สามก๊ก

ตอน กวนอูไปรับราชการกับโจโฉ

6/3 เลขที่ 6,12,15,40

 ลักษณะผู้นำของโจโฉที่ปรากฎในเรื่อง
ตามความคิดเห็นของนักเรียนเป็นอย่างไร ?

โจโฉ(วุยก๊ก) เป็นผู้ที่ยอมทรยศคนทั้งโลก แต่กลับไม่ยอมให้โลกทรยศตน ซึ่งตำแหน่ง

ของโจโฉคือ มหาอุปราช เป็นผู้กุมอำนาจทั้งปวง อยู่เหนือฮ่องเต้ และโจโฉเป็นคนที่ ถูก
แต่งตั้งให้ไปสกัดการโจมตีของขบถโจรโพกผ้าเหลือง สุดท้ายแยกตัวหนีออกมาหลัง
จาก ลอบฆ่า ตั๋งโต๊ะ ไม่สำเร็จ รวบรวมเจ้าเมืองต่างๆ เข้าโจมตี ตั๋งโต๊ะ แต่ไม่สำเร็จ จึง
แยกตัวออกมา ต่างหาก สะสมกำลังพลและแสยานุภาพ ครอบครองหัวเมืองฝ่ายเหนือ
จนถูกเชิญมาเป็น มหาอุปราช ในความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่าเนื่องจากโจโฉได้ทำการ
สงครามมาหลายครั้ง ไม่ว่าจะชนะบ้าง แพ้บ้าง จึงทำให้โจโฉมีความโดดเด่นเรื่องความ
เป็นผู้นำ เฉลียวฉลาด เป็นที่ยำเกรงของลูกน้อง เขาเชี่ยวชาญด้านการรบ รู้จักใช้คน
รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและเลห์เหลี่ยมกลยุทธ์ ที่เป็นที่เลื่องลือ จนสุดท้ายแล้วโจ
โฉก็สามารถครอบครองพื้นที่ของแผ่นดินจีนไว้ได้มากที่สุด
 ถ้านักเรียนเป็นโจโฉจะทำแบบนั้นหรือไม่ ?

ทำแบบโจโฉ เพราะว่าเนื่องจากโจโฉเป็นคนที่เก่งในเเรื่องของการสู้รบ
รู้จักวางแผนกลยุทธ์ไว้สำหรับรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ อย่างเช่น
เหตุการณ์ในเรื่องคือ ในระหว่างที่โจโฉเดินทัพไปปราบเล่าปี่ อยู่นั้น ได้เกิด
เหตุการณ์ลมพายุพัดธงชัยบนเกวียนหัก โจโฉก็ไม่ได้นิ่งนอนใจจึง
ปรึกษาโหรคู่ใจ ซึ่งก็ได้ทำนายว่า “ธงหักแบบนี้ต้องระวังการถูกปล้น
ค่าย” เมื่อโจโฉได้ยินจึงรีบวางแผนรับมือไว้โดยการแบ่งทหารอกเป็น 11
กอง เพื่อไปดักข้าศึกจากเมืองแห้ฝือ และเมืองชีจิ๋ว
 ถ้านักเรียนเป็นโจโฉจะทำแบบนั้นหรือไม่ ?

และในอีกเหตุการณ์นึงคือ เมื่อโจโฉคิดที่จะยึดเมืองแห้ฝือ แต่เสนาธิการก็ได้เตือนโจโฉว่า ที่

