Professional Documents
Culture Documents
…
1
สีเหลียม
1. ชนิดของสีเหลียม
สีเหลียม เป็ นรูปปิ ดทีมีด้านสีด้ าน มุมสีมุม แต่ละมุม เรียกว่า มุมภายในของรูปสีเหลียม ซึงมุม
ภายในรูปสีเหลียมรวมกันเท่ากับ 360 องศา รูปสีเหลียมแบ่งเป็ นชนิดต่างๆได้ ดงั นี
ชนิดของสีเหลียม สมบัติของสีเหลียม
1. รูปสีเหลียมจัตรุ ัส (1) มีด้านทังสียาวเท่ากัน
(2) ด้ านตรงทังสองคูข่ ้ ามขนานกัน
(3) มุมทังสีเป็ นมุมฉาก
(4) เส้ นทแยงมุมทังสองเส้ นมีความยาวเท่ากัน
(5) เส้ นทแยงมุมทังสองเส้ นตัดกันเป็ นมุมฉาก
(6) เส้ นทแยงมุมทังสองเส้ นตัดแบ่งครึงซึงกันและกัน
(7) มีแกนสมมาตร 4 แกน
(ต่ อ)
ชนิดของสีเหลียม สมบัติของสีเหลียม
4. รูปสีเหลียมขนมเปี ยกปูน (1) มีด้านทังสียาวเท่ากัน
(2) ด้ านตรงข้ ามทังสองคูข่ นานกัน
(3) มุมตรงข้ ามมีขนาดเท่ากัน แต่ไม่เป็ นมุมฉาก
(4) เส้ นทแยงมุมทังสองเส้ นมีความยาวไม่เท่ากัน
(5) เส้ นทแยงมุมทังสองเส้ นตัดกันเป็ นมุมฉาก
(6) เส้ นทแยงมุมทังสองเส้ นตัดแบ่งครึงซึงกันและกัน
(7) ไม่มีแกนสมมาตร
5. รูปสีเหลียมคางหมู
มีด้านขนานกันเพียง 1 คู่
7. รูปสีเหลียมด้ านไม่เท่า
เป็ นรูปสีเหลียมทีมีด้านทังสียาวไม่เท่ากัน
ตัวอย่ าง 1. จงเติมคําตอบลงในช่องว่าง
1) รูปสีเหลียมทีมีด้านตรงข้ ามยาวเท่ากัน แต่ด้านทีอยู่ตด
ิ กันยาวไม่เท่ากัน
เรียกว่า………………………………………………………………………………
2) รูปสีเหลียมทีมีเส้ นทแยงมุมแบ่งครึงซึงกันและกันได้ แก่ ………………………………..
………………………………………………………………………………………
3) รูปสีเหลียมทีด้ านขนานกัน 2 คู่
ได้ แก่…………………………………………………………………………………
4) รูปสีเหลียมทีมีเส้ นทแยงมุมยาวเท่ากันได้ แก่ ……………………………………………
5) รูปสีเหลียมทีมีเส้ นทแยงมุมตัดกันเป็ นมุมฉากได้ แก่ ……………………………………..
………………………………………………………………………………………
6) รูปสีเหลียมทีมีเส้ นทแยงมุมตัดแบ่งครึงซึงกันและกัน ได้ แก่ ………………………………
………………………………………………………………………………………
7) รูปสีเหลียมทีเส้ นทแยงมุมแบ่งออกเป็ นสามเหลียม 2 รูปทีมีพืนทีเท่ากัน ได้ แก่
………………………………………………………………………………………
ตัวอย่ าง 2. จากรูป จงตอบคําถามต่อไปนี
จากรูปด้ านซ้ ายมีรูปสีเหลียมชนิดใดบ้ าง
…………………………………………………
รูปสีเหลียมผืนผ้ ามี………………………...รูป
รูปสีเหลียมคางหมูมี ………………………รูป
รูปสีเหลียมขนมเปี ยกปูนมี……………….รูป
รูปสีเหลียมคางหมูมี ………………………รูป
2. ความยาวรอบรูปสีเหลียม
ตัวอย่ าง 1. จงหาความยาวรอบรูปของสีเหลียมแต่ละรูปต่อไปนี
1. 5 ซม.
ความยาวรอบรูป =……………...
2. 14 ซม.
10 ซม.
ความยาวรอบรูป =……………...
