Professional Documents
Culture Documents
โดย
นายชนายุ คำสะสม
นายนพสินธุ์ ศรีจันทร์
นายบวรวิทย์ นาไร
โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
ภาควิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม
คณะวิศวกรรมศาสตร์
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ปีการศึกษา 2566
ระบบติดตามและวัดความอ่อนแก่ของผลทุเรียน
DURIAN TRACKING AND MEASUREMENT
โดย
นายชนายุ คำสะสม 63010193
นายนพสินธุ์ ศรีจันทร์ 63010488
นายบวรวิทย์ นาไร 63010538
อาจารย์ที่ปรึกษา
ศ. ดร.ปราโมทย์ วาดเขียน
โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
ภาควิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม
คณะวิศวกรรมศาสตร์
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ปีการศึกษา 2566
โครงงานปีการศึกษา 2566
ภาควิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม
คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
เรื่อง ระบบติดตามและวัดความอ่อนแก่ของผลทุเรียน
DURIAN TRACKING AND MEASUREMENT
ผู้จัดทำ
1. นายชนายุ คำสะสม 63010193
2. นายนพสินธุ์ ศรีจันทร์ 63010488
3. นายบวรวิทย์ นาไร 63010538
.............................................................................. อาจารย์ที่ปรึกษา
( ศ. ดร.ปราโมทย์ วาดเขียน )
I
กิตติกรรมประกาศ
นายชนายุ คำสะสม
นายนพสินธุ์ ศรีจันทร์
นายบวรวิทย์ นาไร
ผู้จัดทำ
II
ระบบติดตามและวัดความอ่อนแก่ของผลทุเรียน
DURIAN TRACKING AND MEASUREMENT
บทคัดย่อ
ในการเก็บเกี่ยวผลผลิตของชาวสวนทุเรียนนั้น ปกติจะทำการเช็คระดับตามความ
อ่อนแก่ของทุเรียนด้วยการใช้การนับอายุซึ่งให้ประสิทธิภาพแค่ 80 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทำให้ผลผลิต
ไม่ได้มาตรฐานและคุณภาพที่มั่นคง โดยจุดประสงค์ของโครงงานนี้จึงต้องการที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ
ผลผลิตของทุเรียนและเพิ่มความสะดวกสบายในการทำการเกษตรโดยการนำเทคโนโลยีเข้ามามี
บทบาทมากขึ้น จากงานวิจัยพบว่าเราสามารถตรวจสอบความอ่อนแก่ของทุเรียนได้จากระดับน้ำตาล
ที่ขั้วของทุเรียน ซึ่งให้ผลยืนยันความอ่อนแก่ได้ถูกต้องแม่นยำกว่าการนับอายุ ของทุเรียน เราจึง
ต้องการที่จะสร้างเครื่องวัดน้ำตาลขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการเก็บเกี่ยวและได้
พัฒนาการแสดงข้อมูลของผลทุเรียนผ่านหน้าต่าง GUI (Graphical User Interface) โดยการใช้
เทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification) ในการติดตามและนับจำนวนอายุของทุเรียน
เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบอายุของทุเรียนในการทำการเกษตรเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
ช่วงเวลาที่ทุเรียนแต่ละลูกต้องทำการฉีดพ่นอาหารเสริมและสารป้องกันโรคและแมลง หรือช่วงเวลา
ในการเก็บเกี่ยวผลผลิตแต่ละลูกโดยไม่จำเป็นต้องทำการนับวันด้วยตัวชาวเกษตรกรเองแต่เป็นการใช้
เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการทำการเกษตร
III
ABSTRACT
The purpose of this project is to increase the efficiency of durian
production and improve the convenience of agricultural activities by incorporating
technology. Traditionally, durian farmers rely on age-based assessments, which are
only 80% accurate, leading to non-standardized and inconsistent yields. The
research has revealed that assessing durian ripeness based on sugar levels at the
fruit's stem provides more accurate and precise results than age counting. To
enhance efficiency and accuracy in harvesting, we aim to develop a sugar level
measuring device. Additionally, we plan to implement RFID (Radio Frequency
Identification) technology to track and count the age of durians, simplifying the
process of checking durian age in agriculture. For example, during specific periods
when durians require fertilization and protection against diseases or insects, or during
harvest time, RFID technology eliminates the need for manual counting by farmers.
Instead, it integrates technology more significantly into agricultural practices, making
the process more efficient and reducing the manual workload for farmers.
IV
สารบัญ
หน้า
กิตติกรรมประกาศ I
บทคัดย่อ II
สารบัญ IV
สารบัญรูป VI
สารบัญตาราง IX
บทที่ 1 บทนำ 1
1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา 1
1.2 วัตถุประสงค์ 1
1.3 ขอบเขตของโครงงาน 1
บทที่ 2 ทฤษฎีและหลักการที่เกี่ยวข้อง 2
2.1 ทุเรียน 2
2.2 NFC (Near Field Communication) 5
2.3 RFID (RADIO FREQUENCY IDENTIFICATION) 6
2.4 `อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง 7
2.5 มาตรฐานการส่ง 18
2.6 รหัสสถานะตอบกลับ HTTP 19
2.7 ARDUINO IDE 22
2.8 VISUAL STUDIO CODE 23
2.9 XAMPP 23
2.10 PHPMYADMIN 24
2.11 ภาษา SQL 25
2.12 ภาษา PHP 25
2.13 JSON 26
V
สารบัญ (ต่อ)
หน้า
2.14 ภาษา HTML 27
2.15 ภาษา CSS 28
บทที่ 3 การออกแบบและการจัดทำปริญญานิพนธ์ 29
3.1 การออกแบบ 29
3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง 36
3.3 การจัดเก็บผลการทดลอง 38
บทที่ 4 ผลการทดลอง 40
4.1 ทดสอบการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ 40
4.2 ทดสอบการบันทึกข้อมูลยูไอดีของแท็กอาร์เอฟไอดีไปยังฐานข้อมูล 45
4.3 ทดสอบการแสดงผลข้อมูลจากฐานข้อมูลบน WEB SERVER 48
บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ 50
5.1 สรุปผล 50
5.2 ข้อเสนอแนะ 51
บรรณานุกรม 52
ภาคผนวก ตัวอย่างคำสั่งการทำงานของระบบติดตามผลทุเรียน 55
VI
สารบัญรูป
หน้า
รูปที่
2.1 ตัวอย่างลำดับการเจริญเติบโตของทุเรียนภายในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง 2
2.2 ระยะการติดผลของต้นทุเรียน 3
