You are on page 1of 5

สัญญาคืออะไร ใครคือผู ส

้ ญ
ั ญา
"สัญญา" คืออะไร


๑. ความหมายของสญญา
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มไิ ด ้บัญญัตก ิ าหนดนิยามของสญ ั ญาว่าหมายถึงอะไร
แต่อย่างไรก็ตามเมือ
่ ได ้พิจารณาจากตาราทั่วไป และความหมายของนิตก ิ รรมแล ้วพอสรุปได ้ว่า
ั ญา หมายถึง นิตก
สญ ิ รรมสองฝ่ ายหรือหลายฝ่ ายทีเ่ กิดจากการแสดงเจตนาเสนอ
สนองต ้องตรงกันของบุคคลตัง้ แต่สองฝ่ ายขึน
้ ไปทีม่ งุ่ จะก่อให ้เกิดเปลีย
่ นแปลงหรือระงับนิตส ิ มั พั
นธ์1

๒. ความสมพั ันธ์แห่งนิตก
ิ รรมและสญญาั
นิตก
ิ รรม
หมายถึง การกระทาของบุคคลโดยชอบด ้วยกฎหมายและด ้วยใจสมัครมุง่ โดยตรงต่อการผูกนิ
ั พันธ์ขน
ติสม ึ้ ระหว่างบุคคล เพือ ่ จะก่อ เปลีย่ นแปลง โอน สงวน หรือระงับซงึ่ สทิ ธิ
ในนิตก ิ รรมนัน ้ สามารถแบ่งเป็ นนิตก ิ รรมฝ่ ายเดียวและนิตก
ิ รรมหลายฝ่ าย
ั ญาก็ถอ
สญ ื เป็ นนิตก ่ เดียวกัน แต่เป็ นนิตก
ิ รรมเชน ิ รรมสองฝ่ ายหรือหลายฝ่ าย

ในการศกษากฎหมายต ้องคานึงถึงหลักเกณฑ์และหลักกฎหมายนิตก ิ รรมประกอบ
นอกจากกรณีทก ี่ ฎหมายได ้บัญญัตเิ รือ ั ญาไว ้เฉพาะ สญ
่ งสญ ั ญาจะเป็ นนิตก
ิ รรมเสมอ
แต่นติ กิ รรมบางประเภทอาจไม่ใชส ่ ญั ญาก็ได ้

๓. หล ักทีค ั
่ วรคานึงในการก่อให้เกิดสญญา
๑. หล ักเสรีภาพในการทาสญญา
ั อันเป็ นหลักการพืน
้ ฐานทีส ั ญาทีใ่
่ าคัญในการทาสญ
ชกั้ นมานานและเป็ นทีเ่ ข ้าใจมาตลอดว่าผู ้ทีเ่ ข ้าทาสัญญาจะตกลงทาสญ
ั ญาอย่างไร
กับใครเพียงใดก็ได ้ แต่ต ้องอยูใ่ นกรอบของมาตรา ๑๕๑ ด ้วย
๒. หล ักสุจริต
เป็ นหลักการพืน ้ ฐานทีก
่ ฎหมายได ้บัญญัตใิ นมาตรา ๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
การใชส้ ทิ ธิและการชาระหนีต ้ ้องกระทาโดยสุจริต
๓. หล ักความไว้เนือ ้ เชอ ื่ ใจ เป็ นหลักการพืน้ ฐานของการแสดงเจตนา
ทาสญ ั ญาทีผ่ ู ้แสดงเจตนาจะต ้องคานึงถึงด ้วยเพราะหลักนีก ้ ฎหมายให ้ความคุ ้มครอง
๔. หล ักความยุตธ
ิ รรม
เป็ นหลักทีค ่ ส
ู่ ญั ญาทัง้ สองฝ่ ายต ้องคานึง เพราะว่าคูส ั ญาฝ่ ายใดฝ่ ายหนึง่ ไม่คานึงแล ้ว
่ ญ
โดยเฉพาะคูส ่ ญั ญาฝ่ ายทีม ่ อ ี านาจมากกว่าไม่วา่ จะเป็ นอานาจทางเศรษฐกิจหรืออานาจทางสงั ค
ม อาจกาหนดด ้วยสญ ั ญาทีใ่ ห ้ตนได ้เปรียบแล ้วก็ยอ ่ มทาให ้คูส ่ ญ ั ญาอีกฝ่ ายเสย ี เปรียบ
กรณีเชน ่ นัน
้ นอกจากทีจ ่ ะต ้องมีเสรีภาพในการทาสญ ั ญา
เพราะหากฝ่ ายใดฝ่ ายหนึง่ ต ้องเข ้าทาสญ ั ญาโดยฝื นใจหรือจายอมแล ้วนั น ้ หมายความว่า
เสรีภาพของเขาก็ไม่มเี พราะฉะนัน ้ ในการทาสญ ั ญาทุกครัง้
คูส
่ ญั ญาต ้องคานึงถึงหลักความยุตธิ รรมด ้วย
๕. หล ักความร ับผิดก่อนสญญา ั เป็ นหลักทีค่ ส ั ญาควรคานึงถึงในชว่ งของการก่อใ
ู่ ญ
ห ้เกิดสญั ญา
คูส่ ญั ญาควรระลึกในขัน ้ นีว้ า่ หากจงใจหรือประมาททาให ้คูก ่ รณีได ้รับความเสย ี หายแล ้ว
ก็ต ้องมีความรับผิดในการเยียวยาความเสย ี หายต่อประโยชน์ทอ ี่ กี ฝ่ ายไม่ควรเสย ี เวลา
ี โอกาสหรือเสย
เสย ี ค่าใชจ่้ ายเข ้ามาทาสญ
ั ญาทีผ
่ ลสุดท ้ายแล ้ว
ั ญาไม่เกิดหรือเกิดแต่ไม่สมบูรณ์
สญ


