Professional Documents
Culture Documents
ปรากฏการณ์ ซีมาน
(Zeeman Effect)
Members Group#1:
นางสาวจุฑามาศ เหล็กเพชร ID: 581031331
นางสาวเกวริ นทร์ ชูบุญ ID: 581031332
นายจิรายุส มุณีพรหม ID: 581031333
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
การทดลองที่ 8
ปรากฏการณ์ ซีมาน
(Zeeman Effect)
สมมติฐาน (Hypothesis)
ถ้าอะตอมวางอยูใ่ นสนามแม่เหล็กที่มีความเข้มสู งพอ จะเผยให้เห็นเส้นสเปกตรัมย่อยออก
จากเส้นสเปกตรัมเดี่ยว
วัตถุประสงค์ (Objectives)
1. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มของสนามแม่เหล็ก กับกระแสไฟฟ้า
2. เพื่อศึกษาการแบ่งแยกของเส้นสเปกตรัม
3. เพื่อคานวณหาค่าโมเมนต์แม่เหล็กของโบร์
ทฤษฎี (Theories)
1. แบบจาลองอะตอมของโบร์
รู ปที่ 1 แบบจาลองอะตอมของโบร์
นี ล โบร์ (Niels Bohr) นักวิทยาศาสตร์ ช าวเดนมาร์ ก ได้ทาการศึ กษาการเกิ ดสเปกตรั มของก๊ า ซ
ไฮโดรเจน และได้ส ร้ า งแบบจาลองอะตอมเพื่ อใช้อธิ บายลัก ษณะการเคลื่ อ นที่ ข องอิ เล็ก ตรอนรอบ ๆ
นิวเคลียสเป็ นวงคล้ายกับวงโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ แต่ละวงจะมีระดับพลังงานเฉพาะตัว และ
1
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
เรี ย กระดับ พลัง งานของอิ เล็ ก ตรอนที่ อยู่ใ กล้นิวเคลี ย สที่ สุ ด ซึ่ ง มี ระดับ พลัง งานต่ า ที่ สุ ด เรี ย กว่า ระดับ
พลังงาน K และเรี ยกระดับพลังงานถัดออกมาว่า ระดับพลังงาน L,M,N,… ตามลาดับ
2. ระดับพลังงานควอนตัม
เนื่องจากทฤษฎีอะตอมของโบร์ ใช้ได้ดีกบั อะตอมไฮโดรเจนหรื อไอออนที่มีอิเล็กตรอนตัวเดียว
เท่านั้น เมื่อมีอะตอมของธาตุมีอิเล็กตรอนมากขึ้นจะอาศัยกลศาสตร์ ควอนตัม(quantum mechanics) ซึ่งผู ้
ค้นพบคือ ชเรอดิงเงอร์
เขาพบสมการพื้นฐานที่ใช้บรรยายพฤติกรรมของอิเล็กตรอน
H E
2
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
รู ปที่ 2 การหมุนรอบตัวเองพร้อมหมุนรอบนิวเคลียสของอิเล็กตรอน
3
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
ผลสื บ เนื่ องจากการหมุ นของอิ เล็ ก ตรอนก็ คื อ มี โมเมนต์แม่ เหล็ ก ภายในเกิ ดขึ้ นกับ อิ เล็ ก ตรอน
ผลดังกล่าวเป็ นที่คาดกันว่าก็เพราะประจุหมุนเทียบได้กบั กระแสไฟฟ้าไหลในวงจรปิ ดโมเมนต์แม่เหล็( )
ของระบบประจุหมุนมีความสัมพันธ์กบั โมเมนต์ตมั เชิงมุม โดยที่
qL
2m q
และ
eL eh m
z mh m B
2me 2me
