You are on page 1of 698

บทที่ 54 กดจุดเส้นลมปราณ

“เสี่ยวหลี่ เจ้ากลับมาแล้ว ” เนี้ยหมิงพูดพร้อมรอยยิ้ม

“อืม ท่านพ่อ ข้ากลับมาแล้ว!

เมื่อได้เห็นท่าทางที่ซูบเซียวของท่านพ่อ ตาของ
เนี้ยหลี่ช่วยไม่ได้เลยที่จะรูส้ ึกแดงก่่า ความทรงจ่าทั้งหมดใน
ชีวิตที่แล้วของเขาก่าลังซัดเข้ามาเป็นระลอก ๆ

“เซี่ยว หลี่ดูเหมือนว่าจะเติบโตสูงขึ้นนะ หล่อเหลา


มากขึ้นด้วย! หลังจากได้ใช้ชีวิตเล่าเรียนในสถาบันกล้วยไม้
ศักดิ์สิทธิ์มาหนึ่งปี พลังงานที่แผ่ออกมารอบตัวเขานั้นไม่เหมือน
แต่ก่อนเลย !” เนี้ยไค่ที่อยู่ใกล้ ๆ กล่าวขึ้นและหัวเราะไปด้วย
เขาเป็นน้องชายโดยสายเลือดของเนี้ยหมิง เขานั้นอายุอ่อนกว่า
เนี่ยหมิง 3 ปีและก็เป็นเหมือนเนี้ยหมิง ที่ไม่ได้มีพรสวรรค์ด้าน
การบ่มเพาะพลังดังนั้นเขาจึงเป็นเพียงแค่ชาวนาธรรมดา

ด้วยอายุของเนี้ยหมิงและเนีย้ ไค่ ส่วนวิญญาณของ


พวกเขาได้คงรูปเสียแล้วและพวกเขาไม่สามารถบ่มเพาะพวก
มันได้อีกต่อไป การเป็นแค่คนธรรมดาก็ยังคงเป็นสิ่งที่ดีแล้ว
ส่าหรับพวกเขา

'ในชีวิตที่แล้วของเขา ข้าไม่สามารถป้องป้องพวก
ท่านทั้งหมดได้ ในชีวิตนี้นั้น พวกท่านจะถูกปกป้องโดยข้าเอง!'

เนี้ยหลี่ได้กลับมาถึงบ้าน และหลังจากได้เห็นแม่ของ
เขาและคุณอา มีความสนุกสนาน ครอบครัวของเขานี้ได้รวมตัว
กันอีกครั้ง หัวใจของเนี้ยหลี่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความ
ตื้นตันใจ

“เนี้ยหลี่ เจ้ามีพละก่าลังเท่าไหร่แล้วตอนนี?้ ” เนี้ย


หมิง ในที่สุดก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปและได้กล่าวถามขึ้น

ทุก ๆ สายตาจับจ้องไปที่เนี้ยหลี่ ดวงตากลมโตของ


เนี้ย หยู่เปล่งประกายไปด้วย ขณะที่เธอมองมายังเนี้ยหลี่

“พวกควรจะรับประทานอาหารก่อน!” แม่ของเนี้ยห
ลี่ เซี่ยวหยุนรีบกล่าวขึ้น
ภายในชีวิตที่แล้วของเขา ไม่ว่าเรื่องใดถ้าเป็นเนี้ย
หมิงและเซี่ยวหยุน แม้ว่าการบ่มเพาะพลังของเนี้ยหลี่จะไม่
สามารถเพิ่มระดับได้และท่าให้พวกท่านรู้สึกเศร้าใจ ซ้่าแล้วซ้่า
อีก พวกท่านยังคอยสนับสนุนเนี้ยหลี่ไม่ยอมหยุด พวกท่านไม่
ถามเรื่องราวต่าง ๆ ของเนี้ยหลีม่ ากนัก อย่างไรก็ตาม เขายังคง
รู้สึกได้ถึงความคาดหวังอย่างสูงของพวกท่าน ทุก ๆ ครั้งที่เขา
ต้องรับความรูส้ ึกเหล่านี้ มันแหลมคมราวกับใบมีดที่ได้ตัดลง
บน(ใจ)เขา และเขาจะโทษตัวเองเสมอมาที่เป็นคนไร้ค่าเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม ภายในชีวิตนี้ เขาจะไม่ปล่อยให้พวก


ท่านต้องรู้สึกแย่อีกต่อไป

“การทดสอบในปีนี้ พลังวิญญาณของข้าได้ทะลุไปสู่
ค่า 100 แล้ว และข้านั้นได้เป็น ร่างทรงอสูรระดับทองแดง 1
ดาว” เนี้ยหลี่พดู ระหว่างกินอาหารอย่างสงบ เขาไม่กล้าที่จะ
บอกพวกท่านถึงพลังที่แท้จริงของตัวเขา ถ้าพวกท่านรู้ พวก
ท่านคงจะต้องตกใจจนเกือบหัวใจวายตายเป็นแน่
เนี้ยหมิงและครอบครัวไม่คาดคิดว่าเนี้ยหลี่นั้นจะ
สามารถกลายเป็นร่างทรงอสูรได้ พวกเขาต่างคิดเหมือนกันว่า
ถ้าเนี้ยหลี่นั้นได้เป็นนักต่อสู้ระดับทองแดง มันก็เป็นเรื่องมาก
เพียงพอแล้ว เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเนี้ยหลี่กลายเป็นร่างทรงอสูร
ระดับทองแดง 1 ดาว พวกเขาต่างหยุดชะงัก ตะเกียบในมือ
ของพวกเขาก็หยุดนิ่งไปด้วย

ร่างทรงอสูร ระดับทองแดง 1 ดาว?

เนี้ยหมิงและครอบครัวต่างคิดว่าพวกเขาหูฟาดไป

“ร่างทรงอสูรระดับทองแดง 1 ดาว? ” เนี้ยไค่ที่นั่ง


อยู่ใกล้ ๆ นั้นอดที่จะอ้าปากค้างไม่ได้และถามเนี้ยหลี่อีกครั้ง

“ใช่แล้ว !” เนี้ยหลี่ผงกศีรษะ ของเขา เขามองดู


ครอบครัวที่อบอุ่นของเขาได้นั่งอยูใ่ กล้ ๆ กัน เขารูส้ ึกหดหู่และ
เศร้าใจ ครั้งหนึ่งเมื่อชีวิตที่แล้วที่มแี ต่ความเศร้าโศก ในชีวิตนี้
นั้น เขาจะสามารถชดเชยให้แก่พวกเขาเหล่านั้นทั้งหมดได้

“ร่างทรงอสูรระดับทองแดง 1 ดาว!” เนี้ยหมิงและ


ครอบครัวต่างพึมพ่ากัน “บ้านของพวกเรานั้นในที่สุดก็ได้มรี ่าง
ทรงอสูรเกิดขึ้นแล้ว?”

หลังจากเวลาแห่งการหยุดชะงักอย่างเงียบงันได้ผ่าน
ไป สีหน้าของพวกเขาต่างเต็มไปด้วยความเปรมปรีดิ์ เปี่ยมล้น

ร่างทรงอสูร!

ร่างทรงอสูรใดก็ตามภายในตระกูลบันทึกสวรรค์จะ
มีสถานะทีไ่ ม่ธรรมดา นอกจากได้รับการยกเว้นการส่งส่วยทุก
ๆ เดือน พวกเขายังสามารถเรียกร้องบางสิ่งจากตระกูลได้

“ นอกจากได้เป็นร่างทรงอสูรระดับ 1 ทองแดงแล้ว
มากไปกว่านั้น ข้ายังได้รับเลือกให้เข้าสู่ห้องเรียนอัจฉริยะโดย
สถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย” เนี้ยหลีไ่ ด้คดิ ชั่วครู่และเริ่ม
พูดต่อเช่นนั้น

“ห้องเรียนอัจฉริยะนั่นงั้นหรือ? เจ้าไม่จ่าเป็นต้องมี
พรสวรรค์พิเศษเพื่อเข้าไปในชั้นนัน้ รึ?” ลูกของเนี้ยฉ่อง เนี้ย
ล่องนั้นเขาก็เป็นร่างทรงอสูรระดับทองแดง 1 ดาวด้วยเช่นกัน
แต่เขาไม่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าสู่ชั้นเรียนอัจฉริยะ!” เนี้ยไค่
พูดด้วยความงงงวย ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับสถาบัน
กล้วยไม้ศักดิส์ ิทธิ์ยังคงแจ่มชัด

เนี้ย หยู่ กระพิบตา ดวงตาโตเยิ้มมองไปทีเ่ นี้ยหลี่


ด้วยความชื่มชมและพูดว่า “พี่ใหญ่เนี้ยหลี่สดุ ยอดทีส่ ุดเลย!”

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เนีย้ หลี่เป็นดังบุคคลทีเ่ ธอ


เทิดทูน

“เฮ้ เฮ็” เนี้ยหลี่หัวเราะ ลูบไปที่หัวของเนี้ย หยู่ ใน


ชีวิตที่แล้วของเขานั้น เขาท่าได้เพียงแต่มองไปที่เนี้ย หยู่และ
คอยให้เธอคุ้มครอง

'ในชีวิตนี้ ให้ข้าได้เป็นผูห้ นึ่งที่จะปกป้องเจ้าเถอะ'


เนี้ยหลี่คดิ อยู่ภายในใจเขา

“มันน่าจะเป็นเพราะว่าพรสวรรค์ของเซี่ยวหลี่ ที่มี
แง่มุมอื่นบางอย่าง ดังนั้นเขาจึงได้ถูกเลือกให้เข้าชั้นเรียน
อัจฉริยะได้ ต้องไม่ลมื ว่าเซี่ยวหลีไ่ ม่น่าจะเป็นร่างทรงอสูรระดับ
ทองแดง 1 ดาวได้ในระเวลาอันสัน้ แค่นี้! บ้านของพวกเราใน
ที่สุดก็มรี ่างทรงอสูรซะที” เนี้ยหมิงที่เต็มไปด้วยความรู้สึก ๆ
ต่างมากมายกล่าวขึ้น

ในตอนนี้ ไม่ว่าเรื่องอะไรถ้าเป็น เนี้ยหมิง เนี้ยไค่ น้า


เมี่ยวหลิงหรือเนี้ย หยู่ พวกเขาล้วนมีความสุข เซี่ยวหยุนก็เริ่มมี
น้่าตาไหลออกมากด้วยความสุขเช่นกัน

“อนาคตของเซี่ยวหลี่จะต้องสดใสอย่างแน่นอน”
เนี้ยไค่แตะไปบนบ่าของเนี้ยหลี่

“เซี่ยวหลี่ ไปกันเถอะ! พวกเราไปหาหัวหน้าตระกูล


กัน!” เนี้ยหมิงพลันลุกขึ้นยืนทันใด หัวใจเขานั้นเต็มเปี่ยมไป
ด้วยความภาคภูมิใจ ในเวลานี้นั้น ในที่สุดเขาก็สามารถเชิดหน้า
ต่อหน้าคนในตระกูลของเขาได้ เกีย่ วกับเมื่อก่อนนั้น เนี้ยหมิ
งถูกมองด้วยสายตาดูถูกจากคนในตระกูลอยู่ตลอดเวลา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนี้ยฉ่อง ผู้ซึ่งชอบคุยอวดกับเขา ในที่สุด
เนี้ยหลี่กส็ ามารถสูเ้ พื่อกู้หน้าเขากลับมาได้

“ลูกของเราเพิ่งกลับมาถึงบ้าน ปล่อยให้เขากินก่อน
เป็นอันดับแรก เจ้าจะรีบร้อนไปท่าไมกัน?” แม่ของเขาเซี่ยว
หยุนท่าตาขึงโยนใส่เนี้ยหมิง
“ถูกต้อง ถูกต้อง!” เนี้ยหมิงหัวเราะอย่างอาย ๆ เขาเต็มเปีย่ ม
ไปด้วยความรูส้ ึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมากเป็นเหตุให้เขาตื่นเต้น
มากเกินไป

เมื่อได้เห็นครอบครัวมีความภาคภูมิใจในตัวเขา
เนี้ยหลี่ ก็รู้สึกมีความสุขมากภายในใจของเขาด้วย

“สถานการณ์ภายในตระกูลเป็นอย่างไรกันครับ?”
เนี้ยหลี่ถามระหว่างก่าลังกินอยู่

“แปลกมาก ๆ ” เมื่อหัวข้อสนทนาได้เปลี่ยนไปสู่
สถานการณ์ของตระกูล เนี้ยหมิงท่าหน้าบูดบึ้ง

“แปลก?” เนี้ยหลี่รสู้ ึกสงสัยเล็กน้อย

“ใช่แล้ว” เนี้ยหมิงผงกศรีษะ “ความมั่งมีของ


ตระกูลบันทึกสวรรค์ใกล้จะพบจุดจบ อย่างไรก็ตาม เมื่อก่อนที่
ผ่านมานี้ ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์เริม่ จะกดดันพวกเรา เป็นเหตุให้
เกิดผลร้ายแรงต่อการค้า คนที่เกี่ยวข้องกับการค้ากับตระกูล
ของพวกเราบางคนเริ่มหยุดการค้าขาย ท่าให้เหล่าอาวุโสและ
หัวหน้าตระกูลกังวลใจ หัวหน้าตระกูลเคยแม้กระทั่งส่ง
จดหมายส่วนตัวไปยังตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์เพื่อถามถึงสาเหตุ
แต่เขาก็ถูกเพิกเฉย พวกเขานั้นคงจะต้องการรอให้ตระกูล
บันทึกสวรรค์ของพวกเรามีปัญหาที่เพิ่มมากขึ้นกว่านี้ ก่อนที่
เริ่มจะคุยข้อตกลงกับพวกเรา แต่ทันทีทันใด ทางเลือกที่ดีกว่าก็
ปรากฏขึ้น ”

ทางทีด่ ีกว่าหรือครับ? เนี้ยหลี่ถาม

“ใช่แล้ว ทันใดนั้น กว่า 10 ตระกูลได้เริ่มต้นเสนอ


การค้าขายกับพวกเรา ข้อเสนอนัน้ ยังดีมาก ๆ อีกด้วย แต่ตอน
แรกนั้น หัวหน้าตระกูลคิดว่ามันเป็นกลลวง อย่างไรก็ตาม
ภายหลังที่เขาตระหนักได้ว่าพวกเขานั้นไม่ได้มสี ิ่งใดแอบแฝง
การมาติดต่อค้าขายนั้นมันเริ่มต้นมาจากความคิดของสมาคม
ปรุงยาทั้งหมด พวกเขาให้แม้กระทั่งโอกาสทางธุรกิจแก่พวก
เรามากมาย โดยให้พวกเราท่าการปลูกสมุนไพรหลายชนิด ยิ่ง
ไปกว่านั้น การจ่ายเงินก็ยังดีมาก ๆ อีกด้วย ภายใต้ร่มเงาของ
สมาคมปรุงยาแบบนี้แล้ว ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่สามารถท่า
สิ่งใดที่เป็นปฏิปักษ์แก่เราได้” เนี้ยหมิงกล่าว

เมื่อได้ยินค่าพูดของเนีย้ หมิง เนี้ยหลี่ก็เข้าใจดีว่าเกิด


สิ่งใดขึ้น ความคิดของเขานั้นผุดขึน้ มีผู้หญิงสาวสวยผู้หนึ่งขึ้นมา
ทั้งหมดนี้น่าจะถูกจัดโดย หยางซิน่

ตั้งแต่ที่เนีย้ ลี่ได้เป็นหุ้นส่วนคนส่าคัญของสมาคม
ปรุงยา การจัดการของหยางซิ่นเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย
ความแข็งแกร่งของสมาคมปรุงยาไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์เลย ทั้งทางด้านเครือข่ายการค้าก็มีความแข็งแกร่ง
มากกว่าตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์แล้ว และต้องไม่ลมื ว่า ทุก ๆ
ตระกูลยังคงจ่าเป็นต้องซื้อยาทิพย์มาจากสมาคมปรุงยาอีกด้วย
ดังนั้นด้วยการอุ้มชูของสมาคมปรุงยา ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ก็จะ
ไม่กล้าที่จะแตะต้องซึ่งตระกูลบันทึกสวรรค์ได้อีกต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยสูตรแห่งยาทิพย์ที่ได้ให้แก่พวกเขา
โดยเนีย้ หลี่ แม้กระทั่งคฤหาสน์จ้าวเมืองและทั้งสามตระกูล
หลัก จ่าเป็นต้องมาขอแก่สมาคมปรุงยา สมาคมปรุงยาได้ขยาย
ก่าลังถึงเพียงนี้แล้ว ถ้าตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ต้องการจะเป็น
ปฏิปักษ์กับสมาคมปรุงยาแล้วล่ะก็ เมื่อนั้นมันเป็นเหมือนการ
รนหาที่ตายชัด ๆ

หลังจากการกลับมาก นอกจากการได้พบญาติ ๆ
ของเขาแล้ว เขายังจ่าเป็นต้องจัดเตรียมให้ตระกูลบันทึกสวรรค์
ได้ตดิ ต่อกับสมาคมปรุงยา เขาไม่คิดว่าหยางซิ่นได้จดั การพวก
มันเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็คือเนีย้ สามารถเริ่มคิดวิธีจัดการกับ
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ ได้ย่างแน่นอนเลย สมาคมปรุงยานั้นมี
ความส่าคัญอย่างมากกับเรื่องนี้

“ท่าไมเจ้าถึงได้บอกสิ่งเหล่านี้แก่เด็กน้อยกันหึ?”
เซี่ยวหยุนมองอย่างบึ้งตึงไปที่เนี้ยหมิง ในสายตาของเธอเนี้ยหลี่
นั้นเป็นแค่เพียงเด็กตัวกะเปีย๊ ก การรู้สิ่งเหล่านีไ้ ปก็ไร้ค่า

“ความคิดของพวกผู้หญิง ตอนนี้เนี้ยหลี่นั้นเป็นร่าง
ทรงอสูรระดับทองแดง 1 ดาวแล้ว ในภายภาคหน้า เขาจะ
กลายเป็นหัวใจส่าคัญของตระกูลบันทึกสวรรค์ เมื่อถึงเวลานั้น
สิ่งทั้งหลายที่เขาจะได้เรียนรู้จะมีมากยิ่งกว่านี้เสียอีก!” เนี้ย
หมิง แย้งกลับด้วยการแสดงออกอย่างภาคภูมิใจและมีความสุข

“ดีแล้ว ไม่เป็นไร ที่เจ้ากล่าวมาถูกต้องแล้ว” เซี่ยว


หยุนกล่าวด้วยความฉุนเฉียว

ท่านพ่อและท่านแม่เป็นเช่นนี้เสมอเมื่อชีวิตที่แล้ว
พวกเขามักจะทะเลาะกันบ่อย ๆ อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์
ระหว่างพวกท่านก็ยังดีอยู่มาก เมือ่ ได้เห็นภาพเหล่านี้แล้ว
เนี้ยหลี่กไ็ ด้หัวเราะออกมา

“ท่านพ่อ ส่าหรับช่วงเวลานี้ ข้ายังคงไม่ต้องการไป


พบหัวหน้าตระกูล ข้านั้นต้องการเริ่มการฝึกฝนต่อ ” เนี้ยหลี่
เงยหน้าของเขาและมองไปที่เนี้ยหมิงและกล่าวขึ้นเช่นนั้น

“แน่นอนเลย ไปพบเขาทีหลังก็ได้!” เนี้ยหมิง


หัวเราะ

ลุงเนี้ยไค่ที่อยู่ใกล้ได้ลูบหัวเนี้ย หยู่และพูดว่า “เซีย่ ว


ยู่ ต้องฝึกฝนให้หนัก และเป็นอย่างเนี้ยหลี่นะ”

“อืม เซี่ยวยู่จะฝึกฝนให้หนัก” เนี้ย หยู่ผงกศรีษะรับ


และพูดออกไปด้วยความจริงจัง
เวลากลางคืนเริ่มคืบคลานเข้ามา มันเป็นคืนหนึ่งที่
ลมได้พัดไปทั่วทั้งป่า เต็มไปด้วยเสียงของเหล่าใบไม้ที่ขดั สีกัน
ไปตามสายลม

เนี้ยหลี่ได้ออกมาจากบ้านของเขา และมุ่งหน้าไปยัง
ป่าแห่งเนินเขาทมิฬ แล้วนั่งลงบนก้อนหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง
เขามองออกไปยังระยะทางอันแสนไกลและเห็นเพียงแสงไฟ
จากบ้านเรือนต่าง ๆ มากมาย

ตระกูลบันทึกสวรรค์เป็นตระกูลที่มีประวัติศาสตร์
มายาวนาน ประวัติศาสตร์ของตระกูลนั้นสามารถย้อนไปยังยุค
ของอาณาหิมะเหมันต์ บรรพบุรุษของตระกูลบันทึกสวรรค์นั้น
เป็นถึงลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในเวลานั้น อย่างไรก็ตาม หลัก
จากได้เผชิญกับการเปลี่ยนของยุคสมัย และเผชิญกับยุคมืดมา
เป็นเวลานาน ตระกูลบันทึกสวรรค์ก็ได้เสื่อมถอยลงเป็นตระกูล
ขนาดเล็กทีต่ อนนี้อยู่ภายในเมืองกลอรี่

เนี้ยหลี่ได้นั่งไขว้ขากันอยู่บนก้อนหินใหญ่นั้นเพื่อ
ฝึกฝนอย่างเงียบ ๆ อีกเพียงแค่ก้าวเล็ก ๆ เท่านั้นส่าหรับเขาที่
จะเข้าสูร่ ะดับเงิน เมื่อเขาได้ทะลุระดับเงินแล้ว เขาสามารถจะ
รวมเขตแดนวิญญาณกับจิตอสูรเงาพรายที่อยู่ในตะเกียงแห่งจิต
อสูรได้

ในขณะที่ใช้ยาทิพย์อย่างต่อเนื่อง เขาเคลื่อนเทคนิค
การบ่มเพาะพลัง[เทพวิถีฟ้า]ไปพร้อมกัน เนี้ยหลีส่ ามารถดูดซับ
ยาทิพย์เข้าสู่กระแสเลือดและค่อยปล่อยให้ผลของยาทิพย์
แสดงต่อเขตแดนวิญญาณของเขา สิ่งนี้ท่าให้เขตแดนวิญญาณ
ของเขาขยายกว้างออกอย่างไม่สิ้นสุด

เขตแดนวิญญาณของเขาพลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง
ต่อเนื่องตลอดเวลา ในขณะที่มันเต็มไปด้วยพลังวิญญาณ

อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาต้องการทะลุไปสู่ระดับเงิน มัน


จะค่อนข้างยากสักเล็กน้อย เนีย้ หลี่ประมาณการณ์ว่าเขาต้องใช้
เวลาประมาณสัก 10 วันที่จะท่าสิง่ นี้

“ข้าเกือบลืมไปแล้วว่า ยังมีวิธีอื่นอีกที่ข้านั้นยังไม่
เคยใช้!” เนี้ยหลี่ดเู หมือนว่าระลึกบางอย่างได้และปรากฏ
รอยยิ้มแห่งความสุข เมื่อจะท่าการลุไปสูร่ ะดับเงิน ยังมีวิธีหนึ่ง
เรียกกว่า ก่าหนดลมปราณอัศจรรย์ วิธีนี้จะอุดเลือดที่ไหลไป
เลี้ยงแขนและส่วนต่าง ๆ อีกหลายส่วนในร่างกายเขา เขา
สามารถอุดจุดเชื่อมลมปราณทั้ง 36 จุดได้และบังคับให้พลัง
วิญญาณของเขาถูกกักอยู่แต่ในเขตแดนวิญญาณ วิธีนี้เขาจะ
สามารถบังคับตัวเองให้ทะลุสู่ระดับเงินได้
ด้วยวิธีการนี้เพื่อที่จะทะลุระดับเงิน นอกจากต้อง
สูญเสียพลังวิญญาณจ่านวนมากแล้ว จะท่าให้เส้นลมปราณ
ได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามด้วยความ
ช่วยเหลือของยาทิพย์ มันสามารถรักษาได้อย่างง่ายดาย

ไม่มผี ู้ใดจะใช้วิธีการเช่นนี้ ถ้าเขาผู้นั้นไม่ได้มีความ


มั่นใจสูงมาก
บทที่ 55 - เนื้อแท้แห่งจารึกสวรรค์

หลังจากพลังวิญญาณของเขาถูกขังอย่างสมบูรณ์ พลังวิญญาณ
ของเขาเริ่มที่จะสะสมและไปรวมตัวกันที่จุดศูนย์กลางของเขต
แดนวิญญาณของเขามากขึ้นเรื่อยๆ เนี่ยหลี่ยังใช้ยาทิพย์ทุก
ประเภทที่จะท่าให้มีการเสริมสร้างพลังวิญญาณของเขา และ
มันท่าให้พลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนพลัง
วิญญาณได้รวมตัวอย่างหนาแน่น มันเป็นเหมือนราวกับอากาศ
ที่ได้ถูกบีบอัดไปยังจุดๆหนึ่ง ท่าให้มันสามารถจะมีการระเบิด
พลังที่น่าเกรงขามขึ้นได้

พลังวิญญาณของเขาได้เพิม่ พูนอย่างต่อเนื่องแล้วก็ถูก
บีบอัดกันภายในขอบเขตจิตวิญญาณของเขาโดยไม่สามารถที่
จะหาทางออกได้
มันถูกบีบอัดอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาและเหมือนกับว่า
มันจะไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย

เนี่ยหลี่ รู้สึกว่าเขตแดนวิญญาณของเขาได้รับการฉีก
ขาดตลอดเวลาแต่กไ็ ด้รับการฟื้นฟูทันทีเช่นกันความเจ็บปวดนี้
ช่างรุนแรงท่าให้การใบหน้าของเขาซีดขาวเหงื่อก็ไหลลงมา
เหมือนสายฝน
ภายในเขตแดนวิญญาณของเขาพลังวิญญานเริ่มอัด
แน่นมากขึ้นจนท่าให้เกิดการแตกร้าวของเขตแดนวิญญาณของ
เขาหลายต่อหลายครั้ง เนี่ยหลีร่ ู้สกึ ได้ถึงเขตแดนวิญญาณของ
เขาที่ได้เพิม่ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

สุดท้าย 'บูมมมม'

แรงบีบอัดของพลังวิญญาณเริม่ ระเบิดแล้วกระจายไป
ทั่วในเขตแดนวิญญาณของเขาแล้วก่อให้เกิดพลังวิญญาณ
เพิ่มขึ้นทันที

อ้า อ้า อ้า!!


จากนั้นอาการปวดที่น่ากลัวก็ตามมาปกคลุมร่างกาย
ของเขาเปรียบเหมือนได้มีเข็มนับล้านเล่มได้แล่นมาเจาะเข้าไป
ยังสมองของเขา

ส่วนของลมปราณของเขาก็ยังมีการฉีกขาดอย่าง
ต่อเนื่อง เนี่ยหลีไ่ ด้ทนความเจ็บปวดที่รุนแรงเพื่อรอคอยเวลานี้
เวลาที่แรงบีบอัดของพลังวิญญาณได้เปิดทะลุจุดลมปราณต่าง
ๆ ที่เขาได้ปดิ เอาไว้

ฟิ้ววว! เนี่ยหลี่รสู้ ึกโล่งที่รา่ งกายของเขาได้รับการผ่อน


คลายลง แม้ว่าจุดลมปราณของเขาได้รับความเสียหาย
ค่อนข้างมาก แต่ในขณะนี้ใบหน้าของเนี่ยหลี่ก็เต็มไปด้วยความ
ดีใจ มันเป็นไปตามทีเ่ ขาคิด การใช้เทคนิคการก่าหนดลมปราณ
อัศจรรย์นี้ท่าให้พลังวิญญาณของเขาขยายออก และมันท่าให้
สามารถไปถึงระดับเงินได้

หลังจากที่ใช้การบังคับจิตวิญญาณเสร็จสิ้นเขาจะต้องกู้
พลังงานคืนก่อนถึงจะไปถึงยศเงินร่างทรงอสูรได้!

เนี่ยหลีเ่ ริ่มกินยาทิพย์หลายอย่างเพื่อกู้คืนพลังของเขา
แล้วเริม่ ที่จะฝึกพลังต่ออย่างเงียบ ๆ หลังจากการเพิ่มพลังไปยัง
เขตแดนวิญญาณในปัจจุบันของเขาแล้วนั้น ในตอนนี้เขา
สามารถที่จะดูดซับพลังงานหยินคืนได้แล้ว ด้วยความจริงที่ว่า
เขาเป็นผู้ชาย ตัวของเขานั้นเต็มไปด้วยพลังงานหยางดังนั้นเขา
จะไม่เป็นเหมือนเช่น เสี่ยวหนิงเอ๋อ
[(เกร็ดความรู้)จีนพูดเสมอว่าหยินหยาง เป็นตัวแทนของผู้ชาย
และผูห้ ญิงโดยผูห้ ญิงคนหนึ่งจะเต็มไปด้วยหยินและผู้ชายก็จะ
เต็มไปด้วยหยาง]

หลังจากฝึกไปประมาณหนึ่งชั่วโมงเขตแดนวิญญาณ
ของเนี่ยหลี่ก็ได้ฟื้นฟูพลังกลับมาเหมือนเดิมเรียบร้อยแล้ว ใน
ที่สุดเขาก็ได้ไปถึงระดับเงิน

เนี่ยหลีเ่ ปิดตาของเขาขึ้นดวงตาของเขาเป็นประกาย
ในที่สุดเขาก็สามารถใช้ตะเกียงแห่งจิตอสูรเงาพรายได้
มีเสียงดังเหมือนปีศาจดังออกมาจากตะเกียงแห่งจิต
อสูรเงาพราย แล้วได้ปรากฏแสงซึง่ จิตอสูรเงาพรายสิงสถิตอยู่
อย่างไรก็ตามเนี่ยหลีไ่ ม่ได้วิตกแต่อย่างใด พลังวิญญาณของเขา
นั้นเปรียบเหมือนดังเชือกที่ได้เข้าไปพันรอบยังแสงนั้น

พลังวิญญาณของเนี้ยหลี่ได้ค้นพบเงาด่าหนึ่งเงา
เมื่อพลังวิญญาณของเขากระทบรอบ ๆ เงาด่านั้น จิตอสูรแห่ง
เงาเริ่มกรีดร้องอย่างทรมานพยายามที่จะต่อต้านเขาโดยการ
พยายามพุ่งผ่านพลังวิญญาณของเนี้ยหลี่ออกไป

จิตอสูรแห่งเงาทันใดก็สั่นสะท้านและยังคงต่อต้าน
ต่อไป อย่างไรก็ตามภายใต้แรงกดดันพลังวิญญาณของเนี้ยหลี่
จิตอสูรแห่งเงาค่อยสูญสูญเสียพลังในการต่อต้านลงเรื่อย ๆ

'วู๊ชชช' จิตอสูรแห่งเงาได้กลายเป็นเงาด่า ๆ
อันหนึ่งและเข้าไปสูเ่ ขตแดนวิญญาณเนี้ยหลี่ ครั้นเมื่อจิตอสูร
ตนใดเข้าไปในเขตแดนวิญญาณของร่างทรงจิตอสูรแล้ว พวก
มันจะถูกควบคุมโดยร่างทรงอสูรผ่านการให้พลังวิญญาณของ
ร่างทรงอสูรเสริมเข้าไป ถ้าร่างทรงอสูรไม่ได้ปลดปล่อยจิตอสูร
ด้วยตัวของเขาเอง จิตอสูรจะไม่สามารถมีอสิ ระได้

เหมือนกับท่าการตีตราไว้แล้วโดยพลังวิญญาณ

หลังจากรวมร่างกับจิตอสูรแห่งเงา เขตแดน
วิญญาณเนี้ยหลีไ่ ด้ขยายมากขึ้นเป็นสองเท่า ครั้งเมื่อได้รวมร่าง
กับจิตอสูร ร่างทรงอสูรและจิตอสูรจะส่งผลลัพธ์ซึ่งกันและกัน
แม้กระทั่งความเร็วในการฝึกพลังวิญญาณจะเพิ่มเป็นสองเท่า
ของความเร็วปกติ

จิตอสูรแห่งเงาเป็นหนึง่ ในจิตอสูรที่ลึกลับที่สดุ น้อย


คนนักที่จะรู้ถึงคุณสมบัติของมัน ดังนั้นจึงมีร่างทรงอสูรจ่านวน
น้อยมากที่จะสามารถใช้ความสามารถต่อสู้ของเขาเพื่อดึงพลัง
ของมันออกมาได้ แต่สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลยส่าหรับเนี้ยหลี่

จิตอสูรแห่งเงามีพลังมากอย่างน่าฉงน ใน
ขณะเดียวกันมันก็มรี ะดับการเติบโตที่สูงอย่างมากอีกด้วย
ดังนั้นมันไม่สามารถจะเทียบได้เลยกับจิตอสูรธรรมดาพวกนั้น
ยิ่งไปกว่านั้นสมองของเนี้ยหลี่เต็มไปด้วยทักษะการต่อสู้ส่าหรับ
จิตอสูรแห่งเงานี้ เมื่อนั้นแล้วเขาจึงสามารถดึงพลังของจิตอสูร
แห่งเงาออกมาได้ทั้งหมด
เนี้ยหลี่เคลื่อนมือของเขาและเรียกจิตอสูรแห่งเงา
ออกมา แล้วเขารีบรวมกับจิตอสูรตนนั้นอย่างรวดเร็ว ในขณะนี้
ร่างกายของเนี้ยหลีไ่ ด้หายไปและก็ปรากฏมาอีกครั้งคล้ายกับผี
และเคียวกระดูกได้งอกขึ้นมาจากแขนทั้งสองของเขา คล้าย ๆ
กับตั๊กแตน จิตอสูรแห่งเงาสามารถอยู่ใน รูปแบบหายตัว และ
รูปแบบปรากฏตัว เมื่อเนี้ยหลี่ได้เข้าสู่รูปแบบหายตัว น้อยคน
นักที่จะสามารถจับถึงพลังงานรอบตัวเขาได้ อย่างไรก็ตามเมื่อ
อยู่ในรูปแบบหายตัว เนี้ยหลี่จะไม่มีความสารถในการโจมตี แต่
เมื่อเขาเข้าสู่รูปแบบปรากฏตัว เขาจะสามารถท่าซึ่งการโจมตี
ไปที่จุดส่าค่ญให้ถึงแก่ชีวิตได้

จิตแห่งอสูรเงามีทักษะการลอบโจมตีที่ทรงพลัง
อย่างมากที่สุด เมื่ออยู่ระหว่างการต่อสู้ แม้กระทั่งผู้ที่อยู่
ระดับสูงแล้วก็สามารถถูกจัดการได้ ถ้าพวกเขานั้นไม่ระวังตัว
เคียวกระดูกนั้นมีความยาวประมาณ 1 เมตร มีแสง
เย็น ๆ สะท้อนอยู่ ดูเหมือนจะคมอย่างมาก

เนี้ยหลี่มองดูการเปลีย่ นรูปที่สองแขนของเขา และ


มองไปยังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่อยู่หา่ งไปไกลหลายเมตร

เนี้ยหลี่เก็บเคียวนั้นด้วยความพึงพอใจ ด้วย
ความคิดหนึ่ง ร่างของเขาค่อย ๆ โปร่งใสและหายไปจากจุดนั้น
หลังจากนั้นชั่วครู่ ตัวของเขาก็ได้ปรากฏออกมาอีกครั้ง
“มันคุ้มค่าอย่างยิ่งที่รู้จักจิตอสูรแห่งเงานี้”!” เนี้ยห
ลี่ยิ้มเบา ๆ ปรากฏให้เห็นรอยยิ้มพึงพอใจปรากฏบนใบหน้า
ของเขา จิตอสูรแห่งเงานีไ้ ปนักฆ่าอย่างแท้จริงเมื่อท่าการสู้กับ
ฝ่ายศัตรู ภายใต้สถานการณ์ปกติบุคคลธรรมดาที่ไม่ได้ระวังตัว
สามารถถูกฆ่าได้โดยง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีอัตราการเติบโตที่
สูงมาก ซึ่งสามารถค่อย ๆ เพิ่มความแข็งแกร่งได้ขณะที่การบ่ม
เพาะพลังของเนี้ยหลี่ได้เพิ่มสูงขึ้น

เนี้ยหลี่ที่ท่าการเลือกจิตอสูรแห่งเงามาเป็นจิตอสูร
ตนแรกนั้นเป็นการตัดสินใจเลือกที่ถูกต้องที่สุดแล้ว

เนี้ยหลี่สามารถคุ้นเคยและดึงพลังมาประยุกต์ใช้ซึ่ง
จิตอสูรแห่งเงานี้ได้ในเวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง แต่ส่าหรับคน
ปกติแล้วการท่าสิ่งนี้ได้ต้องใช้เวลาเป็นเดือนเลยทีเดียว
“ไม่เลว ไม่เลว” เนีย้ หลี่พูดพร้อมรอยยิ้ม เขานั่ง
ไขว้ขาลง เขาช่าเลืองไปที่ตะเกียงวิญญาณที่แตกหัก หลังจากที่
รวมร่างกับจิตแห่งอสูรเงาแล้ว สิ่งนี้ก็ไม่มีประโยชน์อันใด เขา
จึงโยนมันไปทีม่ ุมหนึ่งของกระเป๋าต่างมิติ

ในตอนนี้ รูปร่างเล็ก ๆ ร่างหนึ่งได้วิ่งอย่างเร็วมายัง


ทิศทางของเขา

ภายใต้แสงสลัวของดวงจันทร์ เนี้ยหลีส่ ามารถ


มองเห็นรูปร่างของคนผู้นั้นได้ เขาได้มองเห็นเซี่ยว หยู่

“เสี่ยว หยู่ ท่าไมเจ้าถึงมาที่แห่งนี้กัน?” เนี้ยหลี่ถาม


และมองไปทีเ่ นี้ย หยู่
“ข้านอนไม่หลับ ดังนัน้ ข้าจึงต้องการฝึกฝนเหมือน
เช่นพี่ใหญ่เนี้ยหลี!่ ” เนี้ย หยู่กล่าว ใบหน้าเธอเอาจริงอย่างไร้
เดียงสา

“ก่อนที่จะกลายเป็นระดับเงิน มันดีทสี่ ุดที่จะไม่


ฝึกฝนในเวลาค่่าคืน มันจะส่งผลเสียมากว่าผลดี” เนีย้ หลีไ่ ด้
สอนเนี้ย หยูด่ ้วยสีหน้าจริงจัง

“ถ้าเช่นนั้น ท่าไมพี่ใหญ่เนี้ยหลี่จึงฝึกตนในเวลา
กลางคืนเช่นนี้กันล่ะ?”
“ข้า....” เนี้ยหลี่ไม่สามารถพูดว่าตัวเขานั้นได้ถึง
ระดับเงินแล้ว “ผู้ชายนั้นแตกต่างจากผู้หญิง ที่มีพลังงานหยาง
อยู่มากดังนั้น พวกเราจึงไม่กลัวว่าพลังหยินจะเข้าสู่ตัวพวก
เรา”

“ข้าไม่เชื่อท่านหรอก” เนี้ย หยู่กล่าว เธอท่าหน้า


มุ่ยอย่างไม่เชื่อ

เนี้ยหลี่สั่นหัวเขาอย่างช่วยไม่ได้ เนี้ย หยูเ่ ป็นเด็กตัว


เล็กที่ดื้อดึงมาก ไม่ว่าผู้อื่นจะพูดเช่นไร ก็ไม่สามารถเข้าสู่สมอง
เธอได้

เนี้ยหลี่คิดชัว่ ขณะก่อนพูดว่า “เมื่อข้าได้กลับ


มาแล้ว ข้าจะสอนเนี้ย หยู่ถึงเทคนิคการบ่มเพาะพลัง”
“ใช่เลย! ขอบคุณค่ะ พี่ใหญ่เนี้ยหลี่” เนี้ย หยู่ถูมือ
ทั้งสองของเธออย่างตื่นเต้น หน้าน้อย ๆ เหมือนขนมปังกลม
ล้วนเต็มไปด้วยความคาดหวัง

เนี้ยหลี่น่าเอาอัญมณีออกมาจากกระเป๋าต่างมิติ
ของเขา แล้วยื่นมันให้เนี้ย หยู่และกล่าวว่า “เริ่มแรก ใส่พลัง
วิญญาณของเจ้าเข้าไปในอัญมณีวญ ิ ญาณขั้นต้นนี้”

“ ตกลง ” เนี้ย หยู่ไม่คิดมากและใส่พลังวิญญาณ


เข้าไป หลังจากนั้นชั่วครู่อัญมณีวญ
ิ ญาณเริม่ ปรากฏแสงออกมา
“พลังวิญญาณ 32 ไม่เลวเซี่ยวยู่ เจ้ามีอายุเพียง
9 ขวบก็ ได้มีพลังวิญญาณสูงถึงเพียงนี้..” ทันใดนั้นเนี้ยหลี่ก็
หยุดคิดในทันที สายตาของเขาเพ่งมองไปที่ภายในของอัญมณี
วิญญาณและถูกท่าให้ตกใจ พึมพ่าบางสิ่งออกมา ”ไม่ต้องสงสัย
เลยว่าท่าไมการบ่มเพาะพลังของเซี่ยวยู่ถึงได้รวดเร็วเช่นนี้ มัน
ปรากฏว่าเซี่ยวยู่นั้นมี[เนื้อแท้แห่งจารึกสวรรค์]”

“พี่ใหญ่เนี้ยหลี่ อะไรคือ [เนื้อแท้แห่งจารึก


สวรรค์]?” เนี้ย หยูส๋ งสัยมากด้วยความที่เธอไม่เคยได้ยินเรื่อง
เล่านี้มาก่อน และพี่ใหญ่เนี้ยหลี่กบ็ อกว่าความเร็วในการบ่ม
เพาะพลังของเธอนั้นเร็วมาก แต่เธอไม่ได้ตระหนักถึงมันมา
ก่อน

สิ่งที่เนี้ย หยูไ่ ม่เข้าใจนัน้ เป็นเนี้ยหลี่ที่กล่าวโดย


หมายถึงในชีวิตที่แล้วของเธอ มันเป็นเรื่องน่าผิดหวังก่อนที่
ความสามารถของ [เนื้อแท้แห่งจารึกสวรรค์] จะปรากฏ เธอก็
ได้จบชีวิตลงแล้วในศึกต่อสู้

เนี้ยหลี่วางมือลงบนศรีษะของเนี้ย หยู่และกล่าวว่า
“จุดเริม่ ต้นของตระกูลบันทึกสวรรค์ของพวกเรานั้นอยู่ใน
อาณาจักรหิมะเหมันต์ พวกเรามีประวัติศาสตร์มายาวนานมาก
นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลบันทึกสวรรค์ต่างมี[เนื้อแท้
แห่งจารึกสวรรค์] ด้วยกันทั้งหมด ความเป็นไปได้ที่สิ่งเหล่านี้จะ
ปรากฏภายในร่างกายของพวกเรามีประมาณแค่ 1 %ซึ่งนั่น
หมายความว่าภายในตระกูลของพวกเราหนึ่งร้อยคนจะมี[เนื้อ
แท้แห่งจารึกสวรรค์]ปรากฏหนึ่งคน มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่
เทคนิคการบ่มเพาะพลังส่าหรับผูม้ ี [เนื้อแท้แห่งจารึกสวรรค์]
ได้หายสาบสูญเป็นระยะเวลานานจากยุคมืด ”

“อืม.” เนี้ย หยู่กระพิบตาของเธอ เข้าใจได้เพียงแค่


เล็กน้อย
เป็นสิ่งดีทภี่ ายในหนังสือแห่งจิตอสูรท่องเวลานั้นมี
เทคนิคการบ่มเพาะพลังส่าหรับผูม้ ี [เนื้อแท้แห่งจารึกสวรรค์]
เนี้ยหลีร่ ู้สึกชุ่มชื่นในหัวใจ ด้วยความตระหนักว่าเขาสามารถใช้
สิ่งนี้ฝึกฝนเซี่ยวหยู่ได้ !

“พี่ใหญ่เนี้ยหลี่ยังจะสอนเซี่ยวยู่ถึงการบ่มเพาะพลัง
อยู่หรือไม่?” เนี้ย หยู่ถามขึ้น ด้วยความกังวลเล็กน้อย เพียง
เพราะว่าเทคนิคเหล่านั้นได้สาปสูญไปนานแล้ว นั่นหมายความ
ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเรียนรู้มันได้อีกต่อไปอย่างนั้นหรือ

“แน่นอน อย่างไรก็ตาม เจ้าต้องเก็บเทคนิคการบ่ม


เพาะพลังที่ข้าสอนเจ้านี้อย่างเป็นความลับนะ เซี่ยวหยู่ไม่
สามารถบอกผู้ใดเกีย่ วกับมันได้ มันจะเป็นความลับเล็ก ๆ ของ
พวกเราสองคน เจ้าสามารถให้ค่ามั่นกับพี่ใหญ่เนี้ยหลีไ่ ด้
หรือไม่?” เนี้ยหลีม่ องอย่างอ่อนโยนไปยังเนี้ย หยู่และพูดขึ้น
ด้วยความรู้ของเขาในตอนนี้เกี่ยวกับตระกูลบันทึกสวรรค์ที่ยัง
ไม่เป็นปึกแผ่น มีเรื่องขัดแย้งกันอยู่อย่างมากมาย ดังนั้นเนี้ยหลี่
จึงไม่ตั้งใจที่จะบอกกล่าวถึงเทคนิคเหล่านี้แก่ตระกูลของเขา

“อืม!” เนี้ย หยู่ผงกศรีษะรับด้วยความจริงจัง


“เซี่ยวหยู่จะไม่บอกผู้ใดแน่นอน!”

เนี้ยหลี่สอนเนีย้ หยู่ถึงบทสวดบทแรกของการบ่ม
เพาะพลังของ [เนื้อแท้แห่งจารึกสวรรค์] เนี้ย หยู่ได้ท่องมัน
ออกมา ด้วยค่าพลังวิญญาณ 32 ความจ่าของเธอนั้นค่อนข้างดี
ทีเดียว ในไม่ช้าเธอก็จ่าบทสวดนีไ้ ด้อย่างสมบูรณ์

เพื่อความปลอดภัย แค่บทสวดบทแรกก็เพียงพอ
แล้ว เขาจะคอยให้เนี้ย หยูฝ่ ึกส่าเร็จซึ่งบทแรกเสียก่อน
หลังจากนั้นเข้าจะสอนบทสวดต่อไป อย่างไรก็ตาม เนีย้ หยู่นั้น
ยังเล็กและไร้เดียงสา ดังนั้นเธอจึงถูกหลอกได้ง่าย

เนี้ย หยู่ท่องบทสวดของเทคนิคบ่มเพาะพลังในใจ
เธอ ในไม่ช้า พลังวิญญาณของเธอภายในเขตแดนวิญญาณของ
เธอได้เพิม่ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ภายในยุคของอาณาจักรหิมะเหมันต์ ร่างทรงอสูรผู้
มี [เนื้อแท้แห่งจารึกสวรรค์] ต่างรูจ้ ักกันดีว่าเป็นหนึ่งในสาม
ของร่างทรงอสูรที่มีพลังแข็งแกร่งมากที่สุด ภายในยุคนั้น
อัจฉริยะมีอยู่เป็นจ่านวนมาก ร่างทรงอสูรระดับต่านานภายใน
อาณาจักรมีอยู่เต็มไปทั่ว แต่กระนัน้ ก็ตามผู้ทมี่ ี [เนื้อแท้แห่ง
จารึกสวรรค์] ก็ยังคงมีชื่อเสียงอย่างมาก ดังนั้น ผู้ใดก็ตาม
สามารถรูไ้ ด้เลยว่าพลังของ [เนื้อแท้แห่งจารึกสวรรค์] มีพลัง
มากเพียงใด
บทที่ 56 - ลอบสังหาร

เนี้ยหลีส่ อนบทสวดแรกของ [เนื้อแท้แห่งจารึก


สวรรค์] แก่เนี้ย หยู่ หลังจากที่เธอจดจ่ามันได้ เนีย้ หยู่ ก็ไปหา
พื้นที่ว่างแห่งหนึ่งแล้วเธอก็เริ่มฝึกฝน

เวลาค่่าคืนทีล่ ่วงเลยไป ความมืดเริ่มมีมากขึ้นและมาก


ขึ้นเรื่อย ๆ มีซึ่งบางเงาบางสิ่งได้กา้ วอย่างรวดเร็วข้ามผ่านป่า
แห่งนี้

เนี้ยหลีส่ ัมผัสได้ถึงบางสิ่งจากระยะห่างที่ไกลออกไป
เขาสังเกตว่ามีร่างหลายร่างก่าลังเคลื่อนไหวใกล้กับหน้าผาห่าง
ออกไปไม่กี่กิโลเมตร คิ้วเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย และ
เคลื่อนมือขวาของเขา เงาร่างหนึ่งปรากฏอยู่ในอากาศและล่อง
ไปยังป่าเบื้องหน้า
เขาได้ปล่อยจิตอสูรแห่งเงาออกไปโดยมิได้รวมร่างกับ
มัน จิตอสูรนั้นไม่สามารถต่อสู้ได้ถา้ ไม่ได้รวมร่างกับร่างของร่าง
ทรงอสูร อย่างไรก็ตาม ร่างทรงอสูรสามารถมีสัมผัสรู้สึกได้ถึง
สิ่งที่จิตรอสูรนั้นเห็นและได้ยิน ซึ่งมันเป็นประโยชน์มากใน
บางครั้ง

พลังงานรอบ ๆ ของจิตอสูรทั่วไปนั้นสามารถถูกพบได้
โดยง่าย แต่จิตอสูรแห่งเงานี้สามารถซ่อนพลังรอบ ๆ ตัวและ
ร่องรอยของมันได้ ดังนั้น มันจึงเหมาะยิ่งนักส่าหรับใช้ในการ
สอดแนมและตรวจสอบบริเวณรอบ ๆ

ในไม่ช้าจิตอสูรแห่งเงาก็พบกับรูปร่างหลายร่าง
ห่างไกลออกไป ผ่านสายตาของจิตอสูรแห่งเงา เนีย้ หลีส่ ามารถ
เห็นคนสามคนที่ได้สวมใส่ชุดคลุมสีด่า ที่ก่าลังซ่อนตัวอยู่ในป่า
เนี้ยหลี่ควบคุมจิตอสูรแห่งเงา ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้
และระบุต่าแหน่งที่แน่ชัดของคนทั้งสาม

คนเหล่านั้นก่าลังพูดคุยระหว่างพวกเขาเอง

“ที่นี่คืออาณาเขตของตระกูลบันทึกสวรรค์”

“พวกเราต้องระมัดระวังตัวให้มาก ที่นี่ยังมี
ผู้เชี่ยวชาญระดับทองอยู่หลายคน ถ้าพวกเราไปพบกับเจ้าพวก
นั้น พวกเราต้องตายเป็นแน่”
“พวกเจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าหนูนั่นที่ชื่อเนี้ยหลี่ตอนนีไ้ ด้
อยู่ในบ้านเก่า ๆ หลังหนึ่งภายใต้ภเู ขาแห่งนี้”

“แน่นอน ข้าได้ไปตรวจสอบเมื่อตอนกลางวันมาแล้ว
พ่อของเจ้าหนูนั่นไม่ได้ฝึกพลัง ดังนั้นพวกเราจะสามารถจัดการ
พวกมันโดยไม่ถูกสังเกตุได้”

ผ่านการได้ยินจากจิตอสูรแห่งเงา เนี้ยหลี่ได้ยินการ
สนทนาของพวกมัน คิ้วของเขาขมวดเข้าเล็กน้อย 'พวกมัน
เหล่านีม้ าจากตระกูลศักดิส์ ิทธิ์เช่นนั้นหรือ?'
จากการดูพวกมันแล้ว พวกคนทั้งสามเหล่านี้ตั้งใจเพื่อ
มาจัดการเขา อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งสามน่าจะอยู่แค่ระดับ
เงิน

เสียงหนึ่งของบางคนรู้สึกคุ้นหูของเนี้ยหลี่เป็นอย่าง
มาก เขาจ่ามันได้ในทันที หนึ่งในสามคนนี้คือ หยุน หัวดิคอน
จากสมาคมทมิฬ
หลังจากได้พบกันที่เมืองนครกล้วยไม้โบราณ เนี่ยหลี่ก็
ได้จ่าน้่าเสียงของคนผู้นี้ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในสมองของเขา
โชคยังดี พวกมันที่มานั้นล้วนอยูเ่ พียงแค่ระดับเงิน จ่านวนของ
ผู้เชี่ยวชาญที่อยุ่ระดับทองมีอยู่น้อยมากในเมืองกลอรี่นี้ ทุก ๆ
คนจะมีป้ายชื่อพิเศษติดอยู่ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องส่าคัญ
ส่าหรับผุ้เชี่ยวชาญระดับทองของสมาคมทมิฬที่จะแทรกซึมสู่
เมืองกลอรี่ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สดุ ในพวกมันเหล่านีม้ ีเพียงหยุนหัว
ดิคอนเท่านั้น

คิ้วของเนี้ยหลี่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยและปลดปล่อย
การรับรู้แรงกล้าออกจากจิตอสูรแห่งเงา อย่างลาง ๆ เนี้ยรูส้ ึก
ได้ถึงก่าลังของเหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับเงินทั้งสามนี้ หนึ่งคนอยู่ที่
ระดับเงิน 5 ดาว และอีกสองคนนัน้ อยู่ที่ระดับเงิน3 ดาว

“นี่ค่อนข้างจะเป็นเรื่องยากที่จะรับมือ” เนี้ยหลี่พึมพ่า
คิ้วขมวดอีกครั้ง ถ้าพวกเขาอยู่ที่ระดับเงิน 1 ดาวหรือ ระดับ
เงิน 2 ดาว เนี้ยหลี่จะสามารถรับมือกับพวกมันได้ และส่าหรับ
ระดับเงิน 3 ดาวแล้วเนี้ยหลี่ก็ยังสามารถหาทางที่จะจัดการ
พวกมันได้ อย่างไรก็ตาม พวกมันมีระดับเงิน 5 ดาวมาด้วยซึ่ง
นั่นค่อนข้างจะจัดการยากอยูส่ ักหน่อย

ถ้าพวกมันทั้งสามได้เข้ามายังบ้านของเนี้ยหลี่ นั่นจะ
เป็นปัญหาอย่างมาก

“เซี่ยวยู่ รีบไปเร็วเข้าและแจ้งพวกผู้ใหญ่ บอกพวก


เขาว่ามีคนหลายคนจากสมาคมทมิฬถูกพบเห็นอยู่ในป่า!”
เนี้ยหลี่คดิ อยู่ชั่วครูแล้วค่อยพูดกับเนี้ย หยู่ เช่นนั้น

“คนจากสมาคมทมิฬ?” ตาของเนี้ยอยู่ปรากฏความ
กลัวอยู่ภายใน ด้วยอายุเท่านี้ เธอก็เคยได้ยินเรื่องราวอันน่า
กลัวของสมาคมทมิฬว่าเป็นเช่นไร “เช่นนั้นแล้ว ท่านก่าลังจะ
ไปไหน? พี่ใหญ่เนี้ยหลี่ ไปด้วยกันเถอะ!”

“ข้านั้นไม่เป็นไรหรอก ข้าจะไม่เข้าไปปะทะกับพวก
มัน ข้าจะรอคอยจับตาดูพวกมันเอาไว้ รีบไปและแจ้งพวก
ผู้ใหญ่ ภายกลุ่มคนเหล่านี้ มีอยู่หนึ่งคนที่อยู่ระดับเงินห้าดาว ผู้
ที่อยู่ระดับทองต้องมาที่นี่!” เนี้ยหลี่ กล่าว เพื่อป้องการการถูก
โจมตีจากเหล่าสัตว์อสูร บริเวณของตระกูลบันทึกสวรรค์
จะต้องมีผู้ที่อยูร่ ะดับทองคอยตรวจตราทุก ๆ วัน ทั้งหมดที่เธอ
ต้องท่าคือเรียกผูล้ าดตระเวนอาวุโสมายังที่แห่งนี้

“เซี่ยวยู่ เร็วเข้า ! เจ้าไม่สามารถมัวชักช้าอยู่ได้อีก


ต่อไป!” เนี้ยหลี่เร่งด้วยความกังวล
เมื่อเห็นเนี้ย หยู่ ก่าลังวิ่งไปไกลออกไป เนี้ยหลีร่ ู้สึก
โล่งใจขึ้น มีอยู่สองเหตุผลที่ให้เนี้ย หยู่ ไปตามพวกผู้ใหญ่ อย่าง
แรกเพื่อขอความช่วยเหลือ และอีกอย่างเพื่อส่งเธอออกไปจาก
บริเวณนี้ ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถมีสมาธิไปที่การจัดการกับ
สถานการณ์ ณ ขณะนีไ้ ด้

เนี้ยหลี่ พรางตัวเขาอย่างระมัดระวัง ค่อย ๆ เข้าไป


ไกล้บริเวณที่พวกมันทั้งสามก่าลังอยู่ในตอนนี้

แม้ว่าความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้จะมากยิ่งนัก แต่ศตั รูก็


อยู่ในที่โล่งซึ่งเขาสามารถรับรูไ้ ด้ และตัวเขานั้นได้ซ่อนตัวอยู่
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการปะทะกันเข้า

หยุนหัว ดิคอน น่านักต่อสู้ระดับเงิน 3 ดาวทัง้ สอง


ผ่านไปโดยค่อย ๆ มุ่งหน้าผ่านเหล่าต้นไม้

“เกิดอะไรขึ้นกัน?” หยุนหัว ดิคอน รู้สึกได้ทันใดถึง


บางสิ่งที่แปลกประหลาด เหมือนบางสิ่งบางอย่างก่าลังอยู่ที่มุม
หนึ่งตรงนั้น ก่าลังสอดแนมพวกเขา แม้ว่าความรูส้ ึกนี้จะ
ค่อนข้างคลุมเครือ เขาก็ไม่สามารถพบสิ่งใดเกี่ยวกับมัน

“มีอะไรผิดไปรึ ท่านหัวหน้า?” นักต่อสู้ระดับเงินทั้ง 2


ได้ถามด้วยความงุนงง

“สัมผัสของข้าต่อสิ่งนั้นผิดไปหรือ?” หยุนหัว ดิคอน


ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วเขาก็ได้ดีดนิ้ว เสือประกายด่าร่างใหญ่
ปรากฏออกมาบนอากาศ ดวงตาเย็นเฉียบของมันสอดส่องไป
รอบ ๆ ต้นไม้
เขาคือร่างทรงอสูรระดับเงิน 5 ดาวซึ่งมีจติ อสูรแห่ง
เสือประกายด่า!

'นั่นมันท่าให้ยิ่งจัดการยากขึ้นเข้าไปอีก!' เนี้ยหลี่ขมวด
คิ้วของเขาอยู่ชั่วครู่ ซ่อนตัวภายใต้เงามืด กลั้นลมหายใจของ
เขาไว้ จิตอสูรแห่งเงาก็ด้วยเช่นกันได้ซ่อนตัวอยูห่ ลังต้นไม้ ไม่
เคลื่อนไหว

ระยะห่างของเนี้ยหลี่จากหยุน หัวดิคอนอยู่ราว ๆ ห้า


สิบถึงหกสิบเมตร เจ้าจิตอสูรเสือประกายด่านั้นอยู่ที่ระดับเงิน
เท่านั้น มันเป็นไปไม่ได้ส่าหรับมันที่จะพบเขาจากระห่างที่ไกล
เช่นนี้ และส่าหรับจิตอสูรแห่งเงา มันซ่อนอยู่ห่างออกไปห้า
เมตรจากหยุนหัว ดิคอน ร่างกายของมันเข้าสู่รูปแบบการหาย
หัวอย่างสมบูรณ์แบบ

ดวงตาของจิตอสูรเสือประกายด่าได้จ้องมองไป
ด้านบน มันกวาดตาไปทั่วสิ่งต่าง ๆ รอบตัว แต่กไ็ ม่สามารถ
ตรวจพบสิ่งใด หยุนหัว ดิคอนรูส้ ึกโล่งใจและกล่าวว่า “บางที
ข้านั้นคงคิดมากไป”

หยุนหัว ดิคอนเรียกจิตอสูประกายด่ากลับ การปล่อย


จิตรอสูรของตัวเองสามารถท่าให้รา่ งทรงอสูรผู้อื่นสามารถ
ตรวจพบถึงพลังงานรอบตัวของจิตอสูรนั้นได้ ดังนั้น เขาจึงต้อง
ระวังตัวให้มาก

“พวกเราทั้งสองจะรออยูท่ ี่แห่งนี้ ลิ่วค่วง จงไปและ


ตรวจสอบว่ามีผู้ใดลาดตระเวนอยูภ่ ายในตระกูลบันทึกสวรรค์
หรือไม่และส่งสัญญาณมาให้แก่พวกเรา!” หยุนหัว ดิคอนพูด
อย่างนิ่มนวล

เกี่ยวกับเรื่องนี้ มันค่อนข้างจะอันตรายอยู่บา้ ง ดังนั้น เขาถึงไม่


เต็มใจเสี่ยงด้วยตัวเขาเอง

ลิ่วค่วงรู้สึกหดหู่ใจอยู่บ้าง คิดขึ้นมาว่า 'ท่าไมข้าต้อง


ไปด้วย?' อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าปฏิเสธหยุนหัว ดิคอน เขาไม่
มีทางเลือกท่าได้เพียงแต่กม้ ศีรษะของเขาและมุ่งลงไปจากยอด
เขา

หยุนหัว ดิคอนและอีกผูห้ นึ่งมีนามว่า ลิ่วหยานชะลอ


ฝีเท้าลง
เมื่อเห็นลิ่วค่วงแยกตัวออกจาก หยุนหัว ดิคอน เนี้ยห
ลี่คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย 'นั่นเป็นโอกาสที่ดมี าก'

ซึ่งก่าลังของเขาในตอนนี้นั้น การจัดการกับบุคคลทั้ง
สามในคราวเดียวยังคงเป็นเรื่องทีท่ ่าได้ยาก อย่างไรก็ตาม ถ้า
เป็นเพียงนักต่อสูร้ ะดับเงินสามดาวเพียงคนเดียวแล้วล่ะก็ มัน
จะเป็นเรื่องที่ง่ายอย่างมาก แม้ว่าการบ่มเพาะพลังของลิ่วค่วง
นั้นสูงกว่าเนี้ยหลี่อยู่ 2 ระดับ แต่เขานั้นเป็นแค่ระดับนักต่อสู้
ส่วนเนี้ยหลี่คือร่างทรงอสูร

จิตอสูรที่เนีย้ หลี่กา่ ลังใช้อยู่นี้ไม่เคยถูกพบเห็นมาก่อน


บุคคลธรรมดาจะไม่รคู้ วามสามารถพิเศษของจิตอสูรแห่งเงาได้
เลย
ภายใต้การควบคุมของเนี้ยหลี่ เจ้าจิตอสูรแห่งเงาได้
กลายเป็นแสงด่ามืด ลอยกลับมาและผสานอย่างเร็วเข้า
กับเนี้ยหลี่ ท่าให้ร่างกายของเขานัน้ เปลี่ยนไป

เนี้ยหลีม่ องไปยังทิศทางที่ไม่ไกลนัก เห็นลิ่วค่วงและ


มุมปากที่บิดเบี้ยวของเขา ด้วยความคิดหนึ่งเขาได้ซ่อนร่างของ
เขาและค่อย ๆ เข้าใกล้ลิ่วค่วง

“เกิดอะไรขึ้น” หลังจากลิ่วค่วงรีบออกมาเป็น
ระยะทางหลายร้อยเมตร เขารู้สึกถึงพลังแปลก ๆ รอบ ๆ ได้ใน
ทันใด เขายังคงยืนนิ่งอยู่ มองอย่างสงสัยไปยังสิ่งต่าง ๆ รอบตัว

ภายในค่่าคืนอันมืดมิด นอกจากเสียงเสียดสีกันของ
เหล่าต้นไม้ผ่านสายลมนี้ ยังมีการเคลื่อนไหวอื่นอยู่อีก
“เป็นไปได้ว่าข้านั้นคิดมากเกินไป” ลิ่วค่วงหัวเราะแก่
ตัวเขาเอง และเริ่มเดินหน้าต่อไป เขาได้ชะลอฝีเท้าลง คิดกับ
ตัวเขาเอง ว่าเขาสามารถท่าการบางสิ่งอันเป็นที่พอใจแก่หยุน
หัว ดิคอนแล้ว

คงไม่จ่าเป็นต้องมาวิตกและเสี่ยงชีวิตเช่นนี้

เนี้ยหลี่กลั้นหายใจของเขา เข้าใกล้เงียบ ๆ ไปที่ลิ่วค่


วง ด้วยทักษะการหายตัวของจิตอสูรแห่งเงา มันเป็นเรื่องยากที่
บุคคลทั่วไปจะสามารถตรวจจับพลังงานของเขาได้

5 เมตร, 3 เมตร, 2 เมตร,...................


ลิ่วค่วงไม่ได้รเู้ ลยว่าเนี้ยหลี่นั้นในตอนนี้ได้อยู่ด้านหลัง
เขาเสียแล้ว

ทันใดนั้น ลิ่วค่วงรู้สึกถึงจิตสังหารที่พุ่งเป้ามาที่ตัวเขา
ความรูส้ ึกตระหนกได้ทิ่มแทงผ่านสู่หัวใจของเขา เขารูส้ ึกแปลก
ใจมาก ทันใดเขาก็ได้หันหลังกลับ และเตะเท้าออกไปหนึ่งครั้ง

อย่างไรก็ตาม ลูกเตะของเขานั้นไม่ได้ปะทะเข้ากับสิ่ง
ใด ไม่มผี ู้ใดอยู่ดา้ นหลังของเขา

“ที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึน้ กันแน่?” ลิ่วค่วงรู้สึกสั่น


กลัวภายในใจไม่รจู้ บ เขารูส้ ึกรับได้ถึงจิตสังหารได้อย่างชัดเจน
แต่เมื่อเขาหันหลังกลับ เขากลับไม่พบสิ่งใดอยู่เลย

เพียงเมื่อลิ่วค่วงรูส้ ึกโล่งใจเท่านั้น ร่างหนึ่งก็ได้ปรากฏ


อยู่ใกล้ตัวเขา'ฟื้ด' แสงสะท้อนเย็นเฉียบในเงามืดได้พาดผ่านคอ
ของลิ่วค่วง

คอของลิ่วค่วงถูกตัด ร่องรอยของเลือดสด ๆ พุ่งออก


ปากของเขาเปิดอ้ากว้าง ยังไม่ทันได้พูดสิ่งใด ดวงตาของเขา
ค่อย ๆ มืดลง 'พล๊อบ' ศรีษะของเขาล่วงหล่นสู่พื่นดิน

ลิ่วค่วงไม่เข้าใจได้แม้กระทั่งการตายของเขา อะไรกัน
แน่ที่ได้จู่โจมเขา ตั้งแต่เริ่มการบ่มเพาะพลังจนกระทั่งบัดนี้ เขา
ผ่านประสบการณ์มาแล้วหลายพันสิ่ง และการถูกจู่โจมนับร้อย
แต่เขาไม่เคยเจอรูปแบบการโจมตีเช่นนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีโอกาสค้นหาสิ่งเหล่านั้นได้อีก
ต่อไป

หลังจากเนี้ยหลี่จู่โจมส่าเร็จ เขาเข้าสู่รูปแบบหายตัว
อีกครั้ง กลับไปซ่อนตัวเองต่อ

เขาพลางรอบ ๆ ศพของลิ่วค่วง และเตรียมพร้อม


ส่าหรับการซุม่ โจมตีครั้งถัดไป

ส่าหรับ การลอบจูโ่ จมครัง้ แรกของเขานั้น เนี้ยหลีไ่ ม่


ค่อยพอใจกับมันมากสักเท่าใดนัก ดังที่ก่อนเขาจะลงมือ จิต
สังหารของเขาถูกตรวจจับได้โดยลิว่ ค่วง แม้ว่าในที่สุดเขาก็จู่
โจมได้สา่ เร็จ ส่าหรับเนี้ยหลี่มันยังคงเป็นความล้มเหลว

นักลอบสังหารที่แท้จริงต้องฆ่าศัตรูได้อย่างไร้ร่องรอย

เพราะว่าเนีย้ หลีเ่ พิ่งเริ่มรวมร่างกับจิตรอสูรแห่งเงา


การควบคุมทักษะของจิตอสูรแห่งเงายังคงไม่เต็มที่ มีความ
ผิดพลาดเกิดขึ้นถือเป็นเรื่องธรรมดา ในครั้งแรกของเขาก็
สามารถท่าสิ่งนี้ได้แล้ว ถ้าเป็นผู้อนื่ แล้ว พวกเขาจะพึงพอใจ
เป็นอย่างมากกับผลลัพธ์เช่นนี้แล้ว อย่างไรก็ตามเนี้ยหลี่ มี
ข้อก่าหนดที่เข้มงวดส่าหรับตัวเขาเอง การค้นหาซึ่งความ
สมบูรณ์แบบ

กลิ่นของเลือดลอยฟุ้งไปในอากาศภายในป่าแห่งนี้
“เกิดอะไรขึ้น?” คิ้วของหยุนหัว ดิคอนขมวดเข้าหา
กัน ด้วยความรูส้ ึกอย่างฉลาดหลักแหลมว่ามีบางสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
เขาเร่งก้าวไปข้างหน้าและลิ่วหยานก็ตามติดมาด้านหลัง

หลังจากรีบเร่งมาไม่กี่เมตรเบื้องหน้า พวกเขาเห็นศพ
ของลิ่วค่วงอยู่บนพื้นดิน

“มีใครบางคนอยู่ที่นี้!” หยุนหัว ดิคอนอ้าปากค้างและ


เข้าสู่สถานะเตรียมตัวสู้ 'ฝ่ายตรงข้ามฆ่านักต่อสู้ระดับเงินที่อยู่
ไม่ไกลจากพวกเราโดยปราศจากซึง่ เสียงใดได้ สามารถเป็นไป
ได้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นอยู่ที่ระดับทองเช่นนั้นรึ?'
ลิ่วหยานตกใจกลัวเมื่อเขาเห็นภาพเหตุการณ์นี้ 'ลิ่วค่
วงเพียงแค่วิ่งออกไปเพียงไม่กี่เมตรจากพวกเรา และเขาถูกฆ่า
อย่างเงียบงัน ฝ่ายตรงข้ามท่าสิ่งนีไ้ ด้อย่างไรกัน?'

พวกเขาค่อยถอยกลับ โดยหันหลังชนกัน ตรวจสอบ


อย่างตื่นตัวไปตามเหล่าต้นไม้รอบ ๆ

ในค่่าคืนที่มืดมิดเช่นนี้ มีเพียงเสียงของนกร้องที่ได้ยิน
ในป่าอันเงียบเชียบนี้ พวกเขาไม่สามารถพบผู้ใดอีกในป่าแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม พวกเขามีความรูส้ ึกหวาดกลัวของการถูกจ้อง
มองอยู่ เป็นเหตุให้ขนต่าง ๆ ตามร่างกายของพวกเขาลุกขึ้น

หยุนหัว ดิคอน และลิ่วหยาน ไม่ได้ขยับตัวใดๆ, เนี้ยห


ลี่เองก็มิได้ท่าการเคลื่อนไหวใดใด และรอคอยอยู่อย่างเงียบ ๆ

ยิ่งไปกว่านั้น การยื้อเวลาเป็นผลดีแก่ตัวเขา ยิ่งนาน


เท่าไหร่เนี้ย หยู่ จะสามารถเรียกผูอ้ าวุโสมาจากตระกูลได้ทัน
ยิ่งขึ้น

เวลาก่าลังเดินอยู่

หลังจากเขาสังเกตว่าบางสิ่งไม่ถูกต้องแล้วนั้น หยุนหัว
ดิคอนขมวดคิ้วของเขาและกล่าวว่า “ไปจากที่นี่กันเถอะ!”

เขาเป็นชายผูม้ ีความรอบคอบสูง เพราะว่าเขาเผชิญ


เข้ากับการสูญเสียทีไ่ ม่ได้คาดคิดมาก่อน เขาจะถอยกลับไป
ก่อน ไม่มีความจ่าเป็นที่จะต้องเสียง

หยุนหัว ดิคอน ก้าวไป พร้อมที่จะถอยกลับ ลิ่วหยาน


ที่อยู่ใกล้ ๆ ตัวเขาก็เตรียมที่จะตามเขาไป

'เจ้าต้องการหนีไปรึ? ข้าไม่ปล่อยพวกเจ้าไปง่าย ๆ
หรอก!'

แสงเย็นเฉียบพุ่งผ่านดวงตาของเนี้ยหลี่ในขณะที่เขา
ปรากฏตัวอีกครั้ง เขายกเคียวกระดูกขึ้นและตัดผ่านไปยังลิ่วห
ยาน
หลังจากที่เข้าสูร่ ูปแบบหายตัว เนี้ยหลี่ได้ซุ่มซ่อนอยู่
ใกล้ ๆ ลิ่วหยานมาเป็นเวลานานแล้ว ระยะห่างจากลิ่วหยาน
จากเขามีเพียงห้าถึงหกเมตร เขาได้เร่งความเร็วขึ้นทันที

เพียงเมื่อเนี้ยหลี่ปรากฏตัว ม่านตาของลิ่วหยานและ
หยุนหัว ดิคอนก็จ้องเขม็งมา

“ใคร?”

มีใครบางคนที่ได้ซุ่มซ่อนอยู่ใกล้ ๆ กับพวกเขา และ


พวกเขาไม่สามารถสัมผัสถึงเรื่องเหล่านี้ในตลอดเวลาที่ผ่านมา
ได้เลย!
“ฆ่า!” ตาของเนี้ยหลี่ค่อย ๆ หลีล่ ง ปลดปล่อยจิต
สังหารเลือดเย็นออกมา และฟันผ่านไปที่ลิ้วหยานด้วยความเร็ว
ดุจสายฟ้า

ลิ้วหยานกระโดดถอยหนี ร่างของเขาสะท้อนแสงหนึ่ง
ออกมา ร่างของเขานั้น ได้ป้องแขนทั้งสองข้างกัน เขายกการ์ด
แขนขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีของเนี้ยหลี่ และในเวลาเดียวกันก็
ปล่อยลูกเตะไปยังเนีย้ หลี่ หนึ่งที

ด้วยเขาเป็นนักสู้ระดับเงิน ลิ่วหยานได้ผา่ นการสู้รบ


มาเป็นร้อย และมีประสบการณ์มากมายนับไม่ถ้วน ภายใต้การ
สู้รบประชิดตัวเช่นนี้ การตอบสนองของเขารวดเร็วทีเดียว
น่าเสียดายที่ผหู้ นึ่งที่ได้จโู่ จมเขานั้นไม่ใช่บุคคล
ธรรมดา แต่เป็นเนี้ยหลี่ที่ได้ร่วมร่างกับจิตอสูรแห่งเงา!

เนี้ยหลีเ่ ผชิญหน้ากับลิ่วหยานและทันใดก็ยืดแขนของ
เขาออก เงี่ยงหนึ่งของเคียวพุ่งไปในทันทีเข้าสู่ด้านหลังของ
ศรีษะ ลิ่วหยาน ซึ่งเคียวอันละเมียดละไม “ฟื้ด” เงี่ยงหนึ่งทะลุ
ผ่านด้านหลังของศรีษะ ลิ่วหยาน

ตาของลิ่วหยานค่อย ๆ ปิดลง แม้กระทั่งตอนตาย เขา


ยังไม่สามารถเข้าใจได้ ท่าไมชายผูน้ ี้ที่อยู่เบื้องหน้าเขาถึงมีแขน
ที่ยืดยาวเช่นนี?้ เขาสามารถอ้อมไปด้านหลังของศีรษะและจู่
โจมเขามาได้จริง ๆ
ภายในเวลาไม่นาน เนี้ยหลี่ก็ได้จัดการอีกคนหนึ่งแล้ว

ถ้าเทียบด้านพละก่าลังเพียงอย่างเดียว ลิ่วหยาน
แข็งแรงกว่าเนี้ยหลี่เล็กน้อย อย่างไรก็ตามเนี้ยหลีไ่ ม่ได้
เผชิญหน้า ลิ่วหยาน แบบตรง ๆ โดยทีเขาจู่โจมออกไปในทันที
และในเวลาเดียวกัน การโจมตีนั้นก็ไม่ถูก ลิ่วหยาน คาดว่าจะ
เกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหมดนีเ้ กิดขึ้นในเวลาอันสั้น ไม่มีทางเลยที่
ลิ่วหยานจะสามารถตอบสนองกลับได้ ดังนั้น จึงท่าให้การลอบ
สังหารของเนี้ยหลี่ครั้งนีส้ ่าเร็จ โดยการจู่โจมเพียงครั้งเดียว
บทที่ 57 - ใครเป็นคนฆ่า?

หลังจากเห็น ลิ่วหยาน ถูกฆ่าโดยเนี้ยลี่ หยุนหัว ดิคอน รวมร่าง


กับจิตอสูรเสือประกายด่าของเขา เขาค่ารามออกมาด้วยเสียง
อันดังและวาดเท้าเตะไปทางเนีย้ ลี่

บูม !

ลูกเตะนั้นโดนเข้าไปที่หน้าท้องของเนี้ยหลี่และท่า
ให้เนี้ยหลี่กระเด็นไกลไปหลายเมตร แล้วไปกระแทกอย่างหนัก
เข้ากับต้นไม้ต้นหนึ่งและค่อย ๆ ร่วงลงสู่พื้น

หยุนหัว ดิคอนก้มมองลงต่่าไปที่ซากศพของ ลิ่วห


ยาน ซึ่งเจิ่งนองไปด้วยเลือด เขาระเบิดความโกรธออก เขารู้สึก
ว่าก่าลังของอีกฝ่ายไม่ได้แข็งแกร่งเลย อย่างไรก็ตามคู่ต่อสู้ของ
เขานั้นสามารถฆ่าคนของเขาได้ถึงสองคน จะไม่ให้เขาโกรธได้
เช่นไร?

“เลวมาก!” เขาพ่นลมหายใจฮึดฮัด เตะไปที่


ซากศพของลิ่วหยาน ลิ่วหยานตายอย่างแน่นอนแล้ว ที่
ด้านหลังศรีษะที่เป็นจุดส่าค่ญของชีวิต หลังจากถูกแทงที่ตรง
นั้น เป็นเรื่องธรรมดาเลยที่จะไม่มโี อกาสมีชีวิตรอดได้

เนี้ยหลี่ค่อย ๆ เช็ดเลือดออกจากมุมปากของเขา
อย่างช้า ๆ แล้วยิ้มอย่างชั่วร้าย หลังจากจัดการไปได้สองคน
แล้ว ก็เหลือแต่เพียงหยุนหัวดิคอนเท่านั้น
“มันเรื่องอะไรกันวะนี?่ ตายซะ! หยุนหัวดิคอนพูด
อย่างโกรธเกรีย้ ว” หลังจากรวมร่างกับจิตอสูรเสือประกายด่า
แล้ว ร่างสูงหลายเมตรของหยุนหัวดิคอนก็กระโจนเข้า
มายังเนี้ยหลี่ ซึ่งเนี้ยหลี่ได้รวมร่างกับจิตอสูรเงาพรายแล้ว
ตอนนี้กรงเล็บของเขาได้ยดื ยาวออก

จิตอสูรแห่งเงาเป็นจิตอสูรชนิดลอบสังหารตนหนึ่ง
มีความสามารถในการลอบสังหาร ดังนั้น พลังพื้นฐานของ
ร่างกายจึงค่อนข้างมีน้อย มันจ่าเป็นที่จะต้องค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
อย่างช้า ๆ อย่างไรก็ตาม หยุนหัว ดิคอน คือจิตอสูรเสือด่า
เป็นรูปแบบของสายพละก่าลัง ดังนั้นจึงมีความสามารถต่อสู้ที่
สูงและเพิ่มด้วยลวดลายอักขระรอบ ๆ ตัวเขาอีก

ก่อนที่อุ้งมือใหญ่ของหยุนหัวดิคอน จะเข้าปะทะ
เนี้ยหลี่ ร่างของเนี้ยหลี่กไ็ ด้หายไป
บูม!

อุ้งมือของหยุนหัวดิคอนกระแทกเข้าไปที่ต้นไม้ข้าง
ๆ เนี้ยหลี่ ท่าให้มันแตกออก

“เกิดอะไรขึ้นกัน ?” ตาของ หยุนหัวดิคอนจ้องมอง


เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะได้ต่อสู้กับทักษะที่ประหลาดเช่นนี้ และ
สงสัยว่าสิ่งเหล่านี้มันคืออะไร

เพราะมันพิเศษยิ่งและหายากจึงมีน้อยคนที่จะรู้ถึง
รวมถึงหยุนหัวดิคอนด้วย
หยุนหัว ดิคอนชะงักด้วยความกลัว แม้ว่าเขาไม่
สามารถเห็นคูต่ ่อสูไ้ ด้ชัด แต่เขาแน่ใจว่าคู่ต่อสู้ต้องเป็นมนุษย์ที่
รวมร่างกับจิตอสูรตนหนึ่งอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเขาไม่
สามารถรูไ้ ด้ว่าเป็นจิตอสูรประเภทใดที่อีกฝ่ายใช้ จิตสังหาร
แวบขึ้นมาในตาเขาที่ค่อย ๆ ควานหาไปทั่วบริเวณแห่งนี้ เพื่อ
หาต่าแหน่งของเนี้ยลี่

'เงาด่า ๆ เมื่อครู่นั่นต้องเป็นจิตอสูรประเภทลอบ
สังหารที่หายากตนหนึ่งอย่างแน่นอน!' หยุนหัว ดิคอนคิดกับ
ตัวเอง หลังจากเนี้ยหลี่ที่ได้ปรากฏตัวและหายตัวอย่างไม่
คาดคิด ความกดดันอย่างมากได้ถกู ทิ้งไว้แก่เขา

หยุนหัว ดิคอนค้นหาทั่วป่าเพื่อหาเนี้ยหลี่ เนี้ยหลี่


ตอนนี้ได้ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ต้นหนึ่ง กลั้นหายใจของเขาไว้
และไม่กล้าขยับเขยื้อน ต้องไม่ลมื ว่า ไม่ว่าการบ่มเพาะพลังของ
เขาหรือพลังทางจิตอสูรแห่งเงาเพื่อก้าวสู่ระดับเงิน ถ้าเขาขืนสู้
ต่อไป เขาจะไม่สามารถจัดการร่างทรงอสูรระดับเงิน 5 ดาว
เช่น หยุนหัว ดิคอนได้

พลังงานที่แผ่รอบตัว หยุนหัว ดิคอน ก่าลังเข้ามา


ใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ เขาก่าลังจะพบสถานที่ซ่อนตัวของเนี้ยหลี่ในไม่
ช้า

วู๊ชชช!

ภายใต้การควบคุมของเขา จิตอสูรแห่งเขาทันใดก็
ปรากฏขึ้น กรงเล็บที่แหลมคมด้านหน้าของมันตัดผ่านไปที่คอ
ของหยุนหัวดิคอน

เมื่อรูส้ ึกได้ถึงลมเย็น ๆ ที่ลอยมาหาเข้า หยุนหัว ดิ


คอนไม่กล้าที่จะรีบเร่ง เขากระโดดถอยหลังกลับหลบการโจมตี
ของเนี้ยหลี่ และหันกลับมาพุ่งเข้าปะทะเนี้ยหลี่

แบง! แบง! แบง!

กรงเล็บอันแหลมคมของจิตอสูรเงาผ่านไปอย่างห
วุดหิวดที่คอของหยุนหัว ดิคอนหลายต่อหลายครั้ง หยุนหัว ดิ
คอนที่ก่าลังกลัวได้มีเหงื่อไหลเย็นออกมา สิ่งชั่วร้ายเช่นนี้เป็นที่
ตื่นตระหนกต่อเขาเป็นอย่างมาก กรงเล็บด้านหน้าสามารถ
เปลี่ยนให้ยาวและสั้นได้ และการเคลื่อนไหวของมันก็รวดเร็ว
อย่างน่าตระหนก การผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจท่าให้เขาจบ
ชีวิตด้วยการถูกโจมตีเพียงครั้งเดียว

หยุนหัว ดิคอนกระโดดถอยหลังออกไปเป็นสิบ
เมตร เพียงเมื่อเขาสามารถหลบพ้นการโจมตีของจิตอสูรแห่ง
เงาได้ เขาถอนหายใจออกด้วยความโล่งใจ แต่เพียงเมื่อเขา
เตรียมตัวที่จะสวนกลับ จิตอสูรแห่งเงาเบื้องหน้าเขา มันก็
เลือนลางและหายตัวไป

หยุนหัวดิคอน รูส้ ึกอยากสาปแช่ง เนี้ยหลี่ทรี่ วมร่าง


กับจิตอสูรแห่งเงานั้นยากที่จัดการเมื่อเขาเข้าใกล้ มันก็หายตัว
แล้วนั้น ไม่สามารถหาตัวได้เลย ณ ที่แห่งนั้น

บูม ! บูม ! บูม !


หยุนหัว ดิคอนกระหน่า่ การโจมตีของเขาไปยังจุดที่
จิตอสูรแห่งเงาได้หายตัว ท่าให้หินบนพื้นดินลอยกระเด็นไป
อย่างไรก็ตาม เนี้ยหลี่ไม่ได้ปรากฏตัวออกมา

เจ้าจิตอสูรนั้นมันใช้ทักษะอะไรกัน มันไม่ใช่ทักษะ
การซุ่มโจมตี แต่เป็นทักษะโจมตีพร้อม ล่องหนที่หาได้ยาก ซึ่ง
มันจะเปลี่ยนตัวมันให้เหมือนกับดังอากาศ สามารถท่าให้การ
โจมตีต่าง ๆ ผ่านมันไปได้ อย่างไรก็ตาม ทักษะการโจมตี
ล่องหนก็มีจุดอ่อนอันหนึ่งอยู่ เมื่อครั้นมันเข้าสู่รูปแบบหายตัว
การเคลื่อนไหวของมันจะช้าลงเทียบได้กับเต่าตัวหนึ่ง อย่างไรก็
ตาม ทักษะการโจมตีและล่องหนไม่ค่อยถูกปรากฏให้เห็นได้
ยากยิ่ง มันเป็นทักษะหายากของจิตอสูรเงาพราย บุคคล
ธรรมดาทั่วไม่ค่อยได้เห็น คนส่วนมากจึไม่สามารถรูไ้ ด้
แม้กระทั่งจุดอ่อนของมัน

หยุนหัว ดิคอนหยุดชะงัก หลังจากผ่านไปนาน เขา


ไม่สามารถหาต่าแหน่งของเนี้ยหลีไ่ ด้ เขามีความคิดเกี่ยวกับการ
ถอยหนี อย่างไรก็ตาม การตายของลูกน้องทั้งสองของเขาเป็น
เหตุให้เข้าไม่เต็มใจที่จะท่าเช่นนั้นได้

'ในวันหนึ่ง ข้าจะมาท่าลายตระกูลบันทึกสวรรค์
ของพวกเจ้าทั้งหมด!' หยุนหัว ดิคอนคิดอย่างเคียดแค้น
อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพียงแค่ความคิดหนึ่งเท่านั้น

แม้ว่าตระกูลบันทึกสวรรค์ก่าลังเสื่อมถอย มันยังคง
เป็นตระกูลขุนนางของเมืองกลอรีแ่ ละถูกปกป้องโดยเมืองกลอรี่
ดังนั้น ถ้าสมาคมทมิฬต้องการที่จะท่าลายส่วนหนึ่งของเมือง
กลอรี่ พวกมันจะต้องท่าลายเมืองกลอรี่ทั้งหมด และเรื่อง
เหล่านีไ้ ม่ใช่สิ่งที่สามารถตัดสินใจได้โดยเขา

ทันใดนั้น เสียงดังของกร๊อบแกร๊บได้ก่าลังเข้ามาที่นี่
จากที่ไกลจากแห่งหนึ่งของป่า ร่างหลายร่างก่าลังเข้ามาด้วย
ความรวดเร็ว

มันคือคนของตระกูลบันทึกสวรรค์!

ตาของหยุนหัวดิคอนบีบตัว หรี่ลงและกระโดดขึ้นสู่
ท้องฟ้า วิ่งหนีอย่างคนบ้า
ตาของเนี้ยหลี่ หรีล่ งเช่นกัน เมื่อก่าลังเสริมมาถึง
แล้ว ไม่สิ่งใดที่เขาจ่าเป็นต้องกังวลอีก ทันใดเขาก็ปรากฏตัวขึ้น
และเคียวแหลมยาวก็พุ่ง เจาะไปทีห่ ยุนหัวดิคอน

การเคลื่อนไหวของเนีย้ หลี่นั้นรวดเร็วยิ่งเมื่อรวมร่าง
กับจิตอสูรแห่งเงา เหมือนเช่นตั๊กแตนออกล่าเหยื่อ

เมื่อรับรู้ถึงการจู่โจมอย่างทันใด หยุนหัวดิคอนรูส้ ึก
ตระหนกยิ่ง ทันใดเขาก็เหวี่ยงตัวไปรอบ ๆ เพื่อท่าการหลบ
อย่างไรก็ตาม เขาได้ก้าวช้าไป

ฟึ๊ด!
บาดแผลได้ถูกทิ้งไว้ทขี่ าของเขา เลือดสด ๆ พุ่ง
ออกมารอบ ๆ

“ไอ้เลวเอ๊ย!” หยุนหัว ดิคอนไม่คดิ มาก่อนว่า


ความเร็วของการโจมตีนั้นจะมีมากเพียงนี้ มันเร็วขึ้นมากเมื่อ
เทียบกับคราวก่อนหน้า

หยุนหัว ดิคอนกระโดดไกลออกไป เขาได้กระโดด


ขึ้นและลงไม่กี่รอบแล้วหายตัวไปยังป่าที่มืดสนิท

ด้วยการบ่มเพาะพลังของเขา เนี้ยหลี่คาดคะเนได้
ว่าเขาไม่สามารถจะไล่ตามได้ และเสียงหนึ่งก็ได้ดังมาจาก
ด้านหลังของเขา เสียงนั้นน่าจะเป็นพวกอาวุโสที่ก่าลังมา ตัว
ของเนี้ยหลี่เคลื่อนไหวเล็กน้อย จิตอสูรแห่งเงาก็ค่อย ๆ ถอย
กลับเข้าสู่เขตแดนวิญญาณของเขา ร่างกายของเขากลับคืนสู่
สภาพเดิม

วู้ชช !

ร่าง 3 ร่างก่าลังเข้ามาด้านหน้าของเนี้ยหลี่ หัวหน้า


คนหนึ่งนั้นคือผู้อาวุโส เนี้ยอิ้ง ส่วนอีกสองคนคือเนี้ยเสี่ยวเฟิ่ง
และเนีย้ เสีย่ วลี่ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน โดยสองพี่น้อง เนี้ยเสี่ยว
เฟิ่ง และ เนี้ยเสี่ยวลี่ มีอายุมากกว่าเขาไม่กี่ปี เนี้ยเสี่ยวเฟิ่งได้
เข้าสู่ระดับร่างทรงอสูรเงิน 2ดาวเรียบร้อยแล้วและเนี้ยเสี่ยวหลี่
ก็เป็นนักต่อสูร้ ะดับเงิน 1 ดาว
ความสัมพันธ์ของเนี้ยหลี่กับสองพี่น้องนั่นไม่ดีเอา
เสียเลย พวกเขามักจะล้อไปที่พรสวรรค์อันน้อยนิดของเนี้ย
หลี่อยู่บ่อย ๆ

“เนี้ยหลี่ เจ้าได้ให้เนี้ยยู่ไปบอกว่ามีคนสามคนมา
จากสมาคมทมิฬเช่นนั้นหรือ?” เนีย้ อิ้งถามด้วยเสียงดุดัน ในไม่
ช้าก็ได้กลิ่น รับรูไ้ ด้ถึงกลิ่นคาวเลือดที่มาจากป่า

“คนหนึ่งได้วิ่งไปยังทิศทางนั้น ส่วนอีกสองคนอยู่
บนพื้น” เนี้ยหลี่กล่าวต่อ “คนหนึง่ ที่วิ่งไปมีความแข็งแกร่งของ
ร่างทรงอสูรเงินระดับ 5 ดาว เขาได้รวมร่างกับอสูรเสือประกาย
ดาว ผู้อาวุโสท่านต้องระวังตัวให้มาก แต่คนผู้นั้นก็ได้รับ
บาดเจ็บด้วย ดังนั้นจึงมีร่องรอยของเลือดที่ทิ้งไว้”
เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยหลี่ ผู้อาวุโสเนี้ยอิ้งมองเนี้ย
หลี่อย่างแปลกใจ เขารู้สึกได้ราง ๆ ว่าเนี้ยหลี่ในตอนนีไ้ ด้
เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน

“ข้าจะไปไล่จับมัน พวกเจ้าทั้งสองจงรออยู่ที่นี่!” ผู้


อาวุโสเนี้ยอิ้ง กล่าวด้วยน้่าเสียงดุดัน ถ้าอีกฝ่ายเป็นร่างทรง
อสูรระดับเงิน 5 ดาวจริง ๆ เมื่อนัน้ สองพี่น้องคงไม่สามารถสู้
กับมันได้

เนี้ยอิ้งกระโดดไป ไล่ตามจับโดยมุ่งไปยังทิศทางที่
หยุนหัว ดิคอนได้หลบหนี หลังจากนั้นชั่วครู่ ร่างของเขาก็ได้
หายเข้าไปสู่ป่าด่าทมิฬ

เมื่อเห็นเนี้ยอิ้ง วิ่งไกลออกไป เสี่ยวเฟิ่งและเสี่ยวหลี่


ทั้งสองเหลือบมองไปยังเนีย้ หลี่ หน้าทั้งสองของพวกเขาปรากฏ
ความรังเกียจขึ้น

“ท่าไมพวกคนจากสมาคมทมิฬถึงได้มายังที่แห่งนี้
ถ้าเจ้าโกหกต่อผู้อาวุโสล่ะก็ เจ้ารูน้ ะว่าสถานการณ์จะเป็นเช่น
ไร.....” เนีย้ เสี่ยวหลี่ กล่าวพร้อมหายใจฟึดฟัด เขาก่าลังสวมชุด
คลุมสีด่า เขาอายุ 20 ปีเป็นคนที่รา่ งสูงกว่าเนี้ยหลี่ แววตา
รังเกียจปรากฏขึ้นเมื่อเขามองมายังเนี้ยหลี่

เมื่อได้ยินที่เซีย่ วหลีพดู เนี้ยหลี่หน้าบึ้งเล็กน้อยและ


กล่าวว่า “หลอกท่านหรือ? มีสองศพอยู่บนพื้นดินตรงนั้น ท่าน
ไม่เห็นหรือ?”

แม้ว่าเขาจะไม่ชอบสองพี่น้องนี้ พวกเขาก็ยังเป็น
สมาชิกของตระกูลบันทึกสวรรค์ หลังจากประสพกับความล่ม
สลายของเมืองกลอรี่ในชีวิตที่แล้วของเขา ด้วยสมาชิกทั้งหมด
ของตระกูลบันทึกสวรรค์ได้จบชีวิตลงภายใต้กรงเล็กของพวก
อสูร ความหยาบคายของพวกเขาก็ไม่ได้มีความหมายนัก

เนี้ยเสี่ยวเฟิ่งนั้นแก่กว่าเนี้ยเสี่ยวหลี่เพียงปีเดียว
และอารมณ์ค่อนข้างนิ่งกว่าเมื่อเทียบกับเสีย่ วหลี่ เพราะเหล่า
คนรุ่นก่อนของครอบครัวพวกเขานั้นไม่ถูกกัน พวกเขาก็เลยไม่
ถูกกับเนี้ยหลีไ่ ปด้วย อย่างไรก็ตาม เนี้ยเสี่ยวเฟิ่งตระหนักได้ว่า
เนี้ยหลี่ในวันนีไ้ ด้แตกต่างไปจากปกติที่เป็นมา เขากล้าที่จะสวน
กลับพวกเขาด้วยความมั่นใจ

พวกเขาทั้งสามได้ไปยังทิศทางที่กล่าว ซึ่งเสี่ยวเฟิ่ง
และเสี่ยวหลี่ก็ได้เห็นซากศพของลิว้ ค่วงและลิ่วหยาน
พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมีศพอยู่ 2 ศพ
จริง

“พวกมันตายอย่างไร ?” เซี่ยวหลี่แน่นิ่งไปชั่วขณะ
เขาท่าหน้าบึ้งตึงและถามอีกครั้ง “เจ้าเป็นคนจัดการพวกมัน
เพียงคนเดียวรึ?”

เนี้ยหลี่ไม่ได้ตอบค่าถามของเขา แต่เขาได้ก้มลง
และตรวจสอบลิ่วค่วงและลิ่วหยาน เขาพบเหรียญของสมาคม
ทมิฬบนสองศพนั่น

“มันเป็นคนจากสมาคมทมิฬจริง ๆ ” เนี้ยเสี่ยวหลี่
แค่นเสียง “เป็นไปได้ว่าไปหัวขโมย งี่เง่าสองตัว มันได้เข้ามายัง
ตระกูลบันทึกสวรรค์และถูกพบโดยเจ้า”

เพราะว่าการบ่มเพาะพลังของเนี้ยหลี่ยังไม่ถึงระดับ
ทองแดง 1 ดาว ความแข็งแกร่งของพวกหัวโขมย งี่เง่าพวกนี้คง
มีไม่มากเท่าใด

เนี้ยเสี่ยวเฟิ่ง จ้องไปทีเ่ นี้ยเสีย่ วหลี่ ใบหน้าของเขา


ปรากฏความสงสัยขึ้นมาฉับพลัน เขาก็ก้มตัวลงด้วย และกระ
ฉากเกราะระดับเงินที่ศพของลิ่วค่วงและลิ้วหยาน มือขวาของ
เขาจับไปที่ซากศพทั้งสองนั้นและกล่าวว่า “มันเป็นนักต่อสู้
ระดับเงินทั้งสองคน”

“ระดับเงิน ? เป็นไปได้อย่างไรกัน? พี่ใหญ่ ท่าน


มองผิดไปหรือเปล่า?” เนี้ยเสี่ยวหลี่ร้องออกมา
“มันเป็นระดับเงินแน่นอน มีเกราะระดับเงินบน
ร่างกายของพวกมัน และความแข็งแกร่งของร่างกายก็น่าจะมี
มากกว่าของเจ้า” เนี้ยเสี่ยวเฟิ่งกล่าว โดยปราศจากความสงสัย
ในน้่าเสียงเขา

ในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเนี้ยเสีย่ วเฟิ่งหรือเนีย้ เสีย่ วหลี่


พวกเขาได้จ้องไปทีเ่ นี้ยหลี่

“เจ้าเป็นคนทีฆ่ ่าพวกมันงั้นรึ?”

เนี้ยหลี่ยักไหล่และพูดว่า “ข้าไม่เคยพูดว่าข้าเป็น
คนฆ่าพวกมันเลย พวกมันอาจฆ่าตัวตายเองก็ได้”

เรื่องมันชักจะยังไงชอบกลอยู่ ทั้งเนี้ยเสี่ยวเฟิ่งและ
เนี้ยเสีย่ วหลี่ท่าหน้าถมึงทึง สามารถเป็นไปได้ว่ามีผู้เชี่ยวชาญ
อยู่รอบ ๆ ที่แห่งนี้หรือเปล่า ? เมื่อผู้เชี่ยวชาญนั้นได้ช่วยก่าจัด
คนจากสมาคมทมิฬแล้ว พวกเขาไม่น่าจะเป็นศัตรูกับตระกูล
บันทึกสวรรค์ได้

เนี้ยเสี่ยวหลี่กวาดสายตาผ่านเนี้ยหลี่ เขารูส้ ึกว่า


เนี้ยหลี่นั้นน่าสงสัยยิ่งนัก อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร
ก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่เนีย้ หลี่จะถึงระดับเงินได้ใน
เวลาเพียงไม่กี่เดือน ไม่ต้องสังเกตเลย ก่าลังของเนี้ยหลี่กไ็ ม่
แข็งแกร่งกว่าผู้ที่อยู่ระดับเงินทั่วไปเป็นแน่
บทที่ 58 - นักเรียนชั้นเรียนอัจฉริยะ?

สองพี่น้องนั้นปฏิเสธที่จะเชื่อว่าก่าลังของเนี้ยหลีไ่ ด้
เพิ่มขึ้นไปถึงระดับที่น่าตกใจเช่นนั้นได้จริง

“ท่านอาวุโส เนี้ยอิ้ง จะตกอยู่ในอันตรายหรือ


เปล่า?” เนี้ยเสี่ยวหลี่ถามด้วยหน้าตากังวล ท่านอาวุโส เนีย้ อิ้ง
ได้ไล่ตามอีกคนจากสมาคมทมิฬไปเป็นเวลานานแล้วแต่กย็ ัง
มิได้กลับมา

“ใจเย็นไว้ก่อน เขาไม่น่าจะมีปญ
ั หาอะไรหรอก”
เนี้ยเสีย่ วเฟิ่งส่ายศรีษะของเขาแล้วกล่าวว่า “ที่นี่เป็นดินแดน
ของตระกูลบันทึกสวรรค์ และพวกคนเหล่านั้นจากสมาคมทมิฬ
มีระดับสูงสุดเพียงแค่ระดับเงิน 5 ดาว แต่ว่า
ท่านอาวุโสเนี้ยอิ้งเป็นนักต่อสูร้ ะดับทอง 3 ดาว นั่นน่าจะไม่
เป็นปัญหาแต่อย่างใด”

แบง ! แบง ! แบง !

เสียงของการต่อสูม้ าจากส่วนลึกเข้าไปในป่า อย่างไรก็ตาม


เสียงนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปหลายเพลา ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดใดจากฝ่ายศัตรู
ร่างหนึ่งมองเห็นได้ว่าก่าลังเดินเข้ามา

“ร่างนั้นคือท่านอาวุโสเนีย้ อิ้ง ท่านอาวุโสเนี้ยอิ้งกลับมาแล้ว!”


เนี้ยอิ้งหยุดอยู่ที่เบื้องหน้าของพวกเขา หน้าของเขาปรากฏ
ความดุดัน
“ท่านอาวุโสเนี้ยอิ้ง มันเป็นอย่างไร? ท่านสามารถจับมันได้
หรือไม่?” เนี้ยเสีย่ วเฟิ่งถาม

ท่านอาวุโสเนี้ยอิ้งส่ายศรีษะของเขาแล้วพูดว่า
“อีกฝ่ายเป็นร่างทรงอสูรระดับเงินห้าดาว หลังจากมันได้รวม
ร่างกับจิตอสูรเสือประกายดาว ” พลังของมันมีมากล้น ยิ่งไป
กว่านั้น มันยังมีวิธีการบางอย่างทีส่ ามารถหลบหนีข้าไปได้ ข้า
นั้นไม่สามารถจับมันได้ มันได้หนีไปเสียแล้ว!”

เมื่อได้ยินค่าของเนี้ยอิ้ง เนี้ยเสี่ยวเฟิ่งและเนี้ย
เสี่ยวหลี่ทั้งสองต่างมองหน้ากัน 'ร่างทรงอสูรนั้นมันสามารถ
หลบหนีจากมือของท่านอาวุโสเนีย้ อิ้งได้ มันผู้นั้นไม่ธรรมดา
แน่นอน!'

เมื่อได้เห็นศพสองร่างบนพื้นดิน เนี้ยอิ้งขมวดคิ้ว
เรื่องเหล่านี้ค่อนข้างจะแปลกซักหน่อย ท่าไมคนจากสมาคม
ทมิฬถึงได้มาปรากฏตัวบริเวณนี้ ? และอีกเรื่อง ใครเป็น
ผู้จัดการพวกมันกัน ? เป็นไปได้หรือว่ามีความขัดแย้งภายใน
ระหว่างสมาคมทมิฬและพวกเขาได้ฆ่ากันเองภายในดินแดน
ของพวกมัน ? แต่นั้นไม่นา่ จะเป็นไปได้ หรือมีผเู้ ชี่ยวชาญท่าน
หนึ่งได้ซ่อนตัวอยูร่ อบ ๆ บริเวณนี้ ได้ช่วยเหลือตระกูลบันทึก
สวรรค์

โดยการจัดการคนทั้งสองของสมาคมทมิฬ ?

ผู้เชี่ยวชาญนั้นได้ฆา่ นักต่อสู้ระดับเงินไปสองคนใน
เวลาเดียวกัน และท่าให้ร่างทรงอสูรระดับเงิน 5 ดาวได้รบั
บาดเจ็บ ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นอย่างน้อยที่สุดก็น่าจะอยู่ระดับทอง
! ใครกันที่ได้ช่วยเหลือตระกูลบันทึกสวรรค์เอาไว้เช่นนี้ ? ท่าไม
ท่านผู้นั้นถึงไม่ปรากฏตัวกันเล่าหลังจากที่ได้ช่วยเหลือตระกูล
บันทึกสวรรค์แล้ว ?
แม้ว่าเขายังคงสงสัยเนี้ยหลี่อยู่บ้าง ท่านอาวุโส
เนี้ยอิ้ง ก็ไม่เคยคิดว่าจะเป็นเนีย้ หลี่ที่เป็นผู้ก่าจัดคนทั้งสองจาก
สมาคมทมิฬและท่าให้ หยุนหัว ดิคอน ได้รับบาดเจ็บ ตอนที่
เนี้ยหลีไ่ ด้ออกจากหมู่บ้านเพื่อไปยังสถาบันกล้วยไม้ศักด์สิทธิ์
เขายังไม่ถึงระดับทองแดง 1 ดาวด้วยซ้่า มันเป็นไปไม่ได้สา่ หรับ
เขาที่จะสามารถถึงระดับเงินได้ในเวลาอันสั้นเช่นนี้

เนี้ยอิ้ง ย่อตัวลงและตรวจสอบซากศพทั้งสอง ลิ่วค่


วง และ ลิ่วหยาน ไม่ปรากฏร่องรอยการต่อสู้ทดี่ ุเดือด แต่พวก
เขาถูกฆ่าโดยของมีคมที่ทิ่มบนจุดตายของพวกเขา แผลก็ยัง
ปรากฏรอยของมีดคมที่แปลกประหลาดมาก

“การฆ่าได้ด้วยพลังเช่นนี้!” เนี้ยอิ้งเก็บความรู้สึก
ตกใจมาก ๆ เอาไว้ แม้ว่าจะเป็นตัวเขา เขาก็ไม่สามารถฆ่าพวก
มันทั้งสองที่เป็นนักต่อสู้ระดับเงิน 3 ดาวได้อย่างง่ายเช่นนี้ ยิ่ง
ไปกว่านั้น อาวุธที่ผู้เชี่ยวชาญลึกลับได้ใช้เป็นอะไรที่แปลก
ประหลาด เขาไม่เคยพบรอยแผลเช่นนี้มาก่อน

“เนี้ยหลีต่ ามข้ามา จงรายงานทุกสิ่งที่เจ้าได้พบ


เกี่ยวกับบุคคลทั้งสามจากสมาคมทมิฬและทุก ๆ สิ่งที่เกิดขึ้น
หลังจากนั้นแก่หัวหน้าตระกูล!” เนีย้ อิ้งคิดชั่วครู่และได้พดู ไป
เช่นนั้น หลังจากนั้นเขาได้จ้องมองไปยังเนี้ยเสี่ยวเฟิ่งและเนีย้
เสี่ยวหลี่“พวกเจ้าทั้งสองจงแบกซากศพกลับไป และให้หัวหน้า
ตระกูลตรวจสอบพวกมัน”

“ครับ ท่านอาวุโสเนีย้ อิ้ง” เนี้ยหลี่ก้มหัวของเขา


พวกเขาได้เดินผ่านมาเพียงแค่ไม่กี่ก้าวและเห็นร่าง
ของเนี้ย หยู่รีบเร่งเข้ามา ความเร็วของเธอนั้นช้ามากถ้าเทียบ
กับท่านอาวุโสเนี้ยอิ้งและพวกที่เหลือ ดังนั้นเธอจึงเพิ่งมาถึง

“พี่ใหญ่เนี้ยหลี่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ท่าน


โอเคมั้ย? ” น่าอันอ่อนนุ่มของเนี้ย หยู่ได้เปื้อนไปด้วยน้่าตา
ดวงตาเธอเต็มไปด้วยความกังวล

“ปลอดภัยอยู่แล้ว พี่ใหญ่เนี้ยหลีส่ บายดี” เนีย้ หลี่


ยิ้มพร้อมกับลูบหัวของเนี้ยยู๋
ณ ห้องโถงบรรพบุรุษของตระกูลบันทึกสวรรค์

ภายในห้องโถงเต็มไปด้วยสมาชิกของกองก่าลัง
ตระกูลบันทึกสวรรค์ พวกเขาได้ถอื คบเพลิง พวกเขารู้ว่าคน
จากสมาคมทมิฬได้เข้ามาสูด่ ินแดนของพวกเขา พวกเขาก่าลัง
ตื่นตัวและเตรียมพร้อมเข้าสู่การต่อสู้

หลังจากได้เห็นเนี้ยอิง้ และผูต้ ิดตามเข้ามา ฝูงชน


ทั้งหลายก็ได้หลีกทางให้แก่พวกเขา

เนี้ยไฮ้ ผู้น่าสูงสุดของตระกูลบันทึกสวรรค์ ก่าลัง


นั่งอยู่ที่บนบัลลังก์ เขาได้สวมชุดคลุมสีเทา หนวดสีขาวแสน
ยาวอันหนึ่งได้งอกงามบนใบหน้าที่แสนดุดันของเขา โดยเขานั้น
มีรังสีที่แผ่พลังงานดังเช่นผู้ที่สูงศักดิ์ทั้งหลายได้แผ่ออกมา

“เนี้ยอิ้ง” เป็นอย่างไรบ้าง?” เนี้ยไฮ้ ถามขึ้น

“ท่านผู้น่า ได้มีสามโจรย่องเบามาจากสมาคม
ทมิฬ พวกมันน่าจะพยายามมาขโมยบางสิ่งบางอย่างจาก
ตระกูลบันทึกสวรรค์ของพวกเรา สองคนของพวกมันถูกฆ่า
หนึ่งคนนั้นหนีไปได้!” เนี้ยอิ้ง ตอบกลับโดยป้องมือทั้งสองเข้า
ไว้

เนี้ยไฮ้ ได้มองไปที่ศพสองร่างที่อยู่บนพื้น รู้สึกโล่ง


ใจเล็กน้อยและกล่าวว่า “เป็นเรื่องดีแล้วที่พวกมันมากันเพียง
แค่สามคน แม้ว่าข้าไม่แน่ใจนักว่ามันมาด้วยเหตุใด แต่ต้อง
ไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่ ตระกูลบันทึกสวรรค์ของพวกเราไม่มีสิ่งใด
ให้สมาคมทมิฬมาฉกฉวยไปได้ เป็นไปได้ว่าพวกมันมาที่แห่งนี้
เพื่อเก็บข้อมูลของตระกูลบันทึกสวรรค์ ณ ขณะนี้ จงเพิ่มก่าลัง
ลาดตระเวนเป็นสองเท่าส่าหรับหลายวันข้างหน้านี้”

“ครับ !” เหล่ายามของตระกูลบันทึกสวรรค์ที่อยู่
ด้านข้างตอบกลับ

“เจ้าเป็นผู้ที่จัดการคนทั้งสองนั้นรึ ?” ด้วยการดู
เนี้ยไฮ้สามารถบอกได้ว่าศพทั้งสองนั้นอย่างน้อยที่สุดก็มีความ
แข็งแกร่งอยู่ที่ระดับเงิน

“ไม่ ไม่ใช้ข้า” เนี้ยอิ้งกล่าวพร้อมส่ายศรีษะของ


เขา
“ถ้าเช่นนั้นเป็นซึ่งเสีย่ วเฟิ่งหรือเสีย่ วหลี่ใช่ไหม?”
เนี้ยไฮ้ได้กล่าวชื่มชม “ เสี่ยวเฟิ่ง เสี่ยวหลี่ การบ่มเพาะพลัง
ของพวกเจ้าทั้งสองได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว”

“ท่านหัวหน้าตระกูล พวกเราทั้งสองไม่ได้ท่าซึ่ง
เรื่องดังกล่าว” เนี้ยเสี่ยวเฟิ่งและเนี่ยเสี่ยวหลี่ตา่ งรู้สึกหน้าร้อน
ผ่าว

เนี้ยไฮ้หน้านิ่วเล็กน้อยเมื่อได้ยินค่าตอบของพวก
เขาทั้งสอง และถามกลับไปด้วยความสงสัยว่า “เช่นนั้นแล้วใคร
เป็นผู้ที่ท่าเรื่องนี้กันเล่า?”
มีเพียงแค่สามคนนี้เท่านั้นที่ได้ส่งไปเพื่อตามจับคน
เหล่านั้นจากสมาคมทมิฬ ถ้าไม่ใช่ซึ่งพวกเขาแล้วเมื่อนั้นจะเป็น
ใครไปได้?

“เมื่อเวลาที่ข้าไปถึง พวกมันก็ได้ตายลงไป
เรียบร้อยแล้วท่าน มีเพียงเนี้ยหลีท่ ี่อยู่ตรงนั้นเมื่อเรื่องทั้งหมด
ก่าลังเกิดขึ้น” เนี้ยอิ้งกล่าวด้วยน้่าเสียงเป็นเรื่องจริงยิ่ง

ณ ขณะนี้ทุก ๆ สายตาจับจ้องไปที่เนีย้ หลี่ ต่าง


รู้สึกขบขัน เป็นไปอย่างไรที่เนี้ยหลี่จะสามารถจัดการกับเหล่า
นักต่อสู้ที่อยู่ระดับเงินถึงสองด้วยพลังของเขา?

“ข้าก็ไม่ทราบเช่นกัน ข้าเพียงเห็นแต่เงาด่า ๆ
อันหนึ่งพุ่งผ่านและพวกมันทั้งสองต่างก็ล่วงลงสู่พื้นเพียงแค่
นัน้ ” เนี้ยหลี่ ยักไหล่ แสร้งท่าเป็นไม่รเู้ รื่อง เขายังคงไม่ต้องการ
เปิดเผยพลังที่แท้จริงของเขา

“เงาด่าปรากฏขึ้น?” ทุก ๆ คนต่างตกใจเล็กน้อย

ท่านอาวุโสเนี้ยอิ้งได้เงียบไปชั่วขณะก่อนที่จะนั่งลง
และชี้ไปยังศพของนักต่อสูร้ ะดับเงินทั้งสองและกล่าวว่า “ท่าน
หัวหน้า โปรดดูที่แผลอันนี้ มันถูกท่าโดยอาวุธบางสิ่งและอาวุธ
นี้นั้นก็ประหลาดอย่างมาก ข้าคิดไม่ออกเลยว่าผู้ใดในเมืองกลอ
รี่ที่ใช้อาวุธชนิดนี้กัน”

ทุก ๆ คน ต่างจ้องไปที่รอยแผลของศพทั้งสอง
“พวกมันทั้งสองได้ถกู จัดการโดยการโดนบางสิ่ง
เข้าที่จุดตาย ถูกฆ่าโดยการโจมตีเพียงครั้งเดียว” อาวุโสเนี้ยอิ้ง
หายใจยาวเข้าไป และได้กล่าวเช่นนั้น

ทุก ๆคนต่างมองหน้ากันไปมา ภายในตระกูลของ


พวกเขาแล้ว ไม่มีผู้ใดใช้ซึ่งใช้อาวุธชนิดนี้ ดังนั้นใครเป็นผูฆ้ ่า
พวกมันทั้งสองกัน ? เป็นไปได้ว่าภูเขาทมิฬนั่นได้ซ่อน
ผู้เชี่ยวชาญเอาไว้กันหรือ? พวกเขาต่างก็สงสัยว่าผู้เชี่ยวชาญผู้
นั้นเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด
การมีบุคคลที่ได้ซ่อนตัวอยูภ่ ายในภูเขาทมิฬก็ท่าให้พวกเขารูส้ ึก
ไม่สบายใจ

“เมื่อมีผหู้ นึ่งได้ช่วยพวกเราจัดการคนของสมาคม
ทมิฬ เขาเหล่านั้นน่าจะอยูฝ่ ่ายเดียวกันกับเมืองกลอรี่ ดังนั้นไม่
น่าจะเป็นซึ่งปัญหา” เนี้ยไฮ้กล่าวเช่นนั้น “เรื่องนี้ไม่จ่าเป็นต้อง
เป็นกังวลอีกต่อไป สิ่งส่าคัญคือ ท่าไมคนของสมาคมทมิฬถึง
ได้มายังที่แห่งนี้ เพื่อความปลอดภัย ตระกูลบันทึกสวรรค์ของ
พวกเราต้องเข้าสู่สภาวะสงครามและการป้องกันภายในตระกูล
ต้องเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย”

ในตอนนี้ อาวุโส เนี้ยเว่ย ที่อยู่ใกล้ ๆ เนี้ยไฮ้ได้มอง


มาที่เนี้ยหลี่และถามว่า “เนี้ยหลี่ เจ้ากลับมาเมื่อไหร่?”

เมื่อได้ยินค่าถามของอาวุโส เนี้ยเว่ย เนี้ยหลี่ช่วย


ไม่ได้เลยที่จะขนที่ศรีษะลุกซู่ ภายในตระกูลบันทึกสวรรค์ ผู้ที่
เข้ากันได้ยากที่สุดกับเขาก็คือเนี้ยเว่ย เนี้ยเว่ยเป็นอาวุโสผู้
ควบคุมกฎของตระกูลบันทึกสวรรค์ ความผิดทีไ่ ด้ท่าโดย
สมาชิกของตระกูลจะถูกลงโทษโดยอาวุโสเนีย้ เว่ย ดังนั้น
ต่าแหน่งของเนี้ยเว่ยภายใยตระกูลจึงเป็นรองเพียงแค่ เนี้ยไฮ้
ภายในตระกูลบันทึกสวรรค์ ผู้หนึ่งที่เนี้ยหลี่เกลียด
มากที่สุด นอกจากเนี้ยเสี่ยวเฟิ่งและเนีย้ เสีย่ วหลี่ ก็คงจะเป็น
เนี้ยเว่ย ในชีวิตที่แล้วของเขาได้ถูกลงโทษหลายต่อหลายครั้ง
โดย เนี้ยเว่ย เนี้ยเว่ยนั้นยังคงมีสถานะอย่างอื่นอีกก็คือเขานั้น
เป็นปู่ของ เนียเสี่ยวเฟ่ง และเนีย้ เสี่ย่วหลี่

เนี่ยหลีไ่ ด้คดิ เรื่องเหล่านี้แล้วอยู่หลายครั้ง เป็น


เพราะบ้านของเขานั้นไม่ถูกกับบ้านของพวกนั้น นั้นจึงเป็น
สาเหตุที่เนี้ยเว่ยได้ลงโทษเนี้ยหลีด่ ว้ ยอารมณ์ส่วนตัว

“ท่านอาวุโส ข้าพึ่งได้กลับมาเพียงวันเดียว!”
เนี่ยหลี่ป้องมือดังถือถ้วยและกล่าวไป
เนี้ยเว่ยแค่นเสียงอย่างต่าหนิเสียจริง “เนี่ยหลี่ เจ้า
จะยอมรับความผิดของเจ้าหรือไม่?”

เนี้ยหลีส่ ับสนเล็กน้อย ถามกลับด้วยความสงสัย


“เนี้ยหลีไ่ ม่เข้าใจถึงสิ่งที่ท่านพูด ท่านอาวุโสเนีย้ เว่ยโปรด
อธิบายด้วยเถิด!”

“เนี่ยหลี่ เจ้าไม่ท่าการศึกษาเล่าเรียนอย่าง
เหมาะสมเช่นที่เจ้าควรท่าที่โรงเรียนและไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่
เป็นปัญหา ข้าได้ยินมาว่าเจ้าไปรบกวนกับผู้สืบสายเลือดของ
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ เป็นเหตุให้พวกเขามากดดันตระกูลบันทึก
สวรรค์ของพวกเรา เจ้าแน่ใจว่าเรือ่ งเช่นนั้นไม่เคยเกิดขึ้นกัน
รึ?” เนี้ยเว่ย ถามด้วยความเข้มงวด
เมื่อได้ยินค่าของอาวุโสเนี้ยเว่ย ทุก ๆ คนต่างมอง
ไปที่เนี้ยหลี่ ตลอดช่วงระยะเวลาทีผ่ ่านมานี้ พวกเขาได้ผ่าน
ช่วงเวลาที่ยากล่าบาก การถูกกดดันโดยตระกูลศักดิส์ ิทธิ์และ
หลายชนิดของธุรกิจทีไ่ ด้สูญเสียอย่างหนัก ทั้งหมดเหล่านี้
เกี่ยวข้องกับเนี้ยหลีเ่ ช่นนั้นรึ ?

เนี้ยไฮ้ เมื่อได้ยินค่าของเนี้ยเว่ย เขาหน้าถมึงทึง


มองไปที่เนี้ยหลี่และถามอย่างดุดันว่า “เนี่ยหลี่ มันเป็นเรื่องจริง
รึ ?”

เนี้ยหลีไ่ ม่มีทางเลือก เขาก้มศรีษะของเขาและ


กล่าวว่า “ถูกแล้ว ข้าท่าเรื่องเหล่านั้น”
“เจ้าไม่ได้ท่าตามกฎของตระกูลภายในสถาบัน
กล้วยไม้ศักดิส์ ิทธิ์ ไปรบกวนจนพวกเขาท่าให้ธุรกิจของตระกูล
ต้องเสียหาย เจ้าต้องถูกลงโทษโดยการ ถูกเฆี่ยนหนึ่งร้อยครั้ง
เจ้าเห็นด้วยหรือไม่? ” สายตาของอาวุโสเนี้ยเว่ยจับจ้องมาที่
เนี้ยหลี่อย่างภูมิฐาน

เมื่อได้ยินค่าของเนี้ยเว่ย เนี้ยเสีย่ วเฟิ่งและเนี้ย


เสี่ยวฟลีต่ ่างมองหน้ากันและยิ้ม ก่าลังมีความสุขกับเคราะห์ร้าย
ที่เนี้ยหลีต่ ้องเผชิญ ตอนนี้ เนีย้ หลีถ่ ึงคราวซวยและก่าลังตกอยู่
ในก่ามือของปู่พวกเขา

มีกิ่งตระกูลย่อยอยู่ทงั้ หมดด้วยกัน 8 กิ่งตระกูล


ภายในตระกูลบันทึกสวรรค์ โดยแต่ละตระกูลต่างมีความ
ขัดแย้งซึ่งกันและกันอยู่ แต่ว่าเมื่อศัตรูมาเยือน ทุก ๆ คนจะ
รวมตัวกันต่อสู้ แต่โดยทั่วไปนั้น พวกเขานั้นจะต่อสู้กันไม่หยุด
เพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายตนและต่าแหน่งภายในตระกูล
ผู้อาวุโสบางท่านจากสาขาที่เนี้ยหลี่สังกัดต้องการ
ที่จะช่วยเนี้ยหลี่ แต่พวกเขาก็นิ่งเงียบ ต้องไม่ลืมว่า เกี่ยวกับ
เรื่องนี้ เนี้ยหลีไ่ ด้กระท่าผิดอย่างแท้จริง สิ่งที่เนี้ยเว่ยได้ท่านั้น
ถูกต้องแล้ว เมื่อนั้นพวกเขาก็ไม่มสี ิ่งได้ต้องโต้แย้ง

เนิ้ยอิ้ง ท่าหน้าบึ้งตึง เขามาจากสาขาเดียวกัน


กับเนี้ยหลี่ เขาคิดอยู่ชั่วครู่ ป้องมือของเขาและพูดว่า

“ท่านผู้น่า เนี้ยหลี่ยังเป็นเพียงแค่เด็ก ยิ่งไปกว่า


นั้น การบ่มเพาะพลังของเขานั้นอ่อนแอนัก การลงโทษเขาด้วย
การเฆีย่ นตีหนึ่งร้อยครั้งนั้นมันเป็นการท่าเกินกว่าเหตุไปมาก
เขาคงจะไม่สามารถลุกจากเตียงได้เป็นเวลาถึงสองเดือนเลย
ทีเดียว”
อาวุโสเนี้ยเว่ยเถียงกลับ “ท่านอาวุโส เนี้ยอิ้ง การ
ใจดีต่อเหล่าคนรุ่นใหม่เช่นนี้เป็นเรือ่ งที่ผิด ความผิดที่เนี้ยหลี่ได้
ท่าขึ้นไม่สามารถให้อภัยได้ ถ้าสมาคมนักปรุงยาไม่ได้ยื่นมือเข้า
มาช่วยพวกเราออกจากสถานการณ์ล่าบากนี้แล้วล่ะก็ ข้าไม่
สามารถคิดได้เลยว่าสถานการณ์แบบไหนที่ตระกูลของพวกเรา
จะต้องล่วงหล่นไปเจอ ข้านั้นกลัวว่าพวกเรานั้นจะสูญเสียซึ่งที่
ยืนในฐานะตระกูลขุนนาง! มันเป็นเรื่องที่ผิดพลาดมหันต์ การ
ลงโทษเขาด้วยการเฆี่ยนตีเช่นนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
แล้ว!” ตาของเนี้ยเว่ยทั้งสองเบิกกว้าง จ้องอย่างเย็นชาไปที่
เนี้ยหลี่ “เนีย่ หลีม่ ีสิ่งใดที่เจ้าจะกล่าวเพื่อตัวเจ้าเองหรือไม่?”

