Professional Documents
Culture Documents
General Physics II
Module 4-1
Electric Charge, Force, Electric Field,
Electric Flux and Gauss’ Law,
Electric Potential, and Electric
Potential energy,
Capacitance and dielectrics
1
M4-1 Electric Charge and Electric Fields
Topics:
❑ Electric Charge
❑ Coulomb’s Law
❑ The Electric Field
2
1. Electric Charge and Electric fields
❑ ตัวนา (conductor) คือ วัสดุที่ยอมผให้อิเล็กตรอนเคลื่อนที่ได้ อย่ างอิสระ เช่น ทองแดง และ อลูมผิเนียมผ
❑ ฉนวน (insulator) คือ วัสดุที่ไม่ ยอมให้ อิเล็กตรอนเคลื่อนที่ได้ อย่ างอิสระ เช่น ไมผ้, แก้ว และ พลาสติ3ก
1. Electric Charge and Electric fields
Triboelectric series
Wimshurst machine
การทาให้วัสดุเกิดประจุไฟฟ้ า
4
1. Electric Charge and Electric fields
5
2. Coulomb’s Law
Electroscope 1. ขนาดของแรงที่เกิดขึ้น
จะแปรัันตรงกับัลคูณ
Torsion balance ของประจุท้ งั สอง และ
แปรักัันกับกาลังสอง
ของระยะห่างระหว่าง
ประจุท้ งั สอง
2. ประจุชนิดเดียวกันเกิด
แรงัลัก ประจุต่างชนิด
กันเกิดแรงดูด
3. ทิศของแรงจะอยูใ่ นแนว
เส้นตรงที่เชื่อมผระหว่าง
ประจุท้ งั สอง
6
2. Coulomb’s Law
กฎของคูลอมบ์
การรวมผแรงไฟฟ้า ต้องรวมผแบบเวกเตอร์
9
2. Coulomb’s Law
ตัวอย่ าง 1 มผีประจุบวก 2 ตัว q1 = 1.60x10-19 C และ q2 = 3.20x10-19 C วางอยูบ่ นแกน x
และห่างกันเป็ นระยะ R = 0.0200 m จงหาขนาดและทิศทางของแรงที่กระทาบนประจุ q2
โดยประจุ q1
10
2. Coulomb’s Law
11
2. Coulomb’s Law
12
2. Coulomb’s Law
13
3. The Electric field
❑ เส้ นสนามไฟฟ้ า
เส้นสนามผไฟฟ้า
ประจุบวก จะมีทศิ พุ่งออก
ประจุลบ จะมีทศิ พุ่งเข้ า
โดยเส้นสนามผไฟฟ้าจะมผีทิศตั้ง
ฉากกับพื้นัิวของวัตถุที่มผีประจุ
นั้นๆ
14
3. The Electric field
15
3. The Electric field
16
3. The Electric field due to a point charge
17
3. The Electric field due to a point charge
ตัวอย่างที่ 6 การหาสนามไฟฟ้าเนื่องจากไดโพลไฟฟ้า
18
3. The Electric field due to a dipole
สนามไฟฟ้ าเนื่องจากไดโพลไฟฟ้ า
สนามไฟฟ้ าเนื่องจากขั้วคู่ไฟฟ้ า
19
3. The Electric field due to a line of charge
20
3. The Electric field due to a line of charge
22
3. The Electric field due to a charged disk
23
3. The Electric field
Ink-Jet Printing
24
4. A dipole in an electric field
25
4. A dipole in an electric field
A dipole in an Electric Field:
Electric dipole ที่วางอยูใ่ นสนามผไฟฟ้าสมผ่าเสมผอ จะเกิดทอร์กเนื่องจากแรงจากประจุท้ งั สอง
มผีค่าไมผ่เป็ นศูนย์
26
M4-1 Gauss’ Law
Topics:
❑ Flux of Electric Field
❑ Gauss’s Law
❑ Gauss’s Law and Coulomb’s Law
❑ Applying Gauss’s Law: Cylindrical / Planar /Spherical
Symmetry
26
1. Flux of Electric field
28
1. Flux of Electric field
จงเรียงลาดับขนาดของฟลักซ์ สนามไฟฟ้ า
29
1. Flux of Electric field
ฟลักซ์ไฟฟ้า มผีค่าขึ้นกับ
1.....................................................