2.3 ภาพตัวอย่างต้นทุเรียนในระยะสุกแก่ 5
2.4 พอร์ตการเชื่อมต่อ ESP-WROOM-32 8
2.5 รูปตัวอย่างอุปกรณ์ ISO 14443 Type A 9
2.6 รูปตัวอย่างอุปกรณ์เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M 10
2.7 รูปแสดงระดับแรงดัน TTL 18
2.8 รูปตัวอย่างแสดงการสื่อสารแบบ Synchronous 19
2.9 รูปตัวอย่างแสดงการสื่อสารแบบอะซิงโครนัส 19
2.10 โปรแกรม Arduino IDE 22
2.11 รูปแสดงไอคอนของโปรแกรม Visual Studio Code 23
2.12 รูปแสดงไอคอนของโปรแกรม XAMPP 24
2.13 รูปแสดงไอคอนของโปรแกรม phpMyAdmin 25
2.14 รูปแสดงไอคอนของภาษา HTML 28
2.15 รูปแสดงไอคอนของภาษา CSS 28
3.1 บล็อกไดอะแกรมของระบบติดตามและวัดความอ่อนแก่ของผลทุเรียน 29
3.2 วงจรการเชื่อมต่อระบบติดตามของผลทุเรียน 30
3.3 รูปแสดงการจำลองการต่อวงจรทดสอบการส่งข้อมูลแบบเลขฐาน 16 ของ 31
โมดูล ESP32
3.4 รูปแสดงการจำลองการต่อวงจรทดสอบการรับข้อมูลระหว่าง ESP- 31
WROOM-32 และ เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M
3.5 วงจรสำหรับเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M และ ESP-WROOM- 32
32
3.6 การเชื่อมต่อลายเส้น (Route Traces) ของวงจร 32
VII
สารบัญรูป (ต่อ)
หน้า
รูปที่
3.7 การเชื่อมต่อรอยเส้นเงื่อนไขการทำงานของ ESP-WROOM-32 33
3.8 การกัดแผ่นปริ้นวงจร 34
3.9 การเจาะแผ่นปริ้นวงจร 34
3.10 การบัดกรีแผ่นปริ้นวงจร 34
3.11 ประกอบอุปกรณ์เข้ากับแผ่นปริ้นวงจร 35
3.12 ด้านนอกของกล่องอุปกรณ์ 35
3.13 ภาพดึงอุปกรณ์ออกมาจากกล่อง 35
3.14 อุปกรณ์ทั้งหมดภายในกล่อง 36
3.15 สายไมโครยูเอสบี 37
4.1 รูปแสดงสัญญาณข้อมูลที่ได้รับจากการทดสอบการส่งข้อมูลแบบเลขฐาน 40
16ของโมดูล ESP32
4.2 รูปแสดงสัญญาณความถี่ที่ตรวจจับได้จากเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล 41
SL025M
4.3 รูปแสดงสัญญาณข้อมูลที่ส่ง 42
4.4 รูปแสดงสัญญาณข้อมูลที่ได้รับจากการแตะบัตรแท็กอาร์เอฟไอดีใบที่ 1 42
4.5 รูปแสดงผลเฟรมข้อมูลที่ได้รับจากการแตะบัตรแท็กอาร์เอฟไอดีใบที่ 1 43
4.6 รูปแสดงสัญญาณข้อมูลที่ได้รับจากการแตะบัตรแท็กอาร์เอฟไอดีใบที่ 2 43
4.7 รูปแสดงผลเฟรมข้อมูลที่ได้รับจากการแตะบัตรแท็กอาร์เอฟไอดีใบที่ 2 44
4.8 รูปแสดงสัญญาณข้อมูลที่ได้รับจากการแตะบัตรแท็กอาร์เอฟไอดีใบที่ 3 44
4.9 รูปแสดงผลเฟรมข้อมูลที่ได้รับจากการแตะบัตรแท็กอาร์เอฟไอดีใบที่ 3 45
4.10 รูปแสดงผลตอบรับจากการส่งคำขอ HTTP POST สำเร็จ 47
4.11 รูปแสดงข้อมูลที่ส่งไปเก็บในฐานข้อมูลได้สำเร็จ 47
VIII
สารบัญรูป (ต่อ)
หน้า
รูปที่
4.12 ภาพแสดงข้อมูลภายในฐานข้อมูลที่ใช้ในการแสดงผล 48
4.13 รูปภาพแสดงหน้าต่าง LOGIN ก่อนทำการเข้าสู่ระบบ 48
4.14 รูปแสดงผลข้อมูลบนหน้าต่างเว็บไซต์ 49
IX
สารบัญตาราง
หน้า
ตารางที่
2.1 ระยะการติดผลของต้นทุเรียน 5
2.2 แสดงพินของอุปกรณ์เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M 10
2.3 การตั้งค่าการสื่อสาร 11
2.4 รูปแบบการสื่อสาร Host to SL025 11
2.5 รูปแบบการสื่อสาร SL025M to Host 12
2.6 ตารางแสดงคำสั่ง 12
2.7 ตารางแสดงสถานะ 13
2.8 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งเลือกการ์ด Mifare 13
2.9 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งเลือกการ์ด Mifare 13
2.10 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งเข้าสู่เซ็กเตอร์ 14
2.11 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งเข้าสู่เซ็กเตอร์ 14
2.12 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งดาวน์โหลดกุญแจเข้า SL025M 14
2.13 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งดาวน์โหลดกุญแจเข้า SL025M 14
2.14 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งเข้าสู่เซ็กเตอร์ผ่านกุญแจที่เก็บไว้ 14
2.15 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งเข้าสู่เซ็กเตอร์ผ่านกุญแจที่เก็บ 14
ไว้
2.16 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งอ่านข้อมูลบล็อก 14
2.17 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งอ่านข้อมูลบล็อก 15
2.18 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งเขียนข้อมูลบล็อก 15
2.19 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งเขียนข้อมูลบล็อก 15
2.20 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งอ่านค่าบล็อก 15
2.21 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งอ่านค่าบล็อก 15
2.22 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งกำหนดค่าเริ่มต้นบล็อกค่า 15
X
สารบัญตาราง (ต่อ)
หน้า
ตารางที่
2.23 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งกำหนดค่าเริ่มต้นบล็อกค่า 15
2.24 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งเขียนกุญแจหลัก 16
2.25 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งเขียนกุญแจหลัก 16
2.26 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งเพิ่มค่า 16
2.27 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งเพิ่มค่า 16
2.28 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งลดค่า 16
2.29 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งลดค่า 16
2.30 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งคัดลอกค่า 16
2.31 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งคัดลอกค่า 16
2.32 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งอ่านหน้าข้อมูล (UltraLight & 17
NTAG203)
2.33 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งอ่านหน้าข้อมูล (UltraLight & 17
NTAG203)
2.34 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งเขียนหน้าข้อมูล (UltraLight & 17
NTAG203)
2.35 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งเขียนหน้าข้อมูล (UltraLight & 17
NTAG203)
2.36 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งจัดการไฟ LED สีแดง 17