เราเรี ยกค่า ว่า Bohr’s Magneton ซึ่ งมีค่า B 9.27 10 24 J / T 5.79 10 5 eV / T
B
4
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
M L 1 ; M L 0 ; M L 1
สนามแม่เหล็ก
ชุด M L 1 จะให้ -line ซึ่งเป็ นเส้นแสงที่ถูกโพลาไรซ์อีกครั้งในแนวดิ่งตามสนามแม่เหล็ก
5
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
รู ปที่ 4 ปรากฏการณ์ซีมานตามขวางและปรากฏการณ์ซีมานตามยาว
6
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
จะได้
BC BC cos 2
BC (1 cos 2 )
2 BC cos2 )
2t cos
n 2t cos
เมื่อ n มีค่าน้อย ๆ
2t
n cos n n0 cos 0
7
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
n
n0 (1 2 sin 2 )
2
และ 2t
n0
จะได้
2n
n n0 (1 )
2
หรื อ
2( n 0 n )
n … (3)
n0
ให้ n1 n0 ;0 1
n p (n0 ) ( p 1) … (4)
rp
2f 2
( p 1) … (5)
n0
ระยะห่างระหว่างวงแหวนสองวงเป็ นค่าคงที่สามารถหาได้จาก
2f 2
r 2 p 1 r 2 p … (6)
n0
8
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
2t
a n1,a 2tva n1,a
a
2t
b n1,b 2tvb n1,b
b
b
v v a vb a … (7)
2t
r 2 p 1,a
p a
r 2 p 1,a r 2 p ,a
และ
r 2 p 1,b
p b
r 2 p 1,b r 2 p ,b
1 r 2 p 1,a r 2 p 1,b
v ( 2 ) … (9)
2t r p 1,a r 2 p ,a r 2 p 1,b r 2 p ,b
p 1, p 2f 2
a r 2
p 1, a r 2
p ,a
n0 , a
2f 2
pb1, p r 2 p 1,b r 2 p ,b
n 0 ,b
9
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
โดยที่
1 2 2 p , 2 p 1
a 2bp 2 p 1 …(11)
4 p 1
และ
1 4 p
a ,b …(12)
4 p 1
และระยะห่างของระนาบกระจก etalon = 3 10 m 3
11
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
ตอนที่ 1 ตรวจวัดค่าสนามแม่เหล็ก
รู ปที่ 7 ชุดการทดลองปรากฏการณ์ซีมาน
1. ติดตั้งอุปกรณ์ดงั รู ปที่ 7
2. ปรับกระแสไฟฟ้าไปที่ 0 A แล้วใช้เทสลามิเตอร์ วดั สนามแม่เหล็ก
3. ทาเหมือนข้อ 2 แต่เปลี่ยนกระแสไฟฟ้าเป็ น 1, 2, 3 และ 4 A ตามลาดับ
4. บันทึกค่าสนามแม่เหล็กที่ได้ในตารางที่ 1
5. เขียนกราฟความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มของสนามแม่เหล็ก (B) กับกระแสไฟฟ้า (I )
สอดคล้องกัน
12
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
13
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
14
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
800
700
ความเข้ มสนามแม่ เหล็ก (mT)
600
500
400
300
200
100
0
0 0.5 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4 4.5
กระแสไฟฟ้ า (A)