2.....................................................
3. ...................................................
เมผื่อแทนลงในสมผการ
31
ัิวเกาส์เซียน (Gaussian surface) เป็ นัิวสมผมผติที่สร้างขึ้น มผีลกั ษณะเป็ นพื้นัิวปิ ดใช้ในการหาสนามผไฟฟ้า
2. Gauss’ Law
32
3. Gauss’ Law and Coulomb’s Law
พิสูจน์ การแปลงกฏของเกาส์ให้อยูใ่ นรู ปกฏของคูลอมผบ์
1. พิจารณา ประจุ 1 ตัว สร้างัิวเกาส์เซียนทรงกลมผ ล้อมผรอบประจุ ดังรู ป
2. อาศัยกฏของเกาส์ และ ประจุภายในัิวปิ ด qenc = q ดังสมผการ
33
4. Applying Gauss’ Law
ขั้นตอนการหาสนามไฟฟ้ า จากกฏของเกาส์
1. พิจารณาเส้นประจุที่ยาวอนันต์ สร้างพื้นที่ัวิ ปิ ดรู ปทรงกระบอกล้อมผรอบ
เส้นประจุน้ ี
2 หาฟลักซ์ไฟฟ้า Φ = 𝐸. 𝐴Ԧ = 𝐸𝐴𝑐𝑜𝑠𝜃
Φ = 𝐸 2𝜋𝑟ℎ 𝑐𝑜𝑠0 = 𝐸 2𝜋𝑟ℎ
**ไมผ่มผีฟลักซ์ไฟฟ้าที่หวั และท้ายของทรงกระบอก
เนื่องจากทิศของสนามผไฟฟ้าและทิศของพื้นัิวตั้งฉากกัน
3. จาก Gauss’ Law𝜀0 Φ = 𝑞𝑒𝑛𝑐
แทนค่า ได้เป็ น
𝜀0 𝐸(2𝜋𝑟ℎ) = 𝑞𝑒𝑛𝑐
สนามไฟฟ้ า
เนื่องจากเส้ นประจุ 33
4. Applying Gauss’ Law
แทนค่า ได้เป็ น
สนามไฟฟ้ าเนื่องจาก
แผ่ นประจุอนันต์
34
4. Applying Gauss’ Law
สนามไฟฟ้ าเนื่องจากแผ่ น
ประจคู่ขนานอนันต์ 35
4. Applying Gauss’ Law
พิจารณาทรงกลมผกลวง ที่มผีประจุ q และมผีรัศมผี R
เลือกสร้างพื้นที่ัวิ ปิ ดทรงกลมผ
1. สร้างวงปิ ด S1 กรณี r < R
2. สร้างวงปิ ด S2 กรณี r R
**กรณีประจุทรงกลมกลวง ต้ องแยกคิด
สนามไฟฟ้ าภายใน หรื อ ภายนอกทรงกลม
สนามไฟฟ้ าภายนอกทรงกลม
สนามไฟฟ้ าภายในทรงกลม
36
4. Applying Gauss’ Law
37
4. Applying Gauss’ Law
38
Electric Potential
39
3. Electric Potential : Electric Potential Energy
Electric potential energy, U
งานที่เราต้องทาในการเคลื่อนที่ประจุบวก 𝑞𝑜 ในสนามผไฟฟ้า 𝐸
สมผ่าเสมผอ จากจุด A ไปยังจุด B เป็ นเท่าไร
3. Electric Potential : Electric Potential Energy
Electric potential energy, U
งานที่เราต้องทาในการเคลื่อนที่ประจุบวก 𝑞𝑜 ในสนามผไฟฟ้า 𝐸
สมผ่าเสมผอ จากจุด A ไปยังจุด B คือ
42
3. Electric Potential : Equipotential Surfaces
ผิวสมศักย์ (equipotential surface) คือ
