Professional Documents
Culture Documents
PART 1
-
Proton
+
+ + +
-
Neutron
ส่วนประกอบของอะตอม
อิเล็กตรอน
•อะตอมของธาตุต่าง ๆ ประกอบไปด้วยอนุภาคสําคัญ 3 อนุภาคได้แก่
(electron), โปรตอน(proton) และนิวตรอน(neutron)
โดยแต่ละอนุภาคมีคุณสมบัติทางไฟฟ้าที่ต่างกัน
CPE‐KU‐KPS Lt.ANUMAT ENGKANINAN
ความรู้เกี่ยวกับประจุไฟฟ้า ( Electric Charge)
ถ้าประจุไฟฟ้าชนิดเดียวกัน จะ ผลักกัน
ถ้าประจุไฟฟ้าต่างกัน จะ ดูดกัน
ประเภทของไฟฟ้า
• เมื่อพิจารณาทีก
่ ารเคลื่อนที่ของประจุ แบ่งออกเป็น
2 ประเภท ได้แก่
1. ไฟฟ้าสถิต (Static Electricity)
=> ประจุไฟฟ้าไม่เคลื่อนที่
2. ไฟฟ้ากระแส (Current Electricity)
=> ประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่
กระแสไฟฟ้า ( Electric Current )
คือ ปริมาณประจุไฟฟ้าที่เคลื่อนที่ผ่านพื้นที่
ตัดขวางของตัวนําจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ใน 1
หน่วยเวลา
เกิดจาก การไหลของประจุไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
กระแสไฟฟ้า ( Electric Current )
กระแสอิเล็กตรอน กระแสสมมติ
เกิดจากอิเล็กตรอนเคลื่อนที่จาก เกิดจากการสมมติให้โปรตอน
ศักย์ไฟฟ้าต่ําไปศักย์ไฟฟ้าสูง เคลื่อนที่จากศักย์ไฟฟ้าสูงไป
หรือ ศักย์ไฟฟ้าต่ํา หรือ
จากขั้วลบ ขั้วบวก จากขั้วบวก ขั้วลบ
ทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้า
ชนิดของกระแสไฟฟ้า มี 2 ชนิด
*** เมื่อพิจารณาตามทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้า
เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์
2. หน่วยที่ใช้วัดปริมาณกระแสไฟฟ้า คือ แอมแปร์ (Ampere) เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ A
3. วิธีใช้แอมมิเตอร์ ให้ต่อแบบอนุกรมโดยต่อเรียงกันไปจนครบวงจรไฟฟ้า เริ่มจาก
ต่อขั้วบวกของถ่านไฟฉายเข้ากับขั้วบวกของแอมมิเตอร์ และต่อขั้วลบของแอมมิเตอร์เข้ากับข้าง
หนึ่งของขั้วหลอดไฟ แล้วต่อขั้วที่เหลือของหลอดไฟเข้ากับขั้วลบของถ่านไฟฉาย
การวัดกระแสไฟฟ้าด้วยแอมมิเตอร์
4. แอมมิเตอร์ที่ดีต้องมีค่าความต้านทานต่ํา จึงจะวัดค่ากระแสไฟฟ้าได้
แม่นยํากว่าแอมมิเตอร์ที่มีความต้านทานสูง
5. เมื่อเพิ่มจํานวนถ่านไฟฉาย กระแสไฟฟ้าจะมากขึ้น หลอดไฟจึงสว่าง
มากขึ้น
สรุปสาระสําคัญ
การหาปริมาณกระแสไฟฟ้า
การวัดปริมาณกระแสไฟฟ้า เป็นการวัดอัตราการไหลของประจุ
ผ่านจุดอ้างอิงใดๆในทิศทางที่กําหนด ณ เวลาหนึ่ง
เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ I หรือ i จะมีค่าเป็น
เซลล์ไฟฟ้าเคมี
กระแสไฟฟ้าจาก
การเหนี่ยวนํา
1. เซลล์ไฟฟ้าเคมี
คือ อุปกรณ์ที่ทําหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าจากการเกิดปฏิกิริยาเคมี
เป็นการเปลี่ยน พลังงานจากปฏิกิริยาเคมี ให้เป็น ไฟฟ้า
ส่วนประกอบของเซลล์ไฟฟ้าเคมี
รูปสัญลักษณ์ของเซลล์ไฟฟ้า 1 เซลล์
2. กระแสไฟฟ้าจากการเหนี่ยวนํา
1.2 กระแสไฟฟ้าจากการเหนี่ยวนํา
กระแสไฟฟ้าจากการเหนี่ยวนําเกิดจากตัวนําหรือขดลวดเคลื่อนที่
ตัดสนามแม่เหล็ก หรือเมื่อสนามแม่เหล็กที่ผ่านตัวนําเกิดการ
เปลี่ยนแปลง จะทําให้เกิดกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนํา เรียกเครื่องกําเนิด
ไฟฟ้าชนิดนี้ว่า"ไดนาโม" หรือ "เครื่องกําเนิดไฟฟ้า"
ไดนาโม เป็นเครื่องกลที่เปลี่ยนพลังงานกลเป็นพลังงานไฟฟ้า เมื่อ
เคลื่อนขดลวดตัดกับสนามแม่เหล็ก หรือเคลื่อนแม่เหล็กตัดกับขดลวด
จะทําให้สนามแม่เหล็กเกิดการเปลี่ยนแปลง จึงเกิดกระแสไฟฟ้า
เหนี่ยวนําขึ้น
ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ
ดังนี้
- จํานวนรอบของขดลวด
- กําลังขั้วของแท่งแม่เหล็ก
- ความเร็วของการเคลื่อนที่ของขดลวดหรือแท่งแม่เหล็ก
- พื้นที่ของขดลวด ถ้ามีพื้นที่มากก็จะเกิดกระแสไฟฟ้าได้มาก
ไดนาโมแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
1.ไดนาโมกระแสตรง มีวงแหวนเดียวโดยแบ่งเป็น 2 ซีกไม่ติดกัน แต่ละ
ซีกต่อกับปลายขดลวดคนละข้าง เรียกวงแหวนนี้ว่า “แหวนแยกหรือ
คอมมิวเทเตอร์”
2. ไดนาโมกระแสสลับ มีวงแหวน 2 วง สัมผัสอยู่กับแปรงที่ต่อไปยัง
วงจรภายนอก
พลังงานที่นํามาใช้หมุนขดลวดของเครื่องกําเนิดไฟฟ้ามีหลาย
ประเภท เช่น พลังงานความร้อนได้จากเชื้อเพลิง เช่น น้ํามัน ถ่านหิน เป็น
ต้น พลังงานน้ํา ได้จากเขื่อนกั้นน้ํา เครื่องจักรไอน้ํา