15
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
ภาพแสดงการแบ่ งแยกสเปกตรัม
รู ป 5 กระแสไฟฟ้ า 4.003 A
16
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
17
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
𝒓𝒂 𝒓𝒃
วงที่ (mm) (mm)
กระแสไฟฟ้ า 0 A
1 ไม่สามารถคานวณได้ เนื่องจากไม่สามารถวัดค่า Xa และ Xb
2 ได้ เนื่องจากไม่มีสนามแม่เหล็กมาเผยระดับชั้นพลังงานย่อย
3 ที่ซ่อนอยู่ จึงทาให้มองไม่เห็นเส้นสเปกตรัมย่อย
กระแสไฟฟ้ า 1.00 A
1
2 ไม่สามารถคานวณได้ เนื่องจากไม่สามารถวัดค่า Xa และ Xb
3 ได้ เพราะสนามแม่เหล็กมีความเข้มไม่มากพอที่จะเผย
ระดับชั้นพลังงานย่อยที่ซ่อนอยูใ่ ห้ชดั เจน จึงทาให้ไม่สามารถ
สังเกตเห็นเส้นสเปกตรัมย่อยที่เกิดขึ้นได้
กระแสไฟฟ้ า 2.00 A
1 3.90 5.20
2 6.87 7.87
3 8.43 9.03
กระแสไฟฟ้ า 3.00 A
1 3.80 5.50
2 6.50 7.80
3 8.40 9.30
กระแสไฟฟ้ า 4.00 A
1 3.80 5.73
2 6.50 7.90
3 8.60 9.53
18
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
ตารางที่ 4 ค่ า 𝒑+𝟏,𝒑
𝜟𝒂
𝒑+𝟏,𝒑
, 𝜟𝒃 และ 𝜹𝒏𝒂,𝒃
𝒑+𝟏,𝒑
𝜟𝒂
𝒑+𝟏,𝒑
𝜟𝒃 𝜹𝒏𝒂,𝒃
วงที่ (𝒎𝒎𝟐 )
(𝒎𝒎𝟐 ) (𝒎𝒎𝟐 )
กระแสไฟฟ้ า 0 A
1 ไม่สามารถคานวณได้ เนื่องจากไม่สามารถวัดค่า Xa และ Xb ได้ เนื่องจากไม่มี
2 สนามแม่เหล็กมาเผยระดับชั้นพลังงานย่อยที่ซ่อนอยู่ จึงทาให้มองไม่เห็นเส้นสเปกตรัม
3 ย่อย
กระแสไฟฟ้ า 1.00 A
1 ไม่สามารถคานวณได้ เนื่องจากไม่สามารถวัดค่า Xa และ Xb ได้ เพราะสนามแม่เหล็กมี
2 ความเข้มไม่มากพอที่จะเผยระดับชั้นพลังงานย่อยที่ซ่อนอยูใ่ ห้ชดั เจน จึงทาให้ไม่
3 สามารถสังเกตเห็นเส้นสเปกตรัมย่อยที่เกิดขึ้นได้
กระแสไฟฟ้ า 2.00 A
1 31.99 34.90 11.83
2 23.87 19.60 14.74
3 - - 10.48
กระแสไฟฟ้ า 3.00 A
1 27.81 30.59 15.81
2 28.31 25.65 18.59
3 - - 15.93
กระแสไฟฟ้ า 4.00 A
1 27.81 29.58 18.39
2 31.71 28.41 20.16
3 - - 16.86
19
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
การคานวณผล
เมื่อ r1,a คือ รัศมีภายในของวงที่ 1
r2,a คือ รัศมีภายในของวงที่ 2
r3,a คือ รัศมีภายในของวงที่ 3
r1,b คือ รัศมีภายนอกของวงที่ 1
r2,b คือ รัศมีภายนอกของวงที่ 2
r3,b คือ รัศมีภายนอกของวงที่ 3
หาค่ า 𝒓𝒂และ 𝒓𝒃
เมื่อจ่ ายกระแสไฟฟ้ า 2.00 A
o รัศมีวงใน (𝑟𝑎 ) = |ตาแหน่งกึ่งกลาง (𝑥0)- ตาแหน่งวงใน(𝑥𝑎 ) |
21
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
22
