Professional Documents
Culture Documents
ชื่อวิชา เครื่องจักรกลไฟฟ้า 1
Electrical Machine 1
รหัสวิชา ETE 2203
หน่วยกิต 3 หน่วย
อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.เจนศักดิ์ เอกบูรณะวัฒนน์
คำอธิบำยรำยวิชำ
▪ แหล่งกาเนิดพลังงาน หลักการแปรรูปพลังงาน พลังงานและ
พลังงานร่วม แม่เหล็กไฟฟ้า วงจรแม่เหล็ก
▪ ทฤษฎีและการวิเคราะห์หม้อแปลง การใช้งานหม้อแปลงไฟฟ้า
▪ หลั ก การและโครงสร้ า งของเครื่ อ งจั ก รกลไฟฟ้า กระแสตรง
คุณสมบัติของเครื่องกาเนิดไฟฟ้ากระแสตรง ชนิดต่าง ๆ
▪ หลักการของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง
▪ การเริ่ม เดินและการควบคุมความเร็ว รอบของมอเตอร์ไฟฟ้ า
กระแสตรง
▪ การป้องกันเครื่องจักรกลไฟฟ้ากระแสตรง
1
11/11/64
พลังงาน (Energy)
พลังงาน หมายถึง ความสามารถในการทางานได้ มี
หน่วยวัดเป็น จูล (Joules) หรือ กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)
2
11/11/64
ไฟฟ้าเกิดขึน้ ได้อย่างไร
วัตถุ ประกอบด้วยอะตอมจานวนมาก แล้ว "อะตอมคืออะไร" คาถามนี้
ต้องเกิดขึ้นแน่นอน ดังนั้นจะขออธิบายสั้นๆ ว่า
➢ ภายในนิวเคลียสของอะตอมประกอบด้วยโปรตอนและนิวตรอน
➢ จานวนโปรตอนจะเท่ากับจานวนของอิเล็กตรอน
➢ อิเล็กตรอนมี ไฟฟ้าลบ (-) โปรตอนมีไฟฟ้าบวก (+)
➢ อิเล็กตรอนหมุนรอบนิวเคลียสของอะตอมด้วยวงโคจรที่แน่นอนด้วยแรงดึงดูดที่ทาให้
อิเล็กตรอนติดอยู่กับอะตอม อิเล็กตรอนจึงหลุดไปจากอะตอมไม่ได้
➢ อิเล็กตรอนตัวที่อยู่วงโคจรนอกสุดซึ่งห่างจากนิวเคลียสมากมีแรงดึงดูดน้อย เมื่อมี
อิทธิพลจากภายนอกเข้ามารบกวนอิเล็กตรอนจึงหลุดพ้นจากวงโคจรนั้นได้และ
สามารถเคลื่อนไหวอย่างอิสระระหว่างอะตอมได้ ซึ่งทาให้เกิดปรากฏการณ์ต่าง ๆ
ทางไฟฟ้า
3
11/11/64
วัตถุทุกชนิดประกอบด้วยอะตอมที่มีไฟฟ้า ดังนั้นวัตถุทุกชนิดควรมีไฟฟ้าด้วย
ภายในอะตอมของวัตถุนั้นมีปริมาณไฟฟ้าบวกและลบเท่ากัน แรงกระทาจาก
ไฟฟ้าบวก และไฟฟ้าลบ จึงหักล้างกันพอดี สภาพเช่นนี้เรียกว่า
“สภำพเป็นกลำงทำงไฟฟ้ำ”
(ทั้งไฟฟ้าบวกและไฟฟ้าลบยังคงมีอยู่ในจานวนที่เท่ากัน)
4
11/11/64
โดยทั ่ ว ไปการที ่ ว ั ต ถุ เ กิ ด
ไฟฟ้าขึ้นเรียกว่า วัตถุนั้น มีประจุ
ไฟฟ้ า ประจุ ไ ฟฟ้ า มี ท ั ้ ง ประจุ
บวก และประจุ ล บ ประจุ ไ ฟฟ้ า
แสดงถึ ง ปริ ม าณไฟฟ้ า มี หน่ ว ย
เป็น คูลอมบ์ (Coulomb)
แหล่งกาเนิดไฟฟ้า
แหล่งกาเนิดไฟฟ้ามีหลายชนิด ดังนี้
1. ไฟฟ้ ำทีเ่ กิดจำกกำรเสี ยดสี กนั ของวัตถุ
การนาวัตถุ 2 ชนิดมาเสียดสีกันจะเกิดไฟฟ้า เรียกว่า “ไฟฟ้ำสถิต”
ผู้ค้นพบไฟฟ้าสถิต ก็คือ นักปราชญ์กรีกโบราณท่านหนึ่ง ชื่ อ เทลิส
(Philosopher Thales ; 640-546 ปี ก่อนคริสต์ศักราช) แต่ยังไม่
ทราบอะไรเกี่ยวกับไฟฟ้ามากนัก จนถึงสมัย เซอร์ วิลเลียมกิลเบอร์ค
(Sir William Gilbert ; ค.ศ. 1544-1603) ได้ทดลองนาเอาแท่ง
อาพันถูกับผ้าขนสัตว์ ปรากฏว่าแท่งอ าพันและผ้าขนสัตว์ส ามารถดูด
ผงเล็ก ๆ ได้ปรากฏการณ์นี้ คือ การเกิดไฟฟ้าสถิตบนวัตถุทั้งสอง
5