ัิวที่ให้ศกั ย์ไฟฟ้าเท่ากันทุกๆจุดบนัิว
นั้น
ดังนั้น การเคลื่อนที่ของประจุบนัิวสมผ
ศักย์จะไมผ่ทาให้เกิดงาน โดยที่ัวิ สมผ
ศักย์จะตั้งฉากกับเส้นสนามผไฟฟ้าที่ัา่ น
ัิวเสมผอ
43
3. Electric Potential :
Calculation the Potential from the Field
ถ้าให้ Vi = 0 จะได้วา่
𝑟 1 𝑘𝑞
𝑉𝐵 − 𝑉𝐴 = −kq 𝐵 𝑟2 . 𝑑𝑟 = ቃ
𝑟 𝐴 𝑟
44
3. Electric Potential : Potential due to a Point Charge
and Group of Point Charges
จากรู ป จงหาค่าศักย์ไฟฟ้า เมื่อเราย้ายประจุทดสอบ
จากจุด Pไปยังจุดต่างๆ เป็ นระยะทาง r
45
3. Electric Potential : Potential due to a Point Charge
and Group of Point Charges
ความต่างศักย์ไฟฟ้าของจุดประจุ
ศักย์ไฟฟ้าของจุดประจุ
ศักย์ไฟฟ้าของกลุ่มประจุ
46
3. Electric Potential : Potential due to a Point Charge
and Group of Point Charges
Example, Net Potential of Several Charged Particles:
47
3. Electric Potential :
Potential due to a Continuous Charge Distribution
ก่อนจะคานวณหาสนามผไฟฟ้าจากศักย์ไฟฟ้า จะได้อธิบายการหาศักย์ไฟฟ้าเนื่องจาก
ประจุต่อเนื่อง ซึ่งมผีลกั ษณะการหาคล้ายกับการวิธิการคานวณของสนามผไฟฟ้า
พิจาณาสมผการหาศักย์ไฟฟ้าที่จุดใดๆ
48
3. Electric Potential :
49
3. Electric Potential :
50
3. Electric Potential :
Potential of a Charged Isolated Conductor
Faraday Cage
Topics:
❑ Calculating the capacitance
❑ Capacitors in parallel and in series
❑ Energy stored in an electric field
❑ Capacitor with a dielectric
53
M4-1 Capacitance: Calculating the capacitance
ตัวเก็บประจุ (Capacitor) เป็ นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บพลังงานในรู ปของสนามผ ไฟฟ้า ประกอบด้วยตัวนา
2 ตัว ที่มผีรูปร่ างคล้ายกัน วางอยูใ่ กล้กนั ในสุ ญญากาศ หรื อตัวกลางที่เป็ นฉนวน โดยจะใส่ ประจุบนตัวทั้ง
สองเท่าๆกัน แต่เป็ นประจุชนิดตรงข้ามผกัน
2. หาค่าความผต่างศักย์ V จากสนามผไฟฟ้าในข้อ 1
q
3. แทนค่าในสมผการ C =
V
55
M4-1 Capacitance: Calculating the capacitance
ค่ าความจุไฟฟ้ าของตัวเก็บประจุแบบแผ่ นคู่ขนาน
1. หาค่าสนามผไฟฟ้า E
