Professional Documents
Culture Documents
แม่เหล็กไฟฟ้าและวงจรแม่เหล็ก
Electromagnetic and Magnetic Circuit
สนามแม่เหล็ก
(Magnetic Field)
จากหลั ก การเบื ้ อ งต้ น ทางฟิ ส ิ ก ส์
พบว่าจะมีสนามแม่เหล็กเกิดขึ้นรอบ
ๆ แท่ ง แม่ เ หล็ ก อยู ่ ต ลอดเวลา แท่ ง
แม่เหล็กแบบนี้เรียกว่า แม่เหล็กถาวร
(Permanent Magnet)
การวัดปริมาณของเส้นแรงแม่เหล็ก
- ปริมาณของเส้นแรงแม่เหล็กทั้งหมดรอบๆ แท่งแม่เหล็ก
เรียกว่า ”ฟลักซ์แม่เหล็ก”
- สัญลักษณ์ที่ใช้คือ มีหน่วยเป็น เวเบอร์ (Wb)
- ฟลักซ์แม่เหล็กรวมที่เกิดจากแม่เหล็กนั้นไม่มีรูปแบบที่แน่นอน
- การวัดฟลักซ์แม่เหล็กที่ดีที่สุด ก็คือ การวัดความหนาแน่นของฟลักซ์
- คือ การวัดความหนาแน่นของเส้นแรงแม่เหล็กต่อหน่วยพื้นที่
1
25/11/64
แม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic
แม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic)
คือ แม่เหล็กที่สนามแม่เหล็กผลิตจากกระแสไฟฟ้า แม่เหล็กไฟฟ้า ปกติ
ประกอบด้วยลวดตัวนาพันเป็นคอยล์ (coil) กระแสที่ไหลผ่านขดลวดจะทาให้
เกิดสนามแม่เหล็ก
2
25/11/64
สนามแม่เหล็กรอบตัวนากระแสไฟฟ้า
แสดงทิศทางของสนามแม่เหล็กรอบตัวนากระแสและกฎมือขวาของแอมแปร์
ทิศทางของกระแสพุ่งเข้า ทิศทางของกระแสพุ่งออก
สนามแม่เหล็กรอบตัวนากระแสไฟฟ้า
3
25/11/64
สนามแม่เหล็กรอบขดลวด
สนามแม่เหล็กรอบขดลวด
4
25/11/64
5
25/11/64
ความต้านทานแม่เหล็ก (Reluctance; )
เป็นองค์ประกอบตัวหนึ่งของวงจรแม่เหล็ก มีหน่วยเป็น At/Wb
เกิดจากคุณสมบัติทางฟิสิกส์ของวัสดุที่เป็นทางเดินแม่เหล็ก
l
=
A
เมื่อ
l = ความยาวเฉลี่ยของทางเดินแม่เหล็ก มีหน่วยเป็นเมตร
A = พื้นที่หน้าตัดที่มีเส้นแรงแม่เหล็ก มีหน่วยเป็นตารางเมตร
= ค่าความซาบซึมได้ของวัสดุที่ใช้เป็นวงจรแม่เหล็ก มีหน่วย
เป็น เฮนรี่ต่อเมตร (H/m)
ค่าความซาบซึมได้ของวัสดุ
= 0r
0 = ค่าความซาบซึมได้ของอากาศ = 4 10 WbA // mm
2
−7
6
25/11/64
วงจรแม่เหล็กและวงจรสมมูล
ความสามารถในการซาบซึมได้
วัสดุที่ไม่เป็นตัวนาแม่เหล็กจะแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง B และ H
เป็นเชิงเส้น ซึ่งเรียกว่า ค่าคงที่ของความซาบซึมได้ ส่วนวัสดุที่เป็นตัวนา
แม่เหล็กนั้น จะมีความสัมพันธ์ระหว่าง B และ H ไม่เป็นเชิงเส้น เราจึง
เขียนความสัมพันธ์ระหว่างค่า B กับค่า H ได้ดังนี้
B = H = o r H
เมื่อ r = ค่าความซาบซึมได้สัมพัทธ์ของวัสดุ
7
25/11/64
ฮิสเตอรีซิส (Hysteresis)
8
25/11/64
9
25/11/64
ความสูญเสียจากกระแสไหลวนในแกนเหล็ก
(Eddy Current Loss)
การคานวณวงจรแม่เหล็ก
10
25/11/64
2. ความหนาแน่นของเส้นแรงแม่เหล็ก เท่ากับ
B = 0 H
= 4 10−7 1,333
= 1.6 10−3 Wb / m 2
11
25/11/64
ก) ความหนาแน่นของเส้นแรงแม่เหล็กในแกนเหล็ก
B = H = 0 r H
N I
H=
l
l = 40 + 35 + 40 + 35 = 150 cm = 1.5 m
300 1
H= = 200 A/m
1.5
12
25/11/64
B = 0 r H
= 4 10−7 2, 000 200
= 0.5 Wb/m 2
ข) เส้นแรงแม่เหล็กที่เกิดขึ้นในแกนเหล็ก
= B A
(10 15) + (10 10)
A= = 125 cm 2
2
= 0.0125 m 2
= 0.5 0.0125 = 6.25 10 −3 Wb
ค) กระแสที่ทาให้เกิดเส้นแรงแม่เหล็กในแกนเหล็กเท่ากับ 0.012 Wb
= 0.012 Wb
0.012
B= = = 0.96 Wb/m 2
A 0.0125
B B
B = H H= =
0 r
0.96
H= = 382.165 A/m
4 10−7 2, 000
H l 382.165 1.5
I = = = 1.19 A
N 300
13
25/11/64
1. ความต้านทานแม่เหล็กรวมทั้งวงจร
2. เส้นแรงแม่เหล็กทั้งหมดที่เกิดขึ้นนนวงจร
3. ความหนาแน่นของเส้นแรงแม่เหล็กนน
Air gap
4. แรงดันแม่เหล็กที่ drop นน Air gap
วิธีทา
หาความต้านทานแม่เหล็กรวมของทั้งวงจร
lc
core = = 1 + 2
o r Ac
core = 650 + 244 = 894 At / Wb
la 0.0012
gap = = = 6,821.13 At / Wb
o Agap 4 10−7 0.14
eq = gap1 + core + gap 2 = 6,821.13 + 894 + 6,821.13
= 14,536.26 At / Wb
14
25/11/64
2) หาเส้นแรงแม่เหล็กทั้งหมดที่เกิดขึ้นนนวงจร
MMF = N I =
E 24
I = = = 4.62 A
R 5.2
N I 268 4.62
= = = 0.085 Wb
14,536.26
3) หาความหนาแน่นของเส้นแรงนน Air gap
0.085
B = = = 0.607 Wb / m2
A 0.14
4) หาแรงดันแม่เหล็กที่ drop นน Air gap
MMF = gap = 0.085 (6,821.13 2) = 1,159.59 A
15
25/11/64
แรงแม่ เหล็ก
แรงแม่ เหล็ก
เราสามารถเขียนสมการของแรงที่เกิดขึ้นระหว่างผิวของเหล็กทั้งสองได้ดงั นี้
B2 A
FM = Newton / pole face
2 o
16
25/11/64
B2 A B2 A
F = 2 =
2 o o
F o 2670 4 10 −7
B2 = = = 0.168
A 200 10 −4
B = 0.41 T
17
25/11/64
350 1600
18
25/11/64
จบการบรรยาย
19