2.37 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งจัดการไฟ LED สีแดง 17
2.38 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งรับเวอร์ชันเฟิร์มแวร์ 17
2.39 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งรับเวอร์ชันเฟิร์มแวร์ 17
4.1 ตารางแสดงองค์ประกอบหน้าต่างเว็บไซต์แสดงผล 49
1
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ทุเรียนเป็นผลผลิตที่ได้รับความนิยมและผู้คนมากมายชื่นชอบ ในขณะนี้ที่ไทยสามารถ
ผลิตทุเรียนได้เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก โดยพื้นที่ปลูกหลักส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกและภาคใต้
ซึ่งประเทศไทยสามารถส่งออกทุเรียนทั้งในรูปที่เป็นผลสด แช่แข็งและแปรรูปได้มาก สะท้อนให้เห็น
ว่าทุเรียนของไทยยังเป็นที่ต้องการของตลาดโลกอยู่อีกมาก แต่ในการจะได้ผลผลิตของทุเรียนทางการ
เกษตรกรก็พบปัญหาสำคัญของการผลิตทุเรียน นอกจากปัญหาทางด้านการเกษตร เช่น โรค แมลง
ภัยธรรมชาติ สภาพอากาศ และการบำรุงรักษาต้นทุเรียนแล้ว ยังมีปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อ
มูลค่าของทุเรียนคือ คุณภาพผลผลิตและราคา ผู้จัดทำได้สังเกตเห็นว่าสามารถเพิ่มคุณภาพและการ
เก็บเกี่ยวของผลผลิตได้ จึงได้ทำการออกแบบและสร้างระบบฐานข้อมูลโดยเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี
จากนั้นแสดงผลที่หน้า ต่าง GUI เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการนับ ระยะของผลทุเรียนและสร้าง
เครื่องวัดน้ำตาลจากเทคนิคทางสเปกโตรสโกปี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บเกี่ยวของผลทุเรียน
1.2 วัตถุประสงค์
1. ออกแบบการใช้ Radio Frequency Identification (RFID) ในการติดตามผลผลิต
2. ออกแบบและพัฒนา Graphical User Interface (GUI) เพื่อแสดงข้อมูลของผลผลิต
3. เพื่อศึกษาและใช้งานเครื่องวัดระดับน้ำตาลของผลทุเรียนด้วยเทคนิค Near Infrared
(NIR)
1.3 ขอบเขตของปริญญานิพนธ์
ได้ออกแบบและสร้างระบบติดตามและวัดความอ่อนแก่ของผลทุเรียน โดยการออกแบบ
และพัฒนา Graphical User Interface (GUI) เพื่อแสดงข้อมูล ต่าง ๆ ของผลทุเรียน ซึ่งจะจัดเก็บ
ข้อมูลด้วยฐานข้อมูลโดยใช้ Structured Query Language (SQL) โดยการใช้ Radio Frequency
Identification (RFID) ในการติดตามผลผลิต และตรวจสอบระดับน้ำตาลของผลทุเรียนด้วยเครื่องวัด
น้ำตาลจากเทคนิคทางสเปกโตรสโกปี (NIR) เพื่อทำให้ประสิทธิภาพในการเก็บเกี่ยวผลทุเรียนมีมาก
ขึ้น
2
บทที่ 2
ทฤษฎีและหลักการที่เกี่ยวข้อง
2.1 ทุเรียน
2.1.1 ระยะการติดผลของต้นทุเรียน
การดูแลต้นทุเรียนระหว่างการเติบโตของทุเรียนเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจะสามารถทำให้ต้น
ทุเรียนออกดอกติดผลได้มากขึ้น ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพดีการเตรียมต้นทุเรียนให้พร้อมที่จะออกดอก
จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยการทำให้มีใบแก่พร้อมกันทั้งต้น เพื่อให้มีการสร้างอาหารให้กับลำต้นได้อย่าง
เต็มที่ ทำให้มีการสะสมอาหารในลำต้นเพียงพอต่อการออกดอก และเมื่อมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
มีความชื้นตํ่า อากาศเย็นลงเล็กน้อยมีช่วงแล้งที่เหมาะสมต่อการกระตุ้นให้เกิดการออกดอกได้ ดังนั้น
จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมและดำเนินการภายหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตทันที ตัวอย่างลำดับการ
เจริญเติบโตของทุเรียนภายในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง แสดงดังภาพที่ 2.1 ระยะการติดผลของต้นทุเรียน
แสดงดังภาพที่ 2.2 [1]
2.1.2 แนวทางการปฎิบัติแต่ละระยะของทุเรียน
ภาพตัวอย่างต้นทุเรียนในระยะสุกแก่แสดงดังภาพที่ 2.3 ระยะการติดผลของต้นทุเรียน
แสดงดังตารางที่ 2.1 [1]
2.1.2.1 ระยะดอกบาน
1) ช่วยผสมเกสรด้วยวิธีการปัดดอก ในช่วงเวลา 19.00-21.00 น.
2) จดบันทึกวันดอกบาน เพื่อมากำหนดปฏิทินในการดูแลทุเรียนในแต่ล ะ
ระยะและวางแผนในการเก็บเกี่ยว
2.1.2.2 ระยะ 10 วันหลังดอกบาน
ระยะนี้ทุเรียนจะเริ่มเข้าสู่ระยะการติดผล
1) ควรฉีดพ่นสารป้องกันโรคและแมลง (เพลี้ยไฟ) เพื่อป้องกันการเกิดปัญหา
ทุเรียนหนามจีบ
2) ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณการให้น้ำ ไม่ควรให้น้ำมากจนเกินไปจะทำให้ผลทุเรียน
ร่วงได้
2.1.2.3 ระยะ 4-5 สัปดาห์หลังดอกบาน (ระยะไข่ไก่)
ระยะนี้ทุเรียนกำลังเข้าสู่การพัฒนาเปลือกและเมล็ด ควรมีแนวทางดังนี้
1) ตัดแต่งผลทุเรียนที ่ไ ม่ส มบูร ณ์ และอยู่ ในตำแหน่ง ที่ ไ ม่เหมาะสมออก
(คงเหลือไว้ 2-3 เท่าของจำนวนที่ต้องการไว้ผล)
2) ใส่ปุ๋ยบำรุงผล อาจจะใส่เพียงครั้งเดียวหรือแบ่งใส่ 2 ครั้งห่างกัน 7 วัน
4
3) ฉีดพ่นอาหารเสริมและสารป้องกันกำจัดโรคและแมลง (หนอนเจาะเมล็ด)
2.1.2.4 ระยะ 5-8 สัปดาห์หลังดอกบาน (ระยะกระป๋องนม)
ระยะนี้ทุเรียนสร้างเมล็ดเสร็จสมบูรณ์และกำลังพัฒนาเนื้ออย่างรวดเร็ว
1) ตัดแต่งผลทุเรียนที่ไม่สมบูรณ์และในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม (เหลือไว้ตาม
จำนวนที่ต้องการไว้ผล)
2) ใส่ปุ๋ยบำรุงผล อาจจะใส่เพียงครั้งเดียวหรือแบ่งใส่ 2 ครั้งห่างกัน 7 วัน
3) ฉีดพ่นอาหารเสริมและสารป้องกันกำจัดโรคและแมลง (หนอนเจาะเมล็ด)
4) ควรโยงกิ่งให้มีความมั่นคง แข็งแรงสามารถรับน้ำหนักผลผลิตต่อกิ่งได้
5) ควรมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ
2.1.2.5 ระยะ 8-10 สัปดาห์หลังดอกบาน (ระยะขยายพู)
1) ตัดแต่งผลทุเรียนที่ไม่สมบูรณ์และในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม (เหลือไว้ตาม
จำนวนที่ต้องการไว้ผล)
2) ใส่ปุ๋ยบำรุงผล อาจจะใส่เพียงครั้งเดียวหรือแบ่งใส่ 2 ครั้งห่างกัน 7 วัน
3) ฉีดพ่นอาหารเสริมและสารป้องกันกำจัดโรคและแมลง (หนอนเจาะเมล็ด)
4) ควรโยงกิ่งให้มีความมั่นคงแข็งแรงสามารถรับน้ำหนักผลผลิตต่อกิ่งได้
5) ควรมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ
2.1.2.6 ระยะ 10-12 สัปดาห์หลังดอกบาน (ระยะเริ่มสุกแก่)