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
หา △𝒂
𝒑+𝟏,𝒑
23
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
= 31.71 𝑚𝑚2
หา 𝜟𝒑+𝟏,𝒑
𝒃
24
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
= 28.41 𝑚𝑚2
ค่ า 𝛅𝐧𝐚,𝐛
จากสมการ 𝛿 𝑛𝑎,𝑏 = | 𝑟𝑝+1,𝑎
2 2
− 𝑟𝑝+1,𝑏 |
= 11.83 𝑚𝑚2
2 2 2
𝛿𝑎,𝑏 = | 𝑟2,𝑎 − 𝑟2,𝑏 |
= |(6.87 𝑚𝑚)2 − (7.87 𝑚𝑚)2 |
= 14.74 𝑚𝑚2
3 2 2
𝛿𝑎,𝑏 = | 𝑟3,𝑎 − 𝑟3,𝑏 |
= |(8.43 𝑚𝑚)2 − (9.03 𝑚𝑚)2 |
= 10.48 𝑚𝑚2
= 15.81 𝑚𝑚2
2 2 2
𝛿𝑎,𝑏 = | 𝑟2,𝑎 − 𝑟2,𝑏 |
= |(6.50 𝑚𝑚)2 − (7.80 𝑚𝑚)2 |
= 18.59 𝑚𝑚2
3 2 2
𝛿𝑎,𝑏 = | 𝑟3,𝑎 − 𝑟3,𝑏 |
= |(8.40 𝑚𝑚)2 − (9.30 𝑚𝑚)2 |
= 15.93 𝑚𝑚2
25
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
= 18.39 𝑚𝑚2
2 2 2
𝛿𝑎,𝑏 = | 𝑟2,𝑎 − 𝑟2,𝑏 |
= |(6.50 𝑚𝑚)2 − (7.90 𝑚𝑚)2 |
= 20.16 𝑚𝑚2
3 2 2
𝛿𝑎,𝑏 = | 𝑟3,𝑎 − 𝑟3,𝑏 |
= |(8.60 𝑚𝑚)2 − (9.53 𝑚𝑚)2 |
= 16.86 𝑚𝑚2
หา 𝜟
‘
1 2𝑝,2𝑝−1
จาก 𝛥 = ∑2𝑝=1(∆𝑎 2𝑝,2𝑝−1 + 𝛥𝑏
4
)
เมื่อจ่ ายกระแสไฟฟ้ า 2.00 A
1
𝛥 = 4 (𝛥2,1 2,1 3,2 3,2
𝑎 + 𝛥𝑏 + 𝛥𝑎 + 𝛥𝑏 )
1
= 4
(31.99 + 34.90 + 23.87 + 19.60)
= 27.59 𝑚𝑚2
หาค่ า 𝜹
จาก 1 𝑝
𝛿 = 3 ∑3𝑝=1 𝛿𝑎,𝑏
26
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
= 12.35 𝑚𝑚2
หา 𝜟𝒗
⃑
1 𝛿
จาก 𝛥𝑣 =
2𝑡 𝛥
เมื่อจ่ ายกระแสไฟฟ้ า 2.00 A
1 12.35 𝑚𝑚2
𝛥𝑣 =
2×3×10−3 𝑚−1 27.59 𝑚𝑚2
𝛥𝑣 = 74.60 𝑚−1
𝛥𝑣 = 99.56 𝑚−1
𝛥𝑣 = 104.78 𝑚−1
27
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
⃑
𝜟𝒗
หาค่ า
𝟐
เมื่อจ่ ายกระแสไฟฟ้ า 2.00 A
𝛥𝑣 74.60 𝑚−1
=
2 2
= 37.30 𝑚−1
= 52.39 𝑚
−1
28
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
40
เลขคลื่น (1/m)
30
20
10
0
0 100 200 300 400 500 600 700 800 900
จากสมการของกราฟ
y = 0.0408x + 22.673
1
Slope = 0.0408
𝑚.𝑇
หา 𝝁𝑩
𝛥𝑣/2
จาก 𝜇𝐵 = ℎ𝑐
𝐵
𝜇𝐵 = ℎ𝑐 × 𝑆𝑙𝑜𝑝𝑒
1
𝜇𝐵 = 6.626 × 10−34 × 3 × 108 × 0.0408 ×
10−3
หาค่ าความคลาดเคลื่อน
𝜇𝐵,𝑒𝑥𝑝 −𝜇𝐵,𝑠 𝑡𝑎𝑛 𝑑
เปอร์เซ็นความคลาดเคลื่อน =| | × 100
𝜇𝐵,𝑠 𝑡𝑎𝑛 𝑑
(8.11×10-24 )−(9.27×10−24 )
=| (9.27×10−24 )
| ×100
= 12.51
29
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
30
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
31
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
ท าให้ เ กิ ด ปรากฎการณ์ ดัง กล่ า ว ซึ่ งเรี ย กว่า ปรากฏการณ์ ซี ม าน และเราสามารถค านวณหาค่ า Bohr’s
ℎ𝑐∆𝑣 ∆𝑣̅
