย
สัมพันธ์เชื่อมโยงกับสมาคมปรุงยาซึ่งบางสิ่งอย่างไรก็ตามสิ่งที่
เขานึกไม่ออกก็คือท่าไมสมาคมปรุงยาต้องให้ความส่าคัญ
กับเนี้ยหลีม่ ากถึงเพียงนี้กัน?
ผู้อ่านวยการหยางได้นิ่งไปชั่วครู่ยมิ้ เล็กน้อยไปยังเนี้ยไฮ้และ
พวกของเขาและกล่าวว่า "ท่านหัวหน้าตระกูลเนีย้ ไฮ้ข้าได้ข่าว
มาว่าท่านตกอยู่ใต้การโจมตีของพวกสมาคมทมิฬ"
"ข้านั้นกลัวว่าพวกสมาคมทมิฬนั่นจะหวนกลับมา
ท่างานของพวกมันให้เสร็จอีกครั้งข้าจึงเป็นกังวลในความ
ปลอดภัยของตระกูลบันทึกสวรรค์ดังนั้นข้าจึงมีความประสงค์
จะส่งนักต่อสู้และร่างทรงอสูรระดับทองมายังที่แห่งนี้เพื่อคอย
คุ้มกันให้แก่ตระกูลบันทึกสวรรค์ท่านนั้นมีความเห็นใดกับเรื่อง
นี?้ " หยางซินพูดแม้ว่าเธอพูดว่าเพือ่ ปกป้องตระกูลบันทึก
สวรรค์แต่ความจริงแล้วคนทีเ่ ธอต้องการปกป้องนั้นคือเนี้ยหลี่
เพียงคนเดียว
"ท่านต้องการส่งนักต่อสู้และร่างทรงอสูรระดับทองมา
หรือ?" เนี้ยไฮ้ประหลาดใจเกี่ยวกับค่าพูดเหล่านั้นความสงสัยใน
ใจเขานั้นเริ่มจะมากและมากขึ้นเรือ่ ย ๆวิธีการใดที่เนี้ยหลีไ่ ด้ใช้
เพื่อให้สมาคมปรุงยาเข้ามาช่วยเหลือพวกเขามากถึงเพียง
นี?้ ไม่เพียงแต่พวกเขาเต็มใจจ่ายโดยให้ราคาสูงซึ่งสมุนไพรที่
เก็บเกี่ยวมาได้ของตระกูลบันทึกสวรรค์และพวกเขายังส่งนัก
ต่อสู้และร่างทรงอสูรระดับทองหลายคนมาช่วยเหลือพวกเขา
อีก
"ข้าไม่คิดว่าสิ่งนี้นั้นถูกต้อง !" อาวุโส เนี้ยเว่ย ที่อยู่ใกล้
ๆ กล่าวขึ้น เขาขมวดคิ้วและคิดว่า 'อะไรเป็นสิ่งจูงใจที่ท่าให้
สมาคมปรุงยาต้องส่งนักต่อสู้และร่างทรงอสูรระดับทองมายังที่
แห่งนี'้
"ชักจะมากเกินไปแล้ว ! เจ้าเป็นใครถึงมาอธิบาย
เกี่ยวกับพฤติกรรมเลวทรามของผูค้ นได้!"เนี้ยเว่ยดุด่าด้วยความ
โกรธ เนี้ยหลี่ได้ท่าเรื่องอุกอาจมากเกินไปเสียแล้วเขา
จ่าเป็นต้องสวนกลับไปต่อหน้าทุก ๆ คนเช่นนี้
เนี้ยหมิงดึงเสื้อของเนี้ยหลีเ่ ข้ามาอย่างเป็นกังวลการรุกรานท่าน
อาวุโสเช่นนี้ สถานการณ์กลับยิ่งแย่ลงไปอีกด้วยสถานะของ
ครอบครัวพวกเขาในตอนนีม้ ันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะท่า
ต่อต้านกับท่านอาวุโสเนี้ยเว่ยได้ถา้ ท่านอาวุโสเนีย้ เว่ยไม่ได้ท่า
สิ่งใดกับเนี้ยหลี่ในวันนี้ใครจะรู้ว่าเขาอาจท่าการแก้แค้น
ภายหลังในวันหนึ่งข้างหน้า
เมื่อเห็นเนีย้ เว่ยท่าการดุดา่ เนี้ยหลีห่ ยางซินก็เข้าใจ ดูเหมือนกับ
ว่าเนี้ยหลีย่ ังไม่ได้บอกทุก ๆ สิ่งกับตระกูลของเขาความสัมพันธ์
ของเนี้ยเว่ยกับเนี้ยหลี่นี้ไม่ลงรอยกันอย่างมาก หยางซินค่อย ๆ
หรี่ตาของเธอลง ความส่าคัญของเนี้ยหลี่นั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่า
สูงเพียงใดดังนั้นเธอจะคอยสนับสนุนเนี้ยหลี่
"ท่านผู้น่าตระกูลเนี้ยไฮ้ขา้ ตระหนักได้ว่ามีบางคนในที่
แห่งนี้ที่มีความคิดซึ่งบางสิ่งต่อสมาคมนักปรุงยานั่นหมายถึง
สมาคมปรุงยาไม่จ่าเป็นต้องร่วมมือกับตระกูลบันทึกสวรรค์อีก
ต่อไปเช่นนั้นหรือ?" หยางซิน พ่นลมหายใจของเธอและใบหน้า
เธอก็ดูเย็นชา หลังจากทีม่ ีอ่านาจมาอย่างยาวนานการ
แสดงออกซึ่งสีหน้าของเธอนั้นสามารถเปลีย่ นไปได้ไม่ว่า
เมื่อไหร่ที่เธอต้องการโดยตอนนี้แม้กระทั้งบรรยากาศรอบตัวก็
ดูหนาวเหน็บตามไปด้วย
เนี้ยเว่ยรีบอธิบายโดยเร็ว "ผู้อ่านวยการหยาง ข้าไม่ได้
หมายความเช่นนั้น..."เขานั้นไม่กล้าลบหลู่กับสมาคมปรุงยาเขา
เพียงแค่รู้สึกว่าการที่สมาคมปรุงยาได้ส่งนักต่อสู้และร่างทรง
อสูรระดับทองมากมายมายังที่แห่งนี้ค่อนข้างจะแปลกไปซัก
หน่อยดังนั้นเขาจึงพูดออกไปเพื่อเตือนเนี้ยไฮ้อย่างไรก็ตาม
หลังจากถูกตอกกลับมาจากเนี้ยหลี่เช่นนี้ท่าให้เรื่องทั้งหมดนั้น
เปลี่ยนไปถ้าสมาคมปรุงยาได้ปฏิเสธการร่วมมือกับตระกูล
บันทึกสวรรค์ด้วยเรื่องนี้แล้วเขาจะต้องกลายเป็นดั่งผู้ท่าเรื่อง
เลวทรามภายในตระกูลเป็นแน่ ภายในใจเขานั้นเขาสาปแช่ง
เนี้ยหลีไ่ ม่สิ้นสุดที่ปากโพล่งออกมาให้สถานการณ์กลับ
กลายเป็นเช่นนี้อย่างไรก็ตามการที่เนี้ยไฮ้ยังชื่นชมเนี้ยหลี่เป็น
เหตุให้เขารู้สึกหดหู่อีกเช่นกัน
หลังจากได้รู้ถึงความสัมพันธ์ของสมาคมปรุงยากับเนี้ยหลี่แล้ว
เนี้ยไฮ้นั้นจะกล้าลงโทษเนี้ยหลี่ได้เช่นไร?
หลังจากเธอได้กวาดสายตาไปยังเนี้ยเว่ยแล้วหยางซินพ่นลม
หายใจออกและกล่าวว่า "ข้านั้นก่าลังพูดกับท่านผู้น่าตระกูล
เนี้ยไฮ้ท่าไมเจ้าถึงได้เข้ามาสอด?"
เมื่อได้ยินค่าพูดของหยางซินเนี้ยเว่ยอ้าปากเขาออก หน้าของ
เขาเปลีย่ นเป็นสีแดงแม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกชอบขี้หน้าหยางซิน เขา
ก็ไม่ได้พูดสิ่งใด ต้องไม่ลืมว่าเพียงค่าเดียวของหยางซินนั้น
สามารถจะตัดสินชะตาของตระกูลบันทึกสวรรค์ได้เขาจะกล้า
รีบเร่งได้อย่างไร? การที่เป็นถึงผู้อาวุโสของตระกูลแห่งขุนนาง
ก่าลังถูกต่าหนิโดยผู้หญิงอายุราว ๆ20 ถึง30 ปีและไม่สามารถ
พูดสิ่งใดสวนกลับไปได้ใครก็รู้ว่ามันช่างเป็นเรื่องที่ต้องทนขมขื่น
เพียงใด
"ข้าคาดว่านี่คงเป็นท่านอาวุโสหลักของตระกูล
เนี้ย ?" หยางซินได้มองไปทางเนีย้ ไฮ้และถามขึ้น
เมื่อได้ยินค่าพูดของเธอที่มีน้่าเสียงแฝงไว้บ้างซึ่งความโกรธ
อย่างเย็นชาเนี้ยไฮ้กล่าวอย่างรูส้ ึกอับอายว่า "ถูกต้องแล้วท่าน
ค่าของท่านอาวุโสนั้นไม่ได้หมายถึงต้องการลบหลู่
ผู้อ่านวยการหยางหรอกข้าหวังว่าผู้อ่านวยการหยางสามารถให้
อภัยเขาได้" เนี้ยไฮ้ขยิบตาไปยังเนีย้ หลี่เขาต้องการให้เนี้ยหลี่
ช่วยจัดการกับความโกรธของหยางซิน อย่างไรก็ตามเนี้ยหลี่ได้
หันศรีษะไปทางอื่นโดยไม่สนใจผู้นา่ ตระกูลอย่างเขา
การลดซึ่งศักดิ์ศรีต่อหน้าหยางซินนั้นไม่เป็นไรแต่เมื่อเขาต้อง
เผชิญหน้ากับคนในตระกูลของเขา เขาก็ยังช่วยไม่ได้อย่างไรก็
ตามเขาท่าได้เพียงแค่ยิ้มเจื่อน ๆออกมาเขาสังเกตได้ชัดถึง
เหตุผลที่หยางซินท่าไมถึงได้ร่วมมือกับตระกูลบันทึกสวรรค์
ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเพราะเนี้ยหลี่
"ข้าเสนอว่าให้คนผู้นลี้ าออกถ้าคนแบบนี้ยังคงอยู่ใน
ต่าแหน่งของอาวุโสหลักภายในตระกูลบันทึกสวรรค์เมื่อนั้น
สมาคมปรุงยาจะหยุดความร่วมมือทั้งหลายกับตระกูลบันทึก
สวรรค์"หยางซินพูดเบา ๆ
เนี้ยไฮ้สดู ลมหายใจลึกสิ่งที่เธอหมายถึงคือต้องการให้ก่าจัด เนีย้
เว่ยออกจากต่าแหน่งผู้อาวุโสหลักสมาคมปรุงยาในตอนนีไ้ ด้ถือ
ชะตาของตระกูลบันทึกสวรรค์เอาไว้ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าท่าอะไร
ผลีผลาม สมาคมปรุงยาไม่ใช่สิ่งที่จะเล่นด้วยได้ถ้าพวกเขาหยุด
การค้าขายกับตระกูลบันทึกสวรรค์แล้วจะมีครอบครัวจ่านวน
นับไม่ถ้วนข้างนอกนั้นที่จะถือโอกาสล้มล้างตระกูลบันทึก
สวรรค์
"นับแต่นี้เป็นต้นไปเนี้ยเว่ยนั้นไม่ได้เป็นผู้อาวุโสหลัก
และผู้อาวุโสบังคับกฎของตระกูลบันทึกสวรรค์อีกต่อไป
ต่าแหน่งของเขานั้นจะถูกยกให้แก่ท่านอาวุโส เนี้ยอิ้ง!"เนี้ยไฮ้
ประกาศอย่างเป็นทางการ
เนี้ยเว่ยอ้าปากของเขาต้องการพูดบางสิ่ง อย่างไรก็ตาม เขาได้
มองไปทางหยางซินและพรรคพวกของเธอเขาเข้าใจดีว่าไม่มี
ห้องให้ถกเถียงส่าหรับเรื่องนี้อีกแล้วเขาสามารถท่าได้เพียงแต่
กล้่ากลืนสิ่งที่เขาต้องการพูดเนี้ยเสี่ยวเฟิ่งและเนี้ยเสี่ยวหลี่ต่างมี
หน้าเป็นสีม่วงเหมือนไข่เน่าเหตุที่เขาสามารถท่ากร่างในตระกูล
บันทึกสวรรค์ได้เป็นเพราะปู่ของพวกเขาคือผู้อาวุโสหลัก
การที่สามารถก่าจัดต่าแหน่งของผูอ้ าวุโสหลักในตระกูลบันทึก
สวรรค์ออกไปได้นี่คือพลังมหาศาลของสมาคมปรุงยา
เนี้ยไฮ้ยังคงประกาศต่อไป "นอกจากนี้ เนี้ยหมิงจะรับต่าแหน่ง
ดูควบคุมค่าใช้จ่ายห้องโถงส่วนกลางและเนี้ยไค่จะรับต่าแหน่ง
ควบคุมห้องโถงการเกษตร!"
เมื่อได้ยินค่าของเนี้ยไฮ้เนี้ยหมิงและเนี้ยไค่ทั้งสองต่างงุนงงพวก
เขามองไปที่เนี้ยไฮ้ด้วยความรูส้ ึกไม่อยากเชื่อพวกเขาไม่ได้รู้สึก
เช่นนี้เพียงพวกเดียว พวกที่เหลือของตระกูลต่างรู้สึกตกใจ
ต่าแหน่งผู้ควบคุมยุ้งฉางกลางและ ต่าแหน่งผู้ควบคุมยุ้งฉาง
การเกษตรต่าแหน่งทั้งสองในตระกูลบันทึกสวรรค์นี้ หนึ่งนั้น
เป็นผู้ควบคุมการเงินและอีกต่าแหน่งนั้นเป็นควบคุมสมุนไพรที่
เก็บเกี่ยวได้และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่น ๆที่เกีย่ วข้อง โดย
ปกติแล้วมันเป็นต่าแหน่งของลูกชายเนี้ยเว่ย ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย
ให้ควบคุมอยู่
"ขอบคุณครับท่านหัวหน้าตระกูล"เนี้ยหมิงและเนี้ยไค่
ต่างคุกเขาด้วยความซาบซึ้งและพูดขึ้น
เมื่อเห็นพ่อและลุงของเขาคุกเข่าลงเนี้ยหลี่ช่วยไม่ได้ที่จะขมวด
คิ้วของเขา
เนี้ยไฮ้รีบส่ายมือของเขาทันทีเมื่อเขาเห็นท่าทีของเนี้ยหลี่ "ไม่
จ่าเป็นต้องมีพิธีรตี อง นับจากวันนี้ไปพวกเจ้าทั้งสองไม่
จ่าเป็นต้องคุกเข่าต่อหน้าข้าอีกต่อไป"
เนี้ยหมิงและ เนี้ยไค่ทั้งสองต่างยืนขึ้นด้วยความสับสนว่าเกิด
อะไรขึ้นกันแน่
เนี่ยเว่ยเนีย้ อิ้งและพวกที่เหลือดูเหมือนว่าจะปะติดปะต่อ
เรื่องราวได้ตาของเนี้ยอิ้งส่องประกายยินดียิ่งในขณะที่เนี้ยเว่ย
เต็มไปด้วยความขุ่นมัว
ในเมื่อทางสมาคมนักปรุงยาเต็มใจที่จะส่งผู้คนมาเพื่อช่วย
ปกป้องตระกูลบันทึกสวรรค์ของพวกเราพวกเรานั้นรู้สึกยินดี
เป็นอย่างยิ่งส่าหรับเรื่องนี้ แน่นอนเลย!เนีย้ ไฮ้สามารถมองออก
ว่าการที่สมาคมปรุงยาได้ท่าการส่งผู้คนมาเช่นนี้เป็นเพราะว่า
ต้องการปกป้องเนี้ยหลี่ความสับสนภายในใจเขาเริ่มก่อตัวหนา
มากขึ้นเมื่อเขายิ่งคิดท่าไมสมาคมปรุงยาถึงได้อุ้มชูเนีย้ หลีด่ ้วย
ความส่าคัญเช่นนี?้ เขาตัดสินใจทีจ่ ะถามเนีย้ หลี่หลังจากหยางซิ
นจากไปแล้ว
"มันเป็นค่่าคื่นที่ล่วงเลยมานานแล้วข้านั้นคงไม่รบกวน
ท่านอีกต่อไป" หยางซินได้มองไปทางเนี้ยหลี่และพูดว่า "ทุก ๆ
คนพักผ่อนให้สบาย ข้าจะมาเยี่ยมอีกครั้งในระหว่างวันของวัน
พรุ่งนี้ "
"มันเป็นเรื่องยากส่าหรับผู้อ่านวยการหยางหรือไม่ที่จะ
ออกไปและกลับมาท่าไมท่านไม่พกั ค้างคืนที่ตระกูลบันทึก
สวรรค์ของข้านี้ล่ะ? ข้านั้นได้ให้บางคนไปเตรียมไว้ซึ่งบ้านพัก
อันแสนงดงามเพื่อเปิดให้แก่ท่านแล้ว"เนี้ยไฮ้รีบพูดอย่าง
รวดเร็ว พยายามท่าให้เธอรู้สึกดี
หยางซินได้นิ่งเงียบไปชั่วครู่คดิ อยูพ่ ักนึกและกล่าวว่า "ตกลง
ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วล่ะก์!"
ในเมื่อเธอจะมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้เพื่อพูดคุยกับเนี้ยหลี่ ท่าไม
ถึงไม่พักที่แห่งนี้เสียเลย
"เนี้ยหลี่จงน่าผู้อ่านวยการหยางไปยังที่พักของเธอให้
เธอพักผ่อน"เนี้ยไฮ้พูดกับเนีย้ หลี่ "ข้าจะให้บางคนจัดเตรียม
บ้านพักข้าง ๆผู้อ่านวยการหยางเปิดให้เจ้าเข้าพัก"
"ครับ"เนี้ยหลี่ก้มหัวเล็กน้อย
หยางซินมองไปทางเนี้ยไฮ้และคิดว่าเนี้ยไฮ้นั้นได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว
เธอต้องการมาเพียงเพื่อพูดคุยกับเนี้ยหลี่
หลังจากท่าการร่่าลาเนี้ยหมิงและ เนี้ยไค่เนี้ยหลี่ได้น่า
ผู้อ่านวยการหยางไปที่บ้านพักที่เนี้ยไฮ้ได้จัดเตรียมไว้
เมื่อท่าการมองดูทดี่ ้านหลังของเนีย้ หลี่เนีย้ หมิงและเนี้ยไค่ทั้ง
สองต่างเข้าใจ เนี้ยไฮ้ ได้ถอดเนีย้ เว่ยออกจากต่าแหน่งยกมัน
ให้แก่ท่านอาวุโสเนี้ยอิ้ง และให้ต่าแหน่งที่ส่าคัญแก่พวกเขา
ทุกๆ อย่างต้องมีบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเนี้ยหลี่พวกเขาตระหนัก
ได้ว่าความเข้าใจของพวกเขาต่อเนีย้ หลี่นั้นมีเพียงน้อยนิด ใน
เวลานี้เมื่อเนี้ยหลี่กลับมาเขาได้เปลี่ยนไปราวฟ้ากับดินเลย
ทีเดียวโดยการเปลี่ยนไปอย่างมากของเนี้ยหลี่นี้เนี้ยหมิงและ
เนี้ยไค่ล้วนยินดีเป็นอย่างยิ่ง
บทที่ 61 - ่วยวน
ย้
ด้านในคฤหาสถ์ของหยาง ซิน
“เธอมีความแค้นอะไรกับพวกมันกันหรือ?” หยาง
ซิน ได้ยดื เอวของเธอขึ้นอีก แล้วนั่งไปบนเก้าอีและถามเช่นนั้น
ถ้ามันเป็นเพียงความแค้นปกติ เธอก็ไม่จ่าเป็นต้องกังวลมาก
เกินไป เพราะในสถานการณ์ปกติสมาคมทมิฬจะไม่เสี่ยงที่จะส่ง
ผู้เชี่ยวชาญระดับทองเข้ามาในเมืองกลอรี่หรอกซึ่งถ้ามันส่งแค่
ระดับซิลเวอร์มาจับตัวเนี่ย หลี่การใช้ร่างทรงอสูรระดับ
โกลด์ 1 หรือ 2 คน ก็สามารถปกป้องเนี่ยหลีไ่ ด้สบาย
"ข้านั้นไม่ได้มีความแค้นใด ๆ กับสมาคมทมิฬ" เนี่ย
หลี่พูดในเหตุการณ์ที่เมืองกล้วยไม้โบราณ เนี่ยหลี่ ก็ไม่ได้เห็น
หน้าของ หยุนหัว ดิคอน ซึ่งมันไม่รู้จักเนี่ยหลี่ด้วยซ้่า ดังนั้น
หยุนหัว ดิคอน คงจะไม่เสี่ยงมาฆ่าเนี่ย หลี่ เองถึงในตระกลู
บันทึกสวรรค์หรอก มีความเป็นไปได้อย่างเดียวคือ การโจมตี
ครั้งนี้มีสาเหตุมาจากตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์เนี่ย หลี่ จึงพูดขึ้น
ว่า “หากมีใครที่คิดจะฆ่าข้าก็คงจะเป็นตระกลูเทพศักดิส์ ิทธิ์”
เมื่อได้ยินค่าของเนี้ยหลี่เช่นนั้น รอยของแสงเย็นเฉียบปรากฏ
ฉับพลันในดวงตาแสนสวยคู่นั้นของหยางซิ่น หากเป็นเช่นนั้น
หมายความว่าตระกลูเทพศักดิ์สิทธิ์ร่วมมือกับสมาคมทมิฬ
เช่นนั้นรึ สมาคมทมิฬเป็นศัตรูของเมืองกลอรี่หากสมรู้ร่วมคิด
กับมันแล้วถือเป็นความผิดร้ายแรงยิ่ง
"ข้าจะเป็นผู้ที่ท่าการสืบสวนเรื่องนี้ ถ้าสมาคมทมิฬ
ได้เข้าร่วมกับตระกูลศักดิ์จริง เมื่อนั้นท่านจ้าวเมืองต้องไม่
ปล่อยพวกมันไปง่าย ๆ เป็นแน่!"หยางซิ่น พูดด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว
และแน่วแน่ ค่าพูดของเธอปรากฏปรากฏน้่าเสียงเยือกเย็นอยู่
การทรยศต่อเมืองกลอรี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถให้อภัยได้เลย
“ครั้งนี้หนึ่งในพวกมันสามารถหนีไปได้ สมาชิกนัก
ฆ่าของมันคนหนึ่งเรียกเขาว่าหยุนหัว ดิคอน ข้าจะวาด
ภาพเหมือนของเขาให้” เนี่ย หลี่ พูดพร้อมหยิบกระดาษจาก
ชั้นหนังสือมาวาด ภายในการตวัดปลายพู่กันไม่กี่ครั้งก็มรี ูปภาพ
บุคคลผู้หนึ่งปรากฏขึ้น ซึ่งบุคคลในรูปภาพนั้นมีลักษณะ
เหมือนกับ หยุนหัว ดิคอน
แม้แต่ทักษะการวาดรูปของเขาก็เทียบได้กับผู้เชียวชาญนี่เค้า
เป็นแค่เด็กจริงๆหรือหยาง ซิน รูส้ กึ ประหลาดใจทักษะการวาด
ภาพเหมือนที่จะวาดภาพเช่นนี้ออกมาได้ถ้ามิได้ฝึกฝนซึ่งเวลา
หลาย ๆ ปีแล้ว เป็นไปไม่ได้เลย ที่จะบรรลุไปถึงระดับนี้
ภาพวาดนั้นช่วยให้จิตใจสงบได้ซึ่งมันจ่าเป็นต่อการบ่มเพาะ
พลัง เนี่ย หลี เขานั้นได้ใช้เวลาหลายทศวรรษในภพที่แล้วของ
เขาในการวาดภาพ ซึ่งทักษะการวาดภาพของเขานั้นเรียกว่าได้
อยู่ในจุดสูงสุดแล้ว
“เรียบร้อยแล้ว" เนี่ย หลี่ ส่งภาพที่เสร็จ
สมบูรณ์ไปให้ หยาง ซิน
"อืม"หยางซิ่นได้มองเป็นยังภาพวาด และก้มหัวเธอ
ลงต่่าเพื่อมองมัน เธอไม่สามารถ อดรู้สึกแปลกใจได้เลยในลาย
พู่กันที่ช่าชองของเนี้ยหลี่ เธอเต็มไปด้วยความสงสัยเกี่ยวกับ
ความลับอื่นที่อาจมีอยู่ภายในตัวของเนี้ยหลี่ และสงสัยว่ามี
อะไรอีกหรือไม่ทเี่ ธอไม่ได้ระวังตัวเกี่ยวกับเด็กรุ่นเยาว์ผู้นี้
ดังผู้หนึ่งที่ได้ประสบมาแล้วถึงสองภพ ความแน่วแน่ของเนี้ยหลี่
นั้นช่างน่าตกใจยิ่ง
เมื่อเธอดูภาพนั้นแล้วก็เงยหน้ามองดู เนี่ย หลี่ ก็สังเกตเห็นว่า
ใบหน้าของหนุ่มน้อยนั้นได้แดงขึ้นเล็กน้อยทันใดนั้นเธอก็ฉุกคิด
ขึ้นซึ่งบางสิ่งบางและอดรู้สึกขบขันไม่ได้ เนี่ย หลี่ นั้นเป็น
อัจฉริยะทีไ่ ม่ธรรมดา เป็นไปได้หรือไม่ว่าความรู้ของเขาต่อเรื่อง
..เหล่านี้กเ็ รียนรู้ได้เร็วกว่าผู้อื่นเช่นกัน ? เด็กที่ถึงความเป็น
ผู้ใหญ่ก่อนก่าหนดนี้ได้เรียนรู้ซึ่งเรือ่ งราวของผู้ใหญ่ไปเรียบร้อย
แล้วหรือ?
มีข่าวลือมาว่า หยางซิ่นนั้นเจ้าชู้และได้ใช้เรือนร่างของเธอ
เพื่อให้ได้มาซึ่งต่าแหน่งแต่ความจริงแล้วถึงแม้ว่าเธอจะชอบ
การแต่งตัวยั่วยวน แต่เธอก็ยังโสดและไม่มผี ู้ใดมีโอกาสที่จะ
ผ่านก่าแพงกั้นของเธอเข้ามาได้ นัน้ เป็นเพราะว่าเธอนั้นไม่ได้
มองผู้ใดอยู่ในสายตาเธอ ซึ่งสถานะของเธอนั้นสูงยิ่ง ผู้ชาย
ส่วนมากที่เข้ามาหวังจะได้รับการตอบรับจากเธอต่างถูกท่าให้
ต้องถอยห่างออกไป แม้กระนั้น หยางซินมักจะผ่อนคลาย ตัว
เธอเองในเวลาค่่าคืนทีล่ ่วงเลยไปแล้วแต่เพียงผู้เดียว สิ่งนี้นั้น
ดีกว่าการปล่อยให้พวกหมูสกปรกเหล่านั้นท่าให้เธอไปถึงบน
ยอดเขา **
แต่ความจริงคือ หยางซิน นั้นเป็นผู้หญิงที่มีเสน่หม์ าก แม้ว่า
เนี่ย หลี่จะเห็นเรือนร่างของเธอว่าน่าหลงใหลเพียงใด แต่เธอ
เองก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะในมุมมองของเธอแล้ว เนี่ย หลี่นั้นก็เป็น
แค่เด็กที่ถึงวัยอันควรก่อนก่าหนดตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ดังนั้นมัน
จะเสียหายอะไร? การได้เย้าแหย่เนี้ยหลี่เป็นความตื่นเต้นอย่าง
หนึ่งในสถานการณ์เช่นนี้
มือขวาของเนี้ยหลี่นั้นได้สมั ผัสกับความกลมกลึงของเนื้อเนินที่
นุ่มนวล และที่ยอดปทุมถันนั้น เขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก คิด
ภายในใจว่าสิ่งนั้นของหญิงผู้หญิงคนนี้ได้ขยายขึ้นถึงเช่นนี้แล้ว
จริง ๆ เมื่อเห็นการแสดงออกที่สนุกสนานของหยางซิ้น เนี้ยหลี่
รู้ได้ว่าหยางซิ่นนั้นมีจดุ ประสงค์ทจี่ ะเย้าแหย่ตัวเขา ผู้หญิงคนนี้
คิดจริง ๆ ว่าเขาเป็นเพียงแค่เด็กอายุ 13 ปี
เมื่อได้เห็นท่าทีของหยางซิ่น คิ้วของเนี่ยหลี่ได้ขมวดเข้าหากัน
การดูถูกเขานั้นเป็นความผิดอย่างแท้จริง ในชีวิตที่แล้วของเขา
นั้น เอีย จื้อหวิ๋น เป็นคนที่เขารักมากที่สุด แต่เขาทีม่ ีชีวิต โดย
ผ่านซึ่งเวลาหลายร้อยปี เนีย้ หลีจ่ ึงเคยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิง
จ่านวนหนึ่งมาบ้าง
มันชัดเจนแล้วว่าการแสดงออกของหยางซิ่นนั้นท่าเพื่อเย้าแหย่
เขาเท่านั้น ! เนี้ยหลีจ่ ึงบีบไปเนินอกอันกลมกลึงของหยางซิ่น
เขานั้นรู้สึกตกใจในความอ่อนนุ่มของมันและปล่อยให้รูปทรง
ของมันเปลี่ยนไปภายในมือของเขา จากนั้นเขาก็กล่าวอย่าง
จริงจังว่า “พี่สาว หยาง ซิน พี่น่าจะปรุงหญ้าหมอกสีม่วง และ
หญ้าสาบเสือ และใช้มันนะ มันจะท่าให้เนินอกของพี่ทั้งสองเต่ง
ตึงได้อีก”
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอมองไปที่เนี้ยหลี่อย่างจริงจังอีกครั้งและ
เสียงที่อ่อนนุ่มของเขา หยางซิ่งทันใดก็รู้สีกว่าเนี้ยหลี่เป็นเพียง
แค่เด็กคนหนึ่ง
ความรูส้ ึกแปลกประหลาดยากจะบรรยาย(ที่โดนจับ)นี้เป็นเหตุ
ให้จติ ใจของเธอเลื่อนลอย
"อ้าาา!" หยางซิ่นช่วยไม่ได้เลยที่จะร้องครางอย่างมี
ความสุขออกมา เมื่อตอนที่เนี้ยหลีไ่ ด้บีบตรงนั้นของเธอ ทั่วทั้ง
ร่างของเธอนั้นรู้สึกราวกับว่ามีกระแสไฟได้ไหลผ่านไป มันเป็น
เหตุให้ร่างเธอสั่นเครือ
หยางซิ่นทันใดรู้ตัวว่าเธอนั้นมีท่าทีที่ไม่สมควรปรากฏออก
ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยสีแดงราวกับว่าเธอได้ผ่านการดื่มมา
เธอรีบยืนขึ้นโดยเร็วเพื่อกลบเกลื่อนอาการตอบสนองของ
ความรูส้ ึกแปลก ๆ ทีไ่ ด้เกิดกับร่างกายเธอเมื่อครู่นี้ น้่าเสียงของ
เธอสั่นเครือเล็กน้อยในขณะที่เธอพูดว่า "น้องชาย เจ้ากลับไป
พักผ่อนก่อน พวกเราจะมาคุยกันอีกในวันพรุ่งนี้"
ในขณะที่เธอมองเนี้ยหลี่จากไป หยางซิ่นได้ติดอยู่ในความ
งงงวยเป็นระยะเวลานานจิตใจของเธอได้กระเจิดกระเจิงไปไกล
เจ้าหนูนั่นมีอายุเพียงแค่ 13 ปีเท่านั้นจริงหรือ ? หยางซิ่นขยี้
ศรีษะของเธอด้วยความสงสัย ว่าเนี้ยหลี่นั้นได้ท่าอย่างตั้งใจ
หรือไม่ได้ตั้งใจกันแน่
"ข้าไปอาบน้่าก่อนดีกว่า!"
ผ้าไหมสีขาวได้ร่วงหล่นช้า ๆ ขณะหยางซิ่นก้าวไปยังอ่างอาบ
น้่า เท้าที่เรียบเนียนขาวกระจ่างราวคริสตัลค่อย ๆ บรรจงก้าว
ไปยังอ่างอาบน้่าไม้ ร่างไร้ต่าหนิของเธอได้จมลงสู่น้่าอุ่นในอ่าง
ในตอนนี้มือของเธอทั้งสองนั้น ได้เคลื่อนไปสัมผัสซึ่งหน้าอกที่
แสนเย้ายวนอย่างเลื่อนลอย ณ ตอนนี้ รูปร่างหนึ่งได้ปรากฏขึ้น
ทันใดในใจของเธอ ซึ่งร่างนั้นคือเนี้ยหลี่นั่นเอง
หยางซิ่นซึ่งสติตอนนี้เลื่อนลอย เธอได้เคลื่อนมือขวาของเธอลง
ต่่าอย่างช้า ๆ ไปสู่หว่างขาของเธอ
สมาคมนักปรุงยาด่าเนินการรวดเร็วมากได้ส่งร่างทรงอสูรระดับ
โกล จ่านวนสอง สามคนและนักสู้เพื่อมาค่อยป้องกันภายใน
ตระกูลบันทึกสวรรค์ท่าให้การป้องกันของตระกูลบันทึกสวรรค์
หนาแน่นมากขึ้นกว่าเดิมท่าให้เหล่าตระกูลชั้นขุนนางที่อยู่
รอบๆตระกูลบันทึกสวรรค์รสู้ ึกหดหู่ตระกูลบันทึกสวรรค์เป็น
ตระกูลขุนนางที่อยู่ปลายแถวท่าไมสมาคมปรุงยาต้องให้
ความส่าคัญกับมันขนาดนี?้
พวกเขาเกิดความอิจฉากับการเอาใจใส่ที่สมาคมปรุงยามีต่อ
ตระกูลบันทึกสวรรค์ท่าให้ตา่ แหน่งของตระกูลบันทึกสวรรค์หา
ที่เปรียบไม่ได้กับในครั้งอดีตผู้ทไี่ ม่เป็นมิตรกับตระกูลบันทึก
สวรรค์ล้วนรูส้ ึกกระวนกระวายใจพวกเขากลัวที่ตระกูลบันทึก
สวรรค์จะเอาคืนพวกเขาเหล่านั้นผู้ที่ไม่เคยได้ใกล้ชิดกับตระกูล
บันทึกสวรรค์กไ็ ด้ส่งคนเพื่อมาผูกมิตรกับตระกูลบันทึกสวรรค์
อิทธิพลของสมาคมนักปรุงยานั้นยิง่ ใหญ่เกินไปนอกจากนี้
สมาคมปรุงยาได้มยี าทิพย์อย่าง ยาผสานวิญญาณและยาสงบ
วิญญาณและยาชนิดอื่น ๆ สิ่งเหล่านี้ยิงท่าให้พวกเขามีอิทธิพล
มากขึ้นไปอีกแม้ตระกูลหิมะเหมันต์ยังต้องพึ่งพายาของสมาคม
นักปรุงยา
แต่ไม่ได้หมายความว่าตระกูลบันทึกสวรรค์จะไม่ต้องกังวลซึ่ง
อะไร
นอกจากตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิที่นั่นยังมีสมาคมทมิฬที่หลบซ่อน
อยู่ในเงามืด เนี้ยหลี่ไม่กล้าทีจ่ ะประมาทหลังจากจัดการกับ
เรื่องในตระกูล เขาจะต้องบ่มเพาะพลังอย่าต่อเนื่องแม้ว่าเขาจะ
เป็นระดับเงินและได้รวมเข้ากับจิตแห่งอสูรเนี้ยหลี่ยังคง
ต้องการความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่านี้โดยเร็ว
นอกเหนือจากการบ่มเพาะพลังเนีย้ หลีไ่ ด้ฝึกซ้อมทักษะการ
ต่อสู้ของจิตอสูรแห่งเงาและพยายามฝึกฝนทักษะให้เข้าสู่
จุดสูงสุด
ถ้าเนี้ยหลีต่ ้องเผชิญหน้ากับ หยุนหัว ดิคอนอีกครั้ง หยุนหัวดิ
คอนจะไม่มีวันหนีไปได้ง่าย ๆ เป็นแน่
ในขณะที่เนี้ยหลี่ได้นั่งขัดสมาธิเพืม่ เริ่มการฝึก หยางซิ่นก็ได้
เดินมาจากข้างนอกหลายวันทีผ่ ่านมานี้ หยางซิ่นลังเลที่จะ
พูดคุยกับเนี้ยหลี่เมื่อใดก็ตามที่เธอเห็นเนี้ยหลี่ เธอจะคิดถึงเรื่อง
ในวันนั้นท่าให้สองแก้มของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อย
“เนี้ยหลี่ อาจารย์ของเจ้าได้บอกซึ่งสูตรยาตัวอื่นอีก
หรือไม่? ยกตัวอย่างเช่น ประเภทยาทิพย์ท่าให้จิตปลอดโปร่ง
ที่จ่าเป็นในการใช้ต่อต้านกับสัตว์อสูรประเภทสร้างภาพ
หลอน ยาทิพย์แก้พิษส่าหรับอสูรประเภทมีพิษ....“ หยางซิ่นที่
ได้นั่งลงข้างเนี้ยหลี่ เธอได้รอจนสุดท้ายทนไม่ไหวถึงได้ถามขึ้น
“ถ้าหากมียาทิพย์ชนิดใหม่ พวกเราจะสามารถขยายธุรกิจของ
พวกเราออกไปได้” หยางซิ่นกล่าว ยาทิพย์ก่อนหน้านี้มี
ความหมายอย่างมากต่อเมืองกลอรี่ เธอได้รับค่าสั่งจาก กูเ้ ห
ยียน ให้มาพบกับอาจารย์ของเนี้ยหลี่ อย่างไรก็ตาม หลังจาก
การรอคอยเป็นเวลาหลายวัน อาจารย์ของเนี้ยหลี่ก็ยังมิได้
ปรากฏตัวเลย แต่เธอนั้นไม่กล้าถามเรื่องใด ๆ ทั้งสิ้น อัจฉริยะ
ที่ซ่อนตัว อย่างเช่นอาจารย์ของเนี้ยหลี่ ไม่ใช่คนที่จะสามารถ
ถูกพบเห็นได้โดยง่ายจากผู้อื่น
“เรื่องนี้เป็นการร้องขอจากพี่สาวหรือจากประธาน กู้เหยียน
กันแน่?” เนี้ยหลีไ่ ด้มองไปที่หยางซิ่นและถามขึ้นเช่นนั้นเพื่อ
แกล้งผู้หญิงคนนี้
“มันเป็นค่าร้องขอจากประธาน กู้เหยียน”
“ถ้าเช่นนั้น ลืมมันไปซะ ประธาน กู้เหยียนไม่ได้มีความจริงใจ
เขาต้องการสูตรยาทิพย์เพิ่มขึ้น และเขาก็ไม่ได้มาถามมันด้วย
ตัวของเขาเอง” เนี้ยหลี่ค่อย ๆ หลับตาลงขณะที่เขาพูด
“ท่านประธานกู้เหยียนก่าลังยุ่งอยูก่ ับการปรุงยาทิพย์เมื่อเร็ว ๆ
นี้ ดังนั้น....” หยางซิ่นกล่าวด้วยความอายเล็กน้อย ทันใดเธอ
คิดซึ่งบางสิ่งขึ้นมาได้ และเผยรอยยิ้มที่น่าหลงใหลออกมา เธอ
ได้กระซิบที่ข้างหูของเนี้ยหลี่และพูดว่า “น้อยชายตัวน้อยคนดี
เจ้ามีสูตรยาทิพย์อื่น ๆ อยู่กับตัว ใช่หรือเปล่า? ท่าไมน้องชาย
ไม่บอกกับพี่สาวคนนี้กันล่ะ ไม่ว่าเจ้าต้องการท่าสิ่งใด พี่สาวก็
ยอมตกลงทุกอย่างนะ”
เนี้ยหลี่หยิบเอาสูตรยาทิพย์ออกมา 3 ชนิดคือ: ยา
ปลอบวิญญาณ ยาอสูรแก้พิษ และยาส่าหรับไว้หักล้างผลจาก
สัตว์อสูรหิมะเหมันต์ ยาต้านเย็นด้วยธาตุไฟ
‘ยังมีแม้ซึ่งสูตรยาต้านความเย็นประเภทธาตุไฟอีก
หรือ?’ หยางซิ่นเบิกตาขึ้น ภายในภูเขา บรรพบุรุษ สัตว์อสูร
ส่วนใหญ่เป็นประเภทตระกูลหิมะเหมันต์ ดังนั้น ยาต้านความ
เย็นจึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์เป็นที่สดุ เมืองกลอรี่จะมีโอกาสมาก
ขึ้นเมื่อสามารถต้านผลของสัตว์อสูรหิมะเหมันต์ได้
“ไม่มีความจ่าเป็นที่จะต้องมอบต่าแหน่งระดับสูงใดให้แก่ข้า
ตัวข้าไม่สนใจในการยกยอ เช่นนั้น แต่ข้านั้นหวังอย่างจริงจังว่า
พี่สาวหยางซิ่นจะสามารถช่วยข้าเก็บเรื่องเหล่านี้ไว้เป็น
ความลับด้วย” เนี้ยหลี่ส่ายมือของเขาและได้พูดเช่นนั้น
หยางซิ่นช่วยไม่ได้ที่จะมองไปยังเนี้ยหลีด่ ้วยความ
ประหลาดใจ เธอสงสัยว่าเด็กที่แสนประหลาดคนนีไ้ ด้ถูกเลี้ยงดู
มาเช่นไร เขามีอายุเพียงแค่ 13 ปีแต่เขานั้นยังคงความสงบไว้
แม้กระทั่งความคิดเกี่ยวกับต่าแหน่งระดับสูงยังไม่ปรากฏใน
สายตาเขาแม้แต่นอ้ย หยางซิ่นนั้นจนปัญญาอย่างแท้จริงและ
กล่าวว่า“ในเมื่อน้องชายต้องการให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
เช่นนั้นพวกเราคงยังไม่แพร่งพรายสิ่งนี้ออกไปเป็นแน่ และ
แน่นอน เจ้าจะได้รับส่วนแบ่ง พวกเราสมาคมนักปรุงยาจะส่ง
มันแก่เจ้าอย่างตรงเวลา”
เนี้ยหลี่นั้นต้องยอมรับเลยว่า หยางซิ่นมี
ความสามารถที่จะยั่วยวนทุกคนได้อย่างแท้จริง แม้ว่าเขาจะ
เคยเล่นเย้าแหย่กับหยางซิ่น หัวใจของเขานั้นก็ยังคงสงบอยู่
ตลอดเวลา แม้ว่าเขานั้นจะไม่ทรงพลังเหมือนในชีวิตที่แล้วของ
เขา แต่ในตอนนี้ จิตใจของเขานั้นก็ยังคงแข็งแกร่งเช่นเดิม
เนี้ยหลี่กระพริบตาอย่างไม่รู้ประสีประสาขณะมองไป
ยังหยางซิ่นและพูดว่า “พีส่ าวหยางซิ่นตั้งใจจะท่าอะไรอย่างงั้น
รึ ตัวข้านั้นเป็นเพียงแค่เด็กน้อยอายุ13 ปี ยังไม่รับรูเ้ รื่องราว
ผู้ใหญ่ดีนัก!”
เมื่อเห็นหน้าตาใสซื่อของเนี้ยหลี่ ใบหน้าของหยางซิ่นก็
กลายเป็นสีแดง แม้ว่าเธอจะมีความคิดที่จะยั่วยวนเขา แต่มัน
กลับถูกท่าลายด้วยท่าทีไร้เดียงสาเช่นนี้ เธอได้พูดอย่างกระอัก
กระอ่วน ว่า“ไม่มสี ิ่งใดแล้ว ข้าจะกลับไปยังสมาคมปรุงยา
ก่อน!”
แม้ว่าหัวใจของเธอนั้นจะมีการเต้นอย่างอธิบายไม่ได้
เกิดขึ้น แต่หลังจากที่เธอได้คิดถึงอายุของเนี้ยหลี่อีกครั้ง เธอก็
รู้สึกผิดขึ้นมา ‘ข้าก่าลังคิดเรื่องอะไรกันอยู?่ เนี้ยหลีเ่ ป็นแค่เด็ก
น้อยคนหนึ่ง!’
ในตอนนี้นั้น เนี้ยหลี่เป็นบุคคลส่าคัญของตระกูล
บันทึกสวรรค์ สถานะของเขานั้นไม่ได้น้อยกว่าผู้ใดเลย
เนี้ยไฮ้ได้รับค่าเชิญจากตระกูลฮองหยู ตระกูลฮองหยูนั้นเป็น
ตระกูลของชนชั้นสูง การได้รับค่าเชิญจากตระกูลนี้ เนีย้ ไฮ้รสู้ ึก
ภูมิใจมันอย่างแน่นอน แม่ว่าสภาพการเงินของตระกูลบันทึก
สวรรค์จะยังคงตึงมืออยูเ่ ล็กน้อย แต่เมื่อเขาได้รับค่าเชิญจาก
ตระกูลฮองหยูแล้ว เขานั้นก็ต้องไปอย่างแน่นอน
เหตุผลที่ท่าให้เนี้ยไฮ้ได้ชวนเนี้ยหลี่ไปงานนี้ด้วยเป็น
เพราะเขาต้องการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเนี้นหลี่ ด้วยการ
สนับสนุนจากสมาคมปรุงยา สถานะของเนี้ยหลีภ่ ายในตระกูล
ไม่สามารถเทียบกับเมื่อก่อนได้เลย เพื่อที่จะไม่ต้องท่าให้ตัวเขา
ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กระอักกระอ่วน เขาตั้งใจดึงตัวเนี้ยอิ้ง
มาด้วย ในเมื่อความสัมพันธ์ของเนี้ยอิ้งกับเนี้ยหลี่นั้นก็ไม่ได้
เลวร้ายอะไร
เนี้ยหลี่ยืนขึ้น ในเมื่อสถานที่แห่งนั้นก็ไม่ได้อยู่ไกลนัก
เนี้ยหลีจ่ ึงไม่ได้เตรียมสิ่งใดแล้วตามเนี้ยไฮ้และเนีย้ อิ้ง ขึ้นไปบน
แผ่นไม้ของรถลาก รถลากได้ค่อย ๆ เริ่มเคลื่อนไปช้า ๆ ตาม
ด้วยร่างทรงอสูรและนักต่อสูร้ ะดับทองหลายคนที่ตามมา
ด้านหลัง พวกเขาติดตามมาเพื่อปกป้องเนี้ยหลี่
“ผู้อ่านวยการหยางได้กลับไปยังสมาคมปรุงยาแล้ว ก่อนที่จะ
กลับนั้น เธอได้บอกข้าว่าต้องคอยดูแลเจ้าอย่างเป็นพิเศษ มันดู
เหมือนว่าความสัมพันธ์ของเจ้ากับผู้อ่านวยการหยางก็ดีมิใช่
น้อยนะ” เนี้ยไฮ้พูดพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย
เนี้ยอิ้งก็รู้สึกจนปัญญาเช่นกัน เนี้ยหลี่เป็นคนของ
สาขาเขา และในอดีต เขาสามารถจะดุด่าเนี้ยหลี่ได้ แต่
ในตอนนี้ เขานั้นพ่ายแพ้ในกับบุคลิกที่เปลีย่ นไปของเนี้ยหลี่อ
ย่างสิ้นเชิง เนี้ยหลี่กลายเป็นคนทีเ่ คร่งขรึมมากขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามเขาไม่กล้าที่จะพูดสิ่งใด
บรรยากาศโดยรอบภายในรถลากค่อนข้างอึดอัดอยู่
เล็กน้อย
“เนี้ยหลี่ ถ้าเจ้ามีสิ่งใดที่สนใจในการประมูลนี้ เจ้าสามารถบอก
ข้าได้เลย ข้านั้นจะน่ามันมาให้เจ้า” เนี้ยไฮ้ได้พดู ขึ้น แม้ว่า
สิ่งของที่การประมูลนั้นไม่ได้มรี าคาถูกเลย แต่เขาก็เตรียม
สูญเสียเงินจ่านวนมากเพื่อของสักชิ้นหนึ่งได้ ถ้าหากเขาได้ใช้
เงินจ่านวนมากสักเล็กน้อย เขาต้องได้มาซึ่งของหนึ่งหรือสองสิ่ง
มาให้กับเนี้ยหลี่ได้ ต้องไม่ลืมว่าเด็ก ๆ นั้นยังคงจัดการได้โดยวิธี
นี้
เนี้ยอิ้งยิ้มและกล่าวว่า “สิ่งของที่อยู่ในการประมูลนี้
นั้นไม่ใช่ธรรมดา ชิ้นที่ถูกที่สุดนั้นก็มีราคาสูงถึงอย่างน้อย
หลายพันเหรียญจิตมาร และของที่แพงที่สุดนั้นคงจะมีราคา
ประมาณหนึ่งหมื่นเหรียญจิตมารขึน้ ไป!”
พวกเขาทั้งคู่คิดว่าเนี้ยหลี่นั้นมีเพียงแค่ความสัมพันธ์
อันดีกับหยาง
เมื่อตระกูลบันทึกสวรรค์ได้ถูกกีดกันทางการค้าโดยตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์ ตระกูลฮอง หยู๋ก็เริ่มตีตวั ออกห่างจาก ตระกูลบันทึก
สวรรค์ เมื่อสมาคมนักปรุงยา ได้มคี วามสัมพันธ์ที่ดีกบั ตระกูล
บันทึกสวรรค์ ตระกูลฮอง หยู๋ก็เริม่ เข้ามาติดต่อกับตระกูล
บันทึกสวรรค์อีกครั้ง
ผู้คนที่เข้าออกในสถานที่ประมูลจะเป็นสมาชิกของตระกูล
ชั้นสูง เนี่ยไฮ้เนี่ยอิ่งและเนี่ยลี่ ถูกจัดที่นั่งให้อยู่ในห้องพิเศษ ชั้น
สอง ซึ่งผู้อาวุโสของตระกูลชนชั้นสูงล้วนแต่อยู่ที่นั่นเมื่อมองไป
ก็เจอคนรู้จักหลายคน เนี่ยไฮ้ ก็ท่าการทักทายพวกเขาท่านผู้
อาวุโส หลีห่ ยวน ท่าน ผู้อาวุโส จี่ ฟงไม่ได้เจอกันนานเนี่ยไฮ้
ขยับมือทักทายเบาๆ พร้อมทั้งกล่าวทักทาย
“ผู้น่าตระกูลเนี้ยไฮ้ช่างเปร่งรัศมีของผู้ที่ประสบความส่าเร็จซะ
จริง ๆ” ผู้น่าตระกูล เล่ยโซ่วพูดเบา ๆ อย่างเหน็บแนม
“เจ้าได้กลายมาเป็นคนรับใช้ของสมาคมปรุงยาและยังคงท่าท่า
เหมือนภาคภูมิใจเสียจริง เจ้าคิดจริง ๆ กันหรือ ว่าสมาคมปรุง
ยานั้นจะปฏิบัติกับเจ้าเยี่ยงสมบัตขิ องพวกเขา?” เล่ยโซ่ว เบ้
ปากของเขาด้วยความดูถูก
เนี้ยอิ้งโน้มตัวเข้าไปใกล้เนี้ยหลี่และพูดเบา ๆ ว่า“ผู้น่าตระกูล
ของตระกูลพยัคฆ์เงินและตระกูลเที้ยเหมินชอบใช้อ่านาจข่ม
เหงไปทั่ว เมื่อตอนที่ตระกูลบันทึกสวรรค์โดนกดดัน พวกเขา
ได้ส่งบางคนให้มาซื้อที่ดินสองแห่งของพวกเราในราคาที่ต่า
มาก ! พวกเรารู้ว่ามันคือพวกเขาที่ได้เข้ามาท่าการซื้อนี้
อย่างไรก็ตาม พวกเราก็ไม่เคยขาย ไม่ว่าด้วยเรื่องอะไร
ทั้งสิ้น! เมื่อตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ได้กีดกันการค้าของพวก
เรา พวกตระกูลทั้งสองนี้ในที่สุดก็ได้มาขโมยธุรกิจของพวกเรา
ไป”
เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยอิ้งเช่นนั้น คิ้วของเนี้ยหลี่ขมวดเข้าหา
กันและความโกรธแล่นผ่านดวงตาทั้งสองของเขา ในขณะที่ท่า
การมองไปยังผู้น่าตระกูลเล่ยโซว่และเจียงหมิง ถ้ามันเป็นเพียง
เรื่องความขัดแย้งธรรมดาระหว่างผู้น่าตระกูล ตัวเขานั้นคงไม่
เข้าไปยุ่งเกี่ยว อย่างไรก็ตาม ตระกูลทั้งสองเหล่านีเ้ ป็นดังคนรับ
ใช้ของตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ เนี้ยหลี่ต้องไม่ปล่อยพวกเขาไป
อย่างแน่นอน
การประมูลก่าลังจะเริ่มต้นในไม่ช้านี้ ผู้น่าตระกูลที่
เคารพกรุณายืนใกล้กับพื้นที่ท่าการดู และมองมาทางนี้
พิธีกรขายทอดตลาดที่รบั ผิดชอบในการประมูลเป็น
หญิงสาวสวยผู้หนึ่ง เธอสวมใส่ชุดไหมสีทึบซึ่งเข้าคู่กันเป็นอย่าง
ดีกับใบหน้าอันละเมียดละไมของเธอ เธอเต็มไปด้วยความ
ยั่วยวนไม่สิ้นสุด ทุก ๆ คนต่างต้องยอมรับตระกูล ฮอง หยู่นั้น
ฉลาดยิ่ง ด้วยหญิงที่งดงามเช่นนีจ้ ะสามารถปลุกเร้าซึ่งจิตของ
ผู้หนึ่งผู้ใดและเป็นเหตุให้พวกเขาท่าการจ่ายเงินก้อนใหญ่ได้
“เมื่อไม่นานมานี้ ตระกูลบันทึกสวรรค์ได้มีหลายธุรกิจร่วมกับ
สมาคมปรุงยาซึ่งสมุนไพรหลายชนิด พวกเขาควรจะได้รับ
ผลประโยชน์กลับมาบ้าง การที่ผนู้ ่าตระกูลเนี้ยไฮ้มายังที่แห่งนี้
ข้านั้นเกรงว่าสมบัติที่อยู่ในการประมูลนี้จะไม่ตกมาถึงมือของ
พวกเรา” ที่มุมสายตาของ เล่ยโซ่วได้ช่าเลืองมองไปยังเนี้ยไฮ้
พร้อมกับหัวเราะและกล่าวเช่นนั้น
เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยหลี่ เล่ยโซว่ท่าหน้าเครียดและได้กล่าว
ว่า “เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าเป็นใครกัน ถึงได้ปากดีกล้าพูดกับ
พวกเรา หรือเจ้าเป็นตัวแทนของตระกูลบันทึกสวรรค์เช่นนั้น
รึ?”