(ควรงดน้ำก่อนเก็บเกี่ยวอย่างน้อย 3-4 วัน)
1) ควรตัดทุเรียนที่มีความแก่ประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์หรือวัดแป้งได้ 32
เปอร์เซ็นต์
2) ก่อนเก็บเกี่ยวทุเรียน 3-4 วันต้องตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ความแก่ของทุเรียน
3) ขณะเก็บเกี่ยว ห้ามวางทุเรียนกับพื้นดินโดยเด็ดขาด ปริมาณการให้น้ำ
150 ลิตร/ต้น/วัน (ห้ามฉีดพ่นสารเคมี/สารชีวภัณฑ์ทุกชนิด)
5
2.4 อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
2.4.1 ไมโครคอนโทรลเลอร์ ESP-WROOM-32
ESP-WROOM-32 เป็นโมดูลไมโครคอนโทรลเลอร์ที่พัฒนาโดย Espressif Systems
เป็ น โมดู ล สื ่ อ สารไร้ ส ายคลื ่ น ความถี ่ 2.4 กิ ก ะเฮิ ร ตซ์ จาก Espressif ESP-WROOM-32 มี
ความสามารถในการเชื่อมต่อไวไฟและบลูทูธ 4.2 รวมถึงการใช้งานแบบพลังงานต่ำ สำหรับอุปกรณ์
IoT ต่ า ง ๆ โดย ESP-WROOM-32 มีความสามารถในการประมวลผลแบบ Dual Core และมี
ความเร็ว 240 เมกะเฮิรตซ์ รวมถึงมีหน่วยความจำแบบแฟรชขนาด 4 เมกะไบต์ และแรมขนาด 520
กิโลไบต์ โดยมีขนาดเล็กและมีความสามารถในการใช้งานได้หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีความสามารถ
ในการปรับแต่งตามความต้องการของแต่ละโปรเจกได้อีกด้วยใช้ไฟเลี้ยงโมดูลแรงดัน 2.2 – 3.6 โวลต์
พอร์ตการเชื่อมต่อ ESP-WROOM-32 แสดงดังรูปที่ 2.4 [5]
7
มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์:
1) ไวไฟ: มาพร้ อ มกั บ ความสามารถในการเชื ่ อ มต่ อ ไวไฟตามมาตรฐาน IEEE
802.11b/g/n ซึ่งอนุญาตให้อุปกรณ์เชื่อมต่อกับเครือข่ายไร้สายเพื่อการสื่อสารและการเข้าถึงข้อมูล
ในเครือข่าย
2) บลูทูธ: มีความสามารถในการรองรับเทคโนโลยีบลูทูธและรองรับบลูทูธพลังงานต่ำใน
รุ่นที่รองรับ
3) ความเร็วสูง: มีความเร็วในการประมวลผลและการทำงานที่สูง ด้วยชิปที่มีความเร็ว
ของ CPU สูง และหน่วยความจำแรมที่มาก
4) GPIO (General Purpose Input/Output): มาพร้อมกับขา GPIO หลายขาที่
สามารถกำหนดใช้งานได้ตามความต้องการ เพื่อความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก
5) SPI (Serial Peripheral Interface): มาตรฐานการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่าน
ช่องสื่อสาร SPI
6) I2C (Inter-Integrated Circuit): มาตรฐานการเชื่ อ มต่ อ อุป กรณ์ต ่า ง ๆ ผ่า น
ช่องสื่อสาร I2C
7) UART (Universal Asynchronous Receiver-Transmitter): มาตรฐานการ
เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านช่องสื่อสาร UART
8) ADC (Analog-to-Digital Converter): มาตรฐานการแปลงสัญญาณแอนะล็อกเป็น
ดิจิทัล
9) RTC (Real-Time Clock): มาตรฐานการเก็บเวลาจริง
10) ความปลอดภัย: มีความสามารถในการรองรับการเข้ารหัส และการรักษาความ
ปลอดภัยของข้อมูล
11) การพัฒนาซอฟต์แวร์: รองรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยภาษา C++ และมีเครื่องมือ
พัฒนาซอฟต์แวร์ที่สามารถใช้งานได้กับ Arduino IDE, Platform IO, และเครื่องมืออื่น ๆ
8
4) ระยะการสื่อสาร: ระยะห่างในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์และแท็กสามารถทำได้ใน
ระยะใกล้ถึงประมาณ 10 เซนติเมตร ซึ่งเป็นข้อจำกัดของเทคโนโลยี เนียร์ฟิลด์คอมมิวนิเคชันและอาร์
เอฟไอดีที่ใช้มาตรฐานนี้
5) ความปลอดภัย: มีการใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อรักษาความปลอดภัยของ
ข้อมูลที่สื่อสารระหว่างอุปกรณ์และแท็ก นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล (data
integrity) เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลถูกส่งและรับไปถูกต้อง
Status Description
0x00 ดำเนินการสำเร็จ
0x01 ไม่มีแท็ก
0x02 เข้าสู่ระบบสำเร็จ
0x03 เข้าสู่ระบบล้มเหลว
0x04 การอ่านล้มเหลว
0x05 การเขียนล้มเหลว
0x06 ไม่สามารถอ่านหลังจากเขียน
0x08 ที่อยู่เกินขอบเขต
0x09 การดาวน์โหลดกุญแจล้มเหลว
0x0D ไม่ได้รับการรับรองตัวตน
0x0E ไม่ใช่บล็อกค่า
0x0F ความยาวของรูปแบบคำสั่งไม่ถูกต้อง
0xF0 ข้อผิดพลาดในการตรวจสอบ
0xF1 ข้อผิดพลาดรหัสคำสั่ง
2.4.3.6 รายการคำสั่ง (Command List)
1) เลือกการ์ด Mifare
ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งแสดงดังตารางที่ 2.8 ตารางแสดงเฟรมข้อมูล
ที่ได้รับตอบกลับมาแสดงดังตารางที่ 2.9
ตารางที่ 2.8 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งเลือกการ์ด Mifare
0xBA Len 0x01 Checksum
ตารางที่ 2.9 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งเลือกการ์ด Mifare
0xBD Len 0x01 Status UID Type Checksum
14
2) เข้าสู่เซ็กเตอร์
ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งแสดงดังตารางที่ 2.10 ตารางแสดงเฟรมข้อมูล
ที่ได้รับกลับมาแสดงดังตารางที่ 2.11
ตารางที่ 2.10 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งเข้าสู่เซ็กเตอร์
0xBA Len 0x02 Sector Type Key Checksum
ตารางที่ 2.11 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งเข้าสู่เซ็กเตอร์
0xBD Len 0x02 Status Checksum
3) ดาวน์โหลดกุญแจเข้า SL025M
ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งแสดงดังตารางที่ 2.12 ตารางแสดงเฟรมข้อมูล
ที่ได้รับกลับมาแสดงดังตารางที่ 2.13
ตารางที่ 2.12 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งดาวน์โหลดกุญแจเข้า SL025M
0xBA Len 0x12 Sector Type Key Checksum
ตารางที่ 2.13 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งดาวน์โหลดกุญแจเข้า SL025M
0xBD Len 0x12 Status Checksum
4) เข้าสู่เซ็กเตอร์ผ่านกุญแจที่เก็บไว้
ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งแสดงดังตารางที่ 2.14 ตารางแสดงเฟรมข้อมูล
ที่ได้รับกลับมาแสดงดังตารางที่ 2.15
ตารางที่ 2.14 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งเข้าสู่เซ็กเตอร์ผ่านกุญแจที่เก็บไว้
0xBA Len 0x13 Sector Type Checksum
ตารางที่ 2.15 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งเข้าสู่เซ็กเตอร์ผ่านกุญแจที่เก็บไว้