๔. องค์ประกอบของสญญา
ในเรือ่ งสญ ั ญามีองค์ประกอบทีเ่ ข ้ามาเกีย ่ วข ้องเพือ ั ญาได ้
่ ให ้เกิดเป็ นสญ
ในเรือ ่ งองค์ประกอบนัน ้ สามารถแยกองค์ประกอบได ้เป็ น ๒ สว่ น คือ
องค์ประกอบทีเ่ ป็ นสาระสาคัญของสญ ั ญา ซงึ่ ประกอบด ้วยบุคคล วัตถุประสงค์ เจตนา และแบบ
ซงึ่ เป็ นเชน ่ เดียวกันกับองค์ประกอบทีเ่ ป็ นสาระสาคัญของนิตก ิ รรม องค์ประกอบสว่ นทีส
่ อง คือ
องค์ประกอบเสริมของสญ ั ญา ซงึ่ ได ้แก่ เงือ
่ นไข เงือ่ นเวลา มัดจา เบีย ้ ปรับ
ซงึ่ ขออธิบายในแต่ละสว่ นดังนี้

๑. องค์ประกอบทีเ่ ป็นสาระสาค ัญของสญญา ั คือ


๑.๑ บุคคล หรือเรียกว่า
คูส ั
่ ญญา ซงึ่ เป็ นผู ้ทาสญ
ั ญาและสร ้างนิตส ั พันธ์ให ้ผลของสญ
ิ ม ั ญาทีเ่ กิดขึน
้ นั น
้ ตกแก่ตน
ซงึ่ โดยหลักแล ้วบุคคลใดเป็ นผู ้ทาสญ ั ญา
บุคคลนัน ้ ก็จะเป็ นเจ ้าของความสม ั พันธ์ทางสญ ั ญาแต่ในบางกรณี
ผู ้ลงมือทาสญ ั ญาอาจมิใชผ ่ ู ้ทีร่ ับผลสญ ั ญากันได ้ เชน ่ ในกรณีตัวแทนทีก ่ ระทาแทนตัวการ
กรณีเชน ่ นีต
้ ัวแทนเป็ นผู ้ลงมือทาสญ ั ญาแต่ทาในนามตัวการและเพือ ่ ประโยชน์ของตัวการ
๑.๒ ว ัตถุประสงค์ คือ เป้ าหมายหรือประโยชน์สดุ ท ้ายทีจ่ ะได ้จากสญ ั ญา
วัตถุประสงค์ของสญ ั ญาจะต ้องเป็ นเป้ าหมายทีค ่ สู่ ญ ั ญามีรว่ มกัน