magnetron ได้ จ าก 𝜇𝐵 = โดยอาศั ย กราฟความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า งเลขคลื่ น ( ) และค่ า
2𝐵 2
สนามแม่เหล็ก (B) ที่ได้จากการทดลอง ซึ่ งมีค่าเท่ากับ 8.11 x 10-24 J/T และมีค่าคลาดเคลื่อนจากค่ามาตรฐาน
เท่ากับ 12.51 %
ข้ อเสนอแนะ(Comments)
1. ตรวจสอบอุปกรณ์บนรางให้ในตาแหน่งที่ตรงกัน เพื่อให้การสังเกตุปรากฎการณ์ชดั เจนที่สุด
2. ปรับตาแหน่งของเลนส์ L3 เพื่อให้ได้ภาพที่ชดั ที่สุด แล้วปรับสเกลบนฉากให้สเกล 0 อยูต่ รง
กลางของวงแหวนพอดีก่อนจะวัดตาแหน่งวงในและวงนอก
3.ในการวัดความเข้มของสนามแม่เหล็ก ควรตั้งหัววัดให้ต้ งั ฉากกับสนามแม่เหล็กและอยูร่ ะหว่าง
ขดลวด
4. ควรวัดหลาย ๆ ครั้งแล้วนามาหาค่าเฉลี่ย
5. เมื่อจ่ายกระแสไฟฟ้า 2.007 A เกิดการแยกของเส้นสเปกตรัม แต่เมื่อถ่ายรู ปจะไม่เห็นการแยก
ของ เส้นสเปกตรัม ดังนั้นควรใช้กล้องถ่ายรู ปที่มีประสิ ทธิ ภาพ
32
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
เครื่ อง FT-NMR (Fourier Transform NMR) หมายถึง เครื่ องที่ใช้วเิ คราะห์ตรวจหาชนิดและปริ มาณ
ของสารประกอบอินทรี ยท์ ี่ใช้แสงอินฟราเรดทั้งในช่วง Mid-IR ครอบคลุมเลขคลื่น (wave number) ในช่วง
8,000 - 340 เซนติเมตร-1
หลักการทางาน
การวัดสัญญานของเครื่ อง FT-NMR จะใช้เทคนิ คที่เรี ยกว่า Pulsed NMR โดยเครื่ อง NMR จะส่ ง
สัญญาณคลื่ นวิทยุทุกความถี่ ในช่ วงที่สนใจเข้าไปยังตัวอย่างที่ วิเคราะห์ การทาเช่ นนี้ จะส่ งผลให้เกิ ดการ
เปลี่ ยนสปิ นของนิ วเคลี ยสทั้งหมดทันที ซึ่ งเราจะเรี ยกสภาวะดังกล่าวว่าสถานะถู กกระตุน้ (excited state)
จากนั้นนิวเคลียสดังกล่าวจะกลับสู่ สถานะพื้น (ground state) โดยการคายพลังงานออกมาในรู ปของคลื่นวิทยุ
ในรู ปของคลื่ นที่ซ้อนกันที่เรี ยกว่าสัญญาณ FID (free induction decay) ซึ่ งเราสามารถแยกออกเป็ นความถี่
ต่างๆ ที่มีความแรงของสัญญาณแตกต่างกันได้ โดยกระบวนการทางคณิ ตศาสตร์ ที่เรี ยกว่าฟูเรี ยร์ ท รานส
ฟอร์ ม (Fourier transform) ซึ่ งเป็ นที่มาของการเรี ยกชื่ อเครื่ อง NMR สมัยใหม่ว่า FT NMR ในการคานวณ
ดังกล่าวนั้นมีการคานวณที่ซบั ซ้อนมากจึงจาเป็ นต้องใช้คอมพิวเตอร์ สาหรับเก็บข้อมูลและประมวลผล ซึ่ ง
ผลที่ได้จากกระบวนการดังกล่าวคือสเปคตรัม NMR ซึ่งมีลกั ษณะเป็ นพีค ดังรู ปที่ 1 โดยมีแกนนอน (x-axis)
เป็ นค่า chemical shift
33
Adv. Phys. Lab 2018 กศ.บ. ฟิ สิ กส์ 4𝑡ℎ 𝑦𝑒𝑎𝑟
เอกสารอ้างอิง (References)
34