0xBD Len 0x13 Status Checksum
5) อ่านข้อมูลบล็อก
ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งแสดงดังตารางที่ 2.16 ตารางแสดงเฟรมข้อมูล
ที่ได้รับกลับมาแสดงดังตารางที่ 2.17
ตารางที่ 2.16 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งอ่านข้อมูลบล็อก
0xBA Len 0x03 Block Checksum
15
6) เขียนข้อมูลบล็อก
ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งแสดงดังตารางที่ 2.18 ตารางแสดงเฟรมข้อมูล
ที่ได้รับกลับมาแสดงดังตารางที่ 2.19
ตารางที่ 2.18 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งเขียนข้อมูลบล็อก
0xBA Len 0x04 Block Data Checksum
ตารางที่ 2.19 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งเขียนข้อมูลบล็อก
0xBD Len 0x04 Status Data Checksum
7) อ่านค่าบล็อก
ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งแสดงดังตารางที่ 2.20 ตารางแสดงเฟรมข้อมูล
ที่ได้รับกลับมาแสดงดังตารางที่ 2.21
ตารางที่ 2.20 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งอ่านค่าบล็อก
0xBA Len 0x05 Block Checksum
ตารางที่ 2.21 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งอ่านค่าบล็อก
0xBD Len 0x05 Status Value Checksum
8) กำหนดค่าเริ่มต้นบล็อกค่า
ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งแสดงดังตารางที่ 2.22 ตารางแสดงเฟรมข้อมูล
ที่ได้รับกลับมาแสดงดังตารางที่ 2.23
ตารางที่ 2.22 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งกำหนดค่าเริ่มต้นบล็อกค่า
0xBA Len 0x06 Block Value Checksum
ตารางที่ 2.23 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งกำหนดค่าเริ่มต้นบล็อกค่า
0xBD Len 0x06 Status Value Checksum
9) เขียนกุญแจหลัก (กุญแจ A)
ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งแสดงดังตารางที่ 2.24 ตารางแสดงเฟรมข้อมูล
ที่ได้รับกลับมาแสดงดังตารางที่ 2.25
16
10) เพิ่มค่า
ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งแสดงดังตารางที่ 2.26 ตารางแสดงเฟรมข้อมูล
ที่ได้รับกลับมาแสดงดังตารางที่ 2.27
ตารางที่ 2.26 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งเพิ่มค่า
0xBA Len 0x08 Block Value Checksum
ตารางที่ 2.27 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งเพิ่มค่า
0xBD Len 0x08 Status Value Checksum
11) ลดค่า
ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งแสดงดังตารางที่ 2.28 ตารางแสดงเฟรมข้อมูล
ที่ได้รับกลับมาแสดงดังตารางที่ 2.29
ตารางที่ 2.28 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งลดค่า
0xBA Len 0x09 Block Value Checksum
ตารางที่ 2.29 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งลดค่า
0xBD Len 0x09 Status Value Checksum
12) คัดลอกค่า
ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งแสดงดังตารางที่ 2.30 ตารางแสดงเฟรมข้อมูล
ที่ได้รับกลับมาแสดงดังตารางที่ 2.31
ตารางที่ 2.30 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งคัดลอกค่า
0xBA Len 0x0A Source Destination Checksum
ตารางที่ 2.31 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งคัดลอกค่า
0xBD Len 0x0A Status Value Checksum
17
16. รับเวอร์ชันเฟิร์มแวร์
ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งแสดงดังตารางที่ 2.38 ตารางแสดงเฟรมข้อมูล
ที่ได้รับกลับมาแสดงดังตารางที่ 2.39
ตารางที่ 2.38 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอนส่งของคำสั่งรับเวอร์ชันเฟิร์มแวร์
0xBA Len 0xF0 Checksum
ตารางที่ 2.39 ตารางแสดงเฟรมข้อมูลตอบกลับของคำสั่งรับเวอร์ชันเฟิร์มแวร์
0xBD Len 0xF0 Status Data Checksum
18
2.5 มาตรฐานการส่ง
2.5.1 TTL (Transistor-Transistor Logic)
รูปแสดงระดับแรงดัน TTL แสดงดังรูปที่ 2.7 [9] TTL เป็นระดับแรงดันที่ถูกกำหนดขึ้น
ในยุคแรก ๆ เพื่อใช้ระหว่าง Transistor กับ Transistor ภายในวงจรรวม (IC) ดังนั้น TTL จะใช้ระดับ
แรงดัน อยู่ที่ 0 – 5 โวลต์ แต่ในปัจจุบันมีอุปกรณ์หลายเบอร์ที่ทำงานในช่วง 0 – 3.3 โวลต์ (เรียก
แรงดันระดับนี้ว่า LVTTL) ซึ่งผู้ใช้ควรตรวจสอบจากคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์ที่ใช้เสียก่อนว่าเป็น
ระดับแรงดันแบบใด เพราะหากใช้ผิดประเภทจะทำให้อุปกรณ์เสียหาย
2.9 XAMPP
XAMPP คือโปรแกรมสำหรับจำลองเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของเรา ให้ทำงานใน
ลักษณะของ Web Server นั่นคือเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราจะเป็นทั้งเครื่องแม่ และเครื่องลูกใน
เครื่องเดียวกัน ทำให้ไม่ต้องเชื่อมต่อกับ อินเทอร์เน็ต ก็สามารถทดสอบเว็บไซต์ที่สร้างขึ้น เอง ได้ทุกที่
ทุกเวลา ปัจจุบันได้รับความนิยมจากผู้ใช้ CMS ในการสร้างเว็บไซต์
XAMPP ประกอบด้ ว ย Apache, PHP, MySQL, phpMyAdmin, Perl ซึ ่ ง เป็ น
โปรแกรมพื้นฐานที่รองรับการทำงาน CMS ซึ่งเป็นชุดโปรแกรม สำหรับออกแบบเว็บไซต์ที่ได้รับความ
นิยมในปัจจุบัน ไฟล์สำหรับติดตั้ง XAMPP นั้นอาจมีขนาดใหญ่ เนื่องจากมีชุดควบคุมการทำงานที่
ช่วยให้การปรับแต่งส่วนต่าง ๆ ง่ายขึ้น XAMPP นั้นรองรับระบบปฏิบัติการหลายตัว เช่น Windows,
Linux, Apple ทำงานได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการแบบ 32 bit และ 64 bit รูปแสดงไอคอนของ
โปรแกรม XAMPP แสดงดังรูปที่ 2.12 [14]
24
2.10 phpMyAdmin
phpMyAdmin เป็นเครื่องมือฟรีที่เขียนด้วย PHP ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้ในการบริหาร
จัดการ MySQL ผ่านทางเว็บ phpMyAdmin รองรับการดำเนินการต่าง ๆ บน MySQL และ
MariaDB อย่างหลากหลาย การดำเนินการที่ใช้บ่อย (เช่น การจัดการฐานข้อมูล , ตาราง, คอลัมน์,
ความสัมพันธ์, ดัชนี, ผู้ใช้, การให้สิทธิ์, และอื่น ๆ ) สามารถทำผ่านอินเตอร์เฟซของผู้ใช้ได้ และคุณยัง
สามารถ execute คำสั่ง SQL ตรง ๆ ได้เช่นกัน รูปแสดงไอคอนของโปรแกรม phpMyAdmin แสดง