“จะใช่หรือไม่ ที่ข้าสามารถเป็นตัวแทนให้ตระกูลบันทึกสวรรค์
เจ้าสามารถถามผู้น่าตระกูลเนีย้ ไฮ้ได้” เนี้ยหลี่พูดเบา ๆ
สถานะของเนี้ยหลี่ภายในตระกูลบันทึกสวรรค์ในวันนีไ้ ม่
สามารถเทียบกับเมื่อก่อนได้เลย เนี้ยไฮ้ผงกศีรษะรับและกล่าว
ว่า“แน่นอน เขานั้นสามารถเป็นตัวแทนให้ตระกูลบันทึกสวรรค์
ของข้าได้!”
“ เจ้าเด็กน้อยกล้าที่จะมาคุยโวโอ้อวดในที่แห่งนี้ เขานั้นไม่รู้จัก
ซึ่งความอับอายบ้างเลยหรืออย่างไร?” เล่ยโซว่แค่นเสียงใน
จมูก“ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นได้ตกต่่าอย่างแท้จริงที่เจ้าได้
ตามใจคนรุ่นใหม่ไปมากถึงเพียงนี”้
“ สิ่งของที่จะถูกน่ามาประมูลชิ้นแรก ได้ถูก
ค้นพบจากซากปรักหักพังของเมืองสายน้่าใส มันคือหยกที่
แตกหัก เมื่อท่าการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญแล้วพบว่าพวก
มันมีรังสีแผ่ออกมาจากตัวหยกมากมาย เริ่มต้นประมูลที่เสนอ
ราคา สามร้อยเหรียญจิตรมาร เท่านั้น
เมื่อสุภาพสตรีกล่าวเสร็จ พวกมันก็ถูกยกขึ้นมา
วางบันถาด
“สามร้อยห้าสิบเหรียญจิตมาร”
“สี่ร้อยเหรียญจิตมาร”
“ห้าร้อยเหรียญจิตมาร”
หลังจากราคาเพิม่ ขึ้นถึงสองพันเหรียญจิตมาร
ราคาของหยกที่แตกหักก็มาหยุดทีต่ รงนี้ แม้ว่ามันจะมีพลัง
วิญญาณที่แผ่ออกมาจากตัวของมันมาก แต่มลู ค่าของมันมี
ราคาค่อนข้างมาก รายได้ต่อปีของชนชั้นสูง ซึ่งมีรายรับเพียง
ไม่กี่ลา้ นเหรียญจิตมารต่อปี เมื่อหักจากค่าใช้จ่ายจ่าเป็น
พื้นฐานซึ่งค่าใช้จ่ายปริมาณมหาศาลประจ่าตระกูลแล้ว สองถึง
สามพันเหรียญจิตมารส่าหรับพวกเขาเป็นเงินที่มากอยู่
สองพันห้าร้อยเหรียญจิตมาร ครั้งที่ 3
“มันคือแหวนเก็บของ ที่มีขนาดเนื้อที่เก็บของ
ความจุมากมายมหาศาล ในการขายราคา ห้าหมื่นเหรียญจิต
มาร นั้นไม่แพงเกินความจริงไปเลย” รายรับต่อเดือนของ
ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้น แค่เกือบจะ หนึ่งแสนเหรียญจิตมาร
นอกจากนี้มันยังถูกใช้เป็นค่าใช้จ่ายที่จ่าเป็นของตระกูล มัน
เป็นเรื่องที่เกินความสามารถที่เนี้ยไฮ้และเนีย่ อิ้งจะซื้อมันได้
บางตระกูลที่รา่ รวยในชั้นล่างก็เริ่มเสนอราคา
ห้าหมื่นหนึ่งพันเหรียญจิตมาร!
ห้าหมื่นสามพันเหรียญจิตมาร! ………. ห้าหมื่น
ห้าพันเหรียญจิตมาร!
การเสนอราคาก่าลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เหล่ย
โซวยิ้มและพูดขึ้นว่า “ ท่านผู้อาวุโสเนี้ยไฮ้ ไม่สนใจหรือ? “งั้น
ข้าจะเริม่ เรียกแล้วนะ “ เจ็ดหมื่นเหรียญจิตมาร ! เมื่อเหล่ย
โซวพูดจบ ทั้งห้องก็เงียบลงในทันที หลังจากเวลาผ่านไปซัก
พัก ไม่มีผู้ใดเสนอราคามากไปกว่านี้
“ตระกูลบันทึกสวรรค์เสนอราคา มาหนึ่งแสน
เหรียญจิตมาร มีผู้ใดที่จะให้ราคาสูงกว่านี้อีกไหมคะ?”
สุภาพสตรีกล่าวท่ามกลางเสียงที่ดัง “หนึ่งแสน
เหรียญจิตมาร” เหล่ย โซ่วถอนหายใจอย่างแรง เขาตะลึง
เล็กน้อย ด้วยราคาที่ตั้งมานี้เขาไม่สามารถที่จะแบบรับไหว มัน
เป็นจ่านวนเงินตั้งหนึ่งแสนเหรียญจิตมาร! เขาอ้าปากค้าง แม้
ต้องการจะยกป้ายราคาขึ้นสู้แต่ก็กังวลว่านั่นอาจจะเป็นกับดัก
ของตระกูลบันทึกสวรรค์ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่สู้ราคาของมันอีก
“ หนึ่งแสนเหรียญจิตมารครั้งที่หนึ่งผ่านไปคะ
หนึ่งแสนเหรียญจิตมารครั้งที่สองนะคะ หนึ่งแสนเหรียญจิต
มารครั้งที่สาม ขายคะ! สาวงามก็เคาะค้อนลงบนโต๊ะประมูล
อย่างแรง หนึ่งแสนเหรียญจิตมารนั่นจะกลายเป็นราคาครั้งหนึ่ง
ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ
เนี่ยหลี่ ช่าเลืองมองไปที่เนี่ยอิ้งและกล่าวขึ้น
ว่า “ ท่านผู้อาวุโส ท่านสามารถทีจ่ ะช่วยน่าสมบัติทั้งสองชิ้นมา
ให้ข้าได้หรือไม่? ข้าอาจจะต้องใช้แหวนเก็บของนั่นหลังจากนี”้
นี่คือเงินท่านผู้อาวุโสโปรดช่วยเก็บไว้ เนี่ยหลี่นา่ การ์ดคริสตัน
อสูรออกมาสิบเอ็ดใบ
เนี่ยอิ้งถอนหายใจ และล่าพึงล่าพันกับตัวเอง
ว่า “ลืมมันและอดทนไว้” การ์ดคริสตัลอสูรจ่านวนสิบเอ็ดใบ
มูลค่าหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นเหรียญจิตมาร มากกว่าราคาของ
สมบัติทั้งสองชิ้น โดยสนามประมูลจะต้องทอนเงินมาเจ็ดพันห้า
ร้อยเหรียญจิตมาร หลังจากเขาวิ่งท่าธุระเรียบร้อยแล้วเขาก็
ได้รับเงินไปเจ็ดพันห้าร้อยเหรียญจิตมาร โดยที่เขาไม่ต้องเสีย
สิ่งใดเลย
ตั้งแต่ตระกูลบันทึกสวรรค์มีผู้อยู่อาศัยมากมาย
ในแต่ละเดือนมีรายรับเพียงน้อยนิดประมาณหนึ่งแสนเหรียญ
จิตมารต่อเดือน แต่แค่วิ่งท่าธุระกรรมให้เนี่ยหลี่แป๊บเดียวได้เงิน
มาถึงเจ็ดพันห้าร้อยเหรียญจิตมาร เนี้ยไฮ้เห็นอย่างนั้นก็
ต้องการช่วยท่ามันเหมือนกัน
“จนแท้.......”เนี้ยไฮ้ถอนหายใจ อย่างเดียวที่
เขารู้คือต้องเคร่งเครียดกับเรื่องวิกฤตการเงินของตระกูลบันทึก
สวรรค์เป็นอย่างมากจริงๆ หลังจากที่หักค่าเล่าเรียนฝึกวิชาของ
เด็กๆรุ่นใหม่ ตระกูลบันทึกสวรรค์ยังเป็นหนี้อีกต่างหาก เนี่ยห
ลี่โคตรรวย และเป็นคนในตระกูลบันทึกสวรรค์ เขาจะต้องสร้าง
ผลงานให้แก่ตระกูลแน่ อย่างไรก็ตามเนี้ยไฮ้ก็ไม่กล้าที่จะถาม
เนี่ยหลี่ว่าสิ่งใดกันที่ท่าให้สมาคมนักปรุงยามาติดต่อค้าขายกับ
ตระกูลบันทึกสวรรค์กัน ……
ของที่น่ามาประมูลชิ้นต่อไปเป็นยาอายุวัฒนะ ที่
ถูกเก็บลงในขวดหยก มันถูกสร้างบางส่วนจากหยกไฟ มัน
สามารถรักษาอาการต่างๆได้เป็นอย่างดี มีสนุนไพร จากพืช
หลากหลายชนิด! ได้รับมันมาจากการกู้ซากเรือที่จม เป็นของ
เมืองในต่านาน แม่น้่าน้่าแข็ง..........” ……
“หกพันเหรียญจิตมารครั้งที่หนึ่งผ่านไป” หก
พันเหรียญจิตมารครั้งที่สอง” หกพันเหรียญจิตมารครั้งที่สาม
ขายคะ!”
ในการประมูลครั้งต่อไปเป็นชุดสูทสวมใส่ระดับ
ทองค่า มองดูลวดลายที่มาบนชุดมาจากยุคโบราณจาก
อาณาจักรยุค ลมหิมะ เกาะชุดนีส้ ร้างขึ้นจากหนังของอสรู
ปิศาจพยัคฆ์เพลิงอยู่ด้านใน ซึ่งมันสูญพันธ์จากอาณาจักรลม
หิมะไปแล้ว ของชนิดนี้ระดับทอง ผู้ที่สามารถใช้มันได้ต้องเป็น
ระดับร่างทรงอสูรระดับทองเท่านั้นที่จะสามารถสวมใส่มันได้
เริ่มราคาประมูลที่ หกหมื่นเหรียญจิตมาร
เมื่อมองไปที่ชุดสูทระดับทองนั้น เนี่ยหลี่ตาลุ
กวาว เขายกป้ายราคาและกล่าวว่า “หนึ่งล้าน.....”
ทุกๆคนพากันตะลึง ทุกอย่างในห้องประมูล
เงียบสงัดไปชั่วขณะหนึ่ง เขาคือผู้ไม่ยอมมอบโอกาสให้ใคร
สามารถสูร้ าคาได้เลย!
เสี่ยวหลี่ นี่เจ้าซื้อมันมาให้ข้าหรือ? ขอบคุณเจ้า
มาก” เนี้ยไฮ้ ออกอาการประหม่าลูบมือของเขา นี่คือชุดสู
ระดับทอง เมื่อเขาสวมใส่มันจะต้องแข็งแกร่งขี้นอย่าง
น้อย 30 เปอร์เซ็นต์ หรือมากกว่านั้น เนี่ยหลี่หันมามองเนี่ยใฮ่
และบอกว่า “ใครบอกว่าซื้อให้ท่าน?”
“แต่ฉันเป็นร่างทรงอสูรระดับทองเพียงคนเดียว
ในตระกูลบันทึกสวรรค์นะ!” เนี้ยไฮ้ ชะงักชั่วคราวก่อนที่จะพูด
นอกจากเขาแล้วใครอื่นใดอีกเหรอที่สามารถสวมใส่ชุดระดับ
ทองอีก
หลังจากคิดถึงเรื่องเหล่านี้อยู่หลายครั้งครั้ง เนี้ยไฮ้
อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคลุ้มคลั่ง
อย่างไรก็ดี ในฐานะที่เขาเป็นผู้น่าตระกูลบันทึก
สวรรค์อยู่ในขณะนี้ ตัวเขาไม่มีทางลดต่าแหน่งตัวเขาเองต่อที่
สาธารณะเพื่อขอของสิ่งนี้
แค่เงินเพียงหนึ่งล้านเหรียญจิตมารไม่ได้มีความหมายอันใดมาก
นักกับเนี้ยหลี่ ด้วยความมั่งมีของเขาในตอนนี้ เขาสามารถถูก
จัดให้อยู่ 1 ใน 5 อันดับแรกของผู้ที่ร่ารวยที่สดุ ได้ และการ
ร่วมมือกับสมาคมปรุงยานั้นยังท่าให้ความร่่ารวยของเนี้ยหลี่
เพิ่มสูงขึ้นอีกถึงร้อยล้านเหรียญจิตรมารต่อวัน
เนี้ยหลี่นั้นไม่ต้องการแม้กระทั่งเป็นที่ถูกจับตามอง
ในตอนที่เขาได้ใช้เงินหนึ่งล้านเหรียญจิตมาร ถ้าเขาต้องการ
เป็นที่จับตามองแล้ว เขาสามารถซือ้ ได้แม้กระทั่งของทุกสิ่งที่อยู่
ในการประมูลนีไ้ ด้อย่างไม่มีปญ ั หา แต่แน่นอนเลย เนีย้ หลี่
ในตอนนี้เพียงแค่หลบซ่อนตัวโดยอาศัยการยืมชื่อของตระกูล
บันทึกสวรรค์เพื่อซื้อสมบัติบางสิ่งโดยไม่ท่าการดึงดูดความ
สนใจจากผู้ใด อย่างไรก็ตามถ้าเขาต้องการซื้อของทุกอย่างใน
งานประมูลนี้ มันจะเป็นเรื่องใหญ่โตเกินไปเล็กน้อย
ในตอนนี้นั้น เหล่าพ่อค้าผู้มั่งคั่งหลายที่อยู่เบื้อง
ล่างต่างก่าลังยุ่งอยู่กับการถกเถียงเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้น
“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันทีต่ ระกูลบันทึกสวรรค์กลายเป็น
ผู้ร่ารวยเช่นนี?้ ”
“ข้าได้ยินมาว่า ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นก่าลังถูก
อุ้มชูโดยสมาคมปรุงยาอยู่ ยิ่งกว่านั้นสมาคมปรุงยาก่าลัง
จ่ายเงินให้พวกเขาสูงกว่าราคาตลาดถึง 30 % ในการซื้อ
สมุนไพรจากพวกเขา”
โดยส่วนใหญ่แล้วทรัพย์สินที่เป็นของของบุคคลใด
นั้นจะถือว่าเป็นทรัพย์สินส่วนตัว ท่าให้เนี้ยไฮ้ไม่สามารถ
บังคับเนี้ยหลี่ให้ท่าการส่งเงินของเขาที่มีให้แก่ตระกูลได้ และยิ่ง
ไปกว่านั้นด้วยสถานะของเนี้ยหลี่ในตอนนี้แล้ว ท่าให้ตัวเขานั้น
ไม่กล้าที่จะพูดสิ่งใดที่เป็นการเร่งเร้าแก่เนี้ยหลี่ได้
เหล่ยโซว่และเจียงหมิงต่างรู้ศึกเศร้าใจ ภายในการ
ประมูลครั้งนีภ้ าพทั้งหมดที่พวกเขาได้เห็นก็คือตระกูลบันทึก
สวรรค์ท่าการประมูลสมบัตไิ ด้ไปชิ้นแล้วชิ้นเล่า ในขณะที่พวก
เขาไม่สามารถได้สิ่งใดกลับมา นอกจากนี้ระดับของราคา
ประมูลที่พุ่งสูงขึ้นไปนั้น ท่าให้พวกเขาไม่กล้าประมูลสูไ้ ด้ ถ้า
ของเหล่านั้นได้กลับมาแว้งกัดพวกเขาเอง มันจะเป็นปัญหาเอา
ได้
ส่าหรับชี่ฟง และหลีห่ ยวนนั้น พวกเขามักจะมองไป
ทีเ่ นี้ยไฮ้อยู่บ่อย ๆ และถอนหายใจออกมา ตระกูลบันทึก
สวรรค์นั้นช่างร่่ารวยอย่างแท้จริง! แต่พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่า
สมบัตเิ หล่านั้นจะเป็นของเนี้ยหลีเ่ องทั้งหมด ไม่ใช่สิ่งของ
ส่าหรับตระกูลเลย
“ดูสิข้านั้นเรียกความสนใจมายังตระกูลบันทึก
สวรรค์ได้มากเพียงใด” เนี้ยหลี่ยมิ้ เล็กน้อยขณะกระซิบไปที่เนี้ย
ไฮ้
เมื่อได้ยินค่าของเนี้ยหลี่ดังนั้น เนี้ยไฮ้ได้กลอก
ดวงตาของเขาไปมา เขาไม่ควรจะได้รับความสนใจที่มากถึง
เพียงนั้น
“สมบัตจิ ่านวนเท่าไหร่กันที่เจ้าได้วางแผนเพื่อซื้อ
มัน?” เนี้ยไฮ้ได้มองไปยังเนีย้ หลี่และพูดขึ้น จนกระทั่งถึงบัดนี้
เนี้ยหลีม่ ีของทีประมูลได้มาแล้วมากกว่า 10 ชิ้น และใช้เงินไป
เกือบสองล้านเหรียญจิตมาร
ปากของเนี้ยไฮ้ได้อ้าออกด้วยความตกใจ กว้างเสีย
จนกระทั่งสามารถจะใส่ไข่หนึ่งใบไปไว้ในปากเขาได้ เนี้ยหลี่นั้น
จะซื้อทุกสิ่งไม่ว่าอะไรที่เขาต้องการ สิ่งนี้มันค่อนข้างจะเป็น
การข่มเหงกันเกินไปสักหน่อย หยางซินได้ให้เงินจ่านวนมากถึง
เพียงนี้แก่เนี้ยหลีจ่ ริง ๆ รึ ? สมาคมปรุงยาช่างมั่งคั่งเสียจริง
สามารถให้เงินได้อย่างสบายโดยคิดว่าเป็นเพียงให้เงินติด
กระเป๋า ด้วยจ่านวนเงินเช่นนี้ก็เป็นจ่านวนที่มากอย่างไม่คาด
ฝันส่าหรับบุคคลทั่วไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลังจากรอคอยเป็นระยะเวลานาน ยังไม่มผี ู้ใดท่า
การเสนอราคาเพิม่ เข้ามา หลังจากประกาศออกไปหลายครั้ง
ผู้ด่าเนินการประมูลก็ได้ทุบค้อนลงในที่สุด ชุดระดับทองอันนี้ก็
ได้ตกเป็นของเนี้ยหลี่
“ของชิ้นต่อไปได้ถูกมอบให้พวกเราโดยสมาคมปรุง
ยาเพื่อมาท่าการประมูลครั้งนี้ ของเหล่านั้นคือ ยาบ่ารุง
วิญญาณ และยาผสานวิญญาณ!” ผู้ด่าเนินการประมูลพูดด้วย
ท่าทียิ้มแย้ม ”ในตอนนี้ พวกเราได้มาซึ่ง ยาบ่ารุงวิญาณจ่านวน
1000 เม็ด และ ยาผสานวิญญาณจ่านวน 100 เม็ด ข้าวิงวอน
ขอให้ทุกท่าน ๆ ได้รักษาโอกาสนี้ไว้ให้ดี”
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ยาทั้งสองชนิดนี้นั้นยาก
ยิ่งที่จะได้มา
หลายตระกูลนั้นต่างตระเวนหาซื้อไปทั่ว ซึ่งยาทั้ง
สองชนิดนี้ โดยยอมจ่ายไม่ว่าที่ราคาเท่าไหร่ก็ตาม เป็นเพราะ
พวกเขาจะใช้มันเพื่อหล่อเลี้ยงเหล่าคนรุ่นเยาว์ของพวกเขา
อย่างไรเสีย จ่านวนของยาทั้งสองชนิดนี้มีอยู่เป็น
จ่านวนน้อย จ่านวนที่สมาคมปรุงยาสามารถปรุงออกมาได้นั้น
ไม่เพียงพอกับตลาดขนาดใหญ่ภายในเมืองกลอรี่ โดยทั่วไปแล้ว
มีเพียงตระกูลหลักและตระกูลชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถซื้อยาทั้ง
สองชนิดนี้ในปริมาณมากได้ งานประมูลของตระกูล ฮอง หยู๋
อยู่ที่ระดับหนึ่งในสามของงานประมูลทางด้านทิศเหนือของ
เมืองกลอรี่ และเป็นเพียงงานเดียวที่ได้มาถึงยา บ่ารุงวิญาณ
1000 เม็ด และ ยาผสานวิญญาณ 100 เม็ด ท่าให้ความ
ต้องการของคนทั่วไปมีเกินกว่าจ่านวนผลิตได้เป็นจ่านวนมาก
ได้ปรากฏแสงฉับพลันในดวงตาของเนี้ยไฮ้ เหตุผล
ที่เขามาที่แห่งนี้ก็เพื่อยาทั้งสองชนิดนี้
“ท่าไมสมาคมปรุงยาถึงต้องให้ยาพวกนั้นแก่พวก
เรารึ?” เนี้ยไฮ้หันศีรษะเขามาด้วยความงุนงงและถามเนีย้ หลี่
เนี้ยหลี่ชะงักไปชั่วครู่และเข้าใจเรื่องราวที่เป็นไป
ทั้งหมด การขายซึ่งยาเหล่านีล้ ้วนถูกควบคุมโดยหยางซิน
และหยางซินก็ได้ให้ยาแก่เนี้ยหลี่มาเป็นจ่านวนมาก โดย
ประกอบไปด้วย ยาบ่ารุงวิญญาณหลายแสนเม็ด ยาผสาน
วิญญาณอีกหลายหมื่นเม็ด และยาเสริมวิญญาณอีกสองถึง
สามพันเม็ด และยังไม่รวมถึงยาเสริมพลังกายสีชาดและยา
เปลี่ยนรูปทั้งเก้าอีกด้วย
หยางซินให้ยาจ่านวนมากมายแก่เนี้ยหลี่ แต่ไม่ได้
ให้สิ่งใดส่าหรับตระกูลบันทึกสวรรค์ ในความคิดของเธอเนี้ยหลี่
นั้นก็เป็นดังตัวแทนของตระกูลบันทึกสวรรค์
“150,000 เหรียญจิตมาร!”
“160,000 เหรียญจิตมาร”
ในไม่ช้าราคาก็ได้พุ่งสูงไปถึงสองแสนเหรียญจิตมาร
เนี้ยไฮ้ยังคงตื่นเต้นอยูม่ าก ใบหน้าของเขาแดงก่่า
เขานั้นได้เตรียมจ่ายออกซึ่งเงินจ่านวน 60000 เหรียญจิตมาร
เพื่อการซื้อยาบ่ารุงวิญญาณและยาผสายวิญญาณอย่างละชุด
โดยเป็นสิ่งดีที่สดุ แล้วทีต่ ระกูลบันทึกสวรรค์สามารถท่าได้
ภายใต้สภาพการเงินเช่นนี้ แต่หลังจากราคาได้ไปแตะถึงสอง
แสนเหรียญจิตมาร เนี้ยไฮ้ได้หยุดลง ในเมื่อยังเหลือยาอีก
มากกว่า 9 ชุดดังนั้นจึงไม่มีความจ่าเป็นต้องได้ยาชุดแรกแต่
อย่างใด
ชี่ฟงและลี่หยวนทั้งคู่ตา่ งมองเนี้ยไฮ้ด้วยความ
ประหลาดใจ ตระกูลบันทึกสวรรค์ได้ใช้เงินไปง่าย ๆ ถึง 2 ล้าน
เหรียญจิตมารโดยปราศจากความรู้สึกเสียดาย ท่าไมกันเล่า
เพียงแค่การประมูลซึ่งยาทิพย์ก่าลังเริ่ม และเมื่อราคาที่เสนอไป
ถึงระดับราคา 120000 เหรียญจิตมาร พวกเขาก็ได้ยอมแพ้ไป
เสียแล้ว?
เมื่อพวกเขาได้เห็นว่า เนีย่ ไฮ้ไม่ได้มีความสนใจที่จะสูร้ าคายา
ทิพย์ต่อไป ชี่ฟ่งและลีห่ ยวนต่างตัดสินใจเข้าไปสูร้ าคา ด้วย
ความร่่ารวยและความมั่งมีของตระกูลบันทึกสวรรค์ที่อยู่ใกล้
พวกเขานั้น พวกเขารู้สึกได้ถึงความกดดันภายในใจ จนกระทั่ง
ถึงบัดนี้ ทั้งหมดที่พวกเขาได้เห็นคือตระกูลบันทึกสวรรค์ได้ท่า
การซื้อของทีละชิ้นไปเรื่อย ๆ และไม่เปิดโอกาสให้แก่ผู้ใด แต่
ในตอนนี้ พวกเขาสามารถเข้าร่วมในการสู้ราคาได้
ไม่ว่าอย่างไร พวกเขานั้นต้องซื้อของบางอย่างกลับไปให้ได้ มิ
เช่นนั้นแล้วการมานี่จะเป็นการสูญเปล่า
บทที่ 66 - ตะลึง
เหล่ยโซวและเจียงหมิง ยังเข้าร่วมในการสูร้ าคา, สี่
ตระกูลก่าลังสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อยาพวกนั้น พวกเขา
หยุดเมื่อราคามันพุ่งถึง สามแสนสองหมื่นเหรียญจิตมาร
เนี่ยหลี่ ผู้อ่านวยการหยางได้ให้ยาแก่เจ้า
เหรอ? เนี่ยไฮ้ถาม(เสียงเบาๆ)
แสนเหรียญจิตมาร
ท่านเนี่ยไฮ้ (ท่านผู้น่าเนี่ยไฮ้) ท่านไม่สนใจ ยาบ่ารุง
วิญญาณเลยรึ ท่านไม่สรู้ าคาสักเท่าไหร่เลยนะ ชี่ฟง ถาม
อย่างสงสัย
ข้า..... เนี่ยไฮ้ไม่สามารถที่จะพูดถึงความขัดสนของ
เขาได้ เขาอยากจะพูดว่าจริงๆแล้ว เขาจนมาก อย่างไรก็ตาม
พวกเขาจะ
เชื่อรึ?
ก่อนหน้านี้ เนี่ยหลี่เป็นคนใช้จ่ายเงินจ่านวนมาก
ไม่ใช่ตัวเขา
เมื่อได้มองเนี่ยไฮ้ที่จ้องมาด้วยความหดหู่ เนี่ยหลี่ก
ระพริบตา ด้วยความไร้เดียงสา เนีย่ หลี่ยังคงต้องการเล่นอย่าง
เพลิดเพลินไปรอบ ๆ ชายชราแสนเศร้าคนนีผ้ ู้ที่ท่าให้เขาต้องมี
สีหน้าเคร่งขรึมตลอดเวลาเมื่ออดีตชาติที่ผ่านมา
ล็อตสุดท้ายของยาบ่ารุงวิญญานได้ขายออกไป เล่ย
โซ่ว ได้ไปสามชุด เจียงหมิง ได้ไปสองชุด ลี่หยวน และ ชี่ฟง ทั้ง
คู่ได้คนละชุด ส่วนที่เหลือพวกร้านค้าได้ประมูลไป
ต่อไป ยาผสานวิญญาณ
ได้ยินสามค่า "ยา" "ผสาน" "วิญญาณ" บรรยากาศ
ในการประมูลเริ่มกลับมาอีกครั้ง ด้วยความดุเดือดได้เพิ่มขึ้น
ผู้ใดก็รู้ว่ายาผสานวิญญาณมีผลที่รนุ แรงมากส่าหรับร่างทรง
อสูรระดับ เงิน และ ระดับทอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ก่าลัง
ล่าบากมาเป็นเวลานาน ยาผสานวิญญาณหนึ่งเม็ด มีโอกาสสูง
มากที่จะสร้างร่างทรงอสูร ระดับโกล แม้อาจจะช่วยให้
ระดับ โกล ที่ก่าลัง
ล่าบากไปสูร่ ะดับทองค่าด่าด้วย
สามแสนหกหมื่นเหรียญจิตมาร
สามแสนเก้าหมื่นเหรียญจิตมาร
……
......
ถ้าเขารู้ว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น เขาคงจะซื้อยา
บ่ารุงวิญญาณแทนไปแล้ว นี้เขาต้องกลับไปอย่างมือเปล่างั้นรึ
เนี่ยไฮ้ เซ็งจัด ผู้คนพวกนี้มันบ้าไปแล้วๆ ยาสิบเม็ดจริงๆราคา
สูงมาก ยังมีความยุติธรรมอยู่หรือไม่ เพียงแค่นั้นก็สร้างก่าไร
อย่างมหาศาลให้กับสมาคมปรุงยา
หกแสนห้าหมื่น
เซตของยาผสานวิญญาณ ถูกขายออกไปในราคา
หกแสนห้าหมื่น
เขาได้ย้ายมือขวาของเขาและหยิบขวดออกจาก
แหวนห้วงมิติเก็บของ และส่งมันให้แก่ เนี่ยอิ้ง และพูด ในขวด
นี้มียาบ่ารุงวิญญาณห้าพันเม็ด ยาผสานวิญญาณหกร้อยเม็ด
และ ยาเสริมวิญญาณหนึ่งร้อยเม็ด ให้ โดยถือว่าเป็นของขวัญ
ส่าหรับท่าน
การจับไปทีขวดนั้นท่าให้เนี่ยอิ้ง จ้องมองอย่าง
ตะลึง น้่าเสียงสั่นมาก ห หาา ห้าาาาาพัน....บ่า ร รุง ว วิ ญ
ญาน น น ห หา.......ร้อยยา..... ผสานว วิญ ญ า น แ ล ะ ย า
า ย า เ สริม วิ ญ ญา น
ยาบ่ารุงวิญญาณห้าพันเม็ด ยาผสานวิญญาณ หก
ร้อยเม็ด และแม้แต่ยา เสริมวิญญาณ ที่หาไม่ได้จากในตลาด
ออกมา ลวกๆ
ร้านประมูลของตระกูลลมหิมะ (ตระกูลของเจ้า
เมือง) เคยน่ายาชนิดนี้ออกประมูล หนึ่งในยาพวกนั้นมีราคา
ขายสูงเทียมฟ้า ราคาอาจถึงหนึ่งแสนเหรียญจิตรมารเลย
ทีเดียว หากพวกเขามีเป็นร้อยก็มมี ูลค่ามากถึง 10 ล้านเหรียญ
จิตมารก็เป็นได้
แค่คิดถึงจ่านวนเงินขนาดนี้ เนี้ยอิ้งก็อยากจะเป็นลม
แล้ว ไม่ว่าจะรวยขนาดไหน ถ้าไม่มีวิธีการพิเศษมาก ๆ ก็ไม่มี
ทางที่จะหายาเม็ดเสริมวิญญาณจากในตลาดทั่ว ๆ ไปได้เลย
“ยาพวกนี้มันแพง ก็เพราะว่ามันเพิ่งออกขายนั้นล่ะ
นะ จริง ๆ แล้วสมาคมนักปรุงยา ยังมียาพวกนี้เก็บไว้อีก
มากมาย เพราะฉะนั้น ในภายภาคหน้า ราคาของยาจะต้องถูก
ลงอย่างแน่นอน แล้วยาจ่านวนนี้กไ็ ม่ได้ถือว่ามากมายอะไร
เพื่อการพัฒนาของตระกูลของเรา มันก็เป็นหน้าที่ของพวกเรา
อยู่แล้ว !” เนี้ยหลี่พดู ตรง ๆ
(เนี้ยอิ้งกับเนี้ยหลี่ อยู่กิ่งตระกูลเดียวกัน)
เมื่อเขาคิดถึงยาทั้งหลายในแหวนมิติของเขาแล้ว
เนี้ยอิ้งก็อดรู้สึกดีใจไม่ได้ ด้วยยาเหล่านี้ มันมากพอที่จะท่าให้
กิ่งตระกูลของเขาเพิ่มระดับได้ เนือ่ งจากในตระกูลบันทึก
สวรรค์นั้น มีทั้งหมด 8 กิ่งตระกูล โดยปกติแล้ว จะมีปัญหาไม่
ลงรอยกันระหว่างกิ่งตระกูลอยู่แล้ว ดังนั้น เขาเองก็ไม่
จ่าเป็นต้องแบ่งยาให้กิ่งตระกูลอื่นแต่อย่างใด
“เนี้ยหลี่ และท่านผู้อาวุโสเนี้ยอิ้ง นี่มันไม่ถูกต้อง
ตระกูลบันทึกสวรรค์คือครอบครัวของเรา เราจะเห็นแก่ตัวโดย
การไม่สนใจกิ่งตระกูลอื่น ๆ ได้อย่างไร ?” เนี้ยไฮ้พูดอย่างร้อน
รน เมื่อเห็นท่าทีของเนี้ยหลี่และเนี้ยอิง ที่จะไม่แบ่งยาพวกนั้น
กับกิ่งตระกูลอื่น ๆ
“ยาพวกนี้เป็นของข้า ข้าจะให้มันกับคนที่ข้าอยากให้
มันผิดตรงไหนล่ะ ? แล้วกิ่งตระกูลของข้าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของ
ตระกูลบันทึกสวรรค์งั้นหรือ ? ถ้ากิ่งตระกูลของข้าแข็งแกร่งขึ้น
นั่นหมายความว่าตระกูลบันทึกสวรรค์ก็แข็งแกร่งขึ้นด้วยนะ !”
“เจ้าจะเอาเรื่องนั้นมาเปรียบเทียบกันได้อย่างไร มัน
ควรจะแบ่งยาไปให้ทุกกิ่งตระกูลสิ มันถึงจะได้ผลมากที่สดุ !”
เนี้ยไฮ้รีบตอบ “ด้วยยามากมายทีเ่ จ้ามีนั้น เจ้าควรจะแบ่ง
ให้กับกิ่งตระกูลอื่น ๆ บ้างสิ”
ท่ามกลางเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลบันทึกสวรรค์นั้น
เนี้ยอิ้ง มีต่าเหน่งต่า่ ที่สุด แต่เมื่อเนี้ยหลี่กลับมา เขากลายเป็นผู้
อาวุโสคนส่าคัญของตระกูล เพราะเนี้ยอิ้งมักจะปฏิบัติกับผู้อื่นดี
เสมอ แต่ก็เป็นคนที่ค่อนข้างขี้ขลาด ดังนั้นปกติ เขาจึงไม่ได้
ต่อสู้เพื่อความต้องการของคนในกิ่งตระกูลของเขามากนัก แต่
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ด้วยยาทั้งหมดที่มีอยู่ในมือของเขา เขา
กล้าที่จะลุกขึ้นสู้ เพื่อกิ่งตระกูลของเขา
ยาพวกนี้มีจ่านวนมากพอที่จะก่าหนดอนาคตของทั้ง
ตระกูลได้เลย !
“สามในห้าส่วน !” เนี้ยไฮ้แย้ง
“แค่สองในห้าส่วนเท่านัน้ หากท่านผู้น่าตระกูลเนี้ย
ไฮ้ไม่อยากได้ งั้นก็ลมื มันไปซะ” เนี้ยหลี่พูด
ด้วยยาที่เขามีมากมายนัน้ แค่สองในห้าส่วนก็มาก
พอที่จะให้ทั้งตระกูลบันทึกสวรรค์ใช้ไปได้อีกสักพักใหญ่ ๆ เลย
ทีเดียว
“เอาแบบนีไ้ หม เราจะแบ่งให้กับตระกูลครึ่งหนึ่ง”
เนี้ยอิ้งพูด เป็นการประนีประนอมทั้งสองฝ่าย
“ท่านผู้อาวุโสช่างฉลาดนัก !! ข้าน้อยเนี้ยไฮ้ขอ
คารวะ” เนี้ยไฮ้ป้องมือขึ้นท่าท่าทางประกอบ
ได้ครึ่งหนึ่งก็ดีมากแล้ว จ่านวนยานั้นมากกว่าที่เขา
จะจินตนาการได้
“ท่านผู้น่าตระกูลเนี้ยไฮ้ หมายความว่าข้านั้นไม่
ฉลาดรึ ?” เนี้ยหลี่พดู พร้อมกับท่าหน้ามุ่ย
ถ้าพูดให้ถูกแล้ว ในตอนนี้ต่าแหน่งผู้น่าตระกูลนั้นไม่
มีความหมายเลย ต่อหน้าเนี้ยหลี่ ถ้าเนี้ยหลีโ่ กรธ เนี้ยไฮ้ต้องขอ
โทษทันที ถึงแม้ว่าเขาจะรูส้ ึกหดหูอ่ ยู่บ้างที่ต้องท่าแบบนี้ แต่
เนี้ยไฮ้เองก็ไม่กล้าพูดอะไร เพราะเมื่อคิดถึงยาบ่ารุงพวกนั้น
แล้ว เขาก็ไม่รสู้ ึกหดหู่อีกต่อไป ยาบ่ารุงจ่านวนนั้น สามารถจะ
สร้างความเปลีย่ นแปลงที่มากมายให้กับทั้งตระกูลบันทึก
สวรรค์ ดังนั้นไม่ว่าเขาจะรู้สึกหดหูแ่ ค่ไหน เขาก็รู้ว่ามันคุ้มค่า
“ประมูลแข่งกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อยาเม็ด
ผสานวิญญาณแค่เพียง 100 เม็ด !”
ทั้งห้องประมูลของตระกูลฮองหยู๋ ได้ถูกควบคุมให้
ได้โควตาเพียง ยาเม็ดบ่ารุงวิญญาณ 1000 เม็ด และยาเม็ด
ผสานวิญญาณ 100 เม็ดเท่านั้น แต่ยาเพียงจ่านวนเท่านี้ หาก
เปลี่ยนเป็นเงินล่ะก็ มันจะเป็นจ่านวนที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว นี่
ยังไม่ต้องพูดถึงยาเม็ดเสริมวิญญาณอีก !
มันเป็นครั้งแรกที่แหวนมิติของเขาถูกเก็บของที่
สามารถก่าหนดโชคชะตาเอาไว้ได้
เนี้ยหลีไ่ ด้มอบสูตรยาทิพย์จ่านวนมากให้แก่
สมาคมปรุงยา ดังนั้น เมื่อค่านึงถึงประโยชน์ที่พวกเขาได้รับ
แล้ว สมาคมปรุงยาต้องท่าอย่างดีที่สุดเท่าที่พวกเขาจะท่าให้
เนี้ยหลีโ่ ดยจัดหาทุก ๆ สิ่งที่เขาต้องการมาให้ จ่านวนของยา
ทิพย์ที่พวกเขามอบให้เนี้ยหลีเ่ ป็นจ่านวนถึงหนึ่งในห้าของ
จ่านวนยาทิพย์ทั้งหมดของสมาคมปรุงยา ท่าให้สามารถพูดได้
ว่านอกจากสมาคมปรุงยาแล้ว เนีย้ หลี่นั้นเป็นคนที่มียาทิพย์
จ่านวนมากที่สดุ ในมือ
“นอกจากยาบ่ารุงวิญญาณ ยาผสานวิญญาณ
และยาเสริมวิญญาณ ข้ายังมียาเสริมพลังกายสีชาติและยา
เปลี่ยนรูปทั้งเก้า...”
เนี้ยหลี่ ตั้งใจหยุดการพูดเอาไว้
เนี่ยหลีม่ ีแม้กระทั้งยาเสริมพลังกายสีชาดและยา
เปลี่ยนรูปทั้งเก้า? แววตาของเนี้ยอิ้งและเนี้ยไฮ้ได้ลุกโชนขึ้น
ด้วยความพรั่นพรึง
“ส่าหรับยาล้่าค่าเหล่านี้แล้ว ท่านผู้น่าตระกูล
ท่านคงไม่คาดหวังให้ข้ามอบยาพวกนี้ให้แก่ตระกลูฟรี
ๆ ถูกต้องไหม?” ค่าพูดของเนี้ยหลี่หมายถึง ว่าถ้าเนีย้ ไฮ้
ต้องการยาเหล่านั้น เขาจะต้องมีศกั ยภาพเพียงพอที่จะให้
ข้อเสนอดี ๆ กลับมาเป็นการแลกเปลี่ยน
ทันใดนั้นเนี้ยอิ้งได้ผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาและพูด
ว่า “ถูกต้องแล้ว ท่านผู้น่าตระกูล ตระกูลของเรามี
ประวัติศาสตร์มายาวนานโดยผ่านการสืบทอดมาแล้วหลายรุ่น
พวกเราน่าจะมีสมบัติบางสิ่งที่ได้สบื ทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ในเมื่อเนี้ยหลี่ได้ถูกรับเลือกให้เข้าสู่ชั้นเรียนอัจฉริยะ เพื่อเป็น
การตอบแทนเขา พวกเราควรจะให้เนี้ยหลี่เข้าไปยังห้องสมบัติ
และเลือกสมบัติกลับไปสักชิ้น?”
ห้องสมบัติของตระกูลบันทึกสวรรค์? หัวใจของ
เนี้ยหลีเ่ ต้นแรงขึ้น เมื่อชีวิตที่แล้วของเขา ตัวเขานั้นยังไม่เคย
เข้าไปยังห้องสมบัติของตระกูลมาก่อน ในฐานะตระกูลที่
สืบสายเลือดของท่านลอร์ดทีม่ ีเพียงแค่สิบคนในยุคอาณาจักร
หิมะเหมันต์ พวกเขานั้นเป็นตระกูลที่มีการสืบทอดอย่าง
ยาวนาน เป็นไปได้ว่าอาจมีสมบัตลิ ้่าค่าอยู่บ้างภายในห้อง
สมบัติของตระกูลเขา
สมบัตสิ ่วนใหญ่ทไี่ ด้รบั สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ยุค
โบราณเป็นดั่งของไร้ค่าส่าหรับเนีย้ ไฮ้และคณะ ในเมื่อพวกเขา
นั้นไม่สามารถรู้ว่าจะใช้ของพวกนั้นได้อย่างไร แต่ว่า
ส่าหรับเนี้ยหลี่แล้วมีความแตกต่างกัน เขาได้ตรวจสอบสมบัติ
มามากมายนับไม่ถ้วนมาแล้วในเมือ่ ก่อน ท่าให้สมบัติที่ล้่าค่าไม่
สามารถรอดพ้นสายตาของเนี้ยหลีไ่ ปได้
“ท่านอาวุโสหลักเนี้ยอิ้ง ท่านสามารถรับยาเสริม
พลังกายสีชาตินไี้ ป และใช้มันเมื่อท่านกลับไปถึงตระกูล ยานี้
นั้นมีผลลัพธ์มหาศาลในการเสริมพลังกายของนักต่อสู้” เนี้ยหลี่
ได้ส่งยาเสริมพลังกายสีชาติให้แก่เนี้ยอิ้งและพูดขึ้น
“เนี้ยหลี่ ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นเป็นตระกูลของ
เจ้า ดังนั้น สมบัติของตระกูลบันทึกสวรรค์กเ็ ป็นเหมือนสมบัติ
ของเจ้าเช่นกัน ถ้ามีสิ่งใดที่เจ้าต้องการอยู่ภายในห้องนั้น เจ้า
สามารถเอามันไปได้ทั้งหมดเท่าทีต้องการ!” เนี้ยไฮ้ ทันใดรีบ
พูดประสมโรงเข้ากับเนี้งอิ้ง สมบัตทิ ี่เหลืออยู่ในห้องสมบัติล้วน
เป็นสมบัติที่ไม่สามารถใช้ท่าสิ่งใดได้ เขาหวังให้เนี้ยหลี่เข้าไป
และหยิบสมบัติมากเท่าที่จะมากได้ภายในห้องสมบัตินั้น เพราะ
ยาทิพย์ทั้งหลายที่เนี้ยหลี่จะได้มอบให้แก่ตระกูลก็มีค่าเกินกว่า
ทั้งตระกูลบันทึกสวรรค์รวมกันแล้ว
“ข้ารู้สึกแปลกใจในความใจกว้างของท่านผู้น่า
ตระกูลยิ่งนัก มันดูเหมือนว่าตัวข้านั้นจะมีความเข้าใจผิดต่อ
ท่านผู้น่าตระกูลมาเป็นเวลาแสนนาน ยาเสริมพลังกายสีชาติ
เม็ดนี้ข้าขอมอบให้ท่านผู้น่าโดยถือว่าเป็นเสมือนของขวัญของ
ตัวข้า และภายหลังเมื่อข้าได้ไปยังห้องสมบัติและได้เลือกสมบัติ
แล้ว ข้าจะมอบยาเสริมพลังกายสีชาติและยาเปลีย่ นรูปทั้งเก้า
อย่างละ100 เม็ดให้แก่ตระกูลของเรา ” เนี้ยหลี่พูดด้วยท่าที
แจ่มใส ในเมื่อตัวเขามียาทิพย์อยูเ่ ป็นจ่านวนมากแล้ว การให้ไป
เล็กน้อยก็ไม่ถือว่ามากมายอะไร
เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยหลี่ ดวงตาของเนี้ยไฮ้เบิก
กว้างขึ้น และแทบรอไม่ไหวที่จะได้กลับไป
การประมูลนั้นยังคงด่าเนินต่อไป โดยการประมูล
ของยาทิพย์ได้จบลงไปเรียบร้อยแล้ว
เล่ยโซ่วและเจียงหมิงช่าเลืองสายตาไปยังเนี้ยไฮ้
“เนี้ยไฮ้นั้นต้องแสร้งท่าว่ารวยมากเป็นแน่
หลังจากได้ใช้เงินไปจ่านวน 2 ล้านจิตมารเพื่อซื้อของจ่านวน
มาก ท่าให้ในตอนนี้ไม่เหลือเงินในการสูร้ าคาของยาทิพย์” เล่ย
โซ่วพูดพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ
เจียงหมิงได้พูดเสริมเช่นกันว่า “แม้ว่าชุดระดับ
ทองจะเป็นของที่มีประโยชน์มาก แต่ก็ใช้ได้เพียงผูเ้ ดียวเท่านั้น
ยังไม่นับว่ามันสามารถใช้ได้ในการต่อสู้เพียงอย่างเดียว
เท่านั้น และยังไม่คุ้มค้าเท่าการซือ้ ยาทิพย์ เนี้ยไฮ้ในตอนนี้คง
ก่าลังเสียใจในสิ่งที่เขาท่าไปจนท่าให้ท้องไส้ของเขาปั่นป่วนอยู่
เป็นแน่!”
แต่ที่พวกเขาไม่รู้ก็คือเนี้ยไฮ้ได้รับยาทิพย์จ่านวน
มากจากเนี้ยหลี่ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะท่าให้เขามีความสนใจใน
ยาทิพย์เหล่านั้นที่อยู่ในการประมูลได้อย่างไร
เพียงแต่ในตอนที่พวกเขาก่าลังพูดกันอยู่นั้น เนี้ยห
ลี่ก็ได้เริม่ สูร้ าคาราวกับคนบ้า เขายังคงซื้อของอย่างต่อเนื่อง
ด้วยราคาทีส่ ูงกว่า ห้าถึงหกแสนเหรียญจิตรมาร ตราบเท่าที่
ของเหล่านั้นยังคงมีความน่าสนใจเขาก็จะท่าการสู้ราคา ในเมื่อ
เนี้ยหลี่ในตอนนี้มีเงินอยู่เป็นจ่านวนมากจนกระทั่งไม่สามารถ
ใช้ได้หมด ท่าไมไม่เปลี่ยนเงินเหล่านั้นมาเป็นสิ่งของที่ใช้
ประโยชน์ได้หลากหลายดีกว่าปล่อยให้เงินพวกนั้นกินเนื้อที่ใน
วงแหวนห้วงมิติลี้ลบั ไปเปล่า ๆ?
“อ้าว ไม่ใช่ว่าตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นไม่เหลือเงิน
แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่สนใจยาทิพย์เหล่านั้นต่างหาก!”
ใบหน้าเล่ยโซว่และเจียงหมิงและร้อนผ่าว เลวมาก
เมื่อไหร่กันที่ตระกูลบันทึกสวรรค์มีความร่่ารวยเช่นนี?้ ณ
ตอนนี้ พวกเขาทั้งสองต่างรู้สึกเศร้าใจยิ่งนัก
หลังจากการประมูลผ่านไปครึ่งชั่วโมง เนี้ยหลีไ่ ด้
ซื้อของมาแล้วมากกว่า 12 ชิ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีของชิ้น
ไหนเลยที่ท่าให้เนี้ยหลี่รสู้ ึกตื่นเต้นได้ สิ่งนี้เป็นเหตุให้เขารูส้ ึก
เบื่ออยู่บ้าง
ทั่วทั้งห้องการประมูลเริ่มเข้าสู่ความปั่นป่วน
“ข้ารู้จักคนผู้นั้น เขาเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของ
ตระกูลเฟิ่งหมิงที่เป็นตระกูลชั้นสูง!”
“นั่นเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลปีกมังกร!”
“คนนั้นเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์”
......
“ท่าไมพวกเขาเหล่านั้นถึงมายังที่แห่งนี้?”
“ตัวข้าได้ยินมาว่าตระกูลฮองหยู๋ ได้รับสมบัติอัน
หาที่เปรียบมิได้มาจากส่วนที่ลึกเข้าไปของซากทมิฬ ท่าให้พวก
เขาจัดการประมูลนี้ขึ้น และพวกเขาได้เชิญตัวแทนของตระกูล
หลักทั้งสามและตระกูลชั้นสูงทั้งหกมาเข้าร่วมการประมูลนี้
ด้วย!”
ของทั้งหลายที่ได้ถูกประมูลไปก่อนหน้านี้ ไม่
สามารถดึงความสนใจของอภิมหาอ่านาจทั้งสามทั้ง ต้องไม่ลืม
ว่าพวกเขาสามารถได้ของพวกนี้มาจากการประมูลอื่น ๆ ได้
โดยเหตุผลเดียวที่ท่าให้พวกเขามายังที่แห่งนี้เป็นเพราะการ
กล่าวว่ามีสมบัตลิ ้่าค่าอย่างหาที่เปรียบมิได้จากตระกูลฮองหยู๋
“การค้นพบในหุบเหวซากทมิฬแห่งพระเจ้า พวก
เขากล้าเข้าไปยังซากทมิฬจริงรึ?
ซากทมิฬ? เนี้ยหลี่ระลึกความทรงจ่าของสถานที่
แห่งนั้น ในชีวิตที่แล้วนั้น ตัวเขาไม่ได้เข้าไปยังสถานที่แห่งนั้น
เขาเพียงแต่ได้ยินเกีย่ วกับมันจากบุคคลอื่น ซากทมิฬเป็น
สถานที่ราวกับฝันร้าย มีเพียงผูเ้ ชี่ยวชาญระดับแบล็คโกลด์ขึ้น
ไปเท่านั้นที่กล้าเข้าไปยังที่แห่งนั้น ต้องไม่ลมื ว่ายังมีสตั รอสูรน่า
กลัวจ่านวนมากได้เพิม่ จ่านวนขึ้นอยู่ที่บริเวณนั้นอีกด้วย
มันเป็นเรื่องเล่าก่อนที่จะเข้าสูย่ ุคมืด ร่างทรงอสูร
ระดับต่านานได้อาศัยอยู่ในที่แห่งนั้น จิตอสูรที่เขาได้รวมร่าง
ด้วยนั้นเป็นจิตอสูรแห่งความน่ากลัวและสยองเป็นทีส่ ุด เมื่อ
เขาได้จบชีวิตลงแล้ว สถานที่แห่งนั้นก็ได้ถูกครอบง่าโดยจิตอสูร
แห่งฝันร้าย
จิตอสูรแห่งผันร้ายเป็นเรื่องลึกลับและเป็นจิตอสูร
ชนิดหลอกหลอนประเภทหนึ่ง พวกมันมีพลังลีล้ ับมากมายที่
แม้แต่เนี้ยหลี่กร็ ู้เรื่องของพวกมันเพียงน้อยนิด และเป็นจิตร
อสูรประเภทหนึ่งที่จับได้ยากเป็นอย่างยิ่ง
เนี้ยหลี่เริ่มมีความรู้สึกคาดหวังในของชิ้นนี้ และสงสัยว่าของ
สิ่งใดกันที่ตระกูลฮองหยู๋ น่ามาประมูล
ตัวแทนของตระกูลหลักทั้งสามและตระกูลชั้นสูง
ทั้งหกต่างเริ่มเข้าสู่ที่นั่งทีละคน บรรยากาศภายในการประมูล
ราวกับถูกแช่แข็ง ทุก ๆคนต่างมองไปยังสิ่งของที่ตระกูลฮองหยู๋
จะน่าออกมา
บทที่ 69 - ราคาที่สูงเทียมฟ้า
“คนของตระกูลหลักทั้งสามและตระกูลชั้นสูงทั้งหกมาที่นี่ ยังมี
ตัวแทนจากสมาคมปรุงยามาด้วยอีกคน นอกจากนี้ยังมีตัวแทน
จากสมาคมพ่อค้าทั้งสิบอีกด้วย เฮ้อ..พวกเราคงไม่มีโอกาสได้
ของชิ้นนั้นมาแน่นอน”
“แม้พวกเราไม่มีโอกาสได้ของชิ้นนั้นมา แต่การ
ได้ชมการประมูลอันยิ่งใหญ่เพียงนีก้ ็นับเป็นบุญตาแล้ว”
ทุก ๆ คนภายในห้องประมูลต่างก่าลังยุ่งอยู่กับ
การถกเถียงกัน
ในตอนนี้ ทั่วทั้งห้องการประมูลได้เงียบสงัดลง
ทันที องหญิงงามก่าลังยกถาดใบหนึ่งและได้ก้าวขึ้นมาบนเวที
บางสิ่งที่อยู่บนถาดใบนั้นได้ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าสีม่วงผืนหนึ่ง มี
เพียงรูปร่างจากของสิ่งนั้นที่ปรากฏออกมาให้เห็นเลือนราง
“ของสิ่งนั้นมันคืออะไรกันแน่?”
