Professional Documents
Culture Documents
ปฏิบัติการที่ 1
การใช้งานเครือ่ งมือ ัดไฟฟ้าและการต่อ งจร
1. ัตถุประ งค์
เพื่อใ ้นัก ึก ามีทัก ะในการใช้งานเครื่องมือ ัดไฟฟ้าได้อย่างถูกต้อง
จากการอ่านแถบสีที่3 ( k ) คือเปอร์เซ็นต์ความผิดพลาดซึ่งได้จากการอ่านแถบสีที่4
1.2 )การอ่านค่าความต้านทานของ5แถบสี
สมมติค่าที่อ่านได้คือ 1-113C 10 h โดยที่ (A) คือค่าจากการอ่านแถบสีที่1 (B) คือค่าจากการอ่านแถบสีที่2 (C) คือค่า
"
× ±
2.1)วิธีการใช้งานโวลต์มิเตอร์
2.1.2)การวัดความต่างศักย์ไฟฟ้ากระแสสลับ
ปรับมัลติมิเตอร์ให้เป็นโวลท์มิเตอร์กระแสสลับ โดยหมุนสวิทช์บนตัวมิเตอร์ ไปที่ตำแหน่งช่วงการวัด ความต่าง
ศักย์ไฟฟ้ากระแสตรง (ACV) ซึ่งมี 4 ช่วงการวัดคือ 0-10V, 0-50V, 0- 250V, 0-1000V จากน้ันเลือกช่วงการวัดให้
เหมาะสม สำหรับการวัดความต่างศักย์ไฟฟ้ากระแสสลับ เรา สามารถต่อโดยให้สายวัดเส้นใดอยู่ข้างใดก็ได้ แต่วิธี
วัดค่ายังใช้หลักการเดียวกันกับโวลต์มิเตอร์กระแสตรง
2.2)วิธีการใช้งานแอมป์มิเตอร์
การวัดกระแสไฟฟ้ากระแสตรง
ปรับมัลติมิเตอร์ให้เป็นแอมมิเตอร์ก่อน โดยหมุนสวิทช์บนตัวมิเตอร์ ไปท่ีตำแหน่งช่วงการวัดกระแส ไฟฟ้ากระแส
ตรง (DCA) ที่มี 4 ช่วงการวัดคือ 0-50 MA, 0-2.5mA, 0-25mA,0-0.25A
1. เลือกตำแหน่งท่ีต้องการวัดกระแสไฟฟ้า และตรวจสอบทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้า
2. เสียบสายวัดมิเตอร์สีดำที่ข้ัวลบ (- COM) และสายวัดสีแดงท่ีข้ัวบวก (+) เข้ากับมัลติมิเตอร์
3. ตั้งช่วงการวัดท่ีเหมาะสม ในกรณีที่ทราบค่ากระแสในวงจร ควรตั้งช่วงการวัดให้สูงกว่าค่าที่ทราบ
แต่ในกรณีที่ไม่ทราบค่ากระแสในวงจร ควรตั้งช่วงการวัดท่ีสูงๆ (0-0.25A) ไว้ก่อน
4. นำสายวัดมิเตอร์ไปต่อแทรกหรือต่อแบบอนุกรม โดยใช้หัววัดแตะบริเวณที่ต้องการวัด และต้องให้ กระแสไฟฟ้า
ไหลเข้าทางข้ัวบวกของมัลติมิเตอร์ หากเข็มวัดตีเกินสเกลต้องรีบเอาสายวัดมิเตอร์ออกจากวงจร ทันที แล้วเลือกช่วง
การวัดที่สูงข้ึน ก่อนปรับช่วงการวัดใหม่ต้องเอาสายวัดออกจากวงจรทุกครั้ง และต้องแน่ใจว่า ค่าที่จะวัดได้น้ันมีค่า
ไม่เกินช่วงการวัดท่ีปรับต้ังใหม่
5. อ่านค่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลในวงจร ซึ่งการอ่านต้องสัมพันธ์กับช่วงการวัดท่ีต้ังไว้
2.3)วิธีการใช้งานโอห์มมิเตอร์
การวัดความต้านทานด้วยโอห์มมิเตอร์
1. ปิดสวิตช์ ถอดปลั๊กเพื่อเอาไฟออกจากวงจรหรือ R ที่จะวัดก่อน เพราะการวัด R ต้องวัดนอกวงจรและวัดขณะที่ไม่มี
ไฟเท่านั้น การวัด R จะใช้ไฟจากมัลติมิเตอร์ไหลผ่าน R จึงห้ามมีไฟจากเหล่งอื่นๆอีก ถ้าไม่ปฏิบัติตามนี้มิเตอร์จะพัง
และผู้ทำการวัดได้รับอันตราย
2. เสียบสายวัดสีแดงเข้ารูเสียบ + และสายวัดสีดำเข้ารูเสียบ -COM
3 แตะหรือซ๊อตสายวัดแดงกับดำเข้าด้วยกัน จากนั้น ปรับปุ่ม 0 โอห์ม
4. ปรับเลือกย่านวัดที่เหมาะสม
5. ต่อสายวัดเข้ากับ R จะต่อข้างไหนก็ได้เพราะ R ไม่มีขั้ว กรณีใช้มือช่วยจับยึดให้จับได้แค่ 1 ข้างเท่านั้น
6. อ่านค่าแล้วนำไปคูณด้วยอัตราส่วนที่มิเตอร์ตั้งไว้
3)หลักการพื้นฐานของการวิเคราะห์วงจรไฟฟ้า: กฎของโอห์ม