เนี้ยหลีไ่ ม่ได้ปรากฏอารมณ์ใดบนใบหน้าของเขา
ในชีวิตที่แล้วของเขา เนี้ยหลี่กลัวเขามากที่สุด เพียงแค่การเห็น
เขาก็ท่าให้เขากลัว จนกระทั่งผมของเขาตั้งขึ้นแล้ว และพูด
อะไรไม่ออก อย่างไรก็ตามในชีวิตนี้ เขาไม่ได้อยู่ในสายตาของ
เนี้ยหลี่แม้แต่น้อย

เนี่ยให้ได้ช่วยพูดให้เนี่ยหลี,่ ในฐานะที่เขาเป็นหัวหน้าตระกูล
เมื่อเขาได้ยินมาว่าเนี่ยหลี่ได้ไปถึง 1 ดาวทองแดงและเป็นที่
ยอมรับให้เข้าชั้นเรียนระดับอัจฉริยะ เข้าก็มีข้อสงสัย,สิ่งแรก
นั้นท่าใมการบ่มเพาะพลังของเขาถึงได้รวดเร็วยิ่งนักจนข้ามไป
ถึงระดับทองแดง 1 ดาว และอีกข้อท่าใมเขาถึงถูกยอมรับให้
เข้าชั้นเรียนระดับอัจฉริยะ

หลังจากทุกคนได้ยินค่าพูดของเนีย่ ไฮ้ ทุกคนก็มองไปยังเนี่ยหลี่


ด้วยความตกใจ พวกเขาเพิ่งรู้เกี่ยวกับการบ่มเพาะพลังของ
เนี่ยหลี่และสามารถเข้าเรียนยังห้องเรียนอัจฉริยะได้,เป็นข่าวที่
น่าตกใจเป็นอย่างมาก

เนี่ย เสีย่ วเฟิง และเนีย่ เสีย่ วหลี่ สองพี่น้องยังมีการแสดงออก


ถึงว่าไม่เชื่อถือในใบหน้าของพวกเขา พวกเขาเข้าใจเกี่ยวกับ
การบ่มเพาะพลังของเนี่ยหลี,่ หากแต่การเข้าเรียนในห้องเรียน
อัจฉริยะ เป็นข่าวปลอมหรือไม่? แม้พวกเขาจะไม่มสี ิทธิ์ที่จะ
เข้าเรียนในห้องเรียนอัจฉริยะ แต่ข่าวนี้ถูกกล่าวโดยหัวหน้า
ตระกูล พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะถามมัน
บทที่ 59 – ผู้อานวยการหยางมาเยือน

หลายปีทผี่ ่านมา คนรุ่นใหม่ของตระกูลบันทึกสวรรค์ที่ได้เข้าสู่


ชั้นเรียนอัจฉริยะมีจา่ นวนเพียงแค่12 คน ถึงแม้ว่าพวกเขานั้น
จะไม่เข้าสู่ชั้นเรียนอัจฉริยะ ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่มี
คุณค่าส่าหรับการคอยเลี้ยงดู อย่างไรก็ตามพวกคนที่เข้าสู่ชั้น
เรียนอัจฉริยะได้ เป็นพวกที่มีพรสวรรค์อย่างยิ่ง เป็นการ
ประสบซึ่งความส่าเร็จอย่างน่าตกใจสุด ๆ

“เนี้ยหลี่ เจ้าจะพูดอะไรแก้ต่างให้ตัวเจ้าเองหรือไม่? ท่าไมเจ้า


ถึงได้ลบหลู่ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ?์ ” เนี้ยไฮ้ได้มองและทางเนี้ยห
ลี่และถามขึ้น ในมุมมองของเขานัน้ ในหมู่คนรุ่นใหม่นี้ เนี้ยหลี่
นั้นไม่ใช่คนที่จะเที่ยวไปมีเรื่องกับชาวบ้านโดยปราศจากซึ่ง
เหตุผล ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เนี้ยหลี่ยังได้รับเลือกให้เข้าสู่ชั้น
เรียนอัจฉริยะทีส่ ถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ เขานั้นมีคณุ สมบัติ
เพียบพร้อมที่จะได้สนับสนุนอย่างเป็นพิเศษ

“ท่านหัวหน้าตระกูล มันเป็นเรื่องจริงที่ข้าได้รุกรานตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์และน่าปัญหามาสู่ตระกูลบันทึกสวรรค์ของพวกเรา
อย่างไรก็ตาม ข้านั้นไม่ได้แก้ไขมันแล้วหรอกหรือ?” เนี้ยหลี่
กล่าว เขานั้นทั้งไม่ประจบสอพลอและท่าตัวเย่อหยิ่ง เขายังคง
แสดงความเคารพต่อเนี้ยไฮ้ หลังจากได้ก่าเนิดใหม่ เขาไม่ได้
เผชิญหน้ากับคนระดับสูงอย่างเนีย้ ไฮ้เช่น คนขี้ขลาดอีกต่อไป
สภาวะจิตใจของเนี้ยหลี่นั้นได้ก้าวสูงกว่าคนเหล่านี้ไปเรียบร้อย
แล้ว

เนี้ยไฮ้มองไปยังเนี้ยหลี่ ด้วยความตกใจเล็กน้อย เขามี


ความรูส้ ึกว่าวันนี้เนี้ยหลี่นั้นไม่เป็นเช่นที่เคยเป็นมา โดยเมื่อ
ต้องเผชิญหน้ากับเขา เนี้ยหลี่ไม่ได้ ตระหนก ตื่นตกใจ เขา
เผชิญหน้ากับผู้น่าตระกูลด้วยความสูงส่งและสง่างาม

“ห่ะ ห้ะ ห้า มันช่างตลกยิ่งนัก พวกเรานั้นถูกช่วยเหลือ


ไว้โดยสมาคมนักปรุงยา และดังนั้นก็ได้ขจัดเสียซึ่งแรงกดดัน
จากตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ สมาคมนักปรุงยาจ่าเป็นต้องการ
ความช่วยเหลือของพวกเราซึ่งสมุนไพรหลายชนิดเพื่อ
แลกเปลี่ยนกับพวกเราชาวตระกูลบันทึกสวรรค์ มันไปเกี่ยวกับ
เจ้าเรื่องอะไรกัน? ความสามารของเจ้าที่ได้อ้างว่าได้แก้ปัญหา
ให้แก่ตระกูลบันทึกสวรรค์มันช่างใหญ่โตเสียนี่กระไร” เนี้ย
เสี่ยวหลี่ กล่าว

เมื่อได้ยินค่ากล่าวของเนี้ยเสี่ยวหลี่ เนี่ยหลี่ค่อย ๆ มอง


ไปยังเนี้ยเสี่ยวหลี่และเนี้ยเว่ย พร้อมกับกล่าวว่า “นั่นช่างเป็น
เรื่องที่น่าขันนัก ต่าแหน่งของสมาคมนักปรุงยาภายในเมือง
กลอรี่นั้นไม่ธรรมดา ไม่สามารถเอาไปเทียบกับตระกูลหลักทั้ง
สามได้ ท่าไมพวกเขาถึงได้ช่วยพวกที่อ่อนแอเช่นตระกูลเล็ก ๆ
อย่างตระกูลบันทึกสวรรค์?ที่มันเป็นเช่นนี้เพราะว่าตระกูล
บันทึกสวรรค์รู้วิธีการปลูกสมุนไพรเช่นนั้นหรือ?ยังมีอีกหลาย
ตระกูลมากมายข้างนอกนั่นที่รู้ถึงวิธีการปลูกสมุนไพรเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ท่าไมพวกเขาถึงได้ให้ส่วนแบ่งถึง30% ของ
ผลผลิตแก่ตระกูลบันทึกสวรรค์กัน?”

เนี้ยไฮ้และผู้อื่นต่างก็สะดุ้งเล็กน้อย สิ่งนี้ก็เป็นค่าถามที่
แฝงอยุ่ในใจของพวกเขาเช่นกัน สมาคมนักปรุงยาไม่ได้เพียงแต่
ช่วยเหลือตระกูลบันทึกสวรรค์ แต่พยายามให้พวกเขาอยู่ใน
ด้านที่รับผลโยชน์สูงด้วย อย่างไรก็ตาม พวกเขาต่างก็สงสัยว่า
ท่าไมสิ่งที่เก่าแก่และทรงอ่านาจเช่นสมาคมนักปรุงยา จึงได้
พยายามที่จะให้พวกเขาอยู่ในต่าแหน่งที่ได้เปรียบเช่นนี้ ? มัน
ไมค่อยสมเหตุสมผลเท่าใดนัก

เมื่อได้เห็น ท่าทีสงบไม่เปลีย่ นไปของเนี้ยหลี่ ไม่ว่าทั้ง


เนี้ยไฮ้ เนี้ยเว่ย เนี้ยอิ้ง หรือ เหล่าวผู้อาวุโสของตระกูลบันทึก
สวรรค์ พวกเขาต่างก็สงสัย เรื่องทัง้ หมดสามารถเชื่อมโยงไป
ถึงเนี้ยหลี่ได้เช่นนั้นหรือ?

พ่อของเนี้ยหลี่ เนี้ยหมิงที่อยู่ใกล้ ๆ ได้เห็นว่าเนีย้ หลีไ่ ด้


โต้เถียงกับท่านอาวุโส ผู้ควบคุมกฎ และเขานั้นได้วติ กเป็น
อย่างมากในตอนนี้ เขาไม่มีแม้กระทั่งการบ่มเพาะพลัง และ
เป็นเพียงสมาชิกคนหนึ่งของกิ่งของตระกูล ซึ่งตัวเขานั้นก็ไม่ได้
ต่างไปจากชาวนาธรรมดาคนหนึ่ง เมื่อเขาได้เห็นภาพเบื้องหน้า
เขา เขารีบคุกเข่าลงโดยเร็วและพูดว่า“ท่านผู้น่าตระกูล เนี้ย
หลี่ยังเยาว์นัก เขานั้นไม่รู้เรื่องอะไรหรอก ข้าเต็มใจที่จะรับการ
ลงโทษของเขาครึ่งหนึ่งเอง กรุณาเมตตาต่อเขาด้วย”

“ท่านพ่อ ลุกขึ้น!”เนี้ยหลี่พดู ขึ้น เมื่อเขามองไปยัง เนี้ย


หมิง ที่คุกเข่าอยู่นั้น เขามีสีหน้าบึง้ ตึง เขารีบตรงไปยังพ่อของ
เขาและช่วยพยุงเขาขึ้นมา พ่อของเขาเป็นคนซื่อคนหนึ่ง“ท่าน
พ่อ ท่านไม่จ่าเป็นต้องคุกเขาแก่ผู้ใดทั้งนั้น!

“เนี้ยเสี่ยวหลี่ เจ้าได้ท่าผิดร้ายแรง และยังไม่ยอมรับมัน


อีก!” เนี้ยหมิงดุเขา ในความคิดของเขา ถ้าเนี้ยหลี่ยอมรับใน
ความผิดของเขา ยังมีโอกาสที่จะร้องขอความเมตตา อย่างไร
ตามเนี้ยหลีไ่ ด้ต่อปากต่อค่ากับท่านผู้น่าตระกูลเช่นนี้แล้วยิ่ง
กลับท่าให้เรื่องมันยุ่งขึ้นไปอีก

เมื่อได้เห็น เนี้ยหมิง คุกเข่าลง ท่าให้เนี้ยหลีร่ ู้สึกขมขื่นใจ


ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตนี้หรือชีวิตที่แล้วของเขา พ่อของเขาท่าเพื่อ
เขาได้ทุกสิ่ง ในชีวิตที่แล้วนั้น เขาท่าให้ท่านพ่อต้องเจ็บปวดมา
มากแล้ว ในชีวิตนี้ เขาจะไม่ท่าให้ท่านพ่อต้องเจ็บปวดอีกแม้
เพียงเล็กน้อย เนีย้ หลี่ก่าหมัดของเขาแน่น และจ้องด้วยความ
โกรธไปที่เนีย้ เว่ย เนีย้ เสี่ยวหลี่ เนีย้ เสี่ยวเฟิ่งและพวกของพวก
เขา

เนี้ยไฮ้มองไปยังเนี้ยหลี่ เขารู้สึกอยู่บ้างว่าการที่สมาคม
ปรุงยาได้เข้ามาอุม้ ชูตระกูลบันทึกสวรรค์ต้องมีบางสิ่งบางอย่าง
เกี่ยวกับเนี้ยหลี่ เขาก้มลงหัวลงต่า่ ไปยัง เนี้ยหมิง และพูดว่า
“เนี้ยหมิง จงลุกขึ้นโดยเร็ว ก่อนที่เรื่องนี้จะกระจ่างแจ้ง จะไม่มี
ผู้ใดลงโทษเนีย้ หลีไ่ ด้ แม้ว่า เนี้ยหลี่ได้ท่าการลบหลูต่ ระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์จริง ตระกูลบันทึกสวรรค์ของพวกเราก็ไม่ได้รับความ
สูญเสียอันใด ดังนั้นจึงไม่มผี ู้ใดจะลงโทษเนี้ยหลี่ตามใจชอบ
ได้!”

เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยไฮ้ เนี้ยหมิงแสดงความ
ประหลาดใจออกมา เขายืนขึ้นด้วยความสงสัย‘ท่านผู้น่า
ตระกูลไม่ได้ด่าเนินการอันใดเกีย่ วกับเรื่องนี้?’

เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เขายังคงเต็มไปด้วยความคลุมเครือ

“ท่านผู้น่า ถ้าพวกเราไม่จัดการกับเนี้ยหลี่ พวกเราจะไม่


สามารถโน้มน้าวสาธารณะชนให้เชื่อได้ แม้ว่าเรื้องนีไ้ ม่ได้น่า
ความสูญเสียอย่างถาวรมาสูต่ ระกูลของพวกเรา เนี้ยหลี่ที่ได้ลบ
หลู่ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์นั้นก็ยังคงเป็นเรื่องจริง ใครจะรูไ้ ด้ว่า
พวกตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์อาจจะหาทางสร้างปัญหาให้แก่พวก
เราได้ในภายหน้า?” ท่านอาวุโสเนีย้ เว่ย พูดด้วยสีหน้าถมึงทึง
“ท่านอาวุโสผู้ยิ่งใหญ่ ท่านนั้นเป็นสมาชิกของตระกูลบันทึก
สวรรค์หรือของตระกูลเทพศักดิ์สทิ ธิ์กันแน่?” เนี้ยหลี่แค่นเสียง
ในจมูกขณะถามกลับ

“ช่างคิดเอาเอง! อะไรท่าให้เจ้ามีคณุ สมบัติที่จะพูดกับข้าเยีย่ ง


นี?้ ”ทั้งไม่เคารพกฎและไม่อยู่ในระเบียบ! ข้าก่าลังบังคับใช้กฏ
ตระกูลของพวกเรา!” เนี้ยเว่ยหายใจรุนแรงด้วยความโกรธ

“ท่านอาวุโสผู้ยิ่งใหญ่ ข้าไม่คดิ ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องเรียบง่าย


เช่นนั้น เสี่ยวหลี่นั้นไม่ได้เป็นคนสร้างปัญหา เป็นไปได้ไหมว่า
พวกตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ เป็นผู้เริม่ ก่อน?มันไม่จ่าเป็นเสมอไป
ที่ความผิดทั้งหมดจะอยู่กบั เสีย่ วหลี่ เมื่อเรื่องนี้ได้ผ่านไปแล้ว ก็
ขอให้ปล่อยมันไปแล้วกัน” ท่านอาวุโสเนีย้ อิ้งกล่าว พยายาม
ช่วยเหลือเนี้ยหลี่อย่างชัดแจ้ง ถ้าเนี้ยเว่ยได้ลงโทษเนีย้ หลี่ เมื่อ
นั้นความภูมิใจของเนี้ยอิ้งท่ามกลางเหล่าสมาชิกสาขาก็จะ
พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย
“ท่านอาวุโสก่าลังบังคับซึ่งกฎเหล่านี้จริงหรือ?เมื่อครั้งก่อน
เมื่อเนี่ยเสี่ยวหลี่ได้ทุบตีสมาชิกคนหนึ่งของตระกูล เถียนหลิน
ทั้งหมดที่ท่านท่าคือได้ส่งของขวัญบางอย่างไปให้ ท่าไมข้าไม่
เห็นท่านอาวุโสเนี้ยเว่ยได้ลงโทษเนี้ยเสี่ยวหลี่เลยกันเล่า?
” เนี้ยหลี่กดดันเขา

เรื่องทั้งสองนั้นไม่สามารถน่ามาเทียบกันได้ ความ
ขัดแย้งของเนี้ยเสี่ยวหลี่กับคนรุ่นใหม่ของตระกูล เถียนหลิง นั้น
เป็นเพราะผลประโยชน์ของตระกูล ยิ่งไปกว่านั้น ก่าลังของ
ตระกูลเถียนหลิง ก็ไม่สามารถเทียบได้กับตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ!์ ” หน้าของเนี้ยเว่ยได้บึ้งตึง เนี้ยหลีไ่ ด้แหย่ซึ่งหนวด
เสือและกล้าเผชิญหน้ากับเขา แต่สิ่งนี้ท่าให้เขาเศร้าใจเกี่ยวกับ
เรื่องนี้ก็คือ เนี้ยไฮ้ได้ยืนอยู่ข้างเนีย้ หลี่อย่างแท้จริง เขาไม่
สามารถท่าการเผชิญหน้ากับหัวหน้าตระกูลได้
“ท่านอาวุโสไม่ได้ท่าการสืบสวนใด ๆ เลย ท่านรูไ้ ด้
อย่างไรว่าข้านั้นไม่ได้ขัดแย้งกับตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ซึ่ง
ผลประโยชน์ของตระกูล?เพียงแค่เพราะท่านไม่กล้าที่จะ
เผชิญหน้ากับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ ท่านจึงได้จะลงโทษข้า
เพื่อให้มีเหตุผลทีต่ ระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์จะยอมปล่อยพวกเรา
ไป? ถ้าตระกูลบันทึกสวรรค์ไม่สามารถปกป้องได้แม้กระทั่งคน
ของตัวเอง ถ้าเช่นนั้นคงไม่มีเหตุอันใดที่ควรอยู่ในตระกูลนี้อีก
ต่อไป!”เนี้ยหลี่กล่าวพร้อมมองอย่างเย็นชาไปที่เนี้ยเว่ย
ทั่วทั้งห้องโถง ต่างรู้สึกตกใจ
ทุก ๆ คนไม่เคยคาดคิดว่าเนี้ยหลี่จะได้พดู ซึ่งค่าเหล่านั้น
ออกมาได้ ไม่เพียงแต่เถียงกับท่านอาวุโส เนี้ยหลี่ยังหมายถึงว่า
เขานั้นต้องการออกจากตระกูลบันทึกสวรรค์!
แต่ก่อนนั้น ภาพของเนี้ยหลี่ส่าหรับทุกคนต่างเห็นว่าเขา
เป็นคนที่ขี้หวาดกลัว แต่ตอนนี้ เขาได้พูดเช่นนั้นจริง ๆ โดยท่า
ต่อหน้าหัวหน้าตระกูลและเหล่าอาวุโสทั้งหมด
เนี้ยหมิงได้กลัวจนตัวสั่น เขาดุด้วยความจริงจัง“เสี่ยวหลี่
เจ้าก่าลังพูดอะไรอยู?่ รีบไปขอโทษหัวหน้าตระกูลเร็วเข้า!”
“ฮื้ม เจ้าปีกกล้าเสียจนกระทั่งต้องการออกจากตระกูล
จริง ๆ เช่นนั้นรึ? อย่าลืมซะล่ะ มันเป็นเหมือนดั่งที่พักอาศัย
และที่หล่อเลีย้ งที่ท่าให้เจ้าได้เป็นมาเช่นทุกวันนี้!” อาวุโสเนี้ยเว่
ยกล่าวอย่างเย็นชา“เจ้าคนเลวที่ไม่รู้จักบุญคุณ!”
“ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นเป็นตระกูลของพวกเรา ดังนั้นจึงไม่มี
สิ่งผิดอันใดเกี่ยวกับตระกูลบันทึกสวรรค์ที่ได้จดั หาซึ่งที่พัก
อาศัยให้แก่ข้า อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ตระกูลบันทึกสวรรค์ที่ได้
เลี้ยงดูข้า แต่เป็นท่านพ่อท่านแม่ตา่ งหากที่ได้ท่างานหนักอยู่ทุก
วันและปลูกสมุนไพรเพื่อเลี้ยงดูขา้ และพวกเขาก็ได้จ่าย(ส่วย)
ให้แล้วแก่ตระกูลบันทึกสวรรค์ด้วยหยาดเหงื่อของพวกเขา
ดังนั้นพวกเราไม่ได้ติดค้างผู้ใด ข้า เนี้ยหลีไ่ ม่ได้เป็นหนี้บุญคุณ
ใครทั้งสิ้น!” เนี้ยหลีย่ ืดตัวเขาออกและกล่าวปฏิเสธเช่นนั้น
“นี่เป็นการคิดเอาเองที่อุกอาจมาก ๆ!” เนี้ยเว่ยแสดงออกซึ่ง
ความโกรธ(จนหน้าเขียว) เนี้ยเว่ยยังคงต้องการด่าว่าเนีย้ หลีต่ ่อ
อย่างไรก็ตาม เขาถูกหยุดไว้โดยเนีย้ ไฮ้
เนี้ยหมิงดึงเนี้ยหลี่มาอย่างกังวลใจ เขาไม่รู้เลยว่ามีสิ่งใด
ผิดปกติเกี่ยวกับเนี้ยหลี่ เนีย้ หลี่นั้นเป็นคนขี้กลัวเสมอมาใน
เมื่อก่อน แต่วันนี้ เขาก่าลังโต้เถียงกับท่านอาวุโสและหัวหน้า
ตระกูล
เนี้ยไฮ้แว่บมองเล็กน้อยไปที่เนี้ยหลี่ วันนี้เนีย้ หลีไ่ ด้
ถกเถียงอย่างมีเหตุผลท่าให้ตัวเขาต้องมองเนี้ยหลีด่ ้วยมุมมอง
ใหม่ เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับท่านอาวุโสทั้งหลาย เขาไม่ได้
แสดงอาการของความขีต้ ื่นซึ่งเขามักท่าในอดีตแต่อย่างใด เนีย้
ไฮ้ได้ยมิ้ และกล่าวว่า“สิ่งที่เนี้ยหลีพ่ ูดมานั้นถูกต้องแล้ว ตระกูล
บันทึกสวรรค์เป็นของครอบครัวทุก ๆ คน ทุก ๆ คนได้ช่วยกัน
สร้างตระกูลนี้ขึ้นมา ดังนั้น การปกป้องสมาชิกจึงเป็นความ
รับผิดชอบของตระกูล ก่อนที่เรื่องนี้จะกระจ่างชัด จะไม่มีใคร
โดนลงโทษได้!”
เนี้ยเว่ย นั้นไม่เข้าใจเลย มีสิ่งใดผิดไปเกีย่ วกับท่านผู้น่า
ในวันนี้ เนี้ยหลี่ได้กล่าวถ้อยค่าที่ช่างอุกอาจและเนี้ยไฮ้ก็ยังคง
ยืนอยู่ข้างเขาอีก ท่าการปกป้องเนีย้ หลี่ มันหมายถึงอะไรกัน?
เมื่อได้ยินค่าของเนีย้ ไฮ้ ทุก ๆ คนรวมถึงตัว เนี้ยหมิง
ต่างก็พลอยงุนงง พวกเขาคิดในตอนแรกว่าการที่เนี้ยหลี่โต้เถียง
กับท่านอาวุโสเช่นนี้ ถ้าเขาไม่ถูกเฉดหัวส่งออกจากตระกูล เขา
ก็คงหนีไม่พ้นจากการถูกลงโทษเป็นแน่ อย่างไรก็ตาม เนี้ยไฮ้
ไม่ได้คิดอะไรที่เนียหลี่ได้พูดออกมาทั้งหมดนั่นเลย เขายังคง
คอยช่วยเหลือเนีย้ หลี่
เนี้ยเว่ยท่าหน้าบึ้งตึง คิดอยูภ่ ายในในว่า‘ เนี้ยไฮ้’เจ้า
จิ้งจอกเฒ่า มันไม่ถูกต้อง! เนี้ยไฮ้นนั้ ได้โอนอ่อนต่อเนีย้ หลีม่ าก
เกินไปซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย!’
ท่านอาวุโสเนี้ยอิ้งและคณะต่างมองไปที่เนี้ยหลี่ และ
ก่าลังคิดซึ่งบางสิ่ง
หลังจากที่เขาได้ยินค่าพูดของ เนี้ยไฮ้ อารมณ์ของเนี้ยห
ลี่เบิกบานขึ้น ต้องไม่ลมื ว่า เขายังคงมีความผูกพันกับตระกูล
บันทึกสวรรค์ เหตุที่เขากล่าวเช่นนั้นออกมาเป็นเพราะเขาไม่
พอใจกับคนบางกลุ่มของตระกูลบันทึกสวรรค์ แต่เมื่อ หัวหน้า
ตระกูล เนี้ยไฮ้ได้มีความใจกว้างเกีย่ วกับเรื่องนี้ เมื่อนั้นทุก ๆ
สิ่งก็เรียบร้อยดี
“เนี่ยหลี่ เจ้าเพิ่งกลับมาจากโรงเรียนและต้องประสบเรื่องราว
มากมาย ก่อนอื่นเลย เจ้าจงกลับไปบ้านและพักผ่อนก่อน
พรุ่งนี้ปู่คนนี้จะเป็นคนทดสอบเจ้าและดูว่าการบ่มเพาะพลัง
ของเจ้าได้ก้าวหน้าไปเพียงไรแล้ว”เนี้ยไฮ้ลุกขึ้นและยืดตัวออก
พร้อมกับกล่าวเช่นนั้น
ในตอนนี้ ทุก ๆ คนต่างตกใจ ไม่เพียงแต่ท่านผู้น่า เนีย้
ไฮ้ จะไม่ลงโทษต่อความผิดของเนี้ยหลี่ เขายังท่าแม้กระทั่งดึง
ตัวเขาเองให้สนิทกับเนีย้ หลีม่ ากขึน้
เมื่อได้ยินค่ากล่าวของเนี้ยไฮ้ เนี้ยหมิงไม่สามารถกลั้น
ความรูส้ ึกสะเทือนอารมณ์เช่นนี้ไว้ได้ ท่านหัวหน้าตระกูล เนี้ย
ไฮ้ ต้องการทดสอบการเติบโตในการบ่มเพาะพลังของเนี้ยหลี่
ด้วยตัวของเขาเองจริง ๆ นี่มันถือเป็นเกียรติอย่างสูง! ต้องไม่
ลืมว่า เนี้ยหลีไ่ ม่ได้เป็นผู้สบื สายเลือดของ เนี้ยไฮ้ ดังนั้น เนีย้ ไฮ้
ไม่ได้ก่าลังปฏิบัติกับเนี้ยหลี่อย่างดีมากเกินไปหน่อยหรือ?
ทุก ๆ คนต่างมองหน้ากัน แต่ยังไม่สามารถหาค่าตอบว่า
มันเกิดอะไรขึ้นได้
หลังจากได้ยินค่าพูดของ เนีย้ ไฮ้ เนี้ยหลี่ก็เข้าใจ เนี้ยไฮ้
น่าจะตระหนักถึงบางสิ่งได้ ต้องไม่ลืมว่า เนี้ยไฮ้นั้นเป็นร่างทรง
อสูรระดับทอง ดังนั้นเขาอาจจะสัมผัสถึงพลังงานของจิตอสูรที่
อยู่ภายในตัวเขาได้ และหลังจากเนี้ยหลีไ่ ด้พูดเกี่ยวกับเรื่อง
สมาคมปรุงยา เขาก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะเชื่อมโยงถึงพวกมัน
ต้องเป็นเช่นนั้นเป็นแน่ เนีย้ หลี่ไม่ตั้งใจที่จะซ่อนสิ่ง
เหล่านั้นอีกต่อไป แต่ว่ามันไม่ใช่เพื่อตัวของเขาเองเอง เขาต้อง
สู่เพื่อผลประโยชน์ของครอบครัวเขา รวมถึงท่านลุงและท่านน้า
เมื่อพวกเขาถูกท่าให้ตกใจได้ไม่นาน สมาชิกคนหนึ่งของ
ตระกูลได้วิ่งเข้ามาและพูดกับเนี้ยไฮ้ว่า“ท่านหัวหน้าตระกูล
ผู้อ่านวยการหยางแห่งสมาคมปรุงยาได้มายังที่แห่งนี”้
“ผู้อ่านวยการหยาง?” ไม่ว่าทั้งเนีย้ อิ้ง เนี้ยเว่ย หรือ เนี้ยไฮ้
พวกเขาทั้งหมดต่างแสดงอาการประหลาดใจออกมา
พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าผู้อา่ นวยการหยางของสมาคม
ปรุงยาจะมาเป็นการส่วนตัวและท่าการเยีย่ มเยียนตระกูล
บันทึกสวรรค์ในยามค่่าคืนเช่นนี้ พวกเขามีการติดต่อเป็น
จ่านวนมากกับสมาคมปรุงยา เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะรู้
เกี่ยวกับสถานะของผู้อ่านวยการหยางภายในสมาคมปรุงยา
เธอเป็นคนที่มีอ่านาจอย่างมากในสมาคมปรุงยานอกจากท่าน
ประธานกู้เหยียนและท่านอาวุโส
ผู้อ่านวยการหยางคนนี้ เพียงแค่ค่าพูดธรรมดาไม่
มีกี่ค่าของเธอก็สามารถท่าลายล้างตระกูลขุนนางหนึ่งลงได้
และในเวลาเดียวกัน มันก็สามารถน่าตระกูลขุนนางไปสู่ความ
มั่งคั่งได้เช่นกัน ในเวลานี้ ขณะที่ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ก่าลัง
กดดันตระกูลบันทึกสวรรค์อยู่ เป็นเหตุให้พวกเขาตกอยู่ใน
สถานการณ์ยากล่าบาก แต่ผู้อ่านวยการหยางเป็นผู้หนึ่งที่ได้มา
ช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้น

สมาคมปรุงยานั้นเป็นสมาคมที่ด่ารงอยู่และเทียบได้กับ
ตระกูลหลักทั้งสาม อิทธิพลของสมาคมปรุงยาในเมืองกลอรี่นั้น
มีมากยิ่งกว่าตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์และตระกูลปราชญ์วเิ ศษเสีย
อีก เป็นรองก็เพียงแค่ตระกูลหิมะเหมันต์ ที่มีร่างทรงอสูรระดับ
ต่านานและจ้าวเมืองของเมืองกลอรี่ ดังนั้นการพบกับ
ผู้อ่านวยการหยางเช่นนี้ท่าให้เนี้ยไฮ้ต้องแสดงเคารพต่อเธอเป็น
อย่างยิ่ง
บทที่ 60 – กลับกลาย

เมื่อได้ยินข่าวการมาของผู้อ่านวยการหยางทุก ๆ คนต่างเข้าสู่
ความสับสนและถูกกดดันด้วยข่าวเรื่องนี้
"รีบเร็วเข้าและไปจัดขบวนต้อนรับเดีย๋ วนี้!พวกเราจะ
พบเธอที่ห้องโถงหลัก" เนี้ยไฮ้สั่งด้วยความรีบเร่งบุคคลที่ทรง
อิทธิพลเช่นเธอนั้น พวกเขาไม่กล้าที่จะเพิกเฉยได้เพียงแต่เมื่อ
ทุกคนได้จัดขบวนและพิธตี ้อนรับเสร็จแล้วก็มผี ู้หนึ่งที่ได้เดินน่า
ทุกคนมา ซึ่งก็คือผู้อ่านวยการหยางเธอนั้นมีทรวดทรงที่โค้งมน
และยั่วยวนใจยิ่งนัก แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงแต่กไ็ ม่มีผู้ใดใน
ตระกูลบันทึกสวรรค์ที่ถูกยั่วยวนโดยเธอ พวกเขาไม่เคยลืมว่า
เธอยังคงเป็นผู้ที่ทรงอิทธิพลมาก(จนน่ากลัว)คนหนึ่งเลยทีเดียว
ผู้อ่านวยการหยางได้ก้าวอย่างเร็วเมื่อเธอเข้ามาภายในสายตา
ของเธอกวาดผ่านไปยังทุก ๆ คนและไปตกอยู่ที่เนี้ยหลี่และเธอ
ก็รู้สึกโล่งใจโดยลูกน้องของเธอได้คอยเฝ้าดูพื้นที่ของตระกูล
บันทึกสวรรค์อยู่และเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตระกูลนี้ไม่สามารถ
รอดพ้นสายตาของลูกน้องเธอไปได้เมื่อเธอได้ยินข่าวว่าเนี้ยหลี่
ได้กลับมายังตระกูลบันทึกสวรรค์เธอก็ได้เตรียมตัวทันที่เพื่อจะ
มาปรึกษาถึงบางสิ่งกับเขาก่อนหน้านี้เธอตั้งใจจะมาในเช้าของ
วันพรุ่งนี้แต่เมื่อเธอได้ยินข่าวเกีย่ วกับการโจมตีของพวกแฝงตัว
จากสมาคมทมิฬเธอก็รีบมาอย่างรวดเร็วในค่่าคืนทีล่ ่วงเลยไป
มากแล้วเช่นนี้

นอกจากเนี้ยหลีแ่ ล้วผู้อ่านวยการหยางไม่คดิ ว่ามีเหตุผลอื่นใดที่


จะดึงความสนใจของพวกสมาคมทมิฬให้มาที่แห่งนี้เธอเป็นวิตก
ว่าพวกคนเหล่านั้นจะพยายามมาลอบสังหารเนี้ยหลี่ โดยที่
ในตอนนี้นั้นเนี้ยหลีเ่ ป็นหุ้นส่วนคนส่าคัญของสมาคมนักปรุงยา
และยังคงมีอีกหลายสิ่งที่เธออาจได้ท่างานร่วมกันกับเขาดังนั้น
ต้องไม่มสี ิ่งใดเกิดขึ้นกับเนี้ยหลี่
เมื่อได้เห็นว่าเนีย้ หลี่ปลอดภัยแล้วผู้อ่านวยการหยางรูส้ ึกโล่งอก

"รีบเอาน้่าชามาให้ผู้อ่านวยการหยางโดยเร็ว!"เนี้ยไฮ้สั่ง
ไปยังพวกแม่บ้านด้วยความรีบเร่ง

"ไม่จ่าเป็นหรอก"ผู้อ่านวยการหยางกล่าวพร้อมกับส่าย
ศีรษะของเธอไปมาวัตถุประสงค์ของเธอในการมาที่แห่งนี้ก็คือ
ท่าให้มั่นใจในความปลอดภัยของเนี้ยหลีไ่ ม่ใช่เพียงการมาจิบชา
ในที่แห่งนี้ ตาของเธอประสานเข้ากับเนี้ยหลี่และสื่อสารเป็นนัย
กับเขาผ่านทางการสบตา
ภาพเหล่านี้ล้วนอยู่ในสายตาของเนี้ยไฮ้และทันใดนั้นเขาก็
เข้าใจภาพรวมทั้งหมดได้มันดูเหมือนว่าเนี่ยหลี่นั้นได้มีสาย
สัมพันธ์เชื่อมโยงกับสมาคมปรุงยาซึ่งบางสิ่งอย่างไรก็ตามสิ่งที่
เขานึกไม่ออกก็คือท่าไมสมาคมปรุงยาต้องให้ความส่าคัญ
กับเนี้ยหลีม่ ากถึงเพียงนี้กัน?

ผู้อ่านวยการหยางได้นิ่งไปชั่วครู่ยมิ้ เล็กน้อยไปยังเนี้ยไฮ้และ
พวกของเขาและกล่าวว่า "ท่านหัวหน้าตระกูลเนีย้ ไฮ้ข้าได้ข่าว
มาว่าท่านตกอยู่ใต้การโจมตีของพวกสมาคมทมิฬ"

"มันเป็นเรื่องจริงเช่นนั้นผูอ้ ่านวยการหยาง ทั้งสอง


เหล่านีม้ าจากสมาคมทมิฬ นอกจากสองคนนี้แล้วยังมีอีกคน
หนึ่งที่หนีไปได้แต่ก็ได้รับบาดเจ็บ"เนี้ยไฮ้ได้ชี้ไปที่ศพทั้งสองที่
อยู่บนพื้นและกล่าวเช่นนั้น
หยางซินมองไปบนศพทั้งสองร่างนั้นเธอนิ่งเงียบไปชั่วขณะ มิ
ต้องสงสัยเลย เป้าหมายของพวกคนเหล่านี้น่าจะเป็นเนี้ยหลี่
ดังนั้นเธอจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่าย ๆ เช่นนี้สายตาตา
ของเธอมองกลับไปที่เนี้ยไฮ้และพูดว่า "ท่านผู้น่าตระกูลเนี้ยไฮ้
มีซึ่งเรื่องหนึ่งที่ข้านั้นต้องการพูดคุยกับท่านมันจะเป็นไปได้
หรือไม่?"
"เชิญบอกมาได้เลยท่าน!"เนี้ยไฮ้ กล่่าวด้วยความสุภาพ
เป็นที่สุดการแสดงออกของเขาอ่อนน้อมเป็นอย่างยิ่ง

"ข้านั้นกลัวว่าพวกสมาคมทมิฬนั่นจะหวนกลับมา
ท่างานของพวกมันให้เสร็จอีกครั้งข้าจึงเป็นกังวลในความ
ปลอดภัยของตระกูลบันทึกสวรรค์ดังนั้นข้าจึงมีความประสงค์
จะส่งนักต่อสู้และร่างทรงอสูรระดับทองมายังที่แห่งนี้เพื่อคอย
คุ้มกันให้แก่ตระกูลบันทึกสวรรค์ท่านนั้นมีความเห็นใดกับเรื่อง
นี?้ " หยางซินพูดแม้ว่าเธอพูดว่าเพือ่ ปกป้องตระกูลบันทึก
สวรรค์แต่ความจริงแล้วคนทีเ่ ธอต้องการปกป้องนั้นคือเนี้ยหลี่
เพียงคนเดียว

"ท่านต้องการส่งนักต่อสู้และร่างทรงอสูรระดับทองมา
หรือ?" เนี้ยไฮ้ประหลาดใจเกี่ยวกับค่าพูดเหล่านั้นความสงสัยใน
ใจเขานั้นเริ่มจะมากและมากขึ้นเรือ่ ย ๆวิธีการใดที่เนี้ยหลีไ่ ด้ใช้
เพื่อให้สมาคมปรุงยาเข้ามาช่วยเหลือพวกเขามากถึงเพียง
นี?้ ไม่เพียงแต่พวกเขาเต็มใจจ่ายโดยให้ราคาสูงซึ่งสมุนไพรที่
เก็บเกี่ยวมาได้ของตระกูลบันทึกสวรรค์และพวกเขายังส่งนัก
ต่อสู้และร่างทรงอสูรระดับทองหลายคนมาช่วยเหลือพวกเขา
อีก
"ข้าไม่คิดว่าสิ่งนี้นั้นถูกต้อง !" อาวุโส เนี้ยเว่ย ที่อยู่ใกล้
ๆ กล่าวขึ้น เขาขมวดคิ้วและคิดว่า 'อะไรเป็นสิ่งจูงใจที่ท่าให้
สมาคมปรุงยาต้องส่งนักต่อสู้และร่างทรงอสูรระดับทองมายังที่
แห่งนี'้

"มีสิ่งใดผิดกันเล่า?" เนี้ยหลี่มองไปยังเนีย้ เว่ยและพูด


ขึ้น "บางที่ท่านผู้อาวุโสคงรู้สึกว่าสมาคมนักปรุงยาก่าลัง
พยายามที่จะเข้ามาท่าอันตรายแก่ตระกูลบันทึกสวรรค์เช่นนั้น
หรือ ? ท่านอาวุโสก่าลังท่าพฤติกรรมต่่าช้าต่อสุภาพชนผู้หวังดี
เช่นนี้ได้อย่างไร!"

"ชักจะมากเกินไปแล้ว ! เจ้าเป็นใครถึงมาอธิบาย
เกี่ยวกับพฤติกรรมเลวทรามของผูค้ นได้!"เนี้ยเว่ยดุด่าด้วยความ
โกรธ เนี้ยหลี่ได้ท่าเรื่องอุกอาจมากเกินไปเสียแล้วเขา
จ่าเป็นต้องสวนกลับไปต่อหน้าทุก ๆ คนเช่นนี้
เนี้ยหมิงดึงเสื้อของเนี้ยหลีเ่ ข้ามาอย่างเป็นกังวลการรุกรานท่าน
อาวุโสเช่นนี้ สถานการณ์กลับยิ่งแย่ลงไปอีกด้วยสถานะของ
ครอบครัวพวกเขาในตอนนีม้ ันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะท่า
ต่อต้านกับท่านอาวุโสเนี้ยเว่ยได้ถา้ ท่านอาวุโสเนีย้ เว่ยไม่ได้ท่า
สิ่งใดกับเนี้ยหลี่ในวันนี้ใครจะรู้ว่าเขาอาจท่าการแก้แค้น
ภายหลังในวันหนึ่งข้างหน้า
เมื่อเห็นเนีย้ เว่ยท่าการดุดา่ เนี้ยหลีห่ ยางซินก็เข้าใจ ดูเหมือนกับ
ว่าเนี้ยหลีย่ ังไม่ได้บอกทุก ๆ สิ่งกับตระกูลของเขาความสัมพันธ์
ของเนี้ยเว่ยกับเนี้ยหลี่นี้ไม่ลงรอยกันอย่างมาก หยางซินค่อย ๆ
หรี่ตาของเธอลง ความส่าคัญของเนี้ยหลี่นั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่า
สูงเพียงใดดังนั้นเธอจะคอยสนับสนุนเนี้ยหลี่

"ท่านผู้น่าตระกูลเนี้ยไฮ้ขา้ ตระหนักได้ว่ามีบางคนในที่
แห่งนี้ที่มีความคิดซึ่งบางสิ่งต่อสมาคมนักปรุงยานั่นหมายถึง
สมาคมปรุงยาไม่จ่าเป็นต้องร่วมมือกับตระกูลบันทึกสวรรค์อีก
ต่อไปเช่นนั้นหรือ?" หยางซิน พ่นลมหายใจของเธอและใบหน้า
เธอก็ดูเย็นชา หลังจากทีม่ ีอ่านาจมาอย่างยาวนานการ
แสดงออกซึ่งสีหน้าของเธอนั้นสามารถเปลีย่ นไปได้ไม่ว่า
เมื่อไหร่ที่เธอต้องการโดยตอนนี้แม้กระทั้งบรรยากาศรอบตัวก็
ดูหนาวเหน็บตามไปด้วย
เนี้ยเว่ยรีบอธิบายโดยเร็ว "ผู้อ่านวยการหยาง ข้าไม่ได้
หมายความเช่นนั้น..."เขานั้นไม่กล้าลบหลู่กับสมาคมปรุงยาเขา
เพียงแค่รู้สึกว่าการที่สมาคมปรุงยาได้ส่งนักต่อสู้และร่างทรง
อสูรระดับทองมากมายมายังที่แห่งนี้ค่อนข้างจะแปลกไปซัก
หน่อยดังนั้นเขาจึงพูดออกไปเพื่อเตือนเนี้ยไฮ้อย่างไรก็ตาม
หลังจากถูกตอกกลับมาจากเนี้ยหลี่เช่นนี้ท่าให้เรื่องทั้งหมดนั้น
เปลี่ยนไปถ้าสมาคมปรุงยาได้ปฏิเสธการร่วมมือกับตระกูล
บันทึกสวรรค์ด้วยเรื่องนี้แล้วเขาจะต้องกลายเป็นดั่งผู้ท่าเรื่อง
เลวทรามภายในตระกูลเป็นแน่ ภายในใจเขานั้นเขาสาปแช่ง
เนี้ยหลีไ่ ม่สิ้นสุดที่ปากโพล่งออกมาให้สถานการณ์กลับ
กลายเป็นเช่นนี้อย่างไรก็ตามการที่เนี้ยไฮ้ยังชื่นชมเนี้ยหลี่เป็น
เหตุให้เขารู้สึกหดหู่อีกเช่นกัน
หลังจากได้รู้ถึงความสัมพันธ์ของสมาคมปรุงยากับเนี้ยหลี่แล้ว
เนี้ยไฮ้นั้นจะกล้าลงโทษเนี้ยหลี่ได้เช่นไร?
หลังจากเธอได้กวาดสายตาไปยังเนี้ยเว่ยแล้วหยางซินพ่นลม
หายใจออกและกล่าวว่า "ข้านั้นก่าลังพูดกับท่านผู้น่าตระกูล
เนี้ยไฮ้ท่าไมเจ้าถึงได้เข้ามาสอด?"
เมื่อได้ยินค่าพูดของหยางซินเนี้ยเว่ยอ้าปากเขาออก หน้าของ
เขาเปลีย่ นเป็นสีแดงแม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกชอบขี้หน้าหยางซิน เขา
ก็ไม่ได้พูดสิ่งใด ต้องไม่ลืมว่าเพียงค่าเดียวของหยางซินนั้น
สามารถจะตัดสินชะตาของตระกูลบันทึกสวรรค์ได้เขาจะกล้า
รีบเร่งได้อย่างไร? การที่เป็นถึงผู้อาวุโสของตระกูลแห่งขุนนาง
ก่าลังถูกต่าหนิโดยผู้หญิงอายุราว ๆ20 ถึง30 ปีและไม่สามารถ
พูดสิ่งใดสวนกลับไปได้ใครก็รู้ว่ามันช่างเป็นเรื่องที่ต้องทนขมขื่น
เพียงใด
"ข้าคาดว่านี่คงเป็นท่านอาวุโสหลักของตระกูล
เนี้ย ?" หยางซินได้มองไปทางเนีย้ ไฮ้และถามขึ้น
เมื่อได้ยินค่าพูดของเธอที่มีน้่าเสียงแฝงไว้บ้างซึ่งความโกรธ
อย่างเย็นชาเนี้ยไฮ้กล่าวอย่างรูส้ ึกอับอายว่า "ถูกต้องแล้วท่าน
ค่าของท่านอาวุโสนั้นไม่ได้หมายถึงต้องการลบหลู่
ผู้อ่านวยการหยางหรอกข้าหวังว่าผู้อ่านวยการหยางสามารถให้
อภัยเขาได้" เนี้ยไฮ้ขยิบตาไปยังเนีย้ หลี่เขาต้องการให้เนี้ยหลี่
ช่วยจัดการกับความโกรธของหยางซิน อย่างไรก็ตามเนี้ยหลี่ได้
หันศรีษะไปทางอื่นโดยไม่สนใจผู้นา่ ตระกูลอย่างเขา
การลดซึ่งศักดิ์ศรีต่อหน้าหยางซินนั้นไม่เป็นไรแต่เมื่อเขาต้อง
เผชิญหน้ากับคนในตระกูลของเขา เขาก็ยังช่วยไม่ได้อย่างไรก็
ตามเขาท่าได้เพียงแค่ยิ้มเจื่อน ๆออกมาเขาสังเกตได้ชัดถึง
เหตุผลที่หยางซินท่าไมถึงได้ร่วมมือกับตระกูลบันทึกสวรรค์
ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเพราะเนี้ยหลี่

"ข้าเสนอว่าให้คนผู้นลี้ าออกถ้าคนแบบนี้ยังคงอยู่ใน
ต่าแหน่งของอาวุโสหลักภายในตระกูลบันทึกสวรรค์เมื่อนั้น
สมาคมปรุงยาจะหยุดความร่วมมือทั้งหลายกับตระกูลบันทึก
สวรรค์"หยางซินพูดเบา ๆ
เนี้ยไฮ้สดู ลมหายใจลึกสิ่งที่เธอหมายถึงคือต้องการให้ก่าจัด เนีย้
เว่ยออกจากต่าแหน่งผู้อาวุโสหลักสมาคมปรุงยาในตอนนีไ้ ด้ถือ
ชะตาของตระกูลบันทึกสวรรค์เอาไว้ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าท่าอะไร
ผลีผลาม สมาคมปรุงยาไม่ใช่สิ่งที่จะเล่นด้วยได้ถ้าพวกเขาหยุด
การค้าขายกับตระกูลบันทึกสวรรค์แล้วจะมีครอบครัวจ่านวน
นับไม่ถ้วนข้างนอกนั้นที่จะถือโอกาสล้มล้างตระกูลบันทึก
สวรรค์

"นับแต่นี้เป็นต้นไปเนี้ยเว่ยนั้นไม่ได้เป็นผู้อาวุโสหลัก
และผู้อาวุโสบังคับกฎของตระกูลบันทึกสวรรค์อีกต่อไป
ต่าแหน่งของเขานั้นจะถูกยกให้แก่ท่านอาวุโส เนี้ยอิ้ง!"เนี้ยไฮ้
ประกาศอย่างเป็นทางการ
เนี้ยเว่ยอ้าปากของเขาต้องการพูดบางสิ่ง อย่างไรก็ตาม เขาได้
มองไปทางหยางซินและพรรคพวกของเธอเขาเข้าใจดีว่าไม่มี
ห้องให้ถกเถียงส่าหรับเรื่องนี้อีกแล้วเขาสามารถท่าได้เพียงแต่
กล้่ากลืนสิ่งที่เขาต้องการพูดเนี้ยเสี่ยวเฟิ่งและเนี้ยเสี่ยวหลี่ต่างมี
หน้าเป็นสีม่วงเหมือนไข่เน่าเหตุที่เขาสามารถท่ากร่างในตระกูล
บันทึกสวรรค์ได้เป็นเพราะปู่ของพวกเขาคือผู้อาวุโสหลัก
การที่สามารถก่าจัดต่าแหน่งของผูอ้ าวุโสหลักในตระกูลบันทึก
สวรรค์ออกไปได้นี่คือพลังมหาศาลของสมาคมปรุงยา
เนี้ยไฮ้ยังคงประกาศต่อไป "นอกจากนี้ เนี้ยหมิงจะรับต่าแหน่ง
ดูควบคุมค่าใช้จ่ายห้องโถงส่วนกลางและเนี้ยไค่จะรับต่าแหน่ง
ควบคุมห้องโถงการเกษตร!"

เมื่อได้ยินค่าของเนี้ยไฮ้เนี้ยหมิงและเนี้ยไค่ทั้งสองต่างงุนงงพวก
เขามองไปที่เนี้ยไฮ้ด้วยความรูส้ ึกไม่อยากเชื่อพวกเขาไม่ได้รู้สึก
เช่นนี้เพียงพวกเดียว พวกที่เหลือของตระกูลต่างรู้สึกตกใจ
ต่าแหน่งผู้ควบคุมยุ้งฉางกลางและ ต่าแหน่งผู้ควบคุมยุ้งฉาง
การเกษตรต่าแหน่งทั้งสองในตระกูลบันทึกสวรรค์นี้ หนึ่งนั้น
เป็นผู้ควบคุมการเงินและอีกต่าแหน่งนั้นเป็นควบคุมสมุนไพรที่
เก็บเกี่ยวได้และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่น ๆที่เกีย่ วข้อง โดย
ปกติแล้วมันเป็นต่าแหน่งของลูกชายเนี้ยเว่ย ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย
ให้ควบคุมอยู่

"ขอบคุณครับท่านหัวหน้าตระกูล"เนี้ยหมิงและเนี้ยไค่
ต่างคุกเขาด้วยความซาบซึ้งและพูดขึ้น
เมื่อเห็นพ่อและลุงของเขาคุกเข่าลงเนี้ยหลี่ช่วยไม่ได้ที่จะขมวด
คิ้วของเขา
เนี้ยไฮ้รีบส่ายมือของเขาทันทีเมื่อเขาเห็นท่าทีของเนี้ยหลี่ "ไม่
จ่าเป็นต้องมีพิธีรตี อง นับจากวันนี้ไปพวกเจ้าทั้งสองไม่
จ่าเป็นต้องคุกเข่าต่อหน้าข้าอีกต่อไป"
เนี้ยหมิงและ เนี้ยไค่ทั้งสองต่างยืนขึ้นด้วยความสับสนว่าเกิด
อะไรขึ้นกันแน่
เนี่ยเว่ยเนีย้ อิ้งและพวกที่เหลือดูเหมือนว่าจะปะติดปะต่อ
เรื่องราวได้ตาของเนี้ยอิ้งส่องประกายยินดียิ่งในขณะที่เนี้ยเว่ย
เต็มไปด้วยความขุ่นมัว
ในเมื่อทางสมาคมนักปรุงยาเต็มใจที่จะส่งผู้คนมาเพื่อช่วย
ปกป้องตระกูลบันทึกสวรรค์ของพวกเราพวกเรานั้นรู้สึกยินดี
เป็นอย่างยิ่งส่าหรับเรื่องนี้ แน่นอนเลย!เนีย้ ไฮ้สามารถมองออก
ว่าการที่สมาคมปรุงยาได้ท่าการส่งผู้คนมาเช่นนี้เป็นเพราะว่า
ต้องการปกป้องเนี้ยหลี่ความสับสนภายในใจเขาเริ่มก่อตัวหนา
มากขึ้นเมื่อเขายิ่งคิดท่าไมสมาคมปรุงยาถึงได้อุ้มชูเนีย้ หลีด่ ้วย
ความส่าคัญเช่นนี?้ เขาตัดสินใจทีจ่ ะถามเนีย้ หลี่หลังจากหยางซิ
นจากไปแล้ว

"มันเป็นค่่าคื่นที่ล่วงเลยมานานแล้วข้านั้นคงไม่รบกวน
ท่านอีกต่อไป" หยางซินได้มองไปทางเนี้ยหลี่และพูดว่า "ทุก ๆ
คนพักผ่อนให้สบาย ข้าจะมาเยี่ยมอีกครั้งในระหว่างวันของวัน
พรุ่งนี้ "
"มันเป็นเรื่องยากส่าหรับผู้อ่านวยการหยางหรือไม่ที่จะ
ออกไปและกลับมาท่าไมท่านไม่พกั ค้างคืนที่ตระกูลบันทึก
สวรรค์ของข้านี้ล่ะ? ข้านั้นได้ให้บางคนไปเตรียมไว้ซึ่งบ้านพัก
อันแสนงดงามเพื่อเปิดให้แก่ท่านแล้ว"เนี้ยไฮ้รีบพูดอย่าง
รวดเร็ว พยายามท่าให้เธอรู้สึกดี
หยางซินได้นิ่งเงียบไปชั่วครู่คดิ อยูพ่ ักนึกและกล่าวว่า "ตกลง
ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วล่ะก์!"
ในเมื่อเธอจะมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้เพื่อพูดคุยกับเนี้ยหลี่ ท่าไม
ถึงไม่พักที่แห่งนี้เสียเลย

"เนี้ยหลี่จงน่าผู้อ่านวยการหยางไปยังที่พักของเธอให้
เธอพักผ่อน"เนี้ยไฮ้พูดกับเนีย้ หลี่ "ข้าจะให้บางคนจัดเตรียม
บ้านพักข้าง ๆผู้อ่านวยการหยางเปิดให้เจ้าเข้าพัก"

"ครับ"เนี้ยหลี่ก้มหัวเล็กน้อย
หยางซินมองไปทางเนี้ยไฮ้และคิดว่าเนี้ยไฮ้นั้นได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว
เธอต้องการมาเพียงเพื่อพูดคุยกับเนี้ยหลี่
หลังจากท่าการร่่าลาเนี้ยหมิงและ เนี้ยไค่เนี้ยหลี่ได้น่า
ผู้อ่านวยการหยางไปที่บ้านพักที่เนี้ยไฮ้ได้จัดเตรียมไว้
เมื่อท่าการมองดูทดี่ ้านหลังของเนีย้ หลี่เนีย้ หมิงและเนี้ยไค่ทั้ง
สองต่างเข้าใจ เนี้ยไฮ้ ได้ถอดเนีย้ เว่ยออกจากต่าแหน่งยกมัน
ให้แก่ท่านอาวุโสเนี้ยอิ้ง และให้ต่าแหน่งที่ส่าคัญแก่พวกเขา
ทุกๆ อย่างต้องมีบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเนี้ยหลี่พวกเขาตระหนัก
ได้ว่าความเข้าใจของพวกเขาต่อเนีย้ หลี่นั้นมีเพียงน้อยนิด ใน
เวลานี้เมื่อเนี้ยหลี่กลับมาเขาได้เปลี่ยนไปราวฟ้ากับดินเลย
ทีเดียวโดยการเปลี่ยนไปอย่างมากของเนี้ยหลี่นี้เนี้ยหมิงและ
เนี้ยไค่ล้วนยินดีเป็นอย่างยิ่ง
บทที่ 61 - ่วยวน
ย้

เมื่อได้เห็น เนี่ย ลี่ ออกไปกับหยางซิ่นทั้งเนี้ยเว่ย, เนี้ยอิ้ง , และ


คณะที่เหลือทั้งหมด พวกเขาทุกคนรู้ว่านับแต่นี้เป็นต้นไป
ต่าแหน่งของ เนี่ย ลี่ ในตระกูลบันทึกสวรรค์ จะไม่เหมือนเดิม

ส่าหรับ เนี้ยเสี่ยวเฟิ่ง และ เนี้ยเสีย่ วหลี่ พวกเขามองซึ่งกันและ


กันด้วยความตะลึง พวกเขารู้วา่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปพวกเขา
จะต้องใช้ชีวิตอยู่กับความอัปยศอดสู

ด้านในคฤหาสถ์ของหยาง ซิน

หยาง ซิน ได้ถอดเสื้อชั้นนอกของเธอเผยให้เห็นเสื้อผ้าไหมที่


กระชับแน่นกับเรือนร่างของเธอ และอย่างเชื่องช้า เธอได้ยดื
เอวของเธอออกอวดร่างเรือนอันสมส่วนและสะโพกก็เข้ารูป
สวยงาม โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าเนีย่ หลี่นั้นได้อยู่ในที่แห่งนี้ด้วย
ในขณะที่เธอก่าลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกนี้ เธอคิดในใจว่าเนี้ยห
ลี่นั้นก็เป็นเพียงเด็กอายุ 13 ปีเท่านั้น
แต่เธอนั้นไม่รู้ว่าภายใต้เปลือกนอกของเด็กอายุ 13 ปีของเนี้ยห
ลี่นั้น ได้ซ่อนจิตใจของความเป็นผูใ้ หญ่เอาไว้เนี้ยหลี่มองไปที่ห
ยางซิ่นและต้องการพูดบางอย่าง ณ ช่วงเวลาเช่นนี้ เธอนั้นชวน
มองเป็นอย่างมาก เสื้อผ้าไหมแสนบางเป็นเหตุให้ผิวขาว ๆ
ภายใต้เสื้อของเธอมองเห็นได้เรือนลาง และผ้าบนหน้าอกของ
เธอก็ไม่สามารถปกปิดของอวบอั๋นขนาดใหญ่เช่นนั้นได้ และ
ร่องอกลึกที่สามารถเห็นได้เป็นทางสีขาวขนาดใหญ่อยูร่ ะหว่าง
กลาง

อย่างไรก็ตาม เนี้ยหลี่มองด้วยความชื่มชมเท่านั้น เขาไม่ได้


สนใจซึ่งความคิดเกี่ยวกับเรื่องเพศเลย

“เป้าหมายของสมาคมทมิฬ คือเจ้างั้นหรือ” หยาง


ซิน ถามขณะก้มลงมองที่ เนี้ย ลี่

ขณะที่ เนี่ยหลี่ เงยหน้าขึ้น เขาเห็นหน้าอกสีขาวของ หยาง ซิน


ที่มีรูปทรงกลมได้รูปอย่างสมบูรณ์ ขนาดของมันนั้นไม่สามารถ
อยู่ภายใต้ฝ่ามือเพียงอันเดียวได้หมด และกลิ่นหอมเฉพาะตัว
ของหยาง ซิน ได้ลอยมาหาเขาท่าให้เนี่ยหลีม่ ีอาการอึดอัดใจ
เล็กน้อย

"ใช่!" เนี่ย หลี่ กล่าว พร้อมพยักหน้าเล็กน้อย

หยาง ซิน ดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตเห็นสายตาที่จองมองตัวเอง


ของ เนี่ย หลี่ เธอขมวดคิ้วและพูดว่า “เมื่อถูกคนจากสามคม
ทมิฬหมายตาเอาไว้ ตระกูลบันทึกสวรรค์แห่งนี้ก็ไม่ปลอดภัย
ส่าหรับเจ้า ท่าไมไม่ย้ายไปอยู่ที่สมาคมปรุงยากันเล่า? ”

หยาง ซิน ไม่รู้วา่ ท่าไมเนี่ยหลี่ ถึงถูกสมาคมทมิฬตามล่าอาจจะ


เป็นเพราะข่าวของเขาที่ให้สูตรยาทิพย์แก่สมาคมปรุงยา นั้น
รั่วไหลออกไป ถึงอย่างนั้นเรื่องนี้กม็ ีเพียงเธอและท่านประธาน
เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้

เนี่ย หลี่ ส่ายหัวและพูดว่า “ จริงๆแล้วถ้าพวกมันรู้ว่าข้าให้สตู ร


ยาแก่สมาคมนักปรุงยาพวกมันจะส่งแค่คนที่มีฝมี ือระดับ
เงิน 3 ดาว มาฆ่าตัวข้าหรือ พวกมันน่าจะส่งคนมาเพื่อจับตัวข้า
มากกว่า”

หยาง ซิน พยักหน้าเมื่อได้ฟังเหตุผลที่ เนี่ย หลี่ กล่าวมา เธอคิด


ชื่นชมเนี่ย หลีว่า ความคิดอ่านของเขานั้นไม่ได้ท่าให้เขาดู
เหมือนเด็กอายุ 13 ปี เลยเมื่อคิดถึงความไม่ธรรมดาและ
พรสวรรค์ที่น่ากลัวนั้น หยางซินรูส้ กึ โล่งใจ(ก่อนหน้านี้ใจหาย
เมื่อรูส้ ึกข้อสรุปของเนี้ยหลี่ เพราะคิดอยู่ว่าเนี้ยหลี่อาจไม่ใช่
เด็ก) ต้องไม่ลืมว่าสิ่งแปลกประหลาดต่าง ๆ มักเกิดขึ้นรอบ ๆ
ตัวเนี้ยหลี่เป็นปกติ

“เธอมีความแค้นอะไรกับพวกมันกันหรือ?” หยาง
ซิน ได้ยดื เอวของเธอขึ้นอีก แล้วนั่งไปบนเก้าอีและถามเช่นนั้น
ถ้ามันเป็นเพียงความแค้นปกติ เธอก็ไม่จ่าเป็นต้องกังวลมาก
เกินไป เพราะในสถานการณ์ปกติสมาคมทมิฬจะไม่เสี่ยงที่จะส่ง
ผู้เชี่ยวชาญระดับทองเข้ามาในเมืองกลอรี่หรอกซึ่งถ้ามันส่งแค่
ระดับซิลเวอร์มาจับตัวเนี่ย หลี่การใช้ร่างทรงอสูรระดับ
โกลด์ 1 หรือ 2 คน ก็สามารถปกป้องเนี่ยหลีไ่ ด้สบาย
"ข้านั้นไม่ได้มีความแค้นใด ๆ กับสมาคมทมิฬ" เนี่ย
หลี่พูดในเหตุการณ์ที่เมืองกล้วยไม้โบราณ เนี่ยหลี่ ก็ไม่ได้เห็น
หน้าของ หยุนหัว ดิคอน ซึ่งมันไม่รู้จักเนี่ยหลี่ด้วยซ้่า ดังนั้น
หยุนหัว ดิคอน คงจะไม่เสี่ยงมาฆ่าเนี่ย หลี่ เองถึงในตระกลู
บันทึกสวรรค์หรอก มีความเป็นไปได้อย่างเดียวคือ การโจมตี
ครั้งนี้มีสาเหตุมาจากตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์เนี่ย หลี่ จึงพูดขึ้น
ว่า “หากมีใครที่คิดจะฆ่าข้าก็คงจะเป็นตระกลูเทพศักดิส์ ิทธิ์”

เมื่อได้ยินค่าของเนี้ยหลี่เช่นนั้น รอยของแสงเย็นเฉียบปรากฏ
ฉับพลันในดวงตาแสนสวยคู่นั้นของหยางซิ่น หากเป็นเช่นนั้น
หมายความว่าตระกลูเทพศักดิ์สิทธิ์ร่วมมือกับสมาคมทมิฬ
เช่นนั้นรึ สมาคมทมิฬเป็นศัตรูของเมืองกลอรี่หากสมรู้ร่วมคิด
กับมันแล้วถือเป็นความผิดร้ายแรงยิ่ง

"ข้าจะเป็นผู้ที่ท่าการสืบสวนเรื่องนี้ ถ้าสมาคมทมิฬ
ได้เข้าร่วมกับตระกูลศักดิ์จริง เมื่อนั้นท่านจ้าวเมืองต้องไม่
ปล่อยพวกมันไปง่าย ๆ เป็นแน่!"หยางซิ่น พูดด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว
และแน่วแน่ ค่าพูดของเธอปรากฏปรากฏน้่าเสียงเยือกเย็นอยู่
การทรยศต่อเมืองกลอรี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถให้อภัยได้เลย
“ครั้งนี้หนึ่งในพวกมันสามารถหนีไปได้ สมาชิกนัก
ฆ่าของมันคนหนึ่งเรียกเขาว่าหยุนหัว ดิคอน ข้าจะวาด
ภาพเหมือนของเขาให้” เนี่ย หลี่ พูดพร้อมหยิบกระดาษจาก
ชั้นหนังสือมาวาด ภายในการตวัดปลายพู่กันไม่กี่ครั้งก็มรี ูปภาพ
บุคคลผู้หนึ่งปรากฏขึ้น ซึ่งบุคคลในรูปภาพนั้นมีลักษณะ
เหมือนกับ หยุนหัว ดิคอน

แม้แต่ทักษะการวาดรูปของเขาก็เทียบได้กับผู้เชียวชาญนี่เค้า
เป็นแค่เด็กจริงๆหรือหยาง ซิน รูส้ กึ ประหลาดใจทักษะการวาด
ภาพเหมือนที่จะวาดภาพเช่นนี้ออกมาได้ถ้ามิได้ฝึกฝนซึ่งเวลา
หลาย ๆ ปีแล้ว เป็นไปไม่ได้เลย ที่จะบรรลุไปถึงระดับนี้

ภาพวาดนั้นช่วยให้จิตใจสงบได้ซึ่งมันจ่าเป็นต่อการบ่มเพาะ
พลัง เนี่ย หลี เขานั้นได้ใช้เวลาหลายทศวรรษในภพที่แล้วของ
เขาในการวาดภาพ ซึ่งทักษะการวาดภาพของเขานั้นเรียกว่าได้
อยู่ในจุดสูงสุดแล้ว
“เรียบร้อยแล้ว" เนี่ย หลี่ ส่งภาพที่เสร็จ
สมบูรณ์ไปให้ หยาง ซิน
"อืม"หยางซิ่นได้มองเป็นยังภาพวาด และก้มหัวเธอ
ลงต่่าเพื่อมองมัน เธอไม่สามารถ อดรู้สึกแปลกใจได้เลยในลาย
พู่กันที่ช่าชองของเนี้ยหลี่ เธอเต็มไปด้วยความสงสัยเกี่ยวกับ
ความลับอื่นที่อาจมีอยู่ภายในตัวของเนี้ยหลี่ และสงสัยว่ามี
อะไรอีกหรือไม่ทเี่ ธอไม่ได้ระวังตัวเกี่ยวกับเด็กรุ่นเยาว์ผู้นี้

เมื่อหยาง ซิน ก้มมองดูรูปถ่าย ผ่านผ้าไหมของเธอไปนั้น ลูก


บอลขนาดย่อมๆ 2 ลูกที่แสนเข้ารูปก็ได้ปรากฏออกมา
สามารถเห็นได้ เมื่อเนี้ยหลี่เห็นเช่นนั้น เขาช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึก
หน้าแดง ผู้ใดก็ตามต้องยอมรับเรือนร่างของหยาง ซิ่นนั้นช่าง
ยั่วยวน(**) เป็นอย่างมากถ้าชายอื่นได้มองเช่นนี้แล้ว พวกเขา
น่ากลัวว่าจะไม่สามารถยับยั้งอารมณ์ของพวกเขาไว้ได้

ดังผู้หนึ่งที่ได้ประสบมาแล้วถึงสองภพ ความแน่วแน่ของเนี้ยหลี่
นั้นช่างน่าตกใจยิ่ง
เมื่อเธอดูภาพนั้นแล้วก็เงยหน้ามองดู เนี่ย หลี่ ก็สังเกตเห็นว่า
ใบหน้าของหนุ่มน้อยนั้นได้แดงขึ้นเล็กน้อยทันใดนั้นเธอก็ฉุกคิด
ขึ้นซึ่งบางสิ่งบางและอดรู้สึกขบขันไม่ได้ เนี่ย หลี่ นั้นเป็น
อัจฉริยะทีไ่ ม่ธรรมดา เป็นไปได้หรือไม่ว่าความรู้ของเขาต่อเรื่อง
..เหล่านี้กเ็ รียนรู้ได้เร็วกว่าผู้อื่นเช่นกัน ? เด็กที่ถึงความเป็น
ผู้ใหญ่ก่อนก่าหนดนี้ได้เรียนรู้ซึ่งเรือ่ งราวของผู้ใหญ่ไปเรียบร้อย
แล้วหรือ?

มีข่าวลือมาว่า หยางซิ่นนั้นเจ้าชู้และได้ใช้เรือนร่างของเธอ
เพื่อให้ได้มาซึ่งต่าแหน่งแต่ความจริงแล้วถึงแม้ว่าเธอจะชอบ
การแต่งตัวยั่วยวน แต่เธอก็ยังโสดและไม่มผี ู้ใดมีโอกาสที่จะ
ผ่านก่าแพงกั้นของเธอเข้ามาได้ นัน้ เป็นเพราะว่าเธอนั้นไม่ได้
มองผู้ใดอยู่ในสายตาเธอ ซึ่งสถานะของเธอนั้นสูงยิ่ง ผู้ชาย
ส่วนมากที่เข้ามาหวังจะได้รับการตอบรับจากเธอต่างถูกท่าให้
ต้องถอยห่างออกไป แม้กระนั้น หยางซินมักจะผ่อนคลาย ตัว
เธอเองในเวลาค่่าคืนทีล่ ่วงเลยไปแล้วแต่เพียงผู้เดียว สิ่งนี้นั้น
ดีกว่าการปล่อยให้พวกหมูสกปรกเหล่านั้นท่าให้เธอไปถึงบน
ยอดเขา **
แต่ความจริงคือ หยางซิน นั้นเป็นผู้หญิงที่มีเสน่หม์ าก แม้ว่า
เนี่ย หลี่จะเห็นเรือนร่างของเธอว่าน่าหลงใหลเพียงใด แต่เธอ
เองก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะในมุมมองของเธอแล้ว เนี่ย หลี่นั้นก็เป็น
แค่เด็กที่ถึงวัยอันควรก่อนก่าหนดตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ดังนั้นมัน
จะเสียหายอะไร? การได้เย้าแหย่เนี้ยหลี่เป็นความตื่นเต้นอย่าง
หนึ่งในสถานการณ์เช่นนี้

“นี่น้องชายเจ้าอยากลองจับมันดูไหม?” หยาง ซิน


ยิ้มและพูดแบบยั่วเย้า

เนี่ยหลี่ เมื่อได้ยินค่าพูดเหล่านั้นของหยางซิ่น เนี้ยหลี่ถึงกับ


ชะงักไปชั่วครู่เขารูส้ ึกอายเล็กน้อยและถอนสายตาเขากลับมา
หยางซิ่นจะกล้าเกินไปหน่อยแล้ว เธอได้พูดแบบนี้ออกมาจริง
ๆ กับเนี้ยหลี่ ท่าท่างของเธอที่ชวนให้ลุ่มหลงและค่าพูดที่
ก่ากวมเหล่านี้ ผู้ชายปกติจะต้องเผชิญกับเวลาที่ยากล่าบาก
เป็นแน่ในการควบคุมตัวของพวกเขา
ถึงแม้ภายนอกเนี่ยหลีจะอายุ 13 ปี แต่ความจริงแล้วภายใน
จิตใจของเขานั้นไม่ใช่เลย เขายิม้ แบบเฟื่อนๆ “ พี่สาว ท่านอย่า
ล้อเล่นอย่างนี้ส”ิ
“พี่สาวไม่ได้ล้อเล่นนะ” แค่จับนิดหน่อยไม่ได้ท่าให้
ข้าเสียหายอะไรหรอก ถ้าเป็นอัจฉริยะตัวน้อยของเรา พี่สาวจะ
ไม่ว่าอะไรเลย"หยาง ซิ่น ได้ดึงมือของเนี่ยหลี่มาวางลงหน้าอก
ของเธอ เธอพบว่ามันเป็นเรื่องน่าสนุกเล็กน้อย ที่เด็กน้อยเช่นนี้
ได้มีความคิดเช่นนั้นกับเธอ เธอยิ้มและพูดว่า“น้องชายเจ้ารู้สึก
อย่างไรบ้าง”

มือขวาของเนี้ยหลี่นั้นได้สมั ผัสกับความกลมกลึงของเนื้อเนินที่
นุ่มนวล และที่ยอดปทุมถันนั้น เขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก คิด
ภายในใจว่าสิ่งนั้นของหญิงผู้หญิงคนนี้ได้ขยายขึ้นถึงเช่นนี้แล้ว
จริง ๆ เมื่อเห็นการแสดงออกที่สนุกสนานของหยางซิ้น เนี้ยหลี่
รู้ได้ว่าหยางซิ่นนั้นมีจดุ ประสงค์ทจี่ ะเย้าแหย่ตัวเขา ผู้หญิงคนนี้
คิดจริง ๆ ว่าเขาเป็นเพียงแค่เด็กอายุ 13 ปี

เมื่อได้เห็นท่าทีของหยางซิ่น คิ้วของเนี่ยหลี่ได้ขมวดเข้าหากัน
การดูถูกเขานั้นเป็นความผิดอย่างแท้จริง ในชีวิตที่แล้วของเขา
นั้น เอีย จื้อหวิ๋น เป็นคนที่เขารักมากที่สุด แต่เขาทีม่ ีชีวิต โดย
ผ่านซึ่งเวลาหลายร้อยปี เนีย้ หลีจ่ ึงเคยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิง
จ่านวนหนึ่งมาบ้าง

มันชัดเจนแล้วว่าการแสดงออกของหยางซิ่นนั้นท่าเพื่อเย้าแหย่
เขาเท่านั้น ! เนี้ยหลีจ่ ึงบีบไปเนินอกอันกลมกลึงของหยางซิ่น
เขานั้นรู้สึกตกใจในความอ่อนนุ่มของมันและปล่อยให้รูปทรง
ของมันเปลี่ยนไปภายในมือของเขา จากนั้นเขาก็กล่าวอย่าง
จริงจังว่า “พี่สาว หยาง ซิน พี่น่าจะปรุงหญ้าหมอกสีม่วง และ
หญ้าสาบเสือ และใช้มันนะ มันจะท่าให้เนินอกของพี่ทั้งสองเต่ง
ตึงได้อีก”

หยางซิ่นรูส้ ึกตะลึงงง เธอไม่เคยคิดว่าเนี้ยหลี่จะไม่มีความรู้สึก


แม้เพียงเล็กน้อยซึ่งความล่าบากใจหรือความอับอาย และยังจะ
บีบพวกมันอีกและหลังจากได้ยินค่าของเนี้ยหลี่ใบหน้าของห
ยางซิน่ ก็กลายสีแดงสด เธอไม่เคยให้ใครสัมผัสตัวเธอมาก่อน
เหตุผลเดียวที่เธอให้เนี่ยหลี่จับมันนั้นเพราะเธอปฏิบัติกับเนี่ยห
ลี่เหมือนเด็กอายุ 13 ปีเท่านั้น เธอเลยลดการป้องกันตัวของ
เธอลงเมื่ออยู่กับเขา
ณ ตอนนั้น หยางซิ่นได้ลืมไปแล้วซึ่งอายุของเนี้ยหลี่ และคิดกับ
เขาว่าเป็นเหมือนดังผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในรุ่นเดียวกันกับเธอ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอมองไปที่เนี้ยหลี่อย่างจริงจังอีกครั้งและ
เสียงที่อ่อนนุ่มของเขา หยางซิ่งทันใดก็รู้สีกว่าเนี้ยหลี่เป็นเพียง
แค่เด็กคนหนึ่ง

ความรูส้ ึกแปลกประหลาดยากจะบรรยาย(ที่โดนจับ)นี้เป็นเหตุ
ให้จติ ใจของเธอเลื่อนลอย

เมื่อเห็นท่าทางที่ดูสบั สนของหยางซิ่น เนี้ยหลี่แกล้งบีบไปทีส่ อง


คู่มหึมาของเธออีกครั้ง หลังจากนัน้ ก็ดึงมือเขากลับมา (?????)

"อ้าาา!" หยางซิ่นช่วยไม่ได้เลยที่จะร้องครางอย่างมี
ความสุขออกมา เมื่อตอนที่เนี้ยหลีไ่ ด้บีบตรงนั้นของเธอ ทั่วทั้ง
ร่างของเธอนั้นรู้สึกราวกับว่ามีกระแสไฟได้ไหลผ่านไป มันเป็น
เหตุให้ร่างเธอสั่นเครือ
หยางซิ่นทันใดรู้ตัวว่าเธอนั้นมีท่าทีที่ไม่สมควรปรากฏออก
ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยสีแดงราวกับว่าเธอได้ผ่านการดื่มมา
เธอรีบยืนขึ้นโดยเร็วเพื่อกลบเกลื่อนอาการตอบสนองของ
ความรูส้ ึกแปลก ๆ ทีไ่ ด้เกิดกับร่างกายเธอเมื่อครู่นี้ น้่าเสียงของ
เธอสั่นเครือเล็กน้อยในขณะที่เธอพูดว่า "น้องชาย เจ้ากลับไป
พักผ่อนก่อน พวกเราจะมาคุยกันอีกในวันพรุ่งนี้"

"ตกลง พี่สาวหยางซิ่น นอนหลับให้สบายนะ" เนี้ยห


ลี่พูดอย่างเด็กน้อยคนหนึ่ง และเขาได้แสดงรอยยิ้มใสซื่ออย่าง
เด็กทั่วไปและเดินออกไปจากห้องของหยางซิ่น ผู้หญิงคนนี้กล้า
ท่ากับเขาเหมือนเด็กอายุ 13 และได้เย้าแหย่เขา ผลลัพธ์กลับ
กลายเป็นว่าเธอได้ถูกหยอกเย้าเสียเอง ในตอนนี้เนี้ยหลีต่ ้อง
ยอมรับเลยว่าความรูส้ ึกที่ค้างอยู่บนมือของเขานี้ไม่เลวเลย
ทีเดียว

ในขณะที่เธอมองเนี้ยหลี่จากไป หยางซิ่นได้ติดอยู่ในความ
งงงวยเป็นระยะเวลานานจิตใจของเธอได้กระเจิดกระเจิงไปไกล
เจ้าหนูนั่นมีอายุเพียงแค่ 13 ปีเท่านั้นจริงหรือ ? หยางซิ่นขยี้
ศรีษะของเธอด้วยความสงสัย ว่าเนี้ยหลี่นั้นได้ท่าอย่างตั้งใจ
หรือไม่ได้ตั้งใจกันแน่

บนหน้าอกของเธอนั้นมีความรูส้ ึกเจ็บเบา ๆ เหลืออยู่ อย่างไรก็


ตามท่าไมเรื่องเหล่านั้นมันยังคงทิ้งไว้อยู่บนหัวใจของเธอ มันมี
ทั้งสัมผัสของความตื่นเต้นและการปลุกเร้าอารมณ์ความรูส้ ึก
เช่นนี้ท่าให้หยางซิ่นรู้สึกราวกับหัวใจเธอนั้นก่าลังถูกขีดข่วนอยู่
โดยแมวตัวหนึ่ง

หลังจาก เวลานานมากได้ผ่านไป หยางซิ่นได้ถอนหายใจเฮือก


ใหญ่ออกมา หลังจากเธอไม่สามารถหาค่าตอบของเรื่องราวยุ่ง
เหยิงเช่นนั้นได้

"ข้าไปอาบน้่าก่อนดีกว่า!"

ผ้าไหมสีขาวได้ร่วงหล่นช้า ๆ ขณะหยางซิ่นก้าวไปยังอ่างอาบ
น้่า เท้าที่เรียบเนียนขาวกระจ่างราวคริสตัลค่อย ๆ บรรจงก้าว
ไปยังอ่างอาบน้่าไม้ ร่างไร้ต่าหนิของเธอได้จมลงสู่น้่าอุ่นในอ่าง
ในตอนนี้มือของเธอทั้งสองนั้น ได้เคลื่อนไปสัมผัสซึ่งหน้าอกที่
แสนเย้ายวนอย่างเลื่อนลอย ณ ตอนนี้ รูปร่างหนึ่งได้ปรากฏขึ้น
ทันใดในใจของเธอ ซึ่งร่างนั้นคือเนี้ยหลี่นั่นเอง

"ข้าก่าลังคิดอะไรอยู่กนั นะ? เขานั้นยังเด็กมาก! ข้า


นั้นแก่กว่าเขาเป็นสิบปี!" หยางซิ่น ส่ายศรีษะของเธอ โดย
พยายามไล่ความคิดที่กวนใจเธออกไป อย่างไรก็ตาม ร่างของ
เนี้ยหลี่ก็ปรากฏขึ้นมาอีกอย่างไม่สามารถควบคุมได้ และตรง
จุดนั้นที่ถูกสัมผัสโดยเนี้ยหลี่เหมือนจะปรากฏความร้อนที่ได้ถูก
ทิ้งไว้โดยเขาขึ้นมา

หยางซิ่นซึ่งสติตอนนี้เลื่อนลอย เธอได้เคลื่อนมือขวาของเธอลง
ต่่าอย่างช้า ๆ ไปสู่หว่างขาของเธอ

"โอ้ว!" เสียงครางยาว ๆ เสียงหนึ่งปรากฏขึ้น โดย


น้่าเสียงนั้นมีความยั่วยวนเป็นที่สุดหยางซิ่นนั้นได้แช่ตัวในอ่าง
อาบน้่าเป็นเวลาเนิ่นนาน และที่ผวิ หนังบนเรือนร่างเธอค่อย ๆ
เปลี่ยนเป็นสีแดง
บทที่ 62 – ข้ามีเงิน

สมาคมนักปรุงยาด่าเนินการรวดเร็วมากได้ส่งร่างทรงอสูรระดับ
โกล จ่านวนสอง สามคนและนักสู้เพื่อมาค่อยป้องกันภายใน
ตระกูลบันทึกสวรรค์ท่าให้การป้องกันของตระกูลบันทึกสวรรค์
หนาแน่นมากขึ้นกว่าเดิมท่าให้เหล่าตระกูลชั้นขุนนางที่อยู่
รอบๆตระกูลบันทึกสวรรค์รสู้ ึกหดหู่ตระกูลบันทึกสวรรค์เป็น
ตระกูลขุนนางที่อยู่ปลายแถวท่าไมสมาคมปรุงยาต้องให้
ความส่าคัญกับมันขนาดนี?้

พวกเขาเกิดความอิจฉากับการเอาใจใส่ที่สมาคมปรุงยามีต่อ
ตระกูลบันทึกสวรรค์ท่าให้ตา่ แหน่งของตระกูลบันทึกสวรรค์หา
ที่เปรียบไม่ได้กับในครั้งอดีตผู้ทไี่ ม่เป็นมิตรกับตระกูลบันทึก
สวรรค์ล้วนรูส้ ึกกระวนกระวายใจพวกเขากลัวที่ตระกูลบันทึก
สวรรค์จะเอาคืนพวกเขาเหล่านั้นผู้ที่ไม่เคยได้ใกล้ชิดกับตระกูล
บันทึกสวรรค์กไ็ ด้ส่งคนเพื่อมาผูกมิตรกับตระกูลบันทึกสวรรค์
อิทธิพลของสมาคมนักปรุงยานั้นยิง่ ใหญ่เกินไปนอกจากนี้
สมาคมปรุงยาได้มยี าทิพย์อย่าง ยาผสานวิญญาณและยาสงบ
วิญญาณและยาชนิดอื่น ๆ สิ่งเหล่านี้ยิงท่าให้พวกเขามีอิทธิพล
มากขึ้นไปอีกแม้ตระกูลหิมะเหมันต์ยังต้องพึ่งพายาของสมาคม
นักปรุงยา

แต่ไม่ได้หมายความว่าตระกูลบันทึกสวรรค์จะไม่ต้องกังวลซึ่ง
อะไร
นอกจากตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิที่นั่นยังมีสมาคมทมิฬที่หลบซ่อน
อยู่ในเงามืด เนี้ยหลี่ไม่กล้าทีจ่ ะประมาทหลังจากจัดการกับ
เรื่องในตระกูล เขาจะต้องบ่มเพาะพลังอย่าต่อเนื่องแม้ว่าเขาจะ
เป็นระดับเงินและได้รวมเข้ากับจิตแห่งอสูรเนี้ยหลี่ยังคง
ต้องการความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่านี้โดยเร็ว
นอกเหนือจากการบ่มเพาะพลังเนีย้ หลีไ่ ด้ฝึกซ้อมทักษะการ
ต่อสู้ของจิตอสูรแห่งเงาและพยายามฝึกฝนทักษะให้เข้าสู่
จุดสูงสุด
ถ้าเนี้ยหลีต่ ้องเผชิญหน้ากับ หยุนหัว ดิคอนอีกครั้ง หยุนหัวดิ
คอนจะไม่มีวันหนีไปได้ง่าย ๆ เป็นแน่
ในขณะที่เนี้ยหลี่ได้นั่งขัดสมาธิเพืม่ เริ่มการฝึก หยางซิ่นก็ได้
เดินมาจากข้างนอกหลายวันทีผ่ ่านมานี้ หยางซิ่นลังเลที่จะ
พูดคุยกับเนี้ยหลี่เมื่อใดก็ตามที่เธอเห็นเนี้ยหลี่ เธอจะคิดถึงเรื่อง
ในวันนั้นท่าให้สองแก้มของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อย
“เนี้ยหลี่ อาจารย์ของเจ้าได้บอกซึ่งสูตรยาตัวอื่นอีก
หรือไม่? ยกตัวอย่างเช่น ประเภทยาทิพย์ท่าให้จิตปลอดโปร่ง
ที่จ่าเป็นในการใช้ต่อต้านกับสัตว์อสูรประเภทสร้างภาพ
หลอน ยาทิพย์แก้พิษส่าหรับอสูรประเภทมีพิษ....“ หยางซิ่นที่
ได้นั่งลงข้างเนี้ยหลี่ เธอได้รอจนสุดท้ายทนไม่ไหวถึงได้ถามขึ้น

“ถ้าหากมียาทิพย์ชนิดใหม่ พวกเราจะสามารถขยายธุรกิจของ
พวกเราออกไปได้” หยางซิ่นกล่าว ยาทิพย์ก่อนหน้านี้มี
ความหมายอย่างมากต่อเมืองกลอรี่ เธอได้รับค่าสั่งจาก กูเ้ ห
ยียน ให้มาพบกับอาจารย์ของเนี้ยหลี่ อย่างไรก็ตาม หลังจาก
การรอคอยเป็นเวลาหลายวัน อาจารย์ของเนี้ยหลี่ก็ยังมิได้
ปรากฏตัวเลย แต่เธอนั้นไม่กล้าถามเรื่องใด ๆ ทั้งสิ้น อัจฉริยะ
ที่ซ่อนตัว อย่างเช่นอาจารย์ของเนี้ยหลี่ ไม่ใช่คนที่จะสามารถ
ถูกพบเห็นได้โดยง่ายจากผู้อื่น

“เรื่องนี้เป็นการร้องขอจากพี่สาวหรือจากประธาน กู้เหยียน
กันแน่?” เนี้ยหลีไ่ ด้มองไปที่หยางซิ่นและถามขึ้นเช่นนั้นเพื่อ
แกล้งผู้หญิงคนนี้

“มันเป็นค่าร้องขอจากประธาน กู้เหยียน”
“ถ้าเช่นนั้น ลืมมันไปซะ ประธาน กู้เหยียนไม่ได้มีความจริงใจ
เขาต้องการสูตรยาทิพย์เพิ่มขึ้น และเขาก็ไม่ได้มาถามมันด้วย
ตัวของเขาเอง” เนี้ยหลี่ค่อย ๆ หลับตาลงขณะที่เขาพูด

“ท่านประธานกู้เหยียนก่าลังยุ่งอยูก่ ับการปรุงยาทิพย์เมื่อเร็ว ๆ
นี้ ดังนั้น....” หยางซิ่นกล่าวด้วยความอายเล็กน้อย ทันใดเธอ
คิดซึ่งบางสิ่งขึ้นมาได้ และเผยรอยยิ้มที่น่าหลงใหลออกมา เธอ
ได้กระซิบที่ข้างหูของเนี้ยหลี่และพูดว่า “น้อยชายตัวน้อยคนดี
เจ้ามีสูตรยาทิพย์อื่น ๆ อยู่กับตัว ใช่หรือเปล่า? ท่าไมน้องชาย
ไม่บอกกับพี่สาวคนนี้กันล่ะ ไม่ว่าเจ้าต้องการท่าสิ่งใด พี่สาวก็
ยอมตกลงทุกอย่างนะ”

เมื่อได้ยิน หยางซิ่นกล่าวเช่นนั้น เนี้ยหลี่ยมิ้ เฝื่อน ๆ


ปีศาจร้ายตนนี้เห็นได้ชัดว่าก่าลังยัว่ ยวนเขา ในขณะที่เขามอง
ไปยังร่างที่มีเสน่ห์ของผู้หญิงคนนี้เบื้องหน้า เขารู้ว่าถ้าเป็นชาย
ทั่วไปคงไม่สามารถต้านทานการยัว่ ยวนของเธอได้ ถ้าเขาไม่เผย
ซึ่งสูตรยาบางสูตรไปบ้าง ใครจะรูว้ ่าเธอจะได้ท่าสิ่งใดกับเขา
เขารีบส่ายมือไปมาและกล่าวว่า “ดีละ เมื่อพี่สาวเป็นคนถาม
ข้าซึ่งเรื่องนั้น ข้าจะบอกพี่สาวถึงสูตรยาบางสูตร”

เนี้ยหลี่หยิบเอาสูตรยาทิพย์ออกมา 3 ชนิดคือ: ยา
ปลอบวิญญาณ ยาอสูรแก้พิษ และยาส่าหรับไว้หักล้างผลจาก
สัตว์อสูรหิมะเหมันต์ ยาต้านเย็นด้วยธาตุไฟ

‘ยังมีแม้ซึ่งสูตรยาต้านความเย็นประเภทธาตุไฟอีก
หรือ?’ หยางซิ่นเบิกตาขึ้น ภายในภูเขา บรรพบุรุษ สัตว์อสูร
ส่วนใหญ่เป็นประเภทตระกูลหิมะเหมันต์ ดังนั้น ยาต้านความ
เย็นจึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์เป็นที่สดุ เมืองกลอรี่จะมีโอกาสมาก
ขึ้นเมื่อสามารถต้านผลของสัตว์อสูรหิมะเหมันต์ได้

ข้ามีเพียงแค่สามสูตรนี้เท่านั้น ในตอนนี้ ยาทิพย์


เหล่านีเ้ ป็นยาที่มผี ลเป็นเลิศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาต้านความ
เย็นด้วยธาตุไฟ ข้าเชื่อว่าพี่สาวหยางซิ่นรู้เป็นอย่างดีถึง
วิธีการใช้มัน “เนี้ยหลี่กล่าวพร้อมกับมองไปยังหยางซิ่น ความ
จริงแล้ว เขารูส้ ูตรตัวยาประเภทต้านความเย็นอย่างน้อย ราว
สามสิบสูตร อย่างไรก็ตาม หลังจากเขาได้ท่าการค้นคว้าจน
พบว่ามีเพียงสูตรเดียวเท่านั้น ที่วตั ุดิบในการปรุงมันสามารถหา
พบได้ในเมืองกลอรี่ แม้ว่าจะมีบางสูตรที่ให้ผลดีกว่าแต่เหล่า
วัตถุดิบก็ไม่สามารถหาภายในเมืองกลอรี่ได้

“ขอบใจเจ้ามาก น้องชายตัวน้อย เนี้ยหลี”่ เจ้าได้ท่า


คุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่ต่อเมืองกลอรี่ ถ้าท่านจ้าวเมืองได้รู้ถึง
เรื่องเหล่านี้ เขาจะต้องมอบต่าแหน่งระดับสูง(ชนชั้นสูง)ให้แก่
เจ้าเป็นแน่ ! หยางซิ่นพูดอย่างตื่นเต้น

“ไม่มีความจ่าเป็นที่จะต้องมอบต่าแหน่งระดับสูงใดให้แก่ข้า
ตัวข้าไม่สนใจในการยกยอ เช่นนั้น แต่ข้านั้นหวังอย่างจริงจังว่า
พี่สาวหยางซิ่นจะสามารถช่วยข้าเก็บเรื่องเหล่านี้ไว้เป็น
ความลับด้วย” เนี้ยหลี่ส่ายมือของเขาและได้พูดเช่นนั้น

หยางซิ่นช่วยไม่ได้ที่จะมองไปยังเนี้ยหลีด่ ้วยความ
ประหลาดใจ เธอสงสัยว่าเด็กที่แสนประหลาดคนนีไ้ ด้ถูกเลี้ยงดู
มาเช่นไร เขามีอายุเพียงแค่ 13 ปีแต่เขานั้นยังคงความสงบไว้
แม้กระทั่งความคิดเกี่ยวกับต่าแหน่งระดับสูงยังไม่ปรากฏใน
สายตาเขาแม้แต่นอ้ย หยางซิ่นนั้นจนปัญญาอย่างแท้จริงและ
กล่าวว่า“ในเมื่อน้องชายต้องการให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
เช่นนั้นพวกเราคงยังไม่แพร่งพรายสิ่งนี้ออกไปเป็นแน่ และ
แน่นอน เจ้าจะได้รับส่วนแบ่ง พวกเราสมาคมนักปรุงยาจะส่ง
มันแก่เจ้าอย่างตรงเวลา”

เนี้ยหลีผ่ งกศีรษะลงเล็กน้อย ในระหว่างช่วงเวลาที่


ผ่านมากนี้ เขาได้รับเงินมาแล้วเป็นจ่านวนมากกว่า หนึ่ง
พันล้านเหรียญจิตรมาร ทั้งหมดของมันนั้นถูกเก็บไว้ในรูปแบบ
การ์ด ทุก ๆ การ์ดคริสตัลจิตมารเป็นตัวแทนของเงินจ่านวน
หนึ่งหมื่นเหรียญจิตรมาร(เนี้ยหลี่จะมีอยู่ประมาณแสนใบ) มัน
สามารถช่วยประหยัดพื้นที่ของกระเป๋าต่างมิติเป็นจ่านวนมาก
ถ้าไม่ท่าเช่นนี้แล้ว กระเป๋าต่างมิตขิ องเนี้ยหลี่จะต้องเต็มไปแล้ว
แน่นอน

“ถ้าเจ้ามีซึ่งสูตรยาทิพย์อื่น ๆ อีก อย่าลืมมาบอกพี่สาวคนนี้


นะ” หยางซิ่นก่าลังยิ้มอยู่โดยคิดไปยังเรื่องเหล่านั้นในตอนที่ตา
ของเธอได้ปิดลง ทันใดนั้นเธอก็เผยรอยยิ้มที่ชวนหลงใหลและ
พูดว่า “น้องชายไม่ต้องการให้พี่สาวท่าสิ่งใดบ้างเลยเหรอ? ไม่
ว่าเรื่องใดที่น้อยชายต้องการ ไม่แน่นะ พี่สาวอาจจะยอมท่า
ตามด้วยก็ได้”
หยางซิ่นได้ทอดเรือนรางของเธอลง สองคู่ของเธอได้
ชูตระหง่านออก เป็นเรือนร่างที่น่าหลงใหลยิ่งนัก และด้วยเรียว
ขาเพรียว ๆ ของเธอนั้น มันรูส้ ึกยัว่ ยวนเกินกว่าจะหาค่าใดมา
บรรยายได้

“เมื่อไม่นานมานี้ พี่สาวได้ฟังซึ่งค่าแนะน่าของเจ้า และผสม


หญ้าทะเลหมอกม่วงเข้ากับหญ้าสาบเสือ ดูสิจ๊ะ หน้าอกจอง
พี่สาวไม่ได้ดูเหมือนใหญ่ขึ้นหรอกหรือ?” ดวงตาของหยางซิ่นดู
ลึกล้่าคล้ายกับเส้นไหมที่ก่าลังไหลเวียนไปรอบ ๆ

เนี้ยหลี่นั้นต้องยอมรับเลยว่า หยางซิ่นมี
ความสามารถที่จะยั่วยวนทุกคนได้อย่างแท้จริง แม้ว่าเขาจะ
เคยเล่นเย้าแหย่กับหยางซิ่น หัวใจของเขานั้นก็ยังคงสงบอยู่
ตลอดเวลา แม้ว่าเขานั้นจะไม่ทรงพลังเหมือนในชีวิตที่แล้วของ
เขา แต่ในตอนนี้ จิตใจของเขานั้นก็ยังคงแข็งแกร่งเช่นเดิม
เนี้ยหลี่กระพริบตาอย่างไม่รู้ประสีประสาขณะมองไป
ยังหยางซิ่นและพูดว่า “พีส่ าวหยางซิ่นตั้งใจจะท่าอะไรอย่างงั้น
รึ ตัวข้านั้นเป็นเพียงแค่เด็กน้อยอายุ13 ปี ยังไม่รับรูเ้ รื่องราว
ผู้ใหญ่ดีนัก!”

เมื่อเห็นหน้าตาใสซื่อของเนี้ยหลี่ ใบหน้าของหยางซิ่นก็
กลายเป็นสีแดง แม้ว่าเธอจะมีความคิดที่จะยั่วยวนเขา แต่มัน
กลับถูกท่าลายด้วยท่าทีไร้เดียงสาเช่นนี้ เธอได้พูดอย่างกระอัก
กระอ่วน ว่า“ไม่มสี ิ่งใดแล้ว ข้าจะกลับไปยังสมาคมปรุงยา
ก่อน!”

แม้ว่าหัวใจของเธอนั้นจะมีการเต้นอย่างอธิบายไม่ได้
เกิดขึ้น แต่หลังจากที่เธอได้คิดถึงอายุของเนี้ยหลี่อีกครั้ง เธอก็
รู้สึกผิดขึ้นมา ‘ข้าก่าลังคิดเรื่องอะไรกันอยู?่ เนี้ยหลีเ่ ป็นแค่เด็ก
น้อยคนหนึ่ง!’

เมื่อเขามองการจากไปอย่างโดดเดีย่ วของหยางซิ่น เนี้ยหลี่ช่วย


ไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขันในเรื่องที่เขาท่าไปเมื่อครู่นี้ อย่างไรก็ตาม
ในไม่ช้าเขาก็สงบลงและเริ่มการฝึกฝนต่อ
หลังจากหลายชั่วโมงได้ผ่านไป เนีย้ ไฮ้ และ เนี้ยอิ้ง
ได้เดิมเข้ามาจากภายนอก และเห็นเนี้ยหลีย่ ังคงท่าการบ่มเพาะ
พลังอยู่ พวกเขาตัดสินใจที่จะรอจนกระทั่งเขาฝึกเสร็จแล้ว
แม้ว่าพฤติกรรมเช่นนี้นั้นไม่เหมาะกับผู้ที่หัวหน้าตระกูลและ
อาวุโสหลักเช่นพวกเขาทั้งสอง แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะท่าสิ่งใด
ได้

ในตอนนี้นั้น เนี้ยหลี่เป็นบุคคลส่าคัญของตระกูล
บันทึกสวรรค์ สถานะของเขานั้นไม่ได้น้อยกว่าผู้ใดเลย

เนี้ยหลีไ่ ด้เปิดตาของเขาขึ้น อย่างไรก็ตาม เขายังไม่


ลุกจากท่านั่งฝึก เขามองไปยังเนี้ยไฮ้และ เนี้ยอิ้ง พร้อมกับถาม
ว่า “ท่านหัวหน้าตระกูล ท่านอาวุโสหลัก มีสิ่งใดบ้างที่ข้านั้น
สามารถท่าให้ท่านทั้งสองได้?”

“โอ้ เนี้ยหลี!่ ” เนี้ยไฮ้ได้หวั เราะขึ้น โดยไม่ได้มีซึ่ง


น้่าเสียงของหัวหน้าตระกูลแต่อย่างใดและพูดว่า“ วันนี้พวกข้า
มาหาเจ้าเพื่อที่จะถามว่าเจ้านั้นสนใจไปงานประมูลสมบัติ
หรือไม่?”

เนี้ยไฮ้ได้รับค่าเชิญจากตระกูลฮองหยู ตระกูลฮองหยูนั้นเป็น
ตระกูลของชนชั้นสูง การได้รับค่าเชิญจากตระกูลนี้ เนีย้ ไฮ้รสู้ ึก
ภูมิใจมันอย่างแน่นอน แม่ว่าสภาพการเงินของตระกูลบันทึก
สวรรค์จะยังคงตึงมืออยูเ่ ล็กน้อย แต่เมื่อเขาได้รับค่าเชิญจาก
ตระกูลฮองหยูแล้ว เขานั้นก็ต้องไปอย่างแน่นอน

เหตุผลที่ท่าให้เนี้ยไฮ้ได้ชวนเนี้ยหลี่ไปงานนี้ด้วยเป็น
เพราะเขาต้องการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเนี้นหลี่ ด้วยการ
สนับสนุนจากสมาคมปรุงยา สถานะของเนี้ยหลีภ่ ายในตระกูล
ไม่สามารถเทียบกับเมื่อก่อนได้เลย เพื่อที่จะไม่ต้องท่าให้ตัวเขา
ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กระอักกระอ่วน เขาตั้งใจดึงตัวเนี้ยอิ้ง
มาด้วย ในเมื่อความสัมพันธ์ของเนี้ยอิ้งกับเนี้ยหลี่นั้นก็ไม่ได้
เลวร้ายอะไร

“การประมูลสมบัต?ิ ” เนี้ยหลีเ่ ลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและพูดว่า“ตก


ลง ข้าจะไปด้วย!”
เมื่อได้ยินการตอบรับของเนี้ยหลี่ เนี้ยไฮ้ รู้สึกโล่งออก เขาเป็น
กังวลว่าเนี้ยหลี่นั้นจะปฏิเสธเขา

“ถ้าเป็นเช่นนั้นละก็ พวกเราจะไปกันในรถลากของข้า” เนี้ยไฮ้


กล่าวพร้อมยิม้ เล็กน้อย“มันได้ถูกเตรียมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

เนี้ยหลี่ยืนขึ้น ในเมื่อสถานที่แห่งนั้นก็ไม่ได้อยู่ไกลนัก
เนี้ยหลีจ่ ึงไม่ได้เตรียมสิ่งใดแล้วตามเนี้ยไฮ้และเนีย้ อิ้ง ขึ้นไปบน
แผ่นไม้ของรถลาก รถลากได้ค่อย ๆ เริ่มเคลื่อนไปช้า ๆ ตาม
ด้วยร่างทรงอสูรและนักต่อสูร้ ะดับทองหลายคนที่ตามมา
ด้านหลัง พวกเขาติดตามมาเพื่อปกป้องเนี้ยหลี่

เนี้ยไฮ้ได้คดิ ถึงเรื่องว่าเนี้ยหลี่มคี วามส่าคัญเพียงใด


สมาคมปรุงยาถึงได้ให้ความส่าคัญกับเขามากเช่นนี้

“ผู้อ่านวยการหยางได้กลับไปยังสมาคมปรุงยาแล้ว ก่อนที่จะ
กลับนั้น เธอได้บอกข้าว่าต้องคอยดูแลเจ้าอย่างเป็นพิเศษ มันดู
เหมือนว่าความสัมพันธ์ของเจ้ากับผู้อ่านวยการหยางก็ดีมิใช่
น้อยนะ” เนี้ยไฮ้พูดพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย

เนี้ยหลี่ยมิ้ และมองไปที่เนี้ยไฮ้ผู้นั้น แต่กม็ ิได้พดู สิ่งใด


ออกมา

เนี้ยไฮ้รู้สึกกระอักกระอ่วนในตอนนี้ เนี้ยหลีไ่ ม่รักษา


หน้าของเขาซึ่งเป็นผู้น่าตระกูลเลย(การไม่พดู ด้วย)

เนี้ยอิ้งก็รู้สึกจนปัญญาเช่นกัน เนี้ยหลี่เป็นคนของ
สาขาเขา และในอดีต เขาสามารถจะดุด่าเนี้ยหลี่ได้ แต่
ในตอนนี้ เขานั้นพ่ายแพ้ในกับบุคลิกที่เปลีย่ นไปของเนี้ยหลี่อ
ย่างสิ้นเชิง เนี้ยหลี่กลายเป็นคนทีเ่ คร่งขรึมมากขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามเขาไม่กล้าที่จะพูดสิ่งใด

บรรยากาศโดยรอบภายในรถลากค่อนข้างอึดอัดอยู่
เล็กน้อย
“เนี้ยหลี่ ถ้าเจ้ามีสิ่งใดที่สนใจในการประมูลนี้ เจ้าสามารถบอก
ข้าได้เลย ข้านั้นจะน่ามันมาให้เจ้า” เนี้ยไฮ้ได้พดู ขึ้น แม้ว่า
สิ่งของที่การประมูลนั้นไม่ได้มรี าคาถูกเลย แต่เขาก็เตรียม
สูญเสียเงินจ่านวนมากเพื่อของสักชิ้นหนึ่งได้ ถ้าหากเขาได้ใช้
เงินจ่านวนมากสักเล็กน้อย เขาต้องได้มาซึ่งของหนึ่งหรือสองสิ่ง
มาให้กับเนี้ยหลี่ได้ ต้องไม่ลืมว่าเด็ก ๆ นั้นยังคงจัดการได้โดยวิธี
นี้

“ไม่จ่าเป็น ถ้าหากมีของสิ่งใดที่ข้าต้องการ ข้าจะซื้อมันด้วยตัว


ของข้าเอง ข้านั้นมีเงินที่จะจ่าย” เนี้ยหลี่กล่าวพลางสั่นศรีษะ
ของเขา โดยแสดงท่าทางแบบคนรวย แม้ว่าจะรวมตระกูล
บันทึกสวรรค์ทั้งหมดเข้าด้วยกันก็ไม่ได้รวยไปมากกว่าตัวเขา

เนี้ยอิ้งยิ้มและกล่าวว่า “สิ่งของที่อยู่ในการประมูลนี้
นั้นไม่ใช่ธรรมดา ชิ้นที่ถูกที่สุดนั้นก็มีราคาสูงถึงอย่างน้อย
หลายพันเหรียญจิตมาร และของที่แพงที่สุดนั้นคงจะมีราคา
ประมาณหนึ่งหมื่นเหรียญจิตมารขึน้ ไป!”

“ถูกมาก ข้าไม่สนใจหรอก” เนี้ยหลี่พูดเบา ๆ


เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยหลี่ เนี้ยไฮ้และเนี้ยอิ้งได้ชะงัก
ไปเล็กน้อย พวกเขายิ้มเจื่อน ๆให้ซึ่งกันและกัน ดูเหมือนว่า
พวกเขาจะไม่เข้าใจสถานการณ์นี้ได้อย่างถูกต้อง เป็นไปได้
ว่าหยางซิ่นจะได้ให้เนีย้ หลีซ่ ึ่งเงินจ่านวนหนึ่ง เมื่อพวกเขาได้
คิดถึงสิ่งเหล่านี้อีกครั้ง มันก็สมเหตุสมผลอยู่ หยางซิ่นเต็มใจที่
จะส่งผูเ้ ชี่ยวชาญระดับทองมาเพื่อปกป้องเนี้ยหลี่ ดังนั้นเธอต้อง
ให้เงินติดกระเป๋าเขาไว้บ้างอย่างแน่นอน

พวกเขาทั้งคู่คิดว่าเนี้ยหลี่นั้นมีเพียงแค่ความสัมพันธ์
อันดีกับหยาง

ซิ่น ดังนั้นเขาจึงถูกปกป้องโดยเธอ แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้นั้นคือ


ความสัมพันธ์ของเนี้ยหลี่กับหยางซิ่นนั้นเท่าเทียมกันในฐานะ
หุ้นส่วนที่ร่วมงานกัน และภายในกระเป๋าต่างมิติของเนี้ยหลี่นั้น
มันไม่ใช่เพียงแค่เงินติดกระเป๋าธรรมดา
บทที่ 63 - ประมูลสินค้า

ลานประมูล ฮอง หยู๋

นี่คือสถานที่ประมูลที่ เปิดขึ้นมา โดย หนึ่งในตระกูลชนชั้นสูง


ฮอง หยู๋ เป็นตระกูลหลักที่มีความส่าคัญในเมืองกลอลี่ บริเวณ
โดยรอบ ล้อมรอบไปด้วย 5 ตระกูลคนชั้นสูงดู
เหมือนว่า ตระกูลฮอง หยู๋จะมี การติดต่อค้าขายกับตระกูล
บันทึกสวรรค์

เมื่อตระกูลบันทึกสวรรค์ได้ถูกกีดกันทางการค้าโดยตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์ ตระกูลฮอง หยู๋ก็เริ่มตีตวั ออกห่างจาก ตระกูลบันทึก
สวรรค์ เมื่อสมาคมนักปรุงยา ได้มคี วามสัมพันธ์ที่ดีกบั ตระกูล
บันทึกสวรรค์ ตระกูลฮอง หยู๋ก็เริม่ เข้ามาติดต่อกับตระกูล
บันทึกสวรรค์อีกครั้ง

ผู้คนที่เข้าออกในสถานที่ประมูลจะเป็นสมาชิกของตระกูล
ชั้นสูง เนี่ยไฮ้เนี่ยอิ่งและเนี่ยลี่ ถูกจัดที่นั่งให้อยู่ในห้องพิเศษ ชั้น
สอง ซึ่งผู้อาวุโสของตระกูลชนชั้นสูงล้วนแต่อยู่ที่นั่นเมื่อมองไป
ก็เจอคนรู้จักหลายคน เนี่ยไฮ้ ก็ท่าการทักทายพวกเขาท่านผู้
อาวุโส หลีห่ ยวน ท่าน ผู้อาวุโส จี่ ฟงไม่ได้เจอกันนานเนี่ยไฮ้
ขยับมือทักทายเบาๆ พร้อมทั้งกล่าวทักทาย

หลี่หยวน เป็นชายแก่ที่ดูเหมือนมีอายุราว ห้าสิบ ถึง หกสิบ


ปี ถึงแม้ว่าผมและเคราของเขาจะมีสีขาวเล็กน้อย เขามีพลัง
วิญญาณ และร่างกายที่แข็งแกร่งมาก เขาเป็นผู้อาวุโสของ
ตระกูล หลี่หยวนผู้อาวุโสจี่ ฟง ดูเหมือนจะอายุยังไม่มากแต่ตัว
ใหญ่มาก ยืนอยู่ที่ด้านข้างของเขา เขาเป็นผู้อาวุโสของตระกลู
เทียน ขุ่ย

ผู้อาวุโสเนีย่ ไฮ้ ท่านยังดูเหมือนเดิมไม่ค่อยเปลี่ยนไป


เท่าไหร่ ผู้อาวุโส หลี่หยวนกล่าวทักทาย ส่วนผู้อาวุโสจี่ ฟง ก็
ยกมือทักทาย พร้อมทั้งยิ้มตอบ ฮ่า ฮ่า มันช่างน่ายินดีขออวย
พรให้พวกท่านทั้งสอง เนี่ยไฮ้ กล่าวทักทาย ความสัมพันธ์
ระหว่างตระกูลหลี่หยวน และตระกูลจี่ฟง ไม่เลว เมื่อตระกูล
เทพศักสิทธิ์ กีดกันทางการค้ากับตระกูลบันทึกสวรรค์แต่
ตระกูลทั้งสองก็ยังคงท่าการติดต่อทางการค้าอยู่กับเนี่ยไฮ้
เมื่อได้เห็นเนีย้ ไฮ้ หลี่หยวนและฉี่ฟงที่ได้ท่าการทักทายกัน
ด้วยระยะห่างที่ไม่ไกลนัก ผู้น่าตระกูลของพยัคฆ์เงิน เจียง หมิง
และหัวหน้าของตระกูลเที้ยเหมิน โดยเล่ยโซ่วทั้งสองนั้นต่าง
ปรากฏความโกรธและความอิจฉาออกมา

“ผู้น่าตระกูลเนี้ยไฮ้ช่างเปร่งรัศมีของผู้ที่ประสบความส่าเร็จซะ
จริง ๆ” ผู้น่าตระกูล เล่ยโซ่วพูดเบา ๆ อย่างเหน็บแนม

ผู้น่าตระกูล เจียงหมิงก็ยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ใช่


แล้ว? เมื่อก่อนในตอนที่เขาได้ถูกกีดดันโดยตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์ เขาได้ท่าการร้องขอไปทัว่ เพื่อให้ท่าการช่วยเขา และ
ท่าแม้กระทั่งยอมคุกเข่าอย่างหน้าไม่อาย แต่ในตอนนี้นั้น เมื่อ
เขาได้รับการปกป้องโดยสมาคมนักปรุงยา เขาสามารถเริงร่าไป
ทั่วโดยมิได้กังวลเรื่องใด แต่จะนานเพียงใดกันที่ตระกูลบันทึก
สวรรค์จะถูกปกปักษ์โดยสมาคมปรุงยาต่อไป? ใครจะรู้ เมื่อ
เวลานั้นได้มาถึง และพวกเขาต้องกลับไปถูกกดดันโดยตระกูล
เทพศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง? ข้านั้นสงสัยว่า ผู้น่าตระกูลเนี้ยไฮ้จะ
ยังคงเริงร่าอย่างเสรี เช่นที่เขาได้ทา่ ในวันนี้หรือไม่?”
เมื่อได้ยินค่าของเล่ยโซ่ว และเจียงหมิง หน้าของเนี้ยไฮ่ก็ได้
เปลี่ยนไปเล็กน้อย ตั้งแต่เริ่มเลยนั้น เล่ยโซว่และเจียงหมิง
ไม่ได้เป็นมิตรกับตระกูลบันทึกสวรรค์ การถากถางด้วยความ
พูดของพวกเขาท่าให้เนี้ยหลี่ขุ่นเคืองใจ อย่างแน่นอน แต่เขา
จะไม่แสดงด้านอ่อนแอโดยการร้อนรนไปตามค่าพูดพวกนั้น แต่
เขาจะแสดงว่าเขานั้นไม่ได้สนใจเรือ่ งที่พวกเขาพูดแต่อย่างใด
เขาได้ยิ้มและพูดว่า “ท่าไมกลิ่นทะแม่ง ๆ ได้ปรากฏอยู่มากถึง
เพียงนี้? มันเป็นเรื่องจริงที่ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นได้ถูก
ปกป้องโดยสมาคมปรุงยา แต่อย่างน้อยที่สุดพวกเราก็มีดี
มากกว่าบางตระกูลที่เขาผู้นั้นไม่ใกล้ชิดกับยายและไม่ได้รบั
ความรักจากปู่ของพวกเขา”

หน้าของเล่ยโซว่และ เจียงหมิง ทั้งสองต่างบึ้งตึง เป็นเรื่องจริง


เช่นนั้น พวกเขานั้นอิจฉาตระกูลบันทึกสวรรค์เสียจริง
ๆ ในตอนนี้นั้นสมาคมปรุงยาในขณะนีไ้ ม่สามารถเทียบกันได้
กับเมื่อก่อน พวกเขาได้ยินแม้กระทั่งสมาคมปรุงยานั้นได้จ่ายให้
ราคามากกว่าราคาตลาดถึง 30 % ของสมุนไพรที่ตระกูล
บันทึกสวรรค์เก็บเกี่ยวมาได้ ยิ่งไปกว่านั้น สมาคมปรุงยายังคง
ให้ยาทิพย์ระดับสูงจ่านวนหนึ่งแก่ตระกูลบันทึกสวรรค์ ซึ่ง
เพียงพอส่าหรับการหล่อเลีย้ งพวกคนรุ่นใหม่ แต่ส่าหรับพวก
เขาแล้ว สมุนไพรของพวกเขาไม่สามารถที่จะขายได้เลย และ
พวกเขาก็ต้องขายมันในราคาที่แสนต่่า

“เจ้าได้กลายมาเป็นคนรับใช้ของสมาคมปรุงยาและยังคงท่าท่า
เหมือนภาคภูมิใจเสียจริง เจ้าคิดจริง ๆ กันหรือ ว่าสมาคมปรุง
ยานั้นจะปฏิบัติกับเจ้าเยี่ยงสมบัตขิ องพวกเขา?” เล่ยโซ่ว เบ้
ปากของเขาด้วยความดูถูก

เมื่อได้ยินค่าเล่ยโซว่ ลี่หยวนและ ชี่ ฟง ต่างก็พูดขึ้น

“นั่นเป็นข้อคิดเห็นที่ต่ามากอันหนึง่ จากผู้น่าตระกูลเล่ยโซ่ว ถ้า


ตระกูลบันทึกสวรรค์เป็นดั่งคนรับใช้คนหนึ่งของสมาคมปรุง
ยา สมาคมปรุงยาจ่าเป็นที่จะต้องให้ข้อเสนออันเป็นประโยชน์
มากเพียงนี้แก่ตระกูลบันทึกสวรรค์ท่าไมกันเล่า ?” ลี่หยวนยิม้
เล็กน้อยขณะที่เขาพูด เขานั้นยืนอยู่ข้างเนี้ยไฮ้อย่างเห็นได้ชัด
ชี่ฟงก็ผงกศีรษะรับเช่นกันและกล่าวว่า“เป็นเรื่องจริงที่เห็นได้
ชัด สมาคมปรุงยานั้นต้องการตระกูลบันทึกสวรรค์ จึงเป็น
สาเหตุที่พวกเขาได้ให้ข้อเสนอที่เป็นประโยชน์แก่ตระกูลบันทึก
สวรรค์มากถึงเพียงนี้ แม้กระทั่งสองตระกูลของพวกเราก็ยัง
ได้รับผลประโยชน์เหล่านั้นด้วย”

ลี่หยวนจากตระกูลลี่หยวน และชี่ฟง จากตระกูลเทียนขุย พวก


เขาทั้งสองได้ขายสมุนไพรที่สูงกว่าราคาตลาด10 %ใหแก่
ตระกูลบันทึกสวรรค์ แล้วตระกูลบันทึกสวรรค์กไ็ ด้น่าพวกมัน
ไปขายต่อยังสมาคมปรุงยา โดยในขั้นตอนเหล่านี้ พวกเขา
สามารถจะได้รบั ผลประโยชน์กลับมาบ้าง พวกเขานั้นได้กลาย
มาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลบันทึกสวรรค์ ซึ่งเหมือนเป็นการ
ทดแทนที่พวกเขาไม่ได้ทอดทิ้งตระกูลบันทึกสวรรค์ในขณะที่
หมดหนทาง

เล่ยโซ่ว และเจียงหมิงทัง้ สองต่างพ่นลมหายใจ


ออกมา พวกเขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่าท่าไมกลุ่มที่ทรงอ่านาจ
เช่นสมาคมปรุงยาถึงต้องการตระกูลบันทึกสวรรค์นี้ ? พวกเขา
ได้ท่าการส่งลูกน้องเพื่อไปส่ารวจเรื่องเหล่านี้ แต่กไ็ ม่ได้ผลลัพธ์
ใดกลับมา
มีนัยน์ปรากฏซึ่งความไม่เป็นมิตรภายในห้องพิเศษนี้

เนี้ยอิ้งและเนีย้ หลี่ทั้งสองก่าลังนั่งอยู่ใกล้ ๆ กัน และค่อย ๆ จิบ


ชา ในเมื่อการต่อสู้ของเหล่าผู้น่าตระกูลนีไ้ ม่ได้มสี ่วนเกีย่ วข้อง
กับพวกเขา พวกเขาก็ไม่ต้องพูดสิง่ ใด

เนี้ยอิ้งโน้มตัวเข้าไปใกล้เนี้ยหลี่และพูดเบา ๆ ว่า“ผู้น่าตระกูล
ของตระกูลพยัคฆ์เงินและตระกูลเที้ยเหมินชอบใช้อ่านาจข่ม
เหงไปทั่ว เมื่อตอนที่ตระกูลบันทึกสวรรค์โดนกดดัน พวกเขา
ได้ส่งบางคนให้มาซื้อที่ดินสองแห่งของพวกเราในราคาที่ต่า
มาก ! พวกเรารู้ว่ามันคือพวกเขาที่ได้เข้ามาท่าการซื้อนี้
อย่างไรก็ตาม พวกเราก็ไม่เคยขาย ไม่ว่าด้วยเรื่องอะไร
ทั้งสิ้น! เมื่อตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ได้กีดกันการค้าของพวก
เรา พวกตระกูลทั้งสองนี้ในที่สุดก็ได้มาขโมยธุรกิจของพวกเรา
ไป”
เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยอิ้งเช่นนั้น คิ้วของเนี้ยหลี่ขมวดเข้าหา
กันและความโกรธแล่นผ่านดวงตาทั้งสองของเขา ในขณะที่ท่า
การมองไปยังผู้น่าตระกูลเล่ยโซว่และเจียงหมิง ถ้ามันเป็นเพียง
เรื่องความขัดแย้งธรรมดาระหว่างผู้น่าตระกูล ตัวเขานั้นคงไม่
เข้าไปยุ่งเกี่ยว อย่างไรก็ตาม ตระกูลทั้งสองเหล่านีเ้ ป็นดังคนรับ
ใช้ของตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ เนี้ยหลี่ต้องไม่ปล่อยพวกเขาไป
อย่างแน่นอน

การประมูลก่าลังจะเริ่มต้นในไม่ช้านี้ ผู้น่าตระกูลที่
เคารพกรุณายืนใกล้กับพื้นที่ท่าการดู และมองมาทางนี้

พิธีกรขายทอดตลาดที่รบั ผิดชอบในการประมูลเป็น
หญิงสาวสวยผู้หนึ่ง เธอสวมใส่ชุดไหมสีทึบซึ่งเข้าคู่กันเป็นอย่าง
ดีกับใบหน้าอันละเมียดละไมของเธอ เธอเต็มไปด้วยความ
ยั่วยวนไม่สิ้นสุด ทุก ๆ คนต่างต้องยอมรับตระกูล ฮอง หยู่นั้น
ฉลาดยิ่ง ด้วยหญิงที่งดงามเช่นนีจ้ ะสามารถปลุกเร้าซึ่งจิตของ
ผู้หนึ่งผู้ใดและเป็นเหตุให้พวกเขาท่าการจ่ายเงินก้อนใหญ่ได้
“เมื่อไม่นานมานี้ ตระกูลบันทึกสวรรค์ได้มีหลายธุรกิจร่วมกับ
สมาคมปรุงยาซึ่งสมุนไพรหลายชนิด พวกเขาควรจะได้รับ
ผลประโยชน์กลับมาบ้าง การที่ผนู้ ่าตระกูลเนี้ยไฮ้มายังที่แห่งนี้
ข้านั้นเกรงว่าสมบัติที่อยู่ในการประมูลนี้จะไม่ตกมาถึงมือของ
พวกเรา” ที่มุมสายตาของ เล่ยโซ่วได้ช่าเลืองมองไปยังเนี้ยไฮ้
พร้อมกับหัวเราะและกล่าวเช่นนั้น

“ถูกแล้ว ด้วยแค่ความมั่งมีของพวกเรา พวกเรานั้นจะสามารถ


ไปสู้กับตระกูลบันทึกสวรรค์ได้เช่นไร?” เจียงหมิงหัวเราะต่อ

ท่าทีของเนี้ยไฮ้เริม่ เศร้าหมอง เขาจะไม่สามารถสนใจ


การแดกดันของพวกคนทั้งสองนี้ได้อย่างไร ถึงแม้อย่างงั้นตัว
เขาก็ท่าได้เพียงแค่กล้่ากลืนมันไว้ แม้ว่าตระกูลของเขาจะ
ท่างานร่วมกับสมาคมปรุงยาเมื่อไม่นานมานี้ และสมาคมปรุง
ยาก็ได้ให้เงินกลับมาบ้าง แต่ก็ยังเป็นจ่านวนน้อย พวกเขาแทบ
จะไม่สามารถท่าการฟื้นฟูใด ๆ ได้เลย มันจะสามารถไปเทียบ
กับตระกูล พยัคฆ์เงิน และตระกูลเที้ยเหมินได้อย่างไร
ลี่หยวนและชี่ฟงต่างมีสหี น้าถมึงทึง เล่ยโซว่และเจียงหมิง
ชักจะท่ามากไปแล้วจริง ๆ

ในตอนนี้นั้น เนี้ยหลี่ผู้ที่นั่งอยู่ดา้ นขวาของเนี้ยไฮ้ ได้เปิดปาก


พูดขึ้นว่า “ท่านผู้น่าตระกูลทั้งสองคงจะยกยอเกินไป
ล่ะมั้ง ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นไม่มีสิ่งใดหรอกนอกจากเงิน ข้า
นั้นเกรงว่าผู้น่าตระกูลเช่นพวกท่านทั้งสองคงไม่มีโอกาสได้
สมบัตดิ ี ๆ สักชิ้นกลับไปเป็นแน่ในวันนี้”

เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยหลี่ เล่ยโซว่ท่าหน้าเครียดและได้กล่าว
ว่า “เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าเป็นใครกัน ถึงได้ปากดีกล้าพูดกับ
พวกเรา หรือเจ้าเป็นตัวแทนของตระกูลบันทึกสวรรค์เช่นนั้น
รึ?”