ไม่ใชเป้ าหมายของคูส ั
่ ญญาฝ่ ายใดฝ่ ายหนึง่ เพียงฝ่ ายเดียว
ในการทาสญ ั ญาทุกครัง้ และสญ ั ญาทุกชนิดจะต ้องมีวต ั ถุประสงค์เสมอ ตัวอย่างวัตถุประสงค์
เชน ่ สญ ั ญาซอ ื้ ขาย วัตถุประสงค์ก็คอ ื กรรมสท ิ ธิก ์ ับราคา เป็ นต ้น
๑.๓ เจตนา เจตนาในการทาสญ ั ญาต ้องเป็ นเจตนาทีแ ่ ท ้จริงของคูส ั ญา
่ ญ
และวิธก ี ารในการแสดงเจตนาก็ต ้องเป็ นเชน ่ เดียวกับเจตนาในการทานิตก ิ รรม
มิใชเ่ ป็ นเจตนาทีว่ ป ิ ริต เชน ่ เพราะความสาคัญผิด เพราะถูกฉ ้อฉล หรือเพราะการข่มขู่ เป็ นต ้น
การแสดงเจตนาอาจแสดงด ้วยวาจา หรือเป็ นลายลักษณ์อักษรก็ได ้
และเจตนาทีแ ่ สดงออกมาต ้องเป็ นนัน ้ สญ ั ญาก็จะเป็ นโมฆะ๒.องค์ประกอบเสริมของสญ ั ญา
องค์ประกอบเสริมของสญ ั ญาเป็ นองค์ประกอบทีค ่ ส ั ญาได ้กาหนดเพิม
ู่ ญ ่ เติมในการทาสญ ั ญาซงึ่
ถ ้าสญ ั ญาขาดองค์ประกอบเสริมดังกล่าวก็จะไม่ทาให ้สญ ั ญานั น้ เสยี
เพราะเป็ นองค์ประกอบทีไ่ ม่จาเป็ นสาหรับความมีอยูข ่ องสญญาั
องค์ประกอบเสริมของสญ ั ญาทีค ่ สู่ ญั ญาสามารถกาหนดได ้ เชน ่ เงือ ่ นไข เงือ ่ นเวลา
ซงึ่ เป็ นกรณีเดียวกันกับเงือ ่ นไข เงือ ่ นเวลา ในเรือ ่ งนิตก ิ รรม นอกจากนีย ้ ังมี มัดจา เบีย้ ปรับ
ทีส ่ ามารถกาหนดเข ้ามาเป็ นองค์ประกอบเสริมได ้
ซงึ่ จะกล่าวอธิบายรายละเอียดในตอนท ้ายของบทนี้


ประเภทของสญญา
การแบ่งประเภทของสญ ั ญาจัดแบ่งประเภทเป็ น ๒ เรือ
่ งใหญ่ ๆ คือ
ั ญาตามแบบดัง้ เดิม และการจัดแบ่งประเภทสญ
การจัดแบ่งประเภทสญ ั ญาใหม่ในปั จจุบัน

๑. การจ ัดแบ่งประเภทของสญญาตามแบบดงเดิ
ั้ ม
การจัดแบ่งประเภทของสญั ญาตามแบบดัง้ เดิมสามารถแยกออกเป็ น ๔ กรณี คือ
ก. สญั ญาต่างตอบแทนกับสญ
ั ญาไม่ตา่ งตอบแทน (Signallagmatic or bilateral and
unitateral contract)
สญั ญาต่างตอบแทนเป็ นสญ ั ญาทีค ่ สู่ ญั ญาเป็ นทัง้ เจ ้าหนีแ ้ ละลูกหนีใ้ นขณะเดียวกัน
สญ ั ญาไม่ตา่ งตอบแทนเป็ นสญ ั ญาทีค ่ ส ั ญาฝ่ ายหนึง่ เป็ นเจ ้าหนีแ
ู่ ญ ้ ละอีกฝ่ ายหนึง่ เป็ นลูกหนีเ้ ท่า
นัน ้
ั ญามีคา่ ตอบแทนกับสญ
ข. สญ ั ญาไม่มค ี า่ ตอบแทน (onerous and gratuitous contracts)

สญญามีคา่ ตอบแทน คือ
สญ ั ญาทีค ่ ส ู่ ญ ั ญาแต่ละฝ่ ายจะต ้องเสย ี ค่าตอบแทนเพือ ่ แลกกับประโยชน์ทจ ี่ ะได ้รับในลักษณะเดี
ยวกัน เชน ่ ราคาแลกกับสน ิ ค ้าในสญ ั ญาซอ ื้ ขาย1
สญ ั ญาไม่มค ี า่ ตอบแทน คือ
สญญาทีค ั ่ ส ู่ ญ ั ญาฝ่ ายใดฝ่ ายหนึง่ เพียงฝ่ ายเดียวทีไ่ ด ้รับประโยชน์ในทรัพย์นัน ี
้ โดยทีไ่ ม่ต ้องเสย
อะไรเลย เชน ่ สญ
ั ญายืม สญ ั ญาให ้โดยเสน่หา เป็ นต ้น