3.
4.5 ซม.
ความยาวรอบรูป =……………...
4.
6 นิว 60o
ความยาวรอบรูป =……………...
5.
4 ซม.
3 ซม.
ตัวอย่ าง 5. จงหาความยาวรอบรูปต่อไปนี
10
1.
2 6
10 ความยาวรอบรูป =……………...
2.
12
ความยาวรอบรูป =……………...
3.
15 ความยาวรอบรูป =……………...
20
4.
10
ความยาวรอบรูป =……………...
16
5.
15
ความยาวรอบรูป =……………...
15
6.
19
ความยาวรอบรูป =……………...
21
7.
10
ความยาวรอบรูป =……………...
8
ตัวอย่ าง 7. จงหาคําตอบต่อไปนี
1) รูปสีเหลียมจัตรุ ัสทีมีความยาวรอบรูป 48 เซนติเมตร จะมีความยาวด้ านละ
………………………เซนติเมตร
2) รูปสีเหลียมผืนผ้ าทีมีความยาวรอบรูป 35 เซนติเมตร และกว้ าง 7 เซนติเมตรจะมี
ด้ านยาว ……………………………….เซนติเมตร
3) รูปสีเหลียมรูปว่าวมีเส้ นรอบรูป 42 นิว และมีด้านสันกว่ายาว 6 นิว จะมีด้านยาว
สุดเท่ากับ …………………… นิว
4) รูปสีเหลียมด้ านขนานมีเส้ นรอบรูป 44.4 นิว และมีด้านยาวกว่ายาว 12.2 นิวจะมี
ด้ านสันกว่ายาวเท่ากับ …………………… นิว
5) นําเชือกมาขดเป็ นรูปสีเหลียมจัตรุ ัส จะมีความยาวด้ านละ 10.5 เซนติเมตร แต่ถ้า
นํามาขดใหม่เป็ นรูปสีเหลียมรูปว่าว โดยให้ ด้านสันกว่ามีความยาวด้ านละ 8 เซนติเมตร
แล้ วด้ านทียาวกว่าจะมีความยาวด้ านละ …………………… เซนติเมตร
6) เชือกเส้ นหนึงขดเป็ นรูปสีเหลียมผืนผ้ า มีด้านกว้ าง 7 นิว ด้ ายยาว 10 นิว ถ้ านํา
เชือกเส้ นนีมาขดเป็ นรูปสามเหลียมด้ านเท่าจะมีความยาวด้ านละ………………นิว
6 ซม.
มาตราส่วน 1 ซม. : 10 ม.
ตัวอย่ าง 9 ทีดินแปลงมีแผนทีแสดงดังข้ างล่าง จงหาว่าถ้ าต้ องการปลูกต้นไม้ โดยรอบทีดินยกเว้ นด้ าน
ทีติดกับถนน และแต่ละต้ นห่างเท่าๆกัน จะใช้ ต้นไม้ น้อยทีสุดกีต้ น
24 ซม.
12 ซม.
มาตราส่วน 1 : 1000
ตัวอย่ าง 10. เชือกเส้นหนึงยาว 16 เมตร นํามาสร้ างเป็ นรูปสีเหลียมมุมฉากได้ กีแบบทีความ
ยาวด้ านเป็ นจํานวนเต็ม จะสามารถสร้ างได้ กีรูป
3. พืนทีรู ปสีเหลียม
การหาพืนทีรูปสีเหลียมสามรถหาโดยใช้ สตู รต่อไปนี
ชนิดของสีเหลียม สูตรพืนที
1. รูปสีเหลียมจัตรุ ัส พืนที = ด้ าน ด ด้ าน
1
= ด ผลคูณเส้นทแยงมุม
2
2. รูปสีเหลียมผืนผ้ า ยาว
กว้ าง พืนที = กว้ าง ด ยาว
3. รูปสีเหลียมด้ านขนาน
สูง พืนที = ฐาน ด สูง
ฐาน
4. รูปสีเหลียมขนมเปี ยกปูน
พืนที = ฐาน ด สูง
สูง
1
= ด ผลคูณเส้นทแยงมุม
ฐาน 2
5. รูปสีเหลียมคางหมู
สูง สูง 1
พืนที = ด ผลบวกด้ านคูข่ นาน ด สูง
2
6. รูปสีเหลียมรูปว่าว
1
พืนที = ด ผลคูณเส้ นทแยงมุม
2
7. รูปสีเหลียมด้ านไม่เท่า
เส้ นกิง
พืนที= 1 ดผลบวกเส้ นกิงดเส้ นทแยงมุม
เส้ นกิง 2
4 ซม.