“จะใช่หรือไม่ ที่ข้าสามารถเป็นตัวแทนให้ตระกูลบันทึกสวรรค์
เจ้าสามารถถามผู้น่าตระกูลเนีย้ ไฮ้ได้” เนี้ยหลี่พูดเบา ๆ
สถานะของเนี้ยหลี่ภายในตระกูลบันทึกสวรรค์ในวันนีไ้ ม่
สามารถเทียบกับเมื่อก่อนได้เลย เนี้ยไฮ้ผงกศีรษะรับและกล่าว
ว่า“แน่นอน เขานั้นสามารถเป็นตัวแทนให้ตระกูลบันทึกสวรรค์
ของข้าได้!”

“ เจ้าเด็กน้อยกล้าที่จะมาคุยโวโอ้อวดในที่แห่งนี้ เขานั้นไม่รู้จัก
ซึ่งความอับอายบ้างเลยหรืออย่างไร?” เล่ยโซว่แค่นเสียงใน
จมูก“ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นได้ตกต่่าอย่างแท้จริงที่เจ้าได้
ตามใจคนรุ่นใหม่ไปมากถึงเพียงนี”้

เมื่อเนี้ยไฮ้ได้พูดแล้วว่าเนีย้ หลีส่ ามารถเป็นตัวแทนของตระกูล


บันทึกสวรรค์ได้ เขาก็ไม่มีสิ่งใดที่ต้องพูดอีก
บทที่ 64 - จะจ่ายมันเอง

เล่ยโซ่วมองไปรอบๆ ตัว เขาขี้เกียจที่จะเป็นวุ่นวายกับเนี่ยหลี่


อีกต่อไป ไม่อยากจะเถียงกับเด็กทีม่ ีสถานะทีต่ ่าต้อย กว่าเขา

เนี้ยหลี่ มองไปที่ เนี้ยไฮ้ และเนีย้ อิ้ง และ กล่าว


ว่า “ของพวกนี้มีราคาเพียงเล็กน้อย ข้าจะจ่ายเงินซื้อพวกมัน
เอง”

เนี้ยไฮ่ และ เนี้ยอิง้ ยิ้มอย่างเศร้าๆ พวกเขา


มองของอย่างอื่น พวกเขาดูเหมือนไม่มีศักดิ์ศรีเลยเมื่ออยูต่ ่อ
หน้าเนี่ยหลี่ พวกเขาบอกว่า เนี้ยหลี่ว่า ไม่ต้องมากพิธีส่าหรับ
พวกเขา ในตระกูล เด็กปกติทั่วๆไปกลัวที่จะพูดกับพวกเขา แต่
เนี้ยหลี่นั้นแตกต่างออกไป เขาสามารถจ้องหน้าพวกเขาและ
พูดคุยได้อย่างปกติ เมื่อชาติภพก่อนตอนเขายังมีชีวิต เมื่อเนี่ยห
ลี่มองเนี่ยไฮ้ และเนีย่ อิ้งเขามักจะกังวลอยู่เสมอเมื่อเจอพวกเขา
อย่างไรก็ตามในชาติภพนี้ เนี้ยหลีเ่ ป็นผู้ที่มีสติปัญญาสมบูรณ์
แบบ แตกต่างไปจากเดิม พวกเขาไม่สามารถท่าให้เนี่ยหลี่กลัว
และกดดันในเรื่องใดๆได้เลย ไม่ว่าจะเป็น ปู่ของ เอีย เสี่ยวหยุน
ซึ่งมีพลังอยู่ในระดับขั้นต่านาน ,เมือ่ เนี่ยหลีส่ นทนาเสร็จการ
ประมูลก็เริ่มขึ้น

ท่านแขกผู้มเี กียรติที่รัก สนามประมูล ฮองหยู๋


ของเรา ได้เตรียมสมบัติพิเศษมากมาย ซึ่งได้มาจากการค้นพบ
ที่ซากปรักหักพังในเมืองโบราณ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่าน
จะชอบมัน ต่อจากนั้นก็มเี สียงผู้หญิงคนหนึ่งออกมาพูดซึ่งเสียง
ที่พูดฟังไพเราะเหมือนเสียงของนางฟ้าซึ่งอยู่บนสวรรค์

“ สิ่งของที่จะถูกน่ามาประมูลชิ้นแรก ได้ถูก
ค้นพบจากซากปรักหักพังของเมืองสายน้่าใส มันคือหยกที่
แตกหัก เมื่อท่าการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญแล้วพบว่าพวก
มันมีรังสีแผ่ออกมาจากตัวหยกมากมาย เริ่มต้นประมูลที่เสนอ
ราคา สามร้อยเหรียญจิตรมาร เท่านั้น
เมื่อสุภาพสตรีกล่าวเสร็จ พวกมันก็ถูกยกขึ้นมา
วางบันถาด

“สามร้อยห้าสิบเหรียญจิตมาร”

“สี่ร้อยเหรียญจิตมาร”

“ห้าร้อยเหรียญจิตมาร”

หลังจากราคาเพิม่ ขึ้นถึงสองพันเหรียญจิตมาร
ราคาของหยกที่แตกหักก็มาหยุดทีต่ รงนี้ แม้ว่ามันจะมีพลัง
วิญญาณที่แผ่ออกมาจากตัวของมันมาก แต่มลู ค่าของมันมี
ราคาค่อนข้างมาก รายได้ต่อปีของชนชั้นสูง ซึ่งมีรายรับเพียง
ไม่กี่ลา้ นเหรียญจิตมารต่อปี เมื่อหักจากค่าใช้จ่ายจ่าเป็น
พื้นฐานซึ่งค่าใช้จ่ายปริมาณมหาศาลประจ่าตระกูลแล้ว สองถึง
สามพันเหรียญจิตมารส่าหรับพวกเขาเป็นเงินที่มากอยู่

เนี้ยไฮ้และเนีย่ อิ้งมองมาที่เนี่ยหลี่ เนี่ยหลี่พูด


ขึ้นมาว่าดูจากสีของหยกแล้ว มันคือ หยกก่อเกิดความมืด ซึ่ง
เป็นของที่คุณภาพของมันนับว่าไม่เลว ถ้าจะน่ามันมาใช้เป็น
ส่วนประกอบทีส่ ่าคัญของอุปกรณ์ต่างๆ ราคาที่แท้จริงมันน่าจะ
อยู่ที่ สองถึงสามล้านเหรียญจิตมาร

เมื่อมองไปยังห้อง พิเศษไม่มผี ู้ใดกล่าวสิ่งใน


เนี่ยหลีย่ กป้ายเสนอราคาขึ้น

ตระกูลบันทึกสวรรค์ สองพันห้าร้อยเหรียญจิตมาร สองพันห้า


ร้อยเหรียญจิตมาร ครั้งที่ 1
สองหันห้าร้อยเหรียญจิตมาร ครั้งที่ 2

สองพันห้าร้อยเหรียญจิตมาร ครั้งที่ 3

เหล่ย โซ่ว มองไปที่เนี่ยหลี่อยู่ ด้วยหน้าตาที่บูด


เบี้ยวพร้อมทั้งบ่นเบาๆ “เขาจะมีเงินสองพันห้าร้อยเหรียญจิต
มารส่าหรับจ่ายค่าหยกที่แตกหักชิน้ นี้จริงหรือ? พวกเขาจะใช้
มันท่าอะไร?

เนี้ยไฮ้ และเนี่ยอิ้งก็ยังไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตาม


เนี่ยหลี่ บอกพวกเขาว่าข้าจะจ่ายเอง พวกเขาเลยไม่ได้กล่าวว่า
อะไร
ในการประมูลสมบัติชิ้นต่อไป มันคือแหวนเก็บ
ของมหัศจรรย์ ทุกท่านโปรดมองมาที่นี่ ของที่จะประมูลชิ้นนี้
เขายกแหวนขึ้นอย่างช้าๆ “ นี่คือแหวนเก็บของ รูปร่างของมัน
แพรวพราวสวยงามใสไร้ที่ติอย่างสมบูรณ์ และช่องเก็บของของ
มันก็มีพื้นที่ว่างมากกว่า 200 ตารางเมตรมีรัศมีเป็นรูป
วงกลม มันสามารถที่จะเรียกได้วา่ เป็นสุดยอดของแหวนเก็บ
ของที่ถูกสร้างขึ้น มันถูกน่ามาจากนักรบระดับขั้นทองค่าท่าน
หนึ่ง ที่ไปค้นพบจากซากปรักหักพังโบราณเมืองหนิงหยู๋ ซึ่งมัน
เป็นสถานทีที่อันตรายมากและมีซากปรักหักพังรายล้อม
มากมาย มันคือสมบัติจากซากปรักหักพังเมืองโบราณที่
ทรงคุณค่าเป็นอย่างมาก มีสมบัตมิ ากมาย ถูกเก็บรักษาไว้ที่
ปราสาทของท่านเจ้าเมือง….”

“แหวนวงนี้ เริ่มต้นประมูลที่สนนราคา ห้าหมื่น


เหรียญจิตมาร”
เมื่อสุภาพสตรีกล่าวเสร็จก็มีเสียงพูดอื้ออึงไป
ทั้งสถานที่ประมูล “ในที่สุดของดีก็ออกมาจนได้” “แต่ราคา
ของชิ้นนี้มันโคตรแพง พวกเขาสนทนากันซักถามความคุม้ ค่า
ส่าหรับราคาทีต่ ั้งไว้ห้าหมื่นเหรียญจิตมาร”

“มันคือแหวนเก็บของ ที่มีขนาดเนื้อที่เก็บของ
ความจุมากมายมหาศาล ในการขายราคา ห้าหมื่นเหรียญจิต
มาร นั้นไม่แพงเกินความจริงไปเลย” รายรับต่อเดือนของ
ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้น แค่เกือบจะ หนึ่งแสนเหรียญจิตมาร
นอกจากนี้มันยังถูกใช้เป็นค่าใช้จ่ายที่จ่าเป็นของตระกูล มัน
เป็นเรื่องที่เกินความสามารถที่เนี้ยไฮ้และเนีย่ อิ้งจะซื้อมันได้

บางตระกูลที่รา่ รวยในชั้นล่างก็เริ่มเสนอราคา

ห้าหมื่นหนึ่งพันเหรียญจิตมาร!
ห้าหมื่นสามพันเหรียญจิตมาร! ………. ห้าหมื่น
ห้าพันเหรียญจิตมาร!

การเสนอราคาก่าลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เหล่ย
โซวยิ้มและพูดขึ้นว่า “ ท่านผู้อาวุโสเนี้ยไฮ้ ไม่สนใจหรือ? “งั้น
ข้าจะเริม่ เรียกแล้วนะ “ เจ็ดหมื่นเหรียญจิตมาร ! เมื่อเหล่ย
โซวพูดจบ ทั้งห้องก็เงียบลงในทันที หลังจากเวลาผ่านไปซัก
พัก ไม่มีผู้ใดเสนอราคามากไปกว่านี้

“ตระกูลพยัคฆ์เงิน ให้ เพิ่มอีกเจ็ดพันเหรียญ


จิตมาร? มีผู้ใดที่จะให้ราคาสูงกว่านี้อีกไหมคะ สุภาพสตรีถาม
ด้วยเสียงที่ไพเราะ
ถึงแม้ว่าเนี่ยหลี่จะมีแหวนเก็บของเป็นของ
ตัวเอง แต่พื้นที่ของมันค่อนข้างเล็ก มันมีพื้นที่เพียงสามารถใส่
การ์ดคริสตอลปิศาจก็เต็มหมดแล้ว ไม่มีที่ว่างเพียงพอที่จะใช้ใส่
ของอย่างอื่น แต่แหวนวงนี้มีพื้นที่ว่างมาก เนี่ยหลีจ่ ึงตัดสิน
ในทันทีว่าจะไม่ยอมปล่อยมันให้ใคร

แหวนซึ่งมีพื้นที่ 200 ตารางเมตร มีรศั มีเป็นรูป


วงกลม ถ้า เขาพลาด เขาต้องพยายามอย่างมากที่จะหามันมา
ให้ได้ในอนาคต และมันคงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากที่จะพบมัน

“หนึ่งแสนเหรียญจิตมาร” เนี่ยหลี่พดู ขึ้นพร้อม


ทั้งยกแขนชูป้ายราคาขึ้น เมื่อได้ยนิ เนี่ยหลี่พดู เนี้ยไฮ้ และเนี่ย
อิ้ง รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก หัวใจแทบจะหลุดออกมาจาก
ร่างกาย

มันราคาตั้งแสนเหรียญจิตมาร! พระเจ้าช่วย หนึ่งแสนเหรียญ


จิตมารนั้นมากกว่ารายได้ที่ตระกูลบันทึกสวรรค์ได้รับมาในแต่
ละเดือนเสียอีก เนี่ยหลี่ต้องการมันจริงๆ จะต้องใช้รายได้ทั้ง
เดือนเพื่อซื้อแหวนเก็บของวงนั้นหรือ?

“ตระกูลบันทึกสวรรค์เสนอราคา มาหนึ่งแสน
เหรียญจิตมาร มีผู้ใดที่จะให้ราคาสูงกว่านี้อีกไหมคะ?”

สุภาพสตรีกล่าวท่ามกลางเสียงที่ดัง “หนึ่งแสน
เหรียญจิตมาร” เหล่ย โซ่วถอนหายใจอย่างแรง เขาตะลึง
เล็กน้อย ด้วยราคาที่ตั้งมานี้เขาไม่สามารถที่จะแบบรับไหว มัน
เป็นจ่านวนเงินตั้งหนึ่งแสนเหรียญจิตมาร! เขาอ้าปากค้าง แม้
ต้องการจะยกป้ายราคาขึ้นสู้แต่ก็กังวลว่านั่นอาจจะเป็นกับดัก
ของตระกูลบันทึกสวรรค์ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่สู้ราคาของมันอีก

“ หนึ่งแสนเหรียญจิตมารครั้งที่หนึ่งผ่านไปคะ
หนึ่งแสนเหรียญจิตมารครั้งที่สองนะคะ หนึ่งแสนเหรียญจิต
มารครั้งที่สาม ขายคะ! สาวงามก็เคาะค้อนลงบนโต๊ะประมูล
อย่างแรง หนึ่งแสนเหรียญจิตมารนั่นจะกลายเป็นราคาครั้งหนึ่ง
ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ

เนี่ยหลี่ ช่าเลืองมองไปที่เนี่ยอิ้งและกล่าวขึ้น
ว่า “ ท่านผู้อาวุโส ท่านสามารถทีจ่ ะช่วยน่าสมบัติทั้งสองชิ้นมา
ให้ข้าได้หรือไม่? ข้าอาจจะต้องใช้แหวนเก็บของนั่นหลังจากนี”้
นี่คือเงินท่านผู้อาวุโสโปรดช่วยเก็บไว้ เนี่ยหลี่นา่ การ์ดคริสตัน
อสูรออกมาสิบเอ็ดใบ

เนี่ยอิ้งดูมคี วามสุขมาก แม้ว่าเขาจะกลายเป็น


คนที่ต้องเป็นผู้ที่ต้องประสานงานท่าธุระให้เนี่ยหลี่ ถึงแม้ว่าใน
ปัจจุบันเขาจะด่ารงต่าแหน่งเป็นผูอ้ าวุโสของตระกูลบันทึก
สวรรค์! อย่างไรก็ตามหลังจากดึงการ์ดผลึกคริสตัลอสูรออกมา

เนี่ยอิ้งถอนหายใจ และล่าพึงล่าพันกับตัวเอง
ว่า “ลืมมันและอดทนไว้” การ์ดคริสตัลอสูรจ่านวนสิบเอ็ดใบ
มูลค่าหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นเหรียญจิตมาร มากกว่าราคาของ
สมบัติทั้งสองชิ้น โดยสนามประมูลจะต้องทอนเงินมาเจ็ดพันห้า
ร้อยเหรียญจิตมาร หลังจากเขาวิ่งท่าธุระเรียบร้อยแล้วเขาก็
ได้รับเงินไปเจ็ดพันห้าร้อยเหรียญจิตมาร โดยที่เขาไม่ต้องเสีย
สิ่งใดเลย

ตั้งแต่ตระกูลบันทึกสวรรค์มีผู้อยู่อาศัยมากมาย
ในแต่ละเดือนมีรายรับเพียงน้อยนิดประมาณหนึ่งแสนเหรียญ
จิตมารต่อเดือน แต่แค่วิ่งท่าธุระกรรมให้เนี่ยหลี่แป๊บเดียวได้เงิน
มาถึงเจ็ดพันห้าร้อยเหรียญจิตมาร เนี้ยไฮ้เห็นอย่างนั้นก็
ต้องการช่วยท่ามันเหมือนกัน

“จนแท้.......”เนี้ยไฮ้ถอนหายใจ อย่างเดียวที่
เขารู้คือต้องเคร่งเครียดกับเรื่องวิกฤตการเงินของตระกูลบันทึก
สวรรค์เป็นอย่างมากจริงๆ หลังจากที่หักค่าเล่าเรียนฝึกวิชาของ
เด็กๆรุ่นใหม่ ตระกูลบันทึกสวรรค์ยังเป็นหนี้อีกต่างหาก เนี่ยห
ลี่โคตรรวย และเป็นคนในตระกูลบันทึกสวรรค์ เขาจะต้องสร้าง
ผลงานให้แก่ตระกูลแน่ อย่างไรก็ตามเนี้ยไฮ้ก็ไม่กล้าที่จะถาม
เนี่ยหลี่ว่าสิ่งใดกันที่ท่าให้สมาคมนักปรุงยามาติดต่อค้าขายกับ
ตระกูลบันทึกสวรรค์กัน ……

ของที่น่ามาประมูลชิ้นต่อไปเป็นยาอายุวัฒนะ ที่
ถูกเก็บลงในขวดหยก มันถูกสร้างบางส่วนจากหยกไฟ มัน
สามารถรักษาอาการต่างๆได้เป็นอย่างดี มีสนุนไพร จากพืช
หลากหลายชนิด! ได้รับมันมาจากการกู้ซากเรือที่จม เป็นของ
เมืองในต่านาน แม่น้่าน้่าแข็ง..........” ……

“ตระกูลบันทึกสวรรค์ เสนอราคา หกพันเหรียญจิตมาร มีผู้ใด


เสนอราคาอื่นอีกหรือไม่คะ”

“หกพันเหรียญจิตมารครั้งที่หนึ่งผ่านไป” หก
พันเหรียญจิตมารครั้งที่สอง” หกพันเหรียญจิตมารครั้งที่สาม
ขายคะ!”
ในการประมูลครั้งต่อไปเป็นชุดสูทสวมใส่ระดับ
ทองค่า มองดูลวดลายที่มาบนชุดมาจากยุคโบราณจาก
อาณาจักรยุค ลมหิมะ เกาะชุดนีส้ ร้างขึ้นจากหนังของอสรู
ปิศาจพยัคฆ์เพลิงอยู่ด้านใน ซึ่งมันสูญพันธ์จากอาณาจักรลม
หิมะไปแล้ว ของชนิดนี้ระดับทอง ผู้ที่สามารถใช้มันได้ต้องเป็น
ระดับร่างทรงอสูรระดับทองเท่านั้นที่จะสามารถสวมใส่มันได้
เริ่มราคาประมูลที่ หกหมื่นเหรียญจิตมาร

เมื่อมองไปที่ชุดสูทระดับทองนั้น เนี่ยหลี่ตาลุ
กวาว เขายกป้ายราคาและกล่าวว่า “หนึ่งล้าน.....”

ทุกๆคนพากันตะลึง ทุกอย่างในห้องประมูล
เงียบสงัดไปชั่วขณะหนึ่ง เขาคือผู้ไม่ยอมมอบโอกาสให้ใคร
สามารถสูร้ าคาได้เลย!
เสี่ยวหลี่ นี่เจ้าซื้อมันมาให้ข้าหรือ? ขอบคุณเจ้า
มาก” เนี้ยไฮ้ ออกอาการประหม่าลูบมือของเขา นี่คือชุดสู
ระดับทอง เมื่อเขาสวมใส่มันจะต้องแข็งแกร่งขี้นอย่าง
น้อย 30 เปอร์เซ็นต์ หรือมากกว่านั้น เนี่ยหลี่หันมามองเนี่ยใฮ่
และบอกว่า “ใครบอกว่าซื้อให้ท่าน?”

“แต่ฉันเป็นร่างทรงอสูรระดับทองเพียงคนเดียว
ในตระกูลบันทึกสวรรค์นะ!” เนี้ยไฮ้ ชะงักชั่วคราวก่อนที่จะพูด
นอกจากเขาแล้วใครอื่นใดอีกเหรอที่สามารถสวมใส่ชุดระดับ
ทองอีก

“ข้า จะเอามันไปใช้เอง”เนี่ยหลี่ กล่าว เนี้ยไฮ้


อ้าปากค้าง หลังจากได้ยินค่าพูดเนี่ยหลี่ เนี้ยไฮ้ จากอารมณ์
สนุกสนานก็ชะงักลง เนีย้ ไฮ้เสียใจท่าหน้าเหมือนคนอกหักโดน
ผู้หญิงทิ้ง
บทที่ 65 - ยาทิพย์
ใคร ๆ ก็รู้ว่าเนี่ยหลีต่ ้องใช้ระยะเวลายาวนานเพียงใดเพื่อก้าว
ไปถึงร่างทรงอสูรระดับทอง เขานั้นได้ใช้เงินหนึ่งล้านเหรียญจิต
มารในครั้งนี้เพื่อโอ้อวดเพียงเท่านัน้ หรือ?

หลังจากคิดถึงเรื่องเหล่านี้อยู่หลายครั้งครั้ง เนี้ยไฮ้
อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคลุ้มคลั่ง

อย่างไรก็ดี ในฐานะที่เขาเป็นผู้น่าตระกูลบันทึก
สวรรค์อยู่ในขณะนี้ ตัวเขาไม่มีทางลดต่าแหน่งตัวเขาเองต่อที่
สาธารณะเพื่อขอของสิ่งนี้

แค่เงินเพียงหนึ่งล้านเหรียญจิตมารไม่ได้มีความหมายอันใดมาก
นักกับเนี้ยหลี่ ด้วยความมั่งมีของเขาในตอนนี้ เขาสามารถถูก
จัดให้อยู่ 1 ใน 5 อันดับแรกของผู้ที่ร่ารวยที่สดุ ได้ และการ
ร่วมมือกับสมาคมปรุงยานั้นยังท่าให้ความร่่ารวยของเนี้ยหลี่
เพิ่มสูงขึ้นอีกถึงร้อยล้านเหรียญจิตรมารต่อวัน
เนี้ยหลี่นั้นไม่ต้องการแม้กระทั่งเป็นที่ถูกจับตามอง
ในตอนที่เขาได้ใช้เงินหนึ่งล้านเหรียญจิตมาร ถ้าเขาต้องการ
เป็นที่จับตามองแล้ว เขาสามารถซือ้ ได้แม้กระทั่งของทุกสิ่งที่อยู่
ในการประมูลนีไ้ ด้อย่างไม่มีปญ ั หา แต่แน่นอนเลย เนีย้ หลี่
ในตอนนี้เพียงแค่หลบซ่อนตัวโดยอาศัยการยืมชื่อของตระกูล
บันทึกสวรรค์เพื่อซื้อสมบัติบางสิ่งโดยไม่ท่าการดึงดูดความ
สนใจจากผู้ใด อย่างไรก็ตามถ้าเขาต้องการซื้อของทุกอย่างใน
งานประมูลนี้ มันจะเป็นเรื่องใหญ่โตเกินไปเล็กน้อย

ในตอนนี้นั้น เหล่าพ่อค้าผู้มั่งคั่งหลายที่อยู่เบื้อง
ล่างต่างก่าลังยุ่งอยู่กับการถกเถียงเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้น

“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันทีต่ ระกูลบันทึกสวรรค์กลายเป็น
ผู้ร่ารวยเช่นนี?้ ”
“ข้าได้ยินมาว่า ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นก่าลังถูก
อุ้มชูโดยสมาคมปรุงยาอยู่ ยิ่งกว่านั้นสมาคมปรุงยาก่าลัง
จ่ายเงินให้พวกเขาสูงกว่าราคาตลาดถึง 30 % ในการซื้อ
สมุนไพรจากพวกเขา”

“พวกเขาได้ท่าเรื่องที่ว่านั้นจริง ๆ รึ? ไม่ต้องสงสัย


เลยว่าตระกูลบันทึกสวรรค์ถึงได้มงั่ คั่งถึงเพียงนั้น!”

เกี่ยวกับเรื่องน่าตกใจที่เขาได้ยินนั้น เนี้ยไฮ้รสู้ ึกหด


หู่เป็นอย่างยิ่ง ถ้าตระกูลบันทึกสวรรค์มคี วามมั่งคั่งเช่นนั้นแล้ว
มันก็คงจะเป็นเรื่องดีมิใช่น้อย แต่ว่าสมบัติที่ประมูลได้มานั้น
ทั้งหมดล้วนถูกจ่ายโดยเงินของเนี้ยหลี่ ซึ่งเป็นเงินทีไ่ ม่ได้ใช้เพื่อ
ตัวเขาแต่อย่างใด แม้ว่าตัวเขานั้นจะเป็นผู้น่าตระกูลของ
ตระกูลบันทึกสวรรค์ แต่เขาก็ยังคงเป็นหนึ่งในสมาชิกของ
ตระกูลบันทึกสวรรค์ที่จ่าเป็นต้องส่งเงินบางส่วนให้แก่ตระกูล
ทุก ๆ เดือน

โดยส่วนใหญ่แล้วทรัพย์สินที่เป็นของของบุคคลใด
นั้นจะถือว่าเป็นทรัพย์สินส่วนตัว ท่าให้เนี้ยไฮ้ไม่สามารถ
บังคับเนี้ยหลี่ให้ท่าการส่งเงินของเขาที่มีให้แก่ตระกูลได้ และยิ่ง
ไปกว่านั้นด้วยสถานะของเนี้ยหลี่ในตอนนี้แล้ว ท่าให้ตัวเขานั้น
ไม่กล้าที่จะพูดสิ่งใดที่เป็นการเร่งเร้าแก่เนี้ยหลี่ได้

เหล่ยโซว่และเจียงหมิงต่างรู้ศึกเศร้าใจ ภายในการ
ประมูลครั้งนีภ้ าพทั้งหมดที่พวกเขาได้เห็นก็คือตระกูลบันทึก
สวรรค์ท่าการประมูลสมบัตไิ ด้ไปชิ้นแล้วชิ้นเล่า ในขณะที่พวก
เขาไม่สามารถได้สิ่งใดกลับมา นอกจากนี้ระดับของราคา
ประมูลที่พุ่งสูงขึ้นไปนั้น ท่าให้พวกเขาไม่กล้าประมูลสูไ้ ด้ ถ้า
ของเหล่านั้นได้กลับมาแว้งกัดพวกเขาเอง มันจะเป็นปัญหาเอา
ได้
ส่าหรับชี่ฟง และหลีห่ ยวนนั้น พวกเขามักจะมองไป
ทีเ่ นี้ยไฮ้อยู่บ่อย ๆ และถอนหายใจออกมา ตระกูลบันทึก
สวรรค์นั้นช่างร่่ารวยอย่างแท้จริง! แต่พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่า
สมบัตเิ หล่านั้นจะเป็นของเนี้ยหลีเ่ องทั้งหมด ไม่ใช่สิ่งของ
ส่าหรับตระกูลเลย

“ดูสิข้านั้นเรียกความสนใจมายังตระกูลบันทึก
สวรรค์ได้มากเพียงใด” เนี้ยหลี่ยมิ้ เล็กน้อยขณะกระซิบไปที่เนี้ย
ไฮ้

เมื่อได้ยินค่าของเนี้ยหลี่ดังนั้น เนี้ยไฮ้ได้กลอก
ดวงตาของเขาไปมา เขาไม่ควรจะได้รับความสนใจที่มากถึง
เพียงนั้น
“สมบัตจิ ่านวนเท่าไหร่กันที่เจ้าได้วางแผนเพื่อซื้อ
มัน?” เนี้ยไฮ้ได้มองไปยังเนีย้ หลี่และพูดขึ้น จนกระทั่งถึงบัดนี้
เนี้ยหลีม่ ีของทีประมูลได้มาแล้วมากกว่า 10 ชิ้น และใช้เงินไป
เกือบสองล้านเหรียญจิตมาร

“ข้าจะซื้อทุก ๆ สิ่งที่ตวั ข้าชอบ” เนี้ยหลี่พูดและยิ้ม


เล็กน้อย

ปากของเนี้ยไฮ้ได้อ้าออกด้วยความตกใจ กว้างเสีย
จนกระทั่งสามารถจะใส่ไข่หนึ่งใบไปไว้ในปากเขาได้ เนี้ยหลี่นั้น
จะซื้อทุกสิ่งไม่ว่าอะไรที่เขาต้องการ สิ่งนี้มันค่อนข้างจะเป็น
การข่มเหงกันเกินไปสักหน่อย หยางซินได้ให้เงินจ่านวนมากถึง
เพียงนี้แก่เนี้ยหลีจ่ ริง ๆ รึ ? สมาคมปรุงยาช่างมั่งคั่งเสียจริง
สามารถให้เงินได้อย่างสบายโดยคิดว่าเป็นเพียงให้เงินติด
กระเป๋า ด้วยจ่านวนเงินเช่นนี้ก็เป็นจ่านวนที่มากอย่างไม่คาด
ฝันส่าหรับบุคคลทั่วไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลังจากรอคอยเป็นระยะเวลานาน ยังไม่มผี ู้ใดท่า
การเสนอราคาเพิม่ เข้ามา หลังจากประกาศออกไปหลายครั้ง
ผู้ด่าเนินการประมูลก็ได้ทุบค้อนลงในที่สุด ชุดระดับทองอันนี้ก็
ได้ตกเป็นของเนี้ยหลี่

“ของชิ้นต่อไปได้ถูกมอบให้พวกเราโดยสมาคมปรุง
ยาเพื่อมาท่าการประมูลครั้งนี้ ของเหล่านั้นคือ ยาบ่ารุง
วิญญาณ และยาผสานวิญญาณ!” ผู้ด่าเนินการประมูลพูดด้วย
ท่าทียิ้มแย้ม ”ในตอนนี้ พวกเราได้มาซึ่ง ยาบ่ารุงวิญาณจ่านวน
1000 เม็ด และ ยาผสานวิญญาณจ่านวน 100 เม็ด ข้าวิงวอน
ขอให้ทุกท่าน ๆ ได้รักษาโอกาสนี้ไว้ให้ดี”

เมื่อได้ยินค่าของผูด้ ่าเนินการประมูล ไม่ว่าจะเป็น


เหล่าพ่อค้าที่อยูด่ ้านล่างหรือผู้น่าตระกูลทั้งห้า เกือบทุกคนรูส้ ึก
เครื่องร้อนขึ้นมา
มันคือยา บ่ารุงวิญญาณและยาผสานวิญญาณ
หลังจากตัวยาทั้งสองชนิดนี้ได้ถูกเผยออกมา มันราวกับพายุได้
ถูกเชิญมาภายในเมืองกลอรี่ ร่างทรงอสูรหลายคนภายหลังจาก
ท่าการกินยาบ่ารุงวิญญาณและยาผสานวิญญาณก็ท่าให้การบ่ม
เพาะพลังของพวกเขาเพิ่มขึ้นและก้าวกระโดดไปข้างหน้า
แม้กระทั่งหลายคนกฺ่ได้ทะลุไปยังระดับเงินและระดับทองได้
อย่างรวดเร็ว บางคนทีส่ ภาพร่างกายไม่เหมาะแก่การบ่มเพาะ
พลัง แต่หลังจากที่ได้ใช้ยาบ่ารุงวิญญาณและ ยาผสาน
วิญญาณไปจ่านวนหนึ่ง ก็ท่าให้พลังวิญญาณของพวกเขา
เพิ่มขึ้นมหาศาล

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ยาทั้งสองชนิดนี้นั้นยาก
ยิ่งที่จะได้มา

หลายตระกูลนั้นต่างตระเวนหาซื้อไปทั่ว ซึ่งยาทั้ง
สองชนิดนี้ โดยยอมจ่ายไม่ว่าที่ราคาเท่าไหร่ก็ตาม เป็นเพราะ
พวกเขาจะใช้มันเพื่อหล่อเลี้ยงเหล่าคนรุ่นเยาว์ของพวกเขา
อย่างไรเสีย จ่านวนของยาทั้งสองชนิดนี้มีอยู่เป็น
จ่านวนน้อย จ่านวนที่สมาคมปรุงยาสามารถปรุงออกมาได้นั้น
ไม่เพียงพอกับตลาดขนาดใหญ่ภายในเมืองกลอรี่ โดยทั่วไปแล้ว
มีเพียงตระกูลหลักและตระกูลชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถซื้อยาทั้ง
สองชนิดนี้ในปริมาณมากได้ งานประมูลของตระกูล ฮอง หยู๋
อยู่ที่ระดับหนึ่งในสามของงานประมูลทางด้านทิศเหนือของ
เมืองกลอรี่ และเป็นเพียงงานเดียวที่ได้มาถึงยา บ่ารุงวิญาณ
1000 เม็ด และ ยาผสานวิญญาณ 100 เม็ด ท่าให้ความ
ต้องการของคนทั่วไปมีเกินกว่าจ่านวนผลิตได้เป็นจ่านวนมาก

ได้ปรากฏแสงฉับพลันในดวงตาของเนี้ยไฮ้ เหตุผล
ที่เขามาที่แห่งนี้ก็เพื่อยาทั้งสองชนิดนี้

“เนี้ยหลี่ ยาทั้งสองชนิดนี้ จงซื้อให้มากที่สุดเท่าที่


จะมากได้!” เนี้ยไฮ้กล่าวอย่างตื่นเต้น ยาทั้งสองนี้มีผลดียิ่ง
ส่าหรับเพิ่มการบ่มเพาะพลังของผูห้ นึ่งผู้ใด โดยเฉพาะยาผสาน
วิญญาณอันนี้แล้ว มันมีผลลัพธ์ที่ทรงพลัง โดยเฉพาะบุคคลที่
อยู่ในต่าแหน่งเช่นตัวเขาและเนีย้ อิ้ง มีเพียงแค่ต้องเพิ่มการบ่ม
เพาะพลังเท่านั้นที่จะสามารถเพิม่ สถานะให้กับตระกูลของพวก
เขาได้

” ท่าไมท่านต้องการซือ้ สิ่งเหล่านี้กันเล่า?” เนี้ยหลี่


ถามไปด้วยความแปลกใจ “สมาคมปรุงยาไม่ได้ให้ท่านซึ่งยาทั้ง
สองชนิดนี้เช่นนั้นหรือ?”

ในฐานะของผู้มอบสูตรยาเหล่านี้ เนี้ยหลีไ่ ม่ได้ขัด


สนในยาเหล่านี้

“ท่าไมสมาคมปรุงยาถึงต้องให้ยาพวกนั้นแก่พวก
เรารึ?” เนี้ยไฮ้หันศีรษะเขามาด้วยความงุนงงและถามเนีย้ หลี่
เนี้ยหลี่ชะงักไปชั่วครู่และเข้าใจเรื่องราวที่เป็นไป
ทั้งหมด การขายซึ่งยาเหล่านีล้ ้วนถูกควบคุมโดยหยางซิน
และหยางซินก็ได้ให้ยาแก่เนี้ยหลี่มาเป็นจ่านวนมาก โดย
ประกอบไปด้วย ยาบ่ารุงวิญญาณหลายแสนเม็ด ยาผสาน
วิญญาณอีกหลายหมื่นเม็ด และยาเสริมวิญญาณอีกสองถึง
สามพันเม็ด และยังไม่รวมถึงยาเสริมพลังกายสีชาดและยา
เปลี่ยนรูปทั้งเก้าอีกด้วย

หยางซินให้ยาจ่านวนมากมายแก่เนี้ยหลี่ แต่ไม่ได้
ให้สิ่งใดส่าหรับตระกูลบันทึกสวรรค์ ในความคิดของเธอเนี้ยหลี่
นั้นก็เป็นดังตัวแทนของตระกูลบันทึกสวรรค์

“อ่อ ไม่มีสิ่งใด!” เนี้ยหลี่กล่าวพลางส่ายหัวของเขา


เมื่อเป็นกรณีเช่นนั้นแล้ว เขาจะให้ยาบางส่วนแก่ตระกูลของ
เขา โดยต้องไม่ลืมว่าเขานั้นยังคงเป็นสมาชิกคนหนึ่งของ
ตระกูลบันทึกสวรรค์เช่นกัน
บรรยากาศภายในงานประมูลใกล้ปะทุเต็มที
ผู้ด่าเนินการประมูลบนเวทีนั้นเห็นภาพทั้งหลายเหล่านี้ เธอยิม้
เล็กน้อยและพูดว่า “ในการประมูลครั้งนี้ ยาบ่ารุงวิญญาณ
ทั้งหมดจะถูกขายเป็นชุดละ 100 เม็ด ส่วนยาผสานวิญญาณ
ทั้งหมดจะถูกขายเป็นชุดละ 10 เม็ด ส่าหรับชุดแรกของยา
บ่ารุงวิญญาณนั้นมีราคาเริ่มต้นที่ 10000 หมื่นเหรียญจิตมาร
การประมูลได้เริ่มต้น ณ บัดนีแ้ ล้วค่ะ”

“150,000 เหรียญจิตมาร!”

“160,000 เหรียญจิตมาร”

ในไม่ช้าราคาก็ได้พุ่งสูงไปถึงสองแสนเหรียญจิตมาร
เนี้ยไฮ้ยังคงตื่นเต้นอยูม่ าก ใบหน้าของเขาแดงก่่า
เขานั้นได้เตรียมจ่ายออกซึ่งเงินจ่านวน 60000 เหรียญจิตมาร
เพื่อการซื้อยาบ่ารุงวิญญาณและยาผสายวิญญาณอย่างละชุด
โดยเป็นสิ่งดีที่สดุ แล้วทีต่ ระกูลบันทึกสวรรค์สามารถท่าได้
ภายใต้สภาพการเงินเช่นนี้ แต่หลังจากราคาได้ไปแตะถึงสอง
แสนเหรียญจิตมาร เนี้ยไฮ้ได้หยุดลง ในเมื่อยังเหลือยาอีก
มากกว่า 9 ชุดดังนั้นจึงไม่มีความจ่าเป็นต้องได้ยาชุดแรกแต่
อย่างใด

ชี่ฟงและลี่หยวนทั้งคู่ตา่ งมองเนี้ยไฮ้ด้วยความ
ประหลาดใจ ตระกูลบันทึกสวรรค์ได้ใช้เงินไปง่าย ๆ ถึง 2 ล้าน
เหรียญจิตมารโดยปราศจากความรู้สึกเสียดาย ท่าไมกันเล่า
เพียงแค่การประมูลซึ่งยาทิพย์ก่าลังเริ่ม และเมื่อราคาที่เสนอไป
ถึงระดับราคา 120000 เหรียญจิตมาร พวกเขาก็ได้ยอมแพ้ไป
เสียแล้ว?
เมื่อพวกเขาได้เห็นว่า เนีย่ ไฮ้ไม่ได้มีความสนใจที่จะสูร้ าคายา
ทิพย์ต่อไป ชี่ฟ่งและลีห่ ยวนต่างตัดสินใจเข้าไปสูร้ าคา ด้วย
ความร่่ารวยและความมั่งมีของตระกูลบันทึกสวรรค์ที่อยู่ใกล้
พวกเขานั้น พวกเขารู้สึกได้ถึงความกดดันภายในใจ จนกระทั่ง
ถึงบัดนี้ ทั้งหมดที่พวกเขาได้เห็นคือตระกูลบันทึกสวรรค์ได้ท่า
การซื้อของทีละชิ้นไปเรื่อย ๆ และไม่เปิดโอกาสให้แก่ผู้ใด แต่
ในตอนนี้ พวกเขาสามารถเข้าร่วมในการสู้ราคาได้

ไม่ว่าอย่างไร พวกเขานั้นต้องซื้อของบางอย่างกลับไปให้ได้ มิ
เช่นนั้นแล้วการมานี่จะเป็นการสูญเปล่า
บทที่ 66 - ตะลึง
เหล่ยโซวและเจียงหมิง ยังเข้าร่วมในการสูร้ าคา, สี่
ตระกูลก่าลังสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อยาพวกนั้น พวกเขา
หยุดเมื่อราคามันพุ่งถึง สามแสนสองหมื่นเหรียญจิตมาร

เนี่ยหลี่ นี้มันยาบ่ารุงวิญญานที่ลา้่ ค่า เจ้าจะไม่ซื้อ


มันรึ? เนี่ยไฮ้ ถูมือของเขา มองไปที่เนี่ยหลี่อย่างกระตือรือร้น
(อยากได้ยามาก) จะดีกว่านี้ถา้ เนี้ยหลี่ซื้อดีกว่าปล่อยให้พวก
ตระกูลอื่นๆได้ไป

ไม่น่าสนใจ ข้าซื้อมาแล้วอย่างหลาย ให้โอกาสผู้อื่น


ได้ซื้อมั่ง ถ้าข้าประมูลไปคนเดียวมันก็ไม่สนุกนะสิ เนี่ยหลี่พูด
อย่างร่าเริง

เนี่ยไฮ้ ไม่รู้ว่าจะยิ้มหรือหัวเราะดี ยาบ่ารุงวิญญาน


เป็นของที่ดีแน่นอนส่าหรับบ่ารุงคนรุ่นใหม่ เขาได้คิดบางสิ่ง
บางอย่างออกมา ตั้งแต่ยาพวกนั้นถูกจัดหามาโดย สมาคมปรุง
ยา และ ความส่าพันธ์ระหว่างเนี่ยหลี่ กับ หยางซิน ก่าลังไปได้
สวย มันจะไม่สมเหตุสมผลเลยถ้าหยางซิน นั้นไม่ได้ให้ยา
เหล่านั้นกับเนี่ยหลี่ มิน่าละ เนี่ยหลี่ถึงไม่สนใจยาพวกนี้
เลย

เนี่ยหลี่ ผู้อ่านวยการหยางได้ให้ยาแก่เจ้า
เหรอ? เนี่ยไฮ้ถาม(เสียงเบาๆ)

ใช่เธอให้ ข้าขอจากหยางซิน ท่านผู้น่าตระกุลไม่ได้


ก่าลังคิดแย่งยาเหล่านี้ไปจากข้าหรอก ใช่ไหม?ถ้าเป็นเช่นนั้น
ข้าจะบอกพี่ หยางซิน" เนี่ยหลี่กระพริบตา และ พูดเช่นเด็ก
น้อยคนหนึ่ง ตาของเขาเป็นประกายๆบ่งบอกถึงความขี้เล่น
อย่างสนุก แม้ว่าเขาอาจจะตัดสินใจช่วยเหลือแบ่งยาบางส่วน
ให้ตระกูลได้ แต่การได้หยอกล้อผูน้ ่าตระกูลบ้างก็ยังรูส้ ึกสนุก
อยู่
ข้าควรท่ายังไง ? เนี่ยไฮ้ อยากจะร้องไห้ ถ้าเนี่ยหลี่
บอกผู้อ่านวยการหยาง ความร่วมมือของตระกูลบันทึกสวรรค์
และ สมาคมปรุงยาเป็นอันจบแน่ "ข้าหมายถึงว่า ถ้า
ผู้อ่านวยการหยางให้ยาเจ้า เจ้าจะต้องเก็บมันอย่างปลอดภัย
อย่าให้ใครมาขโมยได้ละ"

อ่อ ข้าเข้าใจท่านหัวหน้าตระกูลผิดไป ขอบคุณท่าน


ทีเ่ ตือนข้า เนี่ยหลี่ พูด และ พยักหน้า

เนี่ยไฮ้ ยิ้มด้วยความขืนข่ม และ หันหน้าของเขา


ไป เด็กยุคใหม่ ยากที่จะจัดการจริงๆ ยากมากที่จะได้รับ
ผลประโยชน์จากเนี่ยหลี่ ใน

หัวใจของเนี่ยไฮ้ มีแต่สระน้า่ แห่งความเศร้า


ในการแข่งขันครั้งแรก ยาบ่ารุงวิญญาน ได้ถูกซื้อไป
โดย เล่ยโซว่ โดยจบทีร่ าคา สามแสนสองหมื่นเหรียญจิต
มาร หลัง

จากนั้นไม่นาน ล็อตทีส่ อง สาม และ สี่ และ ห้า


เนี่ยไฮ้ ต้องการที่จะเข้าประมูลทุกๆครั้ง อย่างไรก็ตาม ราคาได้
มากกว่า สามแสนสองหมื่นเหรียญจิตมารทุกครั้ง

เนี่ยไฮ้ ถึงกับเศร้าใจเลยทีเดียว ถ้าซื้อยาบ่ารุง


วิญญาณ เขาก็จะไม่มีเงินพอที่จะซื้อยาผสานวิญญาณ เขาได้แต่
มองดูผู้น่าตระกูลคนอื่นๆแข่งกันประมูล และ ร้องให้ในใจ

ผู้น่าตระกูลพวกนี้มันมากเกินไปแล้ว เนี่ยไฮ้ คิด


อย่างไม่พอใจในใจ พื้นฐานของตระกูลบันทึกสวรรค์มีน้อยมาก
การค้าขาย(ร่วมมือ) กับสมาคมปรุงยาก่าลังเริม่ ต้น โดยพวกเขา
มีหนี้สิ้นมานานมาก อีกไม่นานมันจะถูกช่าระในเร็วๆนี้ พวกเขา
นั้นจะไปเทียบกับตระกูลพยัคฆ์เงินและตระกูลเที้ยเหมินได้อ
ย่างไร? สองตระกูลนี้มีพื้นฐานค่อนข้างมากมาย
เมื่อเห็นผู้คนแย่งกันประมูลยาทิพย์ เนี่ยหลีไ่ ร้
ค่าพูดใด ๆ ธุระกิจของยาทิพย์ยงั คงได้ก่าไรจริงๆ เนี่ยหลี่ ไม่
เข้าร่วมเพราะว่า เขาได้เงินสามสิบเปอร์เซ็นต์หลังจากหักภาษี
ประมูลแล้ว แม้ว่าเขาสามารถเข้าร่วมเพื่อโก่งราคา แต่นั้นมัน
ก็แค่เงินจ่านวนเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเงินที่เนี่ยหลีม่ ีมากกว่า
สามร้อยล้านเหรียญ

เห็นยาชุดแล้วชุดเล่าทีถ่ ูกผู้อื่นฉกฉวยไป และไม่ได้


แบ่งให้ตัวเขาเลย คิดได้เลยว่าเนีย่ ไฮ้จะซึมเศร้าแค่ไหน

หลังจากล็อตที่ห้า ของยาบ่ารุงวิญญาน ได้ถูก


ประมูลไป การแข่งขันที่ดุเดือนก็ได้หยุดเล็กน้อย แม้ราคาจะไม่
ต่่าไปกว่าสาม

แสนเหรียญจิตมาร
ท่านเนี่ยไฮ้ (ท่านผู้น่าเนี่ยไฮ้) ท่านไม่สนใจ ยาบ่ารุง
วิญญาณเลยรึ ท่านไม่สรู้ าคาสักเท่าไหร่เลยนะ ชี่ฟง ถาม
อย่างสงสัย

ข้า..... เนี่ยไฮ้ไม่สามารถที่จะพูดถึงความขัดสนของ
เขาได้ เขาอยากจะพูดว่าจริงๆแล้ว เขาจนมาก อย่างไรก็ตาม
พวกเขาจะ

เชื่อรึ?

ก่อนหน้านี้ เนี่ยหลี่เป็นคนใช้จ่ายเงินจ่านวนมาก
ไม่ใช่ตัวเขา

ลี่หยวนพูดขึ้น ท่านเนี่ยไฮ้ มีความส่าพันธ์ กับ


สมาคมปรุงยา อย่างใกล้ชิด สามารถที่จะซื้อยาทิพย์ได้ในราคา
ที่ถูกแน่นอน ถ้ามียาทิพย์ในราคาที่ต่าจริง ท่านเนี่ยไฮ้ อย่าลืม
พวกเราด้วยละ ตราบใดที่ราคาต่่ากว่า สามแสนเหรียญจิตมาร
พวกเราต้องการทั้งหมดที่ท่านมี

ข้า......ตกลง เนี่ยไฮ้ตอบอย่างไม่เต็มใจ ถ้าหากเขา


ปฏิเสธต่อ ชี่ฟง กับ ลี่หยวน พวกเขาคงไม่เชื่อเป็นแน่ เขาได้แต่
มองอย่างช่วยไม่ได้ไปที่เนีย่ หลี่

เมื่อได้มองเนี่ยไฮ้ที่จ้องมาด้วยความหดหู่ เนี่ยหลี่ก
ระพริบตา ด้วยความไร้เดียงสา เนีย่ หลี่ยังคงต้องการเล่นอย่าง
เพลิดเพลินไปรอบ ๆ ชายชราแสนเศร้าคนนีผ้ ู้ที่ท่าให้เขาต้องมี
สีหน้าเคร่งขรึมตลอดเวลาเมื่ออดีตชาติที่ผ่านมา

ล็อตสุดท้ายของยาบ่ารุงวิญญานได้ขายออกไป เล่ย
โซ่ว ได้ไปสามชุด เจียงหมิง ได้ไปสองชุด ลี่หยวน และ ชี่ฟง ทั้ง
คู่ได้คนละชุด ส่วนที่เหลือพวกร้านค้าได้ประมูลไป

ต่อไป ยาผสานวิญญาณ
ได้ยินสามค่า "ยา" "ผสาน" "วิญญาณ" บรรยากาศ
ในการประมูลเริ่มกลับมาอีกครั้ง ด้วยความดุเดือดได้เพิ่มขึ้น
ผู้ใดก็รู้ว่ายาผสานวิญญาณมีผลที่รนุ แรงมากส่าหรับร่างทรง
อสูรระดับ เงิน และ ระดับทอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ก่าลัง
ล่าบากมาเป็นเวลานาน ยาผสานวิญญาณหนึ่งเม็ด มีโอกาสสูง
มากที่จะสร้างร่างทรงอสูร ระดับโกล แม้อาจจะช่วยให้
ระดับ โกล ที่ก่าลัง

ล่าบากไปสูร่ ะดับทองค่าด่าด้วย

เริ่มต้นที่ สามแสนห้าหมื่นเหรียญจิตมาร ผู้จดั งาน


ประมูลประกาศ

สามแสนหกหมื่นเหรียญจิตมาร

สามแสนเก้าหมื่นเหรียญจิตมาร
……

......

เผลอแป๊บ เดียว ราคาพุ่งกระฉูด ไป ห้าแสน และ


การเสนอราคาก็ยังด่าเนินการต่อไปเรื่อยๆ เห็นราคาเพิ่มเป็น
หกแสนเหรียญ

จิตมาร เนี่ยไฮ้ ก็พูดไม่ออก แต่เดิมเขาคิดว่าเขา


สามารถที่จะซื้อยาผสานวิญญาณได้ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขา
ไม่สามารถซื้อได้

ถ้าเขารู้ว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น เขาคงจะซื้อยา
บ่ารุงวิญญาณแทนไปแล้ว นี้เขาต้องกลับไปอย่างมือเปล่างั้นรึ
เนี่ยไฮ้ เซ็งจัด ผู้คนพวกนี้มันบ้าไปแล้วๆ ยาสิบเม็ดจริงๆราคา
สูงมาก ยังมีความยุติธรรมอยู่หรือไม่ เพียงแค่นั้นก็สร้างก่าไร
อย่างมหาศาลให้กับสมาคมปรุงยา

เนี่ยไฮ้ รูส้ ึกไม่พอใจ ใครละให้ตระกูลบันทึกสวรรค์


เป็นที่ต่าที่สดุ ในหมู่ตระกูลชั้นขุนนาง ก่อนหน้านี้ พวกเขา
ขึ้นอยู่กับการขายที่ดินท่ากินและเพื่อล้างหนี้ ในตอนนี้ หกแสน
เหรียญจิตมาร มันมากเกินไป

หกแสนห้าหมื่น

เซตของยาผสานวิญญาณ ถูกขายออกไปในราคา
หกแสนห้าหมื่น

เนี่ยไฮ้ และ เนี่ยอิ้ง มองหน้ากัน และยิ้มอย่างปวด


จิต พวกเขามีความรันทดเป็นอย่างมาก เมื่อมองไปที่เล่ยโซ่ว
เล่ยโซ่ว เก็บเซตของยาผสานวิญญาณลงไปใน
กระเป๋า

"เนี่ยหลี่" ผู้อาวุโสเนี่ยอิ้ง อดกลั้นไปมากกว่านีไ้ ม่ได้


แล้ว และพูดกับเนี่ยหลี่ว่า "เจ้าช่วยพวกเราซื้อยาผสาน
วิญญาณได้ไหม?, ขอให้พวกเรากู้ยืมเจ้าก่อนได้หรือไม่?" พวก
เราจะคืนให้เจ้าในวันข้างหน้า เนี่ยหลี่ใช้เงินออกมาสองล้าน
เหรียญจิตมารโดยไม่อยู่ในสายตา แค่หกแสนเหรียญจิตมารไม่
น่าจะเป็นปัญหาส่าหรับเขา

หลังจากที่ เนี่ยอิ้ง พูด เนี่ยหลีต่ ัดสินใจที่จะให้


เขา แม้ว่าเนี่ยไฮ้จะเป็นผู้นา่ ของตระกูลบันทึกสวรรค์ เขาก็
ไม่ได้(ใกล้ชิด) กับเนี่ยหลี่ในอดีตชาติที่ผ่านมา อย่างไรก็ยาม
เนี่ยอิ้งนั้นไม่เหมือนกัน ก่อนเมืองกลอรี่ จะถูกท่าลาย เนี่ยอิ้ง
ให้ความคุ้มครองกับครอบครัวของเนี่ยหลี่ ดังนั้น เนี่ยหลี่กย็ ังมี
ความเคารพ(นับถือ) ต่อ เนี่ยอึ้ง
เมื่อท่านผู้อาวุโสหลักได้พูดเช่นนี้ เรื่องนี้ก็ไม่ใช่
ปัญหาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ไม่มีความจ่าเป็นที่จะเสนอ
ราคายาผสานวิญญาณ เนีย่ หลี่

เขาได้ย้ายมือขวาของเขาและหยิบขวดออกจาก
แหวนห้วงมิติเก็บของ และส่งมันให้แก่ เนี่ยอิ้ง และพูด ในขวด
นี้มียาบ่ารุงวิญญาณห้าพันเม็ด ยาผสานวิญญาณหกร้อยเม็ด
และ ยาเสริมวิญญาณหนึ่งร้อยเม็ด ให้ โดยถือว่าเป็นของขวัญ
ส่าหรับท่าน

การจับไปทีขวดนั้นท่าให้เนี่ยอิ้ง จ้องมองอย่าง
ตะลึง น้่าเสียงสั่นมาก ห หาา ห้าาาาาพัน....บ่า ร รุง ว วิ ญ
ญาน น น ห หา.......ร้อยยา..... ผสานว วิญ ญ า น แ ล ะ ย า
า ย า เ สริม วิ ญ ญา น

เนี่ยอิ้ง นิ่งและไร้ค่าพูดใดๆ เนี่ยไฮ้ ก็เช่นกัน


ในการประมูลนี้ หลายๆตระกูลแย่งกันเพื่อยาบ่ารุง
วิญญานและยาผสานวิญญาณไม่กเี่ ม็ด และ นอกไปกว่านี้
เนี่ยหลี่ แค่เอา

ยาบ่ารุงวิญญาณห้าพันเม็ด ยาผสานวิญญาณ หก
ร้อยเม็ด และแม้แต่ยา เสริมวิญญาณ ที่หาไม่ได้จากในตลาด
ออกมา ลวกๆ

พระเจ้า!!! นี้ข้าฝันไปรึป่าวน่ะ เนี่ยอิ้ง ตกอยู่ใน


สภาวะ ตะลึงอ้าปากค้าง พูดไม่ออก
บทที่ 67 - การแข่งขัน การประมูล

หลังจากที่ เนี้ยอิ้ง ได้รับขวดยามาจาก เนี้ยหลี่ , เนี้ยอิ้ง ไม่รรี อ


ที่จะเปิดขวดดูทันที แล้วก็พบว่า ในขวดมันเต็มไปด้วย ยาเม็ด
บ่ารุงวิญญาณ, ยาเม็ดผสานวิญญาณ และยาเม็ดเสริมวิญญาณ
!! ซึ่งยาทุกเม็ดอาจจะดูมีขนาดเล็ก แต่แน่นอนว่ามันเป็นของ
จริง
เนี้ยอิ้ง สามารถเห็นยาเม็ดเสริมวิญญาณเป็น
ร้อย ๆ เม็ดอยู่ในขวดนี้ด้วย ! ใคร ๆ ก็รู้ว่าสรรพคุณของยาเม็ด
เสริมวิญญาณนั้น ได้ผลดีกว่า ยาเม็ดผสานวิญญาณเป็นสิบเท่า
และ ยิ่งไปกว่านั้น เฉพาะตระกูลใหญ่ ๆ เท่านั้นที่จะสามารถ
หาซื้อยาชนิดนี้ได้ เพราะมันไม่มีขายในตลาดทั่ว ๆ ไป

ร้านประมูลของตระกูลลมหิมะ (ตระกูลของเจ้า
เมือง) เคยน่ายาชนิดนี้ออกประมูล หนึ่งในยาพวกนั้นมีราคา
ขายสูงเทียมฟ้า ราคาอาจถึงหนึ่งแสนเหรียญจิตรมารเลย
ทีเดียว หากพวกเขามีเป็นร้อยก็มมี ูลค่ามากถึง 10 ล้านเหรียญ
จิตมารก็เป็นได้

แค่คิดถึงจ่านวนเงินขนาดนี้ เนี้ยอิ้งก็อยากจะเป็นลม
แล้ว ไม่ว่าจะรวยขนาดไหน ถ้าไม่มีวิธีการพิเศษมาก ๆ ก็ไม่มี
ทางที่จะหายาเม็ดเสริมวิญญาณจากในตลาดทั่ว ๆ ไปได้เลย
“ยาพวกนี้มันแพง ก็เพราะว่ามันเพิ่งออกขายนั้นล่ะ
นะ จริง ๆ แล้วสมาคมนักปรุงยา ยังมียาพวกนี้เก็บไว้อีก
มากมาย เพราะฉะนั้น ในภายภาคหน้า ราคาของยาจะต้องถูก
ลงอย่างแน่นอน แล้วยาจ่านวนนี้กไ็ ม่ได้ถือว่ามากมายอะไร
เพื่อการพัฒนาของตระกูลของเรา มันก็เป็นหน้าที่ของพวกเรา
อยู่แล้ว !” เนี้ยหลี่พดู ตรง ๆ

ยิ่งได้ยินค่าที่ เนี้ยหลี่ พูด, เนี้ยไฮ้ ยิ่งรู้สึกหดหู่มากกว่าเดิม,


ก่อนหน้านี้เค้าถามเนี้ยหลี่ถึงการแบ่งยาให้ตระกูล แต่เนีย้ หลี่ก็
ไม่มีท่าทีว่าจะให้มันกับเขาเลย ยิ่งไปกว่านั้น เนี้ยหลี่ ยังขู่อีกว่า
ถ้าเนี้ยไฮ้จะเอายาไปจากเขา เขาจะฟ้องผู้อ่านวยการหยาง
เนี้ยหลีด่ ูไม่ได้มีความตั้งใจที่จะมอบมันให้ตระกูลแม้แต่น้อย แต่
เมื่อเนี้ยอิ้งเอ่ยปากขอ เนี้ยหลี่กลับหยิบยาออกมาให้อย่าง
มากมาย สิ่งเหล่านี้ท่าให้เนี้ยไฮ้ที่เป็นถึงหัวหน้าตระกูล รูส้ ึกไร้
ค่าไร้ประโยชน์สิ้นดีหลังจากที่เนีย่ หลี่พึ่งจะมอบ ยาเม็ดบ่ารุง
วิญญาณ 5,000 เม็ด, ยาเม็ดผสานวิญญาณ 600 เม็ด, ยาเม็ด
เสริมวิญญาณ 100 เม็ด แค่นึกถึงจ่านวนยาเม็ดพวกนี้แล้วหัวใจ
ของเนี้ยไฮ้ นั้นเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว เพราะยาจ่านวนมาก
ขนาดนี้ จะเพียงพอให้ทั้งตระกูลบันทึกสวรรค์ใช้ไปได้อีกนาน
เลย !

“ท่านผู้อาวุโส เก็บมันไว้ให้ดี ๆ ล่ะ เมื่อพวกเรา


กลับไป ท่านก็แจกยาพวกนี้ให้กับคนในกิ่งตระกูลของเราใช้นะ
!” เนี้ยหลี่ เตือน เนีย้ อิ้ง

(เนี้ยอิ้งกับเนี้ยหลี่ อยู่กิ่งตระกูลเดียวกัน)

เมื่อได้ยินทีเ่ นี้ยหลี่พูด เนี้ยอิ้งก็หายตกใจ แล้วก็รีบ


เก็บยาทัง้ หมดลงในแหวนมิติของเขา เนี้ยอิ้งมองไปรอบ ๆ ด้วย
ความกังวลว่าจะมีคนรูเ้ กี่ยวกับยาที่ได้มา แต่เมื่อเขารู้ว่าไม่มี
ใครสังเกตพวกเขาอยู่ จึงรู้สึกสบายใจ

เมื่อเขาคิดถึงยาทั้งหลายในแหวนมิติของเขาแล้ว
เนี้ยอิ้งก็อดรู้สึกดีใจไม่ได้ ด้วยยาเหล่านี้ มันมากพอที่จะท่าให้
กิ่งตระกูลของเขาเพิ่มระดับได้ เนือ่ งจากในตระกูลบันทึก
สวรรค์นั้น มีทั้งหมด 8 กิ่งตระกูล โดยปกติแล้ว จะมีปัญหาไม่
ลงรอยกันระหว่างกิ่งตระกูลอยู่แล้ว ดังนั้น เขาเองก็ไม่
จ่าเป็นต้องแบ่งยาให้กิ่งตระกูลอื่นแต่อย่างใด
“เนี้ยหลี่ และท่านผู้อาวุโสเนี้ยอิ้ง นี่มันไม่ถูกต้อง
ตระกูลบันทึกสวรรค์คือครอบครัวของเรา เราจะเห็นแก่ตัวโดย
การไม่สนใจกิ่งตระกูลอื่น ๆ ได้อย่างไร ?” เนี้ยไฮ้พูดอย่างร้อน
รน เมื่อเห็นท่าทีของเนี้ยหลี่และเนี้ยอิง ที่จะไม่แบ่งยาพวกนั้น
กับกิ่งตระกูลอื่น ๆ

เนี้ยหลี่ กับเนี้ยอิ้งเหลือบมองกันแวบหนึ่ง แล้วเนี้ยห


ลี่ก็จ้องเนี้ยไฮ้ ตีหน้ามึนแล้วพูดว่า

“ยาพวกนี้เป็นของข้า ข้าจะให้มันกับคนที่ข้าอยากให้
มันผิดตรงไหนล่ะ ? แล้วกิ่งตระกูลของข้าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของ
ตระกูลบันทึกสวรรค์งั้นหรือ ? ถ้ากิ่งตระกูลของข้าแข็งแกร่งขึ้น
นั่นหมายความว่าตระกูลบันทึกสวรรค์ก็แข็งแกร่งขึ้นด้วยนะ !”

“เจ้าจะเอาเรื่องนั้นมาเปรียบเทียบกันได้อย่างไร มัน
ควรจะแบ่งยาไปให้ทุกกิ่งตระกูลสิ มันถึงจะได้ผลมากที่สดุ !”
เนี้ยไฮ้รีบตอบ “ด้วยยามากมายทีเ่ จ้ามีนั้น เจ้าควรจะแบ่ง
ให้กับกิ่งตระกูลอื่น ๆ บ้างสิ”
ท่ามกลางเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลบันทึกสวรรค์นั้น
เนี้ยอิ้ง มีต่าเหน่งต่า่ ที่สุด แต่เมื่อเนี้ยหลี่กลับมา เขากลายเป็นผู้
อาวุโสคนส่าคัญของตระกูล เพราะเนี้ยอิ้งมักจะปฏิบัติกับผู้อื่นดี
เสมอ แต่ก็เป็นคนที่ค่อนข้างขี้ขลาด ดังนั้นปกติ เขาจึงไม่ได้
ต่อสู้เพื่อความต้องการของคนในกิ่งตระกูลของเขามากนัก แต่
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ด้วยยาทั้งหมดที่มีอยู่ในมือของเขา เขา
กล้าที่จะลุกขึ้นสู้ เพื่อกิ่งตระกูลของเขา

ยาพวกนี้มีจ่านวนมากพอที่จะก่าหนดอนาคตของทั้ง
ตระกูลได้เลย !

“ท่านผู้น่าตระกูลเนี้ยไฮ้ ยาพวกนี้เนี้ยหลีเ่ ป็นคนให้


ข้ามา ดังนั้นข้าจะมอบมันให้คนที่เนี้ยหลี่อยากให้ ข้าไม่
สามารถควบคุมได้เองหรอก” เนี้ยอิ้งพูดด้วยความเคารพ
พร้อมกับโยนเรื่องไปให้เนีย้ หลี่ เนือ่ งจากในตอนนี้เนี้ยหลี่นั้น
มีหยางซินคอยสนับสนุนอยู่ ดังนั้นแล้วเขา(เนี้ยไฮ้) จึงไม่
สามารถจะไปรบกวนเนีย้ หลีไ่ ด้

“เจ้าทั้งคู่ ....” เนี้ยไฮ้สบถออกมาอย่างหมดหวัง เจ้า


สองคนนี้เข้ากันได้ดีเป็นปีเ่ ป็นขลุย่

เนี้ยหลี่เองก็อดไม่ได้ที่จะทะเลาะกับเนีย้ ไฮ้ ส่าหรับ


กิ่งตระกูลอื่น ๆ นั้น จริง ๆ แล้วเขาสามารถจะแบ่งยาให้ได้
เนื่องจากยาที่มีนั้นเยอะมาก กิ่งตระกูลของเขาเองก็ไม่สามารถ
ใช้ได้หมดในเวลาอันสั้นอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่า เขายังจะได้รับ
ยาพวกนี้มาอีกมากมายในอนาคต ดังนั้น เขาจึงไม่ได้สนใจเรื่อง
นี้นัก

“ท่านผู้อาวุโสเนี้ยอิ้ง เราจะแบ่งยา สองในห้าส่วน


ให้กับตระกูลก็แล้วกัน” เนี้ยหลี่พดู พร้อมกับมองไปทีเ่ นี้ยอิ้ง

“อืม งั้นก็ได้ ! ” เนี้ยอิ้งขานรับ พร้อมกับพยักหน้า


เขาไม่ใช่คนใจร้ายใจด่าขนาดนั้นอยู่แล้ว

“สามในห้าส่วน !” เนี้ยไฮ้แย้ง

“แค่สองในห้าส่วนเท่านัน้ หากท่านผู้น่าตระกูลเนี้ย
ไฮ้ไม่อยากได้ งั้นก็ลมื มันไปซะ” เนี้ยหลี่พูด

ด้วยยาที่เขามีมากมายนัน้ แค่สองในห้าส่วนก็มาก
พอที่จะให้ทั้งตระกูลบันทึกสวรรค์ใช้ไปได้อีกสักพักใหญ่ ๆ เลย
ทีเดียว

“เอาแบบนีไ้ หม เราจะแบ่งให้กับตระกูลครึ่งหนึ่ง”
เนี้ยอิ้งพูด เป็นการประนีประนอมทั้งสองฝ่าย

“ท่านผู้อาวุโสช่างฉลาดนัก !! ข้าน้อยเนี้ยไฮ้ขอ
คารวะ” เนี้ยไฮ้ป้องมือขึ้นท่าท่าทางประกอบ

ได้ครึ่งหนึ่งก็ดีมากแล้ว จ่านวนยานั้นมากกว่าที่เขา
จะจินตนาการได้

“ท่านผู้น่าตระกูลเนี้ยไฮ้ หมายความว่าข้านั้นไม่
ฉลาดรึ ?” เนี้ยหลี่พดู พร้อมกับท่าหน้ามุ่ย

“ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น หลานหลีเ่ ข้าใจผิดแล้ว


ข้าต้องขอโทษหลานหลี่ด้วย การทีห่ ลานหลี่สามารถหายาบ่ารุง
มาให้ตระกูลตั้งมากมายขนาดนี้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าหลานหลีม่ ี
ความเป็นห่วงตระกูลขนาดไหน !” เนี้ยไฮ้รีบขอโทษเนีย้ หลี่
ทันที เพราะถ้าเนี้ยหลี่โกรธขึ้นมา แล้วเอายาทั้งหมดกลับไป
เขาคงจะต้องร้องไห้แน่ ๆ

ถ้าพูดให้ถูกแล้ว ในตอนนี้ต่าแหน่งผู้น่าตระกูลนั้นไม่
มีความหมายเลย ต่อหน้าเนี้ยหลี่ ถ้าเนี้ยหลีโ่ กรธ เนี้ยไฮ้ต้องขอ
โทษทันที ถึงแม้ว่าเขาจะรูส้ ึกหดหูอ่ ยู่บ้างที่ต้องท่าแบบนี้ แต่
เนี้ยไฮ้เองก็ไม่กล้าพูดอะไร เพราะเมื่อคิดถึงยาบ่ารุงพวกนั้น
แล้ว เขาก็ไม่รสู้ ึกหดหู่อีกต่อไป ยาบ่ารุงจ่านวนนั้น สามารถจะ
สร้างความเปลีย่ นแปลงที่มากมายให้กับทั้งตระกูลบันทึก
สวรรค์ ดังนั้นไม่ว่าเขาจะรู้สึกหดหูแ่ ค่ไหน เขาก็รู้ว่ามันคุ้มค่า

เนี้ยหลี่กกระแอม หนึ่งครั้ง แล้วเบือนหน้าไป

เมื่อเห็นฉากแบบนี้ เนี้ยอิ้งอดไม่ได้ที่จะรูส้ ึกขบขัน


เพราะในอดีตนั้น เมื่อเนี้ยหลีเ่ จอกับบรรดาผู้อาวุโสในตระกูล
เขามักจะกลัวจนหัวหด ไม่ต้องพูดถึงเวลาเจอเนีย้ ไฮ้เลยทีเดียว
แต่ในตอนนี้ สถานการณ์กลับพลิกผัน ต่อหน้าเนีย้ หลี่นั้น เนีย้
ไฮ้ไม่กล้าแม้แต่จะพูดเสียงดัง และไม่หลงเหลือออร่าของความ
เป็นผู้น่าตระกูลอยู่เลย

การประมูลยังคงด่าเนินต่อไป หลังจากทีย่ าเม็ดผสาน


วิญญาณทั้ง 10 ชุดได้ถูกซื้อไปโดยตระกูลต่าง ๆ และพ่อค้าต่าง
ๆ โดยสามารถเห็นรอยยิ้มแห่งความปีติ ได้บนใบหน้าของพวก
เขาเหล่านั้น

ในตอนนี้ เนี้ยไฮ้ และเนีย้ อิ้ง รู้สึกมีอ่านาจเหนือกว่า


ทุกคนในที่นี้เลยทีเดียว !

“ประมูลแข่งกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อยาเม็ด
ผสานวิญญาณแค่เพียง 100 เม็ด !”

ทั้งห้องประมูลของตระกูลฮองหยู๋ ได้ถูกควบคุมให้
ได้โควตาเพียง ยาเม็ดบ่ารุงวิญญาณ 1000 เม็ด และยาเม็ด
ผสานวิญญาณ 100 เม็ดเท่านั้น แต่ยาเพียงจ่านวนเท่านี้ หาก
เปลี่ยนเป็นเงินล่ะก็ มันจะเป็นจ่านวนที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว นี่
ยังไม่ต้องพูดถึงยาเม็ดเสริมวิญญาณอีก !

พวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สกึ ตื่นเต้น และรูส้ ึกเหมือนฝัน


ไป เนี้ยอิ้งจับแหวนมิติของเขาเอาไว้อย่างแน่น

มันเป็นครั้งแรกที่แหวนมิติของเขาถูกเก็บของที่
สามารถก่าหนดโชคชะตาเอาไว้ได้

เขารู้สึกไม่สบายใจ และกลัวว่าจะโดนปล้น แต่เมื่อ


เขาเก็บมันเอาไว้ในแหวนมิติแล้ว จึงรู้สึกอุ่นใจได้ ว่ามันจะ
ปลอดภัยอย่างแน่นอน แต่เขาก็ยังอดกังวลไม่ได้อยูด่ ี

เนี้ยไฮ้ ยืนอยู่ข้างเนี้ยอิ้ง เหมือนกับผู้คุ้มครอง ถ้ามีใครสักคน


กล้าที่จะขโมยยาของพวกเขาไปละก็ .. เขาจะสู้ให้ถึงที่สุดเลย
ทีเดียว
บทที่ 68 - สมบัติที่เทียบค่าไม่ได้

ยาทิพย์ที่เนี้ยหลีห่ ยิบออกมาอย่างลวก ๆ นั้น มัน


เทียบได้กับความมั่งคั่งของของตระกูลชั้นสูงตระกูลหนึ่งเลย
ทีเดียว

เนี้ยหลีไ่ ด้มอบสูตรยาทิพย์จ่านวนมากให้แก่
สมาคมปรุงยา ดังนั้น เมื่อค่านึงถึงประโยชน์ที่พวกเขาได้รับ
แล้ว สมาคมปรุงยาต้องท่าอย่างดีที่สุดเท่าที่พวกเขาจะท่าให้
เนี้ยหลีโ่ ดยจัดหาทุก ๆ สิ่งที่เขาต้องการมาให้ จ่านวนของยา
ทิพย์ที่พวกเขามอบให้เนี้ยหลีเ่ ป็นจ่านวนถึงหนึ่งในห้าของ
จ่านวนยาทิพย์ทั้งหมดของสมาคมปรุงยา ท่าให้สามารถพูดได้
ว่านอกจากสมาคมปรุงยาแล้ว เนีย้ หลี่นั้นเป็นคนที่มียาทิพย์
จ่านวนมากที่สดุ ในมือ
“นอกจากยาบ่ารุงวิญญาณ ยาผสานวิญญาณ
และยาเสริมวิญญาณ ข้ายังมียาเสริมพลังกายสีชาติและยา
เปลี่ยนรูปทั้งเก้า...”

เนี้ยหลี่ ตั้งใจหยุดการพูดเอาไว้

เนี่ยหลีม่ ีแม้กระทั้งยาเสริมพลังกายสีชาดและยา
เปลี่ยนรูปทั้งเก้า? แววตาของเนี้ยอิ้งและเนี้ยไฮ้ได้ลุกโชนขึ้น
ด้วยความพรั่นพรึง
“ส่าหรับยาล้่าค่าเหล่านี้แล้ว ท่านผู้น่าตระกูล
ท่านคงไม่คาดหวังให้ข้ามอบยาพวกนี้ให้แก่ตระกลูฟรี
ๆ ถูกต้องไหม?” ค่าพูดของเนี้ยหลี่หมายถึง ว่าถ้าเนีย้ ไฮ้
ต้องการยาเหล่านั้น เขาจะต้องมีศกั ยภาพเพียงพอที่จะให้
ข้อเสนอดี ๆ กลับมาเป็นการแลกเปลี่ยน

“แน่นอน แน่นอน ทรัพย์สินส่วนตัวของสมาชิก


ภายในตระกูลจะถูกตระกูลปกป้อง” เนี้ยไฮ้รีบพูดอย่างรวดเร็ว
ในตอนนี้เขานั้นค่อนข้างเศร้าใจเล็กน้อย และครุ่นคิดว่าสิ่งใด
กันที่เขาสามารถน่าไปแลกเปลี่ยนกับเนี้ยหลีไ่ ด้

ทันใดนั้นเนี้ยอิ้งได้ผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาและพูด
ว่า “ถูกต้องแล้ว ท่านผู้น่าตระกูล ตระกูลของเรามี
ประวัติศาสตร์มายาวนานโดยผ่านการสืบทอดมาแล้วหลายรุ่น
พวกเราน่าจะมีสมบัติบางสิ่งที่ได้สบื ทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ในเมื่อเนี้ยหลี่ได้ถูกรับเลือกให้เข้าสู่ชั้นเรียนอัจฉริยะ เพื่อเป็น
การตอบแทนเขา พวกเราควรจะให้เนี้ยหลี่เข้าไปยังห้องสมบัติ
และเลือกสมบัติกลับไปสักชิ้น?”

ห้องสมบัติของตระกูลบันทึกสวรรค์? หัวใจของ
เนี้ยหลีเ่ ต้นแรงขึ้น เมื่อชีวิตที่แล้วของเขา ตัวเขานั้นยังไม่เคย
เข้าไปยังห้องสมบัติของตระกูลมาก่อน ในฐานะตระกูลที่
สืบสายเลือดของท่านลอร์ดทีม่ ีเพียงแค่สิบคนในยุคอาณาจักร
หิมะเหมันต์ พวกเขานั้นเป็นตระกูลที่มีการสืบทอดอย่าง
ยาวนาน เป็นไปได้ว่าอาจมีสมบัตลิ ้่าค่าอยู่บ้างภายในห้อง
สมบัติของตระกูลเขา
สมบัตสิ ่วนใหญ่ทไี่ ด้รบั สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ยุค
โบราณเป็นดั่งของไร้ค่าส่าหรับเนีย้ ไฮ้และคณะ ในเมื่อพวกเขา
นั้นไม่สามารถรู้ว่าจะใช้ของพวกนั้นได้อย่างไร แต่ว่า
ส่าหรับเนี้ยหลี่แล้วมีความแตกต่างกัน เขาได้ตรวจสอบสมบัติ
มามากมายนับไม่ถ้วนมาแล้วในเมือ่ ก่อน ท่าให้สมบัติที่ล้่าค่าไม่
สามารถรอดพ้นสายตาของเนี้ยหลีไ่ ปได้

“ท่านอาวุโสหลักเนี้ยอิ้ง ท่านสามารถรับยาเสริม
พลังกายสีชาตินไี้ ป และใช้มันเมื่อท่านกลับไปถึงตระกูล ยานี้
นั้นมีผลลัพธ์มหาศาลในการเสริมพลังกายของนักต่อสู้” เนี้ยหลี่
ได้ส่งยาเสริมพลังกายสีชาติให้แก่เนี้ยอิ้งและพูดขึ้น

“ขอบใจมาก เนี้ยหลี่!” เนิ้ยอิ้งในตอนนี้อารมณ์


ของเขานั้นค่อนข้างสั่นไหว ราคาของยาเสริมพลังกายสีชาดได้
พุ่งสูงอย่างบ้าคลั่งราวกับพายุไฟ โดยมีเรื่องเล่ากันว่าราคาของ
ยาเสริมพลังกายสีชาติเพียงเม็ดเดียวก็มีราคาสูงถึง 1 ล้าน
เหรียญจิตมาร

ขณะนี้นั้น ดวงตาของเนี้ยไฮ้เริม่ มีสีแดงเล็กน้อย


(ไม่รรู้ ้องไห้ หรือ โกรธ) ยาเสริมพลังกายสีชาติไม่ได้เป็น
ประโยชน์เพียงเฉพาะนักต่อสู้เท่านั้นแต่ยังมีผลลัพธ์มหาศาลต่อ
ร่างทรงอสูรอีกด้วย

“เนี้ยหลี่ ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นเป็นตระกูลของ
เจ้า ดังนั้น สมบัติของตระกูลบันทึกสวรรค์กเ็ ป็นเหมือนสมบัติ
ของเจ้าเช่นกัน ถ้ามีสิ่งใดที่เจ้าต้องการอยู่ภายในห้องนั้น เจ้า
สามารถเอามันไปได้ทั้งหมดเท่าทีต้องการ!” เนี้ยไฮ้ ทันใดรีบ
พูดประสมโรงเข้ากับเนี้งอิ้ง สมบัตทิ ี่เหลืออยู่ในห้องสมบัติล้วน
เป็นสมบัติที่ไม่สามารถใช้ท่าสิ่งใดได้ เขาหวังให้เนี้ยหลี่เข้าไป
และหยิบสมบัติมากเท่าที่จะมากได้ภายในห้องสมบัตินั้น เพราะ
ยาทิพย์ทั้งหลายที่เนี้ยหลี่จะได้มอบให้แก่ตระกูลก็มีค่าเกินกว่า
ทั้งตระกูลบันทึกสวรรค์รวมกันแล้ว

“ข้ารู้สึกแปลกใจในความใจกว้างของท่านผู้น่า
ตระกูลยิ่งนัก มันดูเหมือนว่าตัวข้านั้นจะมีความเข้าใจผิดต่อ
ท่านผู้น่าตระกูลมาเป็นเวลาแสนนาน ยาเสริมพลังกายสีชาติ
เม็ดนี้ข้าขอมอบให้ท่านผู้น่าโดยถือว่าเป็นเสมือนของขวัญของ
ตัวข้า และภายหลังเมื่อข้าได้ไปยังห้องสมบัติและได้เลือกสมบัติ
แล้ว ข้าจะมอบยาเสริมพลังกายสีชาติและยาเปลีย่ นรูปทั้งเก้า
อย่างละ100 เม็ดให้แก่ตระกูลของเรา ” เนี้ยหลี่พูดด้วยท่าที
แจ่มใส ในเมื่อตัวเขามียาทิพย์อยูเ่ ป็นจ่านวนมากแล้ว การให้ไป
เล็กน้อยก็ไม่ถือว่ามากมายอะไร

เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยหลี่ ดวงตาของเนี้ยไฮ้เบิก
กว้างขึ้น และแทบรอไม่ไหวที่จะได้กลับไป

การประมูลนั้นยังคงด่าเนินต่อไป โดยการประมูล
ของยาทิพย์ได้จบลงไปเรียบร้อยแล้ว

เล่ยโซ่วและเจียงหมิงช่าเลืองสายตาไปยังเนี้ยไฮ้

“เนี้ยไฮ้นั้นต้องแสร้งท่าว่ารวยมากเป็นแน่
หลังจากได้ใช้เงินไปจ่านวน 2 ล้านจิตมารเพื่อซื้อของจ่านวน
มาก ท่าให้ในตอนนี้ไม่เหลือเงินในการสูร้ าคาของยาทิพย์” เล่ย
โซ่วพูดพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ

เจียงหมิงได้พูดเสริมเช่นกันว่า “แม้ว่าชุดระดับ
ทองจะเป็นของที่มีประโยชน์มาก แต่ก็ใช้ได้เพียงผูเ้ ดียวเท่านั้น
ยังไม่นับว่ามันสามารถใช้ได้ในการต่อสู้เพียงอย่างเดียว
เท่านั้น และยังไม่คุ้มค้าเท่าการซือ้ ยาทิพย์ เนี้ยไฮ้ในตอนนี้คง
ก่าลังเสียใจในสิ่งที่เขาท่าไปจนท่าให้ท้องไส้ของเขาปั่นป่วนอยู่
เป็นแน่!”

แต่ที่พวกเขาไม่รู้ก็คือเนี้ยไฮ้ได้รับยาทิพย์จ่านวน
มากจากเนี้ยหลี่ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะท่าให้เขามีความสนใจใน
ยาทิพย์เหล่านั้นที่อยู่ในการประมูลได้อย่างไร

เพียงแต่ในตอนที่พวกเขาก่าลังพูดกันอยู่นั้น เนี้ยห
ลี่ก็ได้เริม่ สูร้ าคาราวกับคนบ้า เขายังคงซื้อของอย่างต่อเนื่อง
ด้วยราคาทีส่ ูงกว่า ห้าถึงหกแสนเหรียญจิตรมาร ตราบเท่าที่
ของเหล่านั้นยังคงมีความน่าสนใจเขาก็จะท่าการสู้ราคา ในเมื่อ
เนี้ยหลี่ในตอนนี้มีเงินอยู่เป็นจ่านวนมากจนกระทั่งไม่สามารถ
ใช้ได้หมด ท่าไมไม่เปลี่ยนเงินเหล่านั้นมาเป็นสิ่งของที่ใช้
ประโยชน์ได้หลากหลายดีกว่าปล่อยให้เงินพวกนั้นกินเนื้อที่ใน
วงแหวนห้วงมิติลี้ลบั ไปเปล่า ๆ?
“อ้าว ไม่ใช่ว่าตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นไม่เหลือเงิน
แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่สนใจยาทิพย์เหล่านั้นต่างหาก!”

ใบหน้าเล่ยโซว่และเจียงหมิงและร้อนผ่าว เลวมาก
เมื่อไหร่กันที่ตระกูลบันทึกสวรรค์มีความร่่ารวยเช่นนี?้ ณ
ตอนนี้ พวกเขาทั้งสองต่างรู้สึกเศร้าใจยิ่งนัก

หลังจากการประมูลผ่านไปครึ่งชั่วโมง เนี้ยหลีไ่ ด้
ซื้อของมาแล้วมากกว่า 12 ชิ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีของชิ้น
ไหนเลยที่ท่าให้เนี้ยหลี่รสู้ ึกตื่นเต้นได้ สิ่งนี้เป็นเหตุให้เขารูส้ ึก
เบื่ออยู่บ้าง

ในตอนนี้ หญิงสาวผูด้ ่าเนินการประมูลได้เพิม่ เสียง


ให้ดังมากยิ่งขึ้น การพูดของเธอราวกับได้ถือของลึกลับด่ามืด
เอาไว้ “การประมูลของรอบนี้ก่าลังจะจบลงไม่ในช้า แต่ว่าพวก
เรามีสมบัติล้่าค่าอันหาที่เปรียบไม่ได้ที่จะเริ่มประมูลกันในไม่ช้า
นี”้

เมื่อสิ้นเสียงของผู้ดา่ เนินการประมูล บุคคลมากว่า


20 คนได้เข้ามาสู่ห้องการประมูลนี้ พวกเขาถูกพาเข้ามาโดย
เหล่าสาวสวยที่ได้น่าพวกเขาไปยังบันไดซึ่งน่าไปสู่ชั้น 3 ของ
ห้องประมูลแห่งนี้

ทั่วทั้งห้องการประมูลเริ่มเข้าสู่ความปั่นป่วน

“ข้ารู้จักคนผู้นั้น เขาเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของ
ตระกูลเฟิ่งหมิงที่เป็นตระกูลชั้นสูง!”
“นั่นเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลปีกมังกร!”

“คนนั้นเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์”

......

“ท่าไมพวกเขาเหล่านั้นถึงมายังที่แห่งนี้?”

“ตัวข้าได้ยินมาว่าตระกูลฮองหยู๋ ได้รับสมบัติอัน
หาที่เปรียบมิได้มาจากส่วนที่ลึกเข้าไปของซากทมิฬ ท่าให้พวก
เขาจัดการประมูลนี้ขึ้น และพวกเขาได้เชิญตัวแทนของตระกูล
หลักทั้งสามและตระกูลชั้นสูงทั้งหกมาเข้าร่วมการประมูลนี้
ด้วย!”
ของทั้งหลายที่ได้ถูกประมูลไปก่อนหน้านี้ ไม่
สามารถดึงความสนใจของอภิมหาอ่านาจทั้งสามทั้ง ต้องไม่ลืม
ว่าพวกเขาสามารถได้ของพวกนี้มาจากการประมูลอื่น ๆ ได้
โดยเหตุผลเดียวที่ท่าให้พวกเขามายังที่แห่งนี้เป็นเพราะการ
กล่าวว่ามีสมบัตลิ ้่าค่าอย่างหาที่เปรียบมิได้จากตระกูลฮองหยู๋

“การค้นพบในหุบเหวซากทมิฬแห่งพระเจ้า พวก
เขากล้าเข้าไปยังซากทมิฬจริงรึ?

ซากทมิฬ? เนี้ยหลี่ระลึกความทรงจ่าของสถานที่
แห่งนั้น ในชีวิตที่แล้วนั้น ตัวเขาไม่ได้เข้าไปยังสถานที่แห่งนั้น
เขาเพียงแต่ได้ยินเกีย่ วกับมันจากบุคคลอื่น ซากทมิฬเป็น
สถานที่ราวกับฝันร้าย มีเพียงผูเ้ ชี่ยวชาญระดับแบล็คโกลด์ขึ้น
ไปเท่านั้นที่กล้าเข้าไปยังที่แห่งนั้น ต้องไม่ลมื ว่ายังมีสตั รอสูรน่า
กลัวจ่านวนมากได้เพิม่ จ่านวนขึ้นอยู่ที่บริเวณนั้นอีกด้วย
มันเป็นเรื่องเล่าก่อนที่จะเข้าสูย่ ุคมืด ร่างทรงอสูร
ระดับต่านานได้อาศัยอยู่ในที่แห่งนั้น จิตอสูรที่เขาได้รวมร่าง
ด้วยนั้นเป็นจิตอสูรแห่งความน่ากลัวและสยองเป็นทีส่ ุด เมื่อ
เขาได้จบชีวิตลงแล้ว สถานที่แห่งนั้นก็ได้ถูกครอบง่าโดยจิตอสูร
แห่งฝันร้าย

จิตอสูรแห่งผันร้ายเป็นเรื่องลึกลับและเป็นจิตอสูร
ชนิดหลอกหลอนประเภทหนึ่ง พวกมันมีพลังลีล้ ับมากมายที่
แม้แต่เนี้ยหลี่กร็ ู้เรื่องของพวกมันเพียงน้อยนิด และเป็นจิตร
อสูรประเภทหนึ่งที่จับได้ยากเป็นอย่างยิ่ง

ไม่มผี ู้ใดรู้แน่วา่ เป็นสิง่ ของใดที่ตระกูลฮองหยู๋ ได้


น่ามาจากซากทมิฬ

เนี้ยหลี่เริ่มมีความรู้สึกคาดหวังในของชิ้นนี้ และสงสัยว่าของ
สิ่งใดกันที่ตระกูลฮองหยู๋ น่ามาประมูล

ตัวแทนของตระกูลหลักทั้งสามและตระกูลชั้นสูง
ทั้งหกต่างเริ่มเข้าสู่ที่นั่งทีละคน บรรยากาศภายในการประมูล
ราวกับถูกแช่แข็ง ทุก ๆคนต่างมองไปยังสิ่งของที่ตระกูลฮองหยู๋
จะน่าออกมา
บทที่ 69 - ราคาที่สูงเทียมฟ้า

“คนของตระกูลหลักทั้งสามและตระกูลชั้นสูงทั้งหกมาที่นี่ ยังมี
ตัวแทนจากสมาคมปรุงยามาด้วยอีกคน นอกจากนี้ยังมีตัวแทน
จากสมาคมพ่อค้าทั้งสิบอีกด้วย เฮ้อ..พวกเราคงไม่มีโอกาสได้
ของชิ้นนั้นมาแน่นอน”

“แม้พวกเราไม่มีโอกาสได้ของชิ้นนั้นมา แต่การ
ได้ชมการประมูลอันยิ่งใหญ่เพียงนีก้ ็นับเป็นบุญตาแล้ว”

ทุก ๆ คนภายในห้องประมูลต่างก่าลังยุ่งอยู่กับ
การถกเถียงกัน

“กรุณาเงียบสักครูน่ ะคะ” หญิงสาวด่าเนินการ


ประมูลแย้มรอยยิม้ เล็กน้อยแล้วพูดว่า “พวกเราจะแสดงสมบัติ
ล้่าค่าอันหาที่เปรียบมิได้ให้พวกท่านทั้งหลายได้ชมกันในไม่ช้า
นี้!”

ในตอนนี้ ทั่วทั้งห้องการประมูลได้เงียบสงัดลง
ทันที องหญิงงามก่าลังยกถาดใบหนึ่งและได้ก้าวขึ้นมาบนเวที
บางสิ่งที่อยู่บนถาดใบนั้นได้ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าสีม่วงผืนหนึ่ง มี
เพียงรูปร่างจากของสิ่งนั้นที่ปรากฏออกมาให้เห็นเลือนราง

“ของสิ่งนั้นมันคืออะไรกันแน่?”

“คลาดสายตามิได้เลย!”
ในตอนนี้ ใบหน้าของผู้ด่าเนินการประมูลปรากฏ
รอยยิ้มชวนหลงใหล มือขวาของเธอได้ดึงผ้าคลุมสีม่วงออก
อย่างแผ่วเบา ทันใดแสง อัญมณีกไ็ ด้สาดส่องออกไปทุกทิศทาง
และปรากฏหม้อหยกทมิฬหนึ่งใบซึ่งวัตถุดิบที่ถูกใช้สร้างมัน
ขึ้นมายังคงเป็นปริศนา มันได้ปรากฏเบื้องหน้าต่อสายตาของ
ทุก ๆ คน โดยตัวหม้อนั้นมีความโปร่งใสพร้อมกับส่องแสง
วาววับราวกับมีแสงของอัญมณีเปล่งแสงอยู่บนตัวมัน

พลังวิญญาณจ่านวนมากจากหม้อใบนั้นได้
กระจายออกไปรอบ ๆ

เมื่อมองดูไปที่หม้อหยกทมิฬ เนี้ยหลี่ ไม่สามารถ


เก็บความรูส้ ึกตื่นเต้นเอาไว้ได้ ตัวเขาไม่เคยคิดว่าของสิ่งนี้จะ
ได้มาปรากฏอยู่ในที่แห่งนี้ ของสิ่งนี้เป็นสมบัติอันหาที่เปรียบ
มิได้อย่างแท้จริง และความสามารถของมันก็ไม่สามารถตีเป็น
เงินตราได้เลย!
“ของสิ่งนี้มาที่นี่ได้อย่างไรและความสามารถของ
มันคืออะไรกัน? ผู้น่าตระกูลทั้งหลายยังไม่ค่อยแน่ใจเกีย่ วกับ
มันนัก แต่อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่สามารถยืนยันได้คือการที่
หม้อใบนี้แผ่รังสีของจิตอสูรที่ทรงพลังมากออกมา ด้วยสิ่งนี้
เพียงอย่างเดียวก็พิสจู น์ได้แล้วว่าของสิ่งนี้ไม่ใช่ของธรรมดา
และที่ด้านล่างบนฐานของหม้อนั้นได้สลักค่าว่า “ฝันร้าย”
เอาไว้ มันคงเป็นของบางสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับจิตอสูรแห่ง
ฝันร้าย“

สาวสวยผู้ด่าเนินการประมูลพูดต่อไปว่า
“นอกจากนี้แล้ว โดยการทดสอบจากผู้น่าตระกูลฮองหยู๋
ปรากฏว่าถ้ามีผู้ใดได้ฝึกจิตอสูรอยูร่ อบ ๆ หม้อใบนี้ จะท่าให้มัน
แผ่พลังงานมหาศาลของจิตอสูรออกมาได้มากยิ่งขึ้นไปอีก
ดังนั้นจึงเป็นการยืนยันแล้วว่าของสิ่งนี้เป็นสมบัตลิ ้่าค่าอันหาที่
เปรียบมิได้อย่างแท้จริง ผู้น่าตระกูลฮองหยู๋ คาดหวังว่าจะมีซึ่ง
บางคนที่จะสามารถปลดปล่อยความสามารถของมันก็ออกมา
ได้!”
“ราคาส่าหรับของสิง่ นี้เริ่มต้นที่ 8 ล้านเหรียญจิต
มารค่ะทุกท่าน!”

ผู้น่าตระกูลฮองหยู๋ ก็ยังมิรู้ถึงวิธีในการใช้มัน ท่า


ให้ราคาเริ่มต้นในการประมูลมีราคาต่่าถึงเพียงนี้ ถ้าพวกเขาได้
รู้ว่าหม้อหยกนีส้ ามารถท่าสิ่งใดได้ พวกเขาคงจะไม่ต้องการที่
จะขายมัน เพียงแค่มันได้ปรากฏถึงพลังงานวิญญาณอย่าง
มหาศาลเมื่อมีการใช้จิตอสูรอยู่รอบ ๆ ก็ถือเป็นความคุ้มค่ายิ่ง
แล้ว โดยมิต้องพูดถึงความสามารถลับของมันที่ยังไม่มผี ู้ใดล่วงรู้

หลังจากตัวแทนของแต่ละตระกูลสัมผัสได้ถึง
พลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง ท่าให้พวกเขาช่วยไม่ได้ที่จะขยับตัวไป
มาด้วยความสนใจในของสิ่งนี้เป็นอย่างมาก

“หม้อหยกทมิฬใบนี้มันคืออะไรกันแน่?”
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ท่านแน่ใจได้เลยว่าของ
สิ่งนี้ไม่ใช่ของธรรมดาแน่นอน!”

“หายากยิ่งนัก ข้าต้องการศึกษามันเสียจริง ใคร


จะรู?้ มันอาจมีความสามารถพิเศษบางอย่างอยู่ก็ได้!”

เมื่อมองดูไปที่หม้อหยกทมิฬ เนี้ยหลี่ก่าลังอยู่ใน
ห้วงค่านึงของความคิดของตัวเขา.. หม้อใบนี้น่าจะเป็นสมบัติใน
ต่านาน “หม้อแห่งจิตอสูรฝันร้าย” มันเป็นของที่ได้สืบทอดต่อ
กันมาย้อนกลับไปเมื่อก่อนในสมัยยุคอาณาจักรหิมะ
เหมันต์ โดยมีเรื่องเล่ากันว่าของสิง่ นี้ได้ถูกค้นพบในตระกูล
โบราณตระกูลหนึ่ง
แม้เป็นเนี้ยหลี่ก็รู้วิธใี ช้มันเพียงแค่อย่างเดียวหนึ่ง
ในวิธีใช้ของหม้อแห่งจิตอสูรฝันร้ายคือขัดเกลาจิตอสูร!

โดยมีขั้นตอนคร่าว ๆ คือ เริ่มแรกให้ใส่จิตอสูรที่


แตกต่างกันสิบชนิดลงไปในหม้อแห่งจิตอสูรฝันร้าย แล้วรอ
สักครู่ โดยมีโอกาสจะได้จิตอสูรทีท่ รงพลังยิ่งขึ้นจากการขัด
เกลาพวกมัน ถ้าโชคดีมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นจิตอสูรหายาก
แต่ถ้าโชคไม่ดีแล้วจิตอสูรทั้งหมดจะถูกท่าลาย

ความเป็นไปได้ที่จะล้มเหลวมีค่อนข้างน้อยแต่
ความเป็นไปได้ที่จะได้จิตอสูรหายากนั้นมีน้อยยิ่งกว่า โดยส่วน
ใหญ่แล้วหม้อแห่งจิตอสูรฝันร้ายนีส้ ามารถขัดเกลาออกมาเป็น
จิตอสูรที่แข็งแกร่งขึ้น ด้วยความสามารถนี้เพียงอย่างเดียวก็
มากเกินพอแล้วที่จะท่าให้ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนกระหาย
อยากได้อย่างบ้าคลั่ง ต้องไม่ลืมว่าร่างทรงอสูรส่วนใหญ่
สามารถรวมร่างกับจิตอสูรได้เพียงแค่ตนเดียว ดังนั้นพวกเขาจึง
หมายมั่นจะได้จิตอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
การใช้จิตอสูรระดับต่านานน่ามารวมกันเพื่อ
กลายเป็นจิตอสูรที่แข็งแกร่งนั่นเป็นวิธีการใช้ของหม้อแห่งจิต
อสูรฝันร้าย

มีความเป็นไปได้ที่ไม่มีผู้ใดในที่แห่งนีล้ ่วงรู้ถึง
วิธีการใช้ของหม้อแห่งจิตอสูรฝันร้าย

เพียงแค่คิดถึงความทรงพลังของหม้อแห่งจิตอสูร
ฝันร้ายก็ท่าให้เนี้ยหลี่ตัดสินใจว่าเขาต้องซื้อสิ่งนี้ให้ได้ไม่ว่าต้อง
จ่ายมากไหร่กต็ าม!

ในไม่ช้า ตระกูลบางกลุ่มได้เริ่มเสนอราคาเข้ามา
“สิบล้านเหรียญจิตมาร!”

“สิบสองล้านเหรียญจิตมาร!”

“สิบห้าล้านเหรียญจิตมาร!”

....

ไม่นานราคาก็ได้พงุ่ สูงไปถึงยี่สิบล้านเหรียญจิต
มาร ราคาเพียงเท่านี้ก็ท่าให้ทุก ๆ คนในห้องประมูลตกใจกัน
ถ้วนหน้า
“สามสิบล้านเหรียญจิตมาร!” ตระกูลศักดิ์สิทธิ์
เริ่มเสนอราคาเข้ามาทันที

“สามสิบห้าล้านเหรียญจิตมาร!” สมาคมปรุงยา
ก็เสนอราคาเข้ามาด้วย

เนี้ยหลี่มองไปยังชั้นสาม ผู้ที่ก่าลังเสนอราคาอยู่
นัน้ คือหยางซินเป็นแน่ หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่เนี้ยหลีไ่ ด้พูด
กับเนี้ยอิ้ง “ท่านอาวุโสหลัก ดูเหมือนว่าผู้อ่านวยการหยางจะ
อยู่ที่ชั้นสาม ขอให้ท่านไปพบเธอและบอกเธอว่าตัวข้าต้องการ
หม้อหยกใบนั้น ขอให้เธอช่วยเสนอราคามันแทนตัวข้าที โดย
ข้าจะจ่ายเงินคืนให้แก่สมาคมปรุงยาเมื่อการประมูลจบแล้ว!”

เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยหลี่ ก่อนที่เนี้ยอิ้งจะพูด
กลับซึ่งสิ่งใด เนี้ยไฮ้ได้รีบพูดขึ้นมาว่า “ตัวข้าจะไปเอง” เนี้ยอิ้ง
มียาทิพย์อยู่เป็นจ่านวนมากในวงแหวนห้วงมิติลลี้ ับของเขา ตัว
เขาไม่กล้าเสี่ยงให้เนี้ยอิ้งเดินไป ผูน้ ่าตระกูลที่ทรงอ่านาจมาก
เช่นเขาในตอนนี้เป็นได้เพียงแค่เด็กส่งสารเท่านั้นแต่ตัวเขาก็
เต็มใจที่จะท่าสิ่งนี้

เนี้ยไฮ้ได้เดินไปพบหยางซิน

ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์และสมาคมปรุงยาต่างสู้
ราคากันอย่างไม่ยอมหยุด โดยตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ได้ยอมแพ้
หลังจากสมาคมปรุงยาเสนอราคาพุ่งสูงไปถึงห้าสิบล้านเหรียญ
จิตมาร ถ้าพูดถึงความร่่ารวยแล้วแม้ว่าจะเป็นหนึ่งในสามของ
ตระกูลหลักก็ตามแต่พวกเขาก็ไม่สามารถสู้กับสมาคมปรุงยาได้
เลย

“ห้าสิบล้านเหรียญจิตมาร! สมาคมปรุงยาช่าง
ร่่ารวยยิ่งนัก!”
“แน่นอน ยาทิพย์ทั้งหมดของสมาคมปรุงยาที่
ผลิตขึ้นไม่นานได้ถูกขายด้วยราคาสูงลิ่ว ก่าไรแต่ละวันของพวก
เขาค่านวณได้เป็นหลักพันล้าน!”

หลังจากนั้นไม่นาน เนี้ยไฮ้ ได้กลับมา เขาโค้งตัว


ไปหาเนีย้ หลี่และพูดว่า “ผู้อ่านวยการหยางตอบตกลงแล้ว!”

หยางซินต้องไม่ปฏิเสธค่าขอของเนี้ยหลี่อย่าง
แน่นอน ต้องไม่ลืมว่า หยางซินยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องการจาก
เนี้ยหลี่ การใช้เงินจ่านวนมากเช่นนี้ของสมาคมปรุงยา ส่าหรับ
พวกเขาแล้วสามารถพูดเทียบได้วา่ “เป็นเพียงขนเพียงเส้น
เดียวที่ร่วงลงจากวัวทั้งเก้า“ สิ่งใดก็ตามที่เนี้ยหลี่จะน่ามาให้แก่
สมาคมปรุงยานั้นไม่สามารถวัดเป็นตัวเงินได้
หลังจากราคาไปถึงที่ห้าสิบล้านเหรียญจิตมาร
ตระกูลส่วนใหญ่ต่างยอมแพ้ นอกจากนี้ต้องไม่ลืมว่าหลาย
ตระกูลยังคงต้องซื้อยาจากสมาคมปรุงยาอยู่ดังนั้นพวกเขาต้อง
รักษาหน้าของสมาคมปรุงยาไว้บ้าง แม้ว่าพวกเขาจะมีความ
สนใจหม้อหยกทมิฬใบนี้แต่พวกเขาก็ไม่แข่งสูร้ าคาต่อ

ณ ขณะนี้ ชายคนหนึ่งผู้สวมชุดคลุมสีเทา ทันใด


เขาได้เริ่มการเสนอราคาขึ้นมาทันที

“ห้าสิบห้าล้านเหรียญจิตมาร!”

เขาเป็นใครกัน ถึงได้กล้ามาเริม่ สูร้ าคาต่อ? ทุก ๆ


คนในห้องประมูลต่างช่าเลืองมองไปยังชายปริศนาในชุดเทา
โดยทั่วไปแล้ว ตระกูลต่าง ๆ ไม่จ่าเป็นต้องฝาก
เงินเป็นหลักประกันในการประมูล อย่างไรก็ตามส่าหรับบุคคล
ทั่วไปก่อนที่จะเริม่ เสนอราคานั้น พวกเขาต้องฝากเงินเสียก่อน
การที่ชายปริศนาผู้นี้ได้เสนอราคาไปถึงห้าสิบห้าล้านนั่นต้อง
หมายความว่าเขาได้ฝากเงินไว้เป็นจ่านวนสูงถึงห้าสิบห้าล้าน
เหรียญจิตมาร!

หม้อหยกทมิฬใบนีม้ ีราคาสูงไปถึงระดับที่น่า
สะพรึงกลัวเช่นนี้ได้จริง ๆ !

ช่างร่่ารวยยิ่งนัก ชายผู้นี้เพียงคนเดียวก็มีความ
ร่่ารวยเทียบได้เท่ากับความมั่งของตระกูลขุนนางทั้งหมด
รวมกัน!

ในตอนนี้ หยางซิน เธอที่ก่าลังนั่งอยู่ที่ชั้นสามมี


ความขุ่นเคืองใจเล็กน้อย ไม่กี่วันทีผ่ ่านมานีเ้ ธอได้ไปยังสาขา
หนึ่งของสมาคมปรุงยาทางทิศเหนือ และได้มายังที่แห่งนี้โดย
การเชื้อเชิญจากตระกูลฮองหยู๋ โดยเธอไม่คาดคิดเลยว่าเนี้ยหลี่
จะอยู่ที่นี่เช่นกัน ตัวเธอในตอนแรกมีความสนใจหม้อหยกทมิฬ
เพียงเพราะเธอคิดว่ามันจะสามารถใช้มันในการปรุงยา จึงท่า
ให้เธอเสนอราคาประมูลสูไ้ ปในตอนแรก แต่เธอไม่คิดว่าเนี้ยหลี่
จะสนใจในของสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน ในเมื่อเป็นความต้องการของ
เนี้ยหลี่ ทางสมาคมปรุงยาก็ต้องซือ้ ของสิ่งนี้ให้เนี้ยหลี่ให้ได้ไม่
ว่าต้องจ่ายที่ราคาเท่าไหร่ก็ตาม

อย่างไรเสียเมื่อราคาได้ไปถึงที่ห้าสิบห้าล้าน
เหรียญจิตมาร ราคาของมันค่อนข้างจะเกินการคาดคะเนของ
เธอไปเล็กน้อย ตัวเธอก่าลังมีความสงสัยอยู่ว่ามันคุ้มค่ากัน
หรือที่จะต้องจ่ายไปถึงห้าสิบห้าล้านเหรียญจิตมารเพียงเพื่อ
หม้อหยกทมิฬซึ่งยังไม่รู้แม้กระทั่งวิธีที่จะใช้มัน?
บทที่ 70 - สู้ราคา

“หกสิบล้าน เหรียญจิตมาร!” หยางซินตัดสินใจ ที่จะสูร้ าคาต่อ


ถึงแม้ว่านางจะกังวลเล็กน้อย.........แต่ เนี้ยหลี่ให้คนส่งสารมา
ว่า ไม่ต้องกังกลใดๆ ไม่ว่าราคามันจักเท่าไรข้าจะจ่ายมันเอง
เพราะฉะนั้นนางมีหน้าที่เพียงประมูลหม้อหยกใบนี้ให้ได้ก็พอ
ในเมื่อเนี้ยหลี้จะจ่ายมันเอง

หกสิบล้านเหรียญจิตมาร ราคามันควรมากขนาด
นี้จริงๆหรือนี?่ หม้อหยกใบนี้แท้จริงแล้วใช้ท่าสิ่งใดกันนะ?
เนี้ยหลีจ่ ะสามารถรู้วิธีที่จะใช้มันได้แน่หรือ? หยาง ซิน คิดใคร่
ควร

เนี้ยหลี่ จับจ้องไปยัง ชายลึกลับที่อยู่บริเวณชั้น


ล่าง เขาประหลาดใจยิ่งนักว่าชายลึกลับผู้นี้คือใคร ท่าไมจึง
พยามอย่างมากที่จะต้องการจะแย่งชิงสมบัติชิ้นนี้จากนางให้ได้
“หกสิบห้าล้านเหรียญจิตมาร!” ชายลึกลับ เริม่
ลังเล แต่กย็ ังคงสู้ราคาต่อไป

“เจ็ดสิบล้านเหรียญจิตมาร!” หยางซินให้ราคาสูง
มาก ราคายังคงที่จะไต่ระดับสูงขึน้ เรื่อยๆ

เนี้ยไฮ้ และ เนีย้ อิ้ง ตกอยู่ในอาการตะลึงจนแทบ


ลืมหายใจ พวกเขารู้ว่าสมบัตสิ ิ่งนีผ้ ู้ที่ต้องการคือเนีย้ หลี่ อย่างไร
ก็ตามราคาขนาดนีม้ ันน่าตกใจจนเกินไปแล้ว เนี้ยหลีด่ ู
เหมือนว่าเขาจะโคตรร่า่ รวยมหาศาลเกินกว่าที่พวกเขาจะ
สามารถจินตนาการได้ เงินที่สมาคมนักปรุงยาให้แก่เนี้ยหลี่นั้น
มากมายมหาศาลขนาดไหนกันเนีย่ ?ท่าไมพวกสามาคมนักปรุง
ยาจึงให้เงินแก่เนี้ยหลี่จ่านวนมหาศาลขนาดนั้น? ค่าถาม
มากมายประดังก้องอยู่ในใจของพวกเขา
เนี้ยหลี่ เพ่งมองไปทีช่ ายลึกลับที่บริเวณชั้นล่างคน
นั้น เนี้ยหลี่ประหลาดใจเป็นอย่างมาก ชายผู้นี้คือใครมาจาก
ไหน ถึงช่างกล้ามาสูร้ าคาอย่างจริงจังกับสมาคมนักปรุงยานัก

เนี่ยหลี่ คิดว่า “หรือ ลานประมูลฮ่อง หยู๋ แห่งนี้


ใช้ใครบางคนมาปั่นราคาให้สูงขึ้น?” พวกเขาไม่น่าจะกล้าท่า
ถ้าพวกเขาเกิดถูกจับได้และเรื่องแดงออกมา ชื่อเสียงที่สั่งสมมา
ของสนามประมูลแห่งนี้จะถูกท่าลายป่นปี้เป็นแน่ และสมาคม
นักปรุงยาจักต้องไม่อนุญาตให้เขาน่ายาทิพย์ออกมาประมูลอีก
พวกเขาไม่น่าจะตัดสินใจโง่ๆอย่างนั้น นอกจากนี้ ตอนนี้ราคา
ประมูลก่าลังเพิม่ ขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเกิดว่าสมาคมนักปรุงยาหยุดการ
สู้ราคาเอาดื้อๆ พวกเขาก็เหมือนท่าร้ายตัวเอง อ๊ะ

หรือชายลึกลับผู้นี้นนั้ มาจากสมาคมทมิฬกันนะ?
ที่บริเวณชั้นล่างนั้นมีแต่ ตระกูลที่ร่ารวยมหาศาล
และเหล่าพ่อค้า เพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น น่าจะมีเพียงสมาคม
ทมิฬเท่านั้นที่มีความมั่งคั่งจนสามารถสู้ราคาได้ถึงเพียงนี้
สมาคมทมิฬ ได้ลักพาตัวผู้คนจากตระกูลต่างๆ เพื่อเรียกค่าไถ่
จากตระกูลเหล่านั้น และยังไม่รวมถึงการปล้นและการกระท่าที่
เลวร้ายต่างๆอีกมากมาย

เนี้ยหลี่ นิ่งเงียบไปสักพักแล้วจึงกล่าวออกมาว่า
“ท่านผู้น่าตระกูล ข้าเจอปัญหาเข้าแล้วท่านได้โปรดช่วยข้าส่ง
สารมากมายเหล่านี้ไปยังผู้อ่านวยการหยางด้วย ค่าพูดของข้า
นั้นยังคงเหมือนเดิมไม่ต้องกังวลใดๆ ไม่ว่าราคาจักเท่าไรให้นาง
สู้จนได้รับหม้อศิลาหยกด่าใบนั้น ทุกราคาประมูล ภายหลังจาก
การประมูล ก็ให้ส่งยอดฝีมือติดตามชายลึกลับผู้นไี้ ปด้วย ซึ่ง
ยอดฝีมือทีส่ ่งไปติดตามจักต้องมีระดับมิต่ากว่าระดับทอง หรือ
ถ้าจะให้ดีก็ส่งผู้ตดิ ตามระดับ ทองค่าด่า ไปเลย แต่ระวังอย่าให้
ชายผู้นั้นรู้ตัวเพราะ เขานั้นก่าลังจะโผล่หางออกมาแล้ว!”

เนี้ยไฮ่ คิ้วกระตุกไปมาอย่างควบคุมไม่อยู่พร้อม
พยักหน้ารับค่า “ตกลง” เขาคิดใคร่ครวญว่าสารที่จักต้องน่าส่ง
ให้นี้คงมิใช่เรื่องราวที่ธรรมดาอย่างแน่นนอน บุรุษลึกลับผู้ไม่
ทราบที่มาที่ไปผู้นั้น ช่างเป็นผู้ที่มสี ถานะทางการเงินพื้นหลังที่
แข็งแกร่งเสียยิ่งกระไร จนสามารถสู้ราคากับสมาคมนักปรุงยา
ได้ขนาดนี้

ณ ขณะนี้ทุกคนในลานประมูลก็ได้ เริ่มที่จะตั้งค่าถามถึงที่มาที่
ไปเกี่ยวกับชายลึกลับผู้นี้

“หนึ่งร้อยล้านเหรียญจิตมาร” เมื่อสมาคมนัก
ปรุงยาเรียกราคาออกมา เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญด้านต่างๆ รวมทั้ง
ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ ถึงกับต้องตกตะลึงแทบลืมหายใจกัน
เลยทีเดียว พวกเขาล้วนต้องการใคร่รู้ว่า สมาคมนักปรุงยานั้น
สามารถล่วงรู้ว่าหม้อศิลาหยกด่าใบนั้นใช้ท่าสิ่งใดกัน พวกเขา
จึงได้สรู้ าคาสูงถึงเพียงนี้ ?

หรือว่าสมาคมนักปรุงยานั้น ร่่ารวยมหาศาลกระ
ทั้ง ไม่รู้จักใช้เงินไปท่าอย่างอื่นกระนั้นหรือ?
หนึ่งร้อยล้านเหรียญจิตมารช่างไร้ปราณียิ่งนัก!
“หนึ่งร้อยสิบล้านเหรียญจิตมาร!” ชายลึกลับที่อยู่บริเวณชั้น
ล่าง ลังเลค่อนข้างนาน จนกระทั้งสาวสวยพิธีกรผูด้ ่าเนิน
รายการประมูลนั้นเกือบจะเคาะค้อนอยู่แล้ว เขาจึงเรียกราคา
ขึ้นสู้อีกครั้ง

“หนึ่งร้อยยี่สิบล้านเหรียญจิตมาร!” หยางซิน
เรียกราคาสูงขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ชายลึกลับในตอนนี้ก็
เข้าใจในทันทีว่า หยางซิน นั้นได้ตดั สินใจเป็นที่แน่วแน่แล้วว่า
จักต้องซื้อให้ได้ โดยนางใช้เวลาในการสูร้ าคา ไม่นานทุกครั้ง
นอกจากนี้ เงินในบัญชีของเขาก็มีมิเพียงพอแล้ว

ทุกๆคนล้วนประหลาดใจยิ่งนัก เพราะเหตุใดหม้อ
ศิลาหยกด่าใบนี้ ราคาจึงพุ่งทะยานจนทะลุฟ้าได้ขนาดนี้ หนึ่ง
ร้อยยี่สิบล้านเหรียญจิตมาร ราคานี้มันช่างน่ากลัวเสียจริงๆ มี
เพียงสมาคมนักปรุงยาเท่านั้นกระมังที่สามารถจ่ายได้

ส่าหรับหม้อศิลาหยกด่าใบนี้มันช่างท่าให้ทุกคน
อยากรู้เกี่ยวกับมันมากจริงๆ

และแล้วการประมูลก็สิ้นสุดลง

ทุกๆคนทยอยแยกย้ายกันไปอย่างช้าๆ รวมทั้ง
เนี่ยหลี่ และพวกของเขา ยังคงมีภารกิจต้องไปรวบรวมสมบัติ
หลังจากพวกเขาได้ซื้อมันมาแล้ว

ณ ห้องลับของสนามประมูลแห่งนี้ เนี้ยหลี่และห
ยางซินได้นดั พบกัน หยางซินถือหม้อศิลาหยกด่าพร้อมทั้งยิ้ม
อ่อนหวาน นางจับจ้องไปที่เนี่ยหลีแ่ ละถามว่า “น้องชายตัว
น้อย บางทีเจ้าจะรู้ใช่ไหมว่าของสิง่ นี้ใช้ท่าอะไร?”

ในการสั่งซื้อหม้อศิลาหยกด่าใบนี้นั้น นางต้องจ่าย
รวมเป็นเงินถึง หนึ่งร้อยยีส่ ิบล้านเหรียญจิตมาร ราคาขนาดนี้
ถึงเป็นสมาคมนักปรุงยาก็กล่าวได้ว่ามันเป็นจ่านวนมิใช่น้อย
เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าสมาคมนักปรุงยาจะร่า่ รวยมหาศาล แต่
ตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่รวยถึงขนาดที่ว่าพวกเขาจะสามารถใช้
จ่ายเงินได้อย่างอิสระโดยไม่ทราบสิ่งใด

“ข้าก็ยังไม่รู้วิธีการใช้ของสิ่งนี้หรอก” เนี้ยหลี่
กล่าวทั้งรอยยิ้มพร้อมยกมือของเขาส่ายไปมาท่าท่าทางปฏิเสธ
แกล้งท่าเป็นไม่รู้

“พี่สาว ไม่เชื่อหรอกน้องชายตัวน้อย น้องชายตัว


น้อยยอมจ่ายเงินจ่านวนมากเพื่อซือ้ มัน ไม่มีทางไม่รู้หรอกว่า
มันใช้ท่าอะไร” หยางซิน กอดหน้าอกของเธอ เมื่อหน้าอกของ
แม่นางถูกดันขึ้นช่างดูอวบอั๋นมีเสน่ห์เป็นยิ่งนัก รอยยิม้ นางมี
เสน่ห์เป็นยิ่งนัก หลังจากหยุดยิ้มนางส่งสายตานางก็จับจ้องมา
ที่ เนี้ยหลี่ “ถ้าน้องชายตัวน้อยไม่พูดอะไรเกี่ยวกับมัน พีส่ าวก็
จะน่าหม้อศิลาหยกด่าใบนี้กลับไปเพื่อศึกษา!”

“นั่นเป็นเพราะว่าข้านั้นยังไม่รู้ว่ามันใช้ท่าอะไรกับมันจริงๆ สิ่ง
ส่าคัญที่ท่าให้ข้าซื้อมันเพราะมี รังสีอันบริสุทธิ์ที่แผ่ออกจากมัน
จักต้องมิใช่สมบัติธรรมดาเป็นแน่ ท่านอาจารย์ของข้าเท่านั้นที่
อาจล่วงรู้วิธีการใช้มัน” เป็นอีกครัง้ ที่เนี้ยหลี่กล่าวอ้างถึง
ความสามารถอาจารย์ของเขาซึ่งไม่มีตัวตนอยู่จริงออกมา เนี้ยห
ลี่ หัวเราะพร้อมทั้งพูดต่อไปอีก “ ของชิ้นนี้แม้มันใช้เงินเพียง
น้อยนิด แต่ว่ามันจักต้องใช้ผู้ที่มีความสามารถในการวิเคราะห์
อย่างสูงมาก”

เมื่อได้ยินถ้อยค่าของเนี่ยหลี่ หยางซินก็ พลัน


แปรเปลีย่ นสีหน้าอากัปกริยามานอบน้อมในทันที และยังกล่าว
ต่อไปอีกว่า “ ถ้าน้องชายตัวน้อยซื้อมันไปให้อาจารย์ของเจ้า ก็
รีบน่ามันเข้าไปเก็บรักษายังแหวนของเจ้าเถิด มันสมควรยิ่ง
แล้ว” อาจารย์ของเนี่ยหลี่ ผูเ้ ป็นถึงระดับ สุดยอดปรมาจารย์
ด้านการปรุงยา ดังนั้นหยางซิน จึงมิกล้าที่จะล้อเล่นด้วยได้
“น่าจะมีเงิน สักหนึง่ ร้อยยี่สิบล้านเหรียญจิตมาร
กระมังในแหวนเก็บของวงนี้” เนี้ยหลี่กล่าวพร้อมทั้งน่ามัน
ออกมา

หยางซินส่ายหัวของนาง พร้อมทั้งผลักแหวนเก็บ
ของกลับคืน และยังหัวเราะอย่างมีเสน่ห์ “เมื่อพิจารณาดูแล้ว
สมาคมนักปรุงยาขอมอบสมบัติชิ้นนี้ เป็นของขวัญแด่ท่าน
อาจารย์ของเจ้าเถิด!” เพราะว่า อาจารย์ของเนี้ยหลี่นั้นเป็น
ผู้ให้ สูตรยาทิพย์หลายสูตร กับสมาคมนักปรุงยา สามารถที่จะ
เรียกได้ว่ามันคือความรูร้ ะดับพระเจ้าเลยทีเดียว ไม่ว่าจะใช้เงิน
มหาศาลเท่าไรก็ไม่ส่าคัญเท่าเพราะมันท่าให้นครศักดิ์สิทธิ์แห่ง
นี้แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก สมาคมนักปรุงยายังคิดว่า
จะท่าเช่นไร จึงจะเป็นที่โปรดปรานแก่อาจารย์ของ เนี้ยหลี่
การให้ของนั้นขวัญ เป็นโอกาสทีด่ มี ากจริงๆ พวกเขาจะท่าเช่น
ไรจึงจะไม่พลาดมัน? ถ้าเกิดอาจารย์ของเนี้ยหลี่ มีความพึง
พอใจ แล้ว ให้สูตรยาทิพย์มาอีกสัก หนึ่งหรือสองสูตรแค่นั้น
ของขวัญชิ้นนี้มันก็นับว่าคุ้มค่ายิ่งนัก
เนี่ยหลี่ เงียบไปชั่วขณะพร้อมทั้งหยิบ หม้ออสูร
ฝันร้าย และยิม้ อย่างสดใสหลังจากนั้นจึงกล่าวว่า“จากค่า
ขอบคุณ ของพี่สาว หยาง ซิน ข้าจักน่ามันไปบอกอาจารย์อย่าง
แน่นอน”

“จากนั้นข้าจะมีการขอบคุณสักเล็กน้อยส่าหรับ
สิ่งนั้น” หยางซิน ยิ้มอย่างอ่อนหวานและกล่าวต่อไป นางคิดว่า
ดูเหมือนยังมีเรื่องอะไรบางสิ่ง เลยกล่าวค่าถามออกไป “เจ้าให้
ข้าส่งยอดฝีมือ ติดตามชายลึกลับผู้สรู้ าคาประมูล เจ้ามีคิดว่ามี
สิ่งใดกันหรือ” ถึงเนี้ยหลีไ่ ม่บอก นางก็จะส่งใครบางคนติดตาม
เขาอยู่แล้ว ถ้าหล่อนพบว่าชายลึกลับผู้ซึ่งออกมาสู้ราคานั้น
เป็นคนจากตระกลูฮ่อง เมื่อนั้นพวกเขาจักต้องได้รับความ
เสียใจในสิ่งที่กระท่าเป็นแน่

เนี้ยหลี่ คิดชั่วขณะพร้อมกล่าวออกมา “ข้าสงสัย


ว่ามัน น่าจะเป็นใครบางคนจากสมาคมทมิฬ” “อย่างไรก็ตาม
มันเป็นเพียงแค่การคาดเดาจากข้อสงสัยของข้าเท่านั้น”

ไม่มีใครรู้เรื่องราวของมัน คนที่ประมูลแข่งขัน
อย่างจริงจังเพื่อแย่งชิงหม้อ อสูรฝันร้าย ขนาดที่สรู้ าคาสูงมาก
มันไม่น่าจะสามารถกระท่าเรื่องนัน้ ได้ด้วยตัวเขาเพียงคนเดียว
หรอก จักต้องมีใครบางคนที่รเู้ กี่ยวกับหม้อใบนั้นและใช้เขามา
เอาหม้ออสูรฝันร้ายกระนั้นหรือ?

