Professional Documents
Culture Documents
Human anatomy
กายวิภาคศาสตร์ Anatomy
วิชาที่เกี่ยวกับรูปร่าง โครงสร้าง
และตาแหน่งที่ตั้งของอวัยวะต่างๆ ของมนุษย์
ana tomy,
แยกออก tome
ตัด
เป็นส่วนๆ
การจัดระบบร่างกาย
เซลล์ (Cell)
ไซโตพลาซึม (Cytoplasm)
นิวเคลียส (Nucleus)
เยื่อเซลล์
(Cell membrane)
• ส่วนที่ห่อหุ้มของเหลวที่อยู่ภายในเซลล์
• มีคุณสมบัติเป็นเยื่อเลือกผ่าน : ยอมให้สารบางชนิดผ่าน
ไซโตพลาซึม (Cytoplasm)
ส่วนที่ถัดเข้ามาจากเยื่อเซลล์ อยู่นอกนิวเคลียส
ลักษณะเป็นก้อนทึบแสง อยู่กลางเซลล์หรือ
ค่อนไปข้างใดข้างหนึ่ง
มีเยื่อหุ้มชนิดยูนิตเมมเบรน 2 ชัน้
1 เซลล์ มี 1 นิวเคลียส ยกเว้นสัตว์ชั้นต่า
ควบคุมการเข้า ออก
ของสาร สาคัญต่อการ ควบคุมลักษณะการ
ควบคุมกิจกรรม
สืบพันธุ์ และการ ถ่ายทอดทาง
ต่างๆของเซลล์ ระหว่างไซโทพลาซึม แบ่งเซลล์ พันธุกรรม
กับ นิวคลีโอพลาซึม
เนื้อเยื่อ (Tissue)
กลุ่มเซลล์ที่เหมือนกัน มาอยู่รวมกัน เพื่อทาหน้าที่เฉพาะ
มักประกอบด้วยเซลล์ที่มีขนาด รูปร่าง และการจัดระเบียบ เป็น
แบบเดียวกัน
เนื้อเยื่อ (Tissue)
เนื้อเยื่อบุผิว
Epithelial tissue
เนื้อเยื่อเกี่ยวพันหรือเนื้อเยื่อประสาน
Connective tissue
เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ
Muscular tissue
เนื้อเยื่อประสาท
Nervous tissue
System
ระบบปกคลุม
ร่างกาย
ระบบกระดูก
ระบบสืบพันธุ์
และข้อ
ระบบ
ระบบต่อมไร้ท่อ
กล้ามเนื้อ
ระบบขับถ่าย
ระบบประสาท
ปัสสาวะ
ระบบทางเดิน
อาหาร ระบบไหลเวียน
ระบบหายใจ
ระบบปกคลุมร่างกาย
• ผิวหนัง และอวัยวะที่เจริญไปจากผิวหนัง
– ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน ขน เล็บ หลอดเลือด เส้นประสาท ระบบ
ภูมิคุ้มกัน และอวัยวะสัมผัสทั่วไป
หน้าที่ของระบบปกคลุมร่างกาย
Regulation of body
ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
temperature
Excretion ขับถ่ายของเสีย
Secretion หลั่งสารบางอย่าง
Sensation รับความรู้สึก
ระบบกระดูก
(Skeletal system, Osteology)
ช่วยในการ
เป็นโครง ช่วย สร้างเม็ด
เคลื่อนไหว
ร่างของ ป้องกัน การสะสม เลือด ที่ไข
ของ
ร่างกาย อันตราย กระดูก
ร่างกาย
ในผู้ใหญ่จะมีกระดูกมี 206 ชิ้น
ทารกแรกเกิดจะมีกระดูก
ประมาณ 300 ชิ้น
การจาแนกชนิดของกระดูกตามตาแหน่ง
มี 126 ชิ้น
กระดูกแขน
มีข้างละ 32 ชิ้น
(bone of the upper extremity)
กระดูกส่วนแขน ขา
กระดูกขา
มีข้างละ 31 ชิ้น
(bone of the lower extremity)
ระบบกล้ามเนื้อ (Muscular system)
กล้ามเนื้อลาย
(Skeletal or Striated or Voluntary muscle)
กล้ามเนื้อเรียบ
(Smooth muscle or non-striated muscle or Involuntary muscle)
กล้ามเนื้อหัวใจ
(Cardiac muscle or heart muscle)
Skeletal or Striated or Voluntary muscle
ระบบประสาท Nervous system
• สมอง (Brain)
• ไขสันหลัง (Spinal cord)
Parietal lobe
Cerebrum
Occipital lobe
Forebrain Thalamus
Temporal lobe
Mid brain Hypothalamus
Brain
Cerebellum
Medulla oblongata
Spinal cord
หน้าที่ของไขสันหลัง
- ควบคุมปฏิกิริยาสะท้อน (reflex reaction) ระดับต่า
กว่าคอ เช่น เมื่อเหยียบตะปู ไขสันหลังสั่งให้ยกเท้าหนี
หรือเมื่อเปิดไฟฟ้าสว่าง ไขสันหลังสั่งให้หลับตา
- รั บ กระแสจากส่ว นต่ า งๆขึ้ น ไปให้ สมอง และกลับ ไป
กระตุ้นอวัยวะนั้น
- ควบคุมการเจริญของอวัยวะ
ระบบไหลเวียน Circulatory or Vascular system
ระบบหัวใจและไหลเวียนโลหิต ระบบการไหลเวียนน้าเหลือง
(Cardiovascular system) (Lymph vascular system)
หัวใจ (Heart, Cardium)
ระบบไหลเวียนน้าเหลือง
(Lymphatic vascular system)
ต่อมน้าเหลือง
หลอดน้าเหลือง
น้าเหลือง
ม้าม
ต่อมทอนซิล
ต่อมไทมัส
ระบบหายใจ
Respiratory system
จมูก (Nose)
โพรงจมูก (Nasal cavity)
คอหอย (Pharynx)
กล่องเสียง (Larynx)
หลอดลม (Trachea)
ปอด (Lungs)
o Conduction part ส่วนที่เป็นทางผ่านของก๊าซโดยไม่มีการแลกเปลี่ยน
ก๊าซ
จมูก กล่องเสียง
ช่องจมูก หลอดลม
คอหอย หลอดลมแยก
ปาก (Mouth)
คอหอย (Pharynx)
ช่วยย่อยอาหาร
หลอดอาหาร (Esophagus)
(Associated glandular organs
กระเพาะอาหาร (Stomach)
ต่อมน้าลาย (Salivary gland)
ลาไส้เล็ก (small intestine) ตับ (Liver)
ลาไส้ใหญ่ (Large intestine) ถุงน้าดี (gallbladder)
ทวารหนัก (Anus) ตับอ่อน (Pancreas)
ระบบขับถ่ายปัสสาวะ Urinary system
• ไต (Kidney)
• ท่อไต (Ureter)
• กระเพาะปัสสาวะ
(Urinary bladder)
• ท่อปัสสาวะ (Urethra)