“คลาดสายตามิได้เลย!”
ในตอนนี้ ใบหน้าของผู้ด่าเนินการประมูลปรากฏ
รอยยิ้มชวนหลงใหล มือขวาของเธอได้ดึงผ้าคลุมสีม่วงออก
อย่างแผ่วเบา ทันใดแสง อัญมณีกไ็ ด้สาดส่องออกไปทุกทิศทาง
และปรากฏหม้อหยกทมิฬหนึ่งใบซึ่งวัตถุดิบที่ถูกใช้สร้างมัน
ขึ้นมายังคงเป็นปริศนา มันได้ปรากฏเบื้องหน้าต่อสายตาของ
ทุก ๆ คน โดยตัวหม้อนั้นมีความโปร่งใสพร้อมกับส่องแสง
วาววับราวกับมีแสงของอัญมณีเปล่งแสงอยู่บนตัวมัน
พลังวิญญาณจ่านวนมากจากหม้อใบนั้นได้
กระจายออกไปรอบ ๆ
สาวสวยผู้ด่าเนินการประมูลพูดต่อไปว่า
“นอกจากนี้แล้ว โดยการทดสอบจากผู้น่าตระกูลฮองหยู๋
ปรากฏว่าถ้ามีผู้ใดได้ฝึกจิตอสูรอยูร่ อบ ๆ หม้อใบนี้ จะท่าให้มัน
แผ่พลังงานมหาศาลของจิตอสูรออกมาได้มากยิ่งขึ้นไปอีก
ดังนั้นจึงเป็นการยืนยันแล้วว่าของสิ่งนี้เป็นสมบัตลิ ้่าค่าอันหาที่
เปรียบมิได้อย่างแท้จริง ผู้น่าตระกูลฮองหยู๋ คาดหวังว่าจะมีซึ่ง
บางคนที่จะสามารถปลดปล่อยความสามารถของมันก็ออกมา
ได้!”
“ราคาส่าหรับของสิง่ นี้เริ่มต้นที่ 8 ล้านเหรียญจิต
มารค่ะทุกท่าน!”
หลังจากตัวแทนของแต่ละตระกูลสัมผัสได้ถึง
พลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง ท่าให้พวกเขาช่วยไม่ได้ที่จะขยับตัวไป
มาด้วยความสนใจในของสิ่งนี้เป็นอย่างมาก
“หม้อหยกทมิฬใบนี้มันคืออะไรกันแน่?”
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ท่านแน่ใจได้เลยว่าของ
สิ่งนี้ไม่ใช่ของธรรมดาแน่นอน!”
เมื่อมองดูไปที่หม้อหยกทมิฬ เนี้ยหลี่ก่าลังอยู่ใน
ห้วงค่านึงของความคิดของตัวเขา.. หม้อใบนี้น่าจะเป็นสมบัติใน
ต่านาน “หม้อแห่งจิตอสูรฝันร้าย” มันเป็นของที่ได้สืบทอดต่อ
กันมาย้อนกลับไปเมื่อก่อนในสมัยยุคอาณาจักรหิมะ
เหมันต์ โดยมีเรื่องเล่ากันว่าของสิง่ นี้ได้ถูกค้นพบในตระกูล
โบราณตระกูลหนึ่ง
แม้เป็นเนี้ยหลี่ก็รู้วิธใี ช้มันเพียงแค่อย่างเดียวหนึ่ง
ในวิธีใช้ของหม้อแห่งจิตอสูรฝันร้ายคือขัดเกลาจิตอสูร!
ความเป็นไปได้ที่จะล้มเหลวมีค่อนข้างน้อยแต่
ความเป็นไปได้ที่จะได้จิตอสูรหายากนั้นมีน้อยยิ่งกว่า โดยส่วน
ใหญ่แล้วหม้อแห่งจิตอสูรฝันร้ายนีส้ ามารถขัดเกลาออกมาเป็น
จิตอสูรที่แข็งแกร่งขึ้น ด้วยความสามารถนี้เพียงอย่างเดียวก็
มากเกินพอแล้วที่จะท่าให้ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนกระหาย
อยากได้อย่างบ้าคลั่ง ต้องไม่ลืมว่าร่างทรงอสูรส่วนใหญ่
สามารถรวมร่างกับจิตอสูรได้เพียงแค่ตนเดียว ดังนั้นพวกเขาจึง
หมายมั่นจะได้จิตอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
การใช้จิตอสูรระดับต่านานน่ามารวมกันเพื่อ
กลายเป็นจิตอสูรที่แข็งแกร่งนั่นเป็นวิธีการใช้ของหม้อแห่งจิต
อสูรฝันร้าย
มีความเป็นไปได้ที่ไม่มีผู้ใดในที่แห่งนีล้ ่วงรู้ถึง
วิธีการใช้ของหม้อแห่งจิตอสูรฝันร้าย
เพียงแค่คิดถึงความทรงพลังของหม้อแห่งจิตอสูร
ฝันร้ายก็ท่าให้เนี้ยหลี่ตัดสินใจว่าเขาต้องซื้อสิ่งนี้ให้ได้ไม่ว่าต้อง
จ่ายมากไหร่กต็ าม!
ในไม่ช้า ตระกูลบางกลุ่มได้เริ่มเสนอราคาเข้ามา
“สิบล้านเหรียญจิตมาร!”
“สิบสองล้านเหรียญจิตมาร!”
“สิบห้าล้านเหรียญจิตมาร!”
....
ไม่นานราคาก็ได้พงุ่ สูงไปถึงยี่สิบล้านเหรียญจิต
มาร ราคาเพียงเท่านี้ก็ท่าให้ทุก ๆ คนในห้องประมูลตกใจกัน
ถ้วนหน้า
“สามสิบล้านเหรียญจิตมาร!” ตระกูลศักดิ์สิทธิ์
เริ่มเสนอราคาเข้ามาทันที
“สามสิบห้าล้านเหรียญจิตมาร!” สมาคมปรุงยา
ก็เสนอราคาเข้ามาด้วย
เนี้ยหลี่มองไปยังชั้นสาม ผู้ที่ก่าลังเสนอราคาอยู่
นัน้ คือหยางซินเป็นแน่ หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่เนี้ยหลีไ่ ด้พูด
กับเนี้ยอิ้ง “ท่านอาวุโสหลัก ดูเหมือนว่าผู้อ่านวยการหยางจะ
อยู่ที่ชั้นสาม ขอให้ท่านไปพบเธอและบอกเธอว่าตัวข้าต้องการ
หม้อหยกใบนั้น ขอให้เธอช่วยเสนอราคามันแทนตัวข้าที โดย
ข้าจะจ่ายเงินคืนให้แก่สมาคมปรุงยาเมื่อการประมูลจบแล้ว!”
เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยหลี่ ก่อนที่เนี้ยอิ้งจะพูด
กลับซึ่งสิ่งใด เนี้ยไฮ้ได้รีบพูดขึ้นมาว่า “ตัวข้าจะไปเอง” เนี้ยอิ้ง
มียาทิพย์อยู่เป็นจ่านวนมากในวงแหวนห้วงมิติลลี้ ับของเขา ตัว
เขาไม่กล้าเสี่ยงให้เนี้ยอิ้งเดินไป ผูน้ ่าตระกูลที่ทรงอ่านาจมาก
เช่นเขาในตอนนี้เป็นได้เพียงแค่เด็กส่งสารเท่านั้นแต่ตัวเขาก็
เต็มใจที่จะท่าสิ่งนี้
เนี้ยไฮ้ได้เดินไปพบหยางซิน
ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์และสมาคมปรุงยาต่างสู้
ราคากันอย่างไม่ยอมหยุด โดยตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ได้ยอมแพ้
หลังจากสมาคมปรุงยาเสนอราคาพุ่งสูงไปถึงห้าสิบล้านเหรียญ
จิตมาร ถ้าพูดถึงความร่่ารวยแล้วแม้ว่าจะเป็นหนึ่งในสามของ
ตระกูลหลักก็ตามแต่พวกเขาก็ไม่สามารถสู้กับสมาคมปรุงยาได้
เลย
“ห้าสิบล้านเหรียญจิตมาร! สมาคมปรุงยาช่าง
ร่่ารวยยิ่งนัก!”
“แน่นอน ยาทิพย์ทั้งหมดของสมาคมปรุงยาที่
ผลิตขึ้นไม่นานได้ถูกขายด้วยราคาสูงลิ่ว ก่าไรแต่ละวันของพวก
เขาค่านวณได้เป็นหลักพันล้าน!”
หยางซินต้องไม่ปฏิเสธค่าขอของเนี้ยหลี่อย่าง
แน่นอน ต้องไม่ลืมว่า หยางซินยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องการจาก
เนี้ยหลี่ การใช้เงินจ่านวนมากเช่นนี้ของสมาคมปรุงยา ส่าหรับ
พวกเขาแล้วสามารถพูดเทียบได้วา่ “เป็นเพียงขนเพียงเส้น
เดียวที่ร่วงลงจากวัวทั้งเก้า“ สิ่งใดก็ตามที่เนี้ยหลี่จะน่ามาให้แก่
สมาคมปรุงยานั้นไม่สามารถวัดเป็นตัวเงินได้
หลังจากราคาไปถึงที่ห้าสิบล้านเหรียญจิตมาร
ตระกูลส่วนใหญ่ต่างยอมแพ้ นอกจากนี้ต้องไม่ลืมว่าหลาย
ตระกูลยังคงต้องซื้อยาจากสมาคมปรุงยาอยู่ดังนั้นพวกเขาต้อง
รักษาหน้าของสมาคมปรุงยาไว้บ้าง แม้ว่าพวกเขาจะมีความ
สนใจหม้อหยกทมิฬใบนี้แต่พวกเขาก็ไม่แข่งสูร้ าคาต่อ
“ห้าสิบห้าล้านเหรียญจิตมาร!”
หม้อหยกทมิฬใบนีม้ ีราคาสูงไปถึงระดับที่น่า
สะพรึงกลัวเช่นนี้ได้จริง ๆ !
ช่างร่่ารวยยิ่งนัก ชายผู้นี้เพียงคนเดียวก็มีความ
ร่่ารวยเทียบได้เท่ากับความมั่งของตระกูลขุนนางทั้งหมด
รวมกัน!
อย่างไรเสียเมื่อราคาได้ไปถึงที่ห้าสิบห้าล้าน
เหรียญจิตมาร ราคาของมันค่อนข้างจะเกินการคาดคะเนของ
เธอไปเล็กน้อย ตัวเธอก่าลังมีความสงสัยอยู่ว่ามันคุ้มค่ากัน
หรือที่จะต้องจ่ายไปถึงห้าสิบห้าล้านเหรียญจิตมารเพียงเพื่อ
หม้อหยกทมิฬซึ่งยังไม่รู้แม้กระทั่งวิธีที่จะใช้มัน?
บทที่ 70 - สู้ราคา
หกสิบล้านเหรียญจิตมาร ราคามันควรมากขนาด
นี้จริงๆหรือนี?่ หม้อหยกใบนี้แท้จริงแล้วใช้ท่าสิ่งใดกันนะ?
เนี้ยหลีจ่ ะสามารถรู้วิธีที่จะใช้มันได้แน่หรือ? หยาง ซิน คิดใคร่
ควร
“เจ็ดสิบล้านเหรียญจิตมาร!” หยางซินให้ราคาสูง
มาก ราคายังคงที่จะไต่ระดับสูงขึน้ เรื่อยๆ
หรือชายลึกลับผู้นี้นนั้ มาจากสมาคมทมิฬกันนะ?
ที่บริเวณชั้นล่างนั้นมีแต่ ตระกูลที่ร่ารวยมหาศาล
และเหล่าพ่อค้า เพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น น่าจะมีเพียงสมาคม
ทมิฬเท่านั้นที่มีความมั่งคั่งจนสามารถสู้ราคาได้ถึงเพียงนี้
สมาคมทมิฬ ได้ลักพาตัวผู้คนจากตระกูลต่างๆ เพื่อเรียกค่าไถ่
จากตระกูลเหล่านั้น และยังไม่รวมถึงการปล้นและการกระท่าที่
เลวร้ายต่างๆอีกมากมาย
เนี้ยหลี่ นิ่งเงียบไปสักพักแล้วจึงกล่าวออกมาว่า
“ท่านผู้น่าตระกูล ข้าเจอปัญหาเข้าแล้วท่านได้โปรดช่วยข้าส่ง
สารมากมายเหล่านี้ไปยังผู้อ่านวยการหยางด้วย ค่าพูดของข้า
นั้นยังคงเหมือนเดิมไม่ต้องกังวลใดๆ ไม่ว่าราคาจักเท่าไรให้นาง
สู้จนได้รับหม้อศิลาหยกด่าใบนั้น ทุกราคาประมูล ภายหลังจาก
การประมูล ก็ให้ส่งยอดฝีมือติดตามชายลึกลับผู้นไี้ ปด้วย ซึ่ง
ยอดฝีมือทีส่ ่งไปติดตามจักต้องมีระดับมิต่ากว่าระดับทอง หรือ
ถ้าจะให้ดีก็ส่งผู้ตดิ ตามระดับ ทองค่าด่า ไปเลย แต่ระวังอย่าให้
ชายผู้นั้นรู้ตัวเพราะ เขานั้นก่าลังจะโผล่หางออกมาแล้ว!”
เนี้ยไฮ่ คิ้วกระตุกไปมาอย่างควบคุมไม่อยู่พร้อม
พยักหน้ารับค่า “ตกลง” เขาคิดใคร่ครวญว่าสารที่จักต้องน่าส่ง
ให้นี้คงมิใช่เรื่องราวที่ธรรมดาอย่างแน่นนอน บุรุษลึกลับผู้ไม่
ทราบที่มาที่ไปผู้นั้น ช่างเป็นผู้ที่มสี ถานะทางการเงินพื้นหลังที่
แข็งแกร่งเสียยิ่งกระไร จนสามารถสู้ราคากับสมาคมนักปรุงยา
ได้ขนาดนี้
ณ ขณะนี้ทุกคนในลานประมูลก็ได้ เริ่มที่จะตั้งค่าถามถึงที่มาที่
ไปเกี่ยวกับชายลึกลับผู้นี้
“หนึ่งร้อยล้านเหรียญจิตมาร” เมื่อสมาคมนัก
ปรุงยาเรียกราคาออกมา เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญด้านต่างๆ รวมทั้ง
ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ ถึงกับต้องตกตะลึงแทบลืมหายใจกัน
เลยทีเดียว พวกเขาล้วนต้องการใคร่รู้ว่า สมาคมนักปรุงยานั้น
สามารถล่วงรู้ว่าหม้อศิลาหยกด่าใบนั้นใช้ท่าสิ่งใดกัน พวกเขา
จึงได้สรู้ าคาสูงถึงเพียงนี้ ?
หรือว่าสมาคมนักปรุงยานั้น ร่่ารวยมหาศาลกระ
ทั้ง ไม่รู้จักใช้เงินไปท่าอย่างอื่นกระนั้นหรือ?
หนึ่งร้อยล้านเหรียญจิตมารช่างไร้ปราณียิ่งนัก!
“หนึ่งร้อยสิบล้านเหรียญจิตมาร!” ชายลึกลับที่อยู่บริเวณชั้น
ล่าง ลังเลค่อนข้างนาน จนกระทั้งสาวสวยพิธีกรผูด้ ่าเนิน
รายการประมูลนั้นเกือบจะเคาะค้อนอยู่แล้ว เขาจึงเรียกราคา
ขึ้นสู้อีกครั้ง
“หนึ่งร้อยยี่สิบล้านเหรียญจิตมาร!” หยางซิน
เรียกราคาสูงขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ชายลึกลับในตอนนี้ก็
เข้าใจในทันทีว่า หยางซิน นั้นได้ตดั สินใจเป็นที่แน่วแน่แล้วว่า
จักต้องซื้อให้ได้ โดยนางใช้เวลาในการสูร้ าคา ไม่นานทุกครั้ง
นอกจากนี้ เงินในบัญชีของเขาก็มีมิเพียงพอแล้ว
ทุกๆคนล้วนประหลาดใจยิ่งนัก เพราะเหตุใดหม้อ
ศิลาหยกด่าใบนี้ ราคาจึงพุ่งทะยานจนทะลุฟ้าได้ขนาดนี้ หนึ่ง
ร้อยยี่สิบล้านเหรียญจิตมาร ราคานี้มันช่างน่ากลัวเสียจริงๆ มี
เพียงสมาคมนักปรุงยาเท่านั้นกระมังที่สามารถจ่ายได้
ส่าหรับหม้อศิลาหยกด่าใบนี้มันช่างท่าให้ทุกคน
อยากรู้เกี่ยวกับมันมากจริงๆ
และแล้วการประมูลก็สิ้นสุดลง
ทุกๆคนทยอยแยกย้ายกันไปอย่างช้าๆ รวมทั้ง
เนี่ยหลี่ และพวกของเขา ยังคงมีภารกิจต้องไปรวบรวมสมบัติ
หลังจากพวกเขาได้ซื้อมันมาแล้ว
ณ ห้องลับของสนามประมูลแห่งนี้ เนี้ยหลี่และห
ยางซินได้นดั พบกัน หยางซินถือหม้อศิลาหยกด่าพร้อมทั้งยิ้ม
อ่อนหวาน นางจับจ้องไปที่เนี่ยหลีแ่ ละถามว่า “น้องชายตัว
น้อย บางทีเจ้าจะรู้ใช่ไหมว่าของสิง่ นี้ใช้ท่าอะไร?”
ในการสั่งซื้อหม้อศิลาหยกด่าใบนี้นั้น นางต้องจ่าย
รวมเป็นเงินถึง หนึ่งร้อยยีส่ ิบล้านเหรียญจิตมาร ราคาขนาดนี้
ถึงเป็นสมาคมนักปรุงยาก็กล่าวได้ว่ามันเป็นจ่านวนมิใช่น้อย
เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าสมาคมนักปรุงยาจะร่า่ รวยมหาศาล แต่
ตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่รวยถึงขนาดที่ว่าพวกเขาจะสามารถใช้
จ่ายเงินได้อย่างอิสระโดยไม่ทราบสิ่งใด
“ข้าก็ยังไม่รู้วิธีการใช้ของสิ่งนี้หรอก” เนี้ยหลี่
กล่าวทั้งรอยยิ้มพร้อมยกมือของเขาส่ายไปมาท่าท่าทางปฏิเสธ
แกล้งท่าเป็นไม่รู้
“นั่นเป็นเพราะว่าข้านั้นยังไม่รู้ว่ามันใช้ท่าอะไรกับมันจริงๆ สิ่ง
ส่าคัญที่ท่าให้ข้าซื้อมันเพราะมี รังสีอันบริสุทธิ์ที่แผ่ออกจากมัน
จักต้องมิใช่สมบัติธรรมดาเป็นแน่ ท่านอาจารย์ของข้าเท่านั้นที่
อาจล่วงรู้วิธีการใช้มัน” เป็นอีกครัง้ ที่เนี้ยหลี่กล่าวอ้างถึง
ความสามารถอาจารย์ของเขาซึ่งไม่มีตัวตนอยู่จริงออกมา เนี้ยห
ลี่ หัวเราะพร้อมทั้งพูดต่อไปอีก “ ของชิ้นนี้แม้มันใช้เงินเพียง
น้อยนิด แต่ว่ามันจักต้องใช้ผู้ที่มีความสามารถในการวิเคราะห์
อย่างสูงมาก”
หยางซินส่ายหัวของนาง พร้อมทั้งผลักแหวนเก็บ
ของกลับคืน และยังหัวเราะอย่างมีเสน่ห์ “เมื่อพิจารณาดูแล้ว
สมาคมนักปรุงยาขอมอบสมบัติชิ้นนี้ เป็นของขวัญแด่ท่าน
อาจารย์ของเจ้าเถิด!” เพราะว่า อาจารย์ของเนี้ยหลี่นั้นเป็น
ผู้ให้ สูตรยาทิพย์หลายสูตร กับสมาคมนักปรุงยา สามารถที่จะ
เรียกได้ว่ามันคือความรูร้ ะดับพระเจ้าเลยทีเดียว ไม่ว่าจะใช้เงิน
มหาศาลเท่าไรก็ไม่ส่าคัญเท่าเพราะมันท่าให้นครศักดิ์สิทธิ์แห่ง
นี้แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก สมาคมนักปรุงยายังคิดว่า
จะท่าเช่นไร จึงจะเป็นที่โปรดปรานแก่อาจารย์ของ เนี้ยหลี่
การให้ของนั้นขวัญ เป็นโอกาสทีด่ มี ากจริงๆ พวกเขาจะท่าเช่น
ไรจึงจะไม่พลาดมัน? ถ้าเกิดอาจารย์ของเนี้ยหลี่ มีความพึง
พอใจ แล้ว ให้สูตรยาทิพย์มาอีกสัก หนึ่งหรือสองสูตรแค่นั้น
ของขวัญชิ้นนี้มันก็นับว่าคุ้มค่ายิ่งนัก
เนี่ยหลี่ เงียบไปชั่วขณะพร้อมทั้งหยิบ หม้ออสูร
ฝันร้าย และยิม้ อย่างสดใสหลังจากนั้นจึงกล่าวว่า“จากค่า
ขอบคุณ ของพี่สาว หยาง ซิน ข้าจักน่ามันไปบอกอาจารย์อย่าง
แน่นอน”
“จากนั้นข้าจะมีการขอบคุณสักเล็กน้อยส่าหรับ
สิ่งนั้น” หยางซิน ยิ้มอย่างอ่อนหวานและกล่าวต่อไป นางคิดว่า
ดูเหมือนยังมีเรื่องอะไรบางสิ่ง เลยกล่าวค่าถามออกไป “เจ้าให้
ข้าส่งยอดฝีมือ ติดตามชายลึกลับผู้สรู้ าคาประมูล เจ้ามีคิดว่ามี
สิ่งใดกันหรือ” ถึงเนี้ยหลีไ่ ม่บอก นางก็จะส่งใครบางคนติดตาม
เขาอยู่แล้ว ถ้าหล่อนพบว่าชายลึกลับผู้ซึ่งออกมาสู้ราคานั้น
เป็นคนจากตระกลูฮ่อง เมื่อนั้นพวกเขาจักต้องได้รับความ
เสียใจในสิ่งที่กระท่าเป็นแน่
ไม่มีใครรู้เรื่องราวของมัน คนที่ประมูลแข่งขัน
อย่างจริงจังเพื่อแย่งชิงหม้อ อสูรฝันร้าย ขนาดที่สรู้ าคาสูงมาก
มันไม่น่าจะสามารถกระท่าเรื่องนัน้ ได้ด้วยตัวเขาเพียงคนเดียว
หรอก จักต้องมีใครบางคนที่รเู้ กี่ยวกับหม้อใบนั้นและใช้เขามา
เอาหม้ออสูรฝันร้ายกระนั้นหรือ?
“ใครบางคนจากสมาคมทมิฬ?!” หยางซิน ลด
ระดับสายตาของนางลง จ้องมองมาที่เนี้ยหลี่ แล้วกล่าวว่า “ถ้า
ข้าตรวจสอบพบว่าชายผู้นั้นมาจากสมาคมทมิฬ ชายผู้นั้น
สามารถอ่าลาชีวิต จากนครศักดิส์ ทิ ธิ์นี้ได้เลย! ข้าได้ด่าเนินการ
ส่งร่างทรงอสูรระดับทองด่า ติดตามหลังผู้นั้นไปเรียบร้อย
แล้ว!”
“พี่สาว หยางซิน จักเป็นการดีทสี่ ุด ถ้าท่านไม่
ท่าให้เขาสงสัย และเราสามารถจับกุมเขาได้ ในขณะที่เขายังมี
ชีวิตอยู่” เนี้ยหลี่ กล่าว อาจจะมีโอกาส ที่พวกเขาสามารหา
หลักฐานพบว่าตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์นั้นสมรูร้ ่วมคิดกันกับ
สมาคมทมิฬก็เป็นได้
บทที่ 71 - ใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม
“ทราบแล้ว”หยางซินพยักหน้าลง แล้วยิ้มเล็กน้อย
“พวกเราจะกลับไปยังตระกูลเลยไหม?”เนี่ยไฮ้เอ่ย
ปากถาม
“จิตอสูรปีศาจแรกจะต้องเลือกอย่างชาญฉลาด ! จิต
อสูรปีศาจทีเ่ จ้าต้องการคืออะไร ? ข้าจะได้ให้รายละเอียดได้”
เนี่ยไฮ้กล่าวอย่างเคร่งขรึม อย่างมีภูมิความรู้
เนี่ยหลี่พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้าคิดของข้าเองได้”
รถม้าวิ่งตรงไปข้างหน้าด้วยความเร็ว เนี่ยหลี่ได้ให้
เนี่ยไฮ้ตรวจสอบว่า มีคนตามมาหรือไม่ ตรวจสอบแล้วไม่พบว่า
มีผู้ใดตามมา ด้านหลังพวกเขา เมือ่ ได้รับการยืนยันว่าพวกเขา
ไม่ถูกตาม เขาก็รสู้ ึกโล่งใจ เนี่ยหลีย่ ังคงเป็นกังวลเล็กน้อย ว่า
อาจจะมีคนคอยจับตาดูเขาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์ หรือ สมาคมทมิฬ ความแข็งแกร่งของพวกนั้นมีมาก
เกินไป โชคยังดีที่ ตระกูลศักดิส์ ิทธิ์และสมาคมทมิฬ ไม่ได้
ติดตามเขาในเวลานี้ คงจะยังไม่มคี วามจ่าเป็นที่จะไม่มา
เสียเวลา เพราะเด็กหนุ่มเช่นเนี่ยหลี่
ความแข็งแกร่งของเนี่ยหลี่ในตอนนี้นั้น ตระกูลเทพ
ศักดิ์กสิทธิ์และสมาคมทมิฬคงยังไม่จ่าเป็นที่จะจับตาดูเขา
เนี่ยไฮ้รีบหยิบสมุดมาให้เนี่ยหลี่ทันที
“ข้าจะเอามันมาทั้งหมด!!”เนี่ยหลี่กล่าว “ข้าหวังว่า
ท่านอาวุโสจะให้ราคาที่เหมาะสมส่าหรับจิตอสูรปีศาจเหล่านี้
ได้”
เนี่ยไฮ้และเนี่ยอิ้ง อึ้งมากกับการกระท่าของเนี่ยหลี่
หลังจากนั้นไม่นานนัก พวกเขาก็หายตกใจ
“ส่าหรับเรื่องเงินนั้น ท่านอาวุโสอย่าได้กังวลไป ข้ามี
เพียงพอที่จะจ่ายมัน!”เนี่ยหลี่พูดเบาๆ
“กรุณารวบรวมจิตอสูรปีศาจให้ด้วย เราจะน่าพวก
มันไปทั้งหมด”
“กรุณารอสักเดีย๋ ว ข้าจะรีบไปน่ามาให้ท่าน”เซา
หมิงเฟิง พูดจบก็รีบเดินออกไป
“ข้ามีวิธีการใช้พวกมันในแบบของข้าเอง”เนี่ยหลี่ยิ้ม
แล้วพูดเบาๆ
บทที่ 72 - หลอมรวม จิตวิญญาณอสูร
เหล่าอสูรที่ถูกจับได้ จะถูกพันธนาการและเก็บ
เอาไว้ในผลึกวิญญาณอสูร
ผลึกวิญญาณอสูรที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะ หลายต่อ
หลายแถว นับเป็นสิ่งที่สวยงามยิ่งนัก
“พวกนี้คือวิญญาณอสูรประเภทฝันร้าย
เหรียญจิตรมาร ส่วนพวกนี้คือวิญญาณอสูรประเภท
ฝันร้ายระดับโกลด์ ราคารวมทั้งหมดประมาณ
นอกเหนือจากการรวมร่างกับร่างทรงอสูรแล้ว
วิญญาณอสูรยังสามารถน่าไปใส่ในชุดเกราะ เพื่อเพิม่
ความสามารถของชุดเกราะได้ด้วย
วิญญาณอสูรตั้งแต่ระดับเงินขึ้นไป มักจะมีราคา
ค่อนข้างแพง เริ่มตั้งแต่ 10,000 ไปจนถึง100,000 เหรียญจิต
มาร ซึ่งราคาระดับนี้ชาวบ้านทั่ว ๆ ไปคงจะหาซื้อมาใช้ได้ยาก
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาส่าหรับเนี้ยหลี่ !!
นี่เลยละกัน” เนี้ยหลี่พยักหน้าในเชิงตกลง
เนี้ยหลี่โบกมือขวาเล็กน้อย แล้วน่าการ์ดอสูร
คริสตัลจ่านวนหนึ่งก็หล่นลงมาจากแหวนมิติของเขา เขาวาง
การ์ดเหล่านั้นไว้บนโต๊ะ พร้อมกับกล่าวว่า “ท่านลองตรวจสอบ
ดู เงินเท่านี้น่าจะพอนะ”
เนี้ยหลี่จ่ายเองงั้นรึ ? เมื่อเขามองไปที่การ์ดอสูร
คริสตัลกองนั้น เซา หมิงเฟิง ก็รสู้ กึ ตกใจอย่างมาก เพราะเค้า
ไม่คิดว่าตระกูลบันทึกสวรรค์จะให้เด็กถือเงินไว้กับตัวมากมาย
ขนาดนี้ มันไม่ได้หมายความว่าตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นร่่ารวย
มากรึ แต่อย่างไรเสีย เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก เพราะเขา
เป็นพ่อค้า ถ้าเนี้ยหลี่มีเงินจ่าย เขาก็ไม่มีปญั หาอะไรอยู่แล้ว
เนี้ยหลี่โบกมือขวาอีกที แล้วก็โยนการ์ดอสูรคริสตัล
50 ใบกลับเข้าไปในแหวนมิติของเขา
“ท่านเจ้าของร้านช่างสุภาพจริง ๆ แต่พวกเรา
อยากจะซื้ออย่างอื่นอีกสักหน่อย ท่านเจ้าของ ร้านคงไม่ได้ไล่
ลูกค้าหรอก ใช่ไหม ?” เนี้ยหลี่พดู พลางมองไปที่เซา หมิงเฟิง
“แน่นอน ! การซื้อวิญญาณอสูรฝันร้ายเป็นเพียง
ส่วนหนึ่งของสิ่งที่ข้าอยากได้เท่านัน้ ” เนี้ยหลี่พูดอย่างสุขุม
จะซื้อหมดทั้งร้านเลยรึ? โอ้พระเจ้า !
เชาหมิงเฟยไม่รอช้า รีบน่าวิญญาณอสูรประเภท
ต่าง ๆ เหล่านั้นออกมาจนหมดร้าน ซึ่งมีจ่านวนมากกว่า
วิญญาณอสูรประเภทฝันร้ายหลายเท่า วิญญาณอสูรที่เนี้ยหลี่
ต้องการนั้นมีจ่านวนร่วมหมื่นใบ แต่ราคาต่อใบนั้น ถูกกว่า
วิญญาณอสูรประเภทฝันร้ายอยูเ่ ล็กน้อย
“ราคารวมทั้งหมด 65 ล้านเหรียญจิตมาร!
“ท่านเจ้าของร้าน ข้ายังอยากจะซื้อวิญญาณอสูร
ประเภทอื่นอีกสักหน่อย” เนี้ยหลีพ่ ูดพลางมองไปที่เซา หมิง
เฟย
“นายน้อยสั่งข้ามาได้เลย หรือเพียงท่านส่งคนมา
บอกข้า ข้าจะรีบจัดส่งวิญญาณอสูรทั้งหมดไปให้ถึงที่ตระกูล
บันทึกสวรรค์เลย!” เซาหมิงเฟยรีบตอบ อย่างดีใจ เขาไม่กล้าที่
จะปฏิบตั ิกับเนี้ยหลี่เหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ ทั่วไป เพราะเนี้ยห
ลี่คือลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของเขา การขายของให้เนี้ยหลี่หนึ่งครึ่ง
มีมูลค่ามากกว่าที่เขาขายมาตลอดหลาย ๆ ปีเสียอีก
เพราะฉะนั้น เขาจึงต้องปฏิบตั ิต่อเนี้ยหลี่ให้ดเี ข้าไว้ เพราะถ้า
ลูกค้ารายใหญ่แบบนี้หนีหายไปล่ะก็ เขาคงจะต้องมาร้องไห้
เสียใจในภายหลังแน่นอน
เนี้ยหลี่พดู กับเนี้ยไฮ้และเนี้ยอิ้ง
หลังจากที่ร่าลา กับเชาหมิงเฟยเรียบร้อยแล้ว
เนี้ยหลี่ เนีย้ ไฮ้ และเนี้ยอิ้งก็ขึ้นรถม้าเพื่อกลับสู่ตระกูลบันทึก
สวรรค์
เมื่อเนี้ยหลี่กลับมา ภายใต้การจัดการของเนี้ยไฮ้
เนี้ยหลี่และครอบครัวถูกย้ายไปทีบ่ ้านเดี่ยวที่อยู่ตดิ กันกับบ้าน
ของผู้น่าตระกูล เพราะนี่น่าจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สดุ ใน
ตระกูลบันทึกสวรรค์ ซึ่งเนี้ยหลี่กร็ สู้ ึกดีไม่น้อย จากการจัดการ
ของเนี้ยไฮ้ในครั้งนี้
จะเป็นไปได้ไหมว่าคนที่พยายามจะขโมยหม้ออสูร
ฝันร้ายจะรู้ประโยชน์ที่แท้จริงของมัน ? เพราะถ้าไม่ พวกมันคง
ไม่กล้าท่าเรื่องเสี่ยงอันตรายแบบนี้แน่ ๆ ซึ่งคงจะมีเพียง
สมาคมทมิฬเท่านั้นที่จะกล้า จะท่าเรื่องแบบนี้ได้ อย่างไรเสีย
ทั้งตระกูลศักดิ์สิทธิ์ และสมาคมทมิฬ จะต้องโดนจัดการอย่าง
เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ !
ถึงแม้ว่าการฝึกฝนของเนี้ยหลี่จะพัฒนาไปมาก แต่
ตอนนี้เขาก็ยังอยู่ในระดับเงิน ซึ่งไม่เพียงพอต่อการที่จะจัดการ
เรื่องต่าง ๆ
ถึงแม้ว่าวิญญาณอสูรเงาปิศาจจะแข็งแกร่งมากใน
การฆ่า แต่กไ็ ม่ควรจะใช้มันอย่างพร่่าเพรื่อ เพราะจะเป็นการ
เปิดเผยข้อมูลมากเกินไป
เนี้ยหลี่นั้นต้องการที่จะรวมร่างกับวิญญาณอสูร
หลาย ๆ ตัว แต่วิธีการบ่าเพ็ญด้วยเทคนิคเทพวิถีฟ้าที่เนี้ยหลี่ใช้
นั้น จะท่าให้เขาสามารถรวมร่างกับวิญญาณอสูรได้เพียง 7
ชนิดเท่านั้น โดยทุกการรวมร่างจะท่าให้ ความแข็งแกร่ง และ
ความรวดเร็วในการฝึกฝนของเนี้ยหลี่ เพิ่มขึ้นอย่างมากตามไป
ด้วย
ซึ่งแน่นอนว่า เนี้ยหลี่จะต้องพิถีพิถีนในการเลือก
วิญญาณอสูรทีเ่ ขาจะรวมร่างด้วยเป็นอย่างมาก หลังจากที่เขา
ได้กลับมาในชาตินี้ เขาจะไม่รวมร่างกับอสูรขยะทั่ว ๆ ไปอีก
แล้ว และยิ่งในตอนนี้ เขามีวิญญาณอสูรเงาปิศาจ เขาจึงคิดที่
จะออกส่ารวจซากโบราณสถานต่าง ๆ เพื่อหาวิญญาณอสูรดี ๆ
ที่เหมาะกับตัวเขา
ของสิ่งนี้นั้นเป็นสมบัติโบราณ เขาไม่คาดคิดว่ามัน
จักปรากฏขึ้นจริงๆ ณ ลานประมูลแห่งนั้น ซึ่งเป็นเหตุผลให้
เนี้ยหลี่ ไม่สามารถที่จะสนใจสิ่งใดนอกจากจักต้องซื้อมันให้ได้
ถ้าเนี้ยหลี่พลาดโอกาสที่จะได้หม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายใบนี้ไป
แล้วนั้น เขาคงจักต้องเสียใจมากทีส่ ุดเป็นแน่แท้
เนี้ยหลี่ วางมือของเขาไปที่หม้อดวงจิตอสูรฝัน
ร้าย และถ่ายเทพลังวิญญาณลงไปในหม้อเพียงเล็กน้อย
หม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายก็ทอประกายแสงจัดเรียง
ตัวเป็นรูปลักษณ์บางอย่างออกมาเชื่อมต่อประสานระหว่าง
เนี้ยหลี่กับหม้อใบนั้น บ่งบอกถึงวิธีการใช้งานหม้อจิตอสูรฝัน
ร้ายนั่นเอง ในตอนนี้เนี้ยหลี่เริ่มรูจ้ กั การใช้งานมันเพียงเล็กน้อย
เท่านั้น ยังคงต้องศึกษามันต่อไปในอนาคต
วิธีการหนึ่งในการใช้หม้อจิตอสูรฝันร้าย นั่นก็คือ
จักต้องวางดวงจิตอสูรจ่านวนสิบชนิดลงในหม้อ โดยต้องมี
คุณลักษณะที่เหมือนกัน ลงในหม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายใบนี้นั้น
สามารถปรับแต่งดวงจิตอสูรได้ โดยมีโอกาสที่ปรับแต่งให้ออกม
มาเป็นดวงจิตอสูรที่แข็งแกร่งเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่ายังมี
โอกาสที่จะออกมาล้มเหลวอีกด้วย
เนี้ยหลีไ่ ด้ท่าการซื้อดวงจิตอสูรมามากมายเพื่อให้
สามารถปรับแต่งออกมาเป็นดวงจิตอสูรที่แข็งแกร่งขึ้น
“ข้ามีดวงจิตอสูรชนิดลอบสังหารเรียบร้อยแล้ว
แต่ ข้าต้องการดวงจิตวิญญาณอสูรที่สามารถเผชิญหน้ากับศัตรู
ตรงๆได้” เนี้ยหลี่คิดใคร่ครวญ ในขณะที่ เขานั้นได้ซื้อดวงจิต
อสูรรวมกันมากกว่าสองพันชนิดไปแล้ว เขาเริ่มสงสัยว่า จะ
สามารถสร้างนักรบดวงจิตอสูรที่แข็งแกร่ง ชนิดใดออกมาจาก
พวกมันกันแน่
ทุกๆดวงจิตอสูรล้วนมีความแตกต่างกัน ในเรื่อง
ความแข็งแกร่งเนื่อง จากระดับพลังวิญญาณของมัน โดย
สามารถแบ่งตามระดับได้ดังนี้ เริ่มต้นเรียงจากน้อยไปมากคือ
ระดับทองแดง ระดับเงิน ระดับทอง ระดับทองค่าด่า ระดับ
ต่านาน และระดับที่เหนือกว่านั้น ทั้งหมดนี้คือหมวดหมู่ของ
พวกมันในนครศักดิส์ ิทธิ์แห่งนี้ สิ่งที่คนธรรมดาสามัญนั้นไม่
ทราบก็คือว่า ทุกๆดวงจิตอสูรนั้นมีอัตราพัฒนาการที่แตกต่าง
กัน แม้ว่ามันจักเป็นเพียงดวงจิตอสูรระดับต่่าแต่ถ้ามันมีอัตรา
พัฒนาการที่สูงมาก มันก็มิใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้แต่อย่างใด ใน
การพัฒนาทักษะยุทธ์ทุกอย่างที่มนั มี ว่าสามารถที่จะฆ่าร่าง
ทรงอสูรระดับต่านานลงได้เช่นกัน
ในเวลานี้เขามี ดวงจิตอสูรที่มีอตั ราพัฒนาการ
สูงส่งกว่าดวงจิตอสูรทั่วๆไป ตัวอย่างเช่น ดวงจิตอสูรเงาปิศาจ
เนี้ยหลี่ นั้นเข้าใจถึงความแตกต่างของอัตรา
พัฒนาการซึ่งแบ่งออกได้เป็นห้าระดับด้วยกัน โดยเริ่มจาก
ระดับ ต่า่ ปานกลาง ดี ดีเยี่ยม มหัศจรรย์ และ ระดับพระเจ้า
นั่นเอง ส่าหรับดวงจิตอสูรปิศาจเงาจากการตรวจสอบพบว่า
มันคือดวงจิตอสูรซึ่งมีอัตราพัฒนาการสูงถึงระดับพระเจ้าเลย
ทีเดียว และดูเหมือนว่าพัฒนาการของดวงจิตอสูรปิศาจเงานั้น
ช่างไร้ขีดจ่ากัดเสียยิ่งกระไร
คนสามัญธรรมดาทั่วไป จักไม่รู้ถึงความแตกต่าง
ระหว่างอัตราพัฒนาการของดวงจิตอสูร แต่เนี้ยหลี่นั้นต่าง
ออกไปเขาล่วงรู้ถึงมัน โดยมากมนุษย์นั้นชอบที่จะแยกแยะ
อัตราพัฒนาการของดวงจิตอสูรทีแ่ ตกต่างกันโดยสามารถใช้
คริสตัลวิญาณ ในการทดสอบ นอกเหนือจากวิธีการดังกล่าวมา
นี้นั้น ยังมีวิธีการอย่างอื่นที่แตกต่างกันอีกหลากหลายนัก
เนี้ยหลี่ ได้เริ่มลงมือโดยการน่าดวงจิตอสูรทั้งสิบ
ชนิดมาทดสอบโดยใช้คริสตอลวิญญาณในการทดสอบ เพื่อดู
ระดับอัตราพัฒนาการของดวงจิตอสูรทั้งสิบชนิด
เมฆาสลายวิญญาณ ดวงจิตอสูร อัตราพัฒนาการ
ระดับต่่า
เนี้ยหลี่นั้นได้ด่าเนินการทดสอบดวงจิตอสูรทั้งสิบ
อย่างรวดเร็ว พบว่ามีอัตราพัฒนาการระดับต่่าอยู่ถึงเจ็ดตัวและ
มีเพียงสามตัวเท่านั้นที่มีอตั ราพัฒนาการระดับปานกลาง พวก
มันมิสามารถช่วยให้เนีย้ หลีร่ ู้สึกดีได้เลย จึงท่าให้เขานั้นผิดหวัง
เล็กน้อย
“มันยังไม่เพียงพอแน่นอน” อาจเป็นเรื่องค่อนข้าง
ยากเลยทีเดียว ที่เขาจักท่าให้เกิดดวงจิตอสูรทีม่ ีอัตรา
พัฒนาการระดับสูง ซึ่งเกิดจากการผสมระหว่างดวงจิตอสูร
ทั่วไปออกมา! เนี้ยหลี่คิดไตร่ตรองกับตัวเอง ก็เกิดความผิดหวัง
เล็กน้อย การที่เขาจักต้องสร้างดวงจิตอสูรอื่นๆทีม่ ีอัตรา
พัฒนาการระดับพระเจ้าเหมือนกับดวงจิตอสูรปิศาจเงา แม้มัน
เป็นเรื่องที่ยากมากแต่ก็ต้องท่า มิฉะนั้นแล้วเขาจักต้องเดินทาง
เสี่ยงตายครั้งยิ่งใหญ่ ไปยังเมืองกล้วยไม้ในต่านานโบราณเพื่อ
ค้นหาพวกมันนั่นเอง
ดวงจิตอสูรเหล่านี้ลว้ นดูเหมือนสิ่งไร้คา่
ส่าหรับเนี้ยหลี่ แต่ถ้าตกอยู่ในมือคนอื่นจะคิดว่าพวกมันนั้นคือ
สมบัติทสี่ ่าคัญควรค่าแก่การเก็บรักษาเป็นอย่างยิ่งได้เลยทีเดียว
เนี้ยหลี่ โยนดวงจิตอสูรทั้งสิบไปยังหม้อดวงจิตอสูร
ฝันร้าย และแล้วหม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายก็เกิดการท่างาน
เชื่อมต่อประสานกับจิตวิญาณกับเขา
ในชั่วขณะนั้นหม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายได้เริ่ม
เปล่งแสงแพรวพราวเพิ่มขึ้น ประกายแสงเหล่านั้นพวยพุ่ง
ออกมาเป็นเส้นสายเริม่ เคลื่อนย้ายหมุนวนไปรอบๆ ภายใน
หม้อใบนั้น ซึ่งเนี้ยหลี่ นั้นสามารถมองเห็นล่าแสงทั้งสิบสาย
หมุนวนแบบไม่มีหยุด พวกมันค่อยๆรวมตัวกันหนาแน่นขึ้นเป็น
กลุ่มจนท่าให้สายตาของผู้จดจ้องนั้นพร่ามัวเนื่องจากประกาย
แสงที่เจิดจ้านั้น
“เมฆาจิตวิญญาณนัน้ สมบูรณ์ขึ้นเล็กน้อยมีอตั รา
พัฒนาการระดับดี! หม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายในนี้ช่างวิเศษเสียยิ่ง
กระไร! อย่างไรก็ตามดวงจิตอสูรที่มีพัฒนาการระดับดีนั้น ยัง
อยู่อีกไกลจากระดับที่ต้องการนัก” เนี้ยหลีส่ ่ายหน้าไปมา
แสดงออกถึงความไม่ค่อยพอใจ เขาจักมิยอมหยุดอยู่แค่การ
สร้างให้มดี วงจิตอสูรอัตราพัฒนาการระดับดี
อย่างที่ปรากฏในสายตาเขาตอนนี้อย่างแน่นอน
เนี้ยหลี่ วางดวงจิตอสูรอัตราพัฒนาการระดับดีลงข้างๆ จากนั้น
ก็น่าศิลาดวงจิตอสูรอื่นๆอีกจ่านวนสิบชิ้น และเริ่มตรวจสอบ
ระดับของพวกมันในทันที
ดวงจิตอสูร ประเภทนักรบจ่านวนสิบอัน ที่ดสี ุด
เป็นอันดับหนึ่ง ในนั้นก็คือดวงจิตอสูรวัว มันมีอัตราพัฒนาการ
อยู่ในระดับดี
เนี้ยหลี่ ได้ท่าการผสมพวกมันขึ้นอีกครั้งในหม้อ
ดวงจิตอสูรฝันร้ายใบนี้
การปรับแต่งส่าเร็จ!
การปรับแต่งส่าเร็จ!
การปรับแต่งล้มเหลว! ……
โอกาสที่จะเกิดการผิดพลาดค่อนข้างน้อยมาก
ความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์ล้มเหลวนั้นมีเพียงหนึ่งจาก
สิบครั้งโดยมักจักเป็นเช่นนี้อยู่เป็นประจ่า อย่างไรก็ตาม
หลังจากปรับแต่งดวงจิตอสูรไปร่วมหกสิบครั้ง ก็สามารถสร้าง
ดวงจิตอสูรทีด่ ีที่สุดขึ้นมาในหมู่พวกนั้นก็คือ ดวงจิตอสูร
ประเภทนักรบ ที่มีอัตราพัฒนาการในระดับดีเยีย่ ม ซึ่งอัตรานี้
สูงกว่าดวงจิตอสูรอัตราพัฒนาการระดับดี ที่มีอยู่ทั้งหมด
อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงมีดวงจิตอสูรจ่านวน
มากมาย ดังนั้นเนีย้ หลี่ จักไม่มีทางยอมแพ้ที่จะปรับแต่งแน่น
นอน ในหมู่ดวงจิตอสูรทั้งสองพัน มีอยู่ราวๆหกสิบก้อน ที่ไม่
ต้องปรับแต่งเพิ่มเติมเพราะว่าพวกมันอยู่ในอัตราพัฒนาการ
ระดับดีเยี่ยมเป็นเรียบร้อยแล้ว มันก็นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว
เมื่อดวงจิตอสูรเหล่านี้นั้นมีความแข็งแกร่ง และอัตรา
พัฒนาการที่ดีเยีย่ มอยู่ในตัวพวกมันเองอยู่แล้ว
เมื่อระดับอัตราพัฒนาการมันสูงขึ้นมาก โอกาสที่
จะล้มเหลวมันก็ยังเพิ่มมากขึ้นตามมาอีกด้วย ในที่สดุ หลังจาก
การขัดเกลาแล้วก็เหลือเพีงจิตอสูรอัตราพัฒนาการระดับ
มหัศจรรย์เพียงแค่ห้าตัว
เนี้ยหลี่ จดจ้องที่ดวงจิตอสูรอัตราพัฒนาการระดับ
มหัศจรรย์ทั้งห้าตัวนั้นเขายังไม่พอใจนัก ถ้าเขามีพวกมันซัก สิบ
ดวงจิตอสูรอัตราพัฒนาการระดับมหัศจรรย์ เขามีโอกาส
สามารถที่จะปรับแต่งให้พวกมันอย่างน้อยหนึ่งตน ให้กลายมา
เป็นอัตราพัฒนาการระดับพระเจ้า ซึ่งมีอัตราความล้มเหลวทีส่ ูง
มากจริงๆ ถ้าปรับแต่งดวงจิตอสูรอัตราพัฒนาการระดับ
มหัศจรรย์ในขณะนี้ก็จะมีความส่าเร็จน้อยมาก โดยมีเพียงแค่
ครึ่งเดียวเท่านั้นในการที่มันจะเปลีย่ นเป็นดวงจิตอสูรอัตรา
พัฒนาการดับพระเจ้านั้น ถ้ามันส่าเร็จคงเป็นเรื่องที่ดีมากมายก็
เป็นแน่ แต่ว่ามันมีโอกาสเพียงไม่ถงึ หนึ่งในห้าที่จะประสบ
ความส่าเร็จได้
สมาคมนักปรุงยาได้สง่ เงินก่าไรจากการขายยา
ทิพย์มากมายมหาศาลมายังบัญชีของ เนี้ยหลี่ ในแต่ละรอบจัก
มีจ่านวนเงินถึงประมาณหนึ่งพันล้านเหรียญจิตรมาร
หลังจากที่เนี้ยหลี่คดิ ใคร่ครวญ เกี่ยวกับมันเป็นที่
เรียบร้อยแล้ว เนีย้ หลี่กไ็ ปเข้าพบเนี้ยไฮ่และเนี้ยอิ้ง “ท่านผู้
อาวุโสโปรดช่วยข้าซื้อดวงจิตอสูรประเภทนักรบครั้ง ใหญ่แก่ข้า
กรุณาน่ามาให้มากมายที่สดุ เท่าทีจ่ ักเป็นไปได้ ส่าหรับทุกๆดวง
จิตอสูรที่น่ามาให้ ข้าจักให้ของรางวัลเล็กๆน้อยๆตอบแทนแก่
พวกท่าน”
กับจ่านวนครั้งในการปรับแต่งที่เพิม่ ขึ้นอย่าง
มากมายมหาศาลท่าให้เกิดเหตุการณ์ที่เนีย้ หลีไ่ ด้ปลดปล่อย
หม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายโดยบังเอิญ ดูเหมือนว่ามันจะมี
พัฒนาการบางอย่างท่าให้ รูปลักษณ์ของมันเริม่ มีการ
เปลี่ยนแปลง กลับกลายมาเป็นรูปแบบดั้งเดิมของหม้อใบนี้ มัน
ดูสุกใสมาก จนเขาสามารถแลเห็นกระบวนการท่างานของมัน
ในขณะที่ดวงจิตอสูรก่าลังประสานกัน .
โดยเนี้ยหลีไ่ ด้รับจิตอสูรระดับมีพรสวรรค์มาทั้งสิ้น
60 ดวงภายในช่วงระยะเวลานั้น
‘จิตอสูรสายต่อสู้อัตราเติบโตระดับมหัศจรรย์จ่านวน
60 ก้อน พวกมันคงหลอมรวมได้อะไรออกมาบ้างไม่มากก็น้อย
ล่ะ อย่างน้อยคงให้จิตอสูรสายต่อสู้ที่มีอัตราเติบโตระดับพระ
เจ้าสัก 1 อัน ?’ เนี้ยหลี่คิดอยูภ่ ายในใจของเขา ในขณะที่เริ่ม
หลอมรวมจิตอสูรต่อไป
เนี้ยหลี่หย่อนจิตอสูรอัตราเติบโตระดับมหัศจรรย์ 10
อันลงไป ในหม้อหยกอสูรแห่งฝันร้ายและเริ่มกระบวนการ
หลอมรวม
แสงหนึ่งได้สว่างจ้าขึ้นมา เนี้ยหลี่เห็นถึงแสงของสีสันต่าง ๆ
ที่สว่างสุกใสอยูภ่ ายในหม้ออสูรใบนี้
โดยจิตอสูรทุกชนิดต่างมีสีสันที่แตกต่างกันเป็น
เอกลักษณ์ของตัวเอง ขณะนี้สสี ันเหล่านั้นค่อย ๆ หลอมรวมกัน
เป็นเนื้อเดียวในท้ายที่สุด
‘ข้านั้นสงสัยเสียจริงว่าจิตรอสูรตนแรกที่หลอมรวม
ส่าเร็จนั้นจะมีหน้าตาออกมาเป็นเช่นไร?’ เขาจ้องมองหม้ออสูร
แห่งฝันร้ายอย่างไม่กระพริบตา
ขณะที่เวลาก่าลังผ่านไป ทันใดกลุ่มของจิตอสูรที่
ก่าลังหลอมรวมกันอยูภ่ ายในหม้ออสูรฝันร้ายได้ถูกท่าลายและ
แตกออกเป็นเสีย่ ง ๆ
“ล้มเหลวอีกแล้ว...” เนี้ยรู้สึกราวกับเลือดภายในตัว
เขาก่าลังเดือดปุด ๆ เงินจ่านวน 10 ล้านเหรียญจิตมารของ
เขาได้สูญไปอีกหลังจากผ่านไปเพียงชั่วครู่
เขาเริ่มรู้สึกสงสัยว่าการหลอมรวมจิตอสูรให้ได้อัตรา
เติบโตระดับพระเจ้าสักชิ้นท่าไมมันช่างยากเย็นถึงเพียงนี้กัน
แม้ว่าเขาจะรู้สึกเศร้าใจแต่เขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้ ด้วยความที่เขา
มีเงินมหาศาลท่าให้การสูญเสียเงินจ่านวนเพียงเล็กน้อยเช่นนี้
ไม่ส่งผลแต่อย่างใด
เนี้ยหลี่โยน จิตอสูรอัตราเติบโตระดับมหัศจรรย์ทั้ง
สิบลงไป และเริ่มกระบวนการหลอมรวมครั้งทีส่ าม
จิตอสูรทั้งสิบตกไปอยู่ทกี่ ้นหม้อจิตอสูรแห่งฝันร้าย
ก่าลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยจิตอสูรค่อย ๆ
หลอมรวมกัน แสงหนึ่งได้สว่างจ้าออกมา พลังงานจิตอสูรคลื่น
แล้วคลื่นเล่าก่าลังแผ่ออกมาจากหม้อจิตอสูรนี้ หลังจากสัมผัส
ได้ถึงพลังวิญญาณอันยิ่งใหญ่ ทุกรูขุมขนทั่วร่างของเนี้ยหลี่เริ่ม
เปิดออก ศูนย์รวมพลังวิญญาณของเขาได้ดดู ซับพลังวิญญาณที่
ก่าลังแผ่ออกมาจากหม้อใบนี้ และตัวเขารูส้ ึกได้ถึงความอบอุ่น
แสนสบายขณะดูดซับ พวกมันเข้าไป
จิตอสูรอัตราเติบโตระดับมหัศจรรย์ยังคงท่าการ
หลอมรวมกันอยู่ไม่ยอมหยุด ในท้ายที่สุด พวกมันก็หลอมรวม
จนเป็นเนื้อเดียวกันและได้ออกมาเป็นจิตอสูรหนึ่งตน
จิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้า!