“ใครบางคนจากสมาคมทมิฬ?!” หยางซิน ลด
ระดับสายตาของนางลง จ้องมองมาที่เนี้ยหลี่ แล้วกล่าวว่า “ถ้า
ข้าตรวจสอบพบว่าชายผู้นั้นมาจากสมาคมทมิฬ ชายผู้นั้น
สามารถอ่าลาชีวิต จากนครศักดิส์ ทิ ธิ์นี้ได้เลย! ข้าได้ด่าเนินการ
ส่งร่างทรงอสูรระดับทองด่า ติดตามหลังผู้นั้นไปเรียบร้อย
แล้ว!”
“พี่สาว หยางซิน จักเป็นการดีทสี่ ุด ถ้าท่านไม่
ท่าให้เขาสงสัย และเราสามารถจับกุมเขาได้ ในขณะที่เขายังมี
ชีวิตอยู่” เนี้ยหลี่ กล่าว อาจจะมีโอกาส ที่พวกเขาสามารหา
หลักฐานพบว่าตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์นั้นสมรูร้ ่วมคิดกันกับ
สมาคมทมิฬก็เป็นได้
บทที่ 71 - ใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม

“ทราบแล้ว”หยางซินพยักหน้าลง แล้วยิ้มเล็กน้อย

“ถ้า อย่างนั้น ข้าขอตัวละ” เนี่ยหลี่ เอ่ยลากับ หยาง


ซิน และเดินออกไปทางประตูด้านหลัง

ด้วยราคา หนึ่งร้อยยี่สิบล้าน เหรียญจิตมาร ของ


หม้อหยกด่าสร้างความตกใจเป็นอย่างมาก ย่อมมีคนสนใจใน
ตัวหม้อปริศนาใบนี้เป็นแน่ ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของ
เนี่ยหลี่นั้น หากถูกหมายตา จากผูใ้ ดผู้หนึ่งนั้น เกรงว่าเขาจะไม่
สามารถปกป้องมันเอาไว้ได้ แต่นบั ว่าโชคดี ที่ไม่มีผู้ใดรู้ว่า หม้อ
หยกด่านีไ้ ด้ตกไปอยู่ในมือของ เนีย่ หลี่แล้ว ผู้คนทั่วไปต่างคิด
ว่า หยางซิน ได้เก็บมันเอาไว้ คงไม่มีคนธรรมดาหน้าไหนกล้า
คิดที่จะขโมยมันจากหยางซินแน่ เพราะต่าแหน่งของหยางซิน
ในปัจจุบันนั้นทรงพลังเป็นอย่างมากในเมืองกลอรี่

เนี่ยหลี่ ออกจากงานประมูลอย่างเงียบๆ พร้อม


ด้วย เนี่ยไฮ้และเนีย่ อิ้ง ขึ้นรถม้าของตระกูลบันทึกสวรรค์
เนี่ยหลี่ มองไปที่ เนีย่ อิ้งและเนีย่ ไฮ้ พร้อมกับพูดว่า
“เรื่องเกี่ยวกับหม้อหยกด่าใบนี้ ต้องเก็บไว้เป็นความลับ ไม่ว่า
ยังไงห้ามบอกผู้ใดเป็นอันขาด!”

“แน่นอน!!” เนี่ยไฮ้และเนี่ยอิ้ง รีบพยักหน้ารับปาก


พวกเขารู้ดีถึงความส่าคัญของเรื่องนี้ ถ้ามีคนรู้ว่า หม้อหยกด่า
อยู่กับเนี่ยหลี่ จะน่าภัยที่ไม่จ่าเป็นมาสู่ ตระกูลบันทึกสวรรค์ได้

นับแต่บัดนีเ้ ป็นต้นไป เนี่ยหลีจ่ ะได้รับความสนใจ


ดูแลจากตระกูลบันทึกสวรรค์ทั้งหมด

“พวกเราจะกลับไปยังตระกูลเลยไหม?”เนี่ยไฮ้เอ่ย
ปากถาม

“ยังก่อน” เนี่ยหลีส่ ่ายหน้าและกล่าวว่า “ข้าอยากจะ


ไปที่ร้านค้าจิตอสูรปีศาจซวนฮอล สักหน่อย”

“ร้านค้าจิตอสูรปีศาจ ซวนฮอล? เจ้าก่าลังจะบอกข้า


ว่าเจ้าอยู่อันดับเงินแล้วงั้นรึ ?”เนีย่ อิ้งเอ่ยปากออกถามอย่าง
กะทันหัน

เนี่ยหลี่เงียบไปสักพัก แล้วพยักหน้าลงเบาๆ ขณะนี้


ไม่มีความจ่าเป็นที่จะต้องปิดบัง แก่ เนี่ยไฮ้และเนี่ยอิ้ง

เมื่อได้รับการยืนยันจากเนี่ยหลี่ เนีย่ ไฮ้และเนี่ยอิ้งถึง


กับตะลึงอ้าปากค้าง มองไปที่เนี่ยหลี่ พวกเขาสูดอากาศเข้า
ปอดลึกๆ พร้อมกับตระหนักขึ้นได้ว่า เมื่อไม่กเี่ ดือนมานี้ เนีย่
หลี่ยังไม่แม้แต่ จะไปถึงต่าแหน่งระดับ ทองแดง 1 ดาว แต่
ตอนนี้ เนี่ยหลี่กลับอยูร่ ะดับเงินแล้ว ? ร่างทรงอสูรระดับเงิน
ด้วยอายุ 13 ปี พร๊ะเจ้า ! เป็นที่แน่นอนแล้วที่เนี่ยหลี่นับเป็น
อัจฉริยะที่มีอยูเ่ พียงหยิบมือในประวัติศาสตร์ของเมืองกลอรี่

“จิตอสูรปีศาจแรกจะต้องเลือกอย่างชาญฉลาด ! จิต
อสูรปีศาจทีเ่ จ้าต้องการคืออะไร ? ข้าจะได้ให้รายละเอียดได้”
เนี่ยไฮ้กล่าวอย่างเคร่งขรึม อย่างมีภูมิความรู้

จิตอสูรปีศาจใน ซวนฮอล นั้นนับเป็นสิ่งที่ลา้่ เลิศ


ที่สุดในบรรดาทางตอนเหนือของเมืองกลอรี่ ในสถานที่ที่สงบ
แห่งนี้ มีจิตอสูรที่ดีอยู่เพียบหยิบมือเท่านั้น
สิ่งที่เนี่ยไฮ้และเนี่ยอิ้งยังไม่รู้นั้น คือ ความจริงที่ว่า
เนี่ยหลีไ่ ด้รวมร่างกับ อสูรปีศาจเงาพรายแล้ว เหตุผลที่เนี่ย
หลี่มาที่แห่งนี้คงไม่ใช่การมองหา จิตอสูรปีศาจธรรมดาๆ เนีย่
ไฮ้จะให้ข้อมูลแก่เนี่ยหลี่ได้เยี่ยงไรกัน ?

เนี่ยหลี่พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้าคิดของข้าเองได้”

เนี่ยไฮ้และเนี่ยอิ้ง ต่างมองหน้ากันด้วยความรูส้ ึกที่ขม


ขื่น ราวกับโดนมีดเสียบแทงตรงกลางอก พวกเขาลืมไปว่าเด็ก
อายุ สิบสามที่อยู่ด้านหน้าเขานี้ไม่ใช่ บุคคลธรรมดา เปรียบ
ดังเช่นสัตว์ประหลาดก็ว่าใด พวกเขาไม่สามารถที่จะท่าการ
ตัดสินใจใดๆ ให้แก่เนี่ยหลีไ่ ด้เลย

รถม้าวิ่งตรงไปข้างหน้าด้วยความเร็ว เนี่ยหลี่ได้ให้
เนี่ยไฮ้ตรวจสอบว่า มีคนตามมาหรือไม่ ตรวจสอบแล้วไม่พบว่า
มีผู้ใดตามมา ด้านหลังพวกเขา เมือ่ ได้รับการยืนยันว่าพวกเขา
ไม่ถูกตาม เขาก็รสู้ ึกโล่งใจ เนี่ยหลีย่ ังคงเป็นกังวลเล็กน้อย ว่า
อาจจะมีคนคอยจับตาดูเขาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์ หรือ สมาคมทมิฬ ความแข็งแกร่งของพวกนั้นมีมาก
เกินไป โชคยังดีที่ ตระกูลศักดิส์ ิทธิ์และสมาคมทมิฬ ไม่ได้
ติดตามเขาในเวลานี้ คงจะยังไม่มคี วามจ่าเป็นที่จะไม่มา
เสียเวลา เพราะเด็กหนุ่มเช่นเนี่ยหลี่
ความแข็งแกร่งของเนี่ยหลี่ในตอนนี้นั้น ตระกูลเทพ
ศักดิ์กสิทธิ์และสมาคมทมิฬคงยังไม่จ่าเป็นที่จะจับตาดูเขา

ณ ซวนฮอล ห้อง VIP

เมื่อเนี่ยหลี่ปรากตัวขึ้นพร้อมกับ เนี่ยไฮ้และเนีย่ อิ้ง


ทางซวนฮอล จึงรีบน่าเนี่ยหลี่ ไปยัง ห้อง VIPทันที

คนที่ต้องรับกลุ่มของเนีย่ หลี่ เป็นคนสูงอายุ ผมและ


เคราของเขามีสีขาว ชื่อเขาคือ เซา หมิงเฟิง เขาคือเจ้าของ
ร้านค้า ซวนฮออล์

นอกจากจะเป็นเจ้าของ ซวนฮอล เซา หมิงเฟิง ยัง


เป็นผู้รอบรู้ ดังนั้น ข่าวใหม่ที่ ตระกูลบันทึกสวรรค์ใช้จ่ายอย่าง
ฟุ่มเฟือยใน งานประมูล ฮองหยู๋ จึงลอยเข้าหูเขาด้วย เขาจึงได้
ท่าเครื่องหมาย ตระกูลบันทึกสวรรค์ให้เป็นหนึ่งในลูกค้าคน
ส่าคัญ

“ขอ ชาหน่อย!” เซา หมิงเฟิง ยิ้มพร้อมกับสั่งให้เด็ก


ชงชามาให้พวกเนี่ยหลี่
“ขอบใจท่านมาก”เนี่ยไฮ้ยิ้มพลางๆ พร้อมบอกว่า
“ข้ามาที่นี่เพื่อต้องการจะหาซื้อจิตอสูรปีศาจให้ส่าหรับ
หลานชายข้า!”

เซา หมิงเฟิงยิ้มตอบ “ทาง ซวนฮอล ของเรา


เตรียมพร้อมให้กับท่านลูกค้าทุกคน” ขณะเดียวกันเขาก็มองหา
เนี่ยหลีไ่ ปด้วย

“ข้าขอทราบ จิตอสูรปีศาจ ที่ท่าน อาวุโสเนี่ยไฮ้


ก่าลังมองหาอะไรอยู่ รึท่าน? ที่นี่เรามีจติ อสูรปีศาจอยู่ทุก
ประเภท” เซา หมิงเฟิง หยิบเอาหนังสือออกมาให้ เนี่ยไฮ้
มองดู ในนี้มีภาพจิตอสูรปีศาจ จ่านวนหลายร้อยรูป ทั้ง
คุณลักษณะและประเภทของจิตอสูร ต่างมีระบุไว้อย่างชัดเจน

ซวนฮอล เป็นร้านค้าจิตอสูรปีศาจที่ใหญ่ที่สุด ทาง


ตอนเหนือ ของเมืองกลอรี่ พวกเขาได้รับจิตอสูรปีศาจมากมาย
จากการที่ร่างทรงอสูรผจญภัยด้านนอกแล้วขายให้พวกเขาใน
แต่ละวันโดยจิตอสูรปีศาจที่มรี าคาถูกและหาได้ง่าย สามารถ
ซื้อได้โดยใช้ เงินเพียงแค่ หลักร้อย หรือหลัก พันเหรียญจิตมาร
เพียงเท่านั้น ในขณะเดียวกัน จิตอสูรปีศาจที่มีระดับสูงมากๆ
หายากเป็นพิเศษมีราคาหลายล้านเหรียญจิตมารเลยทีเดียว
‘ข้าสงสัยเสียจริง ว่าตระกูลบันทึกสวรรค์จะเลือกจิต
อสูรปีศาจระดับใดกัน?’ เซา หมิงเฟิง แอบคิดกับตัวเองอย่าง
ลับ ๆ เขาสังเกตว่า เนี่ยไฮ้ จะให้ความส่าคัญกับเนี่ยหลี่มากเลย
ทีเดียว

เนี่ยไฮ้รีบหยิบสมุดมาให้เนี่ยหลี่ทันที

เนี่ยหลี่ยังไม่มองภายในหนังสือ เขามองไปที่ เซา


หมิงเฟิง แล้วถามเขาว่า “ท่านหมิงเฟิง ท่านได้เก็บจิตอสูร
ปีศาจที่ข้าต้องการซื้อนี้เป็นความลับได้หรือไม่ ?”

เซา หมิงเฟิง รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขามองไปที่


เนี่ยหลี่แล้วพยักหน้า “แน่นอน เราจะเก็บข้อมูลของลูกค้าไว้
เป็นความลับ เรารับปากเลยว่าความลับของท่านจะไม่รั่วไหล
แน่นอน!”

“ขอบคุณ ท่านอาวุโส” เนี่ยหลี่พยักหน้าเล็กน้อย


แล้วหยิบหนังสือเปิดขึ้นดู เขาชี้ไปที่ที่หนึ่งบนหนังสือจิตอสูร
ปีศาจและเอ่ยถามว่า “จิตอสูรปีศาจชนิด วิญญาณร้ายนี้ ท่าน
อาวุโสท่านมีมันมากกว่าที่ท่านให้ข้าดูรึไม่ ?”
เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี่ยหลี่ เซา หมิงเฟิงจึงตอบ
กลับไปว่า “จิตอสูรปีศาจชนิดวิญญาณร้ายนั้นเป็น จิตอสูรที่หา
ยากและการใช้งานมันเป็นเรื่องที่ยากล่าบาก ข้าไม่แนะน่าให้
ท่านน่ามันมาเป็นจิตอสูรตนแรกหรอกนะ ในคลังเก็บของเรามี
อยู่ราวๆ 50 ตนด้วยกัน”

“ข้าจะเอามันมาทั้งหมด!!”เนี่ยหลี่กล่าว “ข้าหวังว่า
ท่านอาวุโสจะให้ราคาที่เหมาะสมส่าหรับจิตอสูรปีศาจเหล่านี้
ได้”

“ท...ทั้งหมด?” เซา หมิงเฟิง สูดหายใจเข้าลึกไปใน


ปอด เพื่อให้ตัวเองสงบลง เขามองไปที่เนี่ยหลี่ ด้วยความตกใจ
ท่าไมเนี่ยหลี่ ถึงจะเอาจิตอสูรทั้งหมด?จ่าเป็นต้องใช้จิตอสูร
มากมายเพียงนี้เชียวหรือ? ร่างทรงอสูรสามารถรวมร่างกับจิต
อสูรได้มากสุด 1 ตัวเท่านั้นถือเป็นขีดจ่ากัด!

“ถูกต้อง!!” เนี่ยหลี่ พยักหน้าอย่างจริงจัง

เนี่ยไฮ้และเนี่ยอิ้ง อึ้งมากกับการกระท่าของเนี่ยหลี่
หลังจากนั้นไม่นานนัก พวกเขาก็หายตกใจ
“ส่าหรับเรื่องเงินนั้น ท่านอาวุโสอย่าได้กังวลไป ข้ามี
เพียงพอที่จะจ่ายมัน!”เนี่ยหลี่พูดเบาๆ

เซา หมิงเฟิงมองไปที่เนีย่ ไฮ้ เนี่ยไฮ้ฝืนยิ้มขณะที่เขา


พยักหน้า

“กรุณารวบรวมจิตอสูรปีศาจให้ด้วย เราจะน่าพวก
มันไปทั้งหมด”

“ตกลง!”เซา หมิงเฟิง แสดงท่าทางตื่นเต้นอยู่ไม่สุข


โดยปกติทั่วไป จิตอสูรปีศาจ ประเภทวิญญาณร้ายจะสามารถ
ขายได้ 1 ตัว ทุกๆ 1-2 เดือน เนี่ยหลี่ต้องการซึ่งจิตอสูรปีศาจ
ประเภทวิญญาณร้ายทั้งหมดที่ ซวนฮอลล์มี แน่นอนว่าสิ่งที่
เกิดขึ้นนี้ย่อมเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ทันทีที่เขากล่าว “ในขณะที่
ท่านซื้อจิตอสูรปีศาจจ่านวนมากมายขนาดนี้ ข้าจะให้ราคาที่
ยุติธรรมแก่ท่านแน่นอน!!”

“ทางเราก็หวังไว้อย่างนั้น หลังจากนี้ เราคงกลับมา


ซื้อ จิตอสูรปีศาจที่นี่เช่นกัน”เนี่ยหลี่กล่าวอย่างใจเย็น

ค่าพูดที่ออกมาจากเนี่ยหลี่ ในขณะนี้ ท่าให้เซา หมิง


เฟิงปฏิบัติต่อเนีย่ หลีร่ าวกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง เนี่ยหลีไ่ ม่ได้สนใจ
เลยว่าผู้อื่นจะคิดต่อตัวเขาเช่นไร ปัญญาของเขานั้นร้ายกาจ
ราวกับปีศาจทีเดียว

“กรุณารอสักเดีย๋ ว ข้าจะรีบไปน่ามาให้ท่าน”เซา
หมิงเฟิง พูดจบก็รีบเดินออกไป

“เสีย่ วหลี่ เหตุใดเจ้าถึงได้ซื้อจิตอสูรปีศาจเยอะ


มากมายถึงเพียงนี?้ ”เนี่ยอิ้งถามด้วยความอยากรู้

เนี่ยหลี่นั้นมั่งมีเกินไป โดยเริม่ แรกเขาใช้เงินราวกับ


โยนมันทิ้งไปยังไม่เสียดายที่งานประมูล แถมตอนนี้ยังซื้อจิต
อสูรปีศาจอย่างบ้าคลั่งมากมาย เขาท่ายังไงกันนะถึงได้มีเงิน
มากเพียงนี?้ ไม่แค่นั้นหนึ่งร่างทรงอสูรสามารถรวมจิตอสูรได้
เพียงหนึ่งตนเท่านั้น

“ข้ามีวิธีการใช้พวกมันในแบบของข้าเอง”เนี่ยหลี่ยิ้ม
แล้วพูดเบาๆ
บทที่ 72 - หลอมรวม จิตวิญญาณอสูร

เซา หมิงเฟิงกลับมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับผลึกวิญญาณอสูร


เป็นจ่านวนมาก

เหล่าอสูรที่ถูกจับได้ จะถูกพันธนาการและเก็บ
เอาไว้ในผลึกวิญญาณอสูร

ผลึกวิญญาณอสูรที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะ หลายต่อ
หลายแถว นับเป็นสิ่งที่สวยงามยิ่งนัก

“พวกนี้คือวิญญาณอสูรประเภทฝันร้าย

ระดับเงิน ราคารวมทั้งหมดประมาน 60,000

เหรียญจิตรมาร ส่วนพวกนี้คือวิญญาณอสูรประเภท

ฝันร้ายระดับโกลด์ ราคารวมทั้งหมดประมาณ

300,000 เหรียญจิตมาร” เซา หมิงเฟิงอธิบายราคา


ของผลึกหินวิญญาณทั้งสองส่วนแก่เนี้ยหลี่

นอกเหนือจากการรวมร่างกับร่างทรงอสูรแล้ว
วิญญาณอสูรยังสามารถน่าไปใส่ในชุดเกราะ เพื่อเพิม่
ความสามารถของชุดเกราะได้ด้วย

วิญญาณอสูรตั้งแต่ระดับเงินขึ้นไป มักจะมีราคา
ค่อนข้างแพง เริ่มตั้งแต่ 10,000 ไปจนถึง100,000 เหรียญจิต
มาร ซึ่งราคาระดับนี้ชาวบ้านทั่ว ๆ ไปคงจะหาซื้อมาใช้ได้ยาก

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาส่าหรับเนี้ยหลี่ !!

“อืมมม.. ราคาสมเหตุสมผลดี ข้าซื้อหมด

นี่เลยละกัน” เนี้ยหลี่พยักหน้าในเชิงตกลง

เซา หมิงเฟิงหันไปหา เนี้ยไฮ้และเนี้ยอิ้ง ในเชิงขอ


อนุญาต ซึ่งทั้งสองคนก่าลังจ้องหน้ากันไปมาพร้อมกับยิ้มเจื่อน
ๆ โดยที่เซา หมิงเฟิงไม่ได้รู้เลยว่า .. ทั้งเนี้ยไฮ้และเนี้ยอิ้งนั้น
ไม่ใช่คนที่จะสามารถตัดสินใจแทนเนี้ยหลีไ่ ด้

เนี้ยหลี่โบกมือขวาเล็กน้อย แล้วน่าการ์ดอสูร
คริสตัลจ่านวนหนึ่งก็หล่นลงมาจากแหวนมิติของเขา เขาวาง
การ์ดเหล่านั้นไว้บนโต๊ะ พร้อมกับกล่าวว่า “ท่านลองตรวจสอบ
ดู เงินเท่านี้น่าจะพอนะ”

เนี้ยหลี่จ่ายเองงั้นรึ ? เมื่อเขามองไปที่การ์ดอสูร
คริสตัลกองนั้น เซา หมิงเฟิง ก็รสู้ กึ ตกใจอย่างมาก เพราะเค้า
ไม่คิดว่าตระกูลบันทึกสวรรค์จะให้เด็กถือเงินไว้กับตัวมากมาย
ขนาดนี้ มันไม่ได้หมายความว่าตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นร่่ารวย
มากรึ แต่อย่างไรเสีย เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก เพราะเขา
เป็นพ่อค้า ถ้าเนี้ยหลี่มีเงินจ่าย เขาก็ไม่มีปญั หาอะไรอยู่แล้ว

เนี้ยหลี่โบกมือขวาอีกที แล้วก็โยนการ์ดอสูรคริสตัล
50 ใบกลับเข้าไปในแหวนมิติของเขา

“อย่าลืมกลับมาอุดหนุนพวกเราอีกนะ” เมื่อ เซา หมิงเฟิง นับ


การ์ดอสูรคริสตัลเสร็จแล้ว บนหน้า ของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มอีก
ครั้ง เพราะการขายของ ในครั้งนี้เป็นการท่าธุรกิจที่ใหญ่ทสี่ ุดใน
ชีวิตของเขา นับตั้งแต่เริ่มขายวิญญาณอสูรมาเลย

“ท่านเจ้าของร้านช่างสุภาพจริง ๆ แต่พวกเรา
อยากจะซื้ออย่างอื่นอีกสักหน่อย ท่านเจ้าของ ร้านคงไม่ได้ไล่
ลูกค้าหรอก ใช่ไหม ?” เนี้ยหลี่พดู พลางมองไปที่เซา หมิงเฟิง

“ไม่เลย ๆ ข้าไม่ได้มเี จตนาแบบนั้น นายน้อยยัง


ต้องการวิญญาณอสูรอย่างอื่นอีกงั้นรึ?” เซา หมิงเฟิงถาม

ความสุขมุ ของเนี้ยหลีท่ ่าให้เขารู้สึกกดดันเล็กน้อย


เขายิ้มเจื่อน ๆ พร้อมกับคิดในใจว่า เด็กคนนี้อายุ13 ปีจริง ๆ
หรือ เขาช่างร้ายกาจยิ่งนัก !

“แน่นอน ! การซื้อวิญญาณอสูรฝันร้ายเป็นเพียง
ส่วนหนึ่งของสิ่งที่ข้าอยากได้เท่านัน้ ” เนี้ยหลี่พูดอย่างสุขุม

เซา หมิงเฟิงตกใจอย่างมาก !! เขา(เนี้ยหลี่)ต้องการ


จะซื้อวิญญาณอสูรเยอะขนาดไหนกันนะ แต่อย่างไรก็ตาม
ร้านค้าของเขาก็มไี ว้เพื่อธุรกิจ เพราะฉะนั้นยิ่งขายวิญญาณอสูร
ได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
“ข้าต้องการวิญญาณอสูรประเภทพิษ, วิญญาณ
อสูรประเภทลมหิมะ และวิญญาณอสูรประเภทต่อสู้ ท่าน
เจ้าของร้านช่วยน่าวิญญาณอสูรประเภทเหล่านี้ออกมาให้หมด
ร้านจะได้รึไม่”

จะซื้อหมดทั้งร้านเลยรึ? โอ้พระเจ้า !

เชาหมิงเฟยไม่รอช้า รีบน่าวิญญาณอสูรประเภท
ต่าง ๆ เหล่านั้นออกมาจนหมดร้าน ซึ่งมีจ่านวนมากกว่า
วิญญาณอสูรประเภทฝันร้ายหลายเท่า วิญญาณอสูรที่เนี้ยหลี่
ต้องการนั้นมีจ่านวนร่วมหมื่นใบ แต่ราคาต่อใบนั้น ถูกกว่า
วิญญาณอสูรประเภทฝันร้ายอยูเ่ ล็กน้อย

“ราคารวมทั้งหมด 65 ล้านเหรียญจิตมาร!

” เซา หมิงเฟิงรีบค่านวณราคาของสินค้าอย่างรวดเร็ว แค่เพียง


การค่านวณราคาก็ท่าให้เขาเหงื่อแตกเสียแล้ว

“นี่ 65 ล้านเหรียญจิตมาร ท่านลองนับดูนะ”


เนี้ยหลีห่ ยิบการ์ดอสูรคริสตัลออกมา 6,500 ใบ แล้ววางกองไว้
บนโต๊ะ

เซา หมิงเฟิง ต้องรูส้ ึกตกใจอีกครั้ง เพราะตั้งแต่


เริ่มท่าธุรกิจมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มโี อกาสเห็นเงินจ่านวน
มากขนาดนี้ แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นส่าคัญ ประเด็นส่าคัญก็คือว่า
เงินทั้งหมดนี่มันออกมาจากแหวนมิติของเด็กอายุ 13 ปี !

“ท่านเจ้าของร้าน ข้ายังอยากจะซื้อวิญญาณอสูร
ประเภทอื่นอีกสักหน่อย” เนี้ยหลีพ่ ูดพลางมองไปที่เซา หมิง
เฟย

“นายน้อยสั่งข้ามาได้เลย หรือเพียงท่านส่งคนมา
บอกข้า ข้าจะรีบจัดส่งวิญญาณอสูรทั้งหมดไปให้ถึงที่ตระกูล
บันทึกสวรรค์เลย!” เซาหมิงเฟยรีบตอบ อย่างดีใจ เขาไม่กล้าที่
จะปฏิบตั ิกับเนี้ยหลี่เหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ ทั่วไป เพราะเนี้ยห
ลี่คือลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของเขา การขายของให้เนี้ยหลี่หนึ่งครึ่ง
มีมูลค่ามากกว่าที่เขาขายมาตลอดหลาย ๆ ปีเสียอีก
เพราะฉะนั้น เขาจึงต้องปฏิบตั ิต่อเนี้ยหลี่ให้ดเี ข้าไว้ เพราะถ้า
ลูกค้ารายใหญ่แบบนี้หนีหายไปล่ะก็ เขาคงจะต้องมาร้องไห้
เสียใจในภายหลังแน่นอน

“ย่อมได้ ! ท่านผู้น่าตระกูล ท่านผู้อาวุโส เรา


กลับกันเถอะ”

เนี้ยหลี่พดู กับเนี้ยไฮ้และเนี้ยอิ้ง

“ได้ ! ” เนี้ยไฮ้และเนีย้ อิ้งพยักหน้า แต่เดิมแล้ว


เขาทั้งคู่เตรียมที่จะท่าให้เนีย้ หลีป่ ระหลาดใจ แต่กลายเป็นว่า
เขากลับถูกเนี้ยหลี่ท่าให้ตกใจเสียเอง ในตอนนี้หัวใจของพวก
เขายังไม่อาจจะหยุดเต้นรัว ๆ ได้เลย

จะโทษใครได้หล่ะ ? ตระกูลบันทึกสวรรค์มรี ายรับ


ทั้งปีเพียง 1 ล้านเหรียญจิตมาร แต่เนี้ยหลี่เพิ่งจะซื้อหม้ออสูร
ด้วยราคามาก กว่า 100 ล้านเหรียญ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังใช้เงิน
อีกกว่า 60 ล้านเหรียญเพื่อซื้อวิญญาณอสูรในครั้งนีด้ ้วย

หลังจากที่ร่าลา กับเชาหมิงเฟยเรียบร้อยแล้ว
เนี้ยหลี่ เนีย้ ไฮ้ และเนี้ยอิ้งก็ขึ้นรถม้าเพื่อกลับสู่ตระกูลบันทึก
สวรรค์

ในการเดินทางออกมาครั้งนี้ เนี้ยหลี่ เนี้ยไฮ้ และ


เนี้ยอิ้ง ต่างได้รับบางสิ่งบางอย่างกลับไป
เมื่อกลับไปถึงตระกูล เนี้ยไฮ้และเนี้ยอิ้ง ก็ประกาศ
เรียกรวมสมาชิกทุกคนของตระกูลทันที พร้อมกับแจกจ่ายยา
บ่ารุงที่ได้มาจากเนีย้ หลี่ เพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถพัฒนา
ความสามารถได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

เมื่อเนี้ยหลี่กลับมา ภายใต้การจัดการของเนี้ยไฮ้
เนี้ยหลี่และครอบครัวถูกย้ายไปทีบ่ ้านเดี่ยวที่อยู่ตดิ กันกับบ้าน
ของผู้น่าตระกูล เพราะนี่น่าจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สดุ ใน
ตระกูลบันทึกสวรรค์ ซึ่งเนี้ยหลี่กร็ สู้ ึกดีไม่น้อย จากการจัดการ
ของเนี้ยไฮ้ในครั้งนี้

เนี้ยหลี่ทิ้งยาบ่ารุงต่าง ๆ การ์ดอสูรคริสตัล และ


อุปกรณ์อื่น ๆ เอาไว้ในบ้าน เพื่อที่จะให้ครอบครัวของเขาได้
น่าไปใช้ได้อย่างสะดวก เมื่อจัดการกับสิ่งต่าง ๆ เสร็จแล้ว
เนี้ยหลี่ก็กลับเข้าห้องของเขา เพื่อท่าการฝึกฝนต่อไป

ในตอนเย็นนั้นเอง ก็มขี ่าวมาจากสมาคมนักปรุงยา


หยางซินบอกว่ามีกลุม่ นักฆ่าพยายามที่จะปล้นเธอ และ
พยายามที่จะขโมยหม้ออสูรฝันร้าย แต่พวกนักฆ่าเหล่านั้นได้
โดนองค์รักษ์ของเธอฆ่าทิ้งหมดแล้ว

เนี้ยหลี่ท่าหน้ามุย่ พร้อมกับคิดว่า จะมีใครในเมือง


กลอรี่ ที่กล้าท่าเรื่องเช่นนี้ ? มันจะกล้ามากเกินไปแล้ว

จะเป็นไปได้ไหมว่าคนที่พยายามจะขโมยหม้ออสูร
ฝันร้ายจะรู้ประโยชน์ที่แท้จริงของมัน ? เพราะถ้าไม่ พวกมันคง
ไม่กล้าท่าเรื่องเสี่ยงอันตรายแบบนี้แน่ ๆ ซึ่งคงจะมีเพียง
สมาคมทมิฬเท่านั้นที่จะกล้า จะท่าเรื่องแบบนี้ได้ อย่างไรเสีย
ทั้งตระกูลศักดิ์สิทธิ์ และสมาคมทมิฬ จะต้องโดนจัดการอย่าง
เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ !

ถึงแม้ว่าการฝึกฝนของเนี้ยหลี่จะพัฒนาไปมาก แต่
ตอนนี้เขาก็ยังอยู่ในระดับเงิน ซึ่งไม่เพียงพอต่อการที่จะจัดการ
เรื่องต่าง ๆ

ถึงแม้ว่าวิญญาณอสูรเงาปิศาจจะแข็งแกร่งมากใน
การฆ่า แต่กไ็ ม่ควรจะใช้มันอย่างพร่่าเพรื่อ เพราะจะเป็นการ
เปิดเผยข้อมูลมากเกินไป

เนี้ยหลี่นั้นต้องการที่จะรวมร่างกับวิญญาณอสูร
หลาย ๆ ตัว แต่วิธีการบ่าเพ็ญด้วยเทคนิคเทพวิถีฟ้าที่เนี้ยหลี่ใช้
นั้น จะท่าให้เขาสามารถรวมร่างกับวิญญาณอสูรได้เพียง 7
ชนิดเท่านั้น โดยทุกการรวมร่างจะท่าให้ ความแข็งแกร่ง และ
ความรวดเร็วในการฝึกฝนของเนี้ยหลี่ เพิ่มขึ้นอย่างมากตามไป
ด้วย

ซึ่งแน่นอนว่า เนี้ยหลี่จะต้องพิถีพิถีนในการเลือก
วิญญาณอสูรทีเ่ ขาจะรวมร่างด้วยเป็นอย่างมาก หลังจากที่เขา
ได้กลับมาในชาตินี้ เขาจะไม่รวมร่างกับอสูรขยะทั่ว ๆ ไปอีก
แล้ว และยิ่งในตอนนี้ เขามีวิญญาณอสูรเงาปิศาจ เขาจึงคิดที่
จะออกส่ารวจซากโบราณสถานต่าง ๆ เพื่อหาวิญญาณอสูรดี ๆ
ที่เหมาะกับตัวเขา

พร้อมกับในตอนนี้ เมือ่ เขามีหม้ออสูรฝันร้าย เขาก็


มีความคิดใหม่ ๆ ที่จะใช้หม้ออสูรฝันร้ายในการเสริมความ
แข็งแกร่งของวิญญาณอสูร !!
บทที่ 73 - อัตราการเติบโตระดับ พระเจ้า

เนี้ยหลี่ จับจ้อง ที่หม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายใบนั้น หม้อศิลาหยก


ทมิฬใบนี้ มีประกายแสงสีด่าเปล่งออกมาช่างเต็มไปด้วยกลิ่น
อายของความลี้ลับน่าพิศวง ยิ่งนัก

ของสิ่งนี้นั้นเป็นสมบัติโบราณ เขาไม่คาดคิดว่ามัน
จักปรากฏขึ้นจริงๆ ณ ลานประมูลแห่งนั้น ซึ่งเป็นเหตุผลให้
เนี้ยหลี่ ไม่สามารถที่จะสนใจสิ่งใดนอกจากจักต้องซื้อมันให้ได้
ถ้าเนี้ยหลี่พลาดโอกาสที่จะได้หม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายใบนี้ไป
แล้วนั้น เขาคงจักต้องเสียใจมากทีส่ ุดเป็นแน่แท้

เนี้ยหลี่ วางมือของเขาไปที่หม้อดวงจิตอสูรฝัน
ร้าย และถ่ายเทพลังวิญญาณลงไปในหม้อเพียงเล็กน้อย
หม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายก็ทอประกายแสงจัดเรียง
ตัวเป็นรูปลักษณ์บางอย่างออกมาเชื่อมต่อประสานระหว่าง
เนี้ยหลี่กับหม้อใบนั้น บ่งบอกถึงวิธีการใช้งานหม้อจิตอสูรฝัน
ร้ายนั่นเอง ในตอนนี้เนี้ยหลี่เริ่มรูจ้ กั การใช้งานมันเพียงเล็กน้อย
เท่านั้น ยังคงต้องศึกษามันต่อไปในอนาคต

วิธีการหนึ่งในการใช้หม้อจิตอสูรฝันร้าย นั่นก็คือ
จักต้องวางดวงจิตอสูรจ่านวนสิบชนิดลงในหม้อ โดยต้องมี
คุณลักษณะที่เหมือนกัน ลงในหม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายใบนี้นั้น
สามารถปรับแต่งดวงจิตอสูรได้ โดยมีโอกาสที่ปรับแต่งให้ออกม
มาเป็นดวงจิตอสูรที่แข็งแกร่งเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่ายังมี
โอกาสที่จะออกมาล้มเหลวอีกด้วย

เนี้ยหลีไ่ ด้ท่าการซื้อดวงจิตอสูรมามากมายเพื่อให้
สามารถปรับแต่งออกมาเป็นดวงจิตอสูรที่แข็งแกร่งขึ้น
“ข้ามีดวงจิตอสูรชนิดลอบสังหารเรียบร้อยแล้ว
แต่ ข้าต้องการดวงจิตวิญญาณอสูรที่สามารถเผชิญหน้ากับศัตรู
ตรงๆได้” เนี้ยหลี่คิดใคร่ครวญ ในขณะที่ เขานั้นได้ซื้อดวงจิต
อสูรรวมกันมากกว่าสองพันชนิดไปแล้ว เขาเริ่มสงสัยว่า จะ
สามารถสร้างนักรบดวงจิตอสูรที่แข็งแกร่ง ชนิดใดออกมาจาก
พวกมันกันแน่

ทุกๆดวงจิตอสูรล้วนมีความแตกต่างกัน ในเรื่อง
ความแข็งแกร่งเนื่อง จากระดับพลังวิญญาณของมัน โดย
สามารถแบ่งตามระดับได้ดังนี้ เริ่มต้นเรียงจากน้อยไปมากคือ
ระดับทองแดง ระดับเงิน ระดับทอง ระดับทองค่าด่า ระดับ
ต่านาน และระดับที่เหนือกว่านั้น ทั้งหมดนี้คือหมวดหมู่ของ
พวกมันในนครศักดิส์ ิทธิ์แห่งนี้ สิ่งที่คนธรรมดาสามัญนั้นไม่
ทราบก็คือว่า ทุกๆดวงจิตอสูรนั้นมีอัตราพัฒนาการที่แตกต่าง
กัน แม้ว่ามันจักเป็นเพียงดวงจิตอสูรระดับต่่าแต่ถ้ามันมีอัตรา
พัฒนาการที่สูงมาก มันก็มิใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้แต่อย่างใด ใน
การพัฒนาทักษะยุทธ์ทุกอย่างที่มนั มี ว่าสามารถที่จะฆ่าร่าง
ทรงอสูรระดับต่านานลงได้เช่นกัน
ในเวลานี้เขามี ดวงจิตอสูรที่มีอตั ราพัฒนาการ
สูงส่งกว่าดวงจิตอสูรทั่วๆไป ตัวอย่างเช่น ดวงจิตอสูรเงาปิศาจ

เนี้ยหลี่ นั้นเข้าใจถึงความแตกต่างของอัตรา
พัฒนาการซึ่งแบ่งออกได้เป็นห้าระดับด้วยกัน โดยเริ่มจาก
ระดับ ต่า่ ปานกลาง ดี ดีเยี่ยม มหัศจรรย์ และ ระดับพระเจ้า
นั่นเอง ส่าหรับดวงจิตอสูรปิศาจเงาจากการตรวจสอบพบว่า
มันคือดวงจิตอสูรซึ่งมีอัตราพัฒนาการสูงถึงระดับพระเจ้าเลย
ทีเดียว และดูเหมือนว่าพัฒนาการของดวงจิตอสูรปิศาจเงานั้น
ช่างไร้ขีดจ่ากัดเสียยิ่งกระไร

คนสามัญธรรมดาทั่วไป จักไม่รู้ถึงความแตกต่าง
ระหว่างอัตราพัฒนาการของดวงจิตอสูร แต่เนี้ยหลี่นั้นต่าง
ออกไปเขาล่วงรู้ถึงมัน โดยมากมนุษย์นั้นชอบที่จะแยกแยะ
อัตราพัฒนาการของดวงจิตอสูรทีแ่ ตกต่างกันโดยสามารถใช้
คริสตัลวิญาณ ในการทดสอบ นอกเหนือจากวิธีการดังกล่าวมา
นี้นั้น ยังมีวิธีการอย่างอื่นที่แตกต่างกันอีกหลากหลายนัก

ส่าหรับในขณะนี้ การรวมดวงจิตอสูรก็ เป็น


วิธีการที่ลึกซึ้งมาก เนีย้ หลี่ จักต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่าง
สูงในการเลือกดวงจิตอสูรแต่ละตัว ในตอนนี้แม้เขายังไม่
สามารถที่จะสร้างให้เกิดดวงจิตอสูรที่มีอัตราพัฒนาการระดับ
พระเจ้า แต่เขาจักต้องสร้างดวงจิตอสูรที่มีอตั ราพัฒนาการ
ระดับ มหัศจรรย์ ให้ได้เป็นอย่างน้อย จึงจะคุ้มค่ากับการซื้อ
หม้อดวงจิตอสูรมาด้วยราคาที่แพงมากใบนี้มา จักปล่อยทิ้งไว้
ให้เปล่าประโยชน์เสียมิได้

เนี้ยหลี่ ได้เริ่มลงมือโดยการน่าดวงจิตอสูรทั้งสิบ
ชนิดมาทดสอบโดยใช้คริสตอลวิญญาณในการทดสอบ เพื่อดู
ระดับอัตราพัฒนาการของดวงจิตอสูรทั้งสิบชนิด
เมฆาสลายวิญญาณ ดวงจิตอสูร อัตราพัฒนาการ
ระดับต่่า

เมฆาสลายวิญญาณ ดวงจิตอสูร อัตราพัฒนาการ


ระดับต่่า

เมฆาสลายวิญญาณ ดวงจิตอสูร อัตราพัฒนาการ


ระดับต่่า

เมฆาหักจิตวิญาณ ดวงจิตอสูร อัตราพัฒนาการ


ระดับ ปานกลาง ……

เนี้ยหลี่นั้นได้ด่าเนินการทดสอบดวงจิตอสูรทั้งสิบ
อย่างรวดเร็ว พบว่ามีอัตราพัฒนาการระดับต่่าอยู่ถึงเจ็ดตัวและ
มีเพียงสามตัวเท่านั้นที่มีอตั ราพัฒนาการระดับปานกลาง พวก
มันมิสามารถช่วยให้เนีย้ หลีร่ ู้สึกดีได้เลย จึงท่าให้เขานั้นผิดหวัง
เล็กน้อย

“มันยังไม่เพียงพอแน่นอน” อาจเป็นเรื่องค่อนข้าง
ยากเลยทีเดียว ที่เขาจักท่าให้เกิดดวงจิตอสูรทีม่ ีอัตรา
พัฒนาการระดับสูง ซึ่งเกิดจากการผสมระหว่างดวงจิตอสูร
ทั่วไปออกมา! เนี้ยหลี่คิดไตร่ตรองกับตัวเอง ก็เกิดความผิดหวัง
เล็กน้อย การที่เขาจักต้องสร้างดวงจิตอสูรอื่นๆทีม่ ีอัตรา
พัฒนาการระดับพระเจ้าเหมือนกับดวงจิตอสูรปิศาจเงา แม้มัน
เป็นเรื่องที่ยากมากแต่ก็ต้องท่า มิฉะนั้นแล้วเขาจักต้องเดินทาง
เสี่ยงตายครั้งยิ่งใหญ่ ไปยังเมืองกล้วยไม้ในต่านานโบราณเพื่อ
ค้นหาพวกมันนั่นเอง

ดวงจิตอสูรเหล่านี้ลว้ นดูเหมือนสิ่งไร้คา่
ส่าหรับเนี้ยหลี่ แต่ถ้าตกอยู่ในมือคนอื่นจะคิดว่าพวกมันนั้นคือ
สมบัติทสี่ ่าคัญควรค่าแก่การเก็บรักษาเป็นอย่างยิ่งได้เลยทีเดียว
เนี้ยหลี่ โยนดวงจิตอสูรทั้งสิบไปยังหม้อดวงจิตอสูร
ฝันร้าย และแล้วหม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายก็เกิดการท่างาน
เชื่อมต่อประสานกับจิตวิญาณกับเขา

ในชั่วขณะนั้นหม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายได้เริ่ม
เปล่งแสงแพรวพราวเพิ่มขึ้น ประกายแสงเหล่านั้นพวยพุ่ง
ออกมาเป็นเส้นสายเริม่ เคลื่อนย้ายหมุนวนไปรอบๆ ภายใน
หม้อใบนั้น ซึ่งเนี้ยหลี่ นั้นสามารถมองเห็นล่าแสงทั้งสิบสาย
หมุนวนแบบไม่มีหยุด พวกมันค่อยๆรวมตัวกันหนาแน่นขึ้นเป็น
กลุ่มจนท่าให้สายตาของผู้จดจ้องนั้นพร่ามัวเนื่องจากประกาย
แสงที่เจิดจ้านั้น

หลังจากรอประมาณ สิบนาที แสงจากหม้อดวงจิต


อสูรฝันร้ายใบนี้ก็กระจายตัวออกไป พลันปรากฏสิ่งที่ดูเหมือน
ดวงจิตอสูร ซึ่งก่าลังเคลื่อนย้ายหมุนไปรอบๆที่บริเวณก้นหม้อ
ใบนั้น
เนี้ยหลี่ จับดวงจิตอสูรดวงนี้ออกมาดูเหมือนว่า
มันนั้นเป็นดวงจิตอสูรทั่วไป จากนัน้ เขาก็พุ่งตรงไปเพื่อ
ตรวจสอบระดับอัตราพัฒนาการของดวงจิตอสูรในทันที

“เมฆาจิตวิญญาณนัน้ สมบูรณ์ขึ้นเล็กน้อยมีอตั รา
พัฒนาการระดับดี! หม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายในนี้ช่างวิเศษเสียยิ่ง
กระไร! อย่างไรก็ตามดวงจิตอสูรที่มีพัฒนาการระดับดีนั้น ยัง
อยู่อีกไกลจากระดับที่ต้องการนัก” เนี้ยหลีส่ ่ายหน้าไปมา
แสดงออกถึงความไม่ค่อยพอใจ เขาจักมิยอมหยุดอยู่แค่การ
สร้างให้มดี วงจิตอสูรอัตราพัฒนาการระดับดี

อย่างที่ปรากฏในสายตาเขาตอนนี้อย่างแน่นอน
เนี้ยหลี่ วางดวงจิตอสูรอัตราพัฒนาการระดับดีลงข้างๆ จากนั้น
ก็น่าศิลาดวงจิตอสูรอื่นๆอีกจ่านวนสิบชิ้น และเริ่มตรวจสอบ
ระดับของพวกมันในทันที
ดวงจิตอสูร ประเภทนักรบจ่านวนสิบอัน ที่ดสี ุด
เป็นอันดับหนึ่ง ในนั้นก็คือดวงจิตอสูรวัว มันมีอัตราพัฒนาการ
อยู่ในระดับดี

เนี้ยหลี่ ได้ท่าการผสมพวกมันขึ้นอีกครั้งในหม้อ
ดวงจิตอสูรฝันร้ายใบนี้

การปรับแต่งส่าเร็จ!

การปรับแต่งส่าเร็จ!
การปรับแต่งล้มเหลว! ……

โอกาสที่จะเกิดการผิดพลาดค่อนข้างน้อยมาก
ความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์ล้มเหลวนั้นมีเพียงหนึ่งจาก
สิบครั้งโดยมักจักเป็นเช่นนี้อยู่เป็นประจ่า อย่างไรก็ตาม
หลังจากปรับแต่งดวงจิตอสูรไปร่วมหกสิบครั้ง ก็สามารถสร้าง
ดวงจิตอสูรทีด่ ีที่สุดขึ้นมาในหมู่พวกนั้นก็คือ ดวงจิตอสูร
ประเภทนักรบ ที่มีอัตราพัฒนาการในระดับดีเยีย่ ม ซึ่งอัตรานี้
สูงกว่าดวงจิตอสูรอัตราพัฒนาการระดับดี ที่มีอยู่ทั้งหมด

“ยังไม่เพียงพอ” เนี้ยหลีส่ ่ายหน้าของเขาไปมาแสดงอาการไม่


พอใจ ความยากล่าบากในการเพิ่มอัตราพัฒนาการยังคง
ค่อนข้างสูงมาก

อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงมีดวงจิตอสูรจ่านวน
มากมาย ดังนั้นเนีย้ หลี่ จักไม่มีทางยอมแพ้ที่จะปรับแต่งแน่น
นอน ในหมู่ดวงจิตอสูรทั้งสองพัน มีอยู่ราวๆหกสิบก้อน ที่ไม่
ต้องปรับแต่งเพิ่มเติมเพราะว่าพวกมันอยู่ในอัตราพัฒนาการ
ระดับดีเยี่ยมเป็นเรียบร้อยแล้ว มันก็นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว
เมื่อดวงจิตอสูรเหล่านี้นั้นมีความแข็งแกร่ง และอัตรา
พัฒนาการที่ดีเยีย่ มอยู่ในตัวพวกมันเองอยู่แล้ว

หลังจากผ่านไปแล้วสองวัน เนี่ยหลี่ ท่าการ


ปรับแต่งดวงจิตอสูรอย่างไม่หยุดหย่อน จนได้ปรับแต่งพวกดวง
จิตอสูรระดับต่่าและปานกลางจนกระทั่งมีอัตราพัฒนาการอยู่
ในระดับที่ดีจนหมดแล้วนั้น ก็ลงมือน่าดวงจิตอสูรทีม่ ี
พัฒนาการระดับดี มาใช้ในการปรับแต่งจนกระทั้งพวกมัน
เปลี่ยนมาเป็นดวงจิตอสูรอัตราพัฒนาการระดับดีเยี่ยม ตอนนี้
เนี้ยหลี่ มีพวกมันมากกว่าเก้าสิบดวงจิตอสูรที่มีอัตราพัฒนาการ
ในระดับดีเยี่ยมอยู่ในมือแล้ว เขาได้ท่าการปรับแต่งพวกมันให้
เป็นจิตอสูรระดับมหัศจรรย์ต่อไป

เมื่อระดับอัตราพัฒนาการมันสูงขึ้นมาก โอกาสที่
จะล้มเหลวมันก็ยังเพิ่มมากขึ้นตามมาอีกด้วย ในที่สดุ หลังจาก
การขัดเกลาแล้วก็เหลือเพีงจิตอสูรอัตราพัฒนาการระดับ
มหัศจรรย์เพียงแค่ห้าตัว
เนี้ยหลี่ จดจ้องที่ดวงจิตอสูรอัตราพัฒนาการระดับ
มหัศจรรย์ทั้งห้าตัวนั้นเขายังไม่พอใจนัก ถ้าเขามีพวกมันซัก สิบ
ดวงจิตอสูรอัตราพัฒนาการระดับมหัศจรรย์ เขามีโอกาส
สามารถที่จะปรับแต่งให้พวกมันอย่างน้อยหนึ่งตน ให้กลายมา
เป็นอัตราพัฒนาการระดับพระเจ้า ซึ่งมีอัตราความล้มเหลวทีส่ ูง
มากจริงๆ ถ้าปรับแต่งดวงจิตอสูรอัตราพัฒนาการระดับ
มหัศจรรย์ในขณะนี้ก็จะมีความส่าเร็จน้อยมาก โดยมีเพียงแค่
ครึ่งเดียวเท่านั้นในการที่มันจะเปลีย่ นเป็นดวงจิตอสูรอัตรา
พัฒนาการดับพระเจ้านั้น ถ้ามันส่าเร็จคงเป็นเรื่องที่ดีมากมายก็
เป็นแน่ แต่ว่ามันมีโอกาสเพียงไม่ถงึ หนึ่งในห้าที่จะประสบ
ความส่าเร็จได้

สมาคมนักปรุงยาได้สง่ เงินก่าไรจากการขายยา
ทิพย์มากมายมหาศาลมายังบัญชีของ เนี้ยหลี่ ในแต่ละรอบจัก
มีจ่านวนเงินถึงประมาณหนึ่งพันล้านเหรียญจิตรมาร
หลังจากที่เนี้ยหลี่คดิ ใคร่ครวญ เกี่ยวกับมันเป็นที่
เรียบร้อยแล้ว เนีย้ หลี่กไ็ ปเข้าพบเนี้ยไฮ่และเนี้ยอิ้ง “ท่านผู้
อาวุโสโปรดช่วยข้าซื้อดวงจิตอสูรประเภทนักรบครั้ง ใหญ่แก่ข้า
กรุณาน่ามาให้มากมายที่สดุ เท่าทีจ่ ักเป็นไปได้ ส่าหรับทุกๆดวง
จิตอสูรที่น่ามาให้ ข้าจักให้ของรางวัลเล็กๆน้อยๆตอบแทนแก่
พวกท่าน”

รางวัลจากเนีย้ หลี่ นัน้ ค่อนข้างที่จะมากมาย


มหาศาลส่าหรับพวกเขาอย่างแน่นอน เนี้ยไฮ่และเนี้ยอิ้งจึงเร่ง
รีบท่าหน้าที่เขาอย่างร้อนรน โดยการออกไปหาผู้ประกอบการ
หลายรายเท่าที่เขาสามารถที่จักหาได้อย่างสุดชีวิต หลังจากนั้น
ก็ส่งเงินไปให้อีกแค่ไม่กี่ร้อยล้านเหรียญจิตมาร เนี้ยหลี่ก็ได้รับ
ดวงจิตอสูร ประเภทนักรับ เป็นจ่านวนรวมทั้งสิ้นถึงหนึ่งแสน
ตน หลังจากนั้นจึงได้เริ่มใช้หม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายปรับแต่งดวง
จิตอสูรต่อไป

กับจ่านวนครั้งในการปรับแต่งที่เพิม่ ขึ้นอย่าง
มากมายมหาศาลท่าให้เกิดเหตุการณ์ที่เนีย้ หลีไ่ ด้ปลดปล่อย
หม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายโดยบังเอิญ ดูเหมือนว่ามันจะมี
พัฒนาการบางอย่างท่าให้ รูปลักษณ์ของมันเริม่ มีการ
เปลี่ยนแปลง กลับกลายมาเป็นรูปแบบดั้งเดิมของหม้อใบนี้ มัน
ดูสุกใสมาก จนเขาสามารถแลเห็นกระบวนการท่างานของมัน
ในขณะที่ดวงจิตอสูรก่าลังประสานกัน .

เนี้ยหลี่ นั้นสามารถรูส้ ึกได้ทันทีว่าหม้อดวงจิต


อสูรฝันร้ายใบนี้ คงได้ดูดซับพลังวิญาณทีละน้อยจากการ
ปรับแต่งดวงจิตอสูร ในเวลานี้นั้นหม้อดวงจิตอสูรฝันร้ายใบนี้
กลายเป็นหม้อที่ช่างมีประสิทธิภาพมากมายเป็นอย่างยิ่ง
บทที่ 74 - อสูรเขี้ยวหมีแพนด้า

ส่าหรับห้าวันถัดจากนี้ไป เนี้ยหลี่ ได้ท่าการหลอม


รวมจิตอสูรอย่างขะมักเขม้น

โดยเนี้ยหลีไ่ ด้รับจิตอสูรระดับมีพรสวรรค์มาทั้งสิ้น
60 ดวงภายในช่วงระยะเวลานั้น

‘จิตอสูรสายต่อสู้อัตราเติบโตระดับมหัศจรรย์จ่านวน
60 ก้อน พวกมันคงหลอมรวมได้อะไรออกมาบ้างไม่มากก็น้อย
ล่ะ อย่างน้อยคงให้จิตอสูรสายต่อสู้ที่มีอัตราเติบโตระดับพระ
เจ้าสัก 1 อัน ?’ เนี้ยหลี่คิดอยูภ่ ายในใจของเขา ในขณะที่เริ่ม
หลอมรวมจิตอสูรต่อไป

เนี้ยหลี่หย่อนจิตอสูรอัตราเติบโตระดับมหัศจรรย์ 10
อันลงไป ในหม้อหยกอสูรแห่งฝันร้ายและเริ่มกระบวนการ
หลอมรวม

แสงหนึ่งได้สว่างจ้าขึ้นมา เนี้ยหลี่เห็นถึงแสงของสีสันต่าง ๆ
ที่สว่างสุกใสอยูภ่ ายในหม้ออสูรใบนี้

โดยจิตอสูรทุกชนิดต่างมีสีสันที่แตกต่างกันเป็น
เอกลักษณ์ของตัวเอง ขณะนี้สสี ันเหล่านั้นค่อย ๆ หลอมรวมกัน
เป็นเนื้อเดียวในท้ายที่สุด

‘ข้านั้นสงสัยเสียจริงว่าจิตรอสูรตนแรกที่หลอมรวม
ส่าเร็จนั้นจะมีหน้าตาออกมาเป็นเช่นไร?’ เขาจ้องมองหม้ออสูร
แห่งฝันร้ายอย่างไม่กระพริบตา

ขณะที่เวลาก่าลังผ่านไป ทันใดกลุ่มของจิตอสูรที่
ก่าลังหลอมรวมกันอยูภ่ ายในหม้ออสูรฝันร้ายได้ถูกท่าลายและ
แตกออกเป็นเสีย่ ง ๆ

“ล้มเหลว ...” เนี้ยหลี่อา้ ปากกว้างพร้อมท่าหน้าตา


บูดเบี้ยว เขาก่าลังรับรู้รสชาติของผิดหวังเป็นทีส่ ุด ความ
ล้มเหลวครั้งนี้ของเขามันเทียบเท่าได้กับการสูญเสียเงินจ่านวน
10 ล้านเหรียญจิตมารไปเปล่า ๆ โดยมิได้อะไรกลับมา แม้ว่า
ตัวของเขาจะร่่ารวยมากแต่ก็ไม่ได้เพิ่มโอกาสของความส่าเร็จ
ในการหลอมรวมแต่ละครั้งแต่อย่างใด
มีโอกาสอีกเพียงแค่ 6 ครั้งเท่านั้น การล้มเหลวตั้งแต่
ครั้งแรกมันท่าให้รสู้ ึกน่าหดหู่ใจยิ่งนัก

เนี้ยหลีส่ ูดลมหายใจลึกเข้าเต็มปอด ใส่จิตอสูรอัตรา


เติบโตระดับมหัศจรรย์อีก 10 อันลงไปในหม้อจิตอสูรแห่งฝัน
ร้าย และอีกครั้งเริม่ เคลื่อนพลังหม้ออสูรและท่าการหลอมรวม
ต่อ

หลังจากผ่านไปราว ๆ สิบนาที ‘บูม!’ เสียงหนึ่งได้


ออกมาจากหม้อจิตอสูรฝันร้าย มันได้ลม้ เหลวลงอีกครั้ง

“ล้มเหลวอีกแล้ว...” เนี้ยรู้สึกราวกับเลือดภายในตัว
เขาก่าลังเดือดปุด ๆ เงินจ่านวน 10 ล้านเหรียญจิตมารของ
เขาได้สูญไปอีกหลังจากผ่านไปเพียงชั่วครู่

เขาเริ่มรู้สึกสงสัยว่าการหลอมรวมจิตอสูรให้ได้อัตรา
เติบโตระดับพระเจ้าสักชิ้นท่าไมมันช่างยากเย็นถึงเพียงนี้กัน
แม้ว่าเขาจะรู้สึกเศร้าใจแต่เขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้ ด้วยความที่เขา
มีเงินมหาศาลท่าให้การสูญเสียเงินจ่านวนเพียงเล็กน้อยเช่นนี้
ไม่ส่งผลแต่อย่างใด

เนี้ยหลี่โยน จิตอสูรอัตราเติบโตระดับมหัศจรรย์ทั้ง
สิบลงไป และเริ่มกระบวนการหลอมรวมครั้งทีส่ าม

จิตอสูรทั้งสิบตกไปอยู่ทกี่ ้นหม้อจิตอสูรแห่งฝันร้าย
ก่าลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยจิตอสูรค่อย ๆ
หลอมรวมกัน แสงหนึ่งได้สว่างจ้าออกมา พลังงานจิตอสูรคลื่น
แล้วคลื่นเล่าก่าลังแผ่ออกมาจากหม้อจิตอสูรนี้ หลังจากสัมผัส
ได้ถึงพลังวิญญาณอันยิ่งใหญ่ ทุกรูขุมขนทั่วร่างของเนี้ยหลี่เริ่ม
เปิดออก ศูนย์รวมพลังวิญญาณของเขาได้ดดู ซับพลังวิญญาณที่
ก่าลังแผ่ออกมาจากหม้อใบนี้ และตัวเขารูส้ ึกได้ถึงความอบอุ่น
แสนสบายขณะดูดซับ พวกมันเข้าไป

จิตอสูรอัตราเติบโตระดับมหัศจรรย์ยังคงท่าการ
หลอมรวมกันอยู่ไม่ยอมหยุด ในท้ายที่สุด พวกมันก็หลอมรวม
จนเป็นเนื้อเดียวกันและได้ออกมาเป็นจิตอสูรหนึ่งตน

“ส่าเร็จ!” เขามองดูจติ อสูรที่วางนอนอยู่ใต้ก้นหม้อ


จิตอสูรแห่งฝันร้าย เนี้ยหลี่รสู้ ึกตื่นเต้นอย่างหยุดไม่ได้ เขาค่อย
ๆ น่าจิตอสูรอันนี้ไปยังคริสตัลอสูรเพื่อท่าการตรวจสอบมัน

จิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้า!

หลังจากท่าการทดสอบอัตราเติบโตด้วยคริสตัลอสูร
เนี้ยหลีร่ ู้สึกมีความสุขยิ่งนัก หลังจากล้มเหลวติดต่อกันมาถึง
สองครา

ในท้ายที่สุดเขาก็ได้มาซึง่ จิตอสูรที่มีอตั ราเติบโต


ระดับพระเจ้า!

จิตอสูรตนนีค้ ือ พยัคฆ์เสือแห่งห้วงอเวจี มันเป็น


ประเภทสายต่อสู้ที่มาพร้อมก่าลังรบอันแข็งแกร่ง จิตอสูรตนนี้
มีรูปร่างคล้าย พยัคฆ์เสืออเวจี(ทั่ว ๆ ไป) ตนหนึ่ง แต่สิ่งที่ต่าง
ออกไปของมันก็คือการที่ทั่วทั้งร่างของมันได้เปล่งแสงราวกับ
แสงสะท้อนของโลหะ และที่บนหัวของมันมีเขาอันแหลมคมอยู่
คู่หนึ่ง มันยื่นออกมาอย่างน่าสะพรึงและทั่วทั้งร่างของมันก็เต็ม
ไปด้วยหนามแหลม ๆ ปกคลุมอยู่

เจ้านี่มันยังคงใช่ พยัคฆ์เสือแห่งห้วงอเวจีอยู่หรือไม่?

เนี้ยรู้สึกราวกับหยุดหายใจไปชั่งขณะ จิตอสูรตนนี้
เป็นผลที่ออกมาจากการหลอมรวมจิตอสูรที่แตกต่างกันทั้งสิบ
ชนิด ดังนั้นคุณลักษณะของมันจะมีความแตกต่างไปจากจิต
อสูรโดยทั่วไป และมีความแข็งแกร่งมากกว่าด้วยเช่นกัน

เท่าที่เขารู้พยัคฆ์เสืออเวจีนี้มีความแข็งแกร่งมากใน
จิตอสูรประเภทสายต่อสู้ แต่หลังจากที่มันได้ถูกเปลีย่ น
รูปลักษณ์ไปมาก เนี้ยหลี่ก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าความสามารถ
พิเศษอื่นของมันที่ได้เพิ่มขึ้นจะเป็นสิ่งใดกัน

เนี้ยหลี่เก็บจิตอสูรพยัคฆ์เสืออเวจี และเริ่มหลอมรวม
จิตอสูรต่อไป ตอนนีเ้ ขามีโอกาสเหลืออยู่อีกสามครั้ง

ส่าหรับการหลอมรวมอีกสามครั้งถัดไปนั้น โชคของ
เนี้ยหลี่ค่อนข้างดี ทีเดียว จากโอกาสทั้งสามครั้งนั้น สองครั้งได้
ประสบผลส่าเร็จ สิ่งหนึ่งที่ออกมานั้นคือ เสือดาวสีชาดท่อง
นภา ส่วนอีกครั้งได้ออกมาเป็น เขีย้ วอสูรแพนด้า?

จิตอสูรที่มีอตั ราการเติบโตระดับพระเจ้าอันทีส่ าม
ออกมาเป็น อสูรเขี้ยวแพนด้า จริง ๆ เนี้ยรูส้ ึกเต็มไปด้วยความ
งุนงงขณะมองไปที่มัน เจ้าแพนด้าตัวนี้มันมีรปู ร่างอ้วนกลม(ขน
ฟู น่ารักยิ่งนัก) ขนสีขาวและสีด่าต่างปกคลุมอยู่ทั่วตัวของมัน
ดูจากรูปร่างของมันแล้วมันไม่น่าจะท่าอันตรายแก่ผู้ใดได้ เขา
สงสัยว่ามันยังคงเป็นจิตอสูรที่มีอตั ราเติบโตระดับพระเจ้าจริง
ๆ งั้นหรือ?

เนี้ยหลี่แทบจะไม่สามารถเชื่อเรื่องเหล่านีไ้ ด้ ท่าให้
เขาต้องตรวจสอบอัตราการเติบโตของจิตอสูรตนนี้อีกครั้ง
หลังจากการทดสอบอีกครั้งท่าให้เขารู้ว่ามันมีอัตราเติบโตระดับ
พระเจ้าเช่นนั้นจริง ๆ

ไอ้เขี้ยวแพนด้ามันเป็นจิตอสูรชั้นต่่าชนิดหนึ่ง มัน
แทบจะไม่มีความสามารถในการต่อสู้เลย ท่าให้พวกคนที่เลือก
ผสานร่างกับจิตอสูรตนนีม้ ีน้อยเสียจนกระทั่งสามารถนับเป็น
รายคนได้เลยทีเดียว แต่สิ่งที่ท่าให้เนี้ยหลีย่ ังคงติดใจคือเมื่อ
หม้อจิตอสูรแห่งฝันร้ายได้เริ่มต้นท่าการหลอมรวม ตาม
หลักการทั่วไปแล้วจิตอสูรที่แข็งแกร่งกว่าจะดูดกลืนจิตอสูรที่
อ่อนแอกว่า แล้วจึงหลอมรวมกลายเป็นรูปลักษณ์ที่ทรงพลัง
ของจิตอสูร ยกตัวอย่างเช่น พยัคฆ์เสืออเวจีและเสือดาวสีชาติ
ท่องนภา จิตอสูรทั้งสองต่างก็มคี วามแข็งแกร่งยิ่งนัก เป็นไปได้
เช่นไรที่ไอ้เขี้ยวแพนด้าสามารถดูดกลืนจิตอสูรทั้งหมดและเป็น
เพียงจิตอสูรสุดท้ายที่เหลือรอด?

“ช่างแปลกยิ่งนัก” เนี้ยหลี่ช่วยไม่ได้ที่จะรูส้ ึกลังเลใจ


เขาตรวจสอบไอ้เขี้ยวแพนด้าอย่างระมัดระวัง

ไม่ว่าทั้งพยัคฆ์เสือแห่งห้วงอเวจีและเสือดาวสีชาติ
ท่องนภาต่างก็ได้ดูดกลืนเหล่าจิตอสูรอื่น ๆ เข้ามา ท่าให้พวก
มันมีลักษณะพิเศษเปลีย่ นไปบนร่างของพวกมัน อย่างเช่นเขา
และหนามของพยัคฆ์เสือแห่งห้วงอเวจีและปีกที่ยื่นออกมาของ
เสือดาวสีชาด แต่ทว่าไอ้เขี้ยวแพนด้าตัวนี้ไม่มรี ูปร่างที่
เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย มันหมายความว่าไอ้เขี้ยวแพนด้านี้เป็นจิต
อสูรที่มีคณ
ุ ลักษณะที่แข็งแกร่งที่สดุ แล้วเช่นนั้นหรือ?

เนี้ยหลี่รู้ถึงคุณลักษณะหลัก ๆ ของจิตอสูรทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ไอ้เขี้ยวแพนด้าตนนีท้ ่าให้เนี้ยหลีส่ ับสน ไอ้เขี้ยว
แพนด้าเป็นจิตของอสูรสัตว์ป่าที่เต็มไปด้วยความอ่อนแอและ
แทบจะไม่มีใครต้องการรวมร่างกับมัน

สามารถเป็นไปได้ไหมว่าไอ้เขี้ยวแพนด้านีม้ ีความ
พิเศษไม่ธรรมดาไปตามรูปลักษ์ภายนอกของตัวมัน? เนี้ยหลีค่ ิด
ค่านึงอย่างเงียบ ๆ

ไม่นานเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังบางอย่าง หลังจากพึ่ง
สัมผัสถึงพลังอย่างแผ่วเบาของอสูรเขี้ยวแพนด้า เขาตระหนัก
ได้ว่ามีพลังงานที่แตกต่างกันอยู่สองขั้วที่ไหลเวียนและเติมเต็ม
ซึ่งกันและกัน จนกลายเป็นรูปแบบขอ'ความสมดุลอย่างน่า
ประหลาดระหว่างพลังงานทั้งสองชนิดนี้

ความสมดุลของพลังหยินและพลังหยาง! นี่เป็น
รูปแบบที่สมบูรณ์ที่สุดแล้วของธรรมชาติ
และยังคงมีแสงหนึ่งที่ซอ่ นอยู่ภายในดวงตาของอสูร
เขี้ยวแพนด้า เหมือนกับว่ามันยังมีจิตส่านึกหลงเหลืออยู่
เล็กน้อย สิ่งนี้ท่าให้มันแตกต่างจากจิตอสูรทั่วไป เพราะเมื่อจิต
อสูรทั่วไปถูกสังหารลงจิตส่านึกของมันก็จะหลุดตามออกไป
เช่นกัน

“ช่างน่าประหลาดใจเสียจริง! ข้าตัดสินใจได้แล้ว! เจ้า


จิตอสูรตนนี้จะเป็นจิตอสูรดวงที่สองของข้า!” เนี้ยหลี่ยิ้มด้วย
ความสุข เขาได้เก็บคริสตัลของจิตอสูรพยัคฆ์เสือแห่งห้วงอเวจี
และเสือดาวสีชาดท่องนภา การมีเพียงจิตอสูรประเภทสายต่อสู้
เพียงจิตเดียวก็เพียงพอแล้วส่าหรับคนคนเดียว การมีมากกว่า
หนึ่งนั้นเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

‘ตูเซอและลู่เพรียว พวกเขาทั้งสองเหมาะที่จะรวม
ร่างกับจิตอสูรประเภทสายต่อสู้ ข้าจะให้จิตอสูรอัตราเติบโต
ระดับพระเจ้าเป็นของขวัญแก่พวกเขาทั้งสอง’ และส่าหรับ
เอียจื้อหวิ๋น เสีย่ วหนิงเอ๋อและพรรคพวกที่เหลือ เนี้ยหลี่จะ
จัดหาจิตอสูรบางชนิดที่เข้ากันได้กบั ธาตุภายในของพวกเขา
ต้องไม่ลมื ว่า เอียจื้อหวิ๋น นั้นเหมาะสมที่จะรวมร่างกับจิตอสูร
ธาตุน้่าแข็งและเสี่ยวหนิงเอ๋อนั้นเหมาะสมที่จะรวมร่างกับจิต
อสูรธาตุสายฟ้า
จิตอสูรธาตุน้่าแข็งและจิตอสูรธาตุสายฟ้ามีความยาก
กว่ามากที่จะหลอมรวมได้ถา้ เทียบระหว่างเหล่าจิตอสูรประเภท
สายต่อสู้ด้วยกัน แต่ทั้งนี้เนี้ยหลีม่ ีเงินมากเกินพอ ดังนั้นเขาจะ
ค่อยพยายามสร้างพวกมันอย่างช้า ๆ จนกว่าจะได้พวกมัน

เขานั่งลงในท่าขัดสมาด และเริ่มต้นรวมร่างกับไอ้
เขี้ยวแพนด้า
เขาค่อย ๆ ดูดซับจิตอสูรเข้าไปในเขตแดนวิญญาณ
ของเขาอย่างช้า ๆ และเริม่ การรวมร่างกับมัน
บทที่ 75 - ทักษะการต่อสู้

หลังจากที่ อสูรเขีย้ วแพนด้า เข้ามาในเขตแดน


วิญญาณของเนี่ยหลี่ มันเข้ายึดครองพื้นที่ และรักษา
ระยะห่างจากจิตอสูรแห่งเงา

เหมือนว่าจิตอสูรแห่งเงาของเนี่ยหลี่จะกลัว
อสูรเขี้ยวแพนด้า และ ยังนิ่งอยู่ อสูรเขี้ยวแพนด้า เหมือนจะ
รับรู้ถึงการมีอยู่ของจิตอสูรเงาปิศาจ แต่ก็ไม่ได้ เข้าใกล้มัน

ทั้งสองต่างรักษาที่มั่นของตนเอาไว้โดยไม่ยอม
ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดล่วงล้่า

หลังจากอสูรเขี้ยวแพนด้า ได้รวมเข้ากับเขต
แดนวิญญานเนี่ยหลี่ ที่ว่างระหว่างทั้งสอง ก็ไม่ได้ชัดเจนอะไร
มากนัก ทันใดนั้น เนี่ยหนี่ก็สมั ผัสได้ถึงภาพบางอย่างในใจ
รูปร่างลักษณะอัน อ้วนๆกลมๆ เจ้าตัวๆนี้มันช่างดูน่ารัก อสูร
เขี้ยวแพนด้า ก่าลังแทะไม้ไผ่ขณะที่ปีนต้นไม้อย่างงุ่มง่าม(ช้าๆ
เรื่อยๆ) ตุ๊บ อสูรเขี้ยวแพนด้าตกลงไปบนพื้น

ภาพเหล่านี้คือ ภาพของในอสูรเขี้ยวแพนด้าใน
อดีต เนี่ยหลี่ไม่สามารถหุบยิ้มได้ ไอ้ตัวนี้มันช่างน่ารักจริงๆ

หลังจาก สองชั่วโมงคร่าวๆ การรวมจิตระหว่าง


เนี่ยหลี่กับอสูรเขี้ยวแพนด้า ก็เสร็จสมบูรณ์ โดยหลังจากรวม
กับอสูรเขี้ยวแพนด้า จิตอสูรทั้งสองเริ่มส่งผลกระทบซึ่งกันและ
กัน และส่งผลต่อเนี่ยหลี่ในเขตแดนวิญญาณใหญ่หลวงนัก เขต
แดนวิญญาณของเนี่ยหลี่ ขยายตัวอย่างบ้าระห่่า การขยายตัว
ครั้งนี้ทวีคูณ ในขณะที่วญิ ญาณของเขาก่าลังขยายขึ้นนั้น พลัง
วิญญาณของเขาก็พุ่งพล่านขึ้น
พลังวิญญาณของเนี่ยหลี่ เปลี่ยนสภาพเป็น
สองกระแส ทั้งสองกระแสของพลังวิญญาณไหลไปรอบๆอย่าง
ควบคุมไม่ได้ แต่ในเวลาเดียวกัน พวกมันก็เติมเต็มซึ่งกันและ
กัน พลังวิญญานที่สูงส่งก่าลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

บูมม!

เนี่ยหลี่รสู้ ึกว่า พลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้น


อย่างมาก

พอใช้คริสตัลวิญญาณทดสอบ เนี่ยหลีต่ ระหนัก


ได้ว่าพลังวิญญาณของเขามีมากถึง 2000 แล้ว เขาได้เข้ามาสู่
ในระดับ 2 ดาวเงินแล้ว หลังจากรวมจิตกับอสูรเขี้ยวแพนด้า
พละก่าลังของเนี่ยหลี่ ก็ได้ข้ามไปอีกระดับหนึ่ง
ทั้งหมดนี้อยู่ในความคาดหมายของเนี่ยหลี่ ที่
เขากังวลไม่ใช่ เรื่องที่เขามีพลังเพิม่ ขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ กังวล
เกี่ยวกับ ความสามารถของอสูรเขีย้ วแพนด้า

เขารูส้ ึกได้ถึงความสามารถพิเศษของอสูรเขี้ยว
แพนด้า เนี่ยหลี่ลืมตาขึ้น แล้วรีบกระโจนจากห้องและวิ่งตรงไป
ที่ด้านหลังภูเขา

ณ ด้านหลังภูเขา

ป่าเล็กๆตั้งอยู่ในด้านหลังภูเขา มันเงียบสงบ
และห่างไกลผู้คน ไม่ค่อยมีใครมาในที่แห่งนี้มากนัก เพราะเหตุ
นี้ เนี่ยหลี่จึงได้เตรียมที่จะทดสอบความสามารถของอสูรเขี้ยว
แพนด้า

เสียงค่ารามดังขึ้น โรวว!

เนี่ยหลี่ค่ารามด้วยความเกรีย้ วกราด และร่าง


ของเราเริ่มขยายขึ้น เขารวมเข้ากับอสูรเขี้ยวแพนด้าอย่าง
รวดเร็ว กล้ามเนื้อของเขาได้ขยายขึ้น ร่างของเขาถูกปกคลุม
ไปด้วยขนสีด่าและขาว แขนขาของเขาหนาขึ้น(ใหญ่) และมีกรง
เล็บที่แหลมคมงอกออกมาจากนิ้วเขา

หมัดสายฟ้า!

ร่างของเนี่ยหลีเ่ ต็มไปด้วยพลังที่ไม่สามารถ
จินตนาการได้ และหวดอุ้งมือไปกระแทกที่ต้นไม้ใหญ่

บูมม!

ต้นไม้ที่ใหญ่เท่ากับร่างของคนตัวสูงใหญ่ก่าย่า
แหลกไปในพริบตา

มันทรงพลังจริงๆ เนีย่ หลี่เลิกคิ้วของเขาอย่างตะลึง


พลังของอสูรเขี้ยวแพนด้า มันเหนือความคาดหมาย
จริงๆ นอกจากนี้ เนี่ยหลี่ยังมีทักษะในการต่อสู้อีก ไม่ต้องพูด
ถึงระดับเงิน เลย แม้แต่ระดับผูเ้ ชียวชาญยศทองก็ไม่สามารถ
ต่อกรเขาได้

นอกเหนือจากฝ่ามือพิฆาตแล้วเนี่ยหลี่ยังสงสัย
ถึงความสามารถในการต่อสู้อื่นๆอีก

เนี่ยหลี่พ่นลมหายใจของความโกรธออกมา ใช้
พลังของเขี้ยวปิศาจแพนด้า บูมม! อาณาเขตอันทรงพลังได้
ปรากฏขึ้นรอบๆเขา โดยมีระยะโดยรอบประมาณ 5 เมตร
เนี่ยหลีส่ ามารถควบคุมแรงโน้มถ่วงในระยะ 5 เมตรได้

สนามแรงโน้มถ่วง!!

มันเป็นความสามารถในการต่อสู้ที่หาได้ยากยิ่ง
นัก

เนี่ยหลี่ดีใจมาก เขาไม่คาดคิดมาก่อนเลย ว่า


อสูรเขี้ยวแพนด้าจะมีเช่นทักษะพิเศษในการต่อสู้ สนามแรง
โน้มถ่วง!! มันยอดเยี่ยมมากอีกทั้งก็ยากที่จะป้องกันในการต่อสู้
เนี่ยหลีร่ ู้สึกว่า อสูรเขีย้ วแพนด้านีน้ ี้ช่างดีนัก เขาคิดถูกแล้วที่
เลือกมัน

เขายังคงทดสอบความสามารถของอสูรเขี้ยว
แพนด้า ต่อไป เนื่องจากเนีย่ หลีย่ ังไม่ค่อยมีความรู้อะไรเกี่ยวกับ
จิตวิญญานอสูรเขี้ยวแพนด้าอะไรมากมาย ยังมีความสามารถ
อีกเยอะแยะที่เขาไม่สามารถจะดึงมาใช้ได้ อย่างไรก็ตาม
หลังจากรวมกับอสูรเขี้ยวแพนด้า ความทรงจ่าของอสูรเขี้ยว
แพนด้าก็ไหลเข้ามาในเนี่ยหลี่ ความสามารถต่างๆก็ถูกค้นพบ
ไปเรื่อยๆเกือบจะทั้งหมด

ยังมีความสามารถในการต่อสู้ทสี่ าม ! เนี่ยหลี่
ค่ารามเหมือนสัตว์ ในปากมีลูกกลมๆ ขาว ด่า 2ลูก เมื่อพ่นลูก
บอลทั้ง2ลูกออกมา มันลอยโค้งๆไปมาในอากาศ และลูกบอล
ทั้งสองลอยไปตกบนพื้นที่ โล่งๆทีห่ นึ่งคนละต่าแหน่ง
บูมม!

ลูกบอลทั้ง 2 ระเบิดออกมา เกิดแสงสว่างจ้าไป


ทั่วและมันได้ระเบิดคลื่นพลังที่น่ากลัวออกมาในรัศมี 10 เมตร
จากจุดที่มันตกหลังจากนั้นมันได้ทงิ้ หลุมขนาดใหญ่ไว้ 2 หลุม
ซึ่ง หิน ดิน บริเวณนั้นถูกบดขยี้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ตอนนี้ แม้แต่เนีย่ หลี่ ก็ถึงกับตะลึงกับพลังที่


แข็งแกร่งนี้

ระเบิดหยินหยาง!
เนี่ยหลี่ จ่าได้ว่าได้ยินความสามารถในการต่อสู้
เช่นนี้มาก่อน เมื่อพ่นพลังออกจากร่าง มันจะถล่มศัตรูด้วยการ
ระเบิด อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วระเบิดพลัง จะมีเพียง1ลูก
แต่ระเบิดพลังของเนี่ยหลี่กลับมีถึง 2 ลูก

ข้าจะเรียกมันว่า ระเบิดหยินหยาง! เนี่ยหลี่คดิ


ครู่นึง ระเบิดทั้ง2 นี้ น่ากลัวยิ่งนัก เนี่ยหลีร่ ู้สึกถึงข้อจ่ากัดของ
ร่ายกายในขณะใช้มัน ระเบิดหยินหยางนี้ ไม่สามารถน่ามาใช้
บ่อยได้มากเกินไป ถ้าใช้มากเกินกว่า 5 ครั้งในคราวเดียวจะท่า
ให้สูญเสียพลังเกินไปจนแทบหมดแรง

สนามแรงโน้มถ่วง และ ระเบิดหยินหยาง นี้มัน


เป็นท่าไม้ตายลับสุดยอดทั้งสิ้น

เนี่ยหลี่รสู้ ึกว่า อสูรเขี้ยวแพนด้า นี้ยังมี


ความสามารถอีกเยอะ ที่ยังไม่ได้ถกู ค้นพบ เขาเชื่อว่าในอนาคต
ถ้าเขาและอสูรเขี้ยวแพนด้ามีพลังมากขึ้น เขาก็จะสามารถใช้
ทักษะได้มากขึ้นเช่นกัน

ไม่เลว!

แม้ว่าเนี่ยหลี่จะมีประสบการณ์เกี่ยวกับจิตอสูร
อยู่มิน้อย แต่กับ อสูรเขี้ยวแพนด้านี้ก็ยังมีน้อยยิ่งนัก ทั้งจิต
อสูรแห่งเงา และ แพนด้าเขี้ยวปิศาจ ต่างก็มีระดับการ
เจริญเติบโตของวิญญาณระดับพระเจ้า ถ้ามีใครซักคนรูเ้ ข้า หึหึ
พวกนั้นคงจะบ้ามิใช่น้อย คงจะแย่งกันแทบเป็นแทบตายเพื่อ
พวกมันซักตัวเป็นแน่

เนี่ยหลี่ คืนร่าง และ เรียกอสูรเขี้ยวแพนด้า


กลับเข้าสู่เขตแดนวิญญาณของเขา อสูรเขี้ยวแพนด้าในตอนนี้
อยู่แค่ระดับ ทองแดง เนี่ยหลี่เริ่มให้อาหารมัน(ให้ด้วยพลัง
วิญญาน)อย่างต่อเนื่อง เมื่อพลังใกล้หมดก็ถูกเติมด้วยยาทิพย์
ไปต่อเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องแบบไม่รู้จบ ในตอนนี้ อสูรเขี้ยว
แพนด้าในเขตแดนวิญญานของเนีย่ หลี่ อ้าปากรับพลังวิญญาน
ที่ก่าลังถล่มเข้ามา

โดยทั่วไปแล้ว ร่างทรงอสูรไม่นยิ มที่จะใช้พลัง


วิญญานจ่านวนมาก ให้อาหารกับจิตอสูร แม้ว่าจิตอสูรพวกนั้น
จะเป็นส่วนหนึ่งของพลังพวกเขา แต่ว่าจิตอสูรมันสามารถ
เปลี่ยนได้ การให้อาหารจิตอสูร ไม่ได้เพิ่มความแข็งแกร่งพวก
เขา สู้เพิ่มให้ตัวเองแล้วเปลี่ยนจิตอสูรที่แข็งแกร่งกว่า จะดี
มากกว่า

แต่เนี่ยหลี่ ไม่คิดเช่นนั้น ทั้ง อสูรเขี้ยวแพนด้า


และ จิตอสูรแห่งเงา เขาก็พร้อมทีจ่ ะฝึกพวกมันด้วยตัวของเขา
เอง
ในขณะที่ก่าลังดูดซับพลังวิญญาณอย่าง
ต่อเนื่อง พลังของอสูรเขี้ยวแพนด้า ก็เพิ่มเข้าสูร่ ะดับเงิน

หลังจากเข้าสู่ระดับเงิน ความเร็วในการดูดซับ
ของ แพนด้าเชี้ยวปิศาจก็เริม่ ช้าลงๆ จนอยู่ในระดับที่คงที่
เนื่องจากมีความสัมพันธ์กันอย่างมากระหว่างความแข็งแกร่ง
ของร่างทรงอสูรและความแข็งแกร่งของจิตอสูร เมื่อระดับพลัง
ของจิตอสูรเท่ากับเจ้าของของมันแล้ว มันจะเริ่มเจริญเติบโตช้า
ลง มีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่จะเติบโต(มีพลัง) มากกว่าเจ้าของ

อสูรเขีย้ วแพนด้าอยู่ในระดับการเจริญเติบโต
ระดับวิญญาณพระเจ้า ถ้าในอนาคตมันจะแข็งแกร่งกว่าเนี่ยหลี่
ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่มันยังต้องฝึกอีกเยอะ แกคงไม่อ้วน
เกินไปหรอกนะหลังจากมื้อนี้ และการกลายเป็นระดับเงิน ใน
ระยะเวลาอันสั้นนั้น สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หลังจากกลายเป็นระดับเงินเนี่ยหลี่ก็เรียกอสูร
เขี้ยวแพนด้าออกมาและรวมร่างกันอีกครั้งหนึ่ง ระดับพลังของ
เนี่ยหลีเ่ พิ่มสูงขึ้น และ แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมมาก

แม้ว่า ข้าจะมีระดับเงินร่างทรงอสูรระดับโกล
โดยทั่วไป ก็ไม่สามารถต่อกรกับเขาได้! เนี่ยหลี่ยมิ้ เล็กน้อยๆ
อัตราการเจริญเติบโตของวิญญาณระดับพระเจ้า เพราะความ
แข็งแกร่งของมัน ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะจินตนาการได้
บทที่ 76 - ให้อภัย

เมื่อเนี้ยหลี่ได้ท่าการฝึกฝนมากขึ้น เขาก็ยิ่งอยากจะรู้ถึง
ความสามารถในการต่อสู้ของอสูรเขี้ยวแพนด้ามากขึ้นด้วยแต่
ทันในนั้นเอง ก็มีคนสองคนปรากฏกายออกมาอย่างรวดเร็วจาก
ป่าฝั่งตรงข้าม

“หืมมม ?” เนี้ยหลี่ขมวดคิ้ว ยืนนิง่ และมองไปทางนั้น

ฟึ่บ ! ฟึ่บ !

ทั้งสองคนหยุดตรงหน้าเนี้ยหลี,่ เขาทั้งคู่คือเนี้ยเสีย่ วเฟิง และ


เนี้ยเสีย่ วรี่

“เจ้าเป็นใคร? ถึงกล้าบังอาจบุกรุกเข้ามาในตระกูลบันทึก
สวรรค์ของเรา !” เนี้ยเสี้ยวเฟิงกับเนี้ยเสียวรี่ กล่าวพร้อมจ้อง
ไปยังร่างของเนี้ยหลี่ เพราะว่าหลังจากที่รวมร่างกับอสูรเขีย้ ว
แพนด้าแล้ว ร่างกายของเนี้ยหลีเ่ ปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เขาตัว
ใหญ่ขึ้น ผิวหนังก็ปกคลุมไปด้วยขนสีด่าและสีขาว ดังนั้นจึงไม่
แปลกนักที่ทั้งสองคนจะจ่าเนีย้ หลีไ่ ม่ได้
“พวกเจ้านั่นเอง !” เนี้ยหลี่กล่าว โดยยังยืนอยู่ที่เดิม

สองพี่น้องคู่นี้ชอบแกล้งเขาในชาติที่แล้ว แต่มันก็เป็นเพราะ
เรื่องความขัดแย้งภายในตระกูล ระหว่างแต่ละกิ่งตระกูล
อย่างไรก็ตาม ในวาระสุดท้ายของเมืองกลอรี่ ทั้งคู่ก็ได้ยืนหยัด
ต่อสู้กับอสูรปิศาจที่บุกเข้ามาในเมืองจนสิ้นชีพ ดังนั้นเนี้ยหลี่จึง
ไม่คิดจะท่าร้ายพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น ฐานะของพวกเขาใน
ตระกูล ก็ไม่สามารถเทียบกับเนี้ยหลี่ในตอนนี้ได้เลย และเนี้ยห
ลี่เองก็ไม่ได้คดิ ว่าทั้งคู่เป็นศัตรูด้วยซ้่า

ร่างกายของเนี้ยหลี่หดลงอย่างรวดเร็ว และกลายเป็น
รูปลักษณ์เดิม

“ข้าเอง !” เนี้ยหลี่ตอบรับ

“เนี้ยหลี่ ? นั่นเจ้ารึ ?”

เนี้ยเสีย่ วเฟิงและเนี้ยเสี่ยวรี่จ้องมองเนี้ยหลี่ด้วยความประหลาด
ใจ มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายได้ยากส่าหรับพวกเขา หรือว่า
ภาพที่เขาเห็นก่อนหน้านีจ้ ะเป็น เนี้ยหลี่ที่รวมกับวิญญาณ
ปิศาจ ? เมื่อมองไปที่ซากหัก ๆ ของต้นไม้พวกนั้น นัยน์ตาของ
พวกเขาก็ฉายแววออกถึงความกลัวขึ้นมาในทันที

พวกเขาพึ่งทราบว่าเนี้ยหลี่พึ่งจะได้เลื่อนขั้นเป็นร่างทรงอสูร
ระดับทองแดง 1 ดาว พวกเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าตอนนี้
เนี้ยหลีจ่ ะกลายมาเป็นร่างทรงอสูรระดับเงินได้รวดเร็วถึงเพียง
นี้ สถานการณ์ตรงหน้าท่าให้พวกเขารู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก

ในช่วงเวลาไม่นานมานี,้ เนี้ยเหว่ยได้สญู เสียต่าแหน่งผู้อาวุโส


ของตระกูลไป ท่าให้สถานะของพวกเขาสองพี่น้องในตระกูล
ด้อยลงด้วย ถึงแม้เรื่องนี้จะท่าให้พวกเขาหดหู่ใจเป็นอันมาก
แต่พวกเขาก็ไม่ได้คดิ จะแก้แค้นอะไร พวกเขาเพียงแค่หงุดหงิด
และไม่เข้าใจสถานการณ์เท่านั้น อีกทั้งมีข้อห้ามระบุไว้ตั้งแต่
ก่อตั้งตระกูล ว่าห้ามมิให้กิ่งตระกูลภายในตระกูลบันทึกสวรรค์
ต่อสู้กันเอง หากผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องได้รับโทษทัณฑ์อย่างหนัก

ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนนี้ สถานะของเนี้ยหลี่ในตระกูลนั้น หาคน


เทียบได้ยากยิ่งนัก ตั้งแต่ที่เนี้ยไฮ้ประกาศว่า ยาบ่ารุงต่าง ๆ ที่
เขาแจกจ่ายให้แก่คนในตระกูลนั้น ทั้งหมดได้มาจากเนีย้ หลี่
และเนีย้ ไฮ้เองก็สนับสนุนเนี้ยหลี่อย่างเห็นได้ชัด
ไม่ว่าใครก็ตามทีส่ ร้างคุณประโยชน์ให้ตระกูลมหาศาลขนาดนี้
ก็สมควรได้รับการยกย่อง

ยิ่งมาในตอนนี้ ที่พวกเขาทราบว่า เนี้ยหลีไ่ ด้ฝึกฝนไปจนถึง


ระดับเงินแล้วนั้น พวกเขาก็ยิ่งชื่นชมในตัวเนี้ยหลีม่ ากขึ้นอีก

ทางด้านเนี้ยหลี่นั้น เมื่อถูกรบกวนการฝึก เขาก็ไม่มีอารมณ์ที่


จะฝึกต่อ หลังจากที่จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้ว เขาจึงตัดสินใจที่
จะกลับที่พัก

เมื่อเนี้ยเสี่ยวรีและเนี้ยเสี่ยวเฟิงเห็นดังนั้น จึงทราบได้ว่าเนี้ยหลี่
รู้สึกไม่พอใจในการกระท่าของพวกเขา ถึงแม้ว่าด้วยสถานะ
ของเนี้ยหลี่ในตอนนี้จะสูงขนาดไหน แต่เนี้ยหลี่ก็ไม่ได้จัดการ
กับพวกเขาสองพี่น้องที่เคยแกล้งเนี้ยหลี่เอาไว้ ซึ่งนับว่าพวกเขา
โชคดีมากแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่สบายใจที่จะเห็นเนี้ยหลี่กลับ
ไป เพราะถูกรบกวนโดยพวกเขาแบบนี้

ทันใดนั้นเอง เนี้ยเสี่ยวรี่รีบรุดเข้ามา พร้อมกับพูดว่า “เนี้ยหลี่


โปรดรอก่อน !”

“มีอะไรงั้นรึ ?”เนี้ยหลีห่ ันกลับมา และมองไปทีส่ องพี่น้อง


เนี้ยเสีย่ วรี่หน้าแดง พร้อมกับอ้่า ๆ อึ้ง ๆ ไปสักพักหนึ่ง พร้อม
กับพูดออกมาว่า
“เนี้ยหลี่ พวกเราขอโทษเจ้าด้วย ส่าหรับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่
เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ พวกเราต้องขอโทษจริง ๆ !!”

เนี้ยเสีย่ วเฟิ่งก็ก้มหัวของเขาลงเล็กน้อย พร้อมกับกล่าวว่า


“หากเจ้าต้องการแก้แค้นพวกเรา พวกเราก็จะไม่ขัดขืน”

ถึงแม้ว่าเนี้ยเสี่ยวรี่กับเนี้ยเสี่ยวเฟิงจะกร่างกับเขาไปสักนิด ใน
ชาติที่แล้ว แต่พวกเขาก็เป็นคนที่ ในยามที่ตระกูลบันทึกสวรรค์
เกิดปัญหา พวกเขาก็พร้อมที่จะอาสาเข้ามาช่วย ดังนั้น มันจึง
เป็นเหตุผลทีเ่ นี้ยหลี่ไม่อยากจะสร้างความยุ่งยากให้แก่พวกเขา
และเมื่อเนี้ยหลี่ได้ฟังค่าขอโทษจากปากของสองพี่น้องคู่นี้แล้ว
เขาก็ยิ้มออก พร้อมกับโบกมือเล็กน้อย และพูดว่า “ข้าให้อภัย
พวกเจ้าทั้งสอง”

เมื่อได้ยินเนี้ยหลี่พูดดังนั้น เนี้ยเสี่ยวเฟิงและเนี้ยเสี่ยวริถึงกับมึน
งงไปชั่วขณะหนึ่ง พวกเขาไม่คดิ เลยว่าเนี้ยหลี่จะให้อภัยพวก
เขาง่ายขนาดนี้ พวกเขาไม่รู้จะท่าตัวอย่างไรต่อสถานการณ์นี้
เลย

เนี้ยหลี่กล่าวต่อไปอีกว่า “ข้าไม่ใช่คนที่ใจร้ายใจด่าขนาดนั้น
แล้วข้าได้ยินมาว่าเนี้ยไฮ้ไม่ได้แบ่งยาบ่ารุงให้กับพวกเจ้า สาเหตุ
เพราะพวกเจ้าไม่ถูกกับข้า”

ทันใดนั้นเอง เนี่ยหลี่ก็น่ายาบ่ารุงจ่านวนหนึ่งออกมาจากแหวน
มิติของเขา แล้วก็โยนมันไปให้กับเนี่ยเสี่ยวเฟิงและเนีย่ เสี่ยวรี่
และกล่าวว่า “นี่คือส่วนของเจ้า คิดซะว่าเป็นของขวัญจากข้าก็
ได้”

เมื่อพูดจบ เนี้ยหลี่ก็หันหลังกลับ และเดินจากไปอย่างช้า ๆ

เนี้ยเสีย่ วเฟิงและเนี้ยเสี่ยวรี่มองที่ยาบ่ารุงในมือของพวกเขา
พร้อมกับมองไปที่ร่างของเนี้ยหลีท่ ี่ก่าลังจากไป พวกเขาก็อดที่
จะตื้นตันใจไม่ได้

“ถึงแม้พวกเราจะแกล้งเขาไว้มากขนาดนั้น เนี้ยหลี่ก็ยังมีน้่าใจ
ที่จะแบ่งยาพวกนี้ให้กับพวกเรา!! เมื่อก่อนนี้พวกเราไม่น่าท่าสิ่ง
แย่ ๆ กับเขาเลย”เนี้ยเสี่ยวเฟิงร่าพึงร่าพัน พร้อมกับกล่าวโทษ
ตัวเอง ยิ่งมองเห็นเนี้ยหลี่ก่าลังเดินจากไป เขาก็ยิ่งรูส้ ึกผิด

“ใช่แล้ว หากเปรียบกับเนีย้ หลี่แล้ว พวกเรามันช่างน่าละอาย


ยิ่งนัก”
“พี่ใหญ่ เนี่ยหลี่ช่างเป็นคนที่จติ ใจกว้างขวาง นอกจากเขาจะไม่
แก้แค้นพวกเราแล้ว เขายังมอบยานี่ให้พวกเราอีก ข้าอดที่จะ
รู้สึกผิดไม่ได้จริง ๆ !” เนี้ยเสี่ยวเฟิงกล่าวบ้าง

เนี้ยเสีย่ วเฟิงและเนี่ยเสี่ยวรี่ยังเด็กนัก พวกเขาอาจจะก้าวร้าว


ไปบ้าง แต่ตัวตนจริง ๆ ของพวกเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ในครั้ง
นี้ พวกเขาทั้งคู่รู้สึกผิด และขอโทษเนี้ยหลี่จากใจจริง พวกเขา
ไม่เคยคิดเลยว่าเนี้ยหลี่จะมีใจกว้างขวางต่อพวกเขามากขนาดนี้
พวกเขารู้สึกผิดต่อเนี้ยหลี่อย่างมาก หากในอนาคตเนี้ยหลี่
ต้องการให้พวกเขาไปท่าไร พวกเขาจะไม่มีทางปฏิเสธอย่าง
แน่นอน !

เมื่อถึงยามค่่า ในสวนหลังบ้านของเนี้ยหลี่ พลังงานวิญญาณอัน


บริสุทธิ์ได้แผ่ออกมาจากหม้ออสูรฝันร้าย

เนี้ยหลีเ่ องก็ดูดกลืนพลังงานนั้นอย่างไม่หยุดยั้ง และเปลีย่ น


พลังงานเหล่านั้นให้มาเป็นของเขาเอง

เนี้ยหลีร่ ู้สึกได้ว่าระดับพลังของเขาได้เพิ่มขึ้นไปอีกระดับแล้ว

ในขณะที่เนี้ยหลี่ก่าลังฝึกฝนอยู่นั่นเอง ก็มีใครบางคนเคาะ
ประตูขึ้น
“เข้ามาได้ !” เนี้ยหลีต่ ะโกนกลับไป แต่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม

หลังจากนั้นสักครู่ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งรีบร้อนเดินเข้ามา คนทีเ่ ดิน


น่าเข้ามานั้นคือเนีย้ ไฮ้ ตามมาด้วยเนี้ยอิ้งและเหล่าผู้อาวุโสคน
อื่น ๆ รวมทั้งบิดา(เนี้ยหมิง) และลุงของเขา(เนี้ยไค) ด้วย

เนี้ยหลีม่ องด้วยความแปลกใจ และพลางถามว่า “เกิดอะไรขึ้น


งั้นรึ ? ท่าไมพวกท่านถึงมากันเยอะถึงเพียงนี้?”

เมื่อพวกเขาเห็นเนีย้ หลี่ไม่ลุกขึ้นแสดงความเคารพต่อเนี้ยไฮ้
แถมยังถามค่าถามย้อนกลับไปที่เนี้ยไฮ้ ผู้เป็นผู้น่าตระกูลอีก สิ่ง
นี้ท่าให้เนี้ยหมิงและเนี้ยไค อดรูส้ กึ กังวลไม่ได้ พวกเขารีบมอง
ไปที่เนี้ยไฮ้ และพบว่าเนีย้ ไฮ้ไม่ได้ถือโทษโกรธอันใด พวกเขาก็
สบายใจ

พวกเขายังแอบคิดกับตัวเองว่า “เมื่อกลับไป ข้าคงจักต้องอบ


รบเนี้ยหลี่สักหน่อยแล้ว”

ถึงแม้ว่าเนี้ยหลีจ่ ะมีสถานะสูงเพียงใด เขาก็ไม่ควรท่าตัวกร่าง


เช่นนี้ แต่ควรจะสุขุมให้มากกว่านี้

นั่นคือเด็กคนนั้น ที่ครั้งหนึ่งเคยนับถือเนี้ยไฮ้ด้วยความเคารพ
จริง ๆ น่ะหรือ ?

เนี้ยหลี่ในวันนีไ้ ม่เหมือนในอดีต ในตอนนี้ แม้แต่ร่างทรงอสูร


ระดับต่านาน เขาก็อาจจะไม่ได้รสู้ กึ เคารพเลยด้วยซ้่า

เพราะในชาตินี้ เขาจะต้องกลายมาเป็นจักรพรรติของเหล่า
มนุษย์ และเขาจะไปต่อสู้กับปราชญ์จักรพรรดิ และช่วยเมือง
กลอรี่ให้พ้นจากภัยพิบัติให้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงก้าว
แรกของเขาเท่านั้น

ประสบการณ์ของเนี้ยหลี่มีมากกว่าทุกคนในเมืองกลอรี่รวมกัน
เสียอีก !
บทที่ 77 - ร่วมการแข่งขัน

พวกผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างสงสัย ว่าท่าไม


เนี้ยหลีจ่ ึงดูไม่เกรงใจท่านผู้นา่ ตระกูลแม้แต่น้อย แต่เนี้ยไฮ้และ
เนี้ยอิ้งก็ไม่ได้สนใจสายตาเหล่านั้น และเนี้ยไฮ้ยังประกาศอีกว่า
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เนี้ยหลี่จะมีสถานะในตระกูลบันทึก
สวรรค์อยู่ในระดับเดียวกับข้า”

เหล่าอาวุโสพวกนั้นไม่เข้าใจถึงค่าสั่งของเนี้ยไฮ้เลย
แม้แต่น้อย แต่เมื่อเป็นค่าสั่งของผูน้ ่าตระกูล พวกเขาก็จะ
ปฏิบัติตาม

“ข้าได้รับการแจ้งมาว่าตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ได้ส่งค่า
เชิญไปยังตระกูลต่าง ๆ เพื่อให้เข้าร่วมงานประลองรุ่นเยาว์ที่
พวกเขาจัดขึ้น โดยงานนี้พวกเราเองก็ได้รับค่าเชิญนั้นด้วย เจ้า
คิดว่า เราควรจะเข้าร่วมงานประลองครั้งนี้หรือไม่ ?”

เนี้ยไฮ้ ถามเนี้ยหลี่ เพราะเนื่องจากงานประลองรุ่น


เยาว์จะถูกจัดขึ้นปีละครั้ง โดยหนึง่ ในตระกูลหลัก ซึ่งค่าเชิญ
ต่าง ๆ จะถูกส่งไปยังตระกูลต่าง ๆ ที่แข็งแกร่งในเมืองกลอรี่

หากมันเป็นเพียงงานประลองธรรมดา พวกเขาคงจะ
ไม่ต้องกังวลอะไรมาก แต่เนี้ยไฮ้กงั วลว่าครั้งนี้ พวกตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์จะต้องคิดท่าอะไรกับพวกเขาอย่างแน่นอน

“ท่าไมเราถึงจะไม่เข้าร่วมงานประลองล่ะ ? แล้วก็
ส่งจดหมายไปบอกสมาคมนักปรุงยาให้มาชมการแข่งขันด้วย
แค่นั้นก็สบายใจได้แล้ว” เนี้ยหลี่พูดอย่างใจเย็น ในเมื่อตระกูล
เทพศักดิ์สิทธิ์ส่งค่าเชิญมาแล้ว ท่าไมเขาจะไม่เข้าร่วมการ
แข่งขันล่ะ ?

เมื่อได้ยินค่าของเนีย้ หลี่ พวกอาวุโสต่างงุนงงกันไป


หมด เนี้ยหลีส่ ามารถเรียกสมาคมนักปรุงยามาเมื่อไหร่ก็ได้หรือ
?

“ถ้าอย่างนั้นข้าคงต้องรบกวนเจ้า ช่วยเขียน
จดหมายไปบอกผู้อ่านวยการหยางด้วย” เนี้ยไฮ้พูด พร้อมกับ
ยิ้มเล็กน้อย เขารอค่าพูดนี้จากเนีย้ หลี่อยู่แล้ว เพราะถ้าหากมี
สมาคมนักปรุงยามาดูการแข่งขัน ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์คงจะไม่
กล้าเล่นสกปรก

“เราต้องส่งผู้เข้าแข่งขัน 3 คน เนี้ยหลี,่ เจ้าอยากจะ


เข้าร่วมด้วยหรือไม่ ? ” เนี้ยอิ้งถามเนี้ยหลี่ เพราะเขาเองเพิ่ง
ทราบว่าเนี้ยหลี่ได้เลื่อนขั้นเป็นร่างทรงอสูรระดับเงินและได้รวม
ร่างกับวิญญาณปิศาจเรียบร้อยแล้ว

“แน่นอน ข้าจะต้องเข้าร่วมการแข่งขันนี้ !” เนี้ยหลี่


พยักหน้า เขาเองก็เพิ่งจะรวมร่างกับอสูรเขี้ยวแพนด้า นี่เป็น
โอกาสดีที่เขาจะได้ใช้การประลองนี้ทดสอบความแข็งแกร่งของ
อสูรเขี้ยวแพนด้าด้วย และยิ่งไปกว่านั้น เขามีเรื่องที่ต้องสะสาง
กับเสิ่น เฟย แล้วเขาจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปได้อย่างไร ?

พวกผู้อาวุโสต่างแปลกใจ เพราะเนี้ยไฮ้และเนี้ยอิ้
งต่างพูดจาอย่างสุภาพเมื่อคุยกับเนี้ยหลี่ แต่เมื่อพวกเขาคิดถึง
ยาบ่ารุงที่เนี้ยหลี่มอบให้แก่ตระกูลแล้ว พวกเขาก็พอจะเข้าใจ
ได้ว่า สถานะของเนี้ยหลี่ในตระกูลต่อจากนี้ไปจะไม่เหมือนเดิม
อีกแล้ว

นอกเหนือจากเนีย้ หลี่แล้ว ยังมีเนี้ยเสี่ยวเฟิง และ


เนี้ย ยู สมาชิกของตระกูลบันทึกสวรรค์ ได้เข้าร่วมด้วย โดยทั้ง
คู่อยู่ที่ระดับ เงิน2 ดาว
เด็กหนุม่ อายุ 20 ปี แต่สามารถกลายเป็นร่างทรง
อสูรระดับเงิน2 ดาวได้ ก็นับว่าเก่งมากแล้ว ซึ่งทั้งคู่นับว่าเป็น
อัจฉริยะของตระกูลเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม วิญญาณอสูร
ของพวกเขาทั้งคู่นั้นธรรมดามาก ดังนั้นเนี้ยหลีจ่ ึงมอบวิญญาณ
อสูรระดับเงินที่มรี ะดับการเติบโต : มหัศจรรย์ ให้เนี้ยไฮ้ น่าไป
มอบให้กับพวกเขาทั้งคู่

“งานประลองครั้งนี้ต้องมีการเตรียมการ อย่างน้อย
ก็อีกครึ่งเดือน เนี้ยหลี,่ เจ้าควรเริม่ เตรียมตัวได้แล้วนะ เพราะ
ข้าได้ข่าวมาว่าผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์
ล้วนแล้วแต่มีความแข็งแกร่งระดับเงิน5 ดาวทั้งนั้น”

เนี้ยไฮ้พูด พวกเขาเองก็ต้องเตรียมรับมือกับ
สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างการประลองครั้งนี้ด้วย

“โอ้ อย่างนั้นรึ!” เนี้ยหลี่ตอบแบบไม่รสู้ ึกรูส้ าอะไร


วิธีรับมือกับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ ? เนี้ยหลี่
ไม่ได้กังวลถึงเรื่องนั้นเลย เพราะถ้าตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์คิดจะ
เล่นสกปรกอะไรล่ะก็ สิ่งนั้นก็จะไม่สามารถรอดพ้นไปจาก
สายตาของเขาได้อย่างแน่นอน

หลังจากนั้น เนีย้ ไฮ้ เนีย้ อิ้ง และพวกที่เหลือได้


ปรึกษากันถึงอนาคตของตระกูลบันทึกสวรรค์กับเนี้ยหลี่ รวม
ไปถึงเรื่องการใช้เงินก้อนโตเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของตระกูล
บันทึกสวรรค์ด้วย

“พวกท่านไม่ต้องห่วงเรื่องเงินหรอกนะ ข้าสามารถ
มอบเงิน100 ล้านเหรียญจิตมารให้กับตระกูลได้ เพื่อเรื่องนี้ แต่
พวกท่านควรจะระวังเกี่ยวกับเรื่องคนที่จ้างเข้ามา ว่าคนพวก
นั้นจะต้องไม่ใช่คนที่ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์หรือสมาคมทมิฬส่ง
มา” เนี้ยหลีค่ ิดและพูดออกมา

มอบเงิน 100 ล้านเหรียญจิตมารให้กับตระกูลหรือ


? ทั้งเนี้ยหมิง และผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ท่าตาลุกวาวเมื่อได้ยิน
ค่าพูดนั้น เนี้ยหลี่ท่าเหมือนกับว่าเขาสามารถใช้เงินมากขนาด
นั้นได้โดยไม่ต้องคิดอะไร

เงินจ่านวน 100 ล้านเหรียญจิตมาร สามารถท่า


อะไรให้กับตระกูลได้มาก และด้วยเงินจ่านวนนี้ พวกเขา
สามารถที่จะจ้างผู้คุ้มกันระดับโกลด์ได้อย่างสบาย ๆ

เนี้ยไฮ้และเนีย้ อิ้ง ไม่ได้แสดงอาการอะไรมาก


เนื่องจากว่าเขาทราบดีว่าเนี้ยหลี่นนั้ ร่่ารวยมากขนาดไหน เงิน
100 ล้านเหรียญส่าหรับเนี่ยหลี่แล้ว อาจจะไม่ได้มากอะไรเลย
แต่เงินจ่านวนนี้จะสามารถท่าให้ตระกูลบันทึกสวรรค์มั่นคงขึ้น
อีกมากมาย

ในตอนนี้พวกผู้อาวุโสคนอื่น ๆ เริ่มเข้าใจแล้วว่า
ท่าไมเนี้ยไฮ้ถึงให้ความส่าคัญกับเนี้ยหลี่มากถึงเพียงนี้
ความรูส้ ึกไม่ชอบหน้าเนี้ยหลี่ก็หายไปจากความคิดของพวกเขา
ยังไงเสีย ตระกูลบันทึกสวรรค์กเ็ ป็นรากเหง้าของพวกเขา ถ้าสิ่ง
ใดมีประโยชน์ต่อตระกูล พวกเขาก็พร้อมที่จะสนับสนุน และ
คนที่บริจาคสิ่งต่าง ๆ ให้กับตระกูลมากมายอย่างเนี้ยหลี่นั้น
สมควรได้รับการยกย่องจากทุกคน

ต่อให้เป็นคนที่มตี ่าแหน่งต่่าที่สุดในตระกูล ถ้าเขา


สามารถมอบเงิน 100 ล้านเหรียญจิตมารให้กับตระกูลได้ พวก
เขาก็จะยกย่อง

หลังจากพวกเขาปรึกษากันไปหลายชั่วโมง เนี้ยไฮ้
และคนอื่น ๆ ก็เริ่มที่จะท่าตามแผนที่วางไว้ คือส่งคนไปยัง
สมาคมร่างทรงอสูร และสมาคมนักสู้ เพื่อที่จะจ้าง และ
รวบรวมก่าลังพล

สมาคมร่างทรงอสูร และสมาคมนักสู้ นั้นต่างจาก


สมาคมนักปรุงยาอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่มีอ่านาจมากขนาดนั้น
และท่าได้เพียงให้รา่ งทรงอสูรกับนักสู้ต่าง ๆ มาขึ้นทะเบียน
เอาไว้ เพื่อที่คนเหล่านั้นจะได้ถูกจ้างไปท่างานให้กับตระกูลต่าง
ๆ ด้วยวิธีการนี้ พวกเขาจะได้มีรายได้ไปจุนเจือครอบครัวได้
เพราะตระกูลใหญ่ ๆ นั้นมักจะจ้างคนเหล่านีไ้ ป เพื่อเพิ่มความ
แข็งแกร่งให้กับตระกูล

โดยปกติทุกตระกูลจะมีหน่วยคุ้มกันของตัวเองอยู่
แล้ว แต่ส่าหรับตระกูลบันทึกสวรรค์ พวกเขาได้เลิกจ้างหน่วย
คุ้มกันไปนานแล้ว เนื่องมาจากปัญหาทางการเงินที่มีมาก่อน
หน้านี้ แต่ในตอนนี้ พวกเขาสามารถที่จะจ้างหน่วยคุม้ กัน
เหล่านั้นกลับมาได้อย่างสบาย ๆ

ยิ่งไปกว่าการมอบเงิน 100 ล้านเหรียญจิตมารให้กับ


ตระกูล เนี้ยหลี่ ยังถ่ายทอดเทคนิคการฝึกฝนพลังให้แก่ตระกูล
อีกด้วย ท่าให้คนในตระกูลสามารถใช้เทคนิคเหล่านี้ และเพิ่ม
ความแข็งแกร่งของตระกูลได้
..

ณ ขณะเดียวกัน ที่ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์

ที่ห้องโถงหลักของนายคลังของตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์
เสิ่น หมิง ก่าลังจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ภายในตระกูลอยู่
ทันใดนั้นเองก็มีชายหนุ่มสามคนเดินเข้ามา โดยคนที่เดินน่าเขา
มานั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่คือเสิ่น เฟย และตามมาด้วยผู้ชายหน้า
โหดวัยยีส่ ิบต้น ๆ อีกสองคน

“คารวะท่านนายคลัง !”เสิ่น เฟยป้องมือขึ้นท่าท่า


เคารพ

“คารวะท่านายคลัง !” ชายทั้งสองคนโค้งค่านับท่าน
นายคลังผู้อาวุโส เสิ่น หมิง โดยเด็กหนุ่มทั้งสองคนนี้เป็นคน
จากตระกูลย่อยของตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นสถานะของ
พวกเขาจึงต่่ากว่าเสิ่น เฟย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งกว่า
เสิ่น เฟยก็ตาม

“อื้ม !!” เสิ่น หมิงพยักหน้ารับ และแอบถอนหายใจ


เบา ๆ ถึงแม้ว่าความสามารถของเสิ่น เฟยจะไม่ได้แย่ เพราะ
เป็นถึงร่างทรงอสูรระดับเงิน3 ดาว แต่เมื่อเทียบกับสมาชิกของ
ตระกูลย่อยอย่างเสิ่น หนิงและเสิน่ เซี่ยวแล้ว ก็ยังห่างชั้นกัน
มากนัก เสิ่น หนิงวัย20 ได้กลายเป็นร่างทรงอสูรระดับเงิน5
ดาว และเสิ่น เซีย่ ววัย23 ได้เป็นถึงร่างทรงอสูรระดับโกลด์ !

พรสวรรค์ของทายาทตระกูลหลักนั้น เทียบไม่ได้เลย
กับพรสวรรค์ของทายาทจากตระกูลย่อย ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่
เกิดขึ้นมาหลายชั่วอายุคนแล้ว

“นายน้อยเสิ่น เฟย แน่ใจนะว่าท่านต้องการเข้า


ร่วมงานประลองในครั้งนี้ ?”เสิ่น หมิงถามอย่างสุภาพ

“เจ้าแน่ใจหรือไม่ ? ว่าเนี้ยหลีจ่ ากตระกูลบันทึก


สวรรค์จะเข้าร่วมงานประลองนี้ดว้ ย” เสิ่น เฟยถามกลับ
เนื่องจากเรื่องเสีย่ วหนิงเอ๋อ หัวใจของเขาจึงเต็มไปด้วยความ
เกลียดชังที่มีต่อเนี้ยหลี่ ดังนั้น เมื่อเขาได้ยินว่าตระกูลบันทึก
สวรรค์เข้าร่วมงานประลองในครั้งนี้ด้วย ถึงแม้ว่าความ
แข็งแกร่งของตัวเขาเองจะยังไม่มากนัก แต่เขาก็ต้องการเข้า
ร่วมแข่งขันในงานประลอง

“ข้าได้รับจดหมายตอบกลับจากตระกูลบันทึก
สวรรค์แล้ว และเป็นที่ยืนยันอย่างแน่ชัดแล้วว่า ตระกูลบันทึก
สวรรค์จะเข้าร่วมงานประลอง ซึ่งเจ้าเนี่ยหลี่นั่น ก็เข้าร่วมด้วย”
เสิ่น หมิงค่อย ๆ ตอบ

“และเพราะเหตุนี้ ข้าจึงต้องเข้าร่วมงานประลองใน
ครั้งนี้ ข้าจะเหยียบเจ้าเด็กนั่นให้จมดิน และจะทรมานมันให้ถึง
ที่สุด !” เสิ่น เฟยพูด ดวงตาของเขาแสดงถึงความเย็นชา และ
เมื่อคิดถึงเสี่ยวหนิงเอ๋อ หัวใจของเขาก็ยิ่งทวีความเกลียดที่มีต่อ
เนี้ยหลีย่ ิ่งขึ้นไปอีก
บทที่ 78 - ของล้าค่า

เสิ่น หมิง พยักหน้า.. เนี่ย หลี่ เป็นคนที่เปิดเผยความจริงของ


อาคมระเบิดเพลิงสีชาด จึงท่าให้ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นได้รับ
ความเสื่อมเสีย พวกมันตั้งใจที่จะสั่งสอนบทเรียนให้แก่เนี่ย หลี่
การประลองยุทธ์ครั้งนี้เป็นหน้าเป็นตาของตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์
คนของตระกูลปราชญ์วิเศษ และลมหิมะเหมันต์นนั้ ไม่ได้เข้า
ร่วมการประลองในครั้งนี้ ด้วยความแข็งแกร่งของเสิ่น หนิง
และ เสิ่น เซี่ยว แม้ว่าจะมี เสิ่น เฟยอยู่ในทีมก็ไม่เป็นอุปสรรค์
ใดๆเลยที่จะเอาชนะการประลองในครั้งนี้

“การประลองครั้งนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงตระกูลเรา ดังนั้นการที่
เราจะพนัน ผู้น่าของตระกูลต่างๆ จะร่วมพนันกับเรา
ด้วย” เสิ่น หมิงกล่าว เกี่ยวกับเรื่องนี้มันเสี่ยงมาก มันจะต้อง
ไม่มีการผิดพลาด ไม่เช่นนั้นแล้วหากท่านผู้น่าตระกูลกลับมา
จากการฝึกวรยุทธ์แล้ว พวกเจ้าทั้ง 2 คน คงรู้ผลที่จะตามมานะ
สายตาของ เสิ่น หมิงมองไปยังเสิน่ หนิง และ เสิ่น เซีย่ ว เขา
จะไม่สนใจเลยถ้า เสิ่น เฟยเ ล้มเหลวในการประลอง แต่หาก
เสิ่น หนิง และ เสิ่น เซี่ยว ประสบความพ่ายแพ้แล้ว พวกเขา
จะถูกลงโทษอย่างหนัก
เสิ่น หนิง และ เสิ่น เซีย่ ว เกิดความกังวลเล็กน้อย พวกเขารีบ
โค้งตัวค่านับ และพูดว่า “ ขอรับหัวหน้า พวกเราจะท่าให้ดี
ที่สุด”

สายตาของ เสิ่น เฟยมองไปยัง เสิน่ หนิง และ เสิ่น


เซี่ยว อย่างดูถูก แม้ว่าเสิ่น หนิง และ เสิ่น เซี่ยว จะไม่พอใจ
เสิ่น เฟยแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไป พวกเขารู้ว่าระดับพลังของ
พวกเขานั้นสูงกว่า เสิ่น เฟยแต่ถึงอย่างนั้นพวกเขากลับไม่ได้รับ
การปฏิบตั ิตามที่ควรจะเป็น ที่ผ่านมา ตระกูลบันทึกสวรรค์
ได้รับการปกป้องจากสมาคมนักปรุงยา มันจึงไม่เห็นเราอยู่ใน
สายตา แต่เมื่อท่านผู้น่าตระกูลกลับมา เราจะแสดงให้มันได้
เห็นอะไรดีๆ เสิ่น หมิง คิด ผู้น่าของตระกูลศักดิ์ เสิ่นฮอง มี
พลังอยู่ในระดับ แบล็คโกดล์ ขั้นสุดท้าย เขาสงสัยว่าเมื่อไหร่
กันที่ผู้น่าตระกูลจะบรรลุไปถึงขั้นพลังในระดับต่านาน

เมื่อ เสิ่น ฮอง บรรลุขั้นพลังระดับต่านานได้แล้ว ฐานะของ


ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป พวกเขาจะ
สามารถมีสิทธิ์ในการตัดสินใจต่างๆของเมืองกลอรี่ แม้แต่เจ้า
เมืองเองก็ยังต้องรับฟังความคิดเห็นของตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อถึงตอนนั้น เพียงระลอกคลื่นเล็กน้อยก็สามารถ
สั่นคลอนตระกูลบันทึกสวรรค์ได้
“ข้าได้ยินมาว่าตระกูลบันทึกสวรรค์ได้รับสมัครผู้เชี่ยวชาญเป็น
จ่านวนมาก และใช้เงินไปหลายสิบล้านในเรื่องนี้”

พวกมันไปเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหน....

ดูเหมือนว่ามันจะต้องเกี่ยวข้องกับสมาคมนักปรุง
ยาแน่

สมาคมนักปรุงยาตั้งใจจะปกป้องตระกูลบันทึกสวรรค์
หรือ เสิ่น หมิงคิด

สมาคมนักปรุงยาได้ช่วยเหลือตระกูลบันทึกสวรรค์จาก
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ครั้งแล้วครั้งเล่า นอกจากนี้พวกเขายังแอบ
ส่งคนมาส่ารวจตระกูลเทพศักดิส์ ทิ ธิ์อย่างลับๆ มันอาจจะ
เป็นไปได้ว่าสมาคมนักปรุงยาค้นพบบางสิ่ง ?

การร่วมมือกันระหว่างตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์กับสมาคมทมิฬ
ไม่ได้ช่วยให้เขาได้รับรู้ความจริงเกีย่ วกับเรื่องนี้เลย เสิ่น
หมิงจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อจะจัดการกับเรื่องนี้ เขา
จะไม่ยอมให้สามคมนักปรุงยา จับได้แน่ เมื่อ เสิ่น ฮองกลับมา
จากการฝึก เขาจะรายงานกับ เสิ่น ฮอง เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่าง
แน่นอน ถึงตอนนั้นแล้วสมาคมนักปรุงยาก็ไม่สามารถปกป้อง
ตระกูลบันทึกสวรรค์ได้อีกต่อไป เวลานี้เขาจะต้องแสดงให้
ตระกูลบันทึกสวรรค์เห็น ถึงศักดิ์ศรีของตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์
บ้าง หรืออีกนัยหนึ่งคือการรักษาศักดิ์ศรีของตระกูล

ภายในอาณาเขตของตระกูลบันทึกสวรรค์

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เนี่ย หลี่ ได้ขังตัวเขาเองอยู่ภายใน


ห้อง เพื่อฝึนฝนอย่างหนักไปพร้อมกับการหลอมรวมจิตอสูร
เพื่อมอบให้เพื่อน ๆ ของเขา ในตอนนี้ เนี้ยหลี่ ได้หลอมรวม
เสร็จแล้วซึ่งจิตอสูรลมหิมะเหมันต์ระดับพระเจ้า และจิตอสูร
สายฟ้าระดับพระเจ้า ส่าหรับ เอีย จื้อหวิน๋ และ เสี่ยวหนิง
เอ๋อ นอกจากนี้เขายังมีจิตอสูรระดับพระเจ้าอีก 3 จิตวิญญาณ
ซึ่งเป็นประเภทเทพเจ้า, เพลิงศักดิส์ ิทธิ์ และ ประเภทน้่า
ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเตรียมไว้ให้กับ เว่ยหนาน ซู่ เซี่ยงจิ้ง และซ่างหมิง

ในช่วงที่ผ่านมาเนี่ยหลี่ยุ่งอยูก่ ับการผสานพลังเข้ากับอสูร
แพนด้าหยินหยาง ? และเพิ่มระดับพลัง ท่าให้เขาไม่มีโอกาสที่
จะเข้าไปในคลังสมบัติของตระกูลจนกระทั่งเนี่ยไฮ้ได้ชวนเขาใน
ขณะนี้ พวกเขาเดินเข้าในทางลับที่อยู่ด้านหลังคฤหาสน์ของ
ผู้น่าตระกูล พอผ่านจากชั้นที่มีการป้องกันแน่นหนาพวกเขาก็
มาถึงคลังสมบัติของตระกูลบันทึกสวรรค์
ภายในคลังสมบัติของตระกูลบันทึกสวรรค์

เนี่ยไฮ้รสู้ ึกอาย ในขณะทีเ่ ขาชี้ไปทีห่ ้องศิลา และกล่าวว่า “นี่


คือห้องเก็บสมบัติของตระกูลบันทึกสวรรค์”

หลังจากได้ยินค่าพูดของเนีย่ ไฮ้ เนีย่ หลี่ได้กวาดตามองดูห้อง


ศิลาดังกล่าว ผนังของห้องนั้นเต็มไปด้วยตะขอซึ่งมีประมาณ
100-200 อัน .... เนี่ยหลี่จ้องไปที่เนี่ยไฮ้จนตาลุกเป็นไฟ และ
พูดอย่างเดือดดาล “ตาเฒ่าแน่ใจหรือว่านี่คือห้องเก็บสมบัติ
ของตระกูล ?”