11/11/64
ผู้ค้นพบ คือ ไมเคิล ฟาราเดย์ (Michael Faraday) (ค.ศ. 1791 –1867) เป็นนักเคมี
และนักฟิสิกส์ ชาวอังกฤษ เป็นผู้คิดค้นไดนาโมในปี ค.ศ. 1821
6
11/11/64
7
11/11/64
4. ไฟฟ้ำที่เกิดขึน้ จำกพลังงำนแสง
หลักการทางานคือ เมื่อแสงมากระทบกับเซลล์วัสดุที่เป็นสารกึ่งตัวนา
จะดูซับพลังงานไว้ พลังงานแสงที่ตกกระทบและถูกดูดซับเอาไว้จ ะไป
กระตุ้นให้อิเล็กตรอนในสารกึ่งตัวนาหลุดออกจากวงโคจรและเคลื่ อนที่
อย่างอิสระ การเคลื่อนที่หรือการไหลของอิเล็กตรอนในสารกึ่งตัว นาก็
คือ การไหลของกระแสไฟฟ้า นั่นเอง
8
11/11/64
ปริมาณและหน่ วยทางไฟฟ้า
1. กระแสไฟฟ้า
การเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนหรือการไหลของอิเล็กตรอนในตัวนาไฟฟ้า
เรียกว่า “กระแสไฟฟ้า” (Electric Current)
ส าหรับ ในตัวน าที่เ ป็น ของแข็ ง กระแสไฟฟ้า เกิ ดจากการไหลของ
อิเล็กตรอน โดยอิเล็กตรอนจะไหลจากขั้วลบ (-) ไปหาขั้วบวก (+) เสมอ
ในตัวน าที่เป็นของเหลวและก๊าซ กระแสไฟฟ้าเกิดจากการเคลื่อนที่ ของ
อิเล็กตรอนกับโปรตอน โดยจะเคลื่อนที่เข้าหาขั้วไฟฟ้าที่มีประจุตรงข้าม
ขนาดของกระแสไฟฟ้าที่ไหลในสายไฟฟ้านั้น กาหนดได้จากปริมาณ
ของประจุไฟฟ้าที่ไหลผ่านจุดใด ๆ ในเส้นลวดใน 1 วินาที มีหน่วยเป็น
แอมแปร์ (Ampere ซึ่งแทนด้วย A)
9
11/11/64
2. แรงดันไฟฟ้า
กระแสไฟฟ้าเกิดจากการที่มีอิเล็กตรอนไหลในสายไฟ ซึ่งการที่
อิเล็กตรอนไหลหรือเคลื่อนที่ได้นั้นจะต้องมีแรงมากระทาต่ออิเล็กตรอนทา
ให้เกิดกระแสไหล แรงดังกล่าวนี้เรียกว่า แรงดันไฟฟ้า (Voltage)
10
11/11/64
11
11/11/64
3. ควำมต้ ำนทำนไฟฟ้ำ
สภาพการนาไฟฟ้าของวัตถุต่าง ๆ
ตัวนาไฟฟ้า (Conductor) คือ วัตถุที่ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้
ง่าย เรียกว่า เช่น ทองแดง, เงิน, อะลูมิเนียม, สารละลายของกรดเกลือ
กรดกามะถัน และน้าเกลือ ฯลฯ
ฉนวนไฟฟ้า (Insulator) คือ วัตถุที่ไม่ยอมให้กระแสไหลผ่านได้หรือ
ไหลผ่านได้ยาก เรียกว่า เช่น พลาสติก ยาง แก้ว กระดาษแห้ง ฯลฯ
สารกึ่งตัวนา (Semiconductor) คือ วัตถุที่ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหล
ผ่านได้ และสามารถควบคุมการไหลผ่านได้ เช่น คาร์บอน ซิลิคอน และ
เจอมาเนียม ฯลฯ
12
11/11/64
เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลในตัวนาไฟฟ้าย่อมหมายถึงมีการเคลื่อนไหวของ
อิเล็กตรอนในตัวนานั้น กระแสไฟฟ้าที่ไหลในตัวนาไฟฟ้าชนิดต่าง ๆ มี
คุณสมบัติการไหลต่างกันเพราะมี วัตถุแต่ละชนิดมีค่า ความต้านทาน
ไฟฟ้า (Resistance) ที่แตกต่างกัน ค่าความต้านทานไฟฟ้าเป็นสมบั ติ
เฉพาะของวัตถุในการที่จะขวางหรือต้านทานการไหลของกระแสไฟฟ้าที่
จะไหลผ่านวัตถุนั้น ๆ ไป
ความต้านทานของตัวนาไฟฟ้าขึ้นอยู่กับปัจจัยที่สาคัญ คือ
1. ชนิดของวัตถุ วัตถุที่ต่างชนิดกันจะมีความต้านทานต่างกัน
2. อุณหภูมิของวัตถุ เมื่ออุณหภูมิของตัวนาไฟฟ้าเปลี่ยนไป จะมีผลให้
ความต้านทานของตัวนานั้นเปลี่ยนตามไปด้วย
13
11/11/64
จบการบรรยาย
14