ดังรูปที่ 2.13 [16]
phpMyAdmin มีคุณสมบัติดังนี้:
1. การบริหารและจัดการด้วย phpMyAdmin: เป็นเครื่องมือฟรีที่เขียนด้วย PHP ซึง่
ช่วยในการบริหารจัดการ MySQL ผ่านทางเว็บ มันรองรับการดำเนินการต่าง ๆ บน MySQL และ
MariaDB เช่น การจัดการฐานข้อมูล, ตาราง, คอลัมน์, ความสัมพันธ์, ดัชนี, ผู้ใช้, การให้สิทธิ์, และอื่น
ๆ
2. การเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยหนังสือ: นอกจากเอกสารและแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่มีให้ใน
phpMyAdmin, ยังมีหนังสือชื่อ "Mastering phpMyAdmin for Effective MySQL
Management" ที่สามารถช่วยให้คุณเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งาน phpMyAdmin และ MySQL
อย่างมีประสิทธิภาพ
3. การรองรับหลายภาษา: รองรับการแปลเป็นภาษา 72 ภาษาที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้มี
ความสะดวกสบายในการใช้งานสำหรับผู้ใช้ที่ใช้ภาษาต่าง ๆ
4. โครงการที่เสถียรและยืดหยุ่น: เป็นโครงการที่มีรหัสซอร์สมั่นคงและยืดหยุ่น มันได้รับ
ความนิยมและการยอมรับมากในชุมชนของนักพัฒนาและผู้ใช้ MySQL
25
2.13 JSON
JSON ย่อมาจาก (JavaScript Object Notation) เป็นมาตรฐานในการแลกเปลี่ยน
ข้อมูล (Data Interchange Format) ที่ได้รับความนิยมแทบจะสูงที่สุดในปัจจุบัน ก่อกำเนิดขึ้นในช่วง
ต้นยุค 2000 ซึ่ง JSON เป็นที่นิยมโดยเฉพาะในงานด้านการทำ APIs แม้ว่าจะมีรูปแบบข้อมูลอื่น ๆ
อีกมากมายเช่น XML, CSV, YAML และอื่น ๆ เป็นต้น โดยปกติแล้วส่วนใหญ่ JSON จะถูกนำไปใช้
งานเกี่ยวกับงานด้าน API Development เช่น การทำ RESTful APIs เป็นต้น [19]
ประเภทของข้อมูลใน JSON:
String: ข้อมูลประเภทข้อความ ตัวอักษร
Number: ข้อมูลประเภทตัวเลข
Boolean: ข้อมูลประเภทจริงหรือเท็จ
Array: ชุดข้อมูลที่อยู่ใน array ในเครื่องหมาย [...] ข้อมูลแบบนี้เราจะเรียกว่า JSON
Array
27
บทที่ 3
การออกแบบและการจัดทำปริญญานิพนธ์
3.1 การออกแบบ
3.1.1 การออกแบบการทำงานของระบบ
การเก็บเกี่ยวผลผลิตของชาวสวนทุเรียน ปกติจะทำการเช็คระดับตามความอ่อนแก่ของ
ทุเรีย นด้ว ยการใช้การนับอายุซึ่งให้ประสิทธิภ าพแค่ 80 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทำให้ผ ลผลิตไม่ได้
มาตรฐานและคุณภาพที่มั่นคง โดยจุดประสงค์ของโครงงานนี้จึงต้องการที่จะออกแบบและพัฒนาการ
แสดงข้อมูลของผลทุเรียนผ่านหน้าต่าง GUI โดยการใช้เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดีในการติดตามและนับ
จำนวนอายุของทุเรียนเพื่อความสะดวกในการตรวจสอบอายุของทุเรียนและเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บ
เกี่ยวเพิ่มขึ้นโดยการใช้เครื่องวัดน้ำตาล ซึ่งจากงานวิจัยพบว่าเราสามารถตรวจสอบความอ่อนแก่ของ
ทุเรียนได้จากระดับน้ำตาลที่ขั้วของทุเรียน ซึ่งให้ผลยืนยันความอ่ อนแก่ได้ถูกต้องแม่นยำกว่าการนับ
อายุ
บล็อกไดอะแกรมของอุปกรณ์แสดงดังรูปที่ 3.1 โดยจะทำการเก็บข้อมูลจากต้น
ทุเรียน 2 วิธี วิธีที่ 1 ใช้ แท็กอาร์เอฟไอดีติดที่ผลทุเรียนและจะใช้เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีในการสแกน
เก็บข้อมูลผลทุเรียนส่งผ่านไปให้ ESP-WROOM-32 และจัดเก็บข้อมูลลงในฐานข้อมูลพร้อมกับการ
นับเวลา ซึ่งสามารถเปิดดูข้อมูลผลทุเรียนในฐานข้อมูลโดยเว็บไซต์ผ่านหน้าต่าง GUI วิธีที่ 2 เป็นการ
ตรวจสอบความอ่อนแก่ของทุเรียนด้วยเครื่องวัดระดับน้ำตาล
3.1.2 การออกแบบวงจร
3.1.2.1 การออกแบบวงจรของระบบติดตามของผลทุเรียน
ผู้จัดทำได้ทำการออกแบบวงจรของระบบติดตามและวัดความอ่อนแก่ของผล
ทุ เ รี ย น โดยเริ ่ ม ด้ ว ยการทำงานของเทคโนโลยี แ ท็ ก อาร์ เ อฟไอดี , เครื ่ อ งอ่ า นอาร์ เ อฟไอดี แ ละ
ไมโครคอนโทรลเลอร์ ได้แก่ ISO 14443 Type A, เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M และ ESP-
WROOM-32 ตามลำดับ ทำการติดแท็กอาร์เอฟไอดี ติดไว้ที่ขั้วของทุเรียนซึ่งจะทำการติดตามผล
ทุเรียน และใช้เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีสแกนแท็กอาร์เอฟไอดีซึ่งจะทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนดในการ
สแกน และทำการส่งเฟรมข้อมูลที่ได้รับจากการสแกนแท็กอาร์เอฟไอดี ไปยัง ESP-WROOM-32
บอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ เพื่อส่งเฟรมข้อมูล ที่ต้องการไปจัดเก็บในฐานข้อมูล และแสดงผลบน
หน้าต่างเว็บไซต์ วงจรการเชื่อมต่อระบบแสดงดังรูปที่ 3.2
3.1.2.4 การออกแบบวงจรทำแผ่นปริ้นวงจร
ทำการออกแบบวงจรสำหรับทำแผ่นปริ้นวงจรโดยทำบนโปรแกรม EasyEDA
โดยเป็นวงจรสำหรับใส่อุปกรณ์คือ เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M และ ESP-WROOM-32
32
3.1.4 การออกแบบกล่องใส่อุปกรณ์
3.1.4.1 ทำแผ่นปริ้นวงจรสำหรับกล่องใส่อุปกรณ์
ทำแผ่นปริ้นวงจรสำหรับเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M และ ESP-
WROOM-32 เพื่อนำไปใส่ในกล่องอุปกรณ์ โดยใช้วงจรจากรูปที่ 3.5 การกัดแผ่นปริ้นวงจรแสดงดังรูป
ที่ 3.8 การเจาะแผ่นปริ้นวงจรแสดงดังรูปที่ 3.9 การบัดกรีแผ่นปริ้นวงจรแสดงดังรูปที่ 3.10 ประกอบ
อุปกรณ์เข้ากับแผ่นปริ้นวงจรแสดงดังรูปที่ 3.11
34
3.1.4.2 ทำกล่องใส่สำหรับอุปกรณ์
ทำการออกแบบการทำกล่องสำหรับใส่เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M
และ ESP-WROOM-32 ทำการออกแบบกล่องโดยวัดขนาดอ้างอิงจากอุปกรณ์ ซึ่งกล่องที่เลือกใช้มี
วัสดุเป็นไม้ ใช้สีสเปรย์สีดำพ่นรอบนอกของตัวกล่อง โดยกล่องสามารถดึงอุปกรณ์ออกมาได้ เพื่อที่จะ
สามารถแก้ ไ ขหรื อ อั พ เดท Code ในไมโครคอนโทรลเลอร์ ESP-WROOM-32 ได้ กล่องมี ข นาด
14*6*2.5 ซม. ยาว กว้าง และสูงตามลำดับ ด้านนอกของกล่องอุปกรณ์แสดงดังรูปที่ 3.12 ภาพดึง
อุปกรณ์ออกมาจากกล่องแสดงดังรูปที่ 3.13 อุปกรณ์ทั้งหมดภายในกล่องแสดงดังรูปที่ 3.14
3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง
ในโครงงานนี้ มีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ดังนี้
