Professional Documents
Culture Documents
บทนี้ กล่าวถึงกฎของแรงที่เกิดจากประจุไฟฟ้ าซึ่ งเรี ยกว่าแรงไฟฟ้ าสถิต ซึ่ งเป็ นกฎของคูลอมบ์ โดยกฎนี้
นาไปสู่ ทฤษฎีต่าง ๆ ของสนามไฟฟ้า โดยทฤษฎีดงั กล่าวสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาทางไฟฟ้ า
สถิตที่เกี่ยวกับแรงระหว่างประจุหยุดนิ่ ง รวมไปถึงการหาสนามไฟฟ้ าที่สอดคล้องกับการกระจายประจุดงั กล่าว
โดยเบื้องต้นจะกล่าวเฉพาะสนามไฟฟ้าในสุ ญญากาศ หรื อที่วา่ ง (free space) ที่เป็ นตัวกลางเท่านั้น
1. การทดลองของกฎลอมบ์
ก่ อนหน้าที่ คูลอมบ์จะคิ ดค้นกฎอของแรงระหว่างประจุ พบว่า ในปี ค.ศ. 1600 Dr. Gilbert นักฟิ สิ กส์ ชาว
อังกฤษ ได้ทาการทดลองจนพบว่า กระจก ซัลเฟอร์ แท่งอาพัน และวัสดุ อื่น ๆ ไม่เพียงแต่จะดู ดสิ่ ง ของที่ มี
น้ าหนักเบาเท่านั้น แต่ยงั ดึงดูดเหล็กทุกชนิด ไม้ ใบไม้ หิ น พื้นโลก แม้กระทัง่ น้ า และน้ ามันด้วย
จากนั้นคูลอมบ์ได้คิดค้นกฎขึ้นมาซึ่ งมีความคล้ายกับกฎแรงโน้มถ่วงของนิ วตัน ซึ่ งกล่าวได้วา่ แรงระหว่าง
วัตถุ ขนาดเล็ก ๆ สองอย่างวางห่ างกันในสุ ญญากาศหรื อพื้นที่ ว่างโดยเป็ นระยะห่ างที่ มากกว่าขนาดของวัตถุ
มาก ๆ จะแปรผันตรงกับประจุไฟฟ้ าของวัตถุ ท้ งั สอง และแปรผกผันกับระยะห่ างระหว่างวัตถุท้ งั สองยกกาลัง
สอง ซึ่ งสามารถเขียนสรุ ปได้ดงั นี้
Q1Q2
F=
4 0 R 2
โดยที่ Q1 และ Q2 หมายถึง ปริ มาณประจุไฟฟ้าบวกหรื อลบ มีหน่วย คูลอมบ์ (C)
R หมายถึง ระยะห่างระหว่างประจุ มีหน่วยเมตร (m)
1
0 หมายถึง permittivity ของพื้นที่วา่ งมีค่าเท่ากับ 8.854 10−12 = 10−9 F m
36
จากรู ปจะเห็ นได้ว่า r1 เป็ นเวกเตอร์ บอกตาแหน่ งของ Q1 และ r 2 เป็ นเวกเตอร์ บอกตาแหน่ งของ Q2
ดังนั้น R12 = r 2 − r1 ซึ่ งเป็ นเวกเตอร์ ที่ลากจาก Q1 ไปยัง Q2 ซึ่ งจากรู ปจะเห็นได้วา่ F 2 เป็ นแรงที่กระทา
บนจุด Q2 ดังนั้นสมการของคูลอมบ์สามารถเขียนใหม่ได้วา่
Q1Q2
F2 = a12
4 0 R122
เมื่อ a12 คือเวกเตอร์ หนึ่งหน่วยในทิศ R12
แรงที่เกิดขึ้นจากกฎของคูลอมบ์ มองอีกนัยหนึ่ งว่าแรงกิริยาเท่ากับแรงปฏิกิริยา ซึ่ งมีขนาดเท่ากันแต่ทิศทาง
ตรงกันข้าม ซึ่ งเขียนได้ดงั นี้
Q1Q2 Q1Q2
F1 = −F 2 = a 21 = − a12
4 0 R122 4 0 R122
กฎของคูลอมบ์มีคุณสมบัติเชิ งเส้น กล่าวคือ ถ้าคูณประจุ Q1 ด้วย m จะทาให้แรงที่กระทาบนประจุ Q2 มี
ค่าเป็ น m เท่าของแรงเดิมด้วย และถ้าประจุมีมากกว่าสองตาแหน่ง แรงลัพธ์ที่เกิดขึ้นบนประจุที่สนใจ จะมีค่า
เท่ากับแรงเนื่องจากประจุอื่น ๆ ทุกจุดรวมกัน (superposition)
1
ตัวอย่างที่ 7 จงหาประจุท้ งั หมดที่อยูภ่ ายในปริ มาตรโดย a) 0.1 x , y , z 0.2 โดย v = 3
x y3 z3
−2 r
b) 0 0.1, 0 , 2 z 4 โดยที่ v = 2 z 2 sin 0.6 , c) universe โดยที่ v = e
r2
~ 23 ~
a = aR
ตัวอย่ างที่ 9 จงหา E ทุกบริ เวณ เมื่อมีแผ่นประจุแรกมีค่าความหนาแน่ นประจุ เชิ งพื้นที่เท่ากับ s วางอยูท่ ี่
x = 0 และมีแผ่นที่สองมีประจุเชิ งพื้นที่เท่ากับ −s อยู่ที่ x = a โดยผิวประจุท้ งั สองมีความกว้างยาวเป็ น
อนันต์และเป็ นผิวที่มีความสม่าเสมอ
แบบฝึ กหัด
1. ก าหนดให้จุดประจุ 2 จุ ดมี ค่ า ประจุ Q วางที่ ตาแหน่ ง ( x,0) และ (− x,0) จงหาตาแหน่ ง จุ ดบนแกน
(0, a) ที่ทาให้สนามไฟฟ้ามีค่ามากที่สุดและมีค่าเท่ากับเท่าใด
Ans y = a , E=
Q
ay V m
( 3) a
3
2 0 2
4. (ข้อสอบปี 58 8 คะแนน, สมการ 7 คะแนน แทนค่า 1 คะแนน) จากข้อ 3 หากมี เส้ นประจุ ยาว a มีประจุ
กระจายสม่าเสมอ q วางอยูบ่ นแกน z โดยปลายด้านหนึ่ งของเส้นประจุอยูท่ ี่จุดศูนย์กลางของแผ่นประจุพอดี
โดยมีฉนวนที่บางมากคัน่ ไว้ จงหาสมการของแรงที่เส้นประจุได้รับ และจากสมการที่ได้จงคานวณขนาดและ
ทิศทางของแรงเมื่อ Q = 0.1 mC , q = 0.05 mC , a = 0.3 ตัวกลางเป็ นที่วา่ ง
Ans F =
( 2 − 2 ) qQ a z N , F = 584.976a z N
2 0 a 2
~ 29 ~
6. แผ่น ประจุ ท รงสี่ เ หลี่ ย มจัตุ รั ส ที่ ต าแหน่ ง z = −3 ในบริ เ วณ −2 x 2 , − 2 y 2 โดยมี ค วาม
หนาแน่นประจุเชิงพื้นที่เท่ากับ 2 ( x2 + y 2 + 9 ) nC m2 จงหาความเข้มสนามไฟฟ้าที่จุดกาเนิด