ค. สญั ญาทีก
่ าหนดการชาระหนีแ้ น่นอนกับสญั ญาทีก
่ าหนดการชาระหนีย ้ ังไม่แน่นอน (com
mutative and aleatory contract)
ั ญาทีก
สญ ่ าหนดการชาระหนีแ ่ สญ
้ น่นอน ตัวอย่างเชน ั ญาซอ ื้ ขายในราคาทีก
่ าหนดไว ้
สัญญาทีก
่ าหนดการชาระหนี้ไม่แน่นอน เช่น สัญญาประกันภัย
ื่ ของสน
ง. แบ่งตามชอ ิ ค ้า คือ สญ
ั ญาทีม
่ ช ื่ กับสญ
ี อ ั ญาทีไ่ ม่มช ื่ (nominate and
ี อ
innominate contract)

ั ญามีชอ
สญ ื่ หรือเอกเทศสญ ั ญา คือ

สญญาทีก ่ ฎหมายได ้กาหนดกฎเกณฑ์ในสญ ั ญาไว ้โดยเฉพาะแล ้ว คือ
สญ ั ญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓ เชน ่ สญ
ั ญาซอ ื้ ขาย สญ
ั ญาแลกเปลีย
่ น
สญ ั ญาฝากทรัพย์ เป็ นต ้น

สญั ญาทีไ่ ม่มช ี อ ื่ คือ สญ ั ญาทีก ่ ฎหมายไม่ได ้กาหนดกฎเกณฑ์ในสญ ั ญาไว ้โดยเฉพาะ


เป็ นสญั ญาทีค ่ สู่ ญั ญาทาขึน ้ เองตามหลักอิสระ หรือเสรีภาพในการทาสญ ั ญา
ซงึ่ สญ
ั ญาประเภทนีจ ้ ะต ้องอยูภ ่ ายใต ้หลักเกณฑ์และกรอบทั่วไปของสญ ั ญา
คาพิพากษาของฎีกาที่ ๓๔๒๑ / ๒๕๔๕
โจทก์เป็ นภริยาทีไ่ ม่ชอบด ้วยกฎหมายของ บ. หลังจากที่ บ. ตาย
โจทก์ก็ได ้ครอบครองทีพ ่ พ
ิ าทมาตลอดอย่างเป็ นเจ ้าของ
แต่ไม่สามารถถือสท ิ ธิทางทะเบียนให ้ถูกต ้องได ้
จึงได ้ดาเนินการให ้จาเลยซงึ่ เป็ นพีส ่ าวเข ้ามาเป็ นผู ้รับมรดก แล ้วโอนให ้โจทก์ภายหลัง
การทีจ ั
่ าเลยทาสญญาจะให ้ทีด ่ น ิ โจทก์กอ ่ นไปจดทะเบียนโอนมรดกนั น ้ ศาลฎีกาวินจ
ิ ฉั ยว่า
ไม่ใชส ่ ญั ญาจะให ้ทีด ่ นิ
แต่เป็ นสญ ั ญาทีไ่ ม่มช ี อ ื่ อย่างหนึง่ ทีไ่ ม่ต ้องทาเป็ นหนั งสอ ื และจดทะเบียนพนั กงานเจ ้าหน ้าทีต
่ าม
มาตรา ๕๒๖ จาเลยต ้องโอนทีด ่ นิ ให ้โจทก์ตามสญ ั ญา


๒. การจ ัดแบ่งประเภทสญญาใหม่
ในปัจจุบ ัน
ั ญาใหม่ในปั จจุบันสามารถแบ่งเป็ น ๔ ประเภท คือ
การจัดแบ่งประเภทสญ