เมืองนี้มีกวนอูปกครองอยู่ ซึ่งกวนอูเป็นผู้ที่ยำเกรงผู้คนมากมาย เพราะมีความเก่งกาจใน
เรื่องการทำสงคราม มีไหวพริบเป็นเลิศ จึงเสนอว่าให้ไปเกลี้ยกล่อมให้กวนอูมาเป็นพวกแทน
ดีกว่า เตียวเลี้ยว ทหารคู่ใจของโจโฉได้ขออาสาไปเจรจากับกวนอูด้วยตนเองเพราะเตียว
เลี้ยวเคยรู้จักกับกวนอูมาก่อน น่าจะช่วยเจรจาได้ไม่ยากนัก ซึ่งในระหว่างที่กวนอูได้มารับ
ราชการกับโจโฉ โจโฉก็พยายามซื้อใจกวนอูด้วยวิธีต่างๆมาตลอด แต่กวนอูยังคงหนักแน่น
และภักดีต่อเล่าปี่ และได้เดินทางไปหาเล่าปี่ ในที่สุดเมื่อตนรู้ว่าเล่าปี่ อยู่ที่ใด ซึ่งจากเหตุการณ์
ตรงนี้แสดงให้เห็นถึงการที่โจโฉเลือกที่จะให้ผู้ที่มีคุณสมบัตินักการทูตอย่างเตียวเลี้ยวเพื่อ
เจรจาให้กวนอูมาเป็นพวก มากกว่าจะใช้วิธีการสู้รบ หรือการใช้กลยุทธ์ไส้ศึกและทหารเพื่อ
หลอกให้กวนอูออกมารบ หรือมาเป็นฝ่ายเดียวกับตน
 ความสัตย์ซื่อตามความเห็น การรักษาความสัตย์ซื่อใน
ของนักเรียนเป็นอย่างไร ปัจจุบันมีความจำเป็นหรือไม่
อย่างไร เพราะอะไร
ความซื่อสัตย์เป็นการรักษาคนพูดของ
ตนเองหรือการกระทำของตนเอง เมื่อพูดสิ่ง
จำเป็น เพราะในสังคมปัจจุบันความ
ใดหรือกระทำสิ่งใดลงไปแล้วก็ควรที่จะทำสิ่ง
ซื่อสัตย์เป็นสิ่งพื้นฐานที่ทุกคนควรมีใน
นั้นอย่างตรงไปตรงมาไม่ผิดคำสัญญา
การดำรงชีวิตอยู่กับผู้อื่นและเป็นเหมือน
เหมือนกับกวนอูที่ให้คำพูดไว้กับเล่าปี่ เตียว
การรับผิดชอบในสิ่งที่ตนกระทำลงไป และ
หุย และโจโฉ ไม่ว่าจะกับใครกวนอูก็รักษา
โทษของการไม่ซื่อสัตย์ก็เป็นสิ่งที่รุนแรง
สัญญาและทำตามสิ่งที่พูดไว้เสมอ
ทั้งต่อตัวเราและผู้อื่น
 ข้อคิดที่ได้

1.การมีความซื่อตรงและการรักษาสัตย์เป็นคุณสมบัติของนักรบที่จะนำมาซึ่ง
เกียรติยศชื่อเสียง(เห็นได้จากกวนอูที่มีความซื่อสัตย์ต่อเล่าปี่ )

2.การให้ความสำคัญกับหทารหรือผู้ร่วมงาน ถือเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของ
แม่ทัพและหัวหน้า(เห็นได้จากโจโฉที่ดูแลทหารใต้บังคับบัญชาอย่างดี)

3.การเสียสละของคนชั้นหัวหน้า ย่อมเป็นแนวทางให้ผู้น้อยได้
เห็นน้ำใจ มีกำลังที่จะเสียสละมากยิ่งขึ้น (เห็นได้จากโจโฉ)
 ข้อคิดที่ได้
4.ให้ความรู้เกี่ยวกับตำราพิชัยสงคราม ซึ่งมีค่าทางด้านยุทธวิธีในการสงครามให้
ความรู้เกี่ยวกับปรัชญาคตธรรมในการดำรงชีวิต ทำให้ผู้อ่านฝึกฝนสติปัญญา
ความสามารถของตนให้เฉลียวฉลาดและนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

5.ความกล้าหาญ ในเรื่องสามก๊กนั้น นศึกแต่ละคนนั้นจะมีความกล้าหาญมาก

ความตายเป็นเรื่องที่เล็กมากสำหรับพวกเขาเหล่านั้น

6.ความกตัญญูรู้คุณคน ดังในตอนที่กวนอูนั้นยืนกรานอย่าง
แน่วแน่ว่าจะไม่ไปอยู่กับโจโฉเพราะเล่าปี่ คือผู้มีพระคุณของตน
ถึงมาตรว่าท่านจะได้ความลําบาก ก็อุปมาเหมือนหนึ่งลุยเพลิง
อันลุก แลข้ามพระมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ก็จะลือชาปรากฏชื่อ
เสียงท่านไปภายหน้า ว่าเป็นชาติทหารมีใจสัตย์ซื่อกตัญญูต่อ
แผ่นดิน มีความหมายว่าอย่างไร

เปรียบเทียบความลำบากที่กวนอูจะได้รับในวันหน้า ถ้ากวนอูมีชีวิตอยู่ต่อ รับ

ราชการอยู่ต่อแม้ว่าจะลำบากเหมือนดำน้ำหรือลุยไฟเนี่ยแต่ก็จะได้รับชื่อเสียงต่อไป
ภายหน้า สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมไทยตรงที่ว่าประเทศจีนคงไม่มีการเปรียบเทียบ
ดำน้ำลุยไฟหรือแนวคิดแบบไทยๆซึ่งสะท้อนให้เห็นความคิดของคนไทย