“ใช่แล้ว” ใบหน้าของ เนี่ยไฮ้ รู้สึกร้อนผ่าวในขณะที่เขาพยัก


หน้าตอบ

“ท่าไมถึงมีสิ่งของเพียงไม่กี่ชิ้นในคลังสมบัติกัน”

“สมบัตเิ หล่านี้ท่านคงไม่ได้เอาออกไปขายหมด ใช่ไหม ?”

“ไม่ใช่เลย” หน้าของเนี่ยไฮ้กลายเป็นสีแดงขณะกล่าว
“สิ่งของทุกอย่างในคลังสมบัติถูกลงทะเบียนไว้หมดแล้ว หาก
มีใครต้องการสิ่งใดในนี้จะต้องได้รบั การยินยอมจากผู้อาวุโส
ทั้งหมด” ในช่วงปีที่ผ่านมาตระกูลบันทึกสวรรค์ไม่มเี งิน
เพื่อที่จะพัฒนาตระกูลพวกเราจึงไม่มีทางเลือกที่จะขายสมบัติ
บางส่วนออกไป การท่าเช่นนั้นก็เพื่อพยายามที่จะดูแลรักษา
ตระกูลไว้จนถึงตอนนี้

“ข้าก็พูดโดยไม่ตั้งใจไปตามที่เห็น เหตุใดท่านต้องกระวน
กระวายเกินเหตุไปด้วยเล่า” เนีย่ หลี่ พยักไหล่ขณะเดินไป
ข้างหน้าขณะที่จ้องดูแผ่นหลังของเนี่ยหลี่ เนี่ยไฮ้รสู้ ึก
งุนงง สมองของเขามันเป็นแบบไหนกัน ? ความสามารถของ
เขาไม่ได้แตกต่างไปจากผู้ใหญ่เลย การล้อเล่นของเนี่ยหลี่ท่าให้
เนี่ยไฮ้รสู้ ึกว่าตัวเองอ่อนแอ

“สมบัติที่เราขายไป มันสามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด ที่นี่


ยังคงมีสมบัติดีๆอยูซ่ ึ่งพวกเราไม่แน่ใจถึงวิธีการใช้พวกเราจึงไม่
กล้าที่จะขายมันออกไป” เนี่ยไฮ้กล่าวอย่างต่อเนื่อง

“บางที่สมบัติที่ไม่รู้จักวิธีใช้เหล่านีค้ งไม่สามารถเรียกราคาสูงๆ
ได้ใช่ไหม” เนี่ยหลี่ชายตามองไปที่เนี่ยไฮ้

“เจ้า.......เสีย่ วหลี่ ไว้หน้าฉันบ้างได้ไหม ?” “ตอนนี้เราอยู่


กันเพียงสองคน จะท่าตัวตามสบายก็ได้ แต่เมื่อเราออกไปข้าง
นอกนั้น....ต้องไม่ลืมว่าข้าก็ยังเป็นผู้น่าตระกูลอยู่” เนี่ยไฮ้รสู้ ึก
เศร้าใจยิ่งนัก ทั้งที่ตัวเขาเป็นถึงผูน้ ่าตระกูลแต่ตัวเขากลับถูก
ต้อนจนมุมโดยเนีย้ หลีจ่ นไม่สามารถพูดสิ่งใดออกมาได้ แต่
อย่างไรก็ตามตัวเขาก็ไม่สามารถมีความรูส้ ึกโกรธเนี่ยหลี่ได้
เพราะการยกระดับของตระกูลนั้นต้องพึ่งเนี่ยหลี่มากทีเดียว

“แน่นอน เมื่อพวกเราอยู่ข้างนอกข้าจะให้ความนับถือท่าน
บ้าง” เนี่ยหลี่พูดพร้อมพยักหน้า

เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี่ยหลี่ เนี่ยไฮ้ตะลึงไปชั่วขณะ
นึง แล้วฝืนยิ้มอย่างข่มขืน สิ่งที่เนีย่ หลี่กล่าวออกมานั้น
หมายความว่า เมื่อไม่มีคนอื่นๆอยูใ่ กล้แล้วเนี้ยหลี่ก็จะไม่รักษา
หน้าเขาเลย

เนี่ยหลีม่ องสมบัตติ ่างๆ ที่แขวนอยู่บนผนัง แม้ว่าตระกูล


บันทึกสวรรค์จะตกต่่าลง แต่กย็ ังคงเป็นตระกูลใหญ่ซึ่งมีการสืบ
ทอดกันมาตั้งแต่ยุคจักรวรรดิลมหิมะ และยังคงมีสมบัติดๆี
เหลืออยู่บ้าง สมบัติที่เนีย่ ไฮ้ขายออกไปนั้นเป็นเพียงแค่สมบัติ
ธรรมดา อย่างไรก็ตามสมบัติทเี่ หลืออยู่คือสิ่งที่ควรจะเรียกได้
ว่าเป็นสมบัติจริงๆ

“ในที่นี้มีสมบัติอยู่ประมาณ 200 ชิ้น ซึ่งข้าก็ไม่รู้จักวิธีใช้


หรืออานุภาพของมันเลย” เนี่ยไฮ้กล่าว แล้วยิม้ อย่างขมขื่น
ขณะมองดูสมบัติที่ส่องแสงระยิบระยับมันเป็นเรื่องปกติส่าหรับ
เนี่ยไฮ้ ที่จะไม่รู้ว่าสมบัติพวกนี้ใช้ท่าอะไร สมบัตสิ ่วนใหญ่ในนี้
เกิดขึ้นก่อนยุคศักดิส์ ิทธิ์เสียอีก
กว่า 90 % ส่าหรับอีก 10 %ที่เหลือของสมบัตินั้นแม้แต่ เนี่ย
หลี่ ก็ยังไม่รู้จักวิธีใช้มัน
บทที่ 79 - กาตาร์วิญญาณ

เนี่ยหลีจ่ ้องมองไปที่สมบัติชิ้นหนึ่ง

สมบัตินคี้ ือ กาตาร์คหู่ นึ่ง พวกมันดูโทรม และถูกจับได้ด้วยฝุ่น


มีสนิมจับที่ส่วนบนของกาตาร์ด้วย

"กาตาร์? ไม่คิดว่าจะเจอ อาวุธจิตวิญญาณ ที่นี้ โชคดีจริงๆ!


ขอบคุณท่านบรรพบุรุษของตระกูลบันทึกสวรรค์ส่าหรับพวก
มัน !" เนี่ยหลี่คิดในใจ แล้วหยิบกาตาร์ ลงมาจากตะขอที่ห้อย
มันอยู่

"เจ้าอยากได้มันรึ?" เนี่ยไฮ้มองไปที่กาตาร์ที่โทรมๆ บนมือเนี่ยห


ลี่ เขาถามแบบงงๆ
ใช่! เนี่ยหลี่พยักหน้า

ส่าหรับกาตาร์คู่นี้เนี่ยไฮ้อยากที่จะทิ้งไปนานแล้ว เพราะว่ามัน
เก่า และ โทรมเกินไป และ ก็ไม่รู้วา่ มันมีอานุภาพอันใด เลยไม่
มีใครต้องการมัน และ ปล่อยทิ้งไว้ เพียงเพื่อเก็บไว้ในคลัง
สมบัติของตระกูลที่เกือบจะว่างเปล่า อย่างน้อยมันก็ช่วยเติม
ช่องที่ว่างอยู่ภายในคลังได้

ในมุมมองของเนี่ยไฮ้ มีสมบัติแค่ 1 - 2 ชิ้นเท่านั้น ที่มีค่าในคลัง


สมบัติ แล้วท่าไม เนี่ยหลี่ถึงเลือก กาตาร์คู่นั้น ?

เนี่ยหลีเ่ ก็บกาตาร์ในแหวนห้วงมิตลิ ี้ลับ และ ก็มองไปรอบๆใน


คลังสมบัติของตระกูลต่อ แม้ว่า จะมีสมบัตสิ ักชิ้น สองชิ้นที่ไม่
เลวร้ายมากนัก แต่เนี่ยหลี่ ก็ไม่ได้เอามันไป เพราะมันไม่ได้ช่วย
เพิ่มพลังของเนี่ยหลีเ่ ลย
เพียงแค่ได้กาตาร์คนู่ ี้ก็คุ้มแล้ว แล้วตาของเขาก็ไปสะดุดกับ
สิ่งของ 2ชิ้น

หนึ่งในนั้นคือ แบบแปลน บนแผ่นจารึกข้อความรูปทรงต่างๆ


เหมือนเป็นแบบประกอบของบางสิ่งที่แน่ชัด

เนี่ยหลีจ่ ้องมองไปที่กระดาษนี้ ในขณะเดียวกัน เนี่ยไฮ้ก็อธิบาย


ข้าก็ไม่รู้ว่าเจ้าแบบแปลนนี้มันคืออะไร ไม่มีใครในตระกูล
บันทึกสวรรค์เคยสร้างมันมาก่อน ภาพวาดนี้มันเหมือนรูปทรง
ของนก

หลังจากที่จ้องมองแบบแปลนนี้อยูร่ ะยะหนึ่ง เนี่ยหลี่ก็นึกออก


ว่านี่คือผลงานชิ้นเอกของปรมาจารย์นักประดิษฐ์ทมิฬ เรียกว่า
หุ่นเชิดวิญญาณ นี้คือ นกจากหุ่นเชิดวิญญาณ ในช่วงต้นของ
จักรวรรดิศักดิส์ ิทธิ์ มีร่างทรงอสูรแห่งความมืด พวกเขาเป็น
กลุ่มที่ลึกลับ ที่มักจะท่าบางสิ่งบางอย่างที่ชั่วร้ายมาก เช่น
สร้างหุ่นเชิดวิญญาณ นี้ หลังจากสร้างหุ่นเชิดวิญญาณ พวก
เขาจะปิดผนึกวิญญาณคนตายไว้ขา้ งใน และใช้รูปแบบจารึก
ควบคุมหุ่นเชิดวิญญาณ เพื่อให้หุ่นเชิดท่างานเพื่อพวกเขา
ต่อมาหลังจากที่ได้ก่อตั้งอาณาจักรศักดิส์ ิทธิ์ ร่างทรงอสูรแห่ง
ความมืดก็ถูกกวาดล้าง บางสิ่งบางอย่างเช่น แบบแปลนของหุ่น
เชิดวิญญาณ ก็หายสาบสูญไป

แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเจริญรุ่งเรืองมาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
หลังจากก่อตั้ง อาณาจักรศักดิส์ ิทธิ์ สิ่งเหล่านี้ก็กลายเป็นของ
หายากมาก ยิ่งในช่วงยุคมืด แบบแปลนของหุ่นเชิดวิญญาณก็
ยิ่งหายากขึ้นทุกที และก็ถูกลืมเลือนไปในที่สุด

เนี่ยหลีไ่ ม่คดิ ไม่ฝันมาก่อนเลยว่าจะมาพบแบบแปลนหุ่นเชิด


วิญญาณที่นี้ แต่ต้องรู้ไว้อย่างหนึ่ง ถ้ามันถูก ค้นเจอในยุคของ
อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ แน่นอน ทั้งตระกูลต้องตายกันทั้งหมด -.-

ข้าจะเอาชิ้นนี้ ! เนี่ยหลี่ พูดแล้วก็เก็บแบบแปลนเข้าไปในแหวน


ห้วงมิติลลี้ ับ แต่ทว่าเนี่ยหลีไ่ ม่คิดที่จะผนึกวิญญาณคนเข้าไป
ในหุ่นเชิดวิญญาณหรอกนะ สิ่งนี้มนั ชั่วร้ายเกินไป แต่เนี่ยหลี่ก็
ยังต้องการที่จะศึกษาหุ่นเชิดวิญญาณนี้

เนี่ยไฮ้ ก็ไม่ได้คดั ค้านอะไรเนี่ยหลี่ ที่จะเอาแผ่นแปรนไป ต้อง


ไม่ลมื ว่า เนี่ยหลีไ่ ด้ให้ยาทิพย์และเงินกับตระกูลบันทึกสวรรค์
มากมาย พวกเขาได้รบั ประโยชน์มากมายจากเขา เขายังหวังว่า
เนี่ยหลีจ่ ะเลือกของมากกว่านี้

เดี๋ยวค่อยลองศึกษาแบบแปรนนีด้ ลู ะกันในอนาคต เนี่ยหลี่


บอกตัวเอง และก็เลือกสิ่งของชิ้นต่อไป มัน
เป็นไข่มุกกลมๆสีดา่ ส่องแสงประกายมันวาวสีด่า เพียงแค่มอง
ก็ท่าให้ผู้คนอยูใ่ นภวังค์

ไข่มุกนี้มันไม่ธรรมดาแน่นอน แม้แต่เนี่ยหลี่ก็ยังไม่ทราบที่มา
ของมัน

ข้าจะเอาอันนี้ เนี่ยหลี่พูด

อันอื่นไม่มีปัญหา แต่ไข่มุกนี้ ....... เนี่ยไฮ้เริม่ ลังเล

หือ...ท่าไม มีปญ
ั หาอะไรหรือเปล่า เนี่ยหลี่ถาม ท่าหน้า บุ้ย
เล็กน้อยขณะมองไปทีเ่ นี่ยไฮ้
"ไม่ใช่เพราะ เจ้าไข่มุกนีม้ ันมีค่าอะไรมากมาย แต่เพียงเพราะ
ไข่มุกนี้ถูกทิ้งไว้โดยท่านผู้น่าตระกูลรุ่นแรก ดังนั้น มันจึงมี
ความหมายอย่างมากควรจะเก็บไว้เป็นความทรงจ่าส่าหรับรุ่น
ต่อๆไป ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงเก็บมันไว้" เนี่ยไฮ้พูด

ข้าก็เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลบันทึกสวรรค์ในรุ่นถัดไป ดังนั้นไม่
น่าจะมีปญ ั หาถ้าข้าจะใช้มัน ข้าจะเก็บมันอย่างปลอดภัย นี้เงิน
200ล้านเหรียญจิตมาร ท่านผู้น่าสามารถน่าไปซื้อสมบัติคืนได้
บางส่วน มิฉะนั้น คลังสมบัติของตระกูลมันจะว่าง เกินไป!
เนี่ยหลี่พดู พร้อมเคลื่อนมือขวาของเขาไปยังแหวนห้วงมิตลิ ี้ลับ
และน่าเงินออกมาส่งให้เนี่ย ไฮ้

ส่าหรับการกระท่าเช่นนี้ ของเนี่ยหลี่ เนี่ยไฮ้กไ็ ม่ได้ต่อต้านอะไร


เนี่ยไฮ้คิดครู่หนึ่ง มองไปที่แหวน และ มองไปทีไ่ ข่มุกที่ไม่รู้จะใช้
ประโยชน์อันใดอีกที เขายิม้ เจื่อนๆ และ ตอบ"ก็ได้"
กระสุนเงินนัดนี้ของเนี่ยหลี่นไี้ ด้ผลชะงัดอย่างน่าตกใจ!

"เยี่ยม!" เนี่ยหลี่ยิ้มเบาๆ มันเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามากใน


เวลานี้ แม้ว่าเขาไม่รู้ว่าไข่มุกนี้มันคืออะไร

แต่มันไม่ธรรมดาแน่นอน และ แบบแปลนหุ่นเชิดวิญญาณก็ไม่


เลว แถมยังได้อาวุธวิญญาณทีไ่ ม่สามารถซื้อด้วยเงินได้อีก

อาวุธวิญญาณจะมีประสิทธิภาพมาก ถ้ามันเข้ากับจิตอสูร
เนื่องจากจิตอสูรแห่งเงามีกรงเล็บที่แหลมคมอยู่แล้วท่าให้
กาตาร์กไ็ ม่จ่าเป็นส่าหรับมันอีกกาตาร์คู่นี้มันเหมาะส่าหรับอสูร
เขี้ยวแพนด้า
ท่านผู้น่าเนี่ยไฮ้ ข้าจะกลับแล้ว เนีย่ หลี่มองไปที่เนี่ยไฮ้แล้วพูด

ได้! เนี่ยไฮ้ไปส่งเนี่ยหลี่กลับ ตอนนี้เนี่ยหลีเ่ ป็นคนที่รวยทีส่ ุดใน


ตระกูล แค่การใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆ ก็เพียงพอที่จะยกระดับ
ตระกูลให้แข็งแกร่งขึ้น เพราะว่าเนี่ยหลี่ ตระกูลบันทึกสวรรค์
ทั้งหมดถึงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงถึงเช่นนี้ แล้วท่าไมจะไม่
ปฏิบัติกับเนีย่ หลีด่ ุจพระเจ้าของพวกเขากันละ

ถ้าตระกูลไหนมีคนรุ่นใหม่เช่นเนี่ยหลี่ ผู้น่าตระกูลนั้นคงจะหลับ
ฝันหวานเป็นแน่

กลับมาที่ตึกใหญ่ของเขา เนี่ยหลี่มองไปที่ กาตาร์ ภาพที่เห็นมัน


ก็เหมือนกับเศษเหล็กไร้ค่าอันหนึ่ง เนี่ยหลี่พ่นลมหายใจออก
แล้ว เคลื่อนพลังวิญญาณจากเขตแดนวิญญาณ ไปสู่ กาตาร์
ใช้พลังวิญญาณหลอมเข้าไปกับกาตาร์อย่างต่อเนื่อง

คราบสนิมบนกาตาร์เริ่มหายไป และค่อยๆเปล่งประกาย
ออกมา และเริ่มสั่นและมีเสียงก้องออกมา มันสั่นสะท้านไม่
หยุด และ ลอยขึ้นไปบนอากาศ "บูมม" มันระเบิดออกมา

กาตาร์คู่นั้นกลายเป็นแสงสดใสถูกเปิดใช้งานด้วยพลังวิญญาณ
และได้เข้าไปสูเ่ ขตแดนพลังวิญญาณของเขา

พลังของอาวุธวิญญาณเชื่อมต่อกับพลังวิญญาณของผู้ใช้
โดยทั่วไปแล้วมักจะแข็งแกร่งกว่าระดับพลังวิญญาณ ซึ่ง
หมายความว่า ถ้าพลังวิญญาณเนีย่ หลี่มรี ะดับ เงิน พลังของ
กาตาร์ก็จะเป็นระดับ ทอง
แม้แต่ปรมาจารย์ระดับ ทอง ก็สามารถบาดเจ็บได้ ถ้าพวกเขา
ประมาท

ถ้าพลังของเนี่ยหลี่เพิ่มขึ้น อาวุธวิญญาณก็จะแข็งแกร่งขึ้นตาม
ไปด้วย

อาวุธวิญญาณ เป็นผลงานของ ร่างทรงอสูรสายฟ้าในช่วงปลาย


ยุคลมหิมะ มีแต่พวกเขาเท่านั้นทีส่ ามารถสร้างอาวุธวิญญาณได้
อย่างไรก็ตาม ก็มีร่างทรงอสูรสายฟ้าไม่กี่คนที่พอมีฝมี ือถึงขั้น
สามารถสร้างอาวุธวิญญาณได้

มีเพียงคนจากตระกูลอสูรสายฟ้าจ่านวนเล็กน้อยเท่านั้นที่
สามารถท่าได้ ทั้งนี้ในตลอดชีวิตของพวกเขา สามารถมีอาวุธ
วิญญาณได้แค่ 1 ชิ้นเท่านั้น ถ้าคนตาย อาวุธก็จะตายตามไป
ด้วย ดังนั้น มีอาวุธวิญญาณที่ยังหลงเหลือจากยุคสมัยนั้นน้อย
มาก มีแต่พวกคนเขลาที่จะเก็บรักษาอาวุธวิญญาณ เหมือน
เช่น อาวุธธรรมดาทั่วไป

เก็บไว้ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ยังดีที่ข้าพบมันก่อน ไม่รู้ว่ามัน


ถูกปล่อยทิ้งไว้นานแค่ไหนแล้ว มันถึงได้เป็นเช่นนั้น

ด้วยความเงางามเช่นนี้ เนี่ยหลี่ยิ้มเบาๆขณะที่คิดในใจ
บทที่ 80 - ไม่ได้เจอกันนาน

ที่สถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์

ชายชราผู้มีหนวดเคราและผมสีขาว ที่อยู่ด้านหน้าของแม่นาง
เสี่ยวหนิงเอ๋อผู้เลอโฉม ผู้อาวุโสผูน้ ี้คือรองอาจารย์ใหญ่ ของ
สถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ เอีย เซิ่ง

“เสี่ยวหนิงเอ๋อ เจ้าแน่ใจนะ ว่าเจ้าต้องการที่จะเข้าสู่ พรมแดน


ศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ ?” เอีย เซิ่งท่าหน้ามุ่ยขมวดคิ้วขณะที่ถาม
เสี่ยวหนิงเอ๋อ “เจ้ารู้ใช่มั้ยว่าพรมแดนศักดิส์ ิทธิ์แห่งสวรรค์นั้น
มี ภัยอันตรายมากมายเพียงใด ? มีนักเรียนเพียงหยิบมือ
เท่านั้นที่เข้าไปแล้วกลับออกมาได้ มิหน่าซ้่าบางคนที่กลับ
ออกมาได้ก็ต้องพบเจอกับปัญหาการจัดการพลังวิญญาณของ
ตนเอง”

“ท่านรองอาจารย์ใหญ่คะ ข้ายังมีคุณสมบัตไิ ม่เพียงพอเพื่อที่จะ


เข้าไปยังพรมแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์งั้นหรือคะ?”เสี่ยวหนิง
เอ๋อ เงยหน้าถามผู้อาวุโส เอีย เซิ่ง ด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า

“หาใช่เยี่ยงนั้นไม่ เป็นเรื่องจริงที่วา่ กันด้วยเรื่องคุณสมบัติของ


เจ้านั้น นับว่าเพียงพอเลยทีเดียว การเข้าไปภายในแดนสวรรค์
ศักดิ์สิทธิ์เป็นประโยชน์สูงสุดก่อนที่จะเลื่อนขั้นเป็นระดับเงินก็
ว่าได้”เอีย เซิ่ง พยักหน้าลง นับเป็นเวลาที่นานมากทีเ่ ขาไม่มี
นักเรียนที่โดดเด่นเช่นนี้

“ข้าได้ตดั สินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าข้าจะเข้าไปภายในพรมแดน
ศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์”เสี่ยวหนิงเอ๋อ ตอบกับเอีย เซิ่ง ดวงตา
นางช่างเต็มไปด้วยความหนักแน่นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
หน้านี้

“พ่อของเจ้ามีความเห็นเป็นเช่นใดบ้าง?เขาเห็นด้วยกับการ
กระท่าของเจ้างั้นรึ?”

“ค่ะ ท่านอาวุโส”พยักหน้าตอบ แต่ความเป็นจริงนั้นนางไม่ได้


บอกแก่ตระกูลนางเลย

“ตกลง งั้นข้าจะสนองความต้องการนั้นแก่เจ้า” เอีย เซิ่ง พยัก


หน้าตกลง เอียเซิ่งพร้อมกับอาจารย์อีกไม่กี่คน น่า เสี่ยวหนิง
เอ๋อ มายังอาคารใหญ่ทตี่ ั้งอยู่ทางด้านหลังของสถาบันกล้วยไม้
ศักดิ์สิทธิ์
“อาจารย์ของสถาบันกล้วยไม้ศักดิส์ ิทธิ์ต่างมองหน้ากันและกัน
เป็นเรื่องจริงที่ว่าพวกเขาทั้งหมดชื่นชมความกล้าหาญของ
เสี่ยวหนิงเอ๋อ ที่มุ่งมั่นจะเข้าไปภายในพรมแดนศักดิ์สิทธิ์แห่ง
สวรรค์ พรมแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วย
ความลีล้ ับมากมายนับไม่ถ้วน มีเพียงอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ
ด้วยกันเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ ในบรรดาเหล่าผู้ที่เข้าไป
ภายในพรมแดนศักดิส์ ิทธิ์แห่งสวรรค์หลายคนได้เกิดปัญหาใน
ส่วนพลังวิญญาณของพวกเขา บางส่วนก็ออกมาได้แต่ก็ไม่ได้สิ่ง
ใดติดไม้ตดิ มือกลับมา มีเพียงส่วนน้อยที่สามารถจัดการกับ
ปัญหาเหล่านั้นและผ่านพรมแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ออกมา
ได้สา่ เร็จ และแน่นอนว่าผู้ที่สามารถผ่านพรมแดนศักดิ์สิทธิ์แห่ง
สวรรค์ออกมาจะได้รับพลังมายมายมหาศาล อย่างน้อยที่สุด
พวกเขาก็จะกลายเป็นร่างทรงอสูรระดับทองค่าด่า มีเพียง เอีย
โม่ เท่านั้นที่สามารถไปถึงระดับต่านานได้

ตามต่านานเกี่ยวกับพรมแดนศักดิส์ ิทธิ์แห่งสวรรค์ ผู้ทผี่ ่านการ


ทดสอบจากพรมแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ จะกลายเป็น
อัจฉริยะทีผ่ ู้คนจับจ้องไปทั้งเมืองกลอรี่ก็ว่าได้ ด้วย
ความสามารถดังกล่าวเหล่าอัจฉริยะยังได้รับการคุ้มครองจาก
ต่าหนักเจ้าเมืองอีกด้วย พวกเขาสามารถปกป้องเหล่าอัจฉริยะ
ไม่ให้ผู้ใดมารบกวนการบ่มเพาะพลัง ของเขาหรือเธอ
นอกเหนือจากนี้ยังได้รับสิทธิ์พิเศษมากมายต่างๆนาๆนับไม่
ถ้วนเลยทีเดียว

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า เหตุใดเมืองกลอรี่ถึงยังไม่พังพินาศลงจาก
การคุกคามของพวกสัตว์อสูรเพราะเมืองกลอรีม่ ีการปกป้อง
และให้อภิสิทธิ์เหล่าเด็กอัจฉริยะเหล่านี้ แน่นอนเพราะว่ามัน
เป็นการป้องกันตัวเมืองเองด้วยเช่นกัน ดังนั้นการปกป้อง
อัจฉริยะกลุ่มนี้ของเมืองกลอรี่นับเป็นการป้องกันที่สมบูรณ์และ
รอบคอบมากเลยทีเดียว

ภายใต้การแนะน่าของ เอีย เซิ่ง และเหล่าคณาจารย์เสี่ยวหนิง


เอ๋อ เดินไปยังอาคารใหญ่ของสถาบันกล้วยไม้ศักดิส์ ิทธิ์ ในหัว
ของเธอเริ่มคิดถึงเนี่ยหลี่ เนีย่ หลี่ปา่ นนี้เจ้าท่าการใดอยู่นะ

‘ข้าไม่ยอมแพ้ที่จะไล่ตามหลังเจ้าหรอกนะ ข้าจะไปอยู่ สูเ้ คียง


ข้างเจ้า สักวันหนึ่งเจ้าจะต้องหันมาสนใจข้า!’เสี่ยวหนิงเอ๋อ
ร่าพึงร่าพันกับตนเอง ใบหน้าของนางช่างมีเสน่ห์เย้ายวนเป็นยิ่ง
นัก นางยังคงจ่าเนี่ยหลีไ่ ด้ทุกอิริยาบถ ไม่รู้ด้วยเหตุใดเนี่ยหลีไ่ ม่
สามารถจะเลือนหายไปจากดวงใจของนางได้เลย

เหตุผลที่ เสี่ยวหนิงเอ๋อพยายามอย่างหนัก ครึ่งหนึ่งของเหตุผล


นั้นคือเพื่อดึงดูดความสนใจจากเนีย่ หลี่
เสี่ยวหนิงเอ๋อเงยหน้าขึ้นพลางหยุดความคิดลงแล้วก้าวเดิน
ต่อไป

หลายวันต่อมา สนามประลองทางตอนเหนือของเมืองกลอรี่

สนามประลองทางตอนเหนือ เป็นเขตพื้นที่การต่อสู้ ที่มีเส้น


รอบวงไม่กี่กิโลเมตร มันเพียงพอที่จะรองรับการยืนดูโดยรอบ
ของผู้คนนับหมื่นได้ ในพื้นที่นี้ มันได้ถูกจัดการประลองอยู่
บ่อยครั้ง นี่เป็นสาเหตุทผี่ ู้คนในเมืองกลอรี่มีความสนอกสนใจ
ในศิลปะการต่อสูเ้ ป็นอย่างมาก หลายคนเดินทางมาที่นี่เพื่อจะ
วางเดิมพันต่างๆในการประลองนี้เช่นกัน

ในขณะนี้ที่นั่งของตระกูลต่างๆถูกจัดวางไว้ในทิศเหนือของ
สนามประลอง สมาชิกของตระกูลบันทึกสวรรค์นั่งอยูม่ ุมทาง
ทิศเหนือ ระยะห่างระหว่างพวกเขากับตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์อยู่
ไม่ไกลมากนัก

ในอดีตที่ผ่านมาของขุนนางชนชั้นล่างอย่างตระกูลบันทึก
สวรรค์นั้นไม่มีผู้ใดเลยที่จะให้ความส่าคัญ แต่บัดนี้ทุกสิ่งทุก
อย่างล้วนเปลีย่ นไป ไม่มตี ระกูลใดเลยที่จะละเลยการกระท่าที่
มีต่อตระกูลบันทึกสวรรค์
ซึ่งสิ่งเหล่านีเ้ องที่เป็นตัวจุดชนวนให้ตระกูลอื่นเกิดความอิจฉา
ริษยา เกลียดชังไม่น้อยเลย หยาง ซิน และ สามผู้อาวุโสของ
สมาคมนักปรุงยาเองก็นั่งข้างตระกูลบันทึกสวรรค์ พวกเขาได้
พูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนานกับตระกูลบันทึกสวรรค์
เรื่องนี้เป็นดังเชื้อเพลิงทีส่ ุมไฟความริษยาของตระกูลอื่นๆให้มี
มากเพิ่มยิ่งขึ้นไปอีก

โดยปกติแล้วพวกเขาต่างพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจะเข้าให้ถึง
ตัวหยาง ซินและเหล่าผู้อาวุโสของสมาคมนักปรุงยา แต่ไม่ว่า
พวกเขาจะพยายามมากเพียงใดก็ยังมิได้รับความแลเหลียวจาก
สมาคมนักปรุงยาเลยแม้แต่น้อย พวกเขาไม่เคยอยู่ในสายตา
ของสมาคมนักปรุงยาเลย แต่ตระกูลบันทึกสวรรค์กลับได้รับ
การปฏิบตั ิอย่างสุภาพจาก หยาง ซิน

“น้องชายตัวน้อย หม้อประหลาด ของน้องเกือบท่าให้พี่สาวสุด


สวยคนนี้ตายเลยนะ เจ้ามีแผนจะจัดการอย่างไรกับเรื่องนี้?”
หยาง ซินเอ่ยปากถามเนี่ยหลี่พร้อมแสดงท่าทางยั่วยวนอวด
เสน่ห์จากเรือนร่างของนาง ความจริงคือสถานการณ์ไม่ได้
เลวร้ายถึงขั้นนั้น คนที่พยายามจะลอบสังหารนางได้ถูก
องครักษ์ ของนางสังหารเรียบร้อยแล้ว นางจึงไม่ได้รับอันตราย
ใดๆ อย่างไรก็ตามต่อหน้าเนี่ยหลีน่ างพยายามพูดให้ดเู หมือน
เป็นจริงจังไม่ใช่เล่นๆ

เนี่ยหลีร่ ู้ถึงจุดประสงค์ของการกระท่าของหยาง ซิน จึงยิ้ม


เล็กน้อยก่อนเอ่ยปากบอก “เกี่ยวกับเรื่องนี้น้องชายเป็นหนี้
ท่านแล้วพี่หยาง ซินโปรดกรุณาด้วย”

“เช่นนั้นก็ดี!” รอยยิ้มของหยาง ซินเผยออกมา ก่อนที่จะบิดขี้


เกียจเผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าของเอวที่เรียบเนียนชวนหลงใหล
และพูดว่า “เหตุใดการประลองนีถ้ ึงยังไม่เริม่ เสียที ข้าชักจะเริม่
เบื่อแล้วนะ น้อยชายตัวน้อยเมื่อไหร่เจ้าจะขึ้นไปเสียที ?ข้าจะ
ได้วางเดิมพันข้างเจ้า! ”

ชายหนุ่มจากตระกูลอื่นๆ เมื่อได้เห็นส่วนโค้งเว้าของหยาง ซิน


แทบเป็นไปมิได้เลยที่จะละสายตาไปจาก หยาง ซิน ยิ่งได้เห็น
หน้าอกอวบอิ่มเข้ารูปเวลาเธอยืดตัวยิ่งยั่วยวนไปยิ่ง ช่วยไม่ได้ที่
พวกเขาจะต้องกลืนน้่าลายกันไปตามๆกัน

ด้วยความงามเฉกเช่นคนชั้นสูงของนาง สถานะของนางนั้นก็ไม่
ธรรมดาเลย ผู้ใดกันที่จะกล้าไปเล่นตลกกับนาง ? นางมีอ่านาจ
ที่จะตัดสินชะตากรรมของตระกูลได้อย่างง่ายดาย ใครจะกล้า
ไปกวนใจนางกัน?
หยาง ซินมิได้สนใจกับสายตาของผู้อื่นที่มองนางเลยแม้แต่น้อย
เพราะในสายตานางนั้นมักจะมองไปที่เนี่ยหลี่เพียงผูเ้ ดียว

ขณะที่เนี่ยหลี่กับหยาง ซินพูดคุยกัน กลุ่มผู้คนตระกูลเทพ


ศักดิ์สิทธิ์ก็เดินผ่านไป หนึ่งในนั้นคือหนึ่งในผู้น่าตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์ ผู้อาวุโส เสิ่นหมิง

“ไม่ได้พบกันนานเลยทีเดียว! ผู้อ่าหนวยการหยาง ข้าไม่เคย


คาดฝันเลยว่าท่านมีความสนใจการต่อสูร้ ะหว่างตระกูลด้วย”
เสิ่นหมิงยิม้ กล่าว ภายในดวงตาของเขา บ่งบอกเป็นนัยของ
ความกลัว เขาไม่คาดคิดเลยว่าตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นจะมี
ความสามารถที่โน้มน้าว ผู้อ่านวยการหยางและเหล่าผู้อาวุโส
ท่านอื่นๆมายังที่นี่

แม้ว่าตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์จะเป็น หนึ่งในสาม ตระกูลหลัก


หากในการเผชิญหน้ากับสมาคมนักปรุงยา พวกเขายังมีความ
เกรงกลัวต่อสมาคมนักปรุงยาเป็นอย่างมากไม่ต้องกล่าวถึง
ตระกูลอื่นๆเลย ตระกูลเทพศักดิส์ ทิ ธิ์ได้มีการซื้อยาจากสมาคม
นักปรุงยาเป็นจ่านวนมาก ถ้าจู่ๆ สมาคมนักปรุงยาลดจ่านวน
ของยาทิพย์ลงแล้วละก็ พวกเขาจะได้รับผลกระทบมากมาย
เลยทีเดียว
“เปล่าเลยท่าน อาวุโส ตัวข้านี้มไิ ด้มีความสนใจในการประลอง
นี้เลยแม้แต่น้อย ข้าแค่มาที่นี่เพื่อดู น้องชายเนี่ยหลีต่ ัวน้อย ข้า
ก็อาจจะวางเดิมพันไป ข้าทราบมาว่าตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ท่า
หน้าที่เป็นผูร้ ับวางเดิมพันในปีนี้”หยาง ซินกล่าวพร้อมยิ้มไป
พลางๆ

น้อยชาย...? เนี่ยหลี่ ? เสิ่นหมิง เพ่งจ้องมองกวาดไปทั่วใบหน้า


ของเนี่ยหลี่ เสิ่นหมิงคิดไม่ตกกับความสัมพันธ์ระหว่างเนี่ยหลี่
กับหยาง ซิน

“ผู้อ่าหนวยการหยาง ท่านเข้าใจถูกแล้ว ทางตระกูลเทพ


ศักดิ์สิทธิ์ของเรารับเป็นเจ้าภาพการวางเดิมพันในปีนี้ ท่าน
ผู้อ่านวยการหยางมีความสนใจที่จะวางหนึ่งหรือสองเดิมพันดี
ละ ?” การแสดงออกของเสิ่นหมิงชะงักไปชั่วครู่ เขาไม่สามารถ
รู้ได้เลยว่าฐานะของสมาคมนักปรุงยานั่นมั่งมี มากมายเพียงใด?
แม้จะเป็นถึงตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์เขาก็ไม่กล้าที่จะเล่นด้วย

“ข้า เพียงต้องการเล่นแบบสบายๆ เดิมพันของข้าคือน้องชาย


เนี่ยหลีเ่ พียงคนเดียว ผู้อาวุโส เสิ่น หมิงอย่าได้กังวลต่อเรื่องนี้
ไปเลย ฮ่าฮ่า!”หยาง ซินหัวเราะเบาๆ

เนี่ยหลีม่ องไปที่ เสิ่นหมิง แล้วเคลือ่ นไปดู เสิ่นเฟย ที่อยู่


ด้านข้าง เขาเห็นว่า เสิ่นเฟย มองมาที่เขาด้วยความมุ่งร้าย
เปรียบได้ดังกับอสรพิษตัวหนึ่งไม่เพียงแม้แต่ความเกลียดชังที่
ขโมยคู่หมั้น เขาไป เสิ่นเฟย เกลียดเนี่ยหลี่ปรารถนาที่จะให้
เนี่ยหลี่นั้นตายๆไปเสีย นี่ถ้าเนี่ยหลี่ไม่ได้มี หยาง ซินหนุนหลัง
แล้วละก็ เขาคงกระโจนเข้าท่าร้ายเนี่ยหลี่แล้วเป็นแน่

“ฮ่าฮ่า ศิษย์พเี่ สิ่น เป็นเวลานานเหลือเกินที่ไม่ได้พบท่าน ช่าง


น่ายินดีเสียจริง”เนี่ยหลี่ ไม่สนใจสายตาที่มุ่งร้ายของ เสิ่นเฟย
อย่างสิ้นเชิงมิหน่าซ้่ายังกล่าวทักทายราวกับไม่ได้ตระหนักถึง
ความแค้นระหว่างพวกเขา
บทที่ 81 - เดิมพัน

เมื่อจับจ้องมาที่การอากัปกริยาของเนี้ยหลี่ หยางซินก็เข้าใจ
ในทันที ว่ามันเกิดสิ่งใดกันขึ้น เนีย้ หลี่นั้นน่าจะมีความขัดแย้ง
บางอย่างกับเสิ่น เฟย นั่นคือวัตถุเหตุผลส่าคัญที่ท่าให้เนีย้ หลี่
ต้องเรียกนางมาช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆและทีส่ ่าคัญมันคือการที่
จะต้องสู้กับตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์นนั่ เอง

แม้รู้ว่ามันอาจจะท่าให้นางต้องบาดหมางกับตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์ แต่นางก็ยังคงสนับสนุนเนี่ยหลี่ โดยปราศจากความ
ลังเลใดๆ มันช่างเป็นการตัดสินใจที่ง่ายดายยิ่งนัก

“ฮ่า........”เสิ่น เฟยพ่นลมหายใจ เขาไม่ใช่พี่น้องกับเนี่ยหลี่


ดังนั้น“ข้าจะไม่ปล่อยให้แกได้จองหองอย่างนี้ต่อไปได้อีกนาน
หรอก เมื่อการประลองยุทธ์เริ่มขึน้ ข้าจะท่าให้แกได้ตายด้วยมือ
ข้าเอง!”เสิ่น เฟยบ่นพรึมพร่ากับตัวเอง
“ ฮ่าๆท่านนายน้อยเสิ่น แล ยิ้มแย้มแจ่มใสเบิกบานส่าราญนัก
ช่างดูน่าคบหาเสียยิ่งกระไร!” เนีย่ หลี่ หัวเราะเสียงดัง “หนิ
งเอ๋อ มักจะพูดถึงเรื่องต่างๆของนายน้อยให้ข้านั้นได้ฟังเป็น
ประจ่าทุกวันค่่าเช้า สาย บ่าย เย็น นางบอกว่านายน้อยนั้นช่าง
เป็นผู้ชายที่ใจกว้างยิ่งกว่าแม่น้่าสายใหญ่ที่ไหลมารวมกันเสียยิ่ง
นัก”

เมื่อได้ยินเนี้ยหลี่เอื้อนเอ่ยวาจา ถึง เสี่ยว หนิงเอ๋อ เสิ่น เฟยก็


แทบจักระเบิดอารมณ์ออกมาในทันที เนี้ยหลี่นั้นก่าลังแกล้ง
เหย้าแหย่จุดอ่อนที่ส่าคัญของเขา ท่าให้รู้สึกเหมือนกับว่าเขา
นั้น เป็นควายที่โดนสวมเขาบนหัว (เสิ่น เฟย เป็นคู่หมั้นของห
นิงเอ๋อ)
ดูเหมือนว่าแทบจะทั้งร่างกายของเสิ่น เฟยเกือบจะแปรเปลีย่ น
กลับกลายเป็นสีเลือดหมูไปแล้วในขณะนั้น แต่เนี้ยหลีย่ ังคงหา
ได้สนใจไม่ยังคงชวนสนทนาพาทีตอ่ ไป “เมื่อเร็วๆนี้เสี่ยวหนิง
เอ๋อ ได้ผ่านการฝึกฝนเพิม่ พลังวิญาณจนก้าวกระโดดและทะลุ
ขอบเขตจ่ากัดของตัวเอง ตอนนี้นนั้ นางก่าลังจะเข้าสู่ระดับเงิน!
ในไม่ช้า ข้ายังช่วยนวดจุดส่าคัญต่างๆบนร่างกายของนางเพื่อ
รักษาอาการเจ็บป่วย จนตอนกระทั้งตอนนี้นั้นอาการของนางก็
เกือบจะหายเป็นปกติแล้ว นายน้อยเสิ่นท่านสามารถขอบคุณ
ข้าก็ได้นะ

“นวด.......”เสิ่น เฟยอุทาน

เมื่อได้ยินวาจาของเนี้ยหลี่ ก็ปรากฏภาพต่างในหัวของเขา
นวดคลึงจุดต่างๆทั่วร่างกาย ระหว่างเนี้ยหลี่และเสี่ยวหนิงเอ๋อ
ภาพเหล่านั้นก็พลันปรากฏขึ้นในทุกอณูโสตประสาทในหัว
สมองของเขา จนเกือบ กระอักเลือดออกมาตายให้
เป็นได้ ทุกๆคนนั้นรู้ว่าตลอดมานี้ เสี่ยว หนิงเอ๋อนั้น มิยอมให้
เขาได้สัมผัสแม้แต่เล็บมือของนาง เขานั้นท่าได้แค่เฝ้า มองและ
พูดคุยเพียงเท่านั้น!

“ไอ้เจ้าคนแซ่เนี้ย แกจะต้องถูกข้าท่าให้เป็นปุ๋ยกลับออกไป
แน่!” ณ เวลานี้นั้นเสิ่น เฟยมิสามารถที่จะควบคุมความโกรธ
ของตัวเองได้อีกแล้ว ตาทั้งสองข้างนั้นเบิกโพลงขึ้นส่าหรับ
ทายาทของตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ ที่มีความภาคภูมิใจในศักดิศ์ รี
และเย่อหยิ่งเป็นหนักหนา อย่างเขามิเคยได้พบกับความอัปยศ
อดสูเช่นนี้มาก่อนและแล้วเสิ่น เฟยก็อดใจไม่ไหวได้กระโจนเข้า
ไปพร้อมทั้งปล่อยหมัดไปยังเนี้ยหลี่

ในขณะนั้น คิ้วของแม่นางหยางซิน ก็กระตุกไปมา นางเร่งรีบ


โจนทะยานลงมาอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ระหว่างบุรุษทั้งสองเพื่อ
ห้ามปรามศึกในครั้งนี้ ตัวเธอยิม้ แบบเฝื่อนๆ ที่เนีย้ หลี่นั้นจงใจ
ยั่วยุ เสิ่น เฟยอย่างชัดเจน เป็นธรรมดาที่เธออยู่ที่ตรงนั้น

เมื่อมองไปยังเนีย้ หลี่ที่ยั่วยุ เสิ่น เฟย และมีหยาง ซิน ก่าลังห้าม


พวกเขาอยู่นั้น เสิ่นหมิง ดูท่าทางโกรธเล็กน้อย เขาได้กระชาก
เสิ่น เฟย จนพุ่งถอยหลังกลับไปในเร็วพลันโดยมิได้เอื้อนเอ่ย
วาจาใดๆออกมาเลย

“ท่านนายน้อยเสิ่น เฟยโปรดอย่าใจร้อนเลย” เสิ่นหมิงกล่าว


พร้อมทั้งยิ้มอย่างมีเลศนัย

“ในการประลองศิลปะการต่อสู้ ที่ก่าลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้”
พวกตระกูลเนี้ยจักต้องส่งใครบางคนลงในการต่อสู้นี้อย่าง
แน่นอน ท่าไมท่านไม่รั้งรอประลองยุทธ์กับมันหลังจากนี?้ ซึ่ง
จะท่าให้ไม่มีปัญหาและทุกอย่างก็จักเรียบร้อย?

เสิ่น เฟย อกแทบแตกตาย เขาจักต้องพยายามอย่างมากมาย


มหาศาลเพื่อระงับความโกรธของเขาลง เขาจดจ้องมองถมึง
ปลดปล่อยรังสีอมั หิตไปที่เนี้ยหลี่เขาได้คดิ วิเคราะห์แล้วจึงแล
เห็นชัดเจนเลยว่า เนีย้ หลี่นั้นถูกปกป้องโดยสมาคมนักปรุง
ยา เลยท่าให้มไิ ด้เกรงกลัวต่อสิ่งใด เขาคงมิสามารถท่าอะไร
เนี้ยหลี่ที่นี่ในเวลานี้ได้เป็นแน่ แต่เมื่อการประลองยุทธ์เริ่มขึ้น
เขาจักสอนบทเรียนราคาแพงที่ลืมไม่ลงให้แก่เนีย้ หลีเ่ อง

ถ้าเนี้ยหลีไ่ ม่ลงมาสู้แล้วไซร้ถึงเขาจะชนะขยะจากตัวแทน
ตระกูลบันทึกสวรรค์กไ็ ม่มีความหมายอันไดเลย และดู
เหมือนว่าเนี้ยหลี่นั้นยังคงมิยอมลงมา

เสิ่น เฟยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และหยุดอยู่ทตี่ รงทางเดิน


หลังจากได้ยินเสียงนั้น “ใจเย็นๆท่านนายน้อยเสิ่น
เฟย” เนี้ยหลี่ที่ก่าลังยืนอยู่ด้านข้างเขาได้เอ่ยวาจา
ออกมา “การประลองยุทธ์ในครั้งนี้นั้นมันช่างปราศจาก
จุดมุ่งหมายที่เร้าใจหรือผลก่าไรใดๆเลย ไม่มีการเดิมพันใดเลย
ช่างน่าเบื่อเป็นยิ่งนัก”

“โอ้?” เสิ่นหมิง ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มาที่เนี้ยหลี่แล้วจึงถาม “ ข้า


ประหลาดใจเป็นยิ่งนักเจ้านั้นต้องการเดิมพันเป็นสิ่งในกัน?
“บริเวณรอบๆสนามประลองแห่งนี้นั้น ข้าฝากเงินกับนาย
ธนาคารมากมาย เพราะฉะนั้นเจ้ามิต้องกังวลดอกมิว่าจักวาง
เดิมพันมากมายสักเพียงไร ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์นั้นสามารถ
พนันกับข้าได้เลยแต่ถ้ามันนั้นน้อยเกินไปข้าก็จักไม่เล่นเดิมพัน
ครั้งนี”้ เนี้ยหลี่กล่าวด้วยสีหน้าและท่าทางที่จริงจัง

“เจ้ามีเงินจริงหรือ? เจ้ามีเงินมากขนาดไหน?” เสิ่นหมิง คิ้ว


ขยับเล็กน้อย เมื่อเริ่มเกิดการพนันขันต่อขึ้นทั้งสองฝ่ายจักต้อง
น่าเงินที่ใช้ในจ่านวนที่เท่ากันมาวางเดิมพัน ผู้ชนะจักได้ทุกๆ
อย่างไป “ข้ากลัวว่าตระกูลบันทึกสวรรค์จะไม่สามารถจ่ายได้
ซึ่งเงินเดิมพันได้”เสิ่นหมิงกล่าวพร้อมแลด้วยสายตาท่าทางดู
ถูกมายังเนี้ยหลี่

ในเมื่อพี่สาว หยางซินก็อยู่ที่นี้เป็นการันตี ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์


ยังจักต้องกลัวสิ่งใด หรือคิดว่าข้าจักไม่สามารถที่จะจ่ายได้
กระนั้นเชียวหรือ?” เนี้ยหลี่กล่าวพร้อมทั้งรอยยิ้มเล็กน้อยดู
ท่าทางนั้นช่างเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก
หยางซิน สามารถเข้าใจเหตุผลว่าท่าไมเนี้ยหลี่จึงเกลียด
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์จึงปล่อยให้ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นตกลง
ไปในกับดักของเนี้ยหลี่ ซึ่งดูเหมือนว่าเนี้ยหลี่นั้นจะมั่นใจใน
ตัวเองมากทีเดียวที่จะชนะในการประลองยุทธ์กับเสิ่น เฟย

ถ้าน้องชาย ตัวน้อยของข้า เนี้ยหลี่ ไม่สามารถจ่ายเงินเดิมพัน


ได้ ข้าก็จักเป็นผู้จ่ายแทนเขาทั้งหมดเอง” หยางซิน เปล่งวาจา
ด้วยหน้าจริงจัง

“ถ้าท่านผู้อ่านวยการหยาง เอ่ยเช่นนั้น ข้าก็จักให้มีการเดิม


พันสักครั้งหรือสองครั้งเป็นการประลองยุทธ์ระหว่างนายน้อย
ของข้า เสิ่น เฟย และ นายน้อย เนี้ยหลี่ ข้าจักลงวางเดิมพัน
ข้างเสิ่น เฟย ชนะ ด้วยจ่านวณเงิน ห้าสิบล้านเหรียญจิต
มาร ท่านกล้ายอมรับมันหรือไม่?” เสิ่นหมิงหลีต่ าลงมองไป
ยังเนี้ยหลี่ ส่วนเสิ่น เฟยนั้นในตอนนี้ได้จดจ้องพร้อมเปล่งรังสี
อัมหิตมาปริมาณมหาศาลมายังเนีย้ หลี่
“ห้าสิบล้านเหรียญจิตมาร?” ทันใดนั้นเนี้ยหลี่กล่าวพร้อมท่าตา
ลุกโพลงขึ้นมาโดยพลัน

“อะไรกันเจ้ากลัวหรือ?” เสิ่น เฟยถอนหายในพร้อมยกมือแยก


ออกจากกันเป็นท่าทางประกอบพร้อมทั้งเอ่ยวาจาต่อไปอีกว่า

“เงินเดิมพันห้าสิบล้านเหรียญจิตมาร มันคงไม่ท่าให้คนบ้า
อย่างเจ้ากลัวหรอกนะ?”

“ข้าเพียงแต่จะบอกท่านว่าเงินจ่านวนห้าสิบล้านจิตมารนั้นมัน
ยังมิเพียงพอดอก ท่านมีเงินที่จะวางแค่นั้นเองหรือ? ตระกูล
ระดับยิ่งใหญ่อย่างตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นกลับกล้าวางเงินเดิม
พันช่างน้อยนิดเสียยิ่งกระไร”เนี้ยหลี่หันกลับไปมองหยางซิ
นแบบอ้อนๆ แล้วจึงเอื้อนเอ่ยว่า “พี่สาวหยาง ซิน ตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์ท่าไมจึงยากจนค้นแค้น น่าสงสารถึงเพียงนี้นัก?”
“เงินแค่ห้าสิบล้านเหรียญติมารนัน้ เกือบจะไม่พอให้ข้าซื้อขนม
หวานและให้รางวัลเด็กๆของข้าเลยช่างยากจนกระไรถึงเพียง
นี”้

เมื่อจับจ้องมองมาที่การแสดงอากับกริยาของเนี้ยหลี่นั้นยาง
ซินก็แอบหัวเราะอย่างหนักมากอยู่ในใจ เนี้ยหลี่นั้นช่างเต็มไป
ด้วยจินตนาการที่ชั่วร้ายเสียยิ่งกระไร ตอนนี้เขานั้นก่าลัง
ล่อลวงให้ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นย่างกลายเข้ามาในกับ
ดัก นางส่ายหน้าแล้วเปล่งวาจาอย่างจริงจัง “น้องชายตัวน้อย
จ่านวนเงินห้าสิบล้านเหรียญจิตมารนั้นจากการที่พสี่ าว
พิจารณาแล้วมันคือเงินที่มากมายส่าหรับแต่ละตระกูลนะจ๊ะ”

“จะท่าไงได้นี่นะ? มันช่างน้อยจัง” เนี้ยหลี่หยิบเอากองการ์ด


คริสตัลอสูรขึ้นมาจ่านวนหนึ่งราวๆยี่สิบถึงสามสิบใบขึ้นมาใน
มือของเขาแล้วปาออกไปบนเวที มันสร้างความแตกตื่นโกลาหล
ขึ้นมาทันทีในขณะนั้นเมื่ออยูๆ่ มีคนขว้างเงินถึงหลายแสน
เหรียญจิตมารขึ้นมาบนสนามประลอง เนี้ยหลี่ ท่าท่าทางหยิ่ง
และเอื้อนเอ่ยวาจาและท่าประกอบขึ้นว่า
“ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์นี้ช่างขัดสนค้นแค้นเสียยิ่งนัก ข้าหละไม่
อยากที่จะเล่นพนันกับพวกท่านเลยจริงๆ ถ้าข้าชนะเงินจ่านวน
ห้าสิบล้านเหรียญจิตมารนี้ ข้าจะแบ่งพวกมันให้กับทุกคน ที่
มาร่วมชมการประลองยุทธ์ในครั้งนี้ เงินแค่นี้ส่าหรับข้านั้นมัน
ช่างไม่พอยาไส้ ไม่มีซึ่งความหมายอันใดเลย เขาได้เก็บพวกมัน
ไว้ในแหวนมิติพิศววนี้ จากนั้นก็ขว้างการ์ดคริสตอลอสูรจ่านวน
หนึ่งออกไปอีกจนกองรวมเป็นเงินกว่าห้าสิบล้านเหรียญจิตมาร

เมื่อได้ยินวาจาและท่าทางของเนี้ยหลี่ เสิ่นหมิงและเสิน่ เฟ
ยต่างหน้าซีด เนี้ยหลี่นั้นช่างบ้าบิน่ เป็นยิ่งนัก เงินจ่านวนห้า
สิบล้านเหรียญจิตมารนั้น มิใช่เงินจ่านวนน้อยเลย ตระกูลขุน
นางทั่วไปนั้น คงมิสามารถที่จักหาเงินได้จ่านวนมากขนาดนี้เสีย
ด้วยซ้่า มีเพียงตระกูลหลักเท่านั้น เช่นตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ ที่
สามารถที่จะหาพวกมันมาได้ แน่นอนนั่นยังไม่สามารถเทียบ
กับสมาคมนักปรุงยาได้ ซึ่งพวกสมาคมนักปรุงยา ในปัจจุบัน
นั้นร่่ารวยมากมายมหาศาลซะยิ่งกว่าใครในเมืองกลอรี่ซะอีก
“ห้าสิบล้านเหรียญจิตมาร เจ้าช่างกล้านักที่จะพูดว่ามันนั้น
มาก!”เนี้ยหลี่นนั้ หัวเราะหนักมากอย่างดูแคลน

ในขณะที่เสิ่นหมิงได้แต่ถอนลมหายใจอย่างรุนแรงจนสามารถ
พัดพาหนวดเคราของเขาให้พริ้วไหวดั่งสายน้่า แต่ เสิ่น เฟย
ยังคงนิ่ง ตั้งแต่เนี้ยหลีไ่ ด้แกล้งแหย่ให้เสิ่น เฟยนั้นโกรธจัด
จนกระทั่งควันออกหูได้นั้น เขาได้พิจารณาไตร่ตรองเป็นที่
เรียบร้อยแล้วว่าส่าหรับในรอบแรกนั้น เงินเดิมพันจ่านวนห้า
สิบล้านเหรียญจิตรมาร มิใช่จ่านวนเงินที่มากในการวางเดิมพัน
เท่าใดนัก หลังจากนั้นยังมีโอกาสไม่น้อย ที่จะศึกษาความ
แข็งแกร่งของเนี้ยหลี่ก่อนเรื่องอื่นๆ

“ในรอบแรกนี้เราจะวางเดินพันกันห้าสิบล้านเหรียญจิตมาร
เราจะยังไม่หยุดอยูเ่ พียงนั้นถ้าท่านยังชนะเราก็จักเดิมพันต่อไป
เรื่อยๆ” เสิ่นหมิงเอ่ยวาจาพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อย ถ้าเนีย้ หลี่นั้น
มีเหตุบังเอิญสามารถเอาชนะการต่อสู้กับเสิ่น เฟยได้ เขาก็ยังมี
สองนักสู้ที่เก่งกาจกว่าเป็นตัวแทนจากตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ ยัง
สามารถวางเดิมพันได้อีกถึงสองครั้งจากนักสู้ซึ่งเก่งฉกาจและมี
ความน่าเชื่อถือมากกว่านี”้

“คงเป็นที่แน่นอนแล้วนะว่า ในเวลานี้นั้นตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์


นั้นต้องการที่จะเล่นเดิมพันครั้งนี้ ข้าจะเล่นมันจนกระทั้งจบ
เกม เงินนั้นข้ามีมาก มิน่าจะมีปญ ั หาอะไรในการทีต่ ระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์วางเงินเดิมพัน ไม่ว่ามันจักเท่าไรข้าขอเปิดโต๊ะรับแทง
จ่านวนไม่อั้น”เนี้ยหลี่ เปล่งวาจาพร้อมท่าประกอบ...

“ตระกูลอื่นๆทั้งหมดจะร่วมเป็นสักขีพยานในการเดิมพันครั้ง
นี้!” เนี้ยหลี่เอ่ย

“แน่นอน มันช่างน่าจัดไปอย่าให้เสียยิ่งกระไร!” เสิ่น


หมิง เปล่งวาจาออกมาตรงๆ

ข่าวคราวที่ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์และตระกูลบันทึกสวรรค์ได้วาง
เดินพันนั้นได้แพร่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ เหล่าท่านผู้น่า
ตระกูลและผู้อาวุโสผู้คนจากตระกูลต่างๆได้ร่วมมาเป็นสักขี
พยานในการเดินพันในครั้งนี้ด้วย

“มันมีอะไรที่มิถูกต้องไปหรือเปล่า ลือว่าตระกูลบันทึกสวรรค์
นั้นจักเดิมพันขันต่อกับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์กระนั้นเชียวหรือ?

“เจ้าไม่รู้หรอกหรือว่า?ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นได้รับการ
ปกป้องโดยสมาคมนักปรุงยา พวกเขานั้นร่่ารวยมหาศาล ดู
เหมือนว่าในตอนนี้ก่าลังจะสู้กับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์อยู่นะ”

“เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่ามันมิใช่ระหว่างตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์กับ
ตัวแทนของสมาคมนักปรุงยาแน่?”

“ผู้ใดรู้บ้าง?”เหล่าผู้น่าและผูอ้ าวุโสตระกูลต่างๆก่าลัง
วิภาควิจารณ์กันไปทั่ว
บทที่ 82 - ต่อสู้ครั้งแรก ของอสูรเขี้ยวหมีแพนด้า

ทุกๆคนในตอนนี้นั้นเปลีย่ นมาสนใจการต่อสู้ระหว่างตระกูล
เทพศักดิ์สิทธิ์และตระกูลบันทึกสวรรค์
มีเหล่าผู้น่าตระกูลต่างๆล้วนใจจดใจจ่อรอชมการประลองยุทธ์
ในครั้งนี้
“ได้ยินมาว่าตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นได้วางเงินเดิมพันถึง
ห้าสิบล้านเหรียญจิตมารกับตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ถึงกระนั้น
เชียวหรือ”
“ เงินจ่านวนห้าสิบล้านเหรียญจิตมารนั้นมันมากมาย
จริง น่าจะมีเพียงแค่ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์และสมาคมนักปรุง
ยาเท่านั้นกระมังที่สามารถจ่ายมันได้ ตระกูลเล็กอย่างตระกูล
บันทึกสวรรค์คงมิมีทางที่จักสามารถจ่ายมันได้เป็นแน่ ถ้าพวก
เขามิได้รับการสนับสนุนจากสมาคมนักปรุงยามิเช่นนั้น ตระกูล
บันสวรรค์นั้นคงจะไม่กล้าวางเดินพันในครั้งนี้หรอก!”
การเดิมพันระหว่างตระกูลทั้งสองท่าให้อุณหภูมิในสนามแข่ง
ขันแห่งนี้นั้นดูเหมือนจะร้อนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ที่บริเวณรอบนอกได้มีผู้คนเล่นพนันโดยมีตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์
เป็นผู้เปิดโต๊ะรับพนันให้แก่ประชาชนคนทั่วไปได้แทงกันอย่าง
กันอย่างจุใจโดย ราคาต่อรองด้วยอัตรา ดังนี้ เนี้ยหลี่จะชนะ
เป็นแทง 1 ต่อ 1.5 เสิ่นเฟยชนะ 1ต่อ 1.3 เสิ่นเฟยสามารถ
ท่าให้เนี้ยหลี่พ่ายแพ้ได้ด้วยการโจมตีเพียงหนึ่งกระบวนท่า
ราคาต่อรอง แทง 1 ต่อ 1.9
เนี้ยหลี่ ก่าลังมองที่อัตราการต่อรองต่างๆพบว่ามีการพนันว่า
เนี้ยหลี่ นั้น สามารถชนะเสิ่นเฟยจากการโจมตีเพียงหนึ่ง
กระบวนท่า ด้วยอัตราที่รองที่สูงถึง แทง 1 ต่อ 11

“เสียดายเป็นยิ่งนักที่มันสามารถพนันได้เพียงครั้งละไม่
เกิน 6 ล้าน ต่อรอบการประลอง ถ้ามันมีไม่จ่ากัดหละก็ ข้าจัก
พนันให้ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์นั้นกลายเป็นตระกูลที่ยากจนเลย
เสียทีเดียว!”เนี้ยหลี่แอบเก็บซ่อนเร้นจินตนาการอันแยบยลของ
เขาไว้อยู่ภายในใจ เมื่อการประลองยุทธ์รอบแรกเริ่มขึ้นข้านั้น
จักแค่เพียงหยอกล้อเล่นกับพวกมัน แต่ในรอบต่อๆไปข้าจะ
เดิมพันก้อนใหญ่ใส่พวกมันให้หมดตัวเป็นแน่
เนี้ยหลี่และพวกของเขาแอบด่าเนินการส่งบางคนไปวางเดิมพัน
อย่างลับๆ โดยได้ท่าการกระจายเงินออกเป็นจ่านวนเล็กน้อย
เพื่อไม่ให้ใครสงสัย ได้วางเดิมพันรวมกันทั้งสิ้นราวประมาณ
สามสิบล้านเหรียญจิตมาร เป็นการลงเดิมพันว่าเนี้ยหลีส่ ามารถ
จัดการเสิ่นเฟยได้ภายในยีส่ ิบ กระบวนท่า ซึ่งอัตราเดิมพันนั้น
อยู่ที่แทง 1จ่าย 3 นั้นเอง

ภายใต้แรงกดดันจากกองเชียร์จ่านวนมหาศาลจากผูเ้ ข้าชม ใน
สังเวียนประลองยุทธ์แห่งนี้เตรียมพร้อมที่จะต้องรับการเข้าสู่
สนามของนักสู้ทั้งสอง
ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นน่าโดยเนีย้ ไฮ้ และเนีย้ อิ้ง และพวกของ
เขา มีการแสดงออกให้เห็นถึงความตื่นเต้นบนใบหน้าของเขาได้
กระตุกไปมาอย่างชัดเจน
หยางซิน แอบมองมาที่เนี้ยหลี่ แล้วแอบยิ้มที่มมุ ปากของนาง
เล็กน้อย นางนั้นมีความรู้สึกได้เลยว่างานนี้ เสิ่นเฟย จักต้อง
พ่ายแพ้แบบน่าสมเพศเวทนาเป็นแน่
เสิ่นหมิงและพรรคพวก ทะยานขึน้ ไปสู่ที่พ่านักชมการประลอง
ส่าหรับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว และเปล่งวาจาว่า“
การประลองยุทธ์ครั้งนี้นั้น ไม่อนุญาตให้ใช้ อาวุธหรือชุดเกราะ
ในการต่อสู้ แต่อย่างไรก็ตามอนุญาตให้ใช้ยาทิพย์ส่าหรับเพิม่
ความแข็งแกร่งให้แก่ดวงจิตอสูรทัง้ สองได้ถ้าเจ้าอยากใช้มัน!”

ยาเสริมวิญญาณชนิดนี้ผู้ครอบครองจักมีเฉพาะตระกูลหลัก
โดยต้องสั่งซื้อจากสมาคมนักปรุงยา ปกติพวกเขาจะใช้ในการ
ต่อสู้กับพวกสัตว์อสูรเท่านั้น ไม่มีใครเสียสติถึงกับใช้ยาราคา
แพงในการประลองยุทธ์เป็นแน่? อย่างไรก็ตามการวางเงินเดิม
พันครั้งนี้กับเนี้ยหลี่นั้นมันช่างมากมายนัก ดังนั้นถึงยาเสริม
วิญญาณนั้นจักราคาแพงมากกว่าล้านเหรียญจิตมารมันก็เป็น
สิ่งที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
ยาเสริมวิญญาณนั้นสามารถที่จะเปลี่ยนให้จิตอสูรแข็งแกร่งขึ้น
เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามมันก็มีผลกระทบอยู่บ้างคือ
ก่อให้เกิดความเสียหายให้แก่จิตอสูรนั้นในระยะยาว แม้ไม่
กระทบต่อตัวของร่างทรงอสูรผู้นนั้ ส่าหรับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์
แล้ว ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่จิตอสูรของเสิ่นเฟยได้รับความ
เสียหาย ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถที่จะสลับสับเปลี่ยน
น่าเอาดวงจิตอสูรที่แข็งแกร่งกว่ามาใส่ได้ แบบมิล่าบากเลย

นอกจากนี้ นายน้อยเสิ่นเฟย ท่านอย่าเพิ่งรีบร้อนที่จะจัดการ


กับเนี้ยหลีห่ ลังจากทีผ่ ่านกระบวนท่าไปแล้วยีส่ ิบ
กระบวน ท่านค่อยๆพิชิตมัน” เสิน่ หมิง กล่าวพร้อมทั้งมองมา
ที่เสิ่นเฟย
“จริงหรือที่ท่านต้องการให้ข้าจัดการกับมันหลังจากผ่านไปยีส่ ิบ
กระบวนท่า? มันชั่งเป็นเรื่องง่ายส่าหรับข้าเสียจริงเชียว !”เสิ่น
เฟย รู้ค่าใบ้ในสิ่งที่เขาต้องการจะบอก
“ท่านนายน้อยเสิ่นเฟย ท่านต้องอย่าได้ประมาทคู่
ประลองยุทธ์ของท่านเป็นเด็จขาด” เสิ่นหมิงเตือนเสิ่นเฟย
“ ข้า รู้น่า” เสิ่นเฟยพยัคหน้ารับค่า แม้ว่าเขาจะไม่เอ่ยวาจาใด
ต่อ แต่ก็ยังรู้สึกเหยียดหยามคู่แข่งเล็กน้อยในใจของเขา
เหล่าผู้อาวุโสและท่านผู้น่าตระกูลต่างๆได้ด่าเนินการวางเดิม
พันจนแล้วเสร็จ ซึ่งส่วนใหญ่นั้นพนันข้างเสิ่นเฟย จะเป็นผู้ชนะ
เนี่ยหลี่ เป็นจ่านวนมากว่า เสิ่นเฟย จักสามารถพิชิตเนี้ยหลี่
ได้ภายในยี่สิบกระบวนท่า พวกเขาเหล่านั้นล้วนเดิมพันว่า
เนี้ยหลีจ่ ะชนะเสิ่นเฟยค่อนข้างน้อยมา เกือบทั้งหมดล้วนลง
ความเห็นว่าสมาคมนักปรุงยาจักต้องให้ของขวัญกว่า ห้าสิบ
ล้านเหรียญจิตมารแก่ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์เป็นแน่แท้ พวกเขา
นั้นมิมีทางที่จักชนะไปได้ ทั่วทั้งสนามประลองความเล่าร้อน
เพิ่มขึ้นอย่างเร็วพลันจากเสียงเชียร์ของบรรดาผู้ชมทั้งหลายที่
ก่าลังจดจ้องไปยัง เนี่ยหลี่และเสิ่นเฟยที่ก่าลังย่างกลายเข้ามา
ในสนามประลองแห่งนี้

“ท่านนายเสิ่นเฟย จัดการกับไอ้เจ้าบ้าเนี้ยหลี่จากกระกูล
บันทึกสวรรค์เลย!”
“ท่านนายน้อยเสิ่นเฟย ให้โชคดี”
“ เนี้ยหลี่โชคดีนะ!เจ้าต้องพิชิตตระกูลศักดิส์ ิทธ์ให้ได้เลย! เจ้า
สามารถท่ามันได้ ”
เสียงเชียร์อันกึกก้องไปดังไปทั่วทั้งสนาม ถ้าเสิ่นเฟย จัดการ
เนี้ยหลีล่ งได้ ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิจ์ ักได้รับเงินรางวัลจากการ
ชนะจ่านวนมหาศาล
ภายใต้สายตาของผู้ชม จับจ้องไปยัง คู่ เนี้ยหลี่และเสิ่นเฟย ซึ่ง
ได้ยืนตระหง่าน อยู่ที่เวทีสนามประลองยุทธ์แห่งนี้แล้ว
“ข้า จักท่าให้เจ้าได้พบกับความพ่ายแพ้จนน่าสมเพศ
เวทนาแน่ ข้าจักไม่ยอมปล่อยเจ้าไปง่ายๆหรอก” เสิ่นเฟยเปล่ง
วาจาพร้อมรอยยิ้มอย่างชั่วร้าย เนี้ยหลี่เจ้าต้องเสียใจ ในสิ่งที่
ท่าลงไปกับผูห้ ญิงข้าใคร

“ ท่านนายน้อยเสิ่นเฟย ท่านช่างกล่าวค่ายกยอปอปั้นข้ายิ่ง
นัก หลังจากจบการประลองยุทธ์ครั้งนี้นั้นข้าจักบอกค่าชื่นชม
ของท่านแก่หนิงอ๋อเป็นแน่” เนี่ยหลี่หัวเราะเล็กน้อย
เสิ่นเฟย จ้องมองมายังเนี้ยหลี่ตัวของเขาแทบจะระเบิดอารมณ์
ออกมาให้ได้ แต่เขาก็ยังคงต้องพยายมอย่างมากที่จักระงับ
ความโกรธของเขาได้ เพราะเสิ่นหมิง ได้กล่าวว่า ให้เขาชนะ
เนี้ยหลีห่ ลังจากผ่านไปแล้วยีส่ ิบกระบวนยุทธ์ มิเช่นนั้นเขาจัก
เสียเดิมพันปริมาณมหาศาล
เสิ่นเฟย ปลดปล่อยความโกรธแค้นแผ่รัศมีพลัง ท่าให้ร่างกาย
ของเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เสิ่นเฟย ยกแขนตั้งท่า
จากนั้นโจนทะยานตัวของเขาไปยังเนี้ยหลี่ซึ่งอยู่ตรงหน้า โดย
เสิ่นเฟยนั้นยังมิได้อัญเชิญดวงจิตอสูรในตอนเริ่มต้น เพราะถ้า
เขาจักใช้จิตอสูรเนี้ยหลี่อาจจักมิสามารถทนรับการโจมตีได้ จึง
ไม่ต้องคิดว่าเนี้ยหลี่นั้นจะรอดหลังจากผ่านไปยี่สบิ กระบวน
ยุทธ์
เนี้ยหลีเ่ ห็นเช่นนั้นมีรอยยิ้มทีม่ ุมปากของเขาทันที เจ้าบ้านี่ช่าง
โง่เง่า เสียยิ่งนักจึงมิยอมใช้จิตอสูร “เช่นนั้นข้าก็จักเก็บมันให้
สั้น เลยทีเดียว”

“จริงๆเลย เดิมทีข้าว่าจะแกล้งหลอกท่าเป็นว่าเกือบที่
จะเอาชนะเจ้าไม่ได้มากกว่า แต่ตอนนี้คงไม่จ่าเป็นต้องรอแล้ว
มั้ง!”เนี้ยหลี่ก่าลังวางแผนการประลองในจิตนาการของ
เขา ทันใดนั้นเขาก็เข้าสูโ่ หมดจิตวิญาณเปิดใช้การอัญเชิญดวง
จิตอสูร “ปลดปล่อยจิตอสูรเขี้ยวแพนด้า”
กังฟูแพนด้าที่มีเขี้ยวขนาดใหญ่ก็พลันปรากฏกายขึ้นมาใน
อากาศบริเวณรอบๆตัวเขาจากนั้นก็ประสานรวมกับเนี้ยหลี่
ส่งผลท่าให้ร่างกายของเนี้ยหลี่นั้นแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมากมายนัก
เสิ่นเฟย ก่าลังปล่อยหมัดไปยังเนี้ยหลี่อย่างต่อเนื่อง เดิมทีเขา
คิดกับเนี้ยหลี่ก่อนที่จะสู้ ว่าเนี้ยหลี่นั้นช่างอ่อนแอนัก เขาไม่
เคยคิดว่าเนี้ยหลี่จักสามารถอัญเชิญดวงจิตอสูรได้โดยที่เรื่องนี้
ยังไม่มผี ู้ใดทราบมาก่อน มิหน่าซ้า่ เนี้ยหลีย่ ังสามารถอัญเชิญ
จิตอสูรในชั่วพริบตาช่างรวมเร็วเสียยิ่งนัก เนี้ยหลี่นั้นสามารถที่
จะหลอมรวมกับจิตวิญาณอสูรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ร่างกาย
ของเสิ่นเฟย นั้นไม่สามารถที่จะตอบสนองการอันเชิญจิตอสูร
ได้ทัน แม้เขานั้นอยากที่จะอัญเชิญจิตอสูรของเขามาหลอมรวม
ก็ตาม
อสูรระดับต่่าดูน่ารักเช่นเจ้าจิตอสูรเขี้ยวแพนด้า นั้น ไม่รู้ว่ามัน
จักเรียกออกมาเพื่ออะไร? เสิ่นเฟยนั้นเชื่อมั่นในการตัดสินใจ
ของเขาว่าแข็งแกร่งเพียงพอ หลังจากรับการโจมตีของร่างทรง
เนี้ยหลี่แพนด้าเขี้ยวเสร็จ เขาก็จักกระโดดถอยหลังกลับและ
อัญเชิญจิตอสูรออกมาทันที

มีใครจะโง่เกินกว่ามันไหมเนีย่ เล่นรวมเอาจิตอสูระดับต่่าๆดูชั่ง
น่ารักอย่างเจ้าจิตอสูรแพนด้ามีเขีย้ วตัวนี้ เจ้าแพนด้ามีเขี้ยวตัว
นี้ช่างเหมือนขยะเลยนะ เสิ่นเฟยไม่คิดว่ามันจะเป็นภัยคุกคาม
เขาได้

“แม้ว่าเจ้าจักสามารถเรียกจิตอสูรประทับร่างทรงได้ก็จะ
ท่าไมหละ? จิตอสูรขยะน่ารักน่าชังเช่นเจ้าแพนด้าเขี้ยว มันมิ
สามารถที่จะเป็นคูต่ ่อสู้ของข้าได้ดอก”ที่มุมปากของเสิ่นเฟย
เผยให้เห็นรอยยิม้ เล็กน้อยเป็นรอยยิ้มอันหนาวเหน็บจนถึง
กระดูกเลยทีเดียว เขาจะต้องการต่อยเนี้ยหลี่ให้ลงไปกองกับ
พื้นเวที
ขั้นต่อไปเขาก็จะจัดการกับเนี้ยหลีอ่ ย่างไร้ความปราณี จึงจะ
สามารถบรรเทาไฟแค้นความเกลียดชังในหัวใจเของเขาให้ดับ
มอดลงได้
ก่าปั้นของเสิ่นเฟยนั้นพุ่งเข้ามาเกือบที่จะโดนเนีย้ หลี่แล้วนั้น
ในขณะนั้นเนี้ยหลีผ่ ู้หลอมรวมกันจิตอสูรกังฟูแพนด้านเขี้ยวก็
ยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากพร้อมกับซัดฝ่ามือไปที่หัวเสิ่นเฟย.

เปรี้ยง

เนี้ยหลีผ่ สานกับจิตอสูรเขีย้ วแพนด้า แล้วตบเข้าไปที่บริเวณ


ใบหน้าข้างกกหูของเสิ่นเฟยอย่างรุนแรงจนหน้าของเขามุดลง
ไปในดินจนท่าให้เกิดรอยแยกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความเจ็บของ
เขาในตอนนี้นั้นคงพอรู้สึกได้ว่าจักต้องอาการหนักมากอย่าง
แน่นอน
มันหนัก ถึงเพียงนี้เชียวหรือ!
เสิ่นเฟย คาดไม่ถึงว่า ความหนักหน่วงของฝ่ามือจากเนี้ยหลี่
นั้นจักช่างแข็งแกร่งจนน่ากลัวถึงเพียงนี้!
แม้ว่าเนี้ยหลี่จะผสานกับอสูรเขี้ยวแพนด้า ซึ่งดวงจิตอสูร ดวงนี้
นั้นหาใช่จิตอสูรธรรมดาไม่ มันเป็นถึงจิตอสูรนักรบ ที่มีอัตรา
พัฒนาการระดับพระเจ้าเลยทีเดียว มันแข็งแกร่งจนน่าตกใจ
ผิดกับรูปลักษณ์ที่น่ารักซะเหลือเกิน

บางทีเสิ่นเฟย อาจจะโดนตบหน้าไปหนึ่งฝ่ามือจนมึนงงไปเลยก็
ได้ เนี้ยหลี่นั้นช่างมีไหวพริบปฏิภาณ เป็นเลิศนัก เขารวมร่าง
กับจิตอสูรได้เสร็จแล้วก็จัดการกับผู้ที่ยังมิรวมกับจิตอสูร
เสิ่นเฟยนั้นโดนตบเข้าที่บ้องหูอย่างรุนแรงจนกระทั้งหัวของเขา
นั้นมุดลงไปในดินจนเกิดรอยแยกขึ้นระหว่างพื้นดิน แม้ว่าตัว
เขาจะเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับว่ามีระดับพลังวิญญาณค่อนข้าง
ดี แต่หลังจากถูกการโจมตีครั้งนีเ้ ข้าไปนั้น มันท่าให้เขารู้สึกไม่
ดีเลยทีเดียว โดยตอนนีเ้ ขารูส้ ึกว่าหัวของเขานั้นก่าลังจักระเบิด
ออกมาให้ได้เสียจริงๆ

ทั่วทัง้ สนามประลองตอนนี้ล้วนอยูใ่ นความโกลาหล สับสน


อลหม่านส่งเสียงดังกันเซ็งแซ่”
“เฮ้อ.... ข้าหละไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายน้อยเสิ่นเฟย จักพ่าย
แก่มันผู้นั้น เขาประสงค์สิ่งใดกันหรือ?จึงมิยอมใช้จิตอสูรเข้า
ต่อสู้”

“เนี้ยหลี่เจ้านั้นช่างกระท่าเรือ่ งที่ช่างน่าละลายเสียยิ่งนัก
เจ้ารวมร่างกับจิตอสูรไม่บอกกล่าวสิ่งใดในทันที และยังจัดการ
กับท่านนายน้อยเสิ่นเฟย ที่ยังมิได้อันเชิญจิตอสูรเช่นนั้น! มัน
ช่างน่าละอายเสียยิ่งกระไร” ผู้ที่แทงเดิมพันข้างเสิ่นเฟยเปล่ง
เสียงตะโกนออกมา
ในมุมมองของพวกเขานั้นมิคาดฝันว่าเสิ่นเฟยจะประเมินคู่ต่อสู้
ของเขาพลาด มันเป็นเพราะว่าเนีย้ หลี่นั้นสามารถเรียกจิตอสูร
ของเขาออกมาประทับได้รวดเร็วมาก ถ้าเสิ่นเฟย ทราบเรื่องนี้
มาก่อนก็จักมิพบกับความปราชัยเช่นนี้อย่างแน่นอน

ในการที่ถูกตอบโต้การโจมตีในครัง้ ก่อนหน้านี้ ท่าให้เสิ่นเฟย


ได้รับความพ่ายแพ้ คนในตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นแทบจะอก
แตกตายออกมาเสียให้ได้เลยทีเดียว

“น่ารังเกียจยิ่งนัก”

“ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นท่าน่ารังเกียจเกินไปแล้ว ” ตระกูล
เทพศักดิ์สิทธิ์ตะโกน
ส่วนพวกที่เดิมพันข้างเนี้ยหลี่นั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขา
ต้องยืนอยู่ข้างเนี้ยหลี่อย่างแน่นอน เมื่อเขาเห็นเนี้ยหลี่ จัดการ
เสิ่นเฟย จนลงไปกองกับพื้นเวทีได้ โดยการตบเพียงครั้งเดียว
พวกเขานั้นล้วนมีความสุขเป็นอย่างยิ่งเมื่อเขานั้นได้รับเงินเดิม
พันมาไว้บนมือ ช่วงเริ่มต้นของการต่อสู้นั้นดูเหมือนว่ามันจะ
เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ที่เนี้ยหลี่จักสามารถชนะเสิ่นเฟยได้

“อะไร พวกเจ้าเข้าใจเนี้ยหลี่ผดิ ไปหรือเปล่า?ไม่มีการหลอกลวง


กันในสงครามเช่นนั้นดอก!” มันเป็นความโง่เง่าของนายน้อย
เสิ่นเฟยเอง! ที่ประมาทศัตรูของเขา จักโทษใคร นอกจากตัว
เขาเองเท่านั้น?”
ส่วนด้านตระกลูบันทึกสวรรค์ แม้ว่าพวกเนี้ยไฮ้ เนี้ยอิ้ง และ
พวกของเขาจะรู้สึกว่าเนี้ยหลี่นั้นเป็นคนชั่งเจ้าเหล่ห์ยิ่งนัก แต่
พวกเขาก็เห็นไปทางเดียวกันที่จะไม่ลดการสนับสนุนเนีย้ หลีล่ ง
แม้แต่น้อย

“เจ้าพวกตระกูลเทพศักดิส์ ทิ ธิ์นั้นสายตาคงจับจ้องแหงน
มองเพียงฟ้าเท่านั้น” การที่มิยอมเรียกจิตอสูรออมาต่อสู้ กับคู่
ต่อสู้ที่หลอมรวมจิตอสูรแล้วนั้นเขาไม่โง่จะให้เรียกว่าอะไร?”
ทุกเสียงในที่นี้ล้วนแต่วิจารการต่อสู้นั้น

หลังจากการโต้แย้งกันอย่างรุนแรงนั้นเงียบลง ทั้งสนาม
ประลองนั้นก็จะเริม่ เงียบลง พวกเขาทั้งหลายเริ่มเข้าใจแล้วว่า
พวกเขานั้นเจอกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง
“ไม่น่าเชื่อ สิ่งที่ข้าเห็นมันนั้น?”

“มีคนใช้เจ้าแพนด้าเขี้ยวใหญ่นั้นจริงๆหรือ? มีใครบ้างหละที่จะ
ใช้จิตอสูรขยะเหมือนอย่างเจ้าแพนด้าเขี้ยวนั้น?”

“พวกตระกูลบันทึกสวรรค์มันจนขนาดนี้? พวกเขามีเงินเพียง
สามารถซื้อเจ้า แพนด้าเขี้ยวตัวใหญ่ส่าหรับ ชนรุ่นใหม่แค่
นั้นเองหรือ?

“ ความสามารถของเจ้าแพนด้าเขีย้ วใหญ่นั้นไว้ท่าอะไร? เมื่อ


เทียบกับจิตอสูรอื่นๆ เจ้านั้นก็น่าจะเป็นไม่ได้มากกว่าสิ่งที่ใช้ใน
การกินผัก!?”

“นายน้อยเสิ่นเฟย บางทีอาจจะโดนฉวยโอกาสในขณะไม่
พร้อม คอยซักหน่อยหลังจากเขาหลอมรวมกับจิตอสูรแล้ว เรา
จะเห็นเขาฆ่าเจ้าเด็กคนนัน้ แน่” ผูท้ ี่ลงเดิมพันข้างเสิ่น
เฟย กล่าวขึ้นมาอย่างเร่าร้อน
เนี้ยไฮ่เนี้ยอิ้ง และ ทุกๆคนจากตระกูลบันทึกสวรรค์นั้น ล้วน
อยู่ในสภาวะตลึง เนี้ยหลี่นั้นมอบดวงจิตอสูรให้แก่พวกเขา
ปริมาณมากในวันนี้ พวกนั้นล้วน มีดวงจิตอสูรจ่านวนมากและ
แข็งแกร่งกว่าจิตอสูรแพนด้าเขี้ยวตัวนั้น ท่าไมเนีย้ หลีจ่ ึง
ตัดสินใจเลี้ยงเจ้าแพนด้าผู้น่ารักตัวนี้? เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ไม่เพียงแต่ตระกูลบันทึกสวรรค์ตกใจเท่านั้น หยางซินก็
ประหลาดใจเป็นอย่างมาก นางรูไ้ ด้อย่างชัดเจนว่าเนีย้ หลี่นั้นมี
เงินจ่านวนมากมายมหาศาล เนี้ยหลี่จะซื้อดวงจิตอสูรที่ดีขนาด
ไหนก็ได้อย่างง่ายดาย แต่เนี้ยหลีก่ ลับเลือกเจ้าแพนด้า
เขี้ยว เรื่องนี้ท่าให้ทุกคนไม่สามารถเข้าใจการกระท่าของเขา
อย่างไรก็ตามไม่มผี ู้ใดล่วงรู้ว่า เนี้ยหลี่ อสูรเขี้ยวแพนด้า ตัวนี้
นั้น มิใช่แพนด้าเขี้ยวทั่วไป แต่มันคือดวงจิตอสูรทีม่ ีพัฒนาการ
ระดับพระเจ้าเลยทีเดียว

แม้ว่าเนี้ยหลี่จะมีชัยในการต่อสู้รอบแรก แต่ทั้งสนามประลอง
ยังไม่มีใครคิดว่าเนีย้ หลี่ ชนะการประลอง ทุกๆสายตาล้วนจด
จ้องเตรียมการดูเสิ่นเฟยหลอมรวมจิตอูสรเพื่อที่จะจัดการ
กับเนี้ยหลี่
บทที่ 83 - ปล่อยให้ข้าชนะ

ทั้งสนามประลองยุทธ์ภาคสนามล้วนเต็มไปด้วยเสียงตะโกนโห่
ร้องกันระงม

ในขณะนี้นั้นหัวของเสิ่น เฟยที่ปักอยู่กลางเวทีเริม่ เงยหน้าขึ้น


เล็กน้อยและท่าความสะอาดใบหน้าของเขาที่เปรอะเปื้อนไป
ด้วยเศษดิน เขาพยายามที่จะฟืนตัวยืนขึ้น ตอนนี้นั้นความ
โกรธของเสิ่นเฟยได้พุ่งขึ้นจนจักทะลุของฟ้าไป เหตุผลที่ว่า
ท่าไมเขานั้นมิยอมเรียกจิตอสูรของเขาออกมาเป็นเพราะผู้
อาวุโสเสิ่นหมิงนั้นสั่งให้เขาเอาชนะหลังจากทีผ่านไปแล้วยีส่ ิบ
กระบวนเท่าเท่านั้น ใครบ้างจะรู้วา่ เนี้ยหลีจ่ ักสามารถเรียกจิต
อสูรได้โดยที่ไม่มีปราศจากการเล่ากล่าวของผู้ใดมาก่อน

เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ ไร้เหตุผลสิน้ ดี เสิ่น เฟย ก่าลังระเบิด


อารมณ์เขาเขาไปยังผู้อาวุโสเสิ่นหมิงที่แนะน่าเขาท่าเช่นนั้น
“เวลานีเ้ จ้าถามเรื่องของมัน ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!”เสิ่น เฟย
แผ่ค่ารามด้วยความโกรธ เขตแดนจิตวิญญาณรอบตัวเขาก่าลัง
สั่นไหว แผ่กลิ่นอายของจิตอสูรออกมาจากร่างกายของเขา
อย่างต่อเนื่อง

เสิ่น เฟยเปล่งวาจาพร้อมจ้องมายังเสิ่นหมิง

เสิ่นเฟยหลอมรวมจิตอสูร ที่มีพละก่าลังมากมายนั่นคือ จิตอสูร


พยัคฆ์ทมิฬสีชาด เดิมเป็นสัตว์อสูรที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก อสูร
ตนนี้ถูกล่าโดยฝีมือของผู้น่าของตระกูลเทพศักดิ์สิทธิเ์ องเลย
ทีเดียว ระดับของมันนั้นคือ สัตว์อสูร ระดับทองด่า ขั้น 1 ดาว
เพราะฉะนั้น มันจึงแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก มันแข็งแกร่งเพียง
พอที่จะท่าให้เสิ่น เฟยพิ่มความสามารถขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลย
ทีเดียว
“นายน้อยเสิ่น เฟย ก่าลังผสานกับจิตอสูรขั้นสุดท้ายแล้ว
.................”

.ผู้ชมบริเวณสนามประลองต่างรู้สกึ ร้อนขึ้นมาทันที

“รัศมีที่แผ่ออกมานี้......”

“ สวรรค์! มันช่างน่ากลัวเกินไปแล้วถึงกับมีเจ้าพยัคฆ์ทมิฬสิ
ชาดตัวนี้เชียวเหรอ!”

พยัคฑ์ทมิฬสีชาดเจอกับแพนด้าเขีย้ ว? ช่างเป็นเรื่องที่ง่ายดาย
ต่อการคาดเดานัก เกือบทุกคนล้วนคิดว่าแพนด้าเขี้ยวนั้นจัก
ต้องพ่ายภายในหนึ่งกระบวนท่า

เสิ่นเฟย แผ่พลังออกจากร่างกายเพิ่มมากขึ้น รังสีของพยัคฆสี


ชาดตัวนั้นแข็งแกร่งมากนักจนท่าให้ทุกๆคนในสนามประลอง
รู้สึกตกใจกับพลังอ่านาจของมันที่พวยพุ่งออกมาเป็นอย่างมาก

เนี้ยไฮ่ และเนี้ยอิ้ง และพวกเขานัน้ นั่งแทบไม่ติดเก้าอี เนี้ยหลี่


จิตอสูรกังฟูแพนด้าเขี้ยว มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่จักสู้กับ
พยัคฆ์ทมิฬสีชาดตัวนี้ ความแตกต่างของระดับก่าลังนั้นชั่ง
ต่างกันยิ่งนัก

“ตอนนี้ทันไหม?ที่จะให้เนี้ยหลี่ขอยอมแพ้?”

ผู้ที่พนันข้างเสิ่นเฟย พวกเขาตอนนี้ต่างตะโกนกันเสียงดัง
ก้อง เชียร์กันอย่างออกนอกหน้านอกตา ในมุมมองของพวก
เขางานนี้เสิ่นเฟยชนะแน่!

ในที่สุดเสียงตะโกนเหล่านั้นก็พลันเงียบลง

ในขณะที่เหลือการด่าเนินการผสานจิตใน เขตแดนจิตวิญาณอีก
ไม่กี่อึดใจเขาก็จักสามารถเรียกจิตอสูรของเขาออกมาได้
ส่าเร็จ เนี้ยหลี่นั้นก็พุ่งกระโจนทะยานไม่กี่ครั้งก็มาอยูต่ รง
ข้างหน้าเขาแล้ว จากนั้นก็ตะปบไปที่หลังศีรษะของเสิ่นเฟยอ
ย่างแรง

เปรี้ยง!

เสิ่นเฟยที่ก่าลังหลอมรวมจิตอสูรให้ประสานกันกับร่างกายของ
เขา แต่กลับโดนโจมตีด้วยฝ่ามืออย่างหนักหน่วง
รุนแรง จนกระทั้งพื้นดินแยกแตกกระจายออกไปเป็นหลุม
ขนาดใหญ่คล้ายอุกาบาตตกปรากฏขึ้นเลยทีเดียว เสิ่นเฟยถูก
แทรกแทรงระหว่างการผสานกับจิตอสูรจนจิตวิญาณนั้นแตก
ซ่านกระจายออกไปทั่วทุกทิศ เมือ่ จ้องมองไปยังเสิ่นเฟยใน
ขณะนี้ช่างน่าเศร้าเสียยิ่งนัก ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขานั้น
โดนตบจนมันไปแทรกติดอยู่กับพื้นดินที่แตกกระจายออกเป็น
หลุมขนาดใหญ่นั้น

จอมวายร้ายที่จัดการเขานั้นมิใช่ใครที่ไหนก็คือเนีย้ หลี่นั้นเอง
เขายืดตัวขึ้นตรงๆจ้องมองไปยังเสิน่ เฟยที่กองอยู่กับพื้น
ตะลึงกันทั้งสนาม!

ผู้คนทุกชนชั้นทั่วทั่งสนามประลองล้วนตกใจอย่างหนักมาก จน
ลืมหายใจหาย กันเลยทีเดียว!

เนี้ยไฮ้ เนี้ยอิ้ง หยางซิน และพวกพวกเขาต่างล้วนตะลึงมึนงง


ไปตามๆกัน

“ช่างน่ารังเกียจ! น่ารังเกียจเหยียดหยามจริงๆ” เนีย้


ไฮ้ เนี้ยอิ้ง และพวกของเขาต่างหน้าตารูส้ ึกร้อนผ่าวขึ้นมา
ทันที เขาทั้งหลายรู้สึกว่าการการกระท่าในครั้งนี้นั้นท่าให้เขา
เสียศักดิ์ศรีอย่างรุนแรง มันยังเป็นคนของตระกูลบันทึกสวรรค์
อยู่หรือเปล่า? สี่งนี้........ตระกูลบันทึกสวรรค์ช่างสอนสั่งให้ผู้
สืบเชื้อสายรุ่นใหม่ได้น่ารังเกียจถึงเพียงนี้เชียวหรือ?

พวกที่เดิมพันข้างเนี้ยหลี่ชนะนั้นในตอนนี้นั้นยังรู้สึกหน้า
แดง แม้ว่าพลังฝ่ามือของเนี้ยหลีน่ ั้นจะมีมาก แต่สิ่งนี้.....มันดู
เหมือนว่าจะไม่ถูกต้องนัก

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการต่อสู้ระหว่างอัจฉริยะกับอัจฉริยะ
เกิดขึ้นมากมาย แต่พวกเขานั้นไม่เคยพบเคยเจอกับเหตุการณ์
ต่อสู้เช่นนี้มาก่อนเลย

ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งหมดนั้นจะเรียนรู้จากการต่อสู้
ซึ่งกัน เป็นกาศึกษาศิลปะการต่อสู้ ซึ่งมีอยู่มากโดยเฉพาะ
การอัญเชิญจิตอสูรเข้ามาต่อสู้ โดยปกติแล้วทั้งสองฝ่ายจะ
เรียกจิตอสูรลงมาผสานให้เสร็จก่อนจากนั้นจึงค่อยเข้าสู่การ
ประลอง พวกเขาไม่เคยพบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน
เนี้ยหลีไ่ ด้เรียกจิตอสูรของเขาในชั่วพริบตาโดยไม่ต้องกระท่า
การอันใด และจัดการกับคูต่ ่อสูร้ ะหว่างที่ก่าลังผสานจิตอสูร
ของเขาในทันที

บรรดาตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆ เกือบจะ
กระโดดขึ้นบนเวที
“เจ้าพวกตระกูลบันทึกสวรรค์ พวกเจ้านั้นจักท่าตัวน่ารังเกียจ
เกินไปแล้ว! การต่อสูค้ รั้งนี้เป็นการต่อสูต้ รงไปตรงมา! คนจาก
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ล้วนตระโกนโห่มายังตระกูลบันทึกสวรรค์

แม้ว่า เนี้ยไฮ้ เนี้ยอิ้ง และพวกของเขาจักเสียความรูส้ ึก จาก


การกระท่าของเนี้ยหลี่เล็กน้อย แต่พวกเขาไม่สามารถที่จะ
แสดงมันออกมา ต่อหน้าของพวกตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ได้ “เรา
ได้ล่วงละเมิดกฎการประลองยุทธ์ครั้งนี้หรือไม่? พวกคุณไม่มี
สิทธิ์ ที่จะกล่าวหาเรา!”

“ข้ามิต้องการค่าสั่งสอนของพวกเจ้าเกี่ยวกับตระกูลบันทึก
สวรรค์ดอก?”

“เจ้าพวกตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ มิใช่นายน้อยของพวกเจ้านั้นโง่
เองหรือ? เขาเป็นเพียงแค่หมูสนามเท่านั้น เมื่อเห็นคูต่ ่อสู่
ผสานกับจิตอสูร เขากับไม่ยอมผสานกับจิตอสูรก่อนที่จะ
เริ่มท่าการต่อสู้ กลับหันหน้าไปทางคู่ต่อสู้ของเขาก่อนที่จะ
ผสานกับจิตอสูรเอง จักโทษใครได้?”คนจากตระกูลบันทึก
สวรรค์กล่าว
ในขณะนั้น หยางซิน ก็มองมาที่เสิ่นหมิง พร้อมทั่งกล่าว
ค่าพูดเล็กน้อย “ท่านผู้อาวุโสเสิ่นหมิง การที่ไม่สามารถกระท่า
เช่นนั้นได้ เพราะว่าพวกตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถ
จ่ายเงินเดิมพันจากการพ่ายแพ้ได้ใช่ไหม?”แม้ว่าเนี้ยหลีจ่ ะ
กระท่าสิ่งที่ น่ารังเกียจเล็กน้อย แต่นางก็ยังคงอยู่ข้างเนี้ยหลี่
เสมอ

เมื่อมองไปที่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นบนเวทีประลอง หยางซิน ก็
เปล่งรอยยิม้ ชั่งมีเสน่ห์เป็นยิ่งนัก เนี้ยหลี่นั้นชั่งเป็นคนที่คาด
เดาได้ยากเสียจริงเชียว เมื่อมองจากรูปลักษณ์ภายนอกของ
เขาจะ เหมือนเป็นเด็กที่สดใสบริสทุ ธิ์ แต่เบื้องลึกในจิตใจของ
เขานั้นชั่งเต็มไปด้วย ปฏิภาณและไหวพริบ ผิดกับการทีเ่ ห็นได้
ในภายนอก ตลอดเวลาที่ผ่านมาการตัดสินใจในสิ่งต่างๆของ
เขานั้นช่างหลักแหลมเฉียบคมน่าดึงดูดตาดึงดูดใจเป็นยิ่งนัก

เสิ่นหมิง สีหน้าที่บูดบึ้ง เขาคิดว่า เนี้ยหลี่นั้นมีไหวพริบมาก


เสียจริงๆ เขาสามารถยอมรับการพ่ายแพ้ในรอบนี้ได้เพราะ
เนี้ยหลีย่ อมรับข้อตกลงว่าจะสู้ทั้งสามรอบ รอบแรกนั้นไม่
เป็นไร เพียงรู้ว่าจิตอสูรของเนี้ยหลี่นั้นคือแพนด้าเขี้ยว
ใหญ่ เสิ่นหมิงก็แอบยิม้ อยู่ในใจของเขาแล้ว เขาจะพิจารณา
ตัดสินใจเลือกคูต่ ่อสู่จดั การกับเนีย้ หลี่ในรอบต่อไป ซึ่งจักท่าให้
เขานั้นได้รับเงินที่เสียไปกลับคืนมา

เสิ่นหมิงกล่าวตอบโต้หยางซินทันที “ ไม่แน่นอนเงินจ่านวน
น้อยเช่นนั้นตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์สามารถจ่ายมันได้อยู่แล้ว!”

ขณะนั้นในสนามประลอง เสิ่นเฟยก่าลังพยายาม
ตะเกียกตะกายขึ้นจากพื้น ร่างกายเขานั้นแทบจะแตกออกมา
เป็นเสีย่ งๆ หลังจากการโดนตบไปสองฉาดใหญ่จากเนี้ยหลี่ มี
เลือดไหลรินออกจากส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณปาก จมูก
ส่วนใบหน้าของเขานั้นล้วนเต็มไปด้วยรอยฟกช้่าด่า
เขียว เรื่องราวก่อนหน้านี้คือเขาต้องการที่จะผสานกับจิตอสูร
ของเขาในเขตแดนของจิตวิญญาณแต่โดนเนี้ยหลี่นั้นตบ
กระแทกแทรกกลางระหว่างผสาน เลยท่าให้การหลอมรวม
กับจิตอสูรนัน้ พลาดไป
“ท่านนายน้อยเสิ่นเฟย ท่านยังอยู่ไหวไหม?” เราเพียง
แค่เรียนรู้ซึ่งกันและกันจากการต่อสู้เท่านั้น คงไม่หวังสิ่งใดมาก
ไปกว่านี้ ถ้าท่านไม่สามารถยืนไหวก็ยอมแพ้ได้นะ เนี้ยหลี่
ก่าลังก้มลงพร้อมเอ่ยวาจาที่ข้างหูเสิ่นเฟย

แพ้อะไร ใครจะยอมกัน?

เมื่อเขายอมจ่านน เงินจ่านวนกว่าห้าสิบล้านเหรียญจิตมารที่
ได้รับก็จักหายไป!

เขายังไม่เต็มใจที่จะยอมรับมัน!

เขาปล่อยลมหายใจออกมาอย่างรุนแรง และพยายามที่จะต่อสู้
อีกครั้ง เขตแดงจิตวิญญาณของเขาก็พลันปรากฏขึ้น เขา
เตรียมการที่จะผสานกับจิตอสูรคลื่นรังสีแผ่ออกมายังรุนแรงใน
ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างเริ่มมีเขี้ยว
โผล่ออกมาจากมุมปาก เล็บยาวและแหลมคมจนกลายเป็นกง
เล็บ ระเบิดเสียงค่ารามออกมากึกก้องกังวาน จิตอสูรพยัคฆ์
ทมิฬสีชาดชั่งเปล่งพลังพวยพุ่งออกมาได้นา่ กลัวยิ่งนัก

เมื่อข้าผสานกับจิตอสูรได้แล้ว เจ้าแพนด้าเขี้ยว มิสามารถสู้ข้า


ได้แน่ ถ้าเจ้าต้องการที่จะจัดการกับข้าระหว่างการผสาน กับ
จิตอสูร? มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แน่นอน เปลวเพลิงความ
ร้อนจากพยัคฆ์สีชาดเพียงพอที่จะแผดเผาเจ้าให้มอดไหม้ลงไป
ในทันที เสิ่นเฟยคิดในจิตนาการเขาเขา เปลวเพลิงนั้นก็ยังคง
พวยพุ่งออกมาจากร่างกายเขาอย่างรุนแรง

“นายน้อยเสิ่นเฟย แสดงพลังที่แท้จริงของเขาให้เห็นแล้ว”

เปลวเพลิงสีแดงของพยัคฆ์ทมิฬไฟเป็นเปลวเพลิงที่ร้อนแรง
มากสามารถที่จะเผาพลาญทุกอย่างให้ไหม้เป็นจุลลงได้ในทันที

“ความสามารถในการต่อสู้ทแี่ ท้จริงช่างคู่ควรยิ่งนักท่าน
นายน้อยเสิ่นเฟย ถึงเวลาเนีย้ หลีน่ ั้นจักต้องโดนช่าระแค้นแล้ว
เจ้าไม่สามารถที่จะเข้าใกล้เปลวเพลิงสีชาดนีไ้ ด้แน่ เมื่อนาย
น้อยเสิ่นเฟยหลอมรวมกับจิตอสรูของเขาเสร็จ เจ้าจักต้องโดน
จัดการในหนึ่งกระบวนท่า”

“จิตอสูรที่น่ารักอย่างแพนด้าเขี้ยวนั้นจักเป็นคูต่ ่อสู้ของ
พยัคฆ์ทมิฬไฟสีชาดได้เช่นไร? แม้ว่าเขานั้นจะโดนฟาดมาสอง
ฝ่ามือก็ตาม ย่อมไม่เป็นไร?

เสียงของผู้ชมในสนามประลองนั้นเพิ่มขึ้นสูงดังจนแทบไม่ได้ยิน
สิ่งอื่นใดเลยทีเดียว

“เปลวเพลิงสีแดงแล้วไงหละ? พลังมากยังไง? ในขณะนั้น


เนี้ยหลีซ่ ึ่งได้ผสานกับจิตอสูรกังฟูแพนด้าเขี้ยวเป็นที่เรียบร้อย
แล้ว กลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากเปลวเพลิง แม้ว่าเขาจักยืน
อยู่ภายในเปลวเพลิงสีชาดอันร้อนแรงก็ตาม

พยัคฆ์ทมิฬสีชาดของเสิ่นเฟยนั้นความสามารถของมันไม่เลว
เลยทีเดียว แต่มันเทียบกับกังฟูแพนด้าเขี้ยของเนี้ยหลี่ไม่ได้เลย
ระยะห่างของระดับนั้นช่างมากจริงๆ ไม่มผี ู้ใดสามารถ
จินตนาการหยั่งรู้ถึงศักยภาพกังฟูแพนด้าเขี้ยวได้ อย่างไรก็
ตามอาจมี วิธีต่อสู้ที่จะท่าให้กังฟูแพนด้าเขี้ยวนั้นได้รับบาดเจ็บ
แต่มันช่างน้อยมากซะเหลือเกิน?

อย่างไรก็ตามในตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จักแสดงความสามารถอัน
แข็งแกร่งนั้นให้ใครได้เห็น

ขณะที่เสิ่นเฟยก่าลังผสานจับจิตอสูรเกือบจะเสร็จอยู่แล้ว เนี้ย
หลี่ยกขาของเขาขึ้นแล้วเหยียบลงไปอย่างไร้ปราณีเข้าไปในเขต
แดนวิญญาณของเสิ่นเฟย ท่าให้เสิ่นเฟยตกใจอย่างหนักมาก
ถึงเกือบลืมหายใจ เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขาผสานกับจิตอสูร
ล้มเหลว จิตอสูรของเขาก็ยังมิอาจออกมาแสดงความสามารถ
อีกเหมือนเดิม

เสียงจากการกระทืบนั้นดังมากจนน่าตกตะลึงไปเลย
ทีเดียว ทุกๆคนล้วนจินตนาการ ตามความรู้สึกว่า เจ้า
แพนด้าเขี้ยวใหญ่คงจักต้องหมุนควงสว่านลงไปกองกับพื้นเป็น
แน่ หลังจากเปลวเพลิงสีชาดมอดดับลง สิ่งที่ปรากฏคือ
เสิ่นเฟยนั้นก่าลังถูกเหยียบอย่างเมามันอยู่กับพื้นอย่าไร้ความ
ปราณีต่อหน้าต่อตาพวกเขา

“การผสานจิตผิดพลาดอีกครั้งเหรอ?”

“สามารถท่าเช่นนี้ได้เหรอ”

กระบวนท่ากระทืบอันลือลั่นจนน่ากลัวนั้นถูกปลดปล่อย
ออกมา ข้าจักระบายความแค้นให้กับหนิงเอ๋อ เนี่ยหลี่คดิ อยู่
ภายในใจ เสิ่นเฟยนั้นถูกทรมานโดยเนี้ยหลี่เป็นภาพที่ช่างน่า
ตื่นตาตื่นใจจนน่าสยองยิ่งนัก แต่ดเู หมือเขาจักยังมิยอมหยุด
โดยง่าย

“ข้าได้ยินมาว่านายน้อยเสิ่นเฟยนั้น พิชิตสวนดอกไม้ของ
เหล่าสาวๆมามากมายยังกับของเล่น ข้าจักท่าให้เจ้ามิสามารถ
เล่นจ้่าจี้กับสาวๆได้อีก เนี้ยหลี่จดั การเตะเข้าไปยังกล่อง
ดวงใจดังโพละ จากวันนีไ้ ปเกรงว่าหลังจากวันนี้ไปเสิ่นเฟยจะมิ
มีความสามารถในการที่จะผลิตมนุษย์ออกมาอีกได้เลยทีเดียว
พวกที่พนันข้างเสิ่นเฟยชนะนั้น แทบจะหลับตาเอามือก่ายหน้า
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เดิมทีเมื่อได้ยินเสียงอันน่ากลัวนั้น พวก
เขาคิดว่าจะมีโอกาสพลิกสถานการณ์กลับมา อย่างไรก็ตามจาก
การเตะจ่านวนไม่กี่ครั้งของเนี้ยหลีน่ ั้นได้ท่าลายความหวังจะ
กลับมาอีกครั้งของพวกเขาจนมลายสิ้น

“แปะ แปะ แปะ ช่างโชคร้ายจริงๆที่พ่ายแพ้เช่นนี้"

“ต้องโทษเจ้าหมูสนามเสิ่นเฟย เขาเชื่อมั่นในตัวเองมาก
เกินไปเลยไม่ยอมอัญเชิญอสูรออกมาในการต่อสู้ตอนแรก
สุดท้ายจนจบการต่อสู้ เขาก็เลยมิมีโอกาสเรียกจิตอสูรออกมา
ช่างน่าขันยิ่งนัก”

“แต่ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นก็ช่างขี้โกงเสียจริง เขามิ
ปล่อยโอกาสให้เสิ่นเฟยได้อัญเชิญจิตอสูรเสร็จ ช่างไม่มจี ิต
วิญญาณของนักต่อสู้เสียเลย”
เมื่อคิดถึงวิธีการต่อสู้พวกนั้น เขาทั้งหลายนั้นอยากจะร้องไห้
เลยจริงๆ หลังจากการประชุมกันแม้เนี้ยหลี่จะท่าพฤติกรรมน่า
รังเกียจ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้? แม้ว่าพวกเขา
สามารถประณามการกระท่าของเนี้ยหลี่ในครั้งนีไ้ ด้ แต่ว่ามันก็
ไม่ได้อยู่ในกฎของการแข่งขัน

เสิ่นหมิงสามารถเล็งเห็นว่า การที่เนี้ยหลีไ่ ม่ยอมให้โอกาสเสิ่น


เฟยได้ประสานจิตอสูรของเขาเลย ท่าให้ประลองยุทธ์ครั้งนี้นั้น
จะจบลงโดยการที่เสิ่นเฟยมิสามารถผสานจิตอสูรได้และถูก
เนี้ยหลี่นั้นกระทืบตืบอย่างเดียวนัน่ เองคงต่อไปอีกเรื่อยๆถ้าเขา
ไม่กล่าวยอมแพ้

“การประลองยุทธ์ครั้งนี้ ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้พ่ายแพ้ได้
โปรดหยุดเถิด!” เสิ่นหมิงเปล่งวาจาด้วยใบหน้าที่โกรธ
จัด เสียงของเขานั้นก้องกังวาน ได้ยินไปทั่วทั้งสนามประลอง
จนทุกๆคนสามารถรู้สึกได้ถึงความโกรธจากน้่าเสียงของเขา
ในสนามประลอง ผู้ชมต่างยิ้มอย่างขมขื่น นี่คือการต่อสู้ที่ไร้
สาระทีส่ ุดตั้งแต่พวกเขาเคยเจอมา

ในขณะนั้นเสิ่น หนิง และเสิ่น เซีย่ ว จากตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์


ต่างมองไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพวกเขานั้นไม่เคยคิดมาก่อน
เลยว่าเสิ่นเฟยจะพ่ายแพ้แบบน่าอนาจถึงเพียงนี้ จากการต่อสู้
ของเสิ่นเฟยที่ถูกเนี่ยหลี่กระทืบอยูน่ ั้นเห็นได้วา่ ก่าลังของ
แพนด้าเขี้ยวตัวนั้นมีพลังเพียงเล็กน้อย เขาไม่จ่าเป็นต้อง
ทดสอบความแข็งแกร่งอย่างแท้จริงของเนี้ยหลี่ ดูเหมือนการ
รวมร่างระหว่างเนี้ยหลี่กับแพนด้าเขี้ยวช่างดูไร้พิษสงและน่ารัก
ยิ่งนัก มันมิสามารถช่วยให้พวกเขาลดความรูส้ ึกดูถูกเหยียด
หยามลงได้แม้ซักเพียงน้อย

พวกเขามองไปยังเสิ่นเฟยที่ตอนนีก้ ่าลังถูกกระทืบไปเรื่อยๆ แต่


ไม่นึกเศร้าใจแต่อย่างใดตรงกันข้ามพวกเขากลับแอบรูส้ ึกเพียง
ข่าอย่างหนักมากอยู่ในใจเท่านั้น ที่นายน้อยทายาทสายตรง
ต้นแบบของชนรุ่นใหม่ก่าลังถูกกระท่าอย่างหนักหน่วงกลางเวที
ในตอนนี้ชั่งเป็นผู้ที่ฉลาดน้อยเสียจริงเชียว พวกเขาได้ยินมาว่า
นายน้อยเสิ่นเฟยนั้นจะมักจะชอบเล่นกับสาวๆอยู่เป็นประจ่า
แม้พวกเขาจักต้องเสียเงินเดิมพันจ่านวนมากจากการทีเ่ สิ่นเฟย
พ่ายแพ้เนี้ยหลี่ แต่พวกเขานั้นก็ยังคิดว่าจักได้มันกลับคือมาใน
รอบหลังอย่างแน่นอน เมื่อนายน้อยสายตรงของตระกูล
กลายมาเป็นขยะในตอนนี้ มันก็เป็นเวลาที่พวกเขาจักแสดง
ความสามารถออกมา ให้เป็นทีป่ ระจักษ์แก่สายตาผู้อื่น
นั่นเอง

เมื่อได้ยินค่าพูดของเสิ่นหมิง ความรู้สึกสนุกของเนี้ยหลี่ก็พลัน
หายไปในทันที ท่าไมถึงพ่ายได้เร็วเช่นนี้ไม่สนุกเอา
เสียเลย เนี้ยหลี่ขึ้นมายืนบนร่างกายเสิ่นเฟยก่อนที่จะป้อง
มือค่านับแล้วจึงเอ่ยวาจา “ ฮ่าฮ่าฮ่า การต่อสู้ครั้งนี้ชั่งสนุก
เสียจริงๆ ท่านพี่เสิ่นเฟย ท่านอุดส่าเสียสละให้ข้าชนะง่ายๆ
ขอบใจท่านมากๆ”

เมื่อได้ยินค่าพูดและเห็นท่าทางของเนี้ยหลี่ ทุกๆคนพากัน
ตะลึงไปตามๆกัน เนี้ยหลี่นั้งช่างเป็นคนเป็นคนหน้าด้านไร้
ยางอายแบบไม่มีขีดจ่ากัดเลยทีเดียว

สนุกสนานกระนั้นเชียวหรือ? มีเพียงเนี้ยหลี่ ทีส่ นุกขนาด


นี้ จากเริ่มต้นจนจบการประลองนั้น เนี้ยหลี่เป็นฝ่ายตบตี
กระท่าย่าเท้า เสิ่นเฟย กองติดอยูก่ ับพื้นมาโดยตลอด และไม่
ยอมให้เสิ่นเฟยได้มีโอกาสที่จะตอบโต้สวนกลับได้เลย การ
ต่อสู้รอบนี้ ทุกคนเลยดูเหมือนว่าเสิ่นเฟย ยอมให้เนี้ยหลี่นั้น
ชนะได้โดยง่าย จากการที่เขามิสามารถผสานกับจิตอสูรได้เลย
ซักครั้ง กลับถูกแต่เนี้ยหลี่ ตีเอาๆ เพียงฝ่ายเดียวจนดูน่าสม
เพศเวทนาน่าสงสารเป็นยิ่งนัก

ผู้ที่เสียเงินเพราะเดิมพันข้างเสิ่นเฟยนั้น ต่างตะโกนก่นด่า
สาปแช่งกันระงม

“บ้าเอ๋ย,เขาสู้ยังไง?!”

“มันคงไม่ใช่ สมาคมนักปรุงยา กับตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์สมรู้


ร่วมคิดกันให้เกิดเรื่องดังกล่าว?!”

“ เจ้าพวกตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ท่าให้พวกข้านั้นเสียเงินจ่านวน
มาก ข้าจะเกลียดพ่อเจ้าไปตลอดชีวิตเลย”
ขณะนี้นั้น ที่มุมหนึ่งของที่นั่งของผู้ชมสาวน้อยผู้น่ารักและสูง
ศักดิ์ เอียจื้อหวิ๋น มิสามารถ ที่จะหัวเราะออกมาได้ เมื่อนางได้
ยินว่ามีการประลองยุทธ์ระหว่างตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์และ
ตระกูลบันทึกสวรรค์ นางก็อยากที่จะมาร่วมชม แม้ว่านางจะ
มีความกังวลใจเกีย่ วกับเนี้ยหลี่เล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงมาหลบซุ้ม
แอบอยู่ที่มุมและคอยจับจ้องมองไปยังเนี้ยหลีต่ ลอดเวลา

เดิมที่นั้นนางคิดว่าเนี้ยหลี่จักต้องพ่ายจนได้รับบาดเจ็บ
หนัก แต่เมื่อมองไปยังเนีย้ หลี่ ซึ่งดูสดใสร่าเริงยิ่งนัก หล่อนก็
คลายความกังวลในใจลงไปได้ จนกระทั้งเดี๋ยวนี้ยังไม่มผี ู้ใดท่า
ให้เนี้ยหลีไ่ ด้รับอันตรายได้แม้เพียงน้อยนิด สายตาทั้งคู่ของนาง
นั้นมองเห็นภาพจากด้านหลังของเนี้ยหลี่ ได้อย่างชัดเจน ความ
กังวลใจก็เริ่มลดลงแล้วนางก็พลัน อมยิ้มอย่างสดใสออกมา

แม้ว่า เอียจื้อหวิ๋น จะนั่งหลบอยู่ทมี่ ุมหนึ่ง แต่ความสง่าสดใส


น่ารักดูมเี สน่ห์ของนางนั้นได้ดึงดูสายตาของผู้คนให้จับจ้องไปที่
เธออย่างรวดเร็ว พวกเขามิรเู้ ลยว่า นางนั้นจักเป็นถึงลูกสาว
ของเจ้าเมือง ยังคงคิดว่าสาวสวยน่ารักนางนี้นั้นเป็นสาวสวยที่
ไม่ค่อยจะได้พบเจอได้ง่ายนัก
บทที่ 84 - เดิมพันเล็กน้อย

เนี้ยหลี่นั้นไม่รู้ว่า เอีย จื้อหวิ๋นนั้นจักมาชมการประลองในหมู่


ผู้ชม เมื่อได้รับรางวัลจากการแข่งขันเรียบร้อยแล้ว เนี้ยหลี่
นั้นกลับขึ้นไปยังที่นั่งของตระกูลบันทึกสวรรค์ เตรียมที่จะแข่ง
รอบที่สองต่อไป

ในขณะนั้น เสิ่นหมิง ช่าเลืองสายตาไปยังลูกน้องเล็กน้อยแล้ว


กล่าวถาม“ ผลได้เสียของการเดิมพันครั้งนี้เป็นเช่นไร?” เสิ่น
หมิงคิดกับตัวเอง แม้ว่าเงินที่เสียเดิมพันกับเนี้ยหลีส่ ่วนนั้นมาก
ถึงห้าสิบล้านเหรียญจิตมาร แต่คนทั่วไปที่มาลงเดิมพันกับ
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ที่เป็นผูเ้ ปิดโต๊ะรับพนันนั้น ส่วนใหญ่จะ
แทงว่า เสิ่นเฟยเป็นผู้ชนะดังนั้นจะยังคงมีเงินบางส่วนกลับคืน
มาอยู่

ไม่นานลูกน้องของเขาก็กลับมารายงานยอด “รวมแล้วมีการ
ลงวางเงินเดิมพันทั้งสิ้น หนึ่งร้อยหกสิบล้านเหรียญจิต
มาร หลังจากการจ่ายเงินเกินกว่าหนึ่งร้อยหกสิบล้านเหรียญ
จิตมารไปแล้วนั้นปรากฏว่าเราขาดทุนกว่าหกล้านเหรียญจิต
มาร”

“มันเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?” เรายังเสียเงินอีกจริงหรือ? เสิ่นหมิง


เปล่างวาจาอันเกรี้ยวกราด เดิมทีเขานั้นคิดว่าการที่เขาเปิดโต๊ะ
ให้ประชาชนทั่วไปได้เล่นเดิมพัน จะท่าให้ได้รับเงินบางส่วน
กลับคืนมาบ้าง เขาไม่เคยคิดเลยว่าจักต้องสูญเสียเงินไปอีก
มากกว่าหกล้านเหรียญจิตมาร แม้ว่ามันจักไม่มากนัก แต่มัน
เพียงพอที่จะท่าให้เขารูส้ ึกโกรธได้

“ บ้าเอ๋ย!” เสิ่นหมิง สาปแช่งด้วยความโกรธ นับตั้งแต่วันที่เขา


นั้นเข้ามารับต่าแหน่งเป็นผู้อาวุโสหลักของตระกูลไม่เคยท่าสิ่ง
ผิดที่พลาดมากมายจนท่าให้ สูญเสียเงินกว่า ห้าสิบหกล้าน
เหรียญจิตมาร เช่นในครั้งนี้ ท่านผูน้ ่าตระกูลก็มีก่าหนดการที่
จะกลับมาในไม่ช้านี้เสียด้วย แม้วา่ เขาจักสามารถใช้ผลงาน
ตั้งแต่ในครั้งอดีตทีผ่ ่านมาลบล้างความผิดพลาดในครั้งนี้ แต่
เขาก็ยังคงมิรสู้ ึกดีกับมันเลย
ขณะนี้ สมาชิกตระกูลบันทึกสวรรค์ที่นั่งอยู่ในสนามประลอง
เนี้ยไฮ้ เนี้ยอิ้ง และพวกของเขาล้วนต่างมีความสุขมากยิ่ง
นัก แม้ว่าจักมิได้รับเงินรางวัลจากการชนะเพราะมันเป็นของ
เนี้ยหลี่ แต่อย่างไรก็ตามการทีส่ ามารถท่าให้ตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์ต้องเสียเงินก้อนใหญ่ถึงเพียงนี้ก็ท่าให้พวกเขาล้วน
รู้สึกดีกับมัน ในช่วงเวลาที่ผ่านมาพวกเขานั้นถูกกดดันกีดกัน
ทางการค้าจากตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ จนท่าให้ถึงกับขัดสนเลย
ทีเดียว ในตอนนี้นั้นพวกเขาได้ระบายออกมาแล้ว

“น้องชายตัวน้อย เนี้ยหลี่ พี่สาวคิดว่าเจ้านั้นเป็นคน


ดี ไม่เคยคิดว่าเจ้าจะเป็นคนฉลาดแกมโกงนะ ดูเหมือนว่า
พี่สาวจะต้องระมัดระวังแล้วนะ” หยางซินมองมาที่เนี้ยหลี่และ
กล่าวล้อเล่นอย่างสนุกสนาน นางเอามือกอดอก ดันหน้าอก
ขนาดใหญ่ของนางชูขึ้นช่างดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีกนัก

เนี้ยหลีย่ ิ้มอย่างเจ็บๆ และเอ่ยขึ้นว่า “พี่สาวหยาง ซิน เข้าใจ


ผิดแล้ว น้องชายตัวน้อยนั้นเป็นคนดี ยกเว้นว่ามันจ่าเป็นต้อง
ใช้วิธีรุนแรงอย่างมากจึงจะจัดการได้ เช่นในเวลาส่าคัญนี้”

หลังจากได้ยินค่าพูดของเนีย้ หลี่ หยางซิน เนี้ยไฮ้ เนี้ยอิ้ง และ


พวกของเขามองมาที่เนี้ยหลี่และยิม้ แต่สายตาพวกเขายังไม่สื่อ
ถึงความคิดเช่นนั้น เมื่อดูจากแววตาดูเหมือนว่าจะกล่าว“ ใคร
จะไปเชื่อเจ้า?!”