ั ญาตามกฎหมายเอกชน และสญ
ก. สญ ั ญาทางกฎหมายมหาชน (private Law contract
and Public Law contract)
ั ญาตามกฎหมายเอกชน คือ สญ
สญ ั ญาทีค
่ ส ั ญาแต่ละฝ่ ายเป็ นเอกชนทีเ่ ข ้ามาทาสญ
ู่ ญ ั ญาผูกพัน
สญั ญาตามกฎหมายมหาชน คือ
ั ญาทีค
สญ ่ ส ั ญาฝ่ ายหนึง่ เป็ นรัฐหรือองค์กรของรัฐเข ้ามาเป็ นคูส
ู่ ญ ั ญาในฐานะทีเ่ หนือกว่าคูส
่ ญ ั
่ ญ
ญาอีกฝ่ ายหนึง่ ทีเ่ ป็ นเอกชน
ข. สญ ั ญาระหว่างผู ้ประกอบวิชาชพ ี ด ้วยกันกับสญ ั ญาระหว่างผู ้ประกอบวิชาชพ ี กับผู ้ไม่ประก
อบวิชาชพ ี หรือผู ้บริโภค ซงึ่ พิจารณาจากสถานะของความไม่เท่าเทียมกันของคูส ่ ญ ั ญา
เพือ ี
่ คุ ้มครองผู ้ไม่ประกอบวิชาชพหรือผู ้บริโภค
ค. สญ ั ญาทีม ่ งุ่ ถึงผลสาเร็จในการชาระหนีก ั ญาทีม
้ ับสญ ้
่ งุ่ ถึงการใชความระมั ดระวังในการชาร
ะหนี้
ง. สญ ั ญาสาเร็จรูปหรือสญ ั ญามาตรฐาน (Standard From

Contract) กับสญญาลูกผสม(Collective Contracts)

สญ ั ญาสาเร็จรูป
หรือสญั ญาทีเ่ กิดจากคูส ั ญาฝ่ ายหนึง่ เป็ นผู ้กาหนดล่วงหน ้าถึงข ้อสญ
่ ญ ั ญาต่างๆ
่ ั
แต่เพียงฝ่ ายเดียว เชน สญญากู ้เบิกเงินเกินบัญชทล ี ี่ ก
ู ค ้าทากับธนาคาร
ั ญาลูกผสมเป็ นสญ
สญ ั ญาทีเ่ กิดจากความตกลงของกลุม ่ สญ
่ บุคคล เชน ั ญาจ ้างแรงงาน


๓. ความสมบูรณ์ของสญญา
สญั ญาจะมีความสมบูรณ์เป็ นสญ ั ญาหรือไม่นัน ้ ต ้องเข ้าใจก่อนว่าสญั ญา คือ นิตกิ รรมอย่างหนึง่
ในการทาสญ ั ญาก็จะต ้องมีองค์ประกอบทีเ่ ป็ นเชน ่ เดียวกับในเรือ
่ งการทานิตกิ รรม คือ
ต ้องมีบคุ คลหรือคูส ั ญาในการทาสญ
่ ญ ั ญา
มีวตั ถุสมบูรณ์หรือไม่นัน
้ (ความสมบูรณ์ในสายตากฎหมาย ) จึงต ้องพิจารณาองค์ประกอบทีเ่ ป็ น
สาระสาคัญของสญ ั ญา ๓ ประการ

๑. องค์ประกอบในเรือ ่ งความสามารถของคูส ั ญาดูวา่


่ ญ
คูส ั ญานัน
่ ญ ้ มีความสามารถเพียงใด ฝ่ ายหนึง่ มีความบกพร่องในเรือ
่ งความสามารถหรือไม่

ถ ้ามีสญญานั น ้ ก็จะตกเป็ นโมฆียะ
แต่ถ ้าคูส ั ญาไม่บกพร่องหรือมีความสามารถก็ต ้องพิจารณาขัน
่ ญ ้ ต่อไป

๒.องค์ประกอบในเรือ ่ งวัตถุประสงค์ของสญ ั ญา
ในการทาสญ ั ญาให ้ดูวา่ สัญญานัน
้ มีวตั ถุประสงค์คอ ั แจ ้
ื อะไร ถ ้าวัตถุประสงค์เป็ นการต ้องห ้ามชด
งตามกฎหมาย วัตถุประสงค์เป็ นการพ ้นวิสย ั หรือวัตถุประสงค์ขด ั ต่อความสงบเรียบร ้อย
หรือศล ี ธรรมอันดีของประชาชน สญ ั ญานั น ้ ก็จะตกเป็ นโมฆะ
แต่ถ ้าวัตถุประสงค์ของสญ ั ญาไม่ขด ั กับหลักกฎหมายดังกล่าวแล ้ว ก็ให ้พิจารณาดูตอ ่ ไป

