Professional Documents
Culture Documents
War Philosophy and Military
War Philosophy and Military
๑. ในการชนะสงครามใด ๆ นัน
้ จำเป็ นที่จะต้องหาหนทางชนะข้าศึกไว้ตงั ้ แต่ก่อนที่จะมีการทำสงคราม และต้อง
เป็ นชัยชนะในระดับยุทธศาสตร์ จึงจะนำพาประเทศให้อยู่รอดต่อไปได้ จงเขียนอธิบายเชิงเปรียบเทียบจากทฤษฎี
การทำสงครามในระดับยุทธศาสตร์ที่ได้ศึกษาจาก เคลา เซวิทซ์, ซุนวู และ เหมา เจ๋อ ตง โดยอธิบายให้ครบทุก
ประเด็น ดังนี ้ ความหมายของสงครามและวัตถุประสงค์ของสงคราม, วิธีการได้มาซึ่งชัยชนะรวมถึงการใช้กำลังรบ
หลักและกำลังที่ไม่ใช่กำลังรบหลัก, ผู้นำทางทหาร
และประชาชนกับการทำสงคราม (น.ท.กฤษณพร, น.ท.รศ.สันติ, น.ท.วรยุทธ, น.ท.ฐิติกร น.ท.สุทธิชัย,
น.ต.ณโรจ)
ตอบ การทำสงครามในระดับยุทธศาสตร์ควรใช้เครื่องมือและกำลังอำนาจของชาติทงั ้ หมดของประเทศ ซึง่
ประเทศหนึ่งนำมาใช้กับประเทศหนึ่ง ประกอบด้วย ด้านการทูต ข้อมูลข่าวสาร ด้านการทหาร และด้านเศรษฐกิจ
ซึ่งเป็ นการทำสงครามตามแบบและหรือสงครามนอกแบบ รายละเอียดการเปรียบเทียบทฤษฎีการทำสงครามของ
นักทฤษฎีการทำสงครามแต่ละท่าน ดังนี ้
๑. การเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคง(Enhance Maritime
Security Cooperation) การดำเนินนโยบายระหว่างประเทศในการ
สร้างความสัมพันธ์ทางทหารกับประเทศต่าง ๆ
ซึ่ง ทร.นัน
้ ได้มีการเตรียมแผนในการ Anti Blockade ในพื้นที่อ่าวไทย
เนื่องจากในพื้นที่อ่าวไทยนัน
้ มีโอกาสที่จะถูก Blockade ได้ ซึง่ สามารถ
ทำการปฏิบัติการร่วมกับ ทอ.ได้โดยทำการร้องขอกำลังทางอากาศในการ
ทำ MAS และการทำ AI เพื่อให้ได้มาซึ่งการควบคุมอากาศนในพื้นที่ที่
ต้องการเพื่อต่อต้านการถูก Blockade ได้ (Local Air Superiority;
Douhet, Trenchard, Mitchell)
๔. การอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ขัดแย้ง (Noncombatant
Evacuation Operations : NEO) เป็ นการอพยพประชาชน หรือผู้ที่
ไม่ใช่พลเรือนรบ ออกจากพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง
บทบาทของของกองทัพเรือนัน
้ ดำรงทัง้ บทบาทด้านการรบ และ
ด้านที่ไม่ใช่การรบ ถึงแม้ปัจจุบันในยุคโลกาภิวัตน์ กองทัพเรือจะมีแนว
โน้มในการปฏิบัติการรบลดลง และภัยคุกคามจะมาในรูปแบบของภัย
คุกคามรูปแบบใหม่ ไม่ใช่ในรูปแบบของภัยคุกคามจากรัฐ ทำให้หลักการ
รวมกำลังเพื่อให้กำลังเหนือกว่าข้าศึกและการรบแตกหักอาจจะไม่ได้มี
การใช้อย่างเด่นชัด แต่การใช้หลักการรวมกำลัง ทัง้ วัตถุหรือบุคคลในการ
ต่อต้านภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เช่น การก่อการร้าย โจรสลัด จะมีแนวโน้ม
มากกว่า รวมทัง้ สามารถนำหลักการรวมกำลังมาใช้ในการปฏิบัติการอื่นๆ
นอกเหนือจากการทหาร เพื่อความพร้อมและประสิทธิภาพในการปฏิบัติ
อย่างรวดเร็วและทันที ยกตัวอย่างเช่น การรวมกำลังเพื่อช่วยเหลือผู้
ประสบภัยจากภัยธรรมชาติ หรือการบรรเทาสาธารณภัยทางทะเล
หลักกการความมุ่งหมายมีความสำคัญ และมีการนำมาประยุกต์ใช้
ในกองทัพเรือ โดยกองทัพเรือจะต้องมีการกำหนดเป้ าหมายและ
วัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เห็นได้จากมีการกำหนดวัตถุประสงค์และความมุ่ง
หมายในบทบาทสำคัญทัง้ ๓ บทบาท ได้แก่ บทบาทในการปฏิบัติการทาง
ทหาร (Military role) มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาการฝึ กเพื่อเตรียมความ
พร้อมของกำลังรบให้มีความ สอดคล้องกับสถานการณ์ซึ่งจะมีความ
สอดคล้องกับภัยคุกคามยุคโลกาภิวัตน์ ด้านบทบาทในการรักษากฎหมาย
และช่วยเหลือ (Constabulary role) มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาขีด
ความสามารถและกลไกความร่วมมือการ บริหารจัดการภัยพิบัติของ ทร.
เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ สุดท้าย
ด้านบทบาทกิจการระหว่างประเทศ (Diplomatic Role) มีความมุ่ง
หมายเพื่อดำเนินความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศอย่าง
สมดุล จากบทบาทที่กล่าวมาข้างต้น ล้วนมาจากนโยบายของผู้บัญชาการ
ทหารเรือ ที่มีความมุ่งหมายเพื่อให้การปฏิบัติของหน่วยปฏิบัติมีความ
เข้าใจ และเป็ นไปในทางเดียวกัน รวมทัง้ ทันต่อภัยคุกคามในยุคโลกาภิวัต
น์
*** บทบาทของของกองทัพเรือนัน
้ จะต้องดำรงไว้ทงั ้ บทบาท ด้านการรบ
และด้านที่ไม่ใช่การรบ ถึงแม้ปัจจุบันในยุคโลกาภิวัตน์ กองทัพเรือจะมี
แนวโน้มในการปฏิบัติการรบระหว่างประเทศ หรือการรบขนาดใหญ่ที่
แทบจะไม่มีโอกาสเกิดขึน
้ เลยในปั จจุบัน อันเนื่องมาจากถานการณ์โลกที่
เปลี่ยนไปตามกระแสโลกาภิวัฒน์ ซึ่งในความเป็ นจริงนัน
้ หลักการออม
กำลังเป็ นหลักที่มีความสำคัญค่อนข้างสูงของหลักการสงคราม ซึง่ ใน
ปั จจุบันหลักการออมกำลังเพื่อนำไปใช้ในการรบขนาดใหญ่ของกองทัพ
เรือไทยยังไม่เคยมีการนำไปใช้ในสงครามอย่างเป็ นรูปธรรม แต่เนื่อง
สถานการณ์โลกที่เปลี่ยนภัยคุกคามต่างๆที่กองทัพเรือไทยกำลังเจออยู่ใน
ปั จจุบันจะเป็ นคุกคามในรูปแบบใหม่ ซึ่งภัยคุกคามรูปแบบใหม่นน
ั ้ เข้ามา
เป็ นส่วนสำคัญในการบ่อนทำลายกองทัพไปทีละนิดๆซึ่งเกิดขึน
้ ในสภาวะ
ปกติที่กองทัพเรือกำลังเผชิญอยู่ ดังนัน
้ หลักการออมกำลังจึงสามารถนำ
มาประยุกต์ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันที่กองทัพเรือกำลังเผชิญ โดยใช้
วิธีการปรับกำลังให้เหมาะสมกับภารกิจ และจัดลำดับความสำคัญของ
ภารกิจ เพื่อเป็ นการสงวนกำลังที่เหลือไว้ใช้ในยามจำเป็ น หรือพูดอีกนัย
ยะหนึ่งคือการรวมกำลังเพื่อใช้ตอบสนองต่อภารกิจที่สำคัญยิ่ง ด้วยการ
จัดลำดับความสำคัญและการบริหารคนให้เหมาะสมกับภารกิจ และ
สามารถรวมกำลังไว้ตอบสนองต่อภารกิจที่สำคัญยิ่งของกองทัพเรือได้
7. unity of command
การรักษาความมีเอกภาพในการบังคับบัญชานัน
้ เแ็นสิง่ ที่มีความสำคัญต่อ
ปฏิบัติการทางทหารในทัง้ 3 บทบาท เนื่องจากจะทำให้ผู้ปฏิบัติมีความ
เข้าใจว่าจะต้องรับคำสั่งจากใครและจะมีผลให้การปฏิบัติเป็ นไปใน
แนวทางเดียวกันและเป็ นไปตามจุดมุ่งหมายของผู้บังคับบัญชา นอกจากนี ้
ยังทำให้แน่ใจว่าการทำตามคำสั่งนัน
้ ได้รับความเห็นชอบจากผู้บังคับ
บัญชาที่มีหน้ารับผิดชอบ ทำให้เกิดความมั่นใจในการปฏิบัติงาน
8. Surprise
การใช้หลักการจู่โจมจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดความประหลาดใจ ในการ
รบจะทำให้สามารถปฏิบัติการต่อข้าศึกที่อยู่ในภาวะที่ไม่พร้อมทำให้ไม่
สามารถตอบโต้ได้อย่างเหมาะสม สำหรับบทบาทการรักษากฎหมายการ
สร้างความประหลาดใจเช่นการปรากฏตัวในพื้นที่ที่ไม่เคยเข้าถึงหรือการ
ใช้ยุทธวิธีใหม่ๆ จะทำให้ผก
ู้ ระทำผิดมีความระมัดระวังตัวน้อยลงและ
ทำให้ง่ายต่อการจับกุมมากขึน
้ และอาจทำให้ได้ผลในการป้ องปรามการก
ระทำผิดเนื่องจากเกรงกลัวการถูกตรวจพบในสถานการณ์ที่ไม่ได้เตรียม
พร้อมได้
9. ความง่าย
10 หลักการต่อสู้เบ็ดเสร็จ