Professional Documents
Culture Documents
ทความ
เจริญชัย เหลืองอ่อน
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ
การวัดค่าความต้านทาน
ด้วยวิธีเข็มวัด 4 จุด
ความต้ า นทานไฟฟ้ า เป็ น สมบั ติ ที่ ส ำคั ญ ของ
l
วั ส ดุ ส ารกึ่ ง ตั ว นำที่ จ ำเป็ น จะต้ อ งพิ จ ารณาเมื่ อ R = r __ (1)
ต้อ งการนำวั ส ดุ นั้นมาใช้ในสิ่งประดิษฐ์ทางไฟฟ้ า –
A
อิเล็กทรอนิกส์ กรณีที่สามารถควบคุมหรือตรวจวัด
พารามิเตอร์รอบข้างได้อย่างแม่นยำ การวัดค่าความ R คือ ค่าความต้านทานมีหน่วยเป็นโอห์ม (W)
ต้ า นทานช่ ว ยให้ ส ามารถประเมิ น คุ ณ ภาพของวั ส ดุ r คือ ค่าสภาพความต้านทานไฟฟ้า (resistivity)
และสิ่งประดิษฐ์ได้ง่าย รวดเร็ว มีความแม่นยำสูง ของวัสดุ ซึ่งมีค่าแตกต่างกันไปตามชนิดของวัสดุ
และยังเป็นการวัดแบบไม่ทำลาย
มีหน่วยเป็นโอห์ม-เซนติเมตร (W.cm)
อย่ า งไรก็ ดี ในทางปฏิ บั ติ ก ารวั ด ค่ า ความ
ต้ า นทานให้ มี ค วามแม่ น ยำสู ง ทำได้ ค่ อ นข้ า งยาก สมการที่ (1) สามารถเขียนในรูปของค่าสภาพความ
เนื่องจากผลกระทบหลายด้าน เช่น อุณหภูมิ เครื่อง ต้านทานไฟฟ้าได้ คือ
มือวัด และการติดตั้งเครื่องมือวัด เป็นต้น บทความ
RA
นี้นำเสนอการวัดค่าความต้านทานด้วยวิธีเข็มวัด 4 r = __ (2)
จุด (four-point probe) ซึ่งเป็นวิธีการมาตรฐานใน
l
การวัดค่าความต้านทานของวัสดุสารกึ่งตัวนำ โดย
เข็มวัดคู่หนึ่งใช้จ่ายกระแสให้กับชิ้นงานทดสอบ ส่วน การวัดค่าความต้านทานไฟฟ้าในลักษณะนี้ ขั้ว
เข็ ม วั ด อี ก คู่ จ ะใช้ วั ด แรงดั น ไฟฟ้ า ที่ ไ ด้ จ ากชิ้ น งาน ไฟฟ้ า ที่ ป ลายทั้ ง สองของแท่ ง วั ส ดุ จ ะต้ อ งเป็ น รอย
ทดสอบ ด้วยลักษณะเช่นนี้สามารถตัดผลกระทบจาก สัมผัสโอห์มมิก (ohmic contact)1 เพื่อให้กระแส
ความต้านทานของสายไฟที่ใช้วัด และแรงดันไฟฟ้า ไฟฟ้าไหลตั้งฉากกับพื้นที่หน้าตัดของวัสดุได้โดยตลอด
ตกคร่อมจุดวัด จึงทำให้ค่าความต้านทานที่คำนวณได้ แต่ในทางปฏิบัติวัสดุสารกึ่งตัวนำไม่ได้มีลักษณะเป็น
มีความถูกต้องมากขึ้น
แท่งสี่เหลี่ยม การกำหนดความยาวและพื้นที่หน้าตัด
รวมไปถึงการสร้างรอยสัมผัสโอห์มมิกจึงทำได้ยาก
ทฤษฎี
ทำให้การวัดด้วยวิธีข้างต้นจึงไม่เหมาะสม
การหาค่าความต้านทานไฟฟ้าของวัสดุกรณีที่มี วิธีที่ได้รับความนิยมและนำมาใช้กันอย่างแพร่
รูปร่างเป็นแท่งสี่เหลี่ยมพื้นที่หน้าตัด A มีขนาดยาว หลายคือ การวัดด้วยวิธีเข็มวัด 4 จุด ซึ่งสามารถวัด
l สามารถกำหนดได้จากสมการ
ได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงขนาดหรือรูปร่างของวัสดุ และ
ใช้เข็มวัดแทนการสร้างรอยสัมผัสโอห์มมิก
1
รอยสัมผัสโอห์มมิก (Ohmic contact) เป็นบริเวณหน้าสัมผัสระหว่างวัสดุสารกึ่งตัวนำกับโลหะที่แสดงพฤติกรรมของกระแสที่ไหลผ่านกับแรงดัน
ตกคร่อมในลักษณะสมมาตรและเป็นเชิงเส้น โดยทั่วไปการสร้างขั้วไฟฟ้าให้กับวัสดุสารกึ่งตัวนำจะต้องทำให้หน้าสัมผัสระหว่างขั้วไฟฟ้ากับวัสดุสาร
กึ่งตัวนำเป็นลักษณะของโอห์มมิก
M T E C
75
มกราคม - มีนาคม 2554
A B C D
S S S
สารกึ่งตัวนำ
V
r = 2ps __ (3)
I
และเมื่อพิจารณากรณีที่ F2 มีค่าสูงสุด คือ 4.532 หรือ (p/ln 2) พบว่าจะทำให้เทอม [ln (2) F2/p ]
ในสมการที่ 5 มีค่าเท่ากับ 1 และส่งผลให้ค่าแฟกเตอร์ความถูกต้อง F ขึ้นอยู่กับค่าปรับ F1 และ F3 เท่านั้น
F3
F3
เซนติเมตร
• เครื่องมือ
1. เครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้า/แรงดันไฟฟ้า ADVANTEST รุ่น R6144
2. เครื่องวัดค่าแรงดันไฟฟ้า Agilent รุ่น 34420A
เข็มวัด 4 จุด
เครื่องวัดค่าแรงดันไฟฟ้า
เครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้า/แรงดันไฟฟ้า
ภาพที่ 4 เครื่องมือวัดค่าความต้านทาน
เอกสารอ้างอิง
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่
[1] ASTM Designation : F43-93, “Standard Test
นายเจริญชัย เหลืองอ่อน
Methods for Resistivity of Semiconductor
ห้องปฏิบัติการวัสดุสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสาร Materials”, ASTM, 1993
[2] นุจรินทร์ รามัญกุล, “การปลูกผลึกซิลิกอนหลายชั้นโดย
อันตราย หน่วยปฏิบัติการวิจัยด้านสิ่งแวดล้อม
วิธีอีพิแทคซี่ สำหรับเซลล์แสงอาทิตย์”,
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ, 2546.
โทร 02 564 6500 ต่อ 4122
[3] S.M.Sze, “Physics of Semiconductor Devices”,
JOHN WILEY & SONS ,New York, 1981.