หลังจากท่าการทดสอบอัตราเติบโตด้วยคริสตัลอสูร
เนี้ยหลีร่ ู้สึกมีความสุขยิ่งนัก หลังจากล้มเหลวติดต่อกันมาถึง
สองครา
เจ้านี่มันยังคงใช่ พยัคฆ์เสือแห่งห้วงอเวจีอยู่หรือไม่?
เนี้ยรู้สึกราวกับหยุดหายใจไปชั่งขณะ จิตอสูรตนนี้
เป็นผลที่ออกมาจากการหลอมรวมจิตอสูรที่แตกต่างกันทั้งสิบ
ชนิด ดังนั้นคุณลักษณะของมันจะมีความแตกต่างไปจากจิต
อสูรโดยทั่วไป และมีความแข็งแกร่งมากกว่าด้วยเช่นกัน
เท่าที่เขารู้พยัคฆ์เสืออเวจีนี้มีความแข็งแกร่งมากใน
จิตอสูรประเภทสายต่อสู้ แต่หลังจากที่มันได้ถูกเปลีย่ น
รูปลักษณ์ไปมาก เนี้ยหลี่ก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าความสามารถ
พิเศษอื่นของมันที่ได้เพิ่มขึ้นจะเป็นสิ่งใดกัน
เนี้ยหลี่เก็บจิตอสูรพยัคฆ์เสืออเวจี และเริ่มหลอมรวม
จิตอสูรต่อไป ตอนนีเ้ ขามีโอกาสเหลืออยู่อีกสามครั้ง
ส่าหรับการหลอมรวมอีกสามครั้งถัดไปนั้น โชคของ
เนี้ยหลี่ค่อนข้างดี ทีเดียว จากโอกาสทั้งสามครั้งนั้น สองครั้งได้
ประสบผลส่าเร็จ สิ่งหนึ่งที่ออกมานั้นคือ เสือดาวสีชาดท่อง
นภา ส่วนอีกครั้งได้ออกมาเป็น เขีย้ วอสูรแพนด้า?
จิตอสูรที่มีอตั ราการเติบโตระดับพระเจ้าอันทีส่ าม
ออกมาเป็น อสูรเขี้ยวแพนด้า จริง ๆ เนี้ยรูส้ ึกเต็มไปด้วยความ
งุนงงขณะมองไปที่มัน เจ้าแพนด้าตัวนี้มันมีรปู ร่างอ้วนกลม(ขน
ฟู น่ารักยิ่งนัก) ขนสีขาวและสีด่าต่างปกคลุมอยู่ทั่วตัวของมัน
ดูจากรูปร่างของมันแล้วมันไม่น่าจะท่าอันตรายแก่ผู้ใดได้ เขา
สงสัยว่ามันยังคงเป็นจิตอสูรที่มีอตั ราเติบโตระดับพระเจ้าจริง
ๆ งั้นหรือ?
เนี้ยหลี่แทบจะไม่สามารถเชื่อเรื่องเหล่านีไ้ ด้ ท่าให้
เขาต้องตรวจสอบอัตราการเติบโตของจิตอสูรตนนี้อีกครั้ง
หลังจากการทดสอบอีกครั้งท่าให้เขารู้ว่ามันมีอัตราเติบโตระดับ
พระเจ้าเช่นนั้นจริง ๆ
ไอ้เขี้ยวแพนด้ามันเป็นจิตอสูรชั้นต่่าชนิดหนึ่ง มัน
แทบจะไม่มีความสามารถในการต่อสู้เลย ท่าให้พวกคนที่เลือก
ผสานร่างกับจิตอสูรตนนีม้ ีน้อยเสียจนกระทั่งสามารถนับเป็น
รายคนได้เลยทีเดียว แต่สิ่งที่ท่าให้เนี้ยหลีย่ ังคงติดใจคือเมื่อ
หม้อจิตอสูรแห่งฝันร้ายได้เริ่มต้นท่าการหลอมรวม ตาม
หลักการทั่วไปแล้วจิตอสูรที่แข็งแกร่งกว่าจะดูดกลืนจิตอสูรที่
อ่อนแอกว่า แล้วจึงหลอมรวมกลายเป็นรูปลักษณ์ที่ทรงพลัง
ของจิตอสูร ยกตัวอย่างเช่น พยัคฆ์เสืออเวจีและเสือดาวสีชาติ
ท่องนภา จิตอสูรทั้งสองต่างก็มคี วามแข็งแกร่งยิ่งนัก เป็นไปได้
เช่นไรที่ไอ้เขี้ยวแพนด้าสามารถดูดกลืนจิตอสูรทั้งหมดและเป็น
เพียงจิตอสูรสุดท้ายที่เหลือรอด?
ไม่ว่าทั้งพยัคฆ์เสือแห่งห้วงอเวจีและเสือดาวสีชาติ
ท่องนภาต่างก็ได้ดูดกลืนเหล่าจิตอสูรอื่น ๆ เข้ามา ท่าให้พวก
มันมีลักษณะพิเศษเปลีย่ นไปบนร่างของพวกมัน อย่างเช่นเขา
และหนามของพยัคฆ์เสือแห่งห้วงอเวจีและปีกที่ยื่นออกมาของ
เสือดาวสีชาด แต่ทว่าไอ้เขี้ยวแพนด้าตัวนี้ไม่มรี ูปร่างที่
เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย มันหมายความว่าไอ้เขี้ยวแพนด้านี้เป็นจิต
อสูรที่มีคณ
ุ ลักษณะที่แข็งแกร่งที่สดุ แล้วเช่นนั้นหรือ?
เนี้ยหลี่รู้ถึงคุณลักษณะหลัก ๆ ของจิตอสูรทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ไอ้เขี้ยวแพนด้าตนนีท้ ่าให้เนี้ยหลีส่ ับสน ไอ้เขี้ยว
แพนด้าเป็นจิตของอสูรสัตว์ป่าที่เต็มไปด้วยความอ่อนแอและ
แทบจะไม่มีใครต้องการรวมร่างกับมัน
สามารถเป็นไปได้ไหมว่าไอ้เขี้ยวแพนด้านีม้ ีความ
พิเศษไม่ธรรมดาไปตามรูปลักษ์ภายนอกของตัวมัน? เนี้ยหลีค่ ิด
ค่านึงอย่างเงียบ ๆ
ไม่นานเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังบางอย่าง หลังจากพึ่ง
สัมผัสถึงพลังอย่างแผ่วเบาของอสูรเขี้ยวแพนด้า เขาตระหนัก
ได้ว่ามีพลังงานที่แตกต่างกันอยู่สองขั้วที่ไหลเวียนและเติมเต็ม
ซึ่งกันและกัน จนกลายเป็นรูปแบบขอ'ความสมดุลอย่างน่า
ประหลาดระหว่างพลังงานทั้งสองชนิดนี้
ความสมดุลของพลังหยินและพลังหยาง! นี่เป็น
รูปแบบที่สมบูรณ์ที่สุดแล้วของธรรมชาติ
และยังคงมีแสงหนึ่งที่ซอ่ นอยู่ภายในดวงตาของอสูร
เขี้ยวแพนด้า เหมือนกับว่ามันยังมีจิตส่านึกหลงเหลืออยู่
เล็กน้อย สิ่งนี้ท่าให้มันแตกต่างจากจิตอสูรทั่วไป เพราะเมื่อจิต
อสูรทั่วไปถูกสังหารลงจิตส่านึกของมันก็จะหลุดตามออกไป
เช่นกัน
‘ตูเซอและลู่เพรียว พวกเขาทั้งสองเหมาะที่จะรวม
ร่างกับจิตอสูรประเภทสายต่อสู้ ข้าจะให้จิตอสูรอัตราเติบโต
ระดับพระเจ้าเป็นของขวัญแก่พวกเขาทั้งสอง’ และส่าหรับ
เอียจื้อหวิ๋น เสีย่ วหนิงเอ๋อและพรรคพวกที่เหลือ เนี้ยหลี่จะ
จัดหาจิตอสูรบางชนิดที่เข้ากันได้กบั ธาตุภายในของพวกเขา
ต้องไม่ลมื ว่า เอียจื้อหวิ๋น นั้นเหมาะสมที่จะรวมร่างกับจิตอสูร
ธาตุน้่าแข็งและเสี่ยวหนิงเอ๋อนั้นเหมาะสมที่จะรวมร่างกับจิต
อสูรธาตุสายฟ้า
จิตอสูรธาตุน้่าแข็งและจิตอสูรธาตุสายฟ้ามีความยาก
กว่ามากที่จะหลอมรวมได้ถา้ เทียบระหว่างเหล่าจิตอสูรประเภท
สายต่อสู้ด้วยกัน แต่ทั้งนี้เนี้ยหลีม่ ีเงินมากเกินพอ ดังนั้นเขาจะ
ค่อยพยายามสร้างพวกมันอย่างช้า ๆ จนกว่าจะได้พวกมัน
เขานั่งลงในท่าขัดสมาด และเริ่มต้นรวมร่างกับไอ้
เขี้ยวแพนด้า
เขาค่อย ๆ ดูดซับจิตอสูรเข้าไปในเขตแดนวิญญาณ
ของเขาอย่างช้า ๆ และเริม่ การรวมร่างกับมัน
บทที่ 75 - ทักษะการต่อสู้
เหมือนว่าจิตอสูรแห่งเงาของเนี่ยหลี่จะกลัว
อสูรเขี้ยวแพนด้า และ ยังนิ่งอยู่ อสูรเขี้ยวแพนด้า เหมือนจะ
รับรู้ถึงการมีอยู่ของจิตอสูรเงาปิศาจ แต่ก็ไม่ได้ เข้าใกล้มัน
ทั้งสองต่างรักษาที่มั่นของตนเอาไว้โดยไม่ยอม
ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดล่วงล้่า
หลังจากอสูรเขี้ยวแพนด้า ได้รวมเข้ากับเขต
แดนวิญญานเนี่ยหลี่ ที่ว่างระหว่างทั้งสอง ก็ไม่ได้ชัดเจนอะไร
มากนัก ทันใดนั้น เนี่ยหนี่ก็สมั ผัสได้ถึงภาพบางอย่างในใจ
รูปร่างลักษณะอัน อ้วนๆกลมๆ เจ้าตัวๆนี้มันช่างดูน่ารัก อสูร
เขี้ยวแพนด้า ก่าลังแทะไม้ไผ่ขณะที่ปีนต้นไม้อย่างงุ่มง่าม(ช้าๆ
เรื่อยๆ) ตุ๊บ อสูรเขี้ยวแพนด้าตกลงไปบนพื้น
ภาพเหล่านี้คือ ภาพของในอสูรเขี้ยวแพนด้าใน
อดีต เนี่ยหลี่ไม่สามารถหุบยิ้มได้ ไอ้ตัวนี้มันช่างน่ารักจริงๆ
บูมม!
เขารูส้ ึกได้ถึงความสามารถพิเศษของอสูรเขี้ยว
แพนด้า เนี่ยหลี่ลืมตาขึ้น แล้วรีบกระโจนจากห้องและวิ่งตรงไป
ที่ด้านหลังภูเขา
ณ ด้านหลังภูเขา
ป่าเล็กๆตั้งอยู่ในด้านหลังภูเขา มันเงียบสงบ
และห่างไกลผู้คน ไม่ค่อยมีใครมาในที่แห่งนี้มากนัก เพราะเหตุ
นี้ เนี่ยหลี่จึงได้เตรียมที่จะทดสอบความสามารถของอสูรเขี้ยว
แพนด้า
เสียงค่ารามดังขึ้น โรวว!
หมัดสายฟ้า!
ร่างของเนี่ยหลีเ่ ต็มไปด้วยพลังที่ไม่สามารถ
จินตนาการได้ และหวดอุ้งมือไปกระแทกที่ต้นไม้ใหญ่
บูมม!
ต้นไม้ที่ใหญ่เท่ากับร่างของคนตัวสูงใหญ่ก่าย่า
แหลกไปในพริบตา
นอกเหนือจากฝ่ามือพิฆาตแล้วเนี่ยหลี่ยังสงสัย
ถึงความสามารถในการต่อสู้อื่นๆอีก
เนี่ยหลี่พ่นลมหายใจของความโกรธออกมา ใช้
พลังของเขี้ยวปิศาจแพนด้า บูมม! อาณาเขตอันทรงพลังได้
ปรากฏขึ้นรอบๆเขา โดยมีระยะโดยรอบประมาณ 5 เมตร
เนี่ยหลีส่ ามารถควบคุมแรงโน้มถ่วงในระยะ 5 เมตรได้
สนามแรงโน้มถ่วง!!
มันเป็นความสามารถในการต่อสู้ที่หาได้ยากยิ่ง
นัก
เขายังคงทดสอบความสามารถของอสูรเขี้ยว
แพนด้า ต่อไป เนื่องจากเนีย่ หลีย่ ังไม่ค่อยมีความรู้อะไรเกี่ยวกับ
จิตวิญญานอสูรเขี้ยวแพนด้าอะไรมากมาย ยังมีความสามารถ
อีกเยอะแยะที่เขาไม่สามารถจะดึงมาใช้ได้ อย่างไรก็ตาม
หลังจากรวมกับอสูรเขี้ยวแพนด้า ความทรงจ่าของอสูรเขี้ยว
แพนด้าก็ไหลเข้ามาในเนี่ยหลี่ ความสามารถต่างๆก็ถูกค้นพบ
ไปเรื่อยๆเกือบจะทั้งหมด
ยังมีความสามารถในการต่อสู้ทสี่ าม ! เนี่ยหลี่
ค่ารามเหมือนสัตว์ ในปากมีลูกกลมๆ ขาว ด่า 2ลูก เมื่อพ่นลูก
บอลทั้ง2ลูกออกมา มันลอยโค้งๆไปมาในอากาศ และลูกบอล
ทั้งสองลอยไปตกบนพื้นที่ โล่งๆทีห่ นึ่งคนละต่าแหน่ง
บูมม!
ระเบิดหยินหยาง!
เนี่ยหลี่ จ่าได้ว่าได้ยินความสามารถในการต่อสู้
เช่นนี้มาก่อน เมื่อพ่นพลังออกจากร่าง มันจะถล่มศัตรูด้วยการ
ระเบิด อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วระเบิดพลัง จะมีเพียง1ลูก
แต่ระเบิดพลังของเนี่ยหลี่กลับมีถึง 2 ลูก
ไม่เลว!
แม้ว่าเนี่ยหลี่จะมีประสบการณ์เกี่ยวกับจิตอสูร
อยู่มิน้อย แต่กับ อสูรเขี้ยวแพนด้านี้ก็ยังมีน้อยยิ่งนัก ทั้งจิต
อสูรแห่งเงา และ แพนด้าเขี้ยวปิศาจ ต่างก็มีระดับการ
เจริญเติบโตของวิญญาณระดับพระเจ้า ถ้ามีใครซักคนรูเ้ ข้า หึหึ
พวกนั้นคงจะบ้ามิใช่น้อย คงจะแย่งกันแทบเป็นแทบตายเพื่อ
พวกมันซักตัวเป็นแน่
หลังจากเข้าสู่ระดับเงิน ความเร็วในการดูดซับ
ของ แพนด้าเชี้ยวปิศาจก็เริม่ ช้าลงๆ จนอยู่ในระดับที่คงที่
เนื่องจากมีความสัมพันธ์กันอย่างมากระหว่างความแข็งแกร่ง
ของร่างทรงอสูรและความแข็งแกร่งของจิตอสูร เมื่อระดับพลัง
ของจิตอสูรเท่ากับเจ้าของของมันแล้ว มันจะเริ่มเจริญเติบโตช้า
ลง มีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่จะเติบโต(มีพลัง) มากกว่าเจ้าของ
อสูรเขีย้ วแพนด้าอยู่ในระดับการเจริญเติบโต
ระดับวิญญาณพระเจ้า ถ้าในอนาคตมันจะแข็งแกร่งกว่าเนี่ยหลี่
ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่มันยังต้องฝึกอีกเยอะ แกคงไม่อ้วน
เกินไปหรอกนะหลังจากมื้อนี้ และการกลายเป็นระดับเงิน ใน
ระยะเวลาอันสั้นนั้น สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หลังจากกลายเป็นระดับเงินเนี่ยหลี่ก็เรียกอสูร
เขี้ยวแพนด้าออกมาและรวมร่างกันอีกครั้งหนึ่ง ระดับพลังของ
เนี่ยหลีเ่ พิ่มสูงขึ้น และ แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมมาก
แม้ว่า ข้าจะมีระดับเงินร่างทรงอสูรระดับโกล
โดยทั่วไป ก็ไม่สามารถต่อกรกับเขาได้! เนี่ยหลี่ยมิ้ เล็กน้อยๆ
อัตราการเจริญเติบโตของวิญญาณระดับพระเจ้า เพราะความ
แข็งแกร่งของมัน ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะจินตนาการได้
บทที่ 76 - ให้อภัย
เมื่อเนี้ยหลี่ได้ท่าการฝึกฝนมากขึ้น เขาก็ยิ่งอยากจะรู้ถึง
ความสามารถในการต่อสู้ของอสูรเขี้ยวแพนด้ามากขึ้นด้วยแต่
ทันในนั้นเอง ก็มีคนสองคนปรากฏกายออกมาอย่างรวดเร็วจาก
ป่าฝั่งตรงข้าม
ฟึ่บ ! ฟึ่บ !
“เจ้าเป็นใคร? ถึงกล้าบังอาจบุกรุกเข้ามาในตระกูลบันทึก
สวรรค์ของเรา !” เนี้ยเสี้ยวเฟิงกับเนี้ยเสียวรี่ กล่าวพร้อมจ้อง
ไปยังร่างของเนี้ยหลี่ เพราะว่าหลังจากที่รวมร่างกับอสูรเขีย้ ว
แพนด้าแล้ว ร่างกายของเนี้ยหลีเ่ ปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เขาตัว
ใหญ่ขึ้น ผิวหนังก็ปกคลุมไปด้วยขนสีด่าและสีขาว ดังนั้นจึงไม่
แปลกนักที่ทั้งสองคนจะจ่าเนีย้ หลีไ่ ม่ได้
“พวกเจ้านั่นเอง !” เนี้ยหลี่กล่าว โดยยังยืนอยู่ที่เดิม
สองพี่น้องคู่นี้ชอบแกล้งเขาในชาติที่แล้ว แต่มันก็เป็นเพราะ
เรื่องความขัดแย้งภายในตระกูล ระหว่างแต่ละกิ่งตระกูล
อย่างไรก็ตาม ในวาระสุดท้ายของเมืองกลอรี่ ทั้งคู่ก็ได้ยืนหยัด
ต่อสู้กับอสูรปิศาจที่บุกเข้ามาในเมืองจนสิ้นชีพ ดังนั้นเนี้ยหลี่จึง
ไม่คิดจะท่าร้ายพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น ฐานะของพวกเขาใน
ตระกูล ก็ไม่สามารถเทียบกับเนี้ยหลี่ในตอนนี้ได้เลย และเนี้ยห
ลี่เองก็ไม่ได้คดิ ว่าทั้งคู่เป็นศัตรูด้วยซ้่า
ร่างกายของเนี้ยหลี่หดลงอย่างรวดเร็ว และกลายเป็น
รูปลักษณ์เดิม
“ข้าเอง !” เนี้ยหลี่ตอบรับ
“เนี้ยหลี่ ? นั่นเจ้ารึ ?”
เนี้ยเสีย่ วเฟิงและเนี้ยเสี่ยวรี่จ้องมองเนี้ยหลี่ด้วยความประหลาด
ใจ มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายได้ยากส่าหรับพวกเขา หรือว่า
ภาพที่เขาเห็นก่อนหน้านีจ้ ะเป็น เนี้ยหลี่ที่รวมกับวิญญาณ
ปิศาจ ? เมื่อมองไปที่ซากหัก ๆ ของต้นไม้พวกนั้น นัยน์ตาของ
พวกเขาก็ฉายแววออกถึงความกลัวขึ้นมาในทันที
พวกเขาพึ่งทราบว่าเนี้ยหลี่พึ่งจะได้เลื่อนขั้นเป็นร่างทรงอสูร
ระดับทองแดง 1 ดาว พวกเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าตอนนี้
เนี้ยหลีจ่ ะกลายมาเป็นร่างทรงอสูรระดับเงินได้รวดเร็วถึงเพียง
นี้ สถานการณ์ตรงหน้าท่าให้พวกเขารู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก
เมื่อเนี้ยเสี่ยวรีและเนี้ยเสี่ยวเฟิงเห็นดังนั้น จึงทราบได้ว่าเนี้ยหลี่
รู้สึกไม่พอใจในการกระท่าของพวกเขา ถึงแม้ว่าด้วยสถานะ
ของเนี้ยหลี่ในตอนนี้จะสูงขนาดไหน แต่เนี้ยหลี่ก็ไม่ได้จัดการ
กับพวกเขาสองพี่น้องที่เคยแกล้งเนี้ยหลี่เอาไว้ ซึ่งนับว่าพวกเขา
โชคดีมากแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่สบายใจที่จะเห็นเนี้ยหลี่กลับ
ไป เพราะถูกรบกวนโดยพวกเขาแบบนี้
ถึงแม้ว่าเนี้ยเสี่ยวรี่กับเนี้ยเสี่ยวเฟิงจะกร่างกับเขาไปสักนิด ใน
ชาติที่แล้ว แต่พวกเขาก็เป็นคนที่ ในยามที่ตระกูลบันทึกสวรรค์
เกิดปัญหา พวกเขาก็พร้อมที่จะอาสาเข้ามาช่วย ดังนั้น มันจึง
เป็นเหตุผลทีเ่ นี้ยหลี่ไม่อยากจะสร้างความยุ่งยากให้แก่พวกเขา
และเมื่อเนี้ยหลี่ได้ฟังค่าขอโทษจากปากของสองพี่น้องคู่นี้แล้ว
เขาก็ยิ้มออก พร้อมกับโบกมือเล็กน้อย และพูดว่า “ข้าให้อภัย
พวกเจ้าทั้งสอง”
เมื่อได้ยินเนี้ยหลี่พูดดังนั้น เนี้ยเสี่ยวเฟิงและเนี้ยเสี่ยวริถึงกับมึน
งงไปชั่วขณะหนึ่ง พวกเขาไม่คดิ เลยว่าเนี้ยหลี่จะให้อภัยพวก
เขาง่ายขนาดนี้ พวกเขาไม่รู้จะท่าตัวอย่างไรต่อสถานการณ์นี้
เลย
เนี้ยหลี่กล่าวต่อไปอีกว่า “ข้าไม่ใช่คนที่ใจร้ายใจด่าขนาดนั้น
แล้วข้าได้ยินมาว่าเนี้ยไฮ้ไม่ได้แบ่งยาบ่ารุงให้กับพวกเจ้า สาเหตุ
เพราะพวกเจ้าไม่ถูกกับข้า”
ทันใดนั้นเอง เนี่ยหลี่ก็น่ายาบ่ารุงจ่านวนหนึ่งออกมาจากแหวน
มิติของเขา แล้วก็โยนมันไปให้กับเนี่ยเสี่ยวเฟิงและเนีย่ เสี่ยวรี่
และกล่าวว่า “นี่คือส่วนของเจ้า คิดซะว่าเป็นของขวัญจากข้าก็
ได้”
เนี้ยเสีย่ วเฟิงและเนี้ยเสี่ยวรี่มองที่ยาบ่ารุงในมือของพวกเขา
พร้อมกับมองไปที่ร่างของเนี้ยหลีท่ ี่ก่าลังจากไป พวกเขาก็อดที่
จะตื้นตันใจไม่ได้
“ถึงแม้พวกเราจะแกล้งเขาไว้มากขนาดนั้น เนี้ยหลี่ก็ยังมีน้่าใจ
ที่จะแบ่งยาพวกนี้ให้กับพวกเรา!! เมื่อก่อนนี้พวกเราไม่น่าท่าสิ่ง
แย่ ๆ กับเขาเลย”เนี้ยเสี่ยวเฟิงร่าพึงร่าพัน พร้อมกับกล่าวโทษ
ตัวเอง ยิ่งมองเห็นเนี้ยหลี่ก่าลังเดินจากไป เขาก็ยิ่งรูส้ ึกผิด
เนี้ยหลีร่ ู้สึกได้ว่าระดับพลังของเขาได้เพิ่มขึ้นไปอีกระดับแล้ว
ในขณะที่เนี้ยหลี่ก่าลังฝึกฝนอยู่นั่นเอง ก็มีใครบางคนเคาะ
ประตูขึ้น
“เข้ามาได้ !” เนี้ยหลีต่ ะโกนกลับไป แต่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
เมื่อพวกเขาเห็นเนีย้ หลี่ไม่ลุกขึ้นแสดงความเคารพต่อเนี้ยไฮ้
แถมยังถามค่าถามย้อนกลับไปที่เนี้ยไฮ้ ผู้เป็นผู้น่าตระกูลอีก สิ่ง
นี้ท่าให้เนี้ยหมิงและเนี้ยไค อดรูส้ กึ กังวลไม่ได้ พวกเขารีบมอง
ไปที่เนี้ยไฮ้ และพบว่าเนีย้ ไฮ้ไม่ได้ถือโทษโกรธอันใด พวกเขาก็
สบายใจ
นั่นคือเด็กคนนั้น ที่ครั้งหนึ่งเคยนับถือเนี้ยไฮ้ด้วยความเคารพ
จริง ๆ น่ะหรือ ?
เพราะในชาตินี้ เขาจะต้องกลายมาเป็นจักรพรรติของเหล่า
มนุษย์ และเขาจะไปต่อสู้กับปราชญ์จักรพรรดิ และช่วยเมือง
กลอรี่ให้พ้นจากภัยพิบัติให้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงก้าว
แรกของเขาเท่านั้น
ประสบการณ์ของเนี้ยหลี่มีมากกว่าทุกคนในเมืองกลอรี่รวมกัน
เสียอีก !
บทที่ 77 - ร่วมการแข่งขัน
เหล่าอาวุโสพวกนั้นไม่เข้าใจถึงค่าสั่งของเนี้ยไฮ้เลย
แม้แต่น้อย แต่เมื่อเป็นค่าสั่งของผูน้ ่าตระกูล พวกเขาก็จะ
ปฏิบัติตาม
“ข้าได้รับการแจ้งมาว่าตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ได้ส่งค่า
เชิญไปยังตระกูลต่าง ๆ เพื่อให้เข้าร่วมงานประลองรุ่นเยาว์ที่
พวกเขาจัดขึ้น โดยงานนี้พวกเราเองก็ได้รับค่าเชิญนั้นด้วย เจ้า
คิดว่า เราควรจะเข้าร่วมงานประลองครั้งนี้หรือไม่ ?”
หากมันเป็นเพียงงานประลองธรรมดา พวกเขาคงจะ
ไม่ต้องกังวลอะไรมาก แต่เนี้ยไฮ้กงั วลว่าครั้งนี้ พวกตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์จะต้องคิดท่าอะไรกับพวกเขาอย่างแน่นอน
“ท่าไมเราถึงจะไม่เข้าร่วมงานประลองล่ะ ? แล้วก็
ส่งจดหมายไปบอกสมาคมนักปรุงยาให้มาชมการแข่งขันด้วย
แค่นั้นก็สบายใจได้แล้ว” เนี้ยหลี่พูดอย่างใจเย็น ในเมื่อตระกูล
เทพศักดิ์สิทธิ์ส่งค่าเชิญมาแล้ว ท่าไมเขาจะไม่เข้าร่วมการ
แข่งขันล่ะ ?
“ถ้าอย่างนั้นข้าคงต้องรบกวนเจ้า ช่วยเขียน
จดหมายไปบอกผู้อ่านวยการหยางด้วย” เนี้ยไฮ้พูด พร้อมกับ
ยิ้มเล็กน้อย เขารอค่าพูดนี้จากเนีย้ หลี่อยู่แล้ว เพราะถ้าหากมี
สมาคมนักปรุงยามาดูการแข่งขัน ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์คงจะไม่
กล้าเล่นสกปรก
พวกผู้อาวุโสต่างแปลกใจ เพราะเนี้ยไฮ้และเนี้ยอิ้
งต่างพูดจาอย่างสุภาพเมื่อคุยกับเนี้ยหลี่ แต่เมื่อพวกเขาคิดถึง
ยาบ่ารุงที่เนี้ยหลี่มอบให้แก่ตระกูลแล้ว พวกเขาก็พอจะเข้าใจ
ได้ว่า สถานะของเนี้ยหลี่ในตระกูลต่อจากนี้ไปจะไม่เหมือนเดิม
อีกแล้ว
“งานประลองครั้งนี้ต้องมีการเตรียมการ อย่างน้อย
ก็อีกครึ่งเดือน เนี้ยหลี,่ เจ้าควรเริม่ เตรียมตัวได้แล้วนะ เพราะ
ข้าได้ข่าวมาว่าผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์
ล้วนแล้วแต่มีความแข็งแกร่งระดับเงิน5 ดาวทั้งนั้น”
เนี้ยไฮ้พูด พวกเขาเองก็ต้องเตรียมรับมือกับ
สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างการประลองครั้งนี้ด้วย
“พวกท่านไม่ต้องห่วงเรื่องเงินหรอกนะ ข้าสามารถ
มอบเงิน100 ล้านเหรียญจิตมารให้กับตระกูลได้ เพื่อเรื่องนี้ แต่
พวกท่านควรจะระวังเกี่ยวกับเรื่องคนที่จ้างเข้ามา ว่าคนพวก
นั้นจะต้องไม่ใช่คนที่ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์หรือสมาคมทมิฬส่ง
มา” เนี้ยหลีค่ ิดและพูดออกมา
ในตอนนี้พวกผู้อาวุโสคนอื่น ๆ เริ่มเข้าใจแล้วว่า
ท่าไมเนี้ยไฮ้ถึงให้ความส่าคัญกับเนี้ยหลี่มากถึงเพียงนี้
ความรูส้ ึกไม่ชอบหน้าเนี้ยหลี่ก็หายไปจากความคิดของพวกเขา
ยังไงเสีย ตระกูลบันทึกสวรรค์กเ็ ป็นรากเหง้าของพวกเขา ถ้าสิ่ง
ใดมีประโยชน์ต่อตระกูล พวกเขาก็พร้อมที่จะสนับสนุน และ
คนที่บริจาคสิ่งต่าง ๆ ให้กับตระกูลมากมายอย่างเนี้ยหลี่นั้น
สมควรได้รับการยกย่องจากทุกคน
หลังจากพวกเขาปรึกษากันไปหลายชั่วโมง เนี้ยไฮ้
และคนอื่น ๆ ก็เริ่มที่จะท่าตามแผนที่วางไว้ คือส่งคนไปยัง
สมาคมร่างทรงอสูร และสมาคมนักสู้ เพื่อที่จะจ้าง และ
รวบรวมก่าลังพล
โดยปกติทุกตระกูลจะมีหน่วยคุ้มกันของตัวเองอยู่
แล้ว แต่ส่าหรับตระกูลบันทึกสวรรค์ พวกเขาได้เลิกจ้างหน่วย
คุ้มกันไปนานแล้ว เนื่องมาจากปัญหาทางการเงินที่มีมาก่อน
หน้านี้ แต่ในตอนนี้ พวกเขาสามารถที่จะจ้างหน่วยคุม้ กัน
เหล่านั้นกลับมาได้อย่างสบาย ๆ
ที่ห้องโถงหลักของนายคลังของตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์
เสิ่น หมิง ก่าลังจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ภายในตระกูลอยู่
ทันใดนั้นเองก็มีชายหนุ่มสามคนเดินเข้ามา โดยคนที่เดินน่าเขา
มานั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่คือเสิ่น เฟย และตามมาด้วยผู้ชายหน้า
โหดวัยยีส่ ิบต้น ๆ อีกสองคน
“คารวะท่านายคลัง !” ชายทั้งสองคนโค้งค่านับท่าน
นายคลังผู้อาวุโส เสิ่น หมิง โดยเด็กหนุ่มทั้งสองคนนี้เป็นคน
จากตระกูลย่อยของตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นสถานะของ
พวกเขาจึงต่่ากว่าเสิ่น เฟย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งกว่า
เสิ่น เฟยก็ตาม
พรสวรรค์ของทายาทตระกูลหลักนั้น เทียบไม่ได้เลย
กับพรสวรรค์ของทายาทจากตระกูลย่อย ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่
เกิดขึ้นมาหลายชั่วอายุคนแล้ว
“ข้าได้รับจดหมายตอบกลับจากตระกูลบันทึก
สวรรค์แล้ว และเป็นที่ยืนยันอย่างแน่ชัดแล้วว่า ตระกูลบันทึก
สวรรค์จะเข้าร่วมงานประลอง ซึ่งเจ้าเนี่ยหลี่นั่น ก็เข้าร่วมด้วย”
เสิ่น หมิงค่อย ๆ ตอบ
“และเพราะเหตุนี้ ข้าจึงต้องเข้าร่วมงานประลองใน
ครั้งนี้ ข้าจะเหยียบเจ้าเด็กนั่นให้จมดิน และจะทรมานมันให้ถึง
ที่สุด !” เสิ่น เฟยพูด ดวงตาของเขาแสดงถึงความเย็นชา และ
เมื่อคิดถึงเสี่ยวหนิงเอ๋อ หัวใจของเขาก็ยิ่งทวีความเกลียดที่มีต่อ
เนี้ยหลีย่ ิ่งขึ้นไปอีก
บทที่ 78 - ของล้าค่า
“การประลองครั้งนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงตระกูลเรา ดังนั้นการที่
เราจะพนัน ผู้น่าของตระกูลต่างๆ จะร่วมพนันกับเรา
ด้วย” เสิ่น หมิงกล่าว เกี่ยวกับเรื่องนี้มันเสี่ยงมาก มันจะต้อง
ไม่มีการผิดพลาด ไม่เช่นนั้นแล้วหากท่านผู้น่าตระกูลกลับมา
จากการฝึกวรยุทธ์แล้ว พวกเจ้าทั้ง 2 คน คงรู้ผลที่จะตามมานะ
สายตาของ เสิ่น หมิงมองไปยังเสิน่ หนิง และ เสิ่น เซีย่ ว เขา
จะไม่สนใจเลยถ้า เสิ่น เฟยเ ล้มเหลวในการประลอง แต่หาก
เสิ่น หนิง และ เสิ่น เซี่ยว ประสบความพ่ายแพ้แล้ว พวกเขา
จะถูกลงโทษอย่างหนัก
เสิ่น หนิง และ เสิ่น เซีย่ ว เกิดความกังวลเล็กน้อย พวกเขารีบ
โค้งตัวค่านับ และพูดว่า “ ขอรับหัวหน้า พวกเราจะท่าให้ดี
ที่สุด”
พวกมันไปเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหน....
ดูเหมือนว่ามันจะต้องเกี่ยวข้องกับสมาคมนักปรุง
ยาแน่
สมาคมนักปรุงยาตั้งใจจะปกป้องตระกูลบันทึกสวรรค์
หรือ เสิ่น หมิงคิด
สมาคมนักปรุงยาได้ช่วยเหลือตระกูลบันทึกสวรรค์จาก
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ครั้งแล้วครั้งเล่า นอกจากนี้พวกเขายังแอบ
ส่งคนมาส่ารวจตระกูลเทพศักดิส์ ทิ ธิ์อย่างลับๆ มันอาจจะ
เป็นไปได้ว่าสมาคมนักปรุงยาค้นพบบางสิ่ง ?
การร่วมมือกันระหว่างตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์กับสมาคมทมิฬ
ไม่ได้ช่วยให้เขาได้รับรู้ความจริงเกีย่ วกับเรื่องนี้เลย เสิ่น
หมิงจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อจะจัดการกับเรื่องนี้ เขา
จะไม่ยอมให้สามคมนักปรุงยา จับได้แน่ เมื่อ เสิ่น ฮองกลับมา
จากการฝึก เขาจะรายงานกับ เสิ่น ฮอง เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่าง
แน่นอน ถึงตอนนั้นแล้วสมาคมนักปรุงยาก็ไม่สามารถปกป้อง
ตระกูลบันทึกสวรรค์ได้อีกต่อไป เวลานี้เขาจะต้องแสดงให้
ตระกูลบันทึกสวรรค์เห็น ถึงศักดิ์ศรีของตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์
บ้าง หรืออีกนัยหนึ่งคือการรักษาศักดิ์ศรีของตระกูล
ภายในอาณาเขตของตระกูลบันทึกสวรรค์
ในช่วงที่ผ่านมาเนี่ยหลี่ยุ่งอยูก่ ับการผสานพลังเข้ากับอสูร
แพนด้าหยินหยาง ? และเพิ่มระดับพลัง ท่าให้เขาไม่มีโอกาสที่
จะเข้าไปในคลังสมบัติของตระกูลจนกระทั่งเนี่ยไฮ้ได้ชวนเขาใน
ขณะนี้ พวกเขาเดินเข้าในทางลับที่อยู่ด้านหลังคฤหาสน์ของ
ผู้น่าตระกูล พอผ่านจากชั้นที่มีการป้องกันแน่นหนาพวกเขาก็
มาถึงคลังสมบัติของตระกูลบันทึกสวรรค์
ภายในคลังสมบัติของตระกูลบันทึกสวรรค์
“ท่าไมถึงมีสิ่งของเพียงไม่กี่ชิ้นในคลังสมบัติกัน”
“ไม่ใช่เลย” หน้าของเนี่ยไฮ้กลายเป็นสีแดงขณะกล่าว
“สิ่งของทุกอย่างในคลังสมบัติถูกลงทะเบียนไว้หมดแล้ว หาก
มีใครต้องการสิ่งใดในนี้จะต้องได้รบั การยินยอมจากผู้อาวุโส
ทั้งหมด” ในช่วงปีที่ผ่านมาตระกูลบันทึกสวรรค์ไม่มเี งิน
เพื่อที่จะพัฒนาตระกูลพวกเราจึงไม่มีทางเลือกที่จะขายสมบัติ
บางส่วนออกไป การท่าเช่นนั้นก็เพื่อพยายามที่จะดูแลรักษา
ตระกูลไว้จนถึงตอนนี้
“ข้าก็พูดโดยไม่ตั้งใจไปตามที่เห็น เหตุใดท่านต้องกระวน
กระวายเกินเหตุไปด้วยเล่า” เนีย่ หลี่ พยักไหล่ขณะเดินไป
ข้างหน้าขณะที่จ้องดูแผ่นหลังของเนี่ยหลี่ เนี่ยไฮ้รสู้ ึก
งุนงง สมองของเขามันเป็นแบบไหนกัน ? ความสามารถของ
เขาไม่ได้แตกต่างไปจากผู้ใหญ่เลย การล้อเล่นของเนี่ยหลี่ท่าให้
เนี่ยไฮ้รสู้ ึกว่าตัวเองอ่อนแอ
“บางที่สมบัติที่ไม่รู้จักวิธีใช้เหล่านีค้ งไม่สามารถเรียกราคาสูงๆ
ได้ใช่ไหม” เนี่ยหลี่ชายตามองไปที่เนี่ยไฮ้
“แน่นอน เมื่อพวกเราอยู่ข้างนอกข้าจะให้ความนับถือท่าน
บ้าง” เนี่ยหลี่พูดพร้อมพยักหน้า
เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี่ยหลี่ เนี่ยไฮ้ตะลึงไปชั่วขณะ
นึง แล้วฝืนยิ้มอย่างข่มขืน สิ่งที่เนีย่ หลี่กล่าวออกมานั้น
หมายความว่า เมื่อไม่มีคนอื่นๆอยูใ่ กล้แล้วเนี้ยหลี่ก็จะไม่รักษา
หน้าเขาเลย
เนี่ยหลีจ่ ้องมองไปที่สมบัติชิ้นหนึ่ง
ส่าหรับกาตาร์คู่นี้เนี่ยไฮ้อยากที่จะทิ้งไปนานแล้ว เพราะว่ามัน
เก่า และ โทรมเกินไป และ ก็ไม่รู้วา่ มันมีอานุภาพอันใด เลยไม่
มีใครต้องการมัน และ ปล่อยทิ้งไว้ เพียงเพื่อเก็บไว้ในคลัง
สมบัติของตระกูลที่เกือบจะว่างเปล่า อย่างน้อยมันก็ช่วยเติม
ช่องที่ว่างอยู่ภายในคลังได้
แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเจริญรุ่งเรืองมาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
หลังจากก่อตั้ง อาณาจักรศักดิส์ ิทธิ์ สิ่งเหล่านี้ก็กลายเป็นของ
หายากมาก ยิ่งในช่วงยุคมืด แบบแปลนของหุ่นเชิดวิญญาณก็
ยิ่งหายากขึ้นทุกที และก็ถูกลืมเลือนไปในที่สุด
ไข่มุกนี้มันไม่ธรรมดาแน่นอน แม้แต่เนี่ยหลี่ก็ยังไม่ทราบที่มา
ของมัน
ข้าจะเอาอันนี้ เนี่ยหลี่พูด
หือ...ท่าไม มีปญ
ั หาอะไรหรือเปล่า เนี่ยหลี่ถาม ท่าหน้า บุ้ย
เล็กน้อยขณะมองไปทีเ่ นี่ยไฮ้
"ไม่ใช่เพราะ เจ้าไข่มุกนีม้ ันมีค่าอะไรมากมาย แต่เพียงเพราะ
ไข่มุกนี้ถูกทิ้งไว้โดยท่านผู้น่าตระกูลรุ่นแรก ดังนั้น มันจึงมี
ความหมายอย่างมากควรจะเก็บไว้เป็นความทรงจ่าส่าหรับรุ่น
ต่อๆไป ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงเก็บมันไว้" เนี่ยไฮ้พูด
ข้าก็เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลบันทึกสวรรค์ในรุ่นถัดไป ดังนั้นไม่
น่าจะมีปญ ั หาถ้าข้าจะใช้มัน ข้าจะเก็บมันอย่างปลอดภัย นี้เงิน
200ล้านเหรียญจิตมาร ท่านผู้น่าสามารถน่าไปซื้อสมบัติคืนได้
บางส่วน มิฉะนั้น คลังสมบัติของตระกูลมันจะว่าง เกินไป!
เนี่ยหลี่พดู พร้อมเคลื่อนมือขวาของเขาไปยังแหวนห้วงมิตลิ ี้ลับ
และน่าเงินออกมาส่งให้เนี่ย ไฮ้
อาวุธวิญญาณจะมีประสิทธิภาพมาก ถ้ามันเข้ากับจิตอสูร
เนื่องจากจิตอสูรแห่งเงามีกรงเล็บที่แหลมคมอยู่แล้วท่าให้
กาตาร์กไ็ ม่จ่าเป็นส่าหรับมันอีกกาตาร์คู่นี้มันเหมาะส่าหรับอสูร
เขี้ยวแพนด้า
ท่านผู้น่าเนี่ยไฮ้ ข้าจะกลับแล้ว เนีย่ หลี่มองไปที่เนี่ยไฮ้แล้วพูด
ถ้าตระกูลไหนมีคนรุ่นใหม่เช่นเนี่ยหลี่ ผู้น่าตระกูลนั้นคงจะหลับ
ฝันหวานเป็นแน่
คราบสนิมบนกาตาร์เริ่มหายไป และค่อยๆเปล่งประกาย
ออกมา และเริ่มสั่นและมีเสียงก้องออกมา มันสั่นสะท้านไม่
หยุด และ ลอยขึ้นไปบนอากาศ "บูมม" มันระเบิดออกมา
กาตาร์คู่นั้นกลายเป็นแสงสดใสถูกเปิดใช้งานด้วยพลังวิญญาณ
และได้เข้าไปสูเ่ ขตแดนพลังวิญญาณของเขา
พลังของอาวุธวิญญาณเชื่อมต่อกับพลังวิญญาณของผู้ใช้
โดยทั่วไปแล้วมักจะแข็งแกร่งกว่าระดับพลังวิญญาณ ซึ่ง
หมายความว่า ถ้าพลังวิญญาณเนีย่ หลี่มรี ะดับ เงิน พลังของ
กาตาร์ก็จะเป็นระดับ ทอง
แม้แต่ปรมาจารย์ระดับ ทอง ก็สามารถบาดเจ็บได้ ถ้าพวกเขา
ประมาท
ถ้าพลังของเนี่ยหลี่เพิ่มขึ้น อาวุธวิญญาณก็จะแข็งแกร่งขึ้นตาม
ไปด้วย
มีเพียงคนจากตระกูลอสูรสายฟ้าจ่านวนเล็กน้อยเท่านั้นที่
สามารถท่าได้ ทั้งนี้ในตลอดชีวิตของพวกเขา สามารถมีอาวุธ
วิญญาณได้แค่ 1 ชิ้นเท่านั้น ถ้าคนตาย อาวุธก็จะตายตามไป
ด้วย ดังนั้น มีอาวุธวิญญาณที่ยังหลงเหลือจากยุคสมัยนั้นน้อย
มาก มีแต่พวกคนเขลาที่จะเก็บรักษาอาวุธวิญญาณ เหมือน
เช่น อาวุธธรรมดาทั่วไป
ด้วยความเงางามเช่นนี้ เนี่ยหลี่ยิ้มเบาๆขณะที่คิดในใจ
บทที่ 80 - ไม่ได้เจอกันนาน
ที่สถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์
ชายชราผู้มีหนวดเคราและผมสีขาว ที่อยู่ด้านหน้าของแม่นาง
เสี่ยวหนิงเอ๋อผู้เลอโฉม ผู้อาวุโสผูน้ ี้คือรองอาจารย์ใหญ่ ของ
สถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ เอีย เซิ่ง
“ข้าได้ตดั สินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าข้าจะเข้าไปภายในพรมแดน
ศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์”เสี่ยวหนิงเอ๋อ ตอบกับเอีย เซิ่ง ดวงตา
นางช่างเต็มไปด้วยความหนักแน่นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
หน้านี้
“พ่อของเจ้ามีความเห็นเป็นเช่นใดบ้าง?เขาเห็นด้วยกับการ
กระท่าของเจ้างั้นรึ?”
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า เหตุใดเมืองกลอรี่ถึงยังไม่พังพินาศลงจาก
การคุกคามของพวกสัตว์อสูรเพราะเมืองกลอรีม่ ีการปกป้อง
และให้อภิสิทธิ์เหล่าเด็กอัจฉริยะเหล่านี้ แน่นอนเพราะว่ามัน
เป็นการป้องกันตัวเมืองเองด้วยเช่นกัน ดังนั้นการปกป้อง
อัจฉริยะกลุ่มนี้ของเมืองกลอรี่นับเป็นการป้องกันที่สมบูรณ์และ
รอบคอบมากเลยทีเดียว
หลายวันต่อมา สนามประลองทางตอนเหนือของเมืองกลอรี่
ในขณะนี้ที่นั่งของตระกูลต่างๆถูกจัดวางไว้ในทิศเหนือของ
สนามประลอง สมาชิกของตระกูลบันทึกสวรรค์นั่งอยูม่ ุมทาง
ทิศเหนือ ระยะห่างระหว่างพวกเขากับตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์อยู่
ไม่ไกลมากนัก
ในอดีตที่ผ่านมาของขุนนางชนชั้นล่างอย่างตระกูลบันทึก
สวรรค์นั้นไม่มีผู้ใดเลยที่จะให้ความส่าคัญ แต่บัดนี้ทุกสิ่งทุก
อย่างล้วนเปลีย่ นไป ไม่มตี ระกูลใดเลยที่จะละเลยการกระท่าที่
มีต่อตระกูลบันทึกสวรรค์
ซึ่งสิ่งเหล่านีเ้ องที่เป็นตัวจุดชนวนให้ตระกูลอื่นเกิดความอิจฉา
ริษยา เกลียดชังไม่น้อยเลย หยาง ซิน และ สามผู้อาวุโสของ
สมาคมนักปรุงยาเองก็นั่งข้างตระกูลบันทึกสวรรค์ พวกเขาได้
พูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนานกับตระกูลบันทึกสวรรค์
เรื่องนี้เป็นดังเชื้อเพลิงทีส่ ุมไฟความริษยาของตระกูลอื่นๆให้มี
มากเพิ่มยิ่งขึ้นไปอีก
โดยปกติแล้วพวกเขาต่างพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจะเข้าให้ถึง
ตัวหยาง ซินและเหล่าผู้อาวุโสของสมาคมนักปรุงยา แต่ไม่ว่า
พวกเขาจะพยายามมากเพียงใดก็ยังมิได้รับความแลเหลียวจาก
สมาคมนักปรุงยาเลยแม้แต่น้อย พวกเขาไม่เคยอยู่ในสายตา
ของสมาคมนักปรุงยาเลย แต่ตระกูลบันทึกสวรรค์กลับได้รับ
การปฏิบตั ิอย่างสุภาพจาก หยาง ซิน
ด้วยความงามเฉกเช่นคนชั้นสูงของนาง สถานะของนางนั้นก็ไม่
ธรรมดาเลย ผู้ใดกันที่จะกล้าไปเล่นตลกกับนาง ? นางมีอ่านาจ
ที่จะตัดสินชะตากรรมของตระกูลได้อย่างง่ายดาย ใครจะกล้า
ไปกวนใจนางกัน?
หยาง ซินมิได้สนใจกับสายตาของผู้อื่นที่มองนางเลยแม้แต่น้อย
เพราะในสายตานางนั้นมักจะมองไปที่เนี่ยหลี่เพียงผูเ้ ดียว
เมื่อจับจ้องมาที่การอากัปกริยาของเนี้ยหลี่ หยางซินก็เข้าใจ
ในทันที ว่ามันเกิดสิ่งใดกันขึ้น เนีย้ หลี่นั้นน่าจะมีความขัดแย้ง
บางอย่างกับเสิ่น เฟย นั่นคือวัตถุเหตุผลส่าคัญที่ท่าให้เนีย้ หลี่
ต้องเรียกนางมาช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆและทีส่ ่าคัญมันคือการที่
จะต้องสู้กับตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์นนั่ เอง
แม้รู้ว่ามันอาจจะท่าให้นางต้องบาดหมางกับตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์ แต่นางก็ยังคงสนับสนุนเนี่ยหลี่ โดยปราศจากความ
ลังเลใดๆ มันช่างเป็นการตัดสินใจที่ง่ายดายยิ่งนัก
“นวด.......”เสิ่น เฟยอุทาน
เมื่อได้ยินวาจาของเนี้ยหลี่ ก็ปรากฏภาพต่างในหัวของเขา
นวดคลึงจุดต่างๆทั่วร่างกาย ระหว่างเนี้ยหลี่และเสี่ยวหนิงเอ๋อ
ภาพเหล่านั้นก็พลันปรากฏขึ้นในทุกอณูโสตประสาทในหัว
สมองของเขา จนเกือบ กระอักเลือดออกมาตายให้
เป็นได้ ทุกๆคนนั้นรู้ว่าตลอดมานี้ เสี่ยว หนิงเอ๋อนั้น มิยอมให้
เขาได้สัมผัสแม้แต่เล็บมือของนาง เขานั้นท่าได้แค่เฝ้า มองและ
พูดคุยเพียงเท่านั้น!
“ไอ้เจ้าคนแซ่เนี้ย แกจะต้องถูกข้าท่าให้เป็นปุ๋ยกลับออกไป
แน่!” ณ เวลานี้นั้นเสิ่น เฟยมิสามารถที่จะควบคุมความโกรธ
ของตัวเองได้อีกแล้ว ตาทั้งสองข้างนั้นเบิกโพลงขึ้นส่าหรับ
ทายาทของตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ ที่มีความภาคภูมิใจในศักดิศ์ รี
และเย่อหยิ่งเป็นหนักหนา อย่างเขามิเคยได้พบกับความอัปยศ
อดสูเช่นนี้มาก่อนและแล้วเสิ่น เฟยก็อดใจไม่ไหวได้กระโจนเข้า
ไปพร้อมทั้งปล่อยหมัดไปยังเนี้ยหลี่
“ในการประลองศิลปะการต่อสู้ ที่ก่าลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้”
พวกตระกูลเนี้ยจักต้องส่งใครบางคนลงในการต่อสู้นี้อย่าง
แน่นอน ท่าไมท่านไม่รั้งรอประลองยุทธ์กับมันหลังจากนี?้ ซึ่ง
จะท่าให้ไม่มีปัญหาและทุกอย่างก็จักเรียบร้อย?
ถ้าเนี้ยหลีไ่ ม่ลงมาสู้แล้วไซร้ถึงเขาจะชนะขยะจากตัวแทน
ตระกูลบันทึกสวรรค์กไ็ ม่มีความหมายอันไดเลย และดู
เหมือนว่าเนี้ยหลี่นั้นยังคงมิยอมลงมา
“เงินเดิมพันห้าสิบล้านเหรียญจิตมาร มันคงไม่ท่าให้คนบ้า
อย่างเจ้ากลัวหรอกนะ?”
“ข้าเพียงแต่จะบอกท่านว่าเงินจ่านวนห้าสิบล้านจิตมารนั้นมัน
ยังมิเพียงพอดอก ท่านมีเงินที่จะวางแค่นั้นเองหรือ? ตระกูล
ระดับยิ่งใหญ่อย่างตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นกลับกล้าวางเงินเดิม
พันช่างน้อยนิดเสียยิ่งกระไร”เนี้ยหลี่หันกลับไปมองหยางซิ
นแบบอ้อนๆ แล้วจึงเอื้อนเอ่ยว่า “พี่สาวหยาง ซิน ตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์ท่าไมจึงยากจนค้นแค้น น่าสงสารถึงเพียงนี้นัก?”
“เงินแค่ห้าสิบล้านเหรียญติมารนัน้ เกือบจะไม่พอให้ข้าซื้อขนม
หวานและให้รางวัลเด็กๆของข้าเลยช่างยากจนกระไรถึงเพียง
นี”้
เมื่อจับจ้องมองมาที่การแสดงอากับกริยาของเนี้ยหลี่นั้นยาง
ซินก็แอบหัวเราะอย่างหนักมากอยู่ในใจ เนี้ยหลี่นั้นช่างเต็มไป
ด้วยจินตนาการที่ชั่วร้ายเสียยิ่งกระไร ตอนนี้เขานั้นก่าลัง
ล่อลวงให้ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นย่างกลายเข้ามาในกับ
ดัก นางส่ายหน้าแล้วเปล่งวาจาอย่างจริงจัง “น้องชายตัวน้อย
จ่านวนเงินห้าสิบล้านเหรียญจิตมารนั้นจากการที่พสี่ าว
พิจารณาแล้วมันคือเงินที่มากมายส่าหรับแต่ละตระกูลนะจ๊ะ”
เมื่อได้ยินวาจาและท่าทางของเนี้ยหลี่ เสิ่นหมิงและเสิน่ เฟ
ยต่างหน้าซีด เนี้ยหลี่นั้นช่างบ้าบิน่ เป็นยิ่งนัก เงินจ่านวนห้า
สิบล้านเหรียญจิตมารนั้น มิใช่เงินจ่านวนน้อยเลย ตระกูลขุน
นางทั่วไปนั้น คงมิสามารถที่จักหาเงินได้จ่านวนมากขนาดนี้เสีย
ด้วยซ้่า มีเพียงตระกูลหลักเท่านั้น เช่นตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ ที่
สามารถที่จะหาพวกมันมาได้ แน่นอนนั่นยังไม่สามารถเทียบ
กับสมาคมนักปรุงยาได้ ซึ่งพวกสมาคมนักปรุงยา ในปัจจุบัน
นั้นร่่ารวยมากมายมหาศาลซะยิ่งกว่าใครในเมืองกลอรี่ซะอีก
“ห้าสิบล้านเหรียญจิตมาร เจ้าช่างกล้านักที่จะพูดว่ามันนั้น
มาก!”เนี้ยหลี่นนั้ หัวเราะหนักมากอย่างดูแคลน
ในขณะที่เสิ่นหมิงได้แต่ถอนลมหายใจอย่างรุนแรงจนสามารถ
พัดพาหนวดเคราของเขาให้พริ้วไหวดั่งสายน้่า แต่ เสิ่น เฟย
ยังคงนิ่ง ตั้งแต่เนี้ยหลีไ่ ด้แกล้งแหย่ให้เสิ่น เฟยนั้นโกรธจัด
จนกระทั่งควันออกหูได้นั้น เขาได้พิจารณาไตร่ตรองเป็นที่
เรียบร้อยแล้วว่าส่าหรับในรอบแรกนั้น เงินเดิมพันจ่านวนห้า
สิบล้านเหรียญจิตรมาร มิใช่จ่านวนเงินที่มากในการวางเดิมพัน
เท่าใดนัก หลังจากนั้นยังมีโอกาสไม่น้อย ที่จะศึกษาความ
แข็งแกร่งของเนี้ยหลี่ก่อนเรื่องอื่นๆ
“ในรอบแรกนี้เราจะวางเดินพันกันห้าสิบล้านเหรียญจิตมาร
เราจะยังไม่หยุดอยูเ่ พียงนั้นถ้าท่านยังชนะเราก็จักเดิมพันต่อไป
เรื่อยๆ” เสิ่นหมิงเอ่ยวาจาพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อย ถ้าเนีย้ หลี่นั้น
มีเหตุบังเอิญสามารถเอาชนะการต่อสู้กับเสิ่น เฟยได้ เขาก็ยังมี
สองนักสู้ที่เก่งกาจกว่าเป็นตัวแทนจากตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ ยัง
สามารถวางเดิมพันได้อีกถึงสองครั้งจากนักสู้ซึ่งเก่งฉกาจและมี
ความน่าเชื่อถือมากกว่านี”้
“ตระกูลอื่นๆทั้งหมดจะร่วมเป็นสักขีพยานในการเดิมพันครั้ง
นี้!” เนี้ยหลี่เอ่ย
ข่าวคราวที่ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์และตระกูลบันทึกสวรรค์ได้วาง
เดินพันนั้นได้แพร่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ เหล่าท่านผู้น่า
ตระกูลและผู้อาวุโสผู้คนจากตระกูลต่างๆได้ร่วมมาเป็นสักขี
พยานในการเดินพันในครั้งนี้ด้วย
“มันมีอะไรที่มิถูกต้องไปหรือเปล่า ลือว่าตระกูลบันทึกสวรรค์
นั้นจักเดิมพันขันต่อกับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์กระนั้นเชียวหรือ?
“เจ้าไม่รู้หรอกหรือว่า?ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นได้รับการ
ปกป้องโดยสมาคมนักปรุงยา พวกเขานั้นร่่ารวยมหาศาล ดู
เหมือนว่าในตอนนี้ก่าลังจะสู้กับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์อยู่นะ”
“เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่ามันมิใช่ระหว่างตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์กับ
ตัวแทนของสมาคมนักปรุงยาแน่?”
“ผู้ใดรู้บ้าง?”เหล่าผู้น่าและผูอ้ าวุโสตระกูลต่างๆก่าลัง
วิภาควิจารณ์กันไปทั่ว
บทที่ 82 - ต่อสู้ครั้งแรก ของอสูรเขี้ยวหมีแพนด้า
ทุกๆคนในตอนนี้นั้นเปลีย่ นมาสนใจการต่อสู้ระหว่างตระกูล
เทพศักดิ์สิทธิ์และตระกูลบันทึกสวรรค์
มีเหล่าผู้น่าตระกูลต่างๆล้วนใจจดใจจ่อรอชมการประลองยุทธ์
ในครั้งนี้
“ได้ยินมาว่าตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นได้วางเงินเดิมพันถึง
ห้าสิบล้านเหรียญจิตมารกับตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ถึงกระนั้น
เชียวหรือ”
“ เงินจ่านวนห้าสิบล้านเหรียญจิตมารนั้นมันมากมาย
จริง น่าจะมีเพียงแค่ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์และสมาคมนักปรุง
ยาเท่านั้นกระมังที่สามารถจ่ายมันได้ ตระกูลเล็กอย่างตระกูล
บันทึกสวรรค์คงมิมีทางที่จักสามารถจ่ายมันได้เป็นแน่ ถ้าพวก
เขามิได้รับการสนับสนุนจากสมาคมนักปรุงยามิเช่นนั้น ตระกูล
บันสวรรค์นั้นคงจะไม่กล้าวางเดินพันในครั้งนี้หรอก!”
การเดิมพันระหว่างตระกูลทั้งสองท่าให้อุณหภูมิในสนามแข่ง
ขันแห่งนี้นั้นดูเหมือนจะร้อนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ที่บริเวณรอบนอกได้มีผู้คนเล่นพนันโดยมีตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์
เป็นผู้เปิดโต๊ะรับพนันให้แก่ประชาชนคนทั่วไปได้แทงกันอย่าง
กันอย่างจุใจโดย ราคาต่อรองด้วยอัตรา ดังนี้ เนี้ยหลี่จะชนะ
เป็นแทง 1 ต่อ 1.5 เสิ่นเฟยชนะ 1ต่อ 1.3 เสิ่นเฟยสามารถ
ท่าให้เนี้ยหลี่พ่ายแพ้ได้ด้วยการโจมตีเพียงหนึ่งกระบวนท่า
ราคาต่อรอง แทง 1 ต่อ 1.9
เนี้ยหลี่ ก่าลังมองที่อัตราการต่อรองต่างๆพบว่ามีการพนันว่า
เนี้ยหลี่ นั้น สามารถชนะเสิ่นเฟยจากการโจมตีเพียงหนึ่ง
กระบวนท่า ด้วยอัตราที่รองที่สูงถึง แทง 1 ต่อ 11
“เสียดายเป็นยิ่งนักที่มันสามารถพนันได้เพียงครั้งละไม่
เกิน 6 ล้าน ต่อรอบการประลอง ถ้ามันมีไม่จ่ากัดหละก็ ข้าจัก
พนันให้ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์นั้นกลายเป็นตระกูลที่ยากจนเลย
เสียทีเดียว!”เนี้ยหลี่แอบเก็บซ่อนเร้นจินตนาการอันแยบยลของ
เขาไว้อยู่ภายในใจ เมื่อการประลองยุทธ์รอบแรกเริ่มขึ้นข้านั้น
จักแค่เพียงหยอกล้อเล่นกับพวกมัน แต่ในรอบต่อๆไปข้าจะ
เดิมพันก้อนใหญ่ใส่พวกมันให้หมดตัวเป็นแน่
เนี้ยหลี่และพวกของเขาแอบด่าเนินการส่งบางคนไปวางเดิมพัน
อย่างลับๆ โดยได้ท่าการกระจายเงินออกเป็นจ่านวนเล็กน้อย
เพื่อไม่ให้ใครสงสัย ได้วางเดิมพันรวมกันทั้งสิ้นราวประมาณ
สามสิบล้านเหรียญจิตมาร เป็นการลงเดิมพันว่าเนี้ยหลีส่ ามารถ
จัดการเสิ่นเฟยได้ภายในยีส่ ิบ กระบวนท่า ซึ่งอัตราเดิมพันนั้น
อยู่ที่แทง 1จ่าย 3 นั้นเอง
ภายใต้แรงกดดันจากกองเชียร์จ่านวนมหาศาลจากผูเ้ ข้าชม ใน
สังเวียนประลองยุทธ์แห่งนี้เตรียมพร้อมที่จะต้องรับการเข้าสู่
สนามของนักสู้ทั้งสอง
ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นน่าโดยเนีย้ ไฮ้ และเนีย้ อิ้ง และพวกของ
เขา มีการแสดงออกให้เห็นถึงความตื่นเต้นบนใบหน้าของเขาได้
กระตุกไปมาอย่างชัดเจน
หยางซิน แอบมองมาที่เนี้ยหลี่ แล้วแอบยิ้มที่มมุ ปากของนาง
เล็กน้อย นางนั้นมีความรู้สึกได้เลยว่างานนี้ เสิ่นเฟย จักต้อง
พ่ายแพ้แบบน่าสมเพศเวทนาเป็นแน่
เสิ่นหมิงและพรรคพวก ทะยานขึน้ ไปสู่ที่พ่านักชมการประลอง
ส่าหรับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว และเปล่งวาจาว่า“
การประลองยุทธ์ครั้งนี้นั้น ไม่อนุญาตให้ใช้ อาวุธหรือชุดเกราะ
ในการต่อสู้ แต่อย่างไรก็ตามอนุญาตให้ใช้ยาทิพย์ส่าหรับเพิม่
ความแข็งแกร่งให้แก่ดวงจิตอสูรทัง้ สองได้ถ้าเจ้าอยากใช้มัน!”
ยาเสริมวิญญาณชนิดนี้ผู้ครอบครองจักมีเฉพาะตระกูลหลัก
โดยต้องสั่งซื้อจากสมาคมนักปรุงยา ปกติพวกเขาจะใช้ในการ
ต่อสู้กับพวกสัตว์อสูรเท่านั้น ไม่มีใครเสียสติถึงกับใช้ยาราคา
แพงในการประลองยุทธ์เป็นแน่? อย่างไรก็ตามการวางเงินเดิม
พันครั้งนี้กับเนี้ยหลี่นั้นมันช่างมากมายนัก ดังนั้นถึงยาเสริม
วิญญาณนั้นจักราคาแพงมากกว่าล้านเหรียญจิตมารมันก็เป็น
สิ่งที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
ยาเสริมวิญญาณนั้นสามารถที่จะเปลี่ยนให้จิตอสูรแข็งแกร่งขึ้น
เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามมันก็มีผลกระทบอยู่บ้างคือ
ก่อให้เกิดความเสียหายให้แก่จิตอสูรนั้นในระยะยาว แม้ไม่
กระทบต่อตัวของร่างทรงอสูรผู้นนั้ ส่าหรับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์
แล้ว ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่จิตอสูรของเสิ่นเฟยได้รับความ
เสียหาย ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถที่จะสลับสับเปลี่ยน
น่าเอาดวงจิตอสูรที่แข็งแกร่งกว่ามาใส่ได้ แบบมิล่าบากเลย
“ท่านนายเสิ่นเฟย จัดการกับไอ้เจ้าบ้าเนี้ยหลี่จากกระกูล
บันทึกสวรรค์เลย!”
“ท่านนายน้อยเสิ่นเฟย ให้โชคดี”
“ เนี้ยหลี่โชคดีนะ!เจ้าต้องพิชิตตระกูลศักดิส์ ิทธ์ให้ได้เลย! เจ้า
สามารถท่ามันได้ ”
เสียงเชียร์อันกึกก้องไปดังไปทั่วทั้งสนาม ถ้าเสิ่นเฟย จัดการ
เนี้ยหลีล่ งได้ ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิจ์ ักได้รับเงินรางวัลจากการ
ชนะจ่านวนมหาศาล
ภายใต้สายตาของผู้ชม จับจ้องไปยัง คู่ เนี้ยหลี่และเสิ่นเฟย ซึ่ง
ได้ยืนตระหง่าน อยู่ที่เวทีสนามประลองยุทธ์แห่งนี้แล้ว
“ข้า จักท่าให้เจ้าได้พบกับความพ่ายแพ้จนน่าสมเพศ
เวทนาแน่ ข้าจักไม่ยอมปล่อยเจ้าไปง่ายๆหรอก” เสิ่นเฟยเปล่ง
วาจาพร้อมรอยยิ้มอย่างชั่วร้าย เนี้ยหลี่เจ้าต้องเสียใจ ในสิ่งที่
ท่าลงไปกับผูห้ ญิงข้าใคร
“ ท่านนายน้อยเสิ่นเฟย ท่านช่างกล่าวค่ายกยอปอปั้นข้ายิ่ง
นัก หลังจากจบการประลองยุทธ์ครั้งนี้นั้นข้าจักบอกค่าชื่นชม
ของท่านแก่หนิงอ๋อเป็นแน่” เนี่ยหลี่หัวเราะเล็กน้อย
เสิ่นเฟย จ้องมองมายังเนี้ยหลี่ตัวของเขาแทบจะระเบิดอารมณ์
ออกมาให้ได้ แต่เขาก็ยังคงต้องพยายมอย่างมากที่จักระงับ
ความโกรธของเขาได้ เพราะเสิ่นหมิง ได้กล่าวว่า ให้เขาชนะ
เนี้ยหลีห่ ลังจากผ่านไปแล้วยีส่ ิบกระบวนยุทธ์ มิเช่นนั้นเขาจัก
เสียเดิมพันปริมาณมหาศาล
เสิ่นเฟย ปลดปล่อยความโกรธแค้นแผ่รัศมีพลัง ท่าให้ร่างกาย
ของเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เสิ่นเฟย ยกแขนตั้งท่า
จากนั้นโจนทะยานตัวของเขาไปยังเนี้ยหลี่ซึ่งอยู่ตรงหน้า โดย
เสิ่นเฟยนั้นยังมิได้อัญเชิญดวงจิตอสูรในตอนเริ่มต้น เพราะถ้า
เขาจักใช้จิตอสูรเนี้ยหลี่อาจจักมิสามารถทนรับการโจมตีได้ จึง
ไม่ต้องคิดว่าเนี้ยหลี่นั้นจะรอดหลังจากผ่านไปยี่สบิ กระบวน
ยุทธ์
เนี้ยหลีเ่ ห็นเช่นนั้นมีรอยยิ้มทีม่ ุมปากของเขาทันที เจ้าบ้านี่ช่าง
โง่เง่า เสียยิ่งนักจึงมิยอมใช้จิตอสูร “เช่นนั้นข้าก็จักเก็บมันให้
สั้น เลยทีเดียว”
“จริงๆเลย เดิมทีข้าว่าจะแกล้งหลอกท่าเป็นว่าเกือบที่
จะเอาชนะเจ้าไม่ได้มากกว่า แต่ตอนนี้คงไม่จ่าเป็นต้องรอแล้ว
มั้ง!”เนี้ยหลี่ก่าลังวางแผนการประลองในจิตนาการของ
เขา ทันใดนั้นเขาก็เข้าสูโ่ หมดจิตวิญาณเปิดใช้การอัญเชิญดวง
จิตอสูร “ปลดปล่อยจิตอสูรเขี้ยวแพนด้า”
กังฟูแพนด้าที่มีเขี้ยวขนาดใหญ่ก็พลันปรากฏกายขึ้นมาใน
อากาศบริเวณรอบๆตัวเขาจากนั้นก็ประสานรวมกับเนี้ยหลี่
ส่งผลท่าให้ร่างกายของเนี้ยหลี่นั้นแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมากมายนัก
เสิ่นเฟย ก่าลังปล่อยหมัดไปยังเนี้ยหลี่อย่างต่อเนื่อง เดิมทีเขา
คิดกับเนี้ยหลี่ก่อนที่จะสู้ ว่าเนี้ยหลี่นั้นช่างอ่อนแอนัก เขาไม่
เคยคิดว่าเนี้ยหลี่จักสามารถอัญเชิญดวงจิตอสูรได้โดยที่เรื่องนี้
ยังไม่มผี ู้ใดทราบมาก่อน มิหน่าซ้า่ เนี้ยหลีย่ ังสามารถอัญเชิญ
จิตอสูรในชั่วพริบตาช่างรวมเร็วเสียยิ่งนัก เนี้ยหลี่นั้นสามารถที่
จะหลอมรวมกับจิตวิญาณอสูรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ร่างกาย
ของเสิ่นเฟย นั้นไม่สามารถที่จะตอบสนองการอันเชิญจิตอสูร
ได้ทัน แม้เขานั้นอยากที่จะอัญเชิญจิตอสูรของเขามาหลอมรวม
ก็ตาม
อสูรระดับต่่าดูน่ารักเช่นเจ้าจิตอสูรเขี้ยวแพนด้า นั้น ไม่รู้ว่ามัน
จักเรียกออกมาเพื่ออะไร? เสิ่นเฟยนั้นเชื่อมั่นในการตัดสินใจ
ของเขาว่าแข็งแกร่งเพียงพอ หลังจากรับการโจมตีของร่างทรง
เนี้ยหลี่แพนด้าเขี้ยวเสร็จ เขาก็จักกระโดดถอยหลังกลับและ
อัญเชิญจิตอสูรออกมาทันที
มีใครจะโง่เกินกว่ามันไหมเนีย่ เล่นรวมเอาจิตอสูระดับต่่าๆดูชั่ง
น่ารักอย่างเจ้าจิตอสูรแพนด้ามีเขีย้ วตัวนี้ เจ้าแพนด้ามีเขี้ยวตัว
นี้ช่างเหมือนขยะเลยนะ เสิ่นเฟยไม่คิดว่ามันจะเป็นภัยคุกคาม
เขาได้
“แม้ว่าเจ้าจักสามารถเรียกจิตอสูรประทับร่างทรงได้ก็จะ
ท่าไมหละ? จิตอสูรขยะน่ารักน่าชังเช่นเจ้าแพนด้าเขี้ยว มันมิ
สามารถที่จะเป็นคูต่ ่อสู้ของข้าได้ดอก”ที่มุมปากของเสิ่นเฟย
เผยให้เห็นรอยยิม้ เล็กน้อยเป็นรอยยิ้มอันหนาวเหน็บจนถึง
กระดูกเลยทีเดียว เขาจะต้องการต่อยเนี้ยหลี่ให้ลงไปกองกับ
พื้นเวที
ขั้นต่อไปเขาก็จะจัดการกับเนี้ยหลีอ่ ย่างไร้ความปราณี จึงจะ
สามารถบรรเทาไฟแค้นความเกลียดชังในหัวใจเของเขาให้ดับ
มอดลงได้
ก่าปั้นของเสิ่นเฟยนั้นพุ่งเข้ามาเกือบที่จะโดนเนีย้ หลี่แล้วนั้น
ในขณะนั้นเนี้ยหลีผ่ ู้หลอมรวมกันจิตอสูรกังฟูแพนด้านเขี้ยวก็
ยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากพร้อมกับซัดฝ่ามือไปที่หัวเสิ่นเฟย.
เปรี้ยง
บางทีเสิ่นเฟย อาจจะโดนตบหน้าไปหนึ่งฝ่ามือจนมึนงงไปเลยก็
ได้ เนี้ยหลี่นั้นช่างมีไหวพริบปฏิภาณ เป็นเลิศนัก เขารวมร่าง
กับจิตอสูรได้เสร็จแล้วก็จัดการกับผู้ที่ยังมิรวมกับจิตอสูร
เสิ่นเฟยนั้นโดนตบเข้าที่บ้องหูอย่างรุนแรงจนกระทั้งหัวของเขา
นั้นมุดลงไปในดินจนเกิดรอยแยกขึ้นระหว่างพื้นดิน แม้ว่าตัว
เขาจะเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับว่ามีระดับพลังวิญญาณค่อนข้าง
ดี แต่หลังจากถูกการโจมตีครั้งนีเ้ ข้าไปนั้น มันท่าให้เขารู้สึกไม่
ดีเลยทีเดียว โดยตอนนีเ้ ขารูส้ ึกว่าหัวของเขานั้นก่าลังจักระเบิด
ออกมาให้ได้เสียจริงๆ
“เนี้ยหลี่เจ้านั้นช่างกระท่าเรือ่ งที่ช่างน่าละลายเสียยิ่งนัก
เจ้ารวมร่างกับจิตอสูรไม่บอกกล่าวสิ่งใดในทันที และยังจัดการ
กับท่านนายน้อยเสิ่นเฟย ที่ยังมิได้อันเชิญจิตอสูรเช่นนั้น! มัน
ช่างน่าละอายเสียยิ่งกระไร” ผู้ที่แทงเดิมพันข้างเสิ่นเฟยเปล่ง
เสียงตะโกนออกมา
ในมุมมองของพวกเขานั้นมิคาดฝันว่าเสิ่นเฟยจะประเมินคู่ต่อสู้
ของเขาพลาด มันเป็นเพราะว่าเนีย้ หลี่นั้นสามารถเรียกจิตอสูร
ของเขาออกมาประทับได้รวดเร็วมาก ถ้าเสิ่นเฟย ทราบเรื่องนี้
มาก่อนก็จักมิพบกับความปราชัยเช่นนี้อย่างแน่นอน
“น่ารังเกียจยิ่งนัก”
“ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นท่าน่ารังเกียจเกินไปแล้ว ” ตระกูล
เทพศักดิ์สิทธิ์ตะโกน
ส่วนพวกที่เดิมพันข้างเนี้ยหลี่นั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขา
ต้องยืนอยู่ข้างเนี้ยหลี่อย่างแน่นอน เมื่อเขาเห็นเนี้ยหลี่ จัดการ
เสิ่นเฟย จนลงไปกองกับพื้นเวทีได้ โดยการตบเพียงครั้งเดียว
พวกเขานั้นล้วนมีความสุขเป็นอย่างยิ่งเมื่อเขานั้นได้รับเงินเดิม
พันมาไว้บนมือ ช่วงเริ่มต้นของการต่อสู้นั้นดูเหมือนว่ามันจะ
เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ที่เนี้ยหลี่จักสามารถชนะเสิ่นเฟยได้
“เจ้าพวกตระกูลเทพศักดิส์ ทิ ธิ์นั้นสายตาคงจับจ้องแหงน
มองเพียงฟ้าเท่านั้น” การที่มิยอมเรียกจิตอสูรออมาต่อสู้ กับคู่
ต่อสู้ที่หลอมรวมจิตอสูรแล้วนั้นเขาไม่โง่จะให้เรียกว่าอะไร?”
ทุกเสียงในที่นี้ล้วนแต่วิจารการต่อสู้นั้น
หลังจากการโต้แย้งกันอย่างรุนแรงนั้นเงียบลง ทั้งสนาม
ประลองนั้นก็จะเริม่ เงียบลง พวกเขาทั้งหลายเริ่มเข้าใจแล้วว่า
พวกเขานั้นเจอกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง
“ไม่น่าเชื่อ สิ่งที่ข้าเห็นมันนั้น?”
“มีคนใช้เจ้าแพนด้าเขี้ยวใหญ่นั้นจริงๆหรือ? มีใครบ้างหละที่จะ
ใช้จิตอสูรขยะเหมือนอย่างเจ้าแพนด้าเขี้ยวนั้น?”
“พวกตระกูลบันทึกสวรรค์มันจนขนาดนี้? พวกเขามีเงินเพียง
สามารถซื้อเจ้า แพนด้าเขี้ยวตัวใหญ่ส่าหรับ ชนรุ่นใหม่แค่
นั้นเองหรือ?
“นายน้อยเสิ่นเฟย บางทีอาจจะโดนฉวยโอกาสในขณะไม่
พร้อม คอยซักหน่อยหลังจากเขาหลอมรวมกับจิตอสูรแล้ว เรา
จะเห็นเขาฆ่าเจ้าเด็กคนนัน้ แน่” ผูท้ ี่ลงเดิมพันข้างเสิ่น
เฟย กล่าวขึ้นมาอย่างเร่าร้อน
เนี้ยไฮ่เนี้ยอิ้ง และ ทุกๆคนจากตระกูลบันทึกสวรรค์นั้น ล้วน
อยู่ในสภาวะตลึง เนี้ยหลี่นั้นมอบดวงจิตอสูรให้แก่พวกเขา
ปริมาณมากในวันนี้ พวกนั้นล้วน มีดวงจิตอสูรจ่านวนมากและ
แข็งแกร่งกว่าจิตอสูรแพนด้าเขี้ยวตัวนั้น ท่าไมเนีย้ หลีจ่ ึง
ตัดสินใจเลี้ยงเจ้าแพนด้าผู้น่ารักตัวนี้? เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ไม่เพียงแต่ตระกูลบันทึกสวรรค์ตกใจเท่านั้น หยางซินก็
ประหลาดใจเป็นอย่างมาก นางรูไ้ ด้อย่างชัดเจนว่าเนีย้ หลี่นั้นมี
เงินจ่านวนมากมายมหาศาล เนี้ยหลี่จะซื้อดวงจิตอสูรที่ดีขนาด
ไหนก็ได้อย่างง่ายดาย แต่เนี้ยหลีก่ ลับเลือกเจ้าแพนด้า
เขี้ยว เรื่องนี้ท่าให้ทุกคนไม่สามารถเข้าใจการกระท่าของเขา
อย่างไรก็ตามไม่มผี ู้ใดล่วงรู้ว่า เนี้ยหลี่ อสูรเขี้ยวแพนด้า ตัวนี้
นั้น มิใช่แพนด้าเขี้ยวทั่วไป แต่มันคือดวงจิตอสูรทีม่ ีพัฒนาการ
ระดับพระเจ้าเลยทีเดียว
แม้ว่าเนี้ยหลี่จะมีชัยในการต่อสู้รอบแรก แต่ทั้งสนามประลอง
ยังไม่มีใครคิดว่าเนีย้ หลี่ ชนะการประลอง ทุกๆสายตาล้วนจด
จ้องเตรียมการดูเสิ่นเฟยหลอมรวมจิตอูสรเพื่อที่จะจัดการ
กับเนี้ยหลี่
บทที่ 83 - ปล่อยให้ข้าชนะ
ทั้งสนามประลองยุทธ์ภาคสนามล้วนเต็มไปด้วยเสียงตะโกนโห่
ร้องกันระงม
เสิ่น เฟยเปล่งวาจาพร้อมจ้องมายังเสิ่นหมิง
.ผู้ชมบริเวณสนามประลองต่างรู้สกึ ร้อนขึ้นมาทันที
“รัศมีที่แผ่ออกมานี้......”
“ สวรรค์! มันช่างน่ากลัวเกินไปแล้วถึงกับมีเจ้าพยัคฆ์ทมิฬสิ
ชาดตัวนี้เชียวเหรอ!”
พยัคฑ์ทมิฬสีชาดเจอกับแพนด้าเขีย้ ว? ช่างเป็นเรื่องที่ง่ายดาย
ต่อการคาดเดานัก เกือบทุกคนล้วนคิดว่าแพนด้าเขี้ยวนั้นจัก
ต้องพ่ายภายในหนึ่งกระบวนท่า
“ตอนนี้ทันไหม?ที่จะให้เนี้ยหลี่ขอยอมแพ้?”
ผู้ที่พนันข้างเสิ่นเฟย พวกเขาตอนนี้ต่างตะโกนกันเสียงดัง
ก้อง เชียร์กันอย่างออกนอกหน้านอกตา ในมุมมองของพวก
เขางานนี้เสิ่นเฟยชนะแน่!
ในที่สุดเสียงตะโกนเหล่านั้นก็พลันเงียบลง
ในขณะที่เหลือการด่าเนินการผสานจิตใน เขตแดนจิตวิญาณอีก
ไม่กี่อึดใจเขาก็จักสามารถเรียกจิตอสูรของเขาออกมาได้
ส่าเร็จ เนี้ยหลี่นั้นก็พุ่งกระโจนทะยานไม่กี่ครั้งก็มาอยูต่ รง
ข้างหน้าเขาแล้ว จากนั้นก็ตะปบไปที่หลังศีรษะของเสิ่นเฟยอ
ย่างแรง
เปรี้ยง!
เสิ่นเฟยที่ก่าลังหลอมรวมจิตอสูรให้ประสานกันกับร่างกายของ
เขา แต่กลับโดนโจมตีด้วยฝ่ามืออย่างหนักหน่วง
รุนแรง จนกระทั้งพื้นดินแยกแตกกระจายออกไปเป็นหลุม
ขนาดใหญ่คล้ายอุกาบาตตกปรากฏขึ้นเลยทีเดียว เสิ่นเฟยถูก
แทรกแทรงระหว่างการผสานกับจิตอสูรจนจิตวิญาณนั้นแตก
ซ่านกระจายออกไปทั่วทุกทิศ เมือ่ จ้องมองไปยังเสิ่นเฟยใน
ขณะนี้ช่างน่าเศร้าเสียยิ่งนัก ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขานั้น
โดนตบจนมันไปแทรกติดอยู่กับพื้นดินที่แตกกระจายออกเป็น
หลุมขนาดใหญ่นั้น
จอมวายร้ายที่จัดการเขานั้นมิใช่ใครที่ไหนก็คือเนีย้ หลี่นั้นเอง
เขายืดตัวขึ้นตรงๆจ้องมองไปยังเสิน่ เฟยที่กองอยู่กับพื้น
ตะลึงกันทั้งสนาม!
ผู้คนทุกชนชั้นทั่วทั่งสนามประลองล้วนตกใจอย่างหนักมาก จน
ลืมหายใจหาย กันเลยทีเดียว!
พวกที่เดิมพันข้างเนี้ยหลี่ชนะนั้นในตอนนี้นั้นยังรู้สึกหน้า
แดง แม้ว่าพลังฝ่ามือของเนี้ยหลีน่ ั้นจะมีมาก แต่สิ่งนี้.....มันดู
เหมือนว่าจะไม่ถูกต้องนัก
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการต่อสู้ระหว่างอัจฉริยะกับอัจฉริยะ
เกิดขึ้นมากมาย แต่พวกเขานั้นไม่เคยพบเคยเจอกับเหตุการณ์
ต่อสู้เช่นนี้มาก่อนเลย
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งหมดนั้นจะเรียนรู้จากการต่อสู้
ซึ่งกัน เป็นกาศึกษาศิลปะการต่อสู้ ซึ่งมีอยู่มากโดยเฉพาะ
การอัญเชิญจิตอสูรเข้ามาต่อสู้ โดยปกติแล้วทั้งสองฝ่ายจะ
เรียกจิตอสูรลงมาผสานให้เสร็จก่อนจากนั้นจึงค่อยเข้าสู่การ
ประลอง พวกเขาไม่เคยพบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน
เนี้ยหลีไ่ ด้เรียกจิตอสูรของเขาในชั่วพริบตาโดยไม่ต้องกระท่า
การอันใด และจัดการกับคูต่ ่อสูร้ ะหว่างที่ก่าลังผสานจิตอสูร
ของเขาในทันที
บรรดาตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆ เกือบจะ
กระโดดขึ้นบนเวที
“เจ้าพวกตระกูลบันทึกสวรรค์ พวกเจ้านั้นจักท่าตัวน่ารังเกียจ
เกินไปแล้ว! การต่อสูค้ รั้งนี้เป็นการต่อสูต้ รงไปตรงมา! คนจาก
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ล้วนตระโกนโห่มายังตระกูลบันทึกสวรรค์
“ข้ามิต้องการค่าสั่งสอนของพวกเจ้าเกี่ยวกับตระกูลบันทึก
สวรรค์ดอก?”
“เจ้าพวกตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ มิใช่นายน้อยของพวกเจ้านั้นโง่
เองหรือ? เขาเป็นเพียงแค่หมูสนามเท่านั้น เมื่อเห็นคูต่ ่อสู่
ผสานกับจิตอสูร เขากับไม่ยอมผสานกับจิตอสูรก่อนที่จะ
เริ่มท่าการต่อสู้ กลับหันหน้าไปทางคู่ต่อสู้ของเขาก่อนที่จะ
ผสานกับจิตอสูรเอง จักโทษใครได้?”คนจากตระกูลบันทึก
สวรรค์กล่าว
ในขณะนั้น หยางซิน ก็มองมาที่เสิ่นหมิง พร้อมทั่งกล่าว
ค่าพูดเล็กน้อย “ท่านผู้อาวุโสเสิ่นหมิง การที่ไม่สามารถกระท่า
เช่นนั้นได้ เพราะว่าพวกตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถ
จ่ายเงินเดิมพันจากการพ่ายแพ้ได้ใช่ไหม?”แม้ว่าเนี้ยหลีจ่ ะ
กระท่าสิ่งที่ น่ารังเกียจเล็กน้อย แต่นางก็ยังคงอยู่ข้างเนี้ยหลี่
เสมอ
เมื่อมองไปที่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นบนเวทีประลอง หยางซิน ก็
เปล่งรอยยิม้ ชั่งมีเสน่ห์เป็นยิ่งนัก เนี้ยหลี่นั้นชั่งเป็นคนที่คาด
เดาได้ยากเสียจริงเชียว เมื่อมองจากรูปลักษณ์ภายนอกของ
เขาจะ เหมือนเป็นเด็กที่สดใสบริสทุ ธิ์ แต่เบื้องลึกในจิตใจของ
เขานั้นชั่งเต็มไปด้วย ปฏิภาณและไหวพริบ ผิดกับการทีเ่ ห็นได้
ในภายนอก ตลอดเวลาที่ผ่านมาการตัดสินใจในสิ่งต่างๆของ
เขานั้นช่างหลักแหลมเฉียบคมน่าดึงดูดตาดึงดูดใจเป็นยิ่งนัก
เสิ่นหมิงกล่าวตอบโต้หยางซินทันที “ ไม่แน่นอนเงินจ่านวน
น้อยเช่นนั้นตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์สามารถจ่ายมันได้อยู่แล้ว!”
ขณะนั้นในสนามประลอง เสิ่นเฟยก่าลังพยายาม
ตะเกียกตะกายขึ้นจากพื้น ร่างกายเขานั้นแทบจะแตกออกมา
เป็นเสีย่ งๆ หลังจากการโดนตบไปสองฉาดใหญ่จากเนี้ยหลี่ มี
เลือดไหลรินออกจากส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณปาก จมูก
ส่วนใบหน้าของเขานั้นล้วนเต็มไปด้วยรอยฟกช้่าด่า
เขียว เรื่องราวก่อนหน้านี้คือเขาต้องการที่จะผสานกับจิตอสูร
ของเขาในเขตแดนของจิตวิญญาณแต่โดนเนี้ยหลี่นั้นตบ
กระแทกแทรกกลางระหว่างผสาน เลยท่าให้การหลอมรวม
กับจิตอสูรนัน้ พลาดไป
“ท่านนายน้อยเสิ่นเฟย ท่านยังอยู่ไหวไหม?” เราเพียง
แค่เรียนรู้ซึ่งกันและกันจากการต่อสู้เท่านั้น คงไม่หวังสิ่งใดมาก
ไปกว่านี้ ถ้าท่านไม่สามารถยืนไหวก็ยอมแพ้ได้นะ เนี้ยหลี่
ก่าลังก้มลงพร้อมเอ่ยวาจาที่ข้างหูเสิ่นเฟย
แพ้อะไร ใครจะยอมกัน?
เมื่อเขายอมจ่านน เงินจ่านวนกว่าห้าสิบล้านเหรียญจิตมารที่
ได้รับก็จักหายไป!
เขายังไม่เต็มใจที่จะยอมรับมัน!
เขาปล่อยลมหายใจออกมาอย่างรุนแรง และพยายามที่จะต่อสู้
อีกครั้ง เขตแดงจิตวิญญาณของเขาก็พลันปรากฏขึ้น เขา
เตรียมการที่จะผสานกับจิตอสูรคลื่นรังสีแผ่ออกมายังรุนแรงใน
ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างเริ่มมีเขี้ยว
โผล่ออกมาจากมุมปาก เล็บยาวและแหลมคมจนกลายเป็นกง
เล็บ ระเบิดเสียงค่ารามออกมากึกก้องกังวาน จิตอสูรพยัคฆ์
ทมิฬสีชาดชั่งเปล่งพลังพวยพุ่งออกมาได้นา่ กลัวยิ่งนัก
“นายน้อยเสิ่นเฟย แสดงพลังที่แท้จริงของเขาให้เห็นแล้ว”
เปลวเพลิงสีแดงของพยัคฆ์ทมิฬไฟเป็นเปลวเพลิงที่ร้อนแรง
มากสามารถที่จะเผาพลาญทุกอย่างให้ไหม้เป็นจุลลงได้ในทันที
“ความสามารถในการต่อสู้ทแี่ ท้จริงช่างคู่ควรยิ่งนักท่าน
นายน้อยเสิ่นเฟย ถึงเวลาเนีย้ หลีน่ ั้นจักต้องโดนช่าระแค้นแล้ว
เจ้าไม่สามารถที่จะเข้าใกล้เปลวเพลิงสีชาดนีไ้ ด้แน่ เมื่อนาย
น้อยเสิ่นเฟยหลอมรวมกับจิตอสรูของเขาเสร็จ เจ้าจักต้องโดน
จัดการในหนึ่งกระบวนท่า”
“จิตอสูรที่น่ารักอย่างแพนด้าเขี้ยวนั้นจักเป็นคูต่ ่อสู้ของ
พยัคฆ์ทมิฬไฟสีชาดได้เช่นไร? แม้ว่าเขานั้นจะโดนฟาดมาสอง
ฝ่ามือก็ตาม ย่อมไม่เป็นไร?
เสียงของผู้ชมในสนามประลองนั้นเพิ่มขึ้นสูงดังจนแทบไม่ได้ยิน
สิ่งอื่นใดเลยทีเดียว
พยัคฆ์ทมิฬสีชาดของเสิ่นเฟยนั้นความสามารถของมันไม่เลว
เลยทีเดียว แต่มันเทียบกับกังฟูแพนด้าเขี้ยของเนี้ยหลี่ไม่ได้เลย
ระยะห่างของระดับนั้นช่างมากจริงๆ ไม่มผี ู้ใดสามารถ
จินตนาการหยั่งรู้ถึงศักยภาพกังฟูแพนด้าเขี้ยวได้ อย่างไรก็
ตามอาจมี วิธีต่อสู้ที่จะท่าให้กังฟูแพนด้าเขี้ยวนั้นได้รับบาดเจ็บ
แต่มันช่างน้อยมากซะเหลือเกิน?
อย่างไรก็ตามในตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จักแสดงความสามารถอัน
แข็งแกร่งนั้นให้ใครได้เห็น
ขณะที่เสิ่นเฟยก่าลังผสานจับจิตอสูรเกือบจะเสร็จอยู่แล้ว เนี้ย
หลี่ยกขาของเขาขึ้นแล้วเหยียบลงไปอย่างไร้ปราณีเข้าไปในเขต
แดนวิญญาณของเสิ่นเฟย ท่าให้เสิ่นเฟยตกใจอย่างหนักมาก
ถึงเกือบลืมหายใจ เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขาผสานกับจิตอสูร
ล้มเหลว จิตอสูรของเขาก็ยังมิอาจออกมาแสดงความสามารถ
อีกเหมือนเดิม
เสียงจากการกระทืบนั้นดังมากจนน่าตกตะลึงไปเลย
ทีเดียว ทุกๆคนล้วนจินตนาการ ตามความรู้สึกว่า เจ้า
แพนด้าเขี้ยวใหญ่คงจักต้องหมุนควงสว่านลงไปกองกับพื้นเป็น
แน่ หลังจากเปลวเพลิงสีชาดมอดดับลง สิ่งที่ปรากฏคือ
เสิ่นเฟยนั้นก่าลังถูกเหยียบอย่างเมามันอยู่กับพื้นอย่าไร้ความ
ปราณีต่อหน้าต่อตาพวกเขา
“การผสานจิตผิดพลาดอีกครั้งเหรอ?”
“สามารถท่าเช่นนี้ได้เหรอ”
กระบวนท่ากระทืบอันลือลั่นจนน่ากลัวนั้นถูกปลดปล่อย
ออกมา ข้าจักระบายความแค้นให้กับหนิงเอ๋อ เนี่ยหลี่คดิ อยู่
ภายในใจ เสิ่นเฟยนั้นถูกทรมานโดยเนี้ยหลี่เป็นภาพที่ช่างน่า
ตื่นตาตื่นใจจนน่าสยองยิ่งนัก แต่ดเู หมือเขาจักยังมิยอมหยุด
โดยง่าย
“ข้าได้ยินมาว่านายน้อยเสิ่นเฟยนั้น พิชิตสวนดอกไม้ของ
เหล่าสาวๆมามากมายยังกับของเล่น ข้าจักท่าให้เจ้ามิสามารถ
เล่นจ้่าจี้กับสาวๆได้อีก เนี้ยหลี่จดั การเตะเข้าไปยังกล่อง
ดวงใจดังโพละ จากวันนีไ้ ปเกรงว่าหลังจากวันนี้ไปเสิ่นเฟยจะมิ
มีความสามารถในการที่จะผลิตมนุษย์ออกมาอีกได้เลยทีเดียว
พวกที่พนันข้างเสิ่นเฟยชนะนั้น แทบจะหลับตาเอามือก่ายหน้า
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เดิมทีเมื่อได้ยินเสียงอันน่ากลัวนั้น พวก
เขาคิดว่าจะมีโอกาสพลิกสถานการณ์กลับมา อย่างไรก็ตามจาก
การเตะจ่านวนไม่กี่ครั้งของเนี้ยหลีน่ ั้นได้ท่าลายความหวังจะ
กลับมาอีกครั้งของพวกเขาจนมลายสิ้น
“ต้องโทษเจ้าหมูสนามเสิ่นเฟย เขาเชื่อมั่นในตัวเองมาก
เกินไปเลยไม่ยอมอัญเชิญอสูรออกมาในการต่อสู้ตอนแรก
สุดท้ายจนจบการต่อสู้ เขาก็เลยมิมีโอกาสเรียกจิตอสูรออกมา
ช่างน่าขันยิ่งนัก”
“แต่ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นก็ช่างขี้โกงเสียจริง เขามิ
ปล่อยโอกาสให้เสิ่นเฟยได้อัญเชิญจิตอสูรเสร็จ ช่างไม่มจี ิต
วิญญาณของนักต่อสู้เสียเลย”
เมื่อคิดถึงวิธีการต่อสู้พวกนั้น เขาทั้งหลายนั้นอยากจะร้องไห้
เลยจริงๆ หลังจากการประชุมกันแม้เนี้ยหลี่จะท่าพฤติกรรมน่า
รังเกียจ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้? แม้ว่าพวกเขา
สามารถประณามการกระท่าของเนี้ยหลี่ในครั้งนีไ้ ด้ แต่ว่ามันก็
ไม่ได้อยู่ในกฎของการแข่งขัน
“การประลองยุทธ์ครั้งนี้ ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้พ่ายแพ้ได้
โปรดหยุดเถิด!” เสิ่นหมิงเปล่งวาจาด้วยใบหน้าที่โกรธ
จัด เสียงของเขานั้นก้องกังวาน ได้ยินไปทั่วทั้งสนามประลอง
จนทุกๆคนสามารถรู้สึกได้ถึงความโกรธจากน้่าเสียงของเขา
ในสนามประลอง ผู้ชมต่างยิ้มอย่างขมขื่น นี่คือการต่อสู้ที่ไร้
สาระทีส่ ุดตั้งแต่พวกเขาเคยเจอมา
เมื่อได้ยินค่าพูดของเสิ่นหมิง ความรู้สึกสนุกของเนี้ยหลี่ก็พลัน
หายไปในทันที ท่าไมถึงพ่ายได้เร็วเช่นนี้ไม่สนุกเอา
เสียเลย เนี้ยหลี่ขึ้นมายืนบนร่างกายเสิ่นเฟยก่อนที่จะป้อง
มือค่านับแล้วจึงเอ่ยวาจา “ ฮ่าฮ่าฮ่า การต่อสู้ครั้งนี้ชั่งสนุก
เสียจริงๆ ท่านพี่เสิ่นเฟย ท่านอุดส่าเสียสละให้ข้าชนะง่ายๆ
ขอบใจท่านมากๆ”
เมื่อได้ยินค่าพูดและเห็นท่าทางของเนี้ยหลี่ ทุกๆคนพากัน
ตะลึงไปตามๆกัน เนี้ยหลี่นั้งช่างเป็นคนเป็นคนหน้าด้านไร้
ยางอายแบบไม่มีขีดจ่ากัดเลยทีเดียว
ผู้ที่เสียเงินเพราะเดิมพันข้างเสิ่นเฟยนั้น ต่างตะโกนก่นด่า
สาปแช่งกันระงม
“บ้าเอ๋ย,เขาสู้ยังไง?!”
“ เจ้าพวกตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ท่าให้พวกข้านั้นเสียเงินจ่านวน
มาก ข้าจะเกลียดพ่อเจ้าไปตลอดชีวิตเลย”
ขณะนี้นั้น ที่มุมหนึ่งของที่นั่งของผู้ชมสาวน้อยผู้น่ารักและสูง
ศักดิ์ เอียจื้อหวิ๋น มิสามารถ ที่จะหัวเราะออกมาได้ เมื่อนางได้
ยินว่ามีการประลองยุทธ์ระหว่างตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์และ
ตระกูลบันทึกสวรรค์ นางก็อยากที่จะมาร่วมชม แม้ว่านางจะ
มีความกังวลใจเกีย่ วกับเนี้ยหลี่เล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงมาหลบซุ้ม
แอบอยู่ที่มุมและคอยจับจ้องมองไปยังเนี้ยหลีต่ ลอดเวลา
เดิมที่นั้นนางคิดว่าเนี้ยหลี่จักต้องพ่ายจนได้รับบาดเจ็บ
หนัก แต่เมื่อมองไปยังเนีย้ หลี่ ซึ่งดูสดใสร่าเริงยิ่งนัก หล่อนก็
คลายความกังวลในใจลงไปได้ จนกระทั้งเดี๋ยวนี้ยังไม่มผี ู้ใดท่า
ให้เนี้ยหลีไ่ ด้รับอันตรายได้แม้เพียงน้อยนิด สายตาทั้งคู่ของนาง
นั้นมองเห็นภาพจากด้านหลังของเนี้ยหลี่ ได้อย่างชัดเจน ความ
กังวลใจก็เริ่มลดลงแล้วนางก็พลัน อมยิ้มอย่างสดใสออกมา
ไม่นานลูกน้องของเขาก็กลับมารายงานยอด “รวมแล้วมีการ
ลงวางเงินเดิมพันทั้งสิ้น หนึ่งร้อยหกสิบล้านเหรียญจิต
มาร หลังจากการจ่ายเงินเกินกว่าหนึ่งร้อยหกสิบล้านเหรียญ
จิตมารไปแล้วนั้นปรากฏว่าเราขาดทุนกว่าหกล้านเหรียญจิต
มาร”
“เงินเดิมพันในส่วนบุคคลของเรานั้นได้รับมาทั้งสิ้นห้าสิบล้าน
เหรียญจิตมาร นอกจากนี้ เรายังพนันที่โต๊ะรับแทง ได้รับเงินมา
อีกมากกว่าเจ็ดสิบล้านเหรียญจิตมาร”เนี้ยไฮ้ ยิ้มอย่างมาก
พร้อมทั้งกล่าว “ในเวลาชั่วพริบตาเนี้ยหลี่กส็ ามารถหาเงินได้
จ่านวนมหาศาล ช่างเป็นการหาเงินที่รวดเร็วยิ่งนัก!”
“เยี่ยม” เนี้ยหลี่พยักหน้า หนึ่งร้อยยี่สิบล้านเหรียญจิตมาร
ส่าหรับเนี้ยหลี่นั้นไม่ได้มากมายส่าหรับเขา แต่อย่างไรก็ตาม
ส่าหรับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์แล้วเงินจ่านวนนี้นั้นมิใช่ก้อนเล็ก
เลยทีเดียว
เสิ่นหมิงใบหน้ากระตุกเล็กน้อย ทุกคนสามารถบอกได้เลยว่า
เสิ่นเฟยนั้นจะไม่สามารถลุกออกจากเตียงได้อย่างน้อยครึ่ง
เดือนเลยทีเดียว เสิ่นหมิงยังไม่ทราบอาการบาดเจ็บ ที่แน่ชัด
ของเสิ่นเฟย ว่าเสิ่นเฟยในตอนนีน้ ั้นมิมีความสามารถในการที่
จักผลิตมนุษย์ได้อีกแล้ว ถ้าเขารู้เรื่องนี้เข้า เขาจักต้องโกรธ
มากกว่านี้อีกเป็นแน่ อย่างไรก็ตามเสิ่นหมิงยังได้มีค่าสั่งให้เสิ่น
หนิงนั้นน่าเนี้ยหลีไ่ ปสู่ความตายให้ได้
(จากการตรวจสอบ ถ้าเสิ่นเฟยหลอมรวมกับจิตผสูรพยัคฆ์สี
ชาดเรียบร้อยแล้วจะมีระดับสูงถึง ระดับทองด่า ขั้น1 ดาวแต่
ไม่มโี อกาสท่าได้ )
“ถ้าพวกเขายังคงเสียเงินอยู่อย่างนี้พวกเขาจะต้องมีปญ
ั หา
บางอย่างตามมาแน่”
“การพนันครั้งนี้มีสามรอบ ในรอบแรกนี้ไม่ค่อยมีความสุข
เท่าไรเพราะมันจบค่อนข้างเร็วมาก ต่อไปจะขอเริ่มเดิมพันใน
รอบทีส่ องของเรา!” เสิ่นหมิง มองมาที่เนี้ยไฮ่ และพวกของเขา
พร้อมทั้งถอนหายใจอย่างแรงและกล่าว
ใช้พลังวิญญาณมากถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? ในการต่อสู้รอบที่
ผ่านมานั้น เนีย้ หลีเ่ พียงผสานกับจิตวิญญาณของเขา
เพียงชั่วคราวเท่านั้น แม้ว่า เขาจะจัดการ ตบและกระทืบเสิ่น
เฟย เพียงเล็กน้อยจ่านวนไม่กี่ครัง้ ก็ไม่ได้เป็นการต่อสู้ที่ต้องใช้
พลังรุนแรงใดๆ เขานั้นช่างปลอมแปลงค่าโกหกได้แนบเนียน
จริงเชียว?
เสิ่นหมิงมีใบหน้าอันบูดบึ้งขึ้นทันที ถอนหายใจจนหนาวเหน็บ
พร้อมทั้งเปล่งวาจา “ มันไม่สามารถเป็นเช่นนั้นได้หรอก เมื่อ
ตระกูลบันทึกสวรรค์พยายามที่จะหลบหนีหลังจากการได้รับ
เงินรางวัล ถูกต้องหรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนั้น ตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์คงจะมิยอมนิ่งเฉยเป็นแน่” เสิ่นหมิงเคลื่อนสายตาไป
ยังหยางซิน จากนั้นก็ถอนหายใจแล้วจึงกล่าวว่า “ตระกูล
บันทึกสวรรค์นั้นได้ท่าสัญญากับสมาคมนักปรุงยา ว่าจะ
ด่าเนินการประลองต่อ เรื่องนี้คงไม่ปกป้องตระกูลบันทึก
สวรรค์ถูกไหม? ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ข้าจักให้ผู้น่าตระกูลของเราไป
คุยกันกับท่านเจ้าเมือง
“แล้วจักท่าเช่นไร?”เสิ่นหมิงโกรธจัด เขามองมาที่เนี้ย
ไฮ้ เนี้ยหลี่ และพรรคพวก พร้อมทั้งกล่าวว่า “ ตระกูล
บันทึกสวรรค์เตรียมที่จะเล่นเดิมพันในรอบนี้เท่าไหร่”
ส่าหรับเนี้ยหลี่นั้นการที่เขากล้าที่จะรับเดิมพันนั้นพิสูจน์ให้เห็น
แล้วว่าย่อมต้องมีความมั่นใจในบางสิ่งแน่นอน ในการต่อสู้ใน
รอบก่อนหน้านี้กับเสิ่นเฟย เนี้ยหลี่ยังไม่แสดงความแข็งแกร่งที่
แท้จริง เปิดเผยออกมาจนหมด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าจักใจร้อน
กระท่าการหุนหันพลันแล่นได้
หลังจากเสร็จสิ้นการวางเงินเดิมพันจ่านวนหนึ่งร้อยล้านเหรียญ
จิตมาร โดยตระกูลศักดิส์ ิทธิ์สามารถที่จะวางเงินเดิมพัน
ต่อ ได้ไม่มากกว่านี้ ยอดเงินเดิมพันเลยเป็นยอดหนี้ โดยอีกฝั่ง
ผู้ที่ท่าการวางเดิมพัน คือ หยางซิน
นางนั้นช่างเหมือนเป็นปิศาจที่มีอา่ นาจสะกดจิตใจให้ชวน
หลงใหลนัก
“พี่สาวจะรับความเสี่ยงทั้งหมดด้วยเงินของพี่สาวเอง!” หยาง
ซินท่าหน้าบุ้ยและกล่าวด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
“ พี่สาวไม่ได้มีความคิดอื่นใด นอกจากสวดอ้อนวอน
ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คมุ้ ครองน้องชายตัวน้อยให้ปลอดภัย” เพียงชั่ว
ครู่ หลังจากการเดิมพัน
ทั่วทั่งสนามประลองก่าลังเร่าร้อนเพิ่มอุณหภูมิขึ้น เนื่องจาก
การเปล่งเสียงตะโกน จากผู้ที่สนับสนุนเนี้ยหลี่ และจากผู้ที่
สนับสนุนเสิ่นหนิง
“ในรอบที่แล้วเนี้ยหลี่ใช้กลอุบายหลอกเอาเงินจากข้าไป
จ่านวนมิใช่น้อย ตอนนี้ได้เวลาทีข่ ้าจะน่ามันกลับคืนมาแล้ว”
“ตระกูลบันทึกสวรรค์ของเจ้าเด็กเหลือขอ ให้เจ้า
แพนด้าเขี้ยวใหญ่แก่เขาช่างโง่เง่ายิ่งนักแม้ว่าเขาจะหลอก
ตระกูลศักดิส์ ิทธิ์ได้ในรอบที่แล้ว แต่ในรอบถัดไปนี้ เสิ่น
หนิง ร่างทรงอสูรที่มีระดับเงิน ขัน้ ห้าดาว จะต้องเป็นผู้มีชัย
อย่างแน่นอน”
การประลองเริม่ ต้นขึ้น
เสิ่นหนิง
ก็ผสานกับจิตอสูรของเขาในทันที ร่างกายของเขาลุกไหม้ไป
ด้วยเปลวไฟ ทันใดนั้นก็กลายเป็นหมีสีชาดศักดิ์สิทธิ์ที่มี
พละก่าลังมหาศาล
“โฮก.......!”เสียงค่ารามกึกก้อง
“มันคือหมีสีชาดศักดิ์สิทธิ์จริงๆ”
บรรดาผู้ที่ลงเดิมพันข้างเสิ่นหนิง ล้วนพากันชูมือขึ้น
เสียงของพวกเขาชั่งเร่าร้อนเป็นยิ่งนัก
เนี้ยหลี่บ่นพรึมพร่า
เมื่อได้ยินค่ากล่าวของเนี้ยหลี่ เสิ่นหนิงนั้นก็ยิ้มอย่างขมขื่น ใน
การประลองรอบที่ผ่านมานั้น เสิ่นเฟย โดนเนีย้ หลี่ ตบตีแต่
เพียงฝ่ายเดียวมิยอมให้เขานั้นได้มโี อกาสที่จะผสานกับจิตอสูร
ของเขาได้ อย่างไรก็ตามเขาจะให้โอกาสนั้นแก่เนีย้ หลี่
หรือไม่? การต่อสู้ในรอบนี้นั้นส่าคัญมาก เขาจักหลอมรวมกับ
จิตอสูรก่อนสิ่งใด หลังจากหลอมรวมกับจิตอสูรของเขาเสร็จ
แล้วนั้น เนี้ยหลี่และอสูรเขี้ยวแพนด้า จักไม่สามารถท่าร้ายเขา
ได้
เสิ่นหนิงคิดอยู่ในใจว่าเขาชนะเรียบร้อยแล้ว
เนี้ยหลีย่ ังคงสามารถหลอมรวมจิตอสูรกังฟูแพนด้าได้อย่าง
รวดเร็ว พร้อมทั้งหมุนตัวกลายมาเป็นแพนด้ามีเขี้ยว ตัวอ้วนดู
ช่างน่ารักไม่เป็นอันตรายแก่ผู้ใด
ไม่ว่าจะมองจากมุมใดๆเจ้าแพนด้าเขี้ยวใหญ่น่ารักตัวนี้ ไม่
น่าจะมีพิษมีภัยแก่ใครได้
“โฮก........”เสียงค่ารามกึกก้องจากเส้นหนิง เขาก้าว
ย่างตรงไปทางเนีย้ หลี่ ระรอกคลื่นความร้อนลูกแล้วลูกเล่า
ระเบิดแผ่กระจายไปทั่วสารทิศ
เพลิงกัมปนาท!
ทันใดนั้น เสิ่นหนิงก็กระโจนทะยานขึ้นไปพร้อมทั้งปล่อยฝ่ามือ
ลงไปด้านล่างหลังจากนั้นก็มีเปลวเพลิงมากมายมองคล้ายดาว
ตกพุ่งลงมา
เพลิงดาวตกพุ่งลงมายังด้านล่าง ปะทะกับพื้นอย่าง
รุนแรง หลังจากนั้นก็เหลือไว้เพียงหลุมบนพื้นดินเท่านั้น
เนี้ยหลี่กระโดดหลบเพลิงดาวตกทุกลูกที่พุ่งมายังเขา เมื่อใคร
มองภาพนั้นต่างลุ้นจนต้องเหงื่อรินไหลกันเลยทีเดียว ถ้าเพลิง
ดาวตกโจมตีโดนเนี้ยหลีเ่ พียงครั้งเดียว แม้เขาไม่ตายจักต้อง
พักรักษาตัว อย่างน้อยเป็นเวลาครึ่งชีวิตของเขาเลยทีเดียว
เสียงโห่ จากผู้ชมในสนามดังก้อง
“เจ้าเด็กบ้าจากตระกูลบันทึกสวรรค์นั้น ช่างไม่มี
ความกล้าใดๆเลย เขาเริ่มวิ่งหนีตงั้ แต่การต่อสูเ้ ริม่ ต้น
ขึ้น เขาสามรถหลบมันได้อย่างฉิวเฉียดแผ่นหลังเพียง
เล็กน้อยเท่านั้น?
“การประลองครั้งนี้ช่างดูไร้ค่ายิ่งนัก เจ้าเด็กบ้าจาก
ตระกูลบันทึกสวรรค์ ถ้าไม่สามารถเอาชนะได้ ก็ยอมแพ้ไปซะ!
ช่างดูแล้วเสียอารมณ์จริงๆ!”
เสียงระเบิดพุ่งออกมาจากผู้ชม
เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยไฮ่ หยางซินก็เกิดความรู้สึกประหลาด
ใจจนออกทางสีหน้า เนี้ยไฮ้และพวก ได้ซื้อดวงจิตอสูรมากกว่า
หนึ่งหมื่นดวงในไม่กี่วันนี?้ เมื่อมองดูเนี้ยหลี่ที่อยู่ในสนาม
ประลองแม้ว่าจะดูนา่ สงสารไปบ้าง แต่เขาก็สามารถที่จะหลบ
ทุกการโจมตีได้ หรือว่าเขาจักมีจุดมุ่งหมายเป็นอย่างอื่น
“น้องชายตัวน้อยเนี้ยหลี่ จักต้องมีเหตุผลที่เลือก
แพนด้าเขี้ยวตัวนี้อย่างแน่นอน” หยางซินยิ้มเล็กน้อยให้กับ
ความคิดของนางเอง
หลังจากเพลิงดาวตกลูกหนึ่งระเบิดลงด้านข้างเนีย้ หลี่
ความจริงคือว่ เพลิงดาวตกเหล่านีม้ ิสามารถที่จักกระท่า
อันตรายใดให้แก่เนี้ยหลี่ได้เลย ถ้าเนี้ยหลี่พ่นระเบิดหยิน
หยาง ออกมา นั้นมากเกินพอที่จักท่าลายเสิ่นหนิงลง
ได้ อย่างไรก็ตามเนีย้ หลีย่ ังคิดว่ามิอยากที่จะเอาชนะเสิ่นหมิง
ได้ง่ายๆ
ถ้าเขาเอาชนะเสิ่นหนิงได้อย่างง่ายดายเสียแล้ว ตระกูล
ศักดิ์สิทธิ์ก็คงจักมิวางเดิมพันรอบที่สามเป็นแน่
ความคิดจากภาพที่เห็นนั้นคือ แพนด้าเขี้ยวใหญ่ตัวอ้วนน่ารัก
เงอะงะซุ่มซ่าม และเมื่อมองมาที่เนี้ยหลี่ที่สะดุดเท้าของตัวเอง
อยู่เป็นประจ่า ท่าให้เสิ่นหนิงมิสามารถที่จะรู้สึกแปลกๆ กับ
การต่อสู้ในครั้งนี้ได้ ทั้งที่กังฟูแพนด้ารวมร่างกับเนี้ยหลี่นั้น
ช่างแข็งแกร่งนัก
ถ้าเป็นแพนด้าเขี้ยวใหญ่ทั่วไปเขาสามารถที่จะเอาชนะลงได้
อย่างง่ายได้ แต่เนี้ยหลี่นั้นยังสามารถเอาตัวรอดอย่างทุลักทุเล
มาได้เป็นเวลานาน
“โฮก........”
เสิ่นหนิงทิ้งตัวลงมาจากกลางอากาศ มือทั้งสองข้างก่าแน่นเป็น
ก่าปั้นที่ทรงพลัง แผ่พลังแผดเผาอย่างรุนแรงจนดูเหมือนไม่มีที่
สิ้นสุดพุ่งลงมาจากฟากฟ้า
"สนามแรงโน้มถ่วง "!
เนี้ยลี่ใช้ความสามารถ'สนามแรงโน้มถ่วง'ของเขี้ยวอสูร
แพนด้าก่อให้เกิดแรงโน้มถ่วงในบริเวณใกล้เคียงเพิม่ ขึ้นอย่าง
มหาศาล
บูม!
ร่างของเสิ่นหนิงตกลงสู่พื้นอย่างรุนแรง !!!~
ผู้ชมต่างลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้นและกรีดร้อง
"เสิ่นหนิงจะชนะแล้ว!???"
"เสิ่นหนิง,เสิ่นหนิง !!!...... " เสียงฟังผู้ชมกระหึม่ ดังขึ้น
เสิ่นหมิงปรากฎรอยยิ้มพึงพอใจบนใบหน้าของเขา เขาพยัก
หน้าและกล่าวว่า "เสิ่นหนิงท่าได้ไม่เลว ดูจากฝีมือของเขา เขา
น่าจะได้ก้าวเข้าสู่ระดับโกลได้ในไม่ช้านี้ หากเขาจัดการกับไอ้
เด็กเปรตที่มาจากตระกูลบันทึกสวรรค์ได้ ข้าจะต้องให้รางวัล
แก่เขาอย่างงาม! "
เมื่อได้ยินค่าพูดของเสิ่นหมิง, เสิ่นเสีย่ วยืนอยู่ข้างเขาไม่
สามารถอดแสดงความอิจฉา แม้เขาที่ได้รับการฝึกอบรม
ร่วมกันกับเสิ่นหนิง เขาก็ไม่ได้คิดว่าความแข็งแกร่งของเสิ่นหนิง
น่าจะถึงระดับโกล
หยางซินซึ่งอยู่อัฒจันทร์ ของครอบครัวบันทึกสวรรค์ขมวด
คิ้วและพูดพึมพ่า "เสิ่นหนิงเป็นเพียงร่างทรงอสูรระดับเงิน 5
ดาว แต่ พลังเช่นนี้ เปรียบได้กับร่างทรงอสูรระดับโกล3 ดาว
เลยทีเดียว!!!!. "
"อะไรนั่น..."
"นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นนี่!!? ใครสามารถบอกได้ว่านี่เกิดอะไร
?! "เสิ่นหมิงค่าราม
พวกเขาไม่สามารถจะเชื่อในภาพที่ปรากฏอยูเ่ บื้องหน้าได้
หยางซิน ดูเหมือนจะมีความเข้าใจบางสิ่งบางอย่างและ
พึมพ่าว่า "เสิ่นหนิง นั้นมีความแข็งแกร่งทัดเทียมร่างทรงอสูร
ระดับโกล3 ดาว หรือว่า น้องหลี่จะท่าสิ่งใดลงไปกัน ? "
ผู้ชมทุกคนต่างเงียบสนิท ทุกสายตาต่างจับจ้องไปทาง
เดียวกัน หลังจากเวลาผ่านไปเนิ่นนาน เสิ่นหนิงก็ยังนอนแน่นิ่ง
ไม่ขยับกาย
"ไอ้ขยะจากตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ ลุกขึ้นมาเดีย๋ วนี้! "
สิ่งที่พวกเขาไม่ทราบก็คือ เสิ่นหนิงไม่ได้ท่าให้ตัวเองจะ
ตกลงมากระแทกพื้นและหมดสติ จริงๆแล้วฝนเพลิงดาวตกของ
เสิ่นหนิงนั้นอันตรายและรุนแรงมาก โดยการกระโดดลอยตัว
ขึ้นสูง และการใช้น้่าหนักเพิ่มความเร็วของการโจมตีให้สูงถึงขีด
สุด แต่จู่ ๆเนี่ยหลี่ ก็เพิ่มแรงโน้มถ่วงขึ้น ท่าให้เสิ่นหนิงตกลงมา
ด้วยความเร็วเป็นเท่าทวี เสิ่นหนิงตกอยู่ในสภาวะแรงโน้มถ่วง
สูง เขาจึงไม่สามารถควบคุมความเร็วได้ จึงตกมากระแทกพื้น
โชคดีที่เนี่ยหลี่ไม่ได้เพิ่มแรงโน้มถ่วงมากเกินไปไม่งั้นคงได้
บาดเจ็บสาหัสเป็นแน่
เมื่อมองไปที่เสิ่นหนิง ก็เกิดรอยยิ้มเล็กๆบนมุมริมฝีปาก
ของเนี่ยหลี่ เสิ่นหนิงได้หมดสติ เขาอาจจะสลบไปอีกสองหรือ
สามวันเลยทีเดียว 'สนามแรงโน้มถ่วง'เป็นความสามารถในการ
ต่อสู้ที่มองไม่เห็น คนนอกการต่อสูจ้ ะไม่สามารถที่จะสังเกตเห็น
หรือรู้สึกได้เลย
เนี้ยหลี่ชนะอีกครั้ง !!!
"การต่อสู้นี่มันไม่ได้ยากเลย!" ถึงแม้เนี้ยหลี่จะเป็นแค่
ระดับเงิน, ความสามารถของเนี่ยหลี่ในขนะนี้นั้น อาจจัดการได้
แม้กระทั้งร่างทรงอสูรระดับโกล2หรือ3 ดาว ได้เลยทีเดียว ดัง
นั้นเสิ่นหนิงจึงไม่เป็นปัญหาส่าหรับเขา.
จากการเดิมพันในครั้งนี้แม้ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์สญ
ู เสีย
เงินถึง หนึ่งร้อยห้าสิบล้านเหรียญจิตมาร แต่มันก็ไม่ท่าให้
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ที่จะขัดสนได้เลย ในฐานะที่เป็นตระกูล
หลักของเมืองและยังมี รายได้ถึง 300-500 ล้าน เหรียญจิตร
มาร และมูลค่าของธุรกิจของพวกเขาอีกนับพันล้าน แค่นี้จึงไม่
มีผลกระทบอะไรมากกับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์
ถึงแม้ว่าเนี้ยหลี่จะได้เงินจ่านวนถึงหนึ่งร้อยห้าสิบล้าน
เหรียญจิตมารแต่เขายังคงรูส้ ึกไม่พอใจ
ใบหน้าของเสิ่นหมิงซีดเผือกริมฝีปากของเขาสั่นเนื่องด้วย
ความโกรธ นอกจากนี้การฟังค่าเหน็บแนมของ เนี้ยหลี่ถ้ามัน
เป็นไปได้ เขาอยากจะตบหัวเนี่ยหลี่ให้จมลงไปในโคลนเสียจริง
ๆ!จากการเดิมพัน ร้อยห้าสิบล้านเหรียญจิตรมารนี้ เสิ่นหมิง
สงสัยเหลือเกิน ว่าตัวเขาจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งกับผู้น่า
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์อย่างไรดี
บทที่ 87 - ยาเม็ดเสริมพลังวิญญาณ
ไม่ใช่แค่เพราะเขามีต่าแหน่งผู้อาวุโสหลักของตระกูล
หรือมีความส่าคัญใดๆ แต่ว่าเขารูค้ วามลับของตระกูลมาก
เกินไป เกรงว่าเขาจะหนีความตายไปไม่พ้นแน่
"ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ คงหมดตัวแล้ว"
ทุกๆคน ร้องตะโกน
ก่อนการต่อสู้จะเริ่มขึ้น ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ก็ได้หยุดการ
เคลื่อนไหวลง
อย่างไรก็ตาม ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเสียหน้าไปบ้าง แต่มันก็เทียบไม่ได้กับ300
ล้านเหรียญจิตมาร!
ในเวลานี้ ผู้คนต่างๆได้แต่ถกเถียงกันเกี่ยวกับเรื่องนั้น
แม้ว่าเขาจะเป็นพระเจ้า เขาก็ไม่สามารถชนะได้หรอก
"ข้ายังได้เงินจากเนี่ยหลีจ่ ากรอบก่อน,ข้าก็ยังอยู่ข้าง
เนี่ยหลี,่ เจ้าเด็กนั้นช่างมีอะไรแปลกๆยิ่งนัก,ถึงข้าเสียข้าก็ยังมี
ก่าไรเหลืออยู่"
ในสนาม
หลังจาก เสิ่นเซีย่ ว ได้กินยา เสร็จเรียบร้อยแล้ว เปลวไฟ
ศักดิ์สิทธิ์ก็ปะทุ มาจากตัวเขา
เปลวไฟศักดิส์ ิทธิ์นี้ระเบิดออกแตกกระจายไปในสนาม
เหมือนกับใยแมงมุมที่ก่าลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
เสิ่นเซีย่ ว ค่อยๆเดินไปหาเนี้ยหลี่
สนามแรงโน้มถ่วง!
"เจ้านี่มัน เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ข้าเคยเจอมา
ลองรับนี้ไป พลังระเบิดมังกรสีชาด " เสิ่นเซี่ยว ค่ารามออกมา
และพ่นไฟออกมาจากปาก พุ่งออกไปหาเนีย้ หลี่
อินทรีย์มังกรสีชาด ถือว่าเป็นมังกรสายพันธุ์หนึ่ง
ดังนั้นไฟที่มันพ่นออกมาก็ย่อมเหมือนกับไฟของมังกรดีๆนีเ้ อง
"ให้มันรู้ไปเลย ว่า ระเบิดเพลิงของเจ้า หรือ ระเบิดห
ยินหยาง ของข้า ใครจะดีว่ากัน!" เนี้ยหลี่กระโดดไปข้างหลัง อ้า
ปากออก และ พ่นลูกบอล ขาว ด่า 2ลูกออกมา ลูกบอลทั้ง2
ลูกประสานกันกลางอากาศ เป็น2สีผ่านไปบน ท้องฟ้า
บูมม!
เนี้ยหลี่กระโดดไปด้านหลัง หลบจากระยะของแรงระเบิด
เขานั้นยังคงใจเยือกเย็น ส่าหรับ เสิ่นเซี่ยว นั้น ถูกกวาดขึ้นไป
กับแรงระเบิด เขาลอยไปหลายสิบเมตรก่อนที่เท้าเขาจะถึงพื้น
เสียอีก
ส่วนผู้คนที่มองอยู่นไี้ ม่ต้องพูดถึงเลย เงียบสนิทเลยทีเดียว
"นี้มันเกิดอะไรขึ้น?"
ในการแข่งครั้งนี้
บูมม!บูมม!บูมม!
การต่อสู้บนสนามประลองนั้นทวีความดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ
“ช่างเป็นการโจมตีที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้” พวกเขาอด
เป็นกังวลเนี้ยหลี่ไม่ได้ เมื่อมองดูเสาเพลิงที่หนาแน่นไปด้วยไฟ
กวาดพุ่งเข้าหาตัวเขา เนี้ยหลี่นั้นปราศจากความกังวลและเผย
รอยยิ้มผ่อนคลาย
‘การโจมตีนี้แค่เพียงน่าชม แต่มันช่างไร้ประโยชน์
เมื่อต่อกร หากต่อสู้กับวิญญาณอสูรระดับต่่านั้นมันยังพอ
นับว่ามีประโยชน์เล็กน้อย แต่ในการต่อสู้ขั้นสูง มันคือการเสีย
พลังวิญญาณไปเปล่าๆ !’เนี้ยหลี่คดิ ในใจกับตนเอง ด้วยทักษะ
การต่อสู้ของเขาใน ชาติที่แล้ว การโจมตีเช่นนี้ไม่ได้ได้อยู่ใน
สายตาของเขาเลย
เขาปรากฏตัวด้านหลังเสิ่นเซี่ยว
อัสนีพิฆาต!
ฝ่ามือของเนี้ยหลี่แหวกทะลุฟ้า เกิดเสียงทะลวงทลายเขย่าขวัญ
บูมม !
ปะทะเข้าแผ่นหลังของเสิ่นเซี่ยวอย่างหนักหน่วงพลันเห็น
เสิ่นเซีย่ วเป็นดังก้อนอุกกาบาตปลิวตกกระแทกพื้น
บูมม!
เสียงแรงปะทะดังไปทั่วสนามประลองสะเทือนอย่าง
รุนแรง หลุมขนาดใหญ่ปรากฏบนพื้นดิน เสิ่นเซีย่ วอยู่ในหลุม
นั้น ร่างของเขาทอดอยู่บนพื้น ลมหายใจหอบอย่างรุนแรง
สายตาและสติสัมปชัญญะล้วนพร่ามัว
เขาแพ้แล้ว!
เขาเคยคิดว่าตนนั้นคือยอดอัจฉริยะหาผู้ใดเปรียบ กลับ
กลายเป็นว่าเขาเป็นเพียงดังกบในกะลาเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า
ท่าให้เหล่าผู้ชมตกอยู่ในความเงียบงัน หลังจากช่วงตื่นตะลึง
เสียงเชียร์ดังคลื่นสึนามิได้ระเบิดออก
“เนี้ยหลี่! เนี้ยหลี่!เนี้ยหลี่!”
เสียงเชียร์นั้นดังสะเทือนปฐพี
พลังของเนี้ยหลี่ได้ประทับลงไปในใจของพวกเขาอย่างล้่า
ลึกยอดอัจฉริยะทุกคนเมื่อปะทะกับคนรุ่นเดียวกัน จะพยายาม
ท่าทุกอย่างเพื่อก่าราบศัตรู กระนัน้ ศัตรูที่เนี้ยหลี่ก่าราบไม่ใช่
สหายร่วมรุ่นแต่เป็นอัจฉริยะวัย 20 ปี!
ในอนาคตเนี้ยหลี่จะเติบโตเป็นตัวเช่นใดกัน? หาได้มีใครรู้
ค่าตอบ อย่างไรก็ตามพวกเขารู้ว่าวันนี้พวกเขาได้ร่วมเป็นสักขี
พยานของเหตุการณ์บนหน้าประวัติศาสตร์แล้ว
จากมุมที่ไกลออกไป เอีย จื้อ หวิ๋นจ้องไปที่แผ่น
หลังของเนี้ยหลี่ ในช่วงเวลานั้นนางได้ตกตะลึงกับความทรง
พลังของเนี้ยหลี่เช่นกัน เป็นความสามารถที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!
‘แข็งแกร่งยิ่งกว่าท่านปู่ในวัยนั้นเสียอีก!’นางนึกขึ้นมาฉับพลัน
เนี้ยหลี่คงไม่สามารถก้าวถึงผู้ใช้วิญญาณอสูรระดับต่านานอย่าง
ที่เขาเคยกล่าวไว้ใช่หรือไม่?
ความเป็นไปได้ที่มันจะเป็นจริงนั้น สูงเสียดฟ้ายิ่งนัก!
เสียงเชียร์นั้นค่อยๆซาลง แต่ความตะลึงโดย
เนี้ยหลี่นั้นยังไม่สร่างซาไปง่ายๆ มันจะแพร่กระจายไปทั่วทั้ง
นครรุ่งโรจน์ในเร็ววัน!
เสิ่นหมิง นั้นแทบสิ้นสติ หลังจากเหตุการณ์นี้เขา
เกรงว่าเขาจะไม่สามารถด่ารงต่าแหน่งผู้อาวุโสในตระกูล
ศักดิ์สิทธิ์ได้อีกต่อไป
“พี่สาวหยางซิน ก่อนนี้ข้าได้ขอให้ท่านช่วยสืบหา
เบาะแสความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลศักดิส์ ิทธิและสมาคมทมิฬ
ท่านได้พบสิ่งใดหรือไม่?” เนี้ยหลีถ่ ามหยางซินอย่างลับๆ
“ข้าได้ท่าการตรวจสอบและพบว่าตระกูลศักดิส์ ิทธิ์
ให้การหนุนหลังคนจากสมาคมทมิฬ ดูเหมือนชื่อของมันคือ
หยุนหัว ดิคอน ด้วยข้อมูลเพียงเท่านี้จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะท่าอัน
ใดต่อตระกูลศักดิ์สิทธิ์”หยางซินกล่าว นางถอนหายใจและส่าย
หัว แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยืนยันได้ว่าตระกูลศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ได้
ไร้มลทิน และจะต้องรับมือกับมันด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง
นางได้รายงานเรื่องนี้ถึงท่านประธานแล้ว ท่านประธานจะต้อง
ส่งเรื่องไปถึงท่านเจ้าเมืองอย่างแน่นอน
เนี้ยหลี่พยักหน้าหากเขาคิดว่าสามารถโค่นตระกูล
ศักดิ์สิทธิ์ด้วยเรื่องเพียงเท่านี้นั้นถือเป็นการประเมินพวกมัน
ธรรมดาเกินไปมาก เขาจะต้องค่อยๆท่ามันทีละขั้น
เมื่อตระกูลศักดิ์สิทธิ์จากไป ตระกูลบันทึกสวรรค์จึง
เดินทางกลับในเวลาต่อมา แม้การประลองยังด่าเนินต่อไป แต่ก็
เป็นเพียงแค่การเล่นสนุกระหว่างตระกูลต่างๆเท่านั้น
“ข้ามาเพื่อชมการประลองเพียงเท่านั้น ไม่นึกว่าจะ
มาพบเจ้าที่นี่!” เอีย จื้อ หวิ๋นปฏิเสธที่จะยอมรับพลันใบหน้า
แดงซ่าน
“ข้าได้กล่าวอันใดหรือไม่?”เนี้ยหลี่ยืดแขนออก
กล่าวยั่วเย้า “หากเป็นเช่นนั้น ท่าไมเจ้าไม่ดูต่อเล่า เห็นเจ้า
ก่าลังจะกลับแล้ว?”
“เจ้า…”
สัมผัสอุ่นจากฝ่ามือของเนี้ยหลี่ขณะนีไ้ ม่ได้ท่าให้
เอีย จื้อหวิ๋น ผลักไสออกไป กลับกันไม่รดู้ ้วยเหตุใด หัวใจของ
นางพลันเต้นระรัว
“นี่คือสิ่งใด?” นางก้มลงมอง
กิริยาของเอีย จื้อ หวิ๋นและกลิ่นหอมกายสาวจาก
นาง ฉากตรงหน้าท่าให้หัวใจของเนี้ยหลี่ อดสั่นไหวไม่ได้ เขายิ้ม
ตอบ “มันคือดวงจิตอสูรราชินลี มหิมะเหมันต์”
“ดวงจิตอสูรราชินีลมหิมะเหมันต์ระดับแบล็คโกลด์
เจ้าได้มันมาจากที่ใด?”เอีย จื้อ หวิ๋นถามด้วยความอัศจรรย์ใจ
ดวงจิตอสูรราชินีลมหิมะเหมันต์เป็นดวงจิตอสูรที่หายากและ
ทรงพลังอย่างยิ่ง
“ดวงจิตอสูร ราชินีลมหิมะเหมันต์นี้ไม่ใช่ดวงจิตอสูร
ธรรมดา มันคือดวงจิตอสูรที่มีการพัฒนาการระดับพระเจ้า เจ้า
จะรู้เองเมื่อได้ผสานร่างกับอสูรราชินีลมหิมะเหมันต์แข็งแกร่ง
มาก หลังจากผสานร่างแล้วเจ้าต้องดูแลรักษาดวงจิตนี้อย่างดี
ห้ามเจ้าทานยาเสริมวิญญาณ อีกเด็ดขาด” เนี้ยหลี่กล่าวเตือน
เขาต้องใช้ความพยายามพอสมควรเลยทีเดียวเพื่อให้ได้ดวงจิต
อสูรนี้มา
บทที่ 90 - เข้าสู่ตาหนักเจ้าเมือง
"แต่ข้าไม่สามารถรับมันได้" หลังจากที่ได้ยินค่าสารภาพ
ของเนี่ยหลี่ มันท่าให้ เอีย จื้อ หวิน๋ ออกอาการเขินอาย เธอ
ได้รับหลายสิ่งจากเนีย่ หลีม่ ามากมายแล้ว ถ้าเธอรับบางสิ่ง
เพิ่มเติมจากเนี่ยหลี่อีก เธอไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณเขาในภาย
ภาคหน้าได้อย่างไร
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้คิดซะว่าเจ้าติดหนี้ข้าอยู่หนึ่งหน
แน่นอนในอนาคตว่าตัวข้านั้นต้องมีสิ่งบางให้เจ้าช่วยเหลือ"
เนี่ยหลี่คดิ สักครู่และกล่าวไป การให้สาวสวยผู้มคี วามดื้อรั้น
ยอมรับของสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
แน่นอนเจ้ามีบางสิ่งที่สามารถช่วยข้าได้ เจ้าคือลูกสาวของท่าน
เจ้าเมือง มีผู้คนมากมายต้องการทีจ่ ะให้เจ้าช่วยเช่นเดียวกับข้า
ข้าได้รวมร่างกับอสูรวิญญาณอื่นแล้ว นอกจากนี้คุณสมบัติของ
ราชินีหิมะไม่เหมาะส่าหรับข้า ไม่มีความจ่าเป็นที่ข้าจะต้องเก็บ
มันไว้" เนี้ยหลี่มองเอีย จื้อ หวิ๋น ขณะที่เธอก้มหน้าลง เขาคิด
กับตัวเองว่า เธอผู้นี้ช่างมีความงดงามเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
"แน่นอน เจ้าเคยเห็นผู้ชายคนไหนซื่อสัตย์มากกว่าข้าไหม?"
เนี่ยหลี่ท่าหน้าจริงจังและกล่าวมัน
เป็นอีกครั้งที่ตระกูลบันทึกสวรรค์ได้รับความสนใจจากทุกคน
ในแต่ละวันนั้น มีผู้คนจ่านวนมากก็ต้องการที่จะเข้าไปเยีย่ มชม
ตระกูลบันทึกสวรรค์
เนี่ยหลี่ได้เงียบหายไปไม่ได้ออกมาพบปะกับผูค้ นแต่อย่างใด
ผู้ใดที่ต้องการจะพบเนี่ยหลี่ก็จะถูกกีดกันโดยคนในตระกูล
บันทึกสวรรค์
ขณะที่ข่าวได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองนั้น ผู้คุ้มกันของเมือง
กลอรี่ได้พบร่องรอยการเคลื่อนไหวของสมาคมทมิฬ พวกเขา
เข้าโจมตีและจับกุมพวกสมาคมทมิฬได้หลายสิบคน
เพื่อที่จะมั่นใจในความปลอดภัยของเนี่ยหลี่ ท่านเจ้าเมือง
เอีย ซอง ตัดสินใจที่จะน่าตัว เนี่ยหลี่เข้าไปอยู่ในต่าหนักของ
เขาเพื่อที่จะได้ง่ายต่อการคุ้มครอง
หลังจากที่ได้ยินการถูกจับกลุม่ ของ สมาคมทมิฬ หากเขา
ยังคงอยุ่ในตระกูลบันทึกสวรรค์ สมาคมทมิฬคงจะไม่ปล่อย
พวกเขาไปแน่ อย่างไรก็ตามหากเขาเข้าไปอยู่ที่คฤหาสน์ เจ้า
เมืองจะไม่มีใครสามารถท่าอะไรเขาได้ เพราะที่นั้นยังมีเจ้า
เมืองและผู้เชี่ยวชาญระดับร่างทรงปิศาจระดับทองค่าด่าและ
นักรบจ่าวนมาก
ทั้งหมดอยู่ในการคาดการณ์ของเนี่ยหลี่ เขาได้เตรียม
แผนการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว เขาจึงเปิดเผยความแข็งแกร่ง
ของเขาในการประลองยุทธ
เมื่อหยางซินได้ยินข่าวนีส้ มาคมนักปรุงยาก็เข้าใจได้ทันทีว่า
ท่าไมเนี่ยหลี่ถึงมีความมั่นใจ เนี่ยหลี่คาดไว้แล้วว่าเขา จะถูก
เชิญเข้าไปยังต่าหนักของท่านเจ้าเมือง ในอนาคตเมื่อเธอ
ต้องการที่จะเจอกับเนี่ยหลี่ เธอจะต้องไปยังต่าหนักของท่าน
เจ้าเมือง
ภายในตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์
"หุบปาก!!" เสิ่นฮองตวาดแล้วจ้องมองไปยังเสิ่นหมิง
เสิ่นหมิงเงียบในทันทีและไม่กล้าทีจ่ ะพูดอะไรอีกต่อไป
เสิ่นฮองตกอยู่ในภวังค์ความเงียบ การที่สูญเสียเงินจ่านวน
450ล้าน เหรียญจิตมารในเวลานี้ ยังไม่มผี ลกระทบต่อการ
วางรากฐานของตระกูลเทพศักดิส์ ทิ ธิ์เท่าใดนัก แต่สิ่งที่ท่าให้
เขารู้สึกกดดันก็คือในระหว่างที่เขาแยกตัวออกไปฝึก
ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์และตระกูลบันทึก
สวรรค์มาถึงยังจุดแตกหักเหมือน น้่ากับไฟ แต่เดิมนั้นตระกูล
เล็กๆอย่างตระกูลบันทึกสวรรค์นนั้ ไม่มีอะไรที่จะท่าให้ตระกูล
เทพศักดิ์สิทธิ์ต้องสนใจแม้แต่น้อย แต่เจ้าหนูเนีย่ หลี่ท่าให้เขาไม่
สามารถที่จะไม่สนใจได้อีกต่อไป
อายุ 13 ปีแต่สามารถแข็งแกร่งได้ถึงระดับทอง
ความสามารถของเขาแม้แต่เสิ่นฮองก็อิจฉา
ใครจะบอกได้ว่าเด็กคนนี้จะก้าวหน้าไปได้ไกลเพียงใด? เมื่อ
เด็กคนนี้เติบโตขึ้น เขาอาจจะเป็นภัยคุมคามทั้งต่อตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์หรือแม้กระทั่งสมาคมทมิฬ
การมุ่งร้ายนี้อาจจะเลือนลางเหมือนมันไม่เคยมีอยู่ ถ้าใน
กรณีที่เนีย่ หลีไ่ ม่ได้มคี วามแค้นเคืองกับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์
เสิ่นฮองสามารถที่จะเก็บเขาไว้ก่อนได้ แต่เนีย่ หลีน่ ั้นมีเรื่องกับ
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ตั้งแต่ต้น เขามีแต่จะต้องก่าจัดทิ้งเท่านั้น
"ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะอยู่ที่ต่าหนักท่านเจ้าเมืองตลอดเวลาโดย
ที่จะไม่ออกมาข้างนอก"เสิ่นฮองคิดอย่างเย็นชา เขามองไป
ยังเสิ่นหมิงที่นั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นและกล่าวว่า
"เสิ่นหมิงเจ้ารู้กฎของตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ ตามกฎของ
ตระกูล ใครที่น่าความผิดพลาดมาสู่ตระกูลนั้นจะถูกประหาร
โดยไม่มีข้อยกเว้น แต่พิจารณาจากที่เจ้าได้รับใช้ตระกูลมา
ยาวนานและได้ท่าประโยชน์ให้ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ไว้มาก ข้า
จะให้เจ้าได้โอกาสที่จะกระท่าการลบล้างความผิดในครั้งนี้"
หลังจากที่ได้ยินค่าพูดของเสิ่นฮอง ตาของเสิ่นหมิงก็เปล่ง
ประกายด้วยความความหวัง เขาเงยหน้าขึ้นและถามว่า"ท่านสั่ง
มาได้เลยท่านผู้น่า ไม่ว่าจะเป็นปีนภูเขาแหลมสูงหรือจะลง
ทะเลเพลิงข้าก็จะท่ามันทุกอย่าง"
"แต่เนี่ยหลี่อยู่ในต่าหนักของท่านเจ้าเมือง......" เสิ่นหมิงรู้
เรื่องราวระหว่างตระกูลเทพศักดิ์สทิ ธิ์และสมาคมทมิฬ เขาต้อง
เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างการสังหารเนี่ยหลี่หรือเขาต้อง
ถูกตระกูลประหาร เขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว...
"มันจะต้องมีสักวันที่เขาออกมาจากต่าหนักของเจ้าเมือง"
เสิ่นฮองพูดเบาๆ
"เสิ่นหมิง ข้าเชื่อว่าเจ้าจะรักษาค่าพูดของเจ้าเป็นอย่างดี
อย่าท่าให้ข้าผิดหวังล่ะ" เสิ่นฮองได้ใช้มือขวาของเขาหมุนแหวน
ของเขาที่มือซ้ายไปมาขณะพูดเรื่องนี้
หลังจากทีไ่ ด้ยินเสียงที่ทรงอ่านาจของเสิ่นฮอง เสิ่นหมิงไม่
สามารถหยุดตัวสั่นได้ นอกเหนือจากตัวเขาแล้ว ยังมีชีวิตของ
ครอบครัวของเขาทั้งหมดที่อยู่ในมือของเสิ่นฮอง เขามีแต่
จะต้องรับการเดิมพันนี้เท่านั้น...
บทที่ 91 - อยู่ด้วยกันไหม?
นครรุ่งโรจน์ คฤหาสน์เจ้าเมือง
ลานกว้างขนาดใหญ่กว้างสุดลูกหูลูกตาราวกับไม่มีที่
สิ้นสุดช่างเป็นมุมมองที่งดงามเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเสาหลัก
ที่ตั้งรวมไปถึงตัวของสะพานยังงดงามไปด้วย ในขณะเดียวกัน
สถานที่แห่งนี้ได้รับการคุ้มกันอย่างหนาแน่น แต่ก็ไม่ท่าให้อึด
เท่าไหร่นัก เหล่านักรบของที่นี่ ได้รับการบ่มเพาะพลังจาก
นักรบระดับเงิน และขณะเดียวกันก็มีนักรบระดับทอง คอย
ลาดตระเวนให้ ซึ่งสามารบอกได้วา่ ภายในลานกว้างแห่งนี้มี
นักรบระดับทองค่าด่า และ ร่างทรงอสูรได้พ่านักอยู่ที่นี่
ที่นี่เป็นใจกลางของนคร เมืองรุ่งโรจน์แน่นอนอย่าง
ไม่ต้องสงสัยเลย
“เพราะว่าสถานที่ ที่พวกเราเข้ามานี้นั้น
ปลอดภัย!”เนี่ยหลี่ตบไหล่ของเนี่ย หยู๋ พร้อมบอกว่า”เจ้าไม่มี
ความจ่าเป็นอันใดทีต่ ้องหวาดกลัวในสถานที่แห่งนี้ ตราบใดที่พี่
ใหญ่ของเจ้าอยู่ที่นี่เจ้าสบายใจได้ นอกจากนั้นแล้วลูกสาวของ
ท่านเจ้าเมืองยังเป็นพีส่ ะใภ้ของเจ้าเสียด้วย หากครั้งต่อไปเมื่อ
เจ้าเห็นนางเจ้าต้องไม่ลืมเรียกนางว่า
“พี่สะใภ้?ตกลงข้าจะเรียกนางว่าพี่สะใภ้”เนี่ยหยู๋ มอง
ไปที่เนี่ยหลี่อย่างประหลาดใจ นางไม่คิดว่าเนี่ยหลี่ จะหา
พี่สะใภ้ให้นางได้ไวขนาดนี้มิหน่าซ้า่ นางยังเป็นลูกสาวของท่าน
เจ้าเมืองอีกด้วย
ภายในหัวของเนี่ยหยู๋ ตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยความสงสัย
แต่เนี่ยหลี่ก็ไม่ได้อธิบายใดๆเพิ่มเติมให้แก่นางเลย คฤหาสน์เจ้า
เมืองที่ท่าการปกป้องอัจฉริยะนั้นไม่คาดคิดว่าการกระท่า
ดังกล่าวจะเป็นการน่าหมาป่าร้ายเข้ามาภายในบ้านเสียแล้ว
เนี่ยหลีม่ ีความคิดที่อกุศลตั้งแต่เริม่ ต้นเลยทีเดียวเชียว
‘หึ หึ การที่ได้เข้ามายังคฤหาสน์ของเจ้าเมืองนั้น
นอกเหนือจากการฝึกฝนบ่มเพาะพลังแล้วข้ายังสามารถหยอก
ล้อกับเอีย จื้อหวิ๋นได้ เมื่อยามข้ารูส้ ึกเบื่อหน่าย ช่างเป็นชีวิตที่
สมบูรณ์แบบยิ่งนัก ถ้าไม่มีพวกตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์หรือ
สมาคมทมิฬ และการบุกจูโ่ จมของพวกสัตว์อสูรแล้วละก็ ชีวิต
ข้าคงจะมีความสุขไม่น้อย
‘อันดับแรกข้าต้องเตรียมความพร้อมของข้าก่อนแล้วค่อย
หาโอกาสเดินทางไปยังเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์!’เนีย่ หลี่
ครุ่นคิดอยู่กับตัวเอง
เนี่ยหลีเ่ ริ่มต้นฝึกฝน.เนีย่ หยู๋ก็เช่นกัน นางมีความเหมาะสมกับ
การฝึกมากดังนั้นนางจักไม่ปล่อยแม้แต่สิ่งรบกวนเล็กน้อยที่จะ
ท่าให้กระทบต่อการฝึกฝนใดๆของเนี่ยหลี่เลยแม้แต่นิดเดียว
วันที่หนึ่ง,วันที่สอง....
วันเวลาได้ผ่านไปการใช้ชีวิตของเนี่ยหลี่และเนีย่ หยูที่นี่ก็ไม่
เลวเลยทีเดียว นอกเหนือที่ไม่ได้รบั การอนุญาตให้ไปยังใจกลาง
ของคฤหาสน์ท่านเจ้าเมือง ก็ไม่มีขอ้ จ่ากัดอื่นใดอีก อาหารสาม
มื้อต่อวันถูกจัดส่งจากคนรับใช้น่ามาให้อย่างดี คนนอกยัง
สามารถแวะมาเยี่ยมเยียนได้ตลอดเวลา
มีข่าวลือลอยมาว่าในเวลาไม่กวี่ ันมานี้ท่านเจ้าเมืองและร่าง
ทรงอสูรระดับต่านานเย่ โม่ จะมาพบกับเนี่ยหลีเ่ ป็นการส่วนตัว
เป็นสาเหตุให้ทหารยามโดยรอบและบรรดาสาวใช้ทั้งหลาย
ปฏิบัติตนอย่างสุภาพกับ พี่น้องคูน่ ี้
หลังจากที่พลังบรรลุไปที่ระดับ 3ดาวเงินแล้วเนี่ยหลี่ได้ระงับ
การฝึกฝนของเขาเอาไว้ก่อนแทนที่จะด่าเนินการฝึกขั้นถัดไป
จะเป็นการดีที่สดุ ถ้าไม่รีบร้อนบ่มเพาะพลังจนเร็วเกินไปเพื่อให้
เวลาปรับตัวเข้ากับความต่างระหว่างระดับแต่ละระดับ เนี่ย
หลี่กระพริบตาลง หลังจากทีไ่ ด้เข้ามายังคฤหาสน์ของเจ้าเมือง
เป็นเวลาหลายวันแล้ว เย่ จื้อหวิ๋นยังคงไม่ได้แวะมาเยี่ยมเขา
เลย
ในยามที่อาทิตย์อัสดง ฉายให้แสงให้เห็นถึงความงามประดุจดั่ง
ทองของคฤหาสน์ท่านเจ้าเมืองยิ่งท่าให้สถานที่แห่งนี้ดูสวยงาม
ราวกับวิมานบนสรวงสวรรค์ยิ่งขึ้นไปอีก
‘อาจจะเป็นเพราะเจ้าเขินอายขาดความกล้าที่จะแวะมาเยีย่ ม
เยียนข้า ดูเหมือนว่าข้าจะต้องไปหาเจ้าเองเสียแล้ว!’เนี่ยหลี่
พึมพ่ากับตัวเอง”เสี่ยวหยู๋ ข้าจะไปหา พี่สะใภ้ของเจ้า เจ้าอยู่
ที่นี่และฝึกฝนต่อไปเถิด”
‘ความสามารถล่องหนของข้ายังไม่สมบูรณ์มากพอ การ
ซ่อนกลิ่นอายยังไม่แข็งแกร่งมากเพียงพอเมื่อเผชิญกับร่างทรง
อสูรระดับทอง ในตอนนี้ข้ายังสามารถผ่านพ้นไปได้อยู่ แต่ถ้า
หากพบกับร่างทรงสูรระดับทองค่าด่าขึ้นไปข้าต้องถูก
สังเกตเห็นตัวอย่างแน่นอน’เนี่ยหลี่คิดกับตัวเอง เนี่ยหลี่ถือ
วิสาสะมุ่งไปที่ เย่ จื้อหวิ๋นพักอาศัยอยู่
แม้นว่าเนี่ยหลี่จะไม่เคยได้เข้ามายังสถานที่นี้มาก่อน แต่เนี่ยหลี่
เคยได้ยินทั้งหมดเกี่ยวกับคฤหาสน์ของเจ้าเมือง ดังนั้นมิใช่เรื่อง
ยากเลยที่เนี่ยหลี่จะรู้ว่า เย่ จื้อหวิน๋ นั้นพักอยู่ที่ใดในสถานที่แห่ง
นี้
ลานเล็กๆที่ปรากฏผ่านสายตาของเนี่ยหลี่ มันเป็นลานที่มี
เอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ภายในเต็มไปด้วยพืชพันธ์ไม้ดอก
นานาชนิด คอยส่งกลิ่นหอมรุนแรงราวกับระเบิดออกมา เมื่อ
มองไกลไปอีกหน่อย พบกับอาคารที่ถูกท่าขึ้นมาอย่างปราณีต
ภายในชั้นที่สอง เย่ จื้อหวิ๋นอยู่ที่นนั่
“เสร็จแล้ว เจ้าหันมาได้แล้ว !”
เนี้ยหลี่ถือวิสาสะเดินตรงเข้าไปในตัวบ้าน
เมื่อเข้าไปในตัวบ้านได้แล้ว เขาก็เดินตรงเข้าไปที่ห้อง
ของเย่ จื้อหวิ๋นทันที ห้องของเย่ จื้อหวิ๋นนั้นถูกตกแต่งอย่างหรู
รา มีดอกไม้ และพู่สีชมพูประดับตกแต่ง ท่าให้ดูสวยงาม
เนี้ยหลีม่ องไปรอบ ๆ อย่างกระตือรือร้น เขามองผ่านฉาก
กั้นออกไป ก็เห็นอ่างอาบน้่าที่ยังมีไอน้่าลอยปกคลุมอยู่ เย่ จื้
อหวิ๋นพึ่งจะอาบน้่าเสร็จสินะ เมื่อคิดถึงฉากที่เย่ จื้อหวิ๋นก่าลัง
อาบน้่าในอ่างนี้ เนี้ยหลี่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นใน
เย่ จื้อหวิ๋นรีบวิ่งเข้ามา
“เนี้ยหลี่ เจ้ากล้าบุกเข้ามาในห้องของผู้หญิงได้
ยังไง? ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!” เย่ จื้อหวิ๋นรู้สึกหงุดหงิดและอาย
มาก แต่เมื่อต้องมาเจอกับคนทีไ่ ร้ยางอายแบบเนี้ยหลี่ เธอเองก็
ไม่รจู้ ะรับมืออย่างไร
“แม้แต่น้่าร้อนก็ถูกเตรียมไว้แล้วนี่ ถ้าอย่างนั้นเจ้าออก
จากห้องไปก่อนนะ ข้าจะอาบน้่า !” เนี้ยหลี่รีบแก้ผ้าออก แล้ว
โดดลงไปอ่างน้่าทันที เขารูส้ ึกสบายยยยยยมาก “ช่างสบายเสีย
จริง”
ปกติเธอเองก็ไม่ได้มีเพื่อนที่โรงเรียนมากนัก หลังจากที่
แม่เธอจากไป พ่อและปู่ของเธอก็ยุ่งอยู่กับธุระและงานต่าง ๆ
ดังนั้นพวกเขาจึงมาเยี่ยมเธอนาน ๆ ครั้ง นี่อาจจะท่าให้เธอรู้สึก
เหงา ถ้ามีใครสักเข้ามาเล่นกับเธอบ้าง เธอคงจะมีความสุขไม่
น้อย และถึงแม้ว่าเนี้ยหลี่จะชอบแกล้งเธอ แต่เธอก็ไม่รสู้ ึก
เกลียดเนี้ยหลี่เลย
แล้วเนี้ยหลี่ก็ยังอยู่ในห้อง !! เขาจะต้องตายแน่ ๆ !!
เนี้ยหลี่เองก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเช่นกัน เขาก็รู้สึกได้ว่า
สิ่งที่เขาท่าอยู่มันออกจะเกินไปหน่อย เมื่อคิดถึงใบหน้าที่
เข้มงวดของพ่อของเย่ จื้อหวิ๋น เนี้ยหลี่ก็รสู้ ึกปวดหัวแล้ว....
บทที่ 93 - การเผชิญหน้า
ในชาติพบที่แล้วตอนที่เขายังมีชีวติ อยู่
เนี้ยหลี่ครุ่นคิดอย่างสงบว่ามีเรื่องที่น่ากังวลใดหรือไม่ก็พบว่ามี
เรื่องที่ขว้างกางเกงออกไปเขาตกใจจึงเรียกจิตอสูรปิศาจเงา
พร้อมใช้ ความสามารถล่องหนซ่อนตัวจากการต่อสู้ มองะรีบ
รุดออกไปในเร็วพลัน
เขาจักต้องรีบออกไปจากที่นี่ในทันที ไม่เช่นนั้นจะไม่มโี อกาสอีก
แล้วทุกๆคนต่างรู้ว่า เจ้าเมือง นั้นเป็นถึงร่างทรงอสูรระดับ
แบล๊คโกลด์ มองะอยุ่ในอันดับที่สงู มาก จนใกล้เคียงกับระดับ
ต่านานเลยทีเดียว
ณ ขณะนี้ที่บริเวณลานหน้าตึก
ชายผู้แข็งแกร่งจนน่าเกรงขามก่าลังก้าวเดินอย่างสง่าผ่าเผยเข้า
มาภายในเขาสวมใส่ชุดคลุมสีเทา มองะผูกมัดผมซึ่งยาวจนถึง
แผ่นหลังใบหน้ามองดูเคร่งครึม แผ่กลิ่นอายอันเย็นเยือกจนจับ
ใจออกมาจากร่างกายขณะเดียวกันก็สร้างความรู้สึกบ่งบอกให้
ทราบถึงความสูงศักดิ์ในเวลาเดียวกันแผ่พุ่งออกมาจากรอบตัว
เขา
“มันมีความสามารถในการล่องหนอยู่จริง ข้าไม่คาดคิด
ว่าเขาจะมีความสามารถทีม่ ีอยู่เพียงน้อยนิดเช่นนี้ เขาไม่ได้เป็น
ผู้ที่มีความฉลาดเพียงน้อยเป็นแน่นอน!” เย่ ซ่ง ถอน
หายใจ เขาเป็นผู้ทมี่ ีประสบการณ์การต่อสู้มาหลากหลาย แต่
เขากลับรูเ้ พียงน้อยนิดถึงความสามารถในการล่องหน คลื่น
พลังวิญญาณที่แผ่ออกมาเป็นเส้นสายท่าหน้าที่เหมือนดั่งเชือก
ที่ร้อยรัด เนีย้ หลีจ่ นแน่นขึ้นเรื่อยๆ
ภายใต้การร้อยรัดของห่วงเชือกจากแรงพลังวิญญาณช่างมี
ประสิทธิภาพมากมายนัก ความสามารถในการล่องหน ของ
เนี้ยหลี่กเ็ ริ่มหายไป พลันค่อยๆมองเห็นร่างกายของเขาเด่นชัด
ปรากฏเพิม่ ขึ้นเรื่อยๆ
บูมม!
แรงพลังวิญญาณของ เย่ ซ่ง ช่างโหดร้ายรุนแรงยิ่งนัก จน
สามารถร้อยรัดเนี้ยหลี่พร้อมทั้งฟาดลงกับพื้นปฐพีจนเกิดรอย
แยกขึ้นที่ผิวหน้าของดินได้เลยทีเดียว
“แน่นอน ข้ามาที่นี่เพียงเพื่อจักเยี่ยมเยือนเพื่อนร่วมชั้นเรียน
เมื่อได้รู้ว่านางนั้นอยู่ที่นี่ข้าจึงมาเพื่อจะพบเท่านั้น” เนี้ยหลี่ ส่ง
รอยยิ้มอันขื่นขม พร้อมเอ่ยวาจา
“เยี่ยมเยือน? เจ้าต้องการสิ่งใดกันจึงท่าให้ต้องเปลื้องผ้า
ในการเยี่ยมเยือนเช่นนี?้ เย่ ซ่งปล่อยลมหายใจอันกราด
เกรี้ยว มันเป็นเหมือนดั่งสายฟ้าที่ฟาดลงมายังกลางใจของ
เนี้ยหลี่ เมื่อจับจ้องมองมายังเนี้ยหลี่ใบหน้าอันเคร่งขรึมของ
เขาไม่ได้ลดลง “จืออวิ้น เจ้าช่างท่าให้ข้าผิดหวังยิ่งนัก ข้าไม่
เคยคาดคิดเลยว่าเจ้าจักท่าลายชื่อเสียงของตระกูลเราลงได้”
ถ้าข้าสิ้นชีพลงตรงนี้ ทุกสิ่งที่ท่ามานั้นต้องพลันพังมลายลงไป
เป็นแน่!
ประชาชนในนครรุ่งโรจน์ทั้งหมดยังรอคอยความช่วยเหลือจาก
ข้า!
บูม
พลังจากเขตแดนวิญญาณของเขากระแทกไปยังเนี้ยหลี่ จนลอย
ละลิ่วพร้อมทั้งมีเลือดพุ่งกระจายออกจากมุมปากไปกระแทก
เข้ากับก่าแพงอย่างรุนแรงก่อนที่เขาจักล้มตัวลง
“ด้วยความแข็งแกร่งเพียงเล็กน้อยของเจ้า กลับกล้าอวด
ดี ในต่าหนักเจ้าเมืองแห่งนี้เชียวหรือ? เย่ ซ่ง ก้าวขาขวา
ออกมาก็พลันมีคลื่นแรงพลังวิญญาณพวยพุ่งโหมกระหน่่า
ออกมา
บูม
ภายใต้แรงโจมตีจากพลังวิญญาณของเย่ ซ่งก่าแพงหิมะก็พลัน
มลายกระจัดกระจายออกไปสิ้น
“ถึงกับรวมร่างกันราชินีหิมะเหมันต์ได้จริงๆ มองะยังกล้า
ต่อกรกับข้าที่เป็นบิดาของเจ้า ดูเหมือนเจ้าจักพัฒนาขึ้นมาก
นัก” เย่ ซ่งมองด้วยสายตาอันหนาวเหน็บไปยัง เย่ จื้อหวิ๋น
“เหตุผลเดียวที่ข้าไม่ต่อสู้ เพียงเพราะว่าท่านคือบิดาของ
จืออวิ้น หาใช่เพราะข้าเกรงกลัวท่านไม่....” ค่าพูดอันเหน็บ
หนาวค่อยๆเปล่งออกจากปากของเนี้ยหลี่อย่างช้าๆ สายตา
ของเขาช่างแหลมคมประดุจใบมีดนัก
บทที่ 94 - สัญญาปีหนึ่ง
เนี้ยหลี่ปล่อยพลังภายในที่แท้จริงออกมา จนพลัง
วิญญาณพุ่งถึงขีดสุด..
ในโรงเรียน เธอไม่มีแม้แต่เพื่อนแท้สักคน.
บูมม!
เนี้ยลี่ ปลิวไปข้างหลัง.
พลังวิญญาณของเนี้ยลี่ ถูกโจมตีกระหน่่าอย่างต่อเนื่อง
จากพลังวิญญาณของ เย่ ซ่ง, ก่อให้เกิดการระเบิดกลางอากาศ.
เป็นอีกครั้งที่ร่างกายของเนี้ยลี่กระเด็นขึ้นไปบนฟ้า.
และมีบาดแผลทั่วไปทั้งร่างกายของเนี้ยหลี่.
"ถ้าหากว่าข้านั้นกลัวตาย, ข้าก็คงเป็นเพียงคนขี้
ขลาด. แม้ว่าข้าจะตาย ข้าก็ยังจะพูดมันเช่นเดิม! ท่านเป็นเจ้า
เมืองแล้วมันเป็นไงหล่ะ? มันไม่ได้อยู่ในสายตาของข้าเลย ไม่
ว่าท่านจะเป็นร่างทรงอสูร ระดับ แบล็คโกลด์, หรืออย่างไร?
"หนึ่งปีงั้นเหรอ?"
"ท่าไมหล่ะ?"
ท่านกล้าลองดูไหม" เนีย้ ลี่ ใช้มือทั้งสองข้างจับที่
สะโพกของเค้า. ตอนนี้ความอดทนของเนี้ยหลี่ถึงขีดจ่ากัด
แล้ว แล้วชี้ไปที่หน้าของ เอีย ซ่งแล้วพูดว่า
"หมดเรื่องที่จะพูดแล้วใช่ไหม. ถ้าหากเจ้าสามารถ
เอาชนะข้าได้ภายในหนึ่งปี, ข้าก็จะไม่เอาเรื่องกับสิ่งที่เกิดขึ้นใน
วันนี้.
ส่วนเจ้า , เอีย จื้อหวิ๋น!" เอีย ซ่งกวาดสายตามายัง เอีย จื้
อหวิ๋น, ดวงตาของเค้ามองเธออย่างอ่อนโยน แต่ก็กลับพูดด้วย
ความเย็นชาว่า,
"ถ้าหากภายในปีนี้ เจ้าไม่สามารถเลื่อนระดับไป
จนถึงระดับโกลด์ ได้, เจ้าทั้งคู่จะไม่ได้รับการอนุญาตให้เจอกัน
ได้อีก! "
เอีย ซ่งกระแทกพลังวิญญาณเข้าใส่ร่างของเนี่ยหลี่, ท่าให้
เนี่ยลี่กระเด็นไปอีกครั้ง. แล้วก็ค่อย ๆ หันหลังเดินจากไป
พร้อมกับพูดว่า, "อย่าลืมสิ่งที่ข้าพูดในวันนี้"
บูมม!
พลังวิญญาณของเนี่ยหลี่ ถูกกระแทกกระจัดกระจาย .
อวัยวะภายในของเขาได้รับบาดเจ็บบางส่วน, แต่ก็
ไม่ได้ส่งผลกระทบร้ายแรงถึงชีวิต. เขาถอนหายใจอย่างรุนแรง,
ในบางเวลา, เค้ารู้สึกเหมือนความตายก่าลังจับจ้องเขาอยู่.
เอีย จื้อหวิ๋นนิ่งเงียบแล้วเดินไปส่งเนี้ยลี่ที่ประตูทางที่
เชื่อมต่อไปยังลานกว้าง
หลังจากนั้น เอีย จื้อหวิ๋น ได้ก้มหน้าแล้วพูดขึ้นมาว่า
“หรือเจ้าไม่ได้กลัวตาย ? เจ้าไม่ได้กลัวว่าพ่อของข้าจะฆ่าเจ้า
หรือไง?
“ฆ่าข้างั้นเหรอ? ถ้าพ่อของเจ้าต้องการจะฆ่าข้า , เค้าคงท่าไป
แล้วหล่ะ”
ดวงตาของเนี้ยลีม่ องลึกเข้าไปในตาของเธอ
“หรือเพียงแค่ไล่ข้าออกไปจากคฤหาสน์ของท่านเจ้า
เมือง ถ้าหากไล่ขา้ ออกไป ข้าเองก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
พวกสมาคมทมิฬ จะไม่มีทางให้ข้ารอดออกไป แต่ว่า พ่อของ
เจ้าก็ไม่ได้ท่าเช่นนั้น”
“แล้วท่าไมพ่อข้าไม่ท่าเช่นนัน้ ”
“เจ้าส่งข้าแค่นี้ก็พอแล้ว”
“ข้าได้รับบาดเจ็บมากกว่าที่คิด ข้าคงต้องใช้เวลาพัก
รักษาตัวสักสองวัน” เนี่ยลี่ พูด แล้วแกล้งเอามือไปจับที่
หน้าอกตัวเอง
หลังจากที่เค้าได้รับบาดเจ็บจากพ่อของเธอ, ท่าไมเค้ายัง
ต้องการที่จะพักอยู่ที่นี่อีกสองวัน?หรือว่าในหัวของเนี่ยลี่จะมีแต่
ของเหลวยังงั้นรึ?
ท่าไมเค้าไม่กลัวว่าพ่อเธอจะโกรธแล้วมาฆ่าเค้าเลย?
“ท่านเจ้าเมือง , ดูเหมือนท่านจะท่าให้เขาบาดเจ็บหนัก
เกินไปแล้ว หากอาจารย์ของเค้าเกิดความไม่พอใจ
ขึ้นมา อาจจะเป็นปัญหาต่อเมืองกลอรี่ของเราขึ้นมาก็เป็นได้”
กู้เหยียน ยิ้มอย่างขมขื่นขณะที่ก่าลังพูดคุยกับเอีย ซ่ง
“ข้าท่าเกินไปอย่างนั้นเหรอ?” ความรูส้ ึกที่อยากฆ่า ยังคง
ออกมาจากสายตาของเอีย ซ่ง
“มันดีแค่ไหนแล้วที่ข้ายังไว้ชีวิตมัน ไอ้เด็กเหลือขอ
นั้น บังอาจมาหาลูกสาวข้าในคฤหาสน์ของข้า แม้กระทั่ง
ท่าลายความบริสุทธิ์ของลูกสาวข้าไป”
กู้เหยียนท่าอะไรไม่ถูกเหมือนกัน. เพราะเนี้ยหลี่ก็ท่า
เกินไปจริง ๆ ส่าหรับเรื่องนี้. มีอะไรกับลูกสาวของท่านเจ้า
เมืองในคฤหาสน์ของเค้า เรื่องแบบนี้ คงมีเนี้ยหลีค่ นเดียวที่กล้า
ท่า ท่านเจ้าเมืองไม่ฆ่าเค้าก็นับว่าโชคดีแล้ว.
“แล้วท่าไมท่านเจ้าเมืองถึงไม่โยนเค้าออกไปข้างนอกคฤหาสน์
ล่ะ?”
"จะให้ข้าโดยเขาออกไปยังไง? เจ้าเด็กนั่นรวมร่างกับจิต
วิญญาณอสูรระดับพระเจ้า .มีความสามารถในการต่อสู้ที่ลึกล้่า.
แม้แต่ร่างทรงอสูรระดับทอง ยังไม่รู้ตัวตนของเขา สามารถ
ไปใหนมาใหนในคฤหาส์ของข้าได้ นอกจากนี้ ข้าไม่รู้ว่าเค้าไปที่
ห้องลูกสาวข้าได้อย่างไร,
เจ้าเด็กเหลือขอ นั่นท่าได้ง่ายเหมือนกับเป็นเรื่องเด็ก ๆ! นั่นมัน
ท่าให้ข้าแทบบ้า หรือข้าจะต้องเอาลูกสาวข้าไปขังในในห้องลับ
สักห้อง? “เอีย ซ่ง ถอนหายใจอย่างแรง
“อายุแค่สิบสามปี แล้วยังกล้าที่จะท้าทายท่าตัวเจ้าชู้ใน
คฤหาสน์ของเจ้าเมือง อะไรที่ท่าให้เจ้าเด็กนี่บ้าบิ่นขนาดนี้?”
“ข้าจะท่าอะไรได้ ข้าท่าได้เพียงอดทนเท่านั้น!”
เอีย ซ่ง กัดฟันจนแน่น ตั้งแต่ที่เขาขึ้นเป็นเจ้าเมือง ไม่มคี รั้ง
ไหนที่จะท่าให้เค้าเสียหน้าเท่านีม้ าก่อน,
“พวกมันอาจมีวิธีหลบเลี่ยงการโจมตีจากสัตว์ร้ายพวกนั้น!”เอีย
ซ่งพูด
กู้เหยียนยืนคิดแล้วพูดขึ้นมาว่า “ ท่าไมท่านไม่ลอง
ปรึกษาเนี่ยหลี่ ดูสักหน่อยหล่ะ? บางทีเค้าอาจจะมีวิธีแก้ปญ
ั หา
นี้ได้!”
เนี่ยลี่ก่าลังนั่งสมาธิอยู่บนเตียง. แม้ว่าเนี้ยหลี่จะได้รับบาดเจ็บ
อย่างรุนแรงจากเอีย ซ่ง, ท่าให้ เขตแดนวิญญาณของเนีย้ หลีม่ ี
รอยแยก แต่เพราะเหตุนี้เอง ท่าให้เขาพัฒนาขึ้นไปได้อีกขั้น.
เขาได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง.คลื่นพลังวิญญาณ
ได้หมุนวนไปรอบ ๆตัวของเนี้ยหลี.่ หลังจากที่ได้บ่มเพาะพลัง
วิญญาณ เนี้ยหลี่ได้พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด.อีกไม่นานพลัง
วิญญาณของเนี้ยหลี่ จะเลื่อนระดับขึ้นไป.
เอีย จื้อ หวิ๋นไม่ได้อยู่ในห้องเดียวกับเนี้ยหลี่ตอนนี้.เธอ
อยากจะไปขอร้องพ่อเธอ,แต่พอคิดถึงความเข้มงวดของพ่อเธอ
แล้ว,เธอได้แต่ถอนหายใจ ด้วยการแม่ของเธอเสียชีวิตไปเร็ว
เกินไปนัก ความสัมพันธ์ของเธอกับพ่อก็ไม่เคยได้ใกล้ชิดกัน
นับแต่แต่เธอยังเด็ก ก็ได้รับการกวดขันอย่างเข้มงวด.เขาให้
เธอฝึกซ้อมแทบไม่ได้หยุด เพราะการบ่มเพาะของเธอนั้นสูง
กว่าเพื่อน ๆในวัยเดียวกัน.แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ความเข้มงวด
ของพ่อเธอในวันนี้, เธอไม่เคยได้เจอะเจอมาก่อน
“เนี้ยหลี่ ข้าจะท่ายังไงกับเจ้าดี?”
เมื่อเนี้ยหลี่คิดได้ดังนี้ ก็ปรากฏรอยยิ้มจางๆขึ้นบน
ใบหน้าของเขา เพื่อจะไปให้ถึงเป้าหมาย เขาจักต้องท่างาน
อย่างหนัก
ภายในสวน
แต่วรยุทธ์ เทพวิธีฟ้านั้นเป็นวรยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุด
ในบรรดา วรยุทธ์ทั้งหมด แม้ว่าทั้งเจ็ดคนจะอยู่ในระดับ
เดียวกับเนีย้ หลี่ พวกเขาก็ไม่อาจที่จะต่อกรกับเขาได้ ถึงแม้ว่า
ความยากในการฝึกฝนนั้นจะยากมากๆ แต่การพัฒนาเนี้ยหลี่ก็
รวดเร็วเช่นเดียวกับผู้อื่น นั้นเพราะความได้เปรียบจากการได้
เกิดใหม่ของเขานั่นเอง
ในชาตินี้เขาจะต้องกับไปแก้แค้น และด้วยความ
แข็งแกร่งและพวกพ้องที่แข็งแกร่งของเขา มันจะไม่เหมือนชาติ
ที่แล้ว ที่เขาตัวคนเดียวอย่างแน่นอน
หลังจากการนั่งสมาธิและฝึกฝนเป็นเวลาหลายชั่วโมง อาการ
บาดเจ็บของเขาก็ได้รับการรักษา
เธอไม่รู้ว่าควรจะท่าตัวอย่างไร เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคน
ที่ไร้ยางอายอย่าง เนีย้ หลี่ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เกิดเรื่องทุก
อย่างขึ้นจนถึงตอนนี้ เธอคิดไม่ออกเลยว่าควรจะท่าอย่างไร
และสามารถเชื่อเนี้ยหลี่ได้หรือไม่
นางนึกถึงบางอย่างขึ้น และแก้มของนางก็เริ่มแดง
คุณจะคิดไม่ออกเลยว่าเนีย้ หลี่มีความสุขมากเพียงใดที่ได้
กลับมาพบกันจื้อ หวิ๋นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในชาตินี้พวกเขา
จะไม่ได้เจอกับโศกนาฏกรรมเหมือนเดิม เนี้ยหลี่ยังคงคิดไม่
ออก ว่าจะท่าอย่าไรให้จื้อ หวิ๋นรู้สกึ ได้เช่นเดียวกับเขา เขาได้
เพียงแต่ท่าตัวไร้ยางอายต่อหน้าเธอเท่านั้น ถ้าหากเขาถูกจื้อ
หวิ๋นเกลียดขึ้นมา เขาคงได้แต่เพียงแอบปกป้องอยู่แค่ข้างกาย
เธอ เนี้ยหลีไ่ ม่ต้องการที่จะสูญเสียเธอไม่อีกครั้ง
" บัดนี้ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์จักต้องเผชิญกับความทุกข์ยาก
เพราะนาย จากการที่ต้องสูญเสียถึง สี่ร้อยห้าสิบล้านเหรียญจิต
มาร "
"ปล่อยข้าไปจากเรื่องนี้เถอะ" หลู่เพียวหัวเราะและพูดขึ้นมา
"ข้าพนันว่าเจ้าไม่ได้นึกถึงแน่ หนิงเอ๋อตอนนี้ได้เข้าสู่เขตแดน
สวรรค์ศักดิส์ ิทธิไปแล้ว!" หลู่เพียวกล่าว ในขณะที่เขายืนอยู่
ด้านข้าง "นางเดินเข้าไปในเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิหรือ? ท่าไม
นางไม่บอกข้าเกี่ยวกับเรื่องนี?้ "เนี้ยหลี่ตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่
เขาจะถามอย่างงุนงง
"เจ้ากลับไปที่ตระกูลบันทึกสวรรค์แล้วเข้าร่วมการ
แข่งขัน จากนั้นเจ้าก็เข้าไปที่ต่าหนักของเจ้าเมือง มันไม่ง่าย
เลยนะส่าหรับพวกเราในการที่จะระวังให้เจ้า!" หลู่เพียวกล่าวอ
ย่างช่วยไม่ได้
"จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจ้าพบปัญหาหลังจากที่ออกจากต่าหนักเจ้า
เมือง?" ตูเซอกล่าว" มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ข้ามีแผนยู่แล้ว ข้าแค่
ปลอมตัวเองเล็กน้อยก็ออกไปได้แล้ว เจ้าทั้งสามคอยอยู่ที่นี่และ
คอยดูแลน้องสาวของข้าด้วย! ห้องข้าอยู่ตรงนั้น พวกเจ้า
สามารถสามารถใช้ฝึกฝนได้.
"เนี้ยหลี่กล่าวว่าในขณะทีเ่ ขามองไปที่เพื่อนทั้งสามคนของเขา
"ได้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเอง!" ทั้งสามคนตอบตกลง
"ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญก็ตอ้ งมีทุกวิธีของการเอาชีวิต
รอด!" เนี้ยหลีเ่ อ่ยวาจาเบาๆพลางหัวเราะ เป็นเรื่องง่ายมาก นี่
เป็นเรื่องเล็กน้อยส่าหรับเขาและไม่ได้วิธีการที่ลึกซึ้งใด ๆ
ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงสามารถรับรูไ้ ด้จากกลิ่นอายของพวกเขา
หลังจากบ่มเพาะพลังถึงระดับต่านาน จะสามารถปลอมตัวได้
ยอดเยี่ยมและยังสามารถเปลี่ยนความสูงและรัศมีที่แผ่ออกมา
รอบตัวเช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงลักษณะของพวก เขาท่า
ให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถที่จ่าแนกได้
ไม่ใช่สิ่งที่อยู่เหนือการคาดหมายใดๆส่าหรับเนี้ยหลี่ ว่ามันคือสิ่ง
พิเศษไม่สามารถเป็นไปได้ตั้งกลับชาติมาเกิดใหม่ แม้ว่าขนาด
ที่ต้องเผชิญหน้ากับบิดาของเย่ จื้อหวิ๋น นั้นเนี้ยหลี่ยังจะมี
วิธีการบางอย่างที่จะต่อกรกับเขา แต่เพราะวิธีการนั้นมีความ
ชั่วร้ายเกินไป หากใช้ทั้งสองฝ่ายจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่าง
แน่นอนซึ่ง เนี้ยหลี่ไม่ได้ต้องการทีจ่ ะเห็นภาพเหตุการณ์
นัน้ ไม่ใช่เพราะสิ่งใดดอก ก็เขานั้นเป็นบิดาของเย่ จื้อหวิ๋น
ถ้าไม่ใช่สาเหตุนั้นเขาจักไม่ยอมถูกท่าร้ายโดยแบล๊กโกลขั้นสูง
อยู่ฝ่ายเดียวอย่างแน่นนอน
"นี้คืออะไร?ดวงจิตอสูรใช่ไหม? "หลู๋เพียววางมือทั้งสองข้างของ
เขาที่สะโพกของเขาและหัวเราะด้วยความภาคภูมิใจ" เร็ว ๆ นี้
ข้าได้รับการฝึกอย่างเข้มงวดที่บ้านและผ่านระดับเงิน ตาแก่ที่
บ้านดีใจมากและให้รับรางวัลข้าเป็นดวงจิตอสูรระดับโกล ซึ่ง
ข้าได้รวมร่างไปแล้ว ดังนั้นข้าจึงไม่จ่าเป็นต้องใช้ดวงจิตอสูรตน
อื่นอีกต่อไป! หลังจากที่ข้ารวมดวงจิตอสูรระดับโกล เร็ว ๆ นี้
และจะก้าวไป ถึงจุดสุดยอดฮ่าฮ่าฮ่า! "
"ข้าได้เตรียมที่จะให้พยัคฆ์ดาราสีชาดปีศาจที่มีอัตราการ
เจริญเติบโตระดับพระเจ้า มันสามารถที่จะเติบโตไปถึงระดับ
ต่านาน เนื่อง จากเจ้าไม่ต้องการมันแล้วลืมมันซะเถอะ! "เนี้ยห
ลี่ หยิบศิลาดวงจิตอสูรไปที่ ตูเซอ และพวก" นี่เป็นดวงจิตอสูร
พยัคฆ์โลกันตร์ประเภทนักรบ นอกจากนี้ยังมีสามวิญญาณ
ปีศาจที่แยกต่างหากคือ ชนิด ประเภทสิ่งศักดิ์ ประเภท เพลิง
ศักดิ์สิทธิ์ ประเภทน้่าศักดิ์สิทธิ์ พวกมันได้ถูกเตรียมไว้ส่าหรับ
พวกนาย. "เนี้ยหลี่มองไปที่ เหว่ยหนาน ซู่ เซี่ยงจิ้ง และซ่างห
มิง
อัตราพัฒนาการระดับพระเจ้า? เติบโตจนถึงระดับต่านาน?
จะเป็นระดับที่ทรงพลังขนาดไหนกัน?
"เจ้าบอกว่ามันสามารถเติบโตได้ถงึ ระดับต่านานจริงหรือ?" ตูเซ
อถามอย่างไม่แน่ใจ"จริงแท้แน่นอน!" เนี้ยหลี่พยักหน้า ความ
จริงก็คือเนี้ยหลี่ยังไม่ได้บอกหมดทุกอย่างออกไป ดวงจิตอสูร
ที่ เนี้ยหลี่ให้พวกเขาจะไม่เพียง แต่หยุดทีร่ ะดับต่านานเท่านั้น
การเจริญเติบโตของพวกมันจะคาดเดาไม่ได้ในอนาคต อย่างไร
ก็ตามแม้ว่า เนีย้ หลี่บอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ตอนนี้พวกเขา
จะยังไม่เข้าใจมันหรอก
พวกเขาทั้งสามออกจากต่าหนักเจ้าเมืองและและมุ่งหน้าไปยัง
สถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ
ณ สถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ
"ท่านรองอาจารย์ใหญ่ หนิงเอ๋อ เข้าไปตั้งนานแล้วท่าไมยัง
ไม่ออกมาอีก?" ครูหลายคนที่ยืนอยู่ด้านข้างถามรองอาจารย์
ใหญ่อย่างกระวนกระวาย
"พวกเขามาจากห้องเรียนเด็กพิเศษ!"
"ให้พวกเขาเข้ามา!" รองอาจารย์ใหญ่พยักหน้าและกล่าว
การทดสอบความแข็งแกร่งอาจจะเกิดความผิดพลาดได้ แต่การ
ทดสอบพลังวิญญาณจะผิดพลาดได้อีกกระนั้นหรือ?
"ท่านรองอาจารย์ใหญ่ พวกข้าต้องการที่จะเข้าสู่เขตแดน
สวรรค์ศักดิส์ ิทธิไม่เป็นปัญหาใด ๆ ใช่มั้ย?" เนี้ยหลี่กล่าวขณะ
มองไปที่รองอาจารย์ใหญ่
"ด้วยระดับความแข็งแกร่งของพวกเจ้าตอนนี้นั้นไม่มีปญ ั หาใน
การเข้าเขตแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิเป็นแน่" รองอาจารย์ใหญ่
พยักหน้า ในการที่จะเข้าสู่เขตแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิ์จักต้องเป็น
นักเรียนระดับสุดยอดของชั้นเรียนพิเศษ ซึ่งพวกเขาทั้งสามก็
คือระดับดีที่สุดของห้อง
ในชาติพบที่แล้วเนี้ยหลี่ไม่เคยเข้าไปในเขตแดนสวรรค์
ศักดิ์สิทธิ์ ความเข้าใจของเขาที่มตี ่อเขตแดนสวรรค์ศักดิ์
สิทธิ นั้นมีเพียงมาจากหนังสือที่เขาได้อ่านเท่านั้น เนีย้ หลีย่ ังคง
มีความอยากรู้อยากเห็นอย่างมากในเรื่องของเขตแดนสวรรค์
ศักดิ์สิทธิ เขาได้ให้ตเู ซอ และหลู๋เพียว รออยู่ที่บริเวณข้างนอก
แล้ว เนี้ยหลี่ก็กา้ วเข้าไปภายในเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิเพียง
ล่าพังผู้เดียว
บทที่ 98 - ให้ข้าเป็นอาจารย์ใหม?
ตูเซอ ข้าว่าเจ้าคิดมากเกินไปและไม่เชื่อใจในตัวเนี้ยหลี่
นะ เจ้าคิดว่าสิ่งนี้จะเป็นเรื่องยากส่าหรับเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นรึ
ไง หากเจ้ามีเวลาว่างมากพอที่จะเป็นห่วงเจ้าเนี้ยหลี่นั่น ท่าไม
ไม่รีบรวมร่างผสานกับจิตอสูรปีศาจที่เนี้ยหลีม่ อบให้เล่า ? ข้า
อดใจไม่ไหวแล้วนะที่จะได้เห็นเจ้ารวมร่างกับ พยัคฆ์อสูรสีชาด
ใจจะขาดอยู่แล้ว!”
หลู่เพียวเคาะแหวนมิติอย่างตื่นเต้น
ตูเซอและหลู่เพียวเดินหาจุดที่เหมาะส่าหรับการฝึกฝน
ของพวกเขา เพื่อรอคอยเนี้ยหลีเ่ มือ่ ได้เห็นการกระท่าของพวก
เขา ช่วยไม่ได้ที่ เย่ เซิง จะรู้สึกพลอยยินดีไปด้วย ไม่น่าแปลก
ใจเลยที่ ตูเซอและหลูเ่ พียวก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วเพียงนี้
เพราะพวกเขาพยายามฝึกฝนอย่างหนักไม่แม้แต่จะปล่อยให้
เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์โดยไม่ท่าอันใดเลย
ส่าหรับนักเรียนคนอื่นนี่คงจะเป็นสิ่งที่หนักหนาแสนสาหัส
เกินจะรับไหว เย่ เซิงและพวกคณาจารย์ เดินไปยังด้านข้างเพื่อ
พักผ่อน ขณะที่ ตูเซอและหลู่เพียว มุ่งมั่นกับการผสานรวมร่าง
กับจิตอสูรปีศาจ
ภายในเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์
ภาพในด้านหน้าถูกบิดเบือนเป็นภาพต่างๆนับไม่ถ้วน ทั่ว
ประกายตาของเนี่ยหลี่ราวกับว่าก่าลังเดินผ่านผ่านช่วงเวลา
และพื้นที่ที่ไม่มีที่สิ้นสุด เนี่ยหลีเ่ ดินเข้ามาและจ้องมองไปรอบ
ๆ พื้นที่ถูกล้อมรอบไปด้วยทุ่งหญ้าและดอกไม้ที่เกิดเป็นภาพที่
สวยงามเกินจะบรรยาย
เมื่อเนี้ยหลีไ่ ด้ก้าวเท้ามายังเขตแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิ์
เนี่ยหลีม่ ีความรู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขาตื่นตัวอย่างแปลก
ประหลาด ราวกับจะระเบิดและขยายตัวออกอย่างไม่หยุดยั้ง
ด้วยที่จิตวิญญาณของเนี่ยหลีเ่ กิดการขยายตัวขึ้น ท่าให้เนี่ยหลี่
ต้องเจ็บปวดและทรมานสุดจะ ทนไว้ได้
เขตแดนสวรรค์เป็นสถานที่ ที่ท่าให้จิตวิญญาณเกิด
การขยายตัวส่าหรับการฝึกเพิ่มพลังวิญญาณโดยแท้จริง! การ
ฝึกภายในเขตแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิเ์ ป็นสิ่งที่ท่าให้พัฒนายิ่งกว่า
ฝึกภายนอกหลายเท่านัก!
จิตวิญญาณของเนี้ยหลี่ขยายตัวออกถึง หนึ่งในสามของ
พื้นที่ทั้งหมดความเจ็บปวดบนใบหน้าของเนี้ยหลี่ที่แสดง
ออกมาบ่งบอกถึงความทรมานอย่างแสนสาหัส
เนี้ยหลีล่ ืมตาขึ้นมองดู พบเจอกับบุคคลผู้หนึ่งก่าลัง
บ่มเพาะพลังอยู่คาดว่าน่าจะเป็น เสี่ยวหนิงเอ๋อ สายตาของเนี้ย
หลี่นั่นพร่ามัวมากในขณะนี้ จนไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่า
ผู้ใดเป็นใคร
ข้างในจิตวิญญาณของเขา อสูรทั้งสองตน คือ เงาอสูรจิตปีศาจ
และ แพนด้าเขีย้ วปีศาจ ได้รับการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่าง
ต่อเนื่อง
สถานที่นี้ เหมาะสมแล้วที่จะถูกเรียกว่าเขตแดน
สวรรค์ศักดิส์ ิทธ์ เนี่ยหลี่รู้สึกได้ว่าจิตอสูรทั้งสองได้เติบโตอย่าง
รวดเร็วภายในจิตวิญญาณของเนี่ยหลี่อย่างต่อเนื่อง ระดับ
ความเร็วการบ่มเพาะพลังของเจ้าสองตัวนี้ เร็วจนน่ากลัวเลย
ทีเดียว
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงที่แหบพร่าคล้ายกับเสียงคนแก่ขึ้นในจิตใต้
ส่านึกของเนี่ยหลี่
“เจ้าเด็กเหลือขอ ท่าไมเจ้าถึงผสานจิตอสูรถึงสองตนไว้ในจิต
วิญญาณของเจ้าได้?”
“ผู้ใดกัน?”เนี้ยหลี่ถามกลับ ในขณะที่รวบรวมจิตวิญญาณอัน
แรงกล้า ท่าให้สัมผัสได้ว่าก่าลังถูก สอดแนมอยู่ แต่จิตวิญญาณ
ไม่ได้ส่งกลิ่นอายมุ่งร้ายเนี่ยหลี่จึงไม่ได้ใส่ใจนัก
“เป็นเพราะข้าฝึกฝนเทคนิคการบ่มเพาะพลังพิเศษดังนั้นจึง
สามารถท่ามันได้....”เนีย่ หลีต่ อบอย่างใจเย็น
“โห..เทคนิคพิเศษอันใดกันรึ?”
“ข้าว่านี่เป็นค่าถามที่สองแล้วนะใช่มั้ย?”เนี้ยหลี่กวาดสายตา
เพื่อมองหาต้นเสียงที่ถามเขา”เอาแต่ถามค่าถามผู้อื่นแต่กลับไม่
ยอมตอบค่าถามดูเหมือนว่าท่านคงจะไม่ได้รับการสอนเรื่อง
มารยาทมาสักเท่าไหร่นัก!”
เจ้าของเสียงที่แหบแห้งหัวเราะและกล่าวว่า”
“เจ้านี่ช่างจัดการยากเสียจริง ข้าก็คือผู้หลับไหลอยู่
ภายในเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิมานานหลายศตวรรษแล้ว
แม้ว่าข้าจะได้พบเจออัจฉริยะเพียงไม่กี่คนก่อนหน้านี้ พวกมันก็
ไม่ถูกตาต้องใจข้า มีเพียงเจ้ากับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเท่านั้นที่
ค่อนข้างจะมีพรสวรรค์ อย่างไรก็ตามความสามารถของเจ้ายัง
ดีกว่านิดหน่อย ในวันนี้ข้าได้หมายตาเจ้าไว้แล้ว ข้าจะยอมให้
เจ้าเป็นศิษย์ของข้าก็ได้นะ!”
“เจ้าจะยอมรับข้าเป็นศิษย์อย่างนั้นหรือ เจ้าต้องการให้
ข้ารับเจ้าเป็นอาจารย์ของข้างั้นรึ?” เนี้ยหลี่กล่าวขึ้นอย่างดู
แคลน เป็นอาจารย์ข้ายังไง? เจ้าเป็นใคร? เจ้ายังมีอะไรที่จะ
สามารถสอนข้าได้ ถ้าหากบังเอิญมีคนประหลาดผ่านมาและ
อยากจะเป็นอาจารย์ของข้า ถ้าอย่างนั้นข้าไม่มีอาจารย์เต็มไป
หมดอย่างนั้นหรือ?
“ท่านเป็นใครอย่างนั้นหรือ?” เนี้ยหลี่ถามด้วยน้่าเสียงค่อนข้าง
ดูถูก
“หลังจากยุคแห่งความมืดจนมาถึงตอนนี้ ห้าร่างทรงอสูร
ระดับต่านาน ได้น่าผูร้ อดชีวิตนับหมื่นคนมาก่อตั้งเมืองกลอรี่
และต้านทานการโจมตีประดุจน้่าหลากของฝูงสัตว์อสูร! ข้าเป็น
หนึ่งในห้าผู้ที่เป็นบรรพบุรุษผู้ก่อตัง้ เมืองกลอรี่ เย่ หยาน! ข้ายัง
เป็นต้นก่าเนิดตระกูลลมหิมะ เจ้าเด็กสารเลว เจ้าตกใจที่ได้ยิน
ชื่อของข้ารึยัง?”
“ไม่สนใจ? เจ้าไม่สนใจเป็นศิษย์ข้าจริงๆอย่างนั้น
หรือ?” เย่ หยาน โมโหมาาก “เจ้าเด็กบ้าเจ้ารู้บ้างรึเปล่า นีเ่ ป็น
โอกาศดีแค่ไหนที่เจ้าได้รับ? ด้วยค่าแนะน่าของข้า เจ้าจะ
สามารถก้าวสูร่ ่างทรงอสูรระดับต่านานในชีวิตของเจ้า หรือ
อย่างน้อยที่สุดก็เป็นร่างทรงอสูรระดับแบล๊คโกลด์”
“ข้าไม่จ่าเป็นต้องมีท่านเป็นอาจารย์ของข้า ข้าก็
สามารถกลายเป็นร่างทรงอสูรระดับต่านานได้” เนี้ยหลี่กล่าว
เสียงดัง แม้ว่าข้าจะเคารพท่านในฐานะผู้ก่อตั้งเมืองกลอรี่ แต่ก็
ไม่ได้หมายความว่าข้าจะต้องมีท่านเป็นอาจารย์ของข้า!
“เจ้า…….จองหองเกินไปแล้ว
เจ้าคิดว่าการเป็นร่างทรงอสูรระดับต่านานนั้นเป็นเรื่อง
ง่ายอย่างนั้นหรือ? ร่างทรงอสูรระดับต่านานเป็นขั้นสุดยอด
ภายในทวีปนี้! กว่าผู้ที่มีความสามารถพิเศษคนอื่นๆ กับ คน
ธรรมดาหลายคนยังไม่อาจไปถึงได้!”
“ท่านผู้ก่อตั้งเนื่องจากท่านต้องการเป็นอาจารย์ข้า ท่านมีอะไร
จะมาสอนข้าล่ะ?
“ในฐานะที่เป็นร่างทรงอสูรระดับต่านาน ก่อนอื่นเลยข้า
รู้ทุกสิ่งที่อยู่ในทวีปนี้ อีกทั้งข้ายังมีความเชี่ยวชาญทางดารา
ศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และ ลวดลายจารึก ข้ายังมีเคล็ดวิชาการ
ฝึกฝนที่ทรงอ่านาจอีกมากมาย ข้ายังสามารถให้ค่าแนะน่าใน
การต่อสูด้ ้วยจิตวิญญาณอสูรแก่เจ้าได้อีกด้วย!” เย่ หยาน
กล่าวขึ้นด้วยความภาคภูมิใจแบบเต็มเหนีย่ ว
“ข้ามีห้าเคล็ดวิชาอันทรงพลังที่ตกทอดมาอยู่ที่นี่ เจ้าสามารถ
เลือกหนึ่งในนั้นไปฝึกฝนได้!”
แสงทั้งห้าปรากฏขึ้นต่อหน้าเนี้ยหลี่ แต่ละ่ อันมีรูปร่างคล้าย
หนังสือ
“ขอข้าดูเคล็ดการฝึกฝนอันทรงพลังที่ท่านมีก่อน!”
เนี้ยหลี่จ้องมองไปยังหนังสือทั้งห้าเล่ม “นี่มันอะไรกัน?
ท่านจะต้องประสาทแน่ที่น่า เคล็ดวิชาจิตไม้หมุนวน ออกมา นี่
ล้อเล่นใช่ไหม สิ่งนี้เป็นเคล็ดวิธีฝึกฝนส่าหรับร่างทรงอสูรระดับ
แบล๊คโกลด์ใช่หรือไม่? เคล็ดการฝึกฝนนี้มีข้อบกพร่องบางอย่าง
ตรงบทที่สามความจริงแล้วต้องส่งพลังวิญญาณไปยังจุดเทียนชู
หากไม่เช่นนั้นสมควรเป็นการท่าลายอนาคตตนเอง? เพราะว่า
เทียนชูเป็นจุดที่ใช้ในการเชื่อมต่อฟ้ากับดิน!”
“ท่านบรรพชน เทคนิคการบ่มเพาะพลังทั้งห้าเหล่านี้มันอ่อน
ด้อยเกินไป ท่านเรียนรู้เทคนิคพวกนี้หรือ? ไม่น่าแปลกใจที่การ
บ่มเพาะพลังของท่านเป็นไปอย่างยากล่าบากยามเมื่อท่านมี
ชีวิตอยู่ กว่าจะสามารถก้าวไปถึงระดับต่านานได้ ท่าไมไม่ให้ให้
ข้าสอนสุดยอดการบ่มเพาะพลังให้แก่ท่านหละ? ข้ารับประกัน
ได้ว่าการเพาะปลูกของท่านจะก้าวหน้ากว่านี้แน่!
“พอแล้ว!!”
เย่ หยานตัดบทพูดของเนี้ยหลี่ด้วยอารมณ์ที่โมโหสุดๆ
เนี้ยหลีไ่ ม่ไว้หน้าข้าเลยแม้แต่น้อย เจ้าไม่รู้รไึ งว่าข้าเป็นถึงบรรพ
ชนผู้ก่อตั้งนครรุ่งโรจน์เชียวนะ?
“นี่เจ้าไม่มีอาจารย์สอนความรู้พื้นฐานหรือไงกัน?
วิญญาณอสูรนั้นอยู่ในรูปแบบของจิตอสูรเปรียบได้เสมือนน้่า
จิตวิญญาณของเรานั้นก็เปรียบดังภาชนะถ้วยที่มีไว้เพื่อรองรับ
จิตอสูร จึงเกิดการผสานรวมร่างเข้าด้วยกัน!” เย่ หยานตอบ
พลางยิ้มน้อยยิม้ ใหญ่
“แม้ว่าความสามารถของเจ้าไม่เลวเลยทีเดียว แต่ความรู้
พื้นฐานของเจ้ายังเด็กนัก”
“หากท่านบอกว่า จิตวิญญาณของคนเราเปรียบได้
ดังภาชนะถ้วย แล้วจิตอสูรเปรียบได้ราวกับน้่า แล้วเหตุใดบาง
คนที่สามารถบ่มเพาะพลังของตนมาถึงระดับเงินแล้วไม่
สามารถจะรวมร่างกับจิตอสูรได้?” เนี้ยหลี่ยมิ้ แล้วถามกลับ
“ถ้ามันเป็นถ้วยจริงมันก็ควรจะใส่น้่าได้!”
“นั่นมัน....นั่นมันเป็นความเป็นไปได้แค่เล็กน้อยถึง
น้อยมากเท่านั้นที่จะล้มเหลว ดังนัน้ ปัญหานี้จึงไม่จ่าเป็นที่
จะต้องใส่ใจ!” เย่ หยาน ชะงักไปชั่วครู่แล้วกล่าวด้วยเสียงที่ไม่
ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก เย่ หยานไม่สามารถที่จะตอบค่าถามของ
เนี่ยหลีไ่ ด้
“กรณีผิดพลาดที่เกิดขึน้ ได้เล็กน้อยที่ท่านว่านั้น
มักจะเป็นกุญแจส่าคัญที่จะไขไปสูค่ วามลับที่ท่าให้มันเกิดขึ้น
ไม่ได้ หากแม้แต่ร่างทรงอสูรระดับต่านานไม่ทราบเกีย่ วกับเรื่อง
นี้จริงๆ ข้าไม่รู้เลยจริงๆว่าอาจารย์ท่านสอนอะไรให้แก่ท่านกัน
แน่! หากข้ามีโอกาสเป็นศิษย์เขาหละก็ข้าคงจะเอามือตบเขาให้
ตายคาฝาผนังเป็นแน่” เนีย้ หลี่ ส่ายหัวด้วยสีหน้าเศร้าโศก
“ถ้างั้น...เจ้าบอกข้าได้รึไม่?”
“จิตวิญญาณของคนเรานั้นมีรูปแบบและก่าหนด
ความเข้ากันได้ของจิตอสูรที่จะท่าการผสานจิตอสูร หากความ
แตกต่างคุณลักษณะของจิตอสูรกับจิตวิญญาณนั้นมีความ
แตกต่างกันมากเกินไปก็จะไม่สามารถท่าได้ เช่นเดียวกับทีไ่ ฟ
กับน้่าที่ไม่สามารถเข้ากันได้"
แม้ว่าเย่ หยานจะโกรธจนแทบอาเจียนออกมาเป็น
เลือด แต่สิ่งที่เนี้ยหลี่กล่าวออกมากับเป็นเสมือนแม่เหล็กที่
ดึงดูดตัวเขาเอาไว้
สิ่งใดก็ตามที่เนีย่ หลี่กล่าวออกมาล้วนอยู่เหนือความเข้าใจของ
ตัวเย่ หยานอย่างสิ้นเชิง
“ไอ้เด็กเวรนี่ เจ้าต้องการจะเป็นอาจารย์ของข้าหรืออย่างไร?”
“ให้ข้าเป็นอาจารย์? ข้าว่า ท่านลืมมันไปเสียเถิด ข้าไม่
อยากจะสอนคนทีไ่ ร้ความสามารถเช่นท่าน!”เนี้ยหลี่ ดูหมิ่น
เย้ยหยัน”ถ้าศิษย์ของข้าใช้เวลากว่า800ปีเพื่อเป็นร่างทรง
ระดับต่านานแล้วยังภูไม่ใจกับมันอยู่หละก็ ข้าคงใช้แส้เฆี่ยนตี
มันผู้นั้นจนตาย!
เย่ หยานแม้กระทั่งหนวดเครายังสั่นสะท้านไปเพราะ
ความโกรธ ถ้าเย่ หยานฟื้นมาตอนนี้ ก็คงตายเพราะความโกรธ
ที่มีต่อเนี้ยหลี่อีกครั้งเป็นแน่
“ข้าไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลของท่านเสียหน่อย ข้า
สืบเชื้อสายมาจากตระกูลบันทึกสวรรค์ ในแง่ของการเกิดของ
ตระกูลข้านั้นก็นับว่าเกิดนานกว่าตระกูล เย่ ของท่าน หาก
แม้ว่าท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับ จืออวิ้นแล้ว หละก็ ข้าจะไม่ใส่ใจ
ท่านแม่แต่นิดเดียว!”
“ตระกูลบันทึกสวรรค์ ข้าจ่าได้ละเมื่อยามตอนที่ข้า
ก่อตั้งนครรุ่งโรจน์ตระกูลบันทึกสวรรค์เป็นเพียงตระกูลเล็กๆ
เท่านั้น ข้ายอมรับว่าบรรพชนของเจ้าเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก ดู
เหมือนว่าเจ้าจะได้รับมรดกตกทอดมาจากตระกูลของเจ้า!แต่
เพียงมรดกเล็กน้อยเจ้ากล้าจะมาหยิ่งยโสกับข้าผู้นี้เชียวรึ?” แม้
ว่าเย่ หยานจะยอมรับว่าเนียหลี่มคี วามรู้มากกว่า เย่ หยานก็ยัง
ไม่เต็มใจจะยอมรับความพ่ายแพ้เช่นนี้
เนี้ยหลี่ท่าการฝึกฝนด้วยตัวของเขาเอง คลื่นจิตวิญญาณ
อันงดงามหมุนเวียนรอบตัวเนี้ยหลีอ่ ย่างไม่ขาดสายหลังจากเริ่ม
ฝึก [พลังเทพวิถีฟ้า] จิตอสูรทั้งสองที่อยู่ในตัวเขาก็ท่าหน้าที่ดูด
ซับแรงจิตวิญญาณอย่างต่อเนื่องคล้ายกับฟองน้่า วิญญาณ
ของเย่ หยานยังคงอยู่รอบๆเนี้ยหลี่ แม้ว่าเย่ หยานจะโกรธ
เนี้ยหลี่แต่เมื่อได้เห็นวิธีการฝึกฝนของเนี้ยหลี่มันท่าให้เย่ หยาน
ละสายตาไปจากมันไม่ได้เลย
คลื่นแรงวิญญาณที่แผ่ออก รูปแบบของการฝึกดังกล่าว
ไม่เหมือนกับสิ่งที่ร่างทรงอสูรระดับเงินจะฝึกได้ มันเหมือนกับ
เป็นการฝึกของร่างทรงอสูรระดับต่านานเสียมากกว่า
เมื่อเทียบกับเทคนิค [พลังเทพวิถีฟ้า]ของเนี้ยหลี่
เทคนิคการบ่มเพาะพลังทั้งห้าของเย่ หยานนั้นเป็นดังขยะไป
เลย แม้ว่าความเร็ว เทคนิค[พลังเทพวิถีฟ้า]จะช้ากว่าเทคนิค
[มังกรเหินวายุอสั นี]และ[เทคนิค ภูติฟินิกซ์หิมะน้่าแข็ง 9 ชีวิต]
แต่ก็มีความเร็วมากกว่าเทคนิคทั้งห้าที่ เย่ หยานน่าเสนอก่อน
หน้านี้ เป็นสิบเท่า ความคิดของเย่ หยานย้ายไปยังเสี่ยวหนิง
เอ๋อ
“เจ้าเด็กตุ๊กตา ความสามารถของเจ้าไม่เลวเลยทีเดียว
เจ้าอยากจะมาเป็นศิษย์ของข้าไหม?”
“ท่านเป็นใครกัน?”
“ข้าเป็นบรรพชนผู้ก่อตั้งนครรุ่งโรจน์ ผู้ก่อตั้งตระกูล
ลมหิมะ เย่ หยาน!”เย่ หยานตอบอย่างภูไม่ใจ
“ท่านบรรพชนผู้ก่อตั้ง! ข้าเสีย่ วหนิงเอ๋อ มาจากตระกูลปีก
มังกร คาราวะท่านบรรพชน!”เสีย่ วหนิงเอ๋อแสดงความเคารพ
ทันที นางมีความเคารพอย่างเต็มเปี่ยมให้กับบรรพชนผู้ก่อตั้ง
ของประวัติศาสตร์
“ท่านบรรพชน นครรุ่งโรจน์ตอนนี้ยังปลอดภัยอยู่ค่ะ”
“มีร่างทรงอสูรระดับต่านานที่คอยเฝ้าปกป้องนครรุ่งโรจน์อยู่
ณ ตอนนี้หรือไม่?”
“เป็นไปได้เยีย่ งไร?”
เย่ หยาน ขมวดคิ้ว แปลกมากไม่ว่าจะเป็นเจ้าเด็กเนี้ย
หลี่นั่น หรือ เสี่ยวหนิงเอ๋อ ทั้งสองต่างมีเทคนิคการบ่มเพาะ
พลังที่มีประสิทธิภาพมาก เป็นเรื่องที่น่าตกใจ ด้วยเทคนิคการ
บ่มเพาะพลังที่มีประสิทธิภาพเช่นนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่มีร่าง
ทรงอสูรระดับต่านานเพียงคนเดียว
“นี่.....”เสี่ยวหนิงเอ๋อลังเลอยู่พักนึง
บทที่ 100 -ดาบเทพอัสนีดาวตก
ส่าหรับเรื่องนี้ หากข้าจะเอาบางสิ่งบางอย่างเพื่อ
แลกเปลี่ยนกับเจ้า หากเจ้าให้ข้าดู เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกร
เหินวายุอัสนี]
เจ้าเด็กเหลือขอ กล้าดียังไงมาเรียกข้าว่าคนแก่ขี้โกหก!
แล้วไงหล่ะ? ท่านก่าลังจะเอาเทคนิคการบ่มเพาะเก่าเก็บมา
แลกกับเทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอัสนี] ช่างไร้ยางอาย
ยิ่งนัก
ท่านยังคงเรียกตัวเองว่าเป็นบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งของเมือง
กลอรี่ได้อีกเหรอ?เป็นคนที่อาศัยอยู่เป็นเวลาหลายร้อยปี แต่
ท่านก่าลังจะหลอกลวง สาวน้อยไร้เดียงสา ท่านยังมีความ
ละอายใจอยู่อีกหรือไม่!” เนีย้ หลีต่ อ่ ว่าโดยไม่ไว้หน้า
ถ้าหากท่านไม่สนใจ ท่าไมท่านถึงต้องการที่จะแลกเปลี่ยน
เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอัสนี] กับหนิงเอ๋อรึ ? ฮึ่ม ถ้า
ท่านไม่ต้องการให้คนภายนอกพบเจอ แล้วท่าไมไม่ท่าเช่นนั้นห
ล่ะ” เนี้ยหลี่พูดแบบไม่ไว้หน้าเย่ หยานแม้แต่น้อย
เจ้าก่าลังท่าให้ข้าโกรธ ข้าเพียงแค่ต้องการดูว่ามีอะไรที่ขาด
หายไปใน เทคนิคการบ่มเพาะ [มังกรเหินวายุอัสนี] ! ”
“ขาดหายไป งั้นเหรอ? ด้วยความสามารถของท่าน ทั้ง ๆ ที่
เป็นแค่วิญญาณเนี่ยนะ อย่างท่านจะเห็นว่ามีอะไรที่ขาดหายไป
ใน เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอัสนี] !”
เดิมทีเขาวางแผนจะรับเนี้ยหลี่เป็นศิษย์ เพื่อที่เขาจะได้เฝ้าดู
เทคนิคการบ่มเพาะที่ราวกับมีมนต์ขลังของเนี้ยหลี่
เขาคิดว่าคงจะไม่มีหวังอีกแล้ว แต่ค่าพูดของเนี้ยหลี่กจ็ ุด
ประกายความหวังของเขาขึ้นมาอีกครั้ง
เย่ หยานพูด
หากท่านบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งคิดอย่างนั้น ท่าไมเราไม่มาลอง
เดิมพันกันสักหน่อยหล่ะ?” เนี้ยหลี่ตอบพร้อมกับยักคิ้ว
สิ่งที่ใช้เดิมพันหล่ะ?
หากข้าสามารถก่าราบดาบอัสนีดาวตกได้ ท่านบรรษบุรุษผู้
ก่อตั้งเย่ หยาน จะต้องคอยติดตามข้าหลังจากจากนี้ แต่ถ้าหาก
ข้าก่าราบมันไม่ได้ ข้าจะให้ท่านดูการ สวดภาวนา ของเทคนิค
การบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอัสนี] มันก็เพียงแค่นี้” เนี้ยหลี่พูด
พร้อมกับยิ้มเล็กน้อย การเดิมพันนี้มีแต่พียงเขาที่ได้รับ
ประโยชน์ ไม่มีอะไรทีเ่ สียหาย แม้ว่าเขาจะแพ้ ก็แค่ให้ดู
เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอัสนี] อย่างไรก็ตาม เย่
หยาน ก็ไม่สามารถที่จะน่าไปใช้ปฏิบัติได้อยู่ดี
เปลี่ยนเป็นอะไรหล่ะ?” คิ้วของเนี้ยหลี่โก่งขึ้นเล็กน้อย
มอบ เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอสั นี] มาให้ข้า แล้ว
ข้าจะพาเจ้าไปหาดาบเทพอัสนีดาวตก ถ้าหากเจ้าก่าราบดาบ
เทพอัสนีดาวตกไม่ได้ เจ้าจะต้องแสดงเทคนิคการบ่มเพาะพลัง
ของเจ้า!” เย่ หยานพูด เขาอยากรูว้ ่าเนี้ยหลีย่ ังมีเทคนิคการบ่ม
เพาะพลังอะไรที่เหนือกว่า เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุ
อัสนี] อีก
เจ้ายินดีที่จะถ่ายทอด เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุ
อัสนี] ให้กับท่านบรรษบุรุษผู้ก่อตัง้ เย่ หยาน หรือไม่?
เสี่ยว หนิงเอ๋อพยักหน้าแล้วกล่าวว่า
เจ้าเป็นคนมอบเทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุ
อัสนี] ให้กับข้า ข้าคงจะมิอาจปริปากว่าอย่างไรได้”
เนี้ยหลี่พยักหน้า
ท่านบรรษบุรุษผู้ก่อตั้งเย่ หยาน เรายอมรับข้อเสนอ” เนี่ยลี่
ยิ้มเล็กน้อยแล้วตอบออกไป มันก็แค่ เทคนิคการบ่มเพาะ สอง
อย่างเท่านั้น มันไม่ได้เป็นปัญหาเลย แม้ว่าเขาจะปล่อย
ให้บรรษบุรุษผู้ก่อตั้งเย่ หยานดูก็ตาม ถ้าหากไม่มีความ
ช่วยเหลือจากเขา บรรษบุรุษผู้ก่อตั้งเย่ หยานก็ยังคงเป็นเพียง
ร่างจิตวิญญาณเท่านั้น
เป็นเทคนิคการบ่มเพาะที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้ ถ้าหากข้า
ได้มีประสบการณ์ ในการใช้เทคนิคบ่มเพาะนีม้ าตั้งแต่ต้น ข้าคง
ไปได้สูงกว่า ระดับต่านาน ไปอีกไกล และคงบรรลุขอบเขตที่ไม่
อาจไปถึงได้” บรรษบุรุษผู้ก่อตั้งเย่ หยาน กล่าวอย่าง
ประหลาดใจ อานุภาพของเทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุ
อัสนี] นั้นไปไกลกว่าจินตนาการของเขา
เดิมทีเขาคิดว่า ด้วยความสามารถของร่างทรงอสูรระดับ
ต่านาน เขาจะสามารถหาข้อบกพร่องของ เทคนิคการบ่มเพาะ
[มังกรเหินวายุอสั นี] ได้ไม่มากก็นอ้ ย แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่า
เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอัสนี] นั้นสูงส่งกว่าระดับของ
เขาในปัจจุบัน
ราวกับเป็นวิชาของพระเจ้า!
มันอาจจะเป็นไปได้ที่จะมีระดับที่เหนือกว่าระดับต่านาน ?
ในขณะที่ทั้งสองเดินไปยังส่วนลึกของ เขตแดนสวรรค์
ศักดิ์สิทธิ์อยู่นั้น จู่ๆในหัวของพวกเขาก็ปรากฏเป็นภาพลวงตา
มากมายหลายประเภท ท่าให้เห็นเป็นภาพลวงตาราวกับว่ามี
สัตว์อสูรปีศาจนานับพันตัวเข้ามาโจมตีเข้ามาจากทุกทิศทาง
ใบหน้าของเสี่ยวหนิงเอ๋อซีดลงเล็กน้อยหลังจากต่อสู้กับ
ภาพลวงตาพวกนั้น เสื้อผ้าของนางเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อที่ซึม
ออกมา เหล้าอัจฉริยะที่เข้ามายังเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ก่อน
หน้านี้ไม่กล้าที่จะเข้ามายังส่วนลึกของเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์
แห่งนี้แม้แต่น้อย สาเหตุเพราะว่ายิ่งลึกเข้าไปในเขตแดนสวรรค์
ศักดิ์สิทธิ์มากเท่าไหร่ยิ่งทวีความอันตรายมากขึ้นนั่นเอง
มันเป็นกลิ่นอายของ ดาบเทพอัสนีดาวตก !
ช่างเป็นกลิ่นอายที่รุนแรงจริงเพียงแค่สิ่งที่มันปล่อย
ออกมา ก็สร้างความกดดันแก่ผู้ทพี่ บเจอมัน!
เมื่อเห็นว่ากลิ่นอายสังหารก่าลังเหนือกว่าเสี่ยวหนิง
เอ๋อและเกือบจะกลืนกินนาง สีหน้าของเนี้ยหลี่ดจู ริงจังขึ้น
เนี้ยหลีร่ ีบจัดการกับจิตวิญญาณของเสี่ยวหนิงเอ๋อ รวดเร็วราว
กับฟ้าผ่า ร่างกายของนางสั่นสะท้านไปทั้งตัว จิตใจของนางเอง
ก็ถูกช่าระล้างไปด้วย
“หนิงเอ๋อ เจ้าไม่เป็นไรนะ?” เนี้ยหลี่ มองไปยัง เสี่ยวหนิง
เอ๋อ เสี่ยวหนิงเอ๋อยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า
เนื่องจากเหงื่อที่ชุ่มไปทั้งตัวของนาง เสื้อผ้าที่แสนบางที่
เสี่ยวหนิงเอ๋อได้สวมใส่อยูไ่ ด้แนบชิดกับตัวนางเผยให้เห็นเรือน
ร่างที่งดงามชวนหลงใหลมากยิ่งขึ้น ยอดดอกที่ชันขึ้นของนาง
ช่างดูสง่างามยิ่งนัก
เสี่ยวหนิงเอ๋อนางก่าลังจะกลายเป็นสาวงามและเสน่ห์
ที่เพิ่มขึ้นของนางเมื่อนางได้โตเป็นสาวนั้นยังชวนให้หลงใหล
อย่างมากมันช่วยไม่ได้เลยที่เนี่ยหลี่จะแสดงสีหน้าตกตะลึงเมื่อ
ได้เห็นเรือนร่างของเสี่ยวหนิงเอ๋อ
สร้างความว้าวุ่นในใจให้เนีย้ หลี่ไม่น้อย(ก่าหนัดไง) ใบหน้า
ของเนี้ยหลี่เริ่มแดงระเรื่อขึ้นด้วยความเขินอาย เขาท่าได้เพียง
เกาจมูกพร้อมเบือนหน้าหนีไปทางอื่นแก้ความเขินอาย
เท่านั้น (รู้นะ ว่าในใจเอ็งไปถึงไหน เด็ก 13-14 แก่แดดด !!!)
จิตวิญญาณของข้าติดอยู่กบั ดาบเทพอัสนีดาวตกมันจึง
เป็นสาเหตุที่ข้ายังไม่กระจายออกไปไหน แต่อย่างไรก็ตามนะ
เจ้าเด็กเหลือขอ ข้าขอแนะน่าเจ้าไว้อย่างนึง การที่จะน่าดาบ
เทพอัสนีดาวตกออกมาใช้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่นึกอยากจะท่าก็ท่า
ได้!”
“ถ้ามันเป็นเรื่องง่าย มันก็คงจะไม่มีค่าพอให้สนใจ!”กล่าวตอบ
พร้อมยิ้ม อย่างไม่ได้กังวลเกี่ยวกับมันสักเท่าไร
ไม่แม้แต่กลิ่นอายสังหารทีม่ ันแผ่ออกมาตลอดเวลา
ดาบศักดิส์ ิทธิ์นี้มีจิตวิญญาณสิงอยู่ แม้ว่าพวกเนีย้ หลี่
จะอยู่ไกลออกไป กว่าร้อยเมตรพวกเขายังรู้สึกได้ถึงความเย็นที่
ทะลุทะลวงเข้ามาถึงกระดูกเลยทีเดียว
ในขณะที่นางรับแรงกดดันวิญญาณที่แผ่ออกมานั้น
ภายในจิตวิญญาณของเสี่ยวหนิงเอ๋อ ก็เพิ่มความแข็งแรงขึ้น
อย่างรวดเร็ว เคล็ดวิชา[มังกรเหินวายุอัสนี] เทคนิคการบ่ม
เพาะพลังของนางถูกหมุนเวียนอย่างรวดเร็วภายในร่างของนาง
จิตวิญญาณภายในของนางราวกับมีมังกรทะยานอยู่ภายใน
หลังจากนั้นไม่นานนัก จิตวิญญาณของเสี่ยวหนิงเอ๋อ
ระเบิดออก แรงจิตวิญญาณของนางวิ่งแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
ตูม!!!!
ประสบความส่าเร็จ!!!
เคล็ดวิชา[มังกรเหินวายุอัสนี] เป็นเทคนิคการบ่ม
เพาะพลังอย่างรุนแรง ความเร็วและความคืบหน้ามี
ประสิทธิภาพมากกว่า [พลังเทพวิถีฟ้า] ของเนี้ยหลี่อยู่มาก
ภายใต้แรงกดดันของ ดาบเทพอัสนีดาวตก ความสามารถใน
การบ่มเพาะพลังของเสี่ยวหนิงเอ๋อก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้น
อีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้นก็จะถึง ระดับทอง!
“การผสานรวมกับจิตวิญญาณปีศาจ”เนี้ยหลี่มองผ่าน
เสี่ยวหนิงเอ๋อ ไปพร้อมหยิบผลึกบางอย่าง
“นั่นมันคืออะไรกัน?”เสี่ยวหนิงเอ๋อมองไปยังผลึก
วิญญาณปีศาจที่เนีย่ หลีห่ ยิบมาด้วยความสงสัย
เนี้ยหลี่ตบไหล่เสี่ยวหนิงเอ๋อเบาๆแล้วยิ้มพร้อมกล่าว”
เจ้ารีบรวมร่างกับจิตอสูรตนนี้โดยเร็วเถอะ ด้วยความแข็งแกร่ง
ของเจ้าหากเจ้ามี นกกระจอกสายฟ้าแห่งสวรรค์เป็นจิตอสูร
แล้วละก็ แม้จะเป็นข้าก็มิอาจเป็นคู่มือเจ้า!”
เพื่อที่จะได้ไล่ตามเนี้ยหลี่ และได้ยืนเคียงข้างเนี้ยหลี่ในซัก
วันหนึ่ง! เสีย่ วหนิงเอ๋อ รีบรวมร่างกับนกกระจอกสายฟ้าแห่ง
สวรรค์
“เจ้าเด็กน้อย มันเป็นเรื่องจริงที่ว่าจิตอสูรนั้นคือ
นกกระจอกสายฟ้าแห่งสวรรค์ แต่ที่เจ้าบอกว่าการเติบโตระดับ
พระเจ้านีม่ ันหมายความว่าเยี่ยงไรกัน ?”บรรพชนผู้ก่อตั้งขมวด
คิ้วถามด้วยความสงสัย
“ท่าไม่ข้าต้องบอกให้ท่านรู้ด้วยรึ?”เนี้ยหลี่กล่าวพร้อมกับปัด
มือไปมา (ส่งเนี้ยหลี่อบรมมารยาทแม่ม)
เนี้ยหลีเ่ หลือบมองมายังเสี่ยวหนิงเอ๋อที่ก่าลังรวมร่าง
กับจิตอสูรอยู่เพียงครูเ่ ดียวเท่านั้น จากนั้นก็เงยหน้าและก้าว
เดินต่อไปยัง ดาบเทพอัสนีดาวตก
เพราะเหตุนั้น แม้แต่เอียหยานก็ไม่มั่นใจเลยว่าเนี่ยหลี่จะ
สามารถท่ามันได้ส่าเร็จ
ความสามารถของเนี้ยหลี่นั้นเก่งกาจเกินไป ไม่ว่าจะเป็นเทคนิค
การบ่มเพาะพลังที่มี ทักษะต่างๆหรือความรอบรู้ที่มากมายเกิน
จะหยั่งถึงเกินกว่าที่ผู้อื่นจะจินตนาการได้ แม้แต่เอียหยายเองก็
ยังอดคิดไม่ได้ว่า เนี้ยหลี่อาจจะเป็นปีศาจที่อยู่มาแล้วหลายร้อย
ปี
กลิ่นอายสังหารนั้นเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง
ราวกับเป็นคลื่นแห่งการสังหารที่จะกวาดล้างทุกอย่างด้วย
ความตั้งใจอย่างแรงกล้า
เป็นดาบโบราณที่มีค่ามากอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
หากแม้ว่าร่างทรงอสูรธรรมดา ต่อให้พวกเขามียศถึง
ทองค่าด่า ก็ยังน่าสะพรึงอยูด่ ีหากต้องเผชิญหน้ากับกลิ่นอาย
สังหารของดาบเล่มนี้
ร่างกายของเนี้ยหลี่ค่อยๆเลือนรางและจางหายไป จึงท่า
ให้กลิ่นอายสังหารนั้นทะลุผ่านเนีย้ หลีไ่ ปกลิ่นอายสังหารนั้น
ไม่ได้ก่ออันตรายใดๆให้เนี้ยหลี่เลยแม้แต่น้อย (ขี้โกงเอ้ย)
“เจ้าหนูนี่มีจติ อสูรปีศาจอยู่ถึงสองตน!”เมื่อคิดถึงชื่อ
ของจิตอสูรเงาปีศาจ เอียหยานถึงกับมีความรูส้ ึกเสียวสันหลัง
ไม่น้อย (ผีมันมีความรู้สึกนั้นด้วย)
ในอดีตกาลที่ผ่านมานั้น จิตอสูรเงาปีศาจนับว่าเป็นจิต
อสูรที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก ผู้ใดก็ตามที่ผสานรวมร่างกับจิต
อสูรเงาปีศาจจักเป็นมือสังหารที่แข็งแกร่งมาก แม้นว่าร่างทรง
อสูรระดับต่านานจะมีความแข็งแกร่งในการป้องกันมาก จิต
อสูรเงาปีศาจก็สามารถจบชีวิตของเขาได้เช่นกัน..
‘ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าเด็กเหลือขอนี่มั่นใจนักหนาว่าจะ
สามารถดึง ดาบเทพอัสนีดาวตกออกมาใช้ได้’
เอียหยานแอบถอนหายใจ
หลังจากที่เดินเข้าไปในสถานะล่องหน เนี้ยหลี่ได้เข้าใกล้
กับดาบเทพอัสนีดาวตกอย่างช้าๆ ค่อยๆก้าวไปทีละก้าวขึ้นไป
ยังแท่นบูชา เมื่อระยะห่างจากดาบถึงตัวเนี่ยหลีเ่ หลือเพียงสอง
เมตร เนี่ยหลี่ได้โผล่ออกมาด้านบนของแท่นบูชากลิ่นอาย
สังหารไม่อาจทันรูส้ ึกได้
เนี้ยหลีไ่ ม่ได้เข้าไปใกล้ดาบเทพอัสนีดาวตกในทันที
เขาหยุดแล้วนั่งขัดสมาธิ เนี้ยหลี่ปล่อยแรงวิญญาณออกมาจาก
ร่างเข้าสูด่ าบเทพอัสนีดาวตก
ปริซึมๆ ๆ ๆ (เอฟเฟคแล้วแต่จินตนาการ)
เสียงระเบิดทีด่ าบเทพอัสนีดาวตกปล่อยออกมาดังสนั่นลั่น
ไปทั่วทุกพื้นที่ ช่างเป็นเสียงที่น่าหวั่นกลัวเสียยิ่งนัก
วิญญาณอสูรปีศาจนับสิบล้านตัวแปรสภาพกลายเป็น
สายฟ้า กระหน่่ามาใส่เนี่ยหลี่แบบไม่ยั้งมือ
“มา! “พลังวิญญาณของเนี่ยหลี่ค่อยๆเพิ่มขึ้น เป็นจิต
อสูรแพนด้าเขี้ยวปีศาจนั้นเองที่ท่าการปกป้องเนี่ยหลี่จากการ
กระหน่่ายิงจากอสูรเหล่านั้น
หนึ่งในอสูรปีศาจเหล่านั้นได้พุ่งเข้าไปในจิตวิญญาณของเนี้ยห
ลี่
จิตวิญญาณของเนี้ยหลี่ก็กลายเป็นดังวาฬที่อ้าปากรอรับ
เหยื่อที่เข้ามายังภายในจิตวิญญาณ
เหมือนจุดหมายของเหล่าปีศาจจู่โจมจะเป็นของปลอมที่เนี้ยหลี่
ท่าการหลอกล่อเข้ามา วิญญาณอสูรที่เข้ามายังภายในเนี่ยหลี่
บดแตกละเอียดกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย จิตวิญญาณที่แตก
ละเอียดนั้นถูกเนี่ยหลี่ดดู ซับเข้าไปเป็น พลังจิตวิญญาณของ
ตัวเนี่ยหลี่เองโดยปริยาย
หลังจากนั้นไม่นานนัก วิญญาณอสูรตัวอื่นก็พุ่งตามตัวแรกไป
ตามๆกัน(โหดูดเวลใหญ่เลย)
แพนด้าเขี้ยวปีศาจเปรียบได้ดั่งยามที่คอยเฝ้าประตูนรก
ภายใน จิตวิญญาณของเนี่ยหลี่ ทีจ่ ะลิขิตชะตาวิญญาณอสูร
ปีศาจตนอื่นเข้าไปได้หรือไม่
เนี้ยหลี่นั้นกลืนกินเหล่าจิตอสูรปีศาจอย่างไม่หยุดพัก
ท่าให้การบ่มเพาะพลังของเนี่ยหลีเ่ พิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 4ดาว
เงิน – 5ดาวเงิน ขยับเข้ามาใกล้ระดับยศทองขึ้นเรื่อยๆแล้ว
กองก่าลังปีศาจจ่านวนนับไม่ถ้วนถูกบดขยี้ให้
กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยเรียงตัวกันเป็นเชือกโดยเนี่ยหลี่เดิน
เข้าไปหาดาบเทพอัสนีดาวตก
ตูม ตูมมมม ตูมมมมมม (ตุมตุมตุมตะดุ่มตุมตุม)
แรงวิญญาณของเนี้ยหลี่โจมตีต่อต้านดาบเทพอัสนีดาว
ตกท่าให้เกิดเสียงระเบิดของฟ้าที่ผา่ ลงมาตามมามากมาย
ทันทีที่ได้เห็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้นตรงหน้า เอียหยานก็
เข้าใจได้ในทันทีว่าเนี้ยหลีส่ ามารถที่จะใช้ดาบเทพอัสนีดาวตก
ได้จริงๆ !
จบตอน.............
บทที่ 102 หุ่นปักษาสถิตวิญญาณระดับต่านาน
อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกันมันยังมีข้อบกพร่องอย่าง
มาก มันก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงกลับไปยังขอบเขตพลัง
วิญญาณของเซิ่นมัว ซึ่งเป็นเหตุผลให้เซิ่นมัวล่วงลับไปในวัย
เพียง 39 ปี
หลังจากนั้นไม่มีใครทีส่ ามารถปราบดาบเทพอัสนีดาวตก
ได้ เพื่อหลีกเลีย่ งจากออร่าแห่งความตายทีร่ ั่วไหลออกมาจาก
ดาบเทพอัสนีดาวตก พวกร่างทรงอสูรระดับต่านานทั้งหมดจึง
สร้างสิ่งนี้ขึ้นมาที่เขตแดนสวรรค์ศกั ดิ์สิทธิ์และปิดผนึกดาบเทพ
อัสนีดาวตกที่นี่
เนี้ยหลี่ท่าให้เรื่องที่ใหญ่กลายเป็นเรื่องที่เล็ก แม้ว่าความ
แข็งแกร่งของเขาจะอยู่เพียงแค่ในระดับเงิน เขาใช้วิธีการที่
แม้แต่ร่างทรงอสูรระดับต่านานก็ไม่สามารถที่จะกระท่าได้
ถ้าข้ารู้ว่าวิธีการนี้จะสามารถปราบดาบเทพอัสนีดาวตกได้ ข้า
จะได้รับความสามารถที่จะควบคุมดาบศักดิส์ ิทธิ์เล่มนี้ตั้งแต่เมื่อ
ตอนนั้นแล้ว" เอียเหยียนรูส้ ึกเศร้าใจ ถ้าเขารู้วิธีการที่จะ
ควบคุมดาบเทพอัสนีดาวตก บรรดาร่างทรงอสูรระดับต่านานก็
จะไม่ต้องมีใครตายในสนามรบ เมืองกลอรี่จะมีความ
เจริญรุ่งเรืองมากกว่า ณ ตอนนี้แน่นอน
ประกายสายฟ้าระเบิดออกมาจากดาบเทพอัสนีดาวตก แต่เมื่อ
เวลาผ่านไปนั้น สายฟ้าก็ค่อยๆจางหายลงไป
ด้านหน้าของสายฟ้าแรงพลังวิญญาณเป็นเหมือนงูที่
ล้อมรอบดาบเทพอัสนีดาวตก มันยังคงต่อต้านอยู่ แต่มันก็
ค่อยๆที่จะสงบลง
เนี่ยหลีม่ ั่นใจแล้วจึงคว้าไปที่ด้ามจับ
วู้มม
มันยังคงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วอาณาบริเวณและดังจนผ่านเมือง
กลอรี่ออกไป
คลื่นเสียงที่มองไม่เห็นนั่น คนธรรมดาไม่สามารถที่จะได้
ยินมัน เพียงแค่ร่างทรงอสูรระดับแบล็คโกลด์ และสูงกว่า
เท่านั้นที่จะรูส้ ึกถึงอานุภาพของคลื่นเสียงมันราวกับว่ามัน
สามารถแทงเข้าไปยังขอบเขตพลังวิญญาณ
ตระกูลศักดิส์ ิทธิ์
เกิดอะไรขึ้น?" ผู้น่าตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ใบหน้าของเสิ่นฮอง
นั้นกับบูดเบี้ยว เขาโดนถล่มโดยคลื่นเสียงท่าให้ขอบเขตพลัง
วิญญาณของเขาเกิดสั่นไหว เขาเกือบจะอาเจียนเป็นเลือด
เพราะมัน การบ่มเพาะพลังของเขาหลายชั่วยามนั้นถูกลบล้าง
ไปในทันทีเป็นพลังที่มีอ่านาจที่น่ากลัวมาก!
เสิ่นฮองไม่สามารถคิดได้ว่าคลื่นเสียงนี้มาจากที่ใด
ต่าหนักของท่านเจ้าเมือง
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนในปัจจุบันก่าลังพูดคุยกัน เรื่องการ
เคลื่อนที่ของเสียงจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
คลื่นเสียงมันมาจากที่ใดกันเอียเซิ่งถามโดยขมวดคิ้วของเขา
ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงอีกหลายคน ตระกูลใหญ่อื่นๆอีก
มากมายนอกจากนี้ ยังพบสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน แต่นักสู้
และอสูรวิญญาณไม่ได้รับผลกระทบจากมัน
เป็นพลังที่น่ากลัวมาก!
เนี้ยหลี่กุมดาบเทพอัสนีดาวตกไว้อย่างแน่นหนา พร้อมขยับ
ไปมา ดาบอัสนีเล่มนี้เป็นของที่มีค่าคู่ควรยิ่งนัก เป็นถึงระดับ
พระเจ้าในต่านาน พละก่าลังของมันช่างอยู่เหนือ
จินตนาการ ความแข็งแกร่งของมันเหนือกว่าดาบหมอกม่วงที่
เขาใช้ในชาติที่แล้วเสียอีก
เมื่อเขาดึงดาบเทพอัสนีดาวตกออกมากะทันหัน
ประกายแสงจากดาบพวยพุ่งผ่านไปมาทั่วท้องฟ้า สายฟ้านับไม่
ถ้วนพุ่งตรงมารวมกันยังดาบเทพอัสนีดาวตกในมือเนี้ยหลี่แล้ว
ประกายแสงก็ค่อยๆจางลงไป
ดาบเทพอัสนีสายฟ้านั้นล้อมรอบไปด้วยประกายแสงพุ่ง
ไปมาอย่างรวดเร็วและเริม่ จางลงกลายเป็นดาบโบราณขนาด
ใหญ่มีคราบสนิมบางส่วนเกาะติดอยู่กับมัน ใครจักรู้ว่าดาบใหญ่
เล่มนีเ้ ล่มนีค้ ือดาบเทพอัสนีดาวตก ที่มีอ่านาจผสานล่าแสง
สายฟ้าได้อย่างยอดเยี่ยม
เนี้ยหลี่วางดาบเทพอัสนีดาวตกไว้ที่ด้านหลังของเขา แล้ว
มองไปที่บรรพชนผู้ก่อตั้ง เอียหยาน ซึ่งตอนนี้ลอยอยู่ใน
อากาศพร้อมกับยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า“ดังนั้น? ท่านบรรพ
ชนเอียหยาน ดาบเทพอัสนีสายฟ้าเล่มนี้ถูกสยบโดยข้า”
หลังจากตกตะลึงไปสักครู่บรรพชนผู้ก่อตั้ง เอียหยานก็กล่าวว่า
“ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะสามารถสยบดาบเทพอัสนีดาวตกได้
จริง ข้าจะท่าตามสัญญา อย่างไรก็ตามดาบเทพอัสนีดาวตกถึง
ท่าให้อ่อนก่าลังลงโดยเจ้า และกลายเป็นดาบที่มีเจ้าของ พลัง
วิญญาณของข้าไม่สามารถเชื่อมต่อกับมันได้ ข้าจะหายไปใน
ไม่กี่วัน ดังนั้นข้าคงจะปฏิบัติตามสัญญาได้เพียงไม่กี่วัน
.................
“มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากในการที่จะให้วิญญาณให้สถิตอยู่ใน
สิ่งของ” เนี้ยหลี่ รีดดวงตาลงพร้อมยักไหล่ “ตามข้ามา”
หาสิ่งของส่าหรับให้วญ
ิ ญาณเข้าไปสถิตอยู่ได้ง่ายเลย
เหรอ? ภายใต้ผืนฟ้ายังมีสิ่งของที่มีพลังวิญญาณที่ไม่มีเจ้าของ
เหมือนกับดาบเทพอัสนีดาวตก สิง่ ของธรรมดาไม่สามารถที่จะ
ให้วิญญาณสถิตอยู่ได้
ก่อนที่ดวงวิญญาณของเขาจะหายไป เขาจะยึดถือค่าสัญญา
อย่างแน่นอน
เมื่อปราศจากดาบเทพอัสนีดาวตก เขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ก็
ไม่สามารถที่จะอยู่ได้ยืนยาวอีกต่อไป
“อือ” เสี่ยวหนิงเอ๋อพยัคหน้า
“พวกเจ้าผ่านการทดสอบจากชายแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์
ได้จริงด้วย!” เอียเชิงมองมาที่เนี่ยหลี่และเซี่ยวหนิงเอ๋อ ด้วย
ความรูส้ ึกตะลึง เขามีมมุ มองที่ค่อนข้างดีต่อพวกเขาอยู่แล้ว
ถ้ามีการจัดการที่ดีกผ็ ่านการทดสอบได้
เนี้ยหลี่ป้องมือค่านับพร้อมทั้งกล่าว “ ท่านรองอาจารย์ใหญ่
โปรดเก็บเรื่องที่ข้าผ่านชายแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิ์นี้ไว้เป็น
ความลับด้วย”
เสี่ยวหนิงเอ๋อ ยังตื่นเต้นมากกับการผ่านการทดสอบ
จากชายแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ในตอนนี้นางได้เพิม่
ความสามารถจนถึง ระดับซิลเวอร์ ขั้นห้าดาว เป็นที่เรียบร้อย
แล้ว ด้วยความสามารถเป็นพิเศษของนาง จะต้องได้รับการ
ปกป้องจากเจ้าเมืองในระดับสูง ในอนาคตจะไม่มีใครบังคับเธอ
ให้แต่งงานกับ เสิ่นเฟยได้อีกครั้ง
เอียเชิง รีบรายงานข่าวของเนี้ยหลี่และเซียวหนิงเอ๋อ ได้
ผ่านการทดสอบชายแดนสวรรค์ศกั ดิ์สิทธิ์ ให้แก่เจ้า
เมือง หลังจากที่ได้รับรายงานเจ้าเมืองก็สั่งการในทันทีให้
เสี่ยวหนิงเอ๋อ ย้ายเข้ามาอยู่ในต่าหนักเจ้าเมืองทันที
เนี้ยหลี่ในตอนนี้ยังไม่กลับไปยังต่าหนักเจ้าเมืองในทันที
แต่กลับซื้อวัสดุต่างๆ บริเวณรอบเมืองกลอลี่ หลังจากซื้อวัสดุ
จ่านวนมาก เนี้ยหลี่ก็เริม่ ประดิษฐ์ หุ่นปักษาสถิตวิญญาณ
ตามพิมพ์เขียวทีไ่ ด้มา
เขาผ่านการฝึกประสบการณ์ช่างตีเล็กจากผู้เชี่ยวชาญของเมือง
กลอลี่ เพื่อสร้างงานฝีมือนีด้ ้วยตอนเอง เขาได้แกะสลักตาม
รูปแบบในจารึก
เอียหยานเริ่มลังเล เขานั้นได้ตกลงสัญญากับเนี้ยหลี่เรียบร้อย
เขาต้องรักษาสัญญาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเขาไม่มี
ความสุขนักที่วิญญาณของเขาจะต้องเข้าไปสถิตอยู่ภายในหุ่น
กระบอกวิญญาณ แต่ก็ยังดีกว่าดวงวิญญาณของเขาต้องสลาย
ไป อะไรที่ท่าให้บรรพชนผู้ก่อตั้งเอียหยาน ต้องตกต่่า ถึงกับ
ต้องเป็นวิญญาณภายใต้การควบคุมของเนี้ยหลี่
แม้วาเขาจะรันทด แต่เขายังสามารถรักษาสิ่งที่เขาพูดได้
มันจะกลายเป็นหุ่นกระบอกวิญญาณระดับต่านาน!
แม้จะมีผู้คนจ่านวนมากสร้างหุ่นกระบอกวิญญาณมาก่อนยุด
ของอาณาจักรมืด แต่หุ่นกระบอกวิญญาณระดับต่านานนั้นยัง
มิค่อยได้ถูกพบเห็นนัก
หลังจากผนึก เอียหยาน ลงภายในหุ่นปักษาสถิตวิญาณ เอีย
หยานขยับปีกใหม่เล็กน้อย เขาบินวนไปรอบๆบนท้องฟ้าสักครู่
เมื่อเอียหยานแสดงความโกรธที่เขามีอยู่ภายใน เขา
เห็น เสี่ยวหนิงเอ๋อพยักหน้าเล็กน้อย แล้วกล่าวอย่างจริงจัง “
เสี่ยว เฟย เฟย เป็นชื่อที่ดี”
ผ่านป่าอันเงียบสงบสายลมเย็นพัดผ่านมาบ้างเป็นครั้งคราว
กลิ่นอายอันตรายสามารถรู้สึกได้เนี้ยหลี่ก็ดา่ เนินการตาม
ขั้นตอนของเขา
เสี่วยหนิงเอ๋อ กวาดสายตาของนางมายังเนี้ยหลี่อย่างสงสัย
เนี้ยหลี่สามารถแยกแยะกลิ่นอายที่แตกต่างของผู้ที่อยู่
ข้างหน้าได้ ผู้นา่ อีกคนที่อยู่ข้างเสิน่ หมิง นั้นคือ หยุนหัว ดิ
คอน ผู้ที่หนีไปพร้อมบาดแผลที่เนีย่ หลีส่ ร้างไว้ ในครั้งก่อน
กลุ่มคนพวกนี้มาจากครอบครัวศักดิ์สิทธิ์และสมาคมทมิฬ
" เสิ่นหมิงกล่าวพร้อมสายตาที่เย็นชา
เนี้ยหลี่ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา “ผู้อาวุโสเสิ่น
หมิง ช่างดื้อดึงจริงๆ ท่านได้นา่ ผู้คนจะมาฆ่าข้า รู้หรือไม่ว่า
ตามกฎหมายของเมืองกลอลี่นั้นมีโทษถึงประหารชีวิต
ถ้าท่านยอมจ่านนและตามข้าไปพบท่านเจ้าเมือง ข้ายัง
คงไว้ชีวิตพวกท่าน มิอย่างนั้นอย่าโทษข้าหากข้ากระท่าอะไรไม่
สุภาพ”เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยหลี่ ผู้คนชุดด่ามึนงงพร้อมมอง
ไปทางที่เนี้ยหลี่อย่างประหลาดใจ หลังจากนั้น พวกเขาก็
ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“เจ้าเด็กเหลือขอบ้าไปแล้ว”(เอาสมองไปทอดมันดูแปลกๆ)
“เพียงแค่หมูในอวย”
หยุนหัวดิคอน หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เขาชี้ไปทีเนีย้ หลี่และ
กล่าวว่า “เด็กน้อย ข้าต้องการทีจ่ ะดูการกระท่าที่ไม่สภุ าพของ
เจ้านั้นเป็นอย่างไร”
เมือเห็นคนชุดด่าเหล่านั้นหัวเราะ แขนขวาเนี้ยหลีไ่ ด้ลูบหุ่นเชิด
วิญญาณที่อยู่บนไหล่ของเขาเสี่ยวเฟยเฟย ฉันเลือกนาย”
“พวกลูกหลานที่ไม่ได้เรื่อง ข้าเป็นถึงผู้ก่อตั้งยังให้ท่างานที่
น่าเบื่อนี้!(ไม่แน่ใจเท่าไร)” บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งเอียหยานได้กล่าว
ว่าจากภายในหุ่นเชิดวิญญาณไม่รวู้ ่าเขาด่าผู้ที่สวมชุดสีด่าหรือ
เนี้ยหลี่ (เดาว่าเนี้ยหลี่) กรงเล็บของเขาข่วนไปที่ใบหน้าของ
ผู้ชายชุดด่าที่เป็นร่างทรงอสูรยศทอง
“อ้ากกก”
ผู้ชายชุดด่าได้กรีดร้องอนาถ ผู้ถูกผนึกภายในหุ่น
วิญญาณนั้นเป็นถึงระดับต่านาน แม้ว่าการบ่มเพาะพลังของเข่า
ยังไม่ได้กลับมา แต่ก็เทียบได้กบั ยศทอง และบรรพบุรุษผู้ก่อตั้ง
เอียหยานนั้นมีประสบการณ์การต่อสู้มากมายจนน่ากลัว การจู่
โจมนั้นมีไหวพริบและความแม่นย่ายิ่งนัก
“จับนกประหลาดนั้น”
"ท่าลายมัน!"
เป็นต่อสู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจ กลุ่มคนชุดด่านั้นล้อมรอบ
หุ่นเชิดวิญญาณ แต่กไ็ ม่สามารถทีจ่ ะจับทางเสีย่ วเฟยเฟย
ได้ รวดเร็วเกินไป!
นอกจากนี้ยังเคลื่อนที่ได้แปลกประหลาด!
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจับมัน!
เมื่อเห็นสิ่งเกิดขึ้น ผู้อาวุโสเสิ่นหมิงและดิหยุนหัว
คิดอน มีสีหน้าทีเ่ ข้มขึ้น พวกเขาไม่เคยคิดว่าเนี้ยหลี่จะสามารถ
ควบคุมนกที่แปลกประหลาด ร่างกายของนก ที่ท่าจากโลหะ
ดังนั้นการโจมตีไม่สามารถที่จะท่าอันตรายกับมันนอกจากนี้
การโจมตีของมันมีความแม่นย่า มันมักจะโจมตีตา คอหรือจุดที่
ส่าคัญอื่น ๆ
“ไม่ต้องสงใจนกนั้น จับพวกเด็กเหลือขอให้ได้”
“เนี้ยหลีร่ ะวัง”
บูม
เกิดเสียงปะทะที่ดังสนั่นร่างอ้วนๆของแพนด้าเขี้ยวปะทะกับ
เสือดาวทมิฬ พลังวิญาณที่มีพลังมากกระจาย จนท่าให้คนรอบ
ข้างได้ถอยออกมาเขาสามารถป้องกันมันได้?
ทุกคนตะลึง
แม้ว่าเขาจะอยู่ภายใต้พลังวิญาณที่น่ากลัวของเสือดาว
ทมิฬ แต่แพนด้าเขี้ยวของเนี้ยหลีไ่ ม่ได้อ่อนแอกว่าและสามารถ
ป้องกันการจู่โจมที่น่ากลัวของเสือดาวทมิฬได้
เนี้ยหลี่เป็นเพียงยศเงิน จะสามารถป้องกันการจู่โจมของ
ร่างทรงอสูรยศทองได้ หยุนหัวคิดอนไม่เคยคิดว่าเนีย้ หลีจ่ ะมี
ความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
“แต่การที่จะเอาชนะข้าผู้นี้นั้นเป็นไปไม่ได้”
เสือดาวทมิฬค่าราม อ้าปากของเขาและมุ่งไปที่เนี้ยหลี่
“พยัคฆ์ขย่าหมาป่า”
เสือดาวทมิฬอ้าปากขนาดใหญ่ ทีม่ ีฟันแหลมคมน่ากลัว
โฮรกกกกกกกก(เสียงค่าราม)
ปากขนาดใหญ่ต้องการที่จะขย้า่ เนี้ยหลี่
เมื่อเห็นเหตุการณ์เสิ่นหมิงได้ตกใจและตะโกน
เจ้าต้องการที่จะฆ่าข้า?
เนี้ยหลี่ยิ้ม เขาอยากให้เสือดาวทมิฬพยายามที่จะกัดเขา
จู่ๆแพนด้าเขีย้ วก็อ้าปาก ลูกบอลสีด่าและสีขาว ปรากฎขึ้น
อย่างรวดเร็วและพ่นไปทางปากเสือดาวทมิฬ
ระเบิดหยิน-หยาง
ลูกบอลสีด่าและสีขาวเข้าไปในปากเสือดาวทมิฬ ปะทะ
กันภายในปากและระเบิดพลังงานที่น่ากลัวกระจายออก
มาก แม้วิญญาณปีศาจเช่นเสือดาวทมิฬ ก็ไม่สามารถทนต่อ
ระเบิดหยิน-หยางภายในปากได้
ผลที่เกิดจากการระเบิดอย่างรวดเร็วที่บริเวณหัวเสือดาว
ทมิฬ ท่าให้หยุนหัวคิดอน อาเจียนเป็นเลือดและกระเด็นไป
หลายร้อยเมตรและล้มลงบนพื้นเหมือนเขาได้ตายไปแล้ว
ถ้าระเบิดหยิน-หยาง ระเบิดบนร่างกายเสือดาวทมิฬ
อย่างมากก็สร้างบาดแผลแต่ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดได้ถึง
ระดับนี้ อย่างไรก็ตามเนี้ยหลี่ระเบิด ระเบิดหยิน-หยาง ในปาก
ของเสือดาวทมิฬ
เป็นความเสียหายที่น่ากลัวมาก
หยุนหัวคิดอน ไม่คาดคิดว่าแพนด้าเขี้ยวที่เปรียบได้ดังเศษขยะ
จู่ๆจะพ่นระเบิดหยิน-หยางที่น่ากลัวได้อย่างรวดเร็ว
ถ้าเขารู้จะไม่ได้เปิดปากของเขาเมื่อเขาเผชิญหน้ากับ เนีย้
หลี่อย่างไรก็ตามมันก็สายเกินไปแล้ว!
และวรยุทธ์การบ่มเพาะพลังที่พวกเขาได้ฝึกมี
ประสิทธิภาพมาก เมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับกลุม่ ชายชุดด่า เขา
ก็ไม่ได้รับอันตรายใดๆ
เด็กเหลือขอพวกนี้อายุแค่13-14ปี?
พยัคฆ์อเวจีปกคลุมไปด้วยหนามขนาดใหญ่และร่างกายสี
ด่าแวววาว เสือดาวอสูรสีชาตมีร่างกายปกคลุมไปด้วยเกล็ด มี
ปีกงอกมาจากข้างหลังเขา ไม่ต้องพูดถึงนกกระจอกอัสนีสวรรค์
ซึ่งปกคลุมไปด้วยสายฟ้า
แม้ว่าเขาจะได้เปรียบด้านจ่านวนคนแต่ก็ไม่มีปะโยชน์ใด
เลย สีร่ ่างทรงอสูรยศทอง ผู้หนึ่งนอนสลบบนพื้นด้วยระเบิดห
ยิน-หยาน อีกคนตาบอดจากหุ่นเชิดวิญญาณ ส่วนอีกสองคน
พยายามต่อสู้กับหุ่นเชิดวิญญาณ ส่วนที่เหลือนั้นเพียงแค่ยศเงิน
การปะทะระหว่างร่างทรงอสูรยศเงิน แพนด้าเขี้ยวของเนี้ยหลี่
นั้นหาคู่เปรียบไม่ได้
สนามแรงดึงดูด
คลื่นพลังถูกกดลงบนพื้น กลุ่มร่างทรงอสูรยศเงินรู้สึกว่า
ร่างกายของพวกเขาได้หนักขึ้นหลายเท่าตัว แม้ก้าวเพียงหนึ่ง
ก้าวยังเป็นเรื่องที่ยาก
เนี้ยหลี่ให้สนามแรงดึงดูดมีผลเฉพาะกลุ่มร่างทรงอสูรยศเงิน
เซี่ยว หนิงเอ๋อ หลู่เพลี่ยวและตู่ซื่อไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลย
เสืออเวจีของตู่ซื่อจู่ๆได้ปล่อยเสียงค่ารามที่น่ากลัว จนก่อ
ให้กลุ่มร่างทรงอสูรยศเงิน เกิดความหวาดกลัวเมื่อได้ยิน
มัน เสือดาวอสูรสีชาตของหลู่เพลีย่ วกระโจนไปข้างหน้าอย่าง
รวดเร็วเกินกว่าจินตนาการ
กรงเล็บอันแหลมคมพุ่งออกอย่างต่อเนื่องจนท่าให้ ร่าง
ทรงอสูรคนหนึ่งกระเด็นออกไป
ส่าหรับเซี่ยว หนิงเอ๋อ นกกระจอกอัสนีสวรรค์ได้เรียกสายฟ้า
อย่างต่อเนื่อง ท่าให้ร่างทรงอสูรทัง้ หลายนั้นเป็นอัมพาตและผม
ของพวกเขาฟู
เนี้ยหลี่และพวกได้พลิกสถานสถานการณ์รอบอย่างสมบูรณ์
เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เสิ่นหมิงได้รู้สึกเสียวซ่าน เขา
สงสัยว่าเด็กเหล่านี้เป็นอสูรกายหรือไม่เสิ่นหมิงได้ส่งสายลับไป
รอบปราสาทเจ้าเมือง พวกเขาคิดว่าแค่สี่ร่างทรงอสูรยศทอง
และยีส่ ิบสามร่างทรงอสูรยศเงิน ก็เพียงพอที่จะจับเนี้ยหลี่และ
พวกได้อย่างง่ายดาย
เขาไม่เคยคิดว่ามันจะกลายเป็นตรงข้ามกับสิ่งที่เขาได้คิด
เนี้ยหลี่และพวกแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้
ยังมีนกประหลาดที่แม้แต่ยศทองก็ไม่สามารถท่าสิ่งใดกับมันได้
ไม่เพียงเขาไม่สามารถจับเนีย้ หลี่และพวกได้ ใบหน้าของพวก
เขาเต็มไปด้วยบาดแผลและถูกเห็นโดยเนีย้ หลี่และพวก
เมื่อเขากลับไปยังครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ เขาก่าลังจะไปอธิบาย
เรื่องนี้กับผู้น่าตละกูลคิดถึงการจองมองที่น่ากลัวของเสิ่น ฮอง
หัวใจของเสิ่นหมิงก็หนาวเหน็บเหมือนตกลงในน้่าแข็ง....จบ
ตอน
บทที่ 104 จับตัวไปสอบสวน (15+)
“เจ้าท่าให้ข้าไม่มีทางเลือก !” เสิ่นหมิงค่ารามด้วยความโกรธ
และรวมร่างกับวิญญาณอสูรหมีหมิ ะในขณะทีร่ ่างกายของเขา
ก่าลังเปลีย่ นแปลงไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ตู้มมม !! หมัดของหลู่เพียวก็กระแทกเข้าที่ท้องของเสิ่นหมิงเต็ม
ๆ ท่าให้เสิ่นหมิงรู้สึกเจ็บไปถึงล่าไส้
ถึงแม้ว่าเสิ่นหมิงจะเป็นคนที่มีต่าแหน่งฐานะสูงใน
ตระกูลศักดิส์ ิทธิ์ แต่เขาก็เป็นเพียงแค่ผู้อาวุโส ที่คอยดูแลเรื่อง
การเงินของตระกูลเท่านั้น เขาไมได้มีความสามารถด้านการ
ต่อสู้มากนัก เขาจึงเป็นเพียงแค่ระดับซิลเวอร์เท่านั้น ซึ่งเมื่อเขา
โดนหลู่เพียวต่อยเข้าที่ท้อง ท่าให้เขากระเด็นไปตกอยู่บนพื้น
ในเวลาไม่นานนัก ฝ่ายเสิ่นหมิงทุกคนก็ลงไปนอนกองกับพื้น
อย่างช่วยไม่ได้
หุ่นเชิดวิญญาณบินมาเกาะทีไ่ หล่ของเนี้ยหลี่ เหตุผลที่
เนี้ยหลี่และพรรคพวกสามารถชนะได้อย่างง่ายดาย ก็เพราะเจ้า
หุ่นเชิดวิญญาณที่ท่าหน้าทีเ่ บี่ยงเบนความสนใจจากพวกระดับ
โกลด์ หากไม่แล้ว การต่อสู้คงจะกินเวลายืดเยื้อกว่านี้เป็นแน่
หลู่เพียวเหยียบเสิ่นหมิงเอาไว้ แล้วก็ถามเนี่ยหลี่ว่า
“เนี้ยหลี่ พวกเราจะจัดการกับคนพวกนี้อย่างไร?”
“ไอ้ตาแก่ตดเหม็นเอ้ย ข้าได้ยินเรื่องราวสกปรกของ
ตระกูลศักดิส์ ิทธิ์มามาก ครั้งนี้เจ้ายังจะกล้าขู่พวกเราอีกหรือ ?
พวกเราไม่กลัวเจ้าหรอก แล้วถ้าเจ้ายังไม่หุบปากของเจ้าเอาไว้
ล่ะก็ ถ้าจะขุดหลุมส่าหรับฝังศพเจ้าเลยแล้วกัน” หลู่เพียวตอบ
กลับด้วยความโกรธ ด้วยเดิมทีตัวเขาเองก็ไม่ชอบตระกูล
ศักดิ์สิทธิ์มานานแล้ว ดังนั้นการได้เหยียบคนของตระกูล
ศักดิ์สิทธิ์ด้วยเท้าจึงท่าให้เขารูส้ ึกสะใจมาก
ตู่เซ่อมองเนี้ยหลี่แล้วถามด้วยความกังวลว่า “เนี้ยหลี่
พวกเราควรจะท่าอย่างไรกับพวกมันดี เราต้องรีบแล้วนะ
เพราะถ้าหากก่าลังเสริมของตระกูลศักดิส์ ิทธิ์มาถึงล่ะก็ ...”
“น่าตัวเสิ่นหมิงและเจ้านั่นไป พวกที่เหลือก็ปล่อยไว้ตรงนี้
แหละ !” เนี้ยหลี่พูด แล้วชีไ้ ปที่หยุนหัวคิดอน ที่อยู่ไกลออกไป
“ท่าไมเจ้าถึงปล่อยเจ้าพวกนีไ้ ปล่ะ ?” หลูเ่ พียวถาม เขารู้สึกไม่
ดีนักที่จะปล่อยให้พวกนี้ไปง่าย ๆ เพราะเขาอุตส่าห์ตั้งใจท่าให้
พวกมันสลบ ถ้าปล่อยไปง่าย ๆ เขาก็เหนื่อยฟรีน่ะสิ
“การจับตัวระดับผู้น่าได้ถึงสองคนก็ถือว่าดีมากแล้ว ! แล้วเรา
จะไปไหนกันต่อล่ะ ? ต่าหนักท่านเจ้าเมืองงั้นรึ ?” ตู่ซือถาม
หลังจากที่เนี้ยหลี่บอกให้จับสองคนนั้นมาแล้ว แล้วจะจับไปไว้ที่
ไหนล่ะ ?
เขาจะส่งพวกมันทั้งคู่ให้หยางซิน เพื่อให้อยู่ในการดูแลของ
สมาคมนักปรุงยา
ทั้งเสิ่นหมิงและหยุนหัวคิดอนนั้น คนหนึ่งก็เป็นคนที่ได้รับ
ความไว้วางใจจากท่านผู้น่าตระกูลเสิ่นฮอง จากตระกูล
ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนอีกคนก็เป็นคนส่าคัญในกิลด์มืด พวกเขาทั้งคู่
น่าจะรู้ความลับอะไรบางอย่าง และพวกเขาอาจจะช่วยท่าให้
เราสามารถเปิดเผยว่าแท้จริงแล้วตระกูลศักดิส์ ิทธิ์เป็นคนเช่นไร
!
“เดินไป !”
สหายทั้งสี่คนช่วยกันน่าเสิ่นหมิงและหยุนหัวคิดอนที่ถูกมัด
อย่างแน่นหนา มุ่งหน้าตรงไปที่สมาคมนักปรุงยา
เมื่อไปถึงสมาคมนักปรุงยาแล้ว เนี้ยหลี่และเพื่อน ๆ ได้ส่ง
ตัวของเสิ่นหมิงและเดียคอนหยุนฮัวให้กับหยางซิน เพื่อควบคุม
ตัวเอาไว้ และสอบปากค่า
ณ ตระกูลศักดิ์สิทธิ์
“ให้อภัยพวกเราด้วยเถอะท่านผู้น่าตระกูล พวกข้าไม่คิดว่า
เจ้าเด็กพวกนั้นจะพัฒนาตนเองไปจนถึงระดับซิลเวอร์แล้ว ใน
กลุ่มพวกเรา ผู้ที่ระดับสูงที่สุดก็เพียงระดับโกลด์เท่านั้น แม้แต่
หยุนหัวคิดอนยังพ่ายแพ้แก่พวกมัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีนก
ประหลาด ที่แม้แต่ระดับโกลด์กไ็ ม่สามารถต่อกรได้อยูด่ ้วย !”
ทหารผู้น้อยคุกเข่าต่อเสิ่นฮอง
เสินฮองท่าหน้าเครียดกว่าเดิม เขาไม่เคยคิดว่า
สถานการณ์จะออกมาเป็นเช่นนี้ ใครจะคิดล่ะว่าระดับโกลด์ 4
คน กับระดับซิลเวอร์อีก 23 คน จะไม่สามารถจับเด็กอายุ 14
เพียง 4 คนได้ ? ขนาดส่งคนไปมากถึงเพียงนี้ก็ยังล้มเหลว เห็น
ได้ชัดว่าคูต่ ่อสู้ในครั้งนีไ้ ม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
และสิ่งที่ท่าให้เสิ่นฮงอยิ่งโกรธก็คอื เสิ่นหมิงและหยุนหัวคิดอน
นั้นถูกเนี้ยหลี่จับตัวไปด้วย
การที่จับสองคนนั้นได้ เปรียบเหมือนกับว่าพวกนั้นจับจุดตาย
ของเสิ่นฮองได้เลยทีเดียว !
“เจ้าก่าลังบังคับให้ข้าฆ่าเจ้าเองนะ! เจ้าคิดว่าการซ่อนตัว
อยู่ในต่าหนักของท่านเจ้าเมืองจะท่าให้เจ้าปลอดภัยจากข้างั้น
หรือ ? เจ้าประเมินความสามารถของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ตา่ เกินไป
เสียแล้ว” รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฏอยู่ที่มุมปากของเสิ่นฮอง
แสดงให้เห็นถึงความเกลียดชังมาจากหัวใจ !
“จงไปสืบมา ว่าเสิ่นหมิงและหยุนฮัวถูกเก็บตัวไว้ที่ใด
แล้วก็อย่าลืมสืบไปถึงว่าใครบ้างที่เกี่ยวข้องกับเนี้ยหลี่ ตระกูล
บันทึกสวรรค์จะต้องชดใช้ ต่อให้มสี มาคมนักปรุงยาคุม้ ครองอยู่
ก็เถอะ ส่งข้อความไปถึงกิลด์มดื บอกให้กิลด์มืดฆ่าทุกคนที่มา
จากตระกูลบันทึกสวรรค์ เมื่อพวกมันออกนอกอาณาเขต !”
ดวงตาของเสิ่นฮงแสดงออกถึงความอาฆาตมาดร้าย
พวกทหารทุกคนคุกเข่าลงด้วยความกลัว พร้อมกับตอบรับ
ค่าสั่ง
“ครับท่าน”
เสิ่นซู่และเสิ่นหนวกนั่นเป็นนักสู้ระดับแบล็คโกลด์ เสิ่นฮอง
คิดถึงแผนการฆ่าเนี้ยหลี่อีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้นักสู้
ระดับโกลด์ต้องพ่ายแพ้ให้แก่เนี้ยหลี่ ครั้งนี้เขาจะไม่ประมาท
เนี้ยหลี่อีกแล้ว
“น้องชายเนี้ยหลี่ ที่เจ้าพูดว่าหยุนหัวคิดอนนั้นเป็นผู้ติดต่อ
ระหว่างกิลด์มืดและตระกูลศักดิ์สทิ ธิ์นั้น จริงหรือไม่”
“ถูกต้องแล้ว” เนี้ยหลี่พยักหน้ารับ
สมาคมปรุงยาจะท่าทุกวิถึทางเพื่อฆ่ามันพวก !
หยางซินจ้องไปที่ดาบเทพอัสนีดาวตกที่อยู่ด้านหลังเนี่ยหลี่ ยิ้ม
แล้วพูดว่า
“น้องชายเนี่ยหลี่ ท่าไมเจ้าถึงแบกดาบสนิมเขรอะเอาไว้แบบ
นั้นล่ะ แถมเจ้ายังมีนกแปลก ๆ เกาะอยู่บนไหล่เจ้าด้วย ถ้าเจ้า
ต้องการเงินเพื่อไปซื้อดาบดี ๆ ล่ะก็ บอกพี่สาวคนนี้ได้เลย ส่วน
เจ้านกนั่น เจ้าเพียงโยนทิ้งไป แล้วข้าจะหาสัตว์เลี้ยงระดับโกลด์
มาให้ !”
ใช้เงินซื้อดาบเทพอัสนีดาวตก ? ต้องใช้เงินมากมายขนาดไหน
กัน หากต้องการจะซื้อดาบเล่มนี้ ?
พลังที่แท้จริงของดาบเทพอัสนีดาวตกนั้น หากถูกใช้โดยร่าง
ทรงอสูรระดับต่านานนั้น จะสามารถใช้วิชาลับต้องห้ามได้ !
เนี้ยหลี่ยิ้มอย่างอาย ๆ เจ้าปิศาจแห่งความยั่วยวนคนนี้
จะต้องท่าเพื่อหวังผลอะไรแน่นอน นี่เขาเป็นเพียงเด็กอายุ 14
ปีนะ เธอต้องการอะไรจากเขากันแน่ ?