3.2.1 ไมโครคอนโทรลเลอร์ ESP-WROOM-32
ผู้จัดทำเลือกใช้ บอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ ESP-WROOM-32 ใช้สำหรับการทำงานกับ
เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M รับและส่งข้อมูลจาก ESP-WROOM-32 เพื่อประมวลผลแล้ว
ส่งข้อมูลไปยังฐานข้อมูลหรือหน้าต่างเว็บไซต์ ดังแสดงในรูปที่ 2.4
3.2.2 ISO 14443 Type A
ผู้จัดทำเลือกใช้ ISO 14443 Type A ในโครงงานใช้สำหรับติดกับผลทุเรียน เพื่อในการ
ติดตามและวัดความอ่อนแก่ของผลทุเรียน ดังแสดงในรูปที่ 2.5
3.2.3 Mifare RFID Reader/Writer Module SL025M
ผู้จัดทำเลือกใช้เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดี Module SL025M ในโครงงานใช้สำหรับสแกน
แท็กอาร์เอฟไอดี ISO 14443 Type A เพื่อส่งคำสั่งต่าง ๆ เช่น การขอข้อมูลของแท็กอาร์เอฟไอดี ดัง
แสดงในรูปที่ 2.6
3.2.4 สาย Micro USB
ผู้จัดทำเลือกใช้สายไมโครยูเอสบี ในโครงงานใช้สำหรับจ่ายไฟและอัปโหลดโค้ดให้กับ
ESP-WROOM-32 ดังแสดงในรูปที่ 3.15
37
3.2.11 EasyEDA
EasyEDA เป็นโปรแกรมเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการจำลองการทำงานของ
วงจรและออกแบบแผงวงจร โดยโปรแกรมนี้รันอยู่บนเว็บเบราว์เซอร์ ทำงานได้ทุกที่ ไม่ต้องติดตั้ง
โปรแกรมลงในเครื่อง โดย EasyEDA มีความสามารถในการออกแบบวงจรและแผงวงจร รวมถึงการ
จำลองการทำงานของวงจรได้อย่างสะดวก และมีความสามารถในการใช้งานได้หลากหลาย
3.3 การจัดเก็บผลการทดลอง
3.3.1 ทดสอบการส่งข้อมูลแบบเลขฐาน 16 ของโมดูล ESP-WROOM-32
ทดสอบการส่งข้อมูลของโมดูล ESP-WROOM-32 ว่าสามารถส่งข้อมูลได้ถูกต้องและ
เพื่อเช็คอุปกรณ์ที่ใช้งานไม่มีการชำรุดหรือว่าความเสียหาย
3.3.2 ทดสอบการตรวจจับความถี่ที่เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M ส่งออก
ทดสอบการตรวจจับความถี่ที่เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M ส่งออก ว่าความถี่
ที่ถูกส่งออกมามีความถูกต้องตามทฤษฎีของอุปกรณ์
3.3.3 ทดสอบการรับข้อมูลระหว่าง ESP-WROOM-32 เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดี
โมดูล SL025M
ทดสอบการรับข้อมูลระหว่าง ESP-WROOM-32 เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M
โดยการส่งคำสั่งเลือกแท็กตามคู่มือการใช้งานเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M เพื่อตรวจสอบว่า
สามารถส่งและรับข้อมูลระหว่างสองอุปกรณ์ได้
3.3.4 ทดสอบการบันทึกข้อมูล UID (Unique Identifier) ของแท็กอาร์เอฟไอดีไป
ยังฐานข้อมูล
ทดสอบการบันทึกข้อมูลยูไอดีของแท็กอาร์เอฟไอดีไปยังฐานข้อมูล โดยการส่งข้อมูลที่
ได้รับมาจากแท็กอาร์เอฟไอดี ผ่าน ESP-32 และใช้โปรแกรม XAMPP ในการเปิดเซิร์ฟเวอร์ Local
host เพื่อเปิดใช้งานเซิร์ฟเวอร์ในการจัดเก็บข้อมูลยูไอดีของแท็กอาร์เอฟไอดี โดยจะจัดเก็บข้อมูลนี้ไป
ยังเซิร์ฟเวอร์โดยทำการรับค่า (get) ที่ได้จากการใช้ HTTP POST ของโปรแกรม Arduino-IDE เก็บ
ข้อมูลไปที่ฐานข้อมูล
39
บทที่ 4
ผลการทดลอง
สำหรับการทำงานของระบบติดตามและวัดความอ่อนแก่ของผลทุเรียน คณะผู้จัดทำได้
ทำการเก็บผลการทำงานของระบบ โดยแบ่งการทดสอบและจัดเก็บผลการทดสอบ ดังต่อไปนี้
4.1 ทดสอบการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์
4.1.1 ทดสอบการส่งข้อมูลแบบเลขฐาน 16 ของโมดูล ESP-WROOM-32
ทดสอบอุปกรณ์ ESP-WROOM-32 โดยการทดลองส่งข้อมูลระหว่างขา RX2 และ TX2
ของ ESP-WROOM-32 เชื่อมเข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยสายไมโครยูเอสบี แล้วใช้โปรแกรม Arduino ใน
การเขียนคำสั่งส่งข้อมูล ซึ่งทดลองการส่งข้อมูลแบบเลขฐาน 16 และทำการตรวจจับสัญญาณที่ส่ง
ด้วยเครื่องออสซิลโลสโคป เพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลที่ส่งมีความถูกต้อง โดยสัญญาณที่รับได้จะขึ้นที่
เครื่องออสซิลโลสโคป แบบสัญญาณสูง-ต่ำ โดยทำการอ่านค่าสัญญาณที่ขึ้นแสดงบนจอ ซึ่งสัญญาณที่
อ่านได้จะเป็นข้อมูลเลขฐาน 2 เฟรมข้อมูลที่ทดสอบได้ผลออกมาถูกต้อง สอดคล้องกับทฤษฎีของ
อุปกรณ์ ESP-WROOM-32 การจำลองการต่อวงจรแสดงดังรูปที่ 3.3 และรูปแสดงสัญญาณข้อมูลที่
ได้รับแสดงดังรูปที่ 4.1
โดยตามเฟรมข้อมูลที่ได้รับจะได้ค่ายูไอดีของบัตรมีค่า 62 38 2A ED
โดยตามเฟรมข้อมูลที่ได้รับจะได้ค่ายูไอดีของบัตรมีค่า FA 15 10 92
โดยตามเฟรมข้อมูลที่ได้รับจะได้ค่ายูไอดีของบัตรมีค่า 7A 0C 10 92
4.2 ทดสอบการบันทึกข้อมูลยูไอดีของแท็กอาร์เอฟไอดีไปยังฐานข้อมูล
เขียนคำสั่งในโปรแกรม Arduino โดยจะใช้ HTTPClient.h ไลบรารี ใช้สร้าง HTTP
client บน Arduino เพื่อส่งคำขอ HTTP ไปยังเซิร์ฟเวอร์เว็บ และ WiFi.h ไลบรารี ใช้เพื่อ
เชื่อมต่อ Arduino กับเครือข่ายไวไฟ สองไลบรารีนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเชื่อมต่อ
Arduino กับเครือข่ายไวไฟและการทำคำขอ HTTP เพื่อเชื่อมต่อกับ ไวไฟที่จะใช้งาน รูป
แสดงผลตอบรับจากการส่งคำขอ HTTP POST สำเร็จแสดงดังรูปที่ 4.10 รูปแสดงข้อมูลที่
ส่งไปเก็บในฐานข้อมูลได้สำเร็จแสดงดังรูปที่ 4.11
คำอธิบายเมื่อทำการรันโค้ด
1. การเชื่อมต่อไวไฟ:
Arduino เริ่มต้นโดยการเชื่อมต่อกับเครือข่ายไวไฟ ที่กำหนดด้วยชื่อ (SSID) และ
รหัสผ่านที่เรากำหนด (SSID password)
2. การตรวจสอบข้อมูลอาร์เอฟไอดี:
Arduino อ่านสถานะจากขาข้อมูลของอาร์เอฟไอดี (ที่เชื่อมต่อกับขา 13 หรือ D13)
หาก Arduino ตรวจจับอาร์เอฟไอดี ถ้าค่า `val` น้อยกว่า 0.5 โวลต์ โค้ดจะส่งข้อมูลคำสั่งพิเศษผ่าน
พอร์ตซีเรียล เพื่อเรียกใช้งานอาร์เอฟไอดี
3. การอ่านข้อมูลอาร์เอฟไอดี:
46
บทที่ 5
สรุปผลและข้อเสนอแนะ
5.1 สรุปผล
โครงงานนี้ ม ี เ ป้ า หมายที ่ จ ะเพิ ่ ม ประสิ ท ธิ ภ าพผลผลิ ต ของทุ เ รี ย นและเพิ ่ ม ความ
สะดวกสบายในการทำการเกษตรโดยการนำเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทางเราได้พัฒนาระบบ
การแสดงผลข้อมูลของผลทุเรียนผ่านหน้าต่าง GUI โดยการใช้เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดีในการติดตามผล
ทุเรียน โดยการติดแท็กเพื่อนับวันตั้งแต่เริ่มต้นทำให้ทราบถึงอายุของทุเรียนตั้งแต่ทำการติดแท็ก ทำ
ให้ทราบถึงระยะต่าง ๆ ของผลทุเรียนได้ เช่น ผ่านไป 5-8 สัปดาห์หลังระยะดอกบาน (ระยะกระป๋อง
นม) ควรโยงกิ่งให้มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักผลผลิตต่อกิ่งได้ จึงเป็นประโยชน์ต่อ
ชาวสวนทุเรียนอย่างมาก ทำให้ชาวสวนทุเรียนไม่จำเป็นต้องทำการนับวันหรือจดบันทึกด้วยตนเอง
เป็นการใช้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการทำการเกษตร ทำให้ประหยัดเวลาได้มากขึ้นและ
ยังเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในการดูแลและเก็บเกี่ยวผลผลิตอีกด้วย
ผู้จัดทำได้ออกแบบและจัดทำระบบติดตามและวัดความอ่อนแก่ของผลทุเรียน โดยทำ
การทดสอบการทำงานของอาร์เอฟไอดี ได้แก่ แท็กอาร์เอฟไอดี ISO 14443 Type A, เครื่องอ่านอาร์
เอฟไอดีโ มดูล SL025M และไมโครคอนโทรลเลอร์ ESP-WROOM-32 พบว่าเมื่อทำการเชื่ อ มต่ อ
อุปกรณ์เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M และ ESP-WROOM-32 เพื่อทำการอัปโหลดคำสั่งใน
การสแกนแท็กอาร์เอฟไอดี โดยส่งคำสั่งอ้างอิงจากทฤษฎีของเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M
ดังตารางที่ 2.8 ส่งผลให้ เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M สามารถสแกนแท็กอาร์เอฟไอดีและ
ได้รับการตอบกลับ คือเฟรมข้อมูลของแท็กอาร์เอฟไอดีซึ่งรวมถึงยูไอดี ที่เป็นตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันของแต่
ละแท็ก ทดสอบการบันทึกข้อมูลไปยังฐานข้อมูล โดยใช้โปรแกรม XAMPP ในการเปิดเซิร์ฟเวอร์
Local host เพื่อเปิดใช้งานเซิร์ฟเวอร์ในการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งจะจัดเก็บข้อมูลนี้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ จาก
การใช้ HTTP POST ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการร้องขอ HTTP ที่รองรับการส่งข้อมูลจากผู้ใช้งานไปยังเว็บ
เซิร์ฟเวอร์ โดยจะส่งข้อมูลที่ต้องการจัดเก็บในฐานข้อมูลในรูปแบบ JSON สตริง ไปยังเซิร์ฟเวอร์ และ
เซิร์ฟเวอร์ได้ส่งรหัสสถานะการตอบกลับคือ HTTP 200 ซึ่งหมายความว่าการร้องขอสำเร็จ และข้อมูล
สามารถบันทึกลงฐานข้อมูลได้สำเร็จ ทดสอบการแสดงผลข้อมูลจากฐานข้อมูลบนเว็บเซิร์ฟเวอร์ ด้วย
ภาษา HTML, CSS และ PHP โดยทำการจัดแสดงข้อมูลบนเว็บไซต์ คือ ไอดี , ยูไอดีของแท็กอาร์เอฟ
ไอดี, วันและเวลาที่เริ่มทำการติดแท็กอาร์เอฟไอดี และจำนวนวันที่ที่ผ่านมา หลังจากเริ่มติดแท็กอาร์
เอฟไอดี ซึง่ สามารถแสดงผลข้อมูลจากฐานข้อมูลบนเว็บไซต์ได้สำเร็จ แสดงดังรูปที่ 4.14
51
5.2 ปัญหาและข้อเสนอแนะ
ปัญหาที่พบ คณะผู้จัดทำได้ออกแบบโดยทำการจัดแสดงข้อมูลบนเว็บไซต์ คือ ไอดี, ยูไอ
ดีของแท็กอาร์เอฟไอดี , วันและเวลาที่เริ่มทำการติดแท็ก อาร์เอฟไอดี และจำนวนวันที่ ที่ผ่ านมา
หลังจากการติดแท็กอาร์เอฟไอดี ซึ่งทำการส่งข้อมูลขึ้นแสดงบนเว็บไซต์แบบเรียลไทม์ ซึ่งจากการที่
ตัวเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีโมดูล SL025M ต้องทำการอ่านค่าข้อมูลหมายเลขยูไอดีที่เข้ามาและทำการ
แสดงผลไปที่หน้าต่างเว็บไซต์ได้นั้น จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต หากอินเทอร์เน็ตที่ใช้ในการ
เชื่อมต่อมีความไม่เสถียรหรือเกิดความล่าช้า อาจทำให้การแสดงผลข้อมูลผ่านเว็บไซต์นั้นมีความล่าช้า
หรือการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตอาจหลุดการเชื่อมต่อได้หากเป็นพื้นที่อับสัญญาณ ซึ่งทำให้การใช้งาน
ตัวอุปกรณ์นั้นมีข้อจำกัด โดยจำเป็นต้องใช้งานในพื้นที่ที่มีสัญญาณเข้าถึง สามารถพัฒนาต่อได้โดย
การเก็บข้อมูลไว้ในตัว ESP-WROOM-32 ก่อนชั่วคราว และเมื่อถึงจุดที่มีสัญญาณจะทำให้สามารถส่ง
หมายเลขยูไอดีไปแสดงผลที่เว็บไซต์ได้
52
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
ตัวอย่างคำสั่งการทำงานของระบบติดตามผลทุเรียน
56
#include <WiFi.h>
#include <HTTPClient.h>
void setup() {
Serial.begin(115200, SERIAL_8E2, RXD2, TXD2); // เริ่มต้นการใช้งาน Serial
Communication
pinMode(inpin, INPUT); // กำหนดขา inpin
WiFi.begin(ssid, password); // เริ่มต้นการเชื่อมต่อ Wi-Fi
void loop() {
val = digitalRead(inpin); // อ่านค่าจากขา inpin
if (val < 0.5) { //ถ้าค่า Volts ของขา input ที่เข้ามาน้อยกว่า 0.50 Volts ให้อ่านค่า
Serial.write(0xBA); //ทำการส่งเฟรมให้กับ RFID
delay(2);
Serial.write(0x02); //ทำการส่งเฟรมให้กับ RFID
delay(2);
Serial.write(0x01); //ทำการส่งเฟรมให้กับ RFID
delay(2);
Serial.write(0xB9); //ทำการส่งเฟรมให้กับ RFID
delay(2);
}
delay(600);
if (!isDuplicate) {
UIDIndex++;
if (UIDIndex >= arraySize) { //ในกรณีที่ isDuplicate เป็นเท็จ (false), ดัชนี UIDIndex
จะถูกเพิ่มขึ้น 1 หาก UIDIndex เกินขนาดที่กำหนดใน arraySize แล้ว UIDIndex จะถูกกำหนดให้
เป็น 0.
UIDIndex = 0;
}
}
delay(0);
}
//ส่งข้อมูลด้วย Json
String jsonString = "{\"uid\":\""; //ระบุ "uid" เป็นชื่อของ attribute ใน JSON.
for (int j = 0; j < 4; j++) {
//ลูป for ถัดมาใช้เพื่อผลิตสตริง HEX จาก UID ที่อยู่ในอาร์เรย์ UID[k][j]
//แล้วเพิ่มลงในสตริง JSON ที่กำลังสร้าง
if (UID[k][j] < 0x10) jsonString += "0";
//ในกรณีที่ค่าใน UID[k][j] เป็นเลข HEX ที่มีหลักเดียว (น้อยกว่า 0x10)
//จะถูกเติมด้วย "0" นำหน้าเพื่อให้เป็นตัวเลขคู่ให้เห็นตัวเลข HEX
สวยงาม.
jsonString += String(UID[k][j], HEX);
}
jsonString += "\"}";
if (httpResponseCode > 0) {
String response = http.getString(); //รับค่า HTTP response code จากเซิร์ฟเวอร์.
Serial.println("HTTP Response code: " + String(httpResponseCode));
// Serial.println(response);
} else {
//ถ้าไม่ได้รับมูลให้แสดงข้อความ "Error in HTTP request" เพื่อรายงานว่ามีข้อผิดพลาดในการ
ส่ง HTTP request.
Serial.println("Error in HTTP request");
}
http.end();
UIDSent[k] = true;
}
delay(100);
}