สนามผไฟฟ้าเนื่องจากแั่นประจุคู่ขนาน
𝑞
่
มผีคาเป็ น E =
𝜀0 𝐴
2. หาค่าความผต่างศักย์ V จากสนามผไฟฟ้าในข้อ 1
−
𝑞 𝑑 𝑞𝑑
V = න 𝐸𝑑𝑠 = න 𝑑𝑠 =
+ 𝜀0 𝐴 0 𝜀0 𝐴
q
3. แทนค่าในสมผการ C =
V
ค่ าความจุไฟฟ้ าของตัวเก็บประจุ
แบบแผ่ นคู่ขนาน
56
M4-1 Capacitance: Calculating the capacitance
ตัวอย่างที่ 1
57
M4-1 Capacitance: Calculating the capacitance
ค่ าความจุไฟฟ้ าของตัวเก็บประจุแบบทรงกระบอก
1. หาค่าสนามผไฟฟ้า E
𝑞 = 𝜀0 𝐸𝐴 = 𝜀0 𝐸(2𝜋𝑟𝐿)
𝑞
ดังนั้น 𝐸 =
2𝜋𝜀0 𝑟𝐿
2. หาค่าความผต่างศักย์ V จากสนามผไฟฟ้า
− 𝑏
𝑞 𝑑𝑟 𝑞 𝑏
V = න 𝐸𝑑𝑠 = න = 𝑙𝑛
+ 2𝜋𝜀0 𝐿 𝑎 𝑟 2𝜋𝜀0 𝐿 𝑎
q
3. แทนค่าในสมผการ C =
V
ค่ าความจุไฟฟ้ าของตัวเก็บประจุ
แบบทรงกระบอก
58
M4-1 Capacitance: Calculating the capacitance
ตัวอย่างที่ 2
59
M4-1 Capacitance: Calculating the capacitance
ค่ าความจุไฟฟ้ าของตัวเก็บประจุแบบทรงกลม
1. หาค่าสนามผไฟฟ้า E
𝑞 = 𝜀0 𝐸𝐴 = 𝜀0 𝐸(4𝜋𝑟 2 )
𝑞
ดังนั้น 𝐸 =
4𝜋𝜀0 𝑟 2
2. หาค่าความผต่างศักย์ V จากสนามผไฟฟ้า
− 𝑏
𝑞 𝑑𝑟 𝑞 𝑎𝑏
V = න 𝐸𝑑𝑠 = න 2 =
+ 4𝜋𝜀 0 𝐿 𝑎 𝑟 2𝜋𝜀0 𝐿 𝑏 − 𝑎
q
3. แทนค่าในสมผการ C =
V
ค่ าความจุไฟฟ้ าของตัวเก็บประจุ
แบบทรงกระบอก
60
M4-1 Capacitance: Capacitors in parallel and in series
การต่ อตัวเก็บประจุแบบขนาน
➢ ให้ความผต่างศักย์เท่ากัน
➢ ประจุแต่ละตัวมผีค่า
𝑞1 = 𝐶1 𝑉, 𝑞2 = 𝐶2 𝑉
และ 𝑞3 = 𝐶3 𝑉
➢ ประจุรวมผ q = 𝑞1 + 𝑞2 + 𝑞3
ถ้าระบบของตัวเก็บประจุน้ ี แทน
ด้วยตัวเก็บประจุเพียงตัวเดียวเป็ น
𝐶𝑒𝑞 = 𝐶1 + 𝐶2 + 𝐶3
ค่ าความจุรวม
61
M4-1 Capacitance: Capacitors in parallel and in series
การต่ อตัวเก็บประจุแบบอนุกรม
➢ ให้ค่าประจุเท่ากันเท่ากัน
➢ ศักย์ไฟฟ้าที่ัา่ นตัวเก็บประจุแต่ละตัว
𝑉1 = 𝑞/𝐶1 , 𝑉2 = 𝑞/𝐶2 และ 𝑉3 = 𝑞/𝐶3
➢ ค่าความผต่างศักย์รวมผ V = 𝑉1 + 𝑉2 + 𝑉3
ถ้าระบบของตัวเก็บประจุน้ ี แทนด้วยตัวเก็บประจุเพียง
ตัวเดียวเป็ น 1 1 1 1
= + +
𝐶𝑒𝑞 𝐶1 𝐶2 𝐶3
ค่ าความจุรวม
62
M4-1 Capacitance: Capacitors in parallel and in series
ตัวอย่างที่ 3 (a) Find the equivalent capacitance for the combination of capacitances
shown in Fig, across which potential difference V is applied.