7 ซม.
2 ซม.
8 ซม.
13 ซม.
พืนที =…………………….... พืนที =……………………....
8 นิว.
3. 4.
9 นิว 5 นิว
5 นิว
4 ซม.
12 นิว
10 ซม.
10 นิว
พืนที =…………………….... พืนที =……………………....
5. 6.
5 1.5
3 3.2
2.5
7. 8. 14
12
19 5
12.5
5
20
9. 10.
13
12
30
3 4
40
12 6 18
3 3
6
6
2
20
20
พืนที =…………………….... พืนที =……………………....
3. 4 4. 8
6 8
6
10
4 4
6
4 6
14 10
52 นิว 10 ซม.
10 ซม.
นิว 40
8 ซม.
พืนที =…………………….... พืนที =……………………....
7. 8.
6 ซม.
10 ซม.
18 ซม.
13 ซม.
พืนที =…………………….... พืนที =……………………....
9. 10.
10 วา 24 ม.
20 วา
15 วา
30 วา
25 วา
25 วา
30 ม.
ตัวอย่ าง 15. มีกระดาษสีเหลียมจัตรุ ัสดังรูป ถ้ าลากเส้ นจากแต่ละด้ านเป็ นมุม 45 องศา จากจุดที
ห่างจากมุมแต่ละมุม 5 ซม. จะทําให้ เกิดสีเหลียมจัตรุ ัสขึนภายใน ดังรูป
จงหาพืนทีส่วนทีแรเงา
5 ซม.
420 ม.
100 ม.
ตัวอย่ าง 17. ทีดินแปลงหนึงเป็ นรูปสีเหลียมผืนผ้ าดังรูป ขุดบ่อตามด้ านทังสีด้ านให้ บ่อกว้ าง 4 เมตร
จะเหลือทีดินสําหรับเพาะปลูกเท่าไรนี
420 ม.
100 ม.
H C
G D
F E
วงกลม
ทบทวนเรืองรูปวงกลม
วงกลม เป็ นรูปปิ ดทีมีสว่ นโค้ งล้ อมรอบ โดยจุดทุกจุดทีอยู่บนส่วนโค้ งจะอยูห่ ่างจากจุดคงทีจุด
หนึงเป็ นระยะทางเท่ากัน เราเรียกจุดคงทีนันว่า จุดศูนย์กลาง ของรูปวงกลม และเรียกส่วนโค้ งนันว่า
เส้ นรอบวงของวงกลม
C
O B
A
E F
2. วงกลมสัมผัสกันภายใน
3. วงกลมตัดกัน
C
เมือสร้ างวงกลม 2 วง ให้ มีจดุ ศูนย์กลาง
A B ห่างกันมากกว่าผลต่างของความยาวรัศมีแต่ต้อง
น้ อยกว่าผลลบวกของความยาวรัศมีของวงกลมทัง
D
สอง
เราเรียกจุด C และจุด D ว่า จุดตัด และ
เรียก CD ว่า คอร์ ดร่ วม
สมบัตเิ กียวกับวงกลม
2. มุมภายในครึงวงกลมมีขนาดของมุมเท่ากับ 90 องศา
4. ระยะทางจากจุดสัมผัสทังสองจุดไปยังจุดภายนอกเท่ากัน
Q
O P
เส้ นรอบวงกลมและพืนทีวงกลม
พืนทีวงแหวน
2
R
พืนทีวงแหวน = R – r2
2
r = (R – r2)
= (R + r)(R – r)
สามเหลียมฐานโค้ ง
r พืนทีสามเหลียมฐานโค้ ง r2
360
1
a r
2
พืนทีวงรี
a
b
พืนทีวงรี = ab
Problem 1. จงหาพืนทีและเส้นรอบวงของวงกลมต่อไปนี
1.
2.
3.
4.
5.
6.
Problem 2. จงหาพืนทีส่วนทีแรเงา
1.
8.4
พืนทีแรเงา = …………………….
18.9
2.
35 20
พืนทีแรเงา = …………………….
3.