3.1)กฎของโอห์ม “เมื่ออุณหภูมิคงที่ ค่าของกระแสไฟฟ้าที่ผ่านโลหะตัวนำหนึ่งจะมีค่าแปรผัน ตรงกับความต่างศักย์
ไฟฟ้าระหว่างปลายทั้งสองของตัวนำนั้น โดยอัตราส่วนระหว่างความต่างศักย์ไฟฟ้ากับกระแสไฟฟ้าย่อมมีค่าคงที่ เรียก
ว่า ความต้านทาน ”
3)หลักการพื้นฐานของการวิเคราะห์วงจรไฟฟ้า: กฎของโอห์ม
3.2)กฎของโอห์ม ใช้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้ากับ ความต่างศักย์ไฟฟ้า และ กระแสไฟฟ้ากับความ
ต้านทาน กล่าวคือ กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวนำใดๆ แปรผันโดยตรงกับความต่างศักย์ (แรงดันไฟฟ้า หรือแรงดันตกคร่อม)
(คือกระแสมีค่ามากหรือน้อยตามความต่างศักย์นั้น) เขียนเป็นสมการได้ว่า Ia V
และกระแสไฟฟ้าจะแปรผกผันกับความต้านทานระหว่างสองจุดนั้น(คือถ้าความต้านทานมากจะทำให้กระแสไหลผ่านน้อย,
ถ้าความต้านทานน้อยจะทำให้มีกระแสมาก) เขียนเป็นสมการได้ว่า Iak
นำสูตรสมการทางคณิตศาสตร์ทั้งสองมารวมกันเขียนได้ดังนี้ I =
¥
โดยที่ คือความต่างศักย์ มีหน่วยเป็น โวลต์, คือกระแสในวงจร หน่วยเป็น แอมแปร์ และ คือความต้านทานในวงจร หน่วย
เป็น โอห์ม
3. อุปกรณ์ใช้ในการทดลอง
1) แ ล่งจ่ายไฟฟ้ากระแ ตรง จำน น 1 ชุด
2) มัลติมิเตอร์ จำน น 1 ตั
3) ตั ต้านทาน ขนาด 100 จำน น 1 ตั
4) ตั ต้านทาน ขนาด 1 k จำน น 1 ตั
5) ตั ต้านทาน ขนาด 3 k จำน น 1 ตั
6) แบตเตอรี่ (ถ่านไฟฉาย)
7) แผงทดลอง
8) ายต่อ งจร
4. การทดลอง
4.1 การอ่านค่าค ามต้านทานและการใช้งานโอ ์มมิเตอร์ (Ohm-meter)
ขั้นตอนการทดลอง:
1) อ่านค่าค ามต้านทานและเปอร์เซ็นต์ค ามผิดพลาดจากการดูแถบ ีบนตั ต้านทานที่ทาง ้องปฏิบัติการ
จัดไ ้ใ ้ โดยอ่านจากแถบ ีที่อยู่บนตั ต้านทาน และบันทึกผลการอ่านลงในตารางที่ 1.1
2) นำโอ ์มมิเตอร์ ัดค่าค ามต้านทานดังกล่า เพื่อตร จ อบค ามถูกต้อง และบันทึกผลการ ัดลงในตารางที่
1.1
" °°
-
=
2.47 %
1µ
✗ 100 =
นก
1 5 ± 5 %
3µ × ± 5 %
ม แดง ทอง
1 1000
-
-๑๑ 61
✗ 10 °
= 0.4 % 2) 2
-
3000 ± 5% 2 9 58
µ 3 0 × µ ± g %
-
/ 2- 2.4
01 00
ˢ
5 % 3) 1 0 µ
2
-
/ 000 ± 5% 996
2 × ± 5%
แดง
เ น ตาล
"
_
ำ
" "
✗ 100=10 % 4)* o ✗ 10-2 1 %
2 ± 1 % 2.1
2 o ±
ตาล เ น ตาล
5)* 1-
"
± 1 %
1 ± 1 % แ
0 0 × 10
ขั้นตอนการทดลอง:
1) การ ัดแรงดันไฟฟ้ากระแ ลับ: ตั้งค่าการ ัดของโ ลต์มิเตอร์ ำ รับ ัดไฟฟ้ากระแ ลับ (VAC)
2) นำโ ลต์มิเตอร์ ัดค่าแรงดันที่จุดเ ียบเต้ารับ
3) บันทึกผลการทดลองในตารางที่ 1.2
4) การ ัดแรงดันไฟฟ้ากระแ ตรง: ตั้งค่าการ ัดของเครื่องมัลติมิเตอร์เป็น โ ลต์มิเตอร์ ำ รับ ัดไฟฟ้า
กระแ ตรง (VDC)
5) นำโ ลต์มิเตอร์ ัดค่าแรงดันที่ขั้ แบตเตอรี่ (ถ่านไฟฉาย)
6) บันทึกผลการทดลองในตารางที่ 1.3
A
I +
+ R1 VR1
Vi − =100
−
อยู่ 1.4 %ซึ่งไม่เกินค่าความคลาดเคลื่อนของแถบสี ± 5% ตัวต้านทานตัวที่3 ค่าจากการอ่านแถบสี 1000 โอห์ม ค่าจากการวัด 996 โอห์ม คลาดเคลื่อนอยู่ 0.4 % ซึ่งไม่
ของแถบสี ± 5 % ตัวต้านทานตัวที่5 ค่าจากการอ่านแถบสี 1 โอห์ม ค่าจากการวัด 1.1 โอห์ม คลาดเคลื่อนอยู่ 10 % ซึ่งเกินค่าความคลาดเคลื่อนของแถบสี ± 1% ทั้งนี้ค่า
0.12