๓. องค์ประกอบทีเ่ ป็ นสาระสาคัญของสญ ั ญาในเรือ ่ งแบบหรือวิธก


ี ารในการทานิตก ิ รรม
โดยทั่วไปสญ ั ญาทีท ่ าไม่จาเป็ นต ้องมีแบบก็ได ้
ั ั
แต่สญญาบางสญญากฎหมายกาหนดวิธก ี ารหรือแบบในการปฏิบัตไิ ว ้เฉพาะ เชน่
ั ญาซอ
สญ ื้ ขายอสงั หาริมทรัพย์ สญ ั ญาทีก ่ ฎหมายกาหนดต ้องทาตามแบบ
ในการทาสญ ั ญาต ้องทาตามแบบด ้วย
เพราะถ ้าไม่ปฏิบัตต ิ ามก็จะมีผลให ้สญ ั ญาตกเป็ นโมฆะตามหลักกฎหมายมาตรา ๑๕๒
หากคูส ั
่ ญญาได ้ทาตามแบบทีก ่ ฎหมายกาหนดไว ้แล ้ว
หรือในบางสญ ั ญากฎหมายมิได ้กาหนดแบบคูส ั ญาก็สามารถกาหนดวิธก
่ ญ ี ารในการทาสญ ั ญาเอ
งได ้ ผลของสญ ั ญาก็จะสมบูรณ์
เมือ
่ พิจารณาองค์ประกอบทัง้ สามกรณีทก ี่ ล่าวมาแล ้ว
ถ ้าสญั ญานัน ้ สมบูรณ์ก็จะต ้องพิจารณาในสว่ นองค์ประกอบทีเ่ กีย ่ วกับเจตนาสองประการคือ
ประการที่ ๑ การทาคาเสนอมีความบกพร่องในกระบวนการก่อเจตนาหรือไม่ เชน ่
การทาสญ ั ญานัน ้ มีกลฉ ้อฉล การข่มขู่ ความสาคัญผิดมาเป็ นปั จจัยในการแสดงเจตนาหรือไม่
ถ ้ามีเหตุวป ิ ริตในการแสดงเจตนาดังกล่าวมาเป็ นปั จจัยในการแสดงเจตนาแล ้ว

สญญานัน ้ ก็จะตกเป็ นโมฆียะ หรือประการที่ ๒ กระบวนการแสดงเจตนา
ไม่วา่ จะเป็ นคูส ั ญาฝ่ ายทีท
่ ญ ่ าคาเสนอได ้ทาคาเสนอไปตรงกับเจตนาภายในหรือไม่
หากไม่ตรงเพราะเป็ นเจตนาซอ ่ นเร ้น เป็ นเจตนาลวง เป็ นนิตก ิ รรมอาพราง
หรือเป็ นความสาคัญผิดในสาระสาคัญของสญ ั ญา สญ
ั ญานั น
้ ก็จะตกเป็ นโมฆะ
ถ ้าไม่มก
ี รณีทัง้ สองดังกล่าวก็พจ ่
ิ ารณาในสวนของคาสนองว่าผู ้ทาคาสนองได ้ก่อเจตนาขึน ้ มีเหตุ
วิปริตหรือไม่ ถ ้ามีสญ ั ญาก็จะตกเป็ นโมฆียะ หรือโมฆะแล ้วแต่กรณี ถ ้าไม่มส ั ญาก็สมบูรณ์
ี ญ
ความไม่สมบูรณ์ของสญ ั ญา คือ สญ ั ญาทีต ่ กเป็ นโมฆะ
หรือโมฆียะซงึ่ เหตุทท ี่ าให ้สญั ญาเป็ นโมฆะและโมฆียะ ก็เป็ นเหตุเดียวกันกับเรือ ่ งนิตก
ิ รรม คือ
สาเหตุทท ั
ี่ าให ้สญญาเป็ นโมฆะ คือ เหตุตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๕๐
มาตรา ๑๕๒ มาตรา๑๕๔ มาตรา๑๕๕ มาตรา๑๕๖ เป็ นต ้น
สาเหตุทท ี่ าให ้สญ ั ญาตกเป็ นโมฆียะ คือ เหตุตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา
๑๕๓ มาตรา๑๕๗ มาตรา๑๕๙ มาตรา๑๖๔ เป็ นต ้น

You might also like