14
พืนทีแรเงา = …………………….
6
4.
5.
Problem 3. จงหาพืนทีของแต่ละรูปต่อไปนี
1.
300
7
พืนทีแรเงา = …………………….
2.
3.5
พืนทีแรเงา = …………………….
10
3.
20
12
พืนทีวงรี = …………………….
4.
24
10
พืนทีวงรี = …………………….
Problem 4. จงตอบคําถามต่อไปนี
1) ในวงกลมหนึงวงจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางได้…………………………………...เส้ น
2) คอร์ดทียาวทีสุดคือ……………………………………………………………
3) วงกลม 2 วงจะสัมพันธ์กนั …………………ประเภท คือ
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
4) วงกลม O มีรัศมียาว 5 เซนติเมตร และวงกลม Q มีรัศมียาว 7 เซนติเมตร ถ้ าจุด
ศูนย์กลางของวงกลมทังสองห่างกัน 8 เซนติเมตร วงกลมทังสองจะมีความสัมพันธ์กนั แบบ
……………………………………………………………….
5) วงกลม O มีรัศมียาว 4 เซนติเมตร และวงกลม Q มีรัศมียาว 6 เซนติเมตร ถ้ าจุด
ศูนย์กลางของวงกลมทังสองห่างกัน 2 เซนติเมตร วงกลมทังสองจะมีความสัมพันธ์กนั แบบ
……………………………………………………………….
6) วงกลม O มีรัศมียาว 19 เซนติเมตร และวงกลม Q มีรัศมียาว 14 เซนติเมตร ถ้ าจุด
ศูนย์กลางของวงกลมทังสองห่างกัน 9 เซนติเมตร วงกลมทังสองจะมีความสัมพันธ์กนั แบบ
……………………………………………………………….
7) วงกลม O มีรัศมียาว 11 เซนติเมตร และวงกลม Q มีรัศมียาว 3 เซนติเมตร ถ้ าจุด
ศูนย์กลางของวงกลมทังสองห่างกัน 15 เซนติเมตร วงกลมทังสองจะมีความสัมพันธ์กนั แบบ
……………………………………………………………….
8) วงกลม 2 วงทีมีพืนทีเท่ากัน แล้ วเส้ นรอบวงทัง 2 วงนัน จะ…………………..
9) วงกลม 2 วงทีมีเส้ นรอบวงเท่ากัน แล้ วพืนทีทัง 2 วงนัน จะ…………………..
10) วงกลม O มีรัศมียาว 10 เซนติเมตร ถ้ าจุดศูนย์กลางของวงกลมทังสองห่างกัน 6
เซนติเมตร และวงกลมทังสองสัมผัสกันภายใน แล้ ววงกลม Q จะต้ องรัศมีเท่าใด
………………………………………………………………………………
11) วงกลม O มีรัศมียาว 10 เซนติเมตร ถ้ าจุดศูนย์กลางของวงกลมทังสองห่างกัน 6
เซนติเมตร และวงกลมทังสองสัมผัสกันภายนอก แล้ ววงกลม Q จะต้ องรัศมีเท่าใด
………………………………………………………………………………
12) วงกลม O มีรัศมียาว 10 เซนติเมตร ถ้ าจุดศูนย์กลางของวงกลมทังสองห่างกัน
6 เซนติเมตร และวงกลมทังสองสัมผัสกันตัดกัน แล้ ววงกลม Q จะต้ องรัศมีเท่าใด
………………………………………………………………………………
13) วงกลม 2 วงทีมีจดุ ศูนย์กลางร่วมกันจะทําให้ เกิด………………………………
32 a
60
a
a = ……………... a = ……………...
3. 4.
a
a
58o
a = ……………... a = ……………...
5. 6.
a
25o 34o
a
a = ……………... a = ……………...
5. 6. a
4
65o
a = ……………... a = ……………...
7. 8.
21
12
a
60o
a
5
a = ……………... a = ……………...
……………………………………………………………………….…… อ. รังสรรค์ (อ.ปิ ง)
10
Entrance M.1 …………………………………………………………………..…..…
Problem 6. จงหาพืนทีส่วนทีแรเงา
1.
14
พืนทีแรเงา = …………………….
2.
14
พืนทีแรเงา = …………………….
3.
10
พืนทีแรเงา = …………………….
4.
12
7 พืนทีแรเงา = …………………….