(b) The potential difference applied to the input terminals in Fig. is V = 12.5 V. What is
the charge on C1 ?
63
M4-1 Capacitance: Capacitors in parallel and in series
ตัวอย่ างที่ 4 Fig. shows plots of charge versus potential difference for three
parallel-plate capacitors that have the plate areas and separation given in the
table. Which plot goes with which capacitor?
Capacitor Area Separation
1 A d
2 2A d
3 A 2d
64
M4-1 Capacitance: Energy stored in an electric field
พลังงานศักย์ในตัวเก็บประจุ
Energy density – the potential energy per unit volume between the plates
65
M4-1 Capacitance: Energy stored in an electric field
ตัวอย่ างที่ 5 An isolated conducting sphere whose radius R is 6.85 cm has a charge q = 1.25 nC.
(a) How much potential energy is stored in the electric field of this charge conductor?
(b) What is the energy density at the surface of the sphere?
66
M4-1 Capacitance: Capacitor with a dielectric
ตัวเก็บประจุเมื่อมีสารไดอิเล็กตริก
สารไดอิเล็กตริ ก (dielectric) คือ สารจาพวกฉนวน เช่น ยาง แก้ว พลาสติก เมผื่อนาสารไดอิเล็กตริ ก ไปใส่
ไว้ระหว่างแั่นตัวนาคู่ขนาน พบว่าค่ าความจุของตัวเก็บประจุจะมีค่าเพิม่ ขึน้ เนื่องจากการใส่ ฉนวน
ระหว่างแั่นตัวนาทั้งสองจะทาให้สนามผไฟฟ้ามผีค่าลดลง ทาให้ความผต่างศักย์ระหว่างแั่นตัวนามผีค่าลดลง
ตามผไปด้วย
67
M4-1 Capacitance: Capacitor with a dielectric
ตัวเก็บประจุเมื่อมีสารไดอิเล็กตริก
ค่าความผจุไฟฟ้าที่เพิ่มผขึ้น เนื่องจากการใส่
สารไดอิเล็กตริ ก จะมผีค่าขึ้นกับ ค่าคงที่
ของสารไดอิเล็กตริ ก (dielectric constant,
) ซึ่งขึ้นอยูก่ บั ชนิดของสารไดอิเล็กตริ ก
𝜀
𝜅 = 𝜀𝑟 =
𝜀0
ยกตัวอย่างเช่น ค่าความผจุของตัวเก็บประจุ
แบบแั่นคู่ขนานที่มผีสารไดอิเล็กตริ ก
𝜀0 𝐴
𝐶 = 𝜅
𝑑 68
M4-1 Capacitance: Capacitor with a dielectric
69
M4-1 Capacitance: Dielectrics and Gauss’ Law
สนามไฟฟ้ าระหว่ างแผ่ นประจุคู่ขนาน เมื่อไม่ มสี ารไดอิเล็กตริก
70
M4-1 Capacitance: Dielectrics and Gauss’ Law
ตัวอย่ าง ตัวเก็บประจุแบบแั่นคู่ขนาน ที่มผีพ้นื ที่ตวั นา A = 5.56 cm2 และระยะห่างระหว่าง
แั่นคู่ขนานทั้งสองแั่นเป็ น d = 5.56 mm โดยช่องว่างระหว่างแั่นได้ใส่ สารไดอิเล็กตริ ก
อย่างละครึ่ งแั่นด้วยพื้นที่เท่ากัน ตามผรู ป กาหนดให้สารไดอิเล็กตริ ก ที่ใส่ ลงไปมผีค่าคงที่
เป็ น 1 = 7.00 และ 1 = 12.0 จงหาค่าความผจุไฟฟ้าของตัวเก็บประจุน้ ี
71
M4-1 Capacitance: Dielectrics and Gauss’ Law
72