เนี้ยหลีย่ ักไหล่ไปมา แม้ว่าเขาพยายามจะอธิบาย ว่ามันคงจะไม่


สามารถใช้ในรอบประลองต่อไปได้แน่ จากนั้น เขาก็มองมาที่
เนี้ยอิ้งและกล่าวถามว่า “ เดิมพันครั้งนี้ได้รับมาเป็นจ่านวน
เงินเท่าไร”

“เงินเดิมพันในส่วนบุคคลของเรานั้นได้รับมาทั้งสิ้นห้าสิบล้าน
เหรียญจิตมาร นอกจากนี้ เรายังพนันที่โต๊ะรับแทง ได้รับเงินมา
อีกมากกว่าเจ็ดสิบล้านเหรียญจิตมาร”เนี้ยไฮ้ ยิ้มอย่างมาก
พร้อมทั้งกล่าว “ในเวลาชั่วพริบตาเนี้ยหลี่กส็ ามารถหาเงินได้
จ่านวนมหาศาล ช่างเป็นการหาเงินที่รวดเร็วยิ่งนัก!”
“เยี่ยม” เนี้ยหลี่พยักหน้า หนึ่งร้อยยี่สิบล้านเหรียญจิตมาร
ส่าหรับเนี้ยหลี่นั้นไม่ได้มากมายส่าหรับเขา แต่อย่างไรก็ตาม
ส่าหรับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์แล้วเงินจ่านวนนี้นั้นมิใช่ก้อนเล็ก
เลยทีเดียว

ณ เวลานี้ เสิ่นหมิง ไม่สามารถที่จะอยู่นิ่งได้ เขาเดินไปเจรจา


กับตระกูลบันทึกสวรรค์ในทันที

“ท่านผู้อาวุโสหลัก เสิ่นหมิง นายน้อยเสิ่นเฟยอาการเป็น


อย่างไรบ้าง? ดูเหมือนว่าเนี้ยหลี่นนั้ จักลงมือรุนแรงมากไป
เล็กน้อย ขอท่านได้โปรดให้อภัยด้วย!”เนี้ยไฮ้ ป้องมือของเขา
และเอ่ยวาจาตอบเสิ่นหมิง ผู้น่าของตระกูลบันทึกสวรรค์นั้น
เมื่อมองจากรูปลักษณ์ภายนอกช่างสง่างามยิ่งนัก แต่ภายใน
หัวใจของเขาตอนนี้นั้นก่าลังหัวเราะลั่นเลยทีเดียว

เสิ่นหมิงใบหน้ากระตุกเล็กน้อย ทุกคนสามารถบอกได้เลยว่า
เสิ่นเฟยนั้นจะไม่สามารถลุกออกจากเตียงได้อย่างน้อยครึ่ง
เดือนเลยทีเดียว เสิ่นหมิงยังไม่ทราบอาการบาดเจ็บ ที่แน่ชัด
ของเสิ่นเฟย ว่าเสิ่นเฟยในตอนนีน้ ั้นมิมีความสามารถในการที่
จักผลิตมนุษย์ได้อีกแล้ว ถ้าเขารู้เรื่องนี้เข้า เขาจักต้องโกรธ
มากกว่านี้อีกเป็นแน่ อย่างไรก็ตามเสิ่นหมิงยังได้มีค่าสั่งให้เสิ่น
หนิงนั้นน่าเนี้ยหลีไ่ ปสู่ความตายให้ได้

ในมุมมองของ เสิ่นหมิงนั้น แพนด้าเขี้ยว ของเนี้ยหลี่นั้นไม่


สามารถ ที่จะต่อสู้กับเสิ่นหนิงได้ โดยปกติแพนด้าทั่วไปจะมี
ระดับของจิตอสูรเพียงทองแดงเท่านั้น แพนด้าเขี้ยวที่เนี่ยหลี่
ผสานร่างนั้น มีสิ่งที่ต่างกันเพียงเล็กน้อย แค่มีเขี้ยวและด้วย
เหตุผลนี้น่าจะท่าให้มันเพิม่ ความแข็งแกร่งขึ้นเป็นระดับเงิน
มันมีขีดจ่ากัดของความสามารถอยู่แค่นั้น ในขณะที่เสิ่นหนิงนั้น
อยู่ที่ระดับร่างทรงอสูรระดับเงิน ขั้น 5 ดาวนอกจากนี้ยังหลอม
รวมกับจิตอสูรหมีสีชาดศักดิส์ ิทธิ์ ซึ่งเป็นจิตอสูรระดับทอง
แม้ว่าเสิ่นเฟย จะมีพยัคฆ์ทมิฬสีชาด ซึ่งมีความสามารถพิเศษ
ถึงระดับทองด่า แต่เขามีความแข็งแกร่งเพียงระดับเงิน
เท่านั้น ส่วนเสิ่นหนิง และจิตอสูรของเขาล้วนบรรลุ ระดับ
ทองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

(จากการตรวจสอบ ถ้าเสิ่นเฟยหลอมรวมกับจิตผสูรพยัคฆ์สี
ชาดเรียบร้อยแล้วจะมีระดับสูงถึง ระดับทองด่า ขั้น1 ดาวแต่
ไม่มโี อกาสท่าได้ )

“ถ้าพวกเขายังคงเสียเงินอยู่อย่างนี้พวกเขาจะต้องมีปญ
ั หา
บางอย่างตามมาแน่”

“การพนันครั้งนี้มีสามรอบ ในรอบแรกนี้ไม่ค่อยมีความสุข
เท่าไรเพราะมันจบค่อนข้างเร็วมาก ต่อไปจะขอเริ่มเดิมพันใน
รอบทีส่ องของเรา!” เสิ่นหมิง มองมาที่เนี้ยไฮ่ และพวกของเขา
พร้อมทั้งถอนหายใจอย่างแรงและกล่าว

“สิ่งนี้.....”เนีย้ ไฮ้ไม่สามารถตัดสินใจได้ จึงมองไปทาง


เนี้ยหลี่ เขาไม่รู้ว่าเนี้ยหลี่นั้นมีความแข็งแกร่งเพียงไร ตระกูล
เทพศักดิ์สิทธิ์ในรอบแรกได้พ่ายไปแล้ว เมื่อถึงรอบสองจะต้อง
เป็นการเดิมพันที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

เสิ่นหมิง เคลื่อนสายตาไปยังเนี้ยหลี,่ เมื่อสบตากับเนี่ยหลี,่


สายตาแห่งความเย็นชาพร้อมกับนักล่าแฝงอยู่ในนั้น

เนี้ยหลี่ ไอเล็กน้อย และกล่าวว่า “มัน เป็นความผิดเล็กน้อย


ส่าหรับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ที่ให้ขา้ ต่อสู้ในรอบแรก ข้าได้ออก
แรงใช้พลังวิญญาณมากนัก คงมิสามารถที่จะต่อสู้ในรอบทีส่ อง
ได้ในไม่ช้าเป็นแน่ ซึ่งมันหมายความว่าท่านจะชนะถ้าท่านสู้
ตอนนี?้ อย่างไรก็ตามในรอบที่สองจะต้องเลื่อนออกไปอีกสอง
เดือนรอจนกว่าพลังวิญญาณของข้าจะกลับคืนมา”

เมื่อได้ยินค่าพูดประโยคนั้น หยางซิน เนี้ยไฮ่ และเนี้ยอิ้ง ล้วน


อยู่ในอาการตะลึง พวกเขาส่งสายตามองไปยังเนี้ยหลี่

ใช้พลังวิญญาณมากถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? ในการต่อสู้รอบที่
ผ่านมานั้น เนีย้ หลีเ่ พียงผสานกับจิตวิญญาณของเขา
เพียงชั่วคราวเท่านั้น แม้ว่า เขาจะจัดการ ตบและกระทืบเสิ่น
เฟย เพียงเล็กน้อยจ่านวนไม่กี่ครัง้ ก็ไม่ได้เป็นการต่อสู้ที่ต้องใช้
พลังรุนแรงใดๆ เขานั้นช่างปลอมแปลงค่าโกหกได้แนบเนียน
จริงเชียว?

เสิ่นหมิงมีใบหน้าอันบูดบึ้งขึ้นทันที ถอนหายใจจนหนาวเหน็บ
พร้อมทั้งเปล่งวาจา “ มันไม่สามารถเป็นเช่นนั้นได้หรอก เมื่อ
ตระกูลบันทึกสวรรค์พยายามที่จะหลบหนีหลังจากการได้รับ
เงินรางวัล ถูกต้องหรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนั้น ตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์คงจะมิยอมนิ่งเฉยเป็นแน่” เสิ่นหมิงเคลื่อนสายตาไป
ยังหยางซิน จากนั้นก็ถอนหายใจแล้วจึงกล่าวว่า “ตระกูล
บันทึกสวรรค์นั้นได้ท่าสัญญากับสมาคมนักปรุงยา ว่าจะ
ด่าเนินการประลองต่อ เรื่องนี้คงไม่ปกป้องตระกูลบันทึก
สวรรค์ถูกไหม? ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ข้าจักให้ผู้น่าตระกูลของเราไป
คุยกันกับท่านเจ้าเมือง

หยางซิน แก้มแดงขึ้นเล็กน้อย ถึงแม้ว่านางจะยืนอยู่ข้าเนี้ยหลี่


เธอยังไม่ได้กล่าวสิ่งใดแต่แก้มของนางอาการมันบอกว่า
ส่าหรับเนี้ยหลี่ การหนีหลังจากที่ได้เงินเดิมพันแล้วนั้น มันก็
เป็นความผิดเล็กน้อยเหมือนกัน

“ หลังจากที่ท่าผู้อาวุโสหลัก เสิ่นหมิงกล่าวมานั้น ข้าตอนนี้ไม่


สามารถที่จะต่อสู้ได้ ถ้าตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ชนะได้ด้วยการใช้
เล่ห์เหลี่ยม ข้าเชื่อว่าคงไม่มผี ู้ใดกล้าที่จะพูดว่าร้ายตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์” เนี้ยหลี่มองไปทีผ่ ู้อาวุโสเสิ่นหมิงที่ก่าลังโกรธ
จัด เขายิ้มเล็กน้อยใจของเขานั้นรับรู้ได้ถึงความโกรธที่ปล่อย
ออกมาจากเสิ่นหมิง
“ ใครจะกล้าพูดไม่ดีกับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ของข้า!” เสิ่นหมิ
งถอนหายใจจนหนาวเหน็บ เขานั้นก็ตระหนักขึ้นมาทันทีว่า
เขามีเหตุผลรองรับ ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ จะเอาชนะโดยการ
ใช้เล่ห์เหลี่ยมเหรอ? อกของเขาแทบจะระเบิดออกมาให้ได้เลย
ทีเดียว

เนี้ยไฮ้ เนี้ยอิ้ง และพวกของเขาล้วนมีสีหน้าในการชื่นชม


ออกมาจากพวกเขา

“ ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ ดีแต่กดดันผู้คน” เนี้ยหลี่ พูดเสียง


เบา หยางซิน ในที่สุดก็เข้าใจว่าเนี้ยหลี่หนั้นก่าลังพยายาม
หลอกล่อ ให้เสิ่นหมิงโกรธ และก้าวเข้าไปติดกับดักอย่าง
ช้าๆ อย่างไรก็ตาม เนี้ยหลี่จักสามารถเอาชนะอัจฉริยะของ
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ได้จริงหรือ? หากเนี้ยหลี่ ไม่สามารถ
เอาชนะอัจฉริยะเหล่านั้นได้ทุกๆสิง่ ที่เขาท่ามาทั้งหมดต้องพัง
มลายลงไปเป็นแน่

“แล้วจักท่าเช่นไร?”เสิ่นหมิงโกรธจัด เขามองมาที่เนี้ย
ไฮ้ เนี้ยหลี่ และพรรคพวก พร้อมทั้งกล่าวว่า “ ตระกูล
บันทึกสวรรค์เตรียมที่จะเล่นเดิมพันในรอบนี้เท่าไหร่”

เนี้ยหลี่ เอ่ยวาจาเบาๆว่า “ ในมุมมองของพวกเรา อย่างน้อย


ที่สุดน่าจะวางซัก สองถึงสามร้อยล้านเหรียญจิตมาร มิ
เช่นนั้นแล้วคงจะไม่มีความหมายใดๆเลย”

เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยหลี่ เสิ่นหมิง สมองก็เข้าใจอย่างแจ่ม


แจ้งขึ้นมาทันที แม้ว่าพวกเขาจักตกลงยอมรับเดิมพันกับเนี้ยห
ลี่ แต่ว่าการวางถึงสองร้อยล้านเหรียญจิตมารนั้น ถ้ามีปัญหา
เกิดขึ้นจักต้องมีผลลัพธ์บางสิ่งที่ตามมาอย่างคาดไม่ถึง
แน่นอน แม้ว่าตลอดระยะเวลาทีผ่ ่านมาเขาจะสร้างผลงาน
ให้แก่ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ แต่ถ้าต้องสูญเสียเงินถึงสองร้อย
ล้านเหรียญจิตมารก้อนนี้ไป วันที่ดีของเขาคงจักจบลงตรงนี้
เป็นแน่

ส่าหรับเนี้ยหลี่นั้นการที่เขากล้าที่จะรับเดิมพันนั้นพิสูจน์ให้เห็น
แล้วว่าย่อมต้องมีความมั่นใจในบางสิ่งแน่นอน ในการต่อสู้ใน
รอบก่อนหน้านี้กับเสิ่นเฟย เนี้ยหลี่ยังไม่แสดงความแข็งแกร่งที่
แท้จริง เปิดเผยออกมาจนหมด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าจักใจร้อน
กระท่าการหุนหันพลันแล่นได้

เสิ่นหมิง เงียบไปชั่วขณะหนึ่งก่อนจะเอ่ยวาจา “ รอบต่อไปเรา


จะวางเดิมพันหนึ่งร้อยล้านเหรียญจิตมาร!”

เมื่อมองดูการแสดงออกของ เสิ่นหมิง เนี้ยหลี่นั้นก็เข้าใจได้เลย


ทันทีว่า เสิ่นหมิงนั้นแม้จะเป็นผู้อาวุโสหลักของตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์ ก็ยังมีขีดจ่ากัดในการใช้จ่าย ยังไม่กล้าพอที่จะใช้เงิน
ก้อนใหญ่จนเกินไป ถ้ากดดันเขาจนเกินไป เสิ่นหมิงจัก ระแวง
สงสัยในแผนของเขาได้

“ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์นั้นก็ไม่ได้กล้าซักเท่าไหร่ งั้นเราจะเล่น


กับพวกท่าน หนึ่งร้อยล้านเหรียญจิตมารก็แล้วกัน “เนี่ยหลี่เอ่ย
พร้อมหัวเราะเบาๆ

เมื่อได้ยินค่าพูดประโยคนั้น ใบหน้าของเสิ่นหมิง ก็พลัน


แปรเปลีย่ นเป็นสีเขียว เนีย้ หลี่พดู เย้ยตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ว่า
ไม่กล้าที่จะเล่น ท่าให้ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นเสียหน้าเป็น
อย่างยิ่ง ตอนนี้นั้นเสิ่นหมิงก่าลังโกรธอย่างสุดขีด
บทที่ 85 - ฉิวเฉียด

หลังจากเสร็จสิ้นการวางเงินเดิมพันจ่านวนหนึ่งร้อยล้านเหรียญ
จิตมาร โดยตระกูลศักดิส์ ิทธิ์สามารถที่จะวางเงินเดิมพัน
ต่อ ได้ไม่มากกว่านี้ ยอดเงินเดิมพันเลยเป็นยอดหนี้ โดยอีกฝั่ง
ผู้ที่ท่าการวางเดิมพัน คือ หยางซิน

เนื่องจากหยางซินเป็นผู้วางเงิน เนี้ยหลี่จึงมิได้อยู่ที่จดุ นั้น

เนี้ยหลี่ ต้องท่างานหนัก เพราะฉะนั้นเกินกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์


ที่ได้จากการเดิมพัน กับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ หลังจาก
ชนะ พี่สาว จักให้เงินพนันทั้งหมดแก่น้องชายตัวน้อย!” หยาง
ซินยิ้มอย่างมีเสน่ห์ พร้อมแลสายตาไปยังเนีย้ หลี่ ริมฝีปากสี
ชมพู ผมของนาง หยักสลวยเป็นลอน ลิมฝีปากชีชมพูของนาง
นั้นขยับมาอยู่ข้างแก้มเนีย้ หลี่ รูปร่างอันสมส่วนดูมีเสน่ห์ของ
นางนั้นมาอยู่ข้างเนี้ยหลี่ ความนุ่มนวลจากผิวนางนางช่างท่าให้
น่าหลงใหลใฝ่ฝันเป็นยิ่งนัก

นางนั้นช่างเหมือนเป็นปิศาจที่มีอา่ นาจสะกดจิตใจให้ชวน
หลงใหลนัก

“พีส่ าวหยางซิน เล่าเรื่องตลกอีกแล้ว เงินจ่านวน


น้อยเช่นนั้นแม้ว่าพี่สาว จะเสียไปมันก็ไม่ได้มคี วามหมาย
มากมายส่าหรับพี่สาวเลย” เนี้ยหลี่เอ่ยวาจาพร้อมรอยยิ้ม
เล็กน้อยอย่างเป็นธรรมชาติ เขานั้นจะไม่ถูกหยางซินหลอกล่อ
ได้ง่ายๆเป็นแน่

“พี่สาวจะรับความเสี่ยงทั้งหมดด้วยเงินของพี่สาวเอง!” หยาง
ซินท่าหน้าบุ้ยและกล่าวด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย

“ พี่สาวไม่ได้มีความคิดอื่นใด นอกจากสวดอ้อนวอน
ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คมุ้ ครองน้องชายตัวน้อยให้ปลอดภัย” เพียงชั่ว
ครู่ หลังจากการเดิมพัน

เนี้ยหลี่และเสิ่นหนิง จากตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ ได้เดินเข้าสู้


สนามประลอง

ทั่วทั่งสนามประลองก่าลังเร่าร้อนเพิ่มอุณหภูมิขึ้น เนื่องจาก
การเปล่งเสียงตะโกน จากผู้ที่สนับสนุนเนี้ยหลี่ และจากผู้ที่
สนับสนุนเสิ่นหนิง

“ในรอบที่แล้วเนี้ยหลี่ใช้กลอุบายหลอกเอาเงินจากข้าไป
จ่านวนมิใช่น้อย ตอนนี้ได้เวลาทีข่ ้าจะน่ามันกลับคืนมาแล้ว”

“ตระกูลบันทึกสวรรค์ของเจ้าเด็กเหลือขอ ให้เจ้า
แพนด้าเขี้ยวใหญ่แก่เขาช่างโง่เง่ายิ่งนักแม้ว่าเขาจะหลอก
ตระกูลศักดิส์ ิทธิ์ได้ในรอบที่แล้ว แต่ในรอบถัดไปนี้ เสิ่น
หนิง ร่างทรงอสูรที่มีระดับเงิน ขัน้ ห้าดาว จะต้องเป็นผู้มีชัย
อย่างแน่นอน”

ในรอบประลองก่อนหน้านี้ เมื่อเนีย้ หลี่ชนะ มิได้ท่าให้เขาได้รับ


ชื่อเสียงนัก เนื่องจากเสิ่นเฟยพ่าย โดยดูเหมือนจะไม่ได้รับ
ความยุติธรรมอยูเ่ ล็กน้อย แต่ส่าหรับรอบนี้นั้นผู้คนส่วนใหญ่
ยังคงวางเดิมพันข้างเสิ่นหนิง อย่างไรก็ตามคนที่รสู้ ึกดีกับเนีย้
หลี่ยังคงรูส้ ึกว่าเนี้ยหลี่จักสามารถสร้างปาฏิหาริย์ ได้
เหมือนเดิมหลังจากพวกเขานั้นได้รับเงินเดิมพันมาจากรอบที่
แล้ว

เมื่อจ้องมองมาที่เนี้ยหลี่ที่อยู่บนเวทีประลอง เอีย จื้อหวิ๋น อด


หัวเราะออกมาแทบไม่ได้ นางได้ยินมาว่าตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์ ได้ท่าการวางเดิมพันอีกเป็นเงินถึง หนึ่งร้อยล้าน
เหรียญจิตมาร เนีย้ หลี่นั้นชั่งมีความคิดชั่วร้ายยิ่งนัก ระหว่าง
การทดสอบประจ่าปีที่ผ่านมานี้ ผลการทดสอบของเขาไม่ได้
สูง แต่เอีย จื้อหวิ๋นเชื่อมั่นว่าเนีย้ หลี่นั้นมีระดับพลังวิญญาณสูง
จนน่ากลัว จนถึงกับว่าเขาสามารถที่จะควบคุมความแข็งแกร่ง
และพลังวิญญาณได้อย่างเหลือเชือ่ ?ในสายตาของนางนั้นเนี้ยห
ลี่สามารถที่จะเอาชนะเสิ่นหนิง จากตระกูลศักดิส์ ิทธิ์ได้อย่าง
แน่นอน จากนั้นนางก็เอาเงินออมที่เก็บสะสมมาทั้งหมดวาง
เดิมพันข้างเนี้ยหลี่

เมื่อมองมา ยังเนี้ยหลี่ ผู้ทดี่ ูมีปฏิภาณไหวพริบนัก แม้ว่าเอีย จื้


อหวิ๋นจะรูส้ ึกเคืองเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถเข้าใจได้เหมือนว่า
ท่าไมนางถึงยังรู้สึกกังวลเล็กน้อย เมื่อนางได้ยินมาว่า เนี้ยหลี่
นั้นจักเข้าร่วมประลองยุทธ์ในครั้งนี้ นางก็รีบรุดมาอย่างรวดเร็ว

“มันเป็นแค่ความกังวลระหว่างเพื่อนเท่านั้น” เอีย จื้


อหวิ๋นนางคิดกับตัวเองก้มสายตามองต่่าลงไปยังเนีย้ หลี่ หน้า
นางก็รู้สึกอุ่นขึ้นเล็กน้อย นางไม่เคยมีความรู้สึกกังวลเช่นนี้กับ
เด็กผู้ชายมาก่อนเลย

การประลองเริม่ ต้นขึ้น

เสิ่นหนิง
ก็ผสานกับจิตอสูรของเขาในทันที ร่างกายของเขาลุกไหม้ไป
ด้วยเปลวไฟ ทันใดนั้นก็กลายเป็นหมีสีชาดศักดิ์สิทธิ์ที่มี
พละก่าลังมหาศาล

“โฮก.......!”เสียงค่ารามกึกก้อง

ขั้นต่อมา เสิ่นหนิง ได้ปลดปล่อยเปลวเพลิงพวยพุ่งขึ้นสู้ท้องฟ้า


พลังอันเกรี้ยวกาจแผ่ออกมาจนท่าให้ทั้งสนามประลองสั้น
ไหว พร้อมพื้นเวทียังลุกไหม้ด้วยเปลวไฟอันร้อนแรง

“มันคือหมีสีชาดศักดิ์สิทธิ์จริงๆ”

“ร่างทรงอสูร ระดับเงิน ขั้น 5 ดาว รวมกับ หมีสี


ชาดศักดิ์สิทธิ์ สิ่งนี้คือความสามารถอันสมบูรณ์แบบที่มีอยู่ใน
หมู่ของชนรุ่นใหม่เลยจริงๆ ดูเหมือนว่าเนี้ยหลี่ในตอนนีจ้ ักถึง
คราวเคราะห์แล้ว ครั่งก่อน เขาจัดการทายาทสายตรงอย่าง
นายน้อยของตระกูลศักดิส์ ิทธิ์จนมีสภาพน่าสมเพทเวทนายิ่ง
นัก คราวนี้ตระกูลศักดิ์สิทธิ์คงจะมิยอมปล่อยให้เขาออกไป
อย่างง่ายดายเป็นแน่”

บรรดาผู้ที่ลงเดิมพันข้างเสิ่นหนิง ล้วนพากันชูมือขึ้น
เสียงของพวกเขาชั่งเร่าร้อนเป็นยิ่งนัก

“การผสานกับจิตอสูรทีเ่ จ้ารับมาตนนี้นั้น ช่างมี


พลังรุนแรงไม่น้อยเลยจริงเชียว?”

เนี้ยหลี่บ่นพรึมพร่า

เมื่อได้ยินค่ากล่าวของเนี้ยหลี่ เสิ่นหนิงนั้นก็ยิ้มอย่างขมขื่น ใน
การประลองรอบที่ผ่านมานั้น เสิ่นเฟย โดนเนีย้ หลี่ ตบตีแต่
เพียงฝ่ายเดียวมิยอมให้เขานั้นได้มโี อกาสที่จะผสานกับจิตอสูร
ของเขาได้ อย่างไรก็ตามเขาจะให้โอกาสนั้นแก่เนีย้ หลี่
หรือไม่? การต่อสู้ในรอบนี้นั้นส่าคัญมาก เขาจักหลอมรวมกับ
จิตอสูรก่อนสิ่งใด หลังจากหลอมรวมกับจิตอสูรของเขาเสร็จ
แล้วนั้น เนี้ยหลี่และอสูรเขี้ยวแพนด้า จักไม่สามารถท่าร้ายเขา
ได้

เสิ่นหนิงคิดอยู่ในใจว่าเขาชนะเรียบร้อยแล้ว

เนี้ยหลีย่ ังคงสามารถหลอมรวมจิตอสูรกังฟูแพนด้าได้อย่าง
รวดเร็ว พร้อมทั้งหมุนตัวกลายมาเป็นแพนด้ามีเขี้ยว ตัวอ้วนดู
ช่างน่ารักไม่เป็นอันตรายแก่ผู้ใด
ไม่ว่าจะมองจากมุมใดๆเจ้าแพนด้าเขี้ยวใหญ่น่ารักตัวนี้ ไม่
น่าจะมีพิษมีภัยแก่ใครได้

“โฮก........”เสียงค่ารามกึกก้องจากเส้นหนิง เขาก้าว
ย่างตรงไปทางเนีย้ หลี่ ระรอกคลื่นความร้อนลูกแล้วลูกเล่า
ระเบิดแผ่กระจายไปทั่วสารทิศ
เพลิงกัมปนาท!

ทันใดนั้น เสิ่นหนิงก็กระโจนทะยานขึ้นไปพร้อมทั้งปล่อยฝ่ามือ
ลงไปด้านล่างหลังจากนั้นก็มีเปลวเพลิงมากมายมองคล้ายดาว
ตกพุ่งลงมา

เมื่อเห็นฉากนี้ เนี้ยหลีไ่ ม่เข้าต่อสู้ แต่ก่าลังวิ่งหนี


บูม บูม บูม

เพลิงดาวตกพุ่งลงมายังด้านล่าง ปะทะกับพื้นอย่าง
รุนแรง หลังจากนั้นก็เหลือไว้เพียงหลุมบนพื้นดินเท่านั้น

เนี้ยหลี่กระโดดหลบเพลิงดาวตกทุกลูกที่พุ่งมายังเขา เมื่อใคร
มองภาพนั้นต่างลุ้นจนต้องเหงื่อรินไหลกันเลยทีเดียว ถ้าเพลิง
ดาวตกโจมตีโดนเนี้ยหลีเ่ พียงครั้งเดียว แม้เขาไม่ตายจักต้อง
พักรักษาตัว อย่างน้อยเป็นเวลาครึ่งชีวิตของเขาเลยทีเดียว
เสียงโห่ จากผู้ชมในสนามดังก้อง

“เจ้าเด็กบ้าจากตระกูลบันทึกสวรรค์นั้น ช่างไม่มี
ความกล้าใดๆเลย เขาเริ่มวิ่งหนีตงั้ แต่การต่อสูเ้ ริม่ ต้น
ขึ้น เขาสามรถหลบมันได้อย่างฉิวเฉียดแผ่นหลังเพียง
เล็กน้อยเท่านั้น?

“การประลองครั้งนี้ช่างดูไร้ค่ายิ่งนัก เจ้าเด็กบ้าจาก
ตระกูลบันทึกสวรรค์ ถ้าไม่สามารถเอาชนะได้ ก็ยอมแพ้ไปซะ!
ช่างดูแล้วเสียอารมณ์จริงๆ!”

เสียงระเบิดพุ่งออกมาจากผู้ชม

หยางซินจับจ้องมาที่ เนี้ยไฮ่ เนี้ยอิง้ นางกล่าวถามด้วยใบหน้า


ที่บูดบึ้งน้่าเสียงดูเหมือนว่าจะโกรธเล็กน้อย “พวกท่านไม่ได้มา
พร้อมกันกับเนี้ยหลี่เหรอ ท่าไมถึงไม่เปลี่ยนจิตอสูรให้
เขา? ท่าไมพวกท่านจึงปล่อยให้ เนี้ยหลี่ ใช้ จิตอสูรขยะอย่าง
แพนด้าเขี้ยวใหญ่
เนี้ยไฮ่ยิ้มอย่างขมขื่น และกล่าวว่า “ท่านผู้อ่านวยการหยาง
ท่านเข้าใจผิดแล้ว เมื่อไม่นานมานีเ้ ราได้ช่วยเนี้ยหลี่ซื้อดวงจิต
อสูรมาจ่านวนไม่น้อยกว่าหมื่นดวง ให้แก่เขา แต่เนี้ยหลีย่ ังคง
เลือกแพนด้าเขีย้ ว เราไม่สามารถท่าอะไรได้!”

เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยไฮ่ หยางซินก็เกิดความรู้สึกประหลาด
ใจจนออกทางสีหน้า เนี้ยไฮ้และพวก ได้ซื้อดวงจิตอสูรมากกว่า
หนึ่งหมื่นดวงในไม่กี่วันนี?้ เมื่อมองดูเนี้ยหลี่ที่อยู่ในสนาม
ประลองแม้ว่าจะดูนา่ สงสารไปบ้าง แต่เขาก็สามารถที่จะหลบ
ทุกการโจมตีได้ หรือว่าเขาจักมีจุดมุ่งหมายเป็นอย่างอื่น

“น้องชายตัวน้อยเนี้ยหลี่ จักต้องมีเหตุผลที่เลือก
แพนด้าเขี้ยวตัวนี้อย่างแน่นอน” หยางซินยิ้มเล็กน้อยให้กับ
ความคิดของนางเอง

เมื่อมองกริยาท่าทางของหยางซินที่แสดงออกมา เนี้ยไฮ้ ก็รสู้ ึก


โล่งใจขึ้นมาในทันที เขาเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก ตระกูล
เล็กๆของเขา จักมิสามารถที่จะท่าให้หยางซินไม่พอใจได้เลย?

ณ บริเวณอัฒจันทร์ที่นั่งของผู้ชมที่ไกลออกไป เอีย จื้อหวิ๋นจ้อง


มายังสนามประลองโดยไม่ย้ายสายตาของนางไปไหนพร้อม
ขมวดคิ้วเล็กน้อย ในตอนนี้นางไม่สามารถที่จะบอกว่าเนี้ยหลี่
นั้นจงใจกระท่าเช่นนั้น นางรู้ว่าตอนนี้เขาพยายามอย่างดีที่สุด
อย่างไรก็ตามนางนั้นรูส้ ึกว่าเนี้ยหลี่จักเป็นฝ่ายมีชัยแน่นอน

หลังจากเพลิงดาวตกลูกหนึ่งระเบิดลงด้านข้างเนีย้ หลี่
ความจริงคือว่ เพลิงดาวตกเหล่านีม้ ิสามารถที่จักกระท่า
อันตรายใดให้แก่เนี้ยหลี่ได้เลย ถ้าเนี้ยหลี่พ่นระเบิดหยิน
หยาง ออกมา นั้นมากเกินพอที่จักท่าลายเสิ่นหนิงลง
ได้ อย่างไรก็ตามเนีย้ หลีย่ ังคิดว่ามิอยากที่จะเอาชนะเสิ่นหมิง
ได้ง่ายๆ

ถ้าเขาเอาชนะเสิ่นหนิงได้อย่างง่ายดายเสียแล้ว ตระกูล
ศักดิ์สิทธิ์ก็คงจักมิวางเดิมพันรอบที่สามเป็นแน่

ดังนั้น เขาจึงต้องการแสดงให้ผู้อื่นได้ดเู หมือนว่าเขานั้นแทบจะ


ไม่สามารถเอาชนะเสิ่นหนิงได้

“ เจ้าเปียก อย่าเอาแต่วิ่งหนีซิ” เสิ่นหนิง โจมตีต่อเนื่องแบบ


บ้าดีเดือด เขาควบคุมพลังอันเกรี้ยวกราดของหมีสีชาด
ศักดิ์สิทธิ์ ทั่วทั้งบริเวณพื้นในเวทีประลองล้วนถูกท่าลายอย่าง
รุนแรงจนเป็นหลุมเป็นบ่อเกิดขึ้นมากมาย”
อย่างไรก็ตามเสิ่นหนิง นั้นมีความสุขคือการที่เนี้ยหลี่นั้นโชคดี
มากๆ ทุกๆครั้งที่เพลิงดาวตกจักถูกตัวเนี้ยหลี่ เขามักจะสะดุด
ล้มจนหลบมันได้อยูเ่ ป็นประจ่า

ความคิดจากภาพที่เห็นนั้นคือ แพนด้าเขี้ยวใหญ่ตัวอ้วนน่ารัก
เงอะงะซุ่มซ่าม และเมื่อมองมาที่เนี้ยหลี่ที่สะดุดเท้าของตัวเอง
อยู่เป็นประจ่า ท่าให้เสิ่นหนิงมิสามารถที่จะรู้สึกแปลกๆ กับ
การต่อสู้ในครั้งนี้ได้ ทั้งที่กังฟูแพนด้ารวมร่างกับเนี้ยหลี่นั้น
ช่างแข็งแกร่งนัก

ถ้าเป็นแพนด้าเขี้ยวใหญ่ทั่วไปเขาสามารถที่จะเอาชนะลงได้
อย่างง่ายได้ แต่เนี้ยหลี่นั้นยังสามารถเอาตัวรอดอย่างทุลักทุเล
มาได้เป็นเวลานาน

“โฮก........”

เสิ่นหนิงทิ้งตัวลงมาจากกลางอากาศ มือทั้งสองข้างก่าแน่นเป็น
ก่าปั้นที่ทรงพลัง แผ่พลังแผดเผาอย่างรุนแรงจนดูเหมือนไม่มีที่
สิ้นสุดพุ่งลงมาจากฟากฟ้า

เมื่อเห็นฉากนีต้ าของเนี้ยหลี่ก็ลุกวาวขึ้นมา ทันที พร้อมทั้งกลิ้ง


ไปยังด้านข้าง

“พยายามจะหนีเหรอ? มันสายเกินไปแล้ว!” ค่าเยาะ


เย้ยมองเห็นได้จากบนใบหน้าของเสิ่นหนิง คลื่นจากเปลวไฟสี
ชาดพวยพุ่งออกมาอย่างรุนแรงจากร่างกายของเขา กลายเป็น
ดาวตกที่พุ่งลงมาอย่างรุนแรง
บทที่ 86 - หมดสติ

"สนามแรงโน้มถ่วง "!

เนี้ยลี่ใช้ความสามารถ'สนามแรงโน้มถ่วง'ของเขี้ยวอสูร
แพนด้าก่อให้เกิดแรงโน้มถ่วงในบริเวณใกล้เคียงเพิม่ ขึ้นอย่าง
มหาศาล

บูม!

ร่างของเสิ่นหนิงตกลงสู่พื้นอย่างรุนแรง !!!~

เมื่อ เสิ่นหนิงใกล้จะปะทะกับเนี้ยหลี่ เนี้ยหลี่กระโดด


หลบไปด้านข้างเพื่อหลบผลกระทบของเพลิง ถึงกระนั้นเขาก็
ได้รับบาดเจ็บจากแผลไฟไหม้เล็กน้อย ถึงแม้เขาจะสามารถ
เอาชนะได้อย่างง่ายดายก็จริง แต่เขาต้องแสร้งท่าเป็นว่า
อ่อนแอกว่าของคู่ต่อสู้ของตน!!~.

เสียงดังกึกก้อง จนท่าให้ทั้งสนามประลองสั่น เสิ่น


หนิง ท่าลายพื้นเป็นสิบตารางเมตร เปลวไฟพวยพุ่งขึ้นสู่
ท้องฟ้า ฝุ่นควันฝุ้งไปทั่ว

ผู้ชมต่างลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้นและกรีดร้อง

"ว้าว!!!เป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวอะไรเยีย่ งนี้ ?!"

"โอ้พระเจ้า!! นี่คือความแข็งแกร่งของ หมีสีชาดศักดิส์ ิทธิ์หรือไม่


นี้มันน่ากลัวเกินไป! "

"แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงระดับเงิน 5 ดาว ที่มีความแข็งแกร่ง


เช่นนี้มันก็เปรียบได้กับระดับโกล! "

"เสิ่นหนิงจะชนะแล้ว!???"
"เสิ่นหนิง,เสิ่นหนิง !!!...... " เสียงฟังผู้ชมกระหึม่ ดังขึ้น

ไม่ต้องกล่าวถึงการเดิมพัน เนีย้ หลี่เริ่มวิ่งหนีก่อนจะเริ่มการ


ต่อสู้เสียอีก ส่วนเสิ่นหนิงท่าการในการไล่ล่า ดุจสุนัขตามงับไก่
ในใจพวกเขาเต็มไปด้วยความเหยียดหยามดูมิ่น หาก หาก
เนี้ยหลีโ่ ดนจัดการซะก็ไม่มีข้อกังขา

เสิ่นหมิงปรากฎรอยยิ้มพึงพอใจบนใบหน้าของเขา เขาพยัก
หน้าและกล่าวว่า "เสิ่นหนิงท่าได้ไม่เลว ดูจากฝีมือของเขา เขา
น่าจะได้ก้าวเข้าสู่ระดับโกลได้ในไม่ช้านี้ หากเขาจัดการกับไอ้
เด็กเปรตที่มาจากตระกูลบันทึกสวรรค์ได้ ข้าจะต้องให้รางวัล
แก่เขาอย่างงาม! "
เมื่อได้ยินค่าพูดของเสิ่นหมิง, เสิ่นเสีย่ วยืนอยู่ข้างเขาไม่
สามารถอดแสดงความอิจฉา แม้เขาที่ได้รับการฝึกอบรม
ร่วมกันกับเสิ่นหนิง เขาก็ไม่ได้คิดว่าความแข็งแกร่งของเสิ่นหนิง
น่าจะถึงระดับโกล

หยางซินซึ่งอยู่อัฒจันทร์ ของครอบครัวบันทึกสวรรค์ขมวด
คิ้วและพูดพึมพ่า "เสิ่นหนิงเป็นเพียงร่างทรงอสูรระดับเงิน 5
ดาว แต่ พลังเช่นนี้ เปรียบได้กับร่างทรงอสูรระดับโกล3 ดาว
เลยทีเดียว!!!!. "

เอีย จื้อหวิ๋นที่ได้เห็นเหตุการณ์นั้น ก็แปลกใจ เช่นกัน


ขณะที่เศษธุลีฝุ่นในสนามประลองค่อย ๆ จางลง หลุมคล้าย
ปล่องภูเขาไฟขนาดย่อมๆก็ปรากฏแก่สายตาของทุกคน

ทันใดนั้นผู้ชมต่างตะลึง เงียบงันดุจไร้ซึ่งผู้คน ทุกคนตะลึง


ขณะที่พวกเขาจ้องมองลงไปในกลางหลุมนั้น!!!!
เสิ่นหนิงนอนอยู่กลางหลุมอย่างหมดสภาพ ร่างของเขาก็
เต็มไปด้วยบาดแผลและรอยไฟไหม้

"อะไรนั่น..."

"นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นนี่!!? ใครสามารถบอกได้ว่านี่เกิดอะไร
?! "เสิ่นหมิงค่าราม

"เสิ่นหนิงใช้ฝนไฟดาวตกไล่ลา่ เนี่ยหลี่ และตกลงมาหมดสติ


เองรึ ?" ไม่มีใครสามารอธิบายได้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น

เมื่อเกิดเหตุการณ์ กลับเป็นเช่นนี้ แม้แต่ เสิ่นหมิง,หยางซิน,


เนี้ยฮ์ ,เนี้ยอิ้ง และผู้คนที่เหลือก็พากันตกตะลึง
"พวกตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์จะโง่เง่า ไปถึงไหนกัน? คนแรก
ยังไม่ทันได้เรียกจิตวิญญาณอสูรของเขา ก็โดนเนี้ยหลี่ไล่จัดการ
จนพ่ายแพ้ คนที่สองเรียกจิตวิญญาณอสูรที่มีความแข็งแกร่ง
ไม่ต่ากว่าระดับโกล แต่จบลงด้วยการหล่นลงมาหมดสติ ?

พวกเขาไม่สามารถจะเชื่อในภาพที่ปรากฏอยูเ่ บื้องหน้าได้

หยางซิน ดูเหมือนจะมีความเข้าใจบางสิ่งบางอย่างและ
พึมพ่าว่า "เสิ่นหนิง นั้นมีความแข็งแกร่งทัดเทียมร่างทรงอสูร
ระดับโกล3 ดาว หรือว่า น้องหลี่จะท่าสิ่งใดลงไปกัน ? "

ผู้ชมทุกคนต่างเงียบสนิท ทุกสายตาต่างจับจ้องไปทาง
เดียวกัน หลังจากเวลาผ่านไปเนิ่นนาน เสิ่นหนิงก็ยังนอนแน่นิ่ง
ไม่ขยับกาย
"ไอ้ขยะจากตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ ลุกขึ้นมาเดีย๋ วนี้! "

"ไอ้ระย่า! ตัวแทนขยะของตระกูลเทพศักดิ์สิทธิไ์ อ้ตัวไร้ค่า


ไร้ประโยชน์! "บรรดาผู้ที่มีเดิมพันข้างตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์เริ่ม
โวยวาย

"ไอ้ตระกูลศักดิส์ ิทธิ์ มันคงไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับสมาคมปรุงยา


โกงเราใช่ใหม?"

"เป็นไปไม่ได้. ใครๆก็รู้ว่าสมาคมปรุงยา มั่งคั่งขนาด


ไหน ไม่มีใครประมาณได้ว่ารายได้พวกเขามหาศาลเท่าใด
สาเหตุมาจากตัวแทนของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ไร้ความสามารถ
เกินไป! "

พวกที่วางเดิมพันข้างเนี้ยหลีท่ ั้งหมดยิ้ม เนี้ยลี่ช่างเป็นเด็ก


ที่โชคดีเสียจริง รอบแรก เสิ่น เฟย โง่เง่าที่ต่อสู้โดยไม่ใช้อสูร
วิญญาณของเขาจึงชนะฟรี รอบทีส่ อง เสิ่นหนิงได้เรียนรู้จาก
บทเรียนที่ผ่านมาและรวมกับจิตวิญญาณปีศาจของเขา แต่กลับ
ตกลงมากระแทกพื้นหมดสติอีก, ชนะแบบไม่ต้องท่าอะไรเลย

สิ่งที่พวกเขาไม่ทราบก็คือ เสิ่นหนิงไม่ได้ท่าให้ตัวเองจะ
ตกลงมากระแทกพื้นและหมดสติ จริงๆแล้วฝนเพลิงดาวตกของ
เสิ่นหนิงนั้นอันตรายและรุนแรงมาก โดยการกระโดดลอยตัว
ขึ้นสูง และการใช้น้่าหนักเพิ่มความเร็วของการโจมตีให้สูงถึงขีด
สุด แต่จู่ ๆเนี่ยหลี่ ก็เพิ่มแรงโน้มถ่วงขึ้น ท่าให้เสิ่นหนิงตกลงมา
ด้วยความเร็วเป็นเท่าทวี เสิ่นหนิงตกอยู่ในสภาวะแรงโน้มถ่วง
สูง เขาจึงไม่สามารถควบคุมความเร็วได้ จึงตกมากระแทกพื้น
โชคดีที่เนี่ยหลี่ไม่ได้เพิ่มแรงโน้มถ่วงมากเกินไปไม่งั้นคงได้
บาดเจ็บสาหัสเป็นแน่

เมื่อมองไปที่เสิ่นหนิง ก็เกิดรอยยิ้มเล็กๆบนมุมริมฝีปาก
ของเนี่ยหลี่ เสิ่นหนิงได้หมดสติ เขาอาจจะสลบไปอีกสองหรือ
สามวันเลยทีเดียว 'สนามแรงโน้มถ่วง'เป็นความสามารถในการ
ต่อสู้ที่มองไม่เห็น คนนอกการต่อสูจ้ ะไม่สามารถที่จะสังเกตเห็น
หรือรู้สึกได้เลย
เนี้ยหลี่ชนะอีกครั้ง !!!

"การต่อสู้นี่มันไม่ได้ยากเลย!" ถึงแม้เนี้ยหลี่จะเป็นแค่
ระดับเงิน, ความสามารถของเนี่ยหลี่ในขนะนี้นั้น อาจจัดการได้
แม้กระทั้งร่างทรงอสูรระดับโกล2หรือ3 ดาว ได้เลยทีเดียว ดัง
นั้นเสิ่นหนิงจึงไม่เป็นปัญหาส่าหรับเขา.

หลังจากการต่อสู้จบลง เอีย จื้อหวิ๋นซึ่งเป็นหนึ่งใน


ผู้ชมมิได้แสดงความตื่นตกใจเหมือนทุกคน เธอมีท่าทีแสดงออก
ราวกับว่าเธอได้คาดคิดว่าเรื่องทั้งหลายมันจะลงเอยเช่นนี้
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ได้ตกอยู่ในก่ามือของเนี้ยหลี่อีกครั้ง เมื่อ
มองเนี้ยหลี่ช่วยไม่ได้ที่เธอจะท่าหน้ามุ้ย เนี้ยหลี่ราวกับเชื่อมั่น
ว่าทุก ๆ สิ่งล้วนอยู่ในความควบคุมของเขา แม้กระทั่งเรื่องราว
ของความรักใคร่ เขามั่นใจเด็ดขาดว่าสามารถท่าให้เอีย จื้อหวิ๋น
ตกหลุมรักในตัวเขา มันช่างเป็นเรือ่ งน่าเกียจที่เขาคิดเช่นนั้น!
ตัวเธอจะตกหลุมรักเนี้ยหลีใ่ นวันหนึ่งจริงๆรึ? ดวงตา
ของเธอมีประกายแห่งความไร้เดียงสา เมื่อหวนนึกภาพ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เมื่อกล้วยไม้โบราณ ท่าให้หัวใจเธอเต้น
โครมคราม.....

จากผลการต่อสู้ เนีย้ หลีไ่ ด้รบั เงินถึงหนึ่งร้อยล้านเหรียญ


จิตมารจากเสิ่นหมิง

จากการเดิมพันในครั้งนี้แม้ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์สญ
ู เสีย
เงินถึง หนึ่งร้อยห้าสิบล้านเหรียญจิตมาร แต่มันก็ไม่ท่าให้
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ที่จะขัดสนได้เลย ในฐานะที่เป็นตระกูล
หลักของเมืองและยังมี รายได้ถึง 300-500 ล้าน เหรียญจิตร
มาร และมูลค่าของธุรกิจของพวกเขาอีกนับพันล้าน แค่นี้จึงไม่
มีผลกระทบอะไรมากกับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์
ถึงแม้ว่าเนี้ยหลี่จะได้เงินจ่านวนถึงหนึ่งร้อยห้าสิบล้าน
เหรียญจิตมารแต่เขายังคงรูส้ ึกไม่พอใจ

"ท่านอาวุโสผู้ดูแลกิจการ พวกท่านยอมให้ข้าชนะ พวก


ท่านยอมให้ข้าชนะ ท่านอาวุโสทั้งหลายของตระกูลศักดิ์สิทธ์
ช่างมั่งคั่งเสียจริง ยอมปล่อยให้ข้าชนะทุกรอบ ถึงแม้เวลาชนะ
ท่าให้ข้ารู้สึก เขินนิดหน่อยก็เถอะ มันเหมือนว่าตัวข้าเข้าใจ
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ผดิ มาตลอด พวกท่านไม่ได้ตระหนี่เลย
แม้แต่น้อยกลับ ใจกว้างเกินไปด้วยซ้่า! "
เนี้ยลี่หัวเราะและกล่าวเยาะเย้ยผูค้ วบคุมกิจการ เสิ่นหมิง

ใบหน้าของเสิ่นหมิงซีดเผือกริมฝีปากของเขาสั่นเนื่องด้วย
ความโกรธ นอกจากนี้การฟังค่าเหน็บแนมของ เนี้ยหลี่ถ้ามัน
เป็นไปได้ เขาอยากจะตบหัวเนี่ยหลี่ให้จมลงไปในโคลนเสียจริง
ๆ!จากการเดิมพัน ร้อยห้าสิบล้านเหรียญจิตรมารนี้ เสิ่นหมิง
สงสัยเหลือเกิน ว่าตัวเขาจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งกับผู้น่า
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์อย่างไรดี
บทที่ 87 - ยาเม็ดเสริมพลังวิญญาณ

หลังจากต้องจ่ายไปถึง 150 ล้านเหรียญจิตมาร ความเชื่อถือ


ของเสิ่นหมิงในตระกูล ก็หายไปเกือบทั้งหมดในพริบตา ถ้า
ผู้น่าตระกูลออกจากมาจากการเก็บตัว ท่านผู้น่าตระกูลไม่
ปล่อยเขาไว้แน่

ไม่ใช่แค่เพราะเขามีต่าแหน่งผู้อาวุโสหลักของตระกูล
หรือมีความส่าคัญใดๆ แต่ว่าเขารูค้ วามลับของตระกูลมาก
เกินไป เกรงว่าเขาจะหนีความตายไปไม่พ้นแน่

ในเวลานี้ ในแววตาของเสิ่นหมิง เปร่งประกายด้วย


ความคิดบางอย่างขึ้นมา ยังมีรอบอื่นอีก ! ถ้าเขาสามารถชนะ
และเอาเงินกลับคืนมาได้ในรอบสาม และมันก็จะกลับเป็นเรื่อง
ที่ตรงกันข้ามแทน หากเข้าไม่ได้ทา่ อะไรผิดพลาด
"รอบที่ 3 นี้ พวกเราจะต้องชนะแน่นอน ! " เสิ่นหมิง
ค่านวณสักครู่ เขายังสามารถ ใช้เงินได้อีก 200 ล้านเหรียญจิต
มาร นี้คือเงินก้อนที่ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์มีในขณะนี้ เดิมที
พวกเขาจะเอาไปใช้ส่าหรับซื้อยาทิพย์จากสมาคมปรุงยา
เพื่อให้คนในตระกูลรุ่นเล็ก 200 ล้านเหรียญจิตมาร ถ้าเขาชนะ
เขาก็จะสามารถที่จะชี้แจงต่อท่านผู้น่าได้ทั้งหมดนี้แหละ! ตา
ของเสิ่นหมิง เต็มไปด้วยความชั่วร้าย

"ท่านผู้น่าตระกูล เนี้ยไฮ้ พวกเขายังมีการแข่งขัน รอบที่


3 ถูกไหม" เสิ่นหมิง จ้องไปทีเ่ นี่ยไฮ้ และ พูดอย่างเย็นชา

เนี้ยไฮ้ งง เล็กน้อย และ เหลือบมองไปที่เนี้ยหลี่ และเนี้ยหลี่ก็


พยักหัว และพูดว่า "ใช่ ยังมีรอบที่ 3"

หยางซิน ขมวดคิ้วเล็กน้อย ด้วยความเข้าใจที่เธอมีต่อ


เสิ่นหมิง ผลที่ตามมาร้ายแรงยิ่งนัก หลังจากที่เสีย 150 ล้านถ้า
เขากลับไปยังตระกูล ก็จักต้องรับชะตากรรมไป ถ้าเสิ่นหมิง ยัง
อยากจะเล่นต่อ นั้นแสดงว่า เสิ่นหมิง ต้องได้ท่าใจไว้แล้ว
หลังจากสถานการณ์ มาถึงจุดนี้ เสิ่นหมิงนั้นแทบจะบ้า
ดังนั้น การเดิมพัน ครั้งสุดท้าย ก็เป็นเรื่องปกติ

"รอบนี้ พวกเรา พนัน 300 ล้านเหรียญจิตมาร" เสิ่นหมิง


กล่าว อย่างเยือกเย็น เขาส่งคนไปยังร้านต่างๆของตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อโอนเงินมา

ถ้าผู้น่าตระกูลเทพศักดิส์ ทิ ธิ์อยู่ในตอนนี้ เขาคงจะห้าม


การกระท่าของเสิ่นหมิง ไว้แน่นอน อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก
เป็น ผู้อาวุโสหลักของตระกูล มาหลายปี เขาได้รับความ
ไว้วางใจจากผู้น่าตระกูล ดังนั้น เขาก็พอมีอ่านาจอยู่บ้าง
ต่าแหน่งของเขารับผิดชอบดูแลธุรกิจต่างๆของตระกูล ถ้าเขา
จะใช้เงินบางส่วน คงไม่มีใครกล้าขัดขวาง อยู่แล้ว

เนื่องจากการเดิมพันที่ผ่านมา ถ้าเขาสามารถชนะ และได้


เงินคืน เขาก็จะสามารถขึ้นไปอีกก้าวหนึ่ง ในตระกูล
"ตกลง 300 ล้านเหรียญจิตมาร!เท่านีล้ ่ะ" เนี้ยหลี่พูด และ
พยักหัว ดูท่าทางของเสิ่นหมิง เขาก็เข้าใจว่า เสิ่นหมิง คงจะ
เดิมพัน ในโอกาสสุดท้ายของเขา ตรงมุมปากของเนี้ยหลีเ่ ริ่ม
เผยรอยยิ้ม นี่เป็น เป็นสิ่งที่เขาอยากให้เกิดขึ้น

ผู้น่าตระกูลต่างๆได้พดู คุยกัน พวกเขาเป็นพยานในการ


เดิมพัน พวกเขาไม่คิดว่าหลังจากแทงเสีย 150 เหรียญจิตมาร
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ยังจะกล้าเดิมพัน อีก แถมยังเดิมพันมาก
ขึ้นกว่าเดิมเป็น 300 ล้านเหรียญจิตมาร

"ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ คงหมดตัวแล้ว"

"หลังจากที่เสียทรัพย์เป็นจ่านวนมาก ถ้ากลับไป เสิ่นหมิง ก็


อาจจะไม่สามารถรักษาต่าแหน่งผูอ้ าวุโสหลักได้อีกต่อไป เขา
ต้องชนะ และ เอาทุกอย่างกลับมารอบนี้"
"ได้ยินมาว่า รอบนี้เขาจะส่ง เสิ่นเซี่ยวไป"

"ข้ารู้มาว่า เสิ่นเซีย่ วนี้ เป็นร่างทรงอสูรระดับทอง 1 ดาว


แล้ว ตั้งแต่อายุน้อยๆเลย เหตุผลเดียวที่ไอ้เด็กบ้า เนี้ยหลี่ชนะ
เสิ่นเฟย และ เสิ่นหนิง ได้ เพราะ มันโชคช่วย เจอกับร่างทรง
อสูรระดับทอง รอบนี้ คงหมดโอกาสแล้ว"

"300 ล้านเหรียญจิตมาร ถ้าเขาเสีย เสิ่นหมิง คงหน้ามืด


เป็นแน่ และนี้อาจจะเป็นเงินที่พวกเขามีอยู่ด้วยซ้่า!" หลายๆ
ตระกูลถกเถียงกัน

อีกประการหนึ่ง คือ จ่านวนเงินที่ใช้ในการเดิมพัน


ในตอนนี้เยอะมาก ทุกๆคนได้วางเงินเดิมพันของพวกเขา โดย
หยางซินเป็นเจ้ามือ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่า หยางซินจะ ได้ หรือ
เสีย เนีย้ หลี่กไ็ ม่ได้สนใจอะไรมาก อย่างไรก็ตามหยางซินนี้ก็
รวยมาก เป็นถึงผู้อ่านวยการของสมาคมปรุงยา อ่านาจล้นฟ้า
หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากเนีย้ หลี่ สมาคมปรุงยามีรายได้
มหาศาลแค่ไหนใครเล่าจะรู้ กับแค่เงิน ไม่กี่ร้อยล้าน ผู้อาวุโส
คงไม่มีใครว่าอะไรหรอก

หลังจากที่ได้พนันกันเสร็จ การแข่งขันรอบที่ 3 รอบ


สุดท้าย ก่าลังจะเริ่มขึ้นแล้ว บรรยากาศภายในสนามแข่งเริม่ ดุ
เดือนขึ้นอีกครั้ง

เสิ่นหมิง จ้องไปที่เนีย้ หลี่ ด้วยแววตาอันชั่วร้าย

เขาน่ายา 2 เม็ดออกจากเสือ้ เขาและพูดว่า "เสิ่น เซี่ยว นี้


คือยาเสริมพลังวิญาณ กินมันก่อนที่เริ่มต่อสู้

เสิ่นเซี่ยว มองไปที่ เสิ่นหมิง อย่าง ประหลาดใจมาก


และ กล่าวว่า " ผู้อาวุโส เจ้าเด็กบ้านั่น พลัง มันแค่ระดับ เงิน
1-2 เอง แต่พลังข้าเป็นถึงระดับทอง - 1 ดาว แค่นี้ก็มาก
พอที่จะจัดการแล้ว ไม่เห็นจ่าเป็นต้องใช้ยาเสริมพลังวิญญาณ
เลย" จิตวิญญาณอสูรของเขานั้น คือ อินทรีย์มังกรสีชาด เป็น
จิตอสูรที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก เป็นอย่างมากถึง 2 ล้าน
เหรียญจิตมาร

ถ้าเขากินยาเสริมพลังวิญญาณ 2 เม็ด แม้ว่าเขาจะ


สามารถเรียก อินทรีย์มังกรสีชาด ได้หลายรอบ แต่ก็ได้แค่ ครึ่ง
ชั่วโมงเท่านั้น ถ้า เขากินยาเสริมพลังวิญญาณเข้าไป มันจะท่า
ให้ เสิ่นเซี่ยวเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก

"เจ้าจะกลัวอะไร? ฟังข้า เรื่องนี้มันส่าคัญมาก ถ้าเกิด


อะไรขึ้น เจ้าจะรับผิดชอบไหวรึ ? นี้มันตั้ง 300 ล้านเหรียญจิต
มาร! ถ้าเจ้าชนะ ข้าจะให้เจ้า 20 ล้านเหรียญจิตมาร เจ้าจะ
สามารถซื้อจิตอสูรอะไรก็ได้ตามใจเจ้า!" เสิ่นหมิงพูด

เมื่อได้ยินค่าของเสิ่นหมิง เสิ่นเซี่ยว นี้ตาโตเลย แม้ว่า


อินทรย์มังกรสีชาด จะหายาก ราคาก็ 2 ล้านเหรียญจิตมาร ถ้า
เสิ่นหมิง ให้เขา 20 ล้านเหรียญจิตมาร เขาก็จะสามารถซื้อจิตอ
สูตรที่ ยอดเยี่ยมกว่านี้ได้

" ตกลง ข้าจะฟังค่าชี้แนะของท่านอาวุโส" เสิ่นเซี่ยวพยัก


หัว พูด และเก็บ ยาเสริมพลังวิญญาณไปในแหวนต่างมิติของ
เขา

เสิ่นเซี่ยว มองที่ข้างหลังเนีย้ หลี่ และถอนหายใจ 2ครั้ง


"โชคชะตาของเจ้า จะต้องพ่ายแพ้ด้วยมือของข้า ท่าให้ข้าต้อง
ท่าร้ายอินทรียม์ ังกรสีชาด ด้วย ยาเสริมพลังวิญญาณ 2 เม็ด
เพื่อชนะเจ้า ต้องใช้ถึงขั้นนั้นเลยรึ!"

ในมุมมองของ เสิ่นเซีย่ ว กับ พลังของเขาในระดับ ทอง


- 1 ดาว การที่จะชนะเนี่ยหลี่ เป็นเรื่องปกติ ใครๆก็รู้ ว่าเขา
เป็นร่างทรงอสูรระดับ ทอง - 1 ดาว
หลังจาก ทั้ง 2 คนเข้ามาในสนาม บรรยากาศผู้ชมในสนามก็
เร่าร้อนขึ้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม รอบนี้ ไม่มีใครแน่ใจอะไรทั้งนั้นว่าใคร


จะชนะ แม้ว่า พลังของเนี่ยหลีจ่ ะห่างกับ เสิ่นเซีย่ ว แต่ก็ไม่มี
ใครรู้ว่า เนี่ยหลี่จะโชคดีเหมือนครัง้ ที่แล้วอีกไหม พวกเขารูส้ ึก
ว่าที่เนี่ยหลี่ ชนะ ใน2รอบที่แล้ว มาจากโชคล้วนๆ

รอบนี้ คนส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะพนันอีก ผู้ที่มั่นใจว่าเนี้ยห


ลี่จะชนะ มีแต่ เอีย จื้อหวิ๋นอีกครั้งที่ เธอเดิมพันด้วยเงินเก็บ
ทั้งหมดของเขา และเงินที่ได้มาจากรอบที่แล้วๆมา กับ เนี่ยหลี่
อีกครั้ง

ทุกๆคน ร้องตะโกน

"ไม่คดิ ว่าเจ้าจะ ชนะ 2 รอบติด แต่รอบนี้ เจ้าแพ้เป็นแน่!


" เสิ่นเซี่ยวจ้องมองเนี้ยหลี่อย่างเยือกเย็น และบ่นพึมพัม กับ
ตัวเอง "ข้านะไม่เหมือนพวกนั้นหรอก ข้าเป็นถึงร่างทรงอสูร
ระดับ ทอง 1 ดาว นอกจากนี้ ยังรวมเข้ากับ อินทรีย์มังกรสี
ชาด อีก!"

เนี้ยหลี่ บิดขี้เกียจ ในรอบก่อนหน้านี้ เขาเหนื่อยกับการ


ต้องหลอกคนอื่น มามากพอแล้ว นี้คือรอบที่ 3 ไม่จ่าเป็นต้อง
แสดงละครอีกต่อไป!"

"อยากรู้ก็ต้องลอง ? ที่ข้าชนะมาก่อนหน้านี้ ใครจะรู้ ข้า


อาจจะโชคดีในรอบนี้เหมือนรอบที่แล้วก็เป็นได้" เนี้ยหลี่ พูด
และยิม้ เบาๆ เขาดูใจเย็นมาก?

เสิ่นเซี่ยวจ้องมองอย่างเยือกเย็น เนี้ยหลี่ นี้ดูน่าสงสัยยังไงก็


ไม่รู้ ทั้งๆที่รู้ว่า เสิ่นเซี่ยว อยู่ในระดับ ทอง แต่กลับไม่มีอาการ
ตื่นตระหนกเลย มือขวาของเขาเริ่มขยับ หยิบยาแล้วก็ น่า
มันเข้าไปในปากเพื่อเสริมพลังวิญญาณเข้าไป 2 เม็ด ที่ได้
รับมาจาก เสิ่นหมิง
ในเวลานี้ ผู้คนต่างก็ โห่ร้องขึ้น โห่ โห่ๆๆๆ

" ข้าดูอะไรผิดไปรึป่าว? เสิ่นเซีย่ ว กินยาเสริมพลังวิญญาณ ?

" ร่างทรงอสูรระดับ ทอง 1 ดาว เจอกับ เขี้ยวอสูร


แพนด้า ถึงขั้นต้องรับประทานยาเสริมพลังวิญญาณ ? แถม
เหมือนจะใช้ไปถึง 2 เม็ดด้วย

"คงไม่มีทางเลือกแล้ว แพ้ติดมา 2 รอบ แล้ว"


บทที่ 88 - ระดับตานาน

ก่อนการต่อสู้จะเริ่มขึ้น ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ก็ได้หยุดการ
เคลื่อนไหวลง

อย่างไรก็ตาม ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเสียหน้าไปบ้าง แต่มันก็เทียบไม่ได้กับ300
ล้านเหรียญจิตมาร!

ในเวลานี้ ผู้คนต่างๆได้แต่ถกเถียงกันเกี่ยวกับเรื่องนั้น

แม้ว่าเขาจะเป็นพระเจ้า เขาก็ไม่สามารถชนะได้หรอก

ร่างทรงอสูรระดับ ทอง - 1 ดาว แถมกิน ยาเสริมพลัง


วิญญานอีก 2 เม็ด เนีย้ หลี่ เอ็งต้องแพ้อย่างแน่นอน!

ในเวลานี้ แม้แต่เนีย้ ไฮ้ เนี้ยอิ้ง และ กิ่งก้านสาขาต่างๆ


ของตระกูล ไม่คิดว่าเนี้ยหลี่จะชนะเหมือนกัน เพราะอีกฝ่ายนั้น
แข็งแกร่งยิ่งนัก

"ข้าได้พนักฝั่งตระกูลศักดิส์ ิทธิ์ไว้ 3 รอบ มันต้องมีสัก


ครั้งบ้างแหละ! ที่จะถูกบ้าง"

"2 รอบที่ผ่านมามันช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย รอบนี้แหละ ขอ


ชนะและรับเงินคืนบ้างล่ะ!"

"ข้ายังได้เงินจากเนี่ยหลีจ่ ากรอบก่อน,ข้าก็ยังอยู่ข้าง
เนี่ยหลี,่ เจ้าเด็กนั้นช่างมีอะไรแปลกๆยิ่งนัก,ถึงข้าเสียข้าก็ยังมี
ก่าไรเหลืออยู่"

ในสนาม
หลังจาก เสิ่นเซีย่ ว ได้กินยา เสร็จเรียบร้อยแล้ว เปลวไฟ
ศักดิ์สิทธิ์ก็ปะทุ มาจากตัวเขา

บูมม! บูมม! บูมม!

เปลวไฟศักดิส์ ิทธิ์นี้ระเบิดออกแตกกระจายไปในสนาม
เหมือนกับใยแมงมุมที่ก่าลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

เสิ่นเซีย่ ว ค่อยๆเดินไปหาเนี้ยหลี่

เนี้ยหลี่ยมิ้ เบาๆ และ รวมร่างกับ อสูรเขี้ยวแพนด้า "ถ้าพวก


เขาดูถูกพลังของอสูรเขีย้ วแพนด้าแล้วล่ะก็,นั้นมันเป็นสิ่งที่
ผิดพลาดอย่างมาก"

สนามแรงโน้มถ่วง!

เนี้ยหลี่ถอนหายใจ อย่างเยือกเย็น สนามแรงโน้มถ่วงที่มองไม่


เห็นถูกสร้างขึ้นมารอบๆ ปกคลุม เสิ่นเซีย่ ว ไว้

เสิ่นเซี่ยว รูส้ ึกว่า น้่าหนักของเขาอยู่ๆก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก


หลายเท่าตัว ทุกๆอย่างก้าว ช่างยากล่าบากเหลือเกิน หน้าของ
เขาเริ่มเปลีย่ นสี เนีย้ หลี่ ไม่ธรรมดาจริงๆเขามีความสามารถ
เกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงแน่นอน เสิ่นเซี่ยว เขาก็เก็บอาการดูถูก
และ กลายเป็นความตึงเครียด

บูมม ! บูมม! บูมม!

ทุกอย่างก้าวของ เสิ่นเซี่ยว ท่าให้สนามมีรอยบุ๋มลึก


ลงไป เป็นพลังที่น่ากลัว และ ท่าให้ผู้คนที่เห็น ตกใจไปตามๆ
กัน

"ทรงพลังยิ่ง! นี้มันพลังของระดับ ทอง - 1 ดาว " ผู้คนจ่านวน


มากอุทานออกมา
มีแต่ เสิ่นเซี่ยว ที่อยู่ในสนามแรงโน้มถ่วง รู้ว่าสถาน
การตอนนี้ เป็นยังไง และ ก็ไม่สามารถพูดถึงความยากล่าบาก
ของเขาได้แล้วตอนนี้ ตอนนี้ เสิ่นเซี่ยว เข้าใจแล้วว่า ว่าท่าไม
เสิ่นหนิง ถึงแพ้ เขาไม่กล้าประมาทคู่ต่อสู้ของเขา และ รวม
ร่างเข้ากับ อินทรีย์มังกรสีชาด และกางปีกขนาดใหญ่ที่งอก
ออกมาจากข้างหลัง และกระพือออกมาอย่างทรงพลัง และ
ลอยขึ้น

"เจ้านี่มัน เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ข้าเคยเจอมา
ลองรับนี้ไป พลังระเบิดมังกรสีชาด " เสิ่นเซี่ยว ค่ารามออกมา
และพ่นไฟออกมาจากปาก พุ่งออกไปหาเนีย้ หลี่

คลื่นความร้อนที่พุ่งไปหาเนีย่ หลี่ ท่าให้เขารู้สึกร่างกายช่างร้อน


ดุจไฟนรก

อินทรีย์มังกรสีชาด ถือว่าเป็นมังกรสายพันธุ์หนึ่ง
ดังนั้นไฟที่มันพ่นออกมาก็ย่อมเหมือนกับไฟของมังกรดีๆนีเ้ อง
"ให้มันรู้ไปเลย ว่า ระเบิดเพลิงของเจ้า หรือ ระเบิดห
ยินหยาง ของข้า ใครจะดีว่ากัน!" เนี้ยหลี่กระโดดไปข้างหลัง อ้า
ปากออก และ พ่นลูกบอล ขาว ด่า 2ลูกออกมา ลูกบอลทั้ง2
ลูกประสานกันกลางอากาศ เป็น2สีผ่านไปบน ท้องฟ้า

บูมม!

ลูกบอลขาวด่า ปะทะเข้ากับ เพลิงมังกร เกิดเสียงระเบิดที่น่า


กลัว

หลังจากที่พลังทั้ง 2ระเบิด พลังที่น่ากลัวนั้นรุนแรง


และท่าลายล้างสูงนั้นกวาดออกมาอย่างต่อเนื่อง ท่าลายล้างทุก
อย่างบนพื้นดิน ท่าให้ก้อนหินเล็กๆน้อยๆลอยขึ้นไป

เนี้ยหลี่กระโดดไปด้านหลัง หลบจากระยะของแรงระเบิด
เขานั้นยังคงใจเยือกเย็น ส่าหรับ เสิ่นเซี่ยว นั้น ถูกกวาดขึ้นไป
กับแรงระเบิด เขาลอยไปหลายสิบเมตรก่อนที่เท้าเขาจะถึงพื้น
เสียอีก
ส่วนผู้คนที่มองอยู่นไี้ ม่ต้องพูดถึงเลย เงียบสนิทเลยทีเดียว

"นี้มันเกิดอะไรขึ้น?"

"มันเป็นไปได้ไง นี้ข้าดูอะไรผิดไปรึเปล่า ? เนี้ยหลี่ ก่าลังมือขึ้น


งั้นรึ ?

เสิ่นเซี่ยว เป็นถึง ยอดอัจฉริยะของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ !


เขาอยู่ในระดับถึง ร่างทรงอสูร ทอง - 1 ดาว พร้อมกับกินยา
เสริมพลังวิญญานไปอีกตั้ง 2เม็ด! ท่าไมยังสูเ้ นี่ยหลี่ไม่ได้ ??
ทุกๆคน ตะลึงกันหมด

ในการแข่งครั้งนี้

เนี่ยหลี้ก็ยังคงสงบท่าที และยังดูเหมือนว่า เขายังไม่ได้แสดง


พลังที่แท้จริงออกมา และก็ต่างจากการแข่งขันเมื่อ 2 รอบที่
แล้วอย่างสิ้นเชิง
หยางซินมองที่เนี้ยหลี่ จากข้างหลัง ด้วยตาเป็นประกาย "เพียง
เด็กอายุแค่ 13 มีพลังที่สามารถต่อสู้กับระดับ ทอง ได้ ดู
เหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าต่่าเกินไป!"

หลังจากที่ตกอยู่ในสภาวะ ตกตะลึง ท่าทีของ เนี้ยไฮ้ และ


เนี่ยอิ้ง ก็ตกอยู่ในสภาวะตื่นเต้นมาก ร่างทรงอสูรระดับ ทอง
อายุแค่ 13 ปี! แม้แต่ท่านลอร์ด เอีย โม่ ในอดีต เขาก็ยังท่า
ไม่ได้เลย หลังจากการต่อสู้ในวันนี้ เนี้ยหลี่จะเป็นดุจดาวหาง
ขึ้นตรงและได้รับการปกป้องจากคฤหาสน์ของเจ้าเมือง
หลังจากวันนี้ ไม่ว่าใครก็ตามหรือตระกูลไหนๆ ต้องการที่จะ
ล่วงเกินเนี้ยหลี่ พวกเขาเหล่านั้นจะต้อง คิดให้ดลี ะ

มีแต่อัจฉริยะเช่นนี้เท่านั้น ที่จะกลายเป็นจุดสุดยอด ของ


เมืองกลอรี่ หลังจากนี้ไม่นาน ยุคสมัยของตระกูลบันทึกสวรรค์
ก่าลังจะมาถึงแล้ว!

ในขณะเดียวกัน ผู้คนก็ได้เข้าใจว่า อะไรก่าลังจะเกิดขึ้น


ใน2 รอบที่แล้วๆมา เนี่ยหลี่ ซ่อนพลังเอาไว้ พวกเขาคิดว่า
เนี้ยหลี่ชนะได้เพราะโชคล้วนๆ แต่ความเป็นจริงๆแล้วไม่ใช่ สิ่ง
ที่ท่าให้เขาต้องประหลาดใจมากก็คือ พรสวรรค์ และ พลังของ
เนี้ยหลี่ที่น่าใจหายเช่นนี้

ร่างทรงอสูร ระดับ ทอง อายุแค่ 13 ! พร๊ะเจ้า !

คนที่จะสามารถเป็นร่างทรงอสูรระดับ ต่านาน ได้เช่น หลอด


เอีย โม่ ได้ปรากฏขึ้นแล้ว ?

"เนี้ยหลี่ ! เนี้ยหลี่ ! เนี้ยหลี่ !" บรรยากาศของผู้คน


ดุเดือดขึ้น ทุกๆคนต่างตะโกน และโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น

ในบรรดาผู้คน มีผู้คนจ่านวนไม่น้อยที่รสู้ ึกที่ยากจะ


อธิบาย เพราะพวกเขาเดิมพันไว้กบั เสิ่นเซีย่ ว ไว้สูงมากเลยที่
เดียว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ พวกเขาทุกคนได้หันไปเชียร์เนี้ยห
ลี่ด้วยใจจริง
เมืองกลอรี่ที่รอดพ้นจากยุคมืดมาจนถึงตอนนี้ มันไม่
ง่ายเลย ในแต่ละครั้งที่ ฝูงปิศาจเข้าโจมตี ทุกๆอย่างขึ้นอยู่กับ
ท่านลอร์ด เอีย โม่ที่ต้องต่อสู้กับอสูรร้ายที่แข็งแกร่งคนเดียว
แต่ยังไงเมืองกลอรี่ก็ยังอยู่รอดมาจนถึงขนาดนี้ แต่เมื่อเวลาผ่าน
ไป หลอดเอีย โม่ ก็แก่ขึ้นทุกวันๆ

ผู้คนในเมืองกลอรี่ ก็มีความกังวลมากขึ้น ถ้าไม่มีรา่ ง


ทรงอสูรระดับ ต่านานเกิดขึ้น เมืองกลอรี่ก็จะตกอยู่ใน
อันตราย ถึงแม้ว่าจะมีจ่านวนร่างทรงระดับปรมาจารย์ ทองค่า
ด่า จ่านวนหนึ่ง แต่ว่าร่างทรงอสูรระดับนีส้ ่วนใหญ่ก็อายุ 40ขึ้น
ไปแล้ว มันจึงเป็นเรื่องที่ยากมากส่าหรับพวกเขาที่จะทะลวงถึง
ระดับ ต่านาน

ทุกๆคนต่างก็หวังถึง การเกิดขึ้นของอัจฉริยะ และ


ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เนี่ยหลี่ จะเป็นเช่นไรในอนาคต ร่างทรง
อสูรระดับ ทอง อายุแค่ 13 ปี ! ในอายุนี้ เป็นช่วงเวลาที่ พลัง
เติบโตดีที่สดุ เนี่ยหลี่เขาประสบความส่าเร็จที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ตั้งแต่อายุยังน้อย พูดได้เลยว่าในอนาคตเขาจะสามารถไปได้ถึง
ระดับไหน แน่นอนว่าเขาต้องแข็งแกร่งกว่าหลอดเอีย โม่ แน่
ดังนั้นถ้าพวกเขาจะเสียหมดตัว เพื่อที่จะสามารถเห็นถึง
การปรากฏตัวของอัจฉริยะเช่นนี้ มันก็เป็นเรื่องธรรมดา!

เนี้ยหลี่ มีพลังระดับ ร่างทรงอสูรระดับ ทอง ตั้งแต่อายุ


13 ได้ยังไงกัน ที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ พลังวิญญานของเนี่ยหลี่อยู่
ในแค่ระดับ เงิน 2 ดาว แต่ที่เนีย่ หลี่ สามารถใช้พลังของระดับ
ทอง ได้ก็ เพราะว่า เนี่ยหลีส่ ามารถควบคุมพลังวิญญานได้
สมบูรณ์แบบ เหตุผลอื่นก็คือ อสูรเขี้ยวแพนด้า ที่มีอัตราการ
เติบโตระดับพระเจ้า แค่ตัวมันก็มพี ลังที่น่ากลัวอยู่แล้ว ใครก็
ตามที่ดูถูกมันจะได้รับรู้

ถ้า เสิ่นเซีย่ ว แพ้ เขาจะกลายเป็น ตราบาปของตระกูล


ศักดิ์สิทธิ์ จุดจบเขาจะเป็นยังไงไม่ต้องสงสัยเลย

ไม่ ! เสิ่นเซีย่ ว ยังไม่แพ้ ตาของ เสิ่นหมิง เต็มไปด้วย


ความหวังอันริบหรี่ จ้องมองไปในสนาม
บทที่ 89 - ราชินีหิมะ

บูมม!บูมม!บูมม!

การต่อสู้บนสนามประลองนั้นทวีความดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ

เสิ่นเซีย่ วตอบโต้อย่างบ้าคลั่ง ทุกคราที่เขาระเบิดพลังออกมา


กลับถูกทลายลงโดยเนี้ยหลี่ การเผชิญหน้ากับรูปลักษณ์ที่
ปราดเปรื่องและปราดเปรียวเช่นนี้พลันปรากฏความกลัว แล่น
ผ่านนัยน์ตาของเสินเซีย่ ว แรงกดดันจากเนี้ยหลีนั้นมีมากเกินไป

"เสาเพลิงมังกรศักดิส์ ิทธิ์ ”เสิ่นเซี่ยวค่ารามอย่างเกรี้ยวกราด


เพลิงหนาก่อตัวลงมาจากท้องนภา ก่อเกิดเสาไฟที่ลุกโหมสะบัด
อย่าง บ้าคลั่ง เหล่าผู้ชมล้วนตกอยู่ในความตะลึง

“ช่างเป็นการโจมตีที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้” พวกเขาอด
เป็นกังวลเนี้ยหลี่ไม่ได้ เมื่อมองดูเสาเพลิงที่หนาแน่นไปด้วยไฟ
กวาดพุ่งเข้าหาตัวเขา เนี้ยหลี่นั้นปราศจากความกังวลและเผย
รอยยิ้มผ่อนคลาย

‘การโจมตีนี้แค่เพียงน่าชม แต่มันช่างไร้ประโยชน์
เมื่อต่อกร หากต่อสู้กับวิญญาณอสูรระดับต่่านั้นมันยังพอ
นับว่ามีประโยชน์เล็กน้อย แต่ในการต่อสู้ขั้นสูง มันคือการเสีย
พลังวิญญาณไปเปล่าๆ !’เนี้ยหลี่คดิ ในใจกับตนเอง ด้วยทักษะ
การต่อสู้ของเขาใน ชาติที่แล้ว การโจมตีเช่นนี้ไม่ได้ได้อยู่ใน
สายตาของเขาเลย

เนี่ยหลี่นั้นไม่รู้เลยว่า เสิ่นเซีย่ วนั้นได้โจมตีด้วย


ทั้งหมดที่มีของเขาแล้ว แต่เมื่อเหล่านั้นล้วนไร้ค่าเขาจึงเหลือ
เพียงเสาเพลิงเป็นทางเลือกสุดท้าย เสิ่นเซีย่ วไม่คาดหวังว่าเสา
เพลิงจะสามารถฆ่าเนีย้ หลีไ่ ด้ ด้วยเขานั้นได้สิ้นหวังไปแล้ว มอง
ท่าทีสงบนิ่งของเนี้ยหลี่เขารู้วา่ ยังมีอีกหลายสิ่งอย่างที่ยังถูกเก็บ
ง่าไว้ไม่ได้ใช้ เนี้ยหลี่พุ่งตัวออกไป เคลื่อนกายหลบหลีกเสา
เพลิง “ฟุ่บ”

เขาปรากฏตัวด้านหลังเสิ่นเซี่ยว

อัสนีพิฆาต!
ฝ่ามือของเนี้ยหลี่แหวกทะลุฟ้า เกิดเสียงทะลวงทลายเขย่าขวัญ

บูมม !
ปะทะเข้าแผ่นหลังของเสิ่นเซี่ยวอย่างหนักหน่วงพลันเห็น
เสิ่นเซีย่ วเป็นดังก้อนอุกกาบาตปลิวตกกระแทกพื้น

บูมม!

เสียงแรงปะทะดังไปทั่วสนามประลองสะเทือนอย่าง
รุนแรง หลุมขนาดใหญ่ปรากฏบนพื้นดิน เสิ่นเซีย่ วอยู่ในหลุม
นั้น ร่างของเขาทอดอยู่บนพื้น ลมหายใจหอบอย่างรุนแรง
สายตาและสติสัมปชัญญะล้วนพร่ามัว
เขาแพ้แล้ว!

เจ้าเนีย้ หลี่นั้นได้บีบคัน้ เขาตั้งแต่เริ่ม ไม่เปิดโอกาส


ในการตอบโต้ใดๆทั้งสิ้น นอกจากนั้นมันยังออมมือมาโดยตลอด
เนี้ยหลี่ท่าให้เขาเกิดความรูส้ ึกที่เกินจะหยั่งถึง ความรูส้ ึกที่ไม่ว่า
เขาจะใช้พลังเพียงใด ก็ยังไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้
สายตาของของเขาหนักอึ้งไปด้วยความพ่ายแพ้ เขาไม่เคย
คาดคิดเลยว่าเขาจะยังแพ้หลังจากได้รับยา เสริมวิญญาณ ไป
ถึงสองเม็ด เขากล่าวได้เพียงว่า ความแข็งแกร่งของเนี้ยหลี่นั้น
น่าหวาดหวั่นยิ่ง
ฝ่ายตรงข้ามเป็นเพียงเด็กวัย 13 ปีเท่านั้น!
แต่ความห่างชั้นนั้นมันมากเกินไป!

เขาเคยคิดว่าตนนั้นคือยอดอัจฉริยะหาผู้ใดเปรียบ กลับ
กลายเป็นว่าเขาเป็นเพียงดังกบในกะลาเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า
ท่าให้เหล่าผู้ชมตกอยู่ในความเงียบงัน หลังจากช่วงตื่นตะลึง
เสียงเชียร์ดังคลื่นสึนามิได้ระเบิดออก

“เนี้ยหลี่! เนี้ยหลี่!เนี้ยหลี่!”
เสียงเชียร์นั้นดังสะเทือนปฐพี

พลังของเนี้ยหลี่ได้ประทับลงไปในใจของพวกเขาอย่างล้่า
ลึกยอดอัจฉริยะทุกคนเมื่อปะทะกับคนรุ่นเดียวกัน จะพยายาม
ท่าทุกอย่างเพื่อก่าราบศัตรู กระนัน้ ศัตรูที่เนี้ยหลี่ก่าราบไม่ใช่
สหายร่วมรุ่นแต่เป็นอัจฉริยะวัย 20 ปี!

ในอนาคตเนี้ยหลี่จะเติบโตเป็นตัวเช่นใดกัน? หาได้มีใครรู้
ค่าตอบ อย่างไรก็ตามพวกเขารู้ว่าวันนี้พวกเขาได้ร่วมเป็นสักขี
พยานของเหตุการณ์บนหน้าประวัติศาสตร์แล้ว
จากมุมที่ไกลออกไป เอีย จื้อ หวิ๋นจ้องไปที่แผ่น
หลังของเนี้ยหลี่ ในช่วงเวลานั้นนางได้ตกตะลึงกับความทรง
พลังของเนี้ยหลี่เช่นกัน เป็นความสามารถที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!
‘แข็งแกร่งยิ่งกว่าท่านปู่ในวัยนั้นเสียอีก!’นางนึกขึ้นมาฉับพลัน
เนี้ยหลี่คงไม่สามารถก้าวถึงผู้ใช้วิญญาณอสูรระดับต่านานอย่าง
ที่เขาเคยกล่าวไว้ใช่หรือไม่?

ความเป็นไปได้ที่มันจะเป็นจริงนั้น สูงเสียดฟ้ายิ่งนัก!

เอีย จื้อ หวิ๋น อดนึกถึงเรื่องล้อเล่นที่เธอเคย


กล่าวกับเนี้ยหลีไ่ ว้ไม่ได้ ถ้าเนีย้ หลีไ่ ด้เป็นผู้ใช้วิญญาณอสูร
ระดับต่านานเมื่อนั้นนางจะตบแต่งให้แก่เขา นางควรจะรักษา
สัญญาหรือไม่? ภายในหัวใจของนางพลันว้าวุ่น เมื่อนึกถึง
ความสัมพันธ์อันก่ากวมของเนีย้ หลี่และเสีย่ วหนิงเอ๋อนางแค่น
ลมหายใจออกมา นางไม่มีวันตบแต่งให้กับผู้ชายเจ้าชู้อย่าง
เนี้ยหลี่

เสียงเชียร์นั้นค่อยๆซาลง แต่ความตะลึงโดย
เนี้ยหลี่นั้นยังไม่สร่างซาไปง่ายๆ มันจะแพร่กระจายไปทั่วทั้ง
นครรุ่งโรจน์ในเร็ววัน!
เสิ่นหมิง นั้นแทบสิ้นสติ หลังจากเหตุการณ์นี้เขา
เกรงว่าเขาจะไม่สามารถด่ารงต่าแหน่งผู้อาวุโสในตระกูล
ศักดิ์สิทธิ์ได้อีกต่อไป

เนี้ยหลี่นั้นได้รับเงินอีกจ่านวน 300 ล้านจิตรมาร ใน


งานประลองนี้เนี้ยหลีไ่ ด้เงินรวมทั้งหมดถึง 450 ล้านเหรียญ
จิตรมารแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ได้ขาดแคลนเงินแต่อย่างใด แต่
หากสามารถสร้างความเจ็บช้่าให้แก่ตระกูลศักดิส์ ิทธิ์ได้นบั เป็น
ความสุขอย่างถึงที่สุดของเขาเลยทีเดียว แม้เงินนี้จะไม่ใช่เรื่อง
ใหญ่ส่าหรับเนี้ยหลี่ แต่มันมากเกินพอจะท่าให้ตระกูลศักดิส์ ิทธิ์
ต้องปวดหัวไประยะหนึ่ง หยางซินมองไปที่เนี้ยหลี่ แววตาของ
นางปรากฏร่องรอยของความกังวล นางกล่าวว่า

“เนี้ยหลี่ ข้าเกรงว่าการ แสดงซึ่งพลังของเจ้าเช่นนี้


จะมิเป็นผลดี ถ้าเจ้าถูกจับตามองโดยสมาคมทมิฬ….” เป็น
ความจริงที่ในตอนนี้เนี้ยหลี่ เปล่งประกายมากไป เขาเองรู้ว่า
ด้วยความเก่งกาจของเขาตอนนี้ ท่าให้สมาคมทมิฬจะต้องท่า
ทุกอย่างเพื่อก่าจัดเขาอย่างไรก็ตามเนี้ยหลี่ยิ้มออกมา
เบาๆ เขาส่ายหน้าและกล่าว
“ข้ามีแผนแล้ว”

ได้ฟังค่าเนี้ยหลี่ หยางซินพยักหน้ารับ เป็นเนี้ยหลี่นั้น


สมควรมีแผนอยู่แล้ว อย่างไรซะนางยังต้องการจัดองครักษ์เพิ่ม
ให้กับเนี้ยหลี่

“พี่สาวหยางซิน ก่อนนี้ข้าได้ขอให้ท่านช่วยสืบหา
เบาะแสความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลศักดิส์ ิทธิและสมาคมทมิฬ
ท่านได้พบสิ่งใดหรือไม่?” เนี้ยหลีถ่ ามหยางซินอย่างลับๆ

“ข้าได้ท่าการตรวจสอบและพบว่าตระกูลศักดิส์ ิทธิ์
ให้การหนุนหลังคนจากสมาคมทมิฬ ดูเหมือนชื่อของมันคือ
หยุนหัว ดิคอน ด้วยข้อมูลเพียงเท่านี้จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะท่าอัน
ใดต่อตระกูลศักดิ์สิทธิ์”หยางซินกล่าว นางถอนหายใจและส่าย
หัว แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยืนยันได้ว่าตระกูลศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ได้
ไร้มลทิน และจะต้องรับมือกับมันด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง
นางได้รายงานเรื่องนี้ถึงท่านประธานแล้ว ท่านประธานจะต้อง
ส่งเรื่องไปถึงท่านเจ้าเมืองอย่างแน่นอน

เนี้ยหลี่พยักหน้าหากเขาคิดว่าสามารถโค่นตระกูล
ศักดิ์สิทธิ์ด้วยเรื่องเพียงเท่านี้นั้นถือเป็นการประเมินพวกมัน
ธรรมดาเกินไปมาก เขาจะต้องค่อยๆท่ามันทีละขั้น

เมื่อตระกูลศักดิ์สิทธิ์จากไป ตระกูลบันทึกสวรรค์จึง
เดินทางกลับในเวลาต่อมา แม้การประลองยังด่าเนินต่อไป แต่ก็
เป็นเพียงแค่การเล่นสนุกระหว่างตระกูลต่างๆเท่านั้น

ณ มุมของลานประลอง เอีย จื้อ หวิ๋นเห็นเหตุการณ์


เหล่านั้น นางขยับยิม้ เนี้ยหลี่ช่างร้ายกาจนัก เสิ่นหมิงจาก
ตระกูลศักดิส์ ิทธิ์ถูกลงทัณฑ์แล้ว นางหามีความประทับใจที่ดี
ใดๆกับตระกูลศักดิ์สิทธิไ์ ม่ ดังนั้นหากตระกูลศักดิ์สิทธิ์จะถูก
ท่าลาย นับเป็นเรื่องดียิ่ง

เมื่อเอีย จื้อ หวิ๋นหันหลังและก่าลังจะจากไป รูปร่าง


คุ้นเคยพลันปรากฏขึ้นตรงหน้า นางพบเนี้ยหลี่ก่าลังส่งยิ้มให้

“ข้ามาเพื่อชมการประลองเพียงเท่านั้น ไม่นึกว่าจะ
มาพบเจ้าที่นี่!” เอีย จื้อ หวิ๋นปฏิเสธที่จะยอมรับพลันใบหน้า
แดงซ่าน

“ข้าได้กล่าวอันใดหรือไม่?”เนี้ยหลี่ยืดแขนออก
กล่าวยั่วเย้า “หากเป็นเช่นนั้น ท่าไมเจ้าไม่ดูต่อเล่า เห็นเจ้า
ก่าลังจะกลับแล้ว?”

“เจ้า…”

เอีย จื้อ หวิ๋นกระทืบเท้า มันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะยอมรับว่านาง


ห่วงเนี้ยหลี่ นางพ่นลมออกจากจมูกและกล่าว “ก็ข้าเห็นแล้ว
ว่าที่นี่ไม่มสี ิ่งใดน่าสนใจ ข้าไปได้หรือยัง?”

มองเอีย จื้อ หวิ๋น ที่งดงามและน่ารักตรงหน้า เนี้ยหลี่


จึงหัวเราะอย่างอ่อนโยน เขาเรียกแก้วอสูรวิญญาณออกมาจาก
แหวนมิติมหัศจรรย์ คว้าเรียวแขน บางของนางแล้วยัดดวง
แก้ววิญญาณอสูรใส่มือ เนี้ยหลี่ยมิ้ น้อยๆ “นี่ส่าหรับเจ้า!”

สัมผัสอุ่นจากฝ่ามือของเนี้ยหลี่ขณะนีไ้ ม่ได้ท่าให้
เอีย จื้อหวิ๋น ผลักไสออกไป กลับกันไม่รดู้ ้วยเหตุใด หัวใจของ
นางพลันเต้นระรัว

“นี่คือสิ่งใด?” นางก้มลงมอง
กิริยาของเอีย จื้อ หวิ๋นและกลิ่นหอมกายสาวจาก
นาง ฉากตรงหน้าท่าให้หัวใจของเนี้ยหลี่ อดสั่นไหวไม่ได้ เขายิ้ม
ตอบ “มันคือดวงจิตอสูรราชินลี มหิมะเหมันต์”

“ดวงจิตอสูรราชินีลมหิมะเหมันต์ระดับแบล็คโกลด์
เจ้าได้มันมาจากที่ใด?”เอีย จื้อ หวิ๋นถามด้วยความอัศจรรย์ใจ
ดวงจิตอสูรราชินีลมหิมะเหมันต์เป็นดวงจิตอสูรที่หายากและ
ทรงพลังอย่างยิ่ง

“ดวงจิตอสูร ราชินีลมหิมะเหมันต์นี้ไม่ใช่ดวงจิตอสูร
ธรรมดา มันคือดวงจิตอสูรที่มีการพัฒนาการระดับพระเจ้า เจ้า
จะรู้เองเมื่อได้ผสานร่างกับอสูรราชินีลมหิมะเหมันต์แข็งแกร่ง
มาก หลังจากผสานร่างแล้วเจ้าต้องดูแลรักษาดวงจิตนี้อย่างดี
ห้ามเจ้าทานยาเสริมวิญญาณ อีกเด็ดขาด” เนี้ยหลี่กล่าวเตือน
เขาต้องใช้ความพยายามพอสมควรเลยทีเดียวเพื่อให้ได้ดวงจิต
อสูรนี้มา
บทที่ 90 - เข้าสู่ตาหนักเจ้าเมือง

"เนี่ยหลี่ เจ้ามีเหตุผลอะไรที่น่ามันมาให้กับข้าหรือเปล่า?" เอีย


จื้อ หวิ๋นเงยหน้าของเธอดวงตาที่สดใสคู่นั้นกระพริบพร้อมมอง
ไปยังเนี่ยหลี่

"เพราะว่าข้ารักเจ้า" เนี่ยหลี่มองที่เอีย จื้อ หวิ๋นพร้อมรอยยิม้


และพูดมัน

"แต่ข้าไม่สามารถรับมันได้" หลังจากที่ได้ยินค่าสารภาพ
ของเนี่ยหลี่ มันท่าให้ เอีย จื้อ หวิน๋ ออกอาการเขินอาย เธอ
ได้รับหลายสิ่งจากเนีย่ หลีม่ ามากมายแล้ว ถ้าเธอรับบางสิ่ง
เพิ่มเติมจากเนี่ยหลี่อีก เธอไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณเขาในภาย
ภาคหน้าได้อย่างไร

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้คิดซะว่าเจ้าติดหนี้ข้าอยู่หนึ่งหน
แน่นอนในอนาคตว่าตัวข้านั้นต้องมีสิ่งบางให้เจ้าช่วยเหลือ"
เนี่ยหลี่คดิ สักครู่และกล่าวไป การให้สาวสวยผู้มคี วามดื้อรั้น
ยอมรับของสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

"มีสิ่งใดที่ข้าสามารถช่วยเจ้าได้ด้วยรึ?" เอีย จื้อ หวิ๋นก้มหน้า


ของเธอลง แก้มของเธอหายจากการเป็นสีแดงแล้ว

แน่นอนเจ้ามีบางสิ่งที่สามารถช่วยข้าได้ เจ้าคือลูกสาวของท่าน
เจ้าเมือง มีผู้คนมากมายต้องการทีจ่ ะให้เจ้าช่วยเช่นเดียวกับข้า
ข้าได้รวมร่างกับอสูรวิญญาณอื่นแล้ว นอกจากนี้คุณสมบัติของ
ราชินีหิมะไม่เหมาะส่าหรับข้า ไม่มีความจ่าเป็นที่ข้าจะต้องเก็บ
มันไว้" เนี้ยหลี่มองเอีย จื้อ หวิ๋น ขณะที่เธอก้มหน้าลง เขาคิด
กับตัวเองว่า เธอผู้นี้ช่างมีความงดงามเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

หลังจากทีไ่ ด้ยินค่าพูดของเนี่ยหลี่ เอีย จื้อ หวิ๋นลังเลอยู่ครู่


หนึ่งจึงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า "ได้ขา้ ตกลง แต่สิ่งที่เจ้าจะให้ข้า
ท่ามันจะต้องไม่ใช่สิ่งที่ชั่วร้ายนะ"

"แน่นอน เจ้าเคยเห็นผู้ชายคนไหนซื่อสัตย์มากกว่าข้าไหม?"
เนี่ยหลี่ท่าหน้าจริงจังและกล่าวมัน

หลังจากทีไ่ ด้ยิน เอีย จื้อ หวิ๋นก็หัวเราะ ตอนที่หัวเราะเธอ


ช่างเหมือนกับดอกไม้ที่ก่าลังเบ่งบาน ค่าพูดที่จริงจังของเนี่ย
หลี่กลับดูตลกมาก เมื่อไม่นานมานี้ใครกันเป็นผู้ก่อเรื่องให้แก่
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ด้วยความรอบรู้ของเขา

"เนี่ยหลี่ ข้าตกลงยอมรับราชินีหิมะตนนี้ ข้าอยากจะเห็น


นักว่าอัตราการเจริญเติบโตระดับพระเจ้าที่เจ้าพูดถึงมันเป็น
เช่นไร แม้ว่าข้าจะเป็นหนีเ้ จ้าหนึ่งอย่าง เจ้าสามารถขอให้ข้า
ช่วยเจ้าท่าสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ แต่มันจะต้องไม่เป็นอะไรที่ชั่วร้าย
มิฉะนั้นข้าจะบอกกับพ่อข้าให้จ่ายเงินให้แก่เจ้าส่าหรับจิต
วิญญาณอสูรตนนี้" เอีย จื้อ หวิ๋นยกมือของเธอเบาๆ เหมือนกับ
ผีเสื้อและวิ่งหนีไป

เอีย จื้อ หวิ๋นไม่ทราบว่าที่เธอยอมรับของจากเนี่ยหลี่เป็น


เพราะความใกล้ชิดกับเขา ถ้ามันเป็นคนอื่นเช่นเสิ่น เหย่และ
พรรคพวกของเขา เธอจะไม่มีทางที่จะยอมรับอย่างแน่นอน

เขาหันมองไปที่แผ่นหลังของ เอีย จื้อหวิ๋นหลังจากที่เธอออกมา


จนกระทั่งเธอหายไป เนี่ยหลี่ก็ยมิ้ และพูดกับตัวเองเบาๆ "อีกไม่
นานหรอก เราจะได้พบกันอีกครั้ง ทั้งในชีวิตก่อนหน้านี้และ
ชีวิตในตอนนี้ โชคชะตาฟ้าก่าหนดมาให้เราคู่กัน แม้ว่าเจ้าจะไม่
ต้องการมันก็ไม่สามารถอะไรท่าได้หรอก" หลังจากที่พูดเนี่ยหลี่
เขาได้หันกลับมาและเดินจากไป
ข่าวของเนี่ยหลี่ที่เอาชนะคนในตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ที่
เป็นถึงร่างทรงอสูรระดับ 1 ดาวทอง เสิ่นหนิง ได้แพร่กระจาย
อย่างรวดเร็ว ทั้งเมืองกลอรี่สั่นสะเทือนด้วยข่าวนี้ เพราะใน
รอบหลายปีที่ผ่านมาเมืองกลอรี่ไม่ได้มีอัจฉริยะทีเ่ ปล่งประกาย
อย่างน่าตื่นตาตื่นใจเช่นนี้มาก่อน

เป็นอีกครั้งที่ตระกูลบันทึกสวรรค์ได้รับความสนใจจากทุกคน
ในแต่ละวันนั้น มีผู้คนจ่านวนมากก็ต้องการที่จะเข้าไปเยีย่ มชม
ตระกูลบันทึกสวรรค์

เนี่ยหลี่ได้เงียบหายไปไม่ได้ออกมาพบปะกับผูค้ นแต่อย่างใด
ผู้ใดที่ต้องการจะพบเนี่ยหลี่ก็จะถูกกีดกันโดยคนในตระกูล
บันทึกสวรรค์

ขณะที่ข่าวได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองนั้น ผู้คุ้มกันของเมือง
กลอรี่ได้พบร่องรอยการเคลื่อนไหวของสมาคมทมิฬ พวกเขา
เข้าโจมตีและจับกุมพวกสมาคมทมิฬได้หลายสิบคน

เพื่อที่จะมั่นใจในความปลอดภัยของเนี่ยหลี่ ท่านเจ้าเมือง
เอีย ซอง ตัดสินใจที่จะน่าตัว เนี่ยหลี่เข้าไปอยู่ในต่าหนักของ
เขาเพื่อที่จะได้ง่ายต่อการคุ้มครอง
หลังจากที่ได้ยินการถูกจับกลุม่ ของ สมาคมทมิฬ หากเขา
ยังคงอยุ่ในตระกูลบันทึกสวรรค์ สมาคมทมิฬคงจะไม่ปล่อย
พวกเขาไปแน่ อย่างไรก็ตามหากเขาเข้าไปอยู่ที่คฤหาสน์ เจ้า
เมืองจะไม่มีใครสามารถท่าอะไรเขาได้ เพราะที่นั้นยังมีเจ้า
เมืองและผู้เชี่ยวชาญระดับร่างทรงปิศาจระดับทองค่าด่าและ
นักรบจ่าวนมาก

นอกจากนี้ เนี่ยหลี่ยังพาเนี่ย หยู๋ เข้าไปในต่าหนักของท่าน


เจ้าเมืองด้วย เพราะเขาต้องการทีจ่ ะสอนแนวทางการบ่มเพาะ
พลังให้กับเนี่ย หยู่ในฐานะที่เป็นคนของตระกูลบันทึกสวรรค์
ส่าหรับช่วงเวลานี้ไม่มีใครกล้าที่จะไปแตะต้องพวกเขา และใน
ระยะยาวที่เขาจะไม่ได้กลับไปอยูท่ ี่ตระกูลบันทึกสวรรค์
แน่นอนสมาคมทมิฬจะไม่ท่าอะไรกับตระกูลของเขา เพราะมัน
ไม่มีคา่ และความส่าคัญมากพอที่จะท่าเช่นนั้น

ทั้งหมดอยู่ในการคาดการณ์ของเนี่ยหลี่ เขาได้เตรียม
แผนการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว เขาจึงเปิดเผยความแข็งแกร่ง
ของเขาในการประลองยุทธ

มีเรื่องเล่าว่าเมื่อเสิ่น เหย่แห่งตระกูลเทพศักดิ์สิทธิไ์ ด้ล่วงรู้


ว่าความแข็งแกร่งของเนี่ยหลี่อยู่ทรี่ ะดับทองและเนี่ยหลี่ได้เข้าสู่
ต่าหนักของท่านเจ้าเมือง เขาแทบกระอักเลือดด้วยความเศร้า
โศกและความไม่พอใจ แต่เดิมเค้ายังมีความหวังกับเอีย จื้อ
หวิ๋นเล็กน้อย แต่เขารู้ว่าบัดนี้ไม่มคี วามหวังใดๆเหลือให้เค้าอีก
ต่อไป

เมื่อหยางซินได้ยินข่าวนีส้ มาคมนักปรุงยาก็เข้าใจได้ทันทีว่า
ท่าไมเนี่ยหลี่ถึงมีความมั่นใจ เนี่ยหลี่คาดไว้แล้วว่าเขา จะถูก
เชิญเข้าไปยังต่าหนักของท่านเจ้าเมือง ในอนาคตเมื่อเธอ
ต้องการที่จะเจอกับเนี่ยหลี่ เธอจะต้องไปยังต่าหนักของท่าน
เจ้าเมือง

ภายในตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์

ผู้น่าตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ เสิ่นฮอง ได้กลับมาจากการออกไป


ฝึกผู้เดียว เขาได้เพิม่ ระดับพลังของเขาครั้งยิ่งใหญ่ แต่เขาก็ยัง
ไม่สามารถเข้าไปสู่การเป็นร่างทรงอสูรระดับต่านานได้ การจะ
บรรลุเป็นร่างทรงอสูรระดับต่านานนั้นไม่ง่ายเลย หลังจากที่เขา
เพิ่มระดับพลังของเขาขึ้นมา เขาเข้าใจในจุดนี้ชัดเจน

เขาสงสัยในวิธีที่ เอีย โม่ สามารถผ่านเข้าสู่ระดับต่านานได้


ทุกวันนี้เขาได้คดิ เกี่ยวกับการที่อายุของเขาได้มากขึ้นและการ
ฝึกของเขานั้นมีสญ ั ญาณของการฝึกพลังที่ช้าลง ท่าให้เสิ่นฮอง
มีความวิตกกังวลมากอยู่ภายใน
เมื่อเขาได้ยินเกีย่ วกับการเดิมพันนั้นเขาโมโหราวกับฟ้า
ค่ารามทันที เสิ่นหมิงยังได้รับความปลอดภัยจากสิ่งที่เกิดขึ้น
อะไรที่จะท่าให้เขารอดจากสิ่งที่เขาท่า ซึ่งเขากังวลเรื่องนี้มา
ตลอด แต่เขาไม่คิดว่าเสิ่นหมิงจะกระท่าจริง การกระท่าดังเรื่อง
ดังกล่าวกล่าวเป็นความผิดพลาดอย่างมาก ในการสูญเสียเงิน
จ่านวน 450 ล้านเหรียญจิตมารในการแพ้พนัน เงิน จ่านวน
มากขนาดนั้น สามารถน่าไปซื้อย่าบ่ารุงวิญญาณและยาผสาน
วิญญาณให้กับพวกเด็กรุ่นใหม่ได้ตงั้ เท่าใดกัน?

"เสิ่นหมิง เจ้ารู้ความผิดของเจ้าหรือไม่" เสิ่นฮองที่นั่งอยู่บน


เก้าอี้ผู้น่า เขาจ้องมองอย่างเย็นชาไปยังเสิ่นหมิงที่นั่งคุกเข่าอยู่
ด้านล่าง

เมื่อรูส้ ึกถึงสายตาอันน่ากลัวของเสิ่นฮอง ร่างกายของเสิ่น


หมิงก็สั่นด้วยความกลัว เขารีบกล่าวว่า "ได้โปรดยกโทษให้ข้า
ด้วยท่านผู้น่า ข้าไม่เคยคิดว่า เนีย่ หลี่ของตระกูลบันทึกสวรรค์
จะสามารถฝึกพลังไปถึงระดับทองได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ข้าถูก
เจ้าเด็กนั่นหลอก โปรดดูในส่วนทีข่ ้าเคยท่าประโยชน์ให้แก่
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์......."

"หุบปาก!!" เสิ่นฮองตวาดแล้วจ้องมองไปยังเสิ่นหมิง
เสิ่นหมิงเงียบในทันทีและไม่กล้าทีจ่ ะพูดอะไรอีกต่อไป

เสิ่นฮองตกอยู่ในภวังค์ความเงียบ การที่สูญเสียเงินจ่านวน
450ล้าน เหรียญจิตมารในเวลานี้ ยังไม่มผี ลกระทบต่อการ
วางรากฐานของตระกูลเทพศักดิส์ ทิ ธิ์เท่าใดนัก แต่สิ่งที่ท่าให้
เขารู้สึกกดดันก็คือในระหว่างที่เขาแยกตัวออกไปฝึก
ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์และตระกูลบันทึก
สวรรค์มาถึงยังจุดแตกหักเหมือน น้่ากับไฟ แต่เดิมนั้นตระกูล
เล็กๆอย่างตระกูลบันทึกสวรรค์นนั้ ไม่มีอะไรที่จะท่าให้ตระกูล
เทพศักดิ์สิทธิ์ต้องสนใจแม้แต่น้อย แต่เจ้าหนูเนีย่ หลี่ท่าให้เขาไม่
สามารถที่จะไม่สนใจได้อีกต่อไป

อายุ 13 ปีแต่สามารถแข็งแกร่งได้ถึงระดับทอง
ความสามารถของเขาแม้แต่เสิ่นฮองก็อิจฉา

ใครจะบอกได้ว่าเด็กคนนี้จะก้าวหน้าไปได้ไกลเพียงใด? เมื่อ
เด็กคนนี้เติบโตขึ้น เขาอาจจะเป็นภัยคุมคามทั้งต่อตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์หรือแม้กระทั่งสมาคมทมิฬ

การมุ่งร้ายนี้อาจจะเลือนลางเหมือนมันไม่เคยมีอยู่ ถ้าใน
กรณีที่เนีย่ หลีไ่ ม่ได้มคี วามแค้นเคืองกับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์
เสิ่นฮองสามารถที่จะเก็บเขาไว้ก่อนได้ แต่เนีย่ หลีน่ ั้นมีเรื่องกับ
ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ตั้งแต่ต้น เขามีแต่จะต้องก่าจัดทิ้งเท่านั้น

ตอนนี้เนี้ยหลีไ่ ด้รับการคุม้ ครองจากต่าหนักท่านเจ้าเมือง


การที่จะสังหารเนีย้ หลี่ในตอนนี้นนั้ เป็นเรื่องยาก

"ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะอยู่ที่ต่าหนักท่านเจ้าเมืองตลอดเวลาโดย
ที่จะไม่ออกมาข้างนอก"เสิ่นฮองคิดอย่างเย็นชา เขามองไป
ยังเสิ่นหมิงที่นั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นและกล่าวว่า

"เสิ่นหมิงเจ้ารู้กฎของตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ ตามกฎของ
ตระกูล ใครที่น่าความผิดพลาดมาสู่ตระกูลนั้นจะถูกประหาร
โดยไม่มีข้อยกเว้น แต่พิจารณาจากที่เจ้าได้รับใช้ตระกูลมา
ยาวนานและได้ท่าประโยชน์ให้ตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ไว้มาก ข้า
จะให้เจ้าได้โอกาสที่จะกระท่าการลบล้างความผิดในครั้งนี้"

หลังจากที่ได้ยินค่าพูดของเสิ่นฮอง ตาของเสิ่นหมิงก็เปล่ง
ประกายด้วยความความหวัง เขาเงยหน้าขึ้นและถามว่า"ท่านสั่ง
มาได้เลยท่านผู้น่า ไม่ว่าจะเป็นปีนภูเขาแหลมสูงหรือจะลง
ทะเลเพลิงข้าก็จะท่ามันทุกอย่าง"

"เยี่ยมมาก เจ้าจงน่าคนไปสังหารเนี่ยหลี่ซะ เมื่อเจ้าสามารถ


สังหารเนีย่ หลีไ่ ด้ ข้าจะส่งคนออกจากเมืองและไปยังสมาคม
ทมิฬเพื่อที่จะจัดการให้เจ้าได้อยู่ในต่าแหน่งหลักของกิจการใน
สมาคมทมิฬ" เสิ่นฮองพูด

"แต่เนี่ยหลี่อยู่ในต่าหนักของท่านเจ้าเมือง......" เสิ่นหมิงรู้
เรื่องราวระหว่างตระกูลเทพศักดิ์สทิ ธิ์และสมาคมทมิฬ เขาต้อง
เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างการสังหารเนี่ยหลี่หรือเขาต้อง
ถูกตระกูลประหาร เขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว...

"มันจะต้องมีสักวันที่เขาออกมาจากต่าหนักของเจ้าเมือง"
เสิ่นฮองพูดเบาๆ

"ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจักไปท่าตามค่าสั่งของท่าน" ตาของเสิ่น


หมิงปรากฏแสงชั่วขณะแห่งความแค้นเคืองขึ้นมา เขารู้ว่านี้
เป็นโอกาสเดียวของชีวิตที่เขามี มิฉะนั้นเสิ่นฮองจะท่าให้แน่ใจ
ว่าตัวเขานั้นจะไม่เหลือแม้แต่เถ้ากระดูก

"เสิ่นหมิง ข้าเชื่อว่าเจ้าจะรักษาค่าพูดของเจ้าเป็นอย่างดี
อย่าท่าให้ข้าผิดหวังล่ะ" เสิ่นฮองได้ใช้มือขวาของเขาหมุนแหวน
ของเขาที่มือซ้ายไปมาขณะพูดเรื่องนี้
หลังจากทีไ่ ด้ยินเสียงที่ทรงอ่านาจของเสิ่นฮอง เสิ่นหมิงไม่
สามารถหยุดตัวสั่นได้ นอกเหนือจากตัวเขาแล้ว ยังมีชีวิตของ
ครอบครัวของเขาทั้งหมดที่อยู่ในมือของเสิ่นฮอง เขามีแต่
จะต้องรับการเดิมพันนี้เท่านั้น...
บทที่ 91 - อยู่ด้วยกันไหม?

นครรุ่งโรจน์ คฤหาสน์เจ้าเมือง

ลานกว้างขนาดใหญ่กว้างสุดลูกหูลูกตาราวกับไม่มีที่
สิ้นสุดช่างเป็นมุมมองที่งดงามเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเสาหลัก
ที่ตั้งรวมไปถึงตัวของสะพานยังงดงามไปด้วย ในขณะเดียวกัน
สถานที่แห่งนี้ได้รับการคุ้มกันอย่างหนาแน่น แต่ก็ไม่ท่าให้อึด
เท่าไหร่นัก เหล่านักรบของที่นี่ ได้รับการบ่มเพาะพลังจาก
นักรบระดับเงิน และขณะเดียวกันก็มีนักรบระดับทอง คอย
ลาดตระเวนให้ ซึ่งสามารบอกได้วา่ ภายในลานกว้างแห่งนี้มี
นักรบระดับทองค่าด่า และ ร่างทรงอสูรได้พ่านักอยู่ที่นี่

ที่นี่เป็นใจกลางของนคร เมืองรุ่งโรจน์แน่นอนอย่าง
ไม่ต้องสงสัยเลย

เนี่ยหลี่และเนีย่ หยู๋ ได้ถูกจัดให้อยูภ่ ายในสวน


แห่งนี้ด้วย ตราบใดที่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญระดับทองค่าด่าเข้าโจมตี
สถานที่แห่งนี้นั้นย่อมมีความปลอดภัย จะเห็นได้ว่าเนีย่ หลี่
ได้รับการเอาใจใส่ดูแล ป้องกันเป็นอย่างยิ่งเมื่ออยู่สถานที่แห่งนี้
“พี่ใหญ่ เหตุใดพวกเราต้องเข้ามาอยู่ใน
คฤหาสน์ของเจ้าเมืองด้วย?”เนี่ยหยู๋ ถามเนี่ยหลี่ อย่าง
หวาดหวั่น นับตั้งแต่นางได้เข้ามายังคฤหาสน์ของเจ้าเมืองนางก็
ได้รับความกดดันเป็นอย่างมาก

“เพราะว่าสถานที่ ที่พวกเราเข้ามานี้นั้น
ปลอดภัย!”เนี่ยหลี่ตบไหล่ของเนี่ย หยู๋ พร้อมบอกว่า”เจ้าไม่มี
ความจ่าเป็นอันใดทีต่ ้องหวาดกลัวในสถานที่แห่งนี้ ตราบใดที่พี่
ใหญ่ของเจ้าอยู่ที่นี่เจ้าสบายใจได้ นอกจากนั้นแล้วลูกสาวของ
ท่านเจ้าเมืองยังเป็นพีส่ ะใภ้ของเจ้าเสียด้วย หากครั้งต่อไปเมื่อ
เจ้าเห็นนางเจ้าต้องไม่ลืมเรียกนางว่า

พี-่ สะ-ใภ้ ตกลงไหม?”

“พี่สะใภ้?ตกลงข้าจะเรียกนางว่าพี่สะใภ้”เนี่ยหยู๋ มอง
ไปที่เนี่ยหลี่อย่างประหลาดใจ นางไม่คิดว่าเนี่ยหลี่ จะหา
พี่สะใภ้ให้นางได้ไวขนาดนี้มิหน่าซ้า่ นางยังเป็นลูกสาวของท่าน
เจ้าเมืองอีกด้วย
ภายในหัวของเนี่ยหยู๋ ตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยความสงสัย
แต่เนี่ยหลี่ก็ไม่ได้อธิบายใดๆเพิ่มเติมให้แก่นางเลย คฤหาสน์เจ้า
เมืองที่ท่าการปกป้องอัจฉริยะนั้นไม่คาดคิดว่าการกระท่า
ดังกล่าวจะเป็นการน่าหมาป่าร้ายเข้ามาภายในบ้านเสียแล้ว
เนี่ยหลีม่ ีความคิดที่อกุศลตั้งแต่เริม่ ต้นเลยทีเดียวเชียว

‘หึ หึ การที่ได้เข้ามายังคฤหาสน์ของเจ้าเมืองนั้น
นอกเหนือจากการฝึกฝนบ่มเพาะพลังแล้วข้ายังสามารถหยอก
ล้อกับเอีย จื้อหวิ๋นได้ เมื่อยามข้ารูส้ ึกเบื่อหน่าย ช่างเป็นชีวิตที่
สมบูรณ์แบบยิ่งนัก ถ้าไม่มีพวกตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์หรือ
สมาคมทมิฬ และการบุกจูโ่ จมของพวกสัตว์อสูรแล้วละก็ ชีวิต
ข้าคงจะมีความสุขไม่น้อย

ส่าหรับอนาคตภายภาคหน้านั้น เนี่ยหลีไ่ ด้คดิ หาวิธีที่จะ


โค่นล้มตระกูลเทพศักดิ์สิทธิไ์ ว้แล้ว ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเนี่ยห
ลี่ ถ้าตระกูลเทพศักดิ์สิทธิไ์ ม่ทรยศต่อนครรุ่งโรจน์ หากรากฐาน
ของปัญหานี้ไม่เกิดจากภายใน นครรุ่งโรจน์จักไม่พ่ายแพ้ให้แก่
เหล่าอสูรปีศาจอย่างง่ายดายเช่นนี้แน่

ตอนนี้เนี่ยหลี่ยังอยู่ที่ระดับ 2 ดาวเงิน อย่างไรก็ตามความ


แข็งแกร่งของเนี่ยหลี่หากปะทะกับ ระดับปกติ 1-2ดาวทองยัง
ไม่เป็นปัญหาสักเท่าไหร่นัก แต่เท่านี้ยังห่างไกลกับสิ่งที่เนี่ยหลี่
คาดหวังเอาไว้ เนีย่ หลีจ่ ึงรีบฝึกฝนการบ่มเพาะพลังให้รวดเร็ว
ยิ่งขึ้นไปอีก

“จะมีอะไรอีกนะทีส่ ามารถเพิม่ ความรวดเร็วของการบ่ม


เพาะพลังของข้าให้ไปถึงขั้นที่รวดเร็วที่สุดได้?”เนี่ยหลีเ่ คาะหัว
ไปพร้อมกับนึกคิด”นี่ข้าลืมเขตแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิ์ไปได้เยีย่ ง
ไรกัน?”ภายในสถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์สิ่งเดียวที่สามารถก
ระตุ้นความสนใจให้แก่เนี่ยหลี่ได้คอื เขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์

‘อันดับแรกข้าต้องเตรียมความพร้อมของข้าก่อนแล้วค่อย
หาโอกาสเดินทางไปยังเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์!’เนีย่ หลี่
ครุ่นคิดอยู่กับตัวเอง
เนี่ยหลีเ่ ริ่มต้นฝึกฝน.เนีย่ หยู๋ก็เช่นกัน นางมีความเหมาะสมกับ
การฝึกมากดังนั้นนางจักไม่ปล่อยแม้แต่สิ่งรบกวนเล็กน้อยที่จะ
ท่าให้กระทบต่อการฝึกฝนใดๆของเนี่ยหลี่เลยแม้แต่นิดเดียว

วันที่หนึ่ง,วันที่สอง....
วันเวลาได้ผ่านไปการใช้ชีวิตของเนี่ยหลี่และเนีย่ หยูที่นี่ก็ไม่
เลวเลยทีเดียว นอกเหนือที่ไม่ได้รบั การอนุญาตให้ไปยังใจกลาง
ของคฤหาสน์ท่านเจ้าเมือง ก็ไม่มีขอ้ จ่ากัดอื่นใดอีก อาหารสาม
มื้อต่อวันถูกจัดส่งจากคนรับใช้น่ามาให้อย่างดี คนนอกยัง
สามารถแวะมาเยี่ยมเยียนได้ตลอดเวลา

มีข่าวลือลอยมาว่าในเวลาไม่กวี่ ันมานี้ท่านเจ้าเมืองและร่าง
ทรงอสูรระดับต่านานเย่ โม่ จะมาพบกับเนี่ยหลีเ่ ป็นการส่วนตัว
เป็นสาเหตุให้ทหารยามโดยรอบและบรรดาสาวใช้ทั้งหลาย
ปฏิบัติตนอย่างสุภาพกับ พี่น้องคูน่ ี้

เนี่ยหลีไ่ ด้ท่าการบ่มเพาะพลังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในวันที่ห้า


ของการบ่มเพาะพลัง พลังของเขาได้ยกระดับเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น
ในที่สุดพลังวิญญาณของเนี่ยหลี่กไ็ ด้บรรลุระดับ 3ดาวเงิน

หลังจากที่พลังบรรลุไปที่ระดับ 3ดาวเงินแล้วเนี่ยหลี่ได้ระงับ
การฝึกฝนของเขาเอาไว้ก่อนแทนที่จะด่าเนินการฝึกขั้นถัดไป
จะเป็นการดีที่สดุ ถ้าไม่รีบร้อนบ่มเพาะพลังจนเร็วเกินไปเพื่อให้
เวลาปรับตัวเข้ากับความต่างระหว่างระดับแต่ละระดับ เนี่ย
หลี่กระพริบตาลง หลังจากทีไ่ ด้เข้ามายังคฤหาสน์ของเจ้าเมือง
เป็นเวลาหลายวันแล้ว เย่ จื้อหวิ๋นยังคงไม่ได้แวะมาเยี่ยมเขา
เลย

ในยามที่อาทิตย์อัสดง ฉายให้แสงให้เห็นถึงความงามประดุจดั่ง
ทองของคฤหาสน์ท่านเจ้าเมืองยิ่งท่าให้สถานที่แห่งนี้ดูสวยงาม
ราวกับวิมานบนสรวงสวรรค์ยิ่งขึ้นไปอีก

‘อาจจะเป็นเพราะเจ้าเขินอายขาดความกล้าที่จะแวะมาเยีย่ ม
เยียนข้า ดูเหมือนว่าข้าจะต้องไปหาเจ้าเองเสียแล้ว!’เนี่ยหลี่
พึมพ่ากับตัวเอง”เสี่ยวหยู๋ ข้าจะไปหา พี่สะใภ้ของเจ้า เจ้าอยู่
ที่นี่และฝึกฝนต่อไปเถิด”

“ได้ค่ะ พี่ใหญ่”เสี่ยวหยูเบิกตา กว้างมองไปที่เนี่ยหลี่ด้วยความ


สับสน พี่ใหญ่เตรียมวิธีการอันใดทีจ่ ะไปหาพีส่ ะใภ้กันนะ?
แม้ว่านางจะมีความอยากรู้อยากเห็นแต่นางก็ไม่ได้สอบถามสิ่ง
ใดกับเนี่ยหลี่มาก นางยังคงเชื่อฟังเนี่ยหลี่และอยู่ในลานปฏิบตั ิ
เพื่อฝึกฝนต่อไป
หลังจากเนี่ยหลี่ออกมาจากลานกว้างแล้ว เนี่ยหลีไ่ ด้เรียกจิต
อสูรปีศาจเงาและหายตัวไป ผูเ้ ชี่ยวชาญที่มีระดับยศทองสัมผัส
ได้ถึงกลิ่นอายจางๆ พวกเขามองไปที่สภาพแวดล้อมโดยรวมแต่
กลับไม่พบอะไรผิดปกติจึงถอนสายตากลับ พวกเขาได้แต่คิดกัน
ไปว่ารูส้ ึกผิดไปเอง

‘ความสามารถล่องหนของข้ายังไม่สมบูรณ์มากพอ การ
ซ่อนกลิ่นอายยังไม่แข็งแกร่งมากเพียงพอเมื่อเผชิญกับร่างทรง
อสูรระดับทอง ในตอนนี้ข้ายังสามารถผ่านพ้นไปได้อยู่ แต่ถ้า
หากพบกับร่างทรงสูรระดับทองค่าด่าขึ้นไปข้าต้องถูก
สังเกตเห็นตัวอย่างแน่นอน’เนี่ยหลี่คิดกับตัวเอง เนี่ยหลี่ถือ
วิสาสะมุ่งไปที่ เย่ จื้อหวิ๋นพักอาศัยอยู่

แม้นว่าเนี่ยหลี่จะไม่เคยได้เข้ามายังสถานที่นี้มาก่อน แต่เนี่ยหลี่
เคยได้ยินทั้งหมดเกี่ยวกับคฤหาสน์ของเจ้าเมือง ดังนั้นมิใช่เรื่อง
ยากเลยที่เนี่ยหลี่จะรู้ว่า เย่ จื้อหวิน๋ นั้นพักอยู่ที่ใดในสถานที่แห่ง
นี้

‘ลูกสาวของท่านเจ้าเมือง น่าสนใจจริงๆ’เนีย่ หลี่คดิ กับตัวเอง


ขณะเดียวกับเขาก็ไม่สามารถที่จะอดกลั้นรอยยิ้มของเขาได้

เนี่ยหลีผ่ ่านเข้าไปยังคฤหาสน์เจ้าเมืองได้แบบง่ายๆ โดยไม่มีใคร


ขัดขวาง ร่างทรงอสูรระดับทองไม่ได้เป็นปัญหาให้เนีย่ หลีแ่ ต่
อย่างใด

ลานเล็กๆที่ปรากฏผ่านสายตาของเนี่ยหลี่ มันเป็นลานที่มี
เอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ภายในเต็มไปด้วยพืชพันธ์ไม้ดอก
นานาชนิด คอยส่งกลิ่นหอมรุนแรงราวกับระเบิดออกมา เมื่อ
มองไกลไปอีกหน่อย พบกับอาคารที่ถูกท่าขึ้นมาอย่างปราณีต
ภายในชั้นที่สอง เย่ จื้อหวิ๋นอยู่ที่นนั่

เนี่ยหลีผ่ ่านประตูเล็กๆเข้ามา ด้วยการใช้ความสามารถล่องหน


หลังจากที่เข้ามาได้ส่าเร็จเนีย่ หลี่ปลดความสามารถของตัวเอง
ลง เนี่ยหลีไ่ ด้เดินเข้ามาข้างใน

บนหินที่อยู่มุมสุดของคฤหาสน์ เย่ จื้อหวิ๋นได้นั่งขัดสมาธิ


ขณะที่นางฝึกฝนอยู่พลังวิญญาณของนางขดโดยรอบอยู่บริเวณ
ด้านหลังของนาง ปรากฏรูปสีขาวที่ยังไม่ชัดเจนอยู่
ราชินีเหมันต์หายากยิ่ง นอกจากนีม้ ันยังทรงพลังอย่างมากด้วย
ความสามารถการต่อสู้กับสัตว์อสูรลมหิมะ ช่างเป็นภาพที่
น่าชื่นชมจริงๆ ขณะทีเ่ ย่ จื้อหวิ๋นฝึก[ภูติฟินิกซ์หมิ ะน้่าแข็ง 9
ชีวิต]

เพียงเมื่อเนี่ยหลี่จ้องมองไปยังเรือนร่างของเย่ จื้อหวิ๋น บริเวณ


จมูกรูส้ ึกอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย เลือดก่าเดาเกือบจะไหลออกมา เย่
จื้อหวิ๋นนางเพิ่งจะอาบน้่าเสร็จ ผมของนางยังคงไม่แห้งสนิทดี
นางสวมเพียงผ้าคลุมบางๆเผยให้เห็นหน้าอกรางๆ

ฉากที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในขณะนี้ทา่ ให้เนี่ยหลีร่ ะลึกถึงชาติที่


แล้ว คืนนั้นภายใต้แสงจันทร์ เย่ จือ้ หวิ๋นที่งดงามราวกับ
เทพธิดามอบความบริสุทธิ์ให้แก่เนีย่ หลี่ พวกเขาทั้งสองโอบ
กอดกันสัมผัสได้ถึงลมหายใจซึ่งกันและกัน เนี่ยหลี่ใช้มือนวด
สัมผัสอย่างบางเบา บางคนถึงกับบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่น่า
ภาคภูมิใจทีส่ ุดของชายคนหนึ่ง เมือ่ เขาได้สตรีที่รักดั่งยอด
ดวงใจมาไว้ครอบครอง
เนี่ยหลีส่ ูดหายใจเข้าลึกๆ ถึงแม้ว่าปัจจุบัน เย่ จื้อหวิ๋นยังไม่ได้
เติบโตเต็มที่ แต่เท่านี้นางก็งดงามมากแล้ว หลังจากที่ฝึก[ภูติ
ฟินิกซ์หิมะน้่าแข็ง 9 ชีวิต] นางก็ยิ่งมีเสน่หด์ ึงดูดมากเพิ่มขึ้นไป
อีก

ในขณะที่สติของเย่ จื้อหวิ๋นด่าดิ่งลึกของการฝึกฝน นาง


ตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างนางเปิดตาขึ้นอย่างไม่เป็นมิตร
กล่าวว่า”ใครกัน?”เมื่อนางเห็นเนีย่ หลี่นางรูส้ ึกโล่งใจ นาง
งงงวย เป็นอย่างมากจึงถามว่า”ท่าไมเป็นเจ้า? เจ้าเข้ามาที่นไี่ ด้
ยังไงกัน?”

ถ้าเป็นคนอื่นที่จู่ๆปรากฏตัวขึ้นในลานแห่งนี้ เย่ จื้อหวิ๋น


จะต้องสงสัยในเหตุจูงใจของพวกเขาแน่นอน ถึงแม้จะเป็นคนที่
คุ้ยเคยกับเย่ จื้อหวิ๋น ก็ไม่สามารถท่าให้นางลดการป้องกัน
ตัวเองลงอย่างสมบูรณ์ แต่ไม่รู้ว่าท่าไมเย่ จื้อหวิ๋นเห็นเนีย่ หลี่
ถึงรู้สึกสบายใจอย่างไม่รู้ตัว

“ข้ามาที่นี่เพื่อดู ที่พักอาศัยของเจ้า ดูเหมือนว่ามันจะมี


เอกลักษณ์มากเป็นพิเศษ แต่อย่างไรก็ตามการทีเ่ จ้าอยู่ที่นีเพียง
ผู้เดียวไม่เป็นเรื่องที่น่าเบื่อไปหรอกหรือ จะเป็นยังไงน้าถ้าข้า
จะย้ายมาอยู่กับเจ้า?”เนี่ยหลี่มองรอบไปทุกด้านขณะที่พยัก
หน้าด้วยความพึงพอใจ

เย่ จื้อหวิ๋นมองไปยังเนีย่ หลี่ ช่างน่าอายจริง ‘เนี่ยหลี่.... ความไร้


ยางอายของเขาอยู่ระดับใหนกันแน่?ข้ายอมรับเลยว่าทีผ่ ่านมา
มันน่าเบื่อมาก แม้ว่าข้าจะเบื่อขนาดไหนก็เหอะ,ถึงอย่างงั้นข้า
จะไม่ยอมให้เจ้าย้ายมาอยู่ที่นี่เป็นแน่!’
บทที่ 92 - ท่านเจ้าเมือง

เย่ จื้อหวิ๋นตระหนักถึงบางอย่าง และร้องโวยวาย

“เนี้ยหลี่ !! เจ้าหันไปเดี๋ยวนี้นะ” เย่ จื้อหวิ๋นหน้าแดง พร้อมกับ


กระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ

“ข้าท่าอะไรผิดรึ ?” เนี้ยหลี่ท่าหน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์ แล้วก็


แอบดูเย่ จื้อหวิ๋น อีกสักหน่อย ของแบบนี้ใช่ว่าจะมีโอกาสดูกัน
ได้บ่อย ๆ ถ้าเขาหันไปง่าย ๆ ก็น่าเสียดายแย่

“เนี้ยหลี่ ท่าไมเจ้าเป็นคนอย่างนี้ !! ข้า …” จื้อ หวิ๋นรู้สึก


โมโห แล้วเธอก็รีบใส่เสื้อผ้าที่เอาออกมาจากแหวนมิติ ในตอนนี้
ในใจของเธอ ว้าวุ่นเป็นอย่างมาก เพราะนับตั้งแต่เธอเกิด นี้
เป็นครั้งแรกที่มผี ู้ชายเห็นเธอในสภาพแบบนี้

“ท่าอย่างกับข้าไม่เคยเห็นงั้นแหละ ..” เนี้ยหลี่บ่นอุบ แล้วก็


ยอมหันไปช้า ๆ เค้าหัวเราะเล็กน้อยพร้อมกับพูดว่า
“ใส่เสื้อซะ ข้าจะไม่มองเจ้าก็แล้วกัน”

“เจ้าห้ามหันหน้ามาทางนี้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้น ข้าจะไม่คุย


กับเจ้าอีก!!” จื้อ หวิ๋น ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี เธอคงท่าได้เพียงขู่
เขาไปแบบนี้ถึงอย่างไรก็มีเสียงจากด้านหลัง,ของเนี้ยหลี่ ท่าให้
เค้าอดจินตนาการ ถึงสิ่งต่างไม่ได้

ถึงอย่างงั้น เนี้ยหลี่ก็ไม่ได้หนั ไปมอง เขาไม่อยากจะท่า


ให้จื้อหวิ๋นหงุดหงิดไปมากกว่านี้ เพราะแค่นี้ก็คุ้มมากแล้ว

“เสร็จแล้ว เจ้าหันมาได้แล้ว !”

เมื่อได้ยินดังนั้น เนี้ยหลี่จงึ หันกลับมา แล้วเขาก็เพิ่งจะ


เห็นว่า จื้อหวิ๋นนั้นใส่ชุดเดรสสีขาว รวมกับผมสีม่วงที่ก่าลัง
เปียกอยู่บนหัวไหล่นั่น ผิวขาวราวกับหยวกกล้วย บวกกับ
ดวงตากลมโตที่เหมือนจะสื่ออะไรบางอย่างของเธอ ยิ่งท่าให้
เธอดูสง่างามยิ่งขึ้นไปอีก แล้วยังมีแก้มที่อมชมพูนั่นด้วย ท่าให้
เนี่ยหลี่อึ้งในความสวยของเธอไปชัว่ ขณะ
“เนี้ยหลี่ ข้าจะจ่าสิ่งที่เกิดขึน้ ในวันนี้เอาไว้ แล้วข้าจะท่า
ให้เจ้าต้องชดใช้ !!” เย่ จื้อหวิ๋น จ้องเนี้ยหลี่ด้วยความโกรธ แต่
ด้วยท่าทางแบบนี้ ก็ยังไม่สามารถปกปิดความสวยของเธอไปได้
เลย เธอเองก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด การที่โดนเนีย้ หลีจ่ ้องเธอนั้น
กลับท่าให้เธอเกิดความรูส้ ึกแปลก ๆ ในหัวใจขึ้นมา

“ข้าเกือบจะลืมไปแล้ว เจ้าติดหนีบ้ ุญคุณข้าอยู่ครั้งหนึ่งนี่นา !”


เนี้ยหลี่พดู ยิ้ม แล้วก็มองไปที่เอียจื้อหวิ๋น

“ในเมื่อข้าดูเจ้า ... ไปแล้ว งั้น เราก็หายกัน” เนี้ยหลี่พูดต่อ

“ไม่ได้ นี่มันไม่เหมือนกัน ข้ายังติดหนี้บญ


ุ คุณเจ้าอยู่
ส่วนเหตุการณ์ในครั้งนี้ ข้าจะไม่ลมื ง่าย ๆ แน่นอน”เย่ จื้อหวิ๋น
พูดในท่านองไม่พอใจ เพราะเธอรูส้ ึกว่าเธอเสียหาย ที่ถูกเนีย้ ห
ลี่เห็นหมดทุกอย่าง ..

“งั้นเอาแบบนี้ไหม ข้าจะให้เจ้าดูข้าบ้าง จะได้หายกัน” เนี้ยห


ลี่พูด แล้วก็เริ่มถอดชุดของเขา
“ใครจะไปอยากมองเจ้ากันล่ะ ?”
เย่ จื้อหวิ๋นกระทืบเท้า แล้วก็รีบเอามือปิดตาเอาไว้ เธอ
รู้สึกพูดไม่ออก ท่าไมเนี้ยหลี่ถึงเป็นคนเช่นนี้ ? ไอ้คนโรคจิต !
แต่ก็ไม่รู้ว่าท่าไม เธอถึงไม่ได้รสู้ ึกเกลียดเขา ด้วยความทีเ่ ธอ
เป็นถึงลูกสาวของท่านเจ้าเมือง โดยปกติแล้วเธอจึงไม่ได้มี
เพื่อนมากนัก ไม่ต้องพูดถึงคนที่จะกล้าแกล้งเธอ แต่เมื่อเนี้ยหลี่
ปรากฏตัว เขาเป็นคนท่าให้ชีวิตของเธอมีสีสันมากขึ้น

“ถ้าเจ้าไม่อยากดู งั้นก็ไม่เป็นไร” เนี้ยหลี่ยักไหล่พร้อม


ท่าหน้ายิ้มกรุม้ กริ่ม ท่าไม เย่ จื้อหวิ๋นถึงน่ารักได้ขนาดนี้นะ แค่
เพียงมองก็ท่าให้เขารู้สึกอบอุ่นไปถึงในหัวใจแล้ว การที่ได้
กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แล้วเจอ เย่ จื้อหวิ๋นช่างเป็นอะไรที่วิเศษ
มากส่าหรับเขา เขาจะไม่ท่าให้พระเจ้าผิดหวัง ที่ให้เขากลับมา
มีชีวิต !

เนี้ยหลีม่ องไปรอบ ๆ บ้านของเย่ จื้อหวิ๋น

“เจ้าก่าลังคิดจะท่าอะไร ?” เย่ จื้อหวิ๋นรีบถาม เมื่อเห็น


ท่าทางของเนี้ยหลี่

“ก็ข้าเพิง่ ย้ายเข้ามาอยู่ ใจคอเจ้าไม่คิดจะพาข้าไปเดินส่ารวจ


ห้องเจ้าหน่อยล่ะ ? มันจะไม่ดหู ยาบคายไปหน่อยหรอ ?”

เนี้ยหลี่ถือวิสาสะเดินตรงเข้าไปในตัวบ้าน

หยาบคายงั้นหรอ ? เย่ จื้อหวิ๋นอยากจะบ้าตาย ใครกัน


แน่ที่หยาบคาย ไอ้บา้ ที่บุกเข้ามาในบ้านของผู้หญิงโดยไม่มี
แม้แต่จะเคาะประตู แล้วตอนนี้เขายังกล้าจะมาขอดูห้องของ
เด็กผู้หญิงอีกงั้นหรือ ?

“หยุดเดีย๋ วนี้นะ เนี้ยหลี่ !” เย่ จื้อหวิ๋นรีบตะโกนห้ามทันที ห้อง


ของเธอไม่ใช่สถานที่ที่ใครจะเข้าไปก็ได้

“ชู่ !!..” เนี้ยหลี่ท่าตัวเยี่ยงปลา รีบเข้าไปในบ้านของเย่ จื้อ


หวิ๋นเพราะในชีวิตที่แล้ว เขาไม่เคยเห็นห้องของเย่ จื้อหวิ๋นมา
ก่อน ดังนั้นตอนนี้หัวใจของเขาจึงเต็มไปด้วยความสงสัยว่าห้อง
ของเย่ จื้อหวิ๋นจะมีลักษณะเป็นเช่นไร

เมื่อเข้าไปในตัวบ้านได้แล้ว เขาก็เดินตรงเข้าไปที่ห้อง
ของเย่ จื้อหวิ๋นทันที ห้องของเย่ จื้อหวิ๋นนั้นถูกตกแต่งอย่างหรู
รา มีดอกไม้ และพู่สีชมพูประดับตกแต่ง ท่าให้ดูสวยงาม
เนี้ยหลีม่ องไปรอบ ๆ อย่างกระตือรือร้น เขามองผ่านฉาก
กั้นออกไป ก็เห็นอ่างอาบน้่าที่ยังมีไอน้่าลอยปกคลุมอยู่ เย่ จื้
อหวิ๋นพึ่งจะอาบน้่าเสร็จสินะ เมื่อคิดถึงฉากที่เย่ จื้อหวิ๋นก่าลัง
อาบน้่าในอ่างนี้ เนี้ยหลี่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นใน

เย่ จื้อหวิ๋นรีบวิ่งเข้ามา

“เนี้ยหลี่ เจ้ากล้าบุกเข้ามาในห้องของผู้หญิงได้
ยังไง? ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!” เย่ จื้อหวิ๋นรู้สึกหงุดหงิดและอาย
มาก แต่เมื่อต้องมาเจอกับคนทีไ่ ร้ยางอายแบบเนี้ยหลี่ เธอเองก็
ไม่รจู้ ะรับมืออย่างไร

“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ซักหน่อย ข้าแค่ดูรอบ ๆ ห้องเอง


มันไม่ได้ท่าให้เจ้าท้องหรอกน่า” เนี้ยหลี่หายใจเข้าลึก ๆ สูด
กลิ่นของเย่ จื้อหวิ๋นที่ยังหลงเหลืออยู่ให้เต็มปอด

“ท้องหรอ ?” เย่ จื้อหวิ๋นเบิกตากว้าง เธอรู้สึกเหมือนพูดไม่


ออก ในหัวของเนี้ยหลี่คิดอะไรบ้าง ? เธอรู้สึกอยากจะทุบหัว
ของเนี้ยหลี่ แล้วเปิดดูว่าข้างในหัวของเขานั้นเป็นอย่างไร

“แม้แต่น้่าร้อนก็ถูกเตรียมไว้แล้วนี่ ถ้าอย่างนั้นเจ้าออก
จากห้องไปก่อนนะ ข้าจะอาบน้่า !” เนี้ยหลี่รีบแก้ผ้าออก แล้ว
โดดลงไปอ่างน้่าทันที เขารูส้ ึกสบายยยยยยมาก “ช่างสบายเสีย
จริง”

“อ๊ากกกกกกกกกกก” เย่ จื้อหวิ๋นอยากจะบ้าตาย ตั้งแต่ที่


เนี้ยหลีเ่ ข้ามา เขาก็ท่าเหมือนที่นี้เป็นบ้านของตัวเอง แค่เธอพึ่ง
อาบน้่าเสร็จ แล้วยังไม่ได้ปล่อยน้่าทิ้ง แล้วเนี้ยหลี่กล็ งไป
อาบน้่าต่อเนี่ยนะ ?
ยิ่งกว่านั้น เนี้ยหลี่ยังกล้าแก้ผ้าแบบไร้ยางอาย ต่อหน้าเธออีก
!

เย่ จื้อหวิ๋นรูส้ ึกจนปัญญา ถ้าเธอยังอยู่ตรงนี้ต่อไป เธอไม่ต้อง


ทนดูเนี้ยหลี่อาบน้่าหรอ ? เธอจึงเดินออกมาอย่างเลีย่ งไม่ได้

ที่ลานหน้าบ้าน เย่ จื้อหวิ๋นก่าลังสับสนอย่างมาก นิ้วเรียว


ยาวของเธอไล้ไปตามใบหญ้า ถึงแม้ว่าเธอจะโดนเนี้ยหลี่แกล้ง
ขนาดนี้ แต่เธอก็ไม่ได้รสู้ ึกทุกข์ใจอะไร ความรูส้ ึกที่เกิดขึ้นใน
หัวใจมันอธิบายไม่ถูก

“ไอ้คนบ้า !!” เย่ จื้อหวิ๋นคิดด้วยความโมโห

ปกติเธอเองก็ไม่ได้มีเพื่อนที่โรงเรียนมากนัก หลังจากที่
แม่เธอจากไป พ่อและปู่ของเธอก็ยุ่งอยู่กับธุระและงานต่าง ๆ
ดังนั้นพวกเขาจึงมาเยี่ยมเธอนาน ๆ ครั้ง นี่อาจจะท่าให้เธอรู้สึก
เหงา ถ้ามีใครสักเข้ามาเล่นกับเธอบ้าง เธอคงจะมีความสุขไม่
น้อย และถึงแม้ว่าเนี้ยหลี่จะชอบแกล้งเธอ แต่เธอก็ไม่รสู้ ึก
เกลียดเนี้ยหลี่เลย

เนี้ยหลี่นั้นเข้าใจความคิดของเย่ จื้อหวิ๋นเป็นอย่างดี ว่า


ท่าไมเธอจึงแสดงออกมาแบบนั้น เขาจะไม่ยอมให้เย่ จื้อหวิ๋นอ
ยู่ห่างจากเขาไปได้

กลิ่นของเย่ จื้อหวิ๋นที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในน้่าร้อนนั้น ท่า


ให้เนี้ยหลิ่คดิ ว่า มันคงจะดีไม่น้อยถ้าได้อาบน้่ากับเย่ จื้อหวิ๋นใน
อ่างนี้ แต่เนี้ยหลี่กร็ ู้ว่า หนทางยังอีกยาวไกลที่จะไปถึงสิ่งนั้น
เขาจะต้องพยายามอีกมาก

ณ ตอนนั้นเอง เสียงเคาะประตูก็ดงั มาจากหน้าบ้าน

เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู หน้าของเย่ จื้อหวิ๋นก็เจื่อนลง


ทันที เสียงเคาะประตูนี้จะเป็นของใครไปไม่ได้ นอกจากพ่อของ
เธอ

แล้วเนี้ยหลี่ก็ยังอยู่ในห้อง !! เขาจะต้องตายแน่ ๆ !!
เนี้ยหลี่เองก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเช่นกัน เขาก็รู้สึกได้ว่า
สิ่งที่เขาท่าอยู่มันออกจะเกินไปหน่อย เมื่อคิดถึงใบหน้าที่
เข้มงวดของพ่อของเย่ จื้อหวิ๋น เนี้ยหลี่ก็รสู้ ึกปวดหัวแล้ว....
บทที่ 93 - การเผชิญหน้า

ในชาติพบที่แล้วตอนที่เขายังมีชีวติ อยู่

เนี้ยหลีไ่ ม่ได้รู้จักติดต่อกับบิดาของเย่ จื้อหวิ๋น มากซัก


เท่าไร อย่างไรก็ตามเขานั้นรู้วา่ บิดาของนางนั้นเป็นคน ใจแข็ง
มองะมีบุคลิกลักษณะท่าทางที่แข็งกร้าวท่าให้เขาเป็นผู้ที่จดั การ
ได้ยากมากเนี้ยหลี่นั้นได้ยินมาจาก เย่ จื้อหวิ๋นว่า บิดาของนาง
เป็นคนที่เข้มงวดมากนับตั้งแต่ยังเป็นเด็กความสัมพันธ์ระหว่าง
พ่อกับนางจึงไม่ค่อยจะราบรื่นเท่าไรนัก

ถ้าเนี้ยหลี่ถูกพ่อตาพบในขณะที่ เนี้ยหลี่ มีสัมพันธ์กับลูกสาว


ของเขาตอนที่เนี้ยหลี่นั้นก่าลังเปลือยกายอยู่ ใครบ้างจะรู้วา่
เขาจักท่าเช่นไร

เนี้ยหลี่ครุ่นคิดอย่างสงบว่ามีเรื่องที่น่ากังวลใดหรือไม่ก็พบว่ามี
เรื่องที่ขว้างกางเกงออกไปเขาตกใจจึงเรียกจิตอสูรปิศาจเงา
พร้อมใช้ ความสามารถล่องหนซ่อนตัวจากการต่อสู้ มองะรีบ
รุดออกไปในเร็วพลัน
เขาจักต้องรีบออกไปจากที่นี่ในทันที ไม่เช่นนั้นจะไม่มโี อกาสอีก
แล้วทุกๆคนต่างรู้ว่า เจ้าเมือง นั้นเป็นถึงร่างทรงอสูรระดับ
แบล๊คโกลด์ มองะอยุ่ในอันดับที่สงู มาก จนใกล้เคียงกับระดับ
ต่านานเลยทีเดียว

ณ ขณะนี้ที่บริเวณลานหน้าตึก

ชายผู้แข็งแกร่งจนน่าเกรงขามก่าลังก้าวเดินอย่างสง่าผ่าเผยเข้า
มาภายในเขาสวมใส่ชุดคลุมสีเทา มองะผูกมัดผมซึ่งยาวจนถึง
แผ่นหลังใบหน้ามองดูเคร่งครึม แผ่กลิ่นอายอันเย็นเยือกจนจับ
ใจออกมาจากร่างกายขณะเดียวกันก็สร้างความรู้สึกบ่งบอกให้
ทราบถึงความสูงศักดิ์ในเวลาเดียวกันแผ่พุ่งออกมาจากรอบตัว
เขา

เย่ จื้อหวิ๋น กลัวจนยืนแข็งทื่อ นางไม่เคยคาดคิดเลยว่าบิดา


ของนางนั้นจักเข้ามาในเวลานี้ดังนัน้ นางจึงอยู่ในอาการตะลึง
มึนงงไปชั่วขณะถ้าบิดาของนางรู้ว่าเนี้ยหลี่กา่ ลังอาบน้่าในห้อง
ของนาง ใครก็รู้ว่า เขาอาจจะต้องท่าอะไรบางสิ่งเป็นแน่
จืออวิ้น เจ้ามองดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลยนี่ เจ้าเจ็บป่วยประการใด
หรือไม่?” เย่ ซ่ง ขมวดคิ้วเล็กน้อยมองะเอ่ยวาจาถาม

“มะ.........ไม่มี” เย่ จื้อหวิ๋น รีบส่ายหน้าของนาง หัวใจ


นางตอนนี้นั้นสั่นระรัวจนไม่สามารถห้ามปรามได้ ถ้าเนี้ยหลี่รู้
ว่าบิดาของนางก่าลังเข้ามาในห้องเขาจักต้องซ่อนตัวเพื่อไม่ให้
ถูกพบ ถ้าเขาถูกพบ บิดาของนางจะโกรธแล้วเขาจักต้องตกอยู่
ในอันตรายอย่างแน่นอน

ณ เวลานี้ เย่ จื้อหวิ๋นก่าลังกังวล เป็นห่วงความปลอดภัยของ


เนี้ยหลี่

ทันใดนั้น เย่ ซ่ง รู้สึกเหมือนว่ามีบางสิ่งผิดปกติไป เขาพบว่า


“ท่าไมจึงมีกลิ่นอายของบุคคลอื่นอยู่ในสถานที่เช่นนี้?”

เมื่อได้ยินวาจาเย่ ซ่ง เย่ จื้อหวิ๋นก็รู้สึกตกใจขึ้นทันที นางรู้


ว่าบิดาของนางนั้นเป็นถึงร่างทรงอสูรระดับแบล๊คโกลด์ ซึ่งมีขั้น
ที่สูงมากจนเหลืออีกเพียงขั้นเดียวจะก้าวเข้าสู่ระดับต่านานแล้ว
ดังนั้นประสาทความรู้สึกของเขาจึงช่างเฉียบแหลมยิ่งนัก

“มันไม่มสี ิ่งใดหรอก? หนูอยู่ที่นี่คนเดียว!” เย่ จื้อหวิ๋น รีบ


ส่ายมือปฏิเสธพร้อมเอ่ยวาจา มองดูกังวลยิ่งนัก
เย่ ซ่งช่าเลืองมองด้วยสายตาอันเย็นชา ไปยังเย่ จื้อหวิ๋น ก็รู้ว่า
นางก่าลังพูดจาโกหก จากนั้นกวาดสายตาไปรอบๆ
ทันที พบว่าไม่เพียงแต่มีกลิ่นอายของบุคคลอื่นอยู่ที่นี่ มันคือ
ผู้ชาย เย่ ซ่งถอนหายใจพร้อมปลดปล่อยพลังวิญญาณอัน
รุนแรงแผ่กระจายไปทั่วเป็นบริเวณกว้างจนถึงบริเวณลานหน้า
ตึกเลยทีเดียว

ในขณะนั้น เนี้ยหลี่ ที่เตรียมการจะหลบหนีออกจากลานหน้า


ตึก ก็รู้สึกถึงแรงกดดันของพลังวิญญาณ แผ่พุ่งมาจากบริเวณ
ฟากฟ้า จนท่าให้เขานั้นไม่กล้าที่จะขยับกายเคลื่อนไหว
ใดๆ สิ่งที่เขากลัวก็พลันปรากฏเป็นจริงขึ้นมาแล้ว เขาเก็บ
ซ่อนกลิ่นอายทั้งหมดโดยปลดปล่อยพลังวิญญาณสร้างเขต
แดน ห่อหุ้มเร้นกายเข้าไปในดวงจิตอสูรปิศาจเงา

เย่ ซ่ง แผ่พลังวิญญาณพวยพุ่งออกรอบพื้นที่ซ้่าแล้วซ้่าเล่า


หลังจากนั้นเขาก็ตรวจสอบ พบบริเวณที่เนี้ยหลี่อยู่

เนี้ยหลี้นั้นรู้สึกไม่ค่อยพึงพอใจเท่าใดนัก ที่ในชาติพบนี้ เขาไม่


ค่อยจะมีเวลาบ่มเพาะพลังวิญญาณมากนัก นอกจากนี้พลัง
วิญญาณเขายังเป็นเพียงร่างทรงอสูร ระดับเงิน ขั้นสาม
ดาว ถ้าหากเขามีความสามารถถึงระดับโกลด์มองะได้ปรับแต่ง
เปลี่ยนแปลงรูปแบบความสามารถในการล่องหน ของจิตอสูร
ปิศาจเงา เขาจักไม่ถูกตรวจพบได้โดยง่ายเป็นแน่

ณ ตอนนั้น เย่ ซ่งได้ตรวจพบสถานที่ๆเขาอยู่เรียบร้อยแล้ว

“มันมีความสามารถในการล่องหนอยู่จริง ข้าไม่คาดคิด
ว่าเขาจะมีความสามารถทีม่ ีอยู่เพียงน้อยนิดเช่นนี้ เขาไม่ได้เป็น
ผู้ที่มีความฉลาดเพียงน้อยเป็นแน่นอน!” เย่ ซ่ง ถอน
หายใจ เขาเป็นผู้ทมี่ ีประสบการณ์การต่อสู้มาหลากหลาย แต่
เขากลับรูเ้ พียงน้อยนิดถึงความสามารถในการล่องหน คลื่น
พลังวิญญาณที่แผ่ออกมาเป็นเส้นสายท่าหน้าที่เหมือนดั่งเชือก
ที่ร้อยรัด เนีย้ หลีจ่ นแน่นขึ้นเรื่อยๆ

ภายใต้การร้อยรัดของห่วงเชือกจากแรงพลังวิญญาณช่างมี
ประสิทธิภาพมากมายนัก ความสามารถในการล่องหน ของ
เนี้ยหลี่กเ็ ริ่มหายไป พลันค่อยๆมองเห็นร่างกายของเขาเด่นชัด
ปรากฏเพิม่ ขึ้นเรื่อยๆ

บูมม!
แรงพลังวิญญาณของ เย่ ซ่ง ช่างโหดร้ายรุนแรงยิ่งนัก จน
สามารถร้อยรัดเนี้ยหลี่พร้อมทั้งฟาดลงกับพื้นปฐพีจนเกิดรอย
แยกขึ้นที่ผิวหน้าของดินได้เลยทีเดียว

“ อัก ” เนี้ยหลี่กระอักเลือดออกมา ร่างกายมองะอวัยวะ


ภายในของเขาบอบช้่าได้รับบาดเจ็บสาหัสจากผลกระทบของ
แรงกระแทก เย่ ซ่ง ช่างไร้เมตตาปราณีนัก ความแข็งแกร่ง
ของเขานั้น สามารถฆ่าเนี้ยหลี่ให้ตายได้ในการโจมตีเพียงครั้ง
เดียวได้เลย

“เนี้ยหลี่ เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?” เห็นภาพเหตุการณ์นี้ เย่ จื้


อหวิ๋น นางรีบวิ่งไปที่ด้านข้างของ เนี้ยหลี่ ในทันทีพร้อมทั้ง
ช่วยพยุงตัวเขาขึ้น นางขมวดคิ้วด้วยความโกรธพร้องทั้งจด
จ้องไปยัง เย่ ซ่ง“ท่านพ่อท่าร้ายเพื่อนของหนูช่างไม่มีเหตุผลยิ่ง
นัก?”

“เพื่อน?” เย่ ซ่งปล่อยลมหายใจอย่างรุนแรง พร้อมจดจ้อง


มายัง เย่ จื้อหวิ๋นด้วยสายตาอันเกรี้ยวกราด พร้อมทั้งเอ่ย
วาจาว่า “จงอธิบายให้ข้าเข้าใจว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่?”

“ข้ามีนามว่า เนี้ยหลี่ ยินดีทไี่ ด้พบกับท่านเจ้าเมือง” เนี้ยห


ลี่เริม่ ท่าการใช้พลังวิญญาณของเขารักษาอาการบาดเจ็บให้
ทุเลาขึ้นทีละน้อย พร้อมทั้งเอ่ยวาจามองะป้องมือค่านับ ไม่ว่า
ยังไงเขานั้นยังคงเป็นบิดาของเย่ จือ้ หวิ๋น นอกจากนี้ยังเป็น
พ่อตาของเขาในอนาคต การพบปะกันครั้งแรกนีม้ ันชั่งน่าอาย
เล็กๆเลยจริงเชียว

“เนี้ยหลี?่ ดูเหมือนว่าเจ้ามีสิ่งใดที่ปิดบังข้าอยู่ เจ้าคือเด็กที่


ได้รับการคัดสรรค์ให้มาอยู่ยังต่าหนักของเจ้าเมืองใช่หรือไม่?
เจ้ายังคงสนทนาสิ่งใดกับลูกสาวของข้ากัน? เย่ ซ่ง มองเนี้ยหลี่
ด้วยสายตาอันเย็นชา เนี้ยหลีซ่ ึ่งตอนนี้ร่างกายท่อนล่างของเขา
นั้นสวมใส่เพียงกางเกง ส่วนท่อนบนนั้นปกคลุมด้วยเสื้อตัวน้อย
สายตาอันเย็นเยือกของเย่ ซ่งนั้นจับจ้องมอง มายังเนี้ยหลีม่ อ
งะเย่ จื้อหวิ๋น

“แน่นอน ข้ามาที่นี่เพียงเพื่อจักเยี่ยมเยือนเพื่อนร่วมชั้นเรียน
เมื่อได้รู้ว่านางนั้นอยู่ที่นี่ข้าจึงมาเพื่อจะพบเท่านั้น” เนี้ยหลี่ ส่ง
รอยยิ้มอันขื่นขม พร้อมเอ่ยวาจา

“เยี่ยมเยือน? เจ้าต้องการสิ่งใดกันจึงท่าให้ต้องเปลื้องผ้า
ในการเยี่ยมเยือนเช่นนี?้ เย่ ซ่งปล่อยลมหายใจอันกราด
เกรี้ยว มันเป็นเหมือนดั่งสายฟ้าที่ฟาดลงมายังกลางใจของ
เนี้ยหลี่ เมื่อจับจ้องมองมายังเนี้ยหลี่ใบหน้าอันเคร่งขรึมของ
เขาไม่ได้ลดลง “จืออวิ้น เจ้าช่างท่าให้ข้าผิดหวังยิ่งนัก ข้าไม่
เคยคาดคิดเลยว่าเจ้าจักท่าลายชื่อเสียงของตระกูลเราลงได้”

เมื่อได้ยินค่ากล่าวของเย่ ซ่ง นางพลันสะดุ้งตกใจ


เล็กน้อย แววตาของนางนั้นช่างมองดูเศร้า

เมื่อมองมายังเย่ จื้อหวิ๋น นางนั้นช่างเศร้านัก เนี้ยหลี่แหงน


หน้าขึ้นจองมองไปยังเย่ ซ่งพร้อมเอ่ยวาจา “ ท่านลุง โปรด
อย่าได้เข้าใจผิด ไม่มสี ิ่งใดระหว่าง จืออวิ้นมองะข้า ถ้ามีปันหา
ใดๆ ทุกอย่างนั้นให้ตรงมาหาข้า อย่าได้โทษนางเพียงคน
เดียว”

หลังจากได้ยินค่ากล่าวของเนี้ยหลี่ เย่ ซ่งนั้นพลันทวีความโกรธ


ยิ่งกว่าเดิม เขาก้าวย่างมายังเนี้ยหลี่อย่างช้าๆ ละอองฝุ่นผงธุลี
มองะศิลาก้อนเล็กๆในลานกว้าง ล่องลอยขึ้นในเวหา ความคั่ง
แค้นของระดับแบล๊ค โกลด์ นั้นช่างเต็มเปีย่ มไปด้วยความน่า
กลัวยิ่งนัก เนี้ยหลีม่ องะเย่ จื้อหวิน๋ ต่างรู้สึกถึงกลิ่นอายของ
ความกดดันที่แผ่พุ่งออกมาจากร่างกายของเขา

“ตรงมาที่เจ้าอะไรกัน?” ดูเหมือนเจ้ายังกระดูกอ่อนนัก กลับ


ช่างกล้าท่าลายชื่อเสียงของตระกูลหิมะเหมันต์ จงอย่าฝันว่า
เจ้าจักมีชีวิตรอดไปได้” เย่ ซ่งขยับแขนขวาไปมาก็พลันปรากฏ
คลื่นของแรงพลังวิญญาณพุ่งตรงไปยังเนี้ยหลี่

เนี้ยหลีส่ ีหน้าเปลี่ยนไปในทันที เขาคิดว่าเย่ ซ่งเพียงจะจับกุม


มองะตบตีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เคยคาดคิดเลยว่าเย่ ซ่งจัก
เป็นคนเลือดเย็นได้ถึงเพียงนี้ ความแข็งแกร่งของเขานั้นชั่ง
มากนัก ไม่มีทางเลยที่เขาจักสามารถต่อสู้กับผู้ซึ่งอยู่ในระดับ
แบล๊คโกลด์ ได้ ถ้าเขานั้นสามารถที่จะเพิ่มพลังวิญญาณให้อยู่
ในระดับ โกลด์แม้เพียงขั้นแรก ก็จักมีโอกาสต่อกรได้แล้ว

ถ้าข้าสิ้นชีพลงตรงนี้ ทุกสิ่งที่ท่ามานั้นต้องพลันพังมลายลงไป
เป็นแน่!

ประชาชนในนครรุ่งโรจน์ทั้งหมดยังรอคอยความช่วยเหลือจาก
ข้า!

บูม

พลังจากเขตแดนวิญญาณของเขากระแทกไปยังเนี้ยหลี่ จนลอย
ละลิ่วพร้อมทั้งมีเลือดพุ่งกระจายออกจากมุมปากไปกระแทก
เข้ากับก่าแพงอย่างรุนแรงก่อนที่เขาจักล้มตัวลง
“ด้วยความแข็งแกร่งเพียงเล็กน้อยของเจ้า กลับกล้าอวด
ดี ในต่าหนักเจ้าเมืองแห่งนี้เชียวหรือ? เย่ ซ่ง ก้าวขาขวา
ออกมาก็พลันมีคลื่นแรงพลังวิญญาณพวยพุ่งโหมกระหน่่า
ออกมา

“ท่านพ่อ ไม่นะ!” เมื่อเห็นฉากนี้ หยดน้่าตาพลันไหลริน


ลงมาอาบแก้มของเย่ จื้อหวิ๋น นางกระโจนทะยานออกมา
ปกป้องเนี้ยหลี่ พลังวิญญาณของนางพวยพุ่งออกมามองเห็น
เป็นสายกลับกลายมาเป็นรูปลักษณ์ราชินีลมหิมะเหมันต์ก็พลัน
ปรากฏบนเรือนร่างของนาง จากนั้นลมหิมะพัดปกคลุมไปทั่ว
ฟากฟ้า แปรเปลี่ยนกลายมาเป็นพายุหิมะ ทรงพลานุภาพยิ่ง
นัก พัดโหมกระหน่่ารุนแรงก่อร่างกลายเป็นก่าแพงปกป้องอยู่
ด้านหน้าให้แก่นางนั้น

บูม

ภายใต้แรงโจมตีจากพลังวิญญาณของเย่ ซ่งก่าแพงหิมะก็พลัน
มลายกระจัดกระจายออกไปสิ้น

ช่างมีความแข็งแกร่งแตกต่างกันมากมายยิ่งนัก แม้เย่ ซ่งจัก


ไม่ได้เรียกดวงจิตอสูรของเขาออกมา ยังสามารถพิชิตเนี้ย
หลี่มองะเย่จื้อ หวิ๋น ที่ผสานรวมกับดวงจิตอสูรเรียบร้อยแล้ว
อย่างง่ายดาย

“ถึงกับรวมร่างกันราชินีหิมะเหมันต์ได้จริงๆ มองะยังกล้า
ต่อกรกับข้าที่เป็นบิดาของเจ้า ดูเหมือนเจ้าจักพัฒนาขึ้นมาก
นัก” เย่ ซ่งมองด้วยสายตาอันหนาวเหน็บไปยัง เย่ จื้อหวิ๋น

เย่ ซ่ง ปลดปล่อยรังสีสังหารอันน่ากลัวพวยพุ่งออกมาจาก


ร่างกายของเขา

กลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้นเย่ จื้อหวิน๋ รู้สึกไม่คุ้นเคยเลย นาง


ร้องไห้จนน้่าตาไหลรินอาบแก้มพร้อมทั้งเอ่ยวาจา “ท่าน
พ่อ ข้าขอวิงวอนต่อท่านโปรดกรุณาปล่อย เนี้ยหลีไ่ ปเถิด ถ้า
ท่านสามารถปล่อยเขาไปได้ หนูยนิ ยอมรับโทษทัณฑ์ทุกอย่าง
จากท่าน”
เมื่อมองเห็นการแสดงออกด้วยความเย็นชาบนสีหน้าของเย่ ซ่ง
เนี้ยหลี่กเ็ ช็ดเลือดที่มุมปาก พร้อมลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ คลื่น
ของพลังวิญญาณพวยพุ่งหมุนวนขึน้ รอบๆตัวเขา จากนั้นพลัน
แปรเปลีย่ นกลับกลายมาเป็นรูปลักษณ์ ของปีกขนาดใหญ่บน
แผ่นหลังด้วยพลังวิญญาณ นอกจากนี้ปีกจากด้านหลังของ
เนี้ยหลี่ ยังมีขนาดใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับปีกของ เสี่ยวหนิงเอ๋อ
มากนัก นอกจากนี้ยังมีถึงสามคู่

ปีกขนาดใหญ่ทั้งหก กระพือช้าๆอยู่ด้านหลัง แผ่คลื่น


พลังวิญญาณเข้าเผชิญหน้ากับ เย่ ซ่ง

“เหตุผลเดียวที่ข้าไม่ต่อสู้ เพียงเพราะว่าท่านคือบิดาของ
จืออวิ้น หาใช่เพราะข้าเกรงกลัวท่านไม่....” ค่าพูดอันเหน็บ
หนาวค่อยๆเปล่งออกจากปากของเนี้ยหลี่อย่างช้าๆ สายตา
ของเขาช่างแหลมคมประดุจใบมีดนัก

ณ ตอนนี้นั้น เนี้ยหลี่ ลอยนิ่งอยู่กลางเวหา มองดูดจุ ดั่งคล้าย


กับเทพพระเจ้าลงมาจุติก็ไม่ปาน ดวงตาทั้งคู่ของเขามองดู
เศร้าหม่นหมอง พร้อมทั้งแผ่กลิ่นอายอันน่ากลัวออกมารอบตัว

บทที่ 94 - สัญญาปีหนึ่ง

"จื้ออวิ้น , หลบไป!" เนี่ยลี่ ตะโกน

เนี้ยหลี่ปล่อยพลังภายในที่แท้จริงออกมา จนพลัง
วิญญาณพุ่งถึงขีดสุด..

เขารู้สึกถึง พลังอันแข็งแกร่งออกมาจากร่างของ เนี้ย


ลี่ เย่ ซ่งจ้องมองอย่างประหลาดใจ โดยไม่อาจละสายตา.

เนี้ยลี่ เจ้าอายุ เท่าไหร่กนั แน่ ? การที่พลังจะก้าว


มาถึงในระดับนีไ้ ด้, และสะกดพลังนี้เอาไว้ พรสวรรค์ของเค้า
มักท่าให้ทุกคนประหลาดใจ แต่ถึงอย่างนั้น,เค้าก็ยังมองเนี่ยลี่
ด้วยสายตาอันเย็นชา.
"เนี้ยหลี่ ,ไม่นะ ได้โปรดหยุด เถอะนะทั้งสองคน!" เย่ จื้
อหวิ๋น ตะโกนห้ามด้วยน้่าตาที่เต็มใบหน้า.

เนี้ยหลี่ มองไปที่หน้า เย่ ซ่งด้วยสายตาที่เย็นชา,แล้ว


พูดขึ้นว่า,"คนอย่างท่าน ยังคู่ควรจะเป็นพ่อคนอีกเหรอ?

ตั้งแต่เด็ก, ท่านเคยห่วงใย จื้ออวิ้นบ้างไหม?ท่านได้


แต่สั่งให้เธอฝึก ฝึก ฝึก แล้วอะไรบ้างที่ท่านได้ท่าเพื่อเธอ?ใน
ใจของเธอมีแต่ความเหงา ท่านเคยรับรู้บ้างหรือเปล่า?

ในโรงเรียน เธอไม่มีแม้แต่เพื่อนแท้สักคน.

ในที่พักของท่านเจ้าเมือง ไม่ว่าจะเป็นท่าน หรือ เจ้าแก่ผายลม


เย่ โม่ ทุกคนก็วุ่นอยู่แต่กับเรื่องของตัวเอง.
ท่านไม่เคยแสดงความห่วงใยแม้เพียงสักเล็กน้อยให้กับ จื้ออวิ้น!

ข้ากับจื้อ หวิ๋น เรา เป็นเพียงแค่เพื่อนที่ดีต่อกัน.


แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างข้ากับจื้ออวิ้น, สามารถท่าให้ท่าน
สามารถฆ่าคนได้

โดยทีไ่ ม่ได้รเู้ รื่องอะไรเลย? แล้วท่านเคยสนใจบ้างไหม


ว่า จื้ออวิ้น จะรู้สักยังไง? ว่าสิ่งที่ท่านห่วงใยมีเพียงแค่ชื่อเสียง
ของ [ตระกูลหิมะเหมันต์]!"

"เจ้าเด็กเหลือขอ สิ่งที่เจ้าพูดมา ล้วนแสวงหาความตาย


มาสู่เจ้า! อะไรที่ท่าให้เจ้ากล้ามาสามหาวต่อหน้าข้าอย่างนี้?!"
เย่ ซ่งโกรธยิ่งกว่าเดิม
เขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างรุนแรง และ มีคลื่น
พลังวิญญาณ ออกมาจากร่างกายของเขา, พลังวิญญาณ ค่อย
ๆ รุนแรงขึ้น และกระแทกเข้าใส่เนี่ยลี่ จากทุกทิศทาง

บูมม!

เนี้ยลี่ ปลิวไปข้างหลัง.

บูมม! บูมม! บูมม!'

พลังวิญญาณของเนี้ยลี่ ถูกโจมตีกระหน่่าอย่างต่อเนื่อง
จากพลังวิญญาณของ เย่ ซ่ง, ก่อให้เกิดการระเบิดกลางอากาศ.
เป็นอีกครั้งที่ร่างกายของเนี้ยลี่กระเด็นขึ้นไปบนฟ้า.
และมีบาดแผลทั่วไปทั้งร่างกายของเนี้ยหลี่.

"ถ้าหากว่าข้านั้นกลัวตาย, ข้าก็คงเป็นเพียงคนขี้
ขลาด. แม้ว่าข้าจะตาย ข้าก็ยังจะพูดมันเช่นเดิม! ท่านเป็นเจ้า
เมืองแล้วมันเป็นไงหล่ะ? มันไม่ได้อยู่ในสายตาของข้าเลย ไม่
ว่าท่านจะเป็นร่างทรงอสูร ระดับ แบล็คโกลด์, หรืออย่างไร?

ถ้าหากข้ามีเวลาสักปีหนึ่ง ข้าสามารถที่จะชนะท่านได้! แล้วพ่อ


ของท่านจะได้เห็นการมีอยู่ของร่างทรงอสูรระดับต่านาน คน
ต่อไป!" เนี้ยลี่ พูดทั้งที่ร่างกายของเค้าบาดเจ็บไปทั้งตัว.

เนี้ยหลีล่ ืมตาแทบไม่ขึ้น เขาถ่มน้่าลายแล้วพูดว่า,


"ให้ตายเหอะ, ถึงท่านจะอยากต่อสู้กับข้าตอนนี,้ แม้ว่าข้าจะ
ตาย, ข้าก็จะกลับมา ด้วยเคล็ดคืนกลับวิญญาณ เพื่อสั่งสอน
บทเรียนแก่ท่าน!"
ถ้าหากใช้ เคล็ดคืนกลับวิญญาณ ทั้งสองฝ่ายก็
จะต้องบาดเจ็บหนัก. เนี้ยลี่ ไม่ได้ต้องการที่จะท่าให้ เอีย จื้
อหวิ๋น หัวใจสลาย. เพราะถึงอย่างไรเค้าก็คือพ่อของเธอ.

"หนึ่งปีงั้นเหรอ?"

เจ้าคิดว่าจะชนะ ร่างทรงอสูรระดับ แบล็คโกลด์ ได้


ภายในหนึ่งปีเนี่ยนะ? เอีย ซ่งมองไปที่เนี้ยลี,่ อย่างเย็นชาและ
ขบขัน, เค้าแสยะยิ้มอย่างเหยียดหยาม

"ท่าไมหล่ะ?"
ท่านกล้าลองดูไหม" เนีย้ ลี่ ใช้มือทั้งสองข้างจับที่
สะโพกของเค้า. ตอนนี้ความอดทนของเนี้ยหลี่ถึงขีดจ่ากัด
แล้ว แล้วชี้ไปที่หน้าของ เอีย ซ่งแล้วพูดว่า

"ให้เวลาข้าหนึ่งปี แล้วข้าจะเหยียบท่าน นอนจมใต้ฝ่าเท้า


ของข้า"

"หมดเรื่องที่จะพูดแล้วใช่ไหม. ถ้าหากเจ้าสามารถ
เอาชนะข้าได้ภายในหนึ่งปี, ข้าก็จะไม่เอาเรื่องกับสิ่งที่เกิดขึ้นใน
วันนี้.
ส่วนเจ้า , เอีย จื้อหวิ๋น!" เอีย ซ่งกวาดสายตามายัง เอีย จื้
อหวิ๋น, ดวงตาของเค้ามองเธออย่างอ่อนโยน แต่ก็กลับพูดด้วย
ความเย็นชาว่า,

"ถ้าหากภายในปีนี้ เจ้าไม่สามารถเลื่อนระดับไป
จนถึงระดับโกลด์ ได้, เจ้าทั้งคู่จะไม่ได้รับการอนุญาตให้เจอกัน
ได้อีก! "
เอีย ซ่งกระแทกพลังวิญญาณเข้าใส่ร่างของเนี่ยหลี่, ท่าให้
เนี่ยลี่กระเด็นไปอีกครั้ง. แล้วก็ค่อย ๆ หันหลังเดินจากไป
พร้อมกับพูดว่า, "อย่าลืมสิ่งที่ข้าพูดในวันนี้"

บูมม!

พลังวิญญาณของเนี่ยหลี่ ถูกกระแทกกระจัดกระจาย .

อวัยวะภายในของเขาได้รับบาดเจ็บบางส่วน, แต่ก็
ไม่ได้ส่งผลกระทบร้ายแรงถึงชีวิต. เขาถอนหายใจอย่างรุนแรง,
ในบางเวลา, เค้ารู้สึกเหมือนความตายก่าลังจับจ้องเขาอยู่.

การโจมตีครั้งสุดท้ายของ เอีย ซ่ง, มันรุนแรงกว่า


พลังของระดับ แบล็คโกลด์ ทั่ว ๆ ไป , เอีย ซ่งก้าวไปถึงระดับ
สูงสุดของ ระดับ แบล็คโกลด์ แล้ว, ก่าลังจะขึ้นสูร่ ะดับ ต่านาน

"พักได้อย่างสบายใจแล้วสินะ , ฉันจะไม่มีวัน คืน


ค่าพูดของตัวเอง เนี่ยลี่มองไปที่ขา้ งหลังของเอีย ซ่งแล้วพูด
อย่างหนักแน่น.

เนี่ยหลีม่ องดู เอีย ซ่งค่อย ๆ เดินออกไป, แล้วเนี่ยลี่ ก็รสู้ ึก


สงสัยอะไรบางอย่าง

เดิมคิดว่าเอีย ซ่งจะฆ่าเขาเพื่อปกป้องชื่อเสียงของ [ตระกูล


หิมะเหมันต์]เขาไม่คิดเลยว่าเอีย ซ่งจะปล่อยให้เค้ารอดกลับไป
แบบนี้
บทที่ 95 - เจ้าเมืองผู้น่าเห็นใจ

เอีย จื้อหวิ๋นนิ่งเงียบแล้วเดินไปส่งเนี้ยลี่ที่ประตูทางที่
เชื่อมต่อไปยังลานกว้าง
หลังจากนั้น เอีย จื้อหวิ๋น ได้ก้มหน้าแล้วพูดขึ้นมาว่า

“เนี้ยหลี่ , จากนี้ไป อย่าได้สนใจข้าอีกเลย”

“ท่าไมหล่ะ” เนี้ยหลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่ถามเอีย จื้อหวิ๋น

เอีย จื้อหวิ๋นเงยหน้าขึ้นมามองเนี้ยลี่ ด้วยดวงตาอัน


สดใสที่ถูกแต่งแต้มด้วยความโศกเศร้า และได้ถามขึ้นมาว่า

“หรือเจ้าไม่ได้กลัวตาย ? เจ้าไม่ได้กลัวว่าพ่อของข้าจะฆ่าเจ้า
หรือไง?
“ฆ่าข้างั้นเหรอ? ถ้าพ่อของเจ้าต้องการจะฆ่าข้า , เค้าคงท่าไป
แล้วหล่ะ”

ดวงตาของเนี้ยลีม่ องลึกเข้าไปในตาของเธอ

“หรือเพียงแค่ไล่ข้าออกไปจากคฤหาสน์ของท่านเจ้า
เมือง ถ้าหากไล่ขา้ ออกไป ข้าเองก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
พวกสมาคมทมิฬ จะไม่มีทางให้ข้ารอดออกไป แต่ว่า พ่อของ
เจ้าก็ไม่ได้ท่าเช่นนั้น”

“แล้วท่าไมพ่อข้าไม่ท่าเช่นนัน้ ”

ภายในดวงตาของ เอีย จือ้ หวิ๋น เหมือนมีประกายแห่ง


ความสงสัยเนี้ยลี่ มองไปตามทางที่เอีย ซ่งเดินจากไป ข้างหลัง
ของเค้าเหมือนกับหอคอยเหล็ก แต่ก็เต็มไปด้วยความเหงา
และอ้างว้าง ราวกับตะวันที่ก่าลังจะลับขอบฟ้า
ตอนนั้นเอง เนี่ยลี่ก็ได้เข้าใจว่า สิง่ ที่ เอีย ซ่งพูดไว้ หมายความ
ว่าอย่างไร

“มันเป็นเรื่องของลูกผู้ชายสินะ แต่ช่างเถอะ , ตอนนี้เจ้า


ต้องฟังข้าก่อน”

ตอนนี้เนี้ยหลีเ่ ข้าใจทุกสิง่ แล้ว ไม่ใช่ว่าเอีย ซ่งจะไม่ได้


ห่วงเอีย จื้อหวิ๋นแต่สิ่งที่ เอีย ซ่งแบกรับไว้บนไหล่มันหนักหนา
มากเกินกว่าที่จะจินตนาการได้

“ท่าไมข้าต้องฟังเจ้า?” เอีย จื้อหวิ๋นบุ้ยปากด้วยความไม่


พอใจ เธอคิดว่าวันนี้มันมีเรื่องที่ไม่ถูกต้องมากเกินไปแล้วแม้ว่า
ความสัมพันธ์ของเธอกับพ่ออาจจะไม่ได้ใกล้ชดิ กันมากนัก ถึง
จะไม่ค่อยได้พูดคุยสนิทสนมกันแบบเหมือนพ่อลูกทั่ว ๆ ไป แต่
นี่เป็นครั้งที่ที่เธอถูกพ่อต่าหนิ.
เอีย จื้อหวิ๋นจึงรู้สึกเจ็บปวดในใจ แต่ในเวลานี้เธอกลับดูงดงาม
เป็นพิเศษ

“ค๊อก ค๊อก!” เนี้ยหลี่ ไอออกมาเป็นเลือด เค้ายิ้มออกมา


เล็กน้อย แล้วพูดว่า

“เจ้าส่งข้าแค่นี้ก็พอแล้ว”

“อาการเจ้าแย่ลงใช่ไหม” เธอมองเนี้ยหลีเ่ พื่อสังเกตอาการ,เอีย


จื้อหวิ๋น รีบสอบถามด้วยความเป็นห่วง ,และรีบประคองเนี่ย
เลี่ยไว้

“ข้าได้รับบาดเจ็บมากกว่าที่คิด ข้าคงต้องใช้เวลาพัก
รักษาตัวสักสองวัน” เนี่ยลี่ พูด แล้วแกล้งเอามือไปจับที่
หน้าอกตัวเอง

เธอมองหน้าที่ของเนี้ยหลี่. เธอจ้องตาเขม็งแล้วคิดว่า จะมีใคร


หยาบช้าไร้ยางอาย ได้มากกว่าเนีย้ หลี่อีก?
ในหัวของเค้าคิดอะไรอยู่บ้าง?

หลังจากที่เค้าได้รับบาดเจ็บจากพ่อของเธอ, ท่าไมเค้ายัง
ต้องการที่จะพักอยู่ที่นี่อีกสองวัน?หรือว่าในหัวของเนี่ยลี่จะมีแต่
ของเหลวยังงั้นรึ?

ท่าไมเค้าไม่กลัวว่าพ่อเธอจะโกรธแล้วมาฆ่าเค้าเลย?

ในตอนนี้ ณ มุมหนึ่งของคฤหาสน์ของเจ้าเมือง เอีย


ซ่ง กับกู้ เหยียน ยืนอย่างองอาจ หนึ่งในนั้นคือเอีย ซ่ง ที่เดิน
ออกมาจากสวนของเอีย จื้อหวิ๋นส่วนอีกคนก็คือประธานกู้เห
ยียนของสมาคมปรุงยา.

“ท่านเจ้าเมือง , ดูเหมือนท่านจะท่าให้เขาบาดเจ็บหนัก
เกินไปแล้ว หากอาจารย์ของเค้าเกิดความไม่พอใจ
ขึ้นมา อาจจะเป็นปัญหาต่อเมืองกลอรี่ของเราขึ้นมาก็เป็นได้”
กู้เหยียน ยิ้มอย่างขมขื่นขณะที่ก่าลังพูดคุยกับเอีย ซ่ง
“ข้าท่าเกินไปอย่างนั้นเหรอ?” ความรูส้ ึกที่อยากฆ่า ยังคง
ออกมาจากสายตาของเอีย ซ่ง

“มันดีแค่ไหนแล้วที่ข้ายังไว้ชีวิตมัน ไอ้เด็กเหลือขอ
นั้น บังอาจมาหาลูกสาวข้าในคฤหาสน์ของข้า แม้กระทั่ง
ท่าลายความบริสุทธิ์ของลูกสาวข้าไป”

กู้เหยียนท่าอะไรไม่ถูกเหมือนกัน. เพราะเนี้ยหลี่ก็ท่า
เกินไปจริง ๆ ส่าหรับเรื่องนี้. มีอะไรกับลูกสาวของท่านเจ้า
เมืองในคฤหาสน์ของเค้า เรื่องแบบนี้ คงมีเนี้ยหลีค่ นเดียวที่กล้า
ท่า ท่านเจ้าเมืองไม่ฆ่าเค้าก็นับว่าโชคดีแล้ว.

“แล้วท่าไมท่านเจ้าเมืองถึงไม่โยนเค้าออกไปข้างนอกคฤหาสน์
ล่ะ?”

"จะให้ข้าโดยเขาออกไปยังไง? เจ้าเด็กนั่นรวมร่างกับจิต
วิญญาณอสูรระดับพระเจ้า .มีความสามารถในการต่อสู้ที่ลึกล้่า.
แม้แต่ร่างทรงอสูรระดับทอง ยังไม่รู้ตัวตนของเขา สามารถ
ไปใหนมาใหนในคฤหาส์ของข้าได้ นอกจากนี้ ข้าไม่รู้ว่าเค้าไปที่
ห้องลูกสาวข้าได้อย่างไร,
เจ้าเด็กเหลือขอ นั่นท่าได้ง่ายเหมือนกับเป็นเรื่องเด็ก ๆ! นั่นมัน
ท่าให้ข้าแทบบ้า หรือข้าจะต้องเอาลูกสาวข้าไปขังในในห้องลับ
สักห้อง? “เอีย ซ่ง ถอนหายใจอย่างแรง

“เด็กคนนีส้ ามารถเป็นร่างทรงอสูรระดับโกล ได้ตั้งแต่


อายุยังน้อยนอกจากนี้ เค้ายังมีสตู รยาวิเศษ ที่คอยสนับสนุน
เมืองกลอรี่ เมืองนี้ ยังต้องการพึ่งเค้าอีกในการปกป้องใน
อนาคต เพื่อความรุ่งเรืองของเมืองกลอรี่ ข้าถึงต้องอดทนอด
กลั้นขนาดนี้!”

หลังจากที่ได้ยินค่าพูดของเอีย ซ่ง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร กูเ้ ห


ยียนรูส้ ึกเหมือนฟังเรื่องตลก ที่ท่านเจ้าเมืองผู้นา่ เกรงขาม ท่า
อะไรไม่ถูกกับเด็กอายุ 13 ปี

“อายุแค่สิบสามปี แล้วยังกล้าที่จะท้าทายท่าตัวเจ้าชู้ใน
คฤหาสน์ของเจ้าเมือง อะไรที่ท่าให้เจ้าเด็กนี่บ้าบิ่นขนาดนี้?”

“ในมุมมองของข้า หาก จื้ออวิ้น จะเจริญรอยตามท่าน นางคง


จะต้องเผชิญความยากล่าบาก”
“จากที่ข้าได้รู้มาจนถึงตอนนี้ เจ้าเด็กเหลือขอไม่ได้มีแค่ลูก
สาวข้าคนเดียว ยังมีลูกสาวของตระกูล ปีกมังกร (เสี่ยว หนิ
งเอ๋อ) และ ลูกสาวตระกูลฮูหยาน (ฮูหยาน หลานเร่อ) เจ้า
เหลือขอนี่จะต้องไม่มเี มีย เพียงคนเดียวแน่นอนในอนาคต!”
เอีย ซ่งรู้สึกไม่พอใจอย่างที่สุด.

“แล้วท่านเจ้าเมืองจะท่าเช่นใด” กู้เหยียนมองไปที่เอีย ซ่ง ถาม


พร้อมกับหัวเราะไปพร้อมกัน

“ข้าจะท่าอะไรได้ ข้าท่าได้เพียงอดทนเท่านั้น!”
เอีย ซ่ง กัดฟันจนแน่น ตั้งแต่ที่เขาขึ้นเป็นเจ้าเมือง ไม่มคี รั้ง
ไหนที่จะท่าให้เค้าเสียหน้าเท่านีม้ าก่อน,

“ก่อนหน้านี้ ถ้าเจ้าเด็กบ้านี่ แสดงความใจเสาะหลบอยู่


หลัง จื้ออวิ้น แม้ว่าข้าจะต้องละเมิดต่ออาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ของ
เขา ข้าคงจะฆ่าเขาไปแล้ว! แต่ถึงอย่างนั้น เค้าก็ยังมีความกล้า
อยู่ แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม แม้วา่ เขาอาจจะมีผู้หญิงหลายคน
ในอนาคต แต่ข้าคิดว่า เค้าจะไม่ท่าให้ จื้ออวิ้น ต้องตกต่่าลง
แน่นอน”

ได้ฟังค่าพูดของเอีย ซ่ง, กู้เหยียน ก็รู้สึกโล่งใจ ยังเป็นเรื่องดี ที่


เรื่องนี้ยังไปไม่ถึง จุดที่แก้ไขไม่ได้.

“กู้เหยียน เจ้ารู้ไหมว่า เคล็ดคืนกลับวิญญาณ คืออะไร?” เอีย


ซ่ง นึกขึ้นได้จึงสอบถามกูเ้ หยียน

“ข้ายังไม่ทราบ ยังไม่มีความชัดเจน ในเรื่องนี้” กูเ้ หยียนส่ายหัว


แล้วตอบกลับไป

“ตามค่าพูดของไอ้เด็กเหลือขอนี่ ถ้าเค้าใช้ เคล็ดคืนกลับ


วิญญาณ เขาก็จะสามารถเอาชนะข้าได้

ถึงจะอย่างนั้น แต่ดูเหมือนว่า ผลสะท้อนกลับของ เคล็ด


คืนกลับวิญญาณ จะรุนแรงมาก แน่นอนว่าหลังจากที่ใช้แล้ว
เขาอาจจะต้องแลกด้วยชีวิต
คงเป็นทางเลือกสุดท้าย ที่อาจารย์ของเขาได้สอนไว้ ถ้า
เป็นไปได้ ท่านประธานกู้เหยียน ท่านลองพยายาม
สอบถาม เคล็ดคืนกลับวิญญาณ จากเจ้าเด็กคนนี้ให้ได้!”

เอีย ซ่งเงียบไปสักครู่ หลังจากที่พูดจบกู้เหยียน ยืนตะลึง


อยู่ชั่วครู่ แล้วพูดว่า

“หรือท่านเจ้าเมืองคิดจะใช้ เคล็ดคืนกลับวิญญาณ ?เป็นไป


ไม่ได้ ! เพราะท่านเจ้าเมืองบอกว่า เคล็ดคืนกลับวิญญาณ มี
ผลกระทบอย่างรุนแรง?”แล้วทั้งสองคนยืนนิ่งเงียบ จากนั้นก็
ถอนหายใจอย่างแผ่วเบา

“เทคนิคต้องห้ามแบบนี้ ไม่มีทางที่จะใช้ จนกว่าจะ สิ้น


หนทางจริง ๆยังไงซะ, ถ้าหากไม่มกี ารเตรียมการที่จะรับมือ
อันตราย และเมื่อเร็ว ๆ นี,้ สมาคมทมิฬ เริ่มเคลื่อนไหว จนไม่
อาจควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว!”

“หรือว่า มีข่าวจากท่าน เอีย โม่? “ กู้เหยียนมองไปที่ เอีย


ซ่ง , และถามด้วยความสงสัย

“ถูกต้อง, สมาคมทมิฬ ต้องการ ใช้สัตว์อสูร ท่าลายความ


รุ่งเรืองของเมืองกลอรี่”

“ใช้สัตว์อสูรท่าลายเมืองกลอรี่ งั้นเหรอ? ท่าไปแล้วพวกเขาจะ


ได้รับผลประโยชน์อันใด” กู้หยียนรู้สึกแปลกใจ

เจ้าพวกบ้า สมาคมทมิฬ? ถ้าเมืองกลอรี่ถูกท่าลายลงไป พวก


เค้ายังจะมีชีวิตรอดได้อีกเหรอ?

“พวกมันอาจมีวิธีหลบเลี่ยงการโจมตีจากสัตว์ร้ายพวกนั้น!”เอีย
ซ่งพูด

กู้เหยียนยืนคิดแล้วพูดขึ้นมาว่า “ ท่าไมท่านไม่ลอง
ปรึกษาเนี่ยหลี่ ดูสักหน่อยหล่ะ? บางทีเค้าอาจจะมีวิธีแก้ปญ
ั หา
นี้ได้!”

“ปรึกษาเจ้าเด็กเหลือขอนั่นนะเหรอ?” เอีย ซ่ง พูดด้วยหน้าบูด


บึ้ง,
“แค่ข้าไว้ชีวิตเจ้าเด็กนั่น มันก็ดีแค่ไหนแล้ว. แล้วจะให้ข้าไป
ขอให้เค้าช่วย ข้าไม่มมี ีวันท่าเช่นนัน้ เด็ดขาด”

หลังจากได้ยินค่าพูดของ เอีย ซ่งกู้เหยียนยิม้ อย่างขมขื่น


เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าจะสามารถที่จะไกล่เกลีย่ ความขัดแย้งของทั้ง
คู่ได้

ภายในห้องของ จื้อ หวิ๋น

เนี่ยลี่ก่าลังนั่งสมาธิอยู่บนเตียง. แม้ว่าเนี้ยหลี่จะได้รับบาดเจ็บ
อย่างรุนแรงจากเอีย ซ่ง, ท่าให้ เขตแดนวิญญาณของเนีย้ หลีม่ ี
รอยแยก แต่เพราะเหตุนี้เอง ท่าให้เขาพัฒนาขึ้นไปได้อีกขั้น.

เขาได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง.คลื่นพลังวิญญาณ
ได้หมุนวนไปรอบ ๆตัวของเนี้ยหลี.่ หลังจากที่ได้บ่มเพาะพลัง
วิญญาณ เนี้ยหลี่ได้พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด.อีกไม่นานพลัง
วิญญาณของเนี้ยหลี่ จะเลื่อนระดับขึ้นไป.
เอีย จื้อ หวิ๋นไม่ได้อยู่ในห้องเดียวกับเนี้ยหลี่ตอนนี้.เธอ
อยากจะไปขอร้องพ่อเธอ,แต่พอคิดถึงความเข้มงวดของพ่อเธอ
แล้ว,เธอได้แต่ถอนหายใจ ด้วยการแม่ของเธอเสียชีวิตไปเร็ว
เกินไปนัก ความสัมพันธ์ของเธอกับพ่อก็ไม่เคยได้ใกล้ชิดกัน

นับแต่แต่เธอยังเด็ก ก็ได้รับการกวดขันอย่างเข้มงวด.เขาให้
เธอฝึกซ้อมแทบไม่ได้หยุด เพราะการบ่มเพาะของเธอนั้นสูง
กว่าเพื่อน ๆในวัยเดียวกัน.แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ความเข้มงวด
ของพ่อเธอในวันนี้, เธอไม่เคยได้เจอะเจอมาก่อน

“เนี้ยหลี่ ข้าจะท่ายังไงกับเจ้าดี?”

พอนึกย้อนไป, ทั้ง ๆ ที่เนี้ยหลี่กร็ ู้ดวี ่า ไม่อาจจะเป็นคู่ต่อสู้ของ


พ่อเธอได้,แต่เนี้ยหลี่ยังคนยืนหยัดอยู่ข้างหน้าเธอ นั่นก็ท่าให้
เธอเริ่มรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาในใจ.

แม้ว่าเนี้ยหลี่ มักจะท่าเรือ่ งบ้า ๆ บอ ๆ, แต่ในช่วง


เวลาที่ส่าคัญ เขาก็แสดงความกล้าหาญออกมา,นั่นก็เพียง
พอที่จะท่าให้เธอรู้สึกผูกพัน และมีความสุขมากพอแล้ว.ในเวลา
เดียวกัน, สิ่งที่พ่อของเธอท่า ท่าให้ เอีย จื้อ หวิ๋นรู้สึกสับสน
มาก. เธอคิดว่าพ่อของเธอมีอะไรในใจมากกว่าความโกรธ.

แต่ถึงอย่างไร, เธอคิดว่า สิ่งที่พ่อของเธอต้องการนั้น


,ไม่ได้มเี พียงแค่ให้เธอเลื่อนระดับไปเป็นร่างทรงอสูรระดับโกล
ภายในหนึ่งปี เอีย จื้อ หวิ๋น อยากรู้ว่าพ่อของเธอคิดอะไรอยู่
แต่ถึงกระนั้น, เธอก็จะฝึกอย่างหนัก และจะไม่ท่าให้พ่อของเธอ
ผิดหวัง...
บทที่ 96 - ต้องการรังครวญ ครอบครัวเทพศักดิ์สิทธิ์?

เนี้ยหลีไ่ ม่ได้คาดหวังว่าจะมีปัญหาใดๆเกิดขึ้น เขาไม่คดิ เลยว่า


เขาจะโชคร้ายมากถึงเพียงนี้ จากการที่เขาแอบมาหา จื้อ หวิ๋
นครั้งแรก เขาจะถูกจับได้โดยท่านเจ้าเมือง

อย่างไรก็ตาม เอีย ซ่งจะไม่สังหารเขา อาจจะเป็น


เพราะว่าสมาคมนักปรุงยาได้บอกจะไรบางอย่างแก่ท่านเจ้า
เมือง เพราะเหตุนี้เนีย้ หลีจ่ ึงไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้เรื่องนี้
ยืดเยื้อ เนี้ยหลีต่ ้องการที่จะจัดการให้ เอีย ซ่ง มอบลูกสาวของ
เขาให้แก่เนี้ยหลี่ด้วยมือของเขาเอง

เมื่อเนี้ยหลี่คิดได้ดังนี้ ก็ปรากฏรอยยิ้มจางๆขึ้นบน
ใบหน้าของเขา เพื่อจะไปให้ถึงเป้าหมาย เขาจักต้องท่างาน
อย่างหนัก

เนี้ยหลี่ ทานยาเสริมพลังทั้งหลาย นั่งสมาธิและเริ่ม


ฝึกบ่มพลังด้วยเทคนิค เทพวิถีฟ้า เพื่อที่จะบรรลุระดับ เงิน 4
ดาว

ภายในสวน

ตั้งแต่เธอเริม่ ฝึก เทคนิค ภูติฟินิกซ์หิมะน้่าแข็ง 9 ชีวิต


และผสานร่างกับ ราชินีน้่าแข็ง วรยุทธ์ ของจื้อ หวิ๋นได้พัฒนา
รวดเร็วขึ้นอย่างก้าวกระโดด นางไม่ต้องการที่จะพัฒนาช้าไป
กว่าเนี้ยหลี่ และในตอนนี้วรยุทธ์ ของนางนั้นก็ไปถึงระดับเงิน
3 ดาวแล้ว แท้จริงแล้ววรยุทธ์ ของนางนั้นสามารถพัฒนาได้ไว
กว่า วรยุทธ์ เทพวิธีฟ้าของเนี้ยหลีม่ าก ซึ่งพลังของวรยุทธ์ เทพ
วิธีฟ้านั้นจะแสดงให้เห็นก็ต่อเมื่อฝึกฝนส่าเร็จแล้ว
ในบรรดาทุกๆคนทีไ่ ด้รับการถ่ายทอด วรยุทธ์ เนี้ยหลี วร
ยุทธ์ เทพวิธีฟ้าของเนี้ยหลีนั้น จะมีการพัฒนาช้าที่สุด ความ
ยากในการฝึกฝนนั้นวรยุทธ์ ของเขานั้นจะต้องใช้เวลาในการ
ฝึกฝนมากกว่าคนอื่นๆเป็นอย่างมาก

แต่วรยุทธ์ เทพวิธีฟ้านั้นเป็นวรยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุด
ในบรรดา วรยุทธ์ทั้งหมด แม้ว่าทั้งเจ็ดคนจะอยู่ในระดับ
เดียวกับเนีย้ หลี่ พวกเขาก็ไม่อาจที่จะต่อกรกับเขาได้ ถึงแม้ว่า
ความยากในการฝึกฝนนั้นจะยากมากๆ แต่การพัฒนาเนี้ยหลี่ก็
รวดเร็วเช่นเดียวกับผู้อื่น นั้นเพราะความได้เปรียบจากการได้
เกิดใหม่ของเขานั่นเอง

จักรพรรดินักปราชญ์ รอจนกว่าข้าบรรลุ วรยุทธ์เทพวิธีฟ้า


ขั้นสุดยอดและควบคุมสัตว์อสูรระดับพระเจ้าทั้งเจ็ดให้ได้ซะ
ก่อน เวลานั้นจะได้เห็นว่าใครกันแน่ที่แข็งแกร่งกว่ากัน เนี้ยหลี่
ครุ่นคิดอยูภ่ ายในใจ
ในชาติก่อน หนึ่งในสาเหตุที่เขาพ่ายแพ้นั้น เพราะว่า
ระดับวรยุทธ์ของเขานั้นต่่ากว่า และอีกเหตุผลก็คือจักรพรรดิ
นักปราชญ์นั้นมีสัตว์อสูรระดับพระเจ้าหลายตนอยู่เคียงข้างเขา
ท่าให้การจะจัดการเขานั้นช่างเป็นเรื่องที่ยากมาก นั้นเป็น
สาเหตุที่ท่าให้เนี้ยหลี่พ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว

ในชาตินี้เขาจะต้องกับไปแก้แค้น และด้วยความ
แข็งแกร่งและพวกพ้องที่แข็งแกร่งของเขา มันจะไม่เหมือนชาติ
ที่แล้ว ที่เขาตัวคนเดียวอย่างแน่นอน

หลังจากการนั่งสมาธิและฝึกฝนเป็นเวลาหลายชั่วโมง อาการ
บาดเจ็บของเขาก็ได้รับการรักษา

" เนี้ยหลี่ ! การรักษาของเจ้าคืบหน้าแล้วใช่มั้ย " จื้อ หวิ๋นมองที่


เนี้ยหลีด่ ้วยสายตาทีเ่ ป็นกังวลหลังจากได้ยินเสียงของ จื้อ หวิ๋น
เนี้ยหลี่ รู้ว่าจื้อ หวิ๋นนั้นยังมีความกังวลในอาการบาดเจ็บของ
เขา เขาพยักหน้าและพูดว่า " อาการของข้าดีขึ้นแล้ว "
" ดีแล้ว ถ้าอย่างนั้นแล้วเจ้าก็รีบออกไปซะ ถ้าเจ้ายังอยู่ที่นี่ อย่า
มาต่าหนิว่าข้าหยาบคายนะ " จื้อ หวิ๋นแสดงสีหน้าจริงจัง
เพื่อที่จะให้เนี้ยหลี่รีบออกไป

"จื้อ หวิ๋น ข้านั้นตกหลุมรักเจ้าซะแล้ว ! เจ้าห้ามท่าแบบนี้กับ


ข้า ! โอ้ยย อาการบาดเจ็บของข้ายังรักษาไม่เสร็จเลย ข้า
ต้องการเวลาอย่างน้อยสองวันก่อนที่ข้าจะสามารถออกไปได้
ไม่เช่นนั้นข้าอาจจะอาเจียนเป็นเลือดอีก "

" ข้าจะไม่เชื่อเจ้าอีกแล้ว ถ้าเจ้ายังไม่ออกไป ข้าจะเอาไม้


กวาดมาไล่เจ้าออกไปซะ " จื้อ หวิ๋นกัดฟัน, เนี้ยหลี่นนั้ ช่างเป็น
คนที่เจ้าเล่ห์มากๆ

" นั้นมันเป็นเรื่องที่ใจร้ายมากๆเลย จริงมั้ย " เนี้ยหลี่ มองไปยัง


จื้อ หวิ๋น
" เจ้าท้าข้าหรอ " จื้อ หวิ๋นเอามือเท้าสะเอวและถอนหายใจ
จากเหตุการณ์ทเี่ กิดขึ้นในวันนี้ จะดีกว่าถ้าเธอจะไม่ทุบตีเขา

" ตกลง งั้นข้าจะออกไปก่อน และพรุ่งนี้ข้าจะมาหาเจ้าอีก "

" ถ้าพรุ่งนี้เจ้ากล้ามาอีก ค่อยดูละกันว่าข้าจะท่าอะไรเจ้า " จื้อ


หวิ๋นผลักเนี้ยหลี่ออกไป พร้อมทั้งบุ้ยปากของเธอ ก่อนที่จะเท้า
สะเอวพูด

" อ่าาา ? ถ้างั้นข้าจะมาหาเจ้าได้ตอนไหนหล่ะ ? " เนี้ยหลี่


หัวเราะ และมองไปที่ จื้อ หวิ๋น

ปั้ง !!! จื้อ หวิ๋นปิดประตูทางเข้าสวนของนาง


" ถ้างั้นข้าจะมาพรุ่งนี้ละกัน " แม้เนี้ยหลี่จะพึ่งโดนจื้อ หวิ๋น ไล่
ออกมา เขาก็ไม่ได้หงุดหงิดแต่อย่างใด เขาฮัมเพลงและเดิน
กลับไปยังที่พัก

เมื่อมองไปยังประตู จื้อ หวิ๋นกระทืบเท้าและเค้นฟัน


อย่างไรก็ตามเธอได้นึกถึงบางสิ่ง และหัวเราะขึ้นมา เสียง
หัวเราะของเธอช่างมีเสน่ห์ยิ่งนัก ถ้าหากใครได้เห็นเข้า พวกเขา
ต้องเกิดอาการงุนงงอย่างแน่นอน

เธอไม่รู้ว่าควรจะท่าตัวอย่างไร เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคน
ที่ไร้ยางอายอย่าง เนีย้ หลี่ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เกิดเรื่องทุก
อย่างขึ้นจนถึงตอนนี้ เธอคิดไม่ออกเลยว่าควรจะท่าอย่างไร
และสามารถเชื่อเนี้ยหลี่ได้หรือไม่

นางนึกถึงบางอย่างขึ้น และแก้มของนางก็เริ่มแดง

ระหว่างที่เดิน เนี้ยหลี่ครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่ผา่ นมา


ความจริงก็คือเนี้ยหลีไ่ ม่รู้เลยว่าจะพิชิตใจเธอได้อย่างไร จื้อ
หวิ๋นและเนีย้ หลี่ อยูด่ ้วยกันหลังจากเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น
หลังจากที่จื้อ หวิ๋นตาย เนีย้ หลีก็ได้พบเจอกับผู้หญิงอีกหลาย
คน อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใครเลย
หัวใจของเขานั้นยังคงนึกถึง จื้อ หวิ๋นอยู่เสมอ และไม่เคยให้
หญิงอื่นเข้ามาในใจเขาเลย

คุณจะคิดไม่ออกเลยว่าเนีย้ หลี่มีความสุขมากเพียงใดที่ได้
กลับมาพบกันจื้อ หวิ๋นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในชาตินี้พวกเขา
จะไม่ได้เจอกับโศกนาฏกรรมเหมือนเดิม เนี้ยหลี่ยังคงคิดไม่
ออก ว่าจะท่าอย่าไรให้จื้อ หวิ๋นรู้สกึ ได้เช่นเดียวกับเขา เขาได้
เพียงแต่ท่าตัวไร้ยางอายต่อหน้าเธอเท่านั้น ถ้าหากเขาถูกจื้อ
หวิ๋นเกลียดขึ้นมา เขาคงได้แต่เพียงแอบปกป้องอยู่แค่ข้างกาย
เธอ เนี้ยหลีไ่ ม่ต้องการที่จะสูญเสียเธอไม่อีกครั้ง

แต่อย่างน้อย มันก็ยังดีกว่าการที่ไม่ท่าอะไรเลย เนี้ยหลี่ได้


แต่เพียงบอกกับตัวเอง ไม่ว่าจื้อ หวิ๋นจะท่าอย่างไรกับเขา เขาก็
ยังจักคอยปกป้องเธออยู่ข้างๆ

ภายในสวนของเนี้ยหลี่ เนี้ย หยู๋ ได้ฝึกฝนอย่างหนัก เมื่อ


เห็นหน้าของเนี่ยหลี่ หน้าเธอก็แสดงออกถึงความสุข

" พี่เนี้ยหลี่ กลับมาแล้วหรอ ? " เนี้ย หยู๋รีบลุกขึ้นมาหา ตอนที่


เนี้ยหลี่ ออกไปเธอเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา

เนี้ยหลี่ ลูบศรีษะเล็กๆของเนี้ยหยู๋ " เซี่ยวยูได้ตั้งใจฝึกรีป่าว? "

"ค่ะ" เซี่ยว หยู๋ ยันมากๆเลย วรยุทธ์ที่พี่เนี้ยหลี่สอนหนูมันน่า


ทึ่งมากๆ ตอนนี้หนูอยู่ระดับทองแดง 2 ดาวแล้ว ตาของเนี้ย
หยู๋ เป็นประกายและเต็มไปด้วยความเคารพเมื่อมองที่เนี้ยหลี่
ในใจของเธอคิดว่าการมีอยู่ของเนีย้ หลี่นั้น สามารถบรรลุอะไรก็
ได้

" ไม่เลว " เนี้ยหยู๋ ยิ้มและพยักหน้า ความเร็วในในการฝึกของ


เนี้ย หยู๋นั้นค่อนข้างดีเลยทีเดียว

ขณะที่เนี้ยหลี่ และเนี้ย หยู๋กา่ ลังคุยกันก็มีเสียงเคาะ


ประตูเกิดขึ้น เมื่อเนี้ยหลี่เปิดประตู หลู่เพียว และพรรคพวก
อีกสามคนก็อยู่ข้างหน้าประตู เขาตกใจเล็กน้อยและถามว่า "
พวกนายมาท่าอะไรกันที่นี่ "
" เราได้ยินมาว่านายได้ย้ายเข้ามาในที่พักของท่านเจ้าเมืองพวก
เราเลยตัดสินใจจะมาหา แต่การมาหานายนั้นไม่ง่าย เราต้องไป
หาท่านประธาน กู้เหยียน หลังจากเรื่องยุ่งยากทั้งหลาย เราให้
เขาเขียนจดหมายเพื่อให้เราสามารถเข้ามาได้ " หลูเ่ พียวพูด
พร้อมทั้งหัวเราะ " นายนี่เยี่ยมจริงๆ เพื่อที่จะไล่ล่า จื้อ หวิ๋น
นายถึงกับย้ายเข้ามาในที่พักของท่านเจ้าเมือง ฉันนับถือนาย
จริงๆ "

ตูเซอมองไปที่เนีย้ หลีซ่ ักครูหนึ่งก่อนจะพูดว่า " นายท่าให้


เสิ่นเฟยพ่ายแพ้ ผู้ที่เป็นถึงอัจฉริยะแห่งตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ?์
นายจงใจแสดงความแข็งแกร่งของนาย ใช่มั้ย? มิฉะนั้น ตัวตน
ของนายจะไม่เป็นที่น่าสนใจ "

" ก่อนหน้านี้ ความแข็งแกร่งของข้านั้นช่างอ่อนแอ


เพราะฉะนั้นข้าจึงไม่กล้าที่จะแสดงให้ผู้อื่นเห็นมากเกินไป
หลังจากข้าผสานเข้ากับวิญญาณอสูร ถึงแม้ว่าข้าจะต้อง
เผชิญหน้ากับสมาคมทมิฬ ข้าก็แข็งแกร่งพอที่จะสามารถ
ปกป้องตัวเองได้ เพื่อที่จะจัดการกับพวกตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์
ท่าไมข้าจะไม่ท่า หล่ะ " เนี้ยหลี่หวั เราะเบาๆ
เมื่อได้ยินค่าตอบจากเนี้ยหลี่ หลู่เพียว ตูเซอและพรรคพวกก็
อดที่จะหัวเราะไม่ได้

" บัดนี้ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์จักต้องเผชิญกับความทุกข์ยาก
เพราะนาย จากการที่ต้องสูญเสียถึง สี่ร้อยห้าสิบล้านเหรียญจิต
มาร "

" ใช่ ผู้อาวุโสของตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์จักต้องอาเจียนเป็นเลือด


แน่ "

เนี้ยหลีส่ ่ายหัวและพูดว่า " สี่ร้อยห้าสิบล้านเหรียญจิตมารนั้น


ยังไม่มากพอที่จะสั่นคลอนทั้งตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ "

" เนี้ยหลี่ มันยังไม่สามารถที่จะล้มล้างตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์


ใช่มั้ย? มันเป็นถึง 1 ใน 3 ตระกูลหลักของเมือง " หลู่เพียวเบิก
ตากว้างและมองไปยังเนี้ยหลี่
"แน่นอน ข้าต้องหลอกล่อพวกตระกูลเทพศักดิส์ ิทธิ์ พวก
มันจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่ ในไม่ชา้ พวกมันต้องมาหาข้า
แน่นอน ข้ามีแผนที่จะจัดการมันแล้ว" ตาของเนี้ยหลีเป็น
ประกายขึ้นมา

หลังจากเห็นท่าทีของเนี้ยหลี่ ตูเซอถึงกับตกตลึง เนี้ยหลี่ไม่ได้มี


ท่าทีเหมือนว่าก่าลังพูดเล่น เนีย้ หลี่ตั้งใจที่จะล้มล้างตระกูลเทพ
ศักดิ์สิทธิ์ด้วยตนเอง ? มันต้องล่าบากกว่าการชนะการแข่งขัน
อย่างแน่นอน

" หลังจากนี้นายจะท่ายังไงต่อ หากนายบอกพวกเรา เราพี่น้่ อง


นายจะสนับสนุนนายอย่างแน่นอน ! " ตูเซอพูดด้วยท่าทีจริงจัง
ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะไม่สามารถเทียบกับเนีย้ หลีไ่ ด้
ขอเพียงแค่เนี้ยหลีเ่ อยปาก ถึงแม้มันจักต้องแลกมาด้วยชีวิต
เขาก็จักไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว

"ปล่อยข้าไปจากเรื่องนี้เถอะ" หลู่เพียวหัวเราะและพูดขึ้นมา

ดีมากพี่น้องข้า เนี้ยหลี่กระทบอกกับตูเซอ ด้วยพรรคพวกของ


เขา แม้จักต้องไต่ภูเขามีดแหลมหรือลงทะเลเพลิง พวกเขาก็จัก
ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยมันเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากในชีวิตเขา

เขานึกถึงเหตุการณ์ในชาติก่อน ตูเซอและ หลู่เพียว เสียสละ


ชีวิตเพื่อปกป้องนครศักดิ์สิทธิ น้่าตาของเขาก็เอ่อล้นขึ้นมา ใน
ชาตินี้เขาจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์นขี้ ึ้นอีกแน่นอน
บทที่ 97 - เข้าสู่พรมแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์

"ข้าพนันว่าเจ้าไม่ได้นึกถึงแน่ หนิงเอ๋อตอนนี้ได้เข้าสู่เขตแดน
สวรรค์ศักดิส์ ิทธิไปแล้ว!" หลู่เพียวกล่าว ในขณะที่เขายืนอยู่
ด้านข้าง "นางเดินเข้าไปในเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิหรือ? ท่าไม
นางไม่บอกข้าเกี่ยวกับเรื่องนี?้ "เนี้ยหลี่ตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่
เขาจะถามอย่างงุนงง

"เจ้ากลับไปที่ตระกูลบันทึกสวรรค์แล้วเข้าร่วมการ
แข่งขัน จากนั้นเจ้าก็เข้าไปที่ต่าหนักของเจ้าเมือง มันไม่ง่าย
เลยนะส่าหรับพวกเราในการที่จะระวังให้เจ้า!" หลู่เพียวกล่าวอ
ย่างช่วยไม่ได้

'ด้วยความสามารถและพรสวรรค์ของ หนิงเอ๋อ คงไม่มีปัญหา


ใดๆ ในการเข้าสู่เขตแดนสวรรค์ศกั ดิ์สิทธิแต่เราก็ไม่สามารถ
แน่ใจได้ว่าจักไม่มเี รื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น! เนี้ยลี่จมอยู่ใน
ความคิดของเขา เขายกศีรษะของเขามองไปที่หลูเ๋ พียวตูเซอ
และคนอื่น ๆ และพูดว่า "มาเถอะ, พวกเราจะเข้าไปด้วย!"
เนี้ยหลี่มคี วามต้องการที่จะเข้าไปในเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ
มาตลอดเป็นเวลานานแล้ว ในเขตแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิ์ มี
สมบัติทเี่ ขาต้องการอยู่ ตั้งแต่เขารูว้ ่า หนิงเอ๋อ ได้เข้าเขตแดน
สวรรค์ศักดิส์ ิทธิเนี้ยลี่เริม่ ร้อนลนจนนั่งไม่ติด หนิงเอ๋อที่เขา
รู้จักเมื่อชาติที่แล้ว เนี้ยหลี่รสู้ ึกสงสารและความนับถือในจิตใจ
อันแข็งแกร่งของนาง ที่ "กล้าที่จะรักและเกลียด" ด้วยบุคลิก
ของนาง หนิงเอ๋อ ไม่ได้ปิดบังความรู้สึกของนางต่อเขาเลย
แม้ว่า เนี้ยหลี่จะมีเย่ จื้อหวิ๋นในหัวใจของเขาก็ตาม แต่หนิงเอ๋อ
ก็ยังเป็นหนึ่งในคนที่เขารู้สึกดีด้วย

"จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจ้าพบปัญหาหลังจากที่ออกจากต่าหนักเจ้า
เมือง?" ตูเซอกล่าว" มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ข้ามีแผนยู่แล้ว ข้าแค่
ปลอมตัวเองเล็กน้อยก็ออกไปได้แล้ว เจ้าทั้งสามคอยอยู่ที่นี่และ
คอยดูแลน้องสาวของข้าด้วย! ห้องข้าอยู่ตรงนั้น พวกเจ้า
สามารถสามารถใช้ฝึกฝนได้.
"เนี้ยหลี่กล่าวว่าในขณะทีเ่ ขามองไปที่เพื่อนทั้งสามคนของเขา
"ได้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเอง!" ทั้งสามคนตอบตกลง

"เสี่ยวหยู๋ อยู่ที่นี่และขยันฝึกซ้อมด้วยล่ะ อีกไม่กี่วันพี่ก็กลับ


มาแล้ว. "เนี้ยหลี่กล่าวพลางเอามือลูบหัวเสี่ยวหยู๋

"เจ้าค่ะ พี่ใหญ่ เนี้ยหลี่ ก็ต้องระมัดระวังและรีบกลับมาด้วย


ล่ะ!" เสี่ยวหยู๋ กล่าวพร้อมพยักหน้ารับค่า

หลังให้ค่าแนะน่าเป็นที่เรียบร้อย เนี้ยหลีไ่ ด้ปรับเปลีย่ นรูปร่าง


หน้าตาของเขากลายเป็นเหว่ยหนาน ตูเซอ หลูเ่ พียวและพวก
ตกตะลึงเมื่อพวกเขาเห็น วิธีแปลงโฉมของ เนี้ยหลี่นั้นน่าตื่นตา
ตื่นใจมากเกินไป โดยเพียงแค่กระท่าบางสิ่งบางอย่างบน
ใบหน้าของเขาเพื่อที่จะแปลงโฉม นอกเหนือจากเสื้อผ้าที่ไม่
เหมือนกันแล้วเขาคือเหว่ยหนานชัดๆ

"ในโลกนี้มีอะไรที่นายไม่รู้บ้าง?" ตูเซอ หัวเราะอย่างขมขื่น


พลางมองไปที่เนี้ยหลี่ "ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีวิธีการแบบ
นี้ด้วย ยอดเยีย่ มมาก! " ตาหลู่เพียว เบิกกว้าง ด้วยวิธีนี้ เนี้ยหลี่
ไม่มีความจ่าเป็นที่จะซ่อนอยูภ่ ายในต่าหนักเจ้าเมืองเลย แม้ว่า
เขาจะเดินเล่นในถนนสายหลัก สมาคมทมิฬก็อาจจะจ่าเนี้ยหลี่
ไม่ได้เสียด้วยซ้่า

"ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญก็ตอ้ งมีทุกวิธีของการเอาชีวิต
รอด!" เนี้ยหลีเ่ อ่ยวาจาเบาๆพลางหัวเราะ เป็นเรื่องง่ายมาก นี่
เป็นเรื่องเล็กน้อยส่าหรับเขาและไม่ได้วิธีการที่ลึกซึ้งใด ๆ
ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงสามารถรับรูไ้ ด้จากกลิ่นอายของพวกเขา
หลังจากบ่มเพาะพลังถึงระดับต่านาน จะสามารถปลอมตัวได้
ยอดเยี่ยมและยังสามารถเปลี่ยนความสูงและรัศมีที่แผ่ออกมา
รอบตัวเช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงลักษณะของพวก เขาท่า
ให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถที่จ่าแนกได้

ไม่ใช่สิ่งที่อยู่เหนือการคาดหมายใดๆส่าหรับเนี้ยหลี่ ว่ามันคือสิ่ง
พิเศษไม่สามารถเป็นไปได้ตั้งกลับชาติมาเกิดใหม่ แม้ว่าขนาด
ที่ต้องเผชิญหน้ากับบิดาของเย่ จื้อหวิ๋น นั้นเนี้ยหลี่ยังจะมี
วิธีการบางอย่างที่จะต่อกรกับเขา แต่เพราะวิธีการนั้นมีความ
ชั่วร้ายเกินไป หากใช้ทั้งสองฝ่ายจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่าง
แน่นอนซึ่ง เนี้ยหลี่ไม่ได้ต้องการทีจ่ ะเห็นภาพเหตุการณ์
นัน้ ไม่ใช่เพราะสิ่งใดดอก ก็เขานั้นเป็นบิดาของเย่ จื้อหวิ๋น
ถ้าไม่ใช่สาเหตุนั้นเขาจักไม่ยอมถูกท่าร้ายโดยแบล๊กโกลขั้นสูง
อยู่ฝ่ายเดียวอย่างแน่นนอน

"เออใช่ ชั้นลืมให้บางอย่างกับพวกนาย!" เนี้ยหลี่ ขยับมือข้าง


ขวาหยิบเอา ดวงจิตอสูรห้าก้อนโผล่ออกมา ทั้งหมดเหล่านี้เป็น
ดวงจิตอสูรที่ เนีย้ หลีไ่ ด้กลั่นออกมาจากหม้ออสูรฝันร้าย ทุก
อันมีอัตราพัฒนาการระดับพระเจ้าทั้งนั้น

"นี้คืออะไร?ดวงจิตอสูรใช่ไหม? "หลู๋เพียววางมือทั้งสองข้างของ
เขาที่สะโพกของเขาและหัวเราะด้วยความภาคภูมิใจ" เร็ว ๆ นี้
ข้าได้รับการฝึกอย่างเข้มงวดที่บ้านและผ่านระดับเงิน ตาแก่ที่
บ้านดีใจมากและให้รับรางวัลข้าเป็นดวงจิตอสูรระดับโกล ซึ่ง
ข้าได้รวมร่างไปแล้ว ดังนั้นข้าจึงไม่จ่าเป็นต้องใช้ดวงจิตอสูรตน
อื่นอีกต่อไป! หลังจากที่ข้ารวมดวงจิตอสูรระดับโกล เร็ว ๆ นี้
และจะก้าวไป ถึงจุดสุดยอดฮ่าฮ่าฮ่า! "

"ข้าได้เตรียมที่จะให้พยัคฆ์ดาราสีชาดปีศาจที่มีอัตราการ
เจริญเติบโตระดับพระเจ้า มันสามารถที่จะเติบโตไปถึงระดับ
ต่านาน เนื่อง จากเจ้าไม่ต้องการมันแล้วลืมมันซะเถอะ! "เนี้ยห
ลี่ หยิบศิลาดวงจิตอสูรไปที่ ตูเซอ และพวก" นี่เป็นดวงจิตอสูร
พยัคฆ์โลกันตร์ประเภทนักรบ นอกจากนี้ยังมีสามวิญญาณ
ปีศาจที่แยกต่างหากคือ ชนิด ประเภทสิ่งศักดิ์ ประเภท เพลิง
ศักดิ์สิทธิ์ ประเภทน้่าศักดิ์สิทธิ์ พวกมันได้ถูกเตรียมไว้ส่าหรับ
พวกนาย. "เนี้ยหลี่มองไปที่ เหว่ยหนาน ซู่ เซี่ยงจิ้ง และซ่างห
มิง

ตูเซอและพวกได้ตั้งใจแล้วว่าจะปฏิบัติตามค่าสั่ง เนี้ยหลี่ ดังนั้น


พวกเขาจึงไม่เกรงใจที่จะรับศิลาดวงจิตอสูรเหล่านี้ จากเนี้ยหลี่
พวกเขาอยากทราบผลการทดสอบศิลาดวงจิตอสูรเหล่านี้ พวก
เขาไม่ทราบว่าดวงจิตอสูเหล่านี้นนั้ แข็งแกร่งถึงเพียงไร เป็น
เนี้ยหลี่ที่อธิบายให้พวกเขาทราบ พวกเขานั้นไม่รู้วา่ อัตรา
พัฒนาการระดับพระเจ้านั้นเป็นเช่นไร แต่ เนีย้ หลี่กล่าวว่าพวก
เขา สามารถที่จะเติบโตไปทีร่ ะดับต่านานได้เลยทีเดียว ซึ่งมัน
จะท่าให้พวกเขาแข็งแกร่งมาก

อัตราพัฒนาการระดับพระเจ้า? เติบโตจนถึงระดับต่านาน?
จะเป็นระดับที่ทรงพลังขนาดไหนกัน?
"เจ้าบอกว่ามันสามารถเติบโตได้ถงึ ระดับต่านานจริงหรือ?" ตูเซ
อถามอย่างไม่แน่ใจ"จริงแท้แน่นอน!" เนี้ยหลี่พยักหน้า ความ
จริงก็คือเนี้ยหลี่ยังไม่ได้บอกหมดทุกอย่างออกไป ดวงจิตอสูร
ที่ เนี้ยหลี่ให้พวกเขาจะไม่เพียง แต่หยุดทีร่ ะดับต่านานเท่านั้น
การเจริญเติบโตของพวกมันจะคาดเดาไม่ได้ในอนาคต อย่างไร
ก็ตามแม้ว่า เนีย้ หลี่บอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ตอนนี้พวกเขา
จะยังไม่เข้าใจมันหรอก

"อิอิ, เนี้ยหลี่ท่านเป็นพี่น้องที่แสนดีของข้าใช่ไหม? ข้าขอดูดวง


จิตอสูรนีไ้ ด้หรือไม่ " หลู่เพียว หัวเราะและกล่าว

เมื่อเห็น หลู่เพลีย่ ว, เนี้ยหลี่หัวเราะ ข้าไม่ได้เล่าเรื่องตลกใดให้


เจ้าฟังดอกหลูเ๋ พียว จากนั้นเนี้ยหลี่ก็ขยับมือของเขาเขาโยน
ศิลาดวงจิตอสูรพยัคฆ์ดาราสีชาดไปให้ หลู่เพลีย่ ว
"หลู่เพลี่ยว,โยนดวงจิตอสูรระดับโกลด์ของเจ้าทิ้งไปก่อน
แล้วค่อยๆรวมกับมันอย่างช้าๆในภายหลังจากที่เจ้ากลับมา
ก่อนอื่นพวกเราจักไปยังสถาบันเพือ่ เข้าไปยังเขตแดนสวรรค์
ศักดิ์สิทธิ! "เนี้ยหลี่กล่าว ตราบใดที่หนิงเอ๋อ ยังคงอยู่ในเขต
แดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิเนี้ยหลี่ค่อนข้างมีความกังวล

เนี้ยหลีไ่ ม่เคยเข้าเขตแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิมาก่อนในชาติที่


แล้ว เขาไม่รู้เลยว่าด้านภายในนั้นจักมีอะไรรออยู่บ้าง เขาแค่รู้
เพียงคร่าวๆว่าด้านในนั้นจักต้องมีอะไรซ่อนอยูเ่ ป็นแน่

"ก็ได้" หลู๋เพียว และตูเซอพยักหน้า

พวกเขาทั้งสามออกจากต่าหนักเจ้าเมืองและและมุ่งหน้าไปยัง
สถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ

ณ สถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ
"ท่านรองอาจารย์ใหญ่ หนิงเอ๋อ เข้าไปตั้งนานแล้วท่าไมยัง
ไม่ออกมาอีก?" ครูหลายคนที่ยืนอยู่ด้านข้างถามรองอาจารย์
ใหญ่อย่างกระวนกระวาย

รองอาจารย์ใหญ่ หน้ามุ๋ย เวลาที่หนิงเอ๋อ ใช้ในการเข้าไป


นั้นเมื่อเทียบกับคนอื่นแล้วถือว่านานกว่าคนอื่นพอดู แต่
ภายใต้สถานการณ์ปกตินั้นผู้ที่มีความสามารถสูงกว่าย่อมอยู่ได้
นานกว่าผู้ที่มีความสามารถต่า่ อยูแ่ ล้ว แต่หนิงเอ๋ออยู่นาน
เกินไปรึเปล่า?

"รองอาจารย์ใหญ่ มีนักเรียนสามคนมาหาท่าน!" อาจารย์คน


หนึ่งเดินเข้ามาจากข้างนอก

"พวกเขามาจากห้องเรียนเด็กพิเศษ!"

"ให้พวกเขาเข้ามา!" รองอาจารย์ใหญ่พยักหน้าและกล่าว

ครู่ต่อมาเนี้ยหลี่และพวกถูกน่าเข้ามา. เนี้ยหลี่ คลายการปลอม


แปลงบนใบหน้าออกเมื่อเห็นเนี้ยหลี่ รองอาจารย์ใหญ่หลี่ตา
ลง เขามีความประทับใจมากในตัวของเนี้ยหลี่ ทั้งเรื่องการ
สอบประจ่าปี และการประลองที่ผา่ นมา ทั้งที่มีระดับเพียง
ทองแดง ขั้น 1ดาว แต่ไม่นานหลังจากนั้น เนี้ยลีเ่ ข้าร่วมการ
แข่งขันและเผยให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่สามารถต่อสู้กับ
ระดับทองได้ การเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งเช่นนี้ท่าให้เขารู้สึกว่ามี
บางอย่างที่ไม่ธรรมดา

การทดสอบความแข็งแกร่งอาจจะเกิดความผิดพลาดได้ แต่การ
ทดสอบพลังวิญญาณจะผิดพลาดได้อีกกระนั้นหรือ?

"ท่านรองอาจารย์ใหญ่ พวกข้าต้องการที่จะเข้าสู่เขตแดน
สวรรค์ศักดิส์ ิทธิไม่เป็นปัญหาใด ๆ ใช่มั้ย?" เนี้ยหลี่กล่าวขณะ
มองไปที่รองอาจารย์ใหญ่

"ด้วยระดับความแข็งแกร่งของพวกเจ้าตอนนี้นั้นไม่มีปญ ั หาใน
การเข้าเขตแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิเป็นแน่" รองอาจารย์ใหญ่
พยักหน้า ในการที่จะเข้าสู่เขตแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิ์จักต้องเป็น
นักเรียนระดับสุดยอดของชั้นเรียนพิเศษ ซึ่งพวกเขาทั้งสามก็
คือระดับดีที่สุดของห้อง

"ขอบคุณมาก ท่านรองอาจารย์ใหญ่! ตอนนี้พวกข้าจะเข้าสู่เขต


แดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิ!
"เนี้ยหลี่กล่าวพลางประสานมือคารวะรองอาจารย์ใหญ่

รองอาจารย์ใหญ่กร็ ู้ว่าเนีย้ หลี่กับหนิงเอ๋อนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดี


ต่อกัน ก็ดีที่จะให้เนี้ยหลี่เข้าไปหลังจากหนิงเอ๋อเข้าไปเป็น
เวลานาน

พวกเขาส่ง เนี้ยหลี่ไปถึงทางเข้าเขตแดน เมื่อมองจากระยะไกล


ก็แลเห็นประตูปรากฏอยู่ในสายตา ของเนี้ยหลี่

ในชาติพบที่แล้วเนี้ยหลี่ไม่เคยเข้าไปในเขตแดนสวรรค์
ศักดิ์สิทธิ์ ความเข้าใจของเขาที่มตี ่อเขตแดนสวรรค์ศักดิ์
สิทธิ นั้นมีเพียงมาจากหนังสือที่เขาได้อ่านเท่านั้น เนีย้ หลีย่ ังคง
มีความอยากรู้อยากเห็นอย่างมากในเรื่องของเขตแดนสวรรค์
ศักดิ์สิทธิ เขาได้ให้ตเู ซอ และหลู๋เพียว รออยู่ที่บริเวณข้างนอก
แล้ว เนี้ยหลี่ก็กา้ วเข้าไปภายในเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิเพียง
ล่าพังผู้เดียว
บทที่ 98 - ให้ข้าเป็นอาจารย์ใหม?

“หวังว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าเนี้ยหลี่ หรอกมั้งนะ?” เมื่อ


มองไปยังเนี้ยหลี่ที่ค่อยๆหายไปกับความมืด ตูเซอท่าหน้ามุ๋ย
ขมวดคิ้วเป็นกังวล กับสถานที่ที่ไม่รู้จักอย่างเขตแดนสวรรค์
ศักดิ์สิทธิ์เมื่อเห็นตูเซอท่าแบบนั้นหลู่เพียวก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่
อยู”่

ตูเซอ ข้าว่าเจ้าคิดมากเกินไปและไม่เชื่อใจในตัวเนี้ยหลี่
นะ เจ้าคิดว่าสิ่งนี้จะเป็นเรื่องยากส่าหรับเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นรึ
ไง หากเจ้ามีเวลาว่างมากพอที่จะเป็นห่วงเจ้าเนี้ยหลี่นั่น ท่าไม
ไม่รีบรวมร่างผสานกับจิตอสูรปีศาจที่เนี้ยหลีม่ อบให้เล่า ? ข้า
อดใจไม่ไหวแล้วนะที่จะได้เห็นเจ้ารวมร่างกับ พยัคฆ์อสูรสีชาด
ใจจะขาดอยู่แล้ว!”

หลู่เพียวเคาะแหวนมิติอย่างตื่นเต้น
ตูเซอและหลู่เพียวเดินหาจุดที่เหมาะส่าหรับการฝึกฝน
ของพวกเขา เพื่อรอคอยเนี้ยหลีเ่ มือ่ ได้เห็นการกระท่าของพวก
เขา ช่วยไม่ได้ที่ เย่ เซิง จะรู้สึกพลอยยินดีไปด้วย ไม่น่าแปลก
ใจเลยที่ ตูเซอและหลูเ่ พียวก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วเพียงนี้
เพราะพวกเขาพยายามฝึกฝนอย่างหนักไม่แม้แต่จะปล่อยให้
เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์โดยไม่ท่าอันใดเลย

ส่าหรับนักเรียนคนอื่นนี่คงจะเป็นสิ่งที่หนักหนาแสนสาหัส
เกินจะรับไหว เย่ เซิงและพวกคณาจารย์ เดินไปยังด้านข้างเพื่อ
พักผ่อน ขณะที่ ตูเซอและหลู่เพียว มุ่งมั่นกับการผสานรวมร่าง
กับจิตอสูรปีศาจ
ภายในเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์

ภาพในด้านหน้าถูกบิดเบือนเป็นภาพต่างๆนับไม่ถ้วน ทั่ว
ประกายตาของเนี่ยหลี่ราวกับว่าก่าลังเดินผ่านผ่านช่วงเวลา
และพื้นที่ที่ไม่มีที่สิ้นสุด เนี่ยหลีเ่ ดินเข้ามาและจ้องมองไปรอบ
ๆ พื้นที่ถูกล้อมรอบไปด้วยทุ่งหญ้าและดอกไม้ที่เกิดเป็นภาพที่
สวยงามเกินจะบรรยาย
เมื่อเนี้ยหลีไ่ ด้ก้าวเท้ามายังเขตแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิ์
เนี่ยหลีม่ ีความรู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขาตื่นตัวอย่างแปลก
ประหลาด ราวกับจะระเบิดและขยายตัวออกอย่างไม่หยุดยั้ง
ด้วยที่จิตวิญญาณของเนี่ยหลีเ่ กิดการขยายตัวขึ้น ท่าให้เนี่ยหลี่
ต้องเจ็บปวดและทรมานสุดจะ ทนไว้ได้

เขตแดนสวรรค์เป็นสถานที่ ที่ท่าให้จิตวิญญาณเกิด
การขยายตัวส่าหรับการฝึกเพิ่มพลังวิญญาณโดยแท้จริง! การ
ฝึกภายในเขตแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิเ์ ป็นสิ่งที่ท่าให้พัฒนายิ่งกว่า
ฝึกภายนอกหลายเท่านัก!

จิตวิญญาณของเนี้ยหลี่ขยายตัวออกถึง หนึ่งในสามของ
พื้นที่ทั้งหมดความเจ็บปวดบนใบหน้าของเนี้ยหลี่ที่แสดง
ออกมาบ่งบอกถึงความทรมานอย่างแสนสาหัส
เนี้ยหลีล่ ืมตาขึ้นมองดู พบเจอกับบุคคลผู้หนึ่งก่าลัง
บ่มเพาะพลังอยู่คาดว่าน่าจะเป็น เสี่ยวหนิงเอ๋อ สายตาของเนี้ย
หลี่นั่นพร่ามัวมากในขณะนี้ จนไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่า
ผู้ใดเป็นใคร
ข้างในจิตวิญญาณของเขา อสูรทั้งสองตน คือ เงาอสูรจิตปีศาจ
และ แพนด้าเขีย้ วปีศาจ ได้รับการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่าง
ต่อเนื่อง

สถานที่นี้ เหมาะสมแล้วที่จะถูกเรียกว่าเขตแดน
สวรรค์ศักดิส์ ิทธ์ เนี่ยหลี่รู้สึกได้ว่าจิตอสูรทั้งสองได้เติบโตอย่าง
รวดเร็วภายในจิตวิญญาณของเนี่ยหลี่อย่างต่อเนื่อง ระดับ
ความเร็วการบ่มเพาะพลังของเจ้าสองตัวนี้ เร็วจนน่ากลัวเลย
ทีเดียว

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงที่แหบพร่าคล้ายกับเสียงคนแก่ขึ้นในจิตใต้
ส่านึกของเนี่ยหลี่
“เจ้าเด็กเหลือขอ ท่าไมเจ้าถึงผสานจิตอสูรถึงสองตนไว้ในจิต
วิญญาณของเจ้าได้?”

“ผู้ใดกัน?”เนี้ยหลี่ถามกลับ ในขณะที่รวบรวมจิตวิญญาณอัน
แรงกล้า ท่าให้สัมผัสได้ว่าก่าลังถูก สอดแนมอยู่ แต่จิตวิญญาณ
ไม่ได้ส่งกลิ่นอายมุ่งร้ายเนี่ยหลี่จึงไม่ได้ใส่ใจนัก

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตอบค่าถามของข้าก่อนเจ้าเด็กเหลือขอ ข้าถึงจะ


ตอบเจ้าว่าข้าเป็นใคร”

“เป็นเพราะข้าฝึกฝนเทคนิคการบ่มเพาะพลังพิเศษดังนั้นจึง
สามารถท่ามันได้....”เนีย่ หลีต่ อบอย่างใจเย็น

“โห..เทคนิคพิเศษอันใดกันรึ?”

“ข้าว่านี่เป็นค่าถามที่สองแล้วนะใช่มั้ย?”เนี้ยหลี่กวาดสายตา
เพื่อมองหาต้นเสียงที่ถามเขา”เอาแต่ถามค่าถามผู้อื่นแต่กลับไม่
ยอมตอบค่าถามดูเหมือนว่าท่านคงจะไม่ได้รับการสอนเรื่อง
มารยาทมาสักเท่าไหร่นัก!”
เจ้าของเสียงที่แหบแห้งหัวเราะและกล่าวว่า”

“เจ้านี่ช่างจัดการยากเสียจริง ข้าก็คือผู้หลับไหลอยู่
ภายในเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิมานานหลายศตวรรษแล้ว
แม้ว่าข้าจะได้พบเจออัจฉริยะเพียงไม่กี่คนก่อนหน้านี้ พวกมันก็
ไม่ถูกตาต้องใจข้า มีเพียงเจ้ากับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเท่านั้นที่
ค่อนข้างจะมีพรสวรรค์ อย่างไรก็ตามความสามารถของเจ้ายัง
ดีกว่านิดหน่อย ในวันนี้ข้าได้หมายตาเจ้าไว้แล้ว ข้าจะยอมให้
เจ้าเป็นศิษย์ของข้าก็ได้นะ!”

“เจ้าจะยอมรับข้าเป็นศิษย์อย่างนั้นหรือ เจ้าต้องการให้
ข้ารับเจ้าเป็นอาจารย์ของข้างั้นรึ?” เนี้ยหลี่กล่าวขึ้นอย่างดู
แคลน เป็นอาจารย์ข้ายังไง? เจ้าเป็นใคร? เจ้ายังมีอะไรที่จะ
สามารถสอนข้าได้ ถ้าหากบังเอิญมีคนประหลาดผ่านมาและ
อยากจะเป็นอาจารย์ของข้า ถ้าอย่างนั้นข้าไม่มีอาจารย์เต็มไป
หมดอย่างนั้นหรือ?

“เจ้าเด็กบ้า เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าเป็นใคร?” เสียงแหบแห้งกล่าว


ขึ้นอย่างภาคภูมิใจ

“ท่านเป็นใครอย่างนั้นหรือ?” เนี้ยหลี่ถามด้วยน้่าเสียงค่อนข้าง
ดูถูก

“หลังจากยุคแห่งความมืดจนมาถึงตอนนี้ ห้าร่างทรงอสูร
ระดับต่านาน ได้น่าผูร้ อดชีวิตนับหมื่นคนมาก่อตั้งเมืองกลอรี่
และต้านทานการโจมตีประดุจน้่าหลากของฝูงสัตว์อสูร! ข้าเป็น
หนึ่งในห้าผู้ที่เป็นบรรพบุรุษผู้ก่อตัง้ เมืองกลอรี่ เย่ หยาน! ข้ายัง
เป็นต้นก่าเนิดตระกูลลมหิมะ เจ้าเด็กสารเลว เจ้าตกใจที่ได้ยิน
ชื่อของข้ารึยัง?”

เสียงแหบแห้งดูจะภาคภูมใิ จไม่น้อย “ข้าได้ปิดผนึกจิต


วิญญาณของตัวเองเอาไว้ในพรมแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์เพื่อ
จะปกป้องเมืองกลอรี่ ถ้าไม่ได้ข้าเมืองกลอรี่คงจะล่มสลายไป
แล้ว!”

“โอ้ ท่านเป็นหนึ่งในห้าผู้ก่อตั้งอย่างนั้นหรือ!” เนี้ยหลีเ่ ข้าใจ


วาบขึ้นเขาประสานมือของเขาแล้วพูดว่า

“ต้องของอภัยจริงๆ แต่ท่านผู้ก่อตัง้ ข้าไม่สนใจที่จะเป็นศิษย์


ของท่านน่ะ”

“ไม่สนใจ? เจ้าไม่สนใจเป็นศิษย์ข้าจริงๆอย่างนั้น
หรือ?” เย่ หยาน โมโหมาาก “เจ้าเด็กบ้าเจ้ารู้บ้างรึเปล่า นีเ่ ป็น
โอกาศดีแค่ไหนที่เจ้าได้รับ? ด้วยค่าแนะน่าของข้า เจ้าจะ
สามารถก้าวสูร่ ่างทรงอสูรระดับต่านานในชีวิตของเจ้า หรือ
อย่างน้อยที่สุดก็เป็นร่างทรงอสูรระดับแบล๊คโกลด์”

“ข้าไม่จ่าเป็นต้องมีท่านเป็นอาจารย์ของข้า ข้าก็
สามารถกลายเป็นร่างทรงอสูรระดับต่านานได้” เนี้ยหลี่กล่าว
เสียงดัง แม้ว่าข้าจะเคารพท่านในฐานะผู้ก่อตั้งเมืองกลอรี่ แต่ก็
ไม่ได้หมายความว่าข้าจะต้องมีท่านเป็นอาจารย์ของข้า!

“เจ้า…….จองหองเกินไปแล้ว

เจ้าคิดว่าการเป็นร่างทรงอสูรระดับต่านานนั้นเป็นเรื่อง
ง่ายอย่างนั้นหรือ? ร่างทรงอสูรระดับต่านานเป็นขั้นสุดยอด
ภายในทวีปนี้! กว่าผู้ที่มีความสามารถพิเศษคนอื่นๆ กับ คน
ธรรมดาหลายคนยังไม่อาจไปถึงได้!”

ถ้าเย่ หยานยังคงมีชีวิตอยู่ เขาคงจะระเบิดลงเพราะ


ความโมโหเป็นแน่ ร่างทรงอสูรระดับต่านานอย่างเขาต้องการที่
จะรับเนีย้ หลีเ่ ป็นศิษย์ แต่เขากลับถูกปฏิเสธนีเ่ ป็นเรื่องที่สดุ จะ
ทานทน! “เจ้าควรรู้ไว้นะว่ามีคนมากมายต้องการที่จะเป็นศิษย์
ข้า?”
“เอาล่ะ เอาล่ะ!” เนี้ยหลี่กล่าวขึ้นอย่างยอมแพ้

“ท่านผู้ก่อตั้งเนื่องจากท่านต้องการเป็นอาจารย์ข้า ท่านมีอะไร
จะมาสอนข้าล่ะ?

“ในฐานะที่เป็นร่างทรงอสูรระดับต่านาน ก่อนอื่นเลยข้า
รู้ทุกสิ่งที่อยู่ในทวีปนี้ อีกทั้งข้ายังมีความเชี่ยวชาญทางดารา
ศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และ ลวดลายจารึก ข้ายังมีเคล็ดวิชาการ
ฝึกฝนที่ทรงอ่านาจอีกมากมาย ข้ายังสามารถให้ค่าแนะน่าใน
การต่อสูด้ ้วยจิตวิญญาณอสูรแก่เจ้าได้อีกด้วย!” เย่ หยาน
กล่าวขึ้นด้วยความภาคภูมิใจแบบเต็มเหนีย่ ว

“ข้ามีห้าเคล็ดวิชาอันทรงพลังที่ตกทอดมาอยู่ที่นี่ เจ้าสามารถ
เลือกหนึ่งในนั้นไปฝึกฝนได้!”
แสงทั้งห้าปรากฏขึ้นต่อหน้าเนี้ยหลี่ แต่ละ่ อันมีรูปร่างคล้าย
หนังสือ

“ขอข้าดูเคล็ดการฝึกฝนอันทรงพลังที่ท่านมีก่อน!”

เนี้ยหลี่จ้องมองไปยังหนังสือทั้งห้าเล่ม “นี่มันอะไรกัน?
ท่านจะต้องประสาทแน่ที่น่า เคล็ดวิชาจิตไม้หมุนวน ออกมา นี่
ล้อเล่นใช่ไหม สิ่งนี้เป็นเคล็ดวิธีฝึกฝนส่าหรับร่างทรงอสูรระดับ
แบล๊คโกลด์ใช่หรือไม่? เคล็ดการฝึกฝนนี้มีข้อบกพร่องบางอย่าง
ตรงบทที่สามความจริงแล้วต้องส่งพลังวิญญาณไปยังจุดเทียนชู
หากไม่เช่นนั้นสมควรเป็นการท่าลายอนาคตตนเอง? เพราะว่า
เทียนชูเป็นจุดที่ใช้ในการเชื่อมต่อฟ้ากับดิน!”

“เอ่อ…..ข้าคงเอาออกมาผิดอันนึง” เย่ หยานเหลือบมองอย่าง


งุ่มง่ามเล็กน้อย หนังสือหนึ่งในนั้นก็หายไป

“ไหนขอดูอีกอันซิ นี่อะไร? เคล็ดการฝึกฝนจิตวิญญาณห


ยาง? เคล็ดการฝึกฝนนี้มันช้าเกินไป ท่านสามารถฝึกฝนเคล็ด
วิชานี้ได้เฉพาะเวลากลางวันที่มีแสงแดดมากที่สดุ และไม่
สามารถฝึกฝนยามค่่าคืนได้ ถ้าเช่นนั้นกว่าข้าจะเป็นร่างทรง
อสูรระดับต่านานข้าคงไม่อายุปาเข้าไป เจ็ดสิบแปดสิบแล้วงั้นรึ
ถ้าหากข้าเปลีย่ นจากหยางที่ลุกโชติช่วยภายในร่างเป็น หยิน
หยางพาดผ่านความรวดเร็วในการฝึกสมควรเพิ่มขึ้นเป็นสาม
เท่า!”

“.......” เย่ หยานเงียบงันไปชั่วขณะ เขารูส้ ึกว่าที่เนี้ยหลี่กล่าวอ


อกมานั้นลึกซึ้งมาก จนเขา อับจนค่าพูดของตัวเอง

“แล้วดูนี่ นี่มันไม่ใช่ เคล็ดซากสุนขั ป่างั้นรึ? เคล็ดวิชานีต้ ้องใช้


ร่วมกับการจิตวิญาณอสูรหมาป่าไม่ใช่หรือไง? บางทีความ
เป็นไปได้ที่มันอาจจะเข้าถึงเขตแดนของร่างทรงอสูรระดับ
ต่านาน………….”

“แล้วเจ้าชอบเคล็ดการฝึกฝนนี้หรือไม่?” เย่ หยาน ถามด้วย


ท่าทางปราบปลื้มเล็กน้อย
“ส่าหรับเคล็ดฝึกฝนนี้งั้นหรือ? ถ้าข้าจะถามว่าท่าไม
เคล็ดวิชาซากสุนัขป่าถึงมีแค่เก้าบท? มันสมควรบรรลุได้แค่รา่ ง
ทรงอสูรระดับต่านาน สามดาว แต่ทว่าเคล็ดวิชาซากสุนัขป่า
ของข้านั้นถ้าท่านต้องการข้าสามารถให้บทที่สิบแก่ท่านได้นะ?
ข้ารับประกันได้เลยว่าหากท่านฝึกมัน จะสามารถก้าวไปสู่ร่าง
ทรงอสูรระดับต่านานห้าดาวได้ทีเดียว” เนี้ยหลี่กล่าว

“......” เย่ หยานถึงกับหมดค่าพูด ภายในของเขาแทบจะเป็น


บ้าออกมา เขาอยากรู้ว่าเจ้าเด็กนี้เกิดมาจากอะไร? ตามจริงเขา
ต้องการจะสั่งสอนเคล็ดการฝึกฝนแก่เขาแต่ทว่า กลับถูกสอน
แทนงั้นรึ?

หลายปีที่ผ่านมามีอัจฉริยะมากมายที่ เย่ หยาน เคยพบ


มาก่อนถึงแม้ว่าจะไม่ถึงหมื่น แต่กน็ ับได้ว่าเป็นพันคน พวกเขา
ทั้งหมดล้วนเป็นหัวกะทิของเมืองกลอรี่ แต่ไม่มีใครเลยที่เหมือน
สัตว์ประหลาดเช่นเนีย้ หลี่ เคล็ดการฝึกฝนทั้งห้าของเขาที่เอา
ออกมาล้วนแล้วแต่ทรงพลังมากแต่ในมุมมองของเนี้ยหลี่พวก
มันล้วนไร้ค่า
เย่ หยานไม่เข้าใจจริงๆว่าเนีย้ หลีม่ คี วามรู้มากมายเช่นนั้นได้
อย่างไร? มันเป็นความจริงที่น่ากลัวส่าหรับคนที่อยูม่ านับพันปี
เช่นเขา
บทที่ 99 - ลูกหลานผู้อกตัญญู

“ท่านบรรพชน เทคนิคการบ่มเพาะพลังทั้งห้าเหล่านี้มันอ่อน
ด้อยเกินไป ท่านเรียนรู้เทคนิคพวกนี้หรือ? ไม่น่าแปลกใจที่การ
บ่มเพาะพลังของท่านเป็นไปอย่างยากล่าบากยามเมื่อท่านมี
ชีวิตอยู่ กว่าจะสามารถก้าวไปถึงระดับต่านานได้ ท่าไมไม่ให้ให้
ข้าสอนสุดยอดการบ่มเพาะพลังให้แก่ท่านหละ? ข้ารับประกัน
ได้ว่าการเพาะปลูกของท่านจะก้าวหน้ากว่านี้แน่!

” เนี้ยหลี่ กล่าวพร้อม บอกกล่าว“ตัวข้านั้นมีเทคนิค


การการบ่มเพาะพลังที่มีประสิทธิภาพถึง 3600 วิธีแม้วิธีที่จะ
ให้ผลน้อยทีส่ ุดยังดีมากกว่าห้าเทคนิคของท่าน ถ้ามันไม่ดีจริง
ข้าคงไม่กล้าสอนให้ท่าน”

“พอแล้ว!!”
เย่ หยานตัดบทพูดของเนี้ยหลี่ด้วยอารมณ์ที่โมโหสุดๆ
เนี้ยหลีไ่ ม่ไว้หน้าข้าเลยแม้แต่น้อย เจ้าไม่รู้รไึ งว่าข้าเป็นถึงบรรพ
ชนผู้ก่อตั้งนครรุ่งโรจน์เชียวนะ?

“เจ้าเด็กเหลือขอ ข้าไม่รจู้ ริงๆว่าเจ้าไปได้เทคนิคการ


บ่มเพาะพลังเหล่านีม้ าจากไหน อาจจะได้มาจากทรัพย์สมบัติ
บางส่วน อย่างไรก็ตามแม้ว่าเจ้าจะมีสดุ ยอดเทคนิคการบ่ม
เพาะพลังอยู่ แต่ข้านั้นสามารถเป็นร่างทรงอสูรระดับต่านานได้
ด้วยตัวข้าเองเชียวนะ ข้าสามารถแนะแนวทางที่ดีให้แก่เจ้าได้
ความรู้ที่กว้างใหญ่ของข้า เกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการได้เสีย
อีก!”
“โอ้ว...ขนาดนั้นเชียวรึ ‘ท่านบรรพชนผู้มภี ูไม่ความรู้
มากมาย’ ข้าอยากจะถามท่านเสียยิ่งนักเหตุใดต้องผสาน
วิญญาณอสูรเข้ากับจิตวิญญาณ?”เนี่ยหลี่ มองไปที่ เย่ หยาน
และกล่าวถาม หึ หึ บรรพชนผู้ก่อตั้งต้องการจะต่อสู้กับข้าด้วย
ความรู้งั้นรึ?

“นี่เจ้าไม่มีอาจารย์สอนความรู้พื้นฐานหรือไงกัน?
วิญญาณอสูรนั้นอยู่ในรูปแบบของจิตอสูรเปรียบได้เสมือนน้่า
จิตวิญญาณของเรานั้นก็เปรียบดังภาชนะถ้วยที่มีไว้เพื่อรองรับ
จิตอสูร จึงเกิดการผสานรวมร่างเข้าด้วยกัน!” เย่ หยานตอบ
พลางยิ้มน้อยยิม้ ใหญ่

“แม้ว่าความสามารถของเจ้าไม่เลวเลยทีเดียว แต่ความรู้
พื้นฐานของเจ้ายังเด็กนัก”
“หากท่านบอกว่า จิตวิญญาณของคนเราเปรียบได้
ดังภาชนะถ้วย แล้วจิตอสูรเปรียบได้ราวกับน้่า แล้วเหตุใดบาง
คนที่สามารถบ่มเพาะพลังของตนมาถึงระดับเงินแล้วไม่
สามารถจะรวมร่างกับจิตอสูรได้?” เนี้ยหลี่ยมิ้ แล้วถามกลับ
“ถ้ามันเป็นถ้วยจริงมันก็ควรจะใส่น้่าได้!”

“นั่นมัน....นั่นมันเป็นความเป็นไปได้แค่เล็กน้อยถึง
น้อยมากเท่านั้นที่จะล้มเหลว ดังนัน้ ปัญหานี้จึงไม่จ่าเป็นที่
จะต้องใส่ใจ!” เย่ หยาน ชะงักไปชั่วครู่แล้วกล่าวด้วยเสียงที่ไม่
ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก เย่ หยานไม่สามารถที่จะตอบค่าถามของ
เนี่ยหลีไ่ ด้
“กรณีผิดพลาดที่เกิดขึน้ ได้เล็กน้อยที่ท่านว่านั้น
มักจะเป็นกุญแจส่าคัญที่จะไขไปสูค่ วามลับที่ท่าให้มันเกิดขึ้น
ไม่ได้ หากแม้แต่ร่างทรงอสูรระดับต่านานไม่ทราบเกีย่ วกับเรื่อง
นี้จริงๆ ข้าไม่รู้เลยจริงๆว่าอาจารย์ท่านสอนอะไรให้แก่ท่านกัน
แน่! หากข้ามีโอกาสเป็นศิษย์เขาหละก็ข้าคงจะเอามือตบเขาให้
ตายคาฝาผนังเป็นแน่” เนีย้ หลี่ ส่ายหัวด้วยสีหน้าเศร้าโศก

“ถ้างั้น...เจ้าบอกข้าได้รึไม่?”

เย่ หยานถึงกับตัวสั่น ตั้งแต่ได้เป็นร่างทรงอสูรระดับ


ต่านานเย่ หยานไม่เคยได้รับความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนหน้านี้เลย

“จิตวิญญาณของคนเรานั้นมีรูปแบบและก่าหนด
ความเข้ากันได้ของจิตอสูรที่จะท่าการผสานจิตอสูร หากความ
แตกต่างคุณลักษณะของจิตอสูรกับจิตวิญญาณนั้นมีความ
แตกต่างกันมากเกินไปก็จะไม่สามารถท่าได้ เช่นเดียวกับทีไ่ ฟ
กับน้่าที่ไม่สามารถเข้ากันได้"

“คุณลักษณะที่แตกต่าง?”เย่ หยาน พึมพ่ากับตัวเอง ที่


ผ่านมาเย่ หยานไม่ได้ตระหนักในเรื่องนี้ ค่าตอบของเนี่ยหลีไ่ ด้
เปิดหน้าต่างแห่งความรู้ใหม่ให้กับหัวใจของเย่ หยาน

“นอกเหนือจากคุณลักษณะ ที่แตกต่างกันแล้ว จิต


วิญญาณของมนุษย์เรายังมีความลึกซึ้งอีกด้วย ร่างทรงอสูรปกติ
ก็ไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากท่านเต็มใจให้ข้าเป็นอาจารย์แล้ว
หละก็ ข้าก็จะอธิบายมันให้แก่ท่าน จิตวิญญาณของท่านเองก็
ยังไม่ได้สลายไป การจะช่วยให้ท่านกลับมามีร่างเนื้อก็ใช่ว่าจะ
เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

”เนี้ยหลี่ นั่งขัดสมาธิ เผยให้เห็นรอยยิ้มปรากฏบนหน้า


“สร้างร่างเนื้อให้แก่ข้า ท่าได้ด้วยรึ?เรื่องแบบนี้มัน
เป็นไปด้วย?”เย่ หยานถึงกับตกตะลึง เรื่องนี้มันเกินกว่าสิ่งที่จะ
จินตนาการได้ ท่าไมเจ้าเด็กนี่ถึงได้มีความรูม้ ากมายยิ่งนัก? ใน
ฐานะที่ข้าเป็นถึงบรรพชน ผู้ก่อตั้งนครรุ่งโรจน์หากเป็นเด็กคน
อื่นคงแทบจะหมอบคลานมาเสนอตัวเป็นศิษย์แก่ข้าแล้ว มี
เพียงเนี่ยหลีเ่ ท่านั้นที่เสนอตัวสอนข้าแทน

แม้ว่าเย่ หยานจะโกรธจนแทบอาเจียนออกมาเป็น
เลือด แต่สิ่งที่เนี้ยหลี่กล่าวออกมากับเป็นเสมือนแม่เหล็กที่
ดึงดูดตัวเขาเอาไว้

สิ่งใดก็ตามที่เนีย่ หลี่กล่าวออกมาล้วนอยู่เหนือความเข้าใจของ
ตัวเย่ หยานอย่างสิ้นเชิง

“ไอ้เด็กเวรนี่ เจ้าต้องการจะเป็นอาจารย์ของข้าหรืออย่างไร?”
“ให้ข้าเป็นอาจารย์? ข้าว่า ท่านลืมมันไปเสียเถิด ข้าไม่
อยากจะสอนคนทีไ่ ร้ความสามารถเช่นท่าน!”เนี้ยหลี่ ดูหมิ่น
เย้ยหยัน”ถ้าศิษย์ของข้าใช้เวลากว่า800ปีเพื่อเป็นร่างทรง
ระดับต่านานแล้วยังภูไม่ใจกับมันอยู่หละก็ ข้าคงใช้แส้เฆี่ยนตี
มันผู้นั้นจนตาย!

”เย่ หยานชี้นิ้วไปยังเนี่ยหลีต่ ัวของเย่ หยานเองสั่น


สะท้านไม่ยอมหยุด

“เจ้า นี่เจ้า...ไอ้ ลูกหลานอกตัญญู!”

เย่ หยานแม้กระทั่งหนวดเครายังสั่นสะท้านไปเพราะ
ความโกรธ ถ้าเย่ หยานฟื้นมาตอนนี้ ก็คงตายเพราะความโกรธ
ที่มีต่อเนี้ยหลี่อีกครั้งเป็นแน่
“ข้าไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลของท่านเสียหน่อย ข้า
สืบเชื้อสายมาจากตระกูลบันทึกสวรรค์ ในแง่ของการเกิดของ
ตระกูลข้านั้นก็นับว่าเกิดนานกว่าตระกูล เย่ ของท่าน หาก
แม้ว่าท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับ จืออวิ้นแล้ว หละก็ ข้าจะไม่ใส่ใจ
ท่านแม่แต่นิดเดียว!”

เนี้ยหลี่เบ้ปากเหยียดหยาม เย่ หยานโกรธอย่างที่สุด แต่


เย่ หยานในตอนนี้เป็นเพียงรูปจิตวิญญาณ เย่ หยานไม่
สามารถท่าอันใดแก่เนี่ยหลี่ได้

“ตระกูลบันทึกสวรรค์ ข้าจ่าได้ละเมื่อยามตอนที่ข้า
ก่อตั้งนครรุ่งโรจน์ตระกูลบันทึกสวรรค์เป็นเพียงตระกูลเล็กๆ
เท่านั้น ข้ายอมรับว่าบรรพชนของเจ้าเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก ดู
เหมือนว่าเจ้าจะได้รับมรดกตกทอดมาจากตระกูลของเจ้า!แต่
เพียงมรดกเล็กน้อยเจ้ากล้าจะมาหยิ่งยโสกับข้าผู้นี้เชียวรึ?” แม้
ว่าเย่ หยานจะยอมรับว่าเนียหลี่มคี วามรู้มากกว่า เย่ หยานก็ยัง
ไม่เต็มใจจะยอมรับความพ่ายแพ้เช่นนี้

หากเย่ หยานยอมรับความพ่ายแพ้ให้แก่ เด็กที่มีอายุเพียง


13-14 ปี เขายังจะมีหน้าเป็นร่างทรงอสูรระดับต่านานได้อยู่
หรือ?

“ฮื้มม..!!”เย่ หยานไม่ได้พูดมากนักเนื่องมาจาก การที่เขา


พยายามระงับความโกรธเอาไว้

ตั้งแต่นั้นมาเนีย้ หลี่กไ็ ม่ได้มคี วามคิดที่จะพูดคุยกับเย่ หยานต่อ

เนี้ยหลี่ท่าการฝึกฝนด้วยตัวของเขาเอง คลื่นจิตวิญญาณ
อันงดงามหมุนเวียนรอบตัวเนี้ยหลีอ่ ย่างไม่ขาดสายหลังจากเริ่ม
ฝึก [พลังเทพวิถีฟ้า] จิตอสูรทั้งสองที่อยู่ในตัวเขาก็ท่าหน้าที่ดูด
ซับแรงจิตวิญญาณอย่างต่อเนื่องคล้ายกับฟองน้่า วิญญาณ
ของเย่ หยานยังคงอยู่รอบๆเนี้ยหลี่ แม้ว่าเย่ หยานจะโกรธ
เนี้ยหลี่แต่เมื่อได้เห็นวิธีการฝึกฝนของเนี้ยหลี่มันท่าให้เย่ หยาน
ละสายตาไปจากมันไม่ได้เลย

คลื่นแรงวิญญาณที่แผ่ออก รูปแบบของการฝึกดังกล่าว
ไม่เหมือนกับสิ่งที่ร่างทรงอสูรระดับเงินจะฝึกได้ มันเหมือนกับ
เป็นการฝึกของร่างทรงอสูรระดับต่านานเสียมากกว่า

เมื่อมองไปยังเสี่ยวหนิงเอ๋อ เย่ หยานก็คดิ กับตัวเอง


ว่า ‘ไม่ว่าจะเป็นเจ้าเด็กเหลือขอนีห่ รือเจ้าเด็กตุ๊กตานี่ ก็มี
เทคนิคการบ่มเพาะพลังที่น่ากลัวมากราวกกับสัตว์ประหลาดที่
ก่าลังอยู่ในช่วงวัยเยาว์ นี่เป็นเพราะข้าไม่ได้ออกไปเห็นโลก
ภายนอกมาหลายปีหรือย่างไรกันนะ จึงได้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้?’

เมื่อเทียบกับเทคนิค [พลังเทพวิถีฟ้า]ของเนี้ยหลี่
เทคนิคการบ่มเพาะพลังทั้งห้าของเย่ หยานนั้นเป็นดังขยะไป
เลย แม้ว่าความเร็ว เทคนิค[พลังเทพวิถีฟ้า]จะช้ากว่าเทคนิค
[มังกรเหินวายุอสั นี]และ[เทคนิค ภูติฟินิกซ์หิมะน้่าแข็ง 9 ชีวิต]
แต่ก็มีความเร็วมากกว่าเทคนิคทั้งห้าที่ เย่ หยานน่าเสนอก่อน
หน้านี้ เป็นสิบเท่า ความคิดของเย่ หยานย้ายไปยังเสี่ยวหนิง
เอ๋อ

“เจ้าเด็กตุ๊กตา ความสามารถของเจ้าไม่เลวเลยทีเดียว
เจ้าอยากจะมาเป็นศิษย์ของข้าไหม?”

เมื่อได้ยินเสียงของ เย่ หยาน เสีย่ วหนิงเอ๋อ สะดุ้งเล็กน้อยแล้ว


ถามกลับไปว่า

“ท่านเป็นใครกัน?”

“ข้าเป็นบรรพชนผู้ก่อตั้งนครรุ่งโรจน์ ผู้ก่อตั้งตระกูล
ลมหิมะ เย่ หยาน!”เย่ หยานตอบอย่างภูไม่ใจ
“ท่านบรรพชนผู้ก่อตั้ง! ข้าเสีย่ วหนิงเอ๋อ มาจากตระกูลปีก
มังกร คาราวะท่านบรรพชน!”เสีย่ วหนิงเอ๋อแสดงความเคารพ
ทันที นางมีความเคารพอย่างเต็มเปี่ยมให้กับบรรพชนผู้ก่อตั้ง
ของประวัติศาสตร์

เย่ หยายยิ้มและกล่าวว่า”ไม่เลว ไม่เลว เจ้ามีคณ ุ ค่า


เพียงพอที่จะให้ข้าสอน!”นี่มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เจ้าเนี้ยหลี่
ต่างหากที่ผิดปกติ”ข้าอยู่ในเขตแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิ์มาเป็นพัน
ปีแล้ว ข้าสงสัยว่าโลกภายนอกตอนนี้เป็นเช่นไร?”

“ท่านบรรพชน นครรุ่งโรจน์ตอนนี้ยังปลอดภัยอยู่ค่ะ”

“มีร่างทรงอสูรระดับต่านานที่คอยเฝ้าปกป้องนครรุ่งโรจน์อยู่
ณ ตอนนี้หรือไม่?”

“นับตั้งแต่บรรพชนผู้ก่อตั้ง ตอนนี้มีเพียงท่านเย่ โม่ เท่านั้นที่


เป็นร่างทรงอสูรระดับต่านาน”เสีย่ วหนิงเอ๋อตอบ

“เป็นไปได้เยีย่ งไร?”
เย่ หยาน ขมวดคิ้ว แปลกมากไม่ว่าจะเป็นเจ้าเด็กเนี้ย
หลี่นั่น หรือ เสี่ยวหนิงเอ๋อ ทั้งสองต่างมีเทคนิคการบ่มเพาะ
พลังที่มีประสิทธิภาพมาก เป็นเรื่องที่น่าตกใจ ด้วยเทคนิคการ
บ่มเพาะพลังที่มีประสิทธิภาพเช่นนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่มีร่าง
ทรงอสูรระดับต่านานเพียงคนเดียว

"มีปัญหาอะไรหรือค่ะ?" เสี่ยวหนิงเอ๋อ ถามด้วยความอยากรู้


อยากเห็น

"ไม่มีอะไรหรอก หนู่น้อยเจ้าช่วย ส่งวิธีบ่มเพาะพลังของเจ้าให้


ข้าดูได้หรือไม่ ข้าอาจสามารถแนะน่าให้เจ้าได้บางอย่าง!” เย่
หยานกล่าว หลังจากนั้นใบหน้าของเย่ หยาน ก็เปลีย่ นเป็นสี
แดง

“นี่.....”เสี่ยวหนิงเอ๋อลังเลอยู่พักนึง
บทที่ 100 -ดาบเทพอัสนีดาวตก

อะไร? มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?” เย่ หยาน ถามอย่างเคร่งขรึม

“ด้วยความเคารพท่านผู้ก่อตั้ง เทคนิคการบ่มเพาะ ที่ข้าใช้


อยู่ เรียกว่า เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอัสนี] เพื่อนของ
ข้าเป็นผู้ถ่ายทอดมันให้กับข้า แต่หากไม่ได้รับการอนุญาตจาก
เพื่อนของข้า ข้าเกรงว่า ข้าคงไม่สามารถบอกเกี่ยวกับเทคนิค
การบ่มเพาะนี้แก่ท่านผู้ก่อตั้งได้.” เสี่ยว หนิงเอ๋อ ตอบหลังจาก
ที่นิ่งเงียบไปสักครู่

ข้าต้องการเพียงแค่ดเู ทคนิคการบ่มเพาะนี้ ข้าไม่ได้


ต้องการที่จะขโมยเทคนิคการบ่มเพาะของเจ้า....” หน้าของ เย่
หยาน กลายเป็นสีแดงก่่าเมื่อเธอบอกเช่นนั้น. ส่าหรับเขานั้น
การที่จะต้องไปก้มหัวเพื่อขอดูเทคนิคการบ่มเพาะของเสี่ยว หนิ
งเอ๋อมันเป็นเรื่องที่น่าขายหน้า แต่เขาก็ไม่สามารถทนต่อความ
อยากรู้ที่เขามีต่อ เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอัสนี] แต่
กระนั้น การทีไ่ ม่สามารถขอดูได้ มันท่าให้เขารู้สึกคันยุกยิกอยู่
ในใจ ราวกับโดนแมวข่วน.

ได้โปรด ยกโทษให้หนิงเอ๋อด้วย ที่ไม่อาจปฏิบัติตาม


ค่าสั่งของท่าน" เสี่ยว หนิงเอ๋อกล่าวยืนยัน. ในความคิดของเธอ
การที่อนุญาตให้ผู้อื่นดู เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอัสนี]
เท่ากับเป็นการทรยศต่อเนี้ยหลี่. แม้ว่าจะเป็นบรรพบุรุษผู้ก่อตั้ง
เมืองกลอรี่ เธอไม่อาจปฏิบัติตามค่าสั่งได้

ส่าหรับเรื่องนี้ หากข้าจะเอาบางสิ่งบางอย่างเพื่อ
แลกเปลี่ยนกับเจ้า หากเจ้าให้ข้าดู เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกร
เหินวายุอัสนี]

”แล้วข้าจะมอบ เทคนิคการบ่มเพาะที่ดยี ิ่งกว่านั้นให้กับ


เจ้า...” เย่ หยาน พูดอย่างอดกลั้น

ขณะที่เย่ หยานก่าลังคุยกับเสีย่ ว หนิงเอ๋อก็มีเสียงดังมาจาก


ภายนอก

“หนิงเอ๋อ เค้าไม่เชื่อคนแก่ขี้โกหกอย่างท่านหรอก. เทคนิคการ


บ่มเพาะเก่าเก็บของท่าน จะดีไปกว่า เทคนิคการบ่มเพาะ
[มังกรเหินวายุอสั นี] ของข้าได้อย่างไร?” เนี้ยหลี่กล่าว

เจ้าเด็กเหลือขอ กล้าดียังไงมาเรียกข้าว่าคนแก่ขี้โกหก!

เย่ หยาน ระเบิดความโกรธออกมา เค้ารูส้ ึกเจ็บใจที่ถูกจี้ใจด่า

แล้วไงหล่ะ? ท่านก่าลังจะเอาเทคนิคการบ่มเพาะเก่าเก็บมา
แลกกับเทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอัสนี] ช่างไร้ยางอาย
ยิ่งนัก

ท่านยังคงเรียกตัวเองว่าเป็นบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งของเมือง
กลอรี่ได้อีกเหรอ?เป็นคนที่อาศัยอยู่เป็นเวลาหลายร้อยปี แต่
ท่านก่าลังจะหลอกลวง สาวน้อยไร้เดียงสา ท่านยังมีความ
ละอายใจอยู่อีกหรือไม่!” เนีย้ หลีต่ อ่ ว่าโดยไม่ไว้หน้า

“เจ้า....เจ้า....เจ้า...” เย่ หยาน แทบจะเป็นบ้า เนีย้ หลีต่ ่อว่าเค้า


โดยใช้ถ้อยค่าที่ไม่มีการไว้หน้าแม้แต่น้อย

“เนี้ยหลี่ เจ้ามาท่าอะไรที่น?ี่ ท่าไมเจ้าถึงมาพูดคุยอยู่ในหัวของ


ข้าได้” เสีย่ ว หนิงเอ๋อเอ่ยถาม ในตอนนี้ ภายในสถานทีฝ่ ึกฝน
เสียงของเนี่ยลี่ ดังเข้ามาในหัวของเธอ

ค่าพูดของเสี่ยว หนิงเอ๋อท่าให้เย่ หยานถึงกับตะลึง เป็น


เพราะเขาได้ตายไปแล้วและเป็นเพียงรูปแบบจิตวิญญาณใน
ขณะนี้ ดังนั้นเขาสามารถใช้จิตวิญญาณของเขาจะพูดคุยกับ
เสี่ยว หนิงเอ๋อได้ แต่เนีย้ หลี่ กลับท่าได้เหมือนกัน?

“นี่คือร่างแยกวิญญาณ มันเป็นแค่แค่ทักษะง่าย ๆ” เนี้ยหลี่ยิ้ม


เล็กน้อยขณะที่ตอบ

ร่างแยกวิญญาณ? เย่ หยานไม่เคยได้ยินชื่อทักษะนี้มาก่อน


ในชีวิต แต่เนี้ยลี่กลับบอกว่า เป็นแค่ทักษะง่าย ๆ? เย่ หยาน
แทบจะเป็นบ้า เจ้าเด็กนีม่ ันมาจากแห่งหนใดกันแน่?!

คนแก่ขี้โกหก อะไรคือสิ่งที่ท่านต้องการ?” เนี้ยหลีเ่ อ่ยถาม

ได้ยินเนี้ยหลี่คุยกับบรรพบุรุษผูก้ ่อตั้งเย่ หยาน เสี่ยว หนิ


งเอ๋อเริ่มรูส้ ึกเริ่มหวาดระแวง
วิญญาณของเย่ หยาน แทบระเบิดด้วยความโกรธ เขากล่าว
ว่า “ข้าเองก็ตายไปแล้ว ท่าไมข้าจะต้องสนใจกับเทคนิคการ
บ่มเพาะของเจ้า? นอกจากนั้นเทคนิคการบ่มเพาะของเจ้ามันก็
แค่เรื่องหลอกลวง”

ถ้าหากท่านไม่สนใจ ท่าไมท่านถึงต้องการที่จะแลกเปลี่ยน
เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอัสนี] กับหนิงเอ๋อรึ ? ฮึ่ม ถ้า
ท่านไม่ต้องการให้คนภายนอกพบเจอ แล้วท่าไมไม่ท่าเช่นนั้นห
ล่ะ” เนี้ยหลี่พูดแบบไม่ไว้หน้าเย่ หยานแม้แต่น้อย

“นี่เจ้า.....” เย่ หยานโกรธมาก

เจ้าก่าลังท่าให้ข้าโกรธ ข้าเพียงแค่ต้องการดูว่ามีอะไรที่ขาด
หายไปใน เทคนิคการบ่มเพาะ [มังกรเหินวายุอัสนี] ! ”
“ขาดหายไป งั้นเหรอ? ด้วยความสามารถของท่าน ทั้ง ๆ ที่
เป็นแค่วิญญาณเนี่ยนะ อย่างท่านจะเห็นว่ามีอะไรที่ขาดหายไป
ใน เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอัสนี] !”

“มันเป็นไปไม่ได้หรอกนะ ที่เราจะให้ท่านดู เทคนิคการบ่ม


เพาะ [มังกรเหินวายุอัสนี].... ” เนีย้ หลี่หัวเราะขณะที่กล่าว

เย่ หยานขนคิ้วกระตุก เขารู้สึกอย่างเห็นได้ชัดว่าเนี่ยหลี่ ก่าลัง


วางแผนอะไรบางอย่าง แต่เขาไม่อาจระงับความอยากรู้อยาก
เห็นอันมากมายของเขาได้
เย่ หยานหมกมุ่นอย่างมากกับการศึกษาการต่อสู้ เขาหลงไหล
การเรียนรู้ เทคนิคการบ่มเพาะทุกประเภท และได้พบเจอ
เทคนิคการบ่มเพาะที่เยี่ยมยอดมามากมาย เมื่อเขาตระหนักดี
ว่า เทคนิคการบ่มเพาะของเนี้ยหลี่ กับ เสี่ยว หนิงเอ๋อนั้น เป็น
สิ่งที่เค้าไม่เคยพบเจอมาก่อน มันกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น
ของเขามากขึ้น ท่าให้เขาต้องการที่จะรู้ให้ได้

เดิมทีเขาวางแผนจะรับเนี้ยหลี่เป็นศิษย์ เพื่อที่เขาจะได้เฝ้าดู
เทคนิคการบ่มเพาะที่ราวกับมีมนต์ขลังของเนี้ยหลี่

แต่ท้ายที่สดุ เนี้ยหลี่นั้นยิ่งใหญ่เกินไป และ


วิพากษ์วิจารณ์เขาอย่างไม่ไว้หน้า เนื่องจากเค้าไม่สามารถที่จะ
ดูเทคนิคการบ่มเพาะพลังของเนี้ยลี่ เขาจึงมาดูเสีย่ ว หนิงเอ๋อ
แทน แต่ท้ายที่สุดก็จบลงด้วยค่าพูดที่ไม่ไว้หน้าของเนี้ยหลี่
เช่นเดิม

เขาคิดว่าคงจะไม่มีหวังอีกแล้ว แต่ค่าพูดของเนี้ยหลี่กจ็ ุด
ประกายความหวังของเขาขึ้นมาอีกครั้ง

“พูดมาสิ! ว่าเจ้าต้องการอะไร?” เย่ หยานเข้าใจดีแล้วว่า เนี้ยลี่


นั้นเจ้าเล่ห์เพียงใด ถ้าเขาไม่พูดอย่างตรงไปตรงมา อาจจะหลง
กลเนี้ยหลี่ได้

“สมแล้ว ที่เป็นหนึ่งไปผู้ก่อตั้งเมืองกลอรี่ ช่างตรงไปตรงมายิ่ง


นัก ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะพูดตามตรง ข้าต้องการ ดาบอัสนีดาว
ตก”เนี้ยหลี่ยิ้ม พร้อมกับพูดออกไป

“เป็นไปไม่ได้” เย่ หยานตะเบ็งเสียง


ดาบอัสนีดาวตก ? มันคืออะไร? เสี่ยว หนิงเอ๋อรู้สึกสับสน เธอ
ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย นับตั้งแต่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งปรากฏตัว

เมื่อ เย่หยาน ปรากฏตัว เนี้ยหลี่ก็ได้เริม่ วางแผนส่าหรับ


วัตถุประสงค์ของเขาคือดาบอัสนีดาวตก
ดาบอัสนีดาวตกเป็นอาวุธที่มีอานุภาพสูงมากเพราะมันกลืน
วิญญาณปีศาจนับไม่ถ้วนในการสู้รบ ซึ่งนั่นท่าให้มันมีอานุภาพ
อย่างน่าเหลือเชื่อ

“งั้นก็ลืมมันไปซะ....” เนี้ยหลี่ ยักไหล่

เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้ารู้ได้อย่างไรว่า ดาบเทพอัสนีดาวตก ได้ถูก


ปิดผนึกไว้ใน พรมแดนศักดิ์สิทธิ?์ ”เย่ หยานกระตุกคิ้ว เขามอง
ไปยังเนี้ยหลี่

"เข้าก็ต้องรู้เป็นเรื่องธรรมดาอยูแ่ ล้ว ครอบครัวบันทึกสวรรค์


ผ่านระยะเวลามาอันยาวนาน,ข้ารู้ยังรู้อะไรมากมายนักท่าน
บรรพบุรษผู้ก่อตั้ง”เนี้ยหลี่พูดพร้อมกับยักไหล่
เจ้า...เจ้าเด็กเหลือขอเหม็นโฉ่ มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่เจ้าจะ
ได้รับดาวอัสนีดาวตก แม้ว่าข้าจะยอมยกให้ ถึงแม้เจ้าจะ
แข็งแกร่ง แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถควบคุมดาบอัสนีดาวตกได้!
หากแม้เจ้าประมาทเพียงเล็กน้อย เจ้าก็จะถูกดาบอัสนีดาวตก
เล่นงานเอาเสียเอง

เย่ หยานพูด

มันอาจจะเป็นเรื่องที่ฟังดูน่ากลัว แต่หากท่าน บรรพบุรุษ


ผู้ก่อตั้ง ยกดาบอัสนีดาวตกให้กับข้า ข้าจะก่าราบมันให้ดูเอง”
เนี้ยหลี่ กล่าวอย่างอวดดี

นั่นมันเป็นไปไม่ได้ ณ ตอนนั้น ในห้าอันดับร่างทรงอสูร


ระดับต่านาน มีเพียงแค่ผู้เดียวเท่านั้นที่ก่าราบดาบศักดิ์สิทธิ์นั้น
ได้” เย่ หยาน ส่ายหัว

หากท่านบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งคิดอย่างนั้น ท่าไมเราไม่มาลอง
เดิมพันกันสักหน่อยหล่ะ?” เนี้ยหลี่ตอบพร้อมกับยักคิ้ว

เย่ หยาน มองไปที่เนีย้ หลี่ ถ้าหากเป็นคนอื่น เย่ หยานเชื่อ


ว่า จะไม่มีใครก่าราบดาบศักดิ์สิทธิ์นั้นได้ แต่เนีย้ หลี่ท่าให้เค้ามี
ความรูส้ ึกแปลก ๆ ราวกับว่าทุกอย่างเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยใน
สายตาของเนีย้ หลี่ ถ้าเป็นเนี้ยหลี่ เค้าอาจจะสามารถก่าราบ
ดาบเทพอัสนีดาวตกได้จริง ๆ
เย่ หยาน ยังคงคลางแคลงใจ ถ้าหากเนี่ยลีส่ ามารถ
ควบคุมดาบอัสนีดาวตกได้ นั่นก็เป็นสัญญาณทีด่ ีส่าหรับเมือง
กลอรี่ แต่ในอดีต ดาบเทพอัสนีดาวตกเคยเปล่งประกายในมือ
ของ เซิง มู เขาได้ใช้มันสังหารสัตว์อสูรนับล้านตัว มันช่างเป็น
ดาบกระหายเลือดที่น่าสะพรึงกลัว แม้ว่าเซิง มู จะตายลงไป
เพราะผลกระทบจากดาบอัสนีดาวตก นั่นคือ ดาบอัสนีดาวตก
นั้นมีอานุภาพร้ายกาจอย่างไม่ต้องสงสัย

สิ่งที่ใช้เดิมพันหล่ะ?

หากข้าสามารถก่าราบดาบอัสนีดาวตกได้ ท่านบรรษบุรุษผู้
ก่อตั้งเย่ หยาน จะต้องคอยติดตามข้าหลังจากจากนี้ แต่ถ้าหาก
ข้าก่าราบมันไม่ได้ ข้าจะให้ท่านดูการ สวดภาวนา ของเทคนิค
การบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอัสนี] มันก็เพียงแค่นี้” เนี้ยหลี่พูด
พร้อมกับยิ้มเล็กน้อย การเดิมพันนี้มีแต่พียงเขาที่ได้รับ
ประโยชน์ ไม่มีอะไรทีเ่ สียหาย แม้ว่าเขาจะแพ้ ก็แค่ให้ดู
เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอัสนี] อย่างไรก็ตาม เย่
หยาน ก็ไม่สามารถที่จะน่าไปใช้ปฏิบัติได้อยู่ดี

เจ้าต้องการให้ข้าคอยติดตามอยู่ใกล้ ๆ เจ้างั้นเหรอ? เจ้ามัน


สารเลว อวดดี!” เย่ หยานพูดด้วยความโกรธ

ในกรณีนี้ ท่านบรรษบุรุษผู้กอ่ ตั้งเย่ หยาน ก็สามารถเลือก


ได้ที่จะไม่ยอมรับมัน”

เนี้ยหลีย่ ักไหล่ เสี่ยว หนิงเอ๋อมองไปทางเนี้ยหลี่กับเย่


หยาน ในตอนนั้นเอง ริมฝีปากของเธอได้ยิ้มแล้วหัวเราะออกมา
เธอรับรู้เหตุผลได้อย่างชัดเจน ว่าท่าไม เนี้ยหลี่ถึงได้พูดไม่หยุด
กับท่านบรรษบุรุษผู้ก่อตั้งเย่ หยาน นั่นเพราะต้องการให้เขา
โกรธ ตั้งแต่แรก ท่านบรรษบุรุษผูก้ ่อตั้งเย่ หยาน ถูกเนี้ยหลี่
ปั่นหัวราวกับเป็นตุ๊กตา
เนี้ยลี่ คนขี้แกล้ง!” เสี่ยว หนิงเอ๋อคิดอะไรขึ้นมาบางอย่าง
แล้วหน้าของเธอก็ค่อย ๆ แดงขึ้น
พูดไปแล้ว ตั้งแต่ต้น เธอก็เหมือนกับเป็นของเล่นของเนี้ยหลี่มา
ตลอด แต่เสีย่ ว หนิงเอ๋อก็เต็มใจทีจ่ ะเป็นอย่างนั้น

เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าตั้งใจที่จะหลอกข้าใช่ไหม? มันไม่ง่าย


อย่างนั้นหรอก เราเดิมพันกันก็ได้ แต่เงื่อนไขของการเดินพัน
จะต้องเปลีย่ นแปลงก่อน” เย่ หยาน พูดอย่างภูมิใจที่รู้ทัน
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเนี่ย ล่อหลอกเขาด้วยวัตถุประสงค์บางอย่าง
แต่เขาต้องการเห็น ถ้าเนี้ยลี่จะสามารถก่าราบดาบเทพอัสนีได้

เปลี่ยนเป็นอะไรหล่ะ?” คิ้วของเนี้ยหลี่โก่งขึ้นเล็กน้อย
มอบ เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอสั นี] มาให้ข้า แล้ว
ข้าจะพาเจ้าไปหาดาบเทพอัสนีดาวตก ถ้าหากเจ้าก่าราบดาบ
เทพอัสนีดาวตกไม่ได้ เจ้าจะต้องแสดงเทคนิคการบ่มเพาะพลัง
ของเจ้า!” เย่ หยานพูด เขาอยากรูว้ ่าเนี้ยหลีย่ ังมีเทคนิคการบ่ม
เพาะพลังอะไรที่เหนือกว่า เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุ
อัสนี] อีก

เนี้ยหลีม่ องไปยัง เสีย่ ว หนิงเอ๋อ

เจ้ายินดีที่จะถ่ายทอด เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุ
อัสนี] ให้กับท่านบรรษบุรุษผู้ก่อตัง้ เย่ หยาน หรือไม่?

เสี่ยว หนิงเอ๋อพยักหน้าแล้วกล่าวว่า

เจ้าเป็นคนมอบเทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุ
อัสนี] ให้กับข้า ข้าคงจะมิอาจปริปากว่าอย่างไรได้”
เนี้ยหลี่พยักหน้า
ท่านบรรษบุรุษผู้ก่อตั้งเย่ หยาน เรายอมรับข้อเสนอ” เนี่ยลี่
ยิ้มเล็กน้อยแล้วตอบออกไป มันก็แค่ เทคนิคการบ่มเพาะ สอง
อย่างเท่านั้น มันไม่ได้เป็นปัญหาเลย แม้ว่าเขาจะปล่อย
ให้บรรษบุรุษผู้ก่อตั้งเย่ หยานดูก็ตาม ถ้าหากไม่มีความ
ช่วยเหลือจากเขา บรรษบุรุษผู้ก่อตั้งเย่ หยานก็ยังคงเป็นเพียง
ร่างจิตวิญญาณเท่านั้น

เนี้ยหลี่ ท่องบทสวด เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุ


อัสนี] เพียงแค่ครั้งเดียว เย่ หยานป้องหูตั้งใจฟัง คิ้วที่ขมวดของ
เขา ค่อย ๆ ผ่อนคลายดูราวกับคนเมา เมื่อเนีย้ ลี่ ท่องเทคนิค
การบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอัสนี] จบ เขารู้สึกขนลุกขนพอง

เป็นเทคนิคการบ่มเพาะที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้ ถ้าหากข้า
ได้มีประสบการณ์ ในการใช้เทคนิคบ่มเพาะนีม้ าตั้งแต่ต้น ข้าคง
ไปได้สูงกว่า ระดับต่านาน ไปอีกไกล และคงบรรลุขอบเขตที่ไม่
อาจไปถึงได้” บรรษบุรุษผู้ก่อตั้งเย่ หยาน กล่าวอย่าง
ประหลาดใจ อานุภาพของเทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุ
อัสนี] นั้นไปไกลกว่าจินตนาการของเขา

เดิมทีเขาคิดว่า ด้วยความสามารถของร่างทรงอสูรระดับ
ต่านาน เขาจะสามารถหาข้อบกพร่องของ เทคนิคการบ่มเพาะ
[มังกรเหินวายุอสั นี] ได้ไม่มากก็นอ้ ย แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่า
เทคนิคการบ่มเพาะ[มังกรเหินวายุอัสนี] นั้นสูงส่งกว่าระดับของ
เขาในปัจจุบัน

ราวกับเป็นวิชาของพระเจ้า!
มันอาจจะเป็นไปได้ที่จะมีระดับที่เหนือกว่าระดับต่านาน ?

เอาหล่ะ ท่านบรรษบุรุษผู้ก่อตัง้ เย่ หยาน ตอนนี้ท่านควร


จะพาเราไปได้แล้ว” เนี้ยหลีม่ องไปยังเย่ หยานที่ตกใจอยู่ แล้ว
พูดพร้อมกับยิ้ม
“แน่นอน” บรรษบุรุษผู้ก่อตั้งเย่ หยาน ตื่นจากความฝัน
พร้อมกับพยักหน้า เมื่อมองเข้าไปในตาของเนี้ยหลี่ เขาก็รู้สึก
สับสน
บทที่ 101 กลืนกินจิตวิญญาณอสูร

เนี้ยหลี่ พร้อมกับ เสีย่ วหนิงเอ๋อ ทั้งสองลุกขึ้นยืนขึ้นภายใต้การ


ดูแล ของบรรพชนผู้ก่อตั้ง เอียหยาน เนี้ยหลี่ และ เสี่ยวหนิง
เอ๋อ ตรงเข้าไปยังส่วนลึกของเขตแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิ์

ในขณะที่ทั้งสองเดินไปยังส่วนลึกของ เขตแดนสวรรค์
ศักดิ์สิทธิ์อยู่นั้น จู่ๆในหัวของพวกเขาก็ปรากฏเป็นภาพลวงตา
มากมายหลายประเภท ท่าให้เห็นเป็นภาพลวงตาราวกับว่ามี
สัตว์อสูรปีศาจนานับพันตัวเข้ามาโจมตีเข้ามาจากทุกทิศทาง

อย่างไรก็ตาม ภาพลวงตาระดับต่่าพวกนี้ ไม่สามารถท่า


ให้เนี้ยหลีไ่ ด้รับผลกระทบใดๆเลย เพราะจิตใจของเนี่ยหลี่
แข็งแกร่งมากกว่า

ใบหน้าของเสี่ยวหนิงเอ๋อซีดลงเล็กน้อยหลังจากต่อสู้กับ
ภาพลวงตาพวกนั้น เสื้อผ้าของนางเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อที่ซึม
ออกมา เหล้าอัจฉริยะที่เข้ามายังเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ก่อน
หน้านี้ไม่กล้าที่จะเข้ามายังส่วนลึกของเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์
แห่งนี้แม้แต่น้อย สาเหตุเพราะว่ายิ่งลึกเข้าไปในเขตแดนสวรรค์
ศักดิ์สิทธิ์มากเท่าไหร่ยิ่งทวีความอันตรายมากขึ้นนั่นเอง

เนี้ยหลีส่ ัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่รุนแรงแผ่ออกมาจากที่ ที่อยู่ไกล


ออกไป

มันเป็นกลิ่นอายของ ดาบเทพอัสนีดาวตก !

ช่างเป็นกลิ่นอายที่รุนแรงจริงเพียงแค่สิ่งที่มันปล่อย
ออกมา ก็สร้างความกดดันแก่ผู้ทพี่ บเจอมัน!

เมื่อเห็นว่ากลิ่นอายสังหารก่าลังเหนือกว่าเสี่ยวหนิง
เอ๋อและเกือบจะกลืนกินนาง สีหน้าของเนี้ยหลี่ดจู ริงจังขึ้น
เนี้ยหลีร่ ีบจัดการกับจิตวิญญาณของเสี่ยวหนิงเอ๋อ รวดเร็วราว
กับฟ้าผ่า ร่างกายของนางสั่นสะท้านไปทั้งตัว จิตใจของนางเอง
ก็ถูกช่าระล้างไปด้วย
“หนิงเอ๋อ เจ้าไม่เป็นไรนะ?” เนี้ยหลี่ มองไปยัง เสี่ยวหนิง
เอ๋อ เสี่ยวหนิงเอ๋อยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า

“อืมม..ขอบใจเจ้ามากนะ เนี้ยหลี่”เสี่ยวหนิงเอ๋อ ขอบคุณ


เนี้ยหลีด่ ้วยใจจริงนางมองกลับไปยังเนี้ยหลี่ ถ้าเนีย้ หลีไ่ ม่ช่วย
นางแล้ว นางจักต้องถูกกลิ่นอายสังหารกลืนกินจิตใจนางไปแล้ว
อย่างแน่นอน

เนื่องจากเหงื่อที่ชุ่มไปทั้งตัวของนาง เสื้อผ้าที่แสนบางที่
เสี่ยวหนิงเอ๋อได้สวมใส่อยูไ่ ด้แนบชิดกับตัวนางเผยให้เห็นเรือน
ร่างที่งดงามชวนหลงใหลมากยิ่งขึ้น ยอดดอกที่ชันขึ้นของนาง
ช่างดูสง่างามยิ่งนัก

เสี่ยวหนิงเอ๋อนางก่าลังจะกลายเป็นสาวงามและเสน่ห์
ที่เพิ่มขึ้นของนางเมื่อนางได้โตเป็นสาวนั้นยังชวนให้หลงใหล
อย่างมากมันช่วยไม่ได้เลยที่เนี่ยหลี่จะแสดงสีหน้าตกตะลึงเมื่อ
ได้เห็นเรือนร่างของเสี่ยวหนิงเอ๋อ
สร้างความว้าวุ่นในใจให้เนีย้ หลี่ไม่น้อย(ก่าหนัดไง) ใบหน้า
ของเนี้ยหลี่เริ่มแดงระเรื่อขึ้นด้วยความเขินอาย เขาท่าได้เพียง
เกาจมูกพร้อมเบือนหน้าหนีไปทางอื่นแก้ความเขินอาย
เท่านั้น (รู้นะ ว่าในใจเอ็งไปถึงไหน เด็ก 13-14 แก่แดดด !!!)

ท่านบรรพชนผู้ก่อตั้ง เอียหยาน หากข้าต้องการจัดการ


ดาบเทพอัสนีดาวตก แล้วให้ท่านมาติดตามข้า ท่านจะว่าเยี่ยง
ไร?”เนี้ยหลี่เปลี่ยนเรื่องหันหน้าไปคุยกับ เอี้ยหยานทันที

ได้ส!ิ ”เอียหยาน กล่าว”ข้ารับปาก! หากเจ้าสามารถที่


จะปราบ ดาบเทพอัสนีดาวตกได้จริงอย่างที่เจ้าว่าแล้วละก็นะ
ข้าก็ไม่ประสงค์ที่จะอยู่ในเขตแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิ์แห่งนี้อีก
ต่อไป

จิตวิญญาณของข้าติดอยู่กบั ดาบเทพอัสนีดาวตกมันจึง
เป็นสาเหตุที่ข้ายังไม่กระจายออกไปไหน แต่อย่างไรก็ตามนะ
เจ้าเด็กเหลือขอ ข้าขอแนะน่าเจ้าไว้อย่างนึง การที่จะน่าดาบ
เทพอัสนีดาวตกออกมาใช้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่นึกอยากจะท่าก็ท่า
ได้!”
“ถ้ามันเป็นเรื่องง่าย มันก็คงจะไม่มีค่าพอให้สนใจ!”กล่าวตอบ
พร้อมยิ้ม อย่างไม่ได้กังวลเกี่ยวกับมันสักเท่าไร

เอียหยานอึ้งปนเปกับความงง งวย ท่าไมเนี้ยหลี่ถึงได้มั่นใจนัก


?

หากเนี้ยหลี่ดึง ดาบเทพอัสนีดาวตกออกมาได้ มันก็ไม่ได้


เป็นสิ่งที่เลวร้ายอะไรนี่ แถมข้ายังจะได้ออกไปจากเขตแดน
สวรรค์ศักดิส์ ิทธิ์ และได้มองดูโลกภายนอกด้วย !

เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็ได้เข้าใกล้กับ แกนกลางของ


เขตแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิ์ แท่นบูชาโบราณที่อยู่ไกลออกไป
ปรากฏท่ามกลางสายตาของ เนี้ยหลี่ ดาบนี้ถูกปกคลุมด้วย
สายฟ้าจ่านวนนับไม่ถ้วน รวมถึงเสียงลมเสียงฟ้าผ่าที่ส่งมาจาก
มันด้วย

ไม่แม้แต่กลิ่นอายสังหารทีม่ ันแผ่ออกมาตลอดเวลา
ดาบศักดิส์ ิทธิ์นี้มีจิตวิญญาณสิงอยู่ แม้ว่าพวกเนีย้ หลี่
จะอยู่ไกลออกไป กว่าร้อยเมตรพวกเขายังรู้สึกได้ถึงความเย็นที่
ทะลุทะลวงเข้ามาถึงกระดูกเลยทีเดียว

นั่นนะหรือ ดาบเทพอัสนีดาวตก ?” เสี่ยวหนิงเอ๋อ


อุทานออกมา แม้ว่าจะอยู่ไกลจากมันมากนางก็ยังรูส้ ึกถึงแรก
กดดันวิญญาณที่แข็งแกร่ง แม้แต่การก้าวเท้าไปข้างหน้ายังเป็น
เรื่องที่ยากจะท่าได้ยิ่ง

ในขณะที่นางรับแรงกดดันวิญญาณที่แผ่ออกมานั้น
ภายในจิตวิญญาณของเสี่ยวหนิงเอ๋อ ก็เพิ่มความแข็งแรงขึ้น
อย่างรวดเร็ว เคล็ดวิชา[มังกรเหินวายุอัสนี] เทคนิคการบ่ม
เพาะพลังของนางถูกหมุนเวียนอย่างรวดเร็วภายในร่างของนาง
จิตวิญญาณภายในของนางราวกับมีมังกรทะยานอยู่ภายใน
หลังจากนั้นไม่นานนัก จิตวิญญาณของเสี่ยวหนิงเอ๋อ
ระเบิดออก แรงจิตวิญญาณของนางวิ่งแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
ตูม!!!!

ประสบความส่าเร็จ!!!

ระดับ 5 ดาว เงิน !!

เคล็ดวิชา[มังกรเหินวายุอัสนี] เป็นเทคนิคการบ่ม
เพาะพลังอย่างรุนแรง ความเร็วและความคืบหน้ามี
ประสิทธิภาพมากกว่า [พลังเทพวิถีฟ้า] ของเนี้ยหลี่อยู่มาก
ภายใต้แรงกดดันของ ดาบเทพอัสนีดาวตก ความสามารถใน
การบ่มเพาะพลังของเสี่ยวหนิงเอ๋อก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้น

อีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้นก็จะถึง ระดับทอง!

แม้ว่าเสี่ยวหนิงเอ๋อ จะยังไปไม่ถึงระดับ ทอง เทคนิคของ


นางก็แข็งแกร่งมาก ผู้เชี่ยวชาญระดับ 1-2 ดาวทอง ย่อมมิใช่
คู่มือนาง
เมื่อได้เห็นระดับการบ่มเพาะพลังของเสี่ยวหนิงเอ๋อ พุ่ง
ทะยานและดึขึ้นมาก ช่วยไม่ได้ที่เนี้ยหลี่จะยิ้มออกมาด้วยความ
ชื่นชม ความแข็งแกร่งของเสี่ยวหนิงเอ๋อในปัจจุบันเพียงพอแล้ว
ที่จะเปลีย่ นแปลงชะตากรรมของนางในอดีตของนาง

“การผสานรวมกับจิตวิญญาณปีศาจ”เนี้ยหลี่มองผ่าน
เสี่ยวหนิงเอ๋อ ไปพร้อมหยิบผลึกบางอย่าง

“นั่นมันคืออะไรกัน?”เสี่ยวหนิงเอ๋อมองไปยังผลึก
วิญญาณปีศาจที่เนีย่ หลีห่ ยิบมาด้วยความสงสัย

“คุณสมบัติ พายุสายฟ้า นกกระจอกสายฟ้าแห่งสวรรค์


จิตอสูรปีศาจที่มีอัตราการเติบโตระดับพระเจ้า!”เนี้ยหลี่กล่าว
แล้วน่ามันเหน็บบนมือของเสี่ยวหนิงเอ๋อ
“เนี้ยหลี่ ข้า....”เสี่ยวหนิงเอ๋อเงยหน้านางขึ้น น้่าในตา
ของนางปริ่มล้นออกมา เนี้ยหลี่ช่างปฏิบัติดีต่อนางยิ่งนัก นาง
ไม่รเู้ ลยว่าจะตอบแทนเยี่ยงไรจึงจะสามารถตอบแทนเนีย้ หลีไ่ ด้

เนี้ยหลี่ตบไหล่เสี่ยวหนิงเอ๋อเบาๆแล้วยิ้มพร้อมกล่าว”
เจ้ารีบรวมร่างกับจิตอสูรตนนี้โดยเร็วเถอะ ด้วยความแข็งแกร่ง
ของเจ้าหากเจ้ามี นกกระจอกสายฟ้าแห่งสวรรค์เป็นจิตอสูร
แล้วละก็ แม้จะเป็นข้าก็มิอาจเป็นคู่มือเจ้า!”

เพื่อที่จะได้ไล่ตามเนี้ยหลี่ และได้ยืนเคียงข้างเนี้ยหลี่ในซัก
วันหนึ่ง! เสีย่ วหนิงเอ๋อ รีบรวมร่างกับนกกระจอกสายฟ้าแห่ง
สวรรค์

“เจ้าเด็กน้อย มันเป็นเรื่องจริงที่ว่าจิตอสูรนั้นคือ
นกกระจอกสายฟ้าแห่งสวรรค์ แต่ที่เจ้าบอกว่าการเติบโตระดับ
พระเจ้านีม่ ันหมายความว่าเยี่ยงไรกัน ?”บรรพชนผู้ก่อตั้งขมวด
คิ้วถามด้วยความสงสัย
“ท่าไม่ข้าต้องบอกให้ท่านรู้ด้วยรึ?”เนี้ยหลี่กล่าวพร้อมกับปัด
มือไปมา (ส่งเนี้ยหลี่อบรมมารยาทแม่ม)

“นี่เจ้า.....เฮอะ ลืมมันไปซะเถอะ ถ้าเจ้าไม่ต้องการจะ


บอกข้า!”บรรพบุรุษผู้ก่อตั้ง เอียหยาน ถึงกับส่ายหน้าอย่าง
เอือมระอา

เนี้ยหลีเ่ หลือบมองมายังเสี่ยวหนิงเอ๋อที่ก่าลังรวมร่าง
กับจิตอสูรอยู่เพียงครูเ่ ดียวเท่านั้น จากนั้นก็เงยหน้าและก้าว
เดินต่อไปยัง ดาบเทพอัสนีดาวตก

เมื่อเห็นเนีย้ หลีเ่ ดินเข้าไปใกล้ ดาบเทพอัสนีดาวตก เอีย


หยานเงียบลง และกลับเข้ามาอยูภ่ ายในร่างของเนี้ยหลี่

เนี้ยหลีจ่ ะสามารถดึงดาบ เทพอัสนีดาวตกได้จริงหรือนี่ ?


ในตอนนี้ความแข็งแกร่งของเนี้ยหลี่เป็นเพียงร่างทรง
อสูรระดับเงินเท่านั้นยังไม่ถึงระดับทองเสียด้วยซ้า่ ท่าอย่างไร
เนี้ยหลีจ่ ึงจะดึง ดาบเทพอัสนีดาวตกขึ้นมาได้กัน? อย่างน้อย
ต้องมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าร่างทรงอสูรระดับต่านาน
เสียก่อนเพื่อจะ ควบคุม ดาบเทพอัสนีดาวตกได้!

เพราะเหตุนั้น แม้แต่เอียหยานก็ไม่มั่นใจเลยว่าเนี่ยหลี่จะ
สามารถท่ามันได้ส่าเร็จ

ความสามารถของเนี้ยหลี่นั้นเก่งกาจเกินไป ไม่ว่าจะเป็นเทคนิค
การบ่มเพาะพลังที่มี ทักษะต่างๆหรือความรอบรู้ที่มากมายเกิน
จะหยั่งถึงเกินกว่าที่ผู้อื่นจะจินตนาการได้ แม้แต่เอียหยายเองก็
ยังอดคิดไม่ได้ว่า เนี้ยหลี่อาจจะเป็นปีศาจที่อยู่มาแล้วหลายร้อย
ปี

เมื่อระยะห่างจากตัว ดาบเทพอัสนีดาวตก ร่นมาถึงระยะ ห้า


สิบเมตร แรงกดดันยิ่งทวีความรุนแรงมากกว่าที่ผ่านมา
ดาบเทพอัสนีดาวตกได้สังหารเหล่าอสูรปีศาจนับไม่ถ้วน
หลังจากดาบได้ดื่มเลือดของเหล้าปีศาจอานุภาพของมันก็ยิ่ง
แข็งแกร่งขึ้น หากใช่แต่เลือดเท่านัน้ ที่มันดื่มกินมันยังกลืนกิน
เหล่าวิญญาณที่มันสังหารไปด้วย เป็นเหตุให้ดาบเล่มนี้มีกลิ่น
อายสังหารแผ่ออกมาอย่างรุนแรงนั่นเอง

กลิ่นอายสังหารนั้นเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง
ราวกับเป็นคลื่นแห่งการสังหารที่จะกวาดล้างทุกอย่างด้วย
ความตั้งใจอย่างแรงกล้า
เป็นดาบโบราณที่มีค่ามากอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

หากแม้ว่าร่างทรงอสูรธรรมดา ต่อให้พวกเขามียศถึง
ทองค่าด่า ก็ยังน่าสะพรึงอยูด่ ีหากต้องเผชิญหน้ากับกลิ่นอาย
สังหารของดาบเล่มนี้

ในขณะที่กลิ่นอายสังหารส่งผลมายัง เนี้ยหลี่ เนี่ยหลีไ่ ม่


รอช้ารีบรวมร่างผสานกับอสูรเงาปีศาจทันที แล้วรีบใช้
ความสามารถลบกลิ่นอายท่าให้เข้าสู่สถานะล่องหนอย่าง
รวดเร็ว

ร่างกายของเนี้ยหลี่ค่อยๆเลือนรางและจางหายไป จึงท่า
ให้กลิ่นอายสังหารนั้นทะลุผ่านเนีย้ หลีไ่ ปกลิ่นอายสังหารนั้น
ไม่ได้ก่ออันตรายใดๆให้เนี้ยหลี่เลยแม้แต่น้อย (ขี้โกงเอ้ย)

เมื่อได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึน้ เบื้องหน้า สายตาของเอีย


หยานหรีล่ งเล็กน้อย เอียหยานสามารถรับรู้ได้ว่าภายในร่างของ
เนี้ยหลี่นั้นมีจิตอสูรอยู่ถึงสองตนด้วยกัน แต่ตลอดเวลาที่ผ่าน
มานั้นเอียหยานไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนีเ้ ลยแม้แต่นิดเดียวจนกระทั่ง
ได้เห็นเนี้ยหลี่ใช้ความสามารถให้เห็นเมื่อครู่นี้ เอียหยานถึงกับ
ต้องสูดอากาศเข้าปอดไปเต็มๆ (อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
ซี้ดดดดด เพลงมา...)

“เจ้าหนูนี่มีจติ อสูรปีศาจอยู่ถึงสองตน!”เมื่อคิดถึงชื่อ
ของจิตอสูรเงาปีศาจ เอียหยานถึงกับมีความรูส้ ึกเสียวสันหลัง
ไม่น้อย (ผีมันมีความรู้สึกนั้นด้วย)
ในอดีตกาลที่ผ่านมานั้น จิตอสูรเงาปีศาจนับว่าเป็นจิต
อสูรที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก ผู้ใดก็ตามที่ผสานรวมร่างกับจิต
อสูรเงาปีศาจจักเป็นมือสังหารที่แข็งแกร่งมาก แม้นว่าร่างทรง
อสูรระดับต่านานจะมีความแข็งแกร่งในการป้องกันมาก จิต
อสูรเงาปีศาจก็สามารถจบชีวิตของเขาได้เช่นกัน..

หลังจากนั้นอสูรเงาปีศาจก็เริม่ สูญพันธ์ไป ร่างทรงอสูรที่


รวมร่างกับมันก็มีจ่านวนลดน้อยลงไปเรื่อยๆ

เอียหยาน ไม่คาดคิดเลยว่า จะได้เห็นใครรวมร่างกับจิต


อสูรเงาปีศาจในวันนี้

‘ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าเด็กเหลือขอนี่มั่นใจนักหนาว่าจะ
สามารถดึง ดาบเทพอัสนีดาวตกออกมาใช้ได้’

เอียหยานแอบถอนหายใจ
หลังจากที่เดินเข้าไปในสถานะล่องหน เนี้ยหลี่ได้เข้าใกล้
กับดาบเทพอัสนีดาวตกอย่างช้าๆ ค่อยๆก้าวไปทีละก้าวขึ้นไป
ยังแท่นบูชา เมื่อระยะห่างจากดาบถึงตัวเนี่ยหลีเ่ หลือเพียงสอง
เมตร เนี่ยหลี่ได้โผล่ออกมาด้านบนของแท่นบูชากลิ่นอาย
สังหารไม่อาจทันรูส้ ึกได้

เนี้ยหลีไ่ ม่ได้เข้าไปใกล้ดาบเทพอัสนีดาวตกในทันที
เขาหยุดแล้วนั่งขัดสมาธิ เนี้ยหลี่ปล่อยแรงวิญญาณออกมาจาก
ร่างเข้าสูด่ าบเทพอัสนีดาวตก

ปริซึมๆ ๆ ๆ (เอฟเฟคแล้วแต่จินตนาการ)

เสียงระเบิดทีด่ าบเทพอัสนีดาวตกปล่อยออกมาดังสนั่นลั่น
ไปทั่วทุกพื้นที่ ช่างเป็นเสียงที่น่าหวั่นกลัวเสียยิ่งนัก

วิญญาณอสูรปีศาจนับสิบล้านตัวแปรสภาพกลายเป็น
สายฟ้า กระหน่่ามาใส่เนี่ยหลี่แบบไม่ยั้งมือ
“มา! “พลังวิญญาณของเนี่ยหลี่ค่อยๆเพิ่มขึ้น เป็นจิต
อสูรแพนด้าเขี้ยวปีศาจนั้นเองที่ท่าการปกป้องเนี่ยหลี่จากการ
กระหน่่ายิงจากอสูรเหล่านั้น

หนึ่งในอสูรปีศาจเหล่านั้นได้พุ่งเข้าไปในจิตวิญญาณของเนี้ยห
ลี่

จิตวิญญาณของเนี้ยหลี่ก็กลายเป็นดังวาฬที่อ้าปากรอรับ
เหยื่อที่เข้ามายังภายในจิตวิญญาณ
เหมือนจุดหมายของเหล่าปีศาจจู่โจมจะเป็นของปลอมที่เนี้ยหลี่
ท่าการหลอกล่อเข้ามา วิญญาณอสูรที่เข้ามายังภายในเนี่ยหลี่
บดแตกละเอียดกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย จิตวิญญาณที่แตก
ละเอียดนั้นถูกเนี่ยหลี่ดดู ซับเข้าไปเป็น พลังจิตวิญญาณของ
ตัวเนี่ยหลี่เองโดยปริยาย

หลังจากนั้นไม่นานนัก วิญญาณอสูรตัวอื่นก็พุ่งตามตัวแรกไป
ตามๆกัน(โหดูดเวลใหญ่เลย)
แพนด้าเขี้ยวปีศาจเปรียบได้ดั่งยามที่คอยเฝ้าประตูนรก
ภายใน จิตวิญญาณของเนี่ยหลี่ ทีจ่ ะลิขิตชะตาวิญญาณอสูร
ปีศาจตนอื่นเข้าไปได้หรือไม่

เนี้ยหลี่นั้นกลืนกินเหล่าจิตอสูรปีศาจอย่างไม่หยุดพัก
ท่าให้การบ่มเพาะพลังของเนี่ยหลีเ่ พิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 4ดาว
เงิน – 5ดาวเงิน ขยับเข้ามาใกล้ระดับยศทองขึ้นเรื่อยๆแล้ว

กองก่าลังปีศาจจ่านวนนับไม่ถ้วนถูกบดขยี้ให้
กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยเรียงตัวกันเป็นเชือกโดยเนี่ยหลี่เดิน
เข้าไปหาดาบเทพอัสนีดาวตก
ตูม ตูมมมม ตูมมมมมม (ตุมตุมตุมตะดุ่มตุมตุม)

แรงวิญญาณของเนี้ยหลี่โจมตีต่อต้านดาบเทพอัสนีดาว
ตกท่าให้เกิดเสียงระเบิดของฟ้าที่ผา่ ลงมาตามมามากมาย
ทันทีที่ได้เห็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้นตรงหน้า เอียหยานก็
เข้าใจได้ในทันทีว่าเนี้ยหลีส่ ามารถที่จะใช้ดาบเทพอัสนีดาวตก
ได้จริงๆ !

จบตอน.............
บทที่ 102 หุ่นปักษาสถิตวิญญาณระดับต่านาน

หลังจากที่ร่างทรงอสูรระดับต่านาน เซิ่นมัว ได้ฝึกฝนวิทยายุทธ์


อัสนีบาตเขาได้เปลีย่ นร่างกายของเขาเข้ารวมร่างกับอัสนี
ดังนั้นเขาจึงสามารถปราบดาบเทพอัสนีดาวตกได้ โดยไม่ต้อง
พึ่งวิธีการอันทรงพลังมาก หลังจากนั้นมิมีผู้ใดสามารถปราบ
ดาบเทพอัสนีดาวตกลงได้

อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกันมันยังมีข้อบกพร่องอย่าง
มาก มันก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงกลับไปยังขอบเขตพลัง
วิญญาณของเซิ่นมัว ซึ่งเป็นเหตุผลให้เซิ่นมัวล่วงลับไปในวัย
เพียง 39 ปี

จริง ๆ แล้ว วัยเพียง 39 ปี อยู่บนจุดสูงสุดของร่างทรงอสูร ดัง


นั้นเซิ่นมัวที่จากไปก่อนวัยอันควรคนอื่นๆ จึงรู้สึกสงสารเขา

หลังจากนั้นไม่มีใครทีส่ ามารถปราบดาบเทพอัสนีดาวตก
ได้ เพื่อหลีกเลีย่ งจากออร่าแห่งความตายทีร่ ั่วไหลออกมาจาก
ดาบเทพอัสนีดาวตก พวกร่างทรงอสูรระดับต่านานทั้งหมดจึง
สร้างสิ่งนี้ขึ้นมาที่เขตแดนสวรรค์ศกั ดิ์สิทธิ์และปิดผนึกดาบเทพ
อัสนีดาวตกที่นี่

แตกต่างจากเซิ่นมัว เนีย้ หลีไ่ ม่ได้ใช้วิธีการเปลี่ยนแปลง


ร่างกายเพื่อปราบดาบเทพอัสนีดาวตก แต่เขาเปลี่ยนพลังจิต
วิญญาณในดาบเทพอัสนีดาวตกเป็นของเขาเองและควบคุม
พลังของเหล่าจิตวิญญาณอสูรเพื่อที่จะปราบดาบเทพอัสนีดาว
ตก

เนี้ยหลี่ท่าให้เรื่องที่ใหญ่กลายเป็นเรื่องที่เล็ก แม้ว่าความ
แข็งแกร่งของเขาจะอยู่เพียงแค่ในระดับเงิน เขาใช้วิธีการที่
แม้แต่ร่างทรงอสูรระดับต่านานก็ไม่สามารถที่จะกระท่าได้

ถ้าข้ารู้ว่าวิธีการนี้จะสามารถปราบดาบเทพอัสนีดาวตกได้ ข้า
จะได้รับความสามารถที่จะควบคุมดาบศักดิส์ ิทธิ์เล่มนี้ตั้งแต่เมื่อ
ตอนนั้นแล้ว" เอียเหยียนรูส้ ึกเศร้าใจ ถ้าเขารู้วิธีการที่จะ
ควบคุมดาบเทพอัสนีดาวตก บรรดาร่างทรงอสูรระดับต่านานก็
จะไม่ต้องมีใครตายในสนามรบ เมืองกลอรี่จะมีความ
เจริญรุ่งเรืองมากกว่า ณ ตอนนี้แน่นอน

ตูม! ตูม! ตูม!

ประกายสายฟ้าระเบิดออกมาจากดาบเทพอัสนีดาวตก แต่เมื่อ
เวลาผ่านไปนั้น สายฟ้าก็ค่อยๆจางหายลงไป

เนี้ยหลีค่ ่อยๆลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ บริเวณโดยรอบถูก


กวาดล้างด้วยแรงพลังวิญญาณและได้ก้าวเข้าไปยังดาบเทพ
อัสนีดาวตกทีล่ ะก้าว ที่ละก้าว

ด้านหน้าของสายฟ้าแรงพลังวิญญาณเป็นเหมือนงูที่
ล้อมรอบดาบเทพอัสนีดาวตก มันยังคงต่อต้านอยู่ แต่มันก็
ค่อยๆที่จะสงบลง

เนี่ยหลีม่ ั่นใจแล้วจึงคว้าไปที่ด้ามจับ
วู้มม

เกิดเสียงที่ดังสนั่น "วู้มม" เสียงมันมาจากดาบเทพอัสนีดาวตก

เสียง "วู้มม" ที่ดังสนั่นหวั่นไหวได้แพร่กระจายไปทั่วบริเวณ


โดยรอบ

มันยังคงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วอาณาบริเวณและดังจนผ่านเมือง
กลอรี่ออกไป

คลื่นเสียงที่มองไม่เห็นนั่น คนธรรมดาไม่สามารถที่จะได้
ยินมัน เพียงแค่ร่างทรงอสูรระดับแบล็คโกลด์ และสูงกว่า
เท่านั้นที่จะรูส้ ึกถึงอานุภาพของคลื่นเสียงมันราวกับว่ามัน
สามารถแทงเข้าไปยังขอบเขตพลังวิญญาณ

ตระกูลศักดิส์ ิทธิ์
เกิดอะไรขึ้น?" ผู้น่าตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ใบหน้าของเสิ่นฮอง
นั้นกับบูดเบี้ยว เขาโดนถล่มโดยคลื่นเสียงท่าให้ขอบเขตพลัง
วิญญาณของเขาเกิดสั่นไหว เขาเกือบจะอาเจียนเป็นเลือด
เพราะมัน การบ่มเพาะพลังของเขาหลายชั่วยามนั้นถูกลบล้าง
ไปในทันทีเป็นพลังที่มีอ่านาจที่น่ากลัวมาก!
เสิ่นฮองไม่สามารถคิดได้ว่าคลื่นเสียงนี้มาจากที่ใด

ต่าหนักของท่านเจ้าเมือง

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนในปัจจุบันก่าลังพูดคุยกัน เรื่องการ
เคลื่อนที่ของเสียงจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง

คลื่นเสียงมันมาจากที่ใดกันเอียเซิ่งถามโดยขมวดคิ้วของเขา

ด้วยความเคารพท่านเจ้าเมือง คลืน่ เสียงนี้มองไม่เห็นและ


ติดตามได้ยาก เราจึงไม่สามารถทีจ่ ะติดตามไปถึงต่าแหน่งของ
มันได้" ร่างทรงอสูรระดับแบล็คโกลด์ตอบ
คลื่นเสียงที่มองไม่เห็นเคลือ่ นที่โดยไร้รูปแบบไปมา เอีย
เซิ่งคิดกังวลว่าอาจจะมีสัตว์อสูรระดับต่านานอยู่รอบเมืองกลอ
รี่จึงได้เรียกร่างทรงอสูรระดับแบล็คโกลด์และสูงกว่าเพื่อหารือ
เกี่ยวกับการตอบโต้

ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงอีกหลายคน ตระกูลใหญ่อื่นๆอีก
มากมายนอกจากนี้ ยังพบสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน แต่นักสู้
และอสูรวิญญาณไม่ได้รับผลกระทบจากมัน

เป็นพลังที่น่ากลัวมาก!

ณ ใจกลาง เขตแดนสวรรค์ศักดิ์สทิ ธิ์

เนี้ยหลี่กุมดาบเทพอัสนีดาวตกไว้อย่างแน่นหนา พร้อมขยับ
ไปมา ดาบอัสนีเล่มนี้เป็นของที่มีค่าคู่ควรยิ่งนัก เป็นถึงระดับ
พระเจ้าในต่านาน พละก่าลังของมันช่างอยู่เหนือ
จินตนาการ ความแข็งแกร่งของมันเหนือกว่าดาบหมอกม่วงที่
เขาใช้ในชาติที่แล้วเสียอีก

เมื่อเขาดึงดาบเทพอัสนีดาวตกออกมากะทันหัน
ประกายแสงจากดาบพวยพุ่งผ่านไปมาทั่วท้องฟ้า สายฟ้านับไม่
ถ้วนพุ่งตรงมารวมกันยังดาบเทพอัสนีดาวตกในมือเนี้ยหลี่แล้ว
ประกายแสงก็ค่อยๆจางลงไป

ดาบเทพอัสนีสายฟ้านั้นล้อมรอบไปด้วยประกายแสงพุ่ง
ไปมาอย่างรวดเร็วและเริม่ จางลงกลายเป็นดาบโบราณขนาด
ใหญ่มีคราบสนิมบางส่วนเกาะติดอยู่กับมัน ใครจักรู้ว่าดาบใหญ่
เล่มนีเ้ ล่มนีค้ ือดาบเทพอัสนีดาวตก ที่มีอ่านาจผสานล่าแสง
สายฟ้าได้อย่างยอดเยี่ยม

ในตอนนี้ ดาบเทพอัสนีดาวตกได้รบั รู้แล้วว่ามันต้องกลายเป็น


ทาสรับใช้ของเนี่หลี่
โดยปติดาบเทพอัสนีดาวตกจะมองไม่แตกต่างจากดาบเหล็ก
ทั่วไป แต่เมื่อเนีย้ หลี่ใส่พลังวิญญาณของเขาเข้าไปภายใน ดาบ
เทพอัสนีดาวตกจะปล่อยพลังอันน่ากลัวออกมา

เนี้ยหลี่วางดาบเทพอัสนีดาวตกไว้ที่ด้านหลังของเขา แล้ว
มองไปที่บรรพชนผู้ก่อตั้ง เอียหยาน ซึ่งตอนนี้ลอยอยู่ใน
อากาศพร้อมกับยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า“ดังนั้น? ท่านบรรพ
ชนเอียหยาน ดาบเทพอัสนีสายฟ้าเล่มนี้ถูกสยบโดยข้า”

หลังจากตกตะลึงไปสักครู่บรรพชนผู้ก่อตั้ง เอียหยานก็กล่าวว่า
“ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะสามารถสยบดาบเทพอัสนีดาวตกได้
จริง ข้าจะท่าตามสัญญา อย่างไรก็ตามดาบเทพอัสนีดาวตกถึง
ท่าให้อ่อนก่าลังลงโดยเจ้า และกลายเป็นดาบที่มีเจ้าของ พลัง
วิญญาณของข้าไม่สามารถเชื่อมต่อกับมันได้ ข้าจะหายไปใน
ไม่กี่วัน ดังนั้นข้าคงจะปฏิบัติตามสัญญาได้เพียงไม่กี่วัน
.................

“ท่านบรรพชนผู้ก่อตั้ง เอียหยาน ไม่ได้คิดโกหกใช่ไหม?” เนี้ย


หลี่มองไปยังเอียเหยียนด้วยสายตาดูถูก
“เจ้า......ในฐานะที่ข้าเป็นผู้ก่อตั้งเมืองกลอลี่ ท่าไมข้าต้อง
โกหก!” เอียหยานปล่อยลมหายใจอันหนาวเหน็บออกมา

“มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากในการที่จะให้วิญญาณให้สถิตอยู่ใน
สิ่งของ” เนี้ยหลี่ รีดดวงตาลงพร้อมยักไหล่ “ตามข้ามา”

หาสิ่งของส่าหรับให้วญ
ิ ญาณเข้าไปสถิตอยู่ได้ง่ายเลย
เหรอ? ภายใต้ผืนฟ้ายังมีสิ่งของที่มีพลังวิญญาณที่ไม่มีเจ้าของ
เหมือนกับดาบเทพอัสนีดาวตก สิง่ ของธรรมดาไม่สามารถที่จะ
ให้วิญญาณสถิตอยู่ได้

แต่เมื่อมองมาที่เนีย้ หลี่ นั้นดูมีความมั่นใจมาก เอียหยานลังเล


ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินตามเขาไป

ก่อนที่ดวงวิญญาณของเขาจะหายไป เขาจะยึดถือค่าสัญญา
อย่างแน่นอน
เมื่อปราศจากดาบเทพอัสนีดาวตก เขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ก็
ไม่สามารถที่จะอยู่ได้ยืนยาวอีกต่อไป

เนี้ยหลีม่ องไปที่ เสีย่ วหนิงเอ๋อ ที่ก่าลังมุ่งมั่นในการฝึกอยู่ และ


กล่าวว่า “หนิงเอ๋อ ไปกันเถอะ!?”

“อือ” เสี่ยวหนิงเอ๋อพยัคหน้า

บริเวณ นอกเขตชายแดนสวรรค์ศกั ดิ์สิทธิ์

หลังจากก้าวออกจากเขตชายแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิ์ เนี้ยหลี่และ


เสี่ยวหนิงเอ๋อพบกับตูซ้ ื่อ และหลู่เพลี่ยว ที่อยู่ด้านนอก

“พวกเจ้าผ่านการทดสอบจากชายแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์
ได้จริงด้วย!” เอียเชิงมองมาที่เนี่ยหลี่และเซี่ยวหนิงเอ๋อ ด้วย
ความรูส้ ึกตะลึง เขามีมมุ มองที่ค่อนข้างดีต่อพวกเขาอยู่แล้ว
ถ้ามีการจัดการที่ดีกผ็ ่านการทดสอบได้
เนี้ยหลี่ป้องมือค่านับพร้อมทั้งกล่าว “ ท่านรองอาจารย์ใหญ่
โปรดเก็บเรื่องที่ข้าผ่านชายแดนสวรรค์ศักดิส์ ิทธิ์นี้ไว้เป็น
ความลับด้วย”

เมื่อได้ยินเนีย้ หลี่กล่าว เอียเชิง ขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังจาก


คิดสักครู่ เขาก็พยักหน้า เนีย้ หลีต่ ดั สินใจถูกต้องแล้ว
ความสามารถพิเศษของเนี้ยหลีต่ อนนี้นั้นได้แสดงออกมาจนท่า
ให้น่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก ถ้ามีเรื่องน่าประหลาดใจอื่นเข้า
ไปอีก จะไม่ใช่ผลดีแน่ และอาจจะถูกสมาคมทมิฬลงมือ
บางอย่างเป็นแน่

เสี่ยวหนิงเอ๋อ ยังตื่นเต้นมากกับการผ่านการทดสอบ
จากชายแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ในตอนนี้นางได้เพิม่
ความสามารถจนถึง ระดับซิลเวอร์ ขั้นห้าดาว เป็นที่เรียบร้อย
แล้ว ด้วยความสามารถเป็นพิเศษของนาง จะต้องได้รับการ
ปกป้องจากเจ้าเมืองในระดับสูง ในอนาคตจะไม่มีใครบังคับเธอ
ให้แต่งงานกับ เสิ่นเฟยได้อีกครั้ง
เอียเชิง รีบรายงานข่าวของเนี้ยหลี่และเซียวหนิงเอ๋อ ได้
ผ่านการทดสอบชายแดนสวรรค์ศกั ดิ์สิทธิ์ ให้แก่เจ้า
เมือง หลังจากที่ได้รับรายงานเจ้าเมืองก็สั่งการในทันทีให้
เสี่ยวหนิงเอ๋อ ย้ายเข้ามาอยู่ในต่าหนักเจ้าเมืองทันที

เนี้ยหลี่ในตอนนี้ยังไม่กลับไปยังต่าหนักเจ้าเมืองในทันที
แต่กลับซื้อวัสดุต่างๆ บริเวณรอบเมืองกลอลี่ หลังจากซื้อวัสดุ
จ่านวนมาก เนี้ยหลี่ก็เริม่ ประดิษฐ์ หุ่นปักษาสถิตวิญญาณ
ตามพิมพ์เขียวทีไ่ ด้มา

เขาผ่านการฝึกประสบการณ์ช่างตีเล็กจากผู้เชี่ยวชาญของเมือง
กลอลี่ เพื่อสร้างงานฝีมือนีด้ ้วยตอนเอง เขาได้แกะสลักตาม
รูปแบบในจารึก

เมื่อเห็นสิ่งที่เนี้ยหลี่กา่ ลังสร้าง เอียหยานก็ตกตะลึงเป็นอย่าง


มาก พร้อมกล่าว “ นี่คือที่สถิตวิญญาณใช่ไหม?”

“ถูกต้อง” เนี้ยหลีย่ ิ้มเล็กน้อยพร้อมกับพยักหน้าของเขา


“เจ้าก่าลังท่าสิ่งที่ชั่วร้ายหรือ?” บรรพชนผู้ก่อตั้ง เอียหยาน
เข้าใจว่าเนี้ยหลี่เตรียมทีจ่ ะผนึกวิญญาณลงในหุ่นกระบอกนี้

“มิใช่สิ่งชั่วร้ายหรอก ในโลกนี้มเี พียงคนชั่วเท่านั้น” เนี้ยหลี่


ส่ายหน้าของเขา

เอียหยานเริ่มลังเล เขานั้นได้ตกลงสัญญากับเนี้ยหลี่เรียบร้อย
เขาต้องรักษาสัญญาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเขาไม่มี
ความสุขนักที่วิญญาณของเขาจะต้องเข้าไปสถิตอยู่ภายในหุ่น
กระบอกวิญญาณ แต่ก็ยังดีกว่าดวงวิญญาณของเขาต้องสลาย
ไป อะไรที่ท่าให้บรรพชนผู้ก่อตั้งเอียหยาน ต้องตกต่่า ถึงกับ
ต้องเป็นวิญญาณภายใต้การควบคุมของเนี้ยหลี่

แม้วาเขาจะรันทด แต่เขายังสามารถรักษาสิ่งที่เขาพูดได้

วัสดุที่เขาใช้ท่าหุ่นกระบอกวิญญาณนั้น เนีย้ หลี่ คัดมาเป็น


พิเศษ มีความแข็งแกร่งในตัวเองโดยธรรมชาติ มันเป็นสิ่งที่จะ
พูดได้เลยว่า แม้แต่รา่ งทรงอสูรระดับต่านาน ยังไม่สามารถ
ท่าลายมันลงได้ ยิ่งเพิ่มบรรพชนผูก้ ่อตั้งเอียหยาน ซึ่งเป็นร่าง
ทรงอสูรระดับต่านานเข้าไปจึงไม่ตอ้ งสงสัยเกี่ยวกับ พลัง
วิญญาณอันแข็งแกร่งของเขา

แม้ว่าพลังโจมตีของหุ่นกระบอกวิญาณ จะไม่มากนัก แต่มันก็


แข็งแกร่งไม่แพ้ร่างทรงอสูรระดับโกลด์ หลังจากบรรพชนผู้
ก่อตั้งเอียหยาน ค่อยผสานกับหุ่นกระบอกวิญญาณ ความ
แข็งแกร่งของเขาจะค่อยๆคืนกลับมาเหมือนตอนที่เขายังมีชีวิต
อยู่

มันจะกลายเป็นหุ่นกระบอกวิญญาณระดับต่านาน!

แม้จะมีผู้คนจ่านวนมากสร้างหุ่นกระบอกวิญญาณมาก่อนยุด
ของอาณาจักรมืด แต่หุ่นกระบอกวิญญาณระดับต่านานนั้นยัง
มิค่อยได้ถูกพบเห็นนัก
หลังจากผนึก เอียหยาน ลงภายในหุ่นปักษาสถิตวิญาณ เอีย
หยานขยับปีกใหม่เล็กน้อย เขาบินวนไปรอบๆบนท้องฟ้าสักครู่

“บรรพชนผู้ก่อตั้ง เอียหยาน มันเป็นอย่างไรบ้าง?” เนี้ยหลี่


เอ่ยถาม พร้อมยิม้ เล็กน้อย

“ ยังใช้ได้” เอียหยาน รันทดเล็กน้อย เมื่อตอนที่เขายังมีชีวิต


เขาเป็นถึงร่างทรงอสูรระดับต่านาน และตอนนี้เขากลายเป็น
หุ่นกระบอกวิญญาณ เขาก็มีความรู้สึกซึมเศร้าอยู่ในใจอย่าง
เลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามการทีเขาต้องอยู่แต่ภายในชายแดน
สวรรค์ศักดิส์ ิทธิ์มาเป็นระยะเวลายาวนาน ตอนนี้นั้นเขาเต็มไป
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นต่อโลกภายนอก แม้ว่าเขาจะกลาย
มาเป็นหุ่นกระบอกวิญญาณในตอนนี้ เขายังสามารถบินและ
มองดูโลกปัจจุบันได้

มีแน่นอนก่าไรและขาดทุนในชีวิต เอียหยาน ยังเป็นผู้ที่จะก้าว


เดินต่อไปข้างหน้า ดังนั้นเขาจึงไม่รันทดเท่าใดนัก
“นับจากนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่า เสี่ยว เฟย เฟย” เนี้ยหลี่กล่าว

เมื่อได้ยินค่าพูดของเนีย้ หลี่ เดิมทีเอียหยาน เดิมก็รันทดอยู่


แล้ว ก็รู้สึกเหมือนถูกซ้่าขึ้นมาในทันที เหมือนมีปืนมายิงตรง
หัวให้ตายเสียให้ได้ เขานั้นเป็นถึงผู้ก่อตั้งของเมืองกลอรี่
และ นามปัจจุบันถูกเรียกขานว่า เสี่ยว เฟย เฟย สิ่งนี้มันช่าง
เหมือนลักษณะการดูถูกกันยิ่งนัก

เมื่อเอียหยานแสดงความโกรธที่เขามีอยู่ภายใน เขา
เห็น เสี่ยวหนิงเอ๋อพยักหน้าเล็กน้อย แล้วกล่าวอย่างจริงจัง “
เสี่ยว เฟย เฟย เป็นชื่อที่ดี”

เอียหยาน ค่ารามออกมาอย่างเรียบๆ “ ชื่อนี้มันดีอย่างไร?”

เขาได้ยินเนี้ยหลี่พูดว่า “ เสีย่ วหนิงเอ๋อชอบมัน นับจากนี้


ต่อไปเจ้าจะถูกเรียกว่า เสี่ยว เฟย เฟย !”
มิยอมให้เอียหยาน ได้มีโอกาสพูดคุยใดๆ หุ่นกระบอกวิญญาณ
ที่เกิดใหม่ตัวนี้กไ็ ด้ชื่อเสีย่ ว เฟย เฟย เรียบร้อยแล้ว

หลังเสร็จสิ้นทุกอย่าง เนี้ยหลี่ เสีย่ วหนิงเอ๋อ ตู่ซื่อ และหลูเ่ พ


ลี่ยว ได้เดินทางตรงไปยังต่าหนักเจ้าเมือง

ผ่านป่าอันเงียบสงบสายลมเย็นพัดผ่านมาบ้างเป็นครั้งคราว
กลิ่นอายอันตรายสามารถรู้สึกได้เนี้ยหลี่ก็ดา่ เนินการตาม
ขั้นตอนของเขา

“เนี้ยหลี่ เกิดสิ่งใดผิดปกติหรือ?” หลู่เพลี่ยว และ ตู่ซื่อ เอ่ย


ถาม

เสี่วยหนิงเอ๋อ กวาดสายตาของนางมายังเนี้ยหลี่อย่างสงสัย

“ เนี้ยหลี่ เพ่งมองไปที่ตรงหน้า แล้วปล่อยลมหายใจอันเย็น


เยือกพร้อมทั่งเปล่งวาจา “ไหนๆพวกเจ้าก็มาแล้ว ท่าไมจึงหลบ
ซ่อนตัวอยู่อีกน่าร่าคาญ?”
เมื่อเสียงของเนี้ยหลีเ่ งียบลง ผู้คนนับสิบก็ออกมาจากป่า
มาล้อมรอบเนี้ยหลี่และพวกของเขาเอาไว้ ผู้คนเหล่านีป้ กปิด
ใบหน้า ท่าให้เป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็นใบหน้าของพวกเขา....
จบตอน
บทที่ 103 สกัดกั้น

กลุ่มของคนที่สวมชุดสีด่าถูกน่าโดยชายสองคน เนี้ยหลี่ รูส้ ึกว่า


หนึ่งในนั้น คือร่างทรงอสูรยศเงินและร่างทรงอสูรยศทอง ผู้อยู่
เบื้องหลังพวกเขามีผเู้ ชี่ยวชาญยศทองสามคนและส่วนที่เหลือ
ได้ทั้งหมดมียศเงิน

"ดูเหมือนว่าข้าดูถูกเจ้าเกินไป ข้าไม่เคยคิดว่า ความสามารถใน


การรับรู้พลังวิญญาณของเจ้าจะรับรู้ถึง(ที่อยู่ของ)พวกข้าได้ "
หนึ่งในผู้น่าที่สวมชุดสีด่ากล่าวอย่างเย็นชา

เนี้ยหลี่ยมิ้ พร้อมกล่าว “ท่านไม่ได้เพียงแค่ดูถูกข้า ผู้


อาวุโสเสิ่นหมิงเหตุใดถึงได้น่าผู้คนมาสกัดกั้นข้า” ผู้น่ากลุม่ คน
ชุดสีด่าที่มยี ศเงินคนนั้นคือ ผู้อาวุโสเสิ่นหมิง!!!

ผู้อาวุโสเสิ่นหมิง สั่นสะท้านเล็กน้อย ด้วยไม่คิดว่าเนีย้ หลีจ่ ะ


รับรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ สีหน้าเขาเริ่มน่า
กลัว “เราไม่สามารถปล่อยให้เด็กคนนี้ไปได้ หากเขาหนีไป เขา
จะสร้างปัญหาให้แก่พวกเรา”

เนี้ยหลี่สามารถแยกแยะกลิ่นอายที่แตกต่างของผู้ที่อยู่
ข้างหน้าได้ ผู้นา่ อีกคนที่อยู่ข้างเสิน่ หมิง นั้นคือ หยุนหัว ดิ
คอน ผู้ที่หนีไปพร้อมบาดแผลที่เนีย่ หลีส่ ร้างไว้ ในครั้งก่อน

กลุ่มคนพวกนี้มาจากครอบครัวศักดิ์สิทธิ์และสมาคมทมิฬ

“หนิงเอ๋อ ตู่ซื่อ หลู่เพียว จงระวังตัวไว้ให้ดี” เนี้ยหลีไ่ ด้เริ่ม


ผสานวิญาณอสูรเพื่อเตรียมจูโ่ จมตลอดเวลา

“เจ้าเด็กเหลือขอ เพราะเจ้ารู้ถงึ ตัวตนของพวกข้า จงยอม


จ่านนและเชื่อฟังพวกข้า เจ้ายังอาจจะมีชีวิตรอด มิอย่างนั้น
พวกเจ้าทุกคนต้องตาย

" เสิ่นหมิงกล่าวพร้อมสายตาที่เย็นชา
เนี้ยหลี่ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา “ผู้อาวุโสเสิ่น
หมิง ช่างดื้อดึงจริงๆ ท่านได้นา่ ผู้คนจะมาฆ่าข้า รู้หรือไม่ว่า
ตามกฎหมายของเมืองกลอลี่นั้นมีโทษถึงประหารชีวิต

ถ้าท่านยอมจ่านนและตามข้าไปพบท่านเจ้าเมือง ข้ายัง
คงไว้ชีวิตพวกท่าน มิอย่างนั้นอย่าโทษข้าหากข้ากระท่าอะไรไม่
สุภาพ”เมื่อได้ยินค่าพูดของเนี้ยหลี่ ผู้คนชุดด่ามึนงงพร้อมมอง
ไปทางที่เนี้ยหลี่อย่างประหลาดใจ หลังจากนั้น พวกเขาก็
ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตลกยิ่งหนัก”

“เจ้าเด็กเหลือขอบ้าไปแล้ว”(เอาสมองไปทอดมันดูแปลกๆ)

“เพียงแค่หมูในอวย”
หยุนหัวดิคอน หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เขาชี้ไปทีเนีย้ หลี่และ
กล่าวว่า “เด็กน้อย ข้าต้องการทีจ่ ะดูการกระท่าที่ไม่สภุ าพของ
เจ้านั้นเป็นอย่างไร”
เมือเห็นคนชุดด่าเหล่านั้นหัวเราะ แขนขวาเนี้ยหลีไ่ ด้ลูบหุ่นเชิด
วิญญาณที่อยู่บนไหล่ของเขาเสี่ยวเฟยเฟย ฉันเลือกนาย”

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ยอม แต่หุ่นเชิดวิญญาณนั้นอยูภ่ ายใต้


การควบคุมของเนี้ยหลี่ หุ่นเชิดวิญญาณได้ส่งเสียงร้องสองครั้ง
และบินขึ้น ไปทางกลุ่มคนผู้ส่วมชุดด่าด้วยความเร็วปานสายฟ้า

“พวกลูกหลานที่ไม่ได้เรื่อง ข้าเป็นถึงผู้ก่อตั้งยังให้ท่างานที่
น่าเบื่อนี้!(ไม่แน่ใจเท่าไร)” บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งเอียหยานได้กล่าว
ว่าจากภายในหุ่นเชิดวิญญาณไม่รวู้ ่าเขาด่าผู้ที่สวมชุดสีด่าหรือ
เนี้ยหลี่ (เดาว่าเนี้ยหลี่) กรงเล็บของเขาข่วนไปที่ใบหน้าของ
ผู้ชายชุดด่าที่เป็นร่างทรงอสูรยศทอง

“อ้ากกก”
ผู้ชายชุดด่าได้กรีดร้องอนาถ ผู้ถูกผนึกภายในหุ่น
วิญญาณนั้นเป็นถึงระดับต่านาน แม้ว่าการบ่มเพาะพลังของเข่า
ยังไม่ได้กลับมา แต่ก็เทียบได้กบั ยศทอง และบรรพบุรุษผู้ก่อตั้ง
เอียหยานนั้นมีประสบการณ์การต่อสู้มากมายจนน่ากลัว การจู่
โจมนั้นมีไหวพริบและความแม่นย่ายิ่งนัก

“จับนกประหลาดนั้น”

"ท่าลายมัน!"

บูม บูม บูม !!

เป็นต่อสู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจ กลุ่มคนชุดด่านั้นล้อมรอบ
หุ่นเชิดวิญญาณ แต่กไ็ ม่สามารถทีจ่ ะจับทางเสีย่ วเฟยเฟย
ได้ รวดเร็วเกินไป!
นอกจากนี้ยังเคลื่อนที่ได้แปลกประหลาด!
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจับมัน!
เมื่อเห็นสิ่งเกิดขึ้น ผู้อาวุโสเสิ่นหมิงและดิหยุนหัว
คิดอน มีสีหน้าทีเ่ ข้มขึ้น พวกเขาไม่เคยคิดว่าเนี้ยหลี่จะสามารถ
ควบคุมนกที่แปลกประหลาด ร่างกายของนก ที่ท่าจากโลหะ
ดังนั้นการโจมตีไม่สามารถที่จะท่าอันตรายกับมันนอกจากนี้
การโจมตีของมันมีความแม่นย่า มันมักจะโจมตีตา คอหรือจุดที่
ส่าคัญอื่น ๆ

เสิ่นหมิง ชี้ไปทางเนี้ยหลีแ่ ละกล่าวอย่างเย็นชา

“ไม่ต้องสงใจนกนั้น จับพวกเด็กเหลือขอให้ได้”

หยุนหัวคิดอน เตรียมกระโดดไปทางเนี้ยหลี่ มือของเขา


ปรากฏเป็นกรงเล็บ ขณะที่กระโดดร่างกายเขากลายเป็นเสือ
ดาวทมิฬขนาดใหญ่
“ความกระหายของพยัคฆ์สังหาร!” เสียงระเบิดของ
อากาศที่ได้ยินจากหยุนหัวคิดอน กรงเล็บแหลมของเขาได้
กระแทกลงไปทีเ่ นี้ยหลี่

“เป็นเวลาทีด่ ี”เนี้ยหลี่แสดงออกอย่างสงบ ร่างกายของเขา


ได้กลายเป็นแพนด้าเขี้ยวอย่างรวดเร็ว แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอก
อาจจะดูว่าเขาจะพ่ายแพ้ แต่ด้านพลังวิญาณเขาไม่ได้แตกต่าง
กัน เนี้ยหลี่พ่นลมหายใจและปะมือกับหยุนหัวคอดอน
เมื่อรูส้ ึกถึงพลังวิญาณ เซี่ยว หนิงเอ๋อ หลู่เพลี่ยวและตู่ซื่อ ก็
ประหลาดใจ

“เนี้ยหลีร่ ะวัง”

บูม

เกิดเสียงปะทะที่ดังสนั่นร่างอ้วนๆของแพนด้าเขี้ยวปะทะกับ
เสือดาวทมิฬ พลังวิญาณที่มีพลังมากกระจาย จนท่าให้คนรอบ
ข้างได้ถอยออกมาเขาสามารถป้องกันมันได้?
ทุกคนตะลึง

แม้ว่าเขาจะอยู่ภายใต้พลังวิญาณที่น่ากลัวของเสือดาว
ทมิฬ แต่แพนด้าเขี้ยวของเนี้ยหลีไ่ ม่ได้อ่อนแอกว่าและสามารถ
ป้องกันการจู่โจมที่น่ากลัวของเสือดาวทมิฬได้

เนี้ยหลี่เป็นเพียงยศเงิน จะสามารถป้องกันการจู่โจมของ
ร่างทรงอสูรยศทองได้ หยุนหัวคิดอนไม่เคยคิดว่าเนีย้ หลีจ่ ะมี
ความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้

“แต่การที่จะเอาชนะข้าผู้นี้นั้นเป็นไปไม่ได้”

เสือดาวทมิฬค่าราม อ้าปากของเขาและมุ่งไปที่เนี้ยหลี่

“พยัคฆ์ขย่าหมาป่า”
เสือดาวทมิฬอ้าปากขนาดใหญ่ ทีม่ ีฟันแหลมคมน่ากลัว

โฮรกกกกกกกก(เสียงค่าราม)

ปากขนาดใหญ่ต้องการที่จะขย้า่ เนี้ยหลี่
เมื่อเห็นเหตุการณ์เสิ่นหมิงได้ตกใจและตะโกน

"อย่าฆ่าเขา! เขายังคงมีค่า จับเป็นเท่านั้น! "

เจ้าต้องการที่จะฆ่าข้า?

เนี้ยหลี่ยิ้ม เขาอยากให้เสือดาวทมิฬพยายามที่จะกัดเขา
จู่ๆแพนด้าเขีย้ วก็อ้าปาก ลูกบอลสีด่าและสีขาว ปรากฎขึ้น
อย่างรวดเร็วและพ่นไปทางปากเสือดาวทมิฬ

ระเบิดหยิน-หยาง
ลูกบอลสีด่าและสีขาวเข้าไปในปากเสือดาวทมิฬ ปะทะ
กันภายในปากและระเบิดพลังงานที่น่ากลัวกระจายออก
มาก แม้วิญญาณปีศาจเช่นเสือดาวทมิฬ ก็ไม่สามารถทนต่อ
ระเบิดหยิน-หยางภายในปากได้

ผลที่เกิดจากการระเบิดอย่างรวดเร็วที่บริเวณหัวเสือดาว
ทมิฬ ท่าให้หยุนหัวคิดอน อาเจียนเป็นเลือดและกระเด็นไป
หลายร้อยเมตรและล้มลงบนพื้นเหมือนเขาได้ตายไปแล้ว

ถ้าระเบิดหยิน-หยาง ระเบิดบนร่างกายเสือดาวทมิฬ
อย่างมากก็สร้างบาดแผลแต่ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดได้ถึง
ระดับนี้ อย่างไรก็ตามเนี้ยหลี่ระเบิด ระเบิดหยิน-หยาง ในปาก
ของเสือดาวทมิฬ
เป็นความเสียหายที่น่ากลัวมาก
หยุนหัวคิดอน ไม่คาดคิดว่าแพนด้าเขี้ยวที่เปรียบได้ดังเศษขยะ
จู่ๆจะพ่นระเบิดหยิน-หยางที่น่ากลัวได้อย่างรวดเร็ว
ถ้าเขารู้จะไม่ได้เปิดปากของเขาเมื่อเขาเผชิญหน้ากับ เนีย้
หลี่อย่างไรก็ตามมันก็สายเกินไปแล้ว!

เมื่อ หยุนหัวคิดอนล้มลงกับพื้น ตาของเสิ่นหมิงกระตุก


เขาไม่เคยคาดคิดว่าร่างทรงอสูรยศทองเช่น หยุนหัวคิดอน จะ
พ่ายแพ้ให้แก่เนี้ยหลี่

ขณะนี้ชายชุดด่าสิบคนก่าลังเข้าปะทะ เซี่ยว หนิงเอ๋อ


หลู่เพลีย่ วและตู่ซื่อได้เรียกวิญาณอสูรของพวกเขาและเข้าต่อสู้
กับชายชุดด่าแม้ว่าการบ่มเพาะพลังของพวกเขาจะเพียงแค่ยศ
เงิน แต่วิญาณอสูรของพวกเขามีอตั ราการเติมโตระดับพระเจ้า

และวรยุทธ์การบ่มเพาะพลังที่พวกเขาได้ฝึกมี
ประสิทธิภาพมาก เมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับกลุม่ ชายชุดด่า เขา
ก็ไม่ได้รับอันตรายใดๆ

เด็กเหลือขอพวกนี้อายุแค่13-14ปี?
พยัคฆ์อเวจีปกคลุมไปด้วยหนามขนาดใหญ่และร่างกายสี
ด่าแวววาว เสือดาวอสูรสีชาตมีร่างกายปกคลุมไปด้วยเกล็ด มี
ปีกงอกมาจากข้างหลังเขา ไม่ต้องพูดถึงนกกระจอกอัสนีสวรรค์
ซึ่งปกคลุมไปด้วยสายฟ้า

เสิ่นหมิง รูส้ ึกปวดหัวเมื่อเขาสงสัยว่าพวกเขามาจากที่ใด?

แม้ว่าเขาจะได้เปรียบด้านจ่านวนคนแต่ก็ไม่มีปะโยชน์ใด
เลย สีร่ ่างทรงอสูรยศทอง ผู้หนึ่งนอนสลบบนพื้นด้วยระเบิดห
ยิน-หยาน อีกคนตาบอดจากหุ่นเชิดวิญญาณ ส่วนอีกสองคน
พยายามต่อสู้กับหุ่นเชิดวิญญาณ ส่วนที่เหลือนั้นเพียงแค่ยศเงิน
การปะทะระหว่างร่างทรงอสูรยศเงิน แพนด้าเขี้ยวของเนี้ยหลี่
นั้นหาคู่เปรียบไม่ได้

สนามแรงดึงดูด
คลื่นพลังถูกกดลงบนพื้น กลุ่มร่างทรงอสูรยศเงินรู้สึกว่า
ร่างกายของพวกเขาได้หนักขึ้นหลายเท่าตัว แม้ก้าวเพียงหนึ่ง
ก้าวยังเป็นเรื่องที่ยาก
เนี้ยหลี่ให้สนามแรงดึงดูดมีผลเฉพาะกลุ่มร่างทรงอสูรยศเงิน
เซี่ยว หนิงเอ๋อ หลู่เพลี่ยวและตู่ซื่อไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลย

เสืออเวจีของตู่ซื่อจู่ๆได้ปล่อยเสียงค่ารามที่น่ากลัว จนก่อ
ให้กลุ่มร่างทรงอสูรยศเงิน เกิดความหวาดกลัวเมื่อได้ยิน
มัน เสือดาวอสูรสีชาตของหลู่เพลีย่ วกระโจนไปข้างหน้าอย่าง
รวดเร็วเกินกว่าจินตนาการ

กรงเล็บอันแหลมคมพุ่งออกอย่างต่อเนื่องจนท่าให้ ร่าง
ทรงอสูรคนหนึ่งกระเด็นออกไป
ส่าหรับเซี่ยว หนิงเอ๋อ นกกระจอกอัสนีสวรรค์ได้เรียกสายฟ้า
อย่างต่อเนื่อง ท่าให้ร่างทรงอสูรทัง้ หลายนั้นเป็นอัมพาตและผม
ของพวกเขาฟู

เนี้ยหลี่และพวกได้พลิกสถานสถานการณ์รอบอย่างสมบูรณ์
เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เสิ่นหมิงได้รู้สึกเสียวซ่าน เขา
สงสัยว่าเด็กเหล่านี้เป็นอสูรกายหรือไม่เสิ่นหมิงได้ส่งสายลับไป
รอบปราสาทเจ้าเมือง พวกเขาคิดว่าแค่สี่ร่างทรงอสูรยศทอง
และยีส่ ิบสามร่างทรงอสูรยศเงิน ก็เพียงพอที่จะจับเนี้ยหลี่และ
พวกได้อย่างง่ายดาย

เขาไม่เคยคิดว่ามันจะกลายเป็นตรงข้ามกับสิ่งที่เขาได้คิด
เนี้ยหลี่และพวกแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้
ยังมีนกประหลาดที่แม้แต่ยศทองก็ไม่สามารถท่าสิ่งใดกับมันได้
ไม่เพียงเขาไม่สามารถจับเนีย้ หลี่และพวกได้ ใบหน้าของพวก
เขาเต็มไปด้วยบาดแผลและถูกเห็นโดยเนีย้ หลี่และพวก

เมื่อเขากลับไปยังครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ เขาก่าลังจะไปอธิบาย
เรื่องนี้กับผู้น่าตละกูลคิดถึงการจองมองที่น่ากลัวของเสิ่น ฮอง
หัวใจของเสิ่นหมิงก็หนาวเหน็บเหมือนตกลงในน้่าแข็ง....จบ
ตอน
บทที่ 104 จับตัวไปสอบสวน (15+)

“เจ้าท่าให้ข้าไม่มีทางเลือก !” เสิ่นหมิงค่ารามด้วยความโกรธ
และรวมร่างกับวิญญาณอสูรหมีหมิ ะในขณะทีร่ ่างกายของเขา
ก่าลังเปลีย่ นแปลงไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ตู้มมม !! หมัดของหลู่เพียวก็กระแทกเข้าที่ท้องของเสิ่นหมิงเต็ม
ๆ ท่าให้เสิ่นหมิงรู้สึกเจ็บไปถึงล่าไส้

ถึงแม้ว่าเสิ่นหมิงจะเป็นคนที่มีต่าแหน่งฐานะสูงใน
ตระกูลศักดิส์ ิทธิ์ แต่เขาก็เป็นเพียงแค่ผู้อาวุโส ที่คอยดูแลเรื่อง
การเงินของตระกูลเท่านั้น เขาไมได้มีความสามารถด้านการ
ต่อสู้มากนัก เขาจึงเป็นเพียงแค่ระดับซิลเวอร์เท่านั้น ซึ่งเมื่อเขา
โดนหลู่เพียวต่อยเข้าที่ท้อง ท่าให้เขากระเด็นไปตกอยู่บนพื้น

ในเวลาไม่นานนัก ฝ่ายเสิ่นหมิงทุกคนก็ลงไปนอนกองกับพื้น
อย่างช่วยไม่ได้
หุ่นเชิดวิญญาณบินมาเกาะทีไ่ หล่ของเนี้ยหลี่ เหตุผลที่
เนี้ยหลี่และพรรคพวกสามารถชนะได้อย่างง่ายดาย ก็เพราะเจ้า
หุ่นเชิดวิญญาณที่ท่าหน้าทีเ่ บี่ยงเบนความสนใจจากพวกระดับ
โกลด์ หากไม่แล้ว การต่อสู้คงจะกินเวลายืดเยื้อกว่านี้เป็นแน่

หลู่เพียวเหยียบเสิ่นหมิงเอาไว้ แล้วก็ถามเนี่ยหลี่ว่า
“เนี้ยหลี่ พวกเราจะจัดการกับคนพวกนี้อย่างไร?”

“ปล่อยข้าซะ ! ถ้าเจ้ากล้าฆ่าข้า ตระกูลศักดิส์ ิทธิ์จะต้องไม่


ปล่อยเจ้าไปแน่ !” เสิ่นหมิงยังคงดิน้ รนที่จะเอาตัวรอด เพราะ
ตั้งแต่ที่เขามาเป็นผู้อาวุโสที่ดูแลคลังของตระกูลศักดิส์ ิทธิ์ ก็ไม่
เคยมีผู้ใดเคยดูถูกเขามาก่อน แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากจบ
การแข่งขันครั้งนี้ ต่าแหน่งของเขาในตระกูลศักดิส์ ิทธิ์จะไม่
เหมือนเดิมอีกต่อไป

“ไอ้ตาแก่ตดเหม็นเอ้ย ข้าได้ยินเรื่องราวสกปรกของ
ตระกูลศักดิส์ ิทธิ์มามาก ครั้งนี้เจ้ายังจะกล้าขู่พวกเราอีกหรือ ?
พวกเราไม่กลัวเจ้าหรอก แล้วถ้าเจ้ายังไม่หุบปากของเจ้าเอาไว้
ล่ะก็ ถ้าจะขุดหลุมส่าหรับฝังศพเจ้าเลยแล้วกัน” หลู่เพียวตอบ
กลับด้วยความโกรธ ด้วยเดิมทีตัวเขาเองก็ไม่ชอบตระกูล
ศักดิ์สิทธิ์มานานแล้ว ดังนั้นการได้เหยียบคนของตระกูล
ศักดิ์สิทธิ์ด้วยเท้าจึงท่าให้เขารูส้ ึกสะใจมาก

เมื่อได้ยินสิ่งที่ลเู่ พียวพูด เสิ่นหมิงก็เงียบในทันที และไม่พดู


อะไรออกมาอีก
“ที่แท้ตาแก่นี่ก็กลัวตาย !” หลู่เพียวพูด พร้อมกับหัวเราะ
ออกมา

ตู่เซ่อมองเนี้ยหลี่แล้วถามด้วยความกังวลว่า “เนี้ยหลี่
พวกเราควรจะท่าอย่างไรกับพวกมันดี เราต้องรีบแล้วนะ
เพราะถ้าหากก่าลังเสริมของตระกูลศักดิส์ ิทธิ์มาถึงล่ะก็ ...”

“น่าตัวเสิ่นหมิงและเจ้านั่นไป พวกที่เหลือก็ปล่อยไว้ตรงนี้
แหละ !” เนี้ยหลี่พูด แล้วชีไ้ ปที่หยุนหัวคิดอน ที่อยู่ไกลออกไป
“ท่าไมเจ้าถึงปล่อยเจ้าพวกนีไ้ ปล่ะ ?” หลูเ่ พียวถาม เขารู้สึกไม่
ดีนักที่จะปล่อยให้พวกนี้ไปง่าย ๆ เพราะเขาอุตส่าห์ตั้งใจท่าให้
พวกมันสลบ ถ้าปล่อยไปง่าย ๆ เขาก็เหนื่อยฟรีน่ะสิ

“ข้าวางแผนเอาไว้แล้ว” เนี้ยหลี่ตอบ พร้อมกับรอยยิ้มแบบ


เจ้าเล่ห์ “เพราะพวกเจ้าระดับโกลด์สามคนนั่น บาดเจ็บจาก
การต่อสู่กับหุ่นเชิดวิญญาณ พวกมันคงไม่สามารถรักษาตัวให้
หายดีได้อีกหลายปี หรืออาจจะถึงสิบปี กว่าจะหายเป็นปกติ
ส่วนพวกระดับซิลเวอร์ พวกมันไม่สามารถท่าอะไรเราได้อยู่
แล้ว ดังนั้นการปล่อยพวกมันไปจึงไม่ใช่สิ่งที่ต้องกัลวล”

“การจับตัวระดับผู้น่าได้ถึงสองคนก็ถือว่าดีมากแล้ว ! แล้วเรา
จะไปไหนกันต่อล่ะ ? ต่าหนักท่านเจ้าเมืองงั้นรึ ?” ตู่ซือถาม
หลังจากที่เนี้ยหลี่บอกให้จับสองคนนั้นมาแล้ว แล้วจะจับไปไว้ที่
ไหนล่ะ ?

เนี้ยหลี่คดิ สักครู่ แล้วจึงตอบว่า “ต่อให้เราส่งตัวพวกมัน


ให้ท่านเจ้าเมือง ก็ไม่มีประโยชน์ หน่าซ้่าจะเป็นการง่ายต่อ
ตระกูลศักดิส์ ิทธิ์ในการน่าตัวพวกมันกลับไป ดังนั้นเราจะเอา
พวกมันไปไว้ทสี่ มาคมนักปรุงยาก่อนก็แล้วกัน”

เขาจะส่งพวกมันทั้งคู่ให้หยางซิน เพื่อให้อยู่ในการดูแลของ
สมาคมนักปรุงยา

ทั้งเสิ่นหมิงและหยุนหัวคิดอนนั้น คนหนึ่งก็เป็นคนที่ได้รับ
ความไว้วางใจจากท่านผู้น่าตระกูลเสิ่นฮอง จากตระกูล
ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนอีกคนก็เป็นคนส่าคัญในกิลด์มืด พวกเขาทั้งคู่
น่าจะรู้ความลับอะไรบางอย่าง และพวกเขาอาจจะช่วยท่าให้
เราสามารถเปิดเผยว่าแท้จริงแล้วตระกูลศักดิส์ ิทธิ์เป็นคนเช่นไร
!

“เดินไป !”

สหายทั้งสี่คนช่วยกันน่าเสิ่นหมิงและหยุนหัวคิดอนที่ถูกมัด
อย่างแน่นหนา มุ่งหน้าตรงไปที่สมาคมนักปรุงยา
เมื่อไปถึงสมาคมนักปรุงยาแล้ว เนี้ยหลี่และเพื่อน ๆ ได้ส่ง
ตัวของเสิ่นหมิงและเดียคอนหยุนฮัวให้กับหยางซิน เพื่อควบคุม
ตัวเอาไว้ และสอบปากค่า

ณ ตระกูลศักดิ์สิทธิ์

“เจ้าพวกขยะ ไร้น้่ายา !! แค่เด็กไม่กี่คน พวกเจ้ายังจับมันมา


ไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่พวกเจ้ามีคนตั้งมากมาย” เสิ่นฮองพูดด้วยความ
ไม่พอใจมาก ตูม้ มม !! ที่วางแขนของเก้าอี้ที่เขานั่งถูกป่นเป็น
ชิ้น ๆ แสดงให้เห็นถึงความโกรธทีเ่ ขามี

“ให้อภัยพวกเราด้วยเถอะท่านผู้น่าตระกูล พวกข้าไม่คิดว่า
เจ้าเด็กพวกนั้นจะพัฒนาตนเองไปจนถึงระดับซิลเวอร์แล้ว ใน
กลุ่มพวกเรา ผู้ที่ระดับสูงที่สุดก็เพียงระดับโกลด์เท่านั้น แม้แต่
หยุนหัวคิดอนยังพ่ายแพ้แก่พวกมัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีนก
ประหลาด ที่แม้แต่ระดับโกลด์กไ็ ม่สามารถต่อกรได้อยูด่ ้วย !”
ทหารผู้น้อยคุกเข่าต่อเสิ่นฮอง
เสินฮองท่าหน้าเครียดกว่าเดิม เขาไม่เคยคิดว่า
สถานการณ์จะออกมาเป็นเช่นนี้ ใครจะคิดล่ะว่าระดับโกลด์ 4
คน กับระดับซิลเวอร์อีก 23 คน จะไม่สามารถจับเด็กอายุ 14
เพียง 4 คนได้ ? ขนาดส่งคนไปมากถึงเพียงนี้ก็ยังล้มเหลว เห็น
ได้ชัดว่าคูต่ ่อสู้ในครั้งนีไ้ ม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

และสิ่งที่ท่าให้เสิ่นฮงอยิ่งโกรธก็คอื เสิ่นหมิงและหยุนหัวคิดอน
นั้นถูกเนี้ยหลี่จับตัวไปด้วย

การที่จับสองคนนั้นได้ เปรียบเหมือนกับว่าพวกนั้นจับจุดตาย
ของเสิ่นฮองได้เลยทีเดียว !

เสิ่นหมิงนั้นอยู่ในตระกูลศักดิส์ ทิ ธิ์มาหลายปี เขารู้อะไร


หลาย ๆ อย่างในสิ่งที่ไม่ควรรู้ และส่าหรับหยุนหัว ก็เป็นผู้
ติดต่อระหว่างกิลด์มืดกับตระกูลศักดิ์สิทธิ์ เสิ่นฮองคิดว่าพวก
มันน่าจะโดนเนี้ยหลีฆ่ ่าเสียยังดีกว่าถูกจับไปแบบนี้ การพ่ายแพ้
ต่อระดับซิลเวอร์ ไม่ใช่เรื่องแปลกส่าหรับเสิ่นหมิง แต่พวก
เนี้ยหลีส่ ามารถจับเป็นเสิ่นหมิงและหยุนหัวได้ !
มันแสดงให้เห็นถึงว่า เจ้าเด็กนั่นจะต้องรู้อะไรบางอย่าง
เนี้ยหลีจ่ ะต้องเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ต่อเขาอย่างแน่นอน เขา
จะต้องรีบก่าจัดเนี้ยหลี่ซะ

“เจ้าก่าลังบังคับให้ข้าฆ่าเจ้าเองนะ! เจ้าคิดว่าการซ่อนตัว
อยู่ในต่าหนักของท่านเจ้าเมืองจะท่าให้เจ้าปลอดภัยจากข้างั้น
หรือ ? เจ้าประเมินความสามารถของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ตา่ เกินไป
เสียแล้ว” รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฏอยู่ที่มุมปากของเสิ่นฮอง
แสดงให้เห็นถึงความเกลียดชังมาจากหัวใจ !

“จงไปสืบมา ว่าเสิ่นหมิงและหยุนฮัวถูกเก็บตัวไว้ที่ใด
แล้วก็อย่าลืมสืบไปถึงว่าใครบ้างที่เกี่ยวข้องกับเนี้ยหลี่ ตระกูล
บันทึกสวรรค์จะต้องชดใช้ ต่อให้มสี มาคมนักปรุงยาคุม้ ครองอยู่
ก็เถอะ ส่งข้อความไปถึงกิลด์มดื บอกให้กิลด์มืดฆ่าทุกคนที่มา
จากตระกูลบันทึกสวรรค์ เมื่อพวกมันออกนอกอาณาเขต !”
ดวงตาของเสิ่นฮงแสดงออกถึงความอาฆาตมาดร้าย
พวกทหารทุกคนคุกเข่าลงด้วยความกลัว พร้อมกับตอบรับ
ค่าสั่ง

เสิ่นฮองหยุดคิดบางอย่าง แล้วสั่งว่า “ไปพาตัวผู้อาวุโสเสิ่นซู่


และผู้อาวุโสเสิ่นหยวน มาหาข้า !”

“ครับท่าน”

เสิ่นซู่และเสิ่นหนวกนั่นเป็นนักสู้ระดับแบล็คโกลด์ เสิ่นฮอง
คิดถึงแผนการฆ่าเนี้ยหลี่อีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้นักสู้
ระดับโกลด์ต้องพ่ายแพ้ให้แก่เนี้ยหลี่ ครั้งนี้เขาจะไม่ประมาท
เนี้ยหลี่อีกแล้ว

ณ ขณะนั้น ทีส่ มาคมนักปรุงยา

“น้องชายเนี้ยหลี่ ที่เจ้าพูดว่าหยุนหัวคิดอนนั้นเป็นผู้ติดต่อ
ระหว่างกิลด์มืดและตระกูลศักดิ์สทิ ธิ์นั้น จริงหรือไม่”
“ถูกต้องแล้ว” เนี้ยหลี่พยักหน้ารับ

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะเปิดปากมันให้ได้ พวกเราจะได้รู้วา่ ตระกูล


ศักดิ์สิทธิ์ก่าลังคิดวางแผนอะไรอยู่ !” หยางซินกล่าว , เมือง
กลอรี่เป็นที่ เดียวที่มผี ู้รอดชีวิต หากเมืองกลอรี่ถูกท่าลายลงไป
เธอก็ไม่รจู้ ะไปอยู่ทีไหน และหากใครกล้าที่จะท่าลายเมืองกลอ
รี่ หรือท่าลายความสงบสุขของเมืองกลอรี่ล่ะก็

สมาคมปรุงยาจะท่าทุกวิถึทางเพื่อฆ่ามันพวก !

หยางซินจ้องไปที่ดาบเทพอัสนีดาวตกที่อยู่ด้านหลังเนี่ยหลี่ ยิ้ม
แล้วพูดว่า
“น้องชายเนี่ยหลี่ ท่าไมเจ้าถึงแบกดาบสนิมเขรอะเอาไว้แบบ
นั้นล่ะ แถมเจ้ายังมีนกแปลก ๆ เกาะอยู่บนไหล่เจ้าด้วย ถ้าเจ้า
ต้องการเงินเพื่อไปซื้อดาบดี ๆ ล่ะก็ บอกพี่สาวคนนี้ได้เลย ส่วน
เจ้านกนั่น เจ้าเพียงโยนทิ้งไป แล้วข้าจะหาสัตว์เลี้ยงระดับโกลด์
มาให้ !”
ใช้เงินซื้อดาบเทพอัสนีดาวตก ? ต้องใช้เงินมากมายขนาดไหน
กัน หากต้องการจะซื้อดาบเล่มนี้ ?
พลังที่แท้จริงของดาบเทพอัสนีดาวตกนั้น หากถูกใช้โดยร่าง
ทรงอสูรระดับต่านานนั้น จะสามารถใช้วิชาลับต้องห้ามได้ !

ส่วนนกแปลก ๆ ที่หยางซินพูดถึงนั้น หากเธอได้รู้ว่าวิญญาณที่


อยู่ในนกแปลก ๆ นั่นคือหนึ่งในผูก้ ่อตั้งเมืองกลอรี่ เธอจะพูด
อย่างไรกันนะ ?

เจ้าเด็กบ้า ! นี่มันคือการแนะน่าให้ฆ่าข้าทิ้งชัด ๆ” เอีย


หยานกล่าวด้วยความโกรธ แต่สิ่งที่เอียหยานพูดนั้น คนที่พลัง
จิตที่แข็งแกร็งมาก ๆ จึงจะสามารถได้ยินได้ คนทั่วไปจะได้ยิน
เพียงเสี่ยงจิ๊บ ๆ ของนกเท่านั้น

“เนี้ยหลี่ ดูเหมือนสัตว์เลีย้ งของเจ้าจะพูดได้ด้วยนะ มันพูดว่า


อะไรบ้างล่ะ ?” หยางซินมองหุ่นเชิดวิญญาณด้วยความสนใจ
พลางลูบไล้ไปด้วย เอียหยานรูส้ ึกทนไม่ได้ จึงบินออกไป หยาง
ซินรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะหนึ่ง เธอไม่คิดว่าเจ้านกแปลก ๆ นั่นจะ
ท่ามาจากเหล็ก และดูเหมือนกับว่าจะมีจติ วิญญาณเสีย
ด้วย อะไรที่กต็ ามที่เกี่ยวข้องกับเนี่ยหลี่ มักจะท่าให้เธอรูส้ ึกทึ่ง
ได้เสมอ

เนี้ยหลี่มองไปทีห่ ยางซิน และพูดว่า “พี่สาวหยางซินครับ


หนิงเอ๋อและเพื่อน ๆ รอข้าอยูด่ ้านนอก ข้าคงต้องไปแล้ว หาก
มีความคืบหน้าจากการสืบสวนสองคนนั้น โปรดแจ้งให้ข้าทราบ
ทันที”

“ได้เลยน้องชาย” หยางซินรับค่า เธอไม่ปล่อยเรื่องนีไ้ ปง่าย ๆ


แน่นอน เพราะมันเกีย่ วข้องถึงความเป็นอยู่ของเมืองกลอรี่

ในตอนแรกเธอตั้งใจว่าแกล้งเนี้ยหลีส่ ักเล็กน้อย แต่เมื่อ


เห็นท่าทีเร่งรีบของเนี้ยหลี่แล้ว เธอจึงล้มเลิกความตั้งใจนั้นเสีย
แล้วพูดว่า “พวกเจ้าอยู่ข้างนอกมานานแล้ว เจ้าอาจจะก่าลัง
ถูกจับตามองอยู่ ข้าจะส่งนักสู้ระดับแบล็คโกลด์ไปคุ้มครองเจ้า
เพื่อเดินทางกลับก็แล้วกัน”
“ได้เลย” เนี้ยหลี่พยักหน้า หากมีนักสู้ระดับแบล็คโกลด์
จากสมาคมนักปรุงยาตามไปด้วยล่ะก็ ต่อให้เป็นเสิ่นฮอง ก็ไม่
สามารถท่าอะไรพวกเขาได้อย่างแน่นอน เพราะหากมีการต่อสู้
ของระดับแบล็คโกลด์เกิดขึ้น ทั้งเมืองกลอรี่จะต้องตกตะลึง
อย่างแน่นอน

“บ๊ายบาย น้องชาย” หยางซินก้มลง และมองไปที่เนี้ยห


ลี่ เสื้อผ้าซาตินที่เธอใส่อยู่นั้นรัดรูปร่างรัดส่วนของเธอให้เห็น
อย่างชัดเจน เนี้ยหลี่สามารถมองเห็นถึงร่องลึกอยู่ระหว่างภูเขา
นั้น (ร่องนมนั่นเอง !!) เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับความขาว
โบ๊ะ จนเกือบจะเห็นอะไรสีชมพู ๆ อยู่แล้ว กลิ่นของหญิงสาว
นั้นช่างยั่วยวนเขายิ่งนัก
ผู้หญิงคนนี้ช่างมีสเน่ห์ และเย้ายวนยิ่นัก นี่เธอไม่ใส่แม้กระทั่ง
เสื้อชั้นในด้วยซ้่า !!
(อื้อหือ ขาว อึ๋ม ไม่ใส่ชั้นใน ก้มตัวลงมา … อิจฉาครับ !!)
เนี้ยหลี่รสู้ ึกถึงความรุ่มร้อนที่อยู่ในใจเมื่อเห็นฉากแบบนี้
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาเห็นฉากที่เร้าอารมณ์แบบนี้ หยาง
ซินไม่สนใจสายตาที่ก่าลังจ้องมองของเนี่ยหลี่ เธอจุ๊บหน้าผาก
เนี้ยหลี่แล้วพูดว่า “พี่สาวจะไปเยีย่ มเจ้าในเร็ว ๆ นี้”

เนี้ยหลี่ยิ้มอย่างอาย ๆ เจ้าปิศาจแห่งความยั่วยวนคนนี้
จะต้องท่าเพื่อหวังผลอะไรแน่นอน นี่เขาเป็นเพียงเด็กอายุ 14
ปีนะ เธอต้องการอะไรจากเขากันแน่ ?

“ข้าจะไปแล้ว” เนี้ยหลีร่ ีบหันหน้าหนีแล้วออกไป เพราะ


ถ้าหากเขายังอยู่ที่นี่ต่อไป เขาอาจจะล่าบากใจก็ได้
เมื่อเห็นท่าทีที่แปลกไปของเนี้ยหลี่ ท่าให้หยางซินอดไม่ได้ที่จะ
หัวเราะออกมา
(แหม่ .. เนี้ยหลี่มันไม่เอากระบองหงอคงฟาดให้ก็ดีแค่ไหนแล้ว
เนี่ย ยั่วกันขนาดนี้ =w=)[ละไว้ในฐานที่เข้าใจ]
เมื่อเนี้ยหลี่ออกมาจากสมาคมนักปรุงยาได้ เขาจึงได้
หายใจด้วยความโล่งใจ และเมื่อเขาเจอกับเซี่ยวหนิงเอ๋อและ
พรรคพวก เขาจึงกล่าวว่า

“หนิงเอ๋อ ไปกันเถอะ กลับไปที่ต่าหนักของท่านเจ้าเมืองกัน !”

“โอเค ไปกันเถอะ” เซี่ยวหนิงเอ๋อพยักหน้ารับ

เนี้ยหลี่รสู้ ึกได้ถึงรังสีทั้งสองที่อยู่ด้านหลังพวกเขา พวก


เขาจะต้องเป็นนักสู้ระดับแบล็คโกลด์จากสมาคมนักปรุงยา ที่ห
ยางซินส่งมาคุม้ ครองพวกเขาแน่ ๆ เพียงเท่านี้เขาก็เดินทาง
กลับต่าหนักท่านเจ้าเมืองได้อย่างปลอดภัยแล้ว

You might also like