12
5.
16
14
21
1
พืนทีแรเงา = …………………….
6.
20
พืนทีแรเงา = …………………….
7.
4.2
พืนทีแรเงา = …………………….
8.
5
พืนทีแรเงา = …………………….
9. 28
28
พืนทีแรเงา = …………………….
10.
พืนทีแรเงา = …………………….
11.
56
พืนทีแรเงา = …………………….
12.
พืนทีแรเงา = …………………….
13.
2.1 0.3
120o
พืนทีแรเงา = …………………….
14. 5
12
10
พืนทีแรเงา = …………………….
15.
14
พืนทีแรเงา = …………………….
16.
พืนทีแรเงา = …………………….
18. 4
พืนทีแรเงา = …………………….
19.
10
พืนทีแรเงา = …………………….
20.
5
พืนทีแรเงา = …………………….
2
21.
r = 21
พืนทีแรเงา = …………………….
22.
r = 21
พืนทีแรเงา = …………………….
23.
r = 21
พืนทีแรเงา = …………………….
24.
10
พืนทีแรเงา = …………………….
25.
35
พืนทีแรเงา = …………………….
26.
5
พืนทีแรเงา = …………………….
14 ซม
14 ซม
14 ซม
A D
6 AC = …………………….
พืนที สีเหลียม ABCD = …………………….
B C
1
Problem 9. รูปวงกลมแต่ละรูปมีพืนที 40 ตารางเซนติเมตร ถ้ าส่วนทีแรเงามีพืนทีเป็ น ของพืนที
5
รูปวงกลมแต่ละรูป ส่วนทีไม่แรเงาทังหมดมีพืนทีเท่าไร
3 cm
60o
3 cm
100 m.
40 m.
10 m.
Problem 13. จากรูป กําหนดให้ DABC เป็ นสามเหลียมมุมฉาก และเส้นโค้ งเป็ นส่วนของเส้ นรอ
บวงของวงกลม จงหาพืนทีแรเงา
8 cm
A 10 cm C
1.รู ปเรขาคณิตสามมิติ
รู ปเรขาคณิตสามมิติ หรือ รู ปทรงสามมิติ หรือทรงตัน (Solid) หมายถึง วัตถุทีมีความยาว
ความสูง และความหนา เช่น ก้ อนหิน อิฐ ต้นไม้ กล่อง เป็ นต้ น รูปเรขาคณิตสามมิติ ทีควรทราบ ได้ แก่
หน่ วยการวัดปริมาตร
1000 ลบ.มม. = 1 ลบ.ซม. 1,000,000 ลบ.ซม. (1 cc.) = 1 ลบ.ม.
1000 มิลลิลิตร = 1 ลิตร 1000 ลิตร = 1 กิโลลิตร
1 ลบ.ซม. = 1 มิลลิลิตร 1000 ลบ.ซม. = 1 ลิตร 1000 ลิตร = 1 ลบ.ม.
20 ลิตร = 1 ถัง 100 ถัง = 1 เกวียน
1 เกวียน = 2 ลบ.ม. 1 เกวียน = 2,000 ลิตร
3 ช้ อนชา = 1 ช้ อนโต๊ ะ 16 ช้ อนโต๊ ะ = 1 ถ้ วยตวง 1 ถ้ วยตวง = 8 ออนซ์
ปริมาตรของรูปเรขาคณิตสามมิติ
ปริ มาตรของปริ ซมึ ใดๆ = พืนทีฐาน สูง ปริ มาตรของทรงกระบอก = พืนทีฐาน สูง =
2
r h
ตัวอย่ าง
1. กําหนดแทนความยาวของด้ าน จงหาปริมาตรของรูปทรงต่อไปนี
(1) (2)
4
2
6
8 6
6
(3) 3 (4)
2
4
4
2
5
5
10 2
2
5
2
2
(5) (6) 4
2
2
6 4 2
5 2
1 4 8 6 2
7 3
5 10 8
21 10
(7) (8) 6
6
3 7 4
15
4
3
5
3 5
4 4
5
12
4
9.5
4 5
15
7 12
3
(3) 50 (4) 8
20 2
2.4
15
5
(5) (6) 10
13
7
16
5 12
3 14 30
7
6
5
5
5
(3) (4)
14
2
12
(5) (6)
3 12
18
